รักนี้เกิดขึ้นในรั้วโรงเรียน(เขมXคริส)เรื่องร้ายๆผ่านไปเรื่องดีดีก็เข้ามา P.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักนี้เกิดขึ้นในรั้วโรงเรียน(เขมXคริส)เรื่องร้ายๆผ่านไปเรื่องดีดีก็เข้ามา P.18  (อ่าน 81053 ครั้ง)

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
คริสโตเฟอร์
   หลังจากที่ผมได้เข้าร่วมกิจกรรมสัปดาห์ภาษาอังกฤษและผมก็ได้เป็นตัวแทนตอบปัญหาภาษาอังกฤษสำหรับการแข่งขันระดับโรงเรียน ซึ่งปกติผมไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านี้กับทางโรงเรียนมาก่อนโดยเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวกับวิชาการ มีแต่บาสเกตบอลเท่านั้น และการแข่งขันครั้งนี้มันมันกลับทำให้ผมยิ่งป๊อปปูล่ามากขึ้นกว่าเดิมแต่ก่อนก็เป็นเพราะหน้าตาลูกครึ้งตอนนี้มันมาพร้อมความสามารถจึงทำให้ผมนี้ภูมิใจมากขึ้นต้องขอบคุณที่ผมได้เจอครูเขมซินะ
   อาทิตย์นี้ผมต้องซ้อมบาสเกตบอลเดือนหน้าจะมีการแข่งขันในโรงเรียนและระหว่างโรงเรียนพร้อมกับไปแข่งขันเขตสำหรับทีมที่ได้แชมป์ ปีที่แล้วพวกผมพล้าดเพราะว่าผมเองที่ทนไม่ไหวโดนทีมคู่แข่งพยายามใช้ความรุนแรงแต่กรรมการกลับเข้าข้างผมเลยตัดสินด้วยการต่อย ผลเลยถูกปรับแพ้แต่เพื่อนๆผมก็เข้าใจเพราะมันเล่นขี้โกงจริง

“พี่เขม” ผมเดินไปหาพี่เขมเหมือนเช่นทุกวัน วันนี้พี่เขมแต่งตัวหล่อกว่าทุกวัน

“พี่เขมอาทิตย์หน้าวันเกิดผมนะเราไปเที่ยวผับกันไหมสิบแปดแล้วไม่ต้องกลัวโดนตรวจแล้ว” ผมพูดกับพี่เขม

“ทำไมวันเกิดต้องเมาไม่เห็นเข้าใจเลย เข้าวัดทำบุญซิถึงจะถูก” พี่เขมพูดกับผม

“ใส่บาตรอย่างเดียวได้ไหมไม่ต้องถึงกับเข้าไปถือศิลในวัด” ผมพูดกับพี่เขม

“อืมม....”พี่เขมพูดแค่นั้นแต่ก็ไม่ได้มีท่าที่จะสนใจอะไรมาก วันเกิดผมแท้ๆนะ ผมยังจะน้อยใจนิดๆ แล้วซิ ผมเดินไปด้วยกัน ผมถือกระเป๋าให้ถุงผ้าให้ครูเขม

“แต่ว่าเรื่องไปเที่ยวผับนะพี่เขมไปนะผมอยากไปกับพี่ผมอยากควงพี่ไปแบบแฟน” ผมพูดพี่เขมมองหน้าผมยิ้มให้ผมแปลว่าไป

“วันนี้พี่อาจจะมาไม่ทันตอนเย็นค่อยติวกันนะคริส”  พี่เขมบอกผม ผมขมวดคิ้ว เมื่อวานไปประชุมวันนี้ไปไหนอีกเนี๊ยะ

“พี่ธุรพี่จะพาอนุชิตไปสำภาษณ์เรื่องรับทุนคริส” พี่เขมหันมาบอกผม ผมพยักหน้าเบาๆ

“หมูนี้เราไม่ได้ทานข้าวเที่ยงด้วยกันเลยอะพี่เขมงานเยอะไปหรือเปล่า” ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ

“ไม่เอาคริส...วันหยุดเราก็ได้อยู่ด้วยกันตลอดนะ” ครูเขมพูด ผมรู้แต่มันไม่พอสำหรับผมอยากอยู่กับพี่เขมมากกว่านี้ ผมสองคนเดินมาจนถึงด้านหลังห้องอาหาร ตรงที่ผมนั่งกันประจำ

“พี่ไม่ทานอาหารเช้าด้วยนะพี่รีบพาอนุชิตไปรอเข้าคิวสัมภาษณ์และคงจะหาอะไรทานที่ศาลากลางเลย” ครูเขมพูดผมพยักหน้าเบาพร้อมกับส่งกระเป๋าผ้าคืนให้พี่เขม พี่เขมรับไปถือก่อนจะยื่นมือมาแตะที่หัวผม มันก็ยังดีทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นแต่ก็ยังแอบน้อยใจอยู่ดี

“พรุ่งนี้พี่ว่างแล้วจะมาทานด้วย...พี่ไปนะ...อย่าไปซ่าที่ไหนละ” ครูเขมพูดและรีบเดินไป ผมก็เดินแยกมาหาพวกไอ้โจ้และอาร์ท มันนั่งทานอาหารเช้ากันอยู่  แต่ก่อนผมชอบเห็นมันนั่งก้มหน้าก้มตากับมือถือส่งข้อความหาแฟนแต่ตอนนี้มือถือคงเอาไว้โทรมากกกว่าแล้วจะมีแค่โจ้นี้แหละที่ชอบโพสรูปนั้นรูปนี้ โดยเฉพาะรูปหมา แต่ทว่าวันนี้มันนั่งเงียบนิ่ง

“ดีวะโจ้..อาร์ท” ผมทักทั้งคู่ไอ้อาร์ทเงยหน้าขึ้นมมองผมพยักหน้าแต่โจ้มันยังก้มหน้าก้มตาเขี่ยอาหารในจาน

“เมียมึงเป็นอะไรวะ” ผมถามไอ้อาร์ท

“หมาเมียกูน้อยใจกระโดดให้รถชนตาย” ไอ้อาร์ทพูด

“ขวับ” เสียงหันไปมองไอ้อาร์ทดังขวับ

“เว้ยย” ไอ้อาร์ทร้อง

“หมาเมียกูประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์วะ..เสียชีวิตคาที..มึงว่างไหมไปงานศพหมาของเมียกูหน่อย” ไอ้อาร์ทมันรีบเปลี่ยนคำให้การทันทีเลยนะหลังจากที่มันเจอสายตาพิฆาตของโจ้มันเข้าไป  ผมก็เบ้ปาก อาการหนักนะผัวเมียคู่นี้

“กูเศร้านะพวกมึง” โจ้พูด มองหน้าผมกับไอ้อาร์ท

“เมีย...ผัวรู้ว่าเศร้าแค่หมามันตายไปแล้วจะให้ผัวไปทำยังไงอะ...ผายปอดก็ไม่ขึ้น...ร้องหายยังกะผัวตายเองซะงั้นนะ” ไอ้อาร์ท

“เออ ...งั้นกูไปหาอะไรทานก่อนนะ ..อาร์ท ...โจ้” ผมพูดและลุกขึ้นดีกว่าเหมือนกับว่าผัวเมียนี้มันจะตีกัน กะอีแค่เรื่องหมาโดนรถชนตาย สงสัยตัวที่วิ่งมาหาไอ้โจ้วันนั้นแน่ๆเลย นี้หมาไม่อยากเป็นลูกสองผัวเมียนี้ถึงขนาดกลั้นใจกระโดนให้รถชนเลยเหรอ( ผมคิดเองในใจ) ผมเดินไปสั่งโจ๊ก

“พี่คริส...แก้มได้เป็นตัวแทนถือคฑาปีนี้ด้วยพี่คริส...เขาเรียกดรัมเมเยอร์อะ” แก้มวิ่งแจ่นมาบอกผม

“ดีใจด้วยนะว่าแต่ใครเลือกลิงอย่างแกไปถือว่ะแก้ม” ผมหันมาแสดงความดีใจแต่พอว่าลิงแก้มมันหน้างอทันทีทันใด

“พี่ล้อเล่น...น้องแก้มพี่ออกจะสวยงามเรียบร้อย” ผมพูด

“เหมือนประชด” แก้มพูดทำท่างอน

“พี่พูดจริง” ผมพูด

“ปันปัน....” ผมเห็นปันปันเดินเข้ามาก็เลยโบกมือเรียกให้มาหาผม ปันปันเดินตรงมาก็หยุดมองแก้ม

“พี่ปันปันแก้มได้เป็นดรัมเมเยอร์ปีนี้ด้วยแหละ”

“เหรอ....นี้เขาหลับตาเลือกแกมาหรือเปล่าแก้ม” ปันปันพูด

“เบื่อ..ผู้ชายสองคนนี้อะ...ไม่คุยด้วยดีกว่า..พอเบี่ยงเพศไปชอบผู้ชายมองแก้มเป็นลิงเป็นข้างเลยนะ” แก้มยืนเอาแขนกอดอกทำท่าจะงอน

“แก้มพี่ล้อเล่น ...” ปันปันรีบแก้ตัว

“แก้มนะสวยเหมาะสมอยู่แล้วดีใจด้วยนะ” ปันปันพูด แก้มค่อยยิ้มได้หน่อยที่นี้

“แก้มไปหาเพื่อนนะเย็นนี้ซ้อมวันแรกไปดูหน่อยนะ” แก้มพูดและเดินออกไปหาเพื่อนๆ ของเธอ ผมเห็นสีหน้าปันปันมันไม่เหมือนทุกวันและวันนี้ทำไมมาคนเดียววะ

“โป้งอะ” ผมถามไอ้ปันปัน

“ไปหาพ่อนะ....พ่อเจ็บแผลหน้าอกเมื่อคืนแม่ของโป้งเลยโทรมาให้ไปขับรถให้หน่อย โป้งมันขึ้นไปลาครูแล้วก่อนจะขับรถออกไปเมื่อสักครู่นี้แหละ” ปันปันพูด

“นี้มึงงอนที่มันไม่ได้เอามึงไปเหรอวะ”

“ก็นิดหน่อย...แต่กูเข้าใจมันไม่อยากให้กูขาดเรียนบ่อย” ปันปันพูด

“เอานะเดี๋ยวมันก็กลับแล้ว....มึงอยู่ก็ดีนะจะได้รับงานไว้ให้มัน มันขาดหายคาบแล้วถ้าขาดทั้งคู่ก็ไม่มีใครรู้กันซิว่าต้องอะไรส่งครูบ้าง” ผมกอดไหล่ปันปันพูด มันก็พยักหน้าตามผม สักพักผมกับปันปันก็เดินออกไปนั่งกับพวกอาร์ทและโจ้ด้านนอกด้วยระหว่างที่ผมเดินผ่านประตู ผมเห็นพี่กาย ไอ้พี่อั๋นและพี่เอกยืนคุยกันดูสีหน้าพี่เอกไม่ค่อยดี ผมได้ยินไอ้โป้งมันพูดว่าพี่เอกแตกคอกับพี่กายแล้วหลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่พี่เอกออกตัวรับผิดชอบกี้ ผมคิดว่าพี่กายนั้นแหละพ่อเด็กแต่ไม่ยอมารับ เขาเรียกหน้าตัวเมียซินะ

“กูไม่ทำแล้ว..พอทีเถอะกาย..ถ้ากูไม่ช่วยมึง...แล้วมึงจะตัดเพื่อนอย่างกูก็ได้นะ...” พี่เอกพูด

“ไปเถอะว่ะคริสอย่าไปยุ่งกับแม่งเลย สมน้ำหน้าแล้วที่มันแตกหักกันเอง” ไอ้ปันปันพูด ผมก็เดินตามปันปันออกไป กลับไปนั่งทานอาหารเช้ากับพวกอาร์ทและโจ้

“วันเกิดปีนี้มีอะไรพิเศษไหมว่ะคริส..พี่ที่แล้วมึงเมารั่วมากว่ะ” ปันปันพูดใช่ทุกปีผมมีแต่พวกนี้แหละที่ฉลองวันเกิดและก็รั่วทุกปี ผมเดินมานั่งทานอาหารกัน ปันปันมันก็ส่งข้อความคุยแชทกับโป้งไปด้วย

KissKhem  : พี่เขมถึงหรือยัง ...ทานอะไรหรือยัง
My Love    :  พี่ถึงได้สักพักแล้วนี้กำลังจะพาอนุชิตไปหาอะไรทาน..เอาไว้คุยกันนะ..ตั้งใจเรียนละ
KissKhem   : ครับพี่เขม ผมรักพี่เขมนะ
My Love     : พี่รักเรานะคริส

“ไปเตรียมตัวเข้าแถวกันเถอะวะ”  ไอ้อาร์ทพูดผมก็พยักหน้าผมทานเกือบจะหมดพอดีเลย ผมก็ถือชามเอาไปเก็บไว้ ผมไม่ลืมเอาเศษอาหารเทลงกระป๋องที่ผมทำไว้ ผมมักจะมาเอาไปเทเลี้ยงสุนัชจรจัดที่ไม่มีใครดูแลทั้งในโรงเรียนและด้านนอก

“พี่คริส” เสียงเล็กๆหวานหู ผมเคยได้ยินเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้เสียงนี้กลับมาดังอีกครั้ง ผมหันไปมองต้นเสียงที่เรียกผม อาร์ทและโจ้ ปันปันก็หยุดมอง  ผู้หญิงผมยาวแต่งตัวเปรี้ยวกระโปรงแซกสั้นร้องเท่าส้นสูงทาปากแดง เส้นผมเป็นลอน การแต่งหน้าที่จัดจ้านขึ้นมาหน่อยแต่ก็ยังคงไว้ซึ้งความหวานของ  เชอรี่ เธอเดินตรงมาหาผม

“ใครวะโคตรสวยเลยวะ...แต่งตัวแรงได้” ปันปันกระซิบกระซาบถามผม 

“พี่คริส...เชอรี่กลับมาแล้ว” เธอตรงเข้ามาจับมือผม กุมไว้  แววตาดีใจที่ได้เจอผมแต่ผมซิ มันกลับไม่เป็นเหมือนที่เธอจากไปแรกๆผมอยากให้เธอกลับมาแต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว

“เชอรี่กลับมาเที่ยวบ้านเหรอครับ”

“เปล่าค่ะ....เชอรี่กลับมาหาอยู่นี้ ...กลับมาหาพี่คริสไง...เชอรี่ยังรักพี่คริสอยู่นะนี้จะหาที่เรียนที่นี้..เชอรี่อยากกลับมาเรียนที่นี้มาเรียนต่อม.สี่ที่นี้ เชอรี่เบื่อเมื่องนอก” เชอรี่พูดสายตามองผม เขาก็กอดผมแต่ผมรีบดันเชอรี่ออกทันที

“ทำไมละพี่คริสไม่คิดถึงเชอรี่เหรอคะ”  เชอรี่ทำหน้าตา ตกใจที่ผมดันเธอออกไม่เหมือนเคยที่คงรีบโผ่กอดเธออย่างเร็ว

“คิดถึงคะแต่ไม่ได้คิดถึงแบบคนรัก”

“อะไรกันไปแค่ปีเดียวเองและเชอรี่ก็พยายามต้อต้านคุณพ่อคุณแม่เพราว่าเชอรี่อยากกลับมาหาพี่คริสนะ..พี่มีคนอื่นเหรอ” เชอรี่ถามผม น้ำเสียงไม่พอใจ

“ใครกันนางแก้มหรือเปล่า..หนอยนางนี้ทำท่าจะงาบพี่คริสตอนนั้นพอเชอรี่ไปนี้มันมายุ่งกับพี่เลยเหรอ”

“ไม่ใช่เชอรี่ไม่เกี่ยวกับแก้ม .....แต่พี่ไม่ได้รักเชอรี่แล้วและเชอรี่กลับไปเรียนตามที่พ่อแม่เชอรี่ต้องการเถอะ ..เลิกยุ่งกับ...พี่ไม่อยากมีปัญหากับพ่อแม่เชอรี่” ผมพูดพร้อมกับแกะมือเธอออก

“พี่ต้องไปเข้าแถวแล้วนะเชอรี่...พี่ขอโทษนะ” ผมพูด ผมหันไปจับต้นแขนปันปันและรีบเดินไปเข้าแถวทันที พวกอาร์ทและโจ้ ก็แค่ยิ้มๆให้เชอรี่ที่ยืนหน้าตาไม่พอใจ ที่ผมกลับเป็นฝ่ายปฏิเสธเขาในวันนี้  ผมยืนเข้าแถวเคารพธงชาติวันนี้มีชั่วโมงของภาษาอังกฤษตอนบ่าย พี่เขมคงกลับมาทันนะ

“ปันปัน...เจอกันตอนเที่ยงนะ” ผมบอกปันปัน มันก็โบกมือให้ผมว่าโอเค ผมเดินไปขึ้นห้องเรียนตามปกติ ผมเห็นเชอรี่มองผมและมองปันปัน สายแปลกๆ ผมแยกขึ้นห้องเรียน เรียนตามปกติ ทำไมเชอรี่ถึงได้กลับมาเพื่อจะมาเรียนที่นี้อีก พ่อแม่เธอยอมให้กลับมาได้ยังไง  ตลอดช่วงเช้านี้ผมเรียนหนังสืออย่างตั้งใจ เพราะว่าผมกำลังจะไปสอบ GED อาทิตย์หน้าวิชาแรกคือวิชาคณิตศาสตร์และเย็นนี้ผมก็มีเรียนติวคณิตกับครูถาวร 

   หลังจากพักเที่ยงผมเดินลงมาซื้ออะไรทาน ผมไม่เจอปันปันในห้องอาหาร ส่งสัยมันจะไปโทรหาไอ้โป้งแน่ๆ ทำยังกับยาก่อนอาหาร ระหว่างที่กำลังเดินเข้าห้องอาหาร ผมเห็นพี่เอกกำลังดูแลกี้อยู่ ข่าวที่เธอตั้งครรภ์ในโรงเรียนและครูเขมก็เป็นคนยื่นข้อเสนอให้เธอเรียนทั้งที่เธอท้อง มันดังกระฉ่อนไปทั้งโรงเรียน แต่ก็ยังดีที่มีพี่เอกคอยดูแลใกล้ๆ พี่เอกก็เป็นผู้ชายหน้าตาดีแต่อาจจะไม่รวยเหมือนไอ้พี่กาย

“คริส”  พี่เอกเดินมาหาผม ผมทำท่าจะเดินไปทางอื่นไอ้โป้งมันบอกว่าไอ้พี่เอกดีกับมันแต่กับไม่

“เดี๋ยวคริส...พี่ขอโทษวันนั้นพี่เขาไปพูดไม่ดี”  พี่เอกจับต้นแขนผมไว้

“วันนี้โป้งมาโรงเรียนหรือเปล่า” พี่เอกถามผม

“ไม่มามีอะไรเหรอ” ผมถามพี่เอกห้วนๆ

“ปันปันละ”

“ก็คงไปโทรศัพท์หาไอ้โป้งทำไมอะ” ผมถามพี่เอก

“เห้ย...คริส...พี่ถามดูพี่ได้ยินพวกไอ้กายและอั๋นมันเรียกพวกมันไปทางห้องน้ำชายที่ไม่ได้ใช่แล้ว” พี่เอกพูด ผมก็หยักไหล่

“คงไปเสพยามั้ง...พี่อยากให้ผมแจ้งครูฝ่ายปกครองให้เหรอ...แตกคอกันแล้วนิ” ผมพูด

“พี่รู้ว่าพี่พูดไม่ดีกับนายและพี่ก็เคยเป็นเพื่อนกายเราเลยยังมองพี่ไม่ดีอยู่แต่...พี่เลิกแล้วว่ะ” พี่เอกพูด ผมเห็นพวกไอ้โจ้และอาร์ทเดินเข้ามา มันกดโทรศัพท์เข้ามาด้วย

“มีอะไรโจ้” ผมหันไปถามหน้าที่ตาตื่นของไอ้โจ้

“ปันปันไปหนวะ ไอ้โป้งมันโทรเข้ามือถือกูว่าโทรหาแล้วมันก็ไม่รับสาย พอรับก็ไม่พูดได้ยินเสียงคนเยอะแยะไปหมด” ไอ้อาร์ทพูด ผมหันมามองหน้าพี่เอก ตอนนี้แหละที่ผมหน้าตาตื่น ผมก็วิ่งออกจากห้องอาหารทันที ไอ้โจ้และไอ้อาร์ทมันก็วิ่งตามผม

“คริส! ...มีอะไรวะ สัส..วิ่งไม่พูดไม่จากเลยไอ้เชี้ย” ไอ้อาร์ทมันวิ่งตามและด่าผมตามหลัง ผมก็ยังวิ่งอยู่ ไม่นะ ต้องไม่ใช่อย่างทีไอ้พี่เอกพูดซิ ถ้าไอ้ปันปันเป็นอะไรผมรู้สึกผิดมากเพราะว่าไอ้โป้งมันฝากปันปันกับผมและมันสองคนมีปัญหาก็เพราะว่าผมด้วยเช่นกันเขาเรียกว่าติดร่างแหไปด้วย ผมวิ่งมาจนถึงห้องน้ำที่รอปรับปรุงใหม่ ห้องน้ำนี้ถูกปิดตายมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ผู้อำนวยการสร้างห้องน้ำใหม่ให้ใช้ ประตูห้องน้ำถูกคล้องกุญแจไว้

“ปันปัน!!” ผมตะโกนเรียก

“แฮ้ก! ...มึงจะบอกว่าไอ้ปันปันมันอยู่” ไอ้โจ้ ผมก็มองหาอะไรที่จะทุบกุญแจที่คล้องเอาไว้ออก

“ปันปัน!...ปันปัน!” ไอ้อาร์ทมันพยายามตะโกน เรียกอยู่ด้านนอก ผมก็หยิบเอาเหมือนแท่งเหล็กมาทุบกุญแจที่คล้องไว้

“เสียงคนร้องไห้ว่ะ” ไอ้อาร์ท

“ปันปัน!..” มึงอยู่ในนั้นเหรอว่ะ..บอกกูดิว่ะ” ไอ้อาร์ทตะโกนแข่งกับเสียงของแข็งที่ผมใช่ทุบประตู จนกุญแจที่คล้องหลุดออก กว่าจะออกได้มือผมก็เจ็บไปหมด ผมรีบถีบประตู พอผมเข้าไปไอ้โจ้เข่าทรุดลงกับพื้นปันปันนอนกองอยู่กับพื้นสภาพบอกได้ว่ามันโดนอะไรมาบ้าง

“ปันปัน” ผมเข้าไปหามัน กางเกงที่หลุดไปจนจากตัวโคนขาก็มีเลือกไหล

“คริส...มันทำกูอะ...ฮือๆ” ปันปันพูดไปมันร้องไห้ ผมนั่งย่อตัวลง ผมดึงมันเข้ามากอด

“กูขอโทษปันปัน..”

“ฮือๆ..” ปันมันร้องไห้ใหญ่เลย

“ให้ปันปันมันใส่เสื้อผ้าก่อนเถอะว่ะ” ไอ้โจ้พูดเสียงมันสั่นๆ มันสงสารปันปัน และโจ้กับมันก็ช่วยแต่งตัวให้

“ใครทำมึงปันปัน...บอกกู”

“มึงให้กูโทรหาไอ้โป้งไหมวะปันปัน ...มันโทรหามึงมันเป็นห่วงมึงมากนะปันปัน “ ไอ้อาร์ทพูด
“อย่านะอาร์ท...ไม่เอา...ไม่..” ปันปันส่ายหัวมันร้องไห้ ผมก็กอดมันไว้

“ใครทำมึงปันปัน” ผมถามปันปัน

“กูไม่รู้อะ กูไม่รู้จักแต่มันทำตามคำสั่งมันเหมือนเป็นพวกข้างนอกอะ “

“แล้วมึงมาตรงนี้ทำไมวะปันปัน”

“เออ..กูหลบมาจะโทรศัพท์หาไอ้โป้งอะ...มึงอย่าถามกูอีกเลยนะ..ฮือๆ..กูไม่อยากอยู่แล้วอะ..ฮือๆ” ไอ้ปันปันมันก็ยิ่งร้องไห้ ผมกำหมัดแน่น

“ไอ้กาย” ผมพูด

“มึงพาปันปันกลับบ้านพัก...”

“อย่าบอกเรื่องนี้กับโป้งนะคริสกูขอร้อง..กูรับไม่ได้...โป้งมันก็คงรับไม่ได้ฮือๆ” ปันปันมันร้องไห้เหมือนเด็กเลยผมก็เอามือลูบหัวมันกันทุกคน ทำไมไอ้พวกระยำมันต้องทำกันแบบนี้ด้วยวะ

“ปันปัน แต่..”ไอ้โจ้มันพูด มันมองหน้าพวกผมแบบนี้ผมจะกล้าบอกไหม

“มึงต้องบอกมันแต่บอกเองนะ”

“ตอนนี้กูไม่พร้อม” ไอ้ปันปันพูดทั้งน้ำตา

“ไอ้คริสมึงจะไปไหน”

“กูจะไปจัดการมันเอง”

“ไอ้คริสแต่ว่า” ไอ้อาร์ทมั้นเรียกผม ผมไม่ฟังแล้วผมเดินออกจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว  ผมมองไปที่พื้นที่เปียก มีรอยรองเท้ามากมายคงหลายคนเลยซิท่า มันยิ่งทำให้ต่อมเดือดผมทำงานมากขึ้น ผมมั่นใจว่าเป็นพวกไอ้กายแน่ๆ และต่อให้ครั้งนี้ผมถึงกับต้องออกจากโรงเรียนผมก็ยอม

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้เรียกได้ว่าหนักกว่าทุกตอนที่ลงก็ว่าได้แต่ทุกอย่างจะดีขึ้นและปันปันจะเห็นว่าโป้งรักเขามากแค่ไหน
ขอบคุณทุกกำลังใจที่ติดตามนะคะ   :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
รักคนอ่านจัง :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สงสารปันปันอะ เฮ้ออออ

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
เออไหนเรื่องกลายเป็นแนวดาร์กงี้อ่ะ
ปันๆโดนข่มขืนด้วย
ชะนี้มาใหม่อีก
ดราม่าเยอะเหลือเกิน

ออฟไลน์ fahsida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ถ้าจริงอย่างที่เอกว่า กายนี่อย่างเอี้ยเลยอ่ะ เป็นเราจะแจ้งความซะเลยแบบไม่ยอมความด้วย จนกว่ามันจะเข้าคุก

ออฟไลน์ semen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เกลียดกายอ่ะเมื่อไหร่มันจะโดนจับสักทีนะ ละให้มันโดนเหมือนที่มันทำกะปันปันในคุกด้วยเลย หึหึหึ

รีบๆมาต่อนะคร้าฟฟฟ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
สงสารปันปันอะ...งื้ออออออ

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เฮ้อออ ทำไมมีแต่เรื่อง เรื่องมันจะดาร์กเกินไปมั้ยเนี่ย อ่านแล้วเริ่มหนักหัวอ่ะ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ RAKDEK_KA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1798
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
อันนี้ไม่ใช่นักเรียนแล้วมั้ง โจรเหอะ

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
สงสารปันปัน
เกินไปแล้วจริงๆ
มันไม้ใช่นักเรียนแล้ว

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
   ครูเขมชาติ การเข้าใจผิดของผมกับคริส
   
         ผมนั่งรอให้อนุชิตเข้าไปรับการสอบสำภาษณ์ผมก็เทรนให้บ้างแล้วกับการตอบคำตอบอะไรพวกนี้ มีคนมากมายที่มารอเข้ารับการสำภาษณ์และบางคนฐานะดีกว่าอนุชิตเยอะเลยเขายังอยากได้ทุน ผมได้แต่หวังว่าอนุชิตจะไม่มีอุปสรรคเพราะว่าพ่อเขาติดคุกมาเป็นตัวตัดสินว่าเขาขาดคุณสมบัติหรอกนะ ถ้าเป็นแบบนั้นสังคมคงไม่ยุติธรรมมากพอสำหรับเขา

“สวัสดีคะ...เป็นครูโรงเรียน XXX หรอคะ” ครูผู้หญิงที่นั่งถัดจากผมไปหันมาถามผม คงเป็นจะครูที่พานักเรียนมาสัมภาษณ์ด้วยเหมือนกันดูยังเด็กๆ เหมือนจะเพิ่งจบใหม่

“ครับ...คุณ.? “

“เป็นครูฝึกสอนนะคะ พาเด็กมาแทนครูประจำของเขานะวันนี้ครูคนนั้นเขาลาคลอดพอดี”  เธอพูดกับผม ผมพยักหน้า

“ชื่อแอมคะ...พี่ชื่ออะไรค”

“ชื่อเขมครับ”

“จบจากที่ไหนมาคะ”

“ผมจบจากมหาวิทยาลัยXXX”

“ที่เดียวกันเลยคะแต่แอมเพิ่งจะจบปีนี้คะมาเป็นครูฝึกสอนที่นี้ กำลังรอบสอบใบประกอบครูนะคะ” ผมพยักหน้า

“พี่จบมาได้สองปีแล้วครับเพิ่งจะสอบใบประกอบผ่านได้ไม่กี่เดือนเอกปกติเป็นครูสอนอยู่ที่ติวเตอร์นะครับ” ผมบอกแอม

“แอบจบเอกนาฏศิลป์คะ”

“ครับ...” ผมพยักหน้า

“ครูเขมครับ” อนุชิตออกมาจากห้องพอดีเลย

“ผมขอตัวก่อนนะครับต้องรีบกลับมีสอนคาบบ่ายต่อนะครับ”

“เสียดายจัง...แอมรู้จักผู้อำนวยการที่โรงเรียนนี้นะคะ แอมคิดว่าถ้าสอบใบประกอบเสร็จจะให้พ่อไปฝากให้นะคะท่านเป็นเพื่อนกันคะ” ผมพยักหน้าอีกแล้วเหรอเพื่อนท่านผู้อำนวยการ

“ครับ...โชคดีกับการสอบใบประกอบนะครับ” ผมพูดก่อนจะรีบเดินออก ไป ผมดันอนุชิตให้รีบเดิน เขาก็มองผมยิ้มๆ

“ครูหล่อขนาดนี้ผมไม่แปลกใจหรอกครับแต่ถ้าพี่คริสรุ้คงจะหึงนะครับครู”

“แก่แดดนะเราแต่ห้ามไปบอกพี่คริสนะ”

“แสดงว่าพี่คริสขี้หึงแน่ๆเลยครับครู”

“ใช่...และตอนนี้เรายังเด็กยังไม่รู้เรื่องอะไรหรอกไปครูพาไปทานข้าว” ผมพูดและพากนุชิตไปขึ้นรถจะพาไปทานข้าวผัดปูตรงข้างร้านรถมอเตอร์ที่ผมแอบไปคุยและเจรจาจะซื้อไว้ให้คริสโตเฟอร์ใช้หนึ่งคันและผมก็ซื้อร้องเท้า ที่ใช้เล่นบาสเกตบอลให้ใหม่หนึ่งคู่ ยี่ห้อดีซะด้วยเขาคงถูกใจและนี้คงแอบงอนผมนิดหน่อยทีผมไม่พูดถึงวันเกิดเลยสักนิด ฮาๆ
   
   หลังจากที่สั่งข้าวผัดปูมาทานกันคนละห่อ อนุชิตขอสั่งให้ย่าเขาหนึ่งห่อแม้ว่าเขาจะจ่ายเองแต่ผมก็ยินดีจะจ่ายหายให้อยู่ดีพอทานเสร็จก็เลยเดินไปที่ร้านขายรถมอเตอร์ไซค์ ที่ผมจองไว้

“สวัสดีค่ะคุณครู...มาดูรถเหรอคะ ตอนนี้ให้เด็กๆ เช็คให้หมดทุกอย่างได้ทันแน่นอนวันที่8 ใช่ไหมคะ”

“ใช่ครับผมรบกวนด้วยนะครับ” ผมพูดเจ้าของร้านยิ้มให้ผมและอนุชิต

“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ผมพูดและพาอนุชิตเดินออกมาจากร้านจะได้ไปแวะที่บ้านเขาก่อนเอาข้าวไปให้ย่าของเขาทาน

“ครูจะซื้อรถให้พี่คริสเหรอครับ”

“ใช่แต่ห้ามบอกเขาก่อนนะ....ครูจะเอาไว้เซอไพรส์เขาวันที่ 8 เป็นวันเกิดเขานะ”

“อ้อ..ไอ้ครับครูผมจะไม่บอกเด็ดขาด” อนุชิตพูดอผมพยักหน้าว่าดีมาก และผมก็ขับรถไปแวะที่หน้าบ้านอนุชิตแป๊ปหนึ่ง จอดส่งให้เขาวิ่งเอาข้าวผัดไปให้ย่าของเขาและเขาก็วิ่งออกมาพร้อมกับหอขนม

“ย่าผมทำใส่ไส้วันนี้ครับครู ย่าฝากให้ครูครับ”

“ขอบใจมากนะอนุชิต” ผมพูด

“ย่าเธอทำขายด้วยหรือเปล่า”

“ใช่ครับย่าทำขายหน้าบ้านมี บ้านในซอยนะครับจะออกมาซื้อ ย่าผมทำอร่อยครับ” อนุชิตพูด ผมพยักหน้าไปถึงต้องลองเลย ผมก็ชอบทานขนมไทยๆ แม่ผมทำให้ทานกันบ่อยแทบจะไม่ค่อยได้กินพวกขนมอบกรอบ เพราะว่ายายผมเป็นคนชอบทำขนมเหมือนกัน ยิ่งขนมต้มด้วยนะยิ่งชอบมากมันหาทานไม่ได้ง่ายๆแล้วซิ

   ผมขับรถเข้ามาถึงในเขตโรงเรียนก็เกือนจะหมดเวลาพักแล้ว คงต้องรีบไปหาพ่อตัวดีก่อนเมื่อเช้าทำท่าจะงอน งอนตั้งแต่เรื่องไม่ทำเป็นไม่สนใจวันเกิดและคงงอนที่ผมไม่ได้อยู่ทานข้าวเที่ยงด้วยและติวให้อีกตอนเที่ยงแต่ผมเชื่อว่าเขาอ่านเองในขณะที่ผมไม่อยู่

“ครูเขมคะ...พี่คริสโตเฟอร์นะคะไปต่อยพี่กายใหญ่เลยใครห้ามก็ไม่ฟังคะทางด้านโน้นค่ะ” แก้มวิ่งกระหืดกกระหอบมาหาผม อะไรกัน นี้ก็บอกอยู่ว่าอย่าไปซ่าที่ไหนไง ผมรีบวิ่งไปตามที่แก้มชี้มือ มีคนมุ่งครูอาจารย์ก็มุงแต่ก็ไม่มีใครกล้าเขาไปห้ามสักคน

“ครูเขม” ครูนิดหันมาเรียกผม

“เกิดอะไรขึ้นครับ”

“นายคริสซิคะไปโมโหอะไรนายกายขนาดนั้นก็ไม่รู้เข้ามาต่อยกับนายกายและนายอั๋นก็เข้ามาช่วยเลยกลายเป็นนายคริสต่อยกับนายอั๋นอยู่  นี้ห้ามก็ไม่ฟัง ต้องครูแล้วแหละค่ะ” ครูนิดบอกผม ผมก็แหวกผู้คนเข้าไป คริสโตเฟอร์สภาพสะบักสะบอมแต่ว่ายังไม่ยอมลดละ

“ผลั๊ก..” นายอั๋นต่อยหน้าคริสโตเฟอร์จนคิวแตก

“ผลั๊ก...ผลั๊ก” สองหมัดจากคริสโตเฟอร์ แต่นายกายนะนั่งปากแตกเลือดเต็มคอเสื้อไปหมด

“หยุดเดี๋ยวนี้!!!” ผมตะโกนแต่ก็ไม่มีใครหยุด ผมเลยเดินผ่าวงเข้าไปยืน ขวาง ตรงกลางคริสโตเฟอร์เห็นผม ก็หยุดแต่นายอั๋นกำลังสวยหมัดมาเกือบจะถึงหน้าผมแล้ว

“อย่าต่อยครูนะไม่อย่างนั้นครูจะไล่เธอออกอั๋น” เสียงที่ทำให้หมัดนั้นชะงัก และนายอั๋นก็มองหน้าผม

“นี้มันเรื่องอะไรกันคริส” ผมหันมาถามคริสโตเฟอร์ สายตาบอกได้ว่าผมเสียใจจริงๆ ที่เขาไม่ฟังผมเลย ผมบอกให้เขาอดทน แล้วนี้ทำไมถึงปล่อยให้เป็นไปได้ขนาดนี้

“ครูเขมมาก็ดี ไอ้คริสมันมาต่อยผมส่วนนายอั๋นก็เข้ามาช่วยผม..ผมสองคนไม่ผิดนะครับครูเขม” นายกายลุกขึ้นมาประชันหน้ากับผม ผมหันไปมองหน้าคริสโตเฟอร์

“มึงทำไอ้ปันปัน”

“กูไม่ได้ทำ” กายตะคอกเสียงตอบ

“แล้วไอ้ปันปันมึงเป็นอะไรละ” อั๋น ตะคอกเสียงถามคริสโตเฟอร์ ผมก็มองหน้าคริสโตเฟอร์ว่าปันปันเป็นอะไร

“ปันปัน...มัน ...ถูกหมาหมูทำร้ายพวกมึงนั้นแหละ”

“มึงมีหลักฐานไหม” นายกายถาม

“พี่เอก” คริสโตเฟอร์พูด ทุกคนหันไปมองที่เอกรินทร์ที่ยืนอยู่กับกี้ แฟนสาวที่เขาประกาศรับผิดชอบว่าเป็นพ่อในท้องของเธอ 

“ว่าไงนายเอกออกมาซิ” ครูนิดเรียกนายเอกรินทร์ออกมา ผมหันไปมองหน้าเขาว่ายังไง

“ผมไม่ได้พูดอะไรครับครู” นายเอกรินทร์พูดว่าไม่ได้พูด พร้อมกันก้มหน้า

“ก็พี่เป็นคน”

“พี่ไม่ได้บอกนายคงเข้าใจผิด” นายเอกรินทร์พูด

“ครูคะกี้จะเป็นลมค่ะ “ เสียงเด็กผู้หญิงตะโกนออกมาทำให้ทุกคนหันไปมองที่กี้ที่ยืนหน้าซีดเผือด นายเอกรินทร์ก็วิ่งเข้าไปดูและพยุงกี้ออกไป ผมหันไปมองหน้าคริสงโตเฟอร์ ผมเสียใจจริงๆ

“ถ้าอย่างนี้ครูคงรู้นะว่าคนของครูนะผิด...” นายกายพูด

“ครูว่ามันต้องมีที่มา..ผมขอพิสูจน์เรื่องนี้ก่อน”

“แต่นายนี้ต่อยผมนะครู ครูจะมาเข้าข้างในฐานะที่เขาเป็นแฟนครูไม่ได้นะครับ ผมไม่ยอม” นายกายพูด ผมหันไปมองหน้านายกาย

“มึงจะเอาไง” คริสโตเฟอร์ตะคอกเสียงถาม

“ครูเขมต้องเป็นคนทำโทษไม่อย่างนั้นผมก็ไม่ยอม ผมจะเอาเรื่อง” นายกายพูด ผมหันไปมองหน้าครูนิด ครูนิดพยักหน้าให้ผมยอมไปก่อน

“ก็ได้..ครูจะทำโทษตอนเข้าแถว..เธอพอใจหรือยัง” ผมหันไปบอกนายกาย สายตาผมประสานกับสายตาที่ดุดันคู่นั้น เขายิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินออกไป

“ทุกคนไปเข้าแถวเพื่อเตรียมขึ้นเรียนได้แล้ว” ครูนิดบอกนักเรียนที่มุงดูอยู่ให้เดินไปเข้าแถว ผมหันมามองหน้าคริสโตเฟอร์ ผมเสียใจจริงๆ

“ทำไมคริสไม่ฟังพี่เลย...”ผมพูดแค่นั้นก็หันหลังเดินออก เขาได้แต่ทำท่าจะเรียกผม ผมเสียใจจริงๆ ผมเดินกลับขึ้นห้องพัก วางขนมใส่ไส้ไว้บนโต๊ะ ผมว่าจะไปเรียกมานั่งทานขนมกันแต่ดันเกิดเรื่องแบบนี้ซะก่อนและนี้ผมก็ต้องทำโทษเขาอีกด้วย  ผมนั่งทำใจอยู่พักหนึ่งก่อนจะเดินลงมาที่ใต้ตึกที่นักเรียนเข้าแถวตอนพักเที่ยง ผมถือไม้เรียวที่ไปเอามาจากห้องฝ่ายปกครอง ครูฝ่ายปกครองคงทราบเรื่องแล้วหลังจากกลับมาจากไปประชุม

“ครูเขม” ครูลินดาเดินมาหาผม ผมพยักหน้าว่าผมโอเค ผมเดินออกไปทางด้านหน้า ผมยืนเอามือไขว้หลังอยู่ ครูอครชัยมองผม ก่อนจะหยิบไมล์ขึ้น

“ตอนเที่ยงเกิดเรื่องชกต่อยกันขึ้นและครูได้สอบถามแล้วผลปรากฏว่านายคริสโตเฟอร์เป็นคนผิด ดังนั้นนายคริสโตเฟอร์ต้องออกมาโดนทำโทษ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแกรุ่นอื่นๆ เราอยู่ด้วยกันโรงเรียนเดียวกันทำไมยังมีเรื่องชกต่อยกันอีก ออกมานายคริสโตเฟอร์” ครูอครชัยพูดพร้อมกับเรียกนายคริสโตเฟอร์ออกมาเขาก็ลุกขึ้นและเดินออกมามายืนตรงกลาง ผมก็ยืนมองเขา

“ครูต้องตีนายคริสสิบที...เพราะมันต่อยผมก่อนและต่อยเพื่อนผมด้วย “ นายกายลุกขึ้นตะโกนออกมา ผมก็หันไปมองครูอครชัย ครูเขาแค่สบตาผม ผมต้องตีนายคริสโตเฟอร์สิบทีจริงๆเหรอ  ผมเดินออกไปยืนมองคนที่ยืนกอดอกหันหลังให้ผม ผมก็เดินไปยืนด้านข้างของเขา มือก็จับไม้เรียวไว้แน่น ก่อนจะง้างมันขึ้นและ

“ฟวั้บ!” เสียงดัง แค่ทีเดียวผมเองยังมือไม้สั่นได้ขนาดนี้ ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอตัวเองและตามมาด้วยทีที่สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด และ เก้า และ ทีสุดท้าย สิบ ไม้หักทันที สิบทีนี้มันช่างนานเหลือเกินของผม ผมรู้ว่าเขาเจ็บมากแต่คริสโตเฟอร์ไม่ส่งเสียงสักสักนิด

“เอาละแยกย้ายกันขึ้นห้องเรียน “ ครูอครชัยพูด ผมเดินหันหลังออก ผมรีบเดินกลับขึ้นตึกผมไม่กล้าหันไปมองคริสโตเฟอร์เลย
        ผมรีบเดินขึ้นไปและตรงเข้าห้องน้ำครูทันที ผมแบมือตัวเองมือที่ตีคนที่ตัวเองรัก เพราะแบบนี้ไงเขาถึงไม่ให้ครูรักกับนักเรียนด้วยใช่ไหม มือที่กำไม้เรียวแน่นไม่เจ็บเท่าเสียงที่ไม้ที่กระทบก้นนั้น มันเจ็บยิ่งกว่าเป็นไหนๆ ผมล้างหน้าล้างตา ล้างมือที่กำไม้เรียวจนแดงเป็นจั้มๆจนมันค่อยๆจางหายไปแต่เสียงไม้กระทบก้นนั้นยังดังก้องอยู่ในหัวผม ผมเดินออกมาเข้าห้องพักครูก่อนจะหยิบหนังสือเพื่อขึ้นไปทำการเรียนการสอนห้องแรกคือห้อง ม.4/2 ผมเดินไปเงียบ นักเรียนยกมือไหว้ตามปกติ ผมเดินเข้าไปใน้ห้องเรียน ทุกคนที่พูดคุยกันก็หยุดการสนทนาและหันมามองผม ผมมองไปที่โต๊ะนักเรียนหนุ่มตาสีฟ้าที่นั่งรอเรียนอยู่เป็นประจำวันนี้ว่างเปล่า แน่ละเขาคงโกรธและไม่เข้าเรียน

“Good afternoon “ ผมพูดทักทายนักเรีนยคนอื่นแปลว่าให้เตรียมตัวเรียนกันได้แล้ว หลังจากที่ทักทายเสร็จผมก็เริ่มสอน ผมยังคงหวังว่าเขาจะเดินกลับขึ้นมา เขาอาจจะไปห้องน้ำแต่ไม่มีวี่แววเลยจนหมดคาบเรียน โต๊ะนั้นก็ปราศจากคนนั่งตลอดชั่วโมงการสอนของผม ผมติกว่าเขาไม่มาทั้งที่ไม่มีชั่วไหนเลยที่เขาขาดไป

“พี่คริสไม่เข้าสงสัยโกรธครูเขมแน่ๆเลยแก” ผมได้ยินนักเรียนหญิงซิบซิบกัน ผมหยิบหนังสือและเดินออกเพื่อทำการเรียนการสอนห้องอื่นๆต่อ

MyLove  :  คริสทำไมไม่เข้าเรียน อยู่ไหน วันนี้มีซ้อมบาสหรือเปล่า

   ผมส่งข้อความหาคริสโตเฟอร์แต่ทว่ามันเงียบมากไม่มีการตอบรับกลับมาหาผมเลย ผมเดินเข้าห้องอื่นเพื่อทำการสอน ถ้าเขายังไม่ตอบกลับมาผมคงจะไปดูที่บ้านพักนักเรียนแทน  ผมทำการสอนด้วยใจจิตใจว้าวุ่น รู้สึกผิดที่ตัวเองต้องทำโทษเขาเองด้วยมือของผมแต่ใจก็รู้สึกผิดหวังที่เขาไม่ระงับความโกรธของตัวเอง

   หลังจากสอนเสร็จผมก็ยังไม่ได้รับข้อความตอบรับจากคริสโตเฟอร์ เขาไปไหนของเขานะ ผมเดินลงจากห้องพักครูว่าจะเดินไปดูเขาสักหน่อยเป็นอะไรไปหรือเปล่า แต่ผมก็เจออาร์ทกับโจ้ เหมือนกับว่าวันนี้ไม่มีซ้อมบาสเกตบอล

“โจ้ อาร์ท ไม่ซ้อมบาสกันเหรอ” ผมถามทั้งคู่

“ไม่ได้ซ้อมครับครู ปันปันมัน...เออ..ไม่ค่อยสบายนะครับและไอ้คริสโตเฟอร์ก็ไม่อยู่มันขับรถบิ๊กไบท์มันออกไปไหนก็ไม่รู้ครับครู “ ผมก็นิ่งเงียบไปไหนของเขา ผมพยักหน้าถ้าอย่างนั้นก็คงไม่ต้องไปดู ผมตัดสินใจไปรอที่บ้านดีกว่าเพื่อว่าเขาเข้ามาจะเข้าไปหาผมที่บ้านพักแทน  ผมทำอาหารเย็นวันนี้ผมทำไข่ลูกเขย ต้มข่าไก่วันก่อนทำให้เขาบอกว่าชอบกิน ผมก็เลยทำให้อีกผมนั่งรอจนเกือบทุ่มก็ไม่มีวี่แววว่าคริสโตเฟอร์จะกลับมา

“ครูเขม” เสียงเรียกดังมาจากหน้าบ้านผมจำได้ดีว่าไม่ใช่คริสโตเฟอร์เพราะถ้ารายนั้นไม่มาเรียกหรอกขึ้นมาเลย ผมเดินไปที่หน้าบ้านอย่างรวดเร็ว

“โจ้ว่าไง” ผมถามโจ้

“ครู..ไอ้ปันปันมันกรีดข้อมือตัวเองนะครับครู” โจ้บอกผมน้ำเสียงร้อนรนผมเองก็ตกใจมากเช่นกัน

“อะไรนะ...อยู่ไหนตอนนี้”

“อยู่ในห้องพักนักเรียนครับครู...ทำไงดีอะครับเลือดออกใหญ่เลยและไอ้โป้งก็กำลังมาถึงแต่จะรอมันคงไม่ได้ครับครู”

“พาส่งโรงพยาบาล ..เดี๋ยวรอครูแป๊ปหนึ่งนะ” ผมบอกโจ้ ผมก็รีบหยิบกระเป๋าสตางค์มือถือและกุลแจรถ ผมรีบขับตามโจ้ออกไปโจ้ขับรถมอเตอร์ไซค์มาหาผม ผมไปที่บ้านพักผมก็เห็นข้อมือปันปันเลือกออกใหญ่เลยไม่รู้ว่าโดนเส้นเลือดใหญ่ไหม หน้าปันปันก็ซีดมากเนื้อตัวเปียกไปหมด

“ปันปันมึงทำแบบนี้ทำไมวะ”

“หาผ้ามาให้ครูขันชะเนาะห้ามเลือดก่อน” ผมบอกโจ้ ก็ค้นหาผ้าและเอามาให้ผม ผมก็ทำการขันชะเนาะห้ามเลือดตามที่เคยเรียนมา

“ช่วยกันอุ้มปันปันไปที่รถครู” ผมพูดต่างก็พากันอุ้มปันปันอย่างทุลักทุเล เด็กๆคนอื่นที่พักหอข้างก็พาออกมายืนดู ด้วยอาการตกใจเช่นกัน

“ใครเป็นอะไรอะ..พี่ปันปันนี้หว่าเลือดไหลใหญ่เลยวะ” เด็กๆพากันถามผมก็อุ้มปันปันเข้าไปในรถทันที

“ครูดูแลปันปันแล้วกันนะครับผมไปขับรถให้” อาร์ทบอกผม ผมพยักหน้าและอาร์ทก็ออกตัวไปอย่างรวดเร็ว พอผ่านพ้นประตู โรงเรียน

“นั้นรถไอ้โป้งนี้” โจ้ตะโกนขึ้น พร้อมลดกระจกลง

“โป้งไปโรงพยาบาลด่วน!” โจ้ตะโกนและอาร์ทก็ออกตัวตามด้วยรถของโป้งที่กลับรถอย่างรวดเร็ว

“ครูแล้วไอ้คริสละครู” โจ้ถามผม

“ไม่รุ้เหมือนกันเขาไม่ได้กลับบ้านนะ” ผมพูดมือก็ยังจับผ้าห้ามเลือกให้ปันปัน

“ทำไมถึงทำแบบนี้ละปันปันเกิดอะไรขึ้นมีปัญหาอะไรทำไมไม่บอกครูทำไมทำแบบนี้” ผมถามปันปัน ตอนนี้หน้าซี้ดมาก

“คริสเหรอปันปันมันกรี้ดข้อมือตัวเองกูกำลังขับรถครูเขมพาไปโรงพยาบาลเจอกันวะ ..มึงอยู่กับใครน้องเชอรี่เหรอเสียงน้องเขาอยู่ข้างๆมึงอะ...เออ..โรงพยาบาลจังหวัดวะแค่นี้” ผมชะงักไปนิดหนึ่งตรงที่ได้ยินว่าอยู่กับน้องเชอรี่ โจ้หันมามองหน้าผมแว๊ปหนึ่งเขาก็ไม่ได้พูดอะไร อย่าบอกนะว่าเชอรี่คนเดียวกันกับที่บอกว่าเป็นแฟนเก่า รถเลี้ยวเข้าไปจอดหน้าห้องฉุกเฉิน

“พี่ครับเพื่อนผมมีดบาดข้อมือครับ”

“ด่วนเลยพี่” เสียงโจ้ลงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ผมก็อุ้มปันปันออกมาจากรถและวางลงบนเตียง

“เลือดไหลไหญ่เลยน้องตามหมอGP ลงมาด่วน!” เจ้าหน้าที่มารับคนไข้ โป้งวิ่งเข้ามาพอดี พอโป้งเห็นสภาพปันปันเท่านั้นแหละ

“ปันปัน!...ใครทำอะไรปันปัน...ทำไมถึงเป็นแบบนี้” โป้งตะโกนและเข้าไปกอดปันปัน แต่เจ้าหน้าที่พยายามดันออกเพราะต้องรีบให้การช่วยเหลือปันปันแล้วปันปันก็พยายามยื่นมือที่ไม่เจ็บมาจับมือโป้งแต่รถเข็นถูกนำเข้าไปแล้ว

“เกิดเชี้ยอะไรขึ้น” โป้งหันไปถามโจ้ ด้วยความโกรธแต่ละคนเงียบ โป้งกระฉากคอเสื้ออาร์ทดันไว้กับกำแพง

“กูถามว่าเกิดอะไรกับเมียกู” โป้งถามอาร์ทอีกครั้ง

“ปันปันมันกรีดข้อมือตัวเอง”

“ทำไม..มันถึงได้กรีดข้อมือตัวเอง....” โป้งตะคอกเสียงถามทุกคน โป้งมองหน้าโจ้ และอาร์ท ผมเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรมากมายหนักหรอก

“บอกมันเถอะอาร์ท” โจ้บอกอาร์ท

“บอกกูมาเดี๋ยวนี้ไอ้อาร์ท” โป้งถามอาร์ท

“ปันปันมันโดนข่มขืนในห้องน้ำกูไม่รู้ว่าใครแต่คริสโตเฟอร์มันบอกว่าไอ้พี่เอกบอกว่าไอ้พี่กายอาจจะเป็นคนทำแต่เราไม่มีหลักฐาน” อาร์ทพูดผมถึงกับตกใจ

“นี้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง” ผมถามทุกคนด้วยอาการตกใจเช่นกันนี้มันเกินไปแล้วนะที่ถึงขั้นเรียกว่าข่มขืน

“ทำไมไม่บอกครูตั้งแต่ตอนที่นายคริสมีเรื่องชกต่อยละ”

“ตอนนั้นผมอยู่กับไอ้ปันปันครับครู และปันปันมันบอกไม่ให้บอกใครเพราะว่ามันไม่อยากให้โป้งรู้ มันกลัวโป้งรับมันไม่ได้”โจ้พูด โป้งทรุดลงนั่งคุกเข่า

“ไอ้สัสกาย” โป้ง

“โป้ง..หยุด...นายจะไปไหน” ผมกระฉากแขนโป้งไว้ผมรู้ว่าเขาจะไปไหน ไปก็หาเรื่องใส่ตัวเองคราวนี้คงไม่มีใครช่วยห้ามและเรื่องคงถึงขั้นเลือดตกยางออก

“ครูมันทำแฟนผม…และดูที่มันทำซิครูผมคงรอให้กฏหมายทำกับมันไม่ได้..ครู” โป้งพยายามสะบัดแขนเขาให้ผมปล่อยแต่ผมไม่ยอมปล่อย ผมจะไม่ปล่อยให้โป้งไปเด็ดขาด

“ครูรู้ พรุ่งนี้ครูจัดการเองเธอควรจะอยู่ดูแลปันปันตอนนี้ ...และถ้านายไปมีเรื่องอีกละ....ใครจะดูแลปันปัน ไหนจะพ่อนายอีกละแม่นายอีกละ..ห๊ะ!...ครูรู้ว่ากฏหมายมันช้าแต่ถ้าเรามีหลักฐานกฏหมายก็ทำได้ไม่ต้องรอชาติหน้าหรอกโป้งแต่เราควรจะมีสติ”

“คิดให้เยอะๆ โป้ง...สิ่งที่ที่นายกำลังจะไปทำมันไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นมันจะทำให้ทุกอย่างแย่ลง!” ผมพูด ระหว่างนั้นเสียงรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์แล่นเข้ามาจอด ผู้ชายที่สวมหมวกกันน๊อคมีคนซ้อนท้ายหนึ่งคนรูปร่างเล็ก ๆ ก้าวขาลงมา พอถอดหมวกออกก็รู้ได้ทันทีที่ว่าเป็นผู้หญิง และคนที่เป็นคนขับผมก็จำได้ดี คริสโตเฟอร์

“ปันปันมันเป็นอะไร..มึงสองคนดูแลมันยังไงวะ “ คริสโตเฟอร์เดินตรงไปหาอาร์ท และโจ้

“กูกลับไปเอาของและซื้อข้าวมาให้มันไงแต่พอกลับมามันก็นอนอยู่ในห้องน้ำเลือกไหลท้วมมือมันไปหมด”

“พี่โป้ง สวัสดีค่ะ” น้องผู้หญิงทักทาย

“เชอรี่นี้ครูเขม” คริสโตเฟอร์หันมาบอกผู้หญิงคนนั้นเพื่อแนนำผม

“สวัสดีค่ะครูเขม” เชอรี่ หน้าตาสะสวย ผิวพรรณดูดี เขาส่งยิ้มให้ผม โจ้และอาร์ทมองหน้าผม ผมยกมือไหว้รับ ผมแค่หันมามองคริสโตเฟอร์ผมรู้สึกผิดที่ไม่ฟังเขาเลย รู้สึกผิดที่ทำโทษเขาไปวันนี้

“พี่คริสค่ะ...เพื่อนคนไหนเหรอที่พี่ว่าเข้าโรงพยาบาลนะคะ”

“แฟนโป้งมันนะเชอรี่” คริสโตเฟอร์พูดกับเด็กผู้หญิงเกาะแขนคริสโตเฟอร์ไม่ยอมปล่อย โป้งเดินไปคุยกับพยาบาล ผมคิดว่าคงต้องนอนโรงพยาบาลคืนนี้หนึ่งคืนเพราะปันปันเสียเลือดมาก และโป้งก็เดินกลับมา

“คืนนี้ปันปันจะนอนโรงพยาบาลก่อนนะครับครู “ โป้งบอกผม

“มีห้องพิเศษว่างหรือเปล่าละโป้ง”

“เออ...คือ..”

“ค่าใช้จ่ายครูจัดการเองไปบอกเขาใหม่ว่าขอห้องพิเศษเราจะได้อยู่ดูแลปันปันอย่างใกล้ชิดและพรุ่งนี้ครูจะมาเยี่ยมอีกทีนะส่วนเรื่อง....อื่นครูจัดการเอง” ผมพูดก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ เขาไม่กล้าแม้จะสบตาผมด้วยซ้ำและเย็นอาหารเย็นทีผมทำไว้คงไม่จำเป็นแล้วซินะ

“ครูกลับก่อนนะพรุ่งนี้ครูมีเวรยืนหน้าประตู” ผมพูด

“ครูครับผมติดรถครูไปลงที่บ้านได้ไหมครับ” อาร์ทถามผม ผมพยักหน้าว่าได้ ผมเดินออกตกลงนี้เขากลับไปหาแฟนเก่าแล้วใช่ไหม แค่เพราะว่าเขาโกรธผมใช่ไหม

“ทำไมไอ้คริสมันทำแบบนี้วะ” เสียงโจ้พูดกับอาร์ทผมเข้าใจความหมายดี  เขาอาจจะเห็นแล้วด้วยว่าผมกับเขามันยากถ้าเขาเลือกจะกลับไปเขาคงไม่จำเป็นต้องไปสอบแล้วละมั้ง ผมเดินมาที่รถขับรถออกมาเพื่อจะไปส่งอาร์ทและโจ้ก่อนและผมก็ขับรถกลับมาที่บ้านพักครู นั่งอยู่เงียบๆสักพักผมก็เก็บทุกอย่างลงถุงขยะทานไม่ลงเหมือนกัน อาการคนอกหักถามหา

Rrrrrr เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นเป็นเบอร์ไม่คุ้นเคยแต่มีหมายเลขนำหน้าว่าโทรมาจากออสเตรเลียผมรีบกดรับสายทันที ผมคิดว่าน่าจะเป็นพ่อของคริสโตเฟอร์

“ฮัลโล” ผมตอบรับสายเรียกเข้า

“สวัสดีค่ะ ...นี้เป็นเบอร์คุณเขมชาติใช่หรือเปล่า “

“ใช่ครับ...คุณ ..?”

“ดิฉันโทรจากออสเตรเลียค่ะ นามสกุลนี้ใช้ลูกชายคุณพิทักษ์ที่เป็นนักการทูตหรือเปล่าคะ”

“ใช่ครับ”

“จำพี่ได้ไหมคะที่เจอกันที่วัดตอนที่คุณๆไปทำบุญกันนะคะและดิฉันรู้จักพ่อของคุณนะคะ”

“พอจะจำได้ครับ”

“คุณได้ส่งอิเมลหาคุณเดนิสใช่ไหมคะแจ้งว่าลูกชายเขากำลังตามหาเขาเช่นกัน คุณเดนิส แมคกินสันนะคะ”

“ใช่ครับ...ผมเป็นครูสอนอยู่โรงเรียนที่ลูกชายของเขาเรียนอยู่นะครับ”

“เขาเป็นเพื่อนของสามีฉันค่ะเขาไม่แน่ใจเชากลัวถูกหรอก เขาเคยถูกหลอกนะคะเคยจ้างบริษัทที่ไทยให้ตามหาพวกนั้นหลอกเอาเงินแล้วก็ตาหาไม่พบ บ้างก็พบเหมือนกันแต่ผิดคนไม่ใช่คนเดียวกันบ้างสูญเงินไปเยอะอยู่”

“นี้เข้าขับรถจากอีกเมืองเพื่อมาปรึกษาดิฉันนะคะเขาเห็นว่าเป็นคนไทยเหมือนกัน..แต่พอดิฉันได้เห็นนามสกุลปุ๊ปพี่บอกเขาว่าไม่ใช่คนหรอกลวงเขาแน่นอนแถมคุณเดนนิสยังรู้จักพ่อของคุณเขมด้วยนะคะ”

“เขาเคยให้พ่อผมช่วยเรื่องวีซ่าภรรยาเก่าของเขาแม่ของคริสโตเฟอร์เล่าให้ผมฟังและผมก็ได้อิเมลมาจากจดหมายที่เขาเขียนมาขอร้องพ่อผมให้พ่อผมช่วย” ผมพูด

“จดหมายนี้ถึงมือผมตอนทีพ่อผมป่วยมากแล้วนะครับและท่านก็เสีย” ผมพูดผมดูจากวันที่ถูกประทับตราจากไปรษณีย์ ก่อนที่พ่อผมจะเสียได้หนึ่งอาทิตย์

“ดิฉันพอจะทราบคร่าวๆนะคะแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะว่าเขาถูกร้องเรียนโดยผู้หญิงใจบาปคนหนึ่งน่าเห็นใจนะคะ...แต่ถ้าเขาใจเย็นและทำเรื่องอุทธรณ์ก็น่าจะสู้ได้เพราะว่าลูกชายเป็นลูกคุณเดนนิสแต่ผู้หญิงคนนั้นเขาเหมือนไม่อยากอยู่เลยกลับไปอยู่ไทยและพาลูกไปอยู่ที่อื่นเรียกว่าหนีดีกว่านะคะ”

“ผมไม่ค่อยรู้ทราบเรื่องนี้มากหรอกครับผมมาทราบเรื่องก็ตอนที่ผมมาเป็นครูที่นี้นะครับ” ผมตอบไปตามจริง

“คุณเดนนิสเขาคิดถึงลูกชายเขามากนะคะครูเขม...พรุ่งนี้ฉันจะบอกให้เขาติดต่อกลับหาคุณนะคะ พี่จะยืนยันให้อีกทีว่าคุณพูดความจริงค่ะ”

“ขอบคุณนะครับพี่....ขอบคุณจริงๆ ผมอยากให้พ่อลูกเขาปรับความเข้าใจกันถึงแม่ว่าแม่ของคริสเขาจะแต่งงานใหม่ไปแล้วก็ตามยังไงพ่อกับลูกก็ควรได้เจอกัน”

“เห็นด้วยค่ะ...เออ..ตายแล้วลืมไปว่าเวลาเราต่างกัน สี่ชั่วโมงรบกวนเวลาครูเขม..ยังไงพี่จะให้คุณเดนนิสติดต่อครูเขมโดยเร็วที่สุดนะคะ ....ขอให้พระคุ้มครองคนดีดีอย่างครูเขมนะคะ คุณเหมือนพ่อคุณมากเลยค่ะขอบช่วยเหลือคนผลบุญจะกลับสู้ครูเขมนะคะ ...บายค่ะ”

   ผมกดวางสายไปทันที ผมนั่งนิ่งบางทีผมก็คิดนะว่าผมจะทำเพื่ออะไรแต่ผมก็ยินดีจะทำอยู่ดีถึงตอนนี้คนนั้นจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม ผมจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าสวมชุดนอนก่อนนอนสวดมนต์สักหน่อยเพื่อว่าสิ่งที่วุ่นวายในใจจะได้หมดไปบ้าง หลังจากสวดมนต์เสร็จผมก็เหลือบตามองไปที่นอนข้างๆผม ต่อไปนี้มันคงจะว่างไปตลอดก็ดีนะเขาควรได้มีชีวิตที่ปกติเหมือนคนอื่นๆเขา 
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ต้องขออภัยหากตอนที่แล้วดูรุนแรงนะคะไปแต่นายกายกำลังจะได้รับกรรมไม่ได้เข้าคุกแต่หนักกว่าเข้าคุกอีก อย่าเพิ่งทิ้งกันนะคะ มารอติดตามซิว่านายคริสโตเฟอร์จะให้เชอรี่ทำอะไรและครูเขมจะหาหลักฐานอะไรมาทำให้นายกายต้องรับว่าเขาคือคนอยู่เบื้องหลังเรื่องใกล้จะลงเอ่ยแล้วนะ พ่อนายคริสก็จะเดินทางมาหาเขาเร็วนี้
ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
รักคนอ่านจัง  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2016 14:39:16 โดย Alice111 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
เดี๋ยวนะ เชอรี่ไม่ได้มาร้ายหรอ
ไอ้กายไม่ติดคุกหรอกเพราะพ่ออมันเป็นตำรวจแต่ขอให้มันประสบอุบัติเหตุพิการเดินไม่ได้นะ
เอาแค่เห่าได้อย่างเดียวพอหึหึ(อินจัด)
ไอ้เอกอีกคนไม่เป็นลูกผู้ชายเลยอะไรวะ
สรุปปันปันโดนข่มขืนจริงด้วยสินะ เห้อ เนื้อเรื่องช่วงนี้หนักหัวจริงๆแต่จะติดตามครับ :n1:

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
เดี๋ยวนะ เชอรี่ไม่ได้มาร้ายหรอ
ไอ้กายไม่ติดคุกหรอกเพราะพ่ออมันเป็นตำรวจแต่ขอให้มันประสบอุบัติเหตุพิการเดินไม่ได้นะ
เอาแค่เห่าได้อย่างเดียวพอหึหึ(อินจัด)
ไอ้เอกอีกคนไม่เป็นลูกผู้ชายเลยอะไรวะ
สรุปปันปันโดนข่มขืนจริงด้วยสินะ เห้อ เนื้อเรื่องช่วงนี้หนักหัวจริงๆแต่จะติดตามครับ :n1:

เชอรี่เป็นแฟนเก่าและเชอรี่คือต้นเหตุที่ทำให้กายเขม่งกับคริสโตเฟอร์ค่ะ คริสพูดถึงเชอรี่ฉากที่ไปสวีทกันสามคู่นะคะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
พี่เขมนอยหนักมาก!!!   งานนี้ขอสงสารพี่เขมแปปมานี่คะคุณพี่น้องจะปลอบคุณพี่เอง งื้ออออิ





เพี้ยงขอให้อิกายมันโดนยิ่งกว่าที่ปันปันโดน

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
สงสารปันปัน กายเกินเยียวยา ไปตายซะ

ออฟไลน์ Redz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขอบทลงโทษที่สมน้ำสมเนื้อหน่อย เอามันให้ตายยย  :katai4: :beat: :katai4: :beat: :m31: :m31:

ออฟไลน์ semen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :m15: :m15: สงสารเขม สงสารปันปัน สงสารโป้ง อ่า

รีบๆๆมาต่อนะคับผมอยากรู้แล้วอ่าว่านายกายจะโดนยังไงอ่ะ

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
อ๋อ ครับผมสงสัยผมอ่านข้ามไป
แต่เอ๊ะใจที่คุณผู้เขียนบอกว่าคริสจะให้เชอรี่ทำอะไรสักอย่าง คงหมายถึงให้สร้างเรื่องให้ไอ้กายหรือเปล่าลุ้นๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
    สงสารปันปัน นะ โป้งลบลอยแผลให้ปันปันด้วยนะ
  รอ รออ่านตอนใหม่คับ

ออฟไลน์ RAKDEK_KA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1798
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
ขอข้ามไปก่อนนะตอนนี้ อ่านแล้วรมเสียกะเด็กน้อย ไว้เข้าใจกันเมื่อไรค่อยมาอ่านต่อ   
ปล.ขนาดไม่อยากอ่านแต่รู้เรื่แงตั้งกะเริ่มตอนนี้จนจบ มันไม่อยากอ่านตรงไหนเนี่ยเรา :katai2-1:

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
คริสโตเฟอร์
   ผมขับรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบท์มาส่งเชอรี่แฟนเก่าของผมอย่าคิดว่าผมอยากจะกลับไปหาเขานะไม่ใช่ผมมีบางสิ่งที่ต้องให้เธอช่วยผมยอมโดนด่าภายหลังหากเธอรู้ความจริงว่าผมแค่หลอกใช้เธอ เพราะว่าเชอรี่คือคนที่กายมันหลงรักเชอรี่จะสามารถเอาความลับจากไอ้พี่กายมาให้ผมได้

“ทำไมมาส่งเชอรี่ที่บ้านละเราไม่ไป...เออ..ไป..”เชอรี่พูดทำหน้างอเมื่อก่อนนะใช้ผมกับเชอรี่เข้าโรงแรมด้วยกันบ่อยแต่ทว่าผมกับเธอเปลี่ยนไปแล้วเมื่อก่อนผมแค่อยากได้เพราะว่าเธอสวย

“เอานะไว้ก่อนนะคะว่าแต่พรุ่งนี้ใช่ไหมค่ะที่”

“พี่ต้องการอะไรคืนเหรอและมันสำคัญมากเหรอคะ”

“สำคัญซิค่ะ...เพราะพี่อาจจะถูกไล่ออกเชอรี่ก็รู้นี้ว่าไอ้กายนะมันรักและหลงเชอรี่มากแค่ไหน...และมันก็กัดพี่ไม่ปล่อยเลยนะคะคนดี” ผมอ้อนเชอรี่ ผมใช้นิ้วไต่ไปตามแก้มเนียนใส่นั้นเบาๆ เธอยิ้ม

“เข้าบ้านเถอะค่ะพ่อเชอรี่ยืนมองอยู่แล้วอย่าทำให้ท่านไม่เชื่อใจในตัวพี่อีกเชอรี่อาจจะไม่ได้เจอพี่นะคะ” ผมบอกเธอ เชอรี่เขย่งปลายเท้าเพื่อจะหอมแก้มของผมตอนแรกผมทำท่าจะขัดแต่ถ้าผมขัดเธอจะรู้ทันทีผมเลยต้องยอมให้เธอทำเธอหอมแก้มผมเสียงดัง

    พอเชอรี่ผ่านพ้นประตูเข้าบ้านไปผมก็ยกแขนเสื้อขึ้นมาปาดเช็ดที่แก้มของผม ก่อนจะรีบบิดรถออก ผมคงกลับไปนอนบ้านพักไม่ได้ ผมคงต้องไปนอนกับไอ้โป้งที่โรงพยาบาลไอ้กายมันต้องชดใช้ผมจะขึ้นไปหาหลักฐานทุกอย่างที่มันทำเอาไว้

   ผมขับรถมาถึงโรงพยาบาลและเดินขึ้นไปหาไอ้โป้งที่ห้องพักพิเศษ ผมเห็นโป้งนั่งหลับมือก็กุมมือปันปันไว้สายน้ำเกลือที่ห้อยอยู่คนที่นอนก็ยังหลับไหลเพราะฤทธิ์ยา

“อ้าวคริส” โป้งลืมตาขึ้นมองผม ผมพยักหน้าว่าผมเอง ผมทรุดตัวลงนั่งที่โซฟา

“เชอรี่ละ”

“ไปส่งบ้านแล้ว”

“มึงกำลังทำอะไรอยู่วะมึงจะกลับไปหาเชอรี่อย่างนั้นเหรอวะ” โป้งถามลุกมาหาผม มานั่งข้างๆผม

“กูไม่ได้อยากกลับไปแต่กู...เชื่อว่าไอ้กายมันเป็นคนอยู่เบื่องหลังวะและมันต้องนัดไอ้พวกนี้มาอีกแน่ๆ ” ผมพูดกับไอ้โป้ง ไอ้โป้งมันมองหน้าผม ผมรู้ว่ามันอยากจะแก้แค้นให้ปันปัน มันคงไม่รอให้กฏหมายแน่นอนเพราะมันไม่เชื่อว่ากฏหมายจะทำอะไรพวกมันได้ 

“กูช่วย” โป้งมันหันมาหาผม

“อย่ามึงดูแลปันปันกูกลัวมันทำอีกมันต้องการมึงตอนนี้โป้ง”

“และกูไม่สนใจอะไรแล้วมันทำกับเพื่อนๆกูมาเยอะแล้วและเรื่องพวกนี้มันก็มาจากกู” ผมพูดกับไอ้โป้ง

“มึงไม่บอกครูเขม”

“พี่เขมห้ามกูแน่ๆ”

“ก็เพราะว่าเขารักมึงเขาเป็นห่วงมึงและกูรู้ว่าวันนี้เขาทำโทษมึงเพราะครูเขมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับปันปัน ” ผมก้มหน้าลง ผมรู้ว่าพี่เขมเสียใจแค่ไหน ผมรู้ดีแววตาคู่นั้นที่มองผม ผมยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง

“กูไม่อยากให้พี่เขมเดือดร้อนเพราะกูอีกกูเชื่อว่าพ่อมันเต้นแน่ถ้าลูกเขาโดนข้อหาหนัก” ผมพูดและมองหน้าไอ้โป้ง

“อย่าบอกเรื่องนี้กับพี่เขม” ผมพูดกับไอ้โป้งมันก็มองหน้าผม พร้อมกับพ่นลมออกมาจากปาก

“กูขอละโป้ง....กูยอมให้พี่เขมมองกูไม่ดี...แต่กูจะให้พี่เขมเดือดร้อนเพราะกูอีกไม่ได้...ทุกอย่างมันควรหยุดได้แล้ว” ผมพูดกับไอ้โป้ง

“หมับ”โป้งมันโอบไหล่ผม

“รอให้ปันปันมันแข็งแรงก่อนได้ไหมวะ” โป้งถามผม

“กูยิ่งลงมือเร็วทุกอย่างจะได้ยุติเร็วขึ้น คือเรียกว่ายิ่งเร็วยิ่งดีโป้งเพราะว่ามันควรจะได้รับบทเรียน” ผมพูดแค่นั้น

“คืนนี้กูนอนด้วยวะกูไม่กล้ากลับไปหาพี่เขมวันนี้กูยังไม่กล้ามองหน้าเขาเลย” ผมพูด

“กูเห็นแล้วแหละ” ไอ้โป้งมันพูดและมันก็ส่งหมอนกับผ้าห่มมาให้ผม

“มึงนอนบนโซฟาวะกูจะนอนข้างๆปันปัน...กูกลัวมันหายไป..กูใจหายที่เห็นสภาพปันปันแบบนั้นกูโคตรกลัวเลยวะกูกลัวเสียมันไปวะคริส..กูเพิ่งจะรู้ว่ากูรักมันมากวะ” โป้งพูดด้วยน้ำเสียงที่บอกได้ว่ามันเป็นห่วงใยปันปันมากแค่ไหน มันคงรู้แล้วซินะว่ามันควรรักใครในตอนนี้ ปันปันดูแลมันดีตั้งแต่เข้ามาเรียนภาพที่มันสนิทกับปันปันไหนก็ไปด้วยกัน ปันปันมันตามใจโป้งทุกอย่างไม่เคยขัดใจเลย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ครูเขมชาติ
   ผมตื่นมาแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวแอบเผลอมองที่นอนว่างๆ เขาไม่ได้กลับมานอนกับผมเหมือนที่ผ่านมา ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วซินะ ผมรีบแต่งตัวเพื่อจะทำหน้าที่ยืนเวรหน้าประตูตอนเช้าวันนี้ ผมไม่ต้องทำอาหารเช้าหรอกมั้ง ผมขับรถอออกมาจอดไว้ที่ด้านหน้า ผมจะไปหาปันปันไปสอบถามเรื่องที่เกิดขั้นผมรู้ว่ามันหนักแต่ผมต้องถามเพื่อหาวิธีช่วยเหลือเขาและเรื่องนี้พ่อแม่ปันปันต้องรู้แน่ๆ

“สวัสดีค่ะครู..ถาวรได้ยินเด็กๆคุยกันว่าเมื่อคืนครูพาปันปันไปโรงพยาบาล ..เด็กเป็นอะไรเหรอค่ะ”

“เออ...คือ...มีดบาดนะครับมีดบาดที่ข้อมือหมอเย็บทำแผลเรียบร้อยแล้วครับ”

“อ้าวเหรอ...”

“นอนโรงพยาบาลเมื่อคืนวันนี้ผมจะไปดูเขาอยู่เหมือนกันหลังจากสอนคาบแรกเสร็จแล้วนะครับ”

“ค่ะ...นึกว่าเป็นอะไรมากเห็นเด็กบอกว่าเลือดไหลเยอะเลย”

“ไม่เป็นอะไรมากแล้วนะครับแต่ผมคงต้องโทรแจ้งพ่อแม่ของปันปันให้ทราบผมคงต้องไปขอเบอร์ติดต่อที่ฝ่ายกองทะเบียนใช่ไหมครับครูเก่ง”

“ใช่ค่ะพี่นิดดูแลอยู่ขอพี่นิดได้เลยค่ะ” ครูเก่งพูดผมพยักหน้าผมหันมาทำหน้าที่ยืนหน้าประตูเช่นตรวจดูเสื้อผ้าหน้าผมเด็กนักเรียนสักพักก็เห็นรถบิ๊กไบท์ขับผ่านเข้าไป นี้เขาเพิ่งจะกลับมาตอนเช้าอย่างนั้นเหรอคงไม่ต้องถามหรอกมั้งว่าเขาไปทำอะไรมาก เมื่อคืนหายไปด้วยกันแบบนั้น

“ครูกับคริสมีปัญหากันหรือเปล่าคะเรื่องเมื่อวานที่ครูทำโทษเขา”

“เออ..” ผมเงียบพูดไม่ออกเหมือนกันมันเร็วมาก

“เขาคงแค่เสียใจนะคะเด็กวัยรุ่นก็แบบนี้นะคะ”  ครูถาวรพูด พอดีนายกายกับนายอั๋นเดินเข้ามาทางประตูพอดีเลย

“นายกายชายเสื้อนะเอาเข้ากางเกงด้วยซิ” ครูถาวรเอ็ดนายกายเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่

“แค่ก่อนนะคะเชอรี่ได้ค่ะพี่จะโทรหาทันทีคิดถึงพี่ขนาดนั้นเลยเหรอคะได้ซิค่ะ” ผมหันไปมองทำไมชื่อเชอรี่เหมือนกันเลย และกนายกายก็เก็บมือถือพร้อมกับหยัดชายเสื้อเข้ากางเกงเขามองผมพร้อมแสยะยิ้มให้ผม

“มันยังไม่สายนะกายถ้านายจะหยุดทำเรื่องไม่ดี” ผมพูดกับนายกายเขามองหน้าผมแบบไม่เกรงกลัวอะไร

“ใครละจะหยุดผม...ครูเหรอ...เราต่างกันครู” นายกายพูดก่อนจะเดินออกไปแบบไม่สนใจครูถาวรมองหน้าผมและมองนายกายที่เดินผ่านผมไป

“ครูเขมมีเรื่องอะไรอีกเหรอคะ”

“ผมยังหาหลักฐานไม่ได้ถ้าผมหาหลักฐานได้ทุกคนจะได้รู้ครับ” ผมพูดและหันกลับมาทำหน้าที่ครูยืนเวรตามปกติ ทำไมเรื่องวุ่นวายพวกมันถึงได้เกิดขึ้นหรือว่ามันผิดตั้งแต่ผมมาเป็นครูที่นี้ซะก็ไม่รู้

“นายคริสจะไปสอบเมื่อไหร่คะวิชาแรกเห็นเขาบอกว่าคณิต”

“วันจันทร์หน้านี้นะครับ” ผมพูดแต่ผมเองยังไม่รู้เลยว่าเขาจะไปหรือเปล่า ผมยืนเวรหน้าประตูสักพักก็กลับขึ้นห้องพักครูผมก็เห็นถุงน้ำเต้าหู้วางอยู่บนโต๊ะ ผมหันไปมองรอบๆห้องเห็นพี่นิดนั่งอยู่

“พี่นิดครับใครซื้อน้ำเต้าหู้มาให้ผมเหรอครับ”

“อนุชิตค่ะเชาเอามาวางไว้นะคะครูเขม”ครูนิดเงยหน้าจากพิมพ์ดีดตอบผม ผมพยักหน้า ผมก็เลยแกะทานซะเลยกำลังหิวอยู่เหมือนกัน ว่าแต่เขารู้ได้ยังไงว่าของผมไม่ใส่น้ำตาลทรายถึงใส่ก็ใส่น้อยเต็มทีและไม่ใส่เม็ดแมงลักผมไม่ชอบ ผมนั้งดื่มน้ำนมถั่วเหลืองที่ครูนิดบอกว่าอนุชิตเอามาให้จนหมดแก้ว

“ครูเขมคะผู้อำนวยการเรียกนะคะคงเป็นเรื่องที่เด็กในหอคุยกันเรื่องนายปันปันนะคะ” ครูสมพิศเดินมาบอกผม ผมก็รีบลุกขึ้นผมเดินตรงไปหาท่านผู้อำนวยการทันที ผมก็คิดว่าจะเข้ามาหาท่านเหมือนกันแต่ท่านเรียกผมซะก่อน

“ก๊อกๆ” ผมเคาะประตุหน้าห้องทำงานท่าน

“เชิญครับ”

“ผู้อำนวยการครับสวัสดีครับ”

“เชิญนั่งครับครูเขม...ผมได้ยินเด็กๆพูดกันว่านายปันปันมีเรื่องเมื่อวานเห็นเด็กที่พักหอข้างๆปันปันบอกว่าเลือดไหลเต็มข้อมือเลยเกิดอะไรขึ้นครับครู” ผู้นวยการมองหน้าผม ผมเองก็ทำท่าคิดว่าจะบอกความจริงดีไหม

“บอกผมเถอะครับครู”

“ตอนแรกผมก็ไม่ทราบครับว่าเกิดอะไรขั้นแต่นายโจ้และนายอาร์ทพูดว่าปันปัน...ถูกขมขืนในห้องน้ำชายที่ถูกปิดตายไม่ได้ใช้แล้วนะครับตอนแรกผมไม่ทราบเรื่องนี้เลยจิรงๆนะครับผู้นวยการผมมาทราบตอนที่นายปันปันกรีดข้อมือตัวเองแล้ว” ผมพูดผู้อนวยการมีสีหน้าตกใจ

“ฝีมือของใครครับครู”

“ผมไม่มีหลักฐานแน่ชัดครับผมกำลังสืบคนแรกคงเป็นเอกรินทร์ก่อนแต่ผมจะให้นายกายรู้ไม่ได้ว่าผมกำลังสืบหาหลักฐานอยู่”

“นายกายอีกแล้วเหรอครับผมคงไม่ไหวแล้วละครับครูท่าหากว่าเป็นเขาจริงๆ “ ผู้อำนวยการพูดพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาทางปากแบบเหนื่อยเต็มที่

“นายปันปันเป็นยังไงบ้างครับครู”

“ผมจะไปเยี่ยมเขาหลังจากหมดชั่วโมงสอนคาบที่สองครับท่านและผมจะโทรบอกพ่อแม่ปันปันด้วยนะครับ”

“ดีครับพ่อแม่เขาควรจะได้รู้นะไม่ใช่เอาลูกมาทิ้งไม่ดูดำดูดี” ผู้อำนวยการพูด

“ครูหาหลักฐานมาให้ได้ผมจะได้เรียกพ่อนายกายมารับฟังว่าลูกชายเขาเป็นยังไงและลูกชายคนเล็กคงต้องดูพฤติกรรมก่อนจะให้มาเรียนที่นี้ผมไม่อยากให้เด็กที่มาเรียนโดยใช้อิทธิพลพ่อทำความเดือดร้อนนะครับ”

“อย่าเพิ่งเลยนะครับท่าน ผมเชื่อว่าเด็กเหล่านี้ยังกลับตัวได้อยู่นะครับ”

“ครูจะแก้ไขยังไงเขาไม่ใช่ผ้าขาวบางแล้วนะครับครู เปรียบก็เหมือนเสื้อผ้าที่ถูกสีตกใส่ซักอย่างไรก็ไม่กลับมาขาวเหมือนเดิม” ผู้อำนวยการพูด

“ผมยังอยากให้เขากลับตัวเป็นคนดีครับท่าน”

“ถ้าครูทำได้ก็ดีได้บุญด้วยนะครับ....แต่ผมคนหนึ่งละที่ไม่ไหวแก่แล้วไปสู้รบคงจะไม่ได้ไหว” ผู้นวยการพูดผมพยักหน้า ผมลุกขึ้นเดินลงไปช่วยครูดูแลนักเรียนที่เข้าแถวตามปกติ ผมเห็นคริสโตเฟอร์ยืนเข้าแถวเงียบๆ ผมเองก็อยากขอโทษที่ผมทำโทษเขาวันนั้นผมเองก็ผิดที่ไม่ฟังเขาเลย หลังจากกิจกรรเข้าแถวเสร็จเรียบร้อยผมก็เดินออกเพื่อดักนายเอกรินทร์เขาคงรู้ดีว่าผมดักรอเขา

“เอกรินทร์” ผมเรียกนายเอกรินทร์ดูสีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที

“ขอเวลาครูสักสิบนาทีคุยกับเธอได้ไหม” ผมถามเอกรินทร์

“ผมไม่รู้เรื่องที่เกิดกับปันปันครับครู”

“เธอรู้ว่าครูจะถามอะไรนั้นแปลว่าเธอรู้เธอจะช่วยปกปิดการกระทำผิดแบบนี้ของเพื่อนเธอไม่ได้นะเอกรินทร์เขาควรได้รับการแก้ไขไม่อย่างนั้นมันจะติดตัวเขาไปจนกตาย” ผมพูดกับนายเอกรินทร์ ดูเขาร้อนรนที่จะคุยกับผม

“ผมไม่พร้อมคุยตอนนี้ครับครูผม...ผมจะไปคุยกับครูที่บ้านพักนะครับผมขอร้อง” เอกรินทร์บอกผม ผมพยักหน้าว่าได้และเขาก็รีบเดินกลับขึ้นห้องเรียนไปทันที ผมคิดว่านายกายคงจะขู่อะไรเขาไว้แน่ๆ นายกายยืนมองก่อนจะรีบเดินกลับขึ้นห้องเรียนเช่นกัน ผมเดินขึ้นห้องพักครูหยิบหนังสือไปทำการสอนผมเห็นขวดน้ำเก็กฮวยวางอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับกระดาษโน๊ต “ ^ __^ “ เหมือนกับที่ติดไว้ที่ถุงน้ำถั่วเหลืองผมไม่เคยบอกนายอนุชิตเลยนะว่าผมชอบดื่มน้ำเก็กฮวยนะ ผมรีบเดินขึ้นบันไดเพื่อหวังจะได้เจอนายคริสโตเฟอร์

“คริส” ผมเรียกเขาขณะที่เขากำลังจะก้าวเท้าเข้าห้องเรียน

“พี่ขอโทษที่พี่ไม่ได้ถามความจริงกับเรา แต่ถ้าเราเลือกจะไปมีชีวิตที่ปกติพี่ยินดีนะ”

“พี่ขอบใจนะน้ำเต้าหู้กับน้ำเก็กฮวย”

“ครับ” คริสโตเฟอร์พูดแค่นั้นก็เดินเข้าห้องเรียนไปผมก็เดินหันหลังออกเพื่อขึ้นไปทำการสอนอีกชั้นนี้เขาเปลี่ยนความคิดไปแล้วใช่ไหม ผมเสียเขาไปแล้วใช่ไหม ผมเดินขึ้นห้องเรียนชั้นที่ผมทำการสอนเป็นคาบแรก ม.1/2 ห้องนายอนุชิต ผมก็ทำการสอนตามปกติผมโตพอจะแยกแยะเรื่องส่วนตัวได้ดีจะต้องไม่กระทบกับการสอนของผมเด็ดขาด

   พอผมสอนเสร็จผมก็ขับรถออกจากโรงเรียนเพื่อตรงไปหาปันปัน ไปถามเหตุการณ์เอาเท่าที่เขาจำได้ผมรู้ว่าเจ็บปวดแต่ผมต้องรู้ข้อมุลมากกว่านี้ ผมก็ได้โทรแจ้งพ่อแม่ของปันปันเขาทราบเรื่องแล้วและกำลังเดินทางมาหาปันปันที่โรงพยาบาลเช่นกัน ผมจอดรถและรีบเดินขึ้นไปหาผมแวะหาซื้อของฝากพวกนมเพื่อเขาจะทานได้ 

“ครูเขมสวัสดีครับ” โป้งกำลังป้อนข้าวปันปันอยู่พอดีเลย

“สวัสดีเป็นไงปันปัน” ผมถามคนที่นอนผมรู้ว่าที่ผ่านมานะฝันร้าย

“ครูขอบคุณนะครับที่พาผมส่งโรงพยาบาล” ปันปันพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง ผมส่งนมที่ผมซื้อมาให้ปันปันกับโป้ง

“ถ้าอย่างนั้นโป้งลงไปหาอะไรทานก่อนเถอะนะ” ปันปันบอกโป้ง ผมพยักหน้าว่าผมอยู่ดูแลปันปันให้ พอโป้งออกไปจากห้องผมก็นั่งลงที่ตรงขอบเตียงคนไข้ ปันปันมองหน้าผมน้ำใสๆไหลรินจากลูกผู้ชาย

“พ่อต้องไม่ให้ผมเรียนแน่ๆเลยครู”

“อย่าเพิ่งคิดมากซิปันปัน...” ผมพูด

“ฮือๆ...ครู...ทำไมผมต้องเจอเรื่องเชี้ยๆพวกนี้ด้วยอะครู”

“ฟู่” ผมพ่นลมหายใจออกมาหนึ่งที

“ปันปัน...ทุกคนในชีวิตต้องเจอเรื่องแย่ๆ หนึ่งครั้ง แค่หนึ่งครั้งหรืออาจจะมากกว่านั้นแต่ที่แย่ที่สุดนะแค่หนึ่งครั้ง”

“และถ้าเราผ่านเรื่องที่แย่ที่สุดไปได้เรื่องอื่นก็จะแค่แย่แต่ไม่แย่ที่สุด....ครูก็เหมือนกันเจอเรื่องราวเยอะแยะมากมายมีทั้งดีและแย่ และมีทั้งแย่ที่สุดและแย่รองลงมาแต่นี้มันคือบททดสอบของโลกใบนี้ปันปัน”

“มันแค่ฝันร้ายแต่อาจจะใช้เวลาหน่อยไม่ใช่แค่ตื่นมาแล้วหาย...ความเข้มแข็งเท่านั้นที่จะทำให้มันดีขึ้นถ้ายิ่งเข้มแข็งมากเท่าไหร่มันจะย่นระยะเวลาความเจ็บปวดให้สั้นลง”

“รู้ไหมว่ากว่าจะมาเป็นชีวิตนะมันยากแค่ไหนกว่าเราจะเติบโตจากเด็กตัวแดงๆจนปีกกล้าขาแข็งได้ขนาดนี้แต่เธอจะมาจบมันเพียงเพราะคนชั่วไม่คุ้มเลยปันปัน” ผมพูดปันปันก็ปาดน้ำตา

“ชีวิตเรามีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำและอันไหนที่เจ็บปวดก็ทิ้งมันไปชีวิตเรายังมีเรื่องที่ดีอีกมากมายรออยู่”

“สัญญากับครูซิว่าจะไม่ทำอีกไม่ทำแบบนี้ครูเสียดายเรานะครูอยากเห็นอนาคตลูกศิษย์ครูอยากเห็นความสำเร็จลูกศิษย์อย่าทำให้ค่าน้ำนมทีพ่อแม่เธอมอบให้สูญเปล่า” ผมพูดปันปันร้องไหและโผ่มากอดผม

“ครูจะหาหลักฐานเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้นะ” ผมพูดพร้อมกับเอามือลูบหัวปันปันเบาๆ

“ตอนที่พวกมันทำกับผม ผมดึงสร้อยคอพวกมันไว้ได้แต่ผมไม่กล้าให้โป้งดูมันอยู่บนหัวเตียงนอนผมนะครับครู”

“ครูอย่าให้โป้งดูนะมันต้องไปเอาเรื่องพวกมันแน่ๆ พวกมันไม่ใช่คนในโรงเรียนหรอก”

“แล้วพวกมันเข้ามาทำร้ายเธอได้ยังไง”

“ผมได้ว่ามีคนจ้างพวกมันมา”

“อืมม..ช่วงนี้พักผ่อนนะปันปัน...พยายามอย่าไปคิดมากถ้าทำไมได้นั่งสมาธิเพื่อจะช่วยได้” ผมพูดปันปันปาดน้ำสองแก้มผมได้ยินเสียงคนคุยกันดังมาจากข้างนอก

“ม๊ากับเตี่ยคงมาแล้วแหละครู” ปันปันพูดด้วยสีหน้ากังวลเสียงประตูถูกเปิดเข้ามาผู้หญิงเลยวัยกลางคนตัวผอมๆมวยผมตรงดิ่งเข้ามาหาปันปันพร้อมกันสวมกอดด้วยความรักคงเดาได้ไม่ยากว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร

“ม๊า..ฮือๆ”

“อาปันปันทำไมถึงทำแบบนี้ละลูกทำแบบนี้ทำไม” แม่ของปันปันกอดปันปันพากันร้องไห้

“ปันปันเราเป็นอะไรทำไมถึงได้ทำอะไรงี่เง่าแบบนี้...อั๋วะส่งเรามาเรียนให้ลื้อมีการศึกษาหวังจะให้ไปช่วยกิจการที่บ้านดูลื้อซิ “เตี่ยของปันปันมาถึงต่อว่าปันปันใหญ่เลย

“พอแล้ว...อาเก๊า..ลื้อไม่เห็นเหรอว่าอาปันปันมันไม่สบายเลิกพูดไม่ดีกับลูกได้ไหม” แม่ของปันปัน

“อั๋วถามว่าเรานะเป็นอะไรหรือว่าไอ้โรคเก่าลื้อกำเริบฮะไอ้โรคตุ๊ดโรคอะไรนั้นนะ”

“อั๊วะบอกให้ลื้อพอไง...อาเก๊า” แม่ของปันปัน

“เออ...คุณพ่อครับผมว่าใจเย็นๆก่อนดีกว่าไหมครับ”

“ลื้อเป็นใคร”

“ผมเป็นครูครับ”

“เป็นครูอย่าบอกนะว่าลื้อกับลูกอั๋วเป็นแฟนกัง”

“เออ...ไม่ใช่..ครับ”

“เตี่ยครูเขาไม่ใช่แฟนผมหรอก  แฟนผมไม่ใช่คนนี้ “ ปันปันบอกกับพ่อเขา

“แฟนเราผู้หญิงหรือผู้ชายละห๊ะ!”

“เตี่ยผมทำไม่ได้ ก็ผมเป็นไปแล้ว เตี่ยไม่เคยเข้าใจผมเลย ฮือๆ ..และผมก็ไม่อยากเป็นแบบนี้นะเตี่ย..ฮือๆแต่มันเลือกไม่ได้นิ” ปันปันพูด

“ทำไมละเลือกไม่ได้และอย่าบอกนะว่าที่เรากรีดข้อมือเพราะว่าเรื่องนั้นนะ” พ่อของปันปันพูด

“ตกลงมันเป็นอะไรครู” พ่อของปันปันหันมาถามผมมือก็ชี้ไปทางปันปัน

“เออ..เขา...”

“ผมถูกผู้ชายข่มขืนเตี่ย...ผมถูกผู้ชายข่มขืน..ฮือๆ”  ปันปันพูด แม่ของปันปันถึงกับยกมือขึ้นทาบอกและรีบดึงลูกชายเข้ามากอด

“อาหรายนะ ...ครู...มีแบบนี้ด้วยเหรอ...” พ่อของปันปันหันมาถาม

“ใจเย็นๆครับ....ผมยังหาหลักฐานมาไม่ได้..แต่ที่ผมอยากให้คุณพ่อเห็นใจปันปันดีกว่าไหมครับถ้ามัวแต่มาหาเหตุผลว่าเพราะเขาเป็น...ตุ๊ดหรือเกย์อย่างที่คุณพ่อเข้าใจ..สภาพจิตใจที่แย่ๆ มันก็แย่ลงไปอีก”

“ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่ข้างเขาในวันที่เขาล้มแล้วเขาจะลุกขึ้นมาได้ยังไงตอนนี้สภาพจิตใจปันปันย้ำแย่พออยู่แล้วนะครับ”

“ผมเข้าใจนะครับว่าคุณพ่อไม่อยากให้ลูกถูกมองว่าผิดปกติ”

“ครูจะให้ผมยอมรับมันหรือไงละครู”

“เขาเป็นลูกคุณหรือเปล่า...ทำไมต้องแคร์สายตาใครมากกว่าคนที่เป็นลูกละครับคุณพ่อ..และผมก็ไม่เห็นว่าปันปันจะทำตัวเหลวไหลแต่สิ่งที่เกิดขึ้นเขาตอนนี้เป็นเพราะคนที่คนอื่นไม่ใช่ตัวเขานะครับคุณพ่อ”

“ผมไม่ได้ให้คุณพ่อยอมรับ..ในวันนี้...คุณพ่อจะรอในวันที่เขาประสบความสำเร็จแล้วก็ได้แต่วันนี้สภาพจิตใจเขาแย่มากพอแล้วอย่าซ้ำเติมเลยครับไม่อย่างนั้นคุณพ่ออาจจะเสียเขาไป” ผมพูด

“ฉันเห็นเห็นด้วยกับครูนะ...ลื้อไม่รักลูกจริงกะอีแค่ลูกไปรักไปชอบผู้ชายลื้อก็ทำเป็นจะเป็นจะตาย ลื้อมันรักตัวเอง”

“อั๋วจะอยู่กับลูกถ้าลื้อยังเห็นแก่ตัวแบบนี้” แม่ของปันปันลุกขึ้นหันมาต่อต้านผู้เป็นสามีตัวเอง ผมรู้ว่าปกติผู้หญิงที่เป็นภรรยาคนจีนแทบจะไม่ได้เสนอความคิดอะไรทั้งนั้นเพราะอำนาจการตัดสินใจคือสามีเท่านั้นแต่นี้เธอออกมาเพื่อปกป้องลูกตัวเอง

“เตี่ย...อย่าทำร้ายปันปันอีกเลยนะฉันขอ” ผู้หญิงคนที่ยืนอยู่น่าจะพี่สาวปันปัน

“เตี่ยอั๋วะขอโทษ...” ปันปันพยายามยกมือข้างเจ็บเพื่อไหว้ขอโทษพ่อตัวเอง เขายืนนิ่งเงียบไม่พูดอะไร

“ลื้อจะกลับไปอยู่บ้านไหม”

“ผมจะเรียนที่เตี่ย”

“ทำไมละม๊ากลัวลื้อทำอีกไปอยู่กับม๊านะปันปัน”

“อั๋วะจะไม่ทำแล้วม๊าอั๋วะสัญญา” ปันปันพูด ผมยิ้มที่เห็นเขาพูดแบบนี้

“ปันปัน” ผู้หญิงที่เดินแทรกผู้เป็นพ่อเข้าไปหาปันปัน

“เจ้..อั๋วะขอโทษ”

“อย่าทำอีกนะม๊าเป็นห่วงเรามากนะม๊านะไม่กินข้าวเลยนะที่รับโทรศัพท์ว่าเรานะทำร้ายตัวเอง อย่าทำอีกนะปันปัน”

“แล้วนี้ค่ารักษาพยายาล”

“จะให้ผมรับผิดชอบให้ก็ได้นะครับ เขาเป็นลูกศิษย์ผม”

“เมื่อวานใครพาเราโรงพยาบาลละปันปัน”

“ครูเขมครับเจ้” พี่สาวปันปันหันมาพยักหน้าขอบคุณผม โป้งเดินเข้ามาพอดีพร้อมกับถุงโจ๊ก  โป้งตกใจเหมือนกันที่เห็นครอบครัวปันปัน

“สวัสดีครับเตี่ย สวัสดีครับม๊า สวัสดีครับเจ้”  โป้งยกมือไหว้ก่อนจะเดินแทรกตัวไปหาปันปัน ทุกคนมองโป้งกันหมด

“ม๊า...อั๋วะอกตัญญูที่เลือกทำให้เตี่ยเสียใจแต่อั๋วะเชื่อว่าคนที่ปันปันเลือกนะเขารักปันปันมากนะม๊า.”

“อาปันปันจะบอกม๊าว่านี้แฟนเราเหรอ”

“ใช่ม๊าโป้งเป็นแฟนผมม๊า” พอปันปันพูด เตี่ยของปันปันสะบัดหน้าไปมองโป้งทันที

“โป้งนะดูแลปันปันดีนะม๊า ดีมากเลยนี้ก็มานอนเฝ้าปันปันทั้งคืนเลยม๊า..นะม๊า”

“ขอบใจนะโป้ง...ม๊าฝากอาปันปันด้วยละ”

“ตกลงเราไม่กลับใช่ไหมปันปัน” เตี่ยของปันปันถาม

“ไม่เตี่ยผมจะเรียนให้จบแล้วผมค่อยกลับ...ผมกับโป้งคุยกันว่าจะไป...เปิดร้านกาแฟสดที่บ้านของโป้งแม่ของโป้งเขาทำเบเกอรี่นะเตี่ยตอนปิดเทอมและจะเอาที่แม่ของโป้งไปขายที่ตลาดนัดเปิดท้าย” ปันปันพูด

“จะได้สักกี่บาทตามใจก็แล้วกัน...เยี่ยมกันเสร็จแล้วก็เตรียมตัวกลับ” เตี่ยของปันปันเดินออกไปทันที ผมเชื่อว่าสักวันเขาจะให้อภัยปันปัน แม่ของปันปันก็กอดปันปัน

“อยากได้อะไรบอกเจ้นะเจ้จะส่งมาให้ปันปัน...เงินนะเจ้โอนให้ตลอดอยู่แล้ว”

“ขอบใจนะเจ้หงษ์”

“ถ้าอย่างนั้นม๊ากลับก่อนนะ...เตี่ยเรานะปากกับใจไม่ตรงกันหรอก”

“ครูคะอิฉันขอบคุณนะคะ....” แม่ของปันปันพูดก่อนจะเดินออกไปเช่นกัน ผมเองก็คิดเช่นนั้นว่าพ่อของปันปันนะแข็งนอกแต่อ่อนใน โป้งก็ยกมือไหว้แม่ของปันปัน

“ม๊าฝากปันปันด้วยนะโป้ง ปันปันนะเขาไปบ้านครั้งล่าสุดเขาเล่าให้ม๊าฟังว่ามีเพื่อนชื่อโป้งดีมาก” ม๊าของปันปันพูด โป้งพยักหน้ารับคำ แม่กับพี่สาวของปันปันเดินออกไป ผมเหลือบมองเวลาผมต้องกลับแล้วผมมีสอนต่อช่วงบ่าย

“มีอะไรโทรหาครูนะโป้งและถ้าหมอบอกว่ากลับได้เมื่อไหร่ก็บอกครู ครูจะได้มาเคลียร์ค่าใช่จ่ายให้” ผมบอกทั้งคู่

“ครูเขมครับ” โป้งเรียกผม ผมหันมามองหน้าโป้ง

“เออ...ครู...อย่าเข้าใจไอ้คริสมันผิดเลยนะครับ...ช่วงนี้ที่มันหลบหน้าครูเพราะว่า...มัน..ไม่อยากทำให้ครูเดือดร้อนอีก...มันรักครูมากนะครับ” โป้งพูดกับผมตอนที่ผมกำลังจะหันหลังเดินออก ผมพยักหน้าหน้าเบาๆและเดินออกมา นี้แสดงว่านายคริสโตเฟอร์กำลังคิดจะทำอะไรอีกแน่ๆ  ยิ่งทำให้ผมเป็นห่วง 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ก่อนอื่นคนแต่งต้องขอโทษที่หายไปเกือบอาทิตย์ คนแต่งป่วยเป็นโรคกระเพาะ วันนี้เอามาลงให้แล้วนะคนอ่านอย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะ

ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคอมแม้น คะแนนบวกเป็ด ขอบคุณนะคะ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
รักคนอ่านจัง   

ออฟไลน์ semen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :jul1:  นายกายแกต้องได้รับโทษอย่างสาสม หึหึหึ :m31: :m31:

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เอาใจช่วยคริสอย่าให้ต้องยุ่งเหยิงวุ่นวายมากไปกว่านี้เลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ขอให้คริสจัดการไอ้กายให้ได้เร็วๆทีเหอะ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ครูเขมรู้แล้วว่าคริสไม่อยากให้ครูเดือดร้อน ครูเขมจะทำยังไงต่อ ลุ้นๆ จะช่วยคริสหรือจะห้าม
    รอ รออ่านตอนต่อไปคับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด