ชายาแห่งดวงจันทร์ :::Ch.19::: Update 24/01/2015 (P.9)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ชายาแห่งดวงจันทร์ :::Ch.19::: Update 24/01/2015 (P.9)  (อ่าน 51426 ครั้ง)

ออฟไลน์ ployyuki

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รู้ตัวพระเอกแว้ววววว ฮี่ๆ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
คดีพลิกจริงๆ
แอบเห็นคู่รองไหวๆ(?)

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ yaoisamasang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Yaoi-Sama/463499467036395?ref=hl
เรื่องนี้ดูมุ้งมิ้ง ใสๆ ตัลร๊ากดี♥
แต่...กระต่ายเค้าว่ากันว่าทันเซ็กซ์จัดนะ :hao6:

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
สนุก ๆ น่าติดตาม น่ารักมาก ๆ เลย ชอบ ๆ
สองคู่ชูชื่นสินะ  :o8: จริง ๆ ก็แอบเชียร์เจ้าส้มเป็นพระเอกอยู่แล้วนะเนี่ย
แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเจ้าชายเลยนะ แถมทั้งคู่เลยด้วย คดีพลิกจริง ๆ
ธาเอ้ย ล้อเพื่อนดีนัก ตัวเองก็มีแววจะได้สามีเหมือนเพื่อนนะน้องธา 555
ชอบเวลาน้องวีรู้สึกเอ็นดูกระต่ายอ่ะ นายเอกรักสัตว์นี่ได้ใจเราไปเต็ม ๆ ปลื้ม  :กอด1:
รอติดตามนะจ้ะ ชอบเรื่องไม่เครียดแบบนี้แหละ ชีวิตเจอเรื่องเครียด ๆ มาเยอะละ
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ lovegoldfish

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
กระต่ายส้มเจ้าเลห์จริงๆเลย  :hao7:
เจ้าชายคนที่ 3 ถนัดอ่านใจคนด้วยนิ แสดงว่าวางแผนมาแต่แรกเลย

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
น่าร้ากกกก อยากอ่านต่อแล้ว :katai5:

ออฟไลน์ varirinnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ชายาแห่งดวงจันทร์ -6-
«ตอบ #37 เมื่อ20-12-2015 14:22:54 »





-6-
ว่ากันด้วยเรื่องของเจ้าชายแห่งดวงจันทร์




นาเทลเป็นเจ้าชาย... เชอเชสก็เป็นเจ้าชาย...

กระต่ายสองตัวที่บุกคอนโดคนอื่นกลางดึกแถมยังคิดจะทำลายข้าวของแบบไม่สนว่าคนซ่อมจะต้องเสียตังค์เท่าไหร่เป็นถึงเจ้าชายแห่งดวงจันทร์

โอย ช็อค...

“มึง กูอยากลาตาย ขอกลับห้องไปตายแป๊บได้ป่ะวะ” คนพูดหน้าดำทะมึนไปทั้งหน้า มันบ่นประโยคนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่จบไม่สิ้นซักที นับตั้งแต่นาทีที่ได้รู้ว่าคนที่ตัวเองเคยจิกใช้ประหนึ่งเป็นเบ๊ประจำกายมีฐานะเป็นถึงเจ้าชายลำดับสองแห่งราชวงศ์แสงจันทร์ มันก็ทำท่าจะเอาหัวมุดดินล้างความผิดอยู่นั่นอ่ะ

“ปรกติเขามีแต่ตายแล้วตายเลยไม่ใช่หรอวะ ตายแป๊บๆ นี่มีที่ไหน”

“มีที่กูนี่ไง”

“ประสาท” ผมด่ามันให้ สองขาก็เดินตามสองเจ้าชายที่เดินนำหน้าพาพวกเราไปยังลานแสงจันทร์ พิธีต้อนรับผมในฐานะชายาแห่งดวงจันทร์จัดขึ้นที่นั่น งานนี้มีพวกขุนนางไปกันไม่เยอะ ทว่าคนที่ไปล้วนแล้วแต่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อบ้านเมือง ดังนั้นจะทำเป็นเล่นไม่ได้เด็ดขาด

“ว่าแต่มึงเหอะ” ไอ้เพื่อนหัวดำกระแซะเข้ามาซะชิด “ได้เจอเจ้าชายครบทั้งสี่คนแล้ว ทีนี้จะเอายังไง”

ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจ “ให้เอาอะไร?”

“อุว๊ะ! ก็มึงต้องเลือกแต่งกับคนใดคนหนึ่งในสี่คนนั้นนิ” มันทำหน้าเหมือนเรื่องแค่นี้ยังต้องให้บอก ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพูดต่อ “จากเท่าที่กูประเมิณทั้งสี่คนด้วยสายตาแล้ว... กูว่านะ นาเทลดูเวิร์คสุดสำหรับมึง”

“อะฮะ” ผมอมยิ้ม เริ่มรู้แล้วครับว่าไอ้ธากำลังมาไม้ไหน ผมเลยแกล้งทำเป็นปลาที่ยังไม่ติดเบ็ด ตะล่อมถามกลับไปว่า “ทำไมมึงถึงคิดงั้นวะ?”

“ฟังกูนะ” มันพยายามกดเสียงให้เบาลงเพื่อไม่ให้พวกหูดีผิดมนุษย์ได้ยินที่พวกเราคุยกัน “เจ้าชายคนโตแม่งแข็งอย่างกับหิน ประเภทถามคำตอบคำแบบนี้แต่งงานอยู่กับมึงได้ไม่นานหรอก ไม่เขาทนมึงไม่ได้ ก็เป็นมึงนั่นแหละที่ทนไม่ไหวอึดอัดตายไปซะก่อน ส่วนคนเล็กก็เด็กไป ท่าทางง๊องแง้วแบบนั้นไม่เหมาะกับมึงชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ อันนี้กูมั่นใจมาก เพราะคนแบบมึงเป็นประเภทที่ต้องถูกดูแล ไม่ใช่ไปดูแลใคร ซึ่งจุดนี้กูว่านาเทลกับเชอเชสดูเข้าข่ายที่สุดแล้ว”

ผมลองคิดตามที่มันพูด ฟังดูก็มีเหตุผลลงตัวดี แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมตัวผมถึงถูกจัดให้อยู่ในประเภทคนที่ต้องถูกดูแลด้วยฟะ ตัวกูกูดูแลเองได้เว้ย

“แล้วทำไมมึงถึงคิดว่ากูเหมาะกับนาเทลมากกว่าวะ กูอาจจะเหมาะกับเชอเชสมากกว่าก็ได้นะ” ผมแอบลองเชิงมัน ดูสิว่าเจ้าเพื่อนตัวดีจะสรรหาข้ออ้างอะไรมาโน้มน้าวใจผมอีก

ไอ้ธารีบอ้าปากเบรกผม “ใจเย็นมึง อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจ ถึงมึงจะสนิทกับเชอเชสมากกว่าแต่อย่าเพิ่งมองข้ามนาเทลไปนะ มึงรู้อะไรไหม นาเทลน่ะทั้งใจดี อ่อนโยน หน้าตาก็ดี เป็นผู้ฟังที่ดีด้วย แถมยังซักผ้าได้ ตากผ้าเป็น กวาดพื้น ถูพื้น ล้างจาน งานบ้านพวกนี้เฮียแกสามารถทำได้หมด มึงคิดว่าจะมีเจ้าชายโลกไหนอีกไหมที่ทำงานบ้านพวกนี้เป็น เชื่อกู เลือกนาเทลแล้วมึงจะไม่ผิดหวัง มึงแค่แต่งตัวสวยอยู่บ้านไปวันๆ งานบ้านทั้งหมดโยนให้นาเทลทำไปได้เลย”

ผมฟังแล้วรีบปรบมือให้กับความคิดอันแสนบรรเจิดของเพื่อนหัวดำ ก่อนจะแสร้งตบบ่าทำหน้าละเหี่ยใจ “เพื่อนธาครับ มึงลืมอะไรไปหรือเปล่า นาเทลเขาเป็นเจ้าชาย ถ้ากูแต่งงานกับเขา อนาคตข้างหน้าเขาก็มีศักดิ์เป็นถึงพระราชา แล้วพระราชาโลกไหนเขาต้องมากวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ตากผ้ากันบ้างวะครับ ถุยยยยย”

คนที่โดนผมถุยใส่เต็มหน้าอ้าปากค้างเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้

ไอ้ธาหนอไอ้ธา บทจะฉลาดแกมโกงแม่งก็ฉลาดเป็นกรด แต่เวลาโง่ทีนี่แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่ใช้ไถนาผมยังไม่กล้าเอามาเปรียบเทียบกับมันให้สัตว์โลกสายพันธุ์นั้นแปดเปื้อนเลย

“หืม? ท่านธาเป็นอะไรไปหรือ?”

เชอเชสที่หันมาเห็นสภาพเหมือนหมาเน่าตายของไอ้ธาทักขึ้น นับตั้งแต่เดินออกจากท้องพระโรง ผมกับเขายังไม่มีโอกาสได้คุยกันจริงจังเลยซักที ด้วยเหตุนี้ผมเลยสะกิดนาเทลที่เดินนำอยู่ข้างเชอเชส ขอให้เขาเปลี่ยนที่กับผมเพื่อที่จะได้คุยกับเจ้าสีส้มได้สะดวก ซึ่งไอ้ธาทำท่าจะคัดค้าน แต่นาเทลกลับพยักหน้าตกลงโดยง่าย ยอมลงไปเดินยิ้มอยู่ข้างเพื่อนสนิทของผมแต่โดยดี

เชอเชสมองมนุษย์โลกอีกคนที่มาเหยียบดวงจันทร์พร้อมกับผมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม ผมเลยโบกมือบอกเขาว่าไม่ต้องห่วง “ก็แค่คนมีชนักติดหลังน่ะ” บอกใบ้เพียงเท่านี้ เจ้าสีส้มก็ดูเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อ นับว่าหัวเร็วใช้ได้ ไม่ผิดหวังๆ

“ท่านวีไม่โกรธข้าใช่ไหม...ที่ข้ากับเสด็จพี่ปิดบังท่าน...” เสียงทุ้มฟังดูจืดเจื่อน ดวงตาสีม่วงอมเทาเจือความกังวลเด่นชัด ท่าทางจะกลัวว่าผมจะโกรธที่เขาหลอกลวงผม

“นั่นสิน้า ผมควรโกรธคุณดีหรือเปล่า ไหนลองบอกผมหน่อยสิครับ เจ้าชายที่บอกว่าตัวเองเป็นแค่องครักษ์นี่สมควรถูกโกรธไหมน้า” ผมแสยะยิ้มใสซื่อที่ไม่เคยใช้ได้ผลกับไอ้ธาเลยสักครั้ง แต่กับเจ้าชายกระต่ายคนนี้ดูท่าจะใช้ได้ผลอยู่ไม่น้อย

“ท่านมีสิทธิ์ที่จะโกรธ แต่ข้าอยากให้ท่านรู้ไว้ ว่าสิ่งที่ข้ากับเสด็จพี่ได้กระทำลงไปหาใช่การเล่นสนุกเพื่อกลั่นแกล้งท่าน เราเพียงแต่ทำไปตามหน้าที่เพื่อให้ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีเท่านั้น”

“พูดซะยาวเชียว ผมยังไม่ทันได้ว่าอะไรสักหน่อย คุณก็เครียดเกินไปแล้ว” ผมตบไหล่เขาทำลายความกดดันที่เจ้าตัวสร้างขึ้น พอเชอเชสเห็นผมยังมีท่าทีเป็นปรกติดีทุกอย่าง ไหล่ทั้งสองข้างที่ดูแข็งเกร็งก็เหมือนจะเริ่มผ่อนคลายลง

“ท่านวีไม่โกรธพวกเราหรือ?”

เขาถามเหมือนต้องการคำตอบที่ชัดเจน ผมเลยพยักหน้าให้แทนคำตอบ

“ไอ้โกรธน่ะไม่โกรธหรอก แต่ถ้าจะให้พูดตามตรง...เรียกว่าแอบช็อคนิดๆ ก็คงได้มั้ง”

อันที่จริงก็ไม่นิดหรอก...ช็อคมากเลยแหละ

“ช็อค?” ดูเหมือนเจ้าชายกระต่ายจะไม่ทรงเก็ทกับคำๆ นี้แฮะ

“หมายถึงตกใจน่ะ โดยเฉพาะไอ้ธา คุณก็รู้ว่าตอนที่เราอยู่ห้องมัน มันใช้งานนาเทลเยอะขนาดไหน พอรู้ว่าคุณกับนาเทลเป็นเจ้าชาย มันเลยช็อคตาตั้งอย่างที่เห็นนี่ไง” ผมงัดนิ้วโป้งข้ามไหล่ไปที่ไอ้ธา ตอนนี้มันไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับนาเทลเลยด้วยซ้ำ เดินเงียบทำตัวเรียบร้อยเชียวนะครับเพื่อนกู

“เป็นเช่นนี้นี่เอง...” เจ้าสีส้มพยักหน้ารับรู้ คงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้คุยกับเพื่อนผมเท่าไหร่เลยยังไม่รู้นิสัยใจคอของไอ้ธา ประกอบกับเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับตัวเองด้วย เลยเดาไม่ถูกมั้งว่าไอ้ธากำลังหวั่นๆ เรื่องอะไร หึหึหึ

“นี่ เชอเชส เอ่อ...ผมยังเรียกคุณแบบนี้ได้อยู่ไหม หรือต้องเรียกว่าเจ้าชายเชอเชส? ท่านเชอเชส? คุณเชอเชส? แบบไหนถึงจะเหมาะสมอ่ะ”

เรื่องนี้ผมแอบซีเรียสนะ กลัวว่าเวลามีใครมาได้ยินผมเรียกชื่อเจ้าชายของพวกเขาห้วนๆ ไม่มีคำนำหน้าที่บ่งบอกความให้เกียรติแล้วจะถูกมองว่าผมเป็นพวกมนุษย์โลกไร้อารยธรรม ไม่เห็นหัวเจ้าชายแห่งดวงจันทร์อยู่ในสายตา ไร้กาลเทศะ ขาดการอบรมสั่งสอน เอ่อะ...จะอะไรก็ช่างเหอะ เอาเป็นว่าผมอยากทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง คนอื่นจะได้ไม่เอาผมไปว่าเสียๆ หายๆ เอาได้

“ท่านวีจะเรียกข้าเหมือนเดิมก็ได้ เพราะถ้าเทียบอายุกันแล้ว ข้าน่าจะเด็กกว่าท่านสักสองสามปีกระมัง”

ห๊ะ!?

ผมมองคนพูดตั้งแต่หัวจรดเท้า เท้าจรดหัว มองใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มมาให้อย่างใสซื่อแล้วอดถามด้วยความอยากรู้ไม่ได้ “ปีนี้คุณอายุเท่าไหร่น่ะ” ถ้าให้ผมเดาจากหน้าก็คงยี่สิบห้า น่าจะอยู่ในวัยทำงาน แต่มันชักเริ่มไม่แน่ใจก็ตอนที่อีกฝ่ายบอกผมว่าตัวเองเด็กกว่าเนี่ยแหละ

“อีกไม่กี่วันข้าจะอายุสิบห้าแล้วล่ะ” เชอเชสเฉลยตัวเลขที่น้อยกว่าที่ผมคิดไว้ถึงสิบปีออกมา

โอเค ผมขอเวลาช็อคอีกแป๊บ... เจ้าสีส้มนี่กำลังจะอายุสิบห้า ส่วนผมจะสิบแปดเดือนหน้านี้แล้ว โอว.... อายุห่างกันสามปี นี่ถ้าผมเลือกเขาเป็นพระราชาไม่เท่ากับว่าผมกินเด็กเรอะ!?

“แล้วนาเทลล่ะ รายนั้นอายุเท่าไหร่...?”

ไม่ได้อยากจะถามให้สะเทือนใจเพิ่มหรอกนะ แต่ผมขอรู้หน่อยเถอะ จบจากพิธีต้อนรับอะไรนี่แล้วผมจะได้เอาไปเมาท์กับไอ้ธามันได้

“เสด็จพี่อายุมากกว่าข้าหนึ่งปี นี่ก็เพิ่งอายุสิบหกไปเมื่อสองเดือนที่แล้วเอง”

บร๊ะเจ้า... งี้อย่าบอกนะว่าพี่ชายคนโตที่หน้าเหมือนคนอายุสามสิบยังแค่สิบปลายๆ ไม่ก็ยี่สิบต้นๆ น่ะ โอ๊ยยย คิดแล้วแอบสะพรึง

“พวกกระต่ายนี่โตเร็วแบบนี้ทุกคนเลยเรอะ!?”

กินอะไรเข้าไปนะถึงได้สูงยาวเข่าดีขนาดนี้ทั้งที่เพิ่งจะอายุไม่เท่าไหร่เอง! บอกมานะ ผมจะได้ไปหามากินมั่ง เผื่อส่วนสูง 172 จะขยับเป็น 180 ให้ผมได้ยืดกับเขาบ้าง

“เสด็จแม่กับเทพกระต่ายก็เคยพูดอยู่เหมือนกันว่าชาวแสงจันทร์โตไวกว่าเด็กมนุษย์มากนัก แต่ข้าไม่รู้หรอกว่าเป็นจริงหรือไม่” ผมฟังเขาพูดไปในขณะที่สายตาก็ลอบแอบสำรวจเด็กข้างตัวดูอีกรอบ

เชอเชสเป็นชายหนุ่ม...หรือจะเรียกให้ถูกก็ต้องเป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาดีมาก ใบหน้าเรียวยาวรูปไข่ จมูกโด่งคมเป็นสัน ดวงตาสีม่วงอมเทาคู่นั้นดูลึกลับงดงาม ริมฝีปากรูปกระจับสีส้มธรรมชาติก็ดูดีมากเมื่อเจ้าตัวหยักยิ้ม เมื่อยืนเทียบกับนาเทลที่มีรูปร่างสูงโปร่ง เชอเชสกลับดูสูงและตัวใหญ่กว่าพอสมควร ลองกะด้วยสายตาก็น่าจะร้อยแปดสิบกว่าๆ เกือบร้อยเก้าสิบ ภายใต้เสื้อผ้านี้เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นลอนสวยอย่างคนดูแลสุขภาพ (ที่รู้เพราะผมเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่งตอนสอนให้เชอเชสกับนาเทลใช้ฝักบัวกับอ่างอาบน้ำเป็นครั้งแรก) ถ้าไม่นับผมสีส้มที่ดูโดดเด่นผิดธรรมชาติ ทุกอย่างที่รังสรรค์ขึ้นมาเป็นเด็กหนุ่มนามเชอเชสล้วนแล้วแต่ดูลงตัวจนน่าอิจฉา ครบสูตรหล่อ ดูดี มีชาติตระกูล อีแบบนี้ร้อยทั้งร้อยต้องเป็นคนที่เนื้อหอมชัวร์!

“นี่ เชอเชส ผมถามได้ไหมว่าทำไมนายกับนาเทลถึงไปรับผมด้วยตัวเองล่ะ การเดินทางในอวกาศมันอันตรายมากไม่ใช่เหรอ พ่อนาย เอ่อะ...พระราชายอมให้พวกนายไปได้ยังไง”

พ่อผมคนนึงล่ะที่เป็นพวกหวงลูกแบบสุดติ่ง เวลาผมขอไปเที่ยวไหนไกลๆ ถ้าไม่ได้ไปกับคนที่พ่อวางใจอย่างไอ้ธา(มันน่าไว้ใจตรงไหน???) อย่าว่าแต่ต่างประเทศเลย แค่ต่างจังหวัดยังยาก นับประสาอะไรกับนาเทลและเชอเชสที่ต้องเดินทางข้ามดาวกัน ลองผมไปขอพ่อเดินทางไปต่างโลกดูบ้างสิ ถ้าไม่หูชากลับมาก็ได้เจอแข้งฟาดให้ลงไปนอนนับดาวเล่นแน่

“มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของราชวงศ์แสงจันทร์ ที่โอรสของกษัตริย์จะต้องเดินทางไปรับพระชายาด้วยตนเองน่ะ”

“ครับ” ผมพูดปิดท้าย ให้เชอเชสทำหน้างงว่าผมจะครับใส่เขาทำไม

“นายเด็กกว่า เพราะงั้นลงท้ายต้องมีหางเสียงด้วย” ผมทำตาดุใส่เขา เปลี่ยนคำเรียกจาก 'คุณ' เป็น 'นาย' เรียบร้อยนับตั้งแต่นาทีนี้

“ครับ...” เชอเชสลองพูดตาม ผมพยักหน้าพอใจที่ทำให้เจ้าชายตรงหน้าพูดจาน่ารักกับผมได้ “หรือท่านวีอยากให้ข้ากลับไปพูดตามเดิม... เอ่อ ขอรับ?”

“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ แค่ลงท้ายว่า ‘ครับ’ แทน ‘ขอรับ’ ก็พอ บนโลกมนุษย์เขาถือว่าเป็นการให้เกียรติคนที่อายุมากกว่าน่ะ”

“พูดเพราะๆ ผู้ใหญ่จะได้รักและเอ็นดูไง”

แว่วเสียงกระซิบจากด้านหลังที่ผมได้ยินแต่แกล้งทำเป็นไม่สนใจ ไอ้ธานะไอ้ธา เห็นเดินเงียบๆ ตามหลังมาไอ้เราก็นึกว่าหายเข้าโลกส่วนตัวไปแล้ว ที่ไหนได้แอบฟังที่คนอื่นเขาคุยกันเฉย ถ้าว่างมากนักก็หันไปชวนนาเทลคุยเซ่ ปล่อยให้เจ้าน้ำตาลเดินหงอยเป็นกระต่ายเหงาได้ยังไง ไม่ไหวเลยไอ้เพื่อนคนนี้

“ว่าแต่... เราพูดถึงไหนกันแล้วนะ” ผมทำท่านึก เจ้าสีส้มที่ดูจะมีความจำดีกว่าเลยทวนเนื้อหาให้ผมอีกครั้ง คราวนี้ไม่ลืมลงคำว่าครับปิดท้ายประโยคด้วย ช่างเป็นเด็กดีเหลือเกิน

“ในเมื่อเป็นธรรมเนียมของที่นี่ แล้วทำไมคุณทาคาลกับซอโรถึงไม่ได้ไปด้วยล่ะ?” ข้อนี้ผมเพิ่งนึกขึ้นมาได้ ในเมื่อเชอเชสบอกเองว่าเป็นธรรมเนียมของราชวงศ์ที่จะต้องไปรับพระชายาด้วยตัวเอง แล้วไหงอีกสองชีวิตถึงได้นอนตีพุงอยู่นี่แทนเล่า

“นั่นเป็นเพราะเสด็จพี่ใหญ่ทรงสละสิทธิ์ในการขึ้นการครองราชไปแล้ว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางไปโลกอีกครับ” เจ้าสีส้มให้ข้อมูลที่ฟังดูน่าสนใจไม่เลว เจ้าหนึ่งขอถอนตัวไปแล้วก็เท่ากับตัวเลือกของผมลดลงไปอีกหนึ่ง แหล่มเป็ดสิครับท่าน “ส่วนน้องเล็กยังอายุน้อยเกินกว่าที่จะออกเดินทางได้ เลยต้องรั้งรออยู่ที่นี่แทนน่ะ... เอ่อ ครับ”

ผมยิ้มเมื่อเห็นคนที่โตแต่ตัวหลุดท่าทางน่าเอ็นดูออกมา เห็นอย่างนี้แล้วก็นึกถึงตอนที่อีกฝ่ายกลายร่างเป็นกระต่ายตัวจ้อย ตัวอ้วนๆ ใหญ่ๆ ขนนุ่มนิ่ม ถ้าขอให้เขากลับไปอยู่ในร่างนั้นให้ผมขยำเล่นสักหนึ่งวัน เชอเชสจะว่าอะไรไหมน้า~

ไว้ว่างๆ ต้องลองขอดูหน่อยแล้ว

“ผมถามได้ไหมว่าเพราะอะไรพี่ชายคุณถึงได้สละสิทธิ์?” ใบหน้าเคร่งขรึมของเจ้าชายองค์โตเด้งเข้ามาในความคิด ทั้งที่ผมคิดว่าเขาดูเหมาะกับตำแหน่งกษัตริย์ที่สุดแล้วในบรรดาพี่น้องสี่คน ไหงยอมลงให้น้องง่ายๆ ล่ะ ไม่ใช่ว่าคนในราชวงศ์ชอบชิงราชบัลลังก์กันหรอกเหรอ หรือผมจะดูหนังเป็นเพื่อนแม่เยอะเกินไป?

“ยามใดที่ชาวแสงจันทร์มีรัก ย่อมรักมั่นเพียงหนึ่งไม่มีสอง ในเมื่อเสด็จพี่ของข้าตัดสินใจสู่ขอธิดาของอำมาตย์มาตบแต่งเป็นภรรยาแล้ว เขาย่อมยอมวางมือจากบัลลังก์ให้คนอื่นได้ขึ้นครองแทน”

อะหือ... ได้ยินแบบนี้แล้วอยากยกนิ้วให้พ่อหนุ่มหน้าตายคนนั้นนัก เลือกรักมากกว่ายศศักดิ์ ยอมสละบัลลังก์เพียงเพื่อผู้หญิงที่รักเพียงคนเดียว ฟังแล้วโรแมนติกจั๊กกะจี้หัวใจชะมัด



“ถึงลานพิธีแล้วล่ะครับ”

เจ้าสีส้มบอกเมื่อเรามาหยุดอยู่หน้าทางเข้าลานแสงจันทร์ หน้าทางเข้าเป็นซุ้มโค้งดอกไม้ที่ทอแสงสีทองเรืองรอง เชอเชสบอกว่าเวลานี้เป็นเวลาแปดดารา หรือก็คือประมาณสามทุ่มตรงตามเวลาโลก ผมที่สงสัยมาตลอดว่าช่วงเวลากลางคืนในดวงจันทร์มันจะเป็นยังไง เวลานี้ผมได้คำตอบนั้นแล้ว

ท้องฟ้ายามค่ำคืนของที่นี่ไม่มืดมิดเหมือนโลกบ้านเรา ทั่วทั้งผืนฟ้าเป็นสีเหลืองนวลแปลกตา แต่ที่ตรึงใจผมได้มากกว่านั้นคือม่านฟ้าที่ทอแสงสีเขียวเหลือบม่วง มนุษย์โลกอย่างเราๆ เรียกแสงนั้นว่าออโรร่า เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่จะมีให้เห็นเฉพาะบริเวณแถบขั้วโลก ถ้าผมจำข้อมูลไม่ผิดน่ะนะ...

ด้วยความอยากรู้ผมเลยลองถามเชอเชสดูว่าคนบนดวงจันทร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่าอะไร เขาตอบกลับมาว่า นั่นเรียกว่าม่านแสงจันทร์ วันไหนอากาศดีก็จะเป็นสีชมพูอมฟ้า วันไหนอากาศแปรปรวนหน่อยก็จะเป็นริ้วสีส้มอมแดง และถ้าคืนไหนฝนจะตก ม่านพวกนี้ก็จะไม่ปรากฏออกมาให้เห็น ส่วนวันนี้อากาศค่อนข้างเย็น ม่านเลยเป็นสีเขียวเหลือบม่วง

ผมมองภาพบนฟ้าแบบทึ่งๆ นี่ถือเป็นการพยากรณ์อากาศล่วงหน้าที่จัดได้ว่าแม่นยำซะยิ่งกว่ากรมอุตุซะอีก น่าสนใจๆ

“เจ้าชายนาเทล เจ้าชายเชอเชส และพระชายาเสด็จ!”

เสียงประกาศแสบแก้วหูดังขึ้นเมื่อพวกเราเดินผ่านซุ้มดอกไม้เข้าไปยังลานพิธี พื้นที่นี่ปูด้วยหินสีขาวทอดยาวไปสู่ลานกว้างทรงกลม ให้ความรู้สึกเหมือนโคลอสเซียมของโรมันเพียงแต่กว้างใหญ่ไม่เท่า สิ่งปลูกสร้างทั้งหมดเป็นสีขาวล้วน ตรงกลางถูกยกขึ้นเป็นเวทีสูงประมาณอก เชอเชสบอกว่านั่นเป็นเวทีสำหรับการแสดงและประกอบพิธีการสำคัญ รอบด้านถูกสร้างขึ้นเป็นขั้นบันไดจำนวนสี่ขั้น ความกว้างมากพอสำหรับการปูเสื่อขนาดมาตรฐานได้ผืนหนึ่ง พอวางโต๊ะวางเบาะสำหรับคนนั่งแล้วยังเหลือที่เดินอีกราวๆ สองศอกครึ่ง นับว่ากว้างขวางใช้ได้

ส่วนที่ประทับของกษัตริย์นั้นถูกสร้างขึ้นให้อยู่ตรงกับทิศเหนือ ตรงกลางมีเก้าอี้สองตัววางตั้งอยู่เคียงกัน หนึ่งเป็นของพระราชา อีกหนึ่งเป็นขององค์ราชินี ลงมาจะเป็นที่ประทับของเจ้าชายทั้งสี่ที่ต้องนั่งเรียงตามลำดับจากพี่ไปน้อง ส่วนผมกับไอ้ธาที่มาจากต่างแดนถูกจัดให้นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ประทับของราชา ทุกด้านหันหน้าเข้าหาเวทีหมด

“พระชายากับสหายผู้มาจากต่างแดน เชิญทางนี้ขอรับ” เป็นยาอุลนั่นเองที่ออกมารับรองพวกผมเดินนำไปยังที่นั่งที่ถูกจัดเตรียมไว้

ผมเดินตามเด็กชายที่ยังมีหูหางประดับอยู่ครบ พอลองถามว่าทำไมเขาถึงไม่เก็บหูเก็บหางไปเหมือนชาวกระต่ายคนอื่นๆ ยาอุลก็ให้คำตอบกลับมาว่าเขายังเด็กเกินกว่าที่จะใช้พลังเก็บหูซ่อนหางลงได้ พอพูดกันถึงเรื่องอายุ ด้วยความสงสัยผมเลยลองถามยาอุลดูว่าตอนนี้เขาอายุเท่าไหร่ ครั้งแรกที่เจอกันผมคิดว่าเขาน่าจะอายุประมาณสิบสามสิบสี่ แต่คำตอบที่ถูกต้องดันเป็นสิบขวบครับ...

“นี่ขอรับ ที่นั่งของท่านวี ส่วนที่นั่งของท่านธาอยู่ตรงนี้ขอรับ”

ยาอุลผายมือไปยังที่นั่งประจำตำแหน่งของผมกับไอ้ธา วินาทีแรกที่เห็นที่นั่งของตัวเอง คิ้วทั้งสองข้างของผมนี่ถึงกับกระตุกรัวๆ โต๊ะสีขาวสะอาดอันนี้ไม่มีปัญหา เบาะนั่งที่ทำจากผ้าเนื้อดีสีชมพูหวานแหววนี่ก็ยังพอรับได้เพราะนั่งทับไปก็ไม่มีใครเห็นแล้ว แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือพวกคุณจะประดับดอกไม้อะไรนักหนา ทำเป็นซุ้มโค้งห้อยระโยงระยางอย่างกับว่านี่เป็นซุ้มหน้าประตูวิวาห์ที่ทำขึ้นให้บ่าวสาวลอด

ผมอยากจะถามคนที่ครีเอททำเจ้าซุ้มนี้ขึ้นมาจริงๆ เลยว่า นี่พี่ขนมาหมดทุ่งเลยรึป่าวครับเนี่ย!?

“โหมึง คนทำเขากะให้มึงนั่งสวยท่ามกลางดงดอกไม้แน่เลยว่ะ ก๊ากกก”

ไอ้ธาที่เงียบเป็นเป่าสากเมื่อต้องเดินคู่กับเจ้าชายนาเทลดูจะดึงวิญญาณกลับเข้าร่างมาแล้ว มันถึงได้ปากหมาส่งเสียงล้อเลียนทันทีที่เห็นที่นั่งดั่งทุ่งดอกไม้บานของผม เหอะๆๆ

“พูดได้แล้วเหรอมึง กูก็นึกว่ามึงจะหากล่องเสียงไม่เจอแล้วซะอีก”

“อะไรๆ ที่กูไม่พูดเพราะกูเกรงใจเหอะ เห็นเพื่อนกูมัวแต่ยุ่งกับการจีบเด็ก จะเข้าไปขัดมันก็ยังไงๆ อยู่ กูเลยเผลอฟังซะเพลิน” มันหัวเราะอิอิได้ทุเรศที่สุดในสามโลก ถ้าไม่ติดว่าบรรดาขุนนางที่นั่งกันหน้าสลอนกำลังจับจ้องมาทางผมอยู่ล่ะก็ สันมือคงได้ฟาดเข้าสักส่วนบนร่างกายไอ้เพื่อนขี้แซวไปแล้วสักทีสองที

“จีบเด็กพ่อมึงสิ” ผมลดเสียงลงจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่เชื่อว่าระดับไอ้หมาธาผู้แสนรู้มันต้องอ่านปากผมออกแน่ว่าผมกำลังพูดอะไร

“แซวเล่นนิดหน่อยแม่งล่อถึงพ่อกูเลย...”

มันบ่นอุบอิบแต่ก็ไม่คิดถือสาหาความ เดินไปนั่งตรงโต๊ะที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้มันก่อนจะมีเด็กชายกระต่ายหูสีขาวคลานเข่ามารินชาให้ ปรนนิบัติดีแบบน่าให้ทิปไปสักสี่สิบ แต่ระดับป๋าธาน้องอย่าหวังเลยว่าจะได้เห็นแบงค์เขียวจากมัน บทคุณชายธาจะแจกทิปทีนี่ให้ใบสีแดงนะครับ ทำเป็นเล่นไป ใครๆ ก็เรียกว่ามันว่าเสี่ยชลบุรี พ่อเปิดโชว์รูมรถนอก แม่ทำร้านขายจิวเวลรี่ พี่ชายสองคนทำอสังหาริมทรัพย์ ไม่รวยบ้านแตกก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วครับ มันเลยมีปัญญาซื้อคอนโดอยู่เองหลังสอบเข้ามหาลัยได้ไง

“นั่งดิ มึงจะยืนสวยรับลมอีกนานไหมครับ คุณพระชายา”

ท่าทางคืนนี้เพื่อนผมมันจะอยากกินตีนแทนวิตามินก่อนนอนซะแล้วครับ หน้าตี๋ๆ นั่นเลยจงใจยียวนกวนผมแบบเต็มที่ รอจบตรงนี้ก่อนเถอะมึงแล้วเราค่อยคิดบัญชีกัน หนี้ที่ทิ้งกูหนีไปอาบน้ำคนเดียวนั่นยังไม่ได้เอาคืนเลยนะเว้ย

ผมกระทืบเท้าก้าวไปนั่งบนเบาะสีชมพูหวานบาดใจที่รายล้อมด้วยดอกไม้สีสันสดใสชวนเวียนหัว นี่ถ้าผมเกิดมาเป็นผู้หญิงคงมีความคิดที่ว่าถึงตายก็ไม่เสียชาติเกิดแวบเข้ามาในหัว แต่ขอโทษที่ผมเป็นผู้ชายแมนๆ และคงไม่มีผู้ชายแมนๆ คนไหนดีใจที่ได้มานั่งอยู่ตรงจุดนี้หรอก ฮือออ ผมยังแมนอยู่นะครับ

พอนั่งได้ที่แล้ว เด็กน้อยยาอุลก็คลานเข่าเข้ามาเสิร์ฟน้ำชากลิ่นดอกไม้ให้ เจ้าสีเทาบอกว่าชานี้ชื่อ ชามายาจันทร์ เป็นใบชาชั้นหนึ่งที่ปีๆ นึงจะเก็บผลผลิตได้เพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น ดังนั้นชานี่จึงถูกเก็บไว้อย่างดีมีไว้ใช้เฉพาะในงานพิธีสำคัญๆ เท่านั้น นับว่าเป็นลาภปากของผมเลยที่มาถึงก็ได้กินของดี กินแล้วแทบลอย

ในระหว่างที่รอพิธีเริ่ม ผมให้ยาอุลช่วยเล่าเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับโลกนี้ให้ผมฟัง จนกระทั่งเสียงประกาศว่าพระราชากับองค์ราชินีเสด็จมาถึงแล้วนั่นล่ะ ยาอุลถึงได้คลานเข่าถอยหลังกลับไปยืนประจำที่

ทันทีที่ผู้มีอำนาจสูงสุดปรากฏกาย เหล่าขุนนางต่างพากันลุกขึ้นยืนต้อนรับ เชอเชสกับนาเทลที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ยืนด้วย ผมกับไอ้ธาเลยต้องรีบทำตามน้ำ เขายืนกันเราก็ยืนด้วย เขานั่งเมื่อไหร่เราค่อยนั่งตาม เข้าสุภาษิตที่ว่าเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม รับรองปลอดภัยหายห่วง

เสียงถวายพระพรดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ผมที่อยากรู้ว่าราชินีแห่งดวงจันทร์หน้าตาเป็นอย่างไรเลยแอบเงยหน้าขึ้นดูนิดหน่อยแบบไม่ให้เป็นที่สังเกต บนทางเดินที่มุ่งหน้าขึ้นสู่ปะรำพิธีมีคนเดินอยู่ด้วยกันสามคน หนึ่งในนั้นแน่นอนว่าเป็นพระราชา ตามมาด้วยชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดแบบชาวดวงจันทร์ ปิดท้ายด้วยผู้ชายตัวเล็กในชุดขาวที่แต่งกายเหมือนพวกนักพรตของญี่ปุ่น

ผมเอียงคองง ไหนล่ะราชินีแห่งดวงจันทร์?

อย่าบอกนะว่า...

รอจนกระทั่งสองในสามนั้นนั่งประจำที่ ผมถึงได้รู้ว่าสิ่งที่คิดอยู่ในหัวมันไม่ผิดไปจากที่คิดเลย

ราชินีแห่งดวงจันทร์เป็นผู้ชาย! ผมที่เป็นชายาแห่งดวงจันทร์ก็เป็นผู้ชาย!

อาณาจักรแห่งนี้มันผิดเพี้ยนเกินไปแล้ว!!!



--------------------------------------------------------

อาณาจักรแสงจันทร์ = ฟินแลนด์สำหรับเรา 55555555


ดีใจที่ชอบนิยายเรื่องนี้กันนะค้าา
ขอบคุณทุกเม้น ทุกกำลังใจที่มอบให้กันนะก๊ะ  :pig4:

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
อุ้ย พระชายากับพระสหาย จะอยู่สมาคมกินเด็กกันแล้วเหรอเนี่ย 555
แต่เชอเชสนี่ว่าง่ายเชื่อฟัง เป็นเด็กดีน่ารักจัง อย่างนี้สิพี่วีจะได้เอ็นดูนะ :o8:
ไม่ต้องกังวลเรื่องนาเทลเลย ดูท่าทางจะปลาบปลื้มพี่ธามากอยู่นะนั่น
ว่าแต่ ราชินีแห่งดวงจันทร์ก็เป็นผู้ชาย แล้วเป็นแม่ของเจ้าชายทั้งสี่ด้วยใช่ไหม
หรือว่าชาวแสงจันทร์นี่ ผู้ชายก็มีลูกได้งั้นเหรอ แล้วคนรักของเจ้าชายใหญ่นี่ ผู้หญิงหรือผู้ชายน้อ
รอติดตามต่อไปจ้า ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :L1:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
 อุ๊ย สมาคมกินเด็ก
สมกับเป็นแดนฟินของชาวเราจริงๆค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อาณาจักรฟิน
มีกระต่ายหนุ่มน้อยให้เคี้ยวกิน
มาชายาเป็นหนุ่มหล่อลากดิน
อยากไปอยู่จนน้ำนาแทบไหลริน

 :hao5:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
555. งานนี้น้องวีวี่ช็อคไปแล้วจ้า

ออฟไลน์ Blue

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เจ้าส้มดูใสซื่อน่ารักน่าหยิก(?)น่าเอ็นดูขนาดดด  :hao7:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ตายล่ะพ่อกระต่ายป่าซุกซนของฉันน่ากอดจริงๆ

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
กรี๊ดดดดด ได้มาอ่านเรื่องนี้รู้สึก เสีย - ใจ - มาก ค่ะ! ผิดพลาดเหลือเกิน ฮืออออ
เพราะมีนิยายที่ทำให้ต้องติ่ง ติดหนึบ และขยันแวะเวียนเข้ามาดูอีกเรื่องแล้วอ่า ; __ ;
สนุกมากกกกกกกเลยค่ะ ชอบทุกอย่างเลย ทั้งภาษา พล็อตเรื่อง ความน่ารักของชาวกระต่าย แล้วก็ความฮาของวีด้วย 5555555
กะไว้แล้วว่าพระเอกน่าจะเป็นเชอเชสนี่แหละ แต่ไม่คิดว่าจากดราม่าเรื่ององครักษ์จะกลายเป็นเจ้าชายซะเอง
แบบนี้ชิวๆ ลูกกวาดชัวร์เลย เพราะดูนาเทลก็น่าจะสนใจคนอื่น(?)มากกว่าท่านวีไปละ
ส่วนน้องเล็กก็ดูน่าร๊ากกกก เหมาะกับการได้พี่สะใภ้มากกว่าเมียอย่างแรงค่ะ! 55555555555

ตอนแรกก็เอะใจแล้วแหละหลังอยู่มานานแต่ยังไม่เจอผู้หญิง สุดท้ายก็จริงๆด้วย ดวงจันทร์เป็นเมืองชายล้วนสินะคะ  :hao6:
แล้วแบบนี้จะมีลูกกันยังไงนะะะะ /คิดไปไกลมาก 55555555555 ลองว่าเป็นแบบนี้คงไม่ต้องกลับโลกแล้วม้างทั้งสองคนนั่นแหละ ><

จะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ ฮือ T ______ T .. มาเจอเรื่องนี้ซะเร็วเลยอ่ะ อยากอ่านต่อแล้วค่ะ
คนเขียนสู้ๆน้า เป็นกำลังใจให้ค่า  :L2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สนุกมากค่ะ

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
น่ารักมาก :mew1:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
5555พระชายาก้อผู้ชาย

ราชินีก้อผู้ชาย

เราฮามากอ่ะขอบอก

ออฟไลน์ varirinnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ชายาแห่งดวงจันทร์ -7-
«ตอบ #49 เมื่อ21-12-2015 22:53:53 »

-7-
พิธีต้อนรับพระชายาแห่งแสงจันทร์




“ค่ำคืนนี้เป็นคืนอันดียิ่งที่หนึ่งในทายาทแห่งเราจะได้รับการสืบทอดตำแหน่งรัชทายาทแห่งดวงจันทร์ ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมเป็นสักขีพยานภายใต้ม่านแสงจันทร์ในคืนนี้ ข้าในฐานะกษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรแสงจันทร์ขอเปิดพิธีต้อนรับชายาแห่งดวงจันทร์ ณ บัดนี้”

กษัตริย์เมซาดิอุสกล่าวเปิดงานด้วยถ้อยคำอันเรียบง่ายแต่องอาจ บนฝ่ามือทั้งสองข้างที่ยื่นออกมาตรงหน้ามีแสงสีเหลืองนวลส่องสว่างพุ่งวาบออกมา โคมไฟทั้งแปดทิศที่ตั้งอยู่รอบลานพิธีพลันเกิดแสงสว่างลุกโชติช่วงให้ทั้งลานสว่างไสวยิ่งกว่าเดิม

“เฮ้ย! อะไรน่ะ เมื่อกี้นี้เขาใช้เวทมนต์เหรอวี!?”

มนุษย์โลกที่คลั่งหนังจำพวกแฟนตาซีไซไฟเริ่มอยู่ไม่ติดที่เมื่อเห็นอะไรที่มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถทำได้ แต่ต่อให้ตื่นเต้นแค่ไหนมันก็ยังรู้ว่าเวลานี้ไม่ควรทำอะไรตามใจอย่างการย้ายที่นั่งมานั่งข้างๆ ผม มันบอกตำแหน่งนี้มันเด่นเกินไป ยังไงซะไฮไลต์ของวันนี้ก็คือตัวผม เรื่องถูกจับตามองย่อมเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แค่มันแสลนหน้ามานั่งอยู่ตรงนี้ก็นับว่าเด่นรองลงมาแล้ว มันไม่อยากหาเรื่องใส่หัวด้วยการตกเป็นเป้าสายตามากไปกว่านี้อีก

“ถามกูแล้วกูจะรู้ไหมครับ ก็เห็นพร้อมกันเนี่ย” ผมหันไปยู่หน้าใส่มัน มันคิดว่าผมเป็นกูเกิ้ลบนดวงจันทร์รึไงถึงจะตอบคำถามมันได้เนี่ย

“ฟาย รูปประโยคมันเหมือนประโยคคำถามก็จริง แต่คือมึงเข้าใจไหมครับว่ากูแค่อุทาน ไม่ได้ถามเพื่อเอาคำตอบโว้ย”

ผมยกยิ้ม เรื่องแค่นี้ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ก็แค่อยากกวนตีนมันเฉยๆ เหมือนที่ทำเป็นประจำนั่นล่ะ

“ลำดับต่อไป ขอเชิญเทพกระต่ายขึ้นมาทำพิธีรับขวัญพระชายา”

เสียงของผู้ประกาศคนเดิมดังขึ้นเรียกความสนใจของผมไปได้จนหมด สองตาของผมจับจ้องไปยังลานพิธีเพื่อมองหาคนที่ทำให้ชีวิตของผมพลิกผันราวกับเล่นตลก แล้วผมก็เจอเขา...ชายร่างเล็กในชุดขาวที่เดินตามหลังราชินีแห่งดวงจันทร์ไปนั่งอยู่บนปะรำพิธีของพระราชา ถึงแม้จะนั่งเยื้องไปทางข้างหลังขององค์ราชินี แต่จากตำแหน่งที่นั่งตรงนั้นก็บ่งบอกให้รู้แล้วว่าชายคนนี้มีความสำคัญขนาดไหนในอาณาจักรแห่งนี้

เขาเดินลงมาจากปะรำพิธีด้วยย่างก้าวที่สงบสมภาพลักษณ์ มองจากตรงนี้ผมเห็นหน้าตาเขาไม่ชัดมากนัก แต่ก็พอดูรู้ว่าเป็นคนที่หน้าตาดูดีคนหนึ่ง ทั้งที่ทุกสายตากำลังจับจ้องมองเขาอยู่แต่จังหวะการก้าวย่างกลับลื่นไหลไม่มีสะดุด คล้ายเคยชินกับการตกเป็นเป้าความสนใจจากผู้คนรอบด้านไปแล้ว

เทพกระต่ายเดินขึ้นไปยืนอยู่ตรงกลางลานพิธีที่ตั้งโต๊ะหมู่บูชาเทพแห่งดวงจันทร์ เขาประคองกิ่งไม้เงินขึ้นพลางท่องบทสวดที่ทำให้สายลมปั่นป่วนผันผวน จังหวะนี้ไอ้ธาแทบนั่งไม่ติดที่ ถ้ากระโจนลงไปเกาะขอบเวทีได้มันคงทำไปแล้ว

เมื่อเทพกระต่ายบริกรรมคาถาจบลง แสงสีเงินที่ไม่รู้มาจากไหนก็ลอยละล่องเต็มลานแสงจันทร์ แสงนั้นให้ความรู้สึกเหมือนหิ่งห้อยที่บินเอื่อยๆ ล่องลอยไปมาอย่างอิสระเสรีให้ทุกคนในที่นี้ได้ชื่นชมความงามของมันภายใต้ม่านแสงจันทร์ที่กระเพื่อมไหวอยู่บนท้องฟ้า ผมลองยื่นมือไปแตะแสงไฟดวงหนึ่งที่เข้ามาใกล้ทำให้ไม่ทันสังเกตว่ามีใครคนหนึ่งได้มาเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า

“เรียนเชิญชายาแห่งดวงจันทร์ขึ้นไปยังลานประกอบพิธีด้วยครับ”

เขากล่าวประโยคนี้พร้อมรอยยิ้มที่ดู เอ่อ...ซุกซน? เป็นเทพกระต่ายนั่งเองที่มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าที่นั่งของผมพร้อมกับยื่นมือมาให้ ผมขมวดคิ้วมองฝ่ามือที่โผล่พ้นชายผ้าสีขาว นี่เขาเห็นผมเป็นเจ้าหญิงหรือไงถึงได้ต้องการคนช่วยฉุดลุกขึ้นจากที่นั่งน่ะ!

“จับมือผมเร็วเข้า ทุกคนมองเธออยู่นะ” เขาพูดเสียงเบา ดูจากวิธีการพูดและสรรพนามที่ใช้เรียก มันทำให้ผมแปลกใจประมาณหนึ่งที่เขาไม่ใช่ชาวแสงจันทร์

แต่เป็นมนุษย์โลกเหมือนผมกับไอ้ธา!

“คุณเป็น...”

“ชู่ว...เดี๋ยวค่อยถาม ตอนนี้ตามผมขึ้นไปก่อน”

เขาเอ่ยปรามผม มือที่ยื่นมาเพียงรองไว้ใต้ฝ่ามือผมเท่านั้น เขานำพาผมขึ้นไปสู่ลานประกอบพิธีที่ปูด้วยพรมขนสัตว์สีขาวดุจหิมะ มันทั้งนุ่มและอบอุ่น ให้ความรู้สึกดีกว่าเบาะหวานแหววสีชมพูนั่นเยอะเลย

เทพกระต่ายบอกให้ผมนั่งคุกเข่าลงบนนั้น ส่วนเขาหันไปหยิบกิ่งไม้สีทองมาแตะลงบนศีรษะของผม เอื้อนเอ่ยบทสวดที่น่าจะเป็นภาษาโบราณของชาวแสงจันทร์พลันกล่าวปิดท้ายว่า “ข้าในฐานะเทพกระต่ายขอประกาศ ให้บุคคลผู้นี้ที่ถูกเลือกโดยมงกุฎแห่งจันทราเป็นหนึ่งในราชวงศ์แสงจันทร์นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป”

ทันทีที่พูดจบ วงเวทย์สีแดงที่เคยเห็นตอนอยู่ห้องไอ้ธาพลันปรากฏขึ้นอีกครั้งคล้ายกำลังตอบรับคำพูดของเทพกระต่าย หน้าผากที่มีตราประทับรูปมงกุฎสลักอยู่รู้สึกอุ่นวาบขึ้นมา เป็นความอุ่นร้อนที่เข้ามาช่วยละลายความหนาวเย็นที่เกาะกุมทุกส่วนในร่างให้หายไปจนหมด จากนั้นปลายนิ้วที่แต้มสีแดงชาดจากจอกเหล้าก็ยื่นมาละเลงใบหน้าผม วาดเป็นลวดลายอะไรก็ไม่รู้แต่ที่แน่ๆ มีหนวดแมวข้างละสามเส้นแน่นอน

ผมขมวดคิ้วยุ่ง ส่วนคนทำก็แอบลอบยิ้มถูกใจ ดูเทพกระต่ายจะสนุกไม่น้อยกับการได้แสดงศิลปะอันยอดเยี่ยมบนใบหน้าคนอื่น เขายังบอกอีกว่าให้ผมปลดชุดท่อนบนออกเพื่อที่จะละเลงต่อได้สะดวก

ผมอยากสครีมออกมาเป็นภาษาบาลีสันสกฤต

นี่ผมต้องลายพร้อยทั้งตัวเรอะ!?

“ถอดเร็วๆ สิ เสร็จจากตรงนี้ผมจะได้ไปกินขนมต่อสักที” เทพห่วงกินกระซิบเร่งผม เชื่อว่าถ้าสองมือไม่เต็มไปด้วยสีแดงเหมือนเพิ่งไปชโลมเลือดใครมา เขาคงคว้าสาบคอเสื้อผมกระชากออกจากกันไปแล้ว

นี่คุณเป็นเทพกระต่ายจริงๆ ใช่ไหม หรือไปแย่งตำแหน่งใครเขามาห๊า!?

เมื่อเจอสายตาเหมือนหมาหิวที่พร้อมอารมณ์เสียได้ตลอดเวลา ผมจึงยอมปลดเสื้อผ้าส่วนบนลงแต่โดยดี ในเมื่อผมเป็นผู้ชายก็ไม่จำเป็นจะต้องอายอะไร แต่ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่ผมแหวกสาบเสื้อออก ทุกคนในที่นี้ต่างพากันเบนหน้าหลบเหมือนกลัวเห็นอะไรที่มันแสลงตาเกินรับได้

เฮ้ยๆๆ เสียมารยาทน่ะ ถึงหุ่นผมจะไม่ได้แน่นเปรี๊ยะเหมือนพวกนายแบบที่เดินแคทวอล์ค แต่ก็ไม่ได้ขี้ก้างจนเห็นแล้วเสียสายตาสักหน่อย

หันหน้าหลบพร้อมกันแบบนี้ผมแอบเสียเซลฟ์นะเอ้ย T_T

“พวกเขาก็แค่เขินน่ะ” เทพกระต่ายหัวเราะคิกคัก ก้มตัวละเลงผมด้วยท่าทางสนุกสนานเหมือนเด็กที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่ “ไม่เชื่อลองมองไปบนปะรำพิธีสิ หูหางเด้งไปแล้วตั้งหนึ่งคน”

ผมลองมองตามที่เทพกระต่ายว่า ก็เห็นหูกระต่ายสีส้มสดใสเด่นหราก่อนใครเพื่อน ข้างกันเป็นนาเทลที่ก้มหน้าหลบไปทางเดียวกัน แล้วผมก็นึกถึงตอนที่ตัวเองนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวเดินออกมาจากห้องน้ำไอ้ธาขึ้นมาได้

“ท..ท..ท...ท่านวี! แต่งตัวแบบนี้ออกมาได้อย่างไรกันขอรับ!” กระต่ายสีส้มตัวอ้วนฟูร้องเสียงหลง มันรีบหันขวับเอาหน้าซุกหมอนข้างโชว์ตูดมาให้ผมแทน ข้างๆ กันมีกระต่ายตัวสีน้ำตาลทำท่าเดียวเหมือนกันเปี๊ยบคล้ายกับนัดกันมา

“หืม?” ผมที่ไม่ได้เอะใจสงสัยอะไรเลยเดินตัวปลิวไปหน้าตู้เสื้อผ้าที่ไอ้ธายกให้ผมฝั่งหนึ่ง หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กขึ้นมาเช็ดหัว ไม่ยอมแต่งตัวสักที

“รีบแต่งตัวก่อนเถิดขอรับ คืนนี้อากาศค่อนข้างหนาว ประเดี๋ยวท่านวีจะเป็นหวัดเอาได้นะขอรับ!”

เสียงเจ้าสีส้มดังเจื้อยแจ้วเหมือนเด็กเล็ก เวลากลับเป็นกระต่ายแล้วเสียงที่ดังออกมาจะค่อนข้างแหลมบาดหู ผมเลยไม่ทันสังเกตเห็นว่าน้ำเสียงของเจ้าสีส้มดูแปลกไป เพียงแต่คิดว่าคืนนี้เนี่ยนะหนาว? ในห้องแอร์มันเย็นนิดๆ ก็จริงแต่แค่นี้มันไม่สะเทือนผิวผมเท่าไหร่หรอก ยังรู้สึกเย็นดีด้วยซ้ำไป

ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าอาการที่เชอเชสกับนาเทลเป็นนั่นคือการเขินอาย

พออยู่ในร่างกระต่ายเลยไม่มีอะไรพิรุธแสดงออกมาให้เห็น แต่ตอนนี้เชอเชสอยู่ในร่างคน ทว่าหูหางกลับเด้งออกมา... นี่แปลว่าตัวเขามีปฏิกิริยากับร่างกายผมที่เปลือยท่อนบนงั้นเรอะ!?

โอ๊ย คนหน้าตาดีอยากจะวูบ...

“นี่ เธอชื่ออะไรน่ะ?” เทพกระต่ายคลี่ยิ้มที่แสดงออกว่าเป็นผู้ใหญ่ใจดีมาให้ผม แต่ขอโทษเถอะครับ นิ้วคุณจะวนแถวหน้าอกผมนานเกินไปละ

“วีครับ” ผมตอบเขาเสียงนิ่ง ขณะเดียวกันก็ลอบสังเกตคนตรงหน้าไปพลางๆ

เทพกระต่ายเป็นชายหนุ่มที่น่าจะอายุยี่สิบปลายๆ ไม่ก็สามสิบต้นๆ ผมหยักศกตัดสั้นเหนือบ่า ดวงตาสีดำดูใสซื่อจริงใจไม่แพ้หน้าตาที่สามารถใช้หลอกเด็กได้สบาย เขาเป็นคนตัวเล็กแต่ไม่ได้ดูอ้อนแอ้น ออกจะแข็งแรงสุขภาพดีเสียด้วยซ้ำ

“ผมชื่อเชษฐ์ มาจากโลกเหมือนเธอนั่นล่ะ ส่วนที่นั่งสวยอยู่ข้างพระราชานั่นเป็นเพื่อนผมเอง ชื่อตาณ ตาณที่ตัวท้ายสะกดด้วย ณ.เณร นะ ไม่ใช่ ล.ลิง” เทพกระต่ายพูดไปมือก็ลากลงจนถึงแอ่งสะดือ ผมเผลอเกร็งตัวขึ้นมานิดหน่อยเพราะรู้สึกไม่ชินที่มีใครมาสัมผัสตัวผมแบบนี้

“คุณเชษฐ์ ผมมีคำถามจะถามคุณหน่อย ได้ไหมครับ” ดวงตาสีดำเลื่อนขึ้นมาจ้องตอบก่อนเจ้าตัวจะพยักหน้าอนุญาตให้ผมถามได้ “ทำไมคุณถึงเลือกผมครับ?”

“ไม่ใช่ผม” เขาตอบทันควัน “ถึงผมจะเป็นคนทำพิธีจริง แต่ไม่ใช่ผมที่เป็นคนเลือกเธอมา มงกุฎแห่งจันทราต่างหากที่เลือกเธอ”

“มีวิธีที่จะลบมันออกมั้ยครับ?” ผมยกมือขึ้นแตะหน้าผากให้เขารู้ว่าผมกำลังหมายถึงอะไร

คนที่ถูกเรียกว่าเทพกระต่ายส่ายหน้า “ผมกับตาณเคยหาวิธีกันมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไม่มีวิธีอื่นเลยนอกจากเธอจะผ่านพิธีคัดเลือกตัวรัชทายาทไปแล้ว”

“พอเลือกแล้วมงกุฎนี่ก็จะหายไปทันทีเลยใช่ไหมครับ?” ถ้าใช่ก็สบายบรื๋อ จะหลับตาแล้วจิ้มหรือเลือกจากคนที่ผมเห็นว่าเหมาะสมจะเป็นราชาที่สุดก็ไม่ใช่ปัญหา ขอแค่ผ่านพิธีอะไรนั่นไปซะเรื่องก็จบ ทีนี้ก็แฮปปี้เอนดิ้งทั้งสองฝ่าย พวกเขาได้ว่าที่ราชาคนต่อไป ส่วนผมก็จะได้กลับโลกไปนอนอ่านการ์ตูนต่อสักที วินๆ ทั้งสองฝ่ายเลยเห็นไหม

“ใครบอกล่ะ” คำพูดของเทพกระต่ายทำเอาผมฝันสลายกลางอากาศ “ถ้ามันง่ายแบบนั้น เธอคิดว่าเจ้าตาณจะยังนั่งสวยอยู่ที่นี่อีกไหม”

ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน รู้สึกเริ่มมีคำว่าลางร้ายเข้ามาเคาะประตูหัวใจ

“ที่คุณตาณยังอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพราะรักพระราชาหรอกเหรอฮะ?” อันนี้ผมคิดไม่ออกจริงๆ นะว่าจะมีเหตุผลอะไรอย่างอื่นอีก

“ไอ้รักไหมนี่มันก็พูดยากอยู่นะ...” คนตรงหน้าทำหน้านิ่วคิ้วขมวด “เธอรู้อะไรไหม จนถึงตอนนี้กษัตริย์เมซาดิอุสก็ยังเป็นราชาแต่เพียงในนามเท่านั้น” เขาพูดเกริ่นก่อนย้ายตัวเองไปด้านหลัง ละเลงหน้าเสร็จแล้วก็ระบายหลังต่อจะได้เลอะเท่าเทียมกัน

“หมายความว่ายังไงครับ?” ผมเอี้ยวตัวไปถามคนที่น่าจะรู้อะไรดีที่สุดในตอนนี้

“มงกุฎแห่งจันทราเป็นผู้คัดเลือกชายา ส่วนชายานั้นเป็นผู้คัดเลือกว่าที่กษัตริย์องค์ต่อไป ผู้ที่ถูกเลือกโดยชายาแห่งดวงจันทร์นั้นก็เท่ากับเป็นกษัตริย์ไปครึ่งตัวแล้ว แต่ถ้าไม่มีความรัก...มงกุฎแห่งจันทราก็ไม่อาจมอบอำนาจแห่งราชาให้กษัตริย์องค์นั้นได้หรอกนะ”

“แปลว่าคุณตาณ...” ผมเหมือนเริ่มเข้าใจอะไรขึ้นบ้างแล้ว

เทพกระต่ายส่งเสียงอืมในลำคอ “เมื่อไม่มีความรัก ตาณเลยต้องครอบครองมงกุฎแห่งจันทราต่อไป คนที่นี่เองก็กลัวว่าพลังแห่งราชาจะตกไปเป็นของคนอื่น เลยจำเป็นต้องกักบริเวณตาณอยู่แต่ในวัง น่าเศร้าใช่ไหมล่ะ...ชีวิตที่ถูกลิขิตมาแบบนี้”

ผมนิ่งเงียบ เพราะนั่นอาจเป็นชะตากรรมที่ผมเองก็ต้องแบกรับมันไว้เช่นกัน

 “ในฐานะที่เรามาจากโลกเหมือนกัน ผมขอแนะนำนะ อย่าปิดใจเลือกราชา อย่าเลือกคนที่เธอคิดว่าเขาเหมาะสม เลือกคนที่เธอคิดว่าวันหนึ่งจะสามารถรักเขาจากหัวใจได้...ต่อให้มันยากมากก็ตาม นั่นจึงจะเป็นผลดีที่สุดสำหรับเธอ และเพื่อนของเธอด้วย” ปลายนิ้วที่ตวัดวาดกลางหลังผมได้ผละออกไปหลังบทสนทนานี้สิ้นสุดลง เทพกระต่ายปล่อยให้ผมนั่งจมอยู่กับคำแนะนำที่เขาได้ฝากเอาไว้

ความรักงั้นเหรอ... ให้ผมรักกับผู้ชายแถมยังเป็นครึ่งคนครึ่งกระต่ายเนี่ยนะ?

ต่อให้ตีลังกาคิดสักสิบตลบก็เห็นทีว่ามันจะเป็นไปไม่ได้เลย!

“ลำดับต่อไป ขอเชิญเจ้าชายทั้งสี่ขึ้นสู่ลานประกอบพิธี!”

เสียงประกาศที่ดังขึ้นปลุกให้ผมหลุดออกจากภวังค์ ผมรีบเงยหน้าขึ้นสบตากับเทพกระต่ายที่กลับไปยิ้มตาหยีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกทางหนึ่งเจ้าชายทั้งสี่ก็ลุกจากที่นั่งเดินตรงมานี่แล้ว

“พ...พวกเขาขึ้นมานี่ทำไมเหรอฮะ?” ผมถามเทพกระต่ายหน้าตาตื่น การมานั่งลุ้นว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปเป็นอะไรที่ผมไม่ปลื้มเอาซะเลย

“พิธีคัดเลือกรัชทายาทแห่งดวงจันทร์ไง ถึงเวลาที่เธอต้องเลือกแล้ว”

“เลือกรัชทายาท!? ตอนนี้เลยเหรอครับ!”

ผมตกใจแทบกลิ้ง นี่มันกระทันหันเกินไปมั้ย!?

“ใช่ กษัตริย์เมซาดิอุสก็บอกไปแล้วนี่ว่ามีเวลาให้เธอตัดสินใจก่อนพิธีต้อนรับจะมาถึง นี่ก็ถึงเวลาแล้วไง”

พระราชาทรงบอกตอนไหน ทำไมผมจำไม่เห็นได้เลยฟะ!?

“ด...เดี๋ยวก่อนสิครับ” ผมอยากขอเวลานอก ขอออกไปปรึกษาไอ้ธาแป๊บนึงได้ไหม ไม่ก็ขอเวลาให้ผมตัดสินใจมากกนี้ก่อนสิ ชีวิตหลังจากนี้ของผมขึ้นอยู่กับการเลือกครั้งนี้เลยนะเฮ้ย!

“หากตัดสินใจได้แล้วก็เดินไปหน้าคนๆ นั้นนะ ยื่นมือไปหาเขา ส่วนที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง” เทพกระต่ายพูดเร็วๆ ก่อนจะขึ้นไปยืนบนแท่นไม้หน้าโต๊ะหมู่บูชา มือข้างหนึ่งถือกิ่งไม้เงิน อีกข้างถือกิ่งไม้ทอง ท่าทีสงบนิ่งเหมือนเป็นเทพเซียนลงมายังโลกเพื่อให้ผู้คนเลื่อมใสศรัทธา

แอ๊บได้เนียนจริงๆ ทั้งที่เมื่อกี้ยังแอบลวนลามตัวผมอยู่เลย อย่าคิดว่าไม่รู้นะ!

“ขอหมู่ดาวจงเป็นพยาน”

น้ำเสียงกังวานของเทพกระต่ายดังขึ้นทั่วลานแสงจันทร์เมื่อสี่เจ้าชายมายืนเรียงหน้ากระดานตรงหน้าผม เขาวาดสองมือที่ถือกิ่งเงินกิ่งทองออกเป็นวงกว้าง วงเวทย์สีเหลืองทองพลันปรากฏขึ้นเหนือลานประกอบพิธี

“ด้วยอำนาจมงกุฎแห่งจันทรา ชายาผู้ถูกคัดเลือกจากเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์จักเป็นผู้นำพาทายาทแห่งกษัตริย์รุ่นต่อไปขึ้นสู่บัลลังก์ ขอพรแห่งดวงจันทร์จงอำนวย ขอเทพแห่งดาราจงเป็นสักขีพยานในพิธีคัดเลือกรัชทายาทสลักวันและเวลายังที่แห่งนี้ด้วยเถิด”

ถ้อยคำอันแสนพิสุทธิ์เอื้อนเอ่ยออกมาทีละคำราวกับบทเพลงของเทวดา ผมมองพิธีที่ดำเนินขึ้นตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นกระตุกแบบแปลกๆ เมื่อสี่เจ้าชายแห่งดวงจันทร์ถูกแสงสีเหลืองทองอาบไล้ทั่วร่าง ลำแสงนั้นราวกับน้ำชะล้างคราบสกปรกให้หลุดออกไป ในที่นี้คือเปลือกนอกของแต่ละคนที่ถูกอาบย้อมไว้ด้วยมนตราของชาวแสงจันทร์

ผมมองเรือนผมสีส้มของเชอเชสที่ค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยสีม่วงครามด้วยดวงตาเบิกกว้าง ทางนาเทลกับซอโรเองก็เช่นกัน จากผมสีน้ำตาลแดงและสีทองคำได้ถูกชะล้างออกไปแล้วแทนที่ด้วยสีม่วง ดวงตาสีทับทิมอันเป็นเอกลักษณ์ของซอโรเองก็เปลี่ยนไปจนดูไม่ต่างจากพี่ชายทั้งสามของเขา

ว้อทอีสแด้ท!?

สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านี่คืออะไร???

“ผ...ผมของพวกนาย ไหนจะตา...”

เชอเชสยิ้มเหมือนดีใจที่ทำเซอไพรส์ผมได้อีกแล้ว

“ท่านวีครับ พิธี...”

นาเทลแอบกระซิบบอกผมที่ยังมองพวกเขาตาค้าง พอสีผมกับสีตาเปลี่ยนไป เอ่อ...มันก็ดูแปลกๆ อยู่บ้าง แต่ผมว่าอย่างนี้พวกเขาค่อยดูสมกับที่เป็นพี่น้องกันหน่อย ไม่ใช่ตอนแรกผมคนนึงสีส้ม อีกคนสีน้ำตาล อีกคนสีน้ำเงิน หนักสุดนี่ฉีกไปทองเลย ผมยังแอบคิดเลยนะว่าเจ้าชายทั้งสี่นี่ได้สีผมสีตามาจากแม่หมดเลยเหรอฟะถึงได้ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเป็นพี่น้องกันได้เลย

ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ มองเจ้าชายทั้งสี่ที่อยู่ในชุดเครื่องแบบสีเดียวกันไล่ตั้งแต่คนพี่ไปจนถึงคนน้อง สิ่งที่เทพกระต่ายแนะนำไว้ผมยังจำได้ขึ้นใจ

เลือกคนด้วยใจ ไม่ใช่ฐานะและความเหมาะสม

ผมยื่นมือไปตรงหน้าคนที่ผมคิดว่าผมน่าจะฝากชีวิตต่อจากนี้ของผมไว้กับเขาได้

ไร้ความลังเล มีแต่ความแน่ใจ เพราะเวลาที่ผ่านมาเขาได้พิสูจน์ให้ผมเห็นมาบ้างแล้วว่าเขาสามารถทำมันได้ และต่อจากนี้เขาน่าจะทำได้ดีเช่นกัน

“ผมเลือกนายแล้วนะ ต่อจากนี้ขอฝากตัวด้วย”

เจ้าชายสามแห่งราชวงศ์แสงจันทร์คุกเข่าลงตรงหน้าผม จับมือที่ผมยื่นให้แล้วแนบมันเข้ากับหน้าผากของเขา

“นับเป็นเกียรติแก่ข้าแล้ว ชายาของข้า”

เชอเชสที่ไม่ได้มีผมสีส้มดูสุขุมขึ้นสามสิบเท่า เขาเลื่อนดวงตาคู่คมขึ้นมามองผมที่ยืนตัวแข็งอยู่กลางลานประกอบพิธี รอบข้างเต็มไปด้วยเสียงร้องยินดีกับว่าที่กษัตริย์องค์ต่อไป แต่นาทีนี้สมงสมองของผมไม่รับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว

ชายาของข้า...

 เจ้าเด็กบ้า ฉันไปเป็นของนายตั้งแต่เมื่อไหร่กันห๊า!?



----------------------------------------------------------

ฮว้ากกกกกกก ชายาของข้า... พิมเองฟินเอง 5555 :hao7:

รักคนอ่าน ขอบคุณคนเม้น แล้วเราจะมุ้งมิ้งบินไปฟินแลนด์ด้วยกันโนะ  :heaven
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2015 00:28:48 โดย varirinnara »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ชายาแห่งดวงจันทร์ -7-
« ตอบ #49 เมื่อ: 21-12-2015 22:53:53 »





ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :ling1:

อืมมมมมม


ชะตากรรมของหนุ่มๆจะตามรอยคู่ก่อนหน้าหรือไม่นะ??  :ling3:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ตอนท้ายเด็กมันทำเขินวุ้ย
น่าสงสารคุณตาณจังอยู่โดยไม่มีความรัก

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
มาไวเคลมไวไปไหมเนี่ย
รักปุบปับ
ตัดฉับไปฉากเข้าเรือนหอเลยได้ป่ะ?

 :hao6:

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
มีเรื่องประหลาดๆมาตลอดเลยยย เอาอีกๆ สนุกอ่ะ :mew1: o13

ออฟไลน์ shannara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
"กระต่าย" เป็นสัตว์ที่มีฤดูผสมทั้งปี เหมือนคน...... :katai5:

หึๆๆๆๆ :hao3:

ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
โอ๊ย!!!! เขินอ่ะ อยู่ในชุดเจ้าชายต้องเท่มากแน่ๆ

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
พ่อกระต่ายยย
น่ารักจังเลย
อยากเก็บกลับบ้าน

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
อยากอ่านต่อแล้วมาต่อเร็วๆนะเรารออยู่

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
แอบสงสารตาณนะ
ฟินเบาๆตอนท้าย ชายาของข้า อิอิ

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
ชายาของข้า กรี๊ดดดดดดด  ฟินเบาๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด