คาถาที่ 18 [ครึ่งหลัง, ครบ] คมเขี้ยวยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในออฟฟิศตั้งแต่หลังจากคุยกับตำรวจเสร็จเมื่อช่วงบ่ายเกือบเย็น สำหรับเหตุการณ์วางระเบิด เจ้าหน้าที่ได้เก็บเศษซากระเบิดไว้ สอบปากคำคนงานในฟาร์ม ตรวจกล้องวงจรปิดอีกครั้งและขอภาพจากกล้องวงจรปิดไป ส่วนเหตุการณ์มีคนบุกรุกเข้าไปทำลายไวน์ เจ้าหน้าที่ก็พยายามหาลายนิ้วมือของคนร้าย ทางตำรวจรับปากว่าจะตามตัวคนร้ายให้เจอ เขาก็ได้แต่หวังว่าจะเจออย่างที่บอกจริงๆ
“อ้าว นายเขี้ยวกุด” เขี้ยวกุดเงยหน้าอึนๆ ของตัวเองขึ้นมองร่างเพรียวที่ยืนฉีกยิ้มตาเป็นประกายอยู่ตรงหน้าเขา คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์ตาค้าง ไม่ใช่เพราะคุณนายนางสวยขึ้นหรืออะไร แต่มันเป็นอาการใจเต้นหวิวไหวที่ได้เจออย่างไม่คาดคิด เขาคิดว่าเรียวจันทร์จะกลับวันพรุ่งนี้ เลยไม่ทันตั้งตัวเมื่อเจออีกฝ่ายยืนอยู่ตรงหน้า
“แหม มองฉันตาค้างเลย ใจเย็น ฉันยังไม่ได้แต่งหญิง สวยได้มากกว่านี้อีก” เรียวจันทร์เดินเอาถุงขนมที่ซื้อมาจากกรุงเทพฯ ไปวางไว้มุมติดผนังของโต๊ะทำงาน คมเขี้ยวยังคงมองตามร่างเล็กแบบงงๆ
และกำลังงงว่าจังหวะหัวใจตัวเองมันเต้นหนักเป็นปกติอยู่แล้วหรือมันเพิ่งเป็นตอนเห็นหน้าอีกคน
“นี่ หวังว่าไอ้สายตาที่มองฉันตาค้างอยู่เนี่ย จะเป็นในแง่ดีมากกว่าเห็นผีนะ” เรียวจันทร์ทำหน้าดุแบบไม่จริงจัง กระเถิบก้นขวาขึ้นไปนั่งบนขอบโต๊ะ เลยทำให้ตัวนางอยู่สูงกว่าคมเขี้ยว
“ไม่ได้กลับพรุ่งนี้เหรอ” คมเขี้ยวถามเสียงลอยๆ เรียวจันทร์ยิ้มแบบไม่เห็นฟันแล้วตอบเสียงนุ่ม
“ฉันเห็นมีคนแชร์เรื่องที่ฟาร์มโดนวางระเบิด ฉันเลยรีบกลับมา มีใครเป็นอะไรมั้ย” สติของคมเขี้ยวเริ่มเข้าที่เข้าทาง เขาขยับตัวให้ตรงขึ้นอีกนิดก่อนจะตอบคำถามนั้น
“ไม่มี มันแค่ทำขู่ ไม่ได้กะเอาชีวิตใครหรอก” คมเขี้ยวเห็นสีหน้าของเรียวจันทร์เคร่งเครียดขึ้นนิดหนึ่ง แต่ไม่นานแม่คุณนายก็ปัดสีหน้านั้นทิ้ง
“แล้วไอ้คนที่ทำล่ะ จับได้มั้ย” คมเขี้ยวส่ายหัวและพูดย้ำอีกที
“ยัง ผมช้าไป มัวแต่รีบวิ่งมาดูที่เกิดเหตุ กว่าจะนึกได้มันก็หนีไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่เอาเลขทะเบียนที่เห็นจากกล้องวงจรปิดไปเช็กแล้วละ”
“รูปพรรณสัณฐานของอีโจรนั่นล่ะ ต่ำตมขนาดไหน รู้รึยัง”
“ก็พอเห็นได้ มันใส่หมวก ยังดีเพื่อนมันที่มาด้วย เห็นหน้าในกล้องชัด” สรุปว่าไอ้คนที่เขานึกสงสัยว่าเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่านั้น มันคือพวกเดียวกันจริงๆ
“ไม่น่าเชื่อเลยอะ ขนาดอยู่กลางหุบเขาสงบๆ แบบนี้ ยังมีระเบิดมาเสิร์ฟถึงที่ได้” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วพอประมาณ ไม่กล้าขมวดเยอะเพราะกลัวจะหน้าย่น
“ผมก็ไม่คิดเหมือนกัน เพิ่งเคยเจอเนี่ยแหละ” เรียวจันทร์ทำตาโต จ้องมองคมเขี้ยวด้วยสายตาตระหนกเล็กๆ จนคมเขี้ยวรู้สึกตระหนกตามไปด้วยว่าแม่คุณนายเฮี้ยนอะไรขึ้นมาอีกรึเปล่า
“พูดแบบนี้เหมือนฉันเป็นคนนำความซวยเข้ามาในฟาร์มนายเลยอะ” คมเขี้ยวยิ้มขำน้อยๆ กับหน้าตาไม่สู้ดีของแม่คุณนายสุดมั่นที่ดูจะนึกกลัวว่าตัวเองเป็นตัวซวยจริงๆ
“แต่ไม่ใช่หรอก คนอย่างฉันมีแต่นำสิ่งดีๆ มาให้” คิดเอง พูดเอง ตอบเอง ให้กำลังใจตัวเองเสร็จสรรพ ไม่ต้องพึ่งพาใคร
“แล้วทำไมไม่รอกลับตอนเช้า ขับรถมืดๆ ค่ำๆ ทำไม” จากกรุงเทพฯ มาเขาใหญ่ มันไม่ใช่แค่หนึ่งกิโลถึง แล้วถนนที่ใช้เป็นเส้นทางผ่านมาที่นี่ ตรงนั้นน่ะรถติดบรรลัยมาก แถมหนทางที่เข้ามาฟาร์มก็ใช่ว่าจะดีนัก
“ฉันเป็นห่วงนายแล้วก็ทุกคนที่นี่ ไม่สบายใจหรอกถ้าจะอยู่นู่นต่อ ฉันอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองว่าไม่มีใครเป็นอะไร” คมเขี้ยวมองสีหน้าคนพูดที่ดูจะพูดจริงๆ ไม่ใช่การเรียกร้องคะแนนให้กับตัวเอง เพราะเขาเห็นแววตากับสีหน้าของแม่คุณนายมีความกังวลแสดงออกมา
“โรงนาที่คุณเคยพัง มีคนทำลายสถิติคุณแล้วละ” เรียวจันทร์ที่กำลังนั่งหน้านิ่วน้อยๆ หันมามองเขางงๆ สักพักก็เปลี่ยนเป็นทำตาโตขึ้นอีกนิด ก่อนจะยิ้มเล็กๆ
“แสดงว่าฉันไม่ใช่ความวินาศสันตะโรของนายอีกแล้วล่ะสิน้า” คุณนายนางลากเสียงยาน ยิ้มแพรวพราว เอื้อมตัวไปหยิบถุงขนมหนึ่งถุงมาวางไว้ที่ตัก
“แต่เป็นความจัญไร” เรียวจันทร์หุบยิ้มฉับ จิกตาใส่พ่อคาวบอยที่ยิ้มขำอารมณ์ดีกับสีหน้าเปลี่ยนสีอันว่องไว แต่แม่คุณนายไม่เถียง ไม่แว้ดกลับ ทำเพียงนั่งหน้างอง้ำหยิบกล่องขนมขึ้นมาจากถุง
“ฉันซื้อขนมมาฝาก มาการอง ฉันไม่ได้ฮิตตามเทรนหรอกนะ แต่มันอร่อยจริงๆ” คมเขี้ยวมองร่างเพรียวบางเปิดกล่องขนมช้าๆ แล้วหยิบขนมสีชมพูขึ้นมาถือไว้
“คุณกินเถอะ”
“กินแล้ว กินไปด้วยขับรถไปด้วย” เรียวจันทร์ยื่นขนมไปตรงหน้าคมเขี้ยว แต่อีกฝ่ายส่ายหัว นางทำหน้าเซ็งพร้อมจิ๊ปาก ลุกขึ้นเดินไปยืนชิดกับหน้าแข้งของคมเขี้ยว
“กินคำนึง นะ มันเสียน้ำใจคนให้รู้รึเปล่า” คุณนายแกไม่ได้พูดจาตัดพ้อต่อว่าเชิงดราม่า พูดแบบทีเล่นทีจริง คมเขี้ยวยังทำนิ่ง และเมื่อเห็นร่างสูงนิ่ง คนเตี้ยกว่าเลยทรุดตัวนั่งลงบนตักพ่อเครางาม
“แน่ะๆ ลวนลามผมอีกแล้วนะ” คมเขี้ยวแกล้งว่าหน้าดุ แต่ก็ปล่อยให้แม่ตัวดีนั่งตักต่อไปโดยไม่ได้ผลักออก
“เปล่าสักหน่อย แค่อยากจะป้อนขนมให้ถึงปากนาย กลัวขนมหล่นกลางทาง” นางว่าหน้าตาย แถแท่ดๆ อย่างตีมึน นั่งเอาไหล่พิงอกกว้างเอาไว้ มองคมเขี้ยวตาระยิบระยับ คมเขี้ยวขมวดคิ้วนิดๆ หันไปมองขนมสีหวานที่เรียวจันทร์ถือไว้ตรงระดับปากเขา
“ไม่เอาสีนี้ได้มั้ย มีสีอื่นหรือเปล่า”
“ได้สิคะ ตามบัญชาของพี่คาวบอยเลย” มีชื่อเรียกใหม่ๆ มาให้เขาได้ทุกอาทิตย์
“อะ ช็อคโกแล็ต กินแล้วจะช่วยปรับอารมณ์ของเราให้ดีขึ้น เจอเรื่องเครียดๆ มา กินอันนี้จะดีรู้ม้าย” เรียวจันทร์บรรยายเสียงยานคางแล้วยิ้มกริ่มอย่างน่ารักน่ามอง นางกลับมานั่งพิงอกคมเขี้ยวตามเดิม ยื่นขนมไปให้คนตัวสูง คมเขี้ยวอ้าปากเตรียมรับขนม แต่เรียวจันทร์แกล้งดึงขนมหนีทำให้เขาเผลอยื่นหน้าตามขนมไปด้วย แล้วแม่คุณนายก็เอียงแก้มตัวเองเข้าหาปากเขา เลยทำให้กลายเป็นว่าคมเขี้ยวหอมแก้มนวลๆ นั่นไปที
“อั๊ยยะ! หอมแก้มฉันด้วยอ้ะ เขินนะเนี่ย คิๆ” แม่คุณนายตัวดียิ้มตาหยี หัวเราะคิกๆ เจ้าของฟาร์มเอนตัวกลับไปนั่งพิงพนักเก้าอี้แล้วมองหน้าสวยๆ ด้วยสายตาเรียบนิ่ง จนอีกฝ่ายหยุดหัวเราะไปเอง
“โถ่ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ อะๆ ก็ด้ะๆ เดี๋ยวฉันหอมแก้มนายคืน จะได้เท่าเทียม” พูดจบก็ไม่ต้องรอให้เขาอนุญาต แม่ตัวป่วนยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มขวาคมเขี้ยวไปหนึ่งฟอดใหญ่ๆ แล้วก็ฉีกยิ้มหวานพร้อมกับกะพริบตาปิ๊งๆ คมเขี้ยวทำหน้าเอือมเล็กๆ แต่เอาเข้าจริงในใจเขาไม่ได้เอือมไปตามสีหน้าหรอก
“สรุปผมจะได้กินขนมมั้ย ถ้าไม่ก็ลุก จะได้ขึ้นไปกินข้าว อาบน้ำ นอน” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้น มองหน้าคนที่นั่งตักตัวเองเป็นคำถามว่าจะเอาไง?
“กินๆ อะ อ้าปาก อ้ามมม” คมเขี้ยวงับขนมเข้าไปเต็มปาก มีเรียวจันทร์นั่งส่งยิ้มให้ในขณะที่เคี้ยว
“เลอะปาก” เรียวจันทร์ยกมือขึ้นไปเช็ดเศษขนมตรงริมฝีปากล่างของคมเขี้ยว นิ้วโป้งเกลี่ยตรงริมฝีปากหนาช้าๆ จนกระทั่งเศษขนมที่ติดอยู่หลุดไป แต่เรียวจันทร์ก็ยังไม่เอานิ้วออกจากริมฝีปากนั้น
คมเขี้ยวมองสบตาเรียวจันทร์ที่กำลังมองเขาด้วยดวงตาอย่างกับกวางน้อย ตาสีน้ำตาลใสๆ นั่นมองเขานิ่ง มีขยับสำรวจใบหน้าเขาบ้างเล็กๆ เขาเองก็มองนิ่ง มองอย่างลืมตัว แล้วสักพักเขาก็ปล่อยให้เรียวจันทร์ก้มลงประทับริมฝีปาก
ชายหนุ่มปล่อยให้คนตัวเล็กดูดดุนริมฝีปากตัวเองเบาๆ โดยที่เขายังไม่ได้ตอบโต้ ทำเพียงหลับตาพริ้ม ปล่อยอารมณ์ไปกับความอ่อนนุ่มของริมฝีปากเรียวจันทร์ ก่อนที่ลิ้นเล็กๆ จะออกมาเกลี่ยริมฝีปากเขาช้าๆ จนกระทั่งเขายอมเปิดปากขึ้น ปล่อยให้ลิ้นของเรียวจันทร์เข้ามาสัมผัสลิ้นของตัวเอง
“จุ๊บ…” เรียวจันทร์เริ่มกดริมฝีปากหนักขึ้น ลิ้นเริ่มรุกรานเข้าหาคนตัวโตมากขึ้น และคนตัวโตเองก็ปล่อยให้รุกรานได้เต็มที่ โดยที่คนตัวโตก็เริ่มตอบรับ ตอบโต้ลิ้นเล็กสีแดงสดนั้นเช่นกัน
เมื่อปล่อยตัวปล่อยใจไปกับจูบแสนวาบหวามที่ทำให้ตัวชาวาบแล้ว คมเขี้ยวก็จูบตอบเรียวจันทร์ รสช็อคโกแล็ตที่ยังค้างในปากถูกเรียวจันทร์ใช้ลิ้นกวาดช้าๆ
“จ๊อก…” เรียวจันทร์ตวัดลิ้นกับลิ้นของคมเขี้ยวจนเกิดเสียง คมเขี้ยวเริ่มตอบรับมากขึ้น และเป็นฝ่ายรุกกลับด้วยการกวาดลิ้นตัวเองในโพรงปากหวานๆ ของเรียวจันทร์ ที่เขาไม่รู้ว่ามันหวานเพราะช็อคโกแล็ตจากปากเขาหรือเพราะปากของเรียวจันทร์นั้นหวานอยู่แล้ว
คมเขี้ยวครางในลำคอยามที่เริ่มรู้สึกหัวตื้อ หัวสมองคล้ายจะขาวโพลน และเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้กับรสจูบที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเรียวจันทร์ ต้องยอมรับว่าแม่คุณนายจูบเก่งเหลือเกิน ในขณะที่เขาร้างการจูบ การสัมผัสอะไรแบบนี้มานานมาก จนแรกๆ ยังแอบรู้สึกว่าตนเองเป็นเหมือนเด็กเพิ่งหัดจูบ ทั้งที่ก็เคยผ่านมาแล้ว เพียงแค่เว้นช่วงนานไปหน่อยเท่านั้นเอง หัวใจของเขาเต้นกระแทกกับผนังอก มันไม่ได้เต้นรัวๆ แต่เต้นซะจนพาเขาตัวสั่นอย่างกับไปเจออากาศหนาวมา
“แฮ่ก…” แล้วก็เป็นเรียวจันทร์เองที่ผละออกจากปากเขาก่อน คุณนายหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากสีชมพูดูจะสีสดขึ้น ส่วนเขานั่งแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากบนล่าง ความรู้สึกหวานๆ และวาบหวิวยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น ท้องน้อยหดเกร็งตามความสยิวที่เกิดขึ้น คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์ที่กำลังผ่อนลมออกจากปากด้วยสายตาคมวาว เขากลืนน้ำลายลงคอ แลบลิ้นเลียริมฝีปากล่างอีกที แม่คุณนายหันมามองเขาอย่างเลิ่กลั่กสักพัก ก่อนที่จะทิ้งตัวลงบนอกแกร่ง ใบหน้าซุกอยู่ตรงซอกคอ เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสองคน มีเพียงเสียงลมหายใจของสองคนที่สลับกันดัง โดยที่คมเขี้ยวปล่อยให้เรียวจันทร์นั่งอยู่แบบนั้น เขายกแขนขวาขึ้นโอบรอบเอวคนตัวเล็ก
“มาการองไส้ช็อคโกแล็ตอร่อยจัง” เรียวจันทร์ว่าเสียงเบาหวิว ลมหายใจรดสันกรามคมเขี้ยวเบาๆ และลมหายใจของคมเขี้ยวก็รดผ่านแก้มเรียวจันทร์แบบแผ่วๆ
ร่างสูงไม่ตอบ ทำเพียงใช้มือขวาลูบเอวเรียวจันทร์ขึ้นลงช้าๆ ดวงตาเหม่อมองตรงไปข้างหน้าอย่างครุ่นคิด หัวใจยังคงเต้นตึกๆ แต่ก็ไม่เท่าช่วงที่จูบ ความรู้สึกชาวาบค่อยๆ จางลงจนร่างกายเริ่มรู้สึกถึงความอุ่นร้อนในตัวเอง
ด้วยการสยบความว้าวุ่นที่เกิดขึ้นในหัวตัวเอง คมเขี้ยวเอียงแก้มกดลงบนศีรษะของเรียวจันทร์ แค่เหมือนซบแก้มลงบนหัวร่างเล็กเฉยๆ ไม่ได้กดลงไปแรงมาก เขาหลับตาลงชั่วครู่แล้วลืมตาขึ้น สายคายังคงครุ่นคิด แต่ก็ไม่ใช่คิดวิตกกังวล
แค่คิดว่ากำแพงที่เคยมีต่อเรียวจันทร์มันหายไปแล้วละ ไม่งั้นคงไม่พากันมาถึงขั้นนี้หรอก
“กินข้าวมารึยัง” คมเขี้ยวถามเสียงเบาในขณะที่มือขวาก็ยังลูบเอวคนตัวเล็กไปเรื่อยๆ แก้มของเขายังคงสัมผัสกับเส้นผมสีโค้กแสนนุ่มของเรียวจันทร์
“กินมาแล้ว แต่จะกินอีกถ้านายชวน” คมเขี้ยวกระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ปล่อยให้เรียวจันทร์ยื่นมือขวามาจับมือซ้ายตัวเอง ก่อนที่เขาจะบีบมือบางนุ่มนิ่มเบาๆ เรียวจันทร์กดจูบตรงคอของเขาหนึ่งทีแล้วก็ซุกหน้าไว้กับซอกคอเขาต่อเงียบๆ
“พี่เขี้ยวๆ” เสียงเรียกของไอ้ดินมาพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินเข้ามายืนจังก้าตรงหน้าคนสองคนที่กำลังใกล้ชิดกันอยู่ ไอ้หนุ่มซื่อเบิกตากว้างมองทั้งสองคน ก่อนที่ใบหน้าสีเข้มจะเปลี่ยนเป็นใบหน้าตูม
“โห พี่เขี้ยว ทำไมทำงี้อะ” เรียวจันทร์ยิ้มขำ มองใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของดินที่มองมาที่ตัวเองกับคมเขี้ยว
“กูทำอะไร” คมเขี้ยวถามสีหน้าแกล้งไม่รู้เรื่อง มือขวายังคงไม่ปล่อยออกจากเอวเรียวจันทร์ มือซ้ายก็กำรอบมือบางไว้ดังเดิม ไอ้ดินผู้ที่มักจะยิ้มซื่อๆ ไม่มีพิษภัยกับใคร แต่ตอนนี้มันกำลังจิกตาใส่เขา
“คุณเรียวของดินนะพี่ ทำแบบนี้ขออนุญาตดินยัง” คนที่เพิ่งรู้ตัวว่ามีเจ้าของแล้วนั่งยิ้มขำ ศีรษะยังคงซุกตรงซอกคอร่างสูง
“อ้าวเหรอ เออๆ กูขอโทษ แต่เผอิญคุณเรียวของมึงอะเขามานั่งตักกูเอง” เรียวจันทร์เบ้ปากกับดินแล้วกลอกตาไปหนึ่งที
“แหม คุณเรียวนั่งเอง แต่พี่ก็ต้อนรับดีจังเนอะ” ไอ้ดินยังคงจิกตาใส่พี่ชายตัวเองด้วยความหมั่นไส้ ปากว่าเขานั่งตักตัวเอง แต่สองมือน่ะไม่ปล่อยเลยนะ
คมเขี้ยวยักคิ้วพร้อมกับยักไหล่น้อยๆ ก่อนที่จะปล่อยให้เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน หยิบกล่องขนมเดินเอาไปให้ไอ้ดินที่ทำหน้าหมั่นไส้ตัวเองอยู่ เขายิ้มขำกับไอ้น้องชายตัวใหญ่ นานทีปีหนมันจะแสดงสีหน้าอื่นให้ได้เห็นบ้าง เห็นแล้วก็ขำดี
“กินขนมแก้หน้าบูดก่อน ยังไงดินก็น่ารักสำหรับฉันเสมอแหละ” เรียวจันทร์ยื่นมือไปหยิกแก้มของดินเบาๆ เจ้าของแก้มจากหน้าตูมเปลี่ยนเป็นเขินแทบจะทันที มือซ้ายยกขึ้นหยิบขนมในกล่องเข้าปากหนึ่งชิ้น
“อร่อยมั้ย” ร่างเล็กถามพร้อมรอยยิ้ม
“คุณเรียวให้มันเลยอร่อยครับ” เรียวจันทร์ขยับยิ้มให้กว้างกว่าเดิมจากที่ยิ้มอยู่ คมเขี้ยวลุกขึ้นยืน ทำเสียงกระแอมในลำคอสองสามครั้ง ไอ้ดินเลื่อนสายตาไปมองพี่ชายแล้วมองด้วยความเยาะเย้ยเล็กๆ
“คุณเรียวเขาเคยชมดินว่าน่ารักด้วยนะพี่เขี้ยว” ดินยิ้มเหนือกว่านิดๆ คมเขี้ยวเห็นแบบนั้นก็ยิ้มอย่างหมั่นไส้
“เออ กูดีใจด้วย” ไอ้ดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยกมือขึ้นหยิบขนมจากกล่องเข้าปากอีกชิ้น เรียวจันทร์หันไปหาคมเขี้ยวแล้วชี้ไปทางถุงขนมที่วางอยู่บนโต๊ะ พยักพเยิดเป็นเชิงบอกว่าให้หยิบให้หน่อย คนตัวสูงเอื้อมแขนยาวๆ ไปหยิบแล้วส่งให้
“ฉันซื้อมาฝากพวกงานด้วย แล้วก็มีของบ้านใหญ่” ไอ้ดินพยักหน้าหงึกๆ
“แล้วมึงมานี่มีไรรึเปล่า”
“แม่บัวให้มาตามไปกินข้าว” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วนิดหนึ่ง หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าขึ้นมากดดูเวลา
“วันนี้กินข้าวดึกจัง”
“ก็มีเรื่องยุ่งๆ นั่นแหละ” เรียวจันทร์ขยับปากว่าอ๋อพร้อมพยักหน้าไปเรื่อย
“คุณจะไปกินด้วยมั้ย หรืออิ่มแล้ว” ร่างเพรียวส่ายหัว จริงๆ ไม่กินอีกนางก็ไม่ตายหรอก แต่นางอยากไปกับคมเขี้ยวเท่านั้นแหละ
“ถ้างั้นก็ไป” คมเขี้ยวเดินนำออกไปจากออฟฟิศ มีดินกับเรียวจันทร์เดินตาม
“เดี๋ยวฉันตามขึ้นไป อาขนมไปให้พวกคนงานก่อน” เรียวจันทร์บอกตอนที่เดินออกมาถึงหน้าอาคารไม้ คมเขี้ยวก้มหน้าลงมองถุงขนมในมือร่างเล็ก เอื้อมไปหยิบมาถือไว้แล้วส่งไปให้ทางดิน
“ไอ้ดิน มึงเอาไปให้หน่อย”
“อ้าว ทำไมอะ ดินกะจะไปกับคุณเรียวเนี่ย”
“คุณเรียวมึงเขาหิวข้าว ให้เขาไปกินข้าวก่อน” ไอ้ดินขมวดคิ้ว
“อ้าว แล้วดินไม่หิวเหรอพี่เขี้ยว”
“มึงตัวใหญ่กว่าเขา มึงกินช้าหน่อยไม่เป็นไรหรอก” คมเขี้ยวดันถุงขนมไปให้ไอ้ดินที่ยืนหน้ามุ่ย แต่มันก็ยื่นมารับถุงขนมห้าถุงจากเขา แต่เรียวจันทร์ยื่นมือไปดึงมาถือไว้ในมือตัวเองสองถุง
“อันนี้ของคุณป๋า คุณแม่ นายแล้วก็ดิน” คมเขี้ยวพยักหน้า หันไปมองไอ้ดินแล้วพยักหน้าขึ้นหนึ่งทีเป็นการบอกว่าให้มันเอาขนมไปให้พวกคนงานก่อน
“โห่ จะไม่ให้ดินเป็นก้างขวางคออะดิ ดินไม่ได้โง่นะ” คมเขี้ยวย่นคิ้ว ทำหน้าว่าอะไรของมึ้ง
“ก้างห่าไร เดี๋ยวก็ขึ้นไปเจอกัน แค่กูใช้ให้มึงเอาของไปให้คนงานหน่อยแค่เนี้ย เดี๋ยวนี้มึงบ่นเหรอ” เรียวจันทร์ยืนอมยิ้มกับการเถียงของผู้ชายสองคนตรงหน้า
สวยอีกละ ผู้ชายแย่งอยากอยู่ใกล้ นางอยากจะหัวเราะด้วยแอคติ้งตุ๊กกี้ในชิงร้อยชิงล้านยามที่ชมตัวเองว่าสวยแล้วหัวเราะคนเดียวมาก แต่ต้องคีพลุคสตรีที่เป็นศึกของชายทั้งสองคนในเวลานี้ไว้ก่อน
“ก็ได้ๆ เห็นว่าเป็นพี่หรอกนะ”
“แล้วถ้าไม่เป็นพี่มึง มึงจะทำไง”
“ก็ทำให้” เรียวจันทร์หัวเราะกับหน้าตางอนบูดๆ ของดิน เห็นแล้วก็น่าเอ็นดู พ่อตัวโตหมุนตัวเดินไปทางหมู่บ้านคาวบอย
คมเขี้ยวหันไปหาเรียวจันทร์ พยักหน้าให้เดินไปด้วยกัน ในใจเขานึกอยากจะทำอะไรสักอย่างกับร่างเล็ก ไม่ใช่ในทางอนาจาร แต่มันมีความรู้สึกอยากจับมือ อยากเดินจูงมือ คล้ายกับอยากต่อความรู้สึกที่ถูกไอ้ดินขัดไปเมื่อกี้นี้อีก
“อยากซบแขนนี้ทุกคืนก่อนนอนจัง” แต่กับแม่คุณนาย บางทีก็ไม่ต้องบุกเองหรอก เพราะแม่ตัวดีเขาบุกของเขาเองได้ ตอนนี้ก็เกาะแขนเขาไว้ เอาหัวซบไหล่และก้าวเท้าเดินไปด้วย
“หมอนก็มีให้นอน จะมานอนทับแขนผมทำไม” ถึงจะว่าแบบนั้น แต่ไอ้คาวบอยตัวโย่งก็เลื่อนมือซ้ายไปจับมือนุ่มนิ่มนั่นอีกครั้งและเป็นฝ่ายจูงคนตัวเล็กให้เดินไปด้วยกัน
“นี่ อยากจูบฉันก่อนกินข้าวมะ” คมเขี้ยวก้มลงมองใบหน้าขาวผ่องที่ยิ้มเต็มหน้า เขาย่นคิ้วทำหน้าระอาเล็กน้อย แต่พอเดินถึงตรงโรงอาหารของฟาร์ม คมเขี้ยวก็พาคนตัวเล็กแวะเข้าไปด้านในความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์ส่องให้ความสว่างก่อนที่จะดันร่างเรียวจันทร์ให้ติดผนังและก้มลงจูบปากสีชมพูสดอีกรอบ
เรียวจันทร์หัวใจพองโต อารมณ์พุ่งพล่านยิ่งกว่าจูบกับชายคนไหนมาทั้งหมดในชีวิตที่นางเคยเจอมา
แบบนี้ยาที่ตาเสี่ยให้มา อาจไม่จำเป็นแล้วมั้ง
.
.
.
“อ้าวไอ้ดิน ไปตามไอ้เขี้ยวไม่ใช่เหรอ แล้วมันไปไหน” หนุ่มจอมซื่อทำหน้างงหลังจากเดินขึ้นบ้านมาก็ถูกพ่อ (บุญธรรม) เอ่ยทัก
“อ้าว ดินไปตามแล้วนะพ่อ ก่อนขึ้นมายังใช้ให้ดินเอาของไปให้ไอ้พวกคนงานอยู่เลย”
“หืม แล้วหายไปไหน่ล่ะน่ะ” บัวบูชาถามพลางยกอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ ดินเองก็ทำหน้างงไม่เข้าใจว่าสองคนนั้นหายไปไหน ก็เดินมาก่อนเขาอีก
“ดินก็นึกว่าขึ้นมาพร้อมกับคุณเรียวแล้ว”
“อ้าว หนูเรียวกลับมาแล้วเหรอ”
“ครับพ่อ ซื้อขนมมาฝากพ่อกับแม่บัวด้วย” เมฆาขมวดคิ้วหันไปมองภรรยาที่ทำหน้างงเช่นกัน
“แล้วหายไปไหนกัน ไม่ใช่ไปทะเลาะตบตีกันอีกเหรอ” หญิงสาวเอ่ยด้วยความกังวล แม้พักหลังมานี้ทั้งคู่จะลดดีกรีต่อปากต่อคำต่อกันลงมากแล้ว แต่ก็กลัวว่าจะมีเหตุอะไรไปสะกิดให้มีเรื่องกันอีก
ไอ้ดินยิ้มเยาะด้วยความหมั่นไส้พี่ชายตนเองอย่างไม่จริงจัง “โอ้ย ไม่หรอกแม่บัว เดี๋ยวนี้สองคนนั้นเขาไม่ทะเลาะกันแล้ว เขาเปลี่ยนไปเดินเส้นทางปรองดองแล้วมั้ง”
ปรองดองกันถึงขั้นนั่งกอด จับมือ นั่งซบกันอย่างสนิทสนม
“หือ เขาดีกันแล้วเรอะสองคนนั้นน่ะ” เมฆาถามตาโตนิดๆ
“ดี๊ดีเลยละพ่อ” ไอ้ดินเดินเอาถุงขนมไปวางไว้ในครัวและช่วยยกอาหารที่เหลือไปวางไว้บนโต๊ะไม้
“ลงไปตามอีกรอบดีมั้ยดิน” บัวบูชาถามสีหน้าเป็นห่วง
“ไม่เอาหรอกแม่บัว เดี๋ยวดินจะกลายร่างเป็นก้างปลา” ตอนแรกผู้ใหญ่ทั้งสองคนมองหน้ากันงงๆ แต่สักพักก็ทำหน้าเหมือนเริ่มจะเข้าใจว่าดินกำลังสื่ออะไร บัวบูชาอมยิ้มน้อยๆ ส่วนเมฆายังทำหน้าเหมือนไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่น่ะใช่รึเปล่า
เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้
ต๊ายยยย ขุ่นแม่ได้ประทับจุมพิตแห่งนางมารกับพี่เขี้ยวแล้ววว เอาแล้ววว
แต่ที่สำคัญคือพี่เขี้ยวตอบสนองค่าคุณแม่ขาาา ว้ายยย อ้อยและเกี้ยวเขามานาน ในที่สุดก็มีวันนี้ แบบนี้ต้องปิดเขาใหญ่ฉลองนะคะ
ใครที่ตามเรื่องนี้กันมาแต่ต้น น่าจะชื่นใจแทนแม่เรียวบ้างแล้วเนอะ 55555 หลายคนลุ้นให้เขาทั้งสองปรองดองกันถึงขั้นเลิฟซีนกันสักที ตอนนี้เขาเขยิบกันมาไหลแล้วนะ พี่เขี้ยวไม่มีกำแพงอะไรในใจแล้ว ฮี่ๆ
น้องดินของขุ่นเจ้ อกหักแล้วเหรอลูก โธ่ จงรักภักดิ์ดีกับคุณเรียวมาตั้งนานเนาะ ไม่เป็นไรนะคะ มาหาเจ้มา / โชว์บัตรกดเงินสิบใบ
แท็ก #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์