*~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:  (อ่าน 278928 ครั้ง)

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
คือบ้านคมเขี้ยวอยู่บนที่ดินของเรียวจันทร์?
แล้วคมเขี้ยวมีที่ดินของตัวเองมั้ยคะ งงนิดหน่อย

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
คือบ้านคมเขี้ยวอยู่บนที่ดินของเรียวจันทร์?
แล้วคมเขี้ยวมีที่ดินของตัวเองมั้ยคะ งงนิดหน่อย


เดี๋ยวเรื่องจะค่อยๆ บอกจ้าาา ^^

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


เฮ่ย!  ชีวิตเรียวนี่มันมีปัญหาเยอะขนาดนี้เลยเหรอ
งั้นแสดงว่ากว่าจะมาถึงที่เป็นอยู่นี่ น้องเรียวต้องผ่านอะไรมาเยอะมาก
หนูเป็นคนสตรอง เพราะฉะนั้นหนูจะต้องได้กินเขี้ยวเร็ว ๆ  นี้แน่ ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ^^  :mew1:






ออฟไลน์ ้hellobow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
งื้อ มาให้กำลังใจหนูเรียว นางแซ่บมาก

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8


คาถาที่ ๕ [100%]






“อาทิตย์หน้าหนังก็เปิดกล้องละ แอคติ้งแกเป็นไงบ้างเนี่ยเรียว” เป็ดถามพลางตักไอติมชาเขียวกับน้ำแข็งใสเข้าปากแล้วทำหน้าฟินกับความเย็นชุ่มฉ่ำและความหวานอร่อยของไอติม


“โห ไม่อยากจะพูด แต่ก็ต้องพูดนะว่าครูแงะชมฉันว่าแอคติ้งเป็นธรรมชาติมาก” นางบอกอย่างภาคภูมิใจ เอามือขวาตบอกน้อยๆ สมทบกับสีหน้าภาคภูมินั่น ก่อนจะตักไอติมชาเขียวเข้าปากหนึ่งคำ

“อ๋อ แปลง่ายๆ ก็คือครูแงะบอกว่าแกตอแหลได้เนียนดีใช่ป้ะ” สองเพื่อนซี้หัวเราะเสียงดัดจริตแล้วยิ้มยิงฟันกว้างใส่กัน ก่อนที่เรียวจันทร์จะหุบยิ้มฉับทำตาค้อนขวักใส่เพื่อน ยกช้อนตักไอติมสีดำขึ้นชี้หน้านังเพื่อนตัวดำจนเป็ดต้องขยิบตาหยอกล้อกลับมา


“เออ แล้วแกจะเข้าไปในไร่ในฟาร์มนั้นเมื่อไหร่” เรียวจันทร์ขมุบขมิบปากเคี้ยวไอติมแล้วกลืนลงคอ แต่ก็ยังไม่ตอบทันทีเพราะกำลังทำหน้านึกอยู่


“ยังไม่รู้เลยอะ แต่คิดว่าก็ต้องเร่งหน่อย นี่ฉันก็ยังไม่ได้บอกตาจอมทัพเลยว่าฉันเข้าไปในนั้นได้แล้ว”


“อู๊ย พูดถึงเสี่ยจอมทัพ เขาหล่อเนอะ แก่แต่แซ่บอะ” เรียวจันทร์ยิ้มกริ่มแล้วทำคอยึกยัก เป็ดเห็นอาการของเพื่อนก็อ้าปากหวอสีหน้าตกใจ รับรู้ทันทีว่าอะไรเป็นอะไร


“นังเรียว แกเคี้ยวโคแก่ไปแล้วเหรอ?!”


“เคี้ยวจนเมื่อยกรามเลยแหละ!” เรียวจันทร์อ้าปากน้อยๆ ขยิบตาเบาๆ ให้ดูเซ็กซี่ เป็ดอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ เลยรีบเปิดกระเป๋าหนังสีดำตัวเองแล้วมุดหน้าเข้าไปกรี๊ดในนั้น เรียวจันทร์หัวเราะสดใส ได้ยินเสียงกรี๊ดแว่วๆ เล็ดลอดออกมา พอกรี๊ดเสร็จเป็ดก็เงยหน้าแดงๆ ของตัวเองมามองเรียวจันทร์ด้วยความตื่นเต้น


“ไปกินกันได้ยังไงคะ ครั้งที่แล้วแกไม่เห็นเล่าให้ฉันฟังเลย”


“เอ๊า ก็แกไม่เปิดประเด็นอะ จะให้ฉันพูดยังไงล่ะ” เรียวจันทร์ว่าพลางตักทอปปิ้งบนไอติมเข้าปาก


“โอ๊ยยย แกจะฟาดผู้ชายอีกกี่คนคะถึงจะมีผัวเป็นตัวเป็นตนได้” เรียวจันทร์ยักไหล่ขวาแบบไม่ใส่ใจ ใช้ปลายนิ้วมือซ้ายเกลี่ยผมหน้าของตัวเองเบาๆ


“ใครจะไปตอบเรื่องแบบนี้ได้กัน มันอยู่ที่ใจ เจอเมื่อไหร่หัวใจคงทำงานหนักอะมั้ง” ศิริประภา ประภาศิริถอนหายใจแผ่วเบาพลางตักไอติมเข้าปากด้วยท่าทีเนือยๆ มองเพื่อนด้วยสายตายเป็นห่วงเป็นใย


“เลิกร่านเถอะเรียว ฉันเป็นห่วงแกนะ” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ กะพริบตาปริบตกใจ เป็ดหัวเราะคิกคักอารมณ์ดี


“แม๊! อีเปดดด! ซึ้งในความห่วงหาอาทรณ์ของแกมาก” สาวดำทรงเสน่ห์หัวเราะเริงร่า เรียวจันทร์มองค้อนใส่เพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้


“เออนี่ ฉันจะเม้าท์นานละ แต่ลืมเม้าท์ทุกที เพราะไม่ได้สนใจมาก แต่พอดีก่อนปิดคลาสแอคติ้ง มันเริ่มตงิดแรงขึ้น”


“อะไรคะ เม้าท์มา อย่าได้ยึกยัก”


“ไอ้พระรองหนังที่ฉันเล่นอะ ท่าทางนางไม่แมนนะ แต่ก็ไม่ได้สาวแบบฉันหรอก แต่ฉันว่ามีองค์แม่อยู่ในตัว” เป็ดทำตาโต เลิกคิ้วขึ้น


“จริงเหรอ เขาหล่อเกาหลีมากเลยนะ ฉันว่าเขาเป็นไทป์พระรองที่คนจะรักมากเหมือนในซีรีส์เกาหลีอะ…”


เป็ดทำหน้านึก ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นหน้าจับผิด “…อะไร อย่าบอกนะว่าเขาชอบแกอะ” เรียวจันทร์ส่ายหัวรัวๆ แถมยังยกมือขึ้นมาโบกเร็วๆ เสริมด้วย นางเบ้ปากทำหน้าว่าไม่ใช่แน่ๆ



“ไม่ใช่แบบนั้น ฉันก็บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง แปลกๆ อะ ตอนนี้รู้สึกแค่ว่านางไม่แมนแท้ ฉันอาจจะมโนก็ได้นะ เก้งกวางก็ชอบมโนให้ผู้ชายเป็นแบบตัวเองอยู่เรื่อย” สองเพื่อนซี้หัวเราะขบขันชอบใจกันสองคน


“เออ อันนี้ฉันเห็นด้วย สมัยนี้พวกแกอะ เอะอะชอบตัดสินว่าผู้ชายคนนั้นคนนี้เป็นเกย์ เป็นเก้งไปหมด กูรูเรย์ดาร์เต็มประเทศไปหมดละ”


“เรดาร์มโนอะสิ” ทั้งสองคนช่วยกันนั่งกินไอติมต่อพลางเปลี่ยนประเด็นพูดกันแบบกะทันหัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องติดขัดสำหรับทั้งสองคน เพราะนึกอยากคุยอะไรก็คุย อยากพูดก็พูด ต้องรีบพูดรีบคุย เดี๋ยวเรื่องนั้นจะหล่นออกจากสมองก่อน แล้วจะทำให้หงุดหงิดมากเพราะมันจะติดขัดพูดไม่ออก หรือพูดไปแล้วก็จะไม่ได้บรรยากาศเท่ากับตอนอยากพูดในรอบแรก


RRRrrrr!


มือถือของเรียวจันทร์สั่นสะเทือนอยู่ในกระเป๋าคล้องไหล่หลุยส์วิคตองต๊องแต๊ง นางแหวกกระเป๋าออกแล้วหยิบมือถือขึ้นมาดูหน้าจอ พอเห็นเป็นชื่อจอมทัพก็ทำท่าลังเลนิดหน่อยแต่สุดท้ายก็กดรับตามปกติ (ทำท่าให้ดูมีจริตเล่นตัวไปอย่างนั้นแหละ)



“ฮัลโหล… ตอนนี้เหรอ… ฉันอยู่พารากอน… มารถเพื่อน… อืม เอางั้นก็ได้ ฉันก็มีเรื่องจะคุยกับคุณอยู่พอดีเลย… เจอกันนะ” นางหย่อนโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋า หันกลับไปตักไอติมกินตามเดิมพร้อมกับเอ่ยปากบอกเป็ดเองก่อนที่เจ้าหล่อนจะถาม


“เสี่ยจอมทัพโทรมา เรียกเข้าไปพบ” เป็ดอ้าปากหวอ หน้าตาตกใจ


“เข้าไปคุยแน่เหรอยะ” เรียวจันทร์ย่นคิ้วนิดหนึ่ง


“แน่สิ ยังไงก็ต้องคุยมะ ถึงจะทำอย่างอื่นด้วยก็เถอะ” เรียวจันทร์หัวเราะอ้าปากกว้าง ใบหน้าสวยหวานสว่างสดใสด้วยรอยยิ้มจริงใจที่ไม่ได้ประดิษฐ์แต่อย่างใด ทำให้ใบหน้าของนางเรียกสายตาผู้ชายหลายคนและผู้หญิงบางคนที่อยู่ใกล้ๆ แถวนั้นให้หันมามอง


“โอ๊ย ถ้ามีองค์กรพิทักษ์สัตว์หายากที่ไหนบอกว่าแรดใกล้จะสูญพันธ์นะ ฉันจะรีบบอกให้เขามาพบแกเลย!” เป็ดว่าอย่างหมั่นไส้ แต่ไม่ได้หมั่นไส้เอาเป็นเอาตาย แค่หมั่นว่านังเพื่อนสาวคนนี้มันไม่ถ่อมตัวใดๆ อะไรทั้งสิ้น แถมยังทำท่าทางมั่นหน้ามั่นใจใส่หล่อนอีก


“ขอโทษนะเป็ด ถ้าฉันใส่วิกจิกส้นสูง ฉันชนะ” แต่ถึงแม้จะหมั่นไส้เพื่อนยังไง พอเจอจริตดีดดิ้งแต่พองามของเรียวจันทร์ก็ทำเอาเป็ดต้องขำเสียงดังไปซะทุกที




ก่อนเปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์ ก็ยังมีช่วงเวลาว่างเว้นให้นอนอ่านบทเล่นๆ และเตรียมตัวให้ดี แต่เรียวจันทร์คิดว่าตัวเองพร้อมมากพอสำหรับการแสดง ช่วงเวลาที่ว่าง นางเลยขับรถมาที่ฟาร์มอรุณพยัคฆ์คนเดียวเปรี้ยวๆ โดยเลือกวันที่เขาไม่เปิดให้บริการนั่นแหละ เพราะไม่ได้คิดจะมาเที่ยวอยู่แล้ว


สำหรับด้านในฟาร์ม แม้จะไม่เปิดให้เข้าชม แต่ร้านอาหารด้านนอกยังคงเปิดให้บริการตามปกติ เลยยังพอให้เห็นผู้คนแวะเวียนกันมาทานอาหารกันอยู่บ้าง แม้ไม่แน่นขนัดเท่ากับวันเปิดให้เข้าชม แต่ก็ไม่บางตาโหวงเหวง เรียวจันทร์จอดรถตัวเองไว้หน้าร้านอาหารเรือนไม้หลังใหญ่ด้านนอก ปิดประตูรถเสร็จสรรพพร้อมเช็กสภาพตัวเองเรียบร้อยก็เดินตรงไปยังป้อมยามทันที


“เอ่อ ช่วยติดต่อภายในให้หน่อยได้มั้ยคะ” ลุงยามหนวดเคราสีเทาแซมดำ หน้าตาท่าทางใจดีมองหน้าเรียวจันทร์อย่างนึกสงสัย


“มาติดต่อใครล่ะหนู” เรียวจันทร์ไม่ได้เหวอหรืออ้าปากตอบคำถามนั้นของลุงยามแต่อย่างใด กลับพูดไปอีกประเด็นด้วยท่ากระดี๊กระด๊า


“อุ๊ย ลุงยามเรียกว่าหนู หน้าหนูเด็กใช่มั้ยอะ” กลายเป็นลุงยามที่อ้าปากหวอ กะพริบตาปริบๆ มองไอ้หนุ่มเจ้าสำอางอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่มันต้องการ


“เอ่อ ก็เด็ก หน้าตาดีด้วย” พูดไปตามที่สายตาเห็นนั่นแหละ พูดอย่างงงๆ ด้วย คนโดนชมยิ้มปริ่มพิมพ์ใจ ทำหน้าตาอย่างกับได้เข้ารอบตอบคำถามรอบห้าคนสุดท้ายของการประกวดนางงามอย่างนั้นแหละ


“ลุงมีตาและมีแววดีมากเลยอ้า” เรียวจันทร์ยิ้มแฉ่ง แต่รอยยิ้มก็ต้องหุบวืดเมื่อได้ยินประโยคถัดไป


“แล้วสรุปมาหาใครล่ะพ่อรูปหล่อ”


“ลุงยาม หน้าอย่างนี้นี่หล่อเหรอ” เรียวจันทร์จือปากทำตาปรือจนลุงยามขมวดคิ้วแล้วนึกในใจว่าไอ้นี่มันบ้าหรือเปล่า


ครืด!


เสียงล้อรถบดเบรกลงบนถนนดิน เรียวจันทร์กับลุงยามหยุดบนสนทากันไว้ชั่วครู่ หันไปมองรถกระบะบุโรทั่งแบรนด์ฟอร์ดสีฟ้านวลตาคันหนึ่ง หนุ่มหน้าสวยย่นคิ้วนิดๆ มองเจ้ารถกระบะในยุคเก้าศูนย์ด้วยความชื่นชมว่ามันสวยคลาสสิคดีจริงเชียว สีก็เด่นมากด้วย ประตูรถฝั่งคนขับเปิดออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งก้าวลงจากรถ พอฝ่ายนั้นหมุนตัวหันหน้ามาพร้อมก้าวเท้าเดินมาทางนาง เรียวจันทร์ก็ยิ้มเป็นมิตรส่งไปให้


“มาทำอะไร” รอยยิ้มเมื่อกี้หายวับไปกับตาเมื่อเจอน้ำเสียงห้วนพร้อมกับสีหน้าตายด้านไม่แสดงอาการอะไรของไอ้นายคมเขี้ยว


“อ้าว ก็คุณป๋านายบอกว่า ฉันอยากมาที่เมื่อไหร่ก็มาได้เลย แล้วอีกอย่างคุณป๋าก็รับฉันเข้ามาทำงานที่นี่ด้วย ฉันก็เลยอยากจะ…”


“…พอเหอะ พูดมาก” เรียวจันทร์เบิกตากว้างอ้าปากหวอมองไอ้หน้าหนวดเคราที่อยู่ในชุดตีมเดิมจากคราวที่แล้วแค่เปลี่ยนสีเสื้อเป็นลายสก็อตสีแดงดำกับกางเกงยีนสีน้ำเงินเข้ม


“พูดมากตรงไหน เชื่อเลยว่าถ้าเขียนลงในกระดาษยังไม่ทันเต็มบรรทัดด้วยซ้ำ!” เรียวจันทร์ถลึงตามอง ริมฝีปากขมุบขมิบ ก่อนจะช้อนสายตามองด้วยความหมั่นไส้


“วู้ว! คุณแม่งทำความวุ่นวายไว้รอบที่แล้ว ยังมีหน้ากล้าที่จะมาที่อีกเหรอ” พ่อหนุ่มมาดคาวบอยทำสีหน้าไร้อารมณ์ ท่าทางกวนตีนกวนใจ แต่เรียวจันทร์หากลับได้แคร์ไม่


“มี! ก็หน้าเนี้ย หน้าเดิม เพิ่มเติมคือสิวหนึ่งเม็ด” ดีนะเม็ดไม่ใหญ่มาก แค่เม็ดเล็กๆ ตรงบริเวณแก้มซ้ายเท่านั้น


คมเขี้ยวกลอกตาทำหน้าเซ็ง เลื่อนสายตาไปมองทางอื่นแวบหนึ่งก่อนจะเลื่อนกลับไปมองเจ้าของใบหน้าสวยหวานเกินชายที่ทำหน้าตาเริ่ดๆ เชิดๆ อยู่


“งั้นก็ดี กล้ามาผมก็กล้าคุย ไปขึ้นรถ” พูดจบก็เดินนำไปที่เจ้าบุโรทั่งคันงาม เรียวจันทร์ย่นคิ้วนิดหน่อยแต่ก็ก้าวเดินตามไป เปิดประตูอีกฝั่งหวังจะขึ้นไปนั่งเคียงข้างพ่อคนขับ


“ใครให้มานั่งตรงนี้ ยังไม่ได้จุดธูปเชิญ ไม่ต้องมา โน่น ไปนั่งข้างหลัง” เรียวจันทร์ที่กำลังจะหย่อนก้นลงนั่งบนเบาะถึงกับทำหน้าเหวออีกรอบ


“อะไรนะ นั่งหลัง?! นายบ้าป้ะ ให้ฉันไปนั่งหลังได้ยังไง”


“ให้คุณไปนั่งหลังนี่มันบ้ายังไง อธิบายหน่อยซิ” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย เรียวจันทร์ทำตาโตมองอีกฝ่ายด้วยความหมั่นไส้ที่เพิ่มระดับขึ้นมาอีกนิด


“เออ ไม่ได้บ้า แต่มันไม่สมควรอะ ฉันเป็นแขกนายนะ แขกมาบ้าน นายก็ควรต้องต้อนรับดีๆ สิ” เรียวจันทร์เชิดคางขึ้นว่าฉอดๆ คมเขี้ยวบิดปากเซ็ง นึกรำคาญกับเสียงใสๆ แต่แสนแจ๋นนั่น


“ก็ถ้าแขกคนนั้นไม่สร้างความพินาศไว้ให้กับฟาร์มผม ก็คงจะดูแลดีกว่านี้”


“นี่! จะอะไรกันนักกันหนา ไม่ทราบว่านายได้เสียกับม้าตัวนั้นมาเหรอ?!” คมเขี้ยวขบกรามแน่น ดวงตาคมคู่นั้นถลึงมองใบหน้าขาวผ่อง จนเรียวจันทร์ผงะไปนิดหนึ่งแต่ก็แอ๊บเชิดสู้


“มันโตมากับผมแต่เด็ก ถ้าคุณเคยเลี้ยงสัตว์หรือเลี้ยงอยู่ คุณจะเข้าใจ!” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว เม้มปากแน่น รูจมูกบานเพราะมองอีกฝ่ายอย่างเข่นเขี้ยว


“มันก็ยังอยู่ดีกินดี ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย…”


“…ลงไป! ไปนั่งข้างหลัง เร็วๆ อย่าวอแว อย่ามากความ!” ดวงตาสีนิลจ้องมองเรียวจันทร์นิ่งสนิทแต่แฝงความจริงจังไว้มากล้น จนคนหน้าหวานต้องสะบัดหน้าหนี เดินลงจากรถ กำลังจะกระแทกประตูปิดก็โดนเบรกไว้ทันที


“แรงปิดประตูดังขนาดไหน ผมจะเอาพลั่วตักอาหารวัวฟาดหัวคุณเท่าแรงนั้น” คมเขี้ยวยักคิ้วขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ก็ทำเอาเรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแน่น อยากจะกระทืบเท้าเร่าๆ แล้วกรี๊ดๆ ให้ตุ๊ดแตกกว่าที่เป็นอยู่


นางเลยต้องปิดประตูเบาๆ แต่ในอกเต็มไปด้วยความแค้นอกแค้นใจ กระแทกเท้าเดินไปด้านหลังรถ หลับตาลงแล้วผ่อนลมหายใจเพื่อไล่อาการแค้นเคืองทั้งหลายให้ออกไปจากอก ก่อนจะยกขาขวาก้าวเข้าไปในกระบะ ตามด้วยขาซ้าย แต่ยังไม่ทันที่ก้นงอนงามๆ จะได้นั่งลงบนพื้นกระบะ ไอ้เจ้าของรถมันก็พุ่งตัวออกไปจนทำให้นางหน้าหงายหลังชนกับฝากั้นหลังกระบะอย่างแรง


“ว้ากกกก! ไอ้เขี้ยวหัก ไอ้ฟัก!” เรียวจันทร์ตะโกนด่าเสียงดังจนคนที่เพิ่งออกมาจากร้านอาหารของฟาร์มมองด้วยความตกใจ แต่นางไม่สนใจใครแล้ว ตอนนี้ต้องจับขอบกระบะไว้ให้ดี เมื่อกี้เกือบหงายหลังจริงๆ เล่นเอาใจหายวาบไปหมด เรียวจันทร์นั่งตัวเกร็ง สายตาหันไปมองสองข้างทางอย่างระแวดระวัง ฝั่งซ้ายมือเป็นรั้วไม้ มีต้นสนเรียงรายไปตลอดทาง ด้านขวาที่เคยเห็นด้านข้างว่าเป็นตึกสีขาวเมื่อคราวก่อน พอได้เห็นด้านหน้าเต็มตาซึ่งเป็นกระจกใสสามารถมองเห็นด้านในได้ส่วนหนึ่ง นางคิดว่าเหมือนจะเป็นโรงงานผลิตสินค้าอะไรสักอย่าง



คมเขี้ยวขับรถเลยประตูทางออกสำหรับนักท่องเที่ยว เลยไปอีกร้อยสองร้อยเมตรเป็นอย่างต่ำแล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าประตูไม้อันใหญ่อีกอันที่อยู่ด้านซ้ายมือ เรียวจันทร์เห็นถนนดินยืดยาวต่อจากรั้วไม้นี้ไปอีก แต่ก็ไม่รู้ว่าตรงนั้นนำพาไปที่ไหน


พอรถเข้ามาด้านในนางก็ได้รู้ว่ารั้วไม้ที่คมเขี้ยวพาเข้ามาเหมือนจะเป็นถนนที่อยู่ด้านหลังหมู่บ้านคาวบอย มีรั้วปูนสูงแหลมและมีลวดหนามกั้นพื้นที่บ้านกับป่าตีนภูเขา หมู่บ้านคาวบอยตั้งเรียงติดกันเป็นพรืด ชั้นสองชั้นสามด้านหลังมีระเบียง มีคนนั่งคุยกันบนระเบียงบางอัน เหมือนจะเป็นที่พักด้วยหรือเปล่านางเองก็ไม่แน่ใจ หรืออาจเป็นที่อยู่ของคนงานก็ได้ พอบุโรทั่งสีฟ้าขับไปตามเส้นทางแล้วเลี้ยวซ้ายตรงมุมของตึกสีขาวฟ้ามุมซ้ายมือก็เป็นทางตรงบังคับไปเรื่อย ใบหน้าหวานหันไปมองทางเข้าหมู่บ้านคาวบอย ทันเห็นด้านในแวบหนึ่งว่ามีผู้คนเดินกันเยอะพอสมควร
   

รู้ตัวอีกทีคือตอนรถจอดตรงหน้ารั้วประตูบ้านของเจ้าของฟาร์ม คมเขี้ยวเปิดประตูลงมาด้วยสีหน้าเฉยเมย จนเรียวจันทร์แอบเบ้ปาก แต่ถึงอย่างนั้นพ่อเคราเขาก็ยังทันเห็น
   

“เป็นโรคปอลิโอเหรอ ถึงได้ปากบิดปากเบี้ยว”
   

“นั่นปากคนหรือปากไก่ถึงได้จิกๆๆๆ อยู่นั่นอะ” คมเขี้ยวทำหน้าไม่ใส่ใจ ทำหน้าเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เรียวจันทร์พูดด้วยซ้ำ นางแยกเขี้ยวด้วยความหมั่นไส้
   

“เข้าประเด็น ไม่อยากเสียเวลา…” คมเขี้ยวยืนเอาข้อศอกสองข้างวางบนขอบกระบะหลังรถ ส่วนเรียวจันทร์นั่งหน้างอหน่อยๆ ในกระบะ
   

“…คุณไม่ต้องมาทำงานที่นี่ เรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ผมไม่เอา ถ้าอยากมาเที่ยว มาได้ ผมไม่คิดค่าเข้า แต่ไม่ต้องเอาตัวเองมาสิงอยู่ที่นี่หรอก” เรียวจันทร์มองค้อนไปหนึ่งที
   

“เรื่องผู้ช่วย ป๋าเขาพูดไปแบบนั้นแหละ แต่จริงๆ ผมไม่ต้องการ ผมมีลูกน้องคอยช่วยงานแล้ว คุณมาก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี”
   

“แต่ฉันอยากมา ฉันอยากมาทำงาน!” ใบหน้าขาวผ่องเชิดขึ้นน้อยๆ แล้วพูดโกหกออกไป ใครอยากจะมาทำงานทีนี่กันล่ะ งานที่ทำอยู่ทุกวันนี้สบายกว่าอีก แต่ที่ต้องอยากมาทำที่นี่ก็เพราะเหตุผลอื่นน่ะสิ
   

คมเขี้ยวย่นคิ้ว ยกยิ้มมุมปากซ้ายแบบเย้ยหยันหน่อยๆ “คุณเนี่ยนะอยากทำงานที่นี่ ผมเปิดดูรายการตลกในทีวีได้ อย่ามาเล่นตลกให้ผมดู”
   

เรียวจันทร์หน้าตึง แต่ก็ไม่คิดถอย ยังไงนางต้องเข้ามาอยู่ที่นี่ให้ได้ จะให้เทียวมาเทียวไปแบบนั้นเหนื่อยตายห่า แล้วยังน่าสงสัยอีกด้วย
   

“ฉันไม่ได้ตลก ฉันอยากมาทำงานที่นี่จริงๆ!”
   

“ไหนลองผมบอกผมซิ ว่าอะไรคือแรงบันดาลใจในการที่อยากจะทำงานที่นี่” คนถูกถามย่นคิ้วนิดๆ เม้มปากหน่อยๆ แล้วคิดว่านี่นางกำลังถูกสัมภาษณ์งานหรือเปล่า แต่พอจะตอบ กลับคิดคำตอบไม่ได้ แถไม่ทันจริงๆ รอบนี้ เลยทำให้คมเขี้ยวยกยิ้มมุมปากอีกรอบ
   

“คนอย่างคุณน่ะเหรออยากมาอยู่กับป่าเขาลำเนาไพรแบบนี้ หน้าตาท่าทางก็ไปไม่รอดแล้ว!”
   

เรียวจันทร์เบิกตากว้าง อารมณ์ปรี๊ดเบาๆ พุ่งมาที่อก นางแยกเขี้ยวใส่ไอ้เคราแพะ “อย่าดูถูกฉันนะ นายยังไม่เคยเห็นฉันทำงานเลย!”
   

“ก็ดูถูกน่ะถูกแล้ว ดูไม่ผิดหรอก”
   

“ผิด! นายดูฉันผิด นายเอาความคิดตัวเองมาตัดสินล้วนๆ!” เมื่อเจอไอ้หน้าหวานนี่เถียงคอเป็นเอ็น ก็ทำเอาคนหน้าเข้มอารมณ์ขึ้นเหมือนกัน
   

“งั้นบอกมา อยากมาทำงานที่นี่เพราะอะไรกันแน่ ผมไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างคุณอยากจะมาทำงานในที่แบบนี้!” คมเขี้ยวจ้องดวงตาเหมือนกวางน้อยอย่างคาดคั้น ตากลมโตสีน้ำตาลของเรียวจันทร์จ้องมองอย่างไม่ยอมแพ้ เมื่อกี้แถไม่ทันก็สตั๊นท์พอแล้ว และนี่ทำท่าจะไม่ให้นางเข้ามาอยู่ที่นี่อีก แบบนี้จะทำตามแผนได้ไงกัน
   

“เพราะฉันชอบนาย” เรียวจันทร์ตอบน้ำเสียงชิลๆ ยักคิ้วสองข้างขึ้นหนึ่งที ปรับสีหน้าเป็นผ่อนคลายได้อย่างรวดเร็ว ต่างจากสีหน้าถมึงทึงเมื่อกี้ลิบลับ เพิ่มความเนียนกริบด้วยการยิ้มกริ่มสวยๆ ส่วนคนที่โดนบอกชอบกลายเป็นฝ่ายสตั๊นท์ไป คมเขี้ยวขมวดคิ้ว กะพริบตาปริบ มองเจ้าของใบหน้าสวยหวานเกินชายแบบงงๆ เจ้าตัวยิ้มกริ่มกว้างขึ้นแล้วพยักหน้าลงแบบมีจริตสวยเพื่อยืนยันคำพูดตัวเอง
   

“ว่าอะไรนะ ชอบผม?!”
   

“อือฮึ!” คมเขี้ยวเหมือนสติหลุดไปชั่วครู่ มองหน้าไอ้เรียวจันทร์ตัวพินาศด้วยความทึ่งปนตกใจ ดวงตาสุกใสคู่นั้นวิบวับเป็นประกาย ใบหน้าสวยหวานฉีกยิ้มน่ารักสดใสให้เขาอย่างเต็มที่


ได้แต่คิดในหัวตัวเองว่าไม่มันก็เขานี่แหละที่บ้าไปแล้ว!

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2017 14:06:26 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ถึงพี่เขี้ยวจะโหดยังไง แต่เจอนางมารบอกว่า ชอบ ต่อหน้าก็ต้องถึงกับอึ้งล่ะค้าาาาาา

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ตอนสั้นเกินไป

ประท้วงๆๆๆ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
 เรียวจันทร์แซ่บมากกกก ลุ้นต่อ อิอิ

ออฟไลน์ mochimanja2

  • มึน
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เรียวนี่น่าสงสารอ่า สนุกอ่า รอตอนต่อไปน๊า :กอด1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อุต๊ะ หนูเรียวจันทร์ลูก. แร่ดได้โล่เลยคระ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ owlseason

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มุกนี้ก็เห็นมาเยอะนะ แต่ทำไมพอเรียวเอามาใช้แล้วรู้สึกพี่เขี้ยวต้องแพ้ยังไงก็ไม่รู้ 555555555
 :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
สนุก แซ่บตามประสาหนูเรียว :hao7:

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หูยยยย เรียวชนะเลิศศศศศไปเลยค่าาาาาา  > <

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
นี่จิ้นไกลนำหน้าไปจนถึงตอนความจริงเปิดเผยแล้วอ่าาา  พี่เขี้ยวจะโกรธขนาดไหนนะ

แล้วเรียวจะช้ำขนาดไหนกับการเอาคืนอ่ะ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: เปิดตัวได้ถูกใจสุด ๆ เลยอ่ะ น้องเรียวจันทร์สุดยอดเลย แต่เล่นเอาอึ้งกับมอสน่ะ 555 ตามต่อจ้ะ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
คือ ขำก๊าก   :m20: กับคำตอบของเรียว เล่นเอาคมเขี้ยวพูดไม่ออกเลย งานนี้พี่คมเขี้ยวจะเอาเรียวจันทร์อยู่ไหมเนี่ย น้องมีปมตั้งกำแพงเสียสูงเชียว เอาใจช่วยให้สองคนนี้สู้กันไป ยกแรก เรียวชนะ  :z1:

ออฟไลน์ yaoisamasang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Yaoi-Sama/463499467036395?ref=hl
เอากับน้องเรียวเราซี่ ลูกมึนนี่เพียบ เล่นเอาพี่เขี้ยวเราสตั้นไปเล๊ย

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
คาถาที่ 6 :: A deviltress. นางมารละคร [50%]



      “ฉันว่านายได้ยินชัดแล้ว แต่ถามเพราะไม่แน่ใจใช่มั้ยล่ะ…” เรียวจันทร์ยิ้มกรีดกราย กะพริบตาจนแพขนตากระพือโต้ลม คมเขี้ยวยังคงยืนหน้านิ่วคิ้วขมวด มองไอ้หน้าสวยตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลายอย่าง ทั้งไม่ไว้ใจ ทั้งแปลกใจ และตกตะลึง
   

“…เอาน่ะ ไม่เป็นไรนะ ก็คือฉันชอบนาย ฉันเลยอยากมาทำงานที่นี่ อยากมาอยู่ใกล้ชิดนาย จะได้ใช้เวลากับนายให้มากขึ้น” เรียวจันทร์ยิ้มแฉ่ง ไหวไหล่ทั้งสองข้างขึ้น คมเขี้ยวหรี่ตามอง ยังคงไม่ไว้ใจแม้จะทึ่งจนเบลออยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้คล้อยตามกับสิ่งที่อีกฝ่ายบอก
   

“ชอบผม? ทั้งที่เราไม่เคยเจอกัน ไม่รู้จักกันมาก่อน เพิ่งเคยเจอกันครั้งเดียวน่ะเหรอ” เรียวจันทร์พยักหน้าตอบรับแบบทันที
   

“เยส! คือแบบว่า…” หนุ่มนายแบบอ้าปากค้างเล็กน้อย พอต้องแถแบบเร่งด่วนก็ทำชะงักไปเหมือนกัน ยิ่งเห็นสายตาของไอ้เครามาดโหดที่มองอย่างกดดันก็เกือบจะทำเอาไปไม่เป็น แต่คลาสการแสดงที่เรียนมาก็พอจะช่วยเหลือนางได้อยู่บ้าง


“…ถึงเราจะเพิ่งเคยเจอกันครั้งเดียว และการเจอกันครั้งแรกของเราอาจจะไม่ดีเท่าหน้าฉัน แต่ก็ต้องยอมรับนะว่ารูปลักษณ์ภายนอกของนายดึงดูดใจฉัน แล้วก็ต้องยอมรับเลยนะว่านายน่ะหล่อ” เรียวจันทร์พยักหน้าว่า ใช่ๆ แบบนั้นละ อย่างนั้นเลย ท่อนท้ายของประโยคนางไม่ได้โกหกสักหน่อย ก็หมอนี่มันหล่อจริงๆ


คมเขี้ยวขยับเปลือกตาที่หรี่มองอีกฝ่ายอยู่ให้เบิกกว้างขึ้นตามเดิม ริมฝีปากสีแดงบิดเล็กน้อยคล้ายกระตุกเบาๆ ดวงตาคมปลาบมองหน้าสวยหวานเกินชายของเรียวจันทร์อย่างประเมิน


“มองแค่เปลือกนอกก็เลยชอบว่างั้น” คิ้วเข้มของหนุ่มบ้านไร่เลิกขึ้นเป็นเชิงสงสัย เรียวจันทร์กะพริบตาปริบสองสามที เม้มปากนิดหนึ่งแล้วรีบตอบ


“ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่นายนึกออกมั้ยว่ามันเป็นสิ่งแรกที่ฉันเห็น ชูโนว์? เฟิรส์อิมเปรสชึ่น (You know? First impression) แล้วฉันก็ชอบ ฉันก็เลยอยากมาสัมผัสเนื้อในของนายที่เปลือกนอกของนายห่อหุ้มอยู่ไง” เรียวจันทร์คิดว่ามันสมเหตุสมผลอยู่นะที่พูดไปน่ะ


“หึ นี่คือการแถสดใช่มั้ย” คมเขี้ยวยกมุมปากซ้ายขึ้นอย่างถากถาง แวบหนึ่งเรียวจันทร์เกือบถลึงตามองเพราะความหมั่นไส้กับอาการเหนือกว่าของไอ้เครา แต่ก็ทำเนียนบ้องแบ๊วต่อไป


“เปล่าสักหน่อย ที่พูดไปน่ะออกมาจากใจล้วนๆ นะ!” เรียวจันทร์ทำหน้าว่า ฉันจริงจังนะ! แต่คมเขี้ยวกลับทำหน้าว่า เหรอ? กลับมาให้


“ออกมาจากใจหรือไตคิดให้ดีๆ ไตมันยังกรองปัสสาวะได้ แต่ใจคุณกรองอะไรได้บ้าง”


“นี่ๆ น้อยๆ หน่อย ฉันกำลังบอกชอบนายอยู่นะ ให้เกียรติความรู้สึกฉันบ้าง กล้ามาดูถูกฟีลลิ่งฉันได้ยังไง” คมเขี้ยวหัวเราะเสียงทุ้มแหบออกมาจากลำคอ หันหน้าไปมองทางอื่นครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับมามองหน้าเรียวจันทร์ต่อ


“เนี่ยเหรอ อาการของคนที่กำลังบอกชอบคนอื่นอยู่ หน้าคุณโคตรจริงใจเลยเนอะ” คมเขี้ยวน่ะว่าประชด แต่แม่นางเรียวจันทร์น่ะ นางเข้าใจไปอีกอย่าง


“ก็ใช่น่ะซี๊! นายก็เห็นใช่มั้ยล่ะว่าฉันจริงใจกับความรู้สึกฉันขนาดไหน เห็นป้ะ นายยังเห็นได้จากสีหน้าฉันเลย” รอยยิ้มภูมิใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าขาวผ่อง นึกชมตัวเองว่าทำได้ดีตีบทแตกใช้ได้


คมเขี้ยวขมวดคิ้วฉับ มองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าไอ้จันทร์ไรกำลังคิดเข้าข้างตัวเองไปขนาดนั้นได้ยังไง สัมผัสไม่ถึงอาการจริงๆ ของเขาเลยงั้นเหรอ


“ยิ่งแบบนี้ ผมยิ่งให้คุณมาอยู่ในฟาร์มกับผมไม่ได้หรอก” คนตัวสูงกว่ายืดตัวตรงขึ้น เลื่อนศอกออกจากขอบกระบะหลังแล้วใช้สองมือจับขอบกระบะแทน เรียวจันทร์เบิกตากว้าง หน้าตาตื่น นางลุกขึ้นยืนอย่างเร็วแล้วก้าวกระโดดลงไปยืนตรงหน้าพ่อหนุ่มคาวบอย


“แบบนี้คือแบบไหน ที่ฉันพูดไปคือเรื่องจริง…” ยังไม่ทันพูดจบ คมเขี้ยวก็แทรกเสียงเข้มขึ้นมาพร้อมหน้าตาเข้มงวดกวดขัน


“…ไม่จริง! บอกมาดีกว่าว่าทำไมคุณถึงอยากมาอยู่ที่นี่ คุณมีอะไรแอบแฝงใช่มั้ย?!”


“แอบแฝงอะไรล่ะ?! ก็บอกอยู่นี่ไงว่าฉันชอบนาย ถ้าจะหาว่าฉันแอบแฝงอะไร ก็คงเป็นการที่ฉันอยากเป็นเมียนายมั้ง?!” คมเขี้ยวอ้าปากหวอเล็กน้อย แอบมึนไปเหมือนกันที่ได้ยินไอ้ตัวพินาศพูดแบบนั้น


“ยอมรับซะบ้างสิว่านายอะหน้าตาดี ถ้าฉันจะชอบนายก็ไม่เห็นแปลกอะไร เนี่ย ดูสิ…” เรียวจันทร์ผายมือซ้ายไปทางร่างสูงใหญ่ กวาดตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า ลดมือขึ้นลงตามสายตาตัวเองก่อนจะไปหยุดที่ใบหน้าหล่อๆ ของพ่อคาวบอยที่กำลังย่นคิ้วมองนางอย่างระแวดระวัง


“…รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาก็ดี หุ่นก็ล่ำแน่น มีร้อยให้เก้าสิบเลยที่อยากเป็นเมียนาย แล้วถ้าฉันจะเป็นหนึ่งในเก้าสิบที่อยากเป็นเมียของเจ้าของฟาร์มอรุณพยัคฆ์บ้าง มันจะเป็นอะไรล่ะเฮาะ?!” เรียวจันทร์จีบปากจีบคอ ทำหน้าจริตจิกชายสุดพลัง คมเขี้ยวมองด้วยความทึ่ง พอเห็นว่าเขาเงียบไม่ตอบโต้อะไร มันเลยจัดชุดใหญ่ให้เขาเต็มที่ ใส่อารมณ์และแอคติ้งมาเต็ม คมเขี้ยวแลบลิ้นเลียริมฝีปากล่างที่แห้งผาก ยกมือขวาขึ้นเบรกเรียวจันทร์ รีบตั้งสติแล้วรีบโต้กลับ


“เดี๋ยวก่อน ถ้าผมจะมีเมีย ผมจะมีเมียเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย” เรียวจันทร์จึ๊ปากหนึ่งทีแล้วยิ้มเป็นกันเอง


“เอาน่า…” มีการยกมือแตะต้นแขนเขาเบาๆ ด้วยท่าทีสนิทสนมอีกต่างหากด้วย


“…สมัยเนี้ยมีเมียเป็นผู้ชายก็ได้ ไม่จำกัดแล้วว่าคำว่าเมียต้องเป็นผู้หญิง” คมเขี้ยวสะบัดมือขวาไปมารัวๆ เป็นการปฏิเสธ เริ่มทำหน้าตาจริงจังมากขึ้น


“ไม่! เอาชัดๆ นะ ผมชอบผู้หญิง ไม่ได้ชอบผู้ชาย”


“อ๊ะ! ก็ไม่เป็นไร ตอนนี้ยังไม่ชอบ เดี๋ยวอยู่ใกล้กันทุกวันนายก็ต้องชอบฉันบ้างแหละ” คมเขี้ยวทั้งอึ้งทั้งขำกับความมั่นใจในตัวเองของไอ้หน้าหวาน แล้วคือไม่ได้มั่นใจเล่นๆ ด้วยนะ ท่าทีกับน้ำเสียงที่พูดคือมั่นใจจริงจัง


“ถามจริง ความมั่นใจที่มีในตัวอะ สร้างขึ้นเองหรือไปขอใครมา” เรียวจันทร์ยืดตัวเชิดคอขึ้นอีกนิด เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งทำท่าคิดก่อนตอบ



“บอกเลยว่ามาจากตัวเองล้วนๆ!” เรียวจันทร์ทำหน้าว่า อื้อ! ฉันนี่แหละ! มีการชูกำปั้นขวาขึ้นมาด้วยท่าทางอย่างกับนักสู้ประกาศศักดาให้กับตัวเอง คมเขี้ยวเหวอจนหน้าบิดเบี้ยว คิดว่ามันจะปฏิเสธบ้าง มันกลับทำท่าทางภูมิอกภูมิใจนักหนา


“ผมไม่เถียงหรอกนะว่าคุณอะหน้าสวย แต่…” ยังไม่ทันพูดจบคนโดนชมก็ทำหน้าดีใจประหนึ่งถูกประกาศว่าคือนางงามจักรวาลประจำปี สองมือยกขึ้นจับแก้มอย่างเขินอาย


“…เห็นมั้ยยย แค่นี้นายยังชมว่าฉันสวยเลย แล้วคิดดูสิ ถ้าเราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เราต้องรักกันแน่ๆ” เรียวจันทร์ฉีกยิ้มกว้าง หัวเราะอารมณ์ดีอย่างมีจริต สองมือจับอกตัวเองก่อนแบไปทางคมเขี้ยวที่ขมวดคิ้วแน่นและรู้สึกอยากทุบกบาลตัวเองที่พลาดไปชมมัน คือไม่ได้ตั้งใจจะชม คือจะเตือนอะไรสักหน่อยไง แต่ยังพูดไม่จบเลย


“เฮ้ยๆ ไปกันใหญ่แล้ว ไม่ได้จะชมว่าสวย คือฟังให้จบก่อนได้ป้ะ” พ่อหน้าเคราเริ่มจะงึดๆ ในอกกับอาการหลงตัวเองแบบไม่แคร์โลกของแม่นางตรงหน้า


“ฮือ?! จะมาบอกว่าไม่ชมได้ไง ก็พูดอยู่เมื่อกี้ว่าฉันหน้าสวย…” เออ! กูพลาดละจริงๆ ที่เกริ่นประโยคนั้นออกมา คมเขี้ยวกัดฟันแน่น ทำหน้าทำตาไม่ถูกเลยว่ากูจะอารมณ์ไหนดี



“…จะบอกอะไรให้นะ ความรักมันไม่จำเป็นต้องแค่ชายหญิงแล้ว แค่นายลองเปิดใจให้ฉันเข้าไปข้างใน ให้เราได้เรียนรู้กัน มันก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นความรักได้ ขอแค่อย่าปิดกั้นตัวเองจากฉันแค่นั้นแหละ”


“ไม่ได้ปิดกั้น! แต่ไม่ชอบผู้ชาย ชอบผู้หญิงเว่ย!”


“เออ! รู้แล้วว่าชอบผู้หญิง ก็ถึงได้บอกนี่ไงว่าให้ลองเปิดใจให้กันก่อน ยังไม่ได้ลองคุยกันเลยอะ ทำไมรีบปฏิเสธจัง” ใบหน้าสวยมุ่ยอย่างไม่เข้าใจ ก็ไม่ได้ว่าจะต้องเป็นแฟนกันวันนี้ตอนนี้เลยสักหน่อย พยายามต่อรองเรื่องเวลาศึกษาดูใจกันอยู่นี่ไง


“เฮ้ย ทำไมมึนจังวะคุณ คือไม่เข้าใจเหรอว่าผมไม่ได้เป็นเกย์!” คมเขี้ยวก็แสนจะเหลืออดเหลือทนกับความหน้ามึนของไอ้คนตรงหน้า


“โอ๋ยยย! ไม่จำเป็นต้องเป็นเกย์ก็รักกันได้ แบบชายชายอะ เข้าใจป้ะ?!” คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์อย่างอ่อนใจ แล้วทำหน้าว่า มึงนี่เนาะ?! เขายกมือขยี้หัวรัวๆ หนึ่งที


“เอาง่ายๆ ไม่เอาตูด จบป้ะ?!” เรียวจันทร์ถลึงตามอง เห็นหน้าเข้มๆ เพราะหนวดดกดำทำยักคิ้วกวนตีนกลับมาให้ก็นึกหมั่นไส้ หน็อย! แค่บอกว่าชอบหน่อยต้องมาทำท่าทำทางจิ๊กโก๋รึไง


เร็วกว่าความคิด เร็วเกินจะห้ามตัวเองทัน เรียวจันทร์พุ่งตัวเอาแขนโอบรอบคอคมเขี้ยวไว้แน่น แล้วกดคออีกฝ่ายให้ลงมารับจูบจากตัวเอง คมเขี้ยวเบิกตากว้าง ตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกอยู่พักหนึ่งปล่อยให้เรียวจันทร์เอาริมฝีปากบดบี้ริมฝีปากตัวเอง มาได้สติตอนได้ยินเสียงลูกน้องที่อยู่แถวๆ คอกม้าโห่แซวนั่นแหละ


“โห!! เฮ้ย พี่เขี้ยวเปรี้ยวว่ะ จูบกันตรงนี้เลยเหรอพี่!!” คมเขี้ยวยกสองมือจับเอวบางของเรียวจันทร์แน่นแล้วผลักออกจากตัวอย่างแรงจนเรียวจันทร์ร้องโอ๊ย


“แม่งเอ๊ย!!!!” เจ้าของฟาร์มหนุ่มสบถหัวเสีย หน้าตาโกรธจัด แล้วสิ่งสุดท้ายที่เรียวจันทร์จำได้คือแรงเหวี่ยงอันรุนแรงและแรงกระแทกเข้าที่บุโรทั่งสีฟ้า


ปัง!!!


“เฮ้ย!!!” แล้วทุกอย่างก็ดับวูบไป ได้ยินเสียงโวยวายแว่วๆ แต่ความรู้สึกมึนในหัวทำให้สติค่อยๆ หายไปในที่สุด






“แกทำได้ไงไอ้เขี้ยว เกิดหนูเรียวเขาหัวแตกขึ้นมาจะทำยังไง?!”


“โห่ป๋า! ผมไม่ได้ตั้งใจ ก็ผมตกใจอะ จู่ๆ แม่งเข้ามาจูบผมนะเว้ย!” คมเขี้ยวเถียงหน้าเครียด ไม่แพ้ใบหน้าของบิดาที่กำลังจ้องเขาอย่างไม่พอใจ


“ไอ้ไก่ก่อน โดนจูบแค่นี้ถึงกับสติแตก!” คมเขี้ยวหน้าตื่นกับคำปรามาสของบิดาทันที


“เฮ้ยๆ ป๋า เดี๋ยวก่อนๆ ผมโดนผู้ชายจูบนะ ถ้าเป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง!” ใครมันจะทำท่ายินดีปรีดาวะโดนผู้ชายจู่โจมจูบปากขนาดนั้น แถมจูบต่อหน้าลูกน้องเป็นสิบ ป่านนี้แม่งคิดกันไปไหนต่อไหนแล้วว่าเขาชอบไม้ป่าเดียวกัน


“เออ! ป๋ารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติ แต่แกไม่จำเป็นต้องทำรุนแรงกับเขาขนาดนี้”


“คือผมตกใจ โอเคป้ะป๋า ไม่ต้องออกนอกหน้าแทนไอ้เรียวขนาดนี้ก็ได้ ลูกชายป๋าเสียหายนะเว้ย โดนผู้ชายจูบใช่เรื่องเรอะ!”


“เสียหายใช่มั้ย?! งั้นเดี๋ยวป๋าจัดงานแต่งให้แกกับหนูเรียวเลยดีมั้ยล่ะ ฮะ?!” ไอ้เจ้าลูกชายทำท่าขนพองสยองเกล้ายกใหญ่ คนเป็นพ่อเห็นแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้


“ผมเอาไอ้หงายเป็นเมียยังดีกว่าอีก”


“เออ! ปากดีไปเหอะไอ้เขี้ยว!” เมฆาชี้หน้าลูกชาย สายตาคาดโทษเอาไว้ก่อน คมเขี้ยวขมวดคิ้วหน้าตาไม่พอใจสักเท่าไหร่เช่นกัน


สองพ่อลูกหันไปมองคนตัวบางผิวผ่องนอนสลบอยู่บนตักของคุณบัวที่ใช้ยาดมแกว่งไปมาใต้จมูก แต่เรียวจันทร์ก็ยังไม่มีวี่แววจะตื่นจากอาการสลบเพราะหัวกระแทกกับตัวรถกระบะอย่างแรง


“แม่ก็ไม่ได้เห็นชอบเรื่องที่เขาทำกับเขี้ยวหรอกนะ แต่เราทำเกินไปจริงๆ เนี่ย หัวน้องโนเลย” คมเขี้ยวเบิกตากว้างมองตรงจุดที่มารดาชี้ให้ดู บริเวณขอบหน้าผากฝั่งซ้ายของเรียวจันทร์ปูดขึ้นมานิดหนึ่ง คนทำสลดลงไปนิดแต่ก็ยังไม่อยากยอมรับความผิดนี้ไว้คนเดียว


“ก็ถ้ามันไม่เข้ามาลวนลามผมก็ไม่โดนแบบนี้หรอก”


“ยังอีก เดี๋ยวเถอะไอ้เขี้ยว ทำให้ป๋ากับแม่เสียเวลาไปงานเลี้ยงเลยเนี่ย” เมฆากับภรรยากำลังจะออกไปงานแต่งงานของลูกเพื่อนคุณบัว แต่ก็มาเจอกับเหตุการณ์วุ่นวายนี่เสียก่อน เลยทำให้ต้องหยุดชะงักการเดินทางไป


“ไม่ต้องไปก็ได้คุณเมฆ อยู่ดูแลหนูเรียวก่อนก็ได้” เมฆามีสีหน้าลำบากใจ จะไม่ไปงานนั้นก็ได้แต่ก็รับปากเขาไว้แล้ว ก็เคยทำธุรกิจด้วยกันเล็กๆ น้อยๆ เขาเองก็อยากไปร่วมแสดงความยินดีกับงานมงคลสมรสนี้ แต่จะให้ทิ้งลูกเพื่อนสนิทที่เจ็บตัวเพราะลูกตัวเองไปก็กระไรอยู่


“โอยยย…” ในขณะที่ทุกคนกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวด คนตัวบางที่นอนสลบอยู่ก็ส่งเสียงครางขึ้นมาเบาๆ สองพ่อลูกขยับตัวเข้ามาดูทันที เห็นแบบนี้แต่คมเขี้ยวก็แอบกลัวว่าไอ้หน้าหวานจะเป็นอะไรรุนแรงหรือเปล่า


เปลือกตาเรียวจันทร์ค่อยๆ ขยับขึ้นอย่างช้าๆ จนกระทั่งลืมเต็มตา ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองไปรอบๆ อย่างงงๆ เห็นใบหน้าของหญิงสาวหน้าตาใจดีคนหนึ่งกำลังส่งยิ้มให้ พอเลื่อนไปมองข้างๆ อีกรอบก็เจอใบหน้าหนวดเข้มของผู้ชายสองคน


“เป็นไงมั่งหนูเรียว เจ็บตรงไหนบ้าง” เมฆาเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล เรียวจันทร์ย่นคิ้วแล้วก็ซี๊ดปากเบาๆ เพราะสะเทือนถึงตรงเนื้อที่ปูดออกมา นางยกมือซ้ายขึ้นแตะตรงที่มันโน สีหน้าตกอกตกใจ


“หัวโน… หัวโนอะ… เจ็บ…” ริมฝีปากสีชมพูสดแบะน้อยๆ หน้าตาเหมือนจะร้องไห้ เมฆาหันไปมองลูกชายตัวเองด้วยสายตาเอาเรื่อง คมเขี้ยวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่ในใจก็แอบเป็นกังวลเล็กๆ ว่าไอ้เรียวจะเป็นอะไรร้ายแรงหรือเปล่า


“ป๋าขอโทษแทนไอ้เขี้ยวมันด้วยนะ” เรียวจันทร์ไม่ตอบอะไรแต่สีหน้าหม่นมากทีเดียว นางค่อยๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นโดยมีแม่ของคมเขี้ยวช่วยประคองไว้อีกที พอลุกขึ้นนั่งได้เรียวจันทร์ก็มองหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองอย่างรู้สึกผิด เลื่อนสายตาไปมองคมเขี้ยวที่มองกลับมาอย่างเฉยชาก็ยิ่งรู้สึกสลด


“เรียวขอโทษนะครับที่ทำกิริยาไม่ดีใส่ลูกคุณป๋ากับ…” เรียวจันทร์หันไปมองคุณบัว เธอยิ้มอ่อนโยนแล้วตอบเสียงสุภาพ


“…แม่จ้ะ” คนหน้าหวานพยักหน้ารับรู้เพียงนิด ยกมือไหว้ทั้งสองคน


“ขอโทษนะครับที่เรียวลวนลามลูกชายคุณป๋ากับคุณแม่ เรียวทำตัวแย่มาก” นางว่าเสียงอ่อย หน้าตาหมองเศร้า ท่าทางหงอยเหงาจับใจ


“ยังไม่ได้เสียตัวให้กันสักหน่อย ไม่ต้องคิดมากหนูเรียว”


“อ้าวเฮ้ยป๋า ทำไมพูดงี้อะ ต้องรอให้เขาเอาผมจนท้องก่อนใช่ป้ะ” คนเป็นลูกชายว่าหน้าตาขมุกขมัว มองบิดาตัวเองอย่างนึกเคืองใจว่าทำไมไม่เข้าข้างลูกตัวเองเลยสักนิด ก็เข้าใจได้ว่านั่นน่ะลูกผู้มีพระคุณ แต่ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ โห่ นี่ถ้ายกขันหมากไปขอไอ้จันทร์ไรให้เขาได้คงยกไปแล้วมั้ง


“ไอ้เขี้ยว แกแค่โดนจูบ แต่หัวหนูเรียวปูดขนาดนั้น?!” เมฆาชี้ไปที่เรียวจันทร์ซึ่งนั่งก้มหน้าไม่ยอมเงยขึ้นมาสบตากับใคร


“อ้าว ก็…”


“…ไม่เป็นไรหรอกครับป๋า” หลังจากก้มหน้ามาสักพัก เรียวจันทร์ก็เงยหน้าขึ้นมองทุกคนแต่ที่ทำเอาเมฆาและคุณบัวตกใจคือน้ำตาที่ปริ่มตรงขอบตา แล้วพอสบตากับคมเขี้ยวน้ำตาก็หยดลงบนแก้มนวลทั้งสองข้างทันที หนุ่มหน้าเข้มเองก็อ้าปากหวอน้อยๆ มองอีกฝ่ายด้วยความอึ้งเหมือนกัน


“เรียวไม่ดีเอง ฮึก… คุณเขี้ยวเขาคงรังเกียจเพศแบบเรียว เขาคงขยะแขยงที่เรียวทำแบบนั้น…” เรียวจันทร์เว้นช่วงเพราะสะอื้นหนักจนเสียงถูกกลืนลงคอไป สามพ่อแม่ลูกเห็นแบบนั้นก็มองหน้ากันอย่างลนลานเล็กๆ


“…เรียวขาดสติเอง ผู้ชายคนไหนโดนแบบนั้นก็คงต้องทำแบบนี้ นี่ก็ดีมากแล้วครับที่คุณเขี้ยวเขาไม่ต่อยหน้า อึก…” มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มอย่างน่าสงสาร แววตาเหมือนกวางน้อยเศร้าหมอง เมฆาหันไปมองคมเขี้ยวที่ยืนทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาเลยเลือกจะหลบสายตาบิดาตัวเองไปทางอื่น


“แล้วเรื่องมันเป็นมายังไงล่ะหนูเรียวถึงได้เข้าไปจูบพี่เขา” คุณบัวถามอย่างใจเย็น ไม่ได้โกรธเคืองหรือมองอีกฝ่ายอย่างรังเกียจ เพียงแต่อยากรู้ถึงต้นสายปลายเหตุที่แท้จริง เพราะลูกชายตนเองเอาแต่โวยวายกับผู้เป็นบิดาจนไม่ได้ความจริงจังสักที


เรียวจันทร์หันไปมองหน้ามารดาคมเขี้ยวด้วยสายตาน่าสงสาร อ้าปากตอบเสียงอ่อย “…ก็ พอดีเรียวบอกชอบคุณเขี้ยว แต่เขารับไม่ได้ เราเลยยืนเถียงกัน เรียวก็แค่… ก็แค่อยากให้เขารู้ว่าชอบเขาจริงๆ”


คุณบัวอ้าปากค้างไปนิดกับสิ่งที่ได้ยิน พอหันไปมองหน้าสามีตนเองก็เห็นฝ่ายนั้นยืนหน้ามึนเหมือนสมองตื้อคิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ จริงๆ จากเหตุการณ์ที่ลูกชายโดนจู่โจมจูบแบบนั้นก็พอจะนึกออกบ้างว่าน่าจะมีต้นเหตุจากอะไร แต่พอได้ยินสาเหตุจากปากจำเลยจริงๆ ก็ทำเอาก่งก๊งไปเหมือนกัน


“เรียวไม่มาทำงานที่นี่ก็ได้แล้วนะครับคุณป๋า เดี๋ยวจะอึดอัดกันเปล่าๆ เรียวขอโทษ…” แล้วน้ำตาก็ไหลออกจากดวงตาคู่สวยใสทั้งสองข้างพร้อมกับอาการสะอึกสะอื้นเสียงแผ่ว เมฆามองอย่างทำอะไรไม่ถูก คุณบัวพอจะได้สติอยู่บ้าง เธอเลยยกมือลูบหลังเรียวจันทร์เบาๆ


“ใจเย็นๆ นะหนูเรียว พ่อกับแม่ไม่โกรธ ไม่ว่า ไม่เคืองอะไรทั้งนั้นลูก” เธอไม่ได้แอนตี้เพศที่สามมาแต่ไหนแต่ไร เพราะเพื่อนฝูงก็มีแบบนี้เยอะแยะ แต่ถ้าให้พูดตรงๆ ว่าถ้าลูกเธอจะมีแฟนเป็นผู้ชาย เธอก็คงคิดหนักอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่คิดกีดกันเป็นแม่ผัวใจร้าย


“ไม่จริงหรอกครับ เรียวรู้ ไม่มีพ่อแม่คนไหนรับได้ง่ายๆ…” เรียวจันทร์สะอื้นอีกรอบ หน้าตายับย่นเพราะร้องไห้เต็มที่ไม่มีกั๊ก คมเขี้ยวมองอย่างประหลาดใจ คิดในใจคนเดียวว่าอะไรจะร้องไห้เยอะแยะปานนั้น แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมาเพราะทำเขาไว้ซะแรง


“ป๋าไม่รังเกียจหนูเลยหนูเรียว ป๋าแค่กำลังอึ้งที่จู่ๆ มีผู้ชายมาบอกชอบลูกชายป๋า คือป๋าเพิ่งเคยเจอน่ะ” คมเขี้ยวตบมือดังป้าบ สีหน้าครึ้มอกครึ้มใจที่มีคนเข้าใจความรู้สึกเขาสักที


“ใช่ป้ะล่ะป๋า แม่งจู่ๆ โดนผู้ชายด้วยกันบอกชอบอ ผมก็ช็อคดิ แถมยังจูบผมอีก!” พอมีโอกาสคมเขี้ยวก็ขยี้อารมณ์ตัวเองยกใหญ่ คุณบัวมองด้วยสายตาปรามเลยทำให้เขาชะงักไปบ้าง


“ป๋าก็เข้าใจแกนะไอเขี้ยว…” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นแล้วกำลังจะอ้าปากยิ้ม แต่ก็หุบฉับเพราะประโยคถัดไป


“…แต่แกไม่ต้องเหวี่ยงเขาแรงขนาดนี้ก็ได้ ผลักออกแบบมีมารยาท แกทำเป็นมั้ย”


“โห่ อะไรวะ นี่ใครเป็นลูกบ้านนี้กันแน่เนี่ย กูโดนด่าซะงั้น” เขาว่าอย่างหัวเสีย หน้าตาเซ็งจัด สายตามองเรียวจันทร์ที่ก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างขุ่นเคือง


แม่ง! ตั้งแต่มันเข้ามาในชีวิตเนี่ย กูเหมือนหมาหัวเน่าไปเลย ทำอะไรก็ผิด!


“อย่าไปว่าเขาเลยครับ ผมผิดเอง ผมขอโทษนะครับคุณเขี้ยว” ฮึ่ย! มายกมือไหว้ทำหน้าจ๋อยใส่อีก


“น้องขอโทษแล้ว แล้วเราล่ะเขี้ยว เหวี่ยงจนเขาเจ็บตัวน่ะจะว่ายังไง” แม่เขาไม่ได้ว่าเสียงดุ เสียงข่มหรือมีท่าทีบังคับอะไรเลย แค่ถามให้คิดเท่านั้น แล้วคือเขาก็ต้องคิดเป็นไง รู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไร แต่ยิ่งมองตาใสๆ แสนเศร้าสลดกับน้ำตาอาบแก้มนั่น มันกลับทำให้รู้สึกอยากต่อต้านมากขึ้นไปอีก


คือก่อนหน้านี้ยังปากเก่ง เถียงฉอดๆ หลงตัวเองอยู่ได้ตั้งนานสองนาน พอมาตอนนี้แม่งอ่อนแออ่อนแรงไปซะงั้น แล้วจะให้เชื่ออารมณ์ไหนกัน หรือว่าพอหัวโขกเลยเพี้ยนเป็นแม่พระขึ้นมา?!


“ไอ้เขี้ยว” ชายหนุ่มหันไปมองหน้าบิดาตัวเองที่มองอย่างกดดัน เขากลอกตาเซ็ง พ่นลมหายใจออกทางจมูกแรงๆ


“เออๆ ขอโทษที่เหวี่ยงแรงอย่างนั้น” เรียวจันทร์ยิ้มดีใจ สองมือเช็ดน้ำตาป้อยเหมือนเด็กน้อย เมฆามองหน้าลูกเพื่อนสนิทแล้วก็นึกสงสาร สมัยเด็กๆ น่ะไอ้อาทิตย์เพื่อนเขาประคมประหงมตาหนูเรียวอย่างกับอะไรดี แล้วตอนนี้มันไม่อยู่แล้ว เด็กคนนี้ก็ต้องอยู่ด้วยตัวเอง ถึงจะมีแม่แต่ก็เหมือนไม่มี


“พักที่นี่สักแปบก็ได้หนูเรียวแล้วเดี๋ยวค่อยกลับ หรือจะนอนค้างไปเลยก็ได้” คมเขี้ยวทำท่าว่าจะขัด แต่พอเห็นสายตาปรามของมารดาอีกรอบเลยหุบปากฉับด้วยท่าทีขัดใจ


“ขอบคุณครับคุณป๋า แต่เรียวคงกลับกรุงเทพฯ พอดีมีงานต้องกลับไปทำ ขอแค่นั่งพักสักแปบก็โอเคแล้ว” เรียวจันทร์พูดด้วยท่าทีนอบน้อมอ้อมแอ้ม คมเขี้ยวขมวดคิ้วมองอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจนัก


“ถ้างั้นเขี้ยวดูแลน้องด้วย แม่กับพ่อจะได้ออกไปงานเลี้ยง” คมเขี้ยวหน้าตื่นส่ายหัวหน้าตั้ง สองมือโบกปฏิเสธรัวๆ จนเมฆาอดใจไม่ไหว ต้องยกมือตบกะโหลกไปสักที


“ทำท่าทำทางมันน่านักไอ้นี่!”


“เอ้า อะไรวะ ก็ดูแลตัวเองดิ” พูดจบก็ต้องเอี้ยวหัวหลบมือตบของป๋าตัวเองอย่างฉับไว


“เอ๊! ไอ้นี่หนิ เป็นคนยังไง ทำร้ายเขาแล้วก็ต้องรับผิดชอบสิวะ”


“แล้วที่ผมโดนจูบล่ะป๋า”


“ยังไม่เลิกกับเรื่องจูบใช่มั้ย งั้นแกก็จูบหนูเรียวกลับไปสิ ไม่งั้นก็แต่งงานกันเลย ทำอย่างกับเสียบริสุทธิ์!” คุณป๋ามองไอ้ลูกชายด้วยสายตาหมั่นไส้ มาทำหวงเนื้อหวงตัว ใช่ว่ามันไม่เคยผ่านเรื่องอย่างว่ามา อาจจะแปลกไปหน่อยกับผู้ชายด้วยกัน แต่เขาก็ไม่ได้ทำร้ายจิตใจอะไรมันถึงขั้นซึมเศร้าจนต้องมาทำท่าทีสะดีดสะดิ้งหวงเนื้อหวงตัวใหญ่โตอย่างที่เป็นอยู่ คมเขี้ยวขมวดคิ้วและแยกเขี้ยวอย่างหงุดหงิด ชกกำปั้นไปในอากาศรัวๆ เหมือนมีกระสอบทรายอยู่ตรงหน้า แต่จริงๆ เขากำลังจินตนาการว่าเป็นหน้าหวานๆ ของไอ้จันทร์ไรมากกว่า


“ตามสบายนะหนูเรียว ถ้าไอ้เขี้ยวแกล้งอะไรอีก บอกป๋าได้เลย” เรียวจันทร์ยิ้มอ่อน พยักหน้ารับน้อยๆ สองสามทียกมือไหว้ขอบคุณผู้ใหญ่ทั้งสอง ฝ่ายภรรยาเอ่ยกำชับลูกชายให้ดูแลเรียวจันทร์ให้ดีก่อนจะพากันเดินออกไปจากห้องรับแขกของบ้าน โดยมีลูกชายขออาสาออกไปส่งหน้าบ้านเพราะมีเรื่องจะคุยกับบิดามารดาเพิ่มเติม


คล้อยหลังครอบครัวพยัคฆ์เกรียงไกรทั้งสามคนไป เรียวจันทร์ก็หยุดสะอื้นฉับพลันราวกับมีคนกดปุ่ม STOP ยกสองมือปาดน้ำตาทิ้งเร็วๆ ชะโงกหน้าไปมองตรงประตูกระจกที่ทั้งสามเพิ่งเดินออกไปเมื่อกี้นี้ด้วยท่าทีระมัดระวัง พอเห็นว่าทั้งสามหายลับไปแล้ว นางก็ผ่อนลมหายใจยาวๆ ขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้า แววตาที่เคยเศร้าหมองเปลี่ยนเป็นเปล่งประกายวิบวับ รอยยิ้มที่เคยอ่อนหวานนอบน้อมถ่อมตนเปลี่ยนเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์ ใบหน้าอันหมองหม่นเปลี่ยนเป็นสดใสเริงร่าตามปกติ ท่าทีหงอยเหงาเหมือนเหงาหอยเศร้าสร้อยเมื่อกี้กระเด็นหายวับไปกับตา


อื้ม… ถือว่าแอคติ้งใช้ได้ เปิดกล้องภายนตร์เมื่อไหร่ เทคเดียวคงผ่านฉลุย หุๆ






:hao7:


นางร้ายนะคะหัวหน้าาา นางแอคติ้งค่าาา 55555 ถือว่าเป็นการซ้อมแอคติ้งก่อนเปิดกล้องหนัง คริๆ ใช้ได้ๆ

พี่เขี้ยวบอก กูโดนเต็มๆ เสียหายเต็มๆ แต่ไม่มีคนเข้าข้างกูเลยยย โธ่ พี่เขี้ยว มาหาหนูมา รักพี่นะ

น่าจะพอเห็นลางๆ เนอะว่าเรื่องนี้ไม่มีดราม่าครอบครัวรับไม่ได้ ไม่ใช่พ้อยท์หลักค่ะ พ้อยท์หลักคือความจี๊ดของแม่เรียวจันทร์กับความซึนและความน่ารักของพี่เขี้ยว เราเลิฟพี่เขี้ยวมั่กจริงง แอร๊ยยย > <

คำว่า Deviltress ตอมผสมคำเองนะคะ มาจาก Devil+actress ค่ะ เจอคำไหนผิดๆ แปลกๆ บอกได้เน้อออ แล้วมีใครคิดถึงเสี่ยทัพมั้ยย ฮิ้ววว เดี๋ยวเสี่ยจิมาแล้นนน

 :hao6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2017 21:28:18 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
5555. อึ้งไปเลยดิอีพี่เขี้ยว อิอิ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
เรียวจันทร์สุดยอดอ่ะ  o13 นับถือ เกือบน้ำตาไหลกับบทบาทของหนูเรียวแน่ะ  :m20: พี่คมเขี้ยวหวงตัวจังเลยน่ะ  :hao3: รอดูบทบาทต่อไปของหนูเรียวน่ะจ้ะ  :mew4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dekzappp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ท่าเรียวจันทร์จะแหลเก่งขนาดนี้ พี่เขี้ยวเราจะตามทันมั๊ยน้ อออ

ออฟไลน์ padloms

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แอคติ้งขนาดนี้ไอ้หงายไม่รอดแน่ ผิด ๆ พี่เขี้ยวไม่น่ารอด  :z1:

ออฟไลน์ aimjjj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ดูท่าแล้วไม่นานพี่เขี้ยวจะเสร็จหนูจันทร์ซะแล้ววว :hao6: :hao6: :z1:
 ตามคุณน้องเค้าทันมั๊ยคุณพี่  :hao3: :m20: :laugh:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
คาถาที่ 6 :: [100%]





“เมื่อไหร่จะกลับเนี่ยคุณ” ร่างสูงถามหน้านิ่วคิ้วขมวด พลางมองคนหน้าหวานนั่งกินข้าวด้วยท่าทีเฉื่อยชา สีหน้ายังคงแย่ๆ นอยด์ๆ อยู่ เห็นแบบนั้นเขาก็เลยถอนหายใจเบาๆ นิดหนึ่ง


“แหม… เอ่ยปากไล่มาสามหนติดกันแล้วเนี่ย ฉันไม่กล้าลวนลามนายอีกแล้วละ ไม่อยากโดนต่อยหน้าปูด” เรียวจันทร์ว่าหน้าบูดน้อยๆ พลางตักข้าวผัดไข่ที่ไอ้เคราโหดเป็นคนทำให้กินตามคำสั่งของคุณป๋ากับคุณแม่


คมเขี้ยวมองอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจสักเท่าไหร่กับท่าทีของไอ้หน้าหวาน คนถูกมองหันมองตอบแล้วบิดปากเล็กน้อยก่อนหันไปทานข้าวต่อ คมเขี้ยวขมวดคิ้วนิดหนึ่งแล้วก็นึกอยากถามกับสิ่งที่อีกฝ่ายโพล่งไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็คิดอีกทีว่าไม่เอาดีกว่า ไม่อยากรื้อฟื้นโมเม้นต์นั้น


“รีบกินได้ป้ะ ผมมีงานต้องทำ นี่ก็จะเย็นแล้ว ขับรถกลับกรุงเทพฯ ดึกๆ มันอันตรายนะคุณ” เรียวจันทร์อมยิ้มนิดหนึ่ง ดวงตาฉายประกายวิบวับแพลมๆ


“เป็นห่วงฉันล่ะซี้!” คมเขี้ยวอ้าปากหวอเล็กน้อย ก่อนมองไอ้หน้าสวยที่ยิ้มเก๋อย่างทึ่งๆ


“ไม่ได้ห่วง อยากให้กลับไปซักที ขี้เกียจนั่งเฝ้า จะไปทำงาน”


“นายก็พาฉันไปทำด้วยสิ ยังไงฉันก็ต้องมาทำงานกับนายอยู่แล้วอะ” คมเขี้ยวจิ๊ปาก รู้สึกรำคาญกับความพยายามอันล้นเหลือของไอ้เรียวจันทร์


“บอกว่าไม่ต้องไง อยากจะมาเที่ยวก็มาได้ตลอด แต่ไม่ต้องมาอยู่ที่ฟาร์ม ไม่ต้อนรับ” ตอนแรกเรียวจันทร์ทำท่าจะเถียงคอเป็นเอ็น แต่นึกขึ้นได้ว่าตัวเองเพิ่งพ้นซีนดาวพระศุกร์มาจะมาเปลี่ยนเป็นอรอินทร์ ณ เมียหลวงไม่ได้ นางเลยปรับหน้าให้หมองลงอีกนิด เอาที่คิดว่าอยู่ในระดับพอเหมาะ ไม่ถึงขั้นหมดอาลัยตายอยาก เพราะเขาคิดว่าซีนนี้ไม่ต้องเศร้าใหญ่มาก เศร้ากลางๆ ก็พอ


“นายคงรังเกียจฉันมากเนอะ ขอโทษจริงๆ นะ” ว่าจบก็ก้มหน้า ใช้ช้อนเขี่ยข้าวไปมาแบบหงอยๆ คนหน้าเคราเห็นแบบนั้นก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะบ่อน้ำตาแตกขึ้นมา แล้วเรื่องนี้ต้องถึงหูป๋ากับแม่เขา แล้วพอสองคนนั้นรู้เรื่อง เขาก็จะรับกรรมอีกรอบเต็มๆ


“เฮ้อ… ไม่ได้รังเกียจ เลิกทำท่าเหมือนจะสิ้นใจเหอะ” เรียวจันทร์เม้มปากเบาๆ ช้อนสายตาน้ำตาคลอมองคมเขี้ยวอย่างเศร้าๆ แต่ก็กั๊กน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา จะได้ดูตาช้ำๆ ฉ่ำๆ หน่อย แถมมีการยกมือขึ้นมาลูบหน้าผากตัวเองตรงที่มันปูดออกมาให้ไอ้เคราเขี้ยวมันได้เห็นการกระทำอันป่าเถื่อนของตัวเอง ซึ่งก็ได้ผลดีเชียวแหละ เพราะคมเขี้ยวชะงักไปนิดและมีสีหน้าสลดลงนิดหนึ่ง


“อิ่มยัง เอาอีกมั้ย” เรียวจันทร์กะพริบตาถี่ๆ ไล่น้ำตาแล้วส่ายหัวเป็นการปฏิเสธน้อยๆ


ใครจะไปกินอีก รสชาติย่ำแย่ขัดกับหน้าตาแกมากไอ้เขี้ยวกุด ทำอาหารไม่เป็นก็ไม่บอก


“นี่ ฉันอยากมาทำงานที่นี่จริงๆ นะ ทั้งอยากมาทำงานและอยากมาอยู่ใกล้ๆ นายอย่างที่บอกนั่นแหละ” เรียวจันทร์แสร้งว่าซื่อๆ ใสๆ เลยทำให้คมเขี้ยวเงิบไปนิดแต่ก็ไม่ได้เงิบหงายหลังอะไรปานนั้น เขาทำหน้าแหยงนิดหน่อย ก็ไม่ได้รังเกียจอย่างปากว่านั่นแหละ ใช่ว่าไม่เคยมีผู้ชายมาชอบ แต่โดนจู่โจมโต้งๆ แบบนี้อะเพิ่งเคย ไอ้ที่เคยโดน มันก็เนียนๆ มาแบบเพื่อน กว่าจะรู้ตัวก็เกือบเสียวไปเหมือนกัน จะว่าไปการที่ไอ้จันทร์ไรบอกก่อนแบบนี้ก็ดี เขาจะได้เพิ่มมาตรการป้องกันตัวเองจากไอ้นี่ได้หลายขั้นหน่อย


“ไม่จำเป็น ชอบกันไม่ต้องอยู่ใกล้กันก็ได้”


“ได้ไง ชอบกันควรอยู่ใกล้กันสิ เราจะได้ทำความรู้จักกัน ถ้าฉันยังไปๆ มาๆ แบบนี้ ก็ไม่ได้สร้างสัมพันธ์ระหว่างเราอย่างต่อเนื่อง ขาดตอนแบบนั้นมันจะไปดีอะไรล่ะ” เรียวจันทร์ว่าหน้างอ เอาช้อนจิ้มๆๆๆ ข้าวจนเละไปหมด


“ดีดิ ผมไม่อยากให้สัมพันธ์ระหว่างเราต่อติด”


“นั่นแหน่ะ! กลัวจะอ่อนไหวใจอ่อนให้กับฉันสินะ ถึงได้พยายามสร้างปราการป้องกันตัวเองใหญ่เลย” เรียวจันทร์ (แกล้ง) ว่าอย่างเขินอาย เม้มปาก กัดปาก บิดตัวตามองศาที่ตัวเองกำหนด ช้อนสายตามองหน้าเหม็นเบื่อของไอ้เขี้ยวที่ทำเอานางอยากเขวี้ยงช้อนใส่หัวให้แตกไปเลย


หยิ่งนักนะ! แม่จะจับทำผัวให้ได้เลยคอยดู!


“โอ๊ย ขนลุก!”


“ปวดขี้เหรอ”


“เออ ปวดขี้ เห็นหน้าแล้วนึกถึงชักโครก” หน็อย! อยากจะด่าให้หูดับ แต่ติดที่ว่าตอนนี้ยังสลัดภาพลักษณ์อ่อนแอออกไปไม่ได้ คนที่เพิ่งเจอเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจที่ไหนจะมาแว้ดๆ ใส่คนอื่นได้ฉอดๆ ที่ทำได้คือต้องยิ้มแกนๆ ทำว่าเสียเซลฟ์หน่อยๆ กับคำเปรียบเปรยนั้น เพราะดูท่าแล้วไอ้เขี้ยวกุดมันก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำจนเกินไป เพราะพอนางทำท่าทางสลดหงอยเหงามันจะรู้สึกผิดขึ้นมาอยู่บ้าง อย่างครั้งนี้ก็เช่นกัน


“เออ ขอโทษ” คมเขี้ยวว่าอย่างเสียมิได้และพ่นลมหายใจหน่ายๆ


“ไม่เป็นไรหรอก โอ๊ย…” เรียวจันทร์ยกมือซ้ายขึ้นมาจับตรงหัวโนของตัวเอง สีหน้าเจ็บปวดจี๊ดๆ คมเขี้ยวเห็นแบบนั้นก็แอบตกใจ เด้งตัวตรงมองอย่างเลิ่กลั่ก


“เจ็บเหรอ” เรียวจันทร์พยักหน้าน้อยๆ เลื่อนจานข้าวออกห่างจากตัว หลับตาลงคล้ายว่าทรมาน ใช้นิ้วซ้ายนวดขมับเบาๆ คนที่ทำร้ายนาวไว้ก็เริ่มจะนั่งไม่ติด เริ่มกังวลว่าจะเป็นอะไรร้ายแรงกว่าเดิมหรือเปล่า


“ไปหาหมอมั้ยคุณ” คมเขี้ยวถามด้วยความเป็นห่วงอย่างลืมตัว แล้วก็กลัวด้วยว่าที่ตัวเองทำไปจะส่งผลรุนแรงอะไรกับสมองของอีกฝ่ายมากขนาดไหน


คนถูกถามลอบอมยิ้มขำน้อยๆ กับท่าทางห่วงใยจากอีกฝ่ายที่เผลอออกมาจากใจจริง ก่อนจะรีบเก๊กหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างเจ็บปวดแล้วส่ายหัวเบาๆ ตอบเสียงแผ่วตามที่กำหนดโทนเสียงมาแล้วว่าต้องพูดในระดับนี้เท่านั้น “แค่ปวดตุบๆ จี๊ดๆ น่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก เดี๋ยวกลับบ้านไปนอนพักก็คงดีขึ้น”


“เอ่อ… งั้นเหรอ… ขับรถกลับบ้านไหวใช่มั้ย” คมเขี้ยวถามเสียงห้วนหน้าตาและท่าทีอึกอักยึกยัก น้ำเสียงเมื่อกี้ที่ใช้ไม่ได้กะให้มันห้วนหยาบคาย ก็แค่ถามสั้นห้วนไปหน่อยเท่านั้นเอง


เรียวจันทร์พยักหน้าหงึกหงักเบาๆ แล้วเงยหน้าเพลียๆ ของตัวเองขึ้นตอบ “ไหวสิ แค่นี้เอง”


คมเขี้ยวย่นคิ้วเม้มปาก มองเรียวจันทร์ด้วยสายตาคิดหนัก กลัวว่าไอ้หน้าหวานมันจะปวดหัวจนน็อคกลางทางแล้วเกิดอุบัติเหตุเอาได้ เขาเลยตัดสินใจถามเสียงกระด้างอย่างไว้ท่าที


“ไปส่งมั้ยอะ”


“ไม่ต้องหรอก แขนขาฉันยังใช้ได้น่า” เรียวจันทร์ว่าเสียงอ่อนเพลียพลางลุกขึ้นยืนช้าๆ คมเขี้ยวรีบเด้งตัวขึ้นตามอย่างเร็ว แต่ไม่ได้เพราะเป็นห่วงหรอกนะ ยอมรับเลยว่ามันเป็นอาการสะดุ้งตกใจที่เห็นอีกฝ่ายเคลื่อนไหว


เรียวจันทร์แอบเบ้ปากนิดหนึ่งก่อนจะรีบทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม เดินเลี่ยงออกจากโต๊ะอาหารจะกลับไปห้องรับแขกของบ้านเพื่อไปเอากระเป๋าแล้วจะได้กลับ นางเดินไปอย่างเชื่องช้าในจังหวะที่คำนวณมาอย่างดีว่าควรก้าวเท่านี้ ก้าวแบบนี้เพื่อให้ดูอ่อนล้าไม่ค่อยมีแรง ร่างสูงหน้าเคราดกดำเดินตามมาหน้านิ่วคิ้วขมวด สายตามองร่างโปร่งบางด้วยหลายอารมณ์ที่ปนกัน พอมาถึงห้องรับแขก เรียวจันทร์ก็หยิบกระเป๋าขึ้นคล้องไหล่ขวา หมุนตัวไปมองคมเขี้ยวที่ยืนอยู่ด้านหลัง ส่งยิ้มบางให้อีกฝ่าย


“ขอบคุณมากนะที่ให้พักต่ออีกนิดนึงน่ะ แต่คงไม่รบกวนแล้วล่ะ”


“อือ!” คมเขี้ยวพยักหน้าขึ้นหนึ่งทีแล้วเดินผ่านร่างบางไปที่ประตูบ้านที่เป็นกระจกบานเลื่อนเพื่อเปิดประตูให้ เรียวจันทร์เดินตามไปช้าๆ จับจ้องมองคมเขี้ยวไว้ไม่วางตา พอจังหวะที่อีกฝ่ายหันมา นางก็ยกขาขวาขัดหลังขาซ้ายตัวเองจนเดินสะดุดขาตัวเอง ทำให้พุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของไอ้เคราแพะ หน้าผากมนชนกับริมฝีปากแดงอ่อนของคมเขี้ยวเต็มๆ เรียวจันทร์แกล้งทำนิ่งตัวแข็งทื่อ แต่คมเขี้ยวน่ะเบิกตากว้างตัวแข็งทื่อของจริง


“เอ่อ…” เรียวจันทร์ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายที่หน้าแดงหน่อยๆ แสร้งทำสีหน้าลำบากใจอย่างแนบเนียน


“…อันนี้ฉันไม่ได้จูบนายนะ” คมเขี้ยวกัดฟันแน่น รู้สึกไส้บิดเป็นเกลียว แก้มสองข้างร้อนผ่าวเบาๆ เขายกสองมือขึ้นมาจับไหล่ไอ้หน้าหวานแล้วดันร่างมันออกให้ห่างจากตัว


“เดินหัวทิ่มไปก็ได้ ไม่ว่าหรอก” หน้าสวยๆ คลี่ยิ้มแหย ยกมือลูบตรงหัวปูดๆ ของตัวเอง คมเขี้ยวจิ๊ปากอีกรอบเมื่อรู้สึกโดนต่อว่าโดยไร้เสียง


มีหลักฐานแล้วใช้ข่มใหญ่เลยนะไอ้จันทร์ไร!


“ไปๆ เชิญกลับครับคุณเรียวจันทร์” เจ้าของชื่อยิ้มหวานแล้วเดินผ่านร่างสูงใหญ่ไปโดยมีเจ้าของบ้านเดินตามออกไปส่งตรงประตูบ้านใหญ่อีกที โดยที่พ่อเคราไม่ได้เห็นหรอกว่าแม่นางเรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปากแรงขนาดไหนที่แผนอ่อยเหยื่อขั้นต้นเป็นไปได้ด้วยดี!




 
“อือ… อือ… เก่งมาก… เยี่ยมเลย…อือ…”


“เก่งนี่คือ… ฮ่ะ… เก่งเรื่องไหนล่ะเสี่ย… อ๊ะ…”


“ทั้งสองเรื่องเลยคนสวย…อืม… อย่าเพิ่งหยุดนะ จะเสร็จแล้ว…” จอมทัพกัดฟันแน่นพลางมองใบหน้าสวยหวานของเรียวจันทร์ที่แหงนเชิดขึ้นอยู่ตรงหน้า ด้านล่างของทั้งสองคนบดเบียดกันไปมาด้วยแรงขับเคลื่อนของคนร่างบางที่นั่งอยู่ด้านบนของคนตัวใหญ่ แม้วันนี้หน้าสวยๆ จะมีรอยปูดตรงแถวๆ ขมับมาด้วย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยนั้นลดลงเลย แถมวันนี้เรียวจันทร์ยังเอาข่าวดีมาบอกเขาอีกว่ากำลังจะได้เข้าไปอยู่ในฟาร์มอรุณพยัคฆ์แล้ว แต่ก็ยังไม่ทันได้คุยรายละเอียดกันจริงจังนักหรอก เขาก็ชวนอีกฝ่ายขึ้นเตียงซะก่อน ก็ห่างไปหลายวันแล้ว ถึงระหว่างนั้นจะมีเด็กมาให้กินเยอะแยะทั้งหญิงและชาย (ผู้ชายเยอะกว่า) แต่ก็ไม่โดนใจเขาเท่าเรียวจันทร์คนนี้


“อ๊ะ… อ๊ะ…”


“สุดยอด… โอย… ซี๊ดดด…” เสี่ยทัพหน้าเหยเกเมื่อความเสียวเริ่มตีตื้น เขาเลื่อนสองมือไปจับเอวบางของคนตัวเล็กเอาไว้แน่น ก่อนจะเด้งสะโพกเข้าหาอีกฝ่ายด้วยตนเองเพื่อเร่งเร้าการปลดปล่อยออกมา กระแทกอีกไม่ถึงนาทีก็ถึงจุดปลดปล่อย จอมทัพคำรามเสียงดังลั่นห้อง คลอไปกับเสียงกรีดร้องหวานๆ ของเรียวจันทร์เมื่อตอนที่แตกละเอียดในเวลาไล่เลี่ยกับเสี่ย


เสียงหอบหายใจของทั้งสองคนดังคละเคล้ากันอยู่พักหนึ่งก่อนที่เรียวจันทร์จะยกตัวเองออกจากกลางลำตัวของจอมทัพแล้วลงไปนอนหมดแรงข้างๆ คนตัวโต จอมทัพดึงเครื่องป้องกันออกจากแก่นกาย มัดปากถุงแล้วโยนทิ้งลงถังขยะอย่างแม่นยำ เขาหันกลับมาหาร่างบางที่นอนบิดขาปิดส่วนกลางเอาไว้แล้วหันหน้ามามองเขาด้วยสายตาฉ่ำเยิ้ม


“วันนี้หนี้ลดลงอีกบ้างมั้ยเสี่ย” คนถูกถามยิ้มกว้าง ก้มลงจูบหน้าผากของคนสวย


“วันนี้เสี่ยลดให้แสนนึงแล้วกันนะ” เรียวจันทร์แสร้งทำหน้าบู้ แต่ที่จริงก็รู้อยู่แล้วละว่าคงลดไม่เยอะหรอก ครั้งที่แล้วตาเสี่ยนี่ก็ลดให้ไปแล้วสองแสน เกิดลดลงรวดเดียวหมอนี่ก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากนางอีกไม่ได้น่ะสิ


“เออ วันนี้แม่คุณมาเล่นที่บ่อนผมอีกแล้วนะ แต่วันนี้ได้มากกว่าเสีย” เรียวจันทร์กลอกตาเซ็งพร้อมเบ้ปาก


“ช่างเขาเถอะ ฉันบอกไปแล้วว่าถ้าสร้างหนี้เพิ่มหลังจากนี้ ให้ใช้เองทั้งหมด ตอนนี้ฉันกำลังทยอยใช้หนี้เก่าๆ ของเขาที่จดเอาไว้อยู่ หลังจากนี้ถ้ามีเพิ่ม ทางใครทางมัน” อันนี้นางพูดจริง นางยื่นคำขาดกับมารดาตัวเองไปแล้วว่าถ้ามีหนี้เพิ่มไม่ว่าหนี้จากทางไหน จากใคร มาได้อย่างไร ต่อไปนี้คุณนายโรสต้องรับผิดชอบตัวเอง และถ้าจะมองว่านางเป็นคนอกตัญญูอะไรก็ตามใจ เพราะนางถือว่าทำดีที่สุดแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าคุณนายแม่แกวี้ดบ้านแทบแตก แต่นางก็หันหน้าหนีลูกเดียว


“แหม คนสวยโหดจัง” จอมทัพเอ่ยแซวยิ้มๆ ขยับตัวไปนอนใกล้ๆ ร่างเนื้อเนียน เรียวจันทร์กระเถิบศีรษะขึ้นไปนอนบนแผงอกล่ำของเสี่ยรูปหล่อ ใช้เรียวขาก่ายทับความเป็นชายของอีกฝ่ายเอาไว้


“นี่ ถามหน่อยสิ ถ้าได้ที่ดินตรงนั้นไป จะเอาไปทำอะไรเหรอ” เห็นว่าอยากได้นักหนาถึงขั้นต้องคิดแผนการส่งคนเข้าไปใกล้ชิดกับคนพวกนั้น มันต้องเป็นโปรเจ็คต์ที่ไม่ธรรมดา


“ก็คิดไว้หลายอย่างเหมือนกัน รอให้ได้ที่ดินตรงนั้นมาก่อน ซึ่งจะได้หรือไม่ ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะ” จอมทัพใช้นิ้วเกลี่ยไปตามไหล่เนียนอย่างเพลินมือ


“แหม อย่างกับว่าตอนนี้ฉันลงเรือลำเดียวกับคุณไปแล้วงั้นแหละ” เรียวจันทร์ว่าพลางใช้มือขวาลูบแผงอกแน่นๆ


“จะว่างั้นก็ได้นะ แต่ถ้าคุณทำได้ก็ปลดหนี้ที่มีหมดเกลี้ยง” เรียวจันทร์ย่นคิ้วแล้วแหงนหน้าไปสบตากับจอมทัพ


“แล้วถ้าเกิดฉันล้มเลิกกลางทาง ปล่อยหนี้ให้แม่ใช้เองล่ะ” จอมทัพเลิกคิ้วขึ้นสูงแล้วทำท่าครุ่นคิด


“มันก็แล้วแต่คุณ แต่คือผมต้องได้เงินคืน แล้วก็… ผมคงเสียดายแย่” เสี่ยทัพไหวไหล่ซ้ายน้อยๆ พร้อมยิ้มมุมปากหล่ออย่างแบดบอย เรียวจันทร์เบ้ปากทันที


“เสียดายอะไรเหรอเสี่ย?!” คนโดนถามหัวเราะเสียงทุ้มน่าฟัง เอื้อมมือซ้ายไปตบก้นงอนๆ ของคนสวยแรงๆ หนึ่งทีพร้อมกับทำหน้ามันเขี้ยว


“รู้แล้วยังจะถามนะ” เรียวจันทร์ยิ้มมุมปาก เลื่อนสายตามองตรงไปข้างหน้าอย่างครุ่นคิด นางเองก็ไม่ใช่ไม่คิดแบบที่พูด บางทียังนึกสงสัยว่าทำไมต้องยอมทำอะไรขนาดนี้ให้กับแม่หนึ่งคนที่ไม่เคยสนใจใยดีนางเลย แค่ทำหน้าที่อุ้มท้องนางเก้าเดือนแล้วพอคลอดปุ๊บก็หายไป แต่พอตัวเองตกอับก็กลับมาขอความช่วยเหลือ แถมยังขอแบบบังคับกันอีก


“คุณคิดจะล้มเลิกจริงๆ เหรอ” จอมทัพถามเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเรียวจันทร์แปลกไป


“ไม่รู้สิ ข้อเสนอที่คุณจะปลดหนี้ให้ทั้งของคุณและที่อื่นๆ ก็น่าสนใจ แถมยังได้นอนกับเสี่ยสุดหล่ออีก” นางว่าอย่างติดตลกและยิ้มขำหน่อยๆ จอมทัพหัวเราะอารมณ์ดีเบาๆ


“งั้นก็อย่ายอมแพ้นะครับเมีย” คนถูกสถาปนาให้เป็นเมียถึงกับย่นจมูกทันทีที่ได้ยิน ถึงนางจะพึงพอใจจอมทัพอยู่มาก แต่ก็ไม่คิดจะเป็นเมียของผู้ชายคนนี้อย่างที่คิดในตอนแรกจริงๆ


“ไม่เอาหรอก เป็นเมียเสี่ยทัพได้ช้ำใจตาย” แต่ถ้าเป็นเมียนายคมเขี้ยว ท่าทางจะดีนะ อ๊ะ… คิดจริงจังอะไรขนาดนั้นน่ะ


“โถ่ เอาอีกละ ไม่ให้โอกาส แถมยังใส่ร้ายผมตามเคย” จอมทัพส่ายหัวอ่อนใจ ไอ้ที่ว่าเขาเจ้าชู้เขาก็ไม่เถียงหรอก แต่เขายังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตนสักหน่อย โลกของเขา ถ้าคิดจะมีตัวจริงน่ะยาก เพราะคนๆ นั้นจะใช้ชีวิตลำบากทันที ผลประโยชน์แลกผลประโยชน์ อำนาจสู้กับอำนาจ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ขาวและไม่ดำ ไม่สว่างจ้าและไม่มืดสนิท แต่ที่เขาอยากได้เรียวจันทร์ก็เพราะดูแล้วคนๆ นี้จะยืนหยัดเคียงข้างเขาได้ดี


“เอาน่า หล่อๆ แซ่บๆ อย่างคุณมีมาให้เลือกอีกเพียบ ถ้ามีตัวจริงเมื่อไหร่อย่าลืมบอกนะ ฉันจะได้เลิกมาทำอะไรแบบนี้” ถ้าตาเสี่ยนี่มีตัวจริงแล้ว แต่ยังมาจ้ำจี้กับนางแบบนี้ นางไม่โอเคแน่นอน ถึงจะแรดแต่ไม่ขอแรดกับผัวคนอื่น


“เฮ้อ… อย่างนี้แสดงว่าถ้าคุณมีตัวจริงเมื่อไหร่ก็จะเลิกมาหาผมใช่มั้ย” บอกตรงๆ ว่าเขาเองไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เขารู้สึกดีกับเรียวจันทร์มากโข อาจดูว่าเขาเล่นๆ หมาหยอกไก่ แค่เอาชั่วครั้งชั่วคราว แต่ลึกๆ ก็อย่างที่บอกกับเจ้าตัวไปว่าอยากให้มาอยู่ข้างกัน


“ฉันยังไม่มีเร็วๆ นี้หรอก ไม่ต้องห่วง” แล้วใบหน้าของคมเขี้ยวก็ลอยเข้ามาในห้วงความคิด นึกถึงแก้มแดงระเรื่ออย่างกับคนไม่เคยเขินของหมอนั่นแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ นางเชื่อว่าไอ้เขี้ยวกุดมันไม่ได้ใสซื่อเรื่องแบบนี้หรอก แต่คงไม่เคยมีใครกระโจนเข้าใส่เข้าหาแบบนางมากกว่า


ถึงจะเสแสร้งแกล้งทำกับกิริยาต่างๆ แต่ก็ยอมรับว่าไอ้เครามันก็น่ารักดีนะ






 :mew1:

หายไปนาน กลับมาแล้วกับเรื่องนี้ จะบอกว่ายังไงก็ไม่ดอง ไมีหนีตายจากแน่นอนนะค้าาา วางคิวเขาไว้แล้นนน พี่เขี้ยวนังเรียวจันทร์มาแน่ๆ แต่ขอเคลียร์อีกเรื่องให้เรียบร้ยอสนิทจริง แล้วจะมาลุยอันนี้เต็มพลังงงละะ

พี่เขี้ยวผู้ใสซื่อกำลังจะโดนงาบในไม่ช้านี้แน่ๆ เห้อออ -.,- สงสารจุง คริๆ แม่เรียวนางมุ่งมั่งแล้วว่าจะจับทำผัวให้ได้ 55555 นางมาแน่ แต่ก่อนมาขอไปกกเสี่ยทัพก่อน คริๆ

แจเร็ดหายไปลเยนะนังเรียว TT__TT โธ่ พ่อหนุ่มอิจาลีของชั้น โดนฟันแล้วทิ้ง กระซิกๆ

เรื่องนี้ก้สนุกสนาน โรแมนติกคอเมดี้ค่ะ อ่านละหวังว่าจะยิ้มกันได้เน้อ อ้อ นิยายวายเรื่องนี้เหมาะแก่สาววายเลเวลสูงจริงๆ นะ เพราะนายเอกสาวสุดดพลังงง แต่เรารักนางในแบบนี้จริงๆ อุอิๆ

เจอคำผิด เจอคำแปลกๆ แจ้งกันได้เช่นเคยนะคะ เผื่อเบลอแล้วพลาดบางจุดไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2017 21:29:56 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ mochimanja2

  • มึน
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เสี่ยยังแซ่บเหมือนเดิม รอตอนต่อไปน๊า แล้วก็อย่าหายไปนานเค้าคิดถึง  :-[

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:  นางสตรองจริงๆ เรียวจันทร์ อิอิ

ออฟไลน์ milkshake✰

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
พอเรียกว่าพี่เขี้ยวกุดก็น่ารักมุ้งมิ้งขึ้นมาทันทีเลย 5555555

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :z1: แรดส่งท้ายเลยใช่ไหมจ้ะน้องเรียวจันทร์ เราก้อชอบนายเอกแซ่บ ๆ แบบนี้น่ะ แรดแต่จริงใจเนี่ยถูกใจมากกกกกกกกกกกก  :katai3: พี่คมเขี้ยวดูห้าวเถื่อนแต่ไร้เดียงสาเชียว โดนจูบแค่นี้แก้มแดงเลยอ่ะ  :mew4:

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เสี่ยจะทำอะไรก็รีบทำนะคะ อีกเดี๋ยวน้องนางขอเสี่ยก็จะมีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้ว ถถถถถถถถถ

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
นี่หล่อนแรดมากกกกกกกก นังเรียวชั้นชอบบบบ :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด