*~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:  (อ่าน 278845 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ตอนนี้พี่เขี้ยวก็คงยังไม่ได้ชอบเรียวนะ
แต่เราว่า พี่เขี้ยวเริ่มสนใจเรียวบ้างแล้วล่ะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
คาถาที่ 11 :: Angry Devil. [นางมารพิโรธ] (50%)



   เรียวจันทร์นั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ในโรงนาอีกหลังที่อยู่กลางฟาร์ม ปล่อยให้ช่างหน้าช่างผมจัดการตัวเอง ทีมงานหลายสิบคนกำลังยกอุปกรณ์ประกอบฉากไปวางในร้านคาเฟ่ของฟาร์มที่ถูกเลือกเป็นจุดถ่ายทำของรายการ ระหว่างนั้นแขกรับเชิญชายหน้าหวานก็นั่งพึมพำอ่านสคริปการถ่ายทำไปด้วย
   

“แก มีสายรายงานมาว่า ไอ้ยอร์ชจะมาหาแกที่นี่” เรียวจันทร์เงยหน้าขึ้นมองเป็ดที่ใส่แว่นดำอันเบ้อเริ่ม คุณนายแกขมวดคิ้วงง
   

“ฉันขมวดคิ้วด้วยกันสองประเด็น ประเด็นแรก แกจะใส่แว่นทำไม ในนี้ไม่มีแดด…” เป็ดทำหน้านึกขึ้นได้ ก่อนที่จะถอดแว่นดำออกแล้วเอาเหน็บไว้ตรงปกเสื้อ
   

“…สอง ไอ้ตี๋หน้าฮีนั่นมันจะมาหาฉันทำไม”
   

“คำตอบของฉันคือ ไม่รู้ค่ะ แต่มันจะมา” คุณนายเรียวเบ้ปากพร้อมกลอกตาเบื่อหน่าย เป็ดยักไหล่สองข้างเบาๆ นายแบบหนุ่มพ่นลมหายใจแรงๆ แล้วยกมือปัดเป็นเชิงว่าช่างมันเถอะ
   

“ล้อมสายสิญจน์ไม่ทันแล้วละ ขอแค่อย่าเอานังฮีโบมาก็แล้วกัน” เรียวจันทร์ว่าแล้วหลับตาให้ช่างผมฉีดสเปรย์ลงบนหัว
   

“อ้าว ไหนว่ามันเลิกกันแล้วไง” ช่างทำผมหยุดฉีดสเปรย์ เรียวจันทร์ลืมตาขึ้นแล้วยิ้มเยาะมุมปากน้อยๆ ขอบตาที่ถูกเขียนสีเข้มทำให้รอยยิ้มเยาะนั้นดูดุขึ้นไปอีก
   

“แกอย่าลืมนะว่าอียอร์ชมันเป็นผู้ชายตอแหล”
   

“กว่าแกอีกเหรอวะ”
   

“โอ๊ย อีนี่!” เป็ดหัวเราะพร้อมร้องกรี๊ดๆ เมื่อเพื่อนหยิบสเปรย์ฉีดผมขึ้นมาฉีดไล่ วันนี้เป็ดหยุดงานเลยแวะมาหาเพื่อนสนิทที่ฟาร์มของคมเขี้ยว อีกเหตุผลคือหล่อนอยากมาพักผ่อน วันนี้เป็นวันที่ทางฟาร์มเปิดให้คนนอกเข้ามาเยี่ยมชม เลยมีผู้คนเดินยั้วเยี้ยอยู่ในฟาร์มมากมาย แต่ตรงบริเวณสถานที่ถ่ายทำถูกกันเอาไว้ไม่ให้เข้ามา
   

 “ถ้าคุณเรียวพร้อมแล้วให้ออกมาหน้าเซ็ทได้เลยนะ” เสียงใครสักคนดังออกมาจากวอล์ก็เป็นตอนที่เรียวจันทร์เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จพอดี คุณนายใส่เสื้อเชิ้ตขาวตัวบางหลวมกับเลกกิ้งรัดรูปสีดำที่ทำให้ขายาวผอมเพรียว แลร่างสูงระหงเข้าไปอีก ผมสีโค้กถูกจัดทรงแสกกลาง กระบังด้านหน้าทั้งสองข้างเด้งดึ๋งๆ ยามสะบัด ถ้าเป็นคนอื่นทำทรงนี้อาจตายคาที่ แต่คุณนายเรียวจันทร์ซะอย่าง นางรอดค่ะ!
   

“สวัสดีค่า” เรียวจันทร์เอ่ยเสียงใสพร้อมยกมือไหว้พิธีกรสาวของรายการ และหันไปไหว้ทีมงานที่อยู่หน้าเซ็ท ทุกคนตอบรับนายแบบหนุ่มด้วยรอยยิ้ม โปรดิวเซอร์รายการเดินเข้ามาหาทั้งสองคนเพื่อแจงว่าจะต้องทำอะไรบ้าง
   

“วันนี้จะเป็นการทำขนมเค้ก มีสี่รสชาติ น้องเรียวเคยทำเค้กบ้างมั้ย” โปรดิวเซอร์สาวห้าวเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม เรียวจันทร์ยิ้มแกนๆ แล้วส่ายหัว
   

“ไม่เคยเลยพี่ เรียวถนัดทำอาหารคาว อาหารหวานอาศัยกินตามร้านเอา”
   

“โอเค ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แม่พิธีกรนางบอกให้ทำอะไรก็ทำตามที่นางว่าได้เลย เดี๋ยวลองซักซ้อมก่อนสักรอบนะ จะได้คุ้นเคยกัน” เรียวจันทร์ยิ้มและพยักหน้ารับ ก่อนที่จะเริ่มทำความคุ้นเคยกับพิธีกรเพื่อจะได้ถ่ายทำรายการได้ราบรื่น พิธีกรคนนี้ปกติดี อีกฝ่ายยื่นไมตรีจิตมาให้และแลไม่มีพิษภัย ตัวคุณนายแกเลยอ่อนน้อมด้วย แต่ถ้ามีอะไรตุกติก นางรับรองเลยว่าพร้อมจะแผลงฤทธิ์ใส่ทันที
   

“อีเรียว ผัวเก่าแกมาละ” ในขณะที่เรียวจันทร์กำลังซักซ้อมจังหวะการถ่ายทำกับพิธีกรและผู้กำกับรายการอยู่ เป็ดก็เดินเข้ามากระซิบหน้าตาไม่รับบุญ นายแบบหนุ่มบึนปากนิดหน่อย พยักหน้ารับรู้เร็วๆ ก่อนจะหันไปสนใจงานที่ทำค้างอยู่ต่อ
   

“เดี๋ยวพี่จะบอกให้น้องเรียวอบขนมเค้ก ตีแป้ง แยกไข่ อะไรแบบนี้แหละค่ะ คิดว่าไม่ยากเนอะ…” เรียวจันทร์ยิ้มพยักหน้ารับกระตือรือร้น
   

“…บรรยากาศในรายการก็สนุกสนานค่ะ ความรู้สึกคือเหมือนหนูมาเยี่ยมพี่ที่บ้าน แล้วพี่ชวนเราเข้าครัวด้วยกัน”
   

“โอเคค่ะ ไม่ต้อง…”
   

“เรียว” เจ้าของชื่อหุบปากฉับ หันไปมองคนเรียกที่นางรู้ทันทีว่าคือใคร ใบหน้าสวยเซ็งจัด มองช่อดอกกุหลาบสีแดงสุดเห่ยในมือแฟนเก่าตัวเอง
   

“ถ้าคิดอะไรไม่ออก ซื้อชาแนลมาให้ฉันก็ได้นะ อันนั้นน่ะฉันไม่เล่นตัวไม่เอาแน่นอน แต่ขอ Black Caviar Jumbo Classic Flap Bag นะ” คนหน้าหวานเลิกคิ้วบางสวยขึ้น มองช่อกุหลาบที่จัดอย่างเชยๆ แล้วทำหน้ายี้
   

“จ้างพวกร้านดอกไม้วันรับปริญญาจัดให้รึเปล่า แพทเทิร์นห่วยมาก” โยธินถึงกับอ้าปากหวอเมื่อเจอเรียวจันทร์กระหน่ำใส่ทั้งที่เพิ่งพูดไปได้คำเดียว
   

“เอ่อ…”
   

“…สวัสดิการอยู่ด้านนอก ทำตัวตามสบายนะคะ…” คนสวยยิ้มหวาน ก่อนที่จะหุบยิ้มเร็วไว


“…แต่อย่าสบายมากไป” ว่าจบก็หันกลับไปสนใจคุณพี่พิธีกรที่ยืนมองเหตุการณ์งงๆ เรียวจันทร์ยิ้มสวย พูดต่อจากที่ค้างไว้โดยไม่สนใจไยดีบุรุษรูปร่างล่ำสันด้านหลังเลยสักนิด
   

“เค้กน่ากินมากเลยค่ะ” คุณนายแกว่าเสียงตื่นเต้นเมื่อทีมงานยกถาดเค้กสี่ถาดในแบบเสร็จสมบูรณ์มาไว้บนโต๊ะไม้ประกอบฉากสีน้ำตาลอ่อน ยอร์ชขมวดคิ้วหงุดหงิดนิดหน่อย มองแผ่นหลังเรียวจันทร์ด้วยความอดทน ก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกไปนั่งตรงโต๊ะสวัสดิการในโรงนา เขาโยนช่อดอกไม้ไว้บนโต๊ะเซ็งๆ สายตาเลื่อนไปเห็นเป็ดที่เดินเข้ามาหาเขาหน้านิ่ง
   

“แกรู้ตารางงานเรียวได้ยังไงเนี่ย” ยอร์ชยิ้มมุมปากพร้อมยักไหล่ขวา
   


“ฉันก็มีสายสืบเหมือนที่เธอมีนั่นแหละ”
   


“แกต้องการอะไรยอร์ช ไม่สิ ฉันต้องถามว่า จุดประสงค์ของแกที่กลับมาหานังเรียวคืออะไร” เป็ดหรี่ตา ปากบิดปากเบี้ยว สีหน้าจับผิด คิ้วขมวดมุ่น ยกขึ้นยกลง แถมมีการวางมาดด้วยการกอดอกให้ดูภูมิฐาน แต่รวมๆ แล้วดันตลก
   

“มันจะมีอะไรนอกจากฉันเพิ่งคิดได้ว่าฉันรักเรียวจริงๆ” ชายหนุ่มว่าหน้าบริสุทธิ์ใจพร้อมคลี่ยิ้ม แม้ไม่ได้คลุกคลีวงในกับผู้ชายคนนี้เท่ากับเพื่อนสาวของหล่อน แต่ศศิประภาก็พอจะรู้ว่าไอ้คนนี้ ปลิ้นปล้อนเก่งเป็นอันดับต้นๆ ของผู้ชายที่มีเชื้อสายแมงดาเลยละ
   

“ต๊าย หวานยิ่งกว่าน้ำตาลทรายก้นแก้วกาแฟ” ยอร์ชทำหน้าไม่ใส่ใจแล้วไหวไหล่น้อยๆ เป็ดเบ้ปากก่อนจะเดินออกไปจากโรงนา ยอร์ชมองตามแล้วเบะปากตามหลัง
   
   
   




“พักกองจ้า!” เสียงผู้กำกับตะโกนบอก เรียวจันทร์ยืดสองแขนขึ้นบิดขี้เกียจน้อยๆ แต่พองาม จะบิดลายใหญ่มากไม่ได้ เดี๋ยวจะเสียภาพพจน์สวยๆ หมด
   

“พาร์ทอาหารคาว น้องเรียวคงชิลแล้วละเนอะ” เรียวจันทร์หันไปยิ้มหัวเราะกับพิธีกรที่พูดยิ้มๆ
   

“คิดว่างั้นแหละค่ะ เรียวทำอาหารกินเองบ่อย เดี๋ยวตอนโชว์สูตรยำทะเล จะทำให้เต็มที่เลย” ทั้งสองคนหัวเราะกันเบาๆ ก่อนที่พิธีก่อนสาวจะขอตัวออกไปพัก
   

“น้ำครับเรียว” เรียวจันทร์เท้าเอวสองข้าง มองหน้ายอร์ชด้วยสายตาเบื่อหน่าย แต่ก็รับแก้วน้ำพลาสติกมาไว้ในมือ ดูดโอวัลตินเข้าปากสองสามอึก
   

“ว่างเหรอ ถึงได้มานั่งเอ้อระเหยอยู่ที่นี่” ยอร์ชเลิกคิ้วขึ้น ยิ้มมุมปากน้อยๆ
   

“กับเรียว ยอร์ชมีเวลาให้เสมอ” เรียวจันทร์ถอนหายใจ สีหน้าของนางทั้งอึดอัดและรำคาญ นางมองหน้าคนรักเก่าอย่างระอา
   

“ถามจริง เอาอะไรมามั่นใจเบอร์ใหญ่มากว่าฉันจะยอมคืนดีด้วย” นายแบบหนุ่มเอียงหน้าถามอย่างสงสัย พลางยกแก้วน้ำขึ้นดูดโอวัลตินอีกหลายอึก รู้อยู่นะว่ามันจะทำให้อ้วน แต่ดูดไว้เยอะๆ เผื่อของหวานจะช่วยให้ใจเย็น
   

“ไม่มีหรอก เรียวก็ให้โอกาสยอร์ชหน่อย มาเริ่มใหม่กัน”
   

“ไม่เริ่ม! ไม่เอาใหม่อะไรทั้งนั้น ฉันจบสิ้นกับนายไปนานแล้ว” เรียวจันทร์ว่าอย่างรำคาญ ใบหน้ามุ่ยไม่พึงใจ ยอร์ชระบายลมหายใจแต่ก็ไม่คิดยอมแพ้
   

ดูเหมือนของหวานจะช่วยให้คุณนายแกอารมณ์ดีไม่ได้
   

“เรียว ยอร์ชรักเรียวจริงๆ นะ” คนถูกบอกรักชักสีหน้านิดหนึ่ง แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เสียงแหลมปรี๊ดเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เล่นเอาคนทั้งกองสะดุ้งตกใจ
   

“ยอร์ช!!!” เจ้าของชื่อหันขวับไปมองแล้วก็เบิกตากว้างตกใจ หญิงสาวมองชายหนุ่มตาลุกวาว เรียวจันทร์ชะเง้อมองผ่านไหล่ยอร์ชก็เห็นนังฮีโบยืนหน้าตาถมึงทึงจ้องหน้าแฟนตัวเอง คุณนายเรียวยิ้มเยาะน้อยๆ มองเลยผ่านด้านหลังของโบกี้ไปก็เจอกับเป็ดที่ยืนยิ้มอุ๊บอิ๊บอยู่คนเดียว เรียวจันทร์หรี่ตามองเพื่อนแล้วก็นึกสงสัยว่านังดำตับเป็ดต้องทำอะไรมาแน่ๆ
   

“โบ?!” เหมือนชายหนุ่มเพิ่งจะได้สติจากการตกใจ เลยเพิ่งจะเอ่ยชื่อของแฟนสาวออกมา โบกี้เดินสับๆ เข้ามายืนข้างยอร์ช จ้องหน้าเรียวจันทร์อย่างอาฆาต คนโดนจ้องแสร้งทำหน้าบ้องแบ๊ว
   

“หนูเปล่าน้า เค้ามาเอ๊งงง หนูเปล่าชวนน้า เค้ามาเองงง~♫” เรียวจันทร์พึมพำเป็นเพลงเบาๆ แอบมีลูกเอื้อนเล็กน้อยด้วย โบกี้ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งตาลุกวาวกับความกวนประสาทของเรียวจันทร์ ทีมงานหลายคนเริ่มมองมาที่ทั้งสามคนเป็นตาเดียว
   

“นังตุ๊ดตอแหล! แกโทรล่อผัวฉันให้มาหาถึงที่!” โบกี้แผดเสียงใส่คนตรงข้าม จ้องมองหน้าสวยๆ ของเรียวจันทร์ด้วยความโกรธสุดขีด
   

“อะ ฮะๆๆๆๆ ฮ่าๆๆ…” คุณนายเรียวจันทร์อ้าปากหัวเราะเสียงดัง ก่อนที่จะหยุดหัวเราะฉับพลันแล้วถลึงตามองโบกี้อย่างแรง!
    

“…น้ำเน่า! แกคิดว่าคนหน้าตาอินเตอร์อย่างฉันจะทำอะไรเห่ยๆ เหมือนช่อดอกกุลาบที่ผัวแกหอบมาให้ฉันงั้นเหรอ…” หนุ่มนายแบบเบรกตัวเองกะทันหันพร้อมทำหน้าตกใจประหนึ่งว่าเผลอพูดความลับระดับชาติ


“…อุ๊บส์!” นางยกมือขวาปิดปากตัวเองอย่างกรีดกราย แต่แววตาที่มองศัตรูตลอดกาลนั้นเต็มไปด้วยความสะใจ โบกี้กัดฟันกรอด หันไปมองแฟนตัวเองตาขวาง
   

“เอาดอกไม้มาให้มันด้วยเหรอ?!” ชายหนุ่มร่างบึ้กอึกอัก หาต้นเสียงของตัวเองไม่เจอว่าจะพูดอะไร ยิ่งพอโดนแฟนสาวมองอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อก็ถึงกับทำหน้าไม่ถูก
   

“แต่แหม บางทีเธอก็ต้องทำใจนะโบกี้ วันเวลาผ่านไป ผู้ชายเขาก็คงคิดได้ว่าอะไรคือเพชร อะไรคือหินถนนลูกรัง…” เรียวจันทร์วางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะแล้วเดินเข้าไปยืนใกล้ยอร์ช ทำเอาหญิงสาวที่โกรธจนหัวแทบลุกเป็นไฟ ยิ่งโกรธกว่าเดิม
   

“…เขาก็คงคิดดีแล้วละว่าใครที่เหมาะสมกับเขากันแน่”
   

“เอ่อ พี่ว่า มีอะไร…” โปรดิวเซอร์สาวห้าวกำลังจะเข้ามาห้ามทัพ แต่โบกี้ไม่ได้สนใจเสียงนั้นเลยสักนิด หล่อนแผดเสียงดังลั่นกอง
   

“ผีเน่ากับโรงผุชัดๆ ตุ๊ดอย่างแก ไม่มีใครเขาจริงใจด้วยหรอก อีผิดเพศ!!”
   

“อ้าว!!” โบหันควับไปทางต้นเสียง ก็เจอเข้ากับกะเทยร่างยักษ์สองนางที่เป็นช่างหน้าช่างผม สองสาวเทียมยืนมองนังสาวแท้ด้วยสายตาหมั่นเต็มที่ แต่โบกี้ก็ไม่แคร์อีกเช่นเคย ช่างผมที่ถือหวีอยู่ยกหวีขึ้นชี้หน้านังชะนี โบกี้เบะปากอย่างไม่กลัว
   

“อ๋องั้นเหรอออ เขาจริงใจกับแกมากเลยเนอะ ให้ฉันเดานะ แกยังไม่เลิกกับเขา ไม่งั้นแกคงไม่ตามมากรี๊ดๆๆ ขอส่วนบุญถึงนี่หรอก” โบกี้สะบัดสายตากลับมามองเรียวจันทร์ที่ทำหน้าทำตาน่าหมั่นไส้
   

“จะเลิกได้ยังไง?! ฉันกับยอร์ชยังไม่เลิกกัน!” คุณนายเรียวทำหน้าตกอกตกใจทั้งที่จริงน่ะรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นอีหร็อบนี้
   

“อุ๊ยตาย รักกันยังไงอะ ถึงได้พูดสวนทางกันขนาดนี้” เรียวจันทร์ช้อนสายตามองหน้ายอร์ชที่ทำหน้าละเหี่ยใจและเหมือนอยากปลิดชีพตัวเองลงตรงนี้ซะ พอหันกลับไปมองโบกี้อีกที แม่นางนมโตก็จ้องแฟนตัวเองด้วยสายตาเสียใจและโกรธเคือง
   

“คงไม่ต้องถามแล้วเนอะ ว่าแฟนเธอพูดว่าอะไร แต่ว่า…” มือขาวบางทั้งสองข้างยกขึ้นวางบนไหล่หนาด้านซ้ายของยอร์ชอย่างมีลีลา


“…ฉันก็กลัวเธอจะเห็นภาพไม่ชัด…” เรียวจันทร์กระแอมเสียง วางมาดจริงจังขึ้นอีกนิด ในขณะที่โบกี้กำหมัดแน่น อกเริ่มกระเพื่อมหนักขึ้น


กิริยาท่าทางของหล่อนนี่มันนางร้ายแท้ๆ นังฮีโบ
   

“…ยอร์ชบอกว่า เลิกกับเธอแล้ว และเขาอยากกลับมาหาฉันน่ะจ้ะ ก็อย่างที่บอก เขาคงรู้แล้วละ ว่าเธอน่ะไม่ใช่เพชร แต่เป็นกรวด!”
   

“หือ!!” เพี๊ยะ!!!
   

“ว้ายยยย!” เสียงเป็ดตกใจลากเสียงยาว ทีมงานทุกคนส่งเสียงฮือ และทำท่าจะกรูกันเข้ามาห้าม


“อย่ามายุ่ง!” โบกี้แผดเสียงใส่ทีมงาน ทุกคนผงะอยู่กับที่


 ยอร์ชมีสีหน้าตกใจ กำลังจะเข้าไปดึงเรียวจันทร์ที่โดนตบจนล้มคว่ำไปกองบนโต๊ะ แต่ก็โดนแฟนสาวดึงออกห่างจากร่างนายแบบหนุ่มอย่างแรง
   

“ถ้าฉันกรวด แกก็ตัวตะกวด อะ… อ๊ายยยย!!!” เพี๊ยะ!!!! ยังพูดไม่ทันจบ โบก็หน้าหันไปตามแรงตบของเรียวจันทร์ที่ดันตัวเองขึ้นจากโต๊ะและตั้งสติจากความมึนได้แล้ว เรียวจันทร์มองหน้านังศัตรูคู่อาฆาตด้วยความพยาบาท


“แกตบฉันเหรอนังเรียว แกเป็นผู้ชายนะ!!” โบหันไปด่าด้วยความตกใจ รู้สึกปวดร้าวที่แก้มกับลูกตบของอีกฝ่าย


“อ้าว?! ฉันเป็นผู้ชายแล้วเหรอเนี่ย…” เรียวจันทร์เบ้ปาก ถลึงตามองโบกี้
   

ตอนนี้คุณนายเริ่มองค์ลงแล้ว

V
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 13:34:29 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

V
v
v

“…แต่ถึงจะเป็นผู้ชาย ฉันก็จะตบแก ชะนีอย่างแกเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมกันนักไม่ใช่เหรอ ก็นี่ไง ฉันให้แล้ว!” โบกี้ทิ้งกระเป๋าลงพื้นอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปตะลุมบอลกับเรียวจันทร์
   

“เฮ้ยยย เละแล้ว กองกู!!!”
   

ทั้งสองคนไม่สนใจเสียงโวยวายของผู้กำกับ แต่กลับจิกหัวและกระชากไปมาอย่างไม่ยอมกัน แต่ด้วยความที่เรียวจันทร์อาศัยแรงผู้ชายในร่างตัวเอง นางเลยจับโบกี้ลงไปนอนบนโต๊ะ ขึ้นคร่อมอย่างว่องไว ก่อนที่จะตบหน้าโบท็อกซ์ของโบกี้ไปข้างละแก้ม
   

เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
   

“ถ้าคิดว่าฉันจะเห็นแก่ความเป็นเพศแม่ของแกล่ะก็ แกขอผิดคนแล้ว!” องค์ยานแม่ประทับสิงสู่ในร่างคุณนายเรียวจันทร์ ฉะนั้นตอนนี้นางยากที่จะเบรกตัวเอง มีแต่อารมณ์ขึ้นๆ ไปเรื่อยๆ ทีมงานรีบเข้าไปดึงตัวเรียวจันทร์ แต่ก็โดนคุณนายแกออกแรงสะบัดทิ้ง และหยิบถุงแป้งสาลีสาดไปในอากาศ ทำให้ทัศนียภาพในคาเฟ่ขาวโพลน
   

“อ๊ายยย! ปล่อยฉันนะ!” เรียวจันทร์เอื้อมมือไปหยิบเค้กมาเต็มมือแล้วโปะลงบนหัวของโบกี้ ขยี้ๆๆ จนเละไปทั้งหัวของนังศัตรูตัวดี
   

“เรียว เรียวครับ พอก่อน พอ!” ยอร์ชพยายามเข้าไปห้าม เรียวจันทร์หยิบถ้วยใส่แป้งสาดใส่หน้ายอร์ชจนหน้าขาวโพลน ยอร์ชสำลักแป้งและโดนแป้งเข้าตาจนมองอะไรไม่เห็น
   

“เรียว! น้องเรียว พอก่อนฮะ พอก่อน โอ้ย! ตายๆๆ เละหมดแล้ว พอก๊อนนน!” คุณนายแกปรี๊ดแล้ว หูอื้อไม่ฟังอะไรทั้งนั้น
   

“อีเรียวววว!” เป็ดตะโกนเรียกเพื่อน แต่ดูเหมือนเพื่อนจะไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น เพราะกำลังสนุกกับการเอาเค้กละเลงหัวนังฮีโบจนผมยาวๆ ของนางเหนียวหนึบ
   

“อีบ้า อีตุ๊ดบ้า ปล่อยฉัน!” โบกี้พยายามใช้มือปัดป่ายปกป้องตัวเอง แต่ก็ทำได้แค่สะเปะสะปะ เพราะนางโดนเค้กโปะเต็มหน้า จนแทบมองอะไรตรงหน้าไม่เห็น แต่สุดท้ายนางก็คว้าอะไรได้สักอย่าง ก่อนที่จะเหวี่ยงขึ้นไปที่ด้านข้างของเรียวจันทร์
   

“โอ๊ะ! โอ๊ะ! โอะ แอร๊ยยย!” ร่างของเรียวจันทร์หล่นลงพื้นดังตุ้บพร้อมกับเสียงกรีดร้อง โบกี้มองอย่างเดือดดาล ก่อนจะทิ้งถาดสีเงินในมือ รีบคว้าเค้กที่เหลืออยู่บนโต๊ะไว้เต็มสองมือก่อนจะปาใส่หน้าเรียวจันทร์
   

“ทำฉันเหรอ นี่! นี่!” เรียวจันทร์พยายามยกแขนกันเอาไว้ เค้กเลยโดนเฉี่ยวๆ โบกี้เห็นแบบนั้นเลยลงจากโต๊ะ ถือเค้กอีกก้อนที่วางใกล้กันเดินเอาไปโปะใส่หัวเรียวจันทร์เต็มๆ ก่อนจะขยี้ๆ จนเค้กเละไปครึ่งหนึ่ง
   

“พอแล้วคุณ พอแล้ว!” โบกี้หันไปมองทีมงานผู้ชายคนหนึ่งที่พยายามเข้ามาดึงหล่อนไว้ ก่อนที่จะยกเค้กที่เหลือขึ้นตบหน้าทีมงานจนชายหนุ่มผงะหงายหลังเดินเซถอยหลังไปหลายก้าว พอหันกลับไปจะเล่นงานเรียวจันทร์ต่อ อีกฝ่ายก็ลุกขึ้นยืนพร้อมสู้แล้ว
   

“นังโบ!” เรียวจันทร์คำราม ใช้สองมือกระชากหัวโบกี้ไว้เต็มมือและพยายามดึงกลับไปทางโต๊ะที่ใช้เข้าฉาก แต่โบกี้ฝืนตัวเองเอาไว้ สองมือก็จิกผมเรียวจันทร์ไว้เต็มมือเช่นกัน
   

“คุณเขี้ยวคะ ห้ามอีเรียวที ห้ามมันทีค่า!” เรียวจันทร์ได้ยินเสียงเป็ดแว่วๆ แต่ก็ไม่สนใจ พยายามกดหน้านังฮีโบลงไปในอ่างไข่ขาวให้ได้
   

“คุณเรียว หยุด!”
   

“ไม่หยุด!” เรียวจันทร์ตอบคมเขี้ยวทันควันโดยที่นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั่นคือใคร แม้จะเหนื่อยหอบแทบขาดใจ แต่ถ้านังโบกี้ยังไม่เละสมใจ คุณนายแกก็จะไม่ยอมหยุดแน่นอน!
   

“อ๊ายยย” โบกี้กรีดร้องในขณะที่ใบหน้าเริ่มต่ำติดอ่างไข่ขาว เรียวจันทร์กัดฟันแน่น นางแค้นที่อีกฝ่ายเอาถาดตบหน้านาง
   

“จันทร์ไร หยุดเดี๋ยวนี้!” คมเขี้ยวออกแรงดึงแขนเรียวจันทร์ออกจนคุณนายแกหลุดออกห่างจากโบกี้ หญิงสาวเอาแขนค้ำร่าง ยืนหอบหายใจตัวงอ เรียวจันทร์กัดฟันแน่น ก่อนที่จะหันไปมองไอ้โยธิน พอเห็นว่าฝ่ายนั้นกำลังนั่งล้างหน้าล้างตา นางก็สะบัดแขนคมเขี้ยวจนหลุด เดินเข้าไปผลักร่างนังโบกี้ล้มลงไปกับพื้น
   

“โอ๊ย…  แฮ่ก… อีนี่…” โบกี้บ่นเสียงหอบ เรียวจันทร์หยิบอ่างไข่ขาวขึ้นมา เดินอ้อมโต๊ะไปหาโยธินที่ล้างหน้าจนสะอาดเกลี้ยงเกลาแล้ว
   

“แก ไอ้อดีตผัวเฮงซวย ไอ้ตัวต้นเหตุ อย่าคิดว่าจะรอด!!” ว่าด้วยความเดือดดาลแล้ว คุณนายแม่ก็คว่ำอ่างสีใสที่มีไข่ขาวเหนียวๆ เกือบเต็มอ่างใส่หัวโยธินจนหมด
   

“เหี้ย!” โยธินสบถเสียงดังอย่างหัวเสีย เงยหน้าขึ้นมองเรียวจันทร์ตาขวาง คุณนายแม่หาได้เกรงกลัวไม่ นางคว่ำอ่างครึ่งทรงกลมลงบนหัวของฝ่ายชาย ยืนมองด้วยสายตาสะใจ แต่ก็หอบหายใจหนักเช่นกัน

   
“เรียว!” ยอร์ชผุดลุกขึ้นยืนท่าทางเอาเรื่อง เรียวจันทร์ยกมือขึ้นชี้หน้าไอ้ตี๋ล่ำ อ้าปากเตรียมจะด่าทั้งที่หอบแดกไปทั้งตัว คมเขี้ยวรีบเดินเข้ามาพาเรียวจันทร์ออกจากร้านคาเฟ่ทันที พอออกมาด้านนอก เรียวจันทร์ก็เห็นว่ามีคนมุงอยู่นอกร้านพอประมาณ แต่ยามนี้คุณนายแกเหนื่อยเกินกว่าจะว่าอะไรได้ นางเลยเดินไปตามแรงดันของคมเขี้ยวที่พาเดินไปทางออฟฟิศ
   

“นั่งนิ่งๆ อย่าวุ่นวายอีกนะ” คมเขี้ยวชี้หน้าคุณนาย หน้าตาเอาเรื่องหลังจากพาร่างเล็กนั่งลงบนโซฟาในออฟฟิศได้ เรียวจันทร์นั่งหายใจเหนื่อยๆ อีกพักใหญ่ พยายามปรับลมหายใจให้เข้าที่เข้าทาง ผ่านไปไม่นานคมเขี้ยวก็เดินกลับมาพร้อมกับผ้าขนหนูสีขาวผืนขนาดกลาง เขาโยนให้เรียวจันทร์แล้วเดินไปนั่งขอบโต๊ะทำงานในออฟฟิศ นั่งมองเรียวจันทร์เช็ดหน้าเช็ดหัวเอาเค้กออก คุณนายแม่เลื่อนสายตาไปมองหน้าคมเขี้ยว
   

“ถ้าคิดจะบ่น ฮึก… จะว่าหาว่าฉันคือ… แฮ่ก… ตัวต้นเรื่อง หยุด… เลยนะ เพราะฉันไม่ใช่เหตุ แฮ่ก… ของเรื่องนี้” พูดไปด้วย เหนื่อยหอบไปด้วย แต่นางก็ยังพูด และพูดด้วยสีหน้าไม่ยอมด้วย
   

“แต่คุณก่อเหตุความวุ่นวาย ผมบอกว่าไง… อย่าให้เกิดเรื่อง” เรียวจันทร์ถอนหายใจทั้งที่ยังหายใจไม่ปกติดี
   

“แล้วคุณเป็นผู้ชาย ทำไมไปทำร้ายผู้หญิงแบบนั้น” คราวนี้นางเบ้ปากด้วยความหงุดหงิดเต็มแรง
   

“กรุณาอย่าทำตัวเป็นพระเอกละครไทยยุค 40 จะได้มะ ที่เห็นเหตุการณ์ตอนหลังๆ ที่นางเอกฮึดสู้แล้วก็ตัดสินว่าอีนางเอกมันผิดเพราะไปตบอีนางร้ายกลับ โถ่ ฉันสวยและฉันไม่ได้โง่ ที่จะต้องตบยัยนั่น คิดว่าฉันชอบมีเรื่องเหรอ เกิดหน้าฉันพังขึ้นมาจะทำยังไง เห็นมั้ยเนี่ยว่านั่งหอบอยู่” เรียวจันทร์ว่าอย่างหงุดหงิด พอพูดยาวๆ ก็ยิ่งเหนื่อยเพิ่มไปอีก แต่นางจะพูดซอฟต์ๆ และเบาๆ ไม่ได้ ไม่งั้นเดี๋ยวโดนขัด คุณนายยกผ้าขนหนูเช็ดหน้า เช็ดผมเอาครีมเค้กออก แต่ยิ่งเช็ดก็ยิ่งเลอะเทอะ
   

“แล้วถ้านายตาไม่บอดนะ ฮื่อ… ฮื่อ… ฉันก็ทำไอ้ผู้ชายด้วย มันนั่นแหละตัวต้นเหตุแห่งความซวยทั้งหลาย!” นางว่าไปหอบไป แต่อาการหอบเริ่มลดน้อยลง คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง
   

“อดีตผัวเฮงซวยของคุณน่ะเหรอ”
   

“ใช่ แล้วมันก็จะเป็นอดีตต่อไปจนมันตายนั่นแหละ!” คนหน้าสวยที่ตอนนี้หน้าหงิกตอบเสียงกระแทก คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์อย่างพิจารณา และคิดได้ว่าเขาไม่ควรใช้อารมณ์กับไอ้จันทร์ไรตอนนี้ เพราะเชื่อเลยว่าแม่คุณนายแกพร้อมจะอาละวาดทันทีถ้าไปแตะอารมณ์กริ้วของนาง
   

“คุณรู้มั้ยว่าทำแบบนี้มันทำให้ฟาร์มผมเสียชื่อเสียง คนเขาจะคิดยังไงที่มีคนมาทะเลาะเบาะแว้งกันที่นี่” แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องตักเตือนเรียวจันทร์อยู่ดี จะให้ปล่อยผ่านไปเลยไม่ได้แน่นอน คนหน้าสวยมองอย่างเคืองๆ
   

“หาจุดให้ฉันผิดจนได้นะ” นางว่าเสียงเคืองพอๆ กับสีหน้า และยังคงพยายามเช็ดครีมสีขาวออกจากเส้นผมด้านข้างที่หนืดหนึบไปทั่วหัว
   

“แล้วคุณผิดจริงมั้ย”
   

“จริงครึ่งเดียว นายจะมาโยนความผิดให้ฉันเต็มๆ คนเดียวไม่ได้” คุณนายแกไม่ยอม เถียงคอเป็นเอ็นเส้นเสียงแทบปูดบวม คมเขี้ยวยังคงทำหน้านิ่งและพูดต่ออย่างเรียบเฉย
   

“แล้วไหนจะทีมงาน คุณคิดว่าเขาจะรู้สึกยังไง” นายแบบหนุ่มกำลังจะอ้าปากเถียงต่อ แต่พอสติจับได้ว่าคมเขี้ยวพูดถึงใคร คราวนี้นางเลยชะงักกึก ท่าทีค่อยๆ อ่อนลง และกลายเป็นสีหน้ารู้สึกผิดจนคมเขี้ยวนึกงงปนประหลาดใจ
   

“โอ๊ยตาย…” ร่างเล็กพึมพำ หลับตาลงพร้อมขมวดคิ้วด้วยความเครียดและความรู้สึกผิด คมเขี้ยวมองอย่างแปลกใจกับท่าทีนั้นของอีกฝ่าย ก่อนจะพูดต่อด้วยเสียงเรียบเช่นเคย
   

“ผมยังไม่เช็กความเสียหายในฟาร์ม แต่ผมเชื่อว่ากองถ่ายเสียหายมากแน่ๆ” เรียวจันทร์เงยหน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมองคมเขี้ยวแล้วพูดด้วยเสียงสะบัด
   

“ฉันรู้แล้วน่า ย้ำอยู่ได้ เดี๋ยวฉันจะกลับไปเริ่มงานต่อเดี๋ยวนี้แหละ” คมเขี้ยวมองคุณนายแกด้วยความประหลาดใจมากเข้าไปอีก กำลังนึกสงสัยว่าอะไรดลใจให้พูดแบบนั้น นั่นไม่ควรเป็นท่าทีของไอ้จันทร์ไรจอมอวดดี
   

“สภาพแบบนี้ยังจะเริ่มงานต่ออีกรึไงแม่คุณ” เรียวจันทร์สะบัดสายตาขุ่นเคืองไปมองไอ้ตัวสูง
   

“ฉันมีความรับผิดชอบพอย่ะ ฉันผิด ฉันระลึกได้ แต่ฉันจะทำให้เขาเสียงานไม่ได้…” เรียวจันทร์ถอนหายใจ ไม่ใช่เพราะเหนื่อยใจ แต่เพราะรู้สึกผิด


“…ทีมงานทุกคนต้องกินต้องใช้ ถ้าวันนี้เลิกกองด้วยสถานการณ์แบบนี้ เขาจะไม่ได้ค่าจ้างอะไรเลย” เรียวจันทร์ว่าเสียงอ่อย สีหน้าเครียด สายตาเริ่มเป็นกังวล คมเขี้ยวขมวดคิ้วมองร่างบางอย่างนึกสงสัย
   

“ห่วงคนอื่น???” คนโดนหาว่าแล้งน้ำใจเอียงหน้ามองคนพูดเซ็งๆ เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน ถือผ้าขนหนูไว้ในมือ เดินเข้าไปใกล้คมเขี้ยวที่ทำหน้าคล้ายจะขำ
   

“เงินมันหายาก กว่าจะได้มาไม่ใช่ง่ายๆ ตอนไม่มี แค่บาทเดียวก็ยังหายาก ทีมงานทุกคนเขาต้องใช้เงินดำรงชีวิต” คมเขี้ยวยักคิ้วแล้วเบ้ปากแว้บหนึ่ง
   

“แนวคิดดี” เรียวจันทร์ยิ้มเยาะ
   

“ถ้านายไม่เคยลำบากหรือต้องดิ้นรนหาเงินล่ะก็ นายไม่เข้าใจจริงๆ หรอก” เรียวจันทร์มองหน้าคมเขี้ยวด้วยสายตาอ่อนล้าจนคนโดนมองถึงกับชะงัก ไม่เข้าใจว่าไปสะกิดใจอะไรไอ้จันทร์ไรเข้าให้
   

เรียวจันทร์ไม่พูดอะไรต่อ นางหมุนตัวเดินออกไปจากออฟฟิศ คมเขี้ยวมองตามร่างบางจนหายลับ นั่งครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะลุกขึ้นเดินตามร่างเล็กไป
   

เรียวจันทร์รีบเดินกลับมาหน้าเซ็ท ทีมงานทุกคนกำลังช่วยกันเก็บกวาดซากปะรักหักพังที่แม่นางเป็นคนทำทิ้งไว้ คุณนายแกมองด้วยสายตาเครียดเล็กน้อย ถอนหายใจแล้วก็เดินเข้าไปด้านในร้านคาเฟ่ ทีมงานหันมามองนายแม่เป็นตาเดียว เรียวจันทร์รับรู้ได้ว่าสายตาเหล่านั้นเป็นสายตาแห่งความผิดหวัง แม้ไม่ได้รุนแรง แต่ทุกคนคงไม่คาดหวังว่านางจะอาละวาดจนพังขนาดนี้แน่ๆ นายแบบหนุ่มยกมือขึ้นไหว้ทุกคน
   

“เรียวขอโทษนะคะ ขอโทษทุกคนเลยค่ะที่คุมสติตัวเองไม่ดี…” ทีมงานหลายคนยืนนิ่ง บางคนก็ยังคงเก็บกวาดต่อไป และเรียวจันทร์รู้ว่าบางคนเหล่านั้นคงไม่อยากจะมองหน้านางสักเท่าไหร่
   

ว่าจะนางเอกให้เต็มร้อยแล้วนะ แต่มีนังชะนีสองตนมาทำท่าเชิด ท่าหยิ่งจนน่าหมั่นไส้ แต่สถานการณ์นี้ นางต้องกู้ภาพลักษณ์นางเอกยุคสุวนันท์กลับมาให้ได้


“…ถ้าพี่ๆ ทุกคนยังอยากทำงานต่อ เรียวก็พร้อมจะทำต่อให้เสร็จค่ะ หักค่าตัวเรียวเป็นค่าเสียหายก็ได้นะ” เอาวะ ทุ่มให้สุด มาขนาดนี้แล้ว ดีกว่าภายภาคหน้างานหดหายหมด คราวนี้ทุกคนหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ พวกที่แสดงออกให้รู้ว่าไม่พอใจ ไม่ชอบใจก็เชิดหน้าเชิดตา เรียวจันทร์แอบมองตาขวางนิดหน่อยแล้วแอบเบ้ปากเบาๆ แต่ก็รีบกลบอาการนางร้ายอย่างเร็ว


 ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์รายการมองหน้ากันแล้วก็หันไปมองหน้าเรียวจันทร์ “คงไม่ทำต่อแล้วล่ะน้องเรียว ใช้เทปที่อัดไปก่อนหน้านั้นก็ได้ พี่ว่ามันน่าจะใช้ได้อยู่ พาร์ทหลังเดี๋ยวพี่เอาคนอื่นมาถ่าย” เรียวจันทร์มองหน้าผู้กำกับอย่างรู้สึกผิด อันนี้นางรู้สึกผิดจริงๆ อาจเพราะด้วยผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ไม่ได้มีท่าทีจองหองใส่นาง นางเลยเห็นใจหน้าทัพของกองถ่ายอย่างจริงใจ เรียวจันทร์ก้าวเท้าเดินไปตรงหน้าของผู้กำกับ
   

“พี่ ถ้าพี่อยากได้เพิ่ม ทำเถอะ นะ เรียวไม่เอาค่าตัวก็ได้ หักให้ทีมงานเป็นค่าโอทีก็ได้ แต่ทำงานให้เสร็จเถอะ” ก็ดันประกาศไปแบบนั้นแล้วนี่ ได้แต่หวังว่าทางกองจะไม่หักจริงจังหรอกนะ แต่ก็… ถ้าหักขึ้นมาจริงๆ คุณนายแกจะดอกจันทร์ชื่อนังชะนีสองตนที่ทำท่าผยองพองขนใส่นาง


ฉันผิด ฉันรู้ แต่มาทำท่าแบบนั้น ฉันไม่ชอบย่ะ!


เรียวจันทร์แอบเหล่มองนังสองคนนั้นตาขวางนิดๆ แล้วรีบปรับสีหน้าเป็นอ้อนวอนขอร้องกับผู้กำกับ นางไม่ได้ขอร้องให้ตัวเอง นางขอร้องเพราะอยากให้งานเสร็จจริงๆ


โอเค นางกลัวงานนางหดนั่นแหละประเด็นหลัก แต่อีกประเด็น แม้จะเป็นประเด็นรอง แต่นางเข้าใจหัวอกคนทำมาหากินจริงๆ ทีมงานพวกนี้ ใช่ว่าทุกคนจะได้เงินเยอะ ถ้ากองพังกองเละแบบนี้ เงินค่าตัวก็พังตามไปด้วย นางรู้ดีว่าความลำบากเป็นยังไง


โปรดิวเซอร์กับผู้กำกับมองหน้ากันอีกครั้งราวกับกำลังปรึกษากันทางสายตา ผ่านไปครู่สั้นๆ ทั้งสองคนก็พยักหน้า เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง “แต่สถานที่เขาจะให้ใช้ต่อเหรอ เราดีลกับเขาไว้ถึงแค่บ่ายสองเอง” เรียวจันทร์เม้มปากแล้วพยักหน้า
   

“เรื่องสถานที่…”
   

“…ใช้ไปเลยครับ ผมไม่คิดตังค์เพิ่ม” ทุกคนหันไปมองเจ้าของเสียงทุ้มหล่อ เจ้าของฟาร์มยืนมองหน้าเรียวจันทร์นิ่ง คุณนายแกอ้าปากหวอน้อยๆ มองหน้าพ่อมาดคาวบอยด้วยความอึ้งเบาๆ คิ้วเรียวสวยขมวดนิดหน่อย แต่สักพักริมฝีปากสีชมพูก็คลี่ยิ้มบางๆ อย่างดีใจ
   

“นายพูดจริงอ้ะ” คมเขี้ยวยักคิ้วพร้อมยักไหล่แล้วหมุนตัวเดินออกไปจากร้านคาเฟ่ เรียวจันทร์มองแผ่นหลังคมเขี้ยวด้วยความตื้นตันใจที่หมอนั่นใจดีกับตัวเอง ถึงจะไม่ได้ใจดีกับนางคนเดียวเต็มๆ แต่อย่างน้อยก็ใจดีแหละน่า แสดงว่าบทนางเอกยุคสุวนันท์ได้ผล


เรียวจันทร์ยิ้มปริ่มใจกับตัวเองก่อนจะหันไปยิ้มกริ่มให้กับโปรดิวเซอร์และผู้กำกับหนุ่ม เขาถอนหายใจแล้วยิ้มน้อยๆ
   

“เอา ถ่ายต่อละกัน” คุณนายแกยิ้มแป้นแล้นเชียวล่ะ
   

แม้ในใจจะหวั่นไหวว่าจะโดนหักค่าตัวจริงๆ หรือเปล่า เล่นบทนางเอกไว้เบอร์ใหญ่ซะด้วยสิ
   

   







 :hao7:

แม่ก็คือแม่ อย่าให้แม่เรียวโกรธ นี่ยังอ่อนๆ นะคะ แม่มีแข็งกว่านี้ อันนี้แบบซอฟต์ๆ เสียวแทนแม่เลยค่ะ เสียวว่าแม่จะกู้ภาพลักษณ์นางเอกยุคสุวนันท์ตามที่แม่ว่ากลับมาไม่ได้ แต่สุดท้ายแม่ทำได้ แอคติ้งของแม่ ครูแงะนั้นแสนจะภูมิใจกับลูกศิษย์คนนี้ ฮ่าๆๆ

แต่ใครว่าแม่เอาแต่ตอแหล แถไปวันๆ แม่ก็มีน้ำใจนะคะ ต้องขอบอก เพราะแม่รู้ดีว่ากว่าจะหาเงินได้ มันไม่ใช่เรื่องยาก แม่เรียวเองก็ต้องลำบากกับหนี้สินของแม่ตัวเองอยู่

พี่เขี้ยวได้เห็นมุมนางเอกของนางบ้างแล้ว แม่ว่าครึ่งหนึ่งนางจะทำเพื่อตัวเองก็เถอะ 55555 แต่อย่างน้อยก็มีมุมดีๆ ให้พี่เขี้ยวเราเห็นบ้างแล้วเนอะแม่เนอะ แต่ถามว่าใจอ่อนมั้ย อันนี้ตอบยากจุง เป็นกำลังใจให้แม่ต่อไป

ส่วนนังฮีโบกับไอ้ยอร์ชก็เละด้วยฝีมือของแม่ ไม่รู้ไอ้ยอร์ชไปได้ยินอะไรมา ถึงอยากกลับมาหาแม่นักหนา แม่เรียวจิยังไงดีคะะ



ขอบคุณคนอ่านที่ติดตามเรื่องนี้กันอยู่นะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะที่ชอบแม่เรียวกับพี่เขี้ยว เป็นอีกเรื่องที่ตั้งใจเขียน ตอนนี้ทุ่มเทเรื่องนี้ได้เต็มที่แล้วค่ะ หุๆ ไม่หายไปนานๆ แล้นนนน ช่วงนี้ถ้าใครตามอยู่ ตอมจะมาถี่กว่าแต่ก่อนเนอะ เพราะช่วงนั้นติดงานและปั่นอีกเรื่องอยู่ แต่ตอนนี้หมดงาน และอีกเรื่องเรียบร้อยแล้ว มีเวลาให้นางมารเต็มๆ แล้วข่าาา  :mew1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 15:12:56 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
งานนี้แม่เรียวทำถูกใจมาก ๆ จ้ะ นางหลุดบทนางเอกผู้แสนดีซะแล้ว  :a5: แต่ก้อพยายามกลับอย่างเต็มที่ 555 พี่เขี้ยวเริ่มได้เห็นอีกมุมของแม่เรียวแล้ว ส่วนไอ้แมงดาแกจะต้องโดนพี่เขี้ยวจัดการในอนาคตข้างหน้าแน่ ๆแต่จะทำยังไงให้คู่นี้เขาดูดดื่มกันเนี่ย อยากเห็นพี่เขี้ยวหลงนางจริง ๆ  :mew3:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

คาถาที่ 11 [75%]



   

“ขอบคุณพี่ๆ มากนะคะ” หลังจากผู้กำกับประกาศว่าเสร็จงาน ทีมงานทุกคนก็เฮดังลั่น เรียวจันทร์ยกมือไหว้ทีมงานทุกคนในกอง ตัวนางเองก็โล่งไปด้วยที่งานเสร็จตามที่ทีมงานต้องการ กลัวงานหดยังไง แต่สิ่งที่นางมีมากกว่านั้นก็คือความผิดชอบนี่แหละ พอรับผิดชอบในสิ่งที่เป็นหน้าที่ของตนเองเรียบร้อยแล้ว มันสบายใจจริงๆ
   

สบายใจสิยะ ค่าตัวไม่โดนหัก และได้ใจทีมงานทั้งกอง อ้อ ยกเว้นนังชะนีสองตัวนั้น แต่ช่างเถอะ ไม่โดนหักค่าตัว คุณนายแกก็อารมณ์ดีแล้ว
   

“ขอบคุณน้องเรียวมากนะฮะ งานออกมาดีสมใจผู้กำกับแกเลย” เรียวจันทร์ยิ้มกริ่มตาหยี พนมมือไหว้ตรงอกพร้อมกับก้มหัวลงเล็กน้อย
   

“ยินดีค่ะพี่ แล้วเรียวต้องขอโทษอีกครั้งนะที่ทำให้งานเสียหายไปช่วงนึง”
   

“เสียหาย แต่สุดท้ายน้องเรียวก็ทำมันออกมาดีจนได้ แค่นี้พี่ก็พอใจแล้วละ” นายแบบหนุ่มยิ้มสวย โปรดิวเซอร์สาวหล่อยิ้มด้วยความดีใจ เรียวจันทร์เห็นแบบนั้นก็ปริ่มเปรมที่ทำงานเสร็จเรียบร้อยดีตามแพลนของทีมงาน
   

“เรียว ฉันขอโทษนะที่โทรไปปั่นประสาทนังโบอะ” เป็ดเดินเข้ามาบอกเสียงอ่อยหลังจากเลิกกองแล้ว เรียวจันทร์หันไปจิกตามองเพื่อนสนิทนิดหนึ่ง
   

“กะแล้วเชียวว่าแกต้องอุตริทำอะไรที่ไม่ปกติเหมือนหน้าแก” เป็ดหน้างอง้ำ แต่ไม่ใช่เพราะเพื่อนด่าเรื่องหน้า หล่อนรู้สึกผิดที่ตัวเองคะนองมากไปหน่อย
   

“ฉันรู้สึกผิดจริงๆ นะแก” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วมองเป็ดแล้วสะบัดสองมือเร็วๆ เป็นเชิงบอกว่าช่างมัน
   

“ก็ยังดีที่งานมันไม่พังเท่ากับหน้าแก”
   

“อีบ้า” เป็ดว่าเสียงพึมพำ หน้าตายังคงรู้สึกผิดอย่างที่พูด เรียวจันทร์ยกมือผลักหัวเพื่อนสนิทเบาๆ
   

“แต่ก็ดีนะที่แกโทรตามมันมา มันสองคนจะได้ไปเคลียร์กันให้รู้เรื่องว่าจะเอายังไงกับชีวิต และไอ้ยอร์ชจะได้รู้ตัวสักทีว่าไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก” 
   

“มันจะรู้ตัวจริงเหรอ ฉันว่ามันกลับมาเพราะอยากมาเกาะแกกินรึเปล่า” เรียวจันทร์ทำตาโตพร้อมเบ้ปาก
   

“งั้นมันคิดเกาะคนผิดแล้วละ มันไม่รู้รึไงว่าฉันต้องทำงานใช้หนี้งกๆ จะเอาที่ไหนให้มันเกาะ…” นางชะงักไปนิด เพราะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ ริมฝีปากสีชมพูสดเม้มเข้าหากัน
   

เอาไว้เดือดร้อนสุดๆ เมื่อไหร่ เรียวมารบกวนแน่ จะได้ทำหน้าที่อย่างที่คุณต้องการ
   

เรียวจันทร์ส่ายหน้ากับตัวเองหนึ่งทีแล้วว่าต่อ “…จะว่าไป มันไม่เคยรู้เรื่องหนี้ของแม่ฉันเลย แต่…  นังฮีโบก็น่าจะบอก เพราะนังนั่นมันรู้ว่าฉันมีหนี้” สองเพื่อนสนิทขมวดคิ้วมองหน้ากันงงๆ ไม่ได้งงเพราะใครคนอื่น งงเพราะตัวเองกันนี่แหละ พูดเองงงเอง
   

“รึมันจะรักแกจริงอย่างที่ว่า” เป็ดเสนอขึ้นมาหน้าสงสัย แต่ทำให้คุณนายแกหน้าบูดทันที
   

“รักจริงติ๊งนั้งอะสิ…” เรียวจันทร์พ่นลมหายใจแล้วสั่นหัวเบาๆ “…พอดีกว่า เปลืองพื้นที่สมอง แล้วแกจะกลับเลยมั้ยหรือยังไง”
   

“ฉันว่าจะนอนนี่คืนนึง ฉันจองที่พักกับคุณเขี้ยวไปแล้วละ…” เรียวจันทร์พยักหน้าว่าอ้อ เป็ดยิ้มเขินและบิดตัวเขินในมุมสี่สิบห้าองศา ก่อนพูดต่อด้วยเสียงสอง
   

“...คุณคมเขี้ยวเท๊เท่เนอะแก ตอนที่บอกว่าไม่คิดตังค์เพิ่มอะ หล่อน้ำใจงามมากเลย…” เป็ดเม้มปากแน่น ท่าทีขวยเขินลายใหญ่จนเรียวจันทร์มองเหมือนกำลังเห็นของแปลก ซึ่งปกติอีเป็ดมันก็แปลกอยู่แล้ว


“…ถ้าแกจะหลงรักเขาขึ้นมาจริงๆ ฉันสนับสนุนเลยนะ” หนังตาคุณนายเรียวหย่อนลงกลายเป็นตาปรือทันที 
   

“โอ๊ย อีแค่หลงรักปลอมๆ อีตานั่นยังแทบจะกระทืบฉัน” เป็ดหยุดท่าทีบิดขวยเขิน แล้วถอนหายใจแรง อาการคล้ายจะปลงแต่ก็ไม่ใช่
   

“งั้นแกก็รักเขาจริงๆ เลยสิ แสดงความจริงใจให้เขาเห็น ตอนนี้เขาอาจจะเห็นแต่ความตอแหลของแกไง” เรียวจันทร์ถลึงตามองเพื่อน เลือกไม่ถูกเลยว่าจะด่ายังไงดี
   

“แกจะบ้าเหรออีเป็ด ฉันมาที่นี่เพราะเสี่ยจอมทัพให้มา ฉันไม่ได้มาเพราะรักอีตาคมเขี้ยว” คุณนายแกหันไปยิ้มให้กับผู้กำกับที่เดินผ่านนางกับเพื่อนสนิทไปทางโรงนา พอชายหนุ่มร่างอวบเดินผ่านรัศมีนางไป เรียวจันทร์ก็หุบยิ้มฉับแล้วหันกลับมาหาเพื่อนต่อ 
   

“อ้าว ก็ไหนแกบอกว่าจะจับเขาทำผัวไง”
   

“ก็ใช่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารักป่ะ แค่ให้ได้เป็นผัวเฉยๆ ไง” เรียวจันทร์ว่าเสียงกระซิบ ตาสีน้ำตาลมองซ้ายมองขวา กลัวว่าจะมีใครได้ยินเข้า ศศิประภาขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ   
   

“แก แล้วถ้าเขาไม่รักแก เขาจะยอมให้ที่ดินกับแกเหรอ ที่ดินนะคะ ไม่ใช่หญ้าผืนน้อยของชะนีไซด์ไลน์ ที่จะซื้อขายกันได้ง่ายๆ และราคาถูก” เรียวจันทร์กลอกตา กอดอกพร้อมกับขมวดคิ้วเครียด
   

“งั้นก็คงต้องทำให้หลง” เป็ดกลอกตาทันควันที่ได้ยินแบบนั้น
   

“อีเรียว เมื่อกี้แกเพิ่งบอกว่าเขาจะกระทืบแกอยู่เลยไม่ใช่เหรอ” เรียวจันทร์ยกมือขวาเกาหัวแกรกๆ เริ่มรู้สึกถึงประโยคที่ว่า อับจนหนทาง
   

“โอ๊ย แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงอะ อีตาคมเขี้ยวไม่ใช่คนพูดจาอะไรง่ายๆ ด้วย จะขอเจรจากับพ่อเขาก็ไม่ได้อีก เพราะทุกวันนี้อีตาเขี้ยวคือลีดเดอร์ชิฟของฟาร์มนี้” เป็ดเม้มปากแล้วถอนหายใจ มองหน้าเพื่อนสนิทอย่างลำบากใจ จนเรียวจันทร์ทำหน้างงว่ามันจะลำบากใจลำบากกายอะไร
   

“ถ้างั้นแกก็ต้องทำให้เขารักและไว้ใจแก แล้วหาจุดอ่อนของเขา…” นายแบบหนุ่มเอียงคอมองเพื่อนสนิทด้วยความสะดุดใจ


“…และก็ข่มขู่เอาสิ่งที่แกอยากได้มาเป็นของแก…” เรียวจันทร์มองหน้าเป็ดอย่างครุ่นคิด ดวงตามีแววคล้อยตาม


“…แต่แกจะกลายเป็นคนที่ใจดำมากเลยนะ” แต่แล้วท่าทีของเรียวจันทร์ก็ชะงึกกึก สีหน้าบนใบหน้าสวยๆ สลดลงนิดหนึ่ง ก่อนจะว่าเสียงอ่อย


“แหม ก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้นสักหน่อย…” ใบหน้าสวยหวานเกินชายครุ่นคิดยุกยิก “…แต่เรื่องจุดอ่อนน่าสนใจ แต่ประเด็นคือฉันไม่รู้ว่าจุดอ่อนของหมอนี่คืออะไร…”


ว่าแล้วก็ถอนหายใจแรงๆ ด้วยความกลุ้มใจ “…กะอีแค่จะพูดคุยทำความรู้จักกันธรรมดายังยากเลยอะ”


“ก็นี่ไง แกก็ต้องทำให้เขาไว้ใจแกก่อน จากนั้นก็ทำให้เขารัก พอเขารัก แกจะเห็นมุมที่แกไม่เคยเห็นในตัวเขาเองแหละ แต่แกต้องมั่นใจนะว่าตัวเองก็จะไม่รักเขาไปด้วย”
   

“โถ เป็ด คณิตศาสตร์ที่ฉันสอบตกตั้งแต่มอสี่ยันมอหก ยังไม่ยากเท่าสิ่งที่แกพูดเลย” เป็ดหรี่ตามองหน้าอีสวยแล้วถามอย่างข้องใจ
   

“อะไรยาก เขารักแกหรือแกรักเขา” เรียวจันทร์ทำหน้าอึกอักนิดหน่อยแล้วตอบเสียงอ้อมแอ้ม
   

“ทั้งสองนั่นแหละ” เป็ดยิ้มเบ้ปาก มองเพื่อนด้วยความหมั่นไส้
   

“ลองเข้าหาเขาด้วยความจริงใจดูมั้ยแก มันอาจจะดีก็ได้นะ…” เรียวจันทร์มองหน้าเพื่อนพลางใช้ความคิด ริมฝีปากสีชมพูสดบุ้ยไปซ้ายทีขวาที
   

“…ฉันไม่ได้ว่าแกตอแหล เออ ก็ตอแหลนั่นแหละ…” คุณนายถลึงตามองเพื่อนเล็กน้อย เป็ดยักไหล่อย่างไม่แคร์


“…แต่คือลองเปลี่ยนวิธีไง เหลือเวลาอีกไม่มากนะยะ แกยังเข้าไม่ถึงตัวเขาจริงๆ สักทีเลยอะ แล้วแกจะไปเอาที่ดินมาได้ยังไง” เรียวจันทร์ถอนหายใจ สีหน้าเครียดเล็กน้อย นางไม่อยากแสดงความเครียดผ่านทางสีหน้าเยอะ เดี๋ยวรอยย่น รอยยับจะมาเยือนหน้านางเร็ว เลยต้องข่มความเครียดเอาไว้ข้างใน ไม่ให้มันออกมาเพ่นพ่านมากไป นางยังไม่อยากไปใช้บริการโบท็อกซ์เร็วๆ นี้หรอกนะ
   

“แค่สิ่งที่ฉันทำอยู่ มันก็ไม่จริงใจแล้วป่ะ”
   

“อ้าว แกรู้ด้วยอะ อัศจรรย์ใจจัง” คนหน้าสวยเหลือบมองเพื่อนด้วยความเซ็งนิดหน่อย
   

“แต่ฉันเป็นหนี้อะ ฉันอยาก…” เรียวจันทร์เม้มปากท่าทางอึดอัดเล็กๆ “…ฉันอยากปลดหนี้ทั้งหมด” เป็ดถอนหายใจ เข้าใจดีว่าเพื่อนเองก็แอบรักสบายกับหนทางรวบรัดตัดจบหนี้สินทั้งหลายที่เสี่ยจอมทัพเสนอให้
   

“แกก็ทำงานอยู่ตลอด แกก็เอาเงินตรงนี้ไปใช้หนี้ได้นะเรียว อาจจะช้าหน่อย เหนื่อยเหมือนกัน แต่มันสบายใจกว่าป้ะวะ” เป็ดพยายามโน้มน้าวใจเพื่อน หล่อนเองก็ไม่ได้ว่าเห็นด้วยหรอกกับวิธีที่เพื่อนทำอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้สนับสนุน แต่ก็คอยยืนข้างๆ เพื่อนเสมอเท่านั้นเอง
   

เรียวจันทร์เม้มปาก ยกสองแขนกอดอกอีกที ใบหน้าคิดไม่ตก เป็ดหันไปมองรอบๆ ก็เห็นทีมงานเก็บของจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว “เรียว ฉันเตือนแกอีกทีนะ เสี่ยจอมทัพเขาไม่ใจดีปลดหนี้ให้แกทุกหนี้เพียงเพราะที่ดินหรอก อีแบบนั้นอะ ต้องเอาตัวแกเข้าไปปลดต่างหาก”
   

“เฮ้อ สวยอีกละ ผู้ชายต้องการตลอดเลยอะ” จากที่เครียดๆ จู่ๆ คุณนายแกก็เปลี่ยนอารมณ์โดยฉับพลันอย่างไม่มีการเกริ่นใดๆ ทั้งสิ้น เป็ดได้แต่เบ้ปาก ก็ทำได้แค่นี้แหละ หมั่นไส้ก็เบ้ปากใส่ไป จะให้ตบเพื่อนก็กระไรอยู่
   

“โห่ อีนี่ พูดมีหลักการมาตั้งนาน ตกม้าตายเพราะความหลงตัวเองอีกแล้ว” เรียวจันทร์บิดปากเป็นรอยยิ้มแอ๊บแบ๊วน้อยๆ แล้วยักไหล่แต่พองาม
   

“เครียดอะ พูดอะไรก็ไม่รู้ เอาเป็นว่านะ ถ้าสามเดือนฉันกล่อมนายคมเขี้ยวให้ขายที่ไม่ได้ ฉันจะเลิกแพลนนี้ แต่ไม่เป็นเมียตาเสี่ยเช่นกัน ฉันจะทำงานหาเงินใช้หนี้เอง โอเค๊?” คุณนายนางยกมือขวาขึ้นมาทำท่าโอเค เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามเพื่อน
   

“อะ พ้อยท์ก็มีเท่าเนี้ย พูดซะยาวจนฉากเยิ่น กว่าจะตัดจบคือย้วยเหลือเกิน”  เป็ดจิกตามองเพื่อน เรียวจันทร์ยิ้มเยาะอย่างมีจริต ก่อนที่จะปรับสีหน้าเป็นปกติ
   

“ลืมบอก แกไม่ต้องไปจองที่พักหรอก นอนกับฉันนี่แหละ เตียงเบ้อเริ่ม” เป็ดส่ายหัวหน้าสั่นทันที
   

“ไม่ย่ะ ฉันอยากนอนในหมู่บ้านคาวบอย” ว่าจบก็หมุนตัวเดินหนีเพื่อนสนิทไปทันที เรียวจันทร์จิ๊ปากเบาๆ ตามหลังเพื่อน
   

“น้องเรียวรับเช็คจ้า” ทุกสิ่งมลายหายวับไปจากหัวทันที่ที่ได้ยินเรื่องเงิน
   

“ค่าพี่!”

   
   





 :hao7:

เอาเข้าจริงอีแม่ก็ยังหาวิธีให้พี่เขี้ยวยอมขายที่ดินไม่ได้ใช่มั้ยคะ 55555 แต่แม่ไม่รู้ตัวเลยว่า ที่ดินนั้นจะขายได้หรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพี่เขี้ยวเลยสักนิด ตัวนางล้วนๆ (ลืมกันแล้วหรือยังว่านางนั่นแหละเป็นเจ้าของที่ดิน)


ก็เครียดมาซะยาว ฉากเยิ่นอย่างที่เป็ดว่ามาก สุดท้ายวกเข้ากลับว่าตัวเองสวยตามเคยเนาะอีแม่ 555555 ใครที่ลุ้นให้แม่จับพี่เขี้ยวได้เร็วๆ รอจังหวะเหมาะๆ ไปพร้อมแม่นะคะ ตะครุบแรงมากไม่ได้ เดี๋ยวเหยื่อดิ้นนนหลุดดด เชื่อว่าหลายคนอึดอัด และหงุดหงิดที่เรื่องยังไม่เดินถึงตอนนั้นสักที แต่ถ้าใครติดตามนิยายตอมมา จะแบบเนี้ย 5555 กว่าจะถึงจุดที่ควรถึง ทำเอาขุ่นข้องกันไปหลายยก แต่ถึงจุดนั้นแล้วก็ถึงใจนาาา คริๆ


อยากขอบคุณคนอ่านที่ตามอ่านเรื่องนี้อยู่จริงๆ ค่ะ เห็นว่ามีคนรออ่าน คอยเม้นให้ แม้ไม่ได้เยอะมากมาย แต่ตอมก็มีกำลังใจอัพแล้ว อยู่กันไปจนจบเลยนะคะ ^___^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 15:15:05 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อินางไม่รู้นี่นาาา 55555 ว่าที่เป็นของนาง แสบ เซี้ยวจริงๆ เรียวเอ๊ย

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ mochimanja2

  • มึน
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกเหมือนเดิมเลย มาต่อบ่อยๆน๊า รอจ้า รักคนเขียนนนนน :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
เป็นเมียเสี่ยเถอะเรียว โดนบ่อยยิ่งกว่าพระเอกอีก

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
นิยายของคุณตอมจะมีดีเทลให้เก็บรายละเอียดเยอะ ดังนั้นเราต้องยอมทนความหน่วงไปก่อนน่ะ สรุปว่าน้องเรียวก้อยังไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ให้คมเขี้ยวตกกับดัก 555 ดักเขาไปปทั่วสุดท้ายที่ดินของตัวเอง เราว่านายยอร์ชต้องรู้่ว่าที่ดินนี่ของเรียว แต่รู้ได้ยังไงล่ะ แล้วเสี่ยทัพตกลงต้องการตัวแม่เรียวใช่ไหม  :mew5:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

คาถาที่ 11 [100%]





   หลังจากพาเพื่อนสนิทไปกินสเต็กที่ร้านอาหารด้านนอกฟาร์มตามที่นางว้อนแล้ว เรียวจันทร์ก็เดินกลับมาออฟฟิศเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ระหว่างที่กำลังเปลื้องผ้าออกจากร่างบอบบางของตัวเอง สายตาก็เลื่อนไปเห็นขวดยาทาแก้คันที่วางอยู่บนหัวเตียงตั้งแต่อาทิตย์ก่อน
   

เรียวจันทร์เดินไปหยิบขวดยาขึ้นมามองแล้วนึกสงสัยว่าสิ่งที่ตัวเองคิดจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือเปล่า คืนหนึ่งเมื่ออาทิตย์ก่อน นางตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าอาการคันทุเลาลง นอกจากยาแก้แพ้แล้ว ก็ได้ยาในขวดนี้ทาไว้ตามตัวที่มีผื่นแดงขึ้นด้วย จำได้ลางๆ ว่าเห็นคมเขี้ยวเดินเข้ามาในห้อง แต่เพราะฤทธิ์ยาแก้แพ้สองเม็ด ทำให้หัวหนักอื้อจนจำได้แค่ว่าตอนนั้นเบลอมากจริงๆ แทบจำอะไรเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้
   

ได้แต่นึกสงสัยอย่างดีใจเล็กๆ ว่าคมเขี้ยวมีน้ำใจทายานี้ให้ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เอ่ยถามกับเจ้าตัว เพราะจากเหตุการณ์คราวก่อนที่นังช่อเอื้องมาเยือนฟาร์ม ทำให้ระหว่างนางกับไอ้เขี้ยวกุดคุยกันน้อยลงกว่าเดิมจากปกติที่คุยกันน้อยอยู่แล้ว
   

“ฉันว่านายนั่นแหละ” เรียวจันทร์พึมพำ ค่อนข้างมั่นใจว่าคมเขี้ยวทำให้ แต่ก็อยากได้ยินจากปากเจ้าตัวชัดๆ
   

เรียวจันทร์วางขวดยาทาแก้คันไว้บนโต๊ะหัวเตียงตามเดิม ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายที่สะบักสะบอมมาทั้งวัน พออาบน้ำจนตัวหอมฟุ้ง ใบหน้าสดแสนสดใส นางก็หยิบชุดนอนมาใส่ และตั้งใจว่าวันนี้จะไปคุยดีๆ กับพ่อเขี้ยวกุดสุดน่ารักสักหน่อย
   

อุตส่าห์ทำตัวน่ารัก มีน้ำใจไม่คิดตังค์ค่าโลเคชั่นเพิ่ม และไหนจะเรื่องที่แอบมาทายาให้ตอนหลับ มองข้ามเรื่องมึนตึงใส่กันไป แล้วเดินหน้าสานใจใส่กันดีกว่า
   

เรียวจันทร์เดินไปตรงรั้วประตูบ้านใหญ่ พยายามชะเง้อชะแง้ และแทบจะแงะรั้วไม้ดูว่ามีแววคมเขี้ยวอยู่ในบ้านหรือไม่ แต่ก็เห็นเพียงความเงียบสงบและแสงไฟเท่านั้น
   

“คุณเรียว” เจ้าของชื่อหันไปมองคนเรียกก่อนจะฉีกยิ้มเมื่อเห็นว่าเป็นดิน
   

“มาทำอะไรครับ มาหาพี่เขี้ยวเหรอ” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งแล้วพยักหน้ารับสองสามที
   

“วันนี้วันศุกร์ พี่เขี้ยวแกน่าจะอยู่ที่บ้านต้นสนครับ” คนฟังขมวดคิ้วพร้อมกับทำสีหน้าประหลาดใจ
   

“แล้วไอ้บ้านต้นสนนี่มันอยู่ไหนอะ”
   

“อยู่ในป่าสนหลังบ้านพี่เขี้ยวครับ” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าอ้อ คิดอะไรเล็กน้อยกับตัวเองครู่หนึ่ง
   

“ไกลมั้ย” ดินทำท่าจะพยักหน้าแต่ก็เปลี่ยนเป็นส่ายหัว แต่ก็ส่ายไม่เต็มที่ เหมือนดินเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเรียกระยะทางนั้นว่าใกล้หรือไกลดี
   

“ก็… เข้าไปลึกอยู่ครับ แทบจะท้ายฟาร์มเลย ถ้าเดินก็สิบห้านาที”
   

“อ๋อ…” คนหน้าสวยพยักหน้าน้อยๆ สีหน้ายังคงคิดอะไรอยู่ “…แล้วฉันไปหาหาเขาได้มั้ย ฉันมีเรื่องจะคุยกับเขา” แทบจะทันทีที่ดินทำหน้าหนักใจเมื่อได้ยินว่าเรียวจันทร์จะไปหาเจ้านายตัวเองที่สถานที่แห่งนั้น
   

“คือ…” ดินอึกอัก เรียวจันทร์มองงงๆ “…พี่เขี้ยวไม่ค่อยชอบให้ใครไปที่บ้านต้นสนอะครับ มีแค่ป๋ากับแม่บัวที่ไปได้ แต่สองคนนั้นก็ไม่ค่อยไปหรอกครับ เพราะพี่เขี้ยวแกค่อนข้างหวงที่นั่น” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วหน้าเหวอทันทีที่ได้ยิน จะหวงปานไหนกันเชียว 
   

“บ๊ะ กับพ่อกับแม่ก็ยังหวง” คุณนายแกทำหน้าไม่เข้าใจว่าทำไมคมเขี้ยวจะต้องหวงไอ้บ้านหลังนี้นัก หรือซุกลูกซุกเมียไว้ที่นั่น
   

“ก็… เหมือนโลกส่วนตัวอะครับคุณเรียว” คนฟังก็อยากทำหน้าว่าอ้อ แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้าหงึกๆ อย่างเอ๋อๆ คงเป็นฟีลปลิกวิเวกละมั้ง 
   

“งั้นเหรอ แล้วนายเขี้ยวจะออกจากป่าสนเมื่อไหร่”
   

“วันอาทิตย์นู่นแหละครับ บางทีก็วันจันทร์ หรือบางทีถ้าแกติสท์นานหน่อยก็อยู่เป็นอาทิตย์” เรียวจันทร์เบิกตากว้างขึ้น เอียงคอมองหน้าดินที่ยิ้มซื่อ
   

“กลายเป็นคนป่าไปซะงั้นพ่อคุณ…” นายแบบหนุ่มย่นจมูก ยกมือขวาเกาคิ้วเบาๆ ไอ้จะรอก็ได้แหละ แต่ฟีลลิ่งมันกำลังมาอะ จะให้เก็บเอาไว้เดี๋ยวฟีลหมด มันจะรู้สึกไม่เหมือนเดิมนะจริงๆ
   

“แต่ฉันมีเรื่องจะคุยกับเขาอะ ไม่นานหรอก แปบเดียว ฉันเดินไปหาเขาได้ใช่มั้ย” ดินทำหน้าเหมือนโดนบังคับให้กินขี้ม้าเข้าไปทั้งคอก หรือบางทีให้กินขี้ม้าทั้งคอก ไอ้ดินยังอาจจะมีสีหน้าดีกว่านี้ก็ได้
   

“คุณเรียวลองโทรหาพี่เขี้ยวก่อนมั้ยครับ” เรียวจันทร์ส่ายหัวหน้ามึนว่าไม่เอาเด็ดๆ
   

“ไม่ เอาเป็นว่า เดินไปทางหลังบ้านใช่มั้ย เดี๋ยวฉันไปเอง ฉันโดนเขาด่าจนชินแล้วละ” พูดจบก็ทำท่าจะก้าวเท้าเดินเบี่ยงตัวผ่านดินไปทันที แต่ดินยกมือแตะไหล่บางของเรียวจันทร์เอาไว้ก่อน
   

“แต่ตอนนี้มันมืดแล้วนะครับคุณเรียว ถึงจะมีไฟตามทางบ้าง แต่อย่าไปเลยครับ ผมเป็นห่วง” เรียวจันทร์ยิ้มตาหยี ยกมือขวาตีอกแน่นของดินเบาๆ จนไอ้ดินมีท่าทีเคอะเขินตามเคย
   


“ก็ถ้าห่วงฉันก็ไปเป็นเพื่อนฉันสิ ฉันจะได้มีเพื่อนเดินกลับด้วย” ไอ้ดินทำหน้าลำบากใจ แต่ก็นึกเป็นห่วงเรียวจันทร์ เส้นทางตรงนั้นเป็นเส้นทางส่วนตัวก็จริง และมีไฟประดับตลอดทาง แต่ประเด็นคือเรียวจันทร์ไม่เคยไป
   

“เอางั้นก็ได้ครับ แต่ผมขอยืนห่างๆ นะ ไม่อยากโดนพี่เขี้ยวด่า” 
   

“ตานั่นไม่ด่าดินหรอก เพราะจะด่าฉันจนหมดคำด่าดิน” ทั้งสองคนหัวเราะน้อยๆ ก่อนที่ดินจะเป็นคนเดินนำเรียวจันทร์ไปข้างๆ บ้าน
   

ดินพาเรียวจันทร์เดินผ่านโรงอาหารของฟาร์ม ผ่านแคมป์สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวให้เห็นบางตาเนื่องจากทางฟาร์มจำกัดคนเข้าพัก พอเดินไปเรื่อยๆ ผ่านรั้วไม้ข้างบ้านของคมเขี้ยวไป เรียวจันทร์ก็พบกับดงต้นสนและต้นไม้สูงๆ บางชนิดขึ้นปนกัน เดินระยะแรกสักเกือบสิบนาที มีแต่ความมืด มีเพียงแสงสว่างรำไรๆ ของดวงจันทร์กับแสงไฟจากฟาร์มไกลๆ ที่ทำให้ยังเห็นถนนดินเส้นเล็กๆ เอาเข้าจริงเรียวจันทร์ก็แอบคิดว่าถ้ามาคนเดียวคงขวัญหนีดีฝ่อไปแล้วละ
   

“เดี๋ยวข้างหน้าก็มีไฟแล้วครับ” ดินบอกเสียงทุ้มท่ามกลางเสียงนกร้องในยามค่ำคืน และมีเสียงแมลงตัวเล็กๆ คลอเคลียไปด้วย พอเดินไปอีกนิด ต้นสนและต้นไม้เริ่มแน่นขนัดมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เริ่มเห็นแสงไฟรำไรๆ พอพ้นดงต้นสนที่เบียดเหมือนเป็นม่านบังตาเอาไว้ ก็เจอกับคบไฟประดิษฐ์ที่ใช้หลอดไฟแทนการจุดไฟจริง ปักประดับไว้ตามข้างทาง ตั้งห่างกันพอประมาณ เบื้องหน้าที่ห่างออกไปไกลเกือบลิบคือบ้านไม้เล็กๆ หลังหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางต้นสนและต้นไม้บางชนิด
   

“ว้าว” เรียวจันทร์ถึงกับอุทานออกมาเมื่อเห็นสิ่งก่อสร้างเบื้องหน้าตัวเอง บ้านไม้สีน้ำตาลอ่อนหลังเล็ก ยกพื้นขึ้นสูง หน้าบ้านมีลานสนามหญ้าสีเขียวไม่กว้างมากและไม่เล็กจนเกินไป ดอกไม้หลากสีขึ้นเป็นช่อตามรั้วไม้เตี้ยๆ ที่โอบล้อมบ้านเอาไว้ มุมหนึ่งในลานหญ้าเป็นหินกรวดที่เอาไว้วางเตาปิ้งย่างสำหรับจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวหรือปาร์ตี้ปิ้งย่างกลางแจ้ง
   

“เดี๋ยวผมรอตรงนี้ได้มั้ยครับ” ดินว่าตอนที่ถึงปากทางเข้าไปในเขตรั้วของบ้าน เรียวจันทร์หันไปพยักหน้า เดินต่อเข้าไปเองตามถนนเล็กๆ ที่นำไปสู่ตัวบ้าน นางเพิ่งสังเกตว่าตรงนี้เงียบสงบมาก เหมือนตัดขาดออกจากโลกภายนอกไปเลย
   

“ไอ้เขี้ยวกุด” เรียวจันทร์เรียกเสียงเบาตอนที่ยืนอยู่ตรงตีนบันไดไม้ที่มีหนทางหักซ้ายหักขวากว่าจะขึ้นไปถึงระเบียงบ้าน ผ่านไปสักพักก็ยังไม่มีเสียงตอบรับกลับมา
   

“นี่ นายเขี้ยว” เรียวจันทร์ลองเรียกเสียงดังขึ้นอีกนิด แล้วสักพักร่างสูงใหญ่ของพ่อคมเข้มในชุดนอนเสื้อยืดกางเกงขายาวก็ก้าวเดินออกมายืนตรงระเบียงบ้าน เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ ให้ใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของอีกฝ่าย 


“ใครให้คุณเข้ามาที่นี่” ว่าแล้วก็เลื่อนสายตาดุๆ ไปมองไอ้ดินที่ยืนห่างออกไปตรงนอกรั้วไม้เตี้ยๆ
   

“ฉันเองแหละ ไม่ต้องไปว่าดินนะ ฉันให้เขาพามาเอง” คมเขี้ยวเลื่อนสายตากลับมามองยัยคุณนายตัวแสบที่ยืนอยู่ด้านล่าง
   

“มาทำไม มีธุระอะไรสำคัญนักหนาถึงต้องมาวุ่นวายพื้นที่ส่วนตัวของผม” ชายหนุ่มว่าเสียงหงุดหงิด เขาค่อนข้างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่มีคนเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่ตรงนี้
   

“ขอโทษค่าคุณคมเขี้ยว…” เรียวจันทร์ว่าประชดเล็กน้อย มองร่างสูงที่ยืนอยู่บนระเบียงด้วยสายตาเอือมนิดๆ


“…ดิฉันแค่อยากจะมาขอบคุณนายเฉยๆ และฉันไม่อยากจะเก็บอั้นไว้นานเกิน ถ้าเกิดนายออกจากป่าสนเดือนหน้า ฉันไม่ลืมไปแล้วเหรอ” คนฟังขมวดคิ้วไม่เข้าใจ สองมือวางไว้บนราวไม้ของระเบียง
   

“ขอบคุณเรื่องอะไร”
   

“ก็เรื่องวันนี้แหละ ขอบคุณมากที่ไม่คิดเงินเพิ่ม…” เรียวจันทร์ยิ้มกริ่ม ส่วนคมเขี้ยวทำหน้าเฉย
   

อีตานี่เข้าถึงยากกว่าที่ฉันคาดการณ์ไว้อีก


“…แล้วก็ ที่ทายาให้ฉันอาทิตย์ก่อนด้วยนะ เมอร์ซี่กุ๊กกู~” คุณนายส่งจุ๊บให้พ่อคาวบอย แต่พ่อคาวบอยกลับทำหน้าตายและพูดเสียงห้วน
   

“แม่สั่ง” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นพร้อมยักไหล่ทั้งสองข้าง
   

“แม่สั่งแต่นายก็ยังทำ ยังไงก็ต้องขอบคุณ ฉันไม่ได้ลืมนะ แต่ตอนนั้นฉันเบลออะ ฉันก็ยังไม่ชัวร์ แต่วันนี้คิดดีๆ แล้ว ก็นายนั่นแหละจะเป็นใคร” คนสวยฉีกยิ้มกว้าง กะว่าประทับใจแน่ๆ ต้องแอดแทคใจพ่อโลกส่วนตัวสูงบ้างสักนิดก็ยังดี แต่สิ่งที่ได้มาคือ
   

“พูดจบยัง ถ้าจบ ก็ไปได้ละ” เรียวจันทร์หุบยิ้มวืด ก่อนจะทำหน้าเซ็ง มองใบหน้าไร้อารมณ์ของคมเขี้ยว แต่ก็พยายามบิ้วบรรยากาศให้ดีขึ้น เลยฉีกยิ้มอีกครั้ง
   

“แอบเป็นห่วงฉันอยู่ล่ะซี้ กิ้วๆ”
   

“ผมจะพักผ่อน ไม่มีบุญแบ่งให้หรอกนะ ผมไม่ค่อยสวดมนตร์” คุณนายแกถึงกับพ่นลมหายใจแรงๆ ทำหน้าเหนื่อยใจกับพ่อเขี้ยวแสนเข้ม
   

“นี่ นายรู้อะไรมะ นายไม่เหมาะกับฟีลลิ่งเครียดๆ ฟีลลิ่งเป็นผู้ชายเข้าถึงยากเลยอะ เพราะชีวิตนายดูไม่มีปมดราม่าใดๆ แต่ทำไมนายถึงทำตัวโลกสูง หยิ่ง นิ่ง ปิดกั้นตัวเอง อะไรทำนองนั้นอะ เหมือนพวกพระเอกนิยายโลกสีเทา ถามจริงชีวิตนายเศร้าอะไรขนาดนั้น” คุณนายแม่ร่ายยาวด้วยความข้องใจ ด้วยความสงสัย มองหน้าคมเขี้ยวอย่างต้องการคำตอบ คนที่ยืนอยู่บนระเบียงทำเพียงยกแขนกอดอกแล้วถามกลับนิ่งๆ
   

“ถามจริง แบบเพราะๆ เลยนะ คุณเสือกอะไรขนาดนั้น” เรียวจันทร์เบิกตากว้าง ยกมือขวาทาบอกสีหน้าตกอกตกใจกับประโยคที่ได้ยิน
   

“หยาบคาย ฉันถามเพราะเป็นห่วงนะ! ก็คิดว่ามีปมอะไรในชีวิต…” คุณนายแกมองจิกไอ้หยิ่งคมเขี้ยวสักพัก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นมองด้วยสายตายั่วยวน


“…จะได้ช่วยแก้” ว่าจบด้วยเสียงหวานๆ ก็ยกมือขวาขึ้นป้องปาก ทำหน้าแบ๊วและทำท่าเขินอาย ตัวบิดไม่ถึงสี่สิบห้าองศา แต่ก็รู้ว่าบิดตัวแล้ว คมเขี้ยวมองผู้ชายที่ดัดจริตที่สุดในชีวิตเขาเท่าที่เคยเจอมาอย่างระอา
   

“อย่างแรกที่ควรแก้ คือนิสัยจุ้นจ้านของคุณ ไป ไปไหนก็ไป จะไปแก้ผ้า แก้ผีที่ไหนก็เชิญ ผมจะพักผ่อน” ไม่ว่าเปล่ายังมีการยกมือโบกไล่ เป็นการย้ำว่าให้ไปสักที เรียวจันทร์มองอย่างหมั่นไส้ แต่คมเขี้ยวไม่แคร์
   

“ค่ะๆ ไปแล้วๆ ขอบคุณอีกทีนะคะ…” คุณนายแกว่าเสียงประชดประชัน แต่สักพักก็มองคมเขี้ยวดวงตาเป็นประกาย โดยที่อีกคนยืนมองอยู่ด้วยสายตาเอือมๆ แล้วพูดเสียงจริงจัง แต่ก็มีความอ่อนหวานน้ำตาลไหม้นิดๆ


“…นี่ แต่ฉันขอบคุณนายจริงๆ นะ ขอบคุณน้ำใจของนาย” ริมฝีปากสีชมพูคลี่ยิ้มบาง คมเขี้ยวมองนิ่ง แต่ท่าทีก็ไม่แข็งทื่อเท่าตอนแรก


“อือ ไม่เป็นไร งานหน้าก็อย่าก่อเรื่องอีก ไม่งั้นผมไล่คุณออก”
   

เรียวจันทร์ยิ้มกริ่ม ยกมือขวาขึ้นตะเบ๊ะแบบคว่ำมือตรงคิ้วซ้าย “ค่ะ เจ้านาย ฝันดีนะคะ หมั่ว!” คุณนายเปลี่ยนจากตะเบ๊ะมาส่งจูบให้คมเขี้ยวอย่างไวแล้วหมุนตัวเดินกลับไปหาดินที่ยืนรออยู่ คมเขี้ยวมองตามแผ่นหลังร่างบางใบหน้าเรียบเฉย แต่พอนึกถึงเหตุการณ์ในร้านคาเฟ่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปากน้อยๆ
   


“ถ้าอยากฝันเปียกก็ฝันถึงฉันนะ รับรองเลอะเต็มที่นอนเลยละ!” กำลังยิ้มๆ อยู่ ถึงกับเกือบเก๊กหน้านิ่งไม่ทันเมื่อยัยคุณนายจันทร์ไรหมุนตัวมาโบกมือบ๊ายบายพร้อมกับเล่นหูเล่นตาใส่ มีการขยิบตามาให้หนึ่งวิ้งอีกด้วย
   

คมเขี้ยวทำหน้าระอาเล็กน้อย แล้วก็หมุนตัวกลับเข้าไปในบ้านต้นสนอย่างเร็ว
   




 :hao3:

พี่เขี้ยวมีมุมสันโดษด้วย แต่สุดท้ายโดนคุณนายแกตามมาป่วนเฉย 55555 คุณแม่ไม่แคร์ถ้าจะโดนด่า เพราะโดนด่าจนชินแล้ว เออ นางก็มึนดีนะ และปิดท้ายนางก็เต๊าะพี่เขี้ยวไปนิดๆ หน่อยๆ ตามสไตล์ หมั่นไส้ ฮ่าๆๆ

เจอกันตอนหน้านะคะ แม่เรียวเราต้องจับพี่เขี้ยวได้สิ แต่อยู่ที่ว่าแม่จะใช้วิธีไหน และจังหวะไหน เอาไงเอาตามกันค่ะแม่ 55555


อยากขอบคุณคนอ่านที่ตามอ่านเรื่องนี้อยู่จริงๆ ค่ะ เห็นว่ามีคนรออ่าน คอยเม้นให้ แม้ไม่ได้เยอะมากมาย แต่ตอมก็มีกำลังใจอัพแล้ว อยู่กันไปจนจบเลยนะคะ ^___^


ขอบคุณมากๆ เลยค่ะที่ชอบแม่เรียวกับพี่เขี้ยว เป็นอีกเรื่องที่ตั้งใจเขียน ตอนนี้ทุ่มเทเรื่องนี้ได้เต็มที่แล้วค่ะ หุๆ ไม่หายไปนานๆ แล้นนนน ช่วงนี้ถ้าใครตามอยู่ ตอมจะมาถี่กว่าแต่ก่อนเนอะ เพราะช่วงนั้นติดงานและปั่นอีกเรื่องอยู่ แต่ตอนนี้หมดงาน และอีกเรื่องเรียบร้อยแล้ว มีเวลาให้นางมารเต็มๆ แล้วข่าาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 15:16:41 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
คุณนายจะต้องเต๊าะไปถึงเมื่อไหร่คะเนี่ย กว่าพี่เขี้ยวจะตกหลุมกับดัก5555

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
โอ้ยยย ขุ่นแม่นกมานานแล้วนะกับเขี้ยวกุดเนี่ย 555
นี่ชะนียังคงเพิ่งเปิดตัว นางต้องมีบทบาทให้เขาผิดกันอีกแน่ หรือขุ่นแม่ก็คือขุ่นแม่ ชะนีเจอฤทธิ์เข้าไปตาย

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ถ้าลองเรียวทำตัวเหมือนตอนขอบคุณพี่เขี้ยวได้ตลอดนะ พี่เขี้ยวคงยอมให้หมดล่ะ แต่ถ้าทำอย่างนั้น...ก็ไม่ใช่เรียวจันทร์แล้วล่ะ 555

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ถถถถถถ น้องเรียวขาาา จะจับพี่เขียว สงสัยต้เอาเชือกมัด ตีหัว ลากเข้าถ้ำอย่างเดียวซะล่ะมั้ง พี่ทั่นสร้างเกราะป้องกันตัวเองซะหนาเลยยยย 5555

ออฟไลน์ Lyralyn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มาต่อนะค้าาา จะตั้งตารอขุ่นแม่เรียว

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
กำลลังลุ้นว่าแม่เรียวจะะเข้าถึงตัวพี่่เขีี้ยวได้ยังไง
อยย่าลืมพี่ยักษ์กับน้องแมทนะ  :mew1:

ออฟไลน์ Maii2206

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
โอ้ยยย เมื่อไหร่อิเขี้ยวกุดจะใจอ่อนคะเนี่ยย ไม่งั้นจะให้น้องเรียวจันทร์ขืนใจแล้วนะ เสี่ยจอมทัพก้น่าสนถ้าไม่ดูร้ายๆไปสักหน่อย เหมือนวางแผนอะไรมาก่อนแล้วยังไงก้ไม่รู้ แม่แบบน้องเรียวนี่ หมดชาตินี้ก้ไม่เผาผีละค่า  :z3:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8


คาถาที่ 12 :: Jealous? No way. (หึงเหรอ? โน๊ววว!) [35%]




“เอาจริงเลยมั้ยครับเสี่ย” จอมทัพยิ้มมุมปากแล้วส่ายหัวปฏิเสธหนึ่งที
   

“ยัง” ดวงตาคมปลาบทอประกายความตื่นเต้นวิบวับ รอยยิ้มมุมปากในทีแรกเป็นเพียงรอยยิ้มปกติ แต่ตอนนี้มันมีเลศนัยให้ชวนสงสัยอยู่ด้วย
   

จอมทัพทำหน้านึกขึ้นได้ ยกนิ้วขึ้นชี้คนที่ยืนตรงข้ามแวบหนึ่ง “คราวก่อนที่สั่งไป รีบจัดการซะ อย่าปล่อยไว้นาน”
   

“ไม่ต้องห่วงครับ” เสี่ยจอมทัพยิ้มพอใจ พยักหน้าให้ลูกน้องหนึ่งที ก่อนที่จะเลื่อนสายตาไปมองลูกน้องอีกคนที่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นริมสระจากุซซี่หลังบ้าน
   

“คุณเรียวจันทร์มาแล้วครับ” ชายร่างผอม ตัวเตี้ยกว่าชายคนแรกเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ
   

“ให้เข้ามานี่เลย” จอมทัพยิ้ม สีหน้าสดชื่นขึ้น แต่ก็ไม่ได้แสดงออกชัดเจนมากมาย ชายหนุ่มที่เดินเข้ามารายงานเดินออกไปจากห้อง เสี่ยหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบพร้อมกับเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าลูกน้องอีกคนมองหน้าเขาด้วยความสงสัย
   

“ว่ามา” เขาวางแก้วลงบนโต๊ะ เอนหลังพิงพนักโซฟามองหน้าชายหนุ่มอีกคน
   

“เสี่ยจะหยุดที่คุณเรียวจริงเหรอครับ” คนถูกถามยิ้มนิดหน่อย เขามองแสงระยิบระยับตรงสระน้ำสีฟ้าด้วยสายตาเรียบเฉยครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันกลับมามองหน้าลูกน้องต่อ
   

“แกคิดว่าไง”
   

“อิทธิฤทธิ์เยอะน่าดูครับ” จอมทัพหัวเราะด้วยความถูกอกถูกใจ คนถามยิ้มน้อยๆ แต่ก็เป็นรอยยิ้มงงๆ
   

“นั่นน่ะ ดึงดูดใจฉันดีเชียวละ” จอมทัพยักคิ้วขวา ระบายลมหายใจออกช้าๆ ริมฝีปากบิดเป็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
   

ลูกน้องของจอมทัพขมวดคิ้วนิดหนึ่ง “แต่เสี่ยปล่อยให้เธอไปยุ่งกับไอ้คมเขี้ยว ไม่กลัวสองคนนั้นสปาร์คกันเหรอครับ คุณเรียวเธอรุกไอ้เขี้ยวน่าดู”
   

จอมทัพไหวไหล่ หน้าตาไม่ได้แสดงอาการยินดียินร้ายใดๆ “ก็นั่นมันเป็นแผนของเขา”
   

“แล้วถ้าเกิดมันมากกว่าแผนล่ะครับ…” จอมทัพทำเพียงยิ้มมุมปาก ดวงตาลุกวาวด้วยความรู้สึกอย่างหนึ่งที่คาดเดายาก
   

“…อีกอย่าง ผมว่าแผนของเธอดูจะเอื้อตัวเธอมากกว่าที่จะเอื้อให้เสี่ยนะ ไอ้คมเขี้ยวไม่ยอมขายที่ดินเพียงเพราะเมียมันขอร้องหรอก”
   

“เอาเป็นว่า…” จอมทัพหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อจนจบด้วยเสียงนุ้มทุ้ม “…ปล่อยให้เขาสนุกไปก่อน” ลูกน้องจอมทัพขมวดคิ้วไม่เข้าใจสิ่งที่เสี่ยพูด   
   

“เห่นโล่ววว” จอมทัพบิดคอไปมองผู้ชายหน้าสวยที่มาพร้อมกับรอยยิ้มน่ารักน่ามอง ร่างระหงส์ยังคงเฉิดฉายเช่นเคย เรียวจันทร์มองเสี่ยตาเป็นประกาย ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองชายหนุ่มอีกคน พอเห็นว่าเป็นใครก็ขมวดคิ้วฉับ
   

“ชื่ออะไรนะ แม็คใช่มั้ย…” เจ้าของนามพยักหน้าพร้อมยิ้มนิดหน่อย “…มาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่”
   

“ก่อนหน้าคุณเรียวจันทร์สักสองชั่วโมงครับ”
   

“อ้าว แล้วก็ไม่บอกว่าจะมานี่ จะได้มาด้วยกัน” ลูกน้องเสี่ยทัพคลี่ยิ้ม ยกสองมือขึ้นไว้ระดับอก
   

“ผมไม่บังอาจมากับเมียเสี่ยสองต่อสองหรอกครับ” คนโดนหาว่าเป็นเมียเสี่ยชักสีหน้า สองมือเท้าเอวหน้าตาไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่
   

“อีกละ ฉันบอกว่าฉันไม่ใช่เมียเสี่ย ก็แค่คนได้เสียกันหลายครั้งเท่านั้นย่ะ!” สองหนุ่ม (แท้) หัวเราะกันเสียงเบา สร้างความขุ่นใจให้คุณนายแกนิดๆ
   

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับเสี่ย” จอมทัพพยักหน้าอนุญาต แม็คเดินผ่านเรียวจันทร์ไปตรงทางออกห้องนั่งเล่นส่วนตัวของเสี่ย พอเหลือกันสองคนเรียวจันทร์หันไปมุ่ยหน้าใส่เสี่ยทันที
   

“อะไรล่ะ” จอมทัพแบมือและยักไหล่ ทำหน้าตาว่า มีอะไรเหรอ
   

“ขอถามก่อน เดี๋ยวฉันหน้าแหก…” จอมทัพยิ้มขำ แต่ก็กดหน้าลงหนึ่งที “…คุณบอกลูกน้องคุณทุกคนใช่มั้ย ว่าฉันเป็นเมียคุณ”
   

“ใช่ ผมบอกแบบนั้น” เรียวจันทร์ถลึงตากว้างใส่เสี่ยจอมทัพที่นั่งเอกเขนกอย่างสบายใจอยู่บนโซฟาตัวยาว
   

“โอ๋ยยย! รักฉันอะไรขนาดนั้นอะ ถึงขนาดยกย่องฉันเป็นเมีย ถ้างั้นเด็กคนอื่นๆ ของคุณก็เป็นเมียคุณทุกคนแล้วสิ!” จอมทัพหัวเราะน้อยๆ ยื่นมือขวาไปดึงร่างบอบบางเกินชายลงมานั่งบนตัก ยกแขนขวาโอบรอบเอวบางเอาไว้ เสี่ยยิ้มกริ่มให้คนหน้ามุ่ย
   

“ก็อย่างที่คุณบอก ผมยกย่องคุณ” เรียวจันทร์แสร้งปั้นหน้าตกใจ ยกมือขวาทาบอกอย่างมีลีลา
   

“โอ้ มายก็อด ฉันต้องกล่าวสุนทรพจน์พร้อมน้ำตามั้ยเนี่ย” คนตัวใหญ่หัวเราะ เรียวจันทร์พ่นลมหายใจ

   
“เอาเป็นว่าฉันภาวนาให้มีชายใดสักคนที่โดนใจเสี่ยมากกว่าอิฉันเข้ามาในชีวิตเสี่ยเร็วๆ นะคะ” นางยกมือขวาตบแก้มซ้ายของเสี่ยเบาๆ คนตัวโตยิ้มขบขัน สอดมือซ้ายเข้าไปในเสื้อเชิ้ตสีดำของเรียวจันทร์แล้วลูบตรงซี่โครงฝั่งขวาเบาๆ
   

“แต่ตอนนี้ถูกใจคนนี้ ถูกใจมากด้วย” จอมทัพมองร่างบางอย่างหื่นกระหาย นิ้วโป้งขยับขึ้นไปเขี่ยหัวนมอมชมพูที่คุ้นเคยเบาๆ เล่นเอาคนด้านบนสะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะรีบใช้มือขวาตัวเองตะปบข้อมือของคนมือซน
   

“คุณเสี่ย ไหนว่าวันนี้อยากแค่ไปกินข้าวดูหนังไง เรื่องจ้ำโบ๊ะไม่อยู่ในลิสต์นะ” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นพร้อมส่ายหัวช้าๆ จอมทัพทำหน้าเสียดาย ดึงมือออกจากตัวอีกฝ่าย
   

“แล้วนึกยังไงถึงอยากจะทำตัวคิกขุ มีเดทแบบวัยรุ่น”
   

“ถึงผมจะไม่วัยรุ่นแล้ว แต่ผมก็ฟิตอยู่นะ หรือคุณจะว่าไม่จริง” เรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ ใช้มือขวาตะปบเข้าเป้ากางเกงสแลคสีดำของเสี่ยทัพ อีกฝ่ายทำเพียงยิ้ม ก้มหน้ามองมือขาวบางขย้ำเป้าตัวเองไปเรื่อย
   

“ไม่เถียงค่ะ เพราะแซ่บจริง” ว่าเสร็จก็ยกมือออกจากเป้ากางเกงแล้วหัวเราะเสียงเล็กเสียงน้อย สร้างเสน่ห์ให้กับตัวเองจนเสี่ยทัพมองด้วยความเข็ดฟัน
   

“อยากเล่นหนังสดกับคุณก่อนไปดูหนังจัง” เสี่ยทัพซุกหน้าเข้ากับซอกคอหอมๆ ของเรียวจันทร์ สูดดมเบาๆ
   

“เสี่ย จะไปก็ไปค่ะ จองตั๋วหนังไว้แล้ว เราต้องรีบไปรับนะ” คนที่กำลังสูดดมความหอมกรุ่นอ่อนๆ ถึงกับถอนหายใจเสียดาย ดึงหน้าตัวเองออกมามองใบหน้าสวยเกลี้ยงเกลาที่วันนี้แต่งแต้มสีสันมาแบบอ่อนๆ อย่างละมุน
   

“ครับเมียครับ”
   

ป้าบ!
   

เรียวจันทร์ฟาดเข้าที่อกแกร่งเสี่ยทัพ “แค่คนที่ได้เสียกันเฉยๆ!” จอมทัพหัวเราะชอบใจ เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน ปล่อยให้เสี่ยทัพลุกขึ้นยืนตามเต็มความสูง
   

“ก็เมียอยู่ดี” เรียวจันทร์ปรือตามอง หมุนตัวเดินออกไปจากห้องก่อน จอมทัพคลี่ยิ้ม มองตามด้วยสายตาขบขัน แต่ภายในใจนั้นแน่วแน่ว่า เขาต้องได้ผู้ชายคนนี้
   

เพราะนอกจากจะถูกใจ เรียวจันทร์ยังมีอะไรล่อใจเขาอีกต่างหาก


   




สองหนุ่มต่างวัย ต่างความสูงและต่างบุคลิก แต่ดึงดูดสายตาของใครหลายคนให้หันมองได้แทบตลอดทางที่ทั้งสองก้าวเท้าเดินเคียงกันไป จอมทัพใช้แขนขวาคล้องเอวของเรียวจันทร์ไว้ไม่ให้ห่างกาย คนตัวเล็กเดินคุยด้วยรอยยิ้มแย้มที่ทำให้เจ้าตัวน่ามองเข้าไปอีก แถมยังมีน้ำใจแจกยิ้มให้กับสาวๆ หลายคนที่มองเจ้าตัวอย่างชื่นชม
   

“เอาป๊อบคอร์นมั้ยเสี่ย…”
   

“…พี่เรียวจันทร์ป้ะคะ” เจ้าของนามที่กำลังแหงนหน้าถามคนตัวสูงตรงบริเวณเค้าน์เตอร์ขายขนมหน้าโรงหนังชะงักและหันไปมองหญิงสาวกลุ่มหนึ่งที่ยืนมองนางด้วยความตื่นเต้น คุณนายแกฉีกยิ้มสวยแล้วบอกเสียงหวาน
   

“ใช่ค่า” สาวๆ กลุ่มนั้นหันมองหน้ากันแล้วส่งเสียงกรีดร้องดีใจเบาๆ
   

“หนูเป็นติ่งพี่ค่ะ ชอบพี่ตั้งแต่อยู่นิวยอร์กแล้ว” เรียวจันทร์ยิ้มพิมพ์ใจ รู้สึกพราวในอกเล็กๆ ที่มีติ่งเป็นของตัวเอง แต่อันที่จริงนางก็พอรู้ตัวอยู่แล้วละ เพราะไอจีนางมีคนตามครึ่งแสนเชียวนะยะ
   

“ขอบคุณมากนะจ๊ะเด็กๆ” คุณนายแกโปรยยิ้มตาหยี สาวบางคนในกลุ่มนั้นแทบละลายไปกับพื้น แล้วได้แต่คิดว่าผู้ชายอะไรทำไมสวยได้ขนาดนี้
   

“ถ่ายรูปได้มั้ยคะ” แกนนำของติ่งสาวหันไปมองจอมทัพเป็นเชิงขออนุญาต เรียวจันทร์หันไปมองหน้าเสี่ยแล้วยิ้มขำ อีกฝ่ายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพยักหน้า
   

“เชิญครับ แต่อย่านานนะ ผมหวง” สาวๆ อ้าปากหวอค้างเติ่ง ก่อนจะหันพรึบไปมองเรียวจันทร์เป็นตาเดียว
   

“แฟนพี่เรียวเหรอคะ” หนึ่งในนั้นถามด้วยความตื่นเต้น คนถูกถามทำหน้าไม่ถูกแวบหนึ่งก่อนจะยิ้มบริสุทธิ์ใจ
   

“พ่อพี่ค่ะ ไม่ใช่แฟน” พอพูดจบนางก็หัวเราะเบาๆ คนเดียว จอมทัพส่ายหัวหน้าเอือมแต่ริมฝีปากก็คลี่ยิ้มบางๆ ส่วนสาวๆ ติ่งทั้งหลายก็ทำหน้างง
   

“พ่อพี่หล่อมากเลยอะ” สาวแกนนำมองหน้าจอมทัพแล้วทำหน้าเพ้อ คนตัวสูงยิ้มขบขัน เขาไม่ได้คิดจะแก้ต่างสถานะที่เรียวจันทร์ว่าไว้
   

“ถ่ายรูปมั้ย เดี๋ยวใกล้ถึงเวลาพี่เข้าโรงหนังแล้ว” สาวๆ ทั้งหลายได้สติก็รีบกุลีกุจรผลัดกันเข้ามาถ่ายรูป เรียวจันทร์เซอร์วิสติ่งตัวเองเต็มที่ ดีที่ไม่เยอะมาก กลุ่มนี้แค่หกเจ็ดคนเท่านั้น ไม่งั้นคุณนายแกคงยิ้มเมื่อยปากน่าดู
   

“หนูรอดูหนังของพี่อยู่นะคะ”
   

“ขอบคุณนะ” เรียวจันทร์ฉีกยิ้มให้เด็กๆ ทั้งหลายที่โบกมือให้นางรัวๆ ในขณะที่ขาก็พาเดินไปทางบันไดเลื่อนลงจากชั้นโรงหนัง นายแบบหนุ่มหันใบหน้าเปื้อนยิ้มไปหาจอมทัพที่ยืนยิ้มเท่อยู่
   

“พ่ออะไรทำไมได้เอาลูกสาวบ่อยจัง” เรียวจันทร์จิ๊ปาก จิกตาใส่พ่อร่างใหญ่
   

“สรุปเอาป๊อปคอร์น…”
   

“…เสี่ยครับ” ยังไม่ทันพูดจบ (จะได้แดรกมั้ย) ก็มีเสียงคล้ายจะห้าวแต่ก็ห้าวไม่สุดดังขึ้นเบาๆ ทั้งสองคนหันไปมองก็เจอกับผู้ชายตัวสูง ผิวขาวผ่อง มีกล้ามอ่อนๆ ยืนอยู่กับผู้ชายอีกสามคนด้านหลัง ทุกคนแลปกติดี ถ้าเพียงจะไม่ลงรองพื้นซะหนาเกือบเทียบเท่านางรำในสมัยอยุธยา ยังดีที่ในกลุ่มนั้นมีหน้าสดอยู่คนหนึ่ง
   

“ผมซันครับ เราเคยเจอกันที่ผับ” ชายหนุ่มผู้ลงรองพื้นเบอร์แรงสุดเอ่ยอย่างกระตือรือร้นเมื่อเสี่ยจอมทัพยังคงทำหน้าเฉย และมองอย่างไม่เข้าใจ
   

“ที่ผับมีคนตั้งเยอะแยะ ฉันจำได้ไม่หมดหรอก” เสี่ยว่าอย่างเฉยชา เรียวจันทร์แอบอ้าปากหวอนิดหนึ่งเมื่อเห็นสีหน้าเงิบของชายคนที่มาทักจอมทัพ เพื่อนๆ ของนางก็ยืนทำหน้าอิหลักอิเหลื่อกันถ้วนหน้า
   

แต่อดีตคู่ขาคนที่เท่าไหร่ของเสี่ยจอมทัพที่ตัวเสี่ยก็คงไม่รู้และไม่จำยังคงพยายามยิ้มสู้ แม้จะยิ้มไม่เต็มปากเท่าไหร่ “คือผม… เคยนอน…”
   

ฟึบ!
   

คราวนี้เรียวจันทร์เบิกตากว้างหน้าตะลึงนิดหนึ่งเมื่อเสี่ยทัพยกมือขวาขึ้นเบรกอีกฝ่ายอย่างฉับไวโดยที่ใบหน้าเริ่มไม่สบอารมณ์ คนพูดเองก็ชะงักไปเยอะเหมือนกัน “ถ้าแค่เคยก็คือเคย ไม่ต้องมารื้อฟื้น”
   

“อ้าว ทำไมพูดงี้อะ” ไม่ใช่แม่นางรองพื้นเบอร์แรงสุดอุทานนะ แต่เป็นคนที่รองพื้นหนาเป็นอันดับสอง (หล่อนเอาเวลาไหนไปจัดอันดับ) ที่อยู่ด้านหลังต่างหาก แต่ก็ไม่ได้อุทานแรงหรอก เหมือนนางก็อุทานด้วยความอึ้ง แต่พอโดนสายตาคมวาบของเสี่ยทัพตวัดมองแวบเดียวพวกนางก็เลือกที่จะไม่ตอบโต้โดยที่คุณแม่ไม่ต้องขอร้อง
   

“ผมแค่อยากทักเสี่ยเฉยๆ” แม่นางหัวหน้ารองพื้นเบอร์ใหญ่เอ่ยเสียงอ่อย หน้าเสียไปมากโข มีแอบชำเลืองมองเรียวจันทร์ด้วยสายตาประเมินด้วย ด้วยความที่เป็นสายพันธ์เดียวกันแต่เลเวลสูงกว่าเรียวจันทร์ก็เลือกที่จะทำเฉย เพราะรองพื้นเรามันคนละเบอร์จ้ะ เรื่องนี้ฉันยกให้เธอจริงๆ
   

“ไปเถอะ” จอมทัพเลิกสนใจคนกลุ่มนั้นแล้วหันมาแตะบั้นท้ายเรียวจันทร์ พาเดินไปตรงเค้าน์เตอร์ขนมเพื่อซื้อของก่อนเข้าโรงภาพยนตร์
   

เรียวจันทร์สีหน้าค้างเติ่ง หันไปมองสีหน้าของอดีตคู่ขาเสี่ยที่ชักสีหน้าไม่พอใจอย่างงงๆ พ่อหนุ่มสาวกรองพื้นกวนอิมที่อุทานใส่เสี่ยยื่นแขนมาสะกิดเพื่อน ส่วนอีกสองคนก้มหน้าเล่นโทรศัพท์
   

“จำเขาไม่ได้จริงเหรอ” เรียวจันทร์หันไปถามผู้ชายข้างกาย
   

“ผมมั่นใจว่าตัวเองไม่เอาคนนี้แน่ ผมไม่ชอบคนลงรองพื้นหนา” นายแบบหนุ่มหัวเราะขบขันกับสีหน้าไร้อารมณ์ตอนจอมทัพพูด นี่แสดงว่าคุณเสี่ยแกก็ใจดีมากแล้วสินะที่ไม่หักหน้าไปมากกว่านั้น ดีไม่ดีพ่อรองพื้นหนาคนนั้นอาจจะแค่ชอบเสี่ย แล้วพยายามเต๊าะเสี่ยอยู่ก็ได้
   

“ฉันก็นึกว่าคุณจะเอาหลายคนจนจำไม่ได้” จอมทัพยกยิ้มมุมปากพลางรับถังป๊อปคอร์นมาจากพนักงานขาย
   

“ผมอยาก แต่ไม่ได้สำส่อน ก่อนจะเอาใครผมก็ต้องเลือกที่ตัวเองอยากเอาด้วย ไม่ใช่เอาได้หมดทุกคน” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าอ้อ ยื่นมือไปรับแก้วน้ำอัดลมแก้วใหญ่สีดำลายภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าไปชม จอมทัพยื่นเงินสดให้กับพนักงานสาวที่หน้าตาเฉยเมย ทำทุกอย่างเหมือนถูกตั้งโปรแกรมมาให้ทำ


เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งก่อนจะบิดปากเป็นรอยยิ้ม “แต่อย่าบอกว่าตอนนี้คุณมีฉันคนเดียวนะ อ๊ะ อ่า…” นางหรี่ตามองคนตัวสูง ยกมือขวาขึ้นแล้วโบกนิ้วชี้ไปซ้ายทีขวาทีตรงหน้า จอมทัพยิ้มมุมปากขำๆ
   

“ก็มีคุณคนเดียวจริงๆ นี่ คุณคนเดียวที่ผมเรียกเมีย” คุณนายแม่กลอกตาเป็นคำตอบ มือขวามิวายหยิบป๊อบคอร์นรสคาราเมลใส่ปาก เคี้ยวเสียงดังกรุบๆ
   

จอมทัพยิ้ม ก่อนที่จะพาเรียวจันทร์เดินเข้าไปตรงทางเข้าโรงภาพยนตร์เพื่อให้พนักงานฉีกตั๋ว


   

      
   
 :katai5:

เสี่ยขาาา เสี่ยจะทำอารายยย เสี่ยแลไม่น่าไว้ใจขึ้นทุกวันนะ 55555 คุณแม่ก็ยังคงไม่รู้สึกรู้สาอะไร ใครว่ายังไงคือฉันขอสวยไว้ก่อน 55555 กิ๊กเก่าเสี่ยจะมาก็เรื่องของนาง ถือว่ากิ๊กเก่าเสี่ยสติดีมากที่ไม่มีเรื่องกับขุ่นแม่ ไม่งั้นนางด่าออกสื่อแน่ๆ

แต่เสี่ยก็เบรกหนุ่มรองพื้นหนาหน้าเกือบทิ่มเช่นกัน นี่ถ้ามีเรื่องของเสี่ย อยากเห็นเหมือนกันว่าเสี่ยจะทำยังไงกับพวกเซ้าซี้ อู้ววว

ช่วงแรกมาแบบใสๆ พาเสี่ยไปดูหนังแบบวัยรุ่น เสี่ยอาจห่างไกลฟีลลิ่งนี้มานาน 55555



บางคนอยากให้ลงเร็วๆ ตอมเองก็อยากลงเร็วๆ ค่ะ แต่ตอมเขียนสด ลงสด 55555 แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขียนปุ๊บอัพปั๊บนะคะ ถ้าใครตามตอมมาตั้งแต่เรื่องก่อน จะทราบว่าตอมเป็นคนเขียนนิยายช้ามากกก ตอนนึงนี่เขียนสองสามวันเลยอะ

ยังคิดอยู่เลยว่าจะรีไรท์ตอนแรกๆ แต่ไม่ได้เปลี่ยนเนื้อเรื่องนะคะ แค่ใส่ดีเทลและปรับคำเฉยๆ เพราะแรกๆ คือเขียนสองเรื่องพร้อมกัน ตอมทุ่มให้เรื่องนี้น้อยมาก แต่ตอนนี้ทุ่มให้เรื่องนี้เรื่องเดียวแล้ว โฟกัสได้เต็มที่เลย ฉะนั้นอยากกลับไปแก้ในจุดที่รู้สึกว่ามันลวกๆ ไปหน่อย



อยากขอบคุณคนอ่านที่ตามอ่านเรื่องนี้อยู่จริงๆ ค่ะ เห็นว่ามีคนรออ่าน คอยเม้นให้ แม้ไม่ได้เยอะมากมาย แต่ตอมก็มีกำลังใจอัพแล้ว อยู่กันไปจนจบเลยนะคะ ^___^



สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้ว่า #WorksTheMagic




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 19:15:33 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีเสี่ยนี้เจ้าเลห์จริงๆ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เสี่ยนี่ขัดใจจริงๆ เจ้าเล่ห์ได้โล่

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Maii2206

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
โอ้ยย อิในใจก้เชียร์ให้อิเสี่ยเป็นพระเอกนะ แต่ว่ามันต้องมีอัลไลเงี่ยนงำแน่ๆ อิเสี่ยต้องรู้แน่ๆว่าเจ้เรียวจันทร์เป็นเจ้าของที่ดินตรงนั้น พี่คมเขี้ยวรีบๆหลงเจ๊เค้าเร็วๆหน่อยยยเร๊ววว ประเดี๊ยวเสี่ยจะแย่งซีนโหม๊ดดด  :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด