*~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:  (อ่าน 278804 ครั้ง)

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เดซี่เหลืองในความหมายของเรียว??  555

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นไปได้มั้ยที่เสี่ยจอมทัพรู้อยู่แล้วว่าที่ตรงนั้นเป็นของเรียวตั้งแต่แรก? แล้วตั้งใจจะฮุบที่เพื่อที่จะเสนอเงื่อนไขว่าถ้าเรียวยอมเป็นเมียก็จะคืนที่ให้ โอ้ยยยยยยย

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
คาถาที่ ๙ [75%]




เรียวจันทร์กำลังนั่งเช็ดเครื่องสำอางออกจากใบหน้าหลังจากเสร็จงานเดินแบบ นางเหลือบมองช่อดอกไม้ที่วางอยู่หน้าโต๊ะกระจกแล้วถอนหายใจพร้อมกับเบ้ปาก


“พี่เรียว ผู้ชายคนนั้นเขา…” ยังไม่ทันที่สตาฟสาวจะพูดจบ เสียงนุ่มทุ้มที่เคยคุ้นหูเมื่ออดีตอันไกลโพ้นก็ดังขึ้น


“…สวัสดีเรียว” เจ้าของชื่อหันหน้าไปมองอย่างชิลๆ พอเห็นใบหน้าหล่อตี๋และลักษณะร่างกายตามที่สตาฟสาวพูดไปก่อนหน้านี้ก็ทำหน้าไร้อารมณ์เป็นการทักทาย ก่อนที่จะหันไปพยักหน้าขึ้นให้หญิงสาวอีกคนที่ยิ้มให้แล้วหมุนตัวเดินออกไป


“นังฮีโบ๋วปลดปลอกคอให้ออกมาเดินเล่นเองได้ด้วยเหรอ” เรียวจันทร์เลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้น ชายหนุ่มร่างกายกำยำล่ำสันยิ้มเจ้าเล่ห์ ดึงเก้าอี้มานั่งตรงข้ามกับนายแบบหนุ่ม


“ยอร์ชเลิกกับเขาแล้ว”


“แล้วเรียว…” เรียวจันทร์ชะงัก ชายหนุ่มกระตุกยิ้มที่ได้ยินอีกฝ่ายแทนตัวเองเหมือนเดิม “…แล้วฉันต้องทำยังไง ดีใจที่คุณโสดแล้วเงี้ยเหรอ”


“ไม่ต้องก็ได้ แต่แค่มาบอกให้รู้ไว้ว่ายอร์ชคิดถึงเรียว แล้วก็อยากให้เราสองคนกลับมาเป็นเหมือนเดิม” เรียวจันทร์อ้าปากหวอเล็กน้อย ทำท่าคล้ายจะขำแต่ก็ขำไม่ออกเลยเปลี่ยนเป็นเบิกตากว้างสีหน้าตกใจเหมือนเห็นผีมากกว่าจะตื่นเต้น


“หลังจากที่เปลี่ยนใจไปกินหอยแครงแมลงภู่อยู่เป็นปีๆ แล้วก็จะกลับมามุดถ้ำเหมือนเดิมน่ะเหรอ” ยอร์ชยิ้มขำกับคำจิกกัดของแฟนเก่าตัวเอง


“ใช่ครับ ยอร์ชอยากกลับมามุดถ้ำ” เรียวจันทร์แสร้งยิ้มหวาน บิดหน้าไปมองช่อกุหลาบแซมดอกเดซี่สีเหลือง หยิบมันขึ้นมาก่อนจะยื่นไปตรงหน้าเจ้าของ


“ถ้ำมีให้เลือกมุดเยอะแยะค่ะคุณโยธิน เชิญเลือกได้ตามสบาย แต่ถ้ำของดิฉันไม่ต้องรับมังกรของคุณ” หนุ่มหน้าหวานดันช่อดอกกุหลาบไปแนบชิดติดอกล่ำของแฟนเก่า โยธินยกมือซ้ายขึ้นมาหมายจะจับมือเรียวจันทร์ แต่นายแบบหนุ่มปล่อยช่อกุหลาบร่วงลงพื้นแล้วดึงมือตัวเองกลับทันที โยธินยิ้มมุมปาก ดวงตาวิบวับ


“ผมคิดถึงเรียว”


“โอ๊ย…” เรียวจันทร์ถอนหายใจแรงพร้อมใบหน้าเซ็งขั้นสุด “…นี่คืออะไร ฟีลลิ่งคิดถึง โหยหางี้ อยากรีเทิร์น? บ้ารึเปล่า ฉันเอาเขาที่คุณสวมให้ออกไปนานแล้ว ไม่ต้องกลับมาอีก”


เรียวจันทร์มองอย่างไม่พอใจ หันหน้าไปมองหน้าตัวเองในกระจก พอเห็นว่าเครื่องสำอางถูกล้างออกไปจนหมดเกลี้ยง นางจึงลุกขึ้นยืน คว้ากระเป๋าแล้วเดินผ่านไอ้แฟนเก่าเฮงซวยไปอย่างไม่ไยดี


โยธินมองตามแล้วทำตาลุกวาว ทำท่าเข็ดฟันกับความเผ็ดร้อนของเรียวจันทร์ที่ยังคงถูกใจเขาเหมือนเดิม เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามร่างบางไป


เรียวจันทร์ก้าวฉับๆ ไปตรงประตูทางออกของห้องด้านหลังเวที ก้าวเท้าเข้าประตูข้างๆ ของห้างเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ นางผลักประตูใหญ่ของห้องน้ำเข้าไปด้านในที่มีคนยืนปัสสาวะอยู่คนเดียว เลือกห้องน้ำห้องริมสุดแล้วผลักประตูเพื่อจะเข้าไปปลดทุกข์ จังหวะที่กำลังจะดันประตูปิด ประตูสีขาวก็ถูกดันเข้ามาด้านในอย่างแรงจนนางตกใจ


“ยอร์ช!” เรียวจันทร์มองหน้าอีกฝ่ายอย่างงงปนตกใจ หนุ่มตี๋ร่างใหญ่ดันประตูห้องน้ำปิด หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้ร่างบาง ไม่พูดพล่ามมากมาย ยอร์ชดันเรียวจันทร์ติดกับกำแพง ก้มลงประกบปากสีชมพูสดนุ่มนิ่ม



“อื้อ!” เรียวจันทร์พยายามดันร่างใหญ่หนาของอีกฝ่ายออกจากตัว แต่สองแขนก็ถูกตรึงไว้กับผนัง เรียวจันทร์หันหน้าหนีเลยหลุดออกจากจูบจู่โจมนั้นได้ โยธินก้มลงไปซุกไซ้สูดดมกลิ่นซอกคอหอมกรุ่มที่เขาเคยเสพติด และแม้จะห่างหายกันไปนาน เขาก็ยังคงคิดถึงร่างบางแสนหอมของจันทร์ดวงนี้


“นี่ๆ หยุดทีได้มั้ย ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมเลย” เรียวจันทร์พยายามเอนหน้าหนีเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายไซ้ซอกคอนางได้ หนุ่มกล้ามบึ้กหยุดทำแล้วถอนหายใจรดซอกคอ ก่อนจะเงยหน้ามองร่างบางที่ยืนทำหน้ามุ่ย


“ไม่คิดถึงกันจริง ๆ เหรอ” เรียวจันทร์บิดข้อมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของมือหนา มองยอร์ชด้วยความขุ่นเคือง


“ความรัก ความคิดถึงมันหมดไปแล้วมะ ถามใจเธอดูยอร์ช ฉันต้องจมปลักอยู่กับเธอคนเดียวรึไง” เรียวจันทร์ทำสีหน้าว่า คิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ?


“ก็เผื่อไง” เรียวจันทร์เบ้ปาก ยกสองมือผลักอกหนา ดันอีกฝ่ายให้ออกห่างจากตัวเองเพียงนิด ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าและท่าทีที่แสนจะภาคภูมิใจ


“ฉันมีผู้ชายให้เลือกเยอะแยะ และมีผู้ชายอยากได้ฉันอีกมาก ทำไมฉันต้องวกกลับมาหาเธอด้วย นี่ใคร เรียวจันทร์ สวย รวย มีการศึกษา หน้าตาในสังคมฉันก็มี ทำไมฉันต้องทำตัวสิ้นหวังแบบนั้น”


โยธินหรี่ตามองเรียวจันทร์ อ้าปากน้อยๆ แลบลิ้นเลียริมฝีปากล่างราวกับกำลังใช้ความคิด “เพราะแบบนี้ไงยอร์ชถึงรักเรียว”


เรียวจันทร์มองอีกฝ่ายเหมือนเห็นของประหลาด “ขอบคุณที่รักกัน แต่ตอนนี้ฉันมีผู้ชายมารักมากพอแล้ว ไม่รับสายซ้อนค่ะ!”


ว่าจบก็เอื้อมมือไปปลดล็อคประตู ดึงประตูเปิดกว้างแล้วผายมือให้โยธิน


“ออกไป ฉันจะฉี่ ถ้าปวดบ้าง ก็ไปยืนฉี่ตรงโถ ไม่ก็ห้องอื่น” เรียวจันทร์ยักคิ้วสองข้างให้ร่างหนาบึ้ก อีกฝ่ายยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์


“เราเคยเห็นกันหมดแล้วน่า” เรียวจันทร์กลอกตาเซ็ง


“ก็แค่เคย แล้วเคยเห็นแล้ว ยังจะมาอยากเห็นอีกทำไม ออกไป จะฉี่!” นายแบบหนุ่มตะคอกเสียงเข้ม กระแทกมือผายไปทางประตูห้องน้ำอีกครั้ง


“ฉันไม่ย้ายห้องฉี่นะ เพราะฉันมาก่อน อย่ามาแซงคิว จะไปไหนก็ไป” เรียวจันทร์พูดด้วยความหงุดหงิดและรำคาญใจ นางรำคาญของนางจริงๆ ด้วยนะ ไม่ใช่แอ๊บรำคาญ


โยธินถอนหายใจพร้อมรอยยิ้มอ่อน “เดี๋ยวผมรอข้างนอกแล้วกัน”


เรียวจันทร์พ่นลมออกทางจมูกอย่างหน่ายใจ มองโยธินที่ค่อย ๆ เดินออกไปจากห้องน้ำอย่างเอือมระอา พอร่างสูงใหญ่พ้นเขตประตูห้องน้ำ เรียวจันทร์ก็ปิดประตูแล้วรีบปลดทุกข์ให้กับตัวเอง





หลังจากออกจากห้องน้ำมาพร้อมตัวพ่วงที่ไม่เต็มใจให้มาด้วยอย่างแฟนเก่า เรียวจันทร์ก็กะจะไปเดินหาซื้อของเข้าบ้านตามลิสต์รายการที่ป้าอุ่นแจ้งนางเอาไว้ในไลน์ ป้าอุ่นไม่ได้ใช้เองหรอก เจ้าแก็ปหลานป้าอุ่นเป็นคนส่งมาบอกว่าต้องการอะไรบ้าง ตอนแรกป้าอุ่นจะฝากซื้อยาบรรเทาอาการปวดเข่าของลุงอ๊อดสามีแกด้วย แต่เรียวจันทร์ดุว่าไม่ให้ซื้อยากินเอง เจ็บป่วยอะไรต้องไปพบหมอ และต้องเป็นหมอที่โรงพยาบาลเอกชน เพราะเขาจะได้ดูแลดีๆ ไม่ปล่อยให้นั่งรอนานๆ


“เรียวจะซื้ออะไรบ้าง” เรียวจันทร์กลอกตามองบนก่อนตอบ


“ใช่ญาติมะ มาถามกันเนี่ย”


“ไม่ใช่ แต่เคยเป็นผัวเรียวมาก่อน” คนสวยขมวดคิ้วฉับ


“รำคาญ! พูดอยู่ได้ ไม่รีเทิร์นย่ะ!” ร่างบางถลึงตามองไอ้ร่างโตที่ยิ้มไม่สะทกสะท้าน โชว์ความหน้าด้านของตัวเองต่อไป


“อย่าเล่นตัวน่าเรียว…” เรียวจันทร์สะบัดหน้าไปมองตาขวาง ตอนแรกนึกโกรธ แต่สักพักนึกอะไรเก๋ๆ ขึ้นได้เลยเปลี่ยนเป็นยิ้มพราว


“ก็มีดีให้เล่นตัวอะค่ะ ทำไมเหรอ” ว่าเสร็จก็หันไปหยิบผักสีเขียวที่ตัวเองไม่ค่อยจะกินใส่ในรถเข็น โยธินยกยิ้มมุมปากแล้วเดินเข้าไปซ้อนหลังร่างบางที่กำลังเดินเข็นรถเข็นของซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่


“เอ๊ะ?! เกาะแกะจังเลยอะ อย่ามาเจ๊าะแจ๊ะได้มั้ย ออกไป” เรียวจันทร์กระทุ้งข้อศอกใส่กล้ามท้องหนาของคนตัวใหญ่ เล่นเอาอีกฝ่ายจุกใช่เล่น แต่ก็ยังไม่ยอมเดินออกจากตัวเรียวจันทร์


“ก็แค่อยากช่วย” เรียวจันทร์ทำหน้าเอือมกับเสียงนุ่มชวนขนลุก นึกย้อนไปเมื่อก่อนแล้วก็กลัวตัวเองที่หลงใหลไปกับคารมของผู้ชายคนนี้


“งั้นช่วยไปไกลๆ จะไปหาหอยที่ไหนกินก็เชิญ”


“ก็บอกแล้วไงว่าอยากมุดถ้ำ”


“โอยยย! เก้งกวางละมั่งเลียงผาในเมืองไทยมีเยอะแยะ ไปหาสักคนเถอะไป ใช่ว่าหน้าอย่างเธอจะหาไม่ได้” เรียวจันทร์พูดด้วยความหงุดหงิด ออกแรงดันตัวโยธินออกห่างจากตัวเองสำเร็จ ก้มลงอ่านรายการสิ่งของในมือถืออย่างรวดเร็วเพื่อดูว่าเหลืออะไรอีกบ้างจะได้ไปจากหมอนี่สักที


“ไม่เอา อยากเอาเรียวคนเดียว” เรียวจันทร์กัดฟันแน่น รีบหยิบเนื้อหมู หมา กาไก่ ลงรถเข็นรัวๆ



“ไม่ต้องมาเอาฉัน รูฉันหลวม ขี้แตกสามเวลาติดกัน เอาไม่มันส์หรอก” โยธินหัวเราะเบาๆ ดูน่ารักด้วยลักยิ้มบนแก้มทั้งสองข้าง เรียกสายตาหนุ่มสาวได้หลายคนเชียวละ แต่กับเรียวจันทร์มันไม่ได้ผลอีกแล้ว


“แบบนี้ยิ่งต้องพิสูจน์” เรียวจันทร์กลอกตาก่อนจะว่าเสียงเหวี่ยง


“หน้าด้าน” ว่าจบก็เข็นรถไปที่เค้าน์เตอร์จ่ายเงินอย่างเร็ว โยธินเดินตามไปยิ้มไป


ณ ตอนนี้เขาหวังเพียงให้ได้ครอบครองเรียวจันทร์ดังเดิมก่อน แล้วถ้าสิ่งที่ได้ยินมาเป็นเรื่องจริง นั่นคือขั้นต่อไปที่เขาคาดหวังไว้หลังจากได้เรียวจันทร์คืนกลับมา




เรียวจันทร์ขับรถมาจอดหน้าบ้านตัวเองที่ไม่ได้กลับมาสองอาทิตย์เต็ม ๆ คิ้วโก่งสวยขมวดนิดหน่อยเมื่อเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์สามคนยืนเกาะขอบรั้วหน้าบ้าน และทำท่าทางคล้ายว่าจะบุกเข้าไปในบ้านของนางให้ได้ เจ้าของบ้านจอดรถ ลงจากรถด้วยอาการแตกตื่นนิดหน่อย เพราะในใจก็กลัวว่าพ่อสามคนนี้จะมาวางระเบิดบ้านตัวเองหรือเปล่า



“มีอะไรกันรึเปล่า” ชายสามคนในชุดที่ไม่มอซอแต่ก็ไม่ได้หรูหราหันกลับมามองเรียวจันทร์ที่ขมวดคิ้วมองทั้งสามคนอย่างไม่ไว้ใจ


“แล้วคุณเกี่ยวอะไรด้วย” ไอ้ผู้ชายร่างผอมหน้าตอบอย่างกับคนติดยาคนหนึ่งตอบแทนอีกสองคนที่เหลือ


“เกี่ยวมาก เพราะฉันเป็นเจ้าของบ้าน” สามคนนั้นหันมองหน้ากัน แล้วหันกลับไปมองเรียวจันทร์อีกที


“งั้นคุณก็ต้องรู้จักโรสิตาใช่มั้ย” เรียวจันทร์ยิ่งขมวดคิ้วหนักเมื่อหนึ่งในนั้นที่มีรูปร่างอ้วนท้วมเอ่ยถามกลับมา เรียวจันทร์มองอย่างระแวดระวัง และในขณะที่กำลังจะอ้าปากตอบ เสียงฝีเท้าวิ่งเร็ว ๆ ก็ดังออกมาจากในบ้าน


“เรียว! แกอย่าให้มันเข้าบ้านนะ!” เจ้าของชื่อหันไปมองมารดาตัวเองที่วิ่งหน้าตื่นตกใจออกมา ด้านหลังคือป้าอุ่นที่ยืนทำสีหน้าลำบากใจอยู่


“ปรากฏตัวออกมาได้แล้วเหรอครับคุณโรสิตา ถ้าอย่างนั้นขอเงินที่ติดเจ้านายผมไว้ด้วย” ไม่ต้องถามอะไรให้มากความ เรียวจันทร์หันไปมองแม่ตัวเองด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายเต็มทน


“แม่เคลียร์เองนะ เพราะเรียวบอกไปแล้วว่าจะไม่ช่วยเหลืออะไรอีกทั้งสิ้น…” โรสิตาทำหน้าตกใจมากกว่าเดิม แต่เรียวจันทร์หาสนใจไม่


“…นี่ หลบหน่อย ฉันจะเข้าบ้าน จะคุยกับลูกหนี้ของนายก็เชิญ” ร่างบางว่าหน้าเฉยเมย พร้อมกับโบกมือให้ทั้งสามคนเป็นเชิงบอกให้ขยับหลบ สามหนุ่มสามไซส์เขยิบหนีออกจากรั้วบ้าน เรียวจันทร์กดรีโมตเปิดประตูอัตโนมัติ หย่อนก้นลงไปบนเบาะรถ ขับรถเข้าไปจอดด้านในโรงรถของบ้าน ชายสามคนเดินเข้ามาด้านใน ทำเอาโรสิตาวิตกจนหน้าซีด พอหันไปมองลูกชายตัวเองก็เห็นว่ามันยื่นของให้ป้าอุ่นด้วยท่าทีสบายๆ ไม่ได้ทุกข์ไม่ร้อนใจใดๆ กับการที่มีคนมาทวงหนี้แม่ตัวเอง


“ไอ้เรียว แกจะทำเฉยไม่ได้นะ ช่วยฉันหน่อย!” เรียวจันทร์ถอนหายใจเบาๆ หันไปมองชายทั้งสามคนนั้น โรสิตายิ้มดีใจ


“เป็นคนของเสี่ยจอมทัพหรือเปล่า” ทั้งสามคนส่ายหน้า


“แล้วเป็นคนของ…” เรียวจันทร์เอ่ยชื่อเจ้าหนี้ของแม่ที่ตัวเองจำได้อีกสามสี่ราย แน่นอนว่าไม่รวมถึงธนาคาร เพราะทางนั้นคงไม่ส่งคนมาทวงแบบนี้แน่ๆล แต่ทั้งสามหนุ่มต่างปฏิเสธกับรายชื่อที่นางเอ่ยไป เรียวจันทร์พยักหน้าเบาๆ แล้วหันกลับไปมองหน้าแม่ตัวเอง


“ไม่ได้อยู่ในลิสต์ชื่อที่เราคุยกันไว้ ฉะนั้นเรียวไม่ช่วยใด ๆ ทั้งสิ้นตามข้อตกลง จัดการตัวเองนะขุ่นแม่” เรียวจันทร์หันไปยิ้มให้ป้าอุ่น ชวนให้แม่นมตัวเองเข้าบ้าน โรสิตาเลือดขึ้นหน้า อกแทบจะแตกตายที่เห็นลูกชายตัวเองเมินเฉยแบบนั้น


“อีเรียว! กลับมานะ! ช่วยฉันก่อน!


เรียวจันทร์ไม่สนใจเสียงเรียกและเสียงด่าทอของแม่ เดินเข้ามาในบ้านพร้อมป้าอุ่น แต่แม้จะทำเฉย ใบหน้าสวยหวานเกินชายก็แสดงถึงความเหนื่อยล้า ป้าอุ่นยื่นมือมาลูบหลังนางเบาๆ เรียวจันทร์หันไปยิ้มบาง


“คุณเรียวทำดีแล้วค่ะ ถ้าขืนยังตามเช็ดตามล้างให้ต่อไป เธอก็คงได้ใจไม่ยอมหยุดสร้างหนี้” เรียวจันทร์วางของลงบนโต๊ะไม้ในห้องครัว พยักหน้ารับน้อยๆ ด้วยสีหน้าเนือยๆ ได้ยินเสียงฝีเท้ากระแทกตึงตังขึ้นไปบนบ้านพร้อมกับเสียงก่นด่าด้วยความโมโห


แม้จะแก่นเซี้ยวเปรี้ยวจี๊ดแค่ไหน แต่คนที่ขึ้นชื่อว่าแม่กลับทำให้นางบั่นทอนกำลังใจตัวเองได้มากจริงๆ


“ขึ้นไปพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าทำกับข้าวไว้ให้ วันนี้จะนอนที่บ้านมั้ยคะ”


“คงไม่ล่ะป้า เดี๋ยวกินข้าวเสร็จคงกลับเขาใหญ่เลย”


“คุณเมฆาดูแลดีใช่มั้ยคะ” เรียวจันทร์ยิ้ม พยักหน้ารับเป็นการตอบคำถามนั้น นางไม่ได้บอกรายละเอียดลึกๆ ให้ป้าอุ่นรู้ว่าไปทำไม ไปทำอะไรเพราะอะไร แต่พอป้าอุ่นรู้ว่าจะไปอยู่ที่ฟาร์มของใคร หญิงสูงวัยก็จำได้ว่านั่นคือเพื่อนสนิทที่สุดของพ่อ ป้าอุ่นเคยพบคุณเมฆาสองครั้ง เธอเองก็ช่วยยืนยันว่าพ่อของเรียวจันทร์กับพ่อของคมเขี้ยวนั้นสนิทกันจริงๆ แต่ดีเทลอื่นๆ ของสองหนุ่มเพื่อนซี้ในอดีต ป้าอุ่นเองก็ไม่ได้ทราบมาก


“บางทีเรียวก็อยากย้ายไปอยู่ที่นั่นเหมือนกันนะ ป้าอุ่นรู้มั้ย ที่นั่นบรรยากาศดีมาก ไร้มลพิษทำลายจิตใจ” รอยยิ้มอ่อนล้าปรากฏบนใบหน้าสวยหวาน สาวสูงวัยมองเจ้านายน้อยของตัวเองแล้วยิ้มอย่างเข้าใจ


“ถ้าชอบ ก็อยู่ไปเถอะค่ะ แต่อย่าไปอยู่ถาวรนะคะ ป้าคิดถึง” เรียวจันทร์ระบายยิ้มอ่อนบนใบหน้าสวยๆ ก่อนจะขอตัวขึ้นไปพักด้านบน แต่ยังไม่ทันเดินถึงห้องนอน โรสิตาที่ใบหน้าเปื้อนน้ำตาก็เดินออกมาดักหน้านางไว้ก่อน


“สะใจแกแล้วใช่มั้ยที่ฉันต้องขายเครื่องเพชรที่ต้นตระกูลฉันสะสมมานาน!” เรียวจันทร์มองหน้ามารดาหน้าตาย


“ก็สมควรแล้วนี่ สร้างหนี้ขึ้นมาเอง ถึงเวลาก็ต้องชดใช้ อยากใช้เงินไปกับของไม่จำเป็น วันนึงมันก็ต้องขายของจำเป็นแบบนี้แหละคุณแม่”


“ไม่ต้องมาสอนฉัน…!”


“…ก็ถ้าไม่อยากโดนสอน ก็ไม่ต้องมาคุยกับเรียวสิ อยู่เงียบๆ ของแม่ไป ใช่ว่าเรียวอยากคุยด้วยเมื่อไหร่”


“แกนี่มันใจจืดใจดำจริงๆ!!” โรสิตาว่าด้วยสีหน้าเจ็บใจ เรียวจันทร์ขบกรามแน่น มองหน้าแม่ตัวเองอย่างหงุดหงิด


“อยากให้เรียวใจดำกว่านี้มั้ยล่ะ?!” สองแม่ลูกจ้องตากัน โรสิตามองอย่าโกรธจัด เรียวจันทร์มองอย่างหงุดหงิดสุดขีด แล้วสักพักโรสิตาก็เป็นฝ่ายสะบัดหน้าเดินกลับไปเข้าห้องนอนตัวเองและปิดประตูตามหลังดังปัง เรียวจันทร์หลับตาลง ถอนหายใจแรงๆ ก้าวเท้าเดินไปห้องนอนตัวเองต่อพร้อมกับเสียงโทรศัพท์มือถือ หยิบขึ้นมาดูหน้าจอก็เห็นว่าเป็นเสี่ยจอมทัพโทรมา นางพ่นลมหายใจเบาๆ แล้วกดรับสาย


“ว่ายังไงคุณเสี่ย”


[มาหาผมหน่อยสิ ผมอยากเจอ หรือจะให้ผมไปหาก็ได้นะ แค่บอกมาว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน] เรียวจันทร์กลอกตา ทำหน้าเอือม นางอยากพักร่างและสมองจากเรื่องน่าเหนื่อยใจที่เกิดขึ้น


“มีอะไรคะเสี่ยขา” นางแกล้งว่าเสียงอ่อนเสียงหวานพลางนั่งลงบนเตียง


[คิดถึงเมีย] พอตาเสี่ยนั่นพูดขึ้นมาเลยทำให้นางนึกขึ้นได้


“นี่ คุณไปบอกลูกน้องคุณเหรอว่าฉันเป็นเมียคุณอะ” คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น สีหน้าไม่ค่อยจะพึงพอใจเท่าไหร่


[ก็มันจริง]


“ฉันเป็นลูกหนี้ที่ดันได้กับเจ้าหนี้เท่านั้นแหละคุณเสี่ย ไม่ใช่เมีย”


[แล้วต่างจากเมียตรงไหน ได้กันเกินสิบครั้งแล้ว] เรียวจันทร์ทำปากยื่นเมื่อได้ยินน้ำเสียงสบาย ๆ ของตาเสี่ยจอมหื่น


“โอ๊ย สวยอะไรปานนี้เนี่ย ผู้ชายอยากได้ไม่เคยว่างเว้น” เสียงหัวเราะทุ้มอารมณ์ดีของเสี่ยจอมทัพดังมาตามสาย ดูไปดูมาตาเสี่ยก็ไม่น่าจะมีพิษมีภัยอะไรร้ายแรงอย่างที่นังเป็ดบอกสักหน่อย ออกจะชิลลิ่งไม่สนอายุด้วยซ้ำ


[งั้นมาหาผมหน่อยสิ ผมอยากเจอ เผื่อบางทีผมอาจจะลดหนี้ให้แม่คุณอีกสักล้านสองล้าน] ก็คงจะเป็นเรื่องกามๆ แบบนี้นี่แหละที่ร้ายที่สุดจากที่เห็น


เรียวจันทร์ยิ้มเพลียละเหี่ยใจ “ถ้าลดให้หมดจะไปทันทีเลย”


[อย่าโลภมากสิจ๊ะหนู ล้านนึงเสี่ยก็ใจดีมากพอแล้ว] แม่นายแบบหน้าสวยถอนหายใจเบาๆ วันนี้นางถอนหายใจจนลมหายใจจะหมดตัวอยู่แล้ว


“วันนี้เหนื่อยมากเลยค่ะเสี่ยขา” เรียวจันทร์กำลังจะทิ้งตัวลงนอน แต่ประโยคต่อมาของเสี่ยจอมทัพก็ทำเอาเบรกร่างกลางทาง ตอนนี้เลยอยู่ในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอน


[แหม บางทีเสี่ยก็เหนื่อยที่จะรอหนูใช้หนี้ให้ครบสามเดือน ไม่อยากเก็บบ้านไว้เหรอจ๊ะ] พอได้ยินเรื่องบ้าน เรียวจันทร์ก็ใจหล่นวูบ สีหน้าเริ่มอึกอัก


“อย่ายุ่งกับบ้านผม” คนสวยว่าเสียงเย็น หน้าตาเริ่มไม่พอใจ พลางลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องนอนตัวเอง ก้าวไปยังห้องนอนเก่าของบิดา รีบค้นลิ้นชักที่เก็บเอกสารสำคัญๆ ไว้


[ถ้าไม่อยากให้ผมยุ่งกับบ้าน ก็ให้ผมยุ่งกับคุณดีๆ สิ] น้ำเสียงที่ใช้ของจอมทัพเริ่มเปลี่ยนไป จากเอ็นดูอ้อล้อ เริ่มออกแนววางอำนาจ แม้ไม่ได้แสดงออกมาโต้งๆ แต่เรียวจันทร์ก็สัมผัสบางสิ่งในน้ำเสียงราบเรียบนั้นได้


“ก็ได้ เดี๋ยวผมไปหา” เรียวจันทร์ว่าอย่างจำยอม จังหวะนั้นเองที่นางค้นเจอโฉนดที่ดินของบ้าน นางถอนหายใจอย่างโล่งอกที่มันยังคงอยู่ไม่ได้หายไปไหน


[แล้วเจอกันนะครับคนสวย] เรียวจันทร์วางสายจากจอมทัพ กอดโฉนดที่ดินของบ้านไว้กับอกแนบแน่น นางหลับตาลงแล้วผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ เพื่อระบายความเหนื่อยหน่ายในอกออกมา






 :hao3:

ชีวิตนางมารเจอเรื่องรุมเร้ามากค่ะ แต่แม่ก็คือแม่ แม่ยังสตรองงงง

เรื่องนี้ก็สบายๆ อยากให้อ่านแล้วยิ้มไปกับความเซี้ยวของแม่เรียวมากกว่า เรื่องนี้จะน่ารักด้วยตัวเรียวจันทร์นี่แหละค่ะ นางลูกบ้า ลูกเล่นเยอะนะ 55555 ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ใครที่ติดตามกันอยู่แล้ว ขอบคุณมากๆ เลยค่าาาา  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 00:05:54 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ Lyralyn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ดีใจที่มาต่อแล้วว รอติดตามน้าค้าา

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
 :katai2-1: ชีวิตขุ่นแม่นี่ลำบากเนาะะะ ลำไยงี้เอาเสี่ยดีมั้ยคะแม่ รวยๆสวยๆผัว(อำนาจ)ใหญ่55555

ออฟไลน์ Krittapas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
มาต่อทุกวันไม่ได้เหรอคะ ค้างตลอดเลย อยากร้องไห้วันล่ะสิบรอบ เข้ามารอทุกวัน ติดและชอบเรื่องนี้ งอลๆๆ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
น่าสงสารเรียวจังเลยน่ะ สู้ ๆ น่ะจ้ะ อ่านแล้วแอบเครียดยังดีที่มีนิสัยของแม่เรียวมาเบรกนิดนึง แต่ยังงง ๆ ว่าเหมือนนายยอร์ชจะรู้ว่าเรียวเป็นเจ้าของที่ดินแน่ ๆ เลยกะจะมาจับแน่ ๆ เลยแต่ตัวเรียวยังไม่รู้เรื่อง มีแม่เป็นแบบนี้มันก้อพูดยากน่ะ จะตัดก้อเหมือนใจร้ายจะช่วยก้อไม่ไหวแหละ ถ้าแม่ดีกับเรียวก้อคงช่วยอย่างเต็มที่แต่ทิ้งเรียวไปตั้งแต่เด็กเลยนี่น่า แล้วงวดหน้าเรียวต้องไปนอนกับอีตาเสี่ยนี่อีกเรอะ นอนแบบเต็มใจก้อรับได้น่ะ แต่นอนแบบฝืนทนนี่สงสารเรียวอ่ะ นายคมเขี้ยวมาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวหน่อยสิ ขอเพ้อนิดนึง
ติดตามต่อน่ะจ้ะ ยังไงมาอัพบ่อย ๆ น่ะจ้ะ แต่ก้อแอบคิดถึงน้องแมทกับพี่ยักษ์น่ะจ้ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
โอ้ยยยย

ชีวิตเรียวนี่มันยากแท้ อุปสรรคเยอะหลาย

แต่เรียวจันทร์ยังเข้มแข็งได้


กอดดดดดด

ออฟไลน์ mochimanja2

  • มึน
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่าสงสารเรียวจังเลย มาต่อไวๆน๊า สนุกมากค่ะ อย่าหายไปนานเค้าคิดถึง 555+ :hao3:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

คาถาที่ ๙ [100%]



หลังจากให้เสี่ยแทะเล็มไปสามรอบ เรียวจันทร์ก็ถูกปล่อยตัวพร้อมกับหนี้ที่ลดลงอีกหนึ่งล้านบาท หากเป็นคนอื่นอาจจะกำลังดราม่าเสียน้ำตาว่าทำตัวไม่ต่างจากผู้หญิงหรือผู้ชายขายตัว แต่กับแม่นางเรียวจันทร์น่ะเหรอ? ไม่มี้ นางหาได้แคร์ไม่และมีเหตุจำเป็นอันใดทำไมนางต้องแคร์ อะไรที่ลดหนี้ได้ก็ทำไปซี้ จะมาพิรี้พิไรทำใจแกร่งดังเหล็กหนาทำไมกัน มันไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก ดีไม่ดี ทำเล่นตัว ยืดเยื้อต่อไป ดอกเบี้ยก็บานตะไทเข้าไปสิ ตาเสี่ยนั่นก็ใช่ว่ากินไม่ได้ กินได้อิ่มหนำสำราญเลยละ ต้องยอมรับว่าแม้อายุของเสี่ยจะเสี่ยงเรียกแก่ แต่พออยู่บนเตียง เสี่ยกลบความแก่ซะมิด


วินวินทั้งคู่ เสียตัวเสียตูดให้แล้วก็ยังได้อะไรตอบแทนกลับมานอกจากความสนุกบนเตียง แต่การลดหนี้ก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของตาเสี่ยนั่นด้วย อารมณ์ดีก็ลดหนี้ให้ แต่ถ้าแค่อยากนอนกับนางด้วยเฉยๆ ก็ไม่มีการลดหย่อนหนี้อย่างใด ซึ่งข้อนี้นางเองก็ลำบากจะต้าน เพราะดูท่าแล้วการขัดใจเสี่ยจอมทัพไม่น่าจะใช่เรื่องดีเท่าไหร่ ไม่ได้กลัวตายนะ กลัวหนี้เพิ่ม


แต่วันนี้ที่ออกอาการอิดออดกับเสี่ยก็เพราะนางรู้สึกเหนื่อยจริงๆ มันหนักๆ ตึงๆ ในหัว โดนแฟนเก่าหน้าด้านตามติดจนหงุดหงิด กว่าจะสลัดหลุดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย กลับบ้านไปยังไปเจอคนทวงหนี้แม่ และยังต้องปะทะกับแม่ผู้ไม่เคยพูดจาดีกับนางนอกจากอยากจะให้ช่วยเหลือเรื่องเงิน 


เรียวจันทร์กลับมาถึงฟาร์มของคมเขี้ยวตอนราวๆ ห้าทุ่ม ในฟาร์มเปิดไฟสว่าง แต่ก็ไม่ได้เปิดทั่วฟาร์ม แค่ตามริมรั้ว แถวรถไถคันเก่า โรงนา คอกวัว คอกม้า หรือแล้วแต่เจ้าของฟาร์มจะบัญชาว่าจะให้เปิดไฟตรงไหนบ้าง แสงไฟทำให้ฟาร์มไม่มืดมิดหม่นหมองหรือดูน่ากลัว และแม้จะดึกแล้ว ในหมู่บ้านคาวบอยยังคงมีเสียงเพลงและเสียงพูดคุยดังแว่วมาให้ได้ยิน สีสันในหมู่บ้านดูจะสว่างไสวและรื่นเริงที่สุดในฟาร์ม


“ไปไหนมา?!”


“อุ๊ยแหก!” เรียวจันทร์ที่กำลังจะเดินกลับห้องนอนตัวเองซึ่งก็คือออฟฟิศของฟาร์มถึงกับสะดุ้งตกใจเมื่ออีตาคมเขี้ยวเดินโผล่ออกมาจากสวนหน้าบ้านใหญ่อันมืดมิดแบบไม่มีสุ้มเสียงเอื้อนเอ่ยใดๆ ให้รู้ล่วงหน้า พอเห็นว่าเป็นอีตาเคราแพะเรียวจันทร์ก็ถอนหายใจโล่งอก


“สะดุ้งตกใจอย่างกับพวกเด็กหนีเที่ยว” คมเขี้ยวหรี่ตามองอย่างจับผิด เรียวจันทร์ยืนทิ้งสะโพกข้างหนึ่ง บิดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มน้อยๆ


“แล้วคุณพ่อทูนหัวก็จับได้ว่าลูกสาวแอบหนีเที่ยวมา ว้า แบบนี้จะโดนลงโทษอะไรมั้ยน้า” แม่เสี้ยวจันทร์แสร้งทำหน้านึก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าแอ๊บแบ๊วว่ากลัวจังเลย ส่วนคมเขี้ยวก็หน้าเดิมคือ ขยาด


“โอ๊ย หน้าเดิมตลอดเวลา ฉีดโบท็อกซ์แล้วยังไม่เข้าที่รึไง!” เรียวจันทร์ประชดอย่างหมั่นไส้ ไอ้เจ้าของฟาร์มเบ้ปาก ลอยลอยตาไม่รู้สึกรู้สา


“แล้วทำไมยังไม่นอน ออกมาเดินมืดๆ ค่ำ…” หนุ่มหน้าสวยทำตาโต ประดิษฐ์สีหน้าดีใจบนใบหน้านวลผ่อง


 “…แอบมาดักเจอฉันล่ะซี้” นายแบบหนุ่มทำท่าเขินอายอย่างมีจริต คมเขี้ยวเบะปากแล้วส่ายหัวช้าๆ


“กำลังจะเข้าบ้าน ไปนั่งดื่มกับคนงานในหมู่บ้านมา แล้วดันเผอิ๊ญเผอิญเดินมาเจอผีตานีอย่างคุณ โอเคมั้ยครับคุณนาย ผมไม่ได้มาดักรอเพราะพิศวาสคุณนายครับ” คมเขี้ยวทำหน้าว่า เข้าใจ๊? เรียวจันทร์เชิดหน้าขึ้นแล้วเอียงหน้าราวสี่สิบห้าองศา ก่อนจะชายตามองชายหนุ่มอีกคน


“เบื่อจังเลย พวกผู้ชายปากแข็ง โอะ… เฮ้ย!” มาดเชิดหลุดกระเด็นออกจากร่างทันทีเมื่อเจอคมเขี้ยวผลักหัวเบาๆ แต่ด้วยความที่กำลังเชิดได้ที่เลยไม่ทันตั้งตัว หัวแทบทิ่มลงพื้น เรียวจันทร์สะบัดหน้าไปมองไอ้เคราตาขวาง


“แม่งโคตรเพ้อเจ้อ…” คมเขี้ยวกำลังจะอ้าปากว่าต่อ แต่สายตาเห็นรอยแดงบนอกขาวๆ ของอีกฝ่ายเลยยิ้มกรุ้มกริ่ม ถามเสียงทุ้มออกแนวกวนๆ


“…ไปอ่อยผู้ชายที่ไหนมาล่ะคุณนาย” เรียวจันทร์ที่กำลังหน้ามุ่ยชะงักไปนิดก่อนจะก้มลงมองหน้าอกตัวเองตามสายตาของไอ้เขี้ยวกุด สักพักก็เงยหน้าขึ้นกลับไปมองหน้ามันใหม่ ก่อนจะยิ้มแพรวพราว แววตาระยิบระยับ


“หึงล่ะซี้…” เรียวจันทร์ยิ้มกว้างล้อเลียน มองด้วยสายตาเขินอาย ยกนิ้วขึ้นชี้หน้าชายหนุ่มตัวโต บิดตัวเล็กน้อยให้ดูพองาม ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเข้าอกเข้าใจ


“…มีใจให้กันก็บอก ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะฉันก็ชอบนายอยู่ นายก็รู้” เรียวจันทร์ขยิบตาให้หนึ่งวิ้ง คมเขี้ยวทำหน้าหยีเหมือนเห็นขยะเปียกก็ไม่ปาน เรียวจันทร์ยิ้มเบะปากด้วยความหมั่น แล้วด้วยความรวดเร็ว แม่ตัวดีรีบพุ่งตัวเข้าไปกอดร่างโตๆ ของไอ้เขี้ยวกุดไว้แน่น


“เฮ้ย!! ผีเกาะ ออกไป!” แน่นอนว่าคนโดนกอดพยายามทั้งดัน ทั้งแกะไอ้จันทร์ไรออกให้ไกลจากตัว แต่ไอ้ตัวป่วนก็กอดเขาไว้ซะแน่น ล็อคเอวเขาแน่นหนา เอาหน้าแนบชิดกับอก เกาะติดยิ่งกว่าลูกลิงเกาะท้องแม่


“หืม อกแน่น หน้าท้องดี๊ดี หุ่นแบบนี้ซบแล้วฟินเฟ่อ”


“โอ๊ย ไอ้จันทร์ไร!” ด่าไปก็พยายามดันร่างบางออกจากตัวเองแต่ก็โดนเกาะติดหนึบหนาแน่น กำลังจะอ้าปากขู่แต่เสียงแผ่วเบาของคนที่กอดเขาไว้ก็ทำให้ชะงัก


“เขาบอกว่าการกอดใครสักคนแล้วจะทำให้เรารู้สึกดี…” เพราะมันคือน้ำเสียงอันเหนื่อยล้า และเหมือนจะเป็นตามนั้นจริงๆ ไม่ใช่เสียงเสแสร้งแกล้งทำ


“…ท่าจะจริงเนอะ” อ้อมแขนที่กอดตัวเขาไว้แน่นในตอนแรกค่อยๆ คลายออก แต่ก็ไม่ได้เลิกกอดเขา คมเขี้ยวนึกทำตัวไม่ถูกที่เจอเรียวจันทร์ในหมวดสงบเสงี่ยมแบบนี้


“นี่คุณนาย…”


“…ขอแค่แปบเดียว ฉันรู้สึกดีจริงๆ นะ” อ้อน? ไอ้จันทร์ไรอ้อนเหรอ แต่ก็ไม่ใช่ออดอ้อนจนขนลุก แต่ให้ความรู้สึกกำลังพอดี


คมเขี้ยวถอนหายใจแผ่วเบาและเลิกพยายามที่จะดันอีกฝ่ายออกจากตัวเอง เดี๋ยวพอรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมก็คงพอ เขาเลยยืนให้คนตัวเล็กกว่ากอดและซบหน้ากับอกเขาต่อ


ก็แค่เห็นว่าดูเหนื่อยๆ หรอกนะเลยไม่อยากซ้ำเติมมาก
.
.
.
แต่เฮ้ย… นี่มันนานไปละ จะสิบนาทีแล้วเนี่ย แล้วทำไมคุณนายมันนิ่งไป คมเขี้ยวก้มลงมองหัวสีโค้กที่ไม่มีทีท่ากระดุกกระดิกแล้วยกมือจิ้มๆ ไหล่ของเรียวจันทร์


“เฮ้ย ไอ้จันทร์ไร”


“…” ไม่มีการตอบรับจากปลายทาง


“เฮ้ย หลับเหรอวะ จะหลับก็กลับไปที่ห้องโน่นแม่คุณ” แต่เรียวจันทร์ก็ยังคงนิ่ง ยืนกอดเขาไว้ไม่ยอมขยับ กำลังจะอ้าปากด่าต่อ แม่คุณนายเขาก็เงยหน้างัวเงียขึ้นมา


“นี่ ถ้าจะ…”


“…งิ้มๆ น้องเรียวง่วง พ่อไปส่งน้องเรียวนอนหน่อย งึ้มๆๆ” คมเขี้ยวขมวดคิ้วแล้วนึกในใจว่ามันบ่นอะไรของมัน บ่นเสร็จก็เขย่งตัวเอาคางมาเกยไหล่ขวาเขาไว้ สองแขนยกขึ้นโอบรอบคอเขาแน่น


“นี่!”


“อุ้มๆ พ่ออุ้มๆ น้องเรียวง่วงงง” ละเมอเหรอวะ ละเมอห่าอะไรแบบนี้ นึกว่าตัวเองเป็นเด็กรึไง แอคติ้งใส่กูอีกรึเปล่าเนี่ย


“ไอ้ดิน มึงไปถามพี่เขี้ยวซิ…” คมเขี้ยวเบิกตากว้างตกใจเมื่อได้ยินเสียงลูกน้องดังมาจากแถวทางเข้าหมู่บ้านคาวบอย ด้วยความไม่อยากให้พวกมันเห็นภาพนี้แล้วเอาไปแซวไม่เลิกอีก เขาเลยรีบอุ้มร่างเรียวจันทร์ไว้ในอ้อมกอด สองแขนเรียวจันทร์เกาะอยู่บริเวณคอกับไหล่คนตัวโต หัวโงนเงนซุกอกแกร่งของคมเขี้ยว


คมเขี้ยวก้าวเท้าฉับๆ อุ้มร่างบางไว้ในอ้อมแขน สีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย ดีที่ไอ้จันทร์ไรตัวเบา ผู้ชายห่าอะไรวะตัวเล็กแค่นี้ เอวบางร่างน้อยพอๆ กับผู้หญิง อ้อ ลืมไป คุณนายแกเป็นนายแบบ แถมยังไม่ใช่ชายเต็มร้อย เลยต้องรักษาหุ่นสินะ


“ลำบากผมจนได้นะคุณนาย” บ่นพึมพำคนเดียวในขณะที่อุ้มร่างเรียวจันทร์เข้ามาในห้องนอนในออฟฟิศที่มืดมิด มีเพียงแสงไฟจากด้านนอกที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่างที่มีม่านกันอีกทีเท่านั้นที่ให้แสงสว่างจางๆ เขาวางร่างบางไว้บนเตียง กะจะเปิดแอร์ให้แล้วเดินออกไปทันที แต่สองแขนไอ้จันทร์ไรก็เกี่ยวคอเขาไว้แน่น


“ปล่อยได้แล้ว”


“ฮื่อออ ไม่เอา พ่อนอนกับน้องเรียวสิ นะ น้องเรียวคิดถึงพ่อ ฮึกๆ” คมเขี้ยวตะลึงไปนิดเมื่อเห็นอีกฝ่ายเบะปากก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา


“หลอกกูอีกมั้ยเนี่ย” ด้วยความที่เคยเห็นไอ้จันทร์ไรบีบน้ำตาสดๆ ต่อหน้ามาก่อน เขาเลยไม่ค่อยจะไว้ใจน้ำตายัยคุณนายเท่าไหร่ แต่วงแขนที่กระชับคอเขาให้ไปใกล้ใบหน้านวลผ่องเกินชาย และท่าทางที่พยายามซุกหาไออุ่นก็ทำให้คมเขี้ยวถอนหายใจ


‘ตั้งแต่พ่อหนูเรียวตาย เขาก็ต้องอยู่ตัวคนเดียว มีแม่ก็เหมือนไม่มี ไอ้อาทิตย์คือสิ่งยึดเหนี่ยวในชีวิตที่หนูเรียวรักที่สุดแล้ว’


เสียงของป๋าที่เคยเล่าเรื่องของไอ้จันทร์ไรแบบคร่าวๆ ให้ฟังดังขึ้นในหัว คมเขี้ยวถอนหายใจแผ่วเบาอีกรอบ ก่อนที่จะถลกผ้านวมออกจากเตียง ค่อยๆ หย่อนตัวเองไปนอนข้างๆ เรียวจันทร์ วินาทีที่เขานอนลงด้านข้าง เรียวจันทร์ก็ปล่อยมือออกจากคอเขาแล้วกระเถิบหัวขึ้นมาหนุนอกเขาทันที สองแขนกอดร่างเขาเอาไว้ราวกับกอดหมอนข้าง


อยู่อีกพักนึงก็แล้วกัน ให้คุณนายแกได้ซึมซับพ่อในฝันไปก่อน


คมเขี้ยวดึงผ้านวมสีขาวผืนหนาขึ้นมาห่มร่างตัวเองกับเรียวจันทร์ เอื้อมมือขวาไปหยิบรีโมตแอร์มากดเปิดแอร์ก่อนจะเอาวางไว้บนโต๊ะหัวเตียงตามเดิม สองแขนเก้ๆ กังๆ ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนดี สุดท้ายเลยยกแขนขวาหนุนหัวตัวเองไว้กับหัวเตียง แขนซ้ายวางราบไปกับหมอนอีกใบ ปล่อยให้คุณนายเรียวจันทร์นอนกอดตัวเองไว้แน่น


คมเขี้ยวก้มลงมองหัวทุยสวยของอีกฝ่าย ก่อนจะส่ายหัวน้อยๆ ที่ต้องมาอยู่ในสภาพนี้กับไอ้ตัวจี๊ด แต่ตอนนอนก็ไม่มีพิษมีภัยอะไร สงบเสงี่ยมดี แต่ก็แน่อยู่แล้ว นอนอยู่แบบนี้จะลุกขึ้นมาแผลงฤทธิ์ได้ยังไงล่ะ รอให้ตื่นก่อนสิ โลกาวินาท


และแม้คมเขี้ยวจะเคยเห็นแอคติ้งของเรียวจันทร์มาบ่อยครั้ง แต่ยังไงซะ พ่อหนุ่มก็ไม่มีทางตามคุณนายแกทันหรอก เพราะตอนนี้คุณนายแกนอนหลับตาพริ้มยิ้มอิ่มชัยที่หลอกให้ผู้ชายมาส่งตัวเองถึงเตียงนอนได้ ต้องขอบคุณครูแงะสำหรับวิชาการแสดงที่ยอดเยี่ยมในบทแกล้งนอนละเมอ และขอบคุณพ่อที่ให้ลูกใช้ชื่อมาอ้อนบังหน้า ฮิๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 00:05:25 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ Krittapas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
สนุกมากกกกก มาต่อทุกวันเลยนะคะ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
บสงทีก็หมั่นนางนะคุณนายเธอแอ๊คติ้งสุกยอดมาก 555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
จะสงสารคมเขี้ยวดีไหมเนี่ย  :mew4: แต่สงสารแม่เรียวจริง ๆ มีแม่ไม่ดีเนี่ยเป็นกรรมส่วนตัวจริง ๆ  :เฮ้อ: ยังไงก้อสู้ ๆ น่ะ เราว่าเสี่ยต้องรู้แน่ ๆ ว่าที่ผืนนี้เป็นของเรียวหรือเปล่าและทำไมใคร ๆ อยากได้ที่พื้นนี้จัง ชักสงสัย  :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ mochimanja2

  • มึน
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
บางทีก็อยากตบเสี่ยนะ :beat:

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
สนุกมากกกกกชอบเคะราชินี
กับเมะที่ดูรังเกียจเคะแบบนี้555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
มารยาคุณนาย ล้านเล่มเกวียนยังถือว่าน้อยไป

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8


คาถาที่ 10 :: The enemy of Devil. (ศตรูนางมาร) [50%]




   เสียงนกร้องจิ๊บๆ คลอไปกับเสียงไก่ขันดังแว่วมาจากไกลๆ ในตอนเช้าที่แสงอาทิตย์สีส้มสว่างสาดแสงเป็นวงกว้างบนท้องฟ้าสีเข้ม ดวงอาทิตย์ค่อยๆ โผล่ขึ้นพ้นจากยอดเขาสีเขียว ดอกทานตะวันที่ห้อยหัวต่องแต่งกำลังจะมีโอกาสเงยหน้าสู้ฟ้าอีกรอบ ดอกไม้ใบหญ้าที่หลับใหลในยามค่ำคืนที่ผ่านมา กำลังบิดขี้เกียจรับแสงตะวัน เหล่ามนุษย์หลายคนที่มีหน้าที่ในตอนเช้าตรู่ก็ตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ของตนในวันใหม่
   

แต่ก็ยังมีมนุษย์อีกหนึ่งชีวิตที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนุ่มๆ ใต้ผ้านวมผืนหนา โดยมีร่างบอบบางที่ตื่นนอนแล้วนอนกอดไว้ตั้งแต่คืนที่ผ่านมา คมเขี้ยวหลับตาพริ้ม ริมฝีปากบนเผยอขึ้นเล็กน้อย ลมหายใจอุ่นๆ ผ่อนเข้าผ่อนออกเบาๆ


เรียวจันทร์แหงนหน้ามองอีกฝ่ายแล้วยิ้มกริ่ม หัวเราะคิกคักในลำคอเบาๆ กับตัวเอง รู้สึกปริ่มใจที่ได้นอนกอดผู้ชายคนนี้ไว้ทั้งคืนในอ้อมกอดตัวเอง แต่ที่ปริ่มยิ่งกว่าคือแม่นางสามารถล่อลวงให้ไอ้เขี้ยวกุดมาตกหลุมพรางของตัวเองได้ต่างหาก เรียวจันทร์ยกมือซ้ายจะเอื้อมไปสัมผัสเคราบนใบหน้าหล่อของคมเขี้ยว แต่สักพักก็นึกอะไรขึ้นได้ เลยเปลี่ยนจากยกมือขึ้นด้านบนลงไปด้านล่างแทน


เรียวจันทร์สอดมือเข้าไปใต้ผ้านวม ไม่เสียเวลาคลำใดๆ ทั้งสิ้น มือเรียวบางคว้าหมับเข้าที่เป้ากางเกงนอนเนื้อนุ่มของคมเขี้ยว ก่อนที่แม่นางจะอ้าปากตาโตด้วยความตื่นเต้น


“โอ้วมายก็อดดด ตุงมาก ยาวมาก” เรียวจันทร์พูดเสียงกระซิบ ใบหน้าแสดงออกถึงความระริกระรี้



“อือ…” เจ้าของความยาวที่เรียวจันทร์จับๆ คลำๆ ครางเสียงแผ่ว เรียวจันทร์แหงนหน้าขึ้นมอง ดวงตาเป็นประกายวิบวับ หัวใจเต้นตุบๆ ไม่ได้ตื่นเต้นที่อีกฝ่ายจะตื่นหรือไม่ แต่ตื่นเต้นที่ได้จับของดีแต่เช้าแบบนี้ต่างหาก


“ใจไม่ดีเลยอะ…” เรียวจันทร์พึมพำสีหน้าเปรี้ยวปาก ขอบคุณกลไกร่างกายของชายหนุ่มยามเช้าที่ทำให้นางได้สัมผัสลอง (long) เขี้ยว และขอบคุณพ่อเครางามที่ไม่ใส่กางเกงในนอน นางเลยได้ฟินตั้งแต่เช้ารับแสงอรุณแบบนี้


“อืมมมม…” เรียวจันทร์หน้าเคลิ้ม มือซ้ายลูบไปตามความยาวของเขี้ยวน้อย คมเขี้ยวผ่อนลมหายใจแผ่วเบา รู้สึกเสียวตรงกลางลำตัวกับท้องน้อย จิตใต้สำนึกสองจิตกำลังตีกัน จิตนึงบอกว่ารู้สึกฟินดี แต่อีกจิตก็กำลังแยกแยะว่ามันคือฝัน (เปียก) หรือเรื่องจริง เขาปล่อยวางทุกอย่างทิ้งแล้วค่อยๆ ตั้งสติ เปลือกตาขยับทีละน้อย


“อื่อ… เฮ้ย!!” คมเขี้ยวเบิกตากว้าง ร้องเสียงหลงแต่ก็ไม่ได้ดังลั่นจนน่าตกใจ เขาจ้องร่างบางที่นอนอยู่ข้างเขาพร้อมกับรอยยิ้มพริ้ม


“หม่อนิ้ง” เรียวจันทร์เอ่ยเสียงยานคาง มือซ้ายยังคงจับๆ คลำๆ ของดีของคมเขี้ยวไม่ยอมปล่อย คมเขี้ยวเพิ่งตื่นเลยยังงงๆ อยู่สักพัก


“คุณ...” เขาขมวดคิ้ว กำลังจะอ้าปากถามว่าอีกฝ่ายมาอยู่นี่ได้ยังไง แต่พอสติเริ่มไหลเข้ามาในหัวเลยนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเขาเผลอหลับไปพร้อมกับไอ้จันทร์ไร


“มอร์นิ่งคิสกันมั้ย” เรียวจันทร์กะพริบตาปริบวิ้งๆ คมเขี้ยวเบลออีกสักแปบก่อนจะรู้สึกได้ว่าเป้าตัวเองโดนมือมืดลวนลามอยู่ เขาสะบัดผ้านวมออกแล้วก็เห็นเต็มตา เรียวจันทร์แสร้งทำตาโต อ้าปากหวอคล้ายตกใจ แต่มือที่จับเป้าคมเขี้ยวไว้ก็ไม่ยอมปล่อย


“อุ๊บส์! โดนจับได้ซะแล้ว แย่จัง~” เรียวจันทร์แสร้งยิ้มเขิน บิดไหล่ซ้ายน้อยๆ แต่มือซ้ายจับลำคมเขี้ยวไม่หลุด ยิ่งกว่าตุ๊กแกเกาะผนัง


“เอามือออกไป” คมเขี้ยวสั่งเสียงเรียบ จ้องคนตัวเล็กดุๆ แต่อีกฝ่ายหาได้สนใจไม่ กลับทำหน้าใสซื่อ และเลื่อนมือลูบเป้าเขาไปตามความยาวเบาๆ เล่นเอาเผลอเกร็งหน้าท้องไม่รู้ตัว


“ฉันก็เดาว่านายน่ะไม่ธรรมดาแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ แบบนี้ถ้าโดนเข้าไปคงทั้งจุก ทั้งเสียวตลอดทริปเลยล่ะ” คมเขี้ยวขมวดคิ้วหน้ามุ่ย เอื้อมมือขวาไปกระชากมือซ้ายของเรียวจันทร์ออก เขาทำท่าจะลุกขึ้น แต่เรียวจันทร์รีบเด้งตัวขึ้นแล้วกระโดดขึ้นนั่งคร่อมเขา


“ไอ้จันทร์ไร อย่าลามปาม ลงไป!” คมเขี้ยวเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงมีน้ำโห เขาบีบข้อมือซ้ายของเรียวจันทร์แน่น คนข้างบนยิ้มกริ่มไม่สะทกสะท้าน


“แหม มันแข็งขนาดนี้ เอาออกหน่อยสิ ฉันช่วยได้นะ”


“จะกินเยี่ยวผมรึไง ผู้ชายมันก็เป็นทุกคนแหละตอนเช้า ถึงคุณจะไม่ใช่ชายแท้ แต่ก็ไม่ต่างจากผมหรอก” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้น แล้วก้มลงมองเป้าตัวเองแวบหนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม


“ก็จริงนะ ถ้างั้นเราต้องปลดปล่อยแบบแพ็คคู่” เรียวจันทร์ขย่มเป้าคมเขี้ยวเบาๆ เด้งตัวไปข้างหน้าข้างหลังช้าๆ หน้าท้องคมเขี้ยวหดเกร็งวูบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเลื่อนสองมือมาจับเอวของคนด้านบน


เอวแม่งโคตรเล็ก เอาไส้ไปไว้ไหนวะ


“ลงไป ก่อนที่ผมจะทำร้ายคุณ…” เรียวจันทร์ยกสองมือประกบหน้าคมเขี้ยว ก้มลงจูบริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว นางกดริมฝีปากบางของตัวเองแนบชิดสนิทไปกับริมฝีปากหนาของอีกฝ่าย คมเขี้ยวช็อคไปนิดหนึ่งที่โดนจู่โจมอย่างว่องไว เขาบีบเอวเรียวจันทร์แน่น แต่พอนึกขึ้นได้ว่าจับตรงนี้ก็ไม่ช่วยอะไร เขาเลยยกสองมือขึ้นจับหน้าสวยเกินชายของเรียวจันทร์ไว้แล้วดันออกอย่างแรง จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความโมโหที่เริ่มมากขึ้น


“ผมเตือนดีๆ แล้วนะ ออกไป!” แต่เรียวจันทร์กลับทำตรงกันข้าม นางปัดสองมือคมเขี้ยวออกอย่างแรง ล็อคหน้าอีกฝ่ายไว้อีกรอบและก้มลงจูบ คราวนี้พยายามใช้ลิ้นแทรกแซงเข้าไปในปาก คมเขี้ยวปิดปากแน่นและยกสองมือจับไหล่เรียวจันทร์ไว้ตั้งท่าจะผลักออกแรงๆ แต่เรียวจันทร์ก็ใช้สองมือตัวเองและแรงที่แม้จะน้อยนิดแต่ก็พยายามใช้กดข้อมือทั้งสองข้างของคมเขี้ยวไว้บนเตียง และพยายามเปิดปากคมเขี้ยวให้ได้


“เฮ้ย! บอกให้ออกไปไง!” คมเขี้ยวสะบัดหน้าหนี น้ำเสียงเริ่มหงุดหงิดได้ที่ และเริ่มหัวเสียหนักขึ้น เรียวจันทร์เปลี่ยนเป็นไซ้คอคมเขี้ยวแทน คนด้านล่างเริ่มออกแรงดิ้นแรงขึ้นจนคนด้านบนโคลงเคลงแต่ก็ไม่ย่อท้อต่อการไซ้คอผู้ชาย


“ไอ้จัญไร!” เรียวจันทร์น่ะรู้แล้วละว่าควรพอตรงไหน แต่ก่อนจะหยุดก็ขอให้ได้ทำอะไรบ้าง นางเลยฝากรอยจูบเอาไว้ที่ซอกคอซ้ายของคมเขี้ยว ก็เป็นจังหวะที่คมเขี้ยวดันตัวนางออกจากตัวเองพอดี เรียวจันทร์ยกหัวขึ้นตั้งตรงแล้วถอนหายใจหน้าเซ็ง ปล่อยให้คมเขี้ยวใช้สองมือบีบไหล่ตัวเองแน่น แม้จะเจ็บแต่นางก็ยังคงนั่งคร่อมเป้าผู้ชายเอาไว้อยู่


“โห่ อะไรอะ ใจแข็งชะมัด ยั่วยากจริงๆ เลยนะ ว้าย!” ร่างบางหน้าเหวอเมื่อโดนคนตัวโตใช้แขนซ้ายข้างเดียวผลักตกลงไปบนเตียงอีกฝั่ง ก่อนที่คมเขี้ยวจะลุกขึ้นนั่งและสะบัดตามองเรียวจันทร์ด้วยความไม่พอใจ


“เริ่มลามปามหนักขึ้นละนะไอ้จังไร” คมเขี้ยวว่าเสียงเหี้ยมพร้อมชี้หน้าอีกฝ่ายหน้าตาเอาเรื่อง เรียวจันทร์ตีหน้ามึน ทำไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่จริงในใจก็รู้แหละว่ารอบนี้ไอ้เขี้ยวกุดอาจจะชกนางจนฟันหลุดเลยก็ได้ถ้ายังไม่หยุด


“แหม ก็ฉันอยากทำนี่ นายน่ากินเพิ่มเป็นสองเท่าเลยนะแบบเนี้ย” แต่นางก็ยังมิวายแทะเล็มด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแบบที่ถ้าคมเขี้ยวไม่อคติ ก็ต้องบอกว่ามันดูกระเง้ากระงอดน่ารักไม่น้อย แต่ตอนนี้พ่อเครางามกำลังอยู่ในอาการหงุดหงิดพร้อมชกยิ่งกว่านักมวย เขาขมวดคิ้วมองไอ้จันทร์ไรที่นอนเอวคอดก้นโด่ง ก่อนจะลุกออกจากเตียงไปยืนบนพื้น เรียวจันทร์มองเป้ากางเกงสีเทาตุงๆ แล้วอมยิ้มกรุ้มกริ่ม 


“ไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าเป็นผู้ชายที่น่ากินมากคนนึง ฉันคิดไม่ผิดจริงๆ เลยอะที่ชอบนาย” เรียวจันทร์ยิ้มภูมิใจ น้ำเสียงอ่อนหวานเบาหวิว ริมฝีปากสีชมพูห่อเป็นดอกบัวตูมน่ารักๆ กะพริบตาวิ้งๆ ให้คมเขี้ยวที่ยังคงทำหน้าโมโหอยู่ และเมื่อเห็นว่าอีตาหนุ่มคาวบอยยังคงไม่ยิ้มแย้ม นางเลยจิ๊ปาก


“โอเค ขอโทษก็ได้…” ว่าแล้วก็ยกมือพนมขึ้นตรงอก แต่นางยังกวนประสาทอีกฝ่ายด้วยการพนมมือแบบนางรำที่แบะนิ้วออกสองฝั่ง แล้วยกมือขึ้นถวายบังโคมอย่างอ่อนช้อย


 “…อิฉันขอโทษนะคะคุณคมเขี้ยวที่ทำเกินเหตุ” เรียวจันทร์ยิ้มหวาน ส่วนคมเขี้ยวทำหน้าเหี้ยมไม่เปลี่ยน คำขอโทษของไอ้จังไรไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น แต่หมั่นไส้มันกว่าเดิมอีก


“คราวหน้าอย่ามาทำแบบนี้อีกนะ เดี๋ยวแม่งชกให้หน้าพังทั้งหน้า” คราวนี้เรียวจันทร์สะดุ้งตกใจจริงไม่แอคติ้ง รีบยกสองมือจับหน้าตัวเอง


“เฮ้ย โหดร้ายที่สุด หน้าฉันคือเครื่องทำมาหากินเลยนะ!”


“ไม่อยากอดตายอย่าทำแบบนี้กับผมอีก!!” คมเขี้ยวตะคอกลั่น ไหล่สองข้างของเรียวจันทร์กระตุกเพราะตกใจ (ของจริง) คนตัวเล็กมองหน้าคนตัวใหญ่ที่กระฟัดกระเฟียดเครียดเข้มข้นแล้วทำหน้างอ


“ขอโทษแล้วกันค่ะคุณคมเขี้ยวที่ดิฉันมิอาจห้ามใจไม่ให้อยากกินคุณ ขอโทษที่มองว่าคุณหล่อและแซ่บจนกลีบผกาของดิฉันสั่นไหวระดับสิบริกเตอร์!” คมเขี้ยวยังขมวดคิ้วกับข้อแก้ตัวประหลาดจากคนประหลาดอย่างนังคุณนายจัญไร เขาไม่อยากเสียเวลากับมันอีก ไม่รู้ว่าจะบ้าได้ถึงเลเวลไหน เขาเลยก้าวเท้าเดินไปที่ประตูห้องนอน


แต่ไอ้จันทร์ไรก็คือไอ้จันทร์ไร มันสะทกสะท้านที่ไหนล่ะ


“อยากโดนเขี้ยวนายฝังแรงๆ จัง วี้ดวิ้ววว” คมเขี้ยวสะบัดหน้าไปมองนังคุณนายตัวแสบที่หัวเราะอ้าปากกว้างพร้อมรอยยิ้มเริงร่า เขาขบกรามแน่นแล้วเลือกจะเดินหนี เพราะถ้าเขาเลือกอีกทางเขาคงได้เดินเข้าไปต่อยหน้าสวยๆ นั่นเละแน่


คนอะไรวะ หน้าด้าน กวนตีน ปากดีและไม่ได้ดีแต่ปากด้วยนะ แม่งมันคือความหายนะของชีวิตเขาชัดๆ







หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวเสร็จแล้ว เรียวจันทร์ก็ออกไปหาอะไรกินที่โรงอาหารของคนงานที่อยู่ข้างบ้านคมเขี้ยว เป็นโดมไม้ทรงกลมโปร่งๆ มีต้นไม้ต้นใหญ่ตรงกลางโดม โต๊ะอาหารตั้งวางเรียงรายล้อมรอบต้นไม้ เรียวจันทร์เจอกับดินในตอนเช้า ทั้งคู่นั่งทานข้าวด้วยกันและพูดคุยกันอย่างสบายๆ เรียวจันทร์ไม่ได้เข้าไปทำความรู้จักกับคนงานอื่นๆ ของคมเขี้ยว แต่ก็ส่งรอยยิ้มให้หากใครมองหรือยิ้มให้ก่อน ยกเว้นก็แต่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยเจอตอนคมเขี้ยวพาเดินดูฟาร์ม ผู้หญิงที่ชอบคมเขี้ยว หล่อนมองนางอย่างไม่เป็นมิตร แต่เรียวจันทร์ก็ไม่ได้พยายามยิ้มสร้างมิตรแต่อย่างใด มองมาอย่างต่อต้านขนาดนั้น คุณนายเรียวแกเลยปรายตามองให้แม่นั่นทำหน้าหงุดหงิดเล่นๆ


“ไอ้น้อยหน่าครับ มันชอบพี่เขี้ยวมาก” เรียวจันทร์อ้าปากเล็กน้อยที่โดนดินจับได้ว่ากำลังปรายตามองชะนีตนนั้นอยู่ เรียวจันทร์ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มทีละนิด


“งั้นเหรอ แต่ดูท่าทางจะเป็นรักข้างเดียวเนอะ” เรียวจันทร์ไหวไหล่ขวาเบาๆ ตักไข่ดาวราดซอสพริกเข้าปาก 


“ใช่ครับ น้อยหน่ามันชอบพี่เขี้ยวมานานแล้ว แต่พี่เขี้ยวไม่ได้ชอบมัน ผมว่าพี่เขี้ยวชอบคุณเอื้อง นางพยาบาลคนสวย” เรียวจันทร์ชะงักไปนิดหนึ่ง ทวนความจำว่าเคยได้ยินถึงคำว่านางพยาบาลคนสวยมาก่อนเมื่อไม่นานมานี้


“…อ้อ ระวังคุณพยาบาลคนสวยคนนึงไว้นะ ผมเห็นเธอกับไอ้เขี้ยวสนิทสนมกัน นั่นอาจเป็นคู่แข่งคนสำคัญของคุณก็ได้”


เรียวจันทร์เลิกคิ้วและเบ้ปากนิดหนึ่งก่อนจะถามเสียงเรื่อยเปื่อย “อ้อ สวยมากมั้ย” ดินพยักหน้ารับแรงๆ แววตาใสซื่อไม่โกหกว่าอีกฝ่ายนั้นสวยมาก


“สวยครับ แต่…” ดินขมวดคิ้ว ทำท่าอึกอักไม่อยากพูด เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นสูงงงๆ


“…แต่ผมว่าคุณเอื้องมีบางอย่างที่ทำให้ผมไม่ค่อยชอบแบบที่ผมชอบคุณเรียว” เรียวจันทร์ยิ้มเขิน ยกมือไปตีแขนแน่นๆ ล่ำๆ ของดินเบาๆ หนึ่งที


“ดินล่ะก็ ทำให้เขินอีกละ”


“จริงๆ นะครับ คุณเอื้องเธอสวย แต่ผมอึดอัดแปลกๆ เวลาอยู่กับเธอ”


“แล้วเจ้านายดินเขาไม่รับรู้ความแปลกนั้นเลยเหรอ” ดินส่ายหัวรัวๆ


“ไม่รู้เหมือนกันครับ” เรียวจันทร์พยักหน้านิดๆ ไม่ได้คิดต่อเรื่องราวอันนี้ให้มันยืดยาวใดๆ เพราะนางไม่ได้กังวลกับชะนีนางนั้นเลยสักนิด ถ้าสวยมากขนาดนั้น แน่จริงหล่อนก็ไปคว้ามงกุฎนางงามจักรวาลคนที่สามมาให้ไทยสิยะ


“นี่ดิน มีคนมาขอซื้อที่ดินของเจ้านายดินเยอะมั้ย” ดินเลิกคิ้วขึ้นงงๆ นิดหนึ่ง เรียวจันทร์มองออกว่าดินคงงงว่าทำไมจู่ๆ นางถึงถามประเด็นนี้


“ก็… ฉันเห็นที่แถวนี้เป็นที่ต้องการเยอะ แล้วชาวบ้านก็ขายกันหลายคน ที่ดินของนายเขี้ยวก็สวยจะตาย ฉันเลยนึกสงสัยน่ะว่ามีคนมาขอซื้อบ้างหรือเปล่า”


“อ๋อ…” ดินพยักหน้า ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มหนึ่งอึก


“…เยอะนะครับ คนมาขอซื้อที่ดินที่อยู่รอบนอกฟาร์มพี่เขี้ยวบ่อยมาก แต่ที่บ่อยที่สุดคือคนชื่อจอมทัพ คนนั้นผมเห็นตื๊อป๋าบ่อยมากเลย” เรียวจันทร์คิ้วกระตุกนิดหนึ่ง


“แต่เขาก็ไม่ยอมขาย?” ดินส่ายหัวเร็วๆ


“ไม่ขายหรอกครับคุณเรียว พ่อพี่เขี้ยวเคยบอกว่า ที่ดินตรงนั้นเขาขายไม่ได้” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วงงๆ


“ทำไมอะ” ดินยักไหล่แล้วส่ายหัวสองที


“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” เรียวจันทร์อ้าปากหวอเล็กน้อย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าถามดินไปก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี เพราะดินไม่ใช่เจ้าของที่


“แต่ฉันสงสัยนะว่าตาเสี่ย เอ่อ หมายถึงจอมทัพอะไรนั่นน่ะ ทำไมถึงอยากได้ที่ดินตรงนี้นักหนา”


“เดี๋ยวนี้ที่ดินแถวนี้ทำเลทองครับคุณเรียว ราคาสูง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคุ้ม พวกนักลงทุนเลยกว้านซื้อเก็บไว้สร้างนั่นสร้างนี่…” เรียวจันทร์ยิ้มอย่างประหลาดใจที่ดินพูดอย่างเป็นการเป็นงาน ดินยิ้มแห้งก่อนจะรีบโบกมือ


“…อย่าคิดว่าผมรู้เองนะ ไอ้ดินความรู้น้อย ที่พูดๆ มาพี่เขี้ยวบอกผมทั้งหมดเลย” เรียวจันทร์ขมวดคิวนิดหนึ่ง


“ดินจบชั้นอะไรเนี่ย”


“แค่มอหกเท่านั้นแหละค้าบ”


“อ้าว แล้วทำไมไม่เรียนต่อปริญญาตรี ดินควรเรียนต่อนะรู้มั้ย การศึกษาไทยอาจไม่ได้ดีที่สุดในโลก แต่ดินควรมีดีกรีไว้กับตัวนะ”


“หูย ไม่เอาหรอกครับ ดินเรียนแค่นี้ก็พอ เกรงใจพี่เขี้ยว เขาส่งดินเรียนตั้งแต่มอต้น ดินอยากออกมาช่วยงานพี่เขี้ยวมากกว่า” คิ้วเรียวสวยยังคงขมวดเข้าหากัน


“แล้วพ่อแม่ดินไปไหน ทำไมกลายมาเป็นนายคมเขี้ยวส่งเราเรียน” ดินยิ้มน้อยๆ ออกจะเป็นรอยยิ้มเศร้าแต่ก็ไม่ใช่รอยยิ้มชวนดราม่า


“ตายหมดแล้วครับ ตายตอนดินอยู่ประถม ก็ได้พี่เขี้ยวนี่แหละดูแลดินมา” เรียวจันทร์อ้าปากค้างนิดหนึ่ง ก่อนที่จะยิ้มด้วยความเข้าใจ นางเอื้อมมือขวาไปจับมือซ้ายของดินเอาไว้


“ดินเก่งมาก” ชายหนุ่มตัวโตยิ้มกว้าง เรียวจันทร์ยิ้มอย่างชื่นชมด้วยความจริงใจที่นานๆ นางจะมีให้กับใคร


ทั้งสองคนนั่งกินข้าวกันต่อจนหมด ก่อนจะออกจากโรงอาหาร เรียวจันทร์ปรายตามองแม่ลูกระเบิดน้อยหน่าอีกที เห็นเจ้าหล่อนทำหน้านิ่งเชิดใส่ คุณนายแกเลยยกยิ้มมุมปากเย้ยนิดๆ แล้วก็เดินออกไปจากโรงอาหารพร้อมดิน


“เดี๋ยวดินขอไปดูแลม้าก่อนนะครับ” เรียวจันทร์ยิ้ม ดินกำลังจะเดินไปทางคอกม้าแต่เรียวจันทร์นึกอะไรขึ้นได้


“เออนี่ดิน ถ้าฉันจะขออนุญาตเรื่องในฟาร์มทั้งหลายแหล่ ฉันต้องขอป๋าหรือนายเขี้ยว”


“ก็ต้องพี่เขี้ยวแหละครับ เพราะป๋าเขาไม่ได้ลงมายุ่งนานแล้ว นานๆ ทีถึงจะลงมา ก็ อย่างตอนเกิดเรื่องคุณเรียวนั่นแหละ” เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ พยักหน้าเบาๆ ดินหมุนตัวเดินไปทางคอกม้า คุณนายแกยืนเคว้งสักแปบว่าจะไปทางไหนดี มองไปทางออฟฟิศกับตัวบ้าน สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินไปทางบ้านของคมเขี้ยวเพื่อที่จะไปคุยสิ่งที่ลืมคุยเมื่อเช้า


ร่างบางเดินไปกดกริ่งตรงหน้ารั้วประตูบ้านเพื่อเรียกให้ใครสักคนออกมาเปิดประตูให้ ยืนกอดอกรอสักพักประตูรั้วไม้ก็เปิดออก พอหันไปมองก็เจอกับผู้หญิงผมยาวสลวยสวยตรงพอๆ กับใบหน้า หล่อนยิ้มให้เรียวจันทร์อย่างเป็นมิตร ส่วนเรียวจันทร์ด้วยความลืมตัวก็กวาดสายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าของชะนีนางนั้น


“เอ่อ มาหาใครคะ” จากที่กำลังมองอย่างสำรวจ เรียวจันทร์สะดุดไปนิดหนึ่งก่อนที่จะยิ้มน้อยแต่พองาม เพราะไม่อยากยิ้มให้เจ้าหล่อนเยอะมาก เดี๋ยวจะหาว่าอยากผูกมิตรด้วย


“คุณพ่อ คุณแม่หรือนายคมเขี้ยวก็ได้ สักคน”


“อ๋อ ถ้างั้นอยู่หมดเลยค่ะ” เรียวจันทร์ยิ้มมุมปากอ่อนๆ เดินแทรกตัวเข้าไปด้านในรั้ว หญิงสาวผิวผ่องตัวสูงเท่านางเดินนำขึ้นบันไดไปบนบ้าน เรียวจันทร์มองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายอย่างประเมินก่อนจะก้าวเท้าเดินตามไป


“เอ่อ คุณพ่อคุณแม่คะ มีคนมาหาค่ะ” หล่อนเอ่ยปากเมื่อเดินนำเรียวจันทร์มาถึงในครัวของบ้าน เรียวจันทร์เห็นพ่อกับแม่กำลังยกกับข้าวมาไว้บนโต๊ะ ส่วนนายคมเขี้ยวไม่รู้หายหัวไปไหน แต่นั่นไม่สำคัญ ดีเหมือนกัน ขอกับพ่อน่าจะง่ายกว่า ถึงหมอนั่นจะไม่อนุญาตแต่ถ้าป๋าให้ ไอ้เขี้ยวหักก็ค้านไม่ได้อยู่แล้ว


“อ้าว หนูเรียว มาทานข้าวเร็ว” เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ พร้อมส่ายหัวเบาๆ


“เรียบร้อยแล้วครับป๋า เรียวไปกินกับดินที่โรงอาหารมา” แม่สาวสวยตัวเล็กเดินนวยนาดไปช่วยแม่ของไอ้เขี้ยวกุดยกอาหาร เล่นเอานางทำตัวไม่ถูกว่าควรจะช่วยด้วยหรือไม่ แต่พอเห็นว่าจานอาหารเหลืออีกสองสามอย่างเลยเลือกจะยืนอยู่กับที่


“บอกแล้วไงว่าให้ขึ้นมาทานด้วยกัน”


“ไม่เป็นไรครับแม่ กินที่ไหนก็อร่อยเหมือนกัน” เรียวจันทร์ยิ้ม มองทั้งสามคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะอย่างพร้อมเพรียง หญิงสาวคนนั้นนั่งลงข้างมารดาของคมเขี้ยว


“แล้วมีอะไรรึเปล่าหนูเรียว” เรียวจันทร์หันไปมองคุณเมฆาแล้วยกยิ้ม กำลังจะอ้าปากตอบก็เห็นคมเขี้ยวเดินเข้ามาในครัว อีกฝ่ายชะงักไปนิดที่เห็นเรียวจันทร์ ก่อนที่จะบิดปากไม่พอใจน้อยๆ และเดินไปนั่งข้างพ่อตัวเอง เรียวจันทร์กลอกตานิดหน่อย ปัดสีหน้าของอีกฝ่ายทิ้งออกจากความคิดแล้วรีบพูดธุระของตัวเอง


“คือเรียวจะมาขออนุญาตอะไรสักสองอย่างหรืออาจจะสามอย่างน่ะครับคุณป๋า…” คุณเมฆายิ้มใจดี พยักหน้าเป็นเชิงให้พูดต่อ คุณบัวก็หันมามองอย่างสนใจ ยัยชะนีที่นางไม่รู้จักก็หันมามองด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันกลับไปสนอาหารตรงหน้าต่อ มีคมเขี้ยวคนเดียวที่นั่งก้มหน้าก้มตากินข้าวเงียบๆ


“…พอดีมีรายการสอนทำอาหารติดต่อเรียวมา แล้วเขาอยากใช้ฟาร์มของคุณป๋าเป็นที่ถ่ายทำ แล้วก็กองถ่ายหนังของเรียวจะมาขอใช้สถานที่ถ่ายทำสามวัน แล้วก็ เอ่อ… แม็กกาซีนเล่มนึงติดต่อให้เรียวถ่ายแบบและอยากได้สถานที่ลักษณะแบบที่ฟาร์มนี้ เรียวเลยลองเสนอฟาร์มคุณป๋าไป” เรียวจันทร์ร่ายยาวจนจบแล้วฉีกยิ้มแห้งอย่างเกรงใจ


“โห เป็นดาราเหรอคะ” หญิงสาวแปลกหน้าเอ่ยถามด้วยความทึ่งหลังจากได้ยินลิสต์งานของเรียวจันทร์ คนถูกถามยิ้มนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี คนที่ตอบเลยเป็นคุณบัวแทน


“หนูเรียวเป็นนายแบบจ้ะหนูเอื้อง กำลังฮ็อตเลยนะ แล้วก็เห็นว่าจะมีหนังเร็วๆ นี้เนอะ” เรียวจันทร์ยิ้มพร้อมพยักหน้าสามสี่ทีตอบคำถามของคุณบัว ก่อนจะบิดหน้าไปมองหน้าของหญิงสาวอีกคนให้ถนัดกว่าเดิมแล้วก็นึกถึงคำพูดของดิน นี่สินะยัยช่อเอื้องเรืองรอง ผู้หญิงของนายคมเขี้ยว เรียวจันทร์หันไปมองไอ้เคราที่นั่งแกะกุ้งใส่จานอยู่


“เรื่องราคาคุณป๋าเรียกมาได้เลยนะคะ เอ้ย ครับ” เมฆาอมยิ้มอย่างไม่ถือสากับการลงท้ายหางเสียงแบบผิดๆ ถูกๆ ของเรียวจันทร์


“ป๋ากับแม่น่ะไม่มีปัญหาหรอก ดีซะอีก ได้โปรโมตฟาร์ม แต่ว่า…” เมฆาเหลือบมองลูกชายตัวเอง คมเขี้ยวเงยหน้าขึ้นสบตากับเรียวจันทร์อย่างเฉยชา


“ถึงผมไม่อนุญาต แต่ถ้าป๋ากับแม่บอกว่าไม่มีปัญหา แล้วมันจะมีปัญหาอะไรล่ะ” คมเขี้ยวว่าแบบเบื่อๆ เขารู้ดีว่าถึงตอบว่าไม่ให้ พ่อกับแม่เขาก็ให้อยู่ดี


“โถ่ งอนอีกแล้วไอ้เคราเอ๊ย” เมฆาเอ่ยแซวลูกชาย สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้หญิงสาวอีกสองคน เรียวจันทร์มองภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกอึดอัดแปลกๆ จนต้องขมวดคิ้วนิดหนึ่ง


“เอ่อ สรุปว่าเขามาถ่ายได้ใช่มั้ยคะ” เมฆาพยักหน้ารัวๆ เรียวจันทร์ยิ้มกว้างแต่รอยยิ้มก็ต้องหุบลงเพราะเสียงห้วนๆ ของคมเขี้ยว


“อย่าสร้างความวุ่นวายก็แล้วกัน ถ้าเกิดอะไรขึ้นคุณต้องรับผิดชอบ” เรียวจันทร์ทำหน้าหมั่นไส้ คมเขี้ยวยักคิ้วสองข้างหนึ่งทีและทำสีหน้าว่าไม่แคร์


“รู้แล้ว!” คนหน้าสวยกระแทกเสียงด้วยความหมั่น


“กินอาหารเช้าช้าไปรึเปล่าเนี่ย ทำไมเขี้ยวทำหน้าบูดแบบนั้นล่ะ” ว่าจบแม่พยาบาลสาวก็ตักอาหารใส่จานให้คมเขี้ยว ชายหนุ่มยิ้มรับละมุนแล้วเอ่ยขอบคุณเบาๆ เรียวจันทร์เห็นสายตาของพ่อกับแม่ที่มองกันด้วยสายตากรุ้มกริ่มพอๆ กับรอยยิ้ม ก็พอจะเข้าใจได้ว่าทั้งสองคนคงอยากได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นสะใภ้


เรียวจันทร์รู้สึกแปลกๆ ไม่ได้อยากมีความรู้สึกนี้ แต่ตอนนี้นางเหมือนส่วนเกิน และนางจะไม่ยอมให้ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด เอาแค่เหมือนพอ อย่ารู้สึกจริง


“งั้น… ขอบคุณมากนะคะป๋ากับแม่ เรียวไปทำงานก่อนแล้วกัน…” เรียวจันทร์ส่งยิ้มให้ป๋ากับแม่ และยัยพยาบาล (อย่างไม่ค่อยเต็มใจ) ก่อนจะหันไปมองคมเขี้ยวที่กำลังตักอาหารใส่จานของผู้หญิงที่ชื่อเอื้อง


หึ! สุภาพบุรุษเหลือเกินพ่อคุณ


“…วันนี้คุณจะให้ฉันทำอะไร”


“ไปรอที่ออฟฟิศ” คมเขี้ยวตอบสีหน้าเรียบเฉย เรียวจันทร์ยักคิ้ว ตอบรับอือออเสียงเบา กำลังจะยกมือไหว้ลาป๋ากับแม่ โทรศัพท์ก็ส่งเสียงสไกป์ดังขึ้น นางหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นแจแร็ดวีดีโอคอลมา เรียวจันทร์เหลือบมองคมเขี้ยวกับยัยช่อเอื้องที่กำลังส่งยิ้มให้กันแวบหนึ่งก่อนจะเบ้ปากน้อยๆ


คิดว่าพวกหล่อนมีคู่กันคู่เดียวเหรอยะ!


“Hi, Jared!” เรียวจันทร์เอ่ยทักเสียงใส พร้อมกับยิ้มและโบกมือให้หนุ่มอิตาลีอย่างสวยงาม แจเร็ดยิ้มกว้างและส่งจุ๊บมาให้


“ฝรั่งที่ไหนน่ะ” คุณเมฆาเอ่ยถามพลางตักอาหารใส่จาน เรียวจันทร์หันไปยิ้มแล้วตอบ


“กิ๊กเรียวเองค่ะป๋า เอ่อ ยังไงเรียวขอตัวก่อนนะคะ” พ่อกับแม่คมเขี้ยวยิ้มให้ เรียวจันทร์หมุนตัวเดินไปพร้อมกับถือโทรศัพท์ไว้ในมือ เสียงพูดคุยภาษาอังกฤษคลอไปกับเสียงหัวเราะ


“Yes, I miss you… really?... Missing your hunk body…” คนบนโต๊ะอาหารทั้งสี่คนมองตามร่างบางที่เดินละล่องคุยโทรศัพท์อย่างเบิกบานออกไปจากบ้าน แล้วเสียงใสๆ ก็ค่อยหายไป


“เป็นผู้ชายที่สวยมากเลยค่ะ ผิวดีมาก หุ่นก็ดี ถ้าเป็นผู้หญิงต้องสวยมากแน่ๆ” เอื้องหรืออัจฉราเอ่ยชมด้วยน้ำเสียงและหน้าตาที่หมายความตามนั้น


“จริง แม่เห็นด้วย ผู้ชายอะไร สวยจนหาคำว่าหล่อไม่เจอ” เอื้องตอบรับอย่างเห็นด้วยอีกที เมฆายิ้มขำแล้วนึกถึงเพื่อนสนิทตัวเองที่ชอบจับเรียวจันทร์แต่งตัวเป็นผู้หญิงสมัยที่ยังเด็กๆ


คมเขี้ยวนิ่งเงียบไม่พูดอะไร ไม่ใช่เขาไม่อยากพูดหรือโกรธใคร แต่เป็นเพราะพูดเรื่องเรียวจันทร์เขาเลยขอเงียบดีกว่า ไม่อยากพูดถึงมัน เดี๋ยวจะชอบวกไปนึกถึงเหตุการณ์สยิวเมื่อเช้าอยู่เรื่อย แม่งน่าหงุดหงิด








 :hao7:

เกือบหน้าเสียโฉมแล้วมั้ยคะขุ่นแม่เรียว แทนที่จะยั่วให้เขาอยากเยเรา กลายเป็นว่าเขาอยากกระทืบซะงั้น ฮ่าๆๆ โอ้ยยย ขุ่นแม่จะจับผู้ชายคนนี้ทำผัวได้มั้ยคะเนี่ย

ศัตรูหัวใจของขุ่นแม่เรียวปรากฎกายขึ้นมาแล้วค่ะ นางมาแล้ว แต่อาจจะยังไม่เห็นบางอย่างที่ทำให้น้องดินผู้ใสซื่อของเราอึดอัด สิ่งนั้นจิเป็นอะไร รอให้ขุ่นแม่เป็นคนดึงมันออกมาละกันเนอะ

โหหห หายไปเกือบเดือนอีกละ พอดีเคลียร์หนังสืออีกเรื่องเพิ่งเสร็จค่ะ ตอนนี้โล่งรัวๆ มีเวลามาทุ่มให้แม่เรียวเต็มที่แล้ว

เอ้อออ นิยายเรื่องนี้มี สนพ. สนใจติดต่อมาด้วยนะคะ วู้ววว ดีใจ ฮ่าๆๆ แต่ว่า ตอมก็ปฏิเสธไปแล้วละค่ะ เพราะปั่นให้ไม่ทัน ไม่อยากเร่งตัวเอง ยังไงก็ต้องขอบคุณ สนพ. มากๆ เลยค่ะ ที่สนใจนิยายเรื่องนี้ คือเพิ่งมีสิบตอนเอง เพิ่งจะเกือบครึ่งเรื่อง ฮ่าาา

เจอกันอีกครึ่งที่เหลือนะคะ ขอบคนอ่านทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้กันอยู่ค่ะ ขอบคุณมากๆ เลย

สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้ว่า #WorksTheMagic จ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 11:21:17 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ waza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
แต่ก็แต่งได้สมจริงนะ คมเขี้ยวเป็นชายแท้อะ จะให้เขว้ให้เปลี่ยนทาง ก็ต้องใช้เวลา ใช้เหตุผลให้มากหน่อย จะรอวันน้านน วันมี่เธอเปลี่ยนจายยย :haun4: :oo1: :impress2:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
น้องเรียววววว แซ่บมากกกกกก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เรียว เอ๊ย.....รุก เขี้ยว แรงมั่กมาก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
บอกพี่เขี้ยวว่าถึงอิพี่จะไม่ให้ แต่อิแม่นางก็มีผู้ให้เลือกเยอะนะจ๊าาา 5555555.  :katai3:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: แม่เรียวร้ายจริงเชียว แต่แซ่บมากจ้ะ รักแม่เรียวจริง ๆ เลยน่ะ แต่หนูแซ่บได้แต่อย่าดราม่าน่ะ เราสงสารน่ะ ต้องยั่วจนนายเขี้ยวอดหึงไม่ได้เลยน่ะ หนูต้องแสดงให้นายเขี้ยวได้เห็นว่าหนูนั้นมีดีมากกกว่าความแรดน่ะจ้ะ  :o8: ส่วนยายเอื้องเนี่ย เราว่าเป็นสายของนายจอมทัพหรือเปล่า หรือว่ากะจับนายเขี้ยวแต่แอบซ่อนไว้อย่างแนบเนียน หน่าเล่นเข้ามากินข้าวร่วมบ้านทำตัวเป็นว่าที่ลูกสะใภ้เชียวน่ะ  :katai3: คอยดูแม่เรียวจะตีบทให้กระจุยไปเลย  :m16: มาด่วน ๆ น่ะจ้ะ ดีใจจ้ะที่ไม่ไปออกกับ สนพ.ชอบอุดหนุนกับผู้เขียนมากกว่าน่ะ  :mew3:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8


คาถาที่ ๑๐ [100%]




“ฉันมาทำแค่สามเดือนเท่านั้นแหละ เดี๋ยวก็เลิกแล้ว” เรียวจันทร์บิดปากไปซ้ายทีขวาที พูดแล้วก็หัวใจหวิวๆ ถ้านางทำไม่สำเร็จ ไม่รู้ว่าจะพูดกับเสี่ยจอมทัพยังไงเลย แจเร็ดขมวดคิ้วสีหน้าไม่เข้าใจ


[ไอไม่เก็ตเลย ทำไมยูจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย] คนถูกถามถอนหายใจแรงๆ


“อย่าเก็ตเลย เรื่องมันซับซ้อน…” เรียวจันทร์ปัดเรื่องรกสมองออกจากหัว ไม่อยากคิดเยอะแยะอะไรตอนนี้ นางเปลี่ยนเป็นยิ้ม ส่งสายตาแพรวพราวให้หนุ่มอิตาลี


“…หุ่นยังดีเหมือนเดิมเลยนะ” เรียวจันทร์ยิ้มตาหยี แจแร็ดยิ้มเขินแล้วลุกขึ้นนั่ง เลื่อนกล้องไปตามร่างกายท่อนบนตัวเอง เรียวจันทร์แกล้งทำเสียงซี๊ดจนแจเร็ดหัวเราะ


[ไอคิดถึงยูมาก กว่าจะได้เจอกันก็ตั้งปลายปี ทุกวันนี้ไอต้องช่วยตัวเอง] เรียวจันทร์อ้าปากค้างนิดหนึ่งก่อนจะรีบว่าต่อ


“เฮ้ ยูก็หาสาวสักคนสิ หรือหนุ่มหน้าตาดีๆ อย่างฉันสักคนก็ได้ ช่วยตัวเองให้เมื่อยแขนทำไม” แจเร็ดทำหน้าซื่อแล้วยักไหล่ทั้งสองข้าง


[ก็ตอนนี้ไอมีแค่ยู] เรียวจันทร์อ้าปากหวอค้างเติ่ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้โดนแจแร็ดด่าอะไรเลยแม้แต่คำเดียว แต่นางกลับรู้สึกจี๊ดที่หัวใจ


“โอ้ว… เอ่อ… น่ารักจริงเชียวพ่อหนุ่ม” เรียวจันทร์พยายามฉีกยิ้มกว้าง แต่ก็ทำได้ไม่ค่อยดีนัก แจเร็ดยิ้มอบอุ่น มองเรียวจันทร์อย่างรักใคร่


[I miss you and I love you, Riew.] เรียวจันทร์ยิ้มค้าง ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ แววตาราวกับกวางน้อยสลดลงชั่วครู่ก่อนที่จะรีบฉีกยิ้มเรียกความสดใสคืนกลับมาให้ตัวเอง


“นี่ แล้วจะไปถ่ายแบบที่ LA วันไหนเหรอ”


[อาทิตย์หน้า ถ่ายชุดว่ายน้ำ] เรียวจันทร์อ้าปากยิ้มกว้าง ห่อไหล่อย่างมีจริตแล้วกรี๊ดเบาๆ


“ตายแล้ว แค่คอนเซ็ปต์ก็น่าชื่นชม ถ่ายรูปมาให้ดูเยอะๆ นะ” แจเร็ดหัวเราะอารมณ์ดี


[ยูเคยเห็นไอตอนไม่ใส่อะไรสักชิ้นมาแล้วนะ]


“โถ่ เธอไม่รู้อะไร ผู้ชายใส่กางเกงว่ายน้ำ เซ็กซี่กว่าตอนเปลือยทั้งตัวอีก” เรียวจันทร์บอกตาเป็นประกาย ยกมือขวาเท้าคางใบหน้าเคลิบเคลิ้ม มองแจเร็ดราวกับกำลังตกอยู่ในห้วงจินตนาการอันล้ำลึก


[ไอใส่แล้วส่งให้ยูดูเลยก็ได้นะ แต่อย่าลืมตั้งเป็นรูปภาพหน้าจอล่ะ] แจเร็ดแซวยิ้มๆ เรียวจันทร์แสร้งมองค้อนน้อยๆ


[นี่ แล้วยูไม่คิดจะกลับไปนิวยอร์กอีกแล้วเหรอ]


“กลับสิ นิวยอร์กน่ะแหล่งทำมาหากินของฉันเลยนะ แต่ขอเคลียร์งานตรงนี้ให้เสร็จก่อน อีกอย่างตอนนี้ฉันก็มีงานในไทยเยอะเลยละ” ใบหน้าสวยหวานยิ้มภูมิใจ ช่วงนี้เป็นช่วงที่คุณนายแกกำลังมีโอกาสกอบโกย กระแสในตัวนางกำลังมี งานเลยเข้ามาเยอะเป็นพิเศษ แต่เรียวจันทร์ก็ไม่ได้รับทุกงาน สกรีนเป็นงานๆ ไปว่าอันไหนน่าสนใจ และทำแล้วสบายใจหรือไม่


[ถ้ายูกลับไปอยู่นิวยอร์กเมื่อไหร่ ไอจะไปอยู่ด้วย] นายแบบหนุ่มหน้าหวานยิ้มกว้างเขินๆ


“ได้สิ ไป…”


“…ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะ แต่ถึงเวลาทำงานแล้ว” เรียวจันทร์ชะงักกึก เงยหน้าขึ้นมองคนพูด กำลังจะอ้าปากตอบรับ แต่พอเห็นว่าข้างๆ ไอ้เขี้ยวกุดเป็นยัยเอื้องเยื้องย่างเลยปิดปากเงียบและทำหน้าเฉยๆ


“นายพร้อมจะทำงานแล้วแน่นะ ส่งเพื่อนนายกลับก่อนมั้ย” คมเขี้ยวหันไปมองอัจฉราที่ยิ้มน้อยๆ


“วันนี้เอื้องจะอยู่ที่ฟาร์มจนถึงเย็นค่ะ วันนี้หยุดเลยจะมาช่วยเขี้ยวทำงาน” เรียวจันทร์ทำปากว่า อ้อ แล้วยิ้มอ่อน


“ถ้างั้นเต็มที่นะคะ เรียวจะออกไปช่วยคนงานด้านนอกแทนก็แล้วกัน” เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืนโดยที่ยังไม่ได้กดวางสายจากแจเร็ด


“ไม่ต้อง ก็อยู่ทำด้วยกันนี่แหละ คุณก็มีหน้าที่ของคุณ” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้น ทำหน้าตายไม่สนใจ


“ไหนว่าในฟาร์มนี้คือหน้าที่ฉันไง ก็ในเมื่อวันนี้นายมีคนช่วยงานในออฟฟิศแล้ว ฉันก็จะไปทำอย่างอื่นแทน…” ว่าจบก็ปรายตามองยัยช่อเอื้องที่กำลังวางสีหน้าไม่ถูก ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองแจเร็ดในมือถือต่อ


“…เฮ้ เดี๋ยวฉันโทรหาใหม่นะ”


[โอเค รักยู จุ๊บ] นางส่งจุ๊บกลับไปพร้อมยิ้มแฉ่ง แจเร็ดกดตัดจบวีดีโอคอล เรียวจันทร์เก็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงขาสั้น


“แฟนคุณเรียวเหรอคะ”


ยุ่งนักนะยะ!


อยากจะตอบกระแทกหน้าแรงๆ แต่เจอกันครั้งแรกและอีกฝ่ายยังไม่ได้สำแดงอิทธิฤทธิ์อะไรมากเลยยังไม่อยากประกาศตัวชัดเจน


“แค่คนที่คุยๆ กันน่ะค่ะ ยังไม่ใช่แฟนหรอก จริงๆ เรียวมีคนที่แอบชอบอยู่…” ว่าเสร็จก็หันหน้าไปมองคมเขี้ยวที่ทำหน้าอึดอัด เรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปาก หญิงสาวหนึ่งเดียวหันไปมองคมเขี้ยวตามสายตาของนายแบบหนุ่มแล้วก็ทำหน้างง เรียวจันทร์หันไปยิ้มอ่อนให้หล่อน ก่อนจะแสร้งทำท่าตกใจ


“…แหม เอาเวลาไหนไปทำคิสมาร์คกันคะเนี่ย” คราวนี้อัจฉรางงหนัก มองสลับคมเขี้ยวกับเรียวจันทร์ด้วยสายตาไม่เข้าใจ พ่อเครางามมองหน้าไอ้หน้าสวยด้วยท่าทีไม่เข้าใจเช่นกัน


“คิสมาร์คอะไรเหรอคะ” เรียวจันทร์แสร้งทำสีหน้าตกอกตกใจอย่างมีจริต


“อ้าว คุณเอื้องไม่ได้ทำหรอกเหรอ ก็…” นางชี้นิ้วไปที่แถวๆ ต้นคอของคมเขี้ยว


“…รอยแดงบนคอของนายเขี้ยวไม่ใช่รอยจุ๊บของคุณเอื้องเหรอคะ” หญิงสาวทำหน้าตกใจเล็กน้อย หันไปมองคมเขี้ยวที่พยายามซ่อนใบหน้าหงุดหงิดเอาไว้


“เขี้ยวมีรอยแบบนั้นด้วยเหรอ” เรียวจันทร์ยิ้มเยาะอ่อนๆ คนเดียว ท่าทางยัยช่อเอื้องจะขี้หวงใช่เล่น เพราะแม้จะพยายามซ่อนสีหน้าหึงยังไง แต่ก็ดูออกว่านางร้อนใจไม่น้อยเชียวล่ะ


“ยุงกัดน่ะเอื้อง ไม่ใช่รอยจูบสักหน่อย” คมเขี้ยวตวัดสายตาไปมองไอ้จันทร์ไรที่เลิกคิ้วขึ้นและทำปากจู๋กวนตีน


“ไหนขอดูหน่อย รอยยุงกัดจริงรึเปล่าเถอะ” อ่าฮ่า! นี่ถ้าคบกันเมื่อไหร่ บอกเลยว่าไอ้เขี้ยวกุดโดนยัยนี่คุมเข้มแน่ๆ เรียวจันทร์มองภาพที่ยัยช่อเอื้องแหวกคอเสื้อคมเขี้ยวดูรอยจูบที่นางทำไว้เมื่อเช้าแล้วพยายามกลั้นขำ คมเขี้ยวถลึงตามอง แต่คุณนายแกหาได้แคร์ไม่


“ยุงกัดไม่มีตุ่มเลยเนอะ” อัจฉราว่าหน้าง้ำนิดๆ เพราะดูยังไงที่เห็นมันก็ไม่ใช่รอยยุงกัดแน่ๆ คมเขี้ยวถอนหายใจเบาๆ


“อย่าคิดมาก รอยอะไรก็ช่างมันเถอะ แต่ไม่ใช่รอยจูบหรอก” ชายหนุ่มพูดอย่างอดทน แต่ไม่ได้ต้องอดทนกับหญิงสาว แต่เป็นการอกทนที่จะไม่หันไปทำร้ายไอ้จันทร์ไรที่ลอยหน้าลอยตานั่นต่างหาก


อัจฉราถอนหายใจเบาๆ แล้วพยักหน้าสองที “เอื้องขอโทษนะคะที่แสดงกิริยาแบบนั้น”


คมเขี้ยวยิ้มน้อยๆ พยักหน้าให้หล่อนเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร เรียวจันทร์หรี่ตามองยัยเอื้องเยื้องย่างอย่างประเมิน แล้วก็ได้ผลประเมินว่า ยัยนี่ต้องมีลูกเล่นในตัวที่ซ่อนเอาไว้อีกแน่ๆ ปรับท่าทีได้ต่างกันแบบนี้ ในคลาสแอคติ้งฉันเห็นมาเยอะย่ะ!


“ก็… ถ้าพระนางปรับความเข้าใจกันแล้ว ตัวเดินเรื่องอย่างดิฉันขอตัวนะคะ” เรียวจันทร์ยักไหล่ขวา เดินละล่องผ่านทั้งสองคนไป คมเขี้ยวมองตามด้วยสายตาไม่พอใจ


“เอื้องเคลียร์เอกสารที่เคยทำไว้ต่อได้เลยนะ เดี๋ยวเขี้ยวมา ไปสั่งงานลูกน้องข้างนอกก่อน” อัจฉรายิ้มรับ คมเขี้ยวเดินไปทางประตูออฟฟิศ


เขาทันเห็นเรียวจันทร์ที่กำลังเดินไปทางคอกม้า ขายาวๆ ก้าวตามอีกฝ่ายไปจนทัน คมเขี้ยวคว้าหมับเข้าที่แขนของคนตัวเล็กแล้วดึงให้กลับมาเผชิญหน้ากัน เรียวจันทร์เบ้ปาก เปิดฉากพูดก่อน


“ไม่ขอโทษใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉันทำไปด้วยความหมั่นไส้ล้วนๆ!” ว่าจบก็บิดแขนตัวเองออกจากมือหนาของอีกฝ่ายทันที คมเขี้ยวขบกรามแน่น


“กลับไปทำงานของคุณซะ”


“โอ๊ย อย่าโชว์ตลก ก็ในเมื่อนายให้นางสาวเอื้องเยื้องย่าง หยดย้อยอร่อยเหาะมาทำหน้าที่แทนฉันวันนี้ ก็ให้นางทำไปสิ จะมาเอาฉันไปทำอีกคนทำไม ซ้ำซ้อน!”


“เอื้องอยู่ คุณก็ทำได้”


“ไม่ได้! ฉันไม่อยากทำกับคนอื่น ไหนว่าจะสอนงานฉัน ให้ฉันเป็นงานไง แล้วจะเอาคนอื่นมายุ่งวุ่นวายทำไมล่ะ?!” เรียวจันทร์จ้องตาคมเขี้ยวอย่างไม่ยอม คนตัวสูงกว่ามองอย่างหงุดหงิด


“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว อิฉันขอตัวนะคะคุณเขี้ยว อีเรียวมันเป็นไพร่ มันต้องไปทำงานเจ้าค่ะ”


คมเขี้ยวหรี่ตามอง แล้วยกยิ้มมุมปากขวาน้อยๆ “ที่พูดมาทั้งหมดเนี่ย คุณหึงผมกับเอื้องใช่มั้ย”


เรียวจันทร์อ้าปากหวอด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะรีบปรับสีหน้าเป็นประมาณว่า อื้ม ใช่ ใช่เลย “ใช่! ฉันหึง ฉันหวงนายมากกกก…” นางเบะปากทำท่าจะร้องไห้ ยกสองมือขึ้นมาทาบอกตัวเอง


“…ฉันทำใจไม่ได้ที่ต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจตัวเอง มันเหมือนมีมีดกรีดเฉือนหัวใจฉัน จนมันแหลกเป็นชิ้นๆ!” แม่นักแสดงใหญ่บิดหน้าหลบสายตาคมวาวของคมเขี้ยวแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปมองด้วยสีหน้าเจ็บปวดต่อ


“ขอให้ฉันอยู่ห่างจากภาพอันแสนเจ็บนั้นเถอะนะ…” ว่าธรรมดาไม่ได้ด้วย เพราะตอนนี้คุณนายแกค่อยๆ เดินถอยหลังช้าๆ เอื้อมมือซ้ายมาด้านหน้า ราวกับจะไขว่คว้าคมเขี้ยวไว้ไม่ให้หลุดมือ หนุ่มเจ้าของฟาร์มขมวดคิ้วมองอย่างข้องใจ


“…ลาก่อนโกโบริ” ว่าจบไอ้จันทร์ไรมันก็หมุนตัววิ่งไปทางคอกม้าอย่างเร็ว ทิ้งให้คมเขี้ยวยืนเคว้งอ้าปากหวอ ชายหนุ่มมองตามชายเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคล่งที่พลิ้วสะบัดตามแรงวิ่ง


สรุปมันหึงกูจริงมั้ยเนี่ย?!









“วู้ฮู้ววว! ดินๆๆ จับไว้ อย่าปล่อยๆ” เรียวจันทร์ส่งเสียงหัวเราะเริงร่าอยู่บนหลังม้า โดยมีดินเป็นคนควบคุมให้เจ้าม้าสีน้ำตาลเดินเหยาะๆ ไปรอบลานกว้างในคอก ส่วนแม่นางนั่งไขว่ห้างเกาะเอวดินเอาไว้ ทำท่าทางเชิดสมกับเป็นคุณนาย เหล่าคนงานที่ดูอยู่ต่างหัวเราะไปกับเรียวจันทร์


“รู้สึกถึงความเป็นราชนิกูล” นายแบบหนุ่มหัวเราะคิกคักอยู่บนหลังม้า ทั้งเสียวทั้งสนุก เสียวจะตกลงไปตายแล้วโดนม้ากระทืบซ้ำ เพราะทุกคนเตือนแล้วว่าอย่านั่งแบบนี้ ถ้าจะนั่งต้องนั่งด้านหน้าคนคุมม้า ตอนแรกนางก็จะนั่งนั่นแหละ แต่ดินเขินนางจนตัวแดงจากตัวดำๆ สุดท้ายเลยต้องมานั่งข้างหลังดิน ดินเลยพยายามบังคับม้าให้เดินช้าที่สุดเพื่อความปลอดภัยของคุณนายเรียวจันทร์


“นี่ๆ แล้วไอ้ชื่ออะไรนะ เดือนหงายเดือนแหงน มันไปไหนล่ะ” ว่าไปก็หันรีหันขวางมองหาเจ้าม้าตัวใหญ่สีดำขลับแสนสง่าตัวนั้น


“ออกไปกินหญ้าตรงทุ่งหญ้านอกฟาร์มครับ”


“อ๋อ ดีแล้วล่ะ ดูมันไม่ค่อยชอบฉันเลยอะ” ดินหัวเราะก่อนจะค่อยๆ เบรกม้าให้หยุดอยู่กับที่


“ดินว่าพอเท่านี้ก่อนดีกว่าครับคุณเรียว เดี๋ยวเราต้องไปอาบน้ำให้ม้าอีก” เรียวจันทร์พยักหน้าเร็วๆ


“โอ๊เข่” เรียวจันทร์ทำท่าจะลง แต่ก็จับทางไม่ถูกว่าจะต้องลงยังไง นางเก้ๆ กังๆ อยู่บนหลังม้าสักพัก ก่อนที่จะเห็นลูกน้องเสี่ยจอมทัพเดินมาตรงหน้าตัวเอง


“มาครับ เดี๋ยวผมรับ” เรียวจันทร์มองด้วยท่าทีมีระยะห่าง แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้มีพิรุธใดๆ ให้คนอื่นสงสัย นางเลยยื่นแขนให้อีกฝ่ายอุ้มรับตัวเองลงจากหลังม้าไปยืนบนพื้น


“เสี่ยฝากบอกว่าคิดถึง” ชั่ววินาทีที่ใบหน้าทั้งสองคนใกล้กัน ชายคนนั้นก็กระซิบอย่างรวดเร็ว เรียวจันทร์มองรอยยิ้มมุมปากของอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่ชอบใจ แม็คยิ้มเลศนัยอีกทีแล้วเดินแยกตัวไปอีกทาง


“คุณเรียวไม่ชอบไอ้แม็คเหรอครับ” เรียวจันทร์หยุดทำหน้านิ่วคิ้วขมวด หันไปมองดินที่ถามอย่างสงสัย นางยิ้มเหลอหลา


“ผมก็ไม่ชอบมันเหมือนกัน” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นแล้วยิ้มขำ


“ดินมีคนที่ดินไม่ชอบสองคนแล้วนะ ยัยเอื้องอะไรนั่นกับนายคนนี้” ดินทำตาโต รีบโบกมือเป็นพัลวัน


“กับคุณเอื้อง ดินแค่ไม่สบายใจที่อยู่ใกล้เธอครับ แต่ถ้าสุดท้ายแล้วเธอแต่งงานกับพี่เขี้ยว เธอก็คือเจ้านายของดิน” คุณนายเรียวจันทร์เบ้ปากทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น


“คุณเรียวไม่ชอบคุณเอื้องเหรอ” ดินถามหน้าซื่อ เรียวจันทร์ย่นจมูกเหมือนเหม็นขี้ แต่อันที่จริงนางก็เหม็นขี้จริงๆ นั่นแหละ ขี้ม้าไง


“แล้วถ้าฉันบอกว่าไม่ชอบยัยคนนั้น ดินจะไม่ชอบฉันมั้ยล่ะ” หนุ่มร่างบึ้กหน้าตาใสซื่อส่ายหัวรัวๆ


“ไม่ครับ ผมอยู่ข้างคุณเรียว” เรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปากเขินๆ ยกมือผลักอกดินเบาๆ


“บ้า ดินอะ ทำให้เขินอีกละ เขินมากๆ เดี๋ยวฉันจับทำผัวนะ” พ่อหนุ่มผิวคล้ำเบิกตากว้าง ก่อนที่แก้มเข้มๆ จะเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเรียวจันทร์หัวเราะขำเสียงดัง แล้วยิ่งหัวเราะดังกว่าเดิมเมื่อได้ยินประโยคต่อมาของดิน


“ก็… ก็ ถ้าคุณเรียว จับผม เอ่อ จับผมทำผัวจริงๆ ผมยอม”


“อ๊ายยย ดิน ฮ่าๆๆๆ” เรียวจันทร์ยกมือปิดหน้าปิดตาและกระทืบเท้าเร่าๆ ด้วยความเขินไม่แพ้กัน คนงานแถวนั้นเห็นเรียวจันทร์หัวเราะก็ยิ้มตาม แล้วสักพักก็ส่งเสียงเฮกันครื้นเครงเมื่อเรียวจันทร์ล้มตัวซบอกแน่นๆ ของดิน ไอ้ดินตัวแข็งทื่อเพราะความเขิน


“เฮ้ยยย ไอ้ดินน้ำจะแตกแล้วววว” พวกคนงานผู้ชายหัวเราะกันเริงร่า เรียวจันทร์ผละตัวเองออกจากอกของดิน มองหน้าอีกฝ่ายที่แดงแจ๋แล้วหัวเราะร่วมไปด้วย แต่ไม่ได้เป็นการหัวเราะเยาะเย้ย คุณนายแกเอ็นดูเด็กหนุ่มคนนี้


“ดิน ถ้าจะมีแฟนนะ ต้องให้ฉันสแกนก่อนรู้รึเปล่า ห้ามตกลงปลงใจกับใครง่ายๆ” เรียวจันทร์ว่าอย่างไม่จริงจังนัก แต่ในใจนึกเป็นห่วงดินอยู่เหมือนกัน ผู้ชายคนนี้อาจโดนผู้หญิงหรือผู้ชายสักคนหลอกใช้ความรู้สึกได้ง่ายๆ ไอ้ดินพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน เรียวจันทร์คลี่ยิ้มเอ็นดู


“ไม่ทำงานกันรึไง??!!” เสียงหัวเราะครืนๆ ค่อยๆ เงียบลงเมื่อเสียงตะโกนของเจ้าของฟาร์มดังขึ้นพร้อมกับสีหน้าดุๆ เรียวจันทร์หันไปมองไอ้เขี้ยวกุดที่ยืนเกาะขอบรั้วคอกม้าอยู่


“เขาก็ทำกันย่ะ แค่หัวเราะนิดๆ หน่อยๆ” เรียวจันทร์แบะปากน้อยๆ แต่พองามเมื่อเห็นว่ายัยช่อเอื้องยืนอยู่ข้างๆ


ยิ้มอะไรนักหนา หล่อนเทคยาหนักไปเหรอ?!



“อ้าวพี่เขี้ยว ไปควงสาวอื่น ไม่กลัวคุณเรียวจันทร์น้อยใจเหรอพี่?!” เสียงคนงานคนหนึ่งตะโกนถามขึ้น เรียกเสียงแซววี้ดวิ้วดังไปทั่วคอกม้า เรียวจันทร์อ้าปากหวอ แต่สักพักก็ฉีกยิ้ม พอหันไปมองหน้ายัยช่อเอื้อง แม่นั่นกำลังยิ้มงง


“เดี๋ยวมึงจะโดนหักเงินเดือน!” คมเขี้ยวชี้หน้าลูกน้องที่ตะโกนถามขึ้นมา


“อ้าว ก็เห็นจูบลูบคลำกันออกจะบ่อย”


“ฮิ้วววว ฮ่าๆๆๆ” เสียงหัวเราะตอบรับดังลั่น คมเขี้ยวขบกรามแน่นทำหน้าเซ็ง มองไอ้จันทร์ไรด้วยสายตาวาววับ คนถูกมองยิ้มเย้ยนิดหน่อยแล้วยักไหล่อ่อนๆ พอมองหน้านิ่วคิ้วขมวดน้อยๆ ของยัยคนข้างๆ ไอ้เขี้ยวกุดก็แอบสะใจเบาๆ แม้จริงๆ จะสะใจแรง แต่ต้องบอกเบาๆ ไว้ก่อน เพราะไม่งั้นเราจะร้ายเกินไป


“อะไรกันเหรอคะเขี้ยว” แหม พอถามผู้ชาย สีหน้าเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานงงๆ เชียวนะ


“มันก็แซวเล่น เรียวจันทร์มันก็ผู้ชาย จะไปมีอะไรได้ไง” คมเขี้ยวบอกอย่างอ่อนใจ แต่ไม่ได้อ่อนใจอัจฉรา เขาอ่อนใจกับไอ้พวกลูกน้องปากมากพวกนี้มากกว่า และที่ทำเขาอ่อนใจจนล้าก็คือไอ้เรียวจันทร์ตัวดี


“แต่คุณเรียวเธอเป็นผู้ชายที่สวยนะ” ต๊าย! แม่นี่พูดจาดี ยิ้มให้นิดนึงก็ได้


“เขี้ยวไม่ได้ชอบผู้ชาย โอเคมั้ยเอื้อง” เบื่อจริงจริ้ง อีคำพูดนี้น่ะ!


แม่ช่อเอื้องยังคงทำหน้าเง้าหน้างอ คมเขี้ยวเลยต้องพาเดินออกไปจากตรงนั้น เรียวจันทร์มองมือคมเขี้ยวที่จูงมือหญิงสาวด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนที่จะหันกลับไปยิ้มให้ดิน


“ไปอาบน้ำให้ม้ากันเถอะ”







ตกเย็น หลังจากที่ทำงานกันมาทั้งวัน ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว เรียวจันทร์เดินบิดขี้เกียจสลับกับเกาแขนขาตลอดทางเดินกลับออฟฟิศ วันนี้หลังจากอาบน้ำให้ม้าเสร็จ นางก็ไปช่วยพวกดินขนกองฟางขึ้นรถไถไปเก็บไว้ในโรงนา เลยทำให้เกิดอาการคันยุบยิบไม่หยุด


พอกลับเข้าห้องได้ นางก็รีบอาบน้ำชำระร่างกายแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่หายคัน นางเลยกินยาแก้แพ้ไปสองเม็ด กะสู้กับอีผื่นแดงทั้งหลายเต็มสูบ ตอนที่เปิดประตูออฟฟิศเพื่อจะเดินไปกินอาหารเย็นกับพวกดินก็เจอกับคมเขี้ยวยืนอยู่ในชุดเดิม


“แม่เรียกให้ไปกินข้าว” คนถูกชวนส่ายหัว


“ไม่ล่ะ ฉันนัดกับดินไว้แล้วว่าจะไปกินข้าวด้วย ฝากบอกป๋ากับแม่ด้วยนะว่าขอบคุณ”


“ตกลงจะเอาไอ้ดินหรือกิ๊กฝรั่งกันแน่ ไหนบอกว่าชอบผมไง” คมเขี้ยวหรี่ตามอง เรียวจันทร์ยิ้มมุมปาก แต่ก็มิวายยกมือเกาตามเนื้อตามตัวไปด้วย


“เอ๊า ก็ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นชอบเฉยๆ ยังไม่ได้เสียกันซักหน่อย จะให้ฉันให้ใจนายไปหมดเลยเหรอ ใจทั้งดวงนะยะ เผื่อแผ่ให้หนุ่มอื่นบ้างสิ เออ ถ้าว่านายกับฉันเป็นผัวเมียได้เสียกันแล้ว อันนั้นน่ะ ไม่ต้องห่วง ฉันให้นายได้แม้กระทั่งเส้นเลือดฝอยในหัวใจ” เรียวจันทร์ยกมือตบอกซ้ายตัวเองเบาๆ และเกายิกๆ ไปในตัว คมเขี้ยวขมวดคิ้วมองอาการนั้น


“ถามจริง คุณชอบผมจริงๆ หรือใช้เป็นข้ออ้างอะไรรึเปล่า” คมเขี้ยวกอดอกมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาสงสัยจริงจัง เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นสูงและฉีกยิ้ม


“ฉันควรดีใจใช่มั้ยที่นายสนใจว่าฉันชอบนายจริงหรือเปล่า”


“คุณควรบอกความจริงผมมาว่าคุณต้องการอะไรกันแน่” คนหน้าสวยถอนหายใจเซ็งกับใบหน้าเคร่งเครียดของคมเขี้ยว


“นายจะทำหน้าแบบนี้ทุกครั้งเวลาอยู่กับฉันเลยรึไง…” คมเขี้ยวยังคงทำนิ่ง เรียวจันทร์กลอกตาแล้วเดินออกจากประตู ลงไปยืนบนพื้นด้านล่าง


“…ไม่มีข้ออ้างอะไรทั้งนั้น ฉันบอกว่าชอบก็คือชอบ เหมือนที่ยัยเอื้องชอบนายนั่นแหละ” คุณนายแกว่าสบายๆ แต่หน้านิ่วคิ้วขมวดนิดหน่อยเพราะคันยิบๆ ไม่หยุด สองมือใช้ปลายนิ้วเกาตามผิวตัวเองเบาๆ 


“สนิทกับเขาแล้วเหรอถึงเรียกเขาแบบนั้น” นายแบบหนุ่มทำปากยื่นพร้อมไหวไหล่


“ไม่สนิทและไม่คิดสนิท ถ้าฉันขึ้นไอ้ขึ้นอีกับว่าที่แฟนนายเมื่อไหร่ ค่อยโกรธแล้วกันนะ” เรียวจันทร์ยกมือขวาตบไหล่ซ้ายของคมเขี้ยวเบาๆ ก่อนจะเดินผ่านร่างสูงไปแต่ก็ต้องหยุดชะงักกับคำถามของอีกฝ่าย


“แล้วถ้าผมตกลงเป็นแฟนกับเอื้อง คุณจะทำยังไง” คุณนายเรียวหันไปมองหน้าคนถามทันทีไม่มีชะงัก นางเบ้ปากเล็กน้อยพร้อมไหวไหล่เก๋ๆ


“ฉันไม่ชอบแย่งแฟนใคร คบกันเมื่อไหร่ก็บอกฉันแล้วกัน” เรียวจันทร์กลอกตาพร้อมเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป คมเขี้ยวมองตามร่างเล็กที่เดินไปทางหมู่บ้านคาวบอย เขาเห็นแม่ตัวดียกมือเกาแขน เกาคอ เกาหลังอย่างกับลิง






เรียวจันทร์มานั่งกินข้าวกับดินและคนงานอื่นๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน จากการได้ทำงานกับลูกน้องคมเขี้ยวในฟาร์มวันนี้ ทำให้นางได้รู้จักกับอีกหลายคน ได้สร้างเพื่อนใหม่อีกมากมาย ทุกคนใจดี มีน้ำใจ ไม่รังเกียจผู้ชายดัดจริตอย่างนาง แต่ก็มีที่ไม่ได้มาสุงสิงกับนางด้วย ก็ใช่ว่าทุกคนจะอยากสุงสิงกับนางนี่นะ แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นหลัก มีคนรักก็ต้องมีคนไม่รักเพื่อความสมดุลของชีวิต


“คุณเรียวตัวแดงหมดแล้ว” ดินพูดพลางมองตามแขนขาวๆ ที่ผื่นแดงขึ้นเป็นแถบยาว เรียวจันทร์โบกมือเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร


“กินยาแก้แพ้ไปแล้วละ เดี๋ยวนอนพักผ่อนก็ดีขึ้น” พูดจบก็อ้าปากหาววอด


“งั้นถึงห้องนอนก็นอนเลยนะครับ จะได้พักผ่อนเยอะๆ” เรียวจันทร์ยิ้มง่วงๆ ให้ดินที่เดินมาส่งหลังจากกินอาหารมื้อเย็นและลากยาวไปถึงอาหารกรุบกรอบหลังอาหารหลักกับพวกคนงาน นั่งไปได้สักพัก คุณนายแกก็อ้าปากหาวง่วงนอนเพราะฤทธิ์ยา เลยขอตัวออกมาก่อน


“ขอบใจดินมากนะ โอ๊ย ไม่น่ากินสองเม็ดเลยอะ นี่จะหลับหรือจะตายก็ไม่รู้” นางอ้าปากหาววอดๆ ตอนเดินมาถึงหน้าออฟฟิศ


“แน่ใจนะครับว่าไม่เอายาทา” เรียวจันทร์ส่ายหัวหน้ามุ่ย


“ม่ายยย เดี๋ยวนอนแล้วมันก็คงไม่คันแล้วละ ไปแล้วนะดิน ขอบคุณมาก” นางโบกมือให้ดิน ส่งยิ้มง่วงนอนให้อีกทีแล้วเปิดประตูเข้าไปในออฟฟิศ ตรงดิ่งไปที่ห้องนอน ฝืนใจเดินไปแปรงฟัน พอเห็นสภาพผิวตัวเองก็ตกใจนิดหน่อย เพราะมันแดงเข้มไปทั้วตัว


ก๊อกๆ


“ฮึ” ร่างบางกำลังจะล้มตัวลงนอนขมวดคิ้วมองประตูอย่างงงๆ แต่ก็ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูให้ พอเปิดออกก็เห็นคมเขี้ยวยืนอยู่ในชุดนอน


“อ้าว นายมีไรอีกอะ ฉันไม่ไหวจะเถียงด้วยแล้วนะ” พูดเสร็จก็เดินโงนเงนไปล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที


“ทายาก่อน ตัวแดงอย่างกับลูกลิงแรกเกิด”


“ม่ายอาว ม่ายทา จานอนนน” คมเขี้ยวยืนมองร่างบางนอนคว่ำหน้าหลับสนิทแล้วถอนหายใจ


“จันทร์ไร ตื่นมาทายาก่อน”


“อื้อ… มั๊ย…” เรียวจันทร์ตอบเสียงอ่อน เป็นการบอกให้รู้ว่ากูง่วงแล้วจริงๆ ร่างสูงพ่นลมหายใจ เดินเข้าไปหา จัดการถลกเสื้อยืดตัวย้วยขึ้นจนเห็นผิวขาวละเอียดที่แดงเต็มหลัง


“โห… บอบบางอะไรขนาดนี้วะ” แม้จะรู้ว่าอาการแพ้มันจะเป็นลักษณะแบบนี้ แต่กับเรียวจันทร์ดูจะมีปฏิกิริยามากกว่า มันเหมือนคนตากแดดจนผิวใกล้ไหม้


“พ่อ… อุ้มๆ น้องเรียว… งืมๆ” คมเขี้ยวขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของคนตัวเล็ก เขาเปิดฝาขวดยาแล้วเทใส่ฝ่ามือก่อนที่จะทาไปตามผิวเนียนนุ่มของเรียวจันทร์ เขาว่ามือตัวเองสากแล้วนะ แต่พอสัมผัสผิวเรียวจันทร์ยังรู้สึกถึงความนุ่มนวล


คมเขี้ยวจัดการทายาตามตัวเรียวจันทร์จนทั่ว นึกสงสัยว่าช่วงล่างของมันคันหรือเปล่า แต่ดูท่าทางแล้วก็ไม่มีอาการยุกยิกที่เบื้องล่างแต่อย่างใด เขาปิดฝาขวดยา วางไว้บนหัวเตียง เผื่อว่าเจ้าตัวจะรู้สึกคันกลางดึก เขาเห็นยาแก้แพ้วางอยู่บนหัวเตียง เลยรู้สาเหตุแล้วว่าทำไมไอ้จันทร์ไรถึงง่วงนอนหนักได้ขนาดนี้


ตึ๊งตึ่ง~


เสียงข้อความแชทดังขึ้น คมเขี้ยวหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงนอนก็เห็นข้อความส่งมาบอกว่าฝันดีของอัจฉรา เขายิ้มมุมปากน้อยๆ สายตาเลื่อนไปมองเรียวจันทร์ที่นอนหลับสนิทหมดพิษภัยใดๆ อย่างครุ่นคิด


ฉันไม่ชอบแย่งแฟนใคร คบกันเมื่อไหร่ก็บอกฉันแล้วกัน







 :ling1:

มาต่อแล้วค่ะ ยาวๆ กันไป อย่างน้อยพี่เขี้ยวก็ยังมีน้ำใจเป็นห่วงแม่เรียวนะคะ เอายามาทาให้ถึงห้องนอน อย่างน้อยก็ไม่ได้เกลียดขุ่นแม่ชิมิล่ะพี่เขี้ยว

แต่เมื่อไหร่ขุ่นแม่จะชนะใจพี่เขี้ยวนี่สิ อีกนานแค่ไหนจะกว่าฉันจะใกล้เธอออ บอกที 55555

แต่ตอนท้ายนี่ยังไงคะ พี่เขี้ยวจะขอนังเอื้องคบหราาา เอาจริงหราาพี่ แบบนี้แม่เรียวต้องเร่งรัดแล้วนะคะคุณแม่

ขอบคุณคนอ่านที่ติดตามเรื่องนี้กันอยู่นะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะที่ชอบแม่เรียวกับพี่เขี้ยว เป้นอีกรเื่องที่ตั้งใจ ตอนนี้ทุ่มเทเรื่องนี้ได้เต็มที่แล้วค่ะ หุๆ ไม่หายไปนานๆ แล้นนนน   :hao3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 11:24:34 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
พี่เขี้ยวนี่น่าหมั่นไส้อ่ะ ขี้เก๊กแท้ 555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด