รักดั่งเส้นขนาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักดั่งเส้นขนาน  (อ่าน 112826 ครั้ง)

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
รอดใช่มั้ย  :m29:


ทำไมจบได้ค้างขนาดเน้~~  :m31:

TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป
คัยจาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยหว่า

อยากให้เป็นเต้อ่ะ

เชียร์เต้ :t2:

ปล.ช่วงนี้รู้สึกคนแต่งเนี่ยตัดฉับบ่อยๆเนอะ

ฮึ่ม ๆ  :m16:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
รอดมาได้ชัวร์  เพราะยังมานั่งเล่าเรื่องอยู่  แหะๆๆๆ

 :o

เอ๊ะ  หรือว่าไม่ใช่  งั้นที่เล่าเรื่องอยู่นี่เป็น......

ว้ากกกกกก

จิตฟุ้งซ่าน

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
จะติดตามต่อไปนะ สู้ๆ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
มารอลุ้นว่าใครจะช่วยผายปอดให้ใหญ่  :t2:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
กราบเรียนท่านผู้อ่านที่เคารพ

ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิมพ์ตอนที่ 44 - .....
คาดว่าจะใช้เวลาอีกหลายวัน (แบบไม่มีกำหนด แต่คงไม่เกินพุธหน้าล่ะมั้งคับ)

ขอน้อมรับคำต่อว่าในทุกข้อกล่าวหา :angry2: อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

จึงขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันครับ
pickki_a

TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
:a6:ข่าวดี









ซ่ะที่ไหนเนี๊ย ได้ไงอ่ะ o7

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
โอ้วววววววววว  ยังไงก็จะรอนะ

 :กอด1: :กอด1:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
 :m30: ค้างงงงงง
ใหญ่จมน้ำนานแล้วนะ  รีบมาต่อด่วน
อยู่ในน้ำนานๆ เด๋วตัวซีดหมด   :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
44
 :dont2:
“อึ๊ก” ผมกลืนน้ำลงไปอึกใหญ่
ผมกำลังจะจมน้ำอีกครั้งหนึ่ง ไม่ไหวแล้ว ผมต้องตายแน่ๆ

แต่ไอ้คนข้างบนมันคงนึกว่าผมเล่นแน่ๆ มันนั่งดูผมอย่างเฉยๆ บางคนก็หัวเราะไปด้วย
 
“ช่วยด้วย” – ผมตะโกนออกไปเฮือกใจสุดท้าย ก่อนที่จะจมลงไป

“ตูม” – ไอ้เล็กกระโดดลงน้ำมา มันค่อยๆ ว่ายน้ำเข้ามาหาผม แล้วมันก็เข้ามาทางด้านหลังของผม บล็อกคอของผม
“มึงทำไรเนี๊ย กูหายใจไม่ออก”
“....................” มันไม่พูดอะไร
“โอ่ย ไม่ไหวแล้ว” – ผมดิ้นออกมา
“เชี่ย กดกูทำไม” – ไอ้เล็กตะโกน
“.....................” – ผมกดหัวไอ้เล็กลงไป แต่ก็กลัวมันจม เลยเกาะเบาๆ

สุดท้ายด้วยความทุลักทุเล ผมและไอ้เล็กก็กลับมาถึงบริเวณที่ผมยืนถึง ยอมรับเลยว่าการเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของผม ไม่ได้ช่วยทำให้ผมว่ายน้ำยามขับขันได้เลย ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการตั้งสติ ถ้าคนเรามีสติ เหตุการณ์ทุกอย่างมันคงผ่านไปได้ด้วยดี และอีกอย่างที่ผมค้นพบก็คือ ต่อให้ว่ายน้ำเก่งแค่ไหน เมื่อขาเป็นตะคริว ก็ไปไหนไม่รอดอยู่ดี

“มึงเป็นไงมั่ง” – ไอ้เต้วิ่งเข้ามาถามผมเป็นคนแรก หลังจากที่ผมขึ้นจากน้ำ
“ขากูเป็นตะคริว ก็เลยว่ายน้ำไม่ได้”
“พวกกูก็ตกใจ กลัวมึงจมน้ำ” - ไอ้เอกเสริม
“ก็เกือบล่ะวะ แม่ง ขาเป็นตะคริวก็ทำไรไม่ได้เลย”
“กูนึกว่ามึงเล่นๆ ซะอีก” – ไอ้เดชพูดออกมาแล้ว มันนั่นแหล่ะเป็นคนที่หัวเราะออกมาตอนผมกำลังจมน้ำ
“เล่นเชี่ยไรล่ะ ร้องว่าช่วยด้วยอ่ะนะ”
“ดีไอ้เล็กแม่งเห็น” - ไอ้เดชพูดต่อ
“แม่ง ไอ้ใหญ่แรงเยอะชิบเป๋ง กดหัวกูลงน้ำสองหน กูเกือบตาย”
“กูขอโทษ แฮ่ะๆ” - ผมขอโทษไอ้เล็ก
“แทนที่มันจะจมน้ำ กูนี่ดิ เกือบจม” – ไอ้เล็กยังบ่นต่อไป ผมก็ได้แต่ยิ้มเจือนๆ
“ไหนว่าเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ” - ไอ้เดชพูดกับผม
“........................”
“ก็เพราะงี๊แหล่ะที่กูว่ายน้ำไม่เป็น” – ไอ้เข้มพูดขึ้นมา

ผมตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ขนาดผมพอมี skill ที่ช่วยตัวเองได้ ยังเป็นขนาดนี้ ถ้าคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นล่ะ จะเป็นยังไง

พอสติของผมกลับมา ผมก็นั่งเล่นที่โขดหินฝั่งตรงข้าม ที่ไอ้เข้มมันยืนถ่ายรูปนั่นแหล่ะ ผมนั่งกับมัน ส่วนคนอื่นน่ะเหรอ ด้วยความติดใจก็ไปกระโดดเล่นรอบสองรอบสาม ผมก็นั่งดูคนอื่นโดดน้ำไป ใจผมเองก็ไม่ได้คิดอะไร ตอนนั้นมันเหมือนกับว่าโล่งและตกใจมากกว่า

“เป็นไงมั่งวะ” - ไอ้เข้มถาม
“ก็ไม่เป็นไรแล้วแหล่ะ”
“กูหมายถึง วันนี้มึงเป็นไงมั่ง”
“ยังไง” - ผมถามด้วยความสงสัย
“มึงโอเคขึ้นหรือยัง จากเมื่อวาน”
“อ๋อ เออ ก็ไม่เป็นไรหรอก เมื่อวานกูก็แค่น้อยใจน่ะ”
“ไอ้เดชใช่ป่ะ”
“อืม” – ผมตอบมันโดยที่ผมไม่ได้มองหน้า
“กูเข้าใจไอ้เดชมันนะ มันก็ปรึกษากูเรื่องนี้เหมือนกัน”
“เรื่องไรวะ”
“เรื่องของต่ายที่ว่า มันจะเลิกจีบต่ายแล้ว มันบอกว่ามันเหนื่อย”
“มันบอกมึงนานยัง” - ผมถาม
“ก็ก่อนมานั่นแหล่ะ”
“..................”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องของมึงวะใหญ่”
“ก็มันไม่คุยกับกู มันเป็นคนพากูมา ทั้งๆที่มันก็ไม่มีเหตุผล แต่กูก็รู้เหตุผลแล้วเมื่อคืน”
“ตอนที่ไอ้เดชมันยืมไฟฉายไปใช่ป่ะ”
“ใช่”
“มันเคลียร์กับมึงเรียบร้อยยัง ?” - ไอ้เข้มถามอย่างสงสัย
“ก็เรียบร้อยนะ ไม่ได้มีอะไรติดค้าง”

แล้วบทสนทนาของผมกับไอ้เข้มก็ยุติลง ไอ้เข้มก็เพลิดเพลินกับการถ่ายรูป ส่วนผมก็นั่งอยู่ที่โขดหินเฉยๆ ปล่อยใจตัวเองให้ว่าง เพราะหลังจากที่ผมขึ้นมาจากน้ำได้ ผมกลายเป็นคนกลัวน้ำไปเลย

สถานที่ถัดไป เป็นที่สุดท้ายของวันนี้ คือไปเล่นทะเล(อีกแล้ว) แต่ไม่ใช่ที่เดิมเหมือนเมื่อวาน แต่เป็นที่ใหม่ คราวนี้อยู่ใกล้ๆ กับทางไปบ้านมัน อยู่ห่างจากบ้านมันไม่ไกล ไอ้เข้มขับรถออกจากน้ำตกไปไม่นาน ประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็ถึงที่หมายกัน

ถ้าจะบอกว่าผมกลัวน้ำมาจากการเล่นน้ำเมื่อกี๊ มันก็คงแปลกๆ เพราะน้ำทะเลไม่ได้ลึกเหมือนน้ำตก ถ้าผมจะเล่นน้ำทะเลก็คงจะไม่เป็นอะไร แต่ก็ด้วยความกลัวที่ว่าผมจะเป็นตะคริวอีก ก็เลยนั่งอยู่ที่ริมหาดดีกว่า

ไอ้พวกนั้นก็เหมือนเมื่อวาน น้ำกับเด็กวัยรุ่นมักเป็นของคู่กัน พอไอ้เข้มจอดรถ พวกมันก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็วิ่งลงทะเลกันไปเลย ผมก็เหมือนเดิม ไม่กล้าลง เลยนั่งรอพวกมันอยู่ริมหาดดีกว่า

การนั่งริมหาดวันนี้ไม่เหมือนกับเมื่อวาน เมื่อวานผมมีแต่ความ เศร้า เหงา และความกว้างใหญ่ของผืนฟ้าและท้องทะเล แต่วันนี้มุมมองเปลี่ยนไป ผมกลับมีความสุขเล็กๆ การที่ผมได้บอกอะไรไปกับไอ้เดช ทำให้รู้สึกโล่งขึ้นมา แม้ว่ามันก็ยังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมสื่อไปก็ตาม

ผมนั่งเขี่ยทรายเล่นไปมา แล้วก็ล้มตัวลงนอนบนพื้นทราย เบื้องหน้าของผมมีท้องฟ้าสีครามที่กว้างใหญ่ วันนี้แดดไม่แรงเกินไป ปริมาณเมฆปานกลาง

“นั่งทำเชี่ยไรอีกล่ะ” – ไอ้เดชวิ่งขึ้นมาบนหาด มานั่งข้างผม
“ดูท้องฟ้า” - ผมตอบทั้งๆที่ก็ไม่ได้หันไปมองหน้ามัน
“มึงโลกส่วนตัวสูงเนอะไอ้ใหญ่”
“กูก็เป็นของกูอย่างเงี๊ยะแหล่ะ”
“.........................” – มันเงียบไป ปล่อยให้ความเงียบปกคลุมซะบ้างเหอะ
“แล้วมึงไม่ลงไปเล่นเหรอวะ” - ผมถามมัน
“กูเหนื่อย”
“เหนื่อยเป็นด้วยเหรอ นึกว่ามึงจะบ้าพลังได้ตลอดเวลา” – ผมหัวเราะขึ้นมา มันก็ยิ้ม
“แล้วทำไมมึงไม่ไปเล่น” - มันถามผมกลับบ้าง
“กูกลัวน้ำ ตะกี๊กูจะจมน้ำ มึงยังไม่ลงมาช่วยกูเลย”
“ใครจะไปรู้ว่ามึงว่ายน้ำไม่เป็น”
“กูเป็นตะคริวเว้ย” – ผมเถียงมัน
“นั่นแหล่ะ กูก็นึกว่ามึงโบกมือเล่นๆ”
“......................”
“แต่กูก็ตกใจตอนไอ้เล็กมันโดดลงไปช่วยนั่นแหล่ะ กูไม่คิดว่ามึงจะจมน้ำจริงๆ”
“ถ้าสมมุติกูจมน้ำไปจริงๆ มึงจะทำไง”
“บอกไม่ถูกว่ะ ก็........มันไม่ได้เกิดขึ้นนี่หว่า”









“เดช”
“อะไรเหรอ”
“มึงเป็นห่วงกูมั่งป่ะ”
“ก็....ห่วงนะ ทำไมเหรอ”
“ถ้าสมมุติวันนึงกูต้องไปไหนไกลๆ”
“มึงจะไปไหนไอ้ใหญ่”
“สมมุติไงล่ะ ว่าถ้ากูต้องไปไหนซักที่ ที่มึงจะไปกับกูไม่ได้ มึงจะห่วงกูป่ะ”
“ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะให้ห่วงหรือเปล่า ถ้ามึงไปสบายๆ กูก็ไม่ห่วง”
“เหรอ”
“แล้วมึงจะไปไหน”
“เดช”
“อะไรล่ะ”
“ถ้ามึงเลิกจีบต่าย มึงจะยังเป็นเพื่อนกูอยู่ใช่ป่ะ”
“ใช่”
“แล้วที่มึงทำกับกูอยู่ทุกวัน มึงจะยังทำอย่างงั้นป่ะ”
“กูทำอะไรกับมึงทุกวัน”
“............................”
“ใหญ่ กูก็ไม่รู้หรอกว่าจริงๆ แล้วรักของเพื่อนกับรักของคนเป็นแฟนมันต่างกันหรือเปล่า แต่ที่กูรู้สึกกับมึง กูรักมึงเหมือนเพื่อน แล้วมึงรักกูแบบไหนเหรอ”...













“แบบเพื่อนแหล่ะเดช” – ผมพูดเบาๆ หันไปมองหน้ามันแล้วก็ยิ้ม
“....................”







“เดช”
“มึงอยากไปเล่นน้ำทะเลใช่ป่ะ”
“ก็ใช่”
“งั้นมึงไปเหอะ กูนั่งรอที่นี่ละกัน”
“มึงรีบตามลงไปนะเว้ย” – แล้วมันก็วิ่งลงทะเลไป
-----------

เฮ้อ!!!! มาแล้วคับ นี่แอบเอาเวลาส่วนตัวมาพิมพ์นะเนี๊ย แบบว่ายังไงดีล่ะ ความหลังครั้งเก่า เมื่อ 6 ปีก่อน มันตามมาหลอกหลอนผมคับ ผมก็เลย  :serius2: มากๆ

สำหรับตอนหน้า จะพยายามให้ทันวันพุธนะคับ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
จิ้มๆๆๆ  :oni2:

ได้แค่เพื่อนเองหรอออออออ  :sad2:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
โอ้ว แค่เพื่อนเท่านั้น กระแทกใจจริงๆใหญ่เอ๊ย  o7


เรื่องนี้เกิดเมื่อหกปีที่แล้วเหรอ เอ๊ะเพื่อนอีกคนที่บอกว่าเพิ่งไปเคลียร์ความรู้สึกกันมาก็บอกว่าหกปีเหมือนกันใช่มะ ใช่หนึ่งในเพื่อนกลุ่มนี้ปะ ที่จะเอามาเขียนอีกเรื่องอะ  :m13:


ปล. เพื่อนในกลุ่มเดชนี่เป็นคนดีเอาใจใส่คนอื่นกันทุกคนเลยนิ ชอบๆ :m1:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป


เรื่องนี้เกิดเมื่อหกปีที่แล้วเหรอ เอ๊ะเพื่อนอีกคนที่บอกว่าเพิ่งไปเคลียร์ความรู้สึกกันมาก็บอกว่าหกปีเหมือนกันใช่มะ ใช่หนึ่งในเพื่อนกลุ่มนี้ปะ ที่จะเอามาเขียนอีกเรื่องอะ  :m13:


คือ ก็คนที่เพิ่งไปเคลียร์มานั่นแหล่ะป้า ที่ว่า 6 ปีน่ะ แต่ว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นอีก จนวันนี้... :serius2:
ส่วนเรื่องรักดั่งเส้นขนานนี้เกิดตอน ม.5 คับป้า มันก็ประมาณ 7 ปีแหล่ะ (คนนั้นกับไอ้เดช ห่างกัน 1 ปีคับ)

ส่วนจะยังไง ก็เรื่องหน้าละกัน เนอะ

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
แค่เพื่อน

เฮ้อ  :เฮ้อ:

อยากรู้เรื่อง 6 ปีด้วย  อยากรู้ๆๆๆๆ :serius2:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
แค่เพื่อน

เฮ้ออออ  รู้สึกอยู่เต็มใจ  แต่บอกไปตรงๆ ไม่ได้

 :m15:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
เพราะว่าง แต่ก็ยังพิมพ์ไม่เสร็จ เลยแวะมาสปรอยก่อน
-------------------
ตัวอย่างตอนที่ 45 คับ

ใครจะถามก็ได้ ไม่ถามก็ได้ แต่ถามได้แค่ครั้งเดียว เล่นกันทั้งหมด 5 รอบ (ก็จะมี 2 คนที่ไม่ได้เล่น)

“ก็เขาสวย น่ารัก เรียนเก่ง ผู้หญิงอะไร perfect _ :m1: _ หาย”

แสดงว่าไอ้เต้ไม่ได้ตอบตามความจริง ทั้งหมด – ผมคิดในใจ :angry2:

“กูนอนก่อนนะ :a12:” – ผมบอกกับทุกคน แล้วผมก็หลับตาลง
------------------------
ติดตามกันได้เร็วๆ นี้นะคับ


ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
เร็ว เร็ว เร็ว มาเร็วๆเลย ป้ารออยู่   :a11:

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
กีสสสสสสสสสสสสสส

มาให้งงทำไมเนี่ย

มาต่อเร็วๆเลยน้า

 :oni1:

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
ให้ว่องเลยคับ อยากเต็มแก่แล้ว :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อให้ไวๆสิจ๊ะน้องใหญ่จ๋า
ยังมีคนที่6ปีต้องเล่าต่ออีกนะ   :t2:
มัดมือชกซะเลย  :m12: ว่าต้องเล่าต่อ

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
เด๋วคืนนี้หรือคืนพรุ่งนี้นะคับจะแวะมา
 :m4:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
45
 :m17:
สำหรับผม มันคงจบแล้วจริงๆ โดยที่มันก็ไม่เข้าใจความรักที่ผมมีให้มัน

ผมปล่อยตัวเองสักพัก แล้วผมก็วิ่งลงทะเล ไปสมทบกับพวกมันที่เล่นน้ำทะเลกันอยู่แล้ว ถึงตอนนี้ผมไม่วางฟอร์มอะไรแล้วแหล่ะ ผมจะมาหลบหน้ามันก็คงไม่ได้ สู้ว่าเจอหน้ากันตรงๆเลย

พวกเราเล่นน้ำกันจนเย็น วันนี้เป็นวันที่ผมเที่ยวแล้วมีครบทุกรสชาติ รสชาติแห่งความเศร้า เกิดขึ้นตอนเช้า รสชาติของความกลัว เกิดขึ้นเมื่อกลางวัน และรสชาติของความสนุกสนาน เกิดขึ้นตอนเย็น

พรุ่งนี้คือกำหนดการที่พวกเราจะต้องเดินทางกลับกันแล้ว คืนนี้พวกเราจึงมีปาร์ตี้เล็กๆ จัดขึ้น แต่พวกมันก็เป็นคนดีนะคับ ไม่มีแอลกอฮอล์ให้กวนใจ เป็นเพราะผู้ใหญ่ก็อยู่ด้วยล่ะมั้งคับ เด็ก ม.5 กับแอลกอฮอล์ มันคงจะไม่เหมาะสมละมั้ง

พวกเรานั่งเล่นกันที่หน้าบ้าน พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า ขนม และ น้ำอัดลม โดยรับการสนันสนุนจากเจ้าของบ้าน พวกเรานั่งกินกันซักพักก็เริ่มมีเสียงกีต้าร์ขึ้นมา ต่างคนก็ต่างร้องเพลงที่ตัวเองพอร้อง ร้องได้มั่ง ไม่ได้มั่ง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพลงมาตรฐานล่ะคับ เช่น ก่อนตายของ Bigass ใจสั่งมาของ Loso และอื่นๆ โดยเฉพาะเพลงรอของกะลา ไอ้เดชจะร้องดังเป็นพิเศษ ผมรู้ทันทีเลยคับ ว่ามันร้องให้ใคร ผมมองหน้ามันตลอดที่ร้องเพลงเลย

หลังจากที่พอมันเลิกร้องเพลงกันซักพัก ก็มีกิจกรรมกัน กติกาคือนั่งเป็นวงกลม แล้วก็มีการแกว่งขวด ปากขวดหันไปทางใคร คนนั้นจะต้องตอบคำถามจากคนรอบวง ใครจะถามก็ได้ ไม่ถามก็ได้ แต่ถามได้แค่ครั้งเดียว เล่นกันทั้งหมด 5 รอบ (ก็จะมี 2 คนที่ไม่ได้เล่น)

รอบที่ 1
เกร๊งๆๆๆๆ............
.
..
“มึงเลย ไอ้เอก”
“อ้าวซวยกูละ” - ไอ้เอกหันมาค้อน
“งั้นกูถามก่อน.................. (บร้าๆๆๆๆๆ - เป็นคำถามแล้วก็โต้ตอบกัน)”
“ใหญ่มึงถามไรกูป่ะ”
“ไม่ว่ะ”
“งั้นกูใช้สิทธิ์ไอ้ใหญ่นะ งั้นกู............” – ไอ้เต้ยัดเยียดทันที แล้วก็โดนกรรมการกลาง คือไอ้เดชปราบไปเรียบร้อย


รอบที่ 2, 3, 4 ก็เป็นของไอ้โส ไอ้เล็ก และไอ้เข้ม ตามลำดับ ผมก็ยังคงใช้สิทธิ์เดิม คือไม่ถามอะไร เพราะผมเองก็ไม่ได้รู้จักอะไรมันมาก


“รอบสุดท้ายแล้วมึง อ่ะ ใครหมุน”
“กู” – ไอ้เข้มคลานไปตรงกลาง แล้วก็หมุน

ตอนนี้เหลือกัน 3 คน คือ ไอ้เต้ ผม และไอ้เดช
.
.
.
.
.
“ฮ่าๆๆ เสร็จกู” – ไอ้เข้มร้องออกมาด้วยความดีใจ ผลที่ออกมาคือ ไอ้เดช
“ใครถามก่อนดี” – ไอ้เล็กถามสมาชิกในวง
“งั้นกูถามก่อนเลย” – ไอ้เอกถามเป็นคนแรก “เดช ทำไมอยากจีบต่าย”
“ก็เขาสวย น่ารัก เรียนเก่ง ผู้หญิงอะไร perfect _ _ หาย”
“แล้วมึงบอกรักต่ายเขาไปยัง” - ไอ้โสถามเป็นคนที่สอง
“ยังว่ะ กูไม่กล้านี่หว่า”

(เหมือนกูเลย - ผมคิดในใจ)

“แล้วถ้ามึงเป็นแฟนต่าย มึงจะฟันต่ายเมื่อไหร่” – คำถามที่สามเป็นของไอ้เล็ก
“เชี่ยมึง กูยังไม่ได้เป็นแฟนเขา ถึงจะเป็นแฟน กูก็ไม่ทำหรอก มันไม่ควร เรื่อง อย่างงั้นรอให้โตขึ้นดีกว่า”
“พระเอกลิเกชิบ” - ไอ้เล็กบ่น
“เดช มึงเป็นเกย์ป่ะวะ” – คำถามที่สี่ จากไอ้เต้
“อ้าวไอ้เต้ ไมถึงถามเงี๊ยะล่ะ ผู้ชายทั้งแท่งเว้ย”
“ไม่ไรหรอก กูดูว่าพักหลังๆ เดินกับไอ้ใหญ่มันบ่อยๆ นึกว่ามึงชอบมัน”
“เชี่ยนี่ มันเพื่อนกูนะ” – ไอ้เดชหันมามองทางผม ผมก็นั่งจ้องหน้ามัน แต่ก็ไม่พูดอะไรกัน
“แล้วทำไมมึงจะเลิกจีบต่ายแล้วล่ะ” – คำถามที่ห้าจากไอ้เข้ม
“กูว่ากูเหนื่อยในการตามจีบเขาว่ะ ไอ้ไม้ตามติดต่ายตลอดเวลา อีกอย่างกูไม่แน่ใจว่ากูชอบจริงหรือเปล่า”
“สุดท้าย ไอ้ใหญ่ จะผ่านป่ะ”

“....................”

“ว่าไง” - ไอ้เดชย้ำ
“อืม ถามก็ได้”
“ว่ามาดิ”
“ถ้าสมมุติวันนึง เราสองคน เอ่อ......หมายถึงกูกับมึงน่ะเดช ถ้าเราไม่คุยกัน มึงจะโกรธกูป่ะวะ” - นึกยังไงผมถึงถามคำถามที่ไม่เข้าท่าอย่างงั้นออกไป
“กูไม่คิดอะไรหรอก แต่มึงนั่นแหล่ะที่คิดไปเอง”


“จบแล้วมึง เหลือไอ้เต้กับไอ้ใหญ่ นอกเหนือกติกา ถามได้ไม่อั้น”

อ้าว+!!!!! - ผมคิดในใจ

“อ้าว ทำไมซวยงี๊วะ” - ไอ้เต้บ่น
“เต้ มึงเป็นเกย์ป่ะวะ” - ไอ้โสถามเป็นคนแรก
“เชี่ยพวกมึง ถามไรงี๊เนี๊ย”
“ก็ที่มึงถามไอ้เดชอ่ะ” – ไอ้เอกสมทบ ทุกคนต่างสนใจรอฟังคำตอบ แต่ผมรู้อยู่แล้ว
“มึงก็รู้ว่ากูมีแฟนอยู่ห้อง 14 น่ะ”
“เออเนอะ” – ไอ้เดชนึกขึ้นได้

แสดงว่าไอ้เต้ไม่ได้ตอบตามความจริง ทั้งหมด – ผมคิดในใจ

“ใหญ่”
“อะไรเหรอ”
“มึงคิดอะไรกับกู” – ไอ้เดชเปิดประเด็น เหมือนกับว่าทุกคนก็สนใจฟังเช่นกัน
“คิดอะไร หมายความว่าไง” – ผมแกล้งทำเป็นถาม ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร
“ตอนที่นั่งริมทะเลวันนี้ มึงพูดอะไรแปลกๆ”
“เหรอ”
“อย่าบอกนะว่ามึง.........”
“อะไร กูงง”
“มึงชอบกูน่ะ”
.
.
.
“ชอบเชี่ยไรล่ะ คนอย่างมึง” – ผมปฏิเสธตัวเอง ผมหลอกตัวเอง ผมโกหกตัวเอง
.
.
.
“แล้วเมื่อวานที่มึงบอก เมื่อวานที่มึงออกมาร้องไห้”
“...................” – ผมคิดไม่ออกว่าจะตอบยังไง

“กูนอนไม่หลับ แล้วเมื่อวานกูก็ไม่ได้ร้องไห้ด้วย” - ผมโกหก
“แล้วที่กูเห็นล่ะ”
“ตาฝาดล่ะสิ” – นั่นๆๆๆ ยังไปบอกอีกว่ามันตาฝาด

“ใหญ่ นึกไงถึงมาเที่ยว” - จากไอ้โส
“ไอ้เดชชวนมา” – ผมตอบสั้นๆ
“พวกกูดีใจนะมึงที่มึงมา ถึงมึงจะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับพวกกู แต่มึงมีไรมึงมาหาพวกกูได้นะเว้ย” – ไอ้โสบอก ทุกคนพยักหน้างืมๆ
“ขอบใจมาก” – ผมก้มหน้า พยักหน้าให้ทุกคนรับทราบ ผมดีใจมากๆ ที่แม้ว่าพวกเราก็เพิ่งจะรู้จักกัน แต่ก็มีมิตรภาพให้กันอย่างล้นเหลือ

การไปเที่ยวชุมพรเดินทางมาถึงวันสุดท้าย ก่อนจะกลับก็เป็นตามธรรมเนียมที่เด็กๆ ก็จะไปไหว้ผู้ใหญ่เพื่อร่ำลา ก่อนกลับพวกเรายังแวะไปซื้อของฝากกันตอนกลางวันกันด้วย ไอ้พวกนั้นก็ซื้อกันประมาณว่าจะไปเลี้ยงกันทั้งห้องเลยทีเดียว

พวกเราเดินทางออกจากบ้านเวลาประมาณ 3 ทุ่ม เพราะพวกเราต้องไปขึ้นรถไฟกันตอนประมาณ 5 ทุ่ม ก่อนกลับก็มีการชักภาพกันเล็กน้อยที่ป้ายสถานี พวกเรานั่งเรียงกันทั้งหมด โดยมีแม่ของไอ้เข้มมาส่งพวกเรานั่งอยู่ตรงกลาง และที่เหลือก็ล้อมรอบไปด้วยพวกเรา โดยมีนายสถานีรถไฟเป็นผู้ถ่ายให้ ที่สถานีไม่มีผู้โดยสารพลุกพล่าน เป็นเพราะว่าเป็นสถานีรถไฟเล็กๆ ในอำเภอปะทิว ซึ่งตอนนั้นก็มีแต่พวกเราเท่านั้นที่อยู่กันที่สถานี และเป็นกลุ่มที่ส่งเสียงครึกโครม

รถไฟผ่านไปขบวนแล้วขบวนเล่า แต่ก็ยังไม่จอดซักที รู้อีกที มันไม่จอดนี่หว่า !!!!




รถไฟเทียบชานชลาที่ 2 ตอนเวลา 23.40 ช้ากว่าเวลาที่ระบุไว้ในตั๋วประมาณครึ่งชั่วโมง เมื่อรถไฟเทียบเข้าชานชลา พวกเรารีบขึ้นรถทันที แต่ก็คงจะเสียงดังเหมือนตอนมาไม่ได้ เพราะเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว ผู้โดยสารคนอื่น ๆ ก็หลับกันไปบ้างแล้ว ดังนั้นพวกเราจึงเดินกันไปอย่างเงียบ ๆ ไปยังที่นั่งของตัวเอง


“เฮ้ย ที่กู” – ไอ้เอกบอกเป็นนัยว่า ริมหน้าต่างเป็นที่นั่งของมัน เหมือนตอนขามา
“สราดด.....กูถึงก่อน” ไอ้เล็กไม่ฟังเสียง แทรกตัวเข้าไปที่นั่งริมหน้าต่าง
“เชี่ยพวกมึง เกรงใจคนอื่นมั่ง” – ไอ้เข้มปรามไว้ ผมเดินไปถึงคนสุดท้ายยังอดขำไม่ได้
“ใครจะไปนั่งคนเดียว ข้างนั้นน่ะ” – ไอ้เอกถาม พร้อมกับชิ้นิ้วไปที่นั่งฝั่งตรงข้ามที่ติดกัน


“กูเอง” – ไอ้เข้มแทรกตัวลงไปนั่งตรงนั้นเรียบร้อย สุดท้ายก็เหลือที่นั่งเดียวให้ผมนั่ง ก็คือ ที่นั่งริมทางเดิน ที่ตรงข้ามกับผมเป็นไอ้เดช

“กูนอนก่อนนะ” – ผมบอกกับทุกคน แล้วผมก็หลับตาลง

“แม่งหลับง่ายฉิบ” – ไอ้เล็กบอก ไม่รู้ว่ามันจะอิจฉาอะไร แต่ผมได้ยินนะ แค่หลับตาเฉยๆ น่ะ จริงๆ แล้วไม่ได้ง่วงหรอก แต่ว่าผมไม่อยากมองหน้าไอ้เดช ก็แค่นั้นเอง ว่าง่าย ๆ คือหลบหน้านั่นแหล่ะ

เสียงอะไรแกร๊ก ๆ ไม่รู้ เหมือนผมจะได้ยิน มีแสงสีแดงเข้าตาผมด้วย จากนั้นก็มีแสงเหมือนไฟกระพริบ

ผมไม่สนใจหรอกคับ ไม่อยากลืมตาแล้วเห็นคนตรงหน้า เห็นแล้วผมหงุดหงิด
------------

ปล. มาช้าไปนิด ขอโทษนะคับ  :m5:กำลังจะเคลียร์เรื่องนี้ให้มันจบไปก่อนนะคับ
เรื่องหน้า (ถ้าผมขยันพอ) จะมาิลงให้อ่านนะคับ

ขอบคุณผู้อ่านเจ้าประจำที่ยังคงทนกับเืรื่องนี้อยุ่นะคับ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
หึๆๆๆๆ ใหญ่เอ้ย ทำไมประสบการณ์โดนใจป้างี้ว้า คุ้นๆว่าเคยเจออะไรแบบนี้ตอนมัธยมมาก่อน (ขอละว่ากี่ปีมาแล้วในฐานที่เข้าใจ  :laugh: )

เรื่องปกติน้า หัวใจคนเราบังคับไม่ได้ คนที่เราชอบอาจไม่ได้ชอบเราตอบ แต่อย่างน้อยได้เป็นเพื่อนกันต่อไปแล้วเก็บความรู้สึกที่เคยมีไว้เป็นความทรงจำก็พอ

ว่าแต่ ถ้าไม่มาลงเรื่องหน้า ป้ามีโวย!!!!  :angry2:

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
อืม เรื่องของจิตใจ  มันช่างลำบากยากเย็นนัก

จะเป็นยังไงต่อไปล่ะเนี่ย

 :sad2:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
หงะ

เสียดายที่ไม่ได้บอกไปแฮะ  555+

ความรักไม่ได้สูญหาย  ความรักไม่ได้หมดไป

แต่ความรักยังคงติดตรึงอยู่ตรงนี้  ตรงที่เรียกว่าหัวใจอยู่ตลอดเวลา

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:  ถึงจะเสียดายที่ไม่ได้สารภาพความในใจ
แต่ตามความคิดของพี่อ่ะนะ 
เรื่องบางเรื่องก็ขอเก็บไว้ในใจดีกว่า    o7
ให้มันเป็นความทรงจำดีๆครั้งหนึ่งในชีวิตของเราก็พอแล้ว

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
แพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงแข่งเลยยยย  :เฮ้อ:


ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
จะติดตามต่อไปนะ

รออ่านตออยู่นะ

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
46
 :o11:
ผมนอนไม่ค่อยหลับเลยคับ ก็รถไฟชั้นสามนี่นา กึ่งหลับกึ่งตื่นตลอกเวลา ดังนั้นผมจึงรู้สึกปวดเมื่อย เลยออกไปเดินเล่นแถว ๆ ท้ายขบวนซักหน่อย

อากาศตอนเช้ามืดก็ถือว่าดีนะคับ เป็นเพราะสถานีที่เพิ่งออกมามันเป็นสถานีที่อยู่ในหมู่บ้านด้วยล่ะมั้งคับ สองข้างทางเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าและต้นไม้ ผมปล่อยตัวเองอยู่ตรงนั้นซักพัก

“มานั่งเล่นเหรอ” – เสียงนั้นเอ่ยทักผมขึ้นมาก่อน ผมจึงหันขึ้นไปมองหน้ามัน
“อืม” – ผมตอบกับเสียงนั้น แล้วจึงหันกลับไปยังริมหน้าต่างอีกครั้ง
.
.
.
“นั่งด้วยกันป่ะ” – ผมเอ่ยชวนอีกฝ่าย
“อืม ก็ดี แม่งเมื่อยว่ะ นั่งเบียด ๆ กันเนี๊ย เราขอนั่งสบาย ๆ ดูบ้างเหอะ”
“แล้วเราจะถึงกี่โมงวะไอ้เข้ม”
“ประมาณแปดโมงมั้ง”
“เฮ้ย งี๊ก็ไปโรงเรียนสายอ่ะดิ”
“ไม่เป็นไรหรอก วันเดียว”
“กูยิ่งไม่เคยมีประวัติว่าสายอยู่” – ผมอวดไอ้เข้มเล็กน้อย มันหัวเราะ
“ใหญ่”
“หือ??” - ผมหันไปตามเสียง
“เป็นไงมั่ง”
“อะไรเป็นไง”
“กูหมายถึง มาเที่ยวสนุกป่ะ”
“หนุกว่ะ วันหลังจัดไปไหนบอกกูด้วยนะ”
“อืม”
“กูอิจฉาบ้านมึงว่ะ นั่นน่ะ บ้านในฝันกูเลยนะนั่น”
“ยังไงวะ”
“บ้านมึงน่าอยู่มาก ๆ ไม่รู้ดิ กูว่า กูชอบบ้านมึง”
“ขอบใจว่ะ”
.
.
.



.
.
“แดดส่องแล้ว กลับไปที่เหอะ” – ผมบอกไอ้เข้ม มันกำลังเคลิ้มๆ

เมื่อพวกเราถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ แท๊กซี่ที่เราได้เรียกไปที่หอไอ้เดช 1 คัน ก็แออัดไปด้วยสมาชิก 7 คน และเสียงอันอึกทึกครึกโครม (ถ้าผมเป็นคนขับแท๊กซี่ ผมคงไม่รับไอ้พวกนี้เด็ดขาด เด็กอะไรคุยได้ตลอดทาง) และเมื่อถึงหอไอ้เดช ทุกคนต่างแย่งห้องน้ำ อย่างกับไม่เคยเห็นกันมาก่อน

ผมเป็นคนสุดท้าย ที่ออกจากห้องน้ำ จากนั้นพวกเราก็สะพายกระเป๋า เตรียมพร้อมจะไปโรงเรียน ตอนสิบโมง

“สิบโมงอ่ะนะมึงยังจะไปกันอีกเหรอ” - ไอ้เล็กถามเป็นคนแรก
“ดีกว่าไม่ไปไม่ใช่เหรอ” – ไอ้เดชแย้งขึ้นมา แล้วสุดท้ายทุกคนก็ฟังไอ้เดช

พวกเราเรียกสามล้อ แบ่งออกเป็น 2 คัน มาถึงโรงเรียนได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่ที่ยากกว่านั้นก็คือ พวกเรามีเหตุผลอะไรที่จะเข้าโรงเรียน เพราะการมาโรงเรียนสายแล้วตามระเบียบจะไม่เกินคาบที่ 1 ก็คือตอนแปดโมงห้าสิบ ยกเว้นมีธุระสำคัญอะไร หรือไปหาหมอ อาจารย์จะอนุญาตเป็นกรณีไป แต่นี่พวกเรามาซะคาบสามแล้ว เหตุผลก็ไม่มีด้วย จะบอกว่าไปเที่ยวมาเหรอ ไม่ได้หรอก

“อ้าวใหญ่ ทำไมเพิ่งมา” – เสียงทักของอาจารย์ที่ปรึกษาผมตอน ม.4 ทักผม (ผมกับอาจารย์ที่ปรึกษาสนิทกันคับ) วันนั้นอาจารย์ที่ปรึกษาผมเฝ้าเวรห้องปกครอง
“ไปหาแม่เพื่อนมาคับ” - ผมตอบกลับไป
“แต่นี่ไม่ใช่ห้องเรานี่นา” - อาจารย์ยังคงถามผม
“อันนี้เพื่อนห้อง 8 ไงคับ อาจารย์เคยสอนพวกมันไม่ใช่เหรอ”
“แล้วเธอไปทำอะไรกับห้อง 8 ล่ะ”
“ก็เพื่อนผมนี่คับ สนิทกัน”
“แล้วไปหาทำไมเหรอ” – อาจารย์หันไปถามพวกมัน มันทำอะไรไม่ถูก
“ก็วันแม่ไงคับ”
“แล้วแม่ตัวเองล่ะ”
“อยู่ด้วยกันจนเบื่อแล้วคับ เลยไปหาแม่เพื่อนบ้าง” – ผมยังคงเถียงแบบว่า ไม่ขึ้นน่ะ
“งั้นรอครูตรงนี๊แป๊บนึง”
.
.
.
“เก่งว่ะใหญ่ ทำได้ไงวะ” – ไอ้เต้หันมาถามผม
“ฝีปากกูเว้ย เก่งป่ะล่ะ”
“มากับไอ้ใหญ่ ก็ง่ายดีเนอะ แม่งเป็นกรรมการนักเรียน” – ไอ้เต้ชมผมเล็ก ๆ

“อ่ะ ใหญ่ ของเธอใบนึง แล้วก็ของพวกนี้ใบนึง เขียนชื่อพวกเธอรวมกันเลยนะ ส่วนใหญ่ของเธอไม่ต้อง”
“ยังไงคับ”
“ครูเขียนให้เธอแล้ว” – หันมาขยิบตาเล็ก ๆ ให้ผม ผมรู้ทันที
“ขอบคุณคับอาจารย์” – พวกเรายกมือไหว้ แล้วก็เดินไปที่ห้องเรียนของตัวเอง

“คาบนี้มึงเรียนไรกันวะ” - ผมถามไอ้เต้
“ภาษาไทย มึงอ่ะ”
“อังกฤษ ไม่เป็นไรหรอก อาจารย์ใจดี”

แล้วผมก็เดินไปยังอาคารเรียนพร้อมกับพวกห้อง 8 จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้าห้องตอนสิบโมงครึ่งพอดี เพราะหมดคาบ 3 กำลังจะเปลี่ยนเป็นคาบที่ 4 ผมกับพวกมันแยกกันตรงบันได แล้วผมก็เดินเข้าห้องไป

“ไปไหนมาวะใหญ่ โทรไปที่บ้านบอกมึงไม่อยู่” – เพื่อนสนิทผมคนนึงถาม ผมไม่ได้บอกมันว่าผมจะไปเที่ยวบ้านเข้ม
“ไปเที่ยวมาว่ะ”
“ไปไหนมาวะ” - เพื่อนอีกคนอยากรู้
“ชุมพร”
“ไม่บอกกูเลย ไอ้เชี่ยนี่ – ป้าบ” – สิ้นสุดคำด่า มันเอามือมาตบหัวผมทีนึง ผมเกาหัวเล็ก ๆ
“เฮ้ย อาจารย์มาแล้วน่ะ” – เสียงรองหัวหน้าห้องร้องเตือน ทุกคนเข้าที่

แล้วพวกเราก็เรียนวิชาภาษาอังกฤษ อาจารย์คนนี้สอนดีมากเลยด้วย แต่เนื่องจากเป็นเพราะการเดินทาง ทำให้ผมเหนื่อยล้า และก็ งีบหลับไปในช่วงท้ายชั่วโมง

“ใหญ่ ตื่นเว้ย หมดคาบแล้ว”
“อืม…แง่มๆ กินข้าวแล้วเหรอ”
“เออดิ กูมีเรื่องจะคุยกับมึงด้วย” – ไอ้ไม้ดูเอาใจผมเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าทำไม แต่ก็คงพอจะรู้ล่ะ ว่าเรื่องอะไรที่มันจะถามผม
.
.
.
.
.
.
.

“สนุกป่ะวะ” - ไอ้ไม้เปิดประเด็นก่อน
“หมายถึงใครหนุกวะ”
“มึงน่ะ”
“ก็ดีว่ะ ก็ไม่เคยไปนี่หว่า อะไรๆ ก็ตื่นเต้นไปหมด”
“เหรอ แล้วไอ้เดชล่ะ”
“กูคิดไว้แล้วแหล่ะว่ามึงต้องถามเรื่องนี้” - ผมหัวเราะ
“เชี่ยนี่ ทำมาเป็นรู้ดี เป็นอับดุลเหรอมึง อย่าลีลา ตอบกูมา ไอ้เดชเป็นไง”
“ก็ไม่เป็นไง ก็ปกติดี”
“กูหมายถึง มันพูดอะไรถึงต่ายป่ะ”
“ก็นิดนึง บอกว่ามันคิดถึงต่าย” - ผมแกล้งแหย่ไอ้ไม้เล่น





“.............”
“เป็นเชี่ยไรเนี๊ยไอ้ไม้”
“ต่ายเขายังไม่เป็นแฟนกับกูเลยว่ะ”
“แล้วไง มึงพยายามหรือยังไอ้ไม้”
“มึงก็เห็น ตอนที่หยุดหลายวัน เขาไปเรียนพิเศษ กูน่ะตามไปส่งทุกวัน แต่เขาก็ด่ากู บอกว่างานการตัวเองไม่ไปทำหรือไง”
“กูว่าต่ายคงหวังดีในตัวมึงมั้ง คงอยากให้มึงตั้งใจเรียน”

ผมเห็นไอ้เดชเดินมาในระยะสายตาที่ผมพอจะมองเห็นได้

“ไอ้ไม้”
“ไรวะ”
“มึงพยายามเข้านะเว้ย คู่แข่งตอนนี้เขาไม่ค่อยจะพร้อมซักเท่าไหร่” – ผมหันไปมองทางไอ้เดช มันก็เห็นผมเหมือนกัน แต่มันก็ไม่เข้ามาทักผม
“มึงหมายความว่าไงวะ”
“หมายความว่าอย่างที่กูพูดแหล่ะ มึงเต็มที่นะเว้ย จีบต่ายให้ติด กูช่วยมึงอยู่แล้ว วันนึงต่ายคงใจอ่อนเองแหล่ะ” – ผมพูดดังเป็นพิเศษ กะว่าให้ไอ้เดชได้ยิน มันก็เดินสวนผมกับไอ้ไม้ไป



“เมื่อกี๊มึงพูดดังๆ ทำไมวะ หูกูไม่ตึง”
“อ้าว ก็ก็... กูย้ำมึงไง ให้จีบให้ติด” – ผมลดเสียงลงเป็นปกติ ไอ้เดชเดินผ่านไปแล้ว

พักกลางวัน หลังจากที่ผมกินข้าวเสร็จ พวกผมก็เดินกลับมาที่ห้อง ก่อนที่ผมจะเดินเข้าห้องเรียนของผม ผมก็แอบชำเลืองมองหน้าห้องไอ้เดช มันนั่งอยู่ริมระเบียงคนเดียว

“เป็นไรวะ แล้วคนอื่นไปไหนกันหมด” - ผมเอ่ยถามไอ้เดชก่อน
“ก็ไม่เป็นไร” – สายตาไม่ได้มองที่ผม แต่มองไปยังระเบียงหน้าห้อง
“มึงง่วงป่ะ กูโคตรง่วงเลย มะกี๊กูหลับในห้องด้วย” – ผมชวนไอ้เดชคุย
“ไม่” – มันยังคงมองไปที่ระเบียงตามเดิม
“มึงจะกลับหอกี่โมงวะเดช”
“เลิกเรียนก็คงกลับ”
“กูว่าจะไปซื้อของแป๊บนึง แล้วค่อยไปเอาของที่หอมึงนะ”
“อืม”
“ประมาณหกโมงเย็นนะ มึงรอกูที่หอด้วยนะ”
“.....................”
“มึงเป็นไรป่ะเดช”
“เปล่า กูไม่เป็นไร” – มันหันมามองหน้าผม แล้วก็หันกลับไป

เลิกเรียนแล้วคับ สี่โมงเย็น เวลาอันดีที่ผมและเพื่อนๆ จะออกไปทำกิจกรรมร่วมกัน เพราะผมเคยบอกพวกมันว่าผมไม่ได้ไปเล่นกับพวกมันนานแล้ว แล้ววันนี้ผมก็คงไม่มีข้ออ้างที่จะปฏิเสธอีกแล้ว อีกอย่างก็ไม่ได้เล่นมานานแล้วด้วย ดังนั้น winning จึงรอพวกผมอยู่ที่ร้านเกมส์

ห้าโมง
หกโมง
สองทุ่มแล้วเหรอ

ผมต้องได้เวลากลับบ้านแล้วดิ แล้วผมนัดไอ้เดชไว้หกโมงเย็นนี่หว่า มันจะด่าผมป่ะเนี๊ย ผมจึงนั่งมอเตอร์ไซด์ไปยังหอไอ้เดชทันที

“เข้ามาดิ” - ไอ้เดชเอ่ยเชิญผมเข้าห้อง
“คนอื่นล่ะ มาเอาของกลับไปแล้วเหรอ”
“อืม”
“ทำไรอยู่วะเดช”
“อ่านหนังสือ” - น้ำเสียงเรียบๆ เหมือนชาที่ทิ้งไว้ให้เย็น
---------------


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด