รักดั่งเส้นขนาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักดั่งเส้นขนาน  (อ่าน 112678 ครั้ง)

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 33


“แกว่าอะไรนะ”
“เรารักเดช แกหูไม่ฝาดหรอก”







 :o12:








……..
……..
………
……….
“แกหลอกเราป่ะ”
“ไม่หลอก เรื่องจริง”
“มันเกิดขึ้นนานหรือยัง”
“ก็ซักพักแล้วแหล่ะ เราไม่รู้หรอกว่าเริ่มรักตอนไหน รู้ตัวอีกที ก็รักมันไปแล้ว”
“แต่แกก็รู้ทั้งรู้ ว่ามันไม่ได้ชอบแกอ่ะนะ”
“อืม เรารู้ทั้งรู้ แต่เราก็รัก แค่เข้าใจป่ะ ว่ามันสุขใจที่ได้รักน่ะ แม้จะเป็นรักเขาข้างเดียวก็เหอะ”
“ถึงว่า เราก็สังเกตอาการแกแปลกๆ เวลาพูดถึงเดช ที่แท้ แกก็ชอบมันนี่เอง”

คนที่ผมคิดว่าผมจะบอกสิ่งที่ผมคิด ก็คือ ต่ายแหล่ะคับ เพราะอะไรถึงเลือกต่าย อยากแรกก็คือ อย่างน้อยผมก็ได้ระบายความอัดอั้นตันใจที่ผมมีมานานออกไปบ้าง และอย่างที่สอง ต่ายเป็นคู่กรณีที่เดชมาชอบนั่นเอง การที่ผมจะบอกให้ต่ายรู้ ผมคงไม่ผิดหรอกมั้งคับ

“ฉันขอโทษ ที่ทำให้แกต้องมาเป็นอย่างงี๊”
“ไม่เป็นไรหรอก”
“แล้วแกจะทำไงต่อไปวะ”
“ไม่รู้ดิ เรายังไม่กล้าบอกมันอยู่ดีแหล่ะ เอาไว้ไปทะเลกลับมาก่อนแล้วค่อยคิด”
“เอางี๊ป่ะ เดี๋ยวเราไปคุยกับเดชให้ เราว่าเดชน่าจะฟังเรานะ”
“อย่าเลยว่ะต่าย เราว่านะ ให้เรามีความสุขเล็กๆกับการแอบรัก ก็พอเหอะ”
“แต่ว่า..............”
“เอางี๊ ถ้าถึงเวลาที่สมควรจะบอกกับเดช เราจะบอกให้แกช่วยเองแหล่ะ”
“อืม แล้วไปทะเลกันเมื่อไหร่ล่ะ”
“9 – 11 ส.ค. กลับเช้าวันอังคาร”
“นานจัง ไปนานอย่างงี๊ระวังนะจ๊ะ”
“อ่ะนะ เดี๋ยวเราซื้อของมาฝากละกัน”

ต่ายแซวผมเล็กน้อย ก่อนเดินออกไปจากห้อง ไอ้ไม้ตามติดต่ายเหมือนเดิม

ผมเดินไปที่ห้องเรียนของเดช เดชยังไม่กลับบ้านหรอกคับ

“เดช แฟนมึงมาน่ะ” – ไอ้เต้ อีกแล้ว เดชชูนิ้วที่ยาวที่สุดให้ไอ้เต้ 1 ที
“มึงมานี่เลยไอ้ใหญ่”
“เออ กูรู้แล้ว”
“อ่ะ ตั๋วรถไฟ”
“หกโมงสิบห้า สถานีสามเสน ทำไมมึงไม่ไปหัวลำโพงวะ” - ผมถามมัน
“ไกลเกิน” – มันบอก (ตอนนั้นยังไม่มีใต้ดินนะคับ มีแต่ BTS)
“แล้วกูจะมาทันไม๊เนี๊ย” - ผมถามมัน
“มึงก็มานอนหอกู ก่อนไป มึงจะได้มาทัน แน่นอน”
“เออดี วางแผนเก่งนะมึง” – ผมบีบจมูกมัน 1 ทีเพราะความหมั่นใส้ เดี๋ยวนี้เราเล่นอย่างงี๊บ่อยๆคับ
“แล้วมึงจะกินไรวันนี้” – มันถามผม ทีงี๊ล่ะมาให้ผมคิด
“กินมึงอ่ะ” - ผมหยอกมัน
“อะไรนะ กินกูเหรอ กูไม่อร่อยหรอก” – ไม่คิดว่ามันจะมารับมุขผม แต่ผมคิดงั้นจริงๆนะ

ผมออกไปหาอะไรกินกับมันแหล่ะคับ เป็นประจำ

“มึงจะไปไหนกันบ้างวะ” - ผมถาม
“เออน่า สนุกแน่ๆ”
“กูก็ยังกลัวๆว่ะ กูไม่ได้รู้จักเพื่อนมึงทุกคน”
“ทีมึงยังเป็นเพื่อนกูได้ นับประสาอะไรกับเพื่อนกู”
“แล้วมึงคิดหรือยังว่ามึงจะไปไหนกันมั่ง” - ผมถามอย่างสนใจ
“กูก็ไม่รู้หรอก เดี๋ยวไอ้เข้มมันก็จัดเองแหล่ะ มีเวลาตั้งอีกหลายวัน”
“หลายวันห่าไรวะ มะรืนแล้วนะมึง ไอ้นี่”
“เออน่า หนุกหนานแน่นอนไอ้ใหญ่ เชื่อไอ้เดชคนนี้เถอะ”
“...............”
“แล้วมึงก็อย่าลืมล่ะ เก็บเสื้อผ้ามึงมาด้วยตั้งแต่พรุ่งนี้ เอากระเป๋ามาไว้ที่ห้องกู แล้วก็ชุดนักเรียนของมึงด้วยนะเว้ย เดี๋ยวมึงไม่มีชุดนักเรียนใส่ไปเรียน กูไม่ให้ยืมอีกนะมึง”
“คับๆ นายท่าน” – ผมปลกๆ ใส่เดช มันยิ้มเล็กน้อย

อีกเพียงสองวันแค่นั้นเองคับ ผมจะได้ไปเที่ยวทะเลกับเดช แต่ก็ไม่ได้ไปกันสองคนหรอกคับ เพื่อนมันอีกเป็นสิบ (ไม่ถึงหรอก แค่ 7 คนเองคับ) ผมคิดว่าผมก็คงสนุกกับมันและเพื่อนๆ ของมัน ผมก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงตอนที่มันไปเล่นน้ำทะเล หุ่นที่กำยำ สมส่วนของมัน โอ่ย!!! ตาลายแล้วผม คิดไรอยู่เนี๊ย

ผมหลุดจากพะวังที่ผมกำลังคิดไปไกล ด้วยโทรศัพท์ PCT ของผมที่ดังขึ้น

“หวัดดีคับ” – ผมทักทายสายปลายทาง ที่ก็ไม่รู้ว่าใคร
“ต่ายนะคะใหญ่” – ตกใจเล็กน้อย ปกติเธอไม่เคยโทรหาใครง่ายๆ หรอก
“พูดซะเพราะเชียว มีไรเหรอ” - ผมถาม
“ตอนนี้อยู่ไหนอ่ะ”
“ร้านข้าว แถวๆหมู่บ้านแกน่ะ”
“ไปทำไรแถวนั้น”
“มากินข้าวกับเพื่อน”
“ใครล่ะ บอกได้ป่ะ” – ต่ายถาม เหมือนท่าทางอยากรู้
“คนที่เราบอกแกไปเมื่อเย็นนี้อ่ะ”
“เหรอ” – เหมือนต่ายจะช็อก น้ำเสียงดูอึ้งๆ “………………….”
“ทำไมเงียบไปล่ะ มีไรเปล่า” – ผมถาม เมื่อผมรู้สึกว่าต่ายเงียบไปนาน
“แกมากินกันบ่อยป่ะ”
“ก็เกือบทุกวันอ่ะ”
“ฉันหมายถึง แกกินข้าวกับเดชบ่อยป่ะ”
“ก็เออ เกือบทุกวัน”
“...............” - เหมือนต่ายจะอึ้งไปอีกรอบ
“ตกลงแกมีอะไรวะต่าย”
“ขอคุยกับเดชหน่อยดิ”

ผมส่งโทรศัพท์ให้เดช
…….
………
……….
…………..
(ผมไม่ได้ฟังอะไรหรอกคับ ออกแนวว่าผมทนฟังไม่ได้)  คุยกันไม่นาน เดชก็ส่งโทรศัพท์ให้ผม

“อะไรอีกล่ะ”
“เราบอกเดชไปแล้วนะ” – ต่ายบอกผม เอาแล้วไอ้ใหญ่ ซวยแน่ๆ
“บอกไรไป” – ผมถามอย่างร้อนรน ตอนนี้จิตผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว
“บอกแค่ว่า ดูแลแกดีๆล่ะ”
“จริงเหรอ แน่ใจนะว่าแกไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้น” – ผมยังคงถามต่าย
“อืม แกเห็นเราเป็นคนยังไงล่ะจ๊ะ”
“ก็.....เปล่า”
“งั้นกินข้าวไปเหอะ ไม่กวนแล้วนะจ๊ะ”
“เออๆ รู้แล้ว”

กินข้าวกันอิ่มหนำสำราญกระเพาะอาหารแล้ว คงได้เวลาที่ผมจะกลับบ้านแล้วล่ะคับ ระหว่างทางที่กลับบ้าน ผมก็รวบรวมความกล้า ที่จะถามมันว่า........

“เมื่อกี๊ต่ายคุยไรกับแกวะ”
“ก็ ทั่วๆไป ทำอะไรอยู่ ที่ไหน อยู่กับใครมั่ง”
“ไม่ได้คุยะไรนอกจากนี้ใช่ป่ะ”
“ก็มีบอกว่า ฝากดูแลไอ้ใหญ่ด้วย”
“อืม........................” ผมเงียบไป
“ไม่เอาน่า ก็กูก็ดูแลมึงอยู่แล้วนี่ไง ยังไงมึงก็ต้องอยู่กับกูนี่แหล่ะ”
“..............” - ผมเงียบไปอีกแล้ว
“มึงมีอะไรเปล่าเนี๊ย”
























“ไม่มีไรหรอก ช่างเหอะ” – แล้วผมก็ขึ้นรถกลับบ้าน
---------------

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
^
จิ้มมมมมมมมมมม

นึกว่าจะไปบอกกะเดชซะอีก  ไหนได้บอกต่าย

อยากรู้ตกลงต่ายนี่ยังไง

 o2 o2 o2 o2

PakBeob

  • บุคคลทั่วไป
เล่นเอาซะใจหายวาบเลย :เฮ้อ:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 34

อีกแค่สองวัน ผมก็จะได้ไปเที่ยวกับเดชและเพื่อนๆแล้วคับ เหมือนผมเองก็ต้องเตรียมตัวหลายอย่างเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เตรียมพวกเสื้อผ้ากับของใช้ส่วนตัวนะคับ แต่เป็นเรื่องของ การเตรียมใจมากกว่า ก็เลยดูเหมือนว่าสองวันที่เหลือผมจะดูเหม่อลอยมากกว่าปกติ ก็ใจผมลอยไปอยู่โน่นแล้วคับ คิดว่าผมควรวางตัวยังไงดี ทำยังไงจะใกล้ชิดเดชมากกว่านี้ และคิดถึงไปจนถึง การบอกว่าผม........เอ่อ คือ..

ความเหม่อลอยของผมถูกขั้นโดยไอ้ไม้

“ได้ข่าวว่ามึงจะไปเที่ยว” – ไอ้ไม้เริ่มก่อน ทำเอาผมอึ้งไปเล็กน้อย
“อืม........เอ่อ.......แล้ว แล้วมึง ไป...ไปรู้จากไหน”
“ต่ายบอกกู”
“อืม...............”
“มึงไปกับไอ้เดชใช่ป่ะ”
“ชะ..เออ  ใช่ๆ ไปกับเดช”
“มึงเป็นไรมากป่ะ” - ไอ้ไม้ถามผม
“อ่อ .......เออ เปล่าๆ ไม่มีไร”
“อย่าให้กูรู้นะมึงว่า มึงกำลังเล่นตุกติกกับกู”
“ตุกติกอะไรของมึง ไอ้ไม้ ก็กูไปเที่ยวเฉยๆ ไม่มีไรหรอกน่า มันชวนกู กูก็ไป หรือมึงจะไปกับกู เอาป่ะ”
“ห่า กูไปมันก็กระทืบกูอ่ะดิ”
“มึงอย่าเว่อร์ ไอ้ไม้”
“มึงอย่าลืมนะเว้ย มึงอยู่ห้องนี้ มึงเป็นเพื่อนกู อย่าให้กูรู้นะมึงว่ามึงแอบช่วยใส้ศึก”
“เออ กูรู้แล้ว ไอ่ห่า ดูหนังมากไปป่ะมึง”
“…ก็มันน่าคิดเอาไว้ก่อน ใช่ป่ะล่ะ” - ไอ้ไม้บอกผม
“คิดมากน่า เออแล้วต่ายบอกอะไรมึงอีกป่ะ”
“เปล่า นอกจากว่าบอกเรื่องมึงจะไปเที่ยวกับไอ้เดช ก็ไม่ได้บอกไรอีก”
“เหรอ”
“วันหลังมึงจะไปไหนมึงก็บอกกูมั่งเดชะ ตั้งแต่มึงขึ้น ม.5 มึงห่างๆ กับพวกกูจัง ชวนไปไหนแม่งก็ไม่ไป งานเยอะเหรอมึง”
“เออ กูขอโทษละกัน แต่งานกูเยอะจริง”
“เออ ไม่เป็นไร กูเข้าใจนักกิจกรรม”
“..............”

วันศุกร์มาถึงแล้วคับ  วันที่ผมจะต้องเดินทางไปเที่ยวกับไอ้เดช และเพื่อนๆ เรานัดกันที่หอของเดชตอนสี่โมงครึ่ง แต่ผมเก็บเสื้อผ้ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ผมก็เลยกลับมาพร้อมกับเดชตั้งแต่โรงเรียนเลิก มันบอกให้ผมอาบน้ำก่อนเดินทาง ก็ดีคับ เหนียวตัวอยู่ด้วย
 


“อาบด้วยกันนั่นแหล่ะ เสียเวลา” - ไอ้เดชบอกผมก่อน
“ไอ้บ้า มึงนั่นแหล่ะอาบก่อนเลย เดี๋ยวมึงต้องออกมารอเพื่อนมึงไม่ใช่เหรอ”- ผมบอกมัน
“ไรวะ ก็กู............”
“มึงรีบอาบเลยป่ะ เร็วๆด้วย” – ผมผลักมันเข้าห้องน้ำ มันก็อาบน้ำไปตามเรื่องราวของมัน


“ใหญ่จ๋า เอากกน. ที่อยู่ในตะกร้าผ้ามาให้กูหน่อยดิ” – มันตะโกนจากห้องน้ำ ผมเดินไปเอากกน. มาจากตะกร้าให้มัน
“อ่ะ” – ผมแง้มประตูห้องน้ำเล็กน้อย แต่มันเปิดประตูซะกว้างเลย ผมก็เลยเห็น
เห็น…
เห็น…..











เห็นว่ามันใส่ กกน. อาบน้ำนั่นเอง

“ไอ้ใหญ่ มึงเข้ามาอาบกับกูเหอะ”
“เอาเหอะ เดี๋ยวกูค่อยอาบ” - ผมบอกปัด
“มึงอายอะไรกูวะ ไอ่ห่า ผู้ชายด้วยกัน”
“กูอาบน้ำนาน กูต้องฟอกน้องชายกูให้สะอาด” - ผมบอกมัน
“มึงจะอาบดีๆ หริอให้กูใช้กำลัง” – มันวิ่งออกจากห้องน้ำมา ผมที่ถอดเสื้อนุ่งผ้าขนหนูอยู่แล้วก็ต้องปลดผ้าขนหนูออก ตอนนี้ผมก็เหลือ กกน. ตัวเดียวเหมือนมัน
“ก็แค่นั้น ต้องบังคับอยู่เรื่อย”

สุดท้ายการที่ผมบ่ายเบี่ยงมัน ผมก็ต้องมาตกอยู่ในสภาพที่จำยอมของมันอีกจนได้ มันอาบน้ำไปร้องเพลงไปด้วย ผมก็อาบไปดูหุ่นอันน่าฟัดของมันไปด้วย น้องชายของผมที่เคยสงบนิ่งอยู่ใน กกน. เริ่มจะเจริญเติบโตตามสิ่งเร้าที่อยู่ตรงหน้าของผม สายตาของผมจากเดิมที่จ้องที่บริเวณหน้าท้องของมัน และลูกเกดของมัน ก็เริ่มไล่สายตาต่ำลงเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันเป้าของผมค่อยๆ นูนขึ้นมา นูนขึ้นมา เป็นนัยบอกว่าน้องชายของผมพร้อมแล้วที่จะออกมาเผชิญโลกกว้าง ผมเองก็สังเกตเป้ากกน. ของเดชเองก็มีความนูนอยู่บ้าง แต่ก็คงไม่มากเท่าผมละมั้งคับ

ซักพักมันขอทำความสะอาดน้องของมันบ้าง มันหันหลังให้ผม แล้วก็เอาสบู่ฟอกๆ น้องของมันอย่างเมามัน แต่ด้วยความว่า ห้องน้ำมันเปิดไฟ แล้วก้ต้องมีแสงและเงาที่ทอดมายังที่พื้นล่าง ด้วยสายตาอันว่องไวของผม ผมเลยได้เห็นเงาของน้องชายไอ้เดช แต่ว่าก็ไม่ชัดเท่าไหร่หรอกคับ ผมมองอยู่จนมันหันหลังกลับมาหาผมอีกครั้ง ผมก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“เป้าของมึงทำไมมันนูนกว่าของกูวะ” – ไอ้เดชถามผม มึงจะอยากรู้ไปทำไม
“ของมันมีคุณภาพเว้ย” – ใครจะกล้าบอกล่ะคับ ว่าเห็นมันแล้วเกิดอารมณ์ขึ้นมา
“พิสูจน์หน่อยเด่ะ” – แล้วมันก็เอามือมาตบตรงน้องชายผมเบาๆ โดนเข้าอย่างจังๆ เลยคับ ทำเอาน้องชายผมสะดุ้งเล็กน้อย
“ไอ้เชี่ยนี่ แม่ง” – ผมแกล้งไปตบน้องชายของมันคืน มันหันตูดให้ผมซะงั้น “มึงรีบอาบให้มันเสร็จเลยเร็วๆไอ้เดช”
“เออ แต่แม่งคุณภาพดีว่ะ” – ยังแซวผมไม่เลิก ผมเริ่มอายแล้วนะเนี๊ย

“……….”


“ฝึกไว้ จะได้ชิน ไปเที่ยวกับพวกกูน่ะ มึงต้องอาบน้ำรวมกับพวกกู เข้าใจป่ะ”
“อ้าวไม่ใช่ห้องน้ำแยกเหรอ”
“แยกแหล่ะ แต่มันเสียเวลา คนตั้ง 7 คนมาแยกกันอาบน้ำ มาอาบด้วยกันน่ะดีแล้ว”

เล่นกันอยู่ซักพัก แล้วก็ต่างคนต่างอาบของตัวเองไป เดชอาบเสร็จก่อน เพราะมันเข้าไปอาบก่อนผม ผมซักกางเกงในที่ผมใส่อาบน้ำไว้ที่นี่ เช้าวันที่ผมกลับมาจะได้แห้งพอดี เอาไว้ใส่ไปโรงเรียนได้ ผมตากกางเกงในของผมไว้ใกล้ๆกับกางเกงในของมัน ซึ่งเป็นยี้ห้อเดียวกัน และสีเหมือนกันอีก

“คู่นั่นน่ะ เปิดประตูให้กูหน่อยเด่ะ” – เสียงไอ้เต้เคาะประตู เดชวิ่งไปเปิดประตูแต่โดยดี
“มึงสองคนทำไรกัน” - ไอ้เต้เห็นผมกับเดชในสภาพที่ไม่ได้ใส่เสื้อกันทั้งคู่
“อาบน้ำ” - ไอ้เดชตอบไอ้เต้ไป
“มึงแน่ใจนะว่ามึงไม่ได้ทำอย่างอื่นกันน่ะ”
“สราดดดดดดดดดดดด..................” – เดชลากเสียงยาวๆ ชูนิ้วที่ยาวที่สุดให้ไอ้เต้ 1 ที
“คนอื่นล่ะเต้” - ผมถามมัน
“เดี๋ยวก็มากันแหล่ะ เนี๊ยะแหล่ะเด็กห้อง 8 นัดสี่โมงครึ่ง สรุปแล้วกูมาตรงเวลาแต่กลายเป็นว่ากูมาคนแรกซะงั้น” - ไอ้เต้บ่น
“เอาน่ามึง รีบมาจะได้มีเวลาทำอย่างอื่น” - ไอ้เดชบอกไอ้เต้
“มึงสองคนกินไรกันยัง” - ไอ้เต้ถาม
“ยังว่ะ พอดีรีบพาไอ้ใหญ่มันมาอาบน้ำ”
“งั้นกูไปซื้ออะไรกิน มึงฝากซื้ออะไรป่ะ”
“เดี๋ยวกูไปซื้อกับมึงดีกว่าไอ้เต้ ใหญ่ไม่เอาไรเหรอ” - เดชถามผม
“เอาหนมปังกับชาเขียวกล่องนึง 20 บาทคงพอ” – ผมยื่นธนบัตรใบละ 20 บาทให้เดช
“งั้นมึงเฝ้าห้องให้กูก่อนนะ กูไปซื้อของกับไอ้เต้ก่อน”
“เออ”

เดชออกไปซื้อของกับเต้ งี๊ผมก็ต้องอยู่เฝ้าห้องคนเดียวดิคับ



ความคิดที่ไม่ค่อยจะซื่อของผมเริ่มทำงาน ผมเริ่มที่จะอยากรู้ว่ามันเขียนอะไรลงในไดอารี่มันบ้าง ผมรู้ที่เก็บของไดอารี่ว่ามันเก็บไว้ไหน เมื่อเดชออกจากห้องไป ผมจึงไม่รอช้า รีบไปเปิดลิ้นชัดเพื่อเอาไดอารี่มันมาอ่าน ก็ผมอยากรู้นี่คับว่า มันคิดอะไรอยู่ แต่แล้ว...........



มันก็ไม่มี หายไปไหนหว่า ซะงั้นน่ะ อุตส่าห์ว่าจะได้อ่าน สงสัยคงอยู่ในกระเป๋าเดินทางของมัน

ความพยายามของผมยังไม่สิ้นสุด ผมเปิดกระเป๋าของเดช หาว่าไดอารี่ของมันอยู่ที่ไหนในกระเป๋าหรือเปล่า ระหว่างที่ค้นไปก็ต้องฟังเสียงประตูไปด้วยว่าจะมีใครมาหรือเปล่า เกิดเดชมาหรือเพื่อนมันมาก็จบเห่เลยสิคับ คงจะหาว่าผมเป็นขโมย แต่ไม่ใช่ขโมยทรัพย์สินนะคับ แต่ขโมยความลับ

ช่องแล้วช่องเล่า ผมก็ยังคงหาไม่เจอ กระเป๋าของเดชทำไมมันช่างซับซ้อนอย่างงี๊ แต่ผมทำได้อย่างเนียนๆ แหล่ะคับ ผมไม่ได้ค้นแบบกระจุยกระจาย แต่ว่าจะค่อยๆ รื้อ แล้วเมื่อค้นเสร็จก็จะจัดไว้เหมือนเดิมราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมคิดว่า ยังไงเดชก็คงไม่มีทางจับผมได้แน่นอน

แล้วการค้นของผมก็มาถึงช่องสุดท้ายซักที ช่องที่ซ่อนอยู่ในส่วนของกระเป๋าใส่เสื้อผ้า มีของแข็งลักษณะคล้ายหนังสืออยู่ด้วย ผมตื่นเไม้มาก ผมรีบเปิดซิบขึ้นมาทันที ผมหยิบสิ่งที่มันมีรูปร่างเหมือนหนังสือขึ้นมาดู มันก็คือ







....
...
..
.






คู่มือนำเที่ยวจังหวัดชุมพร

เซ็งสิคับ ความพยายามของผมที่อยากจะรู้ความลับของเดชสลายไปแล้ว ผมจัดแจงเก็บข้าวของที่ผมรื้อมาไว้ในสภาพเดิมให้มากที่สุด แล้วก็เอากระเป๋าเดินทางของมันไปไว้ที่เดิม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ใจเย็น มันต้องอยู่ในนี้แหล่ะ”

เมื่อผมคิดได้ ผมจึงค่อยๆตั้งสติ ค่อยๆคิดว่ามันควรจะเอาไดอารี่ไว้ตรงไหนได้บ้าง ผมเริ่มสำรวจบนโต๊ะหนังสือ ชั้นวางหนังสือ ก็ไม่มี ขนาดว่าไปหาที่ชั้นวางรองเท้า ก็ยังไม่มีอีก (มาคิดอีกที ใครจะเอาไดอารี่ไปวางไว้ที่ชั้นรองเท้าวะ) ความพยายามของผมเริ่มหมดลง ผมล้มตัวลงนอนบนที่นอนบนเตียงเดช

อ้าว !!! มันวางไว้ข้างๆ หมอนของมันนี่เอง

ผมหยิบไดอารี่ สมุดความลับของเดช ที่ผมจะได้รู้ความลับและความในใจของเดช เดชคิดอะไรอยู่ ผมกำลังจะได้รู้แล้วล่ะคับ แม้มันอาจจะไม่ช่วยให้มันมารักผมก็ตาม แต่ก็อยากรู้ว่า มันเป็นยังไงบ้างวันๆหนึ่งหลังจากที่เราแยกจากโรงเรียน

ผมเริ่มเปิดไดอารี่ จากหน้าที่ผมเขียน “กูเป็นห่วงมึงนะเดช” (ถ้ายังจำได้ ตอนที่ 22 คับ) ซึ่งต่อจากนั้นก็หลายวันอยู่เหมือนกัน ก่อนหน้านั้นผมคิดว่าเดี๋ยวค่อยกลับไปอ่านก็ได้มั้ง

ผมเริ่มเปิดไดอารี่จากหน้านั้น.................
-----------

ปอลอ.
ช่วงนี้คงจะได้มาลงสัปดาห์ละ 1-2 ตอนนะคับ งานเข้าจริงๆ


konan6688

  • บุคคลทั่วไป
ขอยาวๆ  ได้ป่าวครับ ชอบ

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
เสี่ยงนะนั่น  ไปแอบอ่านไดอารี่ของเค้าเนี่ย 

โดนจับได้ละยุ่งแน่เลย 

แต่ว่านะ  ไม่เป็นไรหรอกมั้ง  อยากรู้ด้วยอะ 555+

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
อยากรู้ด้วยคน อิอิ  :m4:


marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
:o เข้ามาทำให้ค้าง แ้ล้วจะหายไปเป็นอาทิตย์เนี๊ยน่ะ o12

อยากรู้เหมือนกันน่ะว่าเดชเขียนไรไว้มั่งอ่ะ มีเรื่องของนายใหญ่มั่งรึเปล่า หรือว่ามีแต่เรื่องน้องต่ายสุดสวย หุหุหุ
แต่ก็หวัุงแต่ว่าเดชจะกลับมาไม่ทันน่ะ กลัวจัง กลัวเสียงประตูเปิดพลั๊วเข้า่มาจ๊ะเอ๋พอดีอ่ะดิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2008 14:49:06 โดย marchmenlo »

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 35 (ไดอารี่ของเดช)

ไดอารี่ระบุวันที่ 20 มิถุนายน ใจความมีอยู่ว่า
เมื่อวานไอ้ใหญ่มานอนที่นี่ กูก็ดีใจที่มันมา กูยอมรับตัวกูเองว่ากูอ่อนแอเกินไป เรื่องแค่นี้กูถึงกับต้องร้องไห้ ไม่สมกับเป็นเด็กสุพรรณเลยว่ะ คนสุพรรณต้องเข้มแข็ง แล้วกูเป็นลูกทหารแล้วล่ะก็ จะมาอ่อนแออย่างงี๊ไม่ได้ แต่กูก็ดีใจที่ไอ้ใหญ่มันมาหากู เหมือนมันเป็นที่พึ่งสุดท้ายของกูล่ะมั้งเรื่องต่าย
ตลกมันอย่างนึงว่ะ ตอนที่มันเอาชุดนักเรียนกูไปใส่ มันบอกว่ามันลืมเอาทุกอย่างมาจากบ้าน สงสัยมันคงรีบจัด กูเลยให้มันใส่ชุดกู เออ เท่ดีว่ะแม่ง
ก็ไม่มีอะไรมาก วันนี้กูกับไอ้ใหญ่ก็แวะไปหน้าหมู่บ้านต่าย ไอ้ใหญ่มันก็อิดออดเล็กน้อย เป็นห่าอะไรวะอิดออดได้ทุกวัน แล้วก็ลงเอยด้วยกูก็ต้องไปกินข้าวกับมันอีก
สรุปแล้วกูพร้อมที่จะรักต่ายหรือยังวะ


ผมเปิดต่อไป วันรุ่งขึ้น 21 มิถุนายน ใจความมีอยู่ว่า
วันนี้กูก็ตื่นปกติ กูนั่งรอใหญ่ที่โรงอาหาร ไหนบอกแม่งจะมาเร็วๆวะ สุดท้ายกูก็ต้องวิ่งไปซื้อหมูปิ้งให้มัน เกือบมาเข้าแถวไม่ทัน แล้วทำไมกูไม่ซื้อให้ต่ายวะ ของอย่างงี๊ต่ายเขาจะกินเหรอวะ ไม่หรอก เขามันนางฟ้า กูนั้นหมาวัด เจียมตัวซะบ้างไอ้เดช
พักนี้กูคงเขียนน้อยไปหน่อย มันเหนื่อยวะ ต้องซ้อมงานโรงเรียน แถมยังต้องมารอไอ้ใหญ่อีก แม่งกว่าจะประชุมเสร็จ ยุงหามเลือดกูไปกินหมดแล้ว
ทำไมกูถึงไม่กล้าทำกับต่ายเหมือนที่กูทำกับไอ้ใหญ่บ้างวะ


เสียงประตูดังขึ้น ผมรีบเก็บไดอารี่ลงไปไว้ที่เดิม
แล้วมันก็คือ....


















ปล.
วันนี้ว่างคับ เลยแวะมาลงให้นิดหน่อยก่อนถึงวันเสาร์ กลัวคนอ่านขาดใจไปก่อนคับ

 :bye2:

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
น๊านน ว่าแล้ว ไอ้เสียงประตูเนี๊ย .......

แต่ทำไมต้องทำให้ค้างด้วยอ่ะ ต้องเครียดข้ามวันป่ะเนี๊ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
เครียดเลยยย

ลุ้นจาตายแล้วเนี่ยยย

 :m31:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
35(ไดอารี่ของเดช : จบ)


แล้วมันก็คือ....






















โธ่เอ๋ย
เสียงลมตีประตู

"อ่านต่อดีกว่า"

วันที่ 22 มิถุนายน
ก็เหมือนเมื่อวานว่ะ ไม่รู้ว่าให้เขียนอะไรทุกวัน ต่ายก็เหมือนเดิม น่ารัก ว่าที่แฟนเดช

วันที่ 25 มิถุนายน
วันศุกร์สุดสบาย วันสุดท้ายที่กูเรียนในอาทิตย์นี้  วันนี้กูซ้อมหนักมาก แมร่งกูเป็นนักเรียนนะเฟ้ยไม่ใช่ทหาร อย่างกับให้กูไปออกรบจริง
เออวันนี้ไอ้ใหญ่มันถามอะไรกูอย่างนึงว่ะ กูก็อึ้งๆเหมือนกัน มันถามว่ารู้สึกยังไงเวลาใครมาแซวว่ากูกับมันเป็นแฟนกัน ไอ้บ้า แม่งคิดได้ไงวะ ผู้ชายสองคนเป็นเพื่อนกัน ไปไหนไปด้วยกันเลือดคนสุพรรณเว้ย
อีกอันนึง มันถามกูว่า ถ้ามีคนเขามาชอบมึง แต่มึงชอบต่าย มึงจะเลือกใคร แม่ง ไม่รุ้ว่ะ ใครเขาจะมาชอบคนอย่างกู ไม่มีหรอก
สรุปก็คือ ตอนนี้ กูเป็นเพื่อนไอ้ใหญ่ แต่ถ้ากูได้แต่งงานกับต่าย กูจะให้ไอ้ใหญ่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว

วันที่ 30 มิถุนายน
กูขี้เกียจเขียนหลายวัน ก็เหมือนเดิม  เดี๋ยวไดอารี่กูจะเน่า ไม่มีไรเขียน
ทำไมพักนี้กูชอบโทรหาไอ้ใหญ่จังวะ ทำไมไม่เอาเวลาที่โทรหาไอ้ใหญ่ไปโทรหาต่ายวะ เผื่อมันจะคืบหน้ามั่ง ก็กูไม่กล้า อ่ะ สรุปให้เลย
วันนี้กูก็หลับคาโทรศัพท์ คุยกับไอ้ใหญ่จนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แปลกนะแม่งไม่ด่ากูเลย ถ้ากูเป็นมันนะ เชี่ย แค่ชั่วโมงแรกกูก็รำคาญแล้ว

วันที่ 4 กรกฎาคม
วันนี้กูไปซื้อหนังสือ ตอนเช้ามีงานโรงเรียน กูบอกต่ายให้มาดูด้วย ต่ายบอกว่ามีเรียนพิเศษตอนบ่าย กูก็เลยคิดว่ากูอยากซื้อของให้ต่าย แต่กูไม่รุ้จะซื้อไรให้ต่ายดี เลยชวนไอ้ใหญ่ไปเลือก
แล้วไง สุดท้ายกูก็โดนหลอก ต่ายไม่ได้มาเรียน ต่ายเขาหลอกกู เห็นกูเป็นอะไรวะ ไม่รักไม่ว่านะเว้ย บอกกันดีๆได้ป่ะ อย่าหลิกกันอย่างงี๊ดิ
กูอยากขอโทษใหญ่มันด้วยว่ะ แมร่งมันไม่รุ้อะไรเลย กลับต้องมาเจอกูเป็นอย่างงี๊ เฮ้ย กูขอโทษมึงจริงๆ มึงให้อภัยกูนะ
= _ =
ดีมาก เพื่อนรัก

11 กรกฎาคม
วันนี้ไอ้ใหญ่มันมานั่งเล่นที่ห้องเรียนกู เกิดเป็นมันก็ดีอย่างนึงว่ะ เขากับคนง่าย แม่งรู้จักเพื่อนกูกันหมดแล้ว
วันนี้กูชวนมันไปซื้อเสื้อที่สะพานพุทธ แม่งว่าง่ายว่ะ ไปไหนก็ไป นี่นี่ กูไปดูแหวนมาวงนึงด้วย แหวนเงิน เขาบอกว่าสลักชื่อฟรี กูก็เลย...
ไม่เอาดีกว่า กูไม่ชอบใส่แหวน
สรุปแล้วกูได้ของอยู่คนเดียว ไอ้ใหญ่ไม่ได้ แล้วแม่งจะมาทำไมวะ

13 กรกฎาคม
ทำไมกูกับต่ายมันไม่คืบหน้าไปมากกว่านี้เลยวะ ป่านนี้ไอ้ไม้ทำคะแนนไปหมดแล้วมั้ง แต่อย่าลืมว่า กูมีไอ้ใหญ่อยู่ มันช่วยกูอยู่แล้วล่ะน่า
“เหนื่อยจนท้อ ต้องรอไปจนเมื่อไหร่”

17 กรกฎาคม
วันนี้วันจันทร์ ไอ้เชี่ยใหญ่แม่งคงมาเช้า ไปดักรอมันที่หน้าโรงเรียนเหมือนเดิม มันถืออะไรมาด้วย อ้าว ของฝาก เสร็จโจร มันก็บ่นๆ บอกว่าเอามาให้เพื่อนมันกิน แต่กูก็เป็นเพื่อนมัน  ข้าวตังห่อนั้นจึงเป็นของกู กูเอาไปให้เพื่อนๆ กูที่ห้องกิน
อยู่ดีๆไอ้เชี่ยเต้ถามกูว่า พักนี้มึงจะสนิทกับไอ้ใหญ่มากไปแล้ว ก็แล้วทำไมอ่ะ กูเป็นเพื่อนมัน กูเป็นเพื่อนมึงด้วยไอ้เต้ สงสัยแม่งจะน้อยใจ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ไปไหนกับมันเลย สงสัยกูต้องไปเที่ยวกับมันซะหน่อยแล้ว
ต่ายครับ เดชรักต่ายนะคับ

20 กรกฎาคม
ไอ้เข้มวางโปรแกรมแล้ว หลังสอบจะไปเที่ยวที่บ้านมันที่ชุมพร มันก็ชวนพวกเราในกลุ่มกันหมดนั่นแหล่ะ พวกกูตกลงว่าจะไป กูถามมันว่าเอาไอ้ใหญ่ไปได้ เออดี ท่าทางแม่งจะไม่เคยไปเที่ยวกับเพื่อน
วันนี้แสนสุขใจ ต่ายยิ้มให้กูด้วย สงสัยว่าไอ้ใหญ่ไปทำแต้มให้กูแหงๆ
กูรักมึง ขอบใจมากไอ้ใหญ่เพื่อนเลิฟ

22 กรกฎาคม
ไม่มีเชี่ยไรทำเลย วันเสาร์ กูโคตรเบื่อ แต่ก็มีนะมึง ใกล้สอบแล้ว อีกสัปดาห์เดียวเอง ไมมันเร็วงี๊วะ กูยังไม่ทันจะเรียนรู้เรื่องเลย สงสัยต้องนัดไอ้ใหญ่มาติว ก็แม่งอยู่ห้องคิงนี่หว่า
พรุ่งนี้กูก็จะได้ไปเจอต่ายอีกแล้ว ที่เรียนพิเศษ แต่ก็คงไม่มีโอกาสได้คุยหรอกว่ะ ไอ้ไม้กับเพื่อนมันแม่งคุมต่ายอย่างกับนักโทษ กูก็คงได้ไอ้ใหญ่เป็นเพื่อนปลอบใจอีกตามเคย
กูจะรอวันที่ต่ายเขามาชอบกูให้ได้ ว่าแต่ เมื่อไหร่ล่ะ

23 กรกฎาคม
ก็เป็นไปอย่างที่กูคิด แถมแม่งไอ้ไม้ยังมองหน้ากูอีก หาเรื่องกูเหรอ สงสัยแม่งอยากมีเรื่อง ต่ายยังไม่ใช่ของมึงนะไอ้ไม้มึงรู้ไว้ซะด้วย มึงอย่ามามีเรื่องกับกูก่อนละกัน กูไม่ทำใครก่อนหรอก
รู้ทั้งรู้ว่าวันอาทิตย์ ยังไงมันก็ต้องเป็นอย่างงี๊ แล้วทำไมกูยังทนได้อยู่วะ สงสารก็แต่ไอ้ใหญ่ต้องมานั่งฟังกูทุกที
กูขอโทษนะไอ้ใหญ่ ที่กูต้องเดือดร้อนมึงอยู่เรื่อย
เพื่อนรักของกู

25 กรกฎาคม
พักนี้ไม่ค่อยเขียนเท่าไหร่เลย เขียนสั้นมาก ใกล้สอบแล้วนี่หว่า กูขอไปอ่านหนังสือสอบก่อนนะเว้ย

29 กรกฎาคม
ไอ้ใหญ่ยอมมาติวหนังสือกับกูแล้ว อ้อนอยู่นานเลย เอาน่า กูจะได้คะแนนดีดีกับเขามั่ง มันมานอนกับกูคืนนี้ ตอนนี้แม่งก็นอนหลับไม่รู้เรื่องบนเตียง คนเชี่ยไรวะ หลับง่ายชะมัด
ย้อนไปตอนค่ำ กูไปเปิดเผยมุมลับของกู โลกส่วนตัวที่กูไม่เคยบอกใคร แต่กูก็บอกมัน ไม่รู้ดิกูไว้ใจมันว่ะ กูอยู่กับมันแล้วกูรู้สึกดีมากๆ
มึงไปรักใครวะ ไอ้ใหญ่ มึงบอกกูหน่อย กูอยากรู้ กูได้ยินตอนมึงนอนดูดาวกับกู
หรือกูรักไอ้ใหญ่วะ
ไม่หรอก กูไม่ใช่เกย์ กูจะไปรักมันได้ไง

30 กรกฎาคม
พรุ่งนี้สอบแล้ว สู้ๆ นะเดช พ่อแม่กูรอฟังข่าวดีจากกูอยู่ แต่สอบยังไงวะ วันแรกสอบแต่สังคม ไทย อังกฤษ พระพุทธ แล้วก็เลข อย่างงี๊วันที่สอง กับวันที่สาม กูก็ตายห่าไปเลยดิ
สอบเสร็จกูก็ได้เที่ยวแล้วโว้ย จะเที่ยวเผื่อต่ายด้วยนะที่รักของเดช

5 สิงหาคม
สอบเสร็จแล้ว ดีใจ@#$#@$#@$23++62

กูจะได้เที่ยวแล้ว ไอ้เข้มบอกว่าไปช่วงวันแม่ จะได้เที่ยวเยอะ ๆ เพราะหยุดยาว
เออก็ดี จะได้มีเวลาเตรียมตัวนานๆ
พักนี้ต่ายเป็นไงมั่งเนี๊ย ไม่ได้แวะไปถามเลย รักเหมือนเดิมนะคนดีของเดช

8 สิงหาคม
พรุ่งนี้กูจะไปเที่ยวแล้ว
เอาไรไปดีล่ะ ไม่น่าถามเลย เสื้อผ้าดิ (มุขไอ้ใหญ่มัน)
แต่ดูเหมือนไอ้ใหญ่มันไม่ค่อยอยากไปมั้ง กูเข้าใจนะ ว่ามันไม่มีเพื่อน ถึงมันจะสนิทกับกู แต่มันก็คงเกร็งๆ กับเพื่อนกูเหมือนกันละมั้ง


ผมอ่านจบลง ที่หน้าสุดท้าย มันเขียนไว้เมื่อวานนี้ ผมเก็บไดอารี่มันไว้ที่เดิมของมันที่เคยอยู่ แล้วก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ นอนรอบนเตียงของเดชต่อไป รอมันกลับมาจากซื้อของกับไอ้เต้

ถ้าไม่คิดแบบเข้าข้างตัวเองนะ


















“มึงคิดอะไรกับกูหรือเปล่าไอ้เดช” – ผมพูดกับไดอารี่ของมัน “แต่กูรักมึงนะไอ้หมาวัด”
---------------

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
มีลุ้นรึเปล่าเนี่ย   :t2:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
 :เฮ้อ:

ไปเที่ยวคราวนี้จะคืบหน้ามั๊ยเนี่ย

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
เพิ่งได้ตามอ่านตั้งแต่บทที่ 1 โอย น่ารัก ชอบมากๆ เคยผ่านช่วงเวลานี้มาก่อนเหมือนกัน แอบชอบเพื่อนแต่เพื่อนมันเจือกมาขอคำแนะนำเพื่อไปจีบคนที่มันชอบ  :o12: แต่มาคิดตอนนี้ ก็ดีแล้วที่เป็นเพื่อนกันต่อมา นึกภาพตอนเป็นแฟนกันไม่ออก

แต่ไม่อยากให้คู่นี้จบแบบเศร้าอะ ดูๆแล้วท่าทางน้องเดชจะรักใหญ่แหละ แต่ยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วความรู้สึกที่ตัวเองมีให้ใหญ่มันเกินเพื่อนไปแล้ว ว่าแล้วก็เอาตอนต่อไปมาลงให้ป้าอ่านด่วนเลยนะจ๊ะ ชอบแนวใสๆแบบนี้มากๆ  :m1:  :m1:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
มาแล้วคับ ปั่นซะร้อนเลย :oni2:
------------------------------------


ตอนที่ 36
 :a2:
“ไมมึงไปนานจังวะ” - ผมถามเดช
“ไอ้เดชนั่นแหล่ะ เลือกของนาน ไม่รู้แม่งจะเลือกไรนักหนา” – ไอ้เต้บอกผม เป็นการฟ้อง
“เชี่ยละ มึงเลยไอ้เต้ มัวแต่เลือกสบู่อยู่นั่นแหละ กูน่ะเสร็จตั้งนานแล้ว”

เสียงเคาะประตูดังขึ้น คราวนี้เพื่อนมันเข้ามาอีก 4 คน ก็ครบ 7 คนแล้วดิคับ กว่าจะรวมตัวครบก็เกือบ 5 โมงแล้ว แล้วจะไปทันขึ้นรถไฟกันป่ะเนี๊ย เราทั้ง 7 คนลงมาจากห้องของเดชทันที เรียกแท๊กซี่เพื่อไปสถานีรถไฟสามเสน ก็อย่างว่านะคับว่า การจราจรในกรุงเทพฯ ตอนเย็นๆ มันก็ช่างติดเหลือเกิน แล้วยิ่งเป็นเย็นวันศุกร์แล้วล่ะก็ ไม่อยากจะคิดเลยคับ แยกที่ผมจะต้องผ่านได้ชื่อว่าเป็นสี่แยกที่ค่อนข้างจะมีรถติดนานมากด้วย

แท๊กซี่พาเรามาถึงสถานีรถไฟตอนหกโมงสิบนาที แทบว่าเส้นยาแดงผ่าแปดกันเลยทีเดียว เป็นโชคดี(หรือเปล่า) ที่รถไฟเข้าสถานีช้ากว่ากำหนด เกือบสิบนาที เพราะฉะนั้นเราจึงพอมีเวลาทำธุระส่วนตัว เข้าห้องน้ำ ซื้อขนมที่สถานี แล้วก็มานั่งรอรถไฟที่ชานชลา

“ที่นี่ สถานีสามเสน ที่นี่ สถานีสามเสน รถไฟเข้าเทียบชานชลาที่ 1 เป็นรถเร็วขบวนที่ 167 เดินทางออกจากสถานีกรุงเทพ ปลายทางสถานีกันตัง ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปกับขบวนรถไฟสายนี้ โปรดตรวจสอบสัมภาระของท่านให้เรียบร้อยก่อนขึ้นขบวนรถครับ”
“รถเร็วขบวน 167 ออกจากสถานีสามเสน และจะแวะรับส่งผู้โดยสารที่สถานีบางซื่อเป็นสถานีถัดไปครับ”


พวกเราไม่ต้องรอให้สิ้นสุดเสียงของนายสถานีหรอกคับ เราทั้ง 7 คนต่างรีบขึ้นไปจับจองที่นั่ง ซึ่งเป็นที่นั่งที่ได้จองไว้ตั้งแต่แรก ปกติรถไฟชั้น 3 ถ้าเดินทางระยะใกล้ๆ จะไม่มีการเลือกที่นั่ง แต่ถ้าเดินทางไกล จะต้องมีการเลือกที่นั่ง เพราะถ้าไปไกลๆ คงจะยืนไปไม่ไหวหรอกคับ

ที่นั่งที่ได้จองไว้เป็นที่นั่งสำหรับ 6 คน นั่งหันหน้าฝั่งละ 3 คนทั้งสองฝั่ง และมีที่นั่งติดกันแต่อยู่ด้านหน้าอีก 1 ที่นั่ง ผมเป็นคนขึ้นช้าที่สุด และผมก็เป็นเพื่อนต่างห้องด้วย ผมจึงยินดีที่จะนั่งที่นั่งคนเดียว เรื่องของเรื่องก็คือผมจะได้นั่งดูโน่นดูนี่ไปด้วย และอีกอย่างผมก็ขึ้นรถไฟครั้งแรก (เท่าที่จำความได้ตั้งแต่เด็กๆ เคยขึ้นอยู่บ้าง แต่ไม่เคยมาขึ้นกับเพื่อนเลย) อออออ

รถไฟเริ่มออกวิ่งแล้ว จากสถานีสามเสน ยอมรับว่าตื่นเต้นเหมือนกัน ผมจะได้มาเที่ยวต่างจังหวัดครั้งแรกกับเพื่อน ผมมองโน่นนี่ตลอดเวลา มองวิวที่ผมเคยเห็น(จริงๆแล้วก็เป็นวิวเดิมๆแหล่ะคับ เพียงแต่มันมองจากรถไฟ) 

“มึงเป็นไรใหญ่” - เดชตะโกนข้ามหัวเพื่อนมันมา
“เปล่า ดูวิว”
“มึงไม่เคยเห็นเหรอวิวในกรุงเทพน่ะ”
“เคย แต่ไม่เคยมองจากรถไฟ” – ผมตอบมัน เสร็จแล้วมันก็หันหลังไปคุยกับเพื่อนเหมือนเดิม
“เข้ม กูยืม MD หน่อยดิ” – ผมขอยืมเครื่องเล่น MD จากไอ้เข้ม มันก็ส่งมาให้ผมโดยดี ตอนนี้ผมกำลังเข้าสู่โหมดโลกส่วนตัว

เพลงใน MD เพลงแรกชื่อเพลง “รอ” ของกะลา คุ้นหูผมเหลือเกิน
ระหว่างกำลังชมวิวข้างทาง พร้อมฟังเพลงที่เป็นแนวรักที่ไม่สมหวังอีกหลายเพลง

“เฮ้ย+++!!!”
“เป็นอ่ะไรล่ะมึง เปลี่ยวเชียวนะ” – ไอ้เดชมานั่งกับผม
“เปล่า ไม่ได้เป็นไร” – ผมบอกมัน ผมไม่ได้เป็นไรจริงๆนะตอนนั้น คงจะเป็นความรู้สึกแปลกแยกล่ะมั้งคับที่ผมเป็นเด็กต่างห้องคนเดียวที่มาเที่ยวกับพวกมัน
“งั้นกูนั่งกับมึงนะ” - ไอ้เดชบอกผม
“แล้วถ้าคนขึ้นมาจะทำไง”
“ค่อยย้ายกลับ แล้วมึงก็ต้องไปนั่งกับพวกกูด้วย อย่ามานั่งเปลี่ยวอย่างงี๊” - มันสั่งผม
“กูนั่งตรงนี้ได้ ไม่เป็นไร” – ผมยืนยันที่จะนั่งตรงนี้
“มึงอย่าทำตัวอย่างงี๊ดิ”
“กูทำอะไร”
“มึงมาเที่ยวกับพวกกูนะเว้ย มึงก็ช่วยไปนั่งกับพวกกูหน่อยเหอะ”
“แล้วที่นั่งตรงนี้ล่ะ”
“ช่างมันดิ มาด้วยกันก็ต้องนั่งด้วยกัน”
“..............”
“มึงอย่าทำตัวอย่างงี๊อีกนะเว้ย”
“........อืม”
“มึงฟังเพลงไรอยู่วะใหญ่” – มันถามผม ไม่ถามเปล่า ดึงหูฟังข้างขวาไปจากผมด้วย
“อ้า...........”
“กูขอนั่งกับมึงก่อนนะใหญ่”
“เอ่อ.......ก็ ...... ก็เอาดิ”

เราสองคนนั่งด้วยกัน โดยไม่ได้พูดอะไรกันอีก เรานั่งฟังเพลงใน MD กันไปเรื่อยๆ ส่วนข้างหลังของผมก็มีเพื่อนอีก 5 คน ซึ่งคุยกันเสียงดังมาก เพราะต้องคุยแข่งกับเสียงรถไฟ ซึ่งมันดังเหลือเกิน แต่ความดังของรถไฟก็ไม่เท่าเสียงคุยของพวกมันหรอกคับ ดีนะว่าคนยังขึ้นมาไม่เยอะ ไม่งั้นคงรำคาญแย่

ถึงสถานีนครปฐมแล้วคับ ตู้ของพวกเราเริ่มมีคนขึ้นมาหนาแน่นมากขึ้น รวมถึงที่นั่งข้างผมก็มีคนมานั่งแล้วด้วย เดชจึงชวนผมกลับไปนั่งกับเพื่อนๆมัน ตอนนี้ก็มีกัน 7 คน แต่มี 6 ที่นั่ง ทำไงดีล่ะ ตอนแรกพวกเราก็ยอมนั่งเบียดกัน 4  คน โดยผมก็ต้องนั่งเบียดกับเดช เพราะพวกมันลงความเห็นว่าเราสองคนสนิทกันมากเกินพอดี

เมื่อครบองค์ประชุม เดชแนะนำเป็นทางการซักที ก็ผมรู้จักก็แค่เข้ม เอก แล้วก็ไอ้เต้ปากหมาแหล่ะคับ ที่เหลืออีก 3 คนไม่รู้จักหรอก สามคนที่เหลือก็มีเล็ก (คนที่ซ้อมการแสดงตอนงานโรงเรียนน่ะคับ) แล้วก็ โส รวมผมกับเดชก็เป็น 7 คนพอดี เล็กเป็นคนที่ค่อนข้างจะไม่ถูกชะตาเท่าไหร่เมื่อเห็นตอนแรกๆ แต่ตอนนี้ก็คุยกันดี ส่วนโสเป็นคนผิวขาว สูงพอประมาณ แต่ก็เตี๊ยกว่าผมอยู่ดี ผอม หน้าตาก็โอเคนะคับ

เราทั้งหมดก็คุยกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนรู้สึกว่าเวลาผ่านไปจนถึงเกือบๆ สี่ทุ่มแล้ว ผมคงเหนื่อยมากไปละมั้งคับ หาวมาตั้งแต่นครปฐมแล้ว จนผมเคลิ้มๆไปนิดหน่อย หัวเริ่มโงนเงน ไม่อยู่ในแนวตรงกลางแล้ว
“เดช กูง่วง”
“นอนดิ”
“นอนไงล่ะ ไอ้ห่า”
“มึงพิงไหล่กูเด่ะ กูยังไม่ง่วง”
“อืมๆๆ” – ผมก็เอาหัวของผมไปพิงไหล่เดช ตอนนั้นนอกจากง่วงแล้ว ผมไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่นจริงๆ
“เดช”
“อะไรวะ”
“อีกไกลป่ะวะ”
“ก็ถึงประมาณตีสองครึ่งน่ะ”
“ถ้ามึงเมื่อยมึงบอกกูนะเดช กูจะได้ไปนั่งที่เดิมกู”
“มึงนั่งตรงนี้แหล่ะไอ้ใหญ่”
“ขอบใจว่ะ”

แล้วผมก็หลับไป ตอนนี้สภาพของแต่ละคนก็งัวเงียไม่ต่างกัน ไอ้เข้มขอ MD คืน มันจะฟังมั่ง ที่เหลือก็หลับกันไปแล้ว พิงกันไปพิงกันมาแหล่ะคับ เหลือแต่ไอ้เดชกับไอ้เข้มที่มันยังไม่ง่วงกัน จะว่าไปเพื่อนๆมันดูรักกันมากนะคับ ไม่รู้ดิผมยังรู้สึกได้ถึงความรักแบบเพื่อนที่พวกมันมี พวกมันไม่ต้องปรุงแต่งอะไรทั้งสิ้น ขนาดผมเป็นคนที่เป็นเด็กต่างห้องคนเดียว พวกมันก็คุยกับผมอย่างกับเป็นเพื่อนที่อยู่กันมานานแล้ว ส่วนใหญ่ก็ถามเกี่ยวกับเรียนห้องคิงเป็นไง ยากป่ะ กดดันไม๊ แล้วก็จบลงที่การชวนมาอยู่ห้องของพวกมัน

“เดชๆ”
“อะไรวะมึงไอ้ใหญ่”
“กูมีไรจะบอกมึงว่ะ”
“อ่ะไรล่ะ ว่ามาดิ”






























“ห้องน้ำบนรถไฟอยู่ตรงไหนวะ กูปวดฉี่”

“เชี่ยใหญ่ กูนึกว่ามีอะไร”
“ก็เอ่อ ไม่เคยเข้าห้องน้ำรถไฟอ่ะดิ”
“มึงเห็นอ่างล้างมือตรงหัวตู้ป่ะ” - มันชี้ไปที่หัวตู้
“อืม”
“ข้างๆ มันจะมีห้องน้ำอยู่น่ะ”
“เหรอ”
“เออ ขอบใจว่ะ”

การเดินทางด้วยรถไฟชั้น 3 อันสุดแสนจะทรมานใกล้จะสิ้นสุดลง ดูเหมือนว่าผมจะเอาเปรียบเดชมาตลอดทาง ผมพิงไหล่มันมาตลอด แต่มันไม่ได้นอนเลย แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ยังง่วงอยู่ดี เราลงที่สถานี “ปะทิว” แม่ไอ้เข้มมารอพวกเราตั้งแต่ตีสองแล้ว พวกเรามาถึงที่นี่กันตอนเกือบตีสามครึ่ง สงสัยเป็นเพราะมัน late มาตั้งแต่แรกที่เรามากันแล้ว

ไม่พูดพร่ำทำเพลง พวกเราขึ้นรถแม่ไอ้เข้มกันทันที อากาศตอนนั้นหนาวพอสมควร แต่ไม่ถึงกับหนาวมาก รถแม่มันเป็นรถกระบะที่เอาไว้ขนผลไม้ออกจากสวนของมัน (มันเล่าให้ฟังระหว่างเดินทางไปที่บ้านมัน) จากสถานีรถไฟไปบ้านมันตอนแรกยังพอมีความเจริญอยู่บ้าง แต่จากนั้นพบว่าความเจริญได้หายไปในระยะทางไม่ถึง 5 กิโลเมตร เสาไฟฟ้าไม่มีซักเสา ไฟส่องสว่างตอนนั้นมีเพียงไฟจากรถกระบะคันนี้เท่านั้น ผมได้รับเกียรติไปนั่งข้างหน้ากับไอ้เข้มและไอ้เต้ ส่วนที่เหลือต้องไปนั่งข้างหลังกันตามระเบียบ จริงๆถ้าจะเบียดก็คงพอ

เราแวะกันที่ร้านขายของชำร้านหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าจะตั้งอยู่กลางป่า มีถนนลาดยางความกว้าง 2 เลนใหญ่อยู่หน้าบ้าน (คิดว่าที่เป็นเลนใหญ่เพราะรถบรรทุกต้องวิ่งผ่านมั้งคับ) รอบข้างเป็นป่ามืดทึบ มองด้านข้างไม่เห็นอะไร แต่เมื่อมองไปบนท้องฟ้าเห็นดาวเยอะแยะสวยงามมาก แต่ผมก็ไม่ค่อยตั้งใจดูเท่าไหร่หรอกคับ มันหนาวนี่นา ไม่เห็นใครบอกผมเลยว่าอากาศตอนตีสามมันจะหนาวอะไรอย่างงี๊ ร้านขายของชำนั้นเป็นของครอบครัวไอ้เข้มมันคับ มันมีบ้านสองหลัง หลังนี้เอาไว้เผื่อพ่อค้ามาติดต่อซื้อของ ส่วนบ้านอีกหลังที่เราจะไปพักอยู่ลึกไปด้านในอีก

หลังจากที่พวกเราแวะร้านขายของชำ เพื่อเอาเสบียงและของใช้ที่จำเป็นเรียบร้อย ก็ขับรถเข้าบ้านกันต่อ แม้ไอ้เข้มเลี้ยวรถเข้าซอยเล็ก ๆ ที่ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นซอยได้ ทุกอย่างมืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากรถเท่านั้น บางครั้งก็เห็นหิ่งห้อยบินด้วย เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็น ส่วนเสียงก็มีแต่เสียงเครื่องยนต์เท่านั้น ไม่มีเสียงคุยกันเลย สงสัยจะหนาวกันละมั้ง หนาวจนอ้าปากกันไม่ออก แม่ไอ้เข้มพาเราขับเข้ามาลึกพอสมควร จากปากซอยจนถึงตอนนี้ผมเห็นบ้านไม่ถึง 5 หลังเลย

แล้วเราก็มาถึงบ้านไอ้เข้มกัน บ้านมันเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ไม่ใหญ่แบบในหนังนะคับ มีบริเวณกว้างเหมือนกัน ที่บ้านมันมีหมาอยู่ 2 ตัวคับ เมื่อพวกเราลงรถไปมันก็เห่าต้อนรับ จากนั้นพวกเราก็ขนสัมภาระจากรถเข้าบ้านกัน

“ใครไปนอนห้องกูบ้าง”  ไอ้เข้มถามเพื่อนๆ
“กู”
“กูอ่ะ”
“มั่งดิ”
“อ่ะ งั้นไอ้เอก ไอ้เล็ก ไอ้โสนอนกับกูข้างบนนะมึง”
“เฮ้ยแล้วที่เหลือล่ะ” ไอ้เต้ถาม
“ข้างล่าง”
“เฮ้ย ไม่เอาน้า....” ไอ้เต้โอดครวญ
“ห้องเนี๊ยะ” – ไอ้เข้มพาไปที่ห้องที่อยู่ข้างล่าง เป็นห้องสีขาว มีเตียงขนาดใหญ่ 1 เตียง มันบอกว่าห้องนี้สำหรับเวลาแขกมาที่บ้านจะให้นอนห้องนี้ “ก็พวกมึงสามคน ไอ้เดช ไอ้เต้ แล้วก็ไอ้ใหญ่”
“เออ กูนอนนี้แหล่ะ เย็นดี” – ไอ้เดชบอก แล้วก็โยนกระเป๋าไปที่มุมห้องทันที ไอ้เต้เหมือนกำลังปรับสภาพให้ยอมรับว่าต้องนอนที่นี่ ส่วนผมก็เดินเอากระเป๋าไปวางที่มุมห้องเช่นเดียวกัน
“ห้องน้ำอยู่ด้านหลังนะ ตรงข้างๆ เครื่องซักผ้า” - ไอ้เข้มชี้ไปที่เครื่องซักผ้าที่อยู่ห้องถัดไป
“แล้วพรุ่งนี้พวกมึงต้องตื่นกัน 7 โมงนะเว้ย จะไปทำบุญกัน”
“เออ ยังไงมึงลงมาปลุกกูด้วยละกัน” – ไอ้เต้บอกไอ้เข้ม พยักหน้าหงึกๆ
“หลับสบายๆนะมึง คิดว่าเป็นบ้านพวกมึงละกัน”
“เออ กูไม่เกรงใจมึงหรอกเพื่อนรัก” – ไอ้เดชบอก มันหยิบเสื้อยืด ร.ด. มาตัวนึงจากกระเป๋า แล้วก็ถอดทันทีโดยไม่อายใครทั้งสิ้น
“……….”

แล้วไอ้เข้มกับเพื่อนอีก 3 คนก็เดินจากห้องนี้ไป เหลือผม ไอ้เดช แล้วก็ไอ้เต้ รวมแล้ว 3 คน แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นป่ะเนี๊ย นั่น ผมยังคิดไปถึงโน่น























แต่ไม่ไหวแล้ว ง่วงเหลือเกิน ขอนอนก่อนละกันนะ

“กูนอนกลาง” – ไอ้เต้บอก พร้อมกับโยนของส่วนตัวหนึ่งชิ้นไปบนที่นอนเพื่อการจับจองสถานที่
“กูเลย มึงอย่ามาเนียน” – ไอ้เดชด่าไอ้เต้ พร้อมกับปัดของไอ้เต้ออกมาไว้ริมขวา ซึ่งผมกำลังจะก้มลงนอน
“กูว่าพวกมึงตกลงกันให้เรียบร้อยก่อนละกัน” – ผมบอกพวกมัน ก่อนผมจะเดินไปห้องน้ำเพื่อไปแปรงฟัน
“ใหญ่ ไปด้วยดิ” – ไอ้เต้บอกให้ผมรอมัน
“เดช มึงไม่ไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนนอนเหรอ” – ผมถามมัน หน้าตาง่วงนอนเต็มที่
“เหอะๆ.......” – แล้วมันก็ยึดที่ตรงกลางไปนอนเรียบร้อย

แล้วผมกับไอ้เต้ก็เดินออกมาล้างหน้าแปรงฟันกันที่ห้องน้ำ ซักพักไอ้เล็กกับไอ้โสก็เดินลงมาสมทบ

“แมร่งหนาววะ” – ไอ้เล็กบ่น
“.......อืม” – ผมยิ้มให้มันทั้งที่ในปากก็ยังคงมียาสีฟันอยู่เต็ม
“มึงรีบๆ เลย กูหนาว” – ไอ้เล็กบอกผม ผมจึงรีบๆ แปรงให้เสร็จ
“ข้างบนไม่มีห้องน้ำเหรอ” - ไอ้เต้ถาม
“ไอ้เอกมันเข้าไปขี้” – โสบอกพวกเรา
“เชี่ย ถึงว่า แมร่งเหม็นมาถึงข้างล่าง” – ไอ้เต้หันขึ้นไปด่าไอ้เอก
“กูเสร็จแล้ว ไปยัง” –  ผมหันไปถามไอ้เต้
“ป่ะ เฮ้ยพวกมึง นอนฝันดีล่ะ” – ไอ้เต้บอกกับทุกๆคน

เมื่อกลับมาถึงห้อง ไอ้เดชนอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว ผมกับไอ้เต้จึงต้องนอนริมกันคนละฝั่ง เก็บของกันเรียบร้อยแล้ว ผมจึงลุกไปปิดไฟ แล้วอยู่ดีๆ

“ใหญ่” - ไอ้เต้พูดขึ้นมา
“อะไรเหรอ”






“เปล่า แค่อยากบอกว่า ฝันดีนะเมิง”
“เออ เช่นกันเต้”
---------------------

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
เอ่อ...เต้เค้ามีไรจะถามใหญ่เหรอ ...ความข้องใจในความสัมพันธ์ระหว่างใหญ่กะเดช ยังคงค้างอยู่อะดิ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ตอนใหม่รวดเร็วทันใจ แหมๆ เดชขอนอนกลางเพราะกลางคืนได้นอนกอดใหญ่ง่ายๆอะดิ้ ฮี่ๆๆ  :m12:

อ่านตอนนี้แล้วอยากลางาน แบ็คแพคขึ้นรถไฟไปเที่ยวตจว.มั่งจังเล้ย (อยู่ดีๆก็นึกถึงฉากในหนังเรื่อง Final Score ขึ้นมาซะงั้น  :oni1: )

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
มีบอกฝันดีด้วยอะ

ยังไงละเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
อะไรกัน  ตกลงเต้นี่คิดไรป่ะ  เห็นล้อจังเลย

 :man1:

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
^
^
^
จิ้มพี่อ้อ  :laugh:


สงสัยจะเสร็จพี่เต้

ลายเซ็นของพี่อ่านแล้วทำไมมันรู้สึกเศร้า ๆ เหงา ๆ ไงไม่รู้อ่ะ  :m15:

angsumalin

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ะๆ :laugh: 36 ตอน มันค้างคา มันคับอกคับใจ
จะค้อน กรรไกร กระดาษ มันจะออกมาแบบไหนเนี่ย
ลุ้นทุกตอนที่อ่าน มาต่อไวๆ น่ะค๊าบบ :serius2:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
คืนนี้สงสัยจะมีกอดกันคลายหนาวนะเนี่ย  :man1:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
รอลุ้นด้วยคน   :m29:
ว่าจะเกิดไรขึ้นที่ชุมพรอ๊ะป่าว 

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
37
 :serius2:
ก๊อกๆๆ
.
.
.
.
.
.
.
.

.

“ไอ้ใหญ่ไปเปิดหน่อยดิ” - ไอ้เดชสั่งผม
“อืม” – ผมเอามือออกจากตัวมัน ลุกไปเปิดประตู

(เอ๊ะ!!! ยังไง ทำไมมือผมไปอยู่บนตัวมันล่ะ)

“มีไรวะเข้ม” - ผมถามเข้ม
“หลับสบายดีป่ะ”
“ก็สบายว่ะ อากาศเย็นๆดี”
“คืนนี้เดี๋ยวเอาผ้าห่มลงมาให้ละกัน”
“ขอบใจว่ะ”
“แล้วเพื่อนกูตื่นกันยัง”
“ยังเลย มึงเข้าไปปลุกก็ดีนะ” – ผมเสนอ ไอ้เข้มก็เดินตามผมเข้าไป
“เห้ย ตื่นได้แล้วพวกมึง” – ไอ้เข้มตะโกน แต่เหมือนเสียงผมพูดปกติ มันชื่อว่านุ๋นคับ แต่มันปัญญาอ่อนขัดกับหน้าตาของมัน ก็เลยได้ชื่อว่า ไอ้เข้ม ที่มานี้มาจากไอ้เดชนั่นเอง
“ไอ้เต้ ไอ้เดช ตื่นๆ ตื่นได้แล้ว” – ไอ้เข้มเดินไปปลุกทีละคนอย่างมารยาทดี แล้วมันจะตื่นป่ะเนี๊ย
“โอ่ย เช้าแล้วเหรอมึง” – ไอ้เต้งัวเงียถาม
“เขาตื่นกันหมดบ้านแล้วมึง เหลือมึงสองตัวน่ะ”
“กี่โมงแล้ว” – ไอ้เต้ถาม
“หกโมงครึ่ง อีกครึ่งชั่วโมงพวกมึงต้องออกบ้านแล้ว เร็วๆเลย ปลุกไอ้เดชด้วยนะมึง กูไปละ” – ไอ้เข้มสั่งเป็นชุด แล้วก็เดินออกจากห้องไป
“กูไปอาบน้ำก่อนนะ” – ผมบอกไอ้เต้
“ไปด้วยดิ” – ว่าแล้วมันก็หยิบอุปกรณ์ที่มีแชมพูราคาแพงที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อชื่อดัง ครีมอาบน้ำที่นางเอกชื่อดังเป็นนางแบบโฆษณา และแปรงสีฟันที่บานเหมือนดอกทานตะวัน

“เออ กูรอที่ห้องน้ำนะมึง” – ผมบอกไอ้เต้ แล้วก็เดินออกจากห้องไป

น้ำตอนเช้าที่นี่สุดแสนจะเย็นสะใจ เหมือนว่ามีคนเอาน้ำแข็งละลายน้ำไว้ เป็นเพราะเมื่อคืนอากาศหนาว และหลังจากที่พวกเราถึงที่บ้านไม่นาน ฝนก็ตกลงมาด้วย อากาศตอนเช้าจึงเย็นสบายและน่านอนเป็นอย่างยิ่ง

“มียาสีฟันป่ะ” – ไอ้เต้ถามผม ผมส่งยาสีฟันไปให้มัน
“เมื่อคืนหลับเป็นไงมั่งวะ” - ผมถาม
“นอนไม่หลับเท่าไหร่ว่ะ เสียงไอ้เดชแม่งกรน”
“เหรอ แต่กูไม่รู้สึกว่ะ กูหลับลึก”
“…….”

ผมกำลังเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำ ปล่อยให้ไอ้เต้แปรงฟันต่อไป

“อาบด้วยดิใหญ่”
“ไม่ต้องเลย กูจะขี้ด้วย”
“เดี๋ยวก็ไม่ทันไอ้เข้มหรอก”
“กูไม่เคยอาบน้ำรวมกับคนอื่นเว้ย” – โกหกเต็มๆ ก่อนมาผมยังอาบกับไอ้เดชอยู่เลย
“อ่ะ…….”

ไม่ทันแล้วคับ ผมปิดประตูห้องน้ำไปแล้ว

ผมทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วคับ ใช้เวลาไม่นานมากนัก แล้วผมก็เดินกลับห้อง ไอ้เต้ไม่อยู่แล้ว ไปไหนไม่รู้ สงสัยจะไปอาบข้างบนมั้งคับ เพราะพวกที่นอนข้างบนก็ออกมาเดินเล่นนอกบ้านกันแล้ว สงสัยมาสูดอากาศบริสุทธิ์ละมั้งคับ

ไอ้เดชยังไม่ตื่นเลยคับ ไม่รู้มันไปอดหลับอดนอนมาจากไหน แต่มาคิดอีกที ก็เพราะผมแหล่ะคับที่ทำให้มันไม่ได้นอนเมื่อคืนบนรถไฟ ดังนั้นเพื่อการไถ่บาปที่ผมทำไว้ ผมจึงต้องปลุกเดช ตามหน้าที่เพื่อนที่ดี

“เดช”
“............”
“เดช ตื่นๆ ตื่นได้แล้ว” - ผมเขย่าตัวมัน
“อือ....... แจ๊บๆๆ”
“เดช ตื่นๆ นี่เจ็ดโมงจะครึ่งแล้วนะ”
“..........”
“ตื่นเด่ะ ไม่ตื่นกูโดดทับมึงนะ”
“.............”
“กูนับ 1 ถึง 3 นะ”
“...........”
“1.....2......3”


“ป๊าบ” – ผมเอาตัวผมที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จทับลงบนตัวมัน

“ไอ้เชี่ย รุนแรงแต่เช้าเชียวนะมึง” - เดชมันด่าผมต้อนรับอรุณเลย
“ตื่นได้แล้วมึง ทั้งบ้านเขารอมึงคนเดียว” ผมบอกมัน
“เออๆ สิบนาทีเสร็จ” แล้วมันก็หยิบอุปกรณ์อาบน้ำ ถอดเสื้อออก เหลือแค่กางเกงบอลที่มันใส่เมื่อคืน ผมไม่กล้ามองคับ กลัวน้องผมตื่นแต่เช้าแล้วจะยุ่ง
“..........”

“ใหญ่”
“อะไรเหรอเต้”
“เดชไปไหนแล้วล่ะ”
“อาบน้ำ ตะกี๊มันเพิ่งออกจากห้องไปแกไม่เห็นหรอกเหรอ” ผมพูดไปไม่ได้มองไอ้เต้หรอกคับ เพราะแต่งตัวอยู่
“ไม่อ่ะ”
“เพื่อนแกนั่งเล่นกันหน้าบ้านแล้วอ่ะ แกจะไปนั่งกับพวกมันป่ะ” – ผมถามมัน
“ไปดิ แกไปป่ะใหญ่ ไปนั่งด้วยกัน”
“ก็ดี งั้นเดี๋ยวรอแกแต่งตัวก่อนก็ได้ แล้วออกไปด้วยกัน” – ผมเสนอไป ไอ้เต้ตกลง

จริงๆ แล้วผมเองก็แต่งตัวเกือบเสร็จแล้ว กำลังเก็บของอยู่ที่มุมห้อง แต่มุมห้องตรงที่ผมอยู่นั้นมันมีโต๊ะเครื่องแป้งและก็มีกระจกอยู่ จังหวะที่สายตาผมก้มขึ้นมามองกระจกพอดี ผมก็ได้เห็นไอ้เต้ถอดเสื้อ ยอมรับจริงๆว่า นอกจากมันจะเป็นคนที่ตัวสูงแล้ว หุ่นมันก็ยังดีอีกด้วย (แต่ก็ไม่ดีเท่าไอ้เดชของผมหรอก) มันมีเชื้อจีนอยู่บ้าง มันเลยมีสีผิวขาวนิดๆ มีกล้ามหน่อยๆ แต่ไม่ชัดมาก หน้าท้องไม่มีกล้ามเป็นลอน แต่ก็ไม่มีพุงยื่นออกมา หน้าอกไม่ได้ขึ้นเป็นกล้าม แต่ก็น่าฟัดน่าเหวี่ยงมาก หัวนมมันเล็กกว่าไอ้เดช แต่ออกสีน้ำตาล-ชมพู น่ากัดเล่นจริง

ไม่พออีก มันเริ่มถอดกางเกงขาสั้นของมัน หัวใจผมจะวายตายอยู่แล้ว ขาของมันไม่ใหญ่ สรุปแล้วกระจกที่ผมส่องอยู่นั้น ผมมองแต่มันคนเดียว แล้วมันก็หันมาถามผม

“เป็นไรใหญ่”
“อะไร...ใครเป็นไร”
“มึงน่ะ นั่งนิ่งอยู่หน้ากระจกนานนะมึง”
“ส่องกระจกบีบสิวอยู่” ผมโกหกมัน จะให้บอกยังไงล่ะ ว่าแอบมองมันอยู่
“นึกว่ามองกูอยู่”
“กูจะมองมึงทำไม ไอ้เชี่ย ผู้ชายด้วยกัน”
“ถ้ามึงมองกู กูคิดตังนะมึง” – แล้วมันก็เดินมายั่วผม ให้ผมดูหุ่นมันแบบใกล้ๆ   “เป็นไง สูสีไอ้เดชป่ะ”
“กูไม่มีความเห็น” – แต่จริงๆ แล้วมันดีกันคนละแบบนะคับ ไอ้เดชมันล่ำ มีกล้าม หน้าบ้านๆ แต่ไอ้เต้มันคุณหนู ตี๋ สูง น่ารักไปอีกแบบ แล้วมันก็รีบใส่เสื้อผ้าโดยเร็ว
“เสร็จยังไอ้ใหญ่ สิวของมึงน่ะ”
“เออ เสร็จแล้ว”

ผมกับไอ้เต้ก็เดินออกมานั่งหน้าบ้าน มานั่งคุยกับเพื่อนๆคนอื่นที่เหลือ มันคุยกันเรื่องของเพื่อนมัน และก็เรื่องของแฟนของแต่ละคน ไอ้เอก ไอ้เข้มกับไอ้เต้น่ะมีแล้วคับ ส่วนที่เหลือก็ยังไม่มี ผมก็คงได้แต่นั่งฟังเฉยๆ แหล่ะคับ เพราะพูดๆกันมาผมก็ไม่รู้จักใครสักคนที่พวกมันพูดถึง

เรารอไอ้เดชกันไม่นานมากนัก ก็ครบองค์ประชุมพอดี แม่ไอ้เข้มล่วงหน้าไปก่อนแล้วที่วัด ก็เหลือแต่พวกเราที่จะต้องขับรถกันไปเอง ไอ้เข้มพาพวกเราไปที่รถ อ้าว!!! ไม่ใช่คันที่เรานั่งกันมาเมื่อคืนนี่หว่า  คันนี้เป็นรถปิกอับที่มีห้องโดยสารกว้างขวาง และดูสภาพใหม่กว่าเมื่อวาน พวกเราทั้งหมดก็ยัดกันไปข้างหน้า แต่!!! มันไปไม่หมดหรอกคับ เรามีกัน 6 คน (ไม่รวมไอ้เข้มที่เป็นคนขับ) แต่ที่นั่งมันไม่ได้เอื้ออำนวยขนาดนั้น ดังนั้นจะต้องมีคนเสียสละไปนั่งข้างหลัง 2 คน ไม่ต้องคิดมากคับ ผมแน่นอน 1 คนที่ไปนั่งข้างหลัง แล้วคนที่ไปนั่งข้างหลังอีกคนเป็นเพื่อนผมก็คือ

















ไอ้โส

คับ ไอ้โส มันเป็นคนเสียสละมานั่งเป็นเพื่อนผม จริงๆ แล้วผมก็บอกพวกมันไปนะคับว่านั่งข้างหน้ากันก็ได้ เดี๋ยวผมนั่งหลังเอง (ประมาณว่าเสียสละน่ะคับ) แต่ไอ้โสมันจะมานั่งข้างหลังกับผมด้วย มันให้เหตุผลว่าอยากสูดอากาศตอนเช้า และก็มานั่งเป็นเพื่อนผมด้วย


จริงๆ แล้วผมแอบหวังว่าจะเป็นเดช

เราไปถึงวัดกันตอน 8 โมง พระท่านกำลังทำวัตรเช้าพอดี พวกเราก็เข้าไปฟังพระทำวัตรกัน บางส่วนก็ไปช่วยแม่ไอ้เข้มจัดภัตตาหารเช้าเพื่อถวายพระ ผมเข้าไปช่วยแม่ไอ้เข้มจัดภัตตาหาร เพราะดูแล้วไอ้เข้มท่าทางมันจะทำไม่เป็น แม่มันก็เลยไล่ให้ไปฟังพระท่านทำวัตรเถอะ

หลังจากที่พระท่านฉันภัตตาหารเช้าเสร็จ ก็เป็นหน้าที่พวกเราที่จะต้องรับประทานอาหารเช้ากันซักที กับข้าวที่นำมาถวายภัตตาหารก็เป็นอะไรที่ไม่ยุ่งยาก เป็นอาหารพื้นเมืองของคนแถวนั้นแหล่ะคับ ผมเรียกไม่ถูกเหมือนกัน แต่เป็นแกงที่มีรสจัดมาก และก็มีขนมสังขยา ที่มีสังขยาเป็นหม้อ และข้าวเหนียวเป็นหม้อเช่นกัน เวลากินก็ตักใส่ถ้วยกินเอาเอง ไม่มีใบตองห่อให้ พวกเราส่วนใหญ่ก็กินกันแต่ข้าวเหนียวสังขยากัน เพราะกินแกงที่ว่านั้นไม่ได้

ทำบุญเป็นสิริมงคลกับชีวิตเสร็จแล้ว พวกเราก็กลับบ้านกัน เอาของไปเก็บที่บ้าน แล้วค่อยออกไปเที่ยวกันข้างนอก ไอ้เข้มบอกพวกเราให้เตรียมอุปกรณ์ไปเล่นทะเลด้วย เดี๋ยวตอนเย็นมันจะพาไปเล่นน้ำ

พวกเราใช้เวลาไม่นาน อุปกรณ์ต่างๆ ก็พร้อมทันที ทุกคนโยนอุปกรณ์ไว้หลังรถ แล้วก็กรูกันเข้ามานั่งข้างหน้าอีกแล้ว ไอ้เข้มขับตามเคย 2 คนสุดท้ายที่เหลือก็ยังคงเป็นผมและไอ้โสเหมือนเดิม ผมบอกไอ้โสว่าไปเบียดๆ ข้างหน้าก็ได้นะ มันก็ยังยืนยันว่าอยากสูดอากาศบริสุทธิ์อยู่ดี แต่มัน 10 โมงแล้วนะ ออกแนวร้อนนะนั่น ก่อนออกตัวไอ้เข้มโยนผ้าขนหนูให้ผมกับไอ้โสคนละผืน บอกว่าเอาไว้คลุมตัว เวลานั่งรถแล้วแดดมันจะร้อน

รถเริ่มออกตัวไปตามถนน สองข้างทางมีแต่ไม้ยางพาราปลูกเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ ผมนั่งหันหลังให้กับเส้นทางข้างหน้า เพราะลมจะได้ไม่ตีหน้าผม ผมมองเส้นทางที่ได้ผ่านมา ทิวเขาแนวยาวที่ทอดตัวอยู่ด้านหลังค่อยๆ ห่างออกไปทุกที บางครั้งรถวิ่งผ่านช่องหุบเขา ผมอดไม่ได้ที่จะมองถึงความยิ่งใหญ่ของมัน

เราสองคน หมายถึงไอ้โสนะคับ เราสองคนก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก เพราะเสียงลมมันดัง เวลาผมหรือมันจะคุยกันแต่ละทีก็ต้องตะโกน ซึ่งผมขี้เกียจตะโกนแข่งกับรถเพื่อไปคุยกับมัน ผมเลยนั่งเฉยๆ มองวิวสองข้างทางที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไอ้โสก็เช่นกัน

ไอ้เข้มขับรถออกมาเรื่อยๆ ตอนนี้รถของพวกเราอยู่ที่ถนนใหญ่ เราแวะกันที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งก่อนที่เราจะเดินทางไปยังจุดหมายแรกของเรา พอถึงปั้มน้ำมัน ทุกคนจะมีจุดหมายเดียวกันก็คือ ห้องน้ำและมินิมาร์ท ส่วนไอ้เข้มเอาเงินเติมน้ำมันอยู่คับ (ตอนนั้นน้ำมันดีเซลลิตรละ 24 บาทเองคับ ฉะนั้น 1000 บาทก็จะได้เต็มถังกันเลย) เติมน้ำมันเสร็จ ทุกคนก็จะต้องจัดตำแหน่งใหม่ แล้วผมก็ไม่ทันอีกตามเคย ผมก็ต้องมานั่งข้างหลังอีก จริงๆแล้วผมเลือกจะนั่งตั้งแต่แรกอยู่แล้วแหล่ะคับ เพียงแต่ใครอีก 1 คนที่จะมานั่งกับผม และรอบนี้ก้คือ




ไอ้เดช
---------------

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
เต้นี่มันยังไงจริงๆๆด้วย

เอ่อ...ดีนะที่รอบนี้เดชมานั่ง  รอบหน้าจะเป็นเต้เปล่าเนี่ย

 :laugh:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
คุยกัน คุยกัน
 :m23:
สัปดาห์นี้คงลงได้ตอนเดียวนะคับ เพราะรู้สึกว่างานเยอะเหลือเกิน แล้วก็คงจะใกล้ถึงโค้งสุดท้ายแล้วของเรื่องนี้ แม้ทุกอย่างจะดูคลุมเคลือ ทุกอย่างยังคงไม่ชัดเจน

-ใหญ่จะต้องต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองอีกนานแค่ไหน
-เดชจะรู้หรือไม่ เมื่อไหร่เดชจะรู้ความรู้สึกแบบนี้ซักที
-แล้วไอ้เต้ล่ะ มาเกี่ยวอะไรด้วย
-ไอ้ไม้หายไปแล้วไหนล่ะ
-แล้วการไปเที่ยวชุมพร มันจะมีความคืบหน้าอะไรหรือไม่
-แล้วหลังจากกลับมาจากไปเที่ยวแล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่

ขอบคุณคนอ่าน (แม้จะมีอยู่น้อยเหลือเกิน) ที่สละเวลามาอ่านเรื่องนี้นะคับ ยอมรับจริงๆ ว่านำเสนอออกมาได้ไม่ดีนัก เมื่อลองไปอ่านเรื่องอื่นๆ ในเล้าดู เขาใช้สำนวน และการดำเนินเรื่องในแต่ละตอนค่อนข้างดีกว่าเรื่องนี้เยอะ

ไม่รู้ว่าเรื่องหน้าถ้าแต่งออกมา จะยังมีใครอ่านหรือเปล่า แต่มาถึงเรื่องนี้ ตอนนี้ ตอนที่ 37 แล้ว คงจะแต่งจนจบแหล่ะคับ ความทรงจำที่มีก็เริ่มเหลือน้อยเต็มที ใกล้จะจบแล้วจริงๆแหล่ะคับ

ขอบคุณคนอ่าน อีกครั้งคับผม :pig4:

ออฟไลน์ Shumi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
มาต่อให้จบละกันนะ ไม่งั้นมันคาใจ เป็นกำลังใจให้ค่า :man1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด