• Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12  (อ่าน 190718 ครั้ง)

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่เรนงุ้งงิ้งๆอ้ะ
ฮื่อออออ อยากมีพี่เรนเป็นของตัวเองได้ม้ายยยย /น้องกายกระโดดถีบ
55555555

คนเขียนสู้ๆ นะคะ

 :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
พี่เรนยังน่ารักเหมือนเดิม
เมื่อไหร่จะรู้ว่าน้องกายนางมาจีบบ

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
พี่เรนน่ารักกก
กายสู้ๆน้าา

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
น้องเรน แบ๊วๆ ?

ออฟไลน์ Amikim

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
งื้อออออ.. :o8: :o8: :o8: เขินพี่เรนคนซื่อขอซื้อต่อได้ไหม อยากได้มาเลี้ยงอะ มาต่อเร็วน๊าาา รอคอยว่าจะมาเร็วๆนี้รึเปล่า???

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

ใครต่อใครแทนความหมายของฝนว่าเป็นความเศร้า
แต่พี่เรนกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่าง

kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 7 •




น้องกาย




“อาทิตย์หน้าจะพรีเซนต์แล้วตกลงมึงว่าไงวะกาย” ผมละมือจากการเช็ดกล้องตัวโปรดเงยหน้าขึ้นมองคนถาม



ตอนนี้กำลังพักเที่ยงกันอยู่ครับ ที่สิงสถิตเดิมโรงอาหารคณะ มีเรียนอีกทีตอนบ่ายสองครับตอนนี้เลยว่างกันยาวๆ เลย



“อะไร ยังไงวะ” ผมหันไปถามไอ้แม็คที่มันถามผม



“ก็อาทิตย์หน้าพรีเซนต์มึงได้รูปหรือยังหรือว่ามึงลืมไปแล้ว” ไอ้แม็คว่า



ผมร้องอ๋อพร้อมพยักหน้ารับไปด้วยก่อนจะตอบ “ก็ได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีรูปพี่เรนอยู่ดี ตอนแรกกูกะตามแอบถ่ายพี่เรนตอนช่วงฝนตกนะ แต่ไม่มีโอกาสเลยว่ะ”



ไอ้พวกนี้มันสบายตัวละครับ ได้ภาพกันแล้วเรียบร้อยคนละหลายรูป แต่พวกมันบอกว่ายังไม่พอใจเสียทีเดียวแต่ก็สื่อถึงคอนเซ็ปได้ เดี๋ยวพอได้ฟังคอมเมนต์จากอาจารย์คนอื่นๆ ก็คงมีแรงบันดาลใจกันต่อ



ส่วนผมนี้ลอยแพครับ ไม่มีเลย มีรูปพี่เรนอยู่สองสามรูปซึ่งก็น่าจะใช้ได้อยู่ อาทิตย์ที่แล้วก็ว่าจะทำตัวเป็นสต็อกเกอร์ตามถ่ายรูปพี่เรนอยู่หรอกแต่ไม่มีโอกาสเลยครับ ผมอยากได้ภาพพี่เรนตอนที่ฝนตกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าหน้าฝนแบบนี้ฝนตกทุกวันแหละครับ แต่ก็ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะพอฝนตกพี่เรนก็โดนต้อน(?)ขึ้นรถของพวกพี่สาแล้วครับ



ไอ้ที่จะพาพี่เรนไปตัดผมก็ยังไม่ได้ไป เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาบังเอิญเจอพี่เขา พี่เรนบอกว่าวันเสาร์ต้องปั่นโปรเจคเพราะใกล้จะส่งงานแล้ว ผมก็เลยอดไปเดทกับพี่เรนเลย



“แล้วมึงจะเอายังไงละ” คราวนี้เป็นไอ้เป้ที่หันมาถามครับ มันกำลังแย่งลูกชิ้นอยู่กับไอ้ไม้



“ถ้ายังไม่มีรูปพี่เรนกูก็คงเอารูปเก่าที่เคยถ่ายเอาไว้มาส่งก่อน แล้วก็ถ่ายรูปตอนฝนตกเพิ่ม” ผมตอบมันไปก็แย่งลูกชิ้นมันมากินด้วย จนไอ้ไม้หันมาแยกเขี้ยวใส่ผม



“เอาให้มีงานส่งนะมึง แล้วตกลงไอ้ไม้ มึงอะเอารูปมาม่าส่งเหรอวะ” ไอ้เกลียวพูดกับผมเสร็จก็หันไปถามไอ้ไม้



รูปคนอื่นผมก็ยังพอเห็นนะครับ ส่วนของไอ้ไม้ที่ผมเห็นมันถ่าย… คือตอนมันกำลังยกกล้องเล็งถ้วยมาม่าที่ควันลอยฉุยส่งกลิ่นหอม ไม่รู้มันเอาจริงหรือเอาเล่นกันแน่



ไอ้ไม้ยักคิ้วใส่ “เดี๋ยวพวกมึงก็รอดูเอาเองวันพรีเซนต์”



ผมเลยเลิกสนใจมันครับ หันมาเช็ดกล้องต่อ วันนี้ฝนตกแต่เช้า ดีที่ตกไม่นานแต่ตอนเย็นนี่น่าจะตกหนักอยู่ดูจากตอนนี้แล้วฟ้ามืดมาเชียว แต่ผมเตรียมซองกันน้ำมาด้วย ถ้าฝนตกได้แรงพอผมว่าจะไปหาที่ถ่ายรูปเสียหน่อย



นั่งเล่นกันไปคุยกันไปจนถึงเวลาขึ้นเรียนพวกผมถึงได้ยกโขยงกันไปเรียน ตอนบ่ายนี้ไม่ได้เรียนวิชาคณะครับ แต่เรียนวิชาคณิตศาสตร์ ทำไมต้องให้เรียนด้วยหว๊า… ถ่ายรูปมันใช้ฟิลลิ่งนะครับ ไม่ได้ใช้คำนวณทำไมต้องให้เรียนด้วย ไม่เข้าใจจริงๆ



ไหนจะอาจารย์ที่สอนก็สอนได้ดีเหลือเกิน สอนไปผมแทบจะหลับคาหนังสือไป อย่างง่วงเลยครับ ฮ๊าวววว...



แม้จะเป็นเวลาเพียงแค่ชั่วโมงครึ่งในการเรียนแต่ผมรู้สึกว่าผมใช้เวลาแทบจะตลอดบ่ายกับการเรียนวิชานี้เลยทีเดียว แถมฝนก็ตกอีกยิ่งสร้างบรรยากาศให้น่านอนเข้าไปใหญ่เลยครับ และไม่ต้องบอกใช่ไหมครับว่าพออาจารย์ออกจากห้องไปแล้วผมกับเพื่อนๆ ก็ส่งเสียงเฮลั่นทันที จนคนอื่นๆ หันมามองกันหมดครับ พอดีเราเรียนรวมหลายคณะด้วยคนอื่นๆ เลยไม่เคยเห็นความบ้าบอของผมครับ



“ฝนตกหนักเลยว่ะ ทีตอนเรียนละตกเปาะแปะๆ ทีพอตอนจะกลับบ้านละอย่างกับฟ้ารั่ว” ไอ้เป้พูด ตอนนี้ผมกับไอ้พวกนี้มายืนเป็นพระเอกมิวสิควีดิโออยู่ใต้ตึกคณะบัญชีครับ ฝนตกไปไหนไม่ได้



“แต่ฝนตกหนักขนาดนี้แดดแม่งก็ยังเปรี้ยงอยู่เลยว่ะ อากาศประเทศไทยนี่มันน่ามหัศจรรย์จริงๆ เลย” ไอ้เกลียวพูดพร้อมกับชะโงกหน้าไปดู อ้าวไอ้ห่านี่โง่หรือโง่ ชะโงกหน้าไปมองก็เปียกสิ พวกผมเลยหัวเราะเยาะมันครับที่มันเปียก



“เอาไงดีวะ ไปนั่งส่องสาวบัญชีกันก่อนละกัน เอาไว้ฝนซาละค่อยกลับ คณะนี้กับคณะเราแม่งก็โคตรจะห่างไกลกันเลย กว่าจะไปถึงเปียกไปทั้งตัวแน่” ไอ้แม็คว่า ก่อนจะชักชวนคนอื่นไปนั่งส่องสาวๆ ไอ้พวกนี้มีแต่เรื่องทรามๆ จริงๆ



“กูไม่ไปนะโว้ย ว่าจะถ่ายรูป ไหนๆ ฝนก็เป็นใจตกมาให้ขนาดนี้แล้ว” ผมหันไปบอกพวกมัน



“ฝนแม่งตกอย่างหนักเลยนะมึง เดี๋ยวได้ไข่สั้น ไข้จับหรอกไอ้ห่า” ไอ้เกลียวหันมาว่า



“เออ กูไม่เป็นไรง่ายๆ หรอก อีกอย่างพรุ่งนี้ไปก็หยุดยาวยันวันจันทร์ ถ้าป่วยนอนวันสองวันเดี๋ยวกูก็หาย” ผมตอบมันไปพร้อมกับหยิบซองกันน้ำสำหรับกล้องถ่ายรูปมาใส่กล้องไปด้วย



พรุ่งนี้อาจารย์ที่คณะผมไปสัมมนากันครับ ที่จริงก็ยังมีอาจารย์ท่านอื่นอยู่ แต่ก็ไม่พอสอนนักศึกษาคณะก็เลยประกาศหยุดยาวครับตั้งแต่วันพุธไป เปิดมาอีกทีก็วันจันทร์เลยครับ



“เออๆ ตามใจมึง ป่วยมากูไม่ไปดูศพมึงนะ ปล่อยให้เน่าตายในห้องนั่นแหละ” ไอ้แม็คครับ คนอื่นก็หัวเราะเอิ้กอ้ากชอบใจ เกรงใจคนคณะเขาบ้างเถอะ ไม่ใช่คณะของพวกมึงนะครับทำตัวน่าเกลียดชิบหาย แถมยังรักเพื่อนอย่างสุดยอดจริงๆ



“สัส! กูฝากกระเป๋าด้วย” ผมว่าโยนกระเป๋าที่ใส่พวกอุปกรณ์การเรียนให้ไอ้ไม้มันถือ ส่วนกระเป๋าสตางค์ กับโทรศัพท์ก็ใส่ซองกันน้ำแล้วคล้องคอเอาไว้เรียบร้อย กล้องก็พร้อมแล้วไปลุยกันดีกว่าครับ “เจอกันวันจันทร์นะมึง”



ผมหันไปบอกพวกนั้นก่อนจะวิ่งออกจากใต้ตึกคณะบัญชี คนเห็นก็คงห่าว่าผมบ้าที่วิ่งออกมาทั้งๆ ที่ฝนตกหนักขนาดนี้แต่ก็ไม่สนใจหรอกครับตอนนี้คือต้องหามุมถ่ายรูปเสียก่อน ที่แรกที่ผมไปก็คือคณะของพี่เรนครับ ถ้าผมมีโชคอยู่บ้างก็ขอให้ได้รูปพี่เรนสักรูปสองรูปหน่อยเถอะ



อีกอย่าง... คณะนี้ก็ใกล้กับคณะเกษตรด้วย เพราะฉะนั้นพวกต้นไม้จะเยอะ น่าจะได้รูปไปไม่น้อยเลย ในระหว่างที่ยกกล้องถ่ายภาพฝนตกในมุมต่างๆ ผมก็หันไปเห็นพี่เรนพอดีครับ กำลังยืนอยู่ใต้ตึกคณะ อยู่กับพวกพี่ตินานั่นแหละ แต่ฝนมันยังไม่ซาก็เลยได้แต่ยืนกันอยู่ใต้ตึก



ผมวิ่งอ้อมไปอีกทาง ยกกล้องในซองกันน้ำขึ้นเล็งใครจะมองยังไงก็ช่างครับ ตอนนี้ต้องถ่ายรูปให้ได้ก่อน ผมเลือกมุมด้านข้างของพี่เรน ตรงมุมนี้จะเป็นฝนตกเป็นฉากหลังพอดี ถือกล้องค้างเอาไว้แบบนั้นจังหวะที่พี่เรนยื่นมือไปรองน้ำฝน ผมก็กดถ่ายรูปเอาไว้รัวๆ เลยครับ จนได้รูปเป็นที่พอใจถึงได้ลดกล้องลง



พี่เรนเวลาอยู่กับฝนให้ความรู้สึกดีมากจริงๆ สมกับชื่อ “ฝน” จริงๆ ใครต่อใครแทนความหมายของฝนว่าเป็นความเศร้า แต่พี่เรนกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่าง



ไม่ว่ายังไง... ผมจะต้องทำให้พี่เรนยอมมาเป็นนายแบบให้ผมให้ได้!



เมื่อพอใจกับการแอบถ่ายรูปพี่เรนแล้วมองก็เดินถ่ายรูปต่อทั้งๆ ที่ฝนตกอยู่แบบนั้นนั่นแหละ หนาวก็หนาวนะแต่มันก็กำลังเพลินกับการถ่ายรูป จนกลายเป็นว่าตอนนี้ผมหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว แม้กระทั่งดอกไม้ที่กำลังหล่นจากต้นผมก็ยังไปยืนถ่าย กว่าจะรู้เลิกถ่ายก็ตอนที่ฝนเริ่มซานั่นแหละครับ



ไอ้ตอนนี้แหละหนาวแบบหนาวเฮี้ยๆ เลยครับ ได้แต่เดินกอดอกจ้ำอ้าวกลับไปที่หอ ตัวเปียกมะลอกมะแลกอย่างกับลูกหมาตกน้ำ ไม่สิ เปลี่ยนเป็นลูกแมวตกน้ำแทนได้ไหม ดูมุ้งมิ้งดีครับ



ผมยืนตัวเปียกอยู่หน้าหอก่อนจะหยิบซองกันน้ำที่คล้องคออยู่ออกมาเพื่อจะหยิบคีย์การ์ดกับกุญแจห้อง...



แปะ



แปะ




ผมตบมือไปตามตัวกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงทั้งกระเป๋าหน้ากระเป๋าหลังเพื่อหาคีย์การ์ดกับกุญแจห้อง...



อย่าบอกนะว่า...!!!!



ลืมกุญแจห้อง!!!!



โอ๊ยไอ้กาย ติดเชื้อขี้ลืมมาจากความน่ารักของพี่เรนหรือไงเนี่ย ลืมอะไรไม่ลืม ดันลืมคีย์การ์ดกับกุญแจห้อง แล้วพี่ยามหอผมหายไปไหนวะ



ได้แต่ยกมือขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาตั้งใจจะโทรหาไอ้ไม้เพื่อให้มันเอากระเป๋าผมมาให้ ขืนรอพี่ยามมีหวังผมได้เป็นไข้แน่นอน



“กาย????”



ผมหยุดมือที่กำลังเลื่อนสไลด์หน้าจอโทรศัพท์แล้วหันกลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงเรียกก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นพี่เรนยืนอยู่ “พี่เรน”



คนตรงหน้ามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็มองย้อนกลับมาที่หน้าผม “ทำไมเปียกแบบนี้”



ผมหัวเราะออกมาก่อนจะชูกล้องที่คล้องคออยู่ขึ้นแล้วตอบ “พอดีอาทิตย์หน้ามีส่งโปรเจครอบแรกผมเลยไปถ่ายรูปมา”



พอได้ยินผมตอบแบบนั้นคนที่ตาโตอยู่แล้วก็ยิ่งโตเข้าไปใหญ่ ปากก็อ้าค้างอย่างน่ารัก “โฮ... ต้องขนาดนี้เลยเหรอ เดี๋ยวไม่สบายนะรีบไปอาบน้ำเถอะ”



“แหะๆๆ... ผมลืมกุญแจห้องกับคีย์การ์ดไว้ที่กระเป๋าครับ ส่วนกระเป๋าก็อยู่กับเพื่อนนี่กำลังจะโทรเรียกให้มันเอากระเป๋ามาให้” ผมตอบ



“อย่างนั้นไปห้องพี่ก่อนๆ เดี๋ยวไม่สบาย ปะๆ ไปเร็ว” พี่เรนบอกก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าข้อมือของผมแล้วจัดการลากไปที่ฝั่งตรงข้ามทันที มืออีกข้างก็วุ่นวายหาคีย์การ์ดในกระเป๋า



ผมได้แต่ยืนอมยิ้มมองคนที่แทบจะเทกระเป๋าสะพายใบโตเพื่อหากุญแจห้อง อยากจะรู้ว่าคนคนนี้เก็บของยังไงกันนะ เพราะผมจะคล้องคีย์การ์ดกับกุญแจห้องเอาไว้ด้วยกัน แต่พี่เรนนี่... คีย์การ์ดอยู่ที่ กุญแจอยู่ที่



“แปบนึงนะกาย พี่มั่นใจว่าเอากุญแจใส่กระเป๋ามาแล้ว อย่างเพิ่งไม่สบายนะ เดี๋ยวพี่หากุญแจแปบนึง” ปากก็พูดไป มือก็วุ่นวายกับการแหวกกระเป๋าช่องนู้นช่องนี้ดูไปด้วยเพราะหากุญแจห้องดอกเด็กๆ เพียงดอกเดียว



“ครับผม” ผมรับคำ ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นถ่ายด้านหลังของพี่เขาเอาไว้ ปากก็อมยิ้มไม่หยุด จนอยากจะถามว่ามึงจะยิ้มอะไรนักหนา



“อ๊ะ! เจอแล้วๆ เจอแล้วละนี่ไง” พี่เรนร้องดีใจหันมาชูกุญแจให้ผมดูอีกต่างหาก โคตรจะน่าเอ็นดูเลยครับ



พอเปิดประตูได้พี่เรนก็หันมาคว้าแขนผมแล้วลากเข้ามาในห้อง สั่งให้ผมเข้าไปรอในห้องน้ำแล้วเจ้าตัวก็วิ่งไปหาผ้าเช็ดตัวมาให้ผม



“ขอบคุณนะครับพี่เรน” ผมยิ้มขอบคุณรับผ้ามาถือเอาไว้ ส่งกล้องกับซองที่ใส่กระเป๋าสตางค์ให้พี่เรน ซึ่งพี่เขาก็ดีแสนดี รับไปวางเอาไว้ให้เรียบร้อย



ให้ความรู้สึกเหมือน... คู่รักกันเลยแหะ





************************************************
1 ชั่วโมงกับ 50% ที่เรียกว่าปั่นสดๆ แบบยังร้อนอยู่เลยค่ะ แต่งไปก็ยิ้มไปกับความน่ารักของพี่เรน ถึงจะออกมาไม่เยอะแต่ก็ทำให้ยิ้มได้ นี่สงสัยฟางจะหลงพี่เรนมากมายเลยค่ะ ทั้งหลงทั้งรักอย่างไม่รู้จะบอกยังไงแล้ว

เรื่องงาน... ฟางยังปรับตัวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ งานค่อนข้างเยอะเลยค่ะ บางวันก็มีงานด่วนเข้ามาแบบใช้สมองเยอะมาก ใช้หนักจริงๆ ค่ะ จนบางทีก็คิดนิยายไม่ออกเลยเพราะมันคิดเรื่องงานไปเยอะมากๆ จนรู้สึกเพลียสุดๆ มันเหนื่อยมากจริงๆ ฟางก็หวังว่าทุกคนจะเข้าใจกันนะคะ

ฟางขอไม่มากค่ะ ขอให้คนที่อ่านนิยายของฟางเป็นกำลังใจให้ฟาง คอมเมนต์เกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ให้ฟางอ่าน เวลาฟางเครียดๆ หรือเหนื่อยจากการทำงานหลักฟางจะได้ยิ้มออก และมีแรงในการแต่งนิยายนะคะ

ขอแค่นี้คงไม่มากเกินไปนะคะ

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

ปล. อ่านแล้วไม่เมนต์ เดี๋ยวฟางไม่อัพให้อ่านนะคะ ^^

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-06-2016 22:28:10 โดย fangiily »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่ารักน่าเอ็นดูน่าหยิกแก้ม หมั่นเขี้ยว  :m3:
เจ้ากายต้องขอบคุณที่ตัวเองลืมกุญแจนะ
ระหว่างติดอยู่ห้องพี่เรนก็ลองจีบ(มาเป็นแบบ)ให้ติดนะ
รออีกครึ่งค่ะฟาง เรื่องงานสู้ๆจ้า  :bye2:  :pig4:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ขอให้น้องกายจีบพี่เรนให้ติด เพราะพี่เรนเป็นแบบนี้ไงครับ ถึงไม่อยากให้คนอื่นที่ไม่ใช่น้องกายดูแล

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
พี่เรนน่ารักอ่ะ >__< อยากได้กลับบ้าน 5555
คุณฟางสู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
สู้ๆนะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้!
รอครึ่งหลังน้าา

ออฟไลน์ chanipanokyoong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
F o13 ตามทันแล้ววว อ่านแล้วยิ้มตามตลอดเลยยยยย เขิน

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
เมื่อไหร่พี่เรนจะรูตัวววว

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

ใครต่อใครแทนความหมายของฝนว่าเป็นความเศร้า
แต่พี่เรนกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่าง

kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 7.2 •




• • • ต่อค่ะ 100% • • •




น้องกาย



แค่ก! แค่กๆ! แค่ก



ผมได้แต่ยกมือปิดปากตัวเองตอนที่ส่งเสียงไอออกมาไม่หยุดตั้งแต่ออกจากห้องน้ำในห้องของพี่เรน รู้สึกเจ็บคอยังไงบอกไม่ถูกครับ



สงสัยจะไม่สบายเข้าให้แล้ว



แค่กๆ!!



“ไม่สบายเหรอ เพราะตากฝนแบบนั้นนะสิ” พี่เรนที่เดินมาจากทางครัวร้องถามผมก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ยกมือขึ้นแตะหน้าผากของผมเพื่อวัดไข้



ผมไม่ได้ตอบอะไรแค่ส่งยิ้มกลับไปให้เท่านั้น พูดไปก็เหมือนแก้ตัว เพราะผมก็ไปตากฝนมาตั้งเป็นชั่วโมง



“อือ…” คนตรงหน้าผมอังหน้าผากผมไปมา สลับกับวัดอุณหภูมิจากหน้าผากของตัวเขาเองด้วย



!!!!



ผมได้แต่ทำตาโตเมื่ออยู่ๆ พี่เรนก็เขย่งตัวขึ้น ยื่นหน้ามาใกล้หน้าของผมจนหน้าผากชนกัน ผมมองเห็นพี่เรนแบบใกล้มากๆ ดวงตากลมโตที่ดูจริงจังกับการวัดอุณหภูมิผมว่าผมตัวร้อนหรือเปล่า คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน จมูกโด่งๆ นั่น แล้วไหนจะริมฝีปากที่ดูอวบอิ่ม และแดงอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นปากของผู้ชายจริงๆ



ผมทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ครับ ตอนนี้ในสมองเหมือนมันว่างเปล่า ไม่มีความคิดอะไรอยู่เลยสักนิด



“มีไข้นิดๆ นะ หน้าร้อนๆ แถมยังแดงๆ ด้วย เดี๋ยวพี่เอายามาให้นะ มียาอยู่” พี่เรนพูดก่อนจะผละจากผมไปตู้วางทีวีแล้วหยิบเอากล่องยาออกมา



คือ…



ไม่ได้ร้อนแล้วก็หน้าแดงเพราะป่วย! แต่เขิน!!!



เขินมากๆ เลยครับ ใครสั่งใครสอนให้พี่เรนทำแบบนี้วะเนี่ย



ได้แต่ยกมือขึ้นลูบหน้าอกตัวเองแล้วผ่อนลมหายใจออกมา ปรับไอ้หัวใจที่เต้นตึกตักๆ เหมือนจะหลุดออกจากอกให้สงบลงบ้าง เพราะถ้าเกิดมันยังเต้นแรงขนาดนี้ผมได้แย่แน่ๆ เลย



“ว่าแต่กายกินอะไรหรือยัง” คนที่วิ่งไปหยิบยาวิ่งกลับมาหาผม



จะวิ่งทำไมห้องก็มีอยู่แค่นี้ แล้วคิดดูเถอะทั้งวิ่งไปวิ่งกลับสะดุดเบาะนั่งเล่นตั้งสองรอบ เฮ้อ… ซุ่มซ่ามอีกอย่างสินะ



ผมส่ายหน้า ยกมือเช็ดผมที่ยังชื้นๆ ของตัวเองไปด้วย “ยังไม่ได้กินครับ พี่เรนกินอะไรหรือยัง เดี๋ยวผมลงไปซื้อให้”



“ไม่ๆ กายไม่สบายอยู่รออยู่บนห้องนี่แหละ ใต้หอมีอาหารตามสั่งอยู่เดี๋ยวพี่ไปสั่งให้” พี่เรนบอกก่อนจะดันผมให้ไปนั่งที่เบาะหน้าทีวี “ไม่สบายแล้วดูแลแมวได้ไหม… พี่ฝากหมีหน่อยนะ”



ผมได้แต่ยิ้มขำก่อนจะพยักหน้ารับเป็นเชิงบอกว่าจะดูแลหมีให้ พอเห็นผมยืนยันแบบนั้นพี่เรนก็หันไปคว้าเอากุญแจห้องกับกระเป๋าสตางค์แล้ววิ่งออกจากห้องไป จนผมต้องรีบลุกตามไปทันที



“พี่เรนอย่าวิ่งนะ เดี๋ยวก็หกล้มไปหรอกครับ!” ผมร้องบอกคนที่กำลังวิ่งไปที่ลิฟต์ จนพี่เขาชะงักขาแล้วเปลี่ยนเป็นเดินไปที่ลิฟต์แทน



ตลกชะมัด คนอะไร!



ผมหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นแบบนั้นก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องอีกรอบ ทิ้งตัวลงนั่งบนเบาะหน้าทีวี ส่งเสียงเรียกเจ้าหมีให้เดินมาหา มันก็เชื่องดีนะครับ เดินมาหาผมด้วย



มันเอาจมูกมาดุนๆ ดมๆ ผมอยู่สักพักก็เดินเหยียบ… ขอย้ำว่าเหยียบขาผมขึ้นมาบนตักแล้วก็นอนอยู่แบบนั่น



สบายเชียวนะมึง ถ้าไม่เห็นว่าเป็นแมวพี่เรนนี่มีเตะโด่งโล่งจากตักกันบ้างละ



มันเขี้ยวว่ะ ผมเลยจัดการดึงหูมันเล่นแบบไม่ได้ดึงแรกมาก หมีมันหันมามองผมด้วยสายตาเหมือนจะบอกว่า



‘มึงเล่นอะไรของมึงไอ้มนุษย์ กูเพื่อนเล่นมึงไหม???’



แล้วมันก็หันกลับไปเลียขนมันต่อ เอาเลยจ้า เอาที่ตามสบายเลยนะหมีนะ ยังไงนี่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ขืนไปทำอะไรแมวสุดที่รักของพี่เรนเข้า คงได้โดนตัดออกจากสารระบบชีวิตของพี่เรนแน่นอนเลย



ผมอุ้มไอ้หมีลงไปที่พื้น “แปบนึง ขอไปกินน้ำก่อนได้ไหมละ ทำไมต้องมองหน้า” ผมว่าก่อนจะเดินไปถือวิสาสะเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำมาเทใส่แก้ว



เมื่อกี้แกล้งไอซะเจ็บคอเลย…



พอกินน้ำจนรู้สึกดีขึ้นก็เดินกลับมานั่งเล่นกับไอ้หมีต่อ มันเป็นแมวที่แปลกดีนะ หน้าตามันน่ารักมากนิสัยดูน่าจะขี้อ้อนแต่นี่ไม่เลย นิสัยกับหน้าตาไปคนละทางมาก สงสัยมันคงสู้ไม่ไหวเพราะเจ้านายขี้อ้อนกว่า



ผมหันไปมองเวลาเรื่อยๆ เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วทำไมพี่เรนยังไม่ขึ้นมาอีกนะ ไปซื้อข้าวใต้หอนานขนาดนี้เลยเหรอ หรือคนอาจจะเยอะเพราะฝนตก หรือว่าหลงทางในหอตัวเองกันแน่วะ



จะโทรถามก็ไม่มีเบอร์อีก…



นั่งมองเวลาอีกสักพักถ้าอีกสิบนาทียังไม่ขึ้นมาจะลงไปตามละนะ สิบนาทีจะนานไปไหม หรือห้านาทีพอ แต่ถ้าพี่เรนหลงทางจริงๆ ห้านาทีนี่ผมว่าน่าจะหลงไปไกลนะ อย่างนั้นอีกหนึ่งนาทีถ้ายังไม่ขึ้นมาจะลงไปดูละ



แกร๊ก



แค่ก!! แค่กๆๆ



พอได้ยินเสียงไขกุญแจห้องผมก็ไอออกมาทันที มันเป็นไปเองแบบอัตโนมัติอะครับ พอพี่เรนได้ยินผมไอพี่เขาก็รีบเข้ามาหาทันที ยื่นหลังมือมาแตะหน้าผากผมอีกรอบเพื่อวัดไข้



“ตัวไม่ร้อนนะ... แต่ไอไม่หยุดเลยเจ็บคอมากไหม ต้องไปหาหมอหรือเปล่าแต่ฝนตกลงมาอีกแล้ว ทำยังไงดี เดี๋ยวพี่โทรเรียกแท็กซี่นะ” พี่เรนพูดรัวไม่หยุดจนผมอยากจะหัวเราะ



ผมยื่นมือไปจับมือของพี่เรนที่ยังอังหน้าผากผมเอาไว้มากุม ก่อนจะยิ้มให้ “ไม่เป็นอะไรครับ ผมแค่ไอเฉยๆ เดี๋ยวกินข้าวกินยานอนพักก็ดีขึ้นครับ ไม่ต้องไปหาหมอหรอก”



“อย่างนั้นกินข้าวก่อนดีกว่า จะได้กินยาเดี๋ยวพี่ไปเทใส่จานให้นะ” พี่เรนพูดผมเลยปล่อยมือจากพี่เรน น่าเสียดายแหะ... มือนิ่มชะมัดเลย อยากจะจับเอาไว้ตลอด



ไม่นานข้าวผัดก็เทใส่จานมาเรียบร้อย ทั้งของผมแล้วก็ของพี่เรน เราสองคนนั่งกินข้าวกันไปคุยกันไปดูโทรทัศน์กันไป ไม่ต้องถามก็คงรู้กันใช่ไหมว่าผมจะฟินมากขนาดไหน คือแบบมันโคตรจะฟินเลยครับเหมือนคนรักกันจริงๆ



พอกินข้าวเสร็จพี่เรนก็ส่งยามาให้ผมกินต่อทันที ผมก็หยิบมากินครับกินมันไปอย่างนั้นแหละครับ ไม่ได้ป่วย ไม่ได้ไอ ไม่ได้เจ็บคออะไรหรอก แต่ถ้าไม่กินเดี๋ยวพี่เรนจะเป็นห่วง



“ฝนยังตกอยู่เลย...” ผมพูดมองออกไปนอกหน้าต่าง วันนี้นี่ชุ่มฉ่ำจริงๆ ครับ หยุดไปแปบเดียวก็ตกอีกแล้ว



“กายนอนพักก่อนก็ได้ เดี๋ยวรอฝนหยุดแล้วค่อยกลับ ไปตอนนี้ก็ตากฝนอีกเดี๋ยวจะยิ่งไม่สบายหนักนะ” คนที่นั่งเล่นอยู่กับหมีหันมาบอก



ผมทำตาโตด้วยความตกใจ “ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจวิ่งไปนิดเดียวก็ถึงหอผมแล้ว อ่า... แต่ปัญหามันอยู่ที่กุญแจห้องผมอยู่กับเพื่อนนี่สิ แต่เดี๋ยวโทรให้มันเอามาให้ก็ได้ครับ ไม่รู้ว่ามันจะกลับบ้านไปหรือยังนะ แต่มันก็คงขับรถเอามาให้อยู่ดีแหละครับ”



“ไม่ต้องเกรงใจหรอก กายอยู่นี่ก่อนแหละไม่เป็นไร ยังไงกายก็เป็นรุ่นน้องของตินาเพื่อนพี่อยู่แล้ว” คนน่ารักว่าพร้อมกับยิ้มกว้าง



“อย่างนั้น... ผมรบกวนหน่อยนะครับ ต้องรบกวนพี่เรนเลยขอโทษนะครับ”



“ไม่เป็นไร ไปนอนที่เตียงพี่ก็ได้ตรงนี้นอนลำบาก ตามสบายเลยนะ”



“ขอรบกวนหน่อยนะครับ” ผมพูดก่อนจะขยับไปนอนบนเตียงของพี่เรน



ฮ๊า~~~ เตียงนอนพี่เรนโตรจะหอมเลยครับ กลิ่นหอมอ่อนๆ แถมยังนุ่มนิ่มอีกต่างหาก ผมนอนหันหน้าไปทางพี่เรน เจ้าของห้องลุกเดินไปเดินมาหยิบกระดานวาดรูปหนึ่งรอบ ลุกเดินไปหยิบกระดาษอีกหนึ่งรอบ ก่อนจะกระเถิบๆ ตัวไปหยิบกระเป๋าดินสออีกหนึ่งรอบ คือทำไมไม่หยิบรอบเดียวให้มันจบนะ คนเอ๋อเอ๊ย!



ผมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมาดู เห็นข้อความจากไอ้ไม้มันส่งเข้ามา



          mai : ไอ้กายมึงลืมกุญแจ ไอ้สัส! ไอ้เอ๋อ ไอ้สลัด!
          mai : กูเอากุญแจไปฝากไว้กับยามหอมึงแล้วนะ แล้วนี่มึงไปมุดหัวอยู่ไหนวะ
          mai : ตายยังมึง อย่าเพิ่งรีบตายนะ กูยังไม่ได้บอกมึงเลยว่าอยากจะกินอะไรในคืนแรก




ผมทำเพียงแค่กดอ่านก่อนจะโยนโทรศัพท์ไว้ข้างๆ ทำไมต้องสนใจด้วยละครับ กุญแจเดี๋ยวไปเอาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่โอกาสที่จะได้อยู่ห้องพี่เรนไม่ได้มีบ่อยๆ ต้องเอาให้คุ้มหน่อย



“พี่เรนทำอะไรเหรอ” ผมส่งเสียงถามเมื่อเห็นพี่เรนนั่งติดเทปกาวกับกระดานวาดรูป



พี่เรนหันมาทำตาโตใส่ผม ที่จริงก็ไม่ได้ทำตาโตหรอกครับ แต่ตอนนี้พี่เขามัดผมข้างหน้าที่ปรกๆ หน้าขึ้นไปเป็นจุกน้ำพุเลยทำให้เห็นตาโตๆ ชัดเจน “กำลังจะทำงานน่ะ กายนอนหลับไปเลยก็ได้นะไม่ต้องเกรงใจ”



“ขอบคุณนะครับ อย่างนั้นผมขอนอนพักสักหน่อยนะครับ”



“อือ! นอนเลยๆ จะได้หายนะ” พี่เรนพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะยิ้มให้ผมแล้วหันกลับไปทำงานต่อ ผมก็เลยนอนดูพี่เรนไปเรื่อยๆ เพลินดีครับ



นอนดูจุกน้ำพุบนหัวขยับไปมาเพราะพี่เรนเอียงหัวไปซ้ายทีขวาที ดูจริงจังกับการทำงานมากๆ เลยครับ เป็นอีกมุมที่ผมไม่เคยเห็น พี่เรนตอนจริงจังกับการทำงานก็... มีเสน่ห์ไปอีกแบบนะ



ทำไมเป็นคนที่ทำอะไรก็น่ารักน่าเอ็นดูไปหมดเลยนะ







พี่เรน



อือ... ตรงนี้ไม่เอาแบบนี้ดีกว่า



ผมนึกในใจก่อนจะลบรอยดินสอที่ร่างแบบเอาไว้ออกก่อนจะวาดลงไปใหม่ จนได้แบบการจัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นที่พอใจผมก็เริ่มลงรายละเอียดของงานมากขึ้น อ่า… นอกจากต้องวาดแปลนแล้วยังต้องวาดภาพเปอร์ด้วยนี่นะ…



อ๋อ… ภาพเปอร์ก็คือ Perspective น่ะครับ เป็นภาพมุมมองของอาคารหรือห้อง ถ้าจะให้ผมบอกแบบเข้าใจง่ายๆ ก็แบบภาพโชว์ผลงานของบริษัทหลายๆ บริษัทน่ะครับ ภาพบ้านสวยๆ ห้องสวยๆ ในนิตยสารหรือตามงานที่มีมาออกบูธ ประมาณนั้นแหละ แต่แบบนั้นเขาใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำ แต่ผมใช้วาดมือครับ



เมี๊ยว~ เมี๊ยว~~



ผมเงยหน้าจากกระดาษขึ้นมองน้องหมี น้องหมีขึ้นมายืนบนโต๊ะญี่ปุ่น แถมยังมองหน้าผมอีก



“มีอะไร หิวเหรอ… แต่เพิ่งกินไปเองนะ” ผมเอียงหน้ามองน้องหมี



รู้จักน้องหมีกันไหมครับ น้องหมีเป็นแมวของผม ผมไปเจอน้องเมื่อปีที่แล้วตอนฝนตก น้องตัวสั่นมากๆ ผมเห็นแล้วก็สงสารอีกอย่างผมก็ชอบแมวด้วย ผมก็เลยพาน้องมาอยู่ด้วยกัน



เมี๊ยววว~~



น้องหมีร้องเสียงดังขึ้นก่อนจะกระโดดลงจากโต๊ะแล้วเดินไปที่เตียง กระโดดเกาะแล้วดันตัวเองขึ้นไป



ผมปรบมือทันทีน้องหมีเก่งมากเลย น้องหมีเป็นแมวพันธุ์เล็ก ตัวเลยเล็กนิดเดียวแต่น่ารักมาก ตัวสีขาว



“เก่งมากเลย” ผมยิ้มกว้าง



เมี๊ยววว~



น้องหมีเดินไปยืนบนตัว… อ๋า… ผมลืมน้องกายไปเลย น้องกายนอนหลับอยู่บนเตียงนี่นะ นอนขดเลยสงสัยจะหนาว



“อ๋อ… จะบอกว่าน้องกายนอนหนาวอยู่ใช่ไหม ขอบคุณมากนะ” ผมลุกเดินไปใกล้เตียง ยกมือลูบหัวน้องหมีก่อนจะหยิบผ้าห่มมาห่มให้น้องกาย



“เดี๋ยวจะยิ่งไม่สบายหนักเข้าไปใหญ่…” ผมพูดพึมพำกับตัวเองก่อนจะหันไปหาน้องหมี “ถ้าจะนอนกับพี่กายเขาก็อย่าซนนะ ให้พี่เขานอนพักผ่อนเยอะๆ รู้ไหม”



เมี๊ยววว~~~



น้องหมีร้องก่อนจะเดินไปเหยียบบนตัวน้องกาย ย่ำไปย่ำมาเหมือนกำลังหามุมสบายแล้วทิ้งตัวลงนอน



ฮึ่ม! ก็เพิ่งบอกอยู่ว่าอย่ากวนๆ ยังจะไปกวนเขาอีก น้องหมีนี่ดื้อจริงๆ เลย



“ได้ที่นอนแล้วก็นอนนิ่งๆ เข้าใจไหมน้องหมี” ผมสั่งน้องหมี แต่ดูสิหลับตาหนีผมเฉยเลย ผมจะโป้งแล้วนะ



ผมส่ายหน้านิดๆ เลิกสนใจน้องหมี… ก่อนจะกลับมานั่งทำงานต่อ ทำให้เสร็จจะได้มีเวลาว่างเยอะๆ แล้วก็จะได้พร้อมสำหรับงานอื่นๆ ด้วย



ผมนั่งทำงานต่อจนเสร็จเงย ขยับตัวเพื่อคลายความเมื่อยพอได้ทำงานทีไรเพลินทุกทีเลย บางทีผมก็ทำงานจนลืมแม้แต่จะหาอะไรกิน แต่ยังดีที่มีน้องหมีมาร้องเตือน ผมเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาก่อนจะทำตาโตด้วยความตกใจเพราะตอนนี้มันมืดแล้ว นี่ผมนั่งทำงานตั้งหลายชั่วโมงเลยเหรอเนี่ย...



หันไปมองน้องกายที่นอนอยู่บนเตียง ยังหลับอยู่เลยแต่ผมก็ไม่แปลกใจเลยก็เล่นไปตากฝนซะตัวเปียกขนาดนั้นจะไม่ให้ป่วยได้ยังไงกัน ผมลุกเดินไปข้างๆ เตียงก้มลงแนบหน้าผากกับหน้าผากของกายเพื่อวัดไข้ ตอนเด็กๆ แม่ผมชอบวัดไข้แบบนี้ผมเลยติดวัดไข้แบบนี้มาตลอดเลย กับพวกสาวๆ ผมก็วัดไข้แบบนี้ แต่ชอบโดนพวกนั้นว่า แล้วก็ห้ามทำแบบนี้กับใครที่ไหน



แต่ก็ไม่ได้ทำกับใครที่ไม่รู้จักนะ น้องกายนี่ผมก็รู้จัก คงไม่เป็นอะไรหรอกเนอะ



“ไม่ร้อนแล้วนี่นา สงสัยจะดีขึ้นแล้ว”



“อือ...” น้องกายส่งเสียงก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตาขึ้น ก่อนจะทำตาโตด้วยความตกใจ



อ๋า... ลืมไป เป็นใครก็คงต้องตกใจแหละเนอะ อยู่ๆ ลืมตามาก็เจอหน้าคนอื่นใกล้แบบนี้ ผมเลยผละออกแล้วส่งยิ้ม “ไข้ลดแล้วนะ ตัวไม่ร้อนแล้วนี่ ยังเจ็บคออยู่ไหม”



อ้าว... อยู่ๆ ก็หน้าแดงอีกแล้ว



ผมรีบยื่นมือไปแตะหน้าผากทันที “ทำไมหน้าแดงอีกแล้ว ไข้ขึ้นมาเหรอ หน้าร้อนๆ ด้วยนะ เช็ดตัวไหมเดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้”







น้องกาย



ช... ช่วยไอ้กายด้วยครับ... รู้สึกหัวใจจะวาย



เผลอนอนหลับไปในห้องพี่เรน รู้สึกตัวตื่นลืมตามาก็เจอหน้าเจ้าของห้องอยู่แบบใกล้โคตรๆ ใกล้จนแทบจะจูบกันจะไม่ตกใจได้ยังไงละครับ!!!



“ทำไมหน้าแดงอีกแล้ว ไข้ขึ้นมาเหรอ หน้าร้อนๆ ด้วยนะ เช็ดตัวไหมเดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้”



ไม่ได้ไข้ขึ้น!!! เขินครับ ไม่ได้ป่วยจะไข้ขึ้นได้ยังไง นี่เขินล้วนๆ ไม่มีอะไรปะปนเลยครับ โอ๊ยยย ทำไมพี่เรนชอบทำให้เขินวะ แล้วเขินอยู่คนเดียวด้วยไง คนทำก็ไม่ได้เขินรู้สึกเขินไปด้วยเลย โอ๊ยยยย ไอ้กายหัวใจจะวาย!!



“ไม่เป็นไรครับ นอนไปเยอะแล้วก็รู้สึกดีขึ้นแล้วครับ ไม่ได้เจ็บคออะไรแล้วด้วย” ผมรีบห้ามทันทีก่อนที่เจ้าของห้องจะนึกไปหยิบผ้ามาเช็ดตัวให้ผมจริงๆ



ผมเด้งตัวลุกขึ้นนั่งจนได้ยินเสียงดังตุบ! หันไปมองก็เห็นหมีล่วงจากตัวผมลงไปบนเตียง แล้วไอ้นี่มานอนบนตัวผมได้ยังไงวะ...



“ผมว่าผมกลับห้องก่อนดีกว่า ดึกมากแล้วด้วยรบกวนพี่เรนเสียนานเลย” ผมว่า ก่อนจะรีบลงจากเตียงเดินไปหยิบข้าวของของตัวเองมาถือเอาไว้



“อ้าว... แล้วกุญแจห้องล่ะ ที่จริงนอนที่นี่ก็ได้นะ” เจ้าของห้องก็ยังใจดีชวนให้นอนค้างอีก



นี่ถ้าผมเลวกว่านี้นิดนี่พ่อจับปล้ำแล้วนะ ชวนผู้ชายนอนห้องแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกันวะ



“ไม่เป็นไรครับ นี่ไง...” ผมรีบชูโทรศัพท์หน้าจอมืดๆ ขึ้น “เพื่อนมันส่งข้อความมาบอกว่าฝากกุญแจห้องไว้กับลุงยามที่หอแล้วครับ พี่เรนจะได้พักผ่อนด้วยผมมารบกวนซะนานเลย”



พี่เรนพยักหน้ารับหงึกหงักจนหัวน้ำพุขยับไปมา โอ๊ย น่ารักว่ะ อยากจะฟัด “โอเค ยังไงก็นอนพักต่ออีกหน่อยแล้วกินยาด้วยนะ จะได้หายสนิทๆ”



“ครับผม ไปก่อนนะครับ แล้วเจอกันครับ” ผมพูดแล้วก็รีบเดินออกจากห้องพี่เรนทันที



ไม่ไหวครับ หัวใจจะวายมันเต้นแรงมากจนผมรู้สึกได้อย่างชัดเจน หัวใจทำงานหนักจริงๆ ครับ ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งรัก รักแบบรักมากจริงๆ ตอนแรกเคยคิดว่ามันคงเป็นความรักที่มันไม่จริงจัง แต่ตอนนี้คือไม่ใช่แล้วครับ ผมโคตรจะจริงจังกับพี่เรนเลย



คือหวง คือห่วง คือรัก อยากเก็บพี่เรนเอาไว้กับตัวเองมาก ไม่อยากให้ใครได้ไปเลย



ต้องทำยังไงถึงจะได้พี่เรนนะ ต้องทำยังไงถึงจะเอาชนะใจคนอย่างพี่เรนได้ ถ้าเป็นคนอื่นผมคิดว่าคงจีบไม่ยากเท่าไหร่ แต่พี่เรนคือไม่เหมือนคนอื่นไง แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้ได้ละครับ รักขนาดนี้ปล่อยไปไหนไม่ได้แล้ว



อีกอย่าง...



ผมก็ไปไหนไม่รอดแล้วเหมือนกันครับ







กาย คามิน @Guy_Kamin
ฉันแพ้ทางคนอย่างเธอ มันเอาแต่เพ้อไม่กินไม่นอน
อยากบอกเธอสักครั้ง โปรดเถอะนะขอวอน
หยุดน่ารักได้ไหม ใจฉันกำลังละลาย
#คนน่ารัก #น้องกายหลงฝน







************************************************
มาแล้วค่ะ ขอโทษที่หายไปนานค่ะเนื่องจากคอมมีปัญหาก็เลยไม่สามารถมาอัพได้ แล้วก็... ขอแจ้งข่าวร้ายอีกเรื่อง เดือนหน้าฟางมีสอบค่ะ คงต้องแบ่งเวลานอกเหนือจากการทำงานไปอ่านหนังสือเตรียมสอบด้วยค่ะ เลยคงหายนานหน่อย แต่ถ้าสอบเสร็จก็คงจะมาได้อาทิตย์ละครั้งเหมือนเดิมค่ะ

กลับเข้าที่เนื้อเรื่อง คืออะไรคะ!!! น้องกายแกล้งป่วยจ้า เนียนเลยเจ้ากายเอ๊ย! เนียนป่วยให้พี่มาดูแล แล้วยังไงละทนอยู่ได้ไม่นานก็เจอความน่ารักของพี่เรนเล่นงานจนต้องวิ่งแจ้นกลับห้องเลยจ้า แพ้ทางพี่เขาจริงๆ โอ๊ย น้องกาย!! น่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน ทั้งน่าเอ็นดู แล้วก็ตลกด้วย ฮ่า

อ่านแล้วอย่าลืมคอมเมนต์ให้กำลังใจกันนะคะ ขอแค่นี้คงไม่มากเกินไปนะคะ

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

ปล. อ่านแล้วไม่เมนต์ เดี๋ยวฟางไม่อัพให้อ่านนะคะ ^^

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ยากหน่อยนะอีกาย จีบพี่เรนเนี่ยะ ไม่สิ. ยากมากๆๆๆๆๆ ต่างหาก. อิอิ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
งื้อ. น่ารัก. พี่เรนจะแบ๊วอะไรเบอร์นี้ ของหายากแท้ๆ
 :pig4:   :3123: 

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ tooktik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เรนน่ารักกกกก :mew1: :o8: :-[

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

ให้ตายเถอะพี่เรนโคตรจะน่ารักเลย
ตัวผมนี่แทบจะลอยได้อยู่แล้วนะ
kamin


say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ




โชคครั้งที่ • 8 •





พี่เรน
   



“เรนนนนนนนนนนน!!! ทางนี้ทางนี้”



ผมหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาที่มาของเสียงที่ตะโกนเรียกผมเสียงดังลั่นจนคนอื่นๆ หันมามองกันเต็มไปหมด ผมยิ้มกว้างเมื่อเห็นตินากับสาวๆ ยืนโบกมือให้ผมอยู่หน้าร้านกระเป๋าก่อนจะเดินเข้าไปหา



วันนี้สาวๆ แต่งตัวสวยกันทุกคนเลยครับ “วันนี้สวยกันจังเลยนะ ดูสิ... เราไม่เข้าพวกเลย” ผมพูดยิ้มๆ แซวสาวๆ ไปครับ



พูดเล่นไม่ได้คิดอะไรมากหรอกครับ เพราะเอาจริงๆ มันก็เหมือนที่ผมพูดนั่นแหละครับ สาวๆ ทุกคนหน้าตาดี แต่งตัวดีเหมือนกับลูกคุณหนู ส่วนผมหน้าตาธรรมดาบ้านๆ แต่งตัวก็เชยๆ แถมยังใส่แว่นอันใหญ่อีก



“ก็บอกให้เปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนตัวเองก็ไม่เชื่อกันบ้างนี่นา” ตินาพูดพร้อมกับบีบแก้มผมไปด้วย



“ใช่ เรนน่ะน่ารักจะตายไป บอกกี่ทีก็ไม่เชื่อกัน มัวแต่แต่งตัวแบบนี้ ใส่แว่นแบบนี้ ผมยาวปรกหน้าปรกตาแบบนี้” คราวนี้สาพูดบ้างครับ คนอื่นๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย



ผมได้แต่ยิ้มให้ไม่ได้พูดอะไรต่อ ผมไม่คิดว่าตัวเองจะหน้าตาดี หรือน่ารักอะไรนะครับ ส่องกระจกกี่ทีๆ ก็ไม่เห็นความหน้าตาดีจากหน้าของผมเลยสักนิด



“ปล่อยเราไปเถอะน่า ว่าแต่วันนี้ชวนเราออกมาเที่ยวจะมาซื้ออะไรเหรอ เดี๋ยวเราช่วยถือของให้” ผมบอกออกไป สาวๆ ในกลุ่มผมก็เหมือนผู้หญิงทุกคนที่ชอบแต่งตัว ชอบช็อปปิ้งนั่นแหละครับ ผมเองก็มากับทุกคนบ่อยๆ



แป้งยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วขยับไปมาพร้อมกับส่ายหน้า “ผิดแล้วจ้ะหนุ่มน้อยรามิล วันนี้พวกเราจะมาแปลงโฉมให้หนุ่มน้อยรามิลต่างหากละ”



ผมตาโตทันทีด้วยความตกใจ “แปลงโฉม?!! แปลงโฉมเราเหรอ ทำไมละ จะไปไหนเหรอ”



“ไม่ได้ไปไหนหรอก แต่พวกเราคิดว่าควรถึงเวลาแล้วละนะที่เรนจะต้องเปลี่ยนตัวเองบ้าง” ใบหม่อนพูด



“เปลี่ยนทำไม เราเป็นของเราแบบนี้ไม่ดีเหรอ” ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ จะให้ผมเปลี่ยนไปเป็นแบบไหนละ เป็นแบบผู้ชายกินเหล้ากินเบียร์ทุกวันเหรอ แบบนั้นผมก็ไม่ไหวนะ



เพียะ!



งืออออ เจ็บนะ



ผมยกมือจับหน้าผากตัวเองเมื่อโดนใบหม่อนดีดหน้าผาก “ดีดหน้าผากเราทำไมอะ”



“ก็ดีดให้ได้สตินะสิ คิดไปถึงไหนแล้วหะ ที่พวกเราบอกว่าจะให้เปลี่ยนน่ะหมายถึงภายนอก ไม่ใช่นิสัย” ใบหม่อนว่า



อ้าวเหรอ... ก็นึกว่าหมายถึงนิสัย



“แล้ว... ทำไมต้องให้เราเปลี่ยนด้วยละ” ผมถามอย่างสงสัย



คราวนี้สาวๆ ยิ้มกันใหญ่เลย แต่เป็นรอยยิ้มที่ดูแปลกๆ นะ ยังไงดี เหมือนมีแผนการอะไรอยู่ในใจสักอย่าง



“ก็... แค่อยากเห็นเด็กบางคนคลั่งละมั้ง” ตินาว่า ก่อนที่ทุกคนจะมองกันแล้วยิ้มออกมา



“เนอะ!” ทุกคนพูดออกมาพร้อมกันแล้วหัวเราะ ส่วนผมได้แต่ทำหน้างงอย่างไม่เข้าใจว่าที่ทุกคนพูดหมายถึงเรื่องอะไรกัน



แต่ก็ไม่มีใครไขความสงสัยให้ผมเลยสักนิด แล้วก็ไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติมด้วยเพราะตินากับสาจับแขนผมคนละข้างแล้วลากเดินทันที พอผมขืนตัวไม่ยอมเดิน ใบหม่อนกับแป้งก็ดันหลังผม แล้วพื้นในห้างก็ลื่นๆ ด้วย ผมเลยได้แต่เดินตามสาวๆ ไป



ร้านแรกที่ผมโดนลากเข้ามาคือร้านตัดผม สาวๆ จับผมกดลงกับเก้าอี้ตัดผมทันที หยิบแว่นตาออกจากใบหน้าผมจนผมเริ่มมองไม่ชัด



“พี่คะ จัดให้ทีนะคะ” แป้งหันไปพูดกับพี่พนักงาน ผมได้แต่มองตาม



ผมสายตาค่อนข้างสั้นมาก พอไม่มีแว่นก็มองไม่ค่อยชัดแล้วในจังหวะที่กำลังเบลอๆ งงๆ ผมก็โดนลากไปทางนู้นที ทางนี้ที ลากไปสระผม พากลับมานั่งที่เก้าอี้ ได้ยินเสียงกรรไกรตัดฉับๆ อยู่บนหัว เจอไอร้อนๆ จากไดร์เป่าผม



รู้สึกว่าผมของผมโดนตัดออกไปเยอะมากเลยครับ ปกติผมของผมจะยาวๆ ไม่เป็นทรงพอโดนตัดออกไปก็รู้สึกโล่งหัวไปหมด



“เสร็จแล้วครับ” พี่พนักงานบอก ผมได้แต่หรี่ตามองเห็นพี่เขายิ้มๆ มาให้ผม ผมก็เลยได้แต่ก้มหน้าขอบคุณ ยกมือจับหัวตัวเอง



“อย่าจับแบบนั้นสิครับ ผมยุ่งหมด” พี่พนักงานดุผมนิดๆ จับมือผมออกแล้วจัดทรงผมให้ผมใหม่ แต่ทำไม... จัดทรงผมนานจังนะ



หมับ!



ผมได้แต่เหวอเมื่อถูกดึงตัวออก แต่รู้ครับว่าคงจะเป็นพวกตินาที่ดึงผมออกมา



“นี่ค่าตัดผมค่ะ!” สาพูดกับพี่พนักงาน น้ำเสียงเหมือนไม่พอใจนิดๆ แล้วผมก็โดนใครสักคนนี่แหละลากออกมาจากร้าน



“ด เดี๋ยวสิ... เอาแว่นให้เราก่อน เรามองไม่ชัดนะ” ผมขืนตัวเองเอาไว้ ร้องบอกกับเพื่อน



“โทษที อะนี่” ใบหม่อนว่าพร้อมกับใส่แว่นคือให้กับผม



ผมยกมือขึ้นจับแว่นให้เข้าที่แล้วก็เลยไปจับผมตัวเอง “รู้สึกหัวโล่งๆ ยังไงไม่รู้สิ”



“แบบนี้แหละดีแล้ว ดูท่าจะได้ผลดีเกินคาด ต่อไปก็... ไปร้านแว่นตากัน” แป้งพูดแล้วก็จัดการพาผมไปที่ร้านแว่นตาทันที



“ไปทำไม แว่นเราก็ใส่อยู่นี่ไง”



ไม่มีใครตอบคำถามผมอีกแล้วครับ ผมเลยได้แต่เดินตามสาวๆ ไป วันนี้นึกอะไรกันนะถึงได้ลุกขึ้นมาจับผมแปลงโฉมแบบนี้...



อ่า... แต่เดี๋ยวสิผมเคยคุยกับน้องกายเอาไว้นี่นาว่าจะให้น้องเขาพาผมมาตัดผม สงสัยต้องบอกน้องเขาแล้วละว่าไม่ต้องแล้ว ผมมาตัดผมเรียบร้อยแล้ว



“สายตาสั้นค่ะ ทั้งสองข้าง 350 ไม่เอาแบบสีนะคะ สีตาสวยอยู่แล้วค่ะ” สาพูดกับพี่พนักงานที่อยู่ตรงส่วนที่ขายคอนแทคเลนส์



ผมเอียงคอมองอย่างงงๆ สาไม่ได้สายตาสั้นเสียหน่อย จะซื้อคอนแทคเลนส์แบบสายตาสั้นไปทำไมกันนะ “สามาซื้อคอนแทคเลนส์ให้ใครเหรอ” ผมหันไปถามแป้งกับใบหม่อน



“ก็ให้เรนไง ลองเปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์ดูบ้าง ส่วนแว่นสายตาฉันว่าเปลี่ยนใหม่ดีกว่านะ อันนี้ก็ต้องนานแล้ว ที่เลนส์มีรอยแล้วเนี่ย” สาหันมาถามตอบ ชี้นิ้วมาที่เลนส์แว่นที่ผมใส่อยู่



จริงอย่างที่สาพูด ผมเองก็เห็นมาหลายวันแล้วละครับว่าเลนส์ผมมีรอย แต่ยังไม่มีโอกาสมาตัดใหม่เสียที



“นี่ เอาแว่นอันนี้น่าจะเหมาะนะเรน” ตินาที่เดินแยกไปอีกทางตั้งแต่เข้ามาในร้านเดินกลับมา ชูแว่นในมือให้ผมดู



คล้ายๆ กับอันที่ผมใส่อยู่นะ แต่เพราะของผมมันนานแล้วเลยดูเก่าแล้วก็ไม่สวย แว่นอันที่ตินาถือมาเป็นแบบทรงกลม ถ้าคนหน้าตาดีใส่ก็คงจะดูดีมากแน่ๆ เลย ส่วนผมใส่คงเหมือนเด็กเนิร์ด อะไรแบบนั้น



นอกจากจะตัดผมใหม่แล้ว ผมยังได้คอนแทคเลนส์แล้วก็แว่นสายตาอันใหม่อีก ส่วนแว่นอันเก่า... ตินาส่งให้ที่ร้านไปครับ ไม่ยอมให้ผมเอากลับมาด้วย



ผมตั้งใจจะจ่ายเงินเองแต่สาวๆ กลับดันผมออกมานอกร้านแล้วจัดการเอง อือ... ไม่เป็นไร เอาไว้ผมซื้อของอย่างอื่นให้สาวๆ แทนก็ได้ เพราะถ้าให้เงินไปก็คงไม่รับอยู่ดี หันกลับไปมองในร้านพวกสาวๆ ก็เหมือนจะยังไม่เสร็จ เลยได้แต่ยืนรอ พอไม่ได้ใส่แว่นแล้วรู้สึกมันโล่งแปลกๆ ยังไม่ชินเท่าไหร่เลยแหะ



ผมหันซ้ายหันขวา ก้มมองสำรวจตัวเองว่ามีอะไรผิดปกติไปหรือเปล่า ทำไมถึงมีแต่คนมองผมกันนะ หรือว่าพอผมตัดผมทรงนี้ แล้วไม่ใส่แว่นมันทำให้น่าเกลียดมากกันนะถึงได้มองกันไม่หยุดเลย เลยได้แต่ก้มหน้าเอาครับ ไม่กล้าเงยหน้ามองใคร



“พี่เรน!!”



ผมสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงเรียก เงยหน้าขึ้นมอง “น้องกาย...”



คนตรงหน้าผมชะงักไปทันทีที่ผมเงยหน้าขึ้น ทำไมนิ่งไปละ อ่า... ลืมไปผมว่าตอนนี้ผมต้องน่าเกลียดมากแน่ๆ เลยจนทำให้น้องเขาชะงักไปแบบนี้



“พ พี่เรน... ตัดผมมาใหม่เหรอ”



“อือ... น่าเกลียดมากเลยใช่ไหม พวกตินาพาพี่มาตัดแถมยังเปลี่ยนให้ใส่คอนแทคเลนส์อีก พี่ไม่ชินเลย พี่ว่ามันต้องน่าเกลียดมากแน่ๆ เลยอะ”



น้องกายส่ายหน้าไปมาทันทีที่ผมพูดแบบนั้น “ม ไม่เลยครับพี่เรน พี่เรนไม่ได้น่าเกลียดเลยสักนิด ผมเคยบอกแล้วไงว่าพี่เรนน่ารักจะตายไป พอตัดผมแบบนี้ เปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์แบบนี้ น่ารักมากๆ เลยครับ”



ผมได้แต่ยกมือเกาแก้มแก้เขิน พอโดนชมแบบนี้ก็เขินๆ นะครับ แถมน้องเขายังทำหน้าตาจริงจังแบบกลัวผมไม่เชื่ออีก



งือ...



เขินอะ



เลยได้แต่ยกมือจับแก้มตัวเอง ไม่เคยรู้สึกเขินแบบนี้มาก่อนเลยครับ รู้สึกแปลกๆ จังเลย



“ข ขอบคุณนะ”







[color=#2a7286************************************************
หายไปนานเลย ขอโทษนะคะ พอดีไปเร่งจัดการกับเรื่อง My Mom ; รักของมัม น้องกันต์จัดให้ กับเรื่อง อุ้มรัก ค่ะ เรื่องนี้เลยเว้นช่วงไปนานต้องขอโทษด้วยนะคะ ปล่อยให้เรื่องนี้กลายเป็นลูกเมียน้อยไปเลย ต่อไปนี้จะพยายามมาอัพให้บ่อยขึ้นเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวยในการแต่งนิยายนะคะ ถ้าได้อ่านเรื่องอื่นของฟางด้วย หรือติดตามเพจเฟสบุ๊คก็คงรู้กันว่าฟางยุ่งมาก แล้วก็เวลาแต่งนิยายมีน้อย หวังว่าจะเข้าใจแล้วก็รอกันนะคะ อย่าเพิ่งหนีหายไปไหนนะ

มาที่เนื้อเรื่องค่ะ พี่ตินาคือฟางพี่เรนไปแปลงโฉม คือรู้เลยว่ามีแผนในใจ ฮ่าาาาา พาพี่เรนมาแปลงโฉมจนน่ารักขึ้นแบบนี้ หนุ่มๆ ก็มองเยอะขึ้นนะสิ คู่แข่งเจ้ากายคงเพิ่มขึ้นเป็นดอกเห็ด นี่คือเหตุผลที่แท้จริงของพี่ตินาใช่ไหมมมมมม นี่ตกลงสนับสนุนน้องกาย หรือผลักน้องกายออกห่างกันแน่ฟางก็เริ่มไม่แน่ใจค่ะ แต่พี่เรนของเราก็ยังคงไม่รู้เรื่องต่อไป แต่เริ่มมีพัฒนาการนะ เขินหน้าแดงเลยตอนน้องกายชมว่าน่ารัก สู้ๆ ต่อไปน้องกาย!

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

ปล. อ่านแล้วไม่เมนต์ เดี๋ยวฟางไม่อัพให้อ่านนะคะ ^^

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ เป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
[/color]

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
งือออ  พี่เรนเปลี่ยนลุคแล้ว
กายต้องปวดหัวน่าดู   :o8:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :o8: น่ารักแบบนี้ยิ่งหลงรักพี่เรนไปใหญ่

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่เรนน่ารักมาก เขินด้วยอ่ะ
งือออออออ โอ๊ยยยยย
หลงพี่เรนเลย จะแย่งจากเจ้ากายแล้วนะ  :m14:

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

ให้ตายเถอะพี่เรนโคตรจะน่ารักเลย
ตัวผมนี่แทบจะลอยได้อยู่แล้วนะ
kamin


say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 8.2 •




• • • ต่อค่ะ 100% • • •




น้องกาย

   

พระเจ้า... ได้โปรดช่วยให้ลูกช้างมีชีวิตรอดปลอดภัยจากความน่ารักของพี่เรนด้วยเถอะ



คนบ้าอะไรวะ! ทำไมน่ารักแบบนี้ อ๊ากกก ยิ่งตอนยกมือจับแก้มตัวเองแล้วหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งน่ารัก น่ารัก



ไม่รู้ว่ายืนเพ้ออยู่นานไหม แต่ให้ตายเถอะพี่เรนโคตรจะน่ารักเลย ตัวผมนี่แทบจะลอยได้อยู่แล้วนะ ปกติก็น่ารักอยู่แล้วยิ่งมาเปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์แล้วก็ยิ่งน่ารัก คนบ้าอะไรวะน่ารักชิบหายเลย



พอพี่เรนเขินหน้าแดง ผมก็ชะงักไปจนกลายเป็นว่าไม่รู้จะพูดอะไรต่อดีนอกจากยืนมองคนน่ารักเขิน มองคนเขินนานๆ ละชักจะเขินตามแล้วนะเนี่ย



“เรน” ผมมองเลยไปด้านหลังก็เห็นพวกพี่ตินาเดินออกมาจากร้าน ผมเลยทักทายพวกพี่ๆ เขาไป พวกพี่ๆ ดูจะแปลกใจไม่น้อยที่เห็นผมแต่ก็ทักทายกลับมา แล้วไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่าแต่เหมือนเห็นสายตาและรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้วางใจจากพวกพี่ๆ เขา



แล้วเหมือนสิ่งที่ผมคิดจะไม่ผิด... เมื่อพี่ใบหม่อนเดินมากอดคอพี่เรน ใช้มือบีบแก้มขาวๆ ที่ยังมีสีระเรื่ออยู่นั้นเล่น “เรนพอเปลี่ยนทรงผม ใส่คอนแทคแล้วน่ารักจริงๆ เลยนะ ดูสิ... มีคนมองกันเต็มไปหมดเลย”



พอได้ยินพี่ใบหม่อนชม พี่เรนก็หน้าแดงขึ้น แล้วพอพวกพี่ๆ เขาเห็นว่าพี่เรนกำลังเขินก็ยิ่งแกล้งแซวให้เขินหนักกว่าเดิม จนตอนนี้หน้าพี่เรนแดงก่ำไปหมด แดงจนลามไปที่ใบหูแล้วก็ลำคอแล้วครับ สองมือก็ยกขึ้นจับแก้มตัวเองเอาไว้



แล้วคือ... พี่เรนหน้าแดงแบบนี้ก็ยิ่งน่ารักไง พอน่ารักก็ยิ่งน่ามอง แล้วไม่ใช่แค่ผมที่อยากจะมอง ไอ้ผู้ชายรอบๆ ก็มอง คือหึงไงครับ หึง!



ไม่อยากให้คนมอง หึง หวง ห่วง เข้าใจไหมครับ!



แต่ทำไรไม่ได้ไง




เศร้าไปอีกไอ้กายเอ๊ย



“งือ... อย่าแกล้งเราดิ” พี่เรนส่งเสียงงุ้งงิ้งที่โดนเพื่อนๆ แซว น่ารักไปอีกคนอะไร



“น่ารักจริงๆ เลยนะเรนเนี่ย เดี๋ยววันจันทร์ไปมหา’ลัย ทุกคนต้องตะลึงแน่ๆ ดีไม่ดีหนุ่มน้อยของเราคงมีคนต่อแถวรอจีบเพียบแน่นอน” พี่ตินาพูดยิ้มๆ แล้วอะไรคือการเหล่มองผมครับ



เดี๋ยวครับเดี๋ยว... ที่พาพี่เรนมาแปลงโฉมเนี่ย ต้องการที่จะทำให้ผมลำบากขึ้นใช่ไหมครับ ไหนว่าสนับสนุนผมไง แล้วอะไรคือการทำให้ผมมีคู่แข่งเนี่ยยยยยย



“ใครจะมาจีบเราละ” พี่เรนพูดไปก็ทำปากยู่ น่ารัก อยากจะเข้าไปจับปากยื่นๆ นั่นแล้วจุ๊บๆๆๆ



“ไม่รู้สิ... อาจจะมีแต่เรนไม่รู้ตัวก็ได้นี่นะ เอาละ... วันนี้พวกฉันเสร็จภารกิจแล้ว อย่างนั้นพวกฉันกลับก่อนนะ” พี่สาพูด หันมาหาผม “อ๋อ... พอดีเลยกาย ยังไงฝากไปส่งเรนที่หอหน่อยนะ ปล่อยให้กลับคนเดียวกลัวจะหลง นี่ยังแปลกใจว่ามาถึงห้างได้ยังไงโดยไม่หลงทาง”



พี่เรนทำหน้าบึ้งเลยครับพอได้ยินพี่สาพูดแบบนั้น “เราก็ไม่ได้หลงทางบ่อยขนาดนั้นสักหน่อย แค่นั่งรถไฟฟ้าจากหน้ามหา’ลัยมาสยามแค่นี้เอง”



“จ้าๆ พ่อคนเก่ง แต่ก็กลับกับกายเขานั่นแหละตอนเย็นคนเยอะเดี๋ยวหลงไปละยุ่ง” พี่สาหันไปดึงแก้มพี่เรน เห็นแล้วอยากจะดึงบ้างครับ



“รบกวนน้องเขา น้องเขามาทำธุระอะไรยังไม่รู้เลย” พี่เรนว่าพร้อมกับขมวดคิ้ว



จริงๆ แล้วผมนัดกับพวกไอ้แชมป์มาดูหนังกันครับแล้วก็ตั้งใจว่าจะไปนั่งชิลกันต่อคืนนี้ แต่ไม่เป็นไรพี่เรนสำคัญกว่าอยู่แล้วดีไม่ดีเย็นนี้อาจจะได้กินข้าวกับพี่เรน มีความสุขกว่าไปนั่งกินข้าวกับไอ้พวกนั้นอีก



“ไม่ได้รบกวนอะไรครับ ผมมาทำธุระเสร็จนานแล้วนี่ก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวผมไปส่งพี่เรนเอง” ไม่ได้มานานแล้วหรอก เพิ่งจะเดินเข้ามาในห้างไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยครับ



“โอเค ตามนั้นนะเรน เจอกันวันจันทร์นะหนุ่มน้อย” พี่แป้งว่า พี่ๆ เขาบีบแก้มพี่เรนอีกคนละทีก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินเลี่ยงไป ตอนนี้เลยเหลือผมกับพี่เรนสองคน



“พี่เรนกินอะไรหรือยังครับ เราไปหาซื้ออะไรกลับไปกินที่หอกันดีไหม” ผมชวน ไม่ชวนกินที่ห้างหรอกครับเพราะรู้ว่าพี่เรนคงไม่ตอบตกลงเพราะคงอยากกลับไปดูแมวที่ห้อง ชวนซื้อของกลับไปกินที่หอน่าจะได้ผลกว่า



พอผมชวนแบบนั้นพี่เรนก็นิ่งคิดไปนิดก่อนจะพยักหน้ารับ “ก็ดีนะ พี่จะได้กลับไปดูหมีด้วย”



ผมยิ้มกว้างทันทีที่ได้ยินคำตอบ ก่อนจะชวนพี่เรนไปซื้อของกินกันครับ ซื้อมาหลายอย่างเลย ไม่เน้นอาหารจานหลักแต่เน้นของกินเล่นหลายๆ อย่าง มีทั้งหมึกทอด ไก่ทอด ทาโกะยากิ ลูกชิ้น



พอได้ของกินเป็นที่พอใจก็พากันกลับครับ เลือกที่จะนั่งรถแท็กซี่กลับกันเพราะของกินหลายอย่างเกรงใจคนบนบีทีเอสครับ เดี๋ยวจะหิวกันหมด ผมส่งข้อความไปบอกเพื่อนๆ ว่าผมไม่ไปดูหนังกับพวกมันแล้วเพราะเจอพี่เรน กำลังจะกลับหอ โดนพวกมันถล่มข้อความมาด่าเพียบครับ แต่วินาทีนี้ไม่สนอะไรทั้งนั้นละครับ มีโอกาสได้อยู่กับพี่เรนสองต่อสองทั้งที



แต่จะว่าไป… ก็อดแปลกใจกับพวกพี่ตินาไม่ได้ว่าทำไมอยู่ๆ ถึงปล่อยให้พี่เรนกลับมากับผมได้



ตลอดทางจากห้างกลับไปหอ จนกระทั่งเข้ามาในห้องของพี่เรนแล้วเรียบร้อย เทอาหารทุกอย่างใส่จานแล้วผมก็ยังละสายตาไปจากพี่เรนไม่ได้เลยครับ



ผมรู้นานแล้วว่าพี่เรนเป็นคนน่ารักมากเพราะส่องพี่เขาอยู่ทุกวัน ขนาดผมยาวปิดหน้าปิดตาผมก็ยังเห็นว่าน่ารัก ตอนนี้ไม่มีผมมาปิดหน้า ไม่มีแว่นมาบังก็ยิ่งทำให้พี่เรนน่ารักเข้าไปใหญ่



หน้าขาวๆ เรียวๆ แต่แก้มป่องๆ ตากลมโตอย่างกับตากวาง ไหนจะจมูกโด่ง ยังไม่รวมปากสีชมพูแบบไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายจะมีปากสีนี้ได้ คือ… โคตรของโคตรน่ารักเลยครับ



“ม มองหน้าพี่ทำไมนัก” พี่เรยถาม แก้มขาวๆ เริ่มจะขึ้นสีนิดๆ เพราะผมไม่ละสายตาไปไหนเลย



“พี่เรนน่ารัก น่ารักชะมัดเลย” ผมพูดอย่างเพ้อ ธรรมดาจะเคยเห็นเวลาไม่ใส่แว่น มัดผมจุกน้ำพุโชว์หน้าเต็มๆ ก็แค่ไกลๆ วันนี้คือได้เห็นอย่างใกล้ชิดมันก็เลยอดใจไม่ไหวครับ มองไม่เลิก



คนโดนชมหน้าแดงวาบขึ้นมาทันทีก่อนจะก้มหน้าก้มตาหลบสายตาผมแล้วจิ้มปลาหมึกทอดเข้าปากเคี้ยวหมุบหมับไม่หยุด



เฮ้อ… คนอะไรน่ารักชะมัดเลย



ผมนั่งค้าวทางมองพี่เรนจิ้มของกินเข้าปากแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดี วันนี้นี่มีความสุขจริงๆ เลยนะ



“กินยังไงของพี่ เลอะแล้วเนี่ย” ผมว่า ยื่นมือไปเช็ดมุมปากที่เปื้อนซอส



“ง่า… อ่า… ข ขอบคุณนะ” หน้าแดงอีกแล้ว น่ารักว่ะ “ก กายกินสิ ซื้อมาตั้งเยอะ ช่วยกันกินเลยนะ”



ผมหัวเราะนิดก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วก้มหน้าก้มตาช่วยพี่เรนจัดการของกินตรงหน้า “ครับๆ จะช่วยกินเดี๋ยวนี้แหละ”



ไม่ใช่อะไร… แต่หน้าตาจริงจังเหมือนจะบังคับนิดๆ ของพี่เรนตอนบอกว่าให้ช่วยกันกินมันน่ารักมากจนใจสั่น ทนมองไม่ไหวครับเลยต้องรีบก้มหลบ



ผมเถลไถลอยู่ห้องพี่เรนอีกพักใหญ่ๆ จนฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีผมถึงได้ขอตัวกลับก่อนทั้งๆ ที่ในใจก็ไม่ได้อยากจะกลับสักเท่าไหร่ ซึ่งหลังจากที่กินข้าวกันเสร็จผมก็แกล้งพูดเรื่องที่จะให้พี่เรนมาเป็นนายแบบให้ผมอีกรอบ ถึงแม้พี่เรนจะยังปฏิเสธอยู่แต่ก็ดูไม่ได้จริงจังมากนัก คงเพราะด้วยนิสัยขี้เกรงใจของพี่เขา ไม่กล้าเอ่ยปฏิเสธตรงๆ ก็เลยได้แต่ส่ายหน้าไปมาจนผมสะบัดไปมา เห็นแล้วน่าจับมาฟัดชะมัด



เหมือนจะนอกเรื่อง...



“ยังไงพี่เรนลองเอาเรื่องที่ผมบอกไปคิดๆ ดูก่อนก็ได้ แต่ผมยืนยันนะครับว่าพี่เรนเหมาะจะเป็นนายแบบให้ผมจริงๆ”



“อ่า... พี่จะลองไปคิดดูแล้วกันนะ” พี่เรนที่อุ้มแมวอยู่พูดกับผม



“โอเคครับ เอาไว้เจอกันใหม่ครับ ไปแล้วนะหมี” ผมพูดกับพี่เรน ก่อนจะยื่นมือไปเล่นเจ้าหมี แมวของพี่เรนอีกทีแล้วจึงผละออก ยกมือโบกให้พี่เรน “ฝันดีนะครับพี่เรน”



“อือ! ฝันดีนะ” พี่เรนยิ้มน่ารักมาให้ จับขาหน้าเจ้าหมีขึ้นโบกให้ผมอีกต่างหาก



ผมได้แต่ยิ้มแล้วก็พยักหน้ารับก่อนจะเดินออกจากห้องพี่เรน และเมื่อปิดประตูห้องพี่เขาแล้วผมก็ได้แต่ยืนพิงผนังอยู่ตรงนั้น หันไปมองประตูห้องที่ปิดสนิทแต่ก็ยังพอได้ยินเสียงคนในห้องดังลอดออกมา



เพียงแค่นี้ข้างในอกมันก็พองจนคับแน่นไปหมดแล้ว







วันที่ผมและเพื่อนร่วมคณะแทบทุกคนไม่อยากให้มาถึง... แต่ในที่สุดมันก็มาถึงจนได้ครับ วันพรีเซนต์งานครั้งที่หนึ่งครับ ตื่นเต้นไหมก็ตื่นเต้นอยู่นะ แต่ผมก็เตรียมตัวมาพร้อมแล้วเหมือนกัน



ผมกับเพื่อนในกลุ่มถือฟิวเจอร์บอร์ดคนละหลายแผ่นเดินเข้าไปในห้องเรียนที่จะใช้ในการพรีเซนต์วันนี้ ฟิวเจอร์บอร์ดที่เราถือๆ กันมาคือสิ่งที่จะเอาไว้พรีเซนต์ครับ ทุกคนจะล้างรูปของตัวเองมาแล้วก็แปะใส่ฟิวเจอร์บอร์ด ซึ่งพวกนี้เอาไว้ให้อาจารย์ดูครับ ส่วนเวลาพรีเซนต์จริงๆ ก็ฉายสไลด์เอาในคอม แต่เพื่อป้องกันสีเพี้ยนอาจารย์ก็เลยให้ล้างรูปออกมาด้วยเลย



“ตกลงมึงได้รูปพี่เรนมาแล้วเหรอวะ” ไอ้เกลียวหันมาถามผม ตอนนี้พวกเรากำลังรอเวลาอยู่ครับ รออาจารย์มานั่นแหละ



ทุกคนพรีเซนต์ห้องเดียวกันหมด แถมอาจารย์ที่มาฟังดูจากจำนวนแฟ้มคะแนนที่วางอยู่ที่แถวหน้าของโต๊ะแล้ว... หกคนได้



“ก็ได้มาบ้างแต่กูไปแอบถ่ายมา พี่เรนยังไม่ยอมตกลงเป็นนายแบบให้กูเลย กูเลยมีแต่ภาพแอบถ่ายว่ะ” ผมพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก อย่างที่เคยบอกถึงแม้จะเรียกว่าพรีเซนต์งานแต่คะแนนก็ไม่ได้เยอะมากเพราะสุดท้ายวัดกันที่วันจัดนิทรรศการมากกว่า คะแนนคราวนี้อาจารย์เขาจะดูแค่ว่าแต่ละคนทำงานคืบหน้าบ้างไหม ใส่ใจกับงานแค่ไหน ยังไม่เน้นความสวยงามของรูปหรอกครับ เพราะจะถ่ายรูปออกมาให้สวย โดนใจเลยมันต้องรอทั้งจังหวะ โอกาส แล้วก็ดวงด้วย



“เออๆ อย่างมึงเอาตัวรอดได้สบายๆ อยู่แล้ว แถเก่งจนสีข้างถลอกเป็นแผ่นๆ อยู่แล้วนี่นะ กูไม่ห่วงมึงละ” ไอ้เป้ครับ ไอ้เป้ มันหันมากระแหนะกระแหนผมก่อนจะหันไปหาไอ้ไม้ที่นั่งเคี้ยวมาม่าแห้งตุ้ยๆ เห็นแล้วน่าตบกะโหลก “ว่าแต่มึงถึงไอ้ไม้ ความอยู่รอดของมึงนี่ตกลงยังไงวะ”



ไอ้ไม้หันมายักคิ้วจึกสองจึกให้ แต่ก็ไม่ขยายความอะไรมากกว่านั้นจนไอ้เป้หันไปตบหัวมันเพราะหมั่นไส้



“ตกลงว่ายังไงมึง ยังเอามาม่าอยู่ไหมเนี่ย” ผมหันไปถามมันบ้าง เพราะไอ้ไม้เป็นคนเดียวที่มันไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรเลย นอกจากมันบอกว่าสบายมากๆ แล้วก็เห็นมันถ่ายรูปควันที่ลอยอยู่บนถ้วยใส่มาม่าแค่นั้นแหละครับ



“เออน่า สบายมากไม่ต้องห่วงหรอก ไม่เชื่อเดี๋ยวพวกมึงคอยดูตอนกูพรีเซนต์ละกัน”



พอได้ยินมันพูดแบบนั้นพวกผมก็ขี้เกียจจะสนใจมันต่อครับ อีกอย่างอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องพอดีด้วย เราก็เลยหยุดพูดกันชั่วคราวแล้วเปลี่ยนมานั่งฟังเพื่อนๆ พรีเซนต์กันแทน



พวกผมเป็นพวกท้ายๆ ครับ เวลาพรีเซนต์ก็จะขึ้นแทบจะกลุ่มสุดท้ายเลย ระหว่างรอก็ฟังไปบ้าง เล่นเกมบ้าง หลับบ้าง คอมเมนต์ของอาจารย์คนไหนน่าสนใจ แล้วตรงกับงานของตัวเองก็หัวตั้งหูกระดิกฟังกันครับ เสร็จก็กลับไปสู่โลกส่วนตัวของตัวเองกันต่อ



มีหลายคนที่คอนเซ็ปคล้ายๆ กันไปจนถึงคอนเซ็ปเดียวกันเลยก็มี แต่ถึงอย่างนั้นภาพของแต่ละคนที่ถ่ายมาก็แตกต่างกัน เพราะเป็นผลงาน เป็นความคิดของแต่ละคน ผมชอบของเพื่อนคนหนึ่งนะ คอนเซ็ปของเขาคือแสงและเงา



ภาพที่ถ่ายออกมาแม้จะยังไม่สมบูรณ์แต่ก็สวยมาก มีเพียงแค่สีขาว เทา แล้วก็ดำ ภาพเป็นเพียงแค่เงาแต่ก็สื่ออารมณ์ได้ดีในแต่ละภาพ อย่างภาพที่ต้องการสื่อถึงความพลิ้วไหวก็ถ่ายออกมาได้ดีเลยครับทั้งๆ ที่ใช้โทนสีแค่สามสี เป็นภาพของเงาผ้าม่านที่ตกกระทบกับพื้นห้อง ทั้งๆ ที่ใช้สีเพียงแค่สามสีแต่ก็สามารถรับรู้ได้เลยว่าผ้าม่านที่ติดหน้าต่างนั้นเป็นผ้าบางเบา และมันกำลังพลิ้วไหวอยู่เพราะต้องลมที่พัดผ่านช่องหน้าต่างมาพอดี จนเห็นเป็นภาพผ้าม่านกำลังโบกสะบัดอยู่



ให้ความรู้สึกพลิ้วไหวปนๆ ไปกับความลึกลับและน่าค้นหา



เพื่อนๆ ในชั้นยังคงทยอยพรีเซนต์กันไปเรื่อยๆ ได้รับคำชม คำแนะนำไปก็เยอะ แต่เพราะในชั้นผมคนค่อนข้างเยอะแล้วแต่ละคนใช้เวลาพรีเซนต์นานเลยต้องพักกินข้าวกันก่อน แล้วเริ่มพรีเซนต์อีกทีตอนบ่ายโมง กว่าพวกผมจะได้พรีเซนต์ก็คงเย็นพอดี



ไอ้ไม้เป็นคนแรกของกลุ่มผมครับ มันส่งฟิวเจอร์บอร์ดที่ติดรูปให้อาจารย์สองชุด



“คอนเซ็ปของผมคือความอยู่รอดครับ ตอนแรกผมตั้งใจจะใช้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นตัวสื่อในความอยู่รอดของผม” ไอ้ไม้เริ่มพูดพร้อมกับเปิดรูปที่มันถ่ายเอาไว้ด้วย คือไอ้นี่มันเก่งนะครับ ถ่ายรูปโคตรเก่งอะ



แค่ถ่ายรูปบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่มันถ่ายออกมาได้โคตรน่ากิน น่าอร่อย ยิ่งตอนที่มันโฟกัสควันที่ลอยขึ้นมา สีเข้มๆ ของน้ำซุปที่ตัดกับสีของเส้น



มันก็บรรยายของมันไป ก่อนที่ภาพมาม่าของมันจะเปลี่ยนเป็นภาพของหมาที่ตัวหนึ่งกำลังวิ่งไล่ อีกตัวหนึ่งกำลังวิ่งหนี



“ตอนที่ผมกำลังเดินกลับหอ ผมก็เห็นหมาสองตัวนี้วิ่งไล่กันจนผมนึกขึ้นมาว่าทำไมต้องวิ่งหนี อ่อ… เพราะถ้าไม่หนีมันก็อาจจะโดนกัด มันคือสัญชาติญาณการเอาตัวรอด ผมก็เลยเปลี่ยนความหมายของคอนเซ็ปของผมใหม่ครับ แต่คอนเซ็ปหลักๆ ก็ยังคงเป็นความอยู่รอดเหมือนเดิม”



ไอ้ไม้พรีเซนต์เสร็จแล้วครับ พอมันเดินกลับมาถึงก็จัดการโบกหัวมันไปคนละทีเพราะหมั่นไส้กับท่าทางของมันครับ



พอจบไอ้ไม้ คนอื่นในกลุ่มก็เดินลงไปพรีเซนต์ต่อ ส่วนผมคนสุดท้ายต่อจากไอ้เกลียวครับ



พอใกล้ถึงคิวจริงๆ ก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นนะครับทั้งๆ ที่ก็พรีเซนต์มาหลายรอบแล้ว



“มึงๆ มึงว่ากูเอารูปพี่เรนออกดีไหมวะ กูชักหวงพี่เรนแล้วว่ะไม่อยากให้คนอื่นเห็นรูป” ผมหันไปถามไอ้พวกนั้น



แล้วทำไมต้องมองผมแบบนั้นด้วยวะ ก็ผมพูดเรื่องจริงอะ ผมหวงพี่เรนนะโว้ยยย



“ทำไมวะ พี่เรนของกูออกจะน่ารัก เออ! พวกมึงยังไม่เห็นละสิพี่เรนกูเปลี่ยนลุคแล้วนะโว้ยโคตรจะน่ารักเลย”



“เห็นแล้ว” พวกมันพูดออกมาพร้อมกันจนผมนี่ได้แต่อ้าปากค้าง มันไปเห็นตอนไหนวะ



“พวกมึงเห็นได้ไงวะ!”



“กูเห็นรูปพี่เรนในเฟส” ไอ้เป้พูดก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดๆ อยู่แล้วก็ส่งมาให้ผมพร้อมทำหน้าเบื่อหน่าย “กูโคตรจะหมั่นไส้พวกผู้หญิงในนี้เลยว่ะ พอเห็นพี่เรนหน้าตาดีหน่อยก็กรี๊ดกร๊าดๆ คราวก่อนยังว่าพี่เรนอยู่เลยเรื่องรูปมึงกับพี่เรนน่ะ”



ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยเพราะยังไม่ได้เข้าไปส่องเฟสบุ๊คเลยครับวันนี้ เลยได้แต่คว้าโทรศัพท์ของไอ้เป้มาดู มันเปิดหน้าเพจคิ้วบอยของมหา’ลัยเอาไว้ หน้าเพจอัพเดทล่าสุดเมื่อเช้าเป็นภาพของพี่เรนที่กำลังเดินถือกระดานวาดรูปตรงไปที่ตึกคณะ มีเขียนบรรยายเอาไว้ทำนองว่า คิ้วบอยคนใหม่ปรากฏตัว น่ารักมาก แล้วก็กรี๊ดกร๊าดๆ



มีคนมาบอกว่าเป็นพี่เรน คนที่อยู่ในภาพกับผมที่เพจนี้เคยลงเอาไว้ แล้วก็มีคนมาคอมเมนต์ชมกันใหญ่ คนที่เคยว่าพี่เรนก็มาชมว่าน่ารักอย่างนู้นอย่างนี้ เห็นแล้วก็น่าหมั่นไส้อย่างที่ไอ้เป้บอกจริงๆ นั่นแหละครับ



“แต่กูว่านะ พี่เรนเปลี่ยนลุคแบบนี้แล้วมึงต้องรีบทำคะแนน เดินหน้าจีบจริงจังได้แล้วว่ะ จำที่พวกกูเคยบอกได้ไหม” ไอ้แม็คชะโงกหน้ามาพูดกับผม “ผมเห็นความน่ารักของพี่เรนก็ใช่ว่าคนอื่นจะไม่เห็น แล้วยิ่งตอนนี้พี่เรนโคตรน่ารัก ไอ้พวกหนุ่มๆ หน้าหม้อแม่งเข้ามาจีบพี่เรนแน่ๆ เลย แล้วอย่างพี่เรนจะไปตามไอ้พวกนั้นทันได้ยังไง พวกนั้นมันไม่ได้รักจริงอยู่แล้ว แม่งหลอกฟันทั้งนั้น ถ้ามึงไม่รีบระวังพี่เรนจะโดนคาบไปนะมึง”



ผมคิดตามที่ไอ้แม็คพูด สิ่งที่มันพูดก็เรื่องจริงทั้งนั้นแบบนี้ผมต้องรีบเดินหน้าจีบพี่เรนอย่างจริงจังได้แล้วละครับ จะมาเขิน มาอาย ทำเป็นเล่นๆ ไม่ได้แล้ว



“ตอนกูพรีเซนต์ กูวานไรพวกมึงหน่อยสิ...” ผมหันไปพูดกับพวกมัน ก่อนจะหยิบเอาฟิวเจอร์บอร์ดที่ติดรูปเอาไว้มาถือแล้วเดินลงไปด้านหน้าของห้องเพื่อเตรียมขึ้นพรีเซนต์ต่อ



หลังจากไอ้เกลียวเดินกลับไปนั่งที่แล้ว ผมก็เดินเอารูปไปให้อาจารย์แล้วก็เตรียมสไลด์สำหรับพรีเซนต์ ภาพแรกของผมเป็นภาพน้ำฝนที่ตกลงพื้นบนน้ำที่เจิ่งนอง จนเห็นเป็นวงน้ำขยายเป็นรูปวงกลม แล้วก็มีตัวอักษรภาษาเกาหลีที่ผมปรับตัวอักษรให้แทบจะกลืนไปกับภาพ แต่ก็ยังมองเห็นว่าเป็นตัวหนังสือ



“คอนเซ็ปของผมคือ พิ (비) ครับ พิ (비) เป็นภาษาเกาหลีแปลว่าฝน ส่วนถ้าถามว่าทำไมผมไม่ใช้ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ก็เพราะสองภาษานี้เป็นภาษาที่คนอ่านและสามารถตีความไปได้เลย ส่วนภาษาอื่นผมก็ลองหาดูแล้ว แต่เส้นสายของตัวอักษรคำว่าฝนในแต่ละภาษาค่อนข้างเยอะ ฝนเป็นคำง่ายๆ ที่หลายคนมักจะชอบตีความหมายไปเอง ซึ่งจริงๆ แล้วมันอาจจะมีความหมายอื่นแฝงอยู่อีก ผมเลยเลือกใช้ภาษาเกาหลีเพราะว่าเป็นภาษาที่ใช้เส้นในการเขียนน้อย เหมือนเป็นคำง่ายๆ แต่ถ้าคนเขียนไม่เป็นก็ไม่สามารถเขียนได้ ก็เหมือนกับความหมายของฝนที่ถ้าไม่มองลึกลงไป ก็จะตีความเพียงแค่อย่างเดียว”



ผมเริ่มอธิบายคอนเซ็ปของผม “ถ้าถามหลายคนในห้องนี้ว่านึกถึงฝน จะนึกถึงความรู้สึกอะไร ผมเชื่อว่าหลายคนจะบอกว่า รู้สึกเศร้า เหงา โดดเดี่ยว ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลยครับ ฝนก็เป็นเพียงแค่น้ำที่หยดลงมาจากฟ้า ไม่ใช่น้ำตาของนางฟ้าหรือเทวดา เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ใช่แค่สื่อถึงความเศร้า ความเหงาเท่านั้น”



ผมกดเปลี่ยนรูปไปเรื่อยๆ พร้อมกับทั้งอธิบายความหมายของแต่ละรูป มีทั้งรูปตอนที่ฝนตกแต่แดดแรงมาก รูปที่แสงแดดส่องผ่านใบไม้จากต้นไม้ใหญ่ลงมากระทบพื้นจนเกิดเป็นเส้นแสงชัดเจน



“ฝนไม่ใช่ตัวแทนของคำว่าความเศร้า แต่มันยังเป็นตัวแทนของความเด็ดเดี่ยว ความอ่อนโยนด้วยเช่นกัน”







“ไอ้กาย ที่มึงขอกูเมื่อวานตอนจะพรีเซนต์อะ กูจัดการให้แล้วนะ” ไอ้เป้พูด พร้อมกับส่งโทรศัพท์มือถือของมันมาให้ผมดู



หน้าจอโทรศัพท์แสดงหน้าเพจคิ้วบอยเอาไว้ และรูปแรกที่ขึ้นก็เป็นรูปของผมตอนพรีเซนต์งานอยู่ที่หน้าห้อง โดยมีภาพด้านหลังเป็นจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ และบนเจอนั้นก็เป็นภาพครึ่งหน้าของพี่เรน ที่กำลังมองสายฝนที่โปรยปรายลงมาพร้อมกับยิ้ม เป็นภาพที่ผมแอบถ่ายเอาไว้และใช้มันเป็นภาพในการพรีเซนต์เมื่อวานนี้



“แบบนี้เขาเรียกว่าหมาหวงก้างหรือเปล่าวะ” ไอ้แม็คพูดพร้อมกับยิ้ม



ผมไม่ได้ตอบอะไรนอกจากยิ้มกลับไปเท่านั้น ในเมื่อผมเองก็กังวลว่าอาจจะมีคนมาชอบ มาจีบพี่เรน ผมก็แค่ประกาศตัวเอาไว้ก่อนว่าคนนี้ผมจองนะก็เท่านั้นเอง ผมก็แค่บอกให้ไอ้เป้ถ่ายรูปผมตอนกำลังพรีเซนต์งานอยู่ ให้ถ่ายตอนที่เปิดรูปพี่เรนพอดี แล้วก็ส่งรูปไปให้แอดมินเพจพร้อมประโยคอีกประโยคสองประโยค



“แต่แม่งโคตรจะเลี่ยนเลยว่ะ” ไอ้เกลียวทำท่าเหมือนคนพะอืดพะอมอยากจะอาเจียน เห็นแล้วน่าถีบมาก



“เลี่ยนอะไรของมึง” ตอนนี้ไม่สนใจอะไรหรอกครับ พวกมันจะพูดอะไรก็ช่าง เพราะผมสนใจประโยคที่แอดมินเพจคิ้วบอยเขียนเอาไว้มากกว่า เขียนตามที่ผมต้องการทุกอย่าง



RAIN… IS MY HAPPINESS



ฝน... คือความสุขของผม ที่ตีความหมายได้ทั้งสองอย่าง คือฝนที่สื่ออารมณ์ถึงความสุข เป็นไปตามคอนเซ็ปในงานของผม และอีกความหมายคือ... คนในภาพ



พี่เรน... คือความสุขของผม







           กาย คามิน @Guy_Kamin
           Rain… is my happiness #คนน่ารัก








************************************************
กลับมาแล้วค่ะ มาต่อจนครบ 100% แล้วนะ นี่คือปั่นเสร็จแบบสดๆ ร้อนๆ เลยค่ะ แล้วก็รีบเอามาอัพ คือเรื่องนี้ช่างเข้ากับช่วงนี้จริงๆ ฝนตกแล้วตกอีก จนแบบ... เลิกตกบ้างก็ได้! เจอทั้งรถติด น้ำขัง โอ๊ย... พอ เข้าเนื้อเรื่องดีกว่า

เหมือนจะไม่มีอะไรเนอะครึ่งหลังแต่มีจ้า น้องกายเริ่มรุกอย่างจริงจัง แล้วไม่ใช่แค่รุกเดินหน้าจีบพี่เรนนะ นี่ประกาศตัวเลยจ้าว่าพี่เรนของกายนะ โอ๊ยยย คือพิมพ์ไปสะดุ้งไปเพราะฟ้าแรงมาก อยากจะคุยมากกว่านี้แต่ก็กลัวฟ้าจ้า ขอพักการคุยเอาไว้เท่านี้นะคะ ตอนหน้าจะมาคุยใหม่ อ่านให้สนุกค่ะ ไปละจ้าาาาาาาา

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

ปล. อ่านแล้วไม่เมนต์ เดี๋ยวฟางไม่อัพให้อ่านนะคะ ^^

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
งืออออออออ พี่เรนน่ารักอีกแล้ว เปลี่ยนลุคตามชื่อเรื่องแล้ว
รอเจ้าตัวรู้ตัวสักทีว่ามีคนแอบรัก  :m1:
เจ้ากายก็ไม่เบา แกเล่นประกาศแบบนี้เลย รอดูผลที่จะตามมา   :hao3:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
คิดถึงน้องกายกับพี่เรนจริง อยากเห็นตอนพี่เรนยอมเป็นนายแบบเร็วๆจัง   :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด