พิมพ์หน้านี้ - • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: fangiily ที่ 27-10-2015 21:30:05

หัวข้อ: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 27-10-2015 21:30:05
ส่วนที่เอาไปแปะไว้ที่กระทู้ก่อนลงนิยาย อยู่ในระหว่างเส้น *** นะคะ (ข้อ 1-18 ก๊อปเฉพาะหัวข้อที่ทำตัวทึบไว้ก็ได้
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0)

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com)  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ



(https://scontent.fbkk12-2.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/40591902_1789629134418615_573619197645422592_o.jpg?_nc_cat=0&oh=3b076b069d48da7e6c0f5ac0d171edcb&oe=5C25D35B)


แจ้งอัปเดตหนังสือ
“Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก”

สวัสดีค่ะ วันนี้ฟางขอมาอัปเดตสถานะของหนังสือนิยายเรื่องนี้กันสักหน่อยนะคะ
สำหรับนิยาย #น้องกายหลงฝน รวมเล่มกับทาง สนพ. Hermit Book นะคะตามที่เคยแจ้งเอาไว้
และวันนี้สามารถสั่งจองนิยายเรื่องนี้ได้แล้วทางหน้าเว็บไซต์ของ สนพ. ค่ะ
>> http://bit.ly/2CoyNDw (http://bit.ly/2CoyNDw) <<

กดสั่งซื้อหนังสือสำหรับช่องทางไปรษณีย์ค่ะ

สำหรับคนที่อยากได้หนังสือแบบรวดเร็วทันใจ
งาน Gen Y ที่จะถึงนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน 2561
ตั้งแต่เวลา 10:00 – 15:00 น.
ณ หอประชุมกลางน้ำ แหล่งสมาคมนายทหาร
กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (สนามเป้า)

สามารถไปพา น้องกายกับพี่เรน กลับบ้านได้นะคะ

ราคาพิเศษตอนนี้อยู่ที่ 310 บาท จากราคาปกติ 350 บาท
ของแถม ที่คั่นหนังสือ โปสการ์ด
การ์ตูนแก๊กจิบิแทรกในเล่มค่ะ










(http://image.free.in.th/v/2013/ia/151027022639.jpg)



• • • • • • • • • •


(http://image.free.in.th/v/2013/ic/151027022807.jpg)

กาย คามิน (Guy_Kamin)

• หมอนั่น...เอ๋อชัดๆ แต่ทำไมมันน่ารักจังวะ จะทำอะไรก็น่ารักไปหมด •

• ขนาดแม่งเดินชนประตูมันยังน่ารักเลย •



(http://i.imgur.com/wRfopUe.jpg)

เรน (Rain)

• อ๋า... น้องนั่นเอง •

• งือออ... เยลลี่หมดแล้วอ่ะ... •


• • • • • • • • • •


สวัสดีค่ะทุกคน เจอกันอีกแล้ว เจอกันบ่อยเนอะเดี๋ยวนี้

ฟาง เองเจ้าค่ะ คงเจอกันจนจำได้แล้วละเนอะ

วันนี้มาพร้อมกับนิยายเรื่องใหม่ค่ะ Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก

ใครจะเปลี่ยนลุค ใครจะได้รักอันนี้ไปติดตามกันในเนื้อเรื่องนะคะ

คอยเป็นกำลังใจให้ฟางด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^^

เข้าไปพูดคุยกันได้ในเฟสบุ๊คนะคะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi



• • • • • • • • • •


นิยายของฟาง

อุ่นไอรัก ❤ (http://bit.ly/2BZysUp) THE END

My Mom ; รักของมัม น้องกันต์จัดให้ (http://bit.ly/2C4ufz4) THE END

❤… อุ้มรัก ...❤ #Mpreg (http://bit.ly/2SDJDtg) THE END

❤… อุ้มรัก ' S ...❤ (http://bit.ly/2Rxogwd) THE END

• Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • (http://bit.ly/2sae1zJ) THE END

♡ Faculty of Love . 1 My Dear ; รักของผม ผมจัดเอง ♡ (http://bit.ly/2C0Mkh7) THE END



• • • • • • • • • •



•Lucky1.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3247439#msg3247439)      •Lucky1.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3258911#msg3258911)      •Lucky2.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3267817#msg3267817)      •Lucky2.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3280896#msg3280896)
•Lucky3.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3319484#msg3319484)      •Lucky3.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3350741#msg3350741)      •Lucky4.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3356282#msg3356282)      •Lucky4.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3366088#msg3366088)
•Lucky5.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3370538#msg3370538)      •Lucky5.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3375672#msg3375672)      •Lucky6.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3380606#msg3380606)      •Lucky6.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3387208#msg3387208)
•Lucky7.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3392370#msg3392370)      •Lucky7.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3402358#msg3402358)      •Lucky8.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3458841#msg3458841)      •Lucky8.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3476365#msg3476365)
•Lucky9.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3488968#msg3488968)      •Lucky9.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3499827#msg3499827)      •Lucky10.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3508619#msg3508619)      •Lucky10.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3513602#msg3513602)
•Lucky11.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3519556#msg3519556)      •Lucky11.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3525951#msg3525951)      •Lucky12.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3538109#msg3538109)      •Lucky12.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3548697#msg3548697)
•Lucky13.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3564529#msg3564529)      •Lucky13.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3571457#msg3571457)      •Lucky14.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3580557#msg3580557)      •Lucky14.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3586642#msg3586642)
•Lucky15.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3593440#msg3593440)      •Lucky15.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3608852#msg3608852)      •Lucky16.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3616474#msg3616474)      •Lucky16.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3623818#msg3623818)
•Lucky17.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3632841#msg3632841)      •Lucky17.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3645544#msg3645544)      •Lucky18.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3666040#msg3666040)      •Lucky18.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3671216#msg3671216)
•Lucky19.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3676351#msg3676351)      •Lucky19.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3683403#msg3683403)      •Lucky20.1• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3686843#msg3686843)      •Lucky20.2• (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49625.msg3690481#msg3690481)

≡≡ END ≡≡



หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l โชคครั้งที่ • 0 • l P.1 29-01-58
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 29-10-2015 13:36:10
(http://image.free.in.th/v/2013/ib/151029064138.jpg)




โชคครั้งที่ • 0 •



เมี๊ยวววว~~


เมี๊ยวววว~~


เสียงแมวร้องดังลั่นในเย็นวันหนึ่งที่สายฝนกระหน่ำเทลงมาจากฟ้าแบบไม่เกรงใจผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาเลยสักนิด ร่างสูงที่กำร่มในมือแน่นพร้อมกับเดินผ่านบริเวณที่มีเสียงร้องของแมวก็หยุดชะงัก พยายามหันมองซ้ายมองขวาหาแหล่งกำเนิดเสียงว่าเจ้าแมวนี้อยู่ตรงไหน แต่ก่อนที่จะได้เดินตรงไปยังแหล่งที่มาของเสียงก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีใครอีกคนก้าวเท้าไวๆ ตรงไปที่เก้าอี้หินอ่อนพร้อมกับก้มลงมองใต้เก้าอี้นั้น


มือขาวเอื้อมไปดึงกล่องลังกระดาษออกจากใต้เก้าอี้ก่อนที่ลูกแมวสีขาวที่เนื้อตัวมอมแมมจะโผล่หน้าออกมาแล้วร้องเหมียวเหมือนจะอ้อนให้คนมองยิ้มออก


"ว่าไงเจ้าเหมียว"


ใครเดินผ่านไปผ่านมาคงมองแปลกๆ เพราะตอนนี้ฝนยังคงกระหน่ำเทลงมาไม่หยุดแต่ผู้ชายคนนี้กลับนั่งตากฝนอุ้มลูกแมวตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนเสียจนตัวเปียกปอนไปหมด


"ใครเอาแกมาปล่อยไว้ตรงนี้นะ หนาวใช่ไหมเจ้าตัวเล็ก โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ" เสียงทุ่มๆ ที่น่าฟังออกมาจากริมฝีปากที่เริ่มซีดเพราะอากาศหนาวของคนที่นั่งยองๆ ตากฝนนั้น มือก็ลูบขนแมวที่เปียกลู่ไปหมด


"กลับห้องกันนะเจ้าเหมียว" เขาว่าพร้อมกับอุ้มเจ้าลูกแมวตัวนั้นแล้ววิ่งฝ่าสายฝนไป ให้คนที่ยืนมองอยู่ตลอดหันมองตาม


กล้องที่ถูกถือเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวลงระดับลงพร้อมรอยยิ้มที่ปรากฏบนมุมปาก ก่อนที่เจ้าของกล้องจะก้มลงดูภาพที่เพิ่งถ่ายมา ภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งตัวเปียกฝนแล้วอุ้มลูกแมวออกจากกล่องลังใบหนึ่ง


"ชิท! กล้องอย่าเปียกนะโว้ย" เจ้าตัวโวยวายออกมาเบาๆ เมื่อลมพัดเอาสายฝนสาดเข้ามาในร่มจนต้องรีบสอดกล้องเข้าไปใต้เสื้อแล้วจึงเริ่มออกวิ่งบ้างก่อนที่ทั้งตัวเขาและกล้องถ่ายรูปสุดที่รักจะเปียกฝนกันไปมากกว่านี้










"เจ้าเหมียวอยู่เฉยๆ สิเปียกหมดแล้วนะ" เสียงทุ้มนุ่มร้องบอกเจ้าตัวเล็กที่ดิ้นไปดิ้นมาอยู่ในกะละมังเพราะเจ้าของเสียงกำลังจะอาบน้ำให้เจ้าแมวเหมียวที่เนื้อตัวมอมแมมไปหมด


โชคดีที่ทางหอพักที่เขาอยู่เจ้าของอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ เพราะฉะนั้นหอนี้ทั้งหอจึงเต็มไปด้วยนักศึกษาที่เลี้ยงสัตว์ แล้วก็บรรดาคนที่ชอบสัตว์แต่ไม่ได้เลี้ยง เขาก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะแมวแต่ก็ไม่ได้เลี้ยงเพราะคนที่บ้านห้ามเลี้ยง ไม่ใช่ว่าที่บ้านไม่ชอบหรอกแต่…


กลัวว่าเขาจะเลี้ยงไม่ไหว


"บรื๋อ… ทำไมหนาวแบบนี้นะ" เจ้าตัวว่าพร้อมกับตัวสั่นน้อยๆ เมื่อลมเย็นๆ พัดผ่านมาที่ระเบียงก่อนจะก้มลงมองตัวเอง "อ๋อ... เปียกฝนอยู่นี่นะ ถึงว่าทำไมหนาว นี่เจ้าเหมียวอยู่นิ่งๆ สิเราเปียกฝนอยู่เนี่ยเห็นไหม หนาวมากแล้วด้วยรีบๆ อาบน้ำจะได้เสร็จๆ ไง"


แล้วเหมือนคำนั้นจะยอมทำให้เจ้าแมวเหมียวที่ร้องหง๊าวๆ หยุดดิ้นเงยหน้าขึ้นให้ดวงตากลมโตแป๋วๆ นั้นมองมาที่เขาแล้วเอียงคอนิดๆ ถ้าหากแมวมันพูดได้มันก็คงบอกว่า…


แล้วทำไมไม่ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน จะนั่งแช่ในชุดเปียกๆ ทำไม


"ดีมากเจ้าเหมียวน้อย" เขาว่าก่อนจะยิ้มกว้างแล้วจัดการอาบน้ำให้ลูกแมวต่อจนจากที่ขนสีขาวที่เลอะมอมแมมไปด้วยฝุ่นกลับมาขาวสะอาดอีกรอบ


หลังจากอาบน้ำให้เจ้าเหมียวเสร็จก็ใช้ผ้าขนหนูห่อตัวแล้วจัดการอุ้มลูกแมวขึ้นแนบอกแล้วพาเข้าไปในห้อง ภายในห้องพักของเขาก็เหมือนกับห้องพักทั่วๆ ไปแต่ก็ค่อนข้างกว้าง แบ่งสัดส่วนห้องนอนอย่างชัดเจนแต่นั่นก็ทำให้ราคาสูงตามไปด้วยเช่นกัน


"เจ้าเหมียวนอนรออยู่ตรงนี้ดีๆ ห้ามดื้อห้ามซนนะ เราไปอาบน้ำก่อนนะหนาวจะแย่แล้วตอนนี้" เจ้าตัวว่าก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่แขวนอยู่แล้วเดินตรงเข้าห้องน้ำไป "ว่าแต่ว่าใครเปิดแอร์เนี่ย หนาวชะมัด"


ไม่วายบ่นส่งท้าย ก็ตัวเองนั่นแหละ... เปิดแอร์ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้อง







************************************************
เรื่องนี้ฟางโปรโมทในเพจเยอะเลยถ้าใครถามในเพจคงจะรู้กันนะคะว่าฟางอวยน้องกาย คามิน มากขนาดไหน หลังจากที่โปรโมทไปหลายรอบก็เพิ่งจะได้เอาบทนำมาลงค่ะ ทีจริงตั้งใจว่าอีกสักพักจะลงแต่ก็มีคนรอก็เลยเอามาลงเสียก่อนเลย ตอนหน้าเลยอาจจะนานสักหน่อยนะคะ เพราะยังไงฟางก็จะมุ่งกับ My Mom แล้วก็ อุ้มรัก ก่อนค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องนี้จะดองไว้นานๆ นะคะ ^^

ทวิตเตอร์ของน้องกาย https://twitter.com/Guy_Kamin เข้าไปติดตามไปคุยกับน้องได้นะคะ จะได้รู้กันว่าน้องแกเพ้อขนาดไหน ^^
 
อย่าลืมคอมเมนต์ให้ฟางด้วยนะ แต่งมาให้อ่านแล้วก็อยากอ่านคอมเมนต์บ้าง คอมเมนต์กันด้วยน๊า พลีสสสสสสสสสส

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l โชคครั้งที่ • 0 • l P.1 29-01-58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-10-2015 14:55:57
ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l โชคครั้งที่ • 0 • l P.1 29-01-58
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 29-10-2015 14:57:37
น่ารักก <3
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l โชคครั้งที่ • 0 • l P.1 29-01-58
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 29-10-2015 15:17:28
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l โชคครั้งที่ • 0 • l P.1 29-01-58
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 29-10-2015 15:21:13
รออออออ :katai5:
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l โชคครั้งที่ • 0 • l P.1 29-01-58
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 29-10-2015 15:32:18
ในที่สุด!! เรื่องนี้ก็มาแล้ว
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l โชคครั้งที่ • 0 • l P.1 29-01-58
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 29-10-2015 17:10:16
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l โชคครั้งที่ • 0 • l P.1 29-01-58
เริ่มหัวข้อโดย: แป้งข้าวหมาก ที่ 29-10-2015 17:27:08
รอค่า....น้องเหมียว
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l โชคครั้งที่ • 0 • l P.1 29-01-58
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 29-10-2015 17:46:05
 :mc4: ในที่สุดน้องกายก็มา
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l โชคครั้งที่ • 0 • l P.1 29-01-58
เริ่มหัวข้อโดย: shokung ที่ 30-10-2015 22:50:37
น้ำใจงาม รักสัตว์สมเป็นนายเอกจริงๆ
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l โชคครั้งที่ • 0 • l P.1 29-01-58
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 30-10-2015 23:43:09
มารอๆ จ้า ต้องน่ารักมากๆแน่ๆเลย :hao7:
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l โชคครั้งที่ • 0 • l P.1 29-01-58
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 31-10-2015 01:17:13
รีบตามไปฟอลน้องกายเลย :katai4:
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l โชคครั้งที่ • 0 • l P.1 29-01-58
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าที่ถูกถีบจากสวรรค์ ที่ 31-10-2015 01:25:08
 :o8:
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l โชคครั้งที่ • 0 • l P.1 29-01-58
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 31-10-2015 12:34:09
ได้กลิ่นอายแห่งความมุ้งมิ้ง
รอติดตามค่า ^^
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • เอา OPV มาอวด • l P.1 30-11-58
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 30-11-2015 16:34:06
(http://image.free.in.th/v/2013/ia/151027022639.jpg)



สวัสดีค่ะ ขอโทษที่หายไม่ได้อัพเรื่องนี้เลยนะคะ พอดีกำลังเร่งสองเรื่องแรกให้จบอยู่น่ะค่ะ วันนี้ฟางเอา OPV ประกอบนิยายเรื่องนี้มาอวดค่ะ ทำเอาไว้แล้วก็ลงเพจไปแล้วได้สักพักแล้วละค่ะ วันนี้เลยเอามาอวดในหน้านิยาย เป็นเรื่องราวน่ารักๆ เกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ค่ะ ยังไงก็ฝากไว้ด้วยนะคะ

คุณภาพของ OPV มันไม่ได้สูงมาก เพราะฟางเองก็ไม่เก่งทำวีดิโอเท่าไหร่ อีกอย่างทำในโปรแกรมง่ายๆ เลย ตั้งค่าความละเอียดของภาพไม่เป็นค่ะ พอจะไปใช้โปรแกรมโปรหน่อยก็ลืมวิธีเล่นไปแล้ว ฮา เลยทำได้เท่านี้ค่ะ

หวังว่า OPV ตัวนี้จะทดแทนช่วงที่ฟางหายไปได้นะคะ ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

สำหรับตอนที่ 1 อีกนิดจะมาแล้วค่ะ รอหน่อยนะคะ ไม่นานๆ ค่ะ


http://www.youtube.com/embed/X_gLBqlV-Z8
http://[iframe src="http://www.youtube.com/embed/X_gLBqlV-Z8" width="640" height="505"][/iframe]
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • เอา OPV มาอวด • l P.1 30-11-58
เริ่มหัวข้อโดย: KhunToOk ที่ 30-11-2015 17:16:53
รอค่าาาา


 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • เอา OPV มาอวด • l P.1 30-11-58
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 30-11-2015 19:26:34
ติดตามนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • เอา OPV มาอวด • l P.1 30-11-58
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 04-12-2015 09:15:11
ตามมาจาก My Mom อิอิ
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 04-12-2015 09:18:50
(http://image.free.in.th/v/2013/ie/151204021953.jpg)





โชคครั้งที่ • 1 •




“เอาละก่อนที่จะเริ่มต้นชีวิตของนักศึกษาปีสอง เรามาดูโปรเจคที่พวกคุณจะต้องทำส่งผมก่อนดีกว่า” สิ้นเสียงของอาจารย์ที่ดังอยู่หน้าห้องเรียกเสียงโห่ร้องของทุกคนได้เป็นอย่างดี


แน่นอนว่ารวมถึงตัวผมด้วยเช่นกัน...


เพราะอะไรเราถึงพร้อมใจกับโห่ร้องน่ะหรือครับ


ก็วันนี้วันที่ 17 สิงหาคม วันเปิดเทอมวันแรก แล้วคิดดูสิว่าวันเปิดเทอมวันแรก เข้าคลาสเรียนครั้งแรกของปีก็ต้องเจอกับคำสั่งงานแบบนี้จะไม่ให้โห่ได้ยังไงละครับ


แต่ดูเหมือนอาจารย์จะไม่สนใจเสียงของพวกผมเลยสักนิดอีกทั้งยังหัวเราะสะใจอีกต่างหาก


“พวกคุณจะได้มีเวลาทำงานส่งผมไง เทอมนี้มีสองโปรเจค โปรเจคแรกคือทำโปสเตอร์โฆษณาส่งซึ่งก็แล้วแต่พวกคุณว่าจะทำโปสเตอร์แบบไหน โฆษณาหนังสือ ภาพยนตร์ หรือจะอะไรก็ได้แล้วแต่คุณ จัด Proportion (สัดส่วน) ของโฆษณาให้ดี จะแนวไหนยังไงก็ได้ อิสระตามใจคุณเลย” อาจารย์ธีร์ยังคงพูดถึงงานที่ต่อส่งต่อไป


ส่วนผมที่นั่งฟังนี่ก็เริ่มเครียด งานปลายเปิดแบบนี้มันไม่ใช่ง่ายๆ เลย จะทำโปสเตอร์อะไร จะจัดคอนเซ็ปแบบไหนให้มันออกมาดี


“ส่วนอีกโปรเจคคือภาพถ่ายของสิ่งที่คุณทำโปสเตอร์ อย่างสมมติว่าคุณทำโปสเตอร์ภาพยนตร์โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บนโปสเตอร์นั้น คุณก็ถ่ายภาพผู้หญิงคนนั้นให้สื่อถึงภาพยนตร์ที่คุณคิดเอาไว้ อันนี้เอาภาพไม่เยอะผมขออย่างน้อยสิบภาพพอ จำนวนภาพไม่มีผลต่อคะแนน แต่การสื่ออารมณ์ของภาพคือคะแนน แล้วปลายเทอมเรามาจัดนิทรรศการกัน!”


แน่นอนว่าพออาจารย์ธีร์พูดจบปุ๊บพวกผมก็ร้องโอดครวญกันทันที ส่วนอาจารย์ก็ทำเพียงแค่หัวเราะกับท่าทางของทุกคน


แล้วหลังจากที่บอกโปรเจคเสร็จเรียบร้อยการเรียนการสอนก็เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจัง ผมได้แต่นั่งเอาคางเกยอยู่บนโต๊ะตลอดเวลาสามชั่วโมง แล้วทันทีที่อาจารย์ธีร์เดินออกจากห้องผมก็เด้งตัวลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมกับเพื่อนๆ อีกสี่คน


“หิวๆๆๆ ไปหาไรกินกันเถอะ กูหิวมากกกกกกกก” เสียงของเพื่อนผมเริ่มส่งเสียงโหยหวนทันที


“จะกินอะไรมึงว่ามาเดี๋ยวกูจะพาไปกิน” ไอ้เกลียวเพื่อนอีกคนในกลุ่มว่าก่อนจะเดินไปยกมือกอดคอไอ้เป้เอาไว้


“กายมึงอยากกินไร”


“ไอ้กายอะนะ มันมีอย่างเดียวที่อยากกินนั่นแหละ มันอยากกิน'ฝน'ไง”


พอไอ้เป้หันมาถามผม แบบที่ผมยังไม่ทันตอบไอ้เกลียวก็ตอบแทนก่อน แล้วไงละครับ ไอ้พวกที่เหลือก็โห่ฮิ้วกันสนุกสนาน


“สัส! กวนตีน” ผมด่ามันไป


“ด่าๆ ด่ากูแต่ไม่ปฏิเสธนะเพื่อนกาย ฮ่ะๆๆๆๆ” แล้วมันก็หัวเราะกันอีกรอบ ผมเลยได้แต่ส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่า


ในกลุ่มผมมีทั้งหมดห้าคนรวมผมด้วย ก็มีผมนายกาย คามินสุดหล่อประจำกลุ่ม ไอ้เป้ ไอ้เกลียว ไอ้ไม้แล้วก็ไอ้แม็คครับ เป็นกลุ่มเพื่อนซี้กันมาตั้งแต่ปีหนึ่งจนตอนนี้อยู่ปีสอง (พูดเหมือนนาน) เราแต่ละคนมาจากคนละโรงเรียนกันเลยครับ แต่กลับสนิทสนมกันอย่างกับเรียนด้วยกันมานาน เพราะฉะนั้นทุกคนในกลุ่มก็จะรู้เรื่องของคนอื่นดี(กว่ารู้เรื่องของตัวเอง)


“พูดมาก จะไปกินไหมข้าวน่ะ” ผมว่าก่อนจะเดินนำพวกมันออกจากห้องเรียน


เราไม่ได้ไปกินที่ไหนไกลหรอกครับก็โรงอาหารของคณะนั่นแหละครับเพราะตอนบ่ายยังมีเรียนกันต่อจะออกไปหาอะไรกินหน้ามอหรือที่อื่นคงกลับมาเรียนกันไม่ทัน


“เฮ้ออออออ” อยู่ๆ ไอ้ไม้ก็ถอนหายใจออกมาเสียงดังในขณะที่พวกเราทั้งห้าคนกำลังเดินไปที่อาคารเรียน


“เป็นอะไรวะ ถอนหายใจซะเสียงดังเลยมึง” ไอ้แม็คหันกลับไปถาม


“พอดีกูคิดเรื่องโปรเจคที่อาจารย์ธีร์พูด คิดแล้วเครียด” แล้วคำตอบของไอ้ไม้ก็ทำเอาพวกเราทุกคนเครียดตามเลยครับ


เหมือนจะมีเวลานานใช่ไหมละครับกว่าจะปลายเทอม แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลยครับ เราไม่ได้ส่งงานตูมเดียวปลายเทอม แต่ส่งกันทุกอาทิตย์ครับ เชื่อเถอะถึงแม้ว่าวันนี้อาจารย์ธีร์จะไม่ได้บอกว่าอาทิตย์คุยเรื่องโปรเจค แต่พอเข้าคลาสไปอาจารย์ต้องถามถึงหัวข้อที่จะทำแน่นอน เพราะฉะนั้นก็เหลือเวลาอีกแค่หกวันก่อนถึงวันเรียนอีกรอบ


“ห่า... พูดซะกูหดหู่ตามเลยไอ้ไม้ กูยังไม่อยากเครียดมึงเข้าใจไหมมมมมม” ไอ้เกลียวเริ่มโหยหวนคนแรกเลยครับ


ผมได้แต่หัวเราะเมื่อเห็นท่าทางจะเป็นจะตายของมัน เห็นแล้วหมั่นไส้เลยต้องขอตบหัวมันสักทีเถอะ


“เชี่ยกาย!! ตบหัวกูทำไม”


“หมั่นไส้ว่ะ ฮ่าๆๆ”


“สัส!! กูจะฟ้องฝนมึง” ไอ้เกลียวยกมือชี้หน้าผมแล้วร้องลั่น


ผมไหวไหล่อย่างไม่สนใจ “ถ้ามึงหาฝนของกูเจอก็เชิญไปฟ้องเลยครับเพื่อน”


สงสัยกันใช่ไหมครับว่า ‘ฝน’ ที่ว่านี่คือใคร เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้หรอกครับ ไม่รู้ด้วยว่าชื่ออะไร แต่ที่เพื่อนๆ ผมเรียกว่าฝน เป็นเพราะว่าผมเจอเขาในวันฝนตกครับ เราไม่ได้บังเอิญชนกัน หรือได้คุยกันหรอกครับ ผมแค่เห็นและได้ถ่ายรูปเอาไว้ หลังจากนั้นผมก็ได้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยเข้าไปทัก เอาเป็นว่าผมจะค่อยๆ เล่าเรื่องของ ‘ฝน’ ให้ฟังทีหลังแล้วกันนะครับ เพราะเรื่องของเขามีเยอะมากจริงๆ


พวกผมเดินไปคุยกันไปส่งเสียงเฮฮาอย่างไม่เกรงใจใคร คงมีหลายคนมองแล้วก็นึกด่าอยู่ในใจแน่นอนครับ แต่พวกผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ก็นะ… คนหล่อนี่ครับ ทำอะไรก็ไม่ผิดหรอก


พลั่ก!!


ตุบ!!


โอ๊ย!!



เพราะความไม่สนใจอะไรของพวกผม ผมจึงเดินไปชนกับใครบางคนจนข้าวของของเขาหล่นลงพื้นแถมคนที่โดนผมชนหรือเขาชนผมก็ไม่รู้ยังล้มลงไปกับพื้นอีกด้วย


“เฮ้ย! ขอโทษครับๆ เป็นไรมากไหม” ผมหันไปมองอย่างตกใจก่อนจะยกมือไหว้ขอโทษปรกๆ รุ่นพี่ รุ่นน้องหรือรุ่นเดียวกันก็ไม่รู้หรอกครับ ขอโทษไว้ก่อน


“ม ไม่เป็นไร…” อีกฝ่ายบอกเขาค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นยืน


แล้วพอเขาเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละครับ ตัวผมอย่างกับถูกแช่แข็ง เพื่อนผมก็เหมือนกัน ผมหันมองเพื่อนอย่างตื่นๆ เมื่อไอ้เป้สะกิดผมใหญ่ มันพยักหน้าไปทางผู้ชายคนนั้น คนที่กำลังก้มลงเก็บของเป็นเชิงบอกให้ผมช่วยเก็บ


และนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกตัวรีบก้มลงช่วยเขาเก็บบรรดาดินสอที่ร่วงกระจัดกระจายบนพื้นแล้วก็กระดาษรวมไปถึงกระดานรองสำหรับวาดรูปด้วย


“นี่ครับ”


คนตรงหน้าผมเงยหน้าขึ้นมอง เขาตัวเล็กกว่าผม แน่นอนว่าเตี้ยกว่าผมด้วยแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่


“ขอบคุณนะครับ” เขายิ้มกว้างส่งมาให้


“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ ล้มไปเมื่อกี้ได้แผลหรือเปล่า” แน่นอนว่าผมไม่ได้ถามครับแต่เป็นไอ้ไม้เพื่อนของผม ส่วนผมนะเหรอ…


หลังจากเห็นรอยยิ้มนั้นแล้วก็ได้แต่ยืนค้างด้วยความตกตะลึง ตัวแข็ง ช็อคไปแล้ว


“อ๋อ… ม ไม่…”


“เรนนนนนนนนน” แต่ก่อนที่เขาจะได้ตอบก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นก่อนจนเขาหันกลับไปมอง


“ตินา!” เขาร้องออกมาอย่างดีใจเมื่อได้เจอผู้หญิงคนนั้น


คนที่ชื่อตินาสวยมากครับ แล้วเธอก็หุ่นดีมากๆ ด้วย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ ประเด็นคือเขาหันไปยิ้มกว้างให้อย่างดีใจต่างหาก ดวงตากลมใต้แว่นสายตาหนาๆ นั้นก็เป็นประกายเชียวครับ


หมับ!


พอผู้หญิงที่ชื่อตินาเดินมาถึงเธอก็จัดการใช้สองมือจับแก้มเขาทันทีแล้วก็… ยืด…


“เอ็บบบบบบบบ” เขาร้องลั่นยกมือขึ้นดึงมือของผู้หญิงคนนั้นออกจากแก้มของตัวเอง แก้มขาวๆ ของเขาขึ้นสีแดงทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นละมือออก


เจ็บมากไหม…


ผมอยากจะลูบแก้มนั้น…



แต่เหมือนจะไม่มีโอกาส เพราะผมรวมไปถึงเพื่อนๆ เหมือนกลายเป็นส่วนเกินไปแล้ว


“นี่มันหน้าคณะนิเทศ!!!” ผู้หญิงที่ชื่อตินาพูด


เขาทำตาโตทันที หันขวับกลับมาทางผม แต่เขาไม่ได้มองผมหรอก มองเลยไปด้านหลังผมซึ่งมีตึกคณะนิเทศศาสตร์หรือก็คณะที่ผมเรียนอยู่ตั้งอยู่


“อ้าว… นี่คณะนิเทศเหรอ อย่างนี้แสดงว่าเราก็หลงทางสินะ” พอเขาเลิกทำตาโตก็หันกลับไปพูดกับผู้หญิงคนนั้นยกมือเกาหัวตัวเอง


ผู้หญิงคนนั้นกรอกตาไปมาเหมือนกับระอา ก่อนจะยกมือดึงแก้มเขาอีกรอบ


ผมอิจฉา…


“อยู่มหา’ลัยนี้มาปีนี้ปีที่สามแล้วนะเรน เมื่อไหร่จะเลิกหลงทางสักที เมื่อวานก็เดินหลงไปคณะเทคนิคการแพทย์ ส่วนเมื่อเช้านัดที่โรงอาหารกลางก็ดันหลงไปโรงอาหารคณะวิศวะ เกือบโดนให้พวกเด็กเถื่อนมันจีบแล้วไหมละโชคดีแค่ไหนที่ไอ้ป้อมันไปเจอแล้วพามาน่ะห๊ะ” ผู้หญิงคนนั้นใส่เขาไม่หยุด


ส่วนผมนี่ได้แต่ยืนอึ้ง…


“แหะๆๆ เราขอโทษ ก็เราลืม ไปๆ เราต้องรีบไปที่คณะนี่ใช่ไหม เอ่อ! เดี๋ยวนะเมื่อกี้เราล้ม พวกนี้ช่วยเราเอาไว้” เขาบอกก่อนจะหันมาชี้พวกผม


เอาจริงๆ พวกผมไม่ได้ช่วยหรอก ก็ผมชนเขาจนล้มไปเอง


“ขอบคุณนะครับที่ช่วยเก็บของให้” เขาพูดแล้วยิ้มให้พวกผมอีกรอบก่อนที่ผู้หญิงที่ชื่อตินาจะคว้าเอากระดาษวาดรูปจากมือของเขาไปถือเอาไว้แล้วลากเขาออกไปอีกทาง


และทันทีที่เขาเดินออกไป


ผมก็ทรุดลงกับพื้นทันที…







************************************************
มาแล้วค่ะสำหรับตอนที่ 1 หลังจากเปิดเรื่องไปเป็นเดือน แค่เริ่มเรื่องก็น่ารักแล้วใช่ปะล่ะ พระเอกของเราชื่อน้องกายนะคะ ชื่อน่ารัก นิสัยก็น่ารัก(?) 5555555 ตอนนี้ยังไม่มีอะไรจะพูดมากเท่าไหร่ ยังไงฟางก็ขอฝากนิยายอารมณ์ดี อ่านคลายเครียดเรื่องนี้เอาไว้ด้วยนะคะ หวังว่าทุกคนจะชอบกันค่ะ ^^

อย่าลืมคอมเมนต์ให้ฟางด้วยนะ แต่งมาให้อ่านแล้วก็อยากอ่านคอมเมนต์บ้าง คอมเมนต์กันด้วยน๊า พลีสสสสสสสสสส

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: Arancia ที่ 04-12-2015 10:03:28
น่ารักๆ ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 04-12-2015 10:09:56
มีคอมเม้นให้เลยคะ ตอนนี้ "มาต่อบ่อยๆ" นะ 555555 รอนานมากกกกกกกกกกกก :ling1:
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 04-12-2015 10:35:03
 :mew1: มาต่อๆติดตามความน่ารักนะ
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 04-12-2015 10:42:15
พอเรนไปนี่เข่าอ่อนเลยนะกาย 555+
รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 04-12-2015 10:54:47
นายเอกน่ารักจังง
ติดตามค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: pe-ar ที่ 04-12-2015 13:16:44
ทรุดเลยนะกาย

เรนน่ารักอ่ะ โก๊ะๆๆดี :mew4:
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-12-2015 13:25:28
 :กอด1:   :3123:  รอกันยาวๆ
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 04-12-2015 15:19:23
ขี้ลืมแบบนี้สงสัยกายต้องไปแสดงตัวให้เรนเห็นบ่อยๆ เสียแล้วล่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: shokung ที่ 05-12-2015 12:56:12
น้องเรนนี่น่ารักจริงๆ ถึงกับทำเอานายกาย คามินเราถึงกับเพ้อ เข่าอ่อนหมดแรงเลย คุๆๆ
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 05-12-2015 14:58:19
น่ารักๆ
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 06-12-2015 19:12:11
ถึงกับล้มพับลงไปเลยนะ กาย

เรน นี่ช่างมีอิทธิพลจริงๆ 555
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 09-12-2015 01:07:14
ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: baby_lion ที่ 09-12-2015 19:11:00
แค่เริ่มเรื่องก็สัมผัสได้ถึงความฟรุ้งฟริ้งละมุนละ  :mew3:
คนเขียนต้องติ่งวินเนอร์ใช่ไหม เพราะ รู้ด้วยว่าพี่จินอูแกชอบหลงทาง ติดตามนะค่ะ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 10-12-2015 03:32:37
น่าร้ากกก  :-[
ติดตามเจ้าค่ะ
ดูท่ากายจะหลงเสน่ห์ความใสซื่อของเรนเข้าให้แล้วนะเนี่ยย :impress2:
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: PaTtO ที่ 10-12-2015 08:34:54
เป็นเอามากนะกายยย
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 10-12-2015 23:20:46
เข่าอ่อนกันเลยทีเดียว
แค่เขายิ้มให้เองนะ 5555
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [50%] l P.1 04-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 13-12-2015 23:22:01
ท่าทางน่ารักไม่ใช่เล่นนะเนี่ยยย  :hao7:
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [100%] l P.2 16-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 16-12-2015 10:23:08
(http://image.free.in.th/v/2013/ie/151204021953.jpg)





โชคครั้งที่ • 1.2 •




••• 100% •••




เสียงหัวเราะของเพื่อนในกลุ่มผมดังทันทีที่ผมหมดแรงทรุดลงนั่งกับพื้น มือข้างหนึ่งยกขึ้นกุมหน้าอกตรงตำแหน่งหัวใจทันที ผมกลัวว่าไอ้สิ่งที่กำลังเต้นตึกตักๆ อยู่ในอกผมมันจะหลุดออกมา


“เจอ ‘ฝน’ เข้าไปทีเดียว เพื่อนกูทรุดเลยว่ะ” ไอ้ไม้คนแรกที่ส่งเสียงแซวสนุกปาก ก่อนจะตามด้วยคนอื่น แต่ผมไม่สนใจหรอก เพราะสิ่งที่ผมสนใจคือคนที่เพิ่งเดินหายไปเมื่อกี้ต่างหาก


“เอาๆ พ่อเดือนนิเทศลุกครับลุก อย่ามาทรุดแถวนี้” ไอ้เป้พูดก่อนที่มันแล้วก็ไอ้เกลียวจะช่วยกันฉุดผมขึ้น


ผมเดินตามแรงดึงของเพื่อนๆ ไปจนถึงโรงอาหาร จนนั่งลงที่โต๊ะ จนพวกมันเดินไปซื้อข้าวซื้อน้ำกลับมา มันซื้อมาให้ผมด้วยเพราะคงรู้ว่าตอนนี้ผมไม่มีเรี่ยวมีแรงจะลุกเดินไปไหน


หัวใจแม่งล่องลอยไปตาม ‘ฝน’


“น้องกายไม่หิวข้าวเหรอ ให้พี่ป้อนข้าวให้ไหมจ๊ะ” เสียงใครไม่รู้ดังอยู่ข้างผม แต่ผมไม่ได้สนใจจะหันไปมองนอกจากพยักหน้ารับแล้วยิ้มกว้าง


ผมเห็นแต่หน้าของเขาตอนยิ้มกว้างลอยไปลอยมาเต็มไปหมด หันไปทางซ้ายก็เจอ หันไปทางขวาก็เจอ


แต่แอบเห็นว่าเพื่อนๆ ผมมันทำหน้าสยดสยอง


อะไรวะ มาทำหน้าสยดสยองใส่ที่รักกูได้ไง


“อะ อ้ามนะคะน้องกาย อ้าปากเร็ว” ผมอ้าปากตามเสียงที่ได้ยินก่อนจะรับข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยว


และแทนที่ผมจะได้ฟินสุดๆ กับการที่สุดที่รักมาป้อนข้าวก็เป็นอันต้องสะดุดลงเมื่อมีใครสักคนเตะเข้าที่หน้าแข้งผมเต็มแรงจนน้ำตาแทบเล็ด


ไอ้แม็คครับ มันเตะผม ผมชักสีหน้าใส่มันด้วยความหงุดหงิดก่อนจะทำหน้างงเมื่อมันพยักพเยิดหน้าไปทางด้านขวาของผม


พรวด!!


“กะเทยควาย!”



แล้วทันทีที่ผมหันหน้าไปก็ถึงกับสะดุ้งข้าวในปากพ่นออกมาทันที คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมชักสีหน้าเมื่อได้ยินคำเรียกที่ผมเผลอหลุดปาก


ผมนี่เหงื่อแตกเลยครับ


“เออ… พี่เจสซี่คนสวย…” แล้วดูเหมือนว่าการที่ผมเรียกแบบนี้จะทำให้เขาหายโกรธแล้วหันมายิ้มให้ผม


พี่เจสซี่… เออ… รุ่นพี่ผู้หญิง ไม่สิ รุ่นพี่กะเทยร่างหนาในคณะผม


“พี่...พี่เจสซี่มานั่งตรงนี้ได้ยังไงครับ”


พี่เจสซี่กระเถิบมาใกล้ผมแบบที่ผมก็กระเถิบหนี ก่อนที่ร่างหนาๆ นั้นจะพุ่งมากอดแขนผมเอาไว้


“ก็พี่เห็นน้องกายนั่งเขี่ยข้าวไปเขี่ยข้าวมาก็เลยว่าจะมาช่วยป้อนข้าวน่ะสิคะ” พูดดีๆ อย่างเดียวได้ไหมอะครับ ทำไมต้องยื่นหน้ามาใกล้ด้วย


โอ๊ยยย นี่กูเห็นหน้าหลุมดวงจันทร์เป็นหน้าฝนคนน่ารักของกูได้ไงวะเนี่ย


“อ่า… ไม่เป็นไรครับ ผมกินเองได้ พี่เจสซี่ไปกินข้าวเถอะครับเดี๋ยวจะปวดท้องนะ” ผมได้แต่ยิ้มแหย เหลือบตามองเพื่อนๆ ในกลุ่มนี่แม่งเอาแต่นั่งเอามืออุดปากกลั้นเสียงหัวเราะ ไม่คิดจะช่วยกันเลย


“อุ้ย! น้องกายเป็นห่วงพี่ด้วย น่ารักที่สุดเลยค่ะ อย่างนั้นพี่เจสซี่ไปกินข้าวก่อนนะคะแล้วเจอกันนะสุดหล่อของพี่” พี่เจสซี่จีบปากจีบคอพูดเสียงหวาน(?)ก่อนจะลุกจากโต๊ะที่ผมนั่งไป


“เฮ้อ… ค่อยหายใจคล่องหน่อย พวกมึงแม่ง!! ไม่สะกิดกูให้เร็วกว่านี้วะ” ผมหันไปด้าเพื่อนทันที


คือเอาจริงๆ พี่เจสซี่นิสัยดีนะครับ ช่วยเหลือรุ่นน้องดีมากเลย แต่พี่แกเจอผมทีไรจ้องจะเข้ามาลูบมาไล้มาสีตลอด ตอนปีหนึ่งผมเจอพี่เขาในกองประกวดดาวเดือนพี่เขาเป็นพี่เลี้ยงของคณะผมนั่นแหละครับ ตอนนั้นผมยังใสๆ ไง ปีหนึ่งเฟรชชี่น่ารักไม่กล้าอะไรมาก พี่เจสซี่เข้ามาคุยผมก็คุยครับเพราะพี่เขาก็คอยดูแลผมตลอดตอนเข้าไปอยู่ในกองประกวด แต่เจอพี่แกตะปบเข้าที่เป้าทีเดียวสะดุ้งสุดตัว ตะปบอย่างเดียวไม่พอทำท่าจะบีบด้วยนี่สิ คราวนี้ละถอยห่างได้เป็นถอยละครับ


“ก็กูเห็นมึงทำหน้าเคลิ้มไม่เลิก นึกว่าอยากให้พี่เจสซี่ป้อนข้าวป้อนน้ำ” ไอ้ไม้ว่าพร้อมกับหัวเราะชอบใจ


“นี่มีแค่ไอ้แม็คใช่ไหมที่เป็นคนดีช่วยกู”


“อ๋อ...กูไม่ได้ตั้งใจ ผมดีกูจะขยับขาแล้วแม่งไปโดนมึงเข้า กูเลยต้องบอกมึง” ไอ้แม็คว่า


ไอ้สลัด!! นึกว่าเป็นคนดี


“ใช่ๆ ก็เห็นมึงทำหน้าเคลิ้มมากตอนพี่เจสซี่เข้ามาหา พวกกูก็นึกว่ามึงเปลี่ยนใจแล้ว” ไอ้เกลียวว่าต่อ


“เปลี่ยนใจหาไร กูมองไปทางไหนแม่งมีแต่หน้าฝนลอยไปลอยมาจนกูเพ้อชิบหายละ” ผมพูดก่อนจะทำหน้าเพ้อต่อ


วันนี้กำลังคิดอยู่เลยว่าจะได้เจอไหม แต่นี่ผิดคาดมาก นอกจากจะได้เจอแล้วยังได้เดินชน ยังได้ช่วยเก็บของให้ แล้วยังได้คุยด้วย โคตรฟินอะครับ


“เออ...สรุปฝนมึงก็ชื่อฝนจริงๆ สินะ” ไอ้ไม้พูดอย่างนึกขึ้นได้ “เพื่อนของฝนเรียกฝนว่าเรน แสดงว่าชื่อเรน”


“เรน… ชื่อโคตรน่ารักอะ” ผมเพ้อออกมาอีกรอบ คนอะไรชื่อก็น่ารัก หน้าตาก็น่ารัก


“แต่เดี๋ยวนะ ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าอยู่มหา’ลัยนี้มาปีนี้ก็ปีที่สามแล้วก็เท่ากับว่า เรนอยู่ปีสาม!!!” ไอ้แม็คพูดบ้างก่อนที่มันจะทำหน้าตกใจ


ไม่ใช่แค่มันหรอกครับที่ตกใจ ผมแล้วก็คนอื่นๆ ก็ตกใจเหมือนกัน


คือเอาจริงๆ หน้าไม่เหมือนปีสามอะ ผมเจอฝนครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วหลังจากเปิดเรียนได้ไม่นาน เจอโดยบังเอิญแถมไม่ได้เจอในมหา’ลัยด้วย ตอนแรกผมคิดว่าเป็นเด็กม.ปลาย แต่หลังจากนั้นผมได้เจอเขาอีกในมหา’ลัย แล้วเขาก็ใส่ชุดนักศึกษาผมเลยคิดว่ารุ่นเดียวกับผมแน่ๆ สรุปนี่ฝน เอ๊ย ไม่สิ เรนอายุมากกว่าผม เป็นรุ่นพี่ผมเหรอเนี่ย!
   

“กูเพิ่งเคยเห็นเรน ไม่ดิ… ต้องพี่เรนสิ นั่นแหละกูเพิ่งเคยเห็นใกล้ๆ ครั้งแรกตัวจริงโคตรขาวอะ กูว่าในรูปที่มึงเคยเอามาให้ดูว่าขาวละนะตัวจริงแม่งขาวมาก แต่กูว่าก็ยังดูเป็นเด็กเนิร์ดอยู่ดีว่ะ” ไอ้เป้พูด ผมนี่มองมันตาขวาง มีสิทธิอะไรมาส่องผิวคนของผม (?)วะ แถมยังว่าหาว่าเรนเป็นเด็กเนิร์ดอีก


คือจริงๆ เรน ไม่ดิ พี่เรน นั่นแหละก็เหมือนเด็กเนิร์ดจริงๆ นั่นแหละ เขาชอบเอาผมลงมาปรกหน้าปรกตา ไหนจะใส่แว่นตาหนาเตอะอีก แต่งตัวก็โคตรจะถูกระเบียบ ดูเฉิ่มๆ เชยๆ อย่างที่ไอ้เป้ว่านั่นแหละครับ แต่นั่นคือภาพลักษณ์ที่พวกมันได้เห็นไง


ส่วนผมนี่ได้เห็นหลายมุมมาก คือเรื่องของเรื่องแม่งโคตรเป็นเรื่องบังเอิญ ผมกับเขาอยู่หอพักใกล้กันมาก อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนในซอยที่กว้างแค่สามเมตร แล้วบังเอิญห้องผมกับห้องเขาอยู่ชั้นเดียวกัน ผมก็เลยชอบส่องเขาจากระเบียงห้องของผมครับ เพราะฉะนั้นผมมักจะได้เห็นเขาในอีกลุคหนึ่ง


ไม่ใช่ว่าเขาลุกมาแต่งตัวหล่อเท่ หรือวาบหวิวเป็นสาวอะไรแบบนั้น แต่เขาไม่ได้ใส่แว่นเวลาอยู่ในห้อง แล้วผมที่เอามาปรกๆ หน้าบางทีก็มัดขึ้นไปไม่ก็ติดกิ๊บเอาไว้ แล้วไม่อยากจะบอกครับ


น่ารักเหี้ยๆ อะ


ผิวขาวๆ ตาโตๆ ปากแดงๆ โอ๊ยยย น่ารักจนอยากจะจับเหวี่ยงลงเตียงแล้วขย่มให้เตียงพังให้สะโพกเคล็ดอะครับ


แต่ผมไม่บอกพวกมันหรอกครับ เรื่องอะไรจะบอกผมหวงของผมครับ


“เออกูถามมึงหน่อยไอ้กาย” ไอ้แม็คหันมาหาผม “มึงชอบพี่ฝนของมึงมาหนึ่งปีแล้ว มึงไม่คิดจะจีบเขาบ้างเหรอวะ”


แล้วพอไอ้แม็คถามแบบนั้นคนอื่นก็พยักหน้าทันที “จริงของไอ้แม็ค คือมึงพร่ำบอกพวกกูทุกวันว่าพี่ฝนน่ารักอย่างนู้นน่ารักอย่างนี้ คือมันก็อาจจะไม่ได้มีแค่มึงเปล่าวะที่เห็น อาจจะมีคนอื่นเห็นแล้วก็ชอบพี่เขาเหมือนกันนะ”


ผมเริ่มชะงักแล้วก็คิดตามที่พวกเพื่อนๆ พูด เอาตรงๆ ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยครับ ได้แต่พร่ำเพ้อไปวันๆ ลืมนึกไปเลยว่าอาจจะมีคนชอบเขาแล้วคิดจะจีบเขาก็ได้!


“ช่ายๆๆ แล้วถ้ามึงยังเอาแต่เพ้อโดยไม่จีบ ระวังนะมึงดีไม่ดีวันหนึ่งมึงอาจจะเจอพี่เขาจูบกับใครก็ได้นะ” ไอ้เป้พูด


อ… อะไรนะ!!!


ร เรนจูบกับคนอื่นเหรอ


ไม่ได้นะโว๊ย ผมไม่ยอมอะ เรนต้องจูบกับผมคนเดียวดิวะ


ไม่ได้แล้ว ผมจะมัวแต่เฉยแบบนี้ไม่ได้แล้ว!


ปัง!!


ผมลุกขึ้นยืนสองมือตบโต๊ะเสียงดัง ไม่สนใจว่าใครจะมองยังไง ก่อนจะประกาศก้อง “กูจะจีบ! แล้วกูจะต้องจีบติดด้วยพวกมึงคอยดู กูไม่ยอมให้ใครได้เขาไปแน่นอน!!”


ผมขอเอาตำแหน่งเดือนคณะนิเทศศาสตร์ปีสองเป็นเดิมพัน!






“แล้วมึงจะจีบเขายังไง เดินดุ่มๆ เข้าไปบอกพี่ๆ ผมชอบพี่ผมจีบนะ แบบนี้เหรอ”


ผมตวัดสายตาไปมองไอ้เป้ทันทีเพราะเสียงของมันกำลังทำลายมโนของผมเป็นอย่างมาก ผมกำลังนึกถึงเรนของผมอยู่ดีๆ


“เดี๋ยวกูก็หาทางได้เองแหละน่า มึงเอาเวลามาคิดเรื่องของกูไปคิดเรื่องโปรเจคเทอมนี้ดีกว่าไหม” ผมหันไปว่าซึ่งพอผมพูดแบบนั้นไอ้เป้ก็ทำหน้าช็อคตาค้างไปแล้วเรียบร้อย


แน่ละครับเพราะพรุ่งนี้จะมีเรียนวิชาหลักของคณะซึ่งก็วิชาที่อาจารย์สั่งโปรเจคใหญ่มาตั้งแต่เมื่อวันเปิดเทอมนั่นแหละ แล้วที่มันท่าทางแบบนั้นแสดงว่ามันยังไม่ได้คิดหัวข้อแน่ๆ ผมเองก็เหมือนกัน ฮ่าๆๆ


เอาจริงๆ ผมก็เริ่มมีหัวข้อในใจแล้วละครับ จะว่ายังไงดี... ผมเหมือนจะถูกโฉลกกับ ‘ฝน’ นะ ผมเลยว่าจะเอาหัวข้อนี้มาทำโปรเจค


ผมเจอเรนครั้งแรกเมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว วันนั้นผมจำได้ดีว่าเป็นวันฝนตก ในระหว่างที่ผมกำลังกลับจากถ่ายรูปเพื่อส่งอาจารย์ผมก็ได้ยินเสียงแมวร้อง ตอนนั้นผมเองก็กำลังมองหาแล้วก็จะเข้าไปดูแต่เรนก็เข้ามาก่อน


ผู้ชายคนนั้น... เดินท่ามกลางสายฝนมานั่งยองๆ อยู่หน้าม้านั่งหินอ่อนแล้วอุ้มลูกแมวเอาไว้แนบอกไม่สนใจว่าตัวเองจะเปียกฝนมากแค่ไหน เขาทำเพียงแค่กอดลูกแมวไว้แน่นที่สุด วินาทีนั้นไม่รู้ว่าจิตวิญญาณช่างภาพเข้าสิงหรืออะไร ผมยกกล้องขึ้นถ่ายรูปของเขา มันเป็นภาพที่ดีที่สุดที่ผมเคยถ่ายมา ผมคิดว่าแบบนั้นนะ...


พอผมนึกถึงภาพที่ผมถ่ายในวันนั้นผมก็นึกอะไรขึ้นได้


หลายๆ คนชอบสื่อความหมายของฝนในเชิงเศร้า แต่ผมจะสื่อมันออกมาในอีกหลากหลายความรู้สึกไม่ใช่แค่เศร้าเสียใจ แต่รวมไปถึงดีใจ เซ็กซี่ และอื่นๆ อีกที่จะสามารถสื่อได้


ส่วนคนที่จะมาเป็นแบบให้ผม...


สีหน้ายิ้มๆ ตอนที่ใครคนนั้นอุ้มลูกแมวขึ้นมาปรากฏเด่นชัด


ถ้าจะถ่ายคอนเซ็ปฝน ก็ต้องให้ฝนเป็นแบบให้สินะ


“แล้วมึงจะจีบเขายังไง เดินดุ่มๆ เข้าไปบอกพี่ๆ ผมชอบพี่ผมจีบนะ แบบนี้เหรอ”



อืม... ผมคิดว่า... ผมหาวิธีจีบเรนได้แล้วละครับ


“พวกมึง... กูว่ากูรู้แล้วว่ากูจะจีบเรนยังไงดี”


“ที่มึงเงียบนี่หาวิธีจีบ? ไอ้ห่ากูก็นึกว่าคิดถึงคอนเซ็ปงาน” ไอ้แม็คแม่งผลักหัวผมทันทีที่ผมพูดจบ


“มึงรู้จักยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหรือเปล่าละ กูจะจีบเรน แล้วไม่ใช่แค่ได้เรนมาเป็นแฟนนะกูยังมีงานส่งอาจารย์ธีร์อีกด้วย หึหึหึ”


“มึงจะให้พี่เรนมาเป็นแบบให้มึง” ไอ้ไม้ถาม


ผมพยักหน้ารับ “ใช่ ได้ทั้งนายแบบ ได้ทั้งแฟนไม่มีอะไรคุ้มไปกว่านี้แล้วละ”


“ขอให้มึงสมหวังแล้วกัน ขอให้พี่เรนเล่นตัวไม่มาเป็นนายแบบ ไม่มาเป็นแฟนมึง”


“สาธุ”


พอไอ้เกลียดอวยพรแบบนั้นไอ้พวกที่เหลือก็พร้อมใจกันยกมือไหว้สาธุทันที ไอ้สลัด! แทนที่จะขอให้เพื่อได้นายแบบได้แฟน ดันมาแช่งกันได้


“พวกมึงต้องผิดหวังเพราะคำพูดของมึงไม่มีทางเป็นจริง กูรับรองได้ว่าแค่กูเดินไปขอดีๆ เรนต้องยอมมาเป็นแบบให้กูแน่นอน”


นายกาย คามินสุดหล่อรับประกัน!!





************************************************
หายไปนานเลย ขอโทษนะคะ พอดีตรงกับช่วงรับปริญญาพอดีฟางเลยไม่สะดวกเข้ามาอัพ วันนี้เลยมาอัพให้ครบ100แล้วน๊า น้องกายน่ารักเนอะ เป็นคนที่น่ารักมากๆ เลยอ่า หลงพี่เรนหัวปักหัวปำกันเลยทีเดียว อิอิ มองไปทางไหนก็เจอแต่หน้าพี่เรน พี่เรน พี่เรน โอ๊ย เด็กอะไรทำไมน่ารักงี้! เด็กอะไรบอกอยากจะจับพี่เรนเหวี่ยงลงเตียงขย่มให้เตียงพังให้สะโพกเคล็ด เอาแค่เจอหน้าพี่แล้วไม่เข่าอ่อนก่อนดีกว่าไหม ก๊ากกกกกกก

เรื่องนี้สามารถติด # ได้เยอะมากอะค่ะ ทั้ง #น้องกายหลงฝน #น้องกายเป็นคนตลก นี่ยังมีของพี่เรนอีกนะเนี่ย แต่คือน้องแกตลกจริงๆ แต่งไปแล้วมีความสุขอะ เพ้อถึงพี่ก็ที่หนึ่งละ เจอพี่ทีก็โอ๊ย หัวใจน้องจะหลุดออกจากอก เป็นคนน่ารักสุดๆ เลย แบบฟางหลงมากอะ ไม่ต้องแปลกใจทำไมฟางอวยเยอะขนาดนี้ เพราะชอบน้องกายมากจริงไรจริงค่า

อ๋ออออ... ขอแจ้งเรื่องอัพนิยายหน่อยนะคะ คือว่าวันที่ 26-27 ธันวานี้ฟางมีสอบใบประกอบวิชาชีพค่ะ ฟางเลยจะขอตัวไปอ่านหนังสือ + ติว เตรียมสอบก่อนนะคะ แล้วจะกลับมาอัพอีกทีหลังวันสอบนะคะ เข้าใจกันตามนี้เนอะ ไม่โกรธ ไม่เคืองกันนะคะ แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ

อย่าลืมคอมเมนต์ให้ฟางด้วยนะ แต่งมาให้อ่านแล้วก็อยากอ่านคอมเมนต์บ้าง คอมเมนต์กันด้วยน๊า พลีสสสสสสสสสส

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [100%] l P.2 16-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 16-12-2015 13:38:19
 :o8:


รอค่า :D
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [100%] l P.2 16-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 16-12-2015 14:27:09
รอค่าาา :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก l Lucky • 1 • [100%] l P.2 16-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 16-12-2015 15:21:56
ฝนของกายน่าร้ากกก กายคิดจะกินรุ่นพี่งั้นเหรออ  :hao6:
แล้วดู๊ดูความคิด อยากให้สะโพกเค,้ด ถถถถถถ  o18 :laugh:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 1 • [100%] l P.2 16-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 16-12-2015 19:13:39
น่ารักดีจุง
สอยพี่เรนมากให้ได้นะจ๊ะน้องกาย
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 1 • [100%] l P.2 16-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-12-2015 19:18:22
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 1 • [100%] l P.2 16-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-12-2015 19:21:50
เรน.  :man1:   
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 1 • [100%] l P.2 16-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 16-12-2015 19:30:26
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 1 • [100%] l P.2 16-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-12-2015 19:39:27
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 1 • [100%] l P.2 16-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: darknightmare ที่ 16-12-2015 19:57:23
ดูน่ารักกก
น้องกายนี่ยุง่ายสุดจริงๆ เพื่อนพูดอะไรนี่คิดตามหม๊ดดดด
ขอหลงพี่เรนด้วยคน ฮืออออ
ชอบค่ะ สู้ๆน้าาา
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 1 • [100%] l P.2 16-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 18-12-2015 00:11:25
พี่เจสซี่ได้รับความห่วงใยจากคามินไปทั้งทีแค่ข้าวจานเดียวคงจะไม่พอเสียแล้วล่ะมังคะ :laugh:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 1 • [100%] l P.2 16-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: PaTtO ที่ 18-12-2015 08:23:06
โครตมั่นอ่ะ ว่าฝนจะตกลง
ถ้าโดนปฎิเสธนี่มีทรุด2แน่555
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [50%] l P.2 28-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 28-12-2015 10:15:22
(https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/originals/eb/6d/39/eb6d394b57be667a26c31d34d2862bc2.gif)

คือมึง...กูไม่กล้าแอดไปหาว่ะ เขิน >/////<

kamin


say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ




โชคครั้งที่ • 2 •




          กาย คามิน @Guy_Kamin
          วันนี้ไม่ใช่แค่เห็นหน้า แต่ได้คุยกันด้วย…
          แม่งเอ๊ยยย อย่างฟินเลยว่ะ



หลังจากที่ระบายความรู้สึกลงเจ้าแอพนกสีขาวบนพื้นหลังสีฟ้าเสร็จผมก็ได้แต่วางโทรศัพท์มือถือลงกับเตียงพร้อมกับนอนแผ่ ไม่ต้องส่องกระจกผมก็รู้ว่าผมยังหุบยิ้มไม่ได้เลย วันนี้แม่งโคตรจะเป็นวันดีอะครับได้เจอกับเรน


อ๋อ… มาๆ ผมจะเล่าเรื่องของผมกับเรนให้ฟังเพิ่ม แต่เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรน โอ๊ย ไม่สิ พี่เรน ไม่ชินปากเลยแหะ


อย่างที่ผมบอกห้องผมกับพี่เรนอยู่ตรงข้ามกัน หอใกล้กันแบบนี้ผมเลยได้เห็นพี่เรนบ่อยๆ แบบที่เขาไม่รู้หรอกนะว่าผมแอบมองอยู่ และหนึ่งปีที่ทำตัวเป็นโรคจิตคอยแอบมองเขาทำให้ผมรู้ว่า…


เขาแม่งโคตรเอ๋อเลยครับ นอกจากจะเอ๋อแล้วยังมึน อึน หาคำบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ว่ายังไงก็โคตรน่ารักอะครับ


คืองี้ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง เมื่อตอนนู้นครับ ตอนไหนก็จำไม่ได้เพราะมันหลายตอนแล้วละครับ ผมกำลังลงไปเดินเล่นข้างล่างเพื่อถ่ายรูปแบบที่ผมชอบนั่นแหละ แล้วบังเอิญเจอพี่เรนเข้า ผมก็เลยสะกดรอยตามแบบแอบๆ ฟินไปเรื่อยๆ กับความน่ารักของเขา เชื่อไหมละว่าคนที่โคตรจะน่ารักขนาดนั้นก็โคตรเอ๋ออะครับ เดินชนประตูกระจกที่ใต้หอของเขาดังตึง! ผมงี้ทั้งอึ้งทั้งขำ ก็อยากจะเข้าไปปลอบอยู่หรอกครับแต่เจ้าตัวกลับทำเพียงยกมือลูบหน้าผากแล้วเดินเข้าหอไปเลย


แล้วมันไม่ใช่แค่นั้นนะครับ ยังมีอีกหลายรอบเลยที่ผมเห็นเขาซุ่มซ่ามแบบนี้ โคตรน่ารักอะครับ พอเห็นเขาทำอะไรแบบป้ำๆ เป๋อๆ เดี๋ยวชนนู้นสะดุดนี่แล้วผมก็เลยรู้สึกว่า… อยากดูแลเขา


อืม… คิดว่าผมเป็นเกย์แต่เกิดใช่ไหม ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้เป็นเกย์ แต่ผมคิดว่าตัวผมเองเป็นไบครับ แต่จริงๆ แล้วผมไม่เคยสนใจเรื่องความรักเลยครับ ไม่เคยสนใจอย่างจริงจัง ตอนม.ปลายก็มีบ้างแต่มันก็เป็นเรื่องของความอยากรู้อยากลองเฉยๆ แล้วมันก็แค่ไม่กี่ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นรุ่นพี่ทั้งผู้หญิงผู้ชาย คืนเดียวแล้วจบไป


ผมไม่เคยรู้สึกอะไร และไม่เคยชอบใครเป็นพิเศษนอกจากแซวสาวเล่นๆ ตามประสาวัยคะนองจนกระทั่งได้มาเจอพี่เรนนั่นแหละครับ ตอนแรกมันคือความสนใจเห็นเขาดูเอ๋อๆ ตลกๆ ดี ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความชอบแล้วก็กลายเป็นความรักในที่สุด แต่มันก็ยังเป็นรักเขาข้างเดียวนั่นแหละครับ


ตึ๋ง!


ตึ๋ง ตึ๋ง ตึ๋ง ตึ๋ง!


เรียกแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังรัวขัดความคิดของผมให้รู้สึกหงุดหงิด เดาได้ไม่ยากว่าคงไม่พ้นเป็นเพื่อนในกลุ่มผม ตั้งใจจะหยิบมาพิมพ์ด่าเสียหน่อยโทษฐานที่ขัดเวลามโนของผม


          mac : มึงๆๆๆๆ กูเจอเฟสพี่เรนด้วยโว๊ย เขาเป็นรุ่นพี่หนึ่งปีจริงๆ ว่ะ
          mac : อยู่ปีสาม คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบภายในว่ะ
          mai : จริงดิ แล้วมึงไปมีเฟสพี่เขาได้ยังไงวะ
          mai : *ส่งสติ๊กเกอร์*
          pae : *ส่งสติ๊กเกอร์*
          kleow : *ส่งสติ๊กเกอร์*
          kleow : มึงหาเจอได้ไง ไหนเอามาส่องดิ



ผมนี่ตาโตเลยครับ ไอ้ห่าแม็คไปหาเฟสพี่เรนจากไหนวะ


“ไหน มึง เอา… เฟส พี่เรน… มาเลย” ผมรีบพิมพ์ตอบกลับไปทันที แล้วไม่นานไอ้แม็คก็ส่งลิ้งค์เฟสบุ๊คของพี่เรนมาให้ในแชทกลุ่ม


“แล้ว… มึง ไป เจอ ได้ ยัง… ไง” ผมพิมพ์ถามมันไปอีกรอบ


          mac : พอดีกูมีเพื่อนอยู่ถาปัตย์กูเลยลองไปถามดูว่ารู้จักผู้หญิงที่ชื่อตินาไหม น่าจะอยู่ปีสาม
          pae : แต่พี่เขาอยู่สินกำนิ
          mac : เออ ก็ใช่ไง กูไม่รู้นิหว่า เห็นมีถือกระดานวาดรูปก็มีอยู่ไม่กี่คณะหรอกแล้วสองคณะนี้ก็ตึกใกล้กันกูเลยลองไปถาม
          mac : กูบอกเพื่อนไปไงว่ากูจะสนใจอยู่ไรงี้ มันเลยเอาเฟสของคนที่ชื่อตินามาให้กูดู มีอยู่สี่คนแล้วพอกูเจอกูก็เลยส่องหาเฟสพี่เรนไง



คือมึง...กูไม่กล้าแอดไปหาว่ะ เขิน >/////< : kamin
     


ผมส่งข้อความไปบอกพวกมันก่อนจะโดนมันรัวข้อความและสติ๊กเกอร์กลับมาด่าผม อะไรวะแค่นี้ก็ต้องด่ากูด้วย


กูเขิน กูอายอะ มึงเข้าใจปะ ถึงกูจะได้ชื่อว่าเป็นเดือนคณะนิเทศที่หน้าตาหล่อเหลาและหน้าด้านที่สุดก็เถอะ!


ผมเลิกสนใจบรรดาข้อความทั้งหลายแหล่ของไอ้พวกนั้นแล้วหันมาสนใจกับการส่องเฟสพี่เรนแทน พี่เขาตั้งสาธารณะเอาไว้ผมเลยส่องได้สบายมาก


ชื่อพี่เรนแปลกดี จะว่าไปก็คล้ายๆ กับชื่อจริงผมอยู่เหมือนกันนะ ผมชื่อจริงว่าคามิน ส่วนของพี่เรน...รามิล ชื่อคล้ายกันแบบนี้ต้องเป็นเนื้อคู่กันแน่เลยอะ เขินอะ!!


พี่เรนมีเพื่อนไม่มากยิ่งเทียบกับผมนี่เพื่อนในเฟสบุ๊คพี่เรนโคตรน้อยแค่สองร้อยกว่าคนเอง ต่างจากผมที่มีโคตรเยอะ พี่เรนไม่ค่อยลงรูปตัวเองเท่าไหร่แต่ก็ดีแล้วเพราะผมหวง ต่างจากผมที่รูปโคตรเยอะแต่ไม่ใช่ว่าผมถ่ายเองลงเองนะ เดี๋ยวคนนู้นถ่ายลงแล้วแท็กผม คนนี้ถ่ายลง ในเพจ Cute Boy & Girl เพจมหา’ลัย เพจดาวเดือน ก็มีรูปผมเต็มไปหมด คนมันฮอตก็งี้แหละครับ


ส่วนใหญ่พี่เรนจะลงรูปงาน อือหือ… วาดรูปโคตรสวยอะครับ นอกจากรูปงานแล้วก็ยังรูปแมว อ่า… น่าจะเป็นลูกแมวตัวเล็กที่พี่เรนเก็บไปเมื่อปีที่แล้ว หน้าตามันมึนเหมือนเจ้าของไม่มีผิด ฮ่าๆๆๆ น่ารักว่ะ


ฮ่าๆๆๆๆ พี่เรนลงวีดิโอแมวตัวเองวิ่งชนประตูด้วย โอ๊ยฮา โคตรจะเหมือนคนเลี้ยงเลยจริงๆ เฮ้อ… น่ารัก น่ารักจนอยากจะจับฟัดจริงๆ


แต่ก่อนที่จะได้ฟัด ผมก็ต้องจีบเขาให้ติดก่อนสินะ


          Guy Kamin จะเริ่มจีบ… ยังไงดีนะ





ตึ๋ง! ตึ๋ง! ตึ๋ง! ตึ๋ง!


เสียงแจ้งเตือนที่ดังรัวทำเอาผมสะดุ้งตื่นหลังจากที่เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ พอหยิบมาเปิดดูเท่านั้นแหละ


“ไอ้เชี่ย!!!!!! ซวยแล้วไอ้กาย”


ผมได้แต่ยกมือขึ้นยีหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด ตอนก่อนที่ผมจะเผลอหลับไป ผมส่องเฟสพี่เรนอยู่แล้วไอ้ที่ผมตั้งตัสเอาไว้ว่าจะเริ่มจีบยังไงดี ผมลืมไปตั้งที่แอพไอ้นกสีฟ้า แต่ตั้งในเฟสบุ๊คเลยครับ ทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง รุ่นเดียวกันคอมเมนต์ถามใหญ่ว่าผมจะจีบใคร


แล้วรับรองได้ในบรรดาเพจแม่งต้องมีภาพแคปสเตตัสผมไปลงแล้วแสดงความคิดเห็นกันสนุกสนานแน่ๆ อะ


คือเอาจริงๆ ในเฟสผมจะลงแค่เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนหรืออยู่กับเพื่อนไรงี้ ก่อนหน้านี้เคยลงเพ้อถึงพี่เรนบ้างแต่คนเอาไปพูดเป็นประเด็นกันเป็นอาทิตย์ผมเลยไม่ตั้งสเตตัสอะไรพวกนี้อีก แล้วหันไปหาเจ้าแอพนกสีฟ้าแทนเพราะไม่ค่อยมีคนรู้ว่าผมเล่นทวิตเตอร์ ผมเลยสามารถพร่ำเพ้อถึงพี่เรนได้สบายๆ


ในขณะที่กำลังหัวเสียกับสิ่งที่เผลอทำลงไปนั้น โทรศัพท์ผมก็สั่นอีกรอบพร้อมกับการแจ้งเตือนที่ว่า…


          Raamin Parsertsuk ได้ตอบรับคำขอเป็นเพื่อนของคุณ


ร… รา รามิล ประเสริฐสุข… ร รามิล!!!


“วู้ววววววว!!!! เขาตอบรับเป็นเพื่อนในเฟสกูแล้วโว๊ย” ผมนี่แทบจะโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วลงไปวิ่งรอบตึกด้วยความดีใจ


ตอนนี้ดีใจสุดๆ เลยครับ คือแบบว่าไม่คิดว่าเขาจะรับผมเป็นเพื่อนอะครับ โคตรจะดีใจเลย


ผมขยับตัวลงจากเตียงก่อนจะเดินออกไปที่ระเบียงห้องของผม ไม่รู้ว่าพี่เรนกำลังทำอะไรอยู่ แต่คงยังไม่นอนเพราะเมื่อกี้เขาเพิ่งกดรับผมเป็นเพื่อนอยู่เลย


แล้วก็จริงๆ ด้วยเขายังไม่นอน ที่สำคัญไปกว่านั้นเขากำลังยืนอยู่ที่ระเบียงฝั่งตรงข้ามกับผม


ฮ่าๆๆ ใครๆ ก็บอกว่าแมวขี้อ้อนใช่ไหมครับ แต่ดูเหมือนคนเลี้ยงแมวอย่างพี่เรนจะเป็นฝ่ายอ้อนแมวมากกว่านะครับ ตอนนี้พี่เขาเอาแก้มถูไปตามขนของแมวที่กำลังอุ้มอยู่ แต่แมวของพี่เขาดันเอาเท้าตะปบหน้าแล้วดิ้นหนีซะอย่างนั้น


“หึหึหึ ให้ตายเถอะ จะน่ารักไปไหนวะ” ผมยิ้มขำเมื่อเห็นอะไรแบบนั้น


ผมยืนมองพี่เขาเล่นกับแมวจนกระทั้งอีกฝ่ายเดินเข้าไปในห้องผมถึงได้เดินกลับเข้าห้องบ้าง


คืนนี้ผมนี่นอนหลับฝันดีแล้วละครับ





************************************************
มาแล้ววววววว เอาตอนที่ 2 ของน้องกายมาเสิร์ฟแล้วค่ะ พกมาเต็มกับความน่ารักน่าเอ็นดู(?)ของน้องกาย เหมือนอวยเนอะ แต่ก็จริงแหละค่ะเพราะฟางหลงน้องมากกกก ชอบเรื่องนี้มากจริงๆ เลยอยากให้ได้ลองอ่านกันดู คือน่ารักน่าดูเอ็น เอ๊ย! น่าเอ็นดูทั้งน้องกายทั้งพี่เรนเลยค่ะ แล้วคือน้องประกาศแล้วจ้าว่าจะจีบ แต่จะจีบยังไง จะรอดไหม จะเข่าอ่อนหัวใจระทวยไหมอันนี้ต้องรอลุ้นกันต่อไปนะ

ฟางฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ อยากให้ลองติดตามกันไปเรื่อยๆ ฝากฝังเจ้าน้องกายกับพี่เรนเอาไว้ด้วยค่ะ

อย่าลืมคอมเมนต์ให้ฟางด้วยนะ แต่งมาให้อ่านแล้วก็อยากอ่านคอมเมนต์บ้าง คอมเมนต์กันด้วยน๊า พลีสสสสสสสสสส

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [50%] l P.2 28-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 28-12-2015 10:50:40
พี่เรนน่ารักมากอ่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [50%] l P.2 28-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 28-12-2015 11:23:17
น้องกาย พี่เรน น่ารักทั้งคู่
จะว่าไปน้องกายนี่ขี้มโนเนอะ น่ารักกกก
รอตอนต่อไปนะค๊า
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [50%] l P.2 28-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-12-2015 11:26:54
ง่าาาาา.  พี่เรนน่ารักกกกกก
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [50%] l P.2 28-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 28-12-2015 12:45:39
งื้อออน่ารักกกก :katai5:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [50%] l P.2 28-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 28-12-2015 15:59:06
น่ารักกก
คามินรามิล
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [50%] l P.2 28-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: shokung ที่ 28-12-2015 23:21:53
ก๊ากก น้องกายเอ้ย ขนาดแค่นี้ยังเขินแบบนี้ แล้วตอนนี้จะจีบน้องเรน ลมจะไม่จับก่อนเหรอ คุๆๆ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [50%] l P.2 28-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 30-12-2015 11:53:05
กายเอ้ยยยยยย เลิกเขินเอาความหน้าด้านของตัวเองกลับมาแล้วจีบพี่ฝนเอ้ยพี่เรนซะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [50%] l P.2 28-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 30-12-2015 12:21:14
ชอบเรื่องแนวนี้จัง.  ใสใส. ไร้เดียงสา. ความสัมพันธ์ค่อยเป็นค่อยไป.  น่ารักทั้งเรนทั้งกาย.  ขอให้ตินาเป็นสาววายจะได้เป็นแม่สื่อให้.   อย่ามาหลงชอบพระเอกนะ.  งานนี้ขอน้ำตาลท่วมจอ.  งดมาม่านะจ๊ะ. ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [50%] l P.2 28-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-01-2016 20:24:23
พี่เรนน่ารักอ่ะ กายจะรุกไงล่ะเนี่ย :mew4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [50%] l P.2 28-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: 98NooNid0831 ที่ 04-01-2016 20:44:21
รอฉันรอเธออยู่ :really2: แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด  :z2: เธอจะมาเธอจะมาเมื่อไหร่ :t3:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [50%] l P.2 28-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: Malila ที่ 04-01-2016 22:05:19
พี่เรนน่าร้ากกกกกกก
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [50%] l P.2 28-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: Youi_chin ที่ 05-01-2016 14:57:33
 :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [100%] l P.3 12-01-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 12-01-2016 12:33:22
(https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/originals/eb/6d/39/eb6d394b57be667a26c31d34d2862bc2.gif)

คือมึง...กูไม่กล้าแอดไปหาว่ะ เขิน >/////<

kamin


say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ




โชคครั้งที่ • 2.2 •



••• 100% •••



“เอาละนักศึกษาทุกคน คราวที่แล้วที่ผมให้แบ่งกลุ่มแล้วเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาประจำกลุ่ม ทุกกลุ่มได้อาจารย์กันหมดแล้วนะ จากนี้ก็ให้แต่ละกลุ่มแยกย้ายเข้าไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาตามห้องที่นัดกันได้เลยนะ ส่วนกลุ่มของผมก็อยู่ห้องนี้แหละ” อาจารย์ธีร์พูดหลังจากที่การแลคเชอร์จบลง


วันนี้เรามีเรียนวิชาหลักของคณะครับ วิชาที่มีโปรเจคใหญ่นั่นแหละ


หลังจากที่อาจารย์ธีร์พูดจบเพื่อนๆ ในชั้นปีก็ทยอยกันออกจากห้องสโลบนี้ไป เหลือเพียงพวกผมแล้วก็เพื่อนอีกห้าคน เพราะพวกเราทั้งหมดอยู่กลุ่มอาจารย์ที่ปรึกษาอาจารย์ธีร์นี่แหละ


พวกผมห้าคนแล้วก็เพื่อนอีกห้าคนสนิทกันนะครับ เวลาจับกลุ่มใหญ่ที่ไรก็รวมตัวกันแบบนี้ตลอด แต่เหมือนเราแบ่งเป็นสองกลุ่มย่อยอีกทีครับ เวลาไปไหนมาไหนผมก็จะไปกับพวกไอ้ไม้ ไอ้แม็ค ไอ้เป้แล้วก็ไอ้เกลียว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สนิทกับอีกห้าคนนั้นนะ พวกเราสนิทกันครับ กินเหล้าไหนก็เฮกันไปหมด


“อย่างนั้น… พวกสุรเดชมาคุยก่อนแล้วกัน พวกคามินรอไปก่อนนะ” อาจารย์ธีร์เรียก


ผมกับเพื่อนพยักหน้ารับแล้วนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่โต๊ะแลคเชอร์ครับ คือเอาจริงเก้าอี้อย่างกับโรงหนังอะครับ โต๊ะก็พับเก็บไปไว้ข้างๆ ได้ พอเก็บโต๊ะไปแล้วนี่นอนกันสบายเลย


“ไอ้กายตกลงมึงแอดเพื่อนพี่เรนไปยังวะ” ไอ้เป้หันมาถามผม


“ระดับกาย คามิน ไม่มีพลาดครับ แล้วพี่เรนก็รับกูเป็นเพื่อนแล้วด้วยโว๊ย” ผมหันไปยักคิ้วให้


“กูแอดไปหาบ้างดีกว่า” ไอ้เกลียวพูด ผมที่นอนอยู่นี้เด้งหัวขึ้นทันทีอะครับ


“เออๆ กูด้วยดีกว่า” ไอ้ไม้พูดอย่างเห็นด้วย


“กูแอดไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว” คราวนี้ไอ้แม็ค


ทีนี้ละครับจากแค่หัวกระดกผมนี่กระดกทั้งตัว “ห้ามแอดโว๊ย! กูหวงของกู ห้ามพวกมึงแอดเลย”


“อ้าว มาห้ามพวกกูได้ไง กูก็อยากมีเฟสของว่าที่เพื่อนสะใภ้นะมึง” ไอ้เป้พูด


เพื่อนสะใภ้เหรอ… พูดจาดีนี่หว่า…


“อะๆ กูเห็นแก่ที่พวกมึงเป็นเพื่อนซี้กู กูยอมให้พวกมึงแอดเฟสพี่เรน(ว่าที่)สุดที่รักกูก็ได้”


พอผมพูดแบบนั้นพวกแม่งก็หันมารุมผมทันทีอะ อะไรวะก็แค่พูดความจริงเอง


“นี่ๆ เงียบๆ กันหน่อย” อาจารย์ธีร์หันมาดุพวกผม ให้พวกผมต้องร้องขอโทษอย่างพร้อมเพรียงกันแล้วหันมาส่งสายตาคาดโทษกันแทน


ผมเลิกสนใจพวกมันแล้วนอนส่องเฟสพี่เรนต่อ โอ๊ะ!! มีรูปพี่เรนด้วย แต่พี่เขาไม่ได้อัพเองหรอกครับ เพื่อนเขาแท็กมา พี่เรนโคตรน่ารักอะครับ


คนที่แท็กพี่เขามาดูเหมือนจะเป็นเพื่อนผู้หญิงที่ชื่อตินา… แล้วนั่นอะไรๆ อะไรครับ ทำไมต้องกอดคอพี่เรนด้วย แล้วกอดคออย่างเดียวไม่พอดึงแก้มพี่เรนด้วยอะ โอ๊ยยย ผมอิจฉาอะครับ


แก้มพี่เรนอย่างขาวแล้วมันต้องนิ่มมากแน่ๆ ผมอยากจะงับแก้มนั้นชะมัดเลย


          Tina Yaoi : หนุ่มน้อย~ สมบัติอันดีงามของกลุ่มอิเจ๊


พี่เรนนี่เป็นหนุ่มน้อยอย่างที่พี่ตินาพิมพ์จริงๆ นั่นแหละ ว่าแต่ชื่อเฟสพี่ตินาคืออะไร… ยา… ยาโอไอ ยาโออิ อะไรวะอ่านไม่ออก หรือพี่แกจะเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น นามสกุลญี่ปุ่นมากอะครับ


ระหว่างที่รอเวลาผมก็ส่องเฟสพี่เรนไปพี่ตินาไป หลังๆ ส่องแต่เฟสพี่ตินาครับเพราะรูปพี่เรนเยอะ เซฟมาได้หลายสิบรูปเลยครับระหว่างรอ เพราะพวกกลุ่มนั้นใช้เวลาคุยกับอาจารย์ไปเกือบสองชั่วโมง ก็แบบนี้ละครับคุยกันนาน ไม่ได้คุยเรื่องงานนะ คุยเรื่องเที่ยวกันอะครับ ฮ่าๆๆๆ


หลังจากที่พวกนั้นคุยกับอาจารย์เสร็จแล้วแทนที่พวกผมจะได้เข้าไปคุยต่อเลย ไม่ครับ! อาจารย์ธีร์บอกพักแปบ หิวน้ำแล้วมีการสั่งให้พวกผมไปซื้อกาแฟเย็นมาให้อีกด้วย ซึ่งกว่าพวกผมจะได้คุยก็ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง


“เอาใครก่อนดี”


“อ๊ายอาจารย์! พูดไรแบบนั้นเคอะ พวกเราเขินหมด”


พออาจารย์ธีร์พูดไอ้เป้ก็จัดเลยครับ ทั้งเสียงทั้งท่าทางกระแดะยิ่งกว่ากะเทยอีก คือพวกผมสนิทกับอาจารย์ธีร์ครับ ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว อาจารย์เลยค่อนข้างเป็นกันเองกับพวกผม แต่เกรดนี่ไม่เป็นกันเองเลยอะครับ


“นายเป้ ศรัณย์ ดรอป…”


“โหยอาจารย์ ล้อเล่นครับ ล้อเล่น ไม่เอาไม่ทำหน้าแบบนั้นสิ”


แล้วหลังจากนั้นพวกผมก็เริ่มคุยงานกันครับ เริ่มที่ไอ้เป้นั่นแหละคนแรก ถัดมาก็เป็นไอ้แม็ค ไอ้เกลียวครับ


“คอนเซ็ปผมคือ...ความอยู่รอดครับอาจารย์” ไอ้ไม้พูด พวกผมนี้ตาโตด้วยความสนใจ อาจารย์ธีร์เองก็สนใจไม่น้อยครับ


“ไหน ลองอธิบายมาสิ” อาจารย์ธีร์พูด


แล้วไอ้ไม้ก็เริ่มเปิดกระเป๋าสะพายครับ ก่อนที่พวกผมทุกคนรวมไปถึงอาจารย์ธีร์จะช็อคตาตั้งเมื่อไอ้ไม้หยิบของในกระเป๋าออกมา


บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปครับ! ทั้งยี่ห้อมาม่า ไวไว ควิก มีหมดทั้งรสหมูสับ ต้มยำกุ้ง ต้มโค้ง แกงเขียวหวาน


แม่งขนมาหมดครับ ไอ้เชี่ย!!! นึกว่าจะมีสาระ ผมก็งงตั้งแต่เช้าแล้วว่าไอ้ไม้มันสะพายกระเป๋ามา ปกติมันมาแต่ตัวครับ สมุดมันใช้สมุดอ่อนๆ เรียนเสร็จม้วนใส่กระเป๋ากางเกงได้ ส่วนปากกามันพกแท่งเดียวเหน็บไว้กับกระเป๋าเสื้อ


“นี่ครับความอยู่รอด วันไหนไม่มีเงินกินข้าวจานละสามสิบสี่สิบบาทก็ยังมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองละสิบบาทให้ประทังชีวิตครับ!”


อาจารย์ธีร์ถึงกับโยนปากกาลงโต๊ะแล้วยกมือขึ้นกุมขมับตัวเอง ส่วนพวกผมนี่พอตั้งสติได้ก็ถึงกับหัวเราะลั่นด้วยความขบขัน ไอ้ห่าไม้ก็คิดได้นะ


“มันเรื่องจริงนะครับอาจารย์ธีร์” ไอ้ไม้พูดหน้าตาซื่อ


“โอเคๆ มันก็เป็นเรื่องจริงอย่างที่คุณพูด ถ้าคุณจะใช้คอนเซ็ปนี้จริงๆ ผมก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่คำว่าความอยู่รอดมันไม่ได้หมายถึงแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนะ ผมรู้ว่าชีวิตคุณอยู่รอดมาได้เพราะเจ้านี่…”


พอได้ยินอาจารย์ธีร์พูดแบบนั้นพวกผมก็หัวเราะทันทีเลยครับ แม้แต่ไอ้ไม้เองก็ยังหัวเราะเลย คือมันเรื่องจริงมาก


“ยังไงลองเอากลับไปคิดแล้วตีความเพิ่มดูนะ”


เอาจริงๆ งานนี้คอนเซ็ปที่มาคุยกับอาจารย์มันไม่ตายตัวหรอกครับ พวกผมสามารถเปลี่ยนคอนเซ็ปไปได้เรื่อยๆ แม้กระทั่งวันสุดท้ายก่อนส่ง ขอแค่มีงานส่งพอครับ เพราะบางครั้งความคิดแรงบันดาลใจมันก็มาแบบไม่ทันตั้งตัว


“เอาละคนสุดท้ายคอนเซ็นของคุณคืออะไร”


“비 (บิ) ครับอาจารย์” ผมตอบ


“บิ” อาจารย์ธีร์ทำหน้างงอย่างไม่แน่ใจว่าฟังถูกหรือเปล่า “มันคืออะไร”


“บิ เป็นภาษาเกาหลีครับแปลว่าฝน”


“คอนเซ็ปฝน แล้วทำไมถึงใช้เป็นภาษาเกาหลีทำไมไม่ใช่ภาษาอังกฤษว่า rain”


“ฝน เป็นคำง่ายๆ ที่ใครหลายคนตีความหมายไปถึงความเศร้า ความเหงาโดยไม่รู้ตัวครับอาจารย์ ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงชอบบอกว่าฝนตกแล้วเศร้า ฝนตกแล้วเหงา” ผมพูดออกไป ซึ่งอาจารย์ธีร์ก็พยักหน้ารับ ผมจึงพูดต่อ


“ผมต้องการจะสื่อว่า ‘ฝน’ ไม่ได้มีเพียงแค่ความเศร้า แต่มันมีอะไรที่มากกว่านั้นไม่ว่าจะเป็นความสุข ความสนุกสนาน ความอบอุ่น ความอ่อนโยน หรือว่าความเซ็กซี่ ผมจะใช้คนคนหนึ่งในการสื่อความหมายท่ามกลางสายฝนในแต่ละอารมณ์ครับ”


“ส่วนที่ว่าทำไมถึงไม่ใช่เรนที่แปลว่าฝน เพราะคำๆ นี้เป็นคำที่ทุกคนเข้าใจความหมายกันอยู่แล้วว่าหมายถึงฝน คนก็จะตีความหมายไปก่อนได้เห็นภาพ แต่ถ้าหากเป็นภาษาอื่นคนก็จะสนใจว่ามันแปลว่าอะไร มีความหมายยังไงครับ”


อาจารย์ธีร์ยกมือลูบคางอย่างที่ชอบทำเวลาที่กำลังคิดอะไรอยู่ “คุณบอกว่าจะใช้คนในการสื่อความหมายสินะ คุณมีแบบในใจหรือยังว่าเขาคือใคร”


ผมยิ้มทันทีกับคำถามนั้นของอาจารย์แบบที่เพื่อนๆ ผมก็ร้องแซว


“ไอ้หมอนี่มันมี ‘ฝน’ อยู่ในใจแล้วครับอาจารย์” ไอ้แม็คครับ ไอ้แม็ค


“อย่างนั้นเหรอ”


“ครับ ผมมี ‘ฝน’ อยู่ในใจแล้ว”


“แล้วคิดว่า ‘ฝนของคุณ’ จะยอมมาถ่ายโปรเจคนี้เหรอ แลดูคุณตั้งใจกับคอนเซ็ปนี้มากคิดไปถึงว่าจะสื่ออารมณ์อะไรออกมาบ้างแล้วขนาดนี้คงอยากจะทำมาก” อาจารย์ธีร์พูด


“ผมกำลังจะเริ่ม ‘จีบ’ ครับ ไม่ว่ายังไงผมจะเอา ‘ฝน’ มาถ่ายให้ได้ครับ เพราะคนนี้แหละที่ทำให้ผมคิดโปรเจคนี้ขึ้นมาได้”


“ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอให้คุณโชคดี ‘จีบฝนของคุณ’ ติดแล้วกันนะ ผมจะรอดูผลงานของคุณ เอาละวันนี้พอแค่นี้แหละ เจอกันอาทิตย์หน้า แต่ละคนก็ไปคิดอะไรมาเพิ่มเติมแล้วกันนะ”


“ขอบคุณคร้าบบบบ” พวกเราทุกคนยกมือไหว้ขอบคุณอาจารย์ธีร์ ก่อนที่พวกเรารวมไปถึงอาจารย์จะเดินออกจากห้องเรียนไป


วันนี้ไม่มีเรียนแล้วครับ บ่ายนี้ว่างซึ่งเป็นอะไรที่โคตรดี แต่ตอนนี้คงต้องไปหาอะไรลงท้องก่อน


“ไปกินข้าวที่ไหนดีวะ” ไอ้เป้ถามหลังจากที่พวกเราเดินออกมาจากตึกแล้ว


“ไปกินข้าวที่คณะศิลปกรรมศาสตร์กันไหม” ผมหันไปชวนพวกนั้นก่อนจะยิ้มกว้าง


“ทำไมจะเริ่มจีบฝนของมึงแล้วเหรอ” ไอ้เกลียวหันมาถาม


“ไปดูลาดเลาก่อนมึง ค่อยตัดสินใจว่าจะเริ่มจีบเลยดีไหม แต่ไม่ว่ายังไงกูก็ต้องจีบให้ติดแหละวะ เพราะทั้งงานทั้งชีวิตรักกูขึ้นอยู่กับเขาคนเดียวเลยนะโว้ย” ผมหันไปยักคิ้วให้แบบที่ไอ้พวกนั้นก็ทำท่าโก่งคอจะอาเจียนกับคำพูดของอะไร


อะไรวะ ก็คนเขาพูดความจริง


ผมได้แต่ส่งเสียงจิจ๊ะในลำคออย่างนึกหมั่นไส้ไอ้พวกเพื่อนตัวดีก่อนจะเดินนำไปรอรถบริการของมหา’ลัยเพื่อขึ้นไปลงที่ตึกคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอาจริงๆ พวกผมก็ไม่ค่อยได้มาเท่าไหร่หรอกครับเพราะมันห่างจากตึกคณะของผมพอสมควร ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ ก็ไม่ค่อยได้มา ส่วนมากจะวนเวียนอยู่แต่ที่คณะของตัวเองเพราะคนที่คณะผมค่อนข้างเยอะแล้วก็มีหลายสาขาอาณาบริเวณคณะนิเทศศาสตร์จึงเพียบพร้อมไปด้วยของบริโภคอยู่แล้ว


แต่หลังจากนี้คงได้มาบ่อยๆ แล้วนะสถาปัตยกรรมศาสตร์


ดูเหมือนว่าโรงอาหารนี้เป็นโรงอาหารของคณะสินกำกับคณะสถาปัตย์ใช้ด้วยกัน คนในโรงอาหารจึงค่อนข้างเยอะ เสียงดังโหวกเหวกพอๆ กับที่โรงอาหารของคณะผมเลย พวกผมทั้งห้าคนเดินปะปนไปกับเด็กคณะนี้ไปอย่างเนียนๆ พร้อมกับมองหาที่นั่งว่างด้วยก่อนที่ไอ้เป้จะอาสาไปนั่งเฝ้าโต๊ะให้เมื่อเจอโต๊ะว่างพวกผมเลยเดินไปซื้อข้าวกัน ซื้อให้ไอ้เป้ด้วย


“มึงคิดว่ามึงจะเจอเหรอวะ ตอนกลางวันแบบนี้คนก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ” ไอ้แม็คถามในระหว่างที่ผมกำลังสอดส่ายสายตาไปมารอบๆ เพื่อมองหาสุดที่รัก


“ถ้าเป็นเนื้อคู่กันก็ต้องเจอดิวะ” ผมบอกตักข้าวเข้าปากแต่สายตาก็ยังเหลือบซ้ายแลขวาไปด้วย


แต่จนกระทั่งพวกผมกินข้าวกันเกือบจะเสร็จก็ยังไม่เห็นเขาเลยสักนิด ถ้าหากกินข้าวเสร็จแล้วจะนั่งแช่ต่อมันก็ดูไม่ดีใช่ไหมละครับ เพราะอย่างนั้นผมเลยไล่ให้ไอ้เกลียวไปซื้อของกินเล่นมาเพิ่มรวมไปถึงขนมหวานด้วยเพื่อที่จะได้ซื้อเวลาต่อ กลุ่มนักศึกษาที่นั่งอยู่ข้างๆ พวกผมก็ลุกกันไปแล้ว แต่พวกผมยังไม่ลุกครับ ต้องรอเจอพี่เรนก่อนให้ได้


“ไปนั่งโต๊ะนั้นกัน ว่างพอดี” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ผมจะได้เห็นจากหางตาว่ามีกลุ่มใหม่มานั่งลงที่โต๊ะติดกับโต๊ะของผม แต่มันจะไม่อะไรเลยถ้าคนที่นั่งลองข้างผมคือ


“ฝน!!!”


คือพวกผมทุกคนหลุดออกมาหมดจนโต๊ะข้างๆ หันมามองอย่างงงๆ แม้แต่พี่เรนก็ยังหันมามอง ยังดีที่ทุกคนหลุดคำว่า ฝน ไม่ใช่ เรน คือพวกผมเรียกพี่เขาว่าฝนกันมาตลอดเพราะตอนแรกไม่รู้ชื่อจนกลายเป็นเรียกติดปากด้วยคำนี้


“ขอโทษทีครับ” ผมหันไปก้มหัวขอโทษพวกเขา


พวกพี่ๆ เขายิ้มตอบกลับมาอย่างไม่ถือสาอะไร ก่อนที่ผู้หญิงที่ชื่อตินา ผมจำได้... จะพาเพื่อนๆ ลุกขึ้นแต่พอพี่เรนจะลุกด้วยพี่ตินาเขาก็หันมากดไหล่พี่เรนนั่งลงตามเดิม


“นั่งอยู่นี่เลยจ๊ะ ไม่ต้องลุกเลย”


“ก็เราจะไปซื้อข้าว” พี่เรนทำปากยื่นใส่พี่ตินา


“เดี๋ยวพวกฉันซื้อมาให้ แกนั่งรออยู่ที่โต๊ะเข้าใจไหม พวกฉันหิวมาก อยากกินข้าวมากกว่าเดินตามหาเด็กหลงทางอย่างแก เข้าใจนะ นั่งนิ่งๆ อยู่เฉยๆ เป็นเด็กดีไม่ต้องลุกไปไหนแม้แต่ซื้อน้ำก็ด้วย”


พอพี่ตินาพูดแบบนั้นพี่เรนก็ทำแก้มป่องยกมือขึ้นดันแว่นกลมๆ ของตัวเองแต่ก็ยอมนั่งอยู่กับโต๊ะ คือผมไม่รู้ว่าพี่เขาเซ่อ เออ... หมายถึงซื่อ หรือประชดพี่ตินากันแน่ เพราะพอพวกพี่ๆ ที่โต๊ะลุกออกไปพี่เรนก็นั่งนิ่งเลยครับ คือนิ่งจริงๆ อะ


ผมได้แต่ยิ้มขำกับท่าทางนั้น พวกเพื่อนๆ ผมเองก็ขำแต่เราก็พยายามทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วก้มลงจัดการกับของกินเล่นที่ไปซื้อมาเพิ่ม


ผมเหลือบมองพี่เรนบ่อยๆ แต่ดูเหมือนพี่เขาจะไม่รู้ตัวเพราะเอาแต่นั่งนิ่งๆ ไม่ยอมขยับ ตั้งใจว่าจะลองหันไปทักแล้วชวนคุยชวนมาเป็นแบบให้ผม แต่ในจังหวะที่กำลังทำใจกล้าหน้าด้านหันไปได้ก็มีคนมาขัดเสียก่อน


“ไงเรน ทำไมนั่งนิ่งแบบนี้ละ” ใครไม่รู้ รู้แต่เป็นผู้ชายและบังอาจมากที่ยกมือมากดหัวพี่เรนของผมแบบนั้น


“ตินาบอกให้เรานั่งนิ่งๆ ห้ามขยับ ห้ามไปไหน” เจ้าตัวเขาพูดแบบนั้น


“ฮ่าๆๆ ไอ้มึนเอ๊ย ตอนบ่ายอย่าลืมที่นัดนะ”


นัด? นัดอะไรวะ พี่เรนมีนัดกับไอ้หล่อน้อยกว่าผมนี่ได้ยังไง เฮ้ย ผมไม่ยอมนะโว้ย


“รู้แล้ว ที่ห้องใช่ไหมเดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วจะตามไป” พี่เรนหันไปตอบมัน


ไม่ได้นะพี่เรน พี่จะไปเข้าห้องผู้ชายคนอื่นได้ยังไง ผมไม่ยอมนะโว้ยยยยยยย


“อื้อ เจอกันที่สตูฯ”


อ้าว... สรุปห้องที่ว่าคือห้องสตูฯ เหรอ ไอ้ผมก็นึกว่าห้องนอน หน้าแตกเลยกู....


“ไอ้กาย เหยื่อมึงนั่งอยู่ข้างๆ แบบนี้แล้วนะ มึงจะปล่อยไปง่ายๆ เหรอวะ” ไอ้แม็คที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมขยับมากระซิบ


“เอ่อๆ รู้แล้วน่า” ผมหันไปตอบมันก่อนจะหันกลับไปมองพี่เรนอีกรอบ


“เอ่อ... ขอโทษนะครับพี่”

.

.

“มีไรน้อง จะจีบเพื่อนพี่เหรอ”






************************************************
แฮ่! ขอโทษค่าที่หายไปนาน (นั่งคุกเข่าสำนึกผิด) ฟางเกเรไปหน่อยค่ะช่วงนี้เลยไม่ได้จับคอม ไม่สิ จับคอมแต่ไม่ได้เปิดนิยายขึ้นมาแต่งมาอัพเลย ขอโทษด้วยนะคะ แหะๆ มันเป็นช่วงอาการเกเรอะค่ะอยากจะทำอย่างอื่น อันนี้ยอมรับผิดค่ะ ยังไงจะพยายามลดอาการเกเรของตัวเองลงแล้วมาอัพให้บ่อยๆ นะคะ ขอโทษค่ะ

ฮาบรรดาเพื่อนๆ ของน้องกายแต่ละคน... เพลียจิตจริงๆ 5555555555 น้องกายก็น่ารักเนอะ พี่เรนก็น่ารัก น่ารักพอกันทั้งคู่เลยยยย ยังไงก็ฝากติดตามพี่น้อง(?)คู่นี้ด้วยนะคะ ^^

อย่าลืมคอมเมนต์ให้ฟางด้วยนะ แต่งมาให้อ่านแล้วก็อยากอ่านคอมเมนต์บ้าง คอมเมนต์กันด้วยน๊า พลีสสสสสสสสสส

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [100%] l P.3 12-01-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-01-2016 16:13:25
อร๊ายยยยยยย ชอบๆๆๆ. อีกายมีคู่แข่งซะละ อย่ายอมแพ้นะ กายสู้ๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [100%] l P.3 12-01-59
เริ่มหัวข้อโดย: 98NooNid0831 ที่ 14-01-2016 23:00:47
คนเขียนต้องเป็น อินเนอร์ แน่ๆเลย รู้ว่าพี่จินชอบหลงทางด้วย  :-[ น่ารักกกกก  เอาอีกนะเค้ารอเธออยู่นะ :3123:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [100%] l P.3 12-01-59
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 15-01-2016 16:06:09
เฮ้ยขาดตอนอ่ะ แสดงว่าตีน่าถามแน่ๆ 5555 สนุกมาก ชอบนิสัยพระเอกยุนะ ถึงแต่ก่อนจะเหลวแหลกนิดนึง พอให้อภัยได้
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 2 • [100%] l P.3 12-01-59
เริ่มหัวข้อโดย: shokung ที่ 02-02-2016 23:53:49
แหมม ถามได้ตรงใจคนอ่านจริงๆ คุๆๆ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [50%] l P.3 28-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 28-02-2016 21:51:15
(http://i58.tinypic.com/2lnyddh.gif)

ปากก็เคี้ยวหมุบหมับไม่หยุด แม่งเอ๊ยยย!!! น่ารักชิบหาย(ว่าที่)แฟนใครวะ
kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะค




โชคครั้งที่ • 3 •



“น้องจะจีบเพื่อนพี่เหรอ”


ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรเลยครับ พี่ตินาก็เดินกลับมาพร้อมกับจานข้าวสองจาน


“เรน แกขยับมานั่งตรงนี้” พี่ตินาวางจานข้าวที่น่าจะเป็นของพี่เรนไว้ก่อนจะบอกให้พี่เรนขยับไป ซึ่งพี่เรนก็น่ารักเหลือเกินพยักหน้าหงึกหงักแล้วขยับตามที่เพื่อนบอก ส่วนที่นั่งของพี่เรนพี่ตินาก็นั่งลงแทน


“น้องสาวสวยนั่งลงข้างๆ แบบนี้ช่วยทำหน้าฟินนิดนึงดิไม่ใช่ทำหน้าเซ็ง เหมือนเพื่อนน้องอะ” พี่ตินาพูดพร้อมกับพยักเพยิบไปทางพวกเพื่อนๆ ของผม


ไอ้พวกนี้ก็สายตาหน้าตาออกชิบหาย จ้องพี่ตินาตาไม่กระพริบเลย แล้วทำไมผมต้องทำหน้าฟินด้วยวะ ผมไม่ได้อยากนั่งข้างพี่เขาสักหน่อย อยากนั่งข้างคนน่ารักคนนั้นต่างหาก


ผมพยายามเอนหัวไปมาเพื่อจะได้มองพี่เรนกินข้าว ผมเคยเจอพี่เรนที่ร้านข้าวแถวห้องเคยนั่งมองบ่อยๆ ผมชอบเวลาพี่เรนกินข้าวเหมือนเด็กเลย ไม่ได้กินเลอะเทอะอะไรหรอกครับแต่พี่เรนจะชอบเคี้ยวตุ้ยๆ จนแก้มพอง


ผมขมวดคิ้วด้วยความขัดใจเมื่อพี่ตินาขยับตัวเอามาบังผมเอาไว้ “พี่ตินาครับ อย่าขัดขวางความสุขคนอื่นสิครับ”


“น้องรู้จักชื่อพี่ได้ไง” พี่ตินาเลิกคิ้วถาม พี่เรนเองก็หันมามองอย่างงงๆ ว่ามีเรื่องอะไรรึเปล่าแต่แค่แปบเดียวก็หันไปกินข้าวต่อ เพื่อนๆ ในกลุ่มพี่เขาก็กลับมาจนครบหมดแล้ว ดูเหมือนกลุ่มนี้จะมีแต่ผู้หญิงนะครับเนี่ย


พี่ๆ คนอื่นหันมามองผมกับพี่ตินาอย่างสนใจก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะ “มีไรวะติ” พี่คนหนึ่งถามพี่ตินา ซึ่งพี่เขาก็หันไปตอบ


“น้องนี่ชอบสมบัติของกลุ่ม” พอพี่ตินาพูดแบบนั้นทุกคนก็ทำตาโตหันขวับมามองผมทันที ไอ้ผมนี่ก็รู้สึกเหงื่อแตกพลั่กเลยครับ


“เหรอๆ อย่างนั้นน้องอย่าเพิ่งไปไหนนะ เดี๋ยวพวกพี่มีเรื่องจะคุยด้วย” แล้วเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มก็หันมาบอกกับผมก่อนที่พวกพี่ๆ เขาจะหันไปจัดการกับอาหารตรงหน้า


ส่วนผมก็หันกลับมาหาเพื่อนในกลุ่มนั่งกินขนมกันไปคุยกันไปครับ


“เรนแกขึ้นไปคุยงานกับพวกไอ้ป้อก่อนนะเดี๋ยวพวกฉันตามขึ้นไป” พี่ตินาหันไปพูดกับคนน่ารักที่สองแก้มพองออกเพราะยัดลูกชิ้นลูกใหญ่เข้าไปเต็มปาก


พี่เรนเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยว่าทำไมเขาต้องขึ้นไปก่อนด้วย ปากก็เคี้ยวหมุบหมับไม่หยุด แม่งเอ๊ยยย!!! น่ารักชิบหาย(ว่าที่)แฟนใครวะ


“พอดีพวกฉันมีเรื่องคุยกับพวกน้องๆ กลุ่มนี้หน่อย เดี๋ยวตามไปแกขึ้นไปก่อนเลย


พี่เรนชะโงกหน้ามามองพวกผมก่อนที่ดวงตากลมๆ นั้นจะเบิกกว้างขึ้นแล้วยกนิ้วขึ้นชี้หน้าผม “พวกนี้ที่ช่วยเราเก็บของตอนเราล้มเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่”


ผมยิ้มกว้างทักทายทันทีแต่รอยยิ้มผมก็ต้องหุบลงเมื่อพี่ตินาดันหน้าพี่เรนกลับแล้วหันมาทำตาดุใส่ผม


ไรวะ… แค่จะยิ้มให้ที่รักแค่นี้เอง


“ล้ม แกไปล้มที่ไหนตอนไหนวะเรน” พี่คนหนึ่งในกลุ่มหันไปถามทันที


“อาทิตย์ที่แล้ว มันหลงไปตึกนิเทศแต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ยังไงแกขึ้นไปก่อนแล้วกันนะ” พี่ตินาตัดบทก่อนจะหันไปบอกพี่เรนอีกรอบ


“โอเคๆ อย่างนั้นเราขึ้นไปก่อนนะ” พี่เรนตอบก่อนจะหันไปคว้ากระเป๋ามาสะพาย หอบกระดานวาดรูปไว้ที่แขนซ้าย ถือม้วนกระดาษปรู๊ฟ กระดาษร้อยปอนด์ไว้ที่มือขวาแล้วเดินออกไปจากโรงอาหาร


“เอาละ พวกเราย้ายที่ไปหาที่คุยกันดีๆ ดีกว่า” พี่ตินาหันมาพูดกับพวกผมก่อนที่จะลุกขึ้นยืน “อ๋อ… พี่ฝากเอาจานข้าวไปเก็บด้วยนะ”


พวกผมหันมองหน้ากันงงๆ แต่ก็หยิบจานข้าวของพวกพี่ๆ เขารวมไปถึงของพวกเราเองด้วยแล้วเอาไปเก็บตรงที่เก็บจานก่อนจะเดินตามพี่ตินาไป


ถ้าจำไม่ผิด… พี่ตินาบอกจะย้ายเพื่อหาที่คุยดีๆ แต่ทำไมผมไม่คิดว่าตรงนี้เป็นที่คุยที่ดีสักเท่าไหร่ คือมันก็ดีแหละครับ… พวกเราอยู่กันที่สวนข้างตึกคณะศิลปกรรมศาสตร์ มีต้นไม้ให้ความร่มรื่น แต่ตอนนี้ผมกับเพื่อนในกลุ่มกำลังนั่งอยู่บนพื้นหญ้าครับ


ย้ำ!


ขอย้ำอีกรอบ! ว่าบนพื้นหญ้า ไม่ใช่โต๊ะหินอ่อนที่วางอยู่รอบสวนนี้ ผมนั่งหน้าสุดส่วนไอ้พวกที่เหลือนั่งอยู่หลังผมครับ แล้วพี่ตินาและบรรดาเพื่อนๆ ยืนกอดอกล้อมรอบพวกผมเอาไว้


นี่จะคุยกันหรือจะรุมกระทืบผมวะครับ…?


ถึงอีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิง แต่ผมก็กลัวนะโว้ย



“ไหนบอกชื่อมาสิว่าชื่ออะไรบ้าง” พี่ตินาเป็นเสียงหลักครับ


“ผมกายครับ กาย คามิน” หลังจากที่เพื่อนแม่งสะกิดผมไม่หยุดผมก็เป็นคนแรกที่แนะนำตัว


“กาย คามิน? น้องใช่เดือนคณะนิเทศปีที่แล้วหรือเปล่า” พี่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างพี่ตินาถาม พอผมพยักหน้ารับว่าใช่พี่ๆ ก็ก้มลงมามองหน้าผมกันใหญ่


เอ่อ… ผมคนครับ ไม่ใช่สัตว์ประหลาด ไม่ต้องทำหน้าเหมือนเจอของแปลกขนาดนั้นก็ได้มั้ง…


นี่คนหล่อครับ คนหล่อ


“ถามจริงน้องชอบเพื่อนพี่จริงดิ” พี่สา (รู้ชื่อพวกพี่เขาแล้วครับ พี่เขาแนะนำตัวหลังจากพวกผมแนะนำตัวเสร็จ) ถาม “เดือนคณะอย่างน้องคือถ้าไม่สนผู้หญิงก็มีผู้ชายน่ารักๆ อีกเพียบปะ จะมาชอบเพื่อนพี่ได้ไง”


“พี่ครับ เชื่อไอ้กายมันเถอะ มันชอบฝน… ไม่ดิ มันชอบพี่เรนมากจริงๆ ครับ” ไอ้ไม้พูดพร้อมกับคนอื่นที่ยืนยัน


ผมพยักหน้าทันทีที่ได้ยินไอ้ไม้พูด เงยหน้าขึ้นมองบรรดาเพื่อนพี่เรน “ผมชอบพี่เรนจริงๆ นะครับ ไม่สิเรียกว่ารักเลยก็ได้นะ ผมชอบพี่เรนมาเป็นปีแล้ว”


พวกพี่ๆ เขาเลิกคิ้วขึ้นทันทีที่ได้ยินคำตอบของผมก่อนที่พี่ตินาจะถาม “หมายความว่ายังไง เดือนคณะอย่างนายเนี่ยนะจะมาชอบคนท่าทางคงแก่เรียนแบบนั้น น่ารักก็ไม่น่ารัก ดูเอ๋อๆ เนิร์ดๆ อีกต่างหาก เข้ามาปีแรกก็ไม่สุงสิงกับใคร เพื่อนก็ไม่คบ”


เอิ่ม… สาบานได้ว่านั้นกำลังพูดถึงเพื่อนตัวเอง


“เรื่องจริงครับ อีกอย่าง… พี่เรนก็น่ารักจะตายไป” ผมตอบแล้วก็ยิ้มกว้าง “ผมชอบพี่เขามาหนึ่งปี ห้องผมบังเอิญอยู่ตรงข้ามกับห้องของพี่เขา”


“เรนน่ะจริงๆ มันหน้าตาน่ารักมาก ตาโตๆ ปากแดงๆ แก้มป่องๆ โคตรน่ารักเลยแหละ” พี่แป้งพูดแล้วพี่คนอื่นๆ ก็พยักหน้ายืนยัน


จริงครับ จริงๆ แล้วพี่เรนโคตรน่ารัก แต่เขาชอบเอาผมปิดหน้าแล้วก็ใส่แว่นตาคนเลยไม่ค่อยรู้ แต่นั่นก็ดีครับผมไม่อยากให้ใครเห็นความน่ารักของพี่เรน


“ผมชอบพี่เรนจริงๆ นะครับ ถ้าพวกพี่ไม่ว่าอะไรให้ผมจีบพี่เรนได้ไหม”


“พวกเราเป็นแค่เพื่อนมัน ห้ามให้ใครมาจีบหรือไม่จีบมันไม่ได้หรอก แต่พวกเราก็คอยสแกนคนที่จะเข้ามาก่อนกลัวมันโดนหรอกเพราะเรนมันซื่อๆ ไม่ทันคนเท่าไหร่” พี่ตินาพูด ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ


“ดีที่มันชอบทำตัวเงียบๆ ไม่เป็นที่สนใจ เฉิ่มๆ เชยๆ นั่นแหละเลยไม่มีคนเข้ามาสนใจมันเท่าไหร่”


“แล้ว… ในคณะมีใครชอบพี่เรนไหมครับ” ไอ้แม็คโพลงถามขึ้นมา “รุ่นพี่หรือรุ่นเดียวกันรู้จักกับพี่เรนมาตั้งสามสี่ปี ต้องมีคนเคยเห็นหน้าจริงๆ พี่เรนสิครับ มีคนชอบหรือเปล่า”


พวกพี่ๆ เขาหันมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนที่พี่แป้งจะตอบ “ถ้ารุ่นพี่ก็มีแหละ แต่ไม่รู้จริงจังแค่ไหนชอบแซวไปเรื่อยแต่เรนมันก็ไม่ได้สนใจ ส่วนรุ่นเดียวกันไม่มีหรอก เรียกว่าไม่กล้าชอบมากกว่า แบบยังไงดีละ ตอนเข้ามาปีหนึ่งตั้งท่าตีตัวออกห่างกันชัดเจนเพราะเรนมันไม่สุงสิงกับใคร ไปไหนมาไหนคนเดียวเรียกง่ายๆ ว่าไม่มีเพื่อนนั่นแหละ พอนานๆ ไปก็เริ่มดีขึ้นเลยไม่มีใครกล้าคิดกับมันเกินเพื่อน”


หลังจากนั้นผมก็คุยก็ถามเรื่องพี่เรนกับพวกพี่ๆ เขาอีกหน่อย


และนั่นทำให้ผมรู้ว่าพี่ตินาไม่ได้เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น ไม่ได้นามสกุลยาโอไอ หรือยาโออิอะไร แต่นั่นเป็นคำศัพท์ที่สาวๆ ชอบใช้กันครับ สำหรับคนที่เป็นสาว(หนุ่ม)วาย พวกผมนี่งงกันเข้าไปอีก อะไรคือวายวะครับ ไหนพี่ตินาบอกว่ามันอ่านวายาโออิ แล้วทำไมมาเป็นวาย


“เมื่อก่อนความหมายของคำนี้ไม่ได้หมายถึงแบบนี้หรอกนะเมื่อก่อนเขาไว้ใช้เรียกการ์ตูนประเภทหนึ่ง แต่ตอนนี้มันแสดงความถึงพวกชายรักชายน่ะ สาววายหรือบางทีหนุ่มวายก็มีนะ ก็คือพวกชอบชายรักชายนั่นแหละ ชอบเห็นผู้ชายได้กัน” พี่ตินาตอบซึ่งทำเอาพวกผมถึงกับอ้าปากค้าง


คือ… บอกผมทีนั่นคำพูดของผู้หญิงสวยจริงเหรอวะครับ ชอบเห็นผู้ชายได้กัน พี่แกไปเห็นมาเร๊อะ!!!


“พวกเราในกลุ่มเป็นสาววายกันหมด ส่วนเรนน่ะเป็นเคะน้อยของพวกเรา สมบัติอันล้ำค่าประจำกลุ่มเลยนะ ตัวเล็ก น่ารักสเป็กหนุ่มๆ ฝ่ายรุกมากกกกกกกกกก” คราวนี้พี่สาพูดบ้างครับ


จริง!! ผมขอยืนยัน นั่งยัน นอนยัน จนยันพี่เรนติดเตียง พี่เรนน่ารักสเป็กหนุ่มๆ ฝ่ายรุกอย่างผมมาก!!!


ถ้าพวกพี่ๆ เขาชอบ อยากให้พี่เรนได้ผัว(?)แบบนี้ก็เข้าทางผมดิครับ ผมคิดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องก่อนจะถามย้ำไปอีกรอบ “ถ้าผมจีบพี่เรนพวกพี่จะไม่ขัดขวางใช่ไหม”


“เออ ไม่ขัดขวางหรอกเอาจริงๆ พวกเราก็อยากให้มันมีคนดูแลสักที ถ้ารักจริงพวกเราก็สนับสนุน”


“ผมอะนะ… รักจริง หวังแต่งแน่นอนครับ!!”


หลังจากนั้นผมก็แลกเบอร์ แลกไลน์ แลกเฟสบุ๊คกับพวกพี่ตินาเพื่อเอาไว้ติดตามและส่องความเคลื่อนไหวของพี่เรนก่อนที่พวกพี่ๆ เขาจะขอตัวไปคุยงานกันต่อ ส่วนพวกผมที่วางก็ย้ายตัวเองกลับมาถิ่นคณะถิ่นเดิมครับ





************************************************
กลับมาแล้วค่ะ... หลังจากหายไปเดือนกว่า ไม่ได้มาอัพเรื่องนี้เลย ขอโทษด้วยนะคะไม่ได้หายไปไหนไกลหรอกค่ะ มีงานนู้นทำงานนี้ทำต้องขอโทษด้วยค่ะ (_ _)

มาที่เนื้อเรื่องคือแบบว่าชอบรูป .gif บนหัวบทความมาก มันเข้ากับที่น้องกายพูดเลย หมุบหมับๆ อยากจะฟัดๆ พี่เรน (อันนี้ไม่ใช่แล้ว) เดี๋ยวน้องกายจะเดินหน้าจีบคนพี่แล้วค่ะ แต่จะจีบติดง่ายๆ ไหมละเนี่ย... อันนี้ต้องเอาใจช่วยน้องกายกันนะคะ จะเชียร์ใคร จะอยู่ฝั่งไหนก็เลือกข้างเลยนะคะ จะอยู่ข้างน้องกายจีบพี่เรน หรือจะอยู่ข้างพี่เรนหนี(?)น้องกายก็เลือกเลยนะคะ ^^

อย่าลืมคอมเมนต์ให้ฟางด้วยนะ แต่งมาให้อ่านแล้วก็อยากอ่านคอมเมนต์บ้าง คอมเมนต์กันด้วยน๊า พลีสสสสสสสสสส

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [50%] l P.3 28-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: harumi ที่ 28-02-2016 21:55:02
 :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [50%] l P.3 28-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 28-02-2016 22:15:55
 :z13:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [50%] l P.3 28-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-02-2016 22:57:35
กายสู้ๆน้าาาา

น้องฝนน่ารักชะมัด   :mew1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [50%] l P.3 28-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 28-02-2016 23:33:11
ไฟเขียวแล้ว กายลุยยย!!!
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [50%] l P.3 28-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-02-2016 00:36:55
แหมๆ ได้เพื่อนเรนมาเป็นพวกเยอะเลยนะ อีกาย
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [50%] l P.3 28-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 29-02-2016 01:42:41
โอ้ยยยย ฟินนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • แจ้งข่าวค่ะ • [0%] l P.3 20-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 20-03-2016 19:17:09
แจ้งข่าวค่ะ

ไม่ได้เข้ามาอัพนิยายนาน ไม่สบายไป 1 อาทิตย์ค่ะ

ตอนแรกตั้งใจจะมาอัพให้วันจันทร์

แต่เกิดเรื่องราวที่ไม่คาดฝันขึ้นเล็กน้อย เป็นเหตุการณ์ที่ฟางไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยจริงๆ

"ก๋งของฟางเพิ่งเสียค่ะ" ฟางต้องช่วยดูแลเรื่องงาน อาจจะยังไม่สะดวกเข้ามาอัพนิยายให้ค่ะ

แต่ถ้ามีช่วงเวลาที่สะดวกฟางจะเข้ามาอัพนิยายให้อ่านกันนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ขอ copy แล้ววางค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • แจ้งข่าวค่ะ • [0%] l P.3 20-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 23-03-2016 06:51:27
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะค้า
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [100%] l P.3 04-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 04-04-2016 21:10:49
(http://i58.tinypic.com/2lnyddh.gif)

ปากก็เคี้ยวหมุบหมับไม่หยุด แม่งเอ๊ยยย!!! น่ารักชิบหาย(ว่าที่)แฟนใครวะ
kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ เฟสบุ๊ค ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะค




โชคครั้งที่ • 3.2 •



• • • ต่อค่ะ 100% • • •



พี่เรน



“น้องเรนมาช่วยพี่ดูหน่อยสิว่างานพี่โอเคหรือยัง”


“อ้ะ… ครับ” ผมสะดุ้งก่อนจะรับคำเมื่อได้ยินเสียงของรุ่นพี่ปีสีเรียกก่อนจะลุกเดินไปทางกลุ่มพวกพี่ๆ เขา


“น้องเรนว่าสวยหรือยัง” ผมมองไปยังภาพบนโต๊ะตรงหน้าก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความงุนงง


“อ่า… สวยแล้วครับ…” ได้แต่ตอบไปแบบนั้นเพราะไม่รู้จะตอบอะไร ก่อนจะยิ้มกว้างให้พวกพี่ๆ เขา “พี่วาดหัวใจสวยดีนะครับ”


“ฮ่าๆๆๆ พี่ให้หัวใจเอาไหม” พี่เป้ถามต่อ


ผมเลยหันไปมองก่อนจะส่ายหน้า “ไม่เป็นไรครับ พวกพี่ตั้งใจวาดขนาดนี้เก็บไว้เถอะครับเดี๋ยวผมวาดใหม่เองได้”


ผมว่าผมก็พูดปกตินะครับทำไมพวกรุ่นพี่เขาจะต้องทำหน้าอึ้งๆ กันแบบนั้นด้วย ตัวผมมีอะไรผิดปกติเหรอ… ผมยกมือขึ้นจับหัว จับหน้าแว่นก็ยังอยู่นี่นา ก้มมองตัวเองก็แต่งตัวถูกระเบียบไม่มีอะไรผิดแปลกไปจากเดิมเสียหน่อย


“ผมพูดอะไรผิดหรือมีอะไรผิดปกติเหรอครับ”


“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ป เปล่าๆ ไม่มีอะไร น่ารักจริงๆ เลยนะน้องเรนเนี่ย” พี่เป้พูดยกมือขึ้นขยี้ผมของผมจนแทบยุ่งไปหมด แต่ผมก็ทำได้แค่ยืนปล่อยให้พี่เขาทำแบบนั้นต่อไปเพราะผมเป็นรุ่นน้องนี่นา


“ไอ้พี่เป้มาแกล้งอะไรเรนอีก” เสียงของตินาดังขึ้นจากทางด้านหลังผม ผมเลยรีบหันไปมองก่อนจะยิ้มกว้างไม่ใช่แค่ตินาเท่านั้นแต่เพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่มผมก็มาด้วย


ตินาเดินหน้าบึ้งตรงเข้ามาหาก่อนจะดึงผมไปกอดแล้วก็ลูบผมเอาไว้ อือ… ตินาทำอย่างกับผมเป็นเด็กเลยแหะ


“ปล่อยห่างตาไม่ได้เลยนะชอบมาแกล้งเรนอยู่เรื่อย” คราวนี้เป็นสาที่พูดขึ้นบ้างครับ


“พวกพี่เปล่าแกล้งเสียหน่อย แค่เรียกน้องเรนมาดูรูปที่พวกพี่วาดก็เท่านั้นเอง จริงไหมครับน้องเรน” พี่เป้พูดก่อนจะหันมาถามผม


ผมขยับหน้าตัวเองออกจาก เอ่อ… หน้าอกของตินาก่อนจะพยักหน้ารับยืนยัน “ใช่ พี่เป้แค่เรียกเรามาดูรูปหัวใจเอง”


ตินากรอกตาไปมาก่อนจะบอกให้ผมกลับไปนั่งทำงานต่อส่วนตินากับเพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่มก็ยืนคุยอยู่กับพี่เป้ต่อ ทำไมไม่ให้ผมอยู่คุยด้วยนะ… สงสัยจะมีเรื่องที่ไม่อยากให้ผมรู้แหะ ผมดันแว่นสายตาอันใหญ่ที่สวมอยู่ให้เข้าที่ก่อนจะเดินกลับไปนั่งทำงานของตัวเองต่อ


ผมเงยหน้าขึ้นมองเมื่อพวกเพื่อนๆ เดินกลับมานั่งที่โต๊ะก่อนจะส่งยิ้มให้แต่ก็ต้องค่อยๆ หุบยิ้มลงเมื่อแต่ละคนไม่ได้ยิ้มตอบผมแถมยังทำหน้าจริงจังมากเสียอีก


“มีอะไรหรือเปล่า”


“เรน” ใบหม่อนเรียกผมเสียงเครียด เห็นเพื่อนเครียดแบบนี้แล้วผมจะเครียดตามไปด้วยแล้วนะ


“มีอะไรเหรอหม่อน มีเรื่องอะไรไม่ดีหรือเปล่า หรือว่าที่คุยกับพวกพี่เป้เมื่อกี้พี่ๆ เขาว่าอะไรมาเหรอ” ผมเลยอดไม่ได้ที่จะทำหน้าเครียดตาม ก็คนมันเป็นห่วงนี่ครับ


“ถ้าสมมติว่ามีผู้ชายสูงๆ ขาวๆ หน้าตาทะเล้นๆ ใส่ชุดนักศึกษามหา’ลัยเรา เข้ามาคุยด้วยจะต้องระวังตัวเอาไว้นะ” ใบหม่อนตอบ ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ


ให้ระวังผู้ชาย… พวกใบหม่อนน่าจะบอกตัวเองกันมากกว่านะครับ เพราะยังไงพวกเธอก็เป็นผู้หญิง “ใบหม่อนกับคนอื่นๆ นั่นแหละที่ต้องระวังตัวเอาไว้ แล้วทำไม… ต้องระวังตัวด้วยล่ะ”


“พวกเราระวังอยู่แล้วแต่ที่มาบอกเนี่ยเพราะคนนี้มันเป็นโรคจิตชอบจีบคนอื่นเขาไปทั่วผู้หญิงผู้ชายก็ไม่เว้น เพราะฉะนั้นต้องระวังดีๆ เข้าใจไหม” ตินาพูด


ผมพยักหน้ารับ “อืมๆ เราจะระวังนะ ว่าแต่ว่า… คนโรคจิตนี่เรียนมหาวิทยาลัยได้ด้วยเหรอ…”


“เอ่อ… เรื่องนั้นช่างมันเถอะเอาเป็นว่าแกก็ระวังตัวดีๆ ถ้าเจอมันมาวอแวก็ให้มาบอกพวกฉันนะเข้าใจไหม แกทำงานต่อเถอะตอนเย็นนี้ต้องส่งงานแล้วนี่” สาพูด


พอได้ยินสาพูดแบบนั้นผมก็ตาโตแล้วก้มลงทำงานต่อ งานยังไม่เสร็จเลย… คืออันนี้เป็นงานประกวดแบบครับ ตอนแรกคืออาจารย์บังคับให้ทุกคนทำส่งแล้วอาจารย์จะคัดเลือกคนผ่านอีกทีก่อนส่งไปที่โครงการประกวด ซึ่งผมผ่านเลยต้องมาปรับแก้ใหม่แล้วตามคอมเมนต์ของอาจารย์แล้วส่งอีกทีซึ่งก็คือเย็นนี้นี่แหละครับ


ผมนั่งทำงานของผมต่อส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ก็คุยกันไปหัวเราะกันไปดูท่าจะสนุกสนานแต่ผมไม่เข้าใจที่พวกเพื่อนๆ ผมพูดเลยครับ อะไรเมะๆ เคะๆ ก็ไม่รู้ แต่คงจะชอบใจกันน่าดูกรี๊ดกร๊าดกันด้วย ผมเลยพลอยยิ้มไปด้วย ขำเพื่อนๆ ครับ


“ยังไม่กลับกันอีกเหรอ เย็นแล้วนะ” ผมเงยหน้าขึ้นถามหลังจากที่ทำงานเสร็จเรียบร้อยและเริ่มเก็บของ


“ทำงานเสร็จแล้วเหรอ เดี๋ยวพวกฉันขึ้นไปเป็นเพื่อน” สาพูดแต่ผมส่ายหน้า


“ไม่ต้องหรอก คงต้องอยู่คุยกับอาจารย์อีกสักพักเลยทุกคนกลับกันไปเถอะ แค่ขึ้นไปส่งงานที่ตึกคณะนี่เอง” ผมตอบ


แต่ทำไมทุกคนต้องทำสีหน้าไม่ไว้ใจผมด้วยนะ “ขึ้นลิฟต์ไปชั้นสี่ ส่งงานเสร็จลงมาแล้วก็ตรงกลับหอเลยสัญญา ไม่หลงหรอกจริงๆ นะ”


ผมไม่ได้หลงทางบ่อยขนาดนั้นสักหน่อย… หรือเปล่านะ


“แน่ใจนะว่าจะไม่หลงทาง” ตินาหรี่ตามอง


ซึ่งผมก็พยักหน้ารับ “จริงๆ ไม่หลงหรอกน่าจากคณะเราไปหน้ามอแค่แปบเดียวเอง กลับบ้านกันเถอะเย็นกว่านี้เดี๋ยวจะรถติดนะ”


เพื่อนในกลุ่มของผมทุกคนอยู่บ้านกันหมดเลยครับเพราะพวกเขาเป็นคนกรุงเทพฯ อีกทั้งบ้านก็อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ ที่สำคัญ… ก็ผู้หญิงนี่ครับพ่อกับแม่ก็เลยไม่ค่อยอยากปล่อยให้อยู่หอ ส่วนผมเป็นคนต่างจังหวัดครับ เลยมาเช่าหอแถวๆ หน้ามออยู่ ลำบากบ้างนิดหน่อยแต่ก็อยู่ได้สบายมากครับ


เมื่อผมยืนยันว่าจะไม่หลงทางแน่นอนเพื่อนๆ ถึงยอมพยักหน้ารับและเก็บของเตรียมกลับบ้าน ซึ่งก่อนจะพากันเดินไปตินาก็ยังไม่วายหันมากำชับผมอีกรอบว่าส่งงานเสร็จให้รีบตรงกลับห้องห้ามเถลไถลแล้วก็ห้ามไปเดินตามใคร


ตินาทำตัวเหมือนเป็นแม่คนที่สองของผมเลย... ซึ่งผมก็โอเคนะครับ ดีจะตายไป เนอะ


“เรารู้แล้ว ส่งงานเสร็จเราจะรีบตรงกลับห้องเลยไม่เถลไถลไปไหนแน่นอน” ผมพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มกว้างให้แล้วโบกมือบ๊ายบายให้กับทุกคน


หลังจากพวกตินาเดินไปแล้วผมก็รวบรวมข้าวของทั้งหมดใส่กระเป๋าย่ามของตัวเองก่อนจะถือแบบเรียกว่าประคองก็ได้ครับงานที่เพิ่งทำเสร็จแล้วเดินเข้าไปในตึก ทั้งๆ ที่เป็นตอนเย็นแล้วแท้ๆ คนยังเยอะอยู่เลยแหะ อ๋อ... ลืมไปว่ามีรับน้องอยู่ ตอนผมอยู่ปีหนึ่งโดนแกล้งประจำเลยครับ ไม่รู้รุ่นพี่จะแกล้งอะไรผมนัก


“น้องเรน” ผมชะงักขาที่กำลังก้าวเข้าไปในลิฟต์ อ่า... เกือบโดนประตูลิฟต์หนีบแล้วไหมละ


“ค ครับ ครับ” ผมหันกลับไปมองก่อนจะยกมือดันแว่นตัวเองเมื่อมันเลื่อนหล่นลงมา “มีอะไรเหรอครับพี่ทศ”


“เดินไม่ได้มองหรือไงว่าประตูลิฟต์มันกำลังปิด เดินเข้าไปได้โดนหนีบแบนแน่” พี่ทศเป็นรุ่นพี่ปีสี่ที่คณะครับ พี่ทศก็เป็นหนึ่งในคนที่ชอบแกล้งผมนะ... แต่ว่า แกล้งน้อยกว่าคนอื่น


“อ่า... แหะๆ ผมไม่ทันมอง ขอบคุณพี่ทศมากนะครับที่เรียกผมไว้” ผมได้แต่ก้มหัวขอบคุณก่อนจะพูดขอบคุณอีกรอบเมื่อพี่ทศเอื้อมมือไปกดลิฟต์ให้


“ไอ้เด็กเอ๋อเอ๊ย” พี่ทศว่าก่อนจะยกมือขึ้นจับหัวผมโยกไปมา


“ผมไม่ใช่คนเอ๋อสักหน่อย...” ผมบ่นอุบแต่ก็ไม่กล้าบ่นเสียงดังมากหรอกครับเดี๋ยวโดนพี่ทศแกล้งอีก


“หึหึหึ ไปๆ ต้องไปส่งงานประกวดแบบไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวก็ไม่ทันส่งหรอก” พี่ทศพูดพร้อมกับพยักหน้ามาทางงานในมือผม


ผมตาโตด้วยความตกใจ ลืมไปเลยว่าต้องรีบเอางานไปส่งผมบอกลาพี่ทศก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์ที่มาถึงพอดีแต่เหมือนจะรีบไปหน่อยเลยเผลอเดินชนกับคนอื่นที่เดินออกจากลิฟต์ ผมเลยได้แต่พูดขอโทษแล้วหัวเราะแห้งๆ เมื่อได้ยินเสียงพี่ทศหัวเราะ


ติ้ง!


เสียงลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้นสี่ดังขึ้นเป็นการบอกผมว่าถึงชั้นที่ต้องการแล้ว ผมรีบเดินออกจากลิฟต์ตรงไปที่ห้องพักอาจารย์ทันที อาคารนี้นะเดินให้ตายผมก็ไม่หลงหรอก... พวกตินาแหละชอบหาว่าผมเป็นพวกหลงทิศหลงทาง ไม่จริงสักหน่อย


ผมเคาะประตูห้องพักอาจารย์ก่อนจะผลักเข้าไปโชคดีที่อาจารย์ที่รับเรื่องประกวดแบบยังอยู่ผมเลยเดินเอางานไปส่งก่อนจะนั่งคุยกับอาจารย์เรื่องคอนเซ็ปของงานอีกรอบ แม้ว่าจะมีบางส่วนของงานที่อาจารย์อยากจะให้แก้แต่เพราะเวลาไม่ทันแล้วก็เลยไม่ได้แก้ อีกอย่างอาจารย์บอกว่าไม่ได้เสียหายอะไรถ้าไม่ได้แก้ ได้รางวัลหรือไม่ได้ผมก็ไม่ได้คิดมากหรอกครับ ถือเป็นการฝึกฝีมือ


คุยกับอาจารย์เสียตั้งนานลงมานอกอาคารอีกทีฟ้าก็เปลี่ยนสีแล้ว แต่ไม่เป็นไรหรอกแค่จากคณะผมตรงไปเรื่อยๆ ก็ถึงหน้ามอแล้ว แต่ว่า... ผมอยากกินขนมเค้กจัง ร้านคาเฟ่ร้านโปรดของผมอยู่ใกล้ๆ กับโรงอาหารกลาง นั่งรถจากหน้าคณะผมไปก็ถึงซื้อเสร็จก็นั่งรถไปลงหน้ามหาวิทยาลัยแค่นี้เอง ง่ายๆ อยู่แล้ว


เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็กระชับมือที่จับสายกระเป๋าอยู่ก่อนจะเดินไปรอรถของมหาวิทยาลัยแต่รออยู่สักพักก็ไม่มีรถมาสักทีผมเลยเปลี่ยนเป็นเดินไปแทน ที่มหา’ลัยผมมีต้นไม้เยอะเลยครับ เวลาเย็นๆ แบบนี้เลยยิ่งลมเย็นสบาย เดินไปเรื่อยๆ ดูรอบๆ ไปเรื่อยๆ ก็เพลินดีนะครับ


ปึก!


“อ๊ะ... ขอโทษครับผมไม่ทันมอง” ผมร้องขอโทษทันทีเพราะเผลอไปเดินชนคนอื่นเข้า โชคดีที่อีกฝ่ายไม่ได้เจ็บอะไร ถึงแม้ผมจะเป็นห่วงเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงก็เถอะ...


“คราวหลังก็มองทางบ้าง” เธอพูดก่อนจะยกมือขึ้นปัดแขนตัวเองแล้วเดินไปเลย


ผมได้แต่ถอนหายใจดันแว่นตาของตัวเองเข้าที่อีกรอบ ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมต้องทำท่าเหมือนรังเกียจแบบนั้นด้วยนะ... เพราะผมแต่งตัวแบบนี้เหรอ


เอ... แต่ว่า... ตรงนี้มันตรงไหนละเนี่ย


อ่า... อย่าบอกนะว่าผม... หลงทาง


ไม่น่าจะหลงทางนะก็จากคณะผมเดินมาทางซ้ายของอาคารก็จะถึงโรงอาหารกลางนี่


ผมหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาป้ายชื่ออาคารที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อที่จะได้รู้ว่าผมอยู่ตรงไหนของมหา’ลัย อือ... ตรงไหนกันนะ


“พี่เรน!!” ผมสะดุ้งก่อนจะหันไปมาเพื่อมองหาคนที่เรียกผม ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นกลุ่มนักศึกษาผู้ชายเดินเข้ามาหา ใครกันนะ คุ้นๆ หน้าแต่นึกไม่ออก


ถ้าสมมติว่ามีผู้ชายสูงๆ ขาวๆ หน้าตาทะเล้นๆ ใส่ชุดนักศึกษามหา’ลัยเรา เข้ามาคุยด้วยจะต้องระวังตัวเอาไว้นะ


อยู่ๆ ก็นึกถึงคำพูดของใบหม่อนขึ้นมา คนตรงหน้าผมก็สูงๆ ขาวๆ หน้าตาทะเล้นๆ หรือเปล่านะ... แถมยังใส่ชุดนักศึกษาด้วย แต่ใช่มหา’ลัยเราหรือเปล่านะ แต่ถ้าไม่ใช่เขาจะรู้จักผมได้ยังไงกัน


คนนี้มันเป็นโรคจิตชอบจีบคนอื่นเขาไปทั่วผู้หญิงผู้ชายก็ไม่เว้น เพราะฉะนั้นต้องระวังดีๆ เข้าใจไหม


“โรคจิต?”






น้องกาย


โรคจิต?


ด... เดี๋ยวนะครับ นั่นคือคำทักทายที่พี่เรนทักผมหรือว่าอะไรครับ ร... โรคจิตเนี่ยนะ!!!


ผมได้แต่อ้าปากค้าง ทำตาปริบๆ นึกประมวลผลคำพูดของคนน่ารักตรงหน้าอีกรอบ แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้ว่าคนน่ารักหมายถึงอะไร หูก็ได้ยินเสียงกุกกักๆ น่าจะเป็นเสียงไอ้เพื่อนเวรกลั้นหัวเราะอยู่ด้านหลัง


“ห้ะ?”


“อะ! ไม่มีอะไรครับ” เหมือนพี่ฝน เอ๊ย พี่เรนจะนึกขึ้นได้ว่าหลุดคำอะไรออกมาถึงได้ร้องอุทานออกมาได้อย่างน่ารักแล้วฉีกยิ้มกว้างกลบเกลื่อน


เมื่อกี้พี่เรนด่าอะไรผมนะ... ผมลืมไปหมดแล้วมีแต่ความน่ารักละครับตอนนี้


“อ๋า... พวกนายคือคนที่ช่วยเราเก็บของตอนล้มเมื่อครั้งนู้นกับคนรู้จักของตินานี่เอง”


“ครับผม” ผมพยักหน้าแล้วยิ้มกลับไปให้ ไม่ได้ยิ้มกว้างอะไรครับต้องไว้มาดนิดนึง


เปล่าหรอก...


กูเขิน!!


ตอนคนน่ารักทำหน้านึกออกร้อง อ๋า.... นี่โคตรน่ารักเลยอะครับ


“นายไม่ใช่โรคจิตใช่ไหม?”


อึ้ง... แดก...!


“เฮ้ย! ผมไม่ใช่โรคจิตนะ เห็นพี่มายืนหันซ้ายหันขวาอยู่แล้วมาทำอะไรที่คณะนิเทศครับ” ผมถาม


“พี่คงไม่ได้หลงทางใช่ไหมครับ” ไอ้เกลียวยื่นหน้ามาถาม ไอ้นี่ๆ ทำเป็นสนิทสนมกับพี่เรนเดี๋ยวมึงจะโดน!


ผมหันไปมองหน้าคาดโทษไอ้เกลียวก่อนจะหันกลับมามองคนน่ารักอีกรอบ โอเค... ไม่ต้องตอบผมก็รู้แล้วครับว่าพี่เรนแกหลงทางชัวร์ๆ เลย นี่เป็นพวกหลงทิศหลงทางขนาดในมหา’ลัยยังหลงเลยเหรอวะเนี่ย


“อ้าว... นี่เลยโรงอาหารกลางมาแล้วเหรอเนี่ย”


ผมกับเพื่อนนี่แทบจะยกมือตบหน้าผากตัวเองแต่ไม่เอาดีกว่ามันเจ็บ... คือคณะของผมมันค่อนข้างห่างจากคณะชาวบ้านเขาแน่นอนว่าห่างจากโรงอาหารกลางพอสมควร แบบว่ามีคณะอื่นมาคั่นกลางระหว่างโรงอาหารกลางกับคณะของผมนั่นแหละครับ


“เลยมาแล้วสิครับ เลยมาจนถึงคณะนิเทศแล้วเนี่ย พี่เดินยังไงของพี่เนี่ยแล้วจะไปโรงอาหารกลางทำไมครับ ป่านนี้ร้านข้าวที่โรงอาหารปิดหมดแล้วละมั้ง” ผมถาม อยากจะดุนะครับแต่ก็เป็นห่วง อีกอย่างไม่กล้าดุมากเดี๋ยวกระต่ายตื่นตกใจหมด


“อ่า... พี่จะไปร้านคาเฟ่ที่อยู่ตรงข้ามกับโรงอาหารกลาง จะไปซื้อขนมเค้กก่อนกลับหอ”


“คาเฟ่ที่นิเทศขนมก็อร่อยนะพี่เรน สนใจลองไปชิมดูไหม” คราวนี้ครับ... คราวนี้เป็นไอ้ไม้ที่เสนอหน้ามาพูดกับพี่เรน


“อ่า... ไม่เป็นไรดีกว่า ขอบคุณนะ อย่าไปบอกพวกตินานะว่าพี่หลงทางมาที่นี่ บ๊ายบาย” พี่เรนยื่นหน้ามาใกล้ก่อนจะทำเป็นกระซิบ โอ๊ย ให้ตายเถอะฟ้าผ่าตอนที่ทำเป็นกระซิบนี่โคตรน่ารักเลย แล้วยังโบกมือบ๊ายบายอีก น่ารักเหี้ยๆ อะครับ


“อ๋อ...” คนที่เดินไปแล้วหันกลับมาอีกรอบ “ระวังคนโรคจิตนะ ใบหม่อนกับตินาบอกว่าคนโรคจิตนี่ตัวสูงๆ ขาวๆ หน้าตาทะเล้นๆ หน่อย จะว่าไปก็คล้ายๆ นายนะ ระวังตัวเองด้วยนะ พี่ไปแล้ว”


... ใบหม่อน ... พี่ใบหม่อนอยู่กลุ่มเดียวกับพี่เรน ชัดเลย ไอ้โรคจิตตัวสูงๆ ขาวๆ หน้าตาทะเล้นๆ เนี่ย ชัดเลย ...


“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไอ้กาย ไหนมึงว่าพวกพี่ตินาจะช่วยมึงจีบพี่เรนไงวะ กูว่าไม่แล้วละว่ะ” ไอ้เพื่อนเวรนี่ก็พร้อมใจกันหัวเราะเหลือเกิน!


          กาย คามิน @Guy_Kamin
          จะดีใจหรือเสียใจดีนะที่ได้เจอฝน
          ...แต่ผมไม่ใช่โรคจิตนะ #ฝนใจร้าย tt_______tt






************************************************
กลับมาแล้วค่ะ หลังจากไปทำหน้าที่หลานสาวครั้งสุดท้ายให้ก๋งมา ตอนนี้ฟางกลับมาแล้วนะคะ คิดว่าน่าจะสามารถกลับมาอัพไว้บ่อยมากกว่าเดิม(หรือเปล่า) แต่ยังไงก็ไม่ทิ้งเรื่องนี้ไปไหนแน่นอนจ้า ฟางทั้งรักทั้งหลงน้องกายพี่เรนมากมาย ทิ้งไม่ลงค่ะ ^^

คือจะสงสารหรืออะไรดี... อยู่ดีไม่ว่าดี น้องกายก็กลายเป็นคนโรคจิตไปแล้วซะงั้น! 555555555 คือพี่เรนน่ารักมาก นี่ซื่อหรือซื่อ โอ๊ย คนอะไรทำอะไรก็น่าเอ็นดูไปหมด น่ารักแบบนี้น้องกายมันจะไม่รักไม่หลงได้ยังไงละเนอะ ฟางนี่แทบอยากจะถวายทุกสิ่งอย่างให้พี่เรนเลย แลกกับการขอฟัดสักหลายๆ ที ชักแอบอิจฉาน้องกายที่ต่อไปในอนาคตอันไกล(?) จะได้ฟัดพี่เรนสมใจ อิอิ

อย่าลืมคอมเมนต์ให้ฟางด้วยนะ แต่งมาให้อ่านแล้วก็อยากอ่านคอมเมนต์บ้าง คอมเมนต์กันด้วยน๊า พลีสสสสสสสสสส

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [100%] l P.3 04-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-04-2016 23:09:33
เพื่อนเรน แสบมากๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [100%] l P.3 04-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 05-04-2016 01:35:32
พี่ก็สงสารน้องกายนะ แต่พี่ขำมากว่าล่ะ  :m20:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [100%] l P.3 04-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 05-04-2016 06:02:12
โดนพวกพี่สาวเล่นซะแล้วนายกาย เป่าหูพี่เรนคนน่ารักซะดิบดี

งานนี้ไม่หมูเพราะเจ้าหญิงอย่างพี่เรนดันมีองค์รักษ์ปกปักษ์อย่างนานแน่น 555 :hao7:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [100%] l P.3 04-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 05-04-2016 15:52:49
เรนน่ารักอะ ฮากายได้อีก 55555
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [100%] l P.3 04-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 05-04-2016 18:00:56
พี่เรนน่ารักกก หลงทางได้ตลอดจริงๆ
สงสารนายกายนี่กลายเป็นโรคจิตซะละ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [100%] l P.3 04-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 05-04-2016 18:08:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [100%] l P.3 04-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: AllStaRK ที่ 06-04-2016 20:19:49
เรื่องนี้น่ารักอะละมุนละไมสุดๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 3 • [100%] l P.3 04-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 08-04-2016 23:53:29
สงสารกายอ่ะ 55555
พี่ฝนน่ารักมากกกกกก :hao7:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 4 • [50%] l P.3 11-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 11-04-2016 21:55:25
(https://www.dramafever.com/st/news/images/217f07e5-511b-4ffc-a85f-42188152cb80.gif)

…อยากมีเธอเป็นแฟน อยากเดินควงแขนกับเธอคนที่โดนใจ...
kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะค




โชคครั้งที่ • 4 •



น้องกาย


หลังจากที่ตั้งสติได้ผมก็หันไปโบกหัวเพื่อนทีละคนโทษฐานหัวเราะกันสนุกสนานที่ผมกลายเป็นไอ้โรคจิต เมื่อได้โบกหัวพวกมันเรียงตัวแล้วผมก็เดินตามพี่เรนไปเรื่อยๆ พอพี่เรนหยุดผมก็หยุด พอหันมามองผมนี่โดดหลบเข้าข้างทางแทบไม่ทัน… เอ่อ… ชักจะทำตัวเหมือนไอ้โรคจิตเข้าไปทุกทีแล้ว


คือผมไม่ใช่โรคจิต! แต่ที่มาเดินตามเนี่ยก็เพื่อจะให้แน่ใจว่าพี่เรนกลับถึงห้องปลอดภัย ไม่ไปหลงทางที่ไหนอีก หลังจากได้เดินตามพี่เรนผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่แกถึงได้หลงทางบ่อยๆ ก็พี่ท่านเล่นไม่มองทางเลย เดี๋ยวมองนู้นมองนี่เรื่อยเปื่อยมาก เป็นคนไม่มีความระมัดระวังตัวเลยสักนิด


… อยากมีเธอเป็นแฟน อยากเดินควงแขนกับเธอคนที่โดนใจ


เอ่อ… มาเป็นเพลง พี่ไผ่ พงศธรก็ยังต้องยอมแพ้ให้กับเสียงเพราะๆ ของนายคามิน ชักจะไม่ใช่แหละ


ผมทำเป็นแวะซื้อของกินเมื่อเห็นพี่เรนหยุดอยู่ที่ร้านขายน้ำใกล้ๆ ระหว่างรอคนขายคีบไก่ทอดให้ก็เหล่มองอีกคนไปด้วย ผมรีบส่งเงินให้คนขายแล้วรับถุงไก่ทอดมาเมื่อพี่เรนเดินดูดน้ำแดงไปแล้ว


คนน่ารักทำอะไรก็น่ารักจริงๆ นะ ตอนอ้าปากงับหลอดแล้วดูดนั้น อือหือ… โคตรจะน่ารักเลยอะครับ ปากแดงๆ ที่ดูดน้ำนั้นถ้าเปลี่ยนมาดูด… ไม่ๆๆๆ


สะบัดหน้าไล่ความคิดอกุศลออกจากหัวก่อนที่จะจินตนาการไปไกลกว่านั้น คือ… กายไม่ใช่คนหื่นและไม่ได้โรคจิตนะครับ ผมเป็นคนใสๆ ครับ


ผมเดินตามพี่เรนจนกระทั่งอีกฝ่ายเดินไปถึงหน้าหอ โอเค… พี่เรนถึงหออย่างปลอดภัย แค่หน้าหอขึ้นไปบนห้องคงไม่มีอะไรหรอก ผมยืนมองจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายเข้าหอไปแล้วก็ตั้งท่าเตรียมจะหันกลับไปทางหอตัวเองบ้าง แต่ยังไม่ทันจะได้หันคนที่เพิ่งเดินเข้าหอไปเมื่อกี้ก็วิ่งหน้าตาตื่นออกจากหอมาจนผมได้แต่ตกใจเข้าไปจับพี่เรนเอาไว้ คือจริงๆ แล้วพี่เรนวิ่งจะมาชนผม…


“พี่เรน เป็นอะไรครับทำไมวิ่งหน้าตาตื่นออกมา” ผมร้องถามด้วยความเป็นห่วง


“เอ๋… นาย… คือพอดีพี่ลืมซื้อของกินให้หมีเพิ่งนึกขึ้นได้เลยจะรีบออกไปซื้อก่อน” พี่เรนทำหน้างงไปนิดที่เห็นผมก่อนจะตอบคำถาม


ส่วนผมนี่ทั้งโล่งอก ทั้งงงๆ ปนกันไป โล่งอกที่อย่างน้อยก็ไม่ได้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแต่เจ้าตัวเพียงแค่ลืมซื้อของกินให้หมี แต่ว่าหมี… หมีนี่คืออะไร ชื่อคนเหรอ คนชื่อหมีก็มีเยอะแยะไปนะ แล้วทำไมต้องซื้อของกินให้ด้วย เพราะอยู่ด้วยกันงั้นเหรอ…


ใจผมงี้หล่นไปถึงตาตุ่ม


“แล้วพี่จะไปซื้อที่ไหน” ผมถามออกไป ยังไงก็ต้องรู้ให้ได้ว่าหมีนี่เป็นใคร แล้วทำไมต้องใช้ให้พี่เรนมาซื้อของกินให้ด้วยวะ


“พี่ว่าจะไปโลตัสตรงหน้าปากซอยนี่แหละ” พี่เรนตอบพร้อมกับชี้นิ้วไปทางหน้าปากซอย


“ผมก็กำลังจะไปพอดี ไปด้วยกันนะครับ” ได้ทีก็จัดเลยครับ พี่เรนมองผมงงๆ แต่ก็พยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มให้ มือก็ยกขึ้นดันแว่นตากลมๆ ที่ใส่อยู่ไปด้วย


คนอะไร จะยิ้ม จะดันแว่นก็ยังน่ารัก!


แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าพี่เรนระวังตัวมากกว่านี้ เจอหน้า คุยกับผมแค่ไม่กี่ครั้ง แถมยังไม่รู้จักชื่อผมด้วยซ้ำ เจอรวมๆ แล้วยังไม่ถึงห้าชั่วโมงด้วยซ้ำแต่กลับยอมให้ผมเดินไปด้วย ถ้าหากผมเป็นโรคจิตลากเขาไปปล้ำ หรือจับไปปล้นจะทำยังไงเนี่ย


ก็เพราะแบบนี้ไงถึงต้องคอยตาม คอยห่วง ถ้าจับมัดติดตัวได้ผมก็ไม่อยากจะปล่อยไปไหนเลย แต่คนมันไม่มีสิทธิอะ…


โอ๊ย ตอกย้ำตัวเอง เจ็บชิบหายเลย น้ำตาจะไหลเป็นสายน้ำ


ระหว่างที่เดินไปโลตัสผมกับพี่เรนไม่ได้คุยอะไรกันหรอกครับ คือก็อยากจะชวนคุยนะ แต่ก็นึกไม่ออกว่าจะคุยอะไรดี อีกอย่าง… พอได้มาเดินข้างๆ พี่เรนแบบนี้ แขนเบียดกันบ้างเวลาเจอคนเดินสวนไปสวนมา มันก็เลย…


เขินเชี่ยๆ อะครับ >//////<


คือหน้ากูแม่งต้องแดงแน่ๆ อะ


พอมาถึงโลตัสพี่เรนก็หันมาฉีกยิ้มให้ผมแล้วก็บอกจะแยกไปดูของ ผมก็เออๆ ออๆ ไปแต่ก็แอบเดินตามไปเนียนๆ เรื่องอะไรจะปล่อยให้คลาดสายตา ผมไม่ได้จะมาซื้ออะไรเสียหน่อย แต่ก็คว้าตะกร้าหยิบขนมใส่ลงไปหลายห่อเหมือนกัน


คือเท่าที่เห็นยังไม่เห็นอะไรที่จะเป็นของกินให้คนชื่อหมีได้เลยนะ เพราะพี่เรนเอาแต่หยิบของใช้ พวกยาสระผม ครีมอาบน้ำ แม้แต่น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ซึ่งก็ผมส่องแล้วก็เนียนๆ ไปหยิบมาบ้าง ใช้เหมือนพี่เรนเราจะได้มีกลิ่นเดียวกัน คึคึคึ เขินว่ะ!!


เฮ้ยนั่น… พี่เรนเดินต่อแล้ว ผมรีบเดินตามไปต่อ คือเอาจริงๆ ขนาดผมเดินตามโต้งๆ พี่แกยังไม่คิดว่าผมเดินตามเลย มีการหันมาทัก…


“โลตัสมันเล็กเนอะ เดินเจอกันตลอดเลย”


คือไม่ได้เดินเจอ นี่ตั้งใจเดินตามครับ!


“พี่เรนเลี้ยงแมวด้วยเหรอครับ” ผมแกล้งถาม ก็รู้อยู่แล้วว่าพี่เรนเลี้ยง แต่คืออยากหาเรื่องคุยไง


คนน่ารักหันมายิ้มแล้วก็พยักหน้าให้ ก่อนจะหันกลับไปเลือกอาหารแมวต่อ “ใช่แล้ว น่ารักมากเลยนะเจ้าหมีน่ะ”


ห๊ะ! อะไรนะ เหมือนได้ยินอะไร หมีๆ


“หมี?”


“ใช่แล้ว แมวของเราไง อือ… นายเรียกเราว่าพี่นี่ แสดงว่าเราเป็นพี่สินะ อย่างนั้นเอาใหม่… แมวของพี่น่ะ ชื่อหมี น่ารักมากเลยตัวกลมๆ สีขาวๆ” พี่เรนพูดไปก็ยิ้มไปดูท่าจะรักแมวมาก แต่ผมนี่วิญญาณแทบจะออกจากร่าง


นี่กูใจหล่นไปถึงตาตุ่มเพราะคิดว่าแมวเป็นคนเนี่ยนะ มีใครที่ไหนตั้งชื่อแมวแบบนี้บ้างไหม ไอ้กายอยากจะร้องไห้!


“ชื่อแปลกดี… นะครับ”


“ฮ่ะๆๆๆ” พี่เรนหัวเราะครับ คนน่ารักหัวเราะแหละทุกคน น่ารักเหี้ยๆ อะครับ คนอะไรจะทำอะไรก็น่ารักไปหมด


“แต่ชื่อน่ารักดีนะพี่เรน”


“ขอบใจนะ” พี่เรนเงยหน้าขึ้นมาพูดขอบคุณผม พร้อมกับยิ้มกว้าง “นายเป็นคนแรกเลยที่บอกว่าชื่อหมีน่ารัก พวกตินายังว่าพี่เลย บอกว่าใครบ้าที่ไหนมันตั้งชื่อแมวว่าหมี ฮ่ะๆๆ”


เวลาพี่เรนหัวเราะ… ผมว่าเขาน่ารักมาก โลกทั้งโลกมันดูสดใสจนผมได้แต่ยิ้ม


ผมเดินกลับหอพร้อมกับพี่เรนเพราะยังไงหอเราก็อยู่ฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว แม้มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ผมก็โคตรจะมีความสุขเลยละครับ


“ขอบคุณนะที่เดินไปเป็นเพื่อนแล้วก็เดินกลับมาด้วยกัน ถ้าพี่เดินคนเดียวอาจจะใช้เวลานานกว่านี้ก็ได้” เจ้าตัวเขาว่าอย่างนั้น ตอนนี้เรายืนอยู่กลางถนนในซอยหอ


ผมไม่ตอบแค่ยิ้มแล้วก็พยักหน้ารับเท่านั้น พี่เรนยกมือขึ้นโบกให้ผมก่อนจะเดินเข้าไปในหอ ผมเลยเดินกลับเข้าหอของผมบ้าง และทันทีที่ถึงห้องผมก็ทิ้งของทุกอย่างไว้ข้างประตูก่อนจะเดินไปนอนแผ่ลงบนเตียง ยกมือขึ้นจับหน้าอกตัวเองเอาไว้


วันนี้หัวใจของผมมันทำงานหนักจริงๆ ยิ่งได้อยู่ใกล้ๆ ก็ยิ่งชอบ ก็ยิ่งรักมากขึ้นไปอีก


พี่เรนคือคนที่ควรได้รับการดูแล ได้รับการปกป้อง และผมอยากจะเป็นคนนั้น อยากจะปกป้องรอยยิ้มและเสียงหัวเราะนั้น อยากให้ทุกๆ อย่างของพี่เรน… เป็นของผม


“ถ้าอยากได้… ก็คงต้องเริ่มจีบแบบจริงจังแล้วสินะ”


          กาย คามิน @Guy_Kamin
          ไม่ได้เดินจับมือ ไม่ได้เดินควงแขน แค่ได้เดินข้างๆ กันก็พอใจแล้ว :) #คนน่ารัก







“ไอ้กายๆๆๆ มึงเห็นหรือยังวะ!” เสียงของไอ้ไม้ดังมาแต่ไกลพร้อมกับวิ่งเข้ามาหาผมที่กำลังนั่งเช็คกล้องอยู่ คนอื่นๆ ก็เดินหน้าเครียดตามไอ้ไม้มา


“อะไรของมึงวะ” ผมเลิกคิ้วขึ้นถาม วางกล้องตัวโปรดลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง ไม่ได้หรอกครับลูกรักทั้งทีต้องทะนุถนอมกันหน่อย ซื้อมาแพง


“ในเพจแฟนคลับมึงอะ เมื่อคืนมีคนลงรูปมึงไปเดินโลตัสกับพี่ฝน คนแม่งวิจารณ์กันเต็มเลยสัส พี่ฝนโดนเละเลยว่ะ” ไอ้เกลียวพูดต่อ


ผมงี้ตาโตด้วยความตกใจคว้าโทรศัพท์มาเปิดดูไอ้เพจที่ว่านั่นทันที เห็นแล้วก็ได้แต่ทำหน้าเครียดในเพจมีคนลงรูปของผมที่กำลังอยู่กับพี่เรนในโลตัส เป็นตอนที่พี่เขากำลังเลือกดูอาหารแมวอยู่แต่มันจะไม่เป็นอะไรเลยถ้าไม่ใช่ช่วงที่ผมโน้มตัวลงไปช่วยพี่เรนดูซึ่งภาพนั้นผมใกล้ชิดพี่เรนมากๆ แล้วไหนจะยังมีภาพตอนผมเดินกลับหออีก


ผมไม่ใช่ดารา ไม่ใช่เน็ตไอดอล แค่บังเอิญได้เป็นเดือนคณะเมื่อปีที่แล้ว ผมก็เป็นแค่คนธรรมดาแต่ทำไมทุกคนต้องทำแบบนี้ด้วย ผมจะอยู่กับใคร เดินกับใคร หรือคุยกับใครมันก็เป็นสิทธิของผมไม่ใช่หรือยังไง


ผมกำลังโกรธ กำลังโมโหเพราะคอมเมนต์ต่างๆ นาๆ ใต้รูปนั้น ถ้าว่าผม... ผมไม่สนเลยสักนิด แต่ทำไมต้องว่าพี่เรน


          ... ใครเนี่ย โคตรจะเฉิ่มเลยแล้วทำไมถึงได้เดินอยู่กับน้องกายได้ละเนี่ย จะคบเพื่อนก็เลือกหน่อยก็ดีนะน้องกาย


          ... ทำไมพี่กายต้องยื่นหน้าไปใกล้ด้วย คือรู้สึกไม่โอเคนะ


          ... คนหน้าตาดีๆ เขาเลือกคบคนแบบนี้เหรอวะ 555555555 เข้าใจเลือกคบนะ เทียบกันไม่ติด


          … เห็นพี่กายเข้าไปคุยกับพี่คนนี้สองสามครั้ง หรือพี่กายจะชอบพี่คนนี้ ไม่ไหวมั้งคะพี่กาย พี่กายชอบผู้ชายหนูไม่ซีหรอก แต่เลือกนิดนึงก็ดีนะ นี่โคตรจะเฉิ่มเลย


          .... ไม่แน่นะ เฉิ่มๆ เนิร์ดๆ แบบนี้เรื่องอย่างว่าอาจจะเชี่ยว 5555555555555555



ถึงแม้จะมีบรรดาเพื่อนๆ รุ่นพี่ รุ่นน้องของพี่เรนออกมาโต้ตอบกลับเรื่องที่มีคอมเมนต์ว่าพี่เรนก็เถอะ แต่ผมก็ไม่โอเค... พวกนี้เป็นใคร รู้เหรอว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงก็คิดไปเอง ใส่สีตีไข่จนมั่วไปหมด จนพี่เรนต้องตกมาเป็นขี้ปากของสังคมออนไลน์


“สัส!!! ใครแม่งลงรูปวะ กูจะเอาเรื่องให้ได้เลยคอยดู ไอ้ห่าเอ๊ย!!” ผมแทบอยากจะปาโทรศัพท์ทิ้งด้วยความหงุดหงิด


“เฮ้ย! ใจเย็นไอ้กาย ก่อนมึงจะเอาเรื่องคนลงรูป มึงไปดูพี่เรนหน่อยดีไหม แต่คือเป็นกูกูก็ขึ้นอะ คอมเมนต์ให้สร้างสรรค์หน่อยก็ไม่ได้ พวกนี้แม่งหัวสมองมันไม่มีหรือไงคิดอะไรพิมพ์อะไรมีแต่เรื่องแย่ๆ คนสองคนไปเดินเที่ยวกันแล้วไงวะ มีกฎข้อไหนว่าให้เลือกคบเพื่อน” ไอ้แม็คเองก็คงจะขึ้น มันโคตรจะน่าโมโหเลย


“เออ มึงไปดูพี่ฝนก่อนดีกว่า เดี๋ยวคนถ่ายรูป คนลงรูปพวกกูหาตัวให้เอง” ไอ้เกลียวว่าขึ้นมาอีกคน


ผมพยักหน้ารับ “ยังไงฝากพวกมึงด้วยนะ เดี๋ยวกูไปดูพี่เรนก่อน แม่งเอ๊ย! พี่เรนเขาก็อยู่ของเขาเฉยๆ ต้องมาโดนด่าเพราะกูแท้ๆ แล้วเจอกันมึง”


ผมรีบวิ่งไปที่คณะของพี่เรนทันที รถมหา’ลัยไม่ทันใจผมแล้วครับเพราะต้องไปอ้อมหน้ามหา’ลัยอีกรอบ วิ่งเอานี่แหละทันใจผมมากกว่า วิ่งไปก็หยิบโทรศัพท์กดโทรออกหาพี่ตินาไปด้วย ผมไม่มีเบอร์พี่เรน มีแต่เบอร์ของเพื่อนๆ เขา


“โว้ย! พี่ตินารับโทรศัพท์หน่อยสิพี่” ผมได้แต่บ่นอย่างหงุดหงิดเมื่อพี่ตินาไม่รับโทรศัพท์ ขาก็ออกวิ่งไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าคณะ


ผมเอามือยันเข่าแล้วหอบพลางหันมองซ้ายมองขวาเพื่อหาพวกพี่ตินาไปด้วย ไม่รู้ว่ามีเรียนหรือเปล่า ไม่รู้ว่าขึ้นเรียนหรือยัง ไม่รู้อะไรทั้งนั้น ได้แต่ขอให้เจอพวกพี่เขาด้วย


ดูเหมือนคำขอของผมจะเป็นจริงเพราะที่สวนข้างๆ ตึกผมเห็นพวกพี่ตินายืนอยู่ตรงโต๊ะหินอ่อน พวกพี่ๆ เขายืนกันหมดเหมือนจะล้อมใครไว้ และถ้ามองไม่ผิด... พี่เรน!


ผมตะโกนเรียกก่อนจะวิ่งเข้าไปหา และเสียงของผมก็ทำให้พวกพี่ตินาหันมามอง สายตาของพวกพี่ๆ เขาโคตรน่ากลัว เห็นรูปในเฟสบุ๊คแล้วชัวร์เลย


“พี่เรน!!”





************************************************
น้องกายมันน่ารักกกกกกกกกก รักพี่มากมายจริงๆ อะไรคือแค่เดินข้างพี่เขาก็ฟินขนาดนี้ นี่ถ้าได้เดินจับมือน้องกายมันจะฟินขนาดไหน อุอิอุอิ น่ารักจริงๆ เลยน้องกายเนี่ย (หลงน้องมาก คนแต่งเนี่ยหลงมาก) แล้วดูสิ... แค่ไปเดินกับพี่ไม่กี่นาทีเป็นประเด็นในโลกออกไลน์เลยจ้า ซึ่งมันเป็นอะไรที่จริงอ่างเพื่อนๆ น้องพูดมากมาย สมัยนี้อะไรนิดหน่อยก็กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตได้เลยแค่โพส แอนด์ แชร์ในโซเชียล แน่นอนว่าน้องไม่ปล่อยให้ใครมาว่าพี่แน่ๆ ค่ะ แต่น้องจะจัดการยังไงอันนี้รออ่านกันต่อไปนะคะ ^^

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 4 • [50%] l P.3 11-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-04-2016 00:11:37
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 4 • [50%] l P.3 11-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-04-2016 00:29:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 4 • [50%] l P.3 11-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: ΩPRESTOΩ ที่ 12-04-2016 08:12:39
เพราะพี่เรนน่ารักและเอ๋อเยี่ยงนี้
ตินาแอนด์เดอะแก๊งจึงต้องสวมวิญญาณมนุษย์แม่ตลอด 555

 :กอด1:
 
กายรีบจัดการมือโพสผู้ประสงค์ร้ายเลยนะ
 :beat:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 4 • [50%] l P.3 11-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 12-04-2016 22:11:48
รีบจัดการคนถ่ายด่วนๆ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 4 • [100%] l P.3 25-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 25-04-2016 20:45:37
(https://www.dramafever.com/st/news/images/217f07e5-511b-4ffc-a85f-42188152cb80.gif)

…อยากมีเธอเป็นแฟน อยากเดินควงแขนกับเธอคนที่โดนใจ...
kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะค




โชคครั้งที่ • 4.2 •



• • • ต่อค่ะ 100% • • •



พี่เรน



งือ…


อือ…


เฮ้อ…


ผมได้แต่หันมองซ้ายที ขวาที ซ้ายที ขวาทีอยู่หลายรอบจนเหมื่อยคอแล้วก็เวียนหัวถึงได้ถอนหายใจออกมาแล้วเลิกที่จะหยุดหัน


“ถอนหายใจทำไม / เป็นอะไรครับ”


หือ…


ผมเงยหน้าขึ้นหันมองซ้ายกับขวาเมื่อได้ยินเสียงของตินากับ… เอ… คนนี้ชื่ออะไรนะ นั้นแหละ ใครก็ไม่รู้ที่ตะโกนเรียกผมเสียงดังลั่นก่อนจะวิ่งกระหืดกระหอบมาหา


“ก็… จะยืนมองหน้ากันอีกนานไหมอะ ถึงเช้านี้เราจะไม่มีเรียนกัน แต่เราก็ต้องไปที่อื่นนะ คงจะมายืนมองหน้ากันทั้งวันไม่ไหวหรอก” ผมบอกตามที่คิด


ก็จริงนี่ครับ.. เช้านี้ผมไม่มีเรียนแต่โดนพวกตินาโทรตามแต่เช้าเลยต้องมามหา’ลัยแบบไม่รู้เหตุผล แต่ยังไม่ทันจะได้คุยอะไรก็… คนนี้น่ะ ที่ตะโกนเรียกผมก็วิ่งมาก่อน ผมจำเขาได้นะ เขาเป็นรุ่นน้องเห็นเรียกผมว่าพี่ น่าจะเป็นคนรู้จักของตินา เมื่อวานผมก็เพิ่งไปซื้อของที่โลตัสกับเขามา แต่… ชื่ออะไรนะ


“กาย”


อ๋อ! ชื่อกายนี่เอง!


รุ่นน้องกายที่มองหน้าผมอยู่หันกลับไปมองตินาเมื่อได้ยินเธอเรียก “จะอธิบายว่ายังไง”


“ผม…” รุ่นน้องกายทำท่าจะพูดแต่ก็หันมามองผมก่อนจะหันกลับไปมองตินาเหมือนกับไม่แน่ใจว่าจะพูดดีไหม


“เดี๋ยวเราไปก่อนก็ได้ จะได้คุยกันสะดวก” ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทางที่ดูแล้วจะคุยกันไม่สะดวกของทุกคน


“ไม่ต้องหรอก แกนั่งรออยู่นี่แหละเดี๋ยวพวกฉันไปคุยตรงนู้นเอง” ใบหม่อนพูดพร้อมกับกดไหล่ผมให้นั่งลงที่เดิม


ให้ผมลุกไปคนเดียวมันน่าจะสะดวกกว่าให้พวกเขาห้าคนย้ายไปคุยกันที่อื่นนะ


“ใช่ แกนั่งอยู่นี่แหละ อะ… กินนี่รอไปก่อนเดี๋ยวพวกฉันมา อ๋อ… แล้วก็อย่าลุกไปไหนละเดี๋ยวก็หลงทางอีก” ตินาหันมาหาผมก่อนจะยื่นถุงเซเว่นมาให้


ผมรับมาอย่างงงๆ ก่อนจะก้มมองในถุงพอเห็นว่าเป็นอะไรผมก็ยิ้มกว้างทันที “อื้ม! นั่งรอตรงนี้ไม่ไปไหนแน่นอนเลย”


“ดีมาก เดี๋ยวพวกฉันมา” ตินาพูดกับผมก่อนจะหันกลับไปหารุ่นน้องกาย “ส่วนนาย… ตามพวกฉันมา”


ผมนั่งมองพวกเขาทั้งหมดเดินออกจากบริเวณสวนข้างอาคารไปก็หยิบของในถุงออกมาเปิดฝาแล้วก็นั่งดูดไปด้วย ฮ๊า… เจเล่ไลท์อร่อย… ดูดสนุกดีครับ อิอิ แล้วดูสิ… ตินาซื้อมาให้ตั้งเยอะเลย แต่ผมว่าเขาทำอันเล็กไปดูดแปบเดียวก็หมดแล้วอะ


พอหมดอันแรกผมก็หยิบอันที่สองขึ้นมาดูดต่อทันที อร่อย


“พี่เรน”


ผมเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเองก่อนจะเห็นรุ่นน้องกายยืนอยู่ตรงหน้า แต่ไม่เห็นพวกตินาเลยแหะ ไปไหนแล้วละ ผมชะเง้อคอมองไปทางด้านหลังก็ไม่มี อะไรกัน… โทรเรียกผมมาแต่เช้าแต่กลับหายไปไหนเฉยเลย


“พวกพี่ตินาบอกว่ามีธุระต้องไปทำครับ” รุ่นน้องกายว่า ซึ่งผมก็พยักหน้ารับรู้ “พี่เรน…”


“หือ…” ตอบมากไม่ได้ปากไม่ว่างอะครับ


“ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่เรนหน่อยครับ ขอเวลาสักหน่อยได้ไหม”


ผมเอียงคอมองอีกคนก่อนจะพยักหน้ารับก็ปากผมไม่ว่างนี่ครับ กำลังดูดเจเล่ไลค์อยู่ อันที่สามแล้วละครับ พอผมพยักหน้าแบบนั้นน้องตรงหน้าก็ทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับผม ปกติที่เคยเห็น... ก็แค่ไม่กี่ครั้งนะครับ แต่ทุกครั้งที่เห็นเขาจะชอบยิ้มกว้างๆ แต่คราวนี้ทำหน้าเครียดๆ แหะ


“ผมขอโทษนะครับ” รุ่นน้องกาย... ยาวจัง เรียกสั้นๆ ว่ากายแล้วกันเนอะ กายพูดทำให้ผมได้แต่มองอย่างงงๆ ไม่เข้าใจว่าเขามาขอโทษผมเรื่องอะไร


“เรื่องอะไรเหรอ”


กายนิ่งไปนิดเมื่อผมถามแบบนั้นเหมือนลังเลว่าจะบอกผมดีหรือเปล่า “ในเฟส... เมื่อวานที่ผมไปเดินซื้อของกับพี่เรน คือว่า... เฮ้อ...”


“ถ้ามันลำบากใจก็ไม่ต้องพูดก็ได้นะ” ผมบอกขึ้นก่อนเอาเจเล่ไลค์ที่ดูดอยู่ออกจากปากแล้วมองคนตรงหน้ายิ้มๆ


“ไม่ใช่ครับ คือว่า...”


“เรื่องมันจะเป็นยังไงเรารู้ดีอยู่แก่ใจอยู่แล้ว เราจะแคร์คนทั้งโลกไม่ได้หรอกเราเลือกแคร์คนที่แคร์เราดีกว่านะ”






น้องกาย


ผมอยากจะรู้จริงๆ ว่าคนเราสามารถตกหลุมรักได้วันละกี่ครั้ง แล้วตกหลุมรักได้บ่อยแค่ไหน แล้วแต่ละคนจะตกหลุมรักคนเดิมๆ ได้หรือเปล่า... ผมไม่รู้


แต่กับผม...


ผมกำลังตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า กับคนเดิมๆ ที่ใครหลายคนต่อว่าว่าเขาทั้งเฉิ่ม ทั้งเฉย ดูไม่ได้ ผมกำลังตกหลุมรักพี่เรนซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่หยุด ล่าสุดที่ตกหลุมรักคนคนนี้ก็ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย...


“เรื่องมันจะเป็นยังไงเรารู้ดีอยู่แก่ใจอยู่แล้ว เราจะแคร์คนทั้งโลกไม่ได้หรอกเราเลือกแคร์คนที่แคร์เราดีกว่านะ”


ผมไม่รู้ว่าพี่เรนรู้หรือไม่รู้เรื่องที่ลงในเฟสบุ๊ค พี่เขาอาจจะรู้แต่ไม่สนใจ หรือไม่รู้ก็เลยพูดแบบนี้กับผมกันแน่ แต่ถ้าไม่รู้... พี่เขาจะพูดแบบนี้ทำไม แล้วถ้ารู้... เขาไม่โกรธผมจริงๆ เหรอ


“พี่เรนรู้... หรือครับ” ผมถามกลับไป แต่คนที่ทำเหมือนรู้ที่ตอนนี้ยกซองเจเล่ไลค์ในมือขึ้นมาดูดต่อก็มองผมกลับมาอย่างงงๆ ว่าผมพูดเรื่องอะไร


ให้ตายเถอะ! ตอนนี้กำลังซีเรียสนะ แต่พี่เรนโคตรน่ารักเลยครับ ปากแดงๆ ที่ดูดเอาเยลลี่ในซองขึ้นมานั้นโคตรน่ารักเลยอะครับ


“ก็เรื่องในเฟสไงครับ พี่รู้เหรอถึงได้พูดแบบนั้น” ผมอธิบายเพิ่มเติมเมื่อเห็นสายตาแป๋วๆ ที่มองมาอย่างไม่เข้าใจ


ขวับ ขวับ


คนตรงหน้าส่ายหน้าไปมาเสียผมสะบัด จะน่ารักไปไหนวะ ใครที่มองพี่เรนว่าไม่น่ารักแม่งโคตรตาถั่วอะ แต่ก็ดีแล้วละผมไม่อยากให้ใครเห็นความน่ารักของพี่เรนมากนัก


“ไม่รู้หรอกมีเรื่องอะไรเหรอ มีคลิปแมวกำลังดังเหรอ”


ผมที่กำลังคิดมากเรื่องของพี่เขาก็ได้แต่หลุดยิ้มขำออกมา “เปล่าครับ ไม่ได้มีคลิปแมวอะไรหรอกครับ” พอผมบอกแบบนั้นพี่เรนก็ทำหน้าเสียดายไปทันที ไม่ได้สิ... อย่าเพิ่งนอกเรื่องสิวะกายคุยเรื่องประเด็นในเพจกับพี่เรนก่อน


พอตั้งสติกับตัวเองได้แล้วผมก็เริ่มพูดอีกครั้ง “เมื่อวานที่ผมไปเดินซื้อของกับพี่ที่โลตัส มีคนถ่ายรูปเอาไปลงไว้ในเพจ ซึ่งเรื่องถ่ายรูปลงผมไม่ได้เครียดอะไร... แต่มีคอมเมนต์บางคอมเมนต์ที่...”


“พี่บอกแล้วไง... เราแคร์คนทั้งโลกไม่ได้หรอก ใครเขาจะว่าพี่ยังไงก็ช่างเขาเถอะ เรื่องราวมันเป็นยังไงเราก็รู้ดีกันอยู่แล้วนี่” พี่เรนพูด “พี่ไม่รู้หรอก เอาจริงๆ ไม่ค่อยได้เล่นเฟสนะ แต่พอได้ยินก็พอจะเดาได้ว่าเรื่องอะไร มันก็น่าจะเดาได้ไม่ยากนะ ฮ่ะๆ คนหน้าตาดีอย่างน้องกับคนหน้าตาแบบนี้อย่างพี่ก็มีเรื่องให้นินทากันไม่กี่เรื่องหรอก”


“พี่เรนน่ารักจะตาย!”


ชิบหาย...


ไอ้กายชิบหายแล้วไหมละมึง!


พอเห็นพี่เรนบอกว่าตัวเองหน้าตาไม่น่ารักแล้วมันอดใจไม่ไหวต้องโพลงออกไปว่าไม่จริง ก็พี่เรนน่ารักจะตายไป ก็น่ารักจริงๆ อะ ทำไมต้องบอกว่าตัวเองไม่น่ารักด้วยวะ แต่อยู่ๆ ผมโพลงไปแบบนั้นมันจะตลกไหมวะ


พี่เรนทำหน้าอึ้งๆ แบบเอ๋อๆ ไปเลย เห็นแล้วโคตรน่ารักขอจับมาฟัดแก้มสักสองสามทีได้ไหม คนบ้าอะไรวะ น่ารักชิบหาย!!


ผมได้แต่ยกมือเกาแก้มตัวเองแก้เก้อก่อนจะพูด “ผมว่าพี่น่ารักนะครับ”


“ขอบคุณนะ...”


ชิบหายแล้วไอ้กาย...


ต้องเป็นโรคหัวใจเต้นแรงเกินไปแน่ๆ เลย


พี่เรนหน้าแดงด้วยอะเพิ่งจะเคยเห็น โอ๊ย! อยากจะลงไปแดดิ้นอยู่กับพื้นแล้วกรีดร้องว่าทำพี่เรนหน้าแดงได้ด้วย ฮือ... เกิดมาเป็นน้องกายหลงรักพี่เรนนี่มันฟินจริงๆ นะ


“เอ่อ... คือ... นั่นแหละครับ ผมเลยอยากจะมาคุยกับพี่แล้วก็ขอโทษด้วยที่ทำให้พี่เรนต้องมาเจออะไรแบบนี้” โอ๊ยกว่าจะดึงสติตัวเองกลับมาได้นี่ใช้เวลาไปเป็นนาทีเลยครับ


ผมได้แต่นั่งมองพี่เรนดูดเยลลี่ไปเรื่อยๆ คือดูท่าจะชอบมากพอหมดก็หยิบอันใหม่มาดูดต่อเห็นแล้วน่ารักดีครับเลยได้แต่นั่งท้าวคางมองปากแดงๆ นั้น อีกอย่างรอพวกพี่ตินากลับมาด้วยพวกพี่เขาบอกให้เฝ้าพี่เรนเอาไว้อย่าให้คลาดสายตา คนคนนี้ปล่อยเอาไว้คนเดียวไม่ค่อยได้ถ้าไม่ลุกจนหลงไปไหนก็จะมีพวกรุ่นพี่เข้ามาแกล้ง ทั้งแกล้งจีบ ทั้งจีบจริง พอได้ยินแบบนั้นผมเลยอาสาทันที เรียกว่ามากันท่าก็ได้ครับ อนาคตก็จะเป็นคนของผมแล้ว ต้องมาประกาศตัวเอาไว้ก่อน


ส่วนเมื่อกี้ที่ไปคุยกับพวกพี่ตินาตอนแรกคิดว่าซวยแน่ๆ ตายแน่ๆ แล้วผมเพราะพวกพี่ตินามองมาแบบตาวาวมาก คิดว่าโดนฆ่าหมกแถวนั้นแล้วแน่นอนแต่กลับไม่เป็นแบบนั้นครับ


พี่เขาไม่ได้โกรธเรื่องที่ผมทำให้เกิดประเด็นในเพจพี่เขาบอกว่ามันไม่ใช่ความผิดของผมที่ผมไปเดินซื้อของกับพี่เรน แต่คนผิดคือคนที่เอารูปไปลงแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง แล้วก็คนที่คอมเมนต์ต่อว่าพี่เรนในรูปนั้นต่างหาก


คือเอาจริงๆ พวกพี่ตินาด่าคนพวกนั้นแบบรุนแรงมากจนผมตกใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะกลัวว่าเป้าหมายมาเป็นผม เห็นแบบนี้ก็รักตัวกลัวตาย เก็บตัวเก็บใจเอาไว้ให้พี่เรนนะเออ ไม่กล้าเสี่ยงไปให้พวกพี่ตินายำหรอกครับ


“พี่เรน” ผมเรียกคนตรงหน้าที่ก้มหน้าก้มตาหาเยลลี่ในถุงเซเว่น ผมอยากจะรู้จริงๆ ว่ามันมีกี่ซองกันแน่ กินได้ไม่หมดสักที


“งือ...” นั่นคือคำตอบรับคำเรียกของผมหรือเปล่าครับ เพราะพี่เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองผมเลยสักนิด นี่ผมเป็นคนหล่อนะครับ เงยหน้าขึ้นมาสนใจกันหน่อยสิ


“พี่เรน” ผมเรียกอีกรอบ


คราวนี้เงยหน้าขึ้นมาครับ แต่หน้าน่ารักใต้แว่นตากลมๆ นั้นเบ้นิดๆ จนผมชักจะใจเสียแต่ก็ต้องยิ้มขำเมื่อได้ยินที่พี่เรนพูด “เยลลี่หมดแล้วอะ”


“เดี๋ยวผมซื้อให้เอาไหม” เอาขนมล่อน่าจะได้ผลกับคนคนนี้นะ โดยเฉพาะเจเล่ไลค์อะไรนี่


“ฉันให้นั่งเป็นเพื่อนเพื่อนฉันย่ะ ไม่ใช่ให้เอาขนมมาล่อลวง” เสียงพี่ตินา... ดังขัดขึ้นอย่างกับรู้จังหวะเลยละครับ


“โทรตามเรามาแล้วก็ปล่อยเรานั่งกินขนมอยู่คนเดียว” คนที่เมื่อกี้ทำหน้าเบ้เพราะขนมหมดหันไปทำหน้าบูดใส่พี่ตินาแล้วก็เพื่อนคนอื่นๆ


ฮือ... หน่องกายใจสั่นเหลือเกิน


“เดี๋ยวพาไปเลี้ยงขนมโอเคไหม” พี่ใบหม่อนพูด


“น้องหมี...”


“พาไอ้... พาน้องหมีไปด้วยก็ได้ เดี๋ยวพาไปที่ร้านคาเฟ่แมว” พอพี่เรนพูดถึงน้องหมี ซึ่งก็หมายถึงแมวที่เขาเลี้ยงนั่นแหละครับ พี่สาก็พูดต่อทันที แล้วทีนี้นะคนที่นั่งทำหน้าบึ้งก็ยิ้มกว้างทันทีเลย


เป็นรอยยิ้มที่... ผมอยากจะถ่ายเก็บเอาไว้จริงๆ


พูดถึงเรื่องถ่าย...


“พี่เรนสนใจอยากเป็นนายแบบไหมครับ” ผมถามทะลุกลางป้องทันที จนทุกคนหันมามองเป็นผมเป็นตาเดียว


คนที่ผมชวนให้มาเป็นนายแบบชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเหมือนกับจะย้ำว่าหมายถึงเขาใช่ไหม ท่าทางนั้นตลกชะมัด แต่ก็นั่นแหละครับ... น่ารักมากกว่า


“เป็นนายแบบให้ผมไง ผมเรียนเกี่ยวกับถ่ายภาพแล้วปีนี้ก็มีโปรเจคพอเห็นพี่เรนก็เลยอยากให้พี่มาเป็นนายแบบให้” ผมพูดอธิบาย เหลือบมองพวกสาวๆ องครักษ์พี่เรนไปด้วยพวกพี่เขามองผมอย่างคนกำลังจับผิดจนผมนี่ได้แต่เหงื่อตก


แต่ผมก็อยากให้พี่เรนมาเป็นนายแบบจริงๆ นะ แต่ว่าอยากเอามันมาเป็นข้ออ้างเข้าหาพี่เรนมากกว่า


ส่วนคนที่ถูกผมทาบทามให้มาเป็นนายแบบก็ส่ายหน้ารัวๆ จนผมอยากจะยื่นมือไปจับหน้านั้นเอาไว้เพราะกลัวว่าจะเวียนหัวไปเสียก่อน


หมับ!


แล้วคือมันไม่ใช่แค่คิดไง ไอ้มือไม่รักดีมันก็ยื่นไปหาพี่เรนแต่ยังไม่ทันจะถึงก็โดนพี่ใบหม่อนกับพี่สาคว้าแขนเอาไว้คนละข้างจนผมได้แต่ลดมือลงช้าๆ แล้วกลับมานั่งอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวเหมือนเดิม


คิดจะรักเจ้าหญิงของกลุ่มนี่ไม่ง่ายเลยแหะ


“ไม่ลองดูหน่อยเหรอครับพี่เรน นะ... ช่วยผมหน่อยนะ” ผมอ้อน แต่คนตรงหน้าผมก็ยังส่ายหน้าไปมาไม่หยุด


“อย่างพี่ไม่เหมาะกับเป็นนายแบบหรอก”


“ถ้าช่างภาพว่าเหมาะก็แสดงว่าเหมาะนะครับ” ผมบอกแต่คราวนี้พี่เรนคนน่ารักของผมใจแข็งไม่ใช่เล่นแหะ ไม่เป็นไร...


“อย่างนั้นเดี๋ยวผมจีบพี่จนพี่ยอมเองก็ได้”





************************************************
มาแล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่อาทิตย์ที่แล้วไม่ได้มาอัพ มีเรื่องวุ่นวายนิดหน่อยค่ะยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ

กลับมาที่เนื้อหาค่ะ เหมือนจะมีเรื่องแต่ก็ไม่มีค่ะ พวกพี่ตินาเขาก็เข้าใจว่าน้องกายไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องคือเอาจริงๆ ก็ไม่ใความผิดของน้องอะเนอะ ส่วนพี่เรนนี่ก็ไม่สนใจจ้า บทพี่แกจะเอ๋อก็เอ๋อซะน่าเอ็นดู พอบทจะเป็นผู้ใหญ่ก็ทำเอาน้องกายเราใจเต้นตึกตักๆ เลยทีเดียว แล้วดูสิ ดู ดู๊ ดู ดูน้องพูด แหม... จะจีบเขาจนกว่าพี่เขาจะยอม จีบอะไรบอกให้กระจ่างนิดนึงจะจีบพี่เขามาเป็นนายแบบ หรือจะจีบพี่เขามาเป็นเมีย เอ๊ย! มาเป็นแฟนกันแน่

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 4 • [100%] l P.4 25-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-04-2016 20:47:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 4 • [100%] l P.4 25-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-04-2016 21:26:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 4 • [100%] l P.4 25-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 25-04-2016 22:56:25
เรนน่ารักกกกก ดูมึนๆดี 55555 กายจะจีบเจ้าหญิงของกลุ่มก็ต้องสตรองหน่อยนะ เอิ้กๆ สู้!!
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 4 • [100%] l P.4 25-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 26-04-2016 06:25:25
พี่เรนจะน่ารักไปไหนเนี่ย กายจ๊ะถ้าจะจีบพี่เรนนี่ท่าจะยากซักแล้วองครักษ์การ์ดหนาแน่นซักขนาดนี้ ทางที่ดีต้องให้เพื่อนๆ พี่เรนเห็นชอบด้วยเนี่ยจีบง่ายขึ้นชัวร์
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 4 • [100%] l P.4 25-04-59
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-04-2016 13:37:58
พี่เรนน่ารัก น้องกายสู้ๆ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 5 • [50%] l P.5 02-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 02-05-2016 17:10:17
(http://image.free.in.th/v/2013/ip/160502101451.gif)

คนอะไร... ทำหน้าเอ๋อก็ยังน่ารัก
kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะค




โชคครั้งที่ • 5 •




น้องกาย




“ไหนใครมีความคืบหน้าของงานมาพูดบ้าง โปรเจคไปถึงไหนกันแล้วมีใครได้ลองถ่ายรูปบ้างหรือยัง ถ้ามีเอามาให้ผมดูก่อนก็ได้นะ จะได้รู้ว่าจะควรถ่ายใหม่ดีหรือเปล่า” เสียงของอาจารย์ธีร์ดังขึ้นในห้องแลคเชอร์ ในห้องกว้างๆ นี้ก็มีแค่สิบเอ็ดคนรวมอาจารย์ด้วยแล้วนะครับ จบแลคเชอร์ไปแล้วตอนนี้ทุกคนก็แยะย้ายไปหาอาจารย์ที่ปรึกษากันแล้ว ส่วนกลุ่มของพวกผมก็ยังคงยึดห้องแลคเชอร์เป็นที่พักพิงต่อ



พวกผมทั้งสิบคนหันมองหน้ากันเล็กน้อยเหมือนกำลังลองเชิงกันอยู่ว่าใครจะออกไปคนแรก แต่ทุกคนก็ยังนิ่ง คือไม่รู้ว่าไม่มีงานอะไรเลยหรือรอดูเพื่อนก่อนกันแน่



มาแล้วๆๆๆ หน่วยกล้าตายของกลุ่ม ไอ้ไม้ครับแม่งลุกเดินไปหาอาจารย์คนแรกเลย



“เอาว่าไง... ความอยู่รอด” อาจารย์ธีร์ทักมัน ยังจำกันได้ใช่ไหมครับคอนเซ็ปของไอ้ไม้คือ ความอยู่รอด ที่คราวก่อนนู้นแม่งขนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาเต็มกระเป๋า ผมอยากจะรู้จริงๆ คราวนี้มันจะขนอะไรมาอีก “ยังเอาคอนเซ็ปเดิมอยู่หรือเปล่า”



อะแฮ่ม!



ไอ้ไม้กระแอมในลำคอก่อนจะทำหน้าจริงจังจนพวกผมมองอย่างตื่นเต้น มันน่าตื่นเต้นนะครับตอนที่ได้เห็นเพื่อนแต่ละคนแสดงความคิดเห็นหรือเสนอคอนเซ็ปในการถ่ายภาพ เหมือนกับเป็นการเปิดโลกใหม่เรื่อยๆ เพราะบางเรื่องแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่เราก็มองข้าม หรือบางทีแค่ภาพที่คนทั่วไปมองว่าธรรมดาๆ แต่สำหรับคนถ่ายมันมีความหมายมากมายอยู่ในนั้น



“ครับ ผมยังใช้คอนเซ็ปเดิมคือความอยู่รอด” ไอ้ไม้เริ่มพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนอาจารย์ธีร์ยังทำหน้าจริงจังตามไปด้วย



“แต่อาจารย์ครับ... ชีวิตผมทั้งชีวิตที่ผ่านมาผมสามารถมีชีวิตรอดด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผมไม่รู้จริงๆ ถ้าไม่ได้มันผมจะอยู่ยังไง ฮือออออออออออ”



“ไอ้สลัด!!!”



พอไอ้ไม้พูดโอดครวญพร้อมกับเลื้อยตัวไปบนโต๊ะแล้วทำเสียงเหมือนคนร้องไห้ พวกผมก็พร้อมใจกันด่ามันเป็นเสียงเดียวกัน คือถ้าเห็นไม่ผิดอาจารย์ธีร์ก็อ้าปากด่าแต่แบบไม่ออกเสียง โว๊ะ! ไอ้นี่แม่งชอบทำเป็นเข้มสุดท้ายก็เหลวเป็นน้ำตลอด



อาจารย์ธีร์เลยจัดการโบกมือไล่มันให้กลับมานั่งที เพื่อนคนอื่นๆ ก็เลยเข้าไปคุยกับอาจารย์แทน ไม่รู้ทำไมผมชอบคุยเป็นคนสุดท้าย ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะถ้าเป็นคนสุดท้ายก็จะไม่มีคนคอยรอต่อให้ต้องเกรงใจ แต่เหตุผลสำคัญคือกว่าจะถึงคนสุดท้ายเนี่ย... อาจารย์ต้องพูด ต้องคิด ต้องแนะนำมาเพียบแล้วไง จนหมดแรงไม่จี้เอาอะไรกับผมมาก ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่น!



“เออไอ้กาย ตกลงเรื่องพี่ฝนมึงว่ายังไงบ้างวะ แล้วก็เรื่องรูปอีก” ไอ้เกลียวหันมาถามผม มันเพิ่งไปคุยกับอาจารย์มาเสร็จครับ ตอนนี้เป็นเพื่อนจากอีกกลุ่มไปคุยแทน



“พี่เรนเขาไม่แคร์ว่ะ เขาบอกใครจะคิดจะพูดยังไงก็เรื่องของเขา ความจริงเป็นยังไงเรารู้ดีอยู่แก่ใจ พวกพี่ตินาก็ไม่โกรธกูนะ แต่แค้นพวกที่มาด่าพี่เรนน่าดู” ผมตอบมันไป “ส่วนเรื่องรูปกูก็ส่งข้อความไปบอกให้แอดมินเพจลบให้แล้ว”



“ตกลงมึงรู้ยังใครเป็นคนปล่อยรูปมึงออกมา” ไอ้เป้ชะโงกหน้ามาถามผม



“กูรู้แล้ว รุ้งเป็นคนปล่อย”



“รุ้ง?” พวกมันทวนคำพร้อมกันก่อนที่ไอ้แม็คจะถามออกมาอย่างไม่แน่ใจว่ามันเข้าใจถูกหรือเปล่า “รุ้งดาวคณะบัญชีที่ตามจีบมึงตั้งแต่ปีหนึ่งอะนะ”



ผมพยักหน้ารับ “เออ รุ้งนั่นแหละ รุ้งบอกบังเอิญเห็นก็เลยถ่ายมาลง ไม่ได้คิดว่าจะมีคนมาด่า แค่เห็นกูกับพี่เรนสนิทสนมกันดี”



“ไม่ได้ตั้งใจ?” ไอ้เป้พูด “นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะ มึงเชื่อเออวะ”



ไอ้เป้มันไม่ชอบรุ้งครับ... รุ้งเธออยู่รุ่นเดียวกับผมนี่แหละเป็นดาวคณะบัญชีแบบที่ไอ้แม็คพูด เธอตามจีบผมตั้งแต่วันปฐมนิเทศ คือเป็นผู้หญิงที่กล้ามากเดินดุ่มๆ เข้ามาหาผมแล้วก็บอกจะจีบขอเบอร์หน่อย แต่ผมก็ไม่ได้ชอบอะไรครับ



ตอนแรกยังแอบคิดว่าไอ้เป้มันเคยไปตามจีบรุ้งแล้วโดนปฏิเสธมาหรือถึงได้ตั้งแง่กับเธอ แต่มันบอกว่ารุ้งต่อหน้าทำเป็นผู้หญิงใสๆ น่ารัก แต่ลับลองแล้วไม่ใช่ เหมือนจะนินทาผู้หญิงแต่เล่าแล้วก็มันปากหยุดไม่ได้ขอเล่าต่ออีกหน่อยแล้วกันครับ ไอ้เป้มันเคยบอกว่ามันเคยไปเจอรุ้งนอกมหา’ลัย บอกว่าเธอนี่เด็กเสี่ยดีๆ นี่เองครับ มันไปเห็นตอนกำลังอ้อนเสี่ยอยู่เลย



เห็นไอ้เป้กวนตีน ปากหมา แซวสาวไม่เลือก ขี้เสือกไปนิด ขี้เกียจไปหน่อย แต่จริงๆ แล้วมันหัวโบราณนิดๆ นะ มันไม่ชอบผู้หญิงที่กล้าเกินไป แบบเข้ามาจีบผู้ชายก่อน หรือเห็นว่าเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีกับใครก็ได้ มันเคยบอกว่า



‘ถึงบางครั้งกูจะเล่นสนุก แต่กูก็อยากได้ผู้หญิงที่ดีเป็นแม่ของลูกนะมึง ในอนาคตกูจะได้อวดลูกได้ว่าแม่เป็นคนที่ดีที่สุด’



แม่งหล่อขึ้นมาทันที...



อ้าว... นอกเรื่องแล้ว กลับเข้าเรื่องเดิมต่อ ถึงไหนแล้วนะ... อ๋อ! เรื่องรุ้ง ก็นั่นแหละครับ รุ้งเธอมาจีบผมแต่ผมไม่ได้ชอบไม่ได้สนใจ พอหนักๆ เข้าผมก็เลยบอกไปตรงๆ ว่าไม่ได้ชอบ เป็นเพื่อนกันดีกว่าอย่างน้อยจะได้มองหน้าติด เธอก็โอเคนะครับ แล้วเราก็แยกย้ายกันด้วยดี



ส่วนเรื่องรูปแอดมินที่ดูแลเพจแฟนคลับของผม (ไม่ค่อยอยากจะพูดเลยเหมือนอวยตัวเองยังไงก็ไม่รู้ แต่ทำยังไงได้อะครับ คนมันร้อน... / ฮอตไอ้สลัด!) บอกว่าในเพจมีแอดมินหลายคนซึ่งรุ้งก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย คนปล่อยรูปก็รุ้งนั่นแหละครับ เห็นว่าเธอบังเอิญไปเจอผมกับพี่เรนก็เลยถ่ายรูปมาลง



พอผมไปถามก็บอกว่าไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้แล้วก็ขอโทษผม ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเธอตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจแต่ในเมื่อขอโทษแล้วก็ลบรูปให้แล้วผมก็เลยปล่อยให้มันจบๆ ไป ไม่รู้จะต่อความให้มันยาวไปอีกทำไม



“คามิน... มาเลยเหลือคนสุดท้ายแล้ว” เสียงของอาจารย์ธีร์ปลุกให้ผมหลุดออกจากความคิด ผมหันไปมองอาจารย์อย่างงงๆ แล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเป็นเชิงถามว่าตาผมแล้วเหรอ “ใช่ ตาคุณแล้ว มาเร็วเข้าจะได้ปล่อยสักที ผมชักจะง่วงแล้ว”



“คร้าบๆ” ผมเลยลุกเดินไปนั่งคุยกับอาจารย์ แต่... จะเอาอะไรคุยดีละ



“มีไรมาคุยบ้าง ไปถึงไหนแล้วโปรเจค”



ผมได้แต่ยกมือเกาหัว คือมันไม่กระเตื้องเลยอะครับ “แหะๆๆ”



พอผมหัวเราะแบบนั้นก็เหมือนอาจารย์ธีร์จะรู้ว่าหมายถึงอะไร อาจารย์ถึงได้ส่ายหน้าแต่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร “ยัง ‘จีบฝนของคุณ’ ไม่ติดอีกหรือไง”



“โหยยยยย อาจารย์คร้าบ เพิ่งผ่านไปทิตย์สองทิตย์เองใครจะจีบติดได้ง่ายๆ กันละครับ”



“แล้วถ้าจีบติดไม่ทันวันส่งไฟนอลขึ้นมาจะทำยังไง คิดคอนเซ็ปอื่นรองรับเอาไว้หรือยัง” อาจารย์ธีร์กอดอกถาม



“ระดับนายคามิน ไม่มีคำว่า ‘จีบไม่ติด’ แน่นอนครับ ยังไงไฟนอลโปรเจคผมอาจารย์จะต้องได้เห็น 비 (บิ) แน่นอนครับ” ผมพูดอย่างมั่นใจ ไม่ว่ายังไงผมจะต้องจีบพี่เรนให้ติด ทั้งติดมาเป็นนายแบบแล้วก็มาเป็นเมีย เอ๊ย! มาเป็นแฟนให้ได้



“โอเค สรุปว่าวันนี้... ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมสินะ เรื่องโปรเจคก็ลองกลับไปคิดเพิ่มเติมดูผมว่าคอนเซ็ปของพวกคุณแต่ละคนน่าสนใจมากเลยทีเดียว แต่สิ่งที่สำคัญคือคุณจะสื่อมันออกมายังไง ภาพตัวอย่างที่ถ่ายมาผมว่า... มันยังไม่โดนใจเท่าไหร่ ยังไงลองกลับไปคิดกันดูนะ อย่างนั้น... วันนี้ก็แค่นี้แหละ แยกย้ายกันได้ทุกคน” อาจารย์ธีร์พูดสรุปอีกรอบก่อนจะปล่อยพวกผมให้แยกย้าย



พวกผมทั้งห้าคนเดินไปที่โรงอาหารของคณะทันที ก็ยังไม่หิวเท่าไหร่หรอกครับแต่ไม่รู้ทำไมว่างเป็นต้องเข้าโรงอาหารคณะ ไม่ก็ไปนั่งแซวสาวๆ หน้าตึกยิ่งเวลาสาวๆ คณะอักษร คณะศิลปะศาสตร์เดินผ่านนะ อือหือ... ไม่อยากจะพูด แต่ละคนอย่างกับคัดหน้าตาจะเอาเข้าประกวดมิสไทยแลนด์



อ๊ะๆ แต่ผมไม่ได้แซวสาวๆ นะครับ ผมไม่สนใจสาวสวยหรือหนุ่มน่ารักที่ไหนอีกแล้ว เพราะในใจของ กาย คามิน มีแค่พี่เรน รามิลคนเดียวเท่านั้น



โอ๊ย นึกถึงชื่อพี่เรนแล้วมันช่างเพราะจริงๆ เราสองคนต้องเป็นเนื้อคู่กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนแน่นอน



“มึงๆๆ พวกมึงว่าถ้ากูถ่ายภาพขั้นตอนการทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปะทังชีวิต มันจะสื่อถึงความอยู่รอดไหวมะ” ไอ้ไม้พูดขึ้นกลางโต๊ะ ตอนนี้มันขนซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมาเรียงบนโต๊ะครับ แล้วก็แกะที่ละซอง



“เอ่อ! มึงถ่ายหน้ามึงติดไปด้วยนะ แบบตอนที่เห็นบะหมี่แล้วเหมือนได้ขึ้นสวรรค์อะมึงแบบนั้นอะ” ไอ้แม็คมันประชดครับ แต่เหมือนไอ้ไม้จะซื่อ(?) หรือไม่มันก็แกล้งโง่เพราะมันหันมามองไอ้แม็คอย่างซาบซึ้งในบุญคุณ



“ไอ้แม็ค!!! มึง... มึงคือสวรรค์ส่งมาโปรดกูชัดๆ เลย กูถ่ายแบบที่มึงว่าดีกว่าว่ะ ‘จารย์ไม่ได้ห้ามถ่ายหน้าตัวเองนี่หว่า แล้วก็นะมึงๆ กูจะโฟกัสควันที่ลอยขึ้นจากชาม อือหือ! แม่ต้องดีมากแน่ๆ เลยว่ะ” ไอ้ไม้ว่าพร้อมกับตบไหล่ไอ้แม็คไม่หยุด



“เอ่อๆ เอาที่มึงสบายใจเถอะไอ้ห่า” ไอ้แม็คด่าเข้าให้ พวกผมเลยได้แต่หัวเราะกับท่าทางของไอ้ไม้ ดูท่ามันอยากได้คอนเซ็ปนี้จริงๆ นะครับ แต่... เอาแบบนี้มันจะดีจริงเหรอ



แต่ก็ช่างเถอะครับ ถ้าสามารถสื่อสารออกมาให้คนรับรู้ได้ ต่อให้ถ่ายแค่ก้อนหินก้อนเดียวก็มีสิทธิได้เกรด A ไปครอบครองครับ ไม่แน่คอนเซ็ปของไอ้ไม้อาจจะเวิร์กก็ได้ใครจะไปรู้ ฮ่าๆๆๆๆ



“แล้วมึงอะไอ้กาย ตอนนี้งานมึงนี่ช้าสุดแล้วนะโว้ย” ไอ้เป้หันมาคุยกับผม



จริงอย่างที่ไอ้เป้มันพูดครับ ถึงแม้จะผ่านมาได้แค่สองอาทิตย์แต่ผมเป็นคนเดียวที่งานยังไม่ขยับไปไหนเลย ก็แน่ละจีบพี่เรนยังไม่ติดไม่ต้องว่าถึงเรื่องงานเลยครับ ไฟนอลเหมือนจะอีกนานใช่ไหม แต่อีกสองอาทิตย์จะมีพรีเซ็นครั้งแรกครับ แล้วถ้าผมไม่มีอะไรไปพรีเซ็นเลยผมนี่ตายแน่ๆ ซวยแน่นอนล้านเปอร์เซ็น



“กูกำลังคิดแผนอยู่ว่ะว่าจะทำยังไงให้พี่เรนยอมตกลงมาเป็นแบบให้กู” ผมตอบ ตั้งแต่วันที่บอกพี่เรนไปว่าจะจีบผมก็คิดมาตลอดว่าจะทำยังไงดี



“กูว่านะ มึงคุยให้พี่เรนมาช่วยงานมึงก่อนดีกว่าไหมวะ ไอ้เรื่องจีบเป็นเมียเป็นแฟนอะไรนั่นเดี๋ยวมันก็เป็นผลพลอยได้ตามมาเองแหละ” ไอ้เกลียวพูด ตอนนี้มันแย่งซองมาม่ารสต้มยำกุ้งของไอ้ไม้ไปนั่งกินละครับ ไอ้ห่า... มาม่าดิบ



แต่ผมก็ชอบกินนะ ตอนเด็กๆ ช้างน้อยนี่ซื้อมาเป็นสิบซองนั่งกินมันปากเลยละครับ



“กูก็คิดแบบนั้น แต่กูก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้พี่เรนมาช่วยดี วันนั้นกูชวนเขาแล้วนะแต่เขาก็ไม่ยอมมาว่ะ แต่เวลาเห็นพี่ตินาชวนถ่ายรูปก็ถ่ายดีนี่หว่า” ผมนั่งนึก เห็นในเฟสพี่ตินาลงรูปกับพี่เรนโคตรบ่อย บางรูปเป็นภาพเดี่ยวพี่เรนด้วยนะ



“เพราะมึงยังไม่สนิทป่าววะ” ไอ้ไม้พูดมันหันไปแย่งซองมาม่าจากไอ้เกลียวมากรอกปากตัวเอง “แบบอยู่ๆ ใครที่ไหนก็ไม่รู้ว่าขอให้เป็นแบบมึงจะไปเป็นออวะ”



“เป็นนะ พอดีกูหล่อมีคนมาขอบ่อย”



ผลัวะ!!



ไอ้สลัดผัก!!!



ผมมองหน้าพวกมันอย่างเคืองๆ แม่งเล่นประเคนฝ่ามือใส่หัวผมแบบพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย ไอ้ห่าหัวกูก็มีแค่นี้แม่งแบ่งกันยังไงถึงตบได้ทุกคนวะ



“ไอ้หรรมหด กูไม่ช่วยมึงละ”



“โอ๋ๆ กูแค่พูดความจริง เอ๊ย กูแค่ล้อเล่นเอง ไหนมึงว่าต่อสิไอ้ไม้”



“ไอ้ห่า...” ไอ้ไม้ด่าผมอีกรอบก่อนมันจะยอมพูดต่อ “ก็นั่นแหละถ้าคนปกติทั่วไปส่วนใหญ่เขาก็คงรู้สึกแปลกๆ ใช่มะที่โดนขอให้ช่วยเป็นนายแบบให้หน่อย แต่กับพวกพี่ตินาอะเขาเป็นเพื่อนไงมึง พอขอพี่เรนก็เลยให้ถ่าย เพราะฉะนั้น...”



“กูต้องเข้าไปสนิทสนมกับพี่เรนให้ได้ก่อนสินะ” ผมพูดต่อ



“ถ... ถูก ถูกต้องนะคร้าบบบบบบบบบบ” ไอ้ไม้ยกนิ้วชี้มาทางผมก่อนจะร้องเสียงดัง ไอ้สลัด อายคนอื่นเขาไหม



เพื่อนคนอื่นๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่ไม้พูด ก็จริงของมันนะครับ ก่อนอื่นผมต้องเอาตัวเข้าแลก เอ๊ย! ไม่ใช่ เอาตัวเองเข้าไปสนิทกับพี่เรนในระดับที่เขาจะยอมทำตามในสิ่งที่ผมขอก่อน



“แต่กูว่านะ... เอาตัวไปสนิทกับพี่เรน แม่งยากยิ่งกว่าอะไรในโลก องครักษ์พี่เขาเพียบขนาดนั้นมึงจะฝ่าด่านพวกพี่ตินาเข้าไปยังไงวะ” ไอ้เกลียวพูด



ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างคิดไม่ตก



พวกพี่ตินาถึงปากจะบอกว่ายอมให้ผมเดินหน้าจีบพี่เรนถ้าผมชอบจริงๆ แต่ในใจก็คงไม่ได้คิดแบบนั้น ผมรู้ว่าพี่เขาไม่ได้จะปิดกลั้นหรือไล่ผมแต่คงเพราะอยากให้แน่ใจว่าผมชอบพี่เรนจริงๆ ถึงได้ยังคอยกันท่าบ่อยๆ อีกอย่างผมเองก็เพิ่งจะเข้าไปรู้จักกับพี่เขาได้ไม่ถึงเดือนจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่พี่เขาจะยังไม่ไว้ใจ



เฮ้อ...



ดูท่าการฝ่าด่านพวกพี่ตินาจะยากกว่าการทำให้พี่เรนตอบรับคำมาเป็นนายแบบให้ผมแหะ...





************************************************
สวัสดีตอนเย็นค่ะทุกคนนนนน ฟางอัพน้องกายให้อ่านกันแล้วค่ะ คิดถึงน้องกันไหม??? เหมือนจะไม่มีอะไรเลยอะ มีแต่หน่องกายและพองเพื่อนที่มาสร้างสีสันให้งดงาม(?)ค่ะ 555555

จริงอย่างที่น้องว่านะคะ การจะฝ่าองครักษ์อย่างพวกพี่ตินาเข้าไปได้มันไม่ใช่ง่ายๆ เลยแล้วน้องกายจะทำยังไงละเนี่ยถึงจะผ่านด่านสาวๆ ไปหาตัวเจ้าหญิง(?)ของกลุ่มได้ ฝ่าด่านก็ยากแสนยากไหนจะมีเวลาจำกัดที่จะใกล้พรีเซนในอีกสองอาทิตย์อีก แล้วๆๆๆๆๆ น้องกายจะทำยังไงงงงงงงงงงงงงง อย่าลืมเอาใจช่วยน้องกันด้วยนะคะ จุ๊บๆ

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 5 • [50%] l P.4 02-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: harumi ที่ 02-05-2016 18:11:39
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 5 • [50%] l P.4 02-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 02-05-2016 20:44:36
ทำไมภึงน่ารักได้ขนาดนี้~
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 5 • [50%] l P.4 02-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: เปาเปา ที่ 02-05-2016 20:46:48
ชอบอ่าาา อ่านแล้วมีความสุข ปากงี้บานจะถึงหูละ
อย่าหายไปนานนะคะ รอค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 5 • [50%] l P.4 02-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-05-2016 01:11:29
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 5 • [100%] l P.4 09-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 09-05-2016 16:44:21
(http://image.free.in.th/v/2013/ip/160502101451.gif)

คนอะไร... ทำหน้าเอ๋อก็ยังน่ารัก
kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะค




โชคครั้งที่ • 5.2 •




• • • ต่อค่ะ 100% • • •




“พี่เรน~ สวัสดีครับ” ผมยิ้มกว้างก่อนจะเดินเข้าไปทักคนที่กำลังยืนหันซ้ายหันขวาอยู่บนบีทีเอส แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นพี่เขา ว่าแต่… พวกพี่ตินาไปไหนนะถึงได้ปล่อยให้คนหลงทางเป็นอาชีพอย่างพี่เรนมายืนหมุนอยู่บนบีทีเอส



“อ่า… กาย” พี่เรนเอียงคอมองผมเหมือนจะนึกว่าผมเป็นใครมาจากไหนพอนึกได้ก็ร้องออกมาก่อนจะเรียกชื่อผม



ผมได้แต่ยิ้มกับท่าทางที่น่าเอ็นดูของพี่เขา “ทำไมอยู่คนเดียวละครับ พวกพี่ตินา พี่ใบหม่อนไปไหนหมดแล้ว”



“วันนี้ไม่มีเรียนพวกนั้นก็เลยไม่ได้มา” พี่เรนต่อ และนั่นก็ทำให้ผมสังเกตว่าพี่เรนไม่ได้อยู่ในชุดนักศึกษา แต่อยู่ในชุดธรรมดาอย่างเสื้อสีเทาแขนยาวแถมยังเอาฮูดมาคลุมหัวเอาไว้อีกต่างหาก กางเกงวอร์มขายาวสีดำ แว่นตาอันกลมใหญ่ๆ ก็ยังอยู่บนหน้า



ถ้าเป็นคนอื่นใส่ผมคงเบ้หน้าเข้าให้พร้อมกับแนะนำให้ไปศึกษาแฟชั่นเสียบ้าง แต่พอเป็นคนนี้ใส่… จะแต่งยังไงก็น่ารักอ่ะ!



“แล้วพี่กำลังจะไปไหนครับ” ผมถามต่อ ไม่ใช่อะไรนะผมกลัวว่าพี่เขาจะไปหลงทางที่ไหนก็แค่นั้นเอง ไม่ได้อยากรู้ ไม่ได้จะตามไปเลย



ก็คิดดูสิ แค่ยืนอยู่บนบีทีเอสผมก็เห็นแววคนหลงทางลอยมาจากพี่เรนแล้วเนี่ย ดีไม่ดีเดี๋ยวได้ขึ้นบีทีเอสผิดฝั่งกันพอดี



“จะไปห้าง พี่จะไปซื้อสีเพิ่มอะ” พี่เรนตอบ



ผมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะยิ้มออกมา “อย่างนั้นผมไปด้วยได้ไหม ผมก็กำลังจะไปห้างพอดีว่าจะไปดูอุปกรณ์กล้องเสียหน่อย”



สาบานได้เลยว่าผมไม่ได้จะตามหรือเกาะติดพี่เรนนะ ก็แค่เป็นห่วงแล้วอีกอย่างเห็นว่าไปที่เดียวกันไปทางเดียวกันอยู่แล้วไปด้วยกันก็ช่วยโลกประหยัดได้กว่านะ (ได้ข่าวว่าไปบีทีเอส...)



พอพี่เรนได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้างแล้วพยักหน้ารับทันที “เอาสิ อย่างน้อยถ้าตินารู้พี่จะได้ไม่โดนดุ พวกตินาชอบดุเวลาพี่ไปไหนมาไหนคนเดียว ก็ไม่ได้หลงทางเก่งขนาดนั้นสักหน่อย” คนน่ารักพูดก่อนจะยู่ปากเหมือนกำลังงอนๆ ตอนที่พูดถึงพี่ตินา



เฮ้อ... เห็นแล้วหัวใจมันกระชุ่มกระชวยมีความสุข



ไปเที่ยวห้างกับพี่เรนสองคน ไปช่วยพี่เรนซื้อสี ชวนพี่เรนไปดูกระเป๋ากล้อง แล้วชวนไปหาอะไรกิน โอ๊ย! นี่มันเดทชัดๆ



คิดแล้วน้องกายชักเขินจะได้ไปเดทกับพี่เรน ><




แต่ไม่ได้ๆ เราต้องเก็บอาการจะกระโตกกระตากไม่ได้หรอก ต้องทำเป็นขรึมเข้าไว้ไอ้กาย ทำเป็นขรึมแต่ไอ้เชี่ยเอ๊ย! ปากมันชอบจะยกยิ้มอยู่เลย



“อย่างนั้นเราไปกันดีกว่าเนอะ ปะ!” พี่เรนยิ้มกว้าง ดันแว่นตากลมๆ ให้กลับเข้าที่ก่อนจะเดินนำผมออกไป



หมับ!



“นั่นไปทางแบริ่ง ต้องขึ้นฝั่งนี้ครับ” ผมคว้าข้อมือของพี่เรนเมื่อเจ้าตัวตั้งหน้าตั้งตาเดินจะไปขึ้นบนไดไปรอรถไฟฟ้าแต่ทางที่กำลังจะขึ้นไปน่ะ เป็นทางไปแบริ่ง จะไปสยามมันต้องไปอีกทางสิ



ให้ตายเถอะ... ถ้าปล่อยไปคนเดียวคืนนี้จะกลับถึงหอไหมเนี่ย



“อ้าวเหรอ... แหะๆ เดินผิดทาง”



ผมได้แต่ส่ายหน้าที่บนหน้ายังคงมีรอยยิ้มเมื่อได้เห็นคำแก้ตัวของคนชอบหลงทาง พี่เรนยกมืออีกข้างที่ไม่ได้โดนผมจับขึ้นเกาแก้มตัวเองอย่างจะแก้เก้อ เห็นแล้วอยากจะยื่นมือไปจิ้มแก้มบ้างแหะ คงจะนิ่มน่าดูเลย แต่มือพี่เรนที่ผมจับอยู่ก็นิ่มเหมือนกันอย่างนั้นก็...



ขออนุญาตจับมือนะครับ ไม่ได้จะแต๊ะอั๋งแต่กลัวพี่เรนหลงทางเท่านั้นเอง



พี่เรนก็ดี๊ดี... ไม่ดึงมือออกด้วยแบบนี้ก็สบายน้องกายสิครับ เอ๊ย ไม่ดิ เราไม่ได้จะแต๊ะอั๋งเพราะฉะนั้นคิดแบบนี้ไม่ได้ พี่เรนไม่ดึงมือออกก็คงกลัวจะหลงเหมือนกัน นั่นแหละ คิดแบบนั้นแหละดีแล้ว



ผมให้พี่เรนยืนต่อแถวรอเข้ารถไฟฟ้าอยู่หน้าผม ปล่อยให้พี่เขาเดินเข้าไปในรถก่อนก่อนจะจับไหล่แล้วดันให้เดินเข้าไปยืนริมประตูฝั่งตรงข้าม ให้พี่เรนยืนชิดริมประตูส่วนผมยืนข้างๆ กันคนอื่นมาเบียด สุภาพบุรุษแท้ๆ ไอ้กาย



“จะไปซื้ออะไรเหรอ” ผมที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ สะดุ้งนิดๆ เมื่อได้ยินเสียงพี่เรนพร้อมกับแรงดึงที่แขนเสื้อ



“อ๋อ... ผมจะไปดูกระเป๋ากล้องครับ พี่เรนไปด้วยกันนะเดี๋ยวผมไปซื้อสีเป็นเพื่อนแล้วเดี๋ยวไปหาอะไรกินกันก่อนแล้วค่อยกลับหอเนอะ” ผมพูด ไม่ถามหรอกครับว่าพี่เขาจะไปไหม หรือจะให้ผมไปด้วยไหม มัดมือชกแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว



อีกอย่างถ้าหากผมปล่อยพี่เรนไปคนเดียวแล้วพวกพี่ตินามารู้ทีหลังว่ามาด้วยกันแต่ผมปล่อยให้พี่เรนเดินคนเดียวแล้วหลงทางขึ้นมาผมอาจจะไม่มีโอกาสได้เดินเที่ยวกับพี่เรนอีกเลยก็ได้ และอาจจะต้องรอชาติหน้าเลยถึงจะได้เดินเที่ยวกับพี่เขาอีก



พี่เรนที่ดูเหมือนจะตามที่ผมพูดไม่ทันก็ได้แต่พยักหน้ารับ เหมือนคนเอ๋อเลยให้ตายสิ อยากจะบีบแก้มขาวๆ นั้นชะมัดเลย



“พี่เรนสายตาสั้นเหรอครับ” ผมถามพลางยื่นมือไปจับขาแว่นของเขาให้คนถูกถามพยักหน้ารับหงึกหงัก “สั้นเท่าไหร่ครับ สั้นมากเลยเหรอ”



“ก็...สักสี่ร้อยได้ ถ้าไม่ใส่แว่นก็ต้องใกล้มากๆ ถึงจะเห็น”



“แล้วทำไมไม่ใส่คอนแทคเลนส์ละครับ” ผมถาม มือสองข้างถือวิสาสะเอื้อมไปถอดแว่นตากลมๆ ของพี่เรนออก



กึก!



ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นเวลาพี่เรนถอดแว่น แต่ระยะที่เห็นมันห่างกันหลายเมตรแต่ตอนนี้ระยะห่างมันเพียงแค่ไม่กี่คืบ ดวงตากลมโตอย่างกับตากวางที่มองมาทางผมนั้นหรี่ลงไม่ใช่ว่าไม่พอใจแต่เหมือนพยายามหรี่ตาเพื่อที่จะได้เห็นผมชัดๆ



ใบหน้าน่ารักที่ไม่มีแว่นตามาบดบังทำให้ความน่ารักมันเด่นชัดมาก ทั้งจมูกโด่งๆ ริมฝีปากสีแดงแบบไม่ได้แต่งเติมนั่นอีก คนบ้าอะไรทำไมน่ารักขนาดนี้วะ



แล้วถ้าหูผมไม่ฝาดเหมือนจะได้ยินสาวๆ กรี๊ดกร๊าดกันเบาๆ ตอนที่ผมถอดแว่นพี่เรนออก สงสัยจะกรี๊ดเรื่องหน้าตาพี่เรน



“พี่รู้สึกแปลกๆ อีกอย่างรู้สึกไม่มั่นใจเท่าไหร่”



“เห็นผมชัดไหม” ผมถาม คนตรงหน้าส่ายหน้าไปมาเป็นการตอบ ผมจึงเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้จนปลายจมูกแทบจะชนกันก่อนจะถามอีกรอบ “เห็นผมชัดไหม...”



ไอ้เหี้ย... เสียงสั่น ตื่นเต้นชิบหาย เห็นทำเป็นนิ่งแกล้งแหย่เขาเล่นแต่ในอกที่อย่างกับมีคนมาตีกลองรัวๆ หัวใจเต้นหนักและแรงมากจริงๆ ครับ



“อ...อือ” พี่เรนตอบเบาๆ ทำไมเหมือนเห็นแก้มขาวๆ นั้นแดงหน่อยๆ นะ



สถานีต่อไป... สยาม... ประตูรถจะเปิดทางด้านขวา Next station… Siam…



เสียงประกาศถึงสถานีต่อไปที่เราจะลงดังขึ้นให้ผมชะงักแล้วขยับตัวถอยออกมาพร้อมกับสวมแว่นคืนให้พี่เรน นึกตำหนิตัวเองในใจที่เผลอตัวเข้าไปใกล้ขนาดนั้น ผมกับพี่เรนยังไม่ได้สนิทกันขนาดจะใกล้ชิดกัน



“ขอโทษนะครับเมื่อกี้ที่ผม... ดึงแว่นออก”



“ไม่เป็นไรหรอก” แต่พี่เรนก็ยังคงเป็นพี่เรน ที่ไม่นึกถือโทษโกรธผม พอเห็นแบบนั้นผมก็ยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของพี่เรนเอาไว้อีกรอบแล้วพาเดินออกจากรถไฟฟ้าด้วยกัน



“พี่เรนเป็นคนหน้าตาดีนะ รับรองได้เลยว่าถ้าถอดแว่นออกมีคนมาชอบเยอะแน่นอน” ผมหันไปพูดกับคนที่เดินอยู่ข้างๆ



“ฮื่อ... ไม่จริงหรอก หน้าตาดีต้องอย่างกายสิ สาวๆ ติดเยอะแน่เลยสินะ” คนข้างๆ ส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูด เห็นแล้วอยากจะเอื้อมมือไปดึงมากอดแล้วกดจูบจริงๆ น่ารักว่ะ น่ารัก น่ารัก น่ารัก



“ผมอยากโฟกัสที่งานมากกว่าครับ” ผมพูดกลั้วเสียงหัวเราะ ยืมคำพูดที่ดาราเขาชอบใช้กันมาพูด จนพี่เรนเองก็หัวเราะตาม



ก็จริงนะ... อยากโฟกัสที่งานมากกว่า เพราะคนที่รักอะมีอยู่แล้ว เดินข้างๆ กันนี่ไง แต่นั่นก็เป็นประโยคที่ได้แต่คิดในใจ ไม่ได้พูดออกไป



ผมพาพี่เรนไปเลือกซื้อสีก่อนครับ ไอ้เรื่องพวกนี้ผมก็ไม่มีความรู้ความถนัดเลย รู้แต่ว่าเวลาพี่เรนจริงจังกับการเลือกสีมันน่ารักมากก็แค่นั้น ยิ่งตอนที่ถือสีเอาไว้ทั้งสองมือแล้วหันหน้ามองหลอดสีในมือซ้ายสลับมือขวาไปมาเหมือนกับตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาอันไหนดี เห็นแล้วมันน่ารักครับ ผมเลยยืนมองเพลินไม่ได้เดินไปดูอะไร



ตอนม.ปลายก็เคยพาสาวๆ มาซื้อของนะ ตอนนั้นรู้สึกว่าน่าเบื่อมาก (ขอเติมกอไก่อีกล้านตัวเลยครับ) พอตั้งท่าจะเดินไปดูอย่างอื่นคุณเธอก็เรียกผมไว้ละ แล้วก็ชอบหันมาถามว่าอันไหนดีกว่า อันไหนสวยกว่า พอบอกว่าอันนี้ก็บอกว่าอีกอันก็สวยนะ ตัดสินใจไม่ได้ พอบอกให้ซื้อทั้งสองอย่างเลยก็ไม่เอาอีก โอ๊ย โคตรเรื่องมากอะครับ ผิดกับพี่เรน คนนี้นี่หันมาบอกผมไม่รู้กี่รอบแล้วว่าให้ผมไปเดินดูอย่างอื่นก่อนก็ได้ ไม่ต้องมารอ แถมยังมีการสัญญาอีกว่าจะไม่เดินไปไหนจะอยู่แต่ตรงนี้ ฮ่าๆ คนอะไรโคตรน่ารักเลย



แต่ผมก็ไม่รู้จะเดินไปไหน ไม่อยากเอาสายตาไปมองอย่างอื่น อยากมองพี่เรนอย่างเดียว



อั๊ย! เขินอะ พูดเองเขินเอง >//////////////////<



หลังจากยืนมองพี่เรนเลือกสีจนขาแข็งไปสองรอบในที่สุดพี่เขาก็เลือกสีได้สักที ได้มาหลายหลอดเลยครับ แถมยังได้กระดาษ ได้ดินสอ ปากกามาอีกหลายแท่งด้วย พอเดินไปจ่ายเงินเสร็จผมก็เอื้อมมือไปหยิบของมาถือเอาไว้ให้



“พี่ถือเองก็ได้นะ”



“ไม่เป็นไร ผมถือให้ ป่ะ... ไปดูกระเป๋ากล้องของผมกันแล้วเดี๋ยวไปหาอะไรกินกัน” ผมพูดก่อนจะเดินจูงมือพี่เรนไปร้านอุปกรณ์สำหรับกล้อง



อาทิตย์ก่อนมาเจอเข้าสวยโดนใจผมมากแต่วันนั้นงบในกระเป๋าไม่พอครับเลยได้แต่ตัดใจ วันนี้ละได้งบมาพอซื้อละครับก็ได้แต่หวังว่ากระเป๋าใบนั้นจะอยู่รอผมไปซื้อนะ



“พี่เรนรอแปบนึงนะครับ ผมขอซื้อกระเป๋าแปบเดียว” ผมหันไปบอกพี่เรนหลังจากพาพี่เขาเดินเข้ามาในร้านแล้ว พี่เขาพยักหน้ารับหงึกหงักๆ พอเห็นแบบนั้นผมก็เลยเดินไปทักทายกับพี่เจ้าของร้าน สนิทกันครับเพราะทั้งกล้อง เลนส์ อุปกรณ์อื่นๆ ผมก็ซื้อร้านนี้หมด



“พี่บ๊วย กระเป๋าใบนั้นยังอยู่ปะพี่” ผมถามอย่างตื่นเต้นยิ่งพอพี่เขาพยักหน้ารับก็ยิ่งยิ้มกว้างครับ



พี่บ๊วยเดินเข้าไปหลังร้านก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าใบที่ผมหมายตาเอาไว้ ยังอยู่ในถุงพลาสติกอย่างดี โอ๋ลูกพ่อ... รอพ่อมารับกลับบ้านสินะ



มันเป็นกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกับกระเป๋าใส่กล้องโดยทั่วไปนั่นแหละครับ แต่ใบนี้มีความเป็นวินเทจมากกว่า สีกระเป๋าเป็นสีเทาอมเขียวครับ มีสายเหมือนเข็มขัดคาดปิดประเก๋าเอาไว้สีน้ำตาล สายสะพายก็สีน้ำตาลเดียวกัน เห็นแล้วชอบ เห็นแล้วโดนใจเลยครับ



ผมได้แต่ยิ้มร่าพลางสำรวจความเรียบร้อยของกระเป๋าไปด้วยทั้งภายในภายนอก ดูมันอยู่อย่างนั้นแหละแทบจะยกขึ้นมาจูบเสียด้วยซ้ำไป



“โอเคพี่บ๊วย ผมเอาใบนี้แหละ” ผมส่งกระเป๋าคืนให้พี่บ๊วยหลังจากที่ลูบคลำจนเป็นที่พอใจแล้ว เดี๋ยวเอาไว้คืนนี้ค่อยไปนอนลูบคลำใหม่ จะเอาให้หนำใจไปเลยคอยดู!



หลังจากจ่ายเงินค่ากระเป๋า ได้กระเป๋ามาครอบครองแล้วผมก็เดินยิ้มหน้าระรื่นไปหาพี่เรนที่นั่งรออยู่มุมร้าน “พี่เรน เรียบร้อยแล้วครับ รอนานไหมขอโทษทีนะ”



“ไม่นานหรอก กายรอพี่เลือกสีนานกว่าอีก นั่นกระเป๋าที่ว่าเหรอ” พี่เรนบอกก่อนจะเอียงคอมองถุงที่ผมถืออยู่ในมือ



“ครับผม ใช่แล้วละ โชคดีชะมัดที่ยังมีอยู่” ผมยิ้มกว้าง “เราไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะได้กลับหอกัน”



“อ่า... คือว่า...” คนตรงหน้าผมทำหน้าลำบากใจจนผมชักจะใจเสีย พี่เรนยกมือขึ้นเกาแก้มตัวเองก่อนจะพูดต่อ “พี่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมเทอาหารไว้ให้หมี... พี่กลัวหมีหิว...”



“อ๋อ... อย่างนั้นกลับกันก็ได้ครับ พี่เรนจะได้ไปดูแมวพี่ด้วย” ผมตอบไม่ได้ซีเรียสอะไรครับ จะจีบพี่เรนก็ต้องเอาใจใส่ทุกอย่าง รวมไปถึงแมวของพี่เขาด้วย



“อย่างนั้น... ไปซื้อของกินแถวหอแล้วไปกินที่ห้องพี่ไหม”



ห๊ะ!!!



อ อะไรนะ เมื่อกี้ผมหูฝาดหรือว่าอะไร พี่เรนชวนเข้าห้อง!!!



“ค ครับ... ว ว่าอะไรนะครับ” เสียงสั่น ติดอ่างขึ้นมาเลยกู ตื่นเต้นไปหน่อย



“ก็ไปซื้อของกินไปกินที่ห้องพี่ไง เราจะได้กินข้าวด้วยแล้วพี่จะได้กลับไปดูหมีด้วยอ่า... ดีไหม...”



อย่าถามเลยครับว่าดีไหม ถ้ามีเวทมนต์หายตัวได้ไอ้กายจะหายตัวกลับหอเดี๋ยวนี้แหละ โอ๊ย ตื่นเต้นดีใจจะได้เข้าห้องพี่เรน หึหึหึ โอกาสมาถึงมึงแล้วไอ้กาย!



เอ่อ... หมายถึงโอกาสได้สำรวจความเป็นอยู่ของพี่เรน ว่าเป็นยังไง ไม่ได้มีอะไรไม่ดีในหัวเลยสักนิ๊ด นิดเดียวก็ไม่มี น้องกายสาบานได้



“โอเคครับ แบบนั้นก็ได้ อย่างนั้นเราไปกันดีกว่าเดี๋ยวหมีรอนานแล้วจะหิว” ไม่ได้อยากจะเข้าห้องพี่เรนเลยจริงๆ ไม่ได้รีบเลยจริงๆ นะ



ผมแค่คว้ามือพี่เรนมาจับแล้วพาเดินตรงไปที่บีทีเอสโดยไม่แวะอะไรอีกเลยแค่นั้นเอง ว่าแต่ทำไมบีทีเอสมันมาช้าจังวะ นี่รอมาหนึ่งนาทีแล้วนะยังไม่มาอีก ไม่ได้ๆ ใช้ไม่ได้เลย ปกติไม่เคยรอนานขนาดนี้เลยนะ ให้ตายสิ



หลังจากใช้เวลาเดินทางโคตรนานครึ่งชั่วโมงกว่าได้ผมกับพี่เรนก็มาถึงหอครับ ในมือเต็มไปด้วยของกินมากมาย ทั้งไก่ทอด หมูย่าง ข้าวผัดหนึ่งกล่อง ข้าวผัดกะเพราหมูสับหนึ่งกล่อง น้ำผลไม้คนละแก้ว ขนมหวานอีกไม่รู้จะกินหมดไหมแต่อยากซื้อครับ เอาไว้ค่อยๆ กินไปทีละอย่างๆ จะได้อยู่ห้องพี่เรนนานๆ เอ๊ย! ไม่ใช่ หมายถึงเอาไว้ค่อยๆ กินไปเดี๋ยวก็หมด



“กายอยู่หอตรงข้ามใช่ไหม” พี่เรนหันมาถามผม



“ใช่ครับ”



“บังเอิญเนอะ แปลกดีพี่อยู่หอนี้มาเป็นปีไม่เคยเจอกาย บทจะเจอก็เจอหลายรอบเลย” พูดไปก็ฉีกยิ้มหวานให้กันอีก



เอาจริงๆ ผมนี่เจอพี่เรนทุกวัน แต่ที่อีกฝ่ายบอกไม่เคยเจอผมเพราะเวลาเดินพี่เขาแทบไม่สนใจมองซ้ายมองขวาเลยด้วยซ้ำก็เลยไม่เห็นผมไง ส่วนตอนนี้เจอบ่อยก็เพราะผมนี่แหละเสนอหน้ามาให้เห็นเอง เห็นหน้าบ่อยๆ จะได้ชิน จะได้จำได้ขึ้นใจว่านี่... แฟนนะครับ อิอิ



“พรหมลิขิตทำให้เรามาเจอกันมั้งครับ” หยอดสักหน่อย เพราะผมตั้งใจจะจีบพี่เขาอย่างจริงจังละครับ ยังจีบมาเป็นแฟนไม่ได้ก็จีบมาเป็นนายแบบให้ได้ก่อนก็ได้อะ



แต่เหมือนคนโดนหยอดจะไม่เขินครับ มีการหัวเราะสดใสแล้วยิ้มให้อีก เออ! ดีจ้ะ “นั่นสิ สงสัยจะใช่เนอะ”



“แบบนี้ก็แสดงว่าเราเป็นเนื้อคู่กันสินะครับ” หยอดดีรอบ น้ำหล่นลงหินทุกวันมันยังกร่อน นับประสาอะไรกับใจคนที่โดนหยอดทุกวันละครับ



“แย่หน่อยนะกายมีเนื้อคู่อย่างพี่” จ้ะ หัวเราะสนุกเลยจ้ะ นี่หยอดอยู่นะ นี่กำลังจีบอยู่นะ



เฮ้อ... ดูท่าสิ่งที่ยากกว่าการผ่านด่านพี่ตินา คือทำให้หัวใจของพี่เรนหวั่นไหวนี่ละนะ



แต่ยังไงก็ไม่ยอมแพ้หรอกน่า ตื๊อเท่านั้นที่จะครองโลก และกายเท่านั้นที่จะครองพี่เรน!






[color=#2a7286************************************************
เจอกันตอนเย็นอีกแล้ว เอาน้องกายร้อนๆ มาเสิร์ฟค่ะ เพิ่งปั่นจบตอนเลยทีเดียว ฮ่า... หยุดยาวนี่แทบไม่ได้แตะนิยายเลยค่ะ เพิ่งมาแต่งเอาตอนบ่ายแล้วเสร็จเอาตอนนี้นี่แหละ เอิ้กอ้าก

ตอนนี้นี่... พูดไม่ถูกเลยทีเดียว บทจะหมั่นไส้ก็หมั่นไส้แหม... ไปจับมือพี่เขา ไปถอดแว่นพี่เขา ไปมองหน้าพี่เขาใกล้ๆ หมั่นไส้ค่ะหมั่นไส้ แต่บทจะน่าสงสารก็น่าสงสาร หยอดอะไรพี่ไปพี่ไม่รับรู้เลยจ้า กำแพงที่หนายิ่งกว่าองครักษ์ประจำตัวเจ้าหญิงก็ตัวเจ้าหญิงเองนี่แหละที่ซื่อเสียจนไม่รู้ว่าน้องเขาจีบนะ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวน้องกายจะรุกละค่ะ! อ่า... หมายถึงรุกจีบนะ ไอ้รุกอีกแบบถ้ามีโอกาสน้องมันไม่ปล่อยไว้แน่ 5555555555555555555555

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

ปล. อ่านแล้วไม่เมนต์ เดี๋ยวฟางไม่อัพให้อ่านนะคะ ^^

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ[/color]
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 5 • [100%] l P.4 09-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: harumi ที่ 09-05-2016 19:12:45
ขอให้ได้ครองเร็วๆแล้วกันนะ
 :m12: :m12: :m12:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 5 • [100%] l P.4 09-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-05-2016 20:01:11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 5 • [100%] l P.4 09-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: Prattana ที่ 10-05-2016 00:01:57
ตอนนี้น่ารัก น้องกายสู้ๆ
จีบพี่เรนให้ติดไวๆนะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 5 • [100%] l P.4 09-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 10-05-2016 12:06:48
โอยยยยยย น่ารักกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 5 • [100%] l P.4 09-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 12-05-2016 05:39:00
น้องกายน่ารักมากกก คือแอบเห็นภาพเป็นโกลเด้นเลยอะ 5555
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 5 • [100%] l P.4 09-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 12-05-2016 22:19:55
ที่กายพยายามทำไปเนี่ย พี่เรนเขาเข้าใจตรงกันบ้างไหม?

ฮาาาาาา

พี่เรนน่ารักมากกกกกก
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 5 • [100%] l P.4 09-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: Snimsoi ที่ 13-05-2016 06:09:40
เพิ่งเข้ามาอ่าน
โอ๊ยน่ารัก :D
เอาใจช่วยกาย อย่าปล่อยให้พี่เรนคาดสายตานะ
เดี๋ยวหลง  :mew1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 5 • [100%] l P.4 09-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: เปาเปา ที่ 13-05-2016 20:52:00
น่ารักอ่ะ ชอบพี่เรน
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [50%] l P.4 16-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 16-05-2016 20:14:41
(https://33.media.tumblr.com/1e8d0ba182a843c6f5f4f4ac4ef02d2f/tumblr_nqdni7eKNu1rghadoo1_540.gif)
“น่ารักสิ ผมบอกว่าน่ารักก็ต้องน่ารักอยู่แล้ว”
kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะค




โชคครั้งที่ • 6 •




น้องกาย



“หมี... หิวไหม ขอโทษนะลืมไปสนิทเลยว่ายังไม่ได้ให้อาหารเอาไว้ ขอโทษนะไม่โกรธกันใช่ไหม หมีอ่า... หมีงอนเหรอ” ผมนั่งกับพื้นห้องมองคนที่นั่งยองๆ คุยกับแมวเป็นเรื่องเป็นราว คือพอเข้ามาในห้องของพี่เรนเจ้าของห้องก็แทบจะทิ้งทุกอย่างแล้วเดินไปออดไปอ้อนเจ้าหมี... ผมหมายถึงแมวของพี่เขาอะนะครับ



“หมีงอนเหรอ ไม่ตอบเลย” ผมมองไปก็ยิ้มขำไป คนกับแมวก็คุยกันรู้เรื่องแหะ



แต่ถ้าผมสามารถแปลภาษาแมวออก... มันคงบอกว่า รู้ว่าหิวก็รีบไปเทอาหารมาให้สักทีได้ไหม จะพูดทำไมนัก แล้วถ้าผมไม่ได้เพ้อเจ้อหรือบ้าคิดไปเองเจ้าหมีของพี่เรนหันมามองพี่เขาอย่างเอือมๆ ด้วย แล้วเจ้าหมีก็หันหน้าหนี



พอโดนแมวเมินคนที่นั่งอ้อนแมวก็ทำปากเบะเหมือนอยากจะร้องไห้เห็นแล้วตลกชะมัดเลย ปกติผมมักจะเห็นแมวชอบเข้ามาอ้อนมาคลอเคลียคนนะแต่นี่เป็นคนเข้าไปคลอเคลียแมวละครับ



“หมี หมีๆ ไม่เอาไม่งอนสิ” แปลกดีนะครับ ผมนี่แหละแปลกนั่งมองคนคุยกับแมว วันนี้จะได้กินข้าวกันไหมเนี่ยทั้งคนทั้งแมวเลย



“พี่เรน...” ผมส่งเสียงเรียกคนที่ยังสนใจแต่แมว พี่เรนหันมามองหน้าตาเหมือนจะร้องไห้เต็มแก่ถ้าหากเจ้าหมียังไม่สนใจ น่าเอ็นดูดีแหะ “ผมว่าพี่ไปเทอาหารให้หมีดีไหมครับ มันคงหิวแย่แล้วละ”



“เมี๊ยวว” พอผมพูดแบบนั้นเจ้าหมีก็ร้องออกมาทันทีเหมือนจะบอกว่าหิวแล้วจริงๆ



“อ่า... นั่นสินะ ขอโทษนะหมี รอแปบนึงนะเดี๋ยวจะไปเอาอาหารมาให้” พี่เรนพูดก่อนจะวางเจ้าหมีลงบนเตียงก่อนที่พี่เขาจะเดินไปหยิบอาหารแมวมาเทใส่ชามให้



“เหมียวว” เจ้าหมีของพี่เรนกระโดดลงจากเตียงเดินมาอยู่ตรงหน้ามองก่อนจะร้องใส่



“ไม่เป็นไรๆ ไม่ต้องขอบใจหรอก ไปกินอาหารซะไป” ผมพูดกับมัน ผมนี่ก็ชักจะแปลกมากขึ้นคุยกับแมวรู้เรื่องด้วยโว้ย ฮ่า ตลกแหะ



ผมหันไปมองพี่เรนที่นั่งยองๆ กอดเข่าตัวเองดูเจ้าหมีกินอาหารแมวก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาปิดเสียงแล้วแอบถ่ายรูปพี่เขาเอาไว้ มันน่ารักมากจริงๆ ครับยิ่งตอนที่พี่เขายื่นมือไปลูบหัวเจ้าหมีด้วยแล้ว



พอได้รูปถ่ายมาเป็นที่พอใจผมก็หันไปสำรวจรอบๆ ห้องของพี่เขาต่อ ห้องพี่เรนกว้างครับ กว้างกว่าห้องพักของผมอีกละมั้งเนี่ย หอนี้ก็ดีนะอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ แต่เขาก็รักษาความสะอาดดีนะครับปกติแล้วเวลามีสัตว์เยอะก็จะมีกลิ่นใช่ไหมละครับ แต่นี่ไม่ดีเลยส่วนหนึ่งคงเพราะคนเลี้ยงก็เลี้ยงในห้องคอยดูแลสัตว์เลี้ยงตัวเอง ผมว่าแบบนี้ก็ดีนะ ส่วนหอผมห้ามเลี้ยงสัตว์ครับ



ห้องของพี่เรนแม้จะไม่ได้กว้างเหมือนคอนโดที่แบ่งห้องชัดเจนแต่ก็เป็นสัดส่วน มีส่วนครัวที่คั่นด้วยเคาน์เตอร์ ส่วนนั่งเล่นเล็กๆ ที่มีทีวีจอใหญ่วางอยู่แต่ก็ไม่ได้มีชุดโซฟาอะไร มีแค่โต๊ะญี่ปุ่นกับพรมผืนหนาที่ผมนั่งอยู่ตรงนี้ แล้วถัดไปอีกก็เป็นส่วนที่นอนแล้วก็ห้องน้ำ มีระเบียงด้วย ระเบียงที่พี่เรนชอบออกไปยืนเล่นแล้วผมก็ส่องพี่เรนบ่อยๆ



“อ๊ะ! หิวหรือยังกาย ขอโทษทีๆ พี่ลืมไปเลยว่าเราก็ยังไม่ได้กินอะไร” พี่เรนร้องขึ้นเหมือนนึกขึ้นได้ว่าผมยังนั่งอยู่ในห้องและเรายังไม่ได้กินอะไรกันเลย



ผมลุกขึ้นไปช่วยพี่เรนหยิบพวกจานชามมาที่โต๊ะญี่ปุ่นที่วางบรรดาอาหารที่ซื้อมาก่อนจะเททุกอย่างใส่จานแล้วเราจึงเริ่มลงมือจัดการอาหารมื้อเย็นกัน



“อันนี้อร่อย พี่เรนกินสิ” ผมตักหมูย่างใส่จานให้พี่เรนพร้อมกับยิ้มให้



“ขอบคุณนะ” พี่เรนหันมายิ้มกว้างดีใจเหมือนเด็กๆ ให้กับผม ผมเลยได้แต่ก้มหน้าลงนอกจากจะเก็บซ้อนรอยยิ้มแล้วยังเก็บอาการเขินเอาไว้อีกด้วยครับ ไม่ไหวๆ หัวใจจะละลายตอนได้เห็นพี่เรนยิ้ม



อย่าน่ารักนักเลย แค่นี้ไอ้กายก็หวั่นไหวจะแย่แล้วครับ



นั่งกินข้าวไปก็แอบมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กันไปด้วยรู้สึกปลื้มปริ่มและมีความสุขแปลกๆ ที่ได้มานั่งกินข้าวกับพี่เรนสองต่อสองในห้องของพี่เรนโดยมีเจ้าหมีเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ สงสัยกลับไปถึงห้องแล้วต้องจดไดอารี่ไว้สักหน่อยแล้ว เดทครั้งแรกของผมกับพี่เรน อิอิ



“ผมยาว” ผมพูดเอื้อมมือไปจับผมด้านหน้าของพี่เรนเอาไว้ ดูท่าเจ้าตัวก็คงนึกรำคาญเหมือนกันเห็นยกมือเสยผมหลายรอบแล้ว



“งือ... พี่ว่าจะไปตัดหลายทีแล้วก็ลืมทุกทีเลย วันนี้ก็ตั้งใจจะไปตัดผมเหมือนกัน” คนน่ารักพูดพร้อมกับยู่หน้าหันไปหยิบที่มัดผมมาจะเตรียมมัดผมให้ตัวเอง



“ผมทำให้” ผมพูดก่อนจะแย่งที่รัดผมมา จับผมด้านหน้าขึ้นแล้วมัดผมให้ ฮ่าๆ ผมทรงน้ำพุน่ารักว่ะโชว์เหม่งด้วย น่าจูบชะมัดเลย “หึ... น่ารักแล้ว”



“พี่เรนอยากตัดผมเหรอ ผมพาไปตัดไหม” ผมถามพร้อมกับนั่งท้าวคางมองคนที่นั่งเคี้ยวไก่ทอดหมุบหมับๆ ไปด้วย “รับรองเลยกลับมาทุกคนต้องตะลึงในความน่ารักของพี่แน่ๆ”



คนที่ใช้ปากงับไก่ทอดส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดหลังจากที่กลืนไก่ในปากลงไปแล้ว “ไม่เห็นจะน่ารักเลย”



“น่ารักสิ ผมบอกว่าน่ารักก็ต้องน่ารักอยู่แล้ว” ผมพูดพร้อมกับมองคนตรงหน้าไปด้วย ก่อนจะคลี่ยิ้มบางเมื่อแก้มขาวๆ ขึ้นสีระเรื่อ สงสัยจะเขินเวลาโดนชมว่าน่ารักแหะ พอโดนหยอดโดนจีบไม่ยักเขิน แต่พอชมว่าน่ารักก็แก้มแดงขึ้นมาทันทีเลย อ่า... อยากฟัดแก้มนั้นชะมัดเลยอะ



“เขิน...” เจ้าตัวพูดพร้อมกับยกมือปิดแก้มตัวเองแล้วส่ายหน้าไปมา โคตรจะน่ารักเลยอะ



“ให้ผมพาไปตัดผมนะ เดี๋ยวพาไปซื้อคอนแทคเลนส์ด้วย ลองเปลี่ยนมาใส่ดูเอาไหม แต่ต้องแลกกันนะ พี่เรนต้องมาเป็นนายแบบให้ผมนะ” ผมพูดต่ออาศัยจังหวะที่เจ้าตัวยังเขินนี่แหละ เผื่อจะมัดมือชกได้อีกเหมือนตอนไปเดินเที่ยวที่ห้าง



“ไม่น่ารัก”



“อย่าเถียงคนมองสิ เดี๋ยวพาไปตัดผมก่อนก็ได้ แล้วถ้าออกมาไม่น่ารักนะให้เตะก้นเลย เอาเป็นวันเสาร์ผมพาไปนะ จะพาไปร้านประจำผมเชื่อฝีมือได้เลย” ผมพูดสรุปเอาเองไม่ให้พี่เรนแย้งอะไรได้ พอพี่เขาตั้งท่าจะพูดแย้งขึ้นมาผมก็จัดการตักของกินให้เขา เท่านี้แหละข้อโต้แย้งเป็นอันตกไป



นอกจากจะขี้ลืม ชอบหลงทาง ซื่อๆ ไม่ทันคนแล้วยังเลี้ยงง่ายด้วยแหะ



ผมนึกอย่างขำๆ มองคนที่ตอนนี้หันไปสนใจกับอาหารตรงหน้าแทนผมแล้ว ตัวก็เล็กนิดเดียวทำไมกินเก่งจังนะ อยากจะรู้จริงๆ เอาไปเก็บไว้ไหนหมดกินเก่งกว่าผมอีกมั้งเนี่ย...



พอไม่มีอะไรทำแล้วก็ไม่อยากรบกวนคนที่กำลังมีความสุขกับการกินผมก็หันไปหาเจ้าหมีแมวสีขาวขนฟูของพี่เรนแทน เจ้าตัวเล็กก็กำลังมองมาที่ผมพอดีเลยครับ ตัวมันเล็กดีแหะ... ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องแมวแหะแต่ตัวมันเล็กกว่าแมวทั่วๆ ไปทั้งๆ ที่ก็โตแล้วนะ อยู่กับพี่เรนมาเป็นปีแล้ว แต่มันก็โตกว่าตอนที่ผมเห็นมันครั้งแรกเยอะเลยนะ แต่ถ้าเทียบกับแมวทั่วๆ ไปก็ถือว่าเล็ก มองไปมองมาก็น่ารักดีแหะ



ผมหันไปหยิบไหมพรมที่ถักเป็นลูกกลมๆ ที่วางอยู่บนชั้นด้านหลังของผมมาแล้วเอามาล่อเจ้าหมีที่จ้องไหมพรมตาแทบไม่กระพริบ แกว่งไหมพรมนิดๆ เจ้าแมวก็ตกหลุมพรางผมกระโดดตะครุบไหมพรมนั้นทันที แต่ผมก็แกล้งยกมือขึ้นสูงจนเจ้าแมวต้องกระโดดตะครุบแทน



ไหน... มาทำความรู้จักกันสิเจ้าหมี



“ทำไมพี่ตั้งชื่อว่าหมีละครับ” ผมถามพลางอุ้มเจ้าหมีมาวางบนตักปล่อยให้มันนอนเล่นไหมพรมไปด้วย



“พี่อยากให้มันแข็งแรงเหมือนหมี เลยตั้งชื่อว่าหมีน่ะ” พี่เรนเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับผมพร้อมกับเก็บจานชามไปด้วย



เห็นแบบนั้นผมก็วางเจ้าหมีลงบนพื้นแล้วไปช่วยพี่เรนเก็บล้างจานแทน แต่เจ้าของห้องเขาไม่ยอมครับบอกจะล้างเอง ผมเลยเอาขยะไปทิ้งให้แทนพอกลับเข้ามาในห้องก็มานั่งเล่นกับเจ้าหมีต่อไม่นานเจ้าของห้องก็เดินมานั่งฝั่งตรงข้ามผม



“เฮ้อ... อิ่มมากเลย” ปากแดงๆ นั้นขยับพูด พี่เรนทิ้งตัวครึ่งบนเลื้อยไปบนโต๊ะญี่ปุ่น หัวน้ำพุขยับไปขยับมาเวลาเจ้าตัวขยับตัว



“เมี๊ยววว!”



“อ๊ะ หมีอ่า...”



“หมี!”



ผมร้องอย่างตกใจก่อนจะอุ้มเจ้าหมีเอาไว้ อยู่ๆ เจ้าหมีร้องก่อนจะกระโดดจากตักผมขึ้นไปบนเตียงแล้วก็ไปตะครุบผมน้ำพุของพี่เรนจนเขาร้องออกมา สงสัยหมีมันจะนึกว่าเป็นของเล่นนะครับก็เล่นขยับไปขยับมาล่อตาล่อใจแมวขนาดนี้



คนโดนแมวตัวเองแกล้งทำหน้ายู่อย่างงอนๆ ยื่นมือมารับเจ้าหมีจากผมไปกอดฟัดจนมันยกเท้าขึ้นดันหน้าพี่เรนให้ออกห่าง



“ฮึ่ม... หมีแกล้งเรา ต้องโดนลงโทษผมเราไม่ใช่ของเล่นนะ”



แล้วผมก็นั่งมองคนกับแมวหยอกล้อกันอยู่อย่างนั้น เอาจริงๆ เลยนะครับอยู่กับพี่เรนผมไม่รู้สึกเบื่อเลย มีอะไรให้ยิ้มตลอด แถมผมยังได้รูปพี่เขามาอีกหลายรูปโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ด้วย เดี๋ยวเปลี่ยนภาพหน้าจอใหม่ดีกว่า ตอนนี้ใช้ภาพที่เคยแอบถ่ายจากมุมไกลๆ ครับ ได้ภาพใกล้ๆ ชัดๆ แล้วต้องเปลี่ยนกันหน่อย



“พรุ่งนี้มีเรียนไหมครับ” ผมถามเมื่อเห็นว่าเจ้าหมีมันเดินหนีพี่เรนไปแล้ว



คนที่มองตามแมวของตัวเองไปตาละห้อยหันมาหาผมก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก “มีตอนสิบโมง กายล่ะ”



“มีตอนสิบโมงเหมือนกันครับ พรุ่งนี้เช้าไปกินข้าวกันไหมเดี๋ยวเข้ามหาลัยไปพร้อมกัน” ผมถาม ยังไงก็ต้องลุยเต็มที่ละครับ ตอนนี้จะมากล้าๆ กลัวๆ ทำเป็นเขินอายหลบหลังเสาไม่ได้แล้วละครับ



“เอาสิๆ อย่างนั้นพรุ่งนี้เจอกันข้างล่างเนอะ เดี๋ยวไปกินข้าวกัน” พี่เรนพูดพร้อมกับยิ้มกว้างไปด้วยจนผมได้แต่ยิ้มตาม แต่ไม่ต้องมองรอยยิ้มพี่เรนผมก็ยิ้มอยู่ตลอดอยู่แล้วละครับ



“โอเคครับ พรุ่งนี้แปดโมงครึ่งนะเจอกัน ผมกลับหอก่อนดีกว่า” ผมพูดก่อนจะหันไปหยิบของเตรียมตัวกลับหอ ให้พี่เรนได้พักผ่อนบ้าง



แล้วพอผมลุกพี่เรนก็ลุกตาม เจ้าหมีก็วิ่งมาหาพี่เรนเลยก้มลงอุ้มขึ้นแนบอก “เดี๋ยวพี่เดินไปส่งนะ”



“ไม่เป็นไร หอผมอยู่ตรงข้ามนี่เองไม่หลงทางหรอกนะ” ผมพูดยิ้มๆ แต่พี่เรนก็ยังเดินตามผมมา ผมเลยหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องกันเอาไว้ไม่ให้เขาออกมาจากห้อง เดี๋ยวลงไปข้างล่างแล้วเดินไปนู้นมานี่หลงขึ้นมาอีกจะทำยังไง “ไม่ต้องไปส่งหรอกครับ ผมไปเองได้”



“จะดีเหรอ ไม่ให้พี่ไปส่งเหรอ”



“เดี๋ยวลงไปส่งผมแล้วกลับห้องไม่ถูกทำไง” ผมแกล้งแซว จนคนถูกแซวทำหน้ามุ่ยไปทันที



“พี่ไม่ได้เอ๋อขนาดนั้นสักหน่อย!”



อยากจะหัวเราะออกมาดังๆ รู้ตัวเองด้วยเหรอว่าเอ๋อ โอ๊ย คนบ้าอะไรน่ารักน่าเอ็นดูชิบหายเลย มันเขี้ยวนี่ถ้าสนิทกัน เป็นแฟนกันแล้วบอกเลยว่าผมจะไม่ลังเลที่จะคว้าคอพี่เขามาฟัดแก้ม อยากฟัดชะมัด



“แต่ไม่ต้องไปส่งผมจริงๆ พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะครับ ไปแล้วนะหมีเอาไว้เจอกันใหม่นะ” ผมพูดลาพี่เรนก่อนจะก้มลงไปลูบหัวเจ้าหมีแล้วพูด



“เมี๊ยวว” เจ้าหมีเอียงหัวถูหัวกับมือของผมแล้วร้องให้ผมนึกยิ้มเอ็นดู



“ไปแล้วครับ ฝันดีนะพี่เรน”



“อืม! ฝันดีนะ” พี่เรนจับขาหน้าเจ้าหมีมาโบกมือให้กับผม ผมพยักหน้ารับแล้วยิ้มให้ก่อนจะเดินไปกดลิฟต์ ไม่อยากอยู่นานกว่านี้เดี๋ยวจะไม่อยากกลับห้องตัวเอง แค่นี้ก็ไม่อยากจะกลับแล้วละครับ



ผมเดินยิ้มกว้างไปตลอดทางตั้งแต่ในลิฟต์ของหอพี่เรนยันเดินเข้าหอตัวเอง ใครเห็นก็คงบอกไอ้นี้แม่งบ้ายิ้มอะไรอยู่ได้ แต่มันห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มไม่ได้เลยจริงๆ นะครับ คนมันมีความสุข ในอกมันฟูฟ่องไปหมดจนตัวแทบจะล่องลอย



พอไขกุญแจเข้าห้องได้ เปิดไฟ เปิดแอร์เรียบร้อยวางข้าวของทุกอย่างลงพื้นได้ก็ทิ้งตัวลงบนเตียงคว้าเอาหมอนมากอดแล้วฟังหน้าลงกับหมอนกลิ้งไปกลิ้งมาพร้อมกับร้องกรี๊ด(?)ไม่หยุด วันนี้แม่งเกินคาดจริงๆ ครับ ไม่คิดว่าตัวเองจะมาได้ไกลขนาดเข้าห้องพี่เรนแบบนี้



นี่มันวันของไอ้กายแท้ๆ ขนาดพี่เรนไม่มีเรียนยังมีโอกาสได้เจอเลย น้องกายดีใจ



นอนดูรูปพี่เรนที่แอบถ่ายไปก็ยิ้มไป ยิ้มกว้างเรื่อยๆ จนปากแทบจะฉีกไปถึงหู เดี๋ยวเอารูปไปอัดมาติดเอาไว้บนผนังดีกว่า ก่อนจะนอนก็จะได้เห็นหน้าพี่เรน หลังตื่นนอนก็จะได้เห็นหน้า แค่คิดก็ฟินแล้วละครับ





@Guy_Kamin
เดทแรกของเรา
หยุดทำตัวน่ารักให้หลงรักได้แล้ว คนบ้า! -////- #คนน่ารัก #หัวน้ำพุ






************************************************
โอ๊ยยยย มีใครหมั่นไส้น้องกายเหมือนฟางบ้างไหมคะ คือแต่งไปก็แอบหมั่นไส้ตัวพระเอกของตัวเองไปด้วย อะไรจะเถิดเทิงเริงรมย์ขนาดนั้น เห็นแล้วอยากจะดีดหูสักทีข้อหาทำตัวน่าหมั่นไส้ แต่กับพี่เรน (คนดีของฟาง) คนนี้ยิ่งแต่งก็ยิ่งอยากจะสิงเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงมากมายเลยค่า (นี่ถ้าฟัดตัวตนจริงๆ ของพี่เรนได้ก็ยิ่งอยากจะทำ) ตอนนี้เปลี่ยนจากหลงน้องกาย กลายมาเป็นหลงพี่เรนแล้วค่ะ หลงมากมายเหลือเกิน เขินนนนนน -////////////////-

อ๋อ... นิดนึงค่ะเรื่องบรรยายในเรื่อง ถ้าใครได้อ่านเรื่อง My Mom ; รักของมัม น้องกันต์จัดให้ จะเห็นว่าตัวละครจะสลับกันบรรยายแบบเท่าๆ กัน แต่เรื่องนี้จะไม่ใช่แบบนั้นนะคะ น้องกายจะเน้นบรรยายเป็นหลัก จะมีสลับบ้างที่เป็นพี่เรนนะคะ จะได้ไม่งงกันเนอะว่าทำไมพี่เรนไม่มีบรรยายบ้างเลย เรื่องราวมันคือน้องกายไปตามจีบพี่เขาน่ะค่ะ เลยจะเน้นฝั่งน้องกายมากกว่า ^^

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

ปล. อ่านแล้วไม่เมนต์ เดี๋ยวฟางไม่อัพให้อ่านนะคะ ^^

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [50%] l P.4 16-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: harumi ที่ 16-05-2016 20:30:21
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [50%] l P.4 16-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: เปาเปา ที่ 16-05-2016 22:01:31
กายถ้าจีบติดเมื่อไรก็ได้กอดแบบเต็มที่แล้วละ แต่ว่าก่อนอื่นทำให้พี่เรนเขีนกับคำหยอดก่อนเถอะ
รอนะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [50%] l P.4 16-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-05-2016 23:27:35
อีกายตีเนียนเลยนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [50%] l P.4 16-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 16-05-2016 23:45:54
จะเปลี่ยนลุดแล้ววว
น้องกายจะจับพี่เรนเปลี่ยนลุค  o13

เดี๋ยวได้มีหึง มีหวงหนักกว่าเดิมแน่ๆ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [50%] l P.4 16-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 17-05-2016 07:54:05
พี่เรนน่าเอ็นดูละเกินนนนน
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [50%] l P.4 16-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 17-05-2016 14:12:35
 :-[ สารภาพเลยกะมาอ่านรวดเดียว สักตอนที่สิบแค่นึกอะไรไม่รู้
ลองจิ้มสักนิดละกัน โอยยยยย น่ารักมากเลยพี่เรน หมีก็ด้วย
ตามเสียงเจ้ากายอีกคนว่าพี่น่ารัก จะหลงฝนอีกคนแต่รู้ว่าเจ้ากายมันหวง
รออีกครึ่งค่ะฟาง คิดถึงอีกแล้ว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [50%] l P.4 16-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 22-05-2016 15:40:01
พี่เรนน่ารัก งื้ออออออออ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [100%] l P.4 25-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 25-05-2016 21:36:57
(https://33.media.tumblr.com/1e8d0ba182a843c6f5f4f4ac4ef02d2f/tumblr_nqdni7eKNu1rghadoo1_540.gif)
“น่ารักสิ ผมบอกว่าน่ารักก็ต้องน่ารักอยู่แล้ว”
kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะค




โชคครั้งที่ • 6.2 •




• • • ต่อค่ะ 100% • • •




น้องกาย



Mr.chu อิบ ซู อี อี chu~ ไท คม นา นา chu~



Mr.chu อิบ ซู อี อี chu~ ไท คม นา นา chu~




คนมันมีความสุขอะไรก็คงห้ามไม่อยู่ ผมนี่แทบจะยกมือท้าวเอวแล้วส่ายสะโพกซ้ายขวาให้เข้าจังหวะเพลงที่กำลังฮึมฮัมอยู่



แต่ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวคนจะตกใจ อิอิ



Mr.chu อิบ ซู อี อี chu~ ไท คม นา นา chu~



“โอ้เย~”



ผลัวะ!!



สัสผัก!!!




ผมที่กำลังมีความสุขชีวิตถึงกับสะดุดเมื่ออยู่ๆ ก็มีคนมาตบหัว ได้แต่หันไปมองอย่างเอาเรื่องก่อนจะเห็นพวกไอ้ไม้ยืนอยู่ข้างหลัง



“ไอ้สัส! ตบหัวกูทำไมหะ!!”



“หมั่นไส้!!!” พวกมันทั้งสี่ตัวพร้อมใจกันประสานเสียง ห่า! เสียงดังไปถึงหน้ามหา’ลัยแล้ว เบาๆ ไม่เป็นไงวะ



“หมั่นไส้ไรกู” ผมถามกลับอย่างเคียงๆ แบบนี้มันเคืองนะครับอยู่ๆ ก็มาตบหัวผมซะงั้นแถมยังพร้อมใจกันพูดแบบนี้อีก



ไอ้ไม้ส่งเสียงเหอะออกมาพร้อมกับมองค้อนผม นี่คิดว่าทำแล้วน่ารักเหรอไอ้ห่า! ทำแล้วหน้าวอนโดนตีนมากเลยครับ มันค้อนผมเสร็จก็ส่งเสียงเล็กเสียงน้อย “แหมๆๆๆๆ น่าหมั่นไส้จริงจริ๊ง”



“อ๊าว! หมั่นไส้อะไรกู ไหนบอก ไหนเคลียร์ดิ” ผมหันไปท้าวเอวมองหน้าพวกมันทีละคน



“มีความสุขจนน่าหมั่นไส้” ไอ้แม็คครับ ไอ้แม็คเป็นคนพูด หน้าตามันบ่งบอกว่าหมั่นไส้ผมมากเลยครับ



ผมได้แต่ยกมือเกาหัวตัวเองอย่างงงๆ “อะไรของพวกมึงวะ”
   


“เมื่อกี้! อย่านึกว่าพวกกูไม่เห็นนะไอ้โจรสัส! กูเห็นมึงนั่งหน้าบานอยู่ร้านโจ๊กกับฝน ทีตอนพวกกูโทรชวนกินข้าวละอ้างนู้นนี่นั่น แล้วนี่อะไรห๊ะ นี่อะไร” ไอ้เกลียวแม่งมาเป็นชุดเลยครับ



ผมตาโตขึ้นนิด รู้สึกแก้มร้อนหน่อยๆ เปลี่ยนจากเกาหัวตัวเองมาเป็นเกาแก้ม เขินยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก “พวกมึงเห็นออวะ”



“สัส! ไม่ต้องมาทำเป็นเขิน ไหนเล่ามาเดี๋ยวนี้!” ไอ้เป้ว่าก่อนมันจะเดินมาล็อคคอผมแล้วลากไปนั่งที่โต๊ะใต้คณะ คือยังมีเวลาก่อนเข้าเรียนอีกเกือบครึ่งชั่วโมง พอสำหรับการซักฟอกเลยสิ



“ไหน เล่ามาเดี๋ยวนี้ว่ามึงไปนั่งกินข้าวกับฝนได้ยังไง” ไอ้ไม้พูด



ตอนนี้ไอ้ไม้กับไอ้เกลียวนั่งประกบผมเอาไว้ซ้ายขวา ส่วนไอ้แม็คกับไอ้เป้ยืนกอดอกมองผมอยู่ครับ ไอ้ห่า! กูไม่ใช่นั่งโทษ นั่งเฝ้าผมซะจนผมแอบคิดในใจว่าพวกนี้มันเฝ้าเก่งจริงๆ



ผมมองหน้ามันทีละตัว เอ๊ย ทีละคนก่อนจะถอนหายใจออกมายังไงก็คงเลี่ยงไม่เล่าไม่ได้อยู่แล้ว และดีไม่ดีถ้าหากผมยังไม่เล่า มันก็คงไม่ไปไหน เรียนก็คงไม่ต้องเรียนมันละคราวนี้



“คืองี้… เมื่อวานเย็นอะกูไปห้องพี่เรนมา แล้ว…”



พอผมเริ่มเล่าไอ้เป้ก็ยกมือขึ้นห้ามผม “เดี๋ยวๆ ทำไมมึงไปห้องฝนได้ ไหนเล่ามาให้หมดทุกเรื่องอย่างเก็บ อย่ากั๊กดิ”



“คืองี้…” ผมเริ่มเล่าใหม่อีกรอบ “เมื่อวานหลังจากเลิกเรียนที่กูบอกพวกมึงไปว่ากูจะไปซื้อกระเป๋ากล้องใช่ไหม”



“ละไปซื้อกระเป๋ากล้องเกี่ยวไรกับไปห้องของฝนวะ” ไอ้ไม้มันถาม



ผมหันไปมองหน้ามันนิดหน่อยไม่สนใจคำถามของมันแล้วเล่าต่อ “แล้วกูก็ไปเจอพี่เรนที่บีทีเอส”



“อ๊าว! ตกลงมึงไปห้องฝนตอนเย็นหรือไปหลังเลิกเรียน” ไอ้ไม้มันถามผมอีกรอบ



นี่คือมึงสงสัยจริงๆ หรือกำลังกวนตีนกูอยู่ไอ้เกลียว ผมตั้งท่าจะด่ามันครับ แต่ไอ้แม็คก็ยกมือขึ้นไปตบหัวไอ้ไม้จนหัวมันสั่นเลยครับก่อนที่มันจะด่าแทนผมให้ “ไอ้ฟาย! มึงก็เงียบแล้วก็ฟังที่ไอ้กายมันเล่าสิ พอมันเล่าทีก็ถามทีแล้วมันนี้จะไปรู้เรื่องกันไหมไอ้สัตว์ไม้!”



“กูชื่อไม้ ไม่มีสัตว์นำหน้า” ไอ้นี่ยังกวนตีนไม่เลิก จนพวกผมเลยจัดการโบกหัวมันไปทีละคนสุดท้ายไอ้ไม้มันเลยยอมนั่งนิ่งๆ แล้วฟังผมพูดครับ



“ต่อนะ… ก็นั่นแหละกูไปเจอพี่เรนที่บีทีเอส เห็นอยู่คนเดียวก็เลยเข้าไปทักพอรู้ว่าพี่เขาจะไปซื้อสีที่ห้างกูก็เลยไปด้วยกันเลย” ผมเล่า พอผมเริ่มเล่าไอ้พวกเพื่อนรักทั้งร้ายก็ทำสีหน้า… เขาเรียกว่าอะไรอะ นั่นแหละเหมือนจะล้อเลียนผม แซวผมอะไรประมาณนั้น



“กูก็พาพี่เรนไปซื้อสี แล้วก็พาพี่เขาไปร้านด้วยตอนกูไปซื้อกระเป๋า แล้วก็ตั้งใจจะชวนพี่เขากินข้าวด้วยกันนั่นแหละ แต่พี่เรนเขานึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ให้อาหารแมวเขา พี่เรนก็เลยชวนกูซื้อของกินไปกินที่ห้อง ก็แค่นั้นแหละ” ผมก็เล่าให้พวกนั้นฟัง



“แล้วทำไมมึงถึงไปนั่งกินข้าวกับพี่ฝนได้” ไอ้เป้ถาม



“ก็...” ผมเอานิ้วชี้จิ้มกันอย่างเขินๆ “คือเมื่อวานที่กูไปกินข้าวห้องพี่เรนใช่ไหม กูก็ถามเขาว่าวันนี้เรียนกี่โมง พอรู้ว่าเรียนเวลาเดียวกันกูก็เลยชวนพี่เรนมากินข้าวเช้าด้วยกันเลย”



“หมั่นไส้!!!” พวกมันประสานเสียงกันอีกรอบ



“ถึงว่าทำหน้าตาระรื่นระริกระรี้เหลือเกิน ที่แท้ก็ไปเดทกับพี่เรนมานี่เอง” ไอ้เกลียวครับ ไอ้เกลียดพูด



ผมได้แต่ยักไหล่ ก็มันเรื่องจริงทำไมต้องปฏิเสธละครับ ถึงแม้จะเป็นการเดทแบบที่ผมคิดไปเองฝ่ายเดียวก็ตามที แต่ได้อยู่กับพี่เรนสองต่อสองตั้งหลายชั่วโมง แถมเมื่อเช้ายังได้นั่งกินข้าวไปมองหน้าพี่เรนไปอีกจะไม่ให้ผมระริกระรี้ได้ยังไงละครับ



ยิ่งนึกถึงเมื่อเช้าก็ยิ่งฟิน ตอนที่ผมเดินไปรอพี่เรนที่หน้าหอ แล้วพอพี่เรนลงมาเห็นผมก็ยิ้มกว้างแล้วโบกมือทักทายผมใหญ่ น่ารักมากเลยครับ หลังจากนั้นผมกับพี่เรนก็เดินข้างๆ กันไปร้านโจ๊กหน้าปากซอย หอพักของผมกับพี่เรนอยู่ไม่ไกลจากมหา’ลัย เดินได้สบายครับ ตอนเช้าๆ แดดยังไม่แรง ลมเย็นๆ บรรยากาศก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เป็นเดทที่ฟินมากมายเลยครับ อิอิ



หลังจากที่พวกนั้นมันสอบสวนผมเสร็จพวกเราก็ย้ายร่างขึ้นไปเรียนกัน วันนี้เรียนประวัติศาสตร์ครับ เป็นประวัติศาสตร์ภาพยนตร์กับประวัติศาสตร์ภาพถ่าย วิชานี้สนุกมากเลยละครับเพราะจะได้เห็นภาพที่หาดูยากมากๆ แล้วอาจารย์ที่สอนวิชานี้มักจะมีภาพจริงๆ มาให้ดูด้วยครับ พวกผมละโคตรจะนับถือภาพเก่าโบราณขนาดนั้นไปสรรหามาได้ยังไง



ที่จริงทุกวิชาในคณะของผมก็น่าเรียนผมและครับไม่ใช่แค่สาขาของผมนะ สาขาอื่นก็น่าเรียนแต่ผมชอบถ่ายรูปมากที่สุดก็เลยเลือกเรียนฟิล์มนี่แหละครับ



ผมหันไปมองนอกหน้าต่างระหว่างที่อาจารย์กำลังปล่อยพักสิบนาที บรรยากาศเหมือนฝนจะตก... แต่ก็ไม่เห็นแปลกเพราะเดือนสิงหาคมก็เป็นช่วงฤดูฝนอยู่แล้ว จะว่าไป... ก็ครบหนึ่งปีที่เจอพี่เรนพอดีสินะ



ฝน...



จริงสิ!!!



ผมทำตาโตอย่างนึกขึ้นได้เมื่อปีก่อนที่ผมเจอพี่เรนก็เจอตอนฝนตกเพราะอย่างนั้นผมถึงได้เลือกที่จะทำโปรเจคหัวข้อนี้ แล้วผมก็ถ่ายรูปเอาไว้ด้วย ถ้าในอาทิตย์หน้าผมยังขอให้พี่เรนมาเป็นแบบให้ไม่ทันตรวจงานครั้งแรกผมก็เอาภาพนั้นมาตรวจก่อนก็ได้นี่นะ แล้วก็ถ่ายภาพตอนฝนตกที่ให้ความรู้สึกที่หลากหลายเพิ่ม



หึ! ทำไมถึงเพิ่งจะนึกได้นะ ผมได้แต่ยิ้มก่อนจะหันไปหยิบเอาสมุดมาเปิดแล้วจดสิ่งที่คิดได้ลงในสมุดกันลืม แล้วก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้วันนี้พรุ่งนี้ฝนตกด้วยเถอะ ถ้ายิ่งเป็นพรุ่งนี้ได้ก็ยิ่งดีเพราะผมไม่มีเรียนอยู่แล้ว







พี่เรน



“เรน” ผมเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเรียก ก่อนจะส่งยิ้มให้กับเพื่อนๆ ในกลุ่มที่เดินมาหาผมที่โต๊ะ



“สวัสดีทุกคน” ผมทักทายทุกคน รวบเอาบรรดาดินสอที่วางกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะให้เรียบร้อย



“ทำไมวันนี้ถึงมาถึงเร็วละ ไม่ได้หลงไปไหนมาหรือไงหือหนุ่มน้อย” ใบหม่อนนั่งลงข้างผมก่อนจะร้องถามพร้อมกับยกมือมาหยิกแก้มผมไปด้วย



เจ็บนะ...



ผมยู่ปากยกมือลูบแก้มตัวเองเบาๆ ใบหม่อนใจร้าย ทุกคนเลยแหละใจร้าย ชอบหยิกแก้มผมอยู่เรื่อยเลย



“เราไม่ได้หลงทางบ่อยขนาดนั้นเสียหน่อย”



“ทุกวัน!” พอผมพูดแบบนั้นทุกคนก็พร้อมใจกันพูด ทำให้ผมยิ่งยู่หน้ามากกว่าเดิม อะไรกันผมไม่ใช่พวกที่จะหลงทางทุกวันเสียหน่อย



“ไม่หลงไปคณะนิเทศ ก็ไปคณะเกษตร ก็คณะพวกแพทย์ หลงไปแต่ละที่ไม่ได้ใกล้กับคณะเราเลยสักนิด” สาที่นั่งข้างผมอีกข้างพูด แถมเอาอีกแล้ว... ยกมือมาหยิกแก้มผมอีกแล้ว



ฮึ่ม!



ผมเปลี่ยนจากทำหน้ายู่ปากยู่เป็นทำหน้าบึ้งแก้มพองแทน แต่ดูเหมือนจะถูกใจพวกสาวๆ เขาถึงยื่นนิ้วมาจิ้มแก้มผมกันใหญ่ ก่อนที่ตินาจะถามผมต่อ “ไหนบอกมาสิว่าทำไมวันนี้ถึงไม่หลงทางไปไหน”



ผมขยับหน้าหลบมือของพวกสาวๆ ยกมือลูบแก้มตัวเอง มันต้องแดงแน่ๆ เลยรู้สึกเจ็บนิดๆ เหมือนกันนะ ทำไมสาวๆ พวกนี้ชอบทำรุนแรงกับผมอยู่เลยเรื่อย ผมตั้งท่าจะตอบตินาแต่ก็ยังไม่ได้ตอบเมื่อใบหม่อนหันไปหยิบหลอดสีที่ผมเพิ่งซื้อใหม่มา



“อ้าว... ซื้อสีมาใหม่แล้วเหรอ ไปซื้อมาเมื่อไหร่” พอใบหม่อนถามแบบนั้น สาวๆ ที่เหลือก็แปลงร่างกันทันที



ตินาจ้องผมเขม็งเลย สาก็เหมือนกัน คนอื่นๆ อีก ทำไมต้องจ้องกันแบบนี้ด้วยละ ผมทำอะไรผิดหรือ



“ว่าไงเรน ไปซื้อสีมาเมื่อไหร่ เมื่อวานก็ไม่มีเรียน ไปซื้อที่ไหน เมื่อไหร่กับใคร” ตินาถาม



ผมหันมองหน้าแต่ละคนก่อนจะทำปากยื่นนิดๆ สาวๆ ชอบทำเหมือนผมเป็นเด็กเลย แต่ผมก็เข้าใจนะครับว่าทุกคนเป็นห่วง เอาจริงๆ... ผมก็เป็นพวกชอบหลงทางบ่อยๆ แถมบางครั้งยังขี้ลืมอีกต่างหากพวกตินาเลยค่อนข้างเป็นห่วงครับ



“ว่ายังไงเรน บอกพวกเรามาสิ” สาถามย้ำ



ฮือ... ทำไมต้องทำหน้าดุกันด้วยละ



“ไปซื้อมาเมื่อวาน อ๊ะ! อย่าเพิ่งว่าเรานะ ฟังให้จบก่อน” ผมรีบยกมือห้ามทั้งสองมือทันทีเมื่อเห็นพวกสาวๆ ตั้งท่าจะพูดแล้วผมจึงพูดต่อ “เมื่อวาน... เราอยู่ห้องเบื่อๆ แล้วสีก็หมดแล้วเราก็เลยอยากจะไปซื้อสี ก็ตั้งใจจะไปซื้อที่ห้างนั่นแหละ แล้วตอนกำลังจะไปก็เจอกับ... น้องกายพอดี”



“น้องกาย?” ใบหม่อนทวน “น้องกาย เดือนนิเทศน่ะเหรอ”



ผมเอียงคอทำหน้านึก “น้องคนนั้นที่มาขอโทษเราเรื่องรูปไง”



“อาฮะ... ไปเจอเจ้าเด็กนั่นแล้วยังไงต่อ”



ผมหันไปมองตินา ทำไมต้องทำเสียงเข้มด้วยนะ... “แล้วน้องเขาจะไปซื้อของที่ห้างพอดี เราก็เลยไปด้วยกัน”



“ทำไมไม่ระวังตัวเลยนะเรน นี่ก็ตามเขาไปง่ายๆ เหลือเกิน เกิดเจ้าเด็กนั้นพาไปทำอะไรไม่ดีขึ้นมาจะทำยังไง” ตินาขมวดคิ้วแล้วมองผมดุๆ



“แต่น้องเขาก็รู้จักกับพวกเรานี่ ดูท่าสนิทกับพวกตินาด้วย” ผมพูดก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงงอนๆ “ถึงเราจะขี้ลืมบ้าง หลงทางบ้างแต่ก็ไม่ได้เอ๋อขนาดแยกคนไม่ออกเสียหน่อย”



ชอบมองผมเป็นเด็กอยู่เรื่อยเลย



พอได้ยินผมพูดแบบนั้นทุกคนก็หัวเราะชอบใจใหญ่ ผมไม่ได้เอ๋อสักหน่อย ฮึ่ม!



“โอเคๆ ไม่ต้องทำหน้างอนนะจ้ะหนุ่มน้อย” ใบหม่อนว่าอย่างเสียงงอนง้อ “แล้วเช้านี้ละ”



“เช้านี้เราไปกินข้าวกับน้องกายมา น้องก็เลยพามาส่งไม่ได้หลงทางไปไหนให้ทุกคนมาสงสัยนี่ไงล่ะ” ผมกอดอกพูดอย่างงอนๆ แต่ก็ไม่ได้งอนจริงหรอกครับ แกล้งเล่นเพราะเวลาพวกสาวๆ ง้อผมน่ารักดี



แต่คราวนี้มาแปลก... ทำไมไม่พูดง้อผมนะแต่กลับหันไปมองหน้ากันเสียอย่างนั้น หรือผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า?



ผมเอียงคอพลางนึกว่าตัวเองพูดอะไรผิดออกไปแต่ก็ไม่นี่นา... ที่เล่าออกไปก็เป็นเรื่องจริงหมดทุกอย่าง ที่จริงต้องขอบคุณน้องกายด้วยนะเนี่ย... เพราะถ้าไม่ได้น้องกายผมอาจจะหลงไปแบริ่งแทนไปสยาม แล้วหมีก็คงได้อดข้าวแน่นอนเลย



ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเท่าไหร่ว่าทำไมถึงได้เป็นคนขี้หลงขี้ลืมแล้วก็หลงทางเก่งขนาดนี้ ขนาดในมหา’ลัย อยู่มาสองปีเต็มๆ ผมยังเดินหลงเลยครับ เฮ้อ...



“ถอนหายใจทำไม” สาหันมาถามผม



ผมเงยหน้าขึ้นมองอย่างงงๆ ผมถอนหายใจเหรอ ผมนึกว่าผมแค่คิดในใจเฉยๆ เสียอีก “ก็เปล่าหรอก กำลังคิดอยู่ว่าทำไมเราถึงได้ขยันหลงทางขนาดนี้นะ”



“เพราะแกน่ะมันเอ๋อ... ยังไงล่ะ” สาพูด บีบแก้มผมอีกแล้ว ฮือ... ขยันบีบแก้มผมกันจริงๆ เลยพวกนี้



“ฮือ... เราเจ็บนะ ทำไมชอบบีบแก้มเรา” ผมว่าทำหน้าบึ้ง ยกมือทั้งสองข้างกุมแก้มตัวเองเอาไว้ป้องกันไม่ให้พวกสาวๆ มาบีบแก้มผมอีก คราวหลังผมจะใส่หมวกกันน็อคเอาไว้แล้ว จะได้บีบแก้มผมไม่ได้!



พวกสาวๆ หัวเราะชอบใจกับท่าทางของผมก่อนที่ใบหม่อนจะถามผมต่อ “แล้วเมื่อวานที่ไปกับกาย เจ้าเด็กนั่นทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า”



“อะไรไม่ดี? หมายถึงอะไรเหรอ... ก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีนะก็แค่ไปซื้อของกันเฉยๆ แล้วก็กลับมากินข้าวกันแค่นั้นเอง” ผมตอบ



“แล้วเรนคิดว่าเจอเด็กนั่นเป็นยังไงบ้าง” คราวนี้เป็นตินาที่ถามผมครับ



“ก็... เป็นเด็กที่แปลกดีนะ” ผมตอบยิ้มๆ ก่อนจะพูดอธิบายต่อเมื่อพวกสาวๆ ทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูด “บางครั้งก็ทำหน้าตลกๆ ออกมาแบบไม่รู้ตัว ก็ไม่ได้ทำหน้าแปลกๆ หรอกแต่แค่อยู่ๆ ก็ยิ้มกว้าง เดี๋ยวก็ยิ้มนิดๆ เดี๋ยวก็ทำเป็นหน้านิ่งแต่มุมปากยิ้มไม่หุบ เห็นแล้วก็ตลกดีนะ”



ใช่แล้วล่ะครับ... น้องกายตลกดีนะผมว่า พอเห็นผมก็ทำหน้าดีใจใหญ่แต่แปบเดียวก็ทำเป็นนิ่งๆ แต่ก็เห็นว่าแอบยิ้มบ่อยๆ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่แต่ดูๆ ไปแล้วก็ตลกดีครับ ฮ่าๆๆ



คนอะไรแค่จะยิ้มยังมีหลายหน้าเลย แปลกดีเนอะ



“เฮ้อ! จะเรียกว่าซื่อหรือบื้อดีเนี่ย!” สาพูดให้ผมหันไปมองอย่างงงๆ



เมื่อกี้ที่สาพูดนี่หมายถึงใครกันนะ น้องกายนั่นเหรอ... “สาไปว่าน้องเขาทำไม”



พอผมถามไปแบบนั้นสาก็กรอกตาไปมาก่อนจะเปลี่ยนเรื่องชวนขึ้นไปบนห้องเรียนแทน “พูดไปก็ไม่เข้าใจหรอก ฉันว่าเราขึ้นไปบนห้องกันดีกว่า เดี๋ยวจะถึงเวลาเรียนแล้ว”



“นั่นสินะ... พูดกับคนซื่อไปก็คงไม่เข้าใจหรอก เฮ้อ...” ใบหม่อนพูดก่อนจะลุกขึ้นยืน



“คงอีกนานเลยล่ะกว่าจะหายซื่อ” ตินาพูดบ้าง แล้วทั้งสามสาวก็ลุกเดินไปให้ผมมองตามอย่างงงๆ ก่อนจะรีบหยิบของแล้วเดินตามไป ทั้งๆ ที่ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกนั้นพูดเลยสักนิดเดียว



อะไรกันนะ...






************************************************
แทบจะคลานเข้ามาอัพนิยายกันเลยทีเดียว 3 วันผ่านไปกับการทำงานที่บริษัทใหม่ เข้างานสายก็จริงแต่ต้องตื่นตั้งกะตี 5 เพื่อฝ่ารถติดเส้นพหลฯ ไปขึ้นใต้ดิน เลิกงาน 6 โมงเย็นที่กว่าจะถึงหอ 2 ทุ่ม เวลาแต่งนิยายหดหายแบบสุดๆ เลยค่ะ ฮืออ อยากจะร้องไห้ อาจจะมาช้าหน่อยในแต่ละครั้ง แต่จะพยายามไม่ขาดหายไปไหนนะคะ

บ่นไปแล้วมาต่อที่เนื้อเรื่องกันบ้างดีกว่า ใครหมั่นไส้น้องกาย แล้วก็อยากฟัดพี่เรนบ้างยกมือขึ้นค่ะ (ฟางรีบยกมือคนแรกเลย) เป็นความรู้สึกที่ขัดแย้งกันทั้งสองคนแต่ก็ฟินสุดๆ เช่นกัน ฮ๊า~ พี่เรนก็น่ารักเหลือเกิน จะเอียงคอ จะยู่หน้า ยู่ปาก ทำหน้าบึ้ง จะกุมแก้ม จะทำอะไรๆ ก็น่ารักน่าเอ็นดูไปโหม๊ดดดดดด!!! หลงรักที่สุด!

ข่าวดีสำหรับคนติดตามนิยายเรื่องนี้ นิยายเรื่องนี้ “ไม่มีดราม่า” นะจ้ะ ขีดเส้นใต้และทำตัวหนาเลยทีเดียว อ่านสนุกๆ เพลินๆ เหมือนเรื่อง #อุ่นไอรักBL นะ ^^

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

ปล. อ่านแล้วไม่เมนต์ เดี๋ยวฟางไม่อัพให้อ่านนะคะ ^^

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [100%] l P.4 25-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 25-05-2016 22:30:06
อ่านพาร์ทพี่เรนตอนคุยกับหมี แล้วรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงพี่เรนแง๊วๆๆๆ

น่าร๊ากกกกกกก
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [100%] l P.4 25-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 25-05-2016 23:09:49
พี่เรนงุ้งงิ้งๆอ้ะ
ฮื่อออออ อยากมีพี่เรนเป็นของตัวเองได้ม้ายยยย /น้องกายกระโดดถีบ
55555555

คนเขียนสู้ๆ นะคะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [100%] l P.4 25-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-05-2016 23:35:31
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [100%] l P.4 25-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 26-05-2016 00:04:52
พี่เรนยังน่ารักเหมือนเดิม
เมื่อไหร่จะรู้ว่าน้องกายนางมาจีบบ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [100%] l P.4 25-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 26-05-2016 00:08:57
พี่เรนน่ารักกก
กายสู้ๆน้าา
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [100%] l P.4 25-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 26-05-2016 18:24:38
น้องเรน แบ๊วๆ ?
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 6 • [100%] l P.4 25-05-59
เริ่มหัวข้อโดย: Amikim ที่ 30-05-2016 02:35:45
งื้อออออ.. :o8: :o8: :o8: เขินพี่เรนคนซื่อขอซื้อต่อได้ไหม อยากได้มาเลี้ยงอะ มาต่อเร็วน๊าาา รอคอยว่าจะมาเร็วๆนี้รึเปล่า???
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [50%] l P.5 01-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 01-06-2016 23:08:20
(http://i.imgur.com/HPWGHJR.gif)
ใครต่อใครแทนความหมายของฝนว่าเป็นความเศร้า
แต่พี่เรนกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่าง

kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 7 •




น้องกาย




“อาทิตย์หน้าจะพรีเซนต์แล้วตกลงมึงว่าไงวะกาย” ผมละมือจากการเช็ดกล้องตัวโปรดเงยหน้าขึ้นมองคนถาม



ตอนนี้กำลังพักเที่ยงกันอยู่ครับ ที่สิงสถิตเดิมโรงอาหารคณะ มีเรียนอีกทีตอนบ่ายสองครับตอนนี้เลยว่างกันยาวๆ เลย



“อะไร ยังไงวะ” ผมหันไปถามไอ้แม็คที่มันถามผม



“ก็อาทิตย์หน้าพรีเซนต์มึงได้รูปหรือยังหรือว่ามึงลืมไปแล้ว” ไอ้แม็คว่า



ผมร้องอ๋อพร้อมพยักหน้ารับไปด้วยก่อนจะตอบ “ก็ได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีรูปพี่เรนอยู่ดี ตอนแรกกูกะตามแอบถ่ายพี่เรนตอนช่วงฝนตกนะ แต่ไม่มีโอกาสเลยว่ะ”



ไอ้พวกนี้มันสบายตัวละครับ ได้ภาพกันแล้วเรียบร้อยคนละหลายรูป แต่พวกมันบอกว่ายังไม่พอใจเสียทีเดียวแต่ก็สื่อถึงคอนเซ็ปได้ เดี๋ยวพอได้ฟังคอมเมนต์จากอาจารย์คนอื่นๆ ก็คงมีแรงบันดาลใจกันต่อ



ส่วนผมนี้ลอยแพครับ ไม่มีเลย มีรูปพี่เรนอยู่สองสามรูปซึ่งก็น่าจะใช้ได้อยู่ อาทิตย์ที่แล้วก็ว่าจะทำตัวเป็นสต็อกเกอร์ตามถ่ายรูปพี่เรนอยู่หรอกแต่ไม่มีโอกาสเลยครับ ผมอยากได้ภาพพี่เรนตอนที่ฝนตกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าหน้าฝนแบบนี้ฝนตกทุกวันแหละครับ แต่ก็ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะพอฝนตกพี่เรนก็โดนต้อน(?)ขึ้นรถของพวกพี่สาแล้วครับ



ไอ้ที่จะพาพี่เรนไปตัดผมก็ยังไม่ได้ไป เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาบังเอิญเจอพี่เขา พี่เรนบอกว่าวันเสาร์ต้องปั่นโปรเจคเพราะใกล้จะส่งงานแล้ว ผมก็เลยอดไปเดทกับพี่เรนเลย



“แล้วมึงจะเอายังไงละ” คราวนี้เป็นไอ้เป้ที่หันมาถามครับ มันกำลังแย่งลูกชิ้นอยู่กับไอ้ไม้



“ถ้ายังไม่มีรูปพี่เรนกูก็คงเอารูปเก่าที่เคยถ่ายเอาไว้มาส่งก่อน แล้วก็ถ่ายรูปตอนฝนตกเพิ่ม” ผมตอบมันไปก็แย่งลูกชิ้นมันมากินด้วย จนไอ้ไม้หันมาแยกเขี้ยวใส่ผม



“เอาให้มีงานส่งนะมึง แล้วตกลงไอ้ไม้ มึงอะเอารูปมาม่าส่งเหรอวะ” ไอ้เกลียวพูดกับผมเสร็จก็หันไปถามไอ้ไม้



รูปคนอื่นผมก็ยังพอเห็นนะครับ ส่วนของไอ้ไม้ที่ผมเห็นมันถ่าย… คือตอนมันกำลังยกกล้องเล็งถ้วยมาม่าที่ควันลอยฉุยส่งกลิ่นหอม ไม่รู้มันเอาจริงหรือเอาเล่นกันแน่



ไอ้ไม้ยักคิ้วใส่ “เดี๋ยวพวกมึงก็รอดูเอาเองวันพรีเซนต์”



ผมเลยเลิกสนใจมันครับ หันมาเช็ดกล้องต่อ วันนี้ฝนตกแต่เช้า ดีที่ตกไม่นานแต่ตอนเย็นนี่น่าจะตกหนักอยู่ดูจากตอนนี้แล้วฟ้ามืดมาเชียว แต่ผมเตรียมซองกันน้ำมาด้วย ถ้าฝนตกได้แรงพอผมว่าจะไปหาที่ถ่ายรูปเสียหน่อย



นั่งเล่นกันไปคุยกันไปจนถึงเวลาขึ้นเรียนพวกผมถึงได้ยกโขยงกันไปเรียน ตอนบ่ายนี้ไม่ได้เรียนวิชาคณะครับ แต่เรียนวิชาคณิตศาสตร์ ทำไมต้องให้เรียนด้วยหว๊า… ถ่ายรูปมันใช้ฟิลลิ่งนะครับ ไม่ได้ใช้คำนวณทำไมต้องให้เรียนด้วย ไม่เข้าใจจริงๆ



ไหนจะอาจารย์ที่สอนก็สอนได้ดีเหลือเกิน สอนไปผมแทบจะหลับคาหนังสือไป อย่างง่วงเลยครับ ฮ๊าวววว...



แม้จะเป็นเวลาเพียงแค่ชั่วโมงครึ่งในการเรียนแต่ผมรู้สึกว่าผมใช้เวลาแทบจะตลอดบ่ายกับการเรียนวิชานี้เลยทีเดียว แถมฝนก็ตกอีกยิ่งสร้างบรรยากาศให้น่านอนเข้าไปใหญ่เลยครับ และไม่ต้องบอกใช่ไหมครับว่าพออาจารย์ออกจากห้องไปแล้วผมกับเพื่อนๆ ก็ส่งเสียงเฮลั่นทันที จนคนอื่นๆ หันมามองกันหมดครับ พอดีเราเรียนรวมหลายคณะด้วยคนอื่นๆ เลยไม่เคยเห็นความบ้าบอของผมครับ



“ฝนตกหนักเลยว่ะ ทีตอนเรียนละตกเปาะแปะๆ ทีพอตอนจะกลับบ้านละอย่างกับฟ้ารั่ว” ไอ้เป้พูด ตอนนี้ผมกับไอ้พวกนี้มายืนเป็นพระเอกมิวสิควีดิโออยู่ใต้ตึกคณะบัญชีครับ ฝนตกไปไหนไม่ได้



“แต่ฝนตกหนักขนาดนี้แดดแม่งก็ยังเปรี้ยงอยู่เลยว่ะ อากาศประเทศไทยนี่มันน่ามหัศจรรย์จริงๆ เลย” ไอ้เกลียวพูดพร้อมกับชะโงกหน้าไปดู อ้าวไอ้ห่านี่โง่หรือโง่ ชะโงกหน้าไปมองก็เปียกสิ พวกผมเลยหัวเราะเยาะมันครับที่มันเปียก



“เอาไงดีวะ ไปนั่งส่องสาวบัญชีกันก่อนละกัน เอาไว้ฝนซาละค่อยกลับ คณะนี้กับคณะเราแม่งก็โคตรจะห่างไกลกันเลย กว่าจะไปถึงเปียกไปทั้งตัวแน่” ไอ้แม็คว่า ก่อนจะชักชวนคนอื่นไปนั่งส่องสาวๆ ไอ้พวกนี้มีแต่เรื่องทรามๆ จริงๆ



“กูไม่ไปนะโว้ย ว่าจะถ่ายรูป ไหนๆ ฝนก็เป็นใจตกมาให้ขนาดนี้แล้ว” ผมหันไปบอกพวกมัน



“ฝนแม่งตกอย่างหนักเลยนะมึง เดี๋ยวได้ไข่สั้น ไข้จับหรอกไอ้ห่า” ไอ้เกลียวหันมาว่า



“เออ กูไม่เป็นไรง่ายๆ หรอก อีกอย่างพรุ่งนี้ไปก็หยุดยาวยันวันจันทร์ ถ้าป่วยนอนวันสองวันเดี๋ยวกูก็หาย” ผมตอบมันไปพร้อมกับหยิบซองกันน้ำสำหรับกล้องถ่ายรูปมาใส่กล้องไปด้วย



พรุ่งนี้อาจารย์ที่คณะผมไปสัมมนากันครับ ที่จริงก็ยังมีอาจารย์ท่านอื่นอยู่ แต่ก็ไม่พอสอนนักศึกษาคณะก็เลยประกาศหยุดยาวครับตั้งแต่วันพุธไป เปิดมาอีกทีก็วันจันทร์เลยครับ



“เออๆ ตามใจมึง ป่วยมากูไม่ไปดูศพมึงนะ ปล่อยให้เน่าตายในห้องนั่นแหละ” ไอ้แม็คครับ คนอื่นก็หัวเราะเอิ้กอ้ากชอบใจ เกรงใจคนคณะเขาบ้างเถอะ ไม่ใช่คณะของพวกมึงนะครับทำตัวน่าเกลียดชิบหาย แถมยังรักเพื่อนอย่างสุดยอดจริงๆ



“สัส! กูฝากกระเป๋าด้วย” ผมว่าโยนกระเป๋าที่ใส่พวกอุปกรณ์การเรียนให้ไอ้ไม้มันถือ ส่วนกระเป๋าสตางค์ กับโทรศัพท์ก็ใส่ซองกันน้ำแล้วคล้องคอเอาไว้เรียบร้อย กล้องก็พร้อมแล้วไปลุยกันดีกว่าครับ “เจอกันวันจันทร์นะมึง”



ผมหันไปบอกพวกนั้นก่อนจะวิ่งออกจากใต้ตึกคณะบัญชี คนเห็นก็คงห่าว่าผมบ้าที่วิ่งออกมาทั้งๆ ที่ฝนตกหนักขนาดนี้แต่ก็ไม่สนใจหรอกครับตอนนี้คือต้องหามุมถ่ายรูปเสียก่อน ที่แรกที่ผมไปก็คือคณะของพี่เรนครับ ถ้าผมมีโชคอยู่บ้างก็ขอให้ได้รูปพี่เรนสักรูปสองรูปหน่อยเถอะ



อีกอย่าง... คณะนี้ก็ใกล้กับคณะเกษตรด้วย เพราะฉะนั้นพวกต้นไม้จะเยอะ น่าจะได้รูปไปไม่น้อยเลย ในระหว่างที่ยกกล้องถ่ายภาพฝนตกในมุมต่างๆ ผมก็หันไปเห็นพี่เรนพอดีครับ กำลังยืนอยู่ใต้ตึกคณะ อยู่กับพวกพี่ตินานั่นแหละ แต่ฝนมันยังไม่ซาก็เลยได้แต่ยืนกันอยู่ใต้ตึก



ผมวิ่งอ้อมไปอีกทาง ยกกล้องในซองกันน้ำขึ้นเล็งใครจะมองยังไงก็ช่างครับ ตอนนี้ต้องถ่ายรูปให้ได้ก่อน ผมเลือกมุมด้านข้างของพี่เรน ตรงมุมนี้จะเป็นฝนตกเป็นฉากหลังพอดี ถือกล้องค้างเอาไว้แบบนั้นจังหวะที่พี่เรนยื่นมือไปรองน้ำฝน ผมก็กดถ่ายรูปเอาไว้รัวๆ เลยครับ จนได้รูปเป็นที่พอใจถึงได้ลดกล้องลง



พี่เรนเวลาอยู่กับฝนให้ความรู้สึกดีมากจริงๆ สมกับชื่อ “ฝน” จริงๆ ใครต่อใครแทนความหมายของฝนว่าเป็นความเศร้า แต่พี่เรนกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่าง



ไม่ว่ายังไง... ผมจะต้องทำให้พี่เรนยอมมาเป็นนายแบบให้ผมให้ได้!



เมื่อพอใจกับการแอบถ่ายรูปพี่เรนแล้วมองก็เดินถ่ายรูปต่อทั้งๆ ที่ฝนตกอยู่แบบนั้นนั่นแหละ หนาวก็หนาวนะแต่มันก็กำลังเพลินกับการถ่ายรูป จนกลายเป็นว่าตอนนี้ผมหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว แม้กระทั่งดอกไม้ที่กำลังหล่นจากต้นผมก็ยังไปยืนถ่าย กว่าจะรู้เลิกถ่ายก็ตอนที่ฝนเริ่มซานั่นแหละครับ



ไอ้ตอนนี้แหละหนาวแบบหนาวเฮี้ยๆ เลยครับ ได้แต่เดินกอดอกจ้ำอ้าวกลับไปที่หอ ตัวเปียกมะลอกมะแลกอย่างกับลูกหมาตกน้ำ ไม่สิ เปลี่ยนเป็นลูกแมวตกน้ำแทนได้ไหม ดูมุ้งมิ้งดีครับ



ผมยืนตัวเปียกอยู่หน้าหอก่อนจะหยิบซองกันน้ำที่คล้องคออยู่ออกมาเพื่อจะหยิบคีย์การ์ดกับกุญแจห้อง...



แปะ



แปะ




ผมตบมือไปตามตัวกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงทั้งกระเป๋าหน้ากระเป๋าหลังเพื่อหาคีย์การ์ดกับกุญแจห้อง...



อย่าบอกนะว่า...!!!!



ลืมกุญแจห้อง!!!!



โอ๊ยไอ้กาย ติดเชื้อขี้ลืมมาจากความน่ารักของพี่เรนหรือไงเนี่ย ลืมอะไรไม่ลืม ดันลืมคีย์การ์ดกับกุญแจห้อง แล้วพี่ยามหอผมหายไปไหนวะ



ได้แต่ยกมือขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาตั้งใจจะโทรหาไอ้ไม้เพื่อให้มันเอากระเป๋าผมมาให้ ขืนรอพี่ยามมีหวังผมได้เป็นไข้แน่นอน



“กาย????”



ผมหยุดมือที่กำลังเลื่อนสไลด์หน้าจอโทรศัพท์แล้วหันกลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงเรียกก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นพี่เรนยืนอยู่ “พี่เรน”



คนตรงหน้ามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็มองย้อนกลับมาที่หน้าผม “ทำไมเปียกแบบนี้”



ผมหัวเราะออกมาก่อนจะชูกล้องที่คล้องคออยู่ขึ้นแล้วตอบ “พอดีอาทิตย์หน้ามีส่งโปรเจครอบแรกผมเลยไปถ่ายรูปมา”



พอได้ยินผมตอบแบบนั้นคนที่ตาโตอยู่แล้วก็ยิ่งโตเข้าไปใหญ่ ปากก็อ้าค้างอย่างน่ารัก “โฮ... ต้องขนาดนี้เลยเหรอ เดี๋ยวไม่สบายนะรีบไปอาบน้ำเถอะ”



“แหะๆๆ... ผมลืมกุญแจห้องกับคีย์การ์ดไว้ที่กระเป๋าครับ ส่วนกระเป๋าก็อยู่กับเพื่อนนี่กำลังจะโทรเรียกให้มันเอากระเป๋ามาให้” ผมตอบ



“อย่างนั้นไปห้องพี่ก่อนๆ เดี๋ยวไม่สบาย ปะๆ ไปเร็ว” พี่เรนบอกก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าข้อมือของผมแล้วจัดการลากไปที่ฝั่งตรงข้ามทันที มืออีกข้างก็วุ่นวายหาคีย์การ์ดในกระเป๋า



ผมได้แต่ยืนอมยิ้มมองคนที่แทบจะเทกระเป๋าสะพายใบโตเพื่อหากุญแจห้อง อยากจะรู้ว่าคนคนนี้เก็บของยังไงกันนะ เพราะผมจะคล้องคีย์การ์ดกับกุญแจห้องเอาไว้ด้วยกัน แต่พี่เรนนี่... คีย์การ์ดอยู่ที่ กุญแจอยู่ที่



“แปบนึงนะกาย พี่มั่นใจว่าเอากุญแจใส่กระเป๋ามาแล้ว อย่างเพิ่งไม่สบายนะ เดี๋ยวพี่หากุญแจแปบนึง” ปากก็พูดไป มือก็วุ่นวายกับการแหวกกระเป๋าช่องนู้นช่องนี้ดูไปด้วยเพราะหากุญแจห้องดอกเด็กๆ เพียงดอกเดียว



“ครับผม” ผมรับคำ ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นถ่ายด้านหลังของพี่เขาเอาไว้ ปากก็อมยิ้มไม่หยุด จนอยากจะถามว่ามึงจะยิ้มอะไรนักหนา



“อ๊ะ! เจอแล้วๆ เจอแล้วละนี่ไง” พี่เรนร้องดีใจหันมาชูกุญแจให้ผมดูอีกต่างหาก โคตรจะน่าเอ็นดูเลยครับ



พอเปิดประตูได้พี่เรนก็หันมาคว้าแขนผมแล้วลากเข้ามาในห้อง สั่งให้ผมเข้าไปรอในห้องน้ำแล้วเจ้าตัวก็วิ่งไปหาผ้าเช็ดตัวมาให้ผม



“ขอบคุณนะครับพี่เรน” ผมยิ้มขอบคุณรับผ้ามาถือเอาไว้ ส่งกล้องกับซองที่ใส่กระเป๋าสตางค์ให้พี่เรน ซึ่งพี่เขาก็ดีแสนดี รับไปวางเอาไว้ให้เรียบร้อย



ให้ความรู้สึกเหมือน... คู่รักกันเลยแหะ





************************************************
1 ชั่วโมงกับ 50% ที่เรียกว่าปั่นสดๆ แบบยังร้อนอยู่เลยค่ะ แต่งไปก็ยิ้มไปกับความน่ารักของพี่เรน ถึงจะออกมาไม่เยอะแต่ก็ทำให้ยิ้มได้ นี่สงสัยฟางจะหลงพี่เรนมากมายเลยค่ะ ทั้งหลงทั้งรักอย่างไม่รู้จะบอกยังไงแล้ว

เรื่องงาน... ฟางยังปรับตัวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ งานค่อนข้างเยอะเลยค่ะ บางวันก็มีงานด่วนเข้ามาแบบใช้สมองเยอะมาก ใช้หนักจริงๆ ค่ะ จนบางทีก็คิดนิยายไม่ออกเลยเพราะมันคิดเรื่องงานไปเยอะมากๆ จนรู้สึกเพลียสุดๆ มันเหนื่อยมากจริงๆ ฟางก็หวังว่าทุกคนจะเข้าใจกันนะคะ

ฟางขอไม่มากค่ะ ขอให้คนที่อ่านนิยายของฟางเป็นกำลังใจให้ฟาง คอมเมนต์เกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ให้ฟางอ่าน เวลาฟางเครียดๆ หรือเหนื่อยจากการทำงานหลักฟางจะได้ยิ้มออก และมีแรงในการแต่งนิยายนะคะ

ขอแค่นี้คงไม่มากเกินไปนะคะ

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

ปล. อ่านแล้วไม่เมนต์ เดี๋ยวฟางไม่อัพให้อ่านนะคะ ^^

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [50%] l P.5 01-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-06-2016 23:31:05
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [50%] l P.5 01-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 02-06-2016 00:30:46
น่ารักน่าเอ็นดูน่าหยิกแก้ม หมั่นเขี้ยว  :m3:
เจ้ากายต้องขอบคุณที่ตัวเองลืมกุญแจนะ
ระหว่างติดอยู่ห้องพี่เรนก็ลองจีบ(มาเป็นแบบ)ให้ติดนะ
รออีกครึ่งค่ะฟาง เรื่องงานสู้ๆจ้า  :bye2:  :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [50%] l P.5 01-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 02-06-2016 01:28:43
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ขอให้น้องกายจีบพี่เรนให้ติด เพราะพี่เรนเป็นแบบนี้ไงครับ ถึงไม่อยากให้คนอื่นที่ไม่ใช่น้องกายดูแล
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [50%] l P.5 01-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 02-06-2016 02:31:43
พี่เรนน่ารักอ่ะ >__< อยากได้กลับบ้าน 5555
คุณฟางสู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [50%] l P.5 01-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 02-06-2016 02:48:02
สู้ๆนะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้!
รอครึ่งหลังน้าา
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [50%] l P.5 01-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: chanipanokyoong ที่ 02-06-2016 17:42:55
F o13 ตามทันแล้ววว อ่านแล้วยิ้มตามตลอดเลยยยยย เขิน
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [50%] l P.5 01-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 02-06-2016 21:11:25
เมื่อไหร่พี่เรนจะรูตัวววว
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [50%] l P.5 01-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 04-06-2016 21:33:30
 :z13:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [100%] l P.5 15-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 15-06-2016 22:37:53
(http://i.imgur.com/HPWGHJR.gif)
ใครต่อใครแทนความหมายของฝนว่าเป็นความเศร้า
แต่พี่เรนกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่าง

kamin

say-hi ในทวิตเตอร์ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 7.2 •




• • • ต่อค่ะ 100% • • •




น้องกาย



แค่ก! แค่กๆ! แค่ก



ผมได้แต่ยกมือปิดปากตัวเองตอนที่ส่งเสียงไอออกมาไม่หยุดตั้งแต่ออกจากห้องน้ำในห้องของพี่เรน รู้สึกเจ็บคอยังไงบอกไม่ถูกครับ



สงสัยจะไม่สบายเข้าให้แล้ว



แค่กๆ!!



“ไม่สบายเหรอ เพราะตากฝนแบบนั้นนะสิ” พี่เรนที่เดินมาจากทางครัวร้องถามผมก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ยกมือขึ้นแตะหน้าผากของผมเพื่อวัดไข้



ผมไม่ได้ตอบอะไรแค่ส่งยิ้มกลับไปให้เท่านั้น พูดไปก็เหมือนแก้ตัว เพราะผมก็ไปตากฝนมาตั้งเป็นชั่วโมง



“อือ…” คนตรงหน้าผมอังหน้าผากผมไปมา สลับกับวัดอุณหภูมิจากหน้าผากของตัวเขาเองด้วย



!!!!



ผมได้แต่ทำตาโตเมื่ออยู่ๆ พี่เรนก็เขย่งตัวขึ้น ยื่นหน้ามาใกล้หน้าของผมจนหน้าผากชนกัน ผมมองเห็นพี่เรนแบบใกล้มากๆ ดวงตากลมโตที่ดูจริงจังกับการวัดอุณหภูมิผมว่าผมตัวร้อนหรือเปล่า คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน จมูกโด่งๆ นั่น แล้วไหนจะริมฝีปากที่ดูอวบอิ่ม และแดงอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นปากของผู้ชายจริงๆ



ผมทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ครับ ตอนนี้ในสมองเหมือนมันว่างเปล่า ไม่มีความคิดอะไรอยู่เลยสักนิด



“มีไข้นิดๆ นะ หน้าร้อนๆ แถมยังแดงๆ ด้วย เดี๋ยวพี่เอายามาให้นะ มียาอยู่” พี่เรนพูดก่อนจะผละจากผมไปตู้วางทีวีแล้วหยิบเอากล่องยาออกมา



คือ…



ไม่ได้ร้อนแล้วก็หน้าแดงเพราะป่วย! แต่เขิน!!!



เขินมากๆ เลยครับ ใครสั่งใครสอนให้พี่เรนทำแบบนี้วะเนี่ย



ได้แต่ยกมือขึ้นลูบหน้าอกตัวเองแล้วผ่อนลมหายใจออกมา ปรับไอ้หัวใจที่เต้นตึกตักๆ เหมือนจะหลุดออกจากอกให้สงบลงบ้าง เพราะถ้าเกิดมันยังเต้นแรงขนาดนี้ผมได้แย่แน่ๆ เลย



“ว่าแต่กายกินอะไรหรือยัง” คนที่วิ่งไปหยิบยาวิ่งกลับมาหาผม



จะวิ่งทำไมห้องก็มีอยู่แค่นี้ แล้วคิดดูเถอะทั้งวิ่งไปวิ่งกลับสะดุดเบาะนั่งเล่นตั้งสองรอบ เฮ้อ… ซุ่มซ่ามอีกอย่างสินะ



ผมส่ายหน้า ยกมือเช็ดผมที่ยังชื้นๆ ของตัวเองไปด้วย “ยังไม่ได้กินครับ พี่เรนกินอะไรหรือยัง เดี๋ยวผมลงไปซื้อให้”



“ไม่ๆ กายไม่สบายอยู่รออยู่บนห้องนี่แหละ ใต้หอมีอาหารตามสั่งอยู่เดี๋ยวพี่ไปสั่งให้” พี่เรนบอกก่อนจะดันผมให้ไปนั่งที่เบาะหน้าทีวี “ไม่สบายแล้วดูแลแมวได้ไหม… พี่ฝากหมีหน่อยนะ”



ผมได้แต่ยิ้มขำก่อนจะพยักหน้ารับเป็นเชิงบอกว่าจะดูแลหมีให้ พอเห็นผมยืนยันแบบนั้นพี่เรนก็หันไปคว้าเอากุญแจห้องกับกระเป๋าสตางค์แล้ววิ่งออกจากห้องไป จนผมต้องรีบลุกตามไปทันที



“พี่เรนอย่าวิ่งนะ เดี๋ยวก็หกล้มไปหรอกครับ!” ผมร้องบอกคนที่กำลังวิ่งไปที่ลิฟต์ จนพี่เขาชะงักขาแล้วเปลี่ยนเป็นเดินไปที่ลิฟต์แทน



ตลกชะมัด คนอะไร!



ผมหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นแบบนั้นก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องอีกรอบ ทิ้งตัวลงนั่งบนเบาะหน้าทีวี ส่งเสียงเรียกเจ้าหมีให้เดินมาหา มันก็เชื่องดีนะครับ เดินมาหาผมด้วย



มันเอาจมูกมาดุนๆ ดมๆ ผมอยู่สักพักก็เดินเหยียบ… ขอย้ำว่าเหยียบขาผมขึ้นมาบนตักแล้วก็นอนอยู่แบบนั่น



สบายเชียวนะมึง ถ้าไม่เห็นว่าเป็นแมวพี่เรนนี่มีเตะโด่งโล่งจากตักกันบ้างละ



มันเขี้ยวว่ะ ผมเลยจัดการดึงหูมันเล่นแบบไม่ได้ดึงแรกมาก หมีมันหันมามองผมด้วยสายตาเหมือนจะบอกว่า



‘มึงเล่นอะไรของมึงไอ้มนุษย์ กูเพื่อนเล่นมึงไหม???’



แล้วมันก็หันกลับไปเลียขนมันต่อ เอาเลยจ้า เอาที่ตามสบายเลยนะหมีนะ ยังไงนี่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ขืนไปทำอะไรแมวสุดที่รักของพี่เรนเข้า คงได้โดนตัดออกจากสารระบบชีวิตของพี่เรนแน่นอนเลย



ผมอุ้มไอ้หมีลงไปที่พื้น “แปบนึง ขอไปกินน้ำก่อนได้ไหมละ ทำไมต้องมองหน้า” ผมว่าก่อนจะเดินไปถือวิสาสะเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำมาเทใส่แก้ว



เมื่อกี้แกล้งไอซะเจ็บคอเลย…



พอกินน้ำจนรู้สึกดีขึ้นก็เดินกลับมานั่งเล่นกับไอ้หมีต่อ มันเป็นแมวที่แปลกดีนะ หน้าตามันน่ารักมากนิสัยดูน่าจะขี้อ้อนแต่นี่ไม่เลย นิสัยกับหน้าตาไปคนละทางมาก สงสัยมันคงสู้ไม่ไหวเพราะเจ้านายขี้อ้อนกว่า



ผมหันไปมองเวลาเรื่อยๆ เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วทำไมพี่เรนยังไม่ขึ้นมาอีกนะ ไปซื้อข้าวใต้หอนานขนาดนี้เลยเหรอ หรือคนอาจจะเยอะเพราะฝนตก หรือว่าหลงทางในหอตัวเองกันแน่วะ



จะโทรถามก็ไม่มีเบอร์อีก…



นั่งมองเวลาอีกสักพักถ้าอีกสิบนาทียังไม่ขึ้นมาจะลงไปตามละนะ สิบนาทีจะนานไปไหม หรือห้านาทีพอ แต่ถ้าพี่เรนหลงทางจริงๆ ห้านาทีนี่ผมว่าน่าจะหลงไปไกลนะ อย่างนั้นอีกหนึ่งนาทีถ้ายังไม่ขึ้นมาจะลงไปดูละ



แกร๊ก



แค่ก!! แค่กๆๆ



พอได้ยินเสียงไขกุญแจห้องผมก็ไอออกมาทันที มันเป็นไปเองแบบอัตโนมัติอะครับ พอพี่เรนได้ยินผมไอพี่เขาก็รีบเข้ามาหาทันที ยื่นหลังมือมาแตะหน้าผากผมอีกรอบเพื่อวัดไข้



“ตัวไม่ร้อนนะ... แต่ไอไม่หยุดเลยเจ็บคอมากไหม ต้องไปหาหมอหรือเปล่าแต่ฝนตกลงมาอีกแล้ว ทำยังไงดี เดี๋ยวพี่โทรเรียกแท็กซี่นะ” พี่เรนพูดรัวไม่หยุดจนผมอยากจะหัวเราะ



ผมยื่นมือไปจับมือของพี่เรนที่ยังอังหน้าผากผมเอาไว้มากุม ก่อนจะยิ้มให้ “ไม่เป็นอะไรครับ ผมแค่ไอเฉยๆ เดี๋ยวกินข้าวกินยานอนพักก็ดีขึ้นครับ ไม่ต้องไปหาหมอหรอก”



“อย่างนั้นกินข้าวก่อนดีกว่า จะได้กินยาเดี๋ยวพี่ไปเทใส่จานให้นะ” พี่เรนพูดผมเลยปล่อยมือจากพี่เรน น่าเสียดายแหะ... มือนิ่มชะมัดเลย อยากจะจับเอาไว้ตลอด



ไม่นานข้าวผัดก็เทใส่จานมาเรียบร้อย ทั้งของผมแล้วก็ของพี่เรน เราสองคนนั่งกินข้าวกันไปคุยกันไปดูโทรทัศน์กันไป ไม่ต้องถามก็คงรู้กันใช่ไหมว่าผมจะฟินมากขนาดไหน คือแบบมันโคตรจะฟินเลยครับเหมือนคนรักกันจริงๆ



พอกินข้าวเสร็จพี่เรนก็ส่งยามาให้ผมกินต่อทันที ผมก็หยิบมากินครับกินมันไปอย่างนั้นแหละครับ ไม่ได้ป่วย ไม่ได้ไอ ไม่ได้เจ็บคออะไรหรอก แต่ถ้าไม่กินเดี๋ยวพี่เรนจะเป็นห่วง



“ฝนยังตกอยู่เลย...” ผมพูดมองออกไปนอกหน้าต่าง วันนี้นี่ชุ่มฉ่ำจริงๆ ครับ หยุดไปแปบเดียวก็ตกอีกแล้ว



“กายนอนพักก่อนก็ได้ เดี๋ยวรอฝนหยุดแล้วค่อยกลับ ไปตอนนี้ก็ตากฝนอีกเดี๋ยวจะยิ่งไม่สบายหนักนะ” คนที่นั่งเล่นอยู่กับหมีหันมาบอก



ผมทำตาโตด้วยความตกใจ “ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจวิ่งไปนิดเดียวก็ถึงหอผมแล้ว อ่า... แต่ปัญหามันอยู่ที่กุญแจห้องผมอยู่กับเพื่อนนี่สิ แต่เดี๋ยวโทรให้มันเอามาให้ก็ได้ครับ ไม่รู้ว่ามันจะกลับบ้านไปหรือยังนะ แต่มันก็คงขับรถเอามาให้อยู่ดีแหละครับ”



“ไม่ต้องเกรงใจหรอก กายอยู่นี่ก่อนแหละไม่เป็นไร ยังไงกายก็เป็นรุ่นน้องของตินาเพื่อนพี่อยู่แล้ว” คนน่ารักว่าพร้อมกับยิ้มกว้าง



“อย่างนั้น... ผมรบกวนหน่อยนะครับ ต้องรบกวนพี่เรนเลยขอโทษนะครับ”



“ไม่เป็นไร ไปนอนที่เตียงพี่ก็ได้ตรงนี้นอนลำบาก ตามสบายเลยนะ”



“ขอรบกวนหน่อยนะครับ” ผมพูดก่อนจะขยับไปนอนบนเตียงของพี่เรน



ฮ๊า~~~ เตียงนอนพี่เรนโตรจะหอมเลยครับ กลิ่นหอมอ่อนๆ แถมยังนุ่มนิ่มอีกต่างหาก ผมนอนหันหน้าไปทางพี่เรน เจ้าของห้องลุกเดินไปเดินมาหยิบกระดานวาดรูปหนึ่งรอบ ลุกเดินไปหยิบกระดาษอีกหนึ่งรอบ ก่อนจะกระเถิบๆ ตัวไปหยิบกระเป๋าดินสออีกหนึ่งรอบ คือทำไมไม่หยิบรอบเดียวให้มันจบนะ คนเอ๋อเอ๊ย!



ผมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมาดู เห็นข้อความจากไอ้ไม้มันส่งเข้ามา



          mai : ไอ้กายมึงลืมกุญแจ ไอ้สัส! ไอ้เอ๋อ ไอ้สลัด!
          mai : กูเอากุญแจไปฝากไว้กับยามหอมึงแล้วนะ แล้วนี่มึงไปมุดหัวอยู่ไหนวะ
          mai : ตายยังมึง อย่าเพิ่งรีบตายนะ กูยังไม่ได้บอกมึงเลยว่าอยากจะกินอะไรในคืนแรก




ผมทำเพียงแค่กดอ่านก่อนจะโยนโทรศัพท์ไว้ข้างๆ ทำไมต้องสนใจด้วยละครับ กุญแจเดี๋ยวไปเอาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่โอกาสที่จะได้อยู่ห้องพี่เรนไม่ได้มีบ่อยๆ ต้องเอาให้คุ้มหน่อย



“พี่เรนทำอะไรเหรอ” ผมส่งเสียงถามเมื่อเห็นพี่เรนนั่งติดเทปกาวกับกระดานวาดรูป



พี่เรนหันมาทำตาโตใส่ผม ที่จริงก็ไม่ได้ทำตาโตหรอกครับ แต่ตอนนี้พี่เขามัดผมข้างหน้าที่ปรกๆ หน้าขึ้นไปเป็นจุกน้ำพุเลยทำให้เห็นตาโตๆ ชัดเจน “กำลังจะทำงานน่ะ กายนอนหลับไปเลยก็ได้นะไม่ต้องเกรงใจ”



“ขอบคุณนะครับ อย่างนั้นผมขอนอนพักสักหน่อยนะครับ”



“อือ! นอนเลยๆ จะได้หายนะ” พี่เรนพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะยิ้มให้ผมแล้วหันกลับไปทำงานต่อ ผมก็เลยนอนดูพี่เรนไปเรื่อยๆ เพลินดีครับ



นอนดูจุกน้ำพุบนหัวขยับไปมาเพราะพี่เรนเอียงหัวไปซ้ายทีขวาที ดูจริงจังกับการทำงานมากๆ เลยครับ เป็นอีกมุมที่ผมไม่เคยเห็น พี่เรนตอนจริงจังกับการทำงานก็... มีเสน่ห์ไปอีกแบบนะ



ทำไมเป็นคนที่ทำอะไรก็น่ารักน่าเอ็นดูไปหมดเลยนะ







พี่เรน



อือ... ตรงนี้ไม่เอาแบบนี้ดีกว่า



ผมนึกในใจก่อนจะลบรอยดินสอที่ร่างแบบเอาไว้ออกก่อนจะวาดลงไปใหม่ จนได้แบบการจัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นที่พอใจผมก็เริ่มลงรายละเอียดของงานมากขึ้น อ่า… นอกจากต้องวาดแปลนแล้วยังต้องวาดภาพเปอร์ด้วยนี่นะ…



อ๋อ… ภาพเปอร์ก็คือ Perspective น่ะครับ เป็นภาพมุมมองของอาคารหรือห้อง ถ้าจะให้ผมบอกแบบเข้าใจง่ายๆ ก็แบบภาพโชว์ผลงานของบริษัทหลายๆ บริษัทน่ะครับ ภาพบ้านสวยๆ ห้องสวยๆ ในนิตยสารหรือตามงานที่มีมาออกบูธ ประมาณนั้นแหละ แต่แบบนั้นเขาใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำ แต่ผมใช้วาดมือครับ



เมี๊ยว~ เมี๊ยว~~



ผมเงยหน้าจากกระดาษขึ้นมองน้องหมี น้องหมีขึ้นมายืนบนโต๊ะญี่ปุ่น แถมยังมองหน้าผมอีก



“มีอะไร หิวเหรอ… แต่เพิ่งกินไปเองนะ” ผมเอียงหน้ามองน้องหมี



รู้จักน้องหมีกันไหมครับ น้องหมีเป็นแมวของผม ผมไปเจอน้องเมื่อปีที่แล้วตอนฝนตก น้องตัวสั่นมากๆ ผมเห็นแล้วก็สงสารอีกอย่างผมก็ชอบแมวด้วย ผมก็เลยพาน้องมาอยู่ด้วยกัน



เมี๊ยววว~~



น้องหมีร้องเสียงดังขึ้นก่อนจะกระโดดลงจากโต๊ะแล้วเดินไปที่เตียง กระโดดเกาะแล้วดันตัวเองขึ้นไป



ผมปรบมือทันทีน้องหมีเก่งมากเลย น้องหมีเป็นแมวพันธุ์เล็ก ตัวเลยเล็กนิดเดียวแต่น่ารักมาก ตัวสีขาว



“เก่งมากเลย” ผมยิ้มกว้าง



เมี๊ยววว~



น้องหมีเดินไปยืนบนตัว… อ๋า… ผมลืมน้องกายไปเลย น้องกายนอนหลับอยู่บนเตียงนี่นะ นอนขดเลยสงสัยจะหนาว



“อ๋อ… จะบอกว่าน้องกายนอนหนาวอยู่ใช่ไหม ขอบคุณมากนะ” ผมลุกเดินไปใกล้เตียง ยกมือลูบหัวน้องหมีก่อนจะหยิบผ้าห่มมาห่มให้น้องกาย



“เดี๋ยวจะยิ่งไม่สบายหนักเข้าไปใหญ่…” ผมพูดพึมพำกับตัวเองก่อนจะหันไปหาน้องหมี “ถ้าจะนอนกับพี่กายเขาก็อย่าซนนะ ให้พี่เขานอนพักผ่อนเยอะๆ รู้ไหม”



เมี๊ยววว~~~



น้องหมีร้องก่อนจะเดินไปเหยียบบนตัวน้องกาย ย่ำไปย่ำมาเหมือนกำลังหามุมสบายแล้วทิ้งตัวลงนอน



ฮึ่ม! ก็เพิ่งบอกอยู่ว่าอย่ากวนๆ ยังจะไปกวนเขาอีก น้องหมีนี่ดื้อจริงๆ เลย



“ได้ที่นอนแล้วก็นอนนิ่งๆ เข้าใจไหมน้องหมี” ผมสั่งน้องหมี แต่ดูสิหลับตาหนีผมเฉยเลย ผมจะโป้งแล้วนะ



ผมส่ายหน้านิดๆ เลิกสนใจน้องหมี… ก่อนจะกลับมานั่งทำงานต่อ ทำให้เสร็จจะได้มีเวลาว่างเยอะๆ แล้วก็จะได้พร้อมสำหรับงานอื่นๆ ด้วย



ผมนั่งทำงานต่อจนเสร็จเงย ขยับตัวเพื่อคลายความเมื่อยพอได้ทำงานทีไรเพลินทุกทีเลย บางทีผมก็ทำงานจนลืมแม้แต่จะหาอะไรกิน แต่ยังดีที่มีน้องหมีมาร้องเตือน ผมเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาก่อนจะทำตาโตด้วยความตกใจเพราะตอนนี้มันมืดแล้ว นี่ผมนั่งทำงานตั้งหลายชั่วโมงเลยเหรอเนี่ย...



หันไปมองน้องกายที่นอนอยู่บนเตียง ยังหลับอยู่เลยแต่ผมก็ไม่แปลกใจเลยก็เล่นไปตากฝนซะตัวเปียกขนาดนั้นจะไม่ให้ป่วยได้ยังไงกัน ผมลุกเดินไปข้างๆ เตียงก้มลงแนบหน้าผากกับหน้าผากของกายเพื่อวัดไข้ ตอนเด็กๆ แม่ผมชอบวัดไข้แบบนี้ผมเลยติดวัดไข้แบบนี้มาตลอดเลย กับพวกสาวๆ ผมก็วัดไข้แบบนี้ แต่ชอบโดนพวกนั้นว่า แล้วก็ห้ามทำแบบนี้กับใครที่ไหน



แต่ก็ไม่ได้ทำกับใครที่ไม่รู้จักนะ น้องกายนี่ผมก็รู้จัก คงไม่เป็นอะไรหรอกเนอะ



“ไม่ร้อนแล้วนี่นา สงสัยจะดีขึ้นแล้ว”



“อือ...” น้องกายส่งเสียงก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตาขึ้น ก่อนจะทำตาโตด้วยความตกใจ



อ๋า... ลืมไป เป็นใครก็คงต้องตกใจแหละเนอะ อยู่ๆ ลืมตามาก็เจอหน้าคนอื่นใกล้แบบนี้ ผมเลยผละออกแล้วส่งยิ้ม “ไข้ลดแล้วนะ ตัวไม่ร้อนแล้วนี่ ยังเจ็บคออยู่ไหม”



อ้าว... อยู่ๆ ก็หน้าแดงอีกแล้ว



ผมรีบยื่นมือไปแตะหน้าผากทันที “ทำไมหน้าแดงอีกแล้ว ไข้ขึ้นมาเหรอ หน้าร้อนๆ ด้วยนะ เช็ดตัวไหมเดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้”







น้องกาย



ช... ช่วยไอ้กายด้วยครับ... รู้สึกหัวใจจะวาย



เผลอนอนหลับไปในห้องพี่เรน รู้สึกตัวตื่นลืมตามาก็เจอหน้าเจ้าของห้องอยู่แบบใกล้โคตรๆ ใกล้จนแทบจะจูบกันจะไม่ตกใจได้ยังไงละครับ!!!



“ทำไมหน้าแดงอีกแล้ว ไข้ขึ้นมาเหรอ หน้าร้อนๆ ด้วยนะ เช็ดตัวไหมเดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้”



ไม่ได้ไข้ขึ้น!!! เขินครับ ไม่ได้ป่วยจะไข้ขึ้นได้ยังไง นี่เขินล้วนๆ ไม่มีอะไรปะปนเลยครับ โอ๊ยยย ทำไมพี่เรนชอบทำให้เขินวะ แล้วเขินอยู่คนเดียวด้วยไง คนทำก็ไม่ได้เขินรู้สึกเขินไปด้วยเลย โอ๊ยยยย ไอ้กายหัวใจจะวาย!!



“ไม่เป็นไรครับ นอนไปเยอะแล้วก็รู้สึกดีขึ้นแล้วครับ ไม่ได้เจ็บคออะไรแล้วด้วย” ผมรีบห้ามทันทีก่อนที่เจ้าของห้องจะนึกไปหยิบผ้ามาเช็ดตัวให้ผมจริงๆ



ผมเด้งตัวลุกขึ้นนั่งจนได้ยินเสียงดังตุบ! หันไปมองก็เห็นหมีล่วงจากตัวผมลงไปบนเตียง แล้วไอ้นี่มานอนบนตัวผมได้ยังไงวะ...



“ผมว่าผมกลับห้องก่อนดีกว่า ดึกมากแล้วด้วยรบกวนพี่เรนเสียนานเลย” ผมว่า ก่อนจะรีบลงจากเตียงเดินไปหยิบข้าวของของตัวเองมาถือเอาไว้



“อ้าว... แล้วกุญแจห้องล่ะ ที่จริงนอนที่นี่ก็ได้นะ” เจ้าของห้องก็ยังใจดีชวนให้นอนค้างอีก



นี่ถ้าผมเลวกว่านี้นิดนี่พ่อจับปล้ำแล้วนะ ชวนผู้ชายนอนห้องแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกันวะ



“ไม่เป็นไรครับ นี่ไง...” ผมรีบชูโทรศัพท์หน้าจอมืดๆ ขึ้น “เพื่อนมันส่งข้อความมาบอกว่าฝากกุญแจห้องไว้กับลุงยามที่หอแล้วครับ พี่เรนจะได้พักผ่อนด้วยผมมารบกวนซะนานเลย”



พี่เรนพยักหน้ารับหงึกหงักจนหัวน้ำพุขยับไปมา โอ๊ย น่ารักว่ะ อยากจะฟัด “โอเค ยังไงก็นอนพักต่ออีกหน่อยแล้วกินยาด้วยนะ จะได้หายสนิทๆ”



“ครับผม ไปก่อนนะครับ แล้วเจอกันครับ” ผมพูดแล้วก็รีบเดินออกจากห้องพี่เรนทันที



ไม่ไหวครับ หัวใจจะวายมันเต้นแรงมากจนผมรู้สึกได้อย่างชัดเจน หัวใจทำงานหนักจริงๆ ครับ ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งรัก รักแบบรักมากจริงๆ ตอนแรกเคยคิดว่ามันคงเป็นความรักที่มันไม่จริงจัง แต่ตอนนี้คือไม่ใช่แล้วครับ ผมโคตรจะจริงจังกับพี่เรนเลย



คือหวง คือห่วง คือรัก อยากเก็บพี่เรนเอาไว้กับตัวเองมาก ไม่อยากให้ใครได้ไปเลย



ต้องทำยังไงถึงจะได้พี่เรนนะ ต้องทำยังไงถึงจะเอาชนะใจคนอย่างพี่เรนได้ ถ้าเป็นคนอื่นผมคิดว่าคงจีบไม่ยากเท่าไหร่ แต่พี่เรนคือไม่เหมือนคนอื่นไง แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้ได้ละครับ รักขนาดนี้ปล่อยไปไหนไม่ได้แล้ว



อีกอย่าง...



ผมก็ไปไหนไม่รอดแล้วเหมือนกันครับ







กาย คามิน @Guy_Kamin
ฉันแพ้ทางคนอย่างเธอ มันเอาแต่เพ้อไม่กินไม่นอน
อยากบอกเธอสักครั้ง โปรดเถอะนะขอวอน
หยุดน่ารักได้ไหม ใจฉันกำลังละลาย
#คนน่ารัก #น้องกายหลงฝน







************************************************
มาแล้วค่ะ ขอโทษที่หายไปนานค่ะเนื่องจากคอมมีปัญหาก็เลยไม่สามารถมาอัพได้ แล้วก็... ขอแจ้งข่าวร้ายอีกเรื่อง เดือนหน้าฟางมีสอบค่ะ คงต้องแบ่งเวลานอกเหนือจากการทำงานไปอ่านหนังสือเตรียมสอบด้วยค่ะ เลยคงหายนานหน่อย แต่ถ้าสอบเสร็จก็คงจะมาได้อาทิตย์ละครั้งเหมือนเดิมค่ะ

กลับเข้าที่เนื้อเรื่อง คืออะไรคะ!!! น้องกายแกล้งป่วยจ้า เนียนเลยเจ้ากายเอ๊ย! เนียนป่วยให้พี่มาดูแล แล้วยังไงละทนอยู่ได้ไม่นานก็เจอความน่ารักของพี่เรนเล่นงานจนต้องวิ่งแจ้นกลับห้องเลยจ้า แพ้ทางพี่เขาจริงๆ โอ๊ย น้องกาย!! น่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน ทั้งน่าเอ็นดู แล้วก็ตลกด้วย ฮ่า

อ่านแล้วอย่าลืมคอมเมนต์ให้กำลังใจกันนะคะ ขอแค่นี้คงไม่มากเกินไปนะคะ

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

ปล. อ่านแล้วไม่เมนต์ เดี๋ยวฟางไม่อัพให้อ่านนะคะ ^^

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [100%] l P.5 15-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: harumi ที่ 15-06-2016 23:25:51
 :z13:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [100%] l P.5 15-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-06-2016 01:06:32
ยากหน่อยนะอีกาย จีบพี่เรนเนี่ยะ ไม่สิ. ยากมากๆๆๆๆๆ ต่างหาก. อิอิ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [100%] l P.5 15-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-06-2016 06:10:04
งื้อ. น่ารัก. พี่เรนจะแบ๊วอะไรเบอร์นี้ ของหายากแท้ๆ
 :pig4:   :3123: 
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [100%] l P.5 15-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 17-06-2016 20:54:15
 :mew3:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 7 • [100%] l P.5 15-06-59
เริ่มหัวข้อโดย: tooktik ที่ 17-06-2016 22:46:25
เรนน่ารักกกกก :mew1: :o8: :-[
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 8 • [50%] l P.5 28-08-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 29-08-2016 21:52:25
(https://66.media.tumblr.com/69f3a04028656bc20b58d39b85d56a8e/tumblr_nnjt3fXK4k1qd0wo4o1_500.gif)
ให้ตายเถอะพี่เรนโคตรจะน่ารักเลย
ตัวผมนี่แทบจะลอยได้อยู่แล้วนะ
kamin


say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ




โชคครั้งที่ • 8 •





พี่เรน
   



“เรนนนนนนนนนนน!!! ทางนี้ทางนี้”



ผมหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาที่มาของเสียงที่ตะโกนเรียกผมเสียงดังลั่นจนคนอื่นๆ หันมามองกันเต็มไปหมด ผมยิ้มกว้างเมื่อเห็นตินากับสาวๆ ยืนโบกมือให้ผมอยู่หน้าร้านกระเป๋าก่อนจะเดินเข้าไปหา



วันนี้สาวๆ แต่งตัวสวยกันทุกคนเลยครับ “วันนี้สวยกันจังเลยนะ ดูสิ... เราไม่เข้าพวกเลย” ผมพูดยิ้มๆ แซวสาวๆ ไปครับ



พูดเล่นไม่ได้คิดอะไรมากหรอกครับ เพราะเอาจริงๆ มันก็เหมือนที่ผมพูดนั่นแหละครับ สาวๆ ทุกคนหน้าตาดี แต่งตัวดีเหมือนกับลูกคุณหนู ส่วนผมหน้าตาธรรมดาบ้านๆ แต่งตัวก็เชยๆ แถมยังใส่แว่นอันใหญ่อีก



“ก็บอกให้เปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนตัวเองก็ไม่เชื่อกันบ้างนี่นา” ตินาพูดพร้อมกับบีบแก้มผมไปด้วย



“ใช่ เรนน่ะน่ารักจะตายไป บอกกี่ทีก็ไม่เชื่อกัน มัวแต่แต่งตัวแบบนี้ ใส่แว่นแบบนี้ ผมยาวปรกหน้าปรกตาแบบนี้” คราวนี้สาพูดบ้างครับ คนอื่นๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย



ผมได้แต่ยิ้มให้ไม่ได้พูดอะไรต่อ ผมไม่คิดว่าตัวเองจะหน้าตาดี หรือน่ารักอะไรนะครับ ส่องกระจกกี่ทีๆ ก็ไม่เห็นความหน้าตาดีจากหน้าของผมเลยสักนิด



“ปล่อยเราไปเถอะน่า ว่าแต่วันนี้ชวนเราออกมาเที่ยวจะมาซื้ออะไรเหรอ เดี๋ยวเราช่วยถือของให้” ผมบอกออกไป สาวๆ ในกลุ่มผมก็เหมือนผู้หญิงทุกคนที่ชอบแต่งตัว ชอบช็อปปิ้งนั่นแหละครับ ผมเองก็มากับทุกคนบ่อยๆ



แป้งยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วขยับไปมาพร้อมกับส่ายหน้า “ผิดแล้วจ้ะหนุ่มน้อยรามิล วันนี้พวกเราจะมาแปลงโฉมให้หนุ่มน้อยรามิลต่างหากละ”



ผมตาโตทันทีด้วยความตกใจ “แปลงโฉม?!! แปลงโฉมเราเหรอ ทำไมละ จะไปไหนเหรอ”



“ไม่ได้ไปไหนหรอก แต่พวกเราคิดว่าควรถึงเวลาแล้วละนะที่เรนจะต้องเปลี่ยนตัวเองบ้าง” ใบหม่อนพูด



“เปลี่ยนทำไม เราเป็นของเราแบบนี้ไม่ดีเหรอ” ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ จะให้ผมเปลี่ยนไปเป็นแบบไหนละ เป็นแบบผู้ชายกินเหล้ากินเบียร์ทุกวันเหรอ แบบนั้นผมก็ไม่ไหวนะ



เพียะ!



งืออออ เจ็บนะ



ผมยกมือจับหน้าผากตัวเองเมื่อโดนใบหม่อนดีดหน้าผาก “ดีดหน้าผากเราทำไมอะ”



“ก็ดีดให้ได้สตินะสิ คิดไปถึงไหนแล้วหะ ที่พวกเราบอกว่าจะให้เปลี่ยนน่ะหมายถึงภายนอก ไม่ใช่นิสัย” ใบหม่อนว่า



อ้าวเหรอ... ก็นึกว่าหมายถึงนิสัย



“แล้ว... ทำไมต้องให้เราเปลี่ยนด้วยละ” ผมถามอย่างสงสัย



คราวนี้สาวๆ ยิ้มกันใหญ่เลย แต่เป็นรอยยิ้มที่ดูแปลกๆ นะ ยังไงดี เหมือนมีแผนการอะไรอยู่ในใจสักอย่าง



“ก็... แค่อยากเห็นเด็กบางคนคลั่งละมั้ง” ตินาว่า ก่อนที่ทุกคนจะมองกันแล้วยิ้มออกมา



“เนอะ!” ทุกคนพูดออกมาพร้อมกันแล้วหัวเราะ ส่วนผมได้แต่ทำหน้างงอย่างไม่เข้าใจว่าที่ทุกคนพูดหมายถึงเรื่องอะไรกัน



แต่ก็ไม่มีใครไขความสงสัยให้ผมเลยสักนิด แล้วก็ไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติมด้วยเพราะตินากับสาจับแขนผมคนละข้างแล้วลากเดินทันที พอผมขืนตัวไม่ยอมเดิน ใบหม่อนกับแป้งก็ดันหลังผม แล้วพื้นในห้างก็ลื่นๆ ด้วย ผมเลยได้แต่เดินตามสาวๆ ไป



ร้านแรกที่ผมโดนลากเข้ามาคือร้านตัดผม สาวๆ จับผมกดลงกับเก้าอี้ตัดผมทันที หยิบแว่นตาออกจากใบหน้าผมจนผมเริ่มมองไม่ชัด



“พี่คะ จัดให้ทีนะคะ” แป้งหันไปพูดกับพี่พนักงาน ผมได้แต่มองตาม



ผมสายตาค่อนข้างสั้นมาก พอไม่มีแว่นก็มองไม่ค่อยชัดแล้วในจังหวะที่กำลังเบลอๆ งงๆ ผมก็โดนลากไปทางนู้นที ทางนี้ที ลากไปสระผม พากลับมานั่งที่เก้าอี้ ได้ยินเสียงกรรไกรตัดฉับๆ อยู่บนหัว เจอไอร้อนๆ จากไดร์เป่าผม



รู้สึกว่าผมของผมโดนตัดออกไปเยอะมากเลยครับ ปกติผมของผมจะยาวๆ ไม่เป็นทรงพอโดนตัดออกไปก็รู้สึกโล่งหัวไปหมด



“เสร็จแล้วครับ” พี่พนักงานบอก ผมได้แต่หรี่ตามองเห็นพี่เขายิ้มๆ มาให้ผม ผมก็เลยได้แต่ก้มหน้าขอบคุณ ยกมือจับหัวตัวเอง



“อย่าจับแบบนั้นสิครับ ผมยุ่งหมด” พี่พนักงานดุผมนิดๆ จับมือผมออกแล้วจัดทรงผมให้ผมใหม่ แต่ทำไม... จัดทรงผมนานจังนะ



หมับ!



ผมได้แต่เหวอเมื่อถูกดึงตัวออก แต่รู้ครับว่าคงจะเป็นพวกตินาที่ดึงผมออกมา



“นี่ค่าตัดผมค่ะ!” สาพูดกับพี่พนักงาน น้ำเสียงเหมือนไม่พอใจนิดๆ แล้วผมก็โดนใครสักคนนี่แหละลากออกมาจากร้าน



“ด เดี๋ยวสิ... เอาแว่นให้เราก่อน เรามองไม่ชัดนะ” ผมขืนตัวเองเอาไว้ ร้องบอกกับเพื่อน



“โทษที อะนี่” ใบหม่อนว่าพร้อมกับใส่แว่นคือให้กับผม



ผมยกมือขึ้นจับแว่นให้เข้าที่แล้วก็เลยไปจับผมตัวเอง “รู้สึกหัวโล่งๆ ยังไงไม่รู้สิ”



“แบบนี้แหละดีแล้ว ดูท่าจะได้ผลดีเกินคาด ต่อไปก็... ไปร้านแว่นตากัน” แป้งพูดแล้วก็จัดการพาผมไปที่ร้านแว่นตาทันที



“ไปทำไม แว่นเราก็ใส่อยู่นี่ไง”



ไม่มีใครตอบคำถามผมอีกแล้วครับ ผมเลยได้แต่เดินตามสาวๆ ไป วันนี้นึกอะไรกันนะถึงได้ลุกขึ้นมาจับผมแปลงโฉมแบบนี้...



อ่า... แต่เดี๋ยวสิผมเคยคุยกับน้องกายเอาไว้นี่นาว่าจะให้น้องเขาพาผมมาตัดผม สงสัยต้องบอกน้องเขาแล้วละว่าไม่ต้องแล้ว ผมมาตัดผมเรียบร้อยแล้ว



“สายตาสั้นค่ะ ทั้งสองข้าง 350 ไม่เอาแบบสีนะคะ สีตาสวยอยู่แล้วค่ะ” สาพูดกับพี่พนักงานที่อยู่ตรงส่วนที่ขายคอนแทคเลนส์



ผมเอียงคอมองอย่างงงๆ สาไม่ได้สายตาสั้นเสียหน่อย จะซื้อคอนแทคเลนส์แบบสายตาสั้นไปทำไมกันนะ “สามาซื้อคอนแทคเลนส์ให้ใครเหรอ” ผมหันไปถามแป้งกับใบหม่อน



“ก็ให้เรนไง ลองเปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์ดูบ้าง ส่วนแว่นสายตาฉันว่าเปลี่ยนใหม่ดีกว่านะ อันนี้ก็ต้องนานแล้ว ที่เลนส์มีรอยแล้วเนี่ย” สาหันมาถามตอบ ชี้นิ้วมาที่เลนส์แว่นที่ผมใส่อยู่



จริงอย่างที่สาพูด ผมเองก็เห็นมาหลายวันแล้วละครับว่าเลนส์ผมมีรอย แต่ยังไม่มีโอกาสมาตัดใหม่เสียที



“นี่ เอาแว่นอันนี้น่าจะเหมาะนะเรน” ตินาที่เดินแยกไปอีกทางตั้งแต่เข้ามาในร้านเดินกลับมา ชูแว่นในมือให้ผมดู



คล้ายๆ กับอันที่ผมใส่อยู่นะ แต่เพราะของผมมันนานแล้วเลยดูเก่าแล้วก็ไม่สวย แว่นอันที่ตินาถือมาเป็นแบบทรงกลม ถ้าคนหน้าตาดีใส่ก็คงจะดูดีมากแน่ๆ เลย ส่วนผมใส่คงเหมือนเด็กเนิร์ด อะไรแบบนั้น



นอกจากจะตัดผมใหม่แล้ว ผมยังได้คอนแทคเลนส์แล้วก็แว่นสายตาอันใหม่อีก ส่วนแว่นอันเก่า... ตินาส่งให้ที่ร้านไปครับ ไม่ยอมให้ผมเอากลับมาด้วย



ผมตั้งใจจะจ่ายเงินเองแต่สาวๆ กลับดันผมออกมานอกร้านแล้วจัดการเอง อือ... ไม่เป็นไร เอาไว้ผมซื้อของอย่างอื่นให้สาวๆ แทนก็ได้ เพราะถ้าให้เงินไปก็คงไม่รับอยู่ดี หันกลับไปมองในร้านพวกสาวๆ ก็เหมือนจะยังไม่เสร็จ เลยได้แต่ยืนรอ พอไม่ได้ใส่แว่นแล้วรู้สึกมันโล่งแปลกๆ ยังไม่ชินเท่าไหร่เลยแหะ



ผมหันซ้ายหันขวา ก้มมองสำรวจตัวเองว่ามีอะไรผิดปกติไปหรือเปล่า ทำไมถึงมีแต่คนมองผมกันนะ หรือว่าพอผมตัดผมทรงนี้ แล้วไม่ใส่แว่นมันทำให้น่าเกลียดมากกันนะถึงได้มองกันไม่หยุดเลย เลยได้แต่ก้มหน้าเอาครับ ไม่กล้าเงยหน้ามองใคร



“พี่เรน!!”



ผมสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงเรียก เงยหน้าขึ้นมอง “น้องกาย...”



คนตรงหน้าผมชะงักไปทันทีที่ผมเงยหน้าขึ้น ทำไมนิ่งไปละ อ่า... ลืมไปผมว่าตอนนี้ผมต้องน่าเกลียดมากแน่ๆ เลยจนทำให้น้องเขาชะงักไปแบบนี้



“พ พี่เรน... ตัดผมมาใหม่เหรอ”



“อือ... น่าเกลียดมากเลยใช่ไหม พวกตินาพาพี่มาตัดแถมยังเปลี่ยนให้ใส่คอนแทคเลนส์อีก พี่ไม่ชินเลย พี่ว่ามันต้องน่าเกลียดมากแน่ๆ เลยอะ”



น้องกายส่ายหน้าไปมาทันทีที่ผมพูดแบบนั้น “ม ไม่เลยครับพี่เรน พี่เรนไม่ได้น่าเกลียดเลยสักนิด ผมเคยบอกแล้วไงว่าพี่เรนน่ารักจะตายไป พอตัดผมแบบนี้ เปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์แบบนี้ น่ารักมากๆ เลยครับ”



ผมได้แต่ยกมือเกาแก้มแก้เขิน พอโดนชมแบบนี้ก็เขินๆ นะครับ แถมน้องเขายังทำหน้าตาจริงจังแบบกลัวผมไม่เชื่ออีก



งือ...



เขินอะ



เลยได้แต่ยกมือจับแก้มตัวเอง ไม่เคยรู้สึกเขินแบบนี้มาก่อนเลยครับ รู้สึกแปลกๆ จังเลย



“ข ขอบคุณนะ”







[color=#2a7286************************************************
หายไปนานเลย ขอโทษนะคะ พอดีไปเร่งจัดการกับเรื่อง My Mom ; รักของมัม น้องกันต์จัดให้ กับเรื่อง อุ้มรัก ค่ะ เรื่องนี้เลยเว้นช่วงไปนานต้องขอโทษด้วยนะคะ ปล่อยให้เรื่องนี้กลายเป็นลูกเมียน้อยไปเลย ต่อไปนี้จะพยายามมาอัพให้บ่อยขึ้นเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวยในการแต่งนิยายนะคะ ถ้าได้อ่านเรื่องอื่นของฟางด้วย หรือติดตามเพจเฟสบุ๊คก็คงรู้กันว่าฟางยุ่งมาก แล้วก็เวลาแต่งนิยายมีน้อย หวังว่าจะเข้าใจแล้วก็รอกันนะคะ อย่าเพิ่งหนีหายไปไหนนะ

มาที่เนื้อเรื่องค่ะ พี่ตินาคือฟางพี่เรนไปแปลงโฉม คือรู้เลยว่ามีแผนในใจ ฮ่าาาาา พาพี่เรนมาแปลงโฉมจนน่ารักขึ้นแบบนี้ หนุ่มๆ ก็มองเยอะขึ้นนะสิ คู่แข่งเจ้ากายคงเพิ่มขึ้นเป็นดอกเห็ด นี่คือเหตุผลที่แท้จริงของพี่ตินาใช่ไหมมมมมม นี่ตกลงสนับสนุนน้องกาย หรือผลักน้องกายออกห่างกันแน่ฟางก็เริ่มไม่แน่ใจค่ะ แต่พี่เรนของเราก็ยังคงไม่รู้เรื่องต่อไป แต่เริ่มมีพัฒนาการนะ เขินหน้าแดงเลยตอนน้องกายชมว่าน่ารัก สู้ๆ ต่อไปน้องกาย!

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

ปล. อ่านแล้วไม่เมนต์ เดี๋ยวฟางไม่อัพให้อ่านนะคะ ^^

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ เป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
[/color]
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 8 • [50%] l P.5 28-08-59
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 29-08-2016 22:08:09
งือออ  พี่เรนเปลี่ยนลุคแล้ว
กายต้องปวดหัวน่าดู   :o8:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 8 • [50%] l P.5 28-08-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-08-2016 22:08:36
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 8 • [50%] l P.5 28-08-59
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 29-08-2016 22:50:29
 :o8: น่ารักแบบนี้ยิ่งหลงรักพี่เรนไปใหญ่
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 8 • [50%] l P.5 28-08-59
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 29-08-2016 23:08:42
พี่เรนน่ารักมาก เขินด้วยอ่ะ
งือออออออ โอ๊ยยยยย
หลงพี่เรนเลย จะแย่งจากเจ้ากายแล้วนะ  :m14:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 8 • [100%] l P.5 21-09-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 21-09-2016 22:35:47
(https://66.media.tumblr.com/69f3a04028656bc20b58d39b85d56a8e/tumblr_nnjt3fXK4k1qd0wo4o1_500.gif)
ให้ตายเถอะพี่เรนโคตรจะน่ารักเลย
ตัวผมนี่แทบจะลอยได้อยู่แล้วนะ
kamin


say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 8.2 •




• • • ต่อค่ะ 100% • • •




น้องกาย

   

พระเจ้า... ได้โปรดช่วยให้ลูกช้างมีชีวิตรอดปลอดภัยจากความน่ารักของพี่เรนด้วยเถอะ



คนบ้าอะไรวะ! ทำไมน่ารักแบบนี้ อ๊ากกก ยิ่งตอนยกมือจับแก้มตัวเองแล้วหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งน่ารัก น่ารัก



ไม่รู้ว่ายืนเพ้ออยู่นานไหม แต่ให้ตายเถอะพี่เรนโคตรจะน่ารักเลย ตัวผมนี่แทบจะลอยได้อยู่แล้วนะ ปกติก็น่ารักอยู่แล้วยิ่งมาเปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์แล้วก็ยิ่งน่ารัก คนบ้าอะไรวะน่ารักชิบหายเลย



พอพี่เรนเขินหน้าแดง ผมก็ชะงักไปจนกลายเป็นว่าไม่รู้จะพูดอะไรต่อดีนอกจากยืนมองคนน่ารักเขิน มองคนเขินนานๆ ละชักจะเขินตามแล้วนะเนี่ย



“เรน” ผมมองเลยไปด้านหลังก็เห็นพวกพี่ตินาเดินออกมาจากร้าน ผมเลยทักทายพวกพี่ๆ เขาไป พวกพี่ๆ ดูจะแปลกใจไม่น้อยที่เห็นผมแต่ก็ทักทายกลับมา แล้วไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่าแต่เหมือนเห็นสายตาและรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้วางใจจากพวกพี่ๆ เขา



แล้วเหมือนสิ่งที่ผมคิดจะไม่ผิด... เมื่อพี่ใบหม่อนเดินมากอดคอพี่เรน ใช้มือบีบแก้มขาวๆ ที่ยังมีสีระเรื่ออยู่นั้นเล่น “เรนพอเปลี่ยนทรงผม ใส่คอนแทคแล้วน่ารักจริงๆ เลยนะ ดูสิ... มีคนมองกันเต็มไปหมดเลย”



พอได้ยินพี่ใบหม่อนชม พี่เรนก็หน้าแดงขึ้น แล้วพอพวกพี่ๆ เขาเห็นว่าพี่เรนกำลังเขินก็ยิ่งแกล้งแซวให้เขินหนักกว่าเดิม จนตอนนี้หน้าพี่เรนแดงก่ำไปหมด แดงจนลามไปที่ใบหูแล้วก็ลำคอแล้วครับ สองมือก็ยกขึ้นจับแก้มตัวเองเอาไว้



แล้วคือ... พี่เรนหน้าแดงแบบนี้ก็ยิ่งน่ารักไง พอน่ารักก็ยิ่งน่ามอง แล้วไม่ใช่แค่ผมที่อยากจะมอง ไอ้ผู้ชายรอบๆ ก็มอง คือหึงไงครับ หึง!



ไม่อยากให้คนมอง หึง หวง ห่วง เข้าใจไหมครับ!



แต่ทำไรไม่ได้ไง




เศร้าไปอีกไอ้กายเอ๊ย



“งือ... อย่าแกล้งเราดิ” พี่เรนส่งเสียงงุ้งงิ้งที่โดนเพื่อนๆ แซว น่ารักไปอีกคนอะไร



“น่ารักจริงๆ เลยนะเรนเนี่ย เดี๋ยววันจันทร์ไปมหา’ลัย ทุกคนต้องตะลึงแน่ๆ ดีไม่ดีหนุ่มน้อยของเราคงมีคนต่อแถวรอจีบเพียบแน่นอน” พี่ตินาพูดยิ้มๆ แล้วอะไรคือการเหล่มองผมครับ



เดี๋ยวครับเดี๋ยว... ที่พาพี่เรนมาแปลงโฉมเนี่ย ต้องการที่จะทำให้ผมลำบากขึ้นใช่ไหมครับ ไหนว่าสนับสนุนผมไง แล้วอะไรคือการทำให้ผมมีคู่แข่งเนี่ยยยยยย



“ใครจะมาจีบเราละ” พี่เรนพูดไปก็ทำปากยู่ น่ารัก อยากจะเข้าไปจับปากยื่นๆ นั่นแล้วจุ๊บๆๆๆ



“ไม่รู้สิ... อาจจะมีแต่เรนไม่รู้ตัวก็ได้นี่นะ เอาละ... วันนี้พวกฉันเสร็จภารกิจแล้ว อย่างนั้นพวกฉันกลับก่อนนะ” พี่สาพูด หันมาหาผม “อ๋อ... พอดีเลยกาย ยังไงฝากไปส่งเรนที่หอหน่อยนะ ปล่อยให้กลับคนเดียวกลัวจะหลง นี่ยังแปลกใจว่ามาถึงห้างได้ยังไงโดยไม่หลงทาง”



พี่เรนทำหน้าบึ้งเลยครับพอได้ยินพี่สาพูดแบบนั้น “เราก็ไม่ได้หลงทางบ่อยขนาดนั้นสักหน่อย แค่นั่งรถไฟฟ้าจากหน้ามหา’ลัยมาสยามแค่นี้เอง”



“จ้าๆ พ่อคนเก่ง แต่ก็กลับกับกายเขานั่นแหละตอนเย็นคนเยอะเดี๋ยวหลงไปละยุ่ง” พี่สาหันไปดึงแก้มพี่เรน เห็นแล้วอยากจะดึงบ้างครับ



“รบกวนน้องเขา น้องเขามาทำธุระอะไรยังไม่รู้เลย” พี่เรนว่าพร้อมกับขมวดคิ้ว



จริงๆ แล้วผมนัดกับพวกไอ้แชมป์มาดูหนังกันครับแล้วก็ตั้งใจว่าจะไปนั่งชิลกันต่อคืนนี้ แต่ไม่เป็นไรพี่เรนสำคัญกว่าอยู่แล้วดีไม่ดีเย็นนี้อาจจะได้กินข้าวกับพี่เรน มีความสุขกว่าไปนั่งกินข้าวกับไอ้พวกนั้นอีก



“ไม่ได้รบกวนอะไรครับ ผมมาทำธุระเสร็จนานแล้วนี่ก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวผมไปส่งพี่เรนเอง” ไม่ได้มานานแล้วหรอก เพิ่งจะเดินเข้ามาในห้างไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยครับ



“โอเค ตามนั้นนะเรน เจอกันวันจันทร์นะหนุ่มน้อย” พี่แป้งว่า พี่ๆ เขาบีบแก้มพี่เรนอีกคนละทีก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินเลี่ยงไป ตอนนี้เลยเหลือผมกับพี่เรนสองคน



“พี่เรนกินอะไรหรือยังครับ เราไปหาซื้ออะไรกลับไปกินที่หอกันดีไหม” ผมชวน ไม่ชวนกินที่ห้างหรอกครับเพราะรู้ว่าพี่เรนคงไม่ตอบตกลงเพราะคงอยากกลับไปดูแมวที่ห้อง ชวนซื้อของกลับไปกินที่หอน่าจะได้ผลกว่า



พอผมชวนแบบนั้นพี่เรนก็นิ่งคิดไปนิดก่อนจะพยักหน้ารับ “ก็ดีนะ พี่จะได้กลับไปดูหมีด้วย”



ผมยิ้มกว้างทันทีที่ได้ยินคำตอบ ก่อนจะชวนพี่เรนไปซื้อของกินกันครับ ซื้อมาหลายอย่างเลย ไม่เน้นอาหารจานหลักแต่เน้นของกินเล่นหลายๆ อย่าง มีทั้งหมึกทอด ไก่ทอด ทาโกะยากิ ลูกชิ้น



พอได้ของกินเป็นที่พอใจก็พากันกลับครับ เลือกที่จะนั่งรถแท็กซี่กลับกันเพราะของกินหลายอย่างเกรงใจคนบนบีทีเอสครับ เดี๋ยวจะหิวกันหมด ผมส่งข้อความไปบอกเพื่อนๆ ว่าผมไม่ไปดูหนังกับพวกมันแล้วเพราะเจอพี่เรน กำลังจะกลับหอ โดนพวกมันถล่มข้อความมาด่าเพียบครับ แต่วินาทีนี้ไม่สนอะไรทั้งนั้นละครับ มีโอกาสได้อยู่กับพี่เรนสองต่อสองทั้งที



แต่จะว่าไป… ก็อดแปลกใจกับพวกพี่ตินาไม่ได้ว่าทำไมอยู่ๆ ถึงปล่อยให้พี่เรนกลับมากับผมได้



ตลอดทางจากห้างกลับไปหอ จนกระทั่งเข้ามาในห้องของพี่เรนแล้วเรียบร้อย เทอาหารทุกอย่างใส่จานแล้วผมก็ยังละสายตาไปจากพี่เรนไม่ได้เลยครับ



ผมรู้นานแล้วว่าพี่เรนเป็นคนน่ารักมากเพราะส่องพี่เขาอยู่ทุกวัน ขนาดผมยาวปิดหน้าปิดตาผมก็ยังเห็นว่าน่ารัก ตอนนี้ไม่มีผมมาปิดหน้า ไม่มีแว่นมาบังก็ยิ่งทำให้พี่เรนน่ารักเข้าไปใหญ่



หน้าขาวๆ เรียวๆ แต่แก้มป่องๆ ตากลมโตอย่างกับตากวาง ไหนจะจมูกโด่ง ยังไม่รวมปากสีชมพูแบบไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายจะมีปากสีนี้ได้ คือ… โคตรของโคตรน่ารักเลยครับ



“ม มองหน้าพี่ทำไมนัก” พี่เรยถาม แก้มขาวๆ เริ่มจะขึ้นสีนิดๆ เพราะผมไม่ละสายตาไปไหนเลย



“พี่เรนน่ารัก น่ารักชะมัดเลย” ผมพูดอย่างเพ้อ ธรรมดาจะเคยเห็นเวลาไม่ใส่แว่น มัดผมจุกน้ำพุโชว์หน้าเต็มๆ ก็แค่ไกลๆ วันนี้คือได้เห็นอย่างใกล้ชิดมันก็เลยอดใจไม่ไหวครับ มองไม่เลิก



คนโดนชมหน้าแดงวาบขึ้นมาทันทีก่อนจะก้มหน้าก้มตาหลบสายตาผมแล้วจิ้มปลาหมึกทอดเข้าปากเคี้ยวหมุบหมับไม่หยุด



เฮ้อ… คนอะไรน่ารักชะมัดเลย



ผมนั่งค้าวทางมองพี่เรนจิ้มของกินเข้าปากแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดี วันนี้นี่มีความสุขจริงๆ เลยนะ



“กินยังไงของพี่ เลอะแล้วเนี่ย” ผมว่า ยื่นมือไปเช็ดมุมปากที่เปื้อนซอส



“ง่า… อ่า… ข ขอบคุณนะ” หน้าแดงอีกแล้ว น่ารักว่ะ “ก กายกินสิ ซื้อมาตั้งเยอะ ช่วยกันกินเลยนะ”



ผมหัวเราะนิดก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วก้มหน้าก้มตาช่วยพี่เรนจัดการของกินตรงหน้า “ครับๆ จะช่วยกินเดี๋ยวนี้แหละ”



ไม่ใช่อะไร… แต่หน้าตาจริงจังเหมือนจะบังคับนิดๆ ของพี่เรนตอนบอกว่าให้ช่วยกันกินมันน่ารักมากจนใจสั่น ทนมองไม่ไหวครับเลยต้องรีบก้มหลบ



ผมเถลไถลอยู่ห้องพี่เรนอีกพักใหญ่ๆ จนฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีผมถึงได้ขอตัวกลับก่อนทั้งๆ ที่ในใจก็ไม่ได้อยากจะกลับสักเท่าไหร่ ซึ่งหลังจากที่กินข้าวกันเสร็จผมก็แกล้งพูดเรื่องที่จะให้พี่เรนมาเป็นนายแบบให้ผมอีกรอบ ถึงแม้พี่เรนจะยังปฏิเสธอยู่แต่ก็ดูไม่ได้จริงจังมากนัก คงเพราะด้วยนิสัยขี้เกรงใจของพี่เขา ไม่กล้าเอ่ยปฏิเสธตรงๆ ก็เลยได้แต่ส่ายหน้าไปมาจนผมสะบัดไปมา เห็นแล้วน่าจับมาฟัดชะมัด



เหมือนจะนอกเรื่อง...



“ยังไงพี่เรนลองเอาเรื่องที่ผมบอกไปคิดๆ ดูก่อนก็ได้ แต่ผมยืนยันนะครับว่าพี่เรนเหมาะจะเป็นนายแบบให้ผมจริงๆ”



“อ่า... พี่จะลองไปคิดดูแล้วกันนะ” พี่เรนที่อุ้มแมวอยู่พูดกับผม



“โอเคครับ เอาไว้เจอกันใหม่ครับ ไปแล้วนะหมี” ผมพูดกับพี่เรน ก่อนจะยื่นมือไปเล่นเจ้าหมี แมวของพี่เรนอีกทีแล้วจึงผละออก ยกมือโบกให้พี่เรน “ฝันดีนะครับพี่เรน”



“อือ! ฝันดีนะ” พี่เรนยิ้มน่ารักมาให้ จับขาหน้าเจ้าหมีขึ้นโบกให้ผมอีกต่างหาก



ผมได้แต่ยิ้มแล้วก็พยักหน้ารับก่อนจะเดินออกจากห้องพี่เรน และเมื่อปิดประตูห้องพี่เขาแล้วผมก็ได้แต่ยืนพิงผนังอยู่ตรงนั้น หันไปมองประตูห้องที่ปิดสนิทแต่ก็ยังพอได้ยินเสียงคนในห้องดังลอดออกมา



เพียงแค่นี้ข้างในอกมันก็พองจนคับแน่นไปหมดแล้ว







วันที่ผมและเพื่อนร่วมคณะแทบทุกคนไม่อยากให้มาถึง... แต่ในที่สุดมันก็มาถึงจนได้ครับ วันพรีเซนต์งานครั้งที่หนึ่งครับ ตื่นเต้นไหมก็ตื่นเต้นอยู่นะ แต่ผมก็เตรียมตัวมาพร้อมแล้วเหมือนกัน



ผมกับเพื่อนในกลุ่มถือฟิวเจอร์บอร์ดคนละหลายแผ่นเดินเข้าไปในห้องเรียนที่จะใช้ในการพรีเซนต์วันนี้ ฟิวเจอร์บอร์ดที่เราถือๆ กันมาคือสิ่งที่จะเอาไว้พรีเซนต์ครับ ทุกคนจะล้างรูปของตัวเองมาแล้วก็แปะใส่ฟิวเจอร์บอร์ด ซึ่งพวกนี้เอาไว้ให้อาจารย์ดูครับ ส่วนเวลาพรีเซนต์จริงๆ ก็ฉายสไลด์เอาในคอม แต่เพื่อป้องกันสีเพี้ยนอาจารย์ก็เลยให้ล้างรูปออกมาด้วยเลย



“ตกลงมึงได้รูปพี่เรนมาแล้วเหรอวะ” ไอ้เกลียวหันมาถามผม ตอนนี้พวกเรากำลังรอเวลาอยู่ครับ รออาจารย์มานั่นแหละ



ทุกคนพรีเซนต์ห้องเดียวกันหมด แถมอาจารย์ที่มาฟังดูจากจำนวนแฟ้มคะแนนที่วางอยู่ที่แถวหน้าของโต๊ะแล้ว... หกคนได้



“ก็ได้มาบ้างแต่กูไปแอบถ่ายมา พี่เรนยังไม่ยอมตกลงเป็นนายแบบให้กูเลย กูเลยมีแต่ภาพแอบถ่ายว่ะ” ผมพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก อย่างที่เคยบอกถึงแม้จะเรียกว่าพรีเซนต์งานแต่คะแนนก็ไม่ได้เยอะมากเพราะสุดท้ายวัดกันที่วันจัดนิทรรศการมากกว่า คะแนนคราวนี้อาจารย์เขาจะดูแค่ว่าแต่ละคนทำงานคืบหน้าบ้างไหม ใส่ใจกับงานแค่ไหน ยังไม่เน้นความสวยงามของรูปหรอกครับ เพราะจะถ่ายรูปออกมาให้สวย โดนใจเลยมันต้องรอทั้งจังหวะ โอกาส แล้วก็ดวงด้วย



“เออๆ อย่างมึงเอาตัวรอดได้สบายๆ อยู่แล้ว แถเก่งจนสีข้างถลอกเป็นแผ่นๆ อยู่แล้วนี่นะ กูไม่ห่วงมึงละ” ไอ้เป้ครับ ไอ้เป้ มันหันมากระแหนะกระแหนผมก่อนจะหันไปหาไอ้ไม้ที่นั่งเคี้ยวมาม่าแห้งตุ้ยๆ เห็นแล้วน่าตบกะโหลก “ว่าแต่มึงถึงไอ้ไม้ ความอยู่รอดของมึงนี่ตกลงยังไงวะ”



ไอ้ไม้หันมายักคิ้วจึกสองจึกให้ แต่ก็ไม่ขยายความอะไรมากกว่านั้นจนไอ้เป้หันไปตบหัวมันเพราะหมั่นไส้



“ตกลงว่ายังไงมึง ยังเอามาม่าอยู่ไหมเนี่ย” ผมหันไปถามมันบ้าง เพราะไอ้ไม้เป็นคนเดียวที่มันไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรเลย นอกจากมันบอกว่าสบายมากๆ แล้วก็เห็นมันถ่ายรูปควันที่ลอยอยู่บนถ้วยใส่มาม่าแค่นั้นแหละครับ



“เออน่า สบายมากไม่ต้องห่วงหรอก ไม่เชื่อเดี๋ยวพวกมึงคอยดูตอนกูพรีเซนต์ละกัน”



พอได้ยินมันพูดแบบนั้นพวกผมก็ขี้เกียจจะสนใจมันต่อครับ อีกอย่างอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องพอดีด้วย เราก็เลยหยุดพูดกันชั่วคราวแล้วเปลี่ยนมานั่งฟังเพื่อนๆ พรีเซนต์กันแทน



พวกผมเป็นพวกท้ายๆ ครับ เวลาพรีเซนต์ก็จะขึ้นแทบจะกลุ่มสุดท้ายเลย ระหว่างรอก็ฟังไปบ้าง เล่นเกมบ้าง หลับบ้าง คอมเมนต์ของอาจารย์คนไหนน่าสนใจ แล้วตรงกับงานของตัวเองก็หัวตั้งหูกระดิกฟังกันครับ เสร็จก็กลับไปสู่โลกส่วนตัวของตัวเองกันต่อ



มีหลายคนที่คอนเซ็ปคล้ายๆ กันไปจนถึงคอนเซ็ปเดียวกันเลยก็มี แต่ถึงอย่างนั้นภาพของแต่ละคนที่ถ่ายมาก็แตกต่างกัน เพราะเป็นผลงาน เป็นความคิดของแต่ละคน ผมชอบของเพื่อนคนหนึ่งนะ คอนเซ็ปของเขาคือแสงและเงา



ภาพที่ถ่ายออกมาแม้จะยังไม่สมบูรณ์แต่ก็สวยมาก มีเพียงแค่สีขาว เทา แล้วก็ดำ ภาพเป็นเพียงแค่เงาแต่ก็สื่ออารมณ์ได้ดีในแต่ละภาพ อย่างภาพที่ต้องการสื่อถึงความพลิ้วไหวก็ถ่ายออกมาได้ดีเลยครับทั้งๆ ที่ใช้โทนสีแค่สามสี เป็นภาพของเงาผ้าม่านที่ตกกระทบกับพื้นห้อง ทั้งๆ ที่ใช้สีเพียงแค่สามสีแต่ก็สามารถรับรู้ได้เลยว่าผ้าม่านที่ติดหน้าต่างนั้นเป็นผ้าบางเบา และมันกำลังพลิ้วไหวอยู่เพราะต้องลมที่พัดผ่านช่องหน้าต่างมาพอดี จนเห็นเป็นภาพผ้าม่านกำลังโบกสะบัดอยู่



ให้ความรู้สึกพลิ้วไหวปนๆ ไปกับความลึกลับและน่าค้นหา



เพื่อนๆ ในชั้นยังคงทยอยพรีเซนต์กันไปเรื่อยๆ ได้รับคำชม คำแนะนำไปก็เยอะ แต่เพราะในชั้นผมคนค่อนข้างเยอะแล้วแต่ละคนใช้เวลาพรีเซนต์นานเลยต้องพักกินข้าวกันก่อน แล้วเริ่มพรีเซนต์อีกทีตอนบ่ายโมง กว่าพวกผมจะได้พรีเซนต์ก็คงเย็นพอดี



ไอ้ไม้เป็นคนแรกของกลุ่มผมครับ มันส่งฟิวเจอร์บอร์ดที่ติดรูปให้อาจารย์สองชุด



“คอนเซ็ปของผมคือความอยู่รอดครับ ตอนแรกผมตั้งใจจะใช้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นตัวสื่อในความอยู่รอดของผม” ไอ้ไม้เริ่มพูดพร้อมกับเปิดรูปที่มันถ่ายเอาไว้ด้วย คือไอ้นี่มันเก่งนะครับ ถ่ายรูปโคตรเก่งอะ



แค่ถ่ายรูปบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่มันถ่ายออกมาได้โคตรน่ากิน น่าอร่อย ยิ่งตอนที่มันโฟกัสควันที่ลอยขึ้นมา สีเข้มๆ ของน้ำซุปที่ตัดกับสีของเส้น



มันก็บรรยายของมันไป ก่อนที่ภาพมาม่าของมันจะเปลี่ยนเป็นภาพของหมาที่ตัวหนึ่งกำลังวิ่งไล่ อีกตัวหนึ่งกำลังวิ่งหนี



“ตอนที่ผมกำลังเดินกลับหอ ผมก็เห็นหมาสองตัวนี้วิ่งไล่กันจนผมนึกขึ้นมาว่าทำไมต้องวิ่งหนี อ่อ… เพราะถ้าไม่หนีมันก็อาจจะโดนกัด มันคือสัญชาติญาณการเอาตัวรอด ผมก็เลยเปลี่ยนความหมายของคอนเซ็ปของผมใหม่ครับ แต่คอนเซ็ปหลักๆ ก็ยังคงเป็นความอยู่รอดเหมือนเดิม”



ไอ้ไม้พรีเซนต์เสร็จแล้วครับ พอมันเดินกลับมาถึงก็จัดการโบกหัวมันไปคนละทีเพราะหมั่นไส้กับท่าทางของมันครับ



พอจบไอ้ไม้ คนอื่นในกลุ่มก็เดินลงไปพรีเซนต์ต่อ ส่วนผมคนสุดท้ายต่อจากไอ้เกลียวครับ



พอใกล้ถึงคิวจริงๆ ก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นนะครับทั้งๆ ที่ก็พรีเซนต์มาหลายรอบแล้ว



“มึงๆ มึงว่ากูเอารูปพี่เรนออกดีไหมวะ กูชักหวงพี่เรนแล้วว่ะไม่อยากให้คนอื่นเห็นรูป” ผมหันไปถามไอ้พวกนั้น



แล้วทำไมต้องมองผมแบบนั้นด้วยวะ ก็ผมพูดเรื่องจริงอะ ผมหวงพี่เรนนะโว้ยยย



“ทำไมวะ พี่เรนของกูออกจะน่ารัก เออ! พวกมึงยังไม่เห็นละสิพี่เรนกูเปลี่ยนลุคแล้วนะโว้ยโคตรจะน่ารักเลย”



“เห็นแล้ว” พวกมันพูดออกมาพร้อมกันจนผมนี่ได้แต่อ้าปากค้าง มันไปเห็นตอนไหนวะ



“พวกมึงเห็นได้ไงวะ!”



“กูเห็นรูปพี่เรนในเฟส” ไอ้เป้พูดก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดๆ อยู่แล้วก็ส่งมาให้ผมพร้อมทำหน้าเบื่อหน่าย “กูโคตรจะหมั่นไส้พวกผู้หญิงในนี้เลยว่ะ พอเห็นพี่เรนหน้าตาดีหน่อยก็กรี๊ดกร๊าดๆ คราวก่อนยังว่าพี่เรนอยู่เลยเรื่องรูปมึงกับพี่เรนน่ะ”



ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยเพราะยังไม่ได้เข้าไปส่องเฟสบุ๊คเลยครับวันนี้ เลยได้แต่คว้าโทรศัพท์ของไอ้เป้มาดู มันเปิดหน้าเพจคิ้วบอยของมหา’ลัยเอาไว้ หน้าเพจอัพเดทล่าสุดเมื่อเช้าเป็นภาพของพี่เรนที่กำลังเดินถือกระดานวาดรูปตรงไปที่ตึกคณะ มีเขียนบรรยายเอาไว้ทำนองว่า คิ้วบอยคนใหม่ปรากฏตัว น่ารักมาก แล้วก็กรี๊ดกร๊าดๆ



มีคนมาบอกว่าเป็นพี่เรน คนที่อยู่ในภาพกับผมที่เพจนี้เคยลงเอาไว้ แล้วก็มีคนมาคอมเมนต์ชมกันใหญ่ คนที่เคยว่าพี่เรนก็มาชมว่าน่ารักอย่างนู้นอย่างนี้ เห็นแล้วก็น่าหมั่นไส้อย่างที่ไอ้เป้บอกจริงๆ นั่นแหละครับ



“แต่กูว่านะ พี่เรนเปลี่ยนลุคแบบนี้แล้วมึงต้องรีบทำคะแนน เดินหน้าจีบจริงจังได้แล้วว่ะ จำที่พวกกูเคยบอกได้ไหม” ไอ้แม็คชะโงกหน้ามาพูดกับผม “ผมเห็นความน่ารักของพี่เรนก็ใช่ว่าคนอื่นจะไม่เห็น แล้วยิ่งตอนนี้พี่เรนโคตรน่ารัก ไอ้พวกหนุ่มๆ หน้าหม้อแม่งเข้ามาจีบพี่เรนแน่ๆ เลย แล้วอย่างพี่เรนจะไปตามไอ้พวกนั้นทันได้ยังไง พวกนั้นมันไม่ได้รักจริงอยู่แล้ว แม่งหลอกฟันทั้งนั้น ถ้ามึงไม่รีบระวังพี่เรนจะโดนคาบไปนะมึง”



ผมคิดตามที่ไอ้แม็คพูด สิ่งที่มันพูดก็เรื่องจริงทั้งนั้นแบบนี้ผมต้องรีบเดินหน้าจีบพี่เรนอย่างจริงจังได้แล้วละครับ จะมาเขิน มาอาย ทำเป็นเล่นๆ ไม่ได้แล้ว



“ตอนกูพรีเซนต์ กูวานไรพวกมึงหน่อยสิ...” ผมหันไปพูดกับพวกมัน ก่อนจะหยิบเอาฟิวเจอร์บอร์ดที่ติดรูปเอาไว้มาถือแล้วเดินลงไปด้านหน้าของห้องเพื่อเตรียมขึ้นพรีเซนต์ต่อ



หลังจากไอ้เกลียวเดินกลับไปนั่งที่แล้ว ผมก็เดินเอารูปไปให้อาจารย์แล้วก็เตรียมสไลด์สำหรับพรีเซนต์ ภาพแรกของผมเป็นภาพน้ำฝนที่ตกลงพื้นบนน้ำที่เจิ่งนอง จนเห็นเป็นวงน้ำขยายเป็นรูปวงกลม แล้วก็มีตัวอักษรภาษาเกาหลีที่ผมปรับตัวอักษรให้แทบจะกลืนไปกับภาพ แต่ก็ยังมองเห็นว่าเป็นตัวหนังสือ



“คอนเซ็ปของผมคือ พิ (비) ครับ พิ (비) เป็นภาษาเกาหลีแปลว่าฝน ส่วนถ้าถามว่าทำไมผมไม่ใช้ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ก็เพราะสองภาษานี้เป็นภาษาที่คนอ่านและสามารถตีความไปได้เลย ส่วนภาษาอื่นผมก็ลองหาดูแล้ว แต่เส้นสายของตัวอักษรคำว่าฝนในแต่ละภาษาค่อนข้างเยอะ ฝนเป็นคำง่ายๆ ที่หลายคนมักจะชอบตีความหมายไปเอง ซึ่งจริงๆ แล้วมันอาจจะมีความหมายอื่นแฝงอยู่อีก ผมเลยเลือกใช้ภาษาเกาหลีเพราะว่าเป็นภาษาที่ใช้เส้นในการเขียนน้อย เหมือนเป็นคำง่ายๆ แต่ถ้าคนเขียนไม่เป็นก็ไม่สามารถเขียนได้ ก็เหมือนกับความหมายของฝนที่ถ้าไม่มองลึกลงไป ก็จะตีความเพียงแค่อย่างเดียว”



ผมเริ่มอธิบายคอนเซ็ปของผม “ถ้าถามหลายคนในห้องนี้ว่านึกถึงฝน จะนึกถึงความรู้สึกอะไร ผมเชื่อว่าหลายคนจะบอกว่า รู้สึกเศร้า เหงา โดดเดี่ยว ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลยครับ ฝนก็เป็นเพียงแค่น้ำที่หยดลงมาจากฟ้า ไม่ใช่น้ำตาของนางฟ้าหรือเทวดา เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ใช่แค่สื่อถึงความเศร้า ความเหงาเท่านั้น”



ผมกดเปลี่ยนรูปไปเรื่อยๆ พร้อมกับทั้งอธิบายความหมายของแต่ละรูป มีทั้งรูปตอนที่ฝนตกแต่แดดแรงมาก รูปที่แสงแดดส่องผ่านใบไม้จากต้นไม้ใหญ่ลงมากระทบพื้นจนเกิดเป็นเส้นแสงชัดเจน



“ฝนไม่ใช่ตัวแทนของคำว่าความเศร้า แต่มันยังเป็นตัวแทนของความเด็ดเดี่ยว ความอ่อนโยนด้วยเช่นกัน”







“ไอ้กาย ที่มึงขอกูเมื่อวานตอนจะพรีเซนต์อะ กูจัดการให้แล้วนะ” ไอ้เป้พูด พร้อมกับส่งโทรศัพท์มือถือของมันมาให้ผมดู



หน้าจอโทรศัพท์แสดงหน้าเพจคิ้วบอยเอาไว้ และรูปแรกที่ขึ้นก็เป็นรูปของผมตอนพรีเซนต์งานอยู่ที่หน้าห้อง โดยมีภาพด้านหลังเป็นจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ และบนเจอนั้นก็เป็นภาพครึ่งหน้าของพี่เรน ที่กำลังมองสายฝนที่โปรยปรายลงมาพร้อมกับยิ้ม เป็นภาพที่ผมแอบถ่ายเอาไว้และใช้มันเป็นภาพในการพรีเซนต์เมื่อวานนี้



“แบบนี้เขาเรียกว่าหมาหวงก้างหรือเปล่าวะ” ไอ้แม็คพูดพร้อมกับยิ้ม



ผมไม่ได้ตอบอะไรนอกจากยิ้มกลับไปเท่านั้น ในเมื่อผมเองก็กังวลว่าอาจจะมีคนมาชอบ มาจีบพี่เรน ผมก็แค่ประกาศตัวเอาไว้ก่อนว่าคนนี้ผมจองนะก็เท่านั้นเอง ผมก็แค่บอกให้ไอ้เป้ถ่ายรูปผมตอนกำลังพรีเซนต์งานอยู่ ให้ถ่ายตอนที่เปิดรูปพี่เรนพอดี แล้วก็ส่งรูปไปให้แอดมินเพจพร้อมประโยคอีกประโยคสองประโยค



“แต่แม่งโคตรจะเลี่ยนเลยว่ะ” ไอ้เกลียวทำท่าเหมือนคนพะอืดพะอมอยากจะอาเจียน เห็นแล้วน่าถีบมาก



“เลี่ยนอะไรของมึง” ตอนนี้ไม่สนใจอะไรหรอกครับ พวกมันจะพูดอะไรก็ช่าง เพราะผมสนใจประโยคที่แอดมินเพจคิ้วบอยเขียนเอาไว้มากกว่า เขียนตามที่ผมต้องการทุกอย่าง



RAIN… IS MY HAPPINESS



ฝน... คือความสุขของผม ที่ตีความหมายได้ทั้งสองอย่าง คือฝนที่สื่ออารมณ์ถึงความสุข เป็นไปตามคอนเซ็ปในงานของผม และอีกความหมายคือ... คนในภาพ



พี่เรน... คือความสุขของผม







           กาย คามิน @Guy_Kamin
           Rain… is my happiness #คนน่ารัก








************************************************
กลับมาแล้วค่ะ มาต่อจนครบ 100% แล้วนะ นี่คือปั่นเสร็จแบบสดๆ ร้อนๆ เลยค่ะ แล้วก็รีบเอามาอัพ คือเรื่องนี้ช่างเข้ากับช่วงนี้จริงๆ ฝนตกแล้วตกอีก จนแบบ... เลิกตกบ้างก็ได้! เจอทั้งรถติด น้ำขัง โอ๊ย... พอ เข้าเนื้อเรื่องดีกว่า

เหมือนจะไม่มีอะไรเนอะครึ่งหลังแต่มีจ้า น้องกายเริ่มรุกอย่างจริงจัง แล้วไม่ใช่แค่รุกเดินหน้าจีบพี่เรนนะ นี่ประกาศตัวเลยจ้าว่าพี่เรนของกายนะ โอ๊ยยย คือพิมพ์ไปสะดุ้งไปเพราะฟ้าแรงมาก อยากจะคุยมากกว่านี้แต่ก็กลัวฟ้าจ้า ขอพักการคุยเอาไว้เท่านี้นะคะ ตอนหน้าจะมาคุยใหม่ อ่านให้สนุกค่ะ ไปละจ้าาาาาาาา

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

ปล. อ่านแล้วไม่เมนต์ เดี๋ยวฟางไม่อัพให้อ่านนะคะ ^^

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 8 • [100%] l P.5 21-09-59
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 21-09-2016 23:21:20
งืออออออออ พี่เรนน่ารักอีกแล้ว เปลี่ยนลุคตามชื่อเรื่องแล้ว
รอเจ้าตัวรู้ตัวสักทีว่ามีคนแอบรัก  :m1:
เจ้ากายก็ไม่เบา แกเล่นประกาศแบบนี้เลย รอดูผลที่จะตามมา   :hao3:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 8 • [100%] l P.5 21-09-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-09-2016 23:37:48
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 8 • [100%] l P.5 21-09-59
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 22-09-2016 00:23:40
คิดถึงน้องกายกับพี่เรนจริง อยากเห็นตอนพี่เรนยอมเป็นนายแบบเร็วๆจัง   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 9 • [50%] l P.5 09-10-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 09-10-2016 21:41:01
(https://lh5.googleusercontent.com/-ijtMggq_iFE/Ut0wo8KUs8I/AAAAAAAAG2A/L_7LnYNkZFE/w500-h269/tumblr_mzfygfrdNs1t2bkpqo1_500.gif)
เราว่าเราต้องน่าเกลียดมากแน่เลย น่าเกลียดกว่าตอนที่เราตัดผมอีกใช่ไหม
ramin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 9 •




พี่เรน
   



วันนี้ผมรู้สึกแปลกๆ … ไม่สิ ผมรู้สึกแปลกๆ มาหลายวันแล้วแต่วันนี้มันแค่แปลกกว่าทุกวัน ทุกครั้งที่ผมมามหา’ลัย หรือเดินไปไหนมาไหนเหมือนจะมีสายตาหลายคู่มองมาที่ผม ไม่ใช่แอบมองนะครับ แต่มองแบบให้ผมรู้ตัวเลย มันเริ่มตั้งแต่วันที่แรกที่ผมมาเรียนด้วยทรงผมใหม่ และแว่นตาอันใหม่ อ่า… โดนพวกตินาบ่นนิดหน่อยด้วยที่ผมไม่ยอมใส่คอนแทคเลนส์  ก็ผมไม่ชินนี่…



ส่วนวันนี้ที่รู้สึกแปลกกว่าทุกวันเพราะว่าผมใส่คอนแทคเลนส์มาแทน ผมไม่มั่นใจเลยครับมันต้องน่าเกลียดแล้วก็ดูไม่ได้แน่ๆ ทุกคนถึงได้จ้องผมกันขนาดนี้



งือ...



รู้อย่างนี้ไม่ทำตามที่ตินาบอกก็ดีหรอก



ผมได้แต่เดินก้มหน้าก้มตาตรงไปที่คณะ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองใครเลยสักคนเดียว



ปึก!



ผมเซไปเล็กน้อยเมื่อเดินชนอะไรบางอย่างตรงหน้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองจึงเห็นเพื่อนในคณะของผมเองยืนอยู่ตรงหน้า



“ขอโทษ... เราไม่ได้ตั้งใจ” ผมพูด ปากเริ่มเบะ ยิ่งพอเห็นเพื่อนของผมมองผมแบบแปลกๆ ก็อยากจะร้องไห้ให้ได้เลย ผมน่าเกลียดมากจนเพื่อนในคณะเองยังมองผมแปลกๆ เลยใช่ไหม



“เฮ้ย! น้ำตาคลอทำไม” เพื่อนของผมร้องเสียงดังอย่างลนลานเมื่อเห็นผมน้ำตาคลอเตรียมจะร้องไห้ออกมาแล้ว คราวนี้คนอื่นๆ เลยยิ่งหันมามองกันใหญ่เลยครับ



“เราแปลกมากเลยใช่ไหมอะ วันนี้มีแต่คนมองเราแปลกๆ ดินก็มองเราแปลกๆ ด้วย” ผมว่า ปากเบะเรื่อยๆ รู้สึกเลยว่าน้ำตามันคลออยู่ที่ดวงตาจริงๆ แล้วถ้าเพื่อนพยักหน้าผมว่าน้ำตามันต้องไหลออกมาแน่นอนเลยครับ



ถึงผมไม่ค่อยสนิทกับใครเท่าไหร่นอกจากพวกตินา แต่ผมก็ไม่อยากโดนเกลียด หรือโดนรังแกเหมือนตอนอยู่มัธยม หรือตอนที่เพิ่งเข้ามาเรียนใหม่ๆ นะ ใช้เวลาตั้งเกือบปีได้เพื่อนๆ ในชั้นปีเดียวกันถึงเลิกถอยห่างจากผม



“เราว่าเราต้องน่าเกลียดมากแน่เลย น่าเกลียดกว่าตอนที่เราตัดผมอีกใช่ไหม เราว่ามันไม่เข้ากับเราเลย แถมพอไม่ใส่แว่นเราก็ไม่ชิน”



“เฮ้ยๆๆ ไม่ต้องร้องนะ ไม่ใช่ว่าน่าเกลียดอะไร ไม่ได้น่าเกลียดจริงๆ ไม่ต้องคิดมาก” ดินพูดเสียงรัว มือเหมือนจะยกขึ้นมาใช้มันปลอบผม แต่ก็ไม่ได้ทำแบบนั้น



“ดินแกล้งอะไรสมบัติของกลุ่มฉันยะ” ผมหันไปตามเสียงก่อนจะเห็นใบหม่อนเดินตรงเข้ามาหา พอเห็นเพื่อนในกลุ่มผมก็เริ่มใจชื้นขึ้นมาทันที



“ใบหม่อน...”



ใบหม่อนหันมามองผมก่อนจะขมวดคิ้วแล้วหันกลับไปหาดิน “ทำเรนร้องไห้เหรอ”



พอได้ยินใบหม่อนพูดแบบนั้นดินก็สะดุ้งยกมือขึ้นโบกปฏิเสธทันที “เฮ้ย!!! เปล่า ไม่ได้ทำ จริงๆ นะเฮ้ย”



“อือ... ดินไม่ได้แกล้งอะไรเราหรอก ใบหม่อน... เรากลับไปทำผมแบบเดิม ใส่แว่นเหมือนเดิมได้ไหมอะ เราไม่มั่นใจเลย เราว่าเราต้องน่าเกลียดมากแน่ๆ เลยอะ มีแต่คนมองเราแปลกๆ ตั้งแต่เดินเข้ามาในมหา’ลัยแล้ว ขนาดดินยังมองเราแบบแปลกๆ เลยอะ” ผมหันไปเบะปากใส่ใบหม่อน



ผมว่ามันแปลกจริงๆ นะ ไม่อย่างนั้นคนจะมองผมกันทำไม ปกติแทบไม่มีคนสนใจผมเลยด้วยซ้ำไป



ใบหม่อนเลิกคิ้วขึ้นนิดตอนได้ยินผมพูดแล้วจึงหันไปมองรอบๆ ซึ่งก็ยังมีคนมองมาที่ผมอยู่ แล้วใบหม่อนก็หันไปมองหน้าดิน



“เรนไม่ได้น่าเกลียด แล้วก็ไม่ได้แปลกหรอกนะ” ดินพูดกับผมอีกรอบพร้อมทำหน้าจริงจังเมื่อผมมีท่าทีที่ยังไม่เชื่อ มันไม่น่าเชื่อเลยนี่นา...



ผมมองใบหม่อนอย่างขอความคิดเห็นแล้วจึงหันไปมองดินอีกรอบ ได้แต่กระพริบตาปริบๆ แล้วร้องถามออกไป “อย่างนั้นเหรอ...”



“อ... อือ ยังไงเดี๋ยวเจอกันที่ห้องนะ ต้องรีบไปเอางานก่อน ดันลืมงานเอาไว้ที่ห้องซะได้” ดินพูด ยกมือให้ผมกับใบหม่อนแล้วเดินออกไป



“ทำไมดินหน้าแดงๆ หล่ะ” ผมหันไปถามใบหม่อน “หรือจะไม่สบายนะ แดดแรงออกขนาดนี้นี่นะ”



ใบหม่อนกรอกตานิดแล้วถอนหายใจออกมาแต่ก็ไม่ได้ขยายความอะไรให้ผมเข้าใจ นอกจากเดินนำผมเข้าไปในอาคารเรียน ผมก็เลยได้แต่เดินตามใบหม่อนไป ซึ่งตลอดทางก็ยังคงมีคนมองผมอยู่โดยเฉพาะรุ่นน้องปีหนึ่งปีสอง โดยเฉพาะน้องปีหนึ่งคือมองผมอย่างจริงจังมาก แต่ใบหม่อนก็หันมาบอกว่าเขาไม่ได้มองเพราะว่าผมน่าเกลียดอะไร ผมก็เลยพอโล่งใจไปบ้าง



ถ้าใบหม่อนบอกว่าไม่น่าเกลียดก็คงไม่น่าเกลียดจริงๆ นั่นแหละครับ เพราะใบหม่อนไม่ใช่คนชอบพูดโกหกอะไร



“จริงอย่างที่สาว่า ทำหนุ่มๆ หน้าแดงไปแล้วหล่ะ แต่ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าไปหว่านเสน่ห์ใส่เขา” ใบหม่อนหันไปพูดกับเพื่อนๆ ในกลุ่มหลังจากที่ผมกับใบหม่อนนั่งลงแล้วเรียบร้อย



“คนเขาซื่อหน่ะนะทำอะไรไปก็ไม่รู้ตัวหรอก แต่หลังจากนี้คงได้เหนื่อยกันหน่อยหล่ะนะ” คราวนี้เป็นตินาพูดบ้าง



“แต่เด็กนั้นก็ใช่เล่นนะ ประกาศตัวซะขนาดนั้นถ้าใครไม่มั่นใจว่าจะชนะแน่ก็แพ้ไปจ้า” สาพูด



“เอาเถอะ ยังไงก็อยู่ที่คนฝั่งนี้มากกว่า ว่าจะรู้ตัวเมื่อไหร่ แต่ดูท่าแล้ว... คงอีกนาน”



ผมได้แต่มองซ้ายทีขวาทีอย่างไม่เข้าใจว่าพวกสาวๆ คุยอะไรกัน ดูท่าจะสนุกนะครับแต่ผมฟังแล้วไม่เข้าใจเลยสักนิด แต่คงไม่ใช่เรื่องของผมหรอก ปล่อยให้สาวๆ เขาคุยไปครับส่วนผมก็นั่งดูคลิปน้องหมีไป



เมื่อวานผมถ่ายคลิปน้องหมีด้วยครับ น่ารักมากๆ เลย ผมเอาไม้ล่อแมวมาเล่นกับน้องหมี น้องหมีเป็นแมวตัวเล็กๆ ตอนที่กระโดดสองขาเพื่อจะจับขนนกที่ติดอยู่ตรงปลายน่ารักมากเลยจนผมอดใจไม่ไหวต้องเอาโทรศัพท์มาอัดคลิปเอาไว้



จะว่าไป... อัพคลิปลงเฟสบุ๊คเอาไว้ดีกว่าเผื่อผมเผลอลบคลิปในโทรศัพท์ไป เดี๋ยวจะไม่มีให้ดู



ผมไม่ค่อยได้เล่นโซเชียลอะไรเท่าไหร่มีแค่เฟสบุ๊คนั่นแหละครับ แต่ก็ไม่ได้ลงอะไรมากส่วนใหญ่จะเป็นรูปงานของผมแล้วก็รูป คลิปของน้องหมีเป็นส่วนใหญ่ รูปของผมไม่ค่อยมี จะมีก็แต่ที่ถ่ายกับพวกตินาและสาวๆ แท็กมาหาผมก็แค่นั้นแหละครับ



หลังจากอัพคลิปเรียบร้อยผมก็นั่งฟังสาวๆ คุยกันต่อจนกระทั่งอาจารย์เดินเข้ามาในห้องจึงได้หันกลับไปนั่งเรียนกันต่อ วันนี้มีส่งแบบด้วย แล้วตอนท้ายคาบก็ได้งานมาใหม่ อ่า... อีกงานผมยังทำไม่เสร็จเลยนี่นา เหลือลงสีอีกนิดหน่อย สงสัยจะต้องรีบทำงานนั้นให้เสร็จแล้วจะได้มาทำงานนี้ต่อ คราวนี้ไม่ใช่วาดรูปเหมือนทุกทีครับ แต่เป็นตัดโมเดล ก็เอาแบบที่อาจารย์สั่งให้ออกแบบก่อนหน้านี้มาตัดเป็นโมเดลจำลองห้องภายในที่ออกแบบนั้นแหละครับ



ผมชอบตัดโมเดลพอๆ กับไม่ชอบ ตัดโมเดลมันต้องใช้สมาธิสูงแล้วก็งานละเอียด ผมว่าสนุกดีนะครับ แต่มันไม่สนุกเพราะต้องใช้เวลานี่แหละ บางทีตัดโมเดลกันจนลืมวันลืมคืนเลย



“เลิกเรียนแล้วไปซื้อของตัดโมเดลกันไหม” ผมหันไปถามสาวๆ



นึกแปลกใจอยู่นะว่าทำไมเพื่อนในกลุ่มสนิทของผมมีแต่ผู้หญิง... แต่ช่างเถอะครับ ไม่สำคัญสักหน่อย เนอะ



“เรนรีบไปไหมมมม ฉันยังเคลียร์งานเก่าไม่เสร็จเลย ถ้าซื้อของตัดโมไปกองไว้ที่ห้องต้องหลอนตายแน่ๆ เลยอะ” แป้งร้องก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะ



“เราบอกแล้วว่าให้รีบทำ ให้รีบทำ เป็นยังไงหล่ะ” ผมทำหน้าดุใส่ ทุกครั้งเวลามีงานผมมักจะบอกทุกคนให้เริ่มทำตั้งแต่วันแรกๆ ที่อาจารย์สั่งจะได้ไม่มีงานสะสมค้างเอาไว้เพราะอาจารย์จะสั่งงานเรื่อยๆ บางงานอาจารย์ให้ระยะเวลาทำนาน แต่ระหว่างก่อนจะส่งงานชิ้นนั้นก็มีชิ้นอื่นเข้ามาแทรกอีก ทำไม่ทันกันก็เยอะ สุดท้ายก็ต้องมาเร่งเผางานเอาสองวันสุดท้ายก่อนส่ง งานมันก็ออกมาไม่ดีน่ะสิ



“ตอนนี้แป้งเลยต้องทำงานสามงานพร้อมกันเลยเห็นไหม ถ้าแป้งทำออกแบบตั้งแต่แรกก็เสร็จไปแล้ว งานสเก็ตแค่นิดเดียว ทำสองวันก็เสร็จแล้วก็จะได้มีเวลาทำโมเดลต่อ แต่นี้ออกแบบแป้งก็ยังไม่เสร็จ สเก็ตก็ยังไม่ได้ทำใช่ไหมหล่ะ ไม่ยอมทำตามที่เราเตือน”



“หยุดๆ สต็อปๆ โอเค ฉันผิดเองที่มัวแต่เล่น ไม่เทศน์กันสักครั้งเถอะเรน” แป้งหันมาโอดครวญกับผม



“ถ้าแป้งทำแบบที่เราบอกทุกครั้ง เราก็ไม่พูดทุกครั้งหรอก”



แป้งได้แต่ทำหน้ามุ่ยก่อนจะบอกว่ากลับบ้านไปวันนี้จะรีบไปทำงานออกแบบให้เสร็จเร็วๆ จะได้มีเวลาตัดโมเดล ส่วนคนอื่นๆ ก็ยังไม่มีใครทำงานออกแบบเสร็จเลยสักคน พอหมดคาบสาวๆ เลยรีบกลับไปปั่นงานกันต่อเพราะไม่อย่างนั้นคงลำบากแน่นอน ถ้าแบบไม่เสร็จก็ตัดโมเดลไม่ได้ ยิ่งช้าเวลาตัดโมเดลก็ยิ่งน้อย



ผมเลยเดินไปร้านขายอุปกรณ์ตัดโมเดลที่หน้ามหา’ลัยคนเดียว ยังไม่ชินกับการถูกจ้องเท่าไหร่เลยครับ



“พี่เรนคะ!” ผมหันกลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อ ได้แต่เอียงคออย่างงงๆ เพราะผมคิดว่าผมไม่รู้จักน้องคนตรงหน้านะ ไม่ใช่รุ่นน้องในคณะผมแน่นอน แล้วไม่ใช่แค่คนเดียวนะครับ มีด้วยกันสี่คน



แล้วพอผมหันไปหาทั้งสี่คนก็เข้ามาล้อมผมเอาไว้ทันที



“ครับ?...”



“พี่เรนเป็นแฟนกับพี่กายเหรอคะ เป็นแฟนกันจริงๆ เหรอคะ” น้องคนแรกพูด



“นั่นสิคะ พี่เรนคบกับพี่กายตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอคะ” น้องคนที่สอง



“แล้วพี่เรนตัดผมเปลี่ยนลุคเพราะเป็นแฟนกับพี่กายหรือเปล่าคะ” น้องคนที่สามครับ



“สรุปว่าคบกันจริงๆ ใช่ไหมคะ” คราวนี้เป็นน้องคนที่สี่



ผมได้แต่หันซ้ายทีขวาทีอย่างงงๆ และไม่เข้าใจในสิ่งที่น้องทั้งสี่คนพูดเลยสักนิด พี่กายไหน อะไรยังไง แล้วผมไปคบกันใครตั้งแต่เมื่อไหร่กัน



“เอ่อ...”



“สรุปว่าคบกันใช่ไหมคะ พี่กายถึงขนาดใช้รูปพี่เรนพรีเซนต์งานเลยนะคะ” ทำไมน้องๆ เขาแทบจะประสานเสียงพูดกันเป็นเสียงเดียวกันได้ขนาดนี้นะ



แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าหมายถึงอะไร แล้วผมจะออกจากตรงนี้ได้ยังไงกัน รู้แบบนี้น่าจะขึ้นรถตินาไปลงที่หน้ามหา’ลัย งือ... ผมจะทำยังไงดีครับ



“อ่า... คือ...”



ใครก็ได้... ช่วยผมทีสิ





************************************************
พี่เรนน่าเอ็นดูเนอะ น้ำตาคลอด้วย งื้ออออ ถ้าน้องกายเห็นละก็... สติหลุดแน่นอนเลย แล้วไงหล่ะไปหว่านเสน่ห์แบบไม่รู้ตัวเข้าให้แล้ว น่ารักขนาดนี้ใครเห็นก็ต้องมองเป็นธรรมดา แต่พี่เธอยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองน่ารักเป็นที่ต้องตาต้องใจหนุ่มๆ หลายคน คราวนี้น้องกายเหนื่อยไป คิดจะรักจะชอบคนอย่างพี่เรนก็เหนื่อยหน่อยนะกายนะ!

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเมนต์ กดโหวด คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 9 • [50%] l P.6 09-10-59
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 09-10-2016 22:36:07
พี่เรนคนซื่อ น่ารักจริงจริ๊ง :hao7:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 9 • [50%] l P.6 09-10-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-10-2016 22:59:59
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 9 • [50%] l P.6 09-10-59
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 10-10-2016 00:14:02
งืออ น่ารักก
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 9 • [100%] l P.6 26-10-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 26-10-2016 22:43:20
(https://lh5.googleusercontent.com/-ijtMggq_iFE/Ut0wo8KUs8I/AAAAAAAAG2A/L_7LnYNkZFE/w500-h269/tumblr_mzfygfrdNs1t2bkpqo1_500.gif)
เราว่าเราต้องน่าเกลียดมากแน่เลย น่าเกลียดกว่าตอนที่เราตัดผมอีกใช่ไหม
ramin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 9.2 •




• • • ต่อค่ะ 100% • • •





น้องกาย





ไม่ผิดจากที่ผมคิดเอาไว้เท่าไหร่ วันรุ่งขึ้นหลังจากที่มีรูปพี่เรนบนจอพรีเซนต์ที่ผมกำลังยืนพรีเซนต์อยู่หน้าห้องกระจายอยู่บนเฟสบุ๊ค หลายๆ คนก็พูดถึงเรื่องนี้ทั้งแสดงความคิดเห็นว่าผมกับพี่เรนคบกันบ้าง ผมกำลังจีบพี่เรนบ้าง ผมกับพี่เรนไม่ได้เป็นอะไรกันแค่ขอให้มาเป็นนายแบบให้บ้าง แล้วแต่จะคิดเหตุผลกันได้นั่นแหละครับ แต่ผมไม่ได้สนใจเรื่องนั้นหรอก



ผมสนใจเรื่องรูปของพี่เรนมากกว่า...



รูปของพี่เรนน่าจะเป็นรูปที่แอบถ่ายของเช้าวันนี้ พี่เรนพอตัดผมใหม่แล้วก็ไม่ใส่แว่นหนาๆ แล้วโคตรจะน่ารักเลยครับ ผู้ชายหลายคนเข้ามาคอมเมนต์ชมกันใหญ่ บางคนถึงขั้นประกาศจีบเลยก็มี ซึ่งผมยอมไม่ได้ ผมไม่มีทางยอมให้ใครมาจีบพี่เรนแน่นอน และไม่ยอมให้พี่เรนไปชอบใครนอกจากผมด้วย



เพราะฉะนั้นผมจะต้องรีบเร่งเดินหน้าในการจีบพี่เรนอย่างเต็มกำลังแล้วละครับ ก่อนที่จะมีใครจะตัดหน้าผมไป ผมไม่ยอมแน่นอน



ดังนั้นหลังจากเลิกเรียนในช่วงเช้าผมก็รีบลุกแล้วพุ่งออกจากห้องเรียนทันทีเพื่อตรงไปที่คณะของพี่เรน หลังจากตามชอบมานาน ผมเลยรู้ตารางเรียนของพี่เรนครับ เปล่าหรอก... จริงๆ แล้วไปขอพวกพี่ตินามา



วันนี้พี่เขามีเรียนแค่คาบเช้าคาบเดียวเท่านั้นไม่รู้ว่าอาจารย์จะปล่อยหรือยังแต่ยังไงก็ต้องรีบไปก่อน



“พี่เรนคะ!”



ยังไม่ทันจะถึงตึกคณะของพี่เรนผมก็ได้ยินคนเรียกชื่อพี่เรน ไม่แน่ใจหรอกว่าใช่พี่เรนของผมหรือเปล่า แต่ชื่อมันสะดุดหูแบบนี้ก็เลยต้องหันไปดูสักหน่อย แล้วนั่นไง!   พี่เรนของผมจริงๆ ด้วย กำลังโดนผู้หญิงสี่คนรุมล้อมอยู่เลยครับ



“พี่เรนเป็นแฟนกับพี่กายเหรอคะ เป็นแฟนกันจริงๆ เหรอคะ”



“นั่นสิคะ พี่เรนคบกับพี่กายตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอคะ”



“แล้วพี่เรนตัดผมเปลี่ยนลุคเพราะเป็นแฟนกับพี่กายหรือเปล่าคะ”



“สรุปว่าคบกันจริงๆ ใช่ไหมคะ”




พวกผู้หญิงกลุ่มนั้นผลัดกันถามพี่เรนแบบไม่หยุดพัก เห็นสีหน้าพี่เรนที่เลิกลั่กอย่างไม่รู้จะทำยังไงแล้วก็นึกหงุดหงิดปนๆ กับชอบใจ



ชอบใจที่เห็นสีหน้าแบบนั้นของพี่เรนเพราะปกติผมจะไม่ค่อยได้เห็น



หงุดหงิดที่พวกผู้หญิงเอาแต่รุมถามพี่เรนแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น



แล้วนั่น... พี่เรนของผมทำท่าจะร้องไห้แล้วไหมหล่ะ! พอเห็นท่าไม่ดีขาผมก็ก้าวตรงไปที่พี่เรนทันที ดันตัวพี่เรนให้หลบอยู่หลังผม



“ว้าย!   พี่กาย”



เรียกผมว่าพี่... ก็แสดงว่าเป็นน้องปีหนึ่งสินะ “มีอะไรกันครับ”



“น้องกาย...” พี่เรนเรียกผมเสียงสั่นจนผมต้องหันไปมอง ซึ่งผมคิดว่าผมคิดผิดที่หันไปหาเพราะหัวใจของผมกำลังจะหยุดเต้นครับ ริมฝีปากสีสดของพี่เรนที่เม้มเข้าหากัน นัยน์ตาสั่นๆ และมีน้ำตาคลอทำเอาผมใจสั่นมาก



ผมพยักหน้าพี่ให้เขาไปแล้วรีบหันกลับมาหาน้องผู้หญิงทั้งสี่คนแทน “ว่ายังไงครับ มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า”



“ป เปล่าค่ะ... พอดีพวกเรามีเรื่องอยากถามพี่เรนแค่นั้นเอง” น้องผู้หญิงคนที่หนึ่งว่า ซึ่งคนอื่นก็พยักหน้ารับเป็นลูกคู่กันเลยทีเดียว



“อยากจะถามอะไรครับ”



“เรื่องของพี่กาย... กับพี่เรนค่ะ” น้องผู้หญิงคนที่สองพูดเสียงค่อย อย่างกลัวว่าผมจะโกรธ ดูแล้วคงจะเป็นแฟนคลับผมด้วยสินะเนี่ย



“เรื่องของพี่กับพี่เรน ยังไม่มีอะไรทั้งนั้นครับ แล้วก็อย่าพุ่งเข้ามาหาพี่เรนแบบนี้อีกพี่เขาตกใจหมดแล้ว ถ้าอยากรู้อะไรก็เอาไว้ไปถามพี่ครับ อย่ามารบกวนพี่เรน” ผมพูดดุออกไปนิด ส่วนน้องๆ จะเอาไปพูดไปแชร์ต่อหรืออะไรยังไงก็ช่างครับ แต่ผมไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับพี่เรนมากเกินไป



เมื่อพูดจบผมก็หันไปคว้าข้อมือพี่เรนมาจับแล้วพาเดินออกจากตรงนั้นทันที หลายคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป หลายคนมองมาที่ผมกับพี่เรนและซุบซิบกัน แต่ผมไม่สนใจหรอกครับ ก่อนอื่นต้องพาพี่เรนออกมาก่อน คงตกใจน่าดูเลย



ตลอดทางพี่เรนไม่ได้พูดอะไร ผมก็ถือวิสาสะพาพี่เรนกลับมาที่ห้องของตัวเองส่งข้อความไปบอกไอ้พวกนั้นแล้วว่าตอนบ่ายผมโดด ฝากมันเช็คชื่อแล้วก็เก็บชีทเอาไว้ให้ผมด้วย



“พี่เรน” ผมเรียกคนตรงหน้าหลังจากดันให้พี่เรนนั่งลงบนเตียงของผม “น้องๆ พวกนั้นทำอะไรพี่เรนหรือเปล่าครับ”



พี่เรนกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผมแล้วส่ายหน้าไปมา “ป เปล่าหรอก... พวกเขาแค่เข้ามาถาม แต่พี่ไม่เข้าใจว่าพวกเขาพูดอะไรกัน แล้วก็ตกใจนิดหน่อยที่อยู่ๆ ก็เข้ามาล้อมกันทุกทางเลย”



“ไม่ต้องสนใจหรอกครับ ไม่ได้มีอะไรหรอก” ผมตอบ ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นตรงหน้าพี่เรน ก่อนจะหันไปหยิบรูปที่ผมเอาไปใช้พรีเซนต์มา “คือพี่เรน... ผมมีเรื่องอยากจะขอโทษพี่”



“ขอโทษ... ขอโทษพี่เรื่องอะไรเหรอ” คนตรงหน้าผมทำหน้างง ขนาดหน้างงยังโคตรน่ารักเลยละครับ



ผมส่งรูปนั้นให้พี่เรนไป ซึ่งอีกคนก็รับไปดูก่อนจะเงยหน้ามองผม หน้าตาไม่ต่างจากเมื่อกี้เท่าไหร่ “รูป... ทำไมเหรอ แต่กายถ่ายรูปสวยนะ เก่งจังเลย”



“ห๊ะ... เอ่อ...” ผมเลยไปไม่ถูกเลยทีเดียวครับ “คือ... ผมแอบถ่ายรูปพี่เรนแล้วเอาไปใช้พรีเซนต์งานเมื่อวันก่อน ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อน”



“นี่รูปพี่เหรอ”



โอ๊ยยยย กูอยากจะเอาหัวเขกขอบเตียงให้รู้แล้วรู้รอดไป



“อย่างกับไม่ใช่พี่แหน่ะ กายถ่ายรูปเก่งนะดูดีกว่าตัวจริงตั้งเยอะ” นั่น... ยังจะมาหัวเราะคิกคักอีก คือช่วยคิดสักนิดได้ไหมว่าผมขโมยรูปพี่ไปใช้ส่วนตัวแบบไม่ได้ขออนุญาตนะเฮ้ย แล้วเพราะไอ้รูปนี้นี่แหละที่ทำให้พี่โดนเด็กปีหนึ่งสี่คนนั้นมาล้อมน่ะ!



“เอ้อ…” เกิดอาการอึ้งรับประทานครับ ได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองอย่างไม่รู้จะพูดยังไงดี พูดไม่ออกเลยละครับ “คือ… เอาเป็นว่าผมขอโทษที่เอารูปแอบถ่ายพี่เรนไปใช้โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน อย่างที่ผมบอกพี่ไปไงว่าผมอยากให้พี่มาเป็นนายแบบให้กับผม เพราะพี่เหมาะกับคอนเซ็ปของผมมากเลยนะ”



คนน่ารักเอียงคอมองผม ก่อนจะชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “อย่างพี่เนี่ยนะ”



“ก็ใช่ไงครับ”



พอผมพูดแบบนั้นพี่เรนก็ส่ายหน้าขวับๆ ทันที เอ่ยปฏิเสธเสียงแข็ง “ไม่เลย พี่หน้าตาประหลาดจะตายไปไม่อย่างนั้นวันนี้คนคงไม่มองพี่กันเต็มหรอก”



ผมนี่อ้าปากค้าง ตาค้างเลยทีเดียว อยากจะลงไปนอนดิ้นกับพื้นแล้วร้องโวยวาย นี่พี่ซื่อหรือพี่ซื่อ โอ๊ยยย พี่เรนนนน ถ้ามีใครหลอกไปขายจะทำยังไงคร้าบบบ ไอ้กายคนนี้หล่ะเป็นห่วงจริงๆ



“พี่เรนไม่ได้หน้าตาประหลาดสักหน่อย อย่างนี้น่ะ…” ทำใจกล้าหน้าด้านยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มเบาๆ “เขาเรียกว่าน่ารัก…”



ไอ้เหี้ย!!!



แก้มพี่เรนโคตรนิ่มอะ มันนิ่มมาก นิ่มมากๆ นิ่มแบบนิ่มจริงๆ นิ่มจนอยากจะเอาจมูกกดลงไปแทนนิ้วเลยละครับ



พี่เรนหน้าแดง ยกมือขึ้นปิดแก้มตัวเอง น่ารักไปไหม “พี่เนี่ยนะน่ารัก”



ผมพยักหน้ายืนยันทันที “ใช่ครับ น่ารัก ไม่เชื่อรอดูนะ”



หันไปหยิบกล้องถ่ายรูปคู่ใจมา เปิดฝากล้อง เปิดกล้องแล้วเล็งไปที่คนที่นั่งหน้าแดงอยู่บนเตียง ผมกดถ่ายรูปพี่เรนติดๆ กันไปสี่ห้ารูป ก่อนจะเนียนไปนั่งข้างๆ พี่เขาแล้วก็ยื่นกล้องให้พี่เขาดูรูปที่ผมถ่าย “นี่ไง น่ารักจะตายไป”



บนจอเล็กๆ บนกล้องปรากฏภาพพี่เรนที่นั่งเอามือปิดแก้มแดงๆ ดวงตากลมโตจ้องตรงมาจนผมรู้สึกว่าถ้าหากใครได้มองดวงตาคู่นี้นานๆ โอกาสกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ได้หลงรักดวงตาคู่นี้แน่นอนเลยครับ



เป็นตากวาง… ที่มีเสน่ห์ดึงดูดมากเลยทีเดียว
   


“กายถ่ายรูปเก่ง…”



ผมหัวเราะกับคำพูดนั้น โอเคไม่ยอมรับว่าตัวเองน่ารักก็ไม่เป็นไร ผมรู้ของผมเองก็พอว่าพี่เรนน่ารัก



“พี่เรนยังวาดรูปเก่งเลย” ผมตอบยิ้มๆ หัวสมองอันชาญฉลาด(ในบางเรื่อง)เริ่มประมวลผล และเมื่อผมคิดอะไรดีๆ ออกก็ได้แต่ยิ้มกว้าง “เอาอย่างนี้ไหมพี่เรน…”



“หือ อะไรเหรอ”



“ผมกับพี่เรนเรามาแลกเปลี่ยนความถนัดกันดีกว่า” ผมได้แต่อมยิ้มเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าทำท่าสนใจกับสิ่งที่ผมพูดมากแค่ไหน “ผมถนัดถ่ายรูป ส่วนพี่เรนก็ถนัดวาดภาพใช่ไหม”



คนตรงหน้าผมพยักหน้ารับ “อย่างนั้นเรามาสลับกัน ผมจะถ่ายรูปพี่เรนแล้วพี่เรนก็วาดรูปผม เราทำในสิ่งที่ต่างคนต่างถนัดแล้วก็เอามาแลกกัน… ดีไหม?”



ถ้าเป็นคนอื่น… ผมพนันเลยว่าถ้าไม่ปฏิเสธก็ด่ากลับ เพราะมันเรื่องอะไรที่เราจะมาทำอะไรแบบนี้กันละครับ ใช่ไหม เรื่องอะไรที่เราจะไปถ่ายรูปคนอื่น หรือวาดรูปคนอื่นทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้สนิทสนมกันมาก ไม่ได้มีเรื่องจำเป็นอะไรด้วย



แต่ผมพนันหมดตัว… พี่เรนจะตอบตกลงผม



“น่าสนุกนะ พี่ไม่ค่อยได้วาดรูปคนมานานแล้ว อย่างนั้นเอาอย่างที่กายว่า!” เห็นไหมละครับ “แต่ว่า… พี่วาดรูปช้านะ อีกอย่างช่วงนี้มีตัดโมเดลด้วยวาดวันเดียวไม่เสร็จหรอก”



นั่นแหละที่ผมต้องการ… “ไม่เป็นอะไรหรอกครับ หอเราอยู่ตรงข้ามกันแค่นี้เอง เอาไว้ผมไปหาพี่เรนที่ห้อง ถ้าพี่เรนว่างก็ค่อยวาดรูปผมก็แล้วกัน ดีไหมครับ”



“นั่นสิเนอะ อย่างนั้นเอาตามนี้แล้วกัน” พี่เรนพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง



แน่นอนว่ารอยยิ้มนั้นทำเอาผมใจสั่นไปหมด ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนผมคงเข่าอ่อน แต่ตอนนี้คิดจะเดินหน้าจีบเขาอย่างจริงจังแล้วเพราะฉะนั้นแค่รอยยิ้มหวานๆ น่ารักๆ ของพี่เรน ผมจะเข่าอ่อนไม่ได้ ต้องยิ้มสู้กลับไป คล้ายๆ กับพวกสั่นสู้นั่นแหละครับ



แม้(ใจ)จะสั่น แต่ก็ต้อง(ยิ้ม)สู้ครับ



“เฮ้ย!”



ผมสะดุ้งเมื่อพี่เรนร้องออกมาเสียงดัง คือเป็นครั้งแรกที่เห็นพี่เรนร้องแบบนี้ “มีอะไรครับ เป็นอะไรหรือเปล่า”



แทบจะพลิกห้อง พลิกตัวพี่เรนดูเลยว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้พี่เขาร้องออกมาแบบนี้



“พี่ลืมไปซื้อของตัดโมเดลหน้ามอ!”



“ของตัดโมเดล”



พี่เรนพยักหน้าหงึกหงัก “ใช่ๆ ของตัดโมเดล พี่ตั้งใจจะไปซื้อหลังเลิกเรียน แต่เจอน้องผู้หญิงกลุ่มนั้นแล้วก็เลยลืมนี่แหละ”



ผมร้องอ๋อในใจพร้อมพยักหน้ารับรู้ไปด้วย “อย่างนั้นไปซื้อของกัน ไปหาอะไรกินด้วยผมหิวแล้วหล่ะ พี่เรนหิวไหม”



“พี่พาหมีไปด้วยได้ไหม อาทิตย์นี้ยังไม่ได้พาออกไปข้างนอกเลย” พี่เรนถามผม คือจริงๆ ไม่ต้องถามผมก็ได้นะ แมวของพี่เขาเองแต่คงเกรงใจก็เลยถาม



“ไปสิครับ เดี๋ยวผมช่วยดูเอง” ผมยิ้มกว้างกลับไป ซึ่งก็ได้รอยยิ้มกว้างๆ น่ารักๆ ของพี่เรนกลับมาเช่นกัน



พอตกลงกันได้เรียบร้อย ผมก็ขอเวลาเปลี่ยนชุดเพราะไม่อยากใส่ชุดนักศึกษาเท่าไหร่กางเกงขามันยาว ร้อนครับ พอเปลี่ยนชุดเสร็จก็ไปหอพี่เรนกันต่อ



ไม่อยากจะอะไรนะคะแต่ความรู้สึกเหมือนได้มาออกเดทกับพี่เรนอีกรอบเลยละครับ เราสองคนเดินข้างๆ กัน ผมอาสาเป็นคนอุ้มหมีเอาไว้เอง ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมากครับที่ผมอาสาแบบนี้ เพราะพี่เรนเป็นบุคคลที่สนใจแมวมาก มักจะหันมาเล่นกับหมีบ่อยๆ จนผมได้แอบแต๊ะอั๋งพี่เขาบ่อยๆ ฟินไปครับ ฟินไป



มีหลายคนมองมาที่ผมกับพี่เรนแต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร สิ่งที่ผมสนใจคือพี่เรนแค่นั้นแหละครับ



“พี่เรนเข้าไปเลือกของเลย เดี๋ยวผมอุ้มหมีรออยู่หน้าร้านนี่แหละครับ” ผมบอกกับพี่เรนเมื่อเรามาอยู่หน้าร้านขายเครื่องเขียนกันแล้ว



“โอเค เดี๋ยวพี่จะรีบซื้อนะ”



“ไม่เป็นไร ตามสบายเลยพี่” ผมบอก อุ้มหมีไปนั่งที่เก้าอี้หน้าร้านเป็นเชิงบอกให้พี่เรนเลือกของได้ตามสบายเลย



เหมียว~



ผมก้มลงมองเจ้าแมวที่นั่งตักอยู่ มันเงยหน้าขึ้นมองผม แบบที่ผมก็จ้องมันกลับอย่างไม่ยอมแพ้กัน มันส่งเสียงร้องออกมาอีกหลายๆ รอบ



“ไม่ให้จ้อง? หวงตัวเหรอ หวงเหรอ” พอผมถามมันกลับไปแบบนั้นมันก็ร้องออกมาอีกรอบแล้วก้มหน้ามุดขามันเอง



เห็นแล้วน่ามั่นเขี้ยวปนๆ น่าหมั่นไส้ ผมเลยจัดการยื่นมือไปยีหัวมันเบาๆ



“นี่… ชอบเราไหมอะ แต่เราอะชอบเจ้านายเธอนะ ต้องชอบเรานะรู้เปล่า” วินาทีนี้ต่อให้เป็นสัตว์ก็ขอติดสินบนครับ



ต้องเอาใจคนรอบข้างพี่เรนมาให้ได้ก่อนเวลาพิชิตใจพี่เรนจะได้มีคนสนับสนุนครับ อันดับแรกเลยก็... เจ้าเหมียวตัวนี้นี่แหละ ถ้ามีเจ้าหมีมาเป็นพวกผมว่าอะไรๆ ก็ต้องง่ายขึ้นแน่นอน



“เรามาทำสัญญาเป็นพันธมิตรกันไหม?” ผมยังคงถามเจ้าหมีที่นอนขดอยู่บนตักผมเอาหน้าหมุดขาตัวเอง “เรามาเป็นพันธมิตรกันแล้วเดี๋ยวจะซื้ออะไรอร่อยๆ ให้กินบ่อยๆ เลยดีไหม”



หมีเงยหน้าขึ้นมองผม พอได้ยินคำว่าของกินละตาเป็นประกายเชียวนะ ผมถามย้ำไปอีกรอบพร้อมกับบอกว่าจะซื้อของกินให้ ทีนี้เจ้าเหมียวลุกขึ้นมาคลอเคลียผมทันที ผมได้แต่ยิ้มขำกับท่าทางนั้น ถ้าเปลี่ยนจากแมวเป็นคนมาคลอเคลียผมก็คงจะดีไม่น้อยเลยละ



“พี่กาย...” ผมเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนเรียกผม



“ครับ?”



“อ๋า... หนูเป็นแฟนคลับพี่กายน่ะค่ะ” รุ่นน้องตรงหน้าบอก ผมเลยได้แต่พยักหน้ารับแล้วก็ยิ้มกลับไปให้ “พี่กายเลี้ยงแมวด้วยเหรอคะ”



ผมก้มมองแมวในอ้อมแขนของตัวเองก่อนจะยิ้ม “เปล่าหรอกครับ พี่ไม่ได้เลี้ยงหรอก”



“อ้าว... แล้ว...”



“ขอโทษนะ... รอนานเลยใช่ไหม” ยังไม่ทันที่รุ่นน้องคนนั้นจะพูดจบ ผมก็หันไปสนใจพี่เรนที่เพิ่งเดินออกมาจากร้านเครื่องเขียนแทน สองมือนั้นเต็มไปด้วยกระดาษแผ่นใหญ่ ไหนจะมีถุงใบใหญ่อีกใบซึ่งในนั้นก็มีของเต็มไปหมด



“ซื้อทีเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ”



“อือ... เดี๋ยวต้องมีตัดโมเดลอีกหลายตัวแน่ๆ พี่เลยซื้อเตรียมเอาไว้ก่อนเลย ขอโทษนะที่ปล่อยให้รอนาน” พี่เรนทำหน้าเหมือนคนสำนึกผิด



“ไม่นานหรอกพี่ มา... เดี๋ยวผมช่วยถือดีกว่า พี่เอาหมีไปอุ้ม” ผมวางหมีลงบนเก้าอี้ แย่งเอากระดาษแล้วก็ถุงมาถือเอาไว้เองปล่อยให้พี่เรนอุ้มแค่แมวของเขาไปแค่นั้นแหละครับ



“อ๋อ... แมวนี่ไม่ใช่ของพี่หรอก” ผมหันกลับไปหารุ่นน้องที่ยังยืนอยู่ไม่ไปไหน “ของพี่เรนน่ะ”



ผมพูดแค่นั้นก่อนจะเดินนำพี่เรนออกจากหน้าร้าน จริงๆ ก็อยากทำตัวเท่ๆ เดินจูงมือเขาเหมือนในละคร ในนิยายเหมือนกันครับที่พระเอกจะหันไปพูดเท่ๆ กับคนอื่นแล้วก็คว้ามือนางเอกเดินออกมา ให้คนอื่นมองภาพเบื้องหลังของพวกเขา



แต่คือ... กระดาษแผ่นโคตรใหญ่สี่ห้าแผ่น ถุงใบใหญ่ที่มีไม้ยาวๆ โผล่ออกมาเต็มไปหมด แบบถือมือเดียวไม่ไหวอะครับ ต้องใช้สองช่วยกันถือ เพราะฉะนั้นไอ้โมเม้นต์เท่ๆ เดินจูงมือนี่ตัดออกไปได้เลย ตอนนี้อย่างเดียวเลยคือรีบเดิน รีบกลับเถอะ กระดาษมันจะแผ่นใหญ่ไปไหนวะ...



ตอนแรกว่าจะหาอะไรกินกันก่อนกลับเข้าห้อง เป็นอันต้องเปลี่ยนแผนครับ ของเยอะเกินไปเราเลยต้องกลับห้องกันก่อน ก็ห้องพี่เรนนั่นแหละครับเอาของไปเก็บ แล้วก็ใช้โทรสั่งของกินมากินแทน อันนี้ผมรีเควสเอง สั่งพิซซ่ามากินกันครับ เพราะว่ากว่าพิซซ่าจะมา กว่าจะได้กิน จนกินเสร็จมันค่อนข้างนาน ผมก็ได้ยืดเวลาอยู่กับพี่เรนมากขึ้นไปอีก



แล้วยังได้พิชิตใจเจ้าหมีด้วยอีกดวง จนตอนนี้เจ้าหมีเริ่มติดผมแล้วละครับ ฮ่าๆๆๆ



คิดการณ์ใหญ่ใจต้องนิ่งครับ



แถมยังได้รูปพี่เรนมาอีกหลายรูปเลย ใช้กล้องโทรศัพท์นี่แหละถ่าย ถ่ายเก็บเอาไว้ดูเอง เอาไว้รอสนิทกว่านี้อีกนิดจะชวนพี่เรนไปตากฝนถ่ายรูปแล้วละครับ



รับรองได้... จบเทอมนี้ไอ้กายได้ทั้งเอวิชาเรียน แล้วก็เอ... วิชารัก แน่นอน







กาย คามิน @Guy_Kamin
คนอะไร จะทำอะไรก็น่ารัก จะทำหน้ายิ้ม จะทำหน้าจริงจัง ทำหน้างงก็ยังน่ารัก
หลงจนไม่รู้จะหลงยังไงแล้วคร้าบบบบบบ :)






************************************************
มาแล้วคร้าบบบ ครบ 100% แล้ว คือน่ารักกันทั้งคู่เลยอะ เลือกไม่ถูกเลยจะหลงใครดี แต่ใจจริงนี่อยากเป็นน้องกายนะ อยากฟัดพี่เรนนนน คนอะไรน่ารักน่าเอ็นดู แล้วดูเถอะ... ตกหลุมพรางน้องกายไปแล้วไหมหล่ะ หนียังไงก็ไม่พ้นแล้วหล่ะพี่เรน นับวันรอตกปากรับคำเป็นแฟน เอ๊ย... เป็นนายแบบให้น้องไปนะพี่นะ ฮี่ๆๆๆ

ขอแจ้งเรื่องการอัพนิยายสักนิดหนึ่งค่ะ ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. – 6 พ.ย. ฟางมีออกบูธงาน “บ้านและสวน” ที่อารีน่า ค่ะ ออกทุกวันตั้งแต่ 9.00 – 21.00 น. กว่าจะกลับถึงหอ 4 – 5 ทุ่มแน่นอนค่ะ เพราะฉะนั้น ช่วงที่ออกบูธฟางของดอัพนิยายนะคะ เจอกันอีกทีก็หลังวันที่ 7 – 8 พ.ย. เลยนะ ขอพักหน่อยค่า เพราะออกบูธทุกวันไม่มีวันหยุด คาดว่าเหนื่อยแน่ๆ เพลียแน่ๆ ค่ะ อย่าเพิ่งทิ้งฟางไปไหนนะคะ

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเมนต์ กดโหวด คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 9 • [100%] l P.6 26-10-59
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 27-10-2016 19:18:15
งืออออออ น่ารักอีกแล้ว  :o8:
เจ้าหมีก็น่ารัก แค่ได้ยินว่าของกินก็เข้าข้างเจ้ากายละ ขอบคุณค่ะฟาง สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 9 • [100%] l P.6 26-10-59
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 28-10-2016 01:49:52
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [50%] l P.6 07-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 07-11-2016 21:09:34
(http://67.media.tumblr.com/d6befe59bbfb96b253df194122e9fd57/tumblr_inline_o2utzkFVI41tae3h3_500.gif)
หึ... ดูท่าจะเลี้ยงไม่ยากด้วยกันทั้งคู่นะ
kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 10 •





น้องกาย





“โห... มันต้องละเอียดขนาดนี้เลยเหรอพี่” ผมถามพร้อมชะโงกหน้าดูแบบแปลนที่พี่เรนกางเอาไว้บนโต๊ะญี่ปุ่น



กินพิซซ่าเสร็จแล้วครับแต่ยังไม่กลับห้อง หน้าด้านครับ อีกอย่างพี่เรนก็ไม่ไล่ หมีก็ไม่ไล่ แล้วจะกลับทำไมให้โง่ละคร้าบบบ อยู่ทำคะแนนต่อไปดีกว่า



“นี่พี่เรนต้องตัดละเอียดแบบนี้เลยเหรอ” ผมถามอีกครั้ง แต่คราวนี้เปลี่ยนจากมองแปลนบนโต๊ะญี่ปุ่นไปที่อุปกรณ์รอบๆ ตัวพี่เขาแทน



ตอนที่เลือกซื้อของผมก็สงสัยนะว่าทำไมนานจังกับแค่ซื้อของตัดโมเดล แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วครับเพราะมันเยอะมากๆ นี่ขนาดมีอันที่พี่เรนขนของเก่ามาใช้ด้วยนะ “แล้วพี่เอาผ้าสีขาวมาทำอะไรเหรอครับ”



ผมพอมีเพื่อนเรียนคณะสถาปัตย์นะ เห็นมันชอบบ่นๆ ว่างานเยอะโดยเฉพาะตัดโมเดลในหนึ่งอาทิตย์มันต้องตัดโมเดลสองถึงสามตัวเลยด้วยซ้ำ ไม่ได้หลับไม่ได้นอน แต่งานที่ผมเห็นก็เห็นแค่มันใช้กระดาษ... อะไรนะ กระดาษชานอ้อย กระดาษหลังรูป ไม้บัลซ่า (ผมเคยไปจับของมันเล่น มันหันมาด่าผมใหญ่บอกว่าอย่าจับมั่วซั้ว มันบาง หักง่าย แล้วก็แพงชิบหาย) แค่นั้นนะ แต่ของพี่เรนคือมีเยอะกว่านั้นอีกอะ



“เอามาทำโซฟาไง” พี่เรนตอบแบบง่ายๆ เหมือนกับเอามาตัดเล่นอย่างนั้น



“โซฟา?! พี่ต้องตัดโซฟาด้วยเหรอ” ผมได้แต่ตาโต



คนตรงหน้าผมพยักหน้าหงึกหงักอย่างน่ารัก ชี้ไปที่มุมห้องที่มีโมเดลที่มีฝาครอบเอาไว้อยู่ “แบบนั้นไง อันนั้นเป็นโมเดลไฟนอลโปรเจคตอนเทอมที่แล้ว”



“ผมดูได้ใช่ไหมอ่ะ” ผมหันไปถามพอเห็นพี่เรนพยักหน้าผมก็ค่อยๆ เดินไปมุมห้อง คือต้องระวังนิดหนึ่งครับ ของตัดโมเดลเยอะมาก แล้วจากการที่เคยไปดูเพื่อนตัดโมเดลผมเห็นมันรัก มันหวงอุปกรณ์ทุกอย่างยิ่งกว่าเมีย ผมเลยไม่อยากเผลอไปทำอะไรของพี่เรนเสียหาย กลัวโดนโกรธ



โอ้โฮ!



งานเรียบกริบเลยครับ โมเดลของพี่เรนอย่างสวยอะ สวยกว่าที่เพื่อนผมทำอีก นี่ไม่ได้อวยเพราะความชอบพี่เรนส่วนตัวนะตอนเห็นงานของเพื่อนก็ว่าสวยแล้วแต่ของพี่เรนสวยกว่าอีกครับ รอยต่อของกระดาษอย่างเนียน รายละเอียดเยอะมากๆ เลยครับ มันเป็นโมเดลขนาด... ขนาดฐานเท่าไหร่ผมก็ไม่รู้อะ น่าจะประมาณกระดาษเอสองได้ครับ



“โฮ... ต้องตัดโมเดลละเอียดขนาดนี้เลยเหรอครับ”



“ใช่แล้วหล่ะ”



ผมนั่งดูโมเดลพี่เรนอย่างสนใจ นั่งดูจนพอใจก็กลับไปนั่งใกล้ๆ พี่เขาอีกรอบ ตอนนี้พี่เรนอยู่ในโหมดจริงจังแล้วครับ แว่นสายตาที่ก่อนหน้านี้วางเอาไว้บนตู้หน้าทีวีก็หยิบมาใส่แล้ว ผมหน้าม้าด้านหน้าก็มัดเป็นจุกน้ำพุเล็กๆ อย่างที่พี่เขาชอบมัด เห็นแล้วน่ารักดี



ปกติพี่เรนเป็นคนซุ่มซ่ามนะ ไม่เดินชนนู้นก็สะดุดนี้ จนผมรู้สึกเสียวมากๆ เวลาพี่เขาหยิบคัตเตอร์ไปกรีดกระดาษ แต่โคตรแปลกเลยครับไม่มีกรีดกระดาษพลาดเลยสักนิดเดียว กรีดกระดาษทีเดียวขาด คบกริบเลย



“ผมอยากจะช่วยนะ แต่กลัวทำงานพี่พังมากกว่านะสิ” ผมพูด



ผมพูดจริงๆ นะ อยากช่วยเพราะดูท่าแล้วมันต้องใช้เวลามากแน่ๆ แต่ผมก็กลัวจะทำงานพี่เขาพังแล้วทำให้มันช้ากว่าเดิมเนี่ยสิ



พี่เรนเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะยิ้มน่ารักให้ “ไม่เป็นอะไรหรอก”



“ว่าแต่ว่า... ผมนั่งเล่นที่นี่ได้ใช่ไหมครับ ไม่กวนพี่นะถ้ากวนผมจะได้กลับห้อง” อยากทำคะแนนแต่ก็เกรงใจครับ ไม่อยากจะรบกวนเท่าไหร่



จุกน้ำพุนั้นสะบัดไปมาตอนที่อีกคนส่ายหน้า “ไม่กวนหรอก นั่งเล่นก่อนก็ได้ อยู่ห้องคนเดียวเหงาใช้ม้า... อยู่เล่นกับหมีก่อนก็ได้ หมีจะได้มีเพื่อนเล่นด้วย”



พอได้ยินแบบนั้นผมก็ยิ้มร่าเลยครับ ถึงจะไม่สามารถจีบอะไรได้มากเพราะไม่อยากรบกวนแต่อย่างน้อยก็ยังได้อยู่ในห้องนี้นะครับ เข้าไปอยู่ในสายตาพี่เรนมากๆ บ่อยๆ อีกฝ่ายจะได้ชินแล้วทีนี้... ก็จะได้รู้สึกแปลกๆ เวลาไม่เห็นผม แล้วคราวนี้ละ!



ไอ้กายก็จะย้ายมาอยู่ห้องนี้เลย หึหึหึ



ผมหัวเราะหึหึหึอย่างชอบใจในความคิดของตัวเอง แบบที่หมีก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับเอียงคอมองแล้วร้องออกมาเหมือนจะหาว่าผมเป็นบ้าที่หัวเราะออกมา แต่ไม่เป็นไรครับ ไม่โกรธ อีกอย่างเห็นหน้าหมีแล้วโกรธไม่ลง พลานนึกไปถึงหน้าพี่เรน แล้วแบบนี้ผมจะโกรธลงได้ยังไงละครับ จริงไหม?



ผมเล่นกับหมี สลับกับตอบแชทเพื่อนไปด้วย บ่อยครั้งที่นั่งมองพี่เรนทำงาน เห็นแล้วเพลินตาดีครับไม่เบื่อด้วยเพราะพี่เรนเดี๋ยวก็ทำหน้ายุ่งตอนที่เหมือนจะตัดกระดาษผิด เดี๋ยวก็ยิ้มร่าตอนติดกาว แล้วประกอบชิ้นส่วนออกมาเป็นที่น่าพอใจ ดูเพลินเลยผม



“เหมียว~~ เหมียว~~” ผมก้มลงมองเมื่อได้ยินเสียงร้องของหมี มันกำลังนั่งจ้องหน้าผมแล้วก็ร้องออกมา



“ว่าไง มีอะไรหือ?” ผมถามมันกลับ



หมีลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปตรงส่วนครัว พอเห็นว่าผมไม่เดินตามไปมันก็หันมามองแล้วจิกตาใส่... เดี๋ยวนะ... นี่แมวหรือคนวะมีจิกตงจิกตาใส่อีก พอผมลุกเดินมันก็เดินต่อ ก่อนจะไปหยุดอยู่ข้างๆ ถาดใส่อาหารของแมว



“อ๋อ... หิวอย่างนั้นเหรอ” ผมนั่งยองๆ ยิบถาดขึ้นมาชู



“เหมียว~~” เจ้าหมีร้องออกมาอีกรอบ คราวนี้ไม่มีจิกตาแล้วครับ แต่ตาเป็นประกายเลยเหมือนตาของพี่เรนตอนที่เห็นหรือเจอของชอบของถูกใจ



นี่แสดงว่าผมทายใจเจ้าหมีมันออกนะเนี่ย พอลุกไปเปิดๆ รื้อๆ ค้นๆ ตู้ดูก็เห็นถุงอาหารของแมวในตู้ หยิบออกมาเทใส่ถาดให้ พอเทเสร็จหมีก็รีบเดินมากินทันที ผมยื่นมือไปลูบหัวมันเบาๆ มันก็หันมามองนะครับแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากหันกลับไปกินต่อ



ผมละสายตาจากหมีมาดูเวลา รู้สึกตกใจเพราะตอนนี้มันเย็นมากแล้ว เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้วครับ มิน่า... หมีมันถึงร้องขออาหารกิน นี่ผมก็ขลุกอยู่ห้องพี่เรนหลายชั่วโมงเลยครับ ทั้งๆ ที่ไม่ได้คุยอะไรกันแต่ก็ไม่เบื่อเลยสักนิดเดียว ผมหันกลับไปมองพี่เรน พี่เขายังคงตั้งหน้าตั้งตาตัด ต่อ ประกอบ โมเดลของเขาอยู่ ผมรู้สึกว่ามันเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้วจากตอนแรกที่มีแต่กระดาษแผ่นแบนๆ วางเต็มโต๊ะ



จะหนึ่งทุ่มแล้วไม่รู้ว่าพี่เรนเขาจะหิวหรือยัง แต่ไม่ว่าจะหิวหรือไม่หิวก็ต้องกินข้าวละครับ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวได้เป็นลม ไม่สบายไปแน่นอน



ผมปล่อยให้พี่เรนทำงานต่อไปส่วนตัวผมเองก็ถือวิสาสะใช้ครัวในห้องของพี่เขานี่แหละ ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดมาอยู่หอพักคนเดียว ตอนอยู่บ้านพ่อเคยสอนผมทำอาหารบ่อยๆ บ้านผมผู้ชายจะทำอาหารเก่งกว่าผู้หญิงครับ พ่อผมทำอาหารเก่งกว่าแม่ของผม และผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมทำอาหารเก่งกว่าน้องสาวที่มักบอกว่าอยากเป็นเชฟ ตลกดีนะครับ



แต่พอมาเรียนที่นี่ มาอยู่หอ ผมก็ไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่ นานๆ ทำทีครับส่วนใหญ่จะติดขี้เกียจ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว วันนี้ขอโชว์ฝีมือทำอาหารง่ายๆ สักหน่อยแล้วกัน ผมแวบออกไปซื้อของสดมาทำมื้อเย็น เชื่อไหมครับขนาดผมออกไปข้างนอกแล้วกลับเข้ามาใหม่ พี่เรนก็ยังไม่รู้ตัวเลย เอาแต่นั่งทำงานแบบนั้นไม่หยุด



“หิวแล้ว...” ผมหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลังในระหว่างที่ผมกำลังทำต้มยำกุ้งอยู่



พี่เรนที่หัวยังมีจุกน้ำพุอยู่เดินเข้ามา ดวงตากลมโตนั้นมองตรงมาที่ผม รู้ตัวแล้วเหรอว่าหิว สงสัยจะเพราะได้กลิ่นอาหารที่ผมทำ “กายทำอาหารเป็นด้วยเหรอ”



“ก็นิดหน่อยครับ ขอโทษนะพี่เรนที่ถือวิสาสะใช้ครัวแบบนี้ เห็นมันค่ำแล้วพี่ก็ยังไม่ได้กินอะไรก็เลยทำมื้อเย็นให้กิน” ผมตอบ หันไปหยิบช้อนมาตักน้ำต้มยำขึ้นเป่า พยักหน้าให้พี่เรนเข้ามาชิม “ลองชิมดูว่าชอบไหม”



พี่เรนยกมือจับมือของผมเอาไว้แล้วก้มลงงับช้อน คือ... ใจสั่นมากครับ โคตรจะตื่นเต้นเหมือนมือจะอ่อนแรง แทบจะทำช้อนหลุดมือ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเหมือนนางเอกในละครที่มือไม้อ่อนเวลาเจอคนที่ชอบ



แต่กูผู้ชายไหม!! แถมเป็นพระเอกด้วยนะโว้ยยย



“อร่อยอ่ะ” คนตรงหน้าผมยิ้มกว้างมาให้



ใจสั่นไปอีกกู...



“อย่างนั้นไปตักข้าวเลยครับ เดี๋ยวผมทอดไข่เจียวอีกอย่างแล้วจะได้กินข้าวกัน” ผมหันหน้าหลบ ทำทีเป็นตักต้มยำใส่ถ้วย ปล่อยให้พี่เรนเดินวนไปวนมาอยู่ด้านหลัง นี่แค่ตักข้าวอะไรจะนานขนาดนี้ ขืนยังไม่ยอมไปนั่งที่โต๊ะดีๆ จะหันกลับไปโวยวายใส่แล้วนะโว้ย!!



ว่าอย่ามาทำให้ใจสั่น หวั่นไหวมากได้ม้ายยยย!!



ตลอดมื้อเย็นพี่เรนกินไปชมไปไม่หยุดว่าผมทำต้มยำอร่อย ไอ้ผมนี่แทบอยากจะหาเทปกาวมาพันตัวเองเอาไว้กับเก้าอี้เพราะจะไม่ได้ลอยไปไหน คือโดนชมจนหัวใจมันพองตัว ฟูคับอกไปหมดแล้วครับ แทบจะลอยละลิ่วไปถึงดวงจันทร์ ดาวอังคารแล้ว ชมกันแบบนี้เอาตัวมาให้ผมฟัดแทนเลยแล้วกัน! จะได้หายกัน



“ถ้าชอบ... วันหลังผมมาทำให้กินอีกเอาไหม” ผมถาม ไม่ได้มีเจตนาไม่มีจะหลอกหลวงแอบเข้าห้องพี่เรนเลยนะครับ ไม่มี๊ ไม่มีอะ ผมมาทำให้ด้วยใจอันบริสุทธิ์จริงๆ นะเออ



“จริงเหรอ? เอาสิๆ กายทำอร่อยเอาไว้มาทำให้พี่กินอีกนะ แล้วทำอย่างอื่นเป็นไหม” คนตรงหน้าผมทำตาวาวทันที ตาเหมือนหมีเลยตอนที่ผมเทอาหารให้มันกิน



หึ... ดูท่าจะเลี้ยงไม่ยากด้วยกันทั้งคู่นะ



“อย่างอื่นก็ทำเป็น บ้านผมผู้ชายจะทำครัวเก่งกว่าผู้หญิง ผมก็ทำเป็นหลายอย่างเลยครับ พี่เรนอยากกินอะไรหล่ะ เอาไว้ผมทำให้กินบ่อยๆ ทุกวันเลยก็ได้นะ” ผมตอบกลับยิ้มๆ



“จริงเหรอ จริงนะ ดีอะ พี่ทำไม่เป็นเคยเลย อย่าว่าแต่ต้มยำข้าวผัดเลย แค่ไข่เจียวไข่ดาวพี่ยังทำไม่เป็นเลยนะ” คนตรงหน้าผมพูด “เคยคิดจะทำแต่แค่ตอกไข่ใส่กระทะพี่ยังทำไม่ได้เลยอ่ะ แฮ่ๆ...”



“จริงเหรอ จริงนะ ดีอะ พี่ทำไม่เป็นเลย อย่าว่าแต่ต้มยำ ข้าวผัด แค่ไข่เจียวไข่ดาวพี่ยังทำไม่เป็นเลยนะ” คนตรงหน้าผมพูด “เคยคิดจะทำแต่แค่ตอกไข่ใส่กระทะพี่ยังทำไม่ได้เลยอ่ะ แฮ่ๆ...”



“เอาไว้ผมมาทำให้กิน อยากกินอะไรก็บอกได้ถ้าทำเป็นก็จะทำให้กิน ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ” ผมบอก หยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดปากให้พี่เรน เวลากินข้าวพี่เขาเหมือนเด็ก ไม่ได้กินเลอะหรือมอมแมมอะไรมาก แต่จะเคี้ยวตุ้ยๆ สองแก้มนี้พองออกมาเลย



อ๋อ... เหมือนพวกหนูแฮมเตอร์นั่นแหละครับ



“อย่างนั้นผมกลับก่อนดีกว่า พี่เรนก็อย่านอนดึกนักนะครับ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าด้วยนี่” ผมพูดกับพี่เรนหลังจากเรากินข้าวกันแล้วเรียบร้อย เมื่อกี้ผมแอบเห็นตารางเรียนของพี่เขาที่แปะเอาไว้บนตู้เสื้อผ้า



“อืมม ไม่ดึกหรอก” พี่เขาว่าแบบนั้น



“โอเคครับ แล้วเจอกันนะพี่เรน คืนนี้ฝันดีนะครับ” ผมบอก ได้แต่ยกมือโบกลาอีกฝ่าย ใจจริงก็อยากจะยกมือไปเล่นผมพี่เขา บีบแก้มพี่เขาแต่ทำไม่ได้ไง ตอนนี้ทำได้แค่นี้แหละ เลยต้องอดใจเอาไว้หน่อย เอาไว้ได้เป็นแฟนเมื่อไหร่จะจับแก้มขาวๆ นั้นมาบีบมาฟัดให้หนักเลยคอยดู



“ฝันดีนะน้องกาย” พี่เรนยิ้มน่ารักมาให้ แบบที่ผมเองก็ยิ้มตอบแล้วพยักหน้ารับ



ดันหลังพี่เขาเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตูให้เรียบร้อย ส่วนตัวผมเองก็เดินเท่ๆ กลับหอครับ แล้วเมื่อถึงห้องตัวเองปุ๊บผมก็ตรงมาที่ระเบียงห้องก่อนเป็นอันดับแรกหลังจากที่โยนกระเป๋าไว้บนเตียงแล้ว ห้องพี่เรนยังเปิดไฟสว่าง พอเห็นเงาของเจ้าของห้องเดินไปเดินมา สักพักพี่เขาก็เดินออกมาที่ระเบียงเอาผ้าขนหนูมาตาก คงจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ บนหัวยังมีจุกน้ำพุอยู่เลย



ผมได้แต่เอาแขนค้ำราวระเบียงเอาไว้ตอนที่มองระเบียงฝั่งตรงข้ามที่ว่างเปล่าเพราะคนที่อยู่ตรงนั้นก่อนหน้านี้เดินกลับเข้าไปในห้องแล้ว



ไม่รู้หรอกว่าวันนี้จะก้าวเข้าไปในชีวิตพี่เรนได้มากน้อยแค่ไหน แต่อย่างน้อย... ผมก็คิดว่า...



ผมสามารถก้าวเข้าไปใกล้พี่เรนได้อีกหนึ่งก้าวแล้วละครับ






************************************************
กลับมาแล้วค่ะ รอนานเลยใช่ไหม... อย่างที่บอกไปค่ะว่าไปออกบูธมา 9   วัน ไม่คิดว่าจะเหนื่อยและเมื่อยขนาดนี้ แทบไม่ได้นั่งเลยง่ะ ตั้งหลายชั่วโมง ฮืออออ เท้าระบมกลับหอทุกคืน กลับถึงหอก็ไม่มีแรงละค่ะ หลับลูกเดียวเลย วันนี้ได้หยุดก็เลยหยิบนิยายเรื่องนี้มาแต่ง แล้วก็เอามาอัพให้ได้อ่านกันนี่แหละค่ะ ไม่รู้ว่าจะคิดถึงเจ้ากายกับพี่เรนกันไหม แต่ฟางคิดถึงมากกกก ฮ่าาาาา

และแล้วน้องกายก็เข้าห้องพี่เรนเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ นี่ถ้าคิดจีบไปนานป่านนี้ก็ได้เสีย เอ๊ย!   ได้คบกับพี่เขาไปแล้วแท้ๆ เนอะ แต่พอบทน้องกายจะรุกจีบก็ไม่น้อยหน้าใครนะเออ นิยายเรื่องนี้ไม่มีดราม่าค่ะ อ่านสบายๆ คลาดเครียด เพราะฉะนั้น... ก็อาจจะไม่ได้ยาวมากนักนะคะ

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเมนต์ กดโหวด คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [50%] l P.6 07-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-11-2016 21:25:24
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [50%] l P.6 07-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 07-11-2016 22:00:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [50%] l P.6 07-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 07-11-2016 22:35:17
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [50%] l P.6 07-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: WASHABHI ที่ 07-11-2016 22:46:00
 :o8: :-[ :-[ พี่เรนน่ารักมากเลยยย งื้ออออออ 
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [50%] l P.6 07-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 08-11-2016 01:03:17
 :o8:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [50%] l P.6 07-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: Asmknrt ที่ 09-11-2016 06:41:24
ขอให้จีบติดเร็วๆน้าาา :hao7:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [50%] l P.6 07-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 10-11-2016 21:38:51
 o13
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [50%] l P.6 07-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 12-11-2016 14:06:00
พี่เรนน่ารักจังเลย จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [100%] l P.6 14-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 14-11-2016 22:56:21
(http://67.media.tumblr.com/d6befe59bbfb96b253df194122e9fd57/tumblr_inline_o2utzkFVI41tae3h3_500.gif)
หึ... ดูท่าจะเลี้ยงไม่ยากด้วยกันทั้งคู่นะ
kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 10.2 •





• • • ต่อค่ะ 100% • • •




พี่เรน





อ่า...



ทำไมภาพข้างหน้ามันไม่ค่อยชัดเลยนะ มองอะไรก็เบลอๆ ไปหมดเลย มันเห็นนะแต่เห็นแบบไม่ชัด ไม่ถึงกับมองไม่เห็น แต่มันเห็นไม่ชัดอะ...



ผมยกมือขยี้ตาอีกสองรอบเพื่อที่ว่าผมจะมองเห็นตรงหน้าชัดขึ้น แต่มันก็ยังไม่ชัดอยู่ดี ผมเลยได้แต่ถอนหายใจออกมาแล้วเดินไปข้างหน้าต่อ มือก็กระชับสายสะพายของกระเป๋าย่ามใบโตเอาไว้ อีกข้างก็หนีบกระดานวาดรูปเอาไว้ด้วย



ปึก!



อูย... เจ็บจังครับ



ผมเดินชนอะไรสักอย่างเต็มแรง แรงขนาดที่ผมล้มลงก้นจ้ำเบ้าแถมมือยังกระแทกพื้นถนนอีก



“พี่เรน!” ผมเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อผมเอง พยายามหรี่ตามองว่าคนตรงหน้าเป็นใครแต่ก็เห็นไม่ค่อยชัด รู้แต่ว่าเขาตัวสูงแล้วก็... น่าจะตัวใหญ่กว่าผม ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ชนเขาแล้วล้มหรอกครับ



คนที่เรียกชื่อผมบ่นอะไรไม่รู้ออกมาเยอะเลยแต่ไม่ได้บ่นดังผมเลยไม่ได้ยิน แต่เขาก็ทิ้งตัวลงนั่งยอง คว้ามือผมไปดู ผมเบ้หน้านิดเพราะรู้สึกเจ็บที่ฝ่ามือ



“มือถลอกนิดหน่อย แต่ก็คงต้องไปล้างแผลแล้วก็ใส่ยา พี่ลุกไหวไหม” คนตรงหน้าที่ผมก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใครถามออกมาอีกรอบ แต่จะว่าไป... เสียงคุ้นๆ นะครับ เหมือนจะได้ยินบ่อยๆ



เขาคว้าเอาย่ามของผมไปสะพาย เอากระดานวาดรูปผมไปหนีบแล้วก็ประคองผมลุกขึ้น ตอนนั้นแหละที่ผมเริ่มเห็นหน้าเขาชัดขึ้นเพราะเขาขยับเข้ามาใกล้



“กาย...”



“ก็ผมน่ะสิ พี่ลืมใส่แว่น ลืมใส่คอนแทคเลนส์หรือยังไงกัน”



ผมยกมือจับหน้าตัวเองทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ก็ว่า... ทำไมถึงมองเห็นไม่ชัดแล้วทำไมถึงขยี้ตาได้ง่ายนักเพราะผมลืมใส่แว่นตามานี่เอง ผมตั้งใจจะใส่แว่นตามาแล้วเมื่อเช้าก็รีบด้วย... ก็เลยลืม



“แหะๆ... ก็ว่าทำไมมองไม่ชัดเลย”



เพราะระยะใกล้ชิดผมเลยเห็นหน้าน้องเขาค่อนข้างชัด กายทำหน้าเหมือน... ยังไงดีละ เหนื่อยใจปนอึ้งๆ หรือยังไงก็บอกไม่ถูก ทำท่าเหมือนอยากจะบีบแก้มผมหรือขยี้หัวผมด้วย แต่เขาก็ไม่ทำนอกจากถอนหายใจออกมา



“เฮ้อ... พี่นี่นะ เป็นคนที่ปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้เลยจริงๆ ถ้าเกิดคนที่ชนไม่ใช่ผม แล้วถ้าคนที่ชนเขาไม่สนใจขึ้นมาจะทำยังไง” กายบ่นออกมาอย่างดุๆ ผมเลยได้แต่ยิ้มกลับไปให้



“แต่ก็เป็นกายไง...”



หือ... อะไรนะ เมื่อกี้น้องเขาพูดอะไรนะ ฟัดๆ ซัดๆ หรืออะไรสักอย่าง ผมไม่ได้ยินอะ เลยได้แต่ทำหน้ายู่ออกไปเพราะไม่ได้ยินที่กายพูด



งือ...



กายบีบปากผมอะ




“ทำตัวน่ารังแก... ไปครับ เดี๋ยวไปใส่แผลที่มือก่อนแล้วเดี๋ยวผมไปส่งที่คณะ ว่าแต่ว่าพี่มีคอนแทคเลนส์ติดตัวไหมเนี่ย วันนี้จะเรียนได้ไหมครับไม่ใส่แว่นมาแบบนี้”



“คอนแทคเลนส์ อ่ะ! น่าจะมีอยู่ในกระเป๋านะ เฮ้อ... ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่อย่างนั้นแย่แน่ๆ เลย วันนี้มีสเก็ตด้วยสิ” พอพูดถึงคอนแทคเลนส์ผมก็นึกได้ เหมือนว่าจะมีอยู่ในกระเป๋า ก็ได้แต่หวังว่ามันจะมีจริงๆ นะครับ ไม่อย่างนั้นก็ต้องยอมกลับไปเอาแว่นที่หอหล่ะ เพราะว่าวันนี้จะมีสเก็ตงานส่งในคาบด้วย ถ้ามองไม่เห็นแล้วจะวาดรูปได้ยังไงละครับ จริงไหม...



ผมได้แต่เดินตามน้องกายไปที่ห้องพยาบาลที่อยู่ในตึกใกล้ๆ นี่ ผมไม่แน่ใจแหะว่าตรงนี้คือส่วนไหนของมหา’ลัย มองไม่ค่อยเห็นทาง ตอนเดินเข้ามาในมหา’ลัย ก็เดินไปเรื่อยๆ ด้วย



“อ๊ะ! แสบอะ” ผมร้องออกมาเมื่อมือของผมโดนน้ำ ตอนนี้รู้สึกว่าผมจะถูกพามาล้างมือที่อ่างล้างมือในส่วนของห้องพยาบาล



“เดี๋ยวผมใส่ยาให้ โชคดีนะที่เป็นมือซ้ายไม่อย่างนั้นวันนี้พี่คงเขียน หรือวาดอะไรไม่ได้หรอก” น้องกายบอกก่อนจะจูงผมกลับไปนั่งที่เตียงพยาบาล



ผมยกมือข้างซ้ายของตัวเองขึ้นดูใกล้ๆ มันถลอกแล้วก็แดงๆ แต่ไม่ได้เยอะมาก แล้วก็โชคดีอย่างที่น้องเขาว่าที่เป็นมือซ้าย ไม่อย่างนั้นลำบากแน่นอนเลยครับ ผมนั่งให้กายทำแผลใส่ยาให้ ได้แต่นั่งนิ่งๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร มองก็ไม่ค่อยชัดด้วย



“เพี้ยง! เดี๋ยวก็หายแล้ว”



อ่า...



ผมได้แต่อมยิ้มกับการกระทำนั้น นึกถึงตอนผมเด็กๆ เวลาผมเป็นแผลเพราะหกล้มแม่กับพ่อก็จะชอบเป่าเพี้ยงให้ ตอนนั้นผมคิดว่าแม่กับพ่อผมมีมนต์วิเศษเพราะแค่พวกท่านเป่าผมที่ร้องไห้จ้าก็หยุดร้อง แผลที่เจ็บก็ไม่เจ็บ ถึงแม้ว่าพอโตขึ้นหน่อยผมจะรู้แล้วก็ตามว่าไม่ได้มีมนต์วิเศษอะไร แต่ผมก็ชอบให้ทั้งสองคนเป่าแผลให้เสมอ แม้กระทั่ง... ตอนนี้



“ขอบคุณนะ”  ผมพูดขอบคุณเสียงเบา ดึงมือข้างซ้ายตัวเองมากุมเอาไว้ ผมไม่รู้ว่าทำไมแต่แก้มผมเหมือนมันร้อนๆ จนต้องใช้มือยกขึ้นจับดู มันร้อนหน่อยๆ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังป่วยหรือไม่สบายนะ แค่มันร้อนๆ เท่านั้นเอง



“ไม่เป็นอะไรครับ” กายพูด ผมได้ยินเสียงเขารื้ออะไรอยู่สักพัก ก่อนที่ผมจะเห็นเขาชัดขึ้นเมื่อเขาเดินมายืนอยู่หน้าผม ไม่สิ... เดินมายืนอยู่กลางหว่างขาของผมที่นั่งอยู่บนเตียง



ผมว่า... มันน่าอายนิดๆ นะ



“เดี๋ยวผมใส่คอนแทคเลนส์ให้” เขาบอกแบบนั้นแล้วก็จัดการใส่คอนแทคเลนส์ให้ผม ส่วนผมก็ได้แต่นั่งนิ่งปล่อยให้กายใส่คอนแทคเลนส์ให้



ผมกระพริบตาปริบๆ เมื่อเขาถอยห่างออกไปแล้ว และผมก็เห็นทุกอย่างชัดเจน “ขอบคุณนะ”



“ไม่เป็นไรครับ ไปเถอะ... เดี๋ยวผมเดินไปส่งขืนปล่อยให้พี่เดินไปคณะคนเดียว ได้หลงทางอีกแน่นอน” กายว่า คว้าเอาย่ามผมไปสะพายแล้วยังเอากระดานวาดรูปผมไปถือเอาไว้อีกด้วย แล้วก็คว้ามือของผมไปจับเอาไว้







น้องกาย



ผมหันไปมองคนที่เดินตามผมไม่ห่างแล้วยิ้มออกมา ก่อนจะเบนสายตาลงไปมองมือของผมเองที่กำลังจับมือของพี่เรนเอาไว้ มือของพี่เรนเล็ก... เล็กกว่ามือของผม เล็กจนผมแทบจะกุมมือของเขาเอาไว้จนมิด



ผมเก็บรอยยิ้มของตัวเองไม่ได้เลย ผมรู้ว่าผมกำลังยิ้ม แต่ผมไม่รู้หรอกว่าผมยิ้มกว้างมากแค่ไหน และผมแทบจะไม่ละสายตาไปจากคนข้างกายเลยสักนิดเดียว



“แต่พี่นี่ก็นะ... เดินเข้าไปได้ยังไงแบบที่มองอะไรก็ไม่เห็นแถมยังหลงไปจนเกือบจะถึงคณะผมอีก” ผมอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา ถ้าพี่เรนยังขี้ลืมและขยันหลงทางแบบนี้บ่อยๆ ผมว่ามันไม่ดีเลย นี่ถ้าเกิดออกไปไหนแล้วไปหลงทางขึ้นมาจะกลับหอถูกไหม ถ้าเกิดหลงทางไปที่ในแปลกๆ ขึ้นมาจะทำยังไง จะเอาตัวรอดได้ยังไง



ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดนะครับ



ผมเป็นห่วงจริงๆ นะ นี่ขนาดในมหา’ลัย แถมอยู่มาตั้งหลายปีพี่เรนยังหลงทางได้เกือบทุกวัน บวกกับนิสัยขี้หลงขี้ลืมอีก



“กาย...” ผมหันไปมองคนที่เรียกผมเสียงเบา พร้อมกับดึงมือผมเอาไว้ด้วย



“ครับ”



“ขอโทษ... พี่ทำให้ลำบากมากเลยใช่ไหม” พี่เรนพูด “พี่ไม่ได้อยากจะหลงทางนะ ไม่ได้อยากจะขี้ลืมด้วย แต่ว่า... แต่... มันก็แก้ไม่หายสักที”



ผมยืนทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ของพี่เรน บีบมือที่จับมือของพี่เรนเอาไว้แน่นขึ้นกว่าเดิม “ไม่ๆ พี่เรนไม่ใช่ ผมไม่ได้ลำบาก ไม่ได้ไม่ชอบใจหรืออะไร แต่ผมเป็นห่วง ผมเป็นห่วงพี่กลัวว่าถ้าเกิดพี่เผลอไปหลงทางที่ไหนอะไรยังไงมันจะเป็นยังไง ถ้าเกิดผมไม่เจอพี่จะทำยังไง”



“พี่...”



“ผมเป็นห่วงพี่นะพี่เรน”



“อ... อือ” คนตรงหน้าผมชะงักไปเล็กน้อย พร้อมกับผิวแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อจางๆ



“เอาอย่างนี้นะ” ผมปล่อยมือจากพี่เรน ค้นกระเป๋าพี่เขาก่อนจะถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์พี่เรนออกมากด แล้วชูให้พี่เขาดู “นี่เบอร์ผม ต่อไปนี้ถ้าพี่จะไปไหนมาไหนก็ส่งข้อความ ส่งไลน์หรือจะโทรก็ได้ แต่ต้องบอกผมตลอด บอกด้วยว่าไปกับใครบ้าง แล้วจะกลับตอนไหน ผมจะได้รู้แล้วก็ถ้าต้องไปไหนเองคนเดียวให้โทรหาผม ผมจะไปด้วย ถ้าต้องกลับคนเดียวก็ให้โทรหาผม ผมจะไปรับ”



พี่เรนได้แต่ยืนฟังผมตาปริบๆ แต่ผมก็ไม่ปล่อยโอกาสให้พี่เขาได้คิดหรืออะไรเพราะผมพูดต่อทันที “ที่ผมทำแบบนี้เพราะผมเป็นห่วง พี่เข้าใจใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้น... ทำตามที่ผมขอร้องได้ไหม”



คนตรงหน้าผมนิ่งไปเพียงนิดก่อนจะพยักหน้ารับ ผมเชื่อว่าพี่เรนคงยังมึนๆ งงๆ อยู่นั่นแหละครับ จะหาว่ามัดมือชกก็ได้แต่ผมก็หวงของผม ห่วงของผมเหมือนกัน



ผมยิ้มรับเมื่อพี่เรนพยักหน้า ก่อนจะคว้ามือพี่เรนมาจับอีกรอบแล้วพาเดินไปส่งที่คณะของพี่เขา แน่นอนว่าตลอดทางมีแต่คนมองมาที่ผมกับพี่เรน แต่ผมไม่ได้สนใจหรอกครับ ส่วนพี่เรน... ก็ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ หรือไม่ก็กำลังคิดถึงสิ่งที่ผมพูดอยู่ก่อนหน้านี้ก็ได้



“พาเด็กหลงทางมาส่งครับ” ผมเดินเข้าไปหาพวกพี่ตินาที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้หน้าคณะ ที่จริงผมส่งข้อความไปบอกพี่เขาก่อนแล้วว่าเจอพี่เรนแถวๆ คณะผมเดี๋ยวจะพามาส่ง พวกพี่เขาเลยมานั่งรอกันอยู่ตรงนี้



“งือ... พี่ไม่ใช่เด็กหลงทางสักหน่อย” คนข้างๆ ผมร้องประท้วงเหมือนเด็กๆ ทันที ขอซื้อได้ไหมไอ้ งือ นี่น่ะ ขอซื้อคนร้องให้ไปร้องให้ฟังที่ห้อง จะฟังมันทั้งวันเลย



“แกน่ะยิ่งกว่าเด็กหลงทางเสียอีก เด็กประถมยังไม่หลงทางบ่อยเท่าแกเลย” พี่ใบหม่อนพูด “อ้าวแล้วนี่มือไปโดนอะไรมา”



พอพี่ใบหม่อนทัก พี่คนอื่นๆ ก็หันมามองกันทันที คนที่มีแผลอย่างพี่เรนก็อึกอักไปเล็กน้อยก่อนจะอ้อมแอ้มตอบเพื่อนเสียงเบา “เราล้มน่ะ เดินชนกายแล้วก็ล้ม มือกระแทกพื้นเลยถลอก”



“แล้วเดินยังไงให้ชน” คราวนี้พี่สาเป็นฝ่ายสอบสวนบ้างครับ



“ง่า... ก็... เราลืมใส่แว่นมาเมื่อเช้า ลืมใส่คอนแทคเลนส์ด้วย เราก็มองไม่เห็นไง แล้ว... แล้วทีนี้พอเรามองไม่เห็น เราก็เลยชน...”



“แล้วนี่มองเห็นไหมเนี่ย”



พี่เรนพยักหน้ารับกับคำถามของพี่ตินา “เห็นๆ เรานึกขึ้นได้ว่ามีคอนแทคเลนส์อยู่ในกระเป๋าก็เลย... น้องกายใส่ให้แล้ว”



ชะอุ้ย



พอพี่เรนพูดแบบนั้นทุกคนก็เบนสายตาจากพี่เรนมาเป็นผมแทน เห็นแล้วสะดุ้ง สั่นสะท้านเบาๆ เลยทีเดียว “ก็พี่เรนมือเจ็บไง ผมเลยใส่ให้”



“ก็ไม่ได้ว่าอะไร” พี่ตินาว่าแต่ก็ยังไม่วายหรี่ตาใส่ผม



ผมเลยได้แต่ยกมือเกาหัวตัวเองนิดๆ ก่อนจะวางกระเป๋าแล้วก็กระดานวาดรูปของพี่เรนลงบนโต๊ะ “ยังไงผมขอตัวก่อนแล้วกันนะครับ เดี๋ยวกลับไปเรียนไม่ทัน แล้วเอาไว้เจอกันใหม่นะพี่ๆ ทุกคน”



แล้วผมก็เผ่นสิคร้าบบบบ







“เอาแต่เล่นโทรศัพท์นะมึงอะ”



“นั่นดิวะ ไม่สนใจเรียนนะมึง”



เสียงแรกเป็นเสียงของไอ้เกลียวครับ เสียงที่สองก็คู่หูมันไอ้ไม้ แต่ผมไม่สนใจครับ ปล่อยพวกมันเห่ากันไป



“ไม่ตั้งใจเรียนนะมึงอะ” คราวนี้เป็นไอ้แม็คครับ



ผมเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะส่งเสียงจิ๊อย่างรำคาญนิดๆ กับเสียงก่อกวนของพวกมัน “ไม่ได้เรียนไหมมึง”



ที่จริงคาบนี้มีเรียนนะครับ เป็นวิชาในคณะแต่พอดีคณะบดีเรียกอาจารย์ทุกคนประชุมแบบกะหันทันพวกผมก็เลยว่างครับ ว่างยาวตั้งสี่ชั่วโมงก่อนจะไปเรียนวิชานอกคณะกันต่อ



“แล้วตกลงมึงเล่นอะไรของมึงเนี่ย กูเห็นมึงเอาแต่กดโทรศัพท์ยิกๆๆๆ ไม่หยุดตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” ไอ้เป้ถามผมก่อนจะชะโงกหน้ามามองโทรศัพท์ของผมครับ ผมก็ไม่ได้ปิดหรือหนีอะไร มันอยากดูก็ดู



แล้วพอมันเห็นมันก็ทำตาโตทันที “ว้าวๆๆๆๆ พี่กายนี่ไม่ธรรมดานะครับพี่น้อง”



“อะไรของมึง / วะ” พวกที่เหลือร้องถามออกมาแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน



“พี่กายเขาคุยแชทนะครับ” ไอ้เป้พูด ส่วนคนอื่นๆ ทำหน้างงเหมือนว่าแค่ผมคุยแชทแล้วมันไม่ธรรมดาตรงไหน มันก็เลยเฉลยทุกคนครับ “คุยแชทกับพี่เรนนะครับพี่น้อง”



แค่นั้นแหละพวกมันก็พากันชะโงกหน้ามาดูโทรศัพท์ผมกันใหญ่ ไอ้แม็คทำท่าจะแย่โทรศัพท์ผมไปกดอ่านแต่ผมไม่ยอมครับ ก็คุยกับพี่เรนอยู่จะให้มันแย่งไปได้ยังไงกัน



ครับผม... ผมกำลังคุยแชทกับพี่เรนอยู่ครับ ไม่ได้คุยอะไรมากหรอกครับ ผมไลน์ไปชวนพี่เรนหาอะไรกินกันตอนเย็น แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธกลับมาเพราะว่าต้องอยู่วาดรูปส่งอาจารย์ก่อนสองทุ่มเลยไปด้วยไม่ได้



ก็เข้าใจนะ... เพราะบางทีผมก็เจออาจารย์สั่งงานแบบนี้เหมือนกัน ตอนเช้าให้หัวข้อถ่ายรูปมาแล้วให้ส่งตอนเย็น วิ่งวุ่นกันแทบตายเลยครับ พี่เรนก็คงจะเหมือนกัน จะว่าไป... ผมซื้ออะไรไปให้พี่เรนกินตอนเย็นดีกว่า เห็นพี่เรนบอกว่าอาจารย์ปล่อยให้วาดรูปกันอิสระแค่เอางานไปส่งก่อนสองทุ่มก็พอ



เพราะอย่างนั้นหลังเลิกเรียนผมกับเพื่อนก็ไปหาอะไรกินกันก่อนที่ผมจะแวะซื้อของกิไปฝากพี่เรน อ๋อ... รวมไปถึงพวกพี่ตินาด้วยครับ จะเอาใจพี่เขาก็ต้องได้ใจเพื่อนๆ พี่เขามาด้วย ผมเดินหิ้วถุงเสบียงเต็มสองมือครับ มีทั้งข้าวกล่อง (คือโทรไปถามมาแล้วว่าพวกพี่เขาจะกินอะไรกัน) ขนม แล้วก็น้ำ



ผมเดินเข้าไปในอาคารของคณะศิลปกรรมศาสตร์ หลายคนหันมามองเหมือนจะงงๆ ว่าไอ้นี่มันมาได้ยังไง คือแบบเหมือนมีพลังงานบางอย่างแอบแฝง เหมือนอย่างเวลามีคนของคณะอื่นเดินเข้าไปในตึกคณะเราเอง เราก็เหมือนจะมีญาณหยั่งรู้ใช่ไหมละครับว่าคนนี้ไม่ได้เรียนคณะเรา อะไรแบบนั้นแหละ



“เสบียงมาแล้วครับ” ผมส่งเสียงทักเมื่อเห็นพี่เรนกับเพื่อนๆ นั่งล้อมวงกันวาดรูปอยู่ตรงลานกลางคณะ



อาคารของคณะนี้เป็นลักษณ์สีเหลี่ยมที่มีคอร์ดตรงกลางเป็นสวนครับ บรรยากาศดูร่มรื่นผิดกับคณะผม คณะผมจะเน้นแบบอะไรที่ค่อนข้างทันสมัย มีห้องคอมอย่างเยอะ ร้านไอที ร้านกาแฟ ต้นไม้ไม่ค่อยเน้นครับ แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีนะ แต่ถ้าเทียบกับคณะของพี่เรนแล้วบรรยากาศร่มรื่นกว่าคณะผมเยอะ



“เยี่ยมๆ ขอข้าวด่วนๆ คือหิวมากมายอะ” พี่สากวักมือเรียกผมก่อนจะดึงถุงใส่กล่องข้าวไปแล้วก็หยิบข้าวแจกเพื่อนๆ แต่ละคน ผมวางถุงที่เหลือลงตรงกลางวงแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ พี่เรน หยิบน้ำผลไม้มาเปิดเอาหลอดใส่ให้เรียบร้อยแล้วส่งให้พี่เรน



“ขอบใจนะ” คนน่ารักยิ้มกว้างมาให้รับน้ำของผมไปดูดใหญ่ คงจะหิวน้ำ



ผมหันไปรับข้าวกล่องของพี่เรนมาจากพี่สา จัดการเปิดฝาหยิบช้อนให้เรียบร้อยครับ นี่ถ้าป้อนได้ป้อนไปแล้วแต่ป้อนไม่ได้ไง เลยได้แต่ส่งข้าวให้พี่เรนกิน ระหว่างนั้นผมก็ชะโงกหน้าดูภาพที่พี่เรนวาดไปด้วย



พี่เรนวาดรูปสวยมากจริงๆ ครับ เคยเห็นแต่ในโทรศัพท์ที่พี่เขาอัพงานลง นั่นก็ว่าสวยแล้วนะแต่พอมาเห็นจริงๆ แบบนี้คือโคตรสวยเลยครับ พี่เขากำลังวาดภาพภายในของห้องอะไรสักห้องอยู่ครับ น่าจะเป็นแนวแบบห้องจัดแสดงงานอะไรประมาณนี้



“มีวาดรูปส่งแบบนี้บ่อยเหรอ” ผมหาเรื่องชวนคุย



“อือ! อาทิตย์ละวัน แต่บางอาทิตย์ก็สองวันแล้วแต่อาจารย์น่ะ” พี่เรนตอบ ก่อนจะตักข้าวกินต่อ



หลังจากพวกพี่ๆ เขากินข้าวกันเสร็จก็หันกลับไปลงมือวาดรูปกันต่อเพราะเหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเศษๆ เท่านั้นก็ต้องเอางานไปส่ง ผมเองก็ไม่ได้กวนอะไรนั่งมองพี่เรนวาดรูปไปสลับกับคุยแชทกับเพื่อนๆ ในคณะไปด้วย



“อ่ะ” ผมแกะป๊อกกี้รสช็อคโกแลตก่อนจะหยิบป้อนพี่เรน พี่เขาชะงักนิดหนึ่งแต่ก็ยอมอ้าปากรับป๊อกกี้ที่ผมป้อน ผมเลยเปลี่ยนจากนั่งมองพี่เรนวาดรูป เป็นป้อนป๊อกกี้พี่เขาสลับกับคุยกับเพื่อนแทน



อีกสิบนาทีจะสองทุ่มพวกพี่ๆ เขาวาดรูปกันเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ แต่ก็ต้องรีบเอาภาพไปส่งให้ทันก่อนสองทุ่ม ผมเลยอาสาจะนั่งเฝ้าของไว้ให้เองแล้วให้พวกพี่เขาวิ่งเอางานไปส่งกันแล้วค่อยกลับมาเก็บของกลับกัน



“หิวไหมครับ” ผมถามพี่เรน ตอนนี้ผมกับพี่เรนกำลังเดินกลับหอด้วยกันครับ พี่คนอื่นๆ ก็แยกย้ายกันไปหมดแล้ว



“ไม่หรอก อิ่มแล้วกายหิวเหรอ”



“เปล่าครับ ผมแค่กลัวว่าพี่จะหิว”



พี่เรนส่ายหน้าไปมา “ไม่หิวหรอก แต่อย่างนอนมากกว่าวันนี้เหนื่อยมากเลย” พี่เรนว่าเสียงยานคาง ฟังแล้วน่ารักดีครับอยากจะยื่นมือไปหยิกแก้มขาวๆ นั้น



“ฮ่ะๆๆ นี่ไงถึงหอแล้ว” ผมว่าเดินไปส่งพี่เรนที่หน้าหอ “รีบอาบน้ำแล้วก็นอนนะครับ ฝันดีนะพี่เรน”



พี่เรนพยักหน้ารับแล้วก็ยิ้มให้ผม “อื้อ! ฝันดีนะ”



แล้วคืนนี้... ผมก็ฝันดีอย่างที่พี่เรนอวยพรด้วยละครับ






[color=#2a7286 ]************************************************
ครบ 100% แล้วค่าาาาาาา พี่เรนเขินน้องด้วยอะ เขินแต่ไม่รู้ว่าเขิน รู้แต่ว่าหน้าตัวเองมันร้อนๆ ไม่ได้จะเป็นไข้นะ แต่หน้ามันร้อนๆ แล้วพี่เรนคะ... ไม่ทันคนแบบนี้ก็ไม่ทันเจ้ากายมันน่ะสิ ดูสิได้ทั้งเบอร์ ได้ทั้งไลน์พี่เขาครอบครองแล้วนั่น แต่ก็นั่นแหละเนอะ จีบคนไม่รู้เรื่องรู้ราวทั้งที ก็ต้องจีบกันแบบนี้แหละค่ะ ฮี่ๆๆๆๆ

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเมนต์ กดโหวด คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
[/color]
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [100%] l P.6 14-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung ที่ 14-11-2016 23:14:28

 พี่เรนน่ารักตลอดดด น้องกายก็เนียนมากเหมือนกัน 444
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [100%] l P.6 14-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 14-11-2016 23:38:55
พี่เรนขี้หลงขี้ลืมแบบนี้นิ่งต้องให้น้องกายมาดูแลเลย 555555555 จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [100%] l P.6 14-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-11-2016 23:51:28
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [100%] l P.6 14-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 14-11-2016 23:57:51
พี่เรนน่ารักอีกแล้ว งือออออออ
โดนเจ้ากายมัดมือชกแบบงงๆ
แถมเจ้ากายก็แถซะข้างตัวแผลซิบๆเลย ฮ่าๆๆ
ขอบคุณค่ะฟาง รอตอนหน้าจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [100%] l P.6 14-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 15-11-2016 15:49:42
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 10 • [100%] l P.6 14-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: Arzumi ที่ 21-11-2016 01:21:59
ขอพี่เรนกลับบ้านได้ไหม  น่ารักอะไรเบอร์นั้น  :mew2:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [50%] l P.6 22-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 22-11-2016 23:00:28
(https://secure.static.tumblr.com/07afe26fe163d6dfe0c2f76a8a9fd2b7/hseprpd/mrQnbb41y/tumblr_static_tumblr_static_5f2er9vumts8w4sw0s8kww0ow_640.gif)
“ฮื่อ… ไม่มี พี่นอนก่อนนะง่วงมากเลย ฝันดีนะกาย”
rain
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 11 •





น้องกาย





ตือดึ่ง! ตือดึ่งๆๆๆ!



ผมใช้มือควานสะเปะสะปะเพื่อหาโทรศัพท์เจ้ากรรมที่มีเสียงแจ้งเตือนไลน์ดังไม่หยุดจนต้องตื่นจากฝันหวาน คนกำลังฝันดีว่าจะได้จูบกับพี่เรน ใครแม่งมาปลุกผมออกจากความฝันนี้วะ!!



ผมผงกหัวขึ้นหรี่ตามองเพราะแสงสว่างจ้าจากหน้าจอโทรศัพท์ทำให้แสบตา ใช้เวลาปรับสายตาอยู่สักพักจึงจะมองเห็นชัดขึ้น



เป็นข้อความจากเพื่อนๆ ในคณะ แม่งไม่นอนกันหรือยังไงวะ แล้วก็มีข้อความของพี่ตินา… หือ!!! พี่ตินา!!!



ผมเด้งตัวลุกขึ้นพรวดตาสว่างเลยครับก่อนจะกดเปิดหน้าจอแล้วเข้าแอพไลน์ทันที



     TiNa : ไอ้เรนกำลังจะกลับหอ มารับมันหน่อยดึกแล้ว
     TiNa : โทรศัพท์มันแบตหมดด้วย
     TiNa : *ส่งรูปภาพให้คุณ*




เป็นภาพพี่เรนที่กำลังทำหน้าตาง่วงนอนได้น่ารักมาก มือก็เหมือนกำลังจะเก็บของ ผมมองเวลาก่อนจะขมวดคิ้วเพราะนี้มันตีสามกว่าแล้ว



เมื่อตอนบ่ายพี่เรนบอกว่าจะอยู่วาดรูปแล้วก็ตัดโมเดลที่คณะเพราะพรุ่งนี้ตอนเที่ยงต้องส่งงาน นี่อย่าบอกนะว่าทำกันตั้งแต่บ่ายยังไม่ได้พักน่ะ วันนี้ผมเองก็ยุ่งครับ โดนเพื่อนบังคับให้เข้าไปดูน้องๆ ปีหนึ่ง คือให้ไปแนะนำตัวแหละเพราะผมเป็นเดือนปีสองไง กว่าจะหลุดออกมาได้ก็นู้นนน สามทุ่มแล้ว โดนพวกไอ้เกลียวลากไปหาอะไรกินต่อ กลับมาก็หลับยาวเลยครับ



“โอเค… เดี๋ยว ผม รีบ ไป… ครับ!” ผมกดข้อความส่งตอบพี่ตินาไปก่อนจะลุกจากเตียงไปล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อย ชุดไม่ต้องเปลี่ยนครับ ไปชุดไหนๆ ผมก็หล่อ



คว้าเอากุญแจรถ โทรศัพท์ กระเป๋าเงินมาถือแล้วล็อคห้องตรงไปที่ลิฟต์ทันที ปกติเวลาไปมหา’ลัย ผมจะเดินไปครับเพราะมันไม่ได้ไกลเท่าไหร่ แต่ตอนนี้มันดึกมากแล้ว อีกอย่างพี่เรนก็คงง่วงน่าดู…



ส่วนรถที่ผมมีเป็นรถยนตร์ครับ พ่อซื้อให้ตอนสอบติดมหา’ลัย บอกเอาไว้ใช้ ไม่ก็เอาไว้ขับกลับบ้าน นานๆ ทีก็เอามาขับครับ เวลารีบเร่ง



ผมกดเปิดรถมินิคูเปอร์สีน้ำตาลที่จอดไว้ใต้หอก่อนจะขึ้นไปนั่งแล้วขับออกจากหอไป ระยะทางจากหอผมไปมหา’ลัย เดินไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงประตูทางเข้าเพราะอย่างนั้นผมเลยใช้เวลาสิบนาทีในการขับรถไปถึงคณะศิลปกรรมศาสตร์



พี่เรนกับพวกพี่ตินายืนอยู่หน้าคณะ พวกพี่ผู้หญิงเหมือนจะบังคับอะไรพี่เรนสักอย่างเพราะพี่เขาทำหน้ามุ่ยแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน



“รอน้องมันมารับก่อน จะกลับไปเองได้ยังไง” พี่สาว่า น้องที่ว่าคงหมายถึงผม



“งือออ เรากลับเองได้ จะให้กายมารับทำไม” พี่เรนเริ่มงอแง คงเพราะง่วงแล้วก็อยากกลับแล้ว แต่พวกพี่เขายังไม่เห็นผมนะครับสงสัยจะคิดว่าผมคงเดินมารับไม่ได้ขับรถมา



“มันดึกแล้ว พวกฉันจะไปส่งก็ไม่ยอม เพราะอย่างนั้นก็รอน้องมันมารับนี่แหละ” พี่ใบหม่อนพูดอย่างไม่ยอมให้พี่เรนกลับเอง



คราวนี้คนน่ารักของผมทำหน้างอเลยครับ เห็นแล้วน่ารักชะมัดเลย ผมเดินตรงไปหาพวกพี่ๆ เขา “พี่ๆ สวัสดีครับ”



“อ้าว! ทำไมมาเร็วจัง” พี่ตินาหันมาถาม เพราะถ้าเดินอย่างน้อยก็เกือบๆ ยี่สิบนาทีได้



“นู้นครับ ขับรถมาจะได้รีบมารับพี่เรน” ผมชี้ข้ามไหล่ตัวเองไปที่รถของผมที่จอดอยู่



“เหยดดดด มินิคูเปอร์ ไม่ธรรมดานี่หว่าน้องกาย” พวกพี่ๆ เขาร้องออกมา คือ… เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเขาร้องกันแบบนี้ใช่ไหม เพื่อนผู้ใหญ่ในคณะผมก็ชอบร้องแบบนี้แหละ…



“ฮ่ะๆ พ่อให้มาน่ะครับ ผมว่ากลับกันดีกว่าพวกพี่จะได้รีบกลับไปนอนกันด้วย” ผมบอกกับพวกพี่ตินาก่อนจะหันไปหาพี่เรน หยิบย่ามใบโตที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา “ไปครับพี่เรน เดี๋ยวผมไปส่ง มีของอันไหนของพี่อีกไหม”



พี่เรนยังทำหน้ายุ่งอยู่ หันไปบ่นงุ้งงิ้งอะไรก็ไม่รู้กับพี่สา จนพี่สาตีแขนเข้าให้ “เลิกบ่น หยิบของกลับห้องนอน ยังไงน้องมันก็มารับแล้ว”



“งือ!” คราวนี้มางือสั้นๆ ห้วนๆ ครับ ปกติจะลากเสียงยาว แต่ไม่ว่าจะเสียงสั้นเสียงยาวผมก็ชอบหมดอะ



พี่เรนหยิบโมเดลขึ้นมาแล้วก็ทำท่าจะหยิบกระดานวาดรูป ผมเลยคว้ามาเสียก่อน ไม่กล้าถือโมเดลให้ครับกลัวทำพัง ผมบอกลาพี่ๆ เขาอีกรอบแล้วเดินนำพี่เรนมาที่รถ เปิดประตูหลังให้พี่เรนเอาโมเดลวาง รวมถึงย่ามแล้วก็กระดานวาดรูปด้วย



“ลำบากกายเลย” พี่เรนพูดตอนที่ขึ้นรถแล้วและผมกำลังถอยรถออก



“ไม่เป็นอะไรหรอก แค่นี้เองไม่ได้ลำบากอะไรครับ” ผมหันไปยิ้มให้



“งือออ นี่ยังไม่ได้นอนเหรอ”



“นอนไปแล้วครับ แต่ตื่นมาพอดีแล้วก็เห็นไลน์พี่ตินาผมก็เลยมารับพี่นี่ไง” ไม่บอกหรอกครับว่าเพราะเสียงไลน์ดังไม่หยุด “ว่าแต่พี่เถอะ กินข้าวหรือยัง ได้พักบ้างไหม แล้วนี่งานเสร็จแล้วใช่ไหมครับ”



พี่เรนพยักหน้ารับหงึกหงัก ตากลมๆ นั้นก็ปรือเหมือนจะหลับให้ได้ “กินข้าวแล้ว ไม่ได้พักเลยเพราะต้องเร่งทำงาน แต่ก็เสร็จแล้วหล่ะ ถึงได้กลับหอนี่แหละ” พูดจบก็หาวโชว์ผมอีก



ผมได้แต่ยิ้มขำกับท่าทางนั้น ก่อนจะหาเรื่องชวนคุยต่อ ก็ไม่พ้นเรื่องเรียนของพี่เขานั่นแหละครับ ตอนก่อนหน้านี้ผมแค่ชอบ แค่มองห่างๆ ไม่รู้หรอกว่าพี่เขาเรียนยังไง ทำงานยังไง นอนตอนไหน อาศัยแค่ส่องระเบียงห้องพี่เรนเฉยๆ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้วครับ ยิ่งได้เข้ามาใกล้ชิด มารู้จักก็ยิ่งอยากรู้ว่าพี่เรนเป็นยังไง ในแต่ละวันทำอะไรบ้าง เรียนหนักไหม งานเยอะหรือเปล่า ได้นอนตอนไหน กินอะไร และทำอะไรอยู่



“เป็นแบบนี้ประจำเลยเหรอ” ผมถามก่อนจะขยายความขึ้นเมื่อพี่เรนทำหน้างง “ผมหมายถึง ต้องเร่งทำงานจนดึกดื่นแบบนี้ เป็นประจำเลยเหรอครับ”



“อือ ก็ประจำนะ นี่ยังดีที่โมเดลไม่ใหญ่มาก บางงานไม่ได้นอนแบบสองสามคืนเลยก็มี ตางี้ดำยิ่งกว่าแพนด้าอีก” พี่เรนพูดพร้อมกับทำมือเป็นวงกลม เหมือนท่าโอเคนั่นแหละครับ แล้วก็เอามาแปะที่ตาตัวเอง



ฮ่าๆๆๆ น่ารักชะมัดเลย



“ไหวเหรอครับ ไม่เบลอแย่เหรอ” ผมเองก็เคยครับ ไม่ได้นอนเพราะปั่นโปรเจค คือแม่งโคตรจะมึนเลยครับ เบลอมากครับ



“ก็เบลอแหละ แต่ทำยังไงได้” พูดจบก็หาวอีกรอบ ดูท่าจะง่วงมากครับ



ผมเลี้ยวรถเข้าไปใต้หอพี่เรน ลงไปช่วยพี่เขาขนของเพราะมีทั้งโมเดล กระดานวาดรูปแล้วก็ย่ามใบโตที่ใส่อุปกรณ์วาดรูปเอาไว้เพียบ ตั้งใจว่าจะขึ้นไปส่งที่ห้องแล้วหลังจากนั้นก็ว่ากันอีกทีครับ



พี่เรนเปิดประตูห้องพักก่อนจะเดินนำเข้าไป เอาโมเดลวางไว้บนโต๊ะญี่ปุ่น ส่วนของที่ผมถือมาพี่เขาก็บอกให้วางไว้ข้างๆ กัน ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องที่ไม่ได้มาเกือบสัปดาห์ ทุกอย่างยังดูเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือกระดาษที่พี่เรนใช้ตัดโมเดล แล้วก็มีโมเดลเพิ่มมาอีกหนึ่งงาน



ส่วนหมีหลับไปแล้วครับ ไม่สนใจเลยสักนิดว่าใครจะเดินเข้ามาให้ห้อง



“ถ้านอนเลยแบบไม่อาบน้ำจะได้ไหมอะ” พี่เรนหันมาถามผม ตาปรือเต็มทีแล้วครับ



“นอนเลยครับ เอาไว้ตื่นมาค่อยอาบก็ได้ แล้วนี่ต้องตื่นไปส่งงานกี่โมง” ผมถาม พร้อมกับมองคนที่เดินไปนั่งห้อยขาอยู่บนเตียง



“ฮ้าว… อย่างช้าก็สิบเอ็ดโมงกว่าๆ เพราะอาจารย์ให้ส่งงานตอนเที่ยงถึงบ่ายโมง”



“แล้วมีเรียนไหมตอนเช้ากับตอนบ่าย” พี่เรนทิ้งตัวลงนอนขดแล้วครับ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีแก่ใจตอบคำถามของผมนะ



“ฮื่อ… ไม่มี พี่นอนก่อนนะง่วงมากเลย ฝันดีนะกาย”



แล้วคนง่วงก็นอนหลับไปครับ ส่วนผม… ได้แต่ยืนงงอยู่กลางห้อง ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอายังไงกับชีวิตตัวเองตอนนี้ดี ระหว่างเดินออกจากห้องพี่เรนไป พร้อมล็อคประตูปิดไฟให้เรียบร้อยแล้วกลับห้องตัวเองไปนอน หรือไม่ก็… หน้าด้านอยู่ห้องพี่เรนต่อ



ผมยืนคิดอยู่สักพัก…



และแล้วผมก็เลือกที่จะหน้าด้านครับ



ผมเดินไปปิดไฟ ใช้แสงไฟจากโทรศัพท์นำทางไปที่เตียงนอน ขออนุญาตถือวิสาสะนอนด้วยคนนะครับ… เอาไว้ตื่นค่อยมาว่ากันอีกทีว่าพี่เรนจะโกรธหรือไม่โกรธ



ผมหลับไปหลังจากหัวถึงหมอนได้ไม่นาน ข้างนอกฝนเริ่มตกทำให้บรรยากาศยิ่งเย็นสบายเข้าไปใหญ่ แล้วผมก็หลับยาวเลยครับ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีรู้สึกเหมือนมีอะไรเปียกๆ มาแตะโดนทั่วหน้าของผมแล้วก็รู้สึกหนักๆ ที่หน้าอก ผมหรี่ตาขึ้นมองก่อนจะเห็นเจ้าหมีมานั่งอยู่บนอกของผม แถมยังเอาจมูกมาดุนๆ ไปทั่วหน้าด้วย



“ว่าไง” ผมลูบหัวมันเล่น “อย่าซนนะรู้ไหม พี่เรนนอนอยู่”



หมีส่งเสียงร้องเบาๆ แล้วมันก็กระโดดลงจากเตียงไปนอนขดที่เบาะนอนของมันครับ คงพอใจแล้วที่มาปลุกผมให้ตื่นได้ เอาที่แมวสบายใจครับ...



ผมคว้าโทรศัพท์มากดดูเวลา เพิ่งจะแปดโมงเองปล่อยให้พี่เรนนอนต่อไปก่อนแล้วกัน เพิ่งจะได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงเองเอาไว้ตอนเกือบๆ สิบเอ็ดโมงค่อยปลุกพี่เขาให้ตื่น ผมหันไปมองพี่เรนที่นอนขดอยู่ข้างๆ แล้วก็ยิ้มออกมา



ใบหน้าขาวๆ นั้นดู... เรียกว่าอะไรนะ จิ้มลิ้ม... อะไรประมาณนั้น ดูน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนเด็กน้อยเลยครับ ขนตายาวๆ นั้นทาบไปกับแก้มขาวๆ จมูกโด่งๆ แล้วไหนจะริมฝีปากอิ่มนั่นอีก คนอะไรไม่ว่าจะมองมุมไหน มองยังไงก็น่ารักไปหมด



ถ้าตอนนี้ผมมีสถานะเป็นแฟนพี่เรน ผมคงดึงพี่เขาเข้ามาใกล้ๆ แล้วก็หอมไปที่แก้มขาวๆ นั้นหลายๆ ที ไม่ก็กัดแก้มสักที แต่ไม่ใช่ไงครับ ตอนนี้เลยได้ฝันเท่านั้นแหละ ถึงอย่างนั้นสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็เกินกว่าที่ผมคิดเอาไว้มากแล้ว ใครจะคิดว่าจากแอบมองเขามาเป็นปี แต่วันนี้ได้มานอนบนเตียงเดียวกับคนที่ชอบ ถึงแม้จะเป็นการที่ผมถือวิสาสะนอนเองโดยไม่ได้ขอก็เถอะ



ผมนอนมองพี่เรนอีกแปบก็ย่องออกจากห้องพี่เรนไปที่หอตัวเองเพื่อจัดการตัวเองให้เรียบร้อยครับ วันนี้ไม่มีเรียนผมเลยหยิบชุดสบายๆ มาใส่อย่างกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดแค่นั้นครับ แล้วก็ย่องกลับเข้าไปในห้องพี่เรนใหม่อีกรอบ



พี่เรนยังไม่ตื่นเลย...



“เหมียว~~~” ผมก้มลงมองเมื่อหมีเดินเข้ามาพันแข้งพันขาพร้อมร้องเรียกผมด้วย ผมเลยจัดการอุ้มมันขึ้นมากอดซะเลย “ว่าไง หิวแล้วละสิ เดี๋ยวไปหาอะไรให้กิน โอเคไหม?”



มาอยู่ห้องพี่ อย่านิ่งดูดาย ต้องหาอาหารให้แมวพี่กินด้วยครับ หลังจากเทอาหารเม็ดสำหรับแมวให้หมีเรียบร้อยแล้วผมก็ปล่อยให้มันกินอาหารไป ส่วนตัวผมก็เดินไปนั่งอยู่ข้างเตียงพี่เรน เอาแขนวางไว้บนเตียงแล้วก็เกยคางบนแขนตัวเองมองหน้าคนหลับไปเรื่อยๆ เพลินดีครับ



ผมนั่งอยู่แบบนั้นเกือบชั่วโมงได้ คนหลับก็เริ่มขยับตัว ผมอมยิ้มกับท่าทางที่เหมือนเด็กๆ ของพี่เรน พี่เขาพลิกตัวไปมาเหมือนกับไม่อยากจะตื่นนอน



“อรุณสวัสดิ์ครับ” ผมพูดเมื่อพี่เรนลืมตาขึ้นแล้วหันมาถามผม



ดวงตาที่โตอยู่แล้วเบิกกว้างขึ้นไปอีกเมื่อเห็นผมนั่งอยู่ตรงนี้ก่อนที่แก้มขาวๆ จะขึ้นสีจางๆ ดูน่ารัก



“อ... อรุณสวัสดิ์...” พี่เรนดูยังงงๆ ที่เห็นผมอยู่ในห้องแบบนี้ แล้วเจ้าตัวก็ลุกเดินเข้าห้องน้ำไปเลยครับ



ส่วนผมก็นั่งยิ้มขำกับท่าทางนั้น






************************************************
มาแล้วค่ามาแล้วววว เขาพัฒนานะเออ มีขับรถไปรับดึกๆ ดื่นๆ มีนอนด้วยกัน (ได้ข่าวว่าน้องกายมันหน้าด้านนอนเองนะ) อิอิ คู่นี้เขาเริ่มพัฒนาแล้วววว พี่เรนมีแก้มแดง น่ารักที่สุดเลย อยากจะเป็นน้องกายแล้วนอนมองพี่เรนนอน คือถ้าเป็นน้องกายก็คงคิดแบบน้องอะแหละเนอะ ถ้าเป็นแฟนนะ จะจับพี่เรนมาฟัดให้หนำใจเลย คนอะไรน่ารักน่าดูเอ็น เอ๊ย! น่าเอ็นดูไปหมดแบบนี้ ><

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเมนต์ กดโหวด คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [50%] l P.6 22-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung ที่ 22-11-2016 23:26:32

 พี่เรนน่ารักกกกกก น่าเอากลับไปเลี้ยงที่บ้าน หืมมมมใช่หรอ

 น้องกายหน้าด้านเข้าไว้ เดี๋ยวพี่เรนก็เสร็จเรา 5555
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [50%] l P.6 22-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 22-11-2016 23:46:43
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [50%] l P.6 22-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 23-11-2016 01:47:25
พี่เรนน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [50%] l P.6 22-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-11-2016 01:49:26
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [50%] l P.6 22-11-59
เริ่มหัวข้อโดย: Arzumi ที่ 28-11-2016 19:54:09
โอ๊ยยย หลงพี่เรน หลงจนไปไหนไม่รอดแล้วเนี่ย น่ารักอะไรขนาดนั้น  ฮือออ ใจทำงานหนัก  :hao7:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [100%] l P.6 02-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 02-12-2016 23:40:19
(https://secure.static.tumblr.com/07afe26fe163d6dfe0c2f76a8a9fd2b7/hseprpd/mrQnbb41y/tumblr_static_tumblr_static_5f2er9vumts8w4sw0s8kww0ow_640.gif)
“ฮื่อ… ไม่มี พี่นอนก่อนนะง่วงมากเลย ฝันดีนะกาย”
rain
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 11.2 •





• • • ต่อค่ะ 100% • • •





พี่เรน

   


อือ...



ยังไม่อยากตื่นเลยครับ…



ผมได้แต่พลิกตัวไปมาบนเตียงนอนนุ่มๆ ของตัวเอง นอนต่อได้ไหมอะ… แต่วันนี้มีส่งงานนี่นา งือ… ผมอยากนอนต่อ



พลิกตัวไปมาอยู่สักพักก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้ให้อาหารหมีเลย ไม่รู้หิวหรือยังแต่ก็แปลกปกติถ้าหิวหมีจะเข้ามาปลุกผมแล้วนะ หรือว่ายังเช้ามากอยู่กันแน่



“อรุณสวัสดิ์ครับ”



ผมตาโตด้วยความตกใจ ตอนแรกไม่ทันมองว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียวในห้อง พอเห็นใบหน้ายิ้มๆ ของน้องกายก็รู้สึกแปลกๆ ที่แก้มอย่างบอกไม่ถูก



“อ… อรุณสวัสดิ์…” ผมพึมพำตอบเสียงเบาก่อนจะลุกจากเตียงเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที



ทำไมแก้มมันร้อนๆ แบบนี้นะ…



ผมได้แต่ยกมือกุมแก้มของตัวเอง แล้วส่ายหน้าไปมา พลางนึกสงสัยว่าทำไมน้องเขาถึงมาอยู่ที่ห้องของผมได้นะ…



หลังจากล้างหน้าเรียบร้อยผมก็เดินออกจากห้องน้ำ เมื่อกี้รีบไปหน่อยเลยไม่ได้หยิบผ้าเข้ามาด้วย หน้าผมนี่เปียกน้ำไปหมด



“พี่นี่นะ…” กายที่นั่งเล่นอยู่กับหมีหันมามองผมก่อนจะส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นมาหา หยิบผ้าที่แขวนอยู่บนราวมาด้วยก่อนจะใช้ผ้าผืนนั้นเช็ดหน้าให้ผม



“ขอบคุณนะ”



กายยิ้มกว้างให้ผม ซึ่งผมก็ยิ้มตอบ ผมว่ากายเป็นคนที่ทำให้ใครต่อใครยิ้มตามได้ไม่ยากนะ



“ไปหาอะไรกินกันดีกว่าครับ หรือพี่เรนจะอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนแล้วลงไปทีเดียวดี” กายเอียงคอมองแล้วถามผม



ผมเอียงคอตามอีกคนก่อนจะตอบ “อือ… พี่อาบน้ำก่อนแล้วกัน จะได้ไปทีเดียวเลย ส่งงานเสร็จก็จะได้กลับมานอนยาวๆ ต่อ”



กายหัวเราะ ไม่รู้ว่าขำอะไรแต่ก็พยักหน้ารับกับคำพูดของผม แล้วก็หันไปเล่นกับหมีต่อ ผมมองกายเล่นกับหมีแล้วก็แปลกใจปกติหมีไม่ค่อยเข้าหาคนอื่นครับ กับพวกตินาบางทียังเล่นตัวไม่ยอมเล่นด้วยเลยแต่แปลก… กับน้องกายทั้งเล่นด้วยทั้งเข้าหาตลอดเลย



ผมยืนมองตาปริบๆ ก่อนจะสะดุ้งแล้วนึกขึ้นได้ว่าควรไปอาบน้ำได้แล้วก็ตอนที่กายเงยหน้าขึ้นมาถามผม “ไม่ไปอาบน้ำเหรอครับ”



“อ๊ะ… อ่าๆ อาบๆ เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ” ผมรีบพูดรัวเร็ว รู้สึกอายนิดๆ ที่ทำตัวเอ๋อๆ ออกไปแบบนั้นแล้วรีบคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไปทันที




เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมาผมกับกายก็ลงไปหาอะไรกินกันครับ ร้านใกล้ๆ หอ ส่วนโมเดลกับรูปที่จะต้องส่งอาจารย์ตอนเที่ยงอยู่ในรถของกาย น้องบอกว่าจะขับรถไปส่งผมที่คณะ จริงๆ แล้วผมก็เกรงใจนะครับบอกปัดไปแล้วด้วย… แต่เจ้าตัวไม่ยอมแถมยังถือโมเดลผมเดินลิ่วๆ ไปที่รถ เอาโมเดลของผมใส่ไว้ในรถแล้วปิดล็อคเรียบร้อย



ฮึ่ม!



น้องกายเอาแต่ใจ



“แก้มป่อง” กายพูดพร้อมกับเอานิ้วมาจิ้มๆ ที่แก้มของผมไปด้วย



“ฮึ่ม!”



ผมไม่ได้ตอบอะไรนอกจากส่งเสียงในลำคอพร้อมทำหน้าขรึม แต่เหมือนกายจะไม่กลัวผมเลยครับแถมยังหัวเราะผมอีกต่างหาก อะไรกัน! ผมมีอะไรน่าขำหรือยังไง



เดี๋ยวก็กัดเสียเลยนี่!!!







น้องกาย



ผมท้าวคางมองคนที่ทำหน้าบึ้งแก้มป่องที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมแล้วก็ได้แต่ยิ้ม ไม่รู้หรือยังไงว่าทำหน้าแบบนั้นน่ะ… ไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด ต้องบอกว่า… น่ารักมากเลยต่างหาก



ยิ่งตอนที่ทำหน้าเหมือนอยากจะกัดผมให้จมเขี้ยวแบบนั้นก็ยิ่งน่ารัก น่าฟัดมากขึ้นไปอีก ฮึ่ม!! อยากจะจับมาฟัดจริงๆ เลยให้ตายสิ แต่สถานะมันไม่ให้ไง ผมเลยได้แต่นั่งอมยิ้มมองคนน่ารักตรงหน้าแทน



“กินข้าวได้แล้วครับ เดี๋ยวไปๆ มาๆ ไปส่งงานไม่ทันนะ” ผมพูดยิ้มๆ ยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มพี่เรนอีกรอบ



โคตรนิ่มอะครับ นี่ถ้าไม่เกรงใจจะยกนิ้วขึ้นมาดมด้วยแล้วนะ อยากรู้ว่าหอมไหมแต่มันแลดูโรคจิตไปหน่อยก็เลยไม่ทำครับ แต่แก้มพี่เรนนิ่มมากจริงๆ ครับ ทั้งนิ่มทั้งนุ่มเลยครับ แล้วพี่เขาก็ใจดีไปอีกไม่มีห้าม ไม่มีว่าปล่อยให้ผมเล่นแก้มตามใจชอบซะอย่างนั้น



“กินข้าวครับ กินข้าว หรือจะให้ผมป้อน”



คนตรงหน้าผมทำปากยื่นก่อนจะลงมือกินข้าว ผมเห็นแบบนั้นก็เลยจัดการกับข้าวของตัวเองบ้าง



รู้สึกมีความสุขแล้วก็หัวใจพองโตยังไงก็ไม่รู้สิครับ การได้มานั่งกินข้าวกับคนที่ชอบแบบนี้เนี่ย



“ส่งงานเสร็จแล้วพี่เรนไม่มีเรียนต่อใช่ไหมครับ”



พี่เรนหยักหน้าหงึกหงักเพราะยังมีข้าวอยู่ในปากเลยไม่ได้พูดตอบผมกลับมา “ผมก็ว่าง อย่างนั้นตอนบ่ายเราพาหมีไปเที่ยวกันดีไหม ผมรู้จักแคทคาเฟ่อยู่ร้านหนึ่งแถวๆ สุขุมวิท”



พอผมพูดถึงแคทคาเฟ่พี่เรนก็ทำตาโตเป็นประกายเชียวครับ แล้วก็พยักหน้ารับ “ไปๆ พี่ก็เคยเสิร์ชเจอ อยากไปตั้งหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีคนพาไป พวกตินาบอกจะพาไปตั้งนานแล้วแต่ยังไม่ยอมพาไปสักที พี่นะไปเองก็ไม่ยอมให้ไป ไปกันนะ นะๆ นะ”



พี่เรนนี่สามารถทำหน้าได้หลากหลายในหนี่งประโยคนะครับ ตอนแรกทำตาวิบวับเชียว ก่อนจะทำหน้างอนหน้าบึ้งตอนพูดถึงพวกพี่ตินา ก่อนจะทำหน้าอ้อนใส่ผมตอนท้ายประโยคอีก



“ไปนะกายนะ พาพี่ไปนะ ไปกันนะพี่อยากไป” พี่เรนอ้อนผมอีกรอบเมื่อยังเห็นผมไม่ตอบอะไรออกไป



ที่จริงก็อยากจะแกล้งทำยึกยักมากกว่านี้นะครับ แต่พอเห็นตาอ้อนๆ หน้าอ้อนๆ ของพี่เรนแล้ว หน้าผมมันก็กดลงโดยอัตโนมัติเลยครับ พอเห็นผมพยักหน้ารับพี่เรนก็ยิ้มกว้าง ชูมือขึ้นอย่างกับเด็กๆ



แต่ก็โคตรน่ารักเลยละครับ



หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จแล้วผมกับพี่เรนก็เดินกลับไปที่หอของพี่เขาอีกรอบเพราะว่างานที่ต้องส่งของพี่เรนอยู่ในรถของผม



ผมขับรถเข้าไปในมหา’ลัยก่อนจะหาที่จอดรถแถวหน้าคณะของพี่เรน ช่วยพี่เขาถือของเดินเข้าไปในคณะ แน่นอนว่ามีหลายคนที่มองมาครับ คงจะสงสัยว่าทำไมไอ้เด็กหน้าแปลกแต่งตัวแปลกอย่างผมถึงมาเดินอยู่ในคณะศิลปกรรมแบบนี้



“เรน ทางนี้”



ผมกับพี่เรนหันมองตามเสียงเรียกชื่อของพี่เรนก่อนจะเห็นพวกพี่ตินายืนโบกไม้โบกมือให้



“สวัสดีครับ” ผมทักทายพวกพี่ๆ เขา ซึ่งพวกพี่ๆ ก็ทักทายผมกลับมาครับ



ผมนั่งลงข้างพี่เรน ปล่อยให้พวกพี่เขาคุยกันไปเรื่องงาน เรามาถึงก่อนเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงครับเลยต้องรอให้เที่ยงก่อนพวกพี่ๆ เขาถึงจะส่งงานได้ ตอนนี้ก็เลยนั่งคุยกันส่วนผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมานั่งเล่น มีตอบคำถามบ้างเวลาพวกพี่เขาถามมา



“กาย… พี่เอางานไปส่งก่อนนะ” ผมเงยหน้าจากโทรศัพท์ที่กำลังคุยอยู่กับพวกไอ้ไม้ขึ้นมองพี่เรน ก่อนจะพยักหน้ารับ



“ครับผม เดี๋ยวผมนั่งรอตรงนี้นะ”



“สรุปพาไปคาเฟ่แมวแน่นะ” พี่เรนถามย้ำอีกรอบ มีการหรี่ตามองผมด้วย



ผมหัวเราะ พยักหน้ายืนยันหนักแน่นไปอีกหลายรอบ “ครับผม พาไปแน่นอน ไปส่งงานได้แล้วพี่เรนเดี๋ยวเราจะได้ไปรับหมีแล้วไปคาเฟ่แมวกัน”



พอผมพูดแบบนั้นพี่เรนที่หรี่ตามองผมอยู่ก็ยิ้มกว้างตาเป็นประกายทันที แล้วก็รีบหอบงานขึ้นมาถือ แล้วถ้าผมไม่ห้าม… ผมเชื่อว่าพี่เขาต้องวิ่งแน่นอนครับ



“พี่เรนอย่าวิ่งนะ! เดี๋ยวล้มไปงานพังหมดไม่รู้ด้วยนะครับ”



ผมก้มลงมองโทรศัพท์อีกรอบเพราะมันยังแจ้งเตือนไม่หยุดที่พวกเพื่อนผมคุยกัน วันนี้ไม่มีเรียนพวกมันก็เลยว่าจะนัดกันไปถ่ายรูปแถวๆ เกาะรัตนโกสินทร์ ถ้าปกติผมคงตอบตกลงไปแล้วละครับเพราะพวกเราเป็นอย่างนี้ประจำ วันไหนที่ไม่มีเรียน หรือได้หยุดติดต่อกันหลายวันเรามักจะออกทริปไปถ่ายรูปกัน ถ้าหยุดวันเดียวก็เลือกในกรุงเทพนี่แหละ แต่ถ้าหลายวันหน่อยก็แบกเป้แบกกล้องออกต่างจังหวัดกันครับ



          mac : สัสกายแม่งเงียบ
          mac: ตกลงมึงจะไปไหม หลับต่อหรือยังไงวะ
          pae: มันต้องไปนอนกกพี่เรนของกูอยู่แน่ๆ เลยว่ะ
          mai: *ส่งสติ๊กเกอร์*
          kleow:*ส่งสติ๊กเกอร์*




ผมได้แต่แยกเขี้ยวใส่หน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป



กูไม่ไป กูนัดกับพี่เรนเอาไว้แล้วว่าจะพาพี่เขาไปคาเฟ่แมวแถวๆ สุขุมวิท : kamin
[/i]



แล้วพอผมส่งข้อความไปแบบนั้นพวกเพื่อนๆ ที่น่ารักก็จัดการบรรเลงเลยครับ ด่าผมกันสนุกเลยครับ



         mai: ใช่สิ! พวกกูมันก็แค่เพื่อนที่เรียนด้วยกันมา จะไปสู้พี่เรนได้ยังไง
          mac: มึงก็รู้ คนเราระหว่างเพื่อนกับเมีย ก็ต้องเลือกเมียป่าววะ
          kleow: *ส่งสติ๊กเกอร์*
          pae: ไอ้แม็คพูดถูก เพื่อนอย่างเราๆ จะสู้เมียได้ยังไง




พวกมึง… คือ… : kamin
กูยังไม่ได้พี่เรนเป็นเมียเลย พูดงี้พี่เขาเสียหายนะมึง : kamin
กูดูเป็นสุภาพบุรุษอะ เหี้ย! กูเขิน >< : kamin



ผมนั่งคุยกับพวกมันต่อจนกระทั่งเห็นพี่เรนเดินกลับมาพร้อมพวกพี่ตินาผมก็เลยเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง “ส่งงานเรียบร้อยแล้วเหรอครับ”



“อือ! เรียบร้อยแล้ว เราไปกันเลยไหม ไปๆ ไปเลยนะ” พี่เรนร้องอ้อนออกมาอีกรอบ ดูท่าจะอยากไปมากจริงๆ นะครับ



“นี่จะไปไหนกัน” พี่ใบหม่อยถาม



“ไปคาเฟ่แมว กายจะพาเรากับหมีไป พวกใบหม่อนไปด้วยกันไหม” พี่เรนหันไปตอบ



พวกพี่ๆ เขาร้องอ๋อแล้วก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธกันอย่างพร้อมเพรียง



“ขอบายดีกว่า ตอนนี้ง่วงมากแทบไม่ได้นอนเพราะตัดโมเดล” พี่สาพูด



พี่ๆ คนอื่นๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วยกับพี่สาทุกคนก็เลยปฏิเสธไม่ไป สรุปก็เลยมีแค่ผมกับพี่เรนสองคน เราแยกกับพวกพี่ๆ เขาที่หน้าคณะก่อนที่ผมกับพี่เรนจะเดินกลับไปที่รถ



ต้องกลับไปรับหมีที่หอก่อนครับ แล้วค่อยขับรถไปกัน ไปเวลาแบบนี้รถไม่ค่อยติดเราเลยเสียเวลากันไม่มาก ร้านคาเฟ่แมวที่ผมพาพี่เรนมาบรรยากาศจะตกแต่งแบบ... เขาเรียกว่าอะไรนะ พี่เรนบอกว่าเป็นแนวยุโรป แนวโคโลเนียล ผมก็ไม่เข้าใจหรอกครับว่าโคโลเนียลมันเป็นยังไง แต่ก็คงเป็นแบบที่ร้านนี้นี่แหละ



บริเวณร้านมีส่วนที่เป็นคาเฟ่กับที่เป็นร้านอาบน้ำตัดขนแมวครับ คนไม่เยอะเท่าไหร่แต่ก็พอมี



ผมเดินตามพี่เรนที่อุ้มหมีเข้าไปในร้าน บรรยากาศภายในถือว่าดีเลยครับตกแต่งด้วยไม้เกือบทั้งหมด ผนังบางส่วนเป็นลายอิฐ บางส่วนเป็นไม้ มีตู้โชว์สูงตั้งโชว์ของเกี่ยวกับแมวเอาไว้เต็มเลยครับ แล้วพอเดินเข้ามาด้านในบรรดาแมวเหมียวนับสิบตัวก็ส่งเสียงร้องออกมาพร้อมกันเลย ก่อนจะเดินเข้ามาคลอเคลียผมกับพี่เรน



ถูกใจพี่เรนเขาละครับ ยิ้มกว้างเลย นั่งยองๆ เล่นกับแมวแล้วนั่น หมีก็ดีนะครับ ไม่มีกลัว ไม่มีหวงเจ้าของแถมยังเข้าไปดมๆ แมวตัวอื่นอีกด้วย



“พี่เรนครับ หาโต๊ะนั่งกันก่อน” ผมเดินเข้าไปสะกิดพี่เขาเมื่อดูท่าทางแล้วน่าจะปักหลักนั่งอยู่กลางร้านแบบนี้



“อ่ะ... อ่า จริงด้วยๆ นั่งพื้นนะ” พี่เรนหันมาบอก ไม่รู้ว่าจะอ้อน หรือสั่ง แต่ไม่ว่าอะไรผมก็ตามใจแหละครับ



ที่ร้นเขาจะมีที่นั่งสองแบบคือแบบนั่งเบาะกับพื้น แล้วก็นั่งโต๊ะ พี่เรนเดินนำผมไปที่มุมหนึ่งซึ่งเป็นโต๊ะแบบนั่งพื้น พอลงนั่งเรียบร้อยบรรดาแมวเหมียวในร้านก็เดินตามมาคลอเคลียใกล้ๆ ทันทีครับ



ผมกับพี่เรนสั่งขนมเค้กกันไปคนละชิ้น น้ำคนแก้วแค่นั้นครับ เน้นนั่งเล่นกับแมวมากกว่ามาหาอะไรลงท้อง อีกอย่างเพราะเราเพิ่งกินข้าวกันไปตอนสิบเอ็ดโมงด้วยก็เลยยังไม่มีใครหิว



ผมหยิบกล้องขนาดเล็กเหมือนพวกกล้องดิจิตอล ฟรุ้งฟริ้งอะไรพวกนั้นแหละครับ แต่ของผมไม่ได้สีหวานอะไรแบบนั้นนะ ของผมอย่างเท่เป็นแนววินเทจสีน้ำตาล กล้องตัวโปรดผมเลยละครับ นั่นแหละ... ผมหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปพี่เรนที่กำลังนั่งอยู่ท่ามกลางดงแมวเหมียว



มีหมีนั่งประกาศศักดาความเป็นเจ้าของอยู่ที่ตัก ส่วนแมวของร้านบางตัวก็นอนซุกขาพี่เรน บางตัวก็เกาะแขนเกาะขา บางตัวก็จะขึ้นไปนั่งบนตักด้วย



ผมได้รูปพี่เรนมาหลายรูปเลยครับ เป็นที่พอใจมาก สักวัน... ผมว่าผมจะจัดแสดงรูปภาพคอลเลคชั่นพี่เรนนะ เพราะกว่าจะถึงวันนั้นผมมีคอลเลคชั่นภาพพี่เรนหลายชุดเลยทีเดียว



ผมว่าพี่เรน... เป็นฝนที่ไม่ได้สื่อถึงความเหงา ความเศร้า แต่พี่เรนเป็นฝนที่สื่อถึงความสุข



“พี่เรนยิ้มหน่อยครับ เดี๋ยวผมถ่ายรูปให้” ผมเปลี่ยนเป็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปแทน เอ่ยทักให้คนที่สนใจแมวเงยหน้าขึ้นมอง



พี่เรนเงยหน้าขึ้นก่อนจะยิ้มกว้างใส่กล้อง ผมก็กดถ่ายไปหลายรูปจนพอใจ พี่เขาก็ก้มลงเล่นกับแมวต่อ



ผมปล่อยให้พี่เรนสนใจและใช้เวลาอยู่กับน้องแมวเหมียวไป ส่วนผมก็นั่งดูรูปพี่เรนที่ถ่ายเอาไว้ เลือกเปิดไปเปิดมาอยู่หลายภาพก่อนจะตัดสินใจโพสภาพลงไป ไม่ได้แท็กพี่เขาครับ ปล่อยให้คนดูคิดกันเอาเอง



รูปที่ผมเลือกลงเป็นภาพของพี่เรนแต่ว่าไม่เห็นหน้าครับ เห็นตั้งแต่ช่วงเอวลงไปเพราะผมกำลังโฟกัสภาพที่หมีที่มองมาที่กล้องพอดี มือข้างหนึ่งของพี่เรนจับหมีเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็กำลังลูบหัวแมวอีกตัว แถมรอบๆ ตัวยังมีแมวอีกหลายตัว หลายสายพันธ์ด้วย



          Guy Kamin ได้เพิ่มรูปภาพใหม่
          เมื่อสักครู่

          น่ารักทั้งแมว... ทั้งคน... :)
          น่ารักแบบนี้อยากจะพามาบ่อยๆ เลย





read (20:21) : *ส่งรูปภาพ* : kamin
read (20:21) : *ส่งรูปภาพ* : kamin
read (20:21) : *ส่งรูปภาพ* : kamin
read (20:21) : *ส่งรูปภาพ* : kamin
read (20:22) : *ส่งรูปภาพ* : kamin



Rainramin: โห... หลายรูปเลย ถ่ายตอนไหนเนี่ย



read (20:30) : ตอนที่พี่เรนเผลอไง น่ารักผมก็เลยถ่ายเอาไว้ : kamin
read (20:30) : ไม่ได้ขอก่อน ไม่โกรธใช่ไหมครับ : kamin



Rainramin: ไม่โกรธๆ แต่ไม่เหมือนตัวจริงเลยอะ
Rainramin: กายถ่ายรูปเก่งอะ อิอิ




read (20:41) : 555555 : kamin
read (20:41) : ก็นายแบบหน้าตาดี น่ารัก ถ่ายรูปออกมาก็เลยดูดีไงครับ : kamin



Rainramin: อ่า...
Rainramin: 555555




read (21:14) : ผมมีอะไรจะถามพี่เรนด้วย : kamin



Rainramin: อะไรเหรอ???



read (21:33) : ที่ผมทำไปทั้งหมด... ผมหวังผลนะ : kamin



Rainramin: หวังผล???



read (21:45) : หวังให้พี่เรนมาเป็นนายแบบให้ผมไง : kamin
read (21:45) : 555555555555: kamin





กาย คามิน @Guy_Kamin
ที่ผมทำไปทั้งหมด... ผมหวังผลนะ
ไม่ได้หวังให้พี่มาเป็นนายแบบ
แต่หวังให้พี่มาเป็นแฟน
#นี่จีบอยู่นะรู้ตัวบ้างไหมเนี่ย






************************************************
ครบ 100% แล้วค่ะ คู่นี้เขาน่ารักอ่ะ น่ารักทั้งพี่เรนทั้งน้องกายเลย อยากจะขอสั่งสองคนนี้ห่อใส่ถุงกลับบ้านหน่อยค่ะ จะเอาไปนอนฟัด โดยเฉพาะพี่เรนที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูน่ารัก น่าเอ็นดู น่ากลั่นแกล้งตลอดเลยยยยยย

คือคอมเมนต์น้อยจัง... อ่านแล้วคอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยได้ไหมอะ ทำงานมาเหนื่อยมาก แล้วยังต้องอ่านหนังสือสอบอีก ก็อยากได้กำลังใจจากคนอ่าน จากคอมเมนต์ในนิยายเนอะ (คอมเมนต์จะชม จะอวย จะติ จะเตือน จะแนะ ฟางโอเคหมด เพราะทุกคอนเมนต์ไม่ว่าจะกรณีไหนก็ถือคือหนึ่งในกำลังใจสำคัญของฟางค่ะ)

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเมนต์ กดโหวด แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ

หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [100%] l P.6 02-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 03-12-2016 00:03:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [100%] l P.6 02-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 03-12-2016 00:35:07
พี่เรนน่ารัก โดนเฉพาะตอนแก้มป่อง
อยากเอื้อมมือไปหยิก >_<
ยิ่งตอน เดี๋ยวก็กัดเสียเลยนี่!!! น่ากลัวมาเลยพี่เรน งือออออ
เจ้ากายนะ จีบให้พี่เค้ารู้ตัวด้วยสิ นี่ก็เริ่มรู้สึกร้อนแก้มแล้ว
อีกนิดน่าจะรู้ตัวรู้ใจ ผลที่หวังไว้ก็สำเร็จ   :m1:
ขอบคุณฟางค่ะ สู้ๆน้า ทำสอบให้ได้นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [100%] l P.6 02-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-12-2016 05:29:39
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [100%] l P.6 02-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 03-12-2016 09:04:09
พี่เรนน่ารักอ่ะ น้องกายก็สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [100%] l P.6 02-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 03-12-2016 10:51:41
 :z3: :z3: :z3:
พี่เรนแกไม่หวั่นไหวบ้างหรือคะ?
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [100%] l P.6 02-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 03-12-2016 14:52:02
ตามอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ 55555 พี่เรนเอ๋อได้น่ารักอ่าาา
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [100%] l P.6 02-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 03-12-2016 23:44:52
พี่เรนน่ารักสุดๆ
น้องกายต้องจีบให้ติดนะ

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [100%] l P.6 02-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: Arzumi ที่ 04-12-2016 20:45:22
พี่เรนเนี่ยน่ารักตลอดเลยชอบทำให้หลง  ฮือออออ :-[ :impress2: :o8:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [100%] l P.6 02-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 05-12-2016 15:58:27
ก็น่ารักดีอ่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [100%] l P.6 02-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: P.PIM ที่ 07-12-2016 12:56:47
น่ารักไปหมดเลยเรื่องนี้ ทั้งแมว ทั้งคน  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 11 • [100%] l P.6 02-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: WASHABHI ที่ 16-12-2016 19:05:05
น้องกายน่ารักกกกกก  นี่เขินแทนพี่เรนแล้วววววว  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [50%] l P.7 18-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 18-12-2016 22:26:24
(https://www.dramafever.com/st/news/images/433221d3-5506-4f17-a578-1ef342f73580.gif)
"รูปที่ผมกำลังมองอยู่นั้นก็คือรูปของพี่เขาเองนั่นแหละครับ..."
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ




โชคครั้งที่ • 12 •





พี่เรน





“พี่เรนครับ…”



“พี่เรน…”



“พี่เรนครับ!”



ผมสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงคนเรียกเสียงดัง เงยหน้าขึ้นจากกระดาษที่กำลังวาดรูปอยู่ขึ้นมองคนที่เรียกผม



ผมเอียงคอด้วยความสงสัย… เดี๋ยวนี้มีแต่คนที่ผมไม่รู้จักทักผมเยอะแยะไปหมด… อยากจะรู้จังว่าพวกนี้เขารู้จักผมได้ยังไงนะ



“ครับ” ผมถามรุ่นน้องตรงหน้า ก็เขาเรียกผมว่าพี่ ก็แสดงว่าเขาต้องเป็นน้องผมน่ะสิ



น้องคนตรงหน้าสะพายกล้องเอาไว้ เหมือนน้องกายเลย แต่ก็ไม่แปลกหรอกแถวนี้มีแต่คนสะพายกล้องเอาไว้ มีผมนี่แหละที่แปลกที่ถือกระดานวาดรูปแทนกล้อง ก็ตอนนี้… ผมอยู่ใต้คณะนิเทศศาสตร์นี่นะ



“ผมขอถ่ายรูปพี่เรนได้ไหมครับ” น้องถามพร้อมกับยกกล้องขึ้นชู



ส่วนผมนี่… ส่ายหน้าทันทีเลยครับ “ข ขอโทษนะ แต่พี่… ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปเท่าไหร่”



“แค่รูปเดียวเอง นะครับ ผมขอถ่ายรูปหน่อยนะ”



งือ… ผมไม่ชอบให้คนอ้อน เพราะผมมักจะใจอ่อนได้ง่ายๆ แต่ผมก็ไม่อยากถูกถ่ายรูปนี่



“อ่า… ไม่เอาๆ ไม่ถ่ายนะ”



“แล้วทำไมทีพี่กายยังถ่ายรูปพี่เรนได้เลยละครับ”



ผมทำหน้ายุ่ง “ก็นั่นน้องกายไง”



เอ… จะว่าไปก็แปลก ผมไม่ค่อยถ่ายรูป ส่วนใหญ่พวกตินาจะชอบบังคับผมให้ถ่าย ซึ่งผมก็ยอมนะเพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่กับกาย… ผมก็ไม่ได้สนิทมากนะเพราะเอาจริงๆ ก็เพิ่งรู้จักกันเอง แต่ผมกลับยอมให้น้องถ่ายรูปแหะ



หรือว่าเพราะเป็นน้องกายกันแน่…



ก็คงใช่แหละ “ก็เพราะเป็นกาย พี่ก็เลยยอมให้ถ่ายไง แต่น้องไม่ใช่เพราะอย่างนั้น… ไม่ถ่ายรูปพี่เนอะ”



“อ่า… ค ครับๆ ไม่ถ่ายก็ไม่ถ่ายครับ” น้องเขาพูดก่อนจะก้มหัวให้ผมสองสามทีแล้วก็เดินไป



ผมมองตามแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วก็กลับมาสนใจรูปที่วาดค้างเอาไว้อยู่ นั่งวาดมาสักพักแล้วครับ โครงหน้าก็เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้ใส่รายละเอียดอะไรเลย



อือ… ตรงนี้แปลกๆ แหะ ลบวาดใหม่ดีกว่า



จนกระทั่งแก้ภาพร่างจนพอใจแล้วผมถึงได้เงยหน้าขึ้นจากกระดานวาดรูป ผมหยิบโทรศัพท์มากดดูเวลา… กายใกล้เลิกเรียนแล้ว อีกเดี๋ยวก็คงจะลงมา



อ๋อ… ตอนนี้ผมนั่งวาดรูปอยู่ที่ใต้ตึกคณะนิเทศครับ คณะนี้คนเยอะมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลย ต่างจากคณะของผมเลยครับ คณะผมคนน้อย แล้วก็ใช้โรงอาหาร ใช้อะไรหลายๆ อย่างร่วมกับคณะอื่น แต่ผมก็ชอบคณะผมนะ เพราะแถวนั้นต้นไม้เยอะดีครับ ไม่เหมือนคณะนี้ที่ไม่ค่อยมีเท่าไหร่ แต่สิ่งที้สวยของที่นี่ก็คือ… ทุกๆ ที่ดูมีดีไซน์มากครับ มีจัดมุมเหมือนทำเป็นกองถ่ายละครด้วย เท่ดีนะ



“พี่เรน รอนานเลยใช่ไหม” ผมหันกลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงเรียก



“ไม่หรอก” ผมส่ายหน้าแล้วยิ้มกลับไป



“พี่เรนสวัสดีครับ”



“อ่า… สวสดีครับ” ผมยิ้มทักทายกับเพื่อนๆ ของกาย ผมเคยเห็นพวกเขานะตอนเจอน้องกายแรกๆ แต่ยังไม่รู้ว่าใครเป็นใครชื่ออะไรกัน



กายแนะนำเพื่อนแต่ละคนของเขาให้ผมรู้จัก พวกนี้ตลกดีนะครับ แลจะอารมณ์ดีกันทุกคนเลย



“พี่เรนไปกันดีกว่าครับ เดี๋ยวไปถึงเย็นแล้วแสงจะหมดก่อน”



ผมพยักหน้ากับคำพูดของกายแล้วก้มลงเก็บดินสอลงกระเป๋าใส่ดินสอแล้วเอาใส่กระเป๋าสะพายใบใหญ่ของตัวเอง ผมชอบสะพายกระเป๋าใบใหญ่ๆ มันใส่ของได้เยอะดีครับ



พอผมเก็บของเสร็จน้องกายก็คว้าเอากระดานวาดรูปของผมไปถืออย่างทุกที ผมโยกมือลาเพื่อนๆ ของน้องกายก่อนจะเดินตามน้องไปที่รถ



“พี่เรนหิวหรือยัง อยากแวะกินอะไรก่อนไหมครับ” กายหันมาถามผมในระหว่างที่ขับรถออกจากมหา’ลัย



“พี่ยังไม่ค่อยหิว ว่าแต่กายหิวหรือยัง”



“ยังครับ อย่างนั้นเราค่อยกินตอนเย็นทีเดียวเลยเนอะ แต่ถ้าหิวก็บอกผมนะ จะได้หาอะไรกินกัน”



“อืม!” ผมพยักหน้าให้



วันนี้น้องกายขอให้ผมไปถ่ายรูปเป็นเพื่อนครับ เขาบอกว่าอาจารย์ให้หัวข้อถ่ายรูป หัวข้อธรรมชาติมา ก็เลยมาชวนผมไปสวนสาธารณะด้วยกันวันนี้ ซึ่งผมก็ว่างอยู่แล้วครับ เพิ่งส่งงานไปยังไม่มีงานใหม่ต้องส่ง ผมก็เลยมาด้วย ก็น้องกายไปไหนมาไหนเป็นเพื่อนผมตั้งหลายรอบแล้วนี่นา ผมก็มาเป็นเพื่อนน้องเขาบ้าง



“แล้วเพื่อนๆ เขาไม่มาถ่ายรูปด้วยกันเหรอ”



“พวกมันติดงานอื่นอยู่ครับ งานนั้นมันเร่งกว่าเลยไม่ได้มา อีกอย่าง… อาทิตย์หน้ามีวันหยุดของมหา’ลัย พวกผมตั้งใจจะออกทริปด้วยกันอยู่แล้ว” กายพูด



ผมพยักกน้ารับพร้อมกับร้องอ๋ออย่างเข้าใจแล้ว “ออกทริปกันบ่อยเหรอ”



“ครับ บางครั้งถ้ามีวันหยุดสองวันผมก็ออกทริปกันแล้วครับ ไปใกล้ๆ จริงสิ! พี่เรนไปด้วยกันไหมครับ ผมจะไปบางกระเจ้ากัน อยู่แค่สมุทรปราการนี่เองครับ”



ผมหันไปมองคนถาม ทำหน้าลังเลใจ ผมไม่มีความรู้เรื่องกล้อง ไม่ได้ชอบถ่ายรูปถ้าผมไปมันจะเป็นการรบกวนพวกน้องๆ เขาหรือเปล่านะ



“สวยนะครับพี่เรน ถ้าพี่เรนชอบวาดรูปธรรมชาติที่นี่ก็น่าสนใจนะครับ”



พอได้ยินแบบนั้นผมก็ชักจะสนใจแล้วสิ “ถ้าพี่ไป… จะไม่รบกวนพวกกายเหรอ”



“ไม่หรอกครับ ผมก็ไปกับเพื่อนในกลุ่ม ไอ้พวกเมื่อกี้น่ะครับ เน้นไปเที่ยวปั่นจักรยานกัน พี่เรนอยากไปไหม พาหมีไปด้วยก็ได้นะครับ ผมขับรถกันไปเอง” น้องกายเล่าเรื่องทริปให้ผมฟังใหญ่ “ไปถึงนู้นเราก็ปั่นจักรยานแทนครับ”



อือ… เอายังไงดีนะ จะไปดีหรือเปล่า ใจหนึ่งก็อยากไปนะครับ แต่อีกใจก็…



“ไปนะครับ ไปเที่ยวกันนะ”



“อือ…”



พอเห็นสายตาเหมือนจะอ้อนๆ ของน้องกาย ผมก็เผลอพยักหน้ารับไปแล้วล่ะครับ



“เย่!!” น้องกายร้องออกมาอย่างดีใจพร้อมกับยิ้มกว้างจนตาแทบปิด จนผมได้แต่ยิ้มตาม



กาย… เป็นคนที่ใครเห็นก็ต้องยิ้ม



อ่า… ทำไมผมรู้สึกแปลกๆ หัวใจเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ แหะ สงสัยจะตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวแน่เลย



ไม่นานหลังจากนั้นพวกเราก็ถึงสวนสาธารณะกลางกรุงกันครับ กายวนรถเข้าไปจอดรถในอาคารใกล้ๆ กับสวนสาธารณะก่อนที่จะเดินข้ามถนนกันไป ในมือของกายมีทั้งกล้องถ่ายรูปแล้วก็กระดานวาดรูปของผม ส่วนผมก็สะพายแค่กระเป๋าใบโตใบเดียว



ผมกับกายเลือกมุมที่ต้นไม้เยอะๆ เพื่อป้องกันตัวเองจะแดดของกรุงเทพด้วย พอเลือกที่ได้ผมก็ตั้งหลักนั่งวาดรูปต่อทันที ส่วนกายก็เริ่มเดินไปรอบๆ คงหามุมที่จะถ่ายรูป



ผมเงยหน้ามองคนที่เดินถือกล้องไปมาสลับกับกระดานวาดรูปของตัวเอง ก็… ผมวาดรูปน้องกายนี่ครับ จะไม่มองน้องเขาได้ยังไงล่ะ



ผมใช้สมาธิอยู่กับการวาดรูปแบบนั้นไปเรื่อยๆ ลบตรงนู้นแก้ตรงนี้ จนสุดท้ายก็ได้ภาพร่างมาใหม่ แล้วผมก็ชอบภาพนี้นะ ชอบกว่าภาพร่างก่อนหน้านี้อีก



น้องกายดูจะชอบการถ่ายรูปมากๆ เวลาเขาถือกล้องอยู่ในมือทีไรจะมีแต่รอยยิ้ม เพราะอย่างนั้น… รูปบนกระดาษของผม ก็เป็นภาพตอนที่กายกำลังดูรูปจากกล้อง ไม่รู้หรอกว่าดูรูปอะไรอยู่ แต่ทั้งปากแล้วก็ตายิ้มเป็นประกายเสียขนาดนั้น เขาคงชอบรูปนั้นมากจริงๆ



อ่า… เอาอีกแล้ว หัวใจผมเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ อีกแล้ว



สงสัยจะตื่นเต้นที่ได้วาดรูปอะไรแบบนี้...








น้องกาย



วันนี้อากาศดีนะครับ ไม่รู้ว่าอากาศดีเพราะอากาศมันดีจริงๆ หรือเพราะคนที่อยู่ด้วยเลยทำให้อะไรๆ มันดีไปหมดก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ผมว่า... เป็นเพราะคนที่อยู่ด้วยกันครับ



ผมทิ้งตัวลงนั่งบนสนามหญ้าหันหน้าไปมองคนที่กำลังอมยิ้มเล็กๆ ที่ก้มหน้าก้มตาอยู่กับกระดาษ มือที่จับดินสอก็ขยับไปมา แล้วก็ทำหน้าบึ้งปากยื่นตอนที่วาดรูปไม่ได้ดั่งใจ ก่อนจะใช้อีกมือหยิบยางลบมาลบรูป



เป็นคนที่แสดงออกทุกอย่างทางสีหน้าจริงๆ สินะ พี่เรนเนี่ย...



ผมยกกล้องขึ้นเล็งไปที่พี่เรนที่ไม่ได้สนใจอะไรอย่างอื่นนอกจากการวาดรูปก่อนจะกดถ่ายรูปพี่เรนเอาไว้หลายรูปเลยครับ จริงๆ แล้วเหตุผลที่ผมชวนพี่เรนมานี่ไม่ใช่เพราะว่าผมอยากจะมาถ่ายรูปธรรมชาติอะไรนั่นตามที่บอกพี่เขาไปหรอกครับ



ก็แค่...



อยากหาข้ออ้างได้อยู่กับพี่เรนสองคนมากกว่า



ไม่ต้องพูดคุยกันเยอะ ไม่ต้องไปเดินห้าง ซื้อของหรือดูหนัง แค่อยู่ด้วยกันสองคน แต่ละคนก็ทำกิจกรรมของตัวเองไป แค่นั้นผมว่าก็พอแล้วนะ



ผมคิดว่า คนอย่างพี่เรนไม่ควรเข้าหาด้วยการพาไปเที่ยวห้าง พาไปซื้อของ หรือว่าพาไปดูหนัง แต่ควรพากันมาทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ เหมือนอย่างที่ผมชวนพี่เรนที่นี่ ผมบอกพี่เรนว่าผมจะมาถ่ายรูป ตอนชวนก็ชวนให้พี่เรนเปลี่ยนสถานที่วาดรูป ผมว่าแบบนี้แหละ... คือการเข้าถึงพี่เรนได้ดีที่สุด



ผมเหม่อมองพี่เรนอยู่นาน จนพี่เขาเงยหน้าขึ้น แล้วพอเห็นผมมองอยู่ก็ส่งยิ้มน่ารักมาให้ จนทำให้ผมขยับยิ้มตาม



พี่เรนกวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา “กาย มานี่ๆๆ”



ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยแต่ก็ลุกเดินไปหาทันที ผมขยับลงนั่งข้างๆ พี่เรน “ครับผม”



“ฮื่อ... นั่งนี่ ตรงนี้” พี่เรนทำหน้าขัดใจ ชี้นิ้วตรงหน้าที่พี่เรนนั่งอยู่



พอเห็นแบบนั้นผมก็ขยับไปนั่งตรงหน้าพี่เรน “ตรงนี้เหรอ”



พี่เรนพยักหน้าสองสามทีแล้วก็ยิ้ม “อือ! เหลือใส่รายละเอียดนิดหน่อย นั่งนิ่งๆ นะ ขยับมากภาพออกมาไม่สวยไม่รู้ด้วย”



ได้ยินอย่างนั้นผมก็เลิกคิ้วแปลกใจทันที ก่อนจะก้มมองภาพบนกระดาษวาดรูปของพี่เรน รู้สึกใจเต้นตึกตักทันทีที่เห็น



พี่เรนวาดรูปผม...



หัวใจเต้นแรง เต้นแรงที่พี่เขาวาดรูปผมนี่แหละครับ วาดไปจวนจะเสร็จแล้ว เหลือใส่รายละเอียดตรงใบหน้าแค่นั้น ภาพที่ถึงแม้ว่าจะยังไม่เสร็จแต่ผมมองก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นภาพของตัวผมเอง ภาพตอนที่ผมกำลังก้มหน้าดูกล้องถ่ายรูปของตัวเอง



“ใช่ๆ ก้มหน้าไว้นะ แบบนั้นแหละ เหมื่อยหน่อยนะแต่แค่แปบเดียว” พี่เรนบอก ผมรู้สึกเลยครับว่าพี่เขาจ้องหน้าผม จ้องอยู่สักพักแล้วก็คงก้มลงไปวาดรูป พอวาดไปได้หน่อยก็เงยหน้าขึ้นจ้องหน้าผมอีก



จ้องมากๆ ชักจะเขิน ไม่รู้หน้าแดงไหม...



เกือบๆ สิบนาทีภาพวาดของพี่เรนก็เสร็จ พี่เรนส่งภาพนั้นมาให้ผมดู สวย... พี่เรนวาดรูปสวยมากจริงๆ ครับ ไม่ได้อยากจะยอตัวเอง ดีไม่ดี ภาพที่พี่เรนวาดออกมา ผมในรูปยังดูดีกว่าผมตัวจริงอีกมั้ง



“พี่เรนวาดเก่งชะมัดเลย”



“พี่ชอบภาพนี้”



ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่เรน ก็เห็นพี่เขายิ้มน่ารักมาให้อีกแล้ว “พี่ชอบน้องกายตอนนี้ ก็เลยวาดออกมา”



ก็รู้หรอกครับว่าคำว่า “ชอบ” ของพี่เรน ไม่ได้หมายถึง “ชอบ” ในเชิงรักใคร่ แต่มันก็อดใจสั่น หัวใจเต้นแรงไม่ได้กับคำคำนี้



“ทำไมละครับ” ผมก้มหน้าลง แกล้งทำเป็นมองภาพวาด



“ก็... ตอนกายมองกล้อง กายดูมีความสุขมากๆ เลย เหมือนกับว่ากายรักกล้อง รักการถ่ายรูป แล้วกล้องก็เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกาย พี่ชอบความรู้สึกตอนที่มองกายตอนนั้นก็เลยวาดออกมาน่ะ”



ผมหัวเราะ ยกมือเกาแก้มอย่างเขินๆ รู้เลยว่าหน้าต้องแดงแน่ๆ กับคำพูดชมนั้น



“ก็... คงอย่างที่พี่เรนพูดแหละครับ” ผมตอบยิ้มๆ



ทุกอย่างก็จริงอย่างที่พี่เรนพูด ผมมีความสุขมากถึงได้ยิ้มออกมาตอนที่ก้มมองรูปในกล้องของตัวเอง แต่ที่พี่เรนไม่รู้ก็คือ...



รูปที่ผมกำลังมองอยู่นั้นก็คือรูปของพี่เขาเองนั่นแหละครับ...






************************************************
สวัสดีค่ะทุกคน หายไปเกือบๆ 2 อาทิตย์ ไม่ได้หายไปไหน... แต่มีสอบค่ะ วันนี้ไปสอบรับราชการมา แทบจะคลานออกจากห้องสอบแล้วโบกมือบ๊ายบายตำแหน่งเลย ฮ่าาาา เอาเป็นว่าอย่าไปพูดถึงมันเลยค่ะ มันผ่านไปแล้ว แต่วันที่ 24 ธันวา ฟางยังมีสอบอีกอย่างค่ะ สอบใบประกอบวิชาชีพ เพราะอย่างนั้นก็คงจะหายและมาช้าเช่นเดิมจนกว่าจะพ้นวันสอบไปนะคะ หวังว่าจะเข้าใจกันเนอะๆๆ

สำหรับตอนนี้... มันละมุนหัวใจนะ ฟางแต่งไปยิ้มไป คือคู่นี้เขาไม่ต้องหวือหวา ไม่ต้องหรูหราอย่างที่น้องกายบอกอะค่ะ พวกเขาไม่ใช่คู่ที่จะไปเดินซื้อของ กินข้าวที่ห้าง ดูหนังอะไรแบบนั้น แต่เป็นคู่ที่ต่างคนต่างทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบที่ตัวเองรัก แต่แค่อยู่ด้วยกันก็แค่นั้นเองค่ะ มันเป็นอะไรที่ดีเนอะ ^^

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเมนต์ กดโหวด แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [50%] l P.7 18-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: WASHABHI ที่ 18-12-2016 22:39:25
เขินแทนน้องกายแล้วเนี้ยยยย  รุกอีกนิด อีกนิด พี่เรนเริ่มเอ๊ะใจตัวเองแล้วววว  :hao6:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [50%] l P.7 18-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 19-12-2016 00:09:47
ความน่ารักของโลกใบนี้
กายรู้วิธีเข้าหาพี่เรนมากๆเลย
เข้าใจพี่เขามากจนพี่เขาเริ่มรู้สึก :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [50%] l P.7 18-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 19-12-2016 02:47:07
สั้นๆได้ใจความ ความหวานนนน
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [50%] l P.7 18-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 19-12-2016 06:31:02
น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [50%] l P.7 18-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 19-12-2016 11:53:07
อ่านแล้วดีต่อใจ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [50%] l P.7 18-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 19-12-2016 13:58:18
หวานมาก มดขึ้นเต็มจอเลย
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [50%] l P.7 18-12-59
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 28-12-2016 14:18:47
หวานเกินไปแล้ว งื้อออออออ :)
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [100%] l P.7 02-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 02-01-2017 20:59:13
(https://www.dramafever.com/st/news/images/433221d3-5506-4f17-a578-1ef342f73580.gif)
"รูปที่ผมกำลังมองอยู่นั้นก็คือรูปของพี่เขาเองนั่นแหละครับ..."
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 12.2 •





• • • ต่อค่ะ 100% • • •





น้องกาย

   


“แต่ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน~ ไม่ต้องมาเขิน ฉันพูดจริงๆ~ เธอมีเสน่ห์มากมาย จะน่ารักไปไหน~ อยากจะได้แอบอิง~ เย้เย่~”



ผมร้องเพลงอย่างมีความสุข เน้นพอใจไม่เน้นความเพราะมากมาย แม้ผมจะชนะการประกวดเดือนมหา’ลัยด้วยการโชว์ความสามารถพิเศษร้องเพลงก็ตาม



“วู้ว~!” ผมร้องออกมาอย่างดีใจก่อนจะคว้ากระเป๋ากล้องมาสะพายเอาไว้ แล้วก็หยิบกระเป๋าเป้มาสะพาย หยิบโทรศัพท์ กุญแจรถ กุญแจห้องมาถือแล้วก็จัดการปิดประตู ปิดไฟในห้องจนเรียบร้อย



วันนี้แล้วครับ วันนี้แล้วที่ผมจะได้ไปบางกระเจ้ากับพี่เรน แค่คิดก็มีความสุขจนอยากจะเดินไปเต้นแท็ปไปเลยครับ



ส่วนเพื่อนๆ ที่ไปด้วยไม่อยู่ในสายตาผมอยู่แล้วครับ เพราะผมขับรถไปกับพี่เรนสองคน อ๋อ… กับแมวอีกหนึ่งตัว ส่วนพวกมันไปฟอร์จูนเนอร์ของไอ้เกลียวครับ



เราไปกันทั้งหมดหกคนหนึ่งตัวถ้วน จองห้องพักก็นอนได้ห้องละสองคนไง คึคึคึ



ผมก็เป็นเพื่อนที่ดี ยอมเสียสละครับ ยอมเป็นเศษ ให้ไอ้ไม้นอนกับไอ้เกลียว ไอ้เป้นอนกับไอ้แม็คไปครับ เพราะผมจะได้นอนห้องเดียวกับพี่เรน อั๊ย! เขินว่ะ



ผมเร่งฝีเท้าเดินไปที่ลิฟต์แล้วลงไปข้างล่างทันที ก่อนจะขับรถข้ามไปหอฝั่งตรงข้าม ก่อนจะขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องพี่เรน ตั้งใจว่าจะช่วยพี่เขาขนของ เพราะพาหมีไปด้วยของก็น่าจะเยอะ ไหนจะที่นอน ไหนจะอาหาร



กดกริ่งรออยู่ไม่นานก็ได้ยินเสียงหมีร้องอยู่แถวๆ ประตู แล้วประตูก็เปิดออก พี่เรนยื่นหน้าออกมาจากหลังประตู ตากลมๆ นั้นมองมาที่ผมก่อนจะยิ้มให้ แล้วก็เปิดประตูกว้างขึ้น



“สวัสดีครับพี่เรน” ผมทักทายพี่เขา ก่อนจะก้มลงอุ้มหมีที่เดินมานั่งทับเท้าผมไว้ “ว่าไงเรา จะได้ไปเที่ยวแล้วตื่นเต้นไหม”



หมีร้องออกมาทีหนึ่งก่อนจะเลียขนตัวเองต่ออย่างไม่สนใจ ที่เมื่อกี้มานั่งทับเท้ากัน คืออะไร พอตอนนี้เราอุ้มละไม่สนใจเรานะ!



“พี่เรนเตรียมของเสร็จยังครับ” ผมถาม ก่อนจะมองคนตรงหน้าที่วิ่งดุ๊กดิ๊กไปซ้ายทีขวาที



“อ๋อ… จะเสร็จแล้ว เหลือของหมีนิดหน่อย กายรอพี่แปบหนึ่งนะ”
   


ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินไปนั่งที่พื้นตรงเตียงนอนของพี่เรน “ตามสบายเลยครับ”



วันนี้… พี่เรนดูน่ารัก พี่เขาชอบใส่เสื้อแบบโอเวอร์ไซส์ซึ่งมันก็เหมาะแล้วก็น่ารักมาก เหมือนตอนนี้ที่พี่เขาใส่เสื้อแขนยาวแบบโอเวอร์ไซส์สีฟ้าอ่อน มือขาวๆ หายเข้าไปในแขนเสื้อโผล่ออกมาแค่นิ้วนิดหน่อย ชายเสื้อด้านหน้าสอดเข้าในกางเกงยีนส์ขายาวสีซีด ชายเสื้อข้างหลังปล่อย ผมว่ามันโคตรน่ารักแล้วก็เหมาะกับพี่เรนมากเลย



นั่งมองพี่เรนเก็บของจำเป็นให้หมีไปก็ยิ้มไปอย่างกับคนบ้า จนกระทั่งพี่เขาเดินเข้ามาหาผมนี่แหละครับ



“ของของหมี เยอะกว่าของพี่อีก” พี่เขาพูดก่อนจะทำปากยู่



ผมหัวเราะ “เอาน่า… เรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ”



พี่เรนพยักหน้ารับ พอเห็นแบบนั้นผมก็ส่งหมีให้พี่เขาอุ้ม ก่อนที่ผมจะหยิบกระเป๋าเป้ของพี่เรนสะพาย มือสองข้างก็หยิบของใช้ของหมีมาถือ แล้วก็เดินนำพี่เขาออกจากห้อง
   


ยืนรอให้พี่เรนปิดห้องจนเรียบร้อยก็พากันเดินไปเข้าลิฟต์เพื่อลงไปที่ชั้นล่าง เอากระเป๋าพี่เรนไว้หลังรถรวมกับของผม ส่วนกระเป๋าของหมีเอาไว้ที่เบาะหลังครับ ส่วนเจ้าหมีก็นั่งตักพี่เรนไป



“เออ… มึงอยู่ไหนกันแล้วเนี่ย” ผมโทรหาไอ้เกลียวที่เป็นคนขับรถอีกคัน



[หอไอ้ไม้ มารับมันคนสุดท้าย แล้วมึงอยู่ไหน ออกไปยัง]



“ยัง ตอนนี้กูกำลังขับรถออกจากซอย เดี๋ยวกูไปรอแถวๆ หน้ามหา’ลัยแล้วกันนะมึง เดี๋ยวจะได้ขับไปพร้อมๆ กันเลย พวกมึงกินอะไรกันมายัง” ผมคุยโทรศัพท์กับไอ้เกลียวไปก็หักพวงมาลัยเลี้ยวออกจากหอพี่เรนไปด้วย



ไม่รู้ว่าเพราะกลัวผมจะพาไปชนอะไรเข้าหรือเปล่าพี่เรนก็เลยเอื้อมมือมาจับโทรศัพท์ของผมเอาไว้ ผมหันไปมองก็เห็นพี่เขาบอกว่าจะถือให้ ผมเลยให้พี่เรนกดเปิดลำโพงไปเลยครับ



[พวกกูยังไม่ได้กิน มึงกับพี่เรนอ่ะ] ไอ้เกลียวถามกลับ



ผมหันไปมองพี่เรนเป็นเชิงถามว่าพี่เขากินอะไรหรือยังซึ่งอีกฝ่ายก็ส่ายหน้าแทนคำตอบ “พวกกูก็ยังไม่ได้กิน เอาไว้แวะกันร้านประจำแล้วกัน”



[ร้านไหน... ร้านต้มเลือดหมู ข้าวต้มอะเหรอ]



“เออ ร้านนั้นแหละ ตอนนี้กูจอดรออยู่ตรงหน้ามหา’ลัยนะ” ผมตอบมันกลับไป ซึ่งไอ้เกลียวก็เออออรับคำ บอกว่ากำลังขับออกมาจากซอยหอไอ้ไม้แล้ว แล้วมันก็วางสายไป



“เดี๋ยวแวะกินข้าวกันก่อนเนอะ พวกผมจะออกแนวแวะไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนอะไร” ผมหันไปคุยกับพี่เรน



“ยังไงก็ได้อยู่แล้ว แต่พี่มาด้วยแบบนี้ไม่รบกวนแน่นะ” พี่เรนเอียงคอมองแล้วถามย้ำกับผมอีกรอบ “ไม่เบื่อเหรอ... แบบ ปกติกายก็คงไปพร้อมๆ กับเพื่อนใช่ไหมล่ะ แล้วพาพี่มาด้วยแบบนี้... กายก็ไม่ได้สนุกกับเพื่อนน่ะสิ”



ผมยิ้ม รู้สึกดีใจที่พี่เรนเป็นห่วงความรู้สึกของผม “ผมไปกับเพื่อนบ่อยแล้วครับ เบื่อพวกมันแล้วไปกับพี่เรนก็ดีออกนะ”



“อีกอย่าง... ผมก็ไม่ได้มีโอกาสไปไหนมาไหนกับพี่เรนบ่อยๆ นี่ก็เป็นโอกาสที่ดีจะตายไป” ผมพูด ยิ้มตาปิดให้พี่เรน



พี่เรนอมยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ ถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป... เหมือนพี่เรนจะเขินนิดๆ หรือเปล่าครับ



“อ่า... ไปเที่ยวกับพี่ไม่เห็นจะน่าดีเลย”



อือ... ผมว่านะ ผมควรเริ่มจริงจังแล้วก็แสดงออกให้มากกว่านี้หน่อยแล้วล่ะ อีกอย่างผมก็จะได้ดูโอกาสของตัวเองด้วยว่าถ้าเดินหน้าต่อไป จะมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะคว้าหัวใจพี่เรนมาครองเอาไว้



“กับพี่เรนอ่ะ ไม่ว่าจะไปไหนก็ดีหมดนั่นแหละ”
   


ผมว่าผมไม่ได้ตาฝาดนะ แก้มพี่เรนแดงหน่อยๆ ด้วยอ่ะ หรือว่าจะเขินในสิ่งที่ผมพูดเมื่อกี้กันแน่นะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าผมรุกมากๆ ก็มีสิทธิลุ้นว่าพี่เรนจะชอบ หรือมีใจให้ผมใช่ไหม



“ทำไม... ล่ะ”



บรรยากาศภายในรถตอนนี้มันแปลกๆ จะอึดอัดก็ไม่ใช่ จะสบายๆ ก็ไม่เชิง หรือจะเขินอายกันก็ไม่ถูกอยู่ดี มันปนๆ กันไปหมด พี่เรนเหมือนคนซื่อๆ ไม่ทันคนจนบางทีพวกพี่ตินาก็ว่าซื่อบื้อ แต่ผมว่าจริงๆ แล้วพี่เรนก็คงไม่ได้ซื่อขนาดนั้น จนไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมกำลังทำ หรือการที่ผมเอาตัวเข้ามาเกี่ยวข้องกับพี่เรนนั้นมีอะไรแอบแฝงอยู่



ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ รวบรวมความกล้าทั้งหมดเท่าที่มี ก่อนจะพูดออกไป “ผมเคยบอกแล้วไง ที่ผมทำไปน่ะผมหวังผล ส่วนผลที่ผมหวังก็คือ...”



ปี๊น!!



ผมกับพี่เรนสะดุ้งเฮือกทันทีด้วยความตกใจ คนกำลังตั้งสมาธิ ใช้สมาธิไอ้ห่ารากตัวไหนแม่งทำสมาธิของผมกระเจิงหมดวะ แล้วพี่เรนก็สะดุ้งด้วยคงกำลังลุ้นไปกับผม สะดุ้งแรงขนาดที่หมีที่นอนขดบนตักพี่เรนสะดุ้งตื่นร้องออกมาเลยละครับ



ผมหันไปมองนอกกระจกก่อนจะเห็นรถฟอร์จูนเนอร์มาจอดเทียบข้างๆ โชคดีนะครับรถไม่เยอะ ไม่อย่างนั้นมันได้โดนคนอื่นๆ ด่ายันตระกูลอะครับ กระจกรถคันนั้นลดลง ก่อนจะเห็นหน้าแป้นแล้นของไอ้ไม้โผล่ออกมา



นี่ได้แต่ถอนหายใจด้วยความเซ็ง ก่อนจะลดกระจกลง “ไอ้สัส!   ตกใจหมดนึกว่าพ่อมาไล่” ผมว่ามันไปทันที



หงุดหงิดด้วยส่วนหนึ่งครับ คนกำลังจะสารภาพความในใจ ไอ้ห่านี้มันดำเอาหมดมู้ดหมด



ไอ้ไม้หัวเราะชอบใจ รู้เลยครับว่าไอ้ห่านี่นี่แหละที่เป็นคนบีบแตร ไอ้เกลียวแม่งก็ปล่อยให้ไอ้ไม้เล่นอะไรเพี้ยนๆ



“หนึ่ง สอง สาม พี่เรน~~ สวัสดีคร้าบบบ~~”



กระจกหลังเลื่อนลงก่อนที่ไอ้เป้ ไอ้แม็คจะโผล่หน้ามา แล้วพวกมันก็พร้อมใจกันทักทายพี่เรน มีการนับหนึ่งสองสามแล้วสวัสดีพร้อมกันอีก ไอ้พวกบ้าคิดว่าตัวเองเป็นไอดอลเกาหลีที่ต้องนับเลขตอนแนะนำตัวหรือไงวะ



พี่เรนหัวเราะชอบใจกับการละเล่นบ้าๆ ของไอ้พวกนั้นแล้วก็ยิ้มกว้างให้ น่ารักชิบหาย ผมตวัดสายตาไปมองพวกมันทีละคนอย่างหงุดหงิด หวงครับ หวง รอยยิ้มพี่เรนนี่หวงมาก อยากจะเก็บเอาไว้ดูคนเดียว



แล้วพวกมันก็เหมือนรู้ ทำลอยหน้าลอยตาได้น่าหมั่นไส้ นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่รถกันคนละคันผมลงไปไล่เตะมันแล้วนะครับ



“ไปๆ มึงขับนำไปเลยไอ้เกลียว แวะกินข้าวกันก่อนแล้วค่อยไปที่สมุทรปราการกัน” ผมชะโงกหน้ามองไอ้เกลียวที่เป็นคนขับรถก่อนจะบอกมัน ซึ่งมันก็พยักหน้ารับ เลื่อนกระจกขึ้นทั้งด้านหน้าด้านหลังแล้วก็ออกนำรถของผมไป



“ไปกันดีกว่าครับ การเดินทางเริ่มขึ้นแล้ว” ผมหันไปพูดกับพี่เรนอย่างขำๆ ก่อนจะขับรถตามรถคันหน้าไป



แม้จะนึกเสียดายนิดหน่อยที่โดนขัดจังหวะ แต่อีกใจก็คิดว่าดีแล้วละครับ หนึ่งเพราะผมยังไม่กล้ามากพอที่จะพูด และอีกอย่างคือ... ผมคิดว่าบรรยากาศมันควรจะดีกว่านี้ ไม่ใช่นั่งสารภาพกันอยู่ในรถหน้ามหาวิทยาลัยอย่างนี้ เอาไว้... ทริปนี้ ถ้ามีโอกาสผมจะลองพูดอย่างจริงจังดูแล้วกันครับ



ไม่รู้ว่าเพราะโดนขัดจังหวะไปเมื่อกี้หรือเปล่าทำให้บรรยากาศตอนนี้ระหว่างผมกับพี่เรนมันเลยรู้สึกน่าอึดอัดนิดหน่อยๆ



“หมีไม่เอา... ไม่ซนสิไม่เห็นเหรอว่ากายขับรถอยู่ จะปีนไปไม่ได้นะ” ผมละความสนใจจากความคิดของตัวเองกลับมาที่พี่เรนที่ส่งเสียงห้ามหมี



หมีร้องแง้วๆ แล้วทำท่าจะปีนข้ามมาหาผม แต่พี่เรนรั้งเอาไว้ก่อน “ถ้าดื้อเราจะปล่อยหมีลงข้างทางนะ”



พอพี่เรนพูดขู่แบบนั้น หมีก็เงยหน้ามองพี่เรน แล้วหนึ่งคนหนึ่งแมวก็เล่นเกมจ้องตากันครับ ไม่มีใครยอมแพ้กันเลย พี่เรนจ้องตาหมีไม่พอยังทำหน้าดุ หน้าบึ้งใส่อีก แล้วคิดว่าหมีมันกลัวไหมละครับ ไม่เลยสักนิดเดียว



“โอ๊ย! หมี!!” พี่เรนร้องออกมา ผมเองก็ตกใจรีบหันไปมอง เกือบจะประคองสติตัวเองไม่อยู่ หัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มนู้น เลยต้องรีบตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทางก่อน



“พี่เรน เป็นไงบ้างหมีข่วนเหรอ” ผมรีบเข้าเกียร์ว่างแล้วคว้ามือพี่เรนมาดู หันไปมองหมีที่กระโดดหนีไปอยู่เบาะหลังแล้วนอนเลียขนตัวเองอย่างไม่ทุกข์ร้อน



“ป... เปล่าๆ หมีงับมือพี่น่ะ ไม่ได้แรงอะไรหรอกแต่... พี่ตกใจเพราะไม่ทันระวังตัวก็เลยเผลอร้องออกมา” พี่เรนบอก พลิกมือให้ดูว่าไม่ได้มีรอยอะไรจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นห่วงอยู่ดีครับ



“แน่ใจนะพี่เรนว่าไม่ได้โดนข่วน หรือกัดลึกจนเป็นแผล” ผมถามด้วยเสียงเครียด มือก็จับมือพี่เรนพลิกไปพลิกมาเพื่อหารอย ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะไม่มีรอยอย่างที่พี่เรนว่า



“ขอโทษนะ... ที่ทำให้ตกใจ” พี่เรนพูดพร้อมกับทำหน้าสำนึกผิด คือถ้าผมเป็นพี่เรนก็คงร้องออกมาเหมือนกันแหละครับ ใครจะคิดว่าจะโดนแมวตัวเองงับ มันก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา



“ไม่เป็นอะไรครับ” ผมตอบ หันไปมองหมีที่มองมาทางผม “นิสัยไม่ดีเลยนะหมี ทำแบบนี้กับพี่เรนได้ยังไงกัน ดื้อมากๆ เดี๋ยวปล่อยกลับบ้านจริงๆ นะ”



หมีร้องออกมาเมื่อผมพูดจบ ไม่รู้ว่าร้องประท้วงหรืออะไรกันแน่ ก่อนที่มันจะมุดหน้าตัวเองลงกับขาหน้า “กำลังสำนึกผิดน่ะ” ผมหันกลับไปมองพี่เรนเมื่อได้ยินพี่เขาพูดแบบนั้น



พี่เรนก็เลยขยายความต่อ “ท่าแบบนี้คือหมีกำลังสำนึกผิด เวลาโดนดุมากๆ ก็จะทำท่านี้แหละ สักพักก็จะเข้ามาอ้อนให้หายงอน”



ผมร้องอ๋ออย่างเข้าใจ ก่อนจะหันไปมองหมีอีกรอบ มีการแอบเงยหน้าขึ้นมองแล้วซุกหน้าลงไปต่อ เห็นท่าทางแบบนั้นแล้วจะโกรธก็โกรธไม่ลงครับ เลยเอื้อมมือไปลูบหัวหมีไปที ก่อนจะหันหลับ แล้วจังหวะนั้น... ทุกอย่างก็เหมือนจะหยุดชะงัก เพราะพี่เรนเองก็ชะโงกตัวมาดูหมีเหมือนกัน ทำให้ตอนที่ผมขยับตัวกลับระยะห่างของใบหน้าของผมกับพี่เรนจึงน้อยมาก



“ผม...” ผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกันครับ แต่ก็ไม่สามารถดึงตัวเองออกห่างจากพี่เรนได้ ได้แต่นิ่งค้างกันอยู่แบบนั้น โดยที่หัวใจของผมเต้นแรงและรัวมาก จนผมนึกสงสัยว่าพี่เรนจะได้ยินเสียงหัวใจของผมเต้นไหม



และก่อนที่ผมหรือพี่เรนจะได้พูดอะไรอีก เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น ดึงสติของผมให้กลับเข้าร่างอีกรอบ ผมกระแอมเบาๆ ก่อนจะถอยตัวเองกลับมาที่เดิม พร้อมกับพี่เรนที่ขยับตัวกลับไปเช่นกัน ผมหยิบโทรศัพท์มาดูก่อนจะกดรับสายไอ้ไม้



“เออ ว่าไงมึง”



[ไอ้เกลียวบอกเห็นรถมึงส่าย แล้วก็เลี้ยวจอดข้างทาง เป็นอะไรเปล่าวะ ต้องให้พวกกูวนรถกลับไปไหม]



“เปล่าๆ ไม่มีอะไร พอดีหมีมันซนนิดหน่อย ไม่ได้มีอะไรร้ายแรง พวกมึงอยู่ไหนแล้ววะ” ผมถามกลับไป



[เลยมาหน่อยเดียว จอดข้างทางโทรหามึงนี่แหละ กลัวว่ารถมึงจะเป็นอะไรไป]



“ไม่เป็นอะไรๆ พวกมึงขับไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป ยังไงก็เจอกันที่ร้านนะมึง” ผมพูดกับไอ้ไม้ก่อนกดวางสายก็ได้ยินเสียงไอ้ไม้เล่าเรื่องให้พวกที่เหลือฟัง



ผมเหลือบมองพี่เรนก่อนจะเปลี่ยนเกียร์แล้วขับรถไปต่อ นึกขำในใจว่ามีโอกาสจะพูดตั้งสองครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ก็โดนขัดจังหวะตลอด ไม่รู้ว่าแบบนี้จะหมายความว่ายังไง ระหว่างให้ผมรีบๆ บอกไปซะจะได้ไม่ต้องมีอะไรมาขัดอีก หรือว่ามันยังไม่ถึงเวลาจะบอกกันแน่ ถึงได้มีเรื่องอะไรให้มาขัดจังหวะในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้



ผมขับรถไปต่อ จากตรงนี้ไปถึงร้านอาหารที่นัดกันกับพวกเพื่อนๆ ก็ไม่ไกลเท่าไหร่หรอกครับ เป็นร้านประจำของพวกผมเวลาจะออกทริป แล้วเพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถเงียบเกินไป ผมก็เลยหาเรื่องชวนพี่เรนคุย ก็ไม่พ้นเรื่องเรียน เรื่องหมีนั่นแหละครับ พี่เรนเองก็ถามผมกลับเรื่องเกี่ยวกับพวกถ่ายรูปพวกนี้เหมือนกัน



เพราะเราพูดคุยกันก็เลยทำให้บรรยากาศตอนนี้ เป็นบรรยากาศที่สบายๆ แล้วก็เป็นกันเองกว่าตอนแรกครับ...





************************************************
สวัสดีปีใหม่ 2560 ค่ะทุกคน ขอให้มีความสุขกันมากๆ นะคะ ^^ วันหยุดแบบนี้ไปไหนกันมาหรือเปล่าคะ ฟางนี่ไม่ได้ไปไหนค่ะ อยู่บ้านแพ็คหนังสือ My Mom เตรียมส่ง ก็เลยไม่ได้เข้ามาอัพด้วยเลย ขอโทษด้วยนะคะ แต่หลังจากนี้ถ้าไม่มีภารกิจอะไรเร่งด่วนฟางก็จะพยายามมาให้เป็นประจำนะคะ

ครึ่งหลัง... เกือบแล้วววว อีกนิดเดียวน้องกายก็จะได้สารภาพความในใจออกไปแล้วค่ะ แต่ก็พลาด ฮ่า น่าสงสารน้องกายเนอะ ส่วนพี่เรนจะรู้แล้วหรือยังไม่รู้ อันนี้ก็ต้องรอดูกันไปค่ะว่าจะเป็นยังไง เรื่องนี้ไม่มีดราม่า ไม่มีเอ็นซีนะคะ เน้นสบายๆ อ่านแล้วละมุนหัวใจค่า ^^

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเมนต์ กดโหวด แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [100%] l P.7 02-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-01-2017 21:35:46
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [100%] l P.7 02-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 02-01-2017 21:54:44
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [100%] l P.7 02-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 03-01-2017 00:04:53
น่ารักน่าเอ็นดู นี่อ่านไปยิ้มไปตลอดเลย
คนก็น่ารักแมวหมีก็น่ารัก ขอบคุณค่ะฟาง
สวัสดีปีใหม่ด้วยนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [100%] l P.7 02-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: Arzumi ที่ 04-01-2017 08:34:02
เพลงนี้ดังลอยมาเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ แต่บอกตอนนี้ ไม่รู้ว่าเร็วไปหรือไม่
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [100%] l P.7 02-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 04-01-2017 23:32:36
โอ้ยยย. หมี แกมาเป็นสื่อกลางระหว่างคู่นี้ชะะะะ เค้าเดินวนกันนานลาน้าาา
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [100%] l P.7 02-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 05-01-2017 14:04:57
หมีสื่อรักหรือเลป่าตอนนี้

แบบเห็นพ่อกับแม่ตึงใส่กัน ก้ต้องสร้างบรรยาศหน่อย

แต่แกล้งแม่ มันใช่หรอ นู้นไปงับ กายนู้น

ห้ามทำเรน


5555555
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [100%] l P.7 02-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 05-01-2017 20:08:13
สนุกมากค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [100%] l P.7 02-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 05-01-2017 23:45:03
พี่เรนยังไม่แน่ใจในตัวเองหรือเปล่า เวลานี้กายจึงไม่ควรจะบอก
ไม่งั้นคงอึดอัดระหว่างกันเปล่าๆ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 12 • [100%] l P.7 02-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 06-01-2017 19:39:45
กายโดนขัดจังหวะตลอดเลย 55555
พี่หมีกับพี่เรนน่ารักจังเลย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [50%] l P.7 24-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 24-01-2017 22:15:36
(https://www.mx7.com/i/106/rjwuEY.gif)
"งืออออ... ล แล้ว... พี่ต้องทำยังไง"
Rain
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ




โชคครั้งที่ • 13 •





พี่เรน





“ไปหมี ไปดูห้องพักกัน” ผมพูดกับหมีที่ผมกำลังอุ้มอยู่ก่อนจะเดินตามน้องกายกับพวกเพื่อนๆ ของเขาเข้าไปในที่พัก
 


มันสวยมากครับแล้วก็แปลกตามากๆ ด้วย ห้องพัก... หรือจะเรียกบ้านพักดีนะ ผมเรียกห้องพักดีกว่า มันทำมาจากเหล็กแล้วก็ไม้ครับ สไตล์ลอฟๆ สวยดี เท่ดีครับ ห้องพักแต่ละหลังก็ไล่ระดับความสูงต่ำต่างกันไป ผมว่านี่ก็เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของเขานะครับ เพราะมันทำให้ทุกๆ ห้องจะได้เห็นวิวที่แตกต่างกันไปครับ 
 


แต่ละห้องอยู่ได้สองคน ผมอยู่กับน้องกาย ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ที่จริงอยู่กับกายก็ดีนะครับเพราะผมสนิทกับเขาที่สุดในกลุ่มน้องๆ อยู่กับกายก็ไม่กังวลเท่าไหร่ แม้บางครั้ง... จะมีความรู้สึกแปลกๆ บ้างก็ตามที
 


ภายในห้องส่วนใหญ่เป็นกระจกครับ เราต้องเดินไปตามทางเดินโครงสร้างเหล็กที่ปูทับด้วยไม้ อยู่สูงกว่าพื้นดิน ส่วนห้องพักก็จะอยู่สูงขึ้นไปอีกต้องเดินขึ้นบันไดไปครับถึงจะถึงห้องพัก แล้วในห้องก็เป็นสองชั้น ชั้นล่างเป็นส่วนนั่งเล่น มีเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ พอทำอะไรง่ายๆ ได้ เดินขึ้นบันไดไปตรงชานพักมีประตูพอเปิดเข้าไปถึงได้รู้ว่าเป็นห้องน้ำครับ 
 


วิวห้องน้ำดีกว่าห้องนั่งเล่นอีกนะเนี่ย...
 


ในห้องน้ำเป็นกึ่งเอ้าดอร์ เป็นกระจกที่มองเห็นข้างนอกได้ชัดเจน แต่ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นกระจกแบบเห็นด้านเดียวครับ ตอนเดินมาผมก็มองอยู่แต่มองไม่เห็นข้างใน
 


ส่วนห้องนอนจะอยู่บนชั้นสอง มีระเบียงนั่งเล่นกว้างๆ เบาะนอนวางอยู่กับพื้นชิดผนังไม่มีเตียง แต่ผมว่าแบบนี้ก็ดีนะครับ มีพื้นที่กว้างด้วย ผมเลยเอากระเป๋าที่เป็นที่นอนของหมีไปวางเอาไว้มุมห้อง แล้วผมกับกายก็เริ่มเก็บของจัดของกัน
 


“พี่เรนนอนได้ใช่ไหม” ผมหันไปมองเมื่อถูกถามก่อนจะพยักหน้ารับ
 


“ได้สิ สบายมากเลย วิวสวยมากๆ หาที่พักแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย” วิวสวยจริงๆ ครับ มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวของต้นไม้ใบไม้ รู้สึกสดชื่นเลย
 


“ผมมาบ่อยครับเพราะมันใกล้ๆ กรุงเทพฯ มาแต่ละทีก็หาที่พักใหม่ไปเรื่อยๆ แต่ที่นี่พวกผมเคยมาพักกันแล้วรอบหนึ่ง สวย ถูกใจคราวนี้ก็เลยมาพักอีก” กายตอบ ทิ้งตัวลงนั่งบนเบาะนอนข้างๆ ผม “อยู่นี่เราจะปั่นจักรยาน ผมไม่ได้พาพี่มาลำบากใช่ไหม”
 


ผมหัวเราะก่อนจะส่ายหน้า ใช้มือตบตักตัวเองเพื่อเรียกให้หมีเดินมานั่งพร้อมกับตอบน้องไปด้วย “ไม่หรอก เห็นแบบนี้พี่ก็ขาลุยนะ”
 


กายทำตาโตเหมือนจะไม่เชื่อกัน ผมเลยทำหน้าบึ้งก่อนจะพูดอวดต่อ “จริงๆ พี่กับเพื่อนๆ ชอบไปออกค่ายอาสา ไปบนดอยลำบากกว่านี้อีก แต่ก็สนุกดีนะ ได้ประสบการณ์ดีๆ เยอะเลย”
 


“พี่เรนเคยไปไหนมาแล้วบ้าง”
 


“อือ...” ผมนั่งนึก ขยับตัวให้น้องยื่นมือมาเล่นกับหมีได้ถนัดขึ้น “ไปเชียงใหม่ ไปลำปาง ขอนแก่นก็เคยไปมาแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะไปเหนือ ไปขึ้นดอยน่ะ”
 


“พี่เรนไปเป็นเด็กดอยเหรอ”
 


ผมขมวดคิ้วใส่แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ส่วนคนพูดก็หัวเราะชอบใจใหญ่ ไม่รู้ว่ามีอะไรน่าหัวเราะนะครับ ไม่เห็นจะเข้าใจเลยแหะ... “แล้วกายล่ะ เรียนถ่ายรูปแบบนี้ก็ต้องไปไหนมาไหนมาเยอะแน่ๆ เลยใช่ไหม เคยไปภาคใต้มาหรือยัง”
 


ผมทำตาโตทันทีตอนกายพยักหน้ารับ ผมอยากไปภาคใต้มากๆ แต่ยังไม่มีโอกาสไปสักที “จริงเหรอๆ ไปที่ไหนมา สวยไหม”
 


“ก็... มีไปกระบี่ ภูเก็ต พังงาอะไรพวกนี้แหละครับ ไปถ่ายรูปมา นี่ไง... เดี๋ยวนะ” กายพูดก่อนจะเอี้ยวตัวหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงมากดๆ แล้วยื่นให้ผมดู
 


มันเป็นภาพท้องทะเล... ไม่รู้ว่าตอนเช้าหรือเย็น แต่ทะเลเป็นสีส้มประกายทองดูสวยมากๆ เลยครับ “สวยจัง กายถ่ายเองเหรอ”
 


“ใช่ครับ ถ่ายส่งอาจารย์คอนเซ็ปแสงสีทอง”
 


“โหหหห เก่งจังเลย ถ่ายรูปเก่งมากๆ เลย สวยสุดๆ กายนี่เก่งจัง” ผมพูดชม
 


ไม่ได้พูดเกินจริงนะครับแต่น้องกายถ่ายรูปสวยจริงๆ ถ่ายสวยมากๆ ผมหยิบโทรศัพท์ของกายมาถือเอาไว้แล้วก็เลื่อนดูภาพไปมา ภาพวิว บรรยากาศเยอะมากเลยครับแต่พวกภาพคนหรือของกินอะไรพวกนี้ก็มีนะ สวยๆ ทั้งนั้น



“นี่ใช้กล้องตัวนั้นถ่ายตลอดเลยเหรอ” ผมถามชี้นิ้วไปที่กล้องที่เห็นน้องเขาสะพายติดตัวเกือบตลอด



“ก็ไม่หรอกครับ บางทีก็ใช้กล้องโทรศัพท์ครับ”



ผมพยักหน้ารับ เปิดดูไปเพลินๆ ผมชอบดูนะครับ พวกภาพถ่ายแต่ผมไม่ชอบถ่าย ทั้งเป็นคนถ่ายเองแล้วก็ถูกถ่ายด้วย แต่ก็... แปลกอยู่อย่างหนึ่งเวลาโดนกายถ่ายรูปผมก็ไม่ได้ไม่ชอบอะไรนะครับ แต่ถ้าคนอื่นมาขอถ่ายรูป ที่ไม่ใช่เพื่อนๆ ผมนะ ผมจะไม่ยอมให้ถ่าย เพราะอะไรก็ไม่รู้สิ...



ผมชะงักตอนที่นิ้วของผมเลื่อนภาพในโทรศัพท์ของกายมาเจอรูปผม แล้วก็... ไม่ใช่แค่รูปเดียวด้วย หลายรูปเลย...



“ผมบอกแล้วไงว่าพี่เรนน่ะเหมาะจะเป็นนายแบบ” น้องกายพูด เอื้อมมือมาหยิบโทรศัพท์กลับไป “แล้วก็เหมาะเป็นนายแบบให้ผมแค่คนเดียวด้วย”



อ่า...



ผมว่า... ผมรู้สึกแปลกๆ อีกแล้วละครับ



ช่วงนี้เวลาอยู่ใกล้ๆ กาย โดนมองมากๆ หรือตอนที่เผลอสบตา ผมมักจะรู้สึกแปลกๆ ทุกทีเลย แก้มมันคันๆ ร้อนๆ ยังไงก็ไม่รู้สิ เหมือนกับตอนนี้เลยละครับ



“ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าที่ผมทำอะไรให้พี่น่ะผมหวังผลเสมอ แล้วพี่เรนก็รู้ใช่ไหมว่าผมหวังอะไรอยู่...” กายขยับหันมาหาผมก่อนจะถาม



ผมได้แต่ส่ายหน้าไปมา ก่อนจะก้มหน้าลงเพราะรู้สึกว่ามองหน้ากายแล้วมันรู้สึกแปลกๆ



“พี่เรน...”



“พี่เรนครับ”



ผมเงยหน้าขึ้นเมื่อโดนเรียกซ้ำๆ กายเอาแต่เรียกผม แล้วก็ยิ้มออกมา “ผมมีอะไรจะบอกพี่ด้วย”



“อือ...”



“ผมชอบพี่”







น้องกาย



ผมมองหน้าพี่เรนก่อนจะยิ้มออกมา แก้วขาวๆ นั้นแดงก่ำเห็นแล้วอยากจะเอามือจิ้มๆ ไปที่แก้ม ปฏิกิริยาแบบนี้ผมก็ยังพอมีลุ้นใช่ไหมครับ



คือที่บอกชอบพี่เขาไปไม่ใช่ว่าไม่เขินนะ เขินแบบ... เขินเอี้ยๆ อ่ะครับ แต่พอเห็นหน้าพี่เรนแล้วผมก็คิดว่าดีแล้วล่ะที่ข่มความเขินตัวเองบอกชอบพี่เขาไป



"พี่เรน ผมชอบพี่นะ" ผมพูดย้ำอีกรอบเมื่อพี่เรนยังนิ่งเงียบหน้าแดงอยู่ “ชอบพี่จริงๆ นะ”



อยู่ๆ พี่เรนก็ยกมือปิดแก้มตัวเองจนเห็นแค่ตา จมูก แล้วก็ปากเล็กๆ นั่น “งืออออ... ล แล้ว... พี่ต้องทำยังไง”



ห๊ะ!!




ผมแทบจะร้องออกไปเมื่อได้ยิน ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ให้ตายเถอะ... พี่เรนยังไงก็คือพี่เรนนั่นแหละนะ แล้วพอผมหัวเราะเหมือนคนตรงหน้าผมจะไม่พอใจนิดๆ ที่ผมหัวเราะออกมา



รู้สึกว่าช่วงนี้พี่เรนแสดงอารมณ์ที่หลากหลายมากขึ้นเวลาอยู่กับผม แรกๆ เจ้าตัวจะเอาแต่ยิ้มใจดี แต่เดี๋ยวนี้ไม่พอใจก็ทำหน้าบึ้ง ชอบใจก็ยิ้ม หัวเราะ หรือเวลาโดนพวกพี่ตินาแกล้งก็จะมาฟ้องผม หมีไม่สนใจก็ฟ้องผม ซึ่งผมว่ามันก็ดีนะ เพราะมันเหมือนกับว่าผมเข้าใกล้พี่เรนเรื่อยๆ



“หัวเราะอะไรอ่ะ... ก ก็พี่ไม่รู้ต้องทำยังไงนี่ ไม่เคยมีคนมาบอกชอบ ไม่เคยบอกชอบใครสักหน่อย” พี่เรนทำหน้ายู่ มือที่ปิดแก้มตัวเองเอาไว้ยังไม่ลดลง



เห็นแล้วก็ตลก น่ารักดีครับ



“พี่เรนรังเกียจผมไหม” ผมถามกลับยิ้มๆ พอเห็นพี่เรนส่ายหน้าผมก็ถามต่อ “ที่ผมเข้ามาใกล้พี่เรนบ่อยๆ รังเกียจผมหรือเปล่า แล้วที่ผมชอบถ่ายรูปพี่เรน พี่รู้สึกโกรธหรือไม่พอใจหรือเปล่า”



พี่เรนยังคงส่ายหน้ากับทุกคำถามของผม ผมเอื้อมมือไปดึงมือพี่เรนมาจับ ก่อนจะประสานมือตัวเองกับมือของพี่เขา “ผมจับมือพี่เรนแบบนี้รังเกียจผมไหม”



ผมขยับยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นแก้มแดงๆ นั้นอย่างชัดเจน หัวใจผมเต้นแรงมาก แรงจนคิดว่าถ้าในห้องตกอยู่ในความเงียบ เสียงหัวใจของผมมันจะต้องดังทะลุออกมาจากอกแน่นอน ที่ถาม ที่ทำ ไม่ใช่ว่าผมไม่เขินนะครับ ผมเขินมากๆ เหมือนกัน ซึ่งผมไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน



แฟน... เคยมี ไม่ใช่ไม่เคย แต่เขาก็ไม่ได้ทำให้ผมใจเต้นแรงได้เท่าพี่เรนแบบนี้



“แล้ว... ผมทำแบบนี้พี่เรนรังเกียจไหม” ผมยื่นหน้าไปใกล้ จุ๊บเบาๆ ที่ปลายจมูกมนๆ นั้นก่อนจะผละออกมาถาม



พี่เรนนิ่งไปนิด เม้มปากเข้าหากันแน่นจนผมกลัวว่าพี่เขาจะทำปากตัวเองเป็นแผล การรอคำตอบนี้เหมือนจะยาวนาน แต่การรอคอยก็สิ้นสุด พร้อมกับผมที่ไม่สามารถกลั้นยิ้มได้อีกต่อไปเมื่อพี่เรนส่ายหน้าไปมา



“ถ้า... พี่เรนไม่รังเกียจผม ก็ลองให้ผมจีบพี่ดู และถ้าพี่เรนชอบผม เราก็คบกัน ตกลงไหมครับ”



พี่เรนพยักหน้าขึ้นลงทั้งๆ ที่หน้ายังไม่หายแดง ผมยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่จะยิ้มได้ ก่อนจะยอมปล่อยมือพี่เขาเมื่อพี่เรนดึงมือตัวเองประท้วง เจ้าตัวไม่พูดอะไรสักคำนอกจากเอามือไปปิดแก้มตัวเองต่อเหมือนเดิม



“เป็นอะไรไปครับ เอามือไปปิดแก้มตัวเองแบบนั้นทำไม”



"ไม่รู้...” เสียงพี่เรนอู้อี้เพราะเอามือปิดแก้มตัวเองแน่นจนปากแดงๆ นั้นยู่เข้าหากัน “พี่แค่รู้สึกแปลกๆ กายชอบทำพี่รู้สึกแปลกๆ”



ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย “ยังไงครับ ไหนเล่าให้ผมฟังหน่อย” ผมถาม คว้าหมีที่เดินมาคลอเคลียมานั่งตักแล้วลูบขนนุ่มมือเบาๆ



"ก็กายอ่ะ... ชอบทำให้พี่รู้สึกแปลกๆ แก้มมันร้อนๆ คันๆ ยังไงก็ไม่รู้”



ผมอยากจะหัวเราะเสียงดังให้ลั่นโลก ไปก็ไปตะโกน กระโดดโลดเต้น ก็ไอ้อาการแก้มแดงๆ ร้อนๆ นั่นน่ะ อาการของคนเขินไม่ใช่หรือไงกัน



“พี่เรนก็เหมือนกันแหละ ชอบทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ อยู่เรื่อย” ผมตอบกลับไป อยากจะล้อเลียนท่าทางนั้นนะ แต่ผมทำแล้วมันคงน่าเกลียดมากกว่าน่าเอ็นดู เดี๋ยวจากพี่เรนไม่รังเกียจจะกลายเป็นรังเกียจผมขึ้นมา



“ชอบทำผมใจเต้นแรง แก้มก็ร้อน แถมยังชอบทำให้ผมเป็นห่วง เป็นกังวล คิดเรื่องพี่เรนแทบจะตลอดเวลา”



“ชอบทำให้ผมตกหลุมรัก...”



“งืออออออ!!!!” พี่เรนร้องออกมาก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าหมีไปกอดแล้วเดินหนีผมออกจากห้องไป



แน่นอนว่าตอนเดินหนีผมหน้าพี่เรนนี่แดงก่ำยิ่งกว่าตอนแรกอีก ผมได้แต่ทิ้งตัวลงนอนไปบนเตียงยกมือขึ้นจับหน้าอกตัวเองตรงตำแหน่งหัวใจ



หัวใจผมเต้นแรงมากจริงๆ ตลอดเวลาที่ผมพูดผมทั้งตื่นเต้นทั้งกลัว หลากหลายความรู้สึกไปหมด แต่พอได้พูดแล้วมันก็โล่ง สบายใจแล้วครับ ได้ทำ ได้พูดในสิ่งที่อยากทำแล้ว คิดถูกแล้วจริงๆ ที่ยอมอาย ยอมเขินแล้วพูดทุกอย่างออกไป



ผมได้แต่นอนยิ้มเหมือนคนบ้า ก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นเดินตามพี่เรนไป เดี๋ยวเกิดพี่เรนเขินจัดนึกเดินไปไหนต่อไหนจนหลงทางขึ้นมาจะทำยังไงกัน ยิ่งหลงทางเก่งๆ อยู่ด้วย



แต่พี่เรนไม่ได้ไปไหนครับ ลงมานั่งกอดหมีอยู่ที่ชั้นล่าง พูดอะไรงุ้งงิ้งๆ กับหมีก็ไม่รู้ เห็นแบบนั้นผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปเอาไว้ พี่เรนขดตัวอยู่บนพื้นกอดหมีเอาไว้ พอหันมาเห็นผมก็หน้าแดงอีกรอบแล้วอุ้มหมีเดินหนีต่อ ก็อยากจะถามว่าจะหนีผมไปไหน ห้องพักก็มีแค่นี้เนี่ย



ผมหลุดหัวเราะเมื่อพี่เรนเดินหนีผมเข้าไปในห้องน้ำ ปิดล็อคตัวเองกับหมีเอาไว้ในนั้น



"พี่เรนครับ จะเข้าไปอยู่ในห้องน้ำทำไม” ถึงวิวตรงห้องน้ำจะสวยมากก็เถอะครับ “พี่เรน”



“งือออ!!!” เหมือนจะได้ยินเสียงคนร้องประท้วงงอแงเนอะ



"พี่เรนครับ ออกมาเถอะ" ผมยืนพิงผนังข้างๆ ประตูห้องน้ำ ร้องเรียกคนที่หลบผมเข้าไปอยู่ในนั้นให้ออกมา



“ก็กายแหละ!” คนข้างในประท้วงครับ ผมไม่เคยได้ยินน้ำเสียงแบบนี้จากพี่เรนเลย เสียงเหมือนจะงอนๆ โกรธๆ ฟังแล้วก็เพลินหูดีนะ



“ผมทำไมครับ”



“ก็... ก็กายทำพี่รู้สึกแปลกๆ แปลกๆ มากด้วย หน้าร้อนไปหมดเลยแดงมากด้วยเนี่ย...”



"ผมขอโทษครับ” ได้แต่กลั้นยิ้มกลั้นขำตอนได้ยิน “ผมจะไม่ทำให้พี่เรนรู้สึกแปลกๆ แล้ว ออกมานะครับ อยู่ในนั้นนานๆ ไม่ดีนะ”



คนข้างในยังเงียบครับ “ออกมาเถอะครับ เดี๋ยวผมพาไปปั่นจักรยาน วิวที่นี่สวยมากเลยนะพี่เรนไม่อยากไปวาดรูปเหรอ เนี่ย... เดี๋ยวพาหมีไปปั่นจักรยานด้วยกันด้วย”



เหมือนจะได้ยินเสียงกุกกักๆ ก่อนที่ประตูห้องน้ำจะเปิดออก หมีที่หลุดจากอ้อมแขนของพี่เรนได้แล้วก็เดินมาหาผม ร้องเบาๆ เหมือนจะฟ้องว่าโดนพี่เรนกักตัว เห็นแบบนั้นผมก็เลยก้มลงอุ้มแล้วลูบขนเบาๆ



เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นคนหน้าแดงยืนมองผมอยู่จนต้องหลุดยิ้มออกมา แต่ก็ไม่พูดอะไรให้พี่เรนหนีผมเข้าห้องน้ำอีก “ไปเตรียมตัวกันดีกว่าครับ”



พี่เรนพยักหน้ารับก่อนจะเดินกลับขึ้นไปบนห้องนอนอีกรอบ ส่วนผมก็ได้แต่อุ้มหมีเดินตามไปพร้อมกับคิดในใจว่า...



ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่มีทางปล่อยพี่เรนไปแน่นอน...



พี่เรนเป็นคนน่ารัก ถ้าใครได้อยู่ใกล้ๆ ร้อยให้พันเลยผมเชื่อว่าทุกคนจะตกหลุมรักพี่เรน เพราะฉะนั้นผมจะไม่มีทางปล่อยให้ใครเข้าใกล้พี่เรน แล้วก็จะไม่มีทางปล่อยพี่เรนให้ไปใกล้ใครแน่นอน







************************************************
ขอโทษที่หายไปนานค่ะ คือ... ไม่มีอะไรจะพูดเพราะรู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะคิดอะไรออก เจอกันครั้งหน้าค่ะ แฮ่....

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเมนต์ กดโหวด แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [50%] l P.7 24-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 24-01-2017 23:09:33
เขินน่าฟัดจริงๆพี่เรน :impress2:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [50%] l P.7 24-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-01-2017 01:09:23
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [50%] l P.7 24-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 25-01-2017 08:11:51
พี่เรนรู้แล้ววววว เจ้ากายเอาไปสิบดาว
น่ารักจังเลย งือออออ ขอบคุณมากค่ะฟาง
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [50%] l P.7 24-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 25-01-2017 08:49:10
พี่เรนน่ารักอะไรขนาดนี้นะ อยากจับมาฟัดให้หายมันเขี้ยวจริงๆ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [50%] l P.7 24-01-60
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 25-01-2017 10:07:40
สนุกอ่ะ ชอบเวลากายจีบ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [100%] l P.8 05-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 04-02-2017 22:41:22
(https://www.mx7.com/i/106/rjwuEY.gif)
"งืออออ... ล แล้ว... พี่ต้องทำยังไง"
Rain
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ




โชคครั้งที่ • 13.2 •







• • • ต่อค่ะ 100% • • •






พี่เรน




งือ... น้องกายทำผมรู้สึกแปลกๆ อีกแล้ว ตลอดทั้งบ่ายเลย ไหนบอกว่าจะไม่ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ไง ทำไมไม่รักษาคำพูดเลย...



ชอบหันมามองแล้วก็เอาแต่ยิ้ม ไม่รู้จะยิ้มอะไรนัก ไม่เห็นมีอะไรน่ายิ้มเลยสักนิดเดียว พอถามก็เอาแต่ส่ายหน้าไม่ยอมตอบแต่ก็ยังเอาแต่ยิ้มอยู่แบบนั้นไม่ยอมหยุด



เนี่ย... ดูสิครับ ยิ้มอีกแล้ว ยิ้มจนผมไม่กล้าจะเงยหน้าขึ้นมองอะไรแล้วนะ เงยหน้าขึ้นมองทีก็เจอแต่รอยยิ้มของกาย แล้วผมนี่เป็นอะไรก็ไม่รู้ ทำไมถึงไม่กล้ามองรอยยิ้มของกายก็ไม่รู้เหมือนกันครับ



ตัวผมก็แปลก ตัวน้องก็แปลก แปลกกันไปหมดแล้วเนี่ย...



“โฮ~ พี่เรน พี่วาดรูปสวยมากเลย” เสียงที่ดังจากข้างบนทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมอง หยีตาลงนิดเพราะแสงตอนบ่ายส่องลงมาพอดี



อ่า... น้องคนนี้น่าจะชื่อ... น้องอะไรนะ...



ผมส่ายหน้าไปมากับคำพูดของน้องเขา “ไม่สวยอะไรขนาดนั้นหรอก”



เรื่องจริงนะ ผมไม่ได้วาดรูปสวยอะไรขนาดนั้นสักหน่อย มีคนวาดรูปเก่งกว่าผมเยอะแยะไปครับ



“อย่างพี่เรนเรียกว่าวาดไม่สวย อย่างไอ้ไม้ก็เรียกว่าอุบาทว์แล้วละครับ”



อ๋อ...! น้องคนแรกที่มาพูดกับผมชื่อไม้นี่เอง ว่าแต่คนนี้ชื่ออะไรนะ ผมลืมอีกแล้วสิ...



น้องคนมาใหม่พูดก่อนจะชูรูปวาดของน้องไม้ให้ผมดู “เอ่อ...”



“เขาเรียกว่าศิลปะโว๊ย! รู้จักไหมคำว่าศิลปะน่ะ มันคืออาร์ตติส!” น้องไม้หันไปโวยวายกับเพื่อนก่อนจะหันมาหาผม “ใช่ไหมพี่เรน”



“เอ่อ...” ผมมองภาพวาดตรงหน้าสลับกับเงยหน้ามองน้องไม้ไปด้วย “ก็... คงงั้นมั้งครับ แหะ...”



“เห็นไหมๆ พี่เรนยังบอกว่ามันคือศิลปะเลยโว้ย มึงแม่งไม่มีความคิดสร้างสรรค์ไอ้เกลียว!” น้องไม้หันไปโม้ ไปโวยวายใส่เพื่อนใหญ่



ผมได้แต่นั่งมองก่อนจะยิ้มออกมา คือ... รูปที่น้องไม้วาด... จะเรียกว่าเป็นศิลปะแบบ Abstract Art ก็ได้... ละมั้ง



“แอบแสตรกอ่ะ มึงรู้จักป่ะ รู้จักไหม”



น้องเกลียวส่ายหน้าไปมาก่อนจะมองเพื่อน “อย่างมึงแอ๊บแตกน่ะสิไม่ว่า”



“พอๆ พวกมึงสองตัวก็มากวนพี่เรนเขา พี่เขาจะวาดรูปไอ้ห่า” น้องกายเดินมาจากไหนไม่รู้ตบหัวเพื่อนไปคนละที “งานของคุณมึงเสร็จกันแล้วเหรอครับ มีเวลามานั่งวาดรูปก่อกวนคนอื่นเขาแบบนี้”



แล้วทั้งสามคน... อยู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็ยวิ่งไล่เตะกันเฉยเลย



ผมได้แต่กระพริบตามองน้องๆ ก่อนจะหลุดขำออกมา พวกเขาดูสนิทกันดีนะครับ เล่นอะไรกันเป็นเด็กๆ เลย



เห็นแบบนั้นก็เปลี่ยนกระดาษแผ่นใหม่แล้วร่างภาพน้องทั้งสามคนแบบเร็วๆ ลงไปบนกระดาษ เป็นภาพทั้งสามคนวิ่งเล่นกัน ส่วนเพื่อนน้องกายอีกสองคนหายไปไหนไม่รู้... สงสัยคงไปถ่ายรูปแถวๆ นี้ละมั้ง



อ่า... ผมมีอาการแปลกๆ อีกแล้ว



ตอนที่จ้องน้องกายเพื่อจำรายละเอียดมาวาดลงในภาพ ตอนที่น้องยิ้มแล้วก็หัวเราะกับเพื่อนๆ มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ทำไมหัวใจเต้นแรงจังนะ... แต่ตอนมองน้องไม้กับน้องเกลียวไม่เห็นจะเป็นเลย



งื่ออออ!! ไหนว่าสัญญาจะไม่ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ แล้วไง!!



"พี่เรน!!"



ผมสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจทันที ทำตาโตมองคนตรงหน้า ขนาดหมีที่นอนอยู่ข้างๆ ยังสะดุ้งเลย ผมมองก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าบึ้งเมื่อน้องกายหัวเราะชอบใจที่ทำให้ผมตกใจได้



“ตกใจหมด! เห็นไหมหมีก็ตกใจไปด้วยเลย” ผมพูดก่อนจะอุ้มหมีมากอดเอาไว้ไม่รู้หรอกว่าทำหน้าแบบไหนออกไปแต่น้องกายกลับยิ่งหัวเราะชอบใจกว่าเดิมอีก



“โอ๋ๆ ไม่ตกใจนะ” กายปลอบหมีที่ผมกำลังอุ้มอยู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม



อ่ะ!...



ผมชะงักทันทีที่เห็นรอยยิ้มนั้น รู้สึกว่าแก้มตัวเองมันคันๆ อีกแล้ว



“พาหมีไปเดินเล่นปลอบเลยนะ” ผมยื่นหมีให้ ซึ่งน้องกายก็รับหมีไปอุ้มต่อ



ผมย่นจมูกใส่ก่อนจะก้มลงวาดรูปต่อ ไม่วาดแล้วรูปน้องกายกับเพื่อน! วาดรูปต้นไม้ของผมต่อดีกว่า







น้องกาย



ฮ่าๆๆ



ผมได้แต่หัวเราะขำอยู่ในใจทั้งๆ ที่อยากจะหัวเราะให้ดังกว่านี้ พี่เรนโคตรจะน่ารักเลยครับ ตอนที่ผมวิ่งไล่เตะกับไอ้ไม้ไอ้เกลียวก็หันมาเห็นพี่เรนกำลังก้มหน้าก้มตาวาดรูปไม่หยุดแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็เลยสงสัย สะบัดไอ้สองตัวนั้นทิ้งแล้วย่องมาดู ก็เห็นว่ากำลังวาดรูปพวกผมที่กำลังวิ่งเล่นกัน



เห็นตั้งอกตั้งใจวาดก็อยากจะแกล้งปนๆ กับหวง ไม่อยากให้พี่เรนวาดรูปไอ้สองตัวนั้นก็เลยแกล้งส่งเสียงเรียกออกไปดังๆ



แต่... หึๆ ฮ่าๆๆๆ



พี่เรนสะดุ้งโหยงเลยครับ ท่าทางเหมือนกับหมีไม่มีผิด แถมยังทำตาโตหน้าตาเหลอหลาอีก เห็นแล้วก็ตลกปนๆ กับเอ็นดู รวมๆ แล้วโคตรจะน่ารักอ่ะครับ แถมยังทำหน้าบึ้งใส่อีก ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่



“โอ๋ๆ ไม่ตกใจนะ” ผมลูบหัวลูบคอหมีที่พี่เรนกำลังอุ้มเอาไว้อยู่ ก่อนจะเงยหน้ามองพี่เรนแล้วยิ้มให้



แล้วผมก็ได้เห็น... แก้มแดงๆ ของพี่เรน



"พาหมีไปเดินเล่นปลอบเลยนะ” ผมรับหมีมาจากพี่เรน ไม่พูดขัดหรืออะไร นอกจากยิ้มให้พี่เขาอย่างเดียว พอเห็นผมยิ้มพี่เรนก็ก้มหน้าก้มตาลงไปวาดรูปต่อ



วันนี้เหมือนพี่เรนจะเขินบ่อย แล้วก็ชอบทำหน้าบึ้งบ่อยๆ ด้วย



แต่ไม่ว่าจะทำหน้าแบบไหน... ผมก็ชอบทั้งนั้นแหละครับ



อรั๊ย! เขินว่ะ



ผมอุ้มหมีขึ้นก่อนจะพาไปเดินเล่น พวกไอ้ไม้ไอ้เกลียวเลิกไล่เตะกันแล้วครับ แล้วก็หันไปหามุมถ่ายรูปกันต่อ ส่วนไอ้เป้กับไอ้แม็คก็หายหัวไปตั้งแต่เราลงจักรยานกัน คงไปตระเวนหามุมถ่ายรูปของมันไป



ส่วนรูปของผม... เรียบร้อยหมดแล้วละครับ แต่ผมยังไม่บอกหรอกว่ารูปอะไร เอาไว้ตอนพรีเซนต์ก็รู้เองแหละ



“หมี...” ผมเรียกเจ้าแมวขนปุยสีขาวที่ผมกำลังอุ้มอยู่ ก้มมองแบบที่หมีเองก็เงยหน้าขึ้นมามองเหมือนจะถามว่าเรียกทำไม



“เราเคยบอกยัง... เราชอบพี่เรน เราชอบเจ้านายตัวเองล่ะ” ผมพูดกับหมีต่อ ซึ่งมันก็น้องแม๊วออกมาเหมือนจะบอกว่ารับฟังอยู่ ผมเลยพูดต่อ “วันนี้ก็บอกชอบไปแล้ว ที่พี่เรนอุ้มตัวเองหนีเราไปอยู่ในห้องน้ำไง ตัวเองว่าพี่เรนจะชอบเราป่ะวะ เรามีลุ้นใช่ไหม”



แม๊วว~~



“เรามีลุ้นจริงๆ สินะ ถ้าอย่างนั้นเราเดินหน้าจีบพี่เรนต่อไปเรื่อยๆ เลยนะ ไม่นานเดี๋ยวพี่เรนก็คงชอบเราใช่ป่ะ” ผมก็ยังคุยกับหมีต่อ



เหมียว~~



“ดีๆ เธอต้องกันพี่เรนออกจากผู้ชายคนอื่นให้เราด้วยนะรู้หรือเปล่า” ผมก้มลงมองคราวนี้หมีไม่ร้องตอบแต่จ้องหน้ากลับมาแทน



เหมือนจะหาว่าผมบ้า... ไม่ได้อยู่กับพี่เรนตลอด จะมากันผู้ชายคนอื่นให้ได้ยังไง



“ก็ถ้าพี่เรนพาผู้ชายคนไหนที่ไม่ใช่เราไปที่ห้องก็ต้องเข้าไปกันอย่าให้ใกล้ชิดพี่เรนนะรู้ไหม”



แต่เอ่อ... ผมก็ท่าจะบ้าจริงๆ ละครับ คุยกับแมวได้เป็นฉากเป็นตอน เป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้...



ผมมองหน้าหมีแล้วก็ได้แต่ยกตัวขาวๆ อ้วนๆ ขึ้นมาฟัดอย่างมันเขี้ยว หมีช่างเป็นแมวหน้าตาออดอ้อนแต่นิสัยไม่ค่อยอ้อนจริงๆ ไม่เหมือนกับพี่เรน คนนั้นหน้าตาก็ออดอ้อน นิสัยยังชอบอ้อนแบบไม่รู้ตัวอีก ไอ้เราก็ใจสั่นไปสิ แต่ถ้าถามว่าเจ้าตัวเขารู้ตัวไหมว่าทำให้คนอื่นหวั่นไหว



พนันห้าให้ร้อยเลย ว่าไม่มีทางรู้



ทีตอนผมชมตรงๆ ว่าน่ารักยังรู้ตัวว่าเขิน แต่พอผมหยอด ผมจีบ ผมสารภาพรัก ดันไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไร พี่เรนนี่นะ.... พี่เรนนี่คือพี่เรนจริงๆ



แต่ผมว่ามันก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของพี่เรนนะครับ เป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนมองไม่สามารถละสายตาไปไหนได้



เมี๊ยววว~~~



ผมก้มลงมองหมีที่ส่งเสียงร้องออกมา “หือ... ว่าไงเรา อยากกลับไปหาเจ้านายแล้วเหรอ” พอผมถามไปแบบนั้นหมีก็ร้องออกมาอีกรอบเหมือนจะเข้าใจคำถามที่ผมถามไป ผมได้แต่ยิ้มแล้วก็พาเดินกลับไปที่เดิม



จริงๆ ก็ตั้งใจจะเดินกลับไปแล้วล่ะครับ ไม่อยากปล่อยพี่เรนไว้กับไอ้พวกนั้นมากๆ ดีไม่ดี ตอนนี้พี่เรนอาจจะนั่งวาดรูปอยู่คนเดียวก็ได้... ละมั้ง



เหมือนจะคิดผิดไป พี่เรนไม่ได้อยู่คนเดียว แต่เพื่อนผมอยู่กันครบเลยครับ ไอ้เป้ไอ้แม็คที่หายหัวไปตอนแรกก็มาแล้ว พวกมันนั่งล้อมพี่เรนเอาไว้ก่อนจะส่งเสียงวู้วๆ อะไรของมันกันก็ไม่รู้ครับ



“อะไรกันวะ รบกวนพี่เรนวาดรูปกันอยู่ใช่ไหมพวกมึงเนี่ย” ผมถาม ปล่อยหมีลงกับพื้น ซึ่งเจ้าเหมียวก็เดินนวยนาดผ่านหน้าไอ้พวกนั้นทีละคน ทีละคน แล้วก็ปีนตักพี่เรนไปนอนทับกระดานวาดรูป จนพวกมันส่งเสียงโวยวายกันใหญ่ ถามว่าหมีสนใจไหม...



ไม่เลย เงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ขดตัวลงไปต่อ



พี่เรนหัวเราะ ลูบขนหมีเบาๆ ก่อนจะพูด “สงสัยหมีจะหวง บางทีก็แบบนี้ตอนพาเพื่อนไปทำงานที่ห้อง อยู่ๆ ก็เดินมาซนใกล้ๆ นั่งทับ นอนทับงานไม่ยอมให้ทำ บางทีก็มานั่งแทรกพี่กับเพื่อน”



หรือว่าหมีกำลังกันผู้ชายคนอื่นให้ผมอย่างที่ผมเพิ่งบอกไปเมื่อกี้กันนะ น่ารักนะเนี่ยเรา



พวกผมนั่งเล่น กินลม ชมบรรยากาศต้นไม้สูงๆ กันอีกสักพักใหญ่ ก่อนจะปั่นจักรยานกลับที่พักกัน พวกเพื่อนๆ ผมก็คนละคันครับ กล้องก็สะพายเอาไว้ ส่วนผมมีพี่เรนหอบกระดานวาดรูปซ้อนท้าย แล้วก็มีหมีนั่งอยู่ที่ตะกร้าหน้ารถ



ดูด้วยตาผมก็ว่าพี่เรนตัวเล็กแล้วนะ น้ำหนักไม่น่าจะเยอะ แต่พอให้มาซ้อนจักรยานแบบนี้ก็รู้ชัดเลยครับว่าตัวเล็กแล้วก็ผอมมาก ไม่ได้จะยอหรืออะไรทั้งนั้นนะ แต่พี่เรนตัวเบามากจริงๆ ครับ ผมเคยปั่นจักรยานโดยมีไอ้แม็คที่น้ำหนักน้อยสุดในกลุ่มซ้อนท้ายมาแล้วนะ แม่งยังหนักกว่าพี่เรนเลย



ตอนปั่นจักรยานกลับที่พักก็แวะถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ แล้วแต่คนจะชอบครับ หาอะไรกินกันเรียบร้อยก็เข้าที่พักกัน และนี่แหละ...



ช่วงเวลาที่ผมรอคอย



เวลาที่ผมจะได้อยู่กับพี่เรนสองคน ท่ามกลางแสงดาวที่แสนจะโรแมนติก ถึงจะไม่ได้นอนกอดพี่เรนแต่ก็ไม่เป็นอะไรครับ ของพวกนั้น... ที่หลังได้ ผมให้พี่เรนไปอาบน้ำก่อนครับ ส่วนตัวผมเองก็ให้อาหารหมีแล้วก็นอนเล่นกับหมีอยู่บนพื้นที่ห้องนอน



“กาย... อาบน้ำได้แล้วหล่ะ” ผมหันไปมองก่อนจะยิ้มแล้วก็พยักหน้ารับ



พี่เรนตอนถอดแว่นแล้วก็ใส่คอนแทคเลนส์น่ารักมาก แต่ผมชอบตอนพี่เรนใส่แว่นแล้วก็ทำผมน้ำพุแบบนี้มากกว่า ยิ่งตอนนี้พี่เรนเปลี่ยนมาใส่แว่นกลมๆ โตๆ แบบแว่นแฟชั่นแล้วก็ยิ่งทำให้น่ารัก ปากเล็กๆ แดงๆ จมูกโด่งๆ หน้าใสๆ ขาวๆ รวมๆ แล้วโคตรจะน่ารัก โคตรจะน่าฟัดเลยละครับ



“ครับผม ถ้าพี่เรนง่วงจะนอนก่อนเลยก็ได้นะ วันนี้เดินทางแล้วยังไปข้างนอกกันมาอีก เดี๋ยวผมจะแวะไปห้องไอ้ไม้ด้วยแปบนึง พี่เรนนอนก่อนเลยนะครับ” ผมบอกพี่เรนก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นจากพื้น เดินไปหยิบเสื้อผ้าเพื่อเตรียมไปอาบน้ำ



พี่เรนพยักหน้าหงึกหงักรับคำพูดของผม อือ... นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นพี่เรนใส่ชุดนอน กางเกงวอร์มสีดำ กับเสื้อแขนยาวมีฮู้ดสีเทา น่ารักดี...



หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็แวะไปคุยกับพวกเพื่อนๆ ที่ห้องไอ้ไม้สักพักหนึ่งก่อนจะกลับมาที่ห้อง หมีผงกหัวขึ้นมามองผมตอนผมเปิดประตูห้องนอนเข้าไปก่อนจะฟุบหน้าลงไปนอนต่อ ภายในห้องเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศ



ส่วนพี่เรน... หลับไปแล้วครับ ผมน้ำพุยังอยู่บนหัวแต่แว่นกลมๆ นั้นถอดออกไปแล้ว นอนขดตัวอยู่บนที่นอน อย่างกับแมว



ผมเดินเช็คประตูหน้าต่างให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินไปกดปิดไฟแล้วก็เดินไปที่เบาะนอน ล้มตัวลงนอนข้างๆ พี่เรน แม้จะปิดไฟในห้องแล้วแต่ห้องพักนี้เน้นกระจกเป็นส่วนใหญ่แสงไฟจากทางเดินด้านนอกจึงส่องเข้ามาข้างในพอให้ภายในห้อง แน่นอนว่ารวมไปถึงคนที่นอนหลับอยู่ข้างๆ ผมด้วย



ผมหันหน้าเข้าหาพี่เรน มองคนที่หลับไปแล้วอย่างไม่วางตา



ใครจะคิดจะฝันว่าวันหนึ่งผมจะได้มานอนมองหน้าคนที่ตัวเองแอบชอบมาเป็นปีแบบนี้ ตอนแรก... ผมไม่คิดจะจีบพี่เรนด้วยซ้ำ ออกแนวชอบแต่ก็ไม่แสดงตัวมาก อีกอย่างเขินด้วยแหละครับ ไม่กล้าเข้ามาใกล้พี่เรนเท่าไหร่ ขนาดวันแรกที่เจอพี่เรนใกล้ๆ ผมยังเข่าอ่อนเลย นึกแล้วก็ตลกตัวเอง



คงต้องขอบคุณอาจารย์ที่คิดโปรเจคนี้ขึ้นมา ขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ผมคิดอยากจะให้พี่เรนมาเป็นนายแบบ แล้วก็ขอบคุณตัวเองที่พอมีความกล้ามากพอจะเดินเข้ามาหาพี่เรนแบบนี้



ส่วนคนที่ผมต้องขอบคุณมากที่สุดก็คงเป็น... พี่เรน...



ที่ไม่คิดจะผลักไสผมออกไปไหน







          กาย คามิน @Guy_Kamin
          ขอบคุณฝน
          ขอบคุณเรน
          ขอบคุณ... ความสุข







************************************************
ครบ   100% แล้วค่ะ ตอนแรกเรื่องนี้คิดว่า 15-20 ตอนก็คงจบ แต่นี่ 13 ตอนไปแล้วยังไม่ได้คบกันเลย ฮ่าาาาา พล็อตมันมาจากไหนเยอะแยะ แต่ก็... เอาเป็นว่าเราอยู่กันไปเรื่อยๆ ก่อนเนอะ เรื่องนี้เน้นบรรยากาศฟินๆ เบาๆ ไม่ดราม่า ไม่หนักหน่วง มีแต่รอยยิ้มและความน่ารักนะคะ อยากให้อ่านแล้วอารณ์ดี เหมือนฟางตอนที่แต่งแล้วก็อารมณ์ดี

อารมณ์ดีไปกับนิสัยของตัวละครแต่ละตัว โดยเฉพาะกับหมี... ตัวละครหลักของเรื่องนี้ ฮ่าาาาา เจอกันตอนหน้านะคะ ^^

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [100%] l P.8 05-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-02-2017 23:28:26
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [100%] l P.8 05-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 04-02-2017 23:45:00
น่ารักอีกแล้ว ทั้งเจ้านายและลูกน้อง งือออ
พี่เรนเริ่มแล้วๆ คิดให้ออกนะคะว่าที่เป็นอยู่เนี่ยเรียกอะไร หมั่นไส้เจ้ากายจริงๆ ขอบคุณค่ะฟาง กอดๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [100%] l P.8 05-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 04-02-2017 23:45:33
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [100%] l P.8 05-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 05-02-2017 00:04:03
พี่เรนน่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [100%] l P.8 05-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-02-2017 03:13:27
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [100%] l P.8 05-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: swoooaa ที่ 08-02-2017 13:46:30
โอยยยย น่ารักเกินคำบรรยาย พี่จินอู เอ้ย พี่เรนน่ารักมากก :ling1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [100%] l P.8 05-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: Arzumi ที่ 09-02-2017 19:48:58
พี่เรนนนนน จำเป็นต้องน่ารักขนาดนี้ไหมคร้าาา งืออยากบีบแก้ม  :katai1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [100%] l P.8 05-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 12-02-2017 02:02:25
น่ารักจังเลยยยย  :m3:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 13 • [100%] l P.8 05-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-02-2017 03:05:45
หวังว่าพี่เรนจะรับรักน้องกายในเร็ววันนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [50%] l P.8 16-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 16-02-2017 22:49:26
(http://38.media.tumblr.com/3e758e2198b951b1cbbf61bd67434015/tumblr_n8i3gw3dDj1tzuteso4_r2_500.gif)
ชอบแบบตกหลุมรักอย่างนั้นเหรอ... แบบที่กายเขา...
Rain
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ






โชคครั้งที่ • 14 •
 





น้องกาย
 



ผมพาร่างอันสะโหลสะเหลของตัวเองเข้าไปในอาคารของคณะ หันมองเพื่อนร่วมสาขาที่มีสภาพไม่ต่างกันนักก็ได้แต่ถอนหายใจและยอมรับกับสิ่งที่ตัวเองกำลังเป็น ที่ผมและผองเพื่อนในสาขามีสภาพเหมือนซอมบี้แบบนี้เป็นเพราะว่า... อาจารย์ที่แสนจะใจดีของพวกผมนึกครึ้มอะไรก็ไม่รู้ จะให้จัดนิทรรศการพรีเซนต์ภาพถ่ายหัวข้อ “ธรรมชาติ” จากที่ตอนแรกแค่จะพรีเซนต์หน้าห้องเฉยๆ



คราวนี้ยังไงละครับ... ไอ้พวกผมก็วิ่งวุ่นกันสิ เพราะนอกจากห้องจัดนิทรรศการแล้วอาจารย์ไม่ได้ให้อะไรอย่างอื่นมาเลย พร็อบเอย อะไรเอยก็ต้องจัดต้องเตรียมหมด เพราะฉะนั้นในหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา นอกจากจะต้องจัดการโปรเซสรูปที่ถ่ายกันมาแล้ว ยังต้องมาระดมช่วยกันจัดห้องนิทรรศการอีก นอกจากจัดห้องรวมแล้วแต่ละส่วนที่จัดแสดงผลงานตัวเองก็ต้องจัดอีก ไหนจะวิ่งไปล้างรูปเพื่อมาแสดง วิ่งวุ่นกันเกือบทั้งคืน... เพราะตอนกลางวันเรายังต้องเรียน



จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันนี้เด็กฟิล์มปีสองถึงได้ทีสภาพแบบนี้



ส่วนถ้าถามว่าทำไมผมดูจะสภาพย่ำแย่กว่าคนอื่นเขานั่นก็เป็นเพราะผลพวงจากการที่มีจัดนิทรรศการนี่แหละครับ



หนึ่งอาทิตย์เลยนะ! หนึ่งอาทิตย์ที่ผมไม่สามารถไสหน้าหล่อๆ ของตัวเองไปหาพี่เรนได้นอกจากส่งไลน์ไปหาบ้างเป็นครั้งคราว นั่นก็เท่ากับว่า... หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาผมยังไม่เจอหน้าพี่เรนเลย โคตรเซ็ง โคตรเศร้า โคตรแซดเลยครับ



ไม่ได้เจอ ไม่ได้เห็นหน้าพี่เรนก็เหมือนจะหมดกำลังใจ ได้แต่ทำงานงกๆ อย่างกับเป็นเครื่องจักรซอมบี้จริงๆ ชีวิตจิตใจมันลอยละล่องไปหาพี่เรนแล้วครับ



แล้วแทนที่วันนี้ผมจะได้แวะไปหาพี่เรนบ้างก็ต้องรีบมาคณะแต่เช้าเพื่อเช็คสถานที่รวมไปถึงผลงานจัดแสดงของตัวเองว่าเรียบร้อยแล้วหรือยัง



กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็ใกล้ได้เวลาเปิดงานซึ่งคณะบดีจะมาเป็นคนเปิดงานนี้ด้วยตัวเอง จากตอนแรกที่คิดว่าคงเป็นนิทรรศการเล็กๆ ในชั้นปี คราวนี้มันกลับไม่ใช่แบบนั้นแล้วละครับ กลายเป็นงานใหญ่ระดับคณะไปแล้ว และจนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่สามารถหาเวลาไปหาพี่เรนได้เลย ได้แต่ส่งข้อความไปหาแล้วก็บอกไปว่าผมมีจัดนิทรรศการแต่ก็ไม่ได้คุยอะไรมาก



ผมยืนไปหาวไปตรงมุมด้านในสุดของห้องซึ่งงานของผมจัดอยู่บริเวณนี้กับเพื่อนในกลุ่ม ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ คนอื่นก็มีท่าทางไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ จะตื่นเต็มตาก็ตอนที่คณะบดีกับอาจารย์เดินมาดูงานนั่นแหละครับ



เป็นชั่วโมงกว่าที่คณะบดีจะเดินดูผลงานของนักศึกษาครบ ซึ่งแน่นอนว่าคอมเมนต์จากคณะบดีก็ถือเป็นคะแนนด้วยเช่นกัน พอพวกอาจารย์พากันเดินออกไปแล้วผมกับเพื่อนๆ ก็พากันทิ้งตัวลงนั่งกับพื้น ทั้งง่วงทั้งเมื่อยแล้วก็เหนื่อย หลังจากนี้ก็เปิดให้คนนอกเข้ามาดูผลงานได้ ภาพถ่ายพวกนี้จะจัดแสดงโชว์อยู่หนึ่งอาทิตย์ครับ



“มึง... กูว่าไปหาไรกินกันดีกว่า กูชักจะหิวๆ ละ แล้วค่อยมาเดินดูงานเพื่อนทีหลัง” ไอ้แม็คสะกิดผมแล้วก็เพื่อนคนอื่นๆ



ผมพยักหน้ารับเห็นด้วยกับความคิดเห็นของมัน เพราะตั้งแต่เช้าพวกผมยังไม่มีใครได้กินอะไรเลยแล้วตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงแล้ว



“เออ ไปหาไรกินกันเถอะ กูก็หิวว่ะ” ไอ้ไม้พูดก่อนจะลุกขึ้นยืนก่อนจะฉุดคนอื่นๆ ขึ้นยืนด้วย แล้วพวกผมก็เดินออกจากห้องจัดแสดงไปที่โรงอาหารของคณะครับ



ผมเดินไปจองโต๊ะก่อนจะสั่งให้ไอ้ไม้กับไอ้เกลียวซื้อข้าวซื้อน้ำมาให้ด้วย ระหว่างรอก็หยิบโทรศัพท์มาดูก็เห็นพี่เรนส่งข้อความตอบกลับมาแล้ว



          Rainramin : พวกตินาก็ชวนไปดูอยู่เหมือนกัน บ่ายๆ พี่คงไปดูนะ



ผมยิ้มกับข้อความนั้น เมื่อเช้าผมไลน์ไปชวนพี่เรนมาดูนิทรรศการที่คณะ แล้วตอนนี้ผมก็ได้รับคำตอบแล้วครับว่าเดี๋ยวตอนบ่ายๆ พี่เรนจะมา ในที่สุดก็จะได้เจอพี่เรนสักที



พวกผมนั่งกินข้าวกันไปคุยกันไปจนกระทั่งคนในโรงอาหารเริ่มเยอะพวกผมก็เลยพาร่างกายที่พร้อมจะชัตดาวน์ตัวเองเพราะความอิ่มผสมความง่วงออกจากโรงอาหารแล้วเดินกลับไปที่คณะ



พวกผมเดินดูงานของเพื่อนคนอื่นๆ ไปด้วย ผมว่าทุกคนสื่อความหมายของธรรมชาติได้ดีหมด เอาจริงๆ คำว่าธรรมชาติ มันก็ไม่ได้หมายถึงแต่ต้นไม้ ลำน้ำ ภูเขาหรืออะไรพวกนั้นหรอกครับ มันก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะตีความหมายว่าธรรมชาติยังไง



ในห้องจัดนิทรรศการเริ่มมีนักศึกษาปีอื่นๆ รวมถึงคณะอื่นเข้ามาดูเรื่อยๆ ไม่อยากจะโม้หรืออะไรนะครับ แต่เวลาคณะผมมีงาน มีนิทรรศการที มักจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ หรือเพราะคณะอื่นเขาไม่ค่อยมีจัดงานแบบนี้ก็ไม่รู้สิ



ผมเดินคุยเล่นกันเพื่อนๆ ไปเรื่อยๆ ก่อนที่ขาของผมจะชะงักตอนที่กำลังจะเดินไปซึ่งโซนจัดแสดงของผมกับเพื่อนในกลุ่ม โซนของพวกเราอยู่มุมด้านในสุดจะเรียกว่าเป็นจุดที่ดีก็ดีเพราะมันจะเป็นจุดสุดท้ายที่คนจะเข้าไปถึง แต่จะว่าไม่ดีก็ไม่ดีเพราะบางคนอาจจะไม่เดินเข้ามาตรงนี้ก็ได้



แต่ที่ทำให้ผมชะงักนั้นไม่ใช่อะไร... นอกจากคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น แค่เห็นข้างหลังผมก็จำได้แม่นเลยครับว่าเขาคือใคร



พี่เรน... พี่เรนกำลังยืนดูรูปของผมอยู่







พี่เรน



“เรน~~”



ผมเงยหน้าจากโทรศัพท์หันไปมองตามเสียงเรียกก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าพวกตินากำลังเดินมาทางนี้ วันนี้ผมไม่มีเรียนครับแต่มีส่งงาน ใกล้จะสอบกลางภาคแล้วงานที่ต้องส่งก็เยอะขึ้นเป็นธรรมดา ช่วงนี้เริ่มไม่ค่อยได้นอนแล้วละครับ



“เป็นไง ได้นอนหรือเปล่า” ผมถามแต่ละคนที่เดินมานั่งที่โต๊ะกับผม



ทุกคนพากันส่ายหน้าไปหมด คงเร่งปั่นงานกันอีกตามเคย ผมอ้าปากเตรียมจะพูดแต่ใบหม่อนก็ยกมือขึ้นห้ามก่อน “พอเรน รู้ว่าจะบ่นเรื่องพวกเราไม่ยอมทำงานตั้งแต่แรกๆ”



ผมทำหน้างอใส่นิดก่อนจะพูด “ก็รู้อยู่แล้วนี่”



ผมจำไม่ได้ว่าผมพูดเรื่องนี้มากี่รอบแล้วแต่ผมก็เข้าใจนะครับ บางทีการทำงานถ้าความคิดมันไม่ให้ต่อให้นั่งจ้องนั่งทำทั้งวันงานมันก็ไม่เดิน อีกอย่าง... บางทีทำๆ ไปแล้วได้เยอะแล้วเกิดคิดคอนเซ็ปได้ใหม่ คิดจะแก้ตรงนู้นตรงนี้มันก็ต้องทำใหม่เลยทำให้งานเสร็จช้าขึ้น จริงๆ พวกนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่ขยันหรอกครับ แต่จากที่ทำงานด้วยตลอดพวกตินาจะชอบปรับแก้ตรงนู้นตรงนี้เลยทำให้ต้องทำใหม่หลายรอบ



“วันนี้พวกนิเทศมีจัดนิทรรศการนี่ใช่ไหม ไปดูกันไหม” ตินาเปลี่ยนเรื่องทันที



“นิทรรศการอะไร” คนอื่นๆ ก็เริ่มสนใจทันที



คณะนิเทศฯ มีจัดงานจัดนิทรรศการบ่อยมากครับ พวกผมเองก็ชอบไปดูเหมือนกัน พวกเขาจัดงานได้สร้างสรรค์ดี คอนเซ็ปแต่ละครั้งก็อลังการมาก



“ภาพถ่ายของปีสอง” เป็นผมเองที่ตอบคำถามนั้น พอผมตอบทุกคนก็หันมามองผมทันทีเลย



“เรนรู้ได้ไง” สาถาม



“น้องกายบอก ไลน์มาบอกเมื่อเช้าว่าวันนี้ที่คณะปีสองมีจัดนิทรรศการภาพถ่ายหัวข้อธรรมชาติน่ะ” ผมตอบ ชูโทรศัพท์ให้ทุกคนดู



เพราะวันนี้ไม่มีเรียนผมเลยตื่นสายหน่อย พอตื่นมาก็เห็นข้อความนี้แล้วล่ะครับ จะว่าไปช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยได้เจอกับเขาเท่าไหร่เพราะต่างคนต่างยุ่ง แต่ก็... ยังอุตส่าห์ส่งข้อความมาหาตลอด



แล้วคิดดูเถอะครับ ขนาดแค่ข้อความ... ยังทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ เหมือนตอนที่ไปบางกระเจ้าได้เลย



คุยกันไปสักพักก็สรุปได้ว่าส่งงานเสร็จจะไปดูนิทรรศการกันผมก็เลยส่งข้อความตอบน้องกายไป พอส่งงานเรียบร้อยหาอะไรกินกันแล้วก็เลยเดินไปที่คณะนิเทศฯ กันครับ



คอนเซ็ปในการแสดงงานวันนี้เป็นหัวข้อธรรมชาติ น่าจะเป็นหัวข้อเดียวกับที่พวกน้องกายไปถ่ายรูปที่บางกระเจ้ากัน ภาพของแต่ละคนสวยๆ ทั้งนั้นเลย แต่ทำไมบางคนถึงถ่ายพวกภาพบ้าน ภาพคนมากันนะ เป็นหัวข้อธรรมชาติไม่ใช่หรือยังไงกัน



“ว้าย!! ดูนี่สิ ดูนี่” ใบหม่อนร้องออกมาก่อนจะเรียกทุกคนไปดู



พวกสาวๆ กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่เลยครับ ผมเลยไปดูบ้าง...



“ภาพตรงนี้ต้องเป็นของกายแน่ๆ”



“ใช่ๆ ไม่มีทางเป็นคนอื่นไปได้หรอก”



“แหม... จะว่าไปก็กล้านะเอารูปนี้ขึ้น”



นั่นสิ... กล้ามากๆ เลยที่เอารูปนี้ขึ้น...



“พี่เรน พวกพี่... สวัสดีครับ” ผมกับเพื่อนๆ หันไปตามเสียงเรียกทันที เจ้าของภาพมาแล้ว เดินมาพร้อมๆ กับเพื่อนในกลุ่มของเขา



“ภาพนี้ฝีมือนายใช่ไหม” ตินาถามชี้ไปที่ภาพที่แขวนอยู่บนผนัง



คนโดนถามก็พยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มกว้าง “แน่นอนว่าของผมอยู่แล้ว ผมว่าภาพพวกนี้เข้ากับคอนเซ็ปของงานนี้มาที่สุดแล้วละครับ แต่อีกอย่างก็... ต้องบอกว่าได้นายแบบดีด้วย ไม่อย่างนั้นภาพคงออกมาไม่ดีขนาดนี้หรอกครับ เนอะพี่เรนเนอะ”



อ่า... ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ อีกแล้วครับ แก้มร้อนๆ หัวใจก็เต้นจังหวะแปลกๆ



ภาพที่กายแสดงเป็นภาพของผมเองครับ แต่ไม่รู้ว่าเขาถ่ายไปตอนไหน แต่ดูแล้วน่าจะเป็นตอนที่ไปเที่ยวด้วยกันนั่นแหละครับ ว่าแต่ว่าทำไมกายถึงได้เลือกภาพพวกนี้กันนะ มันไม่เห็นจะเข้ากับคอนเซ็ปธรรมชาติตรงไหนเลย



“ว่าแต่ ทำไมถึงเลือกรูปของเรนน่ะ จะว่าไปพี่ก็เห็นหลายคนนะที่ไม่ได้ถ่ายรูปธรรมชาติน่ะ หัวข้อคือธรรมชาติไม่ใช่เหรอ” ใบหม่อนถามคำถามในสิ่งที่ผมสงสัยแล้วก็อยากจะรู้พอดี



“คอนเซ็ปของภาพคือธรรมชาตินั่นแหละครับ แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับคนมองและตีความมากกว่า อย่างที่พวกพี่เห็นที่เพื่อนๆ ผมหลายคนไม่ได้ถ่ายรูปต้นไม้ ใบหญ้าอะไรพวกนั้น ก็เพราะเขาตีความหมายไปอีกอย่าง” น้องกายอธิบาย และพวกผมเองก็ตั้งใจฟัง



“ธรรมชาติมันมีอยู่ทุกๆ ที่ไม่ใช่ว่ามันจะต้องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเอง อย่างคนเดินไปเดินมาหรือทำกิจกรรมอะไรมันก็คือธรรมชาติครับ อย่างที่ผมใช้รูปพี่เรนเป็นเพราะว่าการกระทำของพี่เรนเป็นธรรมชาติ จะเรียกว่าเป็นภาพถ่ายทีเผลอก็ได้ ภาพพวกนี้จะแตกต่างจากการถ่ายภาพที่ให้นายแบบนางแบบโพสท่าตามที่เราต้องการ แบบนั้นดูก็รู้ว่าจัดท่าขึ้นมา”



ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของกาย จะว่าไปก็จริงนะครับ อย่างบางรูปของคนอื่นๆ เป็นภาพของเด็กๆ ที่กำลังวิ่งเล่นกันแต่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่ภาพที่จัดฉากขึ้นมา



อ่า... เรื่องพวกนี้นี่มันละเอียดจังเลยแหะ



พวกผมเดินไปดูรูปอื่นๆ ต่อจนกระทั่งครบ ทุกคนถ่ายรูปกันสวยมากจริงๆ ครับ เก่งมากเลย แล้วก็ต้องมีความอดทนมากด้วยเมื่อกี้ผมได้ยินรุ่นน้องคนหนึ่งอธิบายภาพให้... น่าจะอาจารย์แหละครับฟัง เห็นบอกว่าเขารอจะถ่ายรูปพวกนี้อยู่เป็นชั่วโมงๆ เลยกว่าจะถ่ายได้ สุดยอดไปเลยเนอะ



“พี่เรน พี่เรนครับ” ผมหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงเรียกก่อนจะเห็นน้องกายเดินเข้ามาหาผม



“หือ... ว่ายังไงเหรอ”



“พี่เรนมีนัดไปไหนหรือเปล่าครับเย็นนี้”



ผมส่ายหน้าไปมากับคำถามนั้น พอเห็นผมส่ายหน้าน้องกายก็ยิ้มกว้างขึ้น “อย่างนั้น... รอผมอีกแปบหนึ่งได้ไหมครับ แล้วเราไปเดินตลาดหน้ามอซื้อของกินกลับไปกินที่ห้องกัน ดีไหมครับ”



“ได้นะ อย่างนั้นเดี๋ยวพี่ไปรอตรงโต๊ะข้างหน้าคณะนะ” ผมบอกพร้อมกับชี้นิ้วไปที่โต๊ะเดิมที่ผมเคยมานั่งรอน้องเขา



กายพยักหน้ารับแล้วยิ้มกว้างทันทีก่อนจะวิ่งกลับไป ผมเลยตั้งใจว่าจะเดินไปนั่งรอน้องเขาเลย แต่ก็เจอพวกตินาที่ยืนอยู่หน้าห้องจัดนิทรรศการเสียก่อน อ้าว... นี่นึกว่ากลับกันไปแล้วนะ ผมหันไปมองรูปแปบเดียว หันกลับมาก็ไม่เห็นแล้ว



“นึกว่ากลับกันไปแล้ว”



ตินาท้าวเอว ส่ายหน้าไปมาก่อนจะถอนหายใจ “ให้ตายสิเรน ห้องก็เล็กแค่นั้นยังจะหลงกับพวกฉันได้อีกนะ”



“เราไม่ได้หลงสักหน่อย เราก็เดินดูเรื่อยๆ พวกตินาแหละเดินเร็วเอง” ผมเถียงกลับ



เรื่องจริงนะครับ ผมไม่ได้หลงทางเสียหน่อย ถ้าผมหลงทางจริงๆ ละก็ผมจะเดินออกมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงกัน ตินานี่มั่วจริงๆ เลย



“โอเคๆ เอาเถอะๆ อย่างนั้นเรากลับกันเลยดีกว่า” ใบ่หม่อนพูด



ผมส่ายหน้าไปมา “ทุกคนกลับก่อนเลย เดี๋ยวเรารอกายแล้วกลับพร้อมกัน”



“เดี๋ยวพวกฉันรอเป็นเพื่อนแล้วกัน” สาพูดแต่ผมก็ส่ายหน้าอีก ผมรอได้ ไม่เป็นอะไร ตกลงกันอยู่สักพักพวกนั้นถึงได้ยอมกลับกันไปก่อน ไม่รู้จะห่วงอะไรผมนัก ยังไงๆ ผมก็เป็นผู้ชายนะครับ ไม่มีอะไรน่าห่วงน่าเป็นกังวลเลยสักนิดเดียว



“นี่เรน ถามอะไรหน่อยสิ” สาหันมาถามผมตอนที่เราเดินออกจากตึกไปหน้าคณะ



“ถามอะไรเหรอ”



“เรนชอบน้องกายเขาบ้างหรือยัง”



ห๊ะ!!



เมื่อกี้สาถามอะไรผมนะครับ ผมชอบน้องกายเขาบ้างหรือยัง อือ... ถ้าไม่ชอบแล้วผมจะเป็นเพื่อนกับน้องเขาได้ยังไงละครับ สานี่ก็ถามอะไรแปลกๆ เนอะ “ก็ต้องชอบสิ ไม่งั้นจะเป็นเพื่อนกันได้ยังไง เพื่อนกันก็ต้องชอบกันสิ มีใครไม่ชอบเพื่อนตัวเองบ้าง”



สาถอนหายใจยาว “ไม่ได้หมายถึงชอบแบบเพื่อน”



อ้าว... อย่างนั้นเหรอ แล้วหมายถึงยังไงหล่ะ



“ชอบแบบ... ชอบแบบคนรัก ชอบแบบแฟน ชอบแบบตกหลุมรักน่ะ”



กึก!



ชอบแบบตกหลุมรักอย่างนั้นเหรอ... แบบที่กายเขา...



“ผมชอบพี่”



“ชอบทำให้ผมตกหลุมรัก”




อีกแล้ว... แปลกๆ อีกแล้ว... ข้างในผมรู้สึกแปลกๆ อีกแล้วละครับ แก้มก็รู้สึกร้อนๆ คันๆ ไปหมดเลย มันเป็นเพราะอะไรกันนะ



“ม...” และผมก็ตอบคำถามของสาไม่ได้ด้วย



“โอเค ไม่เป็นไร เอาไว้ค่อยตอบวันหลังก็ได้” สาตัดบท ซึ่งผมก็รู้สึกว่าดีแล้วละครับเพราะผมยังไม่สามารถหาคำตอบของคำถามนั้นได้เลย “ว่าแต่ว่า... ตกลงไม่ให้พวกฉันอยู่เป็นเพื่อนแน่นะ”



ผมพยักหน้าออกไป ทุกคนเลยพากันโบกมือลาผมแล้วเดินออกไป ส่วนผมก็นั่งรอน้องกายตรงนั้น พร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ ที่ไม่ยอมหายไปสักที แถมในหัวก็มีแต่คำถามของสาอยู่เต็มไปหมดเลย



“ชอบแบบ... ชอบแบบคนรัก ชอบแบบแฟน ชอบแบบตกหลุมรักน่ะ”







************************************************
งุ๊ย... พี่เรนรู้สึกแปลกๆ อีกแล้ว เมื่อไหร่จะรู้นะว่าไอ้ความรู้สึกๆ แบบนี้น่ะ เขาเรียกว่าอะไรกันแน่ >< ทำไมรู้สึกเขินก็ไม่รู้สิ น้องกายก็ช่างกล้า เอารูปพี่เรนขึ้นจัดแสดงเลยจ้าาาาา ชัดเจนมากค่ะชัดเจนมาก คาดว่าจบเรื่องนี้ น้องกายคงเปิดจัดแสดงภาพถ่ายคอลเลคชั่นพี่เรนได้หลายรอบเลยล่ะจ้า ฮี่ๆๆๆ

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [50%] l P.8 16-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 16-02-2017 23:25:30
อยากไปขโมยงานเจ้ากายจริงๆ หมั่นไส้
พี่เรนสู้ๆนะ อีกนิดก็คิดออกแล้ว ขอบคุณค่ะฟาง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [50%] l P.8 16-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-02-2017 23:47:30
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [50%] l P.8 16-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 17-02-2017 00:00:24
ชอบเรนอะ 555 รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [50%] l P.8 16-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-02-2017 00:34:19
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [50%] l P.8 16-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 17-02-2017 01:28:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [50%] l P.8 16-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 23-02-2017 00:27:43
จะรออ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [50%] l P.8 16-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: bungg ที่ 23-02-2017 17:55:54
อ่านแล้วมีแต่คำว่าน่ารักลอยเต็มไปหมดเลย เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ จะรออ่านความน่ารักของพี่น้องคู่นี้นะคะ อยากรู้จังอีกนานแค่ไหนคนน้องจะได้คนพี่เป็นแฟนสักที55555
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [100%] l P.8 25-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 25-02-2017 20:49:15
(http://38.media.tumblr.com/3e758e2198b951b1cbbf61bd67434015/tumblr_n8i3gw3dDj1tzuteso4_r2_500.gif)
ชอบแบบตกหลุมรักอย่างนั้นเหรอ... แบบที่กายเขา...
Rain
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ






โชคครั้งที่ • 14.2 •







• • • ต่อค่ะ 100% • • •






น้องกาย




“กูไปแล้วนะ เอาไว้เจอกันโว้ย”



ผมโบกมือลาเพื่อนๆ คนอื่นก่อนจะแยกเดินมาที่หน้าคณะ และทันทีที่เดินออกมาก็เห็นพี่เรนทันทีเลยครับ สำหรับผมไม่ว่าพี่เรนในตอนนี้หรือตอนก่อนที่จะตัดผม เปลี่ยนแว่นก็เป็นคนที่โดดเด่นในสายตาของผมเสมอ อาจจะเพราะว่าผมจะคอยมองหาพี่เรนบ่อยๆ จากตอนแรกๆ ที่มองหาแทบไม่เจอนานวันเข้าสายตาของผมก็จดจำพี่เรน จนกลายเป็นว่าผมมักจะมองเห็นพี่เรนเสมอๆ



“พี่เรนครับ รอนานไหม” ผมเดินเข้าไปทัก



พี่เรนสะดุ้งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง แล้วอยู่ๆ แก้มขาวๆ ก็เปลี่ยนสีเป็นสีแดงระเรื่อก่อนที่พี่เรนจะก้มหน้าลงไปอีกรอบ



ผมได้แต่ยกมือเกาหัวตัวเองอย่างงงๆ ท่าทางเหมือนจะเขินอายอะไรสักอย่าง... แต่มันมีอะไรให้เขินวะ



“พี่เรนครับ” ผมลองเรียกอีกรอบ คนตรงหน้าก็เงยหน้าขึ้นมองอีกรอบเหมือนกัน “เราไปกันเลยไหมครับ”



“อ... อือๆ ป ไปกันเลย” พี่เรนพูดติดๆ ขัดๆ แก้มก็ยังเป็นสีแดงเหมือนเดิม



ท่าทางแปลกๆ...



พี่เรนดูแปลกๆ เหมือนจะเกร็งๆ ยังไงบอกไม่ถูกแหะ ระหว่างที่นั่งรอผมอยู่เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าวะเนี่ย แล้วคือพอพี่เรนเก็งๆ แล้วท่าทางเหมือนจะเขินๆ แบบนี้มันก็พลานทำให้ผมประหม่าไปด้วย หน้านี่จะแดงตามไปแล้วนะ



แล้วถ้าเป็นแบบนี้คงไม่ดีต่อสภาพจิตใจของตัวเองแน่นอน ก่อนอื่น... ก่อนที่จะไปเดินตลาดหน้ามอกันคงต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น



เพราะฉะนั้นผมเลยคว้าข้อมือพี่เรนมาจับ ซึ่งอีกฝ่ายก็สะดุ้งแต่ก็ไม่ได้สะบัดออกเห็นแบบนั้นผมก็ยิ้มชอบใจ ก่อนจะพาพี่เรนเดิน แต่ไม่ได้เดินไปหน้ามอนะครับ เดินไปอีกทางหนึ่งแทน ตรงนี้มีสวนอยู่ครับ เป็นสวนในมหา’ลัย ต้นไม้เยอะ อากาศดี แต่แปลกที่คนไม่ค่อยมากัน



ก็ดีครับ ผมจะได้คุยกับพี่เรนถนัดๆ หน่อย ถ้าคุยกันหน้าตึกก็คงไม่สะดวกเพราะคนเยอะแยะไปหมด



“ไม่ไปตลาดเหรอ...” พี่เรนถามหลังจากที่ผมกระตุกข้อมือพี่เรนให้นั่งลงบนสนามหญ้าหลังจากที่ผมสำรวจดูแล้วว่าไม่มีสิ่งไม่พึงประสงค์อยู่แถวนี้



“เดี๋ยวไปครับ แต่ผมขอคุยกับพี่เรนก่อน” ผมบอก มองตากลมๆ ที่ซ้อนอยู่หลังแว่นตาอันใหญ่ แว่นอันก่อนของพี่เรนก็ใหญ่แบบนี้แต่ดีไซน์ไม่ทันสมัยแบบนี้ตอนนั้นพี่เรนเลยดูเหมือนเด็กเนิร์ดๆ ผิดจากตอนนี้ที่เปลี่ยนแทบจะเปลี่ยนลุคไปเลย



แต่ไม่ว่าจะพี่เรนตอนไหน ก่อนจะเปลี่ยนลุคหรือหลังเปลี่ยนลุค ผมก็ยังชอบอยู่ดี



“กายจะคุยอะไรเหรอ”



ผมมองสบตากับพี่เรน มองไปได้สักพักแก้มขาวๆ ของพี่เรนก็เปลี่ยนสีอีกรอบ คราวนี้ไม่ใช่แดงแค่แก้มแต่ลามไปทั้งหน้าเลยละครับ น่ารัก...



“เอ่อ... อือ...”



ผมยิ้ม ตอนมองพี่เรนที่หันซ้ายหันขวาขยับอ้าปากเหมือนจะพูดแต่ก็หุบปากฉับแล้วเม้มปากเข้าหากัน ท่าทางเหมือนคนทำอะไรไม่ถูกนั้นดูน่ารักน่าเอ็นดูมากเลยละครับ



แต่ก็แปลกนะครับ ผมมั่นใจว่ายังไม่ได้หยอดหรือไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ทำไมพี่เรนถึงหน้าแดงเอาๆ แบบนี้ละเนี่ย... มาทำเขินหน้าแดงหน้าตาน่ารักให้ความหวังกันไปอีกสิ!



“พี่เรนเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมท่าทางแปลกๆ ตั้งแต่เจอหน้าผมเมื่อกี้แล้วนะ ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในห้องจัดแสดงก็ยังปกติอยู่เลยนี่ครับ” ผมถามออกไป ห่างสายตาไปแค่แปบเดียวเอง มาเจออีกทีพี่เรนก็มีท่าทางแปลกๆ แบบนี้แล้ว



“คือว่า...” พี่เรนอึกอัก ริมฝีปากเม้มเข้าหากันจนผมคิดว่าปากนั้นจะเป็นแผลหรือเปล่า จะแตกไหมนะ แล้วเพราะอะไรถึงทำให้พี่เรนมีท่าทางแบบนี้



นี่ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พี่เรนผมคิดว่ากำลังจะเข้ามาสารภาพรักกับผมนะเนี่ย ท่าทางให้มากเลยครับ แก้มแดงๆ ปากสั่นๆ ตาสั่นๆ ท่าทางเหมือนไม่มั่นใจที่จะพูดนั่นอีก แต่เผอิญว่านี่คือพี่เรนไงไม่ใช่คนอื่น ผมเลยไม่สามารถคาดเดาอาการนี้ของพี่เขาได้นอกจากต้องถามตรงๆ



พี่เรนดูอึกอักที่จะตอบ ถ้าหากเป็นคนอื่นผมคิดว่าเขาคงหาทางเลี่ยงไม่ตอบคำถามผม แต่พี่เรน... ผมมั่นใจเลยว่ายังไงพี่เขาก็จะตอบคำถามแม้ตัวเองจะเขินจะอึกอัก ไม่อยากตอบแค่ไหนก็ตาม



นี่คงเป็นเสน่ห์อีกหนึ่งอย่างของพี่เรน เป็นเสน่ห์ที่พบมาเจอหลังจากได้รู้จักกับพี่เขาแล้ว เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผมหลงรักในความซื่อที่ตรงไปตรงมานี้



“พี่เรนครับ มีอะไรบอกผมได้หมดเลยนะ ผมสัญญาเลยว่าจะไม่เอาไปเล่าให้ใครฟัง”



เม้มปากอีกแล้ว ใจจริงผมอยากจะยื่นมือไปเกลี่ยริมฝีปากพี่เรนเบาๆ ไม่ให้พี่เขาทำแบบนั้นแต่ก็พยายามอดใจเอาไว้ครับ



“คือว่า... ตอนที่พี่รอกายอยู่...” พี่เรนเริ่มพูดแล้วละครับ แล้ผมก็ตั้งใจฟังอย่างมากอยากรู้ว่าพี่เรนเป็นอะไร “แล้วสาก็ถามพี่ว่า... พี่ชอบกายบ้างหรือยัง”



ห๊ะ!!



ถ้าเป็นการ์ตูนคุณคงได้เห็นหัวใจของผมเด้งออกมาเต้นตึกตักๆ อยู่นอกอก ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมเต้นแรงมาก มากๆ มากกว่าทุกครั้งเสียอีก มันทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัวหลากหลายความรู้สึกปนกันไปหมดตอนที่ได้ยินพี่เรนพูด ในหัวเริ่มคิดคำตอบของพี่เรนทีละนิดๆ ว่าพี่เรนจะตอบพวกพี่ๆ เขาไปว่ายังไงบ้าง



“ล... แล้ว พี่เรนตอบพี่สา ป ไปว่าอะไรเหรอครับ”



เชี่ย.... เสียงสั่นชิบหายเลยผม



“พี่ตอบไปว่าก็ต้องชอบสิ เป็นเพื่อนกันจะไม่ชอบกันได้ยังไง” พูดไปก็พยักหน้าหงึกหงัก ทำสีหน้าจริงจังไปด้วย ไอ้หัวใจตอนแรกที่มันฟูๆ ฟ่องๆ มันเริ่มฟีบลงแล้วละครับ ใจแกว่งไปเลย เหมือนดิ่งลงสู่ก้นเหว



“ห ... เหรอครับ...”



เสียงหงอยได้อีกกู...



“ต แต่ว่า...” ผมเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินคำว่าแต่ ใจที่มันห่อเหี่ยวเมื่อกี้เริ่มพองขึ้นอีกรอบ ยังไม่รู้หรอกครับว่าเพราะอะไร แต่เห็นแก้มแดงๆ ของพี่เรนแล้วหัวใจมันก็เต้นเป็นจังหวะมากขึ้น ก่อนจะรัวหนักขึ้นเมื่อได้ยินประโยคถัด



“แต่ว่า... ส สาถามว่าชอบแบบ... ตกหลุมรักหรือเปล่า”



“แล้ว... พี่เรนตอบว่า ยังไงครับ” ผมถามกลับไปเสียงเบา ลุ้นคำตอบจากพี่เรนเป็นอย่างมาก หัวใจจะเต้นต่อหรือหยุดเต้นก็อยู่ที่คำตอบนี้นี่แหละครับ



“พี่ยังไม่ได้ตอบ ม ไม่รู้จะตอบอะไร” พี่เรนยกมือจับแก้มของตัวเอง มันแดงมากจริงๆ ครับ พี่เขาคงเขินมาก



น่าแปลกนะครับ คำตอบของพี่เรนน่าจะทำให้ผมห่อเหี่ยวแท้ๆ เพราะพี่เรนไม่มีคำตอบที่แน่ชัดให้ แต่ผมกลับยิ้มกว้าง ไหนจะรู้สึกว่าแก้มตัวเองร้อนๆ อีก ไม่ต้องส่องกระจกผมก็รู้ได้เลยว่าหน้าของผมกับพี่เรนคงแดงไม่ต่างกัน ถ้าหากพี่เรนแค่ตอบแต่หน้าไม่แดงผมคงรู้คำตอบแล้วว่าพี่เรนไม่ได้ชอบผมเลยสักนิด



แต่เพราะแก้มแดงๆ นั้นที่ทำให้ผมมีความหวังมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าในใจพี่เรนไม่ได้คิดอะไร เขาก็คงไม่แก้มแดง แล้วมีท่าทางเขินขนาดนี้หรอก ใช่ไหมครับ...



ผมจะยังไม่เร่งรัดเอาคำตอบจากพี่เขาหรอก ผมรู้ว่าสำหรับพี่เรนต้องให้เวลาเขา ให้เวลาให้เขาได้คิดเอง และเมื่อเข้าใจผมเชื่อว่าพี่เรนจะเป็นคนบอกผมด้วยตัวเอง



“ไม่เป็นไรครับ ไม่รู้ก็ไม่เป็นอะไร เอาไว้รู้แล้วค่อยบอกผมก็ได้” ผมพูดยิ้มๆ “แต่ผมบอกพี่เรนอีกรอบแล้วกันนะ...”



“ผมน่ะ... ตกหลุมรักพี่ทุกวันเลยครับ”



ไม่ได้จะทำเท่เป็นพระเอกเอ็มวีห่าเหวอะไรหรอกครับ แต่คือเขิน เลยต้องทำเป็นมือล้วงกระเป๋าหันหน้าไปอีกทาง แหมะ! ท่าทางนี่โคตรหล่อ แต่หน้านี่แดงก่ำชัวร์ๆ



ผมแอบมองพี่เรน หน้าพี่เขายังแดงเหมือนเดิม ได้แต่ยกมือเกาแก้มตัวเองบรรยากาศมันฟุ้งแปลกๆ ผมว่าควรจะพาตัวเองออกจากบรรยากาศแบบนี้ดีกว่าเพราะไม่อย่างนั้นคงได้ยืนเขินกันไปเขินกันมาข้าวปลาไม่ต้องกินกันแล้วละครับทีนี้



“เราไปตลาดกันดีกว่าพี่เรน เดี๋ยวจะได้กลับห้องกัน หมีรอแย่แล้วมั้ง” ผมพูด คว้าข้อมือพี่เรนมาจับแล้วจูงออกจากสวนตรงไปที่ตลาดหน้ามอ







พี่เรน



ผมชอบน้องกายหรือเปล่านะ...



ผมเอาแต่ถามคำถามนี้กับตัวเองตั้งแต่น้องกายกลับหอตัวเองหลังจากที่เราไปเดินตลาดกัน ซื้อของมากินด้วยกันที่ห้องของผมแล้วก็คุยเล่นกันอีกสักพัก



ผมไม่เคยมีความรัก ไม่เคยชอบใคร ไม่เคยมีใครมาชอบ ผมเลยไม่รู้ว่าความรักระหว่างเพื่อนกับ... อือ... แบบคนรักกันมันแตกต่างกันยังไง



ผมชอบพวกตินานะครับ เพราะพวกเธอเป็นเพื่อนกลุ่มแรกของผมในมหาวิทยาลัยเลย กับน้องกายผมก็ชอบ... แต่ถ้าให้บอกว่าชอบแบบเพื่อน แบบพี่น้องผมก็รู้สึกแปลกๆ แล้วถ้าจะถามกลับว่า ถ้าอย่างนั้นชอบแบบคนรักเหรอ ผมเองก็บอกไม่ถูก



งือออ!!



เพราะสานั่นแหละ ถามอะไรผมก็ไม่รู้... ผมเลยเอาแต่คิดหาคำตอบอยู่เนี่ย พอจะไม่หาคำตอบมันก็คาใจตัวเอง เลยต้องมานั่งคิดอยู่แบบนี้ไง แล้วแถม... พอคิดถึงน้องกายก็ชอบรู้สึกแปลกๆ ด้วย ก็อาการคันแก้ม แก้มร้อนๆ นั่นแหละครับ



“หมี... หมีว่าการชอบใครสักคนมันเป็นยังไงเหรอ” ผมถามกับน้องหมีที่นอนขดอยู่ข้างๆ ผมบนเตียง “เหมือนกับที่เราชอบหมีหรือเปล่า”



“แล้วหมีว่า... การชอบแบบเพื่อน กับชอบแบบตกหลุมรักมันต่างกันเยอะไหม เราไม่เห็นจะเข้าใจเลยหมี”



เหมียว~~



ผมหลุดหัวเราะออกมาเมื่อน้องหมีลุกเดินมาใกล้ๆ แล้วใช้จมูกใช้หน้าดุนๆ ดันๆ ที่ข้างแก้มของผม น้องหมีเป็นแมวหลากหลายอารมณ์ บางวันอยากจะอ้อนก็เข้ามาคลอเคลียไม่หยุด บางวันหยิ่งก็ไม่เข้าใกล้ผมเลย



ผมอุ้มน้องมานอนบนอกแต่เหมือนน้องหมีจะไม่ชอบใจเพราะขยับเอาเท้าเล็กๆ แปะไปทั่วหน้าผมเลย



งือออ!! หมีซนแล้วนะ!



“งืออออ หมีนี่ เอาเท้ามาเหยียบหน้าเราได้ยังไง” ผมว่าเสียงขุ่นแต่น้องหมีไม่มีสลดอีกทั้งยังร้องหง๊าวใส่อีกต่างหาก



พอเล่นกับหน้าของผมจนพอใจแล้วน้องหมีก็ขยับมานอนซุกข้างๆ ผมแทน เจ้าแมวเอาแต่ใจ! ฮึ่ม พอหมดสนุกก็ไม่สนใจเราเลยนะ นิสัยไม่ดี



ผมย่นจมูกใส่น้องหมีก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์มาดู เปิดเฟซบุ๊คขึ้นมาดู ตัวผมเองไม่ค่อยได้อัพอะไรหรอกครับนอกจากคนอื่นแท็กมา ส่วนใหญ่ก็พวกตินาแต่เดี๋ยวนี้มีใครไม่รู้แท็กหาผมเต็มไปหมดเลย ผมเลื่อนหน้าจอไปเรื่อยๆ หัวเราะไปกับคลิปวิดีโอตลกๆ ของสัตว์เลี้ยง กดถูกใจกับสเตตัสของเพื่อนๆ



ก่อนจะชะงักอยู่ที่สเตตัสของน้องกาย...



ชอบแบบไหนไม่สำคัญ ขอแค่ชอบผมบ้าง อย่างที่ผมชอบ... ก็พอแล้ว



อ่า... เอาอีกแล้ว



ผมรู้สึกแปลกๆ อีกแล้วครับ แต่ผมจะรู้สึกแปลกๆ ทำไมกันนะ น้องกายเขาโพสถึงใครก็ไม่รู้ อาจจะหมายถึงใครก็ได้ ไม่ใช่ผมสักหน่อย



อือ... ใช่แล้วล่ะ



ผมเลื่อนนิ้วผ่านไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เน้นดูคลิป ดูวิดีโอพวกสัตว์มากกว่าครับ ผมว่าพวกมันน่ารักดีบางคลิปก็ตลก บางคลิปก็น่าเอ็นดู



อาการของคนตกหลุมรัก... มาเช็คกันว่าคุณกำลังตกหลุมรักใครอยู่หรือเปล่า



นิ้วของผมไปกดโดนอะไรสักอย่างตอนกำลังเลื่อนหน้าจอ รู้ตัวอีกทีหน้าต่างเว็บก็ขึ้นมาแล้วพร้อมกับหัวข้อเรื่องแบบนี้ อือ... ลองอ่านหน่อยดีกว่า เผื่อผมจะเข้าใจคำถามของสามากขึ้นก็ได้เนอะ



1.รู้สึกอยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา



เอ๋... ก็ไม่นะ แต่ผมก็ชอบนะเวลากายไปถ่ายรูป ผมรู้สึกว่าน้องกายเวลาอยู่กับกล้องเขาดูมีความสุขมากจนผมอยากจะวาดรูปความสุขนั้นเอาไว้ แบบนี้จะถือว่าผมอยากเป็นส่วนหนึ่งไหมนะ



2.มีโอกาสได้เข้าใกล้ หัวใจจะเต้นเร็วผิดปกติ



อ่า...  อันนี้... ผมว่าผมรู้สึกแปลกๆ มากกว่าหัวใจเต้นเร็วหรือว่าหายใจไม่ทั่วท้องนะ มันคันๆ ร้อนๆ ที่แก้ม ไม่ได้เข้าข่ายหรอกเนอะถ้าอย่างนั้น



3.ทุกครั้งที่ไม่ได้เจอ จะรู้สึกกระสับกระส่าย
    


ผมก็ไม่เคยรู้สึกกระสับกระส่ายอะไรนะ แต่จะว่าไปแล้ว... ส่วนใหญ่ผมกับน้องกายก็เจอกันเกือบตลอด ไม่เจอก็คุยทางไลน์กัน ก็ไม่เห็นจะรู้สึกกระสับกระส่ายอะไรเลย



ผมไล่อ่านอีกหลายข้อแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมเข้าใจอะไรขึ้นเลยแหะ... เอาเป็นว่า ช่างมันเถอะครับ ผมคิดว่าสักวันผมก็คงเข้าใจความหมายของคำถามของสาเองนั่นแหละเนอะ



เพราะฉะนั้นก็... นอนดีกว่าครับ คิดเยอะๆ ก็ปวดหัว นอนกอดน้องหมีดีกว่า นุ่มนิ่ม อุ่นสบายจัง...






************************************************
งืออออ!!! พี่เรนน่ารักเนอะ น้องถามอะไรนี่ก็บอกเขาหมดเลย ไม่เก็บเอาไว้ในใจเลยพี่เรนจ๋า เรื่องแบบนี้เขาต้องเก็บเอาไว้คิดเองในใจเงียบๆ ไหมพี่จ๋า นี่เล่นบอกน้องเขาหมดว่าคิดอะไรยังไง น้องกายก็เขินวนไป ฟินวนไป โอ๊ย อยากแยกคู่นี้ออกจังค่ะ ฮ่า

ขอพี่เรนมากอดมาฟัดหน่อยได้ไหม อยากได้คนนี้ไม่อยากยกให้น้องกายแล้ววววววววว

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ

หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [100%] l P.8 25-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-02-2017 21:20:17
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [100%] l P.8 25-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 25-02-2017 21:33:19
เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกันอ่าา
น้องกายจีบหนักๆสิ พี่เรนจะได้รู้ตัว อิอิ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [100%] l P.8 25-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 25-02-2017 23:28:13
อยากลักพาตัวพี่เรนกับหมีมานอนกอดด้วยจัง งือออ น่ารักมากค่ะ ขอบคุณค่ะฟาง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [100%] l P.8 25-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 25-02-2017 23:54:42
 :oo1:    :man1:   :oo1: น่ารักออะ 555
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [100%] l P.8 25-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: munoy ที่ 26-02-2017 15:53:42
สนุกมากกกกกก

เรนน่ารักไปอีก อยากได้ๆๆๆ :ling1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [100%] l P.8 25-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 27-02-2017 09:48:02
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [100%] l P.8 25-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 28-02-2017 00:56:34
รออออออ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 14 • [100%] l P.8 25-02-60
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 07-03-2017 22:19:48
พี่เรน น่ารักน่าฟัดมากอ่ะ

น้องกาย พยายามอีกนิดนะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [50%] l P.9 07-03-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 07-03-2017 22:39:59
(http://i99.beon.ru/31.media.tumblr.com/ed42e2e2ff4fddaf88079c2f8541ad30/tumblr_muvhjmhsUy1rjm2bko1_500.gif)
พี่เรนไม่ได้ยิ้มให้กล้อง แต่ทุกครั้งที่ยิ้ม เขายิ้มให้ผม
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 15 •
 




น้องกาย




 
วันนี้ฝนตก...



ทั้งๆ ที่จะเข้าหน้าหนาวอยู่แล้วแต่ฝนก็ยังตกอยู่ ท้าวคางมองสายฝนที่ตกกระหน่ำอยู่นอกหน้าต่างแล้วหาวออกมาอย่างง่วงนอน บรรยากาศตอนบ่ายที่กินอิ่ม ฝนตกเย็นสบายแบบนี้มันน่านอนหลับเสียจริงๆ เลย เวลาแบบนี้ควรได้นอนซุกผ้าห่มอยู่บนเตียงสิ ไม่ใช่มานั่งเรียนวิชาคณิตศาสตร์อะไรแบบนี้ เรียนไปทำไม ถ่ายรูปไม่ได้ใช่เสียหน่อย



“มึงน่ะ ใกล้กลางภาคแล้ว มึงได้คำตอบตกลงจากพี่เรนเรื่องเป็นแบบให้ยังเนี่ย” ไอ้เกลียวเอาศอกมาจิ้มแขนผมแล้วถาม



"ยังว่ะ แต่กูเชื่อว่าถ้ากูขอจริงๆ พี่เขาต้องยอมตกลงเป็นแบบให้กู" ผมตอบมันไป



ช่วงนี้เหมือนตัวเองจะลืมไปว่าต้องขอพี่เรนมาเป็นนายแบบด้วยเพื่อไฟนอลโปรคเจคของผม แต่ก็อย่างที่ผมบอกไอ้เกลียวมันไปนั่นแหละครับว่าถ้าผมขอร้องจริงๆ พี่เรนก็ยอม เพราะเดี๋ยวนี้พี่เรนไม่ค่อยเขินกล้องของผมแล้ว บางทีผมเรียกพี่เขาแล้วเงยหน้าขึ้นมาเห็นผมหันเลนส์กล้องไปหาก็ยิ้มกว้างสดใสมาให้ก็มี



รู้สึกดีนะครับว่าผมเป็นคนเดียวที่พี่เรนยอมให้ถ่ายรูปแบบนี้ เคยได้ยินรุ่นน้องในเอกไปขอพี่เรนถ่ายรูปแต่พี่เขาไม่ให้ เพราะไม่ใช่ผม



ฟังแล้วมันอุ่นๆ ที่หัวใจดีนะครับ



“เออ มึงก็อย่าลืมแล้วกันเดี๋ยวจะไม่มีงานส่ง”



“กูไม่ลืมหรอกน่า” ผมตอบมันไป ก่อนที่มันจะหันกลับไปสนใจอาจารย์ที่ยืนสอนอยู่หน้าชั้นต่อ ส่วนผมก็หยิบดินสอมาขีดๆ เขียนๆ เล่นไปเรื่อย เบื่อครับ ง่วงด้วย



เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงสี่สิบนาที แต่ในความรู้สึกโคตรยาวนานสักสิบชั่วโมงก็สิ้นสุดลง ผมลุกขึ้นบิดขี้เกียจก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้อง



ฝนหยุดตกแล้ว ท้องฟ้าแจ่มใส มองเห็นรุ้งกินน้ำด้วย นึกแล้วก็น่าพาพี่เรนไปถ่ายรูปภาพฟ้าหลังฝนแบบนี้



เออ!! จริงด้วย พาพี่เรนไปเป็นแบบให้ดีกว่า



พอคิดได้ผมก็รีบกดโทรศัพท์โทรออกหาพี่เรนทันที



“พี่เรนครับ ผมกายเองนะ พี่เรนว่างหรือเปล่า” ผมถามออกไปทันทีที่พี่เรนรับสาย



[ก็ว่างนะ น้องกายมีอะไรหรือเปล่า] ผมชอบที่พี่เรนเรียกผมว่าน้องกายนะ ดูน่ารักดีเวลาพี่เรนพูดแบบนี้



“ไปถ่ายรูปกันนะ ที่สวนตรงคณะเกษตร พี่เรนอยู่ไหน คณะหรือเปล่าครับเดี๋ยวผมนั่งรถไปรับ”



[อื้ม! อยู่ที่คณะ]



“เดี๋ยวผมไปรับนะครับ” ผมพูดก่อนจะตัดสายไป หันไปโบกมือลาเพื่อนๆ ที่เตรียมตัวจะแยกย้ายกันก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถบริการของมหาลัยที่กำลังจะจอดส่งนักศึกษาพอดี



ไม่นานก็มาถึงคณะของพี่เรน พี่เรนเป็นคนที่หาง่ายมากเพียงแค่ลงจากรถและมองไปผมก็เห็นพี่เรนได้ไม่ยาก แต่ที่น่าแปลกใจคือพี่เรนไม่ได้อยู่คนเดียว แล้วก็ไม่ได้อยู่กับพี่ตินา แต่อยู่กลับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งผมรู้สึกคุ้นๆ หน้าอยู่



“พี่เรน” ผมส่งเสียงเรียกพี่เรน ซึ่งพี่เขาก็หันมามองแล้วยิ้มกว้างน่ารักให้ ผมเลยยิ้มออกมาแล้วเดินเข้าไปหา



พอเดินเข้าไปใกล้ๆ ผมถึงได้นึกออกว่าผู้ชายอีกคนคือใคร พี่แซม... เป็นเดือนมหา’ลัยปีที่แล้ว เป็นรุ่นพี่ในคณะของพี่เรน



“สวัสดีครับพี่” ผมยกมือไหว้พี่เขาไป



“เอ่อ ไง ไม่เจอนานตั้งแต่ตอนประกวดดาวเดือนปีที่แล้ว” พี่แซมทัก ผมก็ทำเพียงแค่พยักหน้ารับแล้วยิ้มตอบ ก่อนจะหันไปมองพี่เรนแล้วเปลี่ยนรอยยิ้มจากรอยยิ้มตามมารยาทเป็นยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นพี่เรนหันมองผมที มองพี่แซมที



“ยังไงผมขอตัวก่อนนะพี่ ไปครับพี่เรน เดี๋ยวแสงหมดถ่ายรูปออกมาจะไม่สวย” ผมตอบ คว้ากระดานวาดรูปกระเป๋าของพี่เรนมาถือไว้ในมือข้างเดียว อีกข้างก็คว้าข้อมือพีเรนแล้วพาเดินออกมาจากหน้าคณะ ได้ยินพี่เรนหันไปพูดลากับพี่แซม



จากคณะพี่เรนไปถึงสวนไม่ไกลนักเราเลยเดินกันไปไม่ได้รอรถของมหา’ลัย



โชคดีที่รุ้งกินน้ำยังไม่หายไปไหน ผมเลยบอกให้พี่เรนนั่งวาดรูปเล่นไปเรื่อยๆ ส่วนผมจะขอถ่ายรูปแถวๆ นี้ ผมไม่อยากบอกพี่เรนว่าผมจะถ่ายรูปพี่เขา เพราะผมกลัวว่าพี่เรนจะเกร็งเกินไปจนภาพมันออกมาไม่ธรรมชาติพอ



ผมเดินเก็บบรรยากาศรอบๆ ตัวพี่เรน ถ่ายภาพรุ้งกินน้ำที่พาดผ่านท้องฟ้าสีฟ้าใส เมฆกำลังพอดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป



หันมามองพี่เรนอีกรอบ พี่เขากำลังจมอยู่กับสมาธิในการวาดรูปผมเลยเปลี่ยนทิศทางของเลนส์กล้องมาที่พี่เรน ถอยห่างและย่อตัวลงเพื่อถ่ายมุมด้านข้างของพี่เรน มีฉากหลังเป็นต้นไม้ใหญ่ ท้องฟ้าสดใสและรุ้งกินน้ำ



ถ่ายได้ไม่มากเพราะรุ้งกินน้ำจางหายไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเก็บภาพพี่เรนไปเรื่อยๆ และนั่งยิ้มกับตัวเองไม่หยุด



ถ้าหากผมขอพี่เรนคบพี่เขาจะตกลงหรือเปล่า...



ถ้าหากผมบอกไปว่า พี่เรนผมรักพี่มากจริงๆ คบกับผมได้ไหม คำตอบของพี่เขาจะตอบรับหรือปฏิเสธ



ตั้งแต่ได้สนิทกับพี่เขาผมเที่ยวถามคำถามนี้ในใจตัวเองมาเป็นร้อยรอบแต่ยังไม่เคยมีสักครั้งที่พูดออกไปเพราะผมอยากให้แน่ใจ แน่ใจว่าผมจะได้เป็นคนคนนั้นของพี่



พี่เรนเงยหน้าขึ้นมองผม และพอเห็นผมถือกล้องหันไปทางพี่เขาอยู่ รอยยิ้มกว้างอย่างสดใสก็ปรากฏขึ้นมาทันที และนั่นทำให้ผมยิ้มตามก่อนจะกดชัตเตอร์



พี่เรนไม่ได้ยิ้มให้กล้อง แต่ทุกครั้งที่ยิ้ม เขายิ้มให้ผม



เหมือนจะอวยตัวเอง แต่ผมเชื่อว่ามันเป็นแบบนั้น



“พี่เรนวาดรูปอะไรอยู่” ผมเดินเข้าไปหา ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ พี่เขา



"งานน่ะ ใกล้สอบกลางภาคแล้วงานก็เยอะขึ้น นี่ยังต้องตัดโมอีกตั้งหลายตัวแหน่ะ” พี่เรนตอบ



“ตัดโมเดลเดี๋ยวก็ไม่ยอมนอนอีก”



พี่เรนยิ้มแผล่ เพราะมันจริงอย่างที่ผมพูด คราวก่อนโมเดลที่ทำเกือบเสร็จของพี่เรนมีปัญหาจนต้องเร่งทำใหม่ ไม่ได้หลับไม่ได้นอนสองวันสองคืนเต็มๆ แถมยังไม่ยอมบอกใครกับพวกพี่ตินาก็ไม่บอก พอพวกพี่เขารู้เลยมาบอกผม และพอผมเจอพี่เรนก็ดุเขาไปชุดหนึ่ง



ทำงานข้ามคืนผมไม่ว่า เพราะผมก็ทำบ่อยแต่ไม่ใช่ว่าไม่ยอมนอนแบบนี้เลย แต่นั่นก็ทำให้ผมรู้อย่างหนึ่ง... พี่เรนดื้อไม่ใช่เล่น



“อาทิตย์หน้าวันลอยกระทง พี่เรนไปลอยกระทงด้วยกันกับผมไหม” ผมถาม



“ที่ไหน ที่นี่น่ะเหรอ”



ผมพยักหน้ากับคำถามของพี่เรน วันงานที่มหา’ลัยจะมีจัดงานวันลอยกระทง มีซุ้มขายของ มีซุ้มกิจกรรม ซุ้มของเล่น



“อื้ม! ได้สิพี่มาลอยด้วย”



ถ้าวันนั้นผมขอพี่เรนคบจะดีไหมนะ



“กลับห้องกันดีกว่าครับ ฝนทำท่าจะตกอีกแล้ว” ผมบอก บรรยากาศเริ่มมืดครึ้มอีกรอบ รีบชวนกันกลับหอก่อนที่ฝนจะเทแล้วจะเปียกกันไปหมด



พวกเราแวะซื้อของกินที่ซอยเข้าหอ และทันทีที่ถึงห้องพี่เรนฝนก็กระหน่ำเทลงมาอีกรอบ



“อ่า... เกือบไปแล้วเชียว ไม่อย่างนั้นได้เปียกกันหมดแน่” พี่เรนพูดพร้อมกับหันไปมองข้างนอกระหว่างที่เรากำลังรอลิฟต์กันอยู่



ฝนตกแบบนี้... ท่าจะไม่หยุดตกง่ายๆ ด้วย แย่จัง... กลับห้องไม่ได้ อิอิ



เหมี๊ยวว~



ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป หมีก็ร้องทักมาทันที ก่อนจะเดินมาเกาะขาผมแล้วยืน ไม่ใช่จะอ้อนให้ผมอุ้มหรอก น่าจะหิวมากกว่าเพราะมันเอาจมูกมาดมๆ ดุนๆ ที่ถุงอาหาร



“หิวละสิตัวเอง อันนี้กินไม่ได้หรอกของเรากับพี่เรน”



เงี๊ยววว~~



พอผมพูดแบบนั้นหมีก็ร้องออกมาเหมือนกำลังประท้วงจนผมต้องหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ



"มานี่เลยน้องหมี เดี๋ยวเราเทอาหารให้" พี่เรนก้มลงอุ้มหมี ก่อนจะหอมแก้มซ้ายแก้มขวา น่ารักชะมัดเลย อยากให้พี่เรนหอมแก้มผมแบบนี้บ้างอ่ะ



ถ้าผมจะร้องเงี๊ยวๆๆ พี่เรนจะมาหอมแก้มผมไหม



ผมเดินไปล้างมือก่อนจะจัดการเดินไปหยิบจานชามมาเทของกินเตรียมเอาไว้ระหว่างรอพี่เรนเดินไปเทอาหารให้กับหมี พอได้ของกินหมีขาวก็เดินตรงที่ถาดอาหารของตัวเองแล้วลงมือจัดการทันที



“พี่เรนไปล้างมือก่อนครับ อย่าเพิ่งหยิบขนมเข้าปากนะ” ผมหันไปดุทันทีที่เห็นพี่เรนทำท่าจะหยิบขนมที่ผมแกะเอาไว้ให้



พี่เรนทำปากยู่ทันทีก่อนจะยอมเดินไปล้างมือให้เรียบร้อย “พี่ล้างแล้ว กินได้แล้วใช่ไหม”



“ยังครับ กินข้าวก่อนค่อยกินขนมหวาน เดี๋ยวปวดท้องนะครับ” ผมพูด ดันจานข้าวไปตรงหน้าพี่เรน



คนน่ารักทำหน้าบึ้งอีกแล้ว เห็นแล้วอยากเข้าไปหยิกแก้ม เอ่อ... แต่ไม่ใช่แค่คิดแล้วล่ะครับ เพราะผมก็ยื่นมือไปบีบแก้มพี่เรนแล้ว



“งื้อออออ” ส่งเสียงประท้วงออกมาทันทีที่ผมยื่นมือไปบีบแก้ม



ผมหัวเราะก่อนจะยอมปล่อยมือออก แก้มขาวๆ แดงขึ้นนิดๆ จนผมต้องลูบเบาๆ และแก้มที่แดงนิดๆ ตรงที่โดนผมบีบมันก็ลามเป็นแดงไปทั้งหน้าเลย



นี่ถ้าไม่ได้เข้าข้างตัวเอง พี่เรนกำลังเขินผมใช่ไหมครับเนี่ย



"ทำหน้าบึ้ง กินข้าวได้แล้วครับแล้วจะได้กินขนม” ผมบอกพี่เรน



อีกฝ่ายทำปากยื่นนิดๆ ก่อนจะยอมตักข้าวกิน ผมเลยจัดการกับข้าวของตัวเองบ้าง พอกินข้าวเสร็จพี่เรนก็หันมามองผม ตากลมโตใต้แว่นสายตาอันใหญ่เป็นประกายเหมือนจะบอกกับผมว่าขอกินขนมนะ ผมหัวเราะ ก่อนเลื่อนกล่องใส่ลูกชุบเป็ดน้อยสีเหลืองไปตรงหน้าพี่เรน พี่เขายิ้มน่ารักให้ผมก่อนจะจิ้มขนมลูกชุบเข้าปากแล้วเคี้ยวหมุบหมับๆ น่าเอ็นดู



“วันนี้พี่เรนต้องทำงานดึกไหมครับเนี่ย” ผมถามพลางนั่งมองคนน่ารักกินขนมไม่หยุด ชอบจริงๆ สิน่า... ลูกชุบเนี่ย



“ไม่หรอก วันนี้เพิ่งส่งงานไปวันนี้พักสักวัน อ่ะ... ไม่กินเหรอ” พี่เรนถามพร้อมกับใช้ส้อมจิ้มขนมจิ้มลูกชุบมาให้ผม



ป้อน... ใช่ไหมวะ



ผมเลื่อนหน้าไปเตรียมงับลูกชุบแต่อีกฝ่ายกลับขยับมือหนีแล้วหัวเราะชอบใจที่แกล้งผมได้ โอเค... จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม ได้เลย... ผมก็ตามไล่งับขนมไปเรื่อยๆ แบบที่พี่เรนก็ขยับมือหนี ไม่ได้อยากจะเจ้าเล่ห์นะ แต่พี่เรนแกล้งผมก่อนเอง...



ผมไล่งับไปเรื่อยๆ แบบที่ต้อนให้มือพี่เรนขยับเข้าหาตัวเขาเองเรื่อยๆ เช่นกัน สุดท้าย... ผมก็จับข้อมือพี่เขาเอาไว้ ใบหน้าของเราห่างกันแค่คืบ



จุ๊บ!



งับ!



อ๊ะๆ อย่าคิดว่าไอ้กายคนนี้จะกล้าจุ๊บปากพี่เรน มันทำได้แค่จุ๊บปลายจมูกเท่านั้นแหละครับ ก่อนจะเปลี่ยนมางับขนมลูกชุบแทน ขยับตัวออกห่างแล้วยักคิ้วไปให้จึกสองจึก แบบที่พี่เรนเองก็หน้าแดง แล้วก็แก้เผ็ดผมด้วยการกินลูกชุบคนเดียวหมดกล่อง



แต่เชื่อไหมครับพี่เรนเขินผมได้ไม่นานหรอกเพราะพอลูกชุบหมดก็หันมาหาผมแล้วชี้ไปที่ขนมอย่างอื่นต่อ



“พอแล้วครับ กินเยอะแล้วเดี๋ยวปวดท้องนะ”



“แต่ซื้อมาแล้วนะ”



“เก็บเอาไว้ก่อนค่อยกินพรุ่งนี้ก็ได้ วันนี้พอแล้วครับ” ผมยังคงไม่ยอมให้พี่เรนกิน ตอนแรกไม่คิดว่าพี่เรนจะกินวันนี้หมดเลย ผมเลยตามใจซื้อแทบทุกอย่างที่พี่เขาอยากจะกินมา แต่วันนี้กินเยอะแล้วครับทั้งข้าวทั้งลูกชุบ



“ก็ได้ๆ” ยังดีที่พี่เรนว่าง่ายไม่ดื้อ



ผมจัดการรวบจานไปล้าง เก็บขยะไปทิ้ง ส่วนพี่เรนก็หันไปเล่นกับหมีแล้วละครับ ข้างนอกฝนยังตกไม่หยุด ถ้าหากผมขอพี่เรนค้างคืนที่นี่... พี่เขาจะยอมไหมนะ



“ฝนยังไม่หยุดตกเลย” พี่เรนหันมาพูดกับผม



“เอ่อ... ครับ...”



“กายค้างห้องพี่ก็ได้นะคืนนี้ ตกหนักแบบนี้วิ่งกลับไปหอก็เปียกหมดแน่ๆ”



ในใจนี่ลิงโลดมากจนอยากจะวิ่งออกไปตากฝนแล้วร้องตะโกนให้ก้องแต่ก็ต้องพยายามเก็บอาการครับ “ไม่รบกวนพี่เรนนะ”



“อือ!   ไม่หรอก ค้างนี่แหละเดี๋ยวพี่ไปหยิบชุดให้จะได้อาบน้ำกัน” พี่เรนพยักหน้าแล้วพูดยืนยันก่อนจะลุกเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาชุดให้ผม



คือแบบ... พี่เรนพูดจาสองแง่สองง่ามอ่ะ ผมคิดนะโว้ย มีอย่างที่ไหนมาพูดว่าจะได้อาบน้ำกัน นี่คิดว่าชวนอาบน้ำด้วยกันแล้วนะเนี่ย ทำไมพี่เรนชอบอ่อยแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวแบบนี้วะ คนโดนอ่อยแม่งใจจะละลายแล้ว ทีผมอ่อยแบบจริงๆ จังๆ ไม่ยักจะรู้สึกอะไรเลย



ที่จริงเมื่อก่อนผมก็ไม่ค่อยชอบเวลาฝนตกเท่าไหร่ แต่หลังจากได้เจอพี่เรนครั้งแรกผมก็เริ่มชอบ ยิ่งมาวันนี้ไอ้กายยิ่งชอบ



ขอบคุณฝนจริงๆ ที่ทำให้ผมได้ใกล้ชิด ‘ฝน’ แบบนี้...






************************************************
มาแล้วค่าาาาา ตอนนี้เหลือเรื่องนี้แค่เรื่องเดียวแล้ว เพราะเรื่องอื่นลงจบไปหมดแล้ว เรื่องนี้อีกไม่นานก็คงจบเพราะว่าเรื่องราวไม่มีดราม่า ถ้าหากให้ยืดเกินไปเกรงว่าจะไม่สนุก แต่ยังไงก็จะพยายามแต่งทุกตอนให้สนุกแล้วก็มีความฟินนะคะ

น้องกายกับพี่เรนขยับเข้าใกล้กันทีละนิดๆ แล้วค่ะ แต่จะตกลงคบกันตอนไหน พี่เรนจะรู้ใจตัวเองหรือยัง ยังไงก็เอาใจช่วยทั้งสองคนด้วยนะคะ ^^

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [50%] l P.9 07-03-60
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-03-2017 00:26:48
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [50%] l P.9 07-03-60
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 08-03-2017 01:23:36
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [50%] l P.9 07-03-60
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-03-2017 01:36:09
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [50%] l P.9 07-03-60
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 20-03-2017 22:55:44
น่ารักเกิ๊น

 :-[ :o8: :-[
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [50%] l P.9 07-03-60
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 23-03-2017 23:36:28
ถ้าบอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่~~~~~
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [50%] l P.9 07-03-60
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 24-03-2017 20:42:02
พี่เรนแกล้งน้องกาย พูดไม่ชัดเจน น้องคิดเยอะไปแล้วแน่ๆ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [50%] l P.9 07-03-60
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 02-04-2017 08:54:11
ไปหลงฝน หลงร้อนที่ไหนน๊อออ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [100%] l P.9 02-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 02-04-2017 21:19:19
(http://i99.beon.ru/31.media.tumblr.com/ed42e2e2ff4fddaf88079c2f8541ad30/tumblr_muvhjmhsUy1rjm2bko1_500.gif)
พี่เรนไม่ได้ยิ้มให้กล้อง แต่ทุกครั้งที่ยิ้ม เขายิ้มให้ผม
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 15.2 •







• • • ต่อค่ะ 100% • • •






พี่เรน






วันนี้เป็นวันลอยกระทง... ที่มหาวิทยาลัยจึงไม่มีการเรียนการสอน ที่จริงก็ไม่มีมาตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้วละครับเพื่อให้นักศึกษาแต่ละคณะจัดเตรียมซุ้มกิจกรรมของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นน้องๆ ปีหนึ่งนั่นแหละครับที่เป็นคนจัดซุ้ม แล้วก็มีปีสองคอยดูแลอีกที ส่วนผมปีสาม แล้วพี่ปีสี่ก็สบายครับ ไม่ต้องทำอะไรมาก



แต่จะว่าสบายก็ไม่ถูกนัก... เพราะตอนนี้ แม้จะไม่มีเรียนแต่ผมก็นั่งตัดโมเดลอยู่ในห้องกับน้องหมีอยู่เลยครับ อีกสองวันก็จะส่งแล้ว



จริงๆ ตัดมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วยังไม่ได้นอนเลย ตอนนี้ผมชักง่วงแล้วสิ



“น้องหมี... นอนกันเถอะ” ผมเดินไปอุ้มน้องหมีมาที่เตียง ก่อนจะนอนกอดน้องเอาไว้ ใช้เวลาไม่นานผมก็หลับเพราะว่าไม่ได้นอนทั้งคืน



รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงเคาะประตูอยู่หลายรอบ งือ... ยังไม่อยากจะลุกเลย ผมลืมตาขึ้นช้าๆ ยกมือขยี้ตาให้หายงัวเงีย น้องหมีหนีไปนอนเล่นที่พื้นแล้ว



ผมค่อยๆ ขยับตัวลงจากเตียงระวังไม่ให้เหยียบอุปกรณ์ตัดโมแล้วเดินไปที่ประตูก่อนจะเปิดออก ผมกระพริบตาปริบๆ ตอนที่มองคนตรงหน้า



"สวัสดีครับผม ผมไม้เองจำได้ใช่ไหม" ผมพยักหน้ารับเมื่ออีกฝ่ายถาม น้องไม้... เพื่อนสนิทในกลุ่มของน้องกายที่ผมพอรู้จักเพราะไปเที่ยวด้วยกันมา ว่าแต่ว่าทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ



คงเพราะผมทำหน้างงๆ น้องเขาก็เลยยิ้มกว้างแล้วตอบข้อสงสัยพร้อมกับยื่นถุงมาให้ผม "ไอ้กายมันฝากผมซื้อข้าวเข้ามาให้พี่เรนครับ มันกำลังวุ่นวายอยู่ที่คณะ ผมแวะออกมาซื้อของให้พวกเพื่อนๆ ด้วยมันก็เลยฝากข้าวมาให้พี่"



“มันบอกว่าพี่เรนคงเอาแต่ทำงานจนลืมออกไปหาอะไรกินแน่นอน”



ผมรับถุงจากน้องไม้มาถือเอาไว้ ก้มมองก็เห็นว่าเป็นข้าวกล่องแล้วก็มีขนมด้วย ผมยิ้มกว้างขอบคุณน้องไม้ไป “ขอบคุณนะ ลำบากน้องไม้เลย”



“ม ไม่เป็นไรพี่ แค่นี้เอง ยังไงผมไปก่อนนะ เอาไว้เจอกันใหม่นะ พี่จะไปลอยกระทงกับไอ้กายใช่ไหม”



ผมพยักหน้ารับกับคำถามนั้น “ใช่แล้วล่ะ เอาไว้เจอกันนะ ฝากขอบคุณน้องกายด้วย”



“ครับผม”



น้องไม้ไปแล้ว ผมเลยถือถุงเข้าข้าวกลับเข้ามาในห้อง เดินไปเทอาหารเม็ดให้น้องหมีก่อนแล้วค่อยลงมือจัดการกับอาหารของตัวเอง เรียบร้อยก็ลงมือทำงานที่ค้างอยู่ต่อ ยิ่งทำงานเสร็จเร็วเท่าไหร่ผมก็จะมีเวลาพักเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นก่อนจะลุยงานชิ้นอื่นต่อ



แต่คงเพราะผมใช้สายตาในการตัดโมเดลมากเกินไปจนรู้สึกว่าแสบๆ ตา ผมเลยหยุดทรมานตัวเองเปลี่ยนมานอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงแทน หยิบโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้แตะเลยมาดูเห็นข้อความชวนไปเที่ยวงานวันลอยกระทงจากพวกตินา ผมเลยกดเข้าไปตอบตกลงเพราะยังไงผมก็ตั้งใจจะไปอยู่แล้ว



ก่อนจะเปลี่ยนไปตอบน้องกายต่อว่าเดี๋ยวผมไปงานพร้อมๆ กับพวกตินา น้องกายจะได้ไม่ต้องออกมารับผม น้องเขาคงวุ่นไม่ใช่เล่นเพราะปีสองต้องคอยคุมแล้วก็ช่วยน้องๆ ปีหนึ่งจัดซุ้ม



ผมนอนเล่นไปเรื่อยๆ สลับกับลุกมาตัดโมเดลบ้างจนกระทั่งเย็นจึงได้เดินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมยืนลังเลอยู่หน้าน้องหมีตัดสินใจไม่ถูกว่าจะพาน้องไปด้วยดีหรือเปล่า ใจหนึ่งก็อยากพาไป แต่อีกใจก็กังวลเพราะคนคงเยอะน่าดู แล้วผมก็... อือ... เพื่อนๆ ชอบบอกว่าผมซุ่มซ่ามไม่ทันระวัง ถ้าหากทำน้องหายไป หรือไม่ทันระวังจนทำน้องเจ็บตัวขึ้นมาหล่ะ...



อย่างนั้น...



“เดี๋ยวเราซื้อของกินมาให้นะ อยู่ห้องอย่าดื้ออย่าซนรู้ไหม ถ้าทำโมเดลเราพังด้วยไม่อย่างนั้นเราโกรธนะ!” ผมจัดการเทน้ำเทอาหารให้น้องหมีก่อนจะเดินออกจากห้อง



นัดกับพวกตินาเอาไว้หน้ามหา’ลัย แล้วเราค่อยเข้าไปพร้อมกัน เพียงแค่ยืนอยู่หน้ามหา’ลัย เสียงเพลงก็ดังลอยมาให้ได้ยิน คนเยอะไม่ใช่เลยครับ ถ้าดึกกว่านี้คนคงเยอะมากแน่ๆ เลย



“ตินา! ใบหม่อน!” ผมส่งเสียงทักทายก่อนจะเดินเข้าไปหาพวกเพื่อนๆ “โอ๊ะ ขอโทษครับๆ”



ไม่ทันระวังกว่าจะเดินไปถึงพวกตินาก็เดินชนคนอื่นไปหลายคนเลย เล่นเอาเหนื่อยเลยแหะ...



“ให้ตายสิเรน เดินจากประตูฝั่งนั่นมาตรงนี้ก็ยังจะซุ่มซ่ามเดินชนคนเขาไปทั่วอีกนะ” พอมาถึงสาก็เริ่มบ่นผมทันทีเลยครับ



“ก็คนมันเยอะ เราเปล่าซุ่มซ่ามเสียหน่อย...” ประท้วงกลับไปครับ ก็ผมไม่ผิดนี่ คนมันเยอะจริงๆ ใครจะไปมองเห็นรอบด้านละครับจริงไหม “เราไม่ได้มีตาหลัง ตาข้างเสียหน่อยจะได้เห็นว่าใครเดินไปเดินมาบ้าง”



“เถียงๆ อย่างนายน่ะต่อให้มีเป็นร้อยตาก็ซุ่มซ่ามอยู่ดี” ตินาว่าพร้อมกับยื่นมือมาบีบจมูกผม



งือออ!!



ผมเจ็บนะ มาบีบจมูกผมทำไมอ่ะ ผมทำหน้ามุ่ยกลับไป “เราไม่ได้ซุ่มซ่ามขนาดนั้นสักหน่อย”



“ยิ่งกว่าซุ่มซ่ามอีก ไป... เข้าไปในงานกันนี่นัดกับน้องกายไว้ที่ไหนละ”



“อ่า... ซุ้มคณะนิเทศน่ะ น้องบอกหาง่ายมากๆ เพราะว่าเด่นสุดๆ” ผมตอบคำถามของใบหม่อน



แล้วเราก็พากันเดินเข้าไปในงาน ตั้งแต่ทางเข้าก็มีร้านขายของเยอะแยะไปหมดเลยครับ เพราะนอกจากซุ้มของคณะแล้วก็ยังมีนักศึกษามาเปิดซุ้มขายของอีกเพียบ ทั้งซุ้มจากชมรม กิจกรรมต่างๆ ซุ้มของเหล่าดาวเดือนมหา’ลัย แล้วก็ยังเปิดให้คนน้องมาเปิดซุ้มได้ด้วย เพราะอย่างนั้นก็เลยเต็มไปหมดครับ



มีทั้งของกิน อาหารคาว อาหารหวาน ขนม น้ำ ซุ้มของเล่น ขายของทำมือ เยอะมากจริงๆ ทุกซุ้มก็น่าสนใจทั้งนั้นเลยละครับ



อ๊ะ!   ซุ้มขนมไทย



ผมหันไปมองพวกตินาที่ยืนอยู่ซุ้มข้างๆ ก็ชี้นิ้วบอกว่าจะดูขนมไทยแล้วก็เดินเข้าไปทันที มีหลายอย่างเลย ผมชอบพวกขนมไทยนะครับอร่อยดี โดยเฉพาะลูกชุบชอบสุดๆ ไปเลยละครับ



“รับอะไรดีครับ เลือกได้ตามสบายเลยนะครับ” คนขายเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม ผมก็เลยยิ้มตอบกลับไปก่อนจะก้มเลือกขนม



นั่น!   ลูกชุบอยู่ตรงนั้น ลูกชุบผลไม้



ผมขยับไปตรงหน้าลูกชุบทันทีก่อนจะใช้ที่คีบอันเล็กๆ คีบลูกชุบใส่กล่อง อ่า... น่ากินจังเลยนะ



ผมส่งกล่องพลาสติกให้กับคนขายที่รับไปพร้อมกับรอยยิ้ม “ดูท่าจะชอบลูกชุบมากเลยนะครับ”



“อ่า... ครับ ชอบครับ”



“หายากนะครับผู้ชายสมัยนี้ที่จะชอบขนมไทยๆ แบบนี้”



“ฮื่อ ไม่ยากนะ เราไงชอบมากเลย” ผมตอบกลับไป คนขายก็ไม่พูดอะไรนอกจากยิ้มให้แล้วก็ส่งถุงมาให้ผม



ผมรอรับเงินทอนจากเขาก่อนจะทำหน้างงๆ เมื่อไม่ได้มีแค่เงินทอนที่ส่งมาให้แต่มีนามบัตรมาด้วย “ถ้าทานแล้วชอบ โทรสั่งได้นะครับ บริการส่งครับ”



ผมยิ้มกว้างทันทีแล้วก็พยักหน้าให้ “ครับ เราโทรสั่งแน่นอน ขอบคุณนะครับ”



ผมแกะกล่องลูกชุบหยิบกินทันที อร่อยแหะ... ว่าแต่ว่า... พวกตินาหายไปไหนแล้วนะ สงสัยเดินไปก่อนแล้วแน่เลย ไม่เป็นอะไร ผมเดินไปที่ซุ้มของน้องกายเลยก็ได้ หนไม่ยากหรอกเนอะ!







น้องกาย



ผลัวะ



“โอ๊ย! ไอ้สัส! ตบหัวกูทำไมวะ” ผมหันไปโวยวายทันทีที่โดนตบหัว ได้แต่ยกมือลูบหัวแล้วมองพวกมันอย่างเคืองๆ



“ไม่ต้องมาค้อนกูไอ้สัส! ทำงานครับทำงาน ไปขายบัตรไป มัวแต่ชะเง้อชะแง้หาอะไรอยู่ได้” ไอ้ปั้นเพื่อนในเอกพูดกับผมพร้อมกับส่งบัตรมาให้



"กูไม่ได้หาอะไรโว๊ย! กูมองหาคนอยู่ไอ้ห่า!” ด่ามันไปที เตะขามันไปทีก่อนจะเดินปึงปังไปยืนหน้าซุ้มของคณะแล้วเริ่มขายบัตร หน้าที่พวกนี้มันต้องเป็นของปีหนึ่งไหม ใช่หน้าที่กูไหมเนี่ย!!



ซุ้มคณะผมทำอะไรเหรอครับ ขอบอกว่า... แม่งอะไรก็ไม่รู้ครับแต่เรียกคนได้โคตรเยอะ แถมรายได้ดีด้วย ไม่ได้มีปาเป้า โยนห่วง สาวน้อยหนุ่มน้อยตกน้ำ ขายของกิน ขายน้ำอะไรหรอกครับ แต่เป็นซุ้มถ่ายรูป



ใช่ครับ! ถ่ายรูป ตากล้องก็ไม่ใช่ใคร พวกเราเหล่าสาขาฟิลม์นั่นเอง แล้วเราก็จะมีหนุ่มๆ สาวๆ แต่งตัวสวยๆ หล่อๆ ยืนประจำซุ้ม ก็คัดหน้าตามาหมดดีกรีดาวเดือนคณะแต่ละชั้นปี ไม่ก็พวกคิ้วบอยคิ้วเกิล เรียกว่าเลือกหน้าตาแบบดีๆ อ่ะครับ แล้วก็ขายบัตรให้คนทั่วไป ห้าสิบบาทถ่ายได้หนึ่งคน หนึ่งร้อยบาทถ่ายได้สองคน ตอนแรกผมก็คิดนะว่าจะมีใครบ้ามาจ่ายเงินเพื่อถ่ายรูปกับใครก็ไม่รู้แค่ไม่ถึงสองนาที ที่ไหนได้...!



เปิดซุ้มมาไม่ถึงสองชั่วโมงสาวๆ หนุ่มๆ เต็มหน้าซุ้มเลยครับ โดยเฉพาะสาวๆ ทั้งแท้ทั้งไม่แท้ โคตรเยอะ



ตอนแรกผมก็ต้องไปเป็นหนึ่งในคนที่ต้องแต่งตัวแล้วยืนเป็นหุ่นให้เขามาถ่ายรูปด้วย แต่ผมไม่ยอมไง เรื่องอะไรจะยอมวะ วันนี้วันลอยกระทงทั้งทีแถมนัดพี่เรนเอาไว้แล้วด้วย เพราะให้ตายยังไงผมก็ไม่ยอม พวกมันเลยโยนหน้าที่ยืนขายหน้าตา เอ๊ย ยืนขายบัตรมาให้ผม



ไม่ง่ายนะครับ ขายไปก็โดนลวนลามไป เมื่อกี้เกือบโดนเจ๊กระเทยลูบเป้าไปแล้ว ดีที่เอวผมดีเบี่ยงหลบทัน ไม่งั้นนะไอ้กายเอ๊ย! เป้ามึงโดนพรากบริสุทธิ์ไปแล้วแน่ๆ



ว่าแต่พี่เรนอยู่ไหนหว่า น่าจะมาถึงซุ้มผมได้แล้วสิ...



"ซุ้มนี้คึกคักดีนะ” ผมหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู



“อ้าวพวกพี่ หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้เมื่อเห็นว่าเป็นพวกพี่ตินา



“ซุ้มนายขายอะไรน่ะ”



“ขายตัวครับ” ผมตอบก่อนจะหัวเราะแล้วอธิบายเพิ่ม “ล้อเล่นพี่ คณะผมเปิดให้ถ่ายรูปกับพวกคนหน้าตาดีๆ น่ะพี่ ห้าสิบบาทถ่ายได้หนึ่งคน ร้อยหนึ่งสองคน แบบเหมาก็มีนะพี่”



“โห... หากินกันง่ายดี แต่เอ่อ คณะนิเทศนี่แหล่งรวมพลคนหน้าตาดีอยู่แล้วนี่นะ มิน่าล่ะคนเยอะแยะไปหมด”



ผมหัวเราะ ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อมองหาพี่เรน ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อยังไม่เห็น “พี่ครับ แล้วพี่เรนล่ะครับ ไม่ได้มาพร้อมกับพวกพี่เหรอ”



“เรนก็เดินตามพวกพี่มาไง... อ้าว! สา เห็นเรนไหม” พี่ตินาพูดก่อนจะร้องถามพี่สาเมื่อไม่เห็นพี่เรน



“อ้าว... เมื่อกี้มันยังเดินตามฉันมาอยู่เลยนะ หรือว่า...”



“หลงทาง!” ผมกับพี่ๆ พูดออกมาพร้อมกัน



คือถ้าคนอื่นหลงทางผมจะไม่ห่วงเลยครับเพราะยังไงก็หาทางมาซุ้มผมได้หรือไม่ก็โทรหาผมแน่ๆ แต่นี่เป็นพี่เรนไง เวลาเดินไปไหนมาไหนถ้าไม่มองพี่เขาไว้ดีๆ พี่เรนนี่หายตัวเก่งมาก ทั้งหลงทาง ทั้งชอบแวะนู้นแวะนี่แบบไม่บอก แล้วคนเยอะแบบนี้ ซุ้มเยอะแบบนี้ โดนคนเบียดไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้



"โอ๊ยตาย! เรนมันยิ่งซุ่มซ่ามอยู่ด้วย ปีก่อนก็หลงไปนู้น! หลังมอ ไม่รู้เดินยังไงของมันโชคดีที่เพื่อนในคณะไปเจอมันเข้า” พี่ใบหม่อนพูด ไม่ได้ทำให้ผมหายหวั่นใจเลยครับ



"เดี๋ยวพี่ลองโทรหามันก่อน” พี่ตินาพูดก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดโทรออกหาพี่เรน



ผมยืนลุ้นอยู่แบบนั้นว่าขอให้พี่เรนรับสายสักที



“ไม่รับสายเลย ไม่รู้ว่าไม่ได้ยินหรือว่ายังไง” พี่ตินาพูด กดโทรออกแบบนั้นอยู่อีกสามสี่รอบ แต่มันก็เหมือนเดิม



“เดี๋ยวพวกพี่ไปตามหามันก่อนนะ นายก็อยู่นี่แหละ” พี่สาว่า



“พี่ๆ ครับ เดี๋ยวผมไปตามหาพี่เรนเองดีกว่า แยกกันไปเยอะแยะเดี๋ยวจะนัดเจอกันลำบาก ยังไงถ้าเจอพี่เรนแล้วเดี๋ยวผมโทรบอกเอง” ผมรีบพูดทันที ให้พวกพี่เขาไปตามหา ผมก็ไม่สบายใจอยู่ดี



“แต่เราต้องอยู่ซุ้มไม่ใช่เหรอ”



“ไม่เป็นไรพี่ ผมไปตามหาพี่เรนเอง พวกพี่ก็ไม่ต้องกังวลนะครับ เดินเที่ยวต่อได้เลย ยังไงผมก็ไม่มีทางปล่อยพี่เรนหลงไปไหนแน่นอนครับ” ผมยืนยัน



เมื่อเห็นผมยืนยันแบบนั้นพวกพี่ตินาก็มองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าตกลง “ถ้าเจอมันแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะ ถ้าพี่เดินๆ ไปแล้วเจอมันเดี๋ยวจะโทรบอกเอง”



“ครับ” ผมรับคำ หันไปหาไอ้เกลียวที่นั่งพักอยู่มายืนแทนที่ผมแล้วยัดบัตรในมือผมให้มัน “ฝากด้วย กูไปตามหาพี่เรนก่อน”



พูดแค่นั้นไม่ขยายความอะไรเพิ่มผมก็เดินออกจากซุ้มทันที กว่าจะพ้นหน้าซุ้มคณะตัวเองได้ก็เสียเวลาไปไม่น้อย คนเยอะชะมัด!



ผมอาศัยความตัวสูงของตัวเองกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อมองหาพี่เรน



พี่เรนหาไม่ยาก และผมมั่นใจว่าผมหาพี่เรนเจอแน่นอน



แต่คนเยอะๆ แบบนี้เป็นอุปสรรคสำหรับผมพอควร เพราะนอกจากจะต้องคอยมองไปทั่วๆ เพื่อหาพี่เรนแล้วยังต้องคอยหลบคนนู้นคนนี้ไปด้วย



มหา’ลัยผมค่อนข้างกว้าง พอเวลาจัดงานแบบนี้ก็จะมีหลายซอยให้เดินเข้าเดินออก ไม่รู้พี่เรนเดินเข้าซอยไหน ถนนเส้นไหนไปบ้าง



ผมโทรหาพี่เรนตลอดเวลา แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่พี่เรนจะรับสายเลย จนผมเริ่มร้อนใจไปหมดแล้วตอนนี้



ทำไมถึงได้หลงทางเก่งขนาดนี้นะพี่เรน!



คอยดูเถอะ ถ้าเจอละก็พ่อจะดุซะให้ร้องไห้เลย ให้ตายสิ!!






************************************************
หายไปนาน ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าฟางไม่สบายค่ะ เป็นหลายโรคติดต่อกันเลย หายโรคนั้นเป็นโรคนี้ต่อ ลากยาวมาเกือบๆ เดือนเลยค่ะทั้งลำไส้อักเสบ อาหารเป็นพิษ ไข้ขึ้น ตอนนี้ไอค่ะ ไอมาเป็นสัปดาห์แล้วยังไม่หาย แต่ก็ดีขึ้นมากแล้วเลยแวะมาอัพนิยายให้อ่านค่า คือคิดถึงทุกคนม๊ากกก ไม่ได้เข้ามาเลย คิดถึงๆ

ก็... สำหรับตอนนี้เนอะ พี่เรนดันหลงทางจ้า ปกติแค่เดินไปคณะตัวเองยังหลงไปคณะน้องได้ แล้วงานแบบนี้ คนเยอะแบบนี้ ไม่มีทางที่พี่จะไม่หลงจ้า แล้วก็หลงจนได้ คราวนี้ทำไงละเนี่ยยยย ถ้าน้องหาเจอโดนดุร้องไห้แงๆ แน่เลยยย

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [100%] l P.9 02-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 02-04-2017 21:38:22
หลงทางเก่งจัง พี่เรน
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [100%] l P.9 02-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung ที่ 02-04-2017 22:19:57
 พี่เรนนนนหายไปไหน ถ้าน้องกายเจอระวังโดนดุน่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [100%] l P.9 02-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-04-2017 22:20:27
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [100%] l P.9 02-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 02-04-2017 22:37:50
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [100%] l P.9 02-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 03-04-2017 13:16:42
เจ้ากายจะกล้าดุคนพี่มั้ยเนี่ย เจอหน้าซึมหน้าอ้อนพี่เรนสงสัยว่าจะดุไม่ออกนะ ขอบคุณมากจ้าฟาง สุขภาพแข็งแรงเร็วๆนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [100%] l P.9 02-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: Arzumi ที่ 04-04-2017 01:40:09
กล้าดุหร๊ออ แค่พี่เรนทำหน้าหงอยๆน้ำตาคลอนิดๆ น้องกายก้อไปไม่เป็นแล้ว ฮ่าๆๆ  :z2:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 15 • [100%] l P.9 02-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 08-04-2017 17:25:33
หายไวไวน่ะครับน้องฟาง  อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยดูแลสุขภาพด้วยครับ

นิยายวันนี้ น้องกายน่ารักมากครับ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 16 • [50%] l P.9 15-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 15-04-2017 21:52:24
(https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/originals/cb/e1/bf/cbe1bf0ce98822ede0ee77685370df97.jpg)
โว๊ะ!! ไอ้กายมึงนี่ แพ้ทางพี่เรนจริงๆ ว่ะ
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 16 •
 




น้องกาย




 
ชั่วโมงหนึ่งแล้วที่ผมยังมองหาพี่เรนท่ามกลางผู้คนมากมายที่เยอะขึ้นเรื่อยๆ และท้องฟ้าก็มืดลง มีเพียงแสงไฟจากร้านค้าแล้วก็ไฟที่ติดตามเสาที่ส่องสว่างให้เห็น ผมโทรหาพวกพี่ตินา พี่เขาเองก็ยังไม่เจอพี่เรน จนความร้อนใจของผมเพิ่มมากขึ้นและมันก็รุนแรงมาก



ที่นี่คือมหาวิทยาลัย มันไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก ผมคิดอย่างนั้น แต่อีกใจหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังกลัว ไม่อยากให้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น



พอเผลอคิดอะไรแย่ๆ ก็ได้แต่ตบหัวตัวเองไปทีกับความคิดไร้สาระ ก่อนจะเริ่มมองหาพี่เรนอีกรอบ ผมมั่นใจว่าสามครั้งที่ผมเห็นพี่เรน แต่ระยะห่างที่มีมาก และผู้คนที่ค่อนข้างเยอะ กว่าจะไปถึงจุดที่พี่เรนยืนอยู่ เจ้าตัวก็หายไปอีกทางแล้ว



รู้ตัวบ้างไหมว่าตัวเองกำลังหลง! ทำไมถึงได้เดินไปไหนมาไหนอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย!!



ผมเบียดคนออกมาเดินริมฟุตบาทฝั่งที่ไม่มีร้านขายของ ผมตัวเปียกไปด้วยเหงื่อแล้วก็สารพัดกลิ่นทั้งกลิ่นไก่ย่าง ไก่ทอด หมูย่าง หมูทอดเต็มไปหมด



กดโทรศัพท์โทรออกหาพี่รนเป็นรอบที่ร้อยแต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ไม่มีคนรับ...



หรือจะลืมเอาโทรศัพท์มาด้วยกันนะ



ผมกวาดสายตาไปรอบๆ อีกครั้งเพื่อมองหาพี่เรน ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นพี่เรนเดินอยู่ข้างหน้า ผมรีบก้าวขาเร็วๆ จนแทบจะกลายเป็นวิ่ง ร้องขอโทษขอโพยคนที่โดนผมชนแต่ยังดีที่ผมออกมาอยู่ริมสุดแล้วคนเลยไม่เยอะเท่าตรงกลาง ไม่อยากนั้นคงได้โดนลากไปกระทืบแน่นอน



หมับ!!



เฮือก!!



คนตรงหน้าผมสะดุ้งก่อนจะหันมามอง ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ หยิบโทรศัพท์โทรหาพี่ตินาบอกพวกพี่เขาว่าผมเจอตัวการแล้ว พวกพี่เขาจะได้เดินเที่ยวได้อย่างสบายใจ



ผมไม่สนคำทักทายของคนตรงหน้า แต่ลากเขาออกมาจากผู้คน ยืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้ในสวนที่ห่างจากร้านค้าพอสมควรแต่มันก็ไม่ได้มืดเพราะมีไฟเสาส่องสว่างจนทั่ว



“น้องกาย...”



“พี่รู้ตัวไหมว่าหลงทางกับพวกพี่ตินา พี่รู้ไหมว่าผมเที่ยวเดินตามหาพี่ไปทั่วงานเป็นชั่วโมง แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ผม ผมโทรออกเป็นร้อยสายแล้ว! แล้วรู้ไหมว่าผมเป็นห่วงแค่ไหน!!” ผมไม่ฟังที่พี่เรนเรียกผม คนมันเป็นห่วง เป็นกังวลไปหมด แล้วดู!!



ทำคนอื่นเป็นห่วงจะเป็นจะตาย ตัวเองเดินกินขนมสบายใจ โว๊ย! มันน่าตีสักทีไหมเนี่ยพี่เรน!!



พี่เรนสะดุ้งเมื่อผมดุเสียงดังใส่ ริมฝีปากเม้มเข้าหากันก่อนจะพยักหน้าลง “รู้... รู้ว่าหลงทาง พี่พยายามจะเดินไปหากายที่ซุ้ม แต่ยิ่งเดินก็ยิ่งงง ถามคนอื่นๆ ก็ชี้กันมั่วไปหมด พี่ก็เลย... เดินไปเรื่อยๆ อ่ะ”



ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อน คิดว่าจะหายโกรธเหรอวะ!



เออ!!! หายโว๊ย!!!



“แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ผม...”



พอผมถามแบบนั้นพี่เรนที่ก้มหน้าอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองก่อนจะยิ้มแหยออกมา “พี่ลืมเอาโทรศัพท์มา...”



นี่ถ้าเป็นเพื่อนนี่ชกไปทีแล้วจบเลยนะ แต่นี่ไม่ใช่ไง โกรธก็โกรธ โมโหก็โมโหแต่ทำอะไรไม่ได้เนี่ย



ผมพ่นลมหายใจออกมาเพื่อระบายความโกรธ ความหงุดหงิดที่สร้างมันขึ้นมาเองออก “กลับกันเถอะครับ ผมโทรบอกพวกพี่ตินาไปแล้ว เดี๋ยวผมไปส่งที่หอ”



“น้องกาย...” ไม่ได้มาแค่เสียง แต่ยื่นมือมาจับแขนผมเอาไว้ด้วยตอนที่ผมเดินผ่าน “โกรธพี่เหรอ...”



ไอ้ปากที่อ้าจะถามว่ามีอะไรนี่หุบฉับเลยครับ โกรธไหมแน่นอนว่าโกรธ โกรธที่พี่เรนไม่ระวัง เดินหลงไปหลงมาจนผมตามหาวุ่นไปหมด แต่อีกใจมันก็โกรธไม่ลงเพราะว่าความเป็นห่วงมันมีมากกว่า



“ผมเป็นห่วง กลัวว่าจะเป็นอะไรไปหรือเปล่า กลัวว่าจะหลงไปไหนไกลอีก กลัวว่าจะโดนชน กลัวว่าพี่จะซุ่มซ่ามจนเจ็บตัว กลัวว่าอาจจะเจอเรื่องไม่ดี กลัวว่าจะเจอคนไม่ดี”



พี่เรนเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินผมพูดแบบนั้น “พี่ขอโทษนะ...”



“ไม่เป็นไรครับ กลับกันเถอะ”



“ด เดี๋ยวก่อน” พี่เรนเรียกผมเอาไว้อีกรอบ ก่อนจะชูถุงใบใหญ่ในมือขึ้นมา “พี่ซื้อกระทงแบบขนมปังเอาไว้ เรา... ไปลอยกระทงด้วยกันนะ”



ผมไม่ตอบอะไร แต่คว้ามือพี่เรนมากุมแล้วดึงในเดินตาม พี่เรนก็ไม่พูดอะไร คงคิดว่าผมยังโกรธอยู่



ผมพาพี่เรนเดินไปเรื่อยๆ พอเจอสระน้ำบริเวณที่คนค่อนข้างน้อยก็จูงมือพี่เขาไป แอบเห็นจากหางตา ใบหน้าน่ารักยกยิ้มดีใจใหญ่ แล้วผมจะทำอะไรได้ครับ นอกจากแอบยิ้มตามอยู่นี่ไง



โว๊ะ!! ไอ้กายมึงนี่ แพ้ทางพี่เรนจริงๆ ว่ะ



ผมหยิบถุงในมือพี่เรนมาถือ หยิบกระทงที่ทำจากขนมปังออกมาส่งให้พี่เขา หยิบธูปกับเทียนที่ใส่ไว้ในถุงมาปักลงไป รื้อๆ ดูในถุงก็เห็นไฟแช็คก็เลยหยิบออกมาจุดไฟก่อนจะส่งกระทงขนมปังให้พี่เรนถือเอาไว้ จับข้อมือพี่เรนจูงไปใกล้ๆ ริมสระแต่ก็คอยระวังไม่ให้คนซุ่มซ่ามเผลอตกลงไปในสระ



“อธิฐานแล้วลอยกระทงกันครับ” ผมหันไปยิ้มให้กับพี่เรนแล้วนั่งยองๆ ลง พี่เรนเองก็นั่งลงข้างๆ ผม



เราสองคนหลับตาลงแล้วก็ขอขมา อธิฐานต่อพระแม่คงคากัน ก่อนที่ผมกับพี่เรนจะปล่อยกระทงขนมปังลงในสระน้ำพร้อมๆ กัน มองเจ้าก้อนกระทงลอยห่างจากริมสระไปเรื่อยๆ



“พี่เรนอยากเดินดูอะไรอีกไหมครับ”



คนตรงหน้าผมส่ายหน้าไปมาจนผมสะบัด เห็นแล้วก็อยากจะยื่นมือไปลูบผมนุ่มๆ นั่นเล่น “ไม่แล้วล่ะ น้องกายล่ะอยากเดินอีกไหม”



“ไม่ละครับ เดินตามหาพี่เรนจนทั่วงานจนเหนื่อยไปหมดแล้ว อย่างนั้นเรากลับกันเลยดีกว่า” ผมพูดยิ้มๆ ยื่นมือไปจับข้อมือของพี่เขาแล้วก็พาเดินออกจากบริเวณนี้



คนยังคงเยอะไปหมดจนผมต้องดึงพี่เข้ามาใกล้ตัวเองมาขึ้นเพื่อที่พี่เรนจะได้ไม่หลงทิศหลงทางไปไหนอีก เดี๋ยวได้ตามหากันวุ่นอีก นอกจากจะต้องคอยระวังว่าพี่เรนจะหลงไปหรือเปล่าแล้วยังต้องระวังคนรอบข้างให้พี่เรนอีก เพราะเจ้าตัวดูเหมือนจะไม่สนใจรอบข้างเสียเท่าไหร่ บางทีก็เดินจนจะชนคนอื่นเขา ไม่มองทิศมองทางเลย มองแต่ขนมในมือนี่แหละ แก้มขาวๆ พองออกมาเพราะข้างในมันเต็มไปด้วยขนม



น่ามันเขี้ยว! อยากจะหยิกแก้มขาวๆ นั้นสักที



ผมพาพี่เรนกลับหอ ทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นข้างเตียงนอนของพี่เรน ทักทายเจ้าหมีที่เดินมาส่งเสียงร้องเหมียวๆ เมื่อเห็นผม ส่วนพี่เรนก็เดินเอาขนมที่ซื้อมาไปเก็บ ห้องพี่เรนของกินเยอะนะครับ แต่ว่ามีแต่ขนม ของหวาน พวกของคาวนี่ไม่ค่อยจะมีหรอกครับ ผิดกับผมครับ ไม่ว่าจะของคาวของหวานก็ไม่มีสักอย่าง ฮ่าา



“กายกินอะไรหรือยัง” พี่เรนหันมาถามผม



เออว่ะ... ยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่หว่าหลังจากมื้อกลางวัน ตอนแรกพวกเพื่อนที่คณะก็ชวนไปกินข้าวก่อนที่จะมาเฝ้าซุ้มนั่นแหละครับ แต่ผมตั้งใจว่าจะรอพี่เรนก็เลยไม่ได้กิน แล้วก็มาตามหาพี่เรนอีกเป็นชั่วโมงจนตอนนี้กลับมาที่ห้องก็เลยลืมไปเลย



ผมส่ายหน้ากับคำถามของพี่เรน “ยังครับ ตอนแรกว่าจะชวนพี่เรนไปกินข้าวด้วยกันนี่แหละ แต่มัวแต่ตามหาคนหลงทางเลยลืมไปหมดเลย”



พอได้ยินผมพูดแบบนั้นคนขยันหลงทางก็ทำหน้าหงอยลงไปทันที ก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็นรื้อๆ อะไรอยู่สักพักก็เดินกลับมาหาผม ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าผมแล้วดันแก้วกระเบื้องมาหาพร้อมกับขนมปังก้อนใหญ่ “ห้องพี่ไม่มีพวกข้าว... ก กินนมกับขนมปังก่อนได้ไหมเดี๋ยว... พี่ลงไปซื้อข้าวให้”



ผมเอื้อมมือไปจับแขนพี่เรนเอาไว้ “ไม่เป็นอะไรครับ ผมไม่หิวเท่าไหร่แค่นมกับขนมปังก็พอแล้ว พี่เรนไปอาบน้ำเถอะครับ”



“น แน่ใจนะ...”



“ครับ” ผมพยักหน้ายืนยันอีกรอบ “ไปอาบน้ำได้แล้วครับ เริ่มดึกแล้วพี่เรนจะได้พักผ่อนสักที”



“ก็ได้” พี่เรนพูด แต่ก็ยังไม่ยอมขยับไปไหนเหมือนมีอะไรที่อยากจะพูดกับผมแต่ก็ไม่พูดเสียที ปากแดงๆ นั้นขยับอ้าแล้วก็หุบอ้าแล้วก็หุบอยู่หลายรอบ “คือว่า...”



“หือ... อะไรครับ” ผมถามเมื่อพี่เรนพูดแล้วก็เงียบไป แต่พี่เรนก็ยังไม่พูดอะไรเสียที “ไปอาบน้ำก่อนก็ได้ครับ แล้วค่อยมาคุยกัน พี่เรนมีเรื่องจะคุยกับผมใช่ไหม”



พี่เรนพยักหน้ากับคำถามของผม แต่ก็ยังไม่ยอมไปอาบน้ำสักทีจนผมได้แต่นึกขำปนเอ็นดูกับท่าทางนั้น แต่ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้นอกจากพี่เรนจะไม่ได้อาบน้ำแล้ว ผมกับพี่เรนก็คงยังไม่ได้คุยอะไรกันสักที แล้วที่สำคัญผมก็คงจะไม่ได้อาบน้ำนอนแน่นอน เพราะอย่างนั้นผมก็เลยไล่พี่เรนไปอาบน้ำอีกรอบ



“ไปอาบน้ำได้แล้วครับ ถ้านับถึงสามยังไม่ไปอีกผมจะเข้าไปอาบให้เองแล้วนะ” ผมส่งเสียงดุออกไป “หนึ่ง... สอง...”



ยังไม่ทันนับถึงสามพี่เรนก็หน้าแดงก่ำแล้วรีบลุกเดินเข้าห้องน้ำไปทันที ผมได้แต่หัวเราะกับท่าทางเขินอายนั้น พี่เรนนี่เป็นคนที่น่าแกล้งที่สุด แล้วก็น่ารักที่สุด



หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาก่อนจะกดถ่ายรูปแก้วนมแล้วก็ขนมปังที่พี่เรนเอามาให้แล้วก็โพสลงเฟสบุ๊คก่อนจะเก็บโทรศัพท์ ใครจะเมนต์จะไลค์ก็ปล่อยไปครับตอนนี้ขี้เกียจดูขี้เกียจตอบ แต่อยากจะลงเพราะความสุขมันล้นอกเลยต้องระบายออกมาบ้าง ผมจัดการขนมกับนมที่พี่เรนให้มาจนหมด หยิบแก้วไปล้างเก็บให้เรียบร้อยก่อนจะเดินมานั่งเล่นนอนเล่นที่ข้างเตียงเหมือนเดิม



จะว่าไป... วันนี้ผมตั้งใจจะบอกยืนยันความรู้สึกของผมที่มีต่อพี่เรนแล้วก็จะขอพี่เรนเป็นแฟนด้วย ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้มั่นใจหรอกว่าพี่เรนจะชอบผมแล้ว แต่อะไรหลายๆ อย่างมันก็ทำให้ผมคิดเข้าข้างตัวเอง ถ้าหากโชคดีพี่เรนรู้ใจตัวเองและชอบผมบ้างเหมือนกันผมก็คงได้คบกับพี่เรนจริงจัง แต่ถ้าไม่... ผมก็จะได้เริ่มตัดใจอย่างจริงจังเหมือนกัน



แต่แผนที่วางเอาไว้เหมือนจะล่มไม่เป็นท่าเพราะพี่เรนดันหลงทางนี่แหละครับ คำพูดที่เตรียมไว้หายเกลี้ยงไปกับความเป็นห่วงและความกังวลหมดแล้ว



ไม่สิ... ผมว่าผมควรจะขอให้พี่เรนมาเป็นแบบให้ผมถ่ายรูปก่อนจะดีกว่า เพราะเดือนหน้าก็จะปลายภาคอยู่แล้วนะ หรือผมควรจะทำยังไงดีวะ...



อยากได้แฟนก็อยากได้ อยากได้นายแบบถ่ายรูปก็อยากได้!! มีใครโลภมากแบบไอ้กายบ้างไหมเนี่ย



ผมนอนคิดแล้วก็ตัดสินใจไปเรื่อยๆ อยู่ในใจ แต่คงเพราะว่าวันนี้ผมจะเหนื่อยมากเกินไปทั้งจัดซุ้ม ทั้งไปยืนขายบัตรที่ซุ้มแล้วไหนจะเที่ยวตามหาพี่เรนอีก ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันทำให้ผมที่กำลังนอนเล่นอยู่เผลอหลับไป



ผมไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตอนไหน ไม่รู้ว่าพี่เรนออกจากห้องน้ำมาตอนไหน แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าผมขึ้นไปนอนบนเตียงของพี่เรนตอนไหน



ผมรู้แค่ว่าผมเหมือนกำลังลอยอยู่ในความฝัน ความฝันที่หอมหวานและอบอุ่นจนแทบไม่อยากจะตื่นนอนเลย...






************************************************
สวัสดีวันปีใหม่ไทยนะคะทุกคน หยุดยาวนี้ไปเที่ยวไหนกันเอ่ย??? ส่วนฟางขอนอนอยู่บ้านค่ะ ไม่อยากจะออกไปไหนเลย แดดร้อนมาก อยู่บ้านอ่านนิยาย แต่งนิยายดีกว่าค่ะ ฟินกว่ากันเยอะเลย ฮ่าาาา สำหรับใครที่เดินทางไปเที่ยว ไปเล่นน้ำก็ระวังตัวกันด้วยนะคะ ขอให้ปลอดภัยแล้วก็สนุกสนานกันทุกคนเลยค่ะ

วันนี้ฟางเอาน้องกายมาเสิร์ฟค่ะ ไหนคะ... ไหนคนที่บอกจะดุพี่ให้ร้องไห้ เจอพี่หงอยหน่อยก็ใจอ่อนแล้ว พอพี่อ้อนก็ระทวยแล้ว โถ่... น้องกายนี่นะ แพ้ทางพี่เรนแบบหมดรูปเลยค่ะ อิอิ แต่ก็น่ารักเนอะ เป็นเสน่ห์อีกหนึ่งอย่างของน้องเขาเลยนี่แหละค่ะ ยังไงก็รอลุ้นกันต่อไปนะคะว่าน้องกายจะได้นายแบบก่อนหรือจะได้แฟนก่อนกันแน่ ^^

อ๋อ... ฟางขอฝากนิยายเรื่องใหม่หน่อยนะคะ เป็นแนวใสๆ (?) เหมือนทุกๆ เรื่องของฟางนี่แหละค่ะ คงได้อ่านไปยิ้มไปเหมือนเดิม ยังไงก็แวะไปให้กำลังใจกันด้วยนะคะ กับนิยายเรื่อง Faculty of Love . 1 My Dear ; รักของผม ผมจัดเอง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59288.0) (#พี่กันต์สายอ่อย) หลายๆ คนถ้าเคยติดตามนิยายฟาง ก็คงพอจะเดาได้เนอะว่าเป็นคู่ไหน ^^

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 16 • [50%] l P.9 15-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-04-2017 21:56:00
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 16 • [50%] l P.9 15-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 15-04-2017 23:28:57
เจ้ากายได้แต่ร้องเพลง ฉันแพ้ทางคนอย่างเธอออออ ดุได้นิดนึงก็หายเลย พี่เรนจะพูดอะไรน้อ แล้วที่ขึ้นไปบนเตียงแน่ใจนะว่าไม่ได้ละเมอเนียน  :hao7: ขอบคุณมากค่ะฟาง สุขสันต์สงกรานต์ค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 16 • [50%] l P.9 15-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 16-04-2017 00:26:36
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 16 • [50%] l P.9 15-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: J029 ที่ 16-04-2017 00:47:50
เป็นกำลังใจให้จ้า
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 16 • [50%] l P.9 15-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 16-04-2017 01:38:02
รอจ้า ในที่สุดก็มา ชอบเนื่องนี้มากๆๆๆๆๆแบน่ารักมากๆ งื้อออออชอบทั้งพี่เรนทั้งน้องหมี  :hao5:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 16 • [50%] l P.9 15-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 26-04-2017 21:17:42
เดี่ยวนี้นิยายของฟางต้องใช้วิธีค้นหาเอาถึงเจอ ไม่รู้ว่าตกไปอยู่หน้าไหนแล้วก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 16 • [100%] l P.9 26-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 26-04-2017 21:28:57
(https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/originals/cb/e1/bf/cbe1bf0ce98822ede0ee77685370df97.jpg)
โว๊ะ!! ไอ้กายมึงนี่ แพ้ทางพี่เรนจริงๆ ว่ะ
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 16.2 •







• • • ต่อค่ะ 100% • • •






พี่เรน






เมี๊ยว~



ผมก้มลงมองเมื่อได้ยินเสียงร้องของน้องหมี พาดผ้าขนหนูเอาไว้ที่ราวตากผ้าก่อนจะอุ้มน้องหมีขึ้นมากอด



“เดี๋ยวเรามาคุยด้วยนะ เราขอคุยกับน้องกายก่อน” ผมบอกกับน้องหมี หอมหัวน้องไปทีแล้วจึงวางลงกับพื้นแล้วเดินไปหาน้องกายที่นอนเล่นอยู่หน้าทีวี



“น้องกาย... อะ อ้าว...”



กายหลับไปแล้วครับ ผมยกมือโบกๆ ตรงหน้าแต่ก็ไม่รู้สึกตัวตื่นสงสัยคงจะเพลียจัด แต่ก็แน่ล่ะ... วันนี้ทั้งวันก็จัดซุ้มคณะ แล้วยังต้องมาเดินตามหาผมที่หลงทางอีกตั้งเป็นชั่วโมง ไม่ให้เหนื่อยจนเพลียแล้วหลับไปก็ให้มันรู้ไปสิ



พอเห็นน้องกายหลับสนิทแบบนี้ผมก็ไม่อยากจะรบกวน แต่ถ้าปล่อยให้นอนตรงนี้น่าจะปวดหลังเพราะพื้นที่ก็มาได้เยอะ พื้นก็เป็นพื้นกระเบื้องไม่ใช่พื้นปูพรมนุ่มๆ



ถึงจะไม่อยากปลุกแต่ก็ต้องปลุกและเนอะ อย่างน้อยก็จะได้ให้ขึ้นมานอนดีๆ บนเตียง



“กาย... น้องกาย...” ผมปลุกน้องกายที่นอนหลับอยู่ เรียกอยู่สองสามรอบน้องก็ลืมตาขึ้นมอง แต่ดูเหมือนจะง่วงมากจนจับใจความอะไรที่ผมพูดไม่ได้



“ไปนอนบนเตียงดีกว่า ตรงนี้พื้นมันเย็นมันแข็งเดี๋ยวไม่สบายตัว น้องกาย... กาย” น้องกายยังสะลึมสะลือเหมือนสมองปิดทำงานไปแล้ว



แต่พอผมดึงให้ลุกขึ้นก็ลุกนะ พาไปนอนที่เตียงก็เดินตามมาดีๆ แต่พอลงนอนก็หลับต่อไปเลย ตลกดีเนอะ



เหมียว~



น้องหมีร้องก่อนจะกระโดดขึ้นมาบนเตียง เดินย้ำไปมาบนตัวน้องกายอย่างชอบใจ



“น้องหมีไม่เอาสิ ไม่กวนพี่เขาแบบนั้น” ผมจัดการอุ้มน้องหมีมากอดเอาไว้ พลางหันไปมองน้องกายที่หลับสนิทไปแล้วเรียบร้อย



เรนชอบน้องกายเขาบ้างหรือยัง



อยู่ๆ คำถามของเพื่อนก็ลอยเข้ามาในความคิดให้ผมชะงัก น้องกายชอบผม... ช ชอบแบบคนรัก หลายครั้งแล้วที่น้องพูดแบบนั้น แล้วผมล่ะ ชอบหรือเปล่านะ



“น้องหมี... น้องหมีว่าเราชอบกายหรือเปล่า” ผมถามน้องหมี รู้หรอกว่าคงไม่มีคำตอบให้ แต่ผมก็ชอบคุยกับน้องหมีแบบนี้นะ



“วันนี้เราหลงทางในมหา’ลัยอีกแล้วล่ะ ตอนแรกเราก็ไม่อะไรหรอกเพราะเรารู้ดีว่าเราหลงทางประจำแต่เดี๋ยวเราก็หาทางไปได้เอง” ผมขยับลงนอนมองหน้าน้องหมีที่นอนขดอยู่บนหมอนของผม



“แต่วันนี้นะ อยู่ๆ เราก็คิดถึงน้องกายขึ้นมา คิดขึ้นมาว่าถ้าน้องกายอยู่ข้างๆ เราก็คงดี ถ้าน้องหาเราเจอเร็วๆ หรือเราเจอน้องเร็วๆ ก็คงจะดี เราถึงได้เดินวนไปวนมาเพื่อหาแต่เหมือนมันจะยิ่งทำให้เราหลง”



“เราเสียใจนะที่ทำให้น้องกายเป็นห่วงแบบนั้น แต่เราก็น้อยใจนะ น้องกายไม่เห็นถามเราเลยว่าเราเดินหาน้องเขาหรือเปล่า อยู่ๆ ก็มาดุเรา หึ!”



ผมทำหน้าบึ้งใส่น้องกายที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ก่อนจะหันกลับมามองน้องหมีอีกรอบ “น้องหมีว่า... แบบนี้เราชอบน้องกายหรือเปล่า”



ผมสับสน ผมไม่เคยมีความรักจริงๆ จังๆ สักครั้ง ไม่เคยมีคนมาชอบเพราะผมคิดว่าผมไม่ใช่คนหน้าตาดี ใส่แว่นอย่างกับเด็กเนิร์ด หน้าตาก็บ้านๆ มีดีแค่ผิวขาวแค่นั้นเอง ผมไปจีบผู้หญิงคนไหนก็อดหักหมด ผมเลยไม่รู้ว่าความรักมันเป็นยังไง



และก็...



“น้องหมีว่าน้องกายจะชอบจะรักเราจริงๆ หรือเปล่า หน้าตาอย่างเราเนี่ยนะ... คนอย่างน้องกายจะมาชอบ เขาเป็นถึงเดือนคณะเลยนะ คงมีคนหน้าตาดีๆ มาให้เขาชอบตั้งเยอะแยะ” ผมยื่นนิ้วไปจิ้มจมูกน้องหมี ถ้าเป็นปกติก็คงสะบัดหนีไม่ก็ไล่งับนิ้วผมแล้ว



แต่น้องหมีฉลาด น้องหมีรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังสับสน อยากระบายความรู้สึกถึงได้อยู่นิ่งๆ ข้างๆ ผมแบบนี้



“เราน่ะ... เหมาะสมกับน้องกายเขาจริงๆ เหรอ”








น้องกาย



ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาทับอยู่บนอกแล้วก็ขยับไปมา รู้สึกเปียกๆ ที่แก้มด้วย แล้วพอผมลืมตา



อือฮือ...



ชัดเจน...



ตีน เอ๊ย! เท้าขาวๆ นุ่มๆ ของหมีเหยียบอยู่บนหน้าผม เดี๋ยวนะเดี๋ยว เราสนิทกันถึงขนาดเหยียบหน้ากันได้แล้วเหรอเพื่อน ใจเย็นนะ นี่กายเอง... จะมาเหยียบหน้ากันอย่างนี้ไม่ได้นะเออ



ผมลุกพรวดขึ้นนั่งทันที หมีเลยกลิ้งกลุกๆๆ ลงไปที่ตักผมพร้อมร้องเหมียวเสียงดัง



“ฮ่าๆๆๆ อยากมาเหยียบหน้าเราดีนัก ตัวเธอต้องโดนลงโทษ” ผมหัวเราะชอบใจเมื่อหมีหันหน้ามามองด้วยสายตาวาวๆ อย่างเอาเรื่อง



ฮูย~ น่ากลัวนะเนี่ย



“โอ๋ๆ มาโอ๋มา” ผมอุ้มหมีขึ้นมากอดโอ๋ เลยโดนทีนแมวยันหน้าเข้าให้อีกรอบ “เล่นตัวว่ะ นี่หนุ่มหล่อมากอดมาหอมเลยนะ”



ผมฟัดหมีอยู่บนเตียงอย่างมันเขี้ยวน้อยๆ ปนหมั่นไส้เยอะๆ อยู่สักพักก่อนจะพึงนึกขึ้นไอ้ว่า... กูมาสิงอยู่ห้องพี่เรนนี่หว่า ว่าแต่ว่าเจ้าของห้องหายไปไหนกันนะ



ห้องแม้จะค่อนข้างกว้างแต่ก็มองเห็นได้ทั่วแค่นั่งบนเตียงหันซ้ายหันขวาก็เห็นรอบห้อง พี่เราไม่ได้อยู่ในห้อง ประตูห้องน้ำเปิดค้างเอาไว้ ข้างในนั้นก็ไม่มี ว่าแต่... พี่เรนหายไปไหนนะ ก่อนอื่น... ตอนนี้กี่โมงแล้ววะ



ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาก่อนจะตาโต ไอ้เหี้ย! นึกว่าเช้า แต่นี่มันจะเที่ยงแล้วเถอะ ถ้าอย่างนั้นพี่เรนคงไปเรียนแล้วล่ะ ส่วนผมวันนี้ไม่มีเรียนครับ จริงๆ มี แต่ใกล้ไฟนอลแล้ว รวมไปถึงใกล้จัดงานนิทรรศการรูปภาพแล้ว อาจารย์เลยปล่อยให้นักศึกษาทำงานกันอย่างเต็มที่ ยกเว้นวิชานอกคณะยังคงเรียนตามปกติครับ



ผมส่งข้อความไปหาพี่เรนว่าตื่นแล้ว และจะกลับไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หันมองหมีที่นั่งมองผมอยู่ก็เลยส่งข้อความไปอีกรอบว่าพาหมีไปที่ห้องผมด้วย แต่พี่เรนยังไม่ได้อ่านผมก็เลยแค่ส่งข้อความทิ้งเอาไว้ คงกำลังเรียนอยู่



มือข้างหนึ่งอุ้มหมีเอาไว้ เดินวนรอบห้องพี่เรนเพื่อเช็คไฟเช็คปลั๊กว่าไม่ได้เปิดทิ้งเอาไว้ก่อนจะเดินกลับไปที่หอ



หอผมเองก็ไม่ได้ห้ามเรื่องเลี้ยงสัตว์แต่ว่าต้องดูแลให้ดีห้ามรบกวนคนอื่นเด็ดขาด แล้วก็ขนาดห้องไม่ได้กว้างเหมือนหอพี่เรน พื้นที่มันมีจำกัดที่หอผมเลยไม่ค่อยมีคนเลี้ยสัตว์เลี้ยงเท่าไหร่ จะเคยเจอก็แต่เลี้ยงกระต่าย เลี้ยงหนูแฮมเตอร์เท่านั้น พวกหมาแมวไม่ค่อยมี



ผมวางหมีลงบนพื้นหลังจากเข้ามาในห้องแล้วปล่อยให้เจ้าตัวสำรวจห้องผมตามสบาย



“สำรวจได้ แต่ห้ามทำของพังนะเข้าใจไหม แล้วก็ห้ามแตะต้องกล้องกับเลนส์ของเราด้วย! เราอาบน้ำแปบนึง” ผมหันไปบอกหมีก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ



ว่าแต่ว่า... เมื่อคืนเหมือนผมได้ยินพี่เรนพูดอะไรสักอย่าง พอนึกๆ ดูแล้วเหมือนจะโดนพี่เรนปลุกให้ไปนอนบนเตียง พอลงเตียงได้ผมก็หลับต่อ



แต่รู้สึกหนักๆ เหมือนโดนเหยียบโดนทับผมก็เลยรู้สึกตัวตื่น อ๋อ... น่าจะเป็นหมีมาเดินบนตัวผม



ร่างกายผมมันไม่ทำงาน ตาไม่ยอมลืมขึ้น ตัวไม่ขยับ ปากไม่พูด แต่สมองทำงาน หูทำงาน... พอนึกไปเรื่อยๆ เหมือนจะเริ่มจำได้ว่าพี่เรนพูดอะไรสักอย่าง แต่ไม่ได้พูดกับผม



‘น้องหมีว่าน้องกายจะชอบจะรักเราจริงๆ หรือเปล่า หน้าตาอย่างเราเนี่ยนะ... คนอย่างน้องกายจะมาชอบ เขาเป็นถึงเดือนคณะเลยนะ คงมีคนหน้าตาดีๆ มาให้เขาชอบตั้งเยอะแยะ’



‘เราน่ะ... เหมาะสมกับน้องกายเขาจริงๆ เหรอ’




พี่เรนคงคิดว่าผมหลับสนิทถึงได้พูดแบบนั้น หรือจริงๆ แล้ว พี่เรนอาจจะชอบเล่าชอบพูดอะไรแบบนี้กับหมีเป็นประจำก็ได้



ผมจำไม่ได้ว่าก่อนหน้าประโยคเล่านี้พี่เรนพูดอะไรบ้าง เพราะมันจะหลับเสียให้ได้ แต่สองประโยคนี้ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ยินชันเจนแล้วก็จำได้แบบนี้ หรือเพราะมันเป็นประโยคที่สื่อถึงความรู้สึกลึกๆ ของพี่เรนกัน



โครม!!



ผมสะดุ้งหลุดจากความคิดเมื่อได้ยินเสียงโครมใหญ่ดังมาจากนอกห้องน้ำ ผมรีบล้างสบู่แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันเอวแล้วเปิดประตูออกไปดู



อยากจะยกมือตบหน้าผากตัวเอง ผมเดินไปสำรวจข้าวของ ไม่มีชิ้นไหนพัง แต่ข้าวของระเกะระกะเต็มพื้น กล้องถ่ายรูปที่วางอยู่บนชั้นไม่มีเสียหายและไม่มีตกพื้น



ผมหันไปมองหมี จะว่าก็ว่าไม่ลง เพราะหมีไม่ได้แตะต้องกล้องสุดที่รักของผม ไม่ได้ทำข้าวของผมเสียหายสักชิ้น แต่คาบมันมาเล่นบนพื้นจนเกลื่อน



จะบอกว่ามันฉลาดรู้จักว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ หรือจะบอกว่ามันกวนตีนผมดีนะ



แต่เอาจริงๆ ของที่หมีลากออกมาก็เป็นพวกหมอน หนังสือ แผ่นหนังที่ผมวางๆ เอาไว้บนพื้นนั่นแหละ มันไม่ได้กระโดดขึ้นไปเล่นบนตู้ บนชั้นวางของอะไร



“เดี๋ยวมาช่วยเราเก็บของเลย” ผมคาดโทษก่อนจะเดินไปแต่งตัวให้เรียบร้อย



นั่งลงบนพื้นอุ้มเจ้าตัวดีมาฟัดมางับหูอย่างหมั่นไส้ไปทีแล้วจึงปล่อย หมีมันเดินหนีผม กระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วก็จ้องหน้าผมเหมือนจะบอกว่า



เก็บของไปเจ้ามนุษย์ เราจะนอนมองอยู่ตรงนี้



ผมชี้หน้าหมีไปรอบก่อนจะลงมือเก็บของทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง เก็บเสร็จก็เดินไปนอนบนเตียงคว้าหมีมากอดฟัดเล่น เอาจริงๆ ผมอยากจะกอดฟัดเจ้าของแมวมากกว่าอีก



ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาดูเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า พี่เรนส่งข้อความมา บอกว่าเดี๋ยวมาหาผมที่ห้อง นึกแล้วก็ตื่นเต้นว่ะ เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่พี่เรนมาห้องผม ส่วนใหญ่ผมจะไปสิงอยู่ห้องพี่เรนเสียมากกว่า



ผมกดตอบข้อความกลับไปบอกชั้นบอกเลขห้องเรียบร้อยนี่ไม่ได้อ่อยแต่อย่างใด แค่อยากให้เขามาก็แค่นั้นเองนะครับ



ไม่นานหลังจากนั้นเสียงเคาะประตูห้องผมก็ดังขึ้น นี่กำลังจับเวลาอยู่เลยว่าถ้าหากช้ากว่าปกติคงต้องโทรไปถามแล้ว กลัวว่าจะหลงทางน่ะครับ ถึงหอจะอยู่ตรงข้ามกันแต่ผมก็เชื่อว่าพี่เรนสามารถหลงทางได้นะ... แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นแบบนั้นนะ



“พี่เรน มาถึงเร็วจังครับ” ผมเปิดประตูให้พี่เรน ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบให้พี่เขาเดินเข้ามาข้างใน ผมปิดประตูตามมองพี่เรนที่หันซ้ายหันขวาสำรวจห้องของผม



“ตินามาส่งน่ะ บอกว่ากลัวพี่หลงทาง” พี่เรนพูดพร้อมกับทำหน้ามุ่ย “พี่ก็กลับหอได้เถอะ หอกายอยู่ตรงข้ามหอพี่เองจะหลงได้ยังไงกัน”



ผมหัวเราะขำ ไม่บอกหรอกครับว่าผมคิดอย่างเดียวกันกับพี่ตินา ถ้าขืนพูดแบบนั้นคนหน้ามุ่ยคงนึกงอนนึกเคืองผมแน่นอน



“พี่ซื้อของกินมาด้วย กินข้าวกัน” พี่เรนชูถุงในมือให้ดู



“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมเทใส่จานให้ พี่เรนนั่งเล่นกับหมีไปก่อนละกันครับ” ผมบอก แย่งถุงในมือพี่เรนมาก่อนจะเดินไปจัดการเทข้าวหมูแดงที่พี่เรนซื้อมาใส่จาน



เราสองคนนั่งกินข้าวกันไปดูโทรทัศน์กันไปอยู่ตรงโต๊ะญี่ปุ่นหน้าทีวี ห้องผมก็ไม่มีโต๊ะกินข้าวอะไรหรอกครับ ก็หอพักนี่เนอะไม่ใช่คอนโดอะไร จะเอาพื้นที่ตรงไหนมาตั้งโต๊ะกินข้าวล่ะ



จริงๆ ที่บ้านก็จะให้ผมไปอยู่คอนโดนะแต่มันไกลจากมหา’ลัยกว่าหอตรงนี้ อีกอย่างผมก็ว่าไม่จำเป็นด้วยเพราะเรียนจบผมก็ตั้งใจจะกลับไปอยู่บ้านนะ แต่ผมคิดว่าดีแล้วล่ะที่ผมไม่ตัดสินใจไปอยู่คอนโด เพราะถ้าผมไปอยู่ไกลกว่านี้ผมคงไม่ได้เจอพี่เรนแน่นอนครับ



“กาย...”



ผมหลุดออกจากความคิดของตัวเองแล้วเงยหน้ามองพี่เรนที่เรียกผม “ครับผม”



พี่เรนเงียบไปเมื่อผมขานรับ ทำท่าเหมือนจะพูดแต่ก็ลังเล จะว่าไป... เมื่อคืนเหมือนพี่เรนมีเรื่องจะคุยกับผมนี่น่า แต่ผมดันหลับไปก่อนเลยไม่ได้คุย



“พี่เรนมีอะไรจะคุยกับผมหรือเปล่าครับ เหมือนเมื่อคืนพี่เรนมีอะไรจะคุยนี่ครับ ใช่ไหม” ผมถามและพี่เรนก็พยักหน้ารับ



“พี่... พี่ขอโทษนะ” พี่เรนพูดออกมา ผมได้แต่เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่าพี่เรนขอโทษผมเรื่องอะไรกัน แล้วผมก็ได้คำตอบเมื่อพี่เรนพูดต่อ “ขอโทษที่ทำให้กายเป็นห่วงมากขนาดนั้น... พ พี่ไม่คิดว่ากายจะห่วงมาก”



“ก็ต้องห่วงสิครับ ใจผมนี่หล่นหายไปเลยตอนรู้ว่าพี่หลงกับพวกพี่ตินา ยิ่งใจเสียตอนที่โทรหาก็ไม่รับ ตามหาก็ยังไม่เจอ พี่เรนรู้ไหม... เมื่อคืนผมทั้งโกรธทั้งโมโหเลยที่พี่หายไปแบบนั้น ที่พี่เดินไม่ระวังอย่างนั้น”



พอผมพูดแบบนั้นพี่เรนก็ทำหน้าหงอยกว่าเดิม “พี่ขอโทษ... ขอโทษจริงๆ นะ อย่าโกรธพี่เลยนะ”



“แต่พอเจอพี่เรน พอรู้ว่าไม่เป็นอะไร ผมก็ไม่โกรธแล้ว” ผมตอบพร้อมกับยิ้มให้



ผมพูดจริงครับ ตอนแรกผมโกรธ แต่พอเจอพี่เรนความรู้สึกพวกนั้นก็หายไปหมด เหลือแต่ความโล่งใจ ดีใจแทน



“พี่ดีใจ... ที่กายหาพี่เจอ”



“หือ... อะไรนะครับ” ผมถามอย่างไม่แน่ใจว่าที่ได้ยินนั่นถูกหรือผิด



“จริงๆ แล้วพี่ก็ใจเสียไปเหมือนกันตอนรู้ว่าหลงกับพวกตินา พยายามเดินหากายให้เจอเพราะพี่คิดว่ากายคงช่วยพี่ได้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมยิ่งเดินยิ่งหลง พี่ใจเสียมากเลยล่ะถึงจะหลงในมหา’ลัยก็เถอะ... แต่พี่ดีใจนะที่สุดท้ายแล้วกายหาพี่เจอจนได้ ตอนเห็นกายพี่ดีใจมากๆ เลย”



ใครก็ได้... ตบผมที ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหมครับ



ผมคิดว่าผมกำลังฝัน กำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ แต่หัวใจที่เต้นระรัวกับคำพูดของพี่เรนนั้นก็ยืนยันกับผมได้ว่าผมไม่ได้ละเมอเพ้อพกไปเองคนเดียว ไม่ได้นอนหลับแล้วฝันหวาน แต่ผมกำลังตื่นอยู่จริงๆ และพี่เรนก็พูดอย่างนั้นจริงๆ



หัวใจมันฟูๆ ฟ่องๆ ปากก็ยิ้มไม่ยอมหุบเลยครับ



“ยังไงก็จะหาให้เจอให้ได้ ผมน่ะ... ต่อให้พี่เรนหลงทางแค่ไหน ผมก็จะตามไปหาพี่ให้เจอนั่นแหละ” ผมพูด รู้สึกร้อนๆ แก้ม แม่งหน้ากูต้องแดงแน่ๆ ตอนพูดแบบนี้



ถ้าหากเป็นคนอื่นพูดหรือได้ยินในโทรทัศน์ผมคงโก่งคออ้วกไปแล้ว โคตรจะหวานเลี่ยน แต่พอเป็นเรื่องจริงของผมกับพี่เรน ผมคิดอย่างที่พูดไปจริงๆ... ต่อให้พี่เรนหลงทางแค่ไหน ผมก็จะหาให้เจอให้ได้



“อะ... อือ...”



แก้มพี่เรนแดงมาก และผมก็เชื่อว่าแก้มผมหูผมก็คงแดงมากเช่นกัน นี่เราจะมาแข่งกันเขินเหรอวะ ไม่ได้ดิ พี่เรนเขินขนาดนี้ก็ยิ่งต้องรุกสิหว้า



“พี่เรน...” ผมเรียกพี่เขาเบาๆ แต่เพราะเราอยู่กันแค่นี้พี่เรนก็เลยได้ยินเสียงของผม “ผมชอบ ไม่สิ... ผมรักพี่เรนนะ รักจริงๆ ไม่โกหก ไม่หลอกหลวงด้วย”



“อ อืม...”



“พี่เรนยังไม่ต้องรักผมก็ได้ แต่ถ้าชอบผมบ้างแม้จะแค่นิดเดียวก็ได้ ถ้าพี่เรนรู้สึกชอบผมบ้างสักนิดก็... เป็นแฟนกันนะ”



ใจเต้นตึกตัก ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัวไปหมด โอ๊ย ไอ้กายจะเป็นลมแล้วครับ



ผมนั่งรอคำตอบ ลุ้นจนฉี่จะราด โอ๊ย! ลุ้นยิ่งกว่าคะแนนสอบออกอีกครับ อะไรจะลุ้นขนาดนี้วะเนี่ย



“ถ้าพี่ยังไม่มั่นใจว่ารักผมก็ไม่เป็นไร ร... เราลองคงกันไปก่อน ถ้าถึงวันหนึ่งพี่เรนคิดว่าไม่ใช่ผมก็ไม่ว่าอะไร”



พอผมพูดแบบนั้นพี่เรนก็ทำหน้าเครียดเลยครับ ผมพูดอะไรผิดเปล่าวะ



“ถ้า... ถ้าๆ สมมติเป็นแบบนั้นก็เท่ากับว่าพี่เอาเปรียบน้องกายสิ”



ผมยิ้มกับความเป็นห่วงของพี่เรน ก็เล่นน่ารักแบบนี้จะไม่หลงรักได้ไงไหว



“ผมน่ะ รักพี่จริงๆ นะ ผมบอกไม่ได้หรอกว่าถ้าเกิดมีวันนั้นจริงๆ ผมจะไม่เสียใจ ผมก็คงเสียใจแหละแต่ผมก็จะไม่รั้งพี่เอาไว้หรอก”



พี่เรนยังคงมองผมอยู่ ท่าทางเหมือนกำลังคิดแล้วก็ลังเล หรือว่าผมเร่งรัดเกินไปวะ



“ถ้ายังไม่มีคำตอบก็ไม่เป็นไรนะครับ ยังไม่ต้องตอบผมก็ได้ เอาไว้ให้พี่เรนมั่นใจในความรู้สึกก่อนก็ได้ครับ ผมเร่งรัดไปเอง ขอโทษนะครับ”



ผมไม่ได้หงอย ไม่ได้เศร้าหรอกครับที่พี่เรนยังให้คำตอบผมไม่ได้ เพราะผมเชื่อว่าต่อให้วันนี้ไม่ได้คบกันความสัมพันธ์ของผมกับพี่เรนอย่างในตอนนี้จะไม่มีถอยหลังแน่นอน



ก็พี่เรน... เหมือนคนอื่นที่ไหนละเนอะ







************************************************
สวัสดีค่า มาต่อแล้วค่ะ ^^

อั๊ยะ น้องกายขอพี่เป็นแฟนแล้วล่ะ แล้วพี่จะตอบรับหรือปฏิเสธละเนี่ย ลุ้นแทนน้องประหนึ่งว่าตัวเองเป็นน้องเอง ฮ่าาาาา ยังไงก็มาช่วยกันลุ้นนะคะว่าน้องกาย จะนก หรือไม่นก เนอะ ^^

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 16 • [100%] l P.9 26-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 26-04-2017 22:04:05
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 16 • [100%] l P.9 26-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 26-04-2017 23:44:24
พี่เรนน่ารักน่าเอ็นดู
ส่วนเจ้ากาย เนียนเลยนะแก  :hao3:
ขอบคุณมากค่ะฟาง
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 16 • [100%] l P.9 26-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-04-2017 00:31:13
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 16 • [100%] l P.9 26-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 27-04-2017 00:36:00
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 16 • [100%] l P.9 26-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 27-04-2017 14:10:27
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 16 • [100%] l P.9 26-04-60
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 09-05-2017 21:35:01
แย่แน่ๆ รุกหนักขนาดนี้

 :o8: :-[ :impress2:

 :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [50%] l P.10 10-05-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 10-05-2017 22:53:24
(http://file2.instiz.net/data/cached_img/upload/2016/03/24/22/7321bfcf21af3b14ceb091b1258162c3.gif)
แต่หน้าตาพี่เรนตอนทำตาวาวๆ เหมือนเคืองผมตอนนั้นก็โคตรน่ารักอ่ะ เลยจับมาฟัดแก้มไปที อิอิ
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 17 •
 





น้องกาย
 



“แฟน~ แฟนครับ แฟนคร้าบ”



ผมเรียกคนที่ก้มหน้าก้มตาไม่สนใจโลกภายนอก ยื่นมือไปจิ้มแขนอีกคนด้วยเบาๆ



“หะ... หืม อะไรเหรอ” แฟนผมเงยหน้าขึ้นมามองอย่างงงๆ แว่นตาอันโตหล่นมาอยู่ปลายจมูก น่ารักชะมัด!!



“เปล่าครับ อยากเรียกแฟนเฉยๆ คิดถึงอยากได้ยินเสียง” ผมตอบพร้อมกับยิ้มหวานไปให้



แฟนผมยิ้มเขินๆ ตอบกลับมาก่อนจะก้มหน้าลงไปทำงานต่อ



แฟนผมนี่น่ารักจริงๆ!



อ่ะๆ อย่ามองผมด้วยสายตาขุ่นเคืองเช่นนั้น ผมไม่ได้นอกใจพี่เรนแล้วมีแฟนใหม่นะครับ แฟนสุดที่รักของผมคนนี้ก็คือพี่เรนนี่แหละ อิอิ



น้องกายมีความสุขสุดๆ ไปเลย อะคึอะคึ



วันนั้น... วันที่ผมขอพี่เรนเป็นแฟนที่ห้องของผม หลังจากคุยกันผมก็ไม่ได้เร่งรัดเอาคำตอบอะไร พี่เรนก็ไม่ได้พูดอะไร ผมเลยเปลี่ยนเรื่องคุยชวนพี่เรนดูงานถ่ายภาพของผมแล้วก็เล่นกับหมีกันจนกระทั่งถึงตอนเย็น เพราะฝนหลงฤดูทำท่าจะตกผมเลยตั้งใจจะไปส่งพี่เรนที่หอ



ตอนที่พี่เรนยืนรอผมอยู่หน้าประตูห้องอยู่ๆ พี่เขาก็พูดขึ้นมา



‘ตกลงนะ’



ไอ้ผมก็งงเป็นไก่ตาแตกเลยครับว่าอะไร อยู่ๆ ก็พูดตกลงออกมา ไม่มีประธาน ไม่มีกรรม ไม่มีรูปประโยคใดๆ ทั้งสิ้น



‘ตกลง... อะไรเหรอครับ’



‘ตกลง เราเป็นแฟนกัน!’




พูดจบพี่เรนก็กอดหมีเอาไว้แล้ววิ่งดุ๊กๆ หนีไปเลย ส่วนผมก็กำลังอึ้งครับ อึ้งแดก ใช้เวลาเกือบๆ ห้านาทีในการประมวลผลคำพูดของพี่เรน พอสมองทำงานครบถ้วนสมบูรณ์เท่านั้นแหละครับไอ้กายแทบจะไปนอนโรงพยาบาลเพราะร้องลั่นด้วยความดีใจจนเพื่อนห้องข้างๆ แทบจะออกมากระทืบเพราะทำเสียงดัง



แต่ทำไงได้อ่ะครับ คนมันดีใจนี่น่า



และตอนนี้... ไอ้กายคนเดิม เพิ่มเติมมีแฟนแล้ว แฟนน่ารักด้วย! ไม่อยากจะอวด ไม่อยากจะอวด!



วันนี้วันเสาร์ ผมคบกับพี่เรนมาจะครบหนึ่งอาทิตย์แล้วละครับ ที่จริงอยากจะพาแฟนไปเดทแต่อาทิตย์หน้าพี่เรนมีส่งโมเดลผมก็เลยมาสิงอยู่ห้องแฟนแทน เอาหนังสือเรียนมาอ่านไปด้วยเพราะอีกไม่นานก็จะสอบไฟนอลกันแล้ว



พูดถึงสอบไฟนอล... พอหลังสอบเสร็จก็มีจัดนิทรรศการ... นิทรรศ... เหี้ย!!!



ผมยังไม่มีรูปไปจัดนิทรรศการเลยครับ ยังไม่ได้คุยกับแฟนเรื่องเป็นแบบเลยด้วย



ผมหันไปมองแฟนที่กำลังประกอบโมเดลอย่างตั้งใจแล้วก็ไม่อยากจะกวนเวลา เอาไว้ตอนกลางวันค่อยอ้อนก็ได้ ยังไงพี่เรนก็ยอมอยู่แล้วล่ะเนอะ!



ที่จริงก็อยากจะเข้าไปช่วยแฟนประกอบโมเดลนะ เคยช่วยด้วย แต่ผมประกอบโซฟาของพี่เรนจนกลายเป็นเตียงนอน ประกอบเตียงนอนเป็นตู้ แล้วก็บิดๆ เบี้ยวๆ หลังจากนั้นพี่เรนก็ไม่ให้ผมแตะต้องโมเดลอีกเลย



แต่หน้าตาพี่เรนตอนทำตาวาวๆ เหมือนเคืองผมตอนนั้นก็โคตรน่ารักอ่ะ เลยจับมาฟัดแก้มไปที อิอิ



เป็นแฟนแล้ว ฟัดได้แล้วด้วย นี่ไม่ได้อวดนะ แต่แก้มพี่เรนอย่างนิ่ม หอมด้วย อิอิ



พอฟัดเสร็จแก้มขาวๆ ก็แดงก่ำ โอ๊ย!! ยิ่งโคตรจะน่ารักเลยละครับ นี่ไม่ได้หลงแฟนเลยนะ ไม่หลงเลยจริงๆ เชื่อผมสิ



“อ่า... เสร็จแล้ว...” แฟนผมพูดก่อนจะเงยหน้าขึ้นจากโมเดลที่วุ่นวายมาตั้งแต่เช้า พี่เรนดันโมเดลที่เสร็จสมบูรณ์แล้วขยับออกห่างจากตัว แล้วก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ดวงตากลมโตใต้แว่นสายตาอันใหญ่โตนั้นฉายแววเหนื่อยล้าเพราะโหมทำงานมาหลายวัน



“หิวหรือยังครับ” ผมถาม ขยับไปนั่งข้างๆ



พี่เรนพยักหน้าหงึกหงักทั้งๆ ที่ยังฟุบหน้าอยู่แบบนั้น ผมจุกน้ำพุที่มัดเอาไว้ไม่ให้ผมปรกหน้าปรกตาตอนตัดโมเดลขยับตามดูแล้วน่ารักน่าฟัดสุดๆ เลยละครับ



“อยากกินอะไรครับ”



“อะไรก็ได้...” พี่เรนตอบเสียงยานคาน คงจะเหนื่อยน่าดู



ผมหัวเราะก่อนจะดึงพี่เขาให้นั่งดีๆ แก้มขาวๆ มีเศษกระดาษติดเต็มไปหมดเพราะฟุบไปเมื่อกี้ ผมเลยยื่นมือไปจะเกลี่ยกระดาษออกให้



“อยู่นิ่งๆ ก่อนครับ กระดาษติดเต็มแก้มไปหมดแล้วเนี่ย” ผมดุหน่อยๆ เมื่อพี่เรนขยับตัวยุกยิกไม่ยอมอยู่นิ่งๆ



แฟนผมทำหน้าอูมใส่แต่ก็ยอมอยู่นิ่งๆ ให้ผมเกลี่ยกระดาษออก พอหมดหน้าแฟนผมก็กลับมาใสน่ารักตามเดิม อดใจไม่ไหวเลยยื่นหน้าไปหอมแก้มขาวสักที



พี่เรนยกมือกุมแก้มเอาไว้ เม้มปากมองผมอย่างเคืองๆ ที่โดนผมเอาเปรียบ



“น่ารักว่ะ พี่เรนโคตรน่ารักเลย” ดึงมากอดแน่นๆ สักทีแล้วก็ปล่อยออก “ไปครับ ไปหาอะไรกินกันดีกว่าเนอะ”



เนื่องจากพี่เรนทำงานเสร็จแล้ว และก็ไม่มีงานอื่นแล้วผมเลยพาพี่เรนไปห้างใกล้ๆ กับมหา’ลัย เพื่อหาอะไรกินกันอีกอย่างก็เป็นการพาพี่เรนมาผ่อนคลายหลังจากทำงานหนักด้วยละครับ



แล้วก็นะ... ผลพลอยได้อีกอย่างก็คือ... ได้มาเดทกับแฟนสุดที่รักของผมเองนั่นแหละครับ



เอาจริงๆ ก็ยังนึกแปลกใจว่าทำไมพี่เรนถึงตอบตกลงคบกับผม ดูก็รู้ครับว่าพี่เรนอาจจะยังไม่ได้รักผมขนาดนั้น แต่ก็คงหวั่นไหวกับผมอยู่ไม่น้อย แต่ก็เอาเถอะครับ ผมสนไหมละ ก็ไม่สนยังไงละครับ ผมสนใจแค่ว่า ตอนนี้พี่เรนเป็นแฟนผม และผมเป็นแฟนพี่เรนก็เท่านั้นแหละ



ถึงพี่เรนจะยังไม่รักผม แต่อย่างน้อยก็ยอมคบกับผม ถ้าไม่รัก ผมก็จะทำให้รักเอง แล้วก็จะเอาให้รักผมจนไม่สามารถทิ้งผมไปไหนได้เลยด้วย อิอิ



ผมเลี้ยวรถเข้าไปจอดในลานจอดรถของห้างก่อนที่จะจูงมือพี่เรนเข้าไปในห้างหลังจากจัดการล็อครถเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนอื่น... ก็ต้องไปหาอะไรกินกันก่อนเพราะนี่ก็บ่ายโมงกว่าแล้วละครับ



“อยากกินอะไรครับ อาหารญี่ปุ่นไหม ข้าวแกงกะหรี่” ผมหันไปถาม พี่เรนชอบอาหารญี่ปุ่นครับ โดยเฉพาะข้าวแกงกะหรี่ครับ



พอผมเสนอเมนูไปแบบนั้นพี่เรนก็พยักหน้ารับหงึกงักทันที ผมเลยพาพี่เรนไปที่ร้านขายข้าวแกงกะหรี่จากญี่ปุ่นทันที คนไม่เยอะครับเพราะเป็นวันธรรมดาแล้วก็ไม่ใช่เวลาเที่ยงด้วย เราเลยได้ที่นั่งกันทันทีที่เดินไปถึงร้าน



ผมเลือกที่นั่งแบบโต๊ะกลมที่อยู่มุมร้านด้านใน ดันพี่เรนให้เข้าไปนั่งก่อน ส่วนตัวเองก็นั่งต่อทีหลัง รับเมนูจากพนักงานมาส่งให้พี่เรนไปเปิดดู ผมสั่งข้าวแกงกะหรี่หน้าไข่เพิ่มท็อปปิ้งเป็นไก่ชุบเกล็ดขนมปัง ส่วนพี่เรนก็สั่งข้าวแกงกะหรี่หน้าไก่ย่างไป โค้กอีกคนละแก้ว



“พี่มีส่งงานอะไรอีกหรือเปล่าครับเนี่ย” ผมถาม ชวนพี่เรนคุย พอเป็นแฟนกันแล้วเหมือนแฟนผมจะขี้อายกว่าเดิมนะ



“ไม่มีแล้วล่ะ เหลือแต่พรีเซนต์อย่างเดียว แล้วก็รอสอบไฟนอลตามตารางนั่นแหละ”



“อย่างนั้นอาทิตย์หน้าหลังวันพุธพี่เรนก็ว่างน่ะสิ ใช่ไหมครับ” ผมถามอีกรอบ จำได้ว่าพี่เรนเคยบอกเอาไว้ว่าพรีเซนต์ตัวสุดท้ายคือวันพุธ แล้วคณะพี่เรนเขาก็ไม่มีการสอนแล้วละครับ แต่ถ้าลงวิชานอกคณะก็ยังมีเรียนตามปกติอีกประมาณสองอาทิตย์



ส่วนสอบไฟนอลตามตารางก็อีกประมาณสามอาทิตย์จากนี้ ส่วนไฟนอลโปรเจคของผมก็จะเหลืออีกสองอาทิตย์ เราจะจัดนิทรรศการกันก่อนสอบไฟนอลตามตารางครับ



พี่เรนพยักหน้ารับ พร้อมกับอ้าปากงับหลอดดูดน้ำโค้กไปด้วย “ว่างแล้ว เหลือเรียนพวกวิชานอกแค่นั้นแหละ แต่มีแค่สองวิชาเอง”



ผมท้าวคางเอียงคอมองพี่เรนที่นั่งดูดน้ำอยู่ พี่เรนชอบดูดน้ำเข้าไปจนแก้มป่องแล้วค่อยกลืน น่ารักดีครับเหมือนหนูแฮมเตอร์ตอนอมอาหารไว้ในปากเลย



ยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มป่องๆ นั้นซะเลย มันเขี้ยวอยากกัด “พี่เรน จำที่ผมเคยบอกได้ไหม ว่าผมมีโปรเจคจัดนิทรรศการตอนไฟนอลล่ะ”



“จำได้ มีอะไรเหรอ” ตาแป๋วๆ มองมาที่ผม



“ผมมีเรื่องอยากให้พี่เรนช่วย ที่ผมเคยบอกไง... ผมอยากให้พี่เรนมาเป็นแบบให้ผมหน่อย ได้ไหม” ผมทำหน้าอ้อน ไม่รู้ว่าจะอ้อนใจหรืออ้อนตีนนะครับ ไม่เคยส่องกระจกด้วยว่าหน้าตาเป็นแบบไหน



พี่เรนทำตาปริบๆ ไม่รู้ว่าเพราะผมทำหน้าอ้อนได้แย่มาก หรือว่ากำลังคิดถึงคำขอร้องของผมอยู่กันแน่ ผมขยับไปกอดแขนพี่เรนเอาไว้ “นะพี่เรนนะ ช่วยเป็นนายแบบให้ผมหน่อยนะ นะแฟนนะ นะครับ”



“พี่ไปเป็นแบบให้... น่าจะทำให้งานของกายเละมากกว่านะ”



ผมส่ายหน้าทันทีที่ได้ยินพี่เรนพูด “ไม่หรอกครับ เชื่อผมสิ เป็นแบบให้ผมนะ”



ถึงพี่เรนจะยอมให้ผมถ่ายรูปบ่อยๆ เวลาออกไปเที่ยว หรือแม้แต่ตอนผมชวนไปถ่ายรูปเล่น แต่นั่นก็เพราะว่าพี่เรนไม่ต้องเก๊ก หรือทำท่าทางอะไร อีกอย่างผมก็มักจะถ่ายทีเผลอของพี่เรนด้วย พี่เรนเลยไม่ว่าอะไร แต่พอขอให้มาเป็นแบบให้ ก็ยังคงไม่ยอมอยู่สินะ



“ทำไมต้องเป็นพี่ด้วยล่ะ คนอื่นหน้าตาหล่อๆ สวยๆ มีตั้งเยอะตั้งแยะนี่นา”



ก็จริงอย่างพี่ที่เรนพูดครับ คนสวยๆ หล่อๆ กว่าพี่เรนมีเยอะ แต่ว่า... “คนอย่างพี่เรนมีแค่คนเดียวนี่ครับ”



พี่เรนทำหน้างง แต่เห็นแก้มแดงอ่ะ แฟนผมนี่เขินง่ายจริงๆ เลย



“ตอนที่ผมได้ยินคำสั่งของอาจารย์ ตอนที่กำลังคิดหัวข้อ ผมก็คิดถึงพี่เรนคนแรกเลย พี่เรนเป็นคนเดียวที่เหมาะกับคอนเซ็ปที่ผมคิดนะ”



“แต่พี่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ พี่กลัวจะทำให้กายลำบากมากกว่าได้งานนะ” แฟนผมยังคงทำหน้าเครียด โถ่... นี่เป็นห่วงผมมากขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย จับมาหอมแก้มได้ไหมอ่ะครับ



อ๋อ... ไม่ได้สิเนอะ อยู่ในที่สาธารณะเนอะ ทำแบบนั้นไม่ได้ เอาไว้กับสู่รโหฐานก่อนเถอะ น้องกายจะจับมาหอมแก้มให้ช้ำเลยคอยดู!



“เป็นแบบให้ผมไม่ยากหรอกครับ แค่เป็นตัวของตัวเองก็พอ แค่เป็นอย่างที่พี่เรนเป็นแค่นั้นแหละครับ นะ... เป็นแบบให้ผมนะ” ผมเริ่มอ้อนอีกรอบ ไม่สนพนักงานที่ยกข้าวแกงกะหรี่มาเสิร์ฟ “ถ้าพี่เรนไม่ช่วยผม... ผมต้องติดเอฟ แล้วก็ต้องเรียนซ้ำอีกปี จบไม่พร้อมเพื่อนด้วย”



“ย อย่างนั้น... คอนเซ็ปที่กายว่าคือ อ อะไรเหรอ” พี่เรนไม่ได้เขินที่ผมอ้อนหรอกครับ แต่คงเขิน อายกับสายตาของพนักงานเสิร์ฟมากกว่า ดูสิ แก้มแดงก่ำเลยอ่ะ



เห็นแล้วก็อยากฟัด ยื่นมือไปบีบแก้มแดงเบาๆ พี่เรนพูดแบบนี้ก็แสดงว่าใกล้จะตอบตกลงเป็นแบบให้ผมแล้วแน่นอน ก็แฟนผมน่ะใจดีจะตายไปครับ ไม่ใจร้ายกับผมหรอก



“คอนเซ็ปของผมคือเรนครับ” พี่เรนทำหน้าแปลกใจตอนได้ยิน ผมยิ้มแล้วก็อธิบายต่อ “ถ้าให้เข้าใจง่ายๆ คอนเซ็ปของผมคือพี่ครับ พี่เรน”



“ผมเชื่อว่าคนหลายคนชอบตีความหมายของฝนเป็นความเศร้า ความเหงา เมื่อก่อนผมก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ความคิดของผมก็เปลี่ยนไปตอนที่ผมได้เจอคนคนหนึ่ง” ผมอธิบายความหมายเพิ่มเติม โดยไม่ได้ละสายตาไปจากพี่เรน “เขาคือความอบอุ่น คือความสุขท่ามกลางสายฝน และนั่นก็ทำให้ความคิดของผมที่มีต่อฝนเปลี่ยนไป ผมเลยอยากนำเสนอความคิดของผมออกมาผ่านรูปภาพ”



“และเพราะพี่เรน คือคนคนนั้น คนที่ทำให้ผมเปลี่ยนทัศนคติ ผมถึงได้บอกว่าพี่เรนเป็นคนเดียวที่เหมาะกับคอนเซ็ปนี้”



หน้าแฟนผมตอนนี้แดงกว่าเดิมอีกครับ ก็นะ... คำพูดของผมก็ไม่ต่างจากคำสารภาพรักยาวๆ เลยนี่ครับ พี่เรนจะเขิน จะหน้าแดงก็ไม่แปลกจริงไหม



“เพราะอย่างนั้น... พี่เรนมาเป็นแบบให้ผมเถอะนะ นะครับนะ”



พี่เรนยังคงทำหน้าไม่แน่ใจ “เชื่อผมนะครับ พี่เรนจะไม่ทำให้งานของผมเสียแน่นอน”



พอผมยืนยันไปแบบนั้นสีหน้าพี่เรนก็เริ่มเปลี่ยนไป แต่ก็ยังคงแฝงไปด้วยความไม่มั่นใจอยู่ดี แต่งานนี้ไม่ว่ายังไง... นายแบบของผมก็ต้องเป็นพี่เรนเท่านั้นแหละครับ ถ้าไม่ใช่งานของผมก็คงไม่มีทางออกมาสมบูรณ์แน่นอน



“แต่ถ้าพี่เรนลำบากใจก็ไม่เป็นอะไรครับ... เอาไว้ปีหน้าผมคิดคอนเซ็ปใหม่ก็ได้”



พี่เรนตาโตทันทีที่ผมพูด “ท ทำไมอย่างนั้นล่ะ ก กายลองให้คนอื่นมาเป็นแบบดูดีไหม”



ผมส่ายหน้ากับคำแนะนำของพี่เรน “ไม่ครับ คอนเซ็ปนี้เป็นของพี่เรน ถ้าเป็นคนอื่นมาก็ไม่มีทางออกมาดี ออกมาสมบูรณ์แน่นอน สู่ดรอปเอาไว้แล้วไปทำใหม่ปีหน้าดีกว่าดันทุรังทำออกมาแล้วเกรดไม่ได้ดี”



พี่เรนเม้มปาก ช้อนตามองผมอย่างลังเล “ต้องพี่... คนเดียวเหรอ”



“ครับ ต้องพี่เรนคนเดียว คนเดียวเท่านั้น คนอื่นไม่มีทางมาแทนได้”



“ถ้า... ต่อให้เป็นพี่แล้วเกรดของกายออกมาไม่ดีล่ะ”



“ผมเชื่อ และผมมั่นใจว่าไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่นอน หรือถ้าเป็นแบบนั้น ผมไม่มีทางโกรธหรือโทษพี่เรนครับ เพราะผมเป็นคนเลือกนายแบบเอง ผมจะโทษนายแบบของผมไม่ได้ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่ผมไม่มีฝีมือเอง”



“ได้เกรดน้อยมา... พี่ไม่รู้ด้วยนะ” พี่เรนพึมพำเสียงเบา แต่ผมก็ยังได้ยิน



พอได้ยินคำตอบตกลงของพี่เรนผมก็ยิ้มกว้างออกมาทันที อยากจะดึงพี่เรนมากอดแน่นๆ สักทีแต่ก็ต้องอดใจเอาไว้ เก็บไปทบต้นทบดอกตอนอยู่ในห้องแล้วกันนะ



“ขอบคุณนะครับ พี่เรนของผมนี่น่ารักที่สุด!”



แล้วคนน่ารักของผมก็เขินแก้มแดงใหญ่เลยครับ ฮ่าๆๆ






************************************************
มาแล้วค่าาาา มาพร้อมกับความกรีดร้องและความหมั่นในตัวพระเอก นางไม่นกนาจา...

นางได้พี่เรนเป็นแฟน แถมอวดแล้วอวดอีก หมั่นจริงอะไรจริงผู้ชายคนนี้ ฮ่าาาาาาาา

แต่น้องกายก็น่าอิจฉาเนอะ ได้พี่เรนเป็นแฟนแล้วอ่ะ แถมพี่เรนน่ารักมากด้วย อยากจะเป็นน้องกายเลย อยากกอด อยากฟัด อยากหอมพี่เรนบ้าง ฮึ่ม!!   อิจฉาเจ้ากายเสียจริงๆ เลยค่ะ

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [50%] l P.10 10-05-60
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 10-05-2017 23:41:15
ในที่สุดก็เป็นแฟนกัน o7 o7
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [50%] l P.10 10-05-60
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-05-2017 01:16:39
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [50%] l P.10 10-05-60
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 11-05-2017 06:33:21
พี่เรนน่ารัก
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [50%] l P.10 10-05-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 11-05-2017 13:45:11
เจ้ากายยยยยยย ไอเด็กขี้อวด หมั่นไส้จริงๆ
พี่เรนน่ารักตลอดเลย ขอบคุณค่ะฟาง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [50%] l P.10 10-05-60
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 11-05-2017 18:24:43
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [50%] l P.10 10-05-60
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 16-05-2017 20:12:07
ขอบคุณมากๆ ที่มา นึกว่าจะหายไปอีกเรื่อง

                  พูดแล้วเศร้า

 :sad11: :monkeysad: :m15:

                  แต่ก็มาแล้ว

 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [50%] l P.10 10-05-60
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 19-05-2017 19:57:59
ก็นะ  เขาก็ยังตะมุตะมิกันเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [50%] l P.10 10-05-60
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 21-05-2017 20:34:57
สักทีเนาะ กว่าจะขอพี่เรนเป็นแฟน
ดีใจด้วยนะน้องกาย
แต่ตอนนี้แอบหมั่นไส้คนอวดแฟนเบาๆ  :mew4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [50%] l P.10 10-05-60
เริ่มหัวข้อโดย: wichta ที่ 29-05-2017 13:55:36
 :z3: มานั่งรอให้ฝนตก รอพี่เรนกะน้องกาย วิถีคนอวดแฟน
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [100%] l P.10 01-06-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 01-06-2017 22:44:09
(http://file2.instiz.net/data/cached_img/upload/2016/03/24/22/7321bfcf21af3b14ceb091b1258162c3.gif)
แต่หน้าตาพี่เรนตอนทำตาวาวๆ เหมือนเคืองผมตอนนั้นก็โคตรน่ารักอ่ะ เลยจับมาฟัดแก้มไปที อิอิ
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 17.2 •
 




• • • ต่อค่ะ 100% • • •







พี่เรน




‘ตกลงนะ’



‘ตกลง... เราเป็นแฟนกัน!’




ผมยกมือปิดหน้าเมื่ออยู่ๆ คำพูดนั้นก็ลอยเข้ามาในความคิดที่ว่างเปล่าของผม รู้สึกหน้าร้อนแก้มร้อนไปหมดเลย ทำไมตอนนั้นถึงได้พูดแบบนั้นไปกันนะ



ในใจส่วนหนึ่งผมรู้สึกผิดเพราะผมยังไม่สามารถบอกความรู้สึกของตัวเองได้เลยว่าผมคิดอย่างไรกับน้องกายกันแน่ แต่ผมก็... ไม่อยากให้เขาไปไหนนี่ ผมสบายใจเวลาอยู่กับน้องกาย



น้องเป็นอีกคนนอกจากพวกตินาที่ไม่สนว่าผมหน้าตาเป็นยังไง ผมไม่ได้หล่อ ไม่ได้น่ารัก ใส่แว่นหนาเตอะ แต่งตัวก็เชยๆ แต่น้องก็ยังชอบผม ผมเลยรู้สึกดีใจที่มีคนเห็นตัวตนของผม



แล้วก็ดูเหมือนว่าน้องกายเองก็จะรู้ถึงความไม่มั่นใจในความรู้สึกของผม แต่น้องก็ยืนยันที่จะทำให้ผมมั่นใจให้ได้ บอกตรงๆ เลยว่าผมดีใจมาก ดีใจที่มีคนจริงใจกับผมมากมายขนาดนี้



ผมมีประสบการณ์ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับคนรัก ตอนมัธยมผมเองก็เป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่แอบชอบผู้หญิง ผมก็ตามจีบเธอ ดูแลเธอเท่าที่จะทำได้ แต่เพราะผมหน้าตาไม่ดี แต่งตัวก็เชย พอผมไปสารภาพรักนอกจากจะไม่ได้รับความรักแล้วผมยังโดนต่อว่าแล้วก็โดนตบมาด้วย เธอบอกว่าเพราะผมไปชอบเธอ ทำให้เธอขายหน้า มีแต่คนล้อเลียนและหัวเราะเยาะที่คนหน้าตาแย่ๆ อย่างผมไปชอบ



หลังจากนั้นผมก็เก็บตัว ไม่คิดเรื่องความรักอีกเลย ที่บ้านผมก็รู้เรื่อง พ่อกับแม่ผม รวมไปถึงพี่สาวพี่ชายผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แม้ทุกคนจะบอกว่าผมไม่ได้หน้าตาแย่ ไม่ได้หน้าตาไม่ดี แต่ผมก็ไม่คิดเชื่อ แล้วก็ไม่คิดจะชอบใครอีก



“แฟน”



ผมเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเรียก อ่า... มันก็จะเขินๆ หน่อยนะครับที่ผมมักจะเงยหน้าหรือมีปฏิกิริยาทุกครั้งที่กายเรียกผมว่า ‘แฟน’ แบบนี้ เหมือนผมกำลังชินเลย



แล้วพอผมนึกได้ว่ากายเรียกผมว่าอะไร ผมก็จะหน้าแดง แล้วกายก็จะยิ้มเหมือนจะล้อเลียนผม



“ม มีอะไรหรือเปล่า” ผมอ้อมแอ้มถามกลับไป



“เปล่าครับ แค่อยากเห็นแฟนหน้าแดงเลยเรียก” น้องกายพูดก่อนจะหัวเราะ ให้ผมหน้าแดงกว่าเดิม “พี่เรนเหลืองานอีกเยอะไหม”



ผมก้มหน้ากวาดสายตามองงานของตัวเองแล้วจึงตอบ “ไม่หรอก เหลือใส่รายละเอียดอีกนิดหน่อยน่ะ”



ผมไม่มีเรียนแล้วครับ เหลือแต่ทำงานส่งก่อนที่จะสอบไฟนอล วันๆ ของผมเลยว่างมานั่งเคลียร์งาน อ่อ... แต่ถ้าเป็นวิชานอกก็ยังมีเรียนอยู่นะครับ แต่ตอนปีหนึ่งปีสองผมเก็บวิชาไปเยอะแล้ว เลยมีแค่สองวิชาเท่านั้นตอนเทอมนี้



“อย่างนั้นพอจบงานนี้พี่เรนไปเป็นแบบให้ผมนะครับ” น้องกายพูด



อ่า... จริงสินะ ผมตกลงจะไปเป็นนายแบบให้น้องเขาถ่ายรูปนี่เนอะ “อือ ได้สิ”



“โอเคครับ พี่เรนทำงานต่อเถอะผมไม่กวนแล้ว” เจ้าตัวพูดแบบนั้นแล้วก็เรียกน้องหมีไปเล่น ไปนอนกอดด้วยกัน



งืออออ ผมก็อยากจะกอดน้องหมีเล่นกับน้องหมีบ้างอ่ะ



“รีบทำให้เสร็จสิครับ จะได้มาเล่นด้วยกัน” เหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไร เพราะน้องกายเงยหน้าขึ้นมองบอกแล้วก็ยิ้มให้



ผมเลยตั้งใจทำงานต่อ จะได้เสร็จเร็วๆ แล้วก็จะได้ไปเล่นกับน้องหมี



ผมลงไปกลิ้งกับพื้นเมื่องานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อยมากเลยครับ... เงยหน้ามองเมื่อเห็นน้องกายยันตัวลุกขึ้น น้องมายกโมเดลผมไปวางเอาไว้บนชั้นวางโมเดลสำหรับเตรียมส่งให้ ผมไปซื้อชั้นมาวางจะได้เป็นสัดส่วนแล้วก็ไม่เผลอทำโมเดลของตัวเองพัง



“ขอบคุณนะ” ผมยิ้มเมื่อเห็นน้องกายกำลังเก็บกวาดเสร็จกระดาษบนโต๊ะให้ผม รวมไปถึงยกโต๊ะญี่ปุ่นไปเก็บให้ด้วย



“ไม่เป็นอะไรครับ นี่งานสุดท้ายแล้วหรือยัง”



ผมส่ายหน้า “เหลือพวกงานดรออิ้งน่ะ แต่โมเดลเรียบร้อยหมดแล้ว”



ผมสะดุ้งร้องออกมาอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ น้องกายก็เข้ามานอนข้างๆ แล้วก็กอดผมไว้ รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนวูบวาบแล้วก็หัวใจเต้นเร็วยังไงก็ไม่รู้สิ กายดึงแว่นที่ผมมักจะใส่เวลาทำงานออกจากหน้าผม ทำเอาภาพตรงหน้าของผมเบลอไปเลย ก่อนที่ผมจะเห็นน้องชัดขึ้นเมื่อน้องยื่นหน้ามาใกล้จนอยู่ในระยะที่เห็นได้ชัด ซึ่งมันก็... ใกล้มาก



“อยากจูบพี่เรนจัง” น้องกายพูดพร้อมยิ้ม แต่ผมหน้าแดงก่ำ



ตกลงคบกับน้องกายไป ผมเคยโดนจุ๊บไปบ้าง หอมแก้มบ้าง กอดบ้าง แต่ก็ไม่บ่อย และทุกครั้งที่โดน ผมรู้สึกเหมือนตัวเองจะไหม้เลย หน้าร้อนไปหมด



“รักผมเร็วๆ นะพี่แมวเหมียว” พูดจบก็กอดผมแน่นๆ เหมือนจะมันเขี้ยวผมยังไงก็ไม่รู้สิ



“งืออออออ” ผมร้องประท้วง ซุกหน้าแดงๆ ไม่ให้น้องเห็น ได้ยินเสียงน้องหัวเราะด้วย ผมเลยทุบแขนไปหนึ่งทีโทษฐานล้อเลียนผม



“ได้กอดพี่เรนแบบนี้ดีจัง รู้สึกดีสุดๆ ไปเลย” น้องกายพูด กอดผมแน่นขึ้นอีกเหมือนจะทำให้ผมจมไปกับตัวเขาเลย



งืออออออ



ผมก็ไม่อยากจะบอกหรอก แต่ก็... รู้สึกอุ่นๆ ดีเหมือนกันนะ







ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงหลังจากที่ตื่นนอนได้สักพักแล้วแต่ยังไม่อยากจะลุกไปไหน แต่เดี๋ยวตอนบ่ายก็ต้องเอางานไปส่ง เมื่อคืนพวกตินาส่งข้อความมานัดกินข้าวกลางวันกันก่อนจะไปส่งงาน



ช่วงนี้พอไม่มีเรียนก็ไม่ได้เจอกับพวกตินาเลยครับ เพราะสาวๆ ก็เก็บตัวทำงานกันหมด อีกทั้งพวกเธอก็ไม่ได้อยู่หอ อยู่ใกล้มหา’ลัย ก็เลยไม่ได้เจอกัน อ่า... จะว่าไปผมยังไม่ได้บอกกับเพื่อนๆ เลยนี่นาว่าผมคบกับน้องกายแล้ว



เมี๊ยว~



ผมหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงร้องของน้องหมี โอ๊ะ... นั่งจ้องกดดันผมอยู่ตรงชามข้าว ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้ให้ข้าวน้องหมี



“อ่ะ ร้องแปบนึงนะ จะไปตักข้าวให้เดี๋ยวนี้แหละ” ผมรีบลุกจากเตียงทันที ตรงไปหยิบอาหารแมวมาเทใส่ชามข้าวน้องหมีให้ เติมน้ำให้ด้วย



“เดี๋ยววันนี้เราออกไปส่งงานนะ บ่ายๆ ก็กลับ เดี๋ยวตอนเย็นไปถ่ายรูปกับน้องกาย เราจะพาไปด้วยนะไปเที่ยวข้างนอกกันบ้างเนอะ” ผมนั่งกอดเข่ามอง แต่น้องหมีไม่สนใจผมเลยแหะ เอาแต่กินอย่างเดียวเลย สงสัยจะหิวมาก



“อย่างนั้นกินไปก่อน เราไปอาบน้ำก่อนนะ” ก้มลงหอมเหม่งไปทีแล้วจึงลุกไปอาบน้ำ



ออกมาจากห้องน้ำน้องหมีก็กินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมเดินไปอุ้มน้องมาเล่นด้วยอีกสักพักก็หอบหิ้วโมเดลเข้าไปในมหา’ลัย



นัดกับพวกตินาเอาไว้ที่คณะ ตกลงกันว่าจะเอางานไปส่งกันก่อนแล้วจึงค่อยไปหาอะไรกินกันทีหลัง



“เรน~ ทางนี้~” ผมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงเรียกของใบหม่อนก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาพวกสาวๆ วางโมเดลเอาไว้บนโต๊ะข้างๆ แล้วค่อยนั่งลงข้างใบหม่อนที่นั่งริมสุด



“เป็นไง ทำงานเสร็จหมดยัง” พอนั่งลงปุ๊บสาก็ถามทันที



ผมส่ายหน้า “ยัง เหลือพวกงานดรออิ้งยังไม่ได้ทำเลย แต่เดี๋ยวว่าจะทำพรุ่งนี้นี่แหละ แล้วทำกันหรือยัง”



“ยังเหมือนกัน ยังคิดไม่ออกเลยด้วยว่าจะวาดอะไรดี” ตินาพูด เอามือท้าวคางแล้วถอนหายใจออกมา



จะว่าไปผมก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะวาดอะไรดี งานดรออิ้งคราวนี้ไม่ใช่ภาพงานภายใน ไม่ใช่ภาพอาคาร ไม่มีหัวข้อที่แน่ชัด คือจะวาดอะไรก็ได้ จะเป็นหมาแมว อาหาร คน สิ่งของได้หมดทุกอย่าง ซึ่งผมเองยังไม่รู้เลยจะวาดอะไรดี



“เราก็เหมือนกัน” ผมบอก “เอ่อ... ที่จริงเรามีเรื่องอยากจะบอกทุกคนด้วย แต่เอาไว้ค่อยบอกตอนกินข้าวก็แล้วกันนะ”



สาวๆ ดูจะแปลกใจเพราะปกติแล้วผมไม่ค่อยมีเรื่องอะไรเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายฟังสาวๆ คุยมากกว่า พอได้ยินผมพูดแบบนั้นพวกสาวๆ ก็พยักหน้ารับ เรานั่งคุยกันไปเรื่อยๆ เพื่อรอเวลาให้ถึงเวลาส่งงาน คณะผมก็แปลกนะครับ อย่างสมมติว่าอาจารย์ให้ส่งงานตั้งแต่บ่ายโมงไปจนถึงหกโมงเย็น ถ้ามาก่อนบ่ายโมงก็จะไม่สามารถส่งได้ แต่ถ้าเลยหกโมงเย็นไปส่ง ก็ยังส่งได้ นอกจากว่าจะเลทนานจนอาจารย์กลับกันไปหมดแล้ว แต่ก่อนบ่ายโมงอาจารย์ก็อยู่กันนะครับ แต่ไม่รับงาน ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม



“ไปเถอะ ได้เวลาส่งงานแล้วล่ะ” สาพูดเมื่อก้มลงดูเวลา



พวกผมเลยหอบหิ้วโมเดลของตัวเองขึ้นไปส่งกันครับ ไม่ต้องพรีเซ้นงานครับแค่เอาโมเดลมาส่งเฉยๆ พอส่ง ลงชื่อส่งงานเรียบร้อยพวกผมก็ตรงไปหน้ามหา’ลัยกันทันทีครับ ไปหาอะไรกินกัน เราเลือกร้านสเต็กสั่งสเก็ตมาคนละจาน แล้วก็สั่งเฟรนฟราย สลัด แล้วก็ไก่บาร์บีคิวมาทานเล่นกัน สาวๆ กินกันไม่กลัวน้ำหนักขึ้นเลยละครับ



“ไหนที่บอกว่ามีเรื่องจะบอก คือเรื่องอะไร” ตินาเริ่มประเด็นเมื่อของกินเล่นทยอยมาเสิร์ฟ



ผมมองหน้าทุกคนสลับกันไปมา ซึ่งทุกคนก็มองผมไม่ละสายตาไปไหนเลย ผมไล่มองแต่ละคนอีกรอบก่อนจะพูดออกมา



“เรา... ตกลงคบกับน้องกายแล้วนะ”



ทุกคนนิ่งไปนิดก่อนจะพยักหน้ารับกับสิ่งที่ผมพูด แต่ผ่านไปไม่ถึงนาทีก็...



“ห๊ะ!!! ว่าอะไรนะ”



ผมหดคอทันทีที่ทุกคนร้องออกมาพร้อมกัน คนอื่นๆ ในร้านหันมามองกันเต็มไปหมด ตินาเลยหันไปขอโทษขอโพยทุกคนที่เผลอส่งเสียงดัง ส่วนคนอื่นๆ ก็ส่งสายตากดดันผมไม่หยุดเลย



งืออออ



มากดดันผมทำไมอ่ะ



“อ อะไรอ่า...”



“เมื่อกี้ว่ายังไงนะ ไหนพูดใหม่อีกรอบสิ” ใบหม่อนพูด เหมือนไม่ได้ยินที่ผมพูดเมื่อกี้ แต่ผมว่าผมก็พูดเสียงดังปกติอยู่นะ น่าจะได้ยินกันสิ



“เราบอกว่า เราคบกับน้องกายแล้วนะ” ผมตอบไปอีกรอบ สาวๆ ทำตาปริบๆ เหมือนประมวลผลไม่ทัน หรือว่าฟังไม่ชัดนะ “เราคบกับน้องกายแล้ว”



“พอๆ ไม่ต้องย้ำแล้ว ได้ยินแล้ว” สายกมือห้ามผมเมื่อผมจะพูดอีกรอบ



“คบกันเมื่อไหร่” ใบหม่อนถาม



“ก็... เมื่ออาทิตย์ สองอาทิตย์ก่อนนั่นแหละ”



“มั่นใจแล้วเหรอเรน ฉันไม่ถามหรอกว่ามั่นใจหรือเปล่าที่จะคบกับผู้ชายด้วยกัน เดี๋ยวนี้โลกมันเปิดกว้างมากแล้ว แต่มั่นใจในความรู้สึกตัวเองแล้วหรือยัง” ตินาถามผมด้วยสีหน้าจริงจัง



เพื่อนๆ ทุกคนรู้ครับว่าผมมีความหลังไม่ค่อยดีเรื่องความรัก อีกทั้งผมยังตีความรู้สึกไม่เก่งด้วย ไม่แปลกอะไรถ้าตินาจะถามผมแบบนี้



ผมส่ายหน้ากับคำถามของตินา “เรารู้นะว่าทำแบบนี้มันเห็นแก่ตัว แล้วน้องกายก็น่าสงสารด้วย เราน่ะ... ยังไม่มั่นใจหรอกว่ามันคืออะไร แต่ถ้าถามว่าเรารู้สึกดีไหม เรารู้สึกดี เราสบายใจเวลาอยู่กับน้อง ความรู้สึกมันไม่รุนแรง แต่มันก็... ไม่ได้จางๆ มันกำลังดีน่ะ”



“รู้สึกดี แต่ไม่มั่นใจว่าใช่ความรักหรือเปล่า” ใบหม่อนถาม ผมเองก็พยักหน้ากับคำถามนั้น



“อือ เราไม่มั่นใจ”



“แล้วเจ้าเด็กนั่นว่ายังไงบ้างล่ะ”



“ก็... ไม่ว่าอะไร น้องกายบอกว่า... ยังไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ยังไม่รักก็ไม่เป็นไร ด เดี๋ยว... ทำให้เรารักเอง” พูดไปก็รู้สึกว่าแก้มตัวเองร้อนๆ ยังไงบอกไม่ถูก แล้วก็กลายเป็นคนติดอ่างพูดไม่คล่องด้วย แถมยังไม่กล้าสบตาเพื่อนๆ ที่ทำตาระยิบระยับแพรวพราวนั้นด้วย



งืออออออออออ...



“พวกเราไม่ห้ามหรือไม่ว่าอะไรหรอก ยังไงเรื่องแบบนี้การตัดสินใจก็อยู่ที่ตัวเรนเองนั่นแหละ ยังไงพวกเราก็จะสนับสนุน เห็นด้วยกับการตัดสินใจนะ” ตินาพูด



“ส่วนเรื่องรักไม่รัก เดี๋ยวเจ้าเด็กนั่นก็คงจัดการให้กระจ่างได้เองนั่นแหละเนอะ”



“แล้วพวกเราควรประกาศไหม พวกจ้องจะเข้ามาจะได้ล่าถอยไป หรือปล่อยให้คนของเขาจัดการเองดี”



“ปล่อยเอาไว้ก็ได้นะ น่าจะมีอะไรสนุกๆ ให้ดูอยู่นะ”



แล้วพวกสาวๆ ก็พูดอะไรกันก็ไม่รู้ครับ ผมไม่เข้าใจเลย คุยเรื่องผมกับน้องกายอยู่ดีๆ ทำไมกลายเป็นเรื่องประกาศไม่ประกาศไปได้นะ ว่าแต่... มีประกาศอะไรกันนะ ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องเลยล่ะ แต่ก็เอาเถอะครับ ถ้ามีประกาศสำคัญจริงๆ สาวๆ ก็บอกผมเองนั่นแหละ นี่ไม่บอกก็แสดงว่าไม่สำคัญเท่าไหร่ ปล่อยให้เขาคุยกันไปครับ ผมกินต่อดีกว่า



พวกเรานั่งกินกันไปคุยกันไป มีเรื่องคุยกันเยอะเลยครับเพราะไม่ได้เจอกันหลายวันเพราะต่างคนต่างเก็บตัวทำงาน มีคุยไลน์กันบ้าง แต่ผมก็ไม่ค่อยได้ตอบเท่าไหร่เพราะเอาแต่ทำงาน



“อ๋อ... จริงสิ ตอนเย็นไปไหนไหมเรน ไปดูหนังกันไหม” สาชวนหลังจากที่จัดการกับสเต็กกันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นั่งย่อยกันอยู่ครับ อิ่มมากเลย



“เราไม่ว่างอ่า... พอดีสัญญากับน้องกายเอาไว้แล้วว่าเราจะไปเป็นแบบให้”



สาวๆ ดูสนใจทันทีที่ผมพูด ผมเลยอธิบายเพิ่มเติม “พอดีว่าน้องกายขอให้เราไปเป็นนายแบบโปรเจคให้เขา เย็นนี้ก็จะไปถ่ายรูปกันน่ะ เราก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมถึงเลือกเรา แต่น้องเขาบอกแล้วก็ขอร้อง เราก็เลยตกลงไปน่ะ”



“พวกฉันไปดูด้วยได้ไหม” ใบหม่อนถามอย่างสนใจ



“ก็น่าจะได้นะ น้องกายคงไม่ว่าอะไรหรอก”



“โอเค... อย่างนั้นเราไปดูเรียนถ่ายแบบกัน อย่างนั้นไปนอนเล่นอยู่หอเรนแล้วกันนะ ได้ใช่ไหม”



ผมพยักหน้ารับทันที ได้อยู่แล้วล่ะครับ ถึงห้องผมจะไม่ใหญ่โต แต่ก็ไปอยู่ด้วยกันได้นะ ตอนปีหนึ่งปีสองเราก็เคยไปทำงานอยู่ห้องผมเลยครับ



พอตกลงกันได้ก็เรียกพนักงานมาเก็บเงินก่อนจะพากันไปที่ห้องผม แล้วตอนเย็นค่อยออกไปตรงที่นัดกันกับน้องกายอีกที ระหว่างนี้... ผมขอพักเอาแรงก่อนแล้วกันนะครับ






************************************************
หายไปนานตลอดเลย ต้องขอโทษด้วยนะคะ งานมันเยอะจริงจังเลยค่ะช่วงนี้ นิยายก็กำลังเร่งแต่งตอนพิเศษอุ้มรักอยู่ด้วย เลยไม่ค่อยได้มาอัพนิยายเลย ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะ มาอัพช้าไปบ้าง แต่ยังไงฟางไม่หายไปไหนแน่นอนค่ะ อยู่ติดตามกันไปเรื่อยๆ จนจบนะคะ

สำหรับเรื่องนี้อีกไม่กี่ตอนก็คงอวสานแล้วล่ะค่ะ เป็นเรื่องใสๆ ไม่มีดราม่า เนื้อหาก็ไม่หวือหวามาก อีกไม่นานก็จบค่ะ ติดตามกันไปนะๆ

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [100%] l P.10 01-06-60
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-06-2017 01:07:02
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [100%] l P.10 01-06-60
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 02-06-2017 01:37:46
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [100%] l P.10 01-06-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 02-06-2017 08:56:11
ขอบคุณค่ะฟาง พี่เรนน่ารักอีกแล้ว เอาใจช่วยให้รู้ความรู้สึกไวๆน้าาา ส่วนเจ้ากายหมั่นไส้จริงๆ  :ling1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [100%] l P.10 01-06-60
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 05-06-2017 02:24:03
ไม่เป็นไรครับน้อง ยังไงก็จะรอให้กำลังใจครับ
ขออย่างเดียว อย่าทิ้งกันก็พอ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 17 • [100%] l P.10 01-06-60
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 03-07-2017 17:25:59
เข้ามารอ พี่เรนกับน้องกาย
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 18 • [50%] l P.10 04-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 04-07-2017 21:51:46
(https://68.media.tumblr.com/7a018cddc58a79ac159a3f6dc8d153ba/tumblr_onn5kj4uoK1r9f1l9o2_500.gif)
สบายใจได้ครับ ม๊ากับป๊าผมไม่ว่าอะไรหรอก
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 18 •
 





น้องกาย
 



ผมเก็บของทุกอย่างลงกระเป๋าเมื่ออาจารย์เดินออกจากห้องไปแล้ว ก้มดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือเย็นนี้ผมมีนัดกับพี่เรนครับ นัดถ่ายรูปกัน ผมจะเริ่มทำโปรเจคของตัวเองอย่างจริงจังแล้วครับ เพราะอีกแค่ไม่กี่อาทิตย์ก็จะถึงไฟนอลแล้ว



“มึง เจอกันที่บ้านกูนะ” ผมหันไปบอกเพื่อนในกลุ่ม พวกมันก็จะไปด้วยครับ ไม่ได้ไปถ่ายรูปหรอกไปเป็นผู้ช่วยผมอีกที



เพราะมันเริ่มเข้าหน้าหนาวแล้วผมเลยไม่แน่ใจว่าจะมีฝนหลงมาหรือเปล่า แต่ที่ดูพยากรอากาศเมื่อเช้าเขาบอกว่าจะมีฝนตกเพราะมีพายุเข้า แต่ถ้าไม่มีฝนตกผมก็ต้องทำฝนเทียมจากสายยางนี่แหละครับ เลยต้องให้พวกมันไปช่วยเซ็ตฉากให้



“เออ เดี๋ยวพวกกูตามไป”



“เออ เจอกันมึง กูบอกม๊าให้เตรียมมื้อใหญ่ไว้ให้แล้ว” ผมบอกก่อนจะคว้ากระเป๋ามาสะพายแล้วก็เดินออกจากห้องไป



ผมตรงไปที่รถของตัวเองก่อนจะขับออกจากมหา’ลัย วันนี้ตื่นสายครับเลยต้องขับรถมาไม่อย่างนั้นคงมาไม่ทันเช็คชื่อ ผมขับรถไปจอดเอาไว้ที่หอของพี่เรนเลยครับก่อนจะกดโทรศัพท์โทรหาพี่เรน ส่วนอุปกรณ์ถ่ายรูปผมเตรียมเอาไว้ในกระเป๋าแล้วเรียบร้อย



[กาย...]



เสียงพี่เรนในโทรศัพท์โคตรจะน่ารักเลยครับ



“พี่เรน ผมอยู่ข้างล่างแล้วนะ พี่เรนลงมาได้เลยนะครับจะได้ไปบ้านผมกัน” จะว่าไปผมยังไม่ได้บอกพี่เรนเลยนี่หว่าว่าจะไปถ่ายรูปที่บ้านผม “เอาหมีมาด้วยนะพี่”



[อ้าว... ไม่ได้ถ่ายในมอหรอกเหรอ]



“ครับ ผมไม่แน่ใจว่าฝนมันจะตกไหม ถ้าไม่ตกมันก็ต้องทำฝนปลอมไง ใช้สายยางฉีดน้ำเอาถ้าถ่ายในมอเดี๋ยวไปทำเลอะหมด ก็เลยจะไปถ่ายที่บ้านผมน่ะครับ”



เหมือนได้ยินเสียงพี่เรนคุยกับใครก็ไม่รู้ แล้วก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคงจะเป็นพวกพี่ตินาแน่ๆ เลยล่ะครับ



[อ่า... อย่างนั้นเดี๋ยวพี่ลงไป รอแปบนึง]



“คร้าบผม~”



ผมลงจากรถไปยืนรอพี่เรน หยิบโทรศัพท์มาตอบแชทเพื่อนๆ ระหว่างรอ เงยหน้ามาอีกทีก็เห็นคนน่ารักกำลังอุ้มแมวตัวอ้วนสีขาวมาหาผม มีพวกพี่ตินาเดินตามมาด้วย แสดงว่าคนที่พี่เรนคุยด้วยตอนคุยโทรศัพท์กับผมก็เป็นพวกพี่เขาจริงๆ สินะ



“สวัสดีครับพี่ๆ” ผมยกมือไหว้ทักทายพวกพี่ตินาก่อนจะดึงกระเป๋าของพี่เรนมาถือเอาไว้เอง



“ตอนแรกพวกตินาจะไปดูด้วย แต่คิดว่าถ่ายในมอ” พี่เรนบอกผมเสียงแจ้วๆ วันนี้ใส่แว่นตากลมๆ ใหญ่ๆ ด้วย ยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่



“อ่อ ที่จริงจะไปด้วยกันก็ได้นะครับ เพราะพวกเพื่อนๆ ผมก็ไปกัน” ผมหันไปตอบกับพวกพี่ตินา



“ไม่ดีกว่า ยังไงพี่ก็ฝากเจ้านี่ด้วยแล้วกัน” พี่ตินาพูดพร้อมกับยกมือขึ้นยีผมพี่เรน



ผมหัวเราะก่อนจะพยักหน้ารับ พี่เรนนี่ดูเป็นที่รักที่เอ็นดูของคนในกลุ่มมากเลยนะ พวกพี่เขาคงเห็นพี่เรนเป็นน้องเป็นลูกเป็นหลาน มากกว่าเป็นเพื่อนนะ



“อย่างนั้นไปเถอะครับ เดี๋ยวจะมืดก่อน” ผมหันไปบอกกับพี่เรน เปิดประตูรถให้พี่เรนขึ้นไปนั่ง หันไปลาพวกพี่ๆ เขาอีกรอบแล้วเดินอ้อมมาขึ้นรถก่อนจะขับพาพี่เรนไปที่บ้าน



บ้านผมอยู่นนทบุรีครับ ขับรถไม่นานก็ถึงแล้วแต่ผมขี้เกียจขับรถไปกลับก็เลยขอที่บ้านมาอยู่หอแทน



“พี่เรนเตรียมชุดมาแล้วใช่ไหมครับ วันนี้คงต้องเปียกกันเยอะเลย” ผมหันไปถามในระหว่างรอสัญญาณไฟ



พี่เรนพยักหน้าหงึกหงักกับคำถามของผม “เอามาแล้วล่ะ”



“โอเคครับ ผมบอกม๊าให้เตรียมมื้อใหญ่ไว้ด้วยนะ” ผมพูดไปถึงม๊าของผม พี่เรนหันมามองผมตาโตทันทีที่ได้ยินแบบนั้น



“ม๊า... แม่ของกายน่ะเหรอ”



“ครับผม ใช่แล้วล่ะ”



“อ่า... แล้วพี่... แม่กาย ครอบครัว อือ... ง่า...” พี่เรนพูดปนกันมั่วไปหมด ฟังแล้วจับใจความไม่ค่อยจะได้



แต่ผมว่าผมรู้นะว่าพี่เรนเป็นอะไร น่าจะกังวลเรื่องที่ตัวพี่เขาจะได้เจอกับม๊าผมล่ะมั้ง เอาจริงๆ ผมบอกกับที่บ้านไปแล้วล่ะครับว่าผมมีแฟนแล้วก็คือพี่เรน ที่บ้านผมรู้เรื่องที่ผมชอบพี่เรนมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะครับ



เอาจริงๆ ตอนนั้นก็ไม่ได้ตั้งใจจะบอกหรอกครับ แต่พอดีม๊ามาเห็นรูปพี่เรนที่ผมถ่ายเอาไว้ ไม่ใช่แค่รูปสองรูปไงครับ มันมีเป็นคอลเลคชั่น แล้วใครเห็นก็ต้องนึกสงสัยทั้งนั้นแหละครับ ผมก็เลยเล่าให้ม๊าฟัง



ตอนแรกป๊ากับม๊าก็ทำใจไม่ค่อยได้หรอกครับ แต่ก็ไม่ถึงกับกีดกันแล้วก็ห้าม แต่ผมก็คอยเล่าเรื่องพี่เรนให้ป๊ากับม๊าฟังนะ อยากให้พวกท่านได้รับรู้ถึงความน่ารักของพี่เรน จนหลังๆ นี่ถามผมกันใหญ่ว่าผมได้จีบพี่เรนหรือยัง แล้วยิ่งพอรู้ว่าผมเริ่มจีบพี่เรนแล้วก็คอยถามตลอดว่าคบกันหรือยัง เมื่อไหร่จะพาพี่เรนมาที่บ้าน



“ทำไมเหรอครับ กังวลเรื่องที่คบกับผมเหรอ กลัวที่บ้านผมรับไม่ได้เหรอครับ”



“อ่ะ” พี่เรนสะดุ้ง แต่ก็พยักหน้ารับ “ก็... ใช่”



ผมเอื้อมมือไปจับมือของพี่เรนมากุมเอาไว้ เขย่ามือเบาๆ สลับกับบีบมือนิ่มๆ นั้น “สบายใจได้ครับ ม๊ากับป๊าผมไม่ว่าอะไรหรอก”



พี่เรนเม้มปากแน่นแต่ก็ยอมพยักหน้ารับ ผมยิ้มให้พี่เขา เลื่อนมือไปเล่นผมนุ่มของพี่เรนอย่างที่ชอบทำก่อนจะขับรถตรงไปที่บ้าน ใช้เวลาไม่นานก็ถึงบ้านผมครับ



บ้านของผมอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็ก แต่บริเวณบ้านกว้างครับ มีสวน มีต้นไม้เยอะ ม๊าผมเขาชอบ



“บ้านสวยจัง”



“แล้วบ้านพี่เรนเป็นยังไง” ผมหันไปถามบ้าง



“ก็... หลังไม่ใหญ่หรอก แต่ว่ามีบริเวณแบบนี้เหมือนกัน”



ผมยิ้ม ก่อนจะพยักหน้าให้พี่เรนลงจากรถ พวกไอ้เป้มาถึงแล้ว ผมเห็นรถพวกมันจอดอยู่ในที่จอดรถ แล้วก็ไม่ต้องให้เดาอะไรมาก พวกมันแม่งต้องยึดตัวม๊าผมเอาไว้แน่นอน ไม่อยากจะโม้นะครับแต่ม๊าน่ะทำอาหารอร่อยมาก ขนมก็อร่อย พวกไอ้เป้มันเคยได้กินบ่อยๆ พอเวลามาบ้านผมพวกมันถึงชอบยึดตัวม๊าเอาไว้



“ไปครับ พวกไอ้เป้คงรออยู่ข้างในกับม๊าผมแล้ว แวะไปหาม๊าก่อนแล้วจะได้เริ่มถ่ายรูปกัน” ผมหันไปหาพี่เรน ช่วยถือกระเป๋าให้รวมถึงรับหมีมาอุ้มเอาไว้ด้วย



พี่เรนดูประหม่าอย่างเห็นได้ชัด น่ารักดีนะครับ เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกดีใจ เพราะถ้าพี่เรนไม่คิดหรือไม่รู้สึกอะไรกับผมเลยคงไม่ประหม่าหรอกที่จะได้เจอม๊า แต่พี่เรนก็คิดว่าตัวเองเป็นแฟนผม เป็นคนรักของผม ถึงได้มีท่าทีประหม่าแบบนี้



ผมอุ้มหมีด้วยมือข้างเดียว อีกข้างก็คว้ามือพี่เรนมากุมเอาไว้ก่อนจะพาเข้าไปในบ้าน



“ม๊า~ ม๊าคร้าบบบบ” ผมตะโกนเสียงลั่น



“สัสกาย! เสียงดังนะมึงน่ะ” ไอ้เพื่อนไม้ตัวดีโผล่หน้ามาจากในครัว



“สลัด! บ้านกูไหมล่ะ กูจะเสียงดังแค่ไหนก็~ ด้าย~” ตะโกนใส่หน้าแม่งเลย



“เสียงดังกันจริงเชียว” มาแล้วครับม๊าคนสวยของผม



“ม๊า~ สวัสดีคร้าบ” ผมเข้าไปคลอเคลียม๊าก่อนจะผละออก นานไม่ได้ครับอุ้มหมีอยู่ “นี่ๆ พี่เรนครับม๊า พี่เรนนี่ม๊าผมเอง”



ผมแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน พี่เรนยกมือไหว้ม๊าผมทันที “ส สวัดสีครับ”



“สวัสดีจ้ะ นี่สินะพี่เรนของเราน่ะ น่ารักจริงๆ ด้วยนะ” ม๊าหันมาชมพี่เรนกับผม เห็นไหมล่ะ ผมบอกแล้ว! ใครเห็นพี่เรนก็ต้องรักด้วยกันทั้งนั้นแหละ



ส่วนพี่เรนยืนแก้มแดงอยู่ครับ คงเขินที่โดนม๊าผมชม ถ้าอยู่กับผมสองคนคงร้องงื้อ~ ออกมาแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ



“นี่จะกินอะไรกันก่อนไหม” ม๊าถาม



“พี่เรนหิวหรือยังครับ” ผมหันไปถามพี่เรนแทน พี่เขาสะดุ้งก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ เห็นแบบนั้นผมเลยหันไปคุยกับม๊า “อย่างนั้นเอาไว้ก่อนดีกว่าครับ รอป๊าด้วย พวกผมออกไปถ่ายรูปก่อนดีกว่า เดี๋ยวมืดแล้วจะถ่ายไม่สวย



“โอเค เดี๋ยวม๊ายกพวกน้ำ ขนมไปให้ ถ่ายในสวนกันใช่ไหม”



“ครับผม” ผมตอบ ก่อนจะหันไปเรียกเพื่อนตัวดีทั้งหลาย “ไปพวกมึง ทำงานก่อนโว้ย ไปครับพี่เรน เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่าจะถ่ายอะไรยังไงบ้าง”



ผมเดินนำพี่เรนออกไปที่สวนข้างๆ บ้าน ไม่ได้กว้างใหญ่อะไรหรอกครับ แต่ก็มีทั้งต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้เล็ก แล้วก็พื้นที่โล่งๆ น่าจะถ่ายได้หลายมุมอยู่



ผมให้พวกไอ้ไม้เตรียมสายยาง ส่วนผมจะบรีฟงานกับพี่เรนก่อน พี่เรนไม่ใช่มืออาชีพ แล้วก็ไม่ชอบถ่ายรูปด้วยน่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับพี่เรน



“พี่เรนครับ ภาพที่ผมอยากได้น่ะคือภาพตัวพี่เรนเอง ไม่ต้องกังวลหรือเกร็งนะครับ ปล่อยตัวตามสบายเลย เดี๋ยวพวกไอ้ไม้จะใช้สายยางฉีดทำเป็นน้ำฝนให้” ผมเดินไปคุยกับพี่เรนที่ยืนมองพวกเพื่อนๆ ผมเตรียมสถานที่กันอยู่ “ผมจะถ่ายพี่เรนเล่นน้ำก่อน แล้วเดี๋ยวจะให้หมีเข้าฉากด้วย คงจะต้องทนเปียกทนหนาวหน่อย... ไหวใช่ไหมครับ”



“อ่า... พี่เกร็งๆ...” พี่เรนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เลย งุ้ย! น่ารักอ่ะ แต่ไม่ใช่สิ ไม่ใช่เวลามาเพ้อนะไอ้กาย!



“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องเกร็งนะ ทำตัวตามสบายเหมือนเวลาผมชวนพี่เรนไปถ่ายรูปเล่นกันไง อันนี้ก็เหมือนกัน เนอะ”



พี่เรนพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย น่ารักจริงๆ วุ้ยแฟนกูเนี่ย



“โอเคครับ เรามาลองกันเนอะ ไม่ต้องกังวลนะ” ผมบอก รับหมีมาจากพี่เรนแล้วเอาวางไว้ในตะกร้าที่พวกไอ้ไม้หยิบออกมา



เอาหมีวางไว้ในนี้จะได้ไม่เที่ยววิ่งไปไหน แต่ตะกร้าก็ไม่ได้สูงหรอกครับ เตี้ยๆ แต่อย่างน้อยก็มีที่มีทางให้มันหน่อย เดี๋ยวหมีมันน้อยใจ



ผมเดินไปเตรียมกล้องของตัวเอง เอาแฟลชแยกมาปรับก่อนจะหยิบขาตั้งมาวางเอาไว้ไม่ลืมใส่อุปกรณ์กันน้ำเอาไว้ด้วย ทดสอบแสงด้วยการกดถ่าย หันไปพยักหน้าให้พี่เรนมายืนตรงกลางที่พวกเราเตรียมเอาไว้ พี่เรนยังดูเกร็งๆ แต่ผมเชื่อครับ เดี๋ยวพี่เรนก็ปรับตัวได้ ผมส่งสัญญาณให้ไอ้ไม้กับไอ้เป้ที่รับผิดชอบทำฝนจากสายยางให้มันเปิดน้ำเพื่อฉีดทำฝนได้เลย



พี่เรนสะดุ้งน้อยๆ ตอนที่น้ำตกลงมาโดนตัว ผมเก็บภาพพี่เรนเอาไว้ทุกภาพ ไม่ว่าจะเป็นตอนสะดุ้ง ตอนยืนเกร็งๆ อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะนั่น... ก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของพี่เรน ความเป็นธรรมชาติที่ออกมาจริงๆ จากข้างในไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ






************************************************
หายไป 1 เดือนเต็ม ขอโทษคร้าบบบ ไม่รู้ว่าทุกคนลืมพี่เรนน้องกายกันไปหมดหรือยัง ฮืออออ ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ครับผม เพราะฟางหายไปนานจริงๆ ถึงแม้จะมีเหตุผลในการหายตัวไปก็เถอะค่ะ จากนี้ไป... จะพยายามนะคะ จะพยายามไม่หายไปไหนนานๆ อีกแล้วกันเนอะ

มาที่เนื้อเรื่องค่า ตอนนี้คือก็ไม่มีอะไรมากนะ แค่น้องกายพาพี่เรนไปบ้าน พี่ได้เจอม๊า ได้ฝากตัวเป็นสะใภ้(?)แล้วแค่นั้นเอง วันนี้น้องกายเขามาแบบมีสาระนะเออ ทำงานค่ะทำงาน น้องเขาพาพี่มาทำงาน ส่วนพี่เรนจะรู้ใจตัวเองแล้วหรือยังนี่ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปนะคะ อีกไม่ใกล้ไม่ไกลก็คงต้องโบกมือลาเรื่องนี้เป็นเรื่องต่อไปแล้วล่ะค่า

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 18 • [50%] l P.10 04-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-07-2017 23:05:22
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 18 • [50%] l P.10 04-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 05-07-2017 00:49:30
ขอบคุณค่ะฟาง  :กอด1: กลับมาให้หายคิดถึงแล้ว พี่เรนรู้จักม๊าแล้ว ดีใจด้วยจ้า ถ่ายแบบสู้ๆนะพี่เรน อยากเห็นแล้ว
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 18 • [50%] l P.10 04-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: Cacao ที่ 11-07-2017 00:24:59
เจอแบบน้องกายพี่เรนไม่ชอบให้มันรู้ไปสิ! ทั้งเอาอกเอาใจดูแลทุกอย่าง
นี่ยังหลงจงอยากมีน้องกายเป็นของตัวเอง ชอบพี่เรนที่มึนๆตลอดเวลา
แต่ก็ยังแอบเขินเนอะ 555 เขินแบบงงๆ แบบไม่รู้ว่าตัวเองเขิน และเขินอะไร
อู้ยยย เป็นพี่หน่อยละก็ กระโดดจูบน้องกายเองแล้วค่ะ 555

รอตอนต่อไป กำลังกรุบกริบเลย ฝากเนื้อฝากตัวกับแม่แฟนนาจา
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 18 • [100%] l P.10 12-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 12-07-2017 23:33:08
(https://68.media.tumblr.com/7a018cddc58a79ac159a3f6dc8d153ba/tumblr_onn5kj4uoK1r9f1l9o2_500.gif)
สบายใจได้ครับ ม๊ากับป๊าผมไม่ว่าอะไรหรอก
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 18.2 •




• • • ต่อค่ะ 100% • • •





พี่เรน



ผมได้แต่ยืนหันซ้ายหันขวาอย่างไม่รู้จะทำยังไง ก่อนจะสะดุ้งเมื่อน้ำจากสายยางตกลงมาโดนตัว หันกลับไปมองก็เห็นว่าเพื่อนน้องกายกำลังฉีดน้ำจากสายยางขึ้นไปบนฟ้าจนมันตกลงมาเหมือนกับฝน



หันไปมองน้องกายที่ถือกล้องอยู่ ผมเกร็งมากทีเดียวเพราะปกติแล้วผมไม่ชอบถ่ายรูป แม้จะยอมให้น้องกายถ่ายรูปผมเล่นบ่อยๆ ก็เถอะ แต่มันไม่เหมือนกันนี่นา... อันนั้นรู้ว่าถ่ายเล่นๆ แต่อันนี้น้องเอาไปส่งเป็นโปรเจคใหญ่เลยนะ ผมเลยค่อยข้างกังวลมากทีเดียว



“พี่เรนครับ ปล่อยตัวตามสบายนะครับ ไม่ต้องกังวลอะไร” น้องกายเงยหน้าจากกล้องที่ถืออยู่ขึ้นมาบอกผม



ผมได้แต่พยักหน้าแต่ก็ยังเกร็งอยู่ดี น้ำที่ตกลงมาโดนตัวเยอะขึ้นจนผมรู้สึกเปียกไปหมด ผมชอบน้ำนะ ชอบน้ำ ชอบฝน มันให้ความรู้สึกสดชื่นดี บ้านน้องกายก็ต้นไม้เยอะ พอมีน้ำแบบนี้กลิ่นไอดิน กลิ่นเย็นๆ ก็ลอยฟุ้งไปทั่ว ผมยื่นแขนออกไปรองรับน้ำที่ตกลงมา มองหยดน้ำที่ตกลงบนมือแล้วก็แตกออกก่อนจะยิ้มออกมา



“อย่างนั้นแหละครับ แค่เป็นตัวของตัวเอง” น้องกายพูด



ผมหันไปมอง เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากกล้อง นิ้วของน้องยังคงกดอยู่ที่ชัตเตอร์ ผมเพิ่งสังเกต เวลาน้องถ่ายรูปน้องดูจริงจังมาก ต่างจากเวลาปกติที่ชอบยิ้มร่า แล้วก็... ชอบทำให้ผมคันแก้มแปลกๆ



ผมเผลอมองน้องกายที่ยืนถือกล้องอยู่ ไม่แน่ใจว่ามองนานแค่ไหนแต่ก็มองอยู่แบบนั้น น้องกายในตอนนี้ดู... ยังไงล่ะ ดึงดูดสายตาจนละไปไหนไม่ได้ แล้ว... ผมก็รู้สึกคันๆ ที่แก้มอีกแล้ว



ไม่รู้ทำไมแต่ผมรู้สึกว่าน้องกายกำลังมองผม มองผ่านเลนส์ตัวนั้นที่น้องเขาถืออยู่ แม้จะรู้สึกคันๆ แก้มจนอยากจะหันหน้าไปทางอื่น แต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่มองน้องเขาอยู่แบบนั้น จนรู้สึกว่าเริ่มมองไม่ชัดเพราะน้ำเกาะอยู่เต็มแว่น ผมเลยถอดแว่นออกมาเช็ดก่อนจะสวมกลับไปอีกรอบ ยิ้มออกมาเมื่อเห็นน้องหมีวิ่งดุกดิ๊กมาหา



น้องหมีเป็นแมวที่ชอบน้ำมาก ไม่กลัวน้ำเหมือนแมวตัวอื่นๆ เพราะอย่างนั้นถึงได้วิ่งมาหาผมเพราะผมกำลังเล่นน้ำอยู่



“ฮึบ!” น้องหมีตัวขาวๆ กลมๆ หายไปแล้ว เหลือแต่น้องหมีตัวแบนๆ เพราะขนลูบแนบลำตัวไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นน้องหมีของผมก็น่ารักที่สุดในโลกเลย



ผมทำหน้าเหวอตอนที่น้องหมีดิ้นจนหลุดจากมือของผม พยายามจะตามจับน้องหมีที่วันนี้ดูคึกมากเป็นพิเศษ เล่นสนุกกับแมวของตัวเองจนผมลืมไปเลยว่ากำลังเป็นแบบให้น้องกายถ่ายรูป



ผมหัวเราะตอนที่เห็นน้องหมีลื่นล้ม ก่อนจะตามไปอุ้ม น้องหมีร้องแง๊วๆ เหมือนจะฟ้อง



“ล้มเลย น้องหมีล้มเลย ไม่เจ็บน้า โอ๋ๆ นะ” ผมกอดน้องหมีที่ตัวเปียกลู่เอาไว้ โยกไปมาเหมือนกล่อมเด็ก ก่อนจะยิ้มเมื่อน้องหมีแลบลิ้นเลียที่มือของผม



“อ่ะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองเมื่อไม่รู้สึกถึงน้ำที่ตกลงมาโดนตัวแล้ว น้องกายกำลังกางร่มให้ผมอยู่



“พอแล้วครับ นานกว่านี้เดี๋ยวไม่สบาย” น้องกายพูดใช้ผ้าขนหนูคลุมหัวผมเอาไว้ ก่อนจะแย่งน้องหมีไปส่งให้น้องแม็ครับไป “กูฝากเช็ดตัวเช็ดขนให้หมีด้วย”



“เออ เดี๋ยวจัดการให้” น้องแม็คใช้ผ้าขนหนูห่อน้องหมีก่อนจะพาเดินเข้าไปในบ้าน



ผมเพิ่งสังเกตว่าตอนนี้ฝนตกจริงๆ แล้ว พวกเพื่อนๆ น้องกายก็ขนของเข้าบ้านกันไปเกือบหมด



“แล้ว... งานเป็นยังไงบ้าง พี่มัวแต่เล่นกับหมีอย่างเดียวเลย” ผมถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าผมมาทำงานให้กับน้องกาย



“เรียบร้อยแล้วครับ เอาไว้ผมแต่งรูปอะไรเรียบร้อยจะส่งให้พี่เรนดูนะ สวยมากทุกรูปเชื่อมือผมได้เลย”



น้องกายยิ้มกว้าง แบบที่ผมเองก็เผลอยิ้มตามแล้วก็พยักหน้ารับ “อื้ม!”



“ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันครับ เดี๋ยวไม่สบายไปเสียก่อน” น้องกายดันผมให้เดินกลับเข้าไปในบ้าน ผมใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมเช็ดตัวก่อนจะเอาห่อตัวเองไว้เพราะเริ่มรู้สึกหนาวแล้ว



“รีบไปอาบน้ำกันลูก เดี๋ยวม๊าชงนมอุ่นๆ เอาไว้ให้” แม่ของน้องกายพูดตอนผมกับน้องโผล่เข้าไปในบ้าน



“ครับม๊า ไปครับพี่เรน” ผมเดินตามน้องกายที่จูงมือผมขึ้นมาบนชั้นสอง



น้องให้ผมเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน “แต่กายก็เปียกเหมือนกันนะ”



“ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมไปใช้ห้องน้ำห้องม๊าได้ พี่เรนรีบเข้าไปอาบน้ำได้แล้ว” น้องดันหลังผมให้ตรงไปที่ห้องน้ำ “ถ้านับถึงสามยังไม่เข้าไปนะ ผมจะช่วยพี่เรนอาบน้ำ หนึ่ง...”



ไม่ต้องรอถึงสามผมก็แทบจะวิ่งเข้ามาในห้องน้ำ ได้ยินเสียงน้องกายหัวเราะด้วย ผมเลยหันไปย่นจมูกใส่ แต่ย่นใส่ประตูห้องน้ำนะ


อ่า... คนในกระจกนั่นใคร ทำไมหน้าแดงจัง



แถมหัวใจก็เต้นเร็วด้วย น้องกายแกล้งผมอีกแล้วสินะ ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ อีกแล้ว



ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พอออกจากห้องน้ำไปก็เจอน้องกายนั่งสำรวจกล้องอยู่บนเตียง ผมยังเปียกลู่อยู่เลยไม่ยอมเช็ด



“พี่เรนเช็ดผมให้แห้งด้วยครับ เดี๋ยวไม่สบาย” เงยหน้ามาบอกผม แล้วก็ก้มลงไปเช็ดกล้องต่อ



ตัวเองยังไม่ยอมเช็ดผมเลย! ฮึ่ม



“กล้องเปียกเหรอ”



“นิดหน่อยครับ อีกอย่างผมก็เอามาเช็ดทำความสะอาดเป็นปกติอยู่แล้วด้วย แล้วทำไมพี่เรนไม่เช็ดผมให้แห้งเนี่ย”



อ่ะ!



น้องกายดึงผมไปนั่งข้างๆ วางกล้องเอาไว้บนเตียงก่อนจะคว้าผ้าขนหนูที่คอของผมมาเช็ดผมให้ “กายก็ยังไม่ยอมเช็ดผมเลย”



“เช็ดให้ผมหน่อยสิ”



ผมเม้มปากตอนที่น้องยื่นหน้ามาใกล้ รู้สึกแก้มร้อนๆ อีกแล้ว แต่ก็ยอมยกมือขึ้นเช็ดผมให้ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเราเช็ดผมให้กันอยู่ แถมน้องกายก็อยู่ใกล้ผมมากเลย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้เห็นน้องใกล้ๆ แบบนี้ ปกติเวลาน้อง... อ่า... มาหอมแก้ม ห หรือ จ จุ๊บ! ผมไม่ค่อยกล้ามองเท่าไหร่



น้องเองก็มองผมอยู่ แถมยังยิ้มให้ด้วย งือ... หน้าผมร้อนมากๆ มากๆ แบบมากๆ เลยด้วย รู้สึกว่าถ้ายังมองหน้าน้องต่อหน้าผมต้องไหม้แน่ๆ เลย เลยได้แต่ก้มหน้าลง



“อ๊ะ”



ผมถูกคว้าตัวไปกอดจนแน่น มือสองข้างมันดูเกะกะไปหมดจนไม่รู้จะเอาไปวางไว้ตรงไหน



“ผมน่ะ... รักพี่มากขึ้นทุกวันๆ เลยรู้ไหม”



น้องกอดผมแน่นมาก แต่ก็น่าแปลกที่ผมไม่ได้รู้สึกอึดอัดกับอ้อมกอดของน้องกาย



“พี่ถามได้ไหม...ทำไมถึง... อือ... ช ชอบพี่”



“ผมน่ะชอบพี่เรนตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลย ผมน่ะไม่ได้เพิ่งชอบพี่นะ แต่ผมชอบพี่มาเป็นปีแล้วนะ” ผมได้แต่ทำตาโตตอนที่ฟัง แล้วก็รู้สึกว่าแก้มตัวเองชักจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ แล้วด้วย



“งืออออออ”







น้องกาย



ผมอมยิ้มตอนมองพี่เรนที่หน้าแดงก่ำไปหมดแล้วตอนนี้ เห็นแล้วอยากฟัดมากเลย คนอะไรทำไมไม่ว่าจะทำอะไรก็น่ารัก น่าเอ็นดูไปหมดก็ไม่รู้



“ผมน่ะ เห็นพี่ครั้งแรกตอนวันแบบนี้แหละ” ผมบอก ชี้ไปที่หน้าต่างที่สายฝนยังคงตกกระหน่ำไม่หยุด “ผมเจอพี่วันฝนตก พี่น่ะเป็นคนเดียวที่นั่งตากฝนเพื่อหาลูกแมวที่ส่งเสียงร้องอยู่”



ผมยังจำได้อยู่เลย วันแรกที่ผมเห็นพี่เรน วันที่ฝนตกหนัก เสียงของลูกแมวร้อง และคนแปลกๆ ที่เดินตากฝนไปนั่งที่พื้นฟุตบาทแล้วก็อุ้มลูกแมวมา ภาพแรกที่ผมถ่ายพี่เรนเอาไว้ แล้วก็เป็นภาพแรกที่ผมรู้สึกว่า... ผมถ่ายได้ดีที่สุด



“แล้วผมก็บังเอิญเจอพี่อีกเรื่อยๆ ไหนจะห้องที่เราอยู่ตรงข้ามกัน ผมน่ะ... คอยมองพี่มาตลอดนั่นแหละ ตอนแรกก็แค่คิดว่าพี่น่ารักดี แต่พอมองไปมองมาก็กลายเป็นชอบไปตอนไหนก็ไม่รู้ พอรู้ตัวอีกที...”



ผมมองพี่เรนที่เอาแต่ก้มหน้า แต่แก้มแดงๆ กับหูแดงๆ ก็บอกผมได้ว่าพี่เรนกำลังเขินมากแค่ไหน



“ผมก็รักพี่... จนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว”



“งืออออออ”



พี่เรนยกมือปิดหน้าตัวเองพยายามจะเดินหนีผม แต่ผมก็คว้าเอวเขาเอาไว้ก่อน รั้งเข้ามาใกล้แล้วกอดเอาไว้แน่นๆ พี่เรนเหมือนตุ๊กตา... ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มน่ากอดเป็นที่สุด แล้วผมก็ชอบกอดพี่เรนแบบนี้ด้วย มันให้ความรู้สึกดีสุดๆ ไปเลยล่ะ



“พ พอแล้ว” พี่เรนพูดเสียงสั่น เพิ่มความน่าเอ็นดูเข้าไปอีกหลายเท่าตัว เห็นแล้วอยากฟัดอ่ะ ฟัดได้ไหม



ได้สิ ก็เป็นแฟนผมแล้วนี่เนอะ ผมจะฟัดแฟนตัวเองผิดตรงไหน



“งือออออ” พี่เรนร้องออกมาเมื่อผมก้มลงไปหอมแก้มฟอดใหญ่



อย่างฟินอ่ะครับ พี่เรนอาบน้ำห้องผมใช้สบู่กลิ่นเดียวกับผม แต่ทำไมโคตรหอมเลย หอมกว่าผมอีก อ้ากกกก ไอ้กายฟิน อยากฟัดให้จมเตียงเลย จับพี่เรนโยนลงเตียงเลยได้ไหม คร่อมเลยได้หรือเปล่า อยากจะเห็นหน้าแดงๆ ของพี่เรนให้ชัดๆ



“พี่เรนน่ารัก รักพี่เรนนะ” ผมบอก พลางมองพี่เรนที่นอนอยู่ใต้ตัวผม ถึงแม้ท่าทางของเราจะสุ่มเสี่ยง แต่ไม่มีอะไรเกินเลยแน่นอน



มีใครให้มากกว่าซอสมะเขือเทศสุดเข้มข้นไหม ตอนนี้แก้มพี่เรนแดงมากเลย แฟนผมนี่ขี้เขินเหมือนกันนะเนี่ย



“แล้วพี่เรนล่ะ... เริ่มชอบผมบ้างหรือยัง” ผมถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง อยากจะรู้ว่าความรู้สึกของพี่เรนที่มีต่อผมนั้นเพิ่มขึ้นบ้างหรือยัง แล้วเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหนกัน



พี่เรนเม้มปาก พร้อมทั้งหลบสายตาไม่ยอมมองหน้าผมด้วย ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะ ตามไปมองหน้าพี่เรนต่อ



“ว่ายังไงครับ เริ่มชอบผมบ้างหรือยัง” ใช้จมูกคลอเคลียแก้มแดงๆ หอมๆ นั้นอย่างรักใคร่ แต่ไปๆ มาๆ ก็เริ่มใคร่... แก้มพี่เรนอย่างหอมเลยครับ



“... ลุกก่อน” พี่เรนพูดเสียงเบาพร้อมกับดันไหล่ผมด้วย ไม่รู้ว่าพี่เรนแรงน้อย หรือไม่ออกแรงกันแน่ ผมถึงไม่ค่อยรู้สึกถึงแรงผลักของพี่เขาเลย “งืออออ ลุกก่อน”



พอผมไม่ยอมลุกก็ส่งเสียงงอแงทันที ผมยิ้มขำก้มลงหอมแก้มนิ่มๆ หอมๆ ไปฟอดใหญ่สองฟอดแล้วก็ยอมขยับตัวออกจากพี่เรน คว้ามือพี่เขามากุมเอาไว้หลวมๆ



“พี่ถามอะไรหน่อยสิ...” พี่เรนพูด “ถ้า... ถ ถ้าสมมติว่าพี่ไม่ได้คิดอะไรกับกาย... กายจะทำยังไงเหรอ อ่า... คือพี่สมมตินะ” พี่เรนบอกเสียงรัวเหมือนกลัวว่าผมจะคิดมากแล้วก็เข้าใจผิดไป



“ผมก็ไม่ทำยังไงหรอกครับ ถ้าพี่เรนยังยอมคบกับผมต่อผมก็จะพยายามให้มากขึ้น มากขึ้นเพื่อทำให้พี่เรนรักผมให้ได้ แต่ถ้าพี่เรนไม่คบกับผม ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรักพี่เรนแบบนี้ไปเรื่อยๆ นั่นแหละครับ” ผมตอบ



ผมคิดและรู้สึกอย่างที่ตอบพี่เรนไปจริงๆ ถ้าผมมีโอกาส ผมก็จะพยายามอย่างหนักเพื่อให้พี่เรนชอบผม แต่ถ้าไม่มีโอกาสผมก็แค่ปล่อยพี่เรนไปแล้วก็รักพี่เรนต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดมันเป็นแบบนั้นจริงๆ แม้ว่าผมจะต้องอยู่อย่างเหงาๆ ผมก็คงเลือกที่จะรักพี่เรน ไม่เลิกรักง่ายๆ หรอกครับ



“พี่ก็... คิดนะ แต่พี่ก็ไม่เห็นจะเข้าใจเลยว่าทำไมน้องกายถึงมาชอบพี่ได้” พี่เรนหันมามองผม “กายเป็นถึงเดือนคณะ หน้าตาก็ดี คงมีคนมาชอบตั้งเยอะ แล้วดูพี่สิ เฉิ่มก็เฉิ่ม เชยก็เชย ใส่แว่นหน้าเตอะ ไม่เห็นมีอะไรให้น่าชอบเลย”



“แต่เพราะพี่เรนเป็นพี่เรนไง ผมถึงชอบ ผมชอบที่พี่เรนใส่แว่นหนาเตอะ ผมชอบที่พี่เรนปล่อยผมหน้าม้าบังหน้าบังตา” ผมตอบ ใช้มือจับไปที่ผมหน้าม้าของพี่เรนที่มันเริ่มยาว “ไม่มีใครเห็นว่าพี่เรนที่ผมชอบน่ะ น่ารักแค่ไหน”



“ผมชอบพี่เรนที่ทุกอย่างคือพี่เรน”



คำตอบแค่นี้เพียงพอไหมครับ ผมไม่ได้ชอบพี่เรนเพราะพี่เรนน่ารัก แต่ผมชอบทุกอย่างที่เป็นพี่เรน ชอบความโก๊ะ ความซุ่มซ่าม ความเป็นเด็กเนิร์ด ชอบทุกอย่างจริงๆ



“พี่น่ะ...”



ก๊อกๆ ก๊อกๆ



“สัสกาย พี่เรน ม๊าเตรียมมื้อเย็นเสร็จแล้ว ลงไปกินข้าวกัน”



เสียงไอ้ไม้ตะโกนมาพร้อมกับเสียงเคาะประตูห้อง ทำให้พี่เรนที่กำลังจะพูดอะไรสักอย่างชะงักไปทันที ผมนี่นึกเคืองมันชิบหาย เข้าใจมาขัดจังหวะชะมัดเลย



“ไอ้กาย มึงได้ยินไหมเนี่ย” มันตะโกนมาอีกรอบเมื่อผมกับพี่เรนไม่มีใครตอบอะไรกลับไป “ไอ้กายโว้ยยยยยย”



“เออ! กูได้ยินแล้วไอ้สลัด!” ด่ามันไปครับ หงุดหงิด มาขัดจังหวะซะได้



ผมหันไปหาพี่เรนที่นั่งห้อยขาอยู่บนเตียงก่อนจะชวนลงไปข้างล่าง “ไปครับ ไปกินข้าวกันดีกว่า”



ผมชะงักเมื่อรู้สึกว่าเสื้อของตัวเองโดนดึงอยู่แล้วคนที่ดึงก็คงไม่พ้นคนรักของผมนั่นแหละครับ ผมหันไปมองอย่างจะถามว่ามีอะไรหรือเปล่า แต่พี่เรนไม่ตอบอะไรนอกจากออกแรงดึงผมมากขึ้นจนผมต้องขยับไปใกล้ๆ สุดท้ายก็นั่งลงข้างพี่เรนอีกรอบนั่นแหละครับ



“มีอะไรหรือเปล่าครับ”



พี่เรนยังคงนิ่ง ริมฝีปากเม้ม ท่าทางเหมือนคนที่กำลังคิดแล้วก็ตัดสินใจอะไรอยู่ ดูเคร่งเครียดแต่ในสายตาผม พี่เรนก็ยังน่ารักเสมอนั่นแหละครับ



จุ๊บ!



“พี่ก็ชอบกายนะ”




แล้วพี่เรนก็วิ่งออกจากห้องของผมไป



ส่วนผมก็ได้แต่นั่งนิ่ง สมองกำลังทำงานประมวลผลเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ เหมือนได้ยินเสียงสองเสียง เสียงแรกเป็นเสียงจุ๊บ แน่นอนว่าผมไม่ได้จุ๊บพี่เรน แล้วในห้องมีแค่ผมกับพี่เขา ถ้าผมไม่ได้จุ๊บ ก็แสดงว่าพี่เรนจุ๊บผม



ส่วนอีกเสียง... มันเบามากจริงๆ เบาแบบเบ้าเบาเลยครับ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเสียงที่เบาขนาดนั้นผมกลับได้ยินอย่างชัดเจน มันเป็นประโยคที่ฟังแล้วลื่นหูมากเลยทีเดียว



แล้วกว่าสมองของผมจะประมวลคำตอบเสร็จ...



พี่เรนจุ๊บแก้มผม! แถมยังบอกชอบผมด้วย!!



ผมตะโกนโวยวายลั่นห้อง คว้าหมอนมากอดแล้วฟัดๆ ไปที่หมอน ขึ้นไปกลิ้งสองสามตลบอยู่บนเตียง ปากงี้ฉีกยิ้มถึงหู โคตรจะมีความสุขเลยล่ะครับ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พี่เรนพูดอะไรแบบนี้ เพราะปกติพี่เขาจะไม่ค่อยพูดอะไร โดยเฉพาะเรื่องควารักของผมกับพี่เรน แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นละคุยเก่งมาก



นี่เป็นวันแห่งประวัติการณ์เลยนะเนี่ย



ผมเชื่อว่าผมยิ้มไม่หุบเลยตั้งแต่ออกจากห้อง จนเจอป๊า แนะนำพี่เรนให้ป๊ารู้จักอีกรอบ แล้วก็กินข้าว พูดคุยกับพวกไอ้เป้ จนพวกมันกลับกันไปหมดแล้ว เหลือผม ป๊า แล้วก็ม๊านั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ผมก็ยังไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย



มันคือความสุขครับ ความสุขมันล้นมากจนแสดงออกทางสีหน้าหมดแบนี้ แล้วไหนจะมีแก้มแดงๆ ของพี่เรนประกอบฉากเพิ่มความสุขเข้าไปอีก



ไอ้กายโคตรจะมีความสุขเลยโว้ยยยยยยยยยย!!!







************************************************
ได้กลิ่นอะไรเหม็นๆ ไหมคะ นี่เหม็นคนมีความรักมากเลยค่ะ หลังจากที่น้องกายรอคอยมาแสนนาน สุดท้ายก็ได้คำตอบจากพี่เรนแล้วเนอะว่าอะไรยังไง ซึ่งก็ปล่อยเจ้ากายเพ้อไปค่ะ อย่าไปขัดความสุขนางเลย ฮ่าๆๆ อ๋อ... เรื่องนี้ไม่มี NC นะคะ ใสๆ จ้า ใสๆ ไร้ดราม่า ของจริง แล้วก็จะจบแล้วด้วย

ตอนแรกว่าไม่เกิน 25 ตอน ไปๆ มาๆ จะไม่ถึง 21 ตอนแล้วจ้า จะจบแล้วยังไงก็ฝากติดตามจนจบเลยเนอะๆๆ แล้วเจอกันตอนหน้าค่า

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 18 • [100%] l P.10 12-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-07-2017 00:32:46
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 18 • [100%] l P.10 12-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 13-07-2017 06:03:23
โอ้ยยย อิจน้องกายจัง พี่เรนน่ารัก
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 18 • [100%] l P.10 12-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 13-07-2017 10:02:29
งืออออออออออออ ทำไมน่าฟัดอย่่างนี้นะพี่เรน หมั่นไส้เจ้ากายจริงๆ ขอบคุณค่ะฟาง :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 18 • [100%] l P.10 12-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 13-07-2017 10:49:57
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 18 • [100%] l P.10 12-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-07-2017 12:42:43
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 18 • [100%] l P.10 12-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 13-07-2017 12:51:56
น้องเรนน่ารักจังเลย

 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 19 • [50%] l P.10 21-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 21-07-2017 23:08:17
(http://pa1.narvii.com/6445/857911385bd9f0fddfac324682c94a6e4b2c8377_hq.gif)
“ช... ชอบ... ชอบนะ”
Ramin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 19 •
 



พี่เรน
 



งืออออออออ



ผมโดนแกล้ง ใครก็ได้ช่วยผมด้วย น้องกายกำลังแกล้งผม แกล้งผมหนักด้วย ผมได้แต่เดินหนีน้องกายไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะเดินวนอยู่ในห้องนอนของเขาก็เถอะ งือออ... เวลานี้ผมควรจะกลับไปนอนที่หอแล้วสิ ก็... ม แม่กับพ่อ... ของน้องน่ะ หลังจากกินข้าวมื้อเย็นเรียบร้อยก็ชวนให้ผมอยู่ค้างด้วยกันที่บ้าน อีกอย่าง... น้องกายก็ตั้งใจจะค้างที่บ้านด้วย ไม่อย่างนั้นน้องก็ต้องขับรถไปส่งผมที่ห้องแล้วก็กลับมาที่บ้านอีก อีกอย่าง ผมก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง ก็เลยเผลอพยักหน้าตอบรับไป



น้องหมีชิ่งหลับไปนานแล้ว แต่ผมกับน้องกายน่ะยังไม่หลับ หลังจากที่กินข้าวเสร็จ อยู่คุยกับพ่อแม่น้องสักพักก็ขึ้นมาข้างบน แล้วพอมาถึงน้องก็กักตัวผมแล้วถามเรื่องที่ผมพูดเมื่อตอนก่อนจะลงไปกินข้าวทันที



ทำไมต้องมาถามย้ำด้วยล่ะ!



“พี่เรน... จะเดินหนีผมไปไหนละครับ” ผมยกมือปิดหู เม้มปากไม่ยอมพูดอะไร พร้อมกับเดินหนีน้องกายไปด้วย “พี่เรนคร้าบบบบ”



“งืออออ อะไรอ่ะ” ผมหันไปมอง เดินไปอีกฝั่งของห้อง น้องกายก็เดินตามมา



“มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิครับ” ไม่ต้องมายิ้มเลยนะ วันนี้... ไม่สิ เย็นนี้น้องกายจะยิ้มเยอะเกินไปแล้วนะ “มาจุ๊บแก้มผม มาบอกชอบผมแล้วจะเดินหนีผมแบบนี้ไม่ได้นะ ผมเสียหายนะคร้าบ”



ผมทำตาโตใส่ เบ้ปากใส่ด้วย เสียหายอะไรกันแล้วทีน้องมา...ห หอมแก้มผม จ จูบผมล่ะ ผมไม่เสียหายหรือยังไงกัน งือออ!! ผมจะงอนแล้วนะ



“โอ๋ๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ แต่มาคุยกับผมก่อนครับ เร็วๆ” ผมมองมือที่ยื่นมาตรงหน้า ลังเลว่าจะยื่นไปจับดีไหม แต่สุดท้ายก็ยื่นมือไปจับมือของน้องกาย



“อ่ะ!”



ผมร้องออกมาทันทีเพราะเพียงแค่พอยื่นมือไปจับน้องก็ดึงผมเข้าไปหาแล้วก็กอดเอาไว้ทันทีจนผมแทบจะจมลงกับอกของน้อง



“พี่เรน... พูดจริงใช่ไหม ไม่ได้หลอกผมเล่นนะ” ผมได้แต่ซุกหน้ากับอกของน้อง



“ค ใครเขาล้อเล่นกันเรื่องแบบนี้น่ะ” ผมตอบเสียงเบา อยากจะหายไปจากตรงนี้จริงๆ นะ น้องกายแกล้งผมหนักมากเลย หน้าผมร้อนไปหมดแล้ว รู้สึกเหมือนหน้าตัวเองกำลังจะไหม้เลย



“วันนี้นี่เป็นวันที่โคตรจะดีของผมเลย” แค่ฟังก็รู้ ไม่ต้องมองหน้าก็รู้ว่าน้องมีความสุขมากแค่ไหน “ได้พาพี่เรนมาแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จัก งานโปรเจคผมเสร็จเรียบร้อย ได้อยู่กับพี่เรน กอดพี่เรน บอกรักพี่เรน แล้วยังได้ยินพี่เรนบอกรักผมอีก ผมโคตรจะมีความสุขเลย”



“อือ...”



วันนี้... ที่จริงแล้วผมได้คุยกับพวกตินา ปรึกษากับพวกสาวๆ เรื่องของผมกับน้องกาย ช่วงหลังจากที่คบกับน้องกายผมก็รู้สึกแปลกๆ ตลอดเลย ยิ่งเวลาที่อยู่ใกล้น้อง ใจผมเต้นแรงมาก รู้สึกแก้มมันร้อนเกือบจะตลอดเวลา แล้วพอบังเอิญได้เห็นน้องอยู่กับคนอื่น ผมก็รู้สึกแปลกๆ อีก เหมือนจะไม่ชอบใจ ไม่พอใจ ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ผมรู้สึกนั้นคืออะไรกันแน่ ก็เลยลองคุยกับพวกตินา



“ถ้าถามพวกฉัน พวกฉันก็บอกได้เลยว่าเรนน่ะชอบเด็กนั่นไปแล้ว แต่เรนก็ต้องถามใจตัวเองด้วย ไม่ใช่ถามพวกฉันแบบนี้”



“แล้ว... เราจะรู้ได้ยังไง ว่าใช่จริงๆ เราก็... คิดอยู่นั่นแหละ แต่เราก็แค่อยากจะมั่นใจจริงๆ”



“ก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี เอาเป็นว่าลองจินตนาการตามแล้วก็ตอบคำถามมาละกันนะ ตอนอยู่กับน้องมันเรนมีความสุขไหม”



“มีสิ... แม้แต่ตอนที่อยู่ด้วยกันเฉยๆ แต่ต่างคนต่างทำงานเราก็คิดว่ามันดี”



“แล้วตอนที่น้องมันมากอดมาอ้อนล่ะ”



“อ่า... ก็ดี...”



“แล้วถ้าเห็นน้องมันอยู่กับคนอื่นล่ะ ผู้หญิงสวยๆ สนิทสนมกัน เรนจะรู้สึกยังไง”




ตอนที่ได้ยินคำถามนั้นผมก็เงียบไปเพราะผมไม่รู้จะตอบว่าอะไรลองนึกตามที่ใบหม่อนพูด ถ้าผมเห็นน้องกายอยู่กับผู้หญิงที่สวยๆ ใกล้ชิดกัน สนิทสนมกัน ตอนที่นึกถึงแบบนั้นผมรู้สึกแปลกๆ มันแปลกไปจากทุกที แค่คิดว่าถ้าน้องกายสนิทกับคนอื่นผมก็... ไม่พอใจแล้ว



“แล้วยังต้องถามอะไรอีกไหมว่าเรนชอบหรือไม่ชอบน้องเขาน่ะ”



อือ... ไม่ต้องถามอะไรแล้วล่ะ เพราะผมคงชอบน้องกายเข้าแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าตั้งแต่ตอนไหนด้วย เห็นไหม! น้องกายนิสัยไม่ดี แกล้งผมหนักมากเลย



“อูย... ดูทำหน้าสิ ทำไมทำหน้าแบบนั้นละครับ” ผมสะดุ้งจากความคิดเงยหน้ามองน้องกายที่ยังกอดผมอยู่แล้วก็ก้มลงมามองผม “ทำหน้าเหมือนงอนผมเลย งอนผมเรื่องอะไรครับ หือ...”



“กายชอบแกล้งพี่...” ผมพูดเสียงเบา พยายามจะขืนตัวหนีแต่มือน้องเหนียวมากเลย กำลังแกล้งผมอีกแล้วนะ!



“โอ๋ๆ ไม่แกล้งแล้วครับ”



ผมทำหน้างอใส่ แล้วก็โดนกอดแน่นขึ้น ไหนว่าไม่แกล้งแล้วไง แบบนี้น่ะแกล้งกันชัดๆ เลย ขาผมก้าวตามน้องกายที่พาผมเดินไปที่เตียงทั้งๆ ที่ยังกอดผมไม่ปล่อย ผมร้องออกมาอย่างตกใจตอนที่ถูกรั้งให้ลงไปนอนบนเตียงทั้งแบบนั้น น้องกายให้ผมนอนทับอยู่บนตัวแล้วก็กอดผมเอาไว้ เป็นท่าเดียวกับที่ผมชอบจับน้องหมีมานอนเลย แล้วน้องหมีก็ชอบมากด้วย ซุกอกผมใหญ่เลย ผมก็เคยสงสัยนะว่าทำไมถึงดูชอบ มันอุ่นหรือยังไงกัน



ก็... อุ่นจริงๆ นั่นแหละครับ



“พี่เรน”



“หือ...” ผมขานรับ เปลี่ยนเป็นแนบแก้มลงกับอกของน้องกาย



“ขอบคุณนะครับ”



ผมเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจว่าน้องขอบคุณผมเรื่องอะไร



“ขอบคุณครับที่ชอบผม ขอบคุณที่คบกับผมแบบนี้ ขอบคุณนะครับ”



ผมส่ายหน้าไปมา ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย ที่จริงต้องเป็นผมสิที่พูดแบบนั้น ผมสิต้องขอบคุณน้องกายที่มองเห็นคนแบบผม คนที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย แต่ย้องก็ยังมองเห็นผมแล้วก็ชอบผมแบบนี้ เป็นผมสิ... ที่ต้องขอบคุณ



“พี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณ... ขอบคุณที่มองเห็นพี่”



“ผมสิต้องขอบคุณ”



“งือออ พี่สิ”



“ผมสิ”



“พี่สิ”



“ผมสิ”



“พะ...”



ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดต่อผมก็ถูกจับให้พลิกลงไปนอนติดเตียงก่อนที่น้องกายจะก้มลงมาจูบผมแบบไม่ให้ตั้งตัว



“อย่างนั้น...  เราขอบคุณกันคนละครึ่งแล้วกันนะครับ” น้องกายพูด ทั้งๆ ที่ยังไม่ยอมขยับไปไหน หน้าของผมกับน้องอยู่ใกล้กันมาก



ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของน้อง ที่สัมผัสนั้นก็ชัดเจนมากขึ้นเมื่อน้องก้มลงมาหาผมอีกรอบ แล้วก็จูบผมอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าตัวเองโดนจูบนานแค่ไหน มันเบลอๆ ไปหมด ได้แต่ปล่อยให้น้องทำตามใจโดยที่ผมก็ไม่ได้ปัดป้องอะไร



ผมหายใจหอบเพราะจูบที่ยาวนานกว่าทุกครั้ง ไม่รู้ว่าปากผมจะบวมหรือเปล่า แต่มั่นใจว่าหน้าผมต้องแดงมากแน่นอน



น้องขยับไปนอนข้างๆ ผม แต่ก็ยังรั้งผมเข้าไปกอดเอาไว้เหมือนเดิม กายมองผมแบบไม่ละสายตา ผมอยากจะเบือนหน้าหนีแต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่เผลอมองตอบกลับไป จ้องมองเข้าไปในตาของน้องที่กำลังสะท้อนภาพของผมอยู่



“ผมรักพี่เรนนะ รักมากที่สุดเลย” น้องพูด แม้จะไม่ได้พูดเสียงดังแต่ผมก็ได้ยินอย่างชัดเจนเพราะเราอยู่ใกล้กันมาก



มือของกายสัมผัสไปทั่วใบหน้าของผม ก่อนจะดึงแว่นที่ผมสวมอยู่ออก อ่า... เมื่อกี้ตอนที่จูบกันผมยังไม่ได้ถอดแว่นออก ทั้งๆ ที่แว่นสายตาถูกดึงออกไปแล้ว ทั้งๆ ที่ผมควรจะมองหน้าน้องกายไม่ชัด แต่มันไม่เป็นแบบนั้น ผมเห็นหน้าของน้องชัดเจน น้องต้องอยู่ใกล้ผมแค่ไหนผมถึงได้เห็นชัดแบบนั้น



ผมเผลอกลั้นหายใจเมื่อปลายจมูกของน้องแตะที่จมูกของผม



“ไม่เม้มปากสิ” นิ้วของกายเกลี่ยไปมาที่ปากของผม แล้วน้องก็จูบผมอีกแล้ว



จูบเยอะไปแล้วนะ เอาเปรียบ นิสัยไม่ดี ขี้แกล้ง!



“หึหึ แก้มแดงปากแดงหมดแล้ว”



เพราะใครกันล่ะ!



“ครับๆ เพราะผมเองครับ” ถึงแม้ผมจะไม่ได้พูดออกไปแต่น้องกายก็เหมือนจะเข้าใจ เพราะยอมรับผิดแต่โดยดี ไหนเมื่อกี้ยอมรับผิดแล้วไง มาหอมแก้มกันทำไม



“เฮ้อ... พี่เรน ถ้าพี่ยังเอาแต่ทำตัวน่ารักแบบนี้สักวันต้องแย่แน่ๆ เลย” อยู่ๆ กายก็พูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ออกมา ผมไม่เห็นจะเข้าใจเลย ผมขมวดคิ้วอย่างงงๆ กับสิ่งที่น้องกายพูด “ทำหน้าแบบนี้ก็น่ารัก”



“ทำหน้างอก็น่ารัก ทำหน้าบึ้งก็น่ารัก ทำหน้างอนก็น่ารัก ทำหน้าเฉยๆ ก็น่ารัก”



น้องกายพูดไม่หยุด ก่อนจะเอียงหน้า ผมรู้สึกถึงปลายจมูกที่กดลงมาที่แก้มของผม พร้อมกับเสียงทีพูดอยู่ข้างหู



“ทำหน้าน่ารักก็ยิ่งหลงรัก”



ผ ผมว่าหน้าผมไม่ได้กำลังไหม้แล้วล่ะ แต่ผมรู้สึกว่า... ผมกำลังจะละลายรวมเป็นเนื้อเดียวกับผ้าปูที่นอนแล้ว



“ไหนบอกชอบผมหน่อยสิ”



ผมไม่ตอบซุกหน้าลงกับหมอนเพื่อหนีน้องกาย คนนิสัยไม่ดีชอบแกล้งผม



“บอกชอบผมหน่อยครับ นะ ผมอยากได้ยินอีก” น้องยื่นมือมาจิ้มแก้มผมเบาๆ ระหว่างพูด “นะครับนะ บอกชอบผมหน่อย”



“นะครับ... นะ”



ท ทำไมต้องมาทำเสียงอ้อนด้วย ผมหันไปมองก็เห็นน้องนอนมองมาทางผมแล้วก็ยิ้มจนผมต้องหันหน้ากลับมาซุกหมอนเหมือนเดิม



“นะครับพี่เรน บอกชอบผมหน่อยนะ”



“ช...”



“อะไรนะครับ ผมไม่ได้ยินเลย”



ผมจะทำยังไงกับสถานการณ์ตรงนี้ดี ผมไม่เคยเจอกับเรื่องแบบนี้เลยผมรับมือไม่ถูกด้วย ผมหายตัวไปตอนนี้เลยได้ไหม



“...”



“...”



พอผมไม่ตอบไม่พูด น้องกายก็เงียบ แต่พอหันไปมองก็เห็นว่ายังมองมาอยู่ จ จะมากดดันกันเหรอ



งืออออ ยอมแพ้ก็ได้!



“ช... ชอบ... ชอบนะ”






************************************************
งุ้ยๆๆๆ ทำไมตอนนี้มันดูน่าหมั่นไส้น้องกายแบบนี้น้า เจ้าเด็กคนนี้ชักจะทำตัวน่าอิจฉาเกินไปแล้วนะ รู้สึกอยากจะเข้าไปแยกทั้งสองคนออกจากกันแล้วก็กอดพี่เรนเอาไว้ในอ้อมอกเอง ขอขโมยตัวพี่เรนไปก่อนได้ไหมอ่า ชักจะไม่อยากจะยกให้น้องกายแล้ววววว ฮ่าๆๆๆๆ

ใกล้จบแล้วเน้อเรื่องนี้ อยู่กันจนจบเลยน้าาาาาาา

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 19 • [50%] l P.10 21-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-07-2017 23:55:35
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 19 • [50%] l P.10 21-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 22-07-2017 06:11:38
หมั่นไส้น้องกายจริง อิจมากกก พี่เรนน่ารักจัง
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 19 • [50%] l P.10 21-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 22-07-2017 17:17:02
รู้สึกแบบเดียวกับฟางเลย หมั่นไส้เจ้ากาย  :fire:อยากไปนอนแทรกกลางมาก ฮ่าๆๆ ขอบคุณมากค่ะฟาง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 19 • [50%] l P.10 21-07-60
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 22-07-2017 22:15:37
ขอบคุณมากน่ะ
 o18 o18
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 19 • [100%] l P.11 03-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 03-08-2017 23:16:40
(http://pa1.narvii.com/6445/857911385bd9f0fddfac324682c94a6e4b2c8377_hq.gif)
“ช... ชอบ... ชอบนะ”
Ramin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 19.2 •
 




• • • ต่อค่ะ 100% • • •







น้องกาย




จะมีใครมีความสุขไปมากกว่าผมอีกไหม ผมว่าตอนนี้ผมกลายเป็นคนที่มีความสุข แล้วก็โชคดีที่สุดในโลกแล้วล่ะครับ คิดดูว่าผมมีความสุขขนาดไหน ตอนนี้เกือบจะตีสองอยู่แล้วผมยังเอาแต่นอนยิ้มไม่หุบแล้วก็มองพี่เรนที่นอนหลับปุยอยู่ข้างๆ ผม



ผมนอนมองพี่เรนแบบมาตั้งแต่สี่ทุ่ม ไม่สามารถละสายตาไปไหนได้เลย แล้วผมก็ไม่แน่ใจด้วยว่าคืนนี้ผมจะสามารถหลับลงได้หรือเปล่า



มองไปตรงไหนของห้องก็รู้สึกว่ามีลูกโป่งสีชมพูลอยเต็มไปหมด นึกเพลงในใจก็มีแต่เพลงรักหวานซึ้ง นี่มันคืออาการของคนที่กำลังมีความรัก แล้วก็สมหวังในความรักใช่ไหมครับ



แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมได้เห็นพี่เรนตอนนอน เพราะหลังจากเป็นแฟนกันผมก็อาศัยความหน้าด้านของพี่เรนนอนค้างด้วย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมนอนมองพี่เรนตอนนอน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมองพี่เรนด้วยความรู้สึกที่มันเอ่อล้นไปหมด



ยื่นมือไปปัดปรอยผมหน้าม้าที่มันตกลงมาปิดหน้าของพี่เรนออก ผมพี่เรนนิ่ม เหมือนกับแก้มนิ่มๆ แล้วก็... ปากนิ่มๆ นั่นด้วย พี่เรนที่หลายคนเห็นคงเป็นแค่ผู้ชายเฉิ่มๆ เชยๆ เป็นเด็กเนิร์ด เด็กเรียน แม้ว่าหลังๆ มานี้พวกพี่ตินาจะพาพี่เรนไปเปลี่ยนลุคมาก็เถอะ



แต่สำหรับผม... พี่เรนเป็นคนที่น่ารัก ไม่ใช่ที่หน้าตาที่น่ารัก แต่ทุกการกระทำของพี่เรนนั้นน่ารัก เพราะความเป็นธรรมชาติในตัวของพี่เรน ไม่มีการเสแสร้ง ไม่มีการแกล้งทำ ทุกอยางที่พี่เรนแสดงออกมาคือความรู้สึกจริงๆ ข้างใน ผมถึงได้บอกว่าผมโชคดีที่สุดในโลก ที่ได้รับความรักจากคนที่ใส บริสุทธิ์อย่างพี่เรน และผมก็จะรักษาความโชคดีของผมนี่เอาไว้ตลอดไป



ผมไม่แน่ใจว่าสุดท้ายแล้วผมเผลอหลับไปตอนไหน แต่ผมรู้ว่าคืนนี้เป็นคืนที่ผมนอนหลับฝันดีที่สุดเลยล่ะครับ



ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าโดยไม่ต้องใช้เสียงนาฬิกาหรือแสงอาทิตย์อันร้อนแรง ทั้งๆ ที่น่าจะนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงแต่ผมรู้สึกว่าผมนอนหลับเต็มอิ่มมาก อย่างกับนอนยาวแปดชั่วโมงเลยล่ะครับ ตอนผมตื่นพี่เรนยังหลับอยู่ นอนหลับอยู่ข้างๆ ผม หลับปุยเหมือนเด็ก ท่าทางหลับสบายมากด้วยจนผมไม่กล้าปลุก ปล่อยให้พี่เขานอนไปแล้วผมก็นอนมองหน้าพี่เรนต่อ



มองได้ไม่เบื่อเลยทั้งๆ ที่เมื่อคืนก่อนนอนผมก็นอนมองพี่เรนอยู่ตั้งนานสองนาน ผมว่าผมสามารถนอนมองหน้าพี่เรนแบบนี้ได้ทั้งวันเลยนะเนี่ย



“อือ...” พี่เรนขยับตัวไปมาเหมือนกับเด็กๆ ก่อนจะพลิกตัวลงนอนคว่ำ ดูเหมือนจะตื่นแล้วละครับ ท่าประจำของพี่เขาเวลาจะตื่นนอนจะต้องนอนคว่ำก่อนแล้วค่อยตื่น



ตาโตๆ กระพริบปริบๆ ก่อนจะลืมขึ้นเต็มตา พี่เรนทำหน้างงๆ เหมือนกำลังคิดอยู่ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ก่อนจะหันมามองหน้าผม



จุ๊บ



ก้มลงจุ๊บปลายจมูกของพี่เรนไปเบาๆ “อรุณสวัสดิ์ครับ”



แก้มขาวๆ แดงแต่เช้าเลยครับ พี่เรนหันหน้าซุกหมอนต่อ “งือ... ง่วง...”



ผมขำ แต่ก็ไม่ได้หัวเราะออกมา มาบ่นง่วงอะไรกัน คว้าเอวพี่มากอดเอาไว้ หลังพี่เรนแนบกับอกของผม ซุกหน้าลงกับผมนุ่มๆ ของพี่เรน “ถ้ายังง่วงอยู่ก็นอนต่อครับ ยังเช้ามากอยู่เลยครับเอาไว้อีกชั่วโมงสองชั่วโมงค่อยตื่นอีกรอบก็ได้”



พี่เรนพยักหน้ารับ ขยับตัวยุกยิกก่อนจะนิ่งไปแต่ก็ยังไม่หลับหรอกครับเพราะพี่เรนยังดูเกร็งๆ อยู่เลย ผมก็นอนนิ่งๆ กอดเอวพี่เรนเอาไว้แล้วก็ปล่อยให้เขานอนไป ร่างที่เกร็งเมื่อครู่ผ่อนคลายลงหลังจากผ่านไปสักพัก คงหลับไปแล้วอีกรอบ พอชะโงกหน้าไปมองก็เห็นว่าเป็นจริงอย่างที่คิด พี่เรนหลับไปอีกรอบแล้ว



ผมนอนกอดพี่เรนต่ออีกแปบก็ลุก ดึงผ้าคลุมตัวพี่เขาให้ พี่เรนซุกตัวกับผ้าห่มทันทีเหมือนกับแมวเวลาขดตัวนอนเลยล่ะครับ เดินไปหยิบกล้องถ่ายรูปมากดถ่ายรูปพี่เรนตอนนอนเอาไว้อีกหลายรูป เอาไว้ดูคนเดียว หรือไม่ก็... เอาไว้จัดแสดงในวันที่ผมมีแกลเป็นของตัวเองแล้ว



ผมคิดเอาไว้นะว่าสักวันผมจะจัดแสดงภาพถ่ายคอลเลคชั่นพี่เรน จะอวดให้คนทั่วโลกรู้ไปเลยว่าแฟนผมน่ะน่ารักที่สุดในโลก



ถ่ายรูปพี่เรนจนพอใจก็เดินไปอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะเดินมาปลุกคนที่ยังนอนหลับไม่ยอมตื่น พี่เรนซุกเข้าไปในผ้าห่มจนเห็นเพียงแค่ผมยุ่งๆ โผล่ออกมาเท่านั้น แถมยังนอนขดตัวเป็นก้อนกลมด้วย คงเพราะเมื่อคืนฝนตกไปด้วยเช้านี้เลยอากาศเย็นยิ่งบวกเข้ากับแอร์ในห้องผมอีก พี่เรนคงหนาวถึงได้ซุกตัวอยู่แบบนั่น



แมวขี้เซา...



นอนท่าเดียวกันกับหมี นี่นึกว่าพี่เรนเป็นเจ้าหมีเวอร์ชั่นคนนะเนี่ย



“พี่เรน... พี่เรนครับตื่นได้แล้วนะ เช้าแล้ว” พอผมปลุก คนที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มก็ขยับตัวดุกดิกไปมาก่อนจะนิ่งไปอีกรอบ



“พี่เรนครับ พี่เรน” ดึงผ้าห่มออก เห็นแมวเวอร์ชั่นคน หรือคนเวอร์ชั่นแมวดี... นอนขดตัวเป็นก้อนเลย น่ารัก



พอไม่มีผ้าห่มให้ความอบอุ่นคนหนาวก็ขยับตัวก่อนจะลืมตามองผมแล้วทำหน้าบึ้งใส่ เห็นแล้วมันเขี้ยว ของับแก้มหนึ่งทีถ้วน ตามด้วยหอมแก้มอีกสองทีถ้วน!



“อรุณสวัสดิ์ครับ เช้าแล้วนะ” ผมยิ้มทักทายคนที่ลืมตาขึ้นมามอง



“งือ...”



“ลุกเร็วครับ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวจะได้ลงไปกินข้าวกัน วันนี้พี่เรนมีนัดหรือมีธุระอะไรที่ไหนหรือเปล่าครับ”



พี่เรนส่ายหน้ากับคำถามของผม ก่อนจะขยับลงจากเตียง ผมอมยิ้มตอนมองพี่เรนล้มตัวลงนอนกอดหมี ได้ข่าวว่าเพิ่งลุกจากเตียงนอนไหมครับนั่น



“พี่เรนคร้าบบ ตื่นแล้วก็ลุกสิ ไปนอนกับหมีอีกทำไมละครับเนี่ย” ผมเดินไปจับแขนพี่เรนเอาไว้ รั้งให้ลุกขึ้นดีๆ “ไปล้างหน้าเลยครับ เดี๋ยวลงไปกินข้าวกัน เร็วๆ ครับ”



“ฮื่อ...” พี่เรนงอแงแต่ก็ยอมเดินไปเข้าห้องน้ำแต่โดยดี



ผมอุ้มหมีที่ตื่นแล้วเพราะว่าพี่เรนไปกวนมาเมื่อกี้ลงไปข้างล่างพร้อมกับหามื้อเช้าให้ด้วยเรียบร้อย ป๊ากับม๊าผมตื่นแล้วครับ ม๊ากำลังทำมื้อเช้าอยู่ในครัว ส่วนป๊าคงออกไปเดินเล่นในสวนข้างบ้าน



ขึ้นมาบนห้องอีกทีพี่เรนก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี หน้าตาดูสดชื่นขึ้นไม่งอแงเหมือนตอนตื่นนอนแล้ว



“ไม่งอแงแล้ว” ผมยิ้มให้ หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมที่ชื้นนิดๆ ของพี่เรนให้



“เปล่าสักหน่อย” พี่เรนแย้งแต่ก็ทำหน้ามุ่ย ผมเลยบีบจมูกไปทีอย่างมั่นเขี้ยว แฟนผมนี่น่ารักจริงๆ “วันนี้ไม่มีธุระอะไรใช่ไหมครับ”



พี่เรนพยักหน้า “อย่างนั้นไปเที่ยวกันนะ วันนี้ผมก็ว่าง”



“ไปเที่ยว... ที่ไหนเหรอ”



“ไปวาดรูปกัน ผมอยากลองวาดรูปดูพี่รนสอนผมวาดรูปหน่อยได้ไหมครับ” ผมอ้อน ตอนนี้เริ่มรู้แกวพี่เรนแล้วครับ ที่จริงก็รู้มาสักพักแล้วล่ะ พี่เรนน่ะขี้ใจอ่อน อ้อนหน่อยก็ยอมหมดแล้ว



“อ่า... แต่พี่ก็วาดรูปไม่ค่อยเก่งหรอกนะ ไม่รู้จะสอนอะไรได้หรือเปล่า”



“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากให้พี่เรนสอน นะ ไปวาดรูปกัน ไปสวนหลวงกันดีไหมครับ”



“อือ อย่างนั้นก็ได้”



“ครับผม” ผมยิ้มกว้าง “อย่างนั้นไปกินข้าวกันดีกว่า ม๊าน่าจะทำข้าวเสร็จแล้วล่ะ”



ผมกับพี่เรนลงไปข้างล่าง อย่างที่คิดครับม๊าทำข้าวต้มเป็นมื้อเช้าเสร็จพอดี เลยให้ผมไปเรียกป๊ามากินข้าว พอจัดการมื้อเช้ากันเสร็จป๊าม๊าก็จะออกไปข้างนอก ผมกับพี่เรนก็เลยว่าจะออกกันเลยเหมือนกัน



ใช้เวลาพักใหญ่ก็มาถึงสวนหลวงครับ เรามาถึงกันช่วงเกือบสิบเอ็ดโมงเพราะแวะกลับไปเอากระดานวาดรูปของพี่เรนที่หอมาก่อนเลยทำให้มาถึงช้า แต่ก็ยังมีที่จอดรถอยู่เยอะ ผมว่าคนน่าจะเยอะช่วงเช้ากับตอนเย็นเพราะมาออกกำลังกายกัน ผมเคยมาแค่ครั้งเดียวตอนปีหนึ่งมาถ่ายรูปช่วงวันหยุด ตอนบ่ายๆ ก็มีคนเยอะเหมือนกันครับ แต่เพราะว่ามันกว้างแล้วก็มีหลายส่วนก็เลยดูคนไม่แน่น



ผมที่ถือกระดานวาดรูปสองอันกับพี่เรนที่อุ้มหมีอยู่เดินไปเรื่อยๆ ในสวน บรรยากาศข้างในดีมากครับ เพราะว่ามีต้นไม้เยอะเลยไม่รู้สึกร้อนเท่าไหร่ แล้วก็อากาศค่อนข้างเป็นใจไม่มีแดด เราแวะเข้าไปดูพันธุ์ไม้ในทะเลทรายกัน เจ้าหมีเกือบแย่เพราะมันกระโดลงจากแขนพี่เรนจะวิ่งเข้าใส่ต้นกระบองเพชรหนามแหลมๆ ดีที่พี่เรนคว้าตัวไว้ทัน ทำเอาพี่เรนหน้าซีดเลย แล้วเจ้าหมีก็โดนพี่เรนดุไปไม่น้อย มันทำหน้าหงอยแล้วก็คลอเคลียพี่เรนจนพี่เขาใจอ่อน เห็นแล้วน่าหมั่นไส้ เราเลยออกจากอาคารนี้โดยด่วนเพราะกลัวว่าหมีจะวิ่งซนจนได้เลือด



เราเดินกันไปเรื่อยๆ ผมปล่อยให้พี่เรนหาสถานที่นั่งวาดรูป ตามใจแฟนเลยครับ ผมเป็นคนตามใจแฟนอยู่แล้ว ได้ที่ตรงสนามหญ้าที่รอบๆ มีต้นไม้ใหญ่แล้วก็ดอกไม้พันธุ์แปลกๆ อยู่ ตอนแรกจะไปนั่งริมสระแต่กลัวว่าหมีจะนึกอยากเล่นน้ำวิ่งลงสระอีก เราเลยเลือกให้ห่างออกมา



“แล้วผมต้องเริ่มยังไง” ผมถามพี่เรน ตอนนี้กระดานวาดรูปพร้อมอยู่ในมือแล้ว



“อ่า... พี่ก็ไม่รู้อ่ะ” พี่เรนยิ้มแหะๆ ใส่



“แล้วตอนพี่เรนวาดรูปครั้งแรกพี่เรนทำยังไงเหรอ”



“อือ... ตอนนั้นพี่ก็ดูของจริงแล้วก็วาด จำได้ว่าวาดสวนเป็นอย่างแรก สวนที่บ้านน่ะ ก็มานั่งมองแล้วก็วาดไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีเทคนิคหรือไปเรียนอะไร พี่ก็เลย... ไม่รู้จะแนะนำให้เริ่มยังไงดี” พี่เรนเล่า “แต่ตินาเคยไปเรียนพื้นฐานมา เห็นบอกว่าให้เริ่มจากการลากเส้นอะไรพวกนี้ก่อนแล้วก็... วาดพวกรูปทรงเลขาคณิตน่ะ แต่พี่ว่ามันไม่เห็นน่าสนุกเลย พี่มองของจริงแล้ววาดสนุกกว่า แม้ว่ามันจะไม่สวยก็เถอะตอนแรกๆ น่ะ”



“อย่างนั้นผมทำตามพี่เรนดีกว่า”



พี่เรนหันซ้ายหันขวาก่อนจะหยิบดอกไม้ที่มันหล่นอยู่บนพื้นมาให้ผม “ถ้าจะวาดพวกต้นไม้เลย หรืออาคารใหญ่ๆ เลยก็คงจะยากอยู่ อย่างนั้นลงวาดดอกไม้ดอกนี้ดูก่อนแล้วกัน ไม่สวยไม่เป็นไร มันต้องฝึกบ่อยๆ ฝีมือก็พัฒนาเอง”



“โอเคครับคุณครู” ผมยิ้มกว้าง รับดอกไม้จากพี่เรนมาวางบนกระดาน ก่อนจะลองวาดดู จริงๆ ผมก็เคยวาดรูปอยู่ครับ ไม่สวยแต่ก็ไม่น่าเกลียด วาดเล่นๆ ตอนเบื่อที่จะฟังอาจารย์พูด



จะว่าไปวาดรูปแบบนี้ก็เพลินดีนะครับ พอผมเริ่มวาดแล้วก็ไม่สนใจอย่างอื่นเลย วาดเสร็จหนึ่งดอกก็วาดใหม่ ดอกเดิมนั่นแหละครับ พี่เรนบอกให้วาดซ้ำๆ ไปก่อนจะได้เป็นการพัฒนาลายเส้นไปด้วย



เรานั่งกันเงียบๆ วาดรูปไป วิ่งจับหมีบ้างบางครั้ง มีลมเย็นๆ พัดมาให้รู้สึกดี มันก็โอเคดีนะครับ เราแชร์เวลาร่วมกัน ไม่ต้องหาเรื่องมาพูดคุยกัน แค่รู้ว่าอยู่ข้างกันแบบนี้ ผมว่าเท่านั้นมันก็โอเคแล้วสำหรับผม



ผมวางดินสอลงหลังจากวาดดอกไม้ดอกที่ห้าเสร็จ ไม่อยากจะอวดแต่ฝีมือผมดีขึ้นนะเออ คิดดูวาดไปแค่ห้าดอกฝีมือก็พัฒนาแล้ว ถ้าฝึกอีกหน่อยฝีมือผมนี่ระดับศิลปินแห่งชาติแน่นอน ไม่อยากจะโม้



บิดขี้เกียจไปทีเพราะนั่งนาน ก่อนจะคว้าหมีที่นอนขดอยู่ข้างๆ มาอุ้มไว้บนตักมันเงยหน้าขึ้นมองแต่พอเห็นว่าเป็นผมก็ซุกนอนต่ออย่างสบายใจ



พี่เรนยังคงตั้งหน้าตั้งตาวาดรูปอย่างตั้งใจ ผมก็เลยเผลอมองอยู่แบบนั้น ไม่รู้ว่าวาดรูปอะไรอยู่เพราะพี่เรนยกกระดานเอียงขึ้นแล้ววาด แต่ก็ไม่เห็นเงยหน้าขึ้นมองอะไรเลย



ก่อนหน้านี้ผมเคยคิดนะว่าการที่ต้องมานั่งมองใครบางคน หรืออะไรสักอย่างเป็นเวลานานๆ มันคงจะน่าเบื่อมาก แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันขึ้นอยู่กับว่าเรามองใครและมองอะไร ถ้าหากคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมเป็นคนอื่น ผมก็คงจะเบื่อแล้วก็เซ็งมากทีเดียว แต่พอดีว่าคนตรงหน้าผมนั้นเป็นพี่เรน ผมเลยไม่รู้สึกเบื่อหรือรำคาญอะไร



ผมอุ้มหมีแล้วก็ขยับตัวไปใกล้พี่เรน หยิบโทรศัพท์มาเสียบหูฟังก่อนจะใส่หูฟังข้างหนึ่งให้พี่เรน พี่เขาสะดุ้งตอนที่มือผมไปแตะโดนหู พอเห็นว่าเป็นผมก็ยิ้มให้ก่อนจะรับหูฟังข้างนั้นไปใส่เอง



นั่งอยู่ตรงนี้ข้างกายฉันก็มีเธออยู่
ก็ลองมาคิดดู เรานั้นโชคดีกว่าใคร



เพราะมีเธอคนนี้เป็นที่รัก
และฉันไม่ได้ฝันไป ขอให้ลมช่วยพัดพาหัวใจ
สองเราให้ลอยไป ในคืนนี้ โอ้ โอ



Oh Baby ฉันรักเธอเท่านั้น
ใต้แสงจันทร์มีเพียงเราสอง
นั่งมองแสงดาวที่พรั่งพราว
บนฟ้าไกลไปด้วยกัน
เปรียบดั่งความฝันในเวลานี้
เมื่อฉันมีเธออยู่แนบชิดกาย
ด้วยสายตาและสัมผัสด้วยรักที่เรามีให้กัน
โอ้ฉันจะจูบเธอ

(จูบ – Jetset’er)



ผมไม่ได้จะบอกว่าอยากจูบพี่เรนนะ แต่ผมแค่อยากจะให้พี่เรนฟังเพลงเฉยๆ เถอะ ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงจริ๊ง ผมแค่อยากจะบอกว่าผมชอบเวลานี้ ที่เรานั่งอยู่ข้างกันแบบนี้



“วาดรูปเสร็จแล้วเหรอ” พี่เรนกอดกระดานวาดรูปเอาไว้ เมื่อกี้ผมก็ไม่ทันมองเลยไม่เห็นว่าพี่เรนวาดรูปอะไรอยู่



“ครับผม วาดไปได้ห้าดอก นี่ไงพี่เรนดูสิ ฝีมือผมเป็นยังไงบ้าง” ผมบอกก่อนจะหยิบกระดานวาดรูปส่งให้พี่เรน



พี่เขารับไปดูก่อนจะยิ้มออกมา “สวยนี่นา... เก่งเหมือนกันนะเนี่ยนี่ขนาดแค่วาดแปบเดียวเองนะ ถ้าฝึกบ่อยๆ นี่คงเก่งมากแน่เลย”



ผมหัวเราะ พอได้ยินพี่เรนชมแบบนี้ก็แอบเขินนะครับ “ก็... วาดไปเรื่อยๆ ตามคำแนะนำของพี่เรนนั่นแหละครับ แต่คงอีกนานถ้าผมจะวาดให้ได้อย่างพี่เรน”



“ฝึกบ่อยๆ เดี๋ยวก็วาดเก่งกว่าพี่แล้ว”



“แล้วพี่เรนวาดรูปอะไรอยู่ครับ”



พอผมถามแบบนั้นพี่เรนก็กอดกระดานวาดรูปแน่นขึ้น “อย่าเพิ่งแอบมองนะ หลับตาไปก่อนเลยยังไม่ให้ดูหรอกพี่ยังวาดไม่เสร็จเลย”



“ขอผมดูหน่อยไม่ได้เหรอครับ” ผมถาม พี่เรนส่ายหน้าขวับๆ ทันที



“ไม่ได้ นั่งหันหลังเลยห้ามแอบดูด้วย ถ้าแอบดูจะโป้ง”



“คร้าบๆ ไม่แอบดูครับ” ผมหัวเราะ ก่อนจะขยับนั่งหันหลังพิงพี่เรน แบบที่พี่เรนก็พิงหลังผมอยู่เหมือนกัน



ผมนั่งลูบขนหมีเล่นไปเรื่อยๆ พร้อมกับฟังเพลงจากหูฟังเพียงข้างเดียว เพราะอีกข้างยังอยู่ที่หูของพี่เรน ได้ยินเสียงดินสอขีดเขียนลงบนกระดาษ อยากรู้ว่าวาดอะไรแต่ในเมื่อพี่เรนยังไม่อยากให้รู้ ผมจะไม่แอบดูก็ได้



ผมเปิดเพลงฟังไปเรื่อยๆ ร้องคลอตามไปเมื่อเจอเพลงเพราะๆ ที่ถูกใจ บางทีพี่เรนก็หันมาขอเพลงเองก็มี ผมก็เปิดให้ครับ บอกแล้วว่าผมตามใจแฟน ไม่มีขัดแฟนอยู่แล้ว



“พี่เรนชอบฟังเพลงแนวไหนเหรอครับ” ผมถามหลังจากเปิดเพลงให้พี่เรนไปอีกเพลง



“อือ... พี่ชอบเพลงช้า เพลงเร็วๆ ไม่ค่อยฟังเท่าไหร่พี่ว่าเพลงช้ามันทำให้พี่มีสมาธิมากกว่าน่ะ แต่ก็ไม่ค่อยได้ฟังเท่าไหร่ เวลาทำงานก็เปิดทิ้งไว้แต่ก็ไม่ได้ฟังหรอกว่าเพลงอะไรเป็นเพลงอะไร”



“เหมือนผมเลย เวลานั่งทำงานผมก็ชอบเปิดเพลงทิ้งไว้ แค่ไม่ให้มันเงียบเกินไปก็เท่านั้นแต่ไม่ค่อยได้ฟังหรอกว่าเปิดเพลงอะไรอยู่ นอกจากเป็นเพลงที่ผมชอบจริงๆ นั่นแหละถึงจะรู้”



“อือ... อ่ะ... เสร็จแล้ว” พี่เรนยื่นกระดานวาดรูปมาให้ผม แต่ว่ายื่นมาแบบคว่ำนะครับ



“รูปที่พี่เรนวาด... เหรอครับ”



“อือ... ใช่แล้วล่ะ”



ผมรับมา ก่อนจะพลิกกระดานขึ้นเพื่อดู หัวใจผมเต้นรัวตอนที่เห็นภาพบนกระดานนั้น เป็นภาพของผมครับ ภาพตอนที่ผมกำลังนั่งวาดรูปดอกไม้อยู่



“รูปผม... วาดตอนไหนกันครับ”



“ก็... ตอนที่กายเริ่มวาดรูปนั่นแหละ ดูมุ่งมั่นดีพี่ก็เลยวาดออกมา” พี่เรนตอบ



“แต่ตอนที่ผมนั่งมองพี่เรน ไม่เห็นพี่เรนจะเงยหน้าขึ้นมามองผมเลยนี่ครับ” ใช่ครับพี่เรนไม่ได้มองผมเลยนะ ผมนั่งมองพี่เขาอยู่ตั้งนาน ขนาดผมวาดดอกไม้มาห้าดอกแล้วยังต้องละสายตาจากรูปที่กำลังวาดเพื่อมองของจริงเลย



แต่พอได้ยินคำตอบพี่เรน ผมก็ชักจะไม่อยากได้ยินแล้วละครับ เพราะคำตอบของพี่เรนทำเอาหัวใจผมจะระเบิด



“ก็... พี่จำภาพกายได้จนขึ้นใจ ก็เลยไม่ต้องเงยหน้ามองไง”



มีใครสอนไหมว่าอย่าพูดจาอะไรแบบนี้ เพราะมันทำให้คนฟังหวั่นไหวที่สุด...






************************************************
รู้สึกเหม็นๆ อะไรไหมอ่ะคะ ฟางรู้สึกว่ามันเหม็นๆ นะ เหม็นความรักคนแถวนี้อ่ะ น้องกายยังคงน่าหมั่นไส้ลากยาวมาจนจบตอนนี้เนอะ ฮ่าๆๆๆๆ แต่เราก็ยินดีที่เขาได้รักกันค่า คาดว่า... ตอนหน้าก็จะจบแล้วล่ะค่ะสำหรับเรื่องนี้ ต้องเตรียมบอกลากันอีกแล้ว ใจหายเลยทีเดียว...

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 19 • [100%] l P.11 03-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-08-2017 00:40:51
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 19 • [100%] l P.11 03-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-08-2017 13:45:54
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 19 • [100%] l P.11 03-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 04-08-2017 19:13:12
น่ารักกกกกก :impress2: :impress2: :impress2: :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 19 • [100%] l P.11 03-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-08-2017 20:01:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 19 • [100%] l P.11 03-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: Cacao ที่ 10-08-2017 00:27:31
แค่นี้กายก็หลงพี่เรนจนหาทางออกไม่เจอละ เจอพี่เรนวาดรูปตัวเองแบบไม่ได้มองแบบอีก
กายจะไปไหนรอด ยอมทุกอย่างแล้ว อยากมีน้องกายเป็นของตัวเอง
ดูแลเทคแคร์ขนาดนี้ยยยยย โอ้ยยยย น่ารักกกกกก :ling1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [50%] l P.11 10-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 10-08-2017 22:50:12
(http://68.media.tumblr.com/7ef6ef1523090111724897cd34b7a61c/tumblr_onn5kj4uoK1r9f1l9o6_540.gif)
“Lucky Love ของผมครับ”
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 20 •
 



น้องกาย





 
“ตรงนี้นี่มันคิดยังไงนะ ไหนมึงอธิบายอีกทีดิไอ้เป้” ไอ้เกลียวหันไปคว้าคอไอ้เป้ที่กำลังนั่งทำแบบทดสอบคณิตศาสตร์อยู่ มันทำตาขวางใส่แต่ก็ยอมอธิบายให้ไอ้เกลียวฟัง



ตอนนี้พวกผมกำลังสุมหัวกันอยู่ที่ร้านกาแฟครับ มาติวหนังสือกันเพราะตอนนี้พวกเราเหล่านักศึกษาเข้าสู่เทศกาลสอบปลายภาคแล้วครับ มหา’ลัยเราเริ่มสอบมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ละจะสิ้นลงในอาทิตย์หน้า ยาวนานมากมาย ผมเองก็สอบไปแล้วสองวิชาแต่ก็ยังเหลืออีกหลายวิชาเหมือนกัน ทั้งวิชาในคณะ และวิชานอกคณะ เนื่องจากวันนี้พรุ่งนี้ไม่มีสอบ เราเลยมาติววิชาคณิตกันครับ เพราะวันถัดไปมีสอบ



ซึ่งผู้มีพระคุณในการติวครั้งนี้ก็คือไอ้เป้กับไอ้ไม้ครับ เป็นบุคคลที่ไม่น่ารอดวิชาคำนวณแบบนี้แต่แม่งโคตรเก่ง อธิบายเข้าใจง่าย พวกผมที่หัวเหมือนจะรอดแต่ก็เกือบเอาตัวไม่รอดก็สามารถเข้าใจและสอบผ่านมาได้ในเทอมที่แล้ว รวมไปถึงเมื่อกลางภาคที่ผ่านมาด้วย



และเพราะว่าสอบแบบนี้ผมเองก็ไม่ได้เจอแฟนผมเลยครับ พี่เรนมีทั้งงานที่ต้องส่งแล้วก็ต้องอ่านหนังสือสอบด้วย มีไปติวกับเพื่อนๆ ที่คณะบ้าง ห้องเพื่อนบ้าง แถมวันเวลาสอบก็ไม่ตรงกันเลยวันไหนผมไม่มีสอบพี่เรนก็มีสอบ พอวันไหนพี่เรนไม่มีสอบผมก็มีสอบ ก็เลยไม่ได้เจอกันเลยครับ นึกแล้วก็คิดถึงไม่ได้เจอหลายวันแล้วไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง



ก็มีโทรหา คุยไลน์กันบ้างแหละครับ แต่เพราะต่างคนต่างเตรียมสอบก็เลยไม่ค่อยได้คุยได้ตอบกันเท่าไหร่ พี่เรนจะเป็นยังไงผมไม่รู้ แต่ที่รู้ว่าผมนี่เริ่มจะห่อเหี่ยวครับ คิดถึงแฟนมากเข้าใจไหมครับว่าคิดถึงแฟนมากที่สุดในโลกเลย



ผมวางดินสอลงหลังจากทำแบบทดสอบที่ไม่รู้ว่าไอ้ไม้ไปหามาจากไหน มาให้พวกผมลองทำ คำนวณเยอะเริ่มมึนแล้วครับ หัวสมองผมไม่สามารถคำนวณอะไรออกมาได้อีกแล้วในตอนนี้ ขอพักหน่อยแล้วกัน หยิบโทรศัพท์มากดส่งข้อความหาพี่เรน พรุ่งนี้พี่เรนมีสอบตอนบ่าย ป่านนี้คงกำลังอ่านหนังสืออยู่แน่เลย ไม่รู้ว่ากินข้าวหรือยัง



คิดถึงแฟน คิดถึงพี่เรน
ตอนนี้อยู่ไหนครับ ที่ห้องหรอ หรือไปอ่านหนังสือกับเพื่อนที่ไหน
ผมอยู่กับเพื่อนที่ร้านกาแฟ 24 ชม.
พี่เรนกินข้าวหรือยังครับ? อ่านหนังสือเป็นยังไงบ้าง
สู้ๆ นะครับ




ส่งรัวไปเลยครับ ไม่รู้ว่าพี่เรนจะได้อ่านไหมแต่ก็ส่งไปก่อน พอส่งข้อความหาพี่เรนเสร็จผมก็เปลี่ยนไปเข้าเฟสบุ๊คแล้วก็อ่านนู้นอ่านนี่ไปเรื่อยๆ ระหว่างรอคนอื่นทำแบบทดสอบกัน มีไอ้แม็คเสร็จแล้วอีกคน มันกำลังนอนฟุบไปกับโต๊ะแล้วบ่นพึมพำอะไรของมันก็ไม่รู้ครับ



โอ๊ะ!



พี่เรนตอบกลับมาแล้ว



มาอ่านหนังสือกับตินาที่ห้องสมุดในมอ
แต่ว่ากำลังจะย้ายแล้ว พวกนี้บอกว่าหิวเลยว่าจะไปร้าน 24 ชม. เหมือนกัน




พอเห็นแบบนั้นผมนี่ลุกขึ้นนั่งเลยครับ ตาโตด้วยความดีใจก่อนจะส่งข้อความตอบพี่เรนไป



มาสิมา มาๆ ผมอยากเจอพี่เรน เดี๋ยวจองที่โต๊ะข้างๆ ให้เลย
ถึงแล้วโทรหาผมนะ
จุ๊บ




ส่งหัวใจปิดท้ายข้อความไปด้วย ผมรีบหันไปมองโต๊ะข้างๆ ทันทีว่าว่างหรือเปล่า ขอบคุณอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้โต๊ะข้างๆ ผมว่าง ผมเลยรีบพุ่งตัวไปนั่งจองเอาไว้จนพวกเพื่อนๆ หันมามองอย่างงงๆ



“อะไรของมึงวะไอ้กาย ทำข้อสอบจนเพี้ยนหรือไงมึง” ไอ้ไม้หันมาถาม



“กูมาจองที่ เดี๋ยวแฟนกูจะมาอ่านหนังสือกันที่นี่ กูเลยจะจองโต๊ะนี้เอาไว้ให้แฟน” หันไปตอบมัน



“อ๋อ... มิน่าดูดี๋ด๋าขึ้นมาทันที น่าหมั่นไส้ อ่ะ เอาข้อสอบไปทำอีกสอบข้อเลยไป ข้อหากูหมั่นไส้มึง” ไอ้ไม้ว่าก่อนจะโยนชีทข้อสอบมาให้ผมอีกชุด



ผมมองมันตาขวาง แต่ก็ยอมทำครับ ตอนนี้อะไรก็ได้หมดเพราะจะได้เจอพี่เรนแล้ว เอาข้อสอบคำนวณมาอีกร้อยข้อก็ทำไหวครับบอกเลย



เอ่อ... ผมล้อเล่นน่ะครับ ไม่ต้องเอามาจริงนะ



ระหว่างที่ผมกำลังก้มหน้าก้มตาทำอยู่นั้นก็เหมือนมีอะไรมาสะกิดที่แขน เหลือบมองก็เห็นเป็นแขนตุ๊กตา แต่พอเงยหน้าขึ้นมอง อุ๊ย! นี่มันคนน่ารักที่เป็นแฟนผมนี่นา



“มาแล้วเหรอ แล้วพี่คนอื่นๆ ล่ะครับ” ผมถามขยับให้พี่เรนมานั่งข้างๆ พร้อมถามถึงพี่คนอื่นๆ เพราะไม่เห็นมาด้วยกัน



พี่เรนหันไปทักทายพวกเพื่อนๆ ของผมที่ส่งเสียงทักทายกันมา ก่อนที่พวกมันจะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือกันต่อ ช่วงนี้กำลังจริงจังกับชีวิตครับมันเลยไม่กวน ไม่แซวอะไร ถ้าปกตินี่ส่งเสียงเห่าหอนกันไม่หยุด



“กลับกันไปแล้ว” พี่เรนหันมาตอบผม



“อ้าว...”



“ก็ตอนแรกก็จะมาด้วยกัน แต่เหมือนจะเหนื่อยกันมากกว่าก็เลยแยกย้ายกันไป ค่อยมาทบทวนกันเช้าพรุ่งนี้อีกที” พี่เรนตอบ นั่งลงข้างๆ ผมก่อนจะฟุบหน้าลงกับกระเป๋าดินสอที่เป็นรูปตุ๊กตา ก็อันที่เอาแขนตุ๊กตามาสะกิดผมนั่นแหละครับ



“แล้วนี่พี่เรนมายังไง ง่วงไหม จะกลับไปนอนพักไหมครับ ผมไปส่งไหม” ผมรัวคำถาม ก็พี่เรนน่ะจอมหลงทางยิ่งกว่าเด็กประถม มาถึงนี่ได้ก็สงสัยสิครับ



“ตินาขับรถมาส่ง กายอ่านไปก่อนก็ได้ พี่ก็ว่าจะอ่านต่ออีกหน่อย”



“เดี๋ยวผมไปสั่งอะไรมาให้กินดีกว่า ช็อคโกแลตปั่นเนอะ ขนมปังด้วยไหม” ผมถามแต่ก็ไม่พอให้พี่เรนตอบอะไร ลุกขึ้นไปสั่งของกินให้พี่เรนทันที ไม่ลืมที่จะถามไอ้พวกนั้นด้วยว่าจะเอาอะไรไหม จะได้สั่งเลยทีเดียว พวกมันก็ดีครับ เพราะเขียนเมนูกันแล้วเรียบร้อย ผมยังถามไม่จบประโยคไอ้แม็คก็ยื่นกระดาษที่เขียนออเดอร์มาให้แล้ว



หลังจากสั่งเสร็จ จ่ายเงินเรียบร้อยก็เดินกลับมาหาพี่เรนที่ยังเอาหน้าฟุบอยู่กับกระเป๋าดินสอของตัวเองอยู่ ดูท่าจะง่วงแล้วก็เพลียมากเลยนะเนี่ย



“ไหวไหมครับ เดี๋ยวกินอะไรเสร็จแล้วกลับกันดีกว่าเนอะพี่เรนจะได้รีบกลับไปนอนพักด้วย เดี๋ยวสอบพรุ่งนี้ไม่รู้เรื่องนะ” ผมนั่งท้าวคางมอง



พี่เรนพยักหน้าหงึกหงักอย่างว่าง่าย ตาปรือๆ เหมือนคนใกล้จะหลับเต็มที่ แว่นตาอันใหญ่ก็หล่นมาอยู่ปลายจมูก เห็นแล้วมันเขี้ยว นี่ถ้าอยู่ห้องละก็... จับฟัดไปแล้วนะเนี่ย



รอไม่นานทั้งน้ำทั้งขนมปังก็มาเสิร์ฟ ผมให้พี่เรนนั่งกินไปเรื่อยๆ ส่วนผมก็นั่งทำข้อสอบต่อไป เหลือไม่กี่ข้อก็เสร็จแล้วละครับ ตั้งใจว่าเสร็จตรงนี้ก็จะพาพี่เรนกลับแล้ว ดูท่าจะไม่ไหวแล้วจริงๆ นะนั่น ผมยังมีวันว่างพรุ่งนี้อีก ไว้ค่อยอ่านอีกรอบ



ผมพาพี่เรนกลับห้องหลังจากที่ทำข้อสอบเสร็จแล้ว พวกไอ้แม็คก็เตรียมตัวแยกย้ายเหมือนกันเพราะแต่ละคนสมองก็ไม่รับรู้อะไรเท่าไหร่แล้ว พวกเราก็เลยพากันกลับไปนอน พรุ่งนี้ค่อยนัดกันอีกที ผมดันหลังพี่เรนให้เข้าไปอาบน้ำให้เรียบร้อยจะได้มานอน ผมเลยถือโอกาสนอนห้องพี่เรนด้วยเลยครับ เพราะตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะไปส่งพี่เรน



ผมเข้าไปอาบน้ำต่อจากพี่เรน ออกมาอีกทีก็เห็นพี่เรนหลับไปแล้ว นอนกอดหมอนข้างหลับปุย ผ้าก็ไม่ห่ม ผ้าเช็ดผมยังวางอยู่ข้างๆ อยู่เลย ผมเลยเดินไปเก็บให้ สำรวจห้องให้เรียบร้อยก่อนจะปิดไฟแล้วเดินไปนอนข้างพี่เรน ดึงพี่เรนเข้ามานอนกอด



“ฝันดีครับผม”







การสอบปลายภาคของผมเสร็จสิ้นไปแล้วครับ แต่ของมหา’ลัยยังไม่เสร็จ แต่ถึงแม้ว่าจะสอบเสร็จแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถโอ้ลัลลาได้ เพราะว่ายังเหลืออีกหนึ่งวิชาครับ นั่นก็คือ... โปรเจคของเทอมนี้ครับ เหลือเวลาอีกสามวันก็จะถึงวันจัดนิทรรการแล้ว จัดที่ห้องแกลลอรี่ของตึกคณะนั่นแหละครับ แถมวันนั้นนอกจากจะมีอาจารย์มาดูแล้ว ยังมีอาจารย์พิเศษอีกครับ เห็นอาจารย์ธีร์บอกว่ามีทั้งอาจารย์จากมหา’ลัยอื่น แล้วก็ช่างภาพชื่อดังอีกหลายคน ตื่นเต้นได้อีกครับ



สองสามวันมานี้ผมเลยฝังตัวเองอยู่กับห้อง แล้วก็ทำโปสเตอร์พรีเซ็นต์ รวมไปถึงเช็ครูปที่จะใช้แสดงด้วย ส่วนพี่เรนยังสอบไม่เสร็จครับ เหลืออีกหนึ่งวิชา สอบวันที่ผมมีจัดงานพอดีเห็นว่าเป็นวิชาที่ยากที่สุดด้วย ผมกับพี่เรนเลยไม่ได้เจอกันเลยครับ ต่างคนต่างยุ่งกับงานของตัวเอง



ผมนั่งตรวจดูโปสเตอร์อีกรอบว่าเรียบร้อยดีแล้วใช่ไหม เดี๋ยวจะเอาไปปริ้นแล้วล่ะครับ รวมถึงรูปของพี่เรนด้วย ผมถ่ายรูปพี่เรนมาเยอะมาก ใช้เวลาเป็นวันกว่าจะเลือกรูปพี่เรนออกมาได้จนเหลือเพียงแค่ประมาณสิบรูป เพราะว่าต้องอัดรูปออกมา ขนาดมันค่อนข้างใหญ่ถ้าใช้หลายรูปมันจะเยอะไปหมดแล้วก็จัดไม่สวย รูปนู้นก็ดูดี รูปนี้ก็ดูใช่ อยากจะแสดงทุกรูปให้ทุกคนเห็นถึงความน่ารักของพี่เรนเลย



ผมหยิบกระเป๋า กุญแจห้องมาถือเอาไว้ ตั้งใจจะเอารูปที่ทำเสร็จแล้วไปอัดที่ร้านใกล้ๆ หอนี่แหละครับ รีบเอาไปทำให้เรียบร้อยจะได้ดูได้ว่าควรจะปรับหรือแก้อะไรตรงไหนอีกหรือเปล่า ถ้าต้องแก้ไขจะได้ทันก่อนวันจัดงาน เพราะเดี๋ยววันมะรืนนี้พวกผมก็ต้องเข้าไปจัด ไปเตรียมสถานที่กันแล้วล่ะครับ



พวกเพื่อนๆ ผมก็คงกำลังหัวหมุนกับการเตรียมรูปอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าไอ้ไม้เป็นอย่างไรบ้าง เมื่อวันก่อนคุยมันบอกว่าภาพที่มันถ่ายมายังไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ บอกจะไปถ่ายมาใหม่ แล้วมันก็หายไปเลยครับ ไลน์ไปก็ไม่อ่านไม่ตอบ คงไปบิ้วอารมณ์ถ่ายรูปอยู่ที่ไหนสักที่นั่นแหละครับ ส่วนคนอื่นๆ ก็เห็นว่ากำลังทำโปสเตอร์กันอยู่เหมือนกัน



“พรุ่งนี้มารับรูปได้นะคะ ก่อนเที่ยงน่าจะเสร็จ” พี่พนักงานที่ร้านบอกกับผม



“โอเคครับ ขอบคุณนะครับ” กว่าผมจะมาร้านก็ใกล้ปิดแล้วล่ะครับ ผมบอกขอบคุณก่อนจะเดินออกจากร้าน



แวะซื้อข้าวมันไก่ก่อนกลับ ซื้อไปให้พี่เรนด้วยดีกว่าไม่รู้ว่าจะกินข้าวหรือยัง ไม่ได้โทรถามด้วยสิ แต่ไม่เป็นอะไรหรอกครับ อีกอย่างผมก็อยากเจอพี่เรน คิดถึงที่สุดเลยตอนนี้



ยืนรออยู่หน้าประตูไม่นาน ประตูห้องพี่เรนก็เปิดออก หัวจุกน้ำพุโผล่ออกมาจากหลังประตู ตาโตๆ ที่อยู่หลังแว่นสายตาอันใหญ่กระพริบปริบๆ ก่อนจะยิ้มออกมา



ผมดันพี่เรนเข้าไปก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง ปิดประตูล็อคให้เรียบร้อย วางถุงข้าวเอาไว้บนตู้ก่อนจะดึงพี่เรนมากอดเอาไว้แน่น



“คิดถึง คิดถึงพี่เรน คิดถึงที่สุดเลย” ผมว่าก่อนจะรัดพี่เรนแน่นขึ้น ทั้งๆ ที่หออยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่ไม่ได้เจอเลย มันเลยยิ่งคิดถึงมากกว่าเดิมไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า



ผมกอดพี่เรนแล้วโยกไปโยกมา พี่หัวเราะยกมือกอดผมตอบกลับมา “งือ...”



ฟอด!



หอมแก้มไปอีกทีเน้นๆ แก้มพี่เรนยังหอม ยังนุ่มเหมือนเดิมเลย ฟัดต่อได้ไหมอ่ะครับ คิดถึงแก้มป่องๆ ขาวๆ นี้ที่สุดเลยอ่ะครับ



“พี่เรนกินข้าวหรือยัง” หลังจากกอดจนพอใจแล้วก็ปล่อยให้พี่เรนเป็นอิสระ



“ยังไม่ได้กิน”



“อย่างนั้นกินข้าวกันก่อนดีกว่า ผมซื้อข้าวมันไก่มาฝากด้วย” ผมบอกก่อนจะเดินไปหยิบจาน ชามมา ส่วนพี่เรนก็เดินไปเคลียร์โต๊ะญี่ปุ่นที่วางหนังสือเรียนเอาไว้เต็มโต๊ะ เพื่อที่เราจะได้มีที่นั่งกินข้าวกัน ผมแวะทักทายหมีที่นั่งเลียขนไม่สนใจโลกแปบนึง มันหันหน้ามามองผมชั่ววินาทีก่อนจะหันกลับไปสนใจแต่งตัวต่อ



“ทำงานเสร็จแล้วเหรอ” พี่เรนถาม พร้อมกับช่วยผมเอาข้าวออกมาเทใส่จาน



“ครับผม เรียบร้อยแล้วเลยแวะมาหาพี่เรนนี่แหละครับ แล้วพี่เรนเป็นยังไงบ้าง อ่านหนังสือไปได้เยอะหรือยัง”



“ก็เกือบจบแล้วล่ะ แต่คงต้องอ่านอีกหลายรอบหน่อย เนื้อหามันเยอะมากเลย” พี่เรนว่า หน้าขาวๆ งอง้ำเมื่อคิดว่าจะต้องอ่านหนังสืออีกหลายรอบ



ผมยิ้ม ยื่นมือไปจิ้มแก้มที่ป่องออกมา พี่เรนตัวเล็กนิดเดียว แต่มีแก้ม แถมแก้มนุ่มด้วย ขาวด้วย หอมด้วย ผมเลยชอบจิ้ม ชอบจับ ชอบฟัดแก้มพี่เรนที่สุด เอาจริงๆ ตั้งแต่คบกันมาผมกับพี่เรนเราไปไกลสุดก็แค่จูบนั่นแหละครับ ใจจริงก็อยากไปให้ไกลกว่านี้นะ แต่ผมว่าพี่เรนยังไม่พร้อม เลยต้องอดใจเอาไว้ก่อน



“สู้ๆ นะครับ ยังไงพี่เรนก็ทำได้ ผมเชื่อแบบนั้น”



“อือ! ขอบคุณนะ” พี่เรนยิ้มกว้างมาให้



“คืนนี้ผมนอนนี่นะ พรุ่งนี้พี่เรนอยู่ห้องใช่ไหมครับ” ผมถาม พอพี่เรนพยักหน้าผมก็เลยพูดต่อ “อย่างนั้นพรุ่งนี้ผมอยู่กับพี่เรนด้วยดีกว่า เพราะเดี๋ยวมะรืนนี้ผมต้องไปจัดงานแล้ว คงยุ่งทั้งวันเลย แล้วพี่เรนสอบเสร็จกี่โมงครับ”



“เที่ยงน่ะ อาจารย์คงไม่ให้นานกว่านี้หรอก” วิชาสุดท้ายของพี่เรนเป็นการสอบนอกตาราง เป็นวิชาในคณะเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ พี่เรนบอกว่ายากมากเพราะเป็นข้อเขียนทั้งหมด



“ถ้าอย่างนั้น... สอบเสร็จแล้วไปดูงานผมนะ”



“อ่า... ตกลงกายยังใช้รูปพี่อยู่ใช่ไหมอ่ะ” พี่เรนทำหน้าแปลกๆ ตอนผมชวน



ผมหัวเราะ พยักหน้ารับ “ใช่ครับ ไปดูนะ ผมอยากให้พี่เรนได้เห็น ได้เห็นพี่เรนในแบบ ในมุมมองที่ผมเห็นแล้วต้องการจะถ่ายทอดมันออกมา”



“พี่เขินอ่ะ... มันต้องแปลกๆ มากแน่เลย”



“ไม่หรอกครับ เชื่อผมสิ ไปดูนะครับนะ” ผมอ้อน แล้วพี่เรนก็มักจะใจอ่อนเสมอเวลาผมอ้อน แบบนี้ผมก็ยิ่งได้ใจไงครับ “นะครับ นะ”



“ก... ก็ได้”



“ขอบคุณครับ พี่เรนน่ารักที่สุดเลย รักพี่เรนที่สุดอ่ะ” ผมว่าก่อนจะกอดพี่เรนเอาไว้แน่น



แฟนใครเนี่ย น่ารักที่สุดเลยอ่ะ อ๋อ... แฟนผมนี่เอง เนอะ







************************************************
ไม่อยากจะบอกเลย... ว่าตอนนี้เป็นตอนจบของเรื่องนี้แล้วค่ะ ครั้งหน้าเราจะต้องโบกมือลาน้องกายพี่เรนกันแล้ว แต่ฟางจะพาทั้งสองคนแวะเวียนมาหาเท่าที่จะมาได้นะคะ ตอนนี้ยังไม่ขอบคุณดีกว่า เอาไว้ขอบคุณทีเดียวครั้งหน้าเลยเนอะ ^^ แล้วเจอกันค่าาาาาาา

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [50%] l P.11 10-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 11-08-2017 06:02:21
พี่เรนน่ารักที่สุดอ่าา
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [50%] l P.11 10-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 12-08-2017 11:25:50
เจ้ากายยังคงทำตัวน่าหมั้นไส้ได้เสมอตนเสมอปลายมาก ฮ่าๆๆ  :hao7: พี่เรนก็น่าฟัดทั้งเรื่องเลย รอดูพี่เรนตอนเห็นงานเจ้ากาย พี่เรนต้องเขินตัวม้วนแน่เลย ขอบคุณค่ะฟาง ตอนหน้าจะจบซะแล้ว กอดๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [50%] l P.11 10-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 14-08-2017 08:06:56
น่ารักมุ้งมิ้งกันจริงคู่นี้   :mew1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 17-08-2017 22:43:06
(http://68.media.tumblr.com/7ef6ef1523090111724897cd34b7a61c/tumblr_onn5kj4uoK1r9f1l9o6_540.gif)
“Lucky Love ของผมครับ”
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 20.2 •





• • • ต่อค่ะ 100% • • •





พี่เรน



เมี๊ยว เมี๊ยว



ผมขยับตัวตื่นเพราะเสียงร้องของน้องหมีที่มาปลุก จับน้องหมีมากอดเอาไว้ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา นาฬิกาปลุกยังไม่แจ้งเตือน แต่ก็อีกไม่กี่นาทีผมก็ต้องตื่นอยู่ดี กอดฟัดน้องหมีอยู่ไม่นานก็ต้องลุกไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวไปสอบวิชาสุดท้ายของเทอมนี้



ผมมีสอบตอนเก้าโมงที่คณะ เพราะว่าวิชานี้สอบนอกตารางของมหา’ลัยครับ เป็นวิชาประวัติศาสตร์ ยากมากๆ เลยด้วย รายละเอียดเยอะมาก ผมอ่านหนังสือไปหลายรอบก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าจำได้ทั้งหมด ไม่รู้ว่าข้อสอบจะยากแล้วก็เยอะแค่ไหน เดามั่วไม่ได้ด้วยเพราะเป็นข้อเขียน



ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เตรียมข้าวเอาไว้ให้น้องหมี กว่าจะกลับมาที่ห้องก็คงตอนเย็นเลยเพราะหลังจากสอบเสร็จ... ผมสัญญากับน้องกายว่าจะไปดูงานของเขา เอาจริงๆ ผมไม่กล้าไปอ่ะครับ ไม่กล้าเห็นรูปตัวเอง ผมว่ามันต้องประหลาดมากแน่ๆ เลย ไม่รู้น้องกายคิดยังไงถึงได้เอาผมไปเป็นแบบ จากที่จะได้เกรดสูงๆ จะแย่เอาน่ะสิครับ แต่ท่าทางของเขาก็มั่นใจมากเลยทีเดียว



“เราไปสอบแล้วนะ อยู่ห้องเป็นเด็กดีนะเข้าใจไหม เดี๋ยวเรากลับมานะ” ผมพูดกับน้องหมี อุ้มมากอดมาหอมอีกรอบก่อนจะปล่อย



เช็คดูของให้แน่ใจว่าไม่ลืมอะไรก็เดินออกจากห้อง เดี๋ยวตินาจะมารับที่หอครับ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรหาตินา แต่ก็เห็นข้อความของน้องกายที่ส่งมา



คิดถึงพี่เรนอีกแล้ว วันนี้สอบก็ตั้งใจนะครับ สู้ๆ นะ
ผมเชื่อว่าพี่เรนต้องทำได้อยู่แล้ว
พี่เรนของผมน่ะเก่งจะตายไป เนอะ
ผมเอาใจช่วยครับ
สอบเสร็จแล้วก็... อย่าลืมที่นัดกับผมนะ
ผมอยากให้พี่เรนมาดูจริงๆ
แล้วเจอกันครับ




คงส่งมาตอนที่ผมกำลังอาบน้ำอยู่เลยไม่ได้ยินเสียง ผมเลยส่งข้อความตอบกลับไปนิดหน่อย ก่อนจะเห็นรถของตินาเลี้ยวเข้ามาพอดี ถึงได้เก็บโทรศัพท์แล้วเดินไปขึ้นรถ



“เป็นไง พร้อมไหมวันนี้” ตินาหันมาถามผม



ผมทำหน้ายุ่งก่อนจะส่ายหน้า “ไม่พร้อม เราไม่มั่นใจเลยว่าจะจำรายละเอียดได้”



“ถ้าอย่างเรนจำไม่ได้ อย่างฉันคงเทละค่ะวิชานี้ สอบกี่ทีก็บอกว่าจำไม่ได้ๆ ตลอด แต่คะแนนสอบออกมาก็ท็อปตลอด น่ามันเขี้ยวจริงๆ!” ตินาพูดก่อนจะยื่นมือมาบีบแก้มผม



“งือ...” ผมร้อง ยกมือลูบแก้มตัวเองเบาๆ ทุกคนเลย... ชอบเล่นแก้มผม น้องกายก็เหมือนกัน แก้มผมจะช้ำหมดแล้วเนี่ย



“สอบเสร็จแล้วพวกเราจะไปฉลองที่ไหนกันดี” ตินาถาม ปกติเวลาสอบเสร็จพวกเราจะไปหาของอร่อยๆ กินกันครับ แต่ว่าวันนี้...



“เรานัดกับน้องกายเอาไว้” ผมตอบ “วันนี้น้องกายมีจัดนิทรรการ ไฟนอลโปรเจคน่ะ น้องอยากให้เราไปดู แล้วเราก็... ตกลงไปแล้ว”



“หือ... โปรเจค ที่ว่าให้เรนไปเป็นนายแบบให้น่ะเหรอ” ผมพยักหน้ากับคำถามของตินา “ว้าว! อย่างนั้นเปลี่ยนแผนดีกว่า สอบเสร็จเราไปหาอะไรกินง่ายๆ ที่โรงอาหารแล้วไปดูภาพของแฟนเรนดีกว่า”



อ่า... ยังรู้สึกแปลกแล้วก็เขินๆ ทุกครั้งเวลาที่มีคนเรียกน้องกายว่าเป็น ฟ... แฟน ผม ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่ผมก็เขินนี่นา



“หึหึ หน้าแดงแล้วเรนจัง” ตินาส่งเสียงล้อเลียน “เขินเหรอ เขินเหรอ เวลาเขินนี่น่ารักจริงๆ เลยนะ นี่เรน... ถามจริงๆ เลยนะ กับน้องกายน่ะ ไปถึงขั้นนั้นกันยัง”



ผมหันไปมองตินาตาโตทันที ถ ถามอะไรน่ะ... ขั้นนั้นน่ะ ม หมายถึงอะไรกัน



“อย่ามาทำไม่รู้เลยน่าว่าฉันหมายถึงอะไร ว่าไง... ไปถึงไหนกันแล้ว”



“ม ม ไม่ถึงขั้นไหนทั้งนั่นแหละ!” ผมร้องโวยวาย เห็นหน้าตัวเองที่สะท้อนอยู่บนกระจกรถแล้วก็อยากจะหายตัว ทำไมหน้าผมแดงขนาดนี้นะ



“หว้า... ยังไม่ถึงขั้นนั้นอีกเหรอ จะว่าไปกายนี่ก็ช้าเหมือนกันนะเนี่ย อิอิ”



“น นี่!... ข ขับรถไปเลยนะ เราไม่คุยกับตินาแล้ว อ่านหนังสือดีกว่า” ผมว่าหยิบชีทขึ้นมาอ่าน งือ... ทำไมถึงได้ถามอะไรแบบนี้ก็ไม่รู้ ม มันยังไม่ถึงขั้นนั้นกันสักหน่อย



อ่า... แล้วนี่ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย จะสอบอยู่แล้วนะต้องอ่านหนังสือสิ ต้องทบทวนที่โน้ตมาสิ เดี๋ยวก็เข้าสอบไม่รู้เรื่องกันพอดี งือ...



กว่าผมจะเรียกสติของตัวเองให้กลับมาได้ก็เหลือเวลาอีกไม่นานก็จะเข้าห้องสอบแล้ว ถ้าผมทำข้อสอบไม่ได้นะ... ผมจะ ผมจะโทษ... จะโทษตินาเลย จะโป้งตินาด้วย



ข้อสอบยากอย่างที่คิดเอาไว้เลย แถมมีตั้งหลายข้อ แล้วทุกข้อก็เป็นข้อเขียนทั้งหมด ทั้งให้อธิบายความหมาย เขียนรายละเอียดงานศิลปะแต่ละช่วง แต่ละยุคสมัย แล้วก็มีโจทย์มาให้ว่าจะมีครอบครัวหนึ่งจะตกแต่งบ้านใหม่ แต่ละคนชอบสไตล์นี้สไตล์นี้ ให้เขียนบรรยายว่าเราจะดึงงานศิลปะ การตกแต่งในช่วงยุคสมัยไหนมาใช้ในการตกแต่งบ้านหลังนี้ มีแต่ยากๆ ทั้งนั้นเลยครับ



กว่าจะเสร็จก็หมดเวลาทำข้อสอบพอดี อ่า... ยังทวนไม่ครบทุกข้อเลย หวังว่าที่ผมเขียนไปจะถูกบ้างนะ



แต่ละคนที่เดินออกจากห้องสอบสภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่เลยครับ



“ไงเรน ทำข้อสอบได้ไหม” ผมเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนในคณะที่เดินเข้ามาทัก อยากจะเบะหน้าเลยครับ



“ข้อสอบยากมากเลย ดินทำได้ไหม”



“ได้บ้างมั่วบ้าง แต่เรนเก่งอยู่แล้วนี่นะ ยังไงก็ท็อปอยู่แล้วละสิ” ดินว่า ยกมือขึ้นยีหัวผมเบาๆ ก่อนจะยิ้มให้



“เราขอแค่ผ่านก็พอใจแล้วล่ะ” ผมบอก ดินหัวเราะก่อนจะชวนผมรวมไปถึงพวกตินาไปหาอะไรกินกัน “ไม่ได้หรอก พอดี... เรามีนัดแล้วน่ะ”



ดินเองก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากพยักหน้ารับ แล้วก็โบกมือให้ก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง ผมนั่งรอพวกตินาอยู่หน้าห้อง สาวๆ ยังไม่ออกมาครับคงกำลังเก็บของกันอยู่ พอพวกตินาออกมาเราก็เลยไปหาอะไรกินที่โรงอาหารของคณะ กินกันไปคุยถึงข้อสอบกันไป แต่ถึงจะคุยกันไปเราก็กลับไปแก้คำตอบไม่ได้อยู่ดี



“เรนเคยเห็นรูปที่น้องกายถ่ายหรือยัง ที่จัดวันนี้น่ะ” ใบหม่อนหันมาถามผม ระหว่างที่พวกเรากำลังย้ายไปคณะนิเทศกัน ไปด้วยรถของตินาครับ มีสานั่งอยู่ข้างๆ ส่วนผม ใบหม่อน แล้วก็แป้งนั่งอยู่ด้านหลัง



ผมส่ายหน้า “ยังไม่เคยเห็นเลย น้องกายไม่เคยเอามาให้ดู เราก็ไม่ได้ขอดูด้วย เราว่ามันต้องตลกแน่ๆ เลย”



“ไม่ตลกหรอก” สาพูด พร้อมกับยื่นโทรศัพท์มาให้ผมดู “ในเพจคิ้วบอยลงรูปเอาไว้ เป็นงานของเด็กนิเทศนั่นแหละ ติดรูปของเรนมาด้วย ฉันว่าสวยมากเลยนะ”



ผมรับโทรศัพท์ของสามาดู มีสองสาวชะโงกหน้ามาดูด้วย ก่อนจะร้องวีดว้ายกันใหญ่ ผมมองรูปในจอแล้วก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆ อ่า... นั่นผมจริงๆ เหรอครับ ดูเหมือนจะไม่ใช่เลย...



“กายถ่ายรูปสวยมากอ่ะ ชักอยากจะไปเห็นรูปจริงๆ แล้วสิ ดูสิมีแต่คนมาเมนต์อิจฉาเรนกันใหญ่เลย” ใบหม่อนพูดพร้อมกับเลื่อนดูคอนเมนต์ใต้รูปนั้น



รูปที่สาเอาให้ดู เป็นรูปตอนที่น้องกายกำลังยกรูปของผมขึ้นติดเอาไว้ ข้างๆ ก็มีรูปผมแขวนเอาไว้อีกหลายรูปเลย เห็นแล้วมันแปลกๆ เขินๆ ยังไงก็ไม่รู้ คนหน้าตาธรรมดาๆ เฉยๆ อย่างผมเนี่ยนะจะได้เป็นนายแบบ ถึงแม้จะเป็นนายแบบให้น้องกายก็เถอะครับ



ไม่นานเราก็ถึงคณะนิเทศ ผมเดินก้มหน้าก้มตาตามสาวๆ เข้าไปในอาคาร เพราะรู้สึกเหมือนหลายคนจะจ้องมาทางผมไม่หยุดเลย นี่งานพรีเซ็นโปรเจคของนักศึกษาจริงๆ เหรอครับ ทำไมคนเยอะขนาดนี้เนี่ย ดูใหญ่มากเลย ห้องที่จัดงานก็ใหญ่มาก ทำไมดูจริงจังไปหมดเลย เหมือนเห็นคนดังๆ เดินผ่านไปผ่านมาในห้องนั้นด้วย



ตินาลากผมเข้าไปในห้องที่จัดงาน ภาพเยอะมากครับ แต่ละภาพสวยๆ ทั้งนั้นจนไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นฝีมือของนักศึกษา เจ้าของภาพยืนประจำจุดของตัวเองแล้วก็คอยอธิบาย ตอบคำถามของคนที่มาดู อ่า... บรรยากาศแบบนี้ผมเคยเห็น ตอนที่น้องกายมีพรีเซ็นต์งานครั้งก่อน พวกตินาพาผมเดินไปเรื่อยๆ เพื่อหาว่าน้องกายอยู่ตรงไหน รูปของผมอยู่ตรงไหน



ยิ่งเดินอยู่ในห้องทุกคนก็ยิ่งหันมามองผมกันใหญ่ ผมว่าหลายๆ คนในนี้คงเห็นรูปที่น้องกายแสดงแล้วแน่ๆ เลยถึงได้มองผมแบบนี้



โปสเตอร์ที่วางอยู่ตรงหน้าทำให้พวกเราหยุด ผมเองก็หยุดมอง เป็นภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำ การกระทำของคนนั้นแปลกมาก เพราะเขายิ้มกว้างแล้วก็กอดลูกแมวเอาไว้ มีตัวอักษรอะไรไม่อยู่ตรงพื้น ทั้งๆ ที่ฝนตกหนักมากแล้วท้องฟ้าก็มืดสนิท แต่รอยยิ้มของคนในภาพนั้นก็ดูสว่างไสว คนนั้นน่ะ... ก็เป็นผมเอง แต่จำไม่เห็นได้เลยว่าตอนถ่ายรูป ผมทำท่านั้นด้วย...



อ่ะ... ลูกแมวนั่น... น้องหมีตอนเด็กๆ นี่ครับ จำได้แล้ว... ภาพนี้น่าจะเป็นตอนที่ผมเจอน้องหมีครั้งแรก น้องหมีถูกปล่อยทิ้งไว้ใต้เก้าอี้ ผมได้ยินเสียงน้องร้องเลยเดินเข้าไปดูทั้งๆ ที่ฝนตก แล้วก็พาน้องหมีกลับมา แต่นั่นมันก็... ตั้งเป็นปีแล้ว



“ผมไม่เคยมองว่าฝนเป็นตัวแทนของความเหงา ความเศร้า หรือความเดียวดายเลยสักครั้งเดียว” เสียงน้องกายกำลังพูดอธิบาย ทำให้ผมหันไปมอง “คำว่า ‘ฝน’ ในความหมายของผม คือ ‘ความสุข’ ครับ ฝนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ก็เหมือนกับคนนั่นแหละครับ คนเราทุกคนมีความเป็นธรรมชาติอยู่ในนั้น และธรรมชาตินั้น... เป็นความสุขอย่างหนึ่งครับ”



“ในระหว่างที่มีคนกำลังเศร้า กำลังทุกข์อยู่ในระหว่างที่ฝนตก ก็มีคนที่มีความสุข และสนุกสนานอยู่เหมือนกัน ผมเลยต้องการจะถ่ายทอดออกมาว่าฝนเป็นอะไรได้มากกว่าความเหงา เหมือนกับ ‘ฝน’ ในรูปของผม ที่เขามีแต่ความสุข มีแต่ความเป็นธรรมชาติ ความเป็นตัวตนของเขา”



ผมไล่สายตามองภาพแต่ละภาพของน้องกาย เป็นภาพของผมที่อยู่ท่ามกลางสายฝน ภาพที่ผมยืนเก้ๆ กังๆ อย่างไม่รู้จะว่าตัวหรือทำตัวยังไงดี ภาพที่ผมก้มลงจับน้องหมีที่วิ่งมาหา ภาพที่ผมวิ่งเล่น นั่งเล่นกับน้องหมี ภาพผมที่ยิ้มกว้างจนตาแทบจะปิด ภาพที่ผมมองตรงเหมือนกับว่ากำลังมองกล้อง แต่ไม่ใช่หรอกครับ... ผมไม่ได้มองกล้อง ผมกำลังมองคนที่กำลังถ่ายรูปของผมอยู่



“ไม่ต้องแต่งเติม หรือเสริมอะไร เขาแค่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนกับฝนที่ตกลงมาโดยไม่มีอะไรแอบแฝง แต่คนเรานั่นเองแหละครับที่ตีควมหมายยามเวลาฝนตกไปเองต่างๆ นาๆ ทั้งๆ ที่ฝนตก ก็คือฝนตก”



“ผมว่าคุณแสดงออกมาได้ดีทีเดียว” ผมไม่รู้ว่าใคร แต่คงเป็นอาจารย์ที่พูดแบบนั้นกับน้องกาย “คุณสื่อออกมาได้ดีว่าฝนกำลังมีความสุข ผมก็สงสัยนะว่าทำไมคนถึงชอบตีความหมายเวลาฝนตกเป็นความเหงา ความเศร้าไปได้ ทั้งๆ ที่มันจะเป็นความสุขอย่างที่คุณว่าก็ได้”



“ครับ แต่ผมเอง... ก็เพิ่งจะมองว่าฝนคือความสุขเมื่อไม่นานมานี้เองครับ เมื่อประมาณปีที่แล้วได้ ที่ความคิดของผมที่มีต่อฝนเปลี่ยนไป” น้องกายตอบ ก่อนจะหันมามองผมเหมือนกับรู้อยู่แล้วว่าผมยืนอยู่ตรงนี้



“วันนั้นผมกำลังเซ็งและเบื่อหน่ายที่ฝนตกลงมาเพราะทำให้ผมไม่สามารถถ่ายรูปได้ การถ่ายรูปเวลาฝนตกของผม ผมว่ามันยุ่งยากเพราะภาพมันไม่สวย ไม่ชัด แต่วันนั้นกลับเป็นวันที่ผมได้รูปที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยมาถ่าย ภาพของ ‘ฝนที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข’ เป็นภาพที่ดีที่ของผม” น้องกายหันไปตอบ แต่ก็หันมามองผมเรื่อยๆ “และนั่นแหละครับที่ทำให้ผมมองฝนแตกต่างออกไป”



“เพราะผมมองเห็นความหมายของฝนในมุมที่แตกต่าง ผมถึงได้คิดคอนเซ็ปนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะถ่ายทอดมุมมองใหม่ๆ ของสายฝน ฝนตกไม่จำเป็นต้องเจ็บ ต้องเหงา ต้องเศร้าหรือว่าอ้างว้าง แม้ว่าคุณจะอยู่คนเดียว แม้ว่าจะคุณไม่มีใคร แต่อย่างน้อยคุณก็ยังมีสายฝนที่อยู่ข้างๆ แล้วทำไม... คุณถึงไม่มีความสุขแทนละครับ เพราะคิดแบบนั้นผมเลยนำเสนอผลงานของผมออกมาในรูปแบบนี้ครับ”



“พอผมคิดใหม่ ผมก็เลยตกหลุมรักช่วงเวลาฝนตก และถ้าถามว่า... ฝนในความหมายของผมคืออะไร”



อยู่ๆ หัวใจของผมก็เต้นแรง ตอนที่น้องกายหันมาทางผม ทำให้คนอื่นๆ ก็หันมาทางผมด้วยเหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าพวกตินาหายไปไหนแล้ว เหมือนตอนนี้ผมกับน้องกายกำลังยืนหันหน้าเข้าหากัน มีคนอื่นๆ เป็นวงล้อมอยู่ด้านนอก



“ฝน... ในความหมายของผมคือ... ความรัก ครับ”



“ฝน... ในความหมายของผมคือ... ความโชคดี คือ Lucky Love ของผมครับ”








กายยืนมองพี่เรนของเขาก่อนจะยิ้มออกมา เพราะว่าเขาเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อสายฝนที่ตกลงมาจากฟากฟ้า เพราะอย่างนั้นสายฝนจึงเปรียบเสมือน Lucky Love ของเขา เพราะว่าเขามองแตกต่างออกไป เขาถึงได้เจอความรักที่พิเศษ เป็นความรักที่ไม่มีใครมองเห็น ไม่มีใครที่สามารถจับต้อง และครอบครอง



เรน... จึงเป็นเหมือนความโชคดีของกาย



และกาย... ก็เป็นเหมือนความโชคดีของเรน



ความโชคดีที่พวกเขามองเห็นกันและกัน เป็นความโชคดีที่พวกเขาได้รู้จักกัน เป็นความโชคดีที่พวกเขาได้รู้จักคำว่ารัก ได้เรียนรู้ และได้ใช้ความรักนั้น



เป็นเหมือน Lucky Love ที่วิเศษที่สุดที่พวกเขาเคยเจอ






************************************************
จบลงแล้วค่ะสำหรับนิยายเรื่องนี้ เหมือนจะนานเพราะฟางหายไปนานแต่เอาจริงๆ ก็ไม่นาน ที่เรื่องนี้จบเร็วเป็นเพราะว่านิยายเรื่องนี้ไม่มีดราม่าค่ะ ไม่มีปม ไม่มีเหตุการณ์อะไร ถ้าจะยืดเรื่องราวออกไปอีกฟางก็กลัวว่าตัวฟางเองจะจบไม่ลง ฟางก็เลยขอจบนิยายเรื่องนี้ลงตรงนี้ดีกว่า ซึ่งฟางจะพาน้องกายกับพี่เรนมาหาอีกแน่นอนในรูปแบบของตอนพิเศษนะคะ อาจจะต้องให้เวลาฟางนิดหนึ่ง เพราะช่วงนี้งานค่อนข้างเยอะ แล้วก็จะเคลียร์ตอนพิเศษเรื่องนี้สำหรับในรูปเล่มด้วย ซึ่งรวมเล่มเนี่ย ฟางจะส่งสำนักพิมพ์ค่ะ ถ้ามีรายละเอียดอะไรแล้วฟางจะแจ้งอีกทีนะคะว่ารวมเล่มกับสำนักพิมพ์อะไร แล้วเปิดจองอะไรเมื่อไหร่

ส่วนตอนจบสำหรับเรื่องนี้... ก็อย่างที่น้องกายบอกเนอะ Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่เฉพาะพี่เรนที่เปลี่ยนโฉมตัวเองถึงได้เจอรักอย่างน้องกาย แต่ก็หมายถึงน้องกายเอง ที่เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนความคิด เขาถึงได้มองเห็นความรักที่เกิดขึ้น มันเป็นลัคกี้ เป็นความโชคดีที่น้องได้เจอ ซึ่งถ้าเราเองได้ลองเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนความคิด เราอาจจะเจอความโชคดีอะไรบ้างก็ได้ มันก็เลยเป็นที่มาอีกอย่างหนึ่งสำหรับชื่อเรื่องของเรื่องนี้ค่ะ

แล้วก็... ก่อนจะจบกันไป ฟางต้องขอขอบคุณคนอ่านทุกๆ มากค่ะ ที่ติดตามนิยายเรื่องนี้ แม้อาจจะไม่ได้เยอะเทียบเท่าเรื่องอื่นๆ แม้ว่านิยายเรื่องนี้จะไม่ได้มีอะไรมากแต่ฟางก็ขอบคุณมากค่ะที่ยังรอฟาง แล้วก็อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนจบนี้ ฟางต้องขอบคุณจริงๆ ค่ะ แล้วเราก็จะยังไม่จากไปไหนนะคะ ทุกคนยังสามารถติดตามนิยายเรื่องอื่นๆ ของฟางได้อีก บอกเลยว่ามีอีกหลายเรื่องค่ะ

นอกจากฝากนิยายเรื่องนี้แล้ว ฟางก็ขอฝากนิยายเรื่องอื่นๆ ของฟางด้วยนะคะ มีทั้งที่จบไปแล้ว รวมถึงที่กำลังอัพเดท อยากลองให้ติดตามกันค่ะ ขอบคุณมากนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 18-08-2017 01:14:45
 :L2: :L2: :L2: จบไปอีกเรื่องแล้ว ยินดีกับเจ้ากายแล้วพี่เรนด้วยนะคะ ที่ได้เจอตัวจริงของตัวเอง คนอ่านก็หวังว่าจะเจอมั้ง แม้เจ้ากายจะน่าหมั่นไส้และพี่เรนจะน่าฟัดทั้งเรื่องก็ตาม ขอบคุณฟางมากค่ะ แม้จะหายไปบ้างแต่ก็ยังติดตามอ่านตลอดนะ รอติดตามตอนพิเศษจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-08-2017 04:55:05
น่ารักทั้งคู่อ่ะ ฟินเลย!
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-08-2017 06:00:58
น่ารักมากกกก
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 18-08-2017 06:56:44
น่ารักมากกกกกกก ขอบคุณคะ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 19-08-2017 23:20:23
                             :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
                   :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-08-2017 17:33:10
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 22-08-2017 22:34:29
กรี๊ดดดดดดดดด อยากเห็นพี่เรนโดนน้องกายกิน ขอตอนพิเศษค่าาาาาาาาาาาา  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 23-08-2017 00:04:09
 :heaven feel gooooooooood
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 23-08-2017 18:48:34
 :hao7:จบแล้ววว จบแบบละมุน
พี่หมีมีความเป็นตัวหลักในเรื่องสูง
ฮ่าาา
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 24-08-2017 15:07:29
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 26-08-2017 01:49:56
หวานๆ กันปิดท้าย  ทำคนอ่านเขินตัวแตกไปเลย   ขอบคุณนะคะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 26-08-2017 15:43:39
มีตอนพิเศษมั้ยอ่า
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: mouymai ที่ 02-09-2017 11:45:28
หวานปิดท้ายมากเลยคะ เขิน :-[
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: miwmiwzaa ที่ 03-09-2017 16:12:27
หวานมากกกก ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 05-09-2017 14:24:45
สนุกค่ะ ชอบ มันหวานๆ อบอุ่นดีค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-09-2017 22:17:45
รักเลย หลานคู่นี้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 11-09-2017 17:45:44
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ
พี่เรนน่ารักมากกกก
เข้าใจกายเลยที่คลั่งได้ขนาดนี้555
เป็นคนที่น่าบีบบบจริงๆนั่นแหละ
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆนะคะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 26-09-2017 21:36:21
อ่านอย่างบ้าคลั่งงง พี่เรนน่ารักน่าขยำมากกกกกก
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 01-10-2017 21:04:44
กรีดร้องงงง โอยยยยยยย อยากได้น้องเรนมาครอบครอง
คือดีงามมากเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
 :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 02-10-2017 18:38:38
น่ารักมาก ๆ ครับ อ่านไปยิ้มไปทั้งเรื่องเลยครับ



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 04-10-2017 18:20:26
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 05-11-2017 20:48:59
น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: imseries ที่ 08-11-2017 20:38:10
ชอบมากๆเลยค่ะ น่ารักสดใสได้อีก :mew1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-11-2017 15:02:01
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 09-11-2017 22:31:48
สนุก น่ารักดีค่ะ แต่ตอนจบค้างๆน้า เสียดาย อยากให้มีเพิ้มเติมจ่าาา
 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 12-11-2017 16:32:59
น่ารักมากค่ะ พลาดเรื่องนี้ไปเฉยเลย

อะไรหลายอย่างทำให้มีวันนี้ นอกจากความพยายามของกายแล้ว ยังเป็นความเข้าใจของเรนด้วย
กายไม่ทำให้เรนรู้สึกว่าพลาด ทำให้เรนรู้ว่ากายเห็นตัวตนจริงๆ หลังจากที่เฟลมานาน
เรนน่ารัก คนอะไรน่าฟัดมาก ใสซื่อมาก แล้วเรื่องหลงทางน่ะ เยอะไปละนะ
แต่ตอนนี้ไม่ต้องห่วงละเนาะ มีคนดูแลแล้ว 555

ชอบทีมเพื่อนกาย ช่วยเหลือกันดี แล้วก็ห่วงใยกันดี ทั้งๆ ที่พึ่งมารู้จักกันตอนเรียนม.
ทีมเพื่อนเรนก็ดีนะ ดูแลคนตัวนิ่มมานาน ห่วง หวงมานาน แต่ก็วางใจให้กายดูแลเพราะเรนมีที่ท่า ไปในทางที่ดี

ขอย้ำว่าน่ารักดีค่ะ กายมีความอดทนสูงดี 5555

ขอบคุณมากนะคะ เป็นกำลังใจให้ต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 24-11-2017 17:05:40
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: NOOKNIK21 ที่ 13-12-2017 19:44:45
 :mew1เป็นนิยายที่ละมุนมากตั้งแต่อ่านมา หวานแบบมดแทบขึ้น น่ารัก ❤ :mew2:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 25-12-2017 06:04:06
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 10-01-2018 10:34:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-01-2018 07:49:25
พี่เรนน่ารักมากเลยยยย
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: แ ฝ ง. ที่ 28-01-2018 23:55:18
สนุกมากค่ะ
พี่เรนน่ารักมากเลย

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 16-03-2018 01:31:38
 :hao3: เนื้อเรื่องน่ารักมากๆๆๆๆค่ะ ฟินมาก  :impress3:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: Pramooknoi ที่ 17-03-2018 15:50:38
งือ น่ารักอ่า :hao6: รอตอนพิเศษค่า
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 20-03-2018 14:27:23


จบแล้ว.....

กำลังอินได้ที่เลยขอรับ

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: พระสนมฝ่ายซ้าย ที่ 14-04-2018 08:10:44
อ่านจบแล้วค่า
พี่เรนน่ารักมากๆเลย ขอดึงแก้ม1ที ><
น้องกายโชคดีมากๆค่ะที่ได้พี่เรนเป็นแฟน มีความสุขกันมากๆน้า
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 14-04-2018 23:41:01
คือหวานมากๆ เลย
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 05-05-2018 20:31:41
เขินค่าา ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีเรื่องนี้นะคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • l Lucky • 20 • [100%] END l P.11 17-08-60
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 30-05-2018 17:05:14
น่ารักค่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: fangiily ที่ 06-09-2018 23:19:49
(https://scontent.fbkk12-2.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/40591902_1789629134418615_573619197645422592_o.jpg?_nc_cat=0&oh=3b076b069d48da7e6c0f5ac0d171edcb&oe=5C25D35B)


แจ้งอัปเดตหนังสือ
“Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก”

สวัสดีค่ะ วันนี้ฟางขอมาอัปเดตสถานะของหนังสือนิยายเรื่องนี้กันสักหน่อยนะคะ
สำหรับนิยาย #น้องกายหลงฝน รวมเล่มกับทาง สนพ. Hermit Book นะคะตามที่เคยแจ้งเอาไว้
และวันนี้สามารถสั่งจองนิยายเรื่องนี้ได้แล้วทางหน้าเว็บไซต์ของ สนพ. ค่ะ
>> http://bit.ly/2CoyNDw (http://bit.ly/2CoyNDw) <<

กดสั่งซื้อหนังสือสำหรับช่องทางไปรษณีย์ค่ะ

สำหรับคนที่อยากได้หนังสือแบบรวดเร็วทันใจ
งาน Gen Y ที่จะถึงนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน 2561
ตั้งแต่เวลา 10:00 – 15:00 น.
ณ หอประชุมกลางน้ำ แหล่งสมาคมนายทหาร
กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (สนามเป้า)

สามารถไปพา น้องกายกับพี่เรน กลับบ้านได้นะคะ

ราคาพิเศษตอนนี้อยู่ที่ 310 บาท จากราคาปกติ 350 บาท
ของแถม ที่คั่นหนังสือ โปสการ์ด
การ์ตูนแก๊กจิบิแทรกในเล่มค่ะ
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 01-10-2018 07:15:42
 :pig4:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 03-10-2018 15:21:30
งื้ออออ น่ารัก
ขอบคุณค่ะ   :-[ :-[ :-[ o13
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 07-10-2018 19:58:18
น่ารักมากกกกกกกกกก เรื่องค่อยๆดำเนิน ไม่เร่งรัดอะไร อ่านแล้วสบายสมองด :impress2:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 16-10-2018 08:30:30
นิสัยน้องกายทำให้น้องกายดู cute.น้องน่ารัก สดใสมาก ส่วนพี่เรนก็ซื่อมากมีความเป็นน้องที่พยายามเป็นพี่ สดชื่นนนนนนน ฟิลกู๊ดระดับ10
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 24-11-2018 12:50:46
 :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 25-11-2018 11:37:25
 :pig4: :pig4: :pig4:
 :กอด1: :กอด1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: NYpat ที่ 25-11-2018 20:46:03
อ่านสองรอบแล้ว   ชอบความสัมพันธ์แบบนี้ ค่อย ๆ รัก ไม่ต้องหวือหวา  แต่มีความสุขล้นปรี่
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 14-12-2018 12:06:54
 :L2: หวานมากกกกกกก น่ารักดีค่ะ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 07-01-2019 23:13:20
 o13
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 10-01-2019 08:30:19
น่ารัก พี่เรนมีความน่าเอนดู
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Piiiimsen ที่ 11-01-2019 23:21:38
โอ๊ยย ละมุนน กว่าเขาจะสารภาพรักกันคือลุ้นหนักมาก5555
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 20-04-2019 12:00:40
 :mew1: :mew1: :mew1: มารอบ2 เพราะความน่ารักของพี่เรน
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 07-05-2020 20:39:19
 :mew1:
หัวข้อ: Re: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 17-08-2020 14:33:55

มาตามความรักของน้องกายกับพี่เรน ฟินเวอร์ ไปแล้วจ้าาาา

รักน้องกาย  ขึ้นแท่น พระเอกวัยใส..ในใจนักอ่าน..

ขอบคุณนักเขียน..ฟาง... ดีต่อใจ

 :pig4: :pig4: :pig4: