• Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12  (อ่าน 190661 ครั้ง)

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่เรนน่ารัก โดนเฉพาะตอนแก้มป่อง
อยากเอื้อมมือไปหยิก >_<
ยิ่งตอน เดี๋ยวก็กัดเสียเลยนี่!!! น่ากลัวมาเลยพี่เรน งือออออ
เจ้ากายนะ จีบให้พี่เค้ารู้ตัวด้วยสิ นี่ก็เริ่มรู้สึกร้อนแก้มแล้ว
อีกนิดน่าจะรู้ตัวรู้ใจ ผลที่หวังไว้ก็สำเร็จ   :m1:
ขอบคุณฟางค่ะ สู้ๆน้า ทำสอบให้ได้นะ  :กอด1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พี่เรนน่ารักอ่ะ น้องกายก็สู้ๆนะ

ออฟไลน์ tear0313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :z3: :z3: :z3:
พี่เรนแกไม่หวั่นไหวบ้างหรือคะ?

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ตามอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ 55555 พี่เรนเอ๋อได้น่ารักอ่าาา

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
พี่เรนน่ารักสุดๆ
น้องกายต้องจีบให้ติดนะ

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Arzumi

  • #เจ้าหนูจาไม
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พี่เรนเนี่ยน่ารักตลอดเลยชอบทำให้หลง  ฮือออออ :-[ :impress2: :o8:

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ก็น่ารักดีอ่ะ

ออฟไลน์ P.PIM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
น่ารักไปหมดเลยเรื่องนี้ ทั้งแมว ทั้งคน  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ WASHABHI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้องกายน่ารักกกกกก  นี่เขินแทนพี่เรนแล้วววววว  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

"รูปที่ผมกำลังมองอยู่นั้นก็คือรูปของพี่เขาเองนั่นแหละครับ..."
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ




โชคครั้งที่ • 12 •





พี่เรน





“พี่เรนครับ…”



“พี่เรน…”



“พี่เรนครับ!”



ผมสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงคนเรียกเสียงดัง เงยหน้าขึ้นจากกระดาษที่กำลังวาดรูปอยู่ขึ้นมองคนที่เรียกผม



ผมเอียงคอด้วยความสงสัย… เดี๋ยวนี้มีแต่คนที่ผมไม่รู้จักทักผมเยอะแยะไปหมด… อยากจะรู้จังว่าพวกนี้เขารู้จักผมได้ยังไงนะ



“ครับ” ผมถามรุ่นน้องตรงหน้า ก็เขาเรียกผมว่าพี่ ก็แสดงว่าเขาต้องเป็นน้องผมน่ะสิ



น้องคนตรงหน้าสะพายกล้องเอาไว้ เหมือนน้องกายเลย แต่ก็ไม่แปลกหรอกแถวนี้มีแต่คนสะพายกล้องเอาไว้ มีผมนี่แหละที่แปลกที่ถือกระดานวาดรูปแทนกล้อง ก็ตอนนี้… ผมอยู่ใต้คณะนิเทศศาสตร์นี่นะ



“ผมขอถ่ายรูปพี่เรนได้ไหมครับ” น้องถามพร้อมกับยกกล้องขึ้นชู



ส่วนผมนี่… ส่ายหน้าทันทีเลยครับ “ข ขอโทษนะ แต่พี่… ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปเท่าไหร่”



“แค่รูปเดียวเอง นะครับ ผมขอถ่ายรูปหน่อยนะ”



งือ… ผมไม่ชอบให้คนอ้อน เพราะผมมักจะใจอ่อนได้ง่ายๆ แต่ผมก็ไม่อยากถูกถ่ายรูปนี่



“อ่า… ไม่เอาๆ ไม่ถ่ายนะ”



“แล้วทำไมทีพี่กายยังถ่ายรูปพี่เรนได้เลยละครับ”



ผมทำหน้ายุ่ง “ก็นั่นน้องกายไง”



เอ… จะว่าไปก็แปลก ผมไม่ค่อยถ่ายรูป ส่วนใหญ่พวกตินาจะชอบบังคับผมให้ถ่าย ซึ่งผมก็ยอมนะเพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่กับกาย… ผมก็ไม่ได้สนิทมากนะเพราะเอาจริงๆ ก็เพิ่งรู้จักกันเอง แต่ผมกลับยอมให้น้องถ่ายรูปแหะ



หรือว่าเพราะเป็นน้องกายกันแน่…



ก็คงใช่แหละ “ก็เพราะเป็นกาย พี่ก็เลยยอมให้ถ่ายไง แต่น้องไม่ใช่เพราะอย่างนั้น… ไม่ถ่ายรูปพี่เนอะ”



“อ่า… ค ครับๆ ไม่ถ่ายก็ไม่ถ่ายครับ” น้องเขาพูดก่อนจะก้มหัวให้ผมสองสามทีแล้วก็เดินไป



ผมมองตามแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วก็กลับมาสนใจรูปที่วาดค้างเอาไว้อยู่ นั่งวาดมาสักพักแล้วครับ โครงหน้าก็เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้ใส่รายละเอียดอะไรเลย



อือ… ตรงนี้แปลกๆ แหะ ลบวาดใหม่ดีกว่า



จนกระทั่งแก้ภาพร่างจนพอใจแล้วผมถึงได้เงยหน้าขึ้นจากกระดานวาดรูป ผมหยิบโทรศัพท์มากดดูเวลา… กายใกล้เลิกเรียนแล้ว อีกเดี๋ยวก็คงจะลงมา



อ๋อ… ตอนนี้ผมนั่งวาดรูปอยู่ที่ใต้ตึกคณะนิเทศครับ คณะนี้คนเยอะมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลย ต่างจากคณะของผมเลยครับ คณะผมคนน้อย แล้วก็ใช้โรงอาหาร ใช้อะไรหลายๆ อย่างร่วมกับคณะอื่น แต่ผมก็ชอบคณะผมนะ เพราะแถวนั้นต้นไม้เยอะดีครับ ไม่เหมือนคณะนี้ที่ไม่ค่อยมีเท่าไหร่ แต่สิ่งที้สวยของที่นี่ก็คือ… ทุกๆ ที่ดูมีดีไซน์มากครับ มีจัดมุมเหมือนทำเป็นกองถ่ายละครด้วย เท่ดีนะ



“พี่เรน รอนานเลยใช่ไหม” ผมหันกลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงเรียก



“ไม่หรอก” ผมส่ายหน้าแล้วยิ้มกลับไป



“พี่เรนสวัสดีครับ”



“อ่า… สวสดีครับ” ผมยิ้มทักทายกับเพื่อนๆ ของกาย ผมเคยเห็นพวกเขานะตอนเจอน้องกายแรกๆ แต่ยังไม่รู้ว่าใครเป็นใครชื่ออะไรกัน



กายแนะนำเพื่อนแต่ละคนของเขาให้ผมรู้จัก พวกนี้ตลกดีนะครับ แลจะอารมณ์ดีกันทุกคนเลย



“พี่เรนไปกันดีกว่าครับ เดี๋ยวไปถึงเย็นแล้วแสงจะหมดก่อน”



ผมพยักหน้ากับคำพูดของกายแล้วก้มลงเก็บดินสอลงกระเป๋าใส่ดินสอแล้วเอาใส่กระเป๋าสะพายใบใหญ่ของตัวเอง ผมชอบสะพายกระเป๋าใบใหญ่ๆ มันใส่ของได้เยอะดีครับ



พอผมเก็บของเสร็จน้องกายก็คว้าเอากระดานวาดรูปของผมไปถืออย่างทุกที ผมโยกมือลาเพื่อนๆ ของน้องกายก่อนจะเดินตามน้องไปที่รถ



“พี่เรนหิวหรือยัง อยากแวะกินอะไรก่อนไหมครับ” กายหันมาถามผมในระหว่างที่ขับรถออกจากมหา’ลัย



“พี่ยังไม่ค่อยหิว ว่าแต่กายหิวหรือยัง”



“ยังครับ อย่างนั้นเราค่อยกินตอนเย็นทีเดียวเลยเนอะ แต่ถ้าหิวก็บอกผมนะ จะได้หาอะไรกินกัน”



“อืม!” ผมพยักหน้าให้



วันนี้น้องกายขอให้ผมไปถ่ายรูปเป็นเพื่อนครับ เขาบอกว่าอาจารย์ให้หัวข้อถ่ายรูป หัวข้อธรรมชาติมา ก็เลยมาชวนผมไปสวนสาธารณะด้วยกันวันนี้ ซึ่งผมก็ว่างอยู่แล้วครับ เพิ่งส่งงานไปยังไม่มีงานใหม่ต้องส่ง ผมก็เลยมาด้วย ก็น้องกายไปไหนมาไหนเป็นเพื่อนผมตั้งหลายรอบแล้วนี่นา ผมก็มาเป็นเพื่อนน้องเขาบ้าง



“แล้วเพื่อนๆ เขาไม่มาถ่ายรูปด้วยกันเหรอ”



“พวกมันติดงานอื่นอยู่ครับ งานนั้นมันเร่งกว่าเลยไม่ได้มา อีกอย่าง… อาทิตย์หน้ามีวันหยุดของมหา’ลัย พวกผมตั้งใจจะออกทริปด้วยกันอยู่แล้ว” กายพูด



ผมพยักกน้ารับพร้อมกับร้องอ๋ออย่างเข้าใจแล้ว “ออกทริปกันบ่อยเหรอ”



“ครับ บางครั้งถ้ามีวันหยุดสองวันผมก็ออกทริปกันแล้วครับ ไปใกล้ๆ จริงสิ! พี่เรนไปด้วยกันไหมครับ ผมจะไปบางกระเจ้ากัน อยู่แค่สมุทรปราการนี่เองครับ”



ผมหันไปมองคนถาม ทำหน้าลังเลใจ ผมไม่มีความรู้เรื่องกล้อง ไม่ได้ชอบถ่ายรูปถ้าผมไปมันจะเป็นการรบกวนพวกน้องๆ เขาหรือเปล่านะ



“สวยนะครับพี่เรน ถ้าพี่เรนชอบวาดรูปธรรมชาติที่นี่ก็น่าสนใจนะครับ”



พอได้ยินแบบนั้นผมก็ชักจะสนใจแล้วสิ “ถ้าพี่ไป… จะไม่รบกวนพวกกายเหรอ”



“ไม่หรอกครับ ผมก็ไปกับเพื่อนในกลุ่ม ไอ้พวกเมื่อกี้น่ะครับ เน้นไปเที่ยวปั่นจักรยานกัน พี่เรนอยากไปไหม พาหมีไปด้วยก็ได้นะครับ ผมขับรถกันไปเอง” น้องกายเล่าเรื่องทริปให้ผมฟังใหญ่ “ไปถึงนู้นเราก็ปั่นจักรยานแทนครับ”



อือ… เอายังไงดีนะ จะไปดีหรือเปล่า ใจหนึ่งก็อยากไปนะครับ แต่อีกใจก็…



“ไปนะครับ ไปเที่ยวกันนะ”



“อือ…”



พอเห็นสายตาเหมือนจะอ้อนๆ ของน้องกาย ผมก็เผลอพยักหน้ารับไปแล้วล่ะครับ



“เย่!!” น้องกายร้องออกมาอย่างดีใจพร้อมกับยิ้มกว้างจนตาแทบปิด จนผมได้แต่ยิ้มตาม



กาย… เป็นคนที่ใครเห็นก็ต้องยิ้ม



อ่า… ทำไมผมรู้สึกแปลกๆ หัวใจเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ แหะ สงสัยจะตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวแน่เลย



ไม่นานหลังจากนั้นพวกเราก็ถึงสวนสาธารณะกลางกรุงกันครับ กายวนรถเข้าไปจอดรถในอาคารใกล้ๆ กับสวนสาธารณะก่อนที่จะเดินข้ามถนนกันไป ในมือของกายมีทั้งกล้องถ่ายรูปแล้วก็กระดานวาดรูปของผม ส่วนผมก็สะพายแค่กระเป๋าใบโตใบเดียว



ผมกับกายเลือกมุมที่ต้นไม้เยอะๆ เพื่อป้องกันตัวเองจะแดดของกรุงเทพด้วย พอเลือกที่ได้ผมก็ตั้งหลักนั่งวาดรูปต่อทันที ส่วนกายก็เริ่มเดินไปรอบๆ คงหามุมที่จะถ่ายรูป



ผมเงยหน้ามองคนที่เดินถือกล้องไปมาสลับกับกระดานวาดรูปของตัวเอง ก็… ผมวาดรูปน้องกายนี่ครับ จะไม่มองน้องเขาได้ยังไงล่ะ



ผมใช้สมาธิอยู่กับการวาดรูปแบบนั้นไปเรื่อยๆ ลบตรงนู้นแก้ตรงนี้ จนสุดท้ายก็ได้ภาพร่างมาใหม่ แล้วผมก็ชอบภาพนี้นะ ชอบกว่าภาพร่างก่อนหน้านี้อีก



น้องกายดูจะชอบการถ่ายรูปมากๆ เวลาเขาถือกล้องอยู่ในมือทีไรจะมีแต่รอยยิ้ม เพราะอย่างนั้น… รูปบนกระดาษของผม ก็เป็นภาพตอนที่กายกำลังดูรูปจากกล้อง ไม่รู้หรอกว่าดูรูปอะไรอยู่ แต่ทั้งปากแล้วก็ตายิ้มเป็นประกายเสียขนาดนั้น เขาคงชอบรูปนั้นมากจริงๆ



อ่า… เอาอีกแล้ว หัวใจผมเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ อีกแล้ว



สงสัยจะตื่นเต้นที่ได้วาดรูปอะไรแบบนี้...








น้องกาย



วันนี้อากาศดีนะครับ ไม่รู้ว่าอากาศดีเพราะอากาศมันดีจริงๆ หรือเพราะคนที่อยู่ด้วยเลยทำให้อะไรๆ มันดีไปหมดก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ผมว่า... เป็นเพราะคนที่อยู่ด้วยกันครับ



ผมทิ้งตัวลงนั่งบนสนามหญ้าหันหน้าไปมองคนที่กำลังอมยิ้มเล็กๆ ที่ก้มหน้าก้มตาอยู่กับกระดาษ มือที่จับดินสอก็ขยับไปมา แล้วก็ทำหน้าบึ้งปากยื่นตอนที่วาดรูปไม่ได้ดั่งใจ ก่อนจะใช้อีกมือหยิบยางลบมาลบรูป



เป็นคนที่แสดงออกทุกอย่างทางสีหน้าจริงๆ สินะ พี่เรนเนี่ย...



ผมยกกล้องขึ้นเล็งไปที่พี่เรนที่ไม่ได้สนใจอะไรอย่างอื่นนอกจากการวาดรูปก่อนจะกดถ่ายรูปพี่เรนเอาไว้หลายรูปเลยครับ จริงๆ แล้วเหตุผลที่ผมชวนพี่เรนมานี่ไม่ใช่เพราะว่าผมอยากจะมาถ่ายรูปธรรมชาติอะไรนั่นตามที่บอกพี่เขาไปหรอกครับ



ก็แค่...



อยากหาข้ออ้างได้อยู่กับพี่เรนสองคนมากกว่า



ไม่ต้องพูดคุยกันเยอะ ไม่ต้องไปเดินห้าง ซื้อของหรือดูหนัง แค่อยู่ด้วยกันสองคน แต่ละคนก็ทำกิจกรรมของตัวเองไป แค่นั้นผมว่าก็พอแล้วนะ



ผมคิดว่า คนอย่างพี่เรนไม่ควรเข้าหาด้วยการพาไปเที่ยวห้าง พาไปซื้อของ หรือว่าพาไปดูหนัง แต่ควรพากันมาทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ เหมือนอย่างที่ผมชวนพี่เรนที่นี่ ผมบอกพี่เรนว่าผมจะมาถ่ายรูป ตอนชวนก็ชวนให้พี่เรนเปลี่ยนสถานที่วาดรูป ผมว่าแบบนี้แหละ... คือการเข้าถึงพี่เรนได้ดีที่สุด



ผมเหม่อมองพี่เรนอยู่นาน จนพี่เขาเงยหน้าขึ้น แล้วพอเห็นผมมองอยู่ก็ส่งยิ้มน่ารักมาให้ จนทำให้ผมขยับยิ้มตาม



พี่เรนกวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา “กาย มานี่ๆๆ”



ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยแต่ก็ลุกเดินไปหาทันที ผมขยับลงนั่งข้างๆ พี่เรน “ครับผม”



“ฮื่อ... นั่งนี่ ตรงนี้” พี่เรนทำหน้าขัดใจ ชี้นิ้วตรงหน้าที่พี่เรนนั่งอยู่



พอเห็นแบบนั้นผมก็ขยับไปนั่งตรงหน้าพี่เรน “ตรงนี้เหรอ”



พี่เรนพยักหน้าสองสามทีแล้วก็ยิ้ม “อือ! เหลือใส่รายละเอียดนิดหน่อย นั่งนิ่งๆ นะ ขยับมากภาพออกมาไม่สวยไม่รู้ด้วย”



ได้ยินอย่างนั้นผมก็เลิกคิ้วแปลกใจทันที ก่อนจะก้มมองภาพบนกระดาษวาดรูปของพี่เรน รู้สึกใจเต้นตึกตักทันทีที่เห็น



พี่เรนวาดรูปผม...



หัวใจเต้นแรง เต้นแรงที่พี่เขาวาดรูปผมนี่แหละครับ วาดไปจวนจะเสร็จแล้ว เหลือใส่รายละเอียดตรงใบหน้าแค่นั้น ภาพที่ถึงแม้ว่าจะยังไม่เสร็จแต่ผมมองก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นภาพของตัวผมเอง ภาพตอนที่ผมกำลังก้มหน้าดูกล้องถ่ายรูปของตัวเอง



“ใช่ๆ ก้มหน้าไว้นะ แบบนั้นแหละ เหมื่อยหน่อยนะแต่แค่แปบเดียว” พี่เรนบอก ผมรู้สึกเลยครับว่าพี่เขาจ้องหน้าผม จ้องอยู่สักพักแล้วก็คงก้มลงไปวาดรูป พอวาดไปได้หน่อยก็เงยหน้าขึ้นจ้องหน้าผมอีก



จ้องมากๆ ชักจะเขิน ไม่รู้หน้าแดงไหม...



เกือบๆ สิบนาทีภาพวาดของพี่เรนก็เสร็จ พี่เรนส่งภาพนั้นมาให้ผมดู สวย... พี่เรนวาดรูปสวยมากจริงๆ ครับ ไม่ได้อยากจะยอตัวเอง ดีไม่ดี ภาพที่พี่เรนวาดออกมา ผมในรูปยังดูดีกว่าผมตัวจริงอีกมั้ง



“พี่เรนวาดเก่งชะมัดเลย”



“พี่ชอบภาพนี้”



ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่เรน ก็เห็นพี่เขายิ้มน่ารักมาให้อีกแล้ว “พี่ชอบน้องกายตอนนี้ ก็เลยวาดออกมา”



ก็รู้หรอกครับว่าคำว่า “ชอบ” ของพี่เรน ไม่ได้หมายถึง “ชอบ” ในเชิงรักใคร่ แต่มันก็อดใจสั่น หัวใจเต้นแรงไม่ได้กับคำคำนี้



“ทำไมละครับ” ผมก้มหน้าลง แกล้งทำเป็นมองภาพวาด



“ก็... ตอนกายมองกล้อง กายดูมีความสุขมากๆ เลย เหมือนกับว่ากายรักกล้อง รักการถ่ายรูป แล้วกล้องก็เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกาย พี่ชอบความรู้สึกตอนที่มองกายตอนนั้นก็เลยวาดออกมาน่ะ”



ผมหัวเราะ ยกมือเกาแก้มอย่างเขินๆ รู้เลยว่าหน้าต้องแดงแน่ๆ กับคำพูดชมนั้น



“ก็... คงอย่างที่พี่เรนพูดแหละครับ” ผมตอบยิ้มๆ



ทุกอย่างก็จริงอย่างที่พี่เรนพูด ผมมีความสุขมากถึงได้ยิ้มออกมาตอนที่ก้มมองรูปในกล้องของตัวเอง แต่ที่พี่เรนไม่รู้ก็คือ...



รูปที่ผมกำลังมองอยู่นั้นก็คือรูปของพี่เขาเองนั่นแหละครับ...






************************************************
สวัสดีค่ะทุกคน หายไปเกือบๆ 2 อาทิตย์ ไม่ได้หายไปไหน... แต่มีสอบค่ะ วันนี้ไปสอบรับราชการมา แทบจะคลานออกจากห้องสอบแล้วโบกมือบ๊ายบายตำแหน่งเลย ฮ่าาาา เอาเป็นว่าอย่าไปพูดถึงมันเลยค่ะ มันผ่านไปแล้ว แต่วันที่ 24 ธันวา ฟางยังมีสอบอีกอย่างค่ะ สอบใบประกอบวิชาชีพ เพราะอย่างนั้นก็คงจะหายและมาช้าเช่นเดิมจนกว่าจะพ้นวันสอบไปนะคะ หวังว่าจะเข้าใจกันเนอะๆๆ

สำหรับตอนนี้... มันละมุนหัวใจนะ ฟางแต่งไปยิ้มไป คือคู่นี้เขาไม่ต้องหวือหวา ไม่ต้องหรูหราอย่างที่น้องกายบอกอะค่ะ พวกเขาไม่ใช่คู่ที่จะไปเดินซื้อของ กินข้าวที่ห้าง ดูหนังอะไรแบบนั้น แต่เป็นคู่ที่ต่างคนต่างทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบที่ตัวเองรัก แต่แค่อยู่ด้วยกันก็แค่นั้นเองค่ะ มันเป็นอะไรที่ดีเนอะ ^^

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเมนต์ กดโหวด แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ


ออฟไลน์ WASHABHI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เขินแทนน้องกายแล้วเนี้ยยยย  รุกอีกนิด อีกนิด พี่เรนเริ่มเอ๊ะใจตัวเองแล้วววว  :hao6:

ออฟไลน์ tear0313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ความน่ารักของโลกใบนี้
กายรู้วิธีเข้าหาพี่เรนมากๆเลย
เข้าใจพี่เขามากจนพี่เขาเริ่มรู้สึก :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
สั้นๆได้ใจความ ความหวานนนน

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
น่ารักกกก

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อ่านแล้วดีต่อใจ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
หวานมาก มดขึ้นเต็มจอเลย

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หวานเกินไปแล้ว งื้อออออออ :)

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

"รูปที่ผมกำลังมองอยู่นั้นก็คือรูปของพี่เขาเองนั่นแหละครับ..."
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 12.2 •





• • • ต่อค่ะ 100% • • •





น้องกาย

   


“แต่ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน~ ไม่ต้องมาเขิน ฉันพูดจริงๆ~ เธอมีเสน่ห์มากมาย จะน่ารักไปไหน~ อยากจะได้แอบอิง~ เย้เย่~”



ผมร้องเพลงอย่างมีความสุข เน้นพอใจไม่เน้นความเพราะมากมาย แม้ผมจะชนะการประกวดเดือนมหา’ลัยด้วยการโชว์ความสามารถพิเศษร้องเพลงก็ตาม



“วู้ว~!” ผมร้องออกมาอย่างดีใจก่อนจะคว้ากระเป๋ากล้องมาสะพายเอาไว้ แล้วก็หยิบกระเป๋าเป้มาสะพาย หยิบโทรศัพท์ กุญแจรถ กุญแจห้องมาถือแล้วก็จัดการปิดประตู ปิดไฟในห้องจนเรียบร้อย



วันนี้แล้วครับ วันนี้แล้วที่ผมจะได้ไปบางกระเจ้ากับพี่เรน แค่คิดก็มีความสุขจนอยากจะเดินไปเต้นแท็ปไปเลยครับ



ส่วนเพื่อนๆ ที่ไปด้วยไม่อยู่ในสายตาผมอยู่แล้วครับ เพราะผมขับรถไปกับพี่เรนสองคน อ๋อ… กับแมวอีกหนึ่งตัว ส่วนพวกมันไปฟอร์จูนเนอร์ของไอ้เกลียวครับ



เราไปกันทั้งหมดหกคนหนึ่งตัวถ้วน จองห้องพักก็นอนได้ห้องละสองคนไง คึคึคึ



ผมก็เป็นเพื่อนที่ดี ยอมเสียสละครับ ยอมเป็นเศษ ให้ไอ้ไม้นอนกับไอ้เกลียว ไอ้เป้นอนกับไอ้แม็คไปครับ เพราะผมจะได้นอนห้องเดียวกับพี่เรน อั๊ย! เขินว่ะ



ผมเร่งฝีเท้าเดินไปที่ลิฟต์แล้วลงไปข้างล่างทันที ก่อนจะขับรถข้ามไปหอฝั่งตรงข้าม ก่อนจะขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องพี่เรน ตั้งใจว่าจะช่วยพี่เขาขนของ เพราะพาหมีไปด้วยของก็น่าจะเยอะ ไหนจะที่นอน ไหนจะอาหาร



กดกริ่งรออยู่ไม่นานก็ได้ยินเสียงหมีร้องอยู่แถวๆ ประตู แล้วประตูก็เปิดออก พี่เรนยื่นหน้าออกมาจากหลังประตู ตากลมๆ นั้นมองมาที่ผมก่อนจะยิ้มให้ แล้วก็เปิดประตูกว้างขึ้น



“สวัสดีครับพี่เรน” ผมทักทายพี่เขา ก่อนจะก้มลงอุ้มหมีที่เดินมานั่งทับเท้าผมไว้ “ว่าไงเรา จะได้ไปเที่ยวแล้วตื่นเต้นไหม”



หมีร้องออกมาทีหนึ่งก่อนจะเลียขนตัวเองต่ออย่างไม่สนใจ ที่เมื่อกี้มานั่งทับเท้ากัน คืออะไร พอตอนนี้เราอุ้มละไม่สนใจเรานะ!



“พี่เรนเตรียมของเสร็จยังครับ” ผมถาม ก่อนจะมองคนตรงหน้าที่วิ่งดุ๊กดิ๊กไปซ้ายทีขวาที



“อ๋อ… จะเสร็จแล้ว เหลือของหมีนิดหน่อย กายรอพี่แปบหนึ่งนะ”
   


ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินไปนั่งที่พื้นตรงเตียงนอนของพี่เรน “ตามสบายเลยครับ”



วันนี้… พี่เรนดูน่ารัก พี่เขาชอบใส่เสื้อแบบโอเวอร์ไซส์ซึ่งมันก็เหมาะแล้วก็น่ารักมาก เหมือนตอนนี้ที่พี่เขาใส่เสื้อแขนยาวแบบโอเวอร์ไซส์สีฟ้าอ่อน มือขาวๆ หายเข้าไปในแขนเสื้อโผล่ออกมาแค่นิ้วนิดหน่อย ชายเสื้อด้านหน้าสอดเข้าในกางเกงยีนส์ขายาวสีซีด ชายเสื้อข้างหลังปล่อย ผมว่ามันโคตรน่ารักแล้วก็เหมาะกับพี่เรนมากเลย



นั่งมองพี่เรนเก็บของจำเป็นให้หมีไปก็ยิ้มไปอย่างกับคนบ้า จนกระทั่งพี่เขาเดินเข้ามาหาผมนี่แหละครับ



“ของของหมี เยอะกว่าของพี่อีก” พี่เขาพูดก่อนจะทำปากยู่



ผมหัวเราะ “เอาน่า… เรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ”



พี่เรนพยักหน้ารับ พอเห็นแบบนั้นผมก็ส่งหมีให้พี่เขาอุ้ม ก่อนที่ผมจะหยิบกระเป๋าเป้ของพี่เรนสะพาย มือสองข้างก็หยิบของใช้ของหมีมาถือ แล้วก็เดินนำพี่เขาออกจากห้อง
   


ยืนรอให้พี่เรนปิดห้องจนเรียบร้อยก็พากันเดินไปเข้าลิฟต์เพื่อลงไปที่ชั้นล่าง เอากระเป๋าพี่เรนไว้หลังรถรวมกับของผม ส่วนกระเป๋าของหมีเอาไว้ที่เบาะหลังครับ ส่วนเจ้าหมีก็นั่งตักพี่เรนไป



“เออ… มึงอยู่ไหนกันแล้วเนี่ย” ผมโทรหาไอ้เกลียวที่เป็นคนขับรถอีกคัน



[หอไอ้ไม้ มารับมันคนสุดท้าย แล้วมึงอยู่ไหน ออกไปยัง]



“ยัง ตอนนี้กูกำลังขับรถออกจากซอย เดี๋ยวกูไปรอแถวๆ หน้ามหา’ลัยแล้วกันนะมึง เดี๋ยวจะได้ขับไปพร้อมๆ กันเลย พวกมึงกินอะไรกันมายัง” ผมคุยโทรศัพท์กับไอ้เกลียวไปก็หักพวงมาลัยเลี้ยวออกจากหอพี่เรนไปด้วย



ไม่รู้ว่าเพราะกลัวผมจะพาไปชนอะไรเข้าหรือเปล่าพี่เรนก็เลยเอื้อมมือมาจับโทรศัพท์ของผมเอาไว้ ผมหันไปมองก็เห็นพี่เขาบอกว่าจะถือให้ ผมเลยให้พี่เรนกดเปิดลำโพงไปเลยครับ



[พวกกูยังไม่ได้กิน มึงกับพี่เรนอ่ะ] ไอ้เกลียวถามกลับ



ผมหันไปมองพี่เรนเป็นเชิงถามว่าพี่เขากินอะไรหรือยังซึ่งอีกฝ่ายก็ส่ายหน้าแทนคำตอบ “พวกกูก็ยังไม่ได้กิน เอาไว้แวะกันร้านประจำแล้วกัน”



[ร้านไหน... ร้านต้มเลือดหมู ข้าวต้มอะเหรอ]



“เออ ร้านนั้นแหละ ตอนนี้กูจอดรออยู่ตรงหน้ามหา’ลัยนะ” ผมตอบมันกลับไป ซึ่งไอ้เกลียวก็เออออรับคำ บอกว่ากำลังขับออกมาจากซอยหอไอ้ไม้แล้ว แล้วมันก็วางสายไป



“เดี๋ยวแวะกินข้าวกันก่อนเนอะ พวกผมจะออกแนวแวะไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนอะไร” ผมหันไปคุยกับพี่เรน



“ยังไงก็ได้อยู่แล้ว แต่พี่มาด้วยแบบนี้ไม่รบกวนแน่นะ” พี่เรนเอียงคอมองแล้วถามย้ำกับผมอีกรอบ “ไม่เบื่อเหรอ... แบบ ปกติกายก็คงไปพร้อมๆ กับเพื่อนใช่ไหมล่ะ แล้วพาพี่มาด้วยแบบนี้... กายก็ไม่ได้สนุกกับเพื่อนน่ะสิ”



ผมยิ้ม รู้สึกดีใจที่พี่เรนเป็นห่วงความรู้สึกของผม “ผมไปกับเพื่อนบ่อยแล้วครับ เบื่อพวกมันแล้วไปกับพี่เรนก็ดีออกนะ”



“อีกอย่าง... ผมก็ไม่ได้มีโอกาสไปไหนมาไหนกับพี่เรนบ่อยๆ นี่ก็เป็นโอกาสที่ดีจะตายไป” ผมพูด ยิ้มตาปิดให้พี่เรน



พี่เรนอมยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ ถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป... เหมือนพี่เรนจะเขินนิดๆ หรือเปล่าครับ



“อ่า... ไปเที่ยวกับพี่ไม่เห็นจะน่าดีเลย”



อือ... ผมว่านะ ผมควรเริ่มจริงจังแล้วก็แสดงออกให้มากกว่านี้หน่อยแล้วล่ะ อีกอย่างผมก็จะได้ดูโอกาสของตัวเองด้วยว่าถ้าเดินหน้าต่อไป จะมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะคว้าหัวใจพี่เรนมาครองเอาไว้



“กับพี่เรนอ่ะ ไม่ว่าจะไปไหนก็ดีหมดนั่นแหละ”
   


ผมว่าผมไม่ได้ตาฝาดนะ แก้มพี่เรนแดงหน่อยๆ ด้วยอ่ะ หรือว่าจะเขินในสิ่งที่ผมพูดเมื่อกี้กันแน่นะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าผมรุกมากๆ ก็มีสิทธิลุ้นว่าพี่เรนจะชอบ หรือมีใจให้ผมใช่ไหม



“ทำไม... ล่ะ”



บรรยากาศภายในรถตอนนี้มันแปลกๆ จะอึดอัดก็ไม่ใช่ จะสบายๆ ก็ไม่เชิง หรือจะเขินอายกันก็ไม่ถูกอยู่ดี มันปนๆ กันไปหมด พี่เรนเหมือนคนซื่อๆ ไม่ทันคนจนบางทีพวกพี่ตินาก็ว่าซื่อบื้อ แต่ผมว่าจริงๆ แล้วพี่เรนก็คงไม่ได้ซื่อขนาดนั้น จนไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมกำลังทำ หรือการที่ผมเอาตัวเข้ามาเกี่ยวข้องกับพี่เรนนั้นมีอะไรแอบแฝงอยู่



ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ รวบรวมความกล้าทั้งหมดเท่าที่มี ก่อนจะพูดออกไป “ผมเคยบอกแล้วไง ที่ผมทำไปน่ะผมหวังผล ส่วนผลที่ผมหวังก็คือ...”



ปี๊น!!



ผมกับพี่เรนสะดุ้งเฮือกทันทีด้วยความตกใจ คนกำลังตั้งสมาธิ ใช้สมาธิไอ้ห่ารากตัวไหนแม่งทำสมาธิของผมกระเจิงหมดวะ แล้วพี่เรนก็สะดุ้งด้วยคงกำลังลุ้นไปกับผม สะดุ้งแรงขนาดที่หมีที่นอนขดบนตักพี่เรนสะดุ้งตื่นร้องออกมาเลยละครับ



ผมหันไปมองนอกกระจกก่อนจะเห็นรถฟอร์จูนเนอร์มาจอดเทียบข้างๆ โชคดีนะครับรถไม่เยอะ ไม่อย่างนั้นมันได้โดนคนอื่นๆ ด่ายันตระกูลอะครับ กระจกรถคันนั้นลดลง ก่อนจะเห็นหน้าแป้นแล้นของไอ้ไม้โผล่ออกมา



นี่ได้แต่ถอนหายใจด้วยความเซ็ง ก่อนจะลดกระจกลง “ไอ้สัส!   ตกใจหมดนึกว่าพ่อมาไล่” ผมว่ามันไปทันที



หงุดหงิดด้วยส่วนหนึ่งครับ คนกำลังจะสารภาพความในใจ ไอ้ห่านี้มันดำเอาหมดมู้ดหมด



ไอ้ไม้หัวเราะชอบใจ รู้เลยครับว่าไอ้ห่านี่นี่แหละที่เป็นคนบีบแตร ไอ้เกลียวแม่งก็ปล่อยให้ไอ้ไม้เล่นอะไรเพี้ยนๆ



“หนึ่ง สอง สาม พี่เรน~~ สวัสดีคร้าบบบ~~”



กระจกหลังเลื่อนลงก่อนที่ไอ้เป้ ไอ้แม็คจะโผล่หน้ามา แล้วพวกมันก็พร้อมใจกันทักทายพี่เรน มีการนับหนึ่งสองสามแล้วสวัสดีพร้อมกันอีก ไอ้พวกบ้าคิดว่าตัวเองเป็นไอดอลเกาหลีที่ต้องนับเลขตอนแนะนำตัวหรือไงวะ



พี่เรนหัวเราะชอบใจกับการละเล่นบ้าๆ ของไอ้พวกนั้นแล้วก็ยิ้มกว้างให้ น่ารักชิบหาย ผมตวัดสายตาไปมองพวกมันทีละคนอย่างหงุดหงิด หวงครับ หวง รอยยิ้มพี่เรนนี่หวงมาก อยากจะเก็บเอาไว้ดูคนเดียว



แล้วพวกมันก็เหมือนรู้ ทำลอยหน้าลอยตาได้น่าหมั่นไส้ นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่รถกันคนละคันผมลงไปไล่เตะมันแล้วนะครับ



“ไปๆ มึงขับนำไปเลยไอ้เกลียว แวะกินข้าวกันก่อนแล้วค่อยไปที่สมุทรปราการกัน” ผมชะโงกหน้ามองไอ้เกลียวที่เป็นคนขับรถก่อนจะบอกมัน ซึ่งมันก็พยักหน้ารับ เลื่อนกระจกขึ้นทั้งด้านหน้าด้านหลังแล้วก็ออกนำรถของผมไป



“ไปกันดีกว่าครับ การเดินทางเริ่มขึ้นแล้ว” ผมหันไปพูดกับพี่เรนอย่างขำๆ ก่อนจะขับรถตามรถคันหน้าไป



แม้จะนึกเสียดายนิดหน่อยที่โดนขัดจังหวะ แต่อีกใจก็คิดว่าดีแล้วละครับ หนึ่งเพราะผมยังไม่กล้ามากพอที่จะพูด และอีกอย่างคือ... ผมคิดว่าบรรยากาศมันควรจะดีกว่านี้ ไม่ใช่นั่งสารภาพกันอยู่ในรถหน้ามหาวิทยาลัยอย่างนี้ เอาไว้... ทริปนี้ ถ้ามีโอกาสผมจะลองพูดอย่างจริงจังดูแล้วกันครับ



ไม่รู้ว่าเพราะโดนขัดจังหวะไปเมื่อกี้หรือเปล่าทำให้บรรยากาศตอนนี้ระหว่างผมกับพี่เรนมันเลยรู้สึกน่าอึดอัดนิดหน่อยๆ



“หมีไม่เอา... ไม่ซนสิไม่เห็นเหรอว่ากายขับรถอยู่ จะปีนไปไม่ได้นะ” ผมละความสนใจจากความคิดของตัวเองกลับมาที่พี่เรนที่ส่งเสียงห้ามหมี



หมีร้องแง้วๆ แล้วทำท่าจะปีนข้ามมาหาผม แต่พี่เรนรั้งเอาไว้ก่อน “ถ้าดื้อเราจะปล่อยหมีลงข้างทางนะ”



พอพี่เรนพูดขู่แบบนั้น หมีก็เงยหน้ามองพี่เรน แล้วหนึ่งคนหนึ่งแมวก็เล่นเกมจ้องตากันครับ ไม่มีใครยอมแพ้กันเลย พี่เรนจ้องตาหมีไม่พอยังทำหน้าดุ หน้าบึ้งใส่อีก แล้วคิดว่าหมีมันกลัวไหมละครับ ไม่เลยสักนิดเดียว



“โอ๊ย! หมี!!” พี่เรนร้องออกมา ผมเองก็ตกใจรีบหันไปมอง เกือบจะประคองสติตัวเองไม่อยู่ หัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มนู้น เลยต้องรีบตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทางก่อน



“พี่เรน เป็นไงบ้างหมีข่วนเหรอ” ผมรีบเข้าเกียร์ว่างแล้วคว้ามือพี่เรนมาดู หันไปมองหมีที่กระโดดหนีไปอยู่เบาะหลังแล้วนอนเลียขนตัวเองอย่างไม่ทุกข์ร้อน



“ป... เปล่าๆ หมีงับมือพี่น่ะ ไม่ได้แรงอะไรหรอกแต่... พี่ตกใจเพราะไม่ทันระวังตัวก็เลยเผลอร้องออกมา” พี่เรนบอก พลิกมือให้ดูว่าไม่ได้มีรอยอะไรจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นห่วงอยู่ดีครับ



“แน่ใจนะพี่เรนว่าไม่ได้โดนข่วน หรือกัดลึกจนเป็นแผล” ผมถามด้วยเสียงเครียด มือก็จับมือพี่เรนพลิกไปพลิกมาเพื่อหารอย ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะไม่มีรอยอย่างที่พี่เรนว่า



“ขอโทษนะ... ที่ทำให้ตกใจ” พี่เรนพูดพร้อมกับทำหน้าสำนึกผิด คือถ้าผมเป็นพี่เรนก็คงร้องออกมาเหมือนกันแหละครับ ใครจะคิดว่าจะโดนแมวตัวเองงับ มันก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา



“ไม่เป็นอะไรครับ” ผมตอบ หันไปมองหมีที่มองมาทางผม “นิสัยไม่ดีเลยนะหมี ทำแบบนี้กับพี่เรนได้ยังไงกัน ดื้อมากๆ เดี๋ยวปล่อยกลับบ้านจริงๆ นะ”



หมีร้องออกมาเมื่อผมพูดจบ ไม่รู้ว่าร้องประท้วงหรืออะไรกันแน่ ก่อนที่มันจะมุดหน้าตัวเองลงกับขาหน้า “กำลังสำนึกผิดน่ะ” ผมหันกลับไปมองพี่เรนเมื่อได้ยินพี่เขาพูดแบบนั้น



พี่เรนก็เลยขยายความต่อ “ท่าแบบนี้คือหมีกำลังสำนึกผิด เวลาโดนดุมากๆ ก็จะทำท่านี้แหละ สักพักก็จะเข้ามาอ้อนให้หายงอน”



ผมร้องอ๋ออย่างเข้าใจ ก่อนจะหันไปมองหมีอีกรอบ มีการแอบเงยหน้าขึ้นมองแล้วซุกหน้าลงไปต่อ เห็นท่าทางแบบนั้นแล้วจะโกรธก็โกรธไม่ลงครับ เลยเอื้อมมือไปลูบหัวหมีไปที ก่อนจะหันหลับ แล้วจังหวะนั้น... ทุกอย่างก็เหมือนจะหยุดชะงัก เพราะพี่เรนเองก็ชะโงกตัวมาดูหมีเหมือนกัน ทำให้ตอนที่ผมขยับตัวกลับระยะห่างของใบหน้าของผมกับพี่เรนจึงน้อยมาก



“ผม...” ผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกันครับ แต่ก็ไม่สามารถดึงตัวเองออกห่างจากพี่เรนได้ ได้แต่นิ่งค้างกันอยู่แบบนั้น โดยที่หัวใจของผมเต้นแรงและรัวมาก จนผมนึกสงสัยว่าพี่เรนจะได้ยินเสียงหัวใจของผมเต้นไหม



และก่อนที่ผมหรือพี่เรนจะได้พูดอะไรอีก เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น ดึงสติของผมให้กลับเข้าร่างอีกรอบ ผมกระแอมเบาๆ ก่อนจะถอยตัวเองกลับมาที่เดิม พร้อมกับพี่เรนที่ขยับตัวกลับไปเช่นกัน ผมหยิบโทรศัพท์มาดูก่อนจะกดรับสายไอ้ไม้



“เออ ว่าไงมึง”



[ไอ้เกลียวบอกเห็นรถมึงส่าย แล้วก็เลี้ยวจอดข้างทาง เป็นอะไรเปล่าวะ ต้องให้พวกกูวนรถกลับไปไหม]



“เปล่าๆ ไม่มีอะไร พอดีหมีมันซนนิดหน่อย ไม่ได้มีอะไรร้ายแรง พวกมึงอยู่ไหนแล้ววะ” ผมถามกลับไป



[เลยมาหน่อยเดียว จอดข้างทางโทรหามึงนี่แหละ กลัวว่ารถมึงจะเป็นอะไรไป]



“ไม่เป็นอะไรๆ พวกมึงขับไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป ยังไงก็เจอกันที่ร้านนะมึง” ผมพูดกับไอ้ไม้ก่อนกดวางสายก็ได้ยินเสียงไอ้ไม้เล่าเรื่องให้พวกที่เหลือฟัง



ผมเหลือบมองพี่เรนก่อนจะเปลี่ยนเกียร์แล้วขับรถไปต่อ นึกขำในใจว่ามีโอกาสจะพูดตั้งสองครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ก็โดนขัดจังหวะตลอด ไม่รู้ว่าแบบนี้จะหมายความว่ายังไง ระหว่างให้ผมรีบๆ บอกไปซะจะได้ไม่ต้องมีอะไรมาขัดอีก หรือว่ามันยังไม่ถึงเวลาจะบอกกันแน่ ถึงได้มีเรื่องอะไรให้มาขัดจังหวะในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้



ผมขับรถไปต่อ จากตรงนี้ไปถึงร้านอาหารที่นัดกันกับพวกเพื่อนๆ ก็ไม่ไกลเท่าไหร่หรอกครับ เป็นร้านประจำของพวกผมเวลาจะออกทริป แล้วเพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถเงียบเกินไป ผมก็เลยหาเรื่องชวนพี่เรนคุย ก็ไม่พ้นเรื่องเรียน เรื่องหมีนั่นแหละครับ พี่เรนเองก็ถามผมกลับเรื่องเกี่ยวกับพวกถ่ายรูปพวกนี้เหมือนกัน



เพราะเราพูดคุยกันก็เลยทำให้บรรยากาศตอนนี้ เป็นบรรยากาศที่สบายๆ แล้วก็เป็นกันเองกว่าตอนแรกครับ...





************************************************
สวัสดีปีใหม่ 2560 ค่ะทุกคน ขอให้มีความสุขกันมากๆ นะคะ ^^ วันหยุดแบบนี้ไปไหนกันมาหรือเปล่าคะ ฟางนี่ไม่ได้ไปไหนค่ะ อยู่บ้านแพ็คหนังสือ My Mom เตรียมส่ง ก็เลยไม่ได้เข้ามาอัพด้วยเลย ขอโทษด้วยนะคะ แต่หลังจากนี้ถ้าไม่มีภารกิจอะไรเร่งด่วนฟางก็จะพยายามมาให้เป็นประจำนะคะ

ครึ่งหลัง... เกือบแล้วววว อีกนิดเดียวน้องกายก็จะได้สารภาพความในใจออกไปแล้วค่ะ แต่ก็พลาด ฮ่า น่าสงสารน้องกายเนอะ ส่วนพี่เรนจะรู้แล้วหรือยังไม่รู้ อันนี้ก็ต้องรอดูกันไปค่ะว่าจะเป็นยังไง เรื่องนี้ไม่มีดราม่า ไม่มีเอ็นซีนะคะ เน้นสบายๆ อ่านแล้วละมุนหัวใจค่า ^^

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^


สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเมนต์ กดโหวด แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-02-2017 22:35:44 โดย fangiily »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่ารักน่าเอ็นดู นี่อ่านไปยิ้มไปตลอดเลย
คนก็น่ารักแมวหมีก็น่ารัก ขอบคุณค่ะฟาง
สวัสดีปีใหม่ด้วยนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Arzumi

  • #เจ้าหนูจาไม
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เพลงนี้ดังลอยมาเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ แต่บอกตอนนี้ ไม่รู้ว่าเร็วไปหรือไม่

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
โอ้ยยย. หมี แกมาเป็นสื่อกลางระหว่างคู่นี้ชะะะะ เค้าเดินวนกันนานลาน้าาา

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
หมีสื่อรักหรือเลป่าตอนนี้

แบบเห็นพ่อกับแม่ตึงใส่กัน ก้ต้องสร้างบรรยาศหน่อย

แต่แกล้งแม่ มันใช่หรอ นู้นไปงับ กายนู้น

ห้ามทำเรน


5555555

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
สนุกมากค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ tear0313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พี่เรนยังไม่แน่ใจในตัวเองหรือเปล่า เวลานี้กายจึงไม่ควรจะบอก
ไม่งั้นคงอึดอัดระหว่างกันเปล่าๆ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
กายโดนขัดจังหวะตลอดเลย 55555
พี่หมีกับพี่เรนน่ารักจังเลย  :katai2-1:

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

"งืออออ... ล แล้ว... พี่ต้องทำยังไง"
Rain
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ




โชคครั้งที่ • 13 •





พี่เรน





“ไปหมี ไปดูห้องพักกัน” ผมพูดกับหมีที่ผมกำลังอุ้มอยู่ก่อนจะเดินตามน้องกายกับพวกเพื่อนๆ ของเขาเข้าไปในที่พัก
 


มันสวยมากครับแล้วก็แปลกตามากๆ ด้วย ห้องพัก... หรือจะเรียกบ้านพักดีนะ ผมเรียกห้องพักดีกว่า มันทำมาจากเหล็กแล้วก็ไม้ครับ สไตล์ลอฟๆ สวยดี เท่ดีครับ ห้องพักแต่ละหลังก็ไล่ระดับความสูงต่ำต่างกันไป ผมว่านี่ก็เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของเขานะครับ เพราะมันทำให้ทุกๆ ห้องจะได้เห็นวิวที่แตกต่างกันไปครับ 
 


แต่ละห้องอยู่ได้สองคน ผมอยู่กับน้องกาย ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ที่จริงอยู่กับกายก็ดีนะครับเพราะผมสนิทกับเขาที่สุดในกลุ่มน้องๆ อยู่กับกายก็ไม่กังวลเท่าไหร่ แม้บางครั้ง... จะมีความรู้สึกแปลกๆ บ้างก็ตามที
 


ภายในห้องส่วนใหญ่เป็นกระจกครับ เราต้องเดินไปตามทางเดินโครงสร้างเหล็กที่ปูทับด้วยไม้ อยู่สูงกว่าพื้นดิน ส่วนห้องพักก็จะอยู่สูงขึ้นไปอีกต้องเดินขึ้นบันไดไปครับถึงจะถึงห้องพัก แล้วในห้องก็เป็นสองชั้น ชั้นล่างเป็นส่วนนั่งเล่น มีเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ พอทำอะไรง่ายๆ ได้ เดินขึ้นบันไดไปตรงชานพักมีประตูพอเปิดเข้าไปถึงได้รู้ว่าเป็นห้องน้ำครับ 
 


วิวห้องน้ำดีกว่าห้องนั่งเล่นอีกนะเนี่ย...
 


ในห้องน้ำเป็นกึ่งเอ้าดอร์ เป็นกระจกที่มองเห็นข้างนอกได้ชัดเจน แต่ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นกระจกแบบเห็นด้านเดียวครับ ตอนเดินมาผมก็มองอยู่แต่มองไม่เห็นข้างใน
 


ส่วนห้องนอนจะอยู่บนชั้นสอง มีระเบียงนั่งเล่นกว้างๆ เบาะนอนวางอยู่กับพื้นชิดผนังไม่มีเตียง แต่ผมว่าแบบนี้ก็ดีนะครับ มีพื้นที่กว้างด้วย ผมเลยเอากระเป๋าที่เป็นที่นอนของหมีไปวางเอาไว้มุมห้อง แล้วผมกับกายก็เริ่มเก็บของจัดของกัน
 


“พี่เรนนอนได้ใช่ไหม” ผมหันไปมองเมื่อถูกถามก่อนจะพยักหน้ารับ
 


“ได้สิ สบายมากเลย วิวสวยมากๆ หาที่พักแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย” วิวสวยจริงๆ ครับ มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวของต้นไม้ใบไม้ รู้สึกสดชื่นเลย
 


“ผมมาบ่อยครับเพราะมันใกล้ๆ กรุงเทพฯ มาแต่ละทีก็หาที่พักใหม่ไปเรื่อยๆ แต่ที่นี่พวกผมเคยมาพักกันแล้วรอบหนึ่ง สวย ถูกใจคราวนี้ก็เลยมาพักอีก” กายตอบ ทิ้งตัวลงนั่งบนเบาะนอนข้างๆ ผม “อยู่นี่เราจะปั่นจักรยาน ผมไม่ได้พาพี่มาลำบากใช่ไหม”
 


ผมหัวเราะก่อนจะส่ายหน้า ใช้มือตบตักตัวเองเพื่อเรียกให้หมีเดินมานั่งพร้อมกับตอบน้องไปด้วย “ไม่หรอก เห็นแบบนี้พี่ก็ขาลุยนะ”
 


กายทำตาโตเหมือนจะไม่เชื่อกัน ผมเลยทำหน้าบึ้งก่อนจะพูดอวดต่อ “จริงๆ พี่กับเพื่อนๆ ชอบไปออกค่ายอาสา ไปบนดอยลำบากกว่านี้อีก แต่ก็สนุกดีนะ ได้ประสบการณ์ดีๆ เยอะเลย”
 


“พี่เรนเคยไปไหนมาแล้วบ้าง”
 


“อือ...” ผมนั่งนึก ขยับตัวให้น้องยื่นมือมาเล่นกับหมีได้ถนัดขึ้น “ไปเชียงใหม่ ไปลำปาง ขอนแก่นก็เคยไปมาแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะไปเหนือ ไปขึ้นดอยน่ะ”
 


“พี่เรนไปเป็นเด็กดอยเหรอ”
 


ผมขมวดคิ้วใส่แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ส่วนคนพูดก็หัวเราะชอบใจใหญ่ ไม่รู้ว่ามีอะไรน่าหัวเราะนะครับ ไม่เห็นจะเข้าใจเลยแหะ... “แล้วกายล่ะ เรียนถ่ายรูปแบบนี้ก็ต้องไปไหนมาไหนมาเยอะแน่ๆ เลยใช่ไหม เคยไปภาคใต้มาหรือยัง”
 


ผมทำตาโตทันทีตอนกายพยักหน้ารับ ผมอยากไปภาคใต้มากๆ แต่ยังไม่มีโอกาสไปสักที “จริงเหรอๆ ไปที่ไหนมา สวยไหม”
 


“ก็... มีไปกระบี่ ภูเก็ต พังงาอะไรพวกนี้แหละครับ ไปถ่ายรูปมา นี่ไง... เดี๋ยวนะ” กายพูดก่อนจะเอี้ยวตัวหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงมากดๆ แล้วยื่นให้ผมดู
 


มันเป็นภาพท้องทะเล... ไม่รู้ว่าตอนเช้าหรือเย็น แต่ทะเลเป็นสีส้มประกายทองดูสวยมากๆ เลยครับ “สวยจัง กายถ่ายเองเหรอ”
 


“ใช่ครับ ถ่ายส่งอาจารย์คอนเซ็ปแสงสีทอง”
 


“โหหหห เก่งจังเลย ถ่ายรูปเก่งมากๆ เลย สวยสุดๆ กายนี่เก่งจัง” ผมพูดชม
 


ไม่ได้พูดเกินจริงนะครับแต่น้องกายถ่ายรูปสวยจริงๆ ถ่ายสวยมากๆ ผมหยิบโทรศัพท์ของกายมาถือเอาไว้แล้วก็เลื่อนดูภาพไปมา ภาพวิว บรรยากาศเยอะมากเลยครับแต่พวกภาพคนหรือของกินอะไรพวกนี้ก็มีนะ สวยๆ ทั้งนั้น



“นี่ใช้กล้องตัวนั้นถ่ายตลอดเลยเหรอ” ผมถามชี้นิ้วไปที่กล้องที่เห็นน้องเขาสะพายติดตัวเกือบตลอด



“ก็ไม่หรอกครับ บางทีก็ใช้กล้องโทรศัพท์ครับ”



ผมพยักหน้ารับ เปิดดูไปเพลินๆ ผมชอบดูนะครับ พวกภาพถ่ายแต่ผมไม่ชอบถ่าย ทั้งเป็นคนถ่ายเองแล้วก็ถูกถ่ายด้วย แต่ก็... แปลกอยู่อย่างหนึ่งเวลาโดนกายถ่ายรูปผมก็ไม่ได้ไม่ชอบอะไรนะครับ แต่ถ้าคนอื่นมาขอถ่ายรูป ที่ไม่ใช่เพื่อนๆ ผมนะ ผมจะไม่ยอมให้ถ่าย เพราะอะไรก็ไม่รู้สิ...



ผมชะงักตอนที่นิ้วของผมเลื่อนภาพในโทรศัพท์ของกายมาเจอรูปผม แล้วก็... ไม่ใช่แค่รูปเดียวด้วย หลายรูปเลย...



“ผมบอกแล้วไงว่าพี่เรนน่ะเหมาะจะเป็นนายแบบ” น้องกายพูด เอื้อมมือมาหยิบโทรศัพท์กลับไป “แล้วก็เหมาะเป็นนายแบบให้ผมแค่คนเดียวด้วย”



อ่า...



ผมว่า... ผมรู้สึกแปลกๆ อีกแล้วละครับ



ช่วงนี้เวลาอยู่ใกล้ๆ กาย โดนมองมากๆ หรือตอนที่เผลอสบตา ผมมักจะรู้สึกแปลกๆ ทุกทีเลย แก้มมันคันๆ ร้อนๆ ยังไงก็ไม่รู้สิ เหมือนกับตอนนี้เลยละครับ



“ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าที่ผมทำอะไรให้พี่น่ะผมหวังผลเสมอ แล้วพี่เรนก็รู้ใช่ไหมว่าผมหวังอะไรอยู่...” กายขยับหันมาหาผมก่อนจะถาม



ผมได้แต่ส่ายหน้าไปมา ก่อนจะก้มหน้าลงเพราะรู้สึกว่ามองหน้ากายแล้วมันรู้สึกแปลกๆ



“พี่เรน...”



“พี่เรนครับ”



ผมเงยหน้าขึ้นเมื่อโดนเรียกซ้ำๆ กายเอาแต่เรียกผม แล้วก็ยิ้มออกมา “ผมมีอะไรจะบอกพี่ด้วย”



“อือ...”



“ผมชอบพี่”







น้องกาย



ผมมองหน้าพี่เรนก่อนจะยิ้มออกมา แก้วขาวๆ นั้นแดงก่ำเห็นแล้วอยากจะเอามือจิ้มๆ ไปที่แก้ม ปฏิกิริยาแบบนี้ผมก็ยังพอมีลุ้นใช่ไหมครับ



คือที่บอกชอบพี่เขาไปไม่ใช่ว่าไม่เขินนะ เขินแบบ... เขินเอี้ยๆ อ่ะครับ แต่พอเห็นหน้าพี่เรนแล้วผมก็คิดว่าดีแล้วล่ะที่ข่มความเขินตัวเองบอกชอบพี่เขาไป



"พี่เรน ผมชอบพี่นะ" ผมพูดย้ำอีกรอบเมื่อพี่เรนยังนิ่งเงียบหน้าแดงอยู่ “ชอบพี่จริงๆ นะ”



อยู่ๆ พี่เรนก็ยกมือปิดแก้มตัวเองจนเห็นแค่ตา จมูก แล้วก็ปากเล็กๆ นั่น “งืออออ... ล แล้ว... พี่ต้องทำยังไง”



ห๊ะ!!




ผมแทบจะร้องออกไปเมื่อได้ยิน ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ให้ตายเถอะ... พี่เรนยังไงก็คือพี่เรนนั่นแหละนะ แล้วพอผมหัวเราะเหมือนคนตรงหน้าผมจะไม่พอใจนิดๆ ที่ผมหัวเราะออกมา



รู้สึกว่าช่วงนี้พี่เรนแสดงอารมณ์ที่หลากหลายมากขึ้นเวลาอยู่กับผม แรกๆ เจ้าตัวจะเอาแต่ยิ้มใจดี แต่เดี๋ยวนี้ไม่พอใจก็ทำหน้าบึ้ง ชอบใจก็ยิ้ม หัวเราะ หรือเวลาโดนพวกพี่ตินาแกล้งก็จะมาฟ้องผม หมีไม่สนใจก็ฟ้องผม ซึ่งผมว่ามันก็ดีนะ เพราะมันเหมือนกับว่าผมเข้าใกล้พี่เรนเรื่อยๆ



“หัวเราะอะไรอ่ะ... ก ก็พี่ไม่รู้ต้องทำยังไงนี่ ไม่เคยมีคนมาบอกชอบ ไม่เคยบอกชอบใครสักหน่อย” พี่เรนทำหน้ายู่ มือที่ปิดแก้มตัวเองเอาไว้ยังไม่ลดลง



เห็นแล้วก็ตลก น่ารักดีครับ



“พี่เรนรังเกียจผมไหม” ผมถามกลับยิ้มๆ พอเห็นพี่เรนส่ายหน้าผมก็ถามต่อ “ที่ผมเข้ามาใกล้พี่เรนบ่อยๆ รังเกียจผมหรือเปล่า แล้วที่ผมชอบถ่ายรูปพี่เรน พี่รู้สึกโกรธหรือไม่พอใจหรือเปล่า”



พี่เรนยังคงส่ายหน้ากับทุกคำถามของผม ผมเอื้อมมือไปดึงมือพี่เรนมาจับ ก่อนจะประสานมือตัวเองกับมือของพี่เขา “ผมจับมือพี่เรนแบบนี้รังเกียจผมไหม”



ผมขยับยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นแก้มแดงๆ นั้นอย่างชัดเจน หัวใจผมเต้นแรงมาก แรงจนคิดว่าถ้าในห้องตกอยู่ในความเงียบ เสียงหัวใจของผมมันจะต้องดังทะลุออกมาจากอกแน่นอน ที่ถาม ที่ทำ ไม่ใช่ว่าผมไม่เขินนะครับ ผมเขินมากๆ เหมือนกัน ซึ่งผมไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน



แฟน... เคยมี ไม่ใช่ไม่เคย แต่เขาก็ไม่ได้ทำให้ผมใจเต้นแรงได้เท่าพี่เรนแบบนี้



“แล้ว... ผมทำแบบนี้พี่เรนรังเกียจไหม” ผมยื่นหน้าไปใกล้ จุ๊บเบาๆ ที่ปลายจมูกมนๆ นั้นก่อนจะผละออกมาถาม



พี่เรนนิ่งไปนิด เม้มปากเข้าหากันแน่นจนผมกลัวว่าพี่เขาจะทำปากตัวเองเป็นแผล การรอคำตอบนี้เหมือนจะยาวนาน แต่การรอคอยก็สิ้นสุด พร้อมกับผมที่ไม่สามารถกลั้นยิ้มได้อีกต่อไปเมื่อพี่เรนส่ายหน้าไปมา



“ถ้า... พี่เรนไม่รังเกียจผม ก็ลองให้ผมจีบพี่ดู และถ้าพี่เรนชอบผม เราก็คบกัน ตกลงไหมครับ”



พี่เรนพยักหน้าขึ้นลงทั้งๆ ที่หน้ายังไม่หายแดง ผมยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่จะยิ้มได้ ก่อนจะยอมปล่อยมือพี่เขาเมื่อพี่เรนดึงมือตัวเองประท้วง เจ้าตัวไม่พูดอะไรสักคำนอกจากเอามือไปปิดแก้มตัวเองต่อเหมือนเดิม



“เป็นอะไรไปครับ เอามือไปปิดแก้มตัวเองแบบนั้นทำไม”



"ไม่รู้...” เสียงพี่เรนอู้อี้เพราะเอามือปิดแก้มตัวเองแน่นจนปากแดงๆ นั้นยู่เข้าหากัน “พี่แค่รู้สึกแปลกๆ กายชอบทำพี่รู้สึกแปลกๆ”



ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย “ยังไงครับ ไหนเล่าให้ผมฟังหน่อย” ผมถาม คว้าหมีที่เดินมาคลอเคลียมานั่งตักแล้วลูบขนนุ่มมือเบาๆ



"ก็กายอ่ะ... ชอบทำให้พี่รู้สึกแปลกๆ แก้มมันร้อนๆ คันๆ ยังไงก็ไม่รู้”



ผมอยากจะหัวเราะเสียงดังให้ลั่นโลก ไปก็ไปตะโกน กระโดดโลดเต้น ก็ไอ้อาการแก้มแดงๆ ร้อนๆ นั่นน่ะ อาการของคนเขินไม่ใช่หรือไงกัน



“พี่เรนก็เหมือนกันแหละ ชอบทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ อยู่เรื่อย” ผมตอบกลับไป อยากจะล้อเลียนท่าทางนั้นนะ แต่ผมทำแล้วมันคงน่าเกลียดมากกว่าน่าเอ็นดู เดี๋ยวจากพี่เรนไม่รังเกียจจะกลายเป็นรังเกียจผมขึ้นมา



“ชอบทำผมใจเต้นแรง แก้มก็ร้อน แถมยังชอบทำให้ผมเป็นห่วง เป็นกังวล คิดเรื่องพี่เรนแทบจะตลอดเวลา”



“ชอบทำให้ผมตกหลุมรัก...”



“งืออออออ!!!!” พี่เรนร้องออกมาก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าหมีไปกอดแล้วเดินหนีผมออกจากห้องไป



แน่นอนว่าตอนเดินหนีผมหน้าพี่เรนนี่แดงก่ำยิ่งกว่าตอนแรกอีก ผมได้แต่ทิ้งตัวลงนอนไปบนเตียงยกมือขึ้นจับหน้าอกตัวเองตรงตำแหน่งหัวใจ



หัวใจผมเต้นแรงมากจริงๆ ตลอดเวลาที่ผมพูดผมทั้งตื่นเต้นทั้งกลัว หลากหลายความรู้สึกไปหมด แต่พอได้พูดแล้วมันก็โล่ง สบายใจแล้วครับ ได้ทำ ได้พูดในสิ่งที่อยากทำแล้ว คิดถูกแล้วจริงๆ ที่ยอมอาย ยอมเขินแล้วพูดทุกอย่างออกไป



ผมได้แต่นอนยิ้มเหมือนคนบ้า ก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นเดินตามพี่เรนไป เดี๋ยวเกิดพี่เรนเขินจัดนึกเดินไปไหนต่อไหนจนหลงทางขึ้นมาจะทำยังไงกัน ยิ่งหลงทางเก่งๆ อยู่ด้วย



แต่พี่เรนไม่ได้ไปไหนครับ ลงมานั่งกอดหมีอยู่ที่ชั้นล่าง พูดอะไรงุ้งงิ้งๆ กับหมีก็ไม่รู้ เห็นแบบนั้นผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปเอาไว้ พี่เรนขดตัวอยู่บนพื้นกอดหมีเอาไว้ พอหันมาเห็นผมก็หน้าแดงอีกรอบแล้วอุ้มหมีเดินหนีต่อ ก็อยากจะถามว่าจะหนีผมไปไหน ห้องพักก็มีแค่นี้เนี่ย



ผมหลุดหัวเราะเมื่อพี่เรนเดินหนีผมเข้าไปในห้องน้ำ ปิดล็อคตัวเองกับหมีเอาไว้ในนั้น



"พี่เรนครับ จะเข้าไปอยู่ในห้องน้ำทำไม” ถึงวิวตรงห้องน้ำจะสวยมากก็เถอะครับ “พี่เรน”



“งือออ!!!” เหมือนจะได้ยินเสียงคนร้องประท้วงงอแงเนอะ



"พี่เรนครับ ออกมาเถอะ" ผมยืนพิงผนังข้างๆ ประตูห้องน้ำ ร้องเรียกคนที่หลบผมเข้าไปอยู่ในนั้นให้ออกมา



“ก็กายแหละ!” คนข้างในประท้วงครับ ผมไม่เคยได้ยินน้ำเสียงแบบนี้จากพี่เรนเลย เสียงเหมือนจะงอนๆ โกรธๆ ฟังแล้วก็เพลินหูดีนะ



“ผมทำไมครับ”



“ก็... ก็กายทำพี่รู้สึกแปลกๆ แปลกๆ มากด้วย หน้าร้อนไปหมดเลยแดงมากด้วยเนี่ย...”



"ผมขอโทษครับ” ได้แต่กลั้นยิ้มกลั้นขำตอนได้ยิน “ผมจะไม่ทำให้พี่เรนรู้สึกแปลกๆ แล้ว ออกมานะครับ อยู่ในนั้นนานๆ ไม่ดีนะ”



คนข้างในยังเงียบครับ “ออกมาเถอะครับ เดี๋ยวผมพาไปปั่นจักรยาน วิวที่นี่สวยมากเลยนะพี่เรนไม่อยากไปวาดรูปเหรอ เนี่ย... เดี๋ยวพาหมีไปปั่นจักรยานด้วยกันด้วย”



เหมือนจะได้ยินเสียงกุกกักๆ ก่อนที่ประตูห้องน้ำจะเปิดออก หมีที่หลุดจากอ้อมแขนของพี่เรนได้แล้วก็เดินมาหาผม ร้องเบาๆ เหมือนจะฟ้องว่าโดนพี่เรนกักตัว เห็นแบบนั้นผมก็เลยก้มลงอุ้มแล้วลูบขนเบาๆ



เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นคนหน้าแดงยืนมองผมอยู่จนต้องหลุดยิ้มออกมา แต่ก็ไม่พูดอะไรให้พี่เรนหนีผมเข้าห้องน้ำอีก “ไปเตรียมตัวกันดีกว่าครับ”



พี่เรนพยักหน้ารับก่อนจะเดินกลับขึ้นไปบนห้องนอนอีกรอบ ส่วนผมก็ได้แต่อุ้มหมีเดินตามไปพร้อมกับคิดในใจว่า...



ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่มีทางปล่อยพี่เรนไปแน่นอน...



พี่เรนเป็นคนน่ารัก ถ้าใครได้อยู่ใกล้ๆ ร้อยให้พันเลยผมเชื่อว่าทุกคนจะตกหลุมรักพี่เรน เพราะฉะนั้นผมจะไม่มีทางปล่อยให้ใครเข้าใกล้พี่เรน แล้วก็จะไม่มีทางปล่อยพี่เรนให้ไปใกล้ใครแน่นอน







************************************************
ขอโทษที่หายไปนานค่ะ คือ... ไม่มีอะไรจะพูดเพราะรู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะคิดอะไรออก เจอกันครั้งหน้าค่ะ แฮ่....

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเมนต์ กดโหวด แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด