• Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12  (อ่าน 190715 ครั้ง)

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
พี่เรน น่ารักน่าฟัดมากอ่ะ

น้องกาย พยายามอีกนิดนะ

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

พี่เรนไม่ได้ยิ้มให้กล้อง แต่ทุกครั้งที่ยิ้ม เขายิ้มให้ผม
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 15 •
 




น้องกาย




 
วันนี้ฝนตก...



ทั้งๆ ที่จะเข้าหน้าหนาวอยู่แล้วแต่ฝนก็ยังตกอยู่ ท้าวคางมองสายฝนที่ตกกระหน่ำอยู่นอกหน้าต่างแล้วหาวออกมาอย่างง่วงนอน บรรยากาศตอนบ่ายที่กินอิ่ม ฝนตกเย็นสบายแบบนี้มันน่านอนหลับเสียจริงๆ เลย เวลาแบบนี้ควรได้นอนซุกผ้าห่มอยู่บนเตียงสิ ไม่ใช่มานั่งเรียนวิชาคณิตศาสตร์อะไรแบบนี้ เรียนไปทำไม ถ่ายรูปไม่ได้ใช่เสียหน่อย



“มึงน่ะ ใกล้กลางภาคแล้ว มึงได้คำตอบตกลงจากพี่เรนเรื่องเป็นแบบให้ยังเนี่ย” ไอ้เกลียวเอาศอกมาจิ้มแขนผมแล้วถาม



"ยังว่ะ แต่กูเชื่อว่าถ้ากูขอจริงๆ พี่เขาต้องยอมตกลงเป็นแบบให้กู" ผมตอบมันไป



ช่วงนี้เหมือนตัวเองจะลืมไปว่าต้องขอพี่เรนมาเป็นนายแบบด้วยเพื่อไฟนอลโปรคเจคของผม แต่ก็อย่างที่ผมบอกไอ้เกลียวมันไปนั่นแหละครับว่าถ้าผมขอร้องจริงๆ พี่เรนก็ยอม เพราะเดี๋ยวนี้พี่เรนไม่ค่อยเขินกล้องของผมแล้ว บางทีผมเรียกพี่เขาแล้วเงยหน้าขึ้นมาเห็นผมหันเลนส์กล้องไปหาก็ยิ้มกว้างสดใสมาให้ก็มี



รู้สึกดีนะครับว่าผมเป็นคนเดียวที่พี่เรนยอมให้ถ่ายรูปแบบนี้ เคยได้ยินรุ่นน้องในเอกไปขอพี่เรนถ่ายรูปแต่พี่เขาไม่ให้ เพราะไม่ใช่ผม



ฟังแล้วมันอุ่นๆ ที่หัวใจดีนะครับ



“เออ มึงก็อย่าลืมแล้วกันเดี๋ยวจะไม่มีงานส่ง”



“กูไม่ลืมหรอกน่า” ผมตอบมันไป ก่อนที่มันจะหันกลับไปสนใจอาจารย์ที่ยืนสอนอยู่หน้าชั้นต่อ ส่วนผมก็หยิบดินสอมาขีดๆ เขียนๆ เล่นไปเรื่อย เบื่อครับ ง่วงด้วย



เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงสี่สิบนาที แต่ในความรู้สึกโคตรยาวนานสักสิบชั่วโมงก็สิ้นสุดลง ผมลุกขึ้นบิดขี้เกียจก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้อง



ฝนหยุดตกแล้ว ท้องฟ้าแจ่มใส มองเห็นรุ้งกินน้ำด้วย นึกแล้วก็น่าพาพี่เรนไปถ่ายรูปภาพฟ้าหลังฝนแบบนี้



เออ!! จริงด้วย พาพี่เรนไปเป็นแบบให้ดีกว่า



พอคิดได้ผมก็รีบกดโทรศัพท์โทรออกหาพี่เรนทันที



“พี่เรนครับ ผมกายเองนะ พี่เรนว่างหรือเปล่า” ผมถามออกไปทันทีที่พี่เรนรับสาย



[ก็ว่างนะ น้องกายมีอะไรหรือเปล่า] ผมชอบที่พี่เรนเรียกผมว่าน้องกายนะ ดูน่ารักดีเวลาพี่เรนพูดแบบนี้



“ไปถ่ายรูปกันนะ ที่สวนตรงคณะเกษตร พี่เรนอยู่ไหน คณะหรือเปล่าครับเดี๋ยวผมนั่งรถไปรับ”



[อื้ม! อยู่ที่คณะ]



“เดี๋ยวผมไปรับนะครับ” ผมพูดก่อนจะตัดสายไป หันไปโบกมือลาเพื่อนๆ ที่เตรียมตัวจะแยกย้ายกันก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถบริการของมหาลัยที่กำลังจะจอดส่งนักศึกษาพอดี



ไม่นานก็มาถึงคณะของพี่เรน พี่เรนเป็นคนที่หาง่ายมากเพียงแค่ลงจากรถและมองไปผมก็เห็นพี่เรนได้ไม่ยาก แต่ที่น่าแปลกใจคือพี่เรนไม่ได้อยู่คนเดียว แล้วก็ไม่ได้อยู่กับพี่ตินา แต่อยู่กลับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งผมรู้สึกคุ้นๆ หน้าอยู่



“พี่เรน” ผมส่งเสียงเรียกพี่เรน ซึ่งพี่เขาก็หันมามองแล้วยิ้มกว้างน่ารักให้ ผมเลยยิ้มออกมาแล้วเดินเข้าไปหา



พอเดินเข้าไปใกล้ๆ ผมถึงได้นึกออกว่าผู้ชายอีกคนคือใคร พี่แซม... เป็นเดือนมหา’ลัยปีที่แล้ว เป็นรุ่นพี่ในคณะของพี่เรน



“สวัสดีครับพี่” ผมยกมือไหว้พี่เขาไป



“เอ่อ ไง ไม่เจอนานตั้งแต่ตอนประกวดดาวเดือนปีที่แล้ว” พี่แซมทัก ผมก็ทำเพียงแค่พยักหน้ารับแล้วยิ้มตอบ ก่อนจะหันไปมองพี่เรนแล้วเปลี่ยนรอยยิ้มจากรอยยิ้มตามมารยาทเป็นยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นพี่เรนหันมองผมที มองพี่แซมที



“ยังไงผมขอตัวก่อนนะพี่ ไปครับพี่เรน เดี๋ยวแสงหมดถ่ายรูปออกมาจะไม่สวย” ผมตอบ คว้ากระดานวาดรูปกระเป๋าของพี่เรนมาถือไว้ในมือข้างเดียว อีกข้างก็คว้าข้อมือพีเรนแล้วพาเดินออกมาจากหน้าคณะ ได้ยินพี่เรนหันไปพูดลากับพี่แซม



จากคณะพี่เรนไปถึงสวนไม่ไกลนักเราเลยเดินกันไปไม่ได้รอรถของมหา’ลัย



โชคดีที่รุ้งกินน้ำยังไม่หายไปไหน ผมเลยบอกให้พี่เรนนั่งวาดรูปเล่นไปเรื่อยๆ ส่วนผมจะขอถ่ายรูปแถวๆ นี้ ผมไม่อยากบอกพี่เรนว่าผมจะถ่ายรูปพี่เขา เพราะผมกลัวว่าพี่เรนจะเกร็งเกินไปจนภาพมันออกมาไม่ธรรมชาติพอ



ผมเดินเก็บบรรยากาศรอบๆ ตัวพี่เรน ถ่ายภาพรุ้งกินน้ำที่พาดผ่านท้องฟ้าสีฟ้าใส เมฆกำลังพอดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป



หันมามองพี่เรนอีกรอบ พี่เขากำลังจมอยู่กับสมาธิในการวาดรูปผมเลยเปลี่ยนทิศทางของเลนส์กล้องมาที่พี่เรน ถอยห่างและย่อตัวลงเพื่อถ่ายมุมด้านข้างของพี่เรน มีฉากหลังเป็นต้นไม้ใหญ่ ท้องฟ้าสดใสและรุ้งกินน้ำ



ถ่ายได้ไม่มากเพราะรุ้งกินน้ำจางหายไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเก็บภาพพี่เรนไปเรื่อยๆ และนั่งยิ้มกับตัวเองไม่หยุด



ถ้าหากผมขอพี่เรนคบพี่เขาจะตกลงหรือเปล่า...



ถ้าหากผมบอกไปว่า พี่เรนผมรักพี่มากจริงๆ คบกับผมได้ไหม คำตอบของพี่เขาจะตอบรับหรือปฏิเสธ



ตั้งแต่ได้สนิทกับพี่เขาผมเที่ยวถามคำถามนี้ในใจตัวเองมาเป็นร้อยรอบแต่ยังไม่เคยมีสักครั้งที่พูดออกไปเพราะผมอยากให้แน่ใจ แน่ใจว่าผมจะได้เป็นคนคนนั้นของพี่



พี่เรนเงยหน้าขึ้นมองผม และพอเห็นผมถือกล้องหันไปทางพี่เขาอยู่ รอยยิ้มกว้างอย่างสดใสก็ปรากฏขึ้นมาทันที และนั่นทำให้ผมยิ้มตามก่อนจะกดชัตเตอร์



พี่เรนไม่ได้ยิ้มให้กล้อง แต่ทุกครั้งที่ยิ้ม เขายิ้มให้ผม



เหมือนจะอวยตัวเอง แต่ผมเชื่อว่ามันเป็นแบบนั้น



“พี่เรนวาดรูปอะไรอยู่” ผมเดินเข้าไปหา ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ พี่เขา



"งานน่ะ ใกล้สอบกลางภาคแล้วงานก็เยอะขึ้น นี่ยังต้องตัดโมอีกตั้งหลายตัวแหน่ะ” พี่เรนตอบ



“ตัดโมเดลเดี๋ยวก็ไม่ยอมนอนอีก”



พี่เรนยิ้มแผล่ เพราะมันจริงอย่างที่ผมพูด คราวก่อนโมเดลที่ทำเกือบเสร็จของพี่เรนมีปัญหาจนต้องเร่งทำใหม่ ไม่ได้หลับไม่ได้นอนสองวันสองคืนเต็มๆ แถมยังไม่ยอมบอกใครกับพวกพี่ตินาก็ไม่บอก พอพวกพี่เขารู้เลยมาบอกผม และพอผมเจอพี่เรนก็ดุเขาไปชุดหนึ่ง



ทำงานข้ามคืนผมไม่ว่า เพราะผมก็ทำบ่อยแต่ไม่ใช่ว่าไม่ยอมนอนแบบนี้เลย แต่นั่นก็ทำให้ผมรู้อย่างหนึ่ง... พี่เรนดื้อไม่ใช่เล่น



“อาทิตย์หน้าวันลอยกระทง พี่เรนไปลอยกระทงด้วยกันกับผมไหม” ผมถาม



“ที่ไหน ที่นี่น่ะเหรอ”



ผมพยักหน้ากับคำถามของพี่เรน วันงานที่มหา’ลัยจะมีจัดงานวันลอยกระทง มีซุ้มขายของ มีซุ้มกิจกรรม ซุ้มของเล่น



“อื้ม! ได้สิพี่มาลอยด้วย”



ถ้าวันนั้นผมขอพี่เรนคบจะดีไหมนะ



“กลับห้องกันดีกว่าครับ ฝนทำท่าจะตกอีกแล้ว” ผมบอก บรรยากาศเริ่มมืดครึ้มอีกรอบ รีบชวนกันกลับหอก่อนที่ฝนจะเทแล้วจะเปียกกันไปหมด



พวกเราแวะซื้อของกินที่ซอยเข้าหอ และทันทีที่ถึงห้องพี่เรนฝนก็กระหน่ำเทลงมาอีกรอบ



“อ่า... เกือบไปแล้วเชียว ไม่อย่างนั้นได้เปียกกันหมดแน่” พี่เรนพูดพร้อมกับหันไปมองข้างนอกระหว่างที่เรากำลังรอลิฟต์กันอยู่



ฝนตกแบบนี้... ท่าจะไม่หยุดตกง่ายๆ ด้วย แย่จัง... กลับห้องไม่ได้ อิอิ



เหมี๊ยวว~



ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป หมีก็ร้องทักมาทันที ก่อนจะเดินมาเกาะขาผมแล้วยืน ไม่ใช่จะอ้อนให้ผมอุ้มหรอก น่าจะหิวมากกว่าเพราะมันเอาจมูกมาดมๆ ดุนๆ ที่ถุงอาหาร



“หิวละสิตัวเอง อันนี้กินไม่ได้หรอกของเรากับพี่เรน”



เงี๊ยววว~~



พอผมพูดแบบนั้นหมีก็ร้องออกมาเหมือนกำลังประท้วงจนผมต้องหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ



"มานี่เลยน้องหมี เดี๋ยวเราเทอาหารให้" พี่เรนก้มลงอุ้มหมี ก่อนจะหอมแก้มซ้ายแก้มขวา น่ารักชะมัดเลย อยากให้พี่เรนหอมแก้มผมแบบนี้บ้างอ่ะ



ถ้าผมจะร้องเงี๊ยวๆๆ พี่เรนจะมาหอมแก้มผมไหม



ผมเดินไปล้างมือก่อนจะจัดการเดินไปหยิบจานชามมาเทของกินเตรียมเอาไว้ระหว่างรอพี่เรนเดินไปเทอาหารให้กับหมี พอได้ของกินหมีขาวก็เดินตรงที่ถาดอาหารของตัวเองแล้วลงมือจัดการทันที



“พี่เรนไปล้างมือก่อนครับ อย่าเพิ่งหยิบขนมเข้าปากนะ” ผมหันไปดุทันทีที่เห็นพี่เรนทำท่าจะหยิบขนมที่ผมแกะเอาไว้ให้



พี่เรนทำปากยู่ทันทีก่อนจะยอมเดินไปล้างมือให้เรียบร้อย “พี่ล้างแล้ว กินได้แล้วใช่ไหม”



“ยังครับ กินข้าวก่อนค่อยกินขนมหวาน เดี๋ยวปวดท้องนะครับ” ผมพูด ดันจานข้าวไปตรงหน้าพี่เรน



คนน่ารักทำหน้าบึ้งอีกแล้ว เห็นแล้วอยากเข้าไปหยิกแก้ม เอ่อ... แต่ไม่ใช่แค่คิดแล้วล่ะครับ เพราะผมก็ยื่นมือไปบีบแก้มพี่เรนแล้ว



“งื้อออออ” ส่งเสียงประท้วงออกมาทันทีที่ผมยื่นมือไปบีบแก้ม



ผมหัวเราะก่อนจะยอมปล่อยมือออก แก้มขาวๆ แดงขึ้นนิดๆ จนผมต้องลูบเบาๆ และแก้มที่แดงนิดๆ ตรงที่โดนผมบีบมันก็ลามเป็นแดงไปทั้งหน้าเลย



นี่ถ้าไม่ได้เข้าข้างตัวเอง พี่เรนกำลังเขินผมใช่ไหมครับเนี่ย



"ทำหน้าบึ้ง กินข้าวได้แล้วครับแล้วจะได้กินขนม” ผมบอกพี่เรน



อีกฝ่ายทำปากยื่นนิดๆ ก่อนจะยอมตักข้าวกิน ผมเลยจัดการกับข้าวของตัวเองบ้าง พอกินข้าวเสร็จพี่เรนก็หันมามองผม ตากลมโตใต้แว่นสายตาอันใหญ่เป็นประกายเหมือนจะบอกกับผมว่าขอกินขนมนะ ผมหัวเราะ ก่อนเลื่อนกล่องใส่ลูกชุบเป็ดน้อยสีเหลืองไปตรงหน้าพี่เรน พี่เขายิ้มน่ารักให้ผมก่อนจะจิ้มขนมลูกชุบเข้าปากแล้วเคี้ยวหมุบหมับๆ น่าเอ็นดู



“วันนี้พี่เรนต้องทำงานดึกไหมครับเนี่ย” ผมถามพลางนั่งมองคนน่ารักกินขนมไม่หยุด ชอบจริงๆ สิน่า... ลูกชุบเนี่ย



“ไม่หรอก วันนี้เพิ่งส่งงานไปวันนี้พักสักวัน อ่ะ... ไม่กินเหรอ” พี่เรนถามพร้อมกับใช้ส้อมจิ้มขนมจิ้มลูกชุบมาให้ผม



ป้อน... ใช่ไหมวะ



ผมเลื่อนหน้าไปเตรียมงับลูกชุบแต่อีกฝ่ายกลับขยับมือหนีแล้วหัวเราะชอบใจที่แกล้งผมได้ โอเค... จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม ได้เลย... ผมก็ตามไล่งับขนมไปเรื่อยๆ แบบที่พี่เรนก็ขยับมือหนี ไม่ได้อยากจะเจ้าเล่ห์นะ แต่พี่เรนแกล้งผมก่อนเอง...



ผมไล่งับไปเรื่อยๆ แบบที่ต้อนให้มือพี่เรนขยับเข้าหาตัวเขาเองเรื่อยๆ เช่นกัน สุดท้าย... ผมก็จับข้อมือพี่เขาเอาไว้ ใบหน้าของเราห่างกันแค่คืบ



จุ๊บ!



งับ!



อ๊ะๆ อย่าคิดว่าไอ้กายคนนี้จะกล้าจุ๊บปากพี่เรน มันทำได้แค่จุ๊บปลายจมูกเท่านั้นแหละครับ ก่อนจะเปลี่ยนมางับขนมลูกชุบแทน ขยับตัวออกห่างแล้วยักคิ้วไปให้จึกสองจึก แบบที่พี่เรนเองก็หน้าแดง แล้วก็แก้เผ็ดผมด้วยการกินลูกชุบคนเดียวหมดกล่อง



แต่เชื่อไหมครับพี่เรนเขินผมได้ไม่นานหรอกเพราะพอลูกชุบหมดก็หันมาหาผมแล้วชี้ไปที่ขนมอย่างอื่นต่อ



“พอแล้วครับ กินเยอะแล้วเดี๋ยวปวดท้องนะ”



“แต่ซื้อมาแล้วนะ”



“เก็บเอาไว้ก่อนค่อยกินพรุ่งนี้ก็ได้ วันนี้พอแล้วครับ” ผมยังคงไม่ยอมให้พี่เรนกิน ตอนแรกไม่คิดว่าพี่เรนจะกินวันนี้หมดเลย ผมเลยตามใจซื้อแทบทุกอย่างที่พี่เขาอยากจะกินมา แต่วันนี้กินเยอะแล้วครับทั้งข้าวทั้งลูกชุบ



“ก็ได้ๆ” ยังดีที่พี่เรนว่าง่ายไม่ดื้อ



ผมจัดการรวบจานไปล้าง เก็บขยะไปทิ้ง ส่วนพี่เรนก็หันไปเล่นกับหมีแล้วละครับ ข้างนอกฝนยังตกไม่หยุด ถ้าหากผมขอพี่เรนค้างคืนที่นี่... พี่เขาจะยอมไหมนะ



“ฝนยังไม่หยุดตกเลย” พี่เรนหันมาพูดกับผม



“เอ่อ... ครับ...”



“กายค้างห้องพี่ก็ได้นะคืนนี้ ตกหนักแบบนี้วิ่งกลับไปหอก็เปียกหมดแน่ๆ”



ในใจนี่ลิงโลดมากจนอยากจะวิ่งออกไปตากฝนแล้วร้องตะโกนให้ก้องแต่ก็ต้องพยายามเก็บอาการครับ “ไม่รบกวนพี่เรนนะ”



“อือ!   ไม่หรอก ค้างนี่แหละเดี๋ยวพี่ไปหยิบชุดให้จะได้อาบน้ำกัน” พี่เรนพยักหน้าแล้วพูดยืนยันก่อนจะลุกเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาชุดให้ผม



คือแบบ... พี่เรนพูดจาสองแง่สองง่ามอ่ะ ผมคิดนะโว้ย มีอย่างที่ไหนมาพูดว่าจะได้อาบน้ำกัน นี่คิดว่าชวนอาบน้ำด้วยกันแล้วนะเนี่ย ทำไมพี่เรนชอบอ่อยแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวแบบนี้วะ คนโดนอ่อยแม่งใจจะละลายแล้ว ทีผมอ่อยแบบจริงๆ จังๆ ไม่ยักจะรู้สึกอะไรเลย



ที่จริงเมื่อก่อนผมก็ไม่ค่อยชอบเวลาฝนตกเท่าไหร่ แต่หลังจากได้เจอพี่เรนครั้งแรกผมก็เริ่มชอบ ยิ่งมาวันนี้ไอ้กายยิ่งชอบ



ขอบคุณฝนจริงๆ ที่ทำให้ผมได้ใกล้ชิด ‘ฝน’ แบบนี้...






************************************************
มาแล้วค่าาาาา ตอนนี้เหลือเรื่องนี้แค่เรื่องเดียวแล้ว เพราะเรื่องอื่นลงจบไปหมดแล้ว เรื่องนี้อีกไม่นานก็คงจบเพราะว่าเรื่องราวไม่มีดราม่า ถ้าหากให้ยืดเกินไปเกรงว่าจะไม่สนุก แต่ยังไงก็จะพยายามแต่งทุกตอนให้สนุกแล้วก็มีความฟินนะคะ

น้องกายกับพี่เรนขยับเข้าใกล้กันทีละนิดๆ แล้วค่ะ แต่จะตกลงคบกันตอนไหน พี่เรนจะรู้ใจตัวเองหรือยัง ยังไงก็เอาใจช่วยทั้งสองคนด้วยนะคะ ^^

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
น่ารักเกิ๊น

 :-[ :o8: :-[

ออฟไลน์ tear0313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ถ้าบอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่~~~~~

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
พี่เรนแกล้งน้องกาย พูดไม่ชัดเจน น้องคิดเยอะไปแล้วแน่ๆ

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
ไปหลงฝน หลงร้อนที่ไหนน๊อออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

พี่เรนไม่ได้ยิ้มให้กล้อง แต่ทุกครั้งที่ยิ้ม เขายิ้มให้ผม
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 15.2 •







• • • ต่อค่ะ 100% • • •






พี่เรน






วันนี้เป็นวันลอยกระทง... ที่มหาวิทยาลัยจึงไม่มีการเรียนการสอน ที่จริงก็ไม่มีมาตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้วละครับเพื่อให้นักศึกษาแต่ละคณะจัดเตรียมซุ้มกิจกรรมของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นน้องๆ ปีหนึ่งนั่นแหละครับที่เป็นคนจัดซุ้ม แล้วก็มีปีสองคอยดูแลอีกที ส่วนผมปีสาม แล้วพี่ปีสี่ก็สบายครับ ไม่ต้องทำอะไรมาก



แต่จะว่าสบายก็ไม่ถูกนัก... เพราะตอนนี้ แม้จะไม่มีเรียนแต่ผมก็นั่งตัดโมเดลอยู่ในห้องกับน้องหมีอยู่เลยครับ อีกสองวันก็จะส่งแล้ว



จริงๆ ตัดมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วยังไม่ได้นอนเลย ตอนนี้ผมชักง่วงแล้วสิ



“น้องหมี... นอนกันเถอะ” ผมเดินไปอุ้มน้องหมีมาที่เตียง ก่อนจะนอนกอดน้องเอาไว้ ใช้เวลาไม่นานผมก็หลับเพราะว่าไม่ได้นอนทั้งคืน



รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงเคาะประตูอยู่หลายรอบ งือ... ยังไม่อยากจะลุกเลย ผมลืมตาขึ้นช้าๆ ยกมือขยี้ตาให้หายงัวเงีย น้องหมีหนีไปนอนเล่นที่พื้นแล้ว



ผมค่อยๆ ขยับตัวลงจากเตียงระวังไม่ให้เหยียบอุปกรณ์ตัดโมแล้วเดินไปที่ประตูก่อนจะเปิดออก ผมกระพริบตาปริบๆ ตอนที่มองคนตรงหน้า



"สวัสดีครับผม ผมไม้เองจำได้ใช่ไหม" ผมพยักหน้ารับเมื่ออีกฝ่ายถาม น้องไม้... เพื่อนสนิทในกลุ่มของน้องกายที่ผมพอรู้จักเพราะไปเที่ยวด้วยกันมา ว่าแต่ว่าทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ



คงเพราะผมทำหน้างงๆ น้องเขาก็เลยยิ้มกว้างแล้วตอบข้อสงสัยพร้อมกับยื่นถุงมาให้ผม "ไอ้กายมันฝากผมซื้อข้าวเข้ามาให้พี่เรนครับ มันกำลังวุ่นวายอยู่ที่คณะ ผมแวะออกมาซื้อของให้พวกเพื่อนๆ ด้วยมันก็เลยฝากข้าวมาให้พี่"



“มันบอกว่าพี่เรนคงเอาแต่ทำงานจนลืมออกไปหาอะไรกินแน่นอน”



ผมรับถุงจากน้องไม้มาถือเอาไว้ ก้มมองก็เห็นว่าเป็นข้าวกล่องแล้วก็มีขนมด้วย ผมยิ้มกว้างขอบคุณน้องไม้ไป “ขอบคุณนะ ลำบากน้องไม้เลย”



“ม ไม่เป็นไรพี่ แค่นี้เอง ยังไงผมไปก่อนนะ เอาไว้เจอกันใหม่นะ พี่จะไปลอยกระทงกับไอ้กายใช่ไหม”



ผมพยักหน้ารับกับคำถามนั้น “ใช่แล้วล่ะ เอาไว้เจอกันนะ ฝากขอบคุณน้องกายด้วย”



“ครับผม”



น้องไม้ไปแล้ว ผมเลยถือถุงเข้าข้าวกลับเข้ามาในห้อง เดินไปเทอาหารเม็ดให้น้องหมีก่อนแล้วค่อยลงมือจัดการกับอาหารของตัวเอง เรียบร้อยก็ลงมือทำงานที่ค้างอยู่ต่อ ยิ่งทำงานเสร็จเร็วเท่าไหร่ผมก็จะมีเวลาพักเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นก่อนจะลุยงานชิ้นอื่นต่อ



แต่คงเพราะผมใช้สายตาในการตัดโมเดลมากเกินไปจนรู้สึกว่าแสบๆ ตา ผมเลยหยุดทรมานตัวเองเปลี่ยนมานอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงแทน หยิบโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้แตะเลยมาดูเห็นข้อความชวนไปเที่ยวงานวันลอยกระทงจากพวกตินา ผมเลยกดเข้าไปตอบตกลงเพราะยังไงผมก็ตั้งใจจะไปอยู่แล้ว



ก่อนจะเปลี่ยนไปตอบน้องกายต่อว่าเดี๋ยวผมไปงานพร้อมๆ กับพวกตินา น้องกายจะได้ไม่ต้องออกมารับผม น้องเขาคงวุ่นไม่ใช่เล่นเพราะปีสองต้องคอยคุมแล้วก็ช่วยน้องๆ ปีหนึ่งจัดซุ้ม



ผมนอนเล่นไปเรื่อยๆ สลับกับลุกมาตัดโมเดลบ้างจนกระทั่งเย็นจึงได้เดินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมยืนลังเลอยู่หน้าน้องหมีตัดสินใจไม่ถูกว่าจะพาน้องไปด้วยดีหรือเปล่า ใจหนึ่งก็อยากพาไป แต่อีกใจก็กังวลเพราะคนคงเยอะน่าดู แล้วผมก็... อือ... เพื่อนๆ ชอบบอกว่าผมซุ่มซ่ามไม่ทันระวัง ถ้าหากทำน้องหายไป หรือไม่ทันระวังจนทำน้องเจ็บตัวขึ้นมาหล่ะ...



อย่างนั้น...



“เดี๋ยวเราซื้อของกินมาให้นะ อยู่ห้องอย่าดื้ออย่าซนรู้ไหม ถ้าทำโมเดลเราพังด้วยไม่อย่างนั้นเราโกรธนะ!” ผมจัดการเทน้ำเทอาหารให้น้องหมีก่อนจะเดินออกจากห้อง



นัดกับพวกตินาเอาไว้หน้ามหา’ลัย แล้วเราค่อยเข้าไปพร้อมกัน เพียงแค่ยืนอยู่หน้ามหา’ลัย เสียงเพลงก็ดังลอยมาให้ได้ยิน คนเยอะไม่ใช่เลยครับ ถ้าดึกกว่านี้คนคงเยอะมากแน่ๆ เลย



“ตินา! ใบหม่อน!” ผมส่งเสียงทักทายก่อนจะเดินเข้าไปหาพวกเพื่อนๆ “โอ๊ะ ขอโทษครับๆ”



ไม่ทันระวังกว่าจะเดินไปถึงพวกตินาก็เดินชนคนอื่นไปหลายคนเลย เล่นเอาเหนื่อยเลยแหะ...



“ให้ตายสิเรน เดินจากประตูฝั่งนั่นมาตรงนี้ก็ยังจะซุ่มซ่ามเดินชนคนเขาไปทั่วอีกนะ” พอมาถึงสาก็เริ่มบ่นผมทันทีเลยครับ



“ก็คนมันเยอะ เราเปล่าซุ่มซ่ามเสียหน่อย...” ประท้วงกลับไปครับ ก็ผมไม่ผิดนี่ คนมันเยอะจริงๆ ใครจะไปมองเห็นรอบด้านละครับจริงไหม “เราไม่ได้มีตาหลัง ตาข้างเสียหน่อยจะได้เห็นว่าใครเดินไปเดินมาบ้าง”



“เถียงๆ อย่างนายน่ะต่อให้มีเป็นร้อยตาก็ซุ่มซ่ามอยู่ดี” ตินาว่าพร้อมกับยื่นมือมาบีบจมูกผม



งือออ!!



ผมเจ็บนะ มาบีบจมูกผมทำไมอ่ะ ผมทำหน้ามุ่ยกลับไป “เราไม่ได้ซุ่มซ่ามขนาดนั้นสักหน่อย”



“ยิ่งกว่าซุ่มซ่ามอีก ไป... เข้าไปในงานกันนี่นัดกับน้องกายไว้ที่ไหนละ”



“อ่า... ซุ้มคณะนิเทศน่ะ น้องบอกหาง่ายมากๆ เพราะว่าเด่นสุดๆ” ผมตอบคำถามของใบหม่อน



แล้วเราก็พากันเดินเข้าไปในงาน ตั้งแต่ทางเข้าก็มีร้านขายของเยอะแยะไปหมดเลยครับ เพราะนอกจากซุ้มของคณะแล้วก็ยังมีนักศึกษามาเปิดซุ้มขายของอีกเพียบ ทั้งซุ้มจากชมรม กิจกรรมต่างๆ ซุ้มของเหล่าดาวเดือนมหา’ลัย แล้วก็ยังเปิดให้คนน้องมาเปิดซุ้มได้ด้วย เพราะอย่างนั้นก็เลยเต็มไปหมดครับ



มีทั้งของกิน อาหารคาว อาหารหวาน ขนม น้ำ ซุ้มของเล่น ขายของทำมือ เยอะมากจริงๆ ทุกซุ้มก็น่าสนใจทั้งนั้นเลยละครับ



อ๊ะ!   ซุ้มขนมไทย



ผมหันไปมองพวกตินาที่ยืนอยู่ซุ้มข้างๆ ก็ชี้นิ้วบอกว่าจะดูขนมไทยแล้วก็เดินเข้าไปทันที มีหลายอย่างเลย ผมชอบพวกขนมไทยนะครับอร่อยดี โดยเฉพาะลูกชุบชอบสุดๆ ไปเลยละครับ



“รับอะไรดีครับ เลือกได้ตามสบายเลยนะครับ” คนขายเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม ผมก็เลยยิ้มตอบกลับไปก่อนจะก้มเลือกขนม



นั่น!   ลูกชุบอยู่ตรงนั้น ลูกชุบผลไม้



ผมขยับไปตรงหน้าลูกชุบทันทีก่อนจะใช้ที่คีบอันเล็กๆ คีบลูกชุบใส่กล่อง อ่า... น่ากินจังเลยนะ



ผมส่งกล่องพลาสติกให้กับคนขายที่รับไปพร้อมกับรอยยิ้ม “ดูท่าจะชอบลูกชุบมากเลยนะครับ”



“อ่า... ครับ ชอบครับ”



“หายากนะครับผู้ชายสมัยนี้ที่จะชอบขนมไทยๆ แบบนี้”



“ฮื่อ ไม่ยากนะ เราไงชอบมากเลย” ผมตอบกลับไป คนขายก็ไม่พูดอะไรนอกจากยิ้มให้แล้วก็ส่งถุงมาให้ผม



ผมรอรับเงินทอนจากเขาก่อนจะทำหน้างงๆ เมื่อไม่ได้มีแค่เงินทอนที่ส่งมาให้แต่มีนามบัตรมาด้วย “ถ้าทานแล้วชอบ โทรสั่งได้นะครับ บริการส่งครับ”



ผมยิ้มกว้างทันทีแล้วก็พยักหน้าให้ “ครับ เราโทรสั่งแน่นอน ขอบคุณนะครับ”



ผมแกะกล่องลูกชุบหยิบกินทันที อร่อยแหะ... ว่าแต่ว่า... พวกตินาหายไปไหนแล้วนะ สงสัยเดินไปก่อนแล้วแน่เลย ไม่เป็นอะไร ผมเดินไปที่ซุ้มของน้องกายเลยก็ได้ หนไม่ยากหรอกเนอะ!







น้องกาย



ผลัวะ



“โอ๊ย! ไอ้สัส! ตบหัวกูทำไมวะ” ผมหันไปโวยวายทันทีที่โดนตบหัว ได้แต่ยกมือลูบหัวแล้วมองพวกมันอย่างเคืองๆ



“ไม่ต้องมาค้อนกูไอ้สัส! ทำงานครับทำงาน ไปขายบัตรไป มัวแต่ชะเง้อชะแง้หาอะไรอยู่ได้” ไอ้ปั้นเพื่อนในเอกพูดกับผมพร้อมกับส่งบัตรมาให้



"กูไม่ได้หาอะไรโว๊ย! กูมองหาคนอยู่ไอ้ห่า!” ด่ามันไปที เตะขามันไปทีก่อนจะเดินปึงปังไปยืนหน้าซุ้มของคณะแล้วเริ่มขายบัตร หน้าที่พวกนี้มันต้องเป็นของปีหนึ่งไหม ใช่หน้าที่กูไหมเนี่ย!!



ซุ้มคณะผมทำอะไรเหรอครับ ขอบอกว่า... แม่งอะไรก็ไม่รู้ครับแต่เรียกคนได้โคตรเยอะ แถมรายได้ดีด้วย ไม่ได้มีปาเป้า โยนห่วง สาวน้อยหนุ่มน้อยตกน้ำ ขายของกิน ขายน้ำอะไรหรอกครับ แต่เป็นซุ้มถ่ายรูป



ใช่ครับ! ถ่ายรูป ตากล้องก็ไม่ใช่ใคร พวกเราเหล่าสาขาฟิลม์นั่นเอง แล้วเราก็จะมีหนุ่มๆ สาวๆ แต่งตัวสวยๆ หล่อๆ ยืนประจำซุ้ม ก็คัดหน้าตามาหมดดีกรีดาวเดือนคณะแต่ละชั้นปี ไม่ก็พวกคิ้วบอยคิ้วเกิล เรียกว่าเลือกหน้าตาแบบดีๆ อ่ะครับ แล้วก็ขายบัตรให้คนทั่วไป ห้าสิบบาทถ่ายได้หนึ่งคน หนึ่งร้อยบาทถ่ายได้สองคน ตอนแรกผมก็คิดนะว่าจะมีใครบ้ามาจ่ายเงินเพื่อถ่ายรูปกับใครก็ไม่รู้แค่ไม่ถึงสองนาที ที่ไหนได้...!



เปิดซุ้มมาไม่ถึงสองชั่วโมงสาวๆ หนุ่มๆ เต็มหน้าซุ้มเลยครับ โดยเฉพาะสาวๆ ทั้งแท้ทั้งไม่แท้ โคตรเยอะ



ตอนแรกผมก็ต้องไปเป็นหนึ่งในคนที่ต้องแต่งตัวแล้วยืนเป็นหุ่นให้เขามาถ่ายรูปด้วย แต่ผมไม่ยอมไง เรื่องอะไรจะยอมวะ วันนี้วันลอยกระทงทั้งทีแถมนัดพี่เรนเอาไว้แล้วด้วย เพราะให้ตายยังไงผมก็ไม่ยอม พวกมันเลยโยนหน้าที่ยืนขายหน้าตา เอ๊ย ยืนขายบัตรมาให้ผม



ไม่ง่ายนะครับ ขายไปก็โดนลวนลามไป เมื่อกี้เกือบโดนเจ๊กระเทยลูบเป้าไปแล้ว ดีที่เอวผมดีเบี่ยงหลบทัน ไม่งั้นนะไอ้กายเอ๊ย! เป้ามึงโดนพรากบริสุทธิ์ไปแล้วแน่ๆ



ว่าแต่พี่เรนอยู่ไหนหว่า น่าจะมาถึงซุ้มผมได้แล้วสิ...



"ซุ้มนี้คึกคักดีนะ” ผมหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู



“อ้าวพวกพี่ หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้เมื่อเห็นว่าเป็นพวกพี่ตินา



“ซุ้มนายขายอะไรน่ะ”



“ขายตัวครับ” ผมตอบก่อนจะหัวเราะแล้วอธิบายเพิ่ม “ล้อเล่นพี่ คณะผมเปิดให้ถ่ายรูปกับพวกคนหน้าตาดีๆ น่ะพี่ ห้าสิบบาทถ่ายได้หนึ่งคน ร้อยหนึ่งสองคน แบบเหมาก็มีนะพี่”



“โห... หากินกันง่ายดี แต่เอ่อ คณะนิเทศนี่แหล่งรวมพลคนหน้าตาดีอยู่แล้วนี่นะ มิน่าล่ะคนเยอะแยะไปหมด”



ผมหัวเราะ ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อมองหาพี่เรน ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อยังไม่เห็น “พี่ครับ แล้วพี่เรนล่ะครับ ไม่ได้มาพร้อมกับพวกพี่เหรอ”



“เรนก็เดินตามพวกพี่มาไง... อ้าว! สา เห็นเรนไหม” พี่ตินาพูดก่อนจะร้องถามพี่สาเมื่อไม่เห็นพี่เรน



“อ้าว... เมื่อกี้มันยังเดินตามฉันมาอยู่เลยนะ หรือว่า...”



“หลงทาง!” ผมกับพี่ๆ พูดออกมาพร้อมกัน



คือถ้าคนอื่นหลงทางผมจะไม่ห่วงเลยครับเพราะยังไงก็หาทางมาซุ้มผมได้หรือไม่ก็โทรหาผมแน่ๆ แต่นี่เป็นพี่เรนไง เวลาเดินไปไหนมาไหนถ้าไม่มองพี่เขาไว้ดีๆ พี่เรนนี่หายตัวเก่งมาก ทั้งหลงทาง ทั้งชอบแวะนู้นแวะนี่แบบไม่บอก แล้วคนเยอะแบบนี้ ซุ้มเยอะแบบนี้ โดนคนเบียดไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้



"โอ๊ยตาย! เรนมันยิ่งซุ่มซ่ามอยู่ด้วย ปีก่อนก็หลงไปนู้น! หลังมอ ไม่รู้เดินยังไงของมันโชคดีที่เพื่อนในคณะไปเจอมันเข้า” พี่ใบหม่อนพูด ไม่ได้ทำให้ผมหายหวั่นใจเลยครับ



"เดี๋ยวพี่ลองโทรหามันก่อน” พี่ตินาพูดก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดโทรออกหาพี่เรน



ผมยืนลุ้นอยู่แบบนั้นว่าขอให้พี่เรนรับสายสักที



“ไม่รับสายเลย ไม่รู้ว่าไม่ได้ยินหรือว่ายังไง” พี่ตินาพูด กดโทรออกแบบนั้นอยู่อีกสามสี่รอบ แต่มันก็เหมือนเดิม



“เดี๋ยวพวกพี่ไปตามหามันก่อนนะ นายก็อยู่นี่แหละ” พี่สาว่า



“พี่ๆ ครับ เดี๋ยวผมไปตามหาพี่เรนเองดีกว่า แยกกันไปเยอะแยะเดี๋ยวจะนัดเจอกันลำบาก ยังไงถ้าเจอพี่เรนแล้วเดี๋ยวผมโทรบอกเอง” ผมรีบพูดทันที ให้พวกพี่เขาไปตามหา ผมก็ไม่สบายใจอยู่ดี



“แต่เราต้องอยู่ซุ้มไม่ใช่เหรอ”



“ไม่เป็นไรพี่ ผมไปตามหาพี่เรนเอง พวกพี่ก็ไม่ต้องกังวลนะครับ เดินเที่ยวต่อได้เลย ยังไงผมก็ไม่มีทางปล่อยพี่เรนหลงไปไหนแน่นอนครับ” ผมยืนยัน



เมื่อเห็นผมยืนยันแบบนั้นพวกพี่ตินาก็มองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าตกลง “ถ้าเจอมันแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะ ถ้าพี่เดินๆ ไปแล้วเจอมันเดี๋ยวจะโทรบอกเอง”



“ครับ” ผมรับคำ หันไปหาไอ้เกลียวที่นั่งพักอยู่มายืนแทนที่ผมแล้วยัดบัตรในมือผมให้มัน “ฝากด้วย กูไปตามหาพี่เรนก่อน”



พูดแค่นั้นไม่ขยายความอะไรเพิ่มผมก็เดินออกจากซุ้มทันที กว่าจะพ้นหน้าซุ้มคณะตัวเองได้ก็เสียเวลาไปไม่น้อย คนเยอะชะมัด!



ผมอาศัยความตัวสูงของตัวเองกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อมองหาพี่เรน



พี่เรนหาไม่ยาก และผมมั่นใจว่าผมหาพี่เรนเจอแน่นอน



แต่คนเยอะๆ แบบนี้เป็นอุปสรรคสำหรับผมพอควร เพราะนอกจากจะต้องคอยมองไปทั่วๆ เพื่อหาพี่เรนแล้วยังต้องคอยหลบคนนู้นคนนี้ไปด้วย



มหา’ลัยผมค่อนข้างกว้าง พอเวลาจัดงานแบบนี้ก็จะมีหลายซอยให้เดินเข้าเดินออก ไม่รู้พี่เรนเดินเข้าซอยไหน ถนนเส้นไหนไปบ้าง



ผมโทรหาพี่เรนตลอดเวลา แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่พี่เรนจะรับสายเลย จนผมเริ่มร้อนใจไปหมดแล้วตอนนี้



ทำไมถึงได้หลงทางเก่งขนาดนี้นะพี่เรน!



คอยดูเถอะ ถ้าเจอละก็พ่อจะดุซะให้ร้องไห้เลย ให้ตายสิ!!






************************************************
หายไปนาน ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าฟางไม่สบายค่ะ เป็นหลายโรคติดต่อกันเลย หายโรคนั้นเป็นโรคนี้ต่อ ลากยาวมาเกือบๆ เดือนเลยค่ะทั้งลำไส้อักเสบ อาหารเป็นพิษ ไข้ขึ้น ตอนนี้ไอค่ะ ไอมาเป็นสัปดาห์แล้วยังไม่หาย แต่ก็ดีขึ้นมากแล้วเลยแวะมาอัพนิยายให้อ่านค่า คือคิดถึงทุกคนม๊ากกก ไม่ได้เข้ามาเลย คิดถึงๆ

ก็... สำหรับตอนนี้เนอะ พี่เรนดันหลงทางจ้า ปกติแค่เดินไปคณะตัวเองยังหลงไปคณะน้องได้ แล้วงานแบบนี้ คนเยอะแบบนี้ ไม่มีทางที่พี่จะไม่หลงจ้า แล้วก็หลงจนได้ คราวนี้ทำไงละเนี่ยยยย ถ้าน้องหาเจอโดนดุร้องไห้แงๆ แน่เลยยย

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ


ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
หลงทางเก่งจัง พี่เรน

ออฟไลน์ Pakbung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 พี่เรนนนนหายไปไหน ถ้าน้องกายเจอระวังโดนดุน่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เจ้ากายจะกล้าดุคนพี่มั้ยเนี่ย เจอหน้าซึมหน้าอ้อนพี่เรนสงสัยว่าจะดุไม่ออกนะ ขอบคุณมากจ้าฟาง สุขภาพแข็งแรงเร็วๆนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Arzumi

  • #เจ้าหนูจาไม
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
กล้าดุหร๊ออ แค่พี่เรนทำหน้าหงอยๆน้ำตาคลอนิดๆ น้องกายก้อไปไม่เป็นแล้ว ฮ่าๆๆ  :z2:

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
หายไวไวน่ะครับน้องฟาง  อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยดูแลสุขภาพด้วยครับ

นิยายวันนี้ น้องกายน่ารักมากครับ

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

โว๊ะ!! ไอ้กายมึงนี่ แพ้ทางพี่เรนจริงๆ ว่ะ
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 16 •
 




น้องกาย




 
ชั่วโมงหนึ่งแล้วที่ผมยังมองหาพี่เรนท่ามกลางผู้คนมากมายที่เยอะขึ้นเรื่อยๆ และท้องฟ้าก็มืดลง มีเพียงแสงไฟจากร้านค้าแล้วก็ไฟที่ติดตามเสาที่ส่องสว่างให้เห็น ผมโทรหาพวกพี่ตินา พี่เขาเองก็ยังไม่เจอพี่เรน จนความร้อนใจของผมเพิ่มมากขึ้นและมันก็รุนแรงมาก



ที่นี่คือมหาวิทยาลัย มันไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก ผมคิดอย่างนั้น แต่อีกใจหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังกลัว ไม่อยากให้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น



พอเผลอคิดอะไรแย่ๆ ก็ได้แต่ตบหัวตัวเองไปทีกับความคิดไร้สาระ ก่อนจะเริ่มมองหาพี่เรนอีกรอบ ผมมั่นใจว่าสามครั้งที่ผมเห็นพี่เรน แต่ระยะห่างที่มีมาก และผู้คนที่ค่อนข้างเยอะ กว่าจะไปถึงจุดที่พี่เรนยืนอยู่ เจ้าตัวก็หายไปอีกทางแล้ว



รู้ตัวบ้างไหมว่าตัวเองกำลังหลง! ทำไมถึงได้เดินไปไหนมาไหนอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย!!



ผมเบียดคนออกมาเดินริมฟุตบาทฝั่งที่ไม่มีร้านขายของ ผมตัวเปียกไปด้วยเหงื่อแล้วก็สารพัดกลิ่นทั้งกลิ่นไก่ย่าง ไก่ทอด หมูย่าง หมูทอดเต็มไปหมด



กดโทรศัพท์โทรออกหาพี่รนเป็นรอบที่ร้อยแต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ไม่มีคนรับ...



หรือจะลืมเอาโทรศัพท์มาด้วยกันนะ



ผมกวาดสายตาไปรอบๆ อีกครั้งเพื่อมองหาพี่เรน ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นพี่เรนเดินอยู่ข้างหน้า ผมรีบก้าวขาเร็วๆ จนแทบจะกลายเป็นวิ่ง ร้องขอโทษขอโพยคนที่โดนผมชนแต่ยังดีที่ผมออกมาอยู่ริมสุดแล้วคนเลยไม่เยอะเท่าตรงกลาง ไม่อยากนั้นคงได้โดนลากไปกระทืบแน่นอน



หมับ!!



เฮือก!!



คนตรงหน้าผมสะดุ้งก่อนจะหันมามอง ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ หยิบโทรศัพท์โทรหาพี่ตินาบอกพวกพี่เขาว่าผมเจอตัวการแล้ว พวกพี่เขาจะได้เดินเที่ยวได้อย่างสบายใจ



ผมไม่สนคำทักทายของคนตรงหน้า แต่ลากเขาออกมาจากผู้คน ยืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้ในสวนที่ห่างจากร้านค้าพอสมควรแต่มันก็ไม่ได้มืดเพราะมีไฟเสาส่องสว่างจนทั่ว



“น้องกาย...”



“พี่รู้ตัวไหมว่าหลงทางกับพวกพี่ตินา พี่รู้ไหมว่าผมเที่ยวเดินตามหาพี่ไปทั่วงานเป็นชั่วโมง แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ผม ผมโทรออกเป็นร้อยสายแล้ว! แล้วรู้ไหมว่าผมเป็นห่วงแค่ไหน!!” ผมไม่ฟังที่พี่เรนเรียกผม คนมันเป็นห่วง เป็นกังวลไปหมด แล้วดู!!



ทำคนอื่นเป็นห่วงจะเป็นจะตาย ตัวเองเดินกินขนมสบายใจ โว๊ย! มันน่าตีสักทีไหมเนี่ยพี่เรน!!



พี่เรนสะดุ้งเมื่อผมดุเสียงดังใส่ ริมฝีปากเม้มเข้าหากันก่อนจะพยักหน้าลง “รู้... รู้ว่าหลงทาง พี่พยายามจะเดินไปหากายที่ซุ้ม แต่ยิ่งเดินก็ยิ่งงง ถามคนอื่นๆ ก็ชี้กันมั่วไปหมด พี่ก็เลย... เดินไปเรื่อยๆ อ่ะ”



ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อน คิดว่าจะหายโกรธเหรอวะ!



เออ!!! หายโว๊ย!!!



“แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ผม...”



พอผมถามแบบนั้นพี่เรนที่ก้มหน้าอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองก่อนจะยิ้มแหยออกมา “พี่ลืมเอาโทรศัพท์มา...”



นี่ถ้าเป็นเพื่อนนี่ชกไปทีแล้วจบเลยนะ แต่นี่ไม่ใช่ไง โกรธก็โกรธ โมโหก็โมโหแต่ทำอะไรไม่ได้เนี่ย



ผมพ่นลมหายใจออกมาเพื่อระบายความโกรธ ความหงุดหงิดที่สร้างมันขึ้นมาเองออก “กลับกันเถอะครับ ผมโทรบอกพวกพี่ตินาไปแล้ว เดี๋ยวผมไปส่งที่หอ”



“น้องกาย...” ไม่ได้มาแค่เสียง แต่ยื่นมือมาจับแขนผมเอาไว้ด้วยตอนที่ผมเดินผ่าน “โกรธพี่เหรอ...”



ไอ้ปากที่อ้าจะถามว่ามีอะไรนี่หุบฉับเลยครับ โกรธไหมแน่นอนว่าโกรธ โกรธที่พี่เรนไม่ระวัง เดินหลงไปหลงมาจนผมตามหาวุ่นไปหมด แต่อีกใจมันก็โกรธไม่ลงเพราะว่าความเป็นห่วงมันมีมากกว่า



“ผมเป็นห่วง กลัวว่าจะเป็นอะไรไปหรือเปล่า กลัวว่าจะหลงไปไหนไกลอีก กลัวว่าจะโดนชน กลัวว่าพี่จะซุ่มซ่ามจนเจ็บตัว กลัวว่าอาจจะเจอเรื่องไม่ดี กลัวว่าจะเจอคนไม่ดี”



พี่เรนเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินผมพูดแบบนั้น “พี่ขอโทษนะ...”



“ไม่เป็นไรครับ กลับกันเถอะ”



“ด เดี๋ยวก่อน” พี่เรนเรียกผมเอาไว้อีกรอบ ก่อนจะชูถุงใบใหญ่ในมือขึ้นมา “พี่ซื้อกระทงแบบขนมปังเอาไว้ เรา... ไปลอยกระทงด้วยกันนะ”



ผมไม่ตอบอะไร แต่คว้ามือพี่เรนมากุมแล้วดึงในเดินตาม พี่เรนก็ไม่พูดอะไร คงคิดว่าผมยังโกรธอยู่



ผมพาพี่เรนเดินไปเรื่อยๆ พอเจอสระน้ำบริเวณที่คนค่อนข้างน้อยก็จูงมือพี่เขาไป แอบเห็นจากหางตา ใบหน้าน่ารักยกยิ้มดีใจใหญ่ แล้วผมจะทำอะไรได้ครับ นอกจากแอบยิ้มตามอยู่นี่ไง



โว๊ะ!! ไอ้กายมึงนี่ แพ้ทางพี่เรนจริงๆ ว่ะ



ผมหยิบถุงในมือพี่เรนมาถือ หยิบกระทงที่ทำจากขนมปังออกมาส่งให้พี่เขา หยิบธูปกับเทียนที่ใส่ไว้ในถุงมาปักลงไป รื้อๆ ดูในถุงก็เห็นไฟแช็คก็เลยหยิบออกมาจุดไฟก่อนจะส่งกระทงขนมปังให้พี่เรนถือเอาไว้ จับข้อมือพี่เรนจูงไปใกล้ๆ ริมสระแต่ก็คอยระวังไม่ให้คนซุ่มซ่ามเผลอตกลงไปในสระ



“อธิฐานแล้วลอยกระทงกันครับ” ผมหันไปยิ้มให้กับพี่เรนแล้วนั่งยองๆ ลง พี่เรนเองก็นั่งลงข้างๆ ผม



เราสองคนหลับตาลงแล้วก็ขอขมา อธิฐานต่อพระแม่คงคากัน ก่อนที่ผมกับพี่เรนจะปล่อยกระทงขนมปังลงในสระน้ำพร้อมๆ กัน มองเจ้าก้อนกระทงลอยห่างจากริมสระไปเรื่อยๆ



“พี่เรนอยากเดินดูอะไรอีกไหมครับ”



คนตรงหน้าผมส่ายหน้าไปมาจนผมสะบัด เห็นแล้วก็อยากจะยื่นมือไปลูบผมนุ่มๆ นั่นเล่น “ไม่แล้วล่ะ น้องกายล่ะอยากเดินอีกไหม”



“ไม่ละครับ เดินตามหาพี่เรนจนทั่วงานจนเหนื่อยไปหมดแล้ว อย่างนั้นเรากลับกันเลยดีกว่า” ผมพูดยิ้มๆ ยื่นมือไปจับข้อมือของพี่เขาแล้วก็พาเดินออกจากบริเวณนี้



คนยังคงเยอะไปหมดจนผมต้องดึงพี่เข้ามาใกล้ตัวเองมาขึ้นเพื่อที่พี่เรนจะได้ไม่หลงทิศหลงทางไปไหนอีก เดี๋ยวได้ตามหากันวุ่นอีก นอกจากจะต้องคอยระวังว่าพี่เรนจะหลงไปหรือเปล่าแล้วยังต้องระวังคนรอบข้างให้พี่เรนอีก เพราะเจ้าตัวดูเหมือนจะไม่สนใจรอบข้างเสียเท่าไหร่ บางทีก็เดินจนจะชนคนอื่นเขา ไม่มองทิศมองทางเลย มองแต่ขนมในมือนี่แหละ แก้มขาวๆ พองออกมาเพราะข้างในมันเต็มไปด้วยขนม



น่ามันเขี้ยว! อยากจะหยิกแก้มขาวๆ นั้นสักที



ผมพาพี่เรนกลับหอ ทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นข้างเตียงนอนของพี่เรน ทักทายเจ้าหมีที่เดินมาส่งเสียงร้องเหมียวๆ เมื่อเห็นผม ส่วนพี่เรนก็เดินเอาขนมที่ซื้อมาไปเก็บ ห้องพี่เรนของกินเยอะนะครับ แต่ว่ามีแต่ขนม ของหวาน พวกของคาวนี่ไม่ค่อยจะมีหรอกครับ ผิดกับผมครับ ไม่ว่าจะของคาวของหวานก็ไม่มีสักอย่าง ฮ่าา



“กายกินอะไรหรือยัง” พี่เรนหันมาถามผม



เออว่ะ... ยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่หว่าหลังจากมื้อกลางวัน ตอนแรกพวกเพื่อนที่คณะก็ชวนไปกินข้าวก่อนที่จะมาเฝ้าซุ้มนั่นแหละครับ แต่ผมตั้งใจว่าจะรอพี่เรนก็เลยไม่ได้กิน แล้วก็มาตามหาพี่เรนอีกเป็นชั่วโมงจนตอนนี้กลับมาที่ห้องก็เลยลืมไปเลย



ผมส่ายหน้ากับคำถามของพี่เรน “ยังครับ ตอนแรกว่าจะชวนพี่เรนไปกินข้าวด้วยกันนี่แหละ แต่มัวแต่ตามหาคนหลงทางเลยลืมไปหมดเลย”



พอได้ยินผมพูดแบบนั้นคนขยันหลงทางก็ทำหน้าหงอยลงไปทันที ก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็นรื้อๆ อะไรอยู่สักพักก็เดินกลับมาหาผม ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าผมแล้วดันแก้วกระเบื้องมาหาพร้อมกับขนมปังก้อนใหญ่ “ห้องพี่ไม่มีพวกข้าว... ก กินนมกับขนมปังก่อนได้ไหมเดี๋ยว... พี่ลงไปซื้อข้าวให้”



ผมเอื้อมมือไปจับแขนพี่เรนเอาไว้ “ไม่เป็นอะไรครับ ผมไม่หิวเท่าไหร่แค่นมกับขนมปังก็พอแล้ว พี่เรนไปอาบน้ำเถอะครับ”



“น แน่ใจนะ...”



“ครับ” ผมพยักหน้ายืนยันอีกรอบ “ไปอาบน้ำได้แล้วครับ เริ่มดึกแล้วพี่เรนจะได้พักผ่อนสักที”



“ก็ได้” พี่เรนพูด แต่ก็ยังไม่ยอมขยับไปไหนเหมือนมีอะไรที่อยากจะพูดกับผมแต่ก็ไม่พูดเสียที ปากแดงๆ นั้นขยับอ้าแล้วก็หุบอ้าแล้วก็หุบอยู่หลายรอบ “คือว่า...”



“หือ... อะไรครับ” ผมถามเมื่อพี่เรนพูดแล้วก็เงียบไป แต่พี่เรนก็ยังไม่พูดอะไรเสียที “ไปอาบน้ำก่อนก็ได้ครับ แล้วค่อยมาคุยกัน พี่เรนมีเรื่องจะคุยกับผมใช่ไหม”



พี่เรนพยักหน้ากับคำถามของผม แต่ก็ยังไม่ยอมไปอาบน้ำสักทีจนผมได้แต่นึกขำปนเอ็นดูกับท่าทางนั้น แต่ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้นอกจากพี่เรนจะไม่ได้อาบน้ำแล้ว ผมกับพี่เรนก็คงยังไม่ได้คุยอะไรกันสักที แล้วที่สำคัญผมก็คงจะไม่ได้อาบน้ำนอนแน่นอน เพราะอย่างนั้นผมก็เลยไล่พี่เรนไปอาบน้ำอีกรอบ



“ไปอาบน้ำได้แล้วครับ ถ้านับถึงสามยังไม่ไปอีกผมจะเข้าไปอาบให้เองแล้วนะ” ผมส่งเสียงดุออกไป “หนึ่ง... สอง...”



ยังไม่ทันนับถึงสามพี่เรนก็หน้าแดงก่ำแล้วรีบลุกเดินเข้าห้องน้ำไปทันที ผมได้แต่หัวเราะกับท่าทางเขินอายนั้น พี่เรนนี่เป็นคนที่น่าแกล้งที่สุด แล้วก็น่ารักที่สุด



หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาก่อนจะกดถ่ายรูปแก้วนมแล้วก็ขนมปังที่พี่เรนเอามาให้แล้วก็โพสลงเฟสบุ๊คก่อนจะเก็บโทรศัพท์ ใครจะเมนต์จะไลค์ก็ปล่อยไปครับตอนนี้ขี้เกียจดูขี้เกียจตอบ แต่อยากจะลงเพราะความสุขมันล้นอกเลยต้องระบายออกมาบ้าง ผมจัดการขนมกับนมที่พี่เรนให้มาจนหมด หยิบแก้วไปล้างเก็บให้เรียบร้อยก่อนจะเดินมานั่งเล่นนอนเล่นที่ข้างเตียงเหมือนเดิม



จะว่าไป... วันนี้ผมตั้งใจจะบอกยืนยันความรู้สึกของผมที่มีต่อพี่เรนแล้วก็จะขอพี่เรนเป็นแฟนด้วย ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้มั่นใจหรอกว่าพี่เรนจะชอบผมแล้ว แต่อะไรหลายๆ อย่างมันก็ทำให้ผมคิดเข้าข้างตัวเอง ถ้าหากโชคดีพี่เรนรู้ใจตัวเองและชอบผมบ้างเหมือนกันผมก็คงได้คบกับพี่เรนจริงจัง แต่ถ้าไม่... ผมก็จะได้เริ่มตัดใจอย่างจริงจังเหมือนกัน



แต่แผนที่วางเอาไว้เหมือนจะล่มไม่เป็นท่าเพราะพี่เรนดันหลงทางนี่แหละครับ คำพูดที่เตรียมไว้หายเกลี้ยงไปกับความเป็นห่วงและความกังวลหมดแล้ว



ไม่สิ... ผมว่าผมควรจะขอให้พี่เรนมาเป็นแบบให้ผมถ่ายรูปก่อนจะดีกว่า เพราะเดือนหน้าก็จะปลายภาคอยู่แล้วนะ หรือผมควรจะทำยังไงดีวะ...



อยากได้แฟนก็อยากได้ อยากได้นายแบบถ่ายรูปก็อยากได้!! มีใครโลภมากแบบไอ้กายบ้างไหมเนี่ย



ผมนอนคิดแล้วก็ตัดสินใจไปเรื่อยๆ อยู่ในใจ แต่คงเพราะว่าวันนี้ผมจะเหนื่อยมากเกินไปทั้งจัดซุ้ม ทั้งไปยืนขายบัตรที่ซุ้มแล้วไหนจะเที่ยวตามหาพี่เรนอีก ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันทำให้ผมที่กำลังนอนเล่นอยู่เผลอหลับไป



ผมไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตอนไหน ไม่รู้ว่าพี่เรนออกจากห้องน้ำมาตอนไหน แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าผมขึ้นไปนอนบนเตียงของพี่เรนตอนไหน



ผมรู้แค่ว่าผมเหมือนกำลังลอยอยู่ในความฝัน ความฝันที่หอมหวานและอบอุ่นจนแทบไม่อยากจะตื่นนอนเลย...






************************************************
สวัสดีวันปีใหม่ไทยนะคะทุกคน หยุดยาวนี้ไปเที่ยวไหนกันเอ่ย??? ส่วนฟางขอนอนอยู่บ้านค่ะ ไม่อยากจะออกไปไหนเลย แดดร้อนมาก อยู่บ้านอ่านนิยาย แต่งนิยายดีกว่าค่ะ ฟินกว่ากันเยอะเลย ฮ่าาาา สำหรับใครที่เดินทางไปเที่ยว ไปเล่นน้ำก็ระวังตัวกันด้วยนะคะ ขอให้ปลอดภัยแล้วก็สนุกสนานกันทุกคนเลยค่ะ

วันนี้ฟางเอาน้องกายมาเสิร์ฟค่ะ ไหนคะ... ไหนคนที่บอกจะดุพี่ให้ร้องไห้ เจอพี่หงอยหน่อยก็ใจอ่อนแล้ว พอพี่อ้อนก็ระทวยแล้ว โถ่... น้องกายนี่นะ แพ้ทางพี่เรนแบบหมดรูปเลยค่ะ อิอิ แต่ก็น่ารักเนอะ เป็นเสน่ห์อีกหนึ่งอย่างของน้องเขาเลยนี่แหละค่ะ ยังไงก็รอลุ้นกันต่อไปนะคะว่าน้องกายจะได้นายแบบก่อนหรือจะได้แฟนก่อนกันแน่ ^^

อ๋อ... ฟางขอฝากนิยายเรื่องใหม่หน่อยนะคะ เป็นแนวใสๆ (?) เหมือนทุกๆ เรื่องของฟางนี่แหละค่ะ คงได้อ่านไปยิ้มไปเหมือนเดิม ยังไงก็แวะไปให้กำลังใจกันด้วยนะคะ กับนิยายเรื่อง Faculty of Love . 1 My Dear ; รักของผม ผมจัดเอง (#พี่กันต์สายอ่อย) หลายๆ คนถ้าเคยติดตามนิยายฟาง ก็คงพอจะเดาได้เนอะว่าเป็นคู่ไหน ^^

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เจ้ากายได้แต่ร้องเพลง ฉันแพ้ทางคนอย่างเธอออออ ดุได้นิดนึงก็หายเลย พี่เรนจะพูดอะไรน้อ แล้วที่ขึ้นไปบนเตียงแน่ใจนะว่าไม่ได้ละเมอเนียน  :hao7: ขอบคุณมากค่ะฟาง สุขสันต์สงกรานต์ค่ะ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ J029

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เป็นกำลังใจให้จ้า

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
รอจ้า ในที่สุดก็มา ชอบเนื่องนี้มากๆๆๆๆๆแบน่ารักมากๆ งื้อออออชอบทั้งพี่เรนทั้งน้องหมี  :hao5:

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เดี่ยวนี้นิยายของฟางต้องใช้วิธีค้นหาเอาถึงเจอ ไม่รู้ว่าตกไปอยู่หน้าไหนแล้วก็ไม่รู้

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

โว๊ะ!! ไอ้กายมึงนี่ แพ้ทางพี่เรนจริงๆ ว่ะ
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 16.2 •







• • • ต่อค่ะ 100% • • •






พี่เรน






เมี๊ยว~



ผมก้มลงมองเมื่อได้ยินเสียงร้องของน้องหมี พาดผ้าขนหนูเอาไว้ที่ราวตากผ้าก่อนจะอุ้มน้องหมีขึ้นมากอด



“เดี๋ยวเรามาคุยด้วยนะ เราขอคุยกับน้องกายก่อน” ผมบอกกับน้องหมี หอมหัวน้องไปทีแล้วจึงวางลงกับพื้นแล้วเดินไปหาน้องกายที่นอนเล่นอยู่หน้าทีวี



“น้องกาย... อะ อ้าว...”



กายหลับไปแล้วครับ ผมยกมือโบกๆ ตรงหน้าแต่ก็ไม่รู้สึกตัวตื่นสงสัยคงจะเพลียจัด แต่ก็แน่ล่ะ... วันนี้ทั้งวันก็จัดซุ้มคณะ แล้วยังต้องมาเดินตามหาผมที่หลงทางอีกตั้งเป็นชั่วโมง ไม่ให้เหนื่อยจนเพลียแล้วหลับไปก็ให้มันรู้ไปสิ



พอเห็นน้องกายหลับสนิทแบบนี้ผมก็ไม่อยากจะรบกวน แต่ถ้าปล่อยให้นอนตรงนี้น่าจะปวดหลังเพราะพื้นที่ก็มาได้เยอะ พื้นก็เป็นพื้นกระเบื้องไม่ใช่พื้นปูพรมนุ่มๆ



ถึงจะไม่อยากปลุกแต่ก็ต้องปลุกและเนอะ อย่างน้อยก็จะได้ให้ขึ้นมานอนดีๆ บนเตียง



“กาย... น้องกาย...” ผมปลุกน้องกายที่นอนหลับอยู่ เรียกอยู่สองสามรอบน้องก็ลืมตาขึ้นมอง แต่ดูเหมือนจะง่วงมากจนจับใจความอะไรที่ผมพูดไม่ได้



“ไปนอนบนเตียงดีกว่า ตรงนี้พื้นมันเย็นมันแข็งเดี๋ยวไม่สบายตัว น้องกาย... กาย” น้องกายยังสะลึมสะลือเหมือนสมองปิดทำงานไปแล้ว



แต่พอผมดึงให้ลุกขึ้นก็ลุกนะ พาไปนอนที่เตียงก็เดินตามมาดีๆ แต่พอลงนอนก็หลับต่อไปเลย ตลกดีเนอะ



เหมียว~



น้องหมีร้องก่อนจะกระโดดขึ้นมาบนเตียง เดินย้ำไปมาบนตัวน้องกายอย่างชอบใจ



“น้องหมีไม่เอาสิ ไม่กวนพี่เขาแบบนั้น” ผมจัดการอุ้มน้องหมีมากอดเอาไว้ พลางหันไปมองน้องกายที่หลับสนิทไปแล้วเรียบร้อย



เรนชอบน้องกายเขาบ้างหรือยัง



อยู่ๆ คำถามของเพื่อนก็ลอยเข้ามาในความคิดให้ผมชะงัก น้องกายชอบผม... ช ชอบแบบคนรัก หลายครั้งแล้วที่น้องพูดแบบนั้น แล้วผมล่ะ ชอบหรือเปล่านะ



“น้องหมี... น้องหมีว่าเราชอบกายหรือเปล่า” ผมถามน้องหมี รู้หรอกว่าคงไม่มีคำตอบให้ แต่ผมก็ชอบคุยกับน้องหมีแบบนี้นะ



“วันนี้เราหลงทางในมหา’ลัยอีกแล้วล่ะ ตอนแรกเราก็ไม่อะไรหรอกเพราะเรารู้ดีว่าเราหลงทางประจำแต่เดี๋ยวเราก็หาทางไปได้เอง” ผมขยับลงนอนมองหน้าน้องหมีที่นอนขดอยู่บนหมอนของผม



“แต่วันนี้นะ อยู่ๆ เราก็คิดถึงน้องกายขึ้นมา คิดขึ้นมาว่าถ้าน้องกายอยู่ข้างๆ เราก็คงดี ถ้าน้องหาเราเจอเร็วๆ หรือเราเจอน้องเร็วๆ ก็คงจะดี เราถึงได้เดินวนไปวนมาเพื่อหาแต่เหมือนมันจะยิ่งทำให้เราหลง”



“เราเสียใจนะที่ทำให้น้องกายเป็นห่วงแบบนั้น แต่เราก็น้อยใจนะ น้องกายไม่เห็นถามเราเลยว่าเราเดินหาน้องเขาหรือเปล่า อยู่ๆ ก็มาดุเรา หึ!”



ผมทำหน้าบึ้งใส่น้องกายที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ก่อนจะหันกลับมามองน้องหมีอีกรอบ “น้องหมีว่า... แบบนี้เราชอบน้องกายหรือเปล่า”



ผมสับสน ผมไม่เคยมีความรักจริงๆ จังๆ สักครั้ง ไม่เคยมีคนมาชอบเพราะผมคิดว่าผมไม่ใช่คนหน้าตาดี ใส่แว่นอย่างกับเด็กเนิร์ด หน้าตาก็บ้านๆ มีดีแค่ผิวขาวแค่นั้นเอง ผมไปจีบผู้หญิงคนไหนก็อดหักหมด ผมเลยไม่รู้ว่าความรักมันเป็นยังไง



และก็...



“น้องหมีว่าน้องกายจะชอบจะรักเราจริงๆ หรือเปล่า หน้าตาอย่างเราเนี่ยนะ... คนอย่างน้องกายจะมาชอบ เขาเป็นถึงเดือนคณะเลยนะ คงมีคนหน้าตาดีๆ มาให้เขาชอบตั้งเยอะแยะ” ผมยื่นนิ้วไปจิ้มจมูกน้องหมี ถ้าเป็นปกติก็คงสะบัดหนีไม่ก็ไล่งับนิ้วผมแล้ว



แต่น้องหมีฉลาด น้องหมีรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังสับสน อยากระบายความรู้สึกถึงได้อยู่นิ่งๆ ข้างๆ ผมแบบนี้



“เราน่ะ... เหมาะสมกับน้องกายเขาจริงๆ เหรอ”








น้องกาย



ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาทับอยู่บนอกแล้วก็ขยับไปมา รู้สึกเปียกๆ ที่แก้มด้วย แล้วพอผมลืมตา



อือฮือ...



ชัดเจน...



ตีน เอ๊ย! เท้าขาวๆ นุ่มๆ ของหมีเหยียบอยู่บนหน้าผม เดี๋ยวนะเดี๋ยว เราสนิทกันถึงขนาดเหยียบหน้ากันได้แล้วเหรอเพื่อน ใจเย็นนะ นี่กายเอง... จะมาเหยียบหน้ากันอย่างนี้ไม่ได้นะเออ



ผมลุกพรวดขึ้นนั่งทันที หมีเลยกลิ้งกลุกๆๆ ลงไปที่ตักผมพร้อมร้องเหมียวเสียงดัง



“ฮ่าๆๆๆ อยากมาเหยียบหน้าเราดีนัก ตัวเธอต้องโดนลงโทษ” ผมหัวเราะชอบใจเมื่อหมีหันหน้ามามองด้วยสายตาวาวๆ อย่างเอาเรื่อง



ฮูย~ น่ากลัวนะเนี่ย



“โอ๋ๆ มาโอ๋มา” ผมอุ้มหมีขึ้นมากอดโอ๋ เลยโดนทีนแมวยันหน้าเข้าให้อีกรอบ “เล่นตัวว่ะ นี่หนุ่มหล่อมากอดมาหอมเลยนะ”



ผมฟัดหมีอยู่บนเตียงอย่างมันเขี้ยวน้อยๆ ปนหมั่นไส้เยอะๆ อยู่สักพักก่อนจะพึงนึกขึ้นไอ้ว่า... กูมาสิงอยู่ห้องพี่เรนนี่หว่า ว่าแต่ว่าเจ้าของห้องหายไปไหนกันนะ



ห้องแม้จะค่อนข้างกว้างแต่ก็มองเห็นได้ทั่วแค่นั่งบนเตียงหันซ้ายหันขวาก็เห็นรอบห้อง พี่เราไม่ได้อยู่ในห้อง ประตูห้องน้ำเปิดค้างเอาไว้ ข้างในนั้นก็ไม่มี ว่าแต่... พี่เรนหายไปไหนนะ ก่อนอื่น... ตอนนี้กี่โมงแล้ววะ



ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาก่อนจะตาโต ไอ้เหี้ย! นึกว่าเช้า แต่นี่มันจะเที่ยงแล้วเถอะ ถ้าอย่างนั้นพี่เรนคงไปเรียนแล้วล่ะ ส่วนผมวันนี้ไม่มีเรียนครับ จริงๆ มี แต่ใกล้ไฟนอลแล้ว รวมไปถึงใกล้จัดงานนิทรรศการรูปภาพแล้ว อาจารย์เลยปล่อยให้นักศึกษาทำงานกันอย่างเต็มที่ ยกเว้นวิชานอกคณะยังคงเรียนตามปกติครับ



ผมส่งข้อความไปหาพี่เรนว่าตื่นแล้ว และจะกลับไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หันมองหมีที่นั่งมองผมอยู่ก็เลยส่งข้อความไปอีกรอบว่าพาหมีไปที่ห้องผมด้วย แต่พี่เรนยังไม่ได้อ่านผมก็เลยแค่ส่งข้อความทิ้งเอาไว้ คงกำลังเรียนอยู่



มือข้างหนึ่งอุ้มหมีเอาไว้ เดินวนรอบห้องพี่เรนเพื่อเช็คไฟเช็คปลั๊กว่าไม่ได้เปิดทิ้งเอาไว้ก่อนจะเดินกลับไปที่หอ



หอผมเองก็ไม่ได้ห้ามเรื่องเลี้ยงสัตว์แต่ว่าต้องดูแลให้ดีห้ามรบกวนคนอื่นเด็ดขาด แล้วก็ขนาดห้องไม่ได้กว้างเหมือนหอพี่เรน พื้นที่มันมีจำกัดที่หอผมเลยไม่ค่อยมีคนเลี้ยสัตว์เลี้ยงเท่าไหร่ จะเคยเจอก็แต่เลี้ยงกระต่าย เลี้ยงหนูแฮมเตอร์เท่านั้น พวกหมาแมวไม่ค่อยมี



ผมวางหมีลงบนพื้นหลังจากเข้ามาในห้องแล้วปล่อยให้เจ้าตัวสำรวจห้องผมตามสบาย



“สำรวจได้ แต่ห้ามทำของพังนะเข้าใจไหม แล้วก็ห้ามแตะต้องกล้องกับเลนส์ของเราด้วย! เราอาบน้ำแปบนึง” ผมหันไปบอกหมีก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ



ว่าแต่ว่า... เมื่อคืนเหมือนผมได้ยินพี่เรนพูดอะไรสักอย่าง พอนึกๆ ดูแล้วเหมือนจะโดนพี่เรนปลุกให้ไปนอนบนเตียง พอลงเตียงได้ผมก็หลับต่อ



แต่รู้สึกหนักๆ เหมือนโดนเหยียบโดนทับผมก็เลยรู้สึกตัวตื่น อ๋อ... น่าจะเป็นหมีมาเดินบนตัวผม



ร่างกายผมมันไม่ทำงาน ตาไม่ยอมลืมขึ้น ตัวไม่ขยับ ปากไม่พูด แต่สมองทำงาน หูทำงาน... พอนึกไปเรื่อยๆ เหมือนจะเริ่มจำได้ว่าพี่เรนพูดอะไรสักอย่าง แต่ไม่ได้พูดกับผม



‘น้องหมีว่าน้องกายจะชอบจะรักเราจริงๆ หรือเปล่า หน้าตาอย่างเราเนี่ยนะ... คนอย่างน้องกายจะมาชอบ เขาเป็นถึงเดือนคณะเลยนะ คงมีคนหน้าตาดีๆ มาให้เขาชอบตั้งเยอะแยะ’



‘เราน่ะ... เหมาะสมกับน้องกายเขาจริงๆ เหรอ’




พี่เรนคงคิดว่าผมหลับสนิทถึงได้พูดแบบนั้น หรือจริงๆ แล้ว พี่เรนอาจจะชอบเล่าชอบพูดอะไรแบบนี้กับหมีเป็นประจำก็ได้



ผมจำไม่ได้ว่าก่อนหน้าประโยคเล่านี้พี่เรนพูดอะไรบ้าง เพราะมันจะหลับเสียให้ได้ แต่สองประโยคนี้ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ยินชันเจนแล้วก็จำได้แบบนี้ หรือเพราะมันเป็นประโยคที่สื่อถึงความรู้สึกลึกๆ ของพี่เรนกัน



โครม!!



ผมสะดุ้งหลุดจากความคิดเมื่อได้ยินเสียงโครมใหญ่ดังมาจากนอกห้องน้ำ ผมรีบล้างสบู่แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันเอวแล้วเปิดประตูออกไปดู



อยากจะยกมือตบหน้าผากตัวเอง ผมเดินไปสำรวจข้าวของ ไม่มีชิ้นไหนพัง แต่ข้าวของระเกะระกะเต็มพื้น กล้องถ่ายรูปที่วางอยู่บนชั้นไม่มีเสียหายและไม่มีตกพื้น



ผมหันไปมองหมี จะว่าก็ว่าไม่ลง เพราะหมีไม่ได้แตะต้องกล้องสุดที่รักของผม ไม่ได้ทำข้าวของผมเสียหายสักชิ้น แต่คาบมันมาเล่นบนพื้นจนเกลื่อน



จะบอกว่ามันฉลาดรู้จักว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ หรือจะบอกว่ามันกวนตีนผมดีนะ



แต่เอาจริงๆ ของที่หมีลากออกมาก็เป็นพวกหมอน หนังสือ แผ่นหนังที่ผมวางๆ เอาไว้บนพื้นนั่นแหละ มันไม่ได้กระโดดขึ้นไปเล่นบนตู้ บนชั้นวางของอะไร



“เดี๋ยวมาช่วยเราเก็บของเลย” ผมคาดโทษก่อนจะเดินไปแต่งตัวให้เรียบร้อย



นั่งลงบนพื้นอุ้มเจ้าตัวดีมาฟัดมางับหูอย่างหมั่นไส้ไปทีแล้วจึงปล่อย หมีมันเดินหนีผม กระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วก็จ้องหน้าผมเหมือนจะบอกว่า



เก็บของไปเจ้ามนุษย์ เราจะนอนมองอยู่ตรงนี้



ผมชี้หน้าหมีไปรอบก่อนจะลงมือเก็บของทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง เก็บเสร็จก็เดินไปนอนบนเตียงคว้าหมีมากอดฟัดเล่น เอาจริงๆ ผมอยากจะกอดฟัดเจ้าของแมวมากกว่าอีก



ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาดูเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า พี่เรนส่งข้อความมา บอกว่าเดี๋ยวมาหาผมที่ห้อง นึกแล้วก็ตื่นเต้นว่ะ เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่พี่เรนมาห้องผม ส่วนใหญ่ผมจะไปสิงอยู่ห้องพี่เรนเสียมากกว่า



ผมกดตอบข้อความกลับไปบอกชั้นบอกเลขห้องเรียบร้อยนี่ไม่ได้อ่อยแต่อย่างใด แค่อยากให้เขามาก็แค่นั้นเองนะครับ



ไม่นานหลังจากนั้นเสียงเคาะประตูห้องผมก็ดังขึ้น นี่กำลังจับเวลาอยู่เลยว่าถ้าหากช้ากว่าปกติคงต้องโทรไปถามแล้ว กลัวว่าจะหลงทางน่ะครับ ถึงหอจะอยู่ตรงข้ามกันแต่ผมก็เชื่อว่าพี่เรนสามารถหลงทางได้นะ... แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นแบบนั้นนะ



“พี่เรน มาถึงเร็วจังครับ” ผมเปิดประตูให้พี่เรน ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบให้พี่เขาเดินเข้ามาข้างใน ผมปิดประตูตามมองพี่เรนที่หันซ้ายหันขวาสำรวจห้องของผม



“ตินามาส่งน่ะ บอกว่ากลัวพี่หลงทาง” พี่เรนพูดพร้อมกับทำหน้ามุ่ย “พี่ก็กลับหอได้เถอะ หอกายอยู่ตรงข้ามหอพี่เองจะหลงได้ยังไงกัน”



ผมหัวเราะขำ ไม่บอกหรอกครับว่าผมคิดอย่างเดียวกันกับพี่ตินา ถ้าขืนพูดแบบนั้นคนหน้ามุ่ยคงนึกงอนนึกเคืองผมแน่นอน



“พี่ซื้อของกินมาด้วย กินข้าวกัน” พี่เรนชูถุงในมือให้ดู



“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมเทใส่จานให้ พี่เรนนั่งเล่นกับหมีไปก่อนละกันครับ” ผมบอก แย่งถุงในมือพี่เรนมาก่อนจะเดินไปจัดการเทข้าวหมูแดงที่พี่เรนซื้อมาใส่จาน



เราสองคนนั่งกินข้าวกันไปดูโทรทัศน์กันไปอยู่ตรงโต๊ะญี่ปุ่นหน้าทีวี ห้องผมก็ไม่มีโต๊ะกินข้าวอะไรหรอกครับ ก็หอพักนี่เนอะไม่ใช่คอนโดอะไร จะเอาพื้นที่ตรงไหนมาตั้งโต๊ะกินข้าวล่ะ



จริงๆ ที่บ้านก็จะให้ผมไปอยู่คอนโดนะแต่มันไกลจากมหา’ลัยกว่าหอตรงนี้ อีกอย่างผมก็ว่าไม่จำเป็นด้วยเพราะเรียนจบผมก็ตั้งใจจะกลับไปอยู่บ้านนะ แต่ผมคิดว่าดีแล้วล่ะที่ผมไม่ตัดสินใจไปอยู่คอนโด เพราะถ้าผมไปอยู่ไกลกว่านี้ผมคงไม่ได้เจอพี่เรนแน่นอนครับ



“กาย...”



ผมหลุดออกจากความคิดของตัวเองแล้วเงยหน้ามองพี่เรนที่เรียกผม “ครับผม”



พี่เรนเงียบไปเมื่อผมขานรับ ทำท่าเหมือนจะพูดแต่ก็ลังเล จะว่าไป... เมื่อคืนเหมือนพี่เรนมีเรื่องจะคุยกับผมนี่น่า แต่ผมดันหลับไปก่อนเลยไม่ได้คุย



“พี่เรนมีอะไรจะคุยกับผมหรือเปล่าครับ เหมือนเมื่อคืนพี่เรนมีอะไรจะคุยนี่ครับ ใช่ไหม” ผมถามและพี่เรนก็พยักหน้ารับ



“พี่... พี่ขอโทษนะ” พี่เรนพูดออกมา ผมได้แต่เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่าพี่เรนขอโทษผมเรื่องอะไรกัน แล้วผมก็ได้คำตอบเมื่อพี่เรนพูดต่อ “ขอโทษที่ทำให้กายเป็นห่วงมากขนาดนั้น... พ พี่ไม่คิดว่ากายจะห่วงมาก”



“ก็ต้องห่วงสิครับ ใจผมนี่หล่นหายไปเลยตอนรู้ว่าพี่หลงกับพวกพี่ตินา ยิ่งใจเสียตอนที่โทรหาก็ไม่รับ ตามหาก็ยังไม่เจอ พี่เรนรู้ไหม... เมื่อคืนผมทั้งโกรธทั้งโมโหเลยที่พี่หายไปแบบนั้น ที่พี่เดินไม่ระวังอย่างนั้น”



พอผมพูดแบบนั้นพี่เรนก็ทำหน้าหงอยกว่าเดิม “พี่ขอโทษ... ขอโทษจริงๆ นะ อย่าโกรธพี่เลยนะ”



“แต่พอเจอพี่เรน พอรู้ว่าไม่เป็นอะไร ผมก็ไม่โกรธแล้ว” ผมตอบพร้อมกับยิ้มให้



ผมพูดจริงครับ ตอนแรกผมโกรธ แต่พอเจอพี่เรนความรู้สึกพวกนั้นก็หายไปหมด เหลือแต่ความโล่งใจ ดีใจแทน



“พี่ดีใจ... ที่กายหาพี่เจอ”



“หือ... อะไรนะครับ” ผมถามอย่างไม่แน่ใจว่าที่ได้ยินนั่นถูกหรือผิด



“จริงๆ แล้วพี่ก็ใจเสียไปเหมือนกันตอนรู้ว่าหลงกับพวกตินา พยายามเดินหากายให้เจอเพราะพี่คิดว่ากายคงช่วยพี่ได้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมยิ่งเดินยิ่งหลง พี่ใจเสียมากเลยล่ะถึงจะหลงในมหา’ลัยก็เถอะ... แต่พี่ดีใจนะที่สุดท้ายแล้วกายหาพี่เจอจนได้ ตอนเห็นกายพี่ดีใจมากๆ เลย”



ใครก็ได้... ตบผมที ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหมครับ



ผมคิดว่าผมกำลังฝัน กำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ แต่หัวใจที่เต้นระรัวกับคำพูดของพี่เรนนั้นก็ยืนยันกับผมได้ว่าผมไม่ได้ละเมอเพ้อพกไปเองคนเดียว ไม่ได้นอนหลับแล้วฝันหวาน แต่ผมกำลังตื่นอยู่จริงๆ และพี่เรนก็พูดอย่างนั้นจริงๆ



หัวใจมันฟูๆ ฟ่องๆ ปากก็ยิ้มไม่ยอมหุบเลยครับ



“ยังไงก็จะหาให้เจอให้ได้ ผมน่ะ... ต่อให้พี่เรนหลงทางแค่ไหน ผมก็จะตามไปหาพี่ให้เจอนั่นแหละ” ผมพูด รู้สึกร้อนๆ แก้ม แม่งหน้ากูต้องแดงแน่ๆ ตอนพูดแบบนี้



ถ้าหากเป็นคนอื่นพูดหรือได้ยินในโทรทัศน์ผมคงโก่งคออ้วกไปแล้ว โคตรจะหวานเลี่ยน แต่พอเป็นเรื่องจริงของผมกับพี่เรน ผมคิดอย่างที่พูดไปจริงๆ... ต่อให้พี่เรนหลงทางแค่ไหน ผมก็จะหาให้เจอให้ได้



“อะ... อือ...”



แก้มพี่เรนแดงมาก และผมก็เชื่อว่าแก้มผมหูผมก็คงแดงมากเช่นกัน นี่เราจะมาแข่งกันเขินเหรอวะ ไม่ได้ดิ พี่เรนเขินขนาดนี้ก็ยิ่งต้องรุกสิหว้า



“พี่เรน...” ผมเรียกพี่เขาเบาๆ แต่เพราะเราอยู่กันแค่นี้พี่เรนก็เลยได้ยินเสียงของผม “ผมชอบ ไม่สิ... ผมรักพี่เรนนะ รักจริงๆ ไม่โกหก ไม่หลอกหลวงด้วย”



“อ อืม...”



“พี่เรนยังไม่ต้องรักผมก็ได้ แต่ถ้าชอบผมบ้างแม้จะแค่นิดเดียวก็ได้ ถ้าพี่เรนรู้สึกชอบผมบ้างสักนิดก็... เป็นแฟนกันนะ”



ใจเต้นตึกตัก ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัวไปหมด โอ๊ย ไอ้กายจะเป็นลมแล้วครับ



ผมนั่งรอคำตอบ ลุ้นจนฉี่จะราด โอ๊ย! ลุ้นยิ่งกว่าคะแนนสอบออกอีกครับ อะไรจะลุ้นขนาดนี้วะเนี่ย



“ถ้าพี่ยังไม่มั่นใจว่ารักผมก็ไม่เป็นไร ร... เราลองคงกันไปก่อน ถ้าถึงวันหนึ่งพี่เรนคิดว่าไม่ใช่ผมก็ไม่ว่าอะไร”



พอผมพูดแบบนั้นพี่เรนก็ทำหน้าเครียดเลยครับ ผมพูดอะไรผิดเปล่าวะ



“ถ้า... ถ้าๆ สมมติเป็นแบบนั้นก็เท่ากับว่าพี่เอาเปรียบน้องกายสิ”



ผมยิ้มกับความเป็นห่วงของพี่เรน ก็เล่นน่ารักแบบนี้จะไม่หลงรักได้ไงไหว



“ผมน่ะ รักพี่จริงๆ นะ ผมบอกไม่ได้หรอกว่าถ้าเกิดมีวันนั้นจริงๆ ผมจะไม่เสียใจ ผมก็คงเสียใจแหละแต่ผมก็จะไม่รั้งพี่เอาไว้หรอก”



พี่เรนยังคงมองผมอยู่ ท่าทางเหมือนกำลังคิดแล้วก็ลังเล หรือว่าผมเร่งรัดเกินไปวะ



“ถ้ายังไม่มีคำตอบก็ไม่เป็นไรนะครับ ยังไม่ต้องตอบผมก็ได้ เอาไว้ให้พี่เรนมั่นใจในความรู้สึกก่อนก็ได้ครับ ผมเร่งรัดไปเอง ขอโทษนะครับ”



ผมไม่ได้หงอย ไม่ได้เศร้าหรอกครับที่พี่เรนยังให้คำตอบผมไม่ได้ เพราะผมเชื่อว่าต่อให้วันนี้ไม่ได้คบกันความสัมพันธ์ของผมกับพี่เรนอย่างในตอนนี้จะไม่มีถอยหลังแน่นอน



ก็พี่เรน... เหมือนคนอื่นที่ไหนละเนอะ







************************************************
สวัสดีค่า มาต่อแล้วค่ะ ^^

อั๊ยะ น้องกายขอพี่เป็นแฟนแล้วล่ะ แล้วพี่จะตอบรับหรือปฏิเสธละเนี่ย ลุ้นแทนน้องประหนึ่งว่าตัวเองเป็นน้องเอง ฮ่าาาาา ยังไงก็มาช่วยกันลุ้นนะคะว่าน้องกาย จะนก หรือไม่นก เนอะ ^^

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ


ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่เรนน่ารักน่าเอ็นดู
ส่วนเจ้ากาย เนียนเลยนะแก  :hao3:
ขอบคุณมากค่ะฟาง

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด