(ต่อ)
“เทม” ไอ้จิเปรยขึ้นในขณะที่เรากำลังอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด
“อืม” ผมตอบมันไปให้เบาที่สุดในชีวิต
“ปกติมึงเคยไปไหนคนเดียวป่ะ” มันกระซิบรอดไรฟันในขณะที่ใบหน้ายังยิ้มแย้มอยู่
“ไปมหาลัยกับไปบ้านไอ้เม” ผมก็เช่นกัน
“พี่มึงนี่ขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ” ไอ้จิดูจะอึ้งไปเล็กปานกลางถึงมาก แต่ยังรักษาการยิ้มอยู่ แม้ปากจะกระตุกก็ตาม
“น้อยไปซิมึง”ผมพูดจบไอ้จิก็สะดุ้งขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับเสียจริต แถมยังยิ้มกว้างกว่าเดิม
ปัง!!! “ซุบซิบเหี้ยอะไรกัน! พูดดังๆดิว่ะ ให้กูได้ยินด้วย” เฮือกกกก พายุพี่มิวพิโรธ!
“คะ..ครับ”
ไอ้เพื่อนจิเสียจริตไปแล้ว หน้าปุเลี่ยนกับเสียงสั่นๆของมัน ไม่ค่อยจะมั่นอกมั่นใจสมเป็นมึงเลย
ตอนนี้ไอ้จิกลายเป็นเพื่อนคนที่สองของผมแล้วครับ ตั้งแต่ประกวดดาวเดือนมาได้สองสามวัน มันก็มานั่งเรียน ไปกินข้าวกับผมกับไอ้เมตลอด มันบอกว่าชอบบรรยากาศของพวกผมสองคน ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนประเภทเดียวกัน(?) พออยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่เหมือนคนอื่นที่ชอบหาผลประโยชน์จากมัน
ฮอลลลลล ประโยคนั้นล่ะ ผมกับไอ้เมกางปีกอ้าแขนรับมันมาเป็นเพื่อนแทบไม่ทัน อยู่กับมันมาหลายวันก็รู้ว่าไอ้จินี่ไว้ใจได้สุดๆ กลายเป็นว่ามันเข้ากับเมได้ดีมาก รับส่งมุกสนุกปาก แล้วเรื่องของผมกับเมมันก็ค่อยๆซึบซับไปเรื่อยๆนั่นแหละ
ที่สำคัญมันรู้แล้วครับว่าผมกำลังมีแผนจะจีบพี่ปกป้อง ซึ่งไอ้จิก็สัญญาว่าจะช่วยด้วย น้ำตาจะไหล
งื้อออออออออออออออออ มิตรภาพอันงอกเงยยยย
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ถ้าเดือนคณะอย่างไอ้จิ ดาราดาวรุ่งพ่วงตำแหน่งดาวคณะอย่างไอ้เม และไอ้เห่ยของคณะอย่างไอ้เทมมารวมตัวกัน
ตู้มมมมมมมมมมมมม วินาศสันตะโร กลายเป็นโกโก้ครันซ์
บางทีผมแค่หายใจดังยังโดนนินทาเลยครับ แมร่งงง เดี๋ยวจะยกตัวอย่างคำนินทาที่ได้ยินมาตลอดสองสามวันให้ดู
“ทำไมไปคบไอ้เห่ยนั่น”
“นั่นดิ ถึงจะดูดีขึ้นมาก แต่ลุคมันก็เห่ยอยู่ดี”
“เกือบดีล่ะกลุ่มนั้น ถ้าไม่มีมันอ่ะนะ”
“เมล่อนคงจะทนมันไม่ไหว เลยลากจิมาอยู่ด้วยให้มันเจียมตัว” ถามว่าบั้นทอนกำลังใจผมมั้ยก็ไม่อ่ะ เฉยๆนะอาจเพราะชิน แต่ทุกวันนี้ส่องกระจกรู้สึกได้ว่าหน้าตัวเองดีขึ้นมากๆ หลังจากที่ไปเข้าคอร์สกับพี่พอลล่าอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ไม่มีรอยสิวให้เห็นอยู่เลย ใสจนไม่รู้จะใสยังไง ขนาดไอ้เมยังทักว่าเห็นผลเร็ว และผมเองค่อนข้างจะพอใจ
จนเมื่อวานนี่แหละ ที่ไอ้จิพูดขึ้นมาตอนพักระหว่างซ้อมเต้นของพวกเดือนดาว
“เทม มึงรู้อะไรมั้ย ตั้งแต่กูมาเรียนที่นี้ กูเกลียดอยู่ 2อย่าง ให้เดา” มันเปรยมาอย่างนามธรรมตามสันดานมันนั่นล่ะ เป็นเรื่องปกติที่ผมพยายามจะเรียนรู้และเข้าใจ
“อะไรว่ะ อาจารย์ป้า กับ พี่ช่างแต่งหน้า”
“ผิด”
“แล้วอะไรล่ะ”
“อย่างแรก กูเกลียดกล่องดินสอกัปตันเมกาของมึงมาก อยากทุบให้แตกแล้วไปให้สิบล้อทับ”
“ไอ้สัด!”
มาเกลียดอะไรคุณสตีฟกูวะครับ เขาไปเหยียบหัวบิดามึงเหรอ ไอ้จิก็เกลียด พี่ปกป้องก็เกลียด ทำไมอ่ะ คุณสตีฟไม่ดีตรงไหน ตอบบบบ เขาปกป้องคุ้มครองโลกเราตั้งหลายครั้งโดยที่เราไม่รู้ แต่พวกมึงไม่สำนึกในบุญคุณของคุณสตีฟเลย
เสียใจแทนคุณสตีฟ โรเจอร์ มากมาย
“สอง กูเกลียดทรงผมมึงมาก สมัยนี้ไม่ใครไว้แล้วไอ้หน้าหมาสไตล์เกาหลีเนี่ย”
“หน้าม้ามั้ยมึง”
“เออ! นั่นแหละ เมืองไทยเป็นเมืองร้อน เขาต้องเปิดเหม่งรับทรัพย์แบบหมอรักษ์ฟันธงเว้ย”
งื้ออออออออออ อะไรคือเปิดเหม่งว่ะครับ
แล้วจากนั้นมันก็นัดแนะกับไอ้เมเรียบร้อยว่าตอนเย็นของอีกวันจะพาผมไปตัดผม ? งงมั้ย 555 แต่ไอ้เมมันไม่ว่าง ต้องไปแคสติ้งละครที่ช่องส่งมาก่อน ทำให้ผมกับไอ้จิต้องล่วงหน้าไปกันสองคน
แต่ปัญหาคือ … ไอ้พี่มิว ไม่รู้จักไอ้จิไง
“ไงไอ้หน้าอ่อน จะพาน้องกูไปไหน”
“เอ่อ แบบว่าจะพาเทมไปตัดผมครับ”
“แค่นั้น? กูพาน้องกูไปเองได้ ไสหัวออกจากบ้านกูซะ”
งื้ออออออออออ พี่มิวแมร่งโหดร้ายที่สุดด ไอ้จินี่ไม่ต้องพูดเลย มันกลัวจนหมอบติดพื้นล่ะ…ซะที่ไหนล่ะ!
“ไม่ครับ เดี๋ยวผมจะพาเทมไปกินข้าว พอเมล่อนมาก็จะไปช็อปปิ้งต่อ”
“แล้วกูจะไว้ใจมึงได้ไง?” พี่มิวเลิกคิ้วอย่างกวนตีน
“ผมจะเอารถไอ้เทมไป แล้วก็ถ้าพี่ไม่ไว้ใจ เอาบัตรประชาชนผมไว้เลย”
ฮอลลลล ไอ้จิคือคนดีของสังคม!
พี่มิวกระติกตีนอย่างใช้ความคิด มองหน้าไอ้จิสลับกับบัตรประชาชนราวกับจะเก็บรายละเอียด
“เอาคืนไปกูก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้น เอาเป็นว่ามึงห้ามปิดโทรศัพท์ เข้าใจมั้ย!!!” พี่มิวมันร่อนบัตรประชาชนไอ้จิไปไหนก็ไม่รู้ ส่วนปลายประโยคนี่หันมากำชับผมราวกับทหาร ด้วยความเป็นน้องที่ดีเลยต้องพยักหน้ารัวๆ จากนั้นไอ้พี่มิวมันก็ไปอ่านหนังสือต่อ
ผมเคยบอกหรือยังว่าพี่มิวกำลังจะสอบไปเรียนโทที่อังกฤษ ส่วนจะเป็นอะไรอันนี้ก็ไม่รู้มันเหมือนกัน แต่เพราะมันยุ่งๆนี้แหละ ผมเลยได้มีอิสระมากขึ้นนิดหน่อย แต่ก็อดห่วงพี่มันไม่ได้ กลัวว่าจะเครียดมากไป
อย่างวันที่ผมได้พายบลูเบอร์รี่จากลานจอดรถไอ้เมวันนั้น ผมก็ตัดแบ่งไปให้มันชิมก่อน แล้วผมค่อยกินที่เหลือ ไงครับ ดูเป็นน้องที่ดีในทันตา
เอ่อ… เอาความจริงมั้ย
คือให้พี่มิวกินก่อนไง แล้วถ้าพี่มันมีอันเป็นไป ผมจะได้ส่งโรงพยาบาลทัน 5555555555
ฮอลลล อย่าด่าผม เพราะสุดท้ายแล้วไอ้พายนั้นก็ไม่มีอะไร นอกจากความอร่อย >< ไม่ว่าจะเป็นใครที่ทำให้ผมก็เถอะ ผมอยากขอบคุณเขามาก
พอมาถึงห้างใหญ่ใจกลางเมือง ไอ้จิไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว มันดันผมเขาไปในร้านตัดผมผู้ชายทที่ดูหะรูหะราและวินเทจมากมาย ช่างแต่ละคนนี่คือแบบ..ทรงผมเท่และเฟี้ยวฟาวสุดใจขาดดิ้น
“ทำอะไรครับ” ในที่สุดก็มีพี่คนหนึ่งออกมารับหน้า ผมชอบทรงผมพี่เขามากครับ นี่ใช่มั้ยที่ไอ้จิเปิดรูปให้ดูแล้วเรียกว่า Undercut
อยากตัดอ่ะ อยากได้แบบนี้~
“ตัดผมครับ”
“ทำสีด้วยมั้ยครับ?”
พี่ช่างเห็นไอ้จิทำหน้าระลึกชาติ ตาเขานี่เป็นประกายเลย กะว่าจะหลอกแดกเงินให้เต็มที่ ไอ้จิใช้เวลาอีกนิดหน่อยในการคิดก่อนจะตอบพี่เขาไป
“พี่จะทำอะไรก็ได้ ให้เพื่อนผมหล่อที่สุดในชีวิต”
งื้อออออออออออออออออออ ไอ้จิเพื่อนรัก ผ่านสมองหรือยังว่ะที่พูดเนี่ย
เท่านั้นแหละพี่ช่างเขาก็เต็มที่ครับ ลากผมไปที่เก้าอี้นั่งให้เลือกทรงผม ตอนแรกจะเอา Undercut แต่พี่เขาบอกไม่เข้ากับเหง้าหน้า
ฮือออออออ เสียใจแรง
เลยได้ทรงเปิดข้างนิดๆ ที่เป็นกึ่งยาวกึ่งสั้น มาแทน เห็นพี่เขาแนะนำว่าออกมาต้องหล่อที่สุด
นาทีนี้ก็เชื่อนะ ถ้าออกมาแล้วเท่ระเบิดแบบพี่ๆในร้านเขาผมก็โอเค หันไปดูแต่ละคน พี่เขาเท่มากกกก บางคนก็สักด้วย
ฮอลลล ถ้ากูหล่อแล้วจะไปสักกก
เห็นเขาสับๆซอยๆ หั่นไปมา แอบหวาดเสียวว่าเขาจะไว้หูผมหรือเปล่า แต่ไม่ครับ เขาตัดเก่งมาก เก่งจนสงสัยว่าที่ตัดไปมันโดนผมบ้างมั้ย5555 ก็นะ ไว้ใจให้เขาทำต่อไป พอเริ่มเป็นรูปเป็นร่างก็ไปทำสีโน่นนี่นั้น พี่เขาให้เลือกสีที่จะทำ ผมเองไม่รู้เรื่องเลยต้องเรียกไอ้จิที่สัปปะหงกรอมาช่วยเลือก
“นี่เลยพี่ สีนี้”มันชี้สีที่ออกน้ำตาลๆหน่อย
“โหย น้องตาถึงมาก พี่ก็ว่าสีนี้นี่แหละ”
แปะ
มีไฮไฟว์กันด้วยครับ อะไรจะเข้ากันได้ขนาดนั้น ผมถอดแว่นแล้วฝากไอ้จิไว้ จากนั้นก็ได้แต่กลิ่นสารเคมีที่ฟุ้งไปหมด มึนหัวจนแทบจะเป็นลม
แต่เพื่อพี่ปกป้อง เทมทนได้ TT เนินนานจนเวลาไปจนค่ำนั่นแหละถึงได้เสร็จ เห็นเงาไอ้เมล่อนลางๆ มันเดินเข้ามาในร้านพอดี ทักไอ้จิที่นั่งหลับอยู่เสร็จก็มองหาผม แต่เหมือนจะหาไม่เจอนะ เห็นมองซ้ายขวาหน้าหลังเหมือนคนบ้า
ฮออออลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานทำไมจำกูไม่ได้ครับ
จนไอ้เพื่อนจิต้องสะกิด แล้วชี้มาที่เก้าอี้ที่ผมนั่งฟังพี่เขาสอนวิธีเซ็ตผมอยู่
“กรี๊ดดดดดดดดด ไอ้เทมมมมมมมม หล่อมากกกก มึงหล่อมากค่ะเพื่อน!”
ไอ้เมล่อนนี่สติแตกครับ เข้ามากรีดร้องแล้วทึงหัวผมไปมา คือมึงครับทำอะไรช่วยเกรงใจพี่เขาหน่อยได้มั้ย พี่เขาเซ็ตนาน เพิ่งมาถึงก็ทำลายงานศิลปะที่พี่ช่างเขาภูมิใจ
“อะไรจะขนาดนั้นไอ้เม อย่าพูดให้กูดีใจ”
“มึงใส่แว่นซะ แล้วจะได้เห็นตัวเองแบบเต็มๆ” รับแว่นจากไอ้จิแบบงงๆ เห็นพี่ช่างนี้ยิ้มหน้าบานเป็นจานข้าว โลกสดใสของกูกลับคืนมาแล้ว ผมก็หมุนตัวเองเขาหากระจกทันที
ไม่น้า หล่อมากกกกกก หล่อจริงๆ นี่เทมโปหรือคิมทัน ฮอลลลลล เปลี่ยนใจจากพี่ปกป้อง แล้วมาชอบตัวเองแทนได้มั้ย งื้อออออออ
“โอ้วขุ่นพระ เมขอบคุณพี่มากนะคะ ที่แปลงโฉมเพื่อนเมได้หล่อขนาดนี้”
ไอ้เมสติแตกรอบสอง แต่คราวนี้หนักกว่าเก่า มันกระโดดกอดคอพี่ช่างเป็นที่เรียบร้อย ส่วนไอ้จิก็ชกหมัดกับพี่เขาอย่างรู้ใจ ราวกับไปรู้จักกันมาแต่ปางก่อน
พี่ๆเขาขอถ่ายรูปพวกเราเอาไว้เป็นพี่ระลึก แล้วก็ขอแท็กไอ้เมในเพจด้วย กลายเป็นว่าได้โปรโมทร้านในตัว
ให้ตายเถอะ ผมออกจากกระจกไม่ได้ เข้าใจคนเหง้าหน้าดีแต่เกิดแล้วครับ ว่าทำไมเขาถึงหลงตัวเอง ตอนนี้ผมเองก็ชักไม่แน่ใจเหมือนกัน จะกลายเป็นเหมือนคนพวกนั้นมั้ย เพราะผมหยุดเอามือลูบเงาตัวเองในกระจกไม่ได้!
งื้ออออออออ ทำไมหล่อแบบนี้ เมื่อก่อนไปอยู่ไหนมา
จ่ายเงินเสร็จไอ้เมก็ลากผมไปซื้อคอนแทคเลนส์ แน่นอนว่าผมใส่ไม่เป็น ไม่ว่าพี่พนักงานเขาจะสอนดีขนาดไหน แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในลูกตา เพื่อนทั้งสองเห็นท่าไม่ดี ไอ้จิเลยจับผมแหกตา ไอ้เมล็อคคอและแขน ส่วนพี่พนักงานก็ยัดคอนแทคเลนส์ใส่ให้ผม
ดีเลิศมากครับ น้ำตากูนี่ไหลเป็นสายเลือดเลย แสบโว้ยยยยยยย
“สีขาว” ไอ้เมชูเสื้อฮู้ดแขนยาวสีขาว สกรีนดำตัวเล็กๆ ว่า day
“สีดำ” ไอ้จิปัดเสื้อไอ้เมตกไป ก่อนจะชูเสื้อที่เหมือนกันเป๊ะ แต่เป็นสีดำ สกรีนสีขาวตัวเล็กๆว่า Night
ผมมองดูสองคนทะเลาะกันไปมาเรื่องเสื้อผ้าที่จะซื้อ ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเสื้อผ้าผมนั้นแหละ ตอนนี้ก็ซื้อได้เยอะมากแล้ว แต่ว่าดูเหมือนสองคนนั้นยังไม่หยุดที่จะเลือก แถมที่มันเลือกนี้ไม่ใช่ตัวละร้อยสองร้อย มีแต่สินค้าแบรนด์เนมทั้งนั้น
ผมจะไม่ว่าอะไรเลยนะครับ ถ้าพวกมันเป็นคนจ่ายให้
แต่นี่คือเงินกูไง ฮืออออออออออออออออ
หมดไปหลายหมื่นในวันเดียว น้ำตาไอ้เทมจะไหล ถึงคุณป๊าจะคอยโอนมาให้ใช้ไม่ขาด แต่นี่มันฟุ่มเฟื่อยเกินไปแล้ว พอผมพูดแบบนั้นมันสองก็ยิ่งโกรธ เลยเลือกนั่งเฉยๆให้มันเผาผลาญเงินของคุณป๊าต่อไป
“กูเป็นผู้หญิง มีเซ็นส์มากกว่ามึงนะ”
“กูเป็นผู้ชาย แล้วไงครับ?”
“ไอ้จิ”
“ไอ้เม”
“มึง!”
“มึง!”
“พอออออออ เอาทั้งสองตัวแหละ เลิกเถียงกัน”
“ยังไงมึงก็ต้องเอาสองตัวอยู่แล้ว แต่ที่กูเถียงคือจะให้มึงใส่ตัวไหนวันนี้ ตอนนี้!”
ฮอลลลลลลลลลลลลลลลลลล
นี่คือต้องเลือกใช่มั้ย
สุดท้ายก็เลือกสีดำครับ เพราะผมชอบสีดำ ไอ้เมหน้าเป็นตูดเลยจากนั้นมันก็ให้ผมใส่เสื้อผ้าที่มันเลือกนั่นแหละ ใส่กันแบบไม่แคร์ว่ายังไม่ได้ซัก ใส่แบบไม่คิดเลยว่ามีคนลองก่อนหน้ากูมั้ย TT
แต่ไอ้เมมันบังคับ เพราะมันว่ามันมีแผน เปลี่ยนชุดเสร็จผมก็โดนลากไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในห้าง โดยมีสายตาคนมองเราแปลกๆ
ใช่สิ นี่มันคือ นิว เทมโป ไม่เฉิ่มเชย แถมมากับเพื่อนซึ่งเป็นดารา ส่วนอีกคนก็เป็นเดือนคณะ ไม่มองคือจะแปลกมากกกกกกกกก ออร่าพวกกูฟรุ้งฟริ้งขนาดนี้ 555555555555
“ทำหน้าที่หล่อที่สุดในชีวิตเร็ว เปลี่ยนรูปโปรไฟล์”
แบบไหนล่ะ กูทำไม่เป็น ไอ้เมมันก็ตั้งกล้องจะถ่ายเป็นดิบดี แต่มันเสียที่ผมนี่แหละ เห็นความตั้งใจของเพื่อนที่ส่งมามากมาย ขนาดเมมันไปทำงานเสร็จควรจะได้พักอยู่ที่ห้อง แต่มันต้องมาช่วยผม เหลือบมองเห็นไอ้จิแดกข้าวหน้าหมูได้ทุเรศเหี้ยๆ รู้เลยครับว่ามันทั้งเหนื่อยทั้งหิว ทำไมผมถึงมีเพื่อนที่ดีแบบนี้ ...
เอาว่ะ เป็นไงเป็นกัน
แค่โพสท่าที่คิดว่าหล่อที่สุดเอง
เอานิ้วชี้กับนิ้วโป้ง ทำเครื่องหมายถูกแล้ววางใต้คาง จากนั้นก็ยิ้มมมมมมมมม
ปั๊ก!
“ผ่านสมองหรือยังนั่น” งื้ออออออออออ โดนไอ้จิขว้างตะเกียบ ทำไมว่ะ นี่เป็นท่าที่ตอนเด็กๆทำใครๆก็บอกว่าหล่ออ่า ทำไมตอนโตทำแล้วมันแย่ล่ะ
“เอามานี้เม มันทำท่าเหี้ยอะไรไม่เป็นหรอก เดี๋ยวกูถ่ายไปเรื่อยๆ ภาพไหนดูดีก็ภาพนั้น”
เมมันพยักหน้าเห็นด้วย แล้วบอกให้ผมทำตัวเป็นธรรมชาติ ส่วนไอ้จิก็รัวกล้องไปเรื่อยๆ ทำไมรู้สึกว่าตัวเองเซเลป มีคนแอบถ่ายตลอดเวลา 55555555
สุดท้ายก็ได้มารูปหนึ่ง เป็นรูปตอนที่ผมหันไปยิ้มขอบคุณพนักงานเสิร์ฟ เมล่อนมันกรี๊ดแตกบอกว่ารูปนี้ดีงามอะไรๆ ของมันนี่แหละ
สองคนนั้นก็จัดการกับโซเซียลของผมโดยเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ทั้งเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์
อยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนเถอะครับ ใครเขาจะมาเห็นมาสนใจ เพื่อนในเฟซผมนี้มีหลักร้อยได้ ยิ่งทวิตเตอร์ ไม่มีคนฟอลด้วยซ้ำ
จู่ๆ ไอ้เมก็เอามือถือตัวเองขึ้นมาเปิดกล้องหน้า แล้วเรียกผมกับจิให้ยื่นหน้าไปใกล้ๆมัน ถึงจะงงๆ แต่คิดว่ามันคงจะถ่ายส่งให้พี่พอลล่า ไม่ก็พี่มิว
“จิ เทมมองกล้องนะ เซชีสวิทมี 1 2 3 ปลาฉลามขึ้นบก ชีสสสส ”ฉลามอะไรของมันว่ะ แต่เอาเถอะกูก็ยิ้มสู้กล้องไปล่ะ
“เป็นไงเม เช็คหน้าซิ”
“ดีเลิศประเสริญสุดค่ะ”
มันสองคนก็งุ้งงิ้งอะไรไม่รู้ต่อ ผมหันมาสนใจมือถือตัวเองที่เพิ่งเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ อีพี่มิวทั้งไลค์ทั้งเม้นท์คนแรก
Ratikan M. Senanurak เกิดอะไรขึ้นกับน้องกูครับ หมาไหนแฮคเฟซไอ้เทม นี่ไม่ใช่รูปเจ้าของเฟซนี่ ~
กวนตีน บอกได้คำเดียวว่ากวนตีนมากกกกกกก ไอ้พี่มิวทักไลน์มาเร็วมาก ถามเรื่องสภาพที่เปลี่ยนไป มันก็รู้ว่าช่วงนี้ผมกำลังจะเปลี่ยนลุคใหม่ แต่ที่มันไม่เชื่อคือผมจะมาไกลขนาดนี้
ฮออออลลลลลลล
ให้กำลังใจกูบ้างดิ
“เออ..ไอ้เทม สมัครไอจียัง?”
ไอจีคืออะไร? แววตาของผมคงสะท้อนความว่างเปล่ากลับไป ไอ้จิเลยคว้ามือถือผมไปสมัครให้ ตั้งชื่อไอจีกูซะน่ารักเชียว
TEMPO_Tiwakan จากนั้นผมก็มีผู้ติดตามคนแรกก็คือ……….. ไอ้เม ส่วนคนที่สอง แน่นอนว่าไอ้จิ TT
เห็นไอ้เมมันเงยหน้าจากมือถือที่เล่นมานาน
“เทม มึงพร้อมหรือยังที่จะเป็นคนใหม่” “อะไรของมึงเม”
ตึ่ง! ตึ่ง! ตึ่ง! เสียงข้อความแจ้งเตือนที่โทรศัพท์ผมไม่หยุดหย่อน จนผมเองยังตกใจ แต่ไอ้สองคนนั้นมันยิ้มให้กันแล้วไฮไฟว์ มึงเล่นอะไรกับมือถือกูป่ะเนี่ย
MalonMinrada_ Officia Welcome to instagram my close friend
@TEMPO_Tiwakan @JiJiJiKiaanun เมมันแท็กมาในไอจีครับ ให้ตายเถอะผมตกใจกับการไลค์และยอดฟอลที่เพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว
“การที่มึงจะจีบคนอย่างพี่ปกป้อง มึงก็ต้องอยู่ในระดับเดียวกันกับพี่เขา”
“กะ..กู ไม่เข้าใจ..งงอ่ะ”
สมองผมยังไม่ทันได้ประมวล ไอ้จิก็ขัดขวางการคุยของผมกับเมล่อน โดยการยื่นมือถือมันขึ้นกลางวงแทน
“มึงดูนี่!” เป็นรูปที่เราสามคนถ่ายเมื่อกี้นี้ แต่มันไม่ได้อยู่ในเฟซบุ๊คของผมหรือไอ้เม แม้กระทั่งไอ้จิ แต่มันอยู่ในเพจคิ้วท์บอย!
โอ้ยยยยยยยย แก๊งค์หมอฟัน แก๊งค์นี้ คือดีงามมาก และพูดเลยค่ะว่า แอดมินจะไม่ทน
เมล่อน จิ & เทมโป ทันตแพทย์ศาสตร์#1 /// แอดมินเจ้าหญิง สดๆร้อนๆไม่ถึงห้านาที….
ไม่น้า!
ไม่ใช่ว่าผมไม่ตื่นเต้นกับการลงเพจนี้ เพจที่คนไลค์เป็นแสนๆ เพจที่คนในมหาลัยทุกคนอยากมีรูปที่นี้ แต่สิ่งที่ทำผมใจเต้นกว่า…
PP Prachya Nawanantanon และอีก 3,298 คน ชอบสิ่งนี้
พี่ปกป้องไลค์ว่ะครับ !
งื้อออออออออออออออออออออออออออออ
TBC.

รูปหยางหยางรูปนี้มันใช่มากกกก ผมน้องเทมทรงนี้นี่แหละ
น้องเทมกำลังจะดังล่ะน้าาา ><