The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 444971 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
พี่ไฟฉันน้อยใจก็เป็นว่ะ เอ็นดูพี่55555


ออฟไลน์ sexysunn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
 ต้องเคลียร์ใจกันแล้ว  เดี๋ยวสมุทรไม่มีสมาธิ

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ขอบคุณนะคะ ช้าก็รอได้ค่ะ เรารอเก่ง

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
กลับมาแล้วแบบงง ๆ  แต่ยังไปต่อได้อยู่  และจะไปด้วยกันอีกแน่นอน  ขอแค่มาทำให้คุณไฟกับสมุทรเค้าได้คุยกันแบบดี ๆ สักที  o18  คุยกันแบบปกติได้ไม่ถึงไหนมีเรื่องให้โกรธกันอีกละ  :ling3:  พวกเธอจะหวานกันบ้างไม่ได้เหรอ


รอตอนต่อไปนะคะ


 :mew1:

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
สวัสดีปีใหม่ไทยเช่นกันค่ะ

ตอนนี้อย่างน้อยไฟก็คุยกับสมุทรแล้ว ถือว่าพัฒนา :laugh:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
ได้เห็นหน้ากันแค่นิดหน่อยก็ดีแล้วววว  :katai2-1:

ออฟไลน์ Sarocha45377

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :mew2: รออยู่นะคะพี่เบบี้

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
จะติดตามจนกว่าลมหายใจสุดท้ายของชีวิต &ไฟและสมุทรไม่ได้กล่าวไว้ (อายุย่างหลักสี่แล้ว เราจะต้องอ่านเรื่องนี้ให้จบ)

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ฮือ คิดถึงมาก ขอบคุณที่มาต่อ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

แจ้งข่าว : 10 พฤษภาคม 2564 - แจ้งข่าวไฟสมุทร



ขอบคุณค่ะ | เบบี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ conanji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ลุ้นมากว่าจะคุยกันกี่ประโยค  ฮ่าๆ  :call:
เหมือนต่างคนต่างน้อยใจ ใครจะทนไม่ไหวก่อนกัน

จะรอเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
จะตามไปอ่านทีี Read นะคร้าบ

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
 รับทราบ เราจะตามไปสนับสนุนอย่างแน่นอน  ตามๆๆๆๆ :katai5: :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-05-2021 23:35:45 โดย mamacub »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

แจ้งข่าว : 10 พฤษภาคม 2564 - แจ้งข่าวไฟสมุทร

.
.

ตอนที่ 57
..ไฟ..




“การแข่งขันเวที z-k super fight ในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก....”

“คุณมีความมั่นใจแค่ไหนกับการขึ้นชกของนักมวยในครั้งนี้ครับ”


ทันทีที่ประตูห้องพักปิดลง  เสียงประกาศของพิธีกรที่อยู่ด้านนอกก็เงียบไปด้วย  แทนมาด้วยเสียงจากโทรทัศน์ที่เปิดอยู่  ในห้องอยู่ระหว่างเตรียมตัวของนักมวยของค่ายผม  ทั้งทีมงานและครูมวยไม่ได้หยุดมือกันเลยตั้งแต่มาถึง  นักมวยอยู่ระหว่างอบอุ่นร่างกายและทบทวนฝีไม้ลายมือของนักชกคู่ต่อสู้  ผมนั่งมองจากโซฟาที่อยู่มุมหนึ่งของห้องพัก  กวาดมองรอบโดยภาพรวม  ไม่ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายหลังจากที่แน่ใจว่าตนเองได้สั่งทุกอย่างตามที่ต้องการแล้ว 

“คุณไฟคะ มีนักข่าวจะรบกวนขอสัมภาษณ์น่ะค่ะ สะดวกไหมคะ” พี่นีเดินมาด้วยท่าทางรีบร้อน  ดูเหมือนเธอก็งานยุ่งไม่แพ้กัน

“ใคร” ผมถามกลับ

“จากช่อง xxx ค่ะ” เธอตอบ

“........” ผมนิ่งเฉย  มองไปยังสมุทรที่กำลังคุยอยู่กับครูมวยอยู่ที่กลางห้อง

“ให้พวกลุงสัมภาษณ์แทนแล้วกัน” ผมตอบปัด  หมายถึงครูมวยที่รับผิดชอบหน้าที่อยู่

“เอ่อ ลุงให้สัมภาษณ์แล้วค่ะ เขาอยากสัมภาษณ์เจ้าของค่ายน่ะค่ะ” พี่นีลดเสียงลง

“ไม่สะดวกครับ” ผมเงยหน้าขึ้นสบตาเธอ 

“ได้ค่ะ” พี่นียิ้มรับ  ผงกหัวครั้งหนึ่งก่อนเดินจากไปอย่างไม่คิดที่จะขัดใจผม  ผมมองตามเธอที่เข้าใจอะไรง่าย ๆ และไม่ดึงดันว่าที่ผมไม่สะดวกก็เพราะแค่ไม่มีอารมณ์ 

“พี่นีนี่.. มีแฟนไหมนะ” ผมสงสัยขึ้นมา  ชอบการเดินที่กระฉับกระเฉงของเธอ  ดูแล้วมั่นคงดี 
 
“เคยมีนะครับ” พี่ธานที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ตอบด้วยสีหน้าไม่แน่ใจ

“ผมจำได้แค่ว่า แฟนคนก่อนถูกเธอเตะก้านคอตอนทะเลาะกันก็เลยเลิกน่ะครับ หมอนั่นพาคนมาจะแก้แค้นแต่ดันมาตอนที่เธออยู่กับนักมวยของเราพอดี ทางนั้นก็เลยกลับไป หลังจากนั้นมีคนใหม่แล้วรึยังก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ รู้แต่ว่านักมวยในค่ายพากันแซวเธอเรื่องนี้ไม่จบไม่สิ้น” พี่ธานเล่า

“พรืดดด !” ผมหลุดหัวเราะ  อีกฝ่ายเองก็หลุดยิ้มเช่นกัน

“จะไม่เข้าไปคุยหน่อยเหรอครับ”

“........” ผมเหล่มองผู้ถามด้วยหางตา  แปลกหูกับคำถามที่ถูกถามอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“เจ้าของค่ายไม่พูดแบบนี้ นักมวยจะขวัญเสียเอานะครับ” พี่ธานบอก

“พูดไปแล้ว” ผมตัดบท  พูดไปแล้วเมื่อครู่นี้ตอนที่สั่งเสียกันพร้อมหน้า  ทั้งครูมวย ทั้งพี่เลี้ยงและนักมวยทุกคน


ก๊อก  ๆ ๆ

“ขออนุญาตครับ !” ผมเหลือบมองไปยังประตูห้องที่ถูกเปิดเข้ามากะทันหัน  พบเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานดูแลรักษาความเรียบร้อยของสถานที่จัดงานเดินเข้ามา  พี่ธานลุกขึ้นยืนโดยทันที

“ขออนุญาตครับคุณไฟ” ทางนั้นผงกหัวน้อย ๆ อย่างเกรงใจ  ทำให้ทุกคนในห้องมองไปเป็นจุดเดียว

“เอ่อ พอดีว่า...” อีกฝ่ายอ้ำอึ้งหน้าถอดสี

“เข้ามาเลย !” เสียงหนึ่งตะโกนขึ้นสู้กับเสียงประกาศรายละเอียดของงานจากด้านนอก  ผมมองชายกลุ่มหนึ่งมากกว่า 6 คนเดินเข้ามา  มีทั้งตำรวจในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ  หนึ่งในคนที่เดินนำขบวนมาเผยรอยยิ้มแสยะทักทายมาทางผม

“เอ๊ะ ผมบอกให้พวกคุณรอก่อนไงครับ ผมต้องแจ้งคุณไฟก่อน” เจ้าหน้าที่สนามขึ้นเสียงด้วยสีหน้าไม่พอใจและผสมไปด้วยความร้อนรน 

“ทำไมต้องรอ” ไอ้เต้ย้อนอย่างไม่แยแส

“ไม่เป็นไร” ผมปัดมืออนุญาต  ชายแปลกหน้าคนหนึ่งที่ดูแล้วอายุน่าจะไป ๆ กับพี่ธานเดินตรงมาทางผมโดยเฉพาะ  ก่อนจะเท้ามือลงบนโซฟาตัวตรงข้ามและยิ้มให้

“สวัสดีครับคุณไฟ แหม่ ได้เจอตัวจริงเสียงจริงสักทีนะครับ ผมไม่ค่อยเห็นคุณออกสื่อ เจอตัวยากจังครับ” 

“ผมดมครับ หัวหน้าทีมปราบปรามยาเสพติดคนใหม่ที่เพิ่งตามคดีของคุณย่าคุณน่ะครับ” คนตรงหน้าแนะนำตัวเอง

“มีอะไรให้ช่วยครับ” ผมถาม 

“เฮ้อ ~” อีกฝ่ายถอนหายใจยิ้ม ๆ เดินผ่านหน้าพี่ธานแล้วหย่อนตัวนั่งลงที่โซฟาตัวตรงข้าม

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เห็นว่าการแข่งชกครั้งนี้ไม่น่าจะแค่เวทีมวยก็เลยมาตรวจตามหน้าที่น่ะครับ ได้รับอนุญาตจากผู้จัดแล้วนะครับ ไม่ต้องห่วงผมหรอก” ดมอมยิ้มมุมปาก 

“งั้นเหรอครับ” ผมผลิยิ้มเช่นกัน

“........” จู่ ๆ อีกฝ่ายก็หุบยิ้มลง
 
“คุณไฟ มีอะไรจะบอกผมไหมครับ” ดมเอียงคอ พูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงพลางจับใบหูตัวเองไปพลาง

“รู้ไหมว่าค่าตัวนักมวยผมเท่าไหร่ เยอะกว่าเงินเดือนของคุณตำรวจตั้งหลายปี เร็วหน่อยก็ดีครับ คนของผมต้องการเวลาส่วนตัว” ผมยิ้มตอบ  เท้าแขนลงที่หน้าขาตัวเอง 

“ฮึ !” อีกฝ่ายพ่นหัวเราะ

“ผมเกลียดคนอย่างพวกคุณจริง ๆ เลยรู้ไหม มันทำให้ผมงานเยอะขึ้นน่ะ” ดมขมวดคิ้วบ่นส่ง ๆ พูดด้วยโทนเสียงสุภาพแต่ไม่น่าฟัง

“........” ผมไม่ตอบอะไร  เราเงียบพร้อมกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่อีกฝ่ายจะตะโกนสั่งลูกน้องของตน

“เฮ้ย ! ตรวจให้ทั่ว คุณเขาอนุญาตแล้ว !” ดมพยักหน้าพร้อมยิ้มกว้าง  ตำรวจทุกนายที่หยุดยืนเคลื่อนไหวตามคำสั่ง  ให้หลังไม่กี่นาทีคนเป็นหัวหน้าก็ลุกขึ้นยืน  เดินล้วงกระเป๋าพลางมองไปรอบ ๆ ห้องก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้าสมุทร

“นายนี่ ได้ข่าวว่าเป็นนักมวยใหม่ใช่ไหม หึ.. ได้ขึ้นเวทีใหญ่ขนาดนี้ เส้นใหญ่ไม่เบานะ” ดมแซวยิ้ม ๆ

“ชื่ออะไรนะ” อีกฝ่ายขมวดคิ้วคล้ายนึกไม่ออก 

“สมุทรครับ” สมุทรตอบอย่างใจเย็น

“มีญาติมาดูไหม เพื่อนล่ะมีไหม” ดมเลิกคิ้ว  กวาดตามองสมุทรหัวจรดเท้า

“.........” ครั้งนี้สมุทรไม่ตอบ

“ถามก็ตอบสิวะ” ไอ้เต้พูดขึ้นเรียบ ๆ

“ไม่ได้มาครับ” สมุทรตอบ  เลือกที่จะลดสายตาลงอย่างไม่ต้องการปะทะ แต่สีหน้าไม่ได้แสดงออกไปในทางเดียวกันอย่างนั้น  เขาเองก็กำลังไม่พอใจ   

“หึ..” ดมแสยะหัวเราะ  เจอรี่ นักมวยชาวออสเตรเลียที่อยู่กับค่ายผมมานาน  ชกรุ่นใหญ่กว่าสมุทรเดินเข้าไปประชิดพร้อมมองดมกลับด้วยสายตาไม่พอใจนัก

“มีอะไรไม่ทราบ” ดมมองเจอรี่

“คุณเป็นตำรวจ แต่มองแบบนี้มันเสียมารยาท” เจอรี่พูด

“ฮ่า ๆ ๆ พูดไทยชัดดีว่ะ !” ดมหัวเราะลั่น 

“มึงลืมไปแล้วเหรอว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านมึง” ดมพูด  เจอรี่เอียงคออย่างไม่สบอารมณ์พร้อมเดินเข้าหาทันที

“เจอรี่” ครูมวยออกปากห้าม  เจอรี่ชะงัก

“เจ้าของค่ายที่นี่แต่ละคน เส้นมันใหญ่ดีว่ะ กูชอบ” ดมแสยะยิ้มมุมปากพูดขึ้นลอย ๆ  ทำเอาลูกน้องที่มาด้วยหัวเราะชอบใจ
 
“พอดีว่าผมมาตรวจยาเสพติดน่ะครับ หวังว่าใครในที่นี้จะไม่ใช้ของอะไรแบบนั้นนะ ~” ดมเงยหน้าขึ้นพูดเสียงดังลั่น

“What the hell did you just say? Say that again.” เจอรี่เสียงขุ่น  ดวงตาแข็งกร้าวเอาความ  สมุทรเห็นท่าไม่ดีจึงจับแขนอีกฝ่ายห้ามไว้

“เฮ้ย !” ไอ้เต้ปรี่เข้าแทรกทันควัน  ผมถอนหายใจเบา ๆ คนเดียวก่อนจะลุกขึ้นยืน  การลุกของผมทำให้ทุกคนหันมา  ผมเดินตรงไปยังจุดที่ดมยืนอยู่ช้า ๆ และหยุดยืนตรงข้ามอีกฝ่าย

“ขอโทษ..” ผมพูด 

“........” ดมที่ยืนหันข้างอยู่หันตัวมาทางผมพร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า

“ขอโทษคนของผมซะ” ผมขยายความ  รอยยิ้มของดมค่อย ๆ ลดลงเปลี่ยนเป็นแววตาท้าทายกลับ  อีกฝ่ายก้าวขาเข้าหาผมหนึ่งก้าว  หยุดยืนตรงหน้าผมซึ่งอยู่ตรงหน้ากับสมุทรพอดี

“หึ ขอโทษคร๊าบบบบ ~” อีกฝ่ายทำประชดด้วยการยียวนกลับ


ปึก !

“เฮ้ย !!!” ไอ้เต้สบถทันทีที่ผมคว้าคอเสื้อของเพื่อนร่วมงานมันกระชากมา 

“คนของกูไม่ใช่เพื่อนเล่น” ผมพูด

“พวกกูเพื่อนเล่นมึงเหรอ..” ผมจ้องมอง  ดวงตาของอีกฝ่ายจ้องกลับไม่ลดระดับความขุ่นเคืองเช่นกัน

“ดม พี่ขอ” พี่ผาเดินเข้ามา  คนตรงหน้าแสยะปากคล้ายรับไม่ได้  แต่ก็ลดระดับสายตาลงและหันไปทางสมุทรตรง ๆ

“ขอโทษ” มันพูด ก่อนจะปัดมือผมออกจากคอเสื้อตัวเองอย่างมีอารมณ์

“ผมขอตรวจหน่อยนะครับ ทุกส่วนของที่นี่ต้องโดนหมด” พี่ผาพูด  ตำรวจเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อได้รับสัญญาณมือจากพี่เขา

“ระวังตัวไว้แล้วกัน” ดมพูด

“........” ผมไม่ตอบ  มุมปากด้านซ้ายค่อย ๆ ขยับยิ้มให้ก่อนจะผายมือออกไป จัดปกเสื้อที่เพิ่งกระชากนั้นให้กลับมาเป็นระเบียบเช่นเดิมด้วยการรีดมือไปตามแนวไหล่ของร่างกาย 

“เหนื่อยหน่อยนะครับ” ผมพูด  เป็นการตอบเป็นนัยถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่มันพูดทิ้งไว้  สันกรามของผู้ฟังปูดนูนและผละตัวออกจากผมทันที  แน่นอนว่าการตรวจค้นไม่เจอสิ่งผิดกฏหมายใด ๆ และห้องพักก็ได้กลับมาสงบอีกครั้ง

“ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือครับ” พี่ผาตรงมาบอกพร้อมผงกหัวให้น้อย ๆ  ไอ้เต้ที่กำลังจะเดินตามทุกคนไปหยุดชะงัก  หันกลับมาหาผมอีกครั้ง

“มีอะไรให้ช่วยครับ” ผมยิ้มถาม

“พี่ทัพอยู่ไหน กูรู้ว่ามึงรู้” ไอ้เต้ถามเสียงเบาคล้ายต้องการให้ได้ยินแค่มันกับผมสองคน

“แหมคุณตำรวจ ทำไมผมต้องไปรู้ในเรื่องที่คุณควรต้องรู้อยู่แล้วด้วยล่ะครับ” ผมย้อนกลับยียวน  ไอ้เต้จ้องเขม็ง  แสดงความไม่พอใจด้วยการพ่นถอนหายใจทิ้งไว้แล้วจากไป 

“........” ผมยืนเงียบอยู่ที่เดิม  มองบานประตูที่ปิดสนิทก่อนหันไปยังสมุทรที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก  อีกฝ่ายหันมาสบตากับผมเข้าพอดี

“ผมขออยู่คนเดียวสักสิบห้านาทีได้ไหมครับ” อีกฝ่ายถาม 

“อืม” ผมพยักหน้าอนุญาต  ชี้มือไปที่ห้องพักห้องเล็กอีกห้องหนึ่งที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ

“ขอบคุณครับ” 


- - - - - - - - - -


3 วันผ่านไป

“เก็บตัวรอบหน้า เอาพี่ศรไป จัดคนของเราไปให้พี่แกด้วย ผมจะส่งหมอนั่นไปอยู่กับไอ้บูรณ์สองอาทิตย์แล้วค่อยให้ไปประจวบฯ” ผมสั่ง

“........” พี่ธานเงียบ  ผมเงยหน้าขึ้นมอง

“มีอะไร” ผมถาม

“เปล่าครับ ได้ครับ” พี่เขาขานรับ 

“เดี๋ยวผมคุยกับไอ้บูรณ์เอง ปิดเรื่องนี้ให้สนิทด้วย”

“ครับ” พี่ธานตอบ


บันทึกการแข่งขันของสมุทรที่ผมกับพี่ธานนั่งดูซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาเป็นชั่วโมง  ถึงแม้ว่าการชกครั้งแรกนักมวยในค่ายของผมจะชนะทุกคน  แต่มีเพียงแค่การชกของสมุทรเพียงคนเดียวเท่านั้นที่แปลกออกไป  มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล...

“คุณไฟครับ”

“อืม..” ผมขานรับ  ยังคงสนใจหน้าจอที่ฉายซ้ำการชกของสมุทร

“ขอตัวสักครู่นะครับ” อีกฝ่ายบอก  ผมพยักหน้าอนุญาตก่อนที่พี่ธานจะลุกเดินออกไปพร้อมกับโทรศัพท์มือถือของตน  ผมเหลือบมองด้วยหางตา  รู้ว่าคนที่เพิ่งลุกออกไปนั้นน่าจะได้รับข้อความสักอย่างที่ไม่ต้องการให้ผมรับทราบด้วย


ติ๊ด ~

เสียงแจ้งเตือนสั้นกระชับเป็นการตั้งเตือนไว้ในระดับที่เบาที่สุด  ซึ่งเป็นเสียงที่ทำให้ทราบว่าสิ่งที่ได้รับนั้นคือรายการอะไร

เงินเข้า 50,000,000 บาท จาก KXXX

ผมเหลือบมองโดยไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นดูจนหน้าจอดับสนิทไป..


- - - - - - - - - -
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2021 15:35:54 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

11.00 น. | Safe House

“ตะวันเตะก้นแล้วยังไม่ตื่นอีกเรอะ” ผมทักคนที่นอนซมอยู่บนโซฟา  สภาพไม่เหมือนตำรวจที่เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย  เหมือนยาจกมากกว่า

“มาแล้วเหรอ” พี่ทัพทักเสียงเครือในลำคอ  ไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้น 

“กูนอนเกือบตีห้า..” อีกฝ่ายพึมพำ  ยกแขนขึ้นก่ายหน้าผาก  ผมนั่งลงที่โซฟาอีกตัว  พี่ทัพขยับตัวและเอื้อมมือออกมา ดันแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะตรงกลางโซฟามาทางผมอย่างลวก ๆ ก่อนกลับไปนอนต่อในท่าเดิม  ผมหยิบเอกสารดังกล่าวขึ้น  เดาว่าอีกฝ่ายคงอยากให้เปิดดู 

“น้ำครับ” พี่ธานพูดบอก  วางน้ำเปล่าเสิร์ฟให้ผมกับพี่ทัพคนละแก้ว

“หึ..” ผมยิ้ม  วางศอกซ้ายเท้าลงบนพนักโซฟาพลางอ่านข้อมูล  อีกฝ่ายชำเลืองมอง  ลุกขึ้นนั่งแล้วยกน้ำเปล่าขึ้นดื่ม

“ไอ้พวกเหี้ยนี่อะนะ อ้า.. กูอยากจะบ้า กูกับพ่อเคยยกมือไหว้พวกมันด้วย” พี่ทัพหลับตาพึมพำคล้ายบ่นกับตัวเอง  น้ำเสียงของอีกฝ่ายเหมือนอ่อนล้าเต็มทีแล้ว

“ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วครับนาย” ไอ้เข้มเดินมาบอก  กลิ่นอาหารที่พวกผมซื้อมาลอยเตะจมูก  ต้นเลือดหมูเจ้านี้น้ำซุปหอมสุด ๆ

“อ่าว ซื้ออะไรมา” พี่ทัพหยุดพูดแล้วมองหน้าผมอย่างสงสัย

“ต้มเลือด” ผมตอบพร้อมปิดแฟ้มลง  ลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะอาหารในทันที 

“คือกูต้องลุกตามมึงใช่ไหม” เจ้าของห้องบ่นแต่ก็ลุกเดินตามมาที่โต๊ะอาหาร  ต้มเลือดหมู  ไก่สับจานใหญ่พร้อมแยกข้าวมัน  ของโปรดผมคือตับไก่กับเซี่ยงจี๊ลวกที่สั่งเพิ่มพิเศษ  แยกมากับน้ำซุปที่ชามหนึ่ง

“ไอ้ไฟ นี่มึงขับไปซื้อมาเหรอ” พี่ทัพตาโต  เห็นหน้าตาอาหารก็คงทราบแล้วว่าเป็นร้านประจำของพวกเรา

“อืม ซึ้งปะละ” ผมยักคิ้ว

“หึ ๆ ๆ” พี่ธานกับพี่ทัพหัวเราะ  เราเลื่อนเก้าอี้นั่งลง  ไอ้เข้มวางถ้วยข้าวมันให้ผม  พี่ทัพที่นั่งอยู่ขวามือและพี่ธานที่นั่งอยู่ซ้ายมือคนละถ้วย 

“หอมฉิบหาย ซูดดดด ~” พี่ทัพหลับตาดมด้วยสีหน้ามีความสุข

“เดี๋ยว มึงยังไม่ได้แปรงฟันเลย” ผมนึกขึ้นได้ว่าพวกเรามาปลุกมัน

“ใครเขาแปรงก่อนกินข้าว” พี่ทัพอมยิ้มมุมปาก

“หนึ่งในสาเหตุที่เมียคุณหนีครับ” พี่ธานพูดหน้านิ่ง

“ฮ่า ๆ ๆ” ผมหัวเราะขณะตักพริกป่นใส่ในชามต้มเลือดหมูของตัวเอง  คนถูกแซวเพียงแต่อมยิ้มน้อย ๆ ไม่ปฏิเสธ

“อย่าเพิ่งกิน” ผมปรามเสียงเข้ม  ใช้ตะเกียบตีช้อนของพี่ทัพที่ทำท่าจะตักน้ำซุปคำแรกเข้าปาก

“มึงนี่นะ ก็รู้ว่ากูไม่ชอบแทนที่จะสั่งไม่ใส่จิงจูฉ่ายให้กู แล้วมึงก็สั่งใส่พิเศษไปสิ” อีกฝ่ายบ่นด้วยสีหน้าจริงจังและหยุดมือ  ยอมให้ผมตักจิงจูฉ่ายที่ตนไม่ได้ชอบกินไปจากชามตัวเอง

“ต้มเลือดมันต้องมีกลิ่นจิงจูฉ่ายสิวะ ไปเรื่องมากเดี๋ยวแม่ค้าก็สาดน้ำซุปใส่กูพอดี” ผมบ่นกลับ  พี่ทัพหัวเราะ

“กูว่ากูมาถูกทางแล้วนะ” พี่เขาชมตัวเอง  ผมรับฟังเงียบ ๆ ขณะคนทุกอย่างให้เข้ากันก่อนจะคีบจิงจูฉ่ายขึ้นกิน

“แต่ที่กูสงสัยมากที่สุดก็คือ...” พี่ทัพทิ้งเสียงลง  มือข้างหนึ่งเกาหัว  อีกข้างจับตะเกียบค้างไว้   

“ทำไม ไอ้กริดมันต้องฆ่าคนที่มารับส่วยจากมันด้วย ทั้ง ๆ ที่เงินนั่นเป็นเงินของไอ้กาย” อีกฝ่ายขมวดคิ้ว  ผมเงียบ  คีบเนื้อไก่จิ้มน้ำจิ้มก่อนนำเข้าปากอีกคำ  พี่ทัพบ่นอิดออดเรื่องเดิมก่อนจะตักเนื้อหมูซึ่งเป็นของโปรดของเจ้าตัวเข้าปาก
 
“แล้วย่าเป็นไงบ้าง” พี่ทัพเปลี่ยนเรื่อง

“ก็ดี” ผมตอบส่ง ๆ

“โทษทีนะ ย่าเลยมาซวยไปด้วย” พี่เขาพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด

“หึ..” ผมอมยิ้ม

“มึงว่า การแข่งมวยรอบนี้มันไม่ชอบมาพากลไปหน่อยเหรอวะ ไอ้กายมันคุมให้ธุรกิจมันเงียบขนาดนี้เพราะอะไร” พี่ทัพขมวดคิ้ว
 
“.........” ผมไม่ตอบ เพราะกำลังตักน้ำซุปเข้าปาก  พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นอีกฝ่ายจ้องมาเหมือนต้องการคำตอบ
 
“มันอาจจะอยากเป็นคนดีรึเปล่า” ผมบอก 

“กูจริงจัง” พี่ทัพปัดเอือม ๆ

“หึ ๆ ๆ ๆ” ผมหลุดหัวเราะเมื่อถูกรู้ทันว่าตั้งใจกวนพี่แก

“กีฬากับพนันมันเป็นของคู่กัน จะประเทศไหน ๆ ก็เหมือนกัน”

“........” พี่ทัพนิ่งไปก่อนพ่นถอนหายใจออกมา

“ต่อให้ถูกกฎหมายก็พนันอยู่ดี มันก็แค่.. หนึ่งในวิธีหาเงินของผม” ผมขยายความยิ้ม ๆ

“มึงจะพูดถึงธุรกิจบิดเบี้ยวของมึงก็นึกถึงใจกูบ้าง” อีกฝ่ายสบถอย่างรับไม่ได้  ผมหัวเราะในลำคอ  บทสนทนาเงียบลงครู่หนึ่ง  เสียงแตงในปากที่เพิ่งคีบกินพร้อม ๆ กับเนื้อไก่ดังสะท้อนอยู่ในหู

“แล้วนี่มึงไม่คิดจะถามหน่อยเหรอว่ากูจะทำยังไงกับของที่มีอยู่” พี่ทัพยียวน  หมายถึงหลักฐานที่สามารถเอาผิดคดีใหญ่ระดับประเทศที่เจ้าของที่พักมีอยู่ได้

“........” ผมไม่ตอบ เท้าศอกลงบนโต๊ะ  มืออีกข้างคีบเนื้อไก่จิ้มน้ำจิ้มแล้ววางลงบนถ้วยข้าวมันของพี่ธานก่อนจะหยุดมือ  ความเงียบถูกทิ้งไว้นานพอให้แน่ใจว่าคนถามก็ไม่ได้มีใจอยากบอกเช่นกัน 


พี่ธานใช้ช้อนตักข้าวมันพร้อมกับไก่ที่ผมคีบให้ขึ้นกินเงียบ ๆ ก่อนพูดออกมา “ไก่ ต้มไม่เป็นมันจะคาวนะครับ” 

“หึ” ผมแสยะยิ้ม

“ซื้อกินถึงได้สะดวกกว่าไงครับ” พี่เขาขยายความทำให้พี่ทัพช้อนตาขึ้นมอง  อีกฝ่ายถูกผมกับพี่ธานจ้องอย่างนี้ขณะที่เราทั้งสามเงียบอยู่หลายวินาที

"แนะนำกูแต่อย่าง กูเป็นตำรวจนะไอ้ไฟ" พี่ทัพขมวดคิ้วบ่นอย่างหนักใจ

“พวกพี่มันเป็นยังไงรู้ไหม เป็นพวกที่บอกว่าตัวเองอยู่ในระบบทั้ง ๆ ที่ทำตัวนอกระบบ ครึ่ง ๆ กลาง ๆ  ชอบกินของคาวแต่ปากบอกไม่ชอบ” ผมพูด

“ผม.. แค่แปลสิ่งที่อยู่ในหัวพี่ธานให้ฟังน่ะ” ผมยิ้มขยายความ  พี่ธานลดระดับสายตาลง  ใบหน้าเปื้อนยิ้มนิดหน่อยอย่างพอใจ

“ไอ้สัส..” พี่ทัพพึมพำ 

“หึ อยากกินของคาวก็ต้องใช้คนคาว ๆ”

“แบบมึงเรอะ ?!” อีกฝ่ายประชดกลับ มองผมตาขวาง

“ก็คาวใช้ได้อยู่นะ” ผมเบิกตากว้าง พยักหน้ายอมรับปนหัวเราะ

“........” พี่ทัพวางตะเกียบลง  เอนหลังพิงพนักพิงแล้วเบือนหน้าไปอีกทาง

“ถ้าอยากจบเรื่องนี้ชาตินี้ ก็ให้พวกมันล้มกันเอง” ผมพูดเรียบ ๆ อย่างไม่แยแส  คำตัดบทจากผมทำให้อีกฝ่ายเหลือบหางตามองมา

“นายครับ” ไอ้เข้มเดินเข้ามาแทรกกลางวง  ในมือถือโทรศัพท์มือถือของตนอยู่  อีกฝ่ายสบตาผมครู่หนึ่งคล้ายขออนุญาตว่าสิ่งที่กำลังจะบอกนี้อาจเป็นความลับที่ไม่ควรให้พี่ทัพทราบ

“ไม่เป็นไร” ผมอนุญาต

“กริดไม่ได้ถือหุ้นโต๊ะพนันร่วมกับกายครับ มันร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลในฮ่องกง...”

“........” ผมหันไปมองหน้าไอ้เข้มในทันที

“เห็นสายบอกว่า เป็นเฮียชาครับ” อีกฝ่ายขยายความพร้อมหลบสายตาผมลง
 
“เห็นว่าพวกมันมีปากเสียงกันก่อนที่จะถอนหุ้นของกริดออกครับ”

“ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่หมากซะละมั้ง” ผมถอนหายใจ  ตัดบทบทสนทนาของทุกคน


- - - - - - - - - -


10.30 น. | เพชรบูรณ์

“อากาศดีอะไรเช่นนี้ ~” เสียงของเพื่อนสนิทพอใจกับบรรยากาศของที่พักบนเนินเขาท่ามกลางธรรมชาติของรีสอร์ตสไตล์โมเดิร์นแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว  ตั้งอยู่ห่างจากสถานที่เก็บตัวของนักมวยค่ายผมเกือบสิบห้ากิโล  ไม่มีใครในที่นั้นทราบว่าผมอยู่ที่นี่เพราะถูกสั่งไว้ไม่ให้บอกว่าผมจะตามมาดู 

“มึงพักนะ กูจะไปที่ค่ายหน่อย” ผมพูด  ลุกขึ้นพร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าสตางค์ของตัวเอง

“อืม กลับเข้ามาก็ซื้ออะไรมากินเลยนะ” ไอ้โปรดตอบพร้อมทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา

“คุณโปรดจะไม่ออกไปไหนหน่อยเหรอครับ” ไอ้เด่นผู้ชอบเที่ยวถึงกับเสียงหลง

“ก็ออกมาถึงเขาค้อแล้วมึงยังจะต้องให้กูออกไปไหนอีก ?! กูอุตส่าห์ตื่นตั้งแต่ไก่ไม่โห่ แล้วนี่แวะปั๊มมากี่รอบแล้ว ไม่เหนื่อยบ้างเรอะ” ไอ้โปรดสบถบ่น

“หึ ๆ ๆ” ผมหัวเราะ  ขำตรงไก่ไม่โห่ของมัน

“มึงอยู่นี่” ผมสั่งไอ้เด่น

“ผมขับให้ครับนาย” ไอ้เด่นยิ้มแฉ่ง

“กูไปกับพี่ธาน มึงอยู่กับโปรดนี่แหละ” ผมปัด  อีกฝ่ายหน้าหงอยลงทันที

“อยู่เป็นเพื่อนเล่นหนูนี่แหละ ~” ไอ้โปรดได้ทีแกล้ง ทำเสียงออดอ้อนกวนใจไอ้เด่น
 
“พร้อมแล้วครับคุณไฟ” พี่ธานเดินมาบอก

“ไปนะ” ผมบอกไอ้โปรด  อีกฝ่ายพยักหน้ารับก่อนที่ผมจะเดินออกมาพร้อมกับเสียงโอดครวญของไอ้เด่นที่อยากตามมาด้วย 
บรรยากาศช่วงสายที่แดดยังไม่ถือว่าจัดมากนักทำให้ผมเลือกที่จะกดเปิดกระจกและปิดเครื่องปรับอากาศในรถยนต์  ระหว่างทางไม่มีบทสนทนาใด  เวลาการเดินทางก็สั้นนิดเดียว  พี่ธานจอดรถยนต์ห่างออกจากสถานที่ฝึกไกลพอสมควร  เราเดินเท้ากันต่อเพื่อไปยังจุดลับตาคนเพราะไม่ต้องการให้คนในทีมรู้ว่าผมมาที่นี่... 

“จะไม่เข้าไปคุยกับครูมวยหน่อยเหรอครับ” พี่ธานถามหลังจากที่เรายืนมองการฝึกซ้อมได้พักหนึ่ง 

“ไม่ครับ” ผมตอบ  มืออีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกงก่อนเอนตัวพิงผนังกำแพงมองเข้าไปยังด้านในขณะที่นักมวยกำลังซ้อมกันอย่างขยันขันแข็ง  ร่างกายของสมุทรผอมลงนิดหน่อย  ดูเหมือนไขมันบางส่วนได้กลายเป็นกล้ามเนื้อที่กระชับขึ้น   

“น้ำหนักหมอนั่นลงไหม” ผมถาม

“ลงสองโลครับ” พี่ธานตอบ

“.......” ผมเงียบ  จู่ ๆ ก็แปลกตาที่เห็นรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของคนที่กำลังพูดถึง  อีกฝ่ายคุยอยู่กับนักมวยคนอื่น  เป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนผมจะไม่ได้เห็นมาพักใหญ่แล้ว

“น่าจะพอทำใจได้แล้วนะครับ เรื่องยาย” พี่ธานพูด  คงเห็นเหมือนกัน  ผมไม่ตอบอะไร  จดจ้องการชกที่แน่วแน่และมีความมั่นใจขึ้นต่างจากการซ้อมที่ประจวบฯ ก่อนหน้า 

“กลับเถอะ” ผมบอก

“ครับ”


   ...

“คุณยุทคะ ขอสัมภาษณ์หน่อยค่ะ ไม่ทราบว่ามีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับคลิปหลุดของลูกชายคุณคะ”

“แหล่งข่าวบอกว่าลูกชายของคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล.. คุณยุทคะ เดี๋ยวค่ะ รบกวนตอบคำถามด้วยค่ะ”

“จากคดีคลิปหลุดว่ามีการค้าบริการของลูกชายคุณยุธ ยุธทกร xxx ว่ามีการเชื่อมโยงกับธุรกิจสีเทาทำให้หุ้นของบริษัท yuttakit ดิ่งลงในเช้าวันนี้”



ผมกลับถึงที่พัก  หยุดยืนมองหน้าจอโทรทัศน์ที่ไอ้โปรดเปิดทิ้งไว้  ข่าวครึกโครมหลายวันมานี้เป็นข่าวของคนใหญ่คนโต  ทั้งนักการเมืองและคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในวงการกลางคืน  ซึ่งหากมองให้ดี ทั้งหมดนั้นมีส่วนเชื่อมโยงกัน...

“กลับมาแล้วเรอะ กลับเร็วจังวะ” ไอ้โปรดที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำเอ่ยทัก  สวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่สบาย ๆ เหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ  ผมตรงไปนั่งลงที่โซฟาและกดรีโมทเปลี่ยนช่องเพื่อหาข่าวช่องอื่น  แต่ 80% ก็ยังคงเป็นข่าวที่คล้าย ๆ กัน

“ไอ้เด่นไปไหน” ผมถาม

“ไปซื้อกาแฟให้กู” ไอ้โปรดตอบ 

“หุ้นตกระเนระนาดเลย ดีนะพ่อกูชิงขายก่อน อย่างกับมีตาทิพย์” ไอ้โปรดบ่น

“รึว่ามีวะ ?” มันยืนเท้าเอว  ขมวดคิ้วพึมพำสงสัยถึงพ่อตัวเอง  ผมอมยิ้ม  บางทีก็อดสงสัยตามที่ไอ้โปรดพูดไม่ได้เหมือนกัน
 
“ใครเป็นคนปล่อยข่าววะ แล้วเพื่ออะไร หลายเดือนมานี้มีแต่ข่าวแนวนี้โผล่ขึ้นมาจากน้ำแบบแปลก ๆ เหมือนมีใครตั้งใจทำให้โผล่” มันบ่นกับตัวเองคล้ายไม่ต้องการคำตอบ  ดูไม่ติดใจกับข่าวครึกโครมนี้นัก  แน่นอนว่าผมเองก็ไม่ได้ตอบถึงเหตุผลของการกระทำเหล่านั้นเช่นกัน   

“เออ อาทิตย์หน้าใช่ไหมที่นักมวยมึงจะขึ้นชกอีก” อีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่อง

“มึงนี่สมาธิสั้นนะ” ผมทัก

“หึ ๆ ๆ” ไอ้โปรดหัวเราะเก้อเขิน

“สมาธิกูยาวอยู่เรื่องเดียวแหละ” อีกฝ่ายทำหน้าขึงขังเป็นงานเป็นการ

“หึ ๆ ๆ” ผมก้มหน้าเพราะอดขำไม่ได้  รู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร

“กูลงข้างสมุทรห้าล้านแล้วกัน ฝากบอกเจ้ามือล่องหนของมึงด้วย” ไอ้โปรดยักคิ้วด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์

“.........” ผมจ้องมันกลับโดยไม่พูดอะไรอยู่หลายวินาที

“หาเงินใช้ ช่วงนี้ไม่ค่อยบิน” มันบอก  ทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาด้วยการเมินสายตาจากผม

“กาแฟมาแล้วคร๊าบ” ไอ้เด่นกลับมาได้จังหวะพอดี 

“นายกลับมาแล้วเหรอครับ ผมซื้อกาแฟมาเผื่อพอดีเลยครับ” มันยิ้มแป้น  กุลีกุจอเข้ามาเสิร์ฟอเมริกาโนเย็นที่ซื้อมาให้ผมกับพี่ธานคนละแก้ว  พร้อมกับวางลาเต้เย็นซึ่งเป็นของไอ้โปรดด้วย


ติ๊ง ~

“โอนไปแล้วนะ” ไอ้โปรดที่นอนกระดิกเท้าอยู่พูดบอก  ผมไม่ตอบ  หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นดูก็พบว่าได้รับเงินโอนเข้าเป็นจำนวน 5 ล้านบาทจริง ๆ 

“เอาอะไรมามั่นใจ” ผมพูดถึงสมุทร

“ไม่แน่ว่าคงพนันอีกข้างกับใครไว้สิบล้านมั้งครับ” พี่ธานพูดแทรกขึ้นมา 

“ฮึ้ยยย ~ บ้าบอ เอาเงินจากไหนมาเยอะแยะ” ไอ้โปรดแสยะยิ้มตอบปัดทีเล่นทีจริง  ดูเหมือนจะชอบใจที่ถูกพี่ธานรู้ทัน

“........” ผมเงียบ  ยังคงนั่งมองเพื่อนสนิทไม่วางตา

“มึงเองก็คงไม่พนันข้างคนอื่นหรอกใช่ไหมล่ะ ถึงบางครั้งมึงจะระยำไปบ้าง แต่มึงมันเป็นพวกรักศักดิ์ศรีอะไรทำนองนี้” อีกฝ่ายทำทีวิเคราะห์   

“ได้” ผมยอมรับปากเรื่องลงพนัน

“ขอบคุณครับ” ไอ้โปรดผงกหัวยิ้มรับ 

“คุณไฟครับ เย็นนี้คุณไฟอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม” พี่ธานถามพร้อมหยิบสมุดเมนูของห้องอาหารโรงแรมมาเปิดดู

“ไม่หรอกครับ แล้วแต่ไอ้โปรดเถอะ” ผมตอบ

“ครับ แล้วกลางวันล่ะครับ” อีกฝ่ายถามต่ออีก

“ผมไม่หิวครับ” ผมปัดก่อนลุกเดินออกมาพร้อมกับแก้วกาแฟที่ไอ้เด่นซื้อมาให้  ได้ยินเสียงไอ้โปรดพูดกับพี่ธานว่า “ผมอยากกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัย ขับไปซื้อมาให้กินหน่อยสิ” แว่ว ๆ พร้อมกับพี่ธานที่ตอบกลับด้วยการถอนหายใจใส่  ทำเอาหลุดยิ้มได้นิดหน่อย 


วันนี้ทั้งวันผมก็นั่ง ๆ นอน ๆ  ถือเป็นการมาพักผ่อนไปในตัว  ส่วนไอ้โปรดพากันออกไปข้างนอกกับไอ้เด่น  เห็นว่าจะออกไปหามื้อกลางวันกินกัน  ผมก็อนุญาตให้ไปเพราะดูออกว่าคนของตัวเองระริกระรี้อยากออกไปข้างนอกจะแย่แล้ว 

ตกเย็นวันนั้น พี่ธานเตรียมอาหารเย็นด้วยการสั่งจากห้องอาหารของโรงแรมมากินที่ห้องพัก  บรรยากาศยามเย็นของที่พักบนภูเขาถือว่าไม่แย่นัก  จะว่าเย็นมากก็ไม่เชิง  เรียกว่าอากาศกำลังดีมากกว่า  เราตั้งโต๊ะและนั่งกินดื่มอย่างเรียบง่ายก่อนแยกย้ายกันไปเมื่อตกดึก  ที่ยอมแยกย้ายกันโดยง่ายเพราะพรุ่งนี้เช้าต้องออกเดินทางแต่เช้า  เนื่องจากไอ้โปรดมีความตั้งใจว่าอยากจะไปไหว้พระธาตุ  อาจจะฟังดูน่าเหลือเชื่อที่คนอย่างมันมีความประสงค์จะเข้าวัด  แต่ผมก็ไม่ขัดศรัทธาน่ะนะ   


- - - - - - - - - -


เวลาตี 4.30 น. ผมตื่นขึ้นก่อนใคร  อาบน้ำแต่งตัว  หยิบกุญแจรถยนต์ของไอ้โปรดที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะในห้องนั่งเล่นก่อนเดินทางออกมาคนเดียว

บรรยากาศช่วงฟ้าสางในต่างจังหวัดเป็นเวลาที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกกว่าตอนที่อยู่ในเมืองเสมอ  ระหว่างที่ขับรถไปตามเส้นทางมีรถยนต์ขับสวนไปแทบนับคันได้  เป็นเวลาที่พระออกเดินบิณฑบาตพร้อมกับเด็กวัดที่เดินตามหลังลัดเลาะไปตามถนนใหญ่เพื่อเข้าไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ  รถยนต์เคลื่อนตรงไปยังถนนเส้นหนึ่งที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะเป็นเส้นเดียวที่คนในค่ายจะต้องวิ่งผ่านสำหรับการฝึกเช้านี้

ผมจอดรถยนต์อยู่ที่ข้างอู๋ซ่อมรถแห่งหนึ่งที่ยังไม่เปิดทำการ  ออกมาหยุดยืนอยู่ข้างตัวรถ  ห่างออกจากถนนใหญ่หลายร้อยเมตร  พุ่มไม้ใบหญ้าโดยรอบรกร้างไม่ได้รับการดูแลทำให้ผมไม่เป็นที่สังเกต  ลมพัดผ่านทำให้ได้กลิ่นหญ้า  อากาศบริสุทธิ์ตอนเช้ามักมีกลิ่นพิเศษทำให้แตกต่างจากช่วงเวลาอื่น  ผมเอนหลังพิงท้ายรถไว้  นาฬิกาข้อมือบอกเวลา 05.00 น. ขณะก้มลงมองมือตัวเองที่ถือกล่องบุหรี่สีดำของเจ้าของรถ  นำติดมือออกมาด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ  ฝาบุหรี่ถูกดันออกด้วยนิ้วโป้งก่อนจะปิดลง  เสียงของการเปิดปิดนั้นเบาบางท่ามกลางเสียงต้นไม้ใบหญ้าที่ถูกลมพัดผ่านไป


แกรก.. แกรก... แกรก....

ครั้งสุดท้าย ฝาถูกเปิดทิ้งไว้อย่างนั้นครู่ใหญ่...

“........” ผมนิ่งมองบุหรี่ที่อัดแน่นอยู่ข้างใน  มีเพียงช่องว่างหนึ่งช่อง  มันถูกใช้งานไปแล้วหนึ่งมวน  ความลังเลยังคงอยู่ แต่ปากดันคาบสิ่งที่ทำให้ลังเลนั้นขึ้นมา  ไฟแช็กทำหน้าที่ในทันที  ไม่นานนักก็ได้กลิ่นกลิ่นเดียวกับเพื่อนสนิท

เสียงของพี่เลี้ยงนักมวยเร่งคนของตัวเองแว่วมาแต่ไกล  ขณะนั้นเองก็เห็นนักมวยและคนในค่ายค่อย ๆ ทยอยวิ่งออกมาเรียงแถวอยู่บนถนนใหญ่  ทั้งนักมวยรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ทั้งไทยและต่างชาติ  ทั้งที่เป็นนักชกอาชีพและพวกที่ยังถือว่าเป็นเพียงมือสมัครเล่น  แต่ละคนค่อย ๆ วิ่งผ่านหน้าไปพร้อมกับสุนัขของครูมวยในค่ายอีกหนึ่งตัวโดยไม่ทันสังเกตเห็นผม

ทั้งที่เต็มไปด้วยคนที่มีรูปร่างสมบูรณ์แข็งแรงในแบบโครงสร้างของแต่ละคน  แต่หมอนั่นกลับสะดุดตาผมกว่าใคร  ไม่ใช่เพราะหน้าตา  แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร  ทำไมถึงดูดีในสายตาผม  โทรศัพท์มือถือที่อยู่กระเป๋าหลังกางเกงถูกหยิบออกมาโดยอัตโนมัติ  นิ้วที่กำลังกดไปยังกล้องถ่ายรูปละล้าละลังเล็กน้อย  ทันทีที่ควันบุหรี่ค่อย ๆ ถูกปล่อยออกมา จู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจ  สุดท้ายจึงหยุดมือไว้แค่นั้น.. 


ผมเงยหน้าขึ้นมองสมุทรอีกครั้งหนึ่ง  คิ้วขมวดกับการกระทำของตัวเองอย่างอดไม่ได้  โทรศัพท์มือถือถูกกดปิดลงและสอดเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงไว้เช่นเดิมโดยไม่ถูกทำหน้าที่แต่อย่างใด  ผมก้มหน้าลง  มองรองเท้าหนังสีน้ำตาลคู่โปรดที่ใส่มาแล้วไม่รู้ต่อกี่ครั้งต่อกี่ครั้งจนหนังเกิดรอยเต็มไปหมด  นิ้วมือคีบบุหรี่ออกพลางใช้มือเดียวกันนั้นลูบหัวตัวเองอย่าง --ไม่เข้าใจ
 

ชอบอะไรนะ ?

ขี้อาย.. รอยยิ้มที่ดูใสซื่อมักจะปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งในบุคลิกที่เอาจริงเอาจังและนิ่งขรึม  แววตาใสซื่อนั่นก็ด้วย  ซื่อ แต่บางครั้งกลับแสดงความซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง  เหมือนต้องการแสดงให้เห็นถึงจุดยืนที่มีว่าจะทำร้ายเขาไม่ได้ถ้าหากเจ้าตัวเอาจริง  ความขัดแย้งนั้นเข้ากันได้ดีจนน่าแปลก  เป็นรอยยิ้มและแววตาที่ถูกใจจนไม่อยากที่จะละสายตาไปไหน  ความหมายของแววตาที่มักตรงไปตรงมาจนไม่กล้าทักออกไปว่าอีกฝ่ายเป็นเช่นนั้น  เวลาที่ถูกหลอกให้เชื่อ  สายตาของเขามักจะเต็มไปด้วยความประหลาดใจที่ตนเองถูกหลอกและก็เท่านั้น  มันว่างเปล่าคล้ายกับว่าไม่มีความแคลงใจใด ๆ อยู่ในนั้นเลย  ถูกหลอกเหรอ ไม่จริงหรอกมั้ง อะไรทำนองนั้น  เสร็จแล้วก็มักจะยิ้มอย่างเก้อเขินโดยไม่มีนัยแฝงใด ๆ 


ชอบความไม่ซับซ้อนบนใบหน้านั้น

แต่ลึก ๆ กลับมีบางอย่างซ่อนไว้ภายใต้ความใจดี  ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับสิ่งที่คนอื่นทำกับตัวเอง  แต่กลับปิดไม่มิดว่ากังวลการกระทำของตัวเองต่อคนอื่น  เหมือนจะดี แต่เป็นนิสัยแบบที่น่าหงุดหงิด...

ก็จริงของหมอนั่น  ผมกำลังทำอะไรอยู่กันแน่  ผมไล่ต้อนหมอนั่นหรือผมกำลังไล่ตามตัวเอง  ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่เล่นกับความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วยการหยิบเอาความเป็นคนเอาจริงเอาจังของเขามาใช้ประโยชน์ก็คือผม  เพราะชอบและมันก็สนุกดี  และก็รู้ด้วยว่าถ้าอีกฝ่ายตัดสินใจเด็ดขาดขึ้นมา  ไม่ว่าจะซ้ายหรือขวาก็จะส่งผลต่อผมทั้งนั้น  แต่กลับหยุดไม่ได้  หยุดทำให้อีกฝ่ายร้อนรนไม่ได้  อยากทำให้ลุกลี้ลุกลนจนคิดเรื่องอื่นไม่ออกทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีจุดหมายอะไรให้  ต่อให้ไปนอนกับใครก็อยากทำให้ประสาทเสีย  อยากทำให้เกิดแต่ความสงสัยในทุกการกระทำของผม


อยู่ดี ๆ ก็เกิดคำถามขึ้นมา  ว่าถ้าทำให้เป็นของตัวเองได้แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป...

“หึ รักดีไหมนะ” ผมพึมพำพลางแสยะยิ้มให้กับคำถามไร้สาระ  แล้วถ้าอย่างนั้น มีวิธีที่ทำให้เจ็บปวดจนไปไหนไม่รอดไหม

“ยิ้มชั่วจนน่าขนลุก”

“........” ผมหันขวับไปมองแขกไม่ได้รับเชิญ  ไอ้บูรณ์หยุดยืนตรงหน้าด้วยชุดที่พร้อมสำหรับวิ่งยามเช้า  เห็นเหงื่อมันซึมตามตัว  คงวิ่งมาสักระยะแล้ว   

“ไง” ผมยิ้มทัก

“กูพยายามคิดว่ามึงก็เป็นคนโอเคนะ แต่หลายครั้งกูปฏิเสธไม่ได้ว่าหน้าตามึงนี่มันเกิดมาเพื่อกวนตีนคนอื่นจริง ๆ” มันบ่นคล้ายหนักใจ

“ชั่วจนสงสารคนถูกมอง” ไอ้บูรณ์พึมพำและกวาดตามองไปยังกลุ่มคนที่กำลังวิ่งอยู่  คิ้วขมวดคล้ายสงสัยว่าผมมองใครในนั้น  แต่มันก็ไม่ถามออกมา

“หึ ๆ พรสวรรค์มั้ง” ผมหัวเราะปัดไปงั้น

“ไม่เห็นรู้ว่ามา” อีกฝ่ายพูด

“งั้นก็ช่วยทำเหมือนผมไม่มาได้ไหมละครับ” ผมตอบ

“ก็ได้อยู่” มันตอบรับอย่างยินดี  ผมหัวเราะในลำคอ  ชอบที่อีกฝ่ายหัวไว 

“ไม่ชอบให้คนอื่นสูบ แต่ตัวเองสูบเองเนี่ยนะ” ไอ้บูรณ์แสยะปากประชด  คงฝังใจเรื่องคราวก่อน

“จะทักทำไมเล่า ไม่กลัวกูอายบ้างรึไง” ผมบ่นกลับ

“อาย ? หึ..” อีกฝ่ายเบ้หน้าอย่างรับไม่ได้  ผมยิ้ม ยื่นบุหรี่ไปตรงหน้ามัน

“เลิกแล้ว” ไอ้บูรณ์ปฏิเสธหนักแน่น  คำพูดนี้ทำเอาผมยิ้มกว้าง   

“ก็ว่า ดูสุขภาพดี” ผมแซว  สำรวจมองหัวจรดเท้า  เห็นว่าสีหน้าก็ดีขึ้นด้วย

“ก็มีบางคนมันไม่ให้กูตาย” อีกฝ่ายประชดกลับ

“ฮิ ๆ ๆ” ผมยิงฟันหัวเราะชอบใจ  สิ้นเสียงหัวเราะจากผมบรรยากาศรอบตัวก็สงบลง  นักมวยวิ่งหายไปหมดแล้ว  ถนนใหญ่ว่างเปล่าอีกครั้ง   

“มาก็ดีแล้ว กูก็ว่าจะโทรไปคุยอยู่เลย ชกรอบถัดไป นักมวยคู่ชกของสมุทรมันโหดเอาเรื่องอยู่นะ ถึงสมุทรจะฝีมือดีแต่เวทีใหญ่แบบนี้กูกลัวว่า...”

“ฝากด้วยแล้วกัน” ผมตัดบทก่อนที่จะอนุญาตให้ไอ้บูรณ์ได้พูดจบประโยค  มันชะงัก  มองผมไม่กะพริบตา 

“เพราะมึงเคยชนะทางนั้นกูถึงได้พามา” ผมพูด  หยิบกุญแจรถที่วางอยู่ท้ายรถมาถือเตรียมไว้

“หน้าที่กลัวเป็นหน้าที่ของสมุทร ไม่ใช่หน้าที่มึง”

“อืม งั้นก็ได้” ไอ้บูรณ์พยักหน้ารับทราบด้วยสีหน้าหนักแน่นในทันที  ราวกับว่ามันตัดสินใจได้ด้วยตนเองว่าหลังจากนี้จะต้องทำอย่างไรต่อไป

“เต็มที่เลย มีอะไรก็โทรมา” ผมตัดบทบอกก่อนจะก้าวเดิน

“ไฟ...” อีกฝ่ายเรียกไว้  ผมหันกลับไปมอง 

“กูอยากบวช” มันพูด  ผมชะงัก  ไม่คิดว่าจะถูกบอกโต้ง ๆ เช่นนี้ด้วยสีหน้าจริงจังแบบนั้น

“บอกไว้ก่อน เผื่อมึงให้ตารางวันหยุดยาวกูได้เมื่อไหร่ ช่วยบอกกูด้วย”

“จะแต่งเมียเรอะ ?” ผมขมวดคิ้ว

“ใครบอกมึง” ไอ้บูรณ์ขมวดคิ้วงงงวยด้วยเช่นกัน

“โบราณ” ผมตอบ

“เฮ้อ กูละเหนื่อยใจ” อีกฝ่ายบ่น

“หึ ๆ เออ จบการแข่งเวทีนี้กูจะให้วันหยุดแล้วกัน” ผมบอก  ไอ้บูรณ์พยักหน้ารับทราบแล้วจู่ ๆ มันก็หยุดนิ่ง  เอาแต่จ้องผมอยู่ครู่หนึ่งคล้ายลังเลที่จะพูดบางอย่างออกมา

“ขอบคุณ” อีกฝ่ายบอกพลางเบือนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

“หึ กูว่ากูอยู่ประเทศไทยนะ ที่บ้านมึงไม่ได้สอนเหรอว่าเวลาขอบคุณเจ้านายให้ยกมือไหว้ด้วย” ผมแกล้งบ่นไปอย่างนั้นเอง

“เฮอะ !” ไอ้บูรณ์พ่นเสียงประชดประมาณว่า ชาตินี้กูก็จะไม่ทำกับมึง 

“งั้นกูต้องไม่รีบตายสิ เดี๋ยวไม่ได้เป็นเจ้าภาพ” ผมอมยิ้มพึมพำบอก  ได้ยินคนที่ยืนอยู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่  ประตูรถถูกเปิดออกและหยุดนิ่งไว้  ผมหันไปมองไอ้บูรณ์อีกครั้ง  เราสบตากัน  อีกฝ่ายพยักหน้าลาน้อย ๆ และสุดท้ายก็ไม่มีใครพูดอะไรจนผมเดินทางกลับออกมา



...............(ไฟ)..............


ผู้เขียน:

ตอนนี้เป็นการบรรยายความรู้สึกของไฟที่มีต่อสมุทรจริง ๆ ซึ่งความจริงแล้วไฟไม่เคยได้ทบทวนมันเลย  จนวันที่เกิดปากเสียงกันที่บ้านของสมุทรก็เหมือนเป็นจุดที่ทำให้ไฟได้ทบทวนตัวเองค่ะ


ติดตามการอัปเดตนิยาย The Real Me อย่าท้าให้บ้ารักได้ที่ - https://twitter.com/lightanocean


ขอบคุณค่ะ | เบบี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2021 10:22:05 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ sexysunn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
มาแล้ววววว มาพร้อมทวิต

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
คำบรรยายเยอะ ยังรู้สึกว่าไม่อิ่ม ดำดิ่งกับความละเอียดของไฟ ขอรักสมุทร และพี่ธาน อบอุ่นดี ส่วนไฟร้อนแรงเกินต้านทาน

ออฟไลน์ Mmp mmp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :mew1: :mew1: เขายังไม่คุยกัน

ออฟไลน์ Mmp mmp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ยังไม่คุยกัน :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
ยังไม่คุยกัน :ling1:

คุยแล้วไง

“ผมขออยู่คนเดียวสักสิบห้านาทีได้ไหมครับ” อีกฝ่ายถาม
“อืม” ผมพยักหน้าอนุญาต  ชี้มือไปที่ห้องพักห้องเล็กอีกห้องหนึ่งที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ
“ขอบคุณครับ”


กร๊ากกกกกก #หนีคนอ่านแป๊บ  :laugh:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
หลงเขาจะแย่อยู่แล้ว แต่กวนตีนเป็นนิสัย

ออฟไลน์ Nattapoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เป็นการคุยกันที่ทรมานใจกเชียร์มาก ความอึมครึมเริ่มคลี่คลายไป 1%

ออฟไลน์ eiei

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ติดตามตลอดเลยจ้าาาา
โตมาด้วยกัน Lol

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ไม่มีครั้งไหนที่จะอ่านแล้วไม่ลุ้น คือคุยกันแล้วเนอะ 5555++   

พี่ไฟก็แบบคลั่งรักเขาไปดิ เอาไงจะให้เขาเป็นของตัวเองรีบหน่อยก็ดีนะหนูว่า คริคริ

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ขอบคุณนะคะ รอสมุทร ทุกวัน ติดตามทวิตเตอร์ แล้วนะคะ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1

มีวิธีที่ทำให้เจ็บปวดจนไปไหนไม่รอดไหม

^
^
เอาจริงรึพ่อ
ว่าแต่ เม็ดเงินช่างมหาศาล

ออฟไลน์ Sarocha45377

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตอนนี้พี่สมุทรจะมีความรู้สึกยังไงต่อพี่ไฟบ้างเนี่ย  :hao4:

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
มารอว่าสมุทรคิดยังไง

ออฟไลน์ namaquaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
คุณไฟฟฟฟ คุณน่ะเข้าข่ายคลั่งรักเขาได้แล้วนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด