นิเทศตัวร้าย กับ สถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ 6
ตอน วุ่นวายยกกำลังสี่
By เดือนพราย
อะ... ซี๊ด
อ่า... อ๊า
ซี๊ด... อะ ไอ้ วิน หยุดก่อน ซี๊ด
หือ? ว่าไง ซี๊ดด ก็เราเสร็จก่อน พี่ยังไม่เสร็จ
แฮ่ก...วะ วิน กู... แต่ กะ กู
“ แต่กูเผ็ด!! ”
น้ำตาแทบจะร่วงมาเป็นเม็ดที่สิบได้แล้ว มือยังขึ้นพัดลมเข้าปากไปด้วยเผื่อมันจะชวนให้หายเผ็ดขึ้นมาบ้าง
“ มึงหยุดแดกก่อนดิว่ะ ” เอื้อมมือไปจับข้อมือมันให้หยุดตักข้าว
สะบัดออกอย่างเร็ว “ ไม่! รอกูกินเสร็จก่อนค่อยกิน เข้าใจ๋? ”
“ มันเผ็ด ไอ้สัด! ”
ผมร้องลั่นอีกรอบพลางสูดปากแลบลิ้นด้วยความเผ็ดร้อนที่กระจายไปทั่วปากผิวหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโต มองต้มยำชามโตที่แดงฉานราวกับไฟ มันใส่พริกกี่เม็ดวะ!!
“ ถ้าอยากกินน้ำก็เดินไปเองสิครับ ถ้าจะให้กระผมหยิบให้ก็รอผมกินเสร็จ ” วินเงยหน้าขึ้นมายักคิ้วให้พลางใช้ช้อนกลางตักน้ำต้มยำร้อนๆใส่จานตัวเองและกินต่อ “ อ่า ร้อน ”
“ กูหิวน้ำ ” ผมว่าไปพลางแลบลิ้นออกมาด้วย มันเผ็ด!
“ ก็ไปหยิบสิครับเมีย ”
“ ไอ้วิน ไปหยิบมาให้กูหน่อย! กูขี้เกียจ ” ผมบอกอ้อมๆ ทั้งที่จริงๆคือผมไม่อยากจะเดินทำความรู้จักกับห้องมันสักเท่าไหร่ ถึงสัดส่วนห้องจะเหมือนผมก็เถอะ
“ รอ ” มันยิ้มอารมณ์ดีพลางนั่งกินข้าวต่อหน้าตาเฉย
“ นี่กูอ้อนมึงแล้วนะ ” ผมถอนหายใจอย่างเซ็งๆ เห็นหน้ามันที่กวนตีนแล้วอยากจะยกเท้าประทับหน้า
ไอ้วินหรี่ตามองอย่างประเมิน “ แถวบ้านไหนเรียกว่าอ้อนวะ ”
“ แถวบ้านกูนี่แหละ ”
“ งั้นลุกไปหยิบเองเลยครับเมีย ผัวทำข้าวให้แล้ว แถมผัวยังโดนถีบอีก ลุกครับลุกดิ ” เสียงกวนประสาทพูดไปเรื่อยและไม่มีท่าทีจะลุกไปหยิบน้ำให้ผมเลยสักนิด
ผมครางงึมงำในคออย่างขัดใจก่อนจะจำใจลุกขึ้นไปหาน้ำเย็นๆกิน แต่นั่นแหละสายตาก็ต้องมองไปรอบๆห้องมองดูรูปถ่ายนับร้อยถูกติดไปทั่วห้อง... ที่ไม่อยากเข้ามาก็คงเพราะผมไม่อยากรับรู้ตัวตนหรือทุกอย่างของมัน...
สายตาเจ้ากรรมที่มันดีเกินไปดันสะดุดเข้ากับรูปใบหนึ่ง ไม่รอให้สมองสั่งการใดๆ ตรงไปดูให้แน่ใจเลยว่าในรูปนับร้อยนั่น มันมี...รูปของผมด้วยเช่นกัน
รูปที่ผมกำลังยิ้มรับตอนได้แต้มนำคณะนิเทศในการแข่งบอลเมื่อไม่กี่วันก่อน...
ผมมองดูนิ่งๆจะเอื้อมมือไปหยิบแต่เสียงข้างหลังก็ดังขึ้นก่อนเลยต้องชักมือกลับ
“ เวลายิ้มออกจะดูดี ยิ้มบ่อยๆก็ดีนะ ”
“ เสือก ”
ร่างสูงเปรตหน้าตี๋เดินมายืนข้างๆผม “ ตอนนั้นมึงคงดีใจที่เตะเข้าใช่ปะ ”
“ เสือก ”
“ แล้วนี่มึงแข่งบอลต่อกับคณะไหน ”
“ เสือก ”
วินพยักหน้าขรึมๆ “ ขอบคุณนะ เมีย ได้มาตั้งสามเสือก เฮ้อ ”
เบ้ปากใส่มันหันกลับไปมองดูรูปตัวเองอีกครั้ง “ ถ่ายสวยดีนะ ”
แต่...ถ้าว่าไปกันตามความจริง
“ มึงมันก็โรคจิตเกิน ” ผมส่ายหน้าแล้วรู้สึกหมดคำจะพูด “ ...เป็นเอามากเหรอ ”
“ อืม เรื่องมึง...กูเป็นเอามากจริงๆ ”
หันไปมองมันที่ยิ้มขมๆมาให้เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ ไม่รู้อะไรดลใจให้ถามไป “ คิดดีแล้วรึไงที่จะจีบกู ”
“ คิด และจะไม่ใช่แค่คิด ” ใบหน้าทะเล้นดังเดิมหันมา “ จะจีบเลยต่างหาก รู้ตัวยังเนี่ยว่าจีบ ”
“ ไม่รู้ กูก็ควายแหละ ” ผมเบะปากใส่แล้วหันกลับมามองรู้ตัวเอง “ แล้วมึงคิดยังไงกับโลกของกู โลกของกูมันไม่ได้ปกติเหมือนของมึงนะ ”
“ ไม่ปกติมันก็ไม่เห็นเป็นไร ”
“ ... ”
“ สนุกดีออก ”
“ ตามใจมึงเถอะ ”
...โลกของผม กรุณาดูไล่ทีละคน ไอ้ลมงี้ ไม่รู้มันจะบ้าไปถึงไหน ไอ้ดินงี้จะเอาสปาต้าหั่นคอคนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไอ้ไฟเงี้ยจะดราม่าชวนปัญญาอ่อนเมื่อไหร่อีกก็ไม่อาจจะทราบล่วงหน้าได้ แถมไอ้เพื่อนทั้งสองก็ยังไม่ได้ถึงขั้นปกติดี ไอ้คิมเห็นปกตินั่นมันตอแหล! ส่วนไอ้ไผ่ก็รักษาเลือดเนื้อตัวเองสุดแต่งแม้วกะเหรี่ยงลงดอยได้เวลาไหนก็ใส่เวลานั้น ที่พีคสุดก็นู่นสายรหัสของผมไอ้พี่ไทม์ พี่รหัสโคตรจะหล่อแต่มัน...รอดูเองเถอะ ส่วนที่พีคสุดนู่น ไอ้เหี้ยพี่ปายเจ้าเก่าเจ้าเดิมคนปกติสุด...ผมประชด!
แล้วยิ่งมันเจอพี่น้องผมไม่ชอบหน้าแล้วมันก็นะ...
ไอ้วินยิ้มกริ่มและพูดต่อ “ รู้มั้ย คนเราน่ะ ถ้ามีอะไรที่เหมือนกันเกินไป มันก็เหมือนน้ำเต็มแก้วยิ่งเติมยิ่งล้น แล้วมันจะเติมเต็มกันได้ยังไง ”
ผมเงยหน้ามองมัน “ คิดได้ไง ”
“ จำมาจากบทละครปีที่แล้วหน้าที่สิบเจ็ดบรรทัดที่สิบ พระเอกพูดกับนางเอก และนางเอกเขินมาก ” หันมามองแล้วขยิบตาให้ “ มึงเขินปะ ”
“ ไม่อ่ะ มุกนี้พ่อกูใช้จีบแม่ตั้งสี่สิบปีก่อนแหละ ” ผมกลั้วหัวเราะ “ โบราณณณณ ”
เหวอเลยสิ “ มึงแม่ง... ”
“ จีบกู ไปฝึกมาใหม่ไป ” ไหวไหล่สั่นๆเพราะกลั้นขำ
หัวเราะร่าอย่างพอใจเมื่อทำมันหน้าเสียไปได้ หันตัวมาเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำมาขวดดับความเผ็ดร้อนในปากที่น่าจะหายเผ็ดไปนานแล้ว หยิบส่งให้คุณเจ้าของห้องไปขวดหนึ่งแล้วเดินกลับมานั่งกินข้าวต่อ
“ มึงมันน่าหงุดหงิดที่สุด ” ไอ้วินเดินตามมาหัวเสียใส่แล้วนั่งลงจวกข้าวต่อ
“ เก็บไว้บอกตัวเองเถอะ ”
“ งอนเป็นน่ะเฮ้ย! ” มันโยนช้อนส้อมลงจานเสียงดังเหมือนเป็นการประท้วง หยิบหมอนมากอดแน่นแล้วกอดมันไว้นั่งพองลมแก้มมองค้อนมาทางผม “ ไม่ให้กำลังใจแล้วยังจะมาตัดทอนกำลังใจกันอีก ”
“ ขอให้จีบเหรอ ” ทำหน้ามึนๆใส่มัน “ ไปจีบคนอื่นสิ ”
“ ชอบคนนี้ ต้องจีบคนนี้ดิ ”
ผมสตั๊นนิ่งไปเลยกับประโยคเรียบๆไม่ได้ปรุงแต่งให้สวยหรู พยายามบังคับตัวเองอยู่นานไม่ให้ยิ้มออกมา แต่ไอ้วินก็ชะโงกหน้ามาเห็นจนได้
“ แน่ะๆ เขินอ่ะเด้ ” หัวเราะอย่างภูมิใจ “ มุกนี้ผ่าน ”
ผมเม้มปากนิดๆจะยกเท้าถีบมัน มันก็หลบทัน แล้วยังมีหน้ามาล้ออีก
“ เบื่อจะเล่นกับมึงแล้ว ” หน้าบึ้งขึ้นนิดหน่อยเพราะถีบมันไม่โดน “ กูอิ่มแล้ว กลับห้องล่ะ ”
มองดูนาฬิกาไปด้วยก็เห็นสมควรแล้วว่าควรจะเสด็จไปอาบน้ำและทำงานต่อ... ไอ้ตี๋มันเบะปากหนักกว่าเดิมถอนหายใจแล้วพยักหน้ารับ
“ เมื่อกี้บอกงอนอยู่ เนียนไม่ง้อเลยนะ” มันสะดีดสะดิ้งใส่พลางบ่นงึมงำอยู่คนเดียว “ รอได้เป็นผัวก่อนนะ จะจิกใช้เช้ายันเย็นเลย วินค่ะ วินขาเล้ย”
พอดีได้ยินไม่ถนัด “ มึงว่าไงนะ ”
“ อ่อ บอกว่าให้ธาราไปก่อนเลย เดี๋ยวเค้าเก็บจานล้างจาน อาบน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวจะตามไปนะ อย่าเพิ่งคิดถึงนะแปบเดียวครับ จุ๊บๆนะ ธาราขา ” ส่งจูบให้อีก...
แต่เมื่อกี้มัน...ไม่ได้ยาวขนาดนี้ไม่ใช่เหรอ
ยกมือชี้หน้ามันไว้แค่นั้นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรหันหลังเปิดไปจะกลับห้องแต่ประตูกลับถูกกระชากออกซะก่อน
แล้วก็เจอเข้ากับผู้ชายที่ตัวเตี้ยกว่าผมห้าเซน ใบหน้าเล็กขาวผ่องรับกับสีผมอ่อนของเจ้าตัว แววตากลมโตใสจ้องมาที่ผมอย่างงุนงง จมูกโด่งรั้นบ่งบอกความดื้อได้เป็นอย่างดี...
“ พี่เป็นเพื่อนพี่วินเหรอ ”
“ อือ ” ผมพยักหน้าแล้วมองกลับ “ เป็นแฟนวินเหรอ ”
“ ห่ะ ” คนตัวเตี้ยกว่าเบิกตางงๆ อ้าปากพะงาบๆ
เสียงจากข้างในตะโกนออกมา “ ใครมาเหรอธารา!! ”
ผมไม่ตอบได้แต่มองดูนิ่งๆร่างเล็กตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ มันล้างจานอยู่มั้ง เข้าไปสิ ”
สองเท้ารีบพาเดินออกจากห้องทันทีโดยที่ไม่ฟังเสียงของใครอีกคน...ตอนนี้ผมรู้แค่ว่าต้องพาตัวเองออกมาจากห้องไอ้เหี้ยวินให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะรู้สึกไปมากกว่านี้
“ เดี๋ยวดิพี่! เฮ้ย! เดี๋ยวเด้!! ”
จ้ำอ้าวไวยิ่งกว่าควายหาย...
“ พี่ พี่! ”
แล้วทำไมผมต้องรีบขนาดนี้ด้วยนะ...
มันคงเป็นเพราะ.... ผมกำลังรู้สึก รู้สึก
ปวดขี้!!!
ธาราคืนพื้นที่สักครู่ ข้าศึกบุก
กรกวินต์ได้เวนพื้นที่คืน
ผมขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างช่วยไม่ได้เพราะคำถามที่ถามไปไม่ได้รับเสียงของคนอินดี้จัดตอบมา ก้มหน้าล้างจานต่อ สงสัยคงเป็นไอ้ฟรานไม่ก็ไอ้วาไม่ก็ไอ้ไอซ์นั่นแหละมั้ง
เสียงปิดประตูดังเบาๆก่อนจะมีเสียงเท้าเดินเข้ามาใกล้ผม... เลยจำใจต้องเอี้ยวคอหันไปดู...
“ อ้าว เวียร์มาทำไมเนี่ย ”เมื่อรู้ว่าเป็นใครก็หันกลับไปล้างจานต่อ
ร่างบางในชุดนักศึกษาไหวไหล่เดินไปเปิดตู้เย็นหาอะไรกิน “ มาวันนี้ก็มาดูสารรูปเฮียนั่นแหละ ตายรึยัง ม๊าเป็นห่วง ไม่กลับบ้านกลับช่อง ”
“ งานเยอะ ”
“ เหรอ แต่เห็นพี่ฟรานบอกว่า งานหมดแล้ว ช่วงนี้ยังไม่มีโปรเจคใหม่นะเฮีย ” ความเจ้าเล่ห์แผ่ออกมาจนผมสะดุ้ง
“ เออ ยังไม่อยากกลับมีไรปะ ” ยอมรับไปตามตรง ก็มันขี้เกียจนี่
“ ก็แค่นั้น ” เวียร์พยักหน้าก่อนจะขโมยโค้กกระป๋องมากิน “ เออเฮีย เมื่อกี้เจอผู้ชายผมยาวๆ หน้าสวยๆ นั่นเพื่อนเฮียปะ”
“ เปล่า ว่าที่พี่สะใภ้มึงไง ” ผมโคลงหัวอย่างอารมณ์ดีพลางล้างจานไปด้วย “ สวยใช่มั้ย เหมาะกับเฮียใช่ปะ ”
“ เหรอ ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นแถมยังน้ำเสียงไม่ปกติอีก “ งั้นก็น่าสงสารนะ เมียเฮียดูจะเข้าใจผิดว่าผมเป็นแฟนเฮียไปแล้ว แถมยังรีบร้อนก้มหน้าก้มตาออกไปอีก ”
“ มึงว่าไงนะ! ” หันขวับไปมองไอ้เวียร์ที่กำลังทำหน้าทำตาเดี๋ยวพลัดโบกให้หน้าเสียโฉมเลยมึง
เวียร์ยกยิ้มสนุก “ เมีย เฮีย งอน ไป แล้ว ชัด ปะ”
ชัดเลย ชัดเลยยยยยยยยยย
มึงทำให้ครอบครัวกูแตกแยก! ไอ้เลว!
“ มึงล้างจานแทนกูทีดิ! ”
“ อ้าว เฮ้ย! ได้ไง ”
ผมกุลีกุจอวางจานที่ยังล้างไม่เสร็จลงแล้วรีบดีดตัวออกจากห้องโดยที่มือยังเต็มไปด้วยฟองน้ำยาล้างจานก็ไม่ได้สนใจ รีบวิ่งลงมาห้องมันแล้วเคาะอย่างบ้าคลั่ง เกือบจะสะดุดอากาศล้มไปสามตลบแล้ว
ปังๆ!
“ ธารา! เปิดเดี๋ยวนี้!มาเคลียร์กันก่อน! ”
ตอนนี้ผมกำลังกังวลมากๆ มากจริงๆ ถ้ามันเข้าใจผิดไปดาวอังคารขึ้นมาว่าผมไปหลอกมันทั้งที่ตัวเองมีแฟนแล้ว มันไม่ตัดโอกาสผมเลยรึไง ถ้าแย่ไปกว่านั่นคือมันรู้สึกไม่ดีกับผม รู้สึกไม่ดีตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มอะไรเนี่ยนะ บ้าเถอะ!! ที่อุตส่าห์ยอมมันมานี่หมดกันพอดี
แล้วนี้ไปตายที่ไหนวะ! ทำไมไม่มาเปิดประตู
สาบานได้เลย ในชีวิตนี้ไอ้วินไม่เคยมาบ้ากับใครขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะชอบนะ อย่าหวังเลยจะง้อขนาดนี้
“ อุ่น! เปิดประตูให้หน่อย! ” ยิ่งมันไม่ตอบกลับอะไรมา ผมยิ่งแย่ เริ่มกระบวนการคิดแง่ร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ
“ เชี่ยอุ่น! เปิดประตูให้หน่อย! ผัวน้องมาครับ! ”
ปังๆ!!
ทุบไม่ยั้งเลยครับ เปิดสิว่ะ!
ผัวะ!
ประตูถูกกระชากออกอย่างแรง ผมไม่ทันได้มองหน้าก็โผเข้ากอดหมับรัดอีกฝ่ายแน่น ไอ้ธารามันดีดดิ้นพอสมควรแต่ผมก็แรงควายและมั่นใจว่าเยอะกว่ามันแน่ เรายืนนิ่งกันร่วมนาทีได้จนได้ยินจังหวะหัวใจของใครอีกคน...เรียบนิ่งยิ่งกว่าอะไรดี ไอ้สัด หวั่นไหวบ้างเถิดดดด
“ คือ ธารา คืออย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ ” ผมละล่ำละลักพูด ยิ่งมันไม่ตอบผมยิ่งใจเสีย
“ ... ”
“ มึงโกรธกูเหรอวะ ”
“ ... ”
“ นี่ไง มึงไม่ตอบ ” หัวเริ่มกระบวนการคิดหาคำพูดอย่างว่องไว “ คืองี้นะเว้ย ที่มึงเห็นนั่นมันน้องชายกู กูยังไม่มีแฟนจริงๆ กูไม่ได้หลอกมึง ”
“ ... ”
“ ที่มึงรีบออกมาจากห้องกู เพราะมึงหึงใช่มั้ย ” ผมกลั้นยิ้มพลางกระชับกอดแน่นขึ้นไปอีก “ มึงหวั่นไหวแล้วอ่ะดิ เนี่ย ไม่พูดไม่จา เขินเหรอ ”
“ ... ”
“ ทำไมมึงไม่ตอบวะ ถ้าไม่ตอบ กูจะกอดมึงแบบนี้ไม่ปล่อย ”
“ เออ กอดได้กอดไป ” เสียงดังอยู่ไกลๆทั้งที่มันควรจะใกล้หูผม...
ลองพูดต่อ เหงื่อเริ่มตกนิดๆ “ ธารา นี่มาง้อนะเว้ย สนใจกูหน่อยสิ ”
“ กูน่ะสนใจ แต่มึงน่ะสนใจกูเปล่า ” เสียงหน่ายๆเนือยๆตอบกลับมา “ ผัวครับ มึงกล้านอกใจกูไปกอดคนอื่นเหรอครับ ”
“ หะ หา ”
ผมชะงักกึก...ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองคนที่ผมกอดรัดฟัดเหวี่ยง รู้สึกคอจะแห้งเป็นผงไปชั่วขณะ... ผิวแทนแบบนี้ ตาคมแบบนี้ คิ้วเข้มแบบนี้ จมูกแบบนี้ ปากแบบนี้ กล้ามแบบนี้...
ใครวะ?!!!
กระโดดดีดตัวออกจากอีกฝ่ายราวกับเขาเป็นตัวเชื้อโรค หน้าผมไม่ต้องพูดถึง...ซีดเผือกยิ่งกว่าไก่ต้มน้ำปลาริมทางอีก ค่อยๆหันไปทางซ้ายต้นเสียงของธาราตัวจริงเมียจริงของผม
มันกำลังยืนมองผมนิ่งๆด้วยสายตาไร้อารมณ์เอนตัวพิงกำแพงกอดอก...
“ มะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ”
มันชี้ไปที่ตัวประกอบโคตรเข้ม “ ตั้งแต่มึงโผกอดพี่เขาเต็มรักนั่นแหละ ”
“ แล้วทำไมไม่เรียกวะ!! ”
“ ไม่อ่ะ สนุกดี ” สนุกดี แต่หน้ามึงตายมากครับ
ผมทึ้งหัวตัวเองอยากจะเอาหัวไปทักทายกับพื้นซีเมนต์เหมือนกัน นี่ผมเป็นบ้าอะไร เมื่อกี้ทำบ้าอะไรไป น่าอับอายที่สุดและระหว่างที่ผมออกอาการบ้า ตัวประกอบที่สำคัญก็ตบไหล่ผมเรียกสติ
“ น้องน่ารักดี มาเป็นเมียพี่มั้ย ” ไอ้ดำมันยิ้มให้ผมจนขนลุกเกลียว ผลักอกมันตั้งท่าเตรียมชกแล้ว
แต่มือขาวดันมาคั่นกลางไว้ซะก่อนพร้อมหน้าตาเตรียมรบของธารา...
“ โทษทีนะเฮีย พอดีคนนี้...ของผม ”
“ !! ” อึ้งเด้!!
“ ผัวผม อย่ายุ่งครับ ”
น้ำเสียงเสียดายจากใจจริง “ ว้า เสียดาย อยากได้ขาวๆตี๋ๆหมวยๆอยู่พอดี เฮ้อ เซ็ง ”
หมวยพ่องมึงเซ่!!!
ไอ้ธาราเกี่ยวคอลากผมที่เอ๋อรับประทานไปแล้วให้เข้าไปห้องมันที่อยู่ทางซ้าย... สรุปคือ... กูเคาะห้องผิด กูอธิบายผิดคน และกู...โง่เอง
ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยย
ปัง...
เสียงปิดประตูห้องจากธาราเรียกสติผมให้กลับคืน หันไปตีหน้าบึ้งเป็นยักษ์ทันที... “ ทำไมไม่เรียก หา!!! ”
“ ก็เห็นมึงตั้งอกตั้งใจกอดเขาขนาดนั้น กูก็ไม่อยากจะขัดจังหวะ ” พูดไปพลางเดินมานั่งหน้าโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยหยิบกระดาษลูกฟูกมาวัดแล้วก็ขีดเส้นไว้
“ แต่กูก็พูดชื่อมึงปะ ”
“ ก็ใช่ ” ยักไหล่ยิ้มๆ “ แล้วไงต่อ”
“ ทำไมไม่หวงกันบ้างวะ! ” ทรุดตัวกระแทกนั่งเอนหลังพิงหลังมัน
“ จำเป็นเหรอ ”
“ นี่ผู้ชายของมึงนะเว้ย หึงดิ หวงดิ! ” ผมพูดใส่อารมณ์น้อยใจ ขุ่นเคือง สารพัดใส่มัน ก่อนจะลดเสียงให้เบาลงราวกับพูดให้แค่ตัวเองได้ยิน “ มึงแม่ง...เคยใส่ใจใครบ้างปะวะ ”
“ ไร้สาระ งี่เง่า เมาก็ไปนอนไป ” สายตาของอีกฝ่ายแอบเหลือบมองพื้นก่อนจะพูดอย่างปลงๆ โดยที่ไม่สบตาผม
“ มึง... ” หันหน้าไปจะระบายอารมณ์ใส่มันอีกรอบแต่ก็ต้องตกใจเพราะมันก็หันมาเหมือนกันเท่านั้นไม่พอประกบปากผมแน่นแล้วเริ่มจูบบดคลึงริมฝีปากผมช้าๆปล่อยให้ผมนิ่งค้างไม่ได้ตอบกลับ... ปล่อยให้มันจูบบดคลึงอยู่แบบนั้นไปเรื่อยๆ...ในอกเริ่มเต้นแรงขึ้น....
ขอกรี๊ดได้มั้ย มันจูบผมก่อนเว้ยยยยยย
มันกินยาลืมเขย่าขวดรึไงวะ!!
มันค่อยๆผละออกแล้วจ้องหน้าผมในระยะประชิด...
“ ขี้งอน ขี้น้อยใจนะมึง ” มันว่าเบาๆ คลี่ยิ้มนิดๆ “ แล้วก็เรื่องน้องมึง เวียร์มันวิ่งมาบอกกูแล้ว แต่ไม่นึกว่ามันจะแกล้งมึงต่อ ”
อ้าว ไอ้น้องเหี้ย!
“ แล้วอีกอย่าง ” น้ำเสียงมันอ่อนโยนจนใจผมแทบจะกระเด็นออกมา “ ของของกู ยังไงกูก็หวง ”
ซึ้งสัด... วันนี้ที่รอคอยชัดๆ...
อย่ายิ้มดิ ใจสั่นมากครับ “ ยิ่งเป็นมึงแล้ว กูยิ่งหวง ”
โอ้ พระผู้เป็นเจ้า ท่านกำลังเอ็นดูผมใช่มั้ย
“ เพราะว่า... ” มึงชอบกู มึงชอบกู โอม จงชอบกู ชอบกู
“ มึงเป็นขี้ข้ากู ”
เพล้ง!!!
หัวใจแตกสลายยิ่งกว่าจุลินทรีย์ในยาคูลล์...
“ ถ้าไม่มีมึงแล้วกูจะใช้ใคร ”
ผมทำอะไรให้ท่านไม่พอใจเหรอถึงทำกับผมเช่นนี้...
จากผมยืนอยู่บนสวรรค์ ถูกฉุดกระชากลงเหวลึกเลย...
“ ไหนๆก็มาแล้ว กูซักผ้าไว้ยังไม่ได้ตาก ไปตากให้ทีดิ ”
“ ไม่!! ” ผมโพล่งขึ้นมาพร้อมลุกขึ้นพรวดท่าทีแข็งขืนของผมทำเอาธาราหรี่ตาจิกทันที
“ มึงว่าไงนะ ”
“ กูไม่ทำ ” เป็นชายเราต้องอย่าไปกลัวเมีย ธาราจ้องผมเขม็งก่อนจะลุกขึ้นตามผมพร้อมอาวุธในมือ...
ชูคัตเตอร์ทำปลวกรายยยย “ มึงว่าใบมีดมันยังคมมั้ยวะ ”
“ คือ... คือ กู ไม่ ” มือเริ่มเย็นขึ้นมา
“ เอ๋? ก็ยังคมอยู่น่า บาดเนื้อคงได้เลือดเยอะแน่ ”
เหงื่อกูจะตกไปถึงไหนวะ! “ กู ไม่ ”
“ หือ ไม่อะไร ” เมียครับ อย่ายิ้มตอนถือของมีคมสิครับ
“ ไม่ปฏิเสธจ๊ะ ตากผ้าใช่มั้ย อู๊ยยย ได้เลยจ๊ะ ผัวยินดี๊ยินดีทำ ”
มันยิ้มพอใจแล้วกลับไปนั่งทำงานต่อ “ ดีมาก ”
ได้แต่ปลอบใจตัวเอง...
อย่างน้อย... มันก็ยังหวงขี้ข้าเช่นกูวะ!!
ฮือ...ดีใจจริ๊งจริง
กรกวินต์ขอคืนพื้นที่ไปตากผ้าทั้งน้ำตา...
ต่อโพสล่าง