ศัลยแพทย์รูปหล่อเหลือบมองเด็กข้างตัวตลอดทางที่ขับรถกลับคอนโด เงียบไม่พอยังเอาแต่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหม่อไปนอกรถ ตอนกินข้าวก็กินนิดเดียวทั้งที่เป็นคนบอกเองว่าอยากกินสุกี้ เขาบังคับจนเหนื่อย หากแม้แต่แครอทกับฟักทองที่ชอบมากๆ ยังเอาเข้าปากไม่กี่ชิ้น จะว่ามีเรื่องกับโธมัสคงไม่ใช่ หรือเป็นผลข้างเคียงจากการรักษาก็ไม่น่าใช่อีก เขายื่นหลังมือไปแตะซอกคออีกคนจะวัดอุณหภูมิอีกทีก็ปกติทุกอย่างแต่ที่แปลกคืออลันด์เบี่ยงตัวหลบมือเขานี่แหละ
วันนี้แมวดื้อของเขาพยศเว้ยเฮ้ย! จนรถจอดเข้าที่ดับเครื่องแล้วทิวากานต์ตัดสินใจยังไม่ปลดล็อคก่อนโน้มตัวเข้าไปหาอีกคน ปลายจมูกโด่งแตะแถวๆ แก้มและซอกคอดมฟุดฟิดแล้วจะจบด้วยจูบปากเหมือนเคย เท่านั้นเด็กฝรั่งตัวแสบก็เอียงหน้าหนีหลบสายตา
“ถามอีกที มีอะไรหรือเปล่า”
“คิดว่ากำลังมี” เงียบไปพักใหญ่ตาสีฟ้าจึงยอมเงยสบกับอีกคน
“อ่าฮะ แล้ว...”
“ขึ้นข้างบนเหอะ ผมเหนื่อย” อลันด์ตัดบท ทำท่าเหมือนจะสวมกอดทิวากานต์กลับแต่ความจริงต้องการเอื้อมแขนมากดปลดล็อครถ
ตาคมมองคนเด็กกว่าเอื้อมตัวไปเบาะหลัง หยิบหนังสือกับถุงขนมมาถือไว้แล้วเปิดประตูลงจากรถไป อาการแบบนี้บวกกับลางสังหรณ์บางอย่างบอกชัดเลยว่า
‘มี’ ที่ว่าเนี่ยเกี่ยวกับเขาเต็มๆ
ทิวากานต์สาวเท้าเดินเคียงอลันด์ไปถึงลิฟต์ก่อนแย่งหนังสือเรียนเล่มใหญ่มาถือไว้เองเกือบหมด อีกคนก็ไม่หือไม่อือ ยืนเงียบทำหน้านิ่งตามสไตล์เหมือนตุ๊กตากระเบื้อง จนถึงหน้าห้องแทนที่จะกดรหัสประตูเข้าไปก่อนเหมือนเคยจู่ๆ ร่างสูงแค่หัวไหล่กลับหมุนตัวหันมาเผชิญหน้าแล้วแบมือ
“ขอหนังสือคืนด้วย คืนนี้ผมจะกลับไปนอนที่ห้อง”
“ทำไมล่ะ” เขาไม่ได้ยื่นหนังสือคืนให้แต่ดึงมันมากอดแนบอก ใช้มืออีกข้างกดรหัสเปิดประตูห้องรอให้อลันด์เดินเข้าไปข้างใน
“เดี๋ยวพรุ่งนี้คิวมาเลยไม่อยากรบกวน”
“มาติวที่ห้องฉันก็ได้นี่ ยังหวงอีกหรือไง หือ...เด็กน้อย”
“เปล่า แค่ไม่อยากรบกวนจริงๆ”
“พูดตลกน่ารบกวนอะไรกันตอนนี้ มาอยู่จนเหมือนเป็นเจ้าของไปแล้วเพิ่งรู้สึกเหรอ” ทิวากานต์หัวเราะเบาๆ มือข้างว่างลูบผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากกลับขึ้นไป หัวใจเต้นแรงขึ้นเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์บีบคั้นที่เขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
หรือบางทีอาจจะรู้แล้วแต่แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ... ไอ้อาการจะเสียของรักเนี่ยทำไมจะไม่เคยเป็น“พรุ่งนี้ก็ติวอยู่นี่แหละเดี๋ยวจัดมื้อใหญ่ให้ อยากกินอะไรพิเศษไหม หือ อัลว่าไง...”
คนฟังได้แต่เหยียดยิ้มแกนๆ แพขนตาสีอ่อนหลุบต่ำก่อนใบหน้าขาวซีดจะสะบัดไปมาแทนคำปฏิเสธ แล้วพูดประโยคดั่งฟ้าผ่าลงกลางใจคุณหมอ “เราแยกกันอยู่สักพักดีไหมวา”
ทิวากานต์กลั้นหายใจไปสามวิก่อนหน้าหล่อๆ จะเปลี่ยนเป็นยักษ์แทบในทันที เขาพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ กดอารมณ์เดือดดาลไว้ในใจ เอียงคอกดสายตามองอลันด์ที่อยู่ต่ำลงไป แสดงให้อีกฝ่ายรู้ชัดเจนว่าไม่พอใจอย่างที่สุด “ให้โอกาสพูดอีกที เอาดีๆ จริงจังนะอัล”
“ไม่มีแล้ว”
“ฉันอยากรู้เหตุผล!”
“ไม่มีเหตุผลหรอกวา มีแต่ความรู้สึก!” ตาสีฟ้าซีดเงยขึ้นสบอีกคนบอกแทนสิ่งที่อยู่ในใจ ทั้งเหนื่อยทั้งล้า “แค่รู้สึกตอนนี้ไม่อยากอยู่ใกล้ๆ วาเท่าไหร่”
“อยู่กับฉันแล้วอึดอัดเหรอ” เพราะเสียงแผ่วๆ เหมือนจะขาดใจของคนพูดระงับทิวากานต์ไม่ให้อาละวาดใส่อีกคนตามต้องการได้ชะงัด ใครบ้างได้ยินคนที่ตัวเองรักพูดแบบนี้แล้วจะไม่รู้สึกอะไร ไม่ใช่อลันด์เองหรือไงที่เข้ามาหาเขาก่อน แล้วพอไม่ต้องการกันก็เฉดหัวส่งแบบนี้?
ฝันไปเถอะว่าคนอย่างเขาจะยอม!!! “มั้ง? วาไม่คิดว่าเราใกล้กันเกินไปบ้างหรือไง ไม่มีคนข้างบ้านที่ไหนนอนเตียงเดียวกันทุกคืนหรอก”
ทิวากานต์มองคนพูดจาประชดประชันแบบเด็กๆ แล้วอยากจับมาเขย่าถามเหลือเกินว่าเกิดบ้าอะไรขึ้นมา แต่ที่เขาทำมีเพียงอาการยืนกัดฟันจ้องอีกคนแล้วตอกกลับเสียงนิ่งบ้าง “อ๋อ... จะให้แนะนำว่านี่แฟนฉันหรือไง”
“ก็ต้องเป็นอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ หรือว่าเราไม่ใช่ ที่จูบกันทุกวันนี้แค่จูบปากกับคุณพี่ชายข้างบ้านสินะ ไอ- ซี จะจำไว้”
“โธ่ อัล” ไม่ว่าพูดอย่างไรตอนนี้ก็มีแต่เข้าตัว ทิวากานต์จึงยอมลงให้อีกคน เขารู้ว่าอลันด์กำลังน้อยใจ สาเหตุคงมาจากอาการท่ามากของเขาหลายๆ เรื่องรวมกัน แต่... “ถ้ากับคนสนิทพี่บอกแน่นอนแต่นี่พี่กับเขาไม่ได้สนิทกัน สังคมหมอเมืองไทยมันแคบจะตาย เขาจะเอาพี่กับเราไปพูดต่อยังไงบ้างก็ไม่รู้ ถึงเห็นพี่ไม่ค่อยแคร์ใครแบบนี้แต่พี่ก็มีหน้าตามีสถานบันที่ต้องรักษาไว้เหมือนกันนะ”
“ทำไมผมฟังแล้วรู้สึกว่าคุณไม่พร้อมจะคบกับผู้ชายเลยนะ งั้นเรากลับไปเป็นแค่เพื่อนบ้านกันเหมือนเดิมดีกว่าไหม!”
“อัล! ขอร้องล่ะ อย่าเพิ่งประชดได้ไหม ฟังเหตุผลพี่แล้วคิดก่อนสิ ถ้าพี่ไม่รักพี่จะยอมอัลขนาดนี้เหรอ”
“ยอม... วาพูดเหมือนว่าโดนบังคับให้คบ”
“ไปกันใหญ่แล้ว ไม่ได้หมายความว่ายังงั้นสักหน่อย”
“So what? What do you mean? Huh, tell me. แล้วใครกันแน่ที่ยอม เอาเลย ตามสบาย เอาที่วาสบายใจเลย ผมเคยทำอะไรวาได้ที่ไหน ทุกวันก็มีแต่ทำตามที่วาบอก แม่ง...อย่างกับมีแด๊ดเพิ่มมาอีกคน เรื่องบนเตียงก็อีกเรื่อง ไม่อยากทำ ไม่พร้อม ทำกับผู้ชายไม่ได้ก็บอกมาตรงๆ ไม่ใช่จะทำๆ แล้วเลิกกลางคันแม่งทุกที เจอแบบนี้บ่อยๆ ก็เสียใจเป็นนะเว้ย ทำเหมือนเราเป็นอะไรสักอย่างที่ต้องฝืนทน แย่ชิบหาย...”
อลันด์พ่นทุกอย่างออกมารวดเดียวแทบลืมหายใจ ร้อนวูบวาบไปทั้งหน้าโดยเฉพาะกระบอกตาทั้งสองข้าง ไม่อยากร้องไห้ประจานตัวเองและให้คนใจร้ายเห็นแต่กลั้นไม่ไหวแล้วจริงๆ ถึงอย่างนั้นก็รีบใช้หลังมือปาดน้ำตาออกทันทีที่มันหยดลงมาบนแก้ม
เด็กฝรั่งกัดแก้มตัวเองยืนสั่นก่อนตัดสินใจพูดสิ่งที่คิดทบทวนหลายตลบตั้งแต่นั่งรถกลับมาออกไป “เลิกกันไหม วากลับไปคบผู้หญิงเหมือนเดิม ส่วนผมจะไปหาคนอื่นบ้างคบดูบ้าง อาจจะผู้หญิงไม่ก็ผู้ชาย เหมือนตั้งแต่มาอยู่นี้ดูจะมีเสน่ห์กับเพศเดียวกันเหลือเกิน วันนี้ก็เพิ่งมีเด็กวิศวะมาจีบนี่นะ”
“ถ้าไม่อยากให้ฉันโมโห หยุด - พูด - ประ- ชด - ฉัน - เสีย - ที”
“ไม่ได้ประชด พูด - จริง และ จะ - ทำ - จริง ด้วย!”
“อลันด์!!!”
ถ้าพวกนักศึกษาเคยเห็นทิวากานต์เวอร์ชั่นองค์ลงตอนทำงานได้มาเห็นสภาพตอนนี้ คงได้แต่ตบอกเรียกขวัญตัวเองพร้อมบอกว่าโชคดีแล้วที่เจอแค่นั้น เพียงตาคมหรี่ลงเหมือนสิงโตจ้องเล็งพร้อมตะครุบเหยื่อก็พลอยเอาคนถูกจ้องขาสั่นพั่บๆ แทบล้มทั้งยืน ไหนจะเสียงตวาดเมื่อกี้อีก ใครใจแข็งยืนสู้อยู่ได้ต้องขอนับถือจริงๆ
แน่นอนว่าอลันด์กลัวคุณหมอเวอร์ชั่นนี้มาก แต่เด็กฝรั่งตัวเท่าไหล่ไม่หลบไปไหน ยืนประจัญหน้าพร้อมสู้ตาย ถ้าทิวากานต์จะลงไม้ลงมือกับเขา เขาก็จะเอาหัวกลมๆ นี่แหละโหม่งคืนแม่ง!
สุดท้ายกลายเป็นทิวากานต์หมดความขยับตัวก่อนหลังสองหนุ่มต่างไซส์ยืนเล่นเกมจ้องตาแทนเสียงขู่แง่งๆ ใส่กันอยู่เกือบนาที เด็กตัวเท่าไหล่ถึงกับผงะไปข้างหลังแต่ก็พร้อมจู่โจมถ้าอีกฝ่ายแตะตัวเขา
ทว่าหากก่อนได้เกิดศึกวัยทรงชัยนอกรอบขึ้น เสียงเป้งของระฆังห้ามยกก็ดังขึ้นขัดตาทัพเสียก่อน ส่วนกรรมการผู้ห้ามไม่ใช่ใครอื่นไกลแต่เป็นนายธนาคารหนุ่มห้องข้างเคียงอย่างเมษาที่ไม่เห็นหน้ามานานนับเดือน
“หมอวาใจเย็นเย้นนน อย่าเพิ่งตีกันนะครับ” ชายไทยวัยสามสิบต้นๆ รูปร่างมาตรฐานเดินเข้ามายืนขวางระหว่างคุณหมอตัวยักษ์กับลูกครึ่งไซส์มินิขาสั่นกล้าๆ กลัวๆ กับแค่อลันด์น่ะไม่เท่าไหร่ แต่คุณหมอนี่สิเห็นผอมๆ บางๆ แต่ตัวใหญ่อย่างกับยักษ์แบบนี้น่ากลัวน้อยสักที่ไหน “มีอะไรก็ค่อยๆ พูดๆ ค่อยๆ จาสิครับ รู้ตัวหรือเปล่าว่าทะเลาะกันเสียงดังจนห้องอื่นเขาออกมาดูกันหมดแล้ว”
คุณเมษาบุ้ยคางไปด้านหลังทิวากานต์ชวนให้สองคู่กรณีหันไปดู เพื่อนบ้านห้องโซนเดียวกันแง้มบานประตูออกมาดู บางคนก็แอบมองจากหัวมุมหน้าลิฟต์ ดีว่าห้องคุณหมอกับเด็กฝรั่งอยู่สุดทางเดินเสียงเลยไปไม่ไกลถึงอีกฝั่งและโซนนี้ก็มีห้องแค่ห้าห้องเท่านั้น แต่แค่นี้ก็ขายหน้าเพื่อนบ้านมากแล้วสำหรับทิวากานต์ที่วางตัวเงียบขรึมมาตลอด
ทิวากานต์เสยผมอีกหนพลางลอบมองอลันด์ทำตัวลีบตัวเล็กหลบอยู่หลังเมษา ดูแล้วเหมือนไอ้ตัวแสบกำลังวางแผนชิ่งกลับห้องตัวเอง ความจริงจะเข้าไปลากกลับมาที่ห้องตัวเองก็ได้เพราะเขาก็รู้รหัสเข้าห้องอีกคน แต่เกิดเด็กนั่นบ้าจี้แจ้งตำรวจขึ้นมาเขานี่แหละจะซวยมากกว่าเดิม หากในตอนที่ภาพลักษณ์บางส่วนมันเสียไปแล้ว เขาก็ขอเสียให้มันสุดๆ ต่อหน้าเพื่อนบ้านเลยแล้วกัน!
“คุณเมษครับ” คุณหมอเจ้าเล่ห์เรียกกรรมการเสียงหวาน หากตายังคงมองอลันด์วาววับ เขารอจนเมษาขานรับก็รีบยัดหนังสือเรียนตั้งใหญ่ใส่มืออีกฝ่าย เท่านั้นการตะลุมบอนบังเกิดขึ้นทันที
ศัลยแพทย์ตัวโตกระโจนพรวดเดียวชนเมษาล้มตึงเข้าไปจับอลันด์ไว้ได้ก่อนอีกฝ่ายวิ่งหนีไปถึงหน้าห้อง 2112 ไอ้เด็กฝรั่งตัวแสบดิ้นปัดๆ สู้ขาดใจ เสียงอุทานของเพื่อนบ้านร้องดังระงม หากไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยอลันด์แม้แต่คนเดียว
สุดท้ายเด็กตัวเท่าลูกแมวหรือจะสู้คนตัวใหญ่กว่าเกือบเท่าได้ อลันด์ถูกทิวากานต์หิ้วเอวตรงเข็มขัดไว้ด้วยมือข้างเดียวท่ามความตกตะลึงของทุกคน เห็นเป็นคุณหมอตัวผอมแสนสุภาพใครจะนึกว่าแรงเยอะอย่างกับควาย พอลงแบบนี้ยิ่งไม่มีเพื่อนบ้านคนไหนกล้าเข้ามาช่วยใหญ่ ทุกคนทำได้แค่ยืนมองหนุ่มน้อยต่างชาติดิ้นปัดๆ ตะโกนแหกปากด่าคำหยาบคายเป็นภาษาอังกฤษพลางเอาถุงขนมฟาดขาคุณหมอถูกหิ้วเข้าห้อง 2111 ไป
ประตูห้อง 2112 ปิดดังปังเล่นเอาไทยมุงกระดุ้งกันเป็นแถวๆ ก่อนจะเปิดออกมาให้สะดุ้งกันอีกรอบพร้อมหน้าหล่อ ๆของคุณหมอใจโฉด “คุณเมษครับ ผมจะบอกว่าขอฝากหนังสือไว้หน่อยนะครับ คืนนี้ขอผมเคลียร์กับแฟนก่อนแล้วพรุ่งนี้จะไปเอาคืน”
รอบนี้เสียงปิดประตูดังสะเทือนเลือนลั่นแค่ไหนกลับไม่มีไทยมุงคนไหนสะดุ้งสักคน แม้แต่เมษาที่ถูกชนจนล้มไปนอนแผ่กับพื้นมีหนังสือเรียนเล่มหนาทับอยู่บนตัวยังได้แต่ลืมตาอ้าปากพะงาบๆ กับคำว่า ‘แฟน’
คุณหมอวามีแฟนแล้ว เป็นผู้ชายไม่พอยังเป็นเด็กห้องตรงข้ามที่เคยเกือบฟาดปากกันเมื่อเกือบสิบเดือนก่อน! ให้ตายเถอะ... นี่มันยิ่งกว่าวัวออกลูกเป็นแมวอีกนะเนี่ย!!!
“Shit! F*ck off!!! asdfghjkl!!!!!”
เด็กฝรั่งตัวแสบร้องลั่นสบถด่าไม่เป็นภาษาตลอดเวลาที่ถูกทิวากานต์จับหิ้วเข้ามาในห้อง สองแขนสองขาดิ้นคว้างกลางอากาศ ทั้งโกรธทั้งโมโหจนหน้าแดงแปร๊ดหากทำอะไรไม่ได้นอกจากขู่แง่งๆ จนถูกทิวากานต์จับโยนลงโซฟาเบด หน้ากระแทกเบาะนุ่มๆ จริงแต่เจ็บไม่น้อย ถุงขนมกระเด็นตกบนพื้นพร้อมไฟในห้องที่สว่างพรึ่บและเสียงแอร์คอนดิชั่นเริ่มทำงาน
“อู๊ยยย... ไอ้ด็อกเถื่อน หมอปีศาจ คนใจยักษ์ หน้าตาอย่างกับมาร ถ้าเลือดกำเดาไหลจะบอกคุณลุงให้ไล่ออก”
“ปากดีเข้าไปเถอะ ไม่สะทกสะท้านเว้ย” คนถูกด่ายืนกอดอกมองอลันด์โก่งตูดพยายามจะลุกขึ้นนั่ง แต่เหมือนเขาจะโยนแรงไปหน่อย จนตอนนี้เด็กนั่นยังเอาแต่นอนคว่ำหน้าซุกเบาะอยู่แบบนั้น แต่ก็ควบคุมง่ายดี “ให้โอกาสอีกที ครั้งที่สาม ครั้งสุดท้าย จะอยู่กับฉันไหม คิดให้ดีก่อนตอบนะ”
“ถ้าบอกว่าไม่ล่ะ”
“หึ”
เสียงเยาะจากเจ้าของห้องทำเอาเด็กตาฟ้าขนลุกซู่ สัญชาตญาณการเอาตัวรอดบอกให้อลันด์พลิกตัวกลิ้งลงจากโซฟาซะเดี๋ยวนั้น แต่ยังช้าไปกว่าคุณหมอที่เหมือนจะมีวิญญาณอัลเซเชียนเข้าสิง ทิวากานต์กระโจนพรวดเดียวกักอีกคนไว้บนโซฟาได้ทั้งตัวหมดทางหนีโดยสิ้นเชิง
“ตอบฉันมาซิ จะทิ้งฉันไปหาคนอื่นจริงๆ งั้นเหรอ จำไม่ได้หรือไงใครกันที่ขอให้ฉันจับมือนี้ไว้ ฉันเคยบอกเธอไว้แล้วว่าถ้าฉันเลือกจับมือใครแล้วจะไม่มีวันปล่อยมือเด็ดขาด ถ้าอยากไปต้องตัดแขนทิ้งอย่างเดียว จำได้ไหม หือ ไอ้ตัวแสบ จำได้หรือเปล่า!”
“ถ้านี่เป็นโอกาสครั้งสุดท้ายที่วาจะให้ผม นี่ก็เป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะให้วาทบทวนตัวเองอีกทีเหมือนกันว่ารักผมจริงๆ หรือเปล่า!”
“ไม่รักจะบ้าแบบนี้เหรอ”
“แล้วทำไมชอบทำให้ผมเสียใจ”
“ขอโทษ...” ชายหนุ่มก้มใบหน้าเอ่ยถ้อยคำนั้นชิดใบหูอีกฝ่ายก่อนผละออกมาดูอลันด์พลิกตัวนอนหงาย เห็นตาสีอ่อนแดงๆ เหมือนจะร้องไห้พลอยใจหาย ได้แต่ด่าตัวเองที่ทำให้คนรักต้องเสียใจ “พี่งี่เง่าเอง พี่ผิดไปแล้ว อย่าร้องไห้นะคะ พี่ไม่ชอบเลย นะ นะๆ ไม่ร้องนะคะ”
“แหวะ ประสาทกลับไปแล้วเหรอ” ทิวากานต์อมยิ้มแม้คนฟังจะเบะหน้าใส่ ดีใจที่อลันด์หยุดร้องไห้แล้วถึงจะหยุดเพราะเสียมู้ดก็เหอะ
“พูดเพราะๆ แบบนี้ด้วยชอบไหม หึ ชอบไหมคะ”
“อย่าเลยวา ขอร้องล่ะ ตลกมาก”
“จ้ะ จะไม่ทำแล้ว อะไรที่เราไม่ชอบพี่จะไม่ทำอีก จะตามใจทุกอย่างเลยดีไหม เพราะงั้นอย่าทิ้งพี่ไปนะ พี่แก่แล้วถ้าถูกเราทิ้งอีกต้องอยู่คนเดียวไปตลอดแน่ๆ”
“ทั้งกวนตีนทั้งตอแหลเลยนะวา หล่อขนาดนี้มีแต่คนอยากได้ล่ะสิไม่ว่า...”
“แต่ถ้าไม่ใช่คนที่รักจะมีความหมายอะไร” ปลายนิ้วเนียนนุ่มเหมือนเด็กปัดปรอยผมหน้าม้าของอลันด์ออกให้เห็นตาอีกคนชัดขึ้น เขามองใบหน้าคนที่เขารักก่อนจูบลงไปบนหน้าผากกว้าง “ขอโทษ กับทุกเรื่องที่ทำให้คิดมากแล้วก็เสียใจ พี่ยอมอัลไม่ใช่เพราะโดนบีบให้ยอม แต่พี่ยอมเพราะอัลคือคนที่พี่รัก ไม่ว่ายังไงก็ไม่อยากทำให้เสียใจ แล้วไม่ใช่พี่ไม่พร้อมแต่พี่แค่งี่เง่าไปเองคนเดียว”
ตาสีฟ้าปิดลงหลังทนมองคนบนร่างทำหน้าตาเจ็บปวดใส่ ตอนที่ทิวากานต์เห็นเขาร้องไห้คงรู้สึกอย่างเขาตอนนี้สินะ เจ็บปวดจนทนดูไม่ได้
“พี่ลืมไปว่าเราน่ะไม่ชอบถูกทิ้งถูกเมิน แต่ก็เผลอทำไปทุกที ไม่แก้ตัวหรอกนะ แต่สัญญาว่าในอนาคตจะปรับปรุงตัว”
อลันด์ยอมให้คนตัวโตโถมกอดทับลงมาทั้งตัว สองแขนโอบรอบคอทิวากานต์ไว้หลวมๆ รู้สึกดีขึ้นมากแล้วแต่ยังมีอะไรเล็กๆ ตกค้างอยู่ในใจ “เคยคิดบ้างไหมว่าทำไมผมถึงไม่เกิดเป็นผู้หญิงจะได้คบออกหน้าได้เหมือนคนอื่นๆ จะได้ไม่ต้องคิดมากเท่านี้”
“งั้นพี่ขอถามเรากลับบ้างนะ เคยอยากเป็นผู้หญิงบ้างไหม ตั้งแต่คบกับพี่มาเนี่ย เคยคิดสักครั้งไหม” เด็กฝรั่งส่ายหน้าแทนคำตอบ เรียกรอยยิ้มกว้างจากคนแก่กว่าแทบจะในทันที
“พี่ชอบเราที่เป็นอย่างนี้ล่ะ อลันด์ที่เป็นเด็กผู้ชายตัวกระเปี๊ยกหน้าตายกวนตีน คิดดูนะ...ถ้าเจอเด็กผู้หญิงแบบที่ว่ามาไม่เห็นจะน่ารักตรงไหน”
“เป็นผู้ชายก็ไม่น่ารัก”
“ใช่ม่ะ แต่ช่วยไม่ได้รักไปแล้วนี่หว่า” เขาหัวเราะคิกข้างหูอลันด์ แอบงับเล่นไปอีกสองทีเล่นเอาอีกฝ่ายดิ้นพล่าน “หน้าตาก็งั้นๆ แสบเป็นที่หนึ่ง ดื้อเป็นที่สุด ทำไมทำให้รักได้ขนาดนี้ แอบวางยาพี่หรือเปล่า สารภาพมานะ!” พอสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ทิวากานต์จึงกล้าเล่นกับเด็กฝรั่งในอ้อมแขนเหมือนเดิมแม้จะยังแอบกลัวแมวเด็กพยศขึ้นมาอีกรอบก็เหอะ
“ถ้าทำได้ผมไปวางยาผู้หญิงสวยๆ สักคนไม่ดีกว่าหรือไง อื้อวา...อย่ากัดหูมันจั๊กจี้ อ๊ะ! ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ พี่วา...”
“เรามันน่ามันเขี้ยว”
น่ากัดน่างับน่าฟัดที่สุดแล้ว อยากกินเข้าไปทั้งตัว ทิวากานต์แปลกใจเหมือนกันว่าทอมทนได้ยังไงตั้งหลายปีเพราะเขาเองให้ทนแค่ไม่กี่เดือนยังแย่เลย และตอนนี้คิดว่าจะไม่ทนแล้ว ขืนปล่อยให้ลอยนวลอยู่แบบนี้คงได้เสียให้คนอื่นไปจริงๆ
“พี่วา...ถ้าไม่คิดอยากทำก็หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าหยุดกลางคันอีกทีผมจะหอบเสื้อผ้าหนีไปนอนบ้านคุณตาจริงๆ ด้วย เห็นเปรยๆ อยู่ว่าจะซื้อคอนโดริมแม่น้ำให้อยู่แถมรถคันใหม่มาล่อ”
“ไม่ต้องขู่เลย พี่ทำจริงอย่ามาห้ามแล้วกัน” ว่าแล้วคุณหมอก็เนียนแทรกตัวเข้าไปอยู่หว่างขาอลันด์เรียบร้อย ริมฝีปากบางจูบหลังใบหูอีกคนเบาๆ ลากปลายลิ้นลงมาถึงคาง “ความจริงกะว่าจะพาไปสวัสดีผู้ใหญ่ช่วงปีใหม่ก่อน อยากทำอะไรๆ ให้มันเรียบร้อยเขาจะได้ไว้ใจให้เราคบกัน”
“หือ ผู้ใหญ่นี่ใคร บ้านผมหรือบ้านพี่วา”
“ป้าๆ ที่เลี้ยงพี่มาน่ะ เคยเจอไปแล้วสองคนที่กินแกงกะหรี่ด้วยกันเมื่อตอนนั้นไง”
“อ๊า...” เด็กแสบหลุดครางเสียงสูงยามปลายนิ้วนิ่มเกาเบาๆ ตรงคาง “ขะ เขาจะไม่ตกใจเหรอ อื้ม...”
“คงตกใจนิดหน่อย แต่รับรองจะไม่มีใครขัดขวางเราเรื่องนี้ อยากให้พี่ไปบอกมัมกับแด๊ดเราด้วยไหมล่ะ พี่พร้อมนะ”
“อย่าเพิ่งนะ อื้อ... ต่ำอีกนิดสิพี่วา กัดตรงนั้นแหละ”
“กัด?” ทิวากานต์ยอมผงกหน้าขึ้นจากซอกคอกรุ่นกลิ่นหวานแตงโมจาก Chic for Men by Carolina Herrera มองตาสีฟ้าซีดขอความมั่นใจจากสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่อีกที พอเห็นอลันด์ยักคิ้วอนุญาตเลยแยกเขี้ยวขู่หนึ่งที “ทำไมล่ะ กลัวแด๊ดช็อคหัวใจวายหรือไง ช่วยปั๊มให้ได้นะ ไม่อยากอวดว่าตอนอยู่ ER เรื่อง CPR เนี่ยถนัดมาก”
“ไม่ตลก!” มือขาวฟาดเพี๊ยะบนคางคุณหมอสักที เรียกริ้วแดงขึ้นทันตา “เรื่องนี้เดี๋ยวผมจัดการเอง ขอเวลาหน่อย แด็ดกับมัมคงทำใจไม่ค่อยได้ อย่างที่รู้...พวกเขาค่อนข้างหัวโบราณนิดนึง”
“โอเค พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน ถ้าเขาจะรับไม่ได้ถึงขั้นตัดออกจากองมรดกก็ไม่เป็นไร เด็กตัวแค่นี้พี่เลี้ยงได้ อาจจะไม่เท่าที่อัลเคยเป็นแต่จะพยายามให้ใกล้เคียงที่สุด แบบเสื้อนักศึกษาตัวละหมื่นของเบอเบอร์รี่อาจจะเหลือแค่ G2000 ตัวละไม่กี่พัน”
“หึหึ ปกติตอนเมคเลิฟกับสาวๆ พี่วาพูดมากอย่างนี้หรือเปล่า”
“ไม่หรอก แต่วันนี้จะเปิดซิงเด็กต้องหลอกล่อกันหน่อย”
อลันด์มองหน้าคนเจ้าเล่ห์ยิ้มตาปิด เห็นแล้วหมั่นไส้อยากเอาคืนให้ค้างบ้างสักที แต่แหม...หยุดถูไถๆ ตัวเองกับต้นขาเขาสักทีได้ไหม ถูจนขึ้นแล้วมันลงยากนะเว้ย
ทั้งฉุนทั้งเขินหากทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนให้ทิวากานต์ป้อนจูบลึกซึ้งให้ คนรักแก่วัยมากด้วยประสบการณ์เช่นทุกครั้ง เรียวลิ้นร้อนล้วงเข้ามาชวนเขาแลกการต่อสู้กันดุเดือด ทั้งผลักทั้งดันบางจังหวะก็ชักหนี ยั่วโมโหเขาจนเลือดขึ้นหน้าก็ผละออกไปแล้วกัดปากเขาทิ้งท้าย โดยระหว่างนั้นก็ถูกจับรูดเนคไทปลดกระดุมเสื้อแถมยังดึงกางเกงกับชั้นในโยนทิ้งพื้นไปอีกแบบไม่ทันให้ตั้งตัว
“โทษนะ พี่ไม่ชอบเล้าโลมเน้นแต่ปฏิบัติจริง” เสียงหัวเราะในลำคอช่างฟังดูร้ายกาจ แต่อลันด์ว่าเหมาะกับคุณหมอคนนี้ที่สุด และเขาคิดว่าเขาเป็นคนโชคดีที่ได้เห็นทั้งด้านดีและด้านร้ายของคนรัก
ทิวากานต์สอดประสานปลายนิ้วทั้งห้าเข้ากับฝ่ามืออีกฝ่ายจนแน่น ก่อนใช้เนคไทที่รูดออกมาเมื่อครู่พันมือตัวเองเข้ากับมืออีกฝ่ายไว้ด้วยกันแล้วยกขึ้นมาจูบด้วยความรักใคร่ เขากวาดตามองอลันด์ตั้งแต่ใบหน้าจนถึงส่วนล่างเปลือยเปล่า ผิวขาวจัดอย่างขาวตะวันตกขึ้นสีแดงเรื่อไปทั้งตัวเหมือนกุ้งต้ม
“ครั้งที่สอง”
“หือ?”
“ครั้งที่สองที่พี่ได้เห็นอัลสภาพนี้” ตาคมจงใจมองข้างล่างของเด็กแสบย้ำอีกที เคยโป๊ให้คนอื่นเห็นมาก็แล้วแต่ไม่เคยถูกจ้องจาบจ้วงด้วยสายลามกแบบนี้มาก่อน (ความจริงจะว่าไปต้องนับโธมัสด้วยนะ) อลันด์จะหนีบขาซ่อนส่วนกลางกายไว้ก็ติดตัวใหญ่ๆ ที่นั่งคุกเข่าขวางไว้นี่แหละ
“อย่ามามั่ว ครั้งที่สองได้ยังไง ครั้งแรกสิ”
“นี่จำไม่ได้จริงๆ เหรอ ที่ห้องผ่าตัดไง”
เท่านั้นแหละเด็กฝรั่งถึงกับอ้าปากพะงาบๆ ครางไม่เป็นภาษา ใช้มือข้างที่ไม่ถูกพันธนาการชี้หน้าคุณหมอ “อย่าบอกนะว่าคุณหมอคนนั้นเป็นวาจริงๆ น่ะ”
“แหงสิ จะเป็นใครไปได้ล่ะ ลงทุนไปขออาจารย์เป็นกรณีพิเศษเลยนะ เราตอนนอนนิ่งๆ ก็น่ารักดีอยู่หรอก แต่ตื่นมาแล้วงอแงชะมัด ทำเอาเขาวุ่นไปหมด น่าตีจริงๆ”
“ตอนนั้นมันขยับขาไม่ได้นี่นา แถมยังมึนๆ จะไม่ให้หงุดหงิดได้ไงกัน”
“ขาข้างนี้เหรอ” ไม่พูดเปล่ายังจับยกขึ้นมาพาดบ่า ไล่สายตาตั้งแต่น่องลงไปถึงต้นขาขาวเนียนไร้ขนยิ่งกว่าผู้หญิงบางคน “แผลตรงขาหนีบหายดีแล้วเนอะ งั้นเอาเลยแล้วกัน”
“เฮ้ยยย!!!” อลันด์ถึงกับร้องเสียงหลงตอนคุณหมอรูดซิบกางเกงตัวเองลงหน้าตาย นี่พี่จะไม่เล้าโลมอะไรแล้วใช่ไหม อุปกรณ์ป้องกันเตรียมพร้อมอะไรก็ไม่มี ให้ตายเถอะ!
“จะสดงดถุงก็ได้นะ พี่ตรวจเลือดทุกสามเดือนรับรองไร้โรคร้าย แถมงดกิจกรรมอย่างว่าตั้งแต่เรากลับมาไทยรอบนี้ มั่นใจได้ว่าสะอาดสุดๆ”
“โอ้ว - มาย - ก็อด ไม่ใส่คอนด้อมก็โอเค แต่...มันจะไม่เจ็บใช่ไหม”
“ไม่ลองก็ไม่รู้นะ พี่ไม่เคยลองกับผู้ชายมาก่อนด้วย แต่ว่าเจ็บนิดๆ น่าจะซี้ดซ้าดถึงใจดี ว่าไหม”
“ถ้างั้นพี่วาช่วยทำจนลืมเจ็บเลยนะ” แทนที่จะเขิน เด็กฝรั่งตอบกลับหน้าตาย ไม่รู้เอาจริงหรือแกล้งล้อเล่น แต่วินาทีคุณหมอเอาจริงและจะเอาให้ได้ ใครมาขวางได้มีการกินหัวกันแน่
ทิวากานต์หัวเราะเบาๆ พลางจูบแก้มไอ้ตัวแสบ “ไม่ใช่ว่าที่ยั่วให้โมโหจนทะเลาะกันเนี่ย เพราะหวังผลแบบนี้อยู่หรือเปล่า ห๊ะ ไอ้ตัวแสบ สารภาพมานะ”
“อะไรกัน ใครจะไปอยากทะเลาะด้วยบ่อยๆ” ปากบอกอย่างนั้นแต่รอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาได้ให้คำตอบแก่คุณหมอวัยสามสิบว่าเสียรู้เด็กแก่แดดเรียบร้อย แบบนี้มันน่าเอาคืนเสียให้เข็ด ร้องไห้อ้อนวอนขอให้เขาหยุดทรมานด้วยความรักบนเตียงจนน้ำตาอาบหน้าเสียจริงๆ
หมอศัลย์รูปหล่อล้วงเอาเจลหล่อลื่นจากส่วนไหนของห้องรับแขกก็ไม่ทราบมาช่วยก่อนเริ่มกิจกรรมเข้าจังหวะ หาก กระนั้นเด็กฝรั่งตัวแสบยังคงเจ็บน้ำตาคลอทำหน้าตาน่าสงสารตั้งแต่นิ้วแรกที่สอดเข้ามา เจ็บจนอยากหยุดแต่จะให้เลิกตอนนี้คงได้ตีกันอีกรอบเลยกัดฟันทนเจ็บไปพักใหญ่ พอเริ่มชินอะไรๆ มันก็เพลิดเพลิน อลันด์ร้องครางเสียงแหบต่ำพลางแลกจูบกับอีกคนนัวเนีย บางครั้งก็หลุดร้องเสียงสูง เกือบกรี๊ดออกมาก็มีเพราะศัลยแพทย์รูปหล่อเล่นกัดเสียขึ้นรอยฟัน ตั้งแต่หลังหู ไหปลาร้าลงมาถึงท้องน้อย ถึงกับซี้ดปากด้วยความเสียวดังเป็นระยะ
กระทั่งทิวากานต์เปลี่ยนนิ้วเป็นอันที่เพิ่งควักออกมาจากในกางเกง เด็กฝรั่งถึงกับสะดุ้งหลังลอยจากโซฟา ทั้งเจ็บทั้งจุกจนน้ำตาไหลพราก แต่เหมือนคนแก่กว่าจะติดเชื้อซาดิสม์มาจากไอ้หมาลูกเสี้ยวเยอรมัน แทนที่เห็นเขาร้องจะเข้ามาปลอบกลับยิ่งกระแทกกระทั้นเล่นเอาร้องไห้โฮกัดปากตัวเองแดงช้ำไปหมด ส่วนกลางตัวแข็งตึงใกล้ถึงฝั่งแม้ไม่ได้แตะเลยสักนิด
ถามว่าทรมานไหม ตอบได้ทันทีว่าทรมานสุดๆ แถมเจ็บอีกต่างหาก ร้องไห้ส่งเสียงครางจนแหบแห้งคนทำไม่มีสงสารสักนิดนอกจากจูบปลอบอยู่ไม่กี่ที มือข้างที่ถูกผูกกันไว้รัดแน่นจนชา แต่น่าแปลก...อลันด์กลับชอบให้ทิวากานต์รักเขาแรงๆ แบบนี้ จะว่าเป็นมาโซก็ยอมรับตรงนี้เลย เจ็บแล้วรู้สึกฟินคงตีความไปเป็นอื่นไม่ได้
อลันด์เกลือกใบหน้ากับโซฟาตอนใกล้ถึงฝั่งฝันเต็มที คนทำเหมือนจะรู้จึงรีบซอยสะโพกใส่ถี่ๆ จนซิบกางเกงข่วนต้นขาขาวจัดถลอกเป็นแผลเล็กๆ ถัดจากนั้นไม่ถึงนาทีน้ำสีขาวขุ่นจึงได้พ่นทะลักทลายออกมาเต็มหน้าท้อง บางส่วนกระเด็นไปไกลถึงปลายคางแถมเลอะเปรอะไปถึงเสื้อทำงานของทิวากานต์อีก
ทั้งที่ถึงจุดหมายแล้วแต่ความทรมานอันหวานหอมยังไม่จบเสียทีเดียว เด็กฝรั่งยังคงครวญครางต่อไปยาวนานหลายนาทีจนคนแก่กว่าเข้าถึงเส้นชัยปล่อยน้ำอุ่นเข้าไปในตัว เล่นเอาผิวกายร้อนวูบวาบกันทั้งสองฝ่าย เสียงแข่งกันหอบหายใจดังก้องภายในห้องรับแขก ตาสองสีจ้องมองกันเงียบๆ ไม่รู้จะพูดอะไรในเมื่อหน้าตาของหัวใจบอกแทนไปหมดแล้ว เป็นคำว่า รัก คำนี้คำเดียว
ทิวากานต์ชอบความพิเศษของการมีเซ็กส์กับคนที่รัก รักช่วงเวลาอันแสนวิเศษนี้อยู่ด้วยกันในโลกที่มีเพียงคนสองคน แลกเปลี่ยนความรู้สึกและปรารถนาผ่านความเจ็บปวดอันสุขสมไปด้วยกันเพียงการสัมผัสร่างกายและมองตา
“Kiss me” ปากเด็กตัวแสบสั่งท่ามกลางความเงียบงันหากมือขยับดึงเนคไทคนบนตัวบังคับให้อีกฝ่ายโน้มหน้าลงมาแตะริมฝีปาก สัมผัสกันครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนไม่เคยพบและไม่รู้จักพอ เติมเต็มความสุขในอกที่ใส่เข้าไปเท่าไหร่ก็รู้สึกว่ามันไม่เต็มทั้งที่ล้นทะลักออกมาจนรู้สึกได้
เซ็กส์ไม่ว่าจะกับผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าได้มีกับคนที่รักล้วนแต่ให้ความรู้สึกดีๆ กลับมาอลันด์เข้าใจถ่องแท้แล้วว่าทำไมเขาถึงทำกับโธมัสไม่ได้สักทีทั้งที่เคยคิดว่ารัก นั่นเพราะความรักที่แท้จริงคือผู้ชายคนนี้ต่างหาก คนที่บอกรักเขาตอบผ่านร่างกายอยู่ตอนนี้ แค่คนนี้คนเดียวเท่านั้น ไม่มีอีกแล้วที่จะมีใครเหมือนทิวากานต์ และแม้จะบอกผ่านสายตาไปแล้วก็อยากพูดให้อีกคนได้ยินจนกว่าจะตายจากกัน
“ผมรักพี่วา”
รักจนไม่รู้จะพูดคำไหนได้อีก
รักจนตระหนักได้ว่าคงหายใจไม่ได้ถ้าวันหนึ่งทิวากานต์ทิ้งเขาไป
รักมากขนาดนั้นทีเดียวTBCซะ เซอร์ไพรส์กันไหมคะ 55555
มิมีสัญญาณบอกก่อนล่วงหน้าเลย
แต่ก็นะ...เด็กฝรั่งมันร้ายค่ะท่านผู้โชมมม
ออกตัวก่อนนะคะว่าไม่ถนักเขียนฉากรัก คงบรรยายขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง
ขอน้อมรับคำติชมและพร้อมปรับปรุงแก้ไขค่ะ ;-;
เขาได้กันแล้ว ตอนหน้าพี่วาจะหลงเด็กยิ่งกว่าเดิมหรือเด็กจะหลงหมอมากกว่า
ติดตามได้ตอนต่อไปค่า
จุ๊บๆ