3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบใครมากที่สุด (ถามอีกแล้ว 55)

พี่ภูคนโหด เรื่องหื่นไว้ใจได้
61 (25.2%)
น้องเกรียนฟิก ผู้มีสามี2คน
98 (40.5%)
พี่ตินคน(แอบ)โหด อย่าให้โมโหเชียว
83 (34.3%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 242

ผู้เขียน หัวข้อ: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46  (อ่าน 294608 ครั้ง)

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
อ้างถึง
พี่ภูก็เปรียบเสมือนพี่ชายคนนึงของผม อันที่จริงอยากบอกว่าเหมือนน้องชายมากกว่า
ฮา แต่ก็จริง  :m20:

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4




ตอนที่ ๒๗






เรื่องไอ้ภูทำผมเครียดขึ้นมานิดหน่อย ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรของมัน เมื่อตอนบ่ายมันโทรมาหาผม แต่เผอิญว่าติดเรียน ก็เลยไม่ได้รับสาย พอโทรกลับมันก็ดันไม่รับสายผมอีก ตอนแรกก็กะจะไม่ง้อมันหรอก แต่เพิ่งมารู้จากไอ้ตินว่าไอ้ภูมีอาการแปลกๆ ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกันแน่ ผมเองก็ไม่ได้คุยกับมันก็เลยเดาอะไรไม่ได้ เมื่อทนกับอาการร้อนรนไม่ไหว ผมจึงตัดสินใจโทรไปหาแม่ไอ้ภูเพื่อถามเรื่องของมัน (กับพ่อมันผมยังไม่กล้าโทรหา)

[ว่าไงหนูฟิก] อีกฝ่ายรับสายเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน

“เอ่อ คือว่าช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้ค่อยกับภู ไม่ทราบว่าช่วงนี้มันป่วยหรือเปล่าครับ”ผมกัดเล็บอย่างว้าวุ่นใจ ไม่รู้จะใช้คำแบบไหนถามอีกฝ่ายด้วย

[อ้อ…] ท่านหัวเราะเบาๆ

[พักนี้ท่าทางลูกชายแม่จะป่วยใจ] ผมใบ้กินไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี

[เรื่องบางเรื่อง ถามกันเองดีกว่าเนอะลูก แม่ไม่ค่อยอยากพูดถึงเท่าไหร่] เรื่องที่ไม่อยากพูดถึงสำหรับบ้านไอ้ภูมีเรื่องไหนบ้างวะ

“ครับ ยังไงแม่ก็ดูแลตัวเองด้วยนะครับ”อยากจะถอนหายใจออกมาดังๆ หลังจากที่วางสายมาจากคนแม่แล้ว ผมก็ต่อสู้กับตัวเองอย่างหนักว่าจะโทรหาตัวลูกต่อดีไหม

โทรก็โทรวะ!

ตอนแรกก็คิดว่ามันจะไม่รับสายผมเสียอีก ที่ไหนได้รับเร็วพอๆกัน

[สวัสดีครับ] สุภาพใส่ผมอีก

“มึงอยู่ไหน”ปลายสายเงียบไปเล็กน้อย
 
[บ้านไอ้ปา] ฟังจากเสียงของมันแล้ว มันคงมีเรื่องไม่สบายใจอยู่แน่ๆ

“เหรอ สบายดีรึเปล่า”ผมถามโง่ๆ เพราะไม่รู้จะเริ่มเข้าเรื่องยังไง

[…ก็ดี] ปลายสายกระแอมเบาๆ แต่ผมสัมผัสได้ว่ามันกำลังโกหก

“มีเรื่องอะไรอยากจะบอกกูไหม เล่าให้กูฟังได้นะ ถ้ามึงยังเห็นว่ากูสำคัญอยู่”ผมพูดเสริมเพื่อบีบให้มันบอกความจริงให้ผมรับรู้

[อืม มาหากูหน่อย] เสียงของมันอ่อนลง

“เรียกร้องความสนใจรึเปล่า”

[ก็แล้วแต่จะคิด] แปลกไปใหญ่ที่มันไม่ค่อยกวนประสาทผมเลย

“เออ เดี๋ยวกูไปละกัน”ผมชิงวางสายก่อน เพราะไม่อยากเจอกับบรรยากาศแปลกๆ ปกติไม่ค่อยได้เห็นไอ้ภูในโหมดนี้ ผมเลยไม่ค่อยชิน โชคดีที่ผมจำทางบ้านพี่ปาได้อยู่ พี่ปาเช่าอยู่กับแฟนสองคน เห็นว่าแฟนพี่แกจะเปิดร้านนมสดแถวๆม. พักนี้เลยออกไปไหนมาไหนกับไอ้ภูบ่อยๆ

เมื่อถึงที่หมาย ผมทำใจอยู่สักพักก่อนจะกดออดหน้าบ้านสองสามที รออยู่ไม่นานพี่ปาก็โผล่ออกมามอง ดูไม่แปลกใจเท่าไหร่เมื่อเห็นว่าผมยืนรออยู่นอกบ้าน

“พวกมึงนี่ขยันมีเรื่องกันจริงๆ”รุ่นพี่บ่นระหว่างที่เดินมาเลื่อนรั้วเปิดออก

“...ใครกันแน่ที่สร้างเรื่อง...เออ ว่าแต่เพื่อนพี่เป็นอะไร”ผมพยักเพยิดไปยังในบ้าน พี่ปาถอนหายใจเมื่อผมถามถึงไอ้ภู เดาจากสีหน้าหนักใจของพี่เขาแล้วไอ้ภูคงอาการไม่ค่อยดีจริงๆ

“มึงเข้าไปถามมันเองเถอะ”

“แย่ขนาดนั้นเลยเหรอพี่”

“ก็...เรื่องเก่าๆมันฝังใจ”ถึงตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับคู่อริที่ตายไปแล้วแแน่ๆ

“เหรอครับ...”ผมก้าวเข้าไปด้านในบ้านที่เงียบผิดปกติ กวาดสายตาหาไอ้ภู มันไม่ได้อยู่ที่โซนห้องนั่งเล่น ผมเห็นประตูที่เปิดไปสู่หลังบ้านเปิดแง้มไว้ เดาว่ามันคงไปนั่งทำเอ็มวีอยู่ตรงนั้นแน่ๆ ผมรีๆรอๆคิดหาคำพูดดีๆเพราะไม่อยากให้เกิดบรรยากาศแปลกๆเหมือนคราวไอ้ตินอีก

ผมเคาะประตูเบาๆเพื่อบอกให้คนด้านนอกรู้ ก่อนจะโผล่หน้าไปมอง เจอไอ้ภูจริงๆด้วย มันนั่งอยู่ที่เก้าอี้ผ้าใบ ข้างตัวมีกระป๋องเบียร์วางอยู่ ในมือถือมวนบุหรี่ที่หมดไปแล้วเกือบครึ่ง สีหน้ามันดูหม่นๆเหมือนถูกราหูอม ที่น่าตกใจคือมีรอยฟกช้ำปรากฎอยู่หลายแห่ง มันหันมามองผมก่อนจะหันกลับไปตามเดิม ผมถอนหายใจกับสภาพของมัน เดินเข้าไปดึงบุหรี่ออกมาจากมืออีกคน

“เลิกสูบได้ไหม กูขอ”ไม่รู้ว่ามันจะฟังคำพูดผมรึเปล่า ไอ้ภูเงยมองผมอีกครั้ง

“กูเครียดเฉยๆ”ผมลากเก้าอี้มาตัวเล็กๆมานั่งข้างๆมัน

“ไปมีเรื่องกับใครมา”ผมขยี้ปลายบุหรี่กับพื้นหญ้า ก่อนหันไปมองใบหน้าของไอ้ภูใกล้ๆ

“วันนี้กูไปบ้านไอ้ยศมา”มันไม่ตอบคำถามของผมแต่แทรกเรื่องอื่นมาแทน

“มันคือโจทก์เก่าที่ตายไปแล้วของกู วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของมัน”ผมเข้าใจทันทีว่าทำไมมันถึงมีสภาพแบบนี้ ผมสงสารมันจับใจ เพราะผมรู้ว่ามันฝังใจกับเรื่องนี้ ถึงภายนอกจะไม่แสดงออกมาก็ตาม

“อดีตมันกลับไปแก้ไขไม่ได้ กูรู้ว่ามึงรู้สึกยังไงแต่จะมัวมานั่งหงอยแบบนี้ได้ไง พรุ่งนี้มึงแข่งดนตรีไม่ใช่เหรอ พร้อมหรือยัง”ผมบีบไหล่ของอีกฝ่ายไปด้วย เปลี่ยนเรื่องคุยเพราะไม่อยากให้มันคิดมากเกินไป

“คนที่บ้านมันไม่มีวันให้อภัยกู...แต่ก็สมควรแล้ว กูมันเลวเอง”มันพึมพำเรื่องเดิม

“ถ้ารู้ตัวมึงก็ปรับปรุงตัวซะสิ กูไม่อยากเห็นมึงเป็นแบบนี้เลยว่ะ”นอกจากจะไม่ชินแล้ว ผมไม่อยากให้มันจมอยู่กับเรื่องแย่ๆในอดีต กลัวมันจะเป็นโรคซึมเศร้าไปซะก่อน
“พอดีกูคิดอะไรได้นิดหน่อย ตอนที่โดนปืนจ่อ--”

“อะไรนะ”ผมหันไปมองมันอย่างตกใจ วันนี้มันเจออะไรมาบ้างผมก็ไม่รู้หรอก เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องรู้และผมก็คิดว่ามันคงไม่บอก

“ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ แต่กูไม่เป็นอะไรหรอก บอกแล้วว่าคนอย่างกูมันตายยาก”ผมมองท่าทีของอีกฝ่ายก่อนจะคว้ามันเข้ามากอด ตอนนี้มันคงต้องการใครสักคน

“ถ้ามึงตายง่ายๆกูคงเสียใจแย่”ผมตบหลังมันเบาๆเหมือนกำลังปลอบเด็ก ไอ้ภูพ่นลมหายใจอุ่นๆออกมาก่อนจะซุกหน้าลงบนบ่าของผม

“กูคิดถึงมึง”ผมหลุดยิ้มออกมาทันที

“บอกแล้ว มึงขาดกูไม่ได้หรอก เสพแล้วเลิกยาก”

“เป็นแบบนี้ดีหรือไม่ดี”มันพึมพำเบาๆเหมือนคุยกับตัวเอง ผมปล่อยให้มันกอดอยู่นานสองนานจนมันเป็นฝ่ายผละออกมาเอง สีหน้าดูสบายใจขึ้น

“พรุ่งนี้กูจะไปดูมึงแข่ง”

“นึกว่าไม่อยากมาซะอีก”

“แค่อยากไปให้กำลังใจ หรือว่าไม่อยากได้”ผมเหลือบมอง เห็นว่ามันมีรอยยิ้มจางๆ

“ขอบใจที่ยังนึกถึง กูคิดว่ามึงจะโกรธที่กูทำแบบนี้...”

“บอกแล้วไงว่ากูเข้าใจ ย้ำว่าเข้าใจ แต่ขอถามหน่อย...”ไอ้ภูหันมารอฟัง

“ทำแล้วมีความสุขไหม”ถามคำถามเดียวกันกับไอ้ติน ไม่หวังว่าจะได้คำตอบที่ตัวเองก็รู้ดีอยู่แล้ว

“กูแค่อยากจัดการกับความรู้สึกของตัวเองก่อน”ไอ้ภูกระแอมเบาๆก่อนจะคว้ามือผมไปกุม

“รอกูก่อนนะ”

“มึงนั่นล่ะที่ต้องรอ”มันทำหน่าไม่เก็ท ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของผมเสียหน่อยที่ต้องบอกมันว่าผมจะไปเที่ยวกับพี่มินในช่วงปิดมิดเทอมสั้นๆ คราวนี้มันสองคนจะได้รู้ซึ้งถึงคำว่าห่างอย่างแท้จริงซะที ถือว่าได้ไปพักผ่อนหาความสบายใจให้ตัวเองบ้าง

“หมายความว่าไง”

“เปล่า”ผมไหวไหล่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นๆ อย่างน้อยๆตอนนี้ผมอยากให้มันสบายใจจากปัญหาที่เจอ เดี๋ยวมันจะประสาทแดกหากรู้ว่าผมจะไปกับพี่มินพี่พิสคนที่มันเหม็นหน้าทั้งสองคน แต่จะว่าไป...ผมนึกอาการของพวกมันสองคนออกเลยล่ะ!






********************************************








วันแข่งดนตรีคณะวิศวะจัดขึ้นที่ลานกว้างในคณะ ทั้งทีมาตั้งแสงสีพร้อม จัดช่วงเย็นๆคนเลยค่อนข้างเยอะ ส่วนมากจะเป็นสาวๆ ผมลากไอ้ชายมาเป็นเพื่อนเพราะไอ้เคนไม่ว่างต้องเฝ้าไข้เมีย

“คนเยอะชิบ คณะมันนี่ลงทุนเวอร์ ต่างจากคณะเราลิบลับ งบไม่ค่อยถึง”ไอ้ชายพึมพำ งานนี้นอกจากจะแข่งวงดนตรีแล้วยังมีงานออกร้านของพวกวิศวะด้วย

“แล้วไอ้ตินไม่มาเหรอ ถึงได้ลากกูมาด้วย”มันหันมาถาม ก่อนจะกลับไปมองสาววิศวะที่ร้านขายขนมครกตามเดิม
“เออ ไม่มา ถามมากว่ะ”ผมหาทำเลเหมาะๆ สอดส่องสายตาหาที่นั่งดีๆ

“ทางนี้ๆ”ไอ้เนมโบกมือมาจากฝั่งซ้ายมือ ใกล้ๆกับลำโพง ดีที่หันไปอีกข้าง ไม่งั้นได้หูอื้อหูแตกแน่ๆ ผมลากไอ้ชายเข้าไปหาไอ้เนม ข้างๆมันมีพวกเด็กปีหนึ่งและปีสี่ปะปนกันอยู่ ไอ้ปั๊มส่งยิ้มทักทายมาให้

“พี่ปาอ่ะ”ผมถามเมื่อไม่เห็นขาประจำ

“ยังไม่มา”ไอ้เนมยิ้มเหมือนคิดอะไรอยู่

“ตอนแรกคิดว่ามึงจะไม่มาซะแล้ว”

“แค่มาเชียร์เฉยๆ”วงของไอ้ภูแสดงคิวที่หกนู่น แต่ผมก็มาก่อนอยู่ดี

“คิดถึงมันอ่ะดิ”มันแซว ผมส่ายหน้าหน่ายๆ ไม่อยากจะตอบ ยังไงเดี๋ยวมันก็หาเรื่องแซวได้อยู่ดี

“อ้ะอ้าว มาเชียร์ด้วยเหรอน้องฟิก”ไอ้พี่ฉัตรโผล่มากับไอ้พี่กร ทั้งคู่ใส่เสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มเหมือนกัน ตรงอกซ้ายสกรีนรูปเกียร์ มีชื่อสาขาห้อยอยู่ด้านใต้

“ไม่ได้มาเชียร์มึงแน่นอน”ไอ้เนมแทรก วงของไอ้ภูประกอบไปด้วยไอ้พี่กร พี่เปามือกี้ตาร์ พี่ฉัตรร้องนำอีกต่างหาก (ไม่น่าเชื่อจริงๆ) และเพื่อนของไอ้พี่กรที่ผมไม่รู้จักเล่นเบส ส่วนไอ้ภูมือกลอง 

“พี่ภูอยู่หลังเวที”ไอ้พี่ฉัตรบอกไม่ทันขาดคำ เจ้าตัวก็โผล่มาพอดี มันเองก็ใส่เสื้อแบบเดียวกันกับสมาชิกในวง หน้าตามันแจ่มใสมากกว่าเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมกับมันก็ไม่ได้คุยอะไรมากอยู่ดี ไอ้เนมพึมพำอะไรสักอย่าง เบาๆ

“พวกมึงนี่เข้าใจยากจริงๆ”

“ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่มีอะไรง่ายหรอก”ไอ้เนมถึงกับเหลีนวมามองเมื่อได้ยินที่ผมพูด

“แหม ลึกล้ำจริงๆ กูก็หวังว่าพวกมึงจะคุยกันเร็วๆนะ กูเบื่อหน้าไอ้ภูแล้ว”เหตุเพราะไอ้ภูมักสลับไปค้างที่หอไอ้เนมด้วย ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าบ่อยแค่ไหน

“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้น กูไม่ได้คิดพิศวาสอะไรมันหรอก”ผมเหลียวมองเจ้าของคำพูดข้างตัวทันที

“ตลกแล้ว กูไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย”ไอ้เนมนี่หูตาไวจริงๆ

“แค่เห็นสีหน้ามึงกูก็รู้แล้ว”มันหัวเราะเบาๆ ระหว่างนั้นไอ้ตินก็โทรเข้ามาได้จังหวะพอดี

“มีไร”

[ไปดูพี่ภูแข่งดนตรีเหรอ] ผมไม่ค่อยได้ยินเสียงของมันเท่าไหร่เพราะเสียงพูดคุยจากรอบตัวบวกกับเสียงเทสเครื่องดนตรีจากบนเวที

“อืม พอดีอยู่ว่างๆ ทำไมมึงไม่มาล่ะ หรือว่ามีนัดแล้ว”ผมแกล้งพูดไปแบบนั้นอยากรู้ว่ามันจะตอบยังไง

[จะมีกับใครล่ะ ก็รักแค่คนเดียว] แอบเบ้ปากให้กับคำตอบของคนปลายสาย

“แล้วโทรมามีอะไร”ผมเปลี่ยนเรื่อง

[โทรหาแฟน]

“อ้าว นี่กูยังเป็นแฟนกับมึงอยู่เหรอ”

[เป็น ตอนนี้แค่อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ] ได้ยินเสียงลมหายใจมันแว่วมา

[มึงเบื่อไหม]

“ก็นิดหน่อย”ผมตอบไปตามตรง แต่มันก็รู้สึกแปลกไปบ้างเพราะที่ผ่านมาหากมีเรื่องไม่พวกมันก็ผมจะเป็นฝ่ายวิ่งตามตลอด พอได้อยู่เฉยๆถอยห่างบ้าง มันก็ดีไปอีกแบบ บางทีความสัมพันธ์ยุ่งยากแบบนี้อาจต้องการที่ว่างให้กันบ้างก็ได้ล่ะมั้ง

[ยังไหวไหม] ไอ้ตินนี่ถามโง่ๆอีกแล้ว

“มึงก็รู้ว่าคนอย่างกูไหวอยู่แล้ว”และผมก็รู้ว่ามันก็เหมือนกัน คนที่น่าเป็นห่วงคือคนอย่างไอ้ภูมากกว่า คนที่ไม่ค่อยมีที่พึ่งทางใจ อย่างตอนที่ได้อ่านไดอารี่ของพวกมันสองคน ความต่างอย่างเห็นได้ชัดคือไอ้ตินรับมือกับคำว่า ‘ไม่มีผม’ได้ดีกว่าไอ้ภูเยอะ เพราะไอ้ตินมันเป็นคนเข้มแข็งขนาดเจอเรื่องพี่อันมากิ๊กกั๊กกับผม มันยังทนได้ตั้งนาน คนที่ผมควรจะกลัวไม่ใช่ไอภูหรอก แต่เป็นคนอย่างไอ้ตินต่างหาก
ผมเหลือบมองไอ้ภูที่จับกลุ่มคุยกับพวกเด็กปีสองอยู่ สบตากับมันครู่หนึ่งก่อนจะเป็นฝ่ายเบนสายตาออกมาเอง

“กูไม่ค่อยได้ยินว่ะ แค่นี้ก่อนนะ”ไอ้ตินตอบอะไรมาสักอย่างที่ผมได้ยินไม่ถนัดนักแต่ไอ้ผมดันมือไวกดวางสายไปซะก่อน

“พี่ฟิกพอจะว่างไหมครับ”คนที่มาสะกิดผมไม่ใช่ใคร คือไอ้ปั๊มอดีตสายสืบของผมนี่เอง

“เออ ว่างๆ”ผมกำลังงงว่ามันมีเรื่องจะคุยอะไรกับผม ไอ้ปั๊มพยักหน้าให้ผมเดินตามมันไป

“เดี๋ยวกูมานะ”ผมสะกิดไอ้ชาย ไอ้นี่ไม่ได้สนใจผมเลย
ไอ้ปั๊มนำผมมารอบนอก บริเวณที่ห่างจากเวทีและร้านค้า โล่งหูอย่างบอกไม่ถูก สีหน้าของเด็กรุ่นน้องดูไม่ค่อยดีนักจนผมสังเกตได้

“มึงเป็นอะไรวะปั๊ม”ผมไม่ค่อยสบายใจนักอาจเป็นเพราะท่าทางของมันเหมือนกับเมื่อตอนที่มันมีเรื่องจะถามเมื่อนานมาแล้ว ไอ้ปั๊มเลียริมฝีปากอย่างคิดไม่ตก

“ผมอยากปรึกษาพี่ฟิกเพราะ...ผมไว้ใจพี่แล้วก็...ผมไม่รู้จะพูดเรื่องนี้กับใครคือว่าพี่จำเมื่อตอนนั้นได้ไหม ที่ร้านหมูกระทะ วันที่พี่ภูเมา”ผมจำได้ชัดอยู่แล้ว ก็วันนั้นไอ้ภูเมาเสียจนงอแงร้องไห้ขี้มูกโป่ง นึกแล้วก็ขำ

“เออ จำได้”ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันตั้งใจจะบอกอะไร

“วันนั้นผมได้รู้จักกับพี่เนมโดยบังเอิญเพราะพี่เขาไปส่งที่หอ ทีนี้ก็เลยรู้ว่าผมเดือดร้อนเรื่องเงิน อันที่จริงพี่เนมก็รู้ตั้งแต่วันที่เจอกันที่ผับตอนนั้นแล้ว”เมื่อครั้งที่ผมไปเจอมันโดยบังเอิญ ผมกำลังเรียบเรียงเรื่องราวตามที่มันเล่า ไอ้เนมน่ะเหรอ....เอ๊ะหรือว่ามันกับไอ้เนมมีซัมติงกัน

“อย่าบอกนะว่ามึงกับมัน...”ไอ้ปั๊มรีบโบกมือไปมาทันที

“ไม่ใช่ครับ คือพี่เนมแค่ช่วยผมเรื่องเงินเฉยๆ”ผมตาโตทันที

“แค่นั้นน่ะเหรอ”ไม่น่าเชื่อ

“แค่นั้นแหละ แปลกเนอะ”ขนาดเจ้าตัวยังแปลกใจ

“แล้วยังไง....มึงเสียดายเหรอที่ไม่ได้แอ้มมัน”ไอ้ปั๊มหัวเราะเบาๆ แล้วก็เงียบจนเสียงเพลงจากในงานแว่วแทรกแทนที่

“คือ...ความจริงพี่เนมเขาก็ไม่ได้อะไรกับผมหรอก แต่ผมกลับรู้สึกไปเอง”ผมถึงบางอ้อ นี่ผมกลายเป็นที่ปรึกษาด้านหัวใจไปแล้วเหรอ

“มึงชอบไอ้เนม?”

“ก็...ไม่รู้ ผมไม่แน่ใจ”มันกระแอม กระไอเหมือนมีอะไรติดคอ ผมมองรุ่นน้องตรงหน้าอย่างเห็นใจ

“มึงอย่าไปยุ่งกับมันเลย”ไอ้ปั๊มเลิกคิ้วเหมือนสงสัยว่าทำไม

“คนอย่างมันไม่เปิดรับใครง่ายๆหรอก มันทำดีกับมึงก็จริง แต่มันก็แค่นั้นแหละ รู้ไหมตั้งแต่กูรู้จักมันมาจนถึงตอนนี้กูก็ยังไม่เห็นมันจะสนใจใครที่ไหน”บางทีอาจเป็นเพราะว่าไอ้เนมชินกับการอยู่คนเดียวมานานแล้วก็ได้ ยิ่งเจอเรื่องไอ้ภูมันก็ยิ่งสร้างกำแพงมากขึ้น ผมเองยังอดเห็นใจมันไม่ได้เลยที่เห็นมันต้องอยู่อย่างหงอยๆเหงาๆแบบนี้

“เรื่องนี้พี่ฟิกไม่คิดว่ามีความเป็นไปได้เลยเหรอ..”แต่มันก็ยังดูมั่นใจในตัวเองอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

“อืม กูว่าไม่ ขอโทษที่ต้องพูดตรงๆ แต่คนอย่างมันไม่สนใจเด็กแบบมึงหรอก มึงชอบเหรอวะ กับไอ้การที่ต้องวิ่งตามคนอื่นน่ะ”ผมไม่ชอบเป็นฝ่ายไล่ตามเพื่อร้องขอความรัก เพราะผมคิดเสมอว่าตัวเองมีดีพอให้คนอื่นเข้าหา (มั่นใจมาก) หรืออาจเป็นเพราะผมไม่ชอบอะไรที่มันยุ่งยากมากก็ได้ ผมถอนหายใจ ก่อนมองหน้าไอ้ปั๊มอย่างเครียดๆ กับไอ้เนมผมว่าท่าจะยาก

“มึงสับสนอยู่รึเปล่า”เท่าที่ได้ยินมามันก็มีแม่ยกเหมือนกัน ร้ายใช่เล่น

“ผมเปล่า...”

“มึงปรึกษาผิดคนแล้วว่ะ”ผมถอนหายใจยาวก่อนจะกลับมามองมันอีกครั้ง

“ไม่ลองคุยกับไอ้ภูล่ะ สายรหัสมึงนี่”กับไอ้ภูจะให้คำปรึกษาแบบไหนผมก็นึกไม่ออกจริงๆ แต่คิดว่ามันคงสนับสนุนแน่ๆเพราะมันอยากเห็นไอ้เนมเป็นฝั่งเป็นฝาใจจะขาด

“ไม่เอาหรอก ใครจะกล้า”ไอ้ปั๊มหัวเราะ ทำท่าเก้ๆกังๆก่อนจะรีบเดินออกไปทิ้งให้ผมอยู่คนเดียวซะงั้น ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง หันไปมองก็พบสาเหตผิดปกติของไอ้ปั๊ม ไอ้เนมโผล่มายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

“มาซะกูตกใจหมด”

“มันมาคุยอะไรกับมึง”แต่สีหน้าของมันดูจะรู้อยู่แล้ว

“คิดจะเลี้ยงเด็กหรอมึง”ขอแซวมันบ้าง

“เด็กบ้าอะไรตัวใหญ่อย่างกับควาย มึงไม่ต้องมาแซวกูหรอก กูไม่ได้พิศวาสมัน แค่อยากช่วยเพราะไม่อยากเห็นมันเดินทางผิดๆ”ไอ้เนมถอนหายใจ หยิบลูกอมแกะเข้าปาก

“พระเอกชัดๆ”ไอเเนมหรี่ตามองอย่างหงุดหงิด

“กูพูดจริง...อย่างไอ้ปั๊มให้สาวๆเก็บไว้เป็นพ่อพันธ์เถอะว่ะ ก็เห็นว่ามันมีสาวมาติดเยอะเหมือนกัน ที่มันคิดแบบนี้
อาจเพราะตอนนั้นมันไม่มีที่พึ่ง กูคงเข้าไปถูกจังหวะล่ะมั้ง ช่วงที่เราอ่อนแอ ใจเรามันก็อ่อนตาม”มันเริ่มพร่ำเพ้อ

“กูแค่อยากช่วยมันในฐานะรุ่นพี่เฉยๆ”ผมลอบมองสีหน้าสงบของอีกฝ่าย รวบรวมความกล้าถามเรื่องที่ติดค้างอยู่ในใจมานาน

“ที่มึงไม่คบใคร ปิดกั้นตัวเองแบบนี้ เป็นเพราะไอ้ภูเหรอวะ”เกิดความเงียบทันที ไอ้เนมหันมามองผมด้วยรอยยิ้มจาง มันดูหนักใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

“ก็อาจจะมีส่วน เรื่องไอ้ภูเหมือนเป็นระเบิดลูกใหญ่ในชีวิตกูเลยว่ะ จะเคลียร์ให้สิ้นซากก็ทำไม่ได้ สำหรับกูคงต้องใช้เวลามากกว่านี้ อาจจะสามสี่ปีหรือนานกว่านั้นก็ได้”

“ถ้าย้อนเวลาได้มึงจะทำแบบเดิมไหม”

“ทำ”มันตอบชัดถ้อยชัดคำก่อนจะยกยิ้ม

“ตอนนั้นกูเหม็นหน้ามึงจริงๆนะ ได้ต่อยสักหมัดก็คงดี มันก็ตลกดีนะเว้ยมึงเข้ามาในชีวิตมันแค่แป๊บเดียว มึงก็ได้ใจมันแล้ว”ไอ้เนมพึมพำเบาๆ

“เพื่อนมึงคงชอบของแปลกมั้ง”ที่แปลกกว่าคือผมกับไอ้เนมมาคุยกันเรื่องประเด็นเก่าๆนี่แหละ

“มันจริงจังกับมึงจริงๆนะไอ้ฟิก ถึงการกระทำจะดูเข้าใจยากไปหน่อย แต่กับมึงมันให้สุดๆแล้วจริงๆ ไม่อย่างนั้นมันคงไม่ทำเรื่องงี่เง่าแบบนี้หรอก คงบอกเลิกมึงไปตั้งแต่ครั้งไอ้เน็ตแล้ว”

“เออ กูรู้”

“อย่าทำให้มันเสียใจนะ”

“มึงเก็บไว้บอกเพื่อนมึงเถอะ”
“กูหมายถึง...มึงก็คงรู้อ่ะนะว่าไอ้ภูมันอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก”

“มึงไม่ต้องมาบิ้วท์กูให้ยาก เรื่องตอนนี้ระหว่างกูกับมันปล่อยให้ช่องว่างเป็นตัวตัดสินดีกว่า”ผมชกไหล่มันให้เลิกพูดเรื่องไอ้ภูได้แล้ว ไอ้้นมก็รีบขึงตาห้ามเมื่อเห็นตั้งท่าจะพูดเรื่องมันบ้าง

“ปล่อยกูไว้แบบนี้เหอะว่ะ กูชอบอยู่คนเดียว”ฟังดูเปล่าเปลี่ยวชอบกล ไอ้เนมหลุดยิ้มออกมาอีกครั้ง

“ไม่อยากให้ใครบางคนมีคู่แข่ง...แค่นี้มันก็เข้าหากูยากล่ะ”ไอ้เนมพูดจาชวนงง มันหมายถึงใครวะ ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใครก็ตาม ผมสัมผัสได้ว่ามันผ่อนคลายและอารมณ์ดีกว่าเดิมเยอะเวลาที่พูดถึง ก็เอาใจช่วยมันล่ะกันถึงบางครั้งจะมีหมั่นไส้มันบ้าง แต่ผมไม่อยากให้มันปิดกั้นตัวเองเพราะแผลจากเรืองไอ้ภู เรื่องบางเรื่องมันก็ต้องใช้เวลา ...อาจจะรวมถึงพวกผมด้วยก็ได้!?

ผมกับไอ้เนมกลับมาที่หน้าเวทีอีกครั้งพี่ปาก็โผล่มาแล้ว พวกไอ้ภูหายไปเตรียมตัวอยู่หลังเวที เพราะใกล้จะถึงคิวแสดงแล้ว ผมซื้อดอกกุหลาบจากเด็กปีหนึ่งติดมือมาด้วย ไม่ได้จะเอามาให้ไอ้ภูหรอกครับแค่ซื้อมาเพราะเห็นว่าบริจาคให้กับมูลนิธิเด็กกำพร้า ผมมันคนใจบุญก็แบบนี้แหละ

“นั่นแน่...ซื้อมาให้เด็กแถวนี้เหรอ”พี่ปาทักทันที

“ซื้อให้พี่เปาต่างหาก”ดูท่าแล้วคงไม่มีสาวๆให้ดอกไม้แน่ ก็จริงตามคาด เมื่อวงไอ้ภูขึ้นโชว์คนที่ฮอตที่สุดคือไอ้พี่กร ได้ดอกกุหลาบไปช่อใหญ่ ส่วนไอ้ภูก็มีรุ่นน้องเอามาให้บ้าง ผมเดินไปหน้าเวทีก่อนจะส่งดอกไม้ให้พี่เปาด้วยสีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ

“ให้ผิดคนรึเปล่า”อีกฝ่ายทำหน้างง เหลียวมองไอ้ภูด้วยท่าทางเกรงๆ มันเองก็มองมาที่ผมเหมือนกัน

“ให้พี่นั่นแหละ รับไปเถอะ คนมองแล้ว”ผมสั่นดอกไม้ในมือ เมื่อเจ้าตัวยังไม่รับไปเสียที

“แล้วเอามาให้กูทำไมว้า”ไอ้พี่เปาดูว้าวุ่นน่าดู

“เห็นว่าร้องเพลงเพราะดี ผิดด้วยเหรอ แค่นี้ต้องคิดมากด้วยเหรอไง”ผมไม่ได้ตั้งใจจะกวนตีนใครทั้งนั้นแหละ ก็แค่อยากให้ แค่นั้น ผมสบตากับไอ้ภู มันแค่มองมาก่อนจะไหวไหล่ ไม่รู้ว่าตื่นเวทีหรืออะไรตอนแสดงผมเห็นมันทำไม้กลองหลุดมือด้วย

“แย่งซีนตลอด”พี่ปาบ่นพึมพำ

“เดี๋ยวสามีมึงก็งอนน้อยใจแก้มป่องหรอก”ไอ้ชายพูดซะน่ากลัวเชียว ถ้าไอ้ภูทำแบบนั้นจริงๆผมคงตาค้างไปหลายวันแน่

“ถ้าเรื่องแค่นี้งอน ชาตินี้คงไม่ต้องคุยกันแล้วว่ะ ดูที่เจตนากูด้วย”ผมทำหน้าจริงจัง มองเวลาก็ค่ำแล้วผมคงอยู่จนถึงประกาศรางวัลไม่ไหวหรอก มีงานต้องเคลียร์อีก

“กูกลับก่อนนะ ฝากบอกมันด้วย”ตอนนี้มันกำลังโดนรุ่นน้องรุมถ่ายรูปอยู่ ไม่ใช่เพราะว่ามันฮอตอะไรหรอกแต่เพราะมันคือ พี่ภูวิศวะต่างหาก เด็กในคณะมันก็ต้องเคยได้ยินชื่อเสีย(ง)ของมันมาบ้างอยู่แล้ว


ผมกลับมาที่ห้อง เอาผ้ากองโตลงไปซักที่ห้องโถง บังเอิญเจอกับโจทก์เก่าอย่างไอ้เน็ตอีก ผมแค่ปรายตามองอย่างไม่สนใจนัก มันกำลังเลือกผ้าลงถังอยู่ข้างๆ

“อยู่คนเดียวเหรอ”มันพูดลอยๆเหมือนชวนคุย ผมไม่ได้ตอบอะไร รีบๆหยอดเหรียญ แต่ไอ้ตู้เฮงซวยกลับกินเหรียญผมไปซะงั้น ไม่ทันได้บ่นไอ้เน็ตก็เอื้อมมาหยอดเหรียญให้

“แค่คุยด้วยจะตายเหรอไง”มันเริ่มจะหงุดหงิด

“ไม่อยากคุยด้วย มีปัญหาอะไรไหม”ผมหันไปมองมันเต็มตาเป็นครั้งแรก ถ้ามีเนื่องกับไอ้เน็ตผมสู้ได้อยู่แล้ว คิดว่ามันคงผอมแห้งแรงน้อยแน่ๆ ครั้งนี้ไอ้ฟิกพร้อมสู้เว้ย แต่ถ้ามันมีสามีมาด้วยค่อยว่ากันอีกที

“ทำไม กลัวจะตกหลุมเราอีกรอบเหรอ”ผมหัวเราะในทันที

“ที่บ้านเปิดคาเฟ่เหรอ ทำไมพูดจาตลกแบบนี้ กูแค่ไม่อยากคุยกับมึง แค่นี้แหละ ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย”ไอ้เน็ตเหมือนจะฉุนหนักกว่าเดิม

“เหรอ...ระวังไว้ให้ดีก็แล้วกัน”

“มึงจะย่องหากูตอนดึกเหรอ”ไอ้นี่พูดจาน่ากลัวเข้าไปทุกที ไอ้เน็ตมองผมเหมือนคนเป็นโรคประสาท ผมรีบชิ่งเพราะไม่อยากเสวนากับมันนานๆ

“สองคนนั่นไปไหนซะแล้วล่ะ”มันเดินตามมา อยากจะด่ามันอยู่หรอกแต่นึกได้ว่ามันอยู่ชั้นเดียวกับผมนี่นา!

“เลิกกันแล้วเหรอ”มันพล่ามตามหลัง ผมรีบก้าวหนีทีละสองขั้น เมื่อถึงห้องแล้วก็รีบไขกุญแจ ล็อคห้องทันที


ฟู่วววว


มันก็แค่ไอ้เน็ต นี่ผมกลัวมันขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย ไม่ได้การแล้ว จากเรื่องครั้งนี้ ผมมั่นใจเกินร้อยเปอร์เซ็นแล้วว่าจะไป เที่ยวบ้านเกิดพี่มิน!
 


(มีต่อ)



ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4






*****************************************




ผมจำได้ว่าเป็นช่วงที่อากาศร้อนสุดๆ ในวันที่แดดจ้า ผมเก็บกระเป๋าเป้สองใบใส่ท้ายรถโฟล์คสวาเกนสีชมพูหวานแหววของพี่มิน แอบคิดว่าคิดผิดรึเปล่าที่มากับคู่รักชูชื่นแบบนี้ พี่พิสดูผอมลงจากครั้งหลังสุดที่เจอกัน ผมยาวขึ้น เหมือนผิวจะขาวกว่าเดิมด้วย

“สบายดีไหมฟิก”พี่พิสหันมาถามจากเบาะหน้าหลังจากที่ผมเข้ามานั่งที่เบาะหลังแล้ว

“เรื่อยๆแหละครับ”พี่มินหันมองด้วยสายตาไม่เชื่อนัก

“หน้าตาไม่ค่อยสดชื่นเลยนะ”

“จะสดชื่นกว่านี้ถ้าพี่สองคนไม่หวานกันต่อหน้าผม”แต่คู่นี้ชอบหวานกันแปลกๆ พี่มินต้องเจ็บตัวทุกครั้งที่ปล่อยมุกเสี่ยว ๆ

“แล้วเรื่องเรียนเรียบร้อยดีใช่ไหม”พี่พิสชวนคุยต่อ พักนี้ผมไม่ค่อยเห็นพี่แกในคณะเท่าไหร่เพราะทำเรื่องฝึกงานอยู่

“กระท่อนกระแท่นตามประสาผมนี่ล่ะ แต่ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอกครับ”ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาเช็คความเคลื่อนไหวของมันสองคน แต่หน้าเฟสไอ้ตินไม่อัพเดทตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ต่างจากไอ้ภูเพ้ออะไรก็ไม่รู้ ผมไม่กดไลค์ให้หรอก เดี๋ยวมันจะรู้ว่าผมส่อง พี่พิสเหลือบมองผมอยู่หลายรอบ ใจจริงก็คงอยากถามผมเรื่องไอ้สองคนนั่นแน่ๆ

“คราวนี้ฟิกจะได้เห็นน้องชายพี่”พี่มินพูดติดตลก

“ผมไม่อยากเจอหรอก”จำได้ว่าน้องชายพี่มินเสียไปแล้วนี่ พี่มินนี่พูดอะไรก็ไม่รู้ พี่พิสเองก็ดูหัวเสียขึ้นมาเหมือนกัน

“ปากหมาตลอด”

“อ้าว ก็พูดตามที่ตนแถวนั้นว่ามาเฉยๆ”พี่มินยังไม่สลด หัวเราะเบาๆ

“สองคนนี่กลัวผีด้วยเหรอ”

“เงียบๆไป ไม่มีใครว่าหรอก”พี่พิสหยิบขนมปังยัดใส่ปากพี่มินที่ขับรถอยู่ ใจหายแว๊บเพราะรถส่ายไปมา

“เล่นอะไรเนี่ย เดี๋ยวก็ตายหมดนี่หรอก”พี่แว่นบ่นอุบ ผมได้แต่นั่งฟังสองคนนี้เถียงกันเพลินๆ สายตามองข้างทางอย่างเหม่อลอย ถ่ายรูปวิวภูเขาสวยๆอัพลงไอจี

“แต่เชื่อพี่นะฟิก สองคนนั่นไม่ทิ้งให้เราห่างสายตานานๆหรอก ยิ่งมากับพี่แล้วก็พิสด้วย...สงสัยคงมีเรื่องบันเทิงๆแน่”พี่มินผิวปากอย่างสบายอารมณ์ ส่วนผมก็อัพรูปเช็คอินตามปกติ ผ่านไปไม่นานมันสองคนก็ทักมาตามคาด

Phu - อยู่ไหนเนี่ย
 
Tin - หนีเที่ยวเหรอ?

Fix - มาพักผ่อน แบบว่าผ่อนคลายสมองไง

ผมพิมพ์ส่ง รอว่าพวกมันจะตอบมาว่าอะไร ไอ้ภูเงียบไปนาน สงสัยไอ้ตินตั้งตัวได้ก่อน

Tin- ไปกี่วัน

Fix- ไม่รู้เหมือนกัน สบายใจเมื่อไหร่ก็คงกลับ

Phu - ไปคนเดียวเหรอวะ

Fix - เปล่า ไปกับพี่มินพี่พิส

ตอนนี้ผมพยายามนึกหน้าของไอ้ภูสุดกำลัง

Phu- อ้อ...

มันตอบกลับมาสั้นๆ

Tin - งั้นก็เที่ยวให้สนุกก็แล้วกัน

Phu - ความจริงช่วงปิดเทอมกูกะจะชวนมึงไปกับกูซะหน่อย

ไอ้ภูทำให้ผมอยากรู้ขึ้นมาว่ามันจะไปไหน แต่ผมกลั้นใจไม่ถามต่อ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ระหว่างที่เก็บโทรศัพท์ พี่มินเหลือบมองจากกระจก ไม่ได้พูดอะไรอีก ผมเสียบหูฟังงีบหลับ หวังว่าตื่นขึ้นมาจะถึงที่หมายเลย เพราะนั่งนานจนปวดตูดไปหมดแล้ว


.....

...

..

บ้านพี่มินเป็นบ้านปูนสองชั้นขนาดกะทัดรัด มีป่าสวนไร่รายล้อมเต็มไปหมด จากสายตาที่เห็นบ้านนี้ถูกทิ้งร้างไว้นานทีเดียว ผมบิดขี้เกียจไปมาเหลียวมองไปรอบๆ ละแวกนี้มีบ้านห่างกันไปไม่ไกล บ้านลุงกับป้าของพี่มินอยู่ถัดไปสองสามหลังนี่เอง พี่พิสลงมายืนข้างผมด้วยสีหน้ายุ่งๆ

“โห ร้างขนาดนี้ จะเก็บกวาดไหวไหมเนี่ย”เจ้าตัวบ่นเบาๆ เจ้าของบ้านควงกุญแจรถหน้าชื่นไปไขรั้วบ้านสนิมเขรอะ

“อ้าว มินกลับมาเยี่ยมบ้านเรอะ”สาวใหญ่บ้านใกล้ๆตะโกนถามระหว่างที่เดินผ่าน ในมือหิ้วถุงพะรุงพะรังเต็มไปหมด ฝ่ายนั้นผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นผม

“อุ้ยตาย...”มองหน้าผมตั้งนานก่อนจะพึมพำเบาๆจากไป ทิ้งให้ผมกับพี่พิสยืนมองหน้ากันอย่างงุนงง

“หน้าผมมีอะไรแปลกปลอมรึเปล่าพี่พิส”

“ไม่เห็นมีนี่”พี่พิสดูกระวนกระวายใจแปลกๆ

“พี่บอกแล้วไงว่าฟิกหน้าเหมือนน้องชายพี่”ดูพี่เขาจะภูมิใจ ยิ้มตาหยีมาให้ กว่าจะไขเข้าไปได้ก็ใช้เวลาอยู่นานเพราะแม่กุญแจฝืด ผมย่นจมูกเมื่อฝุ่นคลุ้งออกมาระหว่างที่พี่มินเปิดประตูบ้านเปิดออก

“ถ้านอนไม่ได้ ไปค้างบ้านลุงกับป้าได้นะ”พี่มินเสริมเมื่อเห็นท่าทีของพี่พิส

“ห้ะ ไม่เอาหรอก พี่นอนไหนก็นอนนั่นแหละ”ผมกับพี่มินหลุดยิ้มเมื่อได้ยินพี่พิสหลุดคำว่าพี่ออกมา นานๆทีจะได้ยิน ผมฟังแล้วระคายหูนิดหน่อย แต่ก่อนที่จะได้ทำความสะอาดบ้านใหม่ พี่มินก็พาผมกับพี่พิสไปอีกห้อง ในห้องนั้นมีกรอบรูปจืดจางติดผนังใกล้กับหิ้งใส่แจกันดอกไม้และ โกศ ใส่กระดูกทองเหลืองเก่าๆ พี่พิสสูดหายใจเข้าเสียงดัง ทำท่าเหมือนอยากบ่นพี่มินที่พาเข้ามา จากในรูปถึงจะจางมากแล้วแต่ก็ยังเห็นเค้าโครงหน้าที่ละม้ายคล้ายกับผม

“เหมือนไหม”เจ้าของบ้านหันมาถาม ผมได้แต่พยักหน้าส่งๆ ให้ตายเหอะครับ ผมไม่ชอบอยู่ในห้องนี้เลย

“ไม่มีใครเข้ามาทำความสะอาดเลยเหรอ”พี่พิสพึมพำพลางมองไปรอบๆ ปัดฝุ่นที่คลุ้งอยู่ในอากาศ

“ก็...”พี่มินไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะกระแอม

“ทีแรกลุงกับป้าก็อยากย้ายโกศน้องไปอยู่ที่บ้าน แต่เห็นหมอดูทักมาว่าไอ้โมมันไม่อยากไป”ผมกับพี่พิสมองหน้ากันอีกครั้ง

“ไงไอ้น้อง พี่กลับมาหาแล้วนะ หายโกรธกูหรือยัง”พี่มินยิ่งทำให้ผมหลอนเข้าไปใหญ่ ก็เลยปล่อยให้พี่แกทำความสะอาดห้องนั้นคนเดียว พี่พิสฮึดฮัดออกมา ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

“รู้งี้ไปค้างบ้านลุงดีกว่า ไอ้มินชอบพูดอะไรก็ไม่รู้”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ พี่มินก็ปากมอมแบบนี้อยู่แล้วนี่”ผมปลอบใจตัวเองไปด้วย ก่อนจะลงมือทำความสะอาดชั้นบนก่อน โชคยังดีที่ลุงพี่มินส่งคนงานในไร่มาช่วยกันทำความสะอาดบ้าน ภาระจึงลดลงไปเยอะเลย

“ว่าแต่เราชื่ออะไรนะ”ป้าสายใจถาม ท่าทีป้าของพี่มินก็เหมือนคนแถวๆนี้คือพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าผมหนคล้ายๆน้องพี่มิน

“ชื่อฟิกครับ”ผมไม่ค่อยชินกับป้าสายใจเท่าไหร่ เพราะแกชอบมาคุยกับผมบ่อยๆ สงสัยจะเอ็นดู(?)ที่ผมหน้าคล้ายน้องพี่มินแน่

“อายุเท่านี้มีเมียมีลูกได้แล้วนะเนี่ย อย่าไปเอาอย่างไอ้มินนะ”ป้าสายใจพูดขำๆแบบไม่คิดอะไรนักแต่คงไปสะกิดใจพี่พิสเข้าล่ะมั้ง

“โห...ป้า ไอ้ฟิกน่ะนะ...”ผมถลึงตาขู่ ถ้าบอกนี่ระเบิดลงแน่ๆ คนแถวนี้อาจช็อคได้

“สาวตรึม”พี่มินหัวเราะ มองหน้าผมด้วยสายตาล้อเลียน

“แล้วนี่หนูอยู่ได้แน่นะ”ป้าสายใจหันมาถามพี่พิสอย่างเป็นห่วง

“ได้ครับ แค่นี้จิ๊บจ๊อยมาก”คำตอบของพี่พิสทำพี่มินแปลกใจสุดๆ

“ถ้าไม่สะดวกไปนอนกับลุงได้นะ คนกันเอง ไม่ต้องเกรงใจหรอก”ลุง แทรกมา
“ไม่เป็นไรจริงๆครับ”พี่พิสยิ้มตบท้าย

“ไอ้พวกนี้ดื้อเหมือนกันหมด”ลุงทำเสียงอ่อนใจ ตามจริงผมก็อยากไปนอนด้วยนะ แต่ไปคนเดียวก็คงแปลกแน่ๆเพราะฉะนั้นผมเลยต้องกลั้นใจนอนค้างที่บ้านหลังนี้ พี่พิสเองก็ดูไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่

“พอดีเลยนะ คืนนี้เราก็นอนด้วยกันสามคน”พี่มินทำสายตาวิบวับแปลกๆ ตอนแรกก็คิดว่าพี่พิสจะเล่นงานพี่มินดันเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยซะงั้น

“พี่เองก็พร้อมเปิดใจรับฟิกเสมอนะ พี่รอเวลานี้มานานแล้ว”ไม่พูดเปล่ายังมาจับไม้จับมือผมอีก

“เดี๋ยวเถอะ”พี่มินทำตาวาวภายใต้แว่นทรงกลม

“คืนนี้ก็นอนด้วยกันไปก่อน ห้องอื่นยังไม่เรียบร้อยดี”ผมเองก็ไม่ขัดข้องหรอก เรื่องของเรื่องคือผมกลัวน้องชายพี่มินมากกว่า หวังว่าจะไม่มาต้อนรับพี่ชายกลับบ้านหรอกนะ!



ตอนดึกอากาศเย็นอย่างไม่น่าเชื่อคงเพราะรอบๆมีต้นไม้เยอะแน่ๆ ผมไม่ชินที่ต้องนอนริมเตียงแบบนี้เลยปกติผมจะนอนตรงกลางเสมอเพราะให้ความรู้สึกว่ามีโล่ป้องกัน แต่ตอนนี้พี่พิสแย่งที่ของผมไปแล้ว จนผมต้องนอนตะแคงเพื่อหันหลังให้ประตูห้อง

ผมหลับตาลงเพียงแค่ไม่อยากมองเห็นรอบๆตัว หูได้ยินชัดเป็นพิเศษท่ามกลางความเงียบยามค่ำคืนแบบนี้ แม้แต่เสียงหนูวิ่งผมยังได้ยินเลย หรือจะเสียงแกรกกรากเอี๊ยดอ๊าดด้านนอก เสียงอะไรสักอย่างดังวนเวียนอยู่ด้านนอก นี่ผมไดยินจริงๆหรือจิตฟุ้งซ่านเติมแต่งไปเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แค่ว่ามือชื้นเหงื่อไปหมด ในขณะที่พยายามกล่อมตัวเองให้หลับ

“ฟิกหลับหรือยัง...”พี่พิสพึมพำถามเบาๆ

“ยังครับ”ผมตอบกลับไปเบาๆเช่นกัน

“พี่เหงื่อแตกไปหมดแล้วเนี่ย...ฟิกขยับไปหน่อยได้ไหม”

“ไม่เอา ผมจะตกแล้วเหมือนกัน”เรื่องมาดเมิดอะไรผมไม่สนแล้ว ตอนนี้กลัวผีเว้ย ขนาดตอนคุยกับพี่พิสผมยังหลับตาสนิท กลัวเจอเหมือนในหนัง

“หืออ สองคนนี้ซุบซิบอะไรกัน”เสียงพี่มินแว่วมา พร้อมเสียงขยับตัว รู้สึกว่าทั้งห้องสว่างวาบเพราะแสงไฟ

“นอนแทบจะสิงกันอยู่แล้ว”ไม่รู้ว่าพี่มินเกิดหวงอะไรขึ้นมา คนโตกว่าถึงได้ดึงให้ผมลุกขึ้น

“ก็กลัวอ่ะ”ผมพึมพำ พี่มินหัวเราะก่อนจะเอื้อมมาเปิดเปลือกตาของผม

“มันจะมีอะไรล่ะ”ผมอยากจะตอบว่าน้องชายพี่มินนั่นแหละ พี่พิสขยับเสยผมชื้นเหงื่อ

“ปวดฉี่ว่ะ ไปเพื่อนหน่อย”ห้องน้ำอยู่ด้านล่างอีก ด้านบนยังไม่ใช้ไม่ได้ต้องรอซ่อม สุดท้ายก็ลงไปเข้าห้องน้ำด้วยกันทั้งสามคน พี่มินดูไม่กลัวอะไรเลย ระหว่างที่พี่พิสหายไปในห้องน้ำ พี่มินก็เดินหายไปหลังบ้านอีกคน ผมเรียกไม่ทัน ผมยืนกระสับกระส่ายอยู่คนเดียว ได้ยินเสียงฝีเท้าลากไปมาจากด้านนอกแล้วขนลุกเกรียว ตายๆ เอาไงดีวะเนี่ย ผมหยิบโทรศัพท์โทรหาไอ้ติน จำได้ว่ามันไม่กลัวผี ตอนนี้ผมต้องหาเพื่อนคุยด่วนๆ

“เฮ้ย ไอ้ติน”ผมเรียกเบาๆเมื่อมันกดรับสายอย่างรวดเร็ว ค่อนคืนขนาดนี้มันยังไม่นอนอีกเหรอ

[...]แต่ปลายสายไม่มีเสียงใดตอบกลับมายกเว้นเสียงลมพัด

“เฮ้ย ไอ้เชี่ย”ผมเคาะประตูห้องน้ำไปด้วย พี่พิสเข้าห้องน้ำนานจังวะ ผมเหลียวมองไปที่ประตูหลังบ้านที่พี่มินเปิดแง้มไว้ ยังไงผมก็ไม่กล้าเดินไปหาอยู่ดี เพราะตรงนั้นต้องเดินผ่านห้องน้องพี่มินด้วย ผมกดวางสายเปลี่ยนไปโทรหาไอ้ภูแทน หวังว่ามันคงไม่ทำให้ผมสติกระเจิงหรอกนะ

....

ปรากฏว่ามันไม่รับสายของผม!

“พี่พิสเสร็จรึยังอ่ะ”เข้าไปหลับหรือไง

“ยัง...พี่ปวดท้อง”โอเค เรื่องท้องไส้ไม่ใช่เรื่องตลก ได้ยินเสียงพึมพำแว่วๆอยู่ไม่ห่าง...ผมเปลี่ยนมาเปิดเพลงกล่อมตัวเองไปพลาง สองหูได้ยินเสียงฝีเท้าวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ผมกลั้นหายใจหลับตาแน่นเมื่อเสียงนั้นเข้ามาใกล้มากขึ้น

“จ๊ะเอ๋!”

“เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”เชื่อว่าเสียงร้องของผมคงดังก้องทั้งซอยแน่ๆ ใจผมร่วงไปอยู่ตาตุ่มเรียบร้อย นี่ถ้าไม่เห็นหน้าไอ้คนเล่นพิเรนท์ล่ะก็ ผมคงน้ำตาไหลพรากๆแน่นอน
“ไอ้พวกเชี่ย %$&#<>?!$%#$%”สัตว์เลื้อยคลานออกมายกชุด เมื่อไอ้คนที่อยู่ตรงหน้าของผมคือคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ

ไอ้ภูกับไอ้ติน ที่ยืนหัวเราะอยู่ด้านหลังคือพี่มิน

“สนุกนักเหรอวะ”ผมเริ่มหัวเสีย คนยิ่งกลัวๆอยู่ พี่พิสเปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยท่าทางตกใจ แต่ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นว่าใครอยู่ด้านนอก

“มาทำไม”ผมถามเมื่อได้สติแล้ว พี่พิสกับพี่มินขอตัวขึ้นไปบนห้องก่อน พี่มินนี่ตัวดีเลย

“ห่วงก็เลยมา”ไอ้ภูตอบหน้าซื่อ

“มากับพี่มินจะห่วงอะไรล่ะ”หาเรื่องมาอ้างได้ตลอด ไอ้ตินยิ้มก่อนจะจับมือผมบีบเบาๆ

“ไกลขนาดนี้ กูทนไม่ไหวหรอก”มันถอนหายใจบ้าง พวกมันลงทุนจอดรถไว้ห่างไปสองสามหลังแล้วเดินมาเพื่อเซอร์ไพรส์ผม

“กูจะโกรธเพราะพวกมึงแกล้งกูนี่ล่ะ”ตอนนี้ความกลัวหายไปปลิดทิ้งเมื่อเจอมันสองคนตัวเป็นๆแบบนี้

“เจ๊ากันไง”ไอ้ภูยิ้มขำ เจ๊าอะไรของมัน

“อย่ามาโมเม”ผมจ้องมันสองคนอย่างเอาเรื่อง

“ก็ตอนที่พวกกูมาถึงมึงยังแกล้งกูเลย”ไอ้ตินย่นหน้า ผมมึนตึ้บไปพักใหญ่... ผมไปแกล้งพวกมันตอนไหน!


สงสัยน้องชายพี่มินมาต้อนรับการมาของพวกมันสองคนแน่ๆ






TBC.
มาอัพแล้วววววว มาแจ้งด้วยว่าเราจะงดอัพสามหน่อสักพักนะคะเพราะเดือนหน้ามีสอบ ต้องเก็บเวลตั้งแต่เนิ่นๆ
ส่วนสามหน่อคงใกล้จบแล้วล่ะค่ะ ใกล้ผ่านด่านสุดท้ายแล้ว ที่แพลนไว้30ตอน แตแต่ถ้าเคลื่อนก็คงไม่เกิน40ตอน อาจมีพาร์ทของเนมคนเปลี่ยว ส่วนเรื่องปลิวจะเอามาลงทีหลังไม่ก็ยกยอดในตอนพิเศษเลย

ป.ล. มีคำผิดบ้างนะคะ เพราะพิมพ์ในแท็บแล็ต (ยังไม่ได้ตรวจคำผิดเลย ฮา)
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดค่ะ  :กอด1:



ออฟไลน์ SOO2

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เจอดีแล้วไงคะพี่ตินพี่ภู  หวัดดีน้องโม 555

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขนลุกกก มาไม่กี่บรรทัด แกทำคนจดจำได้จนจบเรื่องแน่โม  :sad4:

เขาจะไม่ห่างกันแล้วใช่มั้ยอ่ะะ  :katai1:

ออฟไลน์ DKTime

  • ขอบเขตความรู้สึกยิ่งใหญ่ ความเสียใจอาจแฝงไว้ในความเฉยชา....
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-2
    • https://twitter.com/UKnowJJTime_DK
ง่าาาาา สั้นอ่า รู้สึกไม่จุกใจ คิดถึงสามหน่อ

ออฟไลน์ supernaturalgay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +107/-1
นี่ถ้าโมยังอยู่คงได้เป็นคู่หูสุดเซี้ยวกับฟิกแน่ๆ  ฟิกกะโมคู่หูกวนสุดตรีน

ปล.แอบหลอนตอนที่พี่มินคุยกับรูปโม  แถมสองสามีภูตินยังเจอโมดักแกล้งอีก  คืนนี้ขอนอนเบียดด้วยคนจิ :hao5:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ยังดีนะพอได้ฮา ถ้ามากกว่านี้ ในเวลาตีสี่แบบนี้คงไม่ต้องนอนกันยันเช้า  :ling3:

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:    ทำไปได้เนอะ โอ๊ยคิดถึงพวกนาง
  ฟิกยังขี้กลัวผีเหมือนเดิม อิอิ

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
และตอนที่เรารอก็มาถึงขอยาวๆเลยนะอันนี้น่ะ ฮา แบบอยากรู้แบบจริงจัง

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ฟิกขี้กลัวกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย

ออฟไลน์ cakecoco-boom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
บรื๋ออออออออออออ o22

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
พี่ภูพี่ตินเจอของดีเข้าให้แล้วจร้า
จบแบบนี้นี่อยากอ่านตอนต่อไปเลย
 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
สงสัยพี่ภูพี่ตินเจอน้องโมเข้าให้แล้วล่ะ 555+

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ฟิกสัมผัสพลังงานบางอย่างได้.....บรึ๊ยส์

ออฟไลน์ mammam

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เหงาละซิสองหนุ่ม ตามมาเลยยยยย  :hao6:

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ถ้าไม่ใช่ฟิกแล้วจะเป็นใครไปได้ล่ะ นอกจาก... :a5:

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
อุ้ย มีแอบหลอนตอนท้ายยยยย  o22   น้องโมน่าจะยังอยู่เน๊าะจะได้เป็นคู่หูกับฟิก แอบเศร้ากับน้องโมและพี่มิน  :mew6:  ดีนะฟิกไม่ฉี่แตกและพาพี่ออกจากก้นมาด้วย คุณผัวสองคนนี่มันน่านัก ฟิก จัดการเลยลูก จัดการให้สองหน่อเรียกขวัญด่วนๆๆๆ เอาเรียกแบบ  :jul1:  เลยนะเป็นการลงโทษ  :haun4:  ช่วงนี้พี่ภูอ่อนไหวมากกว่าใครเลย ด้วยเพราะพี่ภูขาดความอบอุ่นในครอบครัว เลยต้องการความรักมากหน่อย แต่พี่ภูนี่ปรับปรุงตัวเองเยอะนะ พยายามเข้าใจและยอมรับในบางเรื่องของฟิก รวมถึงตินด้วย ใจเย็นขึ้นมาหน่อย เห็นใจพี่ภูนะกับความทรงจำที่เลวร้าย ไม่แปลกที่พี่ภูจะลืมไม่ได้ เพราะมันคือจิตสำนึกที่ไม่ได้ตั้งใจอยากจะให้เกิดโดยสันดาน มันเป็นความคะนองของวัย และพี่ภูไม่ใช่คนเลวร้ายที่จะไม่รู้สึกผิด แต่กลับไปแก้ไขไม่ได้ และปัจจุบันครอบครัวของยศ รวมถึงเพื่อนยศ ก็ไม่มีวันลืมและให้อภัยได้ง่าย คนตายฟื้นไม่ได้ แต่คนมีชีวิตที่ตายทั้งเป็นไปส่วนหนึ่งของภูสิต้องทุกข์ไปชั่วชีวิตก็ได้ ที่อยู่ได้ก็เพราะได้กำลังใจจากฟิกและติน แม่และพ่อที่ถึงแม้จะไม่แสดงออกแต่ก็อยู่เคียงข้างช่วยเหลือมาตลอด ฉะนั้นกลับมาอยู่ร่วมกันเถอะ เราเชื่อว่าลึกๆในใจ ไม่ใช่แค่ภูหรอกที่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฟิก ตินก็เหมือนกัน รวมถึงฟิกที่ก็ไม่อยากจากทั้งสองคนเช่นกัน มันเป็นความรักความผูกพันมากกว่า ผัวเมีย ไปแล้วสำหรับสามหน่อนี้  :กอด1:

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
ตินน่ะไม่เท่าไหร่ แต่พี่ภูก็กลัวผีนี่ โอ้ย 555555555555555555
ไงล่ะพี่ภู เจ๊ามั้ยล่ะ

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
เจอดีแล้วไง 555555555555555555555555
เดี๋ยวได้ช็อคเมื่อรู้ความจริง

ออฟไลน์ cowinsend

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ yanggi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
อยากรู้อ้ะ  สองคนนั้นโดนหลอกอะไร  555

ออฟไลน์ Annko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
เราติดเรื่องนี้อ่ะ ...รักฟิก

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
ภูตินเจอดีเข้าแล้ว 5555 จะอยู่ต่อยังไงล่ะเนี่ย  :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด