บทนำ
สวัสดีครับผมชื่อฟิก เคยมีรสนิยมประหลาดๆคือกิ๊กกั๊กกับแฟนชาวบ้านเขา แต่ตอนนี้ผมลดละเลิกไปหมดแล้วครับ เพราะผู้ชายสองคนที่เข้ามาในชีวิตของผมแบบเชี่ยๆ แต่เชื่อไหมว่าผมคบกับพวกมันมาได้เกือบสองปีกว่าๆแล้ว นานเวอร์ สำหรับคนที่ไม่เคยคบใครจริงจังแบบผม
แต่คงเพราะผู้ชายเชี่ยๆที่ว่ามันมีดีกรีความหื่นความโหดที่น่าสะเทือนขวัญและบทเรียนหลายๆอย่างที่มันมอบให้ก็ทำเอาผม'กลัว'การแอบกิ๊กกับคนอื่น แต่ถ้าแซวพอหอมปากหอมคอผมก็เล่นด้วยได้ แหม ก็รู้ๆอยู่ว่าบทลงโทษของมันสองคนเป็นแบบไหน แต่พักหลังๆมันก็เบามือลงบ้างแล้ว เพราะคำพูดล้อเล่นของไอ้หมาภูนั่นล่ะ ทำเอาผมหมดความมั่นใจ
“ไอ้ฟิก กูบอกว่ากูล้อเล่น”ไอ้ภูทำหน้าบูดเมื่อเห็นผมออกกำลังกายในห้องอีกแล้ว ผมบังคับให้ไอ้ตินซื้อเครื่องออกกำลังกายมาให้ผมใช้ ผมเหล่มองไอ้ภูด้วยอารมณ์บูดบึ้งไม่แพ้กันต่างจากไอ้ตินที่นั่งขำจนตัวสั่น
“ใช่เรื่องเล่นไหมวะ”ผมพึมพำอย่างหงุดหงิด ไอ้ภูเดินมาหาใกล้ๆ
“กูขอโทษอ่ะ”มันก็ยังไม่ทำให้ผมหายงอนมันได้อยู่ดี รู้ไหมว่ามันพูดอะไรกับผมเมื่อสองอาทิตย์ก่อนหลังจากที่จึกๆกันแล้ว มันบังอาจมาแซวผมว่า 'หลวม' นี่ถ้าผมกรี๊ดได้คงกรี๊ดไปแล้ว มันพูดออกมาได้ยังไง ผมเขวี้ยงสายตาเคืองๆไปให้มัน
“เชี่ยแม่ง ต่อจากนี้งดสองเดือน”นี่ผมพูดจริงนะ ยอมรับว่าเมื่อก่อนมันใช้งานผมเยอะจริงๆ ผมได้อ่านบทความในเน็ตมาบ้าง ก็เลยนำมาปรับใช้
“โอเคๆ”มันไม่เถียงแต่เข้ามากอดมาซบผมแทน
“ไปไกลๆตีนกูเลย”ผมผลักมันออกก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆไอ้ตินที่มีรอยยิ้มขำแปะอยู่บนหน้า
“ขำไรวะ”ถามมันด้วยเสียงหาเรื่อง
“เปล่านี่”มันส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม ผมเม้มปากก่อนจะเกาต้นคอ เพราะคำพูดของไอ้ภูทำผมเสียเสียหน้า เสียอารมณ์เอามากๆ
“เออ ไอ้ติน ถามจริงๆนะ”ผมเลียบๆเคียงๆพูดกับมันอย่างอยากลำบาก หน้าร้อนผ่าวๆขึ้นมาทันที พลางมองไอ้ภูกัดแอปเปิ้ลด้วยสายตาหงุดหงิด
“ว่า...”แต่รอยยิ้มของมันดันทำผมชะงัก เหมือนกับว่ามันรู้ทันว่าผมจะถามอะไร
“คือเวลาที่มึง....กู...มึงคิดแบบไอ้ภูหรือเปล่า”มึงคิดแบบไอ้ภูหรือเปล่าผมรีบพูดโดยไม่มองหน้ามัน
“มึงคิดแบบไอ้ภูหรือเปล่า"ผมรีบพูดโดยไม่มองหน้ามัน”
“ก็...ไม่นี่ พี่เขาล้อเล่นมึงอย่าคิดมากดิ”มันเอานิ้วจิ้มแก้มผม
“กูหมดมู้ดเลย มึงเข้าใจกูไหม แบบว่าตามปกติกูก็ไม่ใช่ฝ่ายโดนจิ้มป่ะวะ”ผมทุบไหล่มันระบายความแค้น ไอ้ภูเดินมานั่งข้างๆผม
“กูขอโทษที่ปากหมา กูแค่จะแซวมึงขำๆเอง”
“...”ผมยังคงเมินมันอยู่ดี
“ต่อจากนี้...กูจะถนอมมึงให้มากๆนะ จะไม่รุนแรง จะไม่เล่นท่ายาก--”
“ไอ้เชี่ย”ผมคว้าหมอนปาใส่มัน ไอ้ภูยิ้มกว้าง
“งดสองเดือน เข้าใจไหม”ผมชี้หน้ามันสองคน ไอ้ตินไหวไหล่อย่างจำนน อันที่จริงผมก็เคยคุยๆกับพวกมันมาบ้างเหมือนกันว่าควรจะงดหื่นบ้างเพราะผมไม่อยากให้คนมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกมันสองคนเป็นแค่เซ็กซ์
“แล้วก็อย่าไปแอบมีอีหนูกันล่ะพวกมึง”ผมทำหน้าดุใส่
“มึงเห็นกูขี้เอาขนาดนั้นเลย”ไอ้ภูสวนขึ้นมา
“คิดดีแล้วใช่ไหมที่พูดเนี่ย”มึงมันตัวดีเลย ไอ้ตินหัวเราะหึๆอยู่ใกล้ๆ
“เออ ถ้าไม่ใช่มึงกูเอาไม่ลงหรอก”ผมแอบเบ้ปากทันที แต่ก็แอบดีใจลึกๆ หึๆ
“กูพูดจริงๆนะ”
“เออๆ”ผมคว้าผ้าขนหนูไปอาบน้ำ
“ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อเลย ไอ้นี่ กูรักมึงนะ”อยู่ๆมันก็พูดขึ้นมา อารมณ์ไหนของมันวะเนี่ย ผมบ่นหน้าก่อนจะเข้าไปอาบน้ำขัดเนื้อขัดตัวพอเป็นพิธี ออกมาก็เจอไอ้ตินกำลังทาครีมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ผมเดินเข้าไปหามันก่อนจะเสยผมม้าของมันขึ้น
“ผมยาวแล้ว”ผมมองมันละเลงครีมบนแขน
“อือ ว่าจะไปตัดพรุ่งนี้ ไปด้วยกันไหม”มันถามจ้องตาผมผ่านกระจก
“ไม่อ่ะ กูอยากไว้ยาวอีกหน่อย”ไอ้ตินย่นหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร กลิ่นบุหรี่ลอนมาจากด้านนอกคาดว่าคงเป็นไอ้ภู จะว่าไปก็คิดถึงพี่มินเหมือนกัน ย้ายออกไปหลายเดือนแล้วไม่มีเพื่อนคุยเลย ดูเหมือนความสัมพันธ์ของพี่พิสกับพี่มินจะดีขึ้นเรื่อยๆ ไอ้ภูกลับเข้ามาพร้อมกลิ่นบุหรี่ จนไอ้ตินย่นจมูกมันลดละเลิก บุหรี่แล้วครับ คนดีจริงๆ
ตอนเช้าเป็นวันเปิดเทอมของปีสามวันแรก ผมขุดชุดนิสิตยับๆมาใส่ เพราะไม่ได้รีด ไอ้ภูกับไอ้ตินขึ้นปีสี่แล้ว ความหล่อเฟี้ยวฟ้าวคนเดิม ไอ้ตินมาส่งผมที่คณะที่คึกคักเป็นพิเศษเห็นน้องปีหนึ่งเดินงงให้ขวัก
“ตั้งใจเรียนอย่าเต๊าะเด็กล่ะ”ไอ้ตินพูดขึ้นระหว่างที่ผมกำลังลงจากรถ
“คนอย่างกูไว้ใจได้อยู่แล้ว”
“ถุย”
“อ้าว”ไม่เชื่ออี๊ก
“เออๆ รีบไปเรียนได้แล้ว”มันโบกมือไล่
“อย่าลืมคิดถึงกูล่ะ จุ๊บๆ”ผมทำปากจู๋กวนประสาทมันเล่นก่อนจะรีบลงจากรถ และทันทีที่ผมก้าวเข้าไปในคณะนุ้งน้องก็ยกมือไหว้อย่างพร้อมเพรียง รู้มาว่าไอ้เคนได้เป็นพี่ว้ากด้วย รอบตัวผมมีแต่คนแบบนี้เนอะ
“หวัดดีครับเพื่อน ไม่เจอนานคิดถึงจังเลย”ผมชูแขนเข้าไปกอดไอ้ชายกับไอ้เคนด้วยความคิดถึง
“ปล่อยกูเว้ย ขนลุก”ไอ้ชายสะบัดแขนออกจากผมก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆด้วยท่าทางแช่มชื่น
“ไงพี่ว้ากคณะ”ผมนั่งลงข้างๆไอ้เคน มันชักสีหน้าหงุดหงิดใส่ผม ก่อนจะทำหน้าดุ
“เดี๋ยวกูสั่งซ่อม”
“ทำมาพูด นอกห้องเชียร์มึงหมดอำนาจ”ผมไม่กลัวมันหรอก เสียงแว้ดๆของอีปลาดังมาแต่ไกล
“กูได้รายชื่อน้องมาแล้วเว้ย ปีนี้ขอบอกว่าแซ่บมาก”มันส่งกระดาษรายชื่อให้พวกผม ผมไล่สายตาอ่านชื่อพวกนั้น
ไปพลางๆ
“นั่นน้องอั๋น ”มันชี้ไปที่เด็กตัวสูงสวมแว่น หัวฟูๆท่าอินดี้ๆ
“กูเล็งส่งเข้าประกวดเดือนคณะ”มันทำหน้ามุ่งมั่น ผมมองไอ้พวกเด็กกลุ่มนั้น ผมว่าคนหน้าตาดีกว่าไอ้อั๋นมีตั้งเยอะนะ
“กูว่าไอ้พีดีกว่า”ผมบุ้ยใบ้ไปที่เด็กหน้าหล่อที่ยืนหัวเราะกับกลุ่มเพื่อน
“งานส่องเด็กหน้าตาดีต้องให้อีฟิก กูยอมอ่ะ”มันยิ้มแรดๆมาให้ผม พวกผมเลิกสนใจไอ้เด็กพวกนั้นเพราะต้องเข้าเรียนคาบแรก ปีนี้มีแต่เรียนที่คณะ มีเรียนที่ตึกรวมแค่วิชาเดียวคือภาษาอังกฤษ อาจารย์ก็แซวไปว่าปีสามที่โสดอยู่จะหมดโอกาสได้แฟนเพราะส่วนใหญ่หมกอยู่แต่ที่คณะ คาบแรกยังไม่สอนอะไรมากแค่ชี้แจงแผนการสอน บลาๆ จนผมชักจะเบลอ
ครืด~ครืด
ภู:ตอนกลางวันเดี๋ยวไปรับ
ฟิก:ไปไหน
ภู:กินข้าวดิ หรือมึงแดกหญ้า
เอ้า ไอ้นี่นิ ชอบจริงเลยนะด่าผมเนี่ย
ฟิก:จ้าๆ
ก็เลยกวนตีนมันไป มันมารับผมเร็วมาก ส่วนไอ้ตินจะตามมาทีหลัง บอกเลยว่าร้านนี้เด็กวิศวะจอง เพราะมีแต่พวกปีหนึ่งหน้าใสทั้งนั้น ไอ้ภูดูหงุดหงิดเอาเรื่องแต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรกันแน่ บางทีมันหันมาจ้องผมดุๆ
“เป็นไร ลืมฉีดยาเหรอ”ไอ้ภูนี่เหมือนหมาบ้าจริงๆสงสัยอากาศจะร้อนไปหน่อย ฮ่าๆ หรือมันโมโหหิว มันแค่ขึงตามองผมก่อนจะสนใจโทรศัพท์ของมันไป ส่วนผมก็แอบๆเหลืบมองเด็กปีหนึ่งแถวๆนั้นไปพลาง
“อ้าวๆ ไอ้ฟิก หุบปากหน่อยมึง เดี๋ยวกูตบฟันร่วง”เสียงของไอ้ภูทำให้ผมละสายตาจากเป้ากางเกง เอ้ย ละสายตาจากเด็กวิศวะปีหนึ่งหน้าหล่อใสที่เดินเกาะกลุ่มอยู่ด้านหน้าโต๊ะที่ผมนั่งอยู่ ไอ้ภูนั่งหน้าบูดหน้าบึ้งอยู่ที่เก้าอี้อีกตัว ผมคลี่ยิ้มส่งไปให้
“กูแค่มองเฉยๆเอง”ผมอธิบายพร้อมกับเขี่ยข้าวเปล่าในจานไปมา
“จะมองก็มองหน้ากูดิ”มีแบบนี้ด้วย
“โหย กูเห็นเกือบทุกวัน”
“ก็เลยเบื่อใช่ไหม”ไอ้ภูโน้มตัวเข้ามาหาผมสีหน้าดูหงุดหงิดมากขึ้น ไอ้นี่พูดเองเออเองอีก ผมวางช้อนก่อนจะวางมือลงบนท่อนแขนของไอ้ภู
“กูไม่เบื่อมึงหรอกน่า...”ผมพูดเสียงอ่อนให้มันวางใจ อันที่จริงผมก็ไม่เคยเบื่อมันนะ ยกเว้นเวลาที่มันชอบทำตัวงอแง ผมเห็นมันหน้าหงิกก็เลยตักกับข้าวใส่จานให้มัน เอาใจมันหน่อยเดี๋ยวจะงอน มันหรี่ตามองผมก่อนจะลงมือจัดการข้าวตรงหน้า ผมยิ้มขึ้นมาเหลือบตามองน้องๆวิศวะหน้าใสเหล่านั้นอีกแวบนึงให้พอกระชุ่มกระชวย
แปะ!
อยู่ๆก็มีมือดีมาตบหน้าผากของผมเต็มแรง จนไอ้ภูเงยหน้าขึ้นมอง
“แดกข้าวอร่อยไหม หืมม”ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้ตินนี่เอง มันหอบม้วนกระดาษมาด้วย ก่อนจะนั่งลงข้างๆผม
“อร่อยดิ”ผมยักคิ้วให้มัน
“มองผู้ชายตาเป็นมันเชียวนะมึง เดี๋ยวจะโดนลงโทษ”ไอ้ตินทำหน้าดุใส่ก่อนจะคว้าจานข้าวเหี่ยวๆของมันมากิน
“งดสองเดือน อย่าลืม”ผมเตือนความจำมัน
“ลงโทษแบบอื่นไง มึงนี่คิดแต่เรื่องใต้สะดือนะ”มันพูดด้วยสีหน้าขบขัน
“เป็นไรวะ”ผมเห็นมันมีหน้าไม่ค่อยดี
“ม๊ากูป่วยอ่ะ”ไอ้ตินถอนหายใจ
“แล้วอาการเป็นไงบ้างวะ”ผมเริ่มจะกังวลขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน
“ก็...ยังไม่ค่อยดีน่ะ”
“อ้อ...”ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร คือผมได้ยินมาแว่วๆว่าม๊าไอ้ตินมันไม่ค่อยสบายใจเรื่องความสัมพันธ์ของมันเท่าไหร่ จริงอยู่ที่คราวก่อนนู้นที่มันบอกครอบครัวมัน ทางนั้นก็ดูเหมือนจะรับได้ แต่ก็เหมือนที่ผมบอก ผมคิดว่าม๊ามันยังไม่ค่อยโอเคเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ส่วนพ่อไอ้ภูยังไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ประหลาดๆนี้เลย
“ทำหน้าแบบนั้นทำไม”ไอ้ตินยิ้มจางเมื่อหันมาเห็นสีหน้าของผม
“เปล่า”ผมไหวไหล่
“ไม่ต้องห่วงหรอก กูจัดการได้”มันวางมือบนศีรษะของผมก่อนจะโยกเบาๆ
“ขอโทษนะครับ พี่ภู”เจ้าเด็กหน้าใสที่ผมเพ่งเล็งเดินเข้ามาทักไอ้ภูด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆ
“มีอะไรอ่ะ”มันตอบรับแบบไม่ใส่ใจนัก ผมเองก็แอบเงียหูฟัง
“คือผมอยู่สายรหัสเดียวกับพี่อ่ะ ไม่รู้ว่าพี่จะทราบหรือยัง”มันหัวเราะเผยให้เห็นลักยิ้ม ผมเห็นไอ้ภูมองหน้าไอ้เด็กนั่นอยู่พักหนึ่ง
“อ๋อ...จริงดิ พี่ก็จำน้องๆไม่ค่อยได้หรอก เยอะจะตายว่าแต่ชื่ออะไรล่ะเรา”มันขยับตัวมานั่ง ผมแอบย่นคิ้วเพราะท่าทางแบบนี้ของมันบ่งบอกว่ามันกำลังสนใจ
“ชื่อบอมครับ วิศวะเคมี”น้องบอมยิ้มกว้าง ไอ้ภูหันมามองหน้าผมด้วยสายตารู้ทัน
“ไงก็ยินดีที่ได้รู้จักล่ะ”หลังจากนั้นน้องบอมก็หลบฉากออกไป ไอ้ภูหันมาสนใจผมอีกครั้ง
“อย่าคิดจะแอ้มเด็กคณะกูนะเว้ย ฟิก ไม่งั้นกูเล่นมึงแน่”ไอ้ภูขู่ ผมเหลือบมองไอ้ตินก่อนจะหันไปมองไอ้ตัวการ
“กูไม่แอ้มหรอก แต่กลัวใครบางคนจะเก็บไว้กินเองมากกว่าอ่ะดิ”สเป็คมันเลยด้วย ไอ้น้องบอมนั่นน่ะ ไอ้ภูหัวเราะหึ
“สเป็คกูก็จริง แค่กูไม่เอามันหรอก มึงจะหึงทำไม”ผมสำลักข้าวทันที จนไอ้ตินต้องช่วยทุบหลังให้ พร้อมกับส่งแก้วน้ำให้ผม
“กูไม่ได้หึง”ไอ้ตินหัวเราะในทันที ผมมองมันเคืองๆ
“เออ ไม่หึงก็ไม่หึง แล้วอย่ามางี่เง่ากับกูทีหลังล่ะ”มันพูดยิ้มๆก่อนจะเงียบไป เพราะจัดการข้าวในจานของมันต่อ ไอ้ตินกดโทรศัพท์ด้วยสีหน้าหงุดหงิด ผมชะโงกหน้ามองหน้าจอมือถือของมัน ทันเห็นแวบๆว่ามีคนทักไลน์มันมา เดาว่ารุ่นน้องที่ชอบมันแน่ๆ มันเคยเล่าให้ผมฟังแล้วว่ามีเด็กมาติดมัน ผมนี่แบบ อะไรวะ ฮอตทั้งไอ้ภูทั้งไอ้ติน ของแก่ฟีเวอร์รึไง แต่ผมก็ไม่ได้อะไรสักเท่าไหร่เพราะมันก็เล่าให้ผมฟังตลอด
“รุ่นน้องเหรอ”
“เออ แม่งปีนเกลียว”ไอ้ภูเงยหน้ามาฟังอย่างสนใจ เรื่องแบบนี้ของชอบมันเลย ได้ยินมาอีกว่ารุ่นพี่มันอยากให้มันมาช่วยว้าก ในช่วงห้องเชียร์เพื่อความเข้มข้น
“ทำไมวะ”ไอ้ภูถาม
“ก็...”แล้วไอ้ตินก็เล่าให้ฟังว่าเจ้าเด็กปีสองมันชอบมาทักไอ้ตินแบบเป็นกันเอง ไม่เคารพมัน ขึ้นมึงขึ้นกูด้วย ตอนแรกมันก็ไม่ซีเรียสอะไรแต่มันเริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆจนมันมีอาการหงุดหงิดอย่างที่เห็น
“ทนไม่ไหวก็เล่นแม่งเลย”ไอ้ภูยิ้มชั่วตามสไตล์คนห่าม ไอ้ตินแค่ไหวไหล่ คนอย่างมันไม่่ค่อยใช้กำลังหรอกถ้าหากว่าไม่จำเป็น
ตอนเย็นไอ้ตินจะแวะไปเยี่ยมม๊ามัน ผมก็ว่าจะไปด้วยเหมือนกัน ทำตัวดีๆหน่อยเผื่อจะเรียกคะแนนจากม๊ามันได้
“กูไปได้แน่นะ”ไอ้ภูถามขึ้นมาอย่างไม่แน่ใจระหว่างที่อยู่ในรถ
“ได้ดิพี่”มันหัวเราะเบาๆ ผมรู้ว่าไอ้ภูมันกังวลเรื่องอะไรเพราะผมเองก็แอบกังวลไม่ต่างกัน เมื่อมาถึงบ้านของไอ้ตินยอมรับเลยว่าบรรยากาศบ้านของมันเปลี่ยนไป ปกติจะดูมีชีวิตชีวากว่านี้ ผมมองไปรอบๆ ไอ้ภูยืนนิ่วหน้าอยู่ใกล้ๆผม
“กู...รออยู่ข้างนอกดีกว่ามั้ง”มันพึมพำขึ้นมา
“มาเถอะน่า”ไอ้ตินพยักหน้าเรียกผมกับไอ้ภูเข้าไป ป้านอมกำลังยกถาดข้าวต้มลงมาจากห้องด้านบน
“สวัสดีครับป้า”ไอ้ตินเข้าไปกอดไปหอมตามปกติ ผมกับไอ้ภูได้แต่ยืนส่งยิ้มแห้งๆให้ ม๊าไอ้ตินพักอยู่บนห้อง ระหว่างนั้นเจอป๊าไอ้ตินพอดี ผมกับพวกมันก็ยกมือไหว้ตามปกติ ป๊ามันยิ้มมองผมกับไอ้ภูก่อนจะลงไปข้างล่าง
“ป๊ามันคงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมวะ”
“ไม่หรอก ตอนนั้นมึงจำที่เขาพูดไม่ได้เหรอ”ผมยังจำได้ดีว่าป๊าไอ้ตินไม่อยากจะขัดเรื่องของพวกเราเพราะเราก็ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ
“กูจำได้ แต่สีหน้าป๊ามันดูแปลกๆว่ะ กูชักจะสังหรใจแล้วดิ เขาไม่ได้ค้านก็จริง แต่...ป๊ามันรับได้จริงเหรอวะ”ได้ยินไอ้ภูพูดแบบนี้ ผมเริ่มจะเครียดบ้างแล้ว ไอ้ตินแตะบ่าผมให้เข้าไปในห้อง
“แม่ผมพาแฟนมาเยี่ยม”ไอ้ตินพูดด้วยน้ำเสียงสดชื่น ผมหันไปกะจะคุยกับไอ้ภู ห่าราก มันไม่ได้ตามเข้ามาด้วยนี่หว่า
“สวัสดีครับ”ผมนั่งลงข้างๆไอ้ติน ม๊ามันดูซูบลงไปเยอะเลย
“หวัดดีจ๊ะ แล้วพ่อหนูอีกคนไม่มาเหรอ”ม๊ามันถามเบาๆ ไอ้ตินกระแอมเหมือนมันจะขอพูดเองผมก็เลยได้แต่นั่งเงียบๆ
“พี่เขารออยู่ด้านล่างน่ะครับ”มันยิ้มก่อนจะดึงผ้าห่มคลุมตัวม๊ามัน
“มีความสุขกันดีไหมลูก”ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แต่ก็ทำให้ผมไม่สบายใจอย่างประหลาด
“ก็เรื่อยๆตามประสาแหละครับ สุขบ้างทุกข์บ้าง พอเป็นสีสันของชีวิต แต่ผมบอกเลยว่าลูกชายม๊านิสัยดีจริงๆครับ”ผมตอบขึ้นมา ไอ้ตินมองผมเหมือนไม่คิดว่าผมจะกล้าตอบ ม๊ามันหัวเราะเบาๆก่อนจะมองหน้าผม
“ลูกชายม๊านิสัยดีแล้วทำไมหนูคบกับลูกชายม๊าคนเดียวไม่ได้ล่ะ”รอยยิ้มหายไปจากหน้าไอ้ตินทันที
“ม๊า!”มันทำหน้าบูด
“ม๊าแค่อยากรู้เฉยๆ...”แล้วท่านก็เงียบไป ถ้าผมตอบว่าผมก็รักไอ้ภูเหมือนกันคงเป็นคำตอบที่ตลกและเห็นแก่ตัวน่าดู ผมเลยปิดปากเงียบเพราะไม่รู้จะตอบว่ายังไง
“ฟิก มึงลงไปรอข้างล่างก่อนดิ กูเคลียร์เอง”
“เอางั้นเหรอ”ผมมองหน้าไอ้ตินอย่างไม่แน่ใจ
“อืม ไม่เป็นไรหรอก”คำพูดของมันทำให้ผมอุ่นใจอย่างประหลาด ลงมาด้านล่างก็ไม่เห็นไอ้ภู ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากสวน ผมจึงตามไป แปลกใจที่เห็นป๊าไอ้ตินกำลังส่งบอลไปมาให้ไอ้ภู บร๊ะเจ้า!ไอ้ภูหัวเราะครับ ผมยอมรับว่าไม่ค่อยได้เห็น เป็นการหัวเราะที่...ไม่รู้สิเหมือนออกมาจากใจจริงๆ แต่ก็อดสะท้อนใจไม่ได้ คนที่มันควรเล่นด้วยน่าจะเป็นพ่อมันมากกว่า แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันแหละนะ พ่อไอ้ภูผีเข้าผีออกจะตาย
“ฟิกรับนะลูก”ผมพึ่งเดินเข้ามายังไม่ทันได้ตั้งตัวก็เตอเข้ากับลูกบอลหนักๆลอยอัดหัวเต็มๆเล่นเอาเซเลย ไอ้ภูหัวเราะพร้อมกับเข้ามาดูผม
“อ่อนว่ะ”มันยิ้มเยาะ ก่อนจะดึงให้ผมยืนขึ้น ป๊าไอ้ตินมองอยู่ห่างๆ
“เห็นพวกเรารักกันแบบนี้ป๊าก็ดีใจ มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน”ท่านยิ้ม ก่อนจะเดินเข้ามาตบบ่าผมกับไอ้ภู
“ป๊าเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่หรอกนะไอ้เรื่องแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดจะขัดขวางอะไรหรอกนะ แต่ม๊าน่ะ หนักกว่าป๊าอีก แกไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่”
“ขอบคุณครับที่พูดตรงๆ”ไอ้ภูยิ้มจาง
“ตอนนี้ม๊าเขาคงต้องการเวลา ไม่ต้องเครียดไปหรอก”แล้วท่านก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน พอดีกับที่ไอ้ตินออกมาพอดี ท่าทางมันดูหงุดหงิด
“เป็นไง”ไอ้ภูเป็นฝ่ายถาม
“ม๊าอยากให้กูทบทวนเรื่องมึง กูไม่เข้าใจว่ะว่าทำไมจู่ๆม๊าก็เป็นแบบนี้”มันขมวดคิ้วมุ่น มือกำแน่น
“ใจเย็นน่า”ผมจับมือมันบีบเบาๆ
“ม๊ากูรู้เรื่องมึงด้วยนะ ที่มึงเคยกิ๊กกับแฟนคนอื่นน่ะ”ผมเบิกตาด้วยความตกใจ ม๊ามันจะรู้ได้ไงหากไม่มีคนเอาไปบอก
“แฟนเก่ามึงบอกรึเปล่า”ไอ้ภูแทรกขึ้นมา หมายถึงพี่อันน่ะเหรอ...ไอ้ตินยังคงทำหน้าเครียดอยู่
“แล้วม๊ามึงว่าไง”ผมถามเบาๆแต่ไอ้ตินมันไม่ได้ตอบไม่รู้ว่าไม่ได้ยินหรือไม่อยากพูดถึงกันแน่ ดูเหมือนจะมีบททดสอบบทใหม่มาให้ผมอีกแล้วสินะ ไอ้ผมนี่ก็เจอเรื่องหนักๆมาเยอะแล้ว แค่นี้ผมไม่หวั่นหรอกเว้ยย เพื่อพวกมัน ไอ้ฟิกทนได้!
TBC.
กลับมาแล้วว ตอนแรกกะจะลงที่กระทู้เก่าแต่ระยะเวลาของเนื้อเรื่องมันจะซ้อนทับกับตอนพิเศษ
เลยมาตั้งใหม่ ที่กลับมาเปิดอีกครั้งเพราะอยากเขียนเรื่องของตินให้มากกว่านี้
ทั้งอดีตเก่าๆก็ด้วย ตัวละครเก่าอย่างนัท(แฟนเก่าติน)จะมีบทบาทแน่นอน
เราไม่เน้นดราม่าก็คงป่วนๆหื่นๆเหมือนเคย
ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ
