พิมพ์หน้านี้ - 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: DuenTwinBII ที่ 02-09-2015 00:07:39

หัวข้อ: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 02-09-2015 00:07:39
 :jul1:ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ





(http://www.mx7.com/i/c64/tBuXrk.png) (http://www.mx7.com/view2/yYYzPmNCHq45fS5L)



[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน

 :ped149: •สารบัญ • :ped149:


บทนำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3168274#msg3168274)
ตอนที่ ๑ มารผจญ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3169261#msg3169261)
ตอนที่๒ แฟนเก่า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3172127#msg3172127)
ตอนที่๓ ระแวง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3172337#msg3172337)
ตอนที่๔ โกรธ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3173590#msg3173590)
ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3173844#msg3173844)
ตอนที่๖ ออกค่าย1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3174525#msg3174525)
ตอนที่๗ ออกค่าย2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3176953#msg3176953)
ตอนที่๘ ออกค่าย3  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3178436#msg3178436)
ตอนที่๙ บทเรียน  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3181871#msg3181871)
ตอนที่๑๐ เสี่ยง   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3184828#msg3184828)
Piw 1  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3186412#msg3186412)
ตอนที่๑๑ ติน ครึ่งแรก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3188374#msg3188374)
ตอนที่๑๑ ติน ครึ่งหลัง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3191095#msg3191095)
ตอนคั่นเวลา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3205636#msg3205636)
Piw: ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3206894#msg3206894)
ตอนที่ ๑๒ ครึ่งแรก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3213148#msg3213148)
ตอนที่๑๒ ครึ่งหลัง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3225461#msg3225461)
 ช่วงตอบคำถามของสามหน่อ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3225463#msg3225463)
 ตอนที่๑๓ ว่าน ครึ่งแรก  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3227170#msg3227170)
 ตอนที่๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3238436#msg3238436)
 SP’ ลอยกระทง  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3239193#msg3239193)
 ตอนที่๑๔ เมื่อฟิกไม่อยู่...? (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3250340#msg3250340)
 ตอนที่๑๕ เมื่อฟิกโกรธ… (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3259731#msg3259731)
ตอนที่๑๖  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3269659#msg3269659)
ตอนที่๑๗  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3274914#msg3274914)
ตอนที่๑๘  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3275709#msg3275709)
ตอนที่๑๙  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3283337#msg3283337)
ตอนที่ ๒๐  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3288483#msg3288483)
ตอนที่ ๒๑  (http://[http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3294707#msg3294707)
 ตอนที่๒๒ HBD To Fix  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3295474#msg3295474)
 ตอนที่๒๓  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3298072#msg3298072)
 ตอนที่๒๔  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3299170#msg3299170)
 ตอนที่ ๒๕  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3301938#msg3301938)
 ตอนที่๒๖ INSIDE PHU (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3302713#msg3302713)
 ตอนที่๒๖ INSIDE TIN (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3304178#msg3304178)
 ตอนที่๒๗ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3310069#msg3310069)
 ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3316046#msg3316046)
 ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3318211#msg3318211)
 ตอนที่๒๙.๑ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3322809#msg3322809)
 ตอนที่๒๙.๒ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3328738#msg3328738)
 Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆ .3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3330358#msg3330358)
 ตอนที่๒๙.๓ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3332727#msg3332727)
 ตอนที่๒๙.๔ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3334326#msg3334326)
 ตอนที่๓๐ END (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48569.msg3336791#msg3336791)

ตามอ่านภาคหลักได้ที่นี่ค่ะ
➳ ➳ภาคหลัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40446.0)



หัวข้อ: Re: [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 02-09-2015 00:21:51



บทนำ



สวัสดีครับผมชื่อฟิก เคยมีรสนิยมประหลาดๆคือกิ๊กกั๊กกับแฟนชาวบ้านเขา แต่ตอนนี้ผมลดละเลิกไปหมดแล้วครับ เพราะผู้ชายสองคนที่เข้ามาในชีวิตของผมแบบเชี่ยๆ แต่เชื่อไหมว่าผมคบกับพวกมันมาได้เกือบสองปีกว่าๆแล้ว นานเวอร์ สำหรับคนที่ไม่เคยคบใครจริงจังแบบผม

แต่คงเพราะผู้ชายเชี่ยๆที่ว่ามันมีดีกรีความหื่นความโหดที่น่าสะเทือนขวัญและบทเรียนหลายๆอย่างที่มันมอบให้ก็ทำเอาผม'กลัว'การแอบกิ๊กกับคนอื่น แต่ถ้าแซวพอหอมปากหอมคอผมก็เล่นด้วยได้ แหม ก็รู้ๆอยู่ว่าบทลงโทษของมันสองคนเป็นแบบไหน แต่พักหลังๆมันก็เบามือลงบ้างแล้ว เพราะคำพูดล้อเล่นของไอ้หมาภูนั่นล่ะ ทำเอาผมหมดความมั่นใจ

“ไอ้ฟิก กูบอกว่ากูล้อเล่น”ไอ้ภูทำหน้าบูดเมื่อเห็นผมออกกำลังกายในห้องอีกแล้ว ผมบังคับให้ไอ้ตินซื้อเครื่องออกกำลังกายมาให้ผมใช้ ผมเหล่มองไอ้ภูด้วยอารมณ์บูดบึ้งไม่แพ้กันต่างจากไอ้ตินที่นั่งขำจนตัวสั่น

“ใช่เรื่องเล่นไหมวะ”ผมพึมพำอย่างหงุดหงิด ไอ้ภูเดินมาหาใกล้ๆ

“กูขอโทษอ่ะ”มันก็ยังไม่ทำให้ผมหายงอนมันได้อยู่ดี รู้ไหมว่ามันพูดอะไรกับผมเมื่อสองอาทิตย์ก่อนหลังจากที่จึกๆกันแล้ว มันบังอาจมาแซวผมว่า 'หลวม' นี่ถ้าผมกรี๊ดได้คงกรี๊ดไปแล้ว มันพูดออกมาได้ยังไง ผมเขวี้ยงสายตาเคืองๆไปให้มัน

“เชี่ยแม่ง ต่อจากนี้งดสองเดือน”นี่ผมพูดจริงนะ ยอมรับว่าเมื่อก่อนมันใช้งานผมเยอะจริงๆ ผมได้อ่านบทความในเน็ตมาบ้าง ก็เลยนำมาปรับใช้

“โอเคๆ”มันไม่เถียงแต่เข้ามากอดมาซบผมแทน

“ไปไกลๆตีนกูเลย”ผมผลักมันออกก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆไอ้ตินที่มีรอยยิ้มขำแปะอยู่บนหน้า

“ขำไรวะ”ถามมันด้วยเสียงหาเรื่อง

“เปล่านี่”มันส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม ผมเม้มปากก่อนจะเกาต้นคอ เพราะคำพูดของไอ้ภูทำผมเสียเสียหน้า เสียอารมณ์เอามากๆ

“เออ ไอ้ติน ถามจริงๆนะ”ผมเลียบๆเคียงๆพูดกับมันอย่างอยากลำบาก หน้าร้อนผ่าวๆขึ้นมาทันที พลางมองไอ้ภูกัดแอปเปิ้ลด้วยสายตาหงุดหงิด

“ว่า...”แต่รอยยิ้มของมันดันทำผมชะงัก เหมือนกับว่ามันรู้ทันว่าผมจะถามอะไร

“คือเวลาที่มึง....กู...มึงคิดแบบไอ้ภูหรือเปล่า”มึงคิดแบบไอ้ภูหรือเปล่าผมรีบพูดโดยไม่มองหน้ามัน

“มึงคิดแบบไอ้ภูหรือเปล่า"ผมรีบพูดโดยไม่มองหน้ามัน”

“ก็...ไม่นี่ พี่เขาล้อเล่นมึงอย่าคิดมากดิ”มันเอานิ้วจิ้มแก้มผม

“กูหมดมู้ดเลย มึงเข้าใจกูไหม แบบว่าตามปกติกูก็ไม่ใช่ฝ่ายโดนจิ้มป่ะวะ”ผมทุบไหล่มันระบายความแค้น ไอ้ภูเดินมานั่งข้างๆผม

“กูขอโทษที่ปากหมา กูแค่จะแซวมึงขำๆเอง”

“...”ผมยังคงเมินมันอยู่ดี

“ต่อจากนี้...กูจะถนอมมึงให้มากๆนะ จะไม่รุนแรง จะไม่เล่นท่ายาก--”

“ไอ้เชี่ย”ผมคว้าหมอนปาใส่มัน ไอ้ภูยิ้มกว้าง

“งดสองเดือน เข้าใจไหม”ผมชี้หน้ามันสองคน ไอ้ตินไหวไหล่อย่างจำนน อันที่จริงผมก็เคยคุยๆกับพวกมันมาบ้างเหมือนกันว่าควรจะงดหื่นบ้างเพราะผมไม่อยากให้คนมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกมันสองคนเป็นแค่เซ็กซ์

“แล้วก็อย่าไปแอบมีอีหนูกันล่ะพวกมึง”ผมทำหน้าดุใส่

“มึงเห็นกูขี้เอาขนาดนั้นเลย”ไอ้ภูสวนขึ้นมา

“คิดดีแล้วใช่ไหมที่พูดเนี่ย”มึงมันตัวดีเลย ไอ้ตินหัวเราะหึๆอยู่ใกล้ๆ

“เออ ถ้าไม่ใช่มึงกูเอาไม่ลงหรอก”ผมแอบเบ้ปากทันที แต่ก็แอบดีใจลึกๆ หึๆ

“กูพูดจริงๆนะ”

“เออๆ”ผมคว้าผ้าขนหนูไปอาบน้ำ

“ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อเลย ไอ้นี่ กูรักมึงนะ”อยู่ๆมันก็พูดขึ้นมา อารมณ์ไหนของมันวะเนี่ย ผมบ่นหน้าก่อนจะเข้าไปอาบน้ำขัดเนื้อขัดตัวพอเป็นพิธี ออกมาก็เจอไอ้ตินกำลังทาครีมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ผมเดินเข้าไปหามันก่อนจะเสยผมม้าของมันขึ้น

“ผมยาวแล้ว”ผมมองมันละเลงครีมบนแขน

“อือ ว่าจะไปตัดพรุ่งนี้ ไปด้วยกันไหม”มันถามจ้องตาผมผ่านกระจก

“ไม่อ่ะ กูอยากไว้ยาวอีกหน่อย”ไอ้ตินย่นหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร กลิ่นบุหรี่ลอนมาจากด้านนอกคาดว่าคงเป็นไอ้ภู จะว่าไปก็คิดถึงพี่มินเหมือนกัน ย้ายออกไปหลายเดือนแล้วไม่มีเพื่อนคุยเลย ดูเหมือนความสัมพันธ์ของพี่พิสกับพี่มินจะดีขึ้นเรื่อยๆ ไอ้ภูกลับเข้ามาพร้อมกลิ่นบุหรี่ จนไอ้ตินย่นจมูกมันลดละเลิก บุหรี่แล้วครับ คนดีจริงๆ
ตอนเช้าเป็นวันเปิดเทอมของปีสามวันแรก ผมขุดชุดนิสิตยับๆมาใส่ เพราะไม่ได้รีด ไอ้ภูกับไอ้ตินขึ้นปีสี่แล้ว ความหล่อเฟี้ยวฟ้าวคนเดิม ไอ้ตินมาส่งผมที่คณะที่คึกคักเป็นพิเศษเห็นน้องปีหนึ่งเดินงงให้ขวัก

“ตั้งใจเรียนอย่าเต๊าะเด็กล่ะ”ไอ้ตินพูดขึ้นระหว่างที่ผมกำลังลงจากรถ

“คนอย่างกูไว้ใจได้อยู่แล้ว”

“ถุย”

“อ้าว”ไม่เชื่ออี๊ก

“เออๆ รีบไปเรียนได้แล้ว”มันโบกมือไล่

“อย่าลืมคิดถึงกูล่ะ จุ๊บๆ”ผมทำปากจู๋กวนประสาทมันเล่นก่อนจะรีบลงจากรถ และทันทีที่ผมก้าวเข้าไปในคณะนุ้งน้องก็ยกมือไหว้อย่างพร้อมเพรียง รู้มาว่าไอ้เคนได้เป็นพี่ว้ากด้วย รอบตัวผมมีแต่คนแบบนี้เนอะ

“หวัดดีครับเพื่อน ไม่เจอนานคิดถึงจังเลย”ผมชูแขนเข้าไปกอดไอ้ชายกับไอ้เคนด้วยความคิดถึง

“ปล่อยกูเว้ย ขนลุก”ไอ้ชายสะบัดแขนออกจากผมก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆด้วยท่าทางแช่มชื่น

“ไงพี่ว้ากคณะ”ผมนั่งลงข้างๆไอ้เคน มันชักสีหน้าหงุดหงิดใส่ผม ก่อนจะทำหน้าดุ

“เดี๋ยวกูสั่งซ่อม”

“ทำมาพูด นอกห้องเชียร์มึงหมดอำนาจ”ผมไม่กลัวมันหรอก เสียงแว้ดๆของอีปลาดังมาแต่ไกล

“กูได้รายชื่อน้องมาแล้วเว้ย ปีนี้ขอบอกว่าแซ่บมาก”มันส่งกระดาษรายชื่อให้พวกผม ผมไล่สายตาอ่านชื่อพวกนั้น
ไปพลางๆ

“นั่นน้องอั๋น ”มันชี้ไปที่เด็กตัวสูงสวมแว่น หัวฟูๆท่าอินดี้ๆ

“กูเล็งส่งเข้าประกวดเดือนคณะ”มันทำหน้ามุ่งมั่น ผมมองไอ้พวกเด็กกลุ่มนั้น ผมว่าคนหน้าตาดีกว่าไอ้อั๋นมีตั้งเยอะนะ


“กูว่าไอ้พีดีกว่า”ผมบุ้ยใบ้ไปที่เด็กหน้าหล่อที่ยืนหัวเราะกับกลุ่มเพื่อน

“งานส่องเด็กหน้าตาดีต้องให้อีฟิก กูยอมอ่ะ”มันยิ้มแรดๆมาให้ผม พวกผมเลิกสนใจไอ้เด็กพวกนั้นเพราะต้องเข้าเรียนคาบแรก ปีนี้มีแต่เรียนที่คณะ มีเรียนที่ตึกรวมแค่วิชาเดียวคือภาษาอังกฤษ อาจารย์ก็แซวไปว่าปีสามที่โสดอยู่จะหมดโอกาสได้แฟนเพราะส่วนใหญ่หมกอยู่แต่ที่คณะ คาบแรกยังไม่สอนอะไรมากแค่ชี้แจงแผนการสอน บลาๆ จนผมชักจะเบลอ

ครืด~ครืด

ภู:ตอนกลางวันเดี๋ยวไปรับ

ฟิก:ไปไหน

ภู:กินข้าวดิ หรือมึงแดกหญ้า

เอ้า ไอ้นี่นิ ชอบจริงเลยนะด่าผมเนี่ย

ฟิก:จ้าๆ

ก็เลยกวนตีนมันไป มันมารับผมเร็วมาก ส่วนไอ้ตินจะตามมาทีหลัง บอกเลยว่าร้านนี้เด็กวิศวะจอง เพราะมีแต่พวกปีหนึ่งหน้าใสทั้งนั้น ไอ้ภูดูหงุดหงิดเอาเรื่องแต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรกันแน่ บางทีมันหันมาจ้องผมดุๆ

“เป็นไร ลืมฉีดยาเหรอ”ไอ้ภูนี่เหมือนหมาบ้าจริงๆสงสัยอากาศจะร้อนไปหน่อย ฮ่าๆ หรือมันโมโหหิว มันแค่ขึงตามองผมก่อนจะสนใจโทรศัพท์ของมันไป ส่วนผมก็แอบๆเหลืบมองเด็กปีหนึ่งแถวๆนั้นไปพลาง

“อ้าวๆ ไอ้ฟิก หุบปากหน่อยมึง เดี๋ยวกูตบฟันร่วง”เสียงของไอ้ภูทำให้ผมละสายตาจากเป้ากางเกง เอ้ย ละสายตาจากเด็กวิศวะปีหนึ่งหน้าหล่อใสที่เดินเกาะกลุ่มอยู่ด้านหน้าโต๊ะที่ผมนั่งอยู่ ไอ้ภูนั่งหน้าบูดหน้าบึ้งอยู่ที่เก้าอี้อีกตัว ผมคลี่ยิ้มส่งไปให้

“กูแค่มองเฉยๆเอง”ผมอธิบายพร้อมกับเขี่ยข้าวเปล่าในจานไปมา

“จะมองก็มองหน้ากูดิ”มีแบบนี้ด้วย

“โหย กูเห็นเกือบทุกวัน”

“ก็เลยเบื่อใช่ไหม”ไอ้ภูโน้มตัวเข้ามาหาผมสีหน้าดูหงุดหงิดมากขึ้น ไอ้นี่พูดเองเออเองอีก ผมวางช้อนก่อนจะวางมือลงบนท่อนแขนของไอ้ภู

“กูไม่เบื่อมึงหรอกน่า...”ผมพูดเสียงอ่อนให้มันวางใจ อันที่จริงผมก็ไม่เคยเบื่อมันนะ ยกเว้นเวลาที่มันชอบทำตัวงอแง ผมเห็นมันหน้าหงิกก็เลยตักกับข้าวใส่จานให้มัน เอาใจมันหน่อยเดี๋ยวจะงอน มันหรี่ตามองผมก่อนจะลงมือจัดการข้าวตรงหน้า ผมยิ้มขึ้นมาเหลือบตามองน้องๆวิศวะหน้าใสเหล่านั้นอีกแวบนึงให้พอกระชุ่มกระชวย

แปะ!

อยู่ๆก็มีมือดีมาตบหน้าผากของผมเต็มแรง จนไอ้ภูเงยหน้าขึ้นมอง

“แดกข้าวอร่อยไหม หืมม”ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้ตินนี่เอง มันหอบม้วนกระดาษมาด้วย ก่อนจะนั่งลงข้างๆผม

“อร่อยดิ”ผมยักคิ้วให้มัน

“มองผู้ชายตาเป็นมันเชียวนะมึง เดี๋ยวจะโดนลงโทษ”ไอ้ตินทำหน้าดุใส่ก่อนจะคว้าจานข้าวเหี่ยวๆของมันมากิน

“งดสองเดือน อย่าลืม”ผมเตือนความจำมัน

“ลงโทษแบบอื่นไง มึงนี่คิดแต่เรื่องใต้สะดือนะ”มันพูดด้วยสีหน้าขบขัน

“เป็นไรวะ”ผมเห็นมันมีหน้าไม่ค่อยดี

“ม๊ากูป่วยอ่ะ”ไอ้ตินถอนหายใจ

“แล้วอาการเป็นไงบ้างวะ”ผมเริ่มจะกังวลขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน

“ก็...ยังไม่ค่อยดีน่ะ”

“อ้อ...”ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร คือผมได้ยินมาแว่วๆว่าม๊าไอ้ตินมันไม่ค่อยสบายใจเรื่องความสัมพันธ์ของมันเท่าไหร่ จริงอยู่ที่คราวก่อนนู้นที่มันบอกครอบครัวมัน ทางนั้นก็ดูเหมือนจะรับได้ แต่ก็เหมือนที่ผมบอก ผมคิดว่าม๊ามันยังไม่ค่อยโอเคเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ส่วนพ่อไอ้ภูยังไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ประหลาดๆนี้เลย

“ทำหน้าแบบนั้นทำไม”ไอ้ตินยิ้มจางเมื่อหันมาเห็นสีหน้าของผม

“เปล่า”ผมไหวไหล่

“ไม่ต้องห่วงหรอก กูจัดการได้”มันวางมือบนศีรษะของผมก่อนจะโยกเบาๆ

“ขอโทษนะครับ พี่ภู”เจ้าเด็กหน้าใสที่ผมเพ่งเล็งเดินเข้ามาทักไอ้ภูด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆ

“มีอะไรอ่ะ”มันตอบรับแบบไม่ใส่ใจนัก ผมเองก็แอบเงียหูฟัง

“คือผมอยู่สายรหัสเดียวกับพี่อ่ะ ไม่รู้ว่าพี่จะทราบหรือยัง”มันหัวเราะเผยให้เห็นลักยิ้ม ผมเห็นไอ้ภูมองหน้าไอ้เด็กนั่นอยู่พักหนึ่ง

“อ๋อ...จริงดิ พี่ก็จำน้องๆไม่ค่อยได้หรอก เยอะจะตายว่าแต่ชื่ออะไรล่ะเรา”มันขยับตัวมานั่ง ผมแอบย่นคิ้วเพราะท่าทางแบบนี้ของมันบ่งบอกว่ามันกำลังสนใจ

“ชื่อบอมครับ วิศวะเคมี”น้องบอมยิ้มกว้าง ไอ้ภูหันมามองหน้าผมด้วยสายตารู้ทัน

“ไงก็ยินดีที่ได้รู้จักล่ะ”หลังจากนั้นน้องบอมก็หลบฉากออกไป ไอ้ภูหันมาสนใจผมอีกครั้ง

“อย่าคิดจะแอ้มเด็กคณะกูนะเว้ย ฟิก ไม่งั้นกูเล่นมึงแน่”ไอ้ภูขู่ ผมเหลือบมองไอ้ตินก่อนจะหันไปมองไอ้ตัวการ

“กูไม่แอ้มหรอก แต่กลัวใครบางคนจะเก็บไว้กินเองมากกว่าอ่ะดิ”สเป็คมันเลยด้วย ไอ้น้องบอมนั่นน่ะ ไอ้ภูหัวเราะหึ

“สเป็คกูก็จริง แค่กูไม่เอามันหรอก มึงจะหึงทำไม”ผมสำลักข้าวทันที จนไอ้ตินต้องช่วยทุบหลังให้ พร้อมกับส่งแก้วน้ำให้ผม

“กูไม่ได้หึง”ไอ้ตินหัวเราะในทันที ผมมองมันเคืองๆ

“เออ ไม่หึงก็ไม่หึง แล้วอย่ามางี่เง่ากับกูทีหลังล่ะ”มันพูดยิ้มๆก่อนจะเงียบไป เพราะจัดการข้าวในจานของมันต่อ ไอ้ตินกดโทรศัพท์ด้วยสีหน้าหงุดหงิด ผมชะโงกหน้ามองหน้าจอมือถือของมัน ทันเห็นแวบๆว่ามีคนทักไลน์มันมา เดาว่ารุ่นน้องที่ชอบมันแน่ๆ มันเคยเล่าให้ผมฟังแล้วว่ามีเด็กมาติดมัน ผมนี่แบบ อะไรวะ ฮอตทั้งไอ้ภูทั้งไอ้ติน ของแก่ฟีเวอร์รึไง แต่ผมก็ไม่ได้อะไรสักเท่าไหร่เพราะมันก็เล่าให้ผมฟังตลอด

“รุ่นน้องเหรอ”

“เออ แม่งปีนเกลียว”ไอ้ภูเงยหน้ามาฟังอย่างสนใจ เรื่องแบบนี้ของชอบมันเลย ได้ยินมาอีกว่ารุ่นพี่มันอยากให้มันมาช่วยว้าก ในช่วงห้องเชียร์เพื่อความเข้มข้น

“ทำไมวะ”ไอ้ภูถาม

“ก็...”แล้วไอ้ตินก็เล่าให้ฟังว่าเจ้าเด็กปีสองมันชอบมาทักไอ้ตินแบบเป็นกันเอง ไม่เคารพมัน ขึ้นมึงขึ้นกูด้วย ตอนแรกมันก็ไม่ซีเรียสอะไรแต่มันเริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆจนมันมีอาการหงุดหงิดอย่างที่เห็น

“ทนไม่ไหวก็เล่นแม่งเลย”ไอ้ภูยิ้มชั่วตามสไตล์คนห่าม ไอ้ตินแค่ไหวไหล่ คนอย่างมันไม่่ค่อยใช้กำลังหรอกถ้าหากว่าไม่จำเป็น


ตอนเย็นไอ้ตินจะแวะไปเยี่ยมม๊ามัน ผมก็ว่าจะไปด้วยเหมือนกัน ทำตัวดีๆหน่อยเผื่อจะเรียกคะแนนจากม๊ามันได้

“กูไปได้แน่นะ”ไอ้ภูถามขึ้นมาอย่างไม่แน่ใจระหว่างที่อยู่ในรถ

“ได้ดิพี่”มันหัวเราะเบาๆ ผมรู้ว่าไอ้ภูมันกังวลเรื่องอะไรเพราะผมเองก็แอบกังวลไม่ต่างกัน เมื่อมาถึงบ้านของไอ้ตินยอมรับเลยว่าบรรยากาศบ้านของมันเปลี่ยนไป ปกติจะดูมีชีวิตชีวากว่านี้ ผมมองไปรอบๆ ไอ้ภูยืนนิ่วหน้าอยู่ใกล้ๆผม

“กู...รออยู่ข้างนอกดีกว่ามั้ง”มันพึมพำขึ้นมา

“มาเถอะน่า”ไอ้ตินพยักหน้าเรียกผมกับไอ้ภูเข้าไป ป้านอมกำลังยกถาดข้าวต้มลงมาจากห้องด้านบน

“สวัสดีครับป้า”ไอ้ตินเข้าไปกอดไปหอมตามปกติ ผมกับไอ้ภูได้แต่ยืนส่งยิ้มแห้งๆให้ ม๊าไอ้ตินพักอยู่บนห้อง ระหว่างนั้นเจอป๊าไอ้ตินพอดี ผมกับพวกมันก็ยกมือไหว้ตามปกติ ป๊ามันยิ้มมองผมกับไอ้ภูก่อนจะลงไปข้างล่าง

“ป๊ามันคงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมวะ”

“ไม่หรอก ตอนนั้นมึงจำที่เขาพูดไม่ได้เหรอ”ผมยังจำได้ดีว่าป๊าไอ้ตินไม่อยากจะขัดเรื่องของพวกเราเพราะเราก็ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ

“กูจำได้ แต่สีหน้าป๊ามันดูแปลกๆว่ะ กูชักจะสังหรใจแล้วดิ เขาไม่ได้ค้านก็จริง แต่...ป๊ามันรับได้จริงเหรอวะ”ได้ยินไอ้ภูพูดแบบนี้ ผมเริ่มจะเครียดบ้างแล้ว ไอ้ตินแตะบ่าผมให้เข้าไปในห้อง

“แม่ผมพาแฟนมาเยี่ยม”ไอ้ตินพูดด้วยน้ำเสียงสดชื่น ผมหันไปกะจะคุยกับไอ้ภู ห่าราก มันไม่ได้ตามเข้ามาด้วยนี่หว่า

“สวัสดีครับ”ผมนั่งลงข้างๆไอ้ติน ม๊ามันดูซูบลงไปเยอะเลย

“หวัดดีจ๊ะ แล้วพ่อหนูอีกคนไม่มาเหรอ”ม๊ามันถามเบาๆ ไอ้ตินกระแอมเหมือนมันจะขอพูดเองผมก็เลยได้แต่นั่งเงียบๆ

“พี่เขารออยู่ด้านล่างน่ะครับ”มันยิ้มก่อนจะดึงผ้าห่มคลุมตัวม๊ามัน

“มีความสุขกันดีไหมลูก”ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แต่ก็ทำให้ผมไม่สบายใจอย่างประหลาด

“ก็เรื่อยๆตามประสาแหละครับ สุขบ้างทุกข์บ้าง พอเป็นสีสันของชีวิต แต่ผมบอกเลยว่าลูกชายม๊านิสัยดีจริงๆครับ”ผมตอบขึ้นมา ไอ้ตินมองผมเหมือนไม่คิดว่าผมจะกล้าตอบ ม๊ามันหัวเราะเบาๆก่อนจะมองหน้าผม

“ลูกชายม๊านิสัยดีแล้วทำไมหนูคบกับลูกชายม๊าคนเดียวไม่ได้ล่ะ”รอยยิ้มหายไปจากหน้าไอ้ตินทันที

“ม๊า!”มันทำหน้าบูด

“ม๊าแค่อยากรู้เฉยๆ...”แล้วท่านก็เงียบไป ถ้าผมตอบว่าผมก็รักไอ้ภูเหมือนกันคงเป็นคำตอบที่ตลกและเห็นแก่ตัวน่าดู ผมเลยปิดปากเงียบเพราะไม่รู้จะตอบว่ายังไง

“ฟิก มึงลงไปรอข้างล่างก่อนดิ กูเคลียร์เอง”

“เอางั้นเหรอ”ผมมองหน้าไอ้ตินอย่างไม่แน่ใจ

“อืม ไม่เป็นไรหรอก”คำพูดของมันทำให้ผมอุ่นใจอย่างประหลาด ลงมาด้านล่างก็ไม่เห็นไอ้ภู ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากสวน ผมจึงตามไป แปลกใจที่เห็นป๊าไอ้ตินกำลังส่งบอลไปมาให้ไอ้ภู บร๊ะเจ้า!ไอ้ภูหัวเราะครับ ผมยอมรับว่าไม่ค่อยได้เห็น เป็นการหัวเราะที่...ไม่รู้สิเหมือนออกมาจากใจจริงๆ แต่ก็อดสะท้อนใจไม่ได้ คนที่มันควรเล่นด้วยน่าจะเป็นพ่อมันมากกว่า แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันแหละนะ พ่อไอ้ภูผีเข้าผีออกจะตาย

“ฟิกรับนะลูก”ผมพึ่งเดินเข้ามายังไม่ทันได้ตั้งตัวก็เตอเข้ากับลูกบอลหนักๆลอยอัดหัวเต็มๆเล่นเอาเซเลย ไอ้ภูหัวเราะพร้อมกับเข้ามาดูผม

“อ่อนว่ะ”มันยิ้มเยาะ ก่อนจะดึงให้ผมยืนขึ้น ป๊าไอ้ตินมองอยู่ห่างๆ

“เห็นพวกเรารักกันแบบนี้ป๊าก็ดีใจ มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน”ท่านยิ้ม ก่อนจะเดินเข้ามาตบบ่าผมกับไอ้ภู

“ป๊าเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่หรอกนะไอ้เรื่องแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดจะขัดขวางอะไรหรอกนะ แต่ม๊าน่ะ หนักกว่าป๊าอีก แกไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่”

“ขอบคุณครับที่พูดตรงๆ”ไอ้ภูยิ้มจาง

“ตอนนี้ม๊าเขาคงต้องการเวลา ไม่ต้องเครียดไปหรอก”แล้วท่านก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน พอดีกับที่ไอ้ตินออกมาพอดี ท่าทางมันดูหงุดหงิด

“เป็นไง”ไอ้ภูเป็นฝ่ายถาม

“ม๊าอยากให้กูทบทวนเรื่องมึง กูไม่เข้าใจว่ะว่าทำไมจู่ๆม๊าก็เป็นแบบนี้”มันขมวดคิ้วมุ่น มือกำแน่น

“ใจเย็นน่า”ผมจับมือมันบีบเบาๆ

“ม๊ากูรู้เรื่องมึงด้วยนะ ที่มึงเคยกิ๊กกับแฟนคนอื่นน่ะ”ผมเบิกตาด้วยความตกใจ ม๊ามันจะรู้ได้ไงหากไม่มีคนเอาไปบอก

“แฟนเก่ามึงบอกรึเปล่า”ไอ้ภูแทรกขึ้นมา หมายถึงพี่อันน่ะเหรอ...ไอ้ตินยังคงทำหน้าเครียดอยู่

“แล้วม๊ามึงว่าไง”ผมถามเบาๆแต่ไอ้ตินมันไม่ได้ตอบไม่รู้ว่าไม่ได้ยินหรือไม่อยากพูดถึงกันแน่ ดูเหมือนจะมีบททดสอบบทใหม่มาให้ผมอีกแล้วสินะ ไอ้ผมนี่ก็เจอเรื่องหนักๆมาเยอะแล้ว แค่นี้ผมไม่หวั่นหรอกเว้ยย เพื่อพวกมัน ไอ้ฟิกทนได้!





TBC.
กลับมาแล้วว ตอนแรกกะจะลงที่กระทู้เก่าแต่ระยะเวลาของเนื้อเรื่องมันจะซ้อนทับกับตอนพิเศษ
เลยมาตั้งใหม่ ที่กลับมาเปิดอีกครั้งเพราะอยากเขียนเรื่องของตินให้มากกว่านี้
ทั้งอดีตเก่าๆก็ด้วย ตัวละครเก่าอย่างนัท(แฟนเก่าติน)จะมีบทบาทแน่นอน
เราไม่เน้นดราม่าก็คงป่วนๆหื่นๆเหมือนเคย
ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ :กอด1:


หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 02-09-2015 00:34:32
ใภาคแรกนี้ชอบมากเลยนะ ปกตินิยายหลายๆพี
อ่านแล้วไม่อิน ไม่สนุก มันเป็นความสัมพันธ์รูปแบบกนึ่งที่ไม่ค่อยเก็ท

แต่เรื่องนี้มันทำให้เราติดรู้สึกสนุก มันเข้าใจทั้งสามคน ทำใหเราอิน ดีใจที่มีภาคต่อครับ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 02-09-2015 00:49:05
แม้จะดราม่าหรือออกแนวหน่วงๆ แต่ก็เป็นอะไรที่เราเข้าใจม๊าของตินนะ
คือเป็นเราๆก็คงไม่สบายใจและคงมองฟิกแบบติดลบอ่ะ แต่เราว่าถ้าจะให้ดี
ตินน่าจะเล่าและบอกไปเลยนะว่าตินกับภูได้ฟิกมาเป็นแฟนได้ยังไง
และได้ตกลงกันยังไง แบบบอกไปเลยว่าทั้งภูและตินเป็นคนข่มขืนฟิก
เพราะอยากแก้แค้นที่ฟิกไปยุ่งกับแฟนเก่าของตัวเอง อาจจะทำให้ม๊าเข้าใจฟิกมากขึ้น
ว่าไม่ได้อยากจะคบทั้ง2คนแต่โดนบังคับข่มขู่ และอยู่ด้วยกันมาจนกลายเป็นความรัก
ซึ่งรักที่ไม่ใช่ แค่ภูกับฟิก หรือแค่ตินกับฟิก แต่มันรวมไปถึง ความรักของ ภูกับตินด้วย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-09-2015 01:24:17
ตามอ่านอีก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 02-09-2015 01:27:16
อ๊ากกกก คิดถึง รอติดตามอย่างใกล้ชิด
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 02-09-2015 01:30:31
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ฉบับพิเศษล่ะ  :m3: :m3: :m3:

แต่แบบ.........ฮือออออ

เริ่มหน่วงขึ้นมาทันทีนิดนุง

ม๊าขาาาาาา อย่ากีดกันมากเลยนะคะ หนูเข้าใจว่ามันรับยาก

หนูไม่อยากร้อง กระซิกๆๆๆ  :mew2:

สัญญาแล้วนะคะว่าจะไม่มี ดราม่า / เกี่ยวก้อยสัญญา #เดี๋ยวนะ

รอตอนต่อค่าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 02-09-2015 03:00:22
ปกตินะเราไม่ค่อยอะไรกับ 3P นักหรอก  แต่เรื่องนี้มีอะไรมากกว่านั้น  บอกตรงๆว่าแรกๆก็มีสนใจ NC  แต่หลังๆนี่ตามเพราะชีวิตรักคี่ๆของสามคนนี้มากกว่า  อ่านๆไปรับรู้ได้เลยว่าฟิกไม่ได้อยู่กับ 2 คนนี้แค่เรื่องของความหื่นอย่างเดียว ลับหลังอีกฝ่ายก็ใช่ว่า 2 คนที่เหลือจะหาทางซั่มกันแต่อย่างเดียว  มันมีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทำให้ชีวิตคี่ของ 3 คนนี้ต้องมีครบสามคนเท่านั้น   เราไม่รู้สึกอิหลักอิเหลื่อกับเรื่องสามคนนี้เลยเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆที่มีกันมากกว่า 2 แล้วเป็นรักสามเส้าขึ้นมา
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: Snimsoi ที่ 02-09-2015 04:14:33
ตอนเห็นชื่อเรื่องนึกว่าตาฝาด มีใครตั้งชื่อเรื่องซ้ำหรอ หรือรีไรท์ใหม่? คนเขียนกลับมาแต่งต่อ ดีใจมาก ในบรรดานิยาย 3p เราชอบเรื่องนี้ที่สุด มันลงตัวมีเหตุผลรองรับว่าทำไมความสัมพันธ์กลายเป็นแบบนี้ได้ ไม่ใช่แค่รักมากเลยยอมรับได้ ไม่ใช่แค่ยอมตัดใจเลือกคนเดียวไม่ได้ แต่มันต้องเป็นแบบนี้ ขาดคนนึงไปก็รู้สึกมันว่างไป แต่สงสัยว่าติณกับภูจะมีแอบมากินกันเองบ้างมั๊ย 555 :hao7: :hao7: คงสยิวน่าดู (โดนภูถีบ :z6: )
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 02-09-2015 04:30:45
ดีใจค่ะที่มีภาคพิเศษ และพูดถึงพี่ตินมากขึ้น
คือภาคนู้นฉายไปที่พี่ภูเยอะเกี่ยวกับเรื่องทางบ้าน
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: konjingjai ที่ 02-09-2015 07:36:05
บอกได้ว่า...คิดถึงเรื่องนี้มาก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 02-09-2015 08:26:21
เย้ๆๆๆๆๆๆๆ ได้เจอสามคนปั๋วเมียนี้อีกแล้ววววววววว  :mc4: แอบคิดเหมือนกันว่าใครตั้งชื่อเหมือนหรือเปล่า พอเห็นชื่อคนแต่ง ก็ร้อง เยสสสสสสสส ทันที ปรี่เข้าไปอ่านอย่างเร็ว สามคนยังรักกันมันเว่อร์ แอบขำอีพี่ภูกวนติง 'หลวม' ทำเอาฟิกต้องฟิตก้นเป็นการด่วน  :m20:  แต่มีดราม่าครอบครัวตินด้วยนี่สิ ไม่โทษม๊าหรอกนะ เข้าใจ ม๊ายอมรับลูกชายเป็นเกย์ แต่ความสัมพันธ์แบบนี้มันออกจะแปลกไปสักหน่อย ม๊าเลยคิดเยอะ คงกลัวลูกชายจะผิดหวัง กลัวลูกชายจะถูกทิ้ง เราว่าครอบครัวตินนี่ดีนะ ที่ยอมรับลูกได้ ผิดกับพ่อภูที่ดูจะยากมากๆ คนที่หนักใจคงเป็นไม่พ้นสามหน่อ แม้แต่ภูที่เหมือนไม่สนใจยังรู้สึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฟิกก็เป็นห่วง คนที่หนักใจนี่คือ ฟิก ที่ต้องรักทั้งสองคน ลึกๆในใจฟิกอาจจะเอนไปทางใครคนหนึ่งนิดหนึ่งก็ได้ แต่ก็ต้องเก็บไว้ เพราะทั้งภู ติน รักฟิกมาก แต่เชื่อว่าทั้งสามคนจะฝ่าฟันไปด้วยกันได้ ด้วยวิธีพิสูจน์ให้ม๊าเห็นถึงความรักของทั้งสามคน ที่มันไม่ใช่แค่คนรัก แต่มันมากกว่านั้น ทั้งภูและติน ก็ยอมรับกันและกันได้ เป็นพี่เป็นน้อง เป็นเพื่อน เป็นครอบครัวเดียวกัน สู้สู้นะ  :katai2-1:   แต่ก็คิดเหมือนภูนะว่า แฟนเก่าตินหรือเปล่าที่มาเล่าให้ม๊าตินฟังถึงเรื่องความประพฤติของฟิก เลยทำให้ม๊าเอนเอียงไม่มั่นใจในตัวฟิกที่จะรักลูกชายตัวเอง ไม่อันก็นัท ที่บอกม๊าถึงเรื่องนี้ ต้องเป็นคนสนิทกับตินและเข้าออกบ้านตินได้ถึงได้รู้เรื่องนี้ และถ้าใช่นะ ไม่ว่าจะอันหรือนัท ฮึ่มมมมมมมมม เล่นเลย ฟิก ภู ติน รวมพลัง  :z6: 


ปล. ยอมรับว่าเป็น 3 P ที่ชอบมากกกกกกกกกกกกกก มันไม่ตะขิดตะขวงใจในความสัมพันธ์ของทั้งสามคน มันให้ความรู้สึกว่า สามคนรักกันจริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องหื่น เรื่องชิงรักหักสวาท มันแบบทั้งสามคนค่อยพัฒนาความสัมพันธ์จากที่เลวร้ายกลายเป็นดี มันกลายเป็นความผูกพันที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ รัก ภู ฟิก ติน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-09-2015 08:31:57
 :กอด1:  ดีใจจังเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 02-09-2015 09:11:27
รออ่านนนน ไม่นึกว่าจะมีภาคพิเศษด้วย :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 02-09-2015 09:11:36
กลับมาสร้างความฟินอย่างต่อเนื่อง :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: rainbowbim ที่ 02-09-2015 09:26:57
เย้ๆ มาตามอ่านต่อ
คิดถึงทุกคนเลยยยย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 02-09-2015 09:39:12
 :hao3: ฉบับพิเศษ รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 02-09-2015 09:51:06
ดีใจ ยินดีต้อนรับการกลับมาของฟิก ภู ติน
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 02-09-2015 10:25:32
เรื่องนี้มันอธิบายให้คนอื่นเข้าใจยากอ่ะนะ เป็นกำลังใจให้ฟิกตินภูแล้วกัน
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 02-09-2015 10:44:06
ขอแบบเบาๆไม่ต้องเครียดมาก




ช่วงนี้ชีวิตมีเรื่องเครียดเยอะแล้ว
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 02-09-2015 11:47:40
ชอบเรื่องนี้ ดีดี๊อ่ะที่มีตอนพิเศษ 

อย่าเอาหน่วงและห้ามดราม่าน่ะ  ขอแบบเน้นบ้าๆ ป่วงๆ ป่วนๆ หื่นๆ  อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 02-09-2015 12:35:34
 :hao7: ดีใจมากได้อ่านเรื่องน้องฟิกอีก อ่านเรื่องเต็มไปแล้วบอกเลยหนุกมากกก ชอบมากก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: ptp_ploy ที่ 02-09-2015 12:46:19
อยากจะร้องดังๆ ชอบมากเรื่องนี้
ปกติเราไม่ค่อยอ่าน 3พี แต่พอเจอเรื่องนี้ทำเราเปลี่ยนความคิดไปเลย
เพิ่งอ่านภาคแรกจบ มีตอนนี้ต่อ ดีใจสุดๆ
จะติดตามนะคะ
เอาใจช่วยฟิกด้วยย  :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 02-09-2015 13:29:32
ดีใจทีได้อ่านชีวิตฟิก ติน ภู
อ่านแล้วรู้สึกว่า สามคนนี้รักกันจริงๆ รู้จักกันและกัน ใส่ใจกันเสมอ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 02-09-2015 13:58:31
เอิ่ม...ฉบับพิเศษนี่คือดราม่าแบบพิเศษรึเปล่าคะ
ไม่เอาน้าาาาา อยากได้แบบหวานๆเบาๆบ้างงง พลีสสส
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 02-09-2015 14:52:40
มาเจิมมมม
ตามมาจากภาคแรกเลยค่ะ หุหุ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 02-09-2015 15:40:16
 :mew2: :mew2: ไม่เน้นดราม่าจริงๆใช่มั้ยคะคือเห็นบทนำแล้วใจแป้วไปก่อนเลย งืออออ คิดถึงสามหนุ่มมากๆมาภาคพิเศษนี้จะได้รู้เบื้องลึก เบื้องหลัง ที่มาที่ไปของพี่ตินเค้าเพิ่มอีกนิดสักที นี่ก็กำลังหยอดกระปุกเก็บตังค์ไปรอสอยหนุ่มๆอยู่นะ

 :L2: :กอด1: กอดคนแต่งและขอต้อนรับการกลับมาของสามหนุ่มค่า .โบกป้ายไฟ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 02-09-2015 16:43:14
แอร๊ยยยยยยย คิดถึงมากกๆๆ เลย
เชตอนแรกเห็นนึกว่าตาฝาด เห็นคำว่าฉบับพิเศษแล้วแทบกรี๊ดด
รอๆๆๆ ตอนต่อไปจ้าา
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 02-09-2015 18:06:42
คิดถึงฟิกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก /////////////////
หวังว่าแม่พี่ตินจะยอมรับฟิกแบบจริงๆนะ..
ว่าแต่ใครไปบอกเรื่องฟิกเคยมั่วกับชาวบ้าน 55555555555
ถึงฟิกจะทำจริงก็เถอะ แต่ลูกม๊าก็ทำฟิกไว้เยอะเหมือนกันน้า..
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 02-09-2015 18:33:01
ติดตามๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: bvan ที่ 02-09-2015 19:03:45
 :mew1: ดีใจที่กลับมา
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 02-09-2015 20:28:17
ตามอ่านต่อ  :hao7:
สามคนนี้ยังคงความฮาเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 02-09-2015 20:55:13
ฉบับพิเศษด้วยอ่ะ ตามๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 03-09-2015 14:46:30

ตอนที่๑ มารผจญ




ตอนเย็นผมอยู่ทานข้าวที่บ้านไอ้ติน ม๊ามันหลับไปแล้วเพราะฤทธิ์ยา ต้องยอมรับว่าลดความตึงเครียดลงได้เยอะเลย ระหว่างที่ทานข้าวไอ้ตินดูเหมือนคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา อาจจะเรื่องม๊าหรือเรื่องผมก็ได้

“คืนนี้ผมนอนค้างที่บ้านนะครับ”จู่ๆไอ้ตินก็พูดขึ้น ผมเหลือบมองอย่างแปลกใจ ป๊ามันขมวดคิ้วก่อนจะถอนหายใจ

“เป็นอะไรล่ะเรา หรือว่าม๊าพูดอะไรให้ไม่สบายใจ”ป๊าไอ้ตินนี่เป็นหมอดูหรือไงกัน ทำไมเดาได้แม่นเป๊ะแบบนี้ ไอ้ภูนั่งกระสับ
กระส่ายอยู่บนเก้าอี้ ด้วยท่าทางที่ไม่สบายใจอีกคน

“ผมแค่อยากอยู่คุยกับม๊าน่ะครับ ไม่มีอะไรหรอก”จะไม่มีได้ไง ผมเห็นว่ามันเครียดมากกว่าทุกครั้งอย่างเห็นได้ชัด ป๊ามันถอนหายใจ

“ทานข้าวก่อน แล้วค่อยคุยกัน”มื้อนั้นผ่านไปอย่างจืดชืด ผมไม่ค่อยหิวแต่ไหนๆก็ทำอาหารไว้เยอะแยะ ผมเสียดายก็เลยฝืนยัดๆเข้าไปซะงั้น หลังที่ทานข้าวเสร็จผมกับไอ้สองคนก็มานั่งคุยกับป๊ามันที่ห้องนั่งเล่น

“เรื่องแบบนี้..มันก็พูดยากน่ะนะ ที่ป๊าไม่ห้ามพวกเราก็มีแค่เหตุผลเดียวคือป๊ารักลูกชายป๊ามาก อะไรที่ทำให้มันมีความสุขได้ป๊าไม่เคยขัด”ผมยิ้มกับคำพูดของท่าน ไอ้ตินหัวเราะเบาๆ

“คือม๊าไม่เข้าใจพวกผมน่ะป๊า ผมรู้ว่ามันทำใจยาก แต่เราก็...อยู่ด้วยกันได้”ไอ้ตินพึมพำเบาๆ

“ความสัมพันธ์แบบนี้ไม่มีอะไรง่ายหรอกครับ ผมเองก็ต้องใช้เวลาทำใจ พูดกันตรงๆผมเองก็ไม่ค่อยอยากให้เกิดความสัมพันธ์แบบนี้ขึ้นมา แต่เพราะ...ผมกับไอ้ตินต่างก็รักไอ้ฟิก ทำให้พอยอมรับเรื่องนี้ได้ กว่าพวกผมจะรักกันได้เนี่ย...ไม่ง่ายเลยนะครับ”ไอ้ภูพูดพลางหัวเราะ ผมเหลือบมองมันสองคนที่ดูจะผ่อนคลายมากขึ้น

“เพราะแบบนั้นป๊าถึงไม่อยากขัดพวกเราไง”

“ผมยอมรับว่าผมไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย แต่ความรู้สึกของผมมันเป็นของจริง อาจจะดูเหมือนเห็นแก่ตัวที่อยู่กันแบบนี้ แต่...คือผมทำตัวดีขึ้นมาได้เพราะลูกชายป๊าและไอ้--ภูครับ เมื่อก่อนน่ะผมแสบเอาเรื่องเลยนะป๊าขนาดลูกชายป๊าที่ว่าแน่ยังคุมผมไม่ได้เลย”ผมหัวเราะหึๆ ยักคิ้วให้ไอ้ติน

“หืม ตินเนี่ยนะเอาไม่อยู่ สมัยก่อนนะมันเปรี้ยวจะตาย”

“ป๊า!”ไอ้ตินทำเสียงดังจนผมกับไอ้ภูมอง เรื่องอดีตของไอ้ตินผมไม่ค่อยรู้ซักเท่าไหร่ เมื่อก่อนไม่ค่อยได้สนใจแต่ตอนนี้ชักอยากรู้แล้วสิ

“อะไรกันติน กล้าทำก็ต้องกล้ายอมรับสิ”ป๊ามันหัวเราะก่อนจะเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น สรุปวันนี้ผมกับไอ้ภูจะอยู่ค้างด้วย ไอ้ภูก็เลยประเดิมค้นห้องของไอ้ตินอีกครั้ง

“มึงยังไม่เคยเล่าอดีตดำมืดของมึงเลยนะ”ไอ้ภูพูดระหว่างที่พลิกอัลบั้มรูปสีชมพูดู

“ผมเคยเสนอพี่ไปแล้วนี่ แต่พี่ปฎิเสธเอง”มันพูดอะไรกันวะ กูคิดลึกนะเว้ย

“อะไรวะ”ผมอยากมีส่วนร่วมบ้างจึงพูดแทรก

“ก็ตอนที่เจอพี่ภูแรกๆอ่ะ กูเคยบอกพี่เขาไงว่าแลกกันเล่าเรื่องชั่วๆแต่พี่เขาไม่สนไง”ไอ้ตินนั่งลงข้างๆผมพร้อมกับเอาคางเกยไหล่

“ก็ตอนนั้นกูไม่อยากฟังนี่หว่า ไม่เกี่ยวกันเว้ย ทีมึงยังรู้เรื่องกูเกือบหมดเลย มึงก็ต้องแชร์บ้าง”

“เออๆ”ผมสนับสนุนไอ้ภูครับเพราะอยากเสือก ไอ้ภูย่นหน้าพลิกอัลบั้มไปมา

“มึงเป็นสต็อคเกอร์เหรอ มีแต่รูปแอบถ่ายไอ้ฟิก ดูหน้ามันรูปนี้เอ๋อฉิบหาย”ไอ้ภูหัวเราะหึๆ ผมดึงอัลบั้มรูปมาดูบ้าง ผมเองก็เคยเห็นแล้วเมื่อครั้งที่มา

“เขาเรียกว่าอาการตกหลุมรักต่างหาก”ผมเบ้ปากทันที

“อย่าเปลี่ยนเรื่อง เล่ามาว่ามึงเปรี้ยวยังไงบ้าง”ไอ้ตินถอนหายใจก่อนจะเอนตัวนอนลงบนเตียง

“กูเคย....”มันหรี่ตามองผมกับไอ้ภูที่นั่งฟังอย่างสนใจ

“อย่าลีลา”ไอ้ภูทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ

“กูเคยอยู่กลุ่มเด็กแว๊นมาก่อน”ผมนี่ตาโตเลยครับ ไม่คิดว่ามันจะมีด้านนี้ แต่ไอ้ตินเนี่ยนะ ผมนึกภาพมันแว๊นไม่ออกเลย

“เฮ้ยจริงเหรอวะ โห มึงนี่เฟี้ยวเอาเรื่องแล้วไงต่อ”ไอ้ภูดูไม่สะทกสะท้านเท่าไหร่ แถมยังดูขำกับเรื่องนี้ด้วย

“ก็สมัยนั้นยังวัยรุ่นก็คะนองไปตามเรื่องอ่ะ มีเรื่องกับกลุ่มอื่นบ่อยๆ ถึงขั้นเลือดตกยางออกเข้าโรงบาลผมถึงได้เลิกเพราะกลัว ป๊ากับม๊าก็เครียดๆด้วย”ไอ้ตินทำสีหน้ามึนตึงเมื่อนึกถึงเรื่องอดีต

“กูเคยลองเล่นยาด้วยนะ ไม่กี่ครั้งหรอก ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น แต่กูกลัวกู่ไม่กลับเลยไม่แตะอีก โคตรชั่วเลยใช่ไหม หึ”ผมอ้าปากค้างพะงาบๆไปแล้ว ไอ้ตินเนี่ยนะ เฮ้ย...คนเราดูกันที่ภายนอกไม่ได้จริงๆ แต่นั่นมันก็เป็นอดีตไปแล้ว ช่างเถอะ

“มึงนี่...ยิ่งกว่ากูอีกนะ”ไอ้ภูหัวเราะหึๆ

“พอๆนั่นแหละ”ผมแย้งขึ้นมา ทำไมแฟนผมทั้งสองคนถึงได้มีอดีตอันน่าตกใจแบบนี้ วัยเด็กของผมเลยกลายเป็นมุ้งมิ้งฟุ้งฟิ้งทันที ไอ้ตินยกยิ้มก่อนจะเล่าต่อ

“ตอนนั้นกูเริ่มสำนึกแล้ว แต่พอไปเจอเพื่อนเก่า รุ่นพี่อีก มึงเข้าใจป่ะว่ามันถอนตัวออกมายาก กูเลยย้ายหนีตัดปัญหาซะ”ผมมุ่นคิ้ว...แสดงว่าเรื่องก็ยังไม่จบดีสินะ

“ปิดเทอมกูว่าจะกลับไปว่ะ”ไอ้ตินพูดเบาๆ มันหมายถึงกลับไปบ้านเก่าน่ะเหรอ ผมว่าอันตรายไปไหม ไม่รู้ว่าพวกกลุ่มก้อนที่มันเคยมีเรื่องจะยังอยู่รึเปล่า

“ไม่กลัวโดนเล่นเหรอวะ”ไอ้ภูขมวดคิ้วเหมือนกัน เกิดความเงียบขึ้นมา

“อย่าเพิ่งคิดเรื่องอื่นเลย ตอนนี้มาคิดเรื่องม๊าดีกว่า กูคิดนะ...ว่าจะพูดยังไงให้ม๊าเข้าใจดี”ไอ้ตินเอาท่อนแขนก่ายหน้าผาก ไอ้ภูเดาะลิ้นอย่างใช้ความคิด

“กูจะเข้าไปคุยด้วย”มันตัดสินใจพูดออกมา ผมแปลกใจเล็กน้อย ปกติมันไม่ค่อยอยากยุ่งเท่าไหร่เพราะวางตัวไม่ถูก

“มาเตรียมตัวกันก่อน ถ้าสมมุติม๊าพูดเรื่องที่มึงเคยมั่วล่ะ ทำไง”ไอ้ตินเด้งตัวขึ้นมาคุยกับผม นั่นสิ ผมจะตอบยังไง ม๊าจะโกรธผมไหมวะ

“ก็...”ไม่รู้ว่ะ

“บอกความจริงม๊ามึงจะช็อคไหมวะ”ไอ้ตินหัวเราะทันที

“กูว่าบอกไปเถอะ ม๊ากูเคยเจอเรื่องช็อคกว่านี้มาแล้ว กูเชื่อว่าเขารับมือได้”มันพูดด้วยเสียงลังเล ทำใจได้แล้วก็พากันไปที่ห้องของม๊าไอ้ติน ดูเหมือนท่านจะรออยู่ยังไงยังงั้น ผมยิ้มเมื่อสายตานั้นพุ่งตรงมา ป๊าไอ้ตินนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เก้าอี้ข้างเตียง

“สวัสดีครับ”ไอ้ภูยกมือไหว้ มันดูกังวลเอาเรื่องเมื่อถูกจ้องมองแบบนี้ พวกผมนั่งคุกเข่ากับพื้นใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ

“ทำอะไรกัน หือ”ดูเหมือนท่านจะตกใจที่เห็นพวกผมนั่งเหมือนคนสำนึกผิด

“ม๊า รู้ใช่ไหมว่าผมรักไอ้ฟิกมาก”อุ้ย เขินเหมือนกันนะ ฮ่าๆ ผมพยายามจะไม่ยิ้มออกมา เวรเอ้ย เครียดอยู่ยังมาระริกระรี้อยู่ได้

“และผมไม่มีวันเลิกกับมันแน่นอน”มันพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง

“ม๊ารู้...แล้วเราล่ะ จริงใจกับลูกชายแม่แค่ไหน หนูฟิก”ผมเลียปากที่แห้งผาก กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอทำไมวันนี้ม๊าดุจังวะ ไอ้ภูแอบสะกิดผมเมื่อผมนิ่งไปนาน

“ผมจริงใจกับพี่เขาแน่นอนครับ ถ้าถามเป็นเปอร์เซ็นผมบอกไม่ได้หรอกเพราะมันคงวัดไม่ได้”ได้ยินเสียงป๊าไอ้ตินหัวเราะชอบใจ ไอ้คนข้างๆเหลือบมองพร้อมกับยิ้มขำ

“จริงใจแล้วทำไม...คบกับ...เอ่อคนอื่นด้วยล่ะ”เกิดความเงียบขึ้นทันที ผมเห็นไอ้ภูกำลังจะพูดก็เลยรีบแทรกขึ้นมาก่อน

“ภูไม่ใช่คนอื่นครับ มันอาจจะยากในการยอมรับหรือเข้าใจ แต่ผมมีความรู้สึกดีๆให้กับคนสองคน ม๊าอาจจะมองว่าไม่ถูกต้อง แต่ในเมื่อพวกเรายอมรับและเข้าใจได้ ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหา จริงอยู่ที่ความสัมพันธ์แบบนี้มันบอบบาง แต่นั่นก็ทำให้พวกเราเอาใจใส่และแคร์ความรู้สึกของแต่ล่ะคนมากขึ้น ผมไม่สนหรอกครับหากว่าคนทั้งโลกจะไม่เข้าใจเรา แต่ผมขอแค่ครอบครัวคนที่ผมรักเข้าใจก็พอ”ผมพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาจนหมด กลัวเหมือนกันแต่ฝามือที่กุมมือของผมไว้ก็ทำให้ความกังวลของผมสลายไป

“ม๊าเองก็พยายามจะเข้าใจนะ แต่รู้อะไรไหมว่าเพื่อนของม๊าเขากำลังสับสนว่าตกลงแล้วหนูฟิกคบกับใคร ตินหรือภูกันแน่ พวกเขาบอกว่าวันหนึ่งก็เจออยู่กับภู เดี๋ยวก็อยู่กับตินม๊าไม่รู้จะตอบคำถามพวกนี้ยังไง...พวกหนูก็ต้องเข้าใจม๊าหน่อยนะลูก”เสียงอ่อนลงก็จริงแต่ม๊าไอ้ตินเหมือนไม่อ่อนลงเลย

“ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง เรียบเรียงคำพูดสวยหรูไม่ได้ แต่ที่ผมอยากบอกคือผมเสียใจที่มีส่วนทำให้คุณแม่รู้สึกไม่ดี คุณแม่อาจจะไม่ชอบหน้าผม ซึ่งผมก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะผมเข้าใจ คุณแม่รู้ไหมว่ามีลูกชายที่ดีมาก ถ้าคุณแม่ยังไม่พร้อมจะเข้าใจก็ไม่เป็นไรครับ แต่ผมแค่อยากให้คุณแม่คอยดูพวกเรา...”ผมบีบมือไอ้ภู น้ำเสียงของมันฟังดูแข็งๆก็จริงแต่สีหน้าของมันกลับตรงกันข้าม

“...ม๊าเริ่มจะเหนื่อยแล้วสิ”ท่านพึมพำท่าทางจะเหนื่อยจริงๆ

“ถ้างั้นพวกผมไม่รบกวนแล้วครับ ม๊านอนพักเถอะ”ไอ้ตินขยับเข้าไปห่มผ้าให้ ป๊ามันส่งยิ้มให้กำลังใจพวกผมเงียบๆ น่ารักจริงๆเลยพ่อมันเนี่ย

“แต่ม๊าขอคุยกับ...”ผมใจกระตุกขึ้นมา

“ภูหน่อยได้ไหม”เจ้าตัวยิ้มจางก่อนจะพยักหน้า

“ไม่เป็นไรหรอกน่า เดี๋ยวกูตามไป”มันกระซิบเบาๆก่อนที่ผมกับไอ้ตินจะออกจากห้องไปเงียบๆ

“ติน ม๊ามึงจะสั่งให้ไอ้ภูถอยไหมวะ”

“บ้าเหรอ ม๊ากูไม่ใช่คนแบบนั้น สบายใจได้”ไอ้ตินยิ้มก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันมาจ้องผมด้วยสายตาจริงจัง

“แต่กูชอบคำพูดมึงนะ คิดนานไหมวะ”

“ฟิลลิ่งล้วนๆว่ะ”พูดออกไปได้ไงก็ไม่รู้

“พูดให้ฟังอีกทีดิ”

“ลืมไปแล้ว”ผมหัวเราะหึก่อนจะนอนรอไอ้ภูด้วยจิตใจว้าวุ่น รออยู่พักใหญ่มันก็กลับมา ผมรีบดีดตัวมาถามทันที

“คุยอะไรตั้งนานวะ”มันแค่ส่งยิ้มมาให้ก่อนจะโถมตัวมากอดผม ไอ้ตินนั่งมองงงๆ

“เขาก็ถามไปเรื่อยนั่นแหละ”มันตอบเบาๆ

“เล่ามาเลยพี่”ไอ้ตินดูท่าทางอยากรู้มาก จนไอ้ภูเลิกคิ้ว สายตาจับจ้องที่เพดานห้องอย่างเหม่อลอย

“ม๊ามึงถาม...ว่าทำไมถึงยอมอยู่แบบนี้ได้ ทำไมถึงยอมมึง หมายถึงว่าทำไมไม่เกลียดหรือมองว่าเป็นคู่แข่งอะไรทำนองนั้น”ผมมองใบหน้าจริงจังของไอ้ภู เพิ่งเคยรู้สึกว่ามันโตกว่าผมก็ครั้งนี้แหละ

“มึงตอบว่าไง”ผมเอาขาก่ายตัวไอ้ตินเล่น มันพลิกตัวมากอดผมก่อนจะเท้าคางรอฟัง

'ตอนแรกผมก็คิด แต่พอได้รู้อะไรมากขึ้นผมก็กลายเป็นอิจฉาแทน ผมไม่อยากเป็นคู่แข่งของลูกชายม๊าหรอก เพราะรู้ดีว่าคงสู้ไม่ได้ แต่ผมมองว่ามันเป็นเหมือนคนในครอบครัวของผมคนนึง เหมือนน้องชายที่สมองโตเกินวัย ทุกวันนี้ผมชินกับคงามสัมพันธ์แบบนี้ไปแล้ว ผมเคยต้องแยกกับไอ้ฟิกเพราะความวู่วามของตัวเอง ผมยอมรับว่าทนไม่ได้เพราะฉะนั้นม๊าอย่าใจร้ายเหมือนพ่อผมเลยนะครับ ผมผ่านเรื่องแย่ๆมาเยอะแล้ว อาจฟังดูเหมือนเด็กน้อยร้องหาความยุติธรรมหรือเรียกคะแนนสงสาร แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ผมไม่ใช่คนที่ปั้นแต่งคำพูดดีๆได้ อาจจะฟังไม่เข้าหูม๊าแต่ทุกคำผมหมายความตามนั้นจริงๆ พวกเราเข้าใจและยอมรับตัวตนของอีกฝ่ายได้ ม๊าไม่ต้องห่วงว่าลูกชายจะเสียใจหรือโดนเขี่ยทิิ้งหรอกนะครับ ผมมั่นใจว่า...วันนั้นคงไม่มาถึงแน่ๆ’”ไอ้ภูเล่าออกมาเหมือนตัวเองยังอยู่ในห้องกับม๊าไอ้ติน ผมไม่เคยรู้เลยว่ามันรู้สึกแบบนี้

“พี่ภู...แม่งคิดได้ไงว่ากลัวจะแพ้ผม เอาจริงๆนะผมเองกลัวจะแพ้พี่มากกว่าอีก ขอบคุณที่เล่าให้ฟังนะ พี่ชาย”ไอ้ตินพูดเบาๆในความมืด ได้ยินไอ้ภูหัวเราะเบาๆก่อนจะกอดเอวผมหลวมๆ

“มึงต้องให้เวลาเขาหน่อย ม๊ามึงใจดีจะตาย ตอนนี้อาจจะยังทำใจรับไม่ค่อยได้”มันกระซิบเบาๆ

“อืม...”

คืนนั้นผมหลับสบายกว่าปกติอาจจะเพราะเรื่องของไอ้ตินคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นก็ตาม








................................................................







เทศกาลรับร้องทำเอาผมเบื่ออยู่เหมือนกัน เพราะว่าเป็นช่วงเสียเงินน่ะสิ หลานเทคของผมเป็นหนุ่มหล่อชื่อจอม(กวนตีน)ป้ายชื่อมันเขียนแบบนั้นจริงๆ ไอ้ขวัญน้องเทคผู้น่ารักก็เทคแคร์เต็มที่ ไม่รู้ว่ามันมีซัมติงอะไรกันรึเปล่า ส่วนเดือนคณะปีนี้ผมบอกเลยว่าหล่อมากก หล่อจริงอะไรจริง มันชื่อเพชรครับ

“เรื่องส่องผู้ชายไว้ใจฟิก”เสียงแหลๆของไอ้ปลาดังมาใกล้ๆ จนผมต้องเบนสายตาไปมองร่างถึกๆของมันอย่างเสียอารมณ์

“ส่องอะไร พูดให้ดีนะเว้ย”ผมยกมือขึ้นเหมือนจะตบหัวมัน แต่ไอ้ปลาก็ไหวตัวทันหลบฝามือผมไปได้

“ส่องเดือน กูเห็นนะว่ามึงมองน้อง”ผมกลอกตาทันที ทำอย่างกับผมตาบอดแบบนั้นแหละ

“มองไม่ได้รึไง กูแค่อยากรู้ว่าใครเป็นเดือนคณะแค่นั้นแหละ”

“หล่อฉิบหายวายวอดเลยมึงว่าไหม”มันผลักไหล่ผมแรงๆเหมือนเขิน

“หล่อแต่ไม่เป็ค”ระหว่างนั้นไอ้ชายหอบขนมมาพอดี

“นั่งส่องผู้ชายอีกล่ะ เดี๋ยวก็ฟ้องสามีมึงนะเว้ย”มาถึงก็พ่นหมาเลยนะมันเนี่ย

“ถามจริง พวกมึงเป็นสายให้มันเปล่าวะ ทำไมมันรู้ความเคลื่อนไหวกูดีจัง”จริงๆผมสงสัยมานานแล้ว เพราะบางครั้งที่ผมแซวเด็ก
เล่น พวกมันก็รู้ทันตลอดๆ

“มึงคิดว่ากูอยากซี้กับพวกมันเหรอ”ไอ้ชายตอบเสียงมึนๆก่อนจะแกะขนมเข้าปาก ผมหันไปมองไอ้ปลา

“มองกูทำไม๊”

“มีพิรุจน์นะมึงเนี่ย พวกมันจ้างมึงเท่าไหร่”ผมว่าไอ้ปลาแน่นอน

“ข่าวล่ะสองพัน”โอ้โห อยู่เฉยๆเผือกเรื่องผมนี่ก็ได้เงินไปใช้แล้ว

“อีเลว”แต่มันก็ไม่สะทกสะท้านกับคำด่าของผม จะว่าไปผมไม่มีสายในคณะพวกมันเลยนะ เพื่อนไอ้ตินก็...ไม่ไหวๆ เข้ากับผมไม่
ค่อยได้ยกเว้นไอ้พี่เบลล์คนที่ทำผมทรงพุดเดิ้ลฟู ๆไอ้ภูก็...ผมไม่รู้จักเพื่อนมันเลย แต่น้องรหัสมันผมรู้จักชื่อปั๊มตอนแรกผมก็หวั่นๆว่าไอ้ภูจะแอบกิ๊กด้วย แต่โล่งหน่อยที่ไอ้ปั๊มมันห่ามและมีเมียแล้ว คิดได้ดังนั้นผมก็ทักไลน์ไอ้ปั๊มไปในบัดดล


ฟิก:ปั๊มครับ (พูดเพราะๆหน่อยจะใช้งานทั้งที)

ปั๊ม:อี๋ มาคงมาครับมีไรพี่

เด็กเวร

ฟิก:เออ จ้างสองร้อยเป็นสายลับสืบเรื่องไอ้ภูให้พี่หน่อยว่ามีใครมายุ่งกับมันไหม

ปั๊ม:ตลกแล้ว แค่สองร้อยเอง ลงทุนหน่อยดิ ซักหนึ่งพันอ่ะ ผมคิดถูกๆ

ยังดีนะแค่พันเดียว

ฟิก:เออๆ ตามนั้น

ก็เงินพวกมันนั่นแหละ ฮ่าๆ ชั่วร้ายจริงๆ

ปั๊ม:ทำไมกลัวเฮียผมนอกใจล่ะสิ จะบอกให้ปีหนึ่งนะ หลงเต็มอ่ะ

ฟิก:เออ มึงช่วยดูด้วยนะ


ผมเลิกสนใจไอ้ปั๊ม จริงๆผมเชื่อใจพวกมันนะว่าไม่นอกใจผมแน่ แต่มันก็แอบๆกลัวอยู่บ้าง กลัวโดนทิ้งเป็นหมาหัวเน่าอ่ะสิ

“เป็นไรวะ”ไอ้เคนถามเมื่อเห็นสีหน้าของผม

“กูแค่คิดว่ะ...”ผมเคาะนิ้วกับโต๊ะก่อนจะพูดต่อ

“ว่ากูจะเป็นยังไงถ้าพวกมันทิ้งกู”ไอ้ชายถึงกับหันขวับมามองผมเลย

“อย่างมึงมีโมเม้นนี้ด้วยเหรอวะ เออว่ะ แต่กูก็สงสัยเหมือนกันมึงจะทำยังไง ตามง้อพวกมันป่ะ”

“ก็สมมุตินะ ถ้าพวกมันทิ้งกูจริงๆ กูจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม”เพราะว่าผมคงไม่คิดจริงจังกับใครอีกแล้วล่ะ

“จะคิดมากทำไม พวกมันไม่ทิ้งมึงหรอก ห่างมึงได้ที่ไหน กูว่ามึงเล่นของแน่ๆว่ะฟิก พวกมันถึงหลงมึงจริงหลงมึงจังเนี่ย”ไอ้เคนผลักหัวผมเบาๆให้เลิกฟุ้งซ่าน เออ พอๆ เลิกคิด

ตอนบ่ายผมไปรอไอ้ตินที่คณะ เจอไอ้เพชรที่เป็นหลานรหัสมันด้วย

“เฝ้าเช้าเฝ้าเย็นกลัวพี่ตินหายเหรอ”ผมส่งนิ้วกลางให้เป็นคำตอบก่อนจะแวะเข้าห้องน้ำ ชะงักขาทันควันเมื่อได้ยินเสียงคุยดังมาจากด้านใน

“ครับม๊า ฟิกมันนิสัยไม่ค่อยดี ผมไม่ได้กล่าวหาลอยๆนะ”เสียงพี่อันนี่หว่า ที่แท้ก็ฝีมือพี่เขาจริงๆด้วย ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยไอ้ติน
ไปเสียทีนะ ผมไม่รอช้าเข้าไปในห้องน้ำทันที พี่อันชะงักเมื่อเห็นผมก่อนจะคุยโทรศัพท์ต่อ

“ไว้ผมจะโทรไปใหม่นะครับ ดูแลตัวเองด้วย รักม๊าครับ”ผมนี่เบ้ปากใส่เลย

“อ้าวฟิก มารอตินเหรอ”พี่เขาถามเสียงใส ผมมองสำรวจแล้วก็ยังคงดูเซียวๆอยู่

“ครับ พอดีเลิกเรียนไว ว่าแต่พี่อันสบายดีใช่ไหมครับ”ผมปั้นหน้าเป็นคนดีแต่ดูเหมือนจะไม่เนียนเพราะพี่อันทำหน้าบึ้ง

“ถึงเวลาที่ฟิกจะต้องปล่อยตินแล้วนะ”

“อะไรนะครับ”หน้าด้านว่ะ

“ฟิกก็มีภูอยู่ทั้งคนแล้ว จะควบสองทำไม”ผมถอนหายใจฉุนๆ

“พี่พยายามมากเลยนะครับที่จะเอาไอ้ตินคืน พี่ไม่รู้เหรอว่ามันหมดรักพี่แล้ว”คำพูดของผมคงเหมือนมีดแทงใจดำพี่เขาแน่ๆเพราะ
พี่เขาเม้มปากเข้าหากันแน่นเชียว

“เพราะใครล่ะ”มองผมด้วยสายตากล่าวโทษ

“เพราะตัวพี่เองไง พี่ทำร้ายมันก่อน”ผมฝืนยิ้มและผมเองที่ทำร้ายความรู้สึกมันด้วย

“พี่เบื่อคุยกับฟิกแล้ว เวรกรรมมีจริงพี่ได้เจอแล้ว...”พี่อันสาวเท้าเข้ามาใกล้ผมก่อนจะกระซิบเบาๆ

“เหลือก็แต่ฟิก...ทำคนอื่นไว้เยอะ ระวังบรรดากิ๊กเก่าให้ดีล่ะ”ผมขมวดคิ้วคว้าแขนพี่อันทันทีเมือพี่เขาเดินผ่าน

“พี่หมายความว่าไง”

“พรุ่งนี้ที่บ้านตินมีงานเลี้ยงวันเกิดม๊า ถ้าพี่เป็นฟิกพี่จะไม่โผล่หน้าไปแน่ๆ”ผมไม่รู้หรอกว่าบ้านมันมีงาน ปกติผมไม่ค่อยได้สนใจอะไรแบบนี้อยู่แล้ว

“พี่ขู่ผมเหรอ”ผมขึงตามองอย่างนึกเกลียดชัง ผมควบคุมให้ตัวเองเย็นลงก่อนจะปล่อยแขนพี่อัน

“ไม่ว่าพี่คิดจะทำอะไร...จำไว้ว่าพี่ไม่มีวันทำสำเร็จหรอก”ผมพูดเสียงเย็นชา พี่อันแค่ส่งยิ้มให้ก่อนจะออกไปจากห้องน้ำ เพราะพี่อันคอยปั่นหัวชักจูงม๊าไอ้ตินอยู่ตลอดนี่เอง...ไม่รู้ว่านานหรือยัง พี่อันคิดจะขู่ผมเหรอ หึ ไม่มีทางหรอก พรุ่งนี้งานวันเกิดม๊าไอ้ตินผมจะไป ก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ผมไม่อยากหลบเลี่ยงเพราะถ้าทำแบบนั้นก็เท่ากับว่าผมกลัวพี่อัน ซึ่งผมทนไม่ได้ นี่ผมต้องมาสู้รบตบมือกับเมียเก่าไอ้ตินจริงๆเหรอเนี่ย หึๆ มาลองดูกันสักตั้ง






TBC.
ตอนหน้ารวมบรรดากิ๊กเก่าฟิก คล้ายๆงานคืนสู่เหย้า  :laugh:
จะเป็นยังไง เจอกันตอนหน้าค่ะ  :กอด1:


หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-09-2015 14:54:25
 :hao3:  น่าสนุก แต่กลัวจะมีคนเจ็บตัวน่ะสิ

 :mew1: 
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-09-2015 16:09:40
รอลุ้นตอนหน้า อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 03-09-2015 16:45:17
แอบสงสารกิ๊กเก่าฟิก 55555555555555555
อดีตผัวกลายเป็นเมียเขาไปแล้ว
แต่พี่อันนี่กัดไม่ปล่อยจริงๆ ปล่อยตินไปเถ้อพี่
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 03-09-2015 18:24:58
เพื่ออะร๊ายยย ทำอย่างนี้ก็ไม่ได้ตินคืนมาหรอก!
 :m16:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 03-09-2015 18:33:43
ช่ายยยย น้องฟิกจะกลัวทำไม งานวันเกิดแม่สามี ลูกสะใภ้ที่ดีก็ต้องไปสิ กลัวไรมีสามีของอดีตกิ๊กปกป้องตั้งสองคน  o18 อีกอย่างฟิกไม่ได้ทำอะไรไม่ดีสักหน่อย เรื่องพวกนั้นมันผ่านไปแล้ว แค่อดีต คนเรามันก็ต้องมีข้อผิดพลาดกันทั้งนั้นแหละ ขนาดตินที่ว่าดีก็ยังเคยไม่ดีมาก่อนแต่ก็เลิกได้ ภูก็เหมือนกันพยายามปรับตัวตลอด จากตอนนี้ดูภูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก ไม่ใช่คนพูดมาก พูดสวยหรู แต่ก็ออกมาจากใจ วันนี้ม๊าอาจจะกังวลก็เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าทั้งสามคนยังมั่นคงและทำให้เห็นว่ารักกันจริงๆไม่มีอะไรมาแยกได้ ม๊าต้องยอมรับแน่ ขนาดป๊ายังยอมรับได้เลยเพื่อความสุขของลูกและม๊าที่ใจดีมาตลอดจะใจร้ายได้ลงเชียวเหรอ สู้สู้  :katai2-1: นังอัน นึกว่าจะคิดได้ สำนึก ยังมาหวงก้างอีกนะ ตัวเองไม่ซื่อสัตย์ต่อตินยังจะมาลอบแทงข้างหลังอีก เอาตรงๆนะ ไม่ว่าจะอดีตเมียของติน ของภู ที่ฟิกเคยมีอะไรด้วย ทำตัวเองทั้งนั้น ของอย่างนี้ไม่ร่วมมือใครจะมันส์คนเดียวได้วะ งานนี้ตินรู้เข้า อันโดนจัดหนักแน่ ไม่เข็ด ๆ  :z6:  แต่แอบหวั่นใจ ม๊าคุยแค่เรื่องนั้นกับภูจริงๆเหรอ ทำไมเหมือนมีอะไรมากกว่านั้นอีกล่ะ เหมือนพี่ภูปิดบังไว้เลย   :เฮ้อ:   
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: wann ที่ 03-09-2015 18:46:13
กรี๊ดดดดดด


กลัวอ่ะะะ แต่ก้อยากอ่านนนน อิอิ คงมันน แต่อย่ามาม่าน้าาา มิเอาา อิ่มละะะ :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 03-09-2015 19:45:28
แรดเงียบกับแหลเงียบมันเป็นแบบนี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 03-09-2015 19:49:35
เชียร์น้องฟิกใจขาดดิ้น สู้ๆๆๆๆๆๆๆ
บรรดากิ๊กจะมาแล้ว
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 03-09-2015 20:03:25
ฟิกอย่ายอมแพ้น่ะ คนของเราจะไปยอมให้คนอื่นมาทวงได้ไง  ชิชิ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 03-09-2015 20:28:43
เข้าใจผู้ใหญ่นะเพราะว่ากรณีนี้มัน 3 คน  แต่เอาจริงๆนะม๊าไม่จำเป็นต้องตอบอะไรเลย ทำเฉยๆไปเลย เดี๋ยวคนถามมันก็เงิบไปเองแหละ  ที่ม๊าสมควรทำก็คือมองหน้าติณเอาไว้ว่าลูกมีความสุขนะ   แต่พอจะนึกออกลางๆว่าม๊ากังวลก็เพราะว่ามีคนคอยเสี้ยม    ม๊าอาจจะไม่รู้ว่าอันโดนทิ้งก็เพราะอันนอกใจไปเอากับฟิก     งานม๊าอันก็ท่าจะจัดการให้เด็กๆกิ๊กเก่าฟิกมารวมตัวกัน   แต่ไงก็ระวังไว้เถอะภูอาละวาดยังไม่เท่าไหร่นะ   ติณองค์ลงขึ้นมาแล้วจะอยู่กันไม่ได้     ทุกวันนี้ติณมันมีความสุข กลับเนื้อกลับตัว เป็นคนดีขนาดนี้ยังไม่พอใจกันอีกหรือ?
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 03-09-2015 22:33:17
ง่อวววว ตอนหน้าจะดราม่าอะไรมั้ยเนี่ย  :katai1: :katai1: ภาคนี้ดูจะหนักไปทางด้านพี่ตินนะเนี่ย แต่ม๊าคะมันมาถึงขั้นนี้แล้วหนูว่าม๊าทำใจยอมรับเถอะค่ะพวกเค้าคบกันสามคนจริงๆมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรหรือทำใครเดือดร้อนนี่คะก็ยังมีความสุขกันดีคุณม๊าควรจะเชื่อใจเชื่อคำพูดลูกชายตัวเองดีกว่าฟังจากปากคนอื่นนะคะโดยเฉพาะคนที่เป็นแฟนเก่าลูกชายอะ ตอนหน้ารวมพลกิ๊กเก่าฟิกไม่ว่าจะยังไงสู้ๆนะหนูฟิก พี่ภูกับพี่ตินอยู่ข้างหนูอยู่แล้ว #รอดูพี่ตินองค์ลง  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 04-09-2015 00:05:57
กิ๊กเก่าก็แค่เศษของอดีต
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 04-09-2015 00:18:38
 :a5: :sad4: :a5:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 04-09-2015 00:37:45
พี่อันนี่ไม่หยุดจริงๆ เดี๋ยวๆได้เจอดี :angry2:

ตอนหน้าจะเจออะไรแรงๆไหนนี่ ฟิกสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 04-09-2015 01:15:27
ทีมหนูฟิก สู้ๆนะเราเชียร์นายเต็มที่
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 04-09-2015 01:53:30
อันนี่ทำตัวน่าสมเพชจังว่ะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 04-09-2015 02:07:44
อันมันร้ายยยย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ptp_ploy ที่ 05-09-2015 18:24:32
ขอตอนต่อไปด่วนๆเลยย
ไม่อยากรอแล้ว
ฟิกจะเป็นไงต่อเนี่ย พี่อันนี่ก็จิกไม่ปล่อยเลยนะ!! :m31:

รอๆๆค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 05-09-2015 20:02:05
ฟิกสู้โว๊ย อย่าไปยอมนังอันเน่า
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 05-09-2015 22:50:01
 :katai2-1: ติน ภู ฟิก กลับมาแล้วถึงจะแค่ตอนพิเศษก็ตาม
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 06-09-2015 00:31:27
พี่อันนี่นางร้ายมาก คอยเสี้ยมม๊า
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 06-09-2015 10:27:53


แลดูดราม่า ชอบภาคแรกสนุกดีครบรส
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 06-09-2015 11:04:06
นังอันนังมารร้าย น้องฟิคสู้ๆนะค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-09-2015 15:53:47
รอดูผลงานฟิก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๑ มารผจญ - 3-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 06-09-2015 19:12:01
ติดตามจ้า สนุกมากๆ :-[
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๒ - 7-9-58 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 07-09-2015 07:37:40

ตอนที่๒





“ไอ้ติน ม๊ามึงชอบอะไรวะ”ผมถามขึ้นมาระหว่างที่นอนแอ้งแม้งอ่านหนังสือทัศนศิลป์แก้เบื่อไปพลางๆ คือผมคิดของขวัญวันเกิดให้ม๊ามันไม่ออกอ่ะ จะให้ผมไปตัวเปล่ามันก็ดูไม่ดี

“หมายถึงอะไร”มันเงยหน้ามาจากหนังสือชีวะ ขยันเกิ๊นเพิ่งเปิดก็อ่านหนังสือแล้ว แต่ก็เข้าใจได้ก็มันปีสี่แล้ว ต่างจากพี่ภูเราที่ยังชิวๆได้ ไอ้ปั๊มก็คอยรายงานผมตลอดว่ามันชอบคลุกคลีกับน้องๆ เหอะๆ

“พรุ่งนี้งานวันเกิดม๊าไง กูว่าจะไป”ไอ้ตินวางหนังสือลงทันที ก่อนจะเดินมาเอามือแตะหน้าผากของผม

“ทำอะไรของมึงวะครับ”ผมดันมือมันออก

“มึงป่วยแน่ๆ ปกติมึงไม่เคยจะสนใจงานอะไรแบบนี้เลยนะ ทำไม มึงจะเรียกคะแนนจากม๊าเหรอ”มันหัวเราะเบาๆก่อนจะหอมแก้ม
ผมไปฟอดใหญ่

“เดี๋ยวตอนเย็นพาไป”มันยักคิ้วให้ผม

“ไปไหน”ไอ้ภูเพิ่งกลับมาพอดี มันหอบขนมมาด้วยถุงใหญ่ เหวี่ยงเสื้อคลุมออกจากตัวเสร็จมันก็กลิ้งมานอนบนเตียงทันที

“วันเกิดม๊าผมอ่ะ พี่ไปไหม”

“ไม่อ่ะ”เป็นคำตอบที่คาดเดาได้อยู่แล้วจากไอ้ภู มันไม่สนงานอะไรทำนองนี้หรอก

“แต่กูอยากให้มึงไปนะ”ผมพูดขัดมันขึ้นมา ไอ้ภูมองหน้าผมด้วยสีหน้าหมางงแลดูน่าถีบเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน

“นึกครึ้มอะไรขึ้นมาวะ” มันทำเสียงงง

“ผมก็ว่างั้น วันนี้มันทำตัวแปลกๆ มีอะไรใช่ไหม บอกกูมานะ อย่าคิดปิดบัง”ไอ้ตินจับหน้าผมให้มองตามันเพื่อดูว่าผมโกหกมันรึ
เปล่า

“คืองี้ ปล่อยก่อน เจ็บนะเว้ย ไอ้ห่านี่หนิ”ผมปัดมือมันออก ใจจริงก็กะจะบอกมันอยู่แล้วแหละ ถ้าหากว่าบรรดากิ๊กเก่าของผมโผล่
มาจริงล่ะก็ พวกมันจะได้ไม่ระเบิดลงกลางงานเลยรึไง

“ก็แฟนเก่ามึงอ่ะ ติดต่อกับม๊าตลอดเลย” ไอ้ตินขมวดคิ้วทันที

“อันน่ะเหรอ”ยังจะมาย้อนถามอีก

“มึงมีเมียเก่ากี่คนล่ะ”

“หลายอยู่”มันตีสีหน้ากวนตีนก่อนจะเปลี่ยนโหมดเป็นจริงจังจนผมกลืนคำด่าแทบไม่ทัน

“กูแค่เคยได้ยินว่าเขาชอบโทรคุยกับม๊ากูเฉยๆ แต่จะให้กูไปบังคับห้ามม๊าไม่ให้คุยกับมันก็ไม่ได้นี่หว่า แล้วไงต่อ”มันตบขาผมเสียงดังป้าบ

“กูว่าพี่เขาตั้งใจจะสร้างเรื่องว่ะ กูว่าพี่เขาอาจเป็นตัวการที่ทำให้ม๊าคิดอะไรแปลกๆ”จริงๆนะ ปกติม๊าออกจะใจดี

“จะใช่เหรอ…ม๊ากูก็ไม่ได้โง่นะ ความจริงแล้วร้ายพอๆกับกูเลย”ไอ้ตินนิ่งไปเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ไอ้ภูเดาะลิ้นเบาๆก่อนจะออก
ความเห็นบ้าง

“ในความเห็นกูนะ เราปล่อยเรื่องนี้ไปเถอะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด กูไม่กลัวหรอก ว่ากันตามตรงม๊ามึงเขารักมึงจะตาย ไม่กล้า
ทำร้ายความรู้สึกมึงหรอกน่า”ไอ้ภูลุกจากเตียงก่อนจะถอดเสื้อยืดออก ผมแอบเมียงมองดู หมู่นี้มันค่อนข้างจะฟิตเพราะมันชอบ
ไปฟิตเนสไม่ก็วิ่งออกกำลังกายกับรุ่นน้องที่เป็นเพื่อนมัน ผมเคยไปด้วยอยู่ครั้งนึง สรุปว่าวิ่งไม่ไหวหอบแดกลิ้นห้อยก่อนใครเลย เพราะสถานที่ที่ไปวิ่งคืออ่างเก็บน้ำหลังมอซึ่งมันไกลมาก

“นั่นสิ ผมว่ามันต้องมีเงื่อนงำ”แล้วจากนั้น ก็พากันอาบน้ำเตรียมตัวออกไปด้านนอก ผมขี้เกียจจะเถียงพวกมันก็เลยยอมๆอาบด้วยกันสามคน ปล่อยให้พวกมันลวนลามพอหอมปากหอมคอ

“กูไปทำเสื้อมาใหม่ด้วยนะ”ไอ้ตินหยิบถุงบางอย่างออกมา ผมเห็นแล้วแอบสยอง หวังว่าคงไม่เหมือนไอ้ตัวก่อนหรอกนะ ยังจำกันได้ไหมไอ้เสื้อย้ำสถานะอะไรนั่น

“ทำอีกแล้วเหรอวะ”ไอ้ภูแอบถอนหายใจเหมือนกันครับ ผมได้ยิน ฮ่าๆ

“เออดิ ตัวเก่าห่าฟิกเอาไปซ่อนหมดเลย”มันหันมาทำหน้าบูดใส่ผมก่อนจะโยนเสื้อยืดสีเทามาให้ผมกับไอ้ภูดู ผมค่อยๆคลี่เสื้อออก เสื้อของผมมีคำว่าCan สรุปว่าไอ้ตินไปสกรีนมาถ้าใส่ๆเดินด้วยกันก็ We Can Do

“ทำไรได้วะ”ไอ้ภูถาม

“ทำแบบที่คนอื่นทำไม่ได้ไง”ไอ้ตินหันมาคุยกับไอ้ภูระหว่างที่ใส่เสื้อ มันมองหน้ากันด้วยท่าทางที่รู้กันสองคนก่อนจะหันมามองผม

“จะไปไหมซื้อของเนี่ย เร็วๆเลยเฮ้ย”ผมเอาเสื้อฟาดหลังไอ้ภูเต็มแรง ก่อนจะรีบเดินหนีพลางใส่เสื้อยืดไปด้วย ยังดีนะที่ไอ้ตินยังมีหัวคิดไม่สกรีนคำบ้าๆให้ผมอายเล่น


ไอ้ตินมันบอกว่าม๊ามันชอบน้ำหอมตระกูลCK กลิ่นเย็นๆสบายๆ ผมเลยปล่อยให้มันเลือกไป ส่วนไอ้ภูหายไปตรงโซนนาฬิกา ที่อยู่ตรงข้าม ผมเห็นบีเอหญิงกำลังชี้แจงสรรพคุณของน้ำหอมเลยเลี่ยงๆออกมา ผมเองไม่ค่อยได้ใช้น้ำหอมแบรนด์ดังๆหรอก แต่ไหนๆก็มาร้านหรูๆแล้วก็เดินดูซะหน่อย ยืนลับๆล่อๆอยู่นานก็มีบีเอผู้ชายหน้าใสไร้สิวเข้ามาทัก

“อยากได้กลิ่นแบบไหนสอบถามได้นะครับ”บีเอหน้าใสพูดด้วยน้ำเสียงสุภา ผมหันไปส่งยิ้มให้ แบบไหนผมก็ไม่รู้เหมือนกันแต่กลิ่นหอมๆที่ลอยฟุ้งมาจากตัวอีกคนก็หอมมาก จนน่าดม เฮ้ย ไม่ใช่ หอมดี ผมเหล่ๆไอ้ตินเห็นกำลังคิดเงินอยู่

“อยากได้กลิ่นแบบที่พี่ใส่อยู่อ่ะครับ หอมดี”ผมตอบพร้อมรอยยิ้ม แซวเล่นไปงั้นแหละครับ เหงาปาก อยู่กับพวกมันสองคนแซวไม่ได้ ไม่รู้เป็นไรแพ้ทางตลอด โดนพวกมันสวนกลับมาทีเงิบเลย เงิบเขินนะ ผมเลยไม่อยากเสียภาพพจน์ มาแซวคนอื่นดีกว่า (เหตุผลไรวะ)

“อ้อ…”บีเอทำหน้าตกใจแบบมีมาดเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเบาๆ

“ผมใช้ตัวนี้อยู่ครับ Giorgio Armani Attitude กลิ่นจะแรงมากหน่อย ฉีดตอนไปเที่ยวน่าจะเหมาะกับคุณลูกค้านะครับ”อุ่ย รู้ด้วยว่าผมชอบเที่ยว

“รู้ได้ไงว่าผมชอบเที่ยว หรือเราเคยเจอกันมาก่อน”หยอกเสียงนุ่ม บีเอยิ้มให้

"เปล่าหรอกครับแค่ดูจากลักษณะท่าทางของคุณลูกค้าน่ะครับ"

"ของแบบนั้นมองกันที่ภายนอกไม่ได้หรอกครับ ต้องดูที่ภายใน"ผมแกล้งทำเสียงนุ่มๆ บีเอหัวเราะเหมือนไม่รู้จะตอบอะไร ผมแอบส่องราคาไปด้วย อุแม่เจ้า แดกแกลบแน่นอน แต่ผมชอบกลิ่นนี้นะ หอมๆยั่วๆดี น่าสนๆ ซื้อไว้ไม่ผิดหรอก ไม่ได้เอาไว้ยั่วมันสองคนนะ บอกไว้ก่อน

“หรือไม่ก็ลอง Bvlgari Aqva Pour Homme กลิ่นจะออกเซ็กซี่ๆหน่อย ยิ่งเวลาออกกำลังกายนะครับ…”บีเอเว้นที่ว่างให้ผมเติมเอง เขาน่าแดงเล็กน้อยหลังจากพูดจบ ก่อนจะกระแอมเบาๆ แต่ผมกลับนึกถึงไอ้ภูขึ้นมาทันที

“แต่ถ้าอยากได้กลิ่นที่ซอฟลงมาหน่อย ผมแนะนำสองตัวนี้ครับ Davidoff Cool Water กับ Eternity calvin klein”ผมลองทั้งสองตัวที่ว่ามา หอมๆแบบอบอุ่น ผมว่าเหมาะกับไอ้ตินดี แต่คิดคำนวณเงินในกระเป๋าแล้วก็...คิดหนักเลยครับ ลองขนาดนี้ แถมคุยกันยาวอีก ถ้าผมไม่ซื้อจะผิดมากไหมวะ ผมมองหาไอ้ตินแต่มันไม่อยู่แล้ว อ้าว มันทิ้งผมไปไหนแล้ววะ กะจะยืมเงินมันออกก่อน (เลว) สงสัยคงต้องใช้บัตรเครดิตที่ไอ้ภูเคยให้ซะแล้ว เงินผมก็มีแต่อยู่ในATM ออกไปกดตอนนี้คงแปลกๆ

"ใช้บัตรส่วนลดได้ไหมครับ"ผมหยิบบัตรเซเว่นออกมา บีเอถึงกับมึนงง ฮ่าๆ บาปกรรมจริงๆ

"ล้อเล่นครับ"ผมซื้อน้ำหอมมาสามแบรนด์ น้ำตาร่วงแทนไอ้ภูเลยครับ หมื่นกว่าๆ ใช้น้ำหอมเซเว่นเหมือนเดิมเถอะผมเนี่ย ผมมองหาไอ้สองคนนั่น คือพวกมันหายไปไหนวะ ผมออกจากร้านอารมณ์ดีเล็กน้อย ได้บริหารเสน่ห์ ได้ผลรึเปล่าไม่รู้ แซวไว้ก่อน ผมโทรหาไอ้ตินเมื่อออกมาแล้วไม่เจอพวกมัน

"เฮ้ย มึงอยู่ไหนวะ"

[หอดิ]มันตอบกลับมาด้วยเสียงนิ่งๆ เฮ้ยนี่ผมฟังผิดหรือเปล่าวะ

"ห๊ะ มึงล้อเล่นใช่ไหมวะ"ผมถามงงๆแต่เดินดูรอบๆก็ไม่เจอจริงๆ

[เปล่า]

"เฮ้ย ทำไมทำงี้วะ"ผมเริ่มทำหน้าบูดแล้ว

[ก็เห็นกำลังคุยสนุกๆไม่อยากขัดกูกับพี่ภูเลยกลับมาก่อนไง]อย่าบอกนะว่ามันโกรธเรื่องนี้อ่ะ

"กูแค่คุยเล่นเว้ย"ผมทำเสียงอ่อน

[จะเล่นหรือจริงจังก็แล้วแต่]ผมหงุดหงิดกับน้ำเสียงของมันขึ้นมาแล้วเหมือนกัน

"เออ งั้นกูกลับไปขอเบอร์เขาแม่งเลย ดีไหม"

[ลองขยับแม้แต่ก้าวเดียวสิ]มันพูดเสียงเรียบนิ่ง ไอ้ผมก็ดันเชื่อมันอีก นี่ขนาดไม่เห็นหน้ามันนะ ยังแอบเกรงๆเลย

"มารับหน่อยครับ"พูดเพราะๆเอาใจมันหน่อย มันถอนหายใจฟึดฟัด

[แท็กซี่]

ตู้ด ตู้ด ตู้ด ตู้ด


แล้วมันก็ปล่อยให้ผมยืนเดียวดายอยู่กับน้ำหอมราคาแพง ไอ้พวกนี่นี้จริงๆเลย ผมจำต้องนั่งแท็กซี่กลับเองจนได้ ไอ้พวกแสบเอ้ย ไม่คิดว่ามันจะกล้าทิ้งผม พอมาถึงห้องพวกมันก็เหลือบมองผมแวบนึงก่อนจะหันไปสนใจโทรทัศน์ต่อ ผมเลยขยับเข้าไปนั่งแทรกกลาง

"เบียดทำไม"ไอ้ตินทำหน้าบูด

"พวกมึงโกรธเหรอวะ แค่นี้เอง--คือกูยอมรับว่ากูผิด กูมันสันดานไม่ดีเอง"ผมเปลี่ยนบทฉับพลันเมื่อเห็นสายตาของไอ้ภู

"ตอแหลไม่มีใครเกินจริงๆเลยมึงเนี่ย ตอบมามึงเอาบัตรกูไปรูดซื้ออะไรเยอะแยะ"ไอ้ภูมองหน้าผมตรงๆ กะจะเซอร์ไพรส์ดันมา
รู้ทันอีก

"กูไม่ได้รูด"แกล้งตีหน้าเซ่อต่อไป แต่ไอ้ภูมันก็วางโทรศัพท์ที่มีข้อความแจ้งเตือนยอดเงินที่ผมใช้ไป

"กูซื้อน้ำหอมให้พวกมึงไง"ผมหยิบออกมาโชว์ให้มันสองคนดู ไอ้ตินดึงกล่องน้ำหอมไปดู

"ทำมาไฮโซ อยู่ๆทำไมถึงอยากซื้อ มึงจะไปใช้กับใคร"มันหรี่ตามองอย่างจับผิด ก็อย่างที่บอกว่าผมไม่ค่อยใช้น้ำหอมแพงๆ ไอ้พวกนี้เลยสงสัยใหญ่

"วู้ว กูอยู่กับใครล่ะ"มันสองคนทำมาตีหน้าซื่อ

"ใครจะรู้มึงอาจจะซุกซ่อนก็ได้"ไอ้ตินพูดขึ้นมาทำผมหน้างออีกรอบ

"ไม่มีเว้ย"ไม่สามารถหลุดรอดสายตาพวกมันไปได้หรอก

"ใครจะรู้"ไอ้ภูทำเสียงกวนประสาท

"มึงได้ขอเบอร์บีเอที่มึงม้อหรือเปล่า"ไอ้ตินถามสีหน้าหงุดหงิด

"ไม่ได้ขอ ไม่ได้ม้อ"

"ห่างไม่ได้เลยนะ"มันพูดเสีนงมึนตึง

"กูแค่แซวเล่น จริงๆนะเว้ย ไม่มีอะไร เชื่อกูนะ"ผมใช้ลูกอ้อนเอาหน้าไถไหล่ไอ้ตินก่อนจะหันไปหอมแก้มไอ้ภู ไม่คิดจริงๆว่าตัว
เองจะมีโมเม้นแบบนี้ สยองตัวเองจริงๆเลยว่ะ

"อย่าให้รู้ล่ะกัน"ไอ้ภูเข้ามากระซิบเสียงดุ ก่อนจะขบติ่งหูผมเบาๆ ทำเอาผมเสียววูบที่ช่องทองเลย ผมขยับตัวหนีก่อนจะหยิบ
น้ำหอมที่ซื้อมาให้พวกมัน

"กูตั้งใจเลือกมาให้มึงสองคนเลยนะ"

"ตั้งใจจนน่าถีบ"ไอ้ตินทำเสียงยียวน แบบว่าน่าถีบมาก แต่ก็นะ ผมไม่กล้าทำหรอก

"หอมดีนะเว้ย"ว่าแล้วก็ฉีดใส่หน้าใส่ตาไอ้ภู

"เชี่ย เข้าปากกู"มันปัดมือผมออกห่าง

"โทษๆ ไม่ได้ตั้งใจ"กร๊าก ตั้งใจต่างหาก หึๆ ไอ้ตินดมๆน้ำหอมสีหน้าพอใจ

"จีออร์จีโอ อาร์มานี่ซะด้วย"ไอ้ภูแกะน้ำหอมของผมออกมาดมก่อนจะเบ้หน้า

"กูไม่ชอบกลิ่นนี้ว่ะ ฉุนไป"ผมย่นจมูก

"อันนี้ของกู ไม่ได้ให้มึง"ผมดึงกลับแต่มันไม่ยอม

"กูไม่ให้ใช้อ่ะ จะทำไม"ไอ้ภูทำหน้ากวนตีนใส่

"มึงจะหวงกูกระทั่งกลิ่นน้ำหอมเลยเหรอ"ผมเลิกคิ้วมองมันสองคน

"เออดิ ฉีดแล้วมีตัวผู้ตามต้อยๆทำไง"ผมสตั๊นไปหลายสิบวิ เมื่อได้ยินไอ้ภูพูด

"บ้าดิ"

"บ้าอะไร กูพูดจริง ฉีดให้กูสองคนดมก็พอ"ผมเหลือกตามองไอ้ภู

"แบบนี้กูใช้น้ำหอมเซ่เว่นดีกว่า ทเวลพลัสที่มีดาราเกาหลีหล่อๆเป็นพรีเซ็นเตอร์ มึงรู้จักป่ะ"

"ไม่รู้จัก มีใครที่มึงเห็นว่าหล่อกว่ากูด้วยเหรอ"อื้อหือ ไอ้ภูแม่งมั่นหน้าจริงๆ ผมหันไปมองไอ้ตินที่ยังคงเงียบอยู่ เดาได้เลยว่ามันยังโกรธผมอยู่

"ติน มึงชอบไหม"เสี่ยงถามมันบ้าง

"อือ"ตอบโดยไม่มองผม ไอ้ภูคว้าขวดน้ำหอมไปเก็บ มันทำสีหน้าตลกๆใส่ผมก่อนจะลุกจากโซฟาไป

"ยังไม่หายโกรธกูเหรอวะ"มันเมินผมครับ สายตาจับจ้องที่โทรทัศน์ ผมเลยลุกไปบังสายตามัน

"เอ๊ะ ไอ้ฟิก อย่ากวนอารมณ์กูนะ"มันทำหน้าหงุดหงิด ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

"คุยกับกูก่อนดิ"มันถอนหายใจ ก่อนจะมองผม

"กูไม่ชอบที่มึงทำแบบนี้ รู้ว่าแค่เล่นๆ แต่นั่นมันต่อหน้ากูเลย มึงจะท้าทายกูใช่ไหม มึงนี่...ชอบทำให้หงุดหงิด"มันขมวดคิ้วแน่น
ผมเลยเลื่อนไปนั่งข้างๆมัน

"เออ ขอโทษ"

"กูไม่เดินเข้าไปถีบมึงตั้งแต่ในร้านก็บุญแล้ว"

"ขอโทษ"

"เงียบ จะดูหนัง"

"ครับๆ"ไอ้ตินขึงตามองที่ผมทำเสียงระรื่นใส่ 

"ใช้น้ำหอมที่กูซื้อให้ด้วยนะ วันดีคืนดีกูอาจเผลอปล้ำพวกมึงก็ได้"ผมหันไปมองไอ้ภูที่กำลังเล่นเกมส์อยู่บนเตียง

"วันไหนวะ กูจะได้เตรียมตัวถูก"ผมขี้เกียจกวนตีนไอ้ตินแล้ว เดี๋ยวมันจะโกรธเข้าจริงๆ ผมเลยเลี่ยงไปดูไอ้ภูเล่นเกมส์บนเตียง
ทันที ผมนึกขึ้นมาได้ว่ามันเข้าร้านนาฬิกานี่หว่า

"มึงซื้อนาฬิกาหาให้ใคร"

"อีหนู"

"สัดภู เอาดีๆ"มันหันมามองหน้าผม ก่อนจะกระซิบเบาๆ

"กูซื้อ...."

"..."ชักหงุดหงิดล่ะ

"เออ กูซื้อให้พ่อกู"ผมเบิกตามองมันอย่างเหลือเชื่อทันที ไอ้ภูเนี่ยนะ

"ไหนเอามาดูดิ๊"อยากเห็นเฉยๆไม่ได้จับผิดมันเลยจริงๆครับ มันทำหน้าเหนื่อยหน่ายก่อนจะส่งกล่องนาฬิกาให้ผม ผมเปิดดู อืม ดีไซน์สำหรับผู้ใหญ่แก่ๆเคร่งขรึม

"พอใจยัง"มันทำหน้าขำๆ ก่อนจะเอาของคืน กว่าจะนอนกันได้ก็ปาไปเกือบค่อนคืน ไอ้ตินขยับมานอนใกล้ๆผม มันสอดมือมาโอบเอวหลวมๆเอาคางเกยไหล่

"จะว่าไปน้ำหอมมึงนี่หอมดีนะ"มันกระซิบใกล้ๆหูทำผมขนลุกวูบ หมู่นี้ไม่รู้เป็นอะไรทำไมถึงหวิวๆทุกทีเวลาพวกมันเข้าใกล้จุดนี้ ตรงๆคืออารมณ์ขึ้นทุกที ดูเหมือนไอ้ภูที่นอนอยู่ข้างๆจะรู้สึกไม่ชอบมาพากลมันเลื่อนมือมาใกล้ๆ

"ไอ้ฟิกหื่น"มันยิ้มกว้างในความมืด ผมหน้าร้อนขึ้นมาทันที

"นอนๆ"ผมพูดเสียงอู้อี้ๆเพราะฝังหน้าลงกับหมอน

"เขินเหรอ"ไอ้ตินชะโงกหน้ามาดู มุมปากยกเป็นรอยยิ้ม ที่ผมไม่กล้ามอง ไอร้อนเห่อขึ้นทั้งที่หน้าและที่ใบหู

"ไม่ได้เขิน"ผมนอนหลับตาใจเต้นตึกๆ โอยตาย นี่ผมมาถึงจุดๆนี้ได้ยังไง จุดที่กูเขินพวกมันเป็นสาวน้อยแบบนี้

"เฮ้อ..."ไอ้ภูถอนหายใจด้วยเหตุผลบางอย่าง มันพูดเบาๆในความมืด

"จูบได้ไหม"ผมมึนไปชั่วขณะ คือทุกทีมันไม่เคยขอก่อน มาพูดแบบนี้ผมยิ่งเขิน

"นะ..."มานะมาเนอะ ผมนี่รู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหว หน้าจะระเบิดแปลกๆ ใครรู้อาการของผมบ้าง มากำเริบอะไรตอนนี้ ผมลืมตามองไอ้ภู สีหน้ามันกำลังสนุกได้ที่เลยที่ได้แกล้งผมแบบนี้

"กู...ไม่ให้..."ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้า ได้ยินเสียงไอ้ตินหัวเราะเบาๆ

"เริ่มมีฮอร์โมนสาวน้อยแล้วนะมึง"ไอ้ภูพูดพลางหัวเราะ ผมถีบผ้าห่มออกทันที พูดอะไรของมึงวะ ไอ้ภูไม่รอช้าดันหน้าผมไปใกล้ก่อนจะกดจูบลงมา แต่ผมเม้มปากแน่น เหอะ หงุดหงิดมัน ไอ้ภูเลื่อนมือบีบสะโพกผมเบาๆ ลิ้นอุ่นๆไล้ไปตามริมฝีปาก จนผมต้องยอมเปิดรับให้มันจาบจ้วงเข้ามาแต่โดยดี ไอ้ตินขยับมาแนบชิดมากขึ้น อีกมือดึงสะโพกของผมให้แนบชิดกับตัวมัน จนผมรับรู้ถึงไอร้อนมันจงใจเบียดตัวเข้ามาใกล้จนผมหวิวในท้องน้อย ไอ้ภูผละออกมา สายตาวิบวับ

"สองเดือนนะเว้ย"ผมพึมพำขึ้นมาเตือนตัวเองไปพลาง

"อืม ไม่ลืมหรอก"ไอ้ตินตอบเสียงเบา สัมผัสชื้นแฉะไล่วนอยู่แถวๆกกหูจนผมต้องย่นคอหนีเพราะเสียววูบขึ้นมา กางเกงของผม
ถูกดึงลง มือร้อนของไอ้ภูเข้ามากอบกุมจุดไวสัมผัส ผมเผลอปล่อยเสียงครางออกมา หลับตาแน่นเมื่อมือนั้นขยับเป็นจังหวะ จนผมต้องงอเข่าขึ้นมาเพราะแรงอารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นมา มือนุ่มของไอ้ตินสอดเข้ามาใต้เสื้อ ลูบวนอยู่แถวๆท้องน้อย จนผมต้องหดเกร็ง

"โอย เดี๊ยวๆ"ผมจับข้อมือของไอ้ภูให้ช้าลงหน่อย มันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะปล่อยมือออก ขยับถอดกางเกงของตัวเองทิ้ง มือนุ่มของไอ้ตินเข้ามาทำหน้าที่แทน ผมกดหน้าลงกับหมอนเพื่อปิดเสียงน่าอาย นิ้วมือมันบดขยี้อยู่ที่ยอดอก ริมฝีปากขบเม้มติ่งหูผมอย่างอ้อยอิ่งเหมือนรู้จุดอ่อนของผม

"ฟิก"เสียงกระซิบของไอ้ภูทำให้ผมปรือตามองเมื่อเห็นว่ามันจะให้ผมทำอะไร จึงยกตัวขึ้นมา เท้าแขนกับเตียงก่อนจะช่วยคลายอารมณ์ที่คั่งค้างของไอ้ภูด้วยริมฝีปาก เสียงครางต่ำๆของมันแว่วมา ไอ้ตินขยับมาคร่อมผมก่อนจะรวบทั้งของผมและของมัน ผมเกร็งหน้าท้องจนปวดไปหมด จะถึงที่หมายไอ้ตินมันก็แกล้งจนผมปล่อยออกมาพร้อมๆกับมัน 

"ต่อไปอย่าดื้อนะ"มันกระซิบเบาๆก่อนจะขยับมานอนข้างๆผม ใช้เวลานานมากกว่าไอ้ภูจะบรรลุ ไม่อยากจะบ่นว่าเมื่อยปาก เดาว่ามันคงไปแฟ้บมาแน่ๆ

"โทษๆ"มันขำหึๆเมื่อทำผมเลอะไปหมด

"กูง่วงล่ะ จะนอน"มันหยิบทิชชูมาเช็ดๆตรงลำคอให้ผม

"ทำไมเขินเหรอ หน้าอย่างมึงเนี่ยนะ"ไอ้ตินมองผมยิ้มๆ คือผมก็บอกไม่ถูกว่ามาเขินอะไรมันตอนนี้ ผมนอนทั้งๆที่กางเกงเลอะๆแบบนั้นแหละ ช่างแม่งเถอะ ตอนเช้าค่อยอาบน้ำ

"ฟิก..."ไอ้ตินเรียกขึ้นมาเบาๆ ผมอืออออย่างนึกรำคาญเพราะง่วงนอน

"กูหายโกรธมึงแล้ว เมื่อกี้มึงทำตัวน่ารัก"ไอ้สาด พูดทำไม ผมได้แต่นอนนิ่งๆทำเหมือนว่าหลับไปแล้ว ได้ยินเสียงหัวเราะของมัน
ดังขึ้นมาเบาๆ






.........................................................................





ตอนเช้าผมไปเรียนตามปกติ อารมณ์ดีเป็นพิเศษจนลืมเรื่องพี่อันไปเลย ผมมองหาเพื่อนๆที่ไปออกันอยู่ที่ใต้โถงคณะเพราะมีน้องมาเต้นท่าทางแปลกๆให้ดู

“หน้าตาสดชื่นจังพี่ฟิก”ไอ้ขวัญทักก่อนคนแรก ไอ้ชายเดินเข้ามาใกล้ๆก่อนจะดึงปกเสื้อผมลง

“ทำบ้าอะไรวะ”ผมผลักมันออกห่างเมื่อกลุ่มน้องท่าทางแต๋วๆส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด

“ก็หาสาเหตุที่มึงอารมณ์ดีไง”เสียใจไม่มีเว้ย คึๆ ท่าจะดูผมคงต้องถอดกางเกงให้มันดูแล้วล่ะ

“เสือกจริงจังนะมึงเนี่ย”

“ผมจะเอาลายเซ็นของพี่ฟิกต้องทำยังไงอ่ะ”หนุ่มน้อยหน้าขาวๆ หน้าตาจิ้มลิ้มชี้มาที่ผม แถมเน้นคำว่าเอาอีก โอยตาย ผมเจอ
แบบนี้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่าไม่ชอบแต่ผม...กลัวสู้ไม่ได้

“ไม่ต้องทำไงหรอก พี่ไม่ชอบแกล้ง”ผมขี้เกียจอ่ะ ใครมาขอก็ให้ไปง่ายๆแบบนั้นแหละ

“อุ้ย ไม่เป็นไร ผมชอบให้พี่แกล้ง ทั้งคืนเลยก็ได้ ผมยอม”มีเสียงโห่ฮาดังมา ผมเหมือนได้ยินเสียงวิ้งๆในหู เพื่อนเลวก็ไปรับมุกมันอีก เพลียครับ เกรียนไม่ออกเลยกับไอ้พวกนี้ มันมีกันสามคนชื่อขึ้นต้นด้วยตัวปอ.ได้แก่ ปิ๊ก ปอ เปียวเข้าขากันทั้งนั้น

“ถ้างั้นก็...”ชอบโดนแกล้งกันนักใช่ไหม ผมสอดส่องหาพื้นที่ว่างในคณะมีพวกสาขาอื่นจับจองหมดแล้วผมจึงชี้ไปที่ถนนหน้า
คณะ

“ไปกระโดดกบสองรอบหน้าคณะเราจนถึงคณะเกษตร”ทันทีที่ผมสั่งพวกมันก็ทำหน้าเฉาแต่ก็ยอมไปแต่โดยดี กระโดดกบที่ว่า
คือนั่งยองๆแล้วกระโดด เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกันเพราะผมก็เคยโดน

“ร้องอ๊บๆด้วยนะ”ผมยิ้มชั่วก่อนจะยืมกล้องถ่ายรูปของไอ้เคนมาถ่ายพวกมัน คนที่เดินผ่านไปมาก็มองเป็นตาเดียว พวกปีสองยกกลองมาตีเพลงเข้าจังหวะให้พวกนั้นด้วย ดูสนุกมากกว่าเหนื่อยอีก

“โอเคๆ พอแล้ว เอาสมุดมา”เดี๋ยวเป็นลมขึ้นมาผมจะซวย หนึ่งในนั้นขยับเข้ามาใกล้ผม ก่อนจะยื่นสมุดมาให้

“พี่ฟิกห๊อมหอม”

“หืม”ผมเงยหน้ามองระหว่างที่เซ็นชื่อให้

“น้ำหอมพี่อ่ะ หอมมม”แล้วมันก็ยื่นหน้ามาใกล้ๆ ผมเอาสมุดฟาดหน้าผากกว้างๆของมันดังเพี๊ยะ

“ลามปามแล้วเฮ้ย”คุยไปคุยมาก็ตลกดีนะ ไอ้เด็กพวกนี้ ไอ้ที่แซวๆมาก็ขำๆตามประสา แต่ดูเหมือนจะมีคนไม่ขำ นั่นคือ...คุณพี่
อัน! เผอิญพี่เขาเห็นพอดี เขาก็เลยมาทักผมที่นั่งคุยกับพวกมันอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนใกล้ๆกับคณะเกษตร

“หวัดดีฟิก”พี่อันทักเสียงตึงๆ สามปอ.มองผมกับพี่อันด้วยสายตาสนใจ คงรับรู้ได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ

“สวัสดีครับพี่อัน”ผมทักเสียงแช่มชื่น พี่เขามองผมกับน้องอีกสามคน

“เปิดเทอมไม่กี่วัน เต๊าะเด็กเลยเหรอ”

“เต๊าะเต๊อะอะไรกันคุณพี่ พวกเราแค่คุยกับพี่ฟิกเฉยๆ พี่เป็นอะไรมากป่ะ”ไอ้ปอพูดขึ้นมา ผมแอบปรบมือให้ในใจ

“ใครจะรู้ นิสัยเก่าๆอาจจะออกลายก็ได้”ผมระบายยิ้มแทนอารมณ์หงุดหงิด

“นี่ถ้าพี่ไม่ตื้อไอ้ตินอยู่นะ ผมคงคิดว่าพี่หวงก้างผมแน่ๆ อย่ามายุ่งกับผมมาก แล้วจะหาว่าไม่เตือน”ผมพูดเสียงนิ่ง ถึงยังไงผมก็มีขีดจำกัด ลำเส้นผมมากๆเดี๋ยวจะระเบิดให้ดู ยังจำได้เลยว่าผมเคยต่อยไอ้ภูกับไอ้ตินด้วยช่วงที่มันบังคับผมมากๆน่ะ พี่อันดูตกใจกับท่าทางเอาจริงของผม ก่อนที่พี่เขาจะถอยทัพออกไป

“พี่เขาหาเรื่องมึงเหรอวะ”ไอ้เคนมองตามพี่อันไปงงๆ

“เออ เรื่องไอ้ตินอ่ะ”

“วุ่นวาย”ไอ้เคนพูดสั้นๆ ผมส่งสมุดคืนให้กับทั้งสามคนก่อนจะไล่มันกลับเพราะผมจะคุบกับพวกไอ้เคน

“เรื่องมันเป็นแบบนี้...”ผมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พวกมันฟัง

“พี่เขาจะกล้าทำเหรอ ไอ้ตินมันไม่ใช่เล่นๆเลยนะ น่าจะรู้จักมันดีนะ”ไอ้ชายพึมพำอย่างครุ่นคิด

“พี่เขาคงคิดว่ามีพวกล่ะมั้ง”อาจจะคิดว่ามีม๊าคอยเชื่อก็ได้ แต่ผมตงิดๆกับคำพูดไอ้ตินยังไงไม่รู้ ที่ว่าม๊ามันเองก็ร้ายเหมือน
กัน...อืม...ผมว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ


(ต่อด้านล่าง)
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๒ - 7-9-58 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 07-09-2015 07:43:12


ช่วงกลางวันผ่านไปอย่างน่าเบื่อชวนให้ง่วงนอนไอ้ตินส่งข้อความมาว่าไม่กลับหอเพราะต้องไปช่วยม๊ามันเตรียมงาน เมื่อกลับหอก็เห็นแต่ไอ้ภูกำลังใส่ชุดสูทสีเข้มอยู่

“รีบๆแต่งตัวดิ ไอ้ตินเลือกชุดไว้แล้ว มันบอกมึงจะดูหรูหรามีตังค์ขึ้นมาทันที”อ้าว ทุกวันนี้ผมดูซ่อมซ่อเหรอวะ ผมถอดกางเกงออกต่อหน้าไอ้ภูเลยเพระขี้เกียจอาบน้ำแล้ว

“วันนี้ไม่เขินกูแล้วเหรอ”มันหันมามอง

“เออ กินยาแล้ว”ด่าตัวเองก็เป็น ไอ้ภูทำหน้าขำก่อนจะเข้ามาวุ่นวายกับผมอยู่พักใหญ่ เพราะผมเอาเนคไทรัดคอมัน

“จะฆ่ากูรึไงวะ”มันไอค่อกแค่กก่อนจะลูบคอไปมา

“อืม แล้วหาใหม่”

“หาไม่ได้หรอก ใครเขาจะเอามึง”

“โห เยอะแยะ นี่ไอ้ฟิกนะครับ ระดับนี้แล้ว”ผมทำหน้ากวนโอ๊ยใส่มันก่อนจะจัดเสื้อให้เข้าที่

“กูดูแก่ไงไม่รู้ว่ะ”ผมมองเงาสะท้อนในกระจก

“เรื่องมากว่ะ กูยังไม่บ่นเลย”เถียงกับมันจนเหนื่อย กว่าจะถึงบ้านกว่าจะถึงบ้านไอ้ตินนี่ปากคอแห้งไปเยอะเลย ผมมองรอบๆบริเวณสวนที่ตอนนี้เต็มไปด้วยสีสันสดใส มีโต๊ะทรงกลมผ้าปูสีฟ้าพาสเทลเรียงเป็นย่อมๆ ลูกโป่งอัดแก๊สติดอยู่ตามกระถางต้นไม้ มีซุ้มดอกกุหลาบเลื้อยด้วย ฝีมือไอ้ตินชัวร์เพราะผมเห็นมันเหน็บดอกกุหลาบไว้ที่กนะเป๋าเสื้อมันกำลังคุยกับครอบครัวและเครือญาติอยู่ ผมกับไอ้ภูเลยมานั่งรอที่โต๊ะแถวๆนั้น

“มีแต่คนแก่”เสียงไอ้ภูลอยมาเมื่อมันมองสำรวจแขกในงาน

“อ้าว มึงก็บ้า”ผมขำหึ มองไปเจอเด็กคนหนึ่งที่ใส่เสื้อสูทสีน้ำเงินกับกางเกงขาสั้นแนวๆ ผมสะกิดไหล่คนข้างๆ

“นู่น คนนั้นไม่แก่เว้ย”

ป้าบ!

ฝามือหนักๆของมันตบลงกลางศีรษะเต็มแรงทำเอาผมเบลอไปพักใหญ่ เพราะไอ้เด็กที่ผมชี้คือไอ้ปอม

“กูมึนเลยเนี่ย”คือมึนจริงๆครับ มือมันหนักเชี่ยๆเลย

“แล้วมองมันทำไมล่ะ”ไอ้ภูเปลี่ยนมาลูบศีรษะผมเบาๆ นี่ถ้าไม่ใช่ไอ้ภูผมโกรธไปแล้วนะ มันตบซะเห็นดาวเลย มันคงนึกได้ล่ะมั้ง
ว่าตบหัวผมแรงไปหน่อยเพราะเห็นมันเหลือบมองผมอยู่หลายครั้ง ไอ้ตินเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มขำๆ

"เล่นอะไรกัน "มันหัวเราะ สงสัยมันคงเห็นผมโดนลูกตบมหาปะลัยของไอ้ภู

"เออ เดี๋ยวกูต้องอยู่ช่วยม๊ารับแขกก่อน ถ้าหิวก็ไปตักอะไรมารองท้องก่อนก็ได้ เดี๋ยวมา"ไอ้ตินเข้ามาลูบหัวผมเบาๆก่อนจะขำ
ออกไป ตลกนักเหรอวะ

"ป่ะ ไปหาอะไรกิน"ไอ้ภูสะกิดผมที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่

"งอนเหรอ กูขอโทษ เผลอไปหน่อย"มันเข้ามาดึงผมไปกอด หน้าผมเลยแปะอยู่ตรงหน้าท้องมัน

"เออๆกูไม่ได้งอน"ผมผละออกมา ก่อนจัดทรงผมให้เข้าที่ ผมไม่รู้จะกินอะไรดีเพราะละลานตาไปหมด ก็เลยเลือกเฟรนฟรายกับ
ของทอดมา ส่วนไอ้ภูไปตักไอศกรีมรวมมิตรเพราะมันตักมาทุกรส

"คนเยอะว่ะ นั่นญาติมันหมดเลยเหรอ"ไอ้ภูบ่นเบาๆโต๊ะตัวเดิมถูกคนอื่นแย่งไปแล้ว ผมมองไอ้ตินที่อยู่ท่ามกลางฝูงญาติ ก่อนจะ
เดินตามไอ้ภูไปนั่งที่โต๊ะริมสุดติดกับลูกโป่งสีหวาน ไม่เข้ากับไอ้ภูเลยจริงๆ

“ขำไร”มันหันมาถามสีหน้ามึนตึง คือมันเป็นโรคประหลาดไม่ชอบให้ผมหัวเราะแล้วมองมันด้วยสายตามีเลศนัยเพราะมันบอกว่าเหมือนโดนนินทา

“เปล่า ไอติมอร่อยไหม”ผมถาม มันก็เลยตักแล้วยื่นช้อนมาให้ผม

“ไม่เอา คนเยอะแยะ”ผมเบี่ยงตัวออก แต่มันก็จงใจเอาไอติมที่มันตักมาโดนแก้มผม

“ไอ้ภูแม่งเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”ผมเอาทิชชูเช็ดแก้ม สีหน้าบูดๆ เรื่องของเรื่องคือสิวขึ้น แต่คนอย่างไอ้ภูนี่ไม่สะทกสะท้านต่อคำด่าของผมหรอก มันหัวเราะหึๆของมันไป ผมเหลือบมองมัน ก่อนจะคิดออกว่าจะแกล้งอะไรมันดี ผมมองไปรอบๆส่วนมากไม่ค่อยมีใครสนใจพวกผมหรอก ผ้าปูโต๊ะก็ยาวกำลังดี ผมเลื่อนมือไปวางบนหน้าขามัน อีกมือก็จิ้มหมึกทอดไปด้วย ไอ้ภูมองผมงงๆเมื่อผมลูบหน้าขามันไปมา ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปยังที่อื่นที่ทำให้ไอ้ภูเริ่มขยับตัวยุกยิก

“จะทำไร”มันถามเบาๆ โน้มหน้ามาใกล้ๆจนจมูกแตะหลังกกหู ทำเอาผมขุนลุกวาบ ผมเอนตัวออกห่างแต่มือยังคงอยู่ที่เดิม ไอ้ตินมานั่งที่โต๊ะมองหน้าไอ้ภูด้วยสายตามึนๆเมื่อจู่ๆมันก็ลุกหนีไปจากโต๊ะ ฮ่าๆ ยกนี้ผมชนะ

 “ทำไรกัน”ไอ้ตินหันมาถาม

“อยากรู้เหรอ...”ผมชี้เก้าอี้ข้างๆผม มันก็นั่งตามอย่างว่าไง

“ว่า”ไอ้ตินทำหน้าอยากรู้ ผมก็เลยตะปปเป้ามันเต็มแรงจนมันต้องงอเข่าขึ้นมา แต่มันก็เอาคืนผมด้วยวิธีเดียวกัน ดีนะที่มีคนเดินผ่านมาซะก่อน มันเลยต้องปล่อยมือ ท่องไว้นะฟิก อย่าไปสู้เขานะลูก

“มึงรู้ไหมว่ากูคุยกับม๊ากูหลายเรื่องเลยนะ บอกแล้วว่าม๊าน่ะ ร้ายพอๆกับกูเลย”ผมหันไปมองอย่างสนใจ ไอ้ภูกลับมาอีกครั้งพร้อมน้ำชาเขียวน้ำผึ้ง

“กูเจอไอ้อันว่ะ”ไอ้ภูนั่งลงข้างๆผม

“คือแบบนี้ ที่ม๊าทำไปทั้งหมดเพราะอยากรู้ว่าพวกเรารักกันจริงหรือเปล่า เพราะตอนนั้นอันมันมาเสี้ยม ม๊าเลยออกตัวว่าไม่ค่อยเห็นด้วยเพื่อรอดูว่าเราจะทำยังไง แล้วอีกอย่างม๊าเองก็อยากรู้ว่าจริงๆแล้วอันมันต้องการอะไร และจะทำอะไรต่อ ที่ม๊าเล่านะ อันมันชอบพูดถึงไอ้ฟิกในแง่ที่ไม่ค่อยดี บอกว่าชอบอกใจ มีกิ๊กเยอะแยะ แย่งความรักกูไปจากมันบ้างล่ะ แต่ม๊ากูก็รู้อยู่แล้วไงว่ากูกับอันจบกันไม่ค่อยดีนัก เพราะเมื่อตอนที่อันนอกใจกูแรกๆ คนอื่นที่ไม่ใช่มึง”ไอ้ตินรีบเสริมเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของผม

“ช่วงนั้นกูแอบถ่ายรูปมึงบ่อยๆ แล้วม๊าก็รู้เข้า ม๊าบอกว่าม๊าอ่ะรู้จักกูดีว่ากูเป็นคนยังไง ถ้าระหว่างที่คบกับอันอยู่แล้วกูไปตามถ่ายรูปมึงก็แสดงว่าอันต้องนอกใจกูแน่ๆ แล้วมีคนมาบอกม๊าทีหลังว่าอันคบคนอื่นนอกจากกู ช่วงนั้นม๊ากูเลยไม่ค่อยปลื้มมันเท่าไหร่”ถ้าม๊ามันไม่ปลื้มพี่อันแล้วกับผมล่ะวะ จะขนาดไหน

“ไม่ต้องคิดมาก ป๊ากับม๊ารู้แล้วนะว่าเรื่องเป็นมายังไง กูเล่าให้ฟังหมดแล้ว ทุกอย่างไปจนถึงเรื่องที่กูทำกับมึง พวกท่านก็…เข้าใจ เพราะกูเลือกแล้ว แถมยังคบได้นานอีก”ไอ้ตินยิ้มได้แบบนี้ ผมก็เบาใจขึ้นมา สรุปพี่อันก็หัวเดียวกระเทียมลีบคงคิดว่ามีม๊าคอยหนุนหลังล่ะสิ หึๆ วินาทีนี้ผมสะใจจริงๆ ให้มันรู้ซบ้างว่าใครตัวจริง ใครตัวปลอม

“ม๊ากับมึงนี่พอกันเลยว่ะ”ไอ้ภูหัวเราะขึ้นมา งานนี้มันบอกว่ามันไม่ยุ่งเรื่องพี่อันเพราะมันจะขอเป็นผู้ชมมากกว่า งานเลี้ยงผ่านไปอย่างราบรื่น ผมเองเห็นพี่อันแวบไปแวบมาตามโต๊ะของม๊าไอ้ติน ผมว่าพี่เขาอาจจะป่วยก็ได้นะ ทำไมถึงทำแบบนี้ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ได้อะไร

“ไปด้วยกันไหม”ไอ้ตินชวนผมไปหาป๊ากับม๊ามัน ผมเองก็ไม่ค่อยอยากไปหรอกแต่ติดี่ว่าพี่อันแม่งทำตัวน่าหงุดหงิด ผมหันไปมองไอ้ภู

“มึงอยู่ได้นะ”ไม่อยากให้มันนั่งคนเดียวอ่ะ

“เออ มึงเห็นกูเป็นเด็กรึไง”มันโบกมือไล่ ผมส่งยิ้มให้มันก่อนจะตามไอ้ตินไป เมื่อผมไปถึงม๊ามันก็เข้ามากอดผมเสียแน่นเชียว พี่อันหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้

“ผมเอาของขวัญมาให้ครับ”ผมให้เป็นคนสุดท้าย กะเวลาไว้แล้ว

“ขอบใจมากลูก แต่คราวหลังไม่ต้องนะ ม๊าไม่ถือ”หอมแก้มผมไปสองสามทีจนผมอายๆขึ้นมาก็เลยผละไปหาไอ้ติน ต้องใช้คำว่าตามติดเพราะผมไม่รู้จะคุยกับใคร

“อ้าว พี่ฟิกมาด้วยเหรอ”ผมหันไปมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะได้เจอมันอีก มันคือไอ้คิมครับ ผมมองมันตั้งแต่หัวจดเท้า มันดูเปลี่ยนไป…ในทางที่ดีขึ้น สีหน้ามันดูแจ่มใสมากกว่าอมทุกข์

“เฮ้ย…มาได้ไง”ผมเองก็งงๆอยู่เหมือนกัน มันพยักเพยิดไปทางคนสองคนที่นั่งคุยกับแขกคนอื่นอยู่ อย่าบอกนะว่าพ่อแม่มันน่ะ ผมหันไปมองไอ้ตินที่แค่ส่งยิ้มจางๆให้ผม

“ติน มาคุยกับลุงทางนี้หน่อย”แล้วมันก็โดนลากออกไป ไอ้ตินหันมามองผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะ ผมเองก็กวาดตา
มองหาไอ้ภู แต่มันหายไปจากโต๊ะแล้ว

“พี่ฟิกนี่เหมือนเดิมเลยนะ”มันหัวเราะเบาๆ

“เหรอ แต่กูว่ากูเปลี่ยนไปเยอะเลย มึงก็เหมือนกัน ทำไมวะ”ไอ้คิมไม่ได้ตอบผมในทันที มันเม้มปากก่อนจะมองไปทางอื่น

“ผมแค่…ฉุกคิดขึ้นมาได้น่ะว่าผมทำตัวแย่ๆอยู่ คือตอนนั้นผมป่วยน่ะ อาการคล้ายๆๆโรคร้าย ตอนนั้นผมกลัวมากเลย ร้องไห้ตั้งหลายวัน พอผลตรวจออกมาโล่งสุดๆที่ผมแค่ขึ้นผื่นธรรมดา หลังจากนั้นผมเลยคิดได้ว่าจริงๆแล้วผมควรทำอะไร”ไอ้คิมพูดพลางยิ้มบางๆ แววตามันดูหม่นเศร้าเล็กน้อย

“ดีแล้วที่มึงถอยมาได้”ผมรู้สึกยินดีกับมันจริงๆ เห็นมันแบบนี้แล้วผมสะท้อนใจยังไงก็ไม่รู้ ย้อนเวลาได้ ผมคงไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำลายชีวิตมันหรอก แต่มันก็ทำตัวมันเองนี่ ผมปัดความคิดไร้สาระออกไป อยากถามมันเหมือนกันว่าพ่อกับแม่มันรู้รึเปล่าว่ามันเคยทำงานอะไร

“แต่พี่นี่โชคดีจัง ยังคบกับสองคนนั่นอยู่เลย”

“ตอนนี้กำลังโชคร้ายว่ะ มีมารพยายามเข้ามาแทรก”ผมพูดเสียงดังเล็กน้อยเมื่อเห็นพี่อัน กลับมาอยู่แถวๆนี้ ใกล้ๆไอ้ติน มันเองก็มองมาทางผมบ่อยๆ ผมยิ้มให้มันหมดกังวล

“หือ อะไรเหรอพี่ฟิก”ผมต้องการพวกพ้องครับ ก็เลยเล่าให้ไอ้คิมฟัง มันถึงกับตาโตเลย

“ก็ว่าอยู่เชียวว่ามันแปลกๆ ความจริงครอบครัวผมน่ะ ไม่ได้สนิทอะไรกับทางนี้มากหรอก เรียกว่าเคยร่วมงานกันครั้งเดียว พ่อผมยังแปลกใจเลยที่ได้รับการ์ดเชิญ ผมว่ามีซัมติงแน่นอน”มันกระซิบกับผม ที่เออออเห็นด้วย ฝีมือพี่อันรึเปล่านะ

“แป๊บนะ”ผมกดโทรหาไอ้ภูว่ามันอยู่ไหน แต่นานมากกว่ามันจะรับ

“ไอ้ภู มึงอยู่ไหนวะ กูหามึงไม่เจอ”

[กูกำลังจัดการให้มึงอยู่] น้ำเสียงมันฟังดูหงุดหงิด จัดการอะไรวะ

“มีอะไร”ผมกระซิบถามเบาๆ ไอ้คิมยืนจิบน้ำมองอะไรไปเรื่อยเปื่อย ส่วนพี่อันนั่งคุยอยู่กับคุณลุงคนหนึ่ง คนเดียวกันกับที่ลากไอ้
ตินไป

[กูเจอไอ้โจ ไอ้โจ้เหี้ยอะไรนั่นน่ะ] ใครวะ

“ห๊ะ”

[กิ๊กเก่ามึงไง] ดูเหมือนมันพยายามข่มอารมณ์โกรธอยู่

“มันมาได้ไง”ผมงงจริงๆ

[มันเป็นเด็กเสิร์ฟน้ำในงาน] ผมถึงบางอ้อทันที อารมณ์ขุ่นเคืองของผมเริ่มปะทุขึ้นมาแล้วสิ

“มึงอย่าทำมันเจ็บมากนะ”เพราะมันเองก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง ไอ้ภูเงียบไปพักใหญ่

[กูไม่รับปาก มันกวนโมโหกู]

“เฮ้ย”

แล้วมันก็วางสายไป

“พี่ฟิกมีอะไรเหรอ”ไอ้คิมถามเมื่อเห็นสีหน้าของผม ผมหันไปมองพี่อัน ไอ้คิมก็มองตาม

“เหมือนมีคนจงใจพาเด็กเก่ามาที่นี่”ไอ้คิมเข้าใจในทันที

“รออยู่นี่ก่อนนะ”

“เฮ้ย พี่จะไปไหน ใจเย็นดิ”ผมกำลังจะเดินไปหาพี่อันแต่ไอ้คิมก็ดึงผมกลับมา

“ถ้าพี่วู่วามนี่จบเลยนะ ตอนนี้แขกผู้ใหญ่เยอะจะตาย รอให้พวกเขากลับก่อนดิ”

“กูรอจนถึงตอนนั้นไม่ได้หรอก กูอยากต่อยหน้ามันฉิบ”ผมไม่เคยรู้สึกโกรธแบบนี้มาก่อนเลย

“เชื่อผม ไปนั่งสงบสติอารมณ์ก่อน”ไอ้คิมลากผมไปนั่งที่โต๊ะว่างๆ ผมเล่าทุกอย่างให้ไอ้ตินรู้ผ่านไลน์ ผมเห็นใบหน้ามันเรียบเฉย
มันหันมามองผมก่อนจะยักคิ้วให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมรอเวลาจนแขกเริ่มทยอยกลับ ไอ้ภูกลับมาแล้วมันมองหาผมก่อนจะ
ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นไอ้คิม แต่มันก็ฝืนเดินเข้ามา

 “ไง”มันทักไอ้คิมเสียงขุ่น

“หวัดดีครับ พี่ภู”ท่าทางนอบน้อมของไอ้คิมทำเอาไอ้ภูคลายท่าทางหงุดหงิดลง

“มึงทำอะไรมันบ้าง”

“ห่วงมันเหรอ”ผมถอนหายใจทันที ไอ้ภูยกมือเหมือนขอโทษ

“เออ ก็เล่นงานไปเบาะๆ”ผมทำท่าไม่เชื่อ

“กูเล่นไปตามเนื้อผ้า มันจงใจมาเพื่อทำลายเรื่องของเรา มันบอกกูด้วยนะว่าแฟนเก่าไอ้ตินน่ะ เป็นคนชวนมันมา กูว่าไอ้ตินนี่คบแต่คนแปลกๆว่ะ มึงจำคราวไอ้นัทได้ไหม ไอ้นั่นกูว่าป่วยหนักแล้วนะ มาเจอรายนี้นี่พอกันเลย”ผมไม่มีทางลืมหรอก ไอ้นัทโรคจิตที่จับผมไปทำชั่วๆ ตอนนั้นผมโคตรรู้สึกอัปยศจริงๆ ทำให้น้องผมต้องมีมลทิล

“มึงก็ไม่ปกติ”ไอ้ภูเสริม เอ่อ…จะว่างั้นก็ได้ ไอ้คิมนั่งมองผมกับไอ้ภูเงียบๆ มันบอกว่ามันจะกลับทีหลังเพราะอยากดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ

“หวังว่าแฟนเก่ามึงคงไม่โผล่มาด้วยหรอกนะ ไอ้นิคน่ะ”ไอ้ภูหัวเราะทันที

“มันไม่กล้าโผล่มาหรอก”ผมได้ยินมานานแล้วว่าไอ้ภูยกไอ้นิคให้เพื่อนที่เรียนต่างที่ไปแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าจริงไหม เพราะผมไม่กล้าถามมัน เรื่องเก่าๆผมพยายามจะไม่ใส่ใจ ในเมื่อตอนนี้ไอ้ภูเองก็ปรับปรุงนิสัยห่ามๆเลือดร้อนของมันบ้างแล้ว ถึงจะไม่ดีที่สุด แต่นี่ก็เกินความคาดหวังของผมแล้ว

ในที่สุดเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง แขกกลับไปหมดแล้ว เหลือแต่พนักงานที่มาทำความสะอาด ผมปรี่ไปหาพี่อันทันที ในมือของผมถือแก้วน้ำเย็นไว้ พี่อันกำลังคุยอะไรสักอย่างอยู่กับไอ้ติน ผมหยุดยืนอยู่ด้านหลัง

“อ้าว ว่าไงฟิก”พี่อันหันมายิ้มไม่รู้ร้อนรู้หนาวให้ผม นั่นแหละเส้นความอดทนของผมก็ขาดผึง ผมเทน้ำในแก้วใส่หน้าพี่อัน ไอ้ตินหันมามองผมด้วยสีหน้าตกใจเหมือนมันไม่คิดว่าผมจะทำแบบนี้

“ว่าไงอะไรล่ะ หายบ้าหรือยังฮะพี่อัน พี่อยากได้ไอ้ตินมากใช่ไหม เอาเลย ผมยกให้”ไอ้ตินหันขวับมามองผมทันที

“ไอ้ฟิก”

“แต่ก็ไม่รู้นะ ว่ามันจะอยากได้พี่หรือเปล่า”พี่อันอ้าปากพะงาบๆมองผม ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ไม่สนสายตาของพนักงานที่กำลังมองมาอย่างสนใจ ไอ้ตินจับมือผมไปบีบเบาๆ

“ฟิกพูดเหมือนตัวเองสะอาดนักล่ะ ผ่านอะไรมาบ้างก็ไม่รู้”

“เลิกเอาเรื่องนี้มาพูดเถอะ ผมรู้ตัวเองดีว่าผมเป็นยังไง ไม่เหมือนพี่หรอก หัดมองตัวเองบ้างว่าตอนนี้พี่น่าสมเพชแค่ไหน ผมเคยคิดสงสารพี่นะ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว”

“ฟิก…ม๊าดูสิ…”พี่อันชี้มาที่ผมเมื่อม๊ากับป๊าไอ้ตินเดินเข้ามาร่วมวงด้วย ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองอีก ไอ้ภูเองโผล่มาพร้อมกับไอ้โจ…ที่สภาพไม่น่าดูนัก โธ่ มาเจอผมอีกครั้งทั้งที จะได้เจอสภาพดีๆหน่อยก็ไม่ได้

“จงใจจะสร้างเรื่องด้วย ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่คุณพ่อกับคุณแม่ก็พิจารณาเอาเองว่าเขาเป็นคนยังไง เรื่องนี้ผมจะไม่ยุ่ง”ไอ้ภูเหล่มองไอ้โจด้วยสายตาหงุดหงิดก่อนจะกลับไปนั่งที่โต๊ะเดิม

“คือผมต้องขอโทษด้วยครับ ผมไม่ได้มีเจตนาร้าย เขาชวนผมมาให้มารับจ็อบพิเศษที่นี่เอง”ไอ้โจชี้ไปที่พี่อัน

“เรารู้แล้ว กลับไปเถอะ ไปทำแผลซะนะ”ป๊ามองไอ้โจด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“ม๊า ที่ผมพูดเป็นเรื่องจริงนะ ฟิกมันไม่ได้หวังดีกับลูกม๊าเลย”พี่อันพูดด้วยเสียงสั่นๆท่าทางน่าสงสาร

“แล้วอันหวังดีกับลูกม๊าจริงๆเหรอ เมื่อก่อนเราอาจจะเคยเป็นที่รักของบ้านนี้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว หยุดทำแบบนี้เถอะลูก ปล่อยติน
ไปเถอะนะ ยังไงมันก็ไปเจอคนที่มันรักแล้ว”ม๊าไอ้ตินพูดขึ้นมาเป็นครั้งแรก พี่อันกัดปากแน่น สีหน้าเหมือนโดนรุมรังแก

“ม๊าไม่เชื่อที่ผมพูดเหรอ”

“ไม่ตั้งแต่ที่เราบอกว่าฟิกเข้ามาทำลายความรักของอัน”ม๊าพูดด้วยเสียงเด็ดขาด สีห้าเรียบเฉยนั้นดูคล้ายกับไอ้ตินมากจริงๆ ผมรู้เลยว่าทำไมไอ้ตินถึงออกมาเป็นแบบนี้ เพราะม๊าสอนนี่เอง พี่อันเหมือนคนหมดหนทางสู้ เหมือนป๊าไอ้ตินจะทนมองไม่ได้ถึงหันหลังเดินหนีไปทางอื่น

“ขอล่ะ อย่าให้ต้องใจร้ายกับอันเลยนะ”ไอ้ตินพูดขึ้นมาเป็นครั้งแรก

“แล้วแบบนี้ไม่ใจร้ายเหรอ”

“ยังน้อยไปด้วยซ้ำ หยุดเถอะ ก่อนที่ความเป็นเพื่อนของเราจะหมดลง”ผมหันไปมองหน้าไอ้ติน นี่มันยังนับพี่อันเป็นเพื่อนอยู่อีกเหรอ เหลือเชื่อเลย ดูเหมือนแผนวันนี้จะล่มเพราะไอ้ภูและม๊าไอ้ตินรู้ทันพี่อัน

“คุยกันเองนะ ม๊าเหนื่อยจะแย่แล้ว”แล้วม๊ามันก็หลบฉากไป เหลือผมกับพี่อันแล้วก็ไอ้ติน

“กลับไปได้แล้ว”มันพูดเสียงไร้เยื่อใย พี่อันมองผมสลับกับไอ้ตินก่อนจะทรุดนั่งลงกับพื้นเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก

“เราแค่ไม่อยากยอมรับว่าคนที่ได้ใจแกไปคือคนที่….คนที่”พี่อันหันมามองผม น้ำตาไหลพรากๆ

“คนแบบผมมันทำไม”ผมถามเสียงแข็ง

"เหอะ"

“ยอมรับความจริงเถอะ ต่อให้ไอ้ฟิกมันจะชั่วแค่ไหน ตินก็รักมัน เข้าใจนะ แล้วก็อย่าให้เกิดเรื่องบ้าๆแบบนี้อีกนะ เพราะจำไว้เลย
ว่า…”ไอ้ตินนั่งลงจนอยู่ในระดับสายตาเดียวกับพี่อัน

“กูไม่ปล่อยเหมือนครั้งนี้แน่”มันกดเสียงต่ำอย่างข่มขู่ ผมขนลุกวาบขึ้นมาทันที ยอมรับว่ากลัวมันขึ้นมา พี่อันหลบสายตา
ของไอ้ติน ก่อนที่มันจะยืดตัวขึ้นกดโทรศัพท์หาใครสักคน

“มารับอันด้วย ที่บ้านกู เร็วๆนะ”ผมเดาว่าน่าจะเป็นไอ้ชัย คุยเสร็จมันก็เดินหนีกลับเข้าไปในบ้านทันที ทิ้งให้ผมยืนอึ้งมองพี่อันนั่ง
สะอึกสะอื้นหมดท่าอยู่แบบนี้ ไอ้ตินทำผมแข็งขาแข็งเลยว่ะ น่ากลัวจัง ผัวใครวะ เฮ้ย คิดอะไรออกไปเนี่ย









TBC.

มาแล้ว เรื่องของอันก็จบแล้ว  มันบ้าปล่อยมันไป :serius2:
ตอนหน้าก็ไม่เครียดล่ะ บอกแล้วว่าไม่เน้นมาม่า  :กอด1:

 
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๒ - 7-9-58 [P.2 -3]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-09-2015 08:08:39
 :pig4:

โย่ว น้องคิม ไม่เจอกันตั้งนานเนาะ คิดถึงๆ
เหนียวแน่นมากๆสามคนนี้ ใครจะเจาะ จะแทรกอย่าได้หวัง
ชอบอะ เล่นตะปบอะไรกันเป็นเด็กน้อยไปได้ 555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๒ - 7-9-58 [P.2 -3]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 07-09-2015 08:47:36
นี่ยังนึกเลยนะว่าถ้ากิ๊กเก่าฟิกมากันหมดสนามนั่นจะมีที่จุพอหรือเปล่า?
อัพเดทหน่อยก็ดีนะคะว่าแต่ละคนไปได้ดีชั่วกันยังไงบ้าง   เผื่อจะวางแผนป้องกันทัน
ม๊าติณก็นะ  ยังไงก็แม่ติณนางก็ต้องเข้าใจลูกดีที่สึดอยู่แล้ว

เสียดายเห็นติณองค์ลงแค่นิดเดียว  แต่ก็น่าจะพอที่ฟิกจะไม่ไปแหลไหนแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๒ - 7-9-58 [P.2 -3]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 07-09-2015 08:54:46
น้องฟิกนี้จริงๆเลย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๒ - 7-9-58 [P.2 -3]
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 07-09-2015 10:44:56
เพิ่งตามอ่าน สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๒ - 7-9-58 [P.2 -3]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 07-09-2015 11:00:44
 o13 o13 ยกนิ้วให้ม๊าของพี่ตินเลย เฮ้อออ นึกว่าจะแย่แล้วซะอีกนะหนูฟิกดีแล้วที่เคลียร์กันไปได้ พี่ตินโหมดดาร์กนี่หล่อนะคะติ่งปลื้มเลย อุอิ  :-[ :-[ ตอนนี้ยังไม่เชื่อแบบร้อยเปอร์ว่าจะไม่เน้นดราม่าขอดูต่อไปเรื่อยๆก่อนละกันนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๒ - 7-9-58 [P.2 -3]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-09-2015 11:35:42
ตะเพาเดียวกันนะติณ แม่ร้ายลูกก็ต้องร้ายซิ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๒ - 7-9-58 [P.2 -3]
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 07-09-2015 11:46:00
ทั้งสามคนสุดยอดมาก รักกันดีเหนียวแน่น แต่ที่สุดยอดต้องยกให้ม๊า  o13  ที่รู้นิสัยลูกชายดี และสร้างกระแสนิดหน่อยกับทั้งสามคนเพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เห็น ปรบมือรัวๆๆๆ ให้ม๊านะ หวังว่าคุณม๊าคงแค่พิสูจน์ใช่ไหม ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้ บอกตามตรงยังระแวงที่ม๊าคุยกับพี่ภู แต่คนเขียนบอกไม่มี เราก็เชื่อ อย่ามีเลยนะ  :mew6:  ฟิกเวลาอยู่ภับภู ตลกดีอ่ะ ภูได้ใจมากตบกบาลฟิกแบบไม่ยั้งมือเลย ชอบที่ภูพูด จะไม่ยุ่งปล่อย มันเหมือนพูดว่า ภูจะไม่ยุ่ง  :laugh: นี่ขนาดไม่ยุ่งนะ ยังจัดหนักโจซะเกือบตาย แต่ก็เพื่อเมียละวะ เค้นความจริงมาได้อีกอย่าง ทำให้อันหมดสภาพไปเลย เจอตินกับม๊าพูดไปขนาดนั้น ถ้ายังทำเรื่องอีก ได้โดนตีนพี่ตินแน่งานนี้ ให้มันซะรู้มั่ง ใครของจริงของปลอก อีน้องฟิกมันบอกไว้แล้วไม่เชื่อ เป็นไง ถึงกับทรุด ไม่สงสารเพราะทำตัวเองทั้งนั้นตั้งแต่แรก นอกใจติน ก่อนได้ฟิกก็ได้คนอื่นมาก่อน ยังดีที่มีคนเอาอยู่ แต่จะเอาไปนานแค่ไหนถ้าตัวเองยังทำแบบนี้  :beat:  รอติดตามชีวิตรักสามคนต่อไป ชอบมากๆ เป็น 3P เรื่องแรกนะที่ชอบมาก มันมีครบรสอ่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๒ - 7-9-58 [P.2 -3]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 07-09-2015 12:48:18
เย้ๆๆ  ในที่สุดเรื่องทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี  อย่ามีมาอีกน่ะมาม่าอ่ะ  ต่อไปขอเป็นหวานๆสวีทๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๒ - 7-9-58 [P.2 -3]
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 07-09-2015 13:54:17
อย่างม๊าตินก็ยอมรับคนที่ลูกตัวเองรัก
เอาใจสู้ล่ะฟิก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๒ - 7-9-58 [P.2 -3]
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 07-09-2015 14:09:13
หืออออ
ไม่ดราม่าเลยยย
เอิ้กๆๆ
ดีแล้วค่ะๆ สามคนรักกัน กิ๊กเก่าไม่เกี่ยว 555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน - ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 07-09-2015 14:35:00



ตอนที่๓ ระแวง





หลังจากที่ผ่านพ้นเรื่องพี่อันมาได้ชีวิตของผมก็กลับเข้าสู่โหมดเดิมอีกครั้ง ไอ้ตินกับไอ้ภูเริ่มยุ่งขึ้นเรื่อยๆเห็นว่ามันต้องเตรียมหัวข้อธีสีสอะไรวุ่นวาย บางทีมันก็เลยต้องไปค้างที่อื่น ผมก็เข้าใจแหละ แต่ก็แอบเหงาหน่อยๆ ที่ไม่ค่อยได้อยู่กับพวกมัน ส่วนเรื่องของไอ้ปั๊มผมก็ติดต่อกับมันเรื่อยๆเพื่อส่องความเคลื่อนไหวของไอ้ภู แต่ผมมักจะลบแชทสนทนาออกไปเพราะกลัวไอ้ภูรู้ แล้วผมจะเสียสายสืบไป ส่วนสายสืบในคณะเกษตรผมก็มีคือเพื่อนไอ้ตินเนี่ยแหละ พี่เบลล์ผมไปทาบทามมาได้ก็โคตรนานกว่าจะยอมเป็นสายให้ผม

“มึงไม่ไว้ใจเพื่อนกูเหรอ”พี่เบลล์หัวฟูคนเดิมถามผมด้วยเสียงดุๆ เมื่อพี่เขายอมช่วย

“ไว้ใจดิ แต่ผมแค่อยากรู้เฉยๆ ทีเพื่อนพี่มันยังมีสายเลย”บอกเลยว่าไอ้ภูกับไอ้ตินเนี่ยไม่ใช่เล่นๆ เลย ด้วยความที่ว่าไอ้ตินมันมันรู้จักใครหลายๆคนจนคนพวกนั้นช่วยเป็นหูเป็นตาให้ทั้งๆที่มันไม่ได้ขอ ขยันเผือกกันจริงๆ

“ก็…มึงมันร้ายนี่หว่า”พี่เบลล์ตอบอ้อมแอ้ม

“เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว”จากเสือกลายเป็นลูกแมวแล้วผมเนี่ย

“ลืมไปว่าโดนถอนเล็บแล้ว เออ แต่ได้ข่าวว่าไอ้ตินมันจัดการอันเหรอ”พี่เบลล์ถามสีหน้าอยากรู้ ทำให้ดูเหมือนหมาน้อยเข้าไปใหญ่ คือพี่อันลาหยุดไปหลายวันเลย คงยังทำใจไม่ค่อยได้แน่ๆ

“ก็แบบนั้นแหละพี่”

“เออ มึงเองก็ระวังไว้นะ ถ้ามันจะโหดจริงๆ แม้แต่มึงมันก็ไม่เว้นหรอก สปีชี่เดียวกันกับพี่ภูเลย”พี่เบลล์เตือน ผมอือออรับคำ ผมรู้อยู่แล้วแหละว่าพวกมันเป็นคนยังไง ยิ่งที่วันงานม๊าไอ้ติน ทำให้ผมแอบกลัวไอ้ตินมากกว่าเดิมอีก ผมว่าคนแบบมันน่ากลัวนะ บอกไม่ถูก อย่างไอ้ภูก็เห็นๆเลยไงว่ามันร้าย แต่กลับไอ้ตินนี่ถ้าไม่แผลงฤทธิ์ก็ไม่รู้ ผมกลับมาเข้าเรียนในช่วงบ่าย พักนี้เอารถมาเองแล้วเพราะไอ้สองคนนั่นเลิกช้า และผมก็ขี้เกียจรอมันคุยกับอาจารย์ สะดวกกว่าด้วยเลยตกลงกันแบบนี้ อาจารย์ชี้แจงรายละเอียดอะไรไม่รู้ ผมก็ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ คือตั้งใจจะพยายามไม่หลับครับ

“ไอ้ฟิก มึงสนป่ะ”ไอ้ปลาสะกิดหลังผมยิกๆก่อนจะส่งใบปลิวเล็กๆมาให้ผม เป็นใบปลิวที่บอกว่าเสาร์นี้จะมีงานคอนเสิร์ตของวงสล็อตแมชชีนวงโปรดผมมาเล่นที่สนามกีฬาใหญ่ของมอ.

“บัตรจำนวนจำกัด กูว่าไม่ทันอ่ะ”ปีที่แล้วก็มี ซึ่งผมก็ไม่ทันซื้อบัตรเหมือนเคย ไอ้เคนดึงใบปลิวไปดูบ้างสีหน้าดูสนอกสนใจ

“กูมีห้าใบ พี่กูล็อคไว้ให้ จะไปไหม ถ้าไม่ กูขายต่อให้คนอื่นนะ”

“ไปดิๆ”ผมรีบตอบ ไม่มีคนคุย ต้องออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆบ้างจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน

“ขอคุณพ่อทั้งสองของมึงยัง”

“ยัง แต่มันคงให้แหละ แค่ไปฟังเพลงเอง”ผมตอบแบบไม่แน่ใจนัก หลังเลิกเรียน มีกิจกรรมห้องเชียร์ต่อ ผมอยู่ดูพักหนึ่งก็มีไอ้เดือนคณะที่ชื่อเพชรมาขอลายเซ็นผม ผมก็ให้ไปแบบง่ายๆนั่นแหละ มันยกยิ้มยกมือไหว้อย่างมีสัมมาคาราวะแล้วก็ไปรวมกลุ่มกับเพื่อนมันตามเดิม ผมมองโทรศัพท์ที่มีข้อความจากไอ้ปั๊มเด้งขึ้นมา

ปั๊ม: พี่ฟิก วันนี้พี่ภูออกไปกับพวกไอ้นนท์

ไอ้นนท์ที่ว่าคือเพื่อนไอ้ภู ที่ผมเห็นซี้ๆกับไอ้ภูคือมีไอ้นนท์กับไอ้คนที่ชื่อเป้ ผมเคยเห็นแล้วสองสามครั้งแต่ไม่เคยคุยจริงๆจังเสียที

ฟิก:อืม แค่นี้ต้องเอามาบอกกูด้วยรึไง กูแค่ให้บอกเรื่องที่น่าสงสัยโว้ย

ผมไม่อะไรหรอกถ้าหากมันออกไปกับเพื่อนมัน เข้าใจว่ากลุ่มทำงานของมันคือไอ้พวกนี้ ผมก็คิดๆอยู่ว่าผมทำถูกรึเปล่าที่ส่อง
เรื่องมันแบบนี้ เพราะมันจะทำให้ผมคิดมากไปเปล่าๆทั้งๆที่มันไม่มีอะไร

ปั๊ม:เอ๊า ก็คิดว่าให้ตามติดทุกฝีเก้า

ฟิก: กูไม่ใช่พวกไร้เหตุผล เรื่องเรียนเรื่องงานกูแยกได้

ปั๊ม:โอเคๆ อย่าลืมค่าจ้างผมนะ เลี้ยงข้าวผมแทนก็ได้ เงินหมด

เท่าๆที่คุยกับมันมาคือไอ้ปั๊มเนี่ยค่อนข้างจะลำบากเรื่องเงินๆทองๆพอสมควรเลย ผมก็เลยปลงๆเรื่องเงินค่าสอดแนมของมันไปบ้าง คือมันไม่ได้ขอรวดเดียว มันขอทีละครึ่งก็คือห้าร้อยเพราะมันกลัวจะใช้หมดก่อน

ฟิก:เออ มาเจอที่ร้านป้านะ

ร้านป้าที่ว่าคือร้านขาประจำของพวกรัฐศาสตร์ ผมหลงเข้าไปกินก็อร่อยดี ไม่แพงด้วย ช่วงนี้เลยกลายเป็นขาประจำ ผมโทบอกพวกมันสองคนเรื่องคอนเสิร์ตที่ผมจะไปเสาร์นี้ พวกมันก็ยอมให้ไปเพราะ…พวกมันจะไปด้วย

ไอ้ปั๊มมารอที่ร้านก่อนแล้ว ที่รถของมันมีถุงผ้าใบใหญ่วางอยู่ เคยถามเหมือนกันว่าถุงอะไร สรุปว่ามันรับจ้างซักผ้า สู้ชีวิตจริงๆ

“เออ ไอ้ภูมันสงสัยบ้างยัง”กลัวมันจะระแคะระคายว่าผมแอบระแวงมัน

“ก็เปล่านี่ ผมไม่ได้ไปเสนอหน้าให้พี่เขาเห็นซะเมื่อไหร่ เอาจริงๆนะพี่ทำไมพี่ไม่ไปทำความรู้จักเพื่อนพี่ภูอ่ะ แล้วก็มานั่งระแวงคิดมากแบบนี้ คบกันมาตั้งนานไม่เชื่อใจกันอีกหรือไง”โห ไอ้ปั๊มมันร่ายยาวเลย แอบอึ้งหน่อยๆที่มันพูดมากขนาดนี้ปกติ มันไม่ค่อยออกความเห็นเรื่องนี้ซักเท่าไหร่

“ไอ้เชื่อใจมันก็เชื่อ แต่…”ไม่รู้สิ ผมแอบกลัวอยู่ลึกๆ กลัวจะโดนมันทิ้ง ช่วงนี้ผมคิดมากจริงๆแหละ ยอมรับว่ากลัวจะมีเด็กมาจีบหรือมาเข้าหามัน และอีกอย่างคือ…มันค่อนข้างจะสนิทกับไอ้นนท์พอตัวเพราะมันชอบอะไรเหมือนๆกัน อย่างเรื่องรถแบบนี้ ถ้าให้ผมคุยผมก็คุยไม่รู้เรื่องหรอก ผมนี่…งี่เง่าจริงๆ ระแวงอะไรก็ไม่รู้

“แต่…”ไอ้ปั๊มรอฟัง

“ก็แอบกลัวว่ะ มึงเข้าใจไหมแบบเชื่อใจแต่ก็แอบระแวงอ่ะ”

“แสดงว่าพี่ฟิกไม่เชื่อในความรักของพี่ภูเลยเหรอ”ทำเอาผมอึ้งอีกแล้ว ดูท่าไอ้ปั๊มมันจะเข้าข้างพี่มันว่ะ

“เฮ้ย มันจ้างมึงมาพูดป่ะเนี่ย”ผมตกใจจริงๆนะ ไอ้ปั๊มหัวเราะ

“บ้าดิ ผมพูดตามที่คิด”ผมเงียบไป คิดตามที่มันพูด ผมเชื่อนะว่ามันรักผมมาก แต่เพราะอะไรวะ มันถึงทำให้ผมคิดแบบนี้ขึ้นมา ผมเลิกฟุ้งซ่านเมื่อข้าวผัดวางอยู่บนโต๊ะ ผมลงมือกินได้ไม่นานก็คิดถึงพวกมันสองคนอีกแล้ว ไอ้ปั๊มส่ายหน้าไปมาก่อนจะรีบกิน

“พี่กินไม่หมดเหรอ เสียดายว่ะ”แล้วมันก็ทำให้ผมตกใจอีกครั้งเมื่อมันดึงจานของผมไป

“เฮ้ย ทำไรของมึง”ผมเผลอพูดเสียงดังจนหลายๆคนมอง

“เอ้า ผมไม่ถือ”

“แต่กูถือ ถ้าไม่อิ่มกูสั่งให้ใหม่”ผมไม่ชอบอ่ะ รู้สึกเหมือนมันกินของเหลือจากผมไงก็ไม่รู้ ไอ้ปั๊มขมวดคิ้วมองผมก่อนจะยอมให้ผมสั่งข้าวให้มันใหม่ สุดท้ายผมก็กินข้าวผัดของตัวเองจนหมด

“เงินหายากนะพี่ ข้าวชาวนาก็ทำลำบาก”ไอ้ปั๊มพูดเหมือนรู้ดี

“พูดมากจริงนะมึงเนี่ย”

“เออดิ เพราะที่บ้านผมก็ทำนา”ผมเบิกตามองอย่างสนใจ

“จริงเหรอวะ บ้านมึงอยู่ที่ไหน”โอ้โห สรุปว่าคนบ้านเดียวกันครับ แต่ผมอยู่ในเมือง มันอยู่นอกเมืองโน่น กลับไปที่หอก็ยังไม่มีคนกลับมาเลย ห้องเงียบๆทำเอาผมไม่ค่อยชิน ผมเลยโทรหาพี่ชายหน้ามึนของผม พี่มินนั่นเอง จะยุ่งอยู่รึเปล่าวะ รออยู่สักพักพี่เขาก็รับสาย

[ฟิกคิดถึงพี่ล่ะซี้]

“โห รู้ทันว่ะ พอดีอยู่ว่างๆอ่ะ”

[พี่ก็แค่ตัวสำรอง เออ แล้วเป็นไงบ้าง] ผมก็เล่ายาวเลย จนถึงเรื่องของพี่อัน แล้วก็…

“พี่มิน ผม…คือตอนนี้อ่ะ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นบ้าเลยพี่”ผมเหม่อมองออกไปนอกห้องอย่างว้าวุ่นใจ นี่เป็นครั้งแรกใน
ชีวิตของผมที่เกิดความรู้สึกรุนแรงมากขนาดนี้

[เล่ามา…เป็นอะไร]พี่มินถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“คือเรื่องมันก็ไม่มีอะไรนะ แต่จู่ๆผมก็เหมือนคนที่ร้อนรนตลอดเวลา เหมือนมีไฟลนก้น ผมคิดมาก ระแวงไปหมดเลย เรื่องมัน
สองคนอ่ะ”ผมตัดสินใจบอกออกไป

[ใคร ภูหรือติน หรือทั้งสองคน]ถ้าชั่งน้ำหนักในตอนนี้แล้ว ผมตอบไอ้ภู

“คือไม่รู้ดิ ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยอ่ะ ผมคิดมากเรื่องของมันไปหมด บ้าบอว่ะ ผมไม่อยากเป็นคนนิสัยงี่เง่าแบบนี้เลยว่ะพี่”

[แล้วภูมันทำอะไรล่ะ]

“ก็ไม่มีอะไรหรอก อย่างที่บอกอ่ะแหละ ว่าผมคิดฟุ้งซ่านไปไกล พักนี้มันสนิทกับนุ้งกับน้อง แล้วเพื่อนใหม่มันอีก”ผมถอนหายใจออกมา

[เป็นเอามากนะเราเนี่ย ตั้งสติหน่อยฟิก ในเมื่อมันไม่มีอะไรก็อย่าทำให้มันมีเรื่องสิ]

“คือผมกลัวอ่ะ”ผมตอบพี่มินเบาๆ รู้สึกตื้อๆขึ้นมา ผมกลัวการที่ไม่มีมัน กลัวมันไม่เหมือนเดิม

[กลัวอะไร] ผมไม่อยากจะตอบเลยจริงๆแต่พี่มินก็ถามจี้จนผมต้องตอบ

“ผมกลัวโดนมันทิ้งอ่ะ”ผมห้ามตัวเองไม่ให้คิดแบบนี้ไม่ได้จริงๆ หรือเพราะผมไม่เชื่อมั่นในความรักของมัน หรือเพราะการกระทำ
ของมันที่ทำให้ผมเริ่มระแวง เรื่องนี้ผมไม่เคยบอกใครเลย อย่างเรื่องนาฬิกาที่มันซื้อทั้งๆที่มันก็บอกว่าซื้อให้พ่อมันและผมก็เห็นแล้วว่าเป็นรุ่นของผู้ใหญ่ แต่ผมก็ยังตะขิดตะขวนใจ มันเพราะอะไรวะ

[ฟิก…มาคุยกันตรงๆเลยดีไหม แบบนี้พี่ไม่สบายใจว่ะ]

“เฮ้ย ไม่ต้องหรอกพี่ บอกแล้วไงว่าผมคิดมากไปเอง”

[เออ จะยังไงก็ช่าง พี่ไม่อยากเห็นฟิกไม่สบายใจ ออกมาคุยกัน] สรุปพี่มินก็มาหาผมเอง ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องมา

“เดี๋ยวไอ้ภูรู้ก็อาละวาดอีกแน่”ผมบ่นอุบก่อนจะเปิดประตูห้องให้พี่มินเข้ามา

“พี่มาในฐานะพี่ชายฟิก จะอาละวาดได้ไง นี่แสดงว่ายังห่ามเหมือนเดิมล่ะสิ ออกไปนั่งตรงระเบียงดีกว่าจะได้โปร่งๆ”ผมทำตามอย่างว่าง่าย พี่มินซื้อเบียร์มาให้ด้วย ดีเลย ผมกำลังอยากเมา

“พี่ว่าแกต้องคุยกับมันตรงๆไปเลยนะ ไม่พอใจอะไรก็บอกไปเลย มันจะได้ปรับปรุงไง ถ้าฟิกมัวแต่คิดมากคนเดียวแบบนี้สมองระเบิดแน่”พี่มินมองผมด้วยสีหน้าเป็นห่วงจริงๆ นี่ผมน่าห่วงขนาดนั้นเลยเหรอวะเนี่ย ผมจิบเบียร์ก่อนจะมองออกไปยังท้องฟ้าที่
เริ่มเปลี่ยนสี

“ไว้จะลองดูล่ะกัน…ผมงี่เง่าป่ะพี่มิน”ผมหัวเราะระหว่างที่ถาม คลึงกระป๋องเบียร์เล่น ผมไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เลย สถานการณ์ที่…พวกกิ๊กเก่าๆเคยทำกับผม ตอนนั้นผมมองว่าโคตรน่ารำคาญเลย มายุ่งวุ่นวายอะไรนักหนา ผมกลัวว่าไอ้ภูจะรู้สึกแบบนั้นกับผมเหมือนกัน

“หือ…ก็ไม่รู้ดิ แกเคยทำแบบนี้หรือเปล่าล่ะ”ผมส่ายหน้า พี่มินหัวเราะเบาๆ

“รักภูมากขนาดนี้เลยนะเนี่ย พี่เพิ่งรู้”

“เฮ้ย พี่พูดอะไร”ผมตกใจเมื่อได้ยินพี่เขาพูด ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้นะ ว่ามากหรือน้อย แต่เท่าที่ดูจากการเป็นเอามากของผม ตัวผมเองคงถลำเข้ามาลึกมากๆแล้วล่ะ

“แล้วกับตินไม่ระแวงเหรอ”

“ไอ้ตินมัน…ยังไม่มีจุดให้ผมสงสัยอ่ะ ผมรู้สึกไม่ดีว่ะพี่ เหมือนผมกำลังจับผิดพวกมันเลย”ถ้ามันรู้พวกมันต้องโกรธแน่ๆ จู่ๆพี่มิก็ควักโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปผม

“ถ่ายทำไม”

“ดูดิ ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นไง”ผมมองรูปตัวผมเอง สีหน้าว้าวุ่นแสดงออกมาชัดเจน

“หล่อเหมือนเดิม”ผมตอบกวนประสาท พี่มินมองผมเอือมๆ

“โอเค ถ้ามีอะไรก็โทรหาพี่ชายคนนี้ได้เสมอเลยนะ”ผมทำมือโอเคไปให้ ผมกับพี่มินคุยเรื่องสารทุกข์สุขดิบของอีกฝ่ายจนฟ้าเริ่มมืด พี่พิสโทรตามพี่เขาเลยต้องกลับ ตอนลงไปส่งพี่มินเจอไอ้ภูพอดี มันมองพี่เขาตาขวางเลย

“อ้าว ภู สบายดีใช่ไหม นั่นรถใหม่เหรอ”พี่มินชี้ไปที่รถ KSR ที่จอดอยู่ผมเองก็เพิ่งเห็น จำได้ว่าเป็นของไอ้นนท์ อยู่ๆผมก็หงุดหงิดขึ้นมาเลยเดินกลับไปบนห้อง เปิดโทรทัศน์ก่อนจะนั่งรอไอ้ภูขึ้นมา แต่ก็ช้ามากจนผมเริ่มจะหงุดหงิดอีกแล้ว

“ทำไมขึ้นมาช้าวะ”ผมถามทันทีเมื่อมันเข้ามาในห้อง มันมองผมด้วยสีหน้างงๆก่อนจะชูถุงโจ๊กในมือให้ดู

“ซื้อที่หน้าหอไง มึงเป็นไรวะ หน้าตาหาเรื่อง”มันเดินเข้าไปในครัวก่อนจะวางโจ๊กลงบนโต๊ะ

“แล้วรถของไอ้นนท์ไม่ใช่เหรอ”ผมถามพลางมองสีหน้าของมันไปด้วย

“อืม กูยืมมา”มันตอบสีหน้าปกติระหว่างที่แกะโจ๊ก

“อ้าว แล้วรถมึงล่ะ”ปกติมันไม่ค่อยชอบใช้รถจำพวกมอเตอร์ไซน์หรอก

“อยู่คอนโดกู”ผมขมวดคิ้วทันที มันเอารถไอ้นนท์มา แต่รถมันอยู่ที่คอนโดมัน

“อ้าว ยังไงวะ”ไอ้ภูหันมามองผมยิ้มๆ

“วันนี้มึงแปลกๆนะเนี่ย ฟิก ก็กูไปทำงานที่คอนโดกูไงกับพวกไอ้นนท์”

“อ๋อ…”ผมลากเสียงยาว

“แล้วนี่ ยังไม่เสร็จใช่ไหมถึงเอารถมันมาอ่ะ”ไม่รู้ผมทำสีหน้าแบบไหน ไอ้ภูถึงหยุดมือที่แกะถุงโจ๊กอยู่หันมามองผมตรงๆ

“เป็นอะไรฟิก มึงกังวลอะไร”มันถามเสียงนุ่ม

“ทำไมต้องทำที่คอนโดมึงด้วยวะ”ผมพยายามกดเสียงให้ตัวเองเป็นปกติและไม่ฟังดูหาเรื่อง

“ก็หอพวกมันแคบ มีตั้งหลายคนให้ไปอัดกันในรูหนูคงไม่ไหวหรอก มึงป่วยเหรอ”มันแตะหน้าผากผม ผมปัดมือมันออก

“กูจริงจังอยู่นะเว้ย ภู”

“ฟิก…มึงแปลกๆนะ เหมือนหาเรื่องทะเลาะกับกูยังไงก็ไม่รู้”ไอ้ภูดูเครียดขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่าเพราะเบียร์หรืออะไร ผมถึงเข้าไปกอดมันเสียแน่นเหมือนเด็กๆ

“ไอ้ภู มึงรักกูป่ะ”

“ถามแปลกๆ ไม่รักมั้ง”มันลูบหัวผมเบาๆ

“กูถามว่ารักไหม”ผมทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ

“รัก”มันตอบเบาๆ ผมรู้สึกอุ่นวาบในอกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“กู…มึงไอ้ภู มึงอย่าทิ้งกูนะ”คราวนี้มันเงียบไปนานเลย มันดันตัวผมออกสีหน้าดูตกใจ แต่ปากมันยกเป็นรอยยิ้มจางๆ

“มึงเมารึเปล่าเนี่ย กูได้กลิ่นเบียร์”

“อืม กูว่ากูเมานะ”ไอ้ภูยิ้มก่อนจะดึงผมเข้าไปจูบอยู่นาน ก่อนที่มันจะปล่อยให้ผมหายใจหายคอได้สะดวก

“กูไม่เคยคิดจะทิ้งมึงเลยนะฟิก เชื่อกูสิ”มันมองเข้ามาในตาผมตรงๆ

“อืม กูเชื่อมึง”ผมรู้สึกเหมือตัวเองเป็นเด็กน้อยงอแงที่กลัวโดนแม่ทิ้งไว้กลางงานคนเดียวเลย

“มีใครพูดอะไรให้มึงไม่สบายใจรึเปล่า บอกกูมาดิ”มันทำสีหน้าอ่อนโยนได้ไม่นานก็กลับมามาดเดิมอีกแล้ว

“เปล่าหรอก พักนี้กูเครียด ๆก็เลยบ้าๆบอๆแบบนี้แหละ”ผมเบาใจขึ้นมาได้บ้าง

“มากินโจ๊กกับกูก่อน กูกลับมาเพื่อกินกับมึงเลยนะ เพราะกูต้องอยู่ทำงานอีกยาว กลัวมึงจะคิดถึงกูจนนอนไม่หลับ”

“มึงก็เว่อร์”ผมเบ้หน้าก่อนจะนั่งลงกินโจ๊กกับมัน เหลืออีกถุงหนึ่งสำหรับไอ้ติน แต่มันยังคุยงานกับอาจารย์อยู่เลย ผมไม่อยาก
รบกวนเวลายุ่งๆของมันก็เลยยังไม่ได้โทรตาม

“กูได้บัตรสล็อตแล้วนะ วันเสาร์นี้ไปกับพวกกู”มันพูดขึ้นมา

“กูจะออกไปกับเพื่อน ค่อยเจอกันในงานได้ไหมวะ”

“ไม่ได้ คนตั้งเยอะ”มันทำหน้าดุ จนผมเถียงไม่ได้ เสียงไขกุญแจเข้ามาดังคั่น ไอ้ตินกลับมาพร้อมกับหอบม้วนกระดาษกลับมาตามเคย

“โจ๊กของป้าด้านล่างเหรอ หอมว่ะ”พูดแล้วก็มาหอมแก้มผม ก่อนจะแกะโจ๊กใส่ถ้วยจนกระเด็นโดนมือผม

“อ้าว พี่งานยังไม่เสร็จเหรอ”ไอ้ตินหันไปถามเมื่อไอ้ภูเก็บถ้วยโจ๊กแล้วคว้าเสื้อคลุมกับกุญแจรถ

  “เออดิ แต่ก็คงไม่มากหรอก งานกลุ่มก็แบบนี้แหละ กูล่ะเบื่อ ถ้าเสร็จนี่แล้ว คงว่าง ไปนะ”มันหันมาล่ำลาผมก่อนจะออกไป ผมมองประตูที่ปิดลงไปนานแล้วด้วยสายตาเหม่อๆ

“ฮ่าๆ เฮ้ย ฟิก กูไม่เคยเห็นมึงทำหน้าตาแบบนี้เลยนะ”จู่ไอ้ตินก็ขำออกมาเสียงดัง

“เงียบเลยไป”เสียงหัวเราะของมันค่อยๆเงียบลง

“มึงคิดมากเรื่องพี่ภูเหรอ”

“ห๊ะ มึงก็พูดไปเรื่อย”ผมเสมองโจ๊กของตัวเอง

“กูดูออกน่า ไม่ต้องคิดมากหรอก แล้วก็เลิกให้ไอ้เบลล์ส่องกูด้วยนะ”มันพูดเสียงกลั้วหัวเราะ ทำไมความแตกเร็วจังวะ

“กูแค่…อยากรู้ว่ามึงทำอะไรบ้างเฉยๆ”

“เหรออออ”มันลากเสียงยาวก่อนจะส่ายหน้าไปมา

“ไอ้ติน”ผมเรียกมันด้วยเสียงจริงจัง มันขมวดคิ้วน้อยๆก่อนจะวางช้อนลง

“ว่าไงครับ”มันตอบเสียงอ่อน

“กู…ช่วงนี้กูมีแต่เรื่องให้ชวนสับสนว่ะ ถ้ากูทำตัวแปลกๆแล้วขัดใจมึงกูขอโทษล่วงหน้านะเว้ย กูไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงเป็นแบบนี้”ผมกัดริมฝีปากของตัวเองอย่างว้าวุ่น

“มีอะไรก็บอกกูได้นะ”ผมไม่อยากเล่าเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะมันเกี่ยวกับไอ้ภูด้วย ผมกลัวมันสองคนจะผิดใจกัน ซึ่งผมไม่ชอบ

“มึงไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฟิก ถ้าใครทำให้มึงเจ็บ…คนๆนั้นก็ต้องเจ็บเท่ามึง”ไอ้ตินมองผมตรงๆ ผมกำลังจะซึ้ง แต่ประโยคต่อมาก็ทำผมชะงักกึก

“แต่ถ้ามึงทำให้กูเจ็บล่ะก็…มึงต้องเจ็บกว่ากูหลายเท่า”ผมแอบกลืนน้ำลายเลย เรื่องคราวก่อนที่ผมพลาดไปนั่นโชคดีมากแค่ไหนที่พวกมันไม่เล่นงานผม

“เออ กูไม่กล้าหรอก มึงกับไอ้ภูโหดแบบนี้”ไอ้ตินยิ้มให้ผม เป็นยิ้มเย็นๆยังไงก็ไม่รู้ ไอ้บ้านี่ทำผมกระเดือกโจ๊กไม่ลงเลย






TBC.


ไม่ได้ขยันแต่อย่างใด แต่ที่อัพก่อนเพราะคงเจอกันอีกทีวันศุกร์เลยเพราะงานกำลังสุม :katai1:
ช่วงนี้ฟิกฮอร์โมนกำลังเปลี่ยนแปลง เฮ้ย ไม่ใช่  :laugh:
แต่บอกไว้ก่อนเผื่อแฟนคลับภูจะไม่สบายใจ มาม่าซองสุดท้ายของภูไม่ใช่เรื่องนอกใจน้า
เพราะผู้ชายอย่างภู ไม่นอกใจฟิกอยู่แล้วค่ะ แต่จะเป็นยังไงก็ต้องคอยดูต่อไปค่ะ เจอกันอีกทีศุกร์นี้ค่ะ  :กอด1:
ไหนว่าไม่มีมาม่า  :z6:

หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 07-09-2015 15:00:28
 :mew1: ฟิกน่ารักจังมีแอบระแวงด้วย อยากอ่านตอนต่อไปจังเลย
รีบมาต่อนะ สู้สู้
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-09-2015 15:01:13
 :กอด1:  โอ๋ๆนะฟิก คิดมากไปแล้ว
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 07-09-2015 15:24:20
นี่เห็นชื่อตอนละระแวงตามชื่อตอนเลยจริงๆ อ่านไปลุ้นไปเกร็งไปว่าจะมีอะไรป่าวว้าาาาา นี่ขนาดไม่ใช่ฟิกยังตงิดๆแปลกๆเลย โอยยย คนแต่งใจร้ายหง่าาาาาา นี่เค้าต้องรอลุ้นจนถึงวันศุกร์เลยชิมิ  :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: Maw ที่ 07-09-2015 15:25:15
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 07-09-2015 15:36:52
สนุกสนานเช่นเคย รอตอนต่อไปน๊า  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 07-09-2015 16:25:06
รอต่อปายยยยยยยยยยย   :katai2-1: :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 07-09-2015 16:52:28
อย่าระแวงคุณสามีเลยฟิกเอ้ย ยิ่งไอ้เรื่องถูกทิ้งนะ ไม่มีทางบอกได้เลย ภูกับตินมันหลง มันรักหนูจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ขนาดหนูฟิกเคยกิ๊กเมียของสองปั๋วมาก่อน ไหนจะนิสัยแบบสุดๆไปเลยของหนูอีก มันยังรับได้เลย (รับได้สิเจ๊ ก็มันล่อหนูซะอ่วมเลย ฟิกบอก 555) พาไปบ้านแนะนำกับพ่อแม่ ตั้งแต่ยังไม่ยอมรับจนเดี๋ยวนี้เข้าออกบ้านสองสามีได้อย่างสบายแล้ว ยิ่งบ้านตินนะ ม๊านี่หลงฟิกเลยก็ว่าได้ ตินรักใครป๊ากับม๊าก็รัก กับบ้านภู พ่อภูเป็นคนแบบนั้นก็ยังยอมรับหนูเป็นสะใภ้เลย คิดดูสิ ไม่มีใครจะสุขไปกว่าฟิกแล้วที่มีปั๋วรักหลงขนาดนี้ เข้าใจนะว่าฟิกจะระแวงก็ไม่ผิด เพราะเคยทำมาก่อนมันก็ต้องมีบ้างไรบ้าง แต่ทั้งภูกับติน รักฟิกมาก ไม่ทำแน่ๆ ภูกับตินมากกว่าที่ระแวงว่าฟิกจะไม่ทิ้งนิสัยเดิม เลยต้องเตรียมบทลงโทษแบบ  :haun4: ไว้รอตลอด และเราก็เชื่อว่า ฟิกรักสองสามีมากๆ ตอนนี้ภูมันน่าสงสัยมากกว่าติน ฟิกเลยทิ้งน้ำหนักไปทางภูมากหน่อย เพราะตินหลังจบเรื่องอันก็ยังไม่มีอะไรให้หนักใจ และถ้าตินมี ฟิกก็จิกไม่แพ้ภูแน่ ๆ เอาเป็นว่า สองสามีอย่าได้คิดนอกใจฟิกเป็นอันขาด ฟิกเอาตายแน่  :z2: สบายใจไปหน่อยที่คนเขียนบอกว่า ภูไม่นอกใจฟิกแน่ แต่เรื่องอะไรหนอที่จะดราม่าอีก รอวันศุกร์อย่างใจจดใจจ่อ  :z13:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 07-09-2015 18:30:53
อ่า....ฟิกเกิดอาการระแวงสามี
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 07-09-2015 18:35:31
กลัวกรรมตามทันหรือฟิก...
อย่าระแวงเลยน่า คบกันมาตั้งกี่ปี
ถ้าจะมีอีหนูพี่ภูมีนานแล้วล่ะฟิกเอ๊ยย 55555555555
 :katai3:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 07-09-2015 19:19:43
อาการคนเป็นขี้ระแวงทั้งๆที่ไม่มีอะไร
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 07-09-2015 20:13:04
เรื่องระแวงนี่เกิดขึ้นได้กับทุกคนตลอดเวลาค่ะ   เพราะชีวิตมันไม่แน่นอนมีสิ่งเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา   ขึ้นอยู่ที่ว่าจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ไหม   ฟิกคิดว่ารู้สึกเหมือนกับว่าชีวิตคี่ของ3คนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วฟิกก็ไม่สามารถคอนโทรลได้   ตินกับภูไม่มีเวลาว่างเหมือนเดิม ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับคนอื่น สิ่งอื่น ที่อื่นที่ฟิกไม่มีส่วนร่วมด้วย   ช่วงนี้ฟิกอยู่คนเดียวเหงาๆ ถ้าเป็นคนอื่นก็อาจจะมีนอกใจ หลวมตัวหลวมใจบ้าง  ยังไงก็อยากให้ฟิกระวังไว้
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 07-09-2015 20:29:24
 :เฮ้อ: ดีนะที่จบเรื่องไปได้ พี่ติณน่ากลัวแหะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 07-09-2015 22:44:11
ฟิกกลายเป็นภรรยาในโอวาท  :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 08-09-2015 02:17:25

ฟิกระแวงคุณสามี :ling1:  หวังว่าจะไม่มีอะไรจริงๆนะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 08-09-2015 02:23:58
ฟิกเหมือนแมวน้อยเชื่องๆเลย น่าร้ากกกก

เอาจริงๆฟิกไม่น่าระแวงภูกะตินรักแกหลงแกขนาดนี้ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 08-09-2015 08:48:04
 ตาม สนุกดีคับ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: กาลณัฐ ที่ 08-09-2015 10:43:35
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 08-09-2015 12:38:43
น้องฟิกที่รัก :L2:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 08-09-2015 13:17:45
อิอิ  อย่างน่ารักเลย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๓ ระแวง - 7-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 08-09-2015 21:27:30
 :z13:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 09-09-2015 05:41:44

ตอนที่๔ โกรธ






ผมเริ่มจะปล่อยวางเรื่องอาการคิดมากเพราะงานของผมที่เริ่มกลับมาสุมอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกดีใจเพราะมันจะทำให้ผมไม่ต้องคิดอะไรบ้าๆอีก ช่วงที่มีโปรเจคผมตัดสินใจไปทำงานที่บ้านไอ้เคนกับไอ้ชาย ไอ้สองคนนั่นก็ดูเหมือนจะไม่ยอมจนผมสวนกลับไปว่าทีพวกมันยังทำได้เลย พวกมันก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก  ผมเองก็เล่าระบายเรื่องนี้ให้เพื่อนสองคนฟังอยู่บ้าง มันก็บอกพร้อมกันว่าไม่มีอะไรหรอก ไอ้ภูไม่นอกใจผมแน่ๆ กับไอ้ปั๊มมันเงียบๆไปไม่ค่อยได้ส่งข่าวคราวมาเท่าไหร่ อาจจะเพราะว่ามันยุ่งๆล่ะมั้ง ผมก็ไม่ได้เซ้าซี้แต่อย่างใด ออกจะสบายใจเพราะแสดงว่าไอ้ภูไม่ได้ออกนอกลู่นอกทาง ช่วงพักผมเลยไลน์ไปหาไอ้ภู

ฟิก:ไปกินข้าวกัน

ภู:อ้าว กูกินมาแล้วว่ะ ต้องประชุมงานคณะต่อ

ฟิก:เหรอ โอเค แล้วไปกินกับใคร

ภู:เพื่อนกูดิ ถามแปลกนะ

เพื่อนมันก็พวกไอ้นนท์น่ะสิ

ฟิก:ตอนเย็นมึงไปวิ่งไหมวะ กูจะไปด้วย

ภู:ไปดิ ดีเลยกูกลัวมึงจะเป็มหมู

ฟิก:หล่อๆแบบนี้เหมือนหมูได้ไง

สรุปว่ามันให้ผมออกไปเจอที่อ่างเก็บน้ำหลังมอ.ที่เดิมตามปกติ นี่จะเป็นครั้งที่สามที่ผมจะได้เจอไอ้นนท์กับไอ้เป้ ผมกลับไปที่หอเพื่อเปลี่ยนชุด ผมเอากางเกงบอลและเสื้อยืดของไอ้ตินมาใส่ ไม่แปลกใจที่ไอ้ภูมันไม่ได้กลับมาเปลี่ยนชุดที่หอเพราะมันชอบเอาชุดออกกำลังกายติดรถไปด้วย

“เออ พวกมึงออกไปกันยัง”ได้ยินเสียงพูดคุยดังแทรกมา

[ไปแล้วๆ]

“อือ แวะมารับกูหน่อยก็ไม่ได้นะ”ผมเผลอพูดออกมาจนไอ้ภูเงียบลง

[คิดมากไปได้ เดี๋ยวกูไปรับก็แล้วกัน]

“โห่ แฟนพี่ขาด้วนเหรอ”เสียงใครบางคนแทรกมาก่อนที่สายจะตัดไป ทิ้งให้ผมยืนหงุดหงิดอยู่คนเดียว รอไม่นานรถสปอร์ตคุ้นตาก็จอดที่หน้าหอ ผมเปิดประตูข้างคนขับตามความเคยชินแต่ก็ผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นไอ้นนท์นั่งหน้าสลอนอยู่ ผมเลยเปลี่ยนไปนั่งเบาะหลังกับไอ้เป้และอีกสองคนแทน

“เด็กหอยเหรอ"ไอเป้ถามพลางมองเสื้อยืดทีมเชลซีที่ผมใส่อยู่

“เปล่าอ่ะ ของเพื่อน”ผมตอบก่อนจะสังเกตุไอ้นนท์ สาเหตุที่ทำให้ผมคิดมากคือ หนึ่งไอ้นนท์เด็กกว่าไอ้ภูหนึ่งปี(ตามปกติไอ้ภู
ควรจบแล้ว) สองไอ้นนท์หน้าใส ดูซื่อๆ สเป็คไอ้ภู สามปกติไอ้ภูไม่สนิทกับใครง่ายๆแบบนี้ แต่เพราะความที่ชอบอะไรคล้ายๆกันเลยซี้กันเร็ว ผมไม่รู้ว่าสนิทกันขั้นไหนแต่คงจะซี้กันพอดูเพราะถึงขั้นไปทำงานที่คอนโดไอ้ภูได้ก็แสดงว่าไม่ธรรมดา และตั้งแต่ผมเข้ามานั่งในรถไอ้นนท์ยังไม่เลิกจ้อกับไอ้ภูเลย

“ชอบทำหน้าบึ้งจัง”เสียงเบาๆดังขึ้น ไม่ใช่ไอ้เป้แต่เป็นใครอีกคนที่นั่งถัดจากไอ้เป้ แต่เพราะมันเอนตัวไปด้านหน้าผมเลยมองเห็นว่าไอ้คนที่พูดเสียงเบาๆปานพิกุลจะร่วงนี่คือไอ้ฉัตรเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับไอ้ภูแต่คงไม่ค่อยซี้กันมาก ผมมองไอ้ฉัตรครั้งแรกก็รู้สึกได้ว่ามันแปลกๆ ลักษณะไอ้นี่มันคล้ายๆพี่อันแต่ดูแข็งแรงกว่าและสีหน้าดูเอาเรื่องด้วย ผมแค่ยิ้มแห้งๆให้ก่อนจะนั่งกดโทรศัพท์ไปพลาง รู้สึกระยะเวลาไปอ่างเก็บน้ำหลังมอมันไกลมาก ผมรู้สึกเหมือนตัวเองแปลกแยกมาจากพวกนี้ชอบกล เหมือนคุยกันคนละภาษากลุ่มเพื่อนไอ้ภูคราวนี้ไม่เหมือนกลุ่มพี่ปาเอาซะเลย ไอ้พวกนี้ดู...รวยๆคุณชายๆ ต่างจากลุคลุยๆของพี่ปาและพวกไอ้เนมจริงๆ

“ฟิก มึงได้ล็อคห้องป่ะ”ไอ้ภูเหลียวมาถามผมเป็นครั้งแรก

“ล็อคดิ ทำไม”น้ำเสียงของผมดูฉุนเฉียวจนไอ้พวกที่เหลือหันมามองผมกับไอ้ภู

“ถามเฉยๆ นึกว่ามึงลืม”มันตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงปกติ ทำผมอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย อย่างน้อยไอ้ภูก็ปฏิบัติกับผมไม่เหมือนกับคนอื่น ถ้ามีรุ่นน้องมาทำเสียงแบบนี้ใส่มัน ก็คงไม่วายโดนด่าแน่ๆอยู่แล้ว ผมเอนหลังพิงเบาะ รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าเป็นครั้งแรกหลังจากที่เข้ามาในรถคันนี้เป็นครั้งแรก

“เด็กว่ะ”เสียงพึมพำเสียงเดิมทำให้ผมชักสีหน้า แล้วมึงจะมายุ่งอะไรกับกูล่ะวะ ผมทำเมินไม่สนใจมัน เมื่อถึงที่หมายแล้วผมก็รีบลงมาจากรถก่อนจะบิดตัวไปมา

“เป็นอะไร ทำหน้าหงิกตั้งนาน”ไอ้ภูเข้ามาดันหน้าผากผมเบาๆ ผมเหลือบมองเห็นไอ้นนท์มองมาทางผมอยู่ จากการคาดเดาของผมไอ้เวรนี่มันต้องพิศวาสไอ้ภูชัวร์ ผมฟันธง

“เปล่าหรอก แต่กูแค่หงุดหงิดตัวเองนิดหน่อย”ไอ้ภูมองหน้าผมก่อนจะลูบหัวผมเบาๆ ปกติผมไม่ชอบให้มันลูบหัวผมหรอกเพราะผมจะดูเหมือนเด็กในปกครองของมัน แต่วันนี้ช่างมันก่อนผมอนุญาต

“ป่ะๆ วิ่งกัน มัวแต่จุกกรู้กันเดี๋ยวกูเตะเลย”อีกคนชื่อย้ง จากคำพูดคำจาขึ้นกูแบบนี้แสดงว่ามันต้องรุ่นเดียวกับไอ้ภูแน่ ผมชอบพี่เขานะ แนวดี ต้องทำความรู้จักไว้สอดแนมหน่อยล่ะ

“เอางี้ใครถึงหม้อน้ำตรงนั้นคนสุดท้ายโดน...!”ไอ้เป้พูดขึ้นและจากนั้นพวกมันก็พากันวิ่งไปเลย รวมถึงไอ้ภูด้วย

“มึงโดนแกล้งแน่”มันกระซิบก่อนจะวิ่งออกไป เหลือผมรั้งท้าย เชี่ยเอ้ย ผมคนสุดท้ายชัวร์ๆอยู่แล้ว ผมเห็นไอ้นนท์วิ่งขึ้นไปตีคู่กับ
ไอ้ภู ทำไมไอ้นี่ต้องมาตีซี้ไอ้ภูตลอดเลยวะ ผมเห็นแล้วหงุดหงิดเลยต้องรีบวิ่งขึ้นไปแต่ตามได้ครู่เดียวผมก็หอบแดกสปีดตกตามเคย ไอ้ฉัตรหัวเราะเบาๆมันวิ่งนำผมเยื้องๆไปนิดหน่อย ผมนึกภาพออกเลยถ้าหากว่าไอ้ภูเชื่อฟังคำสั่งพ่อแม่มัน มันเองคงต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ คือตอนอยู่กับไอ้พวกนี้ไอ้ภูไม่ค่อยทำตัวเถื่อนเท่าไหร่

“คิดอะไร”ไอ้ฉัตรสุดท้ายก็ตีคู่มาวิ่งข้างๆผม ไอ้ภูกับไอ้นนท์ที่นำโด่งอยู่ไม่สนใจผมเลย จนตอนที่ไอ้ฉัตรมันมาคุยกับผมไอ้ภูถึงหันมามองแล้วชี้หน้าไอ้ฉัตรทำไม้ทำมือให้ถ่อยห่างผม แต่นอกจากไอ้ฉัตรมันจะไม่ทำตามเเล้ว มันยังคว้าผมไปกอดคออีก

“มึงจะกวนโมโหกูเหรอ”สุดท้ายไอ้ภูก็ต้องวิ่งกลับมาหาผม ผมถึงกับยิ้มออกเลย

“ชอบล่ะสิ โดนผู้ชายกอด”มันมองผมโกรธๆแล้ววิ่งนำไปเลย อ้าว ไอ้บ้านี่แม่ง...

“ไปกวนโมโหพี่เขาเดี๋ยวเจอดีหรอก”ไอ้ฉัตรหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอาแขนออกจากลำคอของผม

“มึงนั่นแหละไปยั่วโมโหมัน”ผมขึงตามอง

“เฮ้ย มึงได้ไง ต้องเรียกพี่สิ”มันทำหน้าเหมือนไม่ชอบใจนัก โอ๊ย ไอ้นี่มันร่างโคลนของไอ้เนมชัดๆ แต่ผูกมิตรไว้หน่อยก็ดีเหมือนกัน

“เออๆ พี่ก็พี่ แล้ว...พี่มากับพวกไอ้ภูบ่อยไหมอ่ะ”ผมถามในเรื่องที่เดาได้อยู่แล้ว

“ก็ไม่ค่อยบ่อยหรอก ส่วนมากไอ้นนท์กับไอ้เป้จะชอบมากับไอ้ภู พวกอยากได้หน้า”ไอ้พี่ฉัตรเบ้หน้า

“เอาหน้ายังไงอ่ะ”ผมวิ่งเหยาะๆแหยะๆตาม

“ก็...มันคงอยากซี้กับพี่ภูล่ะมั้ง แต่ก่อนใครๆก็ไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้พี่เขาก็ไอ้ช่วงที่พี่ภูมาเรียนปีสามเทอมสองใหม่อ่ะ แต่พอนานๆไปก็เริ่มกล้าคุยกับพี่เขามากขึ้น ไอ้พวกนั้นก็จะประมาณว่าสนิทกับพี่เขาได้ก็ดูเจ๋งอะไรทำนองนี้”พี่ฉัตรดูจะไม่ชอบไอ้สองคนนั่นสักเท่าไหร่ ผมมีพวกแล้วว่ะ ฮ่าๆ

“แบบนี้นี่เอง”

“ระวังไอ้นนท์ไว้นะ ไอ้นี่ตัวดีเลย ทำมาซื่อใส่พี่ภู มันกำลังพยายามทำตัวให้ตรงกับเด็กในสเป็คพี่ภูอยู่”ผมฟังไปก็หงุดหงิดไป ที่แท้ก็อยากได้ไอ้ภูนี่เอง

“ไอ้ภูมันไม่ได้โง่นะพี่ ที่จะมองไม่ออกว่าใครเป็นยังไง”

“พี่ก็ว่างั้น แต่ไอ้นนท์คงไม่ได้ทำอะไรล้ำเส้นหรอก ไม่อย่างนั้นพี่ภูคงเตะมันออกจากกลุ่มไปแล้ว ไม่ต้องคิดมากนะ พี่เป็นหูเป็นตาให้”มันยักคิ้วหลิ่วตาให้ผม

“ผมเอาจริงนะ พี่จะช่วยดูให้ผมจริงดิ”ผีมารยาทดีเข้าสิงผมทันใด

“เออดิ แต่ดูๆไปพี่ภูท่าจะชอบให้คนเอาใจนะ”ผมย่นคิ้วทันที

“ก็ปกติพี่เขาเองก็เคยมีเด็กในปกครองที่แนวๆใสๆว่าง่ายใช่ไหมล่ะ แต่พอมาตอนนี้กลับได้เด็ก....”พี่เขาเหลือบมองผมก่อนจะหัวเราะเบาๆ ผมคิดตามก็เออ น่าจะมีส่วนเพราะผมไม่เคยเอาใจหรือตามใจไอ้ภูเลย นอกจากเรื่องสันดานแย่ๆของผมแล้วเรื่องอื่นผมไม่เคยปรับตัวเข้าหามันเลย และตามธรรมชาติของไอ้ภูแล้วมันคงจะชอบพวกเด็กๆขี้อ้อนเอาใจเก่งๆแน่ๆ แต่ถ้าจะให้คนแบบผมไปทำอะไรแบบนั้นมันก็อุบาทว์เกินไปอ่ะ

“ผมรู้ว่าผมไม่ใช่สเป็คมัน”เครียดขึ้นมาอีกล่ะ

“เฮ้ย ไม่ต้องเครียด พี่จัดการเอง พี่จะคอยแยกๆไอ้นนท์จากพี่ภูเอง”ผมหรี่ตามองพี่ฉัตรอย่างนึกสงสัย

“ชอบไอ้นนท์เหรอ”

“ตายห่า คิดอะไรเนี่ย”ภาพลักษณ์ดูนิ่งๆสุภาพๆพอมาพูดคำหยาบแล้วมันจี้จริงๆ

“ก็พูดเหมือนชอบ”ผมทำหน้าตลกๆ

“บ้าแล้ว ไม่ใช่เว้ย พี่แค่ไม่ชอบพวกที่ไปยุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้ว หัวอกคนเคยโดนทิ้งก็แบบนี้แหละ”ผมยิ้มแห้งให้พี่ฉัตรผมยิ้มแห้งให้พี่ฉัตร ดีนะที่พี่เขาไม่รู้ว่าผมเคยกิ๊กกับเมียคนอื่นไม่อย่างนั้นผมคงไม่ได้สายสืบอีกคนแน่ สงสัยคุยมากไปหน่อยเพราะทั้งผมกับพี่ฉัตรรั้งท้ายแถมหอบแฮ่กอีก วิ่งได้แค่รอบเดียวไอ้ภูก็เหวี่ยง ใช้อำนาจมืด บอกว่าจะกลับแล้ว

“เราเพิ่งมาเองนะพี่ภู”ไอ้นนท์พูดพลางเช็ดเหงื่อมันส่งผ้าขนหนูผืนเล็กให้ไอ้ภู แต่มันกระชากออกมาจากมือไอ้แอ๊บจนมันเเอบหน้าเสีย หึๆ สมน้ำหน้ามึงจริงๆว่ะ ต้องตีหน้าขรึมเดี๋ยวไอ้ภูหาว่าผมระริกระรี้ผิดปกติ

“แต่กูจะกลับแล้ว อยู่นานๆคนแถวนี้นอโผล่”อ้าว ไอ้นี่ด่าผมนี่หว่า ผมทำหน้าเอ๋อๆมองไปรอบๆตีมึนเหมือนไม่รู้ว่ามันด่าใคร

“วันหลังก็ไม่ต้องพามาสิ”ไอ้นนท์พูดพลางมองหน้าผม

"ไอ้นนท์"ไอ้ภูหันไปขึงตามองอย่างหงุดหงิด

“อย่าสะเออะไม่เข้าเรื่อง”ผมขึงตามองมัน ไอ้นี่มันหน้าต่อยจริงๆครับ ไอ้กิตชิดซ้ายเลย

“น้องฟิกพูดสุภาพๆกับพี่หน่อยสิ”ไอ้ภูแค่ปรายตามองให้มันหุบปากก่อนที่มันจะพยักหน้าให้ผมเดินไปกับมัน

“มึงชอบมันเหรอ ไอ้ฉัตรน่ะ”มันกระซิบถาม ตอนนี้ผมกลับมานั่งที่ตำแหน่งเดิมแล้ว ไอ้นนท์ต้องไปนั่งอัดกับพวกไอ้เป้ด้านหลัง ผมเหลือบมองไอ้ภูที่มีสีหน้าบึ้งตึง

“บ้าดิ กูไม่ได้ชอบ”ผมตอบเบาๆเช่นกัน

“แล้วมึงหน้าระรื่นเวลาคุยกับมันทำไม”

“ก็หน้ากู ไม่ใช่หน้ามึงนี่”ผมกวนตีนมันเล่น แต่คิดผิดครับ เพราะมันเบรกกะทันหัน จนไอ้พวกเบาะหลังตัวโยนมาด้านหน้าเลย ผมก็เช่นกันดีที่คาดเข็มขัดไว้

“กวนตีนแบบนี้ มึงเดินกลับเลยไป”มันพูดเสียงดัง จนผมแอบตกใจ

“เฮ้ย กูแค่ล้อเล่น ขับต่อนะ”ผมพูดเสียงอ่อนพยายามทำให้มันใจเย็นเหมือนเดิม มันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆก่อนจะขับต่อไป ผมหยิบขวดน้ำที่อยู่ใกล้ๆมาแกะ ขวดใหม่ด้วยสบายใจได้ว่าไม่ใช่ของไอ้นนท์ แกะฝาเสร็จผมก็เอาหลอดใส่ก่อนจะยื่นให้ไอ้ภู มันหันหน้าหนีเหมือนเล่นตัว ผมก็ยื่นไปใกล้ๆอีก ในที่สุดมันก็ยอมกินน้ำที่ผมยื่นให้ สวีทต่อหน้าคนอื่นนี่เขินจัง ไอ้ภูมันก็ไปส่งไอ้พวกนั้นที่หอพี่ย้งแล้วให้คนอื่นกลับเองเพราะมันยังหงุดหงิดอยู่ (เข้าทางผมเลย) พออยู่กันสองคนมันก็เริ่มหันมาทำหน้าบูดใส่ผม


“ต่อไปมึงไม่ต้องมาแล้วนะ ถ้ามาแล้วเป็นแบบนี้”มันถอนหายใจเฮ้อใหญ่

“กูยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”

“มึงฉีดน้ำหอมมารึเปล่า”มันยื่นหน้ามาดมๆซอกคอผม

“บ้าดิ น้ำหอมไม่ใช้น้ำมันพราย ถ้าฉีดแล้วมีคนหลงจริงกูฉีดให้มึงดมทุกวันเลยอ่ะ”พูดเอาใจมันหน่อย

“ถุย”แต่มันก็ยิ้มนะ วันนี้สบายใจจริงเลยว่ะ เห็นไหมครับว่าไอ้นนท์น่ะไว้ใจไม่ได้

ผมกลับมาที่ห้องก็พบว่าไอ้ตินพาไอ้ชัยกับไอ้เบลล์มาทำโครงงานด้วย ผมเหวอไปเล็กน้อยเมื่อเห็นพวกมัน ดีนะไม่ถอดกางเกงก่อน

“หวัดดีพี่ภู”พี่เบลล์กับไอ้ชัยทักไอ้ภู ไอ้ตินนั่งเท้าแขนอยู่กับพื้นห้องกำลังเล่นเกมส์อยู่

“ไหนงานมึงอ่ะ”ผมเดินไปนั่งบนหลังของมัน แต่ไม่ได้ทิ้งน้ำหนักลงไปเยอะกลัวศอกมันพัง

“เล่นคลายเครียดไง”มันตอบโดยไม่เงยหน้าจากโน้ตบุ๊ก

“หนักไหม”ผมก้มไปถามมัน

“ไม่เท่าไหร่”

“เออ งั้นกูนั่งอยู่แบบนี้เลยนะ หลังมึงแข็งดีเนอะ”ว่าแล้วก็แกล้งมันซักหน่อย ผมเลยทิ้งแรงลงไปมากขึ้น

“เฮ้ย พวกมึงมาขย่มอะไรกันตอนนี้”คำพูดแบบนี้มาจากไอ้ภูคนเดิม ไอ้ตินถึงกับทรุด ทำเอาผมไถลลงจากหลังมันไปด้วยเลย

“มึงพูดอะไรของมึง”รู้สึกหน้าร้อนวาบๆ ไอ้พี่เบลล์ถึงกับเบียร์พุ่ง ผมก็ไม่ได้อยู่ในท่าทางล่อแหลมอะไรเลยนะ ผมรีบเดินหนี
เข้าไปหาอะไรกินในครัวทันที ไปๆ มาๆมีไอ้ภูมาร่วมวงด้วยแบบนี้ จากวงทำงานกลายเป็นวงเหล้าไปซะแล้ว ผมตักข้าวออกมานั่งรวมกลุ่มด้วย ไอ้ชัยมันไปเอากีต้าของไอ้ตินมาเล่น ร้องเพลงกันเสียงดัง

“กินบ้างดิ”ไอ้ตินกระซิบเบาๆ

“ไวรัสตับอักเสบเอบีซีดีนะมึง”

“ไวรัสไรเยอะแยะ ถ้าเป็นคงเป็นไปนานแล้วว่ะ”ผมเลยจำต้องตักข้าวคำโตเข้าปากมัน

“อี๋”เสียงมาจากไอ้ชัย

“เป็นไร กวนตีนกูมาก เดี๋ยวกูหาผัวให้มึงแน่”เดี๋ยวจะเอาเฟสมันไปหย่อนในกลุ่มเพื่อนเกย์ เก้ง ของผม ไอ้ชัยเดือดขึ้นมาทันที

“มึงคิดจะทำอะไร อย่ามาทำเหี้ยๆกับกูนะ”มันทำท่าจะลุกเข้ามาหาผม

“พอๆ พวกมึงจะกัดกันทำไม”ไอ้ภูผลักไอ้ชัยให้กลับไปนั่งที่เดิม ผมเบ้หน้าใส่มัน

“มึงดูไอ้ชัยดิ ทำมาอี๋ใส่มึง”ผมกระซิบกับไอ้ตินเบาๆ มันหัวเราะ

“ช่างมันเถอะ”


แล้วคืนนั้นพี่เบลล์กับไอ้ชัยก็นอนค้างที่ห้อง แปลกๆนิดหน่อยเพราะไม่ค่อยชิน ผมนี่ต้องขนเสื้อผ้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำเลยเพราะไอ้สองตัวมันไม่ยอมให้ผมออกมาเปลี่ยนด้านนอก มันก็บ้านะ ผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ ยังจะมาหวงอีก คืนนั้นผมนอนไม่ค่อยหลับเลยเอาโทรศัพท์ออกมาเล่น ปรับแสงหน้าจอให้น้อยสุดเพราะกลัวมันสองคนตื่น ผมเข้าไปในเฟสไอ้ภู เพื่อหาเฟสพี่ฉัตร ผมว่าพี่เขาไว้ใจได้แถมยังดูรู้ตื้นลึกหนาบางอีก ผมเหลือบมองไอ้ภูที่นอนหลับสนิทอยู่ก่อนจะกดแอดเฟสพี่เขาไป และพี่เขาเองก็รับอย่างรวดเร็ว

ฉัตร: อ้าว ดึกขนาดนี้ยังไม่นอนอีกเหรอ

ฟิก: นอนไม่หลับอ่ะพี่

ฉัตร: คิดถึงพี่ล่ะสิ

ฟิก:เพ้อเจ้อว่ะ ที่ผมแอดมาเพราะเรื่องไอ้นนท์นะ

ฉัตร: โอเคๆ พี่ไม่ลืมหรอก พี่จะดูให้ ถ้าไอ้นนท์มันอ่อยมากๆพี่เตะมันเอง

ผมนอนมองดาวบนเพดานห้อง แสงของพวกมันจางลงแล้ว สงสัยต้องซื้อใหม่ ผมนอนคิดอะไรเพลิน ๆอยู่ ไอ้ปั๊มก็ทักไลน์มา ปกติมันไม่เคยทักมาดึกๆดื่นๆแบบนี้เลย

ปั๊ม: พี่ฟิก นอนยังอ่ะ

ฟิก: ละเมอตอบมั้ง

ปั๊ม: นอนกับผู้ชายมันเป็นยังไงอ่ะ

ผมถึงกับเบิกตากว้างๆเพื่ออ่านข้อความของมันซ้ำ

ฟิก: มึงถามทำไมวะ

ปั๊ม: แค่อยากรู้เฉยๆ

ฟิก: โหลดคลิปดูเลย เยอะแยะ

ผมว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆไม่อย่างนั้นมันไม่ถามขึ้นมาหรอก แล้วจากนั้นมันก็เงียบไป แต่ผมนี่คิดไปไกลแล้ว มันเคยบ่นๆว่าช่วงนี้มันช็อตๆหาเงินไม่ทัน …ผมกลัวมันจะตัดสินใจผิดๆจัง อย่างไอ้ปั๊มก็ดูแมนเต็มร้อย ให้ไปทำอะไรแบบนั้น…เฮ้อ

ฟิก: กูไม่รู้ว่ามึงถามทำไม แต่มึงคิดดีๆนะ กูไม่อยากเห็นคนที่กูรู้จักเดินไปในทางผิดๆ ถ้ายังเห็นกูเป็นพี่ล่ะก็ มีอะไรก็ปรึกษากูดิ ถ้ามึงพร้อม ไอ้ปั๊มอ่านแล้วแต่ไม่ได้ตอบกลับมา ผมได้แต่บอกตัวเองซ้ำๆว่า เรื่องของมันอย่าไปยุ่งเลย






..................................................................................





ช่วงพักกินข้าวเที่ยงส่วนใหญ่ผมจะแวะเวียนไปหาพวกมันที่คณะแทน ไอ้นนท์ช่วงนี้ก็ไม่ได้อะไรกับไอ้ภูมาก สายของผมรายงานมาแบบนั้นวันนี้ผมมีนัดกินข้าวเที่ยงกับไอ้ตินเช่นเคย ถ้าวันไหนไอ้ภูไม่ว่างมันจะส่งข้อความมาเสมอว่า คิดถึงมึงเหมือนเดิมนะ
วันนี้อาจารย์ปล่อยช้าเพราะวิจารณ์งานกลุ่มผมซะยับเหมือนเสื้อของผม กว่าจะคลำทางออกห้องได้แทบลมจับ จิตใจผมหวั่นไหวง่ายเสมอหากมีคนพูดร้ายแรงมากระทบกระเทือนจิตใจ (เหรอ) ไลน์เด้งอีกครั้งผมก็นึกว่าไอ้ตินตามจิกที่แท้เป็นไอ้ปั๊มเวลาไลน์มันเด้งผมจะใจเสียทุกทีเลย

ปั๊ม:งานโคตรเยอะอ่ะพี่ฟิก กิจกรรมนะ พี่ภูลงว้ากด้วย ปีสี่แหละยังจะมายุ่งอีก

ผมเฮ้อออกมาเลยเพราะว่ามันไลน์มาบ่นกับผม ไอ้นี่ทำผมใจหายใจคว่ำหมด

ฟิก:กูไม่ใช่โถขี้นะ

ปั๊ม:อะไรอ่ะ

ฟิก:ที่ระบายไง ไอ้สัด

ปั๊ม:อ๋อ..ก็ไม่เก็ทอ่ะ พี่ไปกินข้าวกัน

ฟิก:กูจะไปกินกับแฟนกู มึงไปคนเดียวไป

ปั๊ม:ไม่เอา ผมรอ เสร็จแล้วพี่ไลน์มานะ

มาแนวๆนี้ผมว่ามันแดกแกลบแน่ๆ

ฟิก: หมุนเงินไม่ทันเหรอ

ปั๊ม: เปล่าแต่ผมจะเลี้ยงขอบคุณพี่ ผมจะรอนะ

มันว่างั้นก็ตามนั้นล่ะกันถึงจะสงสัยว่ามันไปเอาเงินมาจากไหนก็เถอะ เดินไปนิดเดียวก็ถึงคณะเกษตร คนยังเยอะอยู่เลย มีเด็กคณะมันยกมือไหว้ผมด้วย

“มาช้าจนกูกินจนจะเสร็จแล้วเนี่ย”ผมเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้มัน รอบโต๊ะมีพี่เบลล์ ไอ้ชัยและใครอีก
ก็ไม่รู้ ผมยกมือไหว้ปะลกๆ ก่อนจะหยิบจานข้าวที่ไอ้ตินมันซื้อให้ ข้าวมันไก่อีกแล้ว

“พวกกูไปก่อนนะ เฝ้าเมียเสร็จก็ตามมาล่ะ”ไอ้ชัยเป็นคนพูด เหอะ ผมเหล่มองมันอย่างไม่ชอบใจนัก ไอ้ตินผลักหัวผมเบาๆ

“รีบๆกินเลย”

“ขอบใจนะเว้ย ที่รอกูอ่ะ”ผมรู้สึกดียังไงไม่รู้เหมือนผมยังสำคัญกับมันอยู่ ไอ้ตินเท้าคางมองผม

“มึงยังคิดมากเรื่องพี่ภูใช่ไหม กูให้คนดูมาแล้ว ช่วงนี้พี่เขายุ่งจริงๆ แต่ก่อนมึงไม่เห็นจะแคร์เลย”มันมองหน้าผมพลางเคาะนิ้วลงกับโต๊ะ ผมมุ่นคิ้วทำหน้างงๆ

“ก็เรื่องกินข้าวไง ปกติเมื่อก่อนอ่ะ พวกกูก็ไม่ได้ว่างกินข้าวกับมึงทุกวันนี่”ใช่เมื่อก่อนผมไม่คิดมากอะไรเลย

“เมื่อก่อนมันไม่เหมือนตอนนี้นี่”ผมรู้สึกอิ่มๆขึ้นมาก่อนจะวางช้อนลง

“เวลาของกูกับพวกมึงมันไม่เท่ากัน แต่ก่อนกูไม่สนก็จริงแต่ตอนนี้กูคิดมากไงกูเลยสน”ไอ้ตินพยักหน้าเบาๆ เลื่ิอนมือมาแตะหลังมือผม

“ถึงกูจะไม่มีเวลาให้มึงเหมือนเมื่อก่อน แต่กูคิดถึงมึงเหมือนเดิมนะ”คำพูดของมันทำให้ผมยิ้มออก ต่างจากข้อความจากไอ้ภู เริ่มเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ ผมไม่เคยเอาพวกมันมาเปรียบเทียบเพราะมันค่อนข้าง..อ่อนไหว ผมรู้ว่าพวกมันก็คงไม่ชอบ ผมปัดความคิดไร้สาระออกไป ไอ้ตินกลับขึ้นตึกไปแล้ว เหลือผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่คนเดียว จนนึกได้ว่าไอ้ปั๊มมันรออยู่นี่หว่า

ฟิก:มึงกินข้าวยัง

ปั๊ม:ยังเลยดิ มารับผมเลย

ฟิก:ไม่เอา

เดี๋ยวเจอไอ้ภูอีก มันยิ่งคิดบ้าๆอยู่ด้วย ผมกลัวจะมีเรื่องเลยไม่อยากไปซิ่งแถวคณะมัน

ปั๊ม:ลืมไป ว่าพี่ฟิกกลัวพี่ภู งั้นมารับผมที่หอสมุดนะ รถผมน้ำมันหมด

ผมถอนหายใจเฮ้อเลย แต่ก็ไปรับมันที่หอสมุดเพราะไหนๆมันก็ไปรอแล้ว ไอ้ปั๊มยืนเอามือโบกลมให้ตัวเอง ใบหน้ามันมู่ทู่เหมือนคนที่กำลังหงุดหงิดกับอะไรสักอย่าง พอมันเห็นผมมันก็เดินมาหาอย่างว่องไว อ้าปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่มันก็ไม่พูด มันขึ้นมาซ้อนท้ายผมแทน

“รถมึงใช้น้ำมันอะไร”

“ถามไมอ่ะ”มันทำเสียงสงสัย

“กูจะออกเงินให้ก่อนแล้วมึงค่อยเอามาใช้กูทีหลัง”

“เฮ้ยไม่เป็นไรพี่ ผมมีเงินแล้ว ได้งานใหม่ ไอ้ที่เรียกพี่มาก็ไม่ใช่อะไร จะเลี้ยงตอบแทนพี่ไง”ผมแอบสงสัยว่ามันได้งานอะไร มันเองก็เรียนอยู่จะมีเวลาว่างไปทำงานพาร์ทไทม์เหรอ

“จอดร้านนี้ๆ”มันตบไหล่ผมเมื่อขี่ผ่านร้านก๋วยเตี๋ยว ผมก็จอดตามที่มันบอก

“ป่ะ ผมเลี้ยงเอง”

“กูกินข้าวมาแล้ว เดี๋ยวกูนั่งเป็นเพื่อนล่ะกัน”ผมตบพุงให้มันดู ไอ้ปั๊มนิ่วหน้าแต่ก็ไม่พูดอะไร เข้าไปในร้านได้มันก็เดินดุ่มๆหาโต๊ะนั่งก่อนเลย ผมขี้เกียจมานั่งดูมันกินก็เลยสั่งเกาเหลามารองท้อง ในระหว่างที่ไอ้ปั๊มลุกไปเอาเครื่องดื่มผมก็หยิบกระเป๋าเงินบนโต๊ะของมันมาดู มีแบงค์พันอยู่หลายใบเลย ผมวางกลับตามเดิม มันไปทำอะไรมาถึงได้เงินเยอะขนาดนี้ ในหัวผมเริ่มคิดไปถึงเรื่องไม่ดีๆขึ้นมาอีกแล้ว ผมเป็นห่วงมันนะ มันก็เหมือนน้องคนหนึ่งของผม ซึ่งผมไม่อยากให้มันทำผิดๆเหมือนไอ้คิม ไอ้ปั๊มกลับมานั่งที่โต๊ะพร้อมกับเลื่อนขวดน้ำโค้กกับแก้วน้ำแข็งมาให้ผม แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะกินแล้ว

“ปั๊มกูถามจริงๆนะ มึงทำงานอะไรถึงได้เงินมาเยอะขนาดนี้ ตอบกูมาตรงๆ”มันดูอึกอีกขึ้นมาทันที มันเม้มปากมองผมก่อนจะหันไปทางอื่น

“คือผม...ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดี”มันตอบไม่เต็มเสียงนัก

“แล้วยังไงวะ”ผมอยากถามมันนะว่ามึงขายตัวรึเปล่า แต่นี่ก็กลางร้านก๋วยเตี๋ยวผมไม่อยากจะพูด

“เดี๋ยวผมบอก พี่กินก่อนเถอะ”มันเปลี่ยนเรื่องแต่ผมยังคงนิ่งอยู่เพราะผมกินไม่ลงหรอกถ้าหากว่ามันทำแบบนั้นจริง ผมก็ไม่กล้าใช้เงินมัน ผมเบนสายตามองไปรอบๆร้านเป็นครั้งแรก เหมือนมีความรู้สึกว่าถูกจ้องมอง แต่พอผมมองรอบๆร้านก็ไม่เห็นใครที่น่าสงสัย

“คืองี้นะพี่ฟิก”มันเริ่มพูดอีกครั้งเมื่อเห็นผมนั่งเงียบไม่ยอมกินเกาเหลาตรงหน้า

“ผมไม่ได้ทำแบบที่พี่คิดหรอก ผมแค่ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารอ่ะ เจอพวกหื่นหน่อยแต่ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะทิปหนัก ผมโอเคดีพี่ฟิก”ผมโล่งอกขึ้นมาที่มันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น

“อืม ดีแล้ว”

“ผมไม่กล้าทำแบบนั้นหรอกพี่”มันหัวเราะแห้งๆ

“แล้วมึงแบ่งเวลายังไงวะ”งานพวกนี้ก็เลิกดึกใช่ย่อย

“ผมถึกจะตายแค่นี้จิ๊บๆ”มันไหวไหล่ ผมมองเกาเหลาในถ้วยตรงหน้า ลองชิมไปสองสามคำก็ยัดไม่ลงแล้ว ก็เลยดูดน้ำโค้กไป
พลาง ผมมองไปรอบๆอีกครั้งก่อนจะเจอเจ้าของสายตาที่มองผมอยู่…มันคือไอ้โจ ดวงซวยจริงๆเลยผม ไอ้โจยักคิ้วให้ก่อนจะหันไปคุยกับแฟนมันต่อไป ผมไม่เห็นหน้าแฟนมันว่าหน้าตาแบบไหน เพราะเห็นแค่ด้านหลัง แต่ผมเดาว่าคงไม่ใช่คนเดิมแน่ๆ


RRRRR

'ไอ้เคน'

“ว่าไงเพื่อน”

[มึงอยู่ไหนวะ รึหลงทางอยู่ตึกเกษตร]

“กูออกมากินก๋วยเตี๋ยว”ผมบอกไปตามตรง

[คนเดียวเหรอวะ]

“กับไอ้ปั๊ม”เรื่องไอ้ปั๊มนี่ผมก็เล่าให้พวกมันฟังแล้วเหมือนกัน ไอ้เคนเงียบไปอยู่นาน

[ไอ้ฟิก มึงกิ๊กกับมันเหรอวะ] ผมตาโตทันทีเมื่อได้ยินที่มันพูด ผมเลยเดินไปคุยโทรศัพท์ที่ท้ายร้านตรงทางเข้าห้องน้ำ ไอ้ปั๊ม
มองตามแต่ไม่ได้พูดอะไร

“มึงพูดบ้าอะไรออกมาวะ กูไม่ได้กิ๊กกับมัน มึงคิดได้ไงเนี่ย มึงเห็นกูเป็นคนยังไงวะ”

[ให้กูพูดวันนี้ คงไม่พออ่ะ] เสียงมันดูขบขัน

“ไอ้นี่หนิ มึงคิดว่ากูจะจับผู้ชายทุกคนทำเมียรึไง”ผมพูดเสียงหงุดหงิด ไม่รู้ไอ้เคนติดโรคมาจากไอ้ภูกับไอ้ตินรึไง ถึงได้คิดอะไรคล้ายๆกัน

[เออ...กูแค่พูดเฉยๆ โวยวายทำไม แค่นี้แหละ โทรมาถามเฉยๆเห็นหายหัวไปนาน]

หลังจากวางสายจากไอ้เคน ผมเลยแวะเข้าห้องน้ำแคบๆของร้าน ระหว่างที่กำลังล้างมืออยู่นั้นก็มีคนเข้ามาพอดี

“ว่าไงฟิก”ผมสะดุ้งตกใจเล็กน้อย

“ไงมึง สบายดีล่ะสิไอ้โจ”ผมเหลือบมองมัน

“ก็สบายดี ตอนแรกก็คิดว่ามึงจะเปลี่ยนแล้วซะอีก”มันยกยิ้มมองผม เป็นรอยยิ้มที่ผมเกลียด ยิ้มเหมือนว่ารู้ทันความคิดของผม

“มึงหมายความว่าไง”ผมหยิบทิชชูมาเช็ดมือก่อนจะหันไปมองมันตรงๆ

“ก็กิ๊กมึงที่นั่งอยู่ด้านนอกไง”ผมหลุดหัวเราะออกมาทันที

“มันไม่ใช่กิ๊กกู แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของมึงด้วย”ผมเดินเบียดมันออกไปจากห้องน้ำแต่มันผลักผมกลับจนผมเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา

“ไม่ใช่แน่…แต่พอดีกูมีนี่ว่ะ”มันยกโทรศัพท์ที่มีรูปของผมกับไอ้ปั๊มนั่งคุยกันอยู่ มันเลิกคิ้วมองผมเหมือนกับว่ามันมีอาวุธลับอยู่ในมือ

“แล้วไง กูบริสุทธิ์ใจ จะทำอะไรก็เรื่องของมึง”แต่ผมก็แอบกังวลอยู่เหมือนกันเพราะไอ้ภูกับไอ้ตินมันไม่ค่อยเหมือนคนอื่นเขา แต่ผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ กับไอ้ปั๊มก็คงไม่คิดหรอก ผมออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าหงุดหงิด ไอ้ปั๊มนั่งรออยู่ที่โต๊ะ

“ผมอิ่มแล้ว พี่อิ่มรึยัง”มันถามผมเบาๆ สีหน้าดูไม่ค่อยสู้ดีนัก

“เออ อิ่มแล้ว”ผมมองมันอย่างแปลกใจ ไอ้ปั๊มลุกไปจ่ายเงิน ผมก็ออกไปรอด้านนอก

“พี่ไปส่งผมที่หอหน่อยดิ ผมง่วงว่ะ เมื่อคืนเลิกดึก”ผมอ้าปากจะบ่นมัน แต่ก็ฉุกคิดได้ว่าไม่ใช่เรื่องของผม ก็เลยปิดปากเงียบไป
ส่งมันที่หอ มันอยู่หอพักเล็กๆสามชั้น คนละทิศกับหอผมเลย

“เอ่อ พี่ฟิก”มันเรียก จนผมต้องหยุดรถ

“ไรวะ”

“เปล่าพี่”สีหน้าของมันดูลังเล มันยิ้มเฝื่อนๆให้ผมก่อนจะเดินเข้าไปในหอ ผมสังเกตตั้งแต่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วว่ามันมีท่าทาง
แปลกๆ เฮ้อ ช่างหัวมันเถอะ




(ต่อด้านล่าง)
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.3] UP
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 09-09-2015 05:50:15
ช่วงบ่ายผมมีเรียน แต่โดดมานั่งชิวกับพวกพี่ปาที่ร้านนมสด เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง หน้าอย่างผมก็เข้าร้านมุ้งมิ้งๆได้เหมือนกัน

“คิดไงมานั่งคุยกับพวกกูวะ”พี่ปาถาม ระหว่างที่ตักไอติมเข้าปาก ไอ้เนมก็มาด้วย มันนั่งพิงเก้าอี้จ้องหน้าผมด้วยท่าทางกวนตีน

“เหงาๆว่างๆเลยแวะมาหาไง”ผมจิ้มปังปิ้งช็อคโกแลตเข้าปากคำโต

“เวอร์เหอะ มึงโดดเรียนมา”ไอ้เนมแทกขึ้นมา ผมชักสีหน้าขุ่นๆใส่มันก่อนจะหันไปคุยกับพี่ปาต่อ

“ช่วงนี้พี่ได้ติดต่อไอ้ภูอยู่ไหมอ่ะ”ผมถามด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ

“ไม่ค่อยบ่อยหรอก พวกกูก็มีงาน มันก็มีงาน ไม่ได้ทำตัวเหมือนว่างอย่างมึง”พี่ปาชี้หน้าผมด้วยช้อนเล็ก ๆ

“คืนนี้กูว่าง มาเที่ยวไหมล่ะ หรือต้องขออนุญาตไอ้ภูกับไอ้ตินก่อน”ไอ้เนมนี่ต้องแขวะผมให้ได้ตลอดเวลาเลย

“ไม่ต้องหรอก พักนี้พวกมันวุ่นๆอ่ะ เหงาว่ะ”ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ไอ้พี่ปาหัวเราะทันที

“เออเฮ้ย มึงนี่พัฒนาขึ้นนะ ปกติไม่กล้ายอมรับหรอก ไอ้เรื่องแบบนี้”

“เหงาหรือเงี่ยนพูดมาตรงๆ”ผมสำลักนมปั่นทันทีที่ได้ยินไอ้เนมพูด พี่ปาหันไปมองหน้ามันเหมือนกัน

“พูดอะไรเกรงใจเจ้าของร้านบ้างไอ้นี่”ผมหันไปมองพี่สาวคนสวยเจ้าของร้านที่ยืนคิดเงินอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ร้านมันค่อนข้างจะ
เล็ก ๆกะทัดรัด แถมพวกผมก็คุยกันเสียงดังด้วย ไม่มีมารยาทจริงๆ

“ตกลงมึงจะมาไหมวะ”ไอ้เนมเซ้าซี้ถามต่อ

“มาดิ”

“เจ๋งสัด เริ่มออกลายไม่กลัวไอ้ภูล่ะ กูสนับสนุนนะอย่าไปยอมมันมาก เดี๋ยวมันเคยตัว”พี่ปาตบมืออย่างพอใจ

“กูจะฟ้องมันว่ามึงสนับสนุนให้ไอ้ฟิกพยศ”ไอ้เนมตีหน้าชั่วร้าย แปลกเหมือนกันได้คุยกับมันแล้วค่อยโล่งหน่อย



ณ ผับ

“คนนั้นเด็ดสัด มึงเห็นไหม”

“เออ นมทะลักขนาดนั้น”

ประโยคด้านบนนั่นคือคำพูดของพี่ปาและไอ้เนม ผมได้แต่ฟังเอือมๆ รู้สึกไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ ผับแถวนี้ผมไม่เคยมา เพราะส่วนใหญ่ผมจะเที่ยวอีกโซนหนึ่ง

“อ้าว ไอ้ฟิก ชวนมาเที่ยว ไม่ใช่มานั่งซึมกะทือแบบนี้”ไอ้เนมตบบ่าผมแรงๆก่อนจะเลื่อนแก้วเหล้าที่มันชงเองให้ผม ผมไม่ค่อยอยากรับหรอก มันมือหนักจะตาย

“กูเคยคิดนะ…”มันโน้มตัวเข้ามากระซิบใกล้ๆหูผม ทำเอาขนลุกวาบขึ้นมาเลย ผมเอนตัวออกห่างจากมันเนียนๆ

“คิดไรวะ”ผมมองพี่ปาลุกไปเต้นกับกลุ่มสาวๆด้วยท่าเฟี้ยวๆ

“มึงจำตอนนั้นได้ไหม ที่กูเจอมึงใหม่ๆอ่ะ กูเคยคิดว่าอยากได้มึงเหมือนกันเพราะตอนนั้นไอ้ภูมันบอกว่ามันจะแบ่งมึงให้กูด้วย”ผมเหลือกตามองไอ้เนมที่ยกยิ้มอยู่ รู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาเลย แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกก็ตอนนั้นไอ้ภูมันเอาเรื่องผมไปโพนทะนาให้คนในกลุ่มเพื่อนฟัง มันก็ต้องมีบ้าง…แต่เป็นไอ้เนมคิดนี่ สยองจริงๆ

“แต่ตอนนี้กูไม่อะไรหรอก มึงไม่ต้องทำหน้าตาแบบนั้น”มันยกแก้วเหล้ามาจิบก่อนจะเคาะนิ้วตามจังหวะเพลง

“กูถามจริงๆเลยนะว่าตอนนี้อ่ะถ้าให้มึง One night stand กับใครสักคนมึงทำได้ไหมวะ”ไอ้เนมถามด้วยสีหน้าอยากรู้ ผมมองไปรอบๆอย่างครุ่นคิด

“ตอบตามตรงก็…ได้นะ แต่ผมแคร์ความรู้สึกของไอ้สองคนนั่นไง ผมเลยจะไม่ทำ”

“มึงดีนะ ได้เจอคนที่รักมึงจริงตั้งสองคน”ผมมองไอ้เนมที่เริ่มจะเพ้อขึ้นมา

“มึงอย่าพากูดราม่าได้ป่ะ มาเที่ยวนะเว้ย ไม่ใช่มานั่งเหี่ยว”ผมตบบ่ามันบ้าง มันก็สะบัดมือผมออก

“ลามปามแล้วนะมึงเนี่ย”มันยิ้มจางๆก่อนจะเร่งให้ผมกระดกให้หมดรวดเดียว แต่ผมกลัวเมาแล้วสติหลุดก็เลยค่อยๆจิบ

“เปิดเพลงให้กูเหงาอีกล่ะ”ไอ้เนมพึมพำเบาๆ ผมเห็นด้วยนะ เพลงมันส์ๆมีไม่เปิด ดันมาเปิดเพลงไม่เคยจะห่างกันซะงั้น


อยู่ตรงนั้นเธอคิดถึงฉันมากเท่าไร อยู่ตรงนี้เธอรู้ไว้เลยว่าคิดถึงเธอจนล้นหัวใจ
ได้โปรดเธอจงมั่นใจว่า ฉันคนนี้รักเพียงแต่เธอ อยู่ตรงนั้นเธอเองจะเหงาซักเท่าไร
อยู่ตรงนี้ยิ่งเหงาเท่าไรก็ยิ่งรู้ว่าฉันรักเธอ ต่อให้เนิ่นนานที่เราไม่เจอะเจอ
แต่ทุกนาทีหัวใจเรานั้นไม่เคยจะห่างกัน



ไปๆมาๆผมกับไอ้เนมกอดคอร้องเพลงด้วยกันไปแล้ว นึกถึงไอ้สองคนนั่นขึ้นมาเลย ผมคิดถึงพวกมันอีกล่ะ เซ็งจริงๆ

“นู่น คู่นั้นจูบกันแล้ว”ไอ้เนมบุ้ยปากไปยังมุมมืดที่มีร่างสองร่างนัวเนียกันอยู่ ผมมองเลยไปบนชั้นลอยของผับ เห็นเด็กเสิร์ฟท่าทางเก้ๆกังๆอยู่ ผมจ้องอยู่สักพักถึงจำได้ว่าเป็นไอ้ปั๊ม ผมโบกมือให้มันเผื่อมันจะเห็นผม

“ใครวะ”ไอ้เนมมองไปทางไอ้ปั๊มด้วยสายตาสงสัย

“กิ๊กมึง?”มันทำเสียงตกใจ

“บ้ารึไง รุ่นน้องกู หลานรหัสไอ้ภูมัน”ไอ้ปั๊มเห็นผมแล้วแต่แทนที่มันจะทักผมเหมือนเคย มันกลับมองเมินเหมือนไม่เห็นผม

“ดูเหมือนเขาจะรังเกียจมึงนะ”ไอ้เนมหัวเราะหึๆ ผมว่ามันอาจจะอายผมล่ะมั้ง ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นแก้เซ็ง เพราะไอ้เนมหายไปจากโต๊ะแล้ว เห็นไอ้ตินถ่ายรูปทำงานกับเพื่อนๆลงเฟส ผมกดไลค์พอเป็นพิธี แล้วสักพักมันก็โทรมา เอ้า ซวยจริงๆ ผมไม่ได้บอกพวกมันสองคนว่ามาเที่ยว ผมเลยรีบเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่กว่าจะไปถึงมันก็โทรมาตั้งสองรอบ

[รับช้า]บ่นทันทีที่ผมรับ

“เออ มีไรคิดถึงเหรอ”มีคนอยู่ในห้องน้ำสองสามคน

[อยู่ไหนอ่ะฟิก]

“อยู่ห้องน้ำ”ในผับ

[ว่าวอยู่เหรอมึง]เสียงหัวเราะของมันดังมา

“ระดับฟิกไม่จำเป็นเว้ย”เสียงหัวเราะของไอ้ตินเงียบไป

[หมายความว่าไง จะเอาเด็กมากกรึไง]

“เด็กเดิกที่ไหน กูไม่มีสักคน”มีสายตาในห้องน้ำมองมายิ้มๆ จนผมต้องหันหน้าเข้าหากำแพงแทน

[ใครจะรู้ล่ะ มึงเล็มนู่นเล็มนี่ตลอด]ฟังเหมือนผมเป็นวัวเป็นควายเลยว่ะ

[บางเรื่องกูก็รู้นะแต่กูไม่ได้พูด วันไหนกูนึกบ้าเช็คไลน์มึงขึ้นมาก็ทำให้เนียนเข้าไว้นะไอ้ฟิก]

“บ้าเหรอ”ผมหัวเราะแหะๆ คุยกับมันสักพักมันก็ขอไปทำงานต่อ ผมแชร์เพลงที่เพิ่งฟังมาลงเฟส แต่ไม่ได้แท็กพวกมันสองคนหวังว่าจะรู้ตัวกันนะ ผมกำลังจะออกจากห้องน้ำแต่ได้ยินเสียงโวยวายเบาๆดังมาจากด้านในห้องน้ำ

“ไหนบอกว่าแค่นี้ไง”เสียงคุ้นๆเหมือนไอ้ปั๊มเลยนะ

“ก็ผมจ่ายเงินให้คุณตั้งเยอะก็ต้องเอาให้คุ้มสิ”ได้ยินเสียงตึงตังและร้องเท้าดังเอี๊ยดอ๊าด

“เอาเงินมึงคืนไปเลย อีตุ๊ด”

“มึงว่าใคร หากินกับพวกกูแล้วยังมาปากดีอีกนะ วันนี้มึงเสร็จกูแน่”

“เหี้ย!”แล้วก็ได้ยินเสียงเหมือนกำปั้นกระทบผิวเนื้อดังตุบ มีเสียงร้องดังมา ไม่รู้ว่าใครโดนเล่น ผมยืนด้อมๆมองๆอยู่หน้าห้องน้ำก่อนจะเคาะประตูเบาๆ แต่เสียงจากด้านในก็ยังไม่หยุด ผมเลยเคาะแรงขึ้น

“เฮ้ย ปล่อยน้องผมออกมานะเว้ย”ผมทุบประตูห้องน้ำ

“พี่ฟิกช่วยผมด้วย”เสียงไอ้ปั๊มดังอู้อี้ออกมา ผมกดข้อความหาไอ้เนมให้มาช่วยเคลียร์ รออยู่สักพักมันก็เข้ามาหาผมในห้องน้ำสีหน้าตื่นๆ

“มึงเป็นไรวะ”มันกวาดตามองผมงงๆ

“มึงช่วยน้องกูหน่อยดิ”แต่ไอ้เนมกลับตั้งท่าจะเดินหนีจนผมต้องดึงให้มันกลับเข้ามาช่วย

“ช่วยมันหน่อย มันกำลังแย่นะ”

“มึงนี่แส่จริงๆว่ะ”มันทำเสียงหงุดหงิดก่อนจะเอาเท้าถีบประตูโครมๆจนผมตกใจ

“เปิดประตู!”เสียงมันดังมากจนหลายๆคนมองเหตุการณ์ด้วยสายตาหวาดๆ

“อย่ามายุ่งเรื่องของกู”เสียงเดิมตอบกลับมา

“กูก็ไม่ได้อยากยุ่งกับพวกมึงแต่หมาบางตัวมันขอไว้ มึงจะไม่เปิดจริงๆใช่ไหม ได้”ไม่รู้ว่ามันเมาด้วยรึเปล่าแต่มันถอยห่างจากประตูไปหลายก้าวก่อนจะพุ่งเข้าหาประตูเต็มเหนี่ยว

“สัดเนม”ผมมองอย่างหวาดเสียว แต่ประตูกลับเปิดออกทำให้มันพุ่งถีบผู้ชายร่างใหญ่เต็มตีน ผมวิ่งเข้าไปดูไอ้เนมเพราะมันเซล้มลงด้วย แต่ก็ซวยเพราะผมดันโดนลูกหลงจากไอ้ถึกนั่นเต็มตีนเหมือนกัน เล่นเอาแขนผมชาไปพักใหญ่

“เชี่ยเอ้ย”ไอ้เนมสบถอย่างหัวเสีย ผมมองเข้าไปในห้องน้ำเห็นไอ้ปั๊มทรุดตัวกับพื้นห้องท่าทางเจ็บหนักเหมือนกัน สีหน้าของมันทำให้ผมถอนหายใจออกมา

“มึงเป็นอะไรเปล่า”ผมถามแต่มันก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบ ไอ้เนมขยับตัวยืนเซๆ มันมองผมกับไอ้ปั๊มด้วยสายตามึนตึง

“ไม่เป็นไรก็ออกมา”ผมยืนมองมันจากหน้าประตู แต่มันก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อน ผมมองไปด้านนอก มีคนอออยู่เยอะเหมือนกัน มันคงไม่กล้าออกมา เพราะสภาพของมันดูไม่ดีเอาซะเลย มีรอยช้ำบนหน้า มุมปากแตก เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ผมมองสำรวจว่ามันเสร็จไอ้นั่นไปรึยัง แต่กางเกงมันก็ยังอยู่ในสภาพดี

“กูออกไปรอด้านนอกนะ”ไอ้เนมบอกเบาๆก่อนจะออกไป แต่สีหน้าของมันกลับทำให้ผมแอบหวั่น ผมเคยบอกว่ามันมีบางอย่างคล้ายๆไอ้ภู น่ากลัวเหมือนกันเลยว่ะ

“มึงจะอยู่ในนี้ อีกนานไหมวะปั๊ม มึงทำตัวเองนะ”ผมพูดติดรำคาญนิดหน่อยเมื่อเห็นมันนั่งน้ำตานองหน้าอยู่

“กูกลับล่ะ คราวหน้าคราวหลังก็ระวังตัวดีๆ”ผมหมุนตัวกลับ แต่มือสั่นๆของมันก็แตะข้อมือผม

“ขอบคุณมาก”มันพูดเสียงแผ่ว

“มึงไปบอกไอ้คนนู้นนู่น”ผมพยักเพยิดไปทางไอ้เนม มันยืนสูบบุหรี่มองมาที่ผมกับไอ้ปั๊มด้วยสายตาจับผิด พี่ปาเองก็อยู่ข้างๆมันด้วย ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนไหน ไอ้ปั๊มเดินหมดสภาพไปขอบคุณไอ้เนม มันแค่พยักหน้าส่งๆ ไม่วายหันมาจ้องหน้าผมอีก

“มองอะไร”ผมถามเสียงนิ่งเมื่อเห็นสายตาของไอ้เนม

“มันเป็นหลานรหัสไอ้ภูแน่นะ”

“เออดิ”ผมยืนจ้องหน้ากับมันอยู่นาน พี่ปาถอนหายใจ

“งั้นก็โทรบอกไอ้ภูซะหน่อยไหม”ผมรีบห้ามทันที

“เฮ้ย พี่อย่าโทรนะ”คือไอ้ภูมันไม่รู้ว่าผมสนิทกับไอ้ปั๊มน่ะสิ ถ้ามันรู้มันก็ต้องซักผมยาวแน่ ผมไม่อยากให้มันรู้เรื่องที่ผมสอดส่องมัน

“แสดงว่าไอ้ภูมันไม่รู้ใช่ไหมว่ามึงสนิทกับมัน”พี่ปาเริ่มทำเสียงน่ากลัวใส่ผม

“ไม่ใช่แบบที่พี่คิดนะเว้ย”ผมรีบอธิบายเดี๋ยวจะเข้าใจผมผิดๆอีก

“ไม่ใช่ได้ไง มึงทำท่าห่วงมันขนาดนั้น มันคงไม่ใช่แค่น้องมึงหรอกมั้ง แล้วยิ่งไอ้ภูไม่รู้ว่ามึงสนิทกับมันแบบนี้... กูรู้สึกแย่กับมึงขึ้นมาเลยว่ะ”ไอ้เนมมองหน้าผมด้วยสายตานิ่งๆ ผมเริ่มจะเครียดขึ้นมาทันที ไอ้ปั๊มมองผมสลับกับอีกสองคน

“ผมกับพี่ฟิกไม่ได้เป็นแบบที่พวกพี่คิด”มันพูดขึ้นเบาๆ

“เหรอ แน่จริงมึงก็ไปพูดต่อหน้าไอ้ภูดิ ไปตอนนี้เลย”ไอ้เนมคว้าคอเสื้อไอ้ปั๊มไว้ก่อนจะหันมามองหน้าผมให้เดินตามมันมา

“ไอ้เนม มึงอย่าทำให้เป็นเรื่องดิ มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้”พี่ปาดึงมือไอ้เนมออกจากคอเสื้อไอ้ปั๊ม

“ได้ไงวะ มึงอยากเห็นไอ้ภูโดนหลอกซ้ำซากเหรอ”มันตะคอกใส่พี่ปา

“ผมไม่ได้หลอกมัน ถ้ามึงจะคิดแบบนั้นก็แล้วแต่เหอะว่ะ”ผมพูดโดยไม่มองหน้ามัน ได้ยินมันทำเสียงเหอะกลับมา

“เรื่องของพวกมันก็ให้พวกมันจัดการกันเอง”พี่ปาพูดเสียงเหนื่อยหน่าย พี่ปาอาสาไปส่งไอ้ปั๊มเองส่วนผมก็กลับหอเกือบๆตีหนึ่งกว่าๆ เพิ่งรู้สึกปวดแขนก็ตอนนี้เอง เข้าไปดูในห้องน้ำก็เห็นว่าบสมและขึ้นเป็นรอยช้ำจางๆแล้ว ผมทายาเสร็จก็เข้านอน กำลังจะหลับไอ้ปั๊มก็ไลน์มาบอกขอบคุณผมอีกครั้ง

ฟิก:มึงโดนมันตุ๋ยยัง

ถามเพราะอยากรู้ล้วนๆ

ปั๊ม:เกือบๆแล้ว สมเพชตัวเองว่ะ ผมเองขอโทษด้วยนะที่เป็นต้นเหตุให้พี่ทะเลาะกับเพื่อนพี่ภูอ่ะ

ผมอ่านข้อความของมันเเล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

ฟิก:ช่างเถอะ กูเคลียร์ได้

ปั๊ม:พรุ่งนี้ผมมีเลี้ยงสายรหัส ต้องโดนถามแน่ว่าไปโดนอะไรมา...ผมยังนึกข้อแก้ตัวดีๆไม่ออกเลยว่ะ พี่อย่าเอาเรื่องผมไปบอกใครนะ

ฟิก:กูไม่บอกหรอก มึงสบายใจได้

ผมนอนมองเพดานห้องด้วยสายตาครุ่นคิด เฮ้อ ช่วงนี้มีแต่ปัญหาสงสัยต้องเข้าวัดทำบุญบ้างแล้วล่ะ





………………………………………………………………..



“ฟิกตื่น...”รู้สึกว่ามีคนเรียก ผมปรือตามองก่อนจะพลิกตัวหนี กลิ่นแบบนี้ ไอ้ตินชัวร์

“ลุกเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นกูปล้ำนะ”มุกนี้ของมันก็ไม่ทำให้ผมตื่น มันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะลงไปจากเตียง แต่มันกลับมาอีกครั้งพร้อมกับน้ำเย็นๆที่ไหลเข้าหูผม

“เล่นไรของมึงวะติน”ผมเด้งตัวขึ้นมาทันที

“ก็มึงไม่ยอมตื่น”มันยิ้มก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดเสียแน่น ผมกัดฟันข่มความเจ็บที่แขนไว้เมื่อมันรวบตัวผมไปกะทันหัน

“กูจะไปอาบน้ำแล้ว”ผมบอกมันเสียงอู้อี้เมื่อนิ้วมือมันไต่เข้ามาในเสื้อ

“อาบพร้อมกัน”มันทำสายตาแวววาว

“หาเรื่องหื่นใส่กูอีกล่ะสิ”มันหัวเราะเบาๆ

“ก็คิดถึง พี่ภูยังไม่กลับเหรอ”มันถามพลางมองไปรอบๆ

“อือ”เรื่องวุ่นเมื่อคืนทำผมลืมกังวลเรื่องไอ้ภูไปเลย มันไม่ได้กลับมาที่หอ มันอาจจะค้างที่คอนโดของมันล่ะมั้ง ผมว่าวันนี้จะแวะไป ผมมีกุญแจผีอยู่เเล้ว เคยเอาไปปั๊มเมื่อตอนปีสอง ตอนนั้นกลัวมันจะซุกกิ๊ก

“มึงไม่มีเรียนเหรอ”มันถามเมื่อเห็นผมคว้าเสื้อยืดแขนยาวมาใส่

“มีตอนบ่าย กูจะไปหาไอ้ภูที่คอนโด มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ”

“มึงมีกุญแจเหรอ”ผมยิ้มพร้อมชูพวงกุญแจให้มันดู ไอ้ตินหาเสื้อคลุมมาใส่ก่อนจะไปกับผม คอนโดไอ้ภูเนี่ยต้องใช้คีย์การ์ดเข้า ผมกับไอ้ตินรอคนที่จะออกมาข้างนอกเมื่อเห็นประตูกระจกเปิดผมกับไอ้ตินก็รีบแทรกตัวเข้าไปในทันที

“ตื่นเต้นว่ะ”ผมพึมพำเบาๆเมื่อเข้ามาในลิฟท์แล้ว มันยืนพิงผนังอีกฝั่งก่อนจะมองผมงงๆ

“ตื่นเต้นทำไม”ผมไหวไหล่ รู้สึกมีลางสังหรณ์แปลกๆ ผมเดินมาหยุดที่หน้าห้องมัน ก่อนจะหันไปมองไอ้ตินมันยืนมองรอบๆระหว่างที่ผมไขกุญแจเข้าไปลุ้นว่ายังใช้ได้อยู่ไหม

คลิ๊ก

ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไขออก ก่อนจะค่อยๆดันประตูเข้าไป โชคดีอีกต่อที่มันไม่ได้ล็อคกุญแจจากด้านใน ทันทีที่เข้าไปผมก็ต้องย่นจมูกเมื่อกลิ่นเหล้าฟุ้งไปทั่วห้อง

“นี่ทำงานหรือแดกเหล้า”ไอ้ตินพึมพำก่อนจะใช้เท้าดันขวดเหล้าให้พ้นทาง สภาพห้องเละๆของมันทำให้รู้ว่าเคยมีหลายๆคนเข้ามาใช้ ห้องค่อนข้างมืด เพราะม่านปิดสนิทหมด ผมค่อยๆย่องมาที่เตียงนอนเห็นไอ้ภูนอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนโต ผมยิ้มชั่วก่อนจะกวาดตามองหาอาวุธแกล้งมัน เห็นมีขวดน้ำเปล่านอนกลิ้งอยู่ ผมเลยใช้มุกเดียวกับไอ้ติน แต่เทน้ำลงบนเปลือกตาของมัน

“เหี้ย”มันสะดุ้งโหยง มือรวบผมไปกอดจนผมเซล้มไปกองกับพื้นและนั่นทำให้ผมรู้สึกว่า...มีใครอีกคนนอนซุกอยู่ในผ้าห่ม ผมเด้งตัวขึ้นมาเพราะเสียงร้อง ก่อนจะกระชากผ้าห่มออก ผมใจหายวูบเพราะไอ้ภูมันใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว ส่วนไอ้คนที่นอนอยู่ในสภาพเดียวกันคือไอ้เหี้ยนนท์ ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างพังครืนลงต่อหน้าต่อตา

“ฟิก”ไอ้ตินแตะข้อศอกผมเบาๆ ไอ้ภูลืมตามอองผมงงๆ

“อ้าว...”มันชี้ผม ก่อนจะมุ่นคิ้วมองคนข้างๆมันเมื่อเห็นว่าเป็นใคร มันก็ถีบลงจากเตียงเต็มแรง

“ไม่ใช่แบบที่มึงคิดนะเว้ย”มันคว้าเสื้อยืดที่กองอยู่ที่พื้นมาใส่ ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆพยายามจะตั้งสติ

“พี่จูบผมแล้วลากผมมานอนบนเตียงนะ จะไม่มีอะไรได้ไง”ไอ้นนท์เสร่อพูดขึ้นมา ผมสังเกตุว่าบนแผ่นอกเปลือยๆขาวๆของมันมีจ้ำจางๆเห็นชัดเจน เหมือนมีกรงเล็บมากรีดหน้าอกผมจนรู้สึกแสบร้อน

“มึงหุบปากเลยกูไม่ได้พิศวาสมึง”ไอ้ภูตวาด มันขยี้ผมอย่างหงุดหงิด

“แล้วเมื่อคืนพี่ทำทำไม”

“ทำอะไร”ผมตะคอกถาม ก่อนจะเหลือบมองไอ้ภู เหมือนตัวผมจะระเบิดออกให้ได้เพราะอาการเดือดในอก

“กูเมาคิดว่ามันเป็นมึง กลิ่นน้ำหอมแม่งเหมือนกัน”มันพึมพำเบาๆ  ผมจุกเหมือนคนพูดไม่ออกผมเดินเข้าไปหามัน

“มึงได้...มึงนอนกับมันรึเปล่า”ผมถามเสียงสั่น

“เปล่า..”มันตอบเสียงไม่แน่ใจ ผมพยายามไม่นึกภาพตามไอ้ภูเวลาเมาหื่นจะตาย ไม่...ผมต้องไม่คิด

“มึงมากับกู”จู่ๆไอ้ตินที่ยืนเงียบอยู่นานก็กระชากไอ้นนท์ขึ้นมาจากพื้น

“เฮ้ย มึงปล่อยกูนะเว้ย”ไอ้นนท์โวยวาย

“มึงกูกับใคร”มันถามเสียงเย็นก่อนจะลากไอ้นนท์เข้าห้องน้ำ

“มึงเชื่อกูนะฟิก”มันคว้ามือผมไปจับ สีหน้ามันดูไม่ค่อยดี ผมเห็นจ้ำจางๆอยู่บนคอมันก็เลยฟาดมือไปเต็มแรง มันก็นั่งนิ่งให้ผมตี

“กูบรรยายไม่ถูกว่ะ”นี่สินะ ความรู้สึกที่พวกมันได้รับตอนที่ผมเคยทำชั่วๆ ผมได้แต่นั่งนิ่งๆให้ไอ้ภูกอด ตัวมันอุ่นๆเหมือนจะเป็นไข้ ผมได้ยินเสียงโวยวายของไอ้นนท์ดังมาจากในห้องน้ำ ไอ้ภูถอนหายใจยาวๆ มันพูดอะไรสักอย่างแต่ผมไม่ได้ยินเหมือนหูมันอื้ออึงไปด้วยเสียงวิ้งๆ

“กูจะไล่มันออกจากกลุ่มเอง”ไอ้ภูพึมพำ ผมกระพริบตา เมื่อเห็นว่าใบหน้าของมันอยู่ใกล้ๆ

“มึงรู้ใช่ไหมว่ามันคิดยังไงกับมึง”

“กูรู้ กูขอโทษที่ปล่อยให้มันล้ำเส้นขนาดนี้”ผมถอนหายใจ อยากมองไปทางอื่นแต่มันจับหน้าผมไว้ให้มองมาที่มันคนเดียว

“มึงคงชอบให้มันเอาใจมึงล่ะสิ”จู่ๆผมก็นึกภาพมันออเซาะเอาใจไอ้ภูขึ้นมา

“กูเปล่า”มันถอนหายใจ ก่อนจะเอาหน้าซบบ่าผม ไอ้ตินกับไอ้นนท์ยังไม่ออกมาเลยแต่เสียงโวยวายของมันก็เงียบไปแล้ว

“กูยังไว้ใจมึงได้ใช่ไหมวะภู”ผมพูดขึ้นมาเบาๆ เหมือนคำถามของผมทำให้เกิดความเงียบจนได้ยินเสียงติ๊กต๊อกของเข็มนาฬิกา

“แล้วมึงล่ะฟิก กูยังไว้ใจมึงได้รึเปล่า”มันย้อนถามเบาๆ มันยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาแต่ฝามือของมันบีบแขนผมแน่น และดันเป็นข้างที่เจ็บอยู่แล้วอีก ผมกัดฟันข่มความเจ็บที่เกิดขึ้นก็พอดีกับที่ไอ้ตินเดินกลับมา สีหน้าของมันดูเรียบจนน่ากลัว

“พี่รอดตัวไปนะ ยังดีที่ไม่ได้เมาจนนอนกับมัน ไม่งั้นเรื่องคงไม่จบแค่นี้แน่”ไอ้นนท์ยังไม่ได้ออกมาจากห้องน้ำ แต่ก็ดีแล้วผมไม่อยากเห็นหน้ามัน

“มึงอย่ามาทำน้ำเสียงแบบนี้กับกูนะ”ไอ้ภูปล่อยแขนผมก่อนจะหันไปหาไอ้ตินด้วยสีหน้าเอาเรื่อง

“ทำไมจะไม่ได้ ผมเคยพูดเเล้วว่า ใครที่ทำให้ไอ้ฟิกเจ็บ มันก็ต้องเจ็บเหมือนกัน”

“มึงจะมีเรื่องกับกูให้ได้ใช่ไหม”ไอ้ภูลงมาจากเตียง ยืนเผชิญหน้ากับไอ้ติน

“อย่ามีเรื่องกัน กูขอล่ะ”ผมเข้าไปดึงให้ไอ้ภูถอยออกมา ไอ้นนท์ออกมาถูกจังหวะพอดี เพราะไอ้ภูเข้าไปเล่นงานมันแทน

“มึงออกไปจากห้องกูเดี๋ยวนี้ กูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าล้ำเส้นกู”

“ก็พี่เมาแล้วจูบผมก่อนนี่”มันหันมามองหน้าผมเหมือนอยากให้ผมได้ยินที่มันพูด ไอ้ภูผลักให้ไอ้นนท์หันกลับมามองหน้ามัน

“กูเมา กูอาจจะผิด กูขอโทษ”มันยืนจ้องหน้าไอ้นนท์จนอีกฝ่ายหลบตาไปเอง ไอ้นนท์คว้าเสื้อยืดของมันไปใส่ แต่กางเกงของมันผมคว้ามาถือในมือ

“เอาของกูมา”มันถลึงตามองผม

“ไม่ มึงด้านนักก็ไปทั้งแบบนี้แหละ”ผมเดินไปที่ถังขยะก่อนจะเอากางเกงมันยัดลงไป เทกับแกล้มอะไรสักอย่างในจานตามลงไป
ด้วย ไอ้นนท์ขึงตามองผมอย่างโกรธเคืองมันคงเข้ามาหาเรื่องผมแน่ถ้าหากว่าไอ้ตินไม่ได้ยืนอยู่ข้างๆผมด้วย มันจำต้องปึงปังออกไป เกิดความเงียบขึ้นมาเมื่อมันออกไปแล้ว ผมระบายลมหายใจออกมาช้าๆ ผมพยายามทำใจให้สงบ ในเมื่อมันไม่มีอะไรก็
ช่างมันเถอะ

“ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาพี่จะเลิกคบมันไหมวะ ถามจริง”ไอ้ตินเอ่ยแทรกขึ้นมา ไอ้ภูไม่ได้ตอบอะไร จนผมต้องถอนหายใจอีกรอบ

“ก็มันไม่ได้ทำอะไรล้ำเส้นกูนี่”

“มันเอาใจมึงนี่ไม่ล้ำเส้นใช่ไหม”ผมพูดขึ้นมาอย่างเหลืออด ใครจะว่าผมใจแคบก็ช่าง แต่เห็นจากที่ไปวิ่งเมื่อวันนั้น ก็รู้แล้ว ขนาดผมอยู่ด้วยไอ้นนท์มันยังเอาหน้าขนาดนั้นแล้วลับหลังผมล่ะ

“แล้วมึงล่ะ มึงเองก็มีเรื่องนะฟิก”มันหันมาเล่นงานผมแทน

“ทีละเรื่องดิสัด ตอนนี้กูด่ามึงอยู่”ไอ้ภูทิ้งตัวนั่งลงกับเตียง ก่อนจะยกมือลูบหน้าลูบตาตัวเอง

“กูขอโทษที่เกิดเรื่องแบบนี้”มันมองผมด้วยสายตาจริงจัง

“ถ้ากูไม่แอบย่องมามึงคงเก็บเรื่องนี้ไว้เงียบๆแน่แล้วมึงก็จะทำเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น มึงคงคบกับมันต่อแน่ๆ”เสียงของผมดังขึ้นทุกที ไอ้ภูผุดลุกขึ้นมาอีกครั้ง

“มึงเห็นกูเป็นคนยังไงวะ มึงก็รู้ว่ากูไม่ปล่อยคนที่ล้ำเส้นให้มาลอยหน้าลอยตาได้อยู่หรอก มีเหตุผลหน่อยดิวะ”ผมนี่แทบพ่นคำว่าเหอะใส่หน้ามันเลย

“เข้าใจความรู้สึกเวลาโดนแบบนี้แล้วใช่ไหม คราวหน้าคราวหลังมึงช่วยมีเหตุผลกับกูด้วยล่ะกัน”ไอ้ภูเถียงต่อไม่ได้ มันก็เลยเงียบ ก่อนจะหันมองทางอื่น ทั้งห้องก็เลยมีแต่ความเงียบอีกครั้ง

“ไอ้ติน กูขอคุยกับมันหน่อยได้ไหม กูรู้ว่ามึงโมโห เสร็จเรื่องแล้วมึงจะต่อยกูก็ได้”ไอ้ภูกับไอ้ตินจ้องหน้ากันอยู่นาน ก่อนที่ไอ้ตินจะออกไปรอที่ห้องนั่งเล่น ไอ้ภูเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับดึงเข้าไปกอด

“กูขอโทษนะที่ทำให้มึงรู้สึกแย่”

“...อือ ช่างเถอะ”ทั้งๆที่ในใจของผมตอนนี้เหมือนมีไฟลุก

“ช่างได้ไง มึงอย่ามองกูแย่ๆเพราะเรื่องนี้เลยนะ มึงบอกมาดิว่าทำยังไงให้มึงหายโกรธ”มันเอาคางเกยไหล่ผมระหว่างที่พูด ผมหลับตาลงพร้อมกับลูบหลังมันเบาๆ

“มึงทำได้เหรอ”ไม่รู้หรอกว่าจะให้มันทำอะไร

“เออ คุกเข่าให้มึงมาแล้วกูยังทำได้เลย”

“กูไม่ได้เป็นอะไร ให้เวลากูหน่อยเดี๋ยวกูก็หายโกรธเองเเหละ”มองหน้ามันแล้วนึกถึงไอ้เหี้ยนนท์ทุกทีพลอยทำผมหงุดหงิดไปด้วย ไอ้ภูได้แต่ยืนเงียบผมเลยผละมาจากมันก่อนจะเดินออกไปนั่งด้านนอกกับไอ้ติน

“ไม่ต้องคิดมากนะ เดี๋ยวกูมา”มันลุกไปหาไอ้ภูด้านใน ผมขี้เกียจห้าม และคงห้ามไอ้ตินไม่ได้ด้วย ผมนั่งพิงพนักโซฟาคิดอะไรไปเงียบๆ เอาตามตรงผมโกรธมากกว่าผิดหวังในตัวมัน โกรธที่มันยอมให้ไอ้นนท์เข้าใกล้ ผมไม่อยากถามว่ามันทำอะไรบ้างเพราะไม่อยากรู้ ไม่อยากนึกถึง ผมพึ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก ความรู้สึกตอนที่ผมเห็นไอ้นนท์ยังแจ่มชัดอยู่เลย ผมคงต้องขอเวลาทำใจเพื่อลืมเรื่องบ้าๆนี่ให้ได้ หวังว่ามันจะเข้าใจผม














TBC.
ว่าจะมาลงวันศุกร์แล้วนะ แต่เอามาลงให้ก่อน ตอนนี้ยาวมากก ความจริงมีเยอะกว่านี้แต่ต้องตัดมาลงแบ่งไว้ตอนหน้า
ซึ่งตอนหน้าก็คงหมดเรื่องแล้ว จะเอาตอนหวานๆมาแทรกบ้าง
ตอนนี้แอบเครียด ๆ เขียนตอนนี้ไปก็แอบหวั่นไปด้วย :hao5: อาจงงๆ เขียนวนไปเวียนมาขออภัยเน้อ

หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 09-09-2015 06:32:58
เรื่องน้องปั๊มจะตามมาไหม
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-09-2015 06:42:11
เห็นใจฟิกมันนะ จะทำอะไรคุยกับใครก็มีแต่คนจ้องจะเสี้ยมให้ทะเลาะกับผัว
โกรธแทนฟิกเลย สภาพนั้นก็ต้องคิดอะ เมาด้วยแต่ดีนะที่พี่ภูเอาตัวรอดได้
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: pepopyj ที่ 09-09-2015 07:00:23
คือพี่ภูก็รู้ว่านนท์คิดยังไงแล้วพี่ภูก็ทำเหมือนให้ความหวัง หากวันนี้ฟิกไม่มาเจอพี่ภูนอนบนเตียง ถามจริงพี่ภูจะบอกฟิกกับตินไหม หรือจะเงียบแล้วให้ความหวังนนท์ต่อจนลึกซึ้งกว่านี้ เช๊คเรตติ้งหรืออย่างไร ความรักที่มีต่อฟิกทำให้ฟิกเหมือนของตาย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 09-09-2015 07:54:43
เข้าข้างฟิก. จากรุกนะเปลี่ยนเป็นรับ แถมเจอ2คนนะ. ยอมกันขนาดนี้. ไว้ใจฟิกหน่อย. 

ฟิกเค้าเปลี่ยนแล้วนะ. ทำไมไม่เชื่อใจฟิกล่ะ.  คนกลับใจแล้วแต่ไม่มีใครเชื่อมันน่าเสียใจนะ

เรื่องนนท์ภูคิดว่าคุมอยู่แล้วเป็นไง.  หวังว่าจะทั้งเรื่องนนท์กับปั้มจะไม่สร้างปัญหาให้ฟิก เซ็งแทนเลย

เราไม่ชอบเลยบรรยากาศอึมครึม. อยู่กันแบบระแวงมันไม่มีความสุขอะ. อินเกิน
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: wann ที่ 09-09-2015 08:02:08
ร้องไห้ :heaven

เศร้าอ่าาาา แต่ฟิกก้เคยทำให้สองคนเสียใจแบบนี้เหมือนกัน สู้ๆนะะ ทั้งสามคนนน  :katai1:

ปั๊มมีเรื่องไรอ่ะะ อยากรุ :z2:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 09-09-2015 08:09:12
อดีตของฟิกนี่จะตามติดตัวฟิกไปชั่วชีวิตเลย  คือความเชื่อใจมันเคยเสียไปแล้วไง
แต่ตินกับภูก็จะมีความมั่นใจมากกว่าคนอื่นอยู่ส่วนหนึ่งนะว่าฟิกไม่น่าจะทำเพราะว่ารักและเกรงใจสามี 2 คนนั้น   แต่เพื่อนก็อย่างว่าแหละ  จะให้พูดว่าเชื่อใจเต็มปากก็ไม่ได้     จริงๆแล้วของแบบนี้ดูได้จากเจตนานะ แต่ต้องตัดสินจากจิตที่เป็นกลาง  คนกอดกันจูบแก้มกันสามารถดูความสัมพันธ์ออก จากเจตนาท่าทางที่ทำออกมาจริงๆ แต่อย่างที่บอกต้องทำใจเป็นกลางจริงๆ

เรื่องภูนั้นเราคิดว่าภูไม่ได้คิดอะไรกับนนท์  คือบางทีเส้นที่ขีดคั่นระหว่างเพื่อนกับคนที่อยากเป็นมากกว่าเพื่อนมันก็ดูไม่ชัดเจนโดยเฉพาะคนที่ไม่คิดอะไรอย่างภู  อีกอย่างนนท์เองก็ไม่ได้ออกตัวชัดเจนด้วย     การที่นนท์ทำตัวเป็นสเป็คที่ภูชอบนั้นเราว่าทำให้ภูรู้สึกดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าภูจะต้องเอานี่  ภู-ฟิก-ตินผ่านอะไรด้วยกันมามากเหลือเกิน    ไม่งั้นฟิกคงไม่ใจเย็นแบบนี้หรอกตอนที่มาเจอภูกับนนท์บนเตียง   แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่าภูจะบอกฟิกหรือเปล่าถ้าหากว่าฟิกไม่มาเจอเอง   

คะแนนตินนำลิ่วเลยตอนนี้

ยกปั๊มให้เนมได้ไหม?
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 09-09-2015 08:17:41
 :เฮ้อ: มีแต่เรื่องไม่ได้หยุดจริง ๆ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 09-09-2015 08:20:26
เอาใจช่วยให้ฟิกเข้มแข็ง และสู้ๆ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 09-09-2015 08:37:21
ตาม 3 หนุ่มมา

อ่านแล้วหวั่นใจเรื่องปั๊มอ้ะ ฟิกบอกภูเหอะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 09-09-2015 08:39:50
 
 :hao5: โกรธแทนฟิกเลย สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 09-09-2015 08:42:52
ไหนบอกไม่ม่าไง ฮือออออออออออออออออ แล้วนี่อัลไลลลลลลล  :ling1: ตอนนี้ภูผิดเต็มๆ ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ เราเชื่อว่าภูรักฟิก รักมากด้วย ภูไม่ได้นอกใจนอกกายฟิก เหตุมันเกิดจากน้ำเมาและน้ำหอมที่คล้ายกับฟิกใช้ (สรุป กรูผิดหรืออีเจ๊:  :beat: โดนฟิกตบ) ทำให้ภูคิดว่าเป็นฟิกด้วยเพราะความคิดถึง แบบไม่เคยอยู่ห่างกัน ยังดีที่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แต่ก็แปลกนะเมาและจูบนัวเนีย ภูกลับไม่เลยเถิดกับนนท์ไปมากกว่านั้น แสดงว่าภูต้องมีสติอยู่บ้างพอรู้ว่าไม่ใช่ก็เลยไม่เอา แต่ไอ้นนท์นี่คงจะแอบขึ้นมานอนต่อหลังจากนั้นแน่ ไม่งั้นภูไม่ถีบลงจากเตียงหรอก เพราะดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำว่าไอ้นนท์นอนอยู่ข้างๆ เราเชื่อภูนะ แต่ตอนนี้ถ้าเป็นฟิกมาเห็นแบบนี้ก็ต้องเสียใจและโกรธเป็นธรรมดา เพราะฟิกรักภูเหมือนที่ภูรักฟิก ภูยังไม่ชอบใจ หึงหวง เวลาฟิกสนิทกับใคร หรือใครมาสนิทกับฟิก ดูอย่างแค่ตอนนี้สิที่ไปวิ่ง และฟิกคุยกับฉัตร ภูยังออกอาการเลย และถ้าเกิดภูรู้เรื่องฟิกคุยกับปั๊ม นี่จะขนาดไหน แต่ฟิกมีคำตอบที่ภูต้องพูดไม่ออกแน่ และจะโกรธก็ไม่ได้เพราะตัวเองมีความผิดติดตัวอยู่ ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับทั้งสามคนเลย มันไม่นอกใจก็เหมือนนอกใจ ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ มันบั่นทอนความเชื่อมั่นฟิกที่มีต่อภูไปเยอะเลย การกระทำของภูกับตินต่างกัน เพราะนิสัยไม่เหมือนกัน ภูชอบคนเอาใจ ชอบคนยอม แต่ฟิกไม่ใช่ แต่ถ้าเราเป็นฟิกเราจะภูมิใจตัวเองกับความรักของภูนะ เพราะภูรักฟิกที่เป็นฟิก ฟิกไม่เคยเปลี่ยนภูก็ยังรักและไม่เคยบอกให้ทำอย่างที่ตัวเองต้องการถึงจะมีพูดบ้างแต่ก็แค่นั้น ฟิกไม่ทำภูก็ไม่ว่า กลับรัก หวงมาก ภูพูดอะไรซึ้งๆสวยๆไม่ค่อยได้ แต่ก็พยายามชดเชยด้วยการแสดงออกแทน ถึงจะห่ามเถื่อนไม่อ่อนโยนเหมือนติน แต่นั่นก็คือภู ภูที่รักฟิก ตอนนี้สงสารภูจังเลย คะแนนติดลบมาก  :hao5:  ถ้าฟิกไม่มา ภูคงไม่บอกหรอก เราคิดว่าที่ไม่บอกไม่ใช่เพราะจะเก็บนนท์ไว้ต่อ ภูต้องจัดการนนท์ และระวังตัวมากขึ้นอาจจะถึงขั้นไม่คบด้วยอีกต่อไป ภูรู้แต่เพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้มีใจให้ แค่คิดว่าเหมือนรุ่นน้องให้ความเคารพ นนท์เอาใจเพราะหวังจะได้ภู แต่ภูไม่คิด คิดแค่มึงอยากทำก็ทำไปแต่อย่าให้มากกว่านั้น ภูไม่ชอบคนล้ำเส้นอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าน้ำเมาจะทำให้เกิดเรื่อง และ ไม่คิดว่านนท์จะกล้า แต่ภูก็โทษตัวเองมากกว่าที่เป็นฝ่ายเริ่ม แต่ก็เพราะเมา ถ้าปกติภูไม่เอาอยู่แล้ว ถ้าจะมีจริงๆ ภูคงมีตั้งแต่ตอนห่างฟิกไปอยู่เมืองนอกแล้ว จำได้ว่ามีคนหน้าเหมือนฟิกมาคุยด้วย ภูยังไม่เอาเลย และไอ้นนท์ที่แอ๊บภูจะเอามาให้เป็นปัญหาเหรอ แต่ตอนนี้จะให้พูดอะไรคงไม่มีอะไรดี เพราะฟิกกำลังโกรธและเสียใจ คงต้องให้เวลา และภูก็ควรรอก่อน ใจเย็นและอย่าเอาเรื่องฟิกมาต่อรองเรื่องนี้ บอกเลยไม่มีผลดี ตินจะโกรธภูไม่แปลกเพราะตินรักฟิก ใครทำฟิกเจ็บตินก็ต้องให้เจ็บ และถ้ากลับกันเป็นตินทำ ภูก็ไม่อยู่เฉยแน่ คงได้ต่อยก่อนจะคุยกันไม่ใจเย็นอย่างนี้หรอก หวังว่าจะเคลียร์กันได้นะ ถึงตอนนี้เขาจะเสียใจที่พี่ภูทำแบบนี้ แต่ก็ให้อภัยได้เพราะความดี ความน่ารักของภูก็มีอยู่ และภูไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ ก็เอาไว้เป็นบทเรียนนะภู อึดอัดอ่ะ อยากให้ต่อวันนี้ พรุ่งนี้เลย  :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 09-09-2015 08:55:15
เข้าใจน้องฟิคนะลูก  :m15:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 09-09-2015 09:57:21
 :katai1: :katai1: กร๊าดดดดด กะแล้วเชียวว่าพี่ภูต้องเกิดเรื่องแบบนี้จนได้ งือออ นี่ยังดีนะที่ไม่เกินเลยอะไรกัน คนแต่งบอกว่าจะจบดราม่าแล้วตอนหน้าแต่ยังกลัวใจจริงๆไหนจะเรื่องปั๊มอีกจะมีอะไรตามมาอีกรึเปล่าเนี่ย สงสารฟิก โกรธพี่ภูเล็กน้อยและกลัวใจพี่ติน รายหลังนี่ยังดาร์กไม่สุดนะ  :ling3: :ling3: จะมีอะไรตามมาอีกมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 09-09-2015 10:21:07
หน่วงวะ  อ่านแล้วคือน้ำตจะไหลแต่มันไหลย้นนะ อัดแน่นอยู่ข้างใน

สงสารฟิกนะ  นางก็คิดมากของนางอยู่แล้ว แล้วมาเจอแบบนี้อีก  สุดๆอ่ะ

แล้วเรื่องต่อไปอะคืออะไร  กลัวจะผิดใจกันเรื่องอื่นอีก 

ก็รู้น่ะว่าแต่ก่อนฟิกไม่ใช่คนดี แต่ตอนนี้นางเปลี่ยนไปแล้วนะ   สงสารนางอะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 09-09-2015 14:25:21
 o22 พี่ภู ทำไมทำแบบนี้ เข้าใจว่าเมา แต่สงสารฟิกจัง
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 09-09-2015 14:31:33
 :katai1: ทำไหมภูทำอย่างนี้ ทำร้ายจิตใจหนูฟิกของเราได้ไง ไม่ยอมนะ   :z6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-09-2015 14:52:50
ปัญหานี้จบปัญหาใหม่มา
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๔ โกรธ - 9-9-58 [P.4] UP
เริ่มหัวข้อโดย: ชอร์ปสติ๊ก ที่ 09-09-2015 16:22:14
อ๋ออยย ติดตามเรื่องนี้มานานมากกก ดีใจมากกกกที่มีต่อค่ะ  :hao7:

ส่วนตัวเราชอบภูนะ ดูเป็นตัวปัญหาดี 55555 อันนี้เราชมนะ เราชอบที่ภูเป็นคนตรงๆ วู่วามๆ อาจจะทำอะไรผิดพลาดจากความวู่วามแต่ก็ทำให้เห็นว่าภูตั้งใจและอยากให้ปัญหาจบ

เราว่าเรื่องคราวนี้อยู่ที่ฟิกแล้วล่ะ ฟิกดีขึ้น ห้าวน้อยลงบ้าง แต่เพราะยังไม่มีปัญหามาพุ่งชนฟิกจริงๆ เลยจัดการอะไรผิดพลาดไปบ้าง เรื่องปั๊มเราว่าพลาดสุดเลย ฟิกไม่คิดอะไร แต่ปั๊มอาจจะคิดก็ได้ มันก็เหมือนกับกรณีของนนท์กับภูนี่แหละ ถ้าเรื่องมันกลับกัน ตินกับภูคงโกรธฟิก แต่สุดท้ายก็ยกโทษให้เหมือนเดิม

คราวนี้แค่มันเกิดกับภู เลยรู้สึกว่ามันไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่

ยังไงก็ตาม ขอเป็นแฟนคลับเรื่องนี้อย่างเหนียวแน่น ติดตามตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: 3P เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง - 9-9-58 [P.4] อัพ ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 09-09-2015 16:29:31

ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง






ผมไปเรียนคาบบ่ายด้วยใจที่สงบลงกว่าเดิมมากอย่างน่าประหลาด ทั้งๆที่ผมเจอเรื่องหนักมาแท้ๆ ตอนนี้ผมระแวงคิดมากจนเหนื่อยแล้ว ก็เลยไม่อยากจะคิดอะไร ปล่อยหัวให้ว่างๆบ้างก็ดี ส่วนเรื่องไอ้ปั๊มมันก็เงียบหายไปเลย ผมก็ปล่อยไปไม่ได้สนใจเท่าไหร่  แต่ระหว่างที่กำลังอยู่ในคาบพี่ฉัตรก็ส่งข้อความมา บอกว่าไอ้นนท์ไม่มาเข้าเรียน หายหัวไปไหนไม่รู้ ไอ้ภูก็สีหน้าไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ผมจ้องข้อความของพี่ฉัตรอยู่นาน จนไอ้เคนสะกิด

“เป็นไรวะ เหม่อๆ”ผมว่าผมเก็บอาการเนียนๆแล้วนะ มันยังสังเกตุได้อีกเหรอ ผมถอนหายใจออกมา

“กู...”ผมไม่รู้จะพูดอะไร และแปลกมากที่เสียงของผมมันสั่นขนาดนี้ ไอ้ชายกับไอ้เคนเบนความสนใจมาที่ผมเต็มที่

“กู...”

“มึงใจเย็น ค่อยๆเล่า”ไอ้เคนวางมือบนบ่าของผม เมื่อตั้งสติทำใจได้แล้วผมก็เริ่มเล่าให้พวกมันฟังทั้งหมดอย่างไม่คิดปิดบัง ผมพูดออกมาจนหมดทั้งความรู้สึกของผมในตอนนี้

“ตอนนี้กูเหนื่อยๆยังไงไม่รู้”ผมนั่งนวดขมับที่เต้นตุบๆด้วยสีหน้าว้าวุ้น ไอ้ชายกอดคอผมหลวมๆ

“มึงหนักมึงก็วาง กูเชื่อว่ามันรักมึงนะ ไม่งั้นมันไม่อยู่ติดทนนานกับมึงขนาดนี้หรอก อย่าร้องไห้นะมึง”ไอ้ชายเอามือมาดึงแก้มผม

“กูไม่ร้องหรอกเว้ย”ผมปัดมือมันออกก่อนจะซบหน้าลงกับท่อนแขน เหมือนไม่อยากให้พวกมันเห็นสีหน้าของผม ผมได้ยินไอ้ปลาคุยกับไอ้เคนแว่วๆเรื่องคอนเสิร์ตสล็อต แมทชีน แต่ผมคงไม่มีอารมณ์จะไปเที่ยวแล้ว เพราะถึงผมไปก็ทำให้เพื่อนๆหมดสนุกเปล่าๆ ไอ้ภูติดต่อผมมาอยู่หลายรอบแต่ผมบอกมันไปว่า ถ้าหายโกรธผมจะคุยกับมันเองตอนนี้ผมขออยู่เงียบๆคนเดียวก่อน ไอ้ภูมันก็เข้าใจดี คิดว่างั้นนะ เพราะตอนเย็นมันไม่ได้กลับหอ ไม่ได้กลับไปที่คอนโด แต่มันกลับไปที่บ้าน ผมรู้เพราะแม่มันโทรมาหาผม

[หนูฟิก มีเรื่องทะเลาะอะไรกับภูรึเปล่าลูก] เสียงจากปลายสายเต็มไปด้วยความเป็นกังวล

“ก็...นิดหน่อยครับ ลูกชายแม่ทำให้ผม...”เกิดอาการจุกพูดไม่ออกขึ้นมาทันที ผมได้ยินอีกฝ่ายถอนหายใจเบาๆ

[แม่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนะ แต่ภู...ปกติภูไม่ค่อยจะกลับบ้าน ทั้งพ่อทั้งแม่เลยตกใจ ถ้าไม่หนักหนาสาหัสจริง ภูคงไม่กลับมานอนที่บ้านแน่ แม่อยากให้หนูคุยกับมันดีๆนะลูก แม่ไม่สบายใจเลยที่เห็นเราสองคนเป็นแบบนี้]ผมพอจะนึกภาพออก คนที่ไม่ชอบกลับบ้านแบบมัน คงทำให้สองคนนั่นตกใจน่าดู

“ครับ ถ้าผมดีขึ้นแล้วผมจะคุยกับมันเอง ฝากบอกมันด้วยนะแม่ว่าดูแลตัวเองด้วย”ผมกลัวมันจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนป่วย

[ไว้แม่จะบอกให้เนาะ]แล้วจากนั้นก็วางสายไป ผมจ้องมองหน้าจอดำๆนั้นอยู่นาน ไอ้ตินเองก็ไม่ได้กลับมาที่หอมันคงจะรู้ล่ะมั้งว่าผมอยากอยู่เงียบๆคนเดียว แต่เสียงเคาะประตูปังๆก็ทำให้ผมต้องลุกไปเปิดประตูทั้งๆที่ยังแปลกใจอยู่ว่าใครมา

“ไอ้นนท์”ผมหน้าตึงทันทีที่เห็นมันยืนอยู่หน้าห้อง วินาทีต่อมาก็เปลี่ยนเป็นสะใจเมื่อเห็นสภาพยับเยินของมัน ไม่รู้ว่าฝีมือใครระหว่างไอ้ตินกับไอ้ภู

“มึงมาทำไม”ผมถามด้วยน้ำเสียงชิงชัง

“กูมาคุยกับมึง”มันพูดนิ่งๆ

“แต่กูไม่อยากคุย”

“กูแค่อยากมาอธิบาย”มันตอบด้วยสีหน้าที่เหมือนถูกบังคับมา ผมเม้มปากก่อนจะเบียดออกมาจากประตูห้อง ก่อนจะนำไอ้นนท์ไปยังโถงใต้หอ ผมไม่อยากให้มันเข้ามาในห้องหรืออีกนัยนึงคือผมไม่อยากให้มันเห็นข้าวของไอ้ภู ไม่อยากให้มันเห็นร่องรอยการดำเนินชีวิตซกมกของมัน

“ว่ามาเลย”ผมนั่งลงที่โต๊ะหินอ่อน ไอ้นนท์นั่งตามก่อนจะลูบแขนที่มีรอยช้ำ

“ก็เป็นความจริงที่กูกับพี่ภูไม่ได้มีอะไรกัน เมื่อคืนจู่ๆพี่เขาก็เป็นบ้าอะไรไม่รู้ อยากจะเมาขึ้นมาดื้อๆ ก็เลยตั้งวงกันจนดึก ไอ้พวก
นั้นก็กลับบ้านแต่กูยังไม่อยากกลับก็เลย...”

“เล่าคร่าวๆ กูไม่อยากฟังรายละเอียด”ผมขัดขึ้นมา มันคิดว่าผมอยากรู้เหรอว่ามันทำอะไรกันบ้าง ไอ้นนท์สูดหายใจลึกๆเหมือนข่มความโกรธ

“กูจงใจใช้น้ำหอมแบบเดียวกับมึงเอง พี่ภูเมา กูเลยเข้าหาพี่เขาก่อน แต่พี่เขาคงคิดว่ากูเป็นมึงล่ะมั้งถึงยอม แต่พอผ่านไปซักพักพี่เขาก็รู้ว่าไม่ใช่มึง ก็เลยไล่กูกลับ แต่กูดึงดันไม่ยอม ...เรื่องก็แบบนี้แหละ”ไอ้นนท์เม้มปากเหมือนกำลังชั่งใจอะไรอยู่

“กู กูขอโทษก็แล้วกัน”มันพูดเสียงเบา

“ใครให้มึงมา”อย่างมันคงไม่คิดจะมาอธิบายให้ผมฟังหรอก

“ไอ้ติน”ผมถึงบางอ้อทันที เดาว่าไอ้ตินคงเค้นเรื่องทั้งหมดมาจากไอ้นนท์แล้วแน่ๆ

“แล้วมึงมายุ่งกับของๆกูทำไม ทั้งๆที่รู้ว่ามันมีเจ้าของแล้ว”ผมมองมันด้วยสายตาชิงชังเหมือนเดิม ความรู้สึกของผมอัดแน่นอยู่ในอก ไอ้นนท์ยิ้ม ผมฉุนขึ้นมาทันที คว้าแขนข้างที่มีรอยช้ำของมันมาบีบแน่น

“มีแล้วก็เลิกได้ นั่นคือที่กูคิด”มันตีหน้าไม่สะทกสะท้าน ผมลุกขึ้นทันที

“ไปให้พ้นหน้ากู แล้วก็นะ...”ผมจ้องหน้ามันตรงๆ

“กูกับมันไม่เลิกกันง่ายๆหรอก ตอนนี้มึงอาจจะคิดว่ามึงมีหวังแต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ ถ้ามึงยังมาวุ่นวายกับมันอีกล่ะก็...มึงโดนหนักกว่านี้แน่”ขู่มันเสร็จผมก็เดินปึงปังขึ้นห้องทันที เชี่ยเอ้ย ว่าจะไม่หงุดหงิดแล้วนะ ผมใจชื้นขึ้นเล็กน้อยที่รู้ว่าไอ้ภูไม่ได้เริ่มก่อน



วันนี้ผมอยู่คนเดียวอีกตามเคย ไม่ได้เหงา แต่รู้สึกสงบมากขึ้น ไอ้ปั๊มไปกินเลี้ยงสายรหัสเพราะมันบอกว่าได้กินฟรี และมันเตรียมข้อแก้ตัวไว้แล้ว มันถ่ายรูปหมูเนื้อย่างมาอวดผมเรื่อยๆ ผมแอบแปลกใจอยู่เหมือนกันที่รู้ว่าไอ้ภูยังมางานเลี้ยงสายรหัส มันมีอารมณ์ไปลั้นลาอีกเหรอ เหอะ  ผมชั่งใจก่อนจะพิมพ์ถามมันไป

ฟิก:ไอ้ภูเป็นยังไงบ้าง

ปั๊ม:หน้าตาขวางโลกมาก อารมณ์ขึ้นๆลงๆ แถมยังมองผมแปลกๆอีก ผมกลัวพี่เขาว่ะ

ผมบอกให้มันลบแชทออกให้หมดด้วย เพราะผมเริ่มสังหรณ์ใจตงิดๆขึ้นมา ผมว่า...มันคงรู้ว่าผมคุยกับไอ้ปั๊มแล้วแน่ๆ ที่มันไปงานเลี้ยงอาจจะเพราะต้องการดูให้แน่ใจรึเปล่า ผ่านไปสองชั่วโมงไอ้ปั๊มก็ไลน์มาหาผมอีกแล้ว

ปั๊ม:ผมโดนต่อยอ่ะพี่ฟิก

ผมมองรูปถ่ายที่มันแนบมาด้วย ตามเดิมหน้ามันก็แย่อยู่แล้ว แต่ยิ่งโดนซ้ำเข้าไปแบบนี้ สงสารหนังหน้ามันเลยอ่ะ

ฟิก:มึงกลับได้ไหมวะนั่น แล้วใครทำมึง

ปั๊ม:ถ้ามึงมาก็รู้เอง

ข้อความนี้ผมรู้เลยว่าใครพิมพ์ มีอยู่คนเดียวที่เป็นไปได้มากที่สุด ...คือไอ้ภู ผมรีบไปร้านหมูกระทะที่พวกมันไปเลี้ยงกันทันที รู้สึกแย่เหมือนกันที่เป็นต้นเหตุทำให้มันเจ็บตัวเพิ่มแบบนี้ เมื่อมาถึงร้านแล้วผมก็กวาดตามองรอบๆ ร้านหมูกระทะปิดไปแล้ว แต่เงาดำตะคุ่มๆของหลายๆร่างตรงลานจอดรถด้านในสุดก็ทำให้ผมเดินเข้าไปหา ผมใจเต้นตึกๆ เมื่อเห็นคนที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นกรวดคือไอ้ปั๊ม ตามใบหน้าของมันมีรอยช้ำสีม่วง น่ากลัวกระจายอยู่เต็มใบหน้า ร่างสูงคุ้นตาที่ยืนกระดกเบียร์อยู่คือไอ้ภูสีหน้าของมันดูเหมือนใกล้จะฆ่าคนได้เลย แล้วข้างๆมันคือพี่ปากับไอ้เนม

“มาไวดีนี่ ทำไมกลัวกิ๊กมึงเจ็บมากนักเหรอ”มันเมาแล้วชัวร์ๆ มันโยนกระป๋องเบียร์ทิ้งก่อนจะสาวเท้าเข้ามาหาผม แต่มันก็ถูกพี่ปาดึงตัวกลับจนมันเซแทบยืนไม่อยู่

“มึงอย่าหาเรื่องกูได้ไหม มึงมีคดีติดตัวอยู่นะ”ผมชี้หน้ามันก่อนจะเข้าไปพยุงไอ้ปั๊มให้ลุกขึ้นมา

“เออ ใช่สิ กูมีคดี กูมันเหี้ยเองแหละ เพราะแบบนี้มึงถึงจะทิ้งกูใช่ไหมวะ”มันไม่ได้ตะคอกผมแล้ว แต่พูดด้วยเสียงอ้อแอ้เหมือนคนหมดเรี่ยวแรง มันเมามากเสียจนยืนด้วยตัวเองไม่ไหว แสดงว่าที่ไอ้ปั๊มเจ็บตัวต้องเป็นฝีมือของพี่ปากับไอ้เนมแน่ๆ

“มึงเมาแล้วพูดไม่รู้เรื่องว่ะ กูไม่อยากคุยกับมึง”คุยไปก็คงทะเลาะกันแน่ๆ

“มึงเลยแอบคุยกับมันใช่ไหม มึงบอกกูมาดิ ว่ามึงทำแบบนี้มานานหรือยัง หลอกกูมานานหรือยัง ห๊ะ”มันจะเดินเข้ามาหาผม แต่ก็ถูกไอ้เนมดึงๆไว้ก่อน

“ภูมึงตั้งสติหน่อยดิวะ”

“พวกมึงด้วย ปิดบังกู”มันยืนเซๆสะบัดแขนของไอ้เนมออก ผมไม่เคยเห็นมันเมามากขนาดนี้เลย เมาจนแทบยืนเองไม่ไหว หมดสภาพจริงๆ

“กูกับไอ้ปั๊มไม่ได้มีอะไรแบบมึงกับไอ้นนท์ก็แล้วกัน”ไอ้ปั๊มเขย่าแขนผมอย่างนึกกลัวๆ ไอ้ภูก้มหน้าลง จนผมมองไม่เห็นสีหน้าของมัน

“มึง...เลิกพูดเรื่องนี้เหอะว่ะ แค่นี้กูก็เจ็บมากพอแล้วนะฟิก”เสียงของมันอ่อนจนน่าใจหาย ผมมองหน้าพี่ปาอย่างหมดคำพูด

“กูก็เจ็บนะภู แต่ตอนนี้กูเหนื่อย มึงอย่าเป็นแบบนี้เลยนะ เพราะถ้ามึงเอาแต่ใช้อารมณ์และกำลังแบบนี้ กูบอกไว้เลยว่ากูจะไม่รักมึงแล้ว”ผมพูดเพื่อให้มันได้สติสักที แต่ไอ้ภูเดินเซๆเข้ามาหาผมก่อนจะคว้าไหล่ผมไว้เหมือนเป็นที่ยึดจนผมเซถอยหลังไปเหมือนกันเพราะน้ำหนักตัวของมัน

“กูขอโทษ กูไม่ดีเองแหละ ไม่มีเวลาให้มึง ไม่เคยนึกถึงจิตใจมึง กูขอโทษนะ แต่มึงอย่าเลิกรักกูเลย กูรักมึงมากนะฟิก มึงไม่รู้หรอกว่ากูทุกข์ใจมากแค่ไหน มึงอย่า...เลิกกับกูนะ กูสัญญาว่าจะไม่ทำให้มึงเสียใจ”มันโถมตัวเข้ามากอดผมที่ยังคงมึนงงอยู่จนผมล้มไปกองกับพื้นพร้อมๆกับมัน ผมตกใจมากจริงๆเมื่อเห็นว่ามันร้องไห้ สัมผัสเปียกแฉะอยู่ที่ข้างแก้มของผมทำให้รู้ว่าน้ำตาของมันเป็นของจริง ไม่ใช่เพราะผมตาฝาด ผมเม้มปากสั่นๆของตัวเอง

“ไอ้ภู มึงอย่าร้องดิ มึงขี้แงตั้งแต่เมื่อไหรวะห๊ะ”ผมกอดมันแน่นจนรับรู้แรงสั่นมาจากตัวของมัน

“กูมีแค่มึงคนเดียวนะ ฟิก มึงอย่าทิ้งกูเลยนะ มึงไม่ต้องรักกูก็ได้ แค่อยู่กับกู”

“ไอ้ภู กูรักมึงนะ ได้ยินไหมเนี่ย หึ เลิกร้องไห้ได้แล้ว”ผมประคองหน้ามันให้มองหน้าผม ผมปวดใจหนึบๆเมือเห็นมันน้ำตาไหลเหมือนเด็กๆ

“กูรักมึง เข้าใจไหม”ผมต้องพูดคำเดิมซ้ำๆจนมันหยุดร้องไห้ ตอนนี้เหมือนผมได้เห็นสภาพที่แท้จริงของมันเลย ผมเช็ดน้ำตา
ออกจากใบหน้าของมันอย่างเบามือก่อนจะประกบจูบเบาๆที่ริมฝีปากเย็นชื้นของอีกคน มันกดท้ายทอยของผมแน่นก่อนจะกดจูบย้ำลงมาอยู่นาน จนได้ยินเสียงลากเท้ากรอบแกรบดังอยู่ข้างๆ ผมถึงดันให้มันปล่อยผม เหลือบมองพี่ปากับไอ้เนม ที่ยืนหันหลังลากเท้าไปมาเหมือนทำตัวไม่ถูก

“กลับบ้าน”ผมพูดกับมันเบาๆ ไอ้ภูส่ายหน้า

“กูจะกลับหอ กูกลับได้ไหม”ผมมองหน้ามันได้ไม่นานก็พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะดึงให้มันลุกขึ้น มันเซน้อยๆแต่ก็คว้าตัวผมไปจับเหมือนเป็นไม้เท้า เรื่องไอ้ปั๊มคงต้องเคลียร์พรุ่งนี้ตอนที่มันฟื้น

“ฝากพาไอ้ปั๊มไปส่งหอหน่อยดิพี่”ผมพูดกับพี่ปา ไอ้ปั๊มทำหน้าตกใจก่อนจะส่ายหน้ากลัวๆ

“กูไม่ทำอะไรมึงหรอก ตอนนี้สถานการณ์ปกติแล้ว โทษทีว่ะ”พี่ปายกมือขึ้นเป็นเชิงขอโทษ

“โห...แม่งพูดง่ายจริงๆ”ได้ยินไอ้ปั๊มพึมพำ

“เดี๋ยวพวกกูไปส่ง ไอ้ฟิกมันต้องกลับกับผัวตัวจริงของมัน”นี่ถ้าไม่ใช่สถานการณ์ประดักประเดิกล่ะก็ ผมสวนไอ้เนมไปแล้ว มันสบตากับผมก่อนจะพึมพำเบาๆ

“มึงสุดยอดนะ ทำไอ้ภูร้องไห้ขี้มูกโป่งได้เนี่ย”ผมหลุดขำออกมา แต่ตอนนี้ไอ้ภูสิ้นฤทธิ์แล้ว มันยืนตัวอ่อนปวกเปียกอยู่ข้างๆผม

“เพื่อนร้องไห้ มึงดีใจเหรอ”พี่ปาเอ็ดเบาๆ ผมหันไปมองไอ้ปั๊ม

“มึงกลับกับพวกพี่เขานะ ไม่เป็นไรหรอก”ผมยิ้มให้มันวางใจ ก่อนจะค่อยๆพยุงไอ้ภูไปที่รถของมัน

“ผมฝากรถผมด้วยนะ”ผมโยนกุญแจรถของตัวเองไปให้พี่ปา แล้วหันมาจัดการกับไอ้ภูแทน ล้วงเอากุญแจรถมาจากมันได้อย่างยากลำบาก ก่อนจะจับมันยัด เข้าไปในรถ

“มึงจะไปไหน”มันคว้าข้อมือผมไว้ เมื่อผมจะเดินอ้อมไปอีกฝั่ง

“พามึงกลับหอไง ปล่อยก่อน”ผมแกะมือของมันออก โชคดีที่มันยอมปล่อยง่ายๆ เข้ามาในรถแล้วผมก็คาดเข็มขัดให้มัน

“มึงนั่งดีๆดิวะ”เหมือนลิงเลยว่ะ กว่าจะถึงหอได้ก็เล่นเอาลำบากเพราะต้องคอยจอดรถให้มันอ้วกตลอด ผมจอดรถที่หน้าหอ แสงจากไฟหน้ารถส่องให้เห็นว่าไอ้ตินนั่งรออยู่ที่โต๊ะด้านหน้าเหมือนรอผมอยู่

“เมาใช่ไหม”ไอ้ตินถามเหมือนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่ไอ้ตินเข้าไปคุยกับไอ้ภูผมไม่รู้ว่ามันคุยอะไรบ้าง แต่ตอนที่มันออกมาสีหน้ามันนิ่งจนผมเดาไม่ออก ที่เดาได้คือมันต่อยไอ้ภูไปสามหมัด

“มึงรู้ได้ไง”

“พี่ปาโทรบอกกูให้ไปเล่นงานกิ๊กมึง”ผมทำหน้างง

“แต่เดี๋ยวค่อยเคลียร์กันพรุ่งนี้”มันยิ้มให้ผม แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำผมขนลุกแปลกๆขึ้นมา จากนั้นมันก็ไม่พูดอะไรอีกเพราะมันมาช่วย
ผมลากพี่ภูขึ้นไปบนห้อง พอถึงห้องแล้วไอ้ตินก็ปล่อยไอ้ภูลงบนเตียงเต็มแรงก่อนที่มันจะถอนหายใจ

“ที่เหลือมึงจัดการเองนะ”มันหายเข้าไปในห้องน้ำ ผมเลยต้องดึงกางเกงยีนส์แน่นๆของไอ้ภูออกอย่างยากลำบาก มันนอนนิ่งเหมือนศพเลย อย่าลุกมาอ้วกตอนนี้ก็แล้วกัน ผมนั่งมองสภาพของไอ้ภูอย่างเหม่อลอย ถ้าถามว่าตอนนี้ผมยังโกรธมันไหมก็ยังโกรธอยู่แต่ก็ลดน้อยลงแล้ว ถ้าผมยกโทษให้มันง่ายๆเดี๋ยวมันก็ได้ใจน่ะสิ ต้องทำให้มันรู้ว่าเรื่องครั้งนี้ร้ายแรงมาก จะได้ไม่เกิดพลาดแบบนี้ขึ้นมาอีก ไอ้ตินออกมาจากห้องน้ำพอดี ผมนึกไปถึงเรื่องไอ้ปั๊ม มันเองรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนที่พี่ปาโทรบอกหรือรู้มานานแล้ว

“มองอะไร”มันถามเสียงนิ่งๆ ท่าทางแบบนี้แสดงว่าอารมณ์ของมันยังไม่คงที่แน่

“กำลังคิดอยู่ว่ามึงรู้เรื่องไอ้ปั๊มนานยัง”ผมเสี่ยงถามไป มันหยุดมือที่กำลังเช็ดผม

“รู้พร้อมๆกับเรื่องไอ้เบลล์ ตอนแรกกูก็เฉยๆเพราะมึงคงอยากส่องพี่ภูเพื่อความสบายใจ แต่กูเริ่มหงุดหงิดที่มึงกับมันเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกัน กินข้าวกับกูไม่อิ่มเหรอฟิก ถึงต้องไปแดกก๋วยเตี๋ยวกับมันต่อ”ไอ้ตินพูดด้วยเสียงนิ่งๆพลางเช็ดผมไปด้วยเหมือนกำลังคุยเรื่องดินฟ้าอากาศธรรมดา ผมแอบกลืนน้ำลายเริ่มจะกลัวๆมันขึ้นมาแล้ว

“มันบอกว่าจะเลี้ยงขอบคุณกูไง แค่นั้นแหละ กูไม่ได้คิดอะไรกับมันจริงๆ”ผมจ้องหน้ามันตรงๆ ไอ้ตินเดินเข้ามาใกล้ผมก่อนจะหรี่ตามองเพื่อจับพิรุธของผม

“ไว้ค่อยคุยพรุ่งนี้”ผมกระพริบตาเมื่อมันผละออกไป มันปิดไฟก่อนจะเปิดไฟที่หัวเตียงไว้ ผมทิ้งตัวนอนข้างๆไอ้ภู มันสลบไปเรียบร้อยแล้ว ท่าทางเหมือนเด็กที่นอนหลับอย่างเป็นสุข มาคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นผมไม่คิดจริงๆเลยนะว่าผู้ชายอย่างมันจะเสียน้ำตาเพราะเรื่องนี้ จะเพราะว่ามันเมาหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มันทำให้ผมตกใจมาก ไปเล่าให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อแน่ๆ ผมกลับมาคิดเรื่องไอ้นนท์อีกครั้ง...จากรอยยิ้มครั้งล่าสุดของมัน ก็คงจะประมาทมันไม่ได้ มันคงหาโอกาสเข้ามาป่วนอีกแน่

“ฟิก...”ไอ้ตินเรียกขึ้นมาในระหว่างที่ผมใกล้จะหลับเต็มแก่

“หือว่าไง”ผมพึมพำตอบ

“มึงเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าเป็นยังไงเวลาที่ถูกคนที่ไว้ใจทำร้าย”คำพูดของมันทำเอาผมตาสว่าง ก่อนจะหันไปมองเสี้ยวหน้าของมัน

“อือ เข้าใจแจ่มแจ้งเลยว่ะ”มันเหมือนมีไฟมาสุมอก เหมือนมีคมเล็บมากรีดแทงจนใจเจ็บแสบ พวกมันสองคนทนมาได้ยังไงก็
ไม่รู้เวลาที่ผมทำตัวแย่ๆแบบนั้น คิดแล้วน้ำตาก็รื้นขึ้นมาทันที

“ที่ผ่านมากูไม่เคยนึกถึงใจพวกมึงเลย...กูขอโทษนะ”

“เรื่องแย่ๆกูไม่อยากจำ”ไอ้ตินลูบหัวผมเบาๆก่อนจะขยับมาจูบหน้าผากผม

“นอนได้แล้ว”คงฟังดูอบอุ่นถ้ามันไม่ต่อด้วยประโยค

“พรุ่งนี้ค่อยเคลียร์กัน”




เป็นเช้าที่ค่อนข้างแปลก ผมตื่นก่อนพวกมันเสียอีก ผมค่อยๆเลื่อนตัวลงจากเตียงแต่ก็ถูกอ้อมแขนของไอ้ภูคว้าไปกอดแน่น

“ปล่อยกูนะ ไอ้ภู”ผมทำเสียงนิ่ง ก่อนจะตีหน้าเรียบเฉยใส่มัน ไอ้ภูทำตามที่ผมบอกอย่างว่าง่าย

“มึงยังโกรธกูอยู่เหรอ”มันถามเสียงเบา

“มึงคิดว่าไงล่ะ เมื่อวานก่อนกูเจอมึงนอนกับไอ้นนท์มาวันนี้จะให้กูยิ้มระรื่นเหรอ”ไอ้ภูเม้มปากก่อนจะมองหน้าผม

“มึงเกลียดกูมากเลยใช่ไหม”

“อือ กูเกลียดมึง โดยเฉพาะเมื่อวาน กูโคตรเกลียด”ผมรู้สึกถึงหน้าอกที่สะท้อนขึ้นลงของมัน ไอ้ภูเหมือนจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง ดูท่ามันคงจำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ค่อยได้แน่

“แล้ววันนี้ ตอนนี้มึงยังเกลียดกูอยู่ไหม”มันถามเสียงเบา สีหน้าดูน่าสงสาร แต่ผมต้องใจแข็ง จะมาอ่อนให้มันง่ายๆไม่ได้หรอก

“เกลียดแต่น้อยกว่าเมื่อวาน”ผมขยับลุกมาจากตัวมัน

“เดี๋ยว...แขนมึงโดนอะไรมา”มันคว้าแขนบวมๆช้ำๆของผมไปดู มันขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะใช้มือลูบเบาๆ สีหน้าของมันดูครุ่นคิด ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นขุ่นน้อยๆ เหมือนเริ่มจะจำอะไรได้

“ตื่นกันแล้วเหรอ”เสียงไอ้ตินแทรกมา มันบิดตัวไปมา

“ดี จะได้คุยกันให้รู้เรื่อง วันนี้ไม่มีข้าวเช้า”มันพูดเสียงตึง ไอ้ภูดูขุ่นเคืองอยู่เหมือนกันเวลามองไอ้ติน มันมีเรื่องอะไรกันแน่นะ ไอ้สองคนนี้...ผมเข้าไปล้างหน้าล้างตา ไอ้ภูตามเข้ามาด้วยสภาพหน้ามันๆหัวยุ่งๆแบบเดิม มันมองหน้าผมแต่ไม่ได้พูดอะไร ผมก็แปรงฟันไปเงียบๆก่อนจะบ้วนปาก ผมแอบเหล่มองไอ้ภูเห็นมันลูบตรงโหนกแก้มสีหน้าดูเจ็บๆ ไอ้ตินคงต่อยโดนตรงนั้นล่ะมั้ง มันยกยิ้มก่อนจะพูดเมื่อจับได้ว่าผมมองอยู่

“ไอ้ตินมือหนักใช่เล่นเหมือนกันนะ”ผมแค่หัวเราะเยาะใส่มันก่อนจะออกมาจากห้องน้ำ ไอ้ตินกำลังจิบโอวัลตินควันฉุยอยู่เมื่อมันเห็นผมออกมามันก็ชี้ไปที่โซฟา ผมถอนหายใจก่อนจะทำตาม ส่วนไอ้ภูเดินเลยไปชงกาแฟในครัว

“เรื่องไอ้ปั๊มกูจะบอกไว้เลยว่ากูไม่ได้กิ๊กกับมัน ถ้าพวกมึงไม่เชื่อกูก็อย่ามาถาม กูรำคาญ!”ผมกระแทกเสียงใส่ แวบนึงผมเห็นสีหน้าตกใจของไอ้ติน มันคงไม่คิดว่าผมจะใช้น้ำเสียงแบบนี้กับมัน ไอ้ภูเดินมานั่งที่โซฟาอีกตัว มันเลื่อนโทรศัพท์ของมันมาให้ผม

“มีคนส่งมาให้กู”ผมเหลือบมองโทรศัพท์ของไอ้ภู เป็นรูปผมกินก๋วยเตี๋ยวกับไอ้ปั๊ม

“ไอ้โจส่งให้ใช่ไหม”ผมมองหน้าไอ้ติน ผมคิดว่ามันน่าจะได้รับเหมือนกัน

“อย่างที่กูพูดไปแล้ว มันแค่อยากเลี้ยงขอบคุณกู กูไม่ได้คิดอะไรกับมัน”ไอ้ภูขมวดคิ้วเหมือนสงสัย

“ขอบคุณเรื่องอะไร”

“กูให้มันคอยส่องมึง”ผมมองหน้ามันตรงๆ ไอ้ภูอึ้งไปพักหนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งๆที่ไม่มีอะไรตลกเลย สีหน้าของมันแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามันเสียใจ

“นี่กูไว้ใจไม่ได้ในสายตาของมึงขนาดนั้นเลยเหรอวะ”ผมไม่ได้ตอบ

“แล้วพวกมึงล่ะ ไว้ใจกูกันรึเปล่า”ผมมองพวกมันสองคนสลับไปมา

“ตั้งแต่คบกับพวกมึง กูไม่เคยคิดจะมีคนอื่นเลยนะ อาจจะจริงที่กูแซวคนนู้นคนนี้แต่มันก็แค่นั้น ไม่มีอะไร”เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะก้มมองโทรศัพท์ของไอ้ภู

“มึงได้รูปนี่ตอนไหน”ไอ้ภูถอนหายใจ

“ก็คืนที่มีเรื่องนั่นแหละ กูเห็นรูปแล้วโมโห ก็เลยกินเหล้า...”ผมเริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้ คล้ายๆเหมือนผมเป็นต้นเหตุเลยนะ หึๆ

“โอเค เรื่องไอ้ปั๊มกูเคลียร์แล้ว ถ้ามึงยืนยันว่าไม่มีอะไร กูเชื่อมึง แต่ถ้ามึงจะออกไปไหนกับมัน มึงช่วยบอกกูก่อนได้ไหม กูไม่ชอบที่ได้ยินมาจากคนอื่น”ไอ้ตินพูดเบาๆ ผมได้แต่พยักหน้าให้มัน จนถึงตอนนี้ไอ้ภูกับไอ้ตินยังไม่คุยกันเลย ผมไม่ชอบ
บรรยากาศอึดอัดแบบนี้จึงพูดเสริมขึ้นมา

“กูไม่รู้ว่ามึงสองคนทะเลาะอะไรกันนะ แต่กูอึดอัด”ไอ้ภูตวัดตามองไอ้ติน ที่ยืนตีหน้าเรียบเฉยอยู่

“มึงก็บอกแฟนมึงสิว่าอย่าล้ำเส้นกู”ไอ้ภูใช้น้ำเสียงประชดประชัน ซึ่งผมไม่ชอบคำว่าแฟนของมันจริงๆ

“ผมไม่ได้ล้ำเส้น แค่พูดตามความจริง”ไอ้ภูลุกมาเผชิญหน้ากับไอ้ตินแล้วตอนนี้ ผมใจตุ้มๆต่อมๆ กลัวพวกมันมีเรื่องกัน

“สำหรับกูนั่นเรียกว่าล้ำเส้น กูเข้าใจว่ามึงรักไอ้ฟิก แต่ระวังคำพูดของมึงด้วย”ไอ้ตินชักสีหน้าโกรธเคือง

“ผมแค่เตือนพี่เฉยๆ ว่าถ้าพี่ทำมันเจ็บอีก พี่ก็ไม่สมควรอยู่ข้างมัน”

“เชี่ยติน มึงคิดว่ามึงประเสริฐนักเหรอ”ไอ้ภูเข้าไปกระชากคอเสื้อไอ้ตินเต็มแรง แต่โอวัลตินร้อนๆก็ถูกเทใส่หน้าอกไอ้ภูจนมันต้องถอยออกมา แต่แค่ครู่เดียวมันก็ต่อยไอ้ตินไปเต็มหมัด

“พวกมึง...”ผมลุกจากโซฟาจะเข้าไปห้ามมันสองคนแต่ก็ไม่กล้าพอ กลัวโดนลูกหลงด้วยเพราะตอนนี้มันสองคนไม่ยอมแพ้กันเลย แต่มีแววว่าไอ้ตินจะเจ็บหนัก เพราะมันตัวบางกว่าไอ้ภู

“เฮ้ย พวกมึงคุยกันดีๆ”ผมไม่ชอบเห็นมันสองคนมาตีกันเพราะผมเลยจริงๆ ผมหันไปมองรอบๆเพื่อหาอาวุธมาหยุดหมาบ้าสองตัว ไอ้ตินก็รู้ว่าสู้แรงไอ้ภูไม่ได้ก็ยังไม่ยอมหยุดอีก มีเสียงดังตุบ เพราะไอ้ตินล้มกระแทกกับพื้นเสียงดัง ข้าวของในห้องพวกมันก็ทำพังหมด ผมปาแก้วกาแฟลงพื้นเสียงดังเพล้ง แต่ก็ไม่เป็นผล ไอ้ตินคว้าโคมไฟมาปาใส่ไอ้ภูแต่มันหลบทัน ผมปรี่เข้าไปในห้องน้ำ หมากัดกันต้องเอาน้ำสาด ผมต่อสายยางกับก็อกน้ำก่อนจะลากสายยางออกมาจากห้องน้ำฉีดใส่พวกมันรัวๆ

“พวกมึงจะหยุดไหม”ผมฉีดใส่หน้าพวกมันอยู่นานจนเมื่อเห็นพวกมันสงบแล้วผมจึงหยุด สภาพห้องเละสิ้นดี มันสองคนยังมองหน้ากันอยู่ ผมเลยเข้าไปยืนกั้นกลางระหว่างพวกมันก่อนจะประเคนฝามือใส่พวกมันไปคนละเพี๊ยะ

“หายบ้ากันรึยัง”ผมขึงตามองพวกมันสองคน อย่าให้กูเล่นบทโหดบ้างนะ

“พวกมึงก็รู้ว่าไม่ชอบให้ทะเลาะกัน ก็ยังมาทำต่อหน้ากูอีก”ผมมองสภาพมันสองคนอย่างระอาใจ แต่ดูเหมือนการใช้กำลังจะทำให้พวกมันได้ปลดปล่อย สีหน้าขัดเคืองเริ่มหายไป

“ผมขอโทษแล้วกันที่พูดยั่วโมโหพี่”ไอ้ตินมองหน้าไอ้ภูก่อนที่มันจะเดินกะเผลกๆไปที่เตียง ผมกลับมามองไอ้ภูมันกำลังเช็ดแผลเลือดออกที่หน้าผาก รอยฝามือที่ผมประเคนไปให้เห็นเด่นชัด นอกนั้นก็มีรอยช้ำๆเขียวๆ ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ให้พวกมันจัดการตัวเองกันไปล่ะกัน ผมออกมารับลมที่นอกระเบียง เดี๋ยวนี้ระเบียงหอพักมีมุ้งลวดมากั้นระเบียงเพื่อความปลอดภัยแล้ว ไอ้เรื่องปีนไปมาหากันนี่ ใช้ไม่ได้แล้ว



หัวข้อ: Re: 3P เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน -ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง - 9-9-58 [P.4] อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 09-09-2015 16:31:35




หลังจากที่พวกมันวางมวยกันมันก็กลับมาคุยกันตามปกติเหมือนเรื่องที่มันทำห้องพังไม่เคยเกิดขึ้น ผมก็งงๆอยู่แต่ก็ดีแล้ว ผมไม่อยากอึดอัด ไอ้ภูยังคงอยู่ที่หอตามปกติแต่มันระวังพฤติกรรมมากขึ้น ไม่ค่อยมากวนใจผมเท่าไหร่ ซึ่งก็ดีไปที่มันยังภาษาคนรู้เรื่อง ผมกับไอ้ปั๊มเริ่มไม่ได้ติดต่อกันแล้ว คงเพราะไม่มีเรื่องอะไรให้รายงาน ได้ยินมาว่าไอ้นนท์ไปขอโทษไอ้ภู แต่มันไม่ชอบพฤติกรรมล้ำเส้นของไอ้นนท์ และมันจงใจสร้างเรื่องมาป่วนความสัมพันธ์ของผมกับไอ้ภู เชี่ยนี่แม่งร้ายมากๆ มันส่งรูปภาพที่นอนกับไอ้ภูมาให้ผมดูด้วย

และนั่นเป็นฟางเส้นสุดท้ายของไอ้ภู มันเล่นงานไอ้นนท์และลากมันมาขอโทษผมในสภาพระบมไปทั้งตัว และไอ้ภูย้ายตัวเองออกมาจากพวกคุณชายเหล่านั้น บางทีมันก็ไปไหนมาไหนคนเดียวหรือไม่ก็ไปกับเพื่อนคนใหม่ของมันที่ชื่อเปากับกร ไอ้สองคนนี้สไตล์เดียวกับไอ้ภูเลย ห่ามๆเหมือนกัน ทำผมเบาใจไปได้เยอะ มันเองก็พยายามมาคุยกับผมบ่อยๆจนนี่ก็ปาไปสามอาทิตย์แล้วที่ผมทำทีเหมือนยังโกรธมันอยู่ 

จนวันหนึ่งที่ผมอยู่หอกับไอ้ตินสองคนและไอ้ภูหายหัวไปกับพวกพี่ปา เบอร์แปลกๆก็โทรเข้ามาหาผม พักนี้ผมเป็นโรคหลอนเบอร์แปลกๆครับ ไม่รู้ทำไม

“เฮ้ย เบอร์ใครก็ไม่รู้อ่ะ”ผมสะกิดๆไหล่ให้ไอ้ตินรับแทน มันขมวดคิ้วละสายตามามองผมแว๊บนึง ก่อนจะสนใจหนังยิงสะนั่นเมืองต่อไป

“มึงก็รับดิ เผื่อกิ๊กพี่ภูโทรมา”เดี๋ยวนี้มันกล้าล้อจุดดับในชีวิตของผมแล้ว ยิ่งรู้ว่าผมไม่ชอบใจ มันก็ยิ่งชอบแหย่ ผมมองมันอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ก่อนจะกดรับโทรศัพท์

“สวัสดีครับ”เบอร์แปลกต้องพูดเพราะๆหน่อย

[ฟิกใช่ไหม] ผมสะดุ้งโหยงเลย ใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยเพราะคนที่โทรมาด้วยเสียงวางอำนาจแบบนี้คือพ่อไอ้ภู ไอ้ตินหันมามองผมด้วยสายตาตกใจเมื่อผมอ้าปากพะงาบๆบอกมันว่าใครโทรมา

“เอ่อ ใช่ครับ คุณลุง เอ้ย คุณพี่”ไอ้ตินถีบผมไปหลายดอก

“ครับ คุณพ่อ ผมฟิกเอง”ผมหัวเราะแห้งๆ เมื่อปลายสายเงียบไปนาน

[ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอนะ]เสียงนั้นดุมา

“ขอโทษครับ พอดีผมตื่นเต้นไปหน่อย ไม่รู้จะเรียกพ่อแบบไหนดี กลัวจะไม่ถูกใจ”ได้ยินเสียงเหอะดังมาเบาๆ

“ว่าแต่มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”ใจจริงสงสัยมากว่าคุณพ่อโทรหาผมทำไม

[เลิกกับไอ้ภูแล้วเหรอ] ผมใจหายแวบอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงพ่อมัน

“ก็…เปล่านี่ครับ”ผมเริ่มใจเสียแล้วสิ

[เหรอ แล้วทำไมมันถึงเมาเหมือนหมากลับมาบ้านแบบนี้ล่ะ มันเป็นแบบนี้เกือบทุกวันเลย] ไหนมันบอกผมว่ากลับไปนอนที่คอนโด ไอ้ตินหรี่เสียงโทรทัศน์ลงก่อนจะหันมาสนใจผมแทน

“ก็…”

 [แต่ก็ดีแล้ว ถ้ารักแบบนี้มันไม่ยืดยาวอะไร ก็เลิกๆกันไปตอนนี้เลย ก็คงดีกว่า]

“ผมกับมันยังไม่ได้เลิกกันนะครับ ผมแค่ขอเวลาทำใจเฉยๆเอง ที่มันเมาแบบนั้น…ผมก็”

[เธอไม่สนใจมันล่ะสิ ฉันพูดตามตรงเลยนะ ถ้าไม่อยากคบกับมันก็เลิกกันไปตอนนี้เลย] ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ

“ผมแคร์มันมากนะพ่อ ผมไม่เลิกกับมันหรอก”ปลายสายเงียบไปอยู่นาน

[ไม่เข้าใจจริงๆว่ามันชอบอะไรเธอนักหนา] เหมือนพึมพำกับตัวเองมากกว่าคุยกับผม แล้วสายก็ตัดไป ผมนั่งจ้องโทรศัพท์มึนๆ ก่อนจะเงยมองไอ้ตินที่พยายามปกปิดรอยยิ้มด้วยหมอนอิง

“มึงยิ้มอะไร กูเครียดนะ พ่อมันโทรหากูแบบนี้เนี่ย มาพูดถึงเรื่องเลิกอีก อย่าบอกนะว่าจะสั่งให้มันเลิกกับกูอ่ะ ลูกตัวเองทำผิดแท้ๆ ยังเข้าข้างอีก มันเมาเป็นหมาไม่ใช่ความผิดกูซะหน่อย”ผมกดโทรศัพท์โทรหามันไปด้วย รออยู่นานมันก็รับสายด้วยเสียงมึนๆ

[คิดถึงภูเหรอออ]

“มึงเมาอีกแล้วเหรอ”ผมถามมันเสียงอ่อน

[กูแค่จิบแก้เครียดเฉยๆ ไม่ได้เมาหรอกจริงๆ] แต่เสียงมัน ผมว่ามันจิตหลุดไปไกลแล้วนะ

“ตับแข็งตายก่อนก็ไม่รู้ด้วยนะ”ไอ้ภูนี่ไม่รักตัวเองเอาซะเลย

[กูรู้น่าาา กูคิดถึงมึงว่ะ ไม่กล้าไปเจอมึง เดี๋ยวโกรธกูอีก กูไม่อยากมองหน้าบึ้งๆของมึง พักหลังมานี้มึงไม่ยิ้มให้กูเลยนะ] มันพูดเสียงเบาๆ

“ทำตัวดีๆสิ”

[เออ วันพรุ่งนี้…] แล้วมันก็เงียบไปพร้อมเสียงถอนหายใจ

“พรุ่งนี้ทำไม”ผมเงยหน้ามองไอ้ตินที่ยิ้มอยู่ มันบอกผมเบาๆว่าพรุ่งนี้มีงานเกษตร

[เปล่า แค่นี้นะ กูนอนฝันดีแล้ว] ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรมันก็วางสายไปในทันที

“พรุ่งนี้ไปเที่ยวงานด้วยกันป่ะ กูต้องเฝ้าบู๊ธขายต้นไม้”มันพูดงงๆนะ

“จะเที่ยวได้ไง มึงต้องเฝ้าบู๊ธนี่”ไอ้ตินตบหัวผมเบาๆ

“เดี๋ยวกูขอแลกกะกับเพื่อน”แต่รอยยิ้มของมัน ดูเหมือนมีอะไรมากกว่านั้น

“ดูก่อน ถ้างานกูเสร็จทันก็จะแวะไปแล้วกัน”


งานเกษตรที่คณะไอ้ตินจัดทั้งหมดสี่วัน ทำให้รถติดมากเป็นพิเศษเพราะใช้ถนนสายหนึ่งของมอ.มาจัดตั้งร้านขายของ ผมยังไม่มีโอกาสได้ไปเลยสักวัน ทั้งที่รับปากมันไว้แล้ว และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วด้วย มันย้ำว่าต้องมาให้ได้ แต่เพราะโปรเจคงานวิชาผังเมืองทำให้ผมต้องขยันเป็นพิเศษหากต้องการเกรดดีกว่านี้ ผมเหม่อมองไปนอกอาคารเรียน เสียงเพลงจากซุ้มขายของดังแว่วมา สามวันแล้วที่ไอ้ภูไม่ได้ติดต่อมา

“ไปเดินงานป่ะ กูหิว”ไอ้เคนชวนขึ้นมา ผมหันไปมองมันที่ลุกจากโต๊ะมาบิดขี้เกียจ ผมก้มมองผังรอบมอ.ที่ปริ้นออกมาดูแบบด้วย
สายตาเบลอๆ คงต้องพักจริงๆแล้วล่ะ ไอ้ชายทำเสียงประหลาดๆระหว่างที่ยืดแข็งยืดขา

“มึงเป็นไรวะ ฟิก สองสามวันนี้สีหน้ามึงดูไม่ดีเลย”

“เปล่านี่”ผมรู้สึกเหมือนแห้งเหี่ยวยังไงก็ไม่รู้

“โหย กูล่ะเบื่อคำตอบนางเอกนี่จริงๆ มึงเป็นอะไรวะ เพื่อนกูปกติไม่ใช่หมาหงอยแบบนี้นะเว้ย”ไอ้ชายนั่งลงข้างๆผม สีหน้าดูเป็นห่วง ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเล่าให้มันฟัง

“เล่นตัวมาก มันไปคั่วไอ้นนท์จริงๆแล้วมั้ง”

“สัดชาย อย่ากวนตีนกู”ผมปาขวดกาวตาช้างใส่มัน ไอ้พวกนี้ก็เหมือนกันรู้ว่าผมเกลียดชื่อนี้ ยังจะพูดถึงอยู่ได้

“เอาเหอะ มึงอย่าเพิ่งคิดมาก ไปหาอะไรทำให้สบายใจก่อนดีกว่า”มันฉุดผมจากเก้าอี้ให้ตามพวกมันไป

“เดี๋ยวๆ”ผมหันไปคว้าเสื้อคลุมมาใส่

“แดดหมดแล้วพ่อคุณ จะมากลัวดำอะไรตอนนี้”ไอ้เคนตบหัวผมไปหนึ่งที ผมรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง เพราะกลิ่นหอมๆของอาหารที่
ขายในงาน คนเยอะตามปกติทั้งเด็กในมอและคนจากด้านนอก

“ว่าไงตัวเอง”ผมสะดุ้งโหยงเมื่อมีมือมาตะปปที่ไหล่ผมเต็มแรง พอหันไปเจอก็……

“เหี้ย”พ่นคำหยาบใส่ทันที มันคือไอ้เนมครับ

“สัดนี่ทักกูดีๆไม่ได้เหรอ”

“แล้วมึงมาทักกูอะไรแบบนี้ล่ะ มาตัวองตัวเอง”ผมทำท่าขนลุกจนพองใส่มัน ไอ้เนมนี่คงเส้นคงวาเหมือนเดิมคือสไตล์การแต่งตัว ผมมองไปรอบๆตัวมันเหมือนหวังว่าจะได้เห็นคนอื่นด้วย

“มองหาใครเหรอ”มันแย้มยิ้มอย่างรู้ทัน

“มาทางนี้ ไอ้ตินให้กูมาตามมึง”ผมย่นคิ้วก่อนจะตามไปงงๆ ไอ้เคนกับไอ้ชายเดินรั้งท้าย เจอไอ้ขวัญและแก๊งค์สามปอ.ด้วย มันดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ แถมไอ้ขวัญยังถือป้ายชื่อของใครมาด้วย ผมคงตาฝาดไปแน่ๆ

“ไปไหนวะ”ผมถามเมื่อมันเดินมายังโซนเวทีร้องเพลงขนาดเล็กๆ

“เออน่า”มันยังคงลากผมต่อไป ผมเหลียวมองไอ้สองตัวที่เดินตามหลังผมมา ไอ้เนมพาผมเบียดแทรกผู้คนมายังที่นั่งด้านหน้า
ไอ้ตินนั่งรออยู่แล้ว กับพี่ปา

“มึงมาดูใคร”ก็นี่มันเวทีร้องเพลงนี่นา ผมมองไปรอบ ๆไอ้ขวัญยืนอยู่อีกด้านโบกมือให้ผม สังเกตุๆดูแล้ว แถวนี้มีแต่เด็กวิศวะนี่
หว่า ผมกวาดตามองหาใครอีกคนอย่างมีความหวัง แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาหัวของไอ้ภูเลย ไอ้ตินยื่นแก้วน้ำปั่นมาให้ผม

“คนที่มึงมองหาอยู่นู่น”มันพยักเพยิดไปที่บนเวที เกิดเสียงกรี๊ดและเสียงตบมือเกรียวกราวจากกลุ่มวิศวะ ผมอ้าปากค้างน้อยๆเพราะอาการมึนงง ไอ้ภูมันขึ้นไปทำอะไรบนนั้น สีหน้ามันดูแช่มชื่นดี มันใส่เสื้อยืดของคณะมันกับกางเกงยีนส์ขาสั้นธรรมดาๆ แต่ทำไมมันดูดีจังวะ เฮ้ย ไม่ได้ๆ ผมจะใจอ่อนไม่ได้

“มันไปทำอะไรบนนั้น”ผมเห็นไอ้ขวัญยกป้ายชื่อไอ้ภูขึ้มาโบกเย้วๆ ผมก็เริ่มพอจะเข้าใจลางๆ ไอ้ภูมันคงลงประกวดร้องเพลง แต่อย่างไอ้ภูเนี่ยนะ มันกระแอมกระไอเล็กน้อยก่อนจะนำตัวเอง ไม่มองหน้าผมด้วย หยิ่งเหรอไอ้สัด หมั่นไส้มันครับ คนกรี๊ดเยอะ

“สวัสดีครับ ผมเป็นตัวแทนจากวิศวะ ภูผา ไตรวิทย์ หรือภูนะครับ”ผมมองรอบตัว จากสีหน้าไอ้เพื่อนสองตัวและคนอื่นๆนั้นคงจะรู้อยู่แล้ว

“มึงเล่นอะไรของพวกมึงเนี่ย”ผมทำท่าจะลุกขึ้นยืน แต่ไอ้ตินก็ฉุดให้ผมนั่งลงต่อ

“ไม่ได้เล่น พี่เขาอยากให้มึงมาดูนะ คิดถึงไม่ใช่เหรอ มาอยู่ตรงหน้าแล้วยังมาวางท่าอีก”ไอ้ตินพูดพลางหัวเราะ

“ก็กูโกรธมันอยู่ มึงนี่เปลี่ยนข้างไวจริงๆนะ มันให้สินบนมึงเยอะล่ะสิ”

“กูเบื่อเวลามึงนั่งซึมๆ ยังไงพี่เขาก็สำนึกแล้ว วางท่ามากเดี๋ยวพี่ภูไปจริงๆอย่ามาร้องไห้ล่ะ”มันตบบ่าผมเบาๆ ก่อนจะใช้มือดันคางผมให้หันไปมองไอ้ภู

“กูไม่ร้องหรอก ไม่ใช่เด็กขี้แยเหมือนไอ้ภู”ไอ้ตินเบิกตาโตเลย

“มึงว่าไงนะ”ผมไม่ทันได้ขยายความไอ้ภูก็กระแอมขึ้นมาอีกครั้ง

“ให้กำลังใจผมด้วยนะครับ”คราวนี้มันหันมามองผม พอได้ยินอินโทรเพลงขึ้น ผมนี่อยากจะลุกหนี หรือไม่ก็หายตัวไปซะตอนนี้เลย

“ผมอยากมอบเพลงนี้ให้คนสำคัญของผม”




จะบอกอีกทีว่าฉันรักเธอ จะบอกให้ฟังว่าฉันค้นเจอ ความหมายของการมีชีวิตอยู่ ก็รู้จากเธอไม่ใช่ใคร

จะบอกอีกทีถ้าไม่เชื่อกัน จะบอกอีกทีว่าความสำคัญ เธอนั้นเป็นที่หนึ่ง เหนือผู้ใด และไม่มีใครนอกจากเธอ

อย่ากลัวกับคนที่เขามานินทา อย่ากลัวว่าในแววตาฉันมีใคร เชื่อในรักเรา เชื่อในหัวใจที่ฉันให้เธอได้ไหม

ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้ จะไม่มีตรงกลางที่เหลือว่างเผื่อใคร ถ้าใจเรายังผูกกัน

ใครจะพยายามยุยงให้สั่นคลอน รู้ไว้นะทุกครั้งฉันนอนหลับตาฝัน เห็นแค่ภาพเรารักกันยาวนาน จนถึงวันที่ฉันแต่งงานกับเธอ




ระหว่างที่มันร้องมันก็มองหน้ามองตาผมไปด้วย ผมก้มดูดน้ำแก้อาการอายที่เริ่มจู่โจมเข้ามา ไอ้ภูนี่หน้าด้านเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ มึงอย่าลงมาหากูนะ ผมคิดอย่างหมดหวัง เมื่อเห็นมันกระโดดจากเวทีเตี้ยๆลงมาหาผมแล้ว 

“เฮ้ย”ผมขยับตัวหันข้างไปทางไอ้ติน ที่ตีหน้าเหมือนไม่รู้จักผม เชี่ยแล้ว มันเดินมาหาผมแล้ว ผมถลึงตาใส่ไอ้เนมเพราะมันกำลัง
อัดวิดีโออยู่ ผมเลยจำต้องหันหน้าหนีกล้องของเนม ไอ้สัด ไอ้พวกนี้แม่งเตี๊ยมกันมา

“คิดว่ากูจะยอมยกโทษให้มึงง่ายๆเหรอ”ผมพูดใส่หน้ามันเมื่อมันมายืนตรงหน้าผมแล้ว

“มึงใจร้ายกับกูขนาดนั้นเลยเหรอ”มันทำหน้าเศร้า

“เออ มึงทำแบบนี้กูยิ่งโกรธอ่ะ”ผมเม้มปากแน่นเพื่อกลั้นไม่ให้หลุดยิ้มออกมา ผมไม่ชอบตกอยู่ในสถานการณืแบบนี้เลย

“โห จริตจกร้านไอ้ฟิกนี่พัฒนาขึ้นจริงๆ”ไอ้ชายพึมพำเบาๆมาให้ผมได้ยิน

“พี่เขาตั้งใจร้องให้มึงเลยนะ ที่หายไปนานๆเพราะไปฝึกร้องมา”ไอ้ตินแทรกขึ้นมา นี่มันก็รู้ว่าไอ้ภูหายหัวไปไหน แล้วก็ปล่อยให้ผมเป็นห่วงเนี่ยนะ

“ฟิก กูขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ความรู้สึกที่กูมีให้มึงไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ ต่อจากนี้กูจะเชื่อใจมึง ขอสักครั้งมึงกลับมาเชื่อใน
ตัวกูได้ไหม”มันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง จนผมไม่กล้าเล่น

“กู…กลัว มึงรู้ใช่ไหม กูเคยบอกมึงแล้ว”ผมพูดเบาๆ

“กูไม่เคยคิดแบบนั้นเลย มึงก็รู้ ตอนที่มีเรื่องกูก็ไม่อยากทิ้งมึงไปหรอก แต่มึงก็ผลักไสทำให้กูต้องออกห่างจากมึงไปเอง ขอโอกาสให้กูนะ ฟิก”มันไม่รอคำตอบของผม มันสวมสร้อยคอให้ผมแทน จี้รูปเกียร์ที่สลักชื่อรุ่นของมันห้อยอยู่บนคอของผม ผมจับ
มาดูอย่างมึนงง

“ตอบดิ”มันกระซิบเร่งผมเบาๆ จนผมต้องหัวเราะออกมาเหมือนคนประสาทเสีย

“เออ กูยกโทษให้มึงตั้งนานแล้ว”ผมมองหน้าไอ้ภูก่อนจะยิ้มออกมา จู่ๆไอ้พี่ปาก็โรยกลีบกุหลาบลงมา

“เฮ้ย ทำไรของมึง”ไอ้ภูปัดเศษกลีบกุหลาบออกจากหัว

“เออ พอเลยๆ แย่งซีนผมหมดแล้วเนี่ย”ไอ้ตินลุกขึ้นมาบ้าง เพราะกลีบกุหลาบเต็มตักมันเลย

“กูเองก็มีของจะให้มึงเหมือนกันนะ”ไอ้ตินดูเหมือนกำลังกลั้นยิ้ม อะไรอีกเนี่ยจะทำให้ผมหน้าด้านกลางฝูงคนหรือไง

“อะไร”ผมหยิกแขนมันให้รีบๆให้มาซะ กูอายโว้ย

“หัวใจกูไง กูให้มึงหมดเลย”มันชี้ไปที่อกข้างซ้ายของมัน ใครบางคนทำเสียงกลองเพื่อรับมุกไอ้ติน ผมรู้สึกเหมือนจะเป็นลม
ตอนนี้หน้าผมจะระเบิดแล้ว ทำไมพวกมันทำกับผมแบบนี้

“มุกอะไรของมึงวะ พอเลย”ผมรีบเบียดแทรกตัวออกมาจากตรงนั้นทันที

“ป่ะๆ กลับครับ ผัวเมียเขาคืนดีกันแล้ว”ไอ้ชายพูดเสียงดัง ตบมือเปาะแปะเหมือนไล่คนที่มามุงดูกลับ

“มึงนี่โคตรหน้าด้านเลย พวกมึงนี่เข้ากันดีเชียวนะ”ผมมองพวกมันสองคนเหวี่ยงๆ ตอนนี้ผมโล่งอกโล่งสมองสุด ๆแม้แต่ไอ้นนท์ก็มาทำลายอารมณ์ดีๆของผมไม่ได้ ผมเจอันด้วยล่ะเมื่อกี้ แต่มันเลือกจะเดินหลบไปทางอื่นเพราะสายตาเอาเรื่องของไอ้ภูกับไอ้ติน ผมกับพวกมันเดินเที่ยวงานกันต่อ

“เออ พ่อมึงโทรหากูด้วยนะ เขาบอกว่า--”

“ช่างเถอะ”ไอ้ภูบอกปัดยิ้มๆ

“ทำไม…”ผมมองหน้าไอ้ภูกับไอ้ตินแล้วก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า….

“กูให้พ่อกูโทรมาเองแหละ กูเจ๋งไหม ที่บังคับให้พ่อถามตามสคริปได้”แล้วมันก็หัวเราะเสียงดัง ถึงว่าพ่อมันพูดเสียงแข็งเชียว

“มาที่ซุ้มกูก่อน”ไอ้ตินดึงให้ผมไปที่ซุ้มขายต้นไม้ของมัน มีพี่เบลล์กับไอ้ชัยเฝ้าอยู่สองคน มีพวกป้าๆลุงๆกำลังเดินเลือกต้นไม้อยู่

“หายไปนานเลยนะมึง”ไอ้ชัยทักไอ้ตินก่อนจะมองผมด้วยสายตากวนตีน

“อื้อหือ หน้าบานเป็นกระด้งเลยนะไอ้ฟิก”

“เสือก”คำด่าของผมเรียกเสียงหัวเราะจากพี่เบลล์ ไอ้ชัยมองเพื่อนมันเหวี่ยงๆก่อนจะหลบฉากไปหาลุงกับป้าคู่นั้น ตอนแรกผมก็คิดว่ามันจะมาช่วยเพื่อนมันเฝ้าซุ้ม แต่ที่ไหนได้มันมาเอากระเป๋ากับขนมที่มันซื้อไว้ต่างหาก

“มึงจำไว้นะ ไอ้ภู ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้อีกล่ะก็…”ผมทำเสียงดังฉับ

“มึงจะตัดน้องกูเหรอ”

“ไม่ใช่ กูจะเลิกกับมึง กูพูดจริงๆนะ”ไอ้ภูยิ้มก่อนจะดึงมือผมไปจับ

“เออ กูไม่ยอมเลิกกับมึงแน่”

“แล้วถ้ามึงซุกกิ๊กนะ กูก็ฉับเหมือนกัน”เสียงของไอ้ตินทำเอารอยยิ้มเลือนหายไปจากหน้าของผม อุตส่าห์จะทำเข้มใส่ไอ้ภูซะหน่อย ไอ้ตินดันมาทำเข้มข่มผมอีกต่อ

“ว่าแต่มึงบอกว่าพี่ภูร้องไห้เหรอ”ไอ้ตินวกกลับมาประเด็นเดิม ผมหัวเราะทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ยอมรับ

“มึงมั่วแล้ว คนอย่างกูไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก”มันถลึงตาใส่ผม

“อ้าว ไม่เชื่อมึงก็ถามพี่ปา ไอ้เนมก็ได้ ไอ้ปั๊มอีกคนอ่ะ”ผมหันไปหัวเราะกับไอ้ติน ไอ้ภูทำหน้าเหมือนไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำอะไร
แบบนั้น แต่คนอย่างมันคงไม่ไปถามเพื่อนตัวเองหรอก เพราะมันต้องโดนล้อกลับมาแน่ๆ



ฟ้าหลังฝนนี่สดใสจริงๆ เห็นด้วยไหมครับ






TBC.
อัพต่อแล้ว ตอนหน้าก็กลับมาหวานบ้าๆบอๆเหมือนเดิมแล้วค่ะ
กินมาม่ามากไปมันก็น่าเบื่อเนาะ เอามาแจมให้พอมีสีสันก็พอ ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ  :กอด1:





หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 09-09-2015 17:42:49
แอร๊ยยยยยย อิจฉาฟิกมากนะบอกเลย พี่ตินก็ดี พี่ภูก็น่ารัก ดีใจที่หมดมาม่าโดยเฉพาะเรื่องปั๊มตอนนี้คงหวานกันไปอีกสักพัก แต่ไม่รู้คนแต่งจะเสิร์ฟมาม่าอีกเมื่อไหร่นี่สิ นี่กลัวอย่างเดียวเรื่องพี่ตินดาร์กนี่แหละถึงแม้ในใจลึกๆจะชอบอยู่สักหน่อยก็เถอะนะ  :o8:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 09-09-2015 18:03:35
หวังว่าภูคงจำบทเรียนครั้งนี้ไปจนวันตายนะ รู้ทั้งรู้ว่านนท์คิดอะไรกับตัวเองแต่ก็ยังเอาตัวเข้าไปยุ่งไปยั่วมันทำตัวเหมือนเช็คเรทติ้งตัวเองว่ายังมีคนชอบอยู่ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนฟิกมันจะรักภูมากกว่าตินเลยสงสารตินจัง ตอนหน้าก็คงเรื่องอดีตของตินใช่ไหมจะรอนะว่าอดีตของตินจะร้ายแรงแค่ไหน
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-09-2015 18:13:03
 :L2:   ขอบคุณคนเขียนค่ะ ในที่สุดก็จบเรื่องอย่างสวยงามตามสไตล์ภูตินฟิก
คุณพ่อน่ารักจังเลยค่ะ  o13.
ไม่มีตรงกลาง อย่าหวังจะแทรก เพราะแค่สามคนก็เหนียวแน่นพอแล้ว.  :mew1: 
ฟินไปกับฟิกดัวยว่าแต่ครบสองเดือนที่สั่งงดหรือยังน้อ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 09-09-2015 18:13:25
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยย มาแล้ววววววววว ขอบคุณคนเขียนที่ใจดีรุ้ใจคนอ่านกลัวอกแตกเลยมาต่อให้  :z2:  ในที่สุดก็คลี่คลายได้สักที ฟิกทำถูกแล้วล่ะที่ยังไม่ยกโทษให้ง่ายๆ ฟิกใช้วิธีที่ดีนะ ไม่วู่วาม เหมือนแต่ก่อน ดูใจเย็นขึ้นเยอะ คงเพราะรักและรู้นิสัยภูด้วยแหละว่าเป็นยังไง ถึงจะเห็นภาพไม่ดี แต่ก็ยังเลือกที่จะใช้วิธีสงบสยบความรุนแรง ทีนี้เชื่อได้เลยภูเข็ดและหลาบจำเลยล่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะภูรักฟิกจริง รักมาก รักจนร้องไห้ออกมาแค่ฟิกพูดว่าจะไม่รัก ทำเอาฟิกตกใจ แม้แต่เพื่อนที่ไม่เคยเห็นยังอึ้งไปด้วย ฟิกใจอ่อนต้องโอ๋เลย กลายเป็นเคะเลยเน๊าะพี่ภู  :laugh:  ชอบตอนภูกับตินตีกันอ่ะ มันเหมือนผัวเมียทะเลาะกันเลย ส่วนฟิกเป็นเหมือนคนห้าม อย่าโกรธเขานะฟิกที่จิ้นผัวสองคนของหนูอ่ะ มันให้อารมณ์นั้นจริงๆ  :-[ แต่ดีนะเขาตีกันเสร็จก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังมีเซอร์ไพรสขอโทษฟิกอีก พี่ภู พี่ด้านมากค่ะ ยอมเลย แต่ภูน่ารักตรงนี้แหละ คิดอะไรมันก็ทำอย่างนั้น แต่เฉพาะกับฟิกนะที่ทำอ่ะ ตินก็น่ารักมีเล่นมุกเสี่ยวๆแต่ออกจากใจซะด้วย อิจฉาฟิกจริงจริ๊งๆๆๆๆ มีผัวรักผัวหลงตั้งสองคน อยากได้บ้างอ่ะ  :ling1:  ไอ้นนท์สมควรจะโดนตีน เป็นไงยังคิดจะมายุ่งกับภูอีกไหม ยุ่งกับภู มึงไม่ได้โดนแค่ภูนะ พี่ตินเขาแท็คด้วย ฟิกก็ปราณีมึงมากแล้วนะ มาขอโทษยังมีหน้าพูดกวนตีนอีก ไม่มีสำนึก ฟิกน่าจะกระโดดถีบหน้ามันสักหลายๆที  :z6:  เอาล่ะมาม่าพี่ภูก็จบแล้ว เหลือแต่พี่ตินสินะ ยังไงก็อย่ามาม่ามากนะ แค่ภูก็พาจิตตกแทนฟิกแล้ว กลัวใจตินเหมือนกัน คนแบบนี้เวลาโกรธหรือมีอะไรขึ้นมารุนแรงไม่ใช่น้อย แต่เชื่อว่า ทั้งสามคนเอาอยู่  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 09-09-2015 18:15:06
 :impress2: เย้!!!! กลับมาคืนดีกันแล้ว คู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก
ภูกับตินนี่ชอบทำฟิกเขินจัง ฮิฮิ น่ารัก
รอติดตามอยู่นะคะ รีบมาต่อนะ
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 09-09-2015 18:42:32
จบลงได้ด้วยดี ครั้งนี้ก็สอนอะไรทั้ง3คนได้เยอะเลย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: aaoo ที่ 09-09-2015 19:13:18
อ่านยาวรวดเดียวเลย สนุกมาค่ะชอบๆตอนนี้
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 09-09-2015 19:18:13

คืนดีกันแล้ววว ดีจัง  :katai2-1:  ภูโคตรด้านอ่ะ โอ้ยย. ชอบ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-09-2015 19:33:58
อายแทนเลย รอหวานๆตอนหน้า
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 09-09-2015 19:45:15
ฟิกโหดขนาดนี้ ต่อไปคงไม่มีใครกล้ามีเรื่องให้นางต้องโกรธแล้วละ ฮ่าาาาา
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 09-09-2015 20:10:55
ไม่เชิงว่าภูทำผิดนะ ออกแนวซวยพอดีมากกว่า  :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: wann ที่ 09-09-2015 20:47:28
ห้าๆๆๆๆ น่าร้ากกกกกกก  :mew3:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 09-09-2015 20:57:01
อ่านฉบับพิเศษแล้วบางทีกลัวอ่ะ
ถึงจะรู้ว่ายังไงก็ยังรักกันดีก็เถอะ
แต่ละตอนมาทีนี้ระหวาดระแวงจริงๆ
แต่ตอนที่4นี่หวานอ่ะ ไม่รู้ตอนหน้าคนเขียนจะเอาอะไรมาให้ลุ้นอีก ยังไงก็รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 09-09-2015 21:01:24
อิจฉาฟิกจริงๆ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 09-09-2015 21:20:20
เรื่องหลัก คนแต่งรีไรท์หรือเปล่าคะ? 

วันนี้ไปอ่านซ้ำอีกรอบ เหมือนว่าจะมีเนื้อหาบางส่วนเพิ่มเข้ามา

อ่านแล้วสนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 09-09-2015 21:48:49
เก๊าร๊ากเรื่องเน้!!! :hao7:
ขอบคุณที่แต่งตอนพิเศษมาให้อ่านกันนะค้าาา
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 09-09-2015 22:59:40

คืนดีกันแล้ว :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 09-09-2015 23:07:13
สามีเลิศ อ้ะ ฟิกกก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 09-09-2015 23:09:25
คงไม่มีมาม่าฝั่งภูอีกแล้วมั๊งนี่  ขนาดพ่อ ภูยังอุตส่าห์เข็นมาช่วยง้อเมียได้เลย 5555

ไม่รู้ว่านนท์จะเข็ดหรือเปล่า   ปั๊มท่าจะไปไหนไม่รอดแล้วมั๊งเนี่ย  คิดจะหาเงินหลอกเอาเงินตุ๊ดเกย์  ระวังเถอะจะหาทางขึ้นไม่ได้
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 09-09-2015 23:16:24
ไม่คิดมาก่อนว่าจะเห็นพี่ภูงอแง 55555555555555555
น่ารักขนาดนี้ทิ้งลงเหรอฟิกกก
ดีที่ยอมคืนดีกันแล้ว สงสารพี่ภู โดนตลอดด
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 10-09-2015 00:19:11
ภูกะดินทำเซอร์ไพร์สอีกแล้วววว โอยยยยยยย

อยู่กันแบบนี้ทั้งสามคนนั่นแหละดีที่สุด อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 10-09-2015 01:08:24
ทำไมเรารุ้สึกเหมือนตินเปนตัวประกอบ
อะไร อะไร ก้ ฟิก ภู ฟิก ภู
ตินเปนแค่หน่วยย่อยเล็กๆ จะมีรึไม่มีก้ได้ งี้อ่อ?
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง 9-9-58 [P.4]อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 10-09-2015 08:31:37
รักกันนานๆนะ 3kp
หัวข้อ: Re: 3P เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1[P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 10-09-2015 09:20:33

ตอนที่๖ ออกค่าย



ช่วงนี้ไอ้ภูยังคงสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่บ้างเพราะเพิ่งพ้นโทษมาใหม่ๆ แต่สิ่งที่เหมือนเดิมของมันคือเจ๊าะแจ๊ะน่ารำคาญกวนใจผมเวลานอนอยู่นั่นแหละ

“ไอ้ภู มึงนี่น่ารำคาญว่ะ”ผมปัดมือมันออกเป็นรอบที่...เท่าไหร่ไม่รู้ ได้ยินเสียงมันหัวเราะแว่วๆมา ผมอ้าปากหาวหวอดๆ ง่วงอ่ะ ผมไม่มีอารมณ์หื่นตอนนี้หรอก

“ถ้ามึงยังไม่หยุดกวนกูนะ มึงรอปีใหม่นู่นเลย”

“โห แบบนั้นก็นานไป”แต่ได้ผลเพราะมันหดมือกลับไปแล้ว ผมขยับตัวนอนหันหลังให้มัน ผมจะโดนมันลักหลับไหมวะ วันนี้ที่นอนข้างๆผมว่างไปด้านนึงเพราะไอ้ตินต้องอยู่ช่วยเคลียร์พื้นที่งานเกษตรที่ค่อนข้างจะรกจากขยะ มันคงกลับดึกแน่ๆ ผมแอบ
เหล่มองไอ้ภูมันคงหลับไปแล้วล่ะมั้งเพราะมันเองก็นอนหันหลังให้ผม หลังจากที่ปล่อยความคิดให้ว่าง ผมก็เผลอหลับไปจนได้ ตื่นมาอีกทีก็เห็นเงาตะคุ่มๆอยู่เหนือตัวผม

“ไอ้ติน!”ผมโงหัวมองมันก่อนจะทิ้งตัวลงอย่างโล่งอก ตอนแรกคิดว่าผีซะอีก แล้วมันมาคร่อมผมทำไม ได้กลิ่นเหล้าจางๆมาจากมันด้วย

“กูง่วงอ่ะ”ผมเริ่มพูดเมื่อมันขยับมาขบเม้มซอกคอผมเบาๆ

“เออ งั้นก็อยู่เฉยๆเดี๋ยวก็ตื่นเอง”มันดึงเสื้อผมขึ้น ก่อนจะแตะลิ้นลงบริเวณท้องน้อย ผมดันไหล่มันเบาๆ ก่อนจะขยับตัวหนี แต่มันก็ไม่ยอมหยุด ผมหันหน้าไปทางไอ้ภูเห็นว่ามันพลิกตัวมาทางผมและกำลังมองผมด้วยสายตาวิบวับบ่งบอกความหื่น

“ไงหนูฟิกคืนนี้มึงไม่รอดแน่”ก็แน่นอนถ้าหากมันสองคนร่วมมือกันอ่ะ ไอ้ภูขยับเข้ามาหาผมก่อนจะแตะลิ้นลงบนริมฝีปากผมเบาๆ มันสอดมือเข้ามาใต้ท้ายทอยของผมก่อนจะกดริมฝีปากลงมาเบาๆ ขบเม้มสลับไปมาก่อนจะสอดลิ้นอุ่นเข้ามาหยอกล้อ ผมยึดบ่ามันไว้ รู้สึกว่ากางเกงนอนของผมหลุดไปแล้ว

ฝามือของไอ้ตินลูบไล้ไปทั่วก่อนจะหยุดลงที่จุดไวสัมผัส ริมฝีปากอ่อนนุ่มของมันสัมผัสเข้ากับเนื้อร้อน ปลายลิ้นโลมเลียอยู่ไม่ห่าง ผมครางเบาๆอยู่ในลำคอ เพราะไอ้ภูยังไม่ปล่อยให้ผมเป็นอิสระ ปลายลิ้นของมันรุกเล้ากวาดต้อนอย่างไม่ยอมแพ้จนผมใกล้จะหมดลมมันก็ผละออกให้ผมได้มีพื้นที่หายใจก่อนจะย้ำจูบเข้ามาใหม่อีกครั้ง ผมป่ายมือเปะปะล้วงเข้าไปในกางเกงของไอ้ภู มันส่งเสียงครางต่ำๆเปลี่ยนมาขบเม้มยอดอกผมแทน ผมเกร็งหน้าท้องเมื่อรู้สึกวาบหวิวขึ้นมา

“อาา”ผมขยุ้มเส้นผมของไอ้ตินไว้แน่น เมื่อปล่อยของเหลวออกมา ผมบิดตัวหนีลิ้นร้อนๆของมันสองคนที่ลิ้มเลียไปทั่วตัว ขนลุกวูบวาบเมื่อรับรู้ถึงบางสิ่งที่จ่ออยู่ที่ช่องทาง ใจเต้นตุบๆ ก่อนที่ความอุ่นร้อนจะเบียดแทรกเข้ามาช้าๆ ผมหายใจติดขัด เม้มปากหลับตาแน่น ร่างกายรับรู้อย่างชัดเจนถึงสิ่งที่รุกล้ำเข้ามาในตัว ไอ้ภูดึงมือของผมให้ไปกอบกุมส่วนที่ตื่นตัวเต็มที่ เสียงหายใจถี่ๆของมันดังอยู่ข้างๆหู ไอ้ตินสบถพึมพำเบาๆก่อนจะโถมตัวเข้ามาจนสุดจนผมจุกแสบไปพร้อมกัน

“อ๊ะ เชี่ย”ผมหลับตาด่ามันเบาๆ มันหัวเราะหึๆก่อนจะขยับตัวเข้ามาจนสุด จากเบาๆเริ่มถี่เร็วมากขึ้นจนผมหลุดเสียงร้องออกมา
“อา จูบกูหน่อย”ผมปรือตาขึ้นมา ริมฝีปากของไอ้ภูก็เข้ามาดูดดึงทันที ผมสอดลิ้นเข้าหาก่อนจะดูดเม้มเรียวปากมันเต็มแรงระบายอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง ไอ้ตินเลื่อนมือมานวดคลึงสะโพกของผม ก่อนจะกระแทกตัวเข้ามาหนักหน่วงจนเกิดเสียงดังขึ้นมา มันครางฮึมก่อนจะเร่งจังหวะเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย ผมเบียดตัวกอดไอ้ตินเมื่อรับรู้ถึงของเหลวที่ถูกปล่อยออกมา มันโน้มตัวมาจูบปากผมเบาๆ ก่อนจะผละออกมา ผมนอนหอบตัวอ่อนปวกเปียก ระหว่างที่ไอ้ภูพรมจูบไปทั่วแผ่นอก มันสอดมือมายกขาผมขึ้นก่อนจะแทรกตัวเข้ามาพรวดเดียวจนผมสะดุ้ง มันรั้งสะโพกผมไว้ก่อนจะเริ่มขยับตัวเข้ามาช้าๆ ผมมองหน้าไอ้ภูที่แสดงความหื่นออกมาสุดกำลัง

“ไอ้ภู...”ผมเรียกมันเบาๆ เมื่อนึกคำพูดเพื่อเอาคืนมันได้ มันส่งเสียงกระเส่าๆกลับมา

“มึงใส่เข้ามาแล้วเหรอ ถึงว่าคันยิบๆเหมือนมีอะไรไต่”ไอ้ภูนิ่งค้างไปในทันที ได้ยินเสียงกลั้นหัวเราะมาจากไอ้ตินที่อยู่ข้างๆ

“เชี่ยฟิก ถ้ามึงไม่รู้สึกกูว่าหูรูดมึงมีปัญหาจริงๆแล้วว่ะ”แล้วมันก็วนกลับมาประเด็นเก่า ผมทำหน้าบูดก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกเนื้อตรงสะโพกมันเต็มแรง

“ทำกูอารมณ์หด มึงอดนะ”ผมพึมพำ มันก็รีบเข้ามาโอ๋ผมทันที

“ล้อเล่นน่า มึงออกจะฟิตปึ๋งปั๋ง”ผมหน้าร้อนฉ่าขึ้นมาทันที ไอ้นี่มันกวนประสาทจริงๆเลย จากนั้นมันก็ไม่พูดอะไรมาก ขยับตัวเข้ามาแรงๆแทนจนผมหลุดร้องตลกๆออกไปหลายครั้ง ผมยันหน้าอกมันไว้ ในขณะที่หดคอหนีลิ้นร้อนๆของไอ้ตินไปด้วย ขนลุกเกรียวเลยเมื่อมันขบติ่งหูเบาๆ รู้สึกเวลาผ่านไปนานจนผมเลยจุดเสียวไปแล้วไอ้ภูก็ยังไม่ถึงฝั่งเสียที มันกินอะไรมาวะ มันโถมตัวเข้ามาเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมเสียงหอบคราง และน้ำอุ่นๆ มันถอนตัวออกมาก่อนจะทิ้งตัวนอนกอดผม ถ้าไม่ต่อรอบสองก็ไม่ใช่พวกมันแล้ว ผมนี่ได้แต่นอนกรอบป้อแป้ให้พวกมันจัดการไป ...เพลียจริงๆนะ



ตอนเช้าผมตื่นก่อนเป็นคนแรกอีกแล้ว แต่ตื่นแล้วก็หลับต่อ ไอ้ตินนอนหันหน้ามาทางผม ลมหายใจสม่ำเสมอเหมือนคนหลับลึก ผมค่อยๆเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ก่อนจะแอบถ่ายรูปมันไปสองสามช็อต เหลือบมองไอ้ภูที่นอนหน้ามันๆหัวฟูๆอยู่ รายนี้หลับไม่น่าดูเลยจริงๆ จะถ่ายไว้แกล้งผมว่ามันก็ไม่แคร์หรอก ผมดึงผ้าห่มผืนบางออก ก่อนจะค่อยๆย่องลงจากเตียง เดินสะลึมสะลือเข้าไปในครัว หิวแต่เช้าเลย เมื่อคืนใช้พลังงานเยอะไปหน่อย เปิดตู้เย็นดูของก็ใกล้จะหมดแล้ว เหลือหมูสับแค่ก้อนเดียว ผมเลยเอาออกมาทอด...เพราะทำอย่างอื่นไม่เป็น สงสัยไอ้ตินจะได้ยินเสียงดัง มันถึงเดินหน้ายุ่งเข้ามา

“มึงทำอะไร”มันมองก้อนหมูสับในกะทะด้วยสายตาเคว้งคว้าง

“กูจะเอามาทอด”พูดไปก็อายตัวเองนะ ไม่มีใครเขาทำกันหรอก ไอ้ตินทำหน้าหงุดหงิดก่อนจะโบกมือไล่ผม

“มึงนี่บ้าจริงๆ”แล้วมันก็เยาะซอสลงไป ก่อนจะเติมน้ำเปล่าลงไปนิดหน่อย เปลี่ยนหมูสับทอดของผมเป็นข้าวผัดกระเพราหอมๆแทน

“สมแล้วที่เป็นแม่บ้านแม่เรือน”ผมเข้าไปนวดไหล่มันอย่างเอาอกเอาใจ มันหันมามองผมทันที

“แม่บ้านแม่เรือนอะไร กูน่ะผัวมึง เจียมตัวซะบ้าง”มันแหวใส่ อารมณ์เสียแต่เช้าอีก ผมทำหน้าบูด

“เป็นอะไรอีกล่ะ”ผมมองมันปิดแก๊ส เก็บของเข้าที่

“ไม่ได้เป็นอะไร อยากกินกาแฟชงให้ที ไปแปรงฟันก่อน”มันหยิกแก้มผมเบาๆ ก่อนจะเดินหายไปในห้องน้ำ ท่าทางของมันชวนให้ผมขนลุกว่ะ ผมไปชงกาแฟตามที่มันบอก วางไว้ที่โต๊ะก่อนจะเดินมาหยิบโทรศัพท์ที่เตียง แม่เจ้า ผมค้นพบสาเหตุที่ทำให้มันเหวี่ยงผมแล้ว เพราะพี่ฉัตรส่งข้อความมามอนิ่งผม คือพี่เขามันชอบใช้คำชวนคิดลึกอยู่แล้วไง อย่างที่ส่งมาให้ผม

'มอนิ่งที่รัก'และไอ้ตินคงเปิดอ่านพอดี ส่วนไอ้ประโยคที่เพิ่งส่งมาอย่าง 'ที่รักของคนอื่น' ไอ้ตินคงไม่เห็นเพระพี่ฉัตรเพิ่งส่งตามมาเมื่อสักพักนี่เอง นี่หางานให้ผมอีกแล้วนะเนี่ยเพิ่งผ่านเรื่องไอ้ปั๊มไปหมาดๆเอง ผมมองไอ้ภูที่หลับเป็นตายอยู่ ก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำที่ประตูเปิดแง้มไว้ ไอ้ตินกำลังทาครีมอยู่ มันเหลือบมองแล้วกลับไปสนใจหนังหน้ามันต่อ ผมแปรงฟันเสร็จก่อนมันอีก ก็เลยยืนมองมันล้างหน้าล้างตา

“มองไร”เสียงขุ่นได้อีก ผมยิ้มแห้งให้มันก่อนจะเข้าไปซบไหล่อีกคน

“เรื่องพี่ฉัตรไม่ได้มีอะไรนะเว้ย”

“ร้อนตัว กูยังไม่ได้พูดอะไรเลย”

“เหรอ แล้วที่เหวี่ยงใส่กูนี่ล่ะ”ผมเอานิ้วจิ้มหน้าผากมันเมื่อเห็นว่ามันขมวดคิ้วอยู่ ไอ้ตินหันหน้ามาทางผม กลิ่นครีมหอมๆบนหน้ามันทำผมชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก

“ทำให้กูอารมณ์ดีเหมือนเดิมดิ”สายตาของมันเริ่มเจ้าเล่ห์

“อ...อะไร”ผมเริ่มเหงื่อตก เห็นเค้าลางว่ามันต้องคิดอะไรหื่นๆอยู่แน่ มันไม่ตอบแต่ดันผมไปชิดผนังห้องน้ำแทน ก่อนจะขังตัวผมไว้ในอ้อมแขนของมัน สายตาของมันในตอนนี้ทำผมไปไม่ถูกเลย

“จูบพี่หน่อยสิ”มันกระซิบเบาๆทำเอาผมขนลุกวูบ ปั่นป่วนในช่องท้องขึ้นมาทันที ผมไม่เคยเจอไอ้ตินโหมดนี้เลยนะ จมูกของมันแตะเข้ากับซอกคอของผมก่อนจะลากลิ้นเลียเบาๆ จนผมต้องรวบเอวมันไว้ ใบหน้าร้อนผ่าวๆเมื่อผมประคองใบหน้าของมันเข้ามาใกล้ๆก่อนจะขบเม้มริมฝีปากล่างของมันเบาๆก่อนจะสลับไปยังริมฝีปากบน ก่่อนจะแทรกลิ้นเข้าไปหามันก่อน เสียงครางพอใจดังมาจากอีกฝ่ายเบาๆ มันย้ำจูบแนบชิดมากขึ้น ฝามือลูบท้องน้อยผมก่อนจะดึงกางเกงของผมลง ริมฝีปากของมันเปลี่ยนมาจู่โจมบริเวณอื่น ขบกัดยอดอกเบาๆเหมือนหยอกล้อ จนผมต้องสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ที่เริ่มก่อตัว

“พอก่อนเนอะ”ผมมองหน้าไอ้ตินที่ฝังอยู่กับหน้าท้องของผม มันเหลือบตาขึ้นมอง

“พอจริงๆเหรอ”กระซิบเสียงเบาพร้อมผมกับดูดเม้มติ่งหูผมไปด้วย และตามมาด้วยสัมผัสชื้นแฉะตรงกกหูทำเอาเส้นอารมณ์ผมขาดผึง ปล่อยเสียงครางออกมาอย่างพอใจ ไอ้ตินยกยิ้มก่อนจะใช้หน้าขาดันขาผมออก ก่อนจะแทรกตัวเข้ามาตรงกลาง บดเบียดลำตัวเข้าหาผมจนรับรู้ถึงความต้องการของมัน ผมเลื่อนมือไปลูบหน้าท้อง จงใจปัดมือผ่านของมันที่กำลังตื่นตัว

“จะทำอะไรก็ทำ”ผมพึมพำตอบก่อนจะเกี่ยวขาเข้ากับสะโพกของมัน ไอ้ตินสอดนิ้วเข้ามาก่อนจะเริ่มขยับมือ ผมแอบนิ่วหน้าเล็กน้อย ดันมาแกล้งผมอีก มันเพิ่มนิ้วเข้ามาทอดสายตามองผมที่เริ่มหายใจถี่ขึ้น มันถอนนิ้วออกก่อนจะดันเนื้อร้อนเข้ามาแทน

“อาา เร็วๆ”ผมเร่ง เมื่อมันไม่ขยับตัวสักที ผมเลยดึงมันเข้ามาจูบแทน มันดึงขาอีกข้างให้เกี่ยวสะโพกมันไว้ก่อนจะเดินไปนั่งที่ชักโครกแทน

“ทำให้พี่หน่อย”มันเล่นลิ้น บอกว่าอย่ามาพูดสุภาพๆกับกู

“ไม่เอา”กูอาย

“ทำให้กูอารมณ์ดีเลยเร็วๆ”แล้วมันก็ตบเพี๊ยะมาที่ก้นของผมทำเอาผมหน้าร้อนผ่าวๆมากขึ้น ผมสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะค่อยๆขยับตัว ไอ้ตินเริ่มหายใจติดขัดบ้างแล้ว ผมหลับตาก่อนจะเกาะบ่ามันค่อยๆขย่มตัวช้าๆ จากนั้นก็เริ่มเร่งจังหวะมากขึ้นเมื่อความอายเริ่มปลิวหายไป มีเพียงเสียงครางของผมและเสียงขยับตัวเมื่อผิวกายเรากระทบกัน มันสวนเอวขึ้นมาบ้างเมื่อผมเริ่มเหนื่อย ผมซบหน้าลงกับลาดไหล่ของมัน

“อ๊ะ เชี่ยเอ้ย”ผมสบถครางเมื่อขยับตัวโดนจุดที่ทำให้ต้องเกร็งตัว ลมหายใจร้อนๆของอีกคนเป่ารดอยู่ใกล้ๆผมดูดเม้มซอกคอของมันก่อนที่มันจะส่งตัวเองเข้ามาเร็วขึ้นจนผมได้แต่ดิ้นอยู่บนตัวมัน ก่อนที่น้ำอุ่นๆจะถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อแรงอารมณ์คลายลง ผมหอบหายใจก่อนจะรีบลุกออกมาจากตัวมัน รู้สึกว่าของเหลวจากอีกคนไหลเปื้อนที่ซอกขา ไอ้ตินกวาดตามองอย่างพอใจ ผมรีบไล่มันออกไป แต่มันไม่ยอมออกก็เลยรีบๆอาบน้ำอย่างรวดเร็ว จัดการตัวเองเสร็จ ผมก็รีบพุ่งออกมาจากห้องน้ำทันที เห็นไอ้ภูนั่งหน้าง่วงอยู่บนเตียง ผมไม่แปลกใจหรือตกใจหรอกที่เห็นมันตื่น ก็ผมกับไอ้ตินทำเสียงดังขนาดนั้น พูดแล้วเขิน

“สัด กูก็นึกว่าใครเปิดหนังโป๊แต่เช้า”มันพึมพำขึ้นมาก่อนจะยิ้มชั่ว

“ไปลองกับกูที่ระเบียงป่ะ”

“บ้าดิ”ผมว่ามันคิดจริงนะ แต่จะทำจริงไหม...ไม่รู้ เรื่องหื่นอย่าไว้ใจไอ้ภูเป็นดีที่สุด มันยิ้มก่อนจะโน้มตัวมาหาผมก่อนจะซิบประโยคที่ทำให้กาต้มน้ำในตัวผมเดือดปุดๆ

“เสียงครางมึงได้อารมณ์ดีเนอะ”ไอ้สัดภู! ผมหน้าร้อนผ่าวๆเลย ยังดีที่ไอ้ภูมันเหนื่อยและมีธุระต่อมันเลยไม่คิดบัญชีผมตามไอ้ตินไปด้วย แต่มันย้ำจริงย้ำจังว่าขอที่ระเบียง ขอให้มันพูดเล่นนะ ไอ้ภูเคาะประตูห้องน้ำโครมๆเมื่อไอ้ตินยังไม่ออกมาซักที ประตูเปิดออกพร้อมกับสีหน้าสดชื่น เห็นแล้วหมั่นไส้

“ตอนเย็นว่าจะไปซื้อของมาตุน ไปด้วยกันเปล่า”ไอ้ตินตะโกนถามไอ้ภูระหว่างที่มันยืนโป๊ให้ผมลวนลามทางสายตา

“ไม่รู้ กูอาจเลิกช้า มึงก็ไปกันสองคนแล้วกันซื้อเหล้ากับเบียร์มาด้วย ถุงยางด้วยนะ”เสียงไอ้ภูแว่วผ่านเสียงสายน้ำออกมา ผมแต่งตัวเสร็จก็ตักข้าวมานั่งกินรอไอ้ตินไปส่งที่คณะ วันนี้มันจะมาส่งผมตามเดิม พวกมันตกลงกันไว้แล้วว่าจะทำเหมือนเดิมแต่ถ้าวันไหนไม่ว่างหรือมีธุระก็ไปกันเอง ไม่รู้สิ ผมว่าแบบนี้ผมสบายใจมากกว่า หรือเพราะผมชินที่มีพวกมันคอยรับส่งก็ไม่รู้ ผมกลายเป็นเด็กเคยตัวไปแล้วนะเนี่ย

ไอ้ตินขับรถมาจอดถึงด้านในคณะ มันหันมามองผมพร้อมรอยยิ้มแปลกๆตลอดเวลา

“ตอนเย็นจะมารับนะ เด็กดี”มันเอื้อมมือมาลูบศีรษะของผมเบาๆ คำพูดของมันทำเอาผมเหวอไปพักใหญ่ 'เด็กดี' แม่เจ้าไม่คิดว่ามันจะใช้คำนี้กับผมมม โอ๊ย ไอ้ตินนี่นับวันยิ่งรับมือยากจริงๆ

“ไอ้...หู้ เออ เจอกันตอนเย็น”ผมรีบหอบหิ้วกระดาษลงจากรถทันที ได้ยินเสียงหัวเราะของมันดังตามมา ไอ้ตินนะไอ้ติน ทำผมเขินอีกล่ะ ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา เมื่อเห็นว่ายังมีเวลาเอ้อระเหย ผมเลยแวะซื้อขนมกิน เจอเดือนคณะหน้าหล่อส่งยิ้มมาให้

“สวัสดีครับพี่ฟิก”

“หวัดดีน้องเพชร”ผมอ่านชื่อก่อนทักเกือบลืมชื่อไปแล้วนะเนี่ย ดูเหมือนน้องจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เมื่อมันจ้องมองมายังต้นคอของผมมันก็ยิ้มจางก่อนจะถอยทัพออกไป ผมดึงคอปกเสื้อให้เข้าที่ก่อนจะหอบขนมจีบขึ้นไปกินบนห้อง

 “พวกมึงอ่านอะไรวะ”ผมก้มมองใบประกาศเล็กๆในมือไอ้ชาย

“ค่ายแนะแนวเด็กอ่ะ จะเอาผลงานเราไปจัดโชว์”สรุปแล้วไปต่างจังหวัด ไม่ได้มีแค่คณะผมเท่านั้น เห็นมีพวกศิลปกรรมด้วย พวกสาขาฟิล์ม ก็ไป โอ้ว งานนี้น่าสนุก

“ปิดรับยังวะ กูอยากไปด้วย”ผมถามเสียงตื่นเต้น

“ยัง แต่มึงแน่ใจนะว่าไปได้ ค้างสองวันด้วยอีก”ไอ้ชายถามยิ้มๆ ปัญหาอยู่ที่คุณพ่อคนที่สองของผมอ่ะ ไอ้สองคนนั่นจะยอมให้ผมไปรึเปล่าวะ แต่ผมอยากไปอ่ะ

“เดี๋ยวค่อยคุย มึงลงชื่อกูไปก่อนเลย”สรุปก็ตามนั้น ไว้ผมค่อยหาทางอ้อนพวกมันก็แล้วกัน ปกติผมแล้วเนี่ย ผมไม่ค่อยได้ไปออกค่ายที่ไหนเลย งานนี้อาจารย์เลยแปลกใจพอสมควร ผมเห็นว่ามันได้ออกนอกพื้นที่แถมก็เป็นโครงการที่น่าสนใจ (ได้เที่ยวฟรี) ผมเลยแจมด้วยซะหน่อย หวังว่าไอ้สองตัวนั่นจะอนุญาตนะ


ตอนเย็นไอ้ตินมารับตามที่พูด ผมเห็นรถมันจอดอยู่ตรงลานจอดรถของคณะจากตึกเรียนที่ผมเพิ่งออกมา จอดตรงไหนไม่จอดดันไปจอดที่สำหรับอาจารย์และคณะบริหาร กล้าจริงๆ  ผมกลัวมันโดนยามด่าก็เลยรีบลงไปแบบไม่ร่ำไม่ลากับใคร

“มึงมาจอดตรงนี้ทำไม เดี๋ยวก็โดนด่าหรอก”เข้ามาในรถปุ๊บผมก็รีบด่ามันทันที ก่อนจะให้มันออกรถไวๆเพราะยามเมียงๆมองๆมาเมื่อเห็นผมเข้าไปในรถ

“ก็ตรงนั้นที่จอดมันเต็มอ่ะ”มันเหลือบมองยามคณะผมก่อนจะขับรถออกไป ผมส่งข้อความบอกไอ้ภูว่าเลิกเรียนแล้วกำลังออกไปกับไอ้ติน นี่ก็เป็นความเคยชินอีกอย่างนึงเหมือนกันที่ผมไปไหนแล้วต้องบอกมัน เหมือนกับว่าทำเป็นประจำแล้วมันติด เด็กดีจริงๆเลยผมเนี่ย

ลานจอดรถของห้างแน่นเช่นกันจนไอ้ตินต้องขับรถวนแล้ววนอีก ผมเล็งเห็นที่ว่างแล้วเลยชี้ให้มันดู แต่แล้วรถออดี้สีขาวก็ขับเข้าไปซะก่อน เซ็งเลย แต่ไอ้ตินดูจะหงุดหงิดเอาเรื่อง

“โห ตัดหน้านี่หว่า”มันบีบแตรใส่เสียงดัง ก่อนจะไปจอดตรงที่ว่างอีกที่

“ใจเย็นลูกพี่”ผมล้อเลียนมันก่อนจะหัวเราะ หมู่นี้ไอ้ตินเปรี้ยวจริงๆ นี่ผมสมควรกลัวมันมากกว่าไอ้ภูใช่ไหมวะ ระหว่างที่มันกำลังเลือกของอยู่ ผมก็คิดอยู่ว่าจะขอมันยังไงดี ถึงจะยอมให้ผมไป

“มันก็เหมือนกันอ่ะ เอาอันไหนก็เลือกมาสักอันดิ”ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นมันถือเนื้อหมูแบบแพ็คที่ดูแล้วก็เหมือนๆกันอยู่ในมือ

“เหมือนที่ไหน อันนี้ถูกกว่าแต่ได้น้อย ส่วนอันนี้หมูเยอะแต่แพงกว่า”

“กูเน้นปริมาณ”ผมดึงแพ็คหมูที่มันมองว่าเยอะใส่ในรถเข็น

“มึงอยู่เฉยเหอะ กูเลือกเองได้”มันมองเหมือนผมไปแส่เรื่องของมัน ผมเลยปล่อยให้มันจัดการไปก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ เห็นกลุ่มเด็กผู้หญิงวัยมัธยมปลายในชุดกระโปรงและไทค์สีแดง โรงเรียนเอกชนแถวๆมอ.ผมเอง ชุดฟอร์มร้อนแรงจริงๆ ยิ่งหนุ่มๆขาวๆใส่นะ ผมว่ายิ่งดูดี

“คิดอกุศลอยู่ล่ะสิ หนังหน้าฟ้อง”ไอ้ตินพูดขึ้นเบาๆ

“ตลกแล้ว”ไอ้นี่รู้ทันผมไปหมดเลย

“กูอยากกินแอปเปิ้ลเขียว แวะซื้อด้วยนะ”บอกมันระหว่างที่ผมเลื่อนรถเข็นตามมันไปต้อยๆ

“เออ”

“มึงว่าสองคนนั้นเป็นไหม”เสียงกระซิบจากเด็กกลุ่มนั้นดังแว่วมาจนไอ้ตินหันไปมอง ผมก็ได้ยินนะแต่ทำหูตึง

“กูว่าน้องเขาตามมานะ”ไอ้ตินพึมพำก่อนจะเหล่มองน้องๆกลุ่มนั้นที่ทำเหมือนกำลังเลือกซื้อของแต่ตาจับจ้องผมกับไอ้ตินตาวาว

“ช่างเหอะ มึงไปทางนู้นดีกว่า”ผมอึดอัดกับสายตาแรงทึ้งเลยเข็นรถนำไปโซนผลไม้ ดีหน่อยที่พวกนั้นไม่ได้ตามมา

“เออ ไอ้ติน กูเพิ่งเห็นว่าที่คณะมีโครงการว่ะ ออกค่ายแนะแนวที่ต่างจังหวัด กูว่าน่าสนใจดีนะ แบบได้ประสบการณ์อะไรงี้”

“มึงอยากไปว่างั้น”มันแทรกขึ้นมาก่อนที่ผมจะพูดจบซะอีก

“อือ กูอยากไป มึงให้กูไปไหมอ่ะ แต่กูอยากไปจริงๆนะ”ไอ้ตินละสายตามาจากป้ายบอกราคาองุ่นแดง หันมามองผมแทน

“เพราะ”มันทำหน้าสงสัย

“ก็ไม่มีเหตุผล กูอยากไปเฉยๆ”ผมขยับเข้าไปใกล้ๆมันอย่างออเซาะ โปรดอย่านึกภาพตาม ผมว่ามันไม่น่าดูหรอก

“ก็ไปดิ กูไม่ว่าอะไรหรอก มึงเห็นกูเป็นผู้ปกครองมึงรึไง”ผมมึนงงเล็กน้อยที่มันยอมง่ายขนาดนี้

“ก็ขอก่อนไง เห็นมึงตามติดชีวิตกูอย่างกับเห็บ”ไอ้ตินหันมาผลักผมเบาๆก่อนจะเดินนำไปทางอื่น เพื่อซื้อของที่ไอ้ภูสั่งมา ยกเว้นถุงยาง ผมต้องบอกไอ้ภูด้วยนี่หว่า รายนั้นมันจะยอมให้ผมไปง่ายๆไหมวะ สงสัยต้องเอาตัวเข้าแลก ฮ่าๆ 

กลับมาที่ห้องพร้อมแบกของที่ซื้อมาเยอะแยะเข้ามาด้วย ผมโดนใช้แรงงานเพราะไอ้ตินเดินตัวปลิวเข้ามาเลย 

“กูแค่คิดๆเฉยๆนะ กูอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง”ไอ้ตินนั่งลงบนโต๊ะก่อนจะหันมามองผม มันอยากมีบ้านของตัวเอง…งั้นแสดงว่ามันต้องย้ายออกจากหอน่ะสิ

“แล้วกูอ่ะ”ผมถามเสียงตกใจ ไอ้ตินหัวเราะออกมา

“ถามแปลก ก็ไปอยู่ด้วยกันไง กูคุยๆกับพี่ภูไว้แล้วเหมือนกัน ถ้าว่างๆค่อยไปหาซื้อที่ปลูกบ้าน กูกับพี่ภูจริงจังนะ ส่วนเรื่องออกบงออกแบบก็เป็นหน้าที่มึงไง”ไอ้ตินเริ่มเอาของออกมาวางบนโต๊ะ ผมพยักหน้าพลางคิดตาม

“แล้วมึงจะออกไปหลังเรียนจบเลยเหรอ รึว่าไง”

“ก็ต้องรอให้สร้างบ้านเสร็จก่อน แล้วค่อยย้าย ตอนนี้ก็วางแผนอะไรกันไปก่อน ยังไม่ต้องรีบหรอก โอเคนะ บอกไว้ก่อนเฉยๆ เดี๋ยวจะมาโวยวายว่ากูกับพี่ภูทำอะไรแล้วไม่บอก”ผมยิ้มออกมา พอพูดถึงเรื่องนี้ผมว่าพวกมันดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาเลย ผมยังไม่ได้วางแผนอะไรไว้สักอย่าง แต่พวกมันก็คิดแทนไว้หมดแล้ว

“ค่าใช้จ่ายเยอะนะ ทำไมไม่ลองหาซื้อบ้านเอาเลยล่ะ”ผมออกความเห็นบ้าง มันก็เลยยิ้มก่อนจะโน้มตัวมาตอบผม

“พวกกูคิดว่าอยากได้บ้านที่สร้างจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองมากกว่า บ้านหลังนั้นจะได้เป็นความทรงจำดีๆไง”ผมแอบเขินเล็กน้อยกับคำพูดของมัน พวกมันนี่คิดดีจริงๆ พอมันบอกเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกได้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพวกมันดูมั่นคงขึ้นมาเป็นกองเลย

“เดี๋ยวกูต้องออกไปบ้านไอ้ชัยนะ”

“ทำไมอ่ะ”ผมถามทันทีที่มันบอก

“ไปวางแผนงาน อยากตามไปดูไหมล่ะ”มันถามเสียงล้อเลียน

“โว๊ะ กูไม่อยากเจอหน้าไอ้ชัยให้หงุดหงิดหรอก แล้วมันคืบหน้าบ้างไหมเรื่องจีบพี่อันอ่ะ”ไอ้ตินส่ายหน้าเป็นคำตอบ ผมหัวเราะออกมาอย่างสะใจ

“เพื่อนมึงนี่โคตรอ่อน”ไอ้ตินแค่ยิ้มๆแต่ไม่ได้พูดอะไร ผมนั่งมองมันเอาของสดใส่ตู้เย็น ไอ้ภูก็กลับเข้ามาพอดี

“ของที่กูฝากซื้อได้ป่ะ”มันเข้ามาถาม ก่อนจะหยิบเบียร์ออกมา ค้นน้ำแข็งจากช่องแช่ ก่อนจะเทเบียร์ให้พวกผม มาถึงก็อะไรของมันไม่รู้

“ผมต้องไปทำงานต่ออ่ะ ขอบายดีกว่า”ไอ้ตินเลื่อนแก้วคืนไอ้ภู ผมเดาว่ายังไงมันก็ไปกินต่อที่บ้านเพื่อนมันอยู่ดี

“ไม่ได้ซื้อถุงยางมาเหรอ”มันค้นๆในถุง ผมมองมันอย่างเอือมระอาก่อนจะพูดอย่างหงุดหงิด

“ซื้อมามึงก็ไม่ใช้ ไม่ต้องซื้อดีกว่ามั้ง”

“เฮ้ย ก็ซื้อมาใช้บ้างไง”มันตอบสีหน้าเก้อๆ ไอ้ตินออกไปหยิบเสื้อคลุม มันหันมาบอกว่าอาจจะกลับดึกแล้วก็ฮัมเพลงออกจากห้องไป เหลือผมกับไอ้ภูจิบเบียร์เงียบๆสองคน

“มึงจะจ้องอะไรนักหนา”ผมเหลือบไปเห็นพอดี มันก็ไหวไหล่

“เออ ไอ้ภู กูอยากไปค่ายแนะแนวเด็กที่คณะจัดอ่ะ”ผมเกริ่นขึ้นมา ไอ้ภูเหลียวมองอย่างสนใจ มันเลิกคิ้วขึ้นข้างนึงก่อนจะเหล่มองผม

“แล้วไงต่อ”

“กูไม่แล้วไง มึงจะให้กูไปไหม”ให้หรือไม่ให้ผมก็ลงชื่อไปแล้ว

“ไปกี่วัน”

“สองวัน”ผมเห็นมันแอบย่นหน้า

“มีใครไปบ้าง”มันฉีกปลาเส้นออกมากิน

“ก็พวกเพื่อนๆกูนี่แหละ”

“แค่คณะมึงเหรอ”มันถามมากจนผมเริ่มหงุดหงิด ผมฟาดขามันไปเต็มแรง

“ให้หรือไม่ให้ ตอบมาแค่นั้นแหละ”ผมทำเสียงเข้ม ไอ้ภูนิ่งไปเหมือนใช้ความคิด ผมเห็นสีหน้าชั่วๆของมันแวบนึง

“แลกกับที่ระเบียง”กูว่าแล้ว ซื้อหวยทำไมไม่ถูกแบบนี้ ผมคิดไว้แล้วจริงๆว่ามันต้องต่อรองด้วยไม้นี้

“เออ ก็ได้ แต่รอฟ้ามืดก่อนนะ”พูดไปก็กลัวนะ ถึงห้องข้างๆจะไม่มีคนอยู่ แต่คนจากตึกใกล้เคียงกันล่ะ ผมเห็นไอ้ภูออกไปนอกระเบียงเพื่อเอาเสื้อผ้าที่แห้งแล้วไปแขวนที่ราวตากผ้าเพื่อบดบังการมองเห็น เรื่องหื่นๆนี่มันสรรหาจริงๆว่ะ ผมยอมมันเลย ไอ้ภูดูลั้นลามากกว่าปกติ จนผมแอบกลัว ผมก็ดูหนังไปพลางๆ พยายามไม่คิดอะไร ไอ้ภูนั่งทำงานของมันไปจนฟ้าเริ่มมืด ผมเห็นดูมันจะจริงจังมากจนผมคิดไปเองว่ามันอาจจะลืม แต่เมื่อเวลาสามทุ่มกว่าๆ มันก็ปิดหนังสือของมันดังฉับ เหมือนได้เวลาเข้าแท่นประหารเลย ผมคิดคำนวณดูว่าเมื่อคืนกับวันนี้ผมเปลืองตัวมากสุดๆ

“เฮ้ย มึงเอาจริงอ่ะ กูกลัวคนเห็นอ่ะ”ถึงรอบๆข้างจะมืด แต่แสงไฟเล็กๆน้อยๆจากตึกที่ห่างออกไปก็มีให้เห็นอยู่บ้าง ถึงจะมีราวตากผ้ามาช่วยบังก็เถอะ

“ไม่มีหรอก ใครมันจะมาดูล่ะ”มันต้องมีบ้างล่ะถ้ามีคนเห็น ผมนึกถึงข่าวที่เพื่อนๆแชร์ในเฟสที่มีคนถ่ายรูปคู่รักไปจิ้มกันที่ระเบียงห้องโล่งๆ แล้วสยองขึ้นมา

“รอดึกกว่านี้ก่อนได้ไหม”ผมตอบเลี่ยงๆก่อนจะนั่งลงที่ระเบียง แย่งเบียร์มาจากมือไอ้ภูเพื่อความอายจะหายไปบ้าง แต่ไปๆมาๆผมก็คล้อยตามไอ้ภูง่ายๆซะงั้น ตอนนี้ผมได้แต่กวาดตามองไปรอบๆระหว่างที่มันดึงกางเกงผมลง และดันขาผมออก ผมซบหน้าลงกับท่อนแขน ลมพัดผ่านมาทำเอาหวิวๆแปลก ๆ นึกถึงโฆษณาไอ้ที่มันพูดว่าลมมันเย็นแล้วผมก็หัวเราะออกมา

“ฟิก มึงเป็นไร”ไอ้ภูโน้มตัวมาถาม ผมได้แต่ส่ายหน้าพรืด ๆ พยายามกลั้นหัวเราะ ไม่รู้มันรำคาญหรืออะไรถึงก้มมาจูบปิดปากผม

“อือ รีบๆทำนะ กูกลัวคนเห็น”ผมพึมพำก่อนจะเกาะราวระเบียงไว้ระหว่างที่มันค่อยๆดันของมันเข้ามาช้าๆจนผมรับรู้ถึงความร้อน
ระอุที่อยู่ข้างใน มือมันเลื่อนมาลูบหน้าท้องก่อนจะกดขยี้ที่ตุ่มไตเล็กๆจนผมเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างแล้ว ผมเม้มปากเพื่อกลั้นเสียงคราง เมื่อมันเริ่มเบียดแทรกเข้ามาลึกๆก่อนจะกระแทกเข้ามาหนักหน่วงจนผมตัวโยน ริมฝีปากอุ่นแตะทั่วแผ่นหลังของผม พร้อมกับลิ้นชื้นแฉะที่ลากเลียไปมา มืออีกข้างขยับช่วยผมไปด้วย ส่วนอีกข้างกอดรัดตัวผมไว้ก่อนจะสอดแทรกเข้ามาไม่หยุด 

“ภู…โอ๊ย มึงช่วยเบาเสียงลงหน่อยได้ไหม อ๊ะ”ผมเบียดสะโพกเข้าหามันมากขึ้นเมื่อมันเน้นเข้ามาจนผมตัวสั่น เสียวก็เสียว กลัวก็กลัว ตื่นเต้นผสมปนเปกันไปหมด

“อาา เชี่ยเอ้ย โคตรเสียวอ่ะ”มันพึมพำปนหอบคราง เออ แล้วแต่มึงเลย มันขยับเข้ามาลึกๆสองสามครั้งสุดท้ายก่อนจะปล่อยอารมณ์หื่นออกมาในตัวผม หอมแก้มผมสองฟอด สอดมือมาช่วยผมที่ยังไปไม่ถึงไหน แต่พอได้มือมันช่วย ผมก็แทบทรุดเมื่อปล่อยของเหลวออกมา เลอะต้นไม้ไอ้ตินด้วย ขอโทษนะ มึงอย่าเพิ่งตาย เดี๋ยวไอ้ตินฆ่ากู

ไอ้ภูคว้าเสื้อมาเช็ดคราบเปื้อนตามซอกขาของผม ก่อนจะเอาผ้าขนหนูมาคลุมตัวให้ผม

“เข้าไปในห้องเลยเร็วๆ”ทีนี้ทำมาหวง ผมเดินโซเซเข้าไปในห้องน้ำแทน อาบน้ำชำระร่างกายอีกรอบก็ออกมาเจอไอ้ภูกำลังเอาเสื้อผ้าแห้งกลับเข้ามาเก็บเหมือนเดิม ขำว่ะ ผมออกไปรดน้ำเจ้าต้นอะไรไม่รู้ของไอ้ติน พรวนดินให้เล็กน้อยก่อนจะกลับเข้ามา ผมน่าจะเอะใจที่พวกมันยอมให้ผมไปง่ายขนาดนี้ ทั้งๆที่อยู่กับพวกมันสองคนไม่มีคำว่าง่าย ยกเว้นเรื่องหื่น




(ต่อด้านล่าง)
หัวข้อ: Re: 3P เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 10-09-2015 09:23:45



-   วันออกค่าย



ตอนนี้ผมกับไอ้เคนและเพื่อนๆกำลังรอรถทัวร์ที่ทางมหาลัยเหมาไว้ให้ กะจากสายตาแล้วมีประมาณสิบห้าชีวิต ถามว่าทำไมเยอะ ก็เพราะไอ้ที่จัดโชว์ผลงานคือหอประชุมใหญ่ แน่นอนว่าคนเยอะแน่นอน

“ทำไมรถมาช้าจังวะ”ไอ้ปลาบ่นกอดกระเป๋าเสื้อผ้าของมันแน่น ไปแค่สองวันขนอะไรมาเยอะแยะไม่รู้ ไม่เหมือนผมเลยแค่เป้ใบเดียวก็อยู่แล้ว

“ไปรับพวกศิลปกรรมก่อนอ่ะดิ”ไอ้เคนตอบ ผมนั่งรอเวลาไปพลาง จนเมื่อรถทัวร์ของมหาลัยมาจอดที่หน้าคณะ แอบตื่นเต้นเหมือนกันนานๆทีจะได้ขึ้น  ไอ้ชายดันให้ผมขึ้นไปก่อน ผมขึ้นไปชั้นบนเพราะชั้นล่างเต็มแล้ว หลายๆที่นั่งถูกจับจองไว้แล้วจากพวกศิลปกรรมที่สวมเสื้อยืดสกรีนคำว่าคนถือศิลป์ แล้วก็พวกติสๆสะพายกล้อง ผมเดินไปเรื่อยๆ เจอเบาะว่างพอดี แต่เมื่อหันไปมองที่นั่งอีกสองเบาะข้างๆผมถึงกับทำกระเป๋าเป้ร่วงเลยเพราะมันคือไอ้ภูกับไอ้ติน

“เฮ้ย มึง…มาได้ไงเนี่ย”ผมตีหน้างงๆ ชี้มือชี้ไม้ไปที่พวกมันที่สวมเสื้อของภาคฟิล์ม

“ขาใหญ่ก็แบบนี้แหละ”ไอ้ภูยักคิ้วมาให้ ไอ้ชายสะกิดผมเพราะมีคนยืนรอออกันเป็นแถว ผมเลยต้องนั่งลงทั้งๆที่ยังงงๆอยู่ ไอ้เคนขอนั่งติดหน้าต่างผมเลยต้องมานั่งใกล้ๆกับไอ้ภูและไอ้ติน กว่าจะได้มีโอกาสคุยกับมันก็นานพอตัวเพราะคนที่เดินผ่านไปหาที่นั่ง

“มาได้ไงวะ มึงทำยังไง”ผมยังคงไม่หายสงสัย พวกมันนี่สุดยอดจริงๆ

“พอดีกูรู้จักรุ่นพี่กับอาจารย์ในภาคก็เลยขอมาด้วย”ไอ้ภูตอบ ผมยังมึนๆอยู่เลยว่ะ ไอ้ตินแชะภาพหน้ามึนๆของมไว้ดูก่อนจะหัวเราะขำ ผมซูฮกพวกมันเลย ไม่รู้จะบรรบายความรู้สึกออกมายังไงดีเลย

“ผัวมึงนี่เจ๋งเนาะ”ไอ้ปลากระซิบเบาๆพร้อมหัวเราะคิกคัก

“ถ้าคิดมาแล้วอยากฉายเดี่ยวนี่หมดหวังนะน้อง”ไอ้ตินพูดพร้อมรอยยิ้มร้ายกาจ ไอ้พวกชั่วว!

บรรยากาศบนรถเป็นไปอย่างคึกคักเพราะมีการสันทนาการตลอด ผมนี่หูอื้อไปเพราะเสียงกลองและเสียงเพลง หลายๆเพลงที่พวกศิลป์มันร้องกัน ว่ากันตามตรงนี่มันศูนย์รวมคนบ้าชัดๆ ผมแอบเหล่มองไอ้ติน ผมไม่เคยเห็นมันเต้นแบบฮาๆกวนตีนๆเลย ไอ้ภูนี่เคยออกสเต็ปกับมันอยู่บ้างเวลาเมา ผมนี่รอคอยเลยเพราะมันจะต้องมีให้เต้นแน่ๆ ยิ่งมันสวมรอยมาเป็นเด็กภาคฟิล์ม คณะคนบ้าๆติสแตกมาเรียนมันก็ต้องทำได้สิ

“มาดูแถวกลางบ้างดีกว่า”พี่ผู้หญิงเดินมาตรงจุดที่พวกผมนั่งอยู่ มือกลองก็ลากกลองตามมาด้วย ไอ้ปลานี่ขยับตัวยุกยิกอยู่บนเบาะเหมือนอยากเต้นเต็มแก่ ผมส่งซิกให้พี่ที่กำลังเขย่าคาวเบลล์อยู่ ผมจำได้ว่าอยู่คณะผม พี่เขาทำหน้างงๆ ผมก็ชี้ๆไปที่ไอ้ตินแล้วทำปากพะงาบๆว่าเต้น พี่เขาก็ถึงบางอ้อ

“น้องสองคนนี้ลุกมาแจมกับพี่ได้ไหมคะ”พี่ผู้หญิงชี้ไปที่ไอ้ภูกับไอ้ติน เกิดเสียงปรบมือและรัวกลองดังขึ้น ผมหัวเราะหึๆทันที คิดจะมาแจมก็ต้องทำตัวให้กลมกลืนหน่อย ผมมองหน้าพวกมันสองคนที่ไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา ไม่รู้ว่าเวลาปกติที่ไม่เมาไอ้ภูมันจะกล้าเต้นไหม

“เด็กฟิล์มหล่อขนาดนี้เลยเหรอ ทำไมชั้นไม่เคยเห็นหน้า”พี่ขิมสาวสองหน้าสวยพูดขึ้น จะเห็นได้ไงล่ะ มันเพิ่งเป็นเด็กใหม่ก็วันนี้นี่เอง

“ผมต้องเต้นด้วยเหรอ”ไอ้ตินถามขึ้นมา

“แน่นอนว่าต้องเต้น มีใครอยากอาสาไหมเอ่ย”พี่คาวเบลล์ถาม พลางมองอย่างรู้ทันมาที่ผม

“ผมครับ”รีบเสนอตัวไปในทันที พวกมึงเจอกูแน่ ไอ้ภูกับไอ้ตินถลึงตาใส่ผมทำนองว่าให้ทำดีๆ ไอ้ปลากับเพื่อนๆของผมเริ่มส่งเสียงโห่ฮา พร้อมกับอัดคลิปเก็บความน่าอายไว้เรียบร้อย

“ไหนสัมภาษณ์ก่อน ชื่ออะไร อ้อ น้องฟิก ถาปัตย์ที่แสดงเป็นนักเลงเมื่อปีหนึ่งใช่ไหม พี่จำได้”พี่ขิมพูดเองเออเองก่อนจะอธิบายว่าต้องเต้นสองรอบ คือเต้นให้พวกด้านหน้ากับด้านหลังดู ถ้าเรื่องเกรียนในคณะผมไม่อายหรอก

“ผมขอแบบเพลงงานวัดได้ไหม แบบนั้นมันค่อยได้ฟิลหน่อย”ผมสะกิดพี่ขิมเพื่อถ่ายทอดเจตนา

“พวกมึงคอยดูสเต็ปกูนะ แล้วทำตาม”ผมสะกิดแขนมันสองคนที่ทำหน้าเหมือนโลกกำลังถล่ม

“ไอ้ฟิก พอเลย กูไม่เล่นด้วยนะเว้ย”ไอ้ตินกระซิบเบาๆสีหน้าดุๆ มึงจะหมดมาดก็วันนี้นี่แหละ

“มึงโดนดีแน่”ไอ้ภูขู่ ที่แท้มันก็ไม่กล้าเต้นต่อหน้าคนมากๆ อินโทรเพลงมาแล้ว ผมเริ่มขยับไหล่ยึกยัก ไอ้ภูกลอกตาไปมา ยกมือเหมือนยอมแพ้

“ผมไม่เต้น”มันทำหน้าเข้ม มีเสียงโห่ดังมา

“มึงไม่ใช่ว้ากคณะมึงนะ เขาไม่กลัวมึงหรอก”ผมพูดเบาๆพร้อมรอยยิ้มกว้าง

“ถ้าน้องสองคนไม่เต้น น้องต้องมาเล่นเกมส์กับพี่แทน”จู่ๆพี่ขิมก็เปลี่ยนใจขึ้นมาซะงั้น ผมได้แต่อ้าปากเหวอ

“เกมส์อะไรครับ”ไอ้ตินรีบถามเมื่อเห็นทางรอด ผมกลับมานั่งที่ตัวเองด้วยสีหน้าบูดบึ้งเมื่อพี่ขิมอธิบายเกมส์เรียบร้อยแล้ว ไอ้เกมส์ที่ว่าเนี่ย ผมเองก็ไม่สนับสนุนหรอก ตอนรับน้องผมก็เคยโดนเพราะเป็นด่านของพวกพี่ๆสาวสองหรือพวกเกย์ตุ๊ดกระเทยทั้งหลาย คือต้องทำลูกโป่งให้แตกโดยห้ามใช้มือ อธิบายให้เห็นภาพก็ต้องทำเหมือนกอดกันแล้วใช้แรงอัดลูกโป่งอ่ะ ผมนี่แอบเดือดปุดๆ พี่ขิมคงอยากเล่นเพราะได้กำไรล้วนๆ แต่พี่เขาก็ถามความสมัครใจก่อนว่าอยากทำไหม ถ้าไม่ก็ไปเต้น แน่นอนว่าพวกมันสองคนเลือกเล่นเกมส์กระแทกลูกโป่ง ผมเลยนั่งหน้าบูดเป็นตูดอยู่นี่ไง

“แค่เกมส์มึงจะทำหน้าแบบนี้ทำไมวะ”ไอ้เคนหัวเราะ ตอนนี้ผมกำลังเพ่งมองไปที่พี่ขิมที่กำลังเอาเชือกปอผูกลูกโป่งเข้ากับตัวเอง ไอ้ตินประเดิมก่อนคนแรก สีหน้ามันไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่เสียงหัวเราะและเสียงเชียร์ก็ทำให้มันดูจะอายๆขึ้นมา ผมสบตากับมันเข้าพอดี มันเลยยิ้มให้ผมวางใจ

ไอ้ภูยืนกอดอกพิงเบาะรถอยู่สีหน้าเหมือนไม่ปลื้มกับเกมส์นี้ แล้วทำไมมึงไม่เต้นวะแม่ง รู้งี้เลือกท่าง่ายๆก็ได้ ถ้าต้องรู้ว่ามันสองคนต้องมาเล่นเกมส์กระแทกลูกโป่งแบบนี้ อ๊ากก ผมรับไม่ได้ว่ะ ผมหันหน้าไปซบบ่าไอ้เคนเพราะไม่อยากเห็นไอ้ตินพยายามทำให้ลูกโป่งแตก ได้ยินเสียงไอ้เคนและคนอื่นหัวเราะและสาวๆกรี๊ด เมื่อไอ้ตินกระแทกทีเดียวลูกโป่งแตกเลย

“แหม ทีเดียวแตก”ไอ้เคนหัวเราะ ผมเหลือกตามองมันทันที

“เสื่อมเชี่ยๆเลย เกมส์ไรวะ”ผมบ่นอุบ ก่อนจะขว้างสายตาหงุดหงิดไปที่ไอ้ตินที่เดินกลับมานั่งที่เบาะ

“แค่เกมส์เอง”มันเอื้อมมือมาหยิกแก้มผม ต่อไปก็ถึงคราวไอ้ภู พี่ขิมนี่หน้าบานไปแล้ว ผมหันไปซบบ่าไอ้เคนอีกครั้งเพราะทน
มองไม่ได้ ได้ยินเสียงหัวเราะกรี๊ดร้องดังมาตามเคย

“มันเสร็จยัง”

“ยังว่ะ”ไอ้เคนตอบเสียงสั่นๆจากการกลั้นหัวเราะ เสียงหัวเราะยังคงดังอยู่ต่อเนื่องทำให้ผมเดาว่ามันคงทำให้ลูกโป่งแตกไม่ได้สักที

“พี่ภูแม่งน่าสงสารชิบหาย”ถึงไอ้ปลาจะพูดแบบนั้นแต่มันก็หัวเราะก๊ากๆอยู่ดี จนในที่สุดผ่านไปนานมาก เสียงลูกโป่งแตกก็ดังขึ้นมาทันที ผมถอนหายใจโล่งอก ไอ้ภูเดินหน้านิ่งกลับมาที่เบาะก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เหี้ยเอ้ย กูคิดว่ากูจะตายแล้วนะ”มันบ่นเบาๆ

“ถ้าแค่เต้นก็จบไปนานแล้วมั้ง”ผมพูดใส่หน้ามันสองคน

“ใครเขาจะเต้นท่าบ้าๆบอๆแบบพวกมึงได้วะ”ไอ้ตินแย้งมา

“อ๋อแล้วที่ไปเล่มเกมส์นี่ไม่บ้าบอว่างั้น”ผมมองหน้ามันสองคนอย่างหงุดหงิดขัดใจผมจริงๆเลย แล้วการสนทนาระหว่างผมกับมันก็จบลงเมื่อพี่ขิมให้พวกไอ้ปลาเต้น มันก็ออกสเต็ปไปตามเรื่องตามราว เป็นผู้หญิงที่ไร้ความสาวแล้วยังโคตรกล้าอีกนะมันเนี่ย

“มึงอายไอ้ปลามันไหม”ผมยังคงหาเรื่องไอ้สองตัวนี่ต่อไปตลอดทาง เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ความสงบบนรถก็เกิดความเงียบ
เพราะเริ่มจะเหนื่อยกัน ไอ้ชายสะกิดไหล่ผม

“กูอัดคลิปไว้ มึงอยากดูไหม”ผมขึงตามองมันก่อนจะดึงโทรศัพท์มาลบคลิปให้หมดแล้วส่งคืน ใครไม่อยู่ในสถานการณ์แบบผมไม่เข้าใจหรอก หวังว่าจะไม่มีอะไรแบบนี้อีกแล้วนะ ได้แต่คิดในใจ ถึงจะแค่เกมส์ผมก็หวงผู้ชายของผมนะโว้ย!!





TBC.
ตอนนี้คือตอนหื่น ฮาๆบ้าๆไปตามประสา   :laugh: เจอกันตอนหน้าค่ะ
ตอบคำถาม คุณ puchi เราเพิ่มเนื้อหาไปบางส่วนนิดหน่อยค่ะ

ป.ล.เราไม่เคยมองว่าตินเป็นตัวประกอบ เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าภาคนี้ เราเน้นไปที่เรื่องราวของตินโดยมาก
เพียงแค่ตอนที่แล้วเป็นเรื่องราวของภู เราเลยเน้นไปที่ภูมากหน่อยเท่านั้นเองค่ะ  :กอด1:




หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-09-2015 09:46:10
 :กอด1:   :mew1:  ฟิกช่างเอาใจผัว
อิอิ ชัดเจน ผู้ชายของผม หวงมากด้วยนะ
คนเขียนฟิตจัง ชอบๆ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 10-09-2015 09:50:22
55555 ติน กะ ภู น่ารัก ส่วนฟิก ออร่า เมียจับแล้วววว
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 10-09-2015 09:50:45
 :pighaun:  มีสามีหื่นต้องทำใจ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Pimjean ที่ 10-09-2015 10:13:13
เรารักภูมากกว่าติน..เราลำเอียงงงงง 555+
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 10-09-2015 10:50:10
ฟิกนี่ยังไง  ขี้หึงอะ  ไปค่ายคราวนี่ทาทางจะมีคนอกแตกตาย 55555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 10-09-2015 11:12:59
ในที่สุดทั้งสามก็  :haun4:  แถมมีต่อแบบตัวต่อตัวอีก อีหนูฟิกเอ้ย สมใจเลยสิทีนี้ ผัวทุ่มให้เอาสุดตัวไม่ต้องกลัวไปเอาคนอื่นหรอกจ้า  แต่ไม่รู้เป็นไรเวลาอ่านบทรักภูกับฟิก มันขำอ่ะ คือ มันต่างจากตินนะ ติน กับ ฟิก มันจะดูละมุนแอบมุ้งมิ้ง แต่กับภูมันเหมือนว่าเอากันดีๆไม่ได้มันต้องแขวะต้องจิกกัด มันได้ฟิลไปอีกแบบ ชอบอ่ะนึกภาพแล้วมันขำ ไงล่ะอีหนูฟิกเอาคืนทำเป็นพูดว่าของพี่ภูเหมือนหนอน เจอสวนกับเรื่องหูรูด ไม่เข็ดๆ :m20: จริตจกร้านอีหนูฟิกเรื่องเป็นเมียเยอะแล้วนะ มีหึงหวง ทนมองไม่ได้ กับการเห็นสองผัวถูกลวนลาม แล้วออกค่ายนี้จะ  :oo1: กันอีกไหมหนอเปลี่ยนสถานที่ไง ถ้าจะเร้ากว่าระเบียงอีกนะ พี่ภู ชวน ติน ด้วยเลยจัดให้อีหนูฟิกหน่อย  :hao6:

ปล. อ่านเรื่องนี้ไม่เคยคิดว่าใครเป็นตัวประกอบเหมือนกันนะ เพียงแต่ตอนนี้เป็นตอนของใครก็ต้องเน้นไปที่คนนั้น เหมือนคนเขียนบอกแหละ แต่ก่อนก็เคยรู้สึกว่า ภู ไม่เด่นเท่าตินในหลายๆอย่าง ฟิกรักตินมากกว่า ก็คิดว่าไม่แปลกนะ คนชอบตินเยอะ ดูมีของมากกว่าภู  ถ้ากลับไปอ่านตอนหลัก ภูจะเน้นเรื่องครอบครัวที่ดราม่า ภูที่ตื้ออยากให้ฟิกรัก การกระทำดูงี่เง่าไม่เท่เหมือนติน ยิ่งตอนที่ตินได้ใจฟิกไปก่อนด้วยการฟิกบอกว่าชอบ ยังสงสารภูเลย แต่คิดอีกทีก็เพราะตินรักฟิกมาก่อนและไม่ทำร้ายฟิกเหมือนที่ภูทำ เพราะตอนนั้นภูยังไม่ได้รักฟิกและด้วยนิสัยชอบคนเอาใจ ยอมให้ตัวเองเป็นผู้นำ ก็เลยใช้ความรุนแรงกับฟิก ต่างจากติน แต่หลังจากนั้นภูก็ปรับตัว จนฟิกเริ่มชอบภูบ้าง ถ้าด้านความรู้สึกฟิกให้ตินเต็มๆนะ แต่ตอนนี้ไม่ได้คิดแล้วว่า ฟิกรักใครมากกว่า รู้แต่ว่าทั้ง ภู และ ติน รักฟิกมากกว่าที่ฟิกรักสองคนแน่ๆ  เวลาอ่าน ติน ฟิก มุ้งมิ้งกันก็มีสงสารภู แต่พอฟิกให้ความสำคัญกับภู ก็สงสารติน  แต่พออ่านๆไป ก็เข้าใจได้เลยว่า ทั้งสามคนรักและผูกพันกันมากกว่าคนรักทั่วไป ภู ยอมติน ก็เพราะรู้ว่า ตินชอบฟิกมาก่อน และรุ้ว่าตัวเองสู้ตินไม่ได้ เหมือนที่บอกกับม๊านั่นแหละ ตินก็มีความกลัวเหมือนกันว่า จะสู้ภูไม่ได้ แต่สุดท้ายฟิกก็ทำให้เห็นว่า รักทั้งสองคนแต่รักในแบบนิสัยต่างกันของภูกับติน เราชอบ ภู ฟิก ติน มาก ชอบเวลาเขาอยู่ด้วยกัน ห่วงใยกันและกันเสมอ ชอบภูกับตินที่รักกันแบบพี่น้อง ภูไม่เคยยอมใครแต่เพราะรักฟิกและตินก็ดี ก็ยอมรับได้ ส่วนตัวชอบภู กรูจะเม้นท์ยาวเพื่อ สุดท้ายก็จบที่เขารักพี่ภูอ่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 10-09-2015 11:35:32
จัดไป  o13
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-09-2015 11:48:24
ทำตัวเป็นเมียหวงได้น่ารักว่ะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 10-09-2015 12:21:02
555 สนุกมากจ้า รอตอนต่อไปน๊า  :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 10-09-2015 12:27:01
 :haun4: แอร๊ยยยย อ่านไปเขินไปอะโดยเฉพาะฉากอัศจรรย์ ฮ่าๆๆ หื่นกันเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ หลังๆมานี่ฟิกน่ารักนะทั้งอ้อนทั้งขี้หึงขี้หวง เสียดายไม่ได้เห็นคนหล่อเต้นเลย ฮ่าๆ อาทิตย์นี้อัพรวดๆเลย กอดคนแต่งแรงๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 10-09-2015 13:22:01
หนูฟิกน่ารักขึ้นเยอะเลยยยย
ตินกัยภูก็หื่นมากก
555 ชอบเวลาที่อยู่ด้วยกันครบสามคนมันรู้สึกดีมากๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 10-09-2015 13:38:27
ภูนี่เล่นริมระเบียงเลยเหรอ 55
ฟิกมุ้งมิ้งขึ้นเยอะเลย :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 10-09-2015 15:38:19
แม้ๆ เด็กดีเอาใจสามี 5555+
ฟิกเอ๊ย ออร่าเมียฟุ้งกระจาย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 10-09-2015 17:55:27
งานหวงผัวก็มานะคะ
รู้สึกอิฟิกมันน่ารักขึ้นเยอะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 10-09-2015 18:26:24
 :m25: สามหนุ่มนี่จัดหนักจัดเต็มตลอด
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 10-09-2015 20:46:10
ให้ตายเถอะ ชอบเรื่องนี้จริงๆ!!  :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 10-09-2015 20:47:45
พี่ตินแม่บ้านแม่เรือน เป็นที่พึ่งพาของหนูฟิกจริงๆ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 10-09-2015 21:41:51
พี่ภูกับตินนี่คือยังไงก็จะไม่ปล่อยฟิกใช่มั้ย 5555555555
แล้วไอ้ที่หลอกให้ฟิกเอาตัวเข้าแลกนั่นอะไรรร 55555555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 10-09-2015 21:53:26
หึงสามีล่ะสิ อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: wann ที่ 10-09-2015 22:30:04
โอ่ยย ชอบบฟิดอ้ะะ หวงผัวมวากกกกก :katai1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 10-09-2015 22:38:31
น่าร้ากกกกกกก  รู้ว่า จะเข้าใจกันดีกว่าเดิมไรแบบนี้เลย ชอบอ่ะ ^^ :L2:
ปล. ขอเอ็นซีได้ไหมคะ แบบหลังจากครบกำหนอสองเดือนของฟิกอ่ะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 12-09-2015 10:17:58
ไม่ได้เร่งนะ แต่คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงง สามคนผัวเมียแล้วอ่ะ โดยเฉพาะพี่ภูคิดถึงมากกกกกกกกเป็นพิเศษเลย ผู้ชายร้ายตามธรรมชาติของเค้า น่ารักอ่ะ :-[



ปล. จำได้ว่า แม่ของภูเสีย อยากอ่านตอนนั้นจังว่าภูเป็นยังไงบ้าง ภูรักแม่มากๆ ขาดแม่เหมือนขาดคนเข้าใจ เพราะความสัมพันธ์กับพ่อยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ภูคงเคว้งแน่ แต่ยังดีที่มีฟิกกับตินอยู่ด้วย หรือไปมีในหนังสือค่ะ อยากรู้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 12-09-2015 20:43:32
โอย.....หวงเว้ย!
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 12-09-2015 22:01:45
ฟิกเล่นเอง เจอดีเองอีกแล้ว 555
กลายเป็นค่ายสุขสันต์แน่ๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 12-09-2015 23:50:09
ไปนั่งอ่านตั้งแต่ตอนแรกมา
ติดงอมแงมจร้า
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 13-09-2015 01:40:58
ชอบอ่าาาา นุ้งฟิกหวงผู้ชายของตัวเองงงง
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 13-09-2015 02:46:57
ชอบเรื่องนี้จริงๆ รักทั้งสามคนเลยนะคะ จุ๊ฟๆๆ (^з^)-☆
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๖ ออกค่าย 1 [P.5]อัพๆ 10-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: aaoo ที่ 13-09-2015 10:20:07
ภูไปทำไรมาถึงไม่มีแรง  อิอิ :hao6:
ขอบคุณจร้า
หัวข้อ: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 13-09-2015 16:01:09
ตอนที่๗ ออกค่าย 2







กว่าจะถึงที่หมายก็ทำเอาผมปวดเมื่อยไปหมด ข้าวก็ยังไม่ได้กินเลย แต่งานต้องมาก่อน ผมกับเพื่อนๆช่วยกันยกของเข้าไปในหอประชุมที่จะจัดแสดงผลงาน หอประชุมกว้างมาก แถมแอร์เย็นช่ำเลย พวกผมต้องค้างคืนในหอประชุมนี่แหละ ผมเหลียวมองรอบๆเห็นไอ้สองตัวกำลังทำเนียนช่วยลากบอร์ดออกมา หลังจากที่เอาของออกมากันหมดแล้ว ก็ได้เวลากินข้าว ตอนแรกก็คิดว่าจะได้ไปเปิดหูเปิดตาที่โรงอาหาร แต่เขามีข้าวกล่องมาให้

“นั่งรวมกันเลยค่ะ ไม่ต้องแยกเซค”พี่ขิมเรียกให้ทุกคนมานั่งล้อมเป็นวงกลมสองชั้นหันหน้าเข้าหากัน แน่นอนว่าไอ้สองตัวนี่นั่งอยู่ตรงหน้าผมนี่แหละ พวกพี่ๆเริ่มแจกข้าวกล่องให้ เป็นแบบแยกกับข้าวอยู่ในถ้วยพลาสติกเล็กๆ ดูหรูขึ้นมานิดหน่อย ผมได้ผัดลูกชิ้น ของไอ้ภูผัดกระเพราะ ส่วนของไอ้ติตได้ผัดพริกหมู ไอ้ภูเบ้หน้าทันทีเมื่อเห็นกับข้าวของตัวเอง

“แลกกัน”

“เรื่องดิ”ผมหยิบกล่องข้าวมาวางบนตัก ผมก็เบื่อผัดกระเพราะแล้วเหมือนกัน ไอ้ชายเหมือนจะรู้ชะตาพอไอ้ภูหันไปมองมันก็เท
ผัดพริกหมูใส่ข้าวของมันทันที

“กูไม่อยากกิน เบื่อแล้ว”มันพูดเสียงนิ่งๆ ตกลงมันจะแลกกับผมให้ได้เลยใช่ไหม สรุปก็ต้องแบ่งกับข้าวกันกินสามคน ดูเป็น
ครอบครัวยังไงก็ไม่รู้ว่ะ คนอื่นเขาหันหน้าคุยกันแต่พวกผมนั่งจุ้มปุกอยู่สามคน

“กูว่าพี่ขิมชอบไอ้ติน” จู่ๆไอ้ภูก็พูดขึ้นมา ผมเงยหน้ามองพี่ขิมบ้าง พี่เขากำลังมองมาทางนี้จริงๆด้วย ผมหันไปมองมันขำๆ

“สนเปล่า กูขอเบอร์ให้”ผมก็ว่าแปลกนะที่ตัวเองไม่หึง ไม่รู้สิ เห็นสีหน้าหงุดหงิดของไอ้ตินแล้วตลกดี

“ถุย ระดับกูขอเองก็ได้”

“เอาเลยซี้”ผมลองพูดดูว่ามันจะทำจริงไหม ไอ้ภูจิบน้ำมองผมกับไอ้ตินสลับไปมาก่อนจะตบมือ

“เอาดิ อยากรู้เหมือนกัน ว่ากูเดาถูกไหม”ไอ้ห่าภูนี่มันเลวจริงๆ ไอ้ตินยิ้มจางๆมันมองหน้าผมที่เลิกคิ้วให้มัน แต่คิ้วก็ตกโดยฉับ
พลันเมื่อมันลุกไปจริงๆ อ้าวไอ้นี่...ผมไม่รู้ว่าทำสีหน้าแบบไหนออกไปแต่ไอ้คนที่กอดเข่ามองผมอยู่กลับหัวเราะขึ้นมาซะงั้น ผมถลึงตาใส่มัน

“ขำไรของมึง”ผมแอบมองไอ้ตินคุยอะไรบางอย่างกับพี่ขิม แถมหันมามองผมด้วย ผมเลยเสมองกล่องข้าวของตัวเอง ไม่นานมันก็กลับมาด้วยสีหน้าขำๆ

“ได้เบอร์มาป่ะ แบ่งกูมั่ง”พูดกลบเกลื่อนไปแบบนั้นแหละ เดี๋ยวมันจะหาว่าผมงี่เง่าเพราะเรื่องขำๆ

“เปล่า”ไอ้ตินตอบพร้อมรอยยิ้ม

 “พี่เขาว่าไง”ผมถามด้วยความอยากรู้ ไอ้ตินยื่นหน้ามาใกล้ๆ

“บอกว่าไม่อยากโดนมึงตบ”ผมไอค่อกแค่กทันที อะไรวะ พี่เขาพูดบ้าอะไรเนี่ย ผมหันไปมองพี่ขิมที่หัวเราะอยู่บ่งบอกว่าพูดขำๆ

 “เออ แต่หมู่นี้มันเรียบร้อยขึ้นจริงๆนะพี่ ทำเอาผมขนลุกไปหมด”ไอ้ชายแทรกขึ้นมา ผมเหล่มองมันทันที

“ใครขอความเห็นมึงไม่ทราบวะ แปลกนะพวกมึงเนี่ย พอทำตัวดีก็บ่น”แปลกตรงไหนที่ผมจะทำตัวเป็นเด็กดีบ้าง ทำตัวไม่น่ารัก
(?)เดี๋ยวพวกมันจะเบื่อเอา แต่พอผมหันมาเจอไอ้สองคนนี่ยิ้มกว้างแล้วก็หงุดหงิด เหมือนพวกมันจะดูภูมิใจนะ เหอะๆ

หลังจากที่อิ่มหนำสำราญแล้ว พวกผมกับพี่ๆก็เริ่มทำงานในส่วนของตัวเอง เพราะจะมีการเปิดให้เข้าชมในวันพรุ่งนี้และอีกวันหนึ่งจะเป็นการสันทนาการน้องๆที่สนใจเข้าร่วม ไอ้ภูกับไอ้ตินก็ช่วยพวกพี่ๆเพื่อนๆเก็บของเก็บอะไรไป ยังดีที่ทำตัวเป็นประโยชน์  ไม่ใช่ว่าติดสอยหอยตามมาเฉยๆ

“น้องเลือกหามุมนอนกันเองเลยนะ ตามสบาย ห้องกว้างมาก แต่นอนรวมๆกันไว้ก็ดี เพราะที่นี่…”พี่ผู้หญิงที่ผมยังไม่ทราบชื่อทำเสียงต่ำๆน่ากลัวๆ ก็คงจะพูดเรื่องผีๆเผอๆแน่

“ผีดุ!”ไอ้ภูโผล่มาข้างๆผมพร้อมกับตะปปก้นผมเต็มแรง

“เชี่ยภู”ผมปัดมือมันออกด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ชอบมาทำรุ่มร่ามต่อหน้าคนอื่น

“ล้อเล่นเอง นอนตรงไหนดี”มันแกล้งทำสายตาวิบวับแบบที่ชอบทำเวลาคิดถึงเรื่องหื่นๆ

“กูจะนอนกับเพื่อนกู”ผมพยักเพยิดไปทางไอ้เคนกับไอ้ชาย มันสองคนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะวางโมเดลบ้านลงบนโต๊ะสำหรับโชว์ผลงาน มีของผมด้วยนะ ก็งานกลุ่มที่ทำกับพวกมันนั่นแหละ งานเดี่ยวๆของผมไม่ค่อยได้โชว์หรอก ส่วนใหญ่ไอ้พวกหัวครีเอทสุดยอดจะได้เอามาโชว์รวมถึงไอ้เคนด้วย รายนี้มันเก่งสุดในบรรดาพวกผมแล้ว งานกลุ่มผมเลยชอบอยู่กับมัน แบบว่าขอเกาะเกรดหน่อย ฮ่าๆ

“นอนกับพวกกูนั่นแหละ กูเอากระเป๋ามึงไปของที่แล้ว”ไอ้ภูชี้ไปที่กระเป๋าสามลูกวางอยู่ใกล้ๆกับจุดตกของแอร์ ผมเป็นคนขี้หนาวพอสมควร ไม่ค่อยจะอยากนอนกับไอ้พวกนี้เท่าไหร่เลย อยู่ที่หอก็เปิดแอร์ซะเย็นฉ่ำ แต่ไอ้ภูมันเคยบอกไว้ว่าเปิดเย็นๆจะได้หาเรื่องออกกำลังกายกัน

“เออๆแล้วแต่พวกมึง ไอ้ตินอ่ะ”ผมมองหามันแล้ว ไม่เห็นมันอยู่ในหอประชุมเลย

“มันออกไปช่วยพี่เขายกของ มึงนี่ยังไง กลัวมันจะไปกินตับกับพี่ขิมเหรอ”มันทำเสียงล้อเลียน ผมเตะหน้าแข็งมันเบาๆ

“พี่ขิมไม่ใช่แนวมันเว้ย”ผมพูดอย่างมั่นใจเพราะรู้ดีว่าไอ้ตินไม่ได้ชอบแบบนั้น ซึ่งผมก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมพวกสาวสองชอบมาเต๊าะผม เคยมีมารายหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว แต่ช่วงหลังๆก็มีมาเพิ่มอีก เวลาไปกินเหล้า ชอบมาเกาะแกะใกล้ๆ มีอยู่หนนึง ตอนนั้นไปเที่ยวกับพวกมันนี่แหละ เผอิญมีสาวสองมาขอเบอร์ผม ไอ้ภูมันก็หงุดหงิด (มันออกแนวไม่ค่อยชอบแต่ไม่ได้แอนตี้)เกือบไปเตะเขาด้วย นึกแล้วขำ แต่เรื่องมันนานแล้วอย่ารื้อฟื้นเลยเพราะมันตลก

ผมจัดบอร์ดเสร็จก็นั่งมองพวกศิลปกรรมเอาผลงานที่ติดการ์ดแล้วแปะบอร์ดไปเงียบๆ ไอ้ตินโผล่มานั่งข้างๆผมพร้อมกับยื่นน้ำโค้กให้

“ดีมาก รู้ใจจริงๆเลย”ผมคว้าน้ำโค้กมาจากมันด้วยรอยยิ้ม อยู่กับพวกมันนี่ผีเข้าผีออก วันไหนอยากประคบประหงมผมนะ วันนั้นผมแทบจะไม่ต้องหยิบจับอะไร พวกมันจัดให้หมด นู่น ไอ้ภูเดินมาหาผมอีกแล้ว เอาขนมมาให้ผมด้วย 

“เกิดเป็นไอ้ฟิกนี่สบายจริงๆ”ไอ้เคนส่งเสียงเอื่อยเฉื่อยล้อมา ผมยักคิ้วสองสามจึกให้มันก่อนจะดึงถุงขนมมาจากมือไอ้ภู

“ทำดีมาก ลูก มาให้พ่อกอดหน่อยซิ”ผมกางแขนตบบ่ามันสองคน ไอ้ตินปัดมือผมออก

“กวนตีนขึ้นทุกวันนะ รู้ตัวไหม”

“เหรอวะ กูไม่เห็นรู้เลย กูออกจะเป็นเด็กดี”ว่าแล้วก็เอนไปซบไหล่มัน ก่อนจะเหล่ตามองไอ้ภู เบะปากใส่มันด้วย มันถลึงตามองผมก่อนจะหันไปสนใจขนมของมันต่อ ยั่วโมโหมันไม่ได้ผล ไม่สนุกเลย ไอ้ตินเอาไหล่กระแทกให้ผมผละไปจากมัน เห็นหน้าบูดๆของมันแล้ว มีความสุขครับ แสดงว่าผมกวนตีนมันสำเร็จ ฮ่าๆ

“สามคนนี้เกรงใจพวกพี่บ้างก็ได้นะ”พี่คนหนึ่งพูดขึ้นมาเมื่อหันมาเจอไอ้ภูใช้กำลังบังคับให้ผมกินขนมจากมือมัน ผมไม่ค่อยชอบให้ใครมาป้อน ถ้าเป็นฝ่ายป้อนก็ว่าไปอย่าง

“พอเลยไอ้ภู กูจะอ้วก”นี่พูดจริงๆนะ ทั้งเลี่ยนขนมแล้วก็พฤติกรรมของมัน มาทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นเยอะๆ ผมก็อายเป็นนะเว้ย ป่านนี้คนอื่นคงรู้หมดแล้วมั้งว่าอะไรเป็นอะไร ไอ้ภูยกยิ้มชั่วเหมือนแกล้งผมได้สำเร็จ หลังจากที่จัดของเสร็จหมดแล้วก็ต้องมาประชุมกับพวกอาจารย์ที่มาด้วยอีกรอบ ส่วนใหญ่ก็เรื่องกำหนดการนั่นแหละ

ตกดึก ก็ต้องแย่งกันอาบน้ำ ห้องน้ำจะอยู่นอกหอประชุมที่สุดทางเดินนู่น ทำไมอยู่ไกลนักก็ไม่รู้ เนื่องจากคนเยอะ ผมเลยเข้าไปอาบพร้อมๆกับพวกไอ้เคนไอ้ชาย

“มาอาบกับกูเดี๋ยวสามีสองคนมึงก็หวงหรอก”ไอ้ชายพูดระหว่างที่ถอดเสื้อออก ผมก็ไม่ได้ถอดหมดนะ เหลือแต่บอกเซอร์ กับไอ้พวกนี้ก็เห็นมาหมดแล้วตั้งแต่สมัยหัวเกรียนๆตอนม.ปลายแล้ว

“มันไม่บ้าขนาดนั้นหรอกว่ะ”ผมเข้าไปเบียดไอ้เคนออกเพราะผมจะใช้ฝักบัว

“ใครจะรู้ พวกมันออกจะรักออกจะหลงมึง มีดีอะไรวะ”ไอ้ชายทำหน้าไม่เคลียร์ ผมเลยหันไปทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่มัน

“อยากรู้ไหมล่ะ”ว่าแล้วก็ทำสายตาลวนลามร่างกายมัน มันสองคนก็ขาวนะ แต่ไอ้เคนออกจะคล้ำหน่อยๆ ไอ้ชายถลึงตาใส่ผม

“อย่ามามองกูแบบนี้ ขนลุกไอ้สัด”มันว่าแล้วคว้าเสื้อมาฟาดผม ไอ้เคนทำหน้าเอือมก่อนจะหันไปฟอกสบู่ต่อ ผมเลยแกล้งเข้าไปเบียดๆไอ้ชาย เอามือลูบหลังมันช้าๆ

“เหี้ยฟิก จังไรแล้วนะมึง”มันผลักผมออก พร้อมกับทำหน้าพะอืดพะอมจนหลังผมกระแทกผนังห้องน้ำเต็มแรง แสบๆคันๆขึ้นมาทันทีเลย

“โอ๊ย มึงก็เวอร์ เห็นมาตั้งแต่อันเท่านิ้วก้อยแล้ว”

“เออ ใครจะไปบิ้กบึ้มเท่าสองสามีมึงล่ะ”มันตอบเสียงขุ่น

“ถ้ากูจะปล้ำมึงนะ มึงเสร็จตั้งแต่มานอนแก้ผ้าที่บ้านกูแล้ว”ผมส่ายหน้ามองไอ้ชาย ไอ้เคนหัวเราะลั่นเพราะความทรงจำสมัยนั้น ไอ้ชายมันเมามากจนแหวะอ้วกรดตัวเองหมด แล้วมันก็แก้ผ้านอนทั้งแบบนนั้น ไอ้ชายทำหน้าเหมือนไม่อยากจำ

 “ก็มึงมาทำให้กูขนลุกนี่หว่า โทษๆ”สงสัยมันกลัวผมเสียความรู้สึกเลยเข้ามาโอ๋ นี่มันเห็นผมเป็นคนอ่อนไหวตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ผมเลยแกล้งลูบหน้าท้องมันไปอีกรอบ มันเลยถีบส่งผมออกมา

ปึง ปึง

มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก

“เฮ้ย เร็วๆ”เสียงไอ้ภู

“แป๊ป ยังไม่เสร็จ ใกล้ๆแล้ว”ผมตะโกนออกไปด้วยเสียงเสื่อมๆ ไอ้ภูถึงเงียบไป พวกผมก็รีบอาบๆให้เสร็จ

“กูถามจริงๆนะ”ไอ้ชายพล่ามอีกล่ะ ผมกำลังใส่เสื้อนอนก็ทำหน้าเอือมใส่มัน

“ไรอีกวะ”

“มึงเคยได้พวกมันยัง”คราวนี้ไอ้เคนเป็นฝ่ายถามเบาๆ เพราะพวกมันคงรออยู่ด้านนอก ไม่เข้าใจว่ามันจะมารอทำไมเหมือนกัน พวกมันสองคนมีสีหน้าอยากรู้ ผมนิ่งไปเกือบๆห้าสิบวิเพราะกำลังใช้สมองประมวลคำตอบอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนผมนี่…ก็รู้ๆอยู่ว่าร้ายแค่ไหน ตั้งแต่คบกับพวกมันมานี่ ผมแทบไม่มีโอกาสพลิกบทบาทหน้าที่เลย พอวางแผนก็โดนตลบหลังตลอด คิดแล้วก็เศร้า ผมได้เล่นบทเดิมก็เมื่อมีเรื่องคราวไอ้เน็ตที่ผมเผลอไปจิ้มมันนั่นล่ะ คนเดียวจริงๆที่ตกถึงท้องถึงไส้ 

“ก็…พวกมึงจะรู้ไปทำไม บ้านรวยขึ้นรึไงฮะไอ้เคน มึงจะฉลาดขึ้นไหมไอ้ชายถ้าได้เสือกเรื่องกูเนี่ย”ถึงจะปากหมาสู้ไอ้ชายไม่ได้ แต่ผมก็มั่นใจว่าผมฉลาดกว่ามันนิดนึง (นิดนึงก็ยังดี)

“ตอบแบบนี้กูว่า…มึงโดนยิงไส้แตกแน่ๆ”ไอ้ชายทำหน้าสะใจ ศัพท์อะไรของมันวะ ผมโบกมือให้พวกมันเลิกสนใจ

“แล้วของใครบิ๊กกว่ากัน”ไอ้ชายถามอีก ผมกลอกตามองมัน อยากรู้แต่ล่ะเรื่องนี่ ไม่สร้างสรรค์สมกับเป็นเพื่อนผมจริงๆ

“ไม่รู้เว้ย”

“จะไม่รู้ได้ไงวะ ของเคยเห็นทุกวัน เคยจับ เคย…”

“พอเลยมึง”ทนฟังไม่ได้ยังไงไม่รู้ เรื่องนี้ผมไม่ขอออกความเห็น ไปจินตนาการกันเอาเงล่ะกัน ผมรีบออกจากห้องน้ำ

“เฮ้ย…ฟิก”เสียงไอ้เคนเรียกมา แต่ไม่ทันแล้วเพราะผมออกมาพอดีก็รู้สึกตัวว่าช่วงล่างเย็นๆเพราะลืมใส่กางเกง ไอ้สองคนนั่นทำตาโตมองผม

“โชว์เหรอไอ้ฟิก รีบๆใส่กางเกงเลย ไอ้นี่นิ”ไอ้ตินเข้ามาหยิกพุงผม

“มีแต่ผู้ชาย กลัวอะไร หวงไม่เข้าเรื่อง”ต่างจากไอ้ภู ไอ้นั่นมองอย่างเดียว รู้หรอกว่ามันหื่น ใส่กางเกงเสร็จก็เคลื่อนขบวนกลับไปที่หอประชุม

“ทำไมมึงอาบน้ำนานจังวะ”ไอ้ภูถามขึ้นมาระหว่างทางที่เดิน ผมหันไปมองหน้ามันก่อนจะยิ้ม

“สวิงกิ้งกับพวกมันมั้ง มึงนี่ก็ถามมากจัง”

“ก็กูหวง”ผมนี่แทบสะบัดหน้าไปมองไอ้ภูเลย

“หวงอะไรของมึง เพื่อนกันทั้งนั้น”อยากจะขำให้ดังๆ ไอ้เคนกระแอมสองสามครั้งก่อนจะเดินนำขึ้นไป

“กูจัดที่ไว้แล้วนะ ดีที่เอาผ้าห่มมาหลายผืนหน่อย ไม่งั้นได้นอนพื้นแข็งๆแน่”เพราะทางโรงเรียนเองก็ไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้ ดีนะที่ไอ้ตินมันเอามาให้ รู้จักคิดการณ์ไกล ไม่เหมือนผมเลย ไม่ได้เตรียมอะไรมาสักอย่าง ตอนดึกๆที่โรงเรียนค่อนข้างเงียบผิดปกติ มันก็ต้องเงียบอยู่แล้วสิ ผมนี่ก็บ้าเนาะ

“กูหนาวว่ะ”ผมบอกพวกมันเมื่อนอนลงแล้ว พื้นแข็งมาก ๆขนาดเอาผ้าห่มปูแล้วนะ ผมนอนตรงกลางรู้สึกอุ่นใจดี เหมือนมีกำแพงคอยปกป้อง เรื่องของเรื่องคือกลัวผี พอได้ยินผมพูดไอ้ตินเลยขยับมาใกล้มากขึ้นเผื่อให้ผ้าห่มของมันคลุมตัวผมด้วย พวกไอ้เคนก็นอนอยู่ใกล้ๆนี่แหละ ด้านในหอประชุมปิดไฟหมดเลย ยกเว้นตรงทางเดินด้านนอก ทำให้มีแสงไฟมัวๆส่องเข้ามาตรงรอยแยกของประตูที่ปิดไม่สนิท ผมนอนลืมตามองความมืด หูทำงานได้ดีกว่าปกติ จนตัวเองเริ่มจะประสาทหลอนแล้ว คิดเป็นตุเป็นตะไปเรื่อย

“นอนได้แล้ว”ไอ้ภูพึมพำเบาๆ

“กูนอนไม่หลับอ่ะ”

“กูทำให้หลับดิ”ไอ้ตินตอบมาบ้าง มันกวนตีนผมนี่หว่า ก็นอนไม่หลับจะให้หลับได้ยังไง ผมก็เลยหลับตาลงนอนฟังอะไรไปเรื่อย แรกๆก็ได้ยินเสียงคนอื่นคุยกระซิบกระซาบกัน แต่พอนานเข้าพวกนั้นก็เงียบลง เหลือแต่เสียงหายใจเบาๆข้างๆตัว ผมขยับตัวไปมาเมื่อรู้สึกว่าปวดฉี่

“เฮ้ย พวกมึง”ผมสะกิดมันสองคน

“อะไร อย่าบอกนะว่าอยากตอนนี้”ไอ้ภูพึมพำตอบกลับมา

“กูไม่ใช่มึง ไอ้บ้า กูจะบอกว่าปวดฉี่ ไปเพื่อนหน่อยดิ”ลมเย็นๆเป่าตรงต้นคอของผม ทำให้รู้ว่าไอ้ตินมันถอนหายใจ

“นะ ๆ ไปเพื่อนกูหน่อย”กูกลัวผี มันสองคนเลยจำต้องไปเพื่อนผม เปิดโหมดไฟฉายจากโทรศัพท์ก่อนจะค่อยๆย่องเบาๆผ่านเพื่อนๆพี่ๆที่นอนเรียงกันอยู่ มีบางคนโงหัวขึ้นมามองพร้อมอุทานคำว่าเหี้ยด้วย โทษว่ะที่ทำให้ตกใจ ผมยิ้มให้ไอ้คนนั้นก่อนจะแทรกตัวออกจากประตูห้องไปเพราะกลัวแสงไฟจะเข้าไปในห้อง ทางเดินที่ทอดไปยังห้องน้ำมีไฟตลอดทำผมโล่งไปเยอะเลย จนกระทั่งจู่ๆมันก็กระพริบติดๆดับๆเนี่ยแหละ ผมรับคว้าหมับเข้าที่แขนของมันสองคนที่เดินขนาบข้างผมทันที

“อะไรฟิก”ไอ้ตินหันมามองด้วยสายตาตกใจ สีหน้าของมันนิ่งมาก มองไม่ออกว่ากลัวหรือไม่ ต่างจากไอ้ภูที่สะดุ้งพร้อมผมเลย มึงกลัวแน่ๆ!

“มือมึงเย็นว่ะ กูตกใจหมด”มันดึงมือผมออก ก่อนจะมองไปรอบๆ โอเค ผมว่ามันกลัวเหมือนๆผมนี่ล่ะ

“พวกมึงเข้ามากับกูด้วย”ผมบอกเมื่อมาถึงห้องน้ำแล้ว

“ต้องให้กูจับให้ด้วยไหม”ไอ้ตินยิ้มก่อนจะเดินตามเข้ามา

“กล้าเปล่าล่ะ”ตอบไปงั้นแหละ ห้องน้ำมันเงียบ ผมไปจัดการธุระตัวเองเงียบๆ ไอ้ภูกับไอ้ตินยืนรอตรงอ่างล้างหน้าสีหน้ามึนๆง่วงๆ

“เฮ้ย พวกมึง…”ล้างมือเสร็จผมก็มองหน้าพวกมัน ไอ้ภูชักสีหน้าหงุดหงิดมองผม

“อะไรอีกอ่ะฟิก กูง่วง”

“มึงกลัวก็บอกมา กลับไปก่อนเลยไป กูปวดขี้”ไอ้ตินทำหน้าเอือมใส่ผม ก่อนจะโบกมือไล่ให้ผมไปเข้าห้อง ไอ้ภูมองหน้าผมขำๆ

“มึงไม่กล้ากลับไปคนเดียวล่ะสิ”ผมหันไปล้อมัน ระหว่างที่จะปิดประตู

“พูดมาก มึงรีบๆขี้เลย เร็วๆ”มันทำหน้าหงุดหงิด ก็คนมันปวดห้ามได้ที่ไหน

“พวกมึงห้ามหนีกูไปก่อนนะ”นั่งไปก็พูดกับพวกมันไป เพราะห้องน้ำมันเงียบ

“เออ พูดมากเดี๋ยวหนีกลับก่อนนะ”เสียงไอ้ตินแว่วมา

“ทำงั้นกูร้องไห้อ่ะ พูดจริงๆ”คนมันกลัวต้องเข้าใจหน่อย เคยไหม นั่งในห้องน้ำแล้วมองไปรอบๆเพราะเริ่มคิดเป็นตุเป็นตะ นี่ขนาดพวกมันอยู่ในห้องน้ำกับผมด้วยนะ ผมยังกลัวเลย

“กูหนีดีป่ะ กูอยากเห็นมึงร้องไห้”เสียงไอ้ภูดังก้องห้องน้ำ

“ไม่น่าเกลียดเหมือนมึงร้องหรอก”ผมสวนกลับ เรื่องนี้ล้อได้อีกนาน

“หุบปาก”

“น้ำมูกไหลด้วย มึงจำได้ป่ะ”ผมใส่ความมัน ไอ้ตินหัวเราะออกมา

“ถ้ามึงไม่เงียบ กูกลับจริงๆนะ”มันตอบด้วยเสียงหงุดหงิด

“ไปเลยดิ มึงไม่กล้ากลับหรอก”ผมเชื่อว่ามันไม่กล้าออกไปคนเดียวแน่ๆ

“เออ กล้าไม่กล้าเดี๋ยวก็รู้”ผมได้ยินเสียงรองเท้าสีกับพื้นห้องน้ำเบาๆ และหลังจากนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นมา เฮ้ย พวกมันไปจริงๆรึเปล่าวะ

“พวกมึง”ผมลองเรียก เริ่มขี้ไม่ออกล่ะ (ทุเรศจริงๆ)

“…”มีแต่ความเงียบ

“เฮ้ย พวกมึงไปจริงอ่ะ”ผมรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อย พวกมันแม่งกวนตีนว่ะ แต่ระหว่างที่กำลังดึงกางเกงขึ้นผมก็เหลือบมองไปที่ห้องน้ำห้องข้างๆ ใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที เมื่อเห็นเท้าคู่หนึ่ง…เท้าเปล่าๆแบบไม่ใส่รองเท้า คนที่ไหนมันจะมาอึแล้วไม่ใส่รองเท้ากันวะ ผมใจสั่นตุ้มต่อมๆ อยากวิ่งออกจากห้องน้ำแต่ก็ก้าวขาไม่ออก พยายามควบคุมสติตัวเอง ว่าจะเรียกพวกมันแต่ก็ไม่กล้า ทำได้แค่หลับตาเพราะกลัวจะเงยหน้าขึ้นไปแล้วเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น ผมคลำกดโทรศัพท์ กดมั่วๆจนเพลง addicted to a memory ของ zeed ที่ผมชอบฟังดังขึ้นมาลั่นห้องน้ำ

“เชี่ยฟิก มึงจะเปิดเพลงดังๆทำไม กูล้อเล่น”แล้วพวกมันก็กลับเข้ามาในห้องน้ำต่อ

“ค..ย พวกมึงทิ้งกู”ผมตอบเสียงสั่นๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วรีบออกจากห้องน้ำทันที ไอ้สองคนนั่นทำหน้างงๆที่ผมพรวดพราดออกไปแบบไม่สนใจพวกมัน กูหนีก่อนล่ะ

“มึงจะวิ่งทำไม ปิดเพลงด้วย”ไอ้ตินวิ่งตึงๆตามผมมาจนทัน มันคว้าโทรศัพท์ผมไปปิดเพลงที่ลั่นทางเดิน ไอ้ภูตามมาด้วยสีหน้างงๆ

“เป็นอะไร หน้าตื่นๆเหมือนหมาตกใจ”เข้าใจเปรียบเทียบดีนะ แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์มาต่อล้อต่อเถียงกับพวกมันแล้ว

“เดินเร็วๆเลยพวกมึง”ผมเดินมาแทรกกลางพวกมัน ก่อนจะเกาะพวกมันแน่น ไม่คิดจะหันไปมองห้องน้ำอีกแล้ว ผมว่าผมประสาทหลอนแน่ๆที่เห็นเท้าคู่นั้น ผมรีบๆเดิน ดูเหมือนพวกมันจะเดาอะไรได้ รึเห็นผมสีหน้าซีดๆไม่ค่อยดีก็เลยคว้ามือผมไปจับซะแน่นเลย

“มึงล้างมือยัง”

“มึงเห็นกูล้างไหมล่ะ”ไอ้ภูเงียบไป พอเข้ามาในหอประชุมได้ ผมก็รีบล้มตัวนอนทันที เอาผ้าห่มคลุมโปงด้วย

“เป็นอะไรฟิก”เสียงไอ้ตินถามเบาๆ รู้สึกว่ามีคนดึงผ้าห่มของผมลง

“เดี๋ยวหายใจไม่ออกหรอก”ไอ้ภูมองผมก่อนจะขยับเข้ามานอนใกล้ๆพร้อมกับเอาคางเกยไหล่ผมเพราะผมนอนเอาหน้าซุกอกไอ้ติน

“พรุ่งนี้จะเล่าให้ฟัง”ผมอู้อี้ตอบกลับไป แต่ข่มตาให้หลับยังไงก็ไม่หลับ

“…กูนอนไม่หลับอ่ะพวกมึง”ผมกระซิบเบาๆ ไอ้ภูเลยยัดสโมทอร์คใส่หูผมข้างนึงแล้วเปิดเพลงให้ผมฟัง เพลงเดียวกับที่มันร้องให้ผมเมื่อวันนั้นนั่นแหละ

“หลับได้แล้ว”ไอ้ตินลูบศีรษะผมเบาๆ ตอนนี้ผมเริ่มหายกลัวแล้ว กว่าจะหลับได้ก็ปาไปเกือบๆค่อนคืน



(ต่อด้านล่าง)
หัวข้อ: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 13-09-2015 16:02:42
ตื่นมาอีกทีก็เพราะได้ยินเสียงคนคุยกันฟุ้งเลย ผมไปอาบน้ำพร้อมพวกมัน เลี่ยงให้ห่างจากไอ้ห้องนั้น แต่ตอนเช้าๆผมไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่

“ตกลงมึงจะเล่าได้ยัง”ไอ้ภูถามสีหน้าอยากรู้ ตอนนี้แต่งตัวในชุดนิสิตเรียบร้อยที่สุดที่ผมเคยใส่เลย ไอ้ภูกับไอ้ตินเองก็เช่นกัน หล่อเนี้ยบจริงๆ โดยเฉพาะไอ้ตินนี่แอบมองเพลินเลย

“พวกมึงอ่ะทิ้งกู นิสัยแม่ง…”ผมก็เล่าให้พวกมันฟังว่าผมเห็นอะไร ไอ้ตินเงียบไปเมื่อผมเล่าจบ

“ถึงว่า…”มันทำหน้ามีลับลมคมใน

“ไรวะ”ผมชักกลัวๆขึ้นมาอีกแล้ว

“กูเหมือนรู้สึกว่ามีคนเดินตามว่ะ ตอนที่มึงวิ่งออกมาน่ะ”ผมฟาดไอ้ตินไปหลายที โทษฐานที่ทำให้ผมหลอนมากกว่าเดิม สาบานเลยว่าคืนนี้ผมจะไม่ปวดฉี่หรืออึอีกเด็ดขาด

“มึงไปฉี่รดใครเขารึเปล่า”ไอ้ภูพูดติดตลก พยายามทำให้ผมขำ แต่ผมก็ขำไม่ออกจริงๆ เมื่อจัดการเตรียมตัวกันเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาเปิดหอประชุม พวกผมและพวกศิลปกรรมคนอื่นๆ ก็ยืนประจำจุดที่ตัวเองต้องอยู่เผื่อมีน้องๆมาถาม ก็ได้เป็นทางการอะไรมาก ผมเห็นมันสองคนยืนเนียนรวมกับพวกฟิล์มแล้วก็ขำ ดูยังไงพวกมันก็แกะดำชัดๆ หนังหน้าไปไกลกว่าทุกคน โดยเฉพาะไอ้ภู

“แหน่ะๆ ละสายตาจากคุณสามีมึงบ้างก็ได้ มันไม่หายไปไหนหรอก”ไอ้ชายแทรกมา ทำให้ผมกลับมาสนใจพวกมันตามเดิม

“กูมองเด็กคนนั้นต่างหาก มึงเห็นไหม ที่สูงๆน่ะ”ผมทำเป็นชี้ไปที่น้องม.ปลายคนหนึ่งหน้าตาใช้ได้เลย กำลังคุยกับพวกภาคฟิล์มหน้าตาท่าทางสนใจ แต่เผอิญไอ้สองคนนั่นเห็นผมชี้ไปทางน้องคนนั้นพอดี ไอ้ตินเลยทำท่าฉับๆมาให้ผม

“กูว่ามันสองคนรู้ทันมึงนะ ถึงได้ตามมา”ไอ้เคนหัวเราะเหมือนชอบอกชอบใจ แหงล่ะ ไอ้สองคนนี่ทำตัวเหมือนฝาแฝดของผมเลย ไม่ปล่อยให้คาดสายตาสักนาที

หลังจากนั้นผมก็ไม่ค่อยได้สนใจพวกมันสองคนแล้วเพราะมีน้องๆเข้ามาถามเยอะ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง มีทอมด้วยกำลังถ่ายรูปกับโมเดลตึกสำนักงานโปรเจคของผมกับพวกไอ้เคน ไอ้ชายรีบเสนอหน้าเข้าไปทักทายทันที

“มีอะไรสอบถามพี่ได้นะครับ”มันเก๊กเสียงหล่อ

“หนูขอถ่ายรูปกับพี่คนนั้นหน่อยค่ะ”เฮือก ชี้มาที่ผมครับ ตกใจไม่ใช่เพราะว่าชี้ที่ผม แต่ตกใจที่…น้องเป็นสาวสองแน่ๆ แต่ผมมองผ่านๆก็ดูไม่รู้เลยนะ เพราะคล้ายๆทอม ผมยาวเลยติ่งหู ปรกคอน้อยๆ ตัวเล็ก ๆแบบผู้หญิง ผมไม่เข้าใจว่ะ ว่ามันเอากล้ามเนื้อแบบผู้ชายไปไว้ตรงไหน ไอ้ชายทำหน้าตกใจก่อนจะถอยทัพมาเงียบๆ ถ่ายรูปไปสองสามรูป น้องเขาก็ขอไลน์ไว้ติดต่อ บอกว่าสนใจอยากเรียน แต่ไอ้ปลาเข้ามาให้ไลน์ของมันไปแทน

“ถามพี่ดีกว่าค่ะ อย่างมันไม่รู้เรื่องอะไรหรอก”ผมแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ หันไปเจอไอ้ตินกับไอ้ภูกำลังนั่งมองผมอยู่ ไอ้พวกนี้นี่ก็นะ ผมส่งนิ้วกลางไปให้พวกมัน ก่อนจะไปพัก ยืนจนเมื่อยแล้ว ช่วงบ่ายก็มีเพื่อนคนอื่นมาช่วยแทน ผมเลยมีโอกาสได้เดินดูผลงานของพวกศิลปกรรม เห็นมีโชว์วาดภาพเหมือนด้วย ผมไปยืนมองอย่างสนใจ

“ขอผมลองมือบ้างดิ”ผมสะกิดพี่ที่ยืนดูอยู่ พี่เขาเลิกคิ้วมองผม

“ฝีมือถึงเหรอ”

“โหย ไม่อยากจะคุย ตอนสอบดรออิ้งคะแนนผมก็สูงนะ”ไม่ได้โม้นะเอ้า สูงกว่าไอ้เคนกับไอ้ชายด้วย ความจริงผมจะเลือกลงศิลปะกรรมก็ได้ แต่มันยากและผมเป็นพวกทนเรียนวาด เรียนเพ้นท์นานๆไม่ได้เลย เลือกลงถาปัตย์หลักแทน

“เอางั้นก็ได้”เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ผมก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆอีกคนที่กำลังดรออิ้งน้องผู้หญิงอยู่

“ใครจะเปิดซิงพี่มาเลย”ผมเคาะกระดานวาดรูปเสียงดัง ก่อนจะมองไปรอบตัวที่มีเด็กๆยืนดูอยู่ นี่ถ้าไม่มีคนเสนอตัว ผมจะบังคับมาเลย ฮ่าๆ เล็งไว้แล้วหนึ่งคน

“กูได้ป่ะ”ไอ้ตินนั่งลงตรงหน้าผมพร้อมรอยยิ้ม

“กูจะวาดให้น้อง มึงรอทีหลัง”ผมโบกมือไล่มัน

“ไม่เอา กูขี้เกียจรอ มึงรีบๆวาดดิ”ไอ้ตินกลายเป็นหนูทดลองคนแรกของผม ไอ้ภูเพิ่งเดินมาแซงคิวน้องผู้หญิงไปด้วยสีหน้าดุๆ ผมก็รีบๆลงมือวาด ไม่ได้เก็บรายละเอียดหมดเพราะผมไม่เซียนขนาดนั้น ที่สำคัญฝีมือก็ฝืดๆไปแล้ว เพราะไม่ค่อยได้ดรออิ้งอีกเลย หลังจากที่สอบ

“พี่ชื่ออะไรคะ”อยู่ๆก็มีเสียงใสถามขึ้นมา

“ชื่อฟิกครับ”ตอบพร้อมรอยยิ้ม น้องคนที่ถามยิ้มเขินเล็กน้อย

“หนูหมายถึงคนที่นั่งอยู่อ่ะค่ะ”น้องชี้ไปทางไอ้ติน ครืน~เสียงเศษหน้าผมหล่นลงมาพร้อมกับเสียงฮาครืนจากคนรอบตัว

“พี่ชื่อตินครับ”มันตอบยิ้มๆ พยายามไม่หลุดหัวเราะออกมา

“อ้อ ทำไมถึงชื่อนี้อ่ะ แปลกจังเลย”น้องยังจ้อต่อไป คำถามนี้ผมยังไม่เคยถามมันเลยนะ

“เออนั่นดิ ทำไมถึงชื่อนี้วะ”ผมถามบ้างระหว่างที่ฝนเส้นด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนเกิดก็ไม่ได้ถามแม่”อ้าว ไอ้นี่กวนตีนล่ะ แต่น้องคนนั้นหัวเราะ บอกว่าไอ้ตินมีอารมณ์ขันดี

“พี่อยู่คณะอะไรเหรอคะ”

“กะ…เอ่อ อยู่ศิลปกรรม ภาคฟิล์มครับ”มันเนียนตอบไป

“เรียนยากไหมคะ”

“ก็...ยากบ้างง่ายบ้าง แต่ถ้ารักในสิ่งที่เราเรียน เราจะยืนในจุดนี้ได้อย่างมีความสุข”อ่ะหือ ตอบแบบนี้ หล่อเป็นกองเชียว ได้ใจน้องคนนั้นไปเต็มๆ แล้วก็ขอถ่ายเซลฟี่กับไอ้ตินไป เอ่อ นี่ผมกำลังสะเก็ตรูปไอ้ตินอยู่นะเฮ้ย มารยาทอ่ะมารยาท

“น้อง เดี๋ยวค่อยถ่ายได้ไหม ไม่เห็นเหรอว่าพี่ทำอะไรอยู่”ผมทำเข้มดุไป น้องคนนั้นทำหน้างอ

“แป๊บเดียวเองค่ะ”ไอ้ตินเกาต้นคอ อ้าปากเหมือนจะพูด

“ไว้รอ--”

“ไว้รอถ่ายกับแฟนพี่ทีหลังนะครับ”ผมส่งยิ้มอบอุ่นไปให้ เกิดความเงียบขึ้นระลอกใหญ่ น้องคนนั้นทำหน้างงๆ

“แฟนเหรอคะ”น้องเขาทวนยังงงไม่หาย

“น้องไม่รู้จักเหรอ”ผมไม่ได้ตั้งใจจะกวนตีนนะ แต่พูดออกไปแล้ว

“โอเคๆ ไว้พี่เสร็จธุระแล้วค่อยถ่ายรูปทีหลังนะ”ไอ้ตินหันไปส่งยิ้มให้ก่อนจะเคาะกระดานวาดรูปผมให้วาดต่อ ผมมองหน้า
มันเคืองๆ

“ยังจะถ่ายรูปด้วยอีก”

“แค่ถ่ายรูป จะเป็นไรไป”

ผมกลับมาสะเก็ตให้เสร็จ ลวกๆนั่นแหละ หมั่นไส้ แต่ดูไอ้ตินจะพอใจ คนต่อไปไม่ใช่ใครที่ไหนคือไอ้ภูมันนั่งหน้าสลอนอยู่ตรงหน้าผม

“กระดาษไม่พอว่ะ ภู”ผมพูดกับมัน ไอ้ภูขมวดคิ้ว

“ก็พอนี่”มันชี้มาที่กระดาษบรู๊ฟหลายแผ่นบนกระดานวาดรูปของผม

“ไม่พอ หน้ามึงใหญ่เกินไป”พูดแล้วก็หัวเราะ ไอ้ภูพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะยกขาถีบผมเบาๆ

“อยู่นิ่งๆดิ จะวาดล่ะ”ผมกระแอมก่อนจะลงมือร่าง แต่ไอ้ภูนี่อย่างกับลิง หันมองนู่นมองนี่ตลอด ผมเลยวาดมันมีสามหัวแบบชุ่ยๆไป

“มึงวาดอะไรเนี่ย”มันทำหน้าบึ้งเมื่อเห็นผลงาน

“ก็มึงหันซ้ายหันขวาทำไมล่ะ นั่งดีๆ ไม่งั้นกูไม่วาดให้นะ”ผมขู่ มันก็เลยยอมนั่งนิ่งๆ ใช้เวลาเกือบๆชั่วโมงแหน่ะกว่าจะเสร็จ

“หล่อสู้ตัวจริงไม่ได้อยู่ดี”มันหยิบรูปไปดูก่อนจะพูด ผมก็ปล่อยมันเพ้อไป เพราะมีน้องมาให้ผมวาดให้ด้วย

“หนูขอเป็นรูปการ์ตูนล้อเลียนได้ไหมอ่ะ”น้องผมบ็อบหน้าเป๊ะ(เป๊ะด้วยรองพื้น)บอกผมพร้อมกับโพสท์ท่าให้ผมวาด แอ๊บแบ๊วจริงๆ การ์ตูนล้อเลียนวาดเสร็จเร็วกว่าอยู่แล้ว วาดเพลินเลย พอเบื่อผมก็ปัดตูดหนี ไปเดินดูฝั่งพวกภาคฟิล์มบ้าง

“พวกมึงช่วยเขาทำอะไรบ้าง”ผมถามระหว่างที่ยืนดูรูปถ่ายสวยๆที่ติดโชว์อยู่

“เยอะอ่ะ”ไอ้ตินตอบ ผมไม่เชื่อมันหรอก เห็นๆอยู่ว่าพวกมันชอบอู้

“แล้วมึงคิดยังไงถึงไปพูดแบบนั้น”อยู่ๆไอ้ภูก็ขุดเอาเรื่องที่ผมดุน้องคนที่ขอไอ้ตินถ่ายรูปมาพูด

“กูแค่พูดเพราะขาดสมาธิวาดรูปเฉยๆ”ไอ้ตอนพูดก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก มารู้ตัวก็ตอนที่เกิดความเงียบขึ้นนั่นล่ะ ถึงได้รู้ว่ากูพลาดแล้ว

วันนี้ส่วนมากจะค่อนข้างเหนื่อยเพราะอัดความรู้ให้น้องๆเต็มที่ วันสนุกต้องรอพรุ่งนี้ ผมหวังว่าจะไม่มีเกมส์กระแทกลูกโป่งอีกนะ ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ถึงจะเป็นแค่เกมส์ก็เถอะ เอ๊ะ รึผมคิดลึกไปเองคนเดียว ตอนเย็นหลังจากที่น้องๆไปหมดแล้วพวกพี่ขิมก็แจงรายละเอียดของวันพรุ่งนี้ มีเกมส์ให้น้องๆเล่น ผมดูชื่อเกมส์แล้วโล่งหน่อยไม่มีเกมส์นั้น แต่มีเกมส์ที่สร้างสรรค์กว่านี้มาแทน

ผมหนีไปอาบน้ำตั้งแต่สี่โมงเย็น ให้ไอ้เคนมาเป็นเพื่อน ผมเองยังไม่ได้เล่าให้มันสองคนฟังว่าเห็นอะไรเพราะไม่อยากให้พวกมันฟุ้งซ่านเหมือนผม

“ทำไมมึงอาบเร็วจังวะ”มันชวนคุยจากด้านนอก

“กูร้อน แล้วมันเหนียวตัวอ่ะ”

“โม้ ก็อยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน”ไอ้เคนดันมาฉลาดตอนนี้อีก

“กูรู้นะ…”แล้วมันก็เงียบไป

“มึงรู้เหรอ”หรือว่ามันเองก็เจอแบบผม

“เออ หายไปกับสองคนนั่นบ่อยๆกูก็เดาได้ล่ะ เพลาๆบ้างนะ กูกลัวเครื่องมึงจะหลวม”ไอ้สัดนี่ มันพูดอะไรของมัน คนละเรื่องกันแล้วเว้ย

“บ้า กูไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นกับพวกมัน กูก็หื่นรู้เวล่ำเวลาน่ะเว้ย”ผมแก้ตัว เพื่อภาพพจน์ของตัวเอง

“รู้จริ๊งๆ กูเห็นไอ้ชัยมันเคยเม้าท์ให้กูฟังว่ามึงกับไอ้ภูไอ้ติน เคยไปเล่นที่คอนโดมัน ทั้งๆที่มันก็นอนอยู่ข้างๆ”คำพูดของไอ้เคนทำเอาผมแทบทรุด ไอ้ห่าชัยมันเอาไปพูดเหรอวะ ไอ้…ผมหน้าร้อนขึ้นมาทันที

“กูไม่เห็นรู้เรื่องเลย มึงก็เชื่อมันเนี่ยนะ”ผมทำเสียงเหมือนไม่ใช่ความจริง

“ไม่รู้เว้ย กูแค่เดาจากนิสัยพวกมึง”มันหัวเราะมาจากด้านนอก ผมรีบเช็ดเนื้อเช็ดตัว หาเสื้อมาใส่

“เฮ้ย เคน กูลืมหยิบกางเกงในมาว่ะ”ผมทำเสียงตกใจ

“เดี๋ยวโทรบอกไอ้ชายให้เอามาดิ”มันตอบกลับมา

“ไม่ๆ กูลืมหยิบมาจากที่หอ”ผมหัวเราะออกมา ดันหยิบมาไม่พออีกนะ

“จังไร มึงใส่ตัวเก่าเลย กลับด้านเอา”มันตอบกลับมาด้วยเสียงขำๆเช่นกัน

“บ้าดิ ไม่เอา มึงโทรบอกไอ้ชายดิ๊ให้เอาของมันมาให้กู”ได้ยินเสียงไอ้เคนจิ๊ปากก่อนจะโทรหาไอ้ชาย ผมใส่เสื้อรอ นานมากกว่ามันจะโผล่มา

“ช้าจังวะ กูรอไข่เหี่ยวหมดล่ะ”ผมบ่น ระหว่างที่ไอ้ชายมันโยนกางเกงในของมันเข้ามาให้ผม

“มึงนี่เชี่ยไม่มีใครเกินเลยจริงๆ แต่มึงใส่คงหลวมหน่อยนะ”เสียงของมันลั้นลาจนน่าหมั่นไส้

“หลวมอะไร ใส่ได้พอดีเลยเหอะ ของมึงก็พอๆกะของกูอ่ะแหละ มันก็แฟ่บๆเท่าๆกันนี่ล่ะ”

“พอๆ กูไม่อยากคุยกับมึงแล้วว่ะฟิก”มันทำเสียงอ่อนใจจนผมหัวเราะออกมา แต่งตัวเสร็จก็หอบของออกไป ไอ้เคนเลิกคิ้วมองด้วยความสงสัย

“ทำไมมึงไม่โทรให้เอาของสามีมึงมาให้ล่ะวะ”ไอ้เคนนี่ดีหน่อย ที่ใช้คำเพราะๆสุภาพอย่างคำว่าสามี ไม่งั้นมีเคือง

“กูไม่สนิทใจเท่าของเพื่อนไง”

“เพื่อนกับผัวนี่เหมือนกันเหรอ”ไอ้ชายมาล่ะ ผมทำหน้าเอือมใส่มัน เหตุผลที่ผมไม่เอาของพวกมันมาใส่ เพราะผมไม่อยากให้มันสองคนตกเป็นขี้ปากของไอ้เพื่อนทั้งสองต่างหาก

“กูอดรู้เลยว่าของใครใหญ่กว่ากัน”โอ๊ย ผมล่ะเกลียดหัวข้อนี้จริงๆ เห็นไหม ดีแล้วที่ผมไม่ยืมของพวกมันสองคน ยอมรับก็ได้อ่ะว่าของผมไม่บิ๊กบึ้ม…นี่ผมคุยเรื่องไรอยู่วะ เปลี่ยนๆ

“มึงอยากรู้นักก็ถามพวกมันเองดิ เปิดของพวกมันดูเลยเอา”ผมพูดตัดรำคาญ

“แน่ใจนะว่าไม่หวงอ่ะ แค่วันนี้มีน้องมาขอถ่ายรูปไอ้ตินมึงก็ออกตัวแรงล่ะ”ไอ้ชายเหล่มองผม

“กูไม่หวงหรอก ตราบใดมึงไม่อมของมันอ่ะ”ผมว่าผมชนะนะ เพราะพวกมันพร้อมใจกันเดินหนีผม ฮ่าๆ รู้จักไอ้ฟิกน้อยไปนะ เห็นไหมว่าผมปกป้องพวกมันสองคนนะเว้ย ประเด็นเล็กใหญ่ไม่ใช่ปัญหาของผม แต่กับมันสองคนผมไม่รู้ ปัญหาของผมอยู่ที่เรื่องหลวมไม่หลวมมากกว่า ผมนี่ชวนคุยอะไรไม่รู้ ตั้งแต่ใหญ่ไม่ใหญ่ล่ะ ผ่านๆ





…………………………………………………………………


TBC.
ตอนนี้ฟิกมันเกรียนและเสื่อมมาก ฮาๆไปเนาะ :laugh:


ปล. จำได้ว่า แม่ของภูเสีย อยากอ่านตอนนั้นจังว่าภูเป็นยังไงบ้าง ภูรักแม่มากๆ ขาดแม่เหมือนขาดคนเข้าใจ เพราะความสัมพันธ์กับพ่อยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ภูคงเคว้งแน่ แต่ยังดีที่มีฟิกกับตินอยู่ด้วย หรือไปมีในหนังสือค่ะ อยากรู้  :กอด1:

ไม่ได้มีในรวมเล่มเหมือนกันค่ะ เพราะเราไม่ได้กล่าวถึงเลย ด้วยเหตุผลที่สงสารภูนี่แหละค่ะ (คนเขียนเองแท้ๆ :beat:) แต่ถ้าอยากอ่านจะเอามาใส่ไว้ในตอนพิเศษของภาคนี้แทนแล้วกันค่ะ ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นน่าจะนานพอดูเพราะเราวางแผนเขียนภาคนี้ไว้ยาวเหมือนกัน

ฝากติดตามภูฟิกตินด้วยน้าา อย่าทิ้งกันเนอะ  :กอด1:











หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-09-2015 16:07:39
 :L1:   ขอบคุณค่ะ

น้องฟิกเด็ดอะเลยเกือบเจอดี
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-09-2015 16:41:21
ออกตัวแรงน่ะฟิก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 13-09-2015 16:56:55
เคนกับชายทำไมถามประเด็นอ่อนไหว 5555555555555555
ถ้าพี่ภูกับตินเครียดนี่ต้องรับผิดชอบเลยนะ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 13-09-2015 17:40:58
ยิ่งอ่านภาคนี้ละยิ่งรู้สึกว่าสามหน่อนี่น่ารักมากๆจริงๆ กรี๊ดพี่ตินแป๊บ  :-[
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 13-09-2015 18:27:22
เป็นคำถามสุดฮอต คิดแต่ตอบบ่ได้ เน๊าะน้องฟิก เพราะโดนทีไรจุกทุกที   :laugh:  ใช่แล้วน้องฟิกประเด็นมันอยู่ที่ หลวม ไม่ หลวม นี่แหละ อีพี่ภูพาน้องฟิกฝังใจเลยเรื่องหลวม พอกับ เรื่องร้องไห้ ของพี่ภูเหมือนกัน  o18 พักนี้มนุษย์เมียอย่างน้องฟิกเริ่มรู้หน้าที่แล้วว่าจะปกป้องสามีของตัวเองยังไง ไม่หึง แต่อย่ามายุ่ง หวงโว้ย ฟิกบอกเลย แต่อีน้องนั่นก็เร้าหรือพี่ตินอยู่ได้ ฟิกมันเคืองตั้งแต่ถามชื่อแล้ว ไม่เคลียร์ว่าถามใครพาหน้าแตกเลย นางเลยแค้นฝังหุ่นแถมเต๊าะผัวนางด้วยเลยโดนซะ เนียนๆ  o18 ตินนี่ต้องบอกว่าเรื่องแบบนี้เชื่อใจได้ ไม่วอกแวก จากอีหนูฟิกแน่นอน น้อยครั้งมากที่เรื่องแบบนี้จะเกิดกับติน มีมาชอบแต่ตินไม่เล่นด้วย ส่วนตัวนิสัยตินเป็นคนรักเดียวใจเดียวนะ  ภูนี่ยังมีบ้างแต่ไม่ได้จริงจัง นางเป็นแบบพอเห็นสเป็คที่ชอบก็สนใจ แต่ทั้งใจให้อีกน้องฟิกเมียรักคนเดียว ไม่ใช่สเป็ค แต่เป็นคนที่พี่ภูรักหมดใจ อิจฉาอีน้องฟิกจริงจริ๊งมีผัวรักผัวหลงอยู่ในโอวาทตลอด  :-[ ว่าแต่ อีน้องฟิกเห็นมันคือไรอ่ะ ผีใช่ป่ะ หลอนอ่ะ แค่นิดเดียวแต่เสียวนะโว้ย นั่งขี้มีตีนโผล่อีกห้อง ขนาดมีคนเฝ้ายังหลอกได้เลย บรึยยยยยยย ฟิกเลยขนลุกเพราะปวดขี้และผีหลอกเลยสิ  :mew5: ชอบตอนพี่ภูอ่อนโยนโดยอัตโนมัติตอนฟิกนอนไม่หลับ เลยเอาเพลงที่ตัวเองร้องกล่อมซะ ไม่เพราะที่สุด ไม่ดีที่สุด แต่ก็อบอุ่นพอให้ฟิกหายกลัวผี มาหลอนเสียพี่ภูแทน  :jul3:


ปล. ขอบคุณคนเขียนนะ ที่จะเขียนให้อ่านค่ะ ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นส่วนสำคัญของตัวเอกตัวหนึ่ง ก็เลยอยากรู้ว่า ตอนนั้น ภู ที่เคยตึงตังใจร้อนโดยเฉพาะเรื่องฟิก เมื่อแม่ที่เข้าใจจากไป ภูจะเป็นยังไงบ้างในตอนนั้น ไม่เป็นไรค่ะ รอได้ รักทั้งสามคนเสมอ มากด้วยชอบทุกอย่างที่เป็นพวกเขา :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 13-09-2015 18:49:13
ตามมาตั้งแต่ภาคแรก ติดไม่รู้จะติดยังไง
ว่ากันตามตรงเราชอบภูมากกว่าตินนะ อาจเพราะตินดูแบบร้ายลึกอ่ะ เดาทางไม่ถูก 55554+
แต่ถ้าให้เลือก..ขอสองครับ 55555+

ปล.อ่านไปยิ้มไปอ่ะ เราว่าฟิกมีพัฒนาการนะ ตอนภาคที่แล้วเราเกลียดนิสัยแบบฟิกมากแต่พออ่านๆไปนานเข้าๆ แล้วรู้สึกเลยว่าฟิกโตขึ้น ไม่แปลกใจนะว่าทำไมสองหน่อ ถึงรักถึงหลงฟิก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 13-09-2015 21:44:45
ไม่ว่าใครจะว่ายังไง เี
รารักฟิกพอกับตินและภู
แต่ตอนนี้ฟิกจังไรมาก
แอบขำตอนลืมกางเกงในจากหออ่ะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 13-09-2015 23:01:17
มีแอบหึงแอบหวงกันอีกแล้ววว  :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 13-09-2015 23:41:08
ฟิกเสื่อมอ่ะ ลืมได้ไง 555 :m20:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 13-09-2015 23:51:37
ชอบตอนนองฟิกหึงน่ารักดี
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 14-09-2015 00:16:31
ฟิกใส่ของสามีไม่ได้ใช่มั๊ยเลยต้องยืมเพื่อนน่ะ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 14-09-2015 04:42:01
มาแล้ววว
ฟิกอย่างเกรียนอ่ะ  :m20:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 14-09-2015 05:50:16
ใส่เกงในเพื่อน ??   โถ่ๆๆ  ทำไปได้น่ะฟิก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 14-09-2015 06:57:50

หนูฟิกอย่างเกรียนอ่า ใส่กางเกงในเพื่อน :ling1:

แอบหึงตินด้วย น่ารักกก :man1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 14-09-2015 08:16:30
น้องฟิกอย่างเกรียน  o18
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 14-09-2015 12:24:29
ฟิกจ๋า พัฒนาขึ้นนะตัว เฮ้อเป็นสาวซะแล้ว
มีการหึงด้วย ฮิฮิ น่ารัก รีบมาต่อนะไรต์ รออออออยู่
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: aaoo ที่ 14-09-2015 18:02:41
ชอบอ่ะ :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 14-09-2015 19:58:19
รีบมาต่ออีกเลยยยยยยยยยยยยยยยย  :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๗ออกค่าย 2 [P.6]อัพๆ 13-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 14-09-2015 22:08:50
เกงในของภูของติน
กลิ่นมันแรงสำหรับฟิกอ่ะ
ใส่ม้ายด้ายยยยยย
555
หัวข้อ: [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 15-09-2015 10:49:19
ตอนที่๘ ออกค่าย3
   






คืนนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่เจออาถรรพ์ใดๆให้ผมหลอน จะมีแต่ก็อาถรรพ์จากไอ้สองคนนี่นั่นแหละ ทั้งๆที่รู้ว่าผมกลัวมันจะยังมาแกล้งผมอีก ด้วยเหตุนี้ผมเลยอพยพไปนอนกับไอ้เคนแทน นอนตรงกลางระหว่างพวกมันนี่แหละ เพราะผมกลัวผี
   
“อะไรมึงเนี่ย ฟิก นอนเบียดกูจังวะ”ไอ้ชายบ่นเมื่อผมเบียดเข้าไปใกล้ๆ
   
“กูหนาว”หนาวแอร์ไม่มีอื่นใดเจือปนจริงๆ
   
“อย่าบอกนะเกิดอารมณ์กับกูขึ้นมาอ่ะ”

“โหย ไอ้ชายใช้ส้นตีนคิดเหรอวะ ถ้ากูอารมณ์ขึ้นกับมึง กูขึ้นกับไอ้เคนดีกว่าอีก”ว่าแล้วก็พลิกตัวไปกอดไอ้เคนแทน กับไอ้เคนเนี่ยมันไม่ค่อยจะโวยวายเวลาผมแกล้งซบแกล้งกอดมันหรอก เพราะมันรู้ไงว่าผมแกล้ง

“พูดงี้กูเสียวนะ”มันพึมพำกลับมาอ้าปากหาวหวอดๆ

“เสียวอะไรวะ”ผมกระซิบถามมันแกล้งเป่าลมใส่หูมันอีกต่อ มันก็เลยยกขาขึ้นถีบผม แต่ผมหลบทันเลยโดนน้องผมไปหน่อยนึง ดีนะไม่จุกมาก ผมเลยเอาคืนมันด้วยการเตะคืน

“พวกมึงจะดังกันทำไมวะ”ไอ้ภูแหวมา มันดันตัวขึ้นมามองผมกับไอ้เคนที่นอนเตะกันอยู่ฝั่งตรงข้ามกับมัน

“ดังบนหัวพ่อมึงรึไง”ผมสวนกลับ และคิดผิดเพราะไอ้ภูทำหน้าทะมึงถึงใส่ผม

“เล่นพ่อกูเลยเหรอ ห๊ะ”มันใช้เท้าเตะๆเข้าที่หน้าท้องผม เหมือนจะหยอกแต่ทำไมผมจุกวะ

“โทษๆ กูแค่ล้อเล่นเฉยๆ กลับไปนอนที่มึงเลยไป”ผมยันตัวลุกขึ้นมานั่งแล้วตอนนี้ ไม่งั้นจะเสียเปรียบมัน ไอ้ตินเองก็นอนลืมตามองผมอยู่ ผมว่ามันสองคนนี่เข้าขั้นประสาทแล้วนะ

“แล้วพวกมึงเล่นบ้าอะไรกัน นอนกอดกันกลมนี่ถ้ากูไม่รู้จักไอ้เคนกูจะคิดว่ามึงสองคนเล่นชู้กันแล้วนะ”มันคิดอะไรของมันวะ ผมกับไอ้เคนเนี่ยนะ ผมและไอ้เคนหันมามองหน้ากันก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ หัวเราะดังไม่ได้เกรงใจคนอื่น เขานอนกันหมดแล้ว

“เฮ้ย พี่ก็บ้า คิดไปได้ไง”ไอ้เคนพูดเบาๆสีหน้าขบขัน

“ถ้ามันจะเล่นชู้กันนะ ไอ้เคนเสร็จไอ้ฟิกตั้งแต่ตอนม.สี่แล้วพี่”ไอ้ชายแทรกขึ้นมาหลังจากที่นอนขำอยู่นาน

“กูจะไปรู้เหรอ เซ็กซ์เฟรนด์ไง”มันยังไม่จบอีก

“มึงไปนอนที่เดิมไป เดี๋ยวกูได้กลายเป็นชู้มึง”ไอ้เคนไล่ผมให้กลับไปนอนที่เดิม ไอ้ภูยืนยิ้มอย่างผู้ชนะก่อนที่มันจะดึงหมอนของผมไปโยนแหมะอยู่ที่เดิม สุดท้ายก็ต้องไปนอนที่เดิมอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้

“กูถามจริงนะ มึงคิดมากจริงอ่ะ”คือมันค่อนข้างเหลือเชื่อไง กับไอ้เคน…พูดแล้วอยากร้องไห้

“เปล่า กูแค่จะลากมึงกลับมานอนที่เดิม กูไม่หน้ามืดคิดว่ามึงสองคนจะจิ้มกันหรอก”ไอ้ภูหัวเราะหึๆ ผมตีหน้าบึ้งก่อนจะตบหมอนให้เข้าที่แล้วพลิกตัวนอนหันหน้าไปทางไอ้ตินแทนเพราะหมั่นไส้ไอ้ภู

“วันนี้กลัวไหม”จู่ๆมันก็กระซิบถาม

“ไม่อ่ะ”ไม่ค่อยจะหลอนแล้วอาจเป็นเพราะว่าคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่นอนด้วยล่ะมั้ง

“ดีแล้ว กูขี้เกียจกล่อมเด็ก”ไอ้ตินพูดยิ้มๆ

“ใครเด็ก”ผมพึมพำก่อนจะหลับตาลง แต่ก็ต้องลืมขึ้นมาอีกครั้งเพราะมือไอ้ภูกำลังซุกซนอยู่ในเสื้อของผม

“ไอ้ภู…”ผมทำเสียงเข้มข่มมัน ถึงตอนนี้จะเกือบๆตีหนึ่งแล้วก็เหอะ มันจะยังมาหื่นอีก

“หืม ว่าไง”มันยกตัวมามองหน้าผม

“สันดานแล้วนะมึงเนี่ย เอามือออกไปเลย”ผมดึงมือมันออกมาจากเสื้อ มันหัวเราะเบาๆก่อนจะหอมแก้มผม

“อ้าว ก็นึกว่าชอบ เห็นขนลุกซู่เลย”ไม่พูดเปล่ามันยังก้มเอาจมูกมาซุกซอกคอผมอีก จนผมเอื้อมมือไปตบหัวมันเต็มแรง

“เจ็บนะหมาฟิก กล้าตบหัวกูเหรอ ห๊ะ”มันทำตาดุใส่ผม ผมปัดมือมันออกให้พ้นตัวก่อนจะนอนเบียดไอ้ตินแทน จนไอ้ภูมันยอมสงบศึก ผมหลับจนสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกรอบ เพราะได้ยินเสียงแปลกๆ มันดังอยู่ข้างๆผมนี่เอง…เสียงหอบหายใจ ตอนแรกผมก็คิดว่าผีหลอก แต่เมื่อลืมตาและมองไปข้างๆผมก็รู้ว่าเป็นผีไอ้ภู!แม่งมาเล่นว่าวอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ พอมันเห็นว่าผมตื่นมันก็ดึงผ้าห่มมาคลุมผมแล้วยื่นหน้ามาจูบผมแทน ผมเบี่ยงหน้าออกแต่มันก็เอามือล็อคหน้าผมไว้ ตื่นเต็มตาเลยว่ะ เพราะมือมันแฉะๆ สัดภูนี่มันจริงๆเลยว่ะ

“มาหื่นอะไรตอนนี้”ผมถามมันเบาๆ

“ไม่รู้ มึงถามน้องกูสิ”มันยิ้มชั่ว เรื่องหื่นไว้ใจภู ไม่มีใครเกินหน้ามันแน่นอน กับไอ้ตินนี่ยังไม่ขนาดนี้เลยนะ

“กูร้อน”ผมดึงผ้าห่มลงก่อนจะพลิกตัวหนีไปทางไอ้ตินอีกรอบ ดิ้นสู้กับมือไอ้ภูจนไอ้ตินมันย่นคิ้วไปมาเพราะถูกรบกวน

“เป็นเหี้ยอะไรกัน”มันพึมพำด่ามาทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา

“มึงดูไอ้ภูดิ แม่งมาหื่นอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้”

“อ้าว กูหื่นอยู่คนเดียวหนักหัวมึงตรงไหน”

“เสียงมึงมันรบกวนกู มือมึงด้วย”ว่าแล้วผมก็ขยับตัวไปทางไอ้ตินเพื่อพลิกไปนอนที่ว่างด้านหลังมัน ไอ้ตินทำตาโตเลยเมื่อเห็นผมกำลังเลื้อยอยู่บนตัวมัน

“มึงก็หื่นใช่ไหม ใจเย็น คนเยอะ”ผมนี่เอือมกับพวกมันจริงๆ คิดผิดคิดถูกวะที่มาตกหลุมชั่วๆของมันสองคนเนี่ย สุดท้ายผมก็พลิกมานอนที่ว่างข้างๆไอ้ตินได้สำเร็จ ได้ยินเสียงไอ้ภูบ่นแว่วๆมา

“เชี่ยพี่ภู”ไอ้ตินกระซิบด่า

“เดี๋ยวกูมานะ”ไอ้ภูยันตัวขึ้นมานั่งท่าทางแปลกๆ

“จะไปไหน”ผมถามเมื่อเห็นมันย่องผ่านผมไป

“ห้องน้ำ”ผมนี่ขนลุกวูบเลย

“ปวดขี้?”ผมเลิกคิ้วถามมัน แต่มันก็ไม่ตอบ ผมว่ามันไม่ได้ไปอึแน่ๆ ผมมองหน้าไอ้ตินอยู่ในความมืดเหมือนตกลงกันเงียบๆว่าจะเอายังไง

“ผีหลอกนะมึง”ผมกระซิบตามหลังไป ไอ้ภูชะงักกึกเลย

“พูดทำไมวะ สาธุขอให้มึงเห็นคนเดียว”ไอ้หมาภู แต่มันไม่กลัวคำขู่ของผมเพราะมันเดินออกไปแล้ว

“ความหื่นชนะทุกอย่างนะว่าไหม”ไอ้ตินพึมพำขำๆ ผมหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา ตีสามกว่าๆแล้ว มันคงไม่กลัวหรอกมั้ง ผมนอนเล่นเกมส์อยู่ใต้ผ่าห่ม สักพักก็รู้สึกว่าไอ้ภูกลับมาแล้ว เพราะรู้สึกว่ามันเดินเหยียบผ้าห่มผมระหว่างที่มันเดินผ่าน ผมดึงผ้าห่มลง กระพริบตาปริบๆเมื่อไม่เห็นใคร จู่ๆผมก็ตัวเย็นเฉียบ ก่อนจะค่อยๆมองผ่านไอ้ตินที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวไปมองที่ไอ้ภู…ว่างเปล่า…มันยังไม่กลับมา หรือว่ามันโดนผีหลอกจนช็อคคาห้องน้ำไปแล้ว ผมสะกิดไอ้ตินอีกครั้ง

“ฮื่อ”มันปัดมือผมออกเหมือนรำคาญ

“กูว่า…ไปดูไอ้ภูกันไหม”ไอ้ตินลืมตามองช้าๆ

“พี่เขาว่าวอยู่ไปดูทำไม”มันตอบมาง่วงๆ

“กูว่ากู…”ผมทำปากพะงาบๆเป็นคำว่าผีใส่มัน

“พี่ภูไม่กลัวหรอก จิตแข็งจะตาย”มันงึมงำตอบกลับมา ไอ้ภูเนี่ยนะจิตแข็ง เมื่อวานมันยังทำท่ากลัวอยู่เลย ระหว่างที่กำลังเถียงกันมันก็กลับมาพอดี สีหน้าดูสดชื่นเล็กน้อย

“ข้างนอกอากาศโคตรดีเลยว่ะ กูไปนั่งสูบบุหรี่มา”ไม่บอกผมก็ได้กลิ่นบุหรี่หึ่งๆมาจากมัน ไอ้ภูมองหน้าผม

“เป็นไร หน้าซีดๆนะ”

“มันบอกว่ามันเจออีกแล้ว”ไอ้ตินพูดออกมาเหมือนไม่กลัว จนผมต้องเข้าไปตะครุบปากมัน

“หึๆ กูว่าเขาอาจจะหมั่นไส้มึงนะ กูทำเสียงดังในห้องน้ำไม่เห็นเจออะไรเลย ป่ะ อย่าคิดมาก นอนๆ”มันพูดง่ายๆนะ แต่ผมนี่นอนตาค้างอยู่ใต้ผ้าห่มไปทั้งคืน พื้นมันเย็นอ่ะ เพราะผมกลิ้งออกมานอนนอกผ้าห่มที่พวกมันปูไว้ ไม่เข้าใจจริงๆเลยว่ะ ว่าทำไมต้องเป็นผมคนเดียว




-ตอนเช้า


มีเหตุการณ์ให้พูดถึงอีกแล้ว เมื่อมีใครบางคนได้ยินเสียงแปลกๆระหว่างที่นอน

“จริงๆนะเว้ย กูได้ยินจริงๆ”เด็กศิลปกรรมคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“มึงได้ยินยังไงวะ”ผมอยากรู้เพราะเพื่อจะเจอดีเหมือนผม

“ก็เสียงเหมือนคนครางอ่ะ”ผมกลั้นหัวเราะเต็มที่ ก่อนจะเหลียวไปทางไอ้ภูที่นั่งตีหน้านิ่งอยู่เหมือนคนไม่รู้สึกอะไร

“มึงฝันรึเปล่า”ไอ้ตินพูดขึ้นมาบ้าง แต่ก็พยายามกลั้นยิ้มเต็มที่

“กูก็ได้ยินนะ”ไอ้สัดชายพูดขึ้นมา แต่มันคงรู้ที่มาของเสียงเพราะมันหันมามองหน้าผมด้วยรอยยิ้มส้นตีนๆที่ผมเดาออกว่ามันต้องหาเรื่องมาล้อผมอีกแน่ๆ

“เออ เห็นไหม กูไม่ได้ฝันนะเว้ย ตอนที่พวกเรามาเราก็ไว้ขอที่ศาลหน้าโรงเรียนแล้วนะ”ผมทำหน้ามึน เขาไปไหว้กันตอนไหนวะ ทำไมผมไม่รู้เรื่อง หัวข้อการสนทนาจบลงเมื่อพวกพี่สันทนาการเข้ามาพร้อมกับกลอง 

“พี่อยากขอตัวแทนจากสาขาคนล่ะสองคนค่ะ มีใครอาสาไหม”พี่ขิมมองไปรอบๆ ก่อนจะพูดต่อ

“เราจะเล่นเกมส์แซ่บๆของคณะเราให้น้องๆดูเพราะให้น้องทำกันเองมันไม่เหมาะ”ผมเริ่มนั่งก้มหน้าก้มตาเมื่อเห็นพี่จากคณะผมกำลังกวาดตาหาใครสักคน

“ฟิก มาเป็นตัวแทนถาปัตย์หน่อยเร็ว หาเพื่อนมาด้วยอีกคน เคนก็ได้”ผมนี่แทบร้องตะโกนในใจเลยว่าม่ายยยย!กูไม่อยากทำ เกมส์อะไรวะ ผมว่ามันต้องมีให้เต้นเพลงแมงมุมแน่ๆ เพลงนี้เมื่อก่อนผมชอบนะ เห็นคนอื่นทำมันตลกดี แต่ถ้าเป็นผมทำมันไม่เหมาะว่ะ เมื่อผมและไอ้เคนยังคงนั่งนิ่ง ก็เกิดเสียงเชียร์เพื่อกดดัน และไอ้สองคนนั่นก็เป็นตัวนำเลย ผมมองพวกมันด้วยสายตาเหวี่ยงๆ เดี๋ยวพวกมึงจะโดนบ้าง

“พี่ๆ ภาคฟิล์มขอสองคนนั่นได้ไหม ตอนบนรถทัวร์ไม่ได้เต้นนี่ ตอนนี้ก็ต้องมาเต้น”ผมยักคิ้วให้พวกมันสองคนที่ทำหน้าเหวอๆ

“ดีเหมือนกันค่ะ เชิญ”พี่ผู้หญิงผายมือไปทางมันสองคน จนในที่สุดพวกมันก็ต้องออกมา มีเด็กศิลป์อีกสองคนหัวฟูสวมแว่น อีกคนสกินเฮดเกรียนมาเลย คิดแล้วนึกถึงสมัยที่ผมไว้ทรงนี้ อยากกลับไปทำอีก แต่มันสองคนคงไม่ให้ทำแน่ๆ

“เราจะซ้อมกันก่อนนะ เพลงแรก แมงมุมมีใครเต้นไม่เป็นบ้าง พี่จะได้สอน”พี่ขิมพูดพร้อมหัวเราะร้ายกาจ ไอ้เคนหันมามองผมด้วยสายตามืดมน แต่เดี๋ยวนะ…เต้นแมงมุม ไอ้สองคนนั่นก็ต้องเต้นด้วยอ่ะดิ

“เต้นกับคู่เหรอ”ไอ้ตินถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“อ๋อใช่ค่ะ เต้นกับคู่…เอ๊ะ หรือจะแยกคู่ดี พี่ว่าก็โอเคนะ จับคู่กันเอง”ไอ้ภูกับไอ้ตินมองหน้ากันก่อนจะหันมามองผม พวกมึงไม่ต้องมองกูด้วยสายตาแบบนั้น ผมรีบไปเกาะหนึบกับเด็กศิลป์หัวเกรียนทันที เมื่อสถานการณ์วุ่นวายผ่านไปผมก็เห็นไอ้ภูจับคู่กับไอ้เคน ไอ้ตินจับคู่กับหนุ่มแว่นหัวฟู ผมหัวเราะหึๆออกมา โอ๊ย ผมไม่อยากจะนึกสภาพพวกมันจริงๆ

“กล้าเต้นเปล่า”ผมเอนตัวไปกระซิบใกล้ๆไอ้ติน

“กูเต้นจนเบื่อแล้วเพลงเนี่ย”เดาว่าคณะมันคงเล่นบ่อย ผมเหลือบมองไอ้ภูที่ทำท่ากระสับกระส่าย ไม่รู้ว่าที่คณะมันเคยเต้นเพลงนี้ไหม

“ตกลงกันเองนะคะว่าใครจะโดนขยุ้ม”เกิดเสียงหัวเราะตามมา ผมหันไปสะกิดไอ้เกรียนแต่มันบอกว่ามันยังไงก็ได้

“ชื่อไรวะ”ว่าแล้วก็ถามชื่อแซ่ซะหน่อย

“บอย”

“กูชื่อฟิกนะ”

“เออ รู้อยู่แล้ว”มันพยักหน้ามาให้ จากนั้นมันก็มาซ้อมเพลงแมงมุมขยุ้มๆ ก็ไม่มีอะไรมากดูเหมือนจะเต้นกันเป็นหมดแล้ว ไอ้ภูก็มึนๆอึนๆไปตามสเต็ปแต่ไอ้เคนมันก็เกรียนไปตามประสา ไอ้บอยนี่ก็เหมือนกัน มาทำหน้าตาฟินใส่ผมอีก แล้วก็เกมส์เดิมที่ผมเกลียดคือกระแทกลูกโป่ง เล่นกันแค่นี้แต่ผมรู้สึกว่ามันเกรียนกว่าเต้นหลายเพลงอีก ไอ้บอยนี่ก็เฮฮาไปตามเรื่อง คือผมว่ามันเป็นคนที่ทะลึ่งๆคนหนึ่งเลยนะ เพราะตอนที่ผมทำลูกโป่งแตกมันดันทำเสียงเสื่อมๆมาอีก คนอื่นก็เฮฮาปาจิงโกะไป ยกเว้นผมที่รู้สึกเหมือนถูกใจมันยังไงก็ไม่รู้ แต่ผมก็รู้ตัวเอง ก็พยายามเลี่ยงๆอยู่ห่างๆมัน กลัวจะมีเรื่องอีกเพราะไอ้ภูกับไอ้ตินเหมือนมันจะจับสังเกตุได้ แต่ผมกับมันยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับมันสองคนเลยเพราะต้องคุยเรื่องงานวันนี้

ตอนสายๆน้องๆก็ทยอยเข้ามาด้วยท่าทางตื่นเต้น มีไม่เยอะหรอก เพราะผมสังเกตว่าโรงเรียนนี้เน้นด้านวิชาการมากกว่าด้านศิลป์ๆแบบนี้ พวกพี่ขิมให้พวกผมไปใส่กางเกงของพวกสันฯ พี่เขาก็เอนเตอเทนน้องๆไป แล้วก็ให้เขียนเหตุผลว่าอยากเข้าคณะอะไร สาขาไหน บลาๆ   

“เฮ้ย ฟิก เอ็งมีแฟนยังวะ”ไอ้บอยถาม มันชอบใช้คำแปลกๆไม่รู้ว่าสมองเบลอหรือว่ายังไง

“ห๊ะ”ผมหันไปมองไอ้บอยด้วยอาการมึนๆ ไอ้ภูกำลังเล่นเกมส์กับไอ้เคนอยู่พอดี มีคนแซวมันด้วยว่าพี่ว้ากปะทะพี่ว้าก

“กูถามว่ามึงมีแฟนหรือยัง ตกใจอะไรวะ”มันย่นคิ้วน้อยๆ ก่อนจะวางมือบนบ่าของผม เฮ้ย มึงอย่ามองกูแบบนั้น ผมถอยห่างออกมาจากมันเล็กน้อยแบบเนียนๆ

“มีแล้ว”ผมตอบเบาๆก่อนจะร่วมปรบมือให้ไอ้ภูกับไอ้เคนเหมือนคนอื่นๆ

“เออ กูก็ถามไปงั้นแหละ เห็นท่าทางหน้าตามึงแล้วกูสงสารแฟนมึงเลยว่ะ”ผมขมวดคิ้วทันที ทำไมวะ ชักสงสัยล่ะ

“หน้าตาอย่างกูนี่ทำไมวะ”ผมเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา

“ก็…มึงดูร้ายๆอ่ะ เจ้าชู้ใช่เล่นเลยสิ กูมองออก”มันยักคิ้วให้ผมก่อนจะตบหน้าอกผมเบาๆ จนถึงคิวผมกับมันเล่นเกมส์ พี่คณะผมก็เป็นคนพล่าม เอ้ย คนพากษ์ว่าให้น้องๆเลือกว่าใครจะเป็นคนกระแทกลูกโป่ง ทุกเสียงชี้ไปที่ไอ้บอย ผมนี่ซีดเลย

“เฮ้ยพี่”ผมเริ่มส่งสัญญาณให้พี่ขิม แต่ไม่มีใครสนใจผมเลยว่ะ เมื่อมันลูกโป่งเสร็จแล้วผมก็ดึงๆให้ลูกโป่งขึ้นมาอยู่ตรงท้อง เพราะไอ้บอยมันทะลึ่งดึงมาอยู่ต่ำๆตลอด

“มึงอย่ากวนตีน”ผมถลึงตาใส่มัน ไอ้บอยหัวเราะฮ่าๆของมันไป ไม่รู้ว่ามันแกล้งรึเปล่าถึงได้ทำลูกโป่งแตกช้าชิบ ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนๆเพราะอาย เสียงเชียร์ เสียงหัวเราะมันดังไง

“มึงตั้งใจเล่นหน่อยดิวะ”ผมกระซิบบอกมัน พยายามไม่เงยหน้ามองใครแล้ว

“กูตั้งใจแล้ว แต่ลูกโป่งมันลื่นไง”มันหัวเราะกลับมา จนผมปั่นป่วนอยู่ลึกๆ โอ๊ย มึงเป็นอะไรของมึงวะไอ้ฟิก

“สัด”ผมเริ่มหงุดหงิดเพราะอยากให้จบเกมส์เร็วๆ

“มึงก็ช่วยกูหน่อยดิ ดันตัวเข้ามาเร็วๆ”มันกระซิบ ดึงมือผมให้วางบนเอวของมัน ผมนี่ร้อนวูบวาบเลยว่ะ เงยหน้าเห็นใบหน้าบึ้งๆของไอ้ภูกับไอ้ตินแล้วเสียววูบขึ้นมาเลย มันอาจจะดูออกก็ได้ว่าผมรู้สึกยังไง

“กูไม่เล่นแล้วนะเว้ย จริงจังหน่อย”ผมพึมพำเอามือออกจากเอวมัน เริ่มรู้สึกไม่สนุกแล้ว ตอนแรกก็คิดว่าเล่นแค่เกรียนๆ ผมเหลือบมองรอบๆเห็นน้องๆบางคนนั่งขำ ไอ้ชายทำตาเหลือกๆใส่ผม

ปัง!

และแล้วลูกโป่งก็แตก….ด้วยฝีมือไอ้ติน ไอ้บอยทำหน้างงๆ พี่ๆก็ด้วย แต่ก็กลบเกลื่อนขำกันไป ไอ้ตินกลับไปยืนที่เดิม มองมาที่ผมเหมือนจะบอกว่ามีเรื่องต้องคุย

“เด็กฟิล์มแม่งแย่งซีนว่ะ”ไอ้บอยพูดอย่างหงุดหงิด

“ก็มึงชักช้า”ผมเริ่มกลัวๆแปลกๆ เด็กฟิล์มที่มึงว่าน่ะรุ่นพี่มึงนะเว้ย

“กูชักเร็วอยู่นะ”ผมสตั๊นไปหลายวิกับคำตอบมัน

“โอ๊ย ฮ่าๆ หน้ามึงแม่งจี้ว่ะ อะไรวะ แค่นี้มึงตกใจเหรอ ท่าทางไม่น่าหงิมนะ”มันหัวเราะพลางเอามือมาตบหน้าผมเบาๆ ผมก็ปัดมือมันออกอย่างหงุดหงิด

“กูแค่ไม่คิดว่ามึงจะเล่น”ผมขอตัวพวกพี่ๆไปเข้าห้องน้ำ ก็ตามคาดไอ้ภูกับไอ้ตินขอตัวมากับผมด้วย พอเข้ามาในห้องน้ำปุ๊บพวกมันก็รีบดึงตัวผมเข้าไปในห้องน้ำทันที

“มึงชอบมันเหรอ”เป็นคำถามที่ทำผมใบ้กิน

“ไม่ตอบแสดงว่าจริง”ไอ้ตินพูดเสียงเรียบ

“ไม่ได้ชอบมัน แค่…”ไอ้ภูกอดอกเลิกคิ้วมองผม

“แค่ถูกใจมันนิดหน่อยเฉยๆ”ผมตอบไปตามความจริง

 “แต่พวกมึงก็เห็นว่ากูเองก็เลี่ยงๆไม่เข้าใกล้มัน”เพราะผมรู้ตัวเองไงว่าเริ่มถูกใจมัน ไม่อยากทำตัวเพิกเฉยเหมือนคราวไอ้เน็ต เดี๋ยวไหลตามไม่รู้ตัว

“เออ แต่ดูท่ามันจะไม่เลี่ยงว่ะ”ไอ้ภูพูดขึ้นมา

“มันแค่เล่นๆ”

“ทำมาอาย หน้าบางตั้งแต่เมื่อไหร่วะ มึงเนี่ย”ไอ้ตินแขวะผมเรื่องเกมส์ลูกโป่ง

“ก็คนมันเยอะ”ผมตอบเสียงอ้อมแอ้ม จนมันสองคนดูจะหงุดหงิดมากขึ้น

“มึงสองคนวางใจเหอะ กูไม่นอกใจมึงหรอก กูรู้ว่ากูมีพวกมึงอยู่ตั้งสองคน กูจะทำแบบนั้นได้ยังไง ไว้ใจกูหน่อยนะ กูไม่ใช่ไอ้ฟิกคนเมื่อก่อนแล้วนะเว้ย”ผมพูดเสียงอ่อนลง จับมือพวกมันสองคนให้คลายความกังวล

“เออ กูแค่…ไม่ชอบให้ใครมาใกล้มึง ไม่ชอบให้มึงไปเขินมัน”ไอ้ภูถอนหายใจแรงๆ

“กูอาย ไม่ได้เขิน”ผมว่ามันต่างกันนะ

“มึงรู้สึกยังไงกับมัน ตอนที่เล่นเกมส์อ่ะ ตอบมาตรงๆกูไม่ว่า”ไอ้ตินพูดขึ้นมา ผมก็ตอบไปตามความจริง

“ยังจะรู้สึกแบบนั้นกับคนอื่นทั้งๆที่พวกกูก็อยู่ด้วยเนี่ยนะ”ไอ้ตินทำหน้านิ่งจนผมเริ่มรู้สึกผิด กับไอ้ภูมันเคยเล่าๆให้ผมฟังเหมือนกันว่ามันเองก็เคยรู้สึกสนใจเด็กในคณะบางคน แต่มันไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะเวลาที่มันรู้สึกแบบนั้นมันจะโทรมาคุยกับผมเพื่อย้ำความรู้สึกของตัวเอง แล้วความรู้สึกพวกนั้นก็จะหายไปในทันที

“เออ กูขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ”มันเกิดขึ้นกะทันหันเหมือนเวลาสปาร์คใครสักคนอ่ะ ผมเข้าไปกอดพวกมันสองคนหลวมๆ

“เฮ้ย ไอ้ฟิก มึงอยู่ในนี้เปล่าวะ”เสียงไอ้บอยดังมาจากด้านนอก ไอ้ตินยกนิ้วแตะปากผม ก่อนจะก้มมาจูบ มือมันล้วงเข้ามาลูบๆคลำๆตรงตำแหน่งหัวใจที่เต้นตึกๆเพราะความตื่นเต้น อย่าบอกนะว่าพวกมันเกิดอารมณ์หื่นขึ้นมาตอนนี้ มีเสียงฝีเท้าดังอยู่ด้านนอก ผมพยายามกลั้นเสียงของตัวเองเมื่อถูกริมฝีปากอุ่นของพวกมันโจมตีตามร่างกาย เสียงฝีเท้าแว่วหายไปจากห้องน้ำ ตอนแรกก็คิดว่ามันสองคนจะหยุดแต่ที่ไหนได้มันดันสานต่อ ผมก็ปล่อยเลยตามเลย พวกมันอาจจะไม่สบายใจก็ได้เพราะมีไม่มากหรอกที่ผมจะถูกใจใครก่อน จนมันสองคนพอใจจึงปล่อยให้ผมหายใจหายคอ 

“ป่ะ กลับกัน ออกมานานแล้ว”ไอ้ตินพูดพร้อมรอยยิ้ม ผมได้แต่อึกอัก มาทำผมอารมณ์ค้างแล้วชิ่งหนีซะงั้น

“เดี๋ยวดิ”ผมคว้าชายเสื้อของมันสองคน

“อะไร”ไอ้ภูถามพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก ไอ้พวกนี้จงใจชัดๆ

“คือกู…”

“ว่า”ต้องให้ผมพูดให้ได้ใช่ไหมวะ

“ช่วยกูก่อนดิ”ผมหน้าร้อนผ่าวๆขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ หมู่นี้ทำไมมุ้งมิ้งจังวะ ผมเนี่ย

“ก็ตอนแรกทำท่าเหมือนไม่ยอม”ไอ้ตินพูดพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นผมกับพวกมันก็ร่วมด้วยช่วยกันจนบรรลุโสดาบัน (ไม่ใช่ล่ะ) ผมจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะออกจากห้องน้ำ ดีที่ไม่มีใครโผล่มาจ๊ะเอ๋กับผม

กลับเข้าไปที่หอประชุม ไอ้บอยมันก็มองผมกับไอ้สองคนด้วยสายตาแปลกๆ แต่มันไม่ได้เข้ามาวุ่นวายยุ่มย่ามอะไร แต่ถึงไอ้ภูกับไอ้ตินไม่เข้ามาคุยกับผม ผมก็มั่นใจว่าผมหนักแน่นพอ ถึงจะเผลอไปบ้าง แต่ผมก็รู้น่า…ว่าผมมีคนสำคัญที่หาจากที่ไหนไม่ได้แล้วอยู่ตั้งสองคน 


…………………………………………………………….



และแล้วก็ได้เวลากลับ พวกพี่ๆก็ล่ำลากับน้องๆ เอาขนมมาแจกและสร้อยข้อมือที่ทำจากหนังแจกน้องๆ จู่ๆพวกมันสองคนก็คว้าข้อมือของผมไปคนละข้างก่อนจะสวมสร้อยข้อมือหนังนั่นให้ผม

“ไปแอบทำตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”ผมถามงงๆเมื่อเห็นว่ามีชื่อของพวกมันสลักอยู่บนนั้น

“ไม่บอก”ไอ้ตินเข้ามากระซิบใกล้ๆกับผม

“ตอนแรกกูกะว่าจะทำปลอกคอล่ะ คนอื่นจะได้รู้ว่ามึงมีเจ้าของ”ผมดันหน้าผากมันออก

“กูไม่ใช่หมานะเว้ย”

“อ้าว นึกว่าใช่ นี่กูคิดแบบนั้นมาตลอดเลยนะเนี่ย”ไอ้ภูหัวเราะหึ ๆ ก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้ของมันมาสะพายหลัง มันกลับมาใส่ชุดไปรเวทแล้ว หล่อดูดีมาก

“ตอนเย็นแวะไปกินข้าวเลยไหม กว่าจะถึงก็เกือบทุ่มพอดี”ไอ้ตินเสนอ

“กูอยากกินหมูกระทะ”ผมพูดแทรก

“เออ ชวนเพื่อนมึงมาด้วยดิ๊”ไอ้ภูกดโทรรศัพท์ไปพลาง

“นั่นแน่ เต้นแมงมุมไปเพลงเดียว ติดใจไอ้เคนเลยล่ะสิ กูว่ามันทำเสียงเพราะดีนะ”เพราะไอ้ตอนที่ขยุ้มๆมันทำเสียงเสื่อมๆไปด้วยไง ผมโดนตบหัวจนหัวทิ่ม ไม่ใช่ฝีมือไอ้ภูหรือไอ้ติน แต่เป็นไอ้เคนเนี่ยแหละ มันเดินตามหลังมา

“ทะลึ่งแล้วนะมึง”มันทำหน้าหงุดหงิด

“ล้อเล่นเอง มึงอยากเกรียนเอง”ผมก็ตกลงชวนพวกมันไปกินหมูกระทะต่อ มารอขึ้นรถทัวร์ที่หน้าโรงเรียน ไอ้ชายก็สะกิดผม

“มึงไหว้ลาศาลโรงเรียนยัง บอกเขาด้วยนะ เดี๋ยวตามไปถึงหอนะมึง”มันทำเสียงหลอนๆให้ผมกลัวเล่น ผมเลยไปไหว้ลาศาลโรงเรียนตามที่มันบอก ปิดท้ายด้วยกาบอกว่าอย่าตามผมมาเลยนะ

“ไอ้ฟิก”ไอ้บอยเรียกผม

“อะไรวะ”ผมก็คุยกับมันตามปกติ ผมเดาว่ามันคงรู้ว่าผมอยู่ในห้องน้ำกับพวกมันแน่ๆ เพราะมันทำสีหน้าแปลกๆ

“กูชอบมึงว่ะ”ผมเหวอไปเล็กน้อย ไม่คิดว่ามันจะพูดแบบนี้

“ห๊ะ มึงเนี่ยนะ มาชอบกู”ผมหัวเราะกลบเกลื่อน

“เฮ้ย อย่าเพ่งคิดลึก กูหมายถึงแบบเพื่อนอ่ะ เพราะมึงกับกูเหมือนจะมีอะไรคล้ายๆกันว่ะ แต่ยกเว้นเรื่องคบแฟนนะ กูไม่เจ๋งอย่างมึง”มันบุ้ยใบ้ไปยังด้านหลังผมที่ไอ้ภูกับไอ้ตินยืนมองอยู่

“เออ”ผมได้แต่ยิ้ม กำลังชั่งน้ำหนักตัวเองอยู่ว่าผมสามารถเป็นเพื่อนกับมันได้ไหม ไม่ใช่ว่าผมไม่หนักแน่น แต่ไอ้สองคนนั่นคงไม่สบายใจแน่ๆถ้าหากว่าผมคบกับไอ้บอย ผมเองก็เข้าใจพวกมันนะ เพราะเรื่องไอ้ภูกับไอ้นนท์ยังแจ่มชัดในความทรงจำอยู่เลย พวกมันเองอาจจะรู้สึกเหมือนที่ผมเรื่องไอ้นนท์ก็ได้ ถ้าการที่ผมคบเป็นเพื่อนกับไอ้บอยแล้วทำให้พวกมันไม่สบายใจ ผมก็ไม่อยากทำ เป็นไง ผมเป็นคนดีล่ะสิ

“แล้วเจอกันว่ะ ถ้าเจอกันก็ทักด้วยล่ะ”ผมตบบ่ามันเบาๆ ก่อนจะเดินกลับไปหาไอ้ภู ไอ้บอยเองก็ไปไหว้ศาลาโรงเรียนต่อจากผม

“คุยอะไรกันเหรอ”ไอ้ตินถามด้วยเสียงเรื่อยๆแต่ผมก็รู้ว่ามันอยากรู้

“เรื่องทั่วๆไปเนี่ยแหละ ไม่มีอะไรในกอไผ่ทั้งสิ้น”ผมยกมือให้มันสองคน ไอ้ภูยิ้มก่อนจะวางมือบนศีรษะของผมเบาๆ

“ดีมาก กูดีใจนะ”

“ดีใจอะไรของมึง”ผมขี้เกียจจะปัดมือมันออกแล้วก็เลยปล่อยให้มันวางมือไป

“ดีใจที่มึงเป็นเด็กดีไง”ผมเบ้หน้าทันที คำว่าเด็กดีดูจะมุ้งมิ้งไปสำหรับผม

“เอาเถอะ กูเปลี่ยนไปแล้ว พวกมึงวางใจได้ กูรักพวกมึงสองคนขนาดนี้ กูจะไปแบ่งให้คนอื่นได้ไง”พูดจบผมก็รีบขึ้นรถทัวร์ที่จอดรออยู่ทันที ไม่ได้มองหน้าพวกมันว่าทำสีหน้ากันแบบไหน แต่ตอนนี้ผมไม่อยากให้พวกมันเห็นหน้าผมจริงๆ ก็เลยรีบมานั่งกับไอ้เคนที่เดิมแล้วเอาเสื้อคลุมของมันคลุมหน้าทำเหมือนว่าหลับ

“เป็นบ้าอะไรของมึง”มันถามผมเมื่อผมแอบอิงไหล่มันเนียนๆ แต่ดูเหมือนมันสองคนจะรู้ว่าผมเขินมันเลยไม่ได้มาเซ้าซี้อะไร รู้แค่ว่าไอ้เคนหัวเราะหึๆอยู่

“สัด อย่างกับลูกหมาเลยนะมึงเนี่ย เพื่อนกูกลายพันธ์ซะล่ะ”

“กูไม่ใช่ลูกหมา”ผมสะบัดเสื้อคลุมมันออก แอบเห็นจากทางหางตาว่าไอ้ภูกับไอ้ตินนั่งอยู่ที่เดิม ผมพยายามทำเป็นไม่เห็นมันสองคน

“เฮ้ย ฟิก…”ไอ้เคนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ

“ทำไมวะ”ผมถามเสียงขุ่น เมื่อมันหัวเราะเบาๆ

“กูเพิ่งเคยเห็นมึงหน้าแดงว่ะ โอ๊ยตาย เพื่อนกูแตกเนื้อสาวซะแล้วว่ะ ยินดีด้วยนะ ไอ้ติน พี่ภู”มันหันไปตะโกนใส่ไอ้สองคนนั่น แค่ได้ยินเสียงพวกมันหัวเราะผมก็ไม่กล้ากระดิกตัวแล้ว ไม่รู้ว่าพวกพี่ๆเขานึกครึ้มอะไรถึงได้เล่นเพลงสัญญาจะไม่ไปไหนของโปเตโต้ คนบนรถทัวร์ก็แหกปากร้องเฮฮาไป รวมถึงไอ้สองคนข้างๆนี่ด้วย ผมเองก็มีของให้พวกมันเหมือนกันนะ เป็นของประจำเซคที่ผมออกแบบเอง สั่งทำเอง คือจี้กระบอกซูมเล็กๆที่ผมสลักชื่อของพวกมันลงไป มาเจอบรรยากาศแบบนี้ ผมว่าผมไว้ค่อยให้มันทีหลังดีกว่า




TBC.
เหมือนจะสั้น ช่วงนี้อาจไม่ได้อัพถี่ๆเนาะ
 เพราติดงาน แต่ไม่หายแน่นอนค่ะ
ฟิกน่ารักเนอะ ตอนนี้  :man1:
ชิลๆไปอีกหลายๆตอนก่อน เดี๋ยวค่อยไปเจาะอดีตตินกันน o18

หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: konjingjai ที่ 15-09-2015 11:40:33
ฟิกน่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 15-09-2015 12:05:15

ตอนนี้น่ารักก
แต่ภูนี่หื่นตลอดนะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 15-09-2015 12:17:23
 :impress2: ฟิกแตกสาวแล้วเหรอเนี่ย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 15-09-2015 12:22:45
555 ฟิกแตกเนื้อสาวแล้วจริงๆ
น่ารักอ่า
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 15-09-2015 12:51:44
เรื่องหื่นๆไว้ใจพี่ภู 555555555555555555
หื่นตลอด ตลอดจริงๆ 5555555555555555
เกรงใจผีสางบ้างสิ สงสารฟิก 55555555555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 15-09-2015 12:56:48
โอ้ย ชอบบบบบบ ชอบบบบบบบบ ไม่ไหวละ แดดิ้นกับความหวาน  :katai1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 15-09-2015 13:07:02
จัดไป
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-09-2015 13:24:17
 :o8:  เหมือนส่งลูกสาวชื่อฟิกออกเรือนใช่ไหม 5555
น่ารักอะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 15-09-2015 13:34:26
โอ๊ย ฟิกเกือบงานเข้า
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 15-09-2015 13:35:45
ชอบเคนอ่ะ อยากให้เคนมีคู่บ้างจัง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 15-09-2015 14:35:03
ยิ่งอ่านยิ่งหลงสามหน่ออ่ะ....
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 15-09-2015 14:36:10
กรี๊ด
น้องฟิกน่ารัก โตเป็นสาวแล้วนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 15-09-2015 14:50:10
อยากเห็นตอนให้จี้อ่ะ  ท่าทางจะน่ารัก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Annko ที่ 15-09-2015 15:21:16
ฟิกน่ารักมากอ่ะ
ใครจะหมั่นไส้ความใจง่าย ชอบคนง่าย ยังไงของฟิก
แต่เราให้อภัยเสมออ่ะ ลุ้นตลอด กลัง ภูติณ โกรธฟิกอ่ะ
เราทีมฟิก แต่เราก็ชอบเวลาที่ ภูฟิกติณ อยู่ด้วยกันนะ
อยากให้รักกันไปนานๆ ต่อให้มีอุปสรรคเข้ามามากมาย ขอเพียงรักกัน มันก็ผ่านไปได้ตลอด
ชอบอ่ะ ยิ่งอ่านภาค2 นี่ยิ่งชอบเรื่องนี้มากๆเลย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-09-2015 15:27:21
ฟิกน่ารักขึ้นเนอะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 15-09-2015 16:48:15
เพราะอีหนูฟิกมันน่ารักมุ้งมิ้งขึ้นหรือเปล่า คุณผีเลยตามติดอยากชิดใกล้ด้วยอ่ะ  :m20:  เรื่องหื่นไม่ต้องห่วงค่ะ พี่ภูจัดให้เสมอไม่ว่าจะที่ไหน พี่จะเป็นผู้นำในเรื่องนี่ตลอด และพาให้เมียอย่างฟิกกับน้องอย่างติน ติดเชื้อไปด้วย อย่าว่าพี่ภูหื่นเลย พี่ภูแค่คนเริ่มเท่านั้นเอง เห็นไหมแล้วสุดท้ายก็ตามกันมาหื่น ไม่บรรยายแต่มโนได้  :haun4:  ตอนนี้ฟิกมีหวั่นไหวด้วยดีนะที่สองผัวมาด้วยไม่อย่างนั้นอาจจะมีนอกลู่ไปบ้าง แต่เราเชื่อใจฟิกนะว่าไม่ทำแน่นอน เพราะบทเรียนที่ผ่านมาของทั้งสามคนไม่ว่าจะเรื่องอะไรมันผุดขึ้นมาทันทีให้รู้ว่า เวลาต้องแยกจากกันมันเจ็บแค่ไหน และยิ่งฟิกเพิ่งจะเจ็บจากภูมาหมาดๆน่าจะคิดได้ ถึงไม่ได้ตั้งใจแต่ฟิกก็เจ็บใช่ไหมล่ะ และถ้าฟิกทำ สองผัวก็เจ็บเช่นกัน แต่ตอนนี้เหมือนพี่ตินจะแสดงออกมากกว่าพี่ภูนะเรื่องหวง ปกติพี่ภูฟิวขาดไปแล้วถ้าเห็นแบบนี้ แต่ก็ข่มใจไว้อาจเพราะตัวเองมีคดีติดตัวอยู่ด้วยเลยยังไม่อยากจะทำอะไร แต่สุดท้ายก็จบด้วยความเข้าใจกัน จะทะเลาะกันแค่ไหน ความหื่นเอาอยู่ค่ะ  :laugh: อยากเห็นฟิกให้ของขวัญสองสามีจังเลย พักนี้น่ารักนะเราน่ะ ฟิกเอ้ย  :-[  น่ารักกันให้ชุ่มหลายๆตอนก่อนได้ไหมอ่ะคนเขียน อย่าเพิ่งมาม่าเลยนะ เอาแค่กระษัยๆก่อน แต่เราเชื่อว่าไม่ว่าตินจะผ่านอะไรมา จะเป็นยังไง ทั้งฟิกและภูจะร่วมด้วยช่วยกันผ่านไปด้วยดีแน่ สู้สู้นะทั้ง สามหน่อ รักมากกกกกกก เลย เอนพี่ภูหน่อยๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 15-09-2015 17:19:31
ดีที่พี่ๆ 2 คนเข้าใจเรื่องบอยได้แล้ว

แต่บางทีทั้ง 2 คนก็หื่นไปนะเนี่ย กินตับกันที่ห้องน้ำเฉยเลย :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 15-09-2015 19:30:14
เรื่องหื่นขอให้บอกพี่ภู  :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 15-09-2015 21:36:14
ภาคพิเศษตั้งแต่ตอนแรดจนถึงตอนนี้ไม่มีตอนไหนที่เราจะหุบยิ้มได้เลย อ่านไปยิ้มไปตลอดทั้งสามคนน่ารัดมากๆอะ โอยยย อิจฉาๆฟิกแรง
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 15-09-2015 21:54:27
ตอนนี้ฟิกน่ารัก เป็นเด็กดีจริงซะด้วย  :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 15-09-2015 22:07:01
มีฟิก
ก็ต้องมีทั้งภูทั้งตินเนอะ
ครบทุกเรื่อง
 :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 16-09-2015 03:48:52
ฟิกมุ้งมุ้ง น่ารักขึ้นมากจริง ๆ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-09-2015 08:49:21
ฟิก = เสื่อมฟอร์เอเวอร์

หลงรักภูกับตินซ้ำแล้วซ้ำเล่า  :-[
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 16-09-2015 20:09:08
ฟิก แกน่ารั๊ค !!!!
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: oilzii ที่ 16-09-2015 21:50:28
ช่วงนี้มุ้งมิ้งดีมาก :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 17-09-2015 21:14:39
ฟิกน่าร้ากมากกกกกกกกก ชอบบจังงง
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๘ ออกค่าย 3 [P.7]15-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: kjkjji ที่ 19-09-2015 15:28:43
พฮรือออออออออออออออออออออออออออ :-[ :-[ :-[
ตอนแรกเห็นเรื่องนี้เรากะจะรอให้ลงหลายๆตอนก่อนแล้วค่อยอ่านรวดเดียวไปเลยแต่ทนไม่ไหวแล้วว
อ่านจบแล้วกรี๊ดกับหนูฟิกมากจริง แบบบอร๊ายยยยยย :m3:
ทำไมน่ารักขนาดนี้ เหมือนเห็นลูกชายแตกเนื้อสาว 55555
โอ้ย ดีดี มุ้งมิ้งมาก น่ารักมาก
นี่ก็อ่านไปเขินไป น้องฟิกดีมากกกกกกกกกกกกกเริ่ด

#ตินภูไม่มีอะไรจะพูดถึงเพราะนี่ทีมอวยน้องฟิก กร๊ากกก :m20:
แต่เอาจริงๆเราแอบน้อยใจแทนภูนิดหน่อย แบบ..ดูฟิกรักตินมากกว่าอ่ะ ไม่ค่อยพูดจาดีๆหรืออ้อนพี่ภูเลย  :hao5:
อยากเห็นนางสวีทกับพี่ภูบ้างไรบ้าง
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 19-09-2015 22:48:37

ตอนที่๙ บทเรียน




กว่าจะถึงมอ.ระหว่างทางผมก็หลับไปเสียหลายตื่น พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบๆจะถึงแล้ว ตอนนี้ไอ้ฟิกคนเดิมกลับมาแล้ว อาการอะไรก่อนหน้านั่นน่ะ ไม่มี! ผมเหลียวมองไปรอบๆ เห็นเพื่อนๆเริ่มเตรียมตัวลุกจากที่นั่ง ผมมองไปทางไอ้สองคนนั่นที่ยังหลับอยู่เลย

“ตื่นเว้ย ถึงแล้ว”ผมสะกิดไหล่ไอ้ติน มันก็สะดุ้ง ทำหน้ามึนๆก่อนจะมองไปรอบๆ แล้วบิดแขนไล่ความขี้เกียจไปด้วย

“หายเขินแล้วเหรอ”ไอ้ภูถามด้วยเสียงล้อเลียน แต่ตอนนี้ผมกลับสู่โหมดปกติแล้ว คำล้อของมันไม่มีผลกับผมแล้ว ฮ่าๆ

“เออ ตอนนี้กูโคตรหิวอ่ะ”ผมทำยุ่งก่อนจะเดินนำพวกมันลงจากรถ บิดเนื้อบิดตัวเพื่อไล่ความขี้เกียจออกไป ก่อนจะเดินนำพวกมันสองคนลงจากรถ ไอ้ภูนัดแนะให้ไปเจอกันที่ร้านหมูกระทะเลย

พวกไอ้เคนกับไอ้ชายก็ตกลงว่าจะไปเพราะกินฟรี ไอ้ภูมันจะเป็นเจ้ามือ ตอนแรกผมก็คิดว่ามันจะเลี้ยงแค่พวกผม แต่เมื่อไปถึงร้านหมูกระทะ ก็เจอเด็กภาคฟิล์มที่ไปออกค่ายเข้า ก็เลยตรัสรู้ว่าไอ้ภูมันเลี้ยงพวกนี้ ที่ยอมให้มันติดสอยห้อยตามไปด้วย 

“แหม ใจป้ำจริงๆ”ผมแซวมันที่นั่งลงข้างๆผม ส่วนไอ้ตินผมใช้มันไปตักเนื้อ

“แน่นอน แค่นี้ไม่ถึงครึ่งกระเป๋ากูหรอก”มันยักคิ้วมาให้ผม

“แหวะ”ผมเหลือบมองอย่างนึกหมั่นไส้ ไอ้ตินกลับมาพร้อมกับจานเนื้อ แต่เมื่อผมยื่นมือไปรับมันก็ตีมือผมดังเพี๊ยะ

“ไปเอาเอง”

“เอ้า ก็กูใช้มึงอ่ะ”

“กูไปตักของกูต่างหาก”มันยิ้มให้ผม ก่อนจะเริ่มเอาหมูเอาเนื้อวางลนบนเตา ผมก็ยังหน้าด้านไม่ลุกไป รอกินจากของมันเนี่ยล่ะ จนแล้วจนรอดมันก็ต้องไปตักมาเพิ่ม ฮ่าๆ เห็นไหมว่าผมเป็นใหญ่!

“โหย พวกผมไม่รู้ว่าพี่แก่กว่า โทษทีพี่”มีเด็กฟิล์มเข้ามาขอโทษขอโพยกับมันสองคน ไอ้ตินก็ยิ้มให้เหมือนไม่ติดใจอะไร

“พวกผมยังคิดเลยว่าไม่เคยเห็นพวกพี่ในภาค แต่คุ้นๆว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ที่แท้ก็พี่ภูวิศวะนี่เอง เคยได้ยินแต่ข่าวลือ ตัวจริงไม่เห็นเป็นแบบนั้นเลย”อีกคนนึงหัวเราะแห้งๆ ไอ้ภูแอบขมวดคิ้วก่อนจะหันไปถาม

“ข่าวลือแบบไหนวะ”มันเลิกคิ้วมอง

“ก็..เขาพูดกันว่าพี่โหดอย่างนู้นอย่างนี้ แต่เท่าที่เห็นพี่ออกจะใจดี”ผมไอค่อกแค่กทันที ไอ้ภูเนี่ยนะใจดี! หึๆ เพราะยังไม่เห็นเวลามันเดือดน่ะสิ

“อือ กูเป็นคนเงียบๆแบบนี้แหละ ไม่ค่อยอยากมีเรื่องมีราวกับใครหรอก”ผมแอบเบ้หน้ากับพวกไอ้ชาย ทำมาพูด

“มึงคนดี๊คนดี”ผมแทรกขึ้นมา

“แน่นอน”มันยิ้มชั่ว ไอ้พวกนั้นอยู่คุยครู่นึงก็ไป

“กูอยากไปเดินตลาดนัดอ่ะ”ผมพูดขึ้นระหว่างที่กำลังส่องหาหมูในเตา 

“ไหนบ่นว่าเหนื่อยไงครับคนดี”

พรูดดด

ผมสำลักเส้นหมี่หยกทันที ก่อนจะเหลียวมองไอ้ตินตาโต มันนั่งอมยิ้มมองผมอยู่

 “พูดเหี้ยไรเนี่ย แสลงหูเหลือเกิน”ผมรับทิชชู่มาเช็ดปาก ก็ดูคำพูดมันดิ ไม่ให้ผมตกใจได้ไง แต่ก่อนผมไม่เห็นมันใช้คำพูดแบบนี้เลย

“เมื่อก่อนกูก็พูดแบบนี้ คบใครก็พูดแบบนี้”มันทำหน้าตาย

“จริงอ่ะ”จู่ๆผมก็นึกมันพูดแบบนี้กับพี่อัน ไอ้ตินมองหน้าผมก่อนจะหัวเราะ

“แต่กูเป็นตัวเองที่สุดเวลาอยู่กับมึงนะ แบบมึงก็รู้ว่าจริงๆแล้วกูเป็นคนยังไง”มันจ้องตาผมตรงๆ

“ไม่ต้องสร้างภาพว่างั้น”ไอ้ภูแทรกขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

“ก็ทำนองนั้น”ผมนึกถึงคำพูดของไอ้เนมขึ้นมาทันที เมื่อตอนที่ผมอยู่ปีหนึ่งแล้วมันโดนไอ้ภูเล่นงานยับเข้าโรงพยาบาล มันเคยบอกไว้ว่า คนเลวๆสามคนมาคบกันก็เหมาะกันดี ตอนนั้นผมยังไม่ค่อยเก็ทเพราะไอ้ตินยังไม่สำแดงฤทธิแต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว แอบสะเทือนใจนะ ที่ผมโดนเหมารวมจัดหมวดหมู่อยู่ในคำว่าเลวไปด้วย แค่เคยกิ๊กกับคนมีแฟนแล้วเท่านั้นเอง (ยังไม่สำนึก)

“แต่มึงเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว กูไม่ชอบพวกสวมหน้ากาก แต่มึงอย่าไปพูดเพราะๆแบบนี้กับใครนะ”มันหัวเราะทันที

“จะไปพูดกับใครล่ะ อยากฟังไหม เดี๋ยวคืนนี้พูดให้ฟัง”มันโน้มหน้ามากระซิบใกล้ๆ สายตาวิบวับเจ้าเล่ห์แบบนี้...แสดงว่ามันคิดเรื่องหื่นๆอยู่แน่ คิดจะทำลายสติถิไอ้ภูรึไง

“ไม่เว้ย พวกมึงหื่นเกินโควต้าแล้ว”ไอ้เคนกับไอ้ชายได้แต่ก้มหน้าก้มตากินเหมือนไร้ตัวตน เอาจริงๆถ้าพวกมันไม่ทำเสียงดังผมก็คิดว่าพวกมันไม่ได้อยู่ร่วมโต๊ะ

“นี่กูพยายามหักห้ามใจตัวเองแล้วนะ”ไอ้ภูพูดพร้อมสีหน้าที่บ่งบอกว่าตรงกันข้ามกับคำพูด

“มึงนั่นแหละตัวดีเลย”ผมเอาตะเกียบชี้หน้ามัน

“คุยอะไรก็เกรงใจพวกกูบ้างก็ได้นะ”ไอ้ชายเอ่ยแทรกขึ้นมา หลังจากปิดปากเงียบอยู่นาน

“พวกมึงมานั่งฟังเองทำไมล่ะ”ผมยังไม่สะทกสะท้าน หัวเราะใส่พวกมัน ไอ้เคนกับไอ้ชายเลยลุกเอากุ้งสดไปปิ้ง เหมือนเปิดทางให้พวกผมเสวนาต่อไป   

“พวกมึงลองคิดดูซิ กูคบกับพวกมึงมากี่ปีแล้ว”หัวข้อสนทนาดูเหมือนซีเรียสแต่ต้องไม่ใช่ในร้านหมูกะทะแบบนี้ ลองคิดดูดิ นับรวมๆก็เกือบสามปี อาทิตย์นึงพวกมันหื่นใส่ผมกี่ครั้ง กี่รอบ...โหย ผมไม่อยากคิดเลย ตัวเลขเหล่านี้น่ากลัวเกินไปสำหรับผม มันสองคนเองก็เงียบๆไปเหมือนกัน

 “เออว่ะ เยอะเหมือนกันนะ”แล้วไอ้ตินมันก็หัวเราะ หัวเราะอะไรของมึงงง

“ขำไร”

“เปล่า”มันส่ายหน้า

“มึงก็ขมิบไปก่อนนะ ช่วยได้กูเปิดเน็ตดูมาแล้ว”ผมหัวเราะลั่นร้านเลย

 “เหี้ย กูต้องทำกี่ครั้งวะถึงจะช่วยได้”มันขำจริงๆนะ ขำจนไอ้สองคนนั่นหัวเราะตามผม

 “พอๆ กินต่อ กูสัญญาอ่ะ จะหื่นน้อยลง”ไอ้ภูพูดขึ้น

“อย่าสัญญาในสิ่งที่ทำไม่ได้ดิ”ไอ้ตินแย้งมา

“ถูก!”ผมยกนิ้วโป้งให้ไอ้ติน อย่างไอ้ภูเนี่ยนะจะหื่นน้อยลง

 “หมายถึงว่าแค่นิดๆหน่อยๆไง ไม่ต้องถึงขั้น...นั้น นิดหน่อยๆก็ทำได้ ไม่ใช่ว่ากูไม่เข้าใจมึงนะฟิก กูเข้าใจ แต่กู...”มันทำหน้าจริงจัง

 “เออๆ กูก็เข้าใจพวกมึง กูไม่ได้มีปัญหาอะไรที่ต้องมาโดนจิ้ม กินต่อดิ"ผมรีบตอบก่อนจะฉกหมูมาจากถ้วยของมัน เดี๋ยวมันสองคนจะคิดมากไปใหญ่ ตอนแรกๆก็ยอมรับแหละว่าไม่ชินเพราะความรู้สึกของการอยู่ด้านบนกับด้านล่างมันไม่เหมือนกัน แต่นี่ก็หลายปีจนตอนนี้ผมชินไปซะแล้ว เหมือนเพื่อนสองตัวของผมจะรู้งานเพราะเมื่อผมปิดประเด็นเรื่องนี้ปุ๊บพวกมันก็กลับมาทันที

ไอ้ภูกำลังแกะกุ้งอย่างขะมักเขม้น ผมเคยบอกไปแล้วว่ามันไม่ชอบอะไรที่ยุ่งยากไม่รู้ว่ามันเคยแกะกุ้งไหมเพราะกุ้งตัวนั้นออกมาเละๆ มันจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดก่อนจะยื่นให้ผม

“หืม?”ผมถึงกับงง ไอ้ภูตีหน้านิ่งส่งกุ้งให้ผมตามเดิม

“อ้าปาก”

“กูกินเองได้น่า”เพราะไอ้เพื่อนสองตัวจ้องมองผมอยู่

“อ้าปาก”มันยืนยันคำเดิม ผมเลยต้องรับกุ้งตัวนั้นที่มันแกะให้ รู้สึกแปลกๆขึ้นมาเพราะ...ไอ้ภูมันไม่ใช่คนที่จะมานั่งแกะกุ้งให้ใคร ผมเห็นสีหน้าตั้งใจของมันแล้วก็อุ่นใจขึ้นมาอย่างประหลาด

“ขอบใจว่ะ”ผมพึมพำเบาๆก่อนจะกลับมาสนใจเนื้อหมูบนเตาต่อ มันคิดยังไงของมันถึงได้แกะกุ้งให้ผม

“เฮ้ย ฟิก...นั่นเด็กเก่ามึงนี่หว่า”ผมสะดุ้งทันทีเมื่อไอ้ชายพูดขึ้นมา ไอ้สองตัวนี่ก็ด้วย มันหันไปมองไอ้ชายเป็นตาเดียว

“คนไหน”ไอ้ตินถามไอ้ชายด้วยสีหน้าจริงจัง ผมกวาดสายตาไปรอบๆ ก็เห็นไอ้ปลิว มากับกลุ่มเพื่อน(มั้ง) มันกำลังตักพวกหมูอยู่ที่โซน เเละเหมือนมันจะเห็นผมแล้วด้วย ไอ้ภูกับไอ้ตินดูผ่อนคลายลงเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

“ไอ้ปลิวใช่ไหมวะ”ไอ้เคนพึมพำกับผม

“อือ”ไม่รู้ว่ารักกันดีกับไอ้โตอยู่ไหม แต่ผมเห็นความเศร้าอยู่ในสายตาของมัน ที่ผมรู้อาจจะเพราะว่าผมเคยกิ๊กกับมันล่ะมั้ง ผมเลิกสนใจมันแล้วกลับมาจัดการหมูที่ไอ้ตินย่างให้ต่อ

“สรุปจะไปไหม”ผมวกมาเรื่องตลาดอีกครั้ง

“มันไม่วายหมดแล้วเหรอ”ไอ้ตินท้วงมา ผมทำหน้ามึนๆ

“ไว้ค่อยไปวันหลังนะ คนดี”ไอ้ภูล้อเลียนไอ้ติน แต่ผมก็แอบเขินนะ นานๆครั้งมันจะพูดจาเพราะๆใส่ผม แต่มันไม่ทำน่ะดีแล้วเพราะผมยอมรับว่าทำตัวไม่ถูก

“กูอยากกินเบียร์ เอาไหม”ไอ้เคนหันมาถามผมก่อนจะหันไปมองผู้ปกครองของผม เดี๋ยวนี้มันรู้แล้วว่าต้องขอใคร ไอ้ภูพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต

“เผื่อกูเหยือกนึงนะ”ไอ้ภูได้โอกาสใช้

“ถ้ามาด้วยกัน กูให้กินได้ แต่ห้ามเยอะ”ไอ้ตินกระซิบใกล้ๆ ผมเคาะนิ้วลงกับโต๊ะเมื่อมีนักร้องขึ้นมาร้องเพลง ไอ้เคนกับไอ้ชายกลับมาพร้อมเหยือกเบียร์ ผมรีบส่งแก้วให้มันทันที

“กลัวไม่ได้กินเหรอวะ”ไอ้ชายหัวเราะทันที

“พูดมาก รินมาไอ้น้อง”ผมตบก้นไอ้ชายที่ยืนอยู่ใกล้ๆ มันด่าผมทันที

“อยากจับไปจับของสองสามีมึงนู่น”มันกระแทกแก้วเบียร์ลงตรงหน้าผม อะฮึ่ม คืนนี้ผมจะเมาครับ เพราะมีแผน ผมจะขึ้นไปร้องเพลงให้พวกมัน

“มึงจำได้ไหม ตอนนั้นที่พวกมึงมาง้อกูอ่ะ”ผมเริ่มเปิดประเด็น

“ตอนไหน”ไอ้ตินทำหน้าเหมือนจำไม่ได้

“ก็ตอนที่กูไล่พวกมึง แล้วพวกมึงก็หน้าด้านตามกูมาไง”ผมพยายามรื้อฟื้นความทรงจำให้แก่มันทั้งคู่ ผมว่ามันก็จำกันได้แหละ แต่วางมาดไปอย่างนั้นเอง

ผมเริ่มการปลุกใจตัวเองด้วยการกระดกไม่ยั้ง ไอ้เพื่อนสองตัวก็เริ่มจะรู้ว่าผมคิดจะทำอะไรแน่ๆ เพราะสมัยเรียนผมใช้มุกนี้บ่อย

โชคดีที่ไอ้ตินกับไอ้ภูไม่ว่าอะไร สงสัยมันจะให้ผมปล่อยผีหนึ่งวันล่ะมั้ง เริ่มมีเด็กฟิล์มมาขอชนแก้วกับพวกมัน ผมเลยเนียนๆลุกไปจากโต๊ะได้ เข้าไปล้างหน้าล้างตาเพื่อความสดชื่น แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เจอไอ้ปลิวยืนมองผมอยู่

“อ้าว มึงเป็นไงบ้างวะ”ผมหันไปคุยกับมัน

“แย่ว่ะ มึงมีเวลาสักสามนาทีไหม กูอยากคุยด้วย”สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความทุกข์

“กู...รอก่อนได้ไหมวะ กูมีภารกิจต้องทำ”

“ห๊ะ”มันทำหน้างงๆ

“ถ้าผ่านไปด้วยดีแล้วกูจะมาคุยด้วย โอเคนะปลิว”ผมตบบ่ามัน ตอนนี้ผมก็มองว่ามันเป็นเพื่อนคนหนึ่งของผมไปแล้ว ไอ้ปลิวพยักหน้า

“กูใช้เบอร์เดิมอยู่นะ”ผมพยักหน้าทั้งๆที่มึนๆว่าเบอร์ไหน มันเลยล้วงเข้ามาในกระเป๋ากางเกงของผม หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเมมเบอร์ของมันไว้ พอเสร็จแล้วมันก็ออกไป ผมตบหน้าตัวเองเบาๆก่อนจะเดินลัดไปยังเวทีร้องเพลง ที่มีนักร้องอีกคนกำลังเปลี่ยนเวร

“พี่ๆ ผมขอขึ้นร้องเพลงนึงได้ไหม เดี๋ยวผมให้ค่าเสียเวลา”พี่นักร้องดูงงๆแต่ก็ตกลงกันได้ด้วยดี ผมกระแอมก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวที กวาดตามองที่โต๊ะตัวเองก็เห็นมันสองคนมองมาที่ผมงงๆ

“ผมชื่อฟิกนะครับ ค่ำคืนนี้ผมอยากมอบบทเพลงนึงให้ดับคนสำคัญ ผมอาจจะร้องเพลงไม่เพราะ แต่นี่เป็นความตั้งใจของผมครับ”หลายๆคนมองมาอย่างงุนงง แต่ที่โต๊ะผมกลับมีเสียงปรบมือเกรียวกราว ตอนนี้ผมไม่ได้มองหน้ามันสองคน เดี๋ยวจะอายไม่กล้าร้องไปซะก่อน



...วันพรุ่งนี้ยังไม่รู้ จะสุขสม รึผิดหวัง แต่วันนี้มองหน้าเธอ แล้วมันตื้นตัน
ไม่เคยคิดคนอย่างฉัน จะได้มาถึงวันนี้ ที่มีอีกคน ร่วม ทุกข์ สุข มาด้วยกัน
วันพรุ่งนี้ ยังไม่แน่ใจ อาจมีสักวัน ที่ฟ้าให้เราต้องจากไกล
แต่วันนี้ ถ้อยคำที่สำคัญ อยากบอกกับเธอ ในวันที่ฉันยังหายใจ
ขอบคุณที่เธอช่วยเหนื่อย เหนื่อยล้ามาด้วยกัน
เมื่อยามที่ฉันทนทุกข์ท้อ เธอยังทุกข์ทนด้วย
ฝันคนเดียวคงเหนื่อยล้า ฉันมีเธอคอยฝันด้วย
แม้ตอนจบ ถ้ามันจะไม่สวย แต่ช่วงชีวิต สวยงามที่สุด คือได้รักเธอ...




ผมดำน้ำร้องเพลงจบก็มีเสียงปรบมือเปาะแปะตามมา มีเสียงวี้ดวิ้วจากพวกฟิล์มและโต๊ะของผม เมื่อลงจากเวทีผมก็จ่ายเงินให้พี่นักร้อง แต่แกไม่เอา ผมเลยเดินมึนๆกลับมาที่โต๊ะ

“คิดไงร้องเพลงนี้”ไอ้ตินถามผมด้วยรอยยิ้ม

“แค่ความรู้สึกเว้ย แต่ไม่ได้หมายความตามนั้นทั้งหมดนะ”ผมหลบสายตาของมันสองคนแล้วคว้าแก้วเบียร์มาย้อมใจต่อ แต่มันไม่ค่อยเมาเลยจริงๆ มึนๆเซๆเท่านั้นเอง

“ขอบใจที่กล้าขึ้นไปร้อง”ไอ้ภูยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนหน้า

“ไม่มีอะไรที่กูไม่กล้าอยู่แล้ว”คิดผิดจริงๆที่พูดประโยคนี้เพราะไอ้ชายรอสวนอยู่แล้ว

“แบบนี้มันต้องพิสูจน์ แน่จริงมึงก็หอมแก้มสองสามีของมึงตอนนี้เลยสิ”ไอ้ชายยิ้มชั่ว ผมเหลือบมองไอ้ตินกับไอ้ภูที่รอฟังคำตอบจากผมอยู่ ไอ้พวกเด็กภาคฟิล์มก็เหมือนกันหันมามองผมตาเดียว ผมใจเต้นไม่เป็นส่ำเพราะคนมองเยอะ นี่มันกดดันผมชัดๆเลยว่ะ

“อ้าวๆ เงียบเลย ว่าไงมึง”มันกดดันผมต่อ

“ถ้าไม่กล้าทำ มึงต้องแดกเบียร์เหยือกนี้ให้หมด”ไอ้เคนชูเหยือกเบียร์ให้ผมดู แล้วคิดว่าคนอย่างผมจะกล้าไหม! ผมหันไปมองมันสองคนที่ฉีกยิ้มกว้างรอผมอยู่ สายตาของมันสองคนนี่ผมต้านไม่ไหวจริงๆ ผมเลยคว้าเหยือกเบียร์ขึ้นมา

“โห่ ไม่กล้านี่หว่า เพื่อนกูป๊อดว่ะ”ไอ้ชายทำเสียงไม่พอใจ ที่แผนของมันล่ม ถึงผมจะหน้าหนาแค่ไหนแต่เรื่องนี้ผมขอผ่าน ตอนนี้พวกมันเลยเปลี่ยนมาเชียร์ให้ผมจัดการเบียร์เหยือกนั้นแทน

“ฝากเก็บศพกูด้วยนะ”ผมสั่งลาไอ้ภูกับไอ้ติน เหยือกนี้ไม่มึนก็ให้มันรู้ไปสิ ผมกลั้นใจค่อยๆยกไปเรื่อยๆ เหลือบมองสีหน้าของไอ้ชายแล้วผมก็อยากอ้วกใส่หน้ามันจริงๆ

“ค่อยๆเว้ย เดี๋ยวก็สำลักพอดี”ไอ้ตินแตะไหล่ผมให้ช้าๆ แต่ตอนนี้ผมกำลังหน้ามืด เบียร์เริ่มหกเลอะเสื้อแล้วด้วย

“หมดแล้วโว้ยยย”ผมกระแทกเหยือกเบียร์ลงก่อนจะเอาหน้าถูๆเสื้อไอ้ตินเพื่อเช็ดเบียร์ที่เลอะคางออก ผมสะบัดศีรษะไปมาเพื่อไล่อาการมึนแต่ยิ่งทำก็ยิ่งมึน ผมเลยหยุด แล้วเอนตัวไปข้างๆ มีมือมาคว้าผมไว้ได้พอดี แต่พอได้กลิ่นน้ำหอมก็รู้ว่าเป็นไอ้ภู

“กูเก่งไหมมึง”ผมถามเสียงอ้อแอ้ เห็นมันทำหน้าเบื่อหน่าย

“เออๆ เก่ง”

“สัด ตอบแบบจริงจังได้ป่ะ”ผมเอนตัวกลับมานั่งตรงๆ แต่รู้สึกเหมือนโลกมันเบี้ยวๆไงก็ไม่รู้ ผมเลยโน้มตัวไปซบกับโต๊ะแทน

“ไม่ได้เห็นมันเมาเป็นหมานานแล้วนะ”เสียงไอ้ตินแว่วมา

“อ่อน เหยือกเดียวก็สลบซะแล้ว”ได้ยินเสียงใครไม่รู้พูดมา ผมเลยงัดตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง

“กูอีกเหยือกก็ไหว”

“เมาแล้วเก่งเหรอฮะฟิก”ไอ้ภูกดหัวให้ผมนอนลงเหมือนเดิม

“ใครเมา กูยังไม่เมา เอาเบียร์มาอีกเหยือก เมื่อกี้ใครพูดวะ มาเจอกับกูเลยมา”ผมปรือตามองรอบๆ โต๊ะผมกลายเป็นศูนย์รวมพวกเด็กฟิล์มหมดแล้ว

“เบียร์มาแล้ว”ผมกำลังเอื้อมไปคว้าแต่ไอ้ตินแทรกมาซะก่อน

“กูเอง”

“ไม่ๆ ของกูมึงหุบปากเลย”ผมก็ไม่ยอมให้ใครมาหยามนะเว้ย รู้ตัวอีกทีผมก็ยืนโงนเงนซะแล้ว เห็นไอ้ตินทำหน้าเอือม

“เมาแล้วก็เงียบ อย่าให้กูโมโหนะ”มันทำเสียงเข้มจนเกิดคงามเงียบขึ้นมา เอาดิ ผมไม่ยอมถูกข่มต่อหน้าคนเยอะๆหรอก

“ทำไม คิดว่ากูกลัวมึงเหรอ”ผมคว้าเหยือกเบียร์มาถือ แต่ใครสักคนดึงออก

“นั่งลงเลยไอ้ฟิก”เสียงไอ้ภูดังอยู่ใกล้ๆ

“ไม่เว้ย ทำไมมึงโมโหแล้วจะทำไม”อาจจะเพราะสติเริ่มหลุดผมเลยกล้ากับไอ้ติน

“เงียบไปเลยฟิก”ไอ้ตินพูดเสียงเรียบๆ แต่ผมก็คว้าเหยือกเบียร์มาอีกครั้ง กระดกได้ไม่กี่อึก ก็เหมือนมีคนมาดึงเหยือกเบียร์ออกไปอีกแล้ว จนผมเริ่มเดือดปุดๆ

“มึงจะยุ่งอะไรกับกูนักหนาวะ”ไม่รู้ว่าใครแต่ด่าไว้ก่อน

“อยู่นิ่งๆอย่าซ่าส์ให้มาก”ไอ้ตินทำหน้านิ่งๆมองผมอยู่

“มึงนั่นแหละอย่าซ่าส์”

“เมาแล้วปากดีว่ะ”ไอ้ภูพูดเสียงหงุดหงิดดึงคอเสื้อให้ผมนั่งลง

“ปล่อยกูนะเว้ย”ผมดึงมือมันออก

“มันอยากกินก็ให้มันกิน ปล่อยมัน”เสียงไอ้ตินแว่วมา เหยือกเบียร์กลับมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ผมกลั้นใจกระดกช้าๆจนหมดเหยือก มีเสียงเฮมาเบาๆ

“เจ๋งมากลูกพี่”มีคนมาตบบ่าผมแปะๆ

“ว่าแต่ใครลูกพี่มึงวะ”ผมหันไปมองมึนๆ

“เออ ช่างมันเหอะ มาถ่ายรูปกับผมหน่อย”มันลากผมไปถ่ายรูปด้วย ผมก็ไหลไปตามสภาพ

“เมื่อกี้ผมนึกว่าพี่จะวางมวยกับพี่ตินแล้วนะ”ใครไม่รู้พูดกับผม

“เออ มันไม่กล้าต่อยกูหรอก”ผมพูดอย่างมั่นใจ

“แน่เหรอ เห็นแบบนั้นใครๆก็ว่าพี่เขาร้ายนะ”

“เอออ มันไม่กล้าแตะกูหรอก จริงๆ”ผมบอกมันเสียงติดรำคาญ มันอาจจะไม่รู้ว่าผมคบกับไอ้ติน

“จริงดิ โม้เปล่า”

“ไม่โม้ เดี๋ยวกูไปต่อยมันให้ดู”ผมโชว์เหนือ กล้าจริงๆ ตอนนี้กำลังคึก อย่าเพิ่งขัด
 
“แน่นะ...ไม่ต้องก็ได้”น้ำเสียงมันดูเกรงๆ

“เดี๋ยวดูนะ...”ผมเลื้อยกลับมาที่โต๊ะเห็นไอ้ตินนั่งอารมณ์เสียอยู่ที่โต๊ะส่วนไอ้ภูจิบเบียร์ท่าทางชิวๆ พอผมเข้ามาใกล้ มันก็เงยหน้ามอง

“เหมือนหมาจริงๆ”เสียงไอ้ตินลอยมา ผมเลยไปยืนตรงหน้ามัน ไอ้ตินเลิกคิ้วมองผม

“มีอะไร”น้ำเสียงมันนิ่งสนิท จนผมแอบใจแป้ว

“เปล่า”ผมตอบเสียงนิ่งเหมือนกัน เห็นจากหางตาว่าไอ้คนนั้นหัวเราะคิกๆ เห็นแบบนั้นเหมือนโดนมันเหยียบหน้าเลยครับ

“ไอ้ติน...กูเมานะ”

“แล้วทำไม”

“มึงอย่าโกรธกูนะ”ผมเห็นมันขมวดคิ้วสีหน้างุนงง แต่งงได้ไม่นานเพราะผมต่อยมันไปหนึ่งหมัดเต็มแรง เหมือนมันจะหลบได้ โดนปลายคางมันไปนิดนึง แต่แค่นั้นก็ทำให้ผมเจ็บแปลบๆที่มือได้

“เฮ้ยยย”และทันทีที่ผมปล่อยหมัดใส่ไอ้ติน ไอเพื่อนสองตัวก็พร้อมใจกันร้องเสียงดัง

“มึงเป็นบ้าไรวะฟิก”ไอ้ตินยกมือลูบคางสีหน้าหงุดหงิด ไอ้ภูโผล่มาจากไหนไม่รู้แต่กำลังลากผมออกมาจากร้านหมูกะทะ ผมมองหน้าไอ้คนนั้น มันดูตกใจเหมือนกัน แต่ดูปลาบปลื้มที่ผมไม่ถูกไอ้ตินสวนกลับมา ซึ่งถ้ามันทำแบบนั้นผมคงได้หลับกลางอากาศแน่ๆ

“มึงไปยั่วโมโหมันทำไม”ไอ้ภูถามผมเมื่อลากผมมาที่ลานจอดรถได้แล้ว ผมยืนเซๆมองมัน

“มันโกรธมากไหม”ผมยังมีหน้ามาหัวเราะอ้อแอ้อีก ห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ โทษทีว่ะติน

“มึงคิดว่าไงล่ะ”มันทำหน้าระอามองผม

“ถ้ามันจะต่อยกูคืนมึงต้องช่วยกูนะ”ผมยืนพิงมันเหมือนคนหมดแรง

“มึงเมาแล้วกร่างว่ะ ยืนดีๆ”มันทำเสียงโหดอีกคนจนผมหน้าหดเหลือสองนิ้ว ผมยืนโงนเงนได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาใกล้ๆ เดาจากเสียงหนัก ๆเจ้าของฝีเท้าคงกำลังโกรธแน่ๆ

“เป็นบ้าอะไรฟิก”นั่นไง ไอ้ตินจริงๆด้วย ผมโซเซไปหลบหลังไอ้ภู ก็หน้ามันดุจนผมหวั่นๆ

“กูเมาาาา”ผมทำหน้าตาน่าสงสารให้มันดูอยู่ข้างหลังไอ้ภู

“เมาแล้วต่อยกูเนี่ยนะ เจ๋งนะมึงเนี่ย”น้ำเสียงของมันยังขุ่นๆอยู่

“กลับหอกัน สภาพไอ้ฟิกไม่ไหวแล้วเนี่ย”ไอ้ภูพูดขึ้นมา

“เหอะ พี่ดูมันนะ มันอยากโชว์เก๋าให้คนอื่นเห็น ดีเท่าไหร่ที่ไม่สวนกลับ”มันมองหน้าผมด้วยสีหน้าเหนื่อยๆ

“ขอโทษ มึงเจ็บเหรอ”ผมว่าผมต่อยไม่แรงมากนะ ผมเกาะชายเสื้อไอ้ภูไว้เพื่อเป็นหลักให้ตัวเอง

“มึงลองโดนต่อยบ้างไหมล่ะ”

“ค่อยคุยกันที่หอ กูเมื่อยแล้ว”ว่าแล้วไอ้ภูมันก็ลากผมไปที่รถมัน ยัดผมเข้าไปที่เบาะหลังอย่างยากลำบาก

“แล้วรถกูอ่ะ”ผมถามมันอย่างนึกหวงรถ นั่นลูกรักผมเลยนะ

“ฝากเพื่อนมึงไว้ เข้าไปได้แล้ว เร็วๆ”ไอ้ภูทำเสียงดังใส่จนผมต้องเข้าไปในรถแต่โดยดี ...ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ฟื้นมาอีกทีผมก็กำลังถูกพาขึ้นไปบนห้อง มีมันสองคนหิ้วปีกคนละข้าง ผมมองหน้าไอ้ติน

“ไอ้ติน หายโกรธกูยัง”

“เงียบๆไปเลย จะเสียงดังทำไม”สีหน้าและน้ำเสียงของมันกลับมาปกติแล้ว ผมถอนหายใจเบาๆ ไอ้ภูบ่นพึมพำอะไรสักอย่าง ก่อนจะไขกุญแจเข้าไปในห้อง ไอ้ตินพยุงผมไปที่เตียงก่อนจะปล่อยผมลงบนเตียงแบบไม่ออมเเรง

“เปิดแอร์ดิ ร้อนว่ะ”ผมเลิกเสื้อขึ้นมากองบนอก แต่เหมือนมีมือมาดึงเสื้อผมออก ผมหัวเราะหึๆทันที

“อย่าปล้ำกูนะ”

“เออ กูไม่มีอารมณ์”เสียงไอ้ตินดังอยู่ใกล้ๆ ผมยกตัวขึ้นเพื่อให้มันถอดเสื้อที่เลอะเบียร์ออก กางเกงยีนส์ถูกดึงออกเหมือนกัน ลืมตามองก็เห็นไอ้ภูจัดการอยู่ เห็นหน้าไอ้ตินแล้วรู้สึกผิด

“มา วันนี้อนุญาตให้หื่นใส่หนึ่งวัน โปรโมชั่นพิเศษเลยนะเว้ย”ผมปรือตามองมันสองคนที่ทำหน้าเหนื่อยๆ

“นอนไปเถอะ”ไอ้ภูตบพุงผมเสียงดัง

“ยอมดีๆไม่ชอบอีก”ผมบ่นพึมพำ

“จะไถ่โทษหรือไง”ไอ้ตินก้มมองผม

“เออดิ”

“ไม่มีอารมณ์ วันนี้มึงกวนตีนมากเลยรู้ไหม”

“กูขอโทษ กูมึนๆ”ผมพลิกตัวนอนตะแคง เห็นไอ้ภูกำลังถอดกางเกงยีนส์อยู่ เออ หุ่นดีว่ะ

“แอบดูกูทำไม”มันเดินมาบิดจมูกผม

“วันนี้กูอุตส่าห์ใจดี ไม่มีครั้งหน้าแล้วนะ”ผมเอาหน้าซบหมอนระหว่างที่พูด ถึงเมามึนๆแต่ผมก็อายเหมือนกันนะ

“ไม่มีอารมณ์ให้ทำไง”ไอ้ตินพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ผมชั่งใจอยู่นานก่อนจะมองหน้ามันสองคน

“เดี๋ยวกูทำให้เอง”








...



(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 19-09-2015 22:50:49
ผมปรือตามองห้องที่ยังมืดสนิท ขยับตัวอย่างไม่สบายนักเพราะ...พวกมันสองคนนอนกอดก่ายผมแน่นไปหมด แถมเนื้อตัวเปล่าเปลือยกันหมดเลย เหนอะหนะตัวแบบนี้ ...ชัดๆเลย

ผมผลักแขนไอ้ตินออกจากตัว มันฮึดฮัดเล็กน้อยก่อนจะพลิกไปอีกด้าน ผมกระพริบตามองสภาพมันสองคน เฮ้ย พวกมันไปฟัดกับหมาที่ไหนมาวะ ผมคว้าโทรศัพท์มาดูเวลา มีแจ้งเตือนเฟสเด้งขึ้นมาเยอะแยะ ไอ้ชายแท็กอะไรผมมาวะ ...ผมกลัวหมาในปากมันที่สุดแล้วจริงๆ

Shy:เมื่อคืนโคตรเจ๋ง ต่อยแฟนโชว์เก๋าด้วย ตอนนี้สภาพเป็นไงบอกด้วยนะ

ชื่อเฟสมันกระแดะมากไม่เหมาะกับหนังหน้ามันเลยจริงๆ มีใครคิดเหมือนผมไหม เหอะๆ ผมเลื่อนดูคอมเม้นส่วนใหญ่ก็เป็นพวกไอ้ชายไอ้เคนและ ไอ้ขวัญน้องเทค มีคอมเม้นอันนึงของไอ้ชายที่ผมเกลียดมากคือตัวย่อที่มันฮิตๆกันในตอนนี้ ที่มีรูปหมีประกอบผมล่ะเกลียดมันจริงๆ แต่ก็กดถูกใจไปนะ ฮ่าๆ เลวทั้งแก๊งค์เลยจริงๆ

เช็คไลน์ซะหน่อย ไอ้ปลิวทักมาด้วย จะว่าไปเหมือนมันมีเรื่องจะคุยกับผมนี่หว่า

P.-ยังมีชีวิตอยู่ไหมวะฟิก

มันทักมานานแล้ว ตอนนี้ก็ตีสี่กว่าๆพอดี

Fix-มีอะไรวะ ปลิว โทษทีเมื่อคืนกูรั่วไปหน่อย

ผมกดส่งก่อนจะคลานลงจากเตียงเบาๆ เข้าไปอ้วกในห้องน้ำ อาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวด้วย สภาพผมก็พอๆกับพวกมันเลย รอยจ้ำจางๆแต่อยู่ในที่มองเห็นง่ายแบบนี้ เสี่ยงต่อการโดนล้อแน่ๆ พอออกมาจากห้องน้ำ โทรศัพท์ก็สั่นครืดๆ

P.-กูมีเรื่องเครียดๆว่ะ มึงพักอยู่หอเดิมใช่ไหม กูไปหาได้ไหมวะ

Fix-เออๆมาดิ เจอกันร้านข้าวต้มหน้าหอนะ

ผมแต่งตัวก่อนจะแปะโน๊ตบอกพวกมันว่าออกไปคุยกับไอ้ปลิว

'ออกไปคุยปัญหาชีวิตกับเมียไอ้โตที่ร้านข้าวต้มหน้าหอ มีอะไรโทรมา'

ที่ต้องบอกเพราะที่ผมคุยกับมันเพราะบริสุทธิ์ใจ ผมไม่รู้ว่าพวกมันสองคนคิดยังไงกับไอ้ปลิว ก็เลยบอกพวกมันไปเลย กันพวกมันคิดมาก หยิบกระเป๋าเงินกับโทรศัพท์แล้วลงไปรอไอ้ปลิวที่ร้านข้าวต้มหน้าหอ ร้านป้าเขาเปิดตั้งแต่หลังเที่ยงคืนจนถึงช่วงห้าโมงเช้า เห็นหน้ากันจนชินแล้ว

“เอาข้าวต้มปลาสองครับ”สั่งเสร็จก็ไปนั่งรอที่โต๊ะ ส่งสติ้กเกอร์ไปให้มันรัวๆ ผมขี้เกียจรอนานอ่ะ รออยู่สักพักมันก็มา แต่มันเปลี่ยนไปครับ เพราะมันไปตัดผมมาใหม่ สกินเฮดเกรียนอีกแล้ว ผมมองมันอึ้งๆ

“ไอ้ปลิว คือมึงโคตรแมน”มันหัวเราะกับคำพูดของผม

“กูอกหักเว้ย”ผมย่นคิ้วทันที

“เห้ย มีอะไรวะ”หรือมันคบกับไอ้โตแล้วไปไม่รอด พวกมันก็คล้ายๆกับพวกผมเลย ผมเองก็ไม่ได้รู้รายละเอียดเรื่องพวกมันมากนัก หรือพวกมันมีปัญหาเรื่องอื่น

“กู...ไม่รู้จะพูดยังไงว่ะ คือไอ้ป่านน่ะ มันมีแฟนใหม่แล้ว”มันพูดด้วยเสียงสั่นเครือ เหมือนจะร้องไห้

“มันทิ้งไอ้โตเหรอวะ”ผมไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ สันดานแบบไอ้ป่านก็พอเดาได้อยู่แล้ว โทรศัพท์ผมสั่นครืดๆไอ้ภูโทรมาพอดี

"แปปนะเว้ย"ผมกดรับสาย

[เดี๋ยวกูไปด้วยนะ สั่งข้าวต้มให้ด้วย เมื่อคืนมึงทำกูเหนื่อย เมาแล้วกวนตีนแต่น่ารักบนเตียงกูให้อภัย]

"ไอ้..."ถ้าไม่ติดว่ากำลังเครียดผมเฉ่งมันไปแล้วนะ ผมลุกไปสั่งข้าวต้มหมูของไอ้ภู สั่งโจ๊กให้ไอ้ติน แต่พวกมันสองคนลงมากันเร็วมาก

“มึงโอเคไหม หรืออยากคุยกับกูแค่สองคน”มันส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร ไอ้สองคนนี่ก็ทำเหมือนเรื่องไอ้ปลิวเป็นกรณีศึกษาซะแบบนั่น แต่ลึกๆแล้วผมว่าพวกมันก็คงอยากเรียนรู้จากเรื่องของพวกมันล่ะมั้ง

“แน่ใจเหรอว่าป่านจะไม่กลับมาอีก”ไอ้ตินถามขึ้นมาหลังจากที่ไอ้ปลิวเล่าให้มันสองคนฟังอีกรอบ

“ผม...ไม่รู้สิ แต่มันทิ้งไอ้โตไปเกือบหกเดือนแล้ว”

“หกเดือน!”ผมตกใจขึ้นมาเพราะคิดว่าเพิ่งเกิดเรื่อง

“นานขนาดนั้น เด็กแรดนั่นคงไม่กลับมาแล้วมั้ง”ไอ้ภูแทรกมาเบาๆมันเองก็เคยเจอฤทธิ์ไอ้ป่านมาเหมือนกัน

“แล้ว...มึงมีปัญหากับมันเรื่องอะไรวะ”ดูเหมือนเรื่องนี้จะทำให้มันสะเทือนใจ เพราะมันเงียบไปนาน ยกมือปิดหน้าเหมือนกำลังร้องไห้ ผมมองหน้าพวกมันสองคนด้วยสายตาตกใจ ไอ้ตินเลยต้องขยับไปนั่งข้างๆไอ้ปลิวก่อนจะตบบ่าไอ้ปลิวเป็นเชิงปลอบ

“มัน...มันไม่ยอมคบกับกูต่อว่ะฟิก”มันพูดด้วยเสียงเศร้าๆ ผมย่นคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

“มันก็รักมึงไม่ใช่เหรอ”ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ผมก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของความสัมพันธ์ของมันกับไอ้โตเลย

“กูไม่รู้....ทุกวันนี้กูยังไม่แน่ใจว่ามันรักกูรึเปล่า หรือมันต้องการแค่...”มันสูดหายใจเข้าลึกๆ

“ต้องการแค่เรื่องเซ็กซ์ อาจจะแค่นั้น กูรู้ว่ามันรักไอ้ป่านมาก มากจริงๆ กูพยายามเข้าใจ ช่วงหกเดือนที่กูอยู่ข้างๆมันแบบไร้จุดยืน กูไม่รู้ว่ากูเป็นอะไรสำหรับมันว่ะฟิก บางทีกูอิจฉามึงนะ ที่คนแย่ๆแบบมึงได้เจอความรักที่มั่นคง ไม่ได้ฉาบฉวยแค่เพราะเรื่องบนเตียง กูอิจฉามึงจริงๆนะ กูไม่รู้จะทำยังไง...สุดท้ายกูเลยเลือกเดินออกมาเอง ถ้าไอ้ป่านมันจะกลับมา...กูคงปล่อยให้มันสองคนคบกันเหมือนเดิม เพราะกูเป็นแค่...เป็นแค่คนไม่สำคัญสำหรับมัน แค่นั้นเอง”ไอ้ปลิวซบหน้ากับท่อนแขน ไหล่สั่นๆของมันทำให้รู้ว่ามันกำลังร้องไห้อีกแล้ว พวกผมได้แต่ปล่อยให้มันร้องไห้ระบายความรู้สึกออกมา

จู่ๆผมก็รู้สึกแย่ขึ้นมาเพราะช่วงที่เคยคั่วกับมันผมก็ต้องการแค่เรื่องบนเตียง ไม่ได้ใส่ใจมันเลยด้วยซ้ำ ...บ้าสิ ตอนนั้นผมไม่สนใจความรู้สึกมันหรอก คนอื่นๆก็ด้วย ทำไมผมนึกถึงเรื่องพวกนี้แล้วรู้สึกแย่ขึ้นมาก็ไม่รู้ เป็นผมที่ผลักไอ้ปลิวไปให้ไอ้โตเพียงเพราะผมเห็นว่ามันเป็นภาระ

“กูเสียใจเรื่องมึงนะ แต่มึงต้องเข้มแข็งนะรู้ไหม ถ้าไอ้โตมันไม่เห็นค่ามึง มึงเดินออกมาน่ะถูกแล้ว”ผมแตะหลังมือมันเบาๆ

“หรือว่าอยากให้กูคุยกับไอ้โต”ไอ้ปลิวรีบส่ายหน้าทันที

“ไม่ กูยอมรับได้แล้ว ที่กูมาหามึงกูแค่อยากระบายเฉยๆ อย่างน้อยก็ทำให้กูรู้สึกว่ายังมีคนอยู่ข้างๆ”มันเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าก่อนจะส่งยิ้มให้ผม

“แล้วตอนนี้มึงพักที่ไหน”จู่ๆไอ้ภูก็ถามขึ้นมา ผมกับไอ้ปลิวหันไปมองอย่างแปลกใจ

“บ้านเพื่อน”ไอ้ภูทำให้ผมแปลกใจเข้าไปอีกเมื่อมันแกะเอากุญแจคอนโดของมันออกมาจากพวงกุญแจแล้วส่งให้ไอ้ปลิว

“กูให้ยืมคอนโดกูก่อน มึงตั้งหลักได้เมื่อไหร่ค่อยย้ายออก”ไอ้ภูวางกุญแจลงบนโต๊ะเมื่อไอ้ปลิวยังดูงงๆอยู่

“ขอบคุณครับพี่ภู”มันถึงกับยกมือไหว้ไอ้ภูเลย ผมยิ้มออกมาจางๆ ไอ้ภูโตขึ้นจริงๆ มันคงรู้และจำได้ว่าไอ้ปลิวไม่มีที่ไป

“สบายใจแล้วก็กินข้าวเช้ากัน”ไอ้ตินขัดบรรยากาศอึมครึมขึ้นมา พวกผมเลยตั้งหน้าตั้งตาซดข้าวต้มที่เย็นชืดไปแล้วเงียบๆ

“ไว้ผมจะรีบคืนห้องให้นะครับ”

“เออ”ไอ้ภูโบกมือแบบไม่ใส่ใจนัก

“โชคดีนะเว้ย กูเสียใจแล้วก็ขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับมึง กู...พอกูได้มามองย้อนตัวเองแบบนี้ก็ยิ่งทำให้กูรู้ว่าตัวเองเคยแย่แค่ไหน”ผมออกมารอรถแท็กซี่เป็นเพื่อนมัน

“กูไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว กูต้องขอบคุณมึงมากกว่านะ ช่วงนั้นกูสนุกมาก”มันยิ้มมีเลศนัยให้ผม

“ป่านนี้มึงทำไม่เป็นแล้วมั้ง”

“ไอ้สัดนี่”ผมด่ามันแบบไม่จริงจังนัก บอกพิกัดคอนโดให้มันเสร็จมันก็คว้าผมไปกอดแน่นเลย

“มึงมีคนรักที่มั่นคงมากเลยนะฟิก มึงรักษาสองคนนั่นไว้ให้ดีนะ กูเชื่อว่าพวกมันไม่มีวันทิ้งมึงแน่ๆ มึงเองก็ต้องหนักแน่นมั่นคงนะ แต่เท่าที่กูเห็น มึงโตขึ้นเปลี่ยนไปเยอะเลยว่ะ ไอ้ฟิกคนเดิมไม่มีวันขอโทษกูแน่ๆ”มันตบหลังผมเบาๆก่อนจะปล่อย

“มึงชมกูใช่ไหมวะ”ผมมองมันยิ้มๆ ไอ้ปลิวชกไหล่ผมก่อนจะโบกมือลาเมื่อรถแท็กซี่มาถึงแล้ว

“ร่ำลากันนานเชียวนะ”ไอ้ตินล้อแบบไม่จริงจังนัก แล้วบรรยากาศระหว่างผมกับพวกมันก็เงียบลงอีกครั้ง ไม่รู้พวกมันกำลังคิดเหมือนผมอยู่รึเปล่า

“พวกมึงคิดอะไร”ผมถามเบาๆ ไอ้ตินยิ้ม ส่วนไอ้ภูแค่มองหน้าผมนิ่งๆ

“คิดว่า...ระหว่างพวกเราจะเป็นแบบพวกมันไหม”ไอ้ตินยังคงยิ้มอยู่ ผมเลยคว้ามือของพวกมันสองคนมาจับไว้

“ไม่หรอก...เพราะกูรู้ว่าเรื่องของมันกับพวกมึงไม่เหมือนกัน”ผมเชื่อแบบนั้นจริงๆ ถึงแม้พวกมันจะหื่นเกินมนุษย์แต่ผมก็รู้ เหมือนที่พวกมันรู้ว่านอกจากเรื่องทางกาย ผมกับพวกมันมีอะไรมากกว่านั้น และสิ่งนั้นก็ผูกติดผมไว้กับพวกมัน

“ถ้าสมมุติว่าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น มึงจะทำยังไงฟิก มึงจะเลือกเดินออกไป หรือคบกับคนใดคนหนึ่งต่อ”ไอ้ภูถามขึ้นมา ผมยิ้มให้มัน ไอ้ภูเด็กน้อยของผมคิดมากซะแล้ว ผมรู้ว่ามันคิดมาก คิดมากมาตั้งแต่ช่วงที่คบกันแบบจริงจัง มันกลัวว่าผมจะเกลียดมัน มันกลัวว่าผมไม่รักมัน ผมมองหน้าไอ้ตินที่เหม่อมองไปไกลเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ เรื่องที่เกิดขึ้นกับไอ้ปลิวดูจะทำให้ทำให้มันสองคนคิดมาก

“ถ้าเกิดขึ้นจริงๆน่ะเหรอ กูไม่คบกับใครต่อทั้งนั้นแหละ กูจะกลับไปเป็นไอ้ฟิกร้ายๆคนเดิม กิ๊กกั๊กกับคนอื่นไปทั่ว ถ้าไม่อยากเห็นกูเป็นแบบนั้นก็เลิกคิดไร้สาระได้แล้ว ไอ้สองตัวนี้นี่”ผมตบโต๊ะเรียกสติพวกมันให้กลับเข้าร่าง ไอ้ตินเท้าคางมองผมก่อนจะพูดขึ้นมา

“กูรักมึงนะ รักมากด้วย มึงรู้ใช่ไหม”

“อืม กูรู้น่า”

“กู...มึงคงรู้ กูไม่อยากพูดบ่อยๆ”ไอ้ภูพูดกับฝามือตัวเอง  ผมสัมผัสได้เลยว่าเรื่องของไอ้ปลิว ไอ้โต ไอ้ป่าน เป็นเหมือนแบบเรียนที่พวกผมได้ทำความเข้าใจ ถึงจะเข้าใจไม่ได้ทั้งหมด แต่ผมก็รู้ว่าสิ่งที่สำคัญคือการประคับประคองจับมือไปด้วยกัน เหมือนที่พวกมันเคยบอกไว้เมื่อนานมาแล้วว่า

'ความรักของผมกับพวกมันก็เหมือนการวิ่งสามขา ต้องก้าวไปพร้อมๆกัน'

ถึงผมไม่พูดออกมา แต่การกระทำทุกอย่างที่ผ่านมาของผมก็พอจะบอกมันได้ว่าผมรู้สึกยังไง ผมแคร์มันสองคนเท่าๆกัน อย่าถามผมเลยนะ ว่ารู้สึกกับใครมากกว่ากัน ผมแบ่งแยกชั่งน้ำหนักไม่ได้หรอก รู้ไว้แค่ว่าความรักของผมชื่อไอ้ภูกับไอ้ติน เป็นอะไหล่สำคัญของชีวิตผมเลยล่ะรู้ไหม



TBC.
มาอัพแล้ว อาจห่างหายไปหน่อยนะคะเพราะต้องปั่นรวมเล่มนิยายที่จะเปิดจองเร็วๆนี้

PS.ฝากโหวตโพลด้วยน้าา(อีกแล้ว)คราวก่อนคะแนนตินนำโด่งเลย
ฮ่าๆ คิดว่าภาคนี้ภูคงแก้ตัวได้บ้าง(มั้ง)  :กอด1:




หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 19-09-2015 23:14:49
ซึ้งเลยยย รักกันนานๆนะ
สงสารปลิวเหมือนกันนะ
สู้ๆนะปลิว  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 19-09-2015 23:23:36
3 ปีนี่ก็นานนะสำหรับคนที่คบกัน
ในสามคนนี้ ภู-ฟิก-ติน  เราว่าภูกับฟิกมีพัฒนาการที่เห็นได้ชัดเจน เพราะว่าตินดีมาก่อนแค่มาออกตัวตนเก่าๆให้เห็นเท่านั้น    อีกอย่างตินเริ่มด้วยความรักในขณะที่ภู - ฟิกเริ่มด้วยความเกลียดชัง  ผ่านอะไรกันมาเยอะมากๆ

สงสารปลิวนะ   แต่คนเราเมื่อประตูบานหนึ่งปิดก็จะมีประตูบานอื่นๆเปิดรับเสมอ   บางครั้งเราก็จำเป็นต้องเปิดเอง  ถ้าหากว่าโตรักปลิว เดี๋ยวรู้ตัวแล้วก็คงตามมาเอง  แต่ถ้าหากว่าไม่ ปลิวก็โชคดีมากที่ไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้  ชอบนางนะ คิดว่าปลิวดีมาหในจุดหนึ่งเลยทีเดียวที่ว่าพอป่านทิ้งโตไป ปลิวก็ยังอยู่ข้างๆโตทั้งที่สถาณะไม่ชัดเจน
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 19-09-2015 23:29:55
สามคนอ่ะลงตัวดีแล้ว
อย่าให้ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งหลุดจากอ้อมกอดนี้ไป
..เราสามคน..
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 19-09-2015 23:35:16
ชอบความรักที่มั่นคงของสามคนนี้นะ  เหมือนว่ามันยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้และปรัตัวเข้าหากัน แต่ไม่เคยคิดทิ้งกัน..น่ารักดี


ส่วนเรื่องปลิว สงสารปลิวอ่ะ   ดีแล้วที่เดินออกมา อยู่ต่อไปก็เจ็บป่าวๆ  เว้นช่องว่างให้ตัวเองจะได้เรียนรู้ตัวเองใหม่ทั้งปลิวเองและโตด้วย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 19-09-2015 23:40:08
ดีใจมากที่มาแต่งอีก
เพิ่งเข้าเล้ามา ตกใจเลย
จะได้ติดตามสามหน่ออีกแล้ว เย้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 19-09-2015 23:42:33
//จิ้มพี่ภู โหวตให้กับน้ำตาและท่าทางตอนเมาคราวก่อน
พี่ภูน่ารักมากกกกกก ///////////////
ตอนนี้ฟิกโชว์พาวมาก แหม่ ถ้าเป็นคนอื่นจะกล้าต่อยไหมจ๊ะ
 :katai3:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 19-09-2015 23:45:11
ตอนนี้ชอบตรงที่เล่าความสัมพันธ์ของสามคนในร้านเหล้าได้ดีมากเลยค่ะ (ตอนฟิกเมา ชกติน และโดนลากกลับบ้าน) ฉากที่เหลือ คือ ฟิก น่ารักมากกกกก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Teaw_HC+MJ ที่ 20-09-2015 00:21:35
เห็นเขารักกันขนาดนี้ ไม่อยากให้มีดราม่าเลย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 20-09-2015 00:40:54
ขอหนักแน่น แล้วก้าวเดินไปพร้อมกัน
โอ๊ย หวานมดไต่
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 20-09-2015 00:58:19

รักกันนานๆนะ
ฟิกเมาแล้วกล้ามากนะ :ling3:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 20-09-2015 01:18:38
 :mew1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-09-2015 02:46:16
น้ำตาจะไหลเพราะความซึ้ง
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 20-09-2015 03:07:26
ตอนนี้ซึ้งกินใจ  :กอด1:
สงสารปลิว อ่านตอนปลิวเล่าเหตุการณ์ก็คิดว่าโตใจร้ายอย่างเดียว แต่พอภูตินถามฟิคก็คิดว่าอาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 20-09-2015 04:17:44
เกือบจำโตปลิวป่านไม่ได้ซะแล้ว สงสารปลิวอะเดินออกมาดีแล้วในเมื่อเค้าไม่รักไม่คิดจะสานต่อยื้อเอาไว้คนที่เจ็บก็มีแต่ปลิวเองนี่แหละ ตอนนี้ฟิกน่ารักอีกแล้วมีร้องเพลงให้สองคนนั้นด้วยแต่ถึงแม้ตอนท้ายจะแอบดื้อไปชกพี่ตินก็เหอะแต่ให้อภัยได้ที่ลงทุนยอมง้อบนเตียง อิอิ  :z1: เรื่องโหวตเราโหวตแล้วนะโหวตให้พี่ตินเหมือนเดิม ฮา พี่ภูอย่าโกรธเค้านะคือภาคนี้พี่น่ารักขึ้นจริงๆนั่นแหละ แต่หนูชอบผู้ชายที่ใจดีแต่แอบดาร์กไง แบบ..หนูอยากเห็นพี่ตินโหดอะ หนูแพ้ผู้ชายแบบนี้  :-[
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 20-09-2015 08:19:46
ตอนนี้ดูอบอุ่นดีจังค่ะ ช่วงท้ายๆ ความคิดฟิกอ่านแล้วเขินเลย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 20-09-2015 09:13:46
รักกันไปเรื่อยๆ ค่อยๆก้าวไปให้มั่นคงทั้ง 3 คนนะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-09-2015 09:33:54
สามคนนี้โรแมนติกแบบห่ามๆดีนะ ชอบจัง แซวฟิกเรื่องขมิบอีกแล้ว มันยิ่งนอยอยู่ เลยกินเบียร์ย้อมใจเลยไง
คราวหน้าฟิกจะไปกินที่ไหนพาสามีมาลากกลับด้วยนะ. อ่อนสุดๆ. แถมเมาแล้วยั่วอีกต่างหาก

ปลิวเอ๊ยคิดซะว่าเป็นบทเรียนแล้วกัน เขาไม่รักก็รักตัวเองบ้าง  :L2:  หวังให้เจอคนดีๆนะปลิวนะ

ขอบคุณค่ะคนเขียน. เรื่องนี้เรียลมากๆ กลับไปอ่านย้อนตั้งแต่ภาคต้นแล้วรู้สึกเลยว่ามีพัฒนาการกันทุกคน จากที่ตอนแรกฟิกน่ากระทืบมากตอนนี้กลายเป็นเอ็นดูความเกรียนของนาง. เป็นรักของคนสามคนที่เราคิดว่ามีมิติการใช้ชีวิตจริงๆไม่ใช่แค่คบกันเพราะเซ็กส์แน่นอน อีกอย่างคือมันแซ่บและฮามาก
โหวตพี่ภูค่ะ. ตินก็น่ารักสุภาพบุรุษนะแต่ให้คะแนนพี่ภูเยอะหน่อยเพราะความลำเอียงส่วนตัวล้วนๆ ชอบเมะแบบนี้
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 20-09-2015 09:52:12
สามหนุ่ม ต้องรักกันนาน ๆ นะ

ฟังเรื่องปลิว แล้วแอบสงสาร สู้ ๆ นะปลิว
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 20-09-2015 10:37:59
กำลังคิดถึงอยู่เลย  :กอด1:   อีน้องฟิก เมาแล้วเรื้อนนะลูก แหม่ เก่งจริงกับผัว :m20:  แต่คนเมาอะไรวะ ยังมีการบอกพี่ติน กูเมานะ กูขอโทษ เปรี้ยงเข้าให้ ดีนะพี่ตินหลบเลยโดนเฉียดๆ อีพี่ภูเลยต้องลากไปข้างนอก ก่อนพี่ตินองค์ลงประทับตีนให้เมียเข้าให้ แต่พี่ตินดีนะทีระงับสติอารมณ์ไว้ได้ เพราะเป็นฟิกหรอกถึงยอม อีน้องฟิกเก่งไม่ออกเลย เอาพี่ภูเป็นโล่ ถ้าพี่ตินต่อยคืน คนเจ็บก็คงอีพี่ภูอีกแหละ เป็นฟิกนี่ดีจริงโว้ย ทะเลาะกับผัวไหน อีกผัวก็ช่วย ไม่มีเสีย ทะเลาะกับคนอื่นก็มีผัวช่วยยำอีก แต่ถ้าแกไป  :oo1: กับคนอื่นนะ อีน้องฟิกเจอสองผัวรุม  :oo1:  กระหน่ำไม่ยั้งแน่ เป็นเรื่องเดียวที่ภูตินร่วมมือกันได้ดีมาก  :katai2-1:

สงสารปลิวเหมือนกันนะ ที่ต้องเจอแบบนั้น อีเด็กแรดนั่นก็ไม่น่าจะให้นึกถึงแล้วนะอีพี่โต มองคนที่อยู่กับเราเวลาทุกข์เถอะ แต่ถ้าไม่รักก็คงทำอะไรไม่ได้นะปลิว ดีแล้วที่เดินออกมา อย่าไปอยู่กับเขาเลยถ้าเกิดอีเด็กแรดกลับมามันก็ต้องเลือกอีเด็กนั่นอยุ่แล้ว แยกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ดีกว่า ถ้าอีพี่โตมันมีใจให้มันก็มาตามเองแหละ แต่ต้องให้มันชัดเจนนะ อย่ากลับไปเป็นแค่ที่ระบายน้ำให้มันนะ เราต้องรักตัวเองให้มาก ขอให้ปลิวได้เจอคนดีๆแล้วกันนะ บทมาน้อยแต่เข้าใจได้เลยว่า การอยู่กันสามคนมันเป็นยังไง และยิ่งคนที่เรารัก เขารักอีกคนมากกว่า มันยังพอทำใจที่ยังรู้ว่าเขารักเราบ้าง ดีกว่าเขาไม่รักเราเลย มึงอยากอยู่ก็อยู่ไป เรื่องของปลิวเลยทำให้สามหนุ่มเก็บมาคิด ไม่ใช่คิดมาก แต่คิดว่าต้องประคองกันและกันอย่างไร เพราะสามคนไม่ได้วิ่งสองขาแต่มันเป็นสามขาที่ต้องไปด้วยกัน ใครล้มก็ต้องพยุงให้ลุก ใครช้าก็ต้องรอ เพื่อจะไปพร้อมกัน ซาบซึ้งกับความรักของ ภูฟิกติน ที่เราเชื่อว่าพวกเขาจะไม่ทิ้งกันแน่นอน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 20-09-2015 12:22:02
เป็นคนชอบสามพีเพราะเรื่องนี้เลย ชอบฟิกมากเกรียน น่ารัก สุดๆๆๆ
ขอบคุณค่ะ  :L2: :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 20-09-2015 12:52:54
ฟิก กับ ภู โตขึ้นจริงๆนั่นล่ะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-09-2015 15:39:16
รอบก่อนโหวตภูขาโจ๋
รอบนี้ก็โหวตภูขาโจ๋อีกเช่นกัน 5555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 20-09-2015 17:09:57
เออ ไม่โดนตินสวนก็บุญแล้ว 55555555555555555555

รีบมาต่อนะเออ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 20-09-2015 20:40:33
งื้อออออออออออ

ในที่สุด ในที่สุด.....

ก็มีเวลาพักหายใจ กลับมาหาฟิกน้อยคนรักผัวซะที

พี่สาวคิดถึ๊งงงงงง คิดถึง มาติน มาหอมมากอดที / โดนตรบ

อ๋อยๆๆๆๆ เขินตัวบิด ฮาท้องแข็ง และคันมืออยากสะกิดหัวน้องฟิกเบาๆด้วยความรักซักที 55555

อาาาาาาา น้องฟิกเราโตเป็นสาวแล้วสินะ แค่ก

รอตินคนหล่อตอนต่อไปค่า  :m3: :m3:  /ฟิกมองแรงเลย

ปล. จะครั้งไหนก็มั่นคงกะตินมิเสื่อมคลายค่ะ หุหุหุ จิ้มโหวตตินรัวๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 20-09-2015 21:30:23
ฟิก ภู ติน ไม่อยากนึกถึงวันที่ 3 คนนี้จะเลิกกันเลยอ่ะ

แบบถ้าเลิกกันจริงๆ 3 คนนี้อาจจะมองหน้ากันไม่ติดแล้ว :mew6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-09-2015 23:59:02
:)
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 21-09-2015 15:46:23
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 21-09-2015 20:08:39
ฟิกภาคนี้น่ารักมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 21-09-2015 23:31:04
ฟิกโตแล้ว o8 อยู่ด้วยกัน3คนนี้เเหละอบอุ่นดี :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 22-09-2015 11:54:44
ฟิกเมาแล้วเกรียน&กร่างกว่าเดิม
เลยโดนจัดหนักเลยหล่ะซิ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 22-09-2015 16:58:39
ใตอนที่ฟิกเมานี่ใครยุฟิกนะ ขอให้ฟิก ติน ภู รักกันนานๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 22-09-2015 19:08:55
คิดถึงเรื่องนี้ พอเห็นว่าภาคพิเศษรีบเข้ามาอ่านเลย สนุกจริงๆๆ
ขอบคุณที่มาแต่งให้ได้อ่านกันคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๙ บทเรียน [P.8]19-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 23-09-2015 17:43:14

ตอนที่๑๐ เสี่ยง





เรื่องของไอ้ปลิวเป็นเหมือนตะกอนที่ตกค้างในใจของผมไปแล้ว ถึงจะผ่านไปสองวันแล้วก็ตาม แต่ผมก็อดห่วงมันไม่ได้ ผมกำลังชั่งใจอยู่ว่าจะไปคุยกับไอ้โตดีไหม แต่เสียงอีกฝั่งก็แย้งมาว่ามันไม่ใช่เรื่องของผม เป็นเรื่องของมันสองคน ก็ให้มันเคลียร์กันเอง

“ถ้าไปแล้วจะสบายใจมากกว่าเดิมเหรอ”ไอ้ตินพูดขึ้นมาเมื่อผมปรึกษามันสองคนว่าจะไปหาไอ้โตดีไหม

“กูเห็นด้วยกับไอ้ตินนะ ต่อให้มึงไปพูดกับไอ้โตแต่ถ้ามันไม่ได้รักไอ้ปลิวแล้วจริงๆมึงก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้หรอก”ไอ้ภูพูดขึ้นมาบ้างเหมือนกัน

“กูไม่ได้อยากเป็นพระเอกเข้าไปช่วย แต่กูอยากรู้ความรู้สึกของเพื่อนกูเฉยๆว่ามันคิดยังไง”

“แล้วไงต่อ”ไอ้ภูถามเสียงเรียบ

“ก็...”นั่นสิ สมมุติว่ามันยังรักไอ้ปลิวแล้วไงต่อ ผมจะเป็นกามเทพสานความสัมพันธ์ให้พวกมันสองคนหรือไง

“อย่าลืมนะว่าไอ้ปลิวไม่อยากให้มึงไปคุยกับไอ้โต”ไอ้ตินเสริมขึ้นมา ผมเลยได้แต่ถอนหายใจ ก็อย่างที่ตินมันพูดนั่นแหละ ไปคุยแล้วผมคงคิดมากเหมือนเดิม ...จะพยายามปล่อยผ่านมองข้ามเรื่องนี้ไปก็แล้วกัน แต่พอกลับมาสนใจพวกมันสองคนอีกที มันก็นั่งมองหน้าผมด้วยรอยยิ้มที่ใกล้เคียงกับคำว่าเอ็นดู ไอ้สลัดผัก มายิ้มแบบนี้พร้อมกันทำไม

“ยิ้มไร ถูกหวยเหรอ”ผมแขวะอย่างนึกหมั่นไส้

“อืม ได้มึงเป็นเมียนี่เหมือนถูกหวยเลยว่ะ”ไอ้ภูกวนตีนกลับมา

“เลิกคิดมากได้แล้ว ไม่สมเป็นไอ้ฟิกเลย”ไอ้ตินตบบ่าผมสองสามที

“พอเป็นคนดีไม่ชอบ ชอบให้เป็นคนเลวเหรอวะ”ผมจะเล่นบทพระเอกบ้างก็มาห้ามอีก

“เลวมาก็เลวกลับ จำไว้นะน้องฟิก”ไอ้ตินตบแก้มผมเบาๆ อาจดูน่ารักแต่ผมรู้สึกเหมือนโดนมันขู่กลายๆเลย

“ตอนนี้กูเป็นคนดีล่ะ สงสัยต้องไปเพิ่มสกิลเลวกับพี่ภูซะแล้ว”ผมแกล้งเรียกมันว่าพี่ นานๆทีถึงจะใช้ แต่ดูเหมือนมันจะชอบใจ จนลืมโมโหที่ผมแอบหลอกด่ามันว่าเลว

“พูดใหม่ซิ กูชอบนะ เรียกกูเพราะๆแล้วจะให้รางวัล”มันยื่นหน้ามาใกล้ๆผมพร้อมรอยยิ้มชั่วๆตามสไตล์ไอ้ภู

“รางวัลอะไร ขอเงินสักก้อนได้ไหมวะ”ตอนนี้เริ่มแดกแกลบแล้ว

“น้องฟิกขออะไรมา พี่ให้ได้หมดนั่นแหละ”ผมรีบหันหน้าหนีไอ้ภูทันที นี่มันไม่ใช่ไอ้ภูแล้ว ตัวอะไรเข้าสิงมันแน่ๆ แต่ถ้าผมหนี ผมก็แพ้น่ะสิ ผมเลยต้องหันกลับไปสู้หน้ามันต่อ

“ขอกิ๊กมึงสักคนได้ไหม”

“คนไหนบอกมา เดี๋ยวยกให้”

“สัด นี่มึงมีจริงๆใช่เปล่าวะ”ผมหรี่ตามองหน้าไอ้ภูที่ยิ้มขำๆ

“เอ้า มึงเริ่มก่อนนะ กูก็ตามน้ำมึงไง ทำมาหงุดหงิด”

“พอๆคุยกับมึงไร้สาระว่ะ”สุดท้ายก็ต้องเป็นฝ่ายถอยทัพออกมาเอง ผมเลยหันไปสนใจไอ้ตินที่กำลังเล่นเกมส์ในเเท็บเเล็ต เกมส์ไอ้ตัวเหลืองๆที่ชอบทำเสียงประหลาดๆเวลาตาย หรือโดนไฟช็อต ผมมองไอ้ตัวเหลืองวิ่งเก็บกล้วยด้วยสายตาไม่ชอบใจ ผมเกลียดเสียงมันอ่ะ

“มึงช่วยปิดเสียงได้ไหมวะ”ยืนดูมานานผมจึงพูดขึ้นมาเพื่อให้มันรู้ว่าผมยืนมองมันอยู่

“ตลกดี”ไอ้ตินมันหัวเราะชอบใจ

“มึงมาลองเล่นไหม”มันชวน แต่ผมทำเสียงหงุดหงิดใส่มัน

“ไม่เอาอ่ะ”

“เล่นไม่เป็นล่ะสิ เดี๋ยวพี่สอน”ไอ้ตินได้ทีล้อเลียนไอ้ภูบ้าง

“ไร้สาระ กูโตแล้วไม่มัวมานั่งเล่นเกมส์เก็บกล้วยหรอก”ไอ้ตินยังมีหน้ามาขำอีก

“มึงเล่นยามาเปล่าว่ะ ติน”ผมแกล้งเดินเข้าไปลูบหน้าลูบตามัน

“บ้ารึไง มือมึงเค็มว่ะ”มันปัดมือผมออก ก่อนจะหมกมุ่นกับไอ้ตัวเหลืองๆนั่นต่อไป ผมไม่เห็นว่ามันจะสนุกตรงไหนเลย

“เออ เก็บกล้วยต่อไปเถอะไอ้ติน ตอนดึกๆอย่ามาเก็บกล้วยกูล่ะ”มีเสียงหัวเราะดังมาจากไอ้ภูที่นอนอ่านการ์ตูนอยู่บนเตียง

“คิดได้ไงวะฟิก กูนับถือมึงจริงๆ”ไอ้ภูยังคงขำไม่หยุด ผมว่าวันนี้มันสองคนท่าจะนัดกันอารมณ์ดีผิดปกติแน่ๆ ไอ้ตินละสายตาจากเกมส์มาหยิกแก้มผมเหมือนหมั่นเขี้ยว ซึ่งผมสวนกลับไปโดยอัตโนมัติทันที เต็มฝามือเลย ตบหัวมันครับ

“เฮ้ย ขอโทษไม่ได้ตั้งใจว่ะ”ผมรีบพูดเมื่อเห็นไอ้ตินเริ่มหน้าหงิก ก็ผมไม่ชินกับการที่พวกมันมาทำแบบนี้ใส่ผมนี่หว่า เมื่อก่อนพวกมันก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ ถามว่าดีไหมที่พวกมันทำตัวมุ้งมิ้ง (?)กับผมมากขึ้น มันก็ดี แต่เรื่องของเรื่องคือผมไม่ชิน มาทำเหมือนผมเป็นเด็กน้อยไปได้ ยิ่งไอ้ภูนะ...มันโดนมากกว่าฝามือของผมอีก หนักใจตัวเองเหมือนกัน แต่ผมก็เป็นของผมแบบนี้ จะให้มามุ้งมิ้งกลับมันก็ไม่ใช่ไอ้ฟิกแล้ว กูไม่เหมือนพวกแล้วๆมาที่พวกมึงเคยคบมานะเว้ย!

แต่ตอนนี้กลับมาที่สีหน้านิ่งๆของไอ้ตินก่อน นี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่ผมตบหัวมัน กับไอ้ภูนี่แกล้งบ่อยมากจากที่มันเคยโกรธจนมันเริ่มไม่ถือสาอะไรผมแล้ว แต่ที่ไม่ตบไอ้ตินเพราะมันไม่ได้กวนตีนจนผมต้องทำแบบนั้นไง

“เดี๋ยวนี้นี่กล้ากว่าเดิมนะ บอกมาใครสั่งใครสอนมึงวะฟิก”มันเปลี่ยนจากสีหน้านิ่งๆเป็นหลุดยิ้ม ก่อนจะเข้ามาล็อคคอผมแทน โล่งหน่อยที่มันไม่โกรธ

 “เออ กูก็อยากรู้ ไอ้ชายใช่ไหม เมื่อตอนนั้นมันก็เป็นคนแนะนำไอ้คิมให้มึง”ผมนี่นับถือไอ้ภูเลย เรื่องตั้งหลายปีดีดักแล้วดันมาจำ
ได้อีก

 “ไม่ใช่เว้ย มันเป็นโดยอัตโนมัติเอง”กว่าจะดิ้นหลุดมาจากไอ้ตินได้ก็เล่นเอาหอบเลย ไอ้ตินตบหัวผมคืนแล้วกลับไปเล่นเกมส์ต่อ
ผมเลยออกมานั่งสเก็ตภาพเงียบๆคนเดียว แต่โทรศัพท์ก็สั่นครืดๆขัดอารมณ์ซะก่อน เบอร์แปลกด้วย ใครวะ

 “สวัสดีครับ”

[ไอ้ฟิก...] เสียงแบบนี้...ไอ้โตนี่หว่า

“เฮ้ย มึงเป็นไงบ้างวะ”ผมไม่รู้จะถามเรื่องไหนก่อนดี

[ก็….ไม่ค่อยดีว่ะ ไอ้ป่านน่ะ…] แล้วมันก็เงียบไป

“กูรู้แล้ว กูรู้เรื่องทุกอย่างแล้วไอ้โต”ปลายสายเงียบไปอยู่นาน

[กู…ไม่เหลือใครแล้วว่ะฟิก] เสียงของมันดูเหมือนคนที่ปลงๆแล้ว

“มึงรู้เรื่องไอ้ปลิวแล้วใช่ไหม มึงรู้ใช่ไหมว่ามันรักมึง”

[กูรู้…แต่กูไม่อยากเห็นแก่ตัวว่ะฟิก กูยอมรับว่ากูยังรักไอ้ป่านอยู่ กูรักมันมาก กูเลย…อยากจะรอให้มันกลับมา]

“เฮ้ย โต มันทำกับมึงขนาดนั้น ทำไมมึงถึงโง่รอมันอีกวะ”ผมไม่รู้จะด่าอะไรมันเลยนะเนี่ย ทั้งๆที่คำด่าพวกนั้นมีอยู่เต็มหัวผมไปหมด

[กูยอมรับว่ากูโง่ แต่เรื่องแบบนี้มันไม่มีเหตุผลหรอกว่ะ ถึงมันจะแรดจะเลวยังไงกูก็รับมันได้]มันหัวเราะเบาๆ

“โง่ฉิบหาย”

[ด่ากูมาเถอะ]

“แล้วไอ้ปลิว มึงไม่ได้รักมันเลยเหรอวะ”

[กู…ก็รักมันนะ แต่ไม่เท่าไอ้ป่าน กูบอกแล้วไงว่าไม่อยากเห็นแก่ตัว ถ้าป่านมันกลับมา ยังไงกูรู้ดีว่ากูต้องเลือกมัน กูเลยปล่อยไอ้ปลิวไปเจอคนที่ดีกว่ากู]

“ฟังดูพระเอกนะไอ้เหี้ย แล้วมึงดึงมันเข้ามาเกี่ยวทำไมตั้งแต่แรกวะ”ผมชักจะโมโหขึ้นมา

[กูผิดเอง]

“มึงโทรมาแค่นี้เหรอ”

[กูแค่อยากคุยกับมึง นี่มึงเกลียดกูแล้วใช่ไหม]

“กูไม่ได้เกลียดมึง”เพราะยังไงมันก็เป็นเพื่อนผม ตอนที่ผมลำบาก มีเรื่องทุกข์ใจผมก็ไปปรึกษาเพราะแบบนี้ผมเลยไม่วางสายใส่มัน

“แล้วมึงโอเคแล้วเหรอ ความรู้สึกมึงน่ะ”ผมใช้เสียงอ่อนลง ผมก็เข้าใจมันนะ ในระดับหนึ่ง ผมก็เห็นออกบ่อย พวกที่หนีกันไม่พ้น ร้ายแค่ไหนก็ยังรัก ยังจมปลักได้อยู่ ไอ้โตกับไอ้ป่านอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้

[ก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้ว มึงรู้ใช่ไหมว่าไอ้ปลิวพักอยู่ที่ไหน]

“ทำไมวะ”

[กูแค่เป็นห่วงมัน กลัวมันจะไม่มีที่ไป]

“ตอนนี้มันสบายดี มันเองก็ทำใจยอมรับได้แล้ว ถ้ามึงคิดจะกลับไปหามันเพราะว่ามึงเหงาไม่มีใครล่ะก็ มึงเลิกคิดซะ”ไอ้โต
หัวเราะทันที

[มึงหวงมันเหรอ]

“กูเป็นห่วงมันในฐานะเพื่อน ถ้ามึงยังทำเพื่อนกูเจ็บไม่เลิก กู…เล่นงานมึงแน่ไอ้โต”ผมไม่ได้ขู่ ผมไม่เก่งเรื่องต่อยตีก็จริง แต่ถ้า
เป็นเรื่องเพื่อน หรือคนที่สำคัญกับผม ถ้าหากต้องสู้ ผมก็ทำได้

[ไอ้ฟิก กูดีใจนะ ที่มึงเป็นห่วงมันขนาดนี้ แล้วก็ดีใจด้วยที่มึงโตขึ้นแล้ว] มันหัวเราะอีกครั้ง ผมกับมันคุยเรื่อยเปื่อยกันอยู่พักใหญ่
ก่อนที่จะวางสาย 

“คุยกับเพื่อนมึงเหรอ”ไอ้ตินโผล่มายืนที่ด้านหลังของผม

“อืม”ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะหันไปมองเมื่อได้กลิ่นบุหรี่โชยมาจากไอ้ติน ปกติแล้วผมไม่ค่อยเห็นมันสูบหรอก

“คิดจะช่วยเหรอ”

“เปล่า กูไม่อยากยุ่ง แต่ก็อยากให้ไอ้ปลิวมันได้เจอคนดีๆบ้าง ทั้งแฟนเก่ามัน กูแล้วก็ไอ้โต กูสงสารมันว่ะ”ไอ้ตินยกยิ้มมองผม
ก่อนจะยกมือดีดหน้าผากผมเบาๆ

“ไม่ต้องคิดมากหรอก ถ้ามันจะเจอ เดี๋ยวก็เจอเอง เหมือนกูกับมึงไง”ผมเบ้หน้าทันที

“มึงชมตัวเองว่างั้นเถอะ”

“กูเป็นคนดีนะ”มันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันมามองผม

“เพื่อนกูที่ต่างจังหวัดโทรมาบอกว่าไอ้นัทมาเที่ยวแถวๆนี้”ไอ้นัทแฟนเก่าโรคจิตของไอ้ตินมัน ผมยังจำได้ดี ผมย่นคิ้ว เพราะไม่
คิดว่ามันจะมาเที่ยวหรอก ไอ้ภูโผล่มาที่กรอบประตูบ้างเมื่อได้ยินชื่อนี้

“คราวนี้ถ้ามันทำเรื่องยุ่งกูไม่ต่อยมันแค่หมัดเดียวแน่”มันตีหน้าเข้ม

“มันไม่กล้ามาระรานพวกเราหรอก โดนไปขนาดนั้น”ไอ้ตินหัวเราะ

“แล้วมันมาแถวนี้ทำไม”ไอ้ภูหยิบบุหรี่ออกมาสูบบ้างเป็นสัญญาณว่ามันเริ่มจะเครียด ผมเริ่มหงุดหงิดเพราะเหม็นบุหรี่จากพวกมัน
สองคนเนี่ยแหละ

“มาหาผมล่ะมั้ง เดาเอา”ผมเหลียวมองไอ้ตินทันที

“ทำไม มันอยากมาคืนดีกับมึงเหรอ”

“เปล่า เหมือนมันมีเรื่องจะคุยกับกูอ่ะ”มันไหวไหล่ มีเรื่องคุย?ผมว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่

“กูเดาว่าอาจจะเกี่ยวกับอดีตเก่าๆของมึง ใช่ไหม มันร้ายแรงถึงขั้นที่มันต้องมาหามึงด้วยตัวเองเลยเหรอวะ”ไอ้ภูขมวดคิ้วยุ่งๆ

“ผมก็เดาว่าอาจจะมีส่วน”มันดูเครียดๆเหมือนกัน

“แล้วมึงไปเอี่ยวกับคนแบบไหนวะ”ผมถามขึ้นมา ทำไมมันดูอันตรายแปลกๆ

“ก็…เหมือนพวกแก๊งอันธพาลทั่วไปนั่นแหละ ตอนนั้นกูค่อนข้างจะดีแตก มีแต่เพื่อนที่ชอบยุ่งเกี่ยวกับเรื่องต่อยตี มีทั้งพวกเด็กแว๊น เด็กช่าง”ไอ้ภูเลิกคิ้วสนใจทันที

“มึงเคยคบพวกช่างด้วยเหรอ”เพราะมันเองก็เคยคบเหมือนกัน แถมยังพากันไปมีเรื่องถึงขั้นเลือดตกยางออกมาแล้ว

“ก็เคยแค่ช่วงสั้นๆ”

“เหรอวะ ที่ไหน”มันเริ่มถกกันเรื่องสถาบัน ผมก็ได้แต่ฟังมึนๆงงๆ รู้สึกกลัวขึ้นมา แวดวงพวกนี้มันอันตรายจริงๆ ทั้งเรื่องยา เรื่องมีด ปืน ผมกังวลอยู่เหมือนกันเมื่อได้ยินมาว่ากลุ่มเก่าไอ้ตินเคยมีเรื่องกับพวกเด็กช่างมาเหมือนกัน มันเคยไปช่วยยกพวกตีกันมาด้วย แต่แค่ครั้งเดียว พวกกลุ่มคู่อริโดนตำรวจจับทั้งหมด แต่แก๊งไอ้ตินไม่โดนเพราะส่วนใหญ่มีเส้นสาย

แต่ไอ้ตินเองก็เจ็บหนักจนเข้าโรงพยาบาล มันสงสารป๊ากับม๊าเลยต้องการถอนตัวบวกกับช่วงนั้นแก๊งกำลังโดนคุกคามจากหลายๆที่ ซึ่งมันเสี่ยงต่อการโดนรุมยำ เอาเรื่องจนถึงตายก็มี แต่ก็ทำไม่ได้ง่ายๆ พอจบเรื่องนี้ ไอ้ตินมันเลยย้ายออกมา เรียกง่ายๆก็หนีมานั่นเอง  ผมก็เคยมีเพื่อนเป็นเจ้าถิ่น(อย่างไอ้เพียวนั่นไง)พวกนี้มักจะรักพวกพ้อง แบบยอมเจ็บยอมยอมตายแทนกันได้เลย ผมก็ไม่รู้ว่าไอ้ตินมันเป็นแค่ลูกกระจ๊อกหรือเป็นตัวเป้งๆในกลุ่ม แต่…ท่าทางแบบมันผมว่าคงไม่ธรรมดาแน่ๆ

“มึงจะบอกว่าตอนนี้มึงอาจเสี่ยงโดนตามรังควานเหรอ”พวกไหนล่ะ หรืออริเก่าที่เพิ่งพ้นโทษมาแล้วตามมาเอาคืนแบบนี้น่ะเหรอ ไอ้ตินมันแค่ยิ้มจางๆ

“แต่มึงไม่ต่องห่วงหรอก เรื่องไอ้นัทก็ด้วย มันมาดีแน่ๆ”

“มึงมั่นใจได้ไง”ผมเริ่มหงุดหงิด ยอมรับว่ากลัวด้วย ก็ชีวิตมันดูอันตรายขึ้นมาเลยนี่

“มั่นใจได้ ที่มันมาแถวๆนี้ก็คงจะมาหลบแน่ๆ เพราะมันก็เคยอยู่แก๊งเดียวกับกู มึงไม่ต้องคิดมาก เพื่อนกูที่อยู่ทางนู้นส่งข่าวมาให้
กูตลอดนั่นแหละ ถ้ามีเรื่องร้ายแรงจริงๆกูจัดการได้”แต่ผมก็ไม่ได้เบาใจเลย ไอ้ภูถอนหายใจก่อนจะดีดขี้บุหรี่ทิ้ง ผมเริ่มปวดหัวนิดๆเลยหนีกลิ่นเหม็นๆเข้ามาในห้อง ได้ยินแว่วๆว่ามันคุยกันอยู่ ตอนนี้ผมเครียดจริงๆนะ ไอ้ภูก็รู้ๆอยู่ว่าใช่ย่อยที่ไหน โอ๊ย คบกับพวกโหดๆนี่มันเครียดคูณสองเลยนะครับ แถมมีตั้งสองคนอีก เป็นไอ้ฟิกนี่ลำบากจริงๆ


………………………………………………….



ตอนสายๆผมให้ไอ้เคนมารับเพราะมันสองคนติดเรียนกันทั้งคู่

“เออ มีเด็กฟิล์มมาขอเป็นเอฟซีมึงด้วยนะ”ผมขมวดคิ้วเมื่อได้ยินที่มันพูด

“เด็กฟิล์มไหนวะ”

“อ้าวๆ แค่นี้ลืมก็ไอ้คนที่ยุให้มึงต่อยไอ้ตินไง”ผมถึงบางอ้อทันที แต่ก็จำหน้ามันไม่ได้แล้ว

“มันบอกว่ามึงเจ๋งที่กล้าต่อยไอ้ติน”ไอ้เคนบอกด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ผมได้แต่หัวเราะตามแห้งๆ

 “มันบ้าเปล่าวะ”ผมทำเสียงระเหี่ยใจ

“เออ ไอ้เคนมึงเคยมีเพื่อนเป็นเด็กช่างใช่ไหมวะ”ยังจำกันได้ไหม ที่ผมเคยแค้นไอ้ภู ผมเนี่ยล่ะที่เป็นคนขอให้ไอ้เคนหาพวกไปยำแก้แค้นมัน

“ทำไมวะ มึงมีเรื่องเหรอ ทำไมไม่บอกสองสามีมึงล่ะ”มันหันมาทำหน้าซีเรียส

“ไม่ใช่ กูแค่ถามเฉยๆ”แล้วผมก็เล่าเรื่องไอ้ตินให้มันฟัง ไอ้เคนดูเคร่งเครียดขึ้นมา เอาจริงๆนิสัยไอ้เคนนี่ ถ้าบทมันจะจริงจังมันก็น่ากลัวเหมือนกันนะ แต่เท่าที่คบมันมา ส่วนใหญ่มันจะไร้สาระไง

“อย่างไอ้ตินคงรับมือได้ล่ะมั้ง มันก็ไม่ใช่ขี้ๆ”มันตบบ่าผมเบาๆ เหมือนอยากให้ผมหายเครียด เฮ้อ ผมก็พยายามจะไม่คิดมาก แต่ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อรู้เรื่องแล้ว ผมจะอยู่เฉยได้ยังไง ผมเลยเรียนไม่รู้เรื่องทั้งวัน โทษไอ้ตินคนเดียวเลย ก่อนกลับผมก็แวะซื้อนมปั่นที่ข้างคณะตามปกติ

“อ้าว หวัดดีครับพี่ฟิก”ผมหันไปมอง ก็เห็นว่าเป็นไอ้ปั้น แนะนำใหม่เพื่อลืมมันไปแล้ว มันเป็นเด็กในแก๊งของไอ้เพียวเพื่อนเก่าสมัยม.ปลายของผม (ดันมาเสือกชอบไอ้ตินอีก)

“เออ หวัดดี”ผมมองมันแบบไม่ค่อยใส่ใจนัก

“ผมได้ยินข่าวลือมาว่ะพี่ ไม่รู้ว่าจริงไหม”ไอ้ปั้นพูดเรื่อยๆเหมือนชวนคุย

“อะไรล่ะ”ผมรับแก้วนมปั่นมาดูดพรืดๆก่อนมองหน้าไอ้ปั้นที่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักที

“ต้องคุยยาว ไปนั่งตรงโต๊ะนู้นก่อนดิ เดี๋ยวผมเลี้ยงขนม”มันชี้ไปที่กล่องคุกกี้ที่วางโชว์อยู่หน้าเคาน์เตอร์ ผมอยากรู้ว่ามันจะคุยเรื่องอะไร ไม่ได้เห็นแก่กินนะเว้ย ผมเลยไปนั่งรอตรงโต๊ะที่มันบอก และไอ้ปั้นกลับมาพร้อมคุกกี้และน้ำของมัน

“ว่าไง”ผมถามทันทีเมื่อมันนั่งลง หยิบคุกกี้เข้าปากกร้วมๆ

“เรื่องแฟนพี่นั่นแหละ”ไอ้ตินน่ะเหรอ…

“ทำไมวะ”

“ก็คนเขาลือว่าตอนนี้อ่ะ พี่เขาจะโดนเล่นงาน”

“แล้วใครไปลือวะ ไอ้คนนั้นมันรู้ได้ไง”

“ไม่รู้เหมือนกันพี่ ผมแค่ได้ยินมา พี่เพียวเลยฝากผมมาบอกว่าถ้ามีเรื่องก็ให้บอก จะตามมาช่วย”อื้อหือ จะซึ้งดีไหมครับ ที่มันยอมช่วยก็คงเพราะเป็นเรื่องของไอ้ตินแน่ๆ

“เออ เอาเบอร์ติดต่อมันมาดิ กูลบไปแล้ว”เพราะหมั่นไส้มันที่มาเจ๊าะแจ๊ะกับไอ้ติน ผมเลยได้เบอร์ไอ้เพียวมา แถมได้เบอร์ไอ้ปั้นมาด้วย

“สนใจกิ๊กกับผมก็โทรมาได้เสมอนะ ผมรับได้”มันแซวไล่หลัง เหอะๆ กิ๊กกับมันผมคงโดนไอ้ตินฆ่าหมกคณะแน่ๆ นึกถึงมันปุ๊บก็เหมือนอาถรรพ์เลย เพราะมันโทรมาพอดี

“ว่าไง”

[กินก๋วยเตี๋ยวกัน ร้านเดิม กูออกมากับพี่ภูแล้ว]

“มึงไปเจอมันตอนไหนวะ”ผมล่ะสงสัยว่าพวกมันจะแอบไปคุยกันเรื่องต่อยๆตีๆ

[เออน่า จะมาไหม จะได้แวะไปตลาดนัดด้วยเลย อยากไปไม่ใช่เหรอ]

“โอเคๆ เดี๋ยวตามไป”

[ครับ]

แล้วมันก็วางสายไป ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านเดิมเป็นร้านที่ผมกับพวกมันไปบ่อยมากๆ จนคนขายจำหน้าได้แล้ว มาถึงก็เห็นไอ้ตินกำลังคุยกับไอ้ภูอยู่ที่โต๊ะด้านในสุด

“สั่งไว้ให้แล้ว”ไอ้ภูชี้ไปที่หมี่เหลืองต้มยำอืดๆในถ้วย

“คราวหลังไม่ต้องหวังดีก็ได้นะ”

“ไม่กินก็ดี”มันคว้าถ้วยนั้นไป

“โอ๋ ล้อเล่นน่า อย่างอนๆ”ผมรีบดึงถ้วยกลับมา ตอนนี้ไม่ค่อยอยากเท่าไหร่เพราะกินคุกกี้มาแล้ว

“เออ กูเจอไอ้ปั้นเด็กคณะมึงอ่ะติน มันบอกว่าไอ้เพียวคอยเป็นกำลังใจให้มึงเสมอ ถ้าเดือดร้อนก็โทรไปหามัน แล้วมันจะรีบมาหามึงทันที”ผมใส่สีตีไข่ ไอ้ตินจะได้หมั่นไอ้เพียวมากๆ (คนดีจริงๆ) ไอ้ตินทำหน้าหงุดหงิด

“กูไม่อยากได้ความช่วยเหลือของมันหรอก”

“แต่มันมีพรรคพวกเยอะนะเว้ย เถื่อนๆทั้งนั้น พวกมึงก็เคยเห็นแล้วนี่”

“โธ่ ไอ้ฟิก พวกกูไม่ได้จะยกทัพไปตีกับใครสักหน่อย เลิกเพ้อเจ้อฟุ้งซ่านได้แล้ว”ไอ้ภูแทรกขึ้นมาเหมือนทนไม่ได้

“แค่ระวังไว้เฉยๆ ไม่มีอะไรแบบนั้นหรอกน่า”ไอ้ตินยิ้มก่อนจะชกสีข้างผมเบาๆ

“ก็กูเป็นห่วงพวกมึงนี่หว่า แล้วมึงนะไอ้ภู สร้างเรื่องอีกเดี๋ยวก็โดนเด้งไปนอกอีกรอบหรอก รึมึงอยากไปอยู่คนเดียวอีก”ผมหันไปทำเสียงเข้มใส่ไอ้ภู

“กูรู้ กูไม่ทำเรื่องให้ตัวเองเดือดร้อนหรอก กูโตแล้วนะฟิก”ไอ้ภูทำหน้าจริงจัง ผมเลยเบาใจได้นิดหน่อย หลังจากจัดการก๋วยเตี๋ยวเสร็จก็ไปเดินตลาดต่อ ที่ผมชอบมาเพราะของมันถูก แถมของกินก็เยอะด้วย พอมาถึงต่างคนต่างก็แยกย้ายไปร้านที่ตัวเองชอบ  ไอ้ตินหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ไวจริงๆเลย ส่วนไอ้ภูก็หายไปในร้านกางเกงยีนส์ ผมก็ไปเข้าร้านเสื้อแนวที่ชอบ ซึ่งผมโอเคกับนิสัยแบบนี้ของพวกมันนะ คือบางครั้งพวกมันก็ไม่ได้เกาะติดผมแจ

เวลาที่มาเดินตลาดเพราะพวกมันก็อยากดูของที่ตัวเองชอบ ไปด้วยกันสามคนมันก็ช้าแถมมันก็น่าเบื่อสำหรับคนที่ต้องรอ พวกผมเลยคุยๆกันไว้ว่าถ้ามาเดินซื้อของก็อาจจะแยกๆกันไป แต่ซื้อเสร็จก็กลับมา ยกเว้นวันที่พวกมันผีเข้าผีออกถึงได้ตามติดผมเป็นเงา ผมได้เสื้อยืดแขนยาวกับยีนส์ขาสั้นแนวๆมาสามตัว กระเป๋าเบาไปเยอะเลย สงสัยต้องโทรไปอ้อนแม่ซะแล้ว ปกติไอ้ภูกับไอ้ตินชอบให้เงินผมใช้ แต่ผมก็เกรงใจ ถึงจะคบกับพวกมัน แต่ผมก็ไม่อยากเบียดเบียนพวกมันมากไป

ไอ้ภูเดินมาหาผมพร้อมกลิ่นหอมๆของข้าวโพดอบเนย ผมเพิ่งรู้ว่ามันชอบกินเนยเลี่ยนๆแบบนี้ เพราะมันเพิ่งให้ผมชิม ใส่เนยเยอะไปหน่อย

“อร่อยไหม”มันถาม

 “เลี่ยนเนย”

“กูชอบ กูขอแม่ค้าทำเอง”ผมเลยเหลียวมอง ก็แม่ค้าผู้หญิงนี่นา แถมมองไอ้ภูตาหวานฉ่ำเชียว

“อ้อ มีข้อแลกเปลี่ยนรึเปล่า”

 “แค่ถ่ายรูปเอง ตอนแรกก็ขอเบอร์แต่กูบอกว่ารักแฟนมากกกเลยไม่ให้”มันยกยิ้มมองผม เลี่ยนพอๆกับเนยเลย หึๆ

“ไอ้ตินไปไหนแล้ววะ”ผมมองไปรอบๆก็ไม่เจอมัน

“เห็นอยู่ตรงร้านของกินตรงนู่นแว๊บๆ”ไอ้ภูชี้ แต่ก็ไร้วี่แววของมัน ไอ้ภูเลยลองโทรหาแต่สีหน้าหงุดหงิดของมันก็เดาได้ว่าไอ้ตินคงไม่รับ

 “ไม่รับว่ะ มีอะไรหรือเปล่าวะ”ไอ้ภูมีสีหน้ากังวลไม่ต่างจากผม เพราะปกติแล้วไอ้ตินมันจะรับโทรศัพท์เสมอ ผมกดโทรหามันบ้าง ผลก็เหมือนไอ้ภู มันไม่รับสายของผมเหมือนกัน

 “มันมีเรื่องรึเปล่า”จู่ๆมันก็หายไปไม่บอกไม่กล่าวแบบนี้จะให้คิดยังไง ไอ้ภูตบบ่าผมให้วางใจ

 “ลองเดินดูรอบๆก่อนป่ะ”



หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 23-09-2015 17:44:13


ระหว่างที่เดินดูรอบๆ ผมก็กระหน่ำโทรหามันไปด้วย จนผมเหลือบเห็นพวกเด็กช่างกลกลุ่มใหญ่ที่เพิ่ง
เดินออกมาจากห้องน้ำเก่าๆที่อยู่เลยตลาดออกไปไม่เท่าไหร่ ไอ้ภูเองก็เหลือบมองเห็นไอ้พวกนั้นแล้ว เป็นเด็กช่างแถบๆนี้ เพราะผมเคยเห็นเสื้อช็อปและตราสถาบันผ่านๆ ผมกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ไอ้ภูกระตุกมือให้ผมเดินตามมันไปที่ห้องน้ำดัง
กล่าวได้แต่หวังว่าความกลัวของผมจะไม่เป็นจริง   

“เชี่ยเอ้ย”ได้ยินเสียงสบถดังมาแว่วๆ แค่นั้นผมก็จำได้แล้วว่าเป็นไอ้ติน ไอ้ภูผลักประตูห้องน้ำเปิดออก เห็นไอ้ตินนั่งนวดไหล่อยู่
ที่พื้นห้องน้ำสกปรกๆ

“มึง”ผมรีบเข้าไปดูมัน เห็นว่ามีรอยฟกช้ำหลายแห่ง แต่สภาพของมันไม่ได้แย่มากเท่าไหร่

“พวกมันแค่ขู่”ไอ้ภูพูดขึ้นมานิ่งๆ ไอ้ตินปัดเนื้อปัดตัว เสื้อช็อปของมันโดนกรีดเป็นทางยาว มันไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมามากนัก นั่นก็พอทำให้รู้แล้วว่ามันโกรธ

“มีคนสั่งพวกมันมาอีกที กูรู้ว่าใคร”ไอ้ตินพึมพำขึ้นมา

“แล้วพวกเด็กช่างพวกนั้นมันเกี่ยวอะไรด้วยวะ”ผมถามงงๆ

“พอดีอริเก่ากูมันรู้จักมักจี่กับไอ้พวกนั้น มันคงสั่งมาอีกต่อ”มันแค่นเสียง ก่อนจะยิ้มให้ผม

“เลิกทำหน้าเหมือนมีใครตายได้แล้ว”

“มึงโดนแบบนี้จะให้กูยิ้มระรื่นเหรอวะ”ผมพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ไอ้ภูทำหน้าครุ่นคิด

“เหมือนกูคุ้นๆหน้าพวกมันเลยว่ะ”ผมย่นคิ้วทันที

“อย่าบอกว่าพวกมันเป็นอริเก่ามึงอีกคนน่ะ”ไอ้ภูเหลียวมองผมพร้อมกับหัวเราะทันที

“ไม่ใช่เว้ย กูแค่พูดว่าคุ้นๆเฉยๆ เป็นไรวะฟิก”มันเอื้อมมือมาลูบหัวผม แต่ผมเอนตัวออกห่าง โกรธพวกมันว่ะ ที่ไม่เห็นว่าเรื่องนี้อันตราย พวกมันอาจจะเจอแบบนี้จนชิน แต่ผมไม่ ลองนึกภาพดูสิ ถ้าวันหนึ่งมีคนโทรมาบอกผมว่าพวกมันโดนเล่นงานน่วมทั้งคู่แล้วผมจะทำยังไง ไอ้ตินเองก็เงียบไปตลอดทางเหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่

“เดี๋ยวกูทำแผลให้”ผมบอกเมื่อมาถึงห้องแล้ว

“ทำเป็นเหรอ”มันหันมามองงงๆ

“เถอะน่า”

“แต่กูไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ช้ำนิดเดียวเองนะ”ไอ้ตินมองผมด้วยสีหน้าอ่อนลง ผมถอนหายใจก่อนจะโบกมือให้มันไปนั่งที่โซฟา แต่ระหว่างนั้นมันก็เอาแต่คุยโทรศัพท์ ผมจับใจความไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ แต่จู่ๆมันก็พรวดพราดออกไปจากห้อง

“เฮ้ย มึงจะไปไหน”ไอ้ภูถามขึ้นมาเพราะไอ้ตินคว้ากุญแจรถของไอ้ภูไป

“ยืมแป๊บนึง”แล้วมันก็ออกไป ทิ้งให้ผมยืนงง และโกรธขึ้นมาดื้อๆ จะไปไหนก็ไม่บอกกล่าวกันเลย มันคิดว่ามันอยู่คนเดียวหรือไง

“สัด แล้วมึงจะไปไหนอีกคนวะ”ไอ้ภูพูดขึ้นมาอย่างหัวเสีย มันคงจะหงุดหงิดมานานแล้ว

“เดี๋ยวกูมา จะไปสั่งสอนไอ้ติน”

“ห๊ะ”มันทำหน้าหมางง แต่ผมก็รีบลงไปด้านล่าง ระหว่างที่กำลังออกรถก็รู้สึกว่ามีคนกระโดดมานั่งซ้อนด้วย

“เฮ้ย ไอ้ภู ตกใจหมด”

“กูไปด้วย กูรู้ว่าไอ้ตินมันไปไหน”มันเกาะเอวผมไว้พร้อมกับยื่นหน้ามากระซิบ

“มึงรู้เหรอ”

“เออ ได้ยินมันคุยโทรศัพท์ น่าจะไปบ้านไอ้ชัย”บ้านไอ้ชัยอยู่ที่ไหนวะ ผมก็ไม่รู้จัก แต่เลี้ยวออกมาจากซอยก็เห็นรถไอ้ภูแว๊บ ๆที่โค้งด้านหน้า

“นู่น”ไอ้ตัวด้านหลังชี้

“เออ กูเห็นล่ะ มึงจะตื่นเต้นทำไมเนี่ย”ผมเหลือบมองมันด้วยสีหน้าระอา มันหัวเราะเบาๆ

“เขยิบไปด้านหน้าไปน้องฟิก พี่ขี่เอง”ผมเลยเลื่อนตัวไปด้านหน้าอย่างยากลำบากระหว่างที่ไอ้ภูโน้มตัวมาจับแฮนด์รถ ความจริงจอดรถก็จบเรื่องล่ะ พวกผมก็อะไรไม่รู้ ระหว่างที่ขับตามไอ้ตินไป ผมก็โทรหามัน ดีนะที่รับสาย ไม่งั้นเป็นเรื่องแน่ล่ะ

“มึงไปไหน”ผมถามทันทีที่มันรับ

[แล้วตามกูมาทำไม พี่ภูแม่งขี่รถไวว่ะ เดี๋ยวแหกโค้งตายทั้งคู่] มันห่วงหรือมันแช่งกันแน่วะ

“เอ้า แล้วมึงจะไปไหนล่ะ มึงเห็นกูเป็นตอไม้เหรอวะ”ไอ้ภูบิดไวมากอ่ะ เท่าที่ฟีโน่ลูกักของผมจะอำนวย

[ไม่ได้ยินว่ะ ลมแรง]

“มึงห้ามวางนะ ถ้าวางกูโกรธมึงแน่ๆ”ผมตะโกนใส่โทรศัพท์ จนไอ้ภูตกใจขี่รถเป๋ไปมาอย่างน่ากลัว จนรถที่ขี่ตามหลังมาบีบแตรใส่

“กูมีวิธีทำให้มันจอด”ไอ้ภูกระซิบ

“จับแน่นๆ”ผมว่าวิธีของมันนี่เสี่ยงพาผมไปตายด้วยจริงๆ หมวกกันน็อคก็ไม่ได้ใส่มาด้วย ไอ้ภูขี่รถได้กวนตีนเพื่อนร่วมถนนมาก
จนผมหวั่นใจว่าจะโดนตีนซะก่อน ผมนี่ตะโกนด่าไอ้ภูไปตลอดทาง แต่ไอ้ตินก็ยังไม่ยอมจอด จนมันเลี้ยวเข้าไปในทางที่สองข้างเต็มไปด้วยพงหญ้า อย่าบอกนะว่าบ้านไอ้ชัยอยู่แถวนี้   

“ไอ้ภู มึงจะพากูไปตายเหรอวะ”ผมเหลียวไปมองมัน แต่ไม่นานไอ้ตินก็ยอมหยุดรถ ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ถึงลมจะตีหน้ามากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความโกรธของผมลดลงเลยซักนิด ผมเลื่อนตัวลงจากรถก่อนที่ไอ้ภูจะเอาขาตั้งลงซะอีก ต้องโจมตีมันแบบไม่รู้ตัว

“มึงไม่ต้องดับรถนะ เตรียมตัวออกรถทุกเมื่อ”ผมตบบ่าไอ้ภู ก่อนจะเดินไปหาไอ้ติน ที่เปิดประตูรถค้างไว้ ผมไปยืนขวางไม่ให้มันออกมา

“มึงจะไปไหน”ผมถามมันด้วยเสียงนิ่งๆ

“กูจะไปคุยกับเพื่อน”ผมมองไปรอบๆ

“บ้านเพื่อนมึงอยู่แถวนี้เหรอ”

“เออสิ”มันตอบเสียงนิ่งๆกลับมาเหมือนกัน ผมเหลือบมองไอ้ภูก่อนจะเลิกคิ้วให้มันเหมือนส่งสัญญาณเตรียมพร้อม

“กูเป็นห่วงมึงนะไอ้ติน แค่บอกกูก่อนมึงจะลงไปนอนดิ้นตายเหรอวะ”

“มันเป็นเรื่องด่วน”

“เรื่องเจ็บตัวล่ะสิไม่ว่า”มันรีบแบบนี้ผมว่าต้องเป็นเรื่องพวกเด็กช่างกลพวกนั้นแน่ ช่วงที่มันมองหน้าผมอยู่นั้น ผมก็โน้มตัวไปดึงกุญแจรถออกมาอย่างรวดเร็ว

“ไอ้ฟิก”มันทำเสียงตกใจเมื่อผมปากุญแจรถเข้าพงหญ้าไป ผมรีบเดินกลับไปกระโดดซ้อนท้ายไอ้ภูทันที

“มึงอยากไปก็รีบไปสิ กลับมาที่หอด้วยนะ ถ้าไม่กลับมึงเจอกูแน่”ผมขู่สมทบ เห็นมันมองมาที่ผมด้วยสายตาหงุดหงิด ไอ้ภูนิ่ง
เงียบไปตลอดทางที่กลับหอ จนผมแปลกใจ

“มึงเป็นไรวะ”ผมชะโงกหน้าไปถาม

“กุญแจรถกู ไอ้สัดฟิก”มันด่ากลับมา

“อ้าว โทษที เดี๋ยวค่อยให้ที่ศูนย์ทำให้ใหม่”ทำได้รึเปล่าไม่รู้ ปลอบไว้ก่อนแต่บางทีไอ้ตินอาจจะกำลังงมหาอยู่ในพงหญ้าก็ได้ แต่พอมาถึงหอไอ้ภูมันก็งอนที่ผมปากุญแจรถของมันทิ้ง ก็ลืมไปว่ามันรักรถของมันพอๆกับที่ผมรักลูกของผม แต่แค่ปากุญแจทิ้งเอง ทำใหม่ก็ได้

“โอ๋นะภู อย่างอนเลยลูกพ่อ เดี๋ยวไอ้ตินก็เก็บมานั่นแหละ เชื่อกู เพราะมันต้องไปต่อ”ผมเข้าไปจับหน้ามันบิดไปมา

“ใช่เรื่องเล่นไหมวะฟิก”มันถอนหายใจเหมือนอ่อนจิตอ่อนใจกับผมมาก ความจริงผมควรจะโกรธไอ้ตินอยู่นะ แต่ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกขำก็ไม่รู้เมื่อนึกภาพมันงมหากุญแจรถ ไม่รู้ว่ามันไปหาเพื่อนคนไหน คืนนี้มันจะกลับมาตามที่ผมสั่งไหม ก็ต้องรอดูต่อไป แต่ผมไม่ใจดีกับมันแล้วแน่ๆ ไอ้ตินมันยังไม่เคยเจอโหมดที่ผมโกรธ คอยดูเหอะมึง!






-----------------------------------------------------
กำลังปูเรื่องเข้าสู่เรื่องของตินค่ะ  :กอด1: ไม่เน้นมาม่าแน่นอน ไม่ต้องกลัวน้า เครียดมากไปมันจะน่าเบื่อ  :katai1:
ส่วนเรื่องปลิว ก็คอยดูต่อไปว่าใครจะมาดามอก คนแถวๆนี้(?)แหละ
ตัวละครเก่าๆจากภาคก่อนจะมีบทมากขึ้นหรือโผล่มาแวบๆให้พอเป็นสีสันด้วย  o18


หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-09-2015 18:01:43
สีสันชีวิตลูกผู้ชายนี่มันชวนเจ็บตัวได้ตลอด
ขอบคุณค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 23-09-2015 18:09:28
ตินทำตัวน่าโมโหอะ ไม่รู้ละไงว่าฟิกเป็นห่วงมาก!!!
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 23-09-2015 18:27:26
โห  เหนือตินมีฟิกแล้วสินะ
น่ากลัวจะโดนดึงเข้าไปหมดทุกคนหรือเปล่านะ

โถ  สงสารปลิวแต่ก็ดีแล้วล่ะที่ออกมาได้    คนแบบโตนี่นะไม่แน่ว่าเดี๋ยวป่านอาจจะกลับมาแล้วก็มาอยู่ด้วยกันอีก  เดี๋ยวคบเดี๋ยวเลิก   ต่างฝ่ายต่างนอกใจกัน   รักกันมากๆ  เผลอๆคนแบบโตก็มีคนใหม่ที่เป็นคนอื่นเฉยเลย  ที่โตพูดกับฟิกก็รู้เลยว่าโตไม่ได้รักปลิวมากสักเท่าไหร่     ขอให้ปลิวเจอรักใหม่ที่ดีกว่าเดิมนะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-09-2015 18:39:17
ตื่นเต้นอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 23-09-2015 18:39:21
มาซะเครียดเลยยยย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-09-2015 18:41:30
ตื่นเต้นอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 23-09-2015 18:43:39
เราว่าตินเป็นผช.ที่บางทีก็ชวนหงุดหงิด
ประมาณว่า กูเอาตัวรอดได้ กูเก่ง ไม่ต้องห่วง ไรประมาณนั้น
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 23-09-2015 19:35:30
ฟิก โกรธแล้วนะติน

หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 23-09-2015 19:45:46
หวังว่าจะไม่มีใครเป็นอะไรอีกนะ :hao4:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-09-2015 20:05:42
ตินก็นะ เข้าใจความรู้สึกฟิกหน่อยซิถ้าฟิกไม่รักคงไม่ห่วง
จะเก่งแค่ไหนถ้าถูกรุมขึ้นมาก็คงเจ็บหนัก แล้วนี่จะกลับหอตามที่ฟิกบอกไหมเนี่ย
ฟิกก็นะจะปากุญแจรถทิ้งทำไม เอามาด้วยแล้วก็แล้วไม่ต้องถูกภูงอนด้วย :laugh:
ว่าแต่ปลิวจะได้คู่ใคร หาคนดีๆให้ปลิวหน่อยนะสงสารปลิวตั้งแต่เรื่องแฟนคนแรกแล้ว
ไหนจะฟิกกับโตอีก :mew2: รอตอนต่อไปอยากรู้ว่าจะเจ็บตัวกันไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ticha.wrr ที่ 23-09-2015 20:14:53
รอลุ้นว่าตินจะกลับมามั้ย  :hao4:
แอบสงสารพี่ภู ฟิกก็นะ ถ้าตินหาไม่เจอจะทำยังไงละเนี่ย  :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 23-09-2015 20:24:32
เริ่มเครียด :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: patoya ที่ 23-09-2015 20:28:00
ภาคนี้ พี่ตินออกโรง ปัญหาคงพอๆกับพี่ภูเลยสินะ :really2:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 23-09-2015 20:33:21
น้องฟิกเอ๊ยย 55555555555555
หยุดยังไงไม่หยุด ไปโยนกุญแจพี่ภูเขาทำไมมมมมม
หวังว่าตินจะไม่เป็นอะไรมากน้า แค่นี้ฟิกก็ห่วงจะตายแล้ว..
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 23-09-2015 20:44:29
ฟิกลืมตัวว่ามันคือกุญแจรถพี่ภู
จะสั่งสอนตินแต่ดันทำพี่ภูงอนไปด้วย
#พี่ภูขาแว๊น 555
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 23-09-2015 21:13:12
ฟิก จัดว่าเด็ดปากุญแจรถใส่พงหญ้าเนี่ย รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 23-09-2015 21:33:09
เดี๋ยวก็จะได้รู้
ใครแรงกว่ากัน
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 23-09-2015 22:14:31
กะลังเข้มข้นนน
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 23-09-2015 22:45:14
ตินเข้าใจความรู้สึกฟิก คนเป็นสามีภรรยากันแล้วมีไรให้บอกกัน
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 23-09-2015 23:23:38

ฟิกนี่แสบเสมอเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 23-09-2015 23:43:18
ฟิก นางก๋ากั่นขึ้นกว่าเดิมอีกนะ 5555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 24-09-2015 00:09:42
 :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 24-09-2015 00:13:25
แง้ เค้าเป็นห่วงพี่ตินอะ พี่ตินรับมือได้จริงๆใช่มั้ย  :z3:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 24-09-2015 00:19:33
ค้างงงงงงงงงง :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 24-09-2015 08:47:47
เม้นท์ไม่ถูกเลยตรู เอาเรื่องปลิวก่อน สงสารปลิวว่ะ อยู่ข้างเขาเวลาไม่มีใครเขาก็ไม่เห็นค่า รักแต่ก็ไม่เท่าอีเด็กแรดป่าน งั้นปล่อยมันไปเถอะปลิวหาใหม่ดีกว่า แต่คงได้ใหม่แน่เพราะคนเขียนบอกแล้วว่าไม่ใกล้ไม่ไกล ใครวะ  แต่เอาเถอะขอให้รักปลิวก็พอ  :laugh:  ส่วนพี่ติน เข้าใจนะว่าไม่อยากให้ฟิกกับภูเป็นห่วงแต่อย่าลืมว่า ตินไม่ใช่คนอื่น เป็นคนในครอบครัว จะไม่ให้ห่วงได้ไง ตัวต่อตัวตินอาจจะสู้ได้ แต่ถ้ามันรุมและลอบกัด เกิดเป็นไรขึ้นมา จะเป็นไง ไม่ใช่แค่ฟิกจะเสียใจ ป๊ากับม๊าอีกนะ มีอะไรก็บอกๆกันเถอะ สามหัวดีกว่าหัวเดียวนะติน เชื่อเถอะว่า ตินกลับมาหอแน่นอน แต่ช้าหน่อย เพราะมัวแต่หากุญแจรถพี่ภู  :m20:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 24-09-2015 10:04:28
ห้ามมาม่าน้ะ !!! รอดูคู่ปลิววววว
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 24-09-2015 10:13:47
รอตอนต่อไป  :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 24-09-2015 22:27:02
ภ้าฉันเป็นฟิก ฉันก็โกรธนะ
บอกกูนี่มันยากมากเหรอ?
ถ้ามึงไปเป็นอะไร กูไม่เจ็บปวดเนอะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: blackcat07 ที่ 24-09-2015 23:34:51
คือชอตปากุญแจ ฮามากอ่ะ  :laugh:

หวังว่าจะไม่มีใครเจ็บตัวนะ

สงสารปปลิว ว่าแต่ใครเอ่ยจะมาดามใจปลิว คริคริ  :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๐เสี่ยง [P.9]23-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 25-09-2015 11:55:08
ฮาฟิก ปากุญแจรถทำไม
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 25-09-2015 17:40:22

Piw side






บางทีผมก็เคยคิดนะครับว่าตัวเองไม่มีดวงในเรื่องความรักเอาซะเลย ตั้งแต่แฟนคนแรกยันมาคนล่าสุด ต่างก็ทำผมเจ็บหนักทั้งนั้น จนวันนี้ผมก็ปลงเรื่องความรักไปแล้ว จะมีหรือไม่ ผมก็อยู่คนเดียวได้ ตอนเกิดก็เกิดมาคนเดียว แล้วทำไมตอนนี้จะอยู่คนเดียวไม่ได้ จริงไหม ตอนนี้ผมไม่อยากพึ่งแต่มือคนอื่น คอนโดของพี่ภูมันหรูหราเกินไปสำหรับผม ตั้งตัวได้เมื่อไหร่ผมจะย้ายออกทันที

ผมออกมาเดินเล่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อย จะว่าไปผมยังไม่ได้ไปเก็บของบางส่วนที่บ้านไอ้โตเลย ไปคนเดียวผมก็ไม่ค่อยกล้าสู้หน้ามันเท่าไหร่ ไม่อยากรบกวนไอ้ฟิกมันด้วย

ผมถอนหายใจเงินเก็บก็ใกล้จะหมดลงทุกทีแล้ว ผมเหลือบมองกระดาษที่แปะอยู่หน้าเซเว่นที่ประกาศรับพนักงานพาร์ทไทม์ ผมรีบเข้าไปสอบถามว่ายังรับอยู่รึเปล่า สรุปว่าว่างอยู่สามตำแหน่ง ผมเล็งไว้ที่กะกลางวันถึงดึกๆ ผมเรียนจบแค่ม.หก งานที่พอจะทำได้ก็คงมีแค่นี้

แต่มาคิดๆดูผมก็นิสัยแย่เหมือนกัน ตั้งแต่คบกับแฟนคนแรก ผมเป็นฝ่ายได้รับมาเสมอ เรื่องเงินมันหามาให้ใช้ตลอด กับไอ้ฟิกไอ้โตก็เหมือนกัน การเดินออกมาครั้งนี้ของผมจะถือว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ก็แล้วกัน

ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ เสียงบีบแตรรถก็ดังขึ้น ผมหันไปมองก็เจอเด็กหนุ่มหน้าตาเกเรที่ใส่ช็อปตราเกษตรของม.ดังแถบนี้ ผมย่นหน้าพลางคิดว่าผมก็ไม่ได้เดินขวางทางหรืออะไรนะ แต่หน้าตาของมันดูเอาเรื่อง ผมเลยเดินชิดขอบถนนมากขึ้น แต่มันก็ยังบีบแตรใส่อีก

“อยากมีเรื่องเหรอวะ”ผมหันไปตะคอกฉุนๆ

“เปล่าครับ ผมแค่จะถามว่าผมแค่จะถามว่าจะไปไหน”มันพูดเพราะกว่าหนังหน้าเกเรๆของมัน ผมย่นคิ้ว มันจะอยากรู้ไปทำไม ผมไม่ได้ตอบแต่เดินต่อไปเหมือนไม่มีคนมาขัดจังหวะ

ปิ๊นนนนนน

คราวนี้มันบีบยาวๆเลยจนผมต้องหยุดเดิน

“มีอะไร”ยิ่งอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่

“ผมถามว่าจะไปไหน”เอ้า แล้วมันอยากรู้ทำไมวะ

“ทำไม จะไปส่งรึไง”ผมพูดออกไปส่งๆ

“เออดิ จะไปกับผมไหมล่ะ”ผมมองรถโซนิคเก่าๆของมัน ท่าทางของมันดูเหมือนพวกนักเลงเลย หรือผมคิดมากไปเองก็ไม่รู้ ผมล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่มีเงินติดตัวอยู่หกสิบบาทแล้วก็ถอนหายใจออกมา เอาวะ ไหนๆผมก็เจอแต่คนแปลกๆ เพิ่มไอ้เด็กนี่มาอีกคนจะเป็นไรไป

“งั้นรบกวนหน่อย”ผมทำใจกล้าขึ้นไปซ้อนท้ายโซนิคเก่าๆคันนั้น ใจง่ายอีกแล้วนะไอ้ปลิวเอ้ย

“พี่จะไปที่ไหนล่ะ”มันเหลียวมาถาม หน้าตาก็ไม่ได้หล่อมากค่อนไปทางธรรมดา ผิวเข้มเหมือนคนที่ตากแดดบ่อยๆ

“ไป...”ผมบอกที่อยู่บ้านไอ้โตไป มันก็บิดรถแรงๆจนผมตกใจ ไปกับไอ้นี่ผมปลอดภัยแน่เหรอ มันขี่รถได้น่าหวาดเสียวมาก จนผมต้องเกาะขอบเบาะเพื่อรักษาชีวิต มันดับรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านไอ้โต บ้านเงียบเหมืิอนไม่มีคนอยู่ แต่ผมรู้ว่าไอ้โตอยู่ด้านใน ผมลงจากรถก็พอดีกับที่ไอ้โตโผล่มาดูว่าใครมา มันอาจจะคิดว่าเป็นไอ้ป่านก็ได้ล่ะมั้ง

“มึง...”ไอ้โตมีสีหน้าแปลกใจระคนมีความหวัง

“กูมาเก็บของ ที่ผ่านมากูรบกวนมึงไว้เยอะเลย ต้องขอบใจแล้วก็ขอโทษมึงด้วย”ผมเดินเบียดมันเข้าไปด้านใน แต่มันคว้าข้อมือของผมไว้ ความรู้สึกเก่าๆที่คิดว่าสลัดทิ้งไปได้แล้วกลับมาอีกครั้ง

“แล้วนั่นมีงมากับใคร”มันพยักเพยิดไปทางไอ้เด็กเกษตรที่นั่งรออยู่บนรถ ผมเหลือบมองเจ้านั่นที่มีท่าทีเก้ๆกังๆเหมือนทำตัวไม่ถูก

“แฟนใหม่กู”ไม่ต้องคิดมากมายอะไรเลยสำหรับคำตอบนี้

“อ้อ...”ไอ้โตปล่อยข้อมือของผม

“หาใหม่เร็วดีนี่”น้ำเสียงมันออกแนวประชดประชัน แต่ผมไหวไหล่อย่างไม่สนใจ

“เดี๋ยวช่วยเก็บของ”จู่ๆไอ้คนที่นั่งอยู่บนรถก็เดินตามผมมา ผมมองมันงงๆก่อนจะดึงให้มันรีบตามผมเข้ามาในห้องเพราะเดี๋ยวไอ้โตพูดอะไรขึ้นมาเดี๋ยวโป๊ะแตก

“นั่นแฟนเก่าเหรอ”มันบุ้ยใบ้ไปด้านนอก

“อืม”ผมตอบเบาๆก่อนจะคว้าเอาเสื้อกับกางเกงยีนส์ในตู้ออกมายัดๆใส่กระเป๋าใบเก่า ใบเดียวกันกับที่ผมเคยถือเข้ามาในบ้านหลังนี้

“ยังรักอยู่ไหม”มันถามด้วยสีหน้าสนใจ

“จะอยากรู้ไปทำไม”มันเป็นใครก็ไม่รู้

“เอ้า ก็ทำความรู้จักกันไว้ไง ผมชื่อปั้น”มันแนะนำตัวเอง ก่อนจะสะกิดแขนผม

“แล้วมึงอ่ะ”

“ปลิว”ผมตอบระหว่างที่พยายามยัดเสื้อลงไปให้เต็ม อะไรวะ ตอนขนมายังไม่เยอะเท่านี้เลย ของบางอย่างที่ไอ้โตซื้อให้ผมไม่ได้เอาไป เพราะมันไม่ใช่ของผมอีกต่อไปแล้ว ประตูห้องเปิดออกอีกครั้งเมื่อไอ้โตโผล่มามอง สายตามันพุ่งตรงไปที่ไอ้ปั้น

“ไปรู้จักกันได้ไง”ไอ้โตถามไอ้ปั้น ผมเหลือบมองมันเพื่อบอกให้มันเงียบ

“ไม่เกี่ยวกับพี่นี่”มันตอบด้วยเสียงกวนๆ

“ไปเอากุ๊ยที่ไหนมาวะปลิว แบบนี้มันจะดูแลมึงได้เหรอ”ไอ้โตพูดด้วยเสียงไม่พอใจ

“แล้วมึงมายุ่งอะไรด้วยล่ะ มันไม่ใช่เรื่องของมึง”ผมคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าสองใบมาถือก่อนจะพยักหน้าเรียกไอ้ปั้นให้ตามออกมา แต่ดูเหมือนมันกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง

“มึงว่าใครกุ๊ยวะ อย่างกูนี่ลูกผู้ใหญ่บ้านเว้ย”ไอ้ปั้นเดินเข้าไปหาไอ้โต เฮ้ย พวกมันจะวางมวยกันรึเปล่าวะเนี่ย

“มึงจะลูกใครกูไม่สน แต่ท่าทางอย่างมึงดูแล้วไม่ได้เรื่องว่ะ จะไปดูแลใครเขาได้”ทันทีที่ไอ้โตพูดจบ ไอ้ปั่นก็ปรี่เข้าไปซัดหมัดใส่ทันที ผมเห็นท่าทางมันแล้วก็คิดว่ามันคงเป็นพวกนักเลงแน่ๆเพราะหมัดหนักน่าดู แต่ผมไม่ห้ามมันสองคนหรอก เพราะลึกๆแล้วผมก็อยากให้ไอ้โตเจ็บตัวบ้างเหมือนกัน ผมหลบออกมาจากห้องปล่อยหมูกับหมาบ้ากัดกันไป รออยู่สักพักไอ้ปั้นก็ออกมาแต่ไม่เห็นวี่แววของไอ้โตเลยสักนิด หวังว่าคงไม่เดี้ยงไปแล้วหรอกนะ

“เดี๋ยวไปส่ง”มันบอกผมด้วยเสียงฉุนๆ หน้าตาดูเอาเรื่องจนผมไม่กล้าหือ ระหว่างที่ซ้อนท้ายมันผมก็เอาแต่คิดว่ามันมาช่วยผมทำไม?ทั้งๆที่ผมกับมันก็เป็นแค่คนแปลกหน้าต่อกัน

“ถามจริง มาช่วยกูทำไม”

“ไม่รู้”อ้าว

“ก็เห็นหน้าแล้วอยากช่วย”มันตอบมาแบบนั้นผมเลยไม่ได้ถามต่อ

“ขอบใจมาก”

“ไม่เป็นไร ขอเบอร์หน่อยดิ”มันยื่นโทรศัพท์ของมันมาให้ผม ผมเม้มปากอย่างชั่งใจ มันเป็นใครก็ไม่รู้ ไว้ใจได้แค่ไหน มาดีหรือเปล่า ผมดึงโทรศัพท์มากดเบอร์ของผมลงไป เอาวะ ลองเสี่ยงอีกสักครั้งก็ไม่เห็นเป็นไร

“ไว้จะโทรหานะ”มันพูดด้วยเสียงระรื่น ผมแค่พยักหน้า ไม่ได้หวังอะไรมากหรอก เพราะถ้าตั้งความหวังมันก็ผิดหวังได้ง่าย ผมขนกระเป๋าขึ้นไปบนห้องพี่ภู รู้สึกเกรงใจอยู่เหมือนกันแต่ตอนนี้ผมยังตั้งหลักไม่ได้จริงๆ ก็ต้องหน้าหนาเข้าไว้ก่อน ผมค้นหาวุฒิม.หกเพื่อไปสมัครงาน ...ชีวิตใหม่ของไอ้ปลิวจะเริ่มขึ้นแล้ว ต่อไปนี้ผมจะไม่ใช่ไอ้ปลิวคนเดิมอีกต่อไป


......................................................................



การเรียนรู้งานค่อนข้างยากสำหรับผม โดนดุไปก็หลายครั้งกว่าจะเข้าใจ เมื่อวานไอ้ปั้นมันบอกว่าจะโทรมา มันก็โทรมาจริงๆ ผมไม่ได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้มานานแล้ว แบบที่โทรคุยกันนานๆเหมือนกำลังโดนจีบ คุยไปคุยมาก็รู้ว่ามันเด็กกว่าผมแค่ปีเดียวเอง ก็ยอมรับว่าชอบมันนิดๆหรือเป็นเพราะผมไม่มีใครด้วยล่ะมั้ง แต่ผมก็ไม่ได้หวังอะไรกับคนแบบไอ้ปั้นมากอยู่ดี คนแบบมันที่รับคนแปลกหน้าอย่างผมไปด้วย ใครจะรู้มันอาจทำแบบนี้กับทุกคนที่มันอยากจีบก็ได้

ผมเงยมองนาฬิกาในเซ่เว่น อีกไม่กี่ชั่วโมงผมจะเลิกงานแล้ว ผมก้มหน้าก้มตาคิดเงินต่อไป เหลือบเห็นว่ามีน้ำโค้กกับขนมปังหลายห่อวางกองอยู่ตรงหน้า

“เลิกงานตอนไหน”ผมมองเจ้าของขนมเหล่านั้นด้วยสายตามึนๆ ไอ้ปั้นนั่นเอง

“เที่ยงคืน”อีกตั้งชั่วโมงกว่าๆ ผมคิดเงินให้มัน แต่ไอ้ปั้นก็ยื่นถุงขนมกับน้ำมาให้ผม

“ซื้อให้ ไปรอด้านนอกนะ”แล้วมันก็เดินออกไป ทิ้งให้ผมมึนงงอยู่แบบนั้น มึนงงที่เห็นมันหน้าขึ้นสีด้วย อะไรวะ ทำไมมันทำท่าทางมุ้งมิ้งแบบนั้นหรือผมมองอะไรผิดไป

“นั่นแน่ มีหนุ่มน้อยหน้าโฉดซื้อขนมให้ด้วย”พี่หนิงที่นั่งกินข้าวอยู่ที่พื้นแซวมา ผมแค่ยิ้มแห้งๆ รู้สึกแปลกๆขึ้นมา ไอ้ปั้นนี่...มันแมนแน่เหรอวะ ท่าทางของมันทำเอาผมเริ่มกลัว ผมลูบหัวเกรียนๆของตัวเอง นึกถึงคำพูดของไอ้ฟิกขึ้นมาที่มันบอกว่าผมดูแมนๆ ...ไม่นะเฮ้ย หรือผมจะดูแมนขึ้นจริงๆ!?

ปิดยอดเสร็จผมก็ถือถุงขนมที่ไอ้ปั้นซื้อให้ออกมาด้วย มันนั่งสูบบุหรี่อยู่หน้าเซเว่น...มันก็ดูแมนดีนี่หว่า แต่ไอ้ฟิกก็แมนๆมันยังพลาดพลั้งได้เลย ผมสะบัดความคิดไร้สาระออกไปก่อนจะไปสะกิดมัน

“เลิกงานแล้วเหรอ”มันอ้าปากหาวนอนใส่

“เออ แล้วมารอทำไม”

“จะไปส่ง”ผมอุ่นวาบขึ้นมาในอกทันที แต่ก็รีบบอกตัวเองทันทีว่าอย่าเพิ่งไปหลงกลมัน

“ไม่ต้องลำบากหรอก พรุ่งนี้มีเรียนไหม”มันลุกขึ้นยืนก่อนจะปัดกางเกง

“มีตอนบ่าย...แล้วทำไมไม่กินอ่ะ”มันพยักเพยิดไปที่ถุงขนมในมือของผม

“ยังไม่หิว”ผมตอบ ไอ้ปั้นพยักหน้ารับรู้ มันทำหน้าหงุดหงิดก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมารับสาย

“อะไรอีกล่ะพี่ วู้ ผมบอกพี่ฟิกไปเมื่อวานแล้ว”ผมหันไปมองอย่างสนใจ ฟิกไหนวะ ใช่ไอ้ฟิกกิ๊กเก่าผมรึเปล่า

“เออ ๆ พี่มาหาพี่ตินเองเลยดิ หึๆ หรือกลัวโดนต่อยอีก ...”มันคุยอยู่สักพักก็วางตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าเป็นไอ้ฟิกแน่ๆ

“รู้จักไอ้ฟิกด้วยเหรอ”ไอ้ปั้นย่นคิ้วมองผม...ท่าทางแบบนี้ของมันดูน่ารักดี

“ก็รู้จักแบบผ่านๆ พี่รู้จักด้วยเหรอ”ผมรู้สึกแปลกๆขึ้นมาเมื่อได้ยินมันเรียกผมว่าพี่

“อืม เป็นกิ๊กเก่ามัน”ผมตอบพลางยักคิ้ว ไอ้ปั้นมองผมตาโต

“จริงอ่ะ”แล้วมันก็เงียบไปเลย จนมาส่งผมที่คอนโดมันถึงได้เปิดปากอีกครั้ง

“ขอขึ้นไปคุยอะไรด้วยหน่อยดิ”มันมองหน้าผมด้วยสายตาจริงจัง อืม...คุยอะไรตอนเที่ยงคืนวะ

“อือ มาสิ”อยากพิสูจน์อะไรบางอย่างด้วย พี่ภูมันจะด่าผมไหมวะที่พาผู้ชายขึ้นห้องแบบนี้ มันตามผมมาเงียบๆ

“เป็นอะไร”ผมถามเมื่อทนความเงียบแบบนี้ไม่ไหว

“เปล่านี่”มันไหวไหล่ ทำท่าทางกวนโอ๊ยใส่ผม ผมเลยเงียบใส่บ้าง จะว่าไปก็แปลกจริงๆผมเพิ่งรู้จักมันได้แค่สองสามวันก็ยอมให้มันเข้ามาก้าวก่ายขนาดนี้เลยเหรอ เฮ้อ ข้อเสียของผมคือเป็นคน'ง่ายๆ' ผมยอมรับ ทั้งเรื่องไอ้ฟิก ไอ้โตอีก ถ้าผมเอาแต่ทำตัวแบบนี้มันก็คงจะลงอีหรอบเดิมซ้ำๆแน่ แต่นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ผมยอมให้มันขึ้นมาบนห้อง

“ห้องพี่สวยว่ะ”พอเข้ามาด้านในมันก็เดินสำรวจนู่นนี่ไปทั่ว

“ไม่ใช่ห้องกู แฟนไอ้ฟิกให้ยืม”ผมตอบระหว่างที่มันเปิดตู้เย็นแล้วทำเสียงตกใจเมื่อเจอแต่ของมึนเมาในนั้น

“ขอเบียร์สองกระป๋องนะ”

“เฮ้ย ไม่ใช่ของกูเว้ย”ผมรีบท้วง

“เดี๋ยวซื้อคืนก็ได้ บ้านผมรวย”ผมเเอบเบ้หน้า จากที่ฟังมันเล่ามาคร่าวๆแล้วก็รู้มาว่ามันเป็นลูกผู้ใหญ่บ้านจริง บ้านอยู่ต่างจังหวัด และอยู่แก๊งพวกอันธพาลๆด้วย เหมือนพวกนักเลงประจำหมู่บ้านอะไรเทือกๆนั้น

“แล้วมึงจะคุยอะไร”ผมย้ำถึงประเด็นที่มันขอขึ้นมา ไอ้ปั้นจิบเบียร์พลางมองหน้าผม

“พี่ยังไม่ได้เล่าให้ผมฟังเลย เรื่องเกี่ยวกับตัวพี่อ่ะ ผมอยากรู้”ส่วนใหญ่ผมจะให้มันเล่าเรื่องของมันมากกว่า

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ชีวิตเหลวๆ”มันทำหน้าขัดใจ

“ขอแบบละเอียดๆดิ”มันย้ายมานั่งข้างๆผม ก่อนจะส่งเบียร์มาให้ ไม่ใช่ว่าไม่อยากกินนะ แต่นี่มันของพี่ภู ผมไม่กล้าแตะหรอก

“ก็...”ผมเลยเล่าให้มันฟังทุกเรื่องตั้งแต่แฟนคนแรกยันคนล่าสุด เหมือนได้ระบายออกมาด้วย แต่ครั้งนี้ผมไม่มีน้ำตาอีกต่อไปแล้ว ไอ้ปั้นนั่งฟังอยู่เงียบๆ

“พี่ยังรักมันอยู่ไหม ไอ้โตน่ะ”ผมมองหน้ามันก่อนจะถอนหายใจ

“พยายามลืมอยู่ มึงคงเข้าใจนะว่ามันต้องใช้เวลา”

“ผมจะทำให้พี่ลืมมันเอง”ไอ้ปั้นพูดด้วยเสียงมั่นใจ จนผมหัวเราะออกมา

“ผมพูดจริงนะ แต่พี่ต้องเปิดใจให้ผมด้วย”มันโน้มตัวเข้ามาใกล้จนผมร้อนวูบวาบขึ้นมา

“มึงสนใจกูที่ตรงไหน”เพราะมันเข้าหาผมแปลกๆ จะไม่ให้ตงิดใจได้ไง

“ก็เห็นแล้วชอบ อยากรู้จัก แค่นั้นแหละ”มันไหวไหล่

“มึงเป็นแบบนี้กับทุกคนรึเปล่า” ผมกลัวจะเสียใจแบบที่แล้วๆมาอีก

“เปล่า นี่ผมเพึ่งทำแบบนี้กับพี่คนแรกเลยนะ”ผมได้แต่ยิ้ม ยังไม่ปักใจเชื่อหรอก ใครๆก็พูดได้

“พี่ปลิว...”ไอ้ปั้นทำหน้าจริงจังอีกครั้งจนผมต้องกลั้นหายใจรอฟังว่ามันจะพูดอะไร

“คือ...”มันขยับเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น สองมือโอบรอบคอของผม ..อืม..ผมว่ามันแปลกๆแล้วนะ

“มึงแค่หวังฟันกูใช่ไหม”ผมพูดแทรกขึ้นมา ลมหายใจกลิ่นเบียร์เป่ารดอยู่ใกล้ๆ

“เปล่านะพี่”มันรีบส่ายหน้าไปมา อื้อหือ ทำไมมันทำท่าทางไม่เข้ากับหน้าโฉดๆของมันเลยว่ะ ผมเริ่มใจเต้นตุบๆ

“เออๆ ช่างเหอะ”ผมบอกปัด แต่ไม่ได้ห้ามมันเพราะอยากรู้ว่ามันจะทำอะไรต่อ มันโน้มหน้าเข้ามาใกล้ก่อนจะกดริมฝีปากลงมาอย่างกล้าๆกลัว ๆเหมือนเด็กที่ไม่ประสีประสา จนผมต้องเป็นฝ่ายนำก่อนเอง รับรู้ได้ว่าตัวมันกำลังสั่นน้อยๆ...ทำเอาผมรู้สึกเหมือนเครื่องดับกลางคัน

“หยุดทำไมอ่ะ”มันทำหน้าตื่นๆเมื่อผมผละออกมา นี่มันใช่คนเดียวกับที่เข้าไปต่อยไอ้โตรึเปล่าวะ มันทำแบบนี้ผมกลัวนะ

“มึงมาเพราะเรื่องนี้เหรอ”ผมมองมันมึนๆ

“ผมไม่ได้หวังฟันพี่นะเว้ย แต่ผมเต็มใจมาให้พี่ฟันเอง”

บึ้ม!

เหมือนมีอะไรระเบิดอยู่ในตัวผม บระเจ้า!ไม่คิดว่าจะมีใครมาพูดแบบนี้กับผม ผมกลืนน้ำลายอย่างเฝื่อนคอ

“มึงเมาใช่ไหม”

“ไม่ได้เมา แค่นี้เองจิ๊บๆ”มันหัวเราะ ใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อย ผมจะบ้าตาย

“เฮ้ย ไอ้ปั้นมึงก็รู้ว่ากู เอ่อ กูเป็นรับ แล้วมึง...”ผมถอนหายใจดังเฮ้อ เสียดายรูปร่างมาดแมนของมันจริงๆ

“แล้วทำไมล่ะพี่ แค่นี้พี่จะเลิกคุยกับผมเหรอ ผมชอบพี่จริงๆนะ ไม่รับรักผม ผมปล้ำพี่จริงๆแน่”ว่าแล้วมันก็ขยับมานั่งบนตักของผม เป็นภาพที่สุดจะบรรยายจริงๆ ผมไม่น่าไปตัดผมเกรียนเลย

“มึงทำได้เหรอ” ผมหลุดหัวเราะออกมา แค่จูบมันยังเก้ๆกังๆเลย ทั้งๆที่ท่าทางของมันก็ดูร้ายแท้ๆ

“ทำได้ดิ”มันดูโกรธที่ถูกหยาม ผมได้แต่รอคอยว่ามันจะทำอะไรผม แต่มันก็ไม่เริ่มสักที จนผมแอบหงุดหงิด

“มึงต้องเคยนอนกับสาวๆมาแล้วสิ ใช่ไหม”หรือยังไม่เคย เป็นไปไม่ได้!

“ไม่เคย”

ครืน!

คำตอบของมันทำลายความหวังของผมอีกครั้ง

“ผมไม่นอนกับผู้หญิง ผมจะรอคอยคนที่ชอบเท่านั้น”มันมองผมด้วยสายตาหวานเยิ้ม

“ทำไมมึงเป็นแบบนี้ได้วะ เอาความแมนของมึงออกมา รึต้องให้กูแมนเองวะ”ผมดึงคอเสื้อมันเขย่าไปมาอย่างหงุดหงิด แต่ไอ้ปั้นดูจะไม่สะทกสะท้านอะไร

“ถ้าพี่ได้ผมแล้ว อย่าบอกใครนะ เพราะผมดีกรีนักเลงในหมู่บ้านเลยนะ แถมเป็นลูกผู้ใหญ่บ้านอีก พี่ต้องเก็บเงียบไว้นะ”ไอ้ปั้นกระซิบเบาๆก่อนจะแตะจูบลงมาที่ซอกคอเบาๆ ผมได้แต่มึนงง พูดอะไรของมันวะ

“เมาแล้วก็กลับได้แล้ว”ผมดันมันออกจากตัว ก่อนจะยืนเท้าเอวมองมันด้วยสายตาเอือมๆ

“พี่สัญญาก่อนดิ ว่าจะคุยกับผมต่อ มันไม่เกี่ยวกันหรอกว่าพี่กับผมเป็นยังไง”ไอ้ปั้นคว้ามือผมไปจับ

“เออๆ สัญญา”ไหนๆผมก็ลองเสี่ยงมาขนาดนี้แล้ว ก็ลองๆคุยกับมันไปก่อนล่ะกัน ผมเสียเวลาไปหลายชั่วโมงกว่าจะทำให้มันหลัยได้ เมื่อมันหลับแล้วผมก็ต้องถอดเสื้อนักศึกษากับกางเกงที่เปื้อนเบียร์ของมันไปซัก เอาผ้าห่มมาคลุมให้ไปก่อน หวังว่าคงไม่ตื่นมาโวยวายอีกหรอกนะ เฮ้อ ดวงผมนี่ได้เจอแต่คนแปลกๆรึไงก็ไม่รู้







--------------------------------
เอาส่วนของปลิวมาให้ คู่นี้อาจจะแทรกมาเป็นระยะๆเนาะ
 ปลิวจะได้เปลี่ยนตำแหน่งไหม รอดูต่อไป  :laugh:
ตอนหน้าเจอสามหนุ่มต่อ

หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 25-09-2015 17:51:35
55555โอ้ยอย่างฮาอ๊ะ ให้ปลิวเปลี่ยนตำแหน่งก็ดีนะเป็นรับไม่รุ่งเป็นรุกซะเลยเป็นครั้งแรกของกันและกันด้วยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 25-09-2015 18:25:33
 :laugh: สงสารปลิวนะ แต่อ่านตอนนี้้แล้ว
ไม่ไหวๆๆ หัวเราะลั่นเลย
ปลิวลองรุกดูสักครั้งอาจจะรุ่งก็ได้นะ
ปั้นอุตส่าห์รักษาซิงไว้สำหรับคนที่ใช่
ิอนาคตค่อยปรับกันอีกที สู้ๆนะปลิว
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 25-09-2015 18:26:40
สงสัยปลิวจะเจอเนื้อคู่แล้ววววว แถมซิงด้วยอ่ะ  :hao6: เห็นด้วยกับรีบนนะ ถ้าเป็นรับไม่รุ่ง เป็นรุกไปเลยปลิว เผื่อชีวิตรักจะรุ่งโรจน์ไม่ต้องโดนใครหักอกอีก ไม่คิดเลยว่าปลิวจะได้คนลักษณะแบบปั้นมาเป็นแฟน แถมมันยังทำท่าอยากจะเป็นเคะอีก  :laugh: แต่แอบสะใจตอนน้องปั้นว่าที่เมียต่อยไอ้โต เผื่อมันจะตาสว่างขึ้นมาบ้าง แม่ง รอแต่แรดกลับมา รอต่อไปเถอะเมิงรอให้เขางอกซ้อนกันหลายชั้นมันก็ไม่กลับมาหรอกถ้ากลับมาก็คือมันไม่มีที่ไปพอมีก็ไปอีก ดีแล้วปลิวเดินออกมาซะอยู่ไปก็เป็นแค่เบาะรองให้เขานั่งเขาขี่ ไปหาที่ขี่ใหมดีกว่า อย่างน้องปั้นนี่แหละ  o13 ตอนหน้า สามหน่อกลับมาแล้ว คิดถึงมากกกกก  :-[
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-09-2015 18:27:06
เหย ปลิว พอเกรียนปุ๊บมีเคะหน้าโฉดเข้ามาเลย น้องปั้นแมนๆหน่อยดิ สลับก็ยังดีนะสงสารปลิว.  :laugh:  คนไม่เคยมีเมีย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 25-09-2015 18:30:34
 :m20: อย่างฮา จะตีฉิ่งกันเหรอเนี่ยะ  :jul3:

หนูปั้นทำเอาผิดคาด นางออกจะแมน แต่นางไม่เคยแม้แต่กับผู้หญิง

เชียร์ให้ปลิวเปลี่ยนตำแหน่งซักรอบสองรอบ เพราะหนูปั้นขาดประสบการณ์ สอนนางก่อน แล้วค่อยพลิกกลับ
หรือเกิดติดใจการเป็นรุก ก็รุกยาวไปเลย เป็นรับไม่รุ่งก็ขึ้นมารุกซะเลย เผื่อจะดี  o13
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 25-09-2015 18:47:23
ทำไมอ่านแล้วฮาาาา จะพลิกซะงั้น
นี่ปลิวต้องปลุกความเป็นชายในตัวใช่ไหมเนี้ย
อิปั่นเอาความแมนของแกคืนมาาา
แด่ไอ้โต รออิเด็กป่านมีผัวครบร้อยก่อนนะ
เดี๋ยวมันก็กลับมาอย่าเพิ่งท้อนะเอาใจช่วยอยู่ บั๊ยยยย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-09-2015 18:52:20
 :laugh: อ้าว ปั้นจะมาทำให้ปลิวเปลี่ยนตำแหน่งซะงั้น
เคยแต่เป็นเมียแล้วผิดหวังเปลี่ยนเป็นผัวบ้างอาจเจอรักแท้ก็ได้นะปลิว
นี่ถ้าปลิวยอมเป็นรับฟิกจะทำหน้ายังไง  :laugh: :laugh: :laugh:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-09-2015 19:05:59
แอบฮาอะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 25-09-2015 19:07:56
 o22 ผมนี่น่าอย่างงี้เลยครับ 55555555


เอาละวะ ดูดิ ว่าใครจะขึ้น
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: BlackClover ที่ 25-09-2015 19:21:12
ฮาอ่ะ   เฮ้ย  ปั้นชอบเขาจนยอมเป็นฝ่ายรับเลยมทีเดียว
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 25-09-2015 19:34:14
ถ้าเปลี่ยนตำแหน่งเมื่อไหร่อย่าไปคุยกับฟิกนะ สงสารมัน 555555555555
ฟิกคงรู้สึกแย่ 5555555555555555
เมียเก่า(?)ได้เมียใหม่(?)เป็นนักเลง...555555555555555
ปลิวก็ยอมๆปั้นไปเถอะนะ ไว้ปั้นมีประสบการณ์ค่อยว่ากันอีกที
ปลุกความแมนในตัวเองไปก่อน 555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 25-09-2015 20:24:22
คดีพลิกกกกกกก ชอบอะะะะ ปลิวปั้น น่าร้อกกกกกก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 25-09-2015 20:25:24
อ่านคู่นี้ละลั่นเลย ฮ่าๆๆๆๆ แต่ รับ x รับ ก็ไม่เลวนะ หึหึ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 25-09-2015 21:29:18

คู่นี้ฮาดี :m20:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 25-09-2015 21:47:03
อย่างฮาอะ  แอบสงสารปลิวน่ะท่าทางจะหนักใจน่าดู 55555   ทรงผมเปลี่ยนตำแหน่งเปลี่ยน  อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 25-09-2015 22:01:20
ปลิวจะได้จิ้มหรือเป็นฝ่ายโดนจิ้มน้าาาา :z13: :oo1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 25-09-2015 22:04:11
อ่านไปช่วงต้นๆสงสารปลิวนะ ยิ่งพอเจอโตพูดแบบนั้น แล้วปั้นก็แบบประชันหน้ากับโต

ตอนนั้นในหัวคิดละ เฮ๊ย จะเป็นไรไหมถ้าจะให้3P ประมาณ ปั้น โต รุก ปลิวคนเดียวงี้

แต่..พออ่านลงมาเรื่อยๆ ผมนี่เงิบเบาๆเลยครับ 555555+ โอ๊ยยย ปั้นเอ๊ย ไอ้เราก็นึกว่าจะแมนมาตลอด พี่งี้ไปไม่เป็นเลยนะเฮ๊ย 5555+

สนุกดีครับ ทำเอาฮาเบาๆ มาต่อไวๆนะ ชักอยากรู้แล้วดิ่ว่าชีวิตปลิวจะพลิกไปทางไหน  o18 o18 o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 25-09-2015 22:07:50
ก็รู้สึกสะใจนิดๆนะที่ปลิวพยายามตัดใจจากโตสักที  แต่ถ้าหากมองดูมุมของโตแล้วเราก็เข้าใจนะ  โตรักป่านมากย่อมต้องตัดใจยากเป็นธรรมดาอยู่แล้ว...ไม่รู้สินะ  เราคิดว่าลึกๆแล้วโตน่าจะรักปลิวบ้างแล้วนะ  ติดแค่ยังมีเยื่อใยให้แฟนเก่าอยู่ก็เท่านั้นเอง

เพราะงั้นข้าพเจ้าจึงขอยกป้ายเชียร์ ให้มีคู่3P อีกกลุ่มหนึ่งได้มั้ยอ่ะไรเตอร์จ๋า~

โต>>>ปลิว>>>ปั้น  ประกบกันเป็นแซนวิสสามไส้....พอลองจิ้นภาพฉากบนเตียงดูแล้ว  มันก็ฟินดีนะเธอว์(แบบรู้สึกดีทั้งหน้าและหลังเลยนะปลิว  อะไรประมาณเนี้ย :hao6:)
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 25-09-2015 22:33:33
เหอะๆๆๆๆๆ คู่นี้สายฮาใช่มั๊ย ดูไม่ออกจริงๆว่าใครจะรุกใครจะรับ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 25-09-2015 23:14:27
จะสงสารปลิวดีมั้ยเนี่ย 5555
จะมีเมียแล้วนะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 25-09-2015 23:21:47
ทำไปๆ
เดี๋ยวก็ชิน
ไม่รับอีกแล้ว
 :katai2-1:
5555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 25-09-2015 23:28:13
จะเกิดเป็นปัญหาแบบผัวหนูแต่เมียพี่หรือเปล่าเนี่ย? 
แบบโตนานๆมาทีอะไรแบบนี้  แรกๆเห็นโตมันทำท่าดีใจเราก็อดดีใจไม่ได้  แต่ในเมื่อไม่ได้รักปลิวขนาดนั้นก็ปล่อยปลิวไปเถอะ นางหาดีกว่านี้ได้อยู่แล้ว   

ไม่แน่นะ  ปลิวรุกปั้นแล้วเดี๋ยวปั้นเป็นงานมันก็รุกกลับเอง  เราว่าปั้นมันอ่อยปลิวมากกว่า 5555  อ่อยให้มาติดกับ

ของแบบนี้มันไม่ค่อยตายตัวเท่าไหร่โดยเฉพาะปั้นถ้าหากว่านางมาเจอปลิวที่นิยมรับมากกว่า
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 26-09-2015 00:42:02
ตำแหน่งเดิมไม่รุ่งเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ดีกว่านะปลิว  :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 26-09-2015 00:54:57
 o22 ผมนี่อึ้งแทนปลิวจริงๆ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 26-09-2015 00:57:05
ตลกจริงๆๆ คือแบบไม่นึกว่าปลิวจะเปลี่ยนแนวนะ 555555555555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 26-09-2015 01:21:10
เดี๋ยวนะ เดี๋ยวนะ

เดี๊ยวววววววววว ปลิวปั้นลู๊กกกกกกกกก

 โอ๊ยยยยยยยยย 5555555 /หยุดก๊ากไม่ได้เลย

ปลิวหนูเปลี่ยนบทบาทบ้างก็น่าจะดีนะลูก 5555

หนูปั้นมีการบอกว่า ได้แล้วให้เงียบไว้ดัวะ 555  :m20: :m20:

ความรักครั้งใหม่ของปลิวนี่ หรรษา มาก  o13

หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 26-09-2015 07:30:31
ฮาปลิว คู่นี้ท่าจะฮา  :katai3:
ThanK o13
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 26-09-2015 17:01:23
ตอนแรกอ่านละ งงๆ ตอนนี้สุดท้ายผมนี่ ขำกลิ้งเลย
เอิ่มมมม ดันเป็นรับเหมือนกัน  :katai3:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 26-09-2015 21:05:24
ผลัดกันไปเล้ยยยยย  5555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #Piw Side [P.10]25-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 27-09-2015 00:20:54
 :m20: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ครึ่งแรก [P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 27-09-2015 19:37:04
ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก]





อารมณ์ขุ่นเคืองของผมเริ่มจะเบาลงแล้วเป็นเพราะไอ้ภูมันทำท่าเหมือนจะงอนเรื่องกุญแจรถด้วย ผมเลยต้องทำให้มันกลับมาอารมณ์ดีแบบเดิมก่อน

“กุญแจรถมึงไม่หายหรอกน่า”ผมพูดไปรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้

“มึงรู้ได้ไง”มันมองผมด้วยสายตาเชือดเฉือน

“ไอ้ตินคงเก็บมานั่นแหละ”

“แล้วถ้ามันไม่ได้เก็บล่ะ”

“ก็ทำใหม่ไง”ไอ้ภูทำหน้าหงุดหงิดใส่ผมก่อนจะกลับไปสนใจหนังสือการ์ตูนของมันต่อไป ส่วนผมก็ได้แต่รอไอ้ตินกลับมา ไม่อยากจะโทรไปเพราะผมกำลังหงุดหงิดอยู่ 

“มึงว่าไอ้ตินจะกลับมาไหม”ผมพูดทำลายความเงียบ แต่ก็เหมือนคุยอยู่คนเดียวเพราะไอ้ภูมันเอาแต่เงียบ

“หายงอนได้แล้ว กูไม่ง้อนะ”

“เรื่องของมึง”มันพึมพำมาโดยไม่มองหน้าผม

“ไอ้ภู”ผมเลยได้แต่ปาหมอนใส่มันก่อนจะรีบกระโดดลงจากเตียงแต่ก็หนีมันไม่พ้นเพราะมันคว้าข้อเท้าผมไว้ได้

“เฮ้ย จะล้มเว้ย หัวฟาดพื้นขึ้นมาทำไง”

 “ก็หาเมียใหม่ไง”มันยกยิ้มก่อนจะดึงผมไปกอดแน่น แน่นจนผมหายใจไม่ค่อยออก

“สัดภูหายใจไม่ออกเว้ย”ผมหยิกแขนมัน ไอ้ภูหัวเราะก่อนจะปล่อยตัวผม

“หายงอนกูแล้วเหรอ”

“ช่างเหอะ ไงๆเดี๋ยวไอ้ตินก็กลับมานั่นแหละ”ไอ้ภูทำหน้านิ่งๆ

“แล้วถ้ามันไม่กลับล่ะ เห็นบอกว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน”เหอะ อดหมั่นไส้มันไม่ได้

“ไอ้ตินมันแคร์มึงจะตาย มันเคลียร์เสร็จเดี๋ยวก็กลับมา”ไอ้ภูลูบหัวผมเบาๆ แต่ผมก็เอนตัวออกห่างเหมือนทุกที ผมมองน่ามันด้วย
สายตาจริงจัง

 “ไอ้ภู กูไม่รู้ว่าเรื่องนี้มึงคิดเห็นยังไง แต่กูไม่อยากให้มึงยุ่งกับเรื่องนี้ กูไม่อยากห่างมึงไปนานๆอีก”ยิ่งพ่อมันเป็นคนพูดคำไหน
คำนั้นแล้วด้วย ผมยิ่งกลัว ไอ้ภูยิ้มก่อนจะขยับมากอดผมหลวมๆ

“มึงไม่ต้องคิดมากหรอก กูมีบทเรียนแล้ว ไม่มีทางทำผิดแบบเดิมซ้ำแน่”แต่ผมก็ยังกังวลอยู่ดี เหมือนไอ้ภูมันจะสังเกตุได้

“เครียดอะไร”

“กูกลัวว่าเรื่องมันจะบานปลาย”กลัวว่ามันจะถูกดึงเข้าไปเกี่ยวด้วยเหมือนเรื่องของไอ้นัท ยิ่งถ้ามีเรื่องกับพวกเด็กช่างด้วยแล้ว ผมยิ่งกลัวเพราะพวกนั้นยิ่งเป็นพวกเล่นแรงๆ ถ้าไม่หายแค้นหรือเจ็บหนักก็ไม่มีทางหยุด ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไอ้ภูเหมือนจะเห็นว่าผมเครียดเลยไม่ได้กวนใจผมแต่อย่างใด แต่มันหายเข้าไปทำเสียงดังในครัวแทน คงจะหาอะไรกินล่ะมั้ง ผมนึกไปถึงจี้ที่สั่งทำไว้ คงไม่มีโอกาสได้ให้เร็วๆนี้แน่ รอให้ผ่านเรื่องนี้ไปก่อนก็แล้วกัน

“ไอ้ฟิก มากินข้าว”เสียงเรียกของไอ้ภูทำให้ผมเดินเข้าไปในครัว แปลกใจเมื่อเห็นมันกำลังตักข้าวผัดใส่จานให้ผมอยู่

“มึงทำเองเหรอ”ผมถามงงๆ

“เออดิ”

“กินได้แน่นะ”ผมถามพร้อมหัวเราะ ไอ้ภูหันมาทำหน้าหงิกใส่ผม

“ไม่กินก็แล้วแต่”

“เดี๋ยวนี้ขี้น้อยใจว่ะ หัวก็ไม่ได้ล้านซะหน่อย”ผมบ่นพอให้มันได้ยิน จากนั้นก็กินข้าวกับไอ้ภูสองคน ต้องเรียกว่าข้าวผัดซอส เพราะมันใส่เยอะเสียจนมีแต่รสซอสเค็มๆ ถึงท้องจะอิ่มแต่ผมก็ยังนอนไม่หลับ มีภารกิจถ่างตารอไอ้ตินอยู่ ผมหยิบหนังสือการ์ตูนของไอ้ภูมาอ่านฆ่าเวลาระหว่างที่รอ ส่วนไอ้ภูออกไปรับลมที่ด้านนอกระเบียง รอจนเกือบๆสี่ทุ่มกว่าๆ ไอ้ตินก็กลับมา ผมไล่สายตาสำรวจ เห็นว่ามันปกติดีทุกอย่าง รวมถึงสีหน้าของมันด้วย พอเข้ามาในห้องมันก็เดินตรงมาหาผมทันที

“กูขอโทษนะฟิกที่ทำให้เป็นห่วง เมื่อเย็นกูวู่วามไปหน่อย”มันพูดเบาๆ เอามือลูบหัวผมไปด้วย เหอะ แต่ผมยังไม่อยากคุยกับมันตอนนี้ก็เลยไม่ได้ตอบหรือถามอะไรออกไปทั้งๆที่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

“มึงเอารถกูมาใช่ไหม”ไอ้ภูกลับเข้ามาพร้อมถามถึงลูกชายมันทันที

“อืม”ไอ้ตินโยนกุญแจรถคืนไอ้ภู มันคงไปงมหากุญแจในพงหญ้านั่นแหละ หึ คิดแล้วสะใจ ผมพลิกหน้ากระดาษไปมาเสียงดัง ไม่ได้ตั้งใจอ่านเลยสักนิด

“แล้วเป็นไงบ้างวะ”ไอ้ภูเป็นคนถามก่อน ดีมาก เพราะกูกำลังอยากรู้พอดี

“ก็แค่ไปคุยกับเพื่อนเฉยๆว่าจะเอาไงต่อ”เสียงไอ้ตินตอบกลับมา น้ำเสียงมันฟังดูสบายใจ แสดงว่าคงไม่มีอะไรร้ายแรง

“เพื่อนคนไหนวะ”ไอ้ภูถามได้ตรงประเด็นทุกเรื่องที่ผมอยากรู้เลย สงสัยเดี๋ยวต้องให้รางวัลซะแล้ว

“ไอ้นัท”คำตอบของมันทำผมขมวดคิ้ว ไหนไอ้ภูมันบอกว่าไอ้ชัยไง ไอ้นี่มันมั่วจริงๆ  เกิดความเงียบขึ้นมาจนไอ้ตินต้องพูดต่อเอง

“มันมาบอกผมเรื่องกลุ่มเก่าว่ารุ่นพี่ในกลุ่มถูกรุมทำร้ายจากพวกเด็กช่าง พวกมันหมายหัวคนทั้งกลุ่มไว้เพราะมันจะเอาคืน แล้วก็มีคนอยากพบผมด้วย”

“ใครวะ”

“รุ่นพี่ที่เคยเป็นหัวโจกของกลุ่ม บางทีผมคงต้องเคลียร์งานเผื่อลงไปจัดการเรื่องเก่าๆที่ค้างคาให้เสร็จ ไม่อย่างนั้นพวกมันต้องมาวุ่นวายอยู่แบบนี้ตลอดแน่ๆ”ไอ้ตินนั่งลงบนเตียงข้างๆผม รู้สึกได้ว่าสายตาของมันกำลังจ้องมองผมอยู่

“ไอ้ฟิก หันมามองหน้ากูหน่อยดิ”ไอ้ตินเอื้อมมือมาแตะบ่าผม แต่ผมปัดออกด้วยใบหน้านิ่งๆ เรื่องคอขาดบาดตายแบบนี้ทำไมมันถึงคิดจะจัดการคนเดียว นี่ถ้าผมไม่ตามไปมันจะยอมบอกหรือเปล่าก็ไม่รู้

“กูขอโทษ เมื่อเย็นกูแค่อยากไปคุยให้รู้เรื่อง”

“จนลืมนึกถึงความรู้สึกของกูใช่ไหม อ้อ ลืมไปว่ามึงมันเก่ง”ผมขยับลงมาจากเตียงก่อนจะเดินตึงๆเข้าห้องน้ำ ปิดประตูเสียงดังปัง
ผมทำฟอร์มเข้าห้องน้ำไปงั้นแหละเพื่อให้มันรู้ว่าครั้งนี้ผมโกรธมันจริงๆ ในเมื่ออยู่ด้วยกัน มีอะไรก็ต้องบอกกันสิ ผมล้างหน้าล้างตาแปรงฟันเสร็จก็ออกมา ไอ้ตินนั่งอยู่บนเตียงที่เดิม สีหน้าไม่ค่อยดีนัก ส่วนไอ้ภูกำลังฝึกเล่นกีต้าอยู่ที่พื้นห้อง 

“มึงมาเล่นอะไรตอนนี้ จะนอนแล้ว”ผมผลักศีรษะมันเบาๆก่อนจะคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดหน้า

 “ฟิก กูขอโทษ มึงมาคุยกับกูดีๆซิ”ไอ้ตินขยับมายืนซ้อนหลังผม เสียงดีดกีต้าลอยมาเข้าหู ผมเหล่มองไอ้ภู ยังจะมาทำเล่นๆอีก

“กูไม่ได้อยากจะทำตัวงี่เง่าหรอกนะ แต่กูอยากให้มึงบอกกู เรื่องนี้มันไม่ใช่เล่นๆเลยนะ กูรู้ว่ามึงมีเพื่อน มึงจัดการเองได้ แต่แค่
บอกกูสักนิด มันเสียเวลามึงมากเลยเหรอ ถ้ากูมีเรื่องแล้วทำแบบนี้ พวกมึงคงแดดิ้นโวยวายใส่กูไปแล้วแน่ๆ หัดคิดให้มันเยอะๆหน่อยได้ไหมวะ”ผมมองหน้าไอ้ตินตรงๆ เป็นครั้งแรกจริงๆที่ผมด่ามันแบบนี้ ความจริงก็อยากจะโกรธมันนานกว่านี้ แต่
สถานการณ์ของไอ้ตินยังไม่เอื้อให้ผมเมินมันได้

“กูขอโทษ ต่อไปกูจะไม่ปิดมึงอีกแล้ว”ไอ้ตินพูดเสียงอ่อนก่อนจะเข้ามากอดผม

“แล้วไอ้นัทมันกลับไปหรือยัง”ผมถามด้วยเสียงฉุนๆ

“ยัง มันยังกลับไม่ได้ เพราะมันโดนเล่นงานมา คนในกลุ่มโดนเล่นงานกันหมด”ไอ้ตินถอนหายใจก่อนจะผละออกมามองหน้าผม

“แล้วตอนนี้…ชีวิตมึงยังปลอดภัยอยู่ไหมวะ”ผมชักงงๆว่ามันเคยมีเรื่องกับใครบ้าง

“ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก พวกมันแค่เตือนให้กูกลับไปสะสางเรื่องเก่าๆ ถ้าเคลียร์งานทางนี้เสร็จ ค่อยกลับไปบ้านเก่ากูกัน โอเค
นะ”ไอ้ตินมองหน้าผมก่อนจะเหลือบมองไอ้ภู บ้านเก่าไอ้ตินน่ะเหรอ …อยากจะตอบว่าไม่โอเค แต่ทำไงได้ในเมื่อมันต้องไปสะสางเรื่องทางนั้น เอาเถอะ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเมื่อก่อนมันเป็นยังไง







…………………………………………………………………..






หลังจากที่ไอ้ตินโดนพวกเด็กช่างรุม ก็ไม่มีเรื่องอะไรให้น่าเป็นห่วงอีก ผมเองก็พยายามจะปล่อยใจให้สบายแบบพวกมัน คือมันสองคนทำตัวชิลมากๆ แต่แล้วก็มีเรื่องน่าสนใจเข้ามาทำให้ผมลืมปัญหาหนักอกเหล่านี้ไปได้ เพราะวันนี้ผมบังเอิญเจอไอ้ปลิวที่ร้านกาแฟข้างคณะ ตอนแรกก็ไม่สังเกตเห็นมันหรอกเพราะมันนั่งหันหลังให้ผม แต่ผมจำทรงผมใหม่เกรียนๆของมันได้ เลยเดินเข้าไปทัก

“เฮ้ย ปลิว มาทำอะไรแถวนี้วะ”ผมแตะไหล่มันพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้ว่าง มันทำหน้าตาเหมือนไม่อยากเจอผม ท่าทางลุกลี้ลุกลนแปลกๆ

“กูมาหาเพื่อน”มันตอบกลับมาแบบไม่เต็มเสียงนัก

“เพื่อนคนไหนวะ”จำได้ว่าไอ้ปลิวมันเรียนจบแค่ม.หก ไม่ค่อยรู้จักกับใครด้วย แล้วมันจะมีเพื่อนแถวนี้ได้ไง

“ก็…เออน่า มึงอย่าถามมากได้ไหมวะ”ไอ้ปลิวกวาดสายตาไปรอบๆ ผมเลยมองตามบ้าง

“มึงทำท่าทางแปลกๆนะ ฮันแน่ หรือมึงไปเจอใครเข้าวะ”ผมถามด้วยเสียงตื่นเต้นเพราะอย่างน้อยมันก็ยังเปิดใจมองคนใหม่บ้าง

“กู…เครียดว่ะ”มันทำหน้าจริงจัง มือนวดขมับด้วยท่าทางเหนื่อยๆ

“ทำไมวะ มึงมีปัญหาอะไร”ผมถามด้วยความเป็นห่วง แต่ดูเหมือนมันจะไม่กล้าบอกผมซักเท่าไหร่

“กูไม่รู้จะบอกมึงดีไหม…”สีหน้ามันไม่ค่อยดีนัก ผมได้แต่ขมวดคิ้วรอให้มันเล่า

“มึงรู้จักไอ้เด็กปั้นไหม”มันกระซิบเบาๆ

“อ้อ ก็พอรู้จัก มันเป็นรุ่นน้องที่คณะไอ้ติน ทำไม มันจีบมึงเหรอ”ผมทำเสียงแปลกใจ แต่ดูๆไปไอ้ปั้นก็น่าจะใช้ได้

“เออ ทำนองนั้นแหละ”แต่มันยังสีหน้ายุ่งๆอยู่ มันเลียริมฝีปากก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้ๆผม

“คือมัน…กูไม่รู้จะพูดยังไงว่ะ”

“อ้าว มึงนี่ยังไงวะ พูดออกมาเลย กูอยากรู้”มาบอกให้อยากรู้แล้วจะทิ้งผมไว้กลางทางได้ยังไง ไอ้ปลิวกำลังจะเล่าเลย แต่ไอ้ปั้น
ก็โผล่มาซะก่อน มาถึงมันก็รีบคว้าข้อมือของไอ้ปลิวให้ลุกขึ้น แถมยังมองผมเหมือนกับผมไปเหยียบหางมันอีก

“เป็นเหี้ยไรของมึง”ไม่ชอบให้ใครมามองด้วยสายตาแบบนี้เลยจริงๆ ห้าวไปก่อนยังไงก็มีคนหนุน แบล็คดีก็แบบนี้แหละ

“พี่ฟิกก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว ผมขอล่ะ อย่ามายุ่งกับพี่ปลิวอีกเลย”ผมถึงกับงง กูไปยุ่งอะไรกับไอ้ปลิววะ ผมเหลือบมองไอ้ปลิวที่ทำสีหน้าเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง

“มึงเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าวะ กูกับไอ้ปลิวเป็นเพื่อนกัน ถึงกูจะเคยกิ๊กกับมันก็เถอะ”ไอ้ปั้นทำเหมือนไม่เชื่อ อะไรของมันวะ

“กูกลับก่อนนะ ไว้จะเล่าให้ฟังวันหลัง”ไอ้ปลิวรีบลากไอ้ปั้นออกไป ผมได้แต่มองตามงงๆ ไอ้เด็กนั่นก็หันมามองผมด้วยสายตานิ่งๆ มันทำอย่างกับว่าผมจะไปแย่งไอ้ปลิวไปจากมันเลยว่ะ โธ่ ชีวิตผมมันช่างมีสีสันจริงๆ


หลังจากเคลียร์งานเสร็จผมก็กลับมาที่หอ เจอไอ้ภูกับไอ้ตินกำลังนั่งคุยอยู่ที่ร้านข้าวอีกฝั่ง ผมกำลังจะเข้าไปทักพวกมัน แต่ก็ชะงักโดยับพลันเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่กับพวกมันด้วย

มัน คือ ไอ้ นัท!

“อ้าว ฟิก”มันหันมาส่งยิ้มให้ผม หลอนจริงๆ ไอ้ภูทำสีหน้าเหมือนไม่อยากร่วมโต๊ะด้วย ไอ้ตินเองก็ท่าทางไม่ชอบใจสักเท่าไหร่
ผมเลยจำต้องเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ว่าง ข้างๆไอ้ติน ผมเกลียดไอ้นัทจริงๆ เหม็นขี้หน้ามัน

“มึงมาทำไม”ผมถามด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจ

“มาหาแฟนเก่า”มันยกยิ้มยียวนใส่ผม

“อย่าก่อเรื่อง”ไอ้ตินแทรกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

“กูแค่มาเที่ยวแถวๆนี้ เห็นว่าตินกับภูยังพักอยู่ที่นี่เลยแวะมาคุยเล่นเฉยๆ สนุกจะตาย”ไอ้นัทส่งยิ้มมาให้ ก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้ๆผม

“มาหาฟิกด้วยไง คิดถึ๊งคิดถึง เรามีความทรงจำดีๆด้วยกันไม่ใช่เหรอ ลืมแล้วหรือไง”ไอ้นัทส่งสายตาแพรวพราวมาให้ แต่ก่อนที่มันจะกวนประสาทผมไปมากกว่านี้ ไอ้ภูก็ยกเท้ากระแทกขาเก้าอี้ตัวที่มันนั่งอยู่เต็มแรง เมื่อกี้ผมขนลุกเกรียวเลย

“ระวังปากหน่อย ไอ้นัท จำที่กูเคยพูดได้ไหม”ไอ้ตินมองมันด้วยสายตาหงุดหงิด

“แค่แหย่เล่นเฉยๆเอง ตัวเองก็…”ผมเหลียวมองไอ้ตินทันที มันเองก็ทำหน้าพะอืดพะอมเหมือนกัน ผมเอนตัวไปหามัน

“กูสยองว่ะ”แฟนเก่ามันแต่ล่ะคน ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ผมหมายถึงสติ

“แล้วมันมาทำไม”ผมกระซิบถามต่อไป ไอ้นัทก็เอาแต่มองมาที่ผม ส่วนไอ้ภูทำสีหน้าเหี้ยมๆตลอดเวลา ผมเดาว่ามันคงกำลังอดทนกับพฤติกรรมของไอ้นัทอยู่

“มันมาบอกข่าวเรื่องกลุ่มน่ะ”

“ทำไมมันต้องมาเองด้วยวะ”

“กูก็ไม่รู้ ตอนนี้กูติดต่อเพื่อนทางนั้นไม่ได้ ก็เลยต้อง…”มันกลอกตาไปทางไอ้นัท

“แปลกดี คบกันนานแล้วเหมือนกัน”ไอ้นัทพูดขึ้นมาเหมือนเพิ่งนึกได้ ไอ้ภูถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“กูขึ้นไปรอบนห้องนะ อยู่ตรงนี้นานๆไม่ได้ เดี๋ยวกูได้เตะหมาแถวนี้แน่ๆ”ถึงจะพูดแบบนั้น ไอ้ภูก็จ้องมองไอ้นัทตรงๆ ไอ้นัทแค่เบนสายตาไปทางอื่น อย่างน้อยมันก็ยังกลัวไอ้ภูอยู่บ้าง

“เหอะ มึงคุยจบหรือยัง”ผมถามมันด้วยเสียงแข็งๆ

“ยัง กำลังปรึกษากับตินว่าจะเอายังไง”มันยิ้มให้ผมอีกแล้ว ประสาทกลับแน่ๆ ผมมองไปรอบๆเห็นว่ามันไม่ได้พกการ์ดมาเหมือนเคย

“เอาเถอะ นี่เป็นห่วงหรอกถึงได้มา มึงก็น่าจะรู้ดีนะ อย่างที่กูพูดไป มึงควรกลับไปคนเดียวนะ ติน พวกนั้นมันแรงแค่ไหน…มึงคงจำได้”ไอ้นัทเปลี่ยนมาจริงจัง ก่อนจะหันมามองผม

“ระวังตัวด้วย”พูดจบมันก็เดินออกไป ทิ้งให้ผมนั่งมึน วันนี้เจอเรื่องชวนงงหลายเรื่องเลยว่ะ แล้วที่ไอ้นัทพูดมันเตือนผมหรือขู่กันแน่ ผมหันไปมองไอ้ตินที่ดูเป็นกังวลเหมือนกัน เมื่อไอ้นัทไปแล้ว ไอ้ภูก็กลับมาที่โต๊ะ

“มึงจะเอายังไง มึงคงไม่คิดจะกลับไปคนเดียวหรอกใช่ไหม”มันถามไอ้ตินด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ผมจับแววเยาะๆอยู่ในเสียงของไอ้ภูได้ ไอ้ตินขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองไอ้ภู

“ทำไมต้องทำเสียงแบบนั้นด้วย ผมไม่โง่กลับไปคนเดียวหรอก ตอนนี้เสี่ยงจะตาย”

“ก็ดีที่มึงคิดได้”

“แต่คนที่ไม่สมควรไปคือพี่มากกว่า เกิดพลาดอะไรขึ้นมา พี่แย่แน่ๆ”ไอ้ตินถอนหายใจ ซึ่งมันคงรู้ว่าห้ามไอ้ภูไม่ได้แน่ๆ

“กูไม่พลาดหรอก ยังไงกูก็จะไป เมืองมาเฟียรึไง กูไม่กลัวหรอก”มันทำเสียงแข็งๆ

“กูก็จะไปด้วย หวังว่ามึงคงไม่คิดห้ามกูอีกคนหรอกนะ ไอ้ติน”มันทำสีหน้าลำบากใจ ผมรู้ว่ามันเป็นห่วง แต่ผมก็ห่วงมันเหมือนกัน

“มึงจะไปตายคนเดียว หรือไปกันเป็นหมู่คณะก็เลือกเอา”ไอ้ภูพูดติดตลก แต่ตอนนี้ผมขำไม่ออกจริงๆ

“เพื่อนกูก็จะไปด้วย ไม่ต้องห่วงหรอก”ไอ้ตินยิ้มจางๆ ถึงจะมีแววกังวลอยู่ด้วยก็ตาม

“แล้วพวกนั้นเล่นแรงแค่ไหน”ผมถามอย่างสนใจ คือผมตงิดๆกับคำพูดของไอ้นัทมันน่ะ

“บอกได้เลยว่าพวกนั้นไม่เลือกวิธีการหรอก แค่ได้แก้แค้นเอาคืนพวกมันก็สะใจแล้ว”ภายใต้ความนิ่งของมัน ผมมองเห็นความโกรธที่อยู่ในแววตาของมัน จากที่ฟังมันเล่า แถวๆบ้านเก่ามัน ส่วนใหญ่จะมีแต่พวกมีอิทธิพลมืด ใครไม่แน่จริงก็อยู่ไม่ค่อยได้ แล้วมันยังบอกอีกว่าแถวนั้นออกไปไหนคนเดียวตอนดึกๆไม่ได้เพราะมันอันตรายมาก

“แล้วมึงจะไปวันไหน”ไอ้ภูเปลี่ยนประเด็น

“คงจะอาทิตย์หน้า แต่ป๊ากับม๊า…คงไม่อยากให้ไป”ไอ้ตินถอนหายใจอีกครั้ง

“กูก็ไม่อยากจะปิดพวกท่านหรอก แต่ทำไงได้ ถ้ากูไม่ไปสะสางเรื่องเก่าๆ พวกมันก็ไม่ยอมจบแน่ ไม่ใช่แค่กูที่เดือดร้อน แต่มันลามไปถึงเพื่อนๆกูทั้งที่นู่นและก็ที่นี่ กูไม่อยากให้มันลามปาม จนต้องมาเล่นงานมึงด้วย”ไอ้ตินมองหน้าผมอยู่นาน มันดูเงียบแบบแปลกๆ น่ากลัวยังไงไม่รู้ มันมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรอีกรึเปล่านะ ผมมองหน้าไอ้ภูแต่มันแค่ส่ายหน้าให้ผม เหมือนจะบอกว่าอย่าเพิ่งถาม   

“เราแจ้งตำรวจไม่ได้เหรอ เผื่อมีอะไรอันตรายขึ้นมา”ไอ้ภูกับไอ้ตินหันมามองหน้าผมเหมือนมองเด็กที่ไม่ประสีประสา

“แถวนั้นตำรวจช่วยอะไรไม่ได้หรอก”ไอ้ตินยิ้ม

“กูชักจะกังวลเหมือนมึงแล้วว่ะ”ไอ้ภูหันไปมองหน้าไอ้ตินด้วยสายตาเครียดๆ

“อะไรของมึงวะ กูแค่เสนอทางแก้ดีๆเฉยๆ แบบสันติวิธีไง เราเป็นปัญญาชน หาทางออกที่ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ”ผมเก๊กมีสาระ ไอ้ตินหัวเราะใส่ทันที

“พวกนั้นไม่ได้อยากจบแบบสันติวิธีนี่หว่า พอๆ เลิกคุยเรื่องนี้ เดี๋ยวสมองจะระเบิดพอดี”

ผมเองก็เห็นด้วย เป็นอันว่าจบเรื่องนี้ไป อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดนั่นแหละครับ ผมไม่รู้ว่าไอ้ตินมันมีปัญหาอะไร ผมเองยังไม่กล้าถาม ถ้ามันพร้อมมันคงจะบอกเอง ผมเชื่อว่ามันไม่ปิดบังผมแน่ๆ ถึงจะกลัว แต่มาขนาดนี้แล้ว ผมก็อยากจะผ่านปัญหานี้ไปพร้อมๆกับพวกมันด้วย






TBC.
ช่วงนี้ยังยุ่งๆอยู่เลย ปั่นนิยายไม่ทันเลย เข้าสู่ช่วงสอบแล้วด้วย เลยเอาครึ่งแรกมาหย่อนก่อน   :hao5:
บอกไว้ก่อนว่าไม่มี3pอีกคู่แน่ๆ เพราะปลิวเองคงเข็ดกับความสัมพันธ์แนวๆนี้แล้วค่ะ
ป.ล. แอบกระซิบว่าจะแจกของที่ระลึก (?)เรื่องสามหน่อค่ะ แจกแค่สามอย่างเพราะงบน้อย  :laugh:
แต่แจกด้วยใจนะเออ  :กอด1: ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยจะบอกอีกทีนึงเนอะ

 
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Maewjunsu ที่ 27-09-2015 19:54:19
เรื่องนี้มีเงื่อนงำ แต่ที่เงื่อนงำกว่าคือปลิวรุกปั้นรึยัง5555 อดีตตินนี่ท่าจะสาหัสเอาการหวังว่าฟิกคงจะไม่ซวยไปด้วยนะส่วนนัทนี่ไม่ใช่หลงฟิกไปแล้วละ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 27-09-2015 20:08:50
อย่าบอกนะว่ากำลังจะเกิดศึกครั้งใหญ่....... :z6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 27-09-2015 20:24:44
อย่ามาม่าเรื่องตินเยอะน้าา กลัว :ling3:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 27-09-2015 20:30:59
ปลิวไปพูดอะไรกับปั้นรึเปล่า ปั้นเลยมองเห็นศัตรูขนาดนี้ 555555555
หรือว่าโกรธเรื่องที่ฟิกเคยไล่ปลิวไปอยู่กับโต...
ว่าแต่ปั้นเสร็จปลิวรึยัง--แค่กๆ

ส่วนตินนี่ท่าจะหนักไม่ใช่เล่นเลย เมือ่ก่อนไปทำอะไรไว้บ้าง 555555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-09-2015 20:47:47
เราว่ามันเริ่มน่ากลัวกว่ามาม่าเสียแล้ว
ปั้นเอ๋ยไม่ต้องกลัวเขาเบี้ยนกันหรอกจ้า. ปลิวเลิกกลุ้มแล้วรุกเถอะ
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 27-09-2015 20:59:06
อย่าว่าแต่ฟิกเลยเราอ่านแบบนี้เรายังรู้สึกเป็นห่วงพี่ตินด้วยเหมือนกัน ไม่ดราม่าแน่ๆใช่มั้ยคะ ไม่เอานะแบบพี่ตินเจ็บหนักไรงี้อะเราทำใจไม่ได้

ปอลอ อยากได้ของแจกแต่จะทันมั้ยละอีกเรื่อง
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 27-09-2015 21:49:51

กำลังเครียดเลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 27-09-2015 21:59:56
ทำไมยิ่งอ่านยิ่งเครียด ลุ้นมากกกกกกกกก :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]
เริ่มหัวข้อโดย: ticha.wrr ที่ 27-09-2015 22:31:09
ทำไมยิ่งอ่านยิ่งเครียด เรื่องของตินเริ่มดูน่ากลัวกว่าของพี่ภูอีก  o22
หวังว่าจะไม่มีใครเป็นอะไร  :serius2:  :serius2:  :serius2:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 27-09-2015 23:26:49
โหวววววว~
ผมนี่หวัง โต ปลิว ปั้นเลยครับ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 27-09-2015 23:52:09
น่ากลัวจริงๆ

แต่ยังมีตอนมิ้งๆของปลิวกะปั้น 55
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 28-09-2015 07:32:44
เรื่องของตินดูน่ากลัวอะ  ท่าทางจะต้องเสียเลือดเสียเนื้อไงไม่รุ


ส่วนเรื่องปลิวนี่อ่านแล้วแปลกๆอะ   ปลิวกะปั้นเคมีไม่เข้าอ่ะ   อ่านแล้วยังไม่มีไรน่าลุ้น 555  ก็มันรุกไม่เป็นกันทั้งคู่เลยหนิ 5555    เอาเป็นว่าจะรอดูต่อไปแล้วกันว่าเบี้ยนคู่นี้จะลงเอยยังไง
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 28-09-2015 08:20:05
เมนต์ ไม่ออกเลย มันจุกอกแปลกๆ
รอตอยตอนต่อไปอย่างใจเย็นน
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 28-09-2015 10:11:13
มันไม่ดราม่า แต่ มันเริ่มน่ากลัวชอบกล เหมือนมีอะไรไม่มีมาครอบงำสามหน่อซะแล้ว ใจอยากให้ตินเล่าเรื่องในอดีตให้ฟิกกับภูฟังทั้งหมดนะ จะได้หาทางแก้ไข อย่าคิดว่าตัวเองทำได้ เอาอยู่ มีเพื่อนช่วยอยู่แล้ว เข้าใจว่าตินห่วงฟิกกับภู ไม่อยากให้มาเดือดร้อนด้วย แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์ทั้งสามคนมันมากกว่าผัวเมีย มันเป็นครอบครัวที่ต้องช่วยเหลือกันและกันแล้ว อย่างน้อยจะได้หาทางป้องกันได้บ้าง ป๊ากับม๊าจะได้ไม่กังวลมากนัก ท่านอาจจะให้คำปรึกษาที่ดีกับเราด้วย คือ ไม่ได้ห่วงเรื่องความรักของสามคนนี้ ตอนนี้ห่วงความปลอดภัยของทั้งสามคนนี้มากกว่า ฟิกกับภูไม่มีทางทิ้งให้ตินไปคนเดียวอยู่แล้ว ภูอาจจะใจร้อนวู่วามพูดโผงผางไปบ้าง แต่ที่ผ่านมาภูก็มีบทเรียน ภูคงไม่อยากห่างฟิกไปอีก ภูห่วงตินที่เหมือนน้อง ห่วงฟิกที่เป็นเมีย เหมือนที่ตินก็ห่วงทั้งสองคน ยังไงก็ปรึกษาหารือกันเถอะ อย่าทำอะไรที่เป็นอันตรายไปมากกว่านี้เลยนะ ขอให้ทั้งสามคนปลอดภัย  :กอด1: ตินคงไม่ใช่ลูกกระจ๊อกธรรมดา อาจจะเป็นหัวหน้าแก็งค์ด้วยซ้ำ มันต้องมีอะไรมากกว่าที่เล่าแน่ แต่มันคืออะไรนี่สิ ต้องติดตามสินะ สู้สู้ ทั้งสามคน รวมถึงคนเขียนด้วยนะ ขอให้สอบผ่าน อ่านหนังสือสอบก่อนก็ได้ ว่างแล้วค่อยมาลงจะได้ไม่กดดันหลายทาง  :katai2-1:  อ้อ เกือบลืมเลย ว่าแต่ปั้นมันเป็นอะไรของมัน ถึงทำท่าทางไม่ดีใส่ฟิก จะว่าหวงปลิวก็ไม่น่าจะหึงหวงขนาดน้ัน ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยไม่ใช่เหรอ เยอะไปนะปั้น เดี๋ยวจะโดนฟิก และ สองผัว  :z6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 28-09-2015 11:47:38
ตินเห็นนิ่งๆน่ากลัวใช่ย่อย
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-09-2015 20:09:17
อ่านแล้วก็อยากเห็นมุมดาร์คของติน
อยากรู้ว่าตินน่ากลัวขนาดไหน แต่ขอได้ไหม
ถ้าไปเคลียร์อย่าให้ติน ภู ฟิก ต้องเจ็บหนัก
อย่าให้เรื่องใหญ่โตจนต้องแยกกันเหมือนตอนภูอีกนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 28-09-2015 22:34:24
เย้! มาแล้วววววว ตามตลอดเลยยยยยย
ขออย่าให้มีเรื่องอะไรแย่ๆอีกก็พอ
ตอนนี้อยากรู้ ระหว่างปลิวกับปั้น 5555555555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 29-09-2015 10:54:50
 :really2:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งแรก P.11]27-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 30-09-2015 18:58:23

ตอนที่๑๑ ติน ครึ่งหลัง










- เมื่อตอนม.ห้า {Tin Side}



เสียงโหวกเหวกโวยวายที่ดังขึ้นปลุกให้ผมตื่นจากการนอนกลางวัน ผมหยีตาเมื่อแสงสว่างส่องเข้ามา ภายในห้องมีขวดเบียร์และเหล้าวางเกลื่อน บุหรี่และกระดาษฟอล์ยวางแกะกะอยู่บนพื้นห้อง ห้องเช่านี้คือแหล่งมั่วสุมของพวกผม เด็กเกเรประจำชั้นม.ห้าทับหก

“เสียงดังอะไรกันวะ”ผมถามทันทีที่ไอ้ชัยวิ่งหน้าตั้งเข้ามาในห้อง

“ไอ้แก๊งแม่งยกพวกช่างกลมาว่ะ”ผมเบิกตาโตทันทีที่ได้ยิน มือคว้ากางเกงนักเรียนมาสวมลวกๆ

“ทำไงดีวะ มากันเยอะชิบหาย”ไอ้ชัยพูดหน้าตาตื่น

“หนีดิ”ผมตอบก่อนจะเปิดหน้าต่างแล้วปีนออกไป รอไอ้ชัยออกมาพร้อมกันก่อนจะย่องเบาๆไปที่รั้วที่มีเพิงไม้กองสุมไว้ ผมเขี่ยออกอย่างว่องไวก่อนจะเลื่อนตัวลอดผ่านช่องเล็กๆออกไป ผมรีบเสียจนโดนรั้วบาดไปหลายแผลแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะผมต้องเอาตัวรอด ผมไม่ใช่พวกหัวโจกที่เซียนเรื่องต่อยตีขนาดนั้น ถ้านับตามลำดับขั้นผมก็แค่พวกรองหัวหน้าที่มีคนหนุนหลังอีกที ผมรอจนไอ้ชัยโผล่ออกมาก่อนจะวิ่งหนีเตลิดไปยังทางลัดที่มีแค่ผมรู้คนเดียวเท่านั้น

“พวกมันมาได้ไงวะ”ผมถามหอบๆก่อนจะเหลียวมองด้านหลังเห็นว่ามีพวกช่างกลและไอ้แก๊งเพื่อนเก่าวิ่งตามมา พวกนี่แม่งกัดไม่ปล่อยจริงๆ เรื่องมันเริ่มที่ผมเคยอยู่กลุ่มเดียวกับไอแก๊งแต่ดันเขม่นกันมาตลอดเพราะช่วงหลังๆผมเด่นกว่ามัน และยิ่งบานปลายเมื่อผมดันไปจีบเด็กไอ้แก๊งก่อน มันชื่อนัท ตอนนั้นผมไม่รู้ก็เลยเกิดเรื่องเกิดราวตามมายกใหญ่

“ไอ้นัทโดนบีบ”ไอ้ชัยหอบแหกๆ ผมชี้มือไปยังซอยตรงหน้าแต่เมื่อเลี้ยวไปได้ไม่กี่ก้าวผมก็โดนของแข็งฟาดเข้าเต็มแรงที่หลังจนเซล้มลง ไอ้ชัยก็ด้วย

“หนีหางจุกตูดเลยนะ ไอ้ติน กูก็คิดว่ามึงจะแน่ซะอีก”เด็กช่างกลเหยียดยิ้มมองผม ก่อนที่มันจะเข้ามาเตะที่ชายโครงซ้ำๆ จนผมจุกจนตัวงอ ก็จริงอย่างที่มันพูด ผมไม่ได้เก่งอะไรเลย เป็นเด็กแสบที่มีคนคุ้มกะลาหัวเท่านั้น

“กูเลิกกับไอ้นัทแล้ว”เพราะผมเห็นว่ามันเหมือนคนโรคจิตเลยขอเลิกแต่มันไม่ยอม

“โกหก”ไอ้แก๊งมาถึงพอดีก่อนจะเข้ามากระชากให้ผมลุกขึ้นจากนั้นพวกมันก็รุมยำผมกับไอ้ชัยจนอ่วม

“กูยอมให้พวกมึงเล่นกู แล้วหายกัน โอเคไหม”ผมพูดอย่างยากลำบาก รู้สึกว่าฟันโยกๆด้วย นี่ถ้าป๊ากับม๊าเห็นสภาพผมล่ะก็...เป็นลมแน่ๆ

“ไม่โอเค มึงต้องกราบตีนกูถึงจะจบ”

“เกินไปแล้วไอ้เหี้ย”ไอ้ชัยตะคอกใส่ แต่มันก็เงียบเสียงลงด้วยความกลัวเมื่อพวกเด็กช่างเอาของบางอย่างออกมาขู่ มันคือปืนปากกาหลายด้าม พวกมันมายืนล้อมไอ้ชัยไว้

“จะทำหรือไม่ทำไม่งั้นกูยิงใส่เพื่อนมึงแน่”ผมมองหน้าไอ้ชัยด้วยความตื่นตระหนก แต่ความหวาดกลัวที่ฉายชัดอยู่บนหน้าของเพื่อนทำผมกลัวมากกว่ามัน ผมเลียริมฝีปากที่แห้งแตก ถ้าผมไหว้มัน...แล้วศักดิ์ศรีของผมล่ะ แต่ไอ้ชัยก็เพื่อนผม..ผมยอมให้มันเจ็บตัวไม่ได้เหมือนกัน

“ว่าไงไอ้ติน”

“เออ กู...กูยอม”ผมเม้มปากแน่น ไอ้แก๊งมายืนตรงหน้าผม

“เอาสิ รออะไร แมนๆหน่อยสิวะ”มันพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย ผมหลับตาลงเพื่อจะได้ไม่เห็นสีหน้าของมัน

“แล้วพวกมึงแมนนักเหรอไงวะ”เสียงหนึ่งดังขึ้น ทำให้ผมลืมตามองอีกครั้ง คนที่ยืนอยู่ด้านหลังไอ้แก๊งคือพี่ว่านเด็กม.หก ผมไม่รู้จักพี่เขาหรอก แต่ได้ยินมาว่าโหดสุดๆ ด้านหลังพี่ว่านมีพวกเด็กช่างยนต์อีกสถาบันที่ขึ้นชื่อพอๆกัน ยืนเรียงอยู่หลายสิบคนเยอะกว่าพวกไอ้แก๊งเห็นๆ

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่ พี่อย่ายุ่งดีกว่า”ไอ้แก๊งหันไปเผชิญหน้ากับพี่ว่าน พี่เขาเหลือบมองผมกับไอ้ชัยก่อนจะยิ้ม

“ไม่เกี่ยวได้ไงมึงเล่นงานเด็กโรงเรียนกู”

“มึงอย่าแส่ได้ไหม กูไม่อยากมีเรื่องกับมึงอีกคน พวกมึงด้วย”เด็กช่างกลพูดขึ้นมา พวกช่างกลกับช่างยนต์มันจะไม่ค่อยลงรอยกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

“งั้นมึงก็ปล่อยน้องกูสิ”พี่ว่านพยักเพยิดมาทางผมกับไอ้ชัย

“พี่ไม่เข้าใจอีกเหรอ พี่เองก็ไม่ใช่พวกมันซะหน่อย จะมายุ่งให้เรื่องบานปลายทำไม ผมไม่อยากมีเรื่องกับพี่อีกคนนะ”ไอ้แก๊งพูดยังไม่ทันจบประโยคพวกพี่ว่านก็กรูเข้ามาแล้ว ผมหลบไปอีกมุมโดยอัตโนมัติ ไอ้ชัยโผเผเข้ามาหาผม

“มึงโอเคไหมวะ”ผมถามมันด้วยความเป็นห่วง

“พอๆกับมึงอ่ะ”มันตอบกลับมา พี่ว่านหันมามองพร้อมกับพยักหน้าให้ผม เหมือนจะบอกให้หนีไปก่อนยังไงพวกพี่เขาก็เอาไหวอยู่แล้ว ผมกับไอ้ชัยเลยหลบออกมาก่อน

“ทำไมพี่ว่านถึงมาช่วยเราวะ”ไอ้ชัยพูดขึ้นมางงๆ

“ไม่รู้เหมือนกัน”ผมตอบมึนๆ ผมแทบไม่รู้จักพี่เขาเลยด้วยซ้ำ เคยเห็นหน้าค่าตาผ่านๆเวลาเดินสวนกันในโรงเรียนเฉยๆ เท่านั้นเอง ผมกับไอ้ชัยปรึกษากันว่าจะไปหาพี่โย่ พี่ที่เป็นหัวโจกของกลุ่มผม พี่โย่คบแต่พวกเด็กแว๊นเถื่อนๆ ผมก็ไม่รู้ว่าพี่เขาเก่งจริงรึเปล่า แต่แค่คอยช่วยเหลือผมก็โอเเล้ว พอไปถึงหอพี่โย่พี่เขาก็ซักทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

“พวกช่างเหรอวะ”เพื่อนพี่โย่ดูกลัวๆขึ้นมา

“มึงเล่นแรงนะคราวนี้ กูไม่รู้จะคุ้มกะลาหัวพวกมึงไหวไหม”พี่โย่พูดเครียดๆ ระหว่างนั้นพวกสาวสก๊อยก็มาช่วยทำแผลให้ผมกับไอ้ชัย มือหนักกันจริงๆ

“พี่ไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่ทำให้พี่เดือดร้อนแน่”ผมดึงสำลีมาเช็ดแผลเอง ก่อนจะนึกไปถึงพี่ว่าน ผมเริ่มจะนับถือพี่เขาขึ้นมาแล้วสิ ไอ้ชัยมองหน้าผมอย่างรู้ทันว่าผมคิดจะทำอะไรต่อ

“คือป๊ากับม๊า พี่โย่เองคงรู้ว่าพวกเขาคิดยังไงที่ผมมาอยู่กลุ่มนี้”ผมเกริ่นๆไปด้วยท่าทางนิ่งสงบ ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดผมรู้ว่าต้องทำตัวยังไง เป็นจิตวิทยาอย่างนึงที่ผมเรียนรู้มาจากม๊า เห็นใจดีแบบนั้น..ทำผมคาดไม่ถึงตั้งหลายเรื่อง

“มึงจะขอออกจากกลุ่มว่างั้น...”พี่โย่นิ่วหน้า เหมือนกำลังคิดหนัก เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากหรอก เพราะผมมีเงิน ในบางครั้งผมมักจะออกเงินเวลาไปซื้อของ ผมไม่เคยมั่วสุมจริงจัง แค่ลองๆให้หายอยากรู้แค่นั้นเอง แต่ผมรู้แน่ๆว่าพี่เขาต้องปล่อยผม มีเรื่องกับพวกเด็กช่างแถวนี้น่ากลัวจะตาย ขางคนก็เป็นลูกคนใหญ่คนโตในจังหวัด เส้นสายคับโรงเรียน คับกฎหมายเต็มไปหมด

“ผมเองก็เสียใจนะพี่ แต่พวกม๊าจะเเจ้งตำรวจ”ม๊าผมรู้จักกับคนใหญ่ๆพอดี และเส้นของเด็กแว๊นก็ไม่ใหญ่เท่า ม๊าผมเอาเรื่องขึ้นมาได้เข้าคุกกันทั้งหมดแน่...ไม่เว้นแม้แต่ตัวผมเองด้วย

“กูเสียดายมึงนะ มึงเป็นน้องที่น่ารัก”มีเงินล่ะสิ จนสุดท้ายก็ได้บทสรุป ผมเลิกยุ่งกับพวกเด็กแว๊น แต่ป๊ากับม๊าก็สบายใจได้แค่ไม่นานเพราะพี่ว่านมาชวนผมไปทำเรื่องสนุกๆ ผมก็เออออตามน้ำไปด้วย พี่ว่านอายุเกือบ ยี่สิบแล้วแต่ยังเรียนม.ห้าเท่าผม เพราะอะไรก็ไม่กล้าถาม แต่ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ทั้งเรื่องการป้องกันตัวที่พี่เขาสอนให้

“เห็นหน้าอ่อนๆไม่คิดว่าจะร้าย สมัยนี้มองกันที่ภายนอกไม่ได้จริงๆว่ะ”พี่ว่านหัวเราะชอบใจ ผมได้แต่ยิ้มแห้ง ช่วงนี้ไอ้ชัยกำลังโดนพ่อแม่เล่นงานเลยไม่ได้เข้ามารวมกลุ่มด้วยเหมือนทุกที

“เออ แล้วตอนนั้นพี่มาช่วยผมทำไม”ผมถามด้วยความอยากรู้ เรื่องคราวนั้นที่จบไป พวกไอ้แก๊งโดนเละ และช่วงนี้ก็เป็นช่วงอันตรายเพราะคาดว่าพวกมันคงรอเอาคืน วนเวียนกันไม่รู้จักจบ จนผมเหนื่อยแทน พี่ว่านหันมามองผมตรงๆด้วยสีหน้าจริงจัง

“เพราะกูชอบมึงไง”

“ผมก็ชอบพี่นะ เหมือนพี่เป็นไอดอลอะไรแบบนี้”ผมหัวเราะ แต่พี่ว่านยังคงทำหน้าจริงจังอยู่

“กูชอบมึง แบบที่อยากได้มานอนกอดด้วย”ผมชักขำไม่ออก แต่สีหน้าจริงจังของอีกคนก็เป็นเครื่องยืนยันว่าไม่ได้ล้อเล่น

“พี่ก็รู้ว่าผมมีแฟนแล้ว”ผมยังคบกับไอ้นัทอยู่ ไม่ใช่เพราะว่ารักหรืออะไรทั้งนั้น แต่เพราะมันขู่ว่าจะฆ่าตัวตายผมเลยยอมๆไปก่อน

“มึงไม่ได้รักมัน กูรู้”พี่ว่านขยับเข้ามาใกล้และผมไม่ได้ถอยห่าง

“ผมเห็นพี่เป็นพี่ชายของผมเสมอ”ผมยืนยันด้วยถ้อยคำหนักแน่นจ้องมองอีกฝ่ายตรงๆ จนพี่ว่านต้องหลบสายตาไปเอง

“กูยกนิ้วให้เลยนะ ว่ามึงร้ายกาจ ไม่ได้หมายถึงเรื่องใช้กำลังนะ แต่หมายถึง...กูพูดไม่ถูกว่ะ เหมือนมึงมีพลังบางอย่าง”คำพูดของพี่ว่านทำผมหัวเราะออกมา

“ผมไม่ใช่อุลตราแมนนะ พูดซะเวอร์”

“กูพูดจริง กูถึงอยากได้มึงมาอยู่ข้างๆไง”พี่ว่านพูดด้วยเสียงจริงจังอีกครั้ง

“กูขอยืนยันว่ากูชอบมึง ไม่ว่ามึงจะคบใคร ใจมึงจะอยู่ที่ใครกูก็ยังชอบมึงนะเว้ย จำไว้”พี่ว่านยกยิ้มก่อนจะตบบ่าผมเบาๆ ผมงงๆมึนๆอยู่เหมือนกันว่าพี่เขาชอบผมขนาดนั้นเลยเหรอ จริงๆแล้วผมไม่ชอบการใช้กำลังเลยจริงๆถ้าหากว่าไม่จำเป็นต้องสู้ ผมจะไม่ทำร้ายคนที่อ่อนแอกว่า เพราะผมเองก็เคยอ่อนแอมาก่อน

ช่วงนั้นพี่ว่านสอนยิงปืนให้ผมด้วย พ่อพี่เขาเส้นใหญ่มาก ถึงได้มีปืนพกเอามาให้ผมแบบฟรีๆ  เป็นปืนพกสั้นรุ่นRuger Lcp ยอมรับว่าอันตรายและผมก็ไม่คิดว่าผมจะเอาไว้ใช้ทำร้ายใคร

“ฝึกไว้เฉยๆ เผื่อเกิดเรื่องขึ้นมา”พี่ว่านให้เหตุผลแบบนี้ และผมก็ทำได้ดีด้วย แอบยอมรับว่าผมชอบปืนมากกว่าใช้กำลังเตะต่อย คิดแบบเด็กๆว่าก็ดูเท่ห์ดี

“ช่วงนี้มึงควรไปไหนมาไหนกับกูนะไอ้ติน เพราะพวกไอ้แก๊งกับเพื่อนมันคงกำลังหาทางเอาคืนอยู่ เอาจริงๆนะกูว่ามึงควรเลิกยุ่งกับไอ้นัทได้แล้ว เรื่องมันไม่จบก็เพราะไอ้นัทมันคอยตามตอแยมึงด้วยนี่ล่ะ”พี่ว่านพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ผมถอนหายใจออกมา เพราะเรื่องไอ้นัทเองก็เป็นอีกเหตุที่ทำให้เรื่องยืดเยื้อ

ไอ้แก๊งเองก็ไม่ได้รักไอ้นัทมากมายถึงต้องทำให้เรื่องใหญ่โตแต่เป็นเพราะผมไปยุ่งกับไอ้นัทเด็กมันเลยกลายเป็นว่าผมไปทับทางมันซะงั้น เรื่องศักดิ์ศรีบ้าๆ ที่ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ส่วนไอ้นัทมันโรคจิตกว่าที่ผมคิด สลัดไม่ได้ง่ายๆเลย ผมไม่อยากใช้กำลังเพราะอย่างที่บอกไปว่าผมไม่นิยม และลึกๆแล้วผมเองก็รู้สึกดีๆกับมันอยู่ ผมถึงไม่อยากทำร้ายมัน แต่ถ้าหากว่าผมหมดความรู้สึกดีๆเหล่านั้นไปเมื่อไหร่...ผมไม่ปล่อยให้มันมายุ่มย่ามแน่ๆ

“คิดอะไรอยู่วะ ทำหน้าตาน่ากลัวฉิบ”พี่ว่านทักพร้อมรอยยิ้ม

“เปล่า พี่เลิกยิ้มกับผมแบบนี้เถอะ ไม่งั้นผมไม่อยู่ใกล้พี่แน่”ผมเปลี่ยนโหมดมาจริงจัง ผมมีจุดยืนและหนักแน่นในตัวเอง ผมไม่ชอบให้ใครมาทำท่าเหมือนจีบผม หรือทำเหมือนผมเป็นผู้หญิง

“กูแค่แหย่เล่นทำไมต้องจริงจังด้วยวะ จริงๆนะใครได้มึงเป็นแฟนกูว่าโคตรโชคร้าย เดาอารมณ์มึงไม่เคยถูก”พี่ว่านพึมพำก่อนจะเดินหนีไปคุยกับเพื่อนที่สูบบุหรี่อยู่ ผมถอนหายใจ คนใกล้ตัวมาชอบนี่หนักใจจริงๆ ดีที่ผมไม่ใช่พวกให้ความหวังใครเรี่ยราด ผมต้องเตือนพี่ว่านบ้างถ้าเลยเถิดมากกว่านี้ ผมไม่อยากเย็นชาใส่คนที่ผมนับถือ

ช่วงเวลาอันตรายกำลังเริ่มต้นขึ้น เพราะเพื่อนพี่ว่านโดนดักเล่นงานและโดนตบของไปหลายราย แต่ส่วนใหญ่แค่เบาะๆเหมือนเป็นสัญญาณเตือน ไอ้ชัยเองก็โดนแต่มันไม่อยากมีเรื่องอีก จนพ่อมันทำเรื่องย้ายโรงเรียน

“ย้ายไปที่ไหนวะ ทำไมไม่บอกกูบ้าง”มันย้ายไปแบบเงียบๆ ผมมาโรงเรียนถึงได้รู้ว่าไอ้ชัยมันย้ายไปแล้ว

[พ่อกูไม่ให้บอกอ่ะดิ นี่กูก็แอบรับโทรศัพท์นะเว้ย]

“มึงย้ายไปที่ไหน”ผมเริ่มโมโหแล้ว

“พวกพี่ว่านบอกว่าจะเล่นมึงด้วย ทิ้งเพื่อนทิ้งพี่”พวกนี้จะรักพวกพ้องกันมากชนิดที่เจ็บแทนกันได้เลย มีเรื่องที่ไหนก็ยกพวกไปช่วยตลอด ผมไม่เคยไปด้วยหรอก เพราะถ้าผมไปอนาคตผมจบในห้องขังแน่ๆ คุกที่บ้านที่ป๊าขู่ไว้และผมเชื่อว่าป๊าทำจริง ตัดเงินผมก็ทำมาแล้ว แต่ก็ได้พวกพี่ว่านช่วยตลอด

[กูขอโทษ...กูย้ายมาต่างจังหวัด] ผมนิ่งงันไปด้วยความตกใจ นี่มันย้ายไปไกลขนาดนั้นเลยเหรอ

“มึงทิ้งกูได้ไงวะ”

[กูก็ไม่ได้อยากย้ายนะเว้ย แต่พ่อกู...พ่อกูไม่อยากให้กูคบกับมึง] คำตอบของมันทำผมช็อคมากไปอีก

“ทำไมวะ..”ผมเริ่มโมโหขึ้นมา

[ หัดย้อนมองพฤติกรรมของมึงสิไอ้ติน กูไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องหนักๆอีกแล้วว่ะ กูไม่โทษมึงนะเรื่องที่กูเลว อันนั้นเพราะกูเลวเอง แต่ที่กูห่างๆกับมึงไปเพราะกูไม่ชอบกลุ่มพี่ว่าน มันอันตรายเกินไปกูเป็นห่วงมึงนะไอ้ติน มึงนึกถึงป๊ากับม๊ามึงบ้างดิวะ อีกอย่างกูอยากเข้ามหา'ลัยดีๆ กูอยากตั้งใจเรียนโดยที่ไม่ต้องมาพะวงเรื่องพวกนี้ ไอ้ตินมึงฟังกูนะ มึงเป็นเพื่อนกูเสมอ กูย้ายมาที่...ถ้ามึงอยากมาเมื่อไหร่ก็ตามมา แล้วมาเรียนด้วยกันนะเว้ยติน] จากนั้นมันก็วางสายไปเลย. ผมรู้สึกแย่มากจริงๆ ทั้งเรื่องที่พ่อมันไม่อยากให้คบกับผม หรือความจริงที่ว่าผมมักจะดึงมันเข้าไปสู่เรื่องแย่ๆโดยชอบอ้างคำว่าเพื่อน

ผมกลับบ้านในรอบหลายเดือน รู้สึกห่อเหี่ยวไร้ชีวิตชีวาสุดๆ ป้าน้อมที่กำลังตัดดอกกุหลาบอยู่เงยหน้ามองผมทันที

“หนูติน”ป้าน้อมดูงุนงงที่เห็นผมแต่ก็รีบเข้ามากอดผมพร้อมกับหอมแก้มผมทั้งสองข้าง

“ป้าน้อมครับ ผมโตแล้วนะ”ผมเบี่ยงตัวออก

“อะไรกันคะ เมื่อปีก่อนหนูตินของป้ายังหอมแก้มป้าก่อนไปโรงเรียนทุกวันอยู่เลย ไหน หอมแก้มให้ป้าชื่นใจที”ผมขมวดคิ้วตั้งใจจะเดินหนีแต่รอบยิ้มของผู้ใหญ่ตรงหน้าก็ทำให้ผมยื่นหน้าไปหอมแก้มทั้งสองข้าง

“จะชื่นใจกว่านี้ถ้าไม่มีกลิ่นบุหรี่ มา เข้าไปด้านในกันค่ะ”คำพูดของป้าน้อมกระทบใจผมเต็มๆ เมื่อก่อนตอนม.สี่ผมเหมือนเป็นคนละคนกับตอนนี้เลย เหมือนสีขาวกับดำ และตอนนี้ปีศาจในตัวผมก็แผลงฤทธิ์ออกมาแล้ว หรืออาจจะเพราะที่ผ่านมาเป็นแค่เปลือกนอกที่ผมเสแสร้งมาตลอด ภายในบ้านเงียบสงบตามปกติ ปกติตั้งแต่ที่ผมเกเร ป้าน้อมเอาขนมป้าน้อมเอาขนมมาให้ผมกับน้ำมาให้ผม

“ป๊ากับม๊าไปไหนครับ”ผมถามเมื่อบ้านมันเงียบมากเกินไป ตอนเข้าบ้านผมก็ไม่ได้สังเกตุว่ารถของป๊าอยู่รึเปล่าด้วยสิ ป้าน้อมมีสีหน้าอึดอัดขึ้นมา จนผมสังเกตุได้

“บอกผมมาเถอะครับ”

“คือ..พวกคุณท่านไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นน่ะค่ะ”นี่เป็นเรื่องที่ทำให้ผมช็อคอีกรอบ ไม่เคยเลยสักครั้งที่ป๊ากับม๊าจะไปเที่ยวกันสองคน ไปไหนก็พาผมไปด้วยตลอด แล้วญี่ปุ่นก็เป็นที่ที่ผมอยากไปด้วยแล้วทำไมสองคนนั้นถึงหนีผมไปกันสองคนแบบนี้

“หนูติน”ป้าน้อมเรียกเบาๆเมื่อเห็นผมนั่งนิ่งไปนาน ป้าน้อมเองก็อยู่กับผมมานานพอจะรู้ว่าผมเป็นคนแบบไหน

“พวกเขาไม่รักผมแล้วใช่ไหม เพราะผมทำตัวเกเรใช่ไหมครับ ป้านอม”ผมพิงโซฟาเหมือนคนหมดแรง เพื่อนสนิทก็ทิ้งผมไปแล้ว ป๊ากับม๊าก็มาทิ้งผมอีก แต่ผมจะไม่ร้องไห้หรอก เพราะผมรู้ รู้ว่าเพราะอะไรถึงเป็นแบบนี้ ป้าน้อมไม่ได้ตอบอะไรแต่เข้ามากอดผมแทน

“คุณหนูกลับมาอยู่ที่บ้านเถอะนะ กลับมาเป็นเด็กดีของป้าเถอะค่ะ”

“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ”ผมถอนหายใจเบาๆ

“สำหรับป้ายังไงหนูตินก็เป็นเด็กเสมอ”ผมได้แต่ยอมให้ป้าน้อมกอดอยู่แบบนั้น คิดทบทวนเรื่องต่างๆไปด้วย ที่ผ่านมาผมทำร้ายความรู้สึกของป๊ากับม๊ามามากจริงๆ ทั้งคำพูดก้าวร้าวและการกระทำแย่ๆ ทำตัวเหลวไหล เลวร้ายถึงขั้นลองสิ่งผิดๆ โดดเรียนไปมั่วสุม ผมนี่ทำตัวเหมือนกุ๋ยข้างถนนเข้าไปทุกวัน ทั้งๆที่ผมมีบ้านที่อบอุ่นคอยต้อนรับอยู่แท้ๆ เหมือนเรื่องของไอ้ชัยและป๊ากับม๊าเป็นการเรียกสติของผมให้กลับมาอีกครั้ง

“ป้าน้อมครับ เดี๋ยวผมกลับมานะ”ผมจะต้องไปจัดการเรื่องพี่ว่าน ผมอยากออกจากกลุ่ม

“จะไปไหนคะคุณหนู”สีหน้าของป้าน้อมไม่ดีนัก ผมยิ้มให้ท่านวางใจ

“ผมออกไปทำธุระ ถ้าผมกลับดึก วานโทรบอกป๊าให้ผมด้วยนะครับ”ผมแค่รู้สึกแปลกๆว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ ผมรีบออกมาจากบ้าน มีป้าน้อมตามออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ

“คุณหนู อย่าไปเลยนะคะ”แต่ผมไม่ได้ฟังที่ป้าน้อมพูด ผมต้องไปคุยกับพี่ว่านให้ชัดเจน แต่ระหว่างที่ขี่รถออกมาจากซอยบ้านได้ไม่นานผมก็รู้สึกตัวว่ามีรถโซนิคขี่ตามมาสองคัน ผมใจหายวูบ ลืมไปว่าตอนดึกๆมันอันตรายแค่ไหน แถมผมก็ไม่ได้ใส่หมวกกันน็อคอีก ผมรีบบิดรถหนีแต่โซนิคเครื่องแรงก็ขี่ตามมาทันก่อนที่จะยกขาถีบที่ข้างรถของผมเต็มแรง ทำให้รถล้มทันที ผมมึนงงไปหมด รู้ตัวอีกทีก็ถูกหนึ่งในนั้นกระชากให้ลุกขึ้น มันเปิดหมวกกันน็อคขึ้น

“ไอ้แก๊ง”

“ดีที่ยังจำหน้ากูได้ วันนี้มึงตายแน่ เชี่ยว่านมันไม่ได้อยู่ช่วยมึงตลอดหรอกนะ”ไอ้แก๊งเข้ามาต่อยผมเต็มเเรง เพื่อนมันก็เข้ามาช่วย ผมโดนหมวกกันน็อคหนาๆฟาดจนมึน สวนกลับโดนพวกมันบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ ปวดหัวหนึบๆพอใช้แขนเช็ดก็มีของเหลวสีคล้ำเปื้อนมาด้วย

“มึงลากมันขึ้นมารถดิ”มันคว้าแขนพร้อมกับเอามีดปลายแหลมจี้ที่คอของผม ผมเหงื่อไหลเย็นเฉียบรับรู้ได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจในอก พวกมันเอาจริง ถ้ามันคิดจะปาดคอผมก็ทำได้ง่ายๆ ผมจำต้องขึ้นไปซ้อนรถไอ้แก๊ง เพื่อนมันอีกคนขี่รถของผมตามหลังมา

“ลูกพี่มึงก็ไม่น่ารอดหรอก มันรนหาที่ตายแท้ๆ ถ้าไม่แส่มายุ่งเรื่องมึงก็ไม่ต้องโดนหางเลขไปด้วยหรอก ไอ้พวกช่างยนต์ก็เหมือนกัน หึ”ไอ้คนที่เอามีดจี้คอหอยผมอยู่กระซิบเบาๆ ที่ผมกลัวคือเจอถนนเป็นหลุมบ่อถ้าหากมันพลั้งมือมีดแทงคอผมตายนี่ ไม่น่าดูแน่ๆ จนมาถึงโกดังเก็บไม้ร้างๆที่หนึ่งคาดว่าพ่อของใครสักคนคงเป็นเจ้าของ ผมถูกดึงเข้าไปด้านใน ใจหายวูบเมื่อเห็นว่าพวกพี่ว่านเกือบทั้งหมดมีสภาพไม่น่าดูเลย

“เรื่องแค่นี้มึงต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอวะ”ผมเริ่มเดือด มันลุกลามไปใหญ่แล้ว จากที่ผมกับไอ้แก๊งเขม่นกัน กลายมาเป็นเรื่องระหว่างสองกลุ่ม และพวกเด็กช่างที่อยากข่มอีกสถาบัน

“ถ้ากูกราบตีนมึง ก็จบใช่ไหม”ผมพูดเสียงนิ่งๆ เหมือนตาสว่างขึ้นมาว่าเรื่องพวกนี้มันไร้สาระแค่ไหน

“มึงอย่าทำแบบนั้นนะไอ้ติน”พี่ว่านมองมาที่ผมด้วยสายตาแข็งๆ

“หุบปากทั้งคู่นั่นแหละ วันนี้กูแค่จะสั่งสอนพวกมึง เอาคืนให้พี่ให้เพื่อนกูที่ต้องเจ็บหนักนอนอยู่ไอซียู เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะมึงไอ้ติน”ผมกำลังมึนงง เรื่องที่มีคนเจ็บหนักขนาดนั้นตั้งแต่ตอนไหน ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย ผมมองหน้าพี่่ว่านที่บวมช้ำเพราะโดนเล่นงาน ที่ผมแปลกใจคือพี่โย่กับแก๊งเด็กแว่นก็โดนเล่นงานด้วย หรือว่าพี่เขาจะมาช่วยผม

ผมเพิ่งเคยโดนรุมกระทืบหนักๆก็ครั้งนี้แหละ ระบมไปหมดทั้งตัวจนไม่อยากจะขยับตัว คนอื่นๆก็คงมีสภาพไม่ต่างจากที่ผมโดนแน่ๆ พี่ว่านนอนกองอยู่ใกล้ๆ ผมปรือตามองรอบๆเห็นไอ้แก๊งยืนสูบบุหรี่มองผมด้วยสีหน้าสะใจอยู่ ผมได้แต่หวังว่ามันจะไม่เล่นแรงกว่านี้ ผมได้ยินเสียงโวยวายดังมาแว่วๆ จำได้ว่าเป็นเสียงไอ้นัท ผมได้แต่นอนตัวชาวาบอยู่ที่พื้น..อย่าบอกนะว่ามันเล่นงานไอ้นัทด้วย ผมได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของไอ้นัทดังแว่วๆมา ไอ้แก๊งไม่ได้อยู่แถวนี้แล้ว ผมเหลือบมองรอบๆ เห็นว่าพี่ว่านกำลังดึงมีดพกเล่มเล็กมาจากถุงเท้า ผมได้แต่กลั้นหายใจหวังว่าจะไม่มีคนเห็น

“สัดว่าน”เสียงไอ้แก๊งดังขึ้น ผมเห็นพี่ว่านพุ่งเข้าไปหาไอ้แก๊ง ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไอ้แก๊งงอตัว เกิดเสียงดังปังดังสะนั่นและพี่ว่านกองอยู่กับพื้น นั่นยิ่งทำให้พวกช่างยนต์โกรธ ฮึดสู้อีกครั้ง ต่างจากผมที่ค่อยๆพยุงตัวเองหาที่หลบด้านหลังท่อนไม้ที่วางซ้อนกันไว้ แต่เท่าที่มองดูพี่ว่านไม่น่าบาดเจ็บมาก โทรศัพท์กับของป้องกันตัวของผมก็โดนยึดไปหมด ผมอยากโทรหาป๊ามากๆ ผมเชื่อว่าท่านจัดการเรื่องนี้ได้ ไอ้นัทคลานมาหาผม ที่ท้องแขนมันมีเลือดไหลเป็นทางจากการโดนของมีคมกรีด มันยื่นของบางอย่างมาให้ผมด้วยมือสั่นๆ ปืนสั้นเปื้อนเลือดของใครสักคน

“มึงเก่งไม่ใช่เหรอ”ผมคว้าปืนหนักๆมาถือไว้ พี่ว่านหายไปจากที่เดิมแล้ว ไอ้แก๊งยังคงนอนงอตัวเหมือนกุ้งอยู่ดูถ้าเลือดออกมากด้วย มันหันมามองผมเหมือนขอความช่วยเหลือ สภาพของมันทำผมลังเล ไม่รู้ว่าพี่ว่านแทงแล้วบิดมือรึเปล่าถึงได้เลือดออกเยอะขนาดนี้ ผมเหลือบมองไอ้นัท

“อย่าทิ้งกู มึงสัญญาไว้แล้ว”มันด้วยสีหน้ามีความหวัง

“กูเคยสัญญาด้วยเหรอ มึงบังคับกูทั้งนั้น”ผมยกยิ้มมองไอ้นัท ผมได้ยินเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด สถานการณ์เลวร้ายไปมากกว่าเดิมเมื่อเด็กช่างกลยกพวกมาอีก ไอ้แก๊งถูกหามส่งโรงพยาบาล มันเห็นว่าผมหลบอยู่แต่ก็ไม่ได้บอกใคร ไอ้นัทนั่งตัวสั่นอยู่ข้าง ๆ ผมสงสารเลยดึงแขนมันมาดูบาดแผล ดีที่โดนกรีดไม่ลึกมาก

“มึงไม่ออกไปช่วยพี่ว่านล่ะ มันกับพวกพี่โย่มาช่วยมึงนะ”ไอ้นัทกระซิบเบาๆ ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ออกไปช่วย เหตุผลสวยหรูก็เพราะผมไม่อยากทำเรื่องที่ป๊ากับม๊าสั่งห้าม เหตุผลทุเรศๆคือผมเห็นแก่ตัวและขี้ขลาดเกินกว่าจะออกไป ทั้งๆที่ผมถือปืนไว้ในมือ แต่ผมก็กลัว ผมเคยบอกไปแล้วว่าไม่อยากไว้ใช้ทำร้ายใคร

“เงียบๆ ไม่งั้นกูทิ้งมึงแน่”ผมขู่ ก่อนจะเงียหูฟังสถานการณ์ เดาได้ว่าพี่ว่านกำลังแย่

“ไอ้ตินมึงอยู่ตรงไหนวะ โผล่มา กล้าๆหน่อย”เสียงของใครสักคนดังก้อง พร้อมเสียงฝีเท้าหลายคู่ดังกระจายไปทั่ว ไอ้นัททำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“กูตายแน่ๆ เพราะมึงคนเดียวเลย”มันหันมาฟูมฟายใส่ผม ผมขึงตามองมันก่อนจะปิดปากมันด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะค่อยๆขยับเปลี่ยนที่เบาๆ แต่ไอ้นัทเลือดออกเยอะ ผมให้มันเอาชายเสื้อกดปากแผลไว้

“ไอ้ตินแม่งขี้ขลาดฉิบหาย พวกมึงมาช่วยมันแล้วได้อะไรวะ”ไอ้คนเดิมยังพล่ามต่อไป ผมค่อยๆขยับผ่านแผ่นไม้ที่วางซ้อนเป็นชั้นไปเบาๆ ไอ้นัทครางเมื่อจู่ๆก็มีเด็กช่างกลคนหนึ่งโผล่มาจ๊ะเอ๋กับผมเข้า ผมใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที แต่มันแปลกตรงที่ไม่ตะโกนบอกเพื่อนมัน

“ถ้าอยากออกไปจากโกดังก็ต้องจ่ายกูมาก่อน”

“ตอนนี้ไม่มี ถ้ามึงปล่อยกูกับ...”ผมเหลือบมองไอ้นัท

“กับไอ้นัทไป มึงอยากได้เท่าไหร่ก็บอกมา”มันทำหน้าคิด แต่ผมร้อนใจมากจนแทบจะเข้าไปกระชากคอเสื้อมัน

“ตามมา”ถึงจะไม่ทราบเหตุผลแต่ผมก็ตามมันไปเบาๆเหมือนมันจะรู้เส้นทางในโกดังดี มันพามาที่ช่องเล็กๆ พอให้ลอดผ่านได้ ผมมองหน้ามัน

“มึงคงรู้ว่าจะติดต่อกูได้ที่ไหน”มันพยักหน้า ผมจึงรีบกระเสือกกระสนลอดผ่านช่องแคบๆนั้น สภาพไม่ต่างจากหมาจนตรอกเลยจริงๆ ถึงจะเจ็บใจแต่ผมไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรกับเรื่องพวกนี้อีกแล้ว ผมยอมรับว่าเห็นแก่ตัวแต่ผมไม่อยากเอาอนาคตมาทิ้งไว้ในที่แบบนี้ ผมดันตัวเองออกมาสำเร็จ ไอ้นัทตามมาอย่างเชื่องช้า ผมกลัวจะเสียเรื่องจึงช่วยดึงมันออกมา

“ติน กูแสบแผล”มันครางเบาๆ ผมกวาดตามองรอบๆ ตรงนี้คงเป็นหลังโกดัง มีแต่ป่ารกเรื้อ แต่ผมเห็นแสงแวบๆลอดมาจากสมทบพุ่มไม้จึงคิดว่ามีถนนอยู่ด้านนอกแน่ๆ ผมพยักหน้าให้ไอ้นัทตามมา นี่เป็นประสบการณ์ที่ผมจะไม่มีวันลืมเลย เดินฝ่ามาได้ไม่นาน ก็เกิดเสียงดังปังขึ้นอีกครั้งจากในโกดัง ใครเป็นอะไรอีก...ผมหยุดชะงักอย่างลังเล แต่ไอ้นัทคงกลัวตายมากกว่ามันเลยเดินนำไปก่อน ผมเหลียวมองด้านหลัง นึกถึงพี่ว่าน พี่โย่และคนอื่นๆแล้วจุกในอกขึ้นมา บางทีในตัวผมอาจจะมีสีดำมากกว่าสีขาวก็ได้




(ต่อ)
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 30-09-2015 19:01:53


ผมรอดจากสถานการณ์นั้นมาได้อย่างหวุดหวิด มีผู้ใหญ่ใจดีให้ผมยืมโทรศัพท์ ผมจึงโทรหาลุงที่มีตำแหน่งในสน.ให้ไปจัดการพวกที่โกดัง ใครพอมีเส้นก็รอด ส่วนที่เหลือก็โดนจัดการไปตามระเบียบ ป๊ากับม๊าไม่ได้ไปญี่ปุ่นจริง หลังจากที่กลับมาบ้านพวกท่านเลยพาผมไปโรงพยาบาลในเมืองที่ไกลจากบ้านมาก คงเพราะกลัวพวกเด็กช่างกลแน่ๆ

ผมไม่ทันได้จ่ายค่าตอบแทนคนที่ช่วยผมออกจากโกดังเลยด้วยซ้ำเพราะป๊ากับม๊าย้ายที่อยู่กะทันหัน โชคดีที่ย้ายมาที่เดียวกับไอ้ชัย ป๊าเองซื้อบ้านไว้ก่อนแล้ว พวกท่านคงคิดเรื่องนี้อยู่ตลอดล่ะมั้ง ผมต้องเข้าเรียนม.ห้าใหม่เพราะเกรดแย่มาก  เจอไอ้ชัยบ้างบางครั้ง ยังเข้าหน้ากันไม่ค่อยติดไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน ส่วนตัวผมนั้นเหมือนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ตอนแรกผมก็เกรงๆว่าจะมีคนตามมาเอาเรื่อง แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น แต่เห็นเสื้อช็อปเด็กช่างยนต์ทีไร ผมไม่สบายใจทุกครั้ง กับพี่ว่านและคนอื่นๆผมก็ไม่ได้ติดต่อไปอีกเลยตั้งแต่เกิดเรื่อง จึงไม่รู้ชะตากรรมของพวกนั้นเลย

“มึงโอเคแล้วใช่ไหมวะ”ไอ้ชัยเข้ามาถามเป็นครั้งแรกหลังจากผ่านไปร่วมเดือน

“อืม ก็ดีกว่าเมื่อก่อนแล้ว เออ แล้วมึงจะเข้าคณะไหน”ไอ้ชัยกำลังเตรียมสอบเข้ามหา'ลัยแล้ว ส่วนผมต้องรอไปอีกปี อิจฉาเหมือนกัน

“เกษตรว่ะ กูเบื่อวิศวะพวกช่างทั้งหลาย”ไอ้ชัยหัวเราะอย่างไร้อารมณ์

“กู...ทำเรื่องแย่ๆไว้”ไอ้ชัยตบบ่าผมเบาๆ

“อย่าไปคิดให้ปวดหัว ตอนนี้มึงเป็นคนใหม่แล้วนะเว้ย” ผมพยายามจะมองทุกอย่างในแง่ดี จนอะไรเริ่มเข้าที่เข้าทางและผมจะเก็บเรื่องนี้ไว้ให้ลึกที่สุด เพราะผมไม่อยากพูดถึงมันอีกแล้ว จนผมเลื่อนชั้นขึ้นม.หก ไอ้ชัยติดต่อมาบอกว่ามันจะรอสอบเข้าพร้อมผม เพราะมันไม่ติดเกษตร แต่ไปติดวิศวะแทน (คณะที่มันเกลียด) ผมก็ดีใจอยู่นะ อย่างน้อยๆมันก็เข้าปีหนึ่งช้าเหมือนผม....

......

...

นั่นคือเรื่องทั้งหมดที่ไอ้ตินเล่าให้ผมฟัง สรุปว่ามันสร้างเรื่องเองแล้วหนีมาสินะ และคนในกลุ่มมันก็ไม่ได้โดนทำร้ายตามที่มันเล่ามาก่อนหน้านี้ ยกเว้นไอ้นัทที่เป็นแฟนเก่าไอ้ติน  ผมนอนมองดาวเรืองแสงบนเพดานอย่างมึนงง มีหลายเรื่องที่ผมอยากพูดแต่ก็พูดไม่ออก  เรื่องบางเรื่องที่มันเคยเล่าให้ฟังมันก็โกหกผมมานานแล้ว อย่างเรื่องที่มันย้ายมาที่นี่ตอนแรกมันบอกว่าย้ายมาหลังจากเรียนจบม.หก...แต่ผมก็เข้าใจที่มันต้องปิด มันคงไม่อยากให้ใครรู้เรื่องอดีตแย่ๆของมัน คงไม่มีใครอยากจำหรอก  ไอ้ภูขยับตัวอยู่ข้างๆ เหมือนไม่รู้จะพูดอะไร ผมหันไปมองไอ้ตินที่นอนเอาแขนก่ายหน้าผากก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ

“มึงโอเคไหม”เพราะสีหน้ามันดูไม่ดีเลย ไอ้ตินยิ้มก่อนจะหันมามองผม

“มึงผิดหวังในตัวกูไหม ที่ทำแบบนั้น กูทิ้งทุกคนที่รักกูแล้วหนีเอาตัวรอดมา”

“กูไม่เคยตั้งความหวังในตัวมึงอยู่แล้วไอ้ติน”ผมไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นคนดีหลังจากที่มันรวมหัวกับไอ้ภูทำเรื่องแย่ๆกับผม

“แล้วอีกอย่าง ถ้าเป็นกู กูก็เลือกชีวิตตัวเองก่อนนั่นแหละ”เพราะผมมันเป็นประเภทที่ไม่ยอมเจ็บตัวเพื่อใครหรอก ผมไม่ใช่พระเอกอ่ะ ยกเว้นคนที่ผมรักมากจริงๆถึงจะยอมทำแบบนั้น

“เรื่องมันต่างกัน อย่างมึงกูไม่แปลกใจหรอก”ไอ้ตินแย้งมาเบาๆ

“ทำไมวะ ถ้ามึงอยู่ช่วยลูกพี่มึง มึงจะดูเท่ห์ขึ้นมาหรือไง”ไอ้ภูแทรกขึ้นมา ผมได้ยินไอ้ตินพ่นลมหายใจออกมา

“พี่ไม่ต้องมาพูดหรอก ผมรู้ว่าถ้าเป็นพี่ ยังไงพี่ก็ไม่ยอมหนีออกมาคนเดียวแน่ แถมยังโกหกเล่าเรื่องให้ตัวเองดูดีอีก ขอโทษนะ ที่ต้องโกหกไปแบบนั้นทั้งๆที่กูหนีแบบคนขี้ขลาดมา ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะปิดมึงนะ ที่ไม่อยากให้มึงเข้ามายุ่งเรื่องนี้เพราะที่ไม่อยากให้มึงรับรู้เพราะกู..ไม่อยากให้มึงรู้จักอีกมุมของกู”ไอ้ตินถอนหายใจ ผมเลยเอื้อมมือไปจับมือมันไว้ก่อนจะหัวเราะ

“ถึงกูจะตกใจอดีตของมึง แต่มันก็ผ่านไปแล้ว ที่มึงทำได้คือแก้ไข กูไม่รู้สึกอะไรหรอกที่มึงเลือกหนีออกมาเอง อย่างที่กูบอกไง กูไม่คิดว่ามึงจะเป็นคนดีขนาดนั้น”คำพูดของผมทำให้ไอ้ตินยิ้มออกเป็นครั้งแรก

“กูควรต้องรู้สึกยังไงวะ”

“เออ ไอ้ตินถ้ามึงเข้าเรียนปีหนึ่งช้าไปหนึ่งปีงั้นมึงก็อายุเท่ากูอ่ะดิ แล้วเรียกกูว่าพี่ทำไม”ไอ้ภูทำหน้างงๆ

“เพราะผมนับถือพี่เป็นเหมือนพี่ชายคนหนึ่งของผมไง”ไอ้ตินตอบเบาๆ

“แต่พี่ไม่ต้องกลัวนะ ผมไม่ปล่อยให้พี่มีจุดจบเหมือนพี่ว่านหรอก”มันหัวเราะขึ้นมาแต่เป็นเสียงหัวเราะที่หดหู่สำหรับผม

“เฮ้ย ไอ้ติน เอาจริงนะเว้ย ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นจริงๆ มึงไม่ต้องมาปกป้องกูหรอก มึงห่วงตัวมึงเองเถอะ ส่วนกูคิดยังไงกับเรื่องนี้มึงก็ไม่ต้องถามด้วย”ไอ้ภูพลิกตัวมานอนตะแคง ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าไอ้ภูมันรักพวกพ้องจะตาย ไอ้ตินเงียบลงอีกครั้ง สายตาทอดมองดาวเรืองแสงบนเพดาน 

“มึงจำตอนที่ไอ้นัทมาก่อเรื่องได้ไหม”ไอ้ตินพูดขึ้นมาอีกครั้ง

“อืม ทำไมวะ”เรื่องไหนที่เกี่ยวกับไอ้นัท ผมจำได้ดีเลยล่ะ ทั้งๆที่บางเรื่องอยากจะลืมก็เถอะ

“ปืนกระบอกนั้นที่มันเอามาให้กูเมื่อตอนม.ห้า คือปืนกระบอกเดียวกันกับที่กูใช้ขู่มัน ตลกดี”ไอ้ตินพูดขึ้นมาเบาๆก่อนจะถอนหายใจ อาจจะฟังดูไม่มีอะไรมาก แต่มันคงรู้สึกไม่ดีล่ะมั้ง

“แต่ถ้ากูมีมึงเป็นศัตรูกูว่ามึงน่ากลัวนะ”ไอ้ภูพึมพำขึ้นมา

“มีแต่คนบอกแบบนั้น”มันยกยิ้ม ผมคิดถึงเรื่องพี่ว่านของมัน พี่เขาจะรู้สึกยังไงนะ...หลังจากที่ไอ้ตินทำแบบนี้ แล้วหายหัวไปเลย ยังจะชอบไอ้ตินอยู่รึเปล่า

“สรุปแล้วโจทก์ของมึงมีแค่พี่ว่านอะไรนั่นคนเดียวใช่ไหม”

“อาจจะหลายคน พี่โย่ด้วย เด็กแว๊นอีกล่ะ รึไอ้เด็กช่างกลที่กูเบี้ยวเงินมันอีก"ผมหัวเราะเมื่อได้ยินประโยคหลัง

“แล้วทำไม มันถึงเพิ่งมาเอาคืนมึงล่ะ”ไอ้ภูถามเหมือนมันจะตื่นเต้น จนผมรู้สึกได้

“เท่าที่ผมเดา พ่อพี่ว่านคงจัดการลงโทษอะไรสักอย่างแน่ๆ เพราะผมคิดว่าเรื่องคราวนั้นก็เป็นข่าวใหญ่อยู่เหมือนกัน ดีที่ผมเส้นใหญ่เลยกลายเป็นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องไป นี่ขนาดผ่านไปนานแล้ว พี่เขาคงยังเจ็บใจอยู่ เลยอยากจะเอาคืนผมล่ะมั้ง ที่ไอ้นัทโดนเล่นงานจนอยู่ไม่ได้ก็เพราะมันไม่ยอมบอกที่อยู่ของกู ไอ้พวกช่างยนต์ที่มาเล่นงาน มันบอกว่าพี่ว่านให้โอกาสกูมานานแล้ว แต่กูก็ไม่ได้ไปแม้แต่ขอโทษ กูทำเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ”มันถอนหายใจอีกครั้ง ผมเลยได้แต่บีบมือมันเบาๆเพราะไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไรดี

“พี่เขาอาจจะไม่ทำอะไรมึงก็ได้”ผมมองโลกในแง่ดี ไอ้ตินพลิกตัวมามองผม

“โลกสวยจัง”มันบิดจมูกผมแรงๆหนึ่งที

“แล้วพวกไอ้แก๊งล่ะ มันจบเรื่องกับมึงแล้วใช่ไหม”ไอ้ภูถามขึ้นมา

“ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่ได้ข่าวมันเลย แต่ที่มันโดนแทงไปคราวนั้นก็เจ็บหนักพอดูเลย”

“ระวังไว้ด้วยนะเว้ย เกิดมันยังไม่หายแค้น”ไอ้ภูเตือน

“แล้วที่มึงคุ้นหน้าเด็กช่างนี่หมายความว่าไง”

“ไม่มีอะไรหรอกแค่หน้าคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนเฉยๆ”มันไหวไหล่

“กูเผลอคิดมากเลย มึงรู้ไหม”ไอ้ภูหัวเราะก่อนจะยกตัวมองหน้าไอ้ติน

“แต่มึงดีนะ ที่กลับใจทัน เป็นกูคงเตลิดตั้งแต่รู้ว่าเพื่อนทิ้ง พ่อแม่หนีไปเที่ยวแล้วว่ะ”ไอ้ภูหัวเราะเบาๆ

“มึงมันเด็กขี้น้อยใจไง”ผมล้อเลียนไอ้ภู ผมก็นับถือไอ้ตินนะที่ตอนนั้นมันไม่คิดน้อยใจทำเรื่องให้เลยเถิด

“คือผมก็พอจะรู้ตัวไงว่าเป็นเพราะผมเอง ทุกคนถึงได้เปลี่ยน ตอนแรกก็คิดอยากจะประชดป๊ากับม๊า แต่ผมกลัว ถ้าเกิดว่าพวกท่านยิ่งโกรธผมแล้วหนีผมไปอีก ก็แย่น่ะสิ”ไอ้ตินหัวเราะเบาๆกับความคิดของตัวเอง

“มึงนี่คิดต่างจากกูจริงๆว่ะ”ไอ้ภูพึมพำเบาๆ สอดมือมาลูบพุงผมไปด้วย บรรยากาศค่อยผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง เรื่องเครียดๆไม่ค่อยเหมาะกับผมเลยจริงๆ

“เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่พื้นฐานการเลี้ยงดูและจิตใจเว้ย”ผมเข้าโหมดมีสาระ ไอ้ภูหยิกพุงผมเบาๆ

 “แต่กูว่าพวกมึงก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก ชั่วพอๆกันแหละ กูนี่โชคดีจริงๆ ได้คนชั่วๆมาตั้งสองคน”ผมพูดให้พวกมันสองคนผ่อนคลายลงบ้าง

“แล้วรักไหมล่ะ”

“เปลี่ยนอารมณ์ไวจริงๆนะพวกมึงเนี่ย”ผมยิ้มน้อยๆ

“ไม่อยากให้เครียดไปด้วยไง”ไอ้ตินเอือมมือมานวดตรงหว่างคิ้วให้

“แล้วไอ้พี่ว่านของมึงนี่…มึงเคยสนิทมากเลยเหรอ”ไม่ใช่อะไรหรอก ผมแค่อยากรู้เฉยๆเอง ไอ้ตินยกยิ้มมอง

“ก็สนิทอยู่นะ ตอนนั้นไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด”

“อ้อ…”

“ทำไม”

“เปล่า ถามเฉยๆ”ผมตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“ทำไมกลัวไอ้ตินมันจะชอบเหรอ”ไอ้ภูกระซิบใกล้ๆ มันทำสีหน้าตลกๆ

“บ้าดิ กูแค่ถามเฉยๆ”ไอ้ภูหัวเราะหึๆ ไอ้ตินขยับเข้ามานอนกอดผม

“นอนเถอะ ดึกแล้ว”มันพึมพำเบาๆ

“กูดีใจนะ ที่มึงเล่าเรื่องนี้ให้กูฟัง”อย่างน้อยมันก็ไม่คิดจะปิดบังผม

“กูแค่ไม่สบายใจ อีกอย่างกูก็คิดว่ามึงคงรับได้”ผมนอนลืมตามองดาวบนเพดานห้องเพราะนอนไม่หลับไปแล้ว เรื่องเก่าๆของมันสองคนนี่ทำเอาวัยเด็กของผมกลายเป็นเด็กไร้เดียงสาไปเลย แต่ก็อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ นิสัยแบบนี้หาที่ไหนไม่ได้แล้วจริงๆ ได้แต่หวังว่าการกลับไปบ้านเก่าของไอ้ตินครั้งนี้จะจบลงด้วยดี และคืนนั้นผมฝันแฟนตาซีมาก ฝันว่าผมกับพวกมันปล่อยพลังใส่ผู้ร้าย สงสัยเป็นเพราะฟังเรื่องบองไอ้ตินก่อนนอนมาแน่ๆ

 













TBC.

ตอนนี้ยกให้ตินเต็มๆ เรื่องปลิวรอให้จบเรื่องของตินก่อนเนอะ
สำหรับตัวละครของติน โดยพื้นฐานไม่ใช่คนโหดอะไร แต่จะออกแนวเยือกเย็นมากกว่า ไม่อย่างนั้นพี่แกคงจัดการฟิกเองคนเดียวแล้ว แต่เพราะตอนนั้นตินชอบฟิกจึงไม่อยากทำร้ายฟิกด้วยมือของตัวเอง (ยืมมือภูแทน) สรุปทั้งสามคนนี้ก็ไม่ได้นิสัยดีเด่อะไรเลยสักคนค่ะ ตินเองก็มีมุมที่เห็นแก่ตัวบ้าง ไม่มีใครดีใครชั่ว 100% คนศีลเสมอกันมักอยู่ด้วยกันได้  :z6: (โดนถีบ) สามคนนี้เลยคบกันไหลลื่นไง (เหรอ!)

เขียนงงๆขออภัยนะ เพราะปั่นตอนมึนๆ

(http://i.imgur.com/h4Xt7CGl.jpg)

ป.ล.รูปนี้คือตัวอย่างของที่เราจะแจกน้า รูปที่เอามาให้ดูเป็นแบบเฉยๆ ตรงจี้จะเป็น PFT (ภูฟิกติน) กติกาก็ง่ายๆเอง เล่นกันเถอะ เดี๋ยวแป้ก  :laugh: รอเร็วๆนี้นะ ตอบได้ทั้งในเพจและในเล้าเลย  :กอด1:


หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-09-2015 19:15:16
 o13.  สุดๆไปเลยติน
รอดูว่าจะจัดการยังไง
หวังว่าจะได้เคลียร์กับพี่ว่านแกดีๆ
สร้อยข้อมือโดนใจมากๆ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 30-09-2015 19:26:31
ง่าาาาาาา อดีตของตินนี่สุดยอดอ่ะ  อิพี่ภูดูเป็นคนดีขึ้นมาเลย 5555  รอดูตอนตินไปจัดการปัญหาที่ค้างคา รอดูสามผัวเมียเค้าช่วยกันคงจะน่ารักดี
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-09-2015 20:05:18
หวังว่าตินจะเคลียร์ได้นะ ภาวนาอย่าให้มีอะไรร้ายแรง
ฟิกนี่แอบหึงตินเรื่องว่านใช่ไหม
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 30-09-2015 20:05:36
จุดพุ!!
ร้ายใช่ยอกจริงๆด้วยสินะติน 55555+
แต่ก็นะ สำหรับคนเรา มันก็แบบนี้ คนเราทุกคนย่อมมีอีกด้านเป็นธรรมดา

ยังไงก็สู้ๆนะติน!!!
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 30-09-2015 20:24:49
เราเป็นพี่ว่านเราก็คงจะตามเคลียร์เหมือนกันนะ
เพราะตินทำให้หลายคนเจ็บมากๆ 
เรื่องนี้มันใหญ่จริงๆพอที่จะทำลายชีวิตใครหลายคนไปเลย
ที่จริงตินน่าจะพยายามกลับไปเคลียร์
หรืออย่างน้อยติดตามข่าวคนที่ตัวเองทิ้งไว้ข้างหลังบ้าง
พี่ว่านคือคนที่ตินควรเคลียร์มากที่สุด
เผลอๆลูกพี่ของเด็กช่างกลุ่มที่มากระทืบตินก็อาจจะเป็นญาติของคนในกลุ่มเดิมก็ได้

มาตอนนี้มันนานเกินไป ชีวิตใหม่ของตินก็เข้ารูปเข้ารอยแล้ว
ตินมีอะไรจะเสียมากกว่าตอนนั้น
แต่ที่คาใจก็คือทำไมถึงรอมานานขนาดนี้
มีตัวแปรอะไรหรือเปล่า?

เราชอบภูเพราะว่าภูอ่านง่าย เข้าใจง่าย
ถ้ารักก็รักสุดๆ ถ้าโกรธก็กระโดดด้านตรงข้ามเลย
รักเพื่อนพ้องมาก ไปทางดีก็ดี ไปทางเลวก็เลวไป

ตินเหมือนกระจกหักมุมสะท้อนไปมา 
ดูยาก อ่านยาก เดายาก ดูน่าค้นหา
แต่ก็อาจจะทำให้ผิดหวังก็ได้
เพราะมันอาจจะออกมาไม่เหมือนกับที่คิดไว้
ห่วงแต่ว่าตอนนี้อดีตของตินจะพาทุกคนไปพัวพันเท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 30-09-2015 20:27:53
ยังไม่อยากดราม่านะคะ
เพราะงั้นขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 30-09-2015 20:36:45
เปนคนสามคนที่อยู่ด้วยกันได้จริงๆ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 30-09-2015 20:44:32
ไม่มีใครดีไปหมดทุกอย่าง เหรียญยังมีสองด้าน สี่เหลี่ยมก็มีสี่ด้าน แล้วคนทำไมจะไม่มีด้านอื่นบ้างล่ะ เข้าใจตินนะ ตอนนั้นกำลังวัยรุ่นอยากรุ้อยากลองตามเพื่อนตามฝูงไม่ได้คิดอะไรมากนัก ถ้าคนเรารู้ล่วงหน้าก็คงไม่เกิดขึ้นหรอก แต่เพราะไม่รู้ไงมันถึงเกิดเรื่องขึ้นมา ถ้าถามว่าเรื่องที่เกิดมันร้ายแรงไหม มันไม่ร้ายแรงนะ ถ้าแค่ตินไปยุ่งกับนัทที่มีแฟนแล้ว แต่ก็เพราะตินไม่รู้และนัทก็ไม่ยอมเลิกกับตินหลังจากที่ตินเลิกแล้ว จนทำให้ไอ้แก๊งมาเอาเรื่องก็เพราะรู้สึกเสียหน้าที่โดนแย่งเด็กไป และในขณะที่ตินกำลังจะยอมเพราะสงสารชัยและตัวเองก็ไม่ได้เก่งกาจอะไร กลับมีตัวแปรมาช่วยทำให้รอดมาได้ แต่ไอ้คนที่ช่วยก็ดันชอบตินอีกทีนี้เลยกลายเป็นเรื่องความรักเข้ามาเกี่ยวด้วย พี่ว่านรักตินรักแบบที่ขออยู่ข้างๆช่วยเหลือตินไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ตินคิดแค่พี่ซึ่งตินก็บอกไปแล้ว พี่ว่านก็เข้าใจแต่เพราะตินเกิดปัญหาพี่่ว่านที่รักตินปล่อยไม่ได้ต้องมาช่วย เห็นใจตินนะในตอนนั้นคือ ใครก็ต้องรักตัวเองก่อนทั้งนั้น ใครจะอยากตาย ใครก็ต้องเอาตัวรอด และตินก็คิดจะกลับตัวด้วยเพราะไม่อยากให้ป๊ากับม๊าเสียใจ อยากเริ่มใหม่เหมือนที่ชัยได้เริ่ม แต่กลับกลายเป็นว่า ตินทำให้พี่ว่าน พี่โย่ และคนอื่นๆเจ็บตัวกันไปหมด โดยเฉพาะพี่ว่านเราว่าทั้งรักทั้งแค้นที่ตินไม่ยอมช่วยในตอนนั้น เรื่องนัทนี่คือไม่น่ามีอะไรแล้วก็แค่จุดเริ่มต้นของเรื่อง ส่วนกลางถึงท้ายเรื่อง คือพี่ว่านกับติน  :เฮ้อ: ดีแล้วที่ตินตัดสินใจเล่าให้ฟิกกับภูฟัง ไม่มีใครสมน้ำหน้าหรอก ต้องไปอยู่จุดนั้นถึงจะรู้ว่าเป็นยังไง ภูก็รู้เพราะตัวเองก็ผ่านมาแล้วเช่นกัน ภูถึงเข้าใจว่าพวกเด็กช่างจะรักศักดิ์ศรี รักพวกพ้องมากไม่ว่าจะถูกจะผิดยังไงก็ช่วยพวกเดียวกันก่อน ยังไงก่อนจะกลับไปก็ขอให้ทั้งสามคนหาทางออกให้ดีๆ อย่าประมาทไปกันแค่นั้น อย่างน้อยตินลองติดต่อว่านไปก่อนเพื่อเป็นการดูทีท่าการพูดจาว่าลักษณะแบบไหน เชื่อว่าตินต้องฟังออก จะได้รับมือได้ เอาเถอะอะไรเกิดก็ต้องเกิด อดีตมันย้อนไม่ได้ ก็แก้ไขปัจจุบันแล้วกัน ขอให้ทั้งสามหน่อปลอดภัยเรื่องจบด้วยดีจะได้กลับมาใช้ชีวิตด้วยกัน แต่ยังไงต้องระวังฟิกไว้ด้วย ถ้าว่านรู้ต้องเล่นฟิกเหมือนที่นัทเคยเล่นแน่ๆ สู้ๆทั้งสามคน  :z2:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 30-09-2015 21:14:33
พึ่งรู้อดีตของติน ดีแล้วละที่ไม่ไปชอบพี่ว่านแล้วมาเจอกับฟิกแทน
สร้อยข้อมือสวย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 30-09-2015 21:38:47
ตินก็อยู่สายดาร์กมาก่อน
หนูฟิกจะทำไรก็คิดดีๆก่อนน่ะ
ทั้งพี่ภูทั้งตินสายดาร์กทั้งนั้น
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 30-09-2015 22:11:58
เข้าใจตินนะตอนหนีออกมา เป็นใครก็คงเลือกชีวิตตัวเองไว้ก่อน
แอบขำตอนฟิกเปรียบกับตัวเอง 555555555555555555555
ถ้าเป็นฟิกอะไม่แปลกเว้ย 5555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 30-09-2015 23:27:12


ตินแสบมาก พี่ว่านคงแค้นหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 01-10-2015 01:15:02
โอะ นึกว่าพี่ตินตอนเด็กจะร้ายสุดๆซะอีก ที่ไหนได้  :เฮ้อ: ยอมรับว่สผิดหวังกับนิสัยตอนนั้นของพี่ตินนิดๆนะแบบไม่เคยคิดอยู่ในหัวเลยว่าพี่ตินจะเป็นคนแบบนี้ แต่ถึงยังไงก็ยังรักพี่ตินนะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 01-10-2015 08:43:23
อืม เอาใจช่วยให้ตินปลอดภัย ไม่มีอะไร
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 01-10-2015 13:56:57
สอบเสร็จปุ๊บก็จิ้มมาเรื่องนี้ก่อนเลย ขอไปอ่านก่อนนะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 01-10-2015 20:09:21
ถ้าตามความเป็นจริง ตินเลือกถูกนะ เพราะถึงยอมออกไปตอนนั้น มีแต่ตายกับตาย แล้วป๊ากับม๊าจะทำยังไง

และคนที่มีเอี่ยวด้วยเพราะติน อย่างพี่ว่าน น่าจะดีใจที่คนที่ตัวเองชอบ มีชีวิตรอดต่อไป

ไม่น่ามาตามจองล้างกันเลย

สนุกๆ อยากอ่านต่อไป รีบมาต่อเลย  :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 02-10-2015 01:49:46
เรื่องของติณนี่จะจบยังไงหนออ ดูทุกคนแค้นฝังหุ่นอ่ะน่ากลัวววว

หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนที่๑๑ ติน [ครึ่งหลังP.12]30-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 02-10-2015 12:36:11


 เป็นสร้อยข้อมือ PFT (ภูฟิกติน เมื่อผมเป็นชู้ฯ) ของรางวัลมีแค่สามเส้นเท่านั้น อาจจะไม่สวย เค้าแจกด้วยใจนะ♡
กติกาง่ายๆเพียงแค่ตอบคำถามดังต่อไปนี้
 ไม่จำกัดความยาวค่ะ แล้วแต่สั้นๆก็ได้ เลือกจากคอมเม้นที่โดนใจ เล่นเถอะๆ :mew1:
ป.ล จะตอบในเพจหรือในเล้าก็ได้ค่ะ

หมดเขตวันที่ 5 /10/58


(http://i.imgur.com/Re5jPDj.jpg)

หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #มีของมาแจก [P.12]2-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: nadty27 ที่ 02-10-2015 13:29:38
-คำจำกัดความของนิยายเรื่องนี้
= หื่น โหด เถื่อน
-ชอบตัวละครไหน เหตุผลประกอบ
=.ชอบติน เพราะ ดูเหมือนเป็นผู้ชายเรียบๆมีดีแค่หน้าตา แต่ๆที่จริงดันมีออร่าดาร์คๆ ชอบบบบ~
-ชอบฉากหรือประทับใจตอนไหน
= ชอบและประทับใจตอนที่ฟิกพาตินและภูไปเปิดตัวที่งานเลี้ยงของบริษัท ชอบตรงที่ฟิกให้ความสำคัญกับสามีทั้งสอง ฟินนนนน
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #มีของมาแจก [P.12]2-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: blackcat07 ที่ 02-10-2015 17:27:25
แก๊ง x ว่าน มะ อิอิ  :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #มีของมาแจก [P.12]2-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 02-10-2015 18:43:55
คำจำกัดความของนิยายเรื่องนี้
-หื่นค่ะ แล้วก็คงจะเถื่อนด้วย ทุกคนเถื่อนหมดทั้งตินทั้งพี่ภู ฟิกก็เถื่อนนะ
เถื่อนตรงไล่เป็นชู้กับเมียชาวบ้านนี่แหละ ไม่เถื่อนจริงทำไม่ได้ 555555555555555

ชอบตัวละครไหน เหตุผลประกอบ
-ชอบติน คือชอบผู้ชายแบบตินอยู่แล้ว..ชอบพวกหน้ายิ้มๆแต่ใจโฉด(?) เป็นคนที่มีอะไรในความไม่มีอะไรดี 55555555
ดูภายนอกเหมือนไม่มีอะไร เล่นด้ยวง่ายๆ แต่ความจริงแล้วมี มันเท่ดี 55555555

ชอบฉากหรือประทับใจตอนไหน
-ชอบฉากที่ตินกับพี่ภูไปตามง้อฟิกที่บ้านเกิดฟิก ตอนที่ขึ้นภูเขากันแล้วฟิกตื่นไปดูพระอาทิตย์
จากนั้นพี่ภูก็เข้ามายืนข้างๆแล้วบอกประมาณวิวสวย ถ้าได้มากับเมียนะ 55555555555555
คือพี่ภูน่ารัก 5555555555 ชอบที่ฟิกถึงกับทึ้งหัวตัวเอง ตอนสองคนนี้ตามง้อเป็นอะไรที่น่ารักดีค่ะ 55555

 
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #มีของมาแจก [P.12]2-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: mam.nalok ที่ 02-10-2015 19:05:56
คำจำกัดความของนิยายเรื่องนี้
# ฮาแบบดิบๆ

ชอบตัวละคร
# ชอบติน เพราะตินค่อนข้างมีเหตุผลใช้เหตุผลในการพูดคุยไม่ใช้อารมณ์ และที่สำคัญเป็นคนที่สามารถเอาฟิกและภูอยู่

ชอบฉากไหน
# ชอบตอนที่ฟิกอัดคลิปร้องเพลง ไอ แอม ซอรี่ มันประทับใจมาก5555 นี่ลงทุนกลับไปเปิดดูเลยเพลงฟังเลยนะ เพราะเพลงมันเก่ามากกกกกกกกกจำดนตรีไม่ได้ละ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #มีของมาแจก [P.12]2-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 02-10-2015 19:27:30
-คำจำกัดความของนิยายเรื่องนี้
= โคตรเถื่อนและหื่นมาก
-ชอบตัวละครไหน เหตุผลประกอบ
=.ชอบภู ปากหนัก.. กวนตีน เถื่อน แต่รักฟิกมาก
-ชอบฉากหรือประทับใจตอนไหน
ชอบฉากตอนที่ภูกับตินรวมหัวกันมากระทำชำเรา แม่งโหดได้ใจ
อ่อๆ มีอีกตอน ตอนที่ลงโทษฟิก ใส่สองอันคู่


เอ๊ะ ทำไมเราหื่น 55555555555555555555  :katai1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #มีของมาแจก [P.12]2-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: logic.pt ที่ 02-10-2015 19:48:03
คำจำกัดความของนิยายเรื่องนี้

-ฟิกควบสอง-..-

ชอบตัวละครไหน เหตุผลประกอบ

-ชอบฟิก นางน่าร้าก ดูฮ่าๆเกรียนๆ ตอนกลัวตินนางรักโฮกก(จิตนิดๆ)

ชอบฉากหรือประทับใจตอนไหน

-ชอบตอนที่ฟิกโดนมอมยาจากเพื่อนพี่ภู แล้วภูตินดูห่วงนางมากๆๆๆ

สรุปรักฟิกที่สุดดดดดดดดดดด :o8:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #มีของมาแจก [P.12]2-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: laoped ที่ 02-10-2015 20:22:52
คำจำกัดความ: โหด มันส์ ฮา ซ่าส์ น่ารัก
ชอบตัวละครไหน: ติน เพราะว่าเปน ผช ที่น่ารัก อบอุ่น แอบรักฟิกมานานแล้วว ( นั้ลล๊าคค )
ฉากที่ชอบ: เอิ่ม ก็ฉากนั้นน่ะแหละ ... 555 เย้ย ชอบฉากตอนแรกๆเลยที่ภูกับติน มาจัดการความนิสัยเสียของฟิก มันน่ารักดีอ่ะ :)
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #มีของมาแจก [P.12]2-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 03-10-2015 22:15:54
* สามคนอยู่ด้วยกัน ดูแล้วมันส์ทั้งสามคน

* ชอบติน บุคลิกแบบตินน่าจะเป็นคนรักที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ ยังมีแถมให้สบายตัวได้อีกด้วย ฮ่าฮ่า

* ฉากที่ฟิกโดนลงโทษจากสองสามี เพราะอ่านตอนนั้นแล้วทำให้ใจมันสะอวยขึ้น ไม่ยอมจะลงอ่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #มีของมาแจก [P.12]2-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-10-2015 22:46:40
ขอระลึกแปป  ภาคแรกมันนานมากแล้ว. เราชอบซีนที่เพื่อนที่บ้านเกิดฟิกคิดว่าพี่ภูกับตินเป็นเมียฟิกจากเสียงกินตับกลางดึก ฮา แล้วนางฟิกก็กระหยิ่มอยู่ในใจ ความสุขชั่วครู่ของนางเล็กๆอะให้นางเถอะ
นอกนั้นก็แซ่บตลอดๆรวมถึงฉากซึ้งๆอีกเยอะแยะมากมาย

ชอบฟิกที่สุด เพราะฟิกเป็นตัวละครที่เราเกลียดและไม่เข้าใจในตอนแรกต่อมาเราเริ่มหลงรักนางเอ็นดูและยอมรับเมื่อนางมีความสุขกับสามีทั้งสอง 555

สุดท้ายคือนิยามของเรื่องนี้ ความมันส์แบบTripple.  :-[.

ขอบคุณสำหรับนิยายแซ่บๆค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #มีของมาแจก [P.12]2-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: AuyAaiz ที่ 03-10-2015 23:13:34
1.เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน ต่อมาชาวบ้านก็มาเป็นผัวผมเเทน
2.ชอบตินค่ะ เราชอบพระเอกอยู่แล้ว ตอนแรกสารภาพตรงๆเลยว่าเราอ่านชื่อ ติน เป็น ดิน แล้วเราชอบชื่อดินมากกว่าชื่อภู เขาจึงกลายเป็น
ความประทับใจครั้งแรกของเรา แม้ว่าจะรู้ทีหลังว่าชื่อตินก็เถอะ แต่ก็ชอบมาตลอด เพราะตินชอบฟิกมาก่อนอยู่ เป็นผู้ชายขรึมๆแอบโหด
สเป็คเราเลยอ่า
3.เราชอบฉากnc  ทุกฉาก มันค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับเรา คือเราไม่ได้อ่าน3พีเท่าไหร่
อาจเพราะว่าฟิก ติน ภู เคยเป็นรุกด้วยกันทั้งนั้น nc มันก็เลยดูดุดัน ยิ่งตอนลงโทษฟิกนะ
อ่านเสร็จเรานิเบลอเลย ไม่ได้สงสารฟิกนะแต่คือกำลังจินตนาการ เหอๆ
-ตอนอยู่ด้วยกันสามคนก็ดีเลยนะ มันทำให้เราเห็นผู้ชายสามคนเเมนๆอยู่กันยังไง
พี่ภูก็หื่นตลอด พี่ตินก็พ่อบ้าน อิจฉาฟิกจุง ชอบตอนตินเรียกแทนตัวว่าพี่ด้วย เราเขินแทน
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #มีของมาแจก [P.12]2-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 04-10-2015 00:36:16
:)
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #มีของมาแจก [P.12]2-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 07-10-2015 05:13:10
เรื่องเมื่อผมเป็นชูกับเมียชาวบ้าน คำกำจัดของนิยายเรื่องนี้ หื่น เถื่อน โหด
ส่วนฉากที่ชอบ คงเป็นฉากที่พี่ภูลุกเข่าง้อฟิกต่อหน้าคณะ แบบให้ความรู้สึกว่าพี่ภูรักและยอมฟิกคนเดียว
ตัวละครที่ชอบ พี่ตินค่า เพราะส่วนตัวชอบผู้ชายนิยานแบบนี้ แบบบทดีก็เหมือนเจ็าชายบทร้ายก็เหมือนซาตาน
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #มีของมาแจก [P.12]2-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 08-10-2015 07:51:18
 :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #มีของมาแจก [P.12]2-9-58
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 10-10-2015 16:27:42
เมื่อไหร่จะมา!!!
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #เข้ามาแจ้งข่าว[P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 10-10-2015 23:59:23


มาแจ้งข่าวอีกครั้งเนอะ  :hao5:

แค่แวะมาบอกว่าช่วงนี้เราหัวหมุนจริงๆค่ะ เลยยังไม่มีเวลาว่างปั่นสามหน่อ แต่ถ้าเป็นไทเมื่อไหร่จะกลับมาต่อให้ทันที
เค้าไม่ได้หายไปนะ
ป.ล.1 สำหรับของรางวัล เราประกาศคนที่ได้รับเเล้วนะ แต่ยังมีสองท่านที่ยังไม่ได้มาแจ้งชื่อที่อยู่ ถ้าเลยเกินวันพุธ ยังไม่ติดต่อเรามา เราขอเปลี่ยนไปให้คนอื่นแทนเนอะ  :hao5: ส่วนอีกสองท่านเราจะส่งให้ก่อนค่ะ
ป.ล. 2 รักและคิดถึงเสมอ  :กอด1:



หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #เข้ามาแจ้งข่าว[P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 11-10-2015 00:11:48
จะรอนะคะ  :-[
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #เข้ามาแจ้งข่าว[P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 11-10-2015 23:32:41
รอๆๆๆๆๆ ปูเสื่อนอนรอสามหน่อ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #เข้ามาแจ้งข่าว[P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-10-2015 09:14:04
รอๆๆๆๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #เข้ามาแจ้งข่าว[P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 13-10-2015 00:15:22
จะรอค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #เข้ามาแจ้งข่าว[P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 13-10-2015 21:16:44
รอเสมอ  :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #เข้ามาแจ้งข่าว[P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 14-10-2015 01:57:10
รอ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #เข้ามาแจ้งข่าว[P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 15-10-2015 10:45:38
มาให้กำลังใจค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #เข้ามาแจ้งข่าว[P.13]
เริ่มหัวข้อโดย: .hnk ที่ 15-10-2015 14:49:41
สู้นะ นายต้องผ่านไปได้นะ
รอออออออิ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #คั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 17-10-2015 01:58:07
ตอนคั่นเวลา
เนื้อหาไม่เกี่ยวกับตอนหลัก







“กูว่า...กูจะไว้หนวดว่ะ”ผมพูดขึ้นมาในช่วงสายๆวันหนึ่ง ขณะที่กำลังส่องกระจกอย่างพิจารณาเบ้าหน้าตัวเอง ไอ้ตินถึงกับโยนปากกาที่กำลังเขียนรายงานอยู่ทิ้ง หมุนเก้าอี้มามองผมด้วยสีหน้าไม่เห็นด้วย ส่วนไอ้ภูแค่มองหน้าผมเฉยๆ แต่มองด้วยสายตาน่ารำคาญชวนหงุดหงิด

“ให้โอกาสพูดใหม่”ไอ้ตินพูดขึ้นมาในที่สุด

“กูอยากไว้หนวด”ผมลูบไรหนวดจางๆที่เพิ่งขึ้น ผมแค่อยากเปลี่ยนแนวบ้าง เห็นไอ้เพื่อนตัวดีเดี๋ยวนี้มันทักว่าผมหน้าอ่อนไม่เข้มเหมือนเมื่อก่อน มันถึงเวลาแล้วที่ไอ้ฟิกจะทวงความมาดแมนกลับคืนมา ผมจะกลับมาฮาร์ดคอเหมือนเดิม วะฮ่าฮ่า หึๆ

“ทำหน้าอะไรของมึง ปัญญาอ่อน”เสียงมารผจญอย่างไอ้ภูแทรกมา ผมเพียงแค่ปรายตามองอย่างไม่สบอารมณ์ ไอ้ภูทิ้งโทรศัพท์ก่อนจะยันตัวมามองหน้าผม

“มึงจะไว้ทำไม”ไอ้ภูถามบ้าง

“จะได้หล่อๆ”

“ถุยย”มันสองคนพร้อมใจดูถูกผม

“อ้าวๆ อย่าหลบลู่นะครับ พี่หล่อมาดเข้มขึ้นมาแล้วจะหนาว”ผมทำท่ากุ๊ยกวนๆใส่พวกมัน

“กูไม่อยากมีเมียเป็นโจร กูไม่ชอบคนไว้หนวด เพราะฉะนั้นเลิกคิด”ไอ้ตินโบกมือไปมา ผมเลยเดินเข้าไปหามันพร้อมกับกอดอกมอง

“ทำไมวะ คนไว้หนวดแล้วทำไม”

“เออ ช่างกูเหอะ ไม่ชอบคือไม่ชอบ”ผมเลยโน้มตัวเข้าไปหามันพร้อมกับเอาหน้าถูไถซอกคออีกฝ่ายเพื่อพิสูจน์ว่าไว้หนวดนี่มันมีดีเหมือนกัน

“กูทำแบบนี้แล้วมึงเสียวไหม”ไอ้ตินชักสีหน้าหงุดหงิด มันผลักผมออกแต่ผมยังคงเอาหน้าซุกมันต่อไป มันเลยขยุ้มมือกำเส้นผมแน่นก่อนจะดึงจนผมหน้าหงาย

“โอ๊ยย ไอ้ติน ถ้าผมกูหลุดกูดึงของมึงกลับแน่”ผมถอยออกมาพร้อมกับนวดหนังหัวไปด้วย ไม่รู้ว่ามันได้ผมไปกี่เส้น มันยกยิ้มร้ายกาจ ผมควบคุมลมหายใจของตัวเองอีกครั้งก่อนจะมองหน้ามันสองคนด้วยสายตาจริงจัง

“กูยืนยันคำเดิมว่าจะไว้หนวด”

“ไว้แล้วก็ไม่ทำให้มึงแมนขึ้นมาหรอก ในเมื่อมึงยังโดนกูจิ้มแบบนี้”ไอ้ภูยกยิ้มกวนๆ ผมได้ยินแล้วปรี๊ดแตก

“เออ งั้นวันนี้มึงห้ามจิ้มกู มึงด้วย”ผมชี้หน้าไอ้ภู ก่อนจะเลยไปชี้ไอ้ติน วันนี้ครบกำหนดหนึ่งอาทิตย์พอดีหลังจากที่พวกมันได้แค่แทะเล็มเบาๆ ไอ้ภูทำหน้าเหวอก่อนจะเข้ามากอดออดอ้อนผม

“กูพูดเล่น มึงมาดแมนแฮนด์ซั่มมาก มีซิคแพคด้วย”ไอ้ภูตีหน้าท้องของผมเสียงดังแปะ

“ซิคแพคอะไรย้อยขนาดนั้น”ไอ้ตินแทรกมาพร้อมรอยยิ้มอีกครั้ง ไอ้นี่กวนผมตลอด เดี๋ยวนี้มันชักกวนมากขึ้นแล้ว กวนแบบหน้าตายนี่ชวนหงุดหงิดกว่าที่ไอ้ภูทำใส่ผมอีก

“ไม่รู้ล่ะ กูจะไม่โกนหนวด พวกมึงห้ามกูไม่ได้ด้วย กูจะเข้าฟิตเนส เล่นเวท ไม่ยอมแพ้พวกมึงแน่”ไอ้สองตัวนี่หุ่นดีมาก ยิ่งไอ้ตินเห็นเหมือนแห้งๆแบบนั้น ความจริงแล้วมันซ่อนรูป

“เออดี กูอยากให้มึงฟิตปั๋งเหมือนพวกกู อึดๆเหมือนกูสองคนบ้างนะ”ไอ้ภูกระซิบมา นี่มันพูดเรื่องเดียวกับผมอยู่รึเปล่าวะ ผมถองข้อศอกใส่มัน แต่ไอ้ภูไม่สะทกสะเทือนอะไรทั้งยังเลื่อนฝามือมาลูบด้านในแผ่นอกของผมเบาๆ

“อย่ารุ่มร่าม”ผมดึงมือมันออก แต่มันหน้าด้านไม่ยอมปล่อยให้แถมยังแกล้งมาบิดหัวนมผมอีก

“เฮ้ย ไอ้ฟิกนมมึงใหญ่ขึ้นเปล่าวะ”แล้วมันก็บีบๆขย้ำๆ เสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากไอ้ติน ผมชักสีหน้าหงุดหงิด

“มึงละเมอเหรอไอ้สัด”หงุดหงิดแล้วนะมึง

“กูบอกแล้วอย่าแดกยาคุมมาก”มันพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ผมดึงมือไอ้ภูออก ก่อนจะฟาดผั๊วะเข้าที่แขนมันเน้นๆ

“คืนนี้มึงไม่ต้องเอากูเลย กูไม่ให้”ผมคว้าผ้าเช็ดตัวมาพาดบ่า แต่ไอ้ภูกลับยืนหัวเราะหึๆอยู่แบบนั้น เห็นแล้วยิ่งโมโหคิดว่าพูดเล่นรึไง ผมกระฟัดกระเฟียดเข้าห้องน้ำปิดประตูดังปัง

“พี่ก็ไปแกล้งมัน อดจริงๆแล้วจะหนาว”เสียงไอ้ตินแว่วมา

“มึงก็อดแดกด้วยไง หนาวด้วยกันนี่ล่ะ”

“อ้าว ไอ้สัด”จากนั้นได้ยินเสียงอะไรดังปึง แน่ล่ะ อดก็อดพร้อมกันสองคน เดี๋ยวจะหาว่าผมลำเอียง จะว่าไปแล้วนึกถึงเรื่องยาคุมแล้วก็หงุดหงิด ไอ้ปลานะไอ้ปลา…




“เฮ้ย ไอ้ฟิก อยู่ไหนวะ”ไอ้ปลาโทรเข้ามาระหว่างที่ผมกำลังถอยรถออกจากลานจอดหน้าหอพอดี

“อยู่หน้าหอ กำลังไปเรียน มีไร”โทรมาแบบนี้ผมว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ

“กูลืมหยิบยามาว่ะ”ผมนิ่งงันไปพักใหญ่ด้วยความงุนงง

“เกี่ยวอะไรกับกูวะ”

“เกี่ยวดิ คือกูลืมหยิบมาจากร้านยาข้างมออ่ะ ข้างๆเซเว่นเลย มึงแวะเอาให้กูหน่อย แค่บอกพี่เจ้าของร้านว่าไอ้ปลาให้มาเอายา แค่นั้นแหละ น้ำใจมึงอ่ะมีไหม”มันใส่มาเป็นชุด ผมเรียบเรียงความคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“เออๆ แล้วมันยาอะไรล่ะวะ”

“ยาคุม”หืม?ผมนี่หูผึ่งเลย

“มึงได้ผัวแล้วเหรอ ใครตาบอดเอามึงวะ มึงเล่นของแน่ๆ”

“โอ๊ยยย อีฟิกใครเขาจะไปเหมือนมึงกันคะ”เหมือนอะไรของมันวะ

“อะไรๆ พูดให้เคลียร์กูไปเหมือนมึงตรงไหน มึงถึกกว่ากูอีก”ผมหัวเราะหึๆเยาะเย้ยมันไป

“เล่นของไง กูรู้ว่ามึงทำของใส่พี่ภูกับพี่ติน พี่เขาถึงได้หลงมึงหน้ามืดตามัวแบบนี้ มึงทำหมอไหนบอกกูมา กูสัญญาว่าจะไม่บอกใคร”

“หู้วว ไม่เกี่ยวกับของเว้ย ของแบบนี้มันอยู่ที่ลีลา”

“อีเชี่ยยย”เป็นผู้หญิงที่หยาบคายจริงๆ

“เออๆ เดี๋ยวกูแวะเอาให้  คุยกับมึงแล้วออกทะเลว่ะ”

“ขอบใจมากเพื่อน จุ๊บๆ”หลังจากที่มันวางสายไป ผมก็แวะไปเอายาตามที่มันบอก เห็นรถคุ้นๆตาจอดอยู่หน้าร้านด้วย จำได้ลางๆว่ามันเป็นของไอ้ชัยคู่กัดของผมเอง ผลักประตูเข้าไปเจอมันกำลังจ่ายเงินให้เจ้าของร้านอยู่

“อ้าว ใกล้ตายแล้วเหรอ ไอ้ชัย”กวนตีนมันสักหน่อย เดี๋ยวข้าวไม่ย่อย

“เสือก”มันมองผมอย่างไม่สบอารมณ์ ยักคิ้วให้มันเสร็จก็หันมายิ้มหวานให้คุณเภสัชสาวสวย

“ใช่ฟิกที่มาเอายาคุมใช่ไหม”คุณเภสัชชิงถามก่อน สงสัยไอ้ปลาโทรมาบอกก่อนแน่ๆ

“ใช่ครับ”ผมแอบเหล่มองเห็นว่าไอ้ชัยยังไม่ออกไป สีหน้ามันบ่งบอกว่าแปลกใจหนักมากว่าผมจะซื้อยาคุมไปทำไม ไอ้ปลานี่ก็ใช่ย่อย สั่งยาไว้แล้วยังไม่จ่ายเงิน ผมต้องออกให้มันก่อนอีก ช่างเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ พอออกมานอกร้านก็เห็นว่าไอ้ชัยยืนสวมหมวกกันน็อคอยู่ที่รถข้างๆผม

“มึงซื้อยาคุมไปทำไมวะ ไอ้ฟิก”มันถามด้วยน้ำเสียงเสือกๆ

 “ไม่ใช่เรื่องของมึง”ผมยัดถุงยาเก็บใส่เป้

“มึงอยากมีนมเหรอวะ”ไอ้ชัยถามด้วยสีหน้าพะอืดพะอม ผมนี่ถึงกับสตั๊นไปหลายสิบวิ

“พ่องมึงดิ พูดบ้าอะไรเนี่ย”โอ๊ยยย จะบ้าตาย ผมจะอยากมีนมไปทำไมกัน แต่ไอ้ชัยคงคิดว่าอาการหน้าแดงๆของผมเป็นอาการเขินอาย กูโกรธโว้ย พูดออกมาได้ว่ากูอยากมีนม

“เออๆ กูจะไม่บอกใคร”มันหัวเราะด้วยน้ำเสียงทุเรศก่อนจะขี่รถออกไป ผมว่ามันต้องเอาไปโพนทะนาให้คนอื่นเข้าใจผิดแน่ๆ แถมมันยังเป็นเพื่อนไอ้ติน ตายๆ นี่ถ้ามันเอาไปพูดผิดๆแบบนี้ ผมเสียชื่อเลยนะ ผมขี่รถตามมันไปติดๆ พอตีคู่ได้ก็ยื่นขาไปสะกิดรถมันเบาๆ

“ไอ้สัด หาเรื่องกูเหรอ”มันดูหงุดหงิดเหมือนคนช่วงวัยทอง

“มึงห้ามเอาไปพูดผิดๆนะเว้ย กูมาเอายาให้เพื่อนกู”

“ร้อนตัวเหรอมึง”มันหัวเราะยิ้มชั่วก่อนจะบิดรถนำหน้าผมไป ผมได้แต่กัดฟันกรอดๆเพราะเริ่มหงุดหงิด ไอ้ชัยขี่เลี้ยวเข้าไปจอดในคณะเกษตรข้างๆ ผมเหลือบมองมันก่อนจะขี่เข้าคณะตัวเอง ช่างแม่งเถอะ!

“มาช้าจังวะ เดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน”ไอ้เคนบ่นทันทีที่ผมลงจากรถ วันนี้มีเรียนอังกฤษที่ตึกรวมแต่มันใกล้กับคณะเลยว่าจะเดินไปกันตามปกติ

“มัวไปเอายาให้ไอ้ปลาอ่ะดิ”ผมตอบเสียงบูด ไม่ใช่เรื่องที่เสียเวลาแต่เพราะไอ้ชัยต่างหาก

“ยาไรวะ อย่างอีปลาเนี่ยนะแดกยา”ไอ้ชายถาม

“ยาคุม มึงว่ามันได้ผัวแล้วเหรอ”ผมถามด้วยความสงสัย

“พูดไม่เพราะเลยนะฟิก ต้องสามีค่ะสามี”ไอ้ชายดัดเสียงกระแดะๆใส่ผมด้วยสีหน้ากวนตีน

“ขนลุกสัด มึงแอ๊บเปล่าวะ”ผมผลักมันไปไกลๆ หงุดหงิดคำพูดมัน กับผมนี่ผอสระอัวชัดเจนเลย แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เจอไอ้ปลาเลยครับเพราะมันเรียนอิ้งคนละเซคกับผม ก็เลยไลน์ไปบอกมันกันลืม แต่จนแล้วจนรอดมันก็ลืมจนได้ ไอ้ยาคุมก็เลยแอ้งแม้งอยู่ในเป้ของผม  แล้วไอ้ปลามันก็ไลน์มาบอกว่าฝากไว้ก่อน กลับไปหอผมนี่ปรี๊ดแตกเลยเพราะคำถามของไอ้ติน

 “มึงกินยาคุมเหรอ”มันถามด้วยสีหน้าแปลกๆ สาดด ไอ้ห่าชัยพ่นขยะแล้วแน่ๆ ไอ้ภูโงหัวมาจากโซฟา

“กูว่านมมึงใหญ่ขึ้นนะ”

“ถุย มึงมะโนล่ะไอ้เหี้ย หรือมึงไปจับนมใครมาห๊ะ”ผมหันไปหาเรื่องไอ้ภู ไอ้นี่พูดจาชวนหงุดหงิดจริงๆ

“มึงอย่าเปลี่ยนเรื่อง มึงกินยาคุมจริงหรือไม่ตอบมา”ไอ้ตินก็จะเอาคำตอบให้ได้

“ไม่ได้กินโว้ย!!ชัดไหม”ผมเข้าไปตะโกนใกล้ๆหูมันเลย เอาให้หูแตกแม่ง คำถามอะไรก็ไม่รู้ ไอ้ตินหัวเราะขำๆ

“ไอ้ชัยบอกมึงใช่ป่ะ มึงไม่ต้องไปเชื่อมันมากนะ เชื่อไอ้ชัยก็หมาแล้ว”ผมโยนกระเป๋าเป้ลงบนเตียงอย่างหงุดหงิด เข้าไปอาบน้ำคลายอารมณ์ ออกมาเจอไอ้ตินกำลังพลิกแผงยาคุมดูอยู่ เย้ดเข้

“เฮ้ย ไหนว่าไม่ได้กิน มึงอยากนมใหญ่จริงอ่ะ”ไอ้ภูลุกมาดึงแผงยาคุมไปดูบ้างเหมือนไม่เคยเห็น

“ของเพื่อนกูเว้ย ไอ้ปลาน่ะมึงรู้จักไหม”ผมกระชากแผงยามากจากมือไอ้ภูก่อนจะยัดเข้ากระเป๋าเหมือนเดิม

“มึงกินลดสิวใช่ไหม เดี๋ยวนี้หน้ามึงใส่ขึ้นนะ”ไอ้ตินยังไม่จบประเด็นเรื่องยาคุมครับ คือผมหงุดหงิดจริงๆนะ

“ค…ย กูบอกว่าไม่ได้กิน ไม่ใช่ของกูเว้ย”ผมเดินหนีพวกมันไปแต่งตัว มันสองคนเงียบไปแล้ว สงสัยจะรู้ว่าผมหงุดหงิดจริงจัง

“อยากหน้าใสก็ไม่บอก กูฉีดยาให้”ไอ้ภูแทรกขึ้นมา

“วู้ว พวกมึงกวนประสาทกูกันจังวะ งดหนึ่งอาทิตย์ จบปึ๋ง”งดน้อยๆผมก็อยากเหมือนกัน คึๆ




เพราะแบบนี้พวกมันเลยเอามาล้อได้เป็นอาทิตย์นี่แหละครับ! คิดดูว่าผมจะประสาทเสียแค่ไหน อาบน้ำจนความหงุดหงิดหายไป ก็ออกมาอย่างอารมณ์ดี ไอ้ตินยังนั่งเขียนรายงานอยู่ที่โต๊ะเหมือนเดิม ส่วนไอ้ภูนอนเล่นโทรศัพท์เครื่องใหม่ของมันอยู่บนเตียง แม่มันซื้อให้เนื่องในโอกาสอะไรก็ไม่รู้ ตอนแรกมันก็จะไม่เอาหรอก แต่แม่มันขู่อะไรสักอย่างมันเลยยอมใช้ ร่างสูงที่นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงยกศีรษะมามองผมก่อนจะส่งยิ้มกวนตีนมาให้

“กวนตีนนักนะมึง”ผมกระโดดเข้าไปนอนทับมันได้ยินเสียงร้องจุกๆดังมาเบาๆ

“จะขึ้นเหรอ ใจเย็นๆก่อนยังไม่มีอารมณ์”ไอ้นี่แม่งหน้าด้านจริงๆ

“มึงมันขี้หมาชัดๆ”

“อะไร? นั่นคำด่าเหรอมุ้งมิ้งจริงๆ”มันหัวเราะลั่น ผมลุกมานั่งอย่างหงุดหงิด

“คอยดูกูจะกลับมาฮาร์ดคอเหมือนเดิม พวกมึงจะหนาว”ทำตัวดีๆๆแม่งไม่ชอบนะไอ้พวกนี้ ไอ้ตินหมุนเก้าอี้มามองผมด้วยสีหน้าจริงจัง

“เป็นแบบนี้นี่แหละ น่ารักแล้ว”บอกพร้อมกับรอยยิ้มจาง บระเจ๊า ถ้าเป็นสาวน้อยคงได้บิดม้วนเขินอายไปแล้วแน่ๆครับ แต่ผมคือไอ้ฟิกก็เลยได้แต่เก๊กหน้าไม่ให้ออกอาการว่าเขินไปมากกว่านี้ ทั้งๆที่หน้าเห่อร้อนขึ้นมาเหมือนโดนไฟสุม

“เป็นแบบเก่าใช่ว่าจะเอาสันดานเดิมมาใช้นะมึง กูกระทืบจมดินแน่”เสียงไอ้ภูดังมาขัดจังหวะได้พอดี หันไปมองก็เห็นมันยิ้มโหดอยู่

“คิดว่ากูกลัวเหรอ”ยั่วโมโหมันเล่นครับ ว่างจัด ยังไม่ง่วงด้วย

“ไม่กลัวก็ลองทำสิ แล้วจะรู้ว่าของจริงเป็นไง”ไอ้ภูพูดเสียงเรียบ แววตาไม่เล่นเลย

“กูล้อเล่น มึงหล่อ มึงรวยแบบนี้ใครจะกล้านอกใจล่ะ”

“เนาะ จวยใหญ่ด้วย”มันแทรกขึ้นมาด้วยเสียงกวนตีน ผมนี่เหลียวมองขวับเลย

“เออ ของมึงมันใหญ๊ใหญ่”ผมล่ะเบื่อหัวข้อนี้จริงๆ

“ของดีจริงเขาไม่โม้สรรพคุณหรอก”ไอ้ตินพูดขึ้นมาเบาๆ

“มึงหาว่ากูโม้เหรอ”ไอ้ภูทำหน้าหงุดหงิด

“เปล่า ผมแค่บอกเฉยๆ”ไอ้ตินพูดพร้อมรอยยิ้มจางๆ แต่ผมมองว่ากวนตีนมากกว่า ไอ้ภูคงเห็นแบบนั้นเหมือนกันมันถึงได้หงุดหงิด

“เถียงมากทำไม เดี๋ยวกูไปเอาเชือกปอมาวัดให้เลยไหม”ผมทิ้งตัวนอนลงบนเตียง พวกมันสองคนเงียบไปแล้ว ได้ยินเสียงขีดเขียนมาจากไอ้ติน โทรศัพท์ของมันวางอยู่บนเตียงนี่เอง ผมหยิบมาเปิดอะไรดูไปด้วย

“เช็คกูเหรอไง”มันถามมาทั้งๆที่ไม่ได้มอง

“เปล๊า”ผมเปิดไลน์ดู มีรุ่นน้องทั้งหญิงและชายทักไลน์มันเยอะมากพอดูร้อยกว่าๆแหน่ะ แต่มันไม่เคยเปิดอ่านเลยสักอัน ผมเลยอาสาลบกล่องแชทให้ จะได้ไม่รก เหลืออันที่คุยกับของผมและไอ้ภูเท่านั้น กับไอ้ภูก็แค่คุยเรื่องซื้อของเข้าห้อง เรื่องเหล้า เรื่องรถ เรื่อง…ผม จู่ๆก็อมยิ้มขึ้นมา ผมวางโทรศัพท์มันไว้ที่เดิมก่อนจะคว้าโทรศัพท์มาจากมือไอ้ภูที่นอนอยู่ข้างๆ

“อีกเยอะไหมวะติน”ผมถามระหว่างที่เปิดไลน์ของไอ้ภู

“อีกนิดเดียว”มันตอบกลับมา ไอ้ภูพลิกตัวมานอนกอดผม ก่อนจะยื่นหน้ามาดูว่าผมทำอะไร

“อย่าลบอันที่กูคุยกับมึงนะ”มันรีบพูดเหมือนกลัวผมจะลบทิ้งเมื่อเห็นผมไล่ลบแชทของแฟนคลับมันออก ไอ้กิตก็หนึ่งในนั้น มันยังคงทักไอ้ภูมาอยู่เรื่อยๆ แล้วมันก็เสือกตอบซะด้วย แต่ก็ตอบแบบขอไปทีมากกว่า ช่างมัน ปล่อยไป ยังไม่เกินลิมิต

“กูจะลบทำไมล่ะ”

“แต่ลบไปก็ก็จำได้อยู่ดี”อี๋ น้ำเน่า ผมเบะปาก มันเอื้อมมือมาบีบคางผมก่อนจะพลิกตัวไปนอนหงาย เมื่อเช็คเรียบร้อยแล้วก็ส่งคืน ไอ้ตินทำงานเสร็จพอดี มันปิดไฟก่อนจะขยับมานอนข้างๆผม

“นี่กูถามพวกมึงจริงๆนะ”ผมโพล่งขึ้นมาในความมืด

“ว่า”

“พวกมึงไม่คิดจะให้กูกดจริงๆอ่ะ”ผมก็อยากจิ้มเหมือนกันนะเว้ย

“รอได้ไหม วันเกิดมึงอ่ะ”ไอ้ภูตอบกลับมา ผมหันไปมองทันที

“จริงอ่ะ มึงพูดจริงนะ”ดีใจจนลืมถามว่าวันเกิดปีไหน

“เออ รอให้ได้ก็แล้วกัน หึๆ”ผมหันไปหาไอ้ตินบ้าง

“แล้วมึงอ่ะ”

“ตามนั้น”

“ตามไหนวะ”เกลียดจริงๆไอ้คนพูดตามนั้นๆ ตามป๊ามึงเหรอ

“ก็วันเกิดมึงไง”ไอ้ตินยิ้มมุมปาก

“เออ ถ้าพวกมึงผิดคำพูดก็หมาอ่ะ”พวกมันสองคนเงียบไปพักใหญ่ ปล่อยให้ผมได้แต่จินตนาการไปคนเดียว นึกภาพมันสองคนอยู่ใต้ร่างผมแล้วมันก็ฟิน คิดไปคิดมาจนเริ่มรู้สึกว่าเจ้าฟิกด่านล่างเริ่มแผลงฤทธิ์ ผมขยับตัวยุกยิกก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมตัว ไม่ได้ๆต้องปกปิด เดี๋ยวพวกมันล้อ

“เป็นไรฟิก”ไอ้ตินทำเสียงหงุดหงิด

“แล้วห่มผ้าทำไม”ไอ้ภูมาช่างสงสัยตอนนี้อีก

“เรื่องของกู พวกมึงนอนๆไปเถอะ”ได้แต่ท่องโอมจงสงบอยู่ในใจ

“กูว่ามึงแปลกๆแล้วนะ”ไอ้ตินพลิกมามองผม ไม่พูดเปล่าแต่มันมาคว้าหมับเข้าที่ลูกชายผมด้วยเนี่ยสิ

“อย่าจับ”ผมปัดมือมันออก หน้าร้อนขึ้นมาทันที

“อ้าว อยากก็ไม่สะกิดล่ะ”ไอ้ภูยิ้มชั่ว

“มึงเงียบเลย นอนๆ”ผมไม่รู้จะพลิกหนีไปทางไหนดีเลยว่ะ อันตรายทั้งคู่

“นอนได้ไง…”ไอ้ภูใช้สายตาแพรวพราวมองผมก่อนจะเลื่อนไปที่จุดเกิดเหตุ

“ปล่อยไว้แบบนั้นแหละ”เดี๋ยวมันก็สงบของมันเอง

“ไม่ได้ๆ เรื่องธรรมชาติอย่าฝืน”เรื่องหื่นไว้ใจภู สโลแกนนี้ใช้ได้เสมอ สุดท้ายก็ได้แต่ปล่อยให้มันสองคนลวนลามแบบเบาๆไป

“อย่าเยอะได้ไหมวะ”ผมปัดมือไอ้ตินออก เมื่อมันเลื้อยเข้ามาลูบๆคลำๆก้นผม จุดอันตรายครับ ให้มันจับไม่ได้

“กูยังไม่--”ไอ้ตินเปิดปากพูดแต่ผมเอามือไปดึงปากมันไว้ก่อน

“นอนนะครับคนดี”เลียนแบบมันบ้าง ไอ้ตินได้แต่นอนมองนิ่งๆ

“มึงเคยพูดแบบนี้กับใครไหมวะ แบบที่เพราะๆอ่ะ”ไอ้ภูแทรกขึ้นมา ฝามือของมันลูบๆคลำๆอยู่แถวท้องน้อย

“ทำไม อยากได้ยินเหรอ”

“ลองพูดกับกูสิ กูถีบกระเด็นแน่”มันงึมงำตอบมา

“ทำไมวะ ไม่ชอบเหรอที่กูพูดเพราะๆอ่ะ”เห็นว้อนท์นักหนา

“ชอบแบบพูดเพราะจากใจ ไม่ใช่น้ำเสียงออเซาะแบบนี้ เข้าใจ๊”อื้อหือ ลึกซึ้ง ไอ้ตินยังคงมองหน้าผมอยู่

“มีปัญหาอะไร”

“มองไปมองมามึงก็หล่อนะฟิก”จู่ๆมันก็บ้าชมผมครับ มันประสาทแน่ๆ

“ชมกูแบบนี้อยากเสียตัวให้กูล่ะสิ”

“มึงนี่ชอบเพ้อเจ้อว่ะ ก็รู้ๆอยู่ว่าใครที่เสียตัวกันแน่ หรือต้องให้จัดภาคปฏิบัติสักรอบดีไหม”ไอ้ตินขยับเข้ามาใกล้ ผมรีบยกมือดันหน้าอกมันไว้ ถ้าเป็นเรื่องหื่นล่ะไวกันจริงๆ

“นอนๆดึกแล้ว”ผมพึมพำ หลับตาลงเพื่อตัดบทสนทนา แต่พวกมันยังไม่จบครับ ยังมาเจ๊าะแจ๊ะผมอยู่อีก กูเอ๊ย คืนนี้จะได้นอนไหมเนี่ย

“เฮ้ย พวกมึงนี่ยังไง”

“สักรอบเหอะ”

“กูเหนื่อย…”ผมแกล้งทำเสียงอ่อนเหมือนว่าเหนื่อยจริงๆ แปลกมากครับ จากนั้นพวกมันไม่เซ้าซี้ผมเลย หรือผมแสดงละครเก่งวะ แต่ช่างมันถือว่าคืนนี้ผ่านไปอย่างปลอดภัย ถึงจะเสียน้ำไปสองรอบก็ตาม ไอ้พวกหื่นเอ้ย อยู่กับพวกมันเหนื่อยจริงๆ ไอ้ฟิกปวดใจ

ช่วงนี้ที่หอพักที่ผมอยู่เปลี่ยนระบบเป็นใช้คีย์การ์ดเข้าหอแล้ว ตอนแรกแค่ประตูกระจกธรรมดา เจ้าของหอเพ่งเห็นทางสว่างว่ามันน่าจะปลอดภัยกว่าหากใช้คีย์การ์ดเข้าประตู ตอนนี้ผมยังมีแค่อันเดียวเพราะยังไม่มีโอกาสทำเพิ่ม ผมมารู้ซึ้งฤทธิ์เดชของไอ้คีย์การ์ดตัวนี้ก็คราวนี้แหละเมื่อไอ้ตินกับไอ้ภูมันใช้ผมไปซื้อข้าวหน้าหอ แล้วผมไม่ได้เอาคีย์การ์ดออกมาด้วย ซวยเลยสิ ได้แต่โทรหาพวกมัน ไลน์ก็ไม่อ่าน ผมโทรไปรัวๆพวกมันสองคนก็ไม่รับ ผมด่าพวกมันจนสรรพสัตว์ทั้งหลายสะเทือนสะทวยพวกมันก็ไม่รับ

“พวกมึงนะพวกมึง”จับได้ลางๆว่าพวกมันต้องแกล้งผมกันแน่ๆ ผมเลยโทรหาไอ้เคนให้มารับออกไปเที่ยว

“มึงออกมาได้ด้วยเหรอ”

“กูมีขา”

“กูนึกว่าพวกมันจะนอนกกมึงทั้งวันซะอีก”ผมมองหน้าเพื่อนด้วยสายตาหงุดหงิด

“พวกมันไม่ใช่แม่ไก่จะได้นอนกกกูทั้งวัน พอๆ พูดมาก มึงพากูไปเที่ยวให้หายหงิดซิ”ไอ้เคนหัวเราะเมื่อผมเล่าให้มันฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ผมไลน์ไปบอกไอ้ตินว่า




Fix – ข้าวไม่ต้องแดกนะ กูเทให้หมาแล้ว

Tin – โอ๋ๆ เดี๋ยวลงไปเปิดประตูให้

 Fix – ไม่ทันแล้วสัด กูออกไปเที่ยวแล้ว

Tin – ทำอะไร ที่ไหน กับใคร อย่างไร แล้วมึงจะกลับมาตอนไหน

Fix – มึงเรียนภาษาไทยเหรอ? ไม่รู้ไม่ชี้ อยากกลับตอนไหนก็กลับ

Tin – เออ ห้ามเกินหกโมงเย็น

ผมเลิกสนใจข้อความของมัน ปล่อยให้ไอ้เคนพาซิ่งก่อนจะมาจอดที่ร้านอาหารอีสานแห่งหนึ่ง

“มึงมากินกับใครวะ แฟน?”ผมถามระหว่างที่เดินตามมันเข้าไป

“มากับไอ้ชาย ไอ้ปลานั่นแหละ”มันพาไปนั่งที่โต๊ะเตี้ยๆที่นั่งกับพื้น

“ไม่คิดจะชวนกูเลยนะ”ทำเสียงเง้างอน

“อย่ามาทำตอแหล”ไอ้เคนด่าได้เจ็บแสบทรวง ผมเนี่ยนะตอแหล โดนผู้ชายด่าตอแหลนี่มันทะแม่งๆนะ

“พวกมึงสั่งอะไรไปบ้างวะ”ไอ้เคนถาม ระหว่างที่ผมก้มมองเมนู

“เยอะอ่ะ ซกเล็ก ลาบหมู น้ำตกเนื้อ ลวกจิ้ม ตำโคราช ปลาเผา”ไล่ๆมานี่แดกกันหมดไหมวะนั่น

“กูไม่สั่งล่ะ เดี๋ยวไม่หมด”ผมวางเมนูลง เมื่ออาหารทุกอย่างมาครบผมก็ถ่ายรูปอวดลงในไอจี อวดไอ้สองตัวนั่นด้วย กินไปสักพัก มันสองคนก็โผล่มาที่ร้านจริงๆ

“ตามกลิ่นเท้ามาไวกันจัง”ผมทักมันสองคน ไอ้ภูฟาดตุ้บเข้าที่กลางหลังของผม

“มือหนักโคตร”ไอ้ชายหัวเราะชอบใจ มานั่งเบียดอยู่นานจนเจ้าของร้านเอาโต๊ะมาต่อให้ ไอ้ตินสั่งอาหารมาอีกชุดใหญ่ อืดแน่นอนงานนี้

“กูเลี้ยงเอง”ไอ้ภูคนใจป้ำพูดขึ้น ไอ้ปลานี่หัวเราะชอบใจเลย ผมนึกถึงไอ้ขวัญขึ้นมา

“มึงเลี้ยงแน่นะ  งั้นกูชวนไอ้ขวัญมาด้วย”

“เออ พามายกคณะกูก็เลี้ยงไหว”ผมเบ้หน้าใส่ทันที  เออ ไอ้รวย โทรตามตัวไอ้ขวัญไม่นานมันก็มาด้วยท่าทางดีด๊ายิ่งเห็นไอ้ภูกับไอ้ตินยิ่งออกอาการใหญ่

“ยังงอนอยู่เหรอ”ไอ้ตินยื่นหน้ามาถาม ระหว่างที่มันเอื้อมมาหยิบทิชชูตรงหน้าผม

“มึงคิดว่าไงล่ะ”ผมชักสีหน้าใส่ ผมถูกทำอะไรก็ได้ เพราะถ้างอนพวกมันง้อผมอยู่แล้ว หึๆ

“กูแค่แกล้งเล่น”มันเอื้อมมือมายีหัวผม ไอ้ปลาแอบเหล่มองด้วยสีหน้าเหมือนคนไม่เคยเห็นของดี

“แกล้งอะไรก็ดูบ้าง กูโทรหาไม่รู้กี่รอบ โทรศัพท์แพงๆของพวกมึง ถ้าไม่ใช้ก็เอาไปปาหัวหมาเถอะ”ขณะที่ผมบ่น ไอ้ภูมันก็ลุกพรวดขึ้นมาจนผมตกใจ

“เป็นไรวะ”มาขัดจังหวะกำลังบ่นอีก

“เอาโทรศัพท์ไปปาหัวหมาแป๊ป”ไอ้พวกตัวดีทั้งหลายฮาครืนยกโต๊ะ จนโต๊ะอื่นมอง

“เชี่ยภู กวนตีนว่ะ ไอ้หัวคะ…หัวหมา”ผมเปลี่ยนคำพูดกะทันหันเมื่อเห็นสายตาของมัน

“อย่าพูดคำหยาบไม่ดีนะรู้ไหม”มันทำหน้าเหมือนเป็นคุณครูดุเด็กนักเรียน ผมเลิกสนใจพวกมันสองคนก่อนจะหันไปแย่งชิ้นเนื้อในถ้วยต้มแซ่บตรงหน้า

“ขอถามหน่อยดิ”จู่ๆไอ้ชายก็เลียบๆเคียงๆถามขึ้นมา สายตามันจดจ้องอยู่ที่ไอ้ภูกับไอ้ติน

“อย่านะมึง”อย่าไว้ก่อน ถ้าคำถามมาจากไอ้ชาย น่ากลัวทั้งนั้นแหละครับ

“ว่ามา”ไอ้ตินวางช้อนส้อมลงอย่างมีมารยาท ต่างจากไอ้ภูซี๊ดซ๊าดอยู่ข้างๆเพราะกินของเผ็ดเข้าไป

“คือเคยเบื่อไอ้ฟิกบ้างป่ะ แบบมันก็อย่างเนี้ย”มันบุ้ยใบ้มองผม คำถามเข้าท่า ผมเองก็รอฟัง

“ไม่เคยเบื่อนะ ก็เหมือนกางเกงในอ่ะ ใส่ทุกวันไม่เบื่อ”ไอ้ตินตอบ เกือบดีแล้วนะเฮ้ย แต่ทำไมเอาผมไปเปรียบกับกางเกงในวะ!

“อ๋อ…พี่จะสื่อว่าใส่พี่ฟิกทุกวันใช่เปล่าคะ”

พรวดดด ผมนี่สำลักน้ำต้มแซ่บจนแสบคอไปหมด ไอ้ขวัญพูดอะไรออกมาาา ผมยังไม่ทันคิดเลยนะเว้ย มันหัวเราะคิกๆอย่างเขินอายกับคำพูดของตัวเอง

“หนูพูดเล่นนะ ว้ายย เขินจัง พี่ฟิกก็อย่าเขินสิ”ผมไอค่อกแค่กก่อนจะหยิบแก้วน้ำโค้กมาดื่มอักๆ

“แล้วพี่อ่ะ”ไอ้ชายยังไม่หยุดหันมาถามไอ้ภูต่อ ไอ้คนข้างๆนึกอยู่นาน ผมนี่เตรียมอายได้เลย

 “อะไรที่เป็นไอ้ฟิกกูไม่เคยเบื่อ”นั่นไง ดันมาตอบจริงจังอะไรตอนนี้ อยากเอาหน้ามุดโต๊ะจริงๆ พวกเพื่อนๆผู้น่ารักโห่ฮิ้วตบโต๊ะระรัวเหมือนอยู่ในร้านเหล้า

“เบาๆเดี๋ยวโดนไล่ไปด้านนอก”ไอ้เคนยิ้มขำๆ

“ยังไม่จบครับ แล้วมึงล่ะเพื่อนฟิก เคยเบื่อพวกมันป่ะ”คราวนี้เป็นไอ้สองคนนั่นบ้างที่รอฟัง

“ไม่รู้เว้ย ไม่เคยเบื่อมั้ง เหตุผล…ไม่มีอ่ะ”ผมทำชิวๆนั่งกินอะไรไปเรื่อย

“นึกว่าจะตอบอะไรเน่าๆซะอีก”ไอ้ภูเอนมากระซิบ ผมทำเมินไม่สนใจมัน ทำทีเป็นกินต่อไป ตักอะไรไม่รู้เข้าปากเคี้ยวไปเคี้ยวมาน้ำตาเล็ด เจอระเบิดลูกย่อมๆ หันไปเห็นไอ้ตินนั่งกลั้นขำจนตัวสั่น

“เป็นไร”หงุดหงิดว่ะ วันนี้ไอ้ตินกวนประสาทผมหลายอย่างแล้วนะ

“ขำมึงไง กูเห็นว่ามึงตักพริกเข้าปาก แต่กูไม่บอก”

“กูเกลียดมึง”

“เดี๋ยวง้อบนเตียง”มันสวนกลับมาทำเอาผมโดนล้ออีกรอบ วันนี้วันซวยของผมจริงๆครับ เป็นมื้อที่ซวยมาก เมื่อเริ่มอิ่มกันแล้ว พวกมันก็ซ้อนจานไว้ที่อีกโต๊ะ

“มาเล่นเกมส์กันดีกว่า เกมส์ชื่อว่าตอบหรือกิน”ไอ้ชายตบโต๊ะเบาๆ

“มีคำถามแล้วให้เลือกว่าจะตอบหรือจะกินไอ้นี่…”มันหยิบพริกเม็ดเล็กๆออกมา แต่นั่นคือระเบิดลูกหย่อมๆเลยเหอะ ไอ้ปลากับไอ้ขวัญขอบาย พวกมันลุกไปตักไอติม ผมเลยขอด้วย

“โอเค เล่นก็เล่น”เหลือแต่พวกผมนี่แหละที่เล่น ใช้ขวดโค้กหมุน ชี้ที่ใครคนนั้นตอบ ส่วนคนทำจากที่โอลาน้อยออกแล้วเริ่มจากไอ้เคน ไปไอ้ชาย ไอ้ติน ไอ้ภูและผม

“เริ่มเลยนะ”ไอ้เคนหมุนขวดเร็วๆ จนมันหมุนติ้วๆก่อนจะค่อยๆหยุดแล้วชี้ไปที่ไอ้ติน มันนิ่งไปเหมือนนึกคำถาม ผมเดาไว้ว่าคงไม่พ้นเรื่องผมแน่ๆ!

“มึงเคยโดนไอ้ฟิกจิ้มยัง”

“ไม่เคย”มันตอบแทบจะในทันที ไอ้เพื่อนสองตัวหัวเราะหึ ๆก่อนที่จะถึงคิวไอ้ชายหมุน ขวดหยุดลงที่…ผม โลกนี้มืดดับลงทันควัน ไอ้ชายยิ้มเหี้ยม

“กูอยากรู้มานานแล้วว่ะ โทษทีนะที่ถาม”น้ำเสียงของไอ้ชายทำหน้าผมเริ่มร้อนผ่าวๆ

“มึงเคยออนท็อปเปล่าวะ”เหยดดดดดดดดดดดดด ถามเห้ไรวะ ผมไม่รู้จะวางสายตาไว้ตรงไหนดี แม่งไม่มีตัวเลือกให้ผมเลยตอบกับกินเนี่ย ถ้าเลือกกินก็เหมือนกับตอบไปกลายๆนั่นแหละ ผมรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ไอ้ขวัญยังไม่กลับมา ผมมองพริกเม็ดเล็กๆอย่างชั่งใจ

“ว่าไงตอบไปดิ”เป็นไอ้ภูที่เร่งขึ้นมา

“ก็…”ผมอ้าปากจะตอบแต่เห็นสีหน้าไอ้ชายแล้ว ผมเลือกหยิบพริกขึ้นมากัดแทน มันขำก๊ากเลย

“กู…นึกภาพไม่ออกว่ะ แม่งจี้”มันขำหึๆต่อไป ไอ้ตินหมุนขวดด้วยรอยยิ้ม ขวดค่อยๆหยุดลงที่………ผมอีกแล้ว! นรกชัดๆ สองสาวถึกกลับมาพอดี

“มึงถามดีๆนะเว้ย”ผมพึมพำเบาๆ ยังอายกับคำถามไอ้ชายไม่หายเลย

“อืม…..ถามอะไรดีนะ”มันลากเสียงยาวๆเหมือนครุ่นคิด

“ครั้งไหนดีสุดสำหรับมึง”

ครืนนน

นี่มันคำถามแกล้งผมชัดๆ โอ๊ยตาย ผมได้ลิ้นชาแสบท้องแน่ ผมกัดพริกอีกรอบ ก่อนที่ไอ้ภูจะหมุนขวด ขวดหยุดที่...ตัวมันเอง ฮ่าๆ

“กูถามเองตอบเองก็ได้ ….รักไอ้ฟิกมากไหม ตอบเลยว่ามาก”มันบ้าครับ ปล่อยมันเล่นคนเดียวไป ผมหมุนขวดบ้าง ตาผมแล้ว ผมภาวนาให้ได้ไอ้ชาย ผมจะถามมันเรื่องไอ้เบ๊นซ์ เอาให้หน้าแหกแม่งเลย แต่โชคไม่เข้าข้างเพราะขวดหมุนไปหยุดที่ไอ้เคน

“กูถามนะ มึงว่าววันล่ะกี่รอบ”ไอ้เคนถึงกับเหลียวมองคอแทบหัก

“ถามไรของมึงเนี่ย”

“ตอบมา”ไอ้ปลานี่นั่งฟังหูผึ่งเลยครับ ไอ้เคนทำหน้านึก มันมองหน้าผมก่อนจะเหลือบมองคนอื่นที่ดูเหมือนจะรอฟัง มันเอาลิ้นดุนกระพุงแก้มก่อนจะตอบในแบบที่เซฟตัวเองที่สุด

“มีอารมณ์ตอนไหนก็ตอนนั้นแหละ”ไอ้เพื่อนเลวว

“กูว่ามึงบ่อยชัวร์ ไหนเอามือมึงมาดูดิ ด้านยังวะ”ผมคว้ามือมันมาดู แต่มันสะบัดออกผมกับตบหัวผมเต็มแรงคำถามส่วนใหญ่เกรียนๆและวกวนอยู่ใต้สะดือ ไม่สร้างสรรค์เลยจริงๆ ผมนี่ล่ะโดนล้อหนักสุดโชคไม่เข้าข้างผมเลยว่ะ คำถามหลายๆอย่างฆ่าผมชัดๆ

ไอ้เพื่อนเลว ไอ้ผะ…แฟนเลว!


หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 17-10-2015 01:58:25
 “ไปเล่นบอลกันป่ะ”ไอ้เคนชวนขึ้นมาในบ่ายวันที่แดดจัดจนเหงื่อไหล ผมเหล่มองคนถาม

“แดดร้อน”

“กลัวอะไรกับอีแค่แดด กูอยากไปเตะว่ะ ไม่ได้ไปตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว มึงจำได้ป่ะฟิก ครั้งหลังสุดที่ลงเล่นคือตอนที่เจอพวกไอ้ภูที่สนามอ่ะ ที่มึงเพึ่งโดนมันทะลวงมาใหม่ๆ”มันเอาเรื่องเก่าๆมาตอกย้ำผมครับ

“จำได้ดิ แต่ก็นานจริงนั่นแหละ”

“สรุปว่าไปใช่ไหม กูจะได้ชวนไอ้เพชรเดือนคณะไปด้วย”ผมเบิกตากว้างทันที

“มึงรู้จักด้วยเหรอวะ”ไอ้ชายถามไอ้เคนทันควัน

“เออดิ กูใครครับ พี่ว้ากเคนซะอย่าง”มันทำเสียงป่วนประสาท ไอ้ชายยิ้มหมั่นไส้

“พวกมึงจะไปเตะบอลกันเหรอ”ไอ้ปลาถามทันที

“จะไปดูผู้ชายล่ะสิ”แขวะมันเล่น

“กูไม่ใช่มึงค่ะ”

“กูกะจะชวนมึงพอดีเลยนะ คนขาด เห็นว่าขามึงใหญ่ดีน่าจะเตะไหว”ผมเอาจุดอ่อนของผู้หญิงมาเล่นงานมัน ความจริงมันก็ไม่ได้ถึกมากหรอก แต่ด้วยความที่มันแรงควายเลยต้องเรียกว่าถึก ขนาดไอ้เคนยังยอมรับอ่ะคิดดู

“สัดฟิก นิสัยไม่ดี”ไอ้ปลามองค้อนผมแล้วเดินเหวี่ยงๆจากไป

“กูรู้นะ”ไอ้ชายหันมามองผมบ้าง สีหน้าเหมือนหาเรื่องมาล้อผมได้

“รู้อะไร”รับมุกมันครับ เดี๋ยวมันเล่นต่อไม่ได้ นี่ห่วงเพื่อนนะ

“ว่ามึงเบื่อไข่ไอ้ภูกับไอ้ตินแล้วถึงต้องไปดูไข่นักฟุตบอล”

พรูดดดดด

ทั้งผมทั้งไอ้เคนแทบพ่นน้ำปั่นในแก้วใส่หน้าไอ้ชาย

“ห่าราก พูดอะไรของมึงเนี่ย”ไอ้ชายนี่แม่งของโคตรเสื่อม ผมคบมันเป็นเพื่อนได้ไงวะเนี่ย

“เอ้า กูพูดจริงนะ มึงมีแบบ…เบื่อบ้างไหมวะ เจออะไรเดิมๆ…”ผมชักสีหน้าใส่ไอ้ตัวถาม

“ทีนมผู้หญิงทำไมมึงไม่เบื่อล่ะ มันก็เหมือนๆกันนั่นล่ะ”

“เหมือนตรงไหนวะ นมเล็ก นมใหญ่ นม…”

“พอๆ”ไอ้เคนรีบยกมือห้าม

“มึงไม่เคยเห็นนมมึงก็พูดมั่วๆ”

“มึงก็ไม่เคยเห็นไข่คนอื่นมึงก็พูดได้”

“เออ กูไม่เถียงกับมึงล่ะ”ไอ้ชายเงียบไปก่อนจะดูดน้ำในแก้วที่หมดแล้วของตัวเองเสียงดังฟูดๆ ประเด็นเรื่องใต้สะดือจบไป ตอนเย็นผมแวะไปสนามบอลกับพวกไอ้เคน ไม่ได้บอกไอ้สองตัวนั่นหรอก เพราะพวกมันบอกว่า

“จะไปไหนหลังเลิกเรียนก็ได้ไม่ว่า แต่ต้องกลับก่อนสองทุ่ม ถ้ายังไม่ถึง มึงโดน”นี่ผมอายุยี่สิบจะยี่สิบเอ็ดแล้วนะเฮ้ย ยังต้องกลับก่อนสองทุ่มอ่ะคิดดู

“มันพามาได้จริงด้วยว่ะ”ไอ้ชายพึมพำเมื่อเห็นร่างสูงๆของไอ้เพชรเดิมเข้ามาที่สนาม ผมกับพวกเพื่อนเปลี่ยนชุดแล้ว เนื่องด้วยมาเร็วจึงได้เล่นก่อนทีมแรก เล่นแบบข้างละเจ็ดคน มีผม ไอ้ชาย ไอ้เคน ไอ้เพชรสุดหล่อ และเพื่อนมันอีกสามคน ผมวอร์มอยู่นาน ช่วงหลังๆมาไม่ค่อยได้เล่นกีฬาแบบจริงๆจังๆสักที ผมเล่นปีกซ้าย ฝีเท้าก็ยังพอไปวัดไปวาได้อยู่ เล่นกันแบบเบาะๆไม่จริงจังมากเพราะมาแค่เรียกเหงื่อ

“พี่คนนั้นน่ะของกู”ได้ยินเสียงแว่วๆมาจากข้างสนาม

“คนไหนวะ”

“คนที่ใส่เสื้อสปอร์ตสีฟ้าไงมึง”อ้าว นั่นกูนี่หว่า ผมหันไปมองคนพูดเป็นเด็กผู้ชายปีสอง ใส่เสื้อยืดของนิเทศ พอผมหันไปกลุ่มนั้นก็กรี๊ดโบกมือไปมาให้ผมพร้อมกับชี้ไปที่เพื่อนตัวเอง ผมมองแล้วนึกถึงไอ้ป่านขึ้นมาทันที เพราะผิวขาวๆของมันนั่นล่ะ คิดแล้วก็กลัวครับ นิสัยอย่าแรดเหมือนไอ้ป่านเลยเถอะ ไม่งั้นรับมือยากน่าดู

ตุ้บ

ลูกบอลหนักๆเตะอัดมาโดนขาผมพอดี หันไปมองก็พบว่าคนที่เล่นอยู่ฝ่ายตรงข้ามคือไอ้ปั๊ม หลานรหัสไอ้ภูนั่นเอง เฮ้ย ตอนแรกทำไมผมไม่เห็นมันวะ

“มองใครๆ เดี๋ยวฟ้องพี่ภูหรอก”มันล้อระหว่างที่สวนกัน จะว่าไปผมก็สงสัยขึ้นมาทันทีว่ามันยังทำงานที่ร้านอาหารนั่นอยู่รึเปล่า เพราะครั้งสุดท้ายที่ผมเจอมันก็คือวันที่มันโดนยำ แล้วไม่ได้ติดต่อมันไปอีกเลย สงสัยคิดอะไรเพลินไปหน่อย ทีมผมเลยแพ้ ต้องเปลี่ยนให้อีกทีมเข้ามาเล่น

“มึงเล่นห่วยว่ะ”ไอ้เคนบ่น

“เออ กูเหม่อๆว่ะ โทษที”ก็รู้ตัวเองนั่นแหละ ผมมานั่งพักที่อัศจรรย์ตรงที่วางของไว้

“เด็กพวกนั้นแม่งมองมึงตาแทบถลนเลยว่ะ”ไอ้ชายพึมพำระหว่างที่ยกน้ำกระดกอึกๆ มองลูกกระเดือกมันขึ้นลงอยู่สักพักก่อนหันไปมองบ้าง

“ท่าทางแรงใช่ย่อย...”ไอ้เคนพูดเมื่อเด็กนิเทศเดินเข้ามาหาผมแล้ว ผมเหลือบมองพวกมันเหมือนกำลังปรึกษาว่าเอาไงดี

“เอ่อ หวัดดีครับ ผมชื่อเจมส์ครับ”แนะนำตัวพร้อมกับยิ้มโปรยเสน่ห์มาให้ พวกผมได้แต่ยิ้มแห้งๆตอบกลับไป

“หวัดดีครับน้อง”ผมทักตอบแต่ไม่ได้บอกชื่อ เช็ดเหงื่อไประหว่างที่สายตาจับจ้องอยู่ที่สนามบอล

“ว่าแต่พี่ชื่ออะไรเหรอ”ไอ้เจมส์นั่งลงข้างๆผม

“ชื่อฟิกครับ นู่นเคน ชายเพื่อนพี่”ผมบุ้ยใบ้ไปยังอีกสองคน ไอ้เคนทำหน้าเหมือนบอกว่าจะแนะนำมันทำไม

“ชื่อพี่ฟิกนี่เอง พี่เรียนอยู่ถาปัตย์ใช่เปล่าคุ้นๆหน้า”มันย่นคิ้วเหมือนกำลังนึกก

“คุ้นจริงเปล่าครับ”ไอ้ชายแทรกมา เหมือนจะแซวแต่ฟังดูประชดแปลกๆ

“คุ้นๆนะ …ผมเป็นน้องพี่ม่อนปีห้าอ่ะ เคยไปที่คณะอยู่สองสามครั้ง คงเคยเห็นพี่ฟิกผ่านๆ”น้องพี่ม่อนปีห้า…ผมไม่รู้จักหรอกว่าไอ้พี่ม่อนน่ะคนไหน ว่าแต่พี่ป้าห้ามีคนชื่อม่อนด้วยเหรอวะ ผมทำหน้ามึนๆ

“อ๋อ…..วันหลังเจอพวกพี่ก็ทักได้นะ”ผมเออออตอบกลับไป

“ผมขอไลน์พี่ได้ไหมอ่ะ แลกกัน”ไอ้น้องเจมส์เอาโทรศัพท์ออกมาแล้ว ไอ้เคนมองหน้าผมพลางเลิกคิ้วเหมือนถามว่าจะเอาไง

“พี่ไม่ค่อยได้เล่นไลน์อ่ะ มือถือพี่รุ่นเก่า ไม่ค่อยจะดีด้วย”ผมโกหกเพื่อตัดปัญหา ให้ไลน์ไปนี่เสี่ยงต่อการโดนเชือดมาก ถึงพวกมันไม่ค่อยได้เช็คโทรศัพท์ผมก็เถอะ แต่มันสองคนหูตาเยอะจริงๆ รู้ข่าวไวมาก

“งั้นขอเบอร์พี่ก็ได้ พี่ต้องมีแน่ๆ”

“มีครับ แต่ให้ไม่ได้”ผมบอกไม่ตรงๆ

“มันมีผัวแล้ว”ตามมาด้วยไอ้ชาย ผมเหลือกตามองมัน ถ้าจะช่วยพูดแบบนี้ก็เงียบๆไปเถ้อะ ไอ้น้องเจมส์ดูจะไม่ตกใจอะไร

“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือ”อุแม่เจ้า ผมถึงกับทำหน้าเอ๋อๆ เหมือนได้เจอโคลนนิ่งตัวเองเลยว่ะ ไอ้เคนหัวเราะหึๆอยู่ข้างๆ

“พี่ว่าผัวมันถือนะ”ไอ้ชายพูดต่อ แต่เหมือนมันจะขำมากกว่า

“ก็อย่าให้ผัวพี่เขารู้สิ”ดูเหมือนไอ้น้องเจมส์จะหงุดหงิดไอ้ชายพอตัว ผมนี่แอบอึ้งเลย ไม่คิดว่าจะพูดแบบนี้ โอ้ เด็กสมัยนี้แรงดีจริงๆ ผมว่าตอนที่ผมคั่วกับแฟนคนอื่นก็ไม่เคยใช้คำพูดแบบนี้นะ ถ้าคนไหนไม่โอที่จะเล่นด้วย ผมก็บาย

“โหย แฟนพี่ดุมากกก น้องเจมส์ไม่ควรจะเอาตัวนุ่มๆขาวๆบอบบางมาเสี่ยง”อาจฟังดูเหมือนม่อ แต่ผมห่วงจริงๆรูปร่างแบบนี้โดนตีนไอ้สองคนนั่นขึ้นมา ผมว่าตับไตไส้พุงช้ำแน่นอน

“รู้ได้ไงว่าตัวเจมส์นุ่มเคยจับเหรอ”น้องเจมส์ดูอายๆแต่ดันขยับเข้ามาใกล้ผมมากไปอีก ไอ้ชายกลอกตาไปมาเหมือนเหนื่อยหน่าย ผมขยับออกห่างเนียนๆโดยการทำทีเป็นก้มหยิบขวดน้ำแล้วเลื่อนตัวออก ตอนนี้มีคนมาเยอะกว่าเดิมแล้ว ไฟสปอร์ตไลท์ถูกเปิดขึ้นเมื่อเริ่มมืด

“พี่ฟิกจะไม่ให้เบอร์จริงๆอ่ะ ๆ ไม่สงสารน้องเหรอ”ผมสงสารตัวเองมากกว่าว่ะ ไม่อยากตายไงก็เลยไม่ให้

“แฟนพี่ดุจริงๆนะ”ผมย้ำอีกรอบ

“เจมส์ไม่กลัวหรอก”

“จริงดิ”ผมเลิกคิ้วมอง

“จริง แฟนพี่ชื่ออะไรล่ะ”

“ชื่อภู วิศวะปีสี่…”

“น่าเสี่ยงนะพี่ฟิก ถ้ามาลองแอบคบกันดู”ผมพูดไม่ทันจบ ไอ้น้องเจมส์ก็แทรกขึ้นมาก่อน ผมนิ่งงันไปนาน นิสัยมันเหมือนผมเมื่อก่อนมากจริงๆ ยิ่งเห็นเรื่องเสี่ยงเป็นเรื่องท้าทายแบบนี้…ไอ้เคนเอนตัวมาใกล้ผม

“นิสัยเหมือนมึงเลยสัด”

“เออ”

“น่า พี่ฟิกลองคบดูก่อน ไม่เวิร์คค่อยว่ากัน”ผมกระพริบตาก่อนจะตบบ่าไอ้น้องเจมส์

“สนใจมาเป็นศิษย์น้องกูไหม”ไอ้น้องเจมส์ดูจะมึนๆ ไอ้เพื่อนสองตัวขำพรืดออกมา

“ศิษย์น้องอะไร ผมไม่เป็นหรอก”แล้วมันก็ทำสิ่งที่ผมไม่คิดว่ามันจะกล้า มันเข้ามาโอบคอผมพร้อมกับแตะริมฝีปากนุ่มๆมาที่ซอกคอผมเฉียดกกหูไปนิดเดียวเอง ไม่งั้นมีสยิวแน่

“ไอ้ฟิก…”

“ซวยสัด นั่นผัวมึง”

ซวยสัดจริงๆ เพราะไอ้คนที่มองตรงมาที่ผมคือไอ้ภูกับไอ้ตินแน่ๆ และพวกมันคงเห็นช็อตนั้นเข้าเต็มๆ เหมือนมีคนมากดปุ่มสต็อปสิ่งรอบตัวดูเหมือนนิ่งงัน เหมือนผมจ้องตามันสองคนนานมาก และโลกก็หมุนอีกครั้งเมื่อมันสองคนก้าวตรงมาหาผมแล้ว ผมรีบเลื่อนตัวลงจากอัศจรรย์ทันที ตอนนี้ผมไม่ขออยู่แถวนี้ดีกว่าเพราะเวลาพวกมันระเบิดมันไม่สนหน้าไหนทั้งนั้น ไอ้เคนกับไอ้ชายเองก็รีบลุกอย่างเข้าใจสถานการณ์

“มึงลองขยับสิ”เอี๊ยดด เสียงของไอ้ตินเบรกผมให้สงบนิ่งทันที ผมยังไม่ทันได้ขยับไปไหนเลย ตอนนี้รู้สึกเหมือนจะร้องไห้จริงๆเพราะมีสายตาหลายคู่หันมามองไอ้ภูกับไอ้ติน สีหน้ามันน่ากลัวแบบนั้นคงคิดว่ามันจะมากระทืบใครแน่ๆ ผมเห็นสายตาดุๆของไอ้ภูตวัดมองไอ้เจมส์ มันถึงกับเบียดตัวเข้ามาหาผมด้วยท่าทีกลัว

“อย่าจับกู”ผมสะบัดมันออก หาเรื่องให้กูแล้วไหมล่ะ

“มึงทำอะไรวะ”ไอ้ภูถามเสียงนิ่ง แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่ไอ้เจมส์ ผมเหลือบมองเพื่อนที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล สัด มาอยู่ใกล้ๆกูหน่อยก็ไม่ได้ จำไว้เลยนะพวกมึง

“กูไม่มีอะไรในก่อไผ่นะเว้ย”ผมรีบตอบเสียงสั่นๆ ยกมือเหมือนผู้ร้ายโดนปืนข่มขู่ ไอ้ตินหันมามองผม

“จริงเหรอ”มันยกยิ้ม ผมเสียวหวาบไปทั่วสันหลัง รอยยิ้มแม่งน่ากลัวเชี่ยๆ

“มันมาขอเบอร์กู แต่กูไม่ให้ ถามเพื่อนกูได้ ถามเลย”ผมชี้ไปที่ไอ้สองตัวนั่น มันก็พยักหน้าหงึกหงักกลับมา

“ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่อยู่ที่ไอ้เด็กนี่มันซุกคอมึง”ไอ้ภูไม่พูดเปล่าแต่มันคว้าคอเสื้อไอ้น้องเจมส์ด้วย ผมกลัวแทนไอ้น้องเจมส์จริงๆครับ ณ เวลานั้น มันตกใจจนหน้าซีด แต่ผมไม่ช่วยมันหรอก ลำพังตัวผมยังเอาไม่รอด

“ผะ ผมแค่หยอกเล่น”ไอ้เจมส์ตอบเสียงตะกุกตะกัก ผมเลียริมฝีปากพลางนึกหาคำพูดดีๆ

“กิ๊กมึงเหรอ”ไอ้ตินถามขึ้นมาอีกครั้ง

“ไม่ใช่นะเว้ย”ผมรีบตอบ

“แล้วมึงนั่งนิ่งให้มันซุกทำไม ชอบล่ะสิ”ไอ้ภูสวนทันควัน ขึงตามองผมจนผมกลัวหัวหด

“ก็กูตกใจ”ตอนนั้นยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วย

“หึ ไร้เดียงสามากเลยนะมึง ไอ้ฟิก”มันแดกดัน ตอนนี้เกือบครึ่งพุ่งความสนใจมาที่ผมกับพวกมัน ตายๆ ขอแค่พวกมันอย่าทำให้ผมอายมากกว่านี้ก็พอ

“มันไม่มีอะไรจริงๆนะพี่”ไอ้เคนเดินเข้ามาใกล้ สีหน้ามันนิ่งสงบ ดีมากเพื่อน กูรักมึงงง

“กูไม่ได้ขอความเห็นมึง”ไอ้ตินสวนกลับทันที ทำไมมันดุแบบนี้วะ ปกติไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย ผมแตะปลายข้อศอกไอ้เคน บอกให้มันเงียบๆ

“แต่กูแค่บอก เผื่อมึงจะพากันหน้ามืด ลืมพกสมอง คิดว่าไอ้ฟิกเล่นด้วย”ไอ้เคนเดินหน้าต่อจนผมใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม

“ไอ้เคน…”ผมกระซิบเตือนมันเบาๆ

“มึงด่ากูเหรอวะ”คราวนี้ไอ้ภูพูดขึ้นมา

“เปล่า อย่าร้อนตัว”

“ไอ้เคน มึงหุบปากเดี๋ยวนี้....มึงไม่เห็นหน้ามันเหรอ”มึงไปยั่วโมโหมันทำม๊ายยย

“พวกมึงมีเหตุผลบ้างดิว้า เพื่อนกูมันไม่นอกใจพวกมึงหรอก ไม่เห็นเหรอว่ามันกลัวเป็นลูกหมาแล้ว มันป๊อดจะตาย อย่าดุมันดิ”ไอ้ตินกับไอ้ภูพร้อมใจกันมองมาที่ผม ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆไปให้พวกมัน

“มึงออกไปก่อน กูไม่ฆ่าเพื่อนมึงหรอก”ไอ้ตินพยักหน้าให้ไอ้เคนถอยห่าง คราวนี้มันยอมโดยดี อ้าว ทิ้งกูอีกแล้ว

“มึงรู้ไหมว่าทำไมกูถึงโกรธ”ไอ้ภูถามด้วยเสียงนิ่งๆ มืออีกข้างยังกำคอเสื้อไอ้เจมส์แน่น สีหน้ามันเหมือนจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ

“กู…”ไม่รู้ ตอบไปจะตายไหมวะ เงียบดีกว่า

“หึ เพราะมึงไม่เห็นคิดจะห้ามมันจริงจังเลย กูมองอยู่นานล่ะ ดูว่ามึงจะทำยังไง”ไอ้ภูมองนิ่งๆ ทำผมใจเต้นไม่เป็นส่ำ นี่พวกมันมากันตั้งนานแล้วเหรอ

“ถามจริง ถ้ากูไม่เข้ามา มึงจะทำไงต่อ”

“กูก็ผลักมันออกไปไกลๆดิ มึงคิดว่ากูจับมันมาฟัดหรือไงวะ ถามโง่ๆ”ผมชักหงุดหงิดขึ้นมา

“มึงตอบดีๆ กูให้โอกาสพูดใหม่”เสียงเย็นมาจากไอ้ติน

“กูไม่นอกใจมึงหรอก”ผมพูดเสียงเบาลง เพราะมันสองคนไม่คิดจะลดเสียงเลย

“แต่ยอมให้มันแทะเล็ม”ก็แอบยอมรับนิดๆนะ…นิสัยบางอย่างที่ผมเคยใช้เหมือนจะผุดออกมาเวลาเจอคนด้านๆเหมือนกัน ยอมรับว่าพอใจไอ้เจมส์ แต่ไม่ใช่ในแบบชู้สาวอะไรทำนองนั้น ผมถึงออกปากให้มันเป็นศิษย์น้องผู้ช่ำชองของผมไง

“ผม …แค่ล้อพี่เขาเล่นเฉยๆครับ”ไอ้เจมส์ตะกุกตะกักตอบมา

“ล้อเล่นเหรอ…”ไอ้ภูก้มมอง สีหน้าเรียบนิ่งก่อนที่มันจะกระชากไอ้เจมส์ลงมาแล้วยกเข่าใส่ท้องน้อยไอ้เจมส์เต็มแรง จนมันร้องโอดโอย

“เฮ้ยๆ พี่หาเรื่องเด็กคณะผมเหรอ”คนที่เล่นบอลอยู่เข้ามาถาม แต่เมื่อไอ้ภูหันไปมองมันก็หัวหดทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

“พี่จะสั่งสอนแค่เบาะๆว่าคิดจะเป็นกิ๊กคนอื่นมันไม่ดี”ไอ้ตินยิ้มเหมือนกำลังสอนการบ้านเด็ก มันจัดการแทงเข่าไปที่จุดอ่อนของผู้ชายทันที ผมเบ้หน้า ภาวนาในใจขอให้มันไม่เป็นหมันก็พอ ไอ้ภูปล่อยคอเสื้อไอ้เจมส์ มันร่วงลงไปโอดโอยกับพื้นทันที มีคนมองอยู่ห่างๆแต่ไม่กล้าเข้ามา ผมกลัวยามจะเข้ามาตรวจมากๆ ถ้าเจอนี่แจ็คพ็อตแน่ๆ

“ส่วนมึงเคลียร์กันที่ห้อง”ไอ้ตินคว้าแขนผมได้ก็ลากออกมาทันที มันพาผมเดินตัดสนามบอลแบบไม่เกรงใจใครหน้าไหนทั้งนั้น

“กูบริสุทธิ์ใจนะ”ผมพูดทันทีเมื่ออยู่ในรถไอ้ภูแล้ว มันปิดประตูดังปังก่อนจะหันมามองหน้าผม

“มึงคงชอบใจล่ะสิ เจอคนสันดานเดียวกัน คบกันกูว่าคงมันส์น่าดู”มันพูดแดกดันผมอีกแล้ว

“คงต้องเลิกกับพวกมึงก่อนอ่ะ ถึงจะรู้ว่าคบกับมันแล้วจะมันส์รึเปล่า”ผมแดกดันกลับแบบไม่ยอมแพ้ ไอ้ภูถลึงตาใส่ผม

“อย่าประชดด้วยเรื่องนี้”

“มึงก็อย่าประชดกูด้วยเรื่องนั้นเหมือนกันดิ กูแค่เคย ตอนนี้ไม่แล้ว”ทั้งรถเงียบกริบ เหลือเพียงแค่ลมหายใจของผมกับพวกมัน

“กูไม่อนุญาตให้ใครแตะต้องมึง กูหวงมึงเข้าใจไหม”ไอ้ตินทำลายความเงียบขึ้นมาคนแรก

“เออ กูเข้าใจ แต่ช่วยฟังเหตุผลด้วยได้ไหม กูกลัวพวกมึงนะเว้ย มองอย่างกับจะฆ่ากู”กลัวจริงๆนะแม่งสายตาอำมหิตมองมาตั้งสองคน

“เคยบอกแล้วไงว่ากูไม่ฆ่ามึงหรอก”ไอ้ภูแทรกขึ้นมา

“แต่แค่ต้องเจ็บมากกว่ากูแค่นั้นเอง”

“ขู่กูอีก แค่นี้ก็หัวหดแล้ว”ผมทำใจกล้าหน้าด้านเข้าไปหอมแก้มพวกมันคนละฟอด

“คิดจะไถ่โทษเหรอ”ไอ้ตินปรายตามอง

“เออดิ พวกมึงเลิกทำโหดใส่กูได้แล้ว ไม่งั้นกูหนีไปนอนกับไอ้เคนแน่ๆ”

“มึงลองไปสิ”ไอ้ภูทำเสียงเข้ม

“เออๆ พวกมึงต้องการอะไรล่ะ”ไอ้ตินหันมามองหน้าผมด้วยสายตาจริงจัง

“ห้ามไว้หนวด”มันอะไรกับหนวดผมนักหนา…

“ก็ได้”กัดฟันพูด

“ห้ามกลับมาฮาร์ดคอ กูชอบนิสัยมึงตอนนี้ น่ารักกับกูนาน ๆมึงคงเข้าใจนะ น่ารักมาน่ารักกลับ เหี้ยมาเหี้ยกลับ ไม่โกง”มันยังยิ้มอ่อนราวเทพบุตรให้ผม สัดติน มึงมันไอ้ตัวโกงในคราบพระเอก

 “ส่วนของกู มึงคัดลายมือสามร้อยจบ”

“อะไรของมึงวะ คัดลายมือเนี่ยนะ”ประสาทแดกแล้วแน่ๆ

“เออ หรือมึงอยากโดนอย่างอื่นแทน กูบอกเลยนะว่ามึงไม่ได้นอนแน่ แต่พวกกูสงสารเลยลดโทษให้”นี่โทษผมนักหนาเลยใช่ไหม ซึ้งใจจริงๆที่ยอมลดโทษให้ ไอ้เห็บหมาชื่อภู

“ด่ากูในใจเพิ่มอีกสองร้อยจบ รวมแล้วห้าร้อย คัดมาให้กูสวยๆแล้วจำใจให้ขึ้นใจ”ไอ้สัดดดดดดดดดดด

“คัดว่า”พวกมันสองคนมองหน้ากันเหมือนเตี๊ยมมาแล้ว

“มีผัวแล้ว”
พวกมันนี่เหลือเกินจริงๆ!
 



 

TBC.

เอาตอนป่วงๆมาคั่นให้หายคิดถึง  >_< ตอนนี้ยังไม่ค่อยว่างเลยค่ะ  :เฮ้อ: ถ้าเป็นไทแล้วจะเอาเรื่องของตินมาต่อให้ทันทีน้าา

ปอลู.ของยังไม่มีโอกาสส่งเลย ไว้จะเร่งตัวเองให้ส่งเร็วๆนี้เน้อ  :กอด1:


หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: oilzii ที่ 17-10-2015 02:41:15
ตั้งแต่มีผัวนี่นางมุ้งมิ้งขึ้นนะ :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: tonytoy4 ที่ 17-10-2015 05:22:12
ฟิกน่ารัก   :-[:impress2:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 17-10-2015 06:29:07
 :impress2:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 17-10-2015 07:02:12
คิดภึงตินฟิกภูมากกก
หนูฟิกมุ้งมิ้งอย่ากลับมาฮาร์ดคอเลย :z1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-10-2015 07:19:32
ฮาฟิกมากมาย. นี่แค่ตอหนวดนะ  ดึงความซวยเข้ามาตรึม
คัดไปจ้าคำนี้จำขึ้นใจแน่ๆ. ระหว่างที่คัดนี่ต้องทำอย่างอื่นไปด้วยรึเปล่านะ.  :hao6:   

อีน้องเจมส์ก็ไปดีเถิดนะ. ขอบคุณที่มาอัพนะคะ. คิดถึงสามหน่อและผองเพื่อนมากๆเลย
มีคำผิดค่ะ ถูกลากลงจากอัฒจรรย์  จ้ะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 17-10-2015 07:59:59
ชอบเพื่อนเคนจังเลย  :o8:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-10-2015 09:16:45
จากนี้คงไม่มีใครคิดจะแอบเป็นกิ๊กกับฟิกอีกนะ

เจอเข่าเข้าไปเจมส์น้อยเป็นยังไงบ้างบุบสลายตรงไหนมั้ย

เจ้าที่เขาแรงดูซิยังไม่ทันได้เบอร์โทรเลยเจ้าที่ทั้ง 2 ก็มาเห็นช็อตเด็ดพอดี

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 17-10-2015 09:52:45
  :m20: :jul3: :m20:กรรมของนางฟิก คัดคำว่า "หนวดพาซวย" กับ “มีผัวแล้ว” ให้ครบด้วยนะ  :jul3: :m20: :jul3:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 17-10-2015 10:52:39
คิดถึง ภู ติน ฟิก ฮือออออออออออออออออออออออ

อ่านไปยิ้มไป ฟิกน่ารักอ่ะ ชอบบบบบบ พี่ภูก็ยังสโลแกนเดิมเสมอต้นเสมอปลาย คือ เรื่องหื่นไว้ใจภู 55555+
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 17-10-2015 12:02:25
ถ้าฟิกคัดห้าร้อยจบนี่ไม่ใช่แค่จะจำขึ้นใจน่ะ
มันคงเข้าไปอยู่ในสายเลือดเลยว่ามีผัวแล้ว 555
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 17-10-2015 12:33:49
หึงแรงทั้งคู่. เสือฟิกหมดลายซะแล้ว. ภูตินโหดสุดๆ. มาต่อบ่อยๆ นะ. ชอบจัง ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-10-2015 12:37:31
แแผนแกล้งเมียหรือเปล่าเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-10-2015 12:41:26
แผนแกล้งเมียหรือเปล่าเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 17-10-2015 12:43:38
ฟิกยังไม่สิ้นลาย 5555 เจอคัดลายมือเลย
 :m20:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 17-10-2015 13:20:00
อยู่ในโอวาทสามีอ่ะดีแล้วลูกกกกก นู๋ฟิก

เราจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวบ่อยๆ คึคึ

น่าจะให้คัดเพิ่มอีกคำหนึ่งนะ

คำว่า  'รักผัวมาก'  กร้ากกกกก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 17-10-2015 14:04:42
5555555555555555 โคตรน่ารักอะภู แบบนี้แหล่มๆ คัดลายมือครั้งนี้จำขึ้นใจ

แต่นึกว่าจะมีบทลงโทษอย่างอื่น โถ่!! ไม่ได้หื่นนะ!  :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 17-10-2015 14:27:51
มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว   มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว  มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว มีผัวแล้ว

ช่วยฟิกคัด ต้องห้าร้อยจบ มือหงิกพอดี คงจำจนตายเลยพี่เอ้ยยยย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 17-10-2015 14:41:56
สนุกมาก แต่แอบสงสารฟิกนะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 17-10-2015 15:05:36
ฟิกไว้หนวด ยังพอนึกได้ แต่ถ้าอีหนูฟิกกินยาคุมนี่สิ มันแบบ  :laugh:  เป็นคั่นเวลาที่มีครบทุกอารมณ์มากๆ ชอบเวลาสามคนนี้อยู่ด้วยกัน คุยกันแมนๆดี พี่ภูนี่มันหื่น พี่ตินนี่ก็ตามกันทันแล้ว แต่ไปๆมาๆ พอๆกันแหละสามคน  :haun4: เป็นไงอีน้องเจมส์ คิดจะเดินตามรอยเท้าอีพี่ฟิก แต่โดนตีนสองผัวอีพี่ซะก่อน โชคดีนะโดนแค่แทงเข่า เลยพาให้อีหนูฟิกมันเมื่อยมือไปด้วย เมื่อเจอคำสั่งลงโทษให้คัดลายมือ  :m20:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Wannida ที่ 17-10-2015 18:32:21
รอนานมากๆๆเลย คิดถึง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 17-10-2015 18:56:12
อ่านตอนนี้แล้ว..ฟิกน่ารักสุดๆ

ภู...ตินถึงได้รักได้หลงหัวปักหัวปำ
เป็นใคร..ใครก็หลงเน๊าะ
น่ารักขนาดนี้..ฟิก
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 17-10-2015 19:04:19
ไอ้ฟิกคนโหดเมื่อก่อนหายไปไหนแล้ว 55555555555
กลายเป็นลูกแมวไปแล้วนะฟิกเอ๊ย
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 17-10-2015 20:00:37
เคนช่วยฟิกด้วยทราบซึ้งใจแทน ฟิกอย่าลืมไปคัดลายมือ 500 จบว่ามีผัวแล้ว 5555
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 17-10-2015 21:48:13
 :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 18-10-2015 00:51:47
ไม่รู้ทำไมแต่เวลาพี่ภูกับพี่ตินหึงฟิกแล้วโคตรชอบเลยอะ มันแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่รักฟิกมากแค่ไหน รวมถึงฟิกเองก็ไม่เคยคิดจะนอกใจสองคนนี้ด้วยถึงจะอ้างเหตุผลว่ากลัวแต่จริงๆก็รักมากๆเหมือนกันนั่นแหละ ขอบคุณสำหรับตอนคั่นให้หายคิดถึงค่ะ ยังรอตอนพี่ตินอยู่เช่นเดิม และขอบคุณอีกครั้งกับของรางวัลจะรอของมาส่งนะคะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 18-10-2015 06:36:37
ฟิก น่ารักว่ะ ยิ่งอยู่ด้วยกัน 3คนนี่มุ้งมิ้งจริงๆ
ภูกับตินนี่หึงฟิกได้ตลอด แต่อยากให้มีฟังฟิกบ้าง
ฟิกมันพัฒนาแล้วนะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: mammam ที่ 18-10-2015 08:21:42
น่ารักจะตายเนอะฟิกเนอะ
หัวข้อ: Re: 3P [ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน #ตอนคั่นเวลา[P.13] 17-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 18-10-2015 16:47:39
ฟิกเอ๊ย ยอมรับโทษบนเตียงแทนเถอะ 55555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 18-10-2015 18:03:01

Piw: ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆ






ตอนเช้าผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกว่าโดนรบกวน อะไรนุ่มๆ เปียกๆตรงซอกคอ…ผมย่นคิ้วเมื่อนึกได้ว่ามีคนมานอนด้วย…ไอ้เด็กที่ (เหมือนจะ) แมน…ไอ้ปั้น ผมลืมตาขึ้นทันที เห็นชัดเต็มตาเลยว่าถูกอะไรรบกวนอยู่ ไอ้เด็กปั้นกำลังขบเม้มต้นคอผมอย่างเมามันส์

“ไอ้ปั้น ปล่อย”ผมดันตัวมันออก แต่มันไม่ยอมปล่อยแถมยังกอดผมแน่นมากกว่าเดิมอีก มืออีกข้างก็ล้วงเข้ามาในเสื้อเปะปะ

“นิดเดียว”นิดเดียวอะไรวะ

“ไอ้ปั้น…”ผมขมวดคิ้วมุ่น แต่ก็ค่อยๆคลายลงเพื่อรอดูว่ามันจะทำอะไรต่อ ริมฝีปากนุ่มและลิ้นอุ่นสลับแตะอยู่แถวๆลาดไหล่ ลมหายใจของมันกระชั้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมันเบียดร่างเข้ามาใกล้ก็รู้ได้เลยว่ามันกำลังหื่น ผมเหลือบมองนาฬิกาข้างเตียงอีกฝั่ง หกโมงเช้าอยู่เลย ก็เข้าได้ล่ะนะว่าเช้าๆฮอร์โมนย่อมพลุ่งพล่านเป็นธรรมดา

“พี่ปลิว”มันกระซิบเบาๆ ผมเหลือบมองอย่างนึกรำคาญเมื่อมันหยุดการกระทำอุกอาจของมันแล้ว

“ทำไม”

“ผมอยากอ่ะ”

“….”

“นะ พี่ทำให้ผมหน่อยดิ”

“…”วิญญาณใกล้ออกจากร่างเข้าไปทุกที

“พี่ปลิว”มันส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้

“มือก็มี ช่วยตัวเองไปสิ”ผมบอกอย่างจนปัญญา

“โหย มีแฟนอยู่แล้วแท้ๆ ผมจะช่วยตัวเองทำไม”ผมหันไปมองมันทันที มันยิ้มกว้างซื่อๆมาให้ ไอ้เด็กนี่โคตรจะโมเมเลย ผมยังไม่เคยบอกเลยนะว่าคบกับมัน

“ใครแฟนมึง”

“ก็พี่ไง”

“กูเคยพูดเหรอ”ผมกับมันก็แค่…แค่อะไรดีวะ แค่คนโทรคุยกันทุกวัน แต่ไม่ใช่แฟนแน่ๆ ในเมื่อคุณสมบัติของไอ้ปั้นไม่ผ่าน

“ไม่รู้ล่ะ พี่ช่วยผมหน่อยสิ”มันทำเสียงอ้อน…ซึ่งไม่เข้ากับหน้ามันเลย

“ไม่เอาๆ กูจะนอน”ผมพลิกตัวหนีมัน ไอ้ปั้นเงียบไปสักพัก ก่อนจะสอดแขนเข้ามาลูบหน้าท้องแห้งๆของผม

“…พี่ปลิว”มันเรียกอีกครั้ง แต่ผมไม่ตอบ มันก็เลยลูบๆคลำๆอยู่แถวนั้น แต่ไม่กล้าวนลงต่ำสักที ผมนอนใจเต้นตุบตับรอคอยว่ามันจะกล้าทำอะไรต่อไหม ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดอยู่แถวๆกกหู ร่างกายของมันแน่นกว่าผม เมื่อร่างด้านหลังขยับมาแนบชิดก็สัมผัสได้ทุกสัดส่วน จนรับรู้ถึงอารมณ์ของไอ้ปั้นที่เต็มเหนี่ยวแล้ว ผมกลืนน้ำลายเมื่อสัมผัสได้ว่าของมันนั้น….เอ่อ ค่อนข้างจะน่าพอใจสำหรับผม แต่เมื่อนึกได้ว่ามันอาจไม่ได้ใช้ ผมถึงกลับหมดอารมณ์ เสียดาย…จริงๆ

“พี่ปลิว ผมอยากจริงๆนะ”มันพูดเสียงต่ำ ทำผมสยิวหน่อยๆ

“อืม”

“อืมอะไร”

“มึงก็ทำสิ”

“ห๊ะ?”มันส่งเสียงมางงๆ

“มึงอยากทำอะไรก็ทำสิ”ก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะทำได้ไหม ไอ้ปั้นโน้มตัวมามองหน้าผมด้วยสายตาแน่นแน่ ผมถึงกับถอนหายใจออกมา ก่อนจะรั้งต้นคอมันเข้ามาใกล้ ๆ…จนปลายจมูกเฉียดกัน ไอ้เด็กตรงหน้าหลับตาปี๋รอให้ผมจูบ เป็นภาพที่ทำให้ผมหลุดเสียงหัวเราะออกมาทั้งๆที่ใจอยากร้องไห้

“พี่ปลิว ผมไม่เล่นนะเว้ย”มันทำเสียงหงุดหงิด ผมหยุดหัวเราะก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดึงมันเข้ามาใกล้อีกครั้ง ขบเม้มริมฝีปากตรงหน้า สอดลิ้นเข้าหา สงสัยมันจะไม่เคยจริงๆ เพราะมันไม่ได้ตอบโต้มาแม้แต่น้อยๆ ผมตัดสินใจพลิกตัวมันลงกับเตียง ก่อนจะไล่สัมผัสไปทุกส่วน ได้ยินเสียงมันครางอืออาเบาๆ ในอกผมเต้นไม่เป็นส่ำระหว่างที่ปอกเปลือกมันออก

“ผมหุ่นดีใช่ป่ะ”มันถามเสียงหอบๆ

“อือ”….เสียดายของ

“พี่ก็ถอดบ้างสิ”มันพูดอายๆ

“งั้นก็ถอดให้หน่อย”ผมกระซิบเบาๆ ไอ้ปั้นเหมือนจะตัวแดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ ผมพยายามทำใจกับมันก็แล้วกัน ฝามือใหญ่ค่อยๆดึงๆกางเกงของผมลง มันเหลือบมองหน้าผมก่อนจะหลุบสายตาลงต่ำ ผมถอดเสื้อออกเอง ระหว่างที่มันดึงกางเกงผมหลุดไปแล้ว หน้ามันแดงไปหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งหู

“กูจะทำยังไงกับมึงดีวะ”ผมอดพึมพำออกมาไม่ได้

“คบกับผมนะ ถึงผมจะไม่ใช่ในแบบที่พี่ต้องการ แต่ผมสัญญาว่าผมจะดูแลพี่ให้ดีที่สุด”ระหว่างที่พูด สายตามันจับจ้องอยู่ที่กึ่งกลางลำตัวของผม ผมเลียริมฝีปากที่แห้งผาก

“…กูไม่เคย มึงก็รู้ว่ากูเป็นฝ่ายรับมาตลอด”นี่ผมต้องมาอธิบายเรื่องนี้ให้มันฟังจริงๆเหรอ ไอ้ปั้นไม่ได้ตอบอะไร แต่มันเข้ามากอดผมทั้งตัว ร่างกายเราบดเบียดกันอยู่สักพัก มันก็กระซิบเสียงสั่นๆว่า

“ผมอยากถูกกอด พี่ต้องอ่อนโยนกับผมมากๆนะ”

“…”ผมเม้มริมฝีปากแน่น วันนี้ผมจะทำให้มันแค่เบาะๆก็พอ เพราะผมยังไม่พร้อมจะไปถึงขั้นนั้น

“ทำไมวะ”ผมถามเบาๆระหว่างที่กดจูบไปตามซอกคอ มือสัมผัสเรือนร่างแน่นๆตรงหน้าไม่ห่าง

“…ไม่รู้ เห็นเขาว่ามันรู้สึกดี”ผมดันให้มันนอนลงอีกครั้ง ก่อนจะลากลิ้นไปตามลำคอ จนมาถึงแผงอกแกร่ง ขบกัดตุ่มไตเบาๆ

“อ..อือ..”มันบิดตัวหนีลิ้นชื้นแฉะ ระหว่างที่ผมส่งมืออีกข้างไปบดขยี้จุดอ่อนไหวเบาๆ มันจุดติดง่าย เพียงแค่สัมผัสลูบไล้นิดหน่อย ลูกชายมันก็แผลงฤทธิ์แล้ว ผมเลื่อนสายตาลงต่ำ ก่อนจะแตะริมฝีปากลงไป

“พะ พี่ปลิว”มันครางฮึมฮำ เลื่อนมือขยุ้มอยู่ที่ศีรษะของผม ผมเหลือบมอง เห็นมันหลับตาแน่น แหงนหน้าสูดปากเสียงดัง ผมผละมากดจูบมันอีกครั้ง คราวนี้มันสอดลิ้นกลับมาแบบกล้าๆกลัวๆ เรียวลิ้นดูดดึงอยู่สักพัก ฝามือชื้นเหงื่อของมันเลื่อนมาสัมผัสของผมอย่างกล้าๆกลัว ๆ ผมปล่อยให้มันลองเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่เอง เห็นใบหน้าแดงเรื่อๆของมันแล้วก็ตลกดี

“พี่ปลิว ผมอยากให้พี่…”

“ไม่ วันนี้พอแค่นี้”ผมตอบเสียงนิ่ง ผมยังไม่ทันได้เตรียมตัวเลย

“ไม่เอาน่า พี่ทำให้ผม ครั้งหน้าผมทำให้พี่ก็ได้”ไม่รู้ว่ามันพูดจริงหรือแค่ขอไปที

“พี่ปลิว”มันพูดเสียงเข้ม ก่อนจะเข้ามาจูบผมเบาๆเหมือนเอาใจ ผมใจเต้นระส่ำขึ้นมากับการกระทำและท่าทางใสซื่อของอีกฝ่าย ในหัวมีแต่คำถามที่ว่า ‘เอาไงดีวะ’ มันผลักผมนอนลงก่อนจะพลิกมาค่อยๆลากจูบตามลำตัวเปลือยเปล่าของผม ผมหลับตาลง ปล่อยให้มันสำรวจร่างกายทุกซอกทุกมุม จนเมื่อริมฝีปากนุ่นครอบลงที่จุดไวสัมผัสที่ตอนนี้ปวดหน่วงๆขึ้นมาแล้ว ระหว่างที่กำลังเคลิ้มๆ ฟันของมันก็ลากครืดจนผมสะดุ้งโหยง

“โอ๊ย ไอ้…มึงจะฆ่ากูเหรอ”ผมดันมันออก ไอ้ปั้นทำหน้าเหวอๆ

“ก็ ผมแค่อยากทำให้พี่บ้าง โทษที ผมทำไม่เป็น”มันหัวเราะแฮ่ๆ ไม่รู้สึกรู้สาอะไร ผมลูบหน้าไปมา มันเปลี่ยนมานั่งคร่อมผมแล้ว ผมใจสั่นขึ้นมา

“มึงจะทำอะไร”

“ให้ผมลอง…”

ตุ้บ

ผมถีบมันลงทันที อยากจะตะโกนใส่หน้ามันว่าตำแหน่งนี้ของกูเว้ย!

“พอๆ มึงมีเรียนไม่ใช่เหรอ”ผมเหวี่ยงขาลงจากเตียงเพื่อหลีกหนีสถานการณ์ไม่สู้ดี

“มีตอนบ่าย พี่อย่าหนีสิ ยังไม่เสร็จเลย”มันเข้ามากอดผมจากด้านหลัง พร้อมกับเลื่อนมือมาจับลูกชายผมเป็นตัวประกัน ผมชะงักกึก ปล่อยให้มันช่วยสะสางอารมณ์ที่ค้างคา มันก้มมาใช้ลิ้นเลียซอกคอผมเบาๆ ระหว่างที่ล่องลอยไปกับความเสียววูบวาบ ผมก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมา ในเมื่อมันอยากลอง…ถ้าผมทำให้มันไม่ชอบล่ะทำให้มันเจ็บมาก ๆ เอาให้เดินแหก หรือว่าถึงขั้นได้เลือดไปเลยดีไหม มันจะได้ไม่กล้ามาขอลองอีก เป็นความคิดที่ดี…  

“พี่ปลิวเสียวไหม”มันถามผลงานของมัน

“อือ”ผมตอบส่งๆ มันก็เสียวแหละ แต่ไม่สุด ไม่รู้สิ ไอ้ปั้นเข้ามาหอมแก้มผมหลายฟอด ลูกชายมันยังดุนดันหลังผมอยู่เลย

“มึงแน่ใจนะว่าอยากลอง”ผมถามมันเสียงเข้ม

“ใช่ ผมอยาก”มันตอบเต็มเสียง ไอ้เด็กนี่มัน…ผมหมดคำพูดว่ะ

“แน่ใจนะว่าไปเรียนไหว”

“ไหวอยู่แล้ว”มันเริ่มทำเสียงลังเล

“งั้นนอนรอไป”ผมเหลียวไปมองหน้ามัน ไอ้ปั้นดูจะตื่นๆและกลัวเล็กน้อย ผมโน้มตัวไปขบเม้มติ่งหูมันเบาๆ

“แล้วอย่าร้องไห้ล่ะมึง”ผมขู่ไว้ก่อน ก่อนจะเดินโป๊ไปหาตัวช่วย …ผมชะงักมือที่หยิบเจลล่อลื่นออกมา …ไม่ดิ ผมไม่ต้องใช้หรอก แต่สำนึกส่วนดีมันก็แย้งมา สุดท้ายก็ต้องหยิบเจลมาด้วย ไอ้เด็กปั้นนอนรออยู่จริงๆ ดีไม่แหกแข้งแห้งขา ไม่งั้นผมรับไม่ได้แน่ๆ

“พี่เอามาทำไม”มันถามด้วยเสียงใสซื่อ 

“เอามาช่วยให้เข้าง่ายๆไง”ไอ้ปั้นขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เอาล่ะ ผมจะไม่เล้าโลมมันหรอก ผมขยับเข้าไปแทรกกลาง ดันขามันออก ไอ้ปั้นถึงกับยกมือขึ้นปิดหน้า ผมเห็นท่าทางแบบนั้นของมันแล้วหงุดหงิดจึงไปดึงมือมันออก

“กูอยากเห็นหน้ามึง”แค่นั้นมันก็ยอมปล่อยมือลงแต่โดยดี มันเลียริมฝีปากไปมา

“เราจะเริ่มเลยเหรอ จูบกันก่อนไหม”

“ไม่อ่ะ”ผมบอกปัด ก่อนจะพยายามบิ้วอารมณ์ตัวเองโดยการนึกภาพไอ้ฟิก (โทษนะแต่ขอยืมหน่อย) เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็ป้ายเจลเย็นๆไปที่ช่องทางของอีกคน มันสะดุ้งก่อนจะยกตัวมอง

“พี่ไม่ต้องใส่ถุงยางได้ไหม ผมอยากได้แบบแนบแน่น ครั้งแรกของผมกับพี่ผมอยากให้รู้สึกดีที่สุด”คำพูดของมันทำผมชะงักมือ อยู่ๆก็กลัวมันเจ็บขึ้นมา ผมเหลือบมองไอ้ปั้น มันนอนมองเพดานด้วยสีหน้าที่แสดงความกลัวออกมาเล็กน้อย ผมถอนหายใจ ก่อนจะเพิ่มเจลมากขึ้นอีก

“พี่…จูบผมหน่อย”มันส่งเสียงมา จนผมต้องผละไปกัดปากมันแรงๆ แต่ดูเหมือนมันจะชอบ มันล็อคหน้าผมไว้ด้วยสองมือ พยายามจะสอดลิ้นเข้ามา ผมผละออกมาเช็ดน้ำลายด้วยแขน แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรมันหรอก

“โทษทีพี่ ผมจูบไม่เป็นอ่ะ”มันพูดด้วยเสียงตื่นๆ ผมเผลอยิ้มออกมา ก่อนจะปลุกเร้าอารมณ์มันอีกครั้ง บดเบียดร่างเปลือยเปล่ากันอยู่นาน ผมก็ละมาที่ช่วงล่างมันอีกครั้ง กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

เอาวะ!แค่ครั้งเดียว แล้วหลังจากนั้น จะไม่มีอีก ผมค่อยๆชำแรกแทรกนิ้วเข้าไปที่ช่องทางที่แน่นสนิท มันเกร็งตัวขึ้นมาทันที เพื่อบั่นทอนความเจ็บ ผมเลื่อนมือไปที่กึ่งกลางลำตัวที่ร้อนระอุเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ ผมค่อยๆทำทุกอย่างช้าๆค่อยเป็นค่อยไป จากที่คิดจะทำให้มันเลือดตกยางออกก็เปลี่ยนเป็นไม่อยากให้มันเจ็บ ไม่รู้สิ คงเพราะผมเป็นรับมาก่อน เลยรู้ว่ามันเจ็บเอาเรื่องเหมือนกัน และเหตุผลนี้ก็ทำให้ผมรู้ว่าต้องทำยังไง แบบไหนมันถึงจะไม่เจ็บมาก

ในห้องมีเพียงเสียงลมหายใจกระชั้นถี่ของผมและไอ้ปั้นเท่านั้น ตอนนี้มาถึงครึ่งทางแล้ว และดูเหมือนมันจะไม่เจ็บแล้วด้วย แต่ผมก็ยังคงไม่ใส่อย่างอื่นไปแทนนิ้วที่ขยับอยู่ในตัวของมัน

“อะ…อือ…”เสียงครางกระเส่าๆของมันทำให้ผมหน้าร้อนขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ มันกัดปากตัวแน่น สองมือดึงผ้าปูที่นอนเมื่อถึงจุดที่พอใจ

“พี่ปลิว…”มันเรียกด้วยเสียงสั่น ๆ

“…”ผมยังไม่พร้อมเลย แย่ๆๆๆ

“โอยย เสียว ซี้ดด”กูบอกว่ายังไม่พร้อมเว้ย ทำยังไงดีวะ

“พี่ปลิว”มันกระทืบเท้ากับเตียงเหมือนเรียกเมื่อผมไม่ตอบรับมันเสียที ทั้งๆที่ผมก็ปวดหน่วงจนแทบระเบิดเหมือนกัน ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตั้งสตินะปลิว ทำๆไปให้มันจบ แค่ครั้งเดียว ถือเป็นประสบการณ์ชีวิต ในเมื่อทนไม่ไหว ผมก็ค่อยๆเบียดแทรกสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วเข้าไปช้าๆ ไอ้ปั้นครางเสียงดังกว่าเดิมอีก มันกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ไปหมด ผมแทบเป็นลมเมื่อถูกบีบรัดจนรับรู้จังหวะการเต้นตุบๆ อืม…จะรู้สึกดีก็ไม่ใช่ มันพูดไม่ถูก ผมดันขามันให้กว้างมากขึ้น นวดเฟ้นแก้มก้นของอีกคน มันครางอื้ออ้าไม่หยุด เอาวะ! ผมปลุกใจตัวเองอีกครั้งก่อนจะดันเข้าไปจนสุด มันนอนกัดปากหน้าแดงตัวสั่น ไม่ต่างจากผม ความอ่อนนุ่มและแรงบีบทำเอาทั้งร่างสะท้าน

“ฮ่า โอยย เสียวเหี้ยๆ”มันพูดเสียงดังระหว่างที่ผมเริ่มขยับตัว เหงื่อแตกพลั่กๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมหลับหูหลับตาเบียดแทรกตัวเข้าไปไม่เว้นว่าง ทั้งเหนื่อยทั้งเสียว   

“พี่ปลิว โคตรเสียวอ่ะ”มันทำหน้าเหมือนถูกใจจนผมเริ่มกลัว  หวัง-ว่า-มัน-จะ-ไม่-ติด-ใจ-หรอก-นะ ผมได้แต่ครางต่ำๆในลำคอ เมื่อมันดึงผมเข้าไปจูบ เรียวลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผากของผมเหมือนจงใจยั่ว? ไม่นะ…ความหวังของผมเริ่มริบหรี่ มันกอดผมแน่นเมื่อใกล้ถึงฝั่ง เสียงครางอู้อี้ดังอยู่ข้างหู ผมหลับตาพยายามช่วยให้มันเสร็จ แต่….

…ผมเริ่มเจ็บๆแสบๆที่ลูกรักแล้ว

“พี่…หยุดทำไม”มันถามหอบๆ

“เจ็บว่ะ”ไม่รู้เป็นอะไร เหมือนเครื่องดับกลางคัน ผมเจ็บจนทำต่อไม่ไหว เลยได้แต่ใช้ปากช่วยให้มันถึงฝั่งแทน ผมเงยมองหน้าไอ้ปั้น มันดูจะเสียดายอยู่เหมือนกัน ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะขยับไปนั่งคร่อมมันแทน

“นอนเฉยๆพอ”ตำแหน่งนี้ผมถนัดสุด ของจริงมันเริ่มจากนี้ต่างหาก ไอ้ปั้น!

…………………………………………………………….

ผมเหนื่อยแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งๆที่ไม่ได้ใช้ท่าพิสดารอะไรเลย ผมออนท็อปให้มันไปสองรอบ แล้วมันก็เสร็จทั้งสองครั้ง ผมหวังว่ามันจะชอบแบบนี้ มากกว่าโดนผมเปิดซิงมันนะ แต่ก็ไม่แน่ ไอ้ปั้นสลบไปแล้ว

“ทำไมกูเจอแต่คนแปลกๆวะ”ผมพึมพำเบาๆกับตัวเอง นี่ถ้าเอาไปโพนทะนาจะมีใครเชื่อไหมว่าผมได้ไอ้ปั้นแล้ว ไม่รู้มันไปจำใครมาว่าต้องอยู่ตำแหน่งนี้ ผมค่อยๆเลื่อนตัวลงจากเตียง

“จะไปไหน”ไอ้ปั้นถามเสียงงัวเงียกลับมา

“อาบน้ำ เตรียมไปทำงาน”ใกล้จะเที่ยงแล้วด้วย

“ผมขอค้างนะ เหมือนจะไปเรียนไม่ไหว”มันบ่นพึมพำ สีหน้าเหนื่อยๆ

“เจ็บ…รึเปล่า”ผมเลียบๆเคียงๆถาม ตั้งแต่ลำคอขึ้นไปร้อนเหมือนมีใครมาพ่นไฟ

“ก็..นิดหน่อย แต่พี่เก่งนะ ผมไม่ค่อยเจ็บเลย คราวหลัง--”

“ไม่มีคราวหลัง”ผมพูดเสียงเข้มก่อนจะรีบเข้าไปอาบน้ำ ผมคิดอะไรอยู่นาน ก่อนจะออกมา ไอ้ปั้นนั่งหัวยุ่งอยู่บนเตียง

“พี่…”สีหน้ามันดูเป็นกังวล

“ทำไม”ผมเลิกคิ้วมองระหว่างที่หาชุดมาใส่ ตู้เสื้อผ้าใหญ่มาก และยังมีเสื้อของเจ้าของห้องติดอยู่หลายตัว

“พี่อย่าทิ้งผมนะ”

“กูจะทิ้งมึงทำไม”ผมมองมันอย่างหัวเสีย

“อย่าพูดแบบนี้”ผมเสยผมอย่างหงุดหงิด

“ก็ผมกลัวพี่ได้ผมแล้วทิ้ง”ไอ้ปั้นนะไอ้ปั้น

“ถามจริงนะ มึงชอบแบบไหนมากกว่ากัน”ผมเท้าเอวมองไอ้เด็กตรงหน้ามันเกาต้นคอด้วยสีหน้าเขอะเขิน

“ก็ชอบทั้งสองอย่างนั่นแหละ”ผมค่อยเบาใจได้นิดหน่อย เกิดความเงียบขึ้นมา

ติ๊ดดดด ติ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น ผมรีบใส่เสื้อยืด ใครมา…ผมเดาได้แค่คนเดียว

“มองหน้าทำไม”เสียงเข้มๆถามเมื่อผมเปิดประตูออก เจ้าของห้องยืนทำหน้าหงุดหงิด ก่อนจะกระแทกไหล่ผมเข้ามา

“กูมาเอาของ ไม่ได้มาเอาห้องคืน ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น--เชี่ย”เสียงตกใจดังขึ้น ก่อนได้ยินเสียงปึงปัง และเสียงหมัดกระทบใบหน้า ผมรีบวิ่งเข้าไปดู เห็นพี่ภูกำลังเหวี่ยงไอ้ปั้นออกจากตัว มีรอยช้ำอยู่ที่มุมปาก อย่าบอกนะว่าไอ้ปั้นทำ

“มึงเป็นใคร!”ไอ้ปั้นตะคอก

“แล้วมึงเป็นเหี้ยอะไร”ผมยังไม่ทันได้เข้าไปห้าม ไอ้ปั้นก็โดนหมัดหนักๆสวนไปแล้ว และตามมาด้วยลูกกระทืบ

“เฮ้ย พี่ เดี๋ยวๆ นี่เพื่อนผมเอง มันคงตกใจที่เห็นพี่”ผมเข้าไปขวาง ไอ้ปั้นก็ไอ้ปั้นเถอะ ผมพอจะรู้ดีกรีความโหดของพี่ภูมาบ้างเหมือนกัน

“เพื่อนมึง?”พี่เขาดูเหมือนจะไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ร่างสูงเดินเข้าไปค้นอะไรบางอย่างที่ลิ้นชักโต๊ะข้างเตียง

“มึงไปหาเรื่องเจ้าของห้องทำไม”ผมกดเสียงต่ำ ไอ้ปั้นลูบหน้าไปมาด้วยความโกรธ

“เจ้าของห้อง?มันเป็นใคร”อ้าว ก็บอกว่าเจ้าของห้อง

“คนที่ให้กูยืมที่ซุกหัวนอน มึงไปขอโทษพี่เขาด้วย”ไอ้ปั้นคลายสีหน้าลง ก่อนจะเหลือบมองพี่ภูที่หยิบกระดาษหลายสิบแผ่นมาใส่แฟ้ม แต่ก็หยุดชะงักเมื่อสายตาเหลือบมองที่เตียงยับๆและมีคราบหลังกิจกรรมติดไว้

“กูไม่ได้ห้ามนะ ถ้ามึงจะพาใครมาสนุกด้วย แต่…เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้กูด้วย”แล้วพี่เขาก็ตึงตังออกไปพร้อมกับประตูที่ปิดลงดังปัง

“ขอโทษที่ผมทำอะไรวู่วาม ก็ผมคิดว่ามันเป็น…”ไอ้ปั้นถอนหายใจก่อนจะลูบท้องที่โดนกระทืบด้วยสีหน้าเจ็บๆ

“เป็นอะไรมากไหมนั่น”ผมมองอย่างเป็นห่วง กลัวมันช้ำใน

“เจ็บนิดหน่อย ตีนหนักดีเนาะ มันเป็นใครวะ”ผมไม่ได้ตอบแต่ลุกไปหยิบยานวดมาให้

“ทาซะ เดี๋ยวกูต้องไปทำงานแล้ว”ผมเข้าไปหยิบกระเป๋า

“เลิกเมื่อไหร่ เดี๋ยวผมไปรับ”

“เออ”

แต่วันนี้ผมไม่ได้ไปทำงานหรอก ไม่ใช่กะผม ผมแค่อยากออกมาคิดอะไรคนเดียว ได้แต่นั่งเล่นอยู่ที่หน้าคอนโดเพราะไม่รู้จะไปที่ไหน เพื่อนก็ไม่ค่อยมี ผมชั่งใจว่าจะกดโทรหาไอ้ฟิกดีไหม…แต่ก็ไม่โทร ระหว่างที่กำลังจิ้มๆโทรศัพท์ ไอ้ปั้นก็โผเผออกมา มันกำลังยัดเสื้อนักศึกษาใส่กางเกงลวกๆ ด้วยท่าทางเร่งรีบ มันคงจะไปเรียนล่ะมั้ง ผมหันหน้าไปอีกทางเพราะกลัวมันเห็น เมื่อมันขี่รถออกไปแล้ว ผมก็กลับมาบนห้อง นอนพักให้หายเหนื่อย


หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 18-10-2015 18:04:15


ตื่นมาอีกทีห้องก็มืดสนิท ผมคว้าโทรศัพท์มากดดูเวลา เกือบสี่ทุ่มแล้ว ไม่มีสายเข้าจากใครสักคน …ผมเหงาว่ะ…ระหว่างที่ปล่อยให้ความคิดวิ่งวน ผมก็ตัดสินใจออกไปเที่ยว เพราะลึกๆแล้ว ผมยังไม่สุด ถึงเมื่อเช้าจะได้ปลดปล่อย แต่มันก็ยังค้างๆคาๆอยู่ ออกไปหาความสุขเข้าตัวเองดีกว่า ผมแต่งตัวออกไปที่ผับแห่งหนึ่ง ผมเคยเป็นขาประจำอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ก็ห่างๆไปนานแล้ว คนยังเยอะเหมือนเดิม ผมหาที่นั่งว่างๆที่บาร์จิบวีสกี้แพงๆสักครั้ง รสชาตินุ่มลิ้มแผ่ซ่านอยู่ในปาก ผมนึกไปถึงรสจูบของไอ้ปั้น อืม…มันยังต้องฝึกอีกเยอะ ฝึกยังไง กับใคร…ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะเตือนตัวเองว่าอย่าถลำลึกไปกับไอ้ปั้น ผมกวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนจะหยุดเข้าที่ร่างหนึ่ง ร่างนั้นกำลังเต้นแบบสุดเหวี่ยง ไม่สนใครหน้าไหนอยู่ข้างเวที ผมขมวดคิ้ว เมื่อจำเสี้ยวหน้าและผิวขาวโอโม่แบบนั้นได้

ไอ้ป่าน!

แค่นึกถึงชื่อมันผมก็เจ็บจี๊ดขึ้นมาในอก มันกำลังสนุกสุดเหวี่ยงแต่ปล่อยให้ใครอีกคนทุกข์ทนอยู่เพียงลำพัง ผู้ชายโง่ๆที่เอาแต่รอมันกลับมา ไอ้คนโง่ที่ชื่อโต ผมอยากจะหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปไอ้ป่านที่บัดนี้โดนผู้ชายรุมล้อม แล้วมันก็ดูจะชอบใจที่ถูกจับนู่นจับนี่ แล้วไหนล่ะ ไอ้มาร์ชผัวใหม่แสนรวยกระเป๋าใหญ่ของมัน ทำไมไม่อยู่ด้วยกันแล้วปล่อยไอ้ป่านมาแรดแบบนี้ได้ไง ผมกวาดตาเพื่อหาแฟนใหม่มันแต่ก็ไม่เจอ ช่วงหกเดือนมันเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน ผมยาวขึ้น ขาวขึ้นและดูสาวขึ้น ต่างจากผมลิบลับที่ดูแข็งๆขึ้นเพราะเรื่องเจ็บๆที่เจอมา ตามเดิมผมก็ไม่ใช่พวกออกสาวอยู่แล้ว ยกเว้นเวลาเผลอๆบนเตียง ยิ่งมาเห็นไอ้ป่านทำแบบนี้ ผมก็ยิ่งสงสารไอ้โต จนทนไม่ไหว ผมเลยเข้าไปหาไอ้ป่านที่ถูกผู้ชายล้อมรอบอยู่ กว่าจะเบียดเข้าถึงตัวมันได้ก็ยากลำบากจริงๆ

“ไอ้ป่าน”ผมคว้าแขนเล็กๆของมันให้ตามมา แต่มันขืนตัวเล็กน้อย และดูจะจำผมไม่ได้ด้วย กลิ่นเหล้าฟุ้งมาจากมันทำให้ผมต้องย่นจมูก

“ไม่เอา จะเต้นก่อน”มันหัวเราะอ้อแอ้ ผมหงุดหงิดจนต้องลากมันออกมาอย่างทุลักทุเล กว่าจะออกมาจากร้านได้ก็เล่นเอาเหนื่อย

“มึงมายุ่งอะไรกับกูเนี่ย….อีปลิว”มันสะบัดมือผมออกทันที ก่อนจะมองผมขึ้นๆลงๆ

“อกหักจนต้องตัดผมใหม่เลยเหรอ”มันเองก็รู้ว่าผมเลือกเดินออกมาจากไอ้โต

“เออ ไม่คิดว่ามึงจะเป็นแบบนี้ ไหนล่ะ แฟนใหม่สุดหล่อของมึง”พอผมถามมัน ไอ้ป่านก็ทำสีหน้าแปลกๆเหมือนไม่อยากพูดถึง

“เอาเรื่องของตัวเองให้รอดก่อนเถอะ”

“ตอบแบบนี้ อย่าบอกนะว่าโดนหลอก”ผมยิ้มเยาะออกมา มันเชิดหน้าขึ้นเหมือนไม่ยอมแพ้

“โดนทิ้งแล้วหนักหัวมึงเหรอ อย่างมึงก็เป็นได้แค่ตัวสำรอง”ผมกำมือแน่น ห้ามตัวเองอย่างหนักไม่ให้เข้าไปกระชากหัวมัน

“หึ ถึงกูเป็นตัวสำรอง แต่กูก็ไม่เคยถูกโยนทิ้งเหมือนผักเหมือนปลาแบบมึง”ผมตั้งใจจะหมุนตัวหนี แต่เมื่อนึกบางอย่างได้ก็หันไปหามันอีกครั้ง คราวนี้ไอ้ป่านดูจะตั้งรับเต็มที่ มันกอดอกมองผมด้วยสายตาที่เดาไม่ถูก

“กูขอร้อง อย่ากลับไปหาไอ้โต กูสงสารมัน ปล่อยมันไปเถอะ”สงสารที่มันรอคนแบบไอ้ป่าน

“มึงจะเก็บไว้กินเองใช่ไหม”มันตวาดใส่ สีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ร่อมร่อ

“กูเลือกเดินออกมาแล้ว ไม่คิดกลับไปหรอก”

“หึ กูไม่ได้เห็นแก่ตัวขนาดนั้น ยังไงกูก็ไม่กลับไปหามันแล้ว กูบอกมันไปแล้ว ว่ากูน่ะ…ไม่มีค่าให้มันรอหรอก”มันยกยิ้มเยาะขึ้นมา ไม่ใช่สำหรับผม แต่คงเป็นตัวมันเอง

“กูไม่มีหน้ากลับไปหรอก มึงสบายใจได้ กูมันก็แค่…คนร่านๆ”มันยกมือขึ้นถูจมูก

“รู้ตัวก็ดี”มันเหลือบมองผมก่อนจะหัวเราะแบบไร้อารมณ์

“ตอนแรกกูจำมึงไม่ได้ ตัดผมแล้วหน้าเปลี่ยน นิดหน่อย”ผมถอนหายใจ โทรศีพท์ในกระเป๋าสั่นอีกครั้ง

‘ไอ้ปั้น’

“ฮัลโหล”ผมหันมาคุยโทรศัพท์

[พี่โกหกผม]

“โทษที”ผมเดาว่าคงเป็นเรื่องงาน ปลายสายมีเสียงคนคุยโฉ่งฉ่าง เหมือนมันอยู่ในวงเหล้า

[ผมไม่ชอบคนโกหก]

“แล้วอยู่ไหน”

[…ผมบอกว่าผมไม่ชอบคนโกหก]มันย้ำคำเดิม ผมเลิกคิ้ว

“แล้วยังไง”

[พี่…ผมเป็นแฟนพี่นะ]มันพูดเสียงดัง

“ยังไม่ใช่”ผมไม่นับมันเป็นแฟนหรอก

[ทำไมอ่ะ เราได้กันแล้วนะ] มีเสียงโห่ฮิ้วดังมา จนผมต้องยกโทรศัพท์ออกห่าง ผมเหลือบมองเห็นว่าไอ้ป่านยังยืนอยู่ที่เดิม

“แค่นั้นไม่เรียกว่าแฟนหรอก มึงไม่ผ่านคุณสมบัติ”ผมทำใจทำแบบเมื่อเช้าไม่ไหวหรอก เรื่องบนเตียงก็เป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ ผมคงคบกับมันแบบไม่มีความสุขแน่ๆ ผมไม่ได้อยากมีเมียตัวใหญ่ หน้าแมน แถมเป็นนักเลงอีก

[เรื่องนั้น่ะเหรอ…สำคัญขนาดนั้นเชียว]

“ใช่ สำคัญ”สำหรับผม

[พี่คบกับผมแค่เรื่องบนเตียงหรือไง]

“มันเป็นส่วนหนึ่ง”หลายๆคู่เลิกกันก็เพราะเรื่องนี้ก็มี

[ผม…ผมว่าเรามาคุยกันให้เคลียร์ดีกว่า พี่อยู่ที่ไหน ผมเดาว่าพี่ไม่ได้อยู่ห้องหรอก บอกมาพี่ไปแรดอยู่ที่ไหน] ผมอ้าปากค้างกับคำพูดของมัน

“ไอ้ปั้น”

[ผมพูดเรื่องจริง…ผมไม่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่แรดยังไง แต่ถ้าคบกับผมแล้ว พี่ต้องซื่อสัตย์กับผมสิ ผมถือนะ บอกมาว่าพี่อยู่ที่ไหน] ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะบอกชื่อผับไป ไอ้ปั้นเงียบไปพักใหญ่

[ผมไม่อยู่ พี่ก็หนีเที่ยวซะแล้ว]

“มึงก็เที่ยว”มันอยู่วงเหล้าแน่ๆ

[ไม่เหมือนกัน เดี๋ยวผมไปรับ]

ผมวางสายก่อนจะหันไปมองไอ้ป่าน

“แฟนใหม่มึงเหรอ”มันถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้ ผมขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ ไม่ได้การ ผมจะให้ไอ้ป่านเห็นไอ้ปั้นไม่ได้ ถ้าเกิดมันอยากได้ขึ้นมา …ผมคงทนไม่ได้แน่

“เออ ห้ามยุ่ง”มันยกยิ้มขำๆ

“มึงคิดว่ากูชอบแย่งของคนอื่นเหรอ

“ใช่”ผมตอบทันที แบบมันกินไม่เลือกหรอก

“ถึงกูจะทำตัวแบบนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่ากูจะเอาไม่เลือกนะ”มันดูหงุดหงิดขึ้นมา

“มึงทำตัวให้คนอื่นเขาคิดแบบนี้เองนี่ ช่วยไม่ได้”ผมขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงกับมันจริงๆ

“กูจะรอดูหน้าผัวใหม่มึง”มันเหลือบมองผมด้วยสายตาจิกกัด

“กูไม่ให้ดู”ผมร้อนใจขึ้นมา กดโทรหาไอ้ปั้นอีกครั้ง โชคดีจริงๆที่มันรับ

[กำลังปายย] เสียงยานคางขนาดนี้ ผมว่ามันยังคงติดลมแน่ๆ โอเคไม่โกรธ

“ไปเจอกันที่ห้องนะ”ผมเห็นไอ้ป่านยิ้มสนุกสนาน

[โอเคๆ จัดต่อใช่ไหม ที่รักกก] มีเสียงล้อเลียนมาอีกระลอก ผมถอนหายใจ

“เออๆ”ผมเออออไปงั้น

[เดี๋ยวเจอกัน จะรีบกลับเลย แต่เพื่อนมันถามว่ะ] มันกระซิบมาเบาๆ

“อะไร…”

[ว่าผมอยู่บนอยู่ล่าง] มันหัวเราะคิกๆตามประสาคนเมา

“จะบนจะล่างก็ตอบไปเหอะ” เมาแล้วน่ารำคาญจริงๆ

[โอ๊ย ไม่ได้ ผมจริงจังนะ]

“มึงอยู่ล่างก็ตอบไปสิ”ผมชักหงุดหงิดขึ้นมา

[อายเขา]

“เจอกันที่ห้องนะ”

[จ้าๆ] มันตอบเสียงกวนประสาทก่อนจะวาง

“อะไรอยู่บนอยู่ล่าง”ไอ้ป่านยังคงไม่ไปไหน

“ขอให้สนุกกับผู้ชายของมึงนะ”ผมไม่ตอบคำถามของมัน พลางโบกมือลา ก่อนจะเดินมารอแท็กซี่

“มึงตามมาทำไม”ไอ้ป่าน ยืนลอยหน้าลอยตาอยู่ ผมคันไม้คันมือเหลือเกิน

“กูไม่มีเงินกลับ”หน้าด้านเหลือเกิน

“ไม่มีเงิน?”ผมไม่อยากจะถามว่าปกติมันกลับยังไง เฮ้อ ไหนๆก็เคยอยู่บ้านเดียวกัน จะถือว่าทำบุญก็แล้วกัน ผมส่งเงินค่าแท็กซี่ให้มัน

“มึงจะคุยกับกูดีๆบ้างไม่ได้เหรอ”มันยังไม่รับเงินไปจากผม รถแท็กซี่ผ่านไปแล้วหนึ่งคัน

“ไม่จำเป็น”เพราะผมไม่ชอบขี้หน้าและสันดานมัน และลึกๆแล้ว…ผมกล่าวโทษมันที่เป็นต้นเหตุให้ไอ้โตไม่เลือกผม

“ไอ้โตมันโง่ของมันเอง ที่มันไม่เลือกมึงไม่ใช่ความผิดของกู”ผมเข้าไปขยุ้มเส้นผมยาวๆของไอ้ป่านทันที ผมไม่ชอบที่มันดูถูกไอ้โตแบบนี้ ไอ้ป่านแค่ยกยิ้มมองผมเหมือนไม่สะทกสะท้านที่ผมดึงผมมันแบบนี้

“มึง…ไม่สมควรได้ความรักจากมัน”ทำไมไอ้โตถึงโง่ๆๆๆแบบนี้นะ ผมน้ำตาคลอขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ผมนี่บ้าจริงๆไปเจ็บแค้นแทนมันอีก

“กูไม่ได้ขอให้มันรักกูนี่ ตอนจะไปกูเคยบอกมันแล้ว ว่าอย่ารอกู กูไม่ใช่คนดี ก็เลยปล่อยมันไง”เหตุผลบ้าอะไรของมัน ผมขยุ้มเส้นผมมันแรงขึ้น แต่มันก็ไม่ร้องสักแอะ ซึ่งผมรู้ดีว่ามันเป็นคนเข้มแข็ง(ข้อดีข้อเดียวของมัน) ขนาดไอ้โตเคยซ้อมมันเวลาที่เมาๆมันยังไม่ร้องไห้เลย

“มึงรักมันบ้างไหม”ทำไมผมต้องเจ็บจี๊ดๆด้านในอกซ้ายด้วยก็ไม่รู้ ไอ้โตมันโง่ของมันเองแท้ๆ

“รักสิ แต่คงรักไม่มากพอ”ผมปล่อยมือออกมา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ

“มึงไม่มีทางได้เจอความรักดีๆหรอก ไอ้ป่าน”

“แช่งกูเหรอ…”

“ไม่ได้แช่ง มึงทำตัวแบบนี้กูถึงได้พูดไง”ผมลูบหัวเกรียนๆของตัวเองอย่างหงุดหงิด ผมเสียเวลากับไอ้ป่านมามากพอแล้ว ผมเรียกแท็กซี่ ก่อนจะยัดเงินใส่มือนุ่มๆของอีกคน

“มึงรีบไปให้พ้นๆหน้ากู ก่อนที่กูจะฆ่ามึง”ไอ้ป่านยิ้มกวนประสาทผม

 “ขอบใจ”มันเปิดประตูรถแท็กซี่ค้างไว้ก่อนจะหันมาหาผมเหมือนเพิ่งนึกได้ว่าจะพูดอะไร มันยืดตัวมากระซิบบางอย่างที่ทำให้ผมแทบเป็นลมพับอยู่ตรงนั้น ขนลุกเกรียวกราวไปหมด ถึงแม้รถแท็กซี่คันนั้นจะแล่นไปไกลแล้ว แต่ผมก็ยังจำรอยยิ้มของไอ้ป่านได้และคำพูดของมัน

“ตัดผมใหม่แล้วแมนขึ้นนะ หล่อดี”

 






TBC.


เรื่องของปลิวไม่มีมาม่านะ เพราะจากนี้ชีวิตมันจะป่วงๆ  :laugh:
ตอนนี้มีภูเป็นดารารับเชิญ สามหน่อรอตอนหน้าเน้ออ
อะไรใกล้จะเข้าที่เข้าทางแล้ว รอกันก่อนน้าา :กอด1:




หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-10-2015 18:05:56
 o13.     โถ. ปลิวเอ๊ยยยย. มันไม่สุดใช่ไหมล่ะ.
เอาเถอะน่าปั้นน่ะยังปั้นได้อีก. ลองดูสักตั้งนะ.
ไอ้น้องปั้นก็อยู่ล่างจริงๆแหละพี่ปลิวขึ้นเองเลยจ้า
พี่ภูได้รับเชิญมาแจกตีนสินะ. โถพ่อคุณ. ปั้นรับบทหนักจริงๆเลย
ว่าแล้วทำไมอีป่านมันวอแวจัง. เพราะสะดุดลุคใหม่พี่ปลิวนี่เอง
ขอบคุณที่มาต่อนะคะรอสามหน่อจ้า. 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 18-10-2015 19:02:50
เอิ่มมมมมม ณ จุดนี้ไม่รู้จะสงสารหรือว่าเห็นใจดี
เปลี่ยนทรงผมใหม่ ชีวิตเลยเปลี่ยนไปใช่มั๊ย
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 18-10-2015 19:04:18
ปลิวคงไม่ได้มาทางสายรุก ปั้นตัดใจเถอะ 555555555
แอบตกใจมาร์ชผัวใหม่ เห็นครั้งแรกคิดถึงมาร์ท 5555555555
ไม่รู้ทำไมรู้สึกว่าปลิวป่านน่ารัก
ตัดผมใหม่แล้วแมนขึ้นนะปลิว ท่าทางจะมาทางสายนี้แล้ว 555555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 18-10-2015 19:33:36
คุณพระช่วย  ลูกปลิวของป้า
หน่วงจริงๆค่ะ  สงสารปลิวเลย
รักคนที่เขาไม่รัก อย่างฟิก  อย่างโต
มาเจอปั้นก็ดันอยากเป็นรับอีก
เข้าใจปลิวเลยนะตอนที่พยายามกดปั้น
ความรู้สึกมันไม่ใช่ทรมาณกว่าโดนทำอีก
เพราะว่าได้ชิมแล้วความรู้สึกมันไม่อิ่มมันไม่ใช่

โตกับป่านก็ต่างกรรมต่างวาระกระมัง
จากที่บรรยายมาป่านออกสาวตัวเล็ก
ในขณะที่ปลิวน่าจะผู้ชายธรรมดา
ยิ่งมาตัดผมก็ยิ่งแมน
โตน่าจะชอบตัวเล็กๆ สาวหน่อยๆ
ที่ว่าไม่ดราม่าอาจจะเป็นเพราะปลิวมันปลงแล้วหรือเปล่า?
ปั้นเอ๊ยยยย  ป้่าขอเหอะ   ฟิตหน่อยแล้วมากดปลิว
เป็นรุกนี่หารับง่ายกว่าเป็นรับแล้วตามหารุกนะลูก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-10-2015 19:38:43
ปลิวก็ช่วยปั้นฝึกฝนเดี๋ยวก็ได้ดั่งใจปลิวน่า

ปลิวเปลี่ยนทรงผมใหม่แล้วดูแมนขึ้น

ถึงว่าซิปั้นมันถึงอยากเป็นเมียมากกว่า

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 18-10-2015 20:01:18
โถถถถถถ ปลิวเอ้ยยยยยดูท่าช่วงนี้ออร่ารุกจะเปล่งประกายนะ ฮาาา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 18-10-2015 20:38:55
ปลิวจะอยู่สายรุกได้ไหมเนี่ย เริ่มเป็นห่วง
ป่านไม่ต้องมายุ่งกับปลิวเลย  :angry2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 18-10-2015 21:20:07
โถ่ เจ้าปั้นเจ็บฟรีเลย ไปทำเฮียอารมณ์บ่จอย โดนกระทืบซะงัน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 18-10-2015 21:27:16
บอกไม่ถูก

สงสานปลิว แต่ก็ขำพอๆ กัน
ปั้นมันป่วงจริงๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 18-10-2015 22:24:58
แลดูน่าสับสนนะ  :m20:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-10-2015 23:27:59
กลับกัน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 18-10-2015 23:58:31
55555555555 สงสารอะ สงสารปลิวสุด ปีชงหรอแก5555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: piengtavan ที่ 19-10-2015 08:02:01
สงสารปลิว คือไม่ใช่สายรุก แต่ออร่าคงจับ แบบว่ามีแต่คนเข้าหาอยากให้มารุกนี่ โคตรรรรน่าสงสาร
แต่เราชอบฟีลปลิวป่านนะ ดูทันกันดี จะบอกว่าเป็นเพราะสายเดียวกันหรือเพราะเคยอยู่ด้วยกันมาก่อนก็ได้มั้ง
แต่กับปั้นนี่ ถ้าจะมาสายรับให้ปลิวต้องรอดูเคมีกันนานนนนนน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 19-10-2015 08:58:23
ปลิวคงต้องรีบๆไว้ผมยาวแล้วล่ะ
เผื่อปั้นจะมีอารมณ์อยากรุกบ้าง :ruready
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 19-10-2015 09:56:43
 :m20:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 19-10-2015 13:55:41
ขำข้างบนโน้น ปีชงหรอ เห็นด้วย 55555555555555555555555

รับไม่เวิร์ค หัดรุกให้ปั้นดีไหม 5555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 19-10-2015 16:35:16
คือ ไม่รู้จะหน่วงหรือฮากับชีวิตแปลกๆของปลิวดี ที่มาเจอคนอย่างน้องปั้นหุ่นยักษ์ปักหลั่นแต่อยากเป็นรับ เอ้อ  :mew5: ถ้าเราเป็นปลิวและเจอแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ ปลิวเป็นรับมาตลอด มีความสุขกับการโดนกดมากกว่าให้ไปกด อารมณ์นางเลยแบบไม่สุดอ่ะ น่าเห็นใจปลิวนะ ปลิวไม่ได้หมกหมุ่นแต่ปลิวคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบต้องฝืนทำ ให้ทำไปก็ไม่มีความสุขอยู่ดี ปั้นก็น่าจะเข้าใจปลิวหน่อยนะ ไม่พอยังมาเจอนังแรดป่านที่เห็นปลิวตัดผมใหม่มาดแมน จนนางอยากจะกินบ้างไรบ้าง แต่ปลิวก็กระเดือกไม่ลงหรอก เพราะดันเป็นคนรักของคนที่ตัวเองรัก แต่เอาใจช่วยปลิวนะ ขอให้มีความสุขกับเส้นทางที่เลือก ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ไม่ต้องฝืน ปลิว สู้สู้  :katai2-1: แต่สมน้ำหน้าอีน้องปั้นดันไปขึ้นเสียงกับพี่ภู แหม่ ไม่รู้ซะแล้วผัวใคร เป็นโดน  :z6: คราวหน้าถามก่อนนะน้องนะว่า ฮี เป็นใครจะได้ไม่เอาตัวไปรับส้นทีนอีก  :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน#Piw:ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆP.14 18-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-10-2015 21:48:15
จะสงสารปลิวดีมะ 55555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 26-10-2015 03:00:40

ตอนที่๑๒ 








“เย็นนี้กูจะกลับบ้านนะ”ไอ้ตินบอกระหว่างที่มันกำลังกลัดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้ายเตรียมพร้อมจะไปเรียน ผมเงยหน้าจากทีวีทันที

“ให้กูไปด้วยไหม”

“อยากไปไหมล่ะ”ยังจะถามอีก

“ไปดิ”

“ถ้ายังไงตอนเย็นกูจะโทรหาอีกทีก็แล้วกัน อยู่ห้องคนเดียวเป็นเด็กดีอย่าเถลไถลนะ”ไอ้ตินก้มมาหอมแก้มแต่ผมเบี่ยงตัวหนีได้ทัน

“เออๆ รีบๆไปเรียนได้แล้ว”โบกมือไล่ก่อนจะหันกลับมาสนใจทีวีตรงหน้าต่อ ได้ยินมันหัวเราะก่อนที่ประตูห้องจะปิดลง วันนี้ผมไม่มีเรียน ส่วนไอ้ภูไปตั้งแต่เช้าแล้ว ระหว่างที่กำลังเพลินๆก็ได้ยินเสียงตึงตังมาจากห้องข้างๆ ...หรือว่ามีคนย้ายมาใหม่? ด้วยความอยากรู้ล้วนๆผมจึงทำทีเป็นออกไปรับลมที่นอกระเบียง แอบเหล่มองไปก็เห็นว่าประตูติดระเบียงเปิดแง้มไว้ มีกล่องที่บรรจุด้วยม้วนกระดาษกองอยู่ ผมจ้องมองอย่างสนใจ เมือเห็นภาพวาดเก่าๆกองรวมอยู่ด้วย เดาจากลายมือสวยๆคงเป็นผู้หญิง ผมเลิกสนใจก่อนจะกลับเข้ามาดูหนังต่อ แต่ก็นั่งได้ไม่นานเพราะเสียงเคาะประตูดังแว่วมา

ก็อกๆ

ใครมาอีก หรือไอ้ภูกลับมาแล้ว ผมเดินหน้ายุ่งออกไปเปิดประตู แต่ทางเดินตรงหน้ากลับว่างเปล่า กำลังจะหมุนตัวกลับ แต่สายตาของผมก็ไปสะดุดเข้ากับซองจดหมายสีน้ำตาลที่วางอยู่หน้าประตู จ่าหน้าซองถึงผมด้วย เล่นเอางงเหมือนกันทำไมใช้วิธีโบราณแบบนี้ ผมก้มหยิบซองจดหมายมาเปิด ภายในมีกระดาษแผ่นเล็กๆเขียนด้วยลายมือที่ไม่เป็นระเบียบนัก

‘ถึงแฟนไอ้ติน …ฝากบอกไอ้ตินด้วยนะ…ว่ารออยู่’

คิ้วที่เคยขมวดคลายลง…ข้อความนี้มาจากคู่กรณีไอ้ตินเหรอ…แล้วทำไมถึงเลือกจะส่งมาให้ผมแทน จู่ๆผมก็รู้สึกเหมือนโดนคุกคามแปลกๆ ผมเก็บซองจดหมายยัดไว้ในลิ้นชัก ก่อนจะลงไปด้านล่าง ป้าเจ้าของหอพักกำลังนั่งหาเห็บหาหมัดให้น้องหมาตัวโตอยู่

“ป้าครับ เมื่อกี้มีคนหน้าไม่คุ้นเข้ามาบ้างไหม”เจ้าของหอเงยมอผมก่อนจะขมวดคิ้วทำหน้าครุ่นคิด

“เหมือนจะมีมั้ง ป้าไม่ได้มองหน้าชัดๆ แต่เห็นแว๊บๆว่าใส่เสื้อช็อป เด็กช่างล่ะมั้ง เพื่อนแกเหรอ”

“ก็…ทำนองนั้นแหละ”ผมตอบเลี่ยงๆ

“อ้อ ก็ว่า เห็นมาด้อมๆมองๆหลายวันแล้ว”ผมยิ่งขมวดคิ้วหนักเข้าไปใหญ่ อะไรกันวะ แสดงว่าไอ้พี่ว่านอะไรนั่นให้คนจับตาดูไอ้ตินเหรอ

“ขอบคุณมากครับ ผมไม่รบกวนแล้ว”ผมยิ้มเฝื่อนๆให้ก่อนจะเดินกลับมาขึ้นไปบนห้อง กะจะรอให้พวกมันกลับมาก่อนค่อยบอกก็แล้วกัน ผมไม่ค่อยมีสมาธิดูหนังสักเท่าไหร่ สเก็ตรูปเล่นแก้ฟุ้งซ่านก็ทำได้ไม่ดีนัก คว้าเอาซองบุหรี่กับไฟแช็คออกไปนอกระเบียง ในหัววิ่งวุ่นไปหมด คำถามที่ผมอยากจะถามไอ้พี่ว่านก็คือทำไมถึงมาคุกคามไอ้ตินเอาตอนนี้ แล้วมันสำคัญมากเลยเหรอ ไอ้เรื่องแก้แค้นเอาคืน ถ้าพี่ว่านมันชอบไอ้ตินจริงๆก็ควรดีใจสิที่มันยังอยู่ดี …หรือว่าเลิกชอบไอ้ตินไปแล้ว

“วาดรูปด้วยเหรอ”เสียงนุ่มทักมาจากระเบียงห้องข้างๆ ผมเหลียวไปมอง สะตั๊นไปนานเพราะคนที่สวมเสื้อกล้ามบางๆนั้นเป็นผู้ชาย…แถมหน้าสวยอีกต่างหาก หรือว่าเป็นกระเทย

“เห็นมือเปื้อนคราบดินสอEE”หน้าสวยชี้มาที่สันมือของผมที่เปื้อนดินสอEEเป็นปื้น

“ก็พอวาดเป็น เพิ่งย้ายมาเหรอ”ผมชวนคุย อีกฝ่ายไหวไหล่

“ย้ายมาเมื่อวาน แต่เพิ่งจัดของวันนี้”มันตอบพลางเอื้อมมือมาเล่นตาข่ายที่กั้นระหว่างระเบียงไว้

“อ้อ…”ผมได้แต่ตอบรับเบาๆ

“อยู่คนเดียวเหรอ”มันถามพลางเอนพิงราวระเบียงห้อง ผมเอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มอย่างครุ่นคิดระหว่างที่จ้องมองใบหน้าอีกฝ่าย

“เปล่า”

“กับเพื่อน หรือกับแฟน”รอยยิ้มรู้ทันปรากฏอยู่บนใบหน้า แต่มองไปมองมา ผมว่าหน้าตันคุ้นๆอยูนะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่นึกไม่ออก

“เคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า หน้าคุ้นๆ”

“จะจีบเหรอ”มันยิ้มอีกครั้ง ผมพ่นลมหายใจออกมา

“ห่างไกลจากสเป็คกูเยอะอ่ะ”อีกฝ่ายเลิกคิ้วทันที

“แล้วสเป็คเป็นแบบไหนล่ะ”มันถามด้วยสีหน้าสนใจ แต่เสียงเปิดประตูห้องเข้ามาก็ทำให้ผมเหลียวไปมอง ไอ้ภูกลับมาพร้อมกับผิวปากอย่างอารมณ์ดี

“มึงคุยกับใครวะ”มันทำหน้าตึงก่อนจะออกมาที่ระเบียงบ้าง มันขมวดคิ้วน้อยๆเมื่อเห็นเพื่อนข้างห้องคนใหม่ สีหน้าของมันบ่งบอกว่าเคยรู้จัก

“ใช่พี่ภูรึเปล่า”ไอ้หน้าสวยทักเสียงดัง

“แล้วมึง….ไอ้ม่อนน้องไอ้เม่นใช่ไหม”ไอ้ภูดูเคร่งเครียดขึ้นมา

“ยังดีที่จำผมได้ ไม่เจอกันตั้งนาน”ไอ้ม่อนเผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง

“กูจำได้เพราะเจอมึงเมื่อหลายวันก่อน”มันพูดด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ แต่ผมจับได้ว่ามันกำลังเครียด ผมได้แต่ยืนฟังงงๆ

“จริงเหรอ ทำไมไม่ทักอ่ะ”

“มึงเล่นงานน้องกู”

“ห๊ะ”ไอ้ม่อนทำหน้าหมางง ผมก็งง

“ที่ตลาดนัด….”ไอ้ม่อนทำหน้าเหมือนนึกออก ที่ไอ้ภูบอกว่าเจอคนหน้าคุ้นๆก็คือไอ้นี่น่ะเหรอ ไอ้ม่อนดูเครียดขึ้นมาทันที

“ไอ้ตินน่ะเหรอ น้องพี่”มันทำเสียงเหอะออกมาเบาๆ

“เออ”

“แล้วพี่รู้รึเปล่าล่ะ ว่ามันสร้างเรื่องไว้ เพื่อนผมรู้จักกับเจ้ากรรมมัน ฝ่ายนั้นสั่งให้มาเตือนมันเบาะๆ น้องพี่ร้ายนะ ไม่รู้เหรอ”ไอ้ม่อนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่สีหน้าดูไม่ค่อยสบายใจนัก

“กูรู้ แล้วก็เข้าใจเรื่องราวได้ดีกว่ามึงด้วย แต่กูไม่ติดใจอะไรหรอก ยังไงกูกับมึงก็แค่เคยสนุกกัน”ผมทำตาโตทันทีก่อนจะคว้าแขนไอ้ภูแน่น

“แค่สนุกอะไรวะ”

“มึงคิดไรเนี่ย”มันหัวเราะหึๆ

“กูหมายถึงเคยรู้จักกันเมื่อสมัยม.ปลายตอนที่กูไปคลุกคลีกับพวกเด็กช่าง”

“ก็พูดไม่เคลียร์”ผมหันกลับไปมองเพื่อนเก่าของไอ้ภู มันเลิกคิ้วมองผมสลับกับไอ้ภูไปมาก่อนจะยกยิ้ม

“สเป็คเป็นแบบนี้เองเหรอ”มันส่งสายตากรุ้มกริ้มมาให้ ผมล่ะยี้ 

“อะไรของมึง”ไอ้ภูดูจะหัวเสียขึ้นมา มันพยักหน้าไล่ผมกลับเข้าไปในห้อง

“กูขอคุยกับมันก่อน”

“หวงเหรอ”ไอ้ม่อนแทรกมา มันส่งยิ้มให้ผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหุบลงเพราะไอ้ภูทุบราวระเบียงเสียงดัง ผมก็อยากจะยุ่งนะแต่ไอ้ภูมันไม่ยอมให้ผมอยู่ฟังนี่สิ มันสองคนคุยกันนานมาก ผมแอบมองเป็นระยะก็เห็นสีหน้าของไอ้ภูดูผ่อนคลายมากขึ้น

“มึงสนิทกับมันมากเลยเหรอวะ”ผมถามหลังจากที่มันกลับเข้ามาแล้ว

“ก็ไม่หรอก มันเป็นน้องของเพื่อนกูที่เป็นเด็กช่าง แต่พอกูถอนตัวมาแล้วก็ไม่ค่อยได้เข้าไปยุ่งเท่าไหร่ ส่วนเรื่องที่มันกับเพื่อนมารุมยำไอ้ติน ก็ตามที่มันบอกว่าได้รับคำสั่งมาจากไอ้ว่านอีกที บอกว่าอยากมาเตือนไอ้ติน”ไอ้ภูลูบคางไปมาเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่าง

 “วันนี้ไอ้ตินมันจะกลับไปคุยกับที่บ้านใช่ไหมวะ”

“อือ มึงไปด้วยไหม”

“อันที่จริงก็ไม่อยากไป แต่มาคิดอีกทีกูก็อยากไป”ไอ้ภูพูดจาวกวนจนผมหงุดหงิด ผมหยิบจดหมายสั้นๆที่ได้รับาส่งให้มัน ไอ้ภูทำหน้างงก่อนจะรับไปอ่าน แต่สีหน้ามันก็เปลี่ยนไปทันที

“มึงได้ตอนไหน”

“ตอนบ่ายๆก่อนหน้ามึงจะมาพักนึง กูไปถามป้าเจ้าของหอ เขาบอกว่าเห็นเด็กช่างมาด้อมๆมองๆอยู่”จู่ๆผมก็นึกไปถึงไอ้ม่อน ไอ้ภูอาจจะคิดเหมือนผมก็ได้เพราะมันเดินออกไปเคาะห้องไอ้ม่อนเสียงดังโครมๆ

“มีอะไรอีกอ่ะพี่”มันเปิดประตูออกมาถาม สายตาจดจ้องอยู่ที่กระดาษในมือที่ไอ้ภูที่โชว์อยู่ตรงหน้า

“มึงเป็นคนเอามาให้ไอ้ฟิกรึเปล่า”คำถามของไอ้ภูทำให้อีกฝ่ายหัวเราะออกมา

“พี่มาสงสัยอะไรผมเนี่ย ผมไม่รู้เรื่อง ถ้าข้องมากไปขอดูกล้องวงจรปิดไป”สีหน้ามันดูไม่มีพิรุธอะไร ไอ้ภูถึงคลายท่าทีลง

“ทางที่ดีพี่ควรบอกให้น้องพี่ไปเคลียร์กับทางนั้นได้แล้วนะ ปล่อยเรื่องมาตั้งหลายปี”

“แล้วทำไมไอ้ว่านมันถึงมาเอาเรื่องตอนนี้ล่ะ”ผมถามขึ้นมาบ้าง ไอ้ม่อนเหลียวมองมาทางผมอีกครั้งก่อนจะเผยยิ้มออกมา

“ไม่รู้ คงต้องไปถามพี่เขาเอง พี่เขาก็คงมีเหตุผลของเขาอ่ะ”ไอ้ภูพ่นลมหายใจออกมา

“ผมขอไปด้วย”มันโพล่งออกมา

“อะไร มึงจะไปด้วยทำไม”ไอ้ภูทำเสียงเข้ม

“ผมแค่อยากไปช่วยพี่ไง”ไอ้ภูเหยียดยิ้มทันที

“ไม่จำเป็นว่ะ แล้วถ้ามึงมีลูกตุกติกล่ะก็…กูไม่เอามึงไว้แน่ ถึงมึงจะเป็นน้องไอ้เม่นกูก็ไม่ไว้หน้ามึงหรอก”ไอ้เม่นที่ว่าคงเป็นเพื่อนเคยซี้ของไอ้ภูแน่ๆ

“พี่จะทำกับผมเหมือนคู่อริเก่าพี่หรือไง”ไอ้ภูชะงักกึกทันที จนผมใจแป้ว มันหมุนตัวกลับไปเอาเรื่องไอ้ม่อน

“อย่ากวนตีนกู”

“ผมแค่อยากไปด้วย ผมไม่ได้มีอะไรแอบแฝงทั้งนั้น”มันยกมือขึ้นเหมือนจะบอกว่าไม่มีอะไรปิดบัง

“แล้วมึงจะไปทำไมไม่ทราบ ไม่ใช่ธุระอะไรของมึงเลย”

“ผมแค่อยากไปช่วยพี่”

“ช่วยกู?”ไอ้ภูทำสีหน้ากวนตีน

“ตอบแทนที่พี่เคยช่วยผมไง เมื่อนานมาแล้ว พี่อาจจะลืม แต่ผมจำได้แม่น”ไอ้ภูปล่อยคอเสื้ออีกฝ่าย

“กูไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย มึงเป็นลูกน้องไอ้ว่านไม่ใช่เหรอ”นั่นสิ ผมชักจะงง 

“ผมไม่รู้จักกับพี่ว่านเป็นการส่วนตัว แต่เพื่อนผมมันรู้จัก เอาน่า…เรื่องนี้ผมจัดการได้ ให้ผมไปด้วยนะ”ไอ้ภูหันมามองหน้าผม ก่อนจะหันกลับไปมองไอ้ม่อน

“ไว้คิดดูอีกที เรื่องนี้กูไม่ใช่คนตัดสินใจ”พูดจบไอ้ภูก็คว้าข้อมือผมให้เดินตามมาด้วย

“มึงอย่าไปสนิทกับไอ้ม่อนมาก ไอ้นี่มันไว้ใจไม่ได้”ผมเลิกคิ้วทันที มันหมายถึงเรื่องไหนกัน

“แล้วมึงจะพามันไปด้วยน่ะเหรอ”

“…ไม่แน่ว่ะ กูอยากลองใจมัน ถ้ามันตุกติกล่ะก็…กูไม่ปล่อยมันไว้แน่”ไอ้ภูชักสีหน้าไม่สบอารมณ์

“ไอภู กูไม่อยากให้มึงสร้างเรื่องนะเว้ย ถ้ากลับไปเคลียร์ มึงต้องเซฟตัวเองนะ กูกลัวมึงจะหน้ามืดเหมือนคราวไอ้นัท”ไอ้ภูแค่ส่ายหน้าไปมา

“เออน่า มึงไม่ต้องห่วงหรอก มึงห่วงตัวเองเถอะ เอาจริงๆนะ กูไม่อยากให้มึงไปเลย”มันมองผมด้วยสายตาที่เดาไม่ออก

“กูไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”ผมพูดเสียงแข็ง เรื่องนี้มันห้ามผมไม่ได้หรอก

“กูกลัวมันจะเล่นไม่ซื่อ”ไอ้ภูขยับกระดาษในมือไปมา

“ไอ้ภู…”ผมจะอ้าปากพูด แต่มันก็ยกมือห้าม แล้วเดินหลบเข้าไปในครัว มันเป็นอะไรของมันอีกล่ะ ผมเดินตามเข้าไป เห็นมันนั่งจิบเบียร์อยู่บนโต๊ะ

“มึงรู้ใช่ไหมว่ากูรักมึง”จู่ๆมันก็พูดขึ้นมา

“อือ”ไอ้ภูมองหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา พอดีกับไอ้ตินส่งข้อความมาพอดี

‘รออยู่ด้านล่างนะ’

“ป่ะ อย่าเพิ่งคิดมาก ไอ้ตินรออยู่ด้านล่างแล้ว”ผมคว้าแขนไอ้ภูให้ตามมา มันฮึดฮัดเล็กน้อย ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมบนโต๊ะมาด้วย ไอ้ภูเหมือนจะคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา พอเจอไอ้ติน มันก็ส่งกระดาษให้

“มีคนฝากมาให้มึง”

ไอ้ตินเงียบไปนานหลังจากที่อ่านข้อความนั้น มันถอนหายใจก่อนจะขยำกระดาษเป็นก้อนกลมๆ

“ไปหาม๊ากัน”มันดูจะสงบกว่าทุกที ผมเลยไม่กล้าพูดอะไรมาก ผิดกับไอ้ภูที่ดูหงุดหงิดงุ่นง่านอะไรของมันก็ไม่รู้

เมื่อมาถึงบ้านไอ้ติน ป๊ากับม๊ามันก็ต้อนรับอย่างน่ารักเสมอ ไอ้ภูได้แต่ทำหน้าไม่ถูกเหมือนเคย ผมเหลือบมองไอ้ตินเพื่อดูว่ามันจะบอกทั้งคู่ตอนไหน

“ช่วงนี้พวกหนูๆเป็นยังไงกันบ้างล่ะ สบายดีกันสินะ”ป๊าถามขึ้นมาเหมือนเดาสีหน้ากระอักกระอ่วนของผมกับไอ้ภูออก จะมีก็แต่ลูกชายของบ้านนี้ที่ยังคงสีหน้าปกติดี

“ก็…มีเรื่องชวนให้ปวดหัวนะป๊า”ไอ้ตินตอบขึ้นมาเบาๆ คนทั้งคู่เหลียวมองหน้ากัน

“มีเรื่องที่ทำให้เราปวดหัวได้ด้วยเหรอ”ม๊ามันพูดพร้อมรอยยิ้มใจดีเช่นเคย

“มีสิม๊า เรื่องเก่าๆนั่นแหละ”พอมันเกริ่นขึ้นมา ทั้งป๊าและม๊ามันเริ่มจะมีท่าทีเคร่งเครียดทันที

“ทำไมเหรอ”ป๊ามันยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบด้วยท่าทางสบายๆ แต่ผมว่าท่านก็คงร้อนรนอยู่ในใจแน่ๆ

“ผมอยากกลับไปบ้านเก่า …เพื่อสะสางเรื่องเก่าๆให้มันจบน่ะครับ ป๊ากับม๊าคงรู้ว่าผมพูดถึงเรื่องไหน”เกิดความเงียบขึ้นมา ผมกับไอ้ภูแอบมองหน้ากันอย่างอึดอัด ความจริงก็กะจะรออยู่ด้านนอก แต่ไอ้ตินมันก็ลากทั้งผมทั้งไอ้ภูให้เข้ามาด้วย

“ม๊าไม่อยากให้เรากลับไปเลย เพราะมันอันตราย”

“ทำไมถึงอยากมาเคลียร์เอาตอนนี้”ป๊าถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง จนผมกลัวแทน ไอ้ตินขยับตัวไปมาเหมือนไม่สบายใจนัก

“คือ…”

“ป๊าเคยบอกให้เราไปเคลียร์เรื่องนี้ตั้งนานแล้ว…”ไอ้ตินเงียบไปอยู่นาน ผมพลอยนั่งก้มหน้าเหมือนโดนดุไปด้วย ป๊ามันตอนนี้น่ากลัวจริงๆ

“ตอนนั้นผมไม่กล้า ป๊าก็รู้ ผมจะกล้าโผล่หน้าได้ยังไง”ประโยคหลังมันพึมพำเบาๆกับตัวเอง

“แล้วตอนนี้ทำไมถึงอยากเคลียร์ตินยังไม่ได้บอกป๊าเลยนะ”

“ผมแค่คิดว่ากำลังโดนข่มขู่ แล้วก็…อยากไปขอโทษทุกคนด้วย”ไอ้ตินถอนหายใจออกมาเหมือนเรื่องนี้ทำให้มันเสียพลังงานไปมาก

“ผมแค่อยากทำให้มันจบๆไปเสียที ป๊ากับม๊าให้ผมไปเถอะ ผมสัญญาว่าจะระวังตัวเอง”ไอ้ตินเงยหน้ามองผู้ใหญ่ทั้งคู่ ป๊าเงียบไปเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่าง

“ก็ได้ แต่ถ้าจัดการเสร็จก็รีบกลับมา”ป๊าพูดออกมาในที่สุด ไอ้ตินดูผ่อนคลายมากขึ้น

“ม๊าจะติดต่อคุณลุงไปก็แล้วกัน จะได้ให้คนงานเข้าไปทำความสะอาดบ้าน กลับไปแล้วก็…”ม๊าหรี่ตามองลูกชาย

“อย่าซ่าส์ เข้าใจไหม ม๊าฝากดูมันด้วยนะ หนูฟิก หนูภู เจ้านี่มันร้ายลึก จับไม่ได้ไล่ไม่ทันหรอก”ม๊าหันมาพูดกับผมและไอ้ภูแทน

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ไว้ใจผมได้เลย”ไอ้ภูตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“จะอยู่ทานมื้อเย็นด้วยกันรึเปล่า จะได้ให้ป้าน้อมจัดโต๊ะรอ”

“โหย ป๊าถามแบบนี้ ผมก็ต้องตอบว่าอยู่สิ”ไอ้ตินยิ้มจาง ก่อนจะหันมาตบบ่าผม

“หรือว่าค้างกันที่นี่ดี”ผมเลยหันไปถามไอ้ภูอีกต่อ

“มึงว่าไง ค้างไหม”มันกลอกตาไปมาเหมือนกำลังคิดหนัก

“ค้าง เดี๋ยวกูเล่าอะไรให้ฟัง”แล้วมันก็ลากไอ้ตินออกไปด้านนอกเพื่อไปสุมหัวกันสองคน อะไรวะ มันคุยอะไรกัน ทำไมต้องมีลับลมคมในด้วย

“เดี๋ยวผมช่วยดีกว่า”ว่าแล้วก็เอาใจว่าที่คุณป๊าคุณม๊าหน่อย ผมเข้าไปช่วยม๊ายกจานออกมาที่โต๊ะอาหาร

“ตินได้เล่าเรื่องเก่าๆให้เราฟังไหมลูก”ม๊าถามขึ้นมาระหว่างที่ผมตักข้าวสวยร้อนๆใส่จาน ผมเงยหน้ามองผู้ใหญ่ตรงหน้า

“เล่าครับ”

“แล้วเราคิดเห็นยังไง”ผมวางทัพพีลงก่อนจะมุ่ยปากเพื่อนึกคำตอบดีๆ

“ผมเองก็…ตกใจอยู่บ้าง ยอมรับว่าผิดหวังนิดหน่อย นิดเดียวจริงๆ แต่ผมก็ไม่ได้หวังว่ามันจะเป็นฮีโร่ใจกล้าอะไรอยู่แล้ว ถ้าเป็นผมที่อยู่ในจุดนั้นผมก็คงเลือกทำแบบมัน”

“แล้วเราไม่อยากคิดจะช่วยเพื่อนเหรอ”ป๊าที่นั่งอยู่ใกล้ๆถาม ทำเอาผมสะอึกไปเล็กน้อย นั่นสิ…สมมุติว่าไอ้เคนกับไอ้ชายตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นบ้าง ผมจะทำยังไง จะหนีหรือจะช่วยเพื่อนล่ะ? แต่เมื่อนึกถึงไอ้เพื่อนสองตัวของผมแล้ว มันคงจะด่าผมแน่ๆถ้าหากว่าผมอยู่ช่วยพวกมัน

 “อืม…มันก็ตอบยากนะครับ…ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับผม พวกเพื่อนๆคงไม่หวังให้ผมช่วยหรอก มันคงจะบอกว่า ‘เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะไอ้ฟิก’”ผมเลียนน้ำเสียงไอ้เคน ทั้งป๊าทั้งม๊าหัวเราะออกมาเบาๆ ถ้าเป็นเพื่อนผม มันไม่หวังให้ผมช่วยหรอก เพราะพวกมันรู้แน่ๆว่าผมมันคนไม่เอาไหน แต่กับไอ้พี่ว่านคนนั้น…เขาหวังอะไรล่ะ ให้ไอ้ตินเป็นฮีโร่ช่วยพวกพ้องน่ะเหรอ บางครั้งผมก็นึกตลกเรื่องศักดิ์ศรีงี่เง่านี่เหมือนกัน

“เรื่องลูกชายป๊ากับม๊า ผมไม่เก็บเอามาคิดมากหรอก แค่เป็นห่วงว่ามันจะโดนเอาคืนเจ็บๆมากกว่าน่ะครับ แต่มันไม่ค่อยจะสนใจผมหรอก พูดอะไรก็ไม่ค่อยฟัง เอาแต่พูดว่าเป็นห่วงผมอยู่นั่นแหละ แล้วมันไม่คิดบ้างหรือไงว่าผมก็เป็นห่วง บางทีมันก็ทำตัวน่าหมั่นไส้ ป๊ากับม๊าก็ดูไม่ใช่คนแบบนั้น ไม่รู้มันไปเอานิสัยมาแบบนี้มาจากใคร”ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ จนผมฉุกคิดว่านี่ผมพูดมากไปรึเปล่า

“คือผมพูดเล่นน่ะครับ”แล้วก็หัวเราะแหะๆกลบเกลื่อน

“ได้ยินแล้วใช่ไหม”ม๊ามันหันไปยังทางเข้า ไอ้ตินโผล่มาพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“ฟิกมันเวอร์ กับข้าวน่าทานจังครับ ทำเองหรือเปล่าเนี่ย”แล้วมันก็เฉไฉไปเรื่องอื่น ไอ้ภูเลี่ยงมานั่งข้างๆผม

“ทำมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ”ม๊ามันทำเสียงเข้ม 

“ไปคุยอะไรกันมา”ผมเอนตัวไปถาม แต่มันไม่ยอมบอกผมเลยหยิกเอวมันไปหนึ่งที

“ไอ้ฟิก เดี๋ยวเหอะมึง”มันทำเสียงขุ่นใส่

“ทำไม มึงจะทำอะไรกู”พึมพำเสร็จผมก็หันไปคุยกับม๊าไอ้ตินต่อ อยู่แบบนี้ไอ้ภูมันไม่กล้าทำอะไรผมหรอก มันจะเรียบร้อยมากๆเวลามาบ้านป๊ากับม๊าไอ้ติน

“แล้วภูเป็นไงบ้าง ดีกับพ่อเราแล้วใช่ไหม”ป๊าไอ้ตินถามตรงๆเสียจนมันสำลัก หยิบทิชชูมาเช็ดปากแทบไม่ทัน

“…ก็เรื่อยๆเหมือนเดิมแหละครับ”ไอ้ภูกระแอมก่อนจะยกน้ำมาดื่มแก้เขินรึเปล่าก็ไม่ทราบได้

“พยายามคุยกันดีๆ ยังไงพ่อลูกก็ตัดกันไม่ขาดหรอก ไอ้เรื่องใจร้อนวู่วาม เราก็เพลาๆบ้างนะ”ป๊าสอนด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ไอ้ภูได้แต่พยักหน้ารับเหมือนเด็กเรียบร้อย

มื้อนั้นผ่านไปอย่างครึกครื้น อาจจะเพราะว่าไอ้ตินไม่ค่อยได้กลับมาค้างที่บ้าน ครอบครัวเขาเลยคุยกันยาว ผมกับไอ้ภูออกมาเดินย่อยที่สวนก่อนปล่อยให้ไอ้ตินคุยกับป๊าม๊ามันไป

“มึงคุยไรกับไอ้ตินวะ มีความลับกับกูเหรอ”ผมเข้าไปหยิกเอวมันอีกรอบ

“เปล่า กูแค่เล่าเรื่องไอ้ม่อนให้ฟังเฉยๆว่าจะเอายังไง ให้มันติดไปด้วยไหม”ไอ้ภูล้วงเอาบุหรี่ออกมาสูบ ผมหันไปมองในบ้านก่อนจะรับมาจากมัน

“แล้วไอ้ตินว่าไง”

“มันก็ให้ไปด้วย แต่ถ้าคิดไม่ซื่อ ก็จับเชือด”มันทำหน้านิ่งก่อนจะตบม้านั่งข้างตัว

“มึงว่า…ไอ้ว่านมันยังชอบไอ้ตินอยู่เปล่าวะ”เอนพิงพนักเก้าอี้ก่อนจะเงยมองท้องฟ้าที่เริ่มหม่นแสง มีควันขาวๆลอยฟุ้งมาจากอีกคน

“กูจะไปรู้เหรอ”

“แล้วถ้าเป็นมึง มึงจะยังชอบอยู่ไหมวะ”จากที่ฟังไอ้ตินเล่ามา ผมว่าไอ้พี่ว่านมันนิสัยคล้ายๆไอ้ภูเลย คนข้างตัวเงียบก่อนจะหันมามองหน้าผม

“ถ้าเป็นกู…ไม่รู้ดิ มันก็น่าสับสน อาจจะทั้งรักทั้งเจ็บ มึงเคยได้ยินเปล่า รักมากมันก็เจ็บมาก”ไอ้ภูมองหน้าผมตรงๆ ก่อนจะบี้บุหรี่ลงกับพนักเก้าอี้

“กูกลัวว่าเรื่องมันจะยิ่งบานปลาย กลับไปเคลียร์ในถิ่นพวกมันก็เหมือนเดินเข้าดงเสือ”ผมส่งมวนบุหรี่ที่ยังไม่ได้แตะคืนให้ไอ้ภู มันรับมาขำๆ

“มึงอย่าไปคิดมาก อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”มันเอื้อมมาผลักหน้าผากผมเบาๆ

“แต่กูห่วงมึงจริงๆนะ กลัวพวกมันจะเล่นไม่ซื่อกับมึง ไม่งั้นมันไม่ส่งข้อความมาให้มึงหรอก”ไอ้ภูเงยหน้ามองท้องฟ้าสีหม่นบ้าง ลมเย็นๆเอื่อยเฉื่อยพัดผ่านใบหน้าเบาๆ ร่างสูงๆของไอ้ตินกำลังเดินเข้ามาหาพอดี สีหน้าของมันดูผ่อนคลายลง เดาว่าคงคุยกับป๋าม๊ามันเรียบร้อยแล้ว

“กูว่าจะไปพรุ่งนี้เลย อยากไปจัดการให้มันจบๆไปซะ”ไอ้ตินเสยผมพลางนั่งลงข้างๆผม สีหน้าดูว้าวุ่น ถ้าผมไม่ได้มองผิดไปล่ะก็ ผมเห็นแววหวาดหวั่นอยู่ในดวงตาของอีกคน

“กูเบื่อ”ผมพ่นลมหายใจออกมา ผมไม่ชอบสถานการณ์ตอนนี้เลยจริงๆ

“อีกไม่นานหรอก”

“มึงคิดว่าตอนจบจะเป็นยังไง มึงเคยสนิทกับไอ้ว่านนี่ ลองเดาใจมันซิว่ามันจะเอาไงต่อ”ไอ้ตินมุ่ยหน้าเหมือนกำลังคิด

“อาจจะยำกูให้หายเจ็บใจ แล้วจากนั้นค่อยคุยกัน…แต่มึงไม่ต้องกลัว พี่ว่านเขาไม่ฆ่ากูทิ้งหรอก”ผมทำหน้าเข้มใส่ ยังจะมาพูดเล่นอีก

“จริงๆนะไอ้ฟิก ไม่อย่างนั้นพี่แกคงมาจัดการกูไปนานแล้ว แต่ก็อย่างว่า…จัดการกูตอนนี้ กูคงเสียศูนย์กว่าตอนนั้นอีก…กูไม่กลัวตัวเองเจ็บหรอก กูกลัวแค่…”มันเหลียวมองผมด้วยสายตาจริงจัง ก่อนจะเอื้อมมือมาเล่นดึงเส้นผมที่ท้ายทอยของผมเล่น

“กูไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบที่กูกับพี่ภูกลัว พวกกูเลยอยากให้มึง--”

“กูจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย กูยืนยันจะไปด้วย”ผมทำหน้าหงุดหงิดใส่พวกมันสองคน

“พวกมึง…เฮ้อ มาขนาดนี้แล้ว ยังจะกีดกันกูอีกเหรอวะ กูไม่กลัวไอ้ว่านอะไรนั่นหรอก พวกมึงไม่ต้องห่วงกูจะเอาเพื่อนกูไปด้วย”ผมนึกไปถึงไอ้เคนกับไอ้เชน…ไอ้สองคนนี้พอจะร้ายพอตัว พวกมันจะได้เลิกพะว้าพะวงเสียที ผมก็รำคาญเหมือนกัน คิดว่าผมเป็นสาวน้อยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เหรอไง ผมไม่เอาไหนเรื่องพวกนี้ก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าผมไม่สู้คนสักหน่อย

“ใคร”ไอ้ภูถามขึ้นมา

“ไอ้เคนกับไอ้เชน”มันสองคนชักสีหน้าทันทีเมื่อได้ยินชื่อไอ้เชน เพื่อนที่เคยคิดไม่ซื่อกับผม

“เรื่องมันก็นานมาแล้ว มึงเลิกอคติกับมันซะที”ผมลุกมามองหน้ามันสองคน

“แล้วมีใครไปกับพวกมึงบ้าง”ผมไม่คิดว่าพวกมันจะไปกันตัวคนเดียวแน่ๆ

“ไอ้ชัย”ผมเบ้หน้าทันที

“ทำไมต้องเอามันไปด้วยวะ”ผมเหม็นขี้หน้ามันจริงๆ

“มันก็พอมีเอี่ยวกับพวกพี่ว่านเหมือนกัน เลิกเหม็นขี้หน้ามันได้แล้ว กูไม่ชอบให้พวกมึงเถียงกัน ไปๆมาๆเดี๋ยวได้กันอีก”ผมตาโตมองไอ้คนพูดทันที มันนี่ก็ช่างคิดได้นะ ได้กับไอ้ชัยเนี่ยนะ อีแบบนั้นให้ผมได้กับไอ้ชายดีกว่าเหอะ

“พูดอะไรแสลงหู แล้วมึงล่ะ”ผมหันไปถามไอ้ภูบ้าง

“ก็ไอ้เนมกับไอ้ปา…แล้วก็ไอ้ม่อน”

“มึงแน่ใจนะว่าจะเอามันไป”ผมกลัวจะเป็นเรื่องขึ้นมาน่ะสิ

“ก็ไม่อยากจะเอาไปหรอก แต่กูกับไอ้ตินอยากพิสูจน์อะไรมันซักหน่อย แต่กลัวมันจะมาถูกใจมึงนี่สิ”วันนี้พวกมันสองคนนัดกันมาพูดจาให้ผมแสลงหูแน่ๆ

“พวกมึงนี่เพ้อเจ้อ”ระหว่างที่ไอ้ตินกำลังสะสมมะเร็งเข้าปอด ผมก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ไลน์ไปหาไอ้เคนบอกกล่าวมันซะหน่อย

Fix – เฮ้ย เคนพรุ่งนี้มึงไปกับกูหน่อยนะ 

Ken – ไปไหน?

Fix – เรื่องไอ้ตินที่กูเคยเล่าให้ฟังอ่ะ ไว้จะเล่ารายละเอียดให้ฟังทีหลัง มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อย 

Ken – อืม ได้

มันตอบมาสั้นๆ นัดมันเสร็จเรียบร้อยก็โทรหาไอ้เชนอีกต่อ รายนี้มันไม่ค่อยถามมากอยู่แล้ว และก็โชคดีที่มันว่างไปกับผม

ตอนดึกผมกับไอ้ภูก็เข้ามานอนเบียดกันบนเตียงไอ้ตินตามเคยนี่เป็นครั้งที่สองที่ผมกับไอ้ภูมาค้างบ้านไอ้ติน…จะว่าไปผมยังไม่เคยไปค้างบ้านไอ้ภูเลย สงสัยต้องหาเรื่องไปป่วนบ้างซะแล้ว คิดไปคิดมาก็พลานจะเคลิ้มหลับ แถมพวกมันสองคนก็มาวุ่นวายอยู่ได้

“จบเรื่องเมื่อไหร่ ค่อยจัดเต็ม โอเคนะ”ผมบอกพวกมันสองคนด้วยเสียงง่วงๆ ไอ้ตินยกตัวมามองผม

“แน่นะ”

“ฮื่อ”ตอบไปอย่างรำคาญ คนจะนอนยังมากวนอีก

“ห้ามคืนคำล่ะมึง”ไอ้ภูหัวเราะหึๆอยู่ใกล้ๆ ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที แต่ผมขอเก็บแรงไว้ลุยวันพรุ่งนี้ดีกว่า อยากจะรู้เหมือนกันว่า…ไอ้ตินมันโตมาในที่แบบไหน

 




 

TBC.

เจอกันครึ่งหลังค่ะ ฟิกกับสองสามีเหมือนจะขนพวกไปตีเลย  :laugh: ตอนหน้าจะพาไปรู้จักกับว่านและแก๊ง
พาร์ทนี้เหมือนจะกลวงๆเนอะ  ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรเราเขียนไม่ค่อยออกเลย
ทั้งๆที่อยากเขียนแต่ก็เรียบเรียงออกมาไม่ได้ อึดอัดมากก เฮ้อ :sad2:
ส่วนเรื่องของปลิวรอให้จบเรื่องตินก่อนเนอะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ


 
 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 26-10-2015 04:41:54
ปลิวจะมีคู่ แต่ก็ต้องทำใจรุกบ้างน่ะลุ้นอุปสรรคของตินตอนหน้า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 26-10-2015 07:21:42
หนูฟิกห่วงสามี
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 26-10-2015 08:30:38
 :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 26-10-2015 08:39:43
3 คนนี้น่ารักกกก มีเป็นห่วงกันไปมาด้วย  :impress2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 26-10-2015 08:52:28
 :-[
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-10-2015 08:54:50
เห็นเขาเป็นห่วงกันรักกันก็ดีใจ หนูฟิกไปคราวนี้ก็ทำตัวน่ารักๆนะเท่านี้เขาก็ห่วงกันจะแย่แล้ว
แต่ว่ายังดูเหมือนปัญหามันมองไม่เห็น เราอาจจะเห็นเพียงยอดเขาน้ำแข็งก็ได้
หวังให้ที่ยกพวกกันไปทั้งหมดเนี่ยจะรอดกลับมาทุกคนนะ
คุยกันดีๆเถอะ   :katai3: 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 26-10-2015 10:06:27

ไม่ได้เข้ามาอ่านนาน สนุกเหมือนเดิมครับ  o13
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-10-2015 11:55:39
เรื่องราวซับซ้อน เพราะมีเรื่องของความรู้สึกเข้ามาเอี่ยวด้วย

ทำร้ายกันตรงๆ เจ็บน้อยกว่าทำคนที่รักให้เจ็บเยอะ

ใช้สติกันเยอะๆ นะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-10-2015 12:23:43
รอครึ่งหลังจ้าาาา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 26-10-2015 13:16:36
ขออย่าให้ใครเป็นอะไรไปเล้ยยยย

เอาใจช่วย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-10-2015 15:20:06
ถ้าว่านรักตินจริงแล้วไม่ได้จัดการอะไร กลัวจะเป็นเพราะว่าตินไม่คิดจะรักใครจริงจัง

ถึงได้ยอมอยู่เฉยๆ ไม่มาคุกคามอะไร แต่พอมีฟิกที่ตินจริงจังด้วยก็เลยต้องออกมาเคลื่อนไหวหรือเปล่า

ห่วงทั้ง 3 คนเลยไม่รู้ว่าว่านจะเอายังไง นี่ถ้าฟิกมีฝีมือเรื่องต่อยตีบ้างคงดีกว่านี้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 26-10-2015 16:07:59
รอดูเพื่อนเก่าของตินสายดาร์ก
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 26-10-2015 16:50:25
พี่ภูกับตินคงรอหมดเรื่องใจจะขาด 5555
ฟิกห้ามคืนคำนะเว้ย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 26-10-2015 19:12:19
ขอให้เคลียร์กันด้วยดีนะ :hao5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 26-10-2015 19:24:18
กลัวว่านจะมาลงที่ฟิก

แบบว่าเมิงรักมันมากใช่ไหมไอ่ติน
งั้นนนนน..คนรักเมิงเจอกรู

เพื่อให้ตินเจ็บปวดแบบกระอักเลือด


รีบๆมาต่อเร็วๆ นะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 26-10-2015 19:32:58
ช่วงนี้ลุ้นมากจริงๆกลัวจะเกิดเรื่องกับสามหนุ่ม หวังว่าคงไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกนะเราเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าฝ่ายโน้นต้องการจะทำอะไรกันแน่ ห่วงพี่ตินนะกลัวโดนเล่นงานหนักแต่ก็อย่างที่ภูตินบิกกลัวว่าฝ่ายนั้นจะเอามาลงที่ฟิกนี่ดิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 26-10-2015 20:31:26
3สาสีภรรยาจะยกพวกไปตีเป็นไรที่น่าติดตามมากๆ รอครึ่งหลัง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 26-10-2015 21:45:10
เพื่อนข้างห้องรายใหม่ดูไม่น่าไว้ใจสุดๆ  :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงตะวัน ที่ 27-10-2015 00:03:28
จะเกิดอะไรขึ้นบ้างน้อรอลุ้นครึ่งหลัง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 28-10-2015 12:52:06
ใกล้จะเข้าไปในอันตรายแล้วสินะ  :เฮ้อ: หวังว่าทั้งสามหน่อและพรรคพวกจะปลอดภัยโดยไม่ต้องมีใครเสียเลือดแล้วนะ เชื่อว่าทั้งสามหน่อจะจับมือฝ่าไปด้วยกันได้แน่นอน แต่ต้องระวังตัวเอาไว้ให้มากๆ โดยเฉพาะตินกับฟิก ที่อาจจะโดนหนักกว่าใครเพื่อน ตินต้นเรื่อง ฟิกเป็นคนรัก ที่ว่านอาจจะใช้เป็นเครื่องมือแก้แค้นกับสิ่งที่ตินทำไว้ เพราะจะทำให้ตินเจ็บปวดมากกว่า แต่ก็เชื่อว่าตินและภูไม่ยอมให้ฟิกเป็นอะไรแน่ สู้สู้  :katai2-1: แต่แหม อีน้องฟิกก็จะน่าจะให้กำลังใจสองปั๋วก่อนไปฟัดนะ แบบจะได้มีแรงฮึด  :z1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 28-10-2015 22:49:28
ลุ้นอ่า
รอครึ่งหลัง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-10-2015 23:10:11
รอจบเรื่องแล้วจัดเต็มเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 28-10-2015 23:50:22
ตินนี่หื่นเงียบนะ 55555+
เห็นแต่ละตอน นิ่งๆแต่พอพี่ภูเลื้อยล่ะ ตัวเองเอามั่ง 55555+  ต่อไปจะเป็นไงนะ ห่วงฟิกแฮะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๑๒ ครึ่งแรก P.15] 26-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 31-10-2015 17:56:51
:)
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดให้ถามคำถามตัวละคร] 4-11-15
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 03-11-2015 23:58:53




ตามหัวข้อเลยเนอะ  ใครมีคำถามอยากจะถาม ภู ฟิก ติน หรือตัวละครอื่นๆก็ถามมาได้เลยค่ะ
จะให้พวกเขาเหล่านั้นมาตอบ  :กอด1: 
ป.ล.คำตอบจะเอามาลงให้ทีเดียวกับตอนที่๑๒ครึ่งหลังเนอะ ตอนนี้กำลังปั่นอยู่ค่ะ








หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ เปิดให้ถามคำถามตัวละคร!]
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 04-11-2015 08:45:36
 :hao6:

งั้นขอถาม ภู - ติน ...อะแฮ่ม!...สมมุตินะว่าถ้าฟิกสามารถคลอดลูกเองได้และบังเอิ๊ญ  บังเอิญลูกดันเกิดมาหน้าเหมือนฟิก(นิสัยกวนตีน)  ผู้ชายเลยเข้ามาติด  มาตอม มาจีบเพียบๆ...เลยอยากจะทราบว่าคุณพ่อทั้งสองจะมีวิธีกำจัดแมลงยังไงบ้างคะ?  (อยากเห็นโมเม้นคุณพ่อหวงลูกสาว(?) ของภูกับติน....อิอิ...)
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ เปิดให้ถามคำถามตัวละคร!]
เริ่มหัวข้อโดย: Wannida ที่ 04-11-2015 12:33:36
ยกมือถาม??
ถ้าพี่ฟักสุดหล่อกลับไปทำนิสัยเหมือนเดิม (แอบเล่นชู้กับเมียชาวบ้าน) พี่ตินกับพี่ภูจะจัดการพี่ฟักยังไง  :haun4: (จิ้นไปก่อน) คึคึ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ เปิดให้ถามคำถามตัวละคร!]
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 04-11-2015 17:00:44
ถามฟิกดีกว่า
1.ไปเจอพี่อันได้ยังไงทำอีท่าไหนถึงมาเป็นชู้กับพี่อันได้ นิคด้วย
2.ฟิกยังเจอนิคอยู่มั้ย

จบคำถามนี้หวังว่าฟิกจะยังไม่ตายนะ 5555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ เปิดให้ถามคำถามตัวละคร!]
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 04-11-2015 18:41:48
ถามภู ติน:ถ้าฟิกท้องได้ภูกับตินอยากมีลูกกี่คน

ถามฟิก:ถ้าฟิกท้องได้อยากท้องไหมหรืออยากทำใครท้อง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ เปิดให้ถามคำถามตัวละคร!]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-11-2015 19:07:06
ถามทั้งสามคนเลย.ติดเรทนิดนึงนะ. คิดยังไงกับ DP double penetration.
เราว่าฟิกนางแกร่งพอจะรับได้พร้อมกันนะ.  :o8: 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ เปิดให้ถามคำถามตัวละคร!]
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 04-11-2015 23:05:11
รอ ร้อ รอ


ยังรอเสมออออออ  :t3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ เปิดให้ถามคำถามตัวละคร!]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 05-11-2015 16:54:35
●ถามพี่ฟิก :: ยังคิดที่จะกดพี่ภู ตินอยู่รึเปล่า ?
●ถามพี่ภู+ติน ::.ชอบฟิกน่ารักหรือเกรียนๆ ??
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ เปิดให้ถามคำถามตัวละคร!]
เริ่มหัวข้อโดย: Cady ที่ 06-11-2015 08:25:03
 :m20:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ เปิดให้ถามคำถามตัวละคร!]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 07-11-2015 10:06:54
:)
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ เปิดให้ถามคำถามตัวละคร!]
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 07-11-2015 11:42:33
ถามเบสิคเรื่องปากท้องเลยค่ะ เมนูโปรดของแต่ละคน ติน ฟิก ภู
แล้วปกติพี่ตินเป็นคนทำอาหารให้ อยากทราบเมนูประจำตัวที่พี่ตินทำบ่อยๆ
ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไปจ้า สู้ๆค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ เปิดให้ถามคำถามตัวละคร!]
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 07-11-2015 12:32:29
คิดถึงแล้วววว เลยมาถามบ้าง :katai2-1:

ถาม พี่ภู กับ พี่ติน เคยคิดจะกินกันเองบ้างไหม  :hao6:

ถามน้องฟิก  ถ้าต้องให้ของขวัญกับพี่ภู และ พี่ติน ฟิกจะให้อะไรที่เหมาะกับทั้งสองคน (เอาของขวัญที่ไม่เหมือนกันนะ)  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 09-11-2015 06:21:58
 

ตอนที่๑๒ ครึ่งหลัง









การเดินทางไปครั้งนี้ ผมเองก็ตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน แต่ก็เตรียมใจไว้ระดับนึง อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เคลียร์กันให้จบๆจะได้หมดเรื่องค้างคากันเสียที แต่ผมเชื่อว่าไอ้ตินมันน่าจะคุมสถานการณ์ได้เพราะถึงยังไงมันก็เคยสนิทกับไอ้พี่ว่านของมัน ก็น่าจะพอรู้บ้างว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร  ยกเว้นแต่ว่า...ฝ่ายนั้นจะเกลียดมากเสียจนให้อภัยไม่ได้

“เป็นอะไร เหม่อๆคิดถึงกิ๊กมึงเหรอ”ไอ้ตินหันมาถามระหว่างที่โยนกระเป๋าเป้ใส่กระโปรงหลังรถ

“คิดถึงกิ๊กมึงต่างหาก”มันปิดกระโปรงหลังก่อนจะเอนพิงด้วยท่าทางสบายๆ

“ใคร?”ถามพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก

“ก็พี่ว่านของมึงไง”มันหลุดหัวเราะทันที

“คิดถึงทำไม หรือว่าคิดมาก เชื่อใจกูน่า กูจัดการได้ เอ้อ แล้วพี่ว่านก็ไม่ใช่กิ๊กกูด้วย กูไม่เอาคนที่โหดกว่ากูมาทำเมียหรอก”มันมองหน้าผมขำๆ พูดแบบนี้มันหยามผมชัด ๆ

“กูก็โหดนะ แต่กูไม่แสดงออก”ถ้าลองให้ผมเล่นบทนี้ ผมว่าผมก็ไม่แพ้พวกมันหรอก! ไอ้ตินแค่หัวเราะขำก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาเช็ค

“เดี๋ยวไอ้ชัยมันจะไปกับกูนะ มึงจะไปกับใคร”มันเงยหน้ามาถาม ผมทำหน้าเซ็งเมื่อได้ยินชื่อไอ้ชัย พรรคพวกที่จะไปด้วยก็มีไอ้เคน ไอ้เชน ไอ้ชัย ไอ้เนม ไอ้ม่อน

“กูจะนั่งกับเพื่อน”เหม็นขี้หน้าไอ้ชัย ผมไม่อยากจะใช้อากาศร่วมกับมัน ไอ้ตินยิ้มขำ

“มึงนี่นะ จะอคติอะไรกับไอ้ชัยนักหนา”

“บอกเพื่อนมึงสิ ว่าจะอคติอะไรกับกูนักหนา”ความจริงแล้วก็เดาได้ง่ายๆ คงเพราะ(เหมือน)ผมไปแย่งไอ้ตินมาจากพี่อันผู้แสนดีและบอบบางของมันล่ะมั้ง ผมล่ะยี้ สมน้ำหน้ามันจริงๆจีบพี่อันเท่าไหร่ เขาก็ไม่เห็นหัว

“เพื่อนไปกันเยอะเหมือนกันนะ”ม๊าไอ้ตินออกมาดูด้วยสีหน้าไม่สบายใจนัก เมื่อเห็นรถสามคันมาจอดอยู่ลานหน้าบ้าน ไอ้เนมกำลังคุยอะไรบางอย่างกับไอ้ม่อน ไอ้สองคนนี้มันมาด้วยกัน เดาว่าไอ้เนมเองคงรู้จักกับไอ้ม่อนมาก่อนแล้วแน่ๆ

“แค่ไปให้อุ่นใจเฉยๆนะม๊า ม๊าไม่ต้องห่วงหรอกครับ ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก”ไอ้ตินเข้าไปกอดลา ผมเลยปลีกตัวออกมาหาไอ้ภูที่นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ในสวน จากที่แอบฟังคร่าวๆเหมือนมันจะโทรคุยกับพ่อมัน

“รู้แล้วน่า…ผมไม่ใช่เด็กสามขวบนะ พูดครั้งเดียวก็รู้เรื่อง อืม บายครับ”มันวางสายก่อนจะทำหน้าเหนื่อยหน่าย ผมค่อนข้างจะชินเวลามันคุยกับพ่อมันแบบนี้แล้ว ถึงแม้เดี๋ยวนี้พ่อมันจะไม่ค่อยเข้มงวดเหมือนแต่ก่อน ไม่ได้ห้ามเรื่องของผมกับไอ้ภู แต่ก็ยังไม่ยอมรับเท่าที่ควร   

“โทรรายงานท่านพ่อเหรอพี่ภู”ผมทำเสียงล้อเลียน ไอ้ภูหันมาทำตาดุใส่

“แค่บอกเฉยๆ แล้วมึงเหอะ เก็บของเสร็จแล้วเหรอ กูเห็นขนอะไรไปเยอะแยะก็ไม่รู้ ไปเคลียร์ปัญหาเก่าไอ้ตินนะ ไม่ใช่ไปพักร้อน”มันแขวะ ก็จริงแบบที่มันพูดนั่นล่ะ ผมมองโลกในแง่ดี ดอกไม้ร่วงฟรุ้งฟริ้งไง คิดว่าน่าจะเคลียร์กันได้เร็ว แล้วอยู่เที่ยวต่อเลย ผมเลยเตรียมทั้งกล้อง ทั้งกระดานวาดรูปไปเผื่อไว้ก่อนไง

“กูมองโลกในแง่ดีไง ก็เหมือนจิตใจอันสะอาดผุดผ่องของกูนี่แหละ”ไอ้ภูเหลือบมองสีหน้าหงุดหงิด

“อย่างมึงนี่นะจิตใจผุดผ่อง มึงน่ะพวกจิตใจหยาบด้าน ตายไปตกนรก ปีนต้นงิ้วแน่ๆ”ผมหลุดหัวเราะออกมา ไม่คิดว่ามันจะเล่นมุกโบราณตกนรกกระทองแดงปีนต้นงิ้ว

“แต่ได้ปีนกับมึงก็โอเคนะ”

“อะแฮ่ม ขอขัดจังหวะหน่อย”ไอ้เนมกระแอมกระไอเสียงดัง

“มีไร” 

“กูงงว่ะ มึงเอาไอ้ม่อนมาทำไม มันเกี่ยวอะไรด้วยวะ”ไอ้เนมตีหน้าสงสัย ผมก็เหมือนกัน

“ก็อย่างที่บอกไปนั่นล่ะ เพื่อนมันรู้จักกับไอ้ว่าน แต่มันอยากมาช่วยไอ้ตินเคลียร์ มึงไม่คิดว่ามันแปลกไปหน่อยเหรอวะ กูแค่อยากลองใจมัน ว่ามันจะตุกติกอะไรรึเปล่า”

“เหรอวะ…แต่มันก็เคยรู้จักมึง เคยเห็นว่ามึงเป็นยังไง มันคงไม่กล้าตุกติกหรอกมั้ง”

“ใครจะรู้”ไอ้ภูไหวไหล่ก่อนจะพูดเสริม

“กูวานมึงจับตาดูไอ้ม่อนด้วยนะ”   

“เออ ไม่ต้องห่วงหรอก…แล้วทำไมมึงไม่ลองโทรหาไอ้เม่นพี่มันวะ”ไอ้เนมพูดขึ้นมา

“ไม่ว่ะ เอามันมาเดี๋ยวจะยุ่งยากไปใหญ่ เผื่อมีอะไร จะได้จัดการง่ายๆหน่อย”ไอ้ภูมองไอ้ม่อนที่ยืนพิงรถอยู่ที่ลาน ผมเห็นไอ้ตินคุยอะไรกับป๊ามันสักอย่าง และป๊ามันก็ส่งกระเป๋าเป้เล็กๆให้มันด้วย

 “กูหวังว่าไปครั้งนี้จะมีอะไรสนุกๆนะ ความจริงกูห่างเรื่องต่อยๆตีๆไปนานแล้วเหมือนกัน คิดถึงช่วงนั้นเลยว่ะ”ไอ้เนมทำสีหน้าเหมือนระลึกความหลัง

“กูไม่เห็นคิดถึง”ไอ้ภูพูดเสียงห้วน ผมพอจะเข้าใจ ก็มันทำเรื่องแย่ๆไว้ตั้งเยอะคงไม่อยากจะกลับไปนึกถึงเท่าไหร่ ไอ้เนมดูหงอยลงเล็กน้อย คงคิดได้ว่าไปพูดอะไรสะกิดใจไอ้ภูเข้า

“เมื่อก่อนมึงเซี้ยวมากเหรอ”

“ถามทำไมวะ”ไอ้เนมทำหน้าข้องใจ

“สอนกูบ้างดิ”มันเลิกคิ้วก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมา

“อย่างมึงเนี่ยนะ หุ่นแบบมึงอ่ะ ไม่ไหวมั้ง แล้วทำไมไม่ให้ไอ้ภู รึไอ้ตินสอนให้ล่ะ กูว่ามันสองคนคงสอนได้ดีกว่ากูนะ”มันยังคงขำไหล่สั่นอยู่ ผมมองอย่างหงุดหงิด

“มันสองคนไม่สอนให้กูหรอก”

“งั้นเรียกกูว่าพี่ก่อนแล้วจะคิดดูอีกที”มันยักคิ้วกวนประสาท

“กูไม่หลงกลมึงหรอก”ผมเรียกมันเพราะๆมันก็กวนตีนผมทุกที ผมเดินไปที่รถกระบะของไอ้เชน คันนี้ของพ่อมัน แต่มันเอามาแต่งเครื่องใหม่

“เออ ไอ้ฟิก”ไอ้ตินเดินเข้ามาหา สะพายเป้ไว้บนไหล่

“ทำไม”

“กับเพื่อนมึงน่ะ กูไม่ไว้ใจมัน”ผมเลิกคิ้วใส่ทันที ผมไม่คิดว่าเป็นไอ้เคนแน่ๆ

“หมายถึงไอ้เชนเหรอ”

“เออ อย่าไปใกล้มันมาก”ผมถึงกับมึนเบลอทันที ปกติมันก็ไม่เห็นแสดงท่าทีอะไรกับเรื่องไอ้เชนเลยนะ ผมคิดว่ามันเข้าใจแล้วเสียอีก

“มันไม่ได้คิดอะไรกับกูแล้ว”

“มึงแน่ใจได้ไง”

“เออๆ ไว้กูจะระวังล่ะกัน”ผมตอบไปส่งๆ เพื่อให้มันสบายใจ

“แล้วกระเป๋าอะไร”ผมพยักเพยิดไปที่เป้ของมัน ไอ้ตินยกยิ้มจาง

“ของรักของกูน่ะ ปกติป๊ากูจะเป็นเก็บไว้ ความจริงกูไม่ค่อยอยากใช้หรอก แต่เรื่องคราวนี้ป๊ากูเขาห่วงเลยให้มาป้องกันเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน”ผมขมวดคิ้วทันที ก็พอจะเดาได้ว่าอะไร ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เข้าไปนั่งที่เบาะหลัง ไอ้เคนเหลือบมองก่อนจะหัวเราะ

“ไอ้ตินแม่งร้าย”ไม่รู้ว่ามันหมายถึงเรื่องไหน

 “เออ ไงก็ขอบใจพวกมึงมากนะเว้ยที่ยอมมาเป็นเพื่อนกูอ่ะ”ความจริงพวกมันไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ แต่เพื่อความอุ่นใจ ผมเลยชวนพวกมันมาร่วมก๊วนด้วย ส่วนไอ้ชายไม่ได้ชวนเพราะรู้ว่ามันคงไม่เอาด้วย ไอ้เชนเอื้อมมือไปเปิดเพลง ก่อนเหลียวมองผม

“บังเอิญ กูเบื่อๆไม่มีอะไรทำพอดี เลยไปหาเรื่องใส่ตัวซักหน่อย”ไอ้เชนยกยิ้มขึ้นมา พักนี้มันเป็นผู้เป็นคนมากกว่าแต่ก่อนแล้ว คงเพราะได้เพื่อนใหม่ดีๆที่คอยเตือนและจูงมันไม่ให้ออกนอกทาง กับไอ้ทิมเพื่อนเก่า มันก็คอยส่งข่าวมาให้ตลอด ผมเลยเบาใจไปได้บ้าง เพิ่งสังเกตุว่ามันมีไรหนวดจางๆที่เหนือริมฝีปากด้วย เห็นแล้วอยากไว้หนวดขึ้นมาทันทีเลย ...แต่ติดที่ท่านพ่อสองคนมันไม่อนุญาตนี่สิ ผมล่ะเซ็ง 

“มองทำไม หลงกูแล้วเหรอ กูยังไงก็ได้นะ เต็มใจทุกสถานะ”ไอ้เชนยักคิ้วหลิ่วตามาให้ แต่ไอ้เคนไม่เล่นด้วย มันเงื้อมือตบหัวไอ้เชนทันที

“ทะลึ่งแล้วนะมึง เล่นอะไรดูความโหดสามีมันด้วย”ไอ้เคนยังไม่วายล้อผมอีก ผมยันเท้าไปด้านหน้ากระแทกเบาะที่มันนั่งอยู่แรงๆ

“พวกมึงเงียบไปเลยไป”

“สองคนนั่นมันโหดขนาดนั้นเลยเหรอวะ กูไม่เคยเห็น”ไอ้เชนทำหน้าสงสัยปนอยากรู้

“ก็คุมไอ้ฟิกได้ คิดเอาเองล่ะกัน”

“มึงกลัวพวกมันสองคนไหมวะ”ไอ้เชนหันมาถามทำหน้าตลกๆ

“ถามมาได้นะพวกมึงเนี่ย”กลัวสิวะ แต่เงียบๆไว้ ภายนอก ผมต้องทำเหนือกว่าพวกมันครับ เดี๋ยวจะเสียชื่อไอ้ฟิกหมด

“เหรอ...ถ้าจบเรื่อง กูขอพิสูจน์อะไรหน่อยนะ”ไอ้เชนพึมพำเบาๆ สีหน้าดูจะนึกสนุก เห็นมันมองไปทางไอ้ภูและไอ้ติน ผมว่ามันต้องมีแผนประหลาดๆในหัวแน่ๆ

“พิสูจน์ไรของมึง”ผมเลิกคิ้วมอง แต่มันแค่ไหวไหล่เหมือนไม่ได้ยินที่ผมถาม

การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ไอ้ชัยเป็นคนขับนำทาง ส่วนไอ้เนขับตาม และรถไอ้เนมรั้งท้าย ทำอย่างกับหน่วยระวังหลังให้ผมเลยว่ะ ให้ฟีลเหมือนหนังแอคชั่นมากๆ คล้ายๆดรีมทีมอะเวนเจอร์เลย เออ ผมนี่ก็คิดไร้สาระดีจริงๆ นี่ขนาดเครียดอยู่นะ แต่เสียงสั่นครืดๆก็ดึงความสนใจของผมไป ไอ้สองคนนั่นไลน์มาก่อกวนผมอีกแล้ว

Phu - ฟิก มึงยังไม่ลืมที่พูดใช่ไหม

ฟิกรักทุกคน - ไร

Tin – ก็ที่จบเรื่องนี้ไง

จำกันได้แม่นจริงๆนะไอ้สองคนนี้ ผมว่าเรื่องหื่นนี่พวกมันเพิ่มขึ้นกันทุกวันเลยนะ

ฟิกรักทุกคน - เออ ให้มันจบก่อนเหอะ ค่อยมาทวง

ภูผา - กูเกลียดชื่อไลน์มึง

ฟิกรักทุกคน - ก็รักทุกคนไง

Tin - แล้วมึงมีกี่คนล่ะ

ฟิกรักทุกคน – หลายคนอ่ะ ไล่ไม่หมดหรอก 

กวนตีนไปพอประมาณจะได้ไม่เครียด ระหว่างทางผมก็หลับๆตื่นๆเป็นระยะ กว่าจะถึงเล่นเอาซะเย็นย่ำ แถมปวดเมื่อยไปหมด รอบบริเวณบ้านเงียบสงัด และในระแวกนี้ บ้านไอ้ตินหลังใหญ่ที่สุดแล้ว มีคนงานกำลังตัดต้นไม้ต้นหญ้าที่รกเรื้ออยู่ตรงรั้วบ้าน สปริงเกอร์ถูกเปิดรดผืนดินแห้งๆ พอไอ้ตินลงมาจากรถ ลุงคนงานก็รีบเดินเข้ามาหาทันที

“สวัสดีครับ คุณหนู คิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกเสียแล้ว”ไอ้ตินยกยิ้มก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ ผมแอบคิดว่าไอ้ตินมันเหมาะกับคำว่าคุณหนูมากกว่าไอ้ภูซะอีก ไอ้เคนเอนตัวมากระซิบข้างๆผม

“บ้านใหญ่ชิบ ไม่ธรรมดาจริงๆว่ะ”

“ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้กลับมา ลุงชอบยังดูแข็งแรงอยู่เลยนะครับเนี่ย แล้ว…ในบ้านทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ”

“เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับคุณหนู”ลุงชอบยิ้มกว้างเหมือนมีความสุข

“ขอบคุณมากนะครับ ผมไม่รบกวนลุงแล้ว ที่เหลือพวกผมจัดการเองครับ มากันตั้งหลายคน ได้โอกาสใช้แรงงานพอดี”ไอ้ตินพยักเพยิดมาทางพวกผมที่ยืนมองหน้าสลอน

“ไม่เป็นไรครับ คุณท่านสั่งมา ผมต้องทำให้เต็มที่”

“มันเย็นแล้วนะครับ ลุงชอบไปพักก่อนดีกว่า พวกผมจัดการเองได้”ไอ้ตินพูดด้วยเสียงจริงจัง จนลุงชอบขัดไม่ได้ แต่ก่อนที่ลุงจะเดินกลับ ไอ้ตินก็หยิบเอาถุงของฝากส่งให้

“ป้าน้อมฝากมาให้ครับ”

“ขอบคุณมากครับ”ลุงชอบยิ้มจนเห็นเหงือก ผมเดาว่าลุงชอบคงเป็นสามีป้าน้อมแน่ๆ เมื่อลุงชอบกลับไปแล้ว ไอ้ตินก็หันมาใช้พวกผมให้จัดการต้นไม้ต้นหญ้าที่ยังรกอยู่ทันที

“ห่าราก เอาพวกกูมาใช้แรงงาน”ได้ยินไอ้เชนบ่นพึมพำเบาๆ  ส่วนไอ้ภูกับไอ้เนมไปยกโต๊ะไม้มาตั้งที่สวน พวกมันจะฉลองต้อนรับวันแรกกัน

“เดี๋ยวกูจะออกไปซื้อของ”ไอ้ตินพูดกับพวกที่เหลือ ก่อนยื่นกระดาษเล็กๆส่งมาให้

“อยากได้อะไรก็จดมา แต่งานนี้โน แอลกลอฮอร์นะ”ไอ้ม่อนโอดครวญเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ค้านอะไร

“กูไปด้วยนะ”ไอ้ภูหันมามองทันที

“อยู่นี่นั่นแหละ”

“เฮ้ย ไม่เอา กูอยากไปเปิดหูเปิดตา มันไม่มีพวกบ้าที่ไหนมาดักตีหัวหรอกน่า พวกมึงนี่คิดเยอะกันเกินไปแล้วนะ”ผมเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาเหมือนกัน

“มึงอยู่นี่นั่นแหละ กูไปแค่พักเดียว”ไอ้ตินแทรกมาด้วยสีหน้าจริงจัง

“แลกกับเบียร์”ผมต่อรอง

“ไม่ น้ำโค้กพอ”มันทำหน้าเด็ดขาด ไอ้ภูยิ้มพอใจเมื่อเห็นผมเถียงต่อไม่ได้ มันเอาไอ้เนมไปช่วยขนของด้วย ไอ้พวกนี้นี่ขยันขัดใจผมซะจริงๆ ด่าพวกมันในใจเสร็จก็มายกกระเป๋าเข้าไปไว้ในห้อง บ้านไอ้ตินกว้างมากๆ

“อย่าคิดขโมยของนะมึง”ไอ้ชัยที่ถูกทิ้งให้เฝ้าบ้านเหมือนกันพูดขึ้นมา สายตาจับจ้องไปที่ไอ้ม่อน

“ผมไม่ใช่หัวขโมยนะพี่”มันทำหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก

“ใครจะรู้ล่ะ กูไม่รู้จักนิสัยมึงนี่ แล้วมึงนอนห้องไหน”ประโยคหลังมันหันมาถามผม

“กูจะนอนกับเพื่อนกู”ผมพยักเพยิดไปทางไอ้เคนกับไอ้ชาย เหมือนไอ้ชัยจะเข้ามาในบ้านไอ้ตินบ่อย เพราะดูมันรู้จักทุกซอกทุกมุมเลย ผมเลือกห้องที่ติดระเบียง นอนเบียดกันสามคนนี่ล่ะอบอุ่นดี

“มึงไม่นอนกับแฟนมึงเหรอ”ไอ้เชนถามระหว่างที่โยนเป้ลงบนเตียง

“ไม่อ่ะ กูเบื่อขี้หน้าพวกมัน”รู้สึกอยากพาลขึ้นมาทันที

“มึงรู้ตัวไหมฟิกว่ามึง…”ไอ้เคนลากเสียง ผมหันไปมองด้วยสายตาคุกคามทันที

“พูดให้เข้าหูนะมึง”

“ว่ามึงเหมือนเป็นเด็กน้อยของพวกมัน”พูดจบมันสองคนก็หัวเราะขึ้นพร้อมกันทันที

“หุบปากไปเลย”ผมเลี่ยงออกมาที่นอกระเบียง จากจุดนี้สามารถมองเห็นซอยข้างๆได้ชัดแจ่มแจ๋ว ถ้าผมไม่ได้ตาฝาด ผมคิดว่าเห็นใครบางคนยืนพิงรถKSRคันเชี่ยวจ้องมองมายังในบ้าน

ใครวะ?หรือจะเป็นพวกคู่อริไอ้ติน ผมเพ่งมองอยู่นาน จนไอ้คนนั้นรู้สึกตัวว่าผมมองมันอยู่ ผมลองยกมือทักบุคลปริศนาดู แต่กลับได้รับนิวกลางกลับมา ผมกับมันจ้องมองกันอยู่สักพัก มันก็กวักมือเรียกผม เหมือนจะให้ผมไปหา ผมยืนคิดอยู่นานว่าจะไปดีไหม แต่ในเมื่อมันเบื่อๆ ผมจะลองเสี่ยงไปคุยกับไอ้คนนั้นก็แล้วกัน

“ไปไหนวะ”ไอ้เคนถามทันทีเมื่อผมกำลังเปิดประตูห้อง

“ออกไปเดินสำรวจบ้าน”ไอ้เคนพยักหน้ารับรู้ ผมออกมาจากห้องสวนกับไอ้ม่อนพอดี มันกำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคน ไม่รู้ว่าคุยกับใครเพราะผมได้ยินไม่ชัด แต่ถ้ามันคิดจะตุกติก ผมเชื่อว่ามันโดนจัดนักแน่ๆ เพราะแบบนั้นผมเลยส่งยกยิ้มเยาะไปให้มัน 


 

 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ ตอนที่๑๒ ครึ่งหลัง]9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 09-11-2015 06:22:19

ผมเดินลัดสนามหญ้าแห้งๆมาที่ตำแหน่งเดียวกับที่ผมเห็นไอ้คนปริศนา ยังดีที่มันยังไม่หายไปไหน เมื่อผมเดินเข้าใกล้รั้วบ้าน มันก็ขยับเข้ามาใกล้ๆเช่นกัน  ผมมองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา มันเป็นคนร่างสูงผอม ใบหน้าบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นคนไม่ยอมใครและดูท่าจะแสบเอาเรื่อง มันอยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงยีนส์ขาดๆ

“มีอะไร”ผมถามทันที

“จะไม่บอกชื่อกูหน่อยเหรอ”

“จำเป็นด้วยเหรอ”ผมเลิกคิ้วมอง มันหัวเราะ สองมือล้วงเข้าไปในกางเกง ท่าทางเหมือนพวกกุ๋ย

“กูชื่อแก๊ง”ผมขยับถอยห่างออกจากรั้วอย่างระวังตัว อริเก่าไอ้ตินนี่เอง ไอ้แก๊งดูจะขำที่เห็นท่าทางเกร็งๆของผม

“กูมาดี ไม่ได้มาร้าย”ใครจะเชื่อวะ แต่เท่าที่กวาดสายตามองก็ไม่เห็นว่ามันพกอาวุธอะไรมา หรือว่าซ่อนแนบเนียนก็ไม่อาจรู้ได้ แต่ท่าทางของมันดูไม่เหมือนคนที่พร้อมจะมีเรื่อง

“แล้วมึงมาด้อมๆมองๆแถวนี้ทำไม”

“แค่อยากมาเจอเพื่อนเก่า”มันพูดด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้รั้วมากขึ้น

“แล้วก็อยากมาเจอหน้าแฟนไอ้ตินด้วย …รู้สึกรสนิยมมันจะแปลกขึ้นทุกวัน”ไอ้แก๊งหัวเราะขึ้นมา สายตามองสำรวจผม

“ต้องการอะไร”ผมถามไปตรงๆ แต่เมื่อมันไม่ตอบ ผมจึงทำหน้ากวนประสาท

 “หรือว่าอยากได้เงิน หาเศษตังค์แป๊บนะ”ผมล้วงมือควานหาเศษเงินในกระเป๋า

“ถ้าเป็นเมื่อก่อน กูคงเข้าไปซัดปากมึงแล้วล่ะไอ้ฟิก”ผมกลับมามองมันอีกครั้ง รู้จักชื่อผมซะด้วย แสดงว่ามันก็อาจจะตามสืบเรื่องไอ้ตินอยู่เหมือนกัน

“อย่าบอกนะว่าตอนนี้เป็นคนดีแล้ว?”

“ทำนองนั้น”มันไหวไหล่ แต่เท่าที่ดู มันก็ไม่ได้มีท่าทางคุกคามผมแต่อย่างใด

“กูได้ยินเด็กในตลาดมันคุยกันว่าไอ้ตินกลับมาที่บ้าน ก็เลยแวะมาดูว่าจริงรึเปล่า มันคงมาเคลียร์เรื่องไอ้ว่านใช่ไหม”ผมไม่ได้ตอบคำถามของมัน ไอ้แก๊งหยิบหมากฝรั่งออกมาเคี้ยวด้วยท่าทางสบายๆ

“ถ้ามึงมาอยู่ที่นี่ได้ แสดงว่ามันคงเล่าอดีตกากๆของมันให้ฟังแล้ว มึงคิดว่าไง”

“เฉยๆ เพราะกูไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์”ไอ้แก๊งเดาะลิ้นเบาๆ มันเหลือบมองไปด้านบน ผมมองตามแต่ก็ไม่พบใคร ดูเหมือนมันจะระแวดระวังเอาเรื่อง

“ไอ้ตินไม่อยู่ใช่ไหม”มันกลับมามองผมตามเดิม

“ทำไม กลัวมันเหรอ”ไอ้แก๊งหัวเราะทันที

“กูไม่เคยกลัวมัน แล้วก็ไม่คิดจะกลัวด้วย ที่กูมาเพราะกูแค่อยากมาคุยกับมันตรงๆ”

“มันออกไปข้างนอก แต่อีกเดี๋ยวก็คงกลับ”ผมเม้มปาก คำถามที่อยากถามวิ่งวนอยู่ในหัว ไอ้แก๊งเลิกคิ้วมองผม

“มีอะไรจะถามกูไหม”มันยกยิ้มเหมือนรู้ทัน

 “มี มึงยังแค้นไอ้ตินอยู่รึเปล่า”คำถามของผมทำให้มันถอนหายใจทันที มันเหลียวมองรอบๆ ก่อนจะตอบคำถาม

“เมื่อก่อนก็ยังแค้นอยู่ …มึงต้องเข้าใจนะว่าตอนนั้นกูเห็นเรื่องศักดิ์ศรีเป็นเรื่องสำคัญ กูถือว่ามันหยามและหักหลังที่มาสอยเด็กกู แต่มึงรู้ไหม หลังจากที่ผ่านเรื่องทั้งหมดมา หลังจากที่กูเกือบตายจากเรื่องตอนนั้น กูกลับคิดว่าเรื่องที่กูทำแม่งโคตรไร้สาระ ตอนนี้กู…ไม่ได้เจ็บแค้นอะไรมันอีกแล้วว่ะ เพราะต้นเหตุจริงๆก็ไม่ได้มาจากันแค่คนเดียว อีกอย่างตอนนี้กูก็ทิ้งศักดิ์ศรีบ้าๆพวกนั้นไปหมดแล้ว”ไอ้แก๊งดูสุขุมขึ้นมา แต่ผมยังเห็นแววบางอย่างในดวงตาของมัน

“ที่กูมา กูแค่มาพูดเรื่องที่ยังค้างคาอยู่ให้จบ…กูติดคำขอโทษมันอยู่”ไอ้แก๊งพูดออกมาตรงๆ ผมผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย

“มันก็มีเรื่องที่อยากบอกมึงเหมือนกัน กูมั่นใจ”ไอ้แก๊งเอาลิ้นดุนกระพุงแก้มเหมือนครุ่นคิด

“แต่มึงแปลกนะ มันไปชอบมึงได้ไงวะทั้งๆที่มึงกิ๊กกะเมียเก่ามัน”โอ้โห ข้อมูลแน่นจริงๆ

“เรื่องมัน…ซับซ้อนน่ะ”

“แล้วมึงก็ยังชอบมันอีกทั้งๆที่มันเคยรุม--”

“เรื่องของกู”จู่ๆผมก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาที่โดนขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ ผมไม่ได้โกรธเคืองเรื่องที่พวกมันเคยทำกับผมแล้ว แต่ผมไม่อยากให้คนแปลกหน้ามาหยิบยกเรื่องนี้มาพูด

“อ้าว ไม่พอใจเหรอวะ โทษที ไม่คิดว่าจะเซ้นซิทีฟ”มันหัวเราะในลำคอ ผมเหลือบมองทางหน้าประตูเมื่อเห็นรถคุ้นตาของไอ้ตินกำลังเคลื่อนเข้ามา

“มันกลับมาแล้ว อยากคุยก็ไปขอมันเข้ามา”พูดจบผมก็ผละออกมาจากรั้ว ไอ้ภูหอบหิ้วถุงอะไรเยอะแยะไปหมด มาถึงมันก็จ้องผมด้วยสายตากดดัน

“เมื่อกี้มึงคุยกับใคร กูเห็นนะ”

“กิ๊กกูมั้ง”หงุดหงิดขึ้นมาเสียดื้อๆ ไอ้ภูขึงตามองผม ยกมือขึ้นเหมือนจะตบหัว

“มึงลองดิ กูโกรธมึงแน่”ผมทำหน้าตึง ไอ้ภูลดมืองก่อนจะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม

“เป็นไร โกรธที่ไม่ได้ไปเหรอวะ”

“เปล่า”แค่หงุดหงิดเฉยๆ

“ไอ้ฟิก….เมื่อกี้กูว่ากูเห็น…”ไอ้ตินเข้ามาถาม แต่ก็ถูกขัดจังหวะเพราะเสียงรถKSRที่เคลื่อนมาจอดที่หน้าประตู ไอ้แก๊งบีบแตรสองสามครั้ง มันจ้องมองมาที่ไอ้ติน

“เพื่อนเก่ามึงมา”ผมสะกิดมันให้ไปเปิดประตู ไอ้ภูชะเง้อชะแง้มอง

“ไอ้แก๊งเหรอ หรือมันจะมาเอาเรื่องมึงวะ”

“ไม่หรอก”ไอ้ตินถอนหายใจ ก่อนจะไปเปิดประตูให้เพื่อนเก่าเข้ามาง่ายๆ แต่ผมคิดว่ามันคงแปลท่าทางเพื่อนเก่ามันออกว่าไม่ได้มาหาเรื่อง

“สงสัยวันนี้คงมีฉลองล่ะมั้ง”ไอ้เนมพึมพำเบาๆ สายตามองไปที่ไอ้ตินกับเพื่อนเก่าที่กำลังคุยอะไรกันสักอย่าง ไอ้ตินดูสบายใจขึ้นมาเป็นกองเลย มันเดินกลับมาพร้อมรอยยิ้มจาง

“วันนี้ไอ้แก๊งจะมาแจมด้วย”

               

     งานเลี้ยงย่อมๆกำลังเกิดขึ้น ไอ้ชัยดูแปลกใจมากทีเดียวที่เห็นไอ้แก๊ง แต่มันก็เปิดอกคุยกันโดยที่ไม่มีใครต้องเจ็บตัว แต่ผมคิดว่าที่มันมาวันนี้ มันต้องมีจุดประสงค์มากกว่ามาเคลียร์เรื่องไอ้ตินแน่ๆ ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าบรรยากาศระหว่างไอ้ม่อนและไอ้แก๊งดูไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ นอกนั้นก็เข้ากันได้ค่อนข้างดี 

 “มึงเป็นอะไรวะ หน้าตาบูดบึ้งมาตั้งนานแล้ว”ไอ้เคนถามระหว่างที่ผมกำลังปิ้งบาร์บีคิวอยู่

“เปล่า กูแค่หงุดหงิดนิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย”

“งอนที่พวกมันไม่ให้ไปด้วยเหรอ”ไอ้เคนถามด้วยสีหน้าขำๆ

“มึงคิดว่ากูจะงอนด้วยเรื่องแค่นั้นเหรอ กูไม่ใช่ตุ๊ดนะมึงที่จะขี้น้อยใจ”

“อ้าว แล้วก่อนหน้านี้หมาตัวไหนมันทำหน้าบูดวะ แปลกนะมึงเนี่ย”ไอ้เคนดูงุนงงกับอารมณ์ของผม

“กูแค่รู้สึกไม่ชอบที่โดนขุดอดีตว่ะ”ผมบอกมันออกมาในที่สุด ไอ้เคนเงยหน้ามอง

“เรื่องไหน อดีตมึงมีเยอะเหลือเกิน”

“ก็เรื่อง…ที่พวกมันเคยทำไม่ดีใส่กูอ่ะ ไอ้แก๊งมันไปสืบเรื่องนี้มา แปลกนะเว้ย จู่ๆกูก็โกรธขึ้นมาไม่มีปีไม่มีขลุ่ย”

“…ก็มึงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มานานแล้วล่ะมั้ง พอมาโดนขุดเลยรู้สึกเหมือนโดนสะกิดแผลเก่าล่ะมั้ง”ผมคิดตามคำพูดของไอ้เคน มันก็จริงนั่นล่ะ ตั้งแต่วันที่ผมให้โอกาสพวกมัน เรื่องนี้ก็ไม่เคยถูกหยิบยกขึ้นมาพูดอีกเลย เพราะผมเลี่ยงที่จะไม่พูดถึง

“รีบๆทำตัวปกติซะล่ะ ไอ้สองคนนั่นมันห่วงมึงนะเว้ย”ผมเหลือบมองกลับไปที่โต๊ะ เห็นไอ้ตินมองมาทางผม แต่ก็เสมองอย่างอื่นแบบเนียน ๆ จะว่าไปมันสองคนก็ไม่ได้มาเซ้าซี้ผมเลยตั้งแต่ที่ผมอารมณ์ไม่ปกติ

“เออ”ไอ้เคนถือบาร์บีคิวกลับไปที่โต๊ะ ผมยืนทำหน้าที่ปิ้งๆย่างๆไปอีกพักใหญ่ จนอารมณ์เข้าที่จึงกลับไปนั่งร่วมวงตามเดิม ไอ้แก๊งกำลังพูดรำลึกความหลังอยู่พอดี

 “ตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้น กลุ่มกูมันแตก ไอ้เหี้ยว่านก็ทำวางโต จนพวกกูแม่งเกือบอยู่ไม่ได้ โดนพวกมันคุกคามมาตลอด”ไอ้แก๊งดูจะเกลียดขี้หน้าไอ้ว่านมากพอดู

“กูเองก็ผิด”ไอ้ตินแทรกมาเบาๆ

“กูไม่ได้ติดใจเรื่องมึงแล้วนะไอ้ติน แต่กูยังมีเรื่องค้างคากับไอ้เหี้ยว่าน”ไอ้แก๊งมองไปที่ไอ้ม่อนตรงๆ

“มึงก็รู้จักมันใช่ไหมวะ กูเคยเห็นมึงอยู่กับไอ้ว่านเมื่อหลายเดือนก่อน ทำไมวะ ตอนนั้นมันสั่งให้มึงเล่นงานไอ้ตินหรือไง”ไอ้แก๊งพูดเสียงดัง ไอ้ม่อนเลยกลายเป็นจุดรวมสายตา

“ก็อย่างที่ผมเคยบอกไป ว่าผมก็รู้จักกับพี่ว่าน”

“มึงไม่เห็นบอกกูเลยว่าเคยเจอมัน”ไอ้ภูสอดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“แล้วมึงคุยกับใครวะ เมื่อเย็นน่ะ”ผมพูดขึ้นมาบ้างเพื่อกดดันมัน ไม่รอดแน่มึง

“ผมคุยกับพี่เม่น นี่ไม่ไว้ใจผมกันเหรอ บอกแล้วไงว่าที่ผมมาด้วยเพราะอยากมา ไม่ได้เกี่ยวกับพี่ว่าน ผมแค่อยากช่วยพี่ภู ตอบแทนที่เคยช่วยผมเมื่อหลายปีก่อน”ไอ้ม่อนมองหน้าไอ้ภูสลับกับไอ้เนม ทั้งวงเงียบไปพักใหญ่ๆ อาจกำลังคิดว่าจะไว้ใจไอ้ม่อนได้จริงหรือ ไอ้เชนดันแก้วโค้กมาให้ผม พร้อมกับยักคิ้วให้ เมื่อยกจิบถึงได้รู้ว่ามันผสมเบียร์ด้วย

“เอามาจากไหนวะ”ผมกระซิบ

“กูเอาติดมา อย่างกูมันเข้าเส้นแล้ว ขาดไม่ได้หรอกว่ะ”มันพึมพำกลับมาเช่นกัน ไอ้ตินกระแอมเบาๆก่อนจะหันไปคุยกับไอ้แก๊งต่อ เหมือนพวกมันก็อยากเข้ามาคุยกับผม แต่เหมือนจะลังเลว่าผมอารมณ์ปกติแล้วหรือยังเลยได้แต่มองมาจนตัวผมจะสึกกร่อนอยู่แล้ว และนี่ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไอ้เชนมันจงใจกระซิบกระซาบใกล้ๆผมบ่อยๆ ก็ได้ มันไม่รู้อะไรวะแล้ว

“เลิกป่วนได้แล้วไอ้เชน”

“มึงกลัวเหรอ”เออสิ

“กลัวมึงน่วมไง”ผมก็พอจะสังเกตว่าพวกมันสองคนดูหงุดหงิดกับผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่อยากให้ไอ้เชนทำตัวป่วนประสาทสะกิดต่อมระเบิดของพวกมัน

“มึงห่วงกูใช่ไหม”มันหัวเราะ

“กูห่วงตัวเองต่างหาก”ผมตอบไปตามตรง ไอ้เชนเบ้หน้า ก่อนจะปลีกตัวออกไปนั่งเล่นคนเดียวตามประสาคนบ้าๆ นานเข้าคนในวงเริ่มน้อยลงจนเหลือแค่ผม ไอ้แก๊ง และไอ้สองตัวนั่น อาจเพราะคนอื่นอยากให้คุยกันสะดวกล่ะมั้ง

“ตกลงมึงมาหากูเพราะอะไรวะ”ไอ้ตินถามทันทีที่คนอื่นๆลุกไปจากโต๊ะแล้ว ไอ้แก๊งถอนหายใจก่อนจะยืนขึ้น มือเลิกชายเสื้อเผยให้เห็นรอยจางๆของแผลเป็น คงเป็นแผลที่โดนแทงครั้งนั้นแน่ๆ

“กูยังมีความแค้นกับมันอยู่…กูไม่ได้อยากจะยืมมือมึงหรอกนะ ไอ้ติน แต่ตอนนี้…กูไม่มีที่พึ่งอื่น ถ้ามึงไปเคลียร์กับมันกูจะไปด้วย ครั้งสุดท้าย ที่กูจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้”ไอ้แก๊งดูจะมุ่งมั่นกับเรื่องนี้มาก และดูจะไม่ลดละง่ายๆด้วย

“มันคุ้มเหรอ ที่กูกลับมาครั้งนี้ กูอยากมาเคลียร์เรื่องเก่าๆให้มันจบ ถ้าเลี่ยงได้ กูไม่อยากใช้กำลัง”ไอ้ตินพูดขึ้นเบาๆ

“แล้วมึงคิดว่าไอ้ว่านมันจะยอมคุยกับมึงง่ายๆเหรอ อย่างน้อยมันอัดมึงก่อนนั่นล่ะถึงจะยอมคุย”ไอ้แก๊งทำเสียงหึในลำคอ

“กูรู้…แต่เรื่องของมึงกับพี่ว่านอย่าเอามาปนกับเรื่องกูได้ไหมวะ ไม่ใช่ว่ากูไม่อยากช่วยมึงนะ แต่กูว่ามันไม่เวิร์คหรอก ถ้ามัวแต่เอาคืนกันไปมาแบบนี้”

“แล้วที่ผ่านมาที่กูต้องโดนเหยียบย่ำล่ะวะ มึงไม่ได้อยู่ในจุดนั้นแบบกู มึงไม่เข้าใจหรอก หรือไม่มึงก็ถามไอ้นัทสิ ว่ามันโดนอะไรมาบ้าง”

“มึงก็ไปเคลียร์กับมันตัวๆสิวะ ปัญหาของมึง ไม่ใช่ของไอ้ติน อย่าเอามันไปเกี่ยว หรือมึงกลัวมัน”ไอ้ภูพูดขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปนาน ไอ้แก๊งเลียริมฝีปากไปมา ไม่ได้ตอบคำถามของไอ้ภู ตามความเห็นของผม ผมก็ว่าไอ้แก๊งมันกลัวไอ้ว่านนั่นล่ะ ถึงไม่กล้าลุยเดี่ยว หรือมันเป็นพวกเก่งเฉพาะตอนมีเพื่อนช่วยหนุนด้วย ไอ้แก๊งเหมือนจะพูดอะไรออกมา แต่มันก็หุบปากเงียบตามเดิม

“ถ้ากูเคลียร์ปัญหาของกูจบ กูจะช่วยมึงแต่มึงคงรู้ว่ากูจะใช้วิธีไหน”

“…เออ”ไอ้แก๊งดูจะไม่เต็มใจนัก แต่มันเองก็คงไม่มีพรรคพวกที่ไหนแล้วแน่ๆ

“ถ้าไม่มีเรื่องนี้ มึงจะมาหากูไหมวะ”ไอ้ตินถามขึ้นมาเบาๆ ไอ้แก๊งยกยิ้ม

“มาดิ กูตั้งใจจะมาอยู่แล้ว กูรู้ว่ามึงต้องกลับมาเคลียร์”

“มึงมองกูผิดนะ แก๊ง กูตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่กลับมา อาจฟังดูแย่ แต่กูไม่อยากจำเรื่องที่กูเคยทำไว้ ไม่อยากรับรู้ว่ากูทิ้งปัญหาไว้ให้ใครบ้าง กูแค่อยากลืม ถึงได้ทำเหมือนว่าช่วงเวลานั้นไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตของกูเลย จนมาเกิดเรื่องขึ้นเพราะพี่ว่าน”ไอ้ตินถอนหายใจเบาๆ มันไม่มองหน้าใครเลย ผมมองหน้าไอ้แก๊ง มันเองก็เงียบไปเหมือนกัน ไอ้ตินก็แค่อยากหนีอดีตแย่ๆของตัวเอง ผมเพิ่งมารู้สึกตอนนี้เองว่ามันทิ้งปัญหาไว้เยอะเหมือนกัน คนที่ยังแค้นมันอยู่คงมีไม่น้อยแน่ๆ

“พี่โย่ยังคบกับพวกเด็กแว๊นอยู่รึเปล่าวะ”ไอ้ตินถามรำลึกความหลัง

“เปล่า ไม่ได้คบแล้ว ก็แยกๆย้ายกันไป แต่ตอนที่มีเรื่องเห็นเขาเล่าว่าพ่อไอ้ว่านมันยัดคดีให้กลุ่มพี่โย่ทั้งแก๊งเพื่อให้ไอ้ว่านพ้นผิด แต่โชคยังดีที่มีคนมาช่วยประกันตัวพวกพี่โย่”

“ใครวะ”ไอ้แก๊งมองไอ้ตินด้วยสีหน้าแปลกใจ

“มึงไม่รู้เหรอ…ก็พ่อมึงไง”ไอ้ตินดูจะงุนงงจริงๆ

“เหรอวะ ทำไมป๊าไม่เคยบอกกูเลย ช่วงนั้นกูจิตตกอยู่ตั้งนาน”ไอ้แก๊งไหวไหล่

“สงสัยคงคิดว่าพวกนั้นก็เคยดูแลมึงล่ะมั้ง ถึงจะ…ดูแลแบบแย่ไปหน่อย แต่เอาเถอะ ยังไงพวกนั้นไม่แค้นมึงหรอก”

“ไม่ได้ดีใจเลยสักนิด”

“แต่มึงคงรู้จักไอ้ว่านดีว่ามันไม่ใช่คนที่เล่นสะอาด ถ้ามันแค้น มันเอาคืนได้ทุกทางนั่นแหละ”ไอ้แก๊งตบบ่าไอ้ตินเบาๆ

“แต่กูโคตรแปลกใจเรื่องแฟนใหม่มึงเลยว่ะ”ไอ้แก๊งหันมามองหน้าผม ก่อนจะมองไอ้ตินเลยมาที่ไอ้ภู

“มึงมีปัญหาอะไร”ไอ้ภูถามเสียงขุ่นทันที

“เปล่า บอกแล้วว่าแค่แปลกใจที่คบกันได้ทั้งๆที่…”ผมวางแก้วโค้กเสียงดังกว่าปกติ ไอ้แก๊งเลยจำต้องหยุดพูด มันมองหน้าผมงงๆ แต่ไม่นานก็คงเข้าใจว่าผมยังเคืองๆมันอยู่

“เออ งั้นกูกลับก่อนนะ”มันส่งยิ้มทั่วโต๊ะ ไอ้ตินเดินไปส่งเพื่อนเก่าที่หน้าประตู ไอ้ภูหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าจริงจัง

“บอกได้หรือยังว่ามึงเป็นอะไร นั่งเป็นใบ้ทำหน้าบูดเป็นหมาปั๊กอยู่ตั้งนาน”

“หมาปั๊กเป็นไงกูไม่เคยเห็น”ผมยังคงทำเล่นต่อไป ไอ้ภูถอนหายใจเสียงดัง

“มึงเป็นอะไร”มันถามเน้นทีละคำ ไอ้ตินกลับมาพร้อมกับส่งสายตาคาดคั้นมาทางผม

“กูแค่…หงุดหงิดนิดหน่อย”

“เรื่อง”ไอ้ตินแทรก

“กูหงุดหงิดที่ไอ้แก๊งมันขุดเอาเรื่องเก่าๆมาพูดใส่ กูแค่รู้สึกไม่ค่อยโอเค”ผมไหวไหล่ทำเหมือนเรื่องเล็กน้อย กลัวพวกมันจะคิดมากอีก มันสองคนนั่งเงียบไปหลายนาที

“แต่ตอนนี้กูโอเคแล้ว พวกมึงไม่ต้องคิดมากหรอก”ผมทำลายความเงียบเป็นคนแรก

“เอาจริงๆกูยังไม่เคยขอโทษมึงจริงๆจังๆเลยนะ”ไอ้ภูหันมามองหน้าผม

“มึงเคยขอโทษกูไปแล้ว กูจำได้”ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกัน เรื่องคราวนั้นมันก็เกิดนานแล้ว และผมก็โอเคดีมาตลอด ไม่ได้คิดมากเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะผมจงใจไม่คิดมากล่ะมั้ง หรือเพราะตอนนั้นผมไม่อ่อนไหวมากเท่าตอนนี้ ผมยอมรับและรู้ตัวเองดีว่าว่าอารมณ์อ่อนไหวมากกว่าเมื่อก่อนมาก ตั้งแต่เกิดเรื่องไอ้ภูคราวนั้น

“แต่พวกมึงคงรู้ใช่ไหมว่ากูไม่ได้ติดใจกับเรื่องตอนนั้นแล้วจริงๆ”ผมลอบมองสีหน้าของมันสองคน โล่งหน่อยที่มันสองคนมีรอยยิ้มอยู่บนหน้า

“ย้ายมานอนห้องกูด้วยนะ ได้ข่าวว่ามึงไปนอนกับเพื่อนมึง”

“เออ”

“กูไม่ชอบขี้หน้าไอ้เชนเลยว่ะ มันจงใจยั่วโมโหกู ถ้ากูเล่นมันมึงจะมาหาว่ากูไร้เหตุผลไม่ได้นะ”ไอ้ภูพูดอย่างหัวเสีย

“มึงอย่าไปถือสามันเลย มันแค่ล้อเล่น”จำได้ว่ามันพูดไว้ว่าพิสูจน์อะไรสักอย่าง

"แล้วมึงจะไปเคลียร์กับไอ้ว่านตอนไหน"ผมเปลี่ยนเรื่อง รู้สึกอยากเร่งเวลาให้ผ่านไปเร็วๆจะได้จบๆเรื่องเสียที 

"พรุ่งนี้ เตรียมตัวได้เลย"






TBC.
เค้ามาแล้วว  :katai5: รอกันนานเลย
ตอนหน้าคงจบเรื่องกับว่านแล้วค่ะ





หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ ตอนที่๑๒ ครึ่งหลัง]9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 09-11-2015 06:22:51

ช่วงตอบคำถามกับสามหน่อ :c5:






U-Know JJ Time
พี่ภูยังคงสภาพหื่นสมดั่งเมื่อก่อนอยู่ใช่ไหม
Fix - เมื่อก่อนยังไง ปัจจุบันก็ยังเหมือนเดิม ไม่ดิ ต้องบอกว่าเพิ่มมากขึ้นต่างหากถึงจะถูก
แล้วๆๆๆ อันนี้ขอถามภูกับตินนะ อยากรู้ตอนฟิกออนท็อป!!! 555555+
Phu - ตอนนั้นเหรอ...ก็ดีมากกก ผมว่ามันเหมาะกับตำแหน่งนั้นสุดแล้ว มันปากแข็งชอบทำปฏิเสธแต่ความจริงแล้วมันชอบ
Tin - ก็...มันอาจจะไม่รู้ตัว แต่ผมว่ามันดูร้อนแรงแล้วก็เซ็กซี่มากๆเลยนะ
Fix - ไม่ใช่โว้ย!!อย่าไปเชื่อพวกมัน


supernaturalgay
งั้นขอถาม ภู - ติน ...อะแฮ่ม!...สมมุตินะว่าถ้าฟิกสามารถคลอดลูกเองได้และบังเอิ๊ญ  บังเอิญลูกดันเกิดมาหน้าเหมือนฟิก(นิสัยกวนตีน)  ผู้ชายเลยเข้ามาติด มาตอม มาจีบเพียบๆ...เลยอยากจะทราบว่าคุณพ่อทั้งสองจะมีวิธีกำจัดแมลงยังไงบ้างคะ?
Phu - ง่ายๆเลยนะ มาต่อยกับผม ถ้าชนะผมไม่ได้ก็ไสหัวไป  แต่เอาจริงๆนะ ถ้ามีลูกแล้วนิสัย หน้าตาเหมือนไอ้ฟิก ผมขอไม่มีดีกว่า
Tin -  อืม...ผมไม่ชอบใช้กำลังถ้าไม่จำเป็น ไม่อชบขัดขวางด้วย(?) ผมชอบเป็นพระเอก จีบได้จีบไป แต่ถ้าทำให้ลูกสาว(?)เสียใจล่ะก็ไม่จบง่ายๆแน่นอน


Wannida
ถ้าพี่ฟิกสุดหล่อกลับไปทำนิสัยเหมือนเดิม (แอบเล่นชู้กับเมียชาวบ้าน) พี่ตินกับพี่ภูจะจัดการพี่ฟักยังไง   (จิ้นไปก่อน) คึคึ
Phu- ไม่อะไรมากหรอกครับ ผมเคยให้โอกาสมันไปครั้งนึงแล้ว และมันจะไม่มีครั้งที่สอง ก่อนอื่นผมจะจัดการชู้มันก่อนแล้วค่อยจัดการไอ้ฟิก ไอ้ที่มโนๆไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ๆ เพราะตอนนั้นมันคงไปนอนแดกน้ำเกลือที่โรงพยาบาล
Tin - ถ้ามีอีกก็เลิก ตัวเลือกเดียวง่ายๆเลย แล้วอย่างที่ผมเคยบอกไป ดีมาก็ดีกลับ ร้ายมาร้ายกลับ ไม่เว้นแม้แต่ไอ้ฟิก ถ้าผมเจ็บแน่นอนว่ามันต้องเจ็บกว่าผมหลายเท่า *ยกยิ้ม* แต่ผมว่ามันไม่กล้าทำหรอกครับ


flimflam

ถามฟิกดีกว่า
1.ไปเจอพี่อันได้ยังไงทำอีท่าไหนถึงมาเป็นชู้กับพี่อันได้ นิคด้วย

Fix - เป็นคำถามที่เสี่ยงต่อชีวิตของผมจริงๆ *บีบน้ำตา* กับพี่อัน ผมไปเจอพี่เขาที่ร้านกาแฟข้างคณะครับ มองตากันไปมองกันมาก็เลยจิ๊จ๊ะกันเลยแล้วก็...*กระซิบเบาๆ* อันที่จริงผมย้ายมาข้างห้องไอ้ตินเพราะจุดประสงค์นี้แหละครับ กับไอ้นิคผมไปเจอมันที่คาบเรียนวิชาภาษาอังกฤษมันมาอ่อยผมก่อนนะ ผมไม่ผิด
2.ฟิกยังเจอนิคอยู่มั้ยจบคำถามนี้หวังว่าฟิกจะยังไม่ตายนะ 5555555555
Fix - ไม่ได้เจอเลยครับ เพราะช่วงนั้นผมเองก็(แอบ)เข็ด แล้วที่สำคัญไอ้นิคมันซิ่วไปเรียนที่อื่นเพราะโดนไอ้ภูเล่นงาน
(ตอนนี้อยู่ในรวมเล่มค่ะ 55)


LSK
ถามภู ติน:ถ้าฟิกท้องได้ภูกับตินอยากมีลูกกี่คน
Phu- ผมน่ะเหรอ...อยากมีแฝดสี่ ชายสอง หญิงสอง
Tin - ผมเป็นคนมักน้อย อยากได้ลูกผู้หญิง คนเดียวก็พอครับ
ถามฟิก:ถ้าฟิกท้องได้อยากท้องไหมหรืออยากทำใครท้อง
Fix- แน่นอนว่าผมไม่ใช่คนตั้งท้อง ผมอยากเห็นไอ้ภูท้อง อยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไงบ้าง คิดแล้วก็ขำ ส่วนไอ้ตินก็เป็นพี่เลี้ยงไป เห็นไหมครอบครัวลงตัวสุดๆ


❣☾月亮☽❣
ถามทั้งสามคนเลย.ติดเรทนิดนึงนะ. คิดยังไงกับ DP double penetration.เราว่าฟิกนางแกร่งพอจะรับได้พร้อมกันนะ.
Phu - ผมว่ามันก็ดีนะ เอ่อ ตื่นเต้นดี  *กระแอมกระไอ* แต่ไอ้ฟิกมันไม่ค่อยจะยอม เพราะเรื่องที่ผมชอบล้อมันนั่นล่ะ
Tin - อืม...ผมว่าฟิกมันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เราไม่ค่อยได้มีโอกาส หรือประสบการณ์แบบนี้...แต่ผมว่ามันก็โอเคนะ แต่มันก็ค่อนข้างจะลำบาก 
Fix-  โอยย แค่คิดก็เสียว เอ้ย ก็กลัวเเล้ว คงเพราะครั้งแรกมันทำผมเลือดออกเลย แต่ก็ไม่ได้ชอบหรือเกลียดนะ ถ้าพร้อมหรืออารมณ์มันพีคมากๆก็คงได้อยู่ แต่จริงๆนะ ผมสงสารตัวเอง *ปาดเหงื่อ*


Name Vee
ถามพี่ฟิก :: ยังคิดที่จะกดพี่ภู ตินอยู่รึเปล่า ?
Fix - ผมคิดอยู่ตลอดเวลานั่นแหละครับ แต่ไม่แสดงออก แถมแผนล่มทุกทีเลย
ถามพี่ภู+ติน ::.ชอบฟิกน่ารักหรือเกรียนๆ ??
Phu- ชอบทั้งสองอย่างเลยนะ ถ้าไม่เกรียนผมว่ามันไม่ใช่ไอ้ฟิก
Tin - เหมือนพี่ภูเลย ไอ้ฟิกมันต้องเกรียนๆ แต่ความน่ารักเป็นของแถม


Rumraisin

ถามเบสิคเรื่องปากท้องเลยค่ะ เมนูโปรดของแต่ละคน ติน ฟิก ภู
Phu- ปกติผมเป็นคนทานง่ายๆ ไม่ชอบอะไรที่มันยุ่งยาก ชอบข้าวไข่เจียวหมูสับ ตอนเด็กๆแม่ผมทำให้ทานเกือบทุกเย็นเลย
Tin - ถ้าแบบเบาท้อง ผมชอบข้าวต้ม ถ้าจานหลัก ข้าวหมูกรอบ
Fix - ข้าวกระเพราะ(ทุกอย่าง) กับไข่ดาวไม่สุก ผมกินง่าย ได้หมดขอแค่อร่อย
แล้วปกติพี่ตินเป็นคนทำอาหารให้ อยากทราบเมนูประจำตัวที่พี่ตินทำบ่อยๆขอบคุณค่ะ
Tin - ข้าวต้ม กับข้าวผัด


manutty
ถาม พี่ภู กับ พี่ติน เคยคิดจะกินกันเองบ้างไหม
Phu- ไม่เลยครับ แบบไอ้ตินไม่ใช่สเป็คผม แล้วที่สำคัญผมไม่ชอบคนขี้บ่น
Tin - ถึงตอนแรกๆจะเคยคิดบ้าง เพราะความหมั่นไส้และหงุดหงิด แต่เอาจริงๆผมไม่อยากได้คนที่โหดกว่าผมครับ
ถามน้องฟิก  ถ้าต้องให้ของขวัญกับพี่ภู และ พี่ติน ฟิกจะให้อะไรที่เหมาะกับทั้งสองคน (เอาของขวัญที่ไม่เหมือนกันนะ)
Fix - สำหรับไอ้ภูมันเป็นคนไม่ค่อยซีเรียสเรื่องของขวัญนะ แต่คนขี้น้อยใจแบบมัน ของขวัญที่ผมจะให้ก็แค่คำสามคำพูดออกจากปากผมนี่แหละ
ส่วนไอ้ตินรายนั้นผมให้ของที่มันชอบไปตรงๆเลย(ไม่ได้บอกรักมันไม่ได้หายความว่าผมไม่ได้รักมันนะ)แต่เพราะมันมีความเป็นผู้ใหญ่สูง มันเข้าใจแน่นอนว่าผมจะสื่ออะไรมันชอบต้นไม้งั้นผมจะเอาต้นส้มให้มัน เพราะมันจะได้ดูแลไปนานๆ



ทาจิบานะ เรน
 อยากถามว่า
1.คบกันมาก็ตั้งนานแล้ว ทั้งสามคนมีเรื่องราวหรือเหตุการณ์ไหนที่ประทับใจซึ่งกันและกันหรือจะจำไปจนวันตายบ้าง แบบอยากรู้อะ

Phu - ความจริงมันก็มีหลายเหตุการณ์ ทุกวันที่มันอยู่กับผมนั่นแหละครับ แถ้าให้เจาะจงก็วันที่มันบอกว่าจะให้โอกาสผม วันนั้นเป็นวันที่ผมดีใจมากจริงๆ
ถ้าไม่มีวันนั้น ผมคงแย่แน่ นึกภาพตัวเองไม่ออกเลย
Fix - กับพวกมันน่ะเหรอ วันที่มันคอยดูแลผมเวลาที่ผมป่วย ไม่ว่าจะครั้งไหน แต่เหตุการณ์เหล่านั้นทำให้ผมรู้ว่าพวกมันรักและเป็นห่วงผมมากจริงๆ
Tin - วันที่ผมขอมันแต่งงานครับ ได้เห็นมันเขินแบบจะๆก็วันนั้นแหละ

2.ถามพี่ตินว่าจะไปเคลียร์เรื่องเก่านี่แอบกลัวบ้างมั้ยคะ แล้วถ้ากลัวกลัวเรื่องอะไรและคิดว่าตัวเองจะคุมสถานการณ์ได้มั้ย

Tin - ยอมรับว่ากลัว กลัวใจพี่ว่าน ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องแย่ๆกับไอ้ฟิก ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าจะคุมได้ไหม เพราะผ่านไปหลายปีพี่ว่านก็เปลี่ยนไปจนผมเดาใจไม่ถูกเลยครับ
3.อันนี้ถามพี่ภู เคยน้อยใจฟิกบ้างมั้ยคะแล้วเคยงอนฟิกป่ะแบบงอนแล้วแต่ฟิกมันไม่รู้ตัวว่าพี่งอนอะ ตอบตรงนี้ได้เลยนะคะ ฟิกผ่านมาจะได้เห็น
Phu
- เรื่องน้อยใจนี่เป็นธรรมดาของผมเลยนะครับ มันก็มีบ้างแต่ผมไม่แสดงออกหรอกว่าน้อยใจมัน เพราะไม่อยากให้เกิดบรรยากาศแปลกๆ แต่มันก็สังเกตได้ตลอดและจะพยายามมาง้อด้วยความเกรียนของมัน แต่บางครั้งมันก็เกรียนแกล้งทำเป็นมึนไม่รู้เรื่อง จนผมต้องเสียฟอร์มหายงอนเอง   
3.สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ถามหนูฟิกหน่อยว่าเคยคิดมั้ยว่าตัวเองจะมีสามีถึงสองคนแบบนี้แถมคนละบุคลิกแต่หล่อมากอีกตะหาก
Fix - ไม่เคยคิดแน่นอนอยู่แล้ว แถมพวกมันสองคนทำเรื่องแสบๆกับผมอีก แรกๆผมก็รับมือไม่ค่อยไหวอ่ะ กับไอ้ภูนี่มาแบบตัวร้ายปากแข็ง ไอ้ตินก็ผีเข้าผีออก ประสาทจะกิน แต่หล่อให้อภัย(?) ใครพูดวะ ตบปากเดี๋ยวนี้ เอ่อ  แต่เดี๋ยวนี้ก็เริ่มชินแล้ว เรื่องหื่นก็เหมือนกัน พยายามจะตามพวกมันให้ทันอยู่!
4.สุดท้ายแล้วววว คือก็เข้าใจนะว่ามีฟิกกันอยู่แล้ว แต่ก็อยากรู้อะว่าระหว่างพี่ภูกับพี่ตินแอบมีหวั่นไหวใส่กันบ้างป่ะ
ฮาาา คือก็ไม่รู้สิแต่บางทีที่พวกพี่อยู่ด้วยกันแล้วเรารู้สึกว่ามันมุ้งมิ้งชวนจิ้นแปลกๆอะ #พี่ภูอย่าเตะเค้า

Phu - ไม่เตะครับ แค่ลูบหัวด้วยความเอ็นดู(?) ไม่เคยหวั่นไหวนะ เคยเห็นมันแก้ผ้าบ่อยๆก็ไม่เห็นจะหวั่นไหว คือบอกก่อนว่าไอ้ตินมันไม่ใช่สเป็คผมอ่ะ ผมมองว่ามันชอบบ่นน่ารำคาญมากกว่า คล้ายๆเป็นคนในครอบครัวไปแล้ว แต่ถ้ากดมัน ผมว่าผมทำได้ เพราะผมแรงเยอะ
Tin - หวั่นไหว แบบใจสั่นหลงรักน่ะเหรอ *หัวเราะ* ไม่ค่อยมีหรอก แต่ถ้าสนใจ แรกๆก็มีบ้างนิดหน่อย เพราะผมมองว่าพี่ภูนิสัยคล้ายไอ้ฟิกเลย แต่ติดที่ว่าผมไม่ชอบคนที่โหดกว่าตัวเอง


Hunne Feorin
ถามภูกับตินคำถามเดียวกันว่ามีคิดน้อยใจบ้างมั้ยว่าฟิกจะรักอีกคนมากกว่า
Phu- เคยครับ ผมมักเป็นบ่อย เพราะเคยทำไม่ดีใส่ไอ้ฟิกเยอะมาก แถมนิสัยแย่กว่าไอ้ตินอีก แต่ที่สุดแล้วไอ้ฟิกมันก็ทำให้ผมเชื่อว่ามันเองก็รักผมมากน้อยไม่สำคัญ (สำหรับผม)
Tin- น้อยใจมันก็มีบ้างตามธรรมดา ว่ากันตรงๆผมกลัวพี่ภูนะ แต่ไอ้ฟิกมันก็รักทั้งผมทั้งพี่ภูนั่นล่ะ มากหรือน้อย ผมไม่สนใจ


Maew Parichart
อยากถามภูกับตินว่าตั้งแต่คบกับฟิกมาเคยนอกกายนอกใจฟิกบ้างไหม

Phu- ตอบตรงๆ นอกกายไม่เคย แต่เคยมีวอกแวกไปบ้าง เพราะตั้งแต่แรกแล้วไอ้ฟิกมันไม่ใช่สเป็คผมอ่ะ พอเจอคนที่ถูก
ใจก็อาจจะชอบ  แต่สุดท้ายผมนึกถึงไอ้ฟิก ความรู้สึกพวกนั้นมันก็หายไปเอง
Tin - ผมไม่เคยนอกใจ นอกกายก็...ไม่เคยมั้ง แค่จูบตอนเมานับรึเปล่า *หัวเราะ*
แล้วฟิกตั้งแต่คบกับภูตินอย่างจริงจังเคยนอกใจบ้างรึเปล่า
Fix - ไม่เคยนะ ถ้ามีผมก็เละอ่ะ อาจมีแค่คุยขำๆในเฟสบ้างงง แต่ก็ไม่มีอะไร แต่หลังๆมาผมก็ไม่ทำแล้ว เพราะพวกมันเลียนแบบผม! พูดแล้วขึ้นไว้จะมาเล่าให้ฟังคราวหลังก็แล้วกัน

คำถามที่2บางครั้งฟิกเหมือนเอาใจภูมากกว่าตินแล้วตินเคยน้อยใจบ้างไหม
Tin - อืม ก็มีบางแหละครับ แต่ผมกับพี่ภูไม่เคยแสดงออกมาว่าน้อยใจ เพราะมันจะทำให้ลำบากใจกันทั้งสามคน แล้วผมก็ไม่อยากให้ไอ้ฟิกคิดมากด้วย ผมเข้าใจมันนะ มันอยู่ในสถานะที่วางตัวลำบากที่สุดเเล้ว เรารู้กันดี ข้อนี้จึงเกิดขึ้นไม่ค่อยบ่อยนัก

แล้วฟิกคิดว่าตัวเองเอาใจใครมากกว่าระหว่างภูกับตินแล้วฟิกแก้ปัญหายังไงถ้าเกิดมีใครคนใดคนหนึ่งในสองคนนี้น้อยใจ
Fix - ถามแบบนี้ มันก็ตอบยากนะเนี่ย ตัวผมเองไม่รู้หรอกว่าเอาใจใครมากกว่ากัน มันขึ้นอยู่สถานการณ์นั้นๆ การแก้ปัญหาคือพูดอธิบายตรงๆถ้ายังไม่รู้เรื่องก็ใช้การกระทำ ผมเชื่อว่าพวกมันสองคนเข้าใจ



Chayanis Yodmuangjarern
1.ขอถามความรู้สึกพี่ภูกับตินหลังวันเกิดปีที่25ของฟิกหน่อย เป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนมั้ยคะ

Phu  - คุณถามคำถามต้องห้ามเลยนะเนี่ย มันก็มีเจ็บบ้างแหละครับ แต่วันนั้นมันก็น่วมพอๆกับผม ผมไม่ได้เล่นตัวนะ ความจริงไอ้ยอมมันก็สามารถยอมได้แหละ แต่ผม...มันน่าอาย ครั้งนั้นก็โอเค หมายถึงก็รู้สึกดี แต่มันไม่ใช่ทางของผม!ครั้งเดียวก็พอแล้วมั้งงง
Tin - ไม่ค่อยเจ็บมากเท่าไหร่ เพราะผมก็ไม่ได้โวยวายหรือต่อต้านอะไร ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี...มั้ง  มันไม่ได้บังคับฝืนใจอะไร แต่ผมไม่มีทางติดใจแบบที่มันบอกแน่รู้ๆกันอยู่นี่เนอะ ว่าใครตำแหน่งไหนยังไง
2.ถ้าฟิกมางอแงขออีก(?)จะยอมมั้ย
Phu - ถ้าไอ้ตินยอมผมก็ยอม
Tin - ถ้าพี่ภูยอมผมก็ยอม
Fix - สรุปยอมทั้งคู่ จะได้เท่าๆกัน

3.ถามฟิกหน่อย ที่ผ่านมามีมือที่สามที่สี่มาวุ่นวายบ้างมั้ย แล้วถ้ามีมาวุ่นวายกับพี่ภู,ติน ฟิกจัดการยังไง
FiX - ไอ้มือมารพวกนี้แน่นอนว่ามีครับ ผมก็(แอบ)คุยกับพวกนั้นไปเลยว่านั่นน่ะ แฟนผมนะ ห้ามยุ่ง ไม่งั้นเจอโหมดโหดแน่นอน

4.พี่ภูกับตินจัดการกับบรรดาเด็กๆที่ฟิกชอบไปอ้อล้อหรือมาอ้อล้อ(?)ยังไง
Phu - ความโหดช่วยได้ ใครว่าผมเถื่อนผมไม่แคร์ แต่ไอ้พวกนี้ไม่โดนหน้าแข็ง ไม่หลั่งน้ำตา
Tin - ส่วนใหญ่ไม่ค่อยถึงมือผมหรอกครับ แต่ถ้ามีหลุดมา...แสดงว่าไอ้เด็กนั่นมันเยอะมากจริงๆ ถึงตอนนั้นก็คงต้องงัดของจริงมาจัดการแล้วล่ะครับ

5.ในบรรดาอดีตกิ๊ก ฟิกชอบใครที่สุด
Fix- ข้อนี้มีคนถาม ตอบไม่ถือว่าผิดนะเว้ยย อะแฮ่ม สำหรับผมมีสองเงื่อนไข ในแง่...บนเตียง ผมยกให้พี่อันนะ ผมคั่วบ่อยสุดแล้ว *โดนรังสีทะมึน* ถ้านิสัย ต้องไอ้โจ มันไม่ค่อยงี่เง่า พูดรู้เรื่อง คำไหนคำนั้น และมันเป็นคนแรกด้วยที่เคยได้นอนค้างคืนกับผม



Preaw Wan
สามหน่อจะรับเลี้ยงเด็กๆบ้างมั้ยคะ อยากเหนฟิกเลี้ยงลูกอ่ะ
 - รับครับ แต่หลังจากที่เรามีงานการที่มั่นคงแล้ว
(มีอยู่ในรวมเล่ม แต่ภาคนี้อาจจับมาใส่ด้วย)




*ขอบคุณทุกคำถามค่ะ* :กอด1:



หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 09-11-2015 08:26:53
ขอบคุณค่าา  :กอด1: ยังดีที่เคลียร์เรื่องแก๊งได้
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 09-11-2015 09:15:24
พรุ่งนี้แล้ว!!

จะเป็นยังไงต่อ


รอจ้า!! :katai4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-11-2015 09:36:01
 :กอด1:  กอดคนเขียนค่ะ

ลุ้นต่อไป
ชอบตอนตอบคำถามจัง อิอิ  :mew1: 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-11-2015 10:28:14
แอบหวั่นกับการเคลียร์อดีตของตินกับว่านกลัวทุกคนจะเจ็บตัว

หวังว่าจะไม่มีอะไรร้ายแรงเหมือนที่คนมองโลกในแง่ดีเขาคิด

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-11-2015 10:29:04
ขอให้เคลียร์กันได้เร็วๆ อยากเห็นฟิกโดนจัดหนักจัดเต็มแล้วอะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 09-11-2015 11:49:17
อ่านตอนนี้ล่ะแบบ...แก๊งโดนไอ้พี่ว่านมันกระทำชำเรามารึเปล่าหว๊าาา เพราะอ่านตอนนี้ล่ะรู้สึกว่าแก๊งมันดูกลัวๆว่าน ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นไม่เห็นจะกลัวสักเท่าไหร่ แม๊ะ พอคิดงี้แล้วแบบ...อยากอ่านคู่ว่านแก๊ง ขึ้นมาทันที คงจะเป็นแนวรักดิบๆยิ่งกว่าภูตินมันกระทำฟิกแรกๆอีกมั้ง 555555+ น่าสนๆๆๆ

ปล.จากที่ภูตินมาตอบคำถามเรื่อง ฟิกมันออนท็อป อ่านแล้วรู้สึก...จัดมาสักฉากเถอะนะ อยากเห็นฟิกมันออนท็อป อยากเห็นด้วยตา อยากรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสตัวเอง 5555555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 09-11-2015 11:52:03
ตอนแรกกะว่าจะเก็บไว้อ่านรวดเดียวกับตอนหน้าที่กำลังจะเคลียร์กับว่านแต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆ เป็นห่วงสามหนุ่มไม่ใช่อะไรนี่ก็อ่านไปลุ้นทุกตัวอักษรไปกลัวจะเกิดเรื่อง แต่พอยังอยู่ดีกันก็โล่งใจ (เป็นเอามาก ฮา) ส่วนในช่วงตอบคำถามนี่เหมือนเป็นการเปิดใจของแต่ละคนเลยอะ ชอบๆ ทำอีกนะคะ เราอยากรู้เรื่องหนุ่มๆเยอะ ยิ่งบางคำตอบของพี่ภู พี่ติน นี่ทำเราเขินแทนฟิกเลยจริงๆ และที่สำคัญพี่ภูลูบหัวเราด้วยอ่าาา โอ้ยยย ขนาดเราเจอแค่นี้ยังเขินเลยอ่ะแล้วกับฟิกที่ต้องคลุกคลีอยู่กับทั้งสองหนุ่มตลอดเวลานี่ เข้าใจเลยว่าคงเขินหนักมากจริงๆ  :-[ :-[ :-[ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 09-11-2015 12:26:24
ฟิกมันโม้เม้นต์นิสัยเมียสุด 5555+ งอนสามี
แต่เชนมันจะแกล้งให้ฟิกงานงอกใช่ไหม จะรออ่าน5555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 09-11-2015 13:23:03
จะรอดูหลังจากเคลียร์เรื่องพี่ว่านจบ หึหึ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 09-11-2015 16:01:15
เราว่าที่ฟิกมันหงุดหงิดเพราะโกรธที่คนมาว่าผัวนาง จะดีจะชั่วก็ผัวกูของกู กูว่าได้คนอื่นห้ามยุ่งไรงี๊แน่ๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 09-11-2015 17:35:52
แก๊งนี่ไม่ธรรมดาอะ สืบมายังไงได้ขนาดนี้ ข่าววงในน่าดู 555555555
อ่านช่วงตอบคำถามแล้วรู้สึกว่าถ้าพี่ภูไม่โหดตินจะเก็บมาพิจารณายังไงก็ไม่รู้..
ติดปัญหาแค่โหดอย่างเดียวเอง 55555555555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: wann ที่ 09-11-2015 18:58:09
ห้าๆๆๆ รออ่านเลยยย อยากเหนฟิกเลี้ยงลูกกก กรี๊ดดดด ดีใจจข :hao7: :hao6: ขอบคุณที่ตอบค่าา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 09-11-2015 19:40:31
อยากอ่านต่อมากๆๆๆๆ  :ling1:  :z3: ชอบคำถามมาก5555 แต่ภูอยากมีลูกแฝด4คนนี่ฟิกแย่แน่ ตินดูชอบลูกสาวมาก ถ้ารับเด็กมาเลี้ยงคงเลี้ยงลูกสาวสินะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 09-11-2015 21:42:22
ได้ว่านซักครั้งจะตั้งใจอ่านนิยาย

ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 09-11-2015 22:51:57
พี่ๆ เอาใจน้องฟิกบ้างซิ เดี๋ยวงอนนาน อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 10-11-2015 00:48:43

ชอบตอนตอบคำถาม รอเจอพี่ว่าน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 10-11-2015 11:48:53
อดทนกันอีกนิดนะ สามหนุ่ม เรื่องวุ่นๆจะจบแล้ว จะได้กลับไปจัดรางวัลรับขวัญกันสักหลายๆที  :haun4: และก็ระวังตัวกันไว้ให้มาก อย่าไว้ใจ แก๊ง กับ ม่อน ให้มากนะดูมีพิรุธ ถ้าเป็นจริง เจอส้นติงสองผัวอีน้องฟิกน่วมแน่ๆ เมิง  :z6:   อ๊ายยยยยยยยย ชอบคำตอบของพี่ตินอ่ะ แอบมีสนใจพี่ภูด้วย เราว่าแล้ว ว่าตินต้องมองพี่ภูนิสัยคล้ายฟิก นี่ถ้าไม่โหด ได้มี  :oo1: กันมั่งล่ะว้า  o18
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 10-11-2015 16:32:44
ตื่นเต้นแทน ไม่รู้จะออกมาแบบไหน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๒ ครึ่งหลัง] 9-11-58 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 10-11-2015 16:36:51
 :กอด1: รักฟิก อย่าน้อยใจเลย เรื่องในอดีตมันผ่านไปแล้ว
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 11-11-2015 08:15:39

ตอนที่๑๓ ว่าน





{Tin Side}

เป็นคืนที่ผมนอนไม่หลับ... อาจเป็นเพราะวันพรุ่งนี้เป็นวันที่ผมต้องเคลียร์เรื่องทุกอย่าง…และหวังอยู่ลึกๆว่ามันจะจบลงในวันเดียว จนตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าพี่ว่านเป็นยังไง คิดอะไรอยู่และต้องการอะไร นิสัยจะยังเหมือนเดิมหรือเปล่าและหนทางที่พี่เขาจะอภัยให้ผมนั้นมีมากน้อยแค่ไหน ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้ผมไม่เป็นสุข แต่โชคดีที่ยังมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นอยู่บ้าง ทั้งเรื่องไอ้แก๊งและพี่โย่

ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าป๊าจัดการเรื่องนี้ให้ผมด้วยหรือนี่เป็นวิธีลงโทษผม เพราะช่วงนั้นผมจิตตกอยู่นานหลายวัน  ผมพลิกตัวลงจากเตียงช้าๆ เพื่อไม่ให้คนที่นอนอยู่บนเตียงรู้สึกตัว ในเมื่อข่มตาไม่ลง ผมจึงลงมาเดินเล่นที่ลานกว้างรับลมเย็นๆที่พัดผ่านผะแผ่ว ปล่อยความคิดล่องลอยไปกับสายลม ผมไม่ห่วงว่าตัวเองจะเจ็บตัว ข้อนี้ผมเตรียมใจมาแล้ว ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ  ผมก็เห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่นอกประตูรั้ว ถ้าหากว่าผมเป็นคนขลาดเขลาคงคิดมโนเป็นตุเป็นตะว่าเป็นผีแน่ๆ แต่ผมจำเค้าโครงหน้าและรูปร่างสูงใหญ่แบบนั้นได้

...พี่ว่าน...

ผมใจเต้นถี่รัว เกิดจากความกลัวหรือตื่นเต้นก็ไม่แน่ใจนัก...แต่ก็ไม่รอช้าก้าวตรงไปยังร่างสูงใหญ่ที่ยืนมองอยู่ด้านนอก ก้าวเข้าไปใกล้มากพอที่จะเห็นว่าอีกฝ่ายดูเปลี่ยนไปจากเดิมมาก คนๆนี้โตขึ้นและเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

“พี่ว่าน”ผมเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆ สงสัยอยู่ลึกๆว่าพี่เขามาทำอะไรดึกๆป่านนี้

“ยังจำกูได้อยู่เหรอ”ถ้อยคำนั้นเหมือนคำตัดพ้อแต่ก็แฝงไปด้วยความเย็นชา

“จำได้สิ”ผมตอบเสียงเรียบ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกกดดันมากก็ตาม

“มึงดูเปลี่ยนไปนะ”

“พี่ก็เหมือนกัน”พี่ว่านยกยิ้มทันที แต่เป็นรอยยิ้มที่ไม่น่ามองนัก

“แน่นอน กูเปลี่ยน แต่ก็ไม่ทั้งหมด”ผมเห็นแววตาวูบไหวของอีกฝ่าย แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้น

“ผมคิดว่าพี่จะเกลียดผมจนไม่คุยด้วย”พี่ว่านไม่ได้ตอบอะไร จ้องมองไปในความมืดเบื้องบนแทน

“กูเห็นแฟนคนล่าสุดของมึงแล้ว ต่างจากที่กูคิดไว้เยอะเลย”พี่ว่านกลับมามองที่ผมตามเดิม

“ผมไม่รู้ว่าพี่คิดจะทำอะไร แต่บอกไว้ก่อน…เรื่องนี้มันเป็นปัญหาของผมกับพี่ อย่าดึงคนอื่นมาเกี่ยว”

“มึงรักมันมากไหม”

“แค่รู้ไว้ว่าผมไม่มีทางยอมให้พี่เล่นตุกติกกับมันแน่นอน”ถึงแม้ว่าจะทำให้เรื่องของผมกับพี่ว่านบานปลายมากกว่าเดิมก็เถอะ

“ก็มาลองดูกันว่ากูจะทำได้ไหม มึงคงรู้ว่าจะหากูเจอได้ที่ไหน”พูดจบพี่ว่านก็หมุนตัวกลับทันทีเหมือนหมดเรื่องจะคุย

“ผมขอโทษจริงๆ”ผมตัดสินใจพูดออกไป ร่างตรงหน้าหยุดเดินก่อนจะเหลียวมองผมด้วยสายตาเรียบนิ่ง

“บางครั้งแค่คำขอโทษ มันก็ไม่พอว่ะ”

...นั่นสินะ

ผมถอนหายใจ เงยหน้ามองท้องฟ้าสีหมึกอย่างเหม่อลอย ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังแหวกความเงียบก่อนที่รถกระบะคันนั้นจะเคลื่อนตัวออกไป  เสียงฝีเท้าจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมอง ไอ้ฟิกเดินหน้ายุ่งเข้ามาหา

“กูเห็นว่ามึงคุยกับใครอยู่”

“พี่ว่าน”ไอ้ฟิกชะงักไปทันที

“มันมาหามึงเหรอ”มันมีสีหน้าคลางแคลง จนผมต้องยิ้มออกมา

“คงผ่านมาแถวนี้ล่ะมั้ง”

“ไปหลอกหมาเถอะ กูรู้หรอกน่า…ว่าแอบนัดเจอกัน คบชู้แบบนี้กูรับไม่ได้นะ”มันทำเสียงหยอก คงอยากจะสร้างบรรยากาศขำๆล่ะมั้ง

“มึงนี่กวนตีนนะ”

“ไม่อยากให้เครียดไง ดูหน้ามึงดิ มันมาพูดอะไรกับมึงวะ”มันชี้มาที่คิ้วขมวดมุ่นของผม

“แค่มาขู่เฉยๆ”กับเรื่องไอ้ฟิก ผมมั่นใจว่าพี่เขาไม่ได้แค่ขู่แน่

“ฟิก วันพรุ่งนี้...”

“กูจะไปด้วย”มันยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“อือ ก็ได้”แต่ผมคิดไว้แล้วว่าจะเข้าไปคนเดียวเพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาของผมกับพี่ว่าน ผมไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเจ็บตัวด้วยอีกแล้ว

.............................................................................

เป็นเช้าที่ค่อนข้างแปลก...เพราะทุกคนในบ้านพร้อมใจกันตื่นแต่เช้าเหมือนนัดกันมา มีแต่ผมนี่ล่ะที่ตื่นสายกว่าคนอื่นเขา แถมแต่ละคนก็ดูพร้อมลุยมากกว่าผมเสียอีก

“เฮ้ย แค่ไปคุยเฉยๆทำไมต้องทำเหมือนจะไปถล่มใครด้วยวะ”ผมมองพวกมันขำๆ

“แล้วของที่มึงพกมาด้วยนี่ก็แค่เรื่องขำๆใช่ไหม”ไอ้เคนถามด้วยเสียงแดกดันเล็กน้อย

“เอามาป้องกันตัวเฉยๆ”

“แล้วแผนล่ะ มีอะไรบ้าง”พี่ภูทำสีหน้าจริงจัง ผมมองหน้าทุกคน หยุดอยู่ที่ไอ้ฟิก ก่อนจะเลยไปยังไอ้ม่อน ผมไม่ไว้ใจมัน เพราะครั้งแรกที่เจอมันก็อยู่กับไอ้พวกเด็กช่างที่มารุมผม แถมจู่ๆก็ย้ายมาอยู่ข้างห้องอีก ถึงมันจะอ้างว่าอยากตอบแทนบุญคุณพี่ภู ผมก็ไม่ไว้ใจมัน คงไม่มีใครโง่ลงทุนหักหลังพี่ว่านแน่...และผมจะทำให้มันเห็นเองว่ามันคิดผิดที่มาลองดีกับคนอย่างผม

“ไม่มี”ผมตอบไปตามตรง พวกที่เหลือทำหน้างงๆ ผมได้โอกาสปลีกตัวเข้าไปในครัว

“มึงพูดจริงเหรอ”พี่ภูตามเข้ามา ก่อนยืนพิงตู้เย็นเก่าๆ

“ก็ตามนั้นแหละ ไม่จำเป็นต้องมีแผนหรอก แค่ใช้สัญชาตญาณของตัวเองในยามคับขันก็พอ”ซึ่งมันก็ค่อนข้างจะเสี่ยงอยู่ไม่น้อยเลย

“แปลกนะ...ปกติมึงออกจะรอบคอบ”อีกฝ่ายมีท่าทีสงสัย

“ผมไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไร ไปแบบโล่งๆแบบนี้เนี่ยแหละ ผมจะเข้าไปเคลียร์กับพี่ว่านก่อน ไปคนเดียว”ผมย้ำคำพูดสุดท้าย พลางหยิบแก้วกาแฟออกมาจากชั้นเหมือนกำลังคุยเรื่องสรรเพเหระ

“มึงคิดอะไรอยู่”

“คิดว่านี่เป็นปัญหาของผมกับพี่ว่าน คนอื่นไม่จำเป็นต้องมาเอี่ยวด้วย”พี่ภูถอนหายใจดังพรืด มีเสียงดังปึงที่กรอบประตู ไอ้ฟิกโผล่มาด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“มึงอยากเป็นฮีโร่เหรอ แบบลุยเดี่ยวอะไรอย่างงี้”

“เปล่า แต่กูแค่ไม่อยากให้บานปลาย แต่...”ผมรีบเสริมเมื่อเห็นสีหน้าไม่เห็นด้วยของทั้งสองคน

“ถ้ากูหายเข้าไปนานเกินไป พวกพี่ค่อยลุย โอเคนะ”ผมหมุนตัวมากดน้ำร้อนใส่แก้วกาแฟตรงหน้า กลิ่นหอมอ่อนๆทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

“แล้วเรื่องไอ้ม่อน...มึงคิดว่าไง”พี่ภูยกประเด็นนี้มาพูดอีกครั้ง ผมมองไปด้านนอกเพื่อดูลาดเลา เมื่อทางสะดวกจึงหันมาสนใจบทสนทนาต่อ

“ผมว่ามันแปลกๆ”

“ดูมีพิรุธ”ไอ้ฟิกเสริมด้วยสีหน้าจริงจัง ซึ่งไม่เหมาะกับมันเอาเสียเลย

“แล้วเพื่อนมึงล่ะ เป็นไง ไว้ใจได้เหรอ”

“ได้ ผมว่ามันคงมีปัญหากับพี่ว่าน ไม่รู้ว่าไปเจออะไรมาบ้าง”ผมถอนหายใจรู้สึกปวดขมับขึ้นมาแล้ว หลังจากที่จัดการมื้อเช้ากันเรียบร้อยแล้ว แต่ล่ะคนก็ออกไปย่อยและท่าผมมองไม่ผิด ดูไอ้เชนและพี่เนมจะว้อนท์ซะเหลือเกิน ผมเข้ามาในห้อง หยิบปืนพกที่ป๊าให้มาป้องกันตัวออกมาดู ไม่ได้อยากเอามาด้วยซ้ำ แต่ผมต้องไม่ประมาท เพราะผมไม่รู้ว่ามีอะไรรอผมอยู่ แต่วันนี้ผมพร้อมที่จะจบเรื่องบ้าๆนี่แล้ว

'มึงคงรู้ว่าจะหากูเจอได้ที่ไหน'

เมื่อคืนไอ้แก๊งมันเล่าให้ผมฟังว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งปี พี่ว่านใช้โกดังเก็บไม้หลังเก่าเป็นที่มั่วสุมของพรรคพวกไปแล้ว ผมเก็บปืนเข้าที่ก่อนจะลงไปด้านล่าง เหมือนว่าไอ้แก๊งจะมาสมทบด้วย ไอ้พวกนี้มันคิดว่าเล่นตำรวจจับโจรกันรึไง

“ระวังไอ้ม่อนไว้นะ”ไอ้ชัยเข้ามาเตือนอีกคน

“เมื่อวานแม่งจะจิ๊กของในบ้านมึงด้วยนะ นิสัยโจรชัดๆ เด็กเวร”

“ไม่ต้องห่วง กูเล่นมันแน่”ผมตบบ่าไอ้ชัย ไม่แน่อาจจะไม่ถึงมือผมก็ได้ พี่ภูเองก็ดูเหม็นขี้หน้ามันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ผมไม่เห็นไอ้เคนกับไอ้เชนเพื่อนไอ้ฟิก ไม่รู้ว่ามันสองคนหายหัวไปไหน รถก็ไม่อยู่

“เพื่อนมึงไปไหน”

“ไม่รู้ แต่เห็นพวกมันบอกว่าจะไปทำอะไรสนุกๆ”ไอ้ฟิกดูเซ็งๆ

“อย่าทำหน้าแบบนั้น จบเรื่องเดี๋ยวมาทำเรื่องสนุกๆกัน”ผมส่งสายตารู้กันไปให้

“เออ กูจะขำให้ถ้าไปนอนหยอดข้าวต้มอยู่ที่โรง'บาล”

“ดูถูกกูเกินไปแล้วนะมึงเนี่ย กูไม่ตายง่ายๆหรอก”

“มึงเป็นสตีฟ โรเจอร์เหรอวะ”ผมทำหน้างงใส่มัน

“ใครวะ”

“กัปตันอเมริกาไง มึงนี่ไม่ทันโลกเลย”มันทำหน้าระอาใส่ผม ก็ปกติผมไม่ค่อยจะดูหนังอยู่แล้ว ความจริงไอ้ฟิกมันก็ยี้หนังแนวแอคชั่นล้างผลาญ ไม่รู้นึกไงถึงชอบดูพวกฮีโร่ของมาร์เวล เด็กน้อยจริงๆ

“เออ ไอ้คนทันโลก”อย่างน้อยเช้านี้ก็มีเรื่องให้ผมยิ้มได้

โกดังเก็บไม้อยู่ในซอยเปลี่ยว แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือสองข้างทางไม่ได้รกเรื้อไปด้วยพงหญ้าและต้นไม้อีกต่อไปแล้ว รถเคลื่อนตัวไปตามถนนลาดยางมะตอย ผมนึกถึงเรื่องเมื่อคราวนั้นอีกครั้ง ผมจำความกลัวในตอนนั้นได้ดี มีมีดจ่อคอหอยใครจะไม่กลัวล่ะ แถมเรื่องราวต่อจากนั้นมันก็แย่จนผมไม่อยากจะจำ

“มึงเข้าไปคนเดียวจะไม่โดนรุมแน่นะ”พี่ภูส่งเสียงมาจากเบาะหลัง เมื่อรถจอดอยู่ที่ลานหน้าโกดัง มีกลุ่มวัยรุ่นสวมช็อปและไม่ได้สวมนั่งจับกลุ่มคุยกันที่โต๊ะหน้าโกดัง แต่พวกนั้นก็หันมามองที่รถเป็นตาเดียว

“คิดว่างั้น”แต่ผมก็สมควรโดนไม่ใช่เหรอ ถ้าแก้ด้วยการพูดคุยไม่ได้ก็เหลือแค่ใช้กำลัง ผมไม่ได้มองว่านี่คือวิธีของลูกผู้ชาย แต่มันเป็นวิธีของนักเลงต่างหาก

“ไงก็อย่าลืมระวังไอ้ม่อนด้วยนะ”ผมย้ำเพราะรู้สึกไม่ดีแปลกๆ มันอยู่ที่รถอีกคันของพี่เนม ไอ้แก๊งก็ด้วย

“เออ มึงเข้าไปก็ระวังด้วยนะ กูเป็นห่วง”ไอ้ฟิกดูเป็นกังวล ผมยกยิ้มให้มันวางใจ

“อือ กูจะระวัง”

“ถ้าต้องการกำลังเสริมก็วอบอกพวกกูนะ”พี่ภูพูดติดตลก ผมพยักหน้าให้ ลอบมองออกไปด้านนอก ไอ้พวกวัยรุ่นพวกนั้นยังคงจ้องมาเป็นตาเดียว และเห็นรถของพี่ว่านจอดอยู่ด้วย เมื่อผมก้าวลงจากรถก็ได้ยินพวกมันคุยเรื่องเก่าๆของผม จำได้ลางๆว่าไอ้คนที่เอาแต่จ้องผมคือไอ้คนที่ยอมปล่อยผมออกจากโกดัง เดาจากการที่มันมานั่งอยู่ในกลุ่มได้ก็แสดงว่าเรื่องที่มันช่วยผมหนีเพราะเห็นแก่เงินยังไม่แตก ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นพวกไอ้แก๊งด้วยนี่...หรือว่าย้ายกลุ่มเพราะกลัวตาย ผมคิดไปเรื่อย ก่อนจะหยุดลงตรงหัวโต๊ะ

“พี่ว่านอยู่ด้านในใช่ไหม”ไม่ได้เจาะจงว่าถามใคร แค่กวาดตามองไปรอบโต๊ะ

“เออ มึงไม่รอดแน่ไอ้ติน”มันยิ้มเย้ย ผมไม่สนใจเสียงหมาเห่า แต่ก้าวเข้าไปด้านในโกดังอย่างระมัดระวัง ภายในดูเป็นระบบระเบียบมากขึ้น มีแผ่นไม้วางซ้อนกันตามชั้นเหล็ก แต่ก็ไม่เห็นมีวี่แววของพี่ว่านแม้แต่นิด

“พี่ว่าน..”ผมลองเรียกดู แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับกลับมานอกจากเสียงสะท้อนของตัวเอง ผมกวาดสายตาไปรอบๆ เริ่มใจไม่ดี หรือว่าผมโดนหลอก?

เชี่ยเอ้ย!

ผมหมุนตัวกลับเมื่อได้ยินเสียงบานประตูเลื่อนปิดลง ภาพสุดท้ายที่เห็นคือไอ้ชัยเปิดประตูออกมาจากรถด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ผมเดือดปุดๆอยู่ในอก ยกเท้าถีบบานประตูรัวๆ แต่ก็ไม่ช่วยอะไรนอกจากทำให้เกิดเสียงดัง

“เดี๋ยวประตูก็พังพอดี”ผมรีบหันกลับไปมองทันที แต่ก็ไม่ใช่คนที่ผมหวังว่าจะเจอ กลับเป็นเพื่อนของพี่ว่านสี่คน ซึ่งเคยอยู่ในเหตุการณ์คราวนั้นทั้งสี่คน 

“ไง เชี่ยตินจำกูได้ไหม”

“พี่ว่านอยู่ที่ไหน”พวกมันสี่คนยกยิ้มเยาะพร้อมกัน

“อยู่ด้านนอก กับแฟนมึงไง”ผมขมวดคิ้ว พยายามรักษาท่าทีเยือกเย็นของตัวเองไว้ ผมไม่คิดว่าพี่ภูจะปล่อยให้พี่ว่านหรือคนอื่นทำอะไรไอ้ฟิกง่ายๆแน่ แล้วที่สำคัญ ผมมีปืนอยู่กับตัวจะกลัวอะไร

“มึงต้องชดใช้ในสิ่งที่มึงเคยทำ มึงหักหลังพวกกู ที่สำคัญหักหลังพี่ว่าน มึงเองก็รู้ว่าพี่เขาคิดยังไงกับมึง มาช่วยมึงทั้งๆที่มันเสี่ยง แต่มึงก็หนีเอาตัวรอดไปคนเดียว แถมยังเรียกตำรวจมาทำให้เรื่องบานปลายอีก”อีกฝ่ายพูดออกมาอย่างโกรธแค้น

“ถ้าผมไม่เรียกมา ป่านนี้พวกพี่คงตายไปแล้ว”ถึงจะไม่เป็นผลดีเท่าที่ควร แต่ตอนนั้นถ้าไม่มีตำรวจเข้าไปล่ะก็ พวกพี่ว่านเจ็บยกกลุ่มแน่ๆ

“สรุปกูต้องขอบคุณมึงใช่ไหมวะไอ้ติน”อีกสามคนแค่นหัวเราะ

“ผมขอโทษพวกพี่ด้วย ที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้นมา วันนี้ผมอยากมาเคลียร์ให้เรื่องทุกอย่างมันจบๆซักที”

“มึงเลิกพูดจาหล่อๆได้แล้วไอ้สัด กูจะอ้วก รู้ๆอยู่ว่ามึงเป็นยังไง”ไม่ทันได้ตั้งตัว ทั้งสี่คนก็พุ่งเข้ามาหาผมพร้อมๆกัน ผมหลบลูกถีบอีกคนพ้น แต่ก็เจอของคนที่สองเข้าเต็มๆชายโครง ผมเซเล็กน้อยก่อนตั้งหลักได้ อีกคนพุ่งเข้ามาต่อย แต่ผมก้าวถอยหลบอย่างว่องไว ก่อนจะคว้าไหล่มันกระชากลงมากระแทกเข่าใส่หน้าท้องเต็มแรง ตอบโต้ไปได้นิดหน่อยอีกคนก็เข้ามาสวนหมัดใส่ทันที

“อั่ก…”ของแข็งกระแทกเข้าที่ท้ายทอยของผมเต็มแรงจนเจ็บแปลบปลาบและมึนไปชั่วขณะ ผมรู้สึกว่าตัวเองทรุดลงเล็กน้อย แต่พวกมันเข้ามารวบแขนผมได้ก่อน

“กูก็ไม่อยากจะทำหรอกนะ แต่ถ้ามึงตุกติกอีก กูฟาดอีกทีเดียวมึงได้ลงนรกแน่”เสียงของมันดังอยู่ใกล้ๆ รู้สึกอ่อนแรงไปพักใหญ่ รู้สึกตัวอีกทีเพราะได้ยินเสียงพูดคุยแว่วๆเข้ามา

“ถ้ามันตายขึ้นมามึงรับผิดชอบไหวเหรอ”…เสียงนี้ พี่ว่านแน่ๆ ผมปรือตาขึ้นมอง สะบัดศีรษะไปมาเพื่อไล่ความมึนแต่ก็หยุดทำเพราะเจ็บท้ายทอย

“ไง…”พี่ว่านทัก ผมกระพริบตามองไปรอบตัวก็พบว่าไอ้สี่คนนั่นมีรอยช้ำตามใบหน้า มันกำลังมองมาที่ผม รู้สึกขัดๆที่แขน ก้มมองก็พบว่าถูกมัดอยู่กับเก้าอี้ พี่ว่านยกยิ้มก่อนจะลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งตรงข้ามกับผม

“มึงนี่พกของดีตลอดเลยนะ”พี่ว่านหยิบปืนพกของผมออกมาดู

“พี่…มาตอนไหน แล้วเพื่อนผมล่ะ”ผมไม่รู้ว่าพวกพี่ภูตอนนี้เป็นยังไงบ้าง แล้วไอ้ฟิกล่ะ มันอยู่ที่ไหน จู่ๆผมก็เหลียวมองไปรอบ ๆ เหมือนกับจะมองหามัน ทั้งโล่งอกทั้งรู้สึกกลัวไปพร้อมๆกันที่ไม่เห็นมัน

“เพื่อนมึงคนไหน กูก็ไม่สน ยกเว้นไอ้คนชื่อฟิก…”พี่ว่านหัวเราะให้กับสีหน้ามึนตึงของผม

“พี่ทำแบบนี้ทำไม เคลียร์กันแค่ผมกับพี่ไม่ได้เหรอ”

“ได้สิ แต่หลังจากที่ทำให้มึงเจ็บได้แล้วนะ ตอนนั้นถึงจะหายกัน”พี่ว่านกอดอกมองผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่เห็นนัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้นวูบไหว

“ไอ้แก๊งมันได้รับบทเรียนไปแล้ว โทษฐานที่มารุมพวกกูเมื่อคราวนั้น มันก็เหลือแค่มึงที่ต้องได้รับบทเรียนบ้าง”

“งั้นพี่ก็ทำผมสิ จะเอาคนอื่นมาเกี่ยวทำไมวะ”ผมเริ่มเดือดขึ้นมา จะขยับแขนก็เจ็บไปหมดเพราะเชือกที่มัดแน่น

“แบบนั้นมึงก็เจ็บแค่ตัวไง มึงต้องเจ็บเหมือนกู แบบที่กูนอนหมอบเหมือนหมามองดูเพื่อนๆกูเจ็บตัวเพราะหมดทางสู้ แล้วมึง…กูก็คิดได้ว่ากูยังมีมึง แต่จริงๆแล้วก็ไม่เคยมีเลยต่างหาก ตอนแรกกูก็ปลอบใจตัวเองนะ ว่าก็ดีแล้วที่มึงปลอดภัยดี แต่กูก็หวังว่ามึงจะกลับมาขอโทษกู ขอโทษเพื่อน ขอโทษคนอื่นๆที่ทำเพื่อมึง

แต่แล้วมึงก็ทำให้กูผิดหวังอีกรอบ มึงกลับไปใช้ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำเป็นลืมว่ามึงเคยทำอะไรไว้ มึงได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ แล้วคนอื่นๆที่มึงทิ้งไว้ล่ะ…ที่น่าขำกว่านั้นคือกูก็ยังคงรอมึงแล้วก็หวังอีกครั้ง ปลอบใจตัวเองว่าที่มึงยังไม่กลับมาเพราะอาจจะยังไม่พร้อม กูก็ให้โอกาสมึง เพราะคิดว่ามึงจะคิดได้ อย่างน้อยๆมึงก็มีส่วนดีอยู่บ้าง…แต่ก็อีกนั่นแหละ กูผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะมึงไม่เคยคิดจะกลับมาเลย”พี่ว่านดูเหมือนคนที่เก็บกดมานาน สีหน้าตอนที่พลั่งพลูคำพูดออกมาทำให้ผมยิ่งรู้สึกแย่ เพราะมันใกล้เคียงกับคำว่าจะร้องไห้

“ผมขอโทษจริงๆ”ไม่มีคำไหนที่ผมนึกออกนอกจากคำนี้

“กูเบื่อคำพวกนี้แล้ว ไม่มีโอกาสสำหรับมึงอีกแล้วไอ้ติน”พี่ว่านลุกจากเก้าอี้ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ

“พี่…ผมว่าเรามาคุยกันดีๆเถอะ”

“กูบอกว่าไว้คุยหลังจากที่กูได้เอาคืนมึง”ดูเหมือนใช้น้ำเย็นไม่ได้ผลแล้ว

“พี่ทำอะไรเพื่อนผม”

“ไม่ต้องห่วงไปน่า กูบอกแล้วไงว่าคนอื่นกูไม่สน”ผมจ้องหน้าพี่ว่านตรงๆด้วยสายตาเฉยชา

“ผมขอโทษกับเรื่องที่ผมเคยทำเพราะความขี้ขลาดและเห็นแก่ตัว ผมบอกตรงๆว่าตอนนั้นผมไม่อยากเอาอนาคตมาทิ้งไว้ที่นี่”ผมมองไปรอบๆโกดัง ก่อนจะเบนสายตากลับมาที่คนตัวสูงอีกครั้ง

“ผมรู้สึกผิด รู้สึกแย่มากๆ และที่ผมโดนรุม ผมก็เข้าใจว่าตัวเองสมควรโดน แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือทำไมพี่ต้องทำให้เรื่องยุ่งยาก ทำให้ผมเริ่มจะเกลียดพี่ด้วย ผมรู้ว่าพี่เจ็บแค้นผม แต่ก็เล่นแค่ผมสิ พี่ทำกับคนอื่นผมเจ็บก็จริง แต่พี่รู้ไว้เลยนะ ว่าต่อจากนี้ผมไม่มีวันยกโทษให้พี่แน่”ผมบอกออกไปตรงๆ ถ้าพี่ว่านยังยืนยันจะทำร้ายไอ้ฟิกล่ะก็ ผมก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน จู่ๆคำที่ผมเคยพูดกับไอ้แก๊งเมื่อวานก็ดังอยู่ในหัว มันคุ้มเหรอวะ

“ก็ดี…รู้ไหม ที่กูทำส่วนหนึ่งเพราะกูสะใจ ไม่ใช่แค่เพราะได้ทำลายมึง แต่เพราะกูได้ทำลายมัน”พี่ว่านยกยิ้มเย้ย

“อะไร…พี่อย่ามาทำเหมือนพวกสาวน้อยที่คับแค้นใจเพราะไม่ได้รับความรักหน่อยเลย มันทุเรศว่ะ ผมเคยปลื้มพี่นะ ตอนที่มาช่วยผม เพราะฉะนั้นอย่า”

“ก็มาดูกัน”พี่ว่านโทรไปหาใครสักคน ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม ผมหันมองอย่างอื่นเพราะไม่อยากรู้สึกเกลียดคนตรงหน้าไปมากกว่านี้ คอยดูก็แล้วกัน…

“หันมามองหน้ากู”พี่ว่านสั่งเสียงเข้ม ก่อนจะเอื้อมมือมาจับให้ผมเหลียวมอง ผมจ้องกลับด้วยสายตาเย็นชา ผมขยับมือที่เจ็บจนชาไปมา ช่วงที่ผมเบลอๆ ไม่รู้ว่าไอ้และพี่ภูกับคนอื่นๆตอนนี้เป็นยังไงบ้าง...เดี๋ยวนะ ผมลืมไปเลยว่าไอ้เคนกับไอ้เชนไม่ได้มาด้วย มันไปไหนกัน แต่ไม่รู้ล่ะ ชื่อของมันสองคนทำให้ผมพอมีหวังขึ้นมา ถึงแม้ว่าผมจะไม่ค่อยชอบไอ้เชนก็ตาม

“เชี่ยเอ้ยย กูบอกว่าเดินเองได้ จะลากทำส้นตีนอะไร”ผมตัวชาวูบเมื่อได้ยินเสียงโวยวายของไอ้ฟิกดังขึ้นแว่วๆ  ผมมองพี่ว่านที่ดูจะพอใจกับท่าทางของผม และคนที่พาเข้ามา…ไอ้ม่อน และอีกคนที่ทำเอาผมรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าคือไอ้แก๊ง นี่ผมโดนมันตบตาเหรอ? มันเป็นคนลากไอ้ฟิกเข้ามา ผมเห็นรอยฟกช้ำเหล่านั้นก้ได้แต่ทบต้นทบดอกไว้ในใจ ไอ้ม่อน ไอ้เหี้ยแก๊ง นี่ผมกับมันคงญาติดีกันไม่ได้แล้วสินะ พอทำตัวเป็นคนดีให้โอกาสคนอื่นก็เป็นซะแบบนี้ ผมผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ รู้สึกสงบมากกว่าที่เคยเป็น

ดี ผมจะได้มีข้ออ้างในการเอาคืนพวกมันให้สมกับคำว่าคุ้มซะหน่อย ไอ้ม่อน ไอ้แก๊งและพี่ว่าน ผมจ้องไอ้แก๊งเขม็ง แต่เหมือนมันหลบเลี่ยงที่จะสบตากับผมแถมไม่มองหน้าพี่ว่านด้วย มีแค่สีหน้าแข็งเป็นหินของมัน   

“ไอ้ติน กูว่า…สภาพของมึงดูไม่ดีเลยว่ะ”ไอ้ฟิกทำใจกล้าทักเรื่องสภาพของผมขึ้นมาทั้งๆที่ผมรู้ว่ามันกำลังกลัวอยู่แน่ๆ แต่ไม่รู้ทำไมในสถานการณ์แย่ๆแบบนี้ ผมถึงยิ้มออกมาได้

“ห่วงตัวเองก่อนเถอะ”ผมตอบกลับไปเบาๆ ไอ้ฟิกดูผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด เหมือนมันพยายามจะบอกอะไรผมสักอย่าง  

 “มึงจับมันมานั่งตรงนี้ซิ”พี่ว่านสั่งไอ้แก๊งกับไอ้ม่อน ไอ้เด็กเวรผลักให้ไอ้ฟิกนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับผม ส่วนไอ้แก๊งกำลังมัดไอ้ฟิกกับเก้าอี้ จู่ๆไอ้ฟิกมันก็หัวเราะออกมาเบาๆ เงยหน้ามองผู้ร้ายทั้งสามคน บางทีมันอาจจะอินกับฮีโร่ของมาร์เวลมากไปก็ได้

“มึงรู้ไหมว่ากูเคยโดนอะไรทำนองนี้มาแล้ว แต่ตอนนั้นเป็นฝีมือของไอ้นัท ถ้ามึงคิดว่าจะทำให้ไอ้ตินเจ็บโดยการทำร้ายกูล่ะก็ ความคิดมึงโคตรจะโหลเลยว่ะ”ไอ้ฟิกหัวเราะออกมาอีกครั้ง พี่ว่านยกยิ้มเย็นชาใส่

“ปากดีนักนะมึง”ผมขยับตัวทันทีเมื่อพี่ว่านตบเพี๊ยะเบาๆที่ปากของไอ้ฟิก

“แสบๆคันๆดีไหม”พี่ว่านหันมาถามผม  

“มึงนี่โรคจิตพอๆกับไอ้นัทเลยนี่หว่า กูหวังดีกับพวกมึงสามตัวนะ ถ้าจบเรื่องนี้พวกมึงเตรียมจองเตียงในโรง’บาลได้เลย”ไอ้ฟิกปราดมองไอ้ม่อนไอ้แก๊งและพี่ว่าน

“แล้วมึงล่ะ ยังชอบไอ้ตินอยู่ไหม”ไอ้ฟิกเปิดฉากถาม พี่ว่านขยับมาอยู่ใกล้ๆไอ้ฟิก เหลือบมองผมก่อนจะหันกลับไปต่อยเข้าที่หน้าไอ้ฟิกเต็มๆ  ไอ้ฟิกสะบัดหน้าไปมาเหมือนไล่ความมึน

“เจ็บไหม”พี่ว่านถามเสียงเย็น

“ไม่--”ทันทีที่มันตอบว่าไม่มันก็โดนสอยเข้าที่ท้องน้อย ผมได้แต่กำมือเข้าออกเหมือนพยายามคุมให้ตัวเองไม่เดือด แต่ผมไม่มีทางหลับตาแน่ถึงแม้ว่าจะไม่อยากเห็นหน้าไอ้ฟิกโดนต่อย แต่ผมจะจำสีหน้าตอนที่มันเจ็บ แล้วพวกมันต้องเจ็บมากกว่านั้น

ผมเหลือบมองไอ้แก๊งที่ยืนอยู่ใกล้เก้าอี้ของผม แปลกใจอยู่เล็กๆเมื่อรู้สึกว่าเชือกหลวมเล็กน้อย ผมเหลือบมองหน้ามันจากหางตาก็เห็นว่ามันยังทำหน้านิ่งเป็นหินตามเดิม

 “พี่พอใจหรือยัง จะได้เคลียร์เรื่องนี้ให้มันจบ เพราะดูท่าแล้วพี่จะคิวยาวน่าดู”พี่ว่านมองผมด้วยสีหน้าไม่เข้าใจคงไม่คิดว่าจะเจอท่าทางนิ่งๆไม่รู้ร้อนรู้หนาวของผมแบบนี้ ไอ้ฟิกพยายามฉีกยิ้มให้ผม แต่มันก็ทำได้แค่เบ้หน้าอย่างเจ็บปวด

 “ยังไม่จบเพราะกู--”

ปึง!

เกิดเสียงทุบดังอยู่ด้านนอก ตามมาด้วยเสียงดังปังที่คงไม่ใช่เสียงทุบประตูแน่ๆ ผมกับไอ้ฟิกมองหน้ากันทันที ใครที่มา พี่ภูหรือคนอื่น ผมล่ะอยากให้เป็นคนแรกเพราะคงจะได้เห็นอะไรมันส์ ๆ เสียงดังนั้นเงียบลงแล้ว แต่ได้ยินเสียงตะโกนแว่วๆมา พี่ว่านกลับมาสนใจผมอีกครั้ง

“กูจะหายโกรธมึง ก็ต่อเมื่อ….”พี่ว่านก้มมากระซิบใกล้ๆหูผม ทำเอาผมขนลุกพรึบ เพราะคำพูดที่ได้ยิน ผมหัวเราะหึ

“พี่ขอมากไปรึเปล่า”มากไปจริงๆ ผมยกยิ้มอีกครั้ง

“แต่จะยอมให้ก็ได้”พี่ว่านทำหน้าไม่ไว้ใจ ไอ้แก๊งเหลือบมองผมท่าทางดูสนใจว่าผมหมายถึงอะไร ไอ้ฟิกกระแอมขึ้นมา

“มาสิ”ผมยกยิ้มท้าทาย พี่ว่านมองไปที่ไอ้ฟิกที่ดูตื่นๆ ก่อนจะก้มมาใกล้ๆจนอยู่ในระยะที่น่ากลัว พี่ว่านจ้องเข้ามาในดวงตาของผมเหมือนต้องการคำตอบ

“ทำไม”เพราะคงเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะทำดีด้วย

“พี่คงรู้อยู่แล้ว”ผมไม่อยากเสียเปรียบ จึงรีบยื่นหน้าเข้าไปใกล้ กดจูบลงบนริมฝีปากของอีกคน ผมได้ยินเสียงกึกกักของเก้าอี้อีกตัว

“เชี่ยติน”ไอ้ฟิกทำเสียงแปลกๆ …โทษทีว่ะ

ผมตั้งใจจะผละออกมาแต่มือหนาของอีกคนกลับล็อคท้ายทอยของผมไว้ก่อนจะรุกล้ำเข้ามามากกว่าเดิม ผมปล่อยให้พี่ว่านตายใจเล็กน้อย ก่อนจะขยับข้อมือแรงๆจนรู้สึกว่าสิ่งที่พันธนาการผมไว้หลุดออก ผมผลักอีกฝ่ายออกด้วยความเร็วก่อนเงื้อหมัดใส่ปลายคางเต็มแรง แต่พี่ว่านเบี่ยงตัวหลบได้ ไอ้สี่คนที่ดูลาดเลาอยู่ปรี่เข้ามาทันที

“ไม่ต้อง”พี่ว่านยกมือห้าม ผมขึงตามองอย่างโกรธจัด เหมือนความโกรธที่สั่งสมมานานมันระเบิดออกมา

ปัง!

เกิดเสียงดังปังอีกครั้ง และครั้งนี้ประตูโกดังเลื่อนเปิดออก พี่ภูกับพี่เนมโผล่มาด้วยสีหน้าเดือดดาล

“ใครทำเมียกู ไม่ตายดีแน่”เสียงพี่ภูก้องไปทั่วโกดัง ถ้าไม่ใช่กำลังตึงเครียดล่ะก็ผมคงหัวเราะออกมาแล้ว พี่ว่านดูหัวเสียที่อะไรๆดูจะผิดพลาดไปหมด ผมไม่ปล่อยให้ได้ยืนนานผมโถมเข้าใส่ทั้งตัว กระแทกเข่าใส่ท้องน้อยเท่าที่แรงจะอำนวย

“อย่าโกรธกันนะ เพราะนี้สำหรับที่ทำไอ้ฟิก”ผมต่อยเข้าที่สันกราม พี่ว่านไม่ได้หลบ แต่ก็สวนกลับมาได้จุกพอกัน

“กูเอง”คนที่เข้ามาเร็วกว่าไม่ใช่พี่ภู แต่เป็นไอ้แก๊ง ผมตกใจอยู่เหมือนกันที่เห็นมันพุ่งผ่านผมไปหาพี่ว่านพร้อมกับมีดในมือที่ตอนนี้เสียบอยู่ที่หน้าท้องของพี่ว่านแล้ว ไอ้แก๊งผลักร่างสูงออกจนทรุดกองกับพื้น ก่อนที่มันจะก้มไปกระซิบอะไรบางอย่างเบาๆที่ผมไม่ได้ยิน พี่ภูกำลังจัดการกับไอ้ม่อน ผมเห็นมันนอนหมอบเป็นลูกหมาสภาพสะบักสะบอม มีเสียงดังปังขึ้นอีกครั้งเมื่อไอ้ชัยโผล่มาพร้อมกับปืนในมือ

“กูจัดการด้านนอกได้แล้ว”มันพูดด้วยสีหน้าขึงโกรธ ไม่รู้ไปโดนจี้ใจดำอะไรมา

“ช่วยกูก่อน พวกเหี้ย”ไอ้ฟิกโวยขึ้นมาเบาๆ ผมมองไอ้แก๊งกับพี่ว่านครั้งสุดท้ายก่อนเข้าไปช่วยแกะเชือกให้ไอ้ฟิก

“มึงจูบไอ้ว่าน”มันพูดเสียงแข็ง

“โทษที”ผมยิ้มก่อนจะเช็ดหน้าเช็ดตาให้ไอ้ฟิกอย่างเบามือ มันร้องครางเบาๆ

“มึงโคตรใจร้าย”มันพึมพำเบาๆ แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่พี่ภูที่กำลังต่อยไอ้ม่อน เหมือนยังไม่หายแค้น ไม่ถึงมือผมจริงๆด้วย

“ใจร้ายอะไร”

“มองกูโดนไอ้ว่านต่อยหน้าตาเฉย”มันทำหน้าบึ้ง

“ไม่ได้เฉย ตอนนั้นกูโกรธมากต่างหาก…เสียดายที่กูไม่ได้เอาคืนพี่ว่านมากกว่านี้”ผมลูบหัวไอ้ฟิกเบาๆ ไอ้แก๊งหายตัวไปแล้วเหลือแค่พี่ว่านที่นอนกุมแผลเลือดไหลด้วยสีหน้าเจ็บปวด

“ไอ้แก๊งโหดสัด แต่กูไม่สงสารไอ้ว่านเลยนะ”

“กูก็เหมือนกัน”

 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 11-11-2015 08:16:18
…………………………………………………………….






เหตุการณ์เมื่อวานผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนที่ผมถูกขังอยู่ในโกดัง พวกพี่ภูถูกเล่นงานจากพวกเด็กช่างแล้วก็พี่ว่าน ถ้าไม่เล่นหมาหมู่พี่ภูคงชนะใสๆ เอ่อ พี่เขาบอกมาแบบนั้นอ่ะ ส่วนไอ้เคนกับไอ้ชายที่ไม่ได้โผล่หน้ามาเลยนั้น…ไอ้เรื่องสนุกๆที่ว่าเพราะมันไปเที่ยวอ่างเพลินติดลมบน หึ ไอ้พวกนี้ใช้ไม่ได้ แต่เอาจริงๆผมก็ยังไม่สบายใจเรื่องพี่ว่านเพราะผมยังเคลียร์ไม่จบ ยังไม่ทันได้เอาคืนให้หนำใจเลย แต่ผมก็ไม่ใช่คนประเภทไปซ้ำคนเจ็บปางตายแบบนั้น ไอ้แก๊งโหดจริงๆ ผมยังไม่กล้าทำแบบนั้นเลย ไม่รู้ว่ามันแค้นใจอะไรพี่ว่านขนาดนั้น แต่ไว้ค่อยถามก็แล้วกัน

“เอาจริงๆนะ สรุปมึงกิ๊กกับมันจริงๆใช่ไหม”ไอ้ฟิกถามขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นผมกำลังทายาแก้ช้ำอยู่ที่ห้องนั่งเล่นตั้งใจจะออกไปเยี่ยมพี่ว่านหลังจากที่ทายาเสร็จ ผมต้องเคลียร์ให้จบไม่อย่างนั้นคงกลับไปอย่างไม่สบายใจแน่ๆ

“ไม่ได้กิ๊กกัน กูแค่ไปทำให้จบเรื่องไม่มีอะไรค้างคา”ผมเหลียวมองไอ้ฟิกที่ทำหน้าบูดบึ้ง ก่อนกลับมาสนใจรอยช้ำบนหน้าตัวเองก่อน กะว่าจะไปเช็คสมองด้วย เพราะไอ้พวกนั้นมันกระแทกท้ายทอยผมแรงมากๆเล่นเอาวูบแบบนั้นผมก็กลัวๆเหมือนกัน นี่ก็ยังมีเบลอๆอยู่เลย

“มันคงไม่ค้างคาแล้วมั้ง ได้จูบมึงไปแล้วนี่ พูดให้ถูกมึงยื่นหน้าไปจูบมัน”ไอ้ฟิกเข้ามาฟาดมือลงตรงหลังคอผม จนต้องหดหนีเพราะเจ็บ

“ใครจูบใคร”พี่ภูเดินหน้ามึนเข้ามาก่อนจะทิ้งตัวนั่งข้างๆไอ้ฟิก กอดเอวมันหลวมๆแล้วหอมแก้มมันไปเสียหลายที

“สัด กูเจ็บ มึงเห็นไหมว่ากูมีแผลเต็มหน้าเลย เพราะเหี้ยว่านคนเดียว”ไอ้ฟิกบ่น เขวี้ยงสายตาโกรธเคืองมาที่ผม

“ให้กูไปเล่นงานมันไหมล่ะ เออ แล้วมันออกโรงบาลตอนไหนวะ กูจะได้ไปดักเล่นมันตรงนั้นแม่งเลย”พี่ภูพูดเอาใจไอ้ฟิก ทำผมยิ้มขำออกมา

“ออกเดือนหน้ามั้ง”เห็นพวกเด็กในตลาดพูดกัน

“รู้ดีจังนะ”ไอ้ฟิกแขวะ

“กูบอกว่าไม่มีอะไรจริงๆ”ผมวางหลอดยาในมือลงก่อนจะหันไปคุยจริงจังกับไอ้คนที่หัวเสียมาตั้งหลายวันแล้ว

“มึงจูบมัน ข้อนี้มึงปฏิเสธไม่ได้”มันชี้หน้าผม สีหน้าโกรธเคือง

“จูบใคร”พี่ถามด้วยสีหน้าอยากรู้

“มึงรู้ไหมว่าตอนนั้นกูรู้สึกยังไง”

“แล้วรู้สึกยังไง”ผมถามด้วยน้ำเสียงสนใจ ไอ้ฟิกนิ่งไปเหมือนรู้ว่าตัวเองพูดมากไปแล้ว

“รู้แค่ว่ากูไม่ชอบก็พอ”

“ขอโทษต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว สัญญาเลยอ่ะ”ผมแกล้งยื่นนิ้วก้อยไปให้

“ปัญญาอ่อนว่ะติน”แต่ผมก็เห็นว่ามันพยายามกลั้นยิ้มอยู่

“ตกลงมึงเข้าใจกูนะ เรื่องที่กูต้องไปเยี่ยมพี่ว่าน”ผมเก็บหลอดยาใส่กล่องตามเดิม แล้วขึ้นมานั่งบนโซฟาข้างไอ้ฟิก เกลี่ยรอยฟกช้ำตรงริมฝีปากมันเบาๆ มันเอนตัวออกห่าง

“อะแฮ่ม กูขอตัวกลับก่อนนะ”พี่เนมโผล่หน้าเข้ามา มีแผลฟกช้ำประปรายบนใบหน้า

“รีบกลับทำไมวะ”พี่ภูหันไปมองเพื่อนงงๆ

“พอดีเด็กกูมันคิดถึง ก็เลยต้องกลับ”พี่เนมยักคิ้วให้เพื่อน ที่ยังทำหน้างงอยู่

“ใครวะ ทำไมกูไม่เห็นรู้จักเลย”

“ความลับว่ะ”พี่เนมหัวเราะ ก่อนจะรีบเดินหนีพี่ภูที่ลุกไปเค้นคอถาม เหลือแค่ผมกับไอ้ฟิกสองคน

“ฟิก”ผมลองเรียกเบาๆ

“อะไร”

“พี่ยังได้รางวัลอยู่ใช่ไหม”ผมขยับเข้าไปกระซิบใกล้ๆใบหูของอีกคน จงใจเอาจมูกไปคลอเคลียใกล้ๆ

พลั่ก!

ผมเลยได้แผลช้ำเพิ่ม สงสัยคงต้องไปเยี่ยมพี่ว่านวันอื่นแล้วล่ะ

 

 






TBC.

ครึ่งหลังจะเป็นการเคลียร์กับพี่ว่านแบบจริงจังแล้วนะคะ หลังจากที่ตอนนี้จะมึนๆเบลอๆไปหน่อย (แอบหวั่นว่าจะงง):katai1:
ส่วนพี่ว่านดวงเจ็บตัวยังไม่หมดค่ะ เพราะตินกับภูยังไม่ได้ชำระแค้นเลย?
ตอนนี้ถือเป็นเรื่องของตินเต็มๆภูอาจจะออกน้อยหน่อยน้า  ตอนหน้าอาจมีเล่าเรื่องนี้ผ่านมุมของภูเพื่อเติมเรื่องช่วงที่หายไปค่ะ
ส่วนเรื่องของรางวัลที่ฟิกจะมอบให้สองสามีรอตอนหน้านะ  :hao6:



 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 11-11-2015 09:36:19
5555+ โถ่ ติน นอกจากจะโดนอดรางวัล ยังได้ขนมตุ๊บตั๊บเป็นของแถมอีกน่ะ 55555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: kjkjji ที่ 11-11-2015 09:37:56
ไม่ชอบพี่ว่านนี่เลย ดูไร้เหตุผลกว่าที่คิด เกลียดตอนมาต่อยหน้าน้องฟิกนี่แหล่ะ ฮือออ
แต่อ่านน้องฟิกในมุมมองของตินแล้วรู้สึกน่าเอ็นดู๊เอ็นดู เด็กน้อยมาก เมียมาก 5555555 คือตอนเดินเรื่องในมุมมองของฟิกแม่งอย่างเกรียนอ่ะ นางเป็นคนที่น่ารักแบบกวนตีนๆ   :-[
ปล.ตอนนี้พี่ภูออกน้อยแต่ได้ใจเราไปเลยอ่ะ พี่แกดูโอ๋ฟิกเนอะ หล่อมากค่ะ ตอนหอมแก้มฟิกเรานี่แบบแอร๊ยยยยยยย ยังกะไม่ใช่พี่ภูคนเดียวกับที่อยู่ในพาร์ทฟิกเดินเรื่อง น่ารักกกกกก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-11-2015 10:18:47
โอ๋ๆนะฟิกน้อย
รอตอนหน้าค่ะ  :mew1: 
ขอบคุณคนเขียน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-11-2015 11:16:33
เอาให้เรียบร้อยซิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 11-11-2015 11:34:53
ฟิกไม่เสียโฉมใช่ไหม ตอนหน้าพี่ว่านก็โดนอีกสะใจ  :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-11-2015 11:46:54
ว่านก็นะแทนทีจะเคลียร์กับตินตัวต่อตัว ดันเอาฟิกมาเจ็บตัว

รอดูสองสามีจะเอาคืนยังยังไงให้เมียที่รักอย่างฟิก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 11-11-2015 12:06:46
ฟิกเอ๊ย เดี๋ยวนี้ทำตัว เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียปากผัวให้ใครนะเอ็งน่ะ 555555+

ปล. พี่ว่านกับแก๊งมีซัมติงชัวร์!!!! คนเขียนคร๊าบบบบบ ขอตอนพิเศษเป็นว่านแก๊งกินกันนะ 55555+
 พูดแล้วก็อยากอ่านคู่นี้เลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 11-11-2015 12:45:19
ฟิกคนจิง 555  โดนจับมานี่นางไม่มายแต่นางโกรธที่มาจูบผัวนาง 5555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 11-11-2015 14:16:52
ฟิกหึงล่ะสิ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 11-11-2015 14:32:42
ไม่งงค่ะ แล้วลุ้นมากๆตอนที่ตินและฟิกโดนจับคือบอกตามตรงเลยว่ากลัวฟิกจะโดนเล่นงานเหมือนคราวของนัทอีก แต่โชคดีที่ไม่คุมสถานการณ์ไว้ได้ แต่อยากรู้เหตุการณ์ช่วงข้างนอกหน่อยค่ะว่าตั้งแต่ที่ตินก้าวขาเข้ามาในโกดังข้างนอกเกิดอะไรขึ้นบ้างพี่ภูถึงได้เลือดขึ้นหน้าขนาดนั้น เฮ้อ โล่งใจไปเปราะนึงค่ะที่อย่างน้อยก็ไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดกับสามหนุ่ม อ้อ ไม่สิ ตอนท้ายเหมือนได้ยินเสียงคนโดนเมียต่อยนะ ฮ่าๆๆๆ โถววว พี่ตินของน้อง  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 11-11-2015 17:06:46
อย่างโหดเลยน้องฟิก อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 11-11-2015 17:36:22
เหมือนจะเห็นฟิกหึง //////////////
ไปจูบพี่ว่านแบบนั้นอดรางวัลแล้วมั้งติน
 :katai3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 11-11-2015 17:45:40
ฟิก ใจเย็นๆน้า ตินไม่ได้ตั้งใจจะจูบกะว่านซะหน่อย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 11-11-2015 19:14:44
ฟิกต้องลบลอยดิ๊!!!

5555

รอต่อจ้า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 11-11-2015 19:59:45
ดันมาเล่นงานฟิก แทนที่จะได้เคลียร์ดีๆ เลยต้องไปเคลียร์ในโรงบาลเลยมั้ยล่ะ  :beat:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 11-11-2015 20:02:46
โหหนูฟิกหึงสามีอ่ะ เล่นจูบให้เห็นจะๆนี่เนอะ

รอตอนหน้าอย่างจดจ่อกับรางวัลของฟิกแด่สามีที่รักอิอิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 11-11-2015 22:21:41
ขำนางฟิกอ่ะ 5555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 11-11-2015 22:33:23
ที่ไอ้ว่านโกรธติน
เพราะอยากจะเป็นเมียของน้องติน
ใช่ไหมล่ะ..เฮีย

หุหุ ก็บอกน้องตินไปตรงๆดิ
เฮียอยากให้น้องทะลวงตูด
มาเป็นผัวเฮียเหอะว่ะ

แค่เนี้ยะ..
เฮียอยากเสียตูด
ฮ่าฮ่า
 :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 11-11-2015 22:48:14

ฟิกหึงสินะ
รอตอนหน้าจ้าา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 11-11-2015 23:11:09
แต่ละคนนี่สายโหดทั้งนั้น
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 12-11-2015 00:06:22


 รอตอนต่อไปครับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Noah ที่ 12-11-2015 02:43:25
เพิ่งตามอ่านไม่นาน แต่ในที่สุดก็ถึงตอนล่าสุดแล้ว ฮูเล่!!
ชอบโมเมนท์ระหว่างพี่ว่านกับตินมากเลยค่ะ 55555555 ขอโทษฟิกด้วย แต่มันอดไม่ได้จริงๆ
ภูตอนท้ายๆ น่ารักอ่ะ มีมาอ้อน มาเอาใจเมีย ว่าแต่ตกลงเด็กเนมนี่ใคร ใช่คิงรึยัง 555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 12-11-2015 09:29:42
เอาเลยหนูฟิกกกก
ปากสามีเราอย่าปล่อยคนอื่นมาจูบทิ้งรอย
ทำกลับเลย เอิ้กๆๆๆ
ไปจูบว่านคืนซะ #เดี๋ยวๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 12-11-2015 12:20:41
ยังไม่สะใจเลยยยยยยยยยยยยยย อีพี่ว่านยังไม่ได้โดนติงพี่ภูเลยอ่ะ ตอนหน้าจัดเลยนะคนเขียน ส่วนไอ้ม่อนสมควรแล้วเมิงมาหลอกคนอย่างพี่ภูได้ สมน้ำหน้า แถมให้อีกรัวๆๆๆๆ :z6:  พี่ตินไม่น่ายอมให้มันจูบปากเล๊ยยยยย แถมยังตบฟิกอีก เอาคืนให้ฟิกเลยนะ  :angry2: แต่อีกใจก็เข้าใจนะสถานการณ์แบบนั้นด้วย ตินห่วงฟิกกลัวจะโดนหนัก อีกอย่างตินคิดว่าแค่ครั้งเดียวและจบๆกันไปไม่ต้องใช้กำลังให้มีใครบาดเจ็บ แต่อีพี่ว่านนี่สิ อีห่าอยากมากเกิน มาจูบตีนพี่ภูนี่มา รอบหน้าโดนแน่เมิง บังอาจจทำร้ายเมียรักของเฮียๆ  :katai2-1:  ในที่สุดก็จะจบเรื่อง และ ฟิกจะได้ให้รางวัลปั๋วๆ สักหลายที  :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 13-11-2015 14:09:17
ก็น่าสงสารว่านอยู่นะ โดนแทงอ่ะ
แต่คงไปทำอะไรแก๊งไว้สิท่า

ปล.สมน้ำหน้าอิม่อน หึๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 14-11-2015 22:01:22
อิอิ ฟิกโมเม้นแบบนี้ก็มี.รอตอนต่อไป  :pig4: :hao4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 16-11-2015 01:09:56
ขออนุญาตรอตอนต่อไปแบบด่วนๆ อยากรู้เรื่องปั้นมากอ่ะะะะ 55555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Cady ที่ 16-11-2015 12:12:56
Waiting for you
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: masmaro ที่ 17-11-2015 01:18:43
จะพูดยังไงดีอะพี่ว่านมันก็ผิดตินก็ผิด แต่ก็อยากให้จบแบบเคลียๆไปเลย
แต่หนูฟิกของสองหนุ่มนี้ขี้หึงเหมือนกันนะเนี้ย  :katai3:
แต่มีลางว่าพี่ว่านจะจบไม่สวย ไปทำเมียรักเมียหวงของเค้าเองนิ ช่วยไม่ได้
หนูฟิกแค่เจ็บแต่คนทำคงสาหัสเกือบตายแน่ๆ  :hao3: :hao3:

จะรอตอนหน้านะคะ สู้ๆๆๆ ชอบเรื่องนี้มากกกก อยากให้มาอัพทุกวันด้วยซ้ำ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งแรก] 11-11-58 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: zzom ที่ 22-11-2015 11:59:09
คิดถึงปลิวค่ะ ... อยากให้ปลิวรุกเลยนะ  :hao5: :katai4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 24-11-2015 17:59:08
ตอนที่๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง






[Phu Side]

                ไอ้ตินมันตัดสินใจจะเข้าไปในโกดังคนเดียว ซึ่งผมก็ขัดมันไม่ได้เพราะเป็นการตัดสินใจของมัน ถึงจะไม่สบายใจแต่ก็ต้องยอมรับ

“กูว่ามันแปลกๆแล้วว่ะ”ไอ้ฟิกบ่นพึมพำทันทีเมื่อประตูโกดังเลื่อนปิดลง ผมมองไปรอบๆเห็นว่าเพื่อนไอ้ตินมันลงมาจากรถอีกคันด้วยสีหน้าไม่ดีนัก

“มันอาจจะอยากคุยแบบเป็นส่วนตัวล่ะมั้ง”ผมตอบพลางปราดมองไปที่วัยรุ่นพวกนั้นและเห็นสีหน้าสะใจของไอ้พวกนั้น

 “กูลงไปยืดเส้นยืดสายนะ ส่วนมึงนั่งอยู่ในนี้นั่นแหละ”ผมเสริมทันทีเมื่อเห็นว่าไอ้ฟิกตั้งท่าจะค้าน เมื่อก้าวลงจากรถ ไอ้ชัยก็ขยับมาหาผมทันที

“ผมว่ามันแปลกๆว่ะ ทำไมมันต้องปิดประตูด้วยวะ”ไอ้ชัยเหลือบมองไปรอบๆก่อนจะหยุดอยู่ที่รถของไอ้ว่าน

ระหว่างที่ก้าวลงจากรถ ผมก็กวาดสายตาไปรอบๆ สัมผัสได้ทันทีว่าไอ้พวกวัยรุ่นเหล่านั้นดูระแวดระวังและมีท่าทางพิลึกชอบกล ผมเหลือบมองไปยังรถอีกคันที่จอดอยู่ด้านใน เดาว่าเป็นรถของพวกลูกพี่มัน

“พี่ …ผมว่า”พูดยังไม่ทันจบไอ้ชัยก็ทรุดลงเพราะถูกฟาดเข้าอย่างจัง ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกชาร์จเข้ากับรถอย่างจัง แขนถูกบิดไพล่หลังจนเจ็บแปลบๆ

“พวกมึงอยู่นิ่งๆ ไม่งั้นกูเล่นมันแน่”เสียงเข้มท่าทางเอาเรื่องดังขึ้น พร้อมกับที่ไอ้ฟิกถูกกระชากออกจากรถ

“พี่ว่าน”ไอ้ชัยครางอู้อี้

อ้อ…นี่น่ะเหรอ ไอ้ว่าน ผมกวาดตามองคนรูปร่างสูงแต่สมส่วนอย่างคนออกกำลัง ไอ้ฟิกหน้าซีดเหมือนลูกหมา แต่ก็ยังไม่วายกวนตีนได้

“เฮ้ย มึงไม่รู้เหรอว่ากูเส้นใหญ่นะเว้ย”มันขยับตัวหมายจะดึงตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมของไอ้ว่าน แต่ก็ทำได้แค่ดิ้นอยู่ฝ่ายเดียว

“เหี้ยเอ้ย”เสียงสบถของไอ้เนมดังเข้าหู มันเองก็ถูกลากออกมาเหมือนกัน โดยไอ้ม่อน ในอกผมเริ่มเดือดปุดๆ ว่าแล้วไม่มีผิด ไอ้เหี้ยนี่ไว้ใจไม่ได้ ผมมองไปที่ไอ้แก๊งมันคว้าคอเสื้อไอ้เนมไว้ ไม่รู้ว่าตาฝาดหรือยังไง ถึงได้เห็นมันขยิบตามาให้

“พวกมึงต้องการอะไร”น่าแปลกที่ผมใจเย็นกว่าที่คิด แต่อาจจะเพราะว่าไอ้ฟิกอยู่ใกล้ไอ้ว่านก็ได้ ผมเองก็ไม่รู้พิษสงของมันด้วยว่าร้ายแค่ไหน ถ้าทำอะไรบุ่มบ่าม ไอ้ฟิกอาจจะเจ็บตัวก็ได้

“หึ ไม่ใช่เรื่องของมึง”ไอ้ว่านตอบเสียงกวนตีน ผมข่มอารมณ์หงุดหงิดไว้ให้ลึกที่สุด

“นี่น่ะเหรอ แฟนใหม่ไอ้ติน เหอะ”มันทำเสียงเยาะๆก่อนจะกวาดตามองไอ้ฟิก

“ทำไม หนักหัวพ่อมึงเหรอ”ความกลัวก็ทำลายความกวนตีนของไอ้ฟิกไม่ได้ ผมปรามมันทางสายตา

“ปากดีนักนะมึง อยากแดกตีนมากใช่ไหม”ไอ้คนที่กำแขนผมไว้แน่นเหมือนคีมเหล็กพูดขึ้น ผมกระแทกเท้าใส่หน้าแข้งมันเต็มแรง จนมันสะดุ้งโหยง

“แดกตีนกูก่อนเป็นไง”

“เฮ้ย พาพวกมันไปเก็บ”คำว่า‘เก็บ’ทำให้ไอ้ฟิกหุบปากเงียบ มันเหลือกตามองผมด้วยสีหน้าซีดๆ แต่ผมแค่ยักคิ้วให้มัน ผมเชื่อว่าไอ้พวกนี้ไม่อุกอาจขนาดนั้นหรอก

“เชี่ยม่อน มึงรู้ใช่ไหม ถ้ากูหลุดไปได้ จะเกิดอะไรขึ้น”ไอ้เนมพูดเสียงกระชาก

“ผมไม่มีทางเลือก ถ้าผมไม่ทำผมก็โดนเล่นอยู่ดี”ไอ้ม่อนพึมพำเสียงอ่อน หึ เหตุผลปัญญาอ่อนก็ไม่ทำให้มันพนผิดหรอก

มันลากพวกผมไปที่โกดังหลังเล็กๆเก่าๆซ่อมซ่อที่อยู่ใกล้ๆกับโกดังหลังใหญ่ไปไม่ไกลนัก

“ถ้าพวกมันตุกติกก็จัดการเลย กูอนุญาต แต่ไอ้นี่กูจัดการเอง”เสียงไอ้ว่านดังมาจากด้านหลัง หมายความว่ามันจะเล่นงานไอ้ฟิกเองเหรอ ยังไม่ทันได้คิดแผนอะไร ไอ้คนที่จับผมไว้ก็ผลักผมเข้าไปในโกดังเหม็นอับทันที ผมหมุนตัวเหวี่ยงหมัดใส่มันไปจังๆ 

“อย่าซ่าส์”ไอ้ม่อนปรี่เข้ามาถีบหน้าท้องผมเต็มแรงจนเซไปชนกับกองไม้ขึ้นรา ผมขึงตามองมันอย่างโกรธจัด ไอ้ม่อนเดี๋ยวมึงได้ลิ้มรสตีนกูแน่

“เอาของพวกมันออกมาให้หมด”ไอ้ว่านสั่ง มือยังคงจับคอไอ้ฟิกไว้มั่น ไอ้แก๊งค้นเอาโทรศัพท์ของไอ้ชัยออกมา ผมแปลกใจที่มันแค่ตะปปผ่านๆเท่านั้น หลังจากที่ถูกเอาของมีค่าออกไปจนหมดแล้วประตูโกดังก็ปิดลง เหลือแค่ผมกับนักโทษอีกสองคน ไอ้ฟิกไม่ได้เข้ามาด้วย อาจจะถูกพวกไอ้ว่านเล่นงานอยู่ คิดแล้วก็เดือดปุดๆจนต้องเตะกองไม้เน่าๆพวกนั้นเต็มแรง

“ใจเย็นดิ ไอ้ภู”ไอ้เนมพูดขึ้นมา สีหน้ามันสงบกว่าปกติ ผมถอนหายใจพรืด

“แม่งเอ้ย กูว่าแล้ว มันต้องไม่จบง่ายๆ”ผมยังคงเดินวนไปวนมาอย่างหงุดหงิด

“เป็นไงล่ะเพื่อนมึง สุดท้ายมันก็มาหลอกพวกมึง”ผมหันไปเล่นงานไอ้ชัยแทน อย่างน้อยๆก็ระบายความหงุดหงิดได้บ้าง

“แล้วเด็กพี่ล่ะ มันก็หลอกพี่เหมือนกัน”มันคงหมายถึงไอ้ม่อน

“หึ กูเดาไว้แล้วว่ามันคิดไม่ซื่อ”

“ไอ้แก๊งมันไม่ได้หลอกพวกผมหรอก”

“พูดจาพระเอกชิบหาย”ผมมองมันอย่างหงุดหงิด

“พี่อยู่เฉยๆเถอะ ทำใจเย็นๆแล้วค่อยๆคิด”ไอ้ชัยเงยหน้ามองผมด้วยท่าทางที่ทำให้ผมเดือดมากกว่าเดิม

“เฉยเหรอ ใจเย็นเหรอ ไอ้คนที่อยู่กับเหี้ยว่านมันไม่ได้สำคัญกับมึงนี่หว่า”ผมขยุ้มคอเสื้อมันเข้ามาใกล้ๆ แต่ไอ้เนมเข้ามาห้ามทัพซะก่อน

“อย่าหัวร้อนกันสิวะ พวกมึงนี่ แยกๆ”

“เหอะ อย่าดีแต่พูดก็แล้วกัน  ไอ้ของที่มึงพกมาน่ะ อย่าสักแต่พกมาทำเท่”ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันพกปืนมาด้วย

“ผมแค่เอามาป้องกันตัว ไม่เหมือนพี่หรอก…”มันตอบเสียงเบา

“กู ทำไม”ผมคว้าคอเสื้อมันขึ้นมาอีกครั้ง แววตามันดูหวาดหวั่น แต่ก็ยังทำเหมือนว่าไม่กลัว ผมรู้ว่ามันตั้งใจจะพูดถึงเรื่องไหน ไอ้เรื่องที่ผมทำคนตาย ไม่ว่านานแค่ไหน มันก็เหมือนเป็นตราบาปที่คอยย้ำเตือนผมเสมอ ไอ้ชัยเงียบไปนานเหมือนความกล้าของมันหมดลง 

“พวกมึงบ้ากันให้พอ”ไอ้เนมประชดประชันมาจากอีกมุม ผมก้มมองไอ้ชัยก่อนจะกระซิบกับมันเบาๆ

“คนอย่างมึงมันก็ได้แค่นี้ เป็นแบบนี้ไงไอ้อันถึงไม่เอามึง ไม่มีน้ำยา”ผมถอยออกมาจากไอ้ชัยด้วยสีหน้าเยาะๆ มันจ้องมาที่ผมอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะหลบสายตาไปเอง

“มึงพูดอะไรกับมันวะ”ไอ้เนมถามเบาๆก่อนจะมองไอ้ชัยที่นั่งก้มหน้าอยู่คนเดียว

“แค่กระตุ้นมันนิดหน่อย”ผมยิ้มพอใจ ในหัวเริ่มคิดหาทางรอด ไอ้แก๊งน่ะเหรอ….มันไม่ได้เอาปืนของไอ้ชัยไป คำถามคือทำไม? ผมจำได้ว่ามันยังแค้นไอ้ว่านอยู่ หรือว่ามันรอเวลาเอาคืน ความเงียบที่เกิดขึ้นทำให้ผมได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นจากด้านนอก เสียงสบถอย่างเจ็บปวดของไอ้ฟิก ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ 

 “มึงว่าข้างนอกนั่นมีกี่คน”ไอ้เนมหันมาถามเมื่อเสียงด้านนอกเงียบลงแล้ว

“ไม่รู้ว่ะ”ผมตอบเสียงขุ่น

“อย่าเพิ่งยั๊วสิว้า…มาช่วยกันคิดหน่อยว่าจะเอาไง ด้านนอกคงอย่างเยอะ”ไอ้เนมพึมพำอยู่ข้างๆ เสี้ยวหน้าของมันมีรอยช้ำจางๆ

“ใครทำมึงวะ”

“เหี้ยม่อน”

“กูขอจัดการมันเอง”เหี้ยม่อนบังอาจมาถีบผม อย่างมันต้องเจอให้หายซ่าส์ บารมีพี่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ไอ้เนมหันมามองผมด้วยสายตาจริงจัง

“ถ้างั้นก็ทบต้นทบดอกให้กูด้วย”

“กูนึกว่าจะห้ามซะอีก”ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเหลือบมองไอ้ชัยที่นั่งนิ่งมือกำแน่นเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ อาจจะเพราะคำพูดของผมไปจี้ใจดำของมันเข้าก็ได้ ท่าทางเหมือนมันอยากต่อยผมด้วย แต่ก็ไม่กล้าพอ

“ถ้าพังประตูออกไปได้ แล้วกูจะยอมให้มึงต่อยกู”ผมยักคิ้วท่าทางกวนตีนไปให้มัน

“เฮ้ย มึงเอาจริงเหรอ”ไอ้เนมค้านเบาๆ

“เออดิ”ผมมั่นใจว่ามันไม่กล้าต่อยผมอยู่แล้ว

“ด้านนอกมีคนตั้งเยอะ ผมไม่รู้ว่าเราจะสู้ไหวรึเปล่า”มันพูดด้วยเสียงไม่แน่ใจ

“มึงมีปืน”

“แต่…”มันมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก

“ก็แค่ขู่ ยิงขึ้นฟ้าสองสามนัด”แต่ก็เสี่ยงว่าลูกกระสุนจะไปตกอยู่ที่หลังคาบ้านใครรึเปล่า

“…”ไอ้ชัยยังคงเงียบอยู่

“ถ้าทำไม่ได้ก็เอามาให้กู ไอ้พวกคนดี”พึมพำประโยคหลังเบาๆ

“พูดอะไรของมึง เดี๋ยวนี้รู้จักตัดพ้อชีวิตด้วยเหรอวะ”เพื่อนข้างๆหัวเราะเบาๆ ผมถอนหายใจฉุนๆ ก่อนจะปรายตามองไอ้ชัย ไอ้นี่แม่งทำตัวขัดใจผมจริงๆ

“ตกลงมึงเอาไง”ผมถามขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อทนกับความเงียบไม่ไหว อีกอย่างผมปล่อยให้ไอ้ฟิกอยู่กับไอ้ว่านนานแล้วด้วย ไม่รู้ว่าป่านนี้มันจะเป็นยังไงบ้าง

“ก็ได้ ผมจะพังประตูออกไป”มันตอบด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น

“เออดี”ผมขยับบิดเนื้อบิดตัวไปมา ระหว่างที่ไอ้ชัยหลับตาเหมือนกำลังทำสมาธิ

“ถีบพร้อมกันเลยดิ”ไอ้เนมเสนอ ดูจากตัวโกดังเก่าๆ ก็มีโอกาสในการพังประตูออกไปได้ ไอ้เนมส่งสัญญาณให้เตรียมพร้อม ก่อนจะพุ่งตัวไปที่ประตูเต็มแรง บานประตูสั่นกราวเมื่อเจอลูกถีบจากสามคน เมื่อพร้อมใจกันถีบเป็นครั้งที่สามประตูก็เปิดออก จนผมงงว่าทำไมมันถึงเปิดง่ายขนาดนี้

“ไอ้แก๊งมันช่วยเรา มันไม่ได้อยู่ข้างไอ้ว่านหรอก”ไอ้ชัยพึมพำเบาๆ แต่ก็คุยกันได้ไม่นานเพราะพวกลูกน้องไอ้ว่านที่นั่งก๊งเหล้าอยู่ด้านนอกกำลังแตกฮือ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกมันเอาเงินมาจากที่ไหน

“สัด เงินกู”ไอ้เนมสบถเสียงต่ำ มันคว้าท่อนไม้มาถือไว้มั่นก่อนจะปรี่หาไอ้พวกนั้นทันที ผมเหวี่ยงหมัดใส่ลูกกระจ๊อกกากๆไปหลายคน เกิดเสียงดังปังขึ้น ไอ้พวกลูกกระจ๊อกแตกฮือ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก

“พวกมึงถอยไป แล้วเปิดประตูให้พวกกู”มันชี้ปืนกราดไปทางพวกนั้นที่ย่อตัวกลัวกันขี้หด ผมรอไม่ไหวจึงเข้าไปถีบประตูโกดังเต็มแรงจนเกิดเสียงดังปังอีกรอบ ไอ้เนมดูจะหัวเสียเอาเรื่องเพราะผมเห็นมันไล่ฟาดดะหมด มีเสียงรถKSRดังแว่วเข้ามาใกล้ กลุ่มวัยรุ่นท่าทางกวนตีนโผล่มาอีกนับสิบ กำลังจะบ่นว่าซวย แต่ไอ้พวกนั้นกลับเข้ามาช่วยพวกผมรุมยำกับลูกจ๊อกที่เหลือ ดูจากการแต่งตัว ผมเดาว่าพวกนี้น่าจะเป็นพวกพ้องของไอ้แก๊งแน่ๆ

“กูจะนับหนึ่งถึงสาม เปิดประตู”ไอ้ชัยจ่อปืนขู่ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเข้าไปเปิดประตูให้ด้วยมืออันสั่นระริก

ปัง!

ผมกระแทกประตูให้เปิดออกเต็มแรง ภาพที่เห็นคือไอ้ฟิกและไอ้ตินถูกจับมัดกับเก้าอี้ บาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่ ไอ้ฟิกเหลียวมามองสีหน้าเหมือนคนถูกหวย และนั่นก็ทำให้ผมฟิลขาด พวกมันทำไอ้ฟิกขนาดนั้นเลยเหรอ ไอ้ว่านสินะ!ผมตั้งใจจะพุ่งเข้าไปหามัน แต่จู่ๆไอ้ตินก็ผุดมาจากเก้าอี้ได้ ผมจึงเบนเข็มไปที่ไอ้ม่อนแทน มันหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นสีหน้าของผมเข้า

“มึงจะหนีไปไหน”ผมเข้าไปกระชากไหล่ของมันได้ทัน ก่อนจะกระแทกเข่าเข้าหน้าท้องมันเต็มแรงจนมันจุกตัวงอ

“อย่าซ่าส์เหรอ หึ บอกตัวมึงเองก่อนเถอะ”ผมกระชากคอเสื้อมันขึ้นมาอีกรอบ กระแทกกำปั้นเข้าที่ปลายคางของมันจังๆ ไม่ทันให้มันได้เซแถ่ดๆ ผมก็ตามเข้าไปปล่อยหมัดซ้ำอีกรอบ

“พี่ผม--”มันพึมพำอะไรสักอย่าง แต่ผมขึงตาใส่แทนมันจึงหุบปาก

“พี่มึงก็ช่วยอะไรไม่ได้ กูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเล่นตุกติกกับคนอย่างกู”ไอ้ม่อนยกมือขึ้นบังฝาเท้าของผม เมื่อเล่นหน้ามันไม่ได้ผมก็เปลี่ยนเป้าหมายมาที่หน้าท้องของมันแทน

“ผมจำเป็นต้องทำ อุก--”มันพูดตะกุกตะกัก ยกมือปัดป่ายฝาเท้าของผม อาการหน้ามืดเริ่มลดลง ผมจึงเห็นสภาพไอ้ม่อนได้ชัด มันนอนงอตัวเหมือนกุ้ง ใบหน้าเริ่มออกอาการบวม

“โทษกูไม่ได้นะ”ผมก้มไปดูว่ามันอาการหนักมากหรือเปล่า ก่อนจะผละมองรอบตัว แปลกใจที่เห็นไอ้ว่านนอนกดมือที่หน้าท้อง เลือดสีสดไหลออกมาไม่น้อย อะไรวะ ผมยังไม่ทันได้คิดบัญชีกับมันเลย

“สัด มึงไม่ต้องมายุ่งกับกูเลยไอ้เหี้ย”เสยงก่นด่าของไอ้ฟิกดังขึ้น เมื่อผมขยับเข้าไปใกล้ มันมองหน้าไอ้ตินด้วยสายตาทิ่มแทง สีหน้าขุ่นมัว

“เป็นอะไรมากรึเปล่า”ผมนั่งคุกเข่าตรงหน้ามัน สายตากวาดมองทั่วใบหน้าฟกช้ำของอีกฝ่าย ส่วนไอ้ตินดูจะเจื่อนลงเล็กน้อย

“เออสิ มึงไม่เห็นเหรอ เหี้ยว่านแม่ง…”ไอ้ฟิกบ่นพึมพำ ยกมือขึ้นแตะมุมปากฟกช้ำ ผมดึงข้อมือที่เกิดรอยแดงของมันมาดู

“เหี้ยว่าน กูยังไม่ทันได้คิดบัญชีกับมันเลยนะ”ผมพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด

“ไว้ค่อยเคลียร์ก็แล้วกัน”ไอ้ตินพูดขึ้นเบาๆ มันยืดตัวขึ้นสีหน้าเจ็บปวด

“เหอะ”ไอ้ฟิกขึงตามองไอ้ตินเขม็ง

“เป็นอะไร”ผมถามงงๆ ไม่รู้ว่าในโกดังนี่เกิดอะไรขึ้นบ้าง 

“กูว่าไอ้ว่านกับไอ้ตินมันกิ๊กกัน”ไอ้ฟิกโน้มตัวมากระซิบใกล้ๆ ผมเลิกคิ้วอย่างสงสัย ไอ้ว่านกับไอ้ตินเนี่ยนะ

“เฮ้ย…มึงก็พูดไป”ผมหัวเราะขำๆ ก่อนจะพยุงให้มันลุกขึ้น มันร้องโอดโอยก่อนจะเกาะไหล่ผมแน่น

“มึงเคลียร์เรื่องไอ้ว่านให้เสร็จ จะได้กลับบ้านกัน”ไอ้ฟิกหันไปหาไอ้ตินที่มองไอ้ว่านนอนจมกองเลือดอยู่

“คงเคลียร์ตอนนี้ไม่ได้ กูไม่นิยมซ้ำคนเจ็บ”มันตอบเสียงเรียบ ผมเองก็เหมือนกัน คงต้องเคลียร์กันทีหลัง ไอ้ฟิกดูหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ

“อะไรวะ หรือว่ามึงอยากอยู่บ้านเก่านานๆ”ผมมองคนข้างๆอย่างแปลกใจ น้ำเสียงประชดประชันที่ออกมาจากไอ้ฟิกผมว่าฟังไม่ผิดแน่

“ไม่ใช่ แต่ตอนนี้มันก็เจ็บมากแล้ว ไว้ค่อยเคลียร์ พี่พามันออกไปก่อน เดี๋ยวผมจัดการทีเหลือเอง”ไอ้ตินพยักหน้ามาให้ ผมจึงพาไอ้ฟิกที่บ่นกระปอดกระแปดไปตลอดทาง ออกมาจากโกดังได้ก็ไม่เจอทั้งพวกไอ้แก๊งและไอ้ว่านแล้ว เหลือแต่ไอ้เนมกับไอ้ชัยที่นั่งจิบเหล้าที่ยังเหลือๆอยู่

“มันใช่เวลาไหม”ไอ้ฟิกมองไอ้สองคนนั่นด้วยสายตาเหลืออด

“เอาสักจิบไหม”ไอ้เนมยื่นแก้วมาให้ไอ้ฟิก แต่มันเบือนหน้าหนี ผมเลยรับมาแทน

“มึงอย่ากินนะ”มันสั่งเสียงขุ่น ผมชะงักมือที่กำลังยกแก้วเหล้า

“เป็นไรของมึงเนี่ย”

“เรื่องของกู”ผมบีบไหล่มันแรงๆ จนมันทำหน้าบู้บี้

“มึงนี่คิดอะไรไร้สาระว่ะ”คงไม่พ้นเรื่องไอ้ว่านแน่ๆ

“ไร้สาระที่ไหน มึงไม่เป็นกู มึงไม่รู้หรอกว่ะ”มันทำเสียงเข้มก่อนจะแย่งแก้วเหล้าไปจากมือผม

“นั่น ไหนว่าไม่กินไง มึงนี่ประสาทหนักแล้วว่ะ”ผมปล่อยให้มันยืนเองก่อนจะหยิบถั่วในจานเข้าปาก

“เออ เกือบลืม กูอนุญาตให้มึงต่อย กูจะไม่โกรธมึง”ผมหันไปหาไอ้ชัยอีกครั้ง มันกมือแน่นเหมือนจะต่อยผมจริงๆ แต่เมื่อผมใช้สายตานิ่งๆมองหน้ามัน มันก็คลายมือลง

“ผม…ช่างเถอะ”มันตอบปัด

“ดีมาก”ผมตบบ่ามันสองสามที ไอ้เนมสำลักเหล้าก่อนจะหัวเราะเสียงดัง

“เป็นมึง มึงจะรู้สึกยังไงวะ”ไอ้ฟิกเข้ามายืนใกล้ๆเพราะไม่เหลือที่นั่งแล้ว ผมเลยดึงให้มันมานั่งบนตักผม มันอิดๆออดๆไม่ยอมอยู่พักใหญ่ แต่สุดท้ายก็สู้แรงผมไม่ได้ ก็เลยต้องนั่ง

“เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ”ผมลูบคอที่ปวดแปลบๆก่อนจะหันไปมองมัน

“สมมุตินะ ถ้าเกิดว่ากูจูบไอ้นิคต่อหน้ามึง มึงจะรู้สึกยังไง”ผมขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

“กูแค่สมมุติ”มันรีบพูด

“ถามทำไม”มันต้องมีอะไรแน่ๆ ผมมองหน้าบูดบึ้งของไอ้ฟิกก่อนจะหัวเราะออกมา

“คิดมากน่า…”

สักพักไอ้ตินก็ออกมาด้วยสีหน้าที่อ่อนลง มันกวาดตามองพวกผมก่อนจะทำเสียงหงุดหงิดออกมา

“นึกว่ากลับกันแล้ว ยังมีอารมณ์มานั่งกินเหล้าอีกเหรอ”

“ก็เงินกูอ่ะ”พวกมันควักไปหมดกระเป๋าเลย ยังดีที่ไม่เอาบัตรของผมไป ไม่งั้นเจอหนักกว่านี้กันแน่ๆ

“ฉลองนิดๆหน่อยๆจะเป็นไรไป”ไอ้เนมแทรกอีกเสียง

“แล้วเอาไงเรื่องพี่ว่าน”ไอ้ชัยหันไปถามเพื่อนบ้าง

“กูโทรหาลุงแล้ว เดี๋ยวจะเอารถโรง’บาลมารับ”

“เออ ไอ้แก๊งมันแค้นอะไรนักหนาวะ”ไอ้ชัยพึมพำเบาๆ สีหน้าครุ่นคิด ผมไม่อยากจะสนใจเรื่องของพวกมันก็เลยไม่ได้ใส่ใจฟัง ไปๆมาๆ ไอ้ตินก็ทนเสียงรบเร้าของไอ้ชัยกับไอ้เนมไม่ไหวจึงมาร่วมวงด้วย

“มันโกรธอะไรมึงวะ”ผมกระซิบกับมันเบาๆ ไอ้ตินถอนหายใจเล็กน้อย

“เรื่องพี่ว่านนั่นแหละ…คืองี้”แล้วมันก็เล่าให้ผมฟังว่าเกิดอะไรขึ้น

“อ๋อ…”ผมพยักหน้าช้าๆ ไม่รู้ว่าไอ้ฟิกได้ยินรึเปล่า แต่มันขยับตัวยุกยิกอยู่บนตักผม

“ลุกดิ ตูดแหลมว่ะ”ผมตบแขนมันเบาๆ แต่มันก็โวยลั่น

“กูยิ่งเจ็บแขนอยู่”มันทำหน้าหงิก

“สำออย”ไอ้ชัยแพล่มออกมา

“เสือก”

“เออ มึงอย่าลืมนะ…จบเรื่องแล้ว”ผมทำตาแพรวพราวใส่มัน ไอ้ฟิกขึงตาใส่

“ยัง มึงยังไม่ได้เคลียร์เรื่องไอ้ว่านเลยไม่ใช่เหรอ ไม่รู้ล่ะ”มันยักคิ้วก่อนจะลุกหนีไปรอในรถ จนรถพยาบาลมารับศพ เอ้ย มารับไอ้ว่านกับไอ้ม่อนและ พวกลูกน้องบางคน ผมมารู้ทีหลังว่าลุงของไอ้ตินเป็นผอ.เลยไม่โดนยิงคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนไอ้เชนกับไอ้เคนตามมาทีหลังด้วยสีหน้าแช่มชื่น ซักได้ความว่าพวกมันไปลงอ่างมา ไม่ได้ป๊อดหรือหนีแบบที่โดนไอ้ชัยกล่าวหา

“ลงอ่างที่ไหนวะ”ผมเอนตัวไปถามไอ้เคน มันหรี่ตามองผมทันที

“นั่นแน่ ถามแบบนี้แสดงว่าสนใจสิท่า ผมไปฟ้องไอ้ฟิกดีกว่า”อ้าว ไอ้นี่

“เชี่ยเคน!”ไม่ทันแล้ว ไอ้เคนมันปรี่เข้าไปหาไอ้ฟิกที่รถ พร้อมกับเล่าความเท็จแบบไม่กลัวตาย จนไอ้ฟิกมันพลอยโกรธผมไปด้วยเลย!

……………………………………………………

เหตุการณ์วุ่นวายผ่านไปสองวัน ไอ้เนมกับเพื่อนไอ้ฟิกและไอ้ชัยก็ขอตัวกลับไปก่อน เหลือแค่ผม ไอ้ฟิก ไอ้ตินที่ยังต้องอยู่เพราะไอ้ตินยังเคลียร์เรื่องไอ้ว่านไม่จบดี ส่วนไอ้ม่อนก็ได้ข่าวว่ามันเจ็บเอาเรื่อง แต่ไม่ถึงขั้นเข้าไอซียู พี่มันก็โทรมาถามผม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะน้องมันก็ผิดจริงๆ ผมกะว่าจะไปเยี่ยมดูอาการมันซะหน่อย อยากเห็นสภาพของมันเหมือนกัน ส่วนไอ้ฟิกนี่ก็ดันมาหึงไม่เข้าเรื่อง ไอ้ว่านกับไอ้ติน…อืม…ผมไม่เห็นว่าจะมีความเป็นไปได้ ไม่รู้สิ แต่ถ้าเป็นจริงก็คงเป็นคู่ที่แปลกแน่ๆ แต่ก็นั่นล่ะ ไอ้ฟิกมันยังคงโกรธไอ้ตินอยู่ที่ไปจูบไอ้ว่านต่อหน้ามัน แถมมันหงุดหงิดมากขึ้นไปอีกที่ไอ้ตินจะไปเยี่ยมไอ้ว่าน หรือพูดตรงๆก็ไปเคลียร์ให้จบแบบจริงๆจัง ๆ ผมเองก็เห็นด้วย จะได้จบๆเสียที

“กูว่ามันสองคนต้องกิ๊กกันแน่ๆ”ไอ้ฟิกยังคงยึดมั่นในความคิดของตัวเอง

“ใครวะ”ผมทำมึนแกล้งทำเป็นไม่รู้ เพราะขี้เกียจจะฟังคำบ่นที่ตามมายืดยาวของมัน สู้แกล้งมึน คอยพูดเอาใจมันให้จบๆเรื่องไปดีกว่า

“กูพูดให้ฟังตั้งหลายรอบแล้ว มึงไม่ได้ฟังเลยเหรอวะ”มันทำหน้าหงิกอีกครั้ง

“เออน่า มันไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมาก มึงพูดบ่อยๆเดี๋ยวมันก็ทำจริงหรอก”ผมปลีกตัวหนีออกมา เพราะไอ้ฟิกมันตั้งท่าจะบ่นอีกครั้ง

“ตกลงมึงจะไปเยี่ยมมันเหรอ”ออกมาก็เจอไอ้ต้นเรื่องก็เลยถามมันซะหน่อย

“อืม ว่าจะคุยให้จบ จะได้กลับ ไว้ค่อยมาคิดบัญชีที่ทำไอ้ฟิกทีหลัง”ไอ้ตินตอบพลางเก็บยาแก้ฟกช้ำ ผมนั่งลงบนพนักโซฟา ลูบรอยแผลของตัวเองพลางใช้ความคิดไปด้วย

“กูถามจริงๆนะ มึงยังโกรธไอ้พี่ว่านอยู่ไหม”

“อืม…มันก่ำกึ่งกันน่ะ โกรธที่พี่เขาทำร้ายไอ้ฟิก แต่เรื่องที่ผมถูกเล่นงาน ผมไม่ได้โกรธแล้ว”มันตอบเสียงนุ่มก่อนจะถอนหายใจ

“ผมไม่อยากกลับไปแบบค้างๆคาๆ พี่คงเข้าใจนะ”

“เออ”

“แต่ไอ้ฟิก…”มันเงียบเสียงลงเมื่อไอ้ฟิกเดินเข้ามาในห้อง

“พวกมึงนินทากูกันแน่ๆ”มันมองผมสลับกับไอ้ตินอย่างจับผิด

“เออ นินทาว่ามึงงี่เง่าน่ารำคาญ”ถ้ามันเป็นเด็กของผมล่ะก็…ผมตบปากมันไปตั้งแต่ที่มันบ่นรอบที่สามแล้วแน่ๆ

“กูรู้ ขอโทษล่ะกัน กูแค่หงุดหงิด”ไอ้ฟิกถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟา

“ช่างเถอะ”ไอ้ตินไหวไหล่

“แล้วมึงจะไปวันไหน”มันเปลี่ยนมาถามบ้าง

“พรุ่งนี้”ไอ้ตินตอบด้วยท่าทางระมัดระวัง ได้ข่าวว่าเมื่อคราวก่อนมันโดนหมัดไอ้ฟิกไปด้วย

“กูไปด้วยนะ”ผมแอบโล่งอกที่ไอ้ฟิกมันกลับมาทำตัวเป็นปกติเสียที บรรยากาศในบ้านก็พลอยดีขึ้นไปด้วย ตอนดึกๆอากาศที่นี่จะเย็น กลิ่นดอกตีนเป็ดจากบ้านใกล้เรือเคียงฉุนซะผมปวดหัว จนต้องปิดหน้าต่าง

“กูเหม็นต้นตีนเป็ดว่ะ”ผมบ่นอีกครั้งเมื่อกลิ่นไม่พิสมัยลอยมาในอากาศเย็นๆ

“อีกไม่กี่วันก็ได้กลับแล้ว บ่นมากว่ะ”ไอ้ฟิกเหลือบมองจากหนังสือการ์ตูน ผมขยับเข้าไปยื่นหน้าใกล้ๆมันเพื่อดูว่ามันอ่านอะไร

“ขยับมาใกล้ทำไม”มันทำเสียงหงุดหงิดก่อนจะเอนตัวออกห่าง

“ก็อยากรู้ว่าสนุกไหม”ผมขยับตาม มันถอนหายใจพรืดใหญ่ก่อนจะยกหนังสือเล่มนั้นให้ผม

“อ่านให้จบนะมึง”มันพลิกตัวนอนอีกข้าง ทิ้งให้ผมขำที่กวนประสาทมันได้สำเร็จ ไอ้ตินยังอาบน้ำไม่เสร็จเสียที ผมเลยได้โอกาสแกล้งไอ้ฟิกอีกรอบ ผมยื่นมือไปแตะแขนมันเบาๆ พ่นลมหายใจใกล้ๆใบหูของอีกฝ่าย

“ไอ้ภู อย่ากวนตีน”มันออกปากด่าโดยที่ไม่หันมามอง

“มาออกกำลังกันดีกว่า กำลังหนาวๆ”ผมบิดใบหูของมันเบาๆ

“กูจะนอนแล้ว!”มันหันมาตะคอก แต่ยังคงไม่มองหน้าผม

“เชื่อเหอะ พอกูเริ่มมึงก็หายง่วง เป็นแบบนี้ทุกที แล้วชอบทำปากแข็ง”ผมเฝ้ามองปฏิกิริยาของมัน จนต้องเป็นฝ่ายถอยทัพไปเองเพราะว่ากลั้นขำไม่อยู่ นานๆครั้งจะได้เห็นไอ้ฟิกมันเขิน



หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 24-11-2015 18:03:11


[Fix Side]




วันนี้เป็นวันที่ไอ้ตินจะไปเยี่ยมไอ้พี่ว่าน หลายวันมานี้ผมทำตัวไม่สมกับเป็นไอ้ฟิกเอาซะเลย ใช้ไม่ได้จริงๆ

“ทำตัวให้สมกับเป็นไอ้ฟิกหน่อยสิวะ”ผมมองเงาสะท้อนอันหล่อเหลาของตัวเอง ตบหน้าเรียกสติสองสามทีก็ลงไปด้านหลัง ไอ้ภูกับไอ้ตินตื่นก่อนผมเสียอีก เห็นมันสองคนกำลังคุยอะไรกันสักอย่าง

“ข่าวเช้ามีอะไรบ้าง”ผมถามระหว่างที่เดินเข้ามาในครัว

“ต้มเลือดหมูร้อนๆกับไข่เจียว”ไอ้ตินตอบก่อนจะเดินเข้ามากอดผม

“อะไร”ถามระหว่างตักข้าวใส่จาน

“หายโกรธกูแล้วเหรอ”มันพึมพำเบาๆ

“กูไม่ได้โกรธมึงนี่”ตอบเสียงมึนก่อนจะเบี่ยงตัวมาที่โต๊ะอาหาร ไอ้ภูยกยิ้มขึ้นมา

“ไม่ได้โกรธแค่ประชดประชันมาสองวัน” 

“แล้วพวกมึงกินกันเเล้วเหรอ”ผมเปลี่ยนเรื่องมาถามพวกมันแทน

“เรียบร้อย”

“ไม่รอกู”

“มึงตื่นสายนี่ กูหิวก็เลยกินก่อน กระเพาะไม่ได้ติดกันสักหน่อย”ไอ้ภูตอบเสียงกวน ผมนั่งลงจัดการมื้อเช้าไปคนเดียว จากรสชาติแสนอร่อย เดาว่าไม่ใช่ฝีมือของไอ้ตินแน่ แต่ไข่เจียวฝีมือไอ้ตินแน่นอน

“แล้วอาการไอ้ม่อนเป็นไงบ้างวะ”อยากรู้ว่ามันช้ำแค่ไหน บังอาจมาเล่นตุกติกกับไอ้ภู ตอนนั้นผมกำลังงง ๆแต่มานึกดูอีกทีไอ้ภูมันน่ากลัวมากจริงๆ เหมือนเมื่อตอนที่เกิดเรื่องพี่พิสเลย ซึ่งผมไม่เห็นมันเป็นแบบนี้มานานแล้ว

“ไม่รู้ ก็กะว่าจะไปดูอยู่”ไอ้ภูดูไม่สนใจเท่าไหร่นัก ผมเหลือบมองไอ้ติน มันเอาแต่จ้องผมมานานแล้ว ไม่รู้ว่าหน้าผมมันมีอะไรผิดปกติ

“มองไร”

“เปล่า”มันตอบพร้อมรอยยิ้มที่ทำผมหงุดหงิดขึ้นมา ไม่ชอบรอยยิ้มแบบนี้ของมันเลยจริงๆ

“เออ แล้วเพื่อนมึงเป็นไงบ้าง ไอ้แก๊งน่ะ”ไอ้ภูหันไปคุยกับไอ้ติน ผมเลยได้โอกาสเงียหูฟังไปด้วย

“ตอนนี้หลบไปอยู่ที่ชลบุรี แต่ผมก็บอกมันแล้วนะว่าจะจัดการให้”เสียงของไอ้ตินดูเป็นกังวล

“แล้วไอ้ว่านมันจะเอาเรื่องรึเปล่าวะ”

“ไม่รู้ดิ แต่คงไม่หรอกมั้ง...ผมก็ไม่แน่ใจ พ่อพี่เขาค่อนข้างดุ”ไอ้ภูหัวเราะลั่นทันที

“ดุแน่เหรอวะ นี่ขนาดดุไอ้ว่านมันยังเป็นขนาดนี้”

“ก็เหมือนพ่อพี่นั่นแหละ”เกิดความเงียบขึ้นมาระลอกใหญ่ มีเพียงเสียงผมซดน้ำต้มเลือดหมูเสียงดังแทรกมา ไอ้ภูพึมพำอะไรสักอย่าง จับใจความได้ว่าคนละชั้นกัน

“แล้วไอ้แก๊งมันมีเรื่องแค้นอะไรกับพี่ว่านของมึงล่ะ”ผมถามบ้างเพื่อลดบรรยากาศแปลกๆ แต่ก็แอบแขวะมันเล็กน้อย

“ยังไม่ได้ถามมันเลย แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันคงโดนพวกพี่ว่านข่มขู่มาเยอะล่ะมั้ง แถมยังต้องมากลายเป็นเบ๊พี่ว่านอีก...ก็คงจะแค้นอยู่”ไอ้ตินถอนหายใจดังเฮ้อ

“แล้วนี่มึงอิ่มหรือยัง จะได้รีบๆไปเคลียร์ให้จบ”ไอ้ภูเร่ง ผมเลยรีบยัดๆให้หมด ก่อนเตรียมตัวไปโรงพยาบาล ตั้งแต่รู้จักพวกมันมา ผมเข้าโรง'บาลบ่อยอยู่เหมือนกัน จากปกติแทบไม่เคยไปเหยียบ แต่ส่วนมากพวกมันจะเป็นฝ่ายไปเยี่ยมคนอื่นมากกว่า ไม่เคยเห็นมันจะเจ็บป่วยเลยสักครั้ง 

“ถามจริง พวกมึงเคยป่วยบ้างไหมวะ”ผมถามเมื่อพวกมันเสด็จออกมาแล้ว

“ถามแปลก ก็ต้องเคยสิ”ไอ้ตินมองผมด้วยสายตาขบขัน

“แต่เท่าที่กูอยู่กับพวกมึงมา กูยังไม่เคยเห็นพวกมึงป่วยเลยนะ”ยกเว้นเวลาที่พวกมันมีเรื่องกับคนอื่นมา

“อยากรู้เหรอ เอียงหูมา”ไอ้ภูกระดิกนิ้วให้ผมเอนเข้าไปใกล้

“กูไม่อยากรู้แล้ว”เห็นสีหน้าชั่วๆของไอ้ภูแล้วผมก็เดาได้เลยว่าคำตอบของมันต้องไม่สร้างสรรค์แน่ เพื่อให้ไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้ ผมกับพวกมันก็ออกเดินทางไปโรง'บาลทันที ไอ้พี่ว่านพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องพิเศษ แถมผมเพิ่งรู้ด้วยว่าลุงของไอ้ตินเป็นผอ.ของที่นี่ รวยกันจริงๆ แบบนี้ผมสบายไปทั้งชาติคิดไม่ผิดจริงๆที่เลือกมันสองคน หึๆ

“คิดไรอยู่”ไอ้ตินเหลียวมามองระหว่างที่เดินนำไปห้องพักผู้ป่วยของไอ้พี่ว่าน

“เปล่า”ผมไหวไหล่ทำหน้ามึน

“กูรู้ว่ามึงคิดอะไร”ไอ้ภูเข้ามากระซิบพลางรั้งต้นคอผมไปใกล้ๆ

“ไอ้โม้”

“มึงคิดไม่ผิดหรอกที่คบกับพวกกูอ่ะ”มันกระซิบเบาๆ ทำเอาผมแปลกใจอยู่เหมือนกัน

“ห้องนี่แหละ”ไอ้ตินหยุดอยู่ที่ห้องริมสุด กว่าจะถึงเล่นเอาเมื่อยเลย ผมรอจนไอ้ตินเข้าไปก่อน ผมถึงก้าวตามเข้าไป กลิ่นฉุนแบบฉบับของโรงพยาบาลทำให้ผมต้องย่นจมูก ไม่ค่อยชอบกลิ่นแบบนี้เลยจริงๆ เจ้าของเตียงปรือตามองผู้มาเยี่ยม สีหน้าไม่ยินดีนักเมื่อเห็นพวกผม

“…มาทำไม”มันทักด้วยเสียงอันเบาหวิว

“ผมมาเคลียร์ให้จบ เรื่องของผมกับพี่จะได้ไม่ต้องค้างคาอีก”ไอ้ตินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ มันลากเก้าอี้มานั่ง ส่วนผมกับไอ้ภูนั่งลงที่โซฟา ไม่มีของมาเยี่ยมอะไรทั้งนั้น อย่างไอ้ว่านไม่สมควรจะได้รับหรอก

“กูไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว”ไอ้ว่านพึมพำ จนผมต้องตะแคงหูฟัง ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ยินแน่

“จริงเหรอ”ไอ้ตินดูไม่ค่อยเชื่อนัก ได้ยินเสียงมันถอนหายใจ

“ผมไม่ได้โกรธเคืองอะไรพี่เลยนะ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อน ผมไม่ติดใจอะไร ยกเว้นเรื่องที่พี่ทำกับแฟนผม”ไอ้ตินเว้นจังหวะไว้ ผมได้ยินเสียงหึมาจากไอ้ว่าน ดูท่าไอ้นี่คงจะยังไม่เข็ด

“พี่ต้องขอโทษมัน แล้วผมจะไม่เอาเรื่อง”

“อะไรนะ”ไอ้ภูโพล่งออกมาเสียงดัง มันขยับเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงเตียงคนป่วย

“แต่กูไม่ยอม คนใจนักเลงแบบมึงคงเข้าใจใช่ไหม ไอ้ว่าน”ไอ้ภูไปยืนจ้องหน้าไอ้ว่านอยู่นาน จนผมต้องลุกจากที่นั่งไปแตะไหล่มัน

“ไว้ค่อยเคลียร์หลังจากที่กูหายดีแล้ว”

“มันก็แน่อยู่แล้ว”ไอ้ภูแค่นเสียงเหอะออกมา

“สรุปพี่จะขอโทษมันไหม”ไอ้ตินพูดขึ้นมาอีกครั้ง จนไอ้ว่านเหลียวมองผม

“ถ้าไม่ ก็เคลียร์กันอีกที”ไอ้ตินยังยิ้มได้อยู่ แต่ไม่ใช่รอยยิ้มที่น่ามองนัก ความเงียบคงเป็นคำตอบ ผมคิดว่าคนอย่างไอ้ว่านไม่มีทางพูดคำว่าขอโทษกับผมแน่

 “กู…”ไอ้ว่านพึมพำบางอย่างขึ้นมา

“กูขอโทษที่ทำร้ายมึง”มันมองหน้าไอ้ตินด้วยสายตาที่สื่อความรู้สึกบางอย่าง มีผมเบ้หน้าเป็นแบล็คกราวน์

“ช่างเถอะ”มันตอบปัดๆ วางมือลงบนหน้าท้องของไอ้ว่าน ผมใจแกว่งเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของไอ้ติน ผมก็ไม่อยากงี่เง่าหรือคิดมากทำตัวน่ารำคาญอะไร แต่ผมแค่คิดว่า…กับไอ้ว่าน บางทีไอ้ตินอาจจะรู้สึกพิเศษๆบางอย่างก็ได้ แบบที่ไม่ใช่คนรักหรืออะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น หรืออาจเพราะว่ามันเคยชื่นชมไอ้ว่านมาก่อน และช่วงเวลานั้นมันสองคนก็เคยสนิทกันชนิดที่ว่าไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เพราะตามปกติ ไอ้ตินมันต้องโหดกว่านี้ไม่ใช่เหรอ หรือเป็นผมที่คิดมากไปเอง

“พี่ทำอะไรไอ้แก๊ง”ไอ้ตินถามเสียงเรียบ ผมสังเกตว่ามันออกแรงกดที่หน้าท้องของไอ้ว่าน แต่ใบหน้าของไอ้ตินก็ยังมีรอยยิ้ม

“เปล่านี่”มันพึมพำตอบกลับมา ใบหน้าเผือดซีด อาจจะเพราะว่าเจ็บแผลหรือไม่ก็หวั่นๆกับสีหน้าของไอ้ติน

“แล้วมันแค้นอะไรนักหนา”

“ไม่รู้”ไอ้ว่านตอบแทบจะทันที

“กูเหนื่อย อยากพัก”มันพึมพำเบาๆ สีหน้าเจ็บปวดฉายชัด

“ผมไม่อยากมาเสียเที่ยว”ไอ้ตินถอนหายใจ มือยังคงวางอยู่ที่ตำแหน่งเดิม

“…สำหรับกู มึงเป็นคนสำคัญเสมอ”ผมกลอกตามองไอ้ภูทันที แต่ก็รอฟังว่ามันจะพูดอะไรต่อ

“บางที…มันอาจจะเป็นแค่ข้ออ้างของคนขี้แพ้อย่างกูก็ได้ ความจริงแล้วกูเสียใจที่มึงไม่คิดจะติดต่อมา ไม่คิดจะมาดูคนที่มึงทิ้งไว้ข้างหลัง แล้วพอได้เห็นมึง กูก็เลยรู้ว่ามึงตั้งใจจะลืมกูจริงๆ กูอาจจะเป็นคนบ้าๆก็ได้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ะ ช่วงที่ผ่านมากูพยายามหาคนมาแทนมึง แต่มันก็ไม่ใช่”ไอ้ว่านสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะทอดสายตามองไปที่นอกหน้าต่างเหมือนมองไม่เห็นผมกับไอ้ภูที่ยืนหัวโด่อยู่

“แม่งพูดเหมือนโดนแฟนทิ้ง”ผมกระซิบกระซาบกับไอ้ภูเบาๆ ไอ้ตินแค่มองไอ้ว่านนิ่งๆ

“ผมพยายามเข้าใจพี่นะ”นี่พวกมันนั่งทางในคุยกันหรือไง ทำไมผมถึงไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง

“กูจะเรียกคุณมัดมาตามจองเวรมึง”ผมพูดขึ้นมาเมื่อนึกถึงเรื่องนี้พอดี ไอ้ว่านขมวดคิ้วน้อยๆ แลดูงุนงงและกวนตีนไปพร้อมๆกัน จู่ๆผมก็รู้สึกว่ามันช่างคล้ายไอ้ภูอะไรอย่างนี้ คล้ายตรงที่ทำหน้างงก็ยังดูกวนตีน บ้าไปแล้ว

“ใครคือคุณมัด”ไอ้ตินถามสีหน้างุนงง

“มึงนี่ตกข่าวว่ะ ใครๆเขาก็รู้จักทั่วบ้านทั่วเมือง”มันทำหน้างงเข้าไปใหญ่ ผมจึงเลิกพูด กลับมานั่งที่โซฟาพร้อมกับไอ้ภู ปล่อยให้มันสองคนเคลียร์กันไป

“เมื่อกี้มึงจ้องหน้ามันทำไม”ไอ้ภูถามเสียงขุ่น

“กูแค่คิดว่ามันเหมือนมึง”ไอ้ภูแทบจะแยกเขี้ยวแล้วกัดคอผม

“กูเนี่ยนะ มึงหยุดคิดเลย คนละชั้นกันเว้ย”มันทำหน้าไม่พอใจ

“เวลามึงงงมึงทำหน้าแบบมันเลย”ผมยังยืนยันคำเดิมว่าเหมือน กลับยิ่งทำให้ไอ้ภูหงุดหงิดเข้าไปอีก

“มึงอย่าเอากูไปเทียบกับมัน”มันขึงตาใส่ ก่อนจะบีบข้อมือที่ยังช้ำอยู่ของผมเต็มแรง เล่นเอาผมหลุดร้องเสียงดัง

“สม”แล้วมันก็ขยับไปนั่งชิดมุมโซฟา คว้านิตยสารมาอ่าน บดบังหน้าตัวเอง ผมเลยเบนความสนใจมาที่ไอ้ตินและไอ้ว่าน มันคุยอะไรกันสักอย่าง ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่ได้ฟัง

“ผมขอโทษอีกครั้งที่ตอนนั้นทิ้งทุกคนไปแบบนั้น ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงกันบ้าง”ไอ้ตินรำพึงเบาๆ

“ก็สบายดี กูติดต่อพวกมันตลอด”

ผมแอบถอนหายใจ พอจะเข้าใจอยู่บ้าง ยังไงไอ้ว่านอาจจะเป็นคนที่เคยสำคัญกับไอ้ตินก็ได้ เพราะไม่อย่างนั้น ตอนนี้ไอ้ตินคงไม่มาคุยด้วยหรอก เอาเถอะ ในเมื่อเรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว ผมจะปล่อยไปก็แล้วกัน มาคิดดูอีกที ไอ้ว่านกับไอ้ตินคงไม่มีวันได้เจอกันอีกแน่ ยกเว้นหลังจากนี้ที่มันหายดี

“แต่เรื่องไอ้ฟิก ผมยังไม่จบนะ พี่อย่าลืมซะล่ะ แล้วก็เลิกสอดแนมผมด้วย จากนี้ไปพี่ก็เริ่มใช้ชีวิตใหม่เถอะนะ”

“อือ จะพยายาม”ไอ้ว่านฝืนยิ้มเล็กน้อย พระเอกนักนะมึง

“เสร็จยังวะ”ผมแทรกขึ้นมาอย่างรู้จังหวะ ไอ้ว่านมองหน้าผมก่อนจะพยายามฝืนยิ้มให้

“ผมกลับก่อนล่ะ อ้อ แล้วเรื่องไอ้แก๊ง ผมไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้ามันเกิดเพราะว่าพี่เป็นคนผิด พี่คงรู้นะว่าควรจะแก้ยังไง”ไอ้ตินทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเป็นงานเป็นการ

“มึงไม่ต้องบอกมันทุกเรื่องหรอก โตจนมีเมียได้แล้ว ก็ปล่อยให้มันคิดเองบ้าง”ไอ้ภูยืดตัวบิดขี้เกียจ มันก้มมองคนป่วยด้วยรอยยิ้มเยาะๆ นึกไม่ออกจริงๆว่าไอ้ว่านกับไอ้ภู ถ้าต่อยกันจริงๆใครจะชนะ ผมว่ามันก็เอาเรื่องพอกันทั้งคู่

“ไอ้ติน”เสียงเรียกของไอ้ว่านดังขึ้นอีกครั้ง

“เรื่องไอ้แก๊ง…พ่อพี่เอาเรื่องรึเปล่า”มันดูเป็นกังวลขึ้นมานิดหน่อย

“ก็ได้ยินมาว่ากำลังตามตัวอยู่ แต่ระดับไอ้แก๊งมันมีที่หนีเยอะจะตาย ผมเองก็กะจะช่วยมันอีกทาง”ไอ้ว่านพยักหน้าก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง

“กูจะได้ต่อยมันเมื่อไหร่”ไอ้ภูถามทันทีเมื่อออกมาจากห้องพิเศษ

“ราวๆหนึ่งเดือนล่ะมั้ง”ไอ้ตินตอบด้วยเสียงไม่แน่ใจ

“กูเหนื่อยแทนพวกมึงเลยว่ะ”ผมมองหน้ามันสองคนอย่างระอา บางทีก็เหนื่อยหน่ายแทนพวกมันกับไอ้เรื่องเอาคืน ต่อยตี ถึงเรื่องนี้จะเกี่ยวกับผมก็เถอะ ถึงผมจะยังแค้น และเหม็นหน้าไอ้ว่านมันอยู่มาก แต่ก็…ไม่รู้สิ ผมไม่ได้โกรธเกลียดไอ้ว่านมากทั้งๆที่ควรจะเกลียด ก็เหมือนๆเมื่อตอนกรณีของไอ้เนม แต่ถ้าให้ผมญาติดีกับไอ้ว่าน ก็ไม่ไหว และมันคงไม่อยากญาติดีกับผมด้วย

“แล้วไอ้แก๊งมันจะไม่เป็นไรแน่เหรอ”ผมเป็นห่วงมันนิดหน่อย

“อืม มันเก่ง”ไอ้ตินระบายยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงเพื่อน

“เฮ้ย เกือบลืม กูจะแวะไปดูไอ้ม่อนซะหน่อย”ไอ้ภูพูดเสียงดังเมื่อนึกได้

“เสียใจ มันย้ายออกจากโรง’บาลไปแล้ว สงสัยจะระแวงมั้ง”ไอ้ตินยิ้ม ผมหรี่ตามอง

“ทำไมวะ”

“เผอิญกูหมั่นไส้ เลยไปขู่มันว่าจะให้ลุงกูจ่ายยาผิด”มันหัวเราะขำกับฝีมือของตัวเอง ร้ายกาจจริงๆ





……………………………………………………………………….






“ไปเที่ยวน้ำตกกัน”ไอ้ตินชวนเมื่อใกล้กำหนดกลับเข้าไปทุกที ก็ตกลงกันไว้ว่าจะกลับวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ไปเยี่ยมไอ้ว่านก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก ผมไม่ได้กังวลอะไรอีกแล้วที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกมันก็แล้วกัน

“ร้อน”ผมมองแดดด้านนอกแล้วอ่อนใจ

“ไม่ร้อนมากหรอก แถวนั้นร่มไม้เยอะ ไหนๆก็เอากล้อง เอากระดานวาดรูปมาแล้วไม่ใช่เหรอ”ไอ้ตินยังคงเชิญชวนต่อไป ผมหรี่ตามองอย่างจับผิด ทำไมมันดูกระตือรือร้นซะเหลือเกิน ไอ้ภูก็เช่นกันมันถึงกับลงทุนทำแซนด์วิชเอง คิดดูเถอะ ถ้าพวกมันไม่ได้กินยาผิดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“พวกมึงวางแผนอะไรกัน บอกมาตามตรง”ผมยืดตัวกอดอกมองหน้ามันสองคนด้วยสายตาจริงจัง

“เปล่านี่ แค่อยากไปเที่ยวพักผ่อนเฉยๆ หรือมึงไม่อยากไป”ไอ้ภูย้อน

“เออสิ แดดเปรี้ยงขนาดนี้”ให้ตาย ผมก็ไม่สู้หรอก

“ก็บอกว่าที่น้ำตกไม่มีแดด”ไอ้ตินแย้ง พวกมันสองคนมองหน้ากัน ผมไหวตัวช้าไป รู้ตัวอีกทีพวกมันก็จับผมหิ้วแขน ขา ออกมาด้านนอกแล้ว

“เฮ้ย พวกมึงทำบ้าอะไรวะ”ผมโวยวายเสียงดัง เอาให้ได้ยินกันทั้งซอยไปเลย

“พาไปน้ำตก”ไอ้ตินตอบหน้าระรื่น อะไรของพวกมันวะ สุดท้ายพวกมันก็บังคับผมไปจนได้ ผมจึงนั่งหน้าบูดอยู่ที่เบาะหลัง ระหว่างที่รถแล่นผ่านหมู่ไม้ไปเรื่อยๆ

“แค่นี้โกรธเหรอ กะจะพาไปดูน้ำตกสวยๆ”ไอ้ตินเหลือบมองผมผ่านกระจก ส่วนไอ้ภูหมกมุ่นกับไอโฟนของมัน

“เฮ้อ ช่างเถอะ แล้วอีกไกลไหม”ผมละสายตามาจากนอกหน้าต่าง ก่อนจะยื่นหน้าไปหาไอ้ติน

“อีกนิดเดียว”มันตอบพร้อมรอยยิ้ม ท่าทางดูผ่อนคลายลงเมื่อเห็นผมเลิกทำหน้าบูดแล้ว ผมกวาดตามองของที่พวกมันเอามาด้วย ก็เกิดคำถามขึ้นมาทันที

“เอาของมาทำไมตั้งเยอะ”

“อยู่ถึงตอนดึกเลยไง อากาศดีมากนะ เดินขึ้นไปอีกหน่อยจะมีชั้นหินกว้างๆ เห็นว่าคืนนี้มีดาวตกด้วย ก็เลยกะว่าจะอยู่ดู แต่ถ้าไม่อยากดูจะกลับก็ได้ เพราะมันคงดึก”มันรีบเสริมเมื่อเห็นผมเริ่มย่นคิ้ว

“เหรอวะ”นี่พวกมันวางแผนกันไว้แล้วเหรอ ผมเริ่มอารมณ์ดีขึ้นมา ทิ้งตัวนั่งที่เบาะตามเดิม ก่อนจะหยิบเอากล้องมาเก็บบรรยากาศข้างทาง กว่าจะถึงแดดก็อ่อนแล้ว มีผู้คนอยู่บ้างประปราย ส่วนใหญ่มาปิกนิกกับครอบครัว

“แซนด์วิชที่มึงทำกินได้แน่นะ”ผมถามย้ำเมื่อเห็นแซนด์วิชของไอ้ภูในถุง หน้าตาก็พอดูน่ากินหน่อย

“แล้วแต่ กินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน”ไอ้ภูตอบกลับมาด้วยสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย

“พูดแค่นี้ก็งอน”

“กูไม่ได้งอน แค่บอกเฉยๆ อุตส่าห์ทำมาให้ยังมากวนตีนอีก”

“เออๆ ไม่พูดมากก็ได้”ผมยกมือยอมแพ้ก่อนจะเดินตามไอ้ตินขึ้นไปตามเนินหินก้อนใหญ่ มันเลือกมาเกือบบนสุดเลย คนไม่ค่อยจะมีแล้วด้วย เพราะส่วนใหญ่จะมากันตอนเช้าๆ แต่นี่พวกมันมากันตอนบ่าย ผมถึงได้บ่นไง

“ตรงนี้แดดร่ม ลมเย็นด้วย”ไอ้ตินทำหน้าพอใจ มันแกะเสื่อผืนเล็กก่อนจะวางกระเป๋าทับกันปลิว จู่ๆผมก็นึกไปถึงเมื่อตอนปีหนึ่ง ที่ผมพามันไปเที่ยวน้ำตก แล้วก็จบลงที่…..

“เฮ้ย พวกมึงนี่แผนสูงว่ะ”ผมมองหน้ามันสองคนสลับกัน ไอ้ภูกับไอ้ตินทำหน้างงๆก่อนจะหัวเราะออกมา

“ไม่ได้เหรอ”ไอ้ตินเอนมากระซิบใกล้ๆ ผมล่ะอยากทุ่มกระเป๋าใส่พวกมันจริงๆ

“พวกมึงนี่มัน….”ผมพยายามจะคุมสติตัวเอง เดี๋ยวจะเก้อเขินนัก ไม่น่ารู้ตัวก่อนจริงๆ

“ไม่ต้องห่วงน่า คนเยอะๆกูไม่กล้าหรอก”ไอ้ภูยิ้มแบบมีเลศนัย

“กูไม่ได้ห่วงเรื่องนี้เว้ย พวกมึงนี่ชอบทำกูแย่ตลอด”นี่ผมหลงกลพวกมันอีกแล้ว ตามพวกมันไม่ทันจริงๆ แล้วอีกอย่างน้ำตกแบบนี้ คงไม่เปิดให้ดึกขนาดนั้นหรอก

 “จะได้อยู่ดูหรือเปล่า”ผมพึมพำเบาๆ เดาว่าตอนนั้นผมอาจจะสลบเหมือดไปแล้ว

“กูเห็นด้านล่างมีส้มตำกับไก่ย่างขาย เดี๋ยวมา”ไอ้ภูผละลงไปด้านล่าง ผมเลยเอาพวกน้ำกับขนมคบเคี้ยวอื่นๆออกมา แต่พอเปิดขวดน้ำมาดมๆดู เบียร์นี่หว่า

“เอามามอมกูรึเปล่าเนี่ย”ผมหรี่ตามองไอ้ติน มันยักคิ้วหลิ่วตามาให้

“เอามาบิ้วเฉยๆ”

“ระดับกูไม่จำเป็นว่ะ”

“จริงอ่ะ”แต่ก่อนที่ไอ้ตินมันจะทำรุ่มร่ามกับผม ก็มีสาวๆมานั่งปิกนิกไม่ใกล้ไม่ไกล ผมก็ส่งยิ้มไปตามมารยาท จนไอ้ภูกลับมาพร้อมกับส้มตำและไก่ย่าง ผมก็เหงือกแห้งพอดี

“แจกยิ้มให้สาวหน้าบานเชียวนะ”ไอ้ภูหยิกเอวผมเบาๆ จากหางตาจะเห็นว่าสาวๆพวกนั้นมองไอ้ภูตาเป็นมัน กับไอ้ตินยังไม่ออกอาการเท่านี้เลย หรือสาวๆพวกนี้จะชอบผู้ชายลุคเลวๆ แต่ถ้ามองดีๆสาวๆบางคนก็ดูแสบใช่เล่น ใส่สายเดี่ยวโชว์รอยสักเสียด้วย แต่ไอ้คนถูกจ้องกลับนั่งแทะไก่ย่างไม่ได้สนใจเลยสักนิด

“สาวมองมึงอ่ะ”ผมสะกิดไอ้ภูก่อนจะพยักเพยิดไปยังกลุ่มสาวๆพวกนั้นที่เริ่มทำเสียงดัง เดาว่าคงแอบเอาเหล้ามาเหมือนกัน

“แล้วไง”มันตอบเสียงเมินเฉย ทำเอาผมยิ้มกว้าง กลับมาแย่งส้มตำกับไอ้ตินต่อ จะว่าไปสาวๆพวกนี้ก็เป็นอุปสรรคในการหื่นของมันสองคนเหมือนกัน พวกมันจึงทำได้แค่วางมือบนหน้าขาของผม และยังเนียนๆส่งเบียร์ให้ผมอยู่ตลอด   

“กูอยากกินตำคอหมูย่าง ซื้อให้หน่อยดิ”ผมใช้ไอ้ภูอีกรอบ มันทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ แต่ก็ยอมลงไปอยู่ดี แต่เมื่อไอ้ภูลุกไปปุ๊บ แม่สาวสายเดี่ยวก็รีบลุกตามไปทันที

“ไม่ห่วงเหรอ”ไอ้ตินถามเสียงล้อเลียน

“ไม่เท่าไหร่”ไม่รู้สิ ผมก็รู้อยู่แล้วว่าไอ้ภูมันไม่ค่อยคั่วผู้หญิง ผมก็ไม่เคยถามมันด้วยว่าเคยคบรึเปล่า แต่ผู้หญิงแนวๆนี้คงไม่ใช่แนวมันหรอก ไอ้ตินเหลียวซ้ายมองขวาก่อนจะดึงผมเข้าไปประกบจูบ กลิ่นส้มตำชัดๆ…แต่มันก็รีบผละออกทันที ผมก้มหน้าก้มตาแทะไก่ย่างเพราะไม่รู้ว่ามีคนเห็นช็อตเมื่อกี้รึเปล่า

“เชี่ยเอ้ย”ไอ้ภูกลับมาตัวเปล่า สีหน้าบูดบึ้ง และผมก็พอจะรู้สาเหตุเพราะแม่สายเดี่ยวเดินตามมาติดๆ ผมยกขวดน้ำบ้วนปากก่อนจะหาลูกอมมาดับกลิ่นส้มตำ (นี่ไม่ได้เตรียมพร้อมเลยนะ)

“ทำหน้าบูดหน้าบึ้งไม่น่ารักเลยนะ”ผมยื่นมือไปเขี่ยแก้มมัน ไอ้ภูเอนตัวออกห่างก่อนจะมองไปทางสาวๆกลุ่มนั้น แต่จู่ๆมันก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรออก แต่ผมกลับร้อนๆหนาวๆชอบกล

“ไอ้ภู…”และแน่นอนว่าผมมักจะเดาสีหน้าแบบนี้ของมันถูก ไอ้ภูรั้งใบหน้าของผมเข้าไปใกล้ ผมขึงตาใส่มัน แต่มันกลับยกยิ้ม ก่อนจะโฉบเข้ามาขบกัดริมฝีปากของผมเบาๆ เสียงหัวเราะจากสาวๆกลุ่มนั้นเงียบลงทันที ไอ้ภูผละออกไปแทะไก่ย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีแค่เสียงกลั้นขำมาจากไอ้ติน ผมแทบไม่กล้าเงยหน้ามองใครทั้งนั้น แต่ก็ดีเหมือนกันผู้หญิงพวกนั้นจะได้รู้เสียทีว่าส่งสายตามาก็ไม่มีประโยชน์

“ฟิก ไปเพื่อนเข้าห้องน้ำหน่อยดิ”ไอ้ตินสะกิด ผมย่นคิ้ว กะอีแค่ไปห้องน้ำ ทำไมมันไปคนเดียวไม่ได้ แต่พอเห็นหน้าแดงเรื่อๆเพราะฤทธิ์แอลกลอฮอร์ของมันก็พอจะเข้าใจ

“เอาจริงเหรอวะ”ผมกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ แต่ไอ้ภูรีบคว้าอะไรบางอย่างใส่กระเป๋าก่อนจะเดินนำหน้าไป ทีเรื่องแบบนี้นี่ไวกันจริงๆ

“เอาจริงดิ”ไอ้ตินทำตาวิบวับใส่ ผมเลยคว้าลูกอมมายัดใส่ปากมัน ก่อนจะเดินตามไอ้ภูไป หวังว่าสาวๆพวกนั้นคงไม่แอบตามมาหรอกนะ เฮ้ย แต่คงไม่มีใครโรคจิตขนาดนั้นหรอก ต้องโทษส้มตำ ผมเมาส้มตำเลยกล้าทำอะไรบ้าบิ่นแบบนี้ ห้องน้ำมีแบบแยกเป็นห้องอาบน้ำล้างตัว และแน่นอนว่าไอ้ตินมันรีบดันตัวผมเข้าไปในห้องอาบน้ำทันทีพอปิดประตูลงกลอนได้พวกมันก็รีบเข้ามาดึงเสื้อผมออกทันที

“เบาๆนะเว้ย”ผมแอบกลัวคนจะเข้ามาได้ยินจริงๆ ในระหว่างที่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ริมฝีปากของทั้งคู่ก็เริ่มจู่โจม ขบกัดไปตามร่างกาย ปลายลิ้นของไอ้ภูวนเวียนอยู่แถวๆสะดือจนผมต้องแขม่วพุงไม่รู้กี่รอบ

“อย่าหลับตา”ไอ้ตินกระซิบเบาๆ ก่อนย้ำจูบไปตามซอกคอ

“กูอาย”พูดแล้วก็หน้าร้อนขึ้นมา

“ยังจะอายอีกเหรอ”ไอ้ภูหัวเราะเบาๆ ฝามือหนาเล้าโลมที่จุดอ่อนไหวที่กำลังก่อตัวตามแรงอารมณ์ ผมผ่อนลมหายใจออกช้าๆ ระหว่างที่รู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่บนฟองอากาศ เสียงหอบเครือของอีกสองคนดังแว่วเข้ามา สัมผัสลื่นๆและแข็งขื่นแทรกเข้ามาในตัวจนต้องปล่อยเสียงครางออกมา หลังจากนั้นก็ดำเนินไปอย่างทุลักทุเล ทุลักทุเลจริงๆเพราะกลัวว่าจะมีคนเข้ามาก็เลยไม่ถึงฝั่งกันสักคน

“แผนวันนี้ล่มหมด”ไอ้ตินบ่นขำๆ ระหว่างที่พากันลงมาจากชั้นน้ำตก ไอ้ภูอยากดูดาวตกขึ้นมาก็เลยต้องย้ายที่ไปยังที่ตั้งแคมป์ จะมีลานหญ้ากว้างๆไว้สำหรับตั้งเต้นท์ตรงนั้นจะเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

แต่ถึงจะล่ม อย่างน้อยพวกมันก็แคร์ผมมากกว่าอารมณ์หื่นของพวกมัน ผมกลัวจะมีคนเข้ามาใช้ห้องน้ำแล้วมาได้ยินเข้า ก็เลยไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่วมสักเท่าไหร่ พวกมันสองคนก็คงจะรู้ ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุนี้หรือเปล่ามันสองคนจึงล่มพอๆกับผม

“กูว่าพวกมึงต้องงดไอ้เรื่องหื่นลงบ้างแล้วว่ะ เห็นไหม ใกล้จะเสื่อมสมรรถภาพกันแล้ว”

“งั้นมึงคงเสื่อมก่อนพวกกูอีกว่ะ ปิ๋วก่อนคนแรก”ไอ้ภูทำหน้าตึงๆ มันผลักจนผมเซแถดๆเพราะหอบหิ้วของมาด้วย

“พอๆเลิกพูดเรื่องนี้”ไอ้ตินเข้ามาห้ามทัพ มันเองคงไม่อยากจะเสวนาถึงเท่าไหร่ หลังจากที่เลือกมุมได้แล้ว ผมก็นอนกลิ้งบนผืนหญ้าทันที กลิ่นธรรมาตินี่มันชื่นใจจริงๆ

“นอนก็ระวังๆบ้าง เจอขี้หมากูจะหัวเราะให้ฟันหลุด”ไอ้ภูขัดจังหวะชื่นมื่นของผมอีก

“กูทำมาให้ก็กินดิ เหลืออีกสองอัน พวกมึงเอาไปแบ่งกัน”ผมกำลังงงว่าไอ้ภูพูดถึงอะไร มากระจ่างก็เมื่อมันเอาแซนด์วิชยัดปากผมนี่แหละ เหลือบมองไอ้ตินเห็นมันจำต้องเคี้ยวแซนด์วิชทูน่าของไอ้ภู

“กูขอถามพวกมึงสองคนเลยนะ ว่าเคยคบกับผู้หญิงนานสุดเท่าไหร่”ผมมองหน้าคนข้างๆสลับไปมา

“อืม…”ไอ้ตินทำหน้าครุ่นคิด

“สักห้าเดือนได้ แต่กูโชคร้ายด้วยแหละ ก็เลยโดนหักอก”อย่างไอ้ตินเนี่ยนะ

“แล้วมึงล่ะ”ผมหันไปถามไอ้ภูบ้าง

“กูไม่เคยคบแบบจริงจังนะ ตอนนั้นแค่….”ผมพยักหน้าเข้าใจทันที ไม่ต้องรอให้มันพูดจบหรอก

“กูถามอีก แล้วผู้ชายคนแรกที่มึงคบด้วยล่ะ”

“กูน่ะนะ ตอนนั้นสักม.ห้าได้ แต่ป่านนี้มันคงมีใหม่เป็นสิบแล้ว”ไอ้ภูตอบเสียงเรื่อยๆ

“แล้วมึงรักมากไหมวะ”คนอย่างไอ้ภูไม่เคยคบซ้อนไง ไม่รู้ว่าตอนนั้นมันจะรู้สึกแบบไหน

“มึงคงเข้าใจคำว่าความรักแบบเด็กๆใช่ไหม ในตอนนั้นใครๆก็คิดว่ามันจะยืนยาวตลอดไปนั่นแหละ แต่อดีตก็คืออดีต ถ้ากูเจอมันอีกครั้ง กูก็ไม่หวั่นไหวอะไรทั้งนั้น กูรู้ว่ามึงจะถามต่อ”ไอ้ภูเสริมพร้อมรอยยิ้มรู้ทัน ผมหันไปมองไอ้ตินบ้าง มันเองก็ไม่ใช่ประเภทเจ้าชู้ด้วย

“ผู้ชายคนแรกของกูไม่มีอะไรให้จำหรอก ช่วงนั้นเป็นช่วงวัยคะนองก็อยากลองไปเรื่อย”ผมถึงบางอ้อ แบบนี้ค่อยเบาใจหน่อย จะได้ไม่มีกรณีเจอคนรักเก่าแล้วสับสนในตัวเอง แต่ถ้ามีล่ะก็ผมจะตบหัวให้หายสับสนเลยคอยดู

หลังจากที่ถ่างตารอมานานแสนนาน ผมก็ได้เห็นดาวตกพร้อมๆกับพวกมันสองคนเป็นครั้งแรก

“มึงเชื่อเรื่องคำอธิฐาษไหม”ไอ้ตินกระซิบใกล้ๆ มือสอดเข้ามาลูบพุงผมเล่น

“ไม่รู้ดิ”

“แต่กูไม่เชื่อ”ไอ้ภูพลิกตัวมามองหน้าผม ใต้ท้องฟ้ากระจ่างแบบนี้ผมเห็นแววตาที่ทอดมองมายังผมแล้วรู้สึกอิ่มเอมใจขึ้นมา

“เหรอ แต่บางครั้งผมก็เชื่อนะ”นิ้วมือเย็นๆมันวนลูบใกล้สะดือและมีแววว่าจะต่ำกว่านั้น ผมจึงตะปปมือมันออก

“อย่าซน”

“ทำไมกลัวเหมือนเมื่อในห้องน้ำเหรอ”มันถามเสียงขบขัน ผมถึงกับถอนหายใจพรืด

“นั่นมันเหตุสุดวิสัย”   

“จริงเร้อ อย่างนี้ต้องพิสูจน์”ไอ้ภูขยับเข้ามากระซิบใกล้ๆ

“อะไรนะ”ผมขมวดคิ้วมองหน้ามันงงๆ

“กูเช่าเต้นท์ไว้แล้ว”ไอ้ตินพึมพำขึ้นมา

“พร้อมไหม”ไอ้ภูหัวเราะหึๆ ไอ้พวกนี่แม่งงง รู้ใจผมจริงๆ เอ้ย ไม่ใช่ พวกมันนิสัยไม่ดีจริงๆ!
 
 

TBC.
มาอัพเสียที! คิดถึงสามหน่อล่ะซี้ ตอนนี้ไม่มีNCเนอะ ขอโต้ดจริงๆ เขียนไม่ออกค่ะ แค่รู้ว่าสามหนุ่มจัดเต็มหลังจากที่รอบแรกล่ม
ส่วนตอนของว่านจะแยกไว้เป็นตอนพิเศษเนอะ เรื่องเคลียร์กันของภูกะตินก็จะอยู่ในพาร์ทนี้ด้วย
เจอกันตอนหน้าค่ะ จะพยายามอัพให้เร็วกว่านี้เนอะ :กอด1:


หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 24-11-2015 18:24:52
พี่ภูหื่นไม่ออกนี่เป็นเรื่องช็อกมากค่ะ 555555555555555
แต่เข้าใจว่าสถานที่มันไม่ให้จริงๆ 555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 24-11-2015 18:31:23
ชอบบบบบ ยิ่งอ่านยิ่งหลงสามหน่อ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 24-11-2015 18:42:25
คิดถึงสามหน่อ สกิลความหื่นของตินกับพี่ภูนี่ไม่มีลดเลยนะ

จบเรื่องว่านแล้ว จะมีเหตุอะไรมาป่วนฟิกอีกมั้ยหนอ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 24-11-2015 18:49:31
งือออ เคลียร์เรื่องว่านไปได้ก็โล่งใจไปเปราะนึง ได้รู้พาร์ทฝั่งพี่ภูสักทีว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่ก็ไม่ได้เกร็งเท่าไหร่เพราะรู้ว่าคนอย่างพี่ภูคงเอาอยู่นั่นแหละ ฟิกนี่แอบหึงตินแบบจริงจังมากอะ ฮ่าๆๆๆ แล้วพอเคลียร์เรื่องคาใจกันไปต่อมหื่นของสองหนุ่มนี่ก็ทำงานเลยนะวางแผนกันมาซะดิบดีเลย อย่างที่ฟิกบอกว่าพอเรื่องแบบนี้ละเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยแถมยังไวตลอด สามหนุ่มได้เปลี่ยนบรรยากาศกันแบบนี้เราคนอ่านก็สบายใจ  :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-11-2015 19:01:33
เรื่องหื่นๆไว้ใจสามคนนี้ได้เลย  :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Zxjmm ที่ 24-11-2015 19:05:54
หลุดขำเรื่องคุณมัดมาก55555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Noah ที่ 24-11-2015 19:29:27
ว่านต้องไปทำอะไรแก๊งแน่เลย รู้สึกได้ สงสารแก๊งซะแล้วสิ เฮ้อ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 24-11-2015 19:30:02
ฟิกมันงี่เง่าได้น่ารักดีวะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-11-2015 19:41:40
ฟิกเกรียนได้สะใจมาก
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ สงสารสามหน่อจัง. ว่าแต่ในเต้นท์คงหายค้างอะเนอะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 24-11-2015 19:49:32
ชอบจูบรสสัมตำกับคุณมัด ฟิกนี่ทันกระแสตลอด
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 24-11-2015 20:10:26
นึกว่าพี่ภูจะเสื่อมจริงๆ 5555+ แต่คงความหื่นเต็มตุง เอ๊ย เต็มอัตราสิน่ะ ตินก็ใช่ย่อย ฟิกเอ๊ย งดนานเกิน ก้นระบมแน่ 55555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 24-11-2015 21:24:27
ภูกับตินเตรียมพร้อมสุดๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 24-11-2015 21:50:34
ไอ่พี่ว่านน่าจะอยากคบกับตินแบบจริงจัง
ถึงขนาดหาตัวแทนมาใช้แทนติน
แต่ไม่ใช่ ไม่เหมือน
หุหุ

ยังไงๆ มันก็ใช่แค่ ภู+ฟิก+ติน
คนอื่นอย่าพยายามเสนอหน้ามายุ่งเกี่ยว
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 24-11-2015 21:51:29
ฟิกนี้เกรียนจริง ขอบคุณค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 24-11-2015 22:28:42
ตอนนี้มากันแบบเบาๆ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 24-11-2015 22:40:54
คนที่ว่านใช้แทนตินนี่เราว่าแก๊งค์นะ
ถึงได้แค้นปานนี้
นานๆทีฟิกจะหึง
ภูเจอชะนีหื่นหายเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 25-11-2015 09:28:37
คิดถึงงงงงงงงงงงงมากกกกกกกกกก  :mew1:  ดีใจที่จบเรื่องด้วยดีไม่มีใครต้องเจ็บหนักทางฝ่ายสามหน่อ มีแต่อีกฝ่ายที่น่วม สม อยากมาทำเมียสองเฮีย โดยเฉพาะพี่ภู เมียกูอยู่ไหน  :m20: ความรักมันบังคับกันไม่ได้ ว่านรักติน แต่ตินรักแบบพี่ ต่อให้ได้ตัวไปแต่ไม่ได้ใจก็ไม่มีค่า ยกเว้นตินจะไม่มาเจอฟิก อาจจะตอบรับได้ แต่โชคชะตาลิขิตแล้วว่าไม่ใช่คู่กัน เราว่าว่านไม่ได้จะทำร้ายตินหรอก แค่เสียใจ เสียความรู้สึกที่ตินทิ้งพวกตัวเองไป แบบหนีเอาตัวรอด เลยทั้งรักทั้งแค้น แต่รักมากกว่า อยากให้ตินมาขอโทษ มาอธิบายไม่ใช่เงียบเฉย  ส่วนเรื่องแก๊ง คง โดนว่านใช้เป็นตัวแทนตินไม่แปลกถ้าจะเจ็บแค้นและเอาคืน ว่านต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองก่อไว้ จัดการให้เรียบร้อยซะ คือ ไปสู่ขอมาเป็นผัวจริงๆซะ จะได้จบๆ  :laugh:  แต่น่าสงสารสามหน่อ โดนมารชะนีขัดขวางทำให้บิ้วไม่ออก แต่ยังดีมีแผนสำรอง ตอนหน้าจัดด้วยนะคนเขียน  :haun4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-11-2015 09:47:13
ฟิกอะไรคือการที่จะให้คุณมัดมาตามจองเวรว่าน :m20:
จูบรสส้มตำ ว่าแต่เราอยากมุดเต้นท์ดูจัง :oo1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๓ ว่าน ครึ่งหลัง] 24-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 25-11-2015 10:06:25
คิดเหมือนข้างบนเลย ว่าคนที่แทนติน คือแก๊ง

แก๊งถึงได้แค้นเอามีดเสียบพุง

ภูกับตินอยากเล่นเอ้าดอร์หรือ 555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 25-11-2015 12:50:19


SP’ ลอยกระทง







~วันเพ็ญเดือนสิบสองน้ำก็นองเต็มตะลิ่งเราทั้งหลายชาย หญิงสนุกจริงๆวันลอยกระทงง~





เสียงเพลงที่คุ้นเคยดีดังอยู่รอบตัว ผู้คนเนืองแน่นเบียดเสียดเดินกันขวักไขว่อยู่บนถนนที่แปรสภาพเป็นงานลอยกระทงขึ้นชื่อของจังหวัดตาก ลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวงนั่นเอง ปีนี้มันสองคนชวนผมมาลอยกระทงเสียไกล ซึ่งสองปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้คิดว่าจะลอยเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้ปีนี้มันนึกพิสดารอะไร

“คนเยอะ”คำบ่นของไอ้ภูดังแทรกเสียงเพลงขึ้นมา ใบหน้าคมเข้มขมวดมุ่นมากกว่าเดิม มันออกจะหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย

“อย่าเครียดๆกินนี่ดีกว่า”เพื่อไม่ให้มันอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ ผมจึงจิ้มลูกชิ้นปิ้งไปจ่อปากมัน แต่จิ้มหมิ่นเหม่ไปหน่อยเมื่อมันอ้า
ปากจะงับลูกชิ้น ไอ้ลูกชิ้นนั่นก็ร่วงตกพื้นทันที มีเสียงหัวเราะของไอ้ตินเป็นแบ็คกราวน์

“งั้นไปเดินเล่นตรงสะพานแขวนกันก่อนดีกว่า คนน้อยแล้วค่อยเดินดูงานกัน”ไอ้ตินเสนอ ผมก็เห็นด้วย ไอ้ภูเดินหน้าตึงตามมา

“กินน้ำมะพร้าวไหม”ไอ้ตินยื่นหลอดมาให้

“เอาไว้ล้างหน้าตัวเองเถอะ”

“อ้าว กวนอีก”มันตีหน้านิ่งมองผม

“ก็อยากให้อารมณ์ดีไง”ผมกลั้นขำเต็มที่ก่อนจะเดินนำไปที่สะพานแขวน สะพานแขวนที่ว่าเป็นสะพานข้ามแม่น้ำปิงเพื่อข้ามไปอีกฝั่งก็ไม่ไกลมากนักหรอก แถมสะพานนี่ก็เก่าแก่อายุกว่าร้อยปีด้วย ตอนแรกก็คิดว่าสะพานจะพุ แต่เขาซ่อมแซมเพื่อความสวยงามแล้ว บนสะพานมีมุ้งลวดกั้น หลอดไฟหลากสีประดับสวยงาม มองจากตรงนี้จะเห็นเวทีกลางน้ำที่ใช้แสดงแสงสีประกอบการลอยกระทงกะลาพันใบ ส่วนใหญ่จะมีคู่รักมาเดิน มานั่งเล่นมากกว่า ผมเหลียวมองสองคนด้านหลัง สีหน้าของพวกมันดูจะโอเคขึ้นแล้ว

“มานั่งตรงนี้”ผมนั่งลงบนพื้นสะพาน ตบที่ว่างข้างตัวให้อีกสองคนมานั่งด้วย พวกมันก็ตามมาอย่างว่าง่ายเชื่อฟัง

“อากาศดีว่ะ”ไอ้ภูพึมพำ เอนพิงไหล่ผมพลางหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูป

“รอดูกระทงกะลาก่อนนะ”ไอ้ตินพึมพำอยู่ข้างๆ ในมือถือแผ่นผับไว้ ผมชะโงกหน้าไปดูบ้าง อีกไม่นานก็จะมีการแสดงและปล่อย
กระทงกะลาแล้ว เป็นการแสดงของแต่ล่ะชุมชน มาแข่งกันอะไรเทือกๆนี้ เสียงพลุดังสนั่นจนผมสะดุ้งโหยง และกระทงกะลาพันใบก็ค่อยๆถูกปล่อยระหว่างที่การแสดงเริ่ม แสงวิบวับจากกระทงกะลาในผืนน้ำก็สวยดี และมันก็ลอยเป็นสายจริงๆด้วย ไอ้ตินเอากล้องมาถ่ายตั้งเมื่อไหร่ไม่รู้

“กูว่าไปหากระทงกะลาแบบนี้มาลอยดีกว่าว่ะ”ไอ้ภูพยักเพยิดไปยังแม่น้ำที่มีแสงวิบวับเต็มไปหมด

“มีขายเหรอ”

“ไม่รู้ ก็ลองไปดูก่อน”ผมเหลียวมองรอบตัวก่อนจะสะกิดไอ้ติน มันชะงักการเก็บภาพบรรยากาศก่อนจะหันมามองผม

“มีอะไร”

“ถ่ายรูปให้กูหน่อย”ผมขยับเสื้อให้เข้าที่ พับชายกางเกงยีนส์ขึ้นมาเหนือข้อเท้าเล็กน้อย ก่อนจะย้ายตัวเองไปยืนหล่ออยู่กลาง
สะพาน

“เฮ้ย ขวางทางคนอื่นเขา”ไอ้ตินรีบพูด

“ก็รีบๆถ่ายดิวะ”ผมพยักหน้าส่งสัญญาณให้มันเริ่มถ่ายได้ แต่สงสัยมันจะกลัวคนด่าเพราะมันรีบเสียจนหลุดโฟกัส

“เอาใหม่ดิ ไม่มีใครเขาว่าหรอก”ผมพูดอย่างมั่นใจ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับหนุ่มๆวัยรุ่นที่ยืนมองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ไอ้ภูกระแอม
กระไอแทรกมา กว่าจะได้รูปสวยๆ หน้าหล่อๆ ก็เสียเวลาตั้งนาน

“แค่นี้พอ คนมองแล้ว”ไอ้ตินเก็บกล้อง ส่งยิ้มขอโทษขอโพยไปรอบตัว

“เออ ตอนแรกกูกะจะไปนั่งกลางถนนด้วยซ้ำ แต่คนเยอะจัด เลยต้องเปลี่ยนความคิด”ไอ้ตินส่ายหน้าระอาๆก่อนจะดึงผมกลับมานั่งที่เดิมเพราะคนเดินสวนไปมา

“ถ่ายรูปกัน”ไอ้ภูแชะภาพทั้งๆที่ผมกับไอ้ตินยังไม่ทันได้ตั้งตัวอะไรเลย แล้วมันก็เอารูปนั้นไปเรียกยอดไลค์

“ดูดีอยู่คนเดียว แม่งขี้โกง”ไอ้ตินพึมพำอย่างหงุดหงิดเมื่อมันเห็นรูปที่ไอ้ภูแท็กมาให้ ไอ้ตินไม่เท่าไหร่ แต่หน้าผมนี่สิ เบลอ
เหลือเกิน ทุเรศมาก แถมแคปชั่นของมันก็หลงตัวเองสุดๆ

‘กูหล่อสุด’เหรอ อยากจะอ้วก”ผมทำท่าโก่งคอใส่มัน รูปนี้ทำร้ายผมเกินไป ผมจึงจัดการลบแท็กออก

“เออ ที่ม.เราจัดงานลอยกระทงด้วยใช่ไหมวะ”เชื่อไหมว่าผมไม่เคยไปเที่ยวเลยสักปี ตอนปีหนึ่งถูกจักเดินขบวนแต่ผมก็โดดออกมาได้อย่างแนบเนียนโดยการส่งไอ้ชายไปแทน หลอกมันว่ารุ่นพี่สวยๆอยากเดินคู่กับมัน

“จัดดิ มึงรู้ไหมกูถูกทาบทามให้ไปนั่งคู่กับนางงามด้วยนะ”ไอ้ตินพูดด้วยเสียงเซ็งๆ

“ทำอวด กูก็เคย เมื่อตอนละอ่อน”ผมอวดบ้าง ไม่เคยหรอก หนังหน้าผมยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ดูเหมือนปีนี้น้องเพชรเดือนคณะจะได้ใจแม่ยกไปหลายคน

“กูก็เคยนะ”ไอ้ภูรำลึกความหลังบ้าง

“อย่างมึงเนี่ยนะ”ผมทำเสียงไม่เชื่อ

“เออ อย่างกูมันทำไม กูไม่หล่อเหรอ ถามจริง”ไอ้ภูมันหันมาทำหน้าจริงจังใส่

“หล่อมากกก”ผมลากเสียงยาวๆเพื่อยืนยันคำพูดของตัวเอง แต่มันทำหน้าตึงๆ ผมเลยหยิบโทรศัพท์หารูปของมัน ขุดไปขุดมาก็เจอรูปเมื่อสมัยมันอยู่ปีหนึ่ง หน้าใสกว่าตอนนี้มาก ผมเหลียวมองรอบตัว มันสองคนไม่ได้สนใจผมแล้ว จึงกดเซฟรูปไอ้ภูทันที รูปสมัยปีหนึ่งมีแค่รูปนี้รูปเดียว นอกนั้นมันไม่ได้ถ่ายไว้เลย ส่วนใหญ่จะมีแต่รูปมุมคณะมัน ไม่ก็รูปเกียร์ รูปเสื้อ รูปรุ่น บลาๆ ขุดไปเรื่อยๆผมก็เจอภาพที่พี่ปาแท็กมาให้มัน เป็นรูปที่มันแต่งตัวย้อนยุค เครื่องจัดเต็ม นั่งข้างๆกับผู้หญิงสวยๆ ผมเอาศอกใส่ไอ้ตินก่อนยื่นโทรศัพท์ไปให้มันดู

“หืม…ไม่ได้โม้จริงๆด้วย”แล้วผมกับมันก็สุมหัวเราะกันอยู่สองคน จนเจ้าตัวเริ่มรู้สึกได้

“หัวเราะเหี้ยอะไรกัน”สีหน้ามึนตึงของมันนั่นล่ะที่น่าขำ

   “มึงแต่งแบบนี้ก็หล่อนะ”ผมโชว์รูปให้มันดูพร้อมกับไล่กดไลค์เพื่อขุดรูปมัน

“ไอ้ฟิก กวนตีนว่ะ มึงโดนแน่”มันยิ้มชั่วก่อนจะกดโทรศัพท์ของตัวเอง ผมมองฟีดข่าวด้วยใจเต้นตึกตัก ไอ้ภูมันเอารูปตอนที่มัน
แอบถ่ายผมมาลง แต่ละรูปพีคๆทั้งนั้น

“พอๆเล่นอะไรไร้สาระ”

“มึงเริ่มก่อนเอง”

จากนั้นผมกับมันก็สงบศึกเพราะคนเริ่มมาเดินเยอะจนหนาตา พวกผมเลยข้ามไปเดินเล่นอีกฝั่ง คนน้อยกว่ามาก เงียบและมืดจริงๆเหมือนตรงนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้เที่ยว มีแค่ร้านค้าข้างทางไม่กี่ร้าน

“ไปซื้อกระทงมาลอยกัน ร้านนั้นขาย”ไอ้ตินกระตุกมือผมให้เดินตาม เป็นร้านเล็กๆ มีกระทงหลายแบบ ขนมปัง กระทงใบตองสวยงาม และกระทงกะลาสวยงาม ใช้ดินปั้นเป็นรูปต่างๆเกาะตามขอบกะลาแล้วทาสีทอง สวยดี เป็นของที่ระลึก แต่ไอ้ภูกับไอ้ตินมันซื้อเพื่อไปลอย มันซื้อกระทงกะลาอันล่ะสี่ร้อยกว่าบาทเพื่อลอยน้ำ

“เอาจริงอ่ะ”ผมถามมันอีกครั้งเมื่อเห็นราคา

“อือ สวยดี”ไอ้ตินตอบด้วยสีหน้าจริงจัง

“ซื้อแค่อันเดียวก็พอ”ผมรีบห้ามเมื่อเห็นมันจะหยิบมาอีกสองใบ

“งก”เสียงไอ้ภูแว่วมาให้ได้ยิน

“ก็ลอยด้วยกันไง กูมีของบางอย่างมาด้วย”มันสองคนทำหน้าสงสัย แต่ผมยังไม่บอก เดินนำไปยังริมหาดทรายแม่น้ำปิง มีจุดให้ลอยกระทงอยู่ด้วย คนยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ส่วนมากไปอยู่ฝั่งนู้นกันหมด ผมค่อยๆหยิบของบางอย่างออกมาจากเป้ ไอ้ภูกับไอ้ตินมองด้วยท่าทางลุ้นๆเหมือนเด็ก

“อะไรวะ”ไอ้ภูถามเมื่อเห็นผมหยิบเอาหุ่นเล็กๆที่ปั้นจากแป้งข้าวเหนียว ขนาดเท่านิ้วโป้งเป็นหุ่นผู้ชายสามคน สมัยเด็กๆตอนที่ผมอยู่กับแม่ เวลามีเทศกาลลอยกระทงแบบนี้ ที่บ้านจะปั้นหุ่นให้ครบตามสมาชิกในครอบครัว ตอนนั้นผมจำได้ว่าปั้นหมาใส่ไปด้วย แต่ไม่ได้ใช้กระทงลอย ใช้เปลือกหยวกกล้วยแข็งๆมาทำเป็นมุมสี่เหลี่ยมเอาไม้เสียบเป็นพื้น เอาธงติดรอบด้วย จากนั้นก็จะเอาไปลอยน้ำ คงเป็นการปล่อยเคราะห์ปล่อยโศกอย่างหนึ่งล่ะมั้ง ผมก็ไม่เคยถาม

“หุ่นพวกมึงไง มองไม่ออกเหรอ หน้าบึ้งๆนี่คือมึงไงภู ส่วนไอ้ที่ยิ้มๆคือมึง”ผมอธิบายให้มันสองคนฟังก่อนจะวางหุ่นทั้งสามลงในกระทงกะลา

“แล้วเวลาเทียนมันละลายจะทำไง”ไอ้ตินถามเสียงกังวลเพราะกระทงกะลาจะใช้เทเทียนลงไปในกะลาเกือบครึ่งนึงเลย มีตีนกา
ปักอยู่ตรงกลาง

“ช่างมันเถอะ แค่ให้มันลอยไปด้วยกันก็พอ”มันสองคนมองหน้าผมด้วยรอยยิ้ม

“เข้าใจคิดเหมือนกันนะ”ไอ้ภูหัวเราะเบาๆก่อนจะหยิบไฟเช็คออกมาจุด

“เดี๋ยวๆ ผมขออธิษฐานก่อน”ไอ้ตินหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าเนือยๆของไอ้ภู ก็มันไม่เชื่อเรื่องทำนองนี้นี่นะ แต่ผมไม่อยากให้ไอ้ติน
เก้อเขินเลยนั่งลงข้างๆไอ้ตินอธิษฐานเป็นเพื่อนมัน ไอ้ภูจำต้องนั่งลงด้วยสีหน้าตลกๆ

“เป็นครั้งแรกเลยนะที่กูทำแบบนี้”

“เออน่า อธิษฐานเพื่อกูไง”

“หืม”ทั้งไอ้ภู ไอ้ตินหันมามองผมเป็นตาเดียว เฮ้ย นี่ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย น่าอายจริงๆ ผมหลับตาลงเพื่อกลบเกลื่อนอาการแปลกๆของตัวเอง แต่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าพวกมันสองคนยังคงมองผมอยู่ด้วยสายตาหยาดเยิ้ม นี่ถ้าอยู่บนเตียง ผมคงเสร็จพวกมันแน่ๆ

“มองอะไร จุดไฟดิ”ผมกระแอม ไอ้ภูเลยจัดการเอามือป้องลม จุดไฟอย่างทุลักทุเล เมื่อไฟลุกแล้วก็ต้องรีบปล่อยลงแม่น้ำเพราะเปลวไฟลุกโชติเลย ผมกับมันสองคนนั่งมองกระทงกะลาลอยไปไกลจนเห็นแต่แสงเล็กๆไกลๆ

“รู้สึกมีไฟบ้างรึเปล่า”ไอ้ตินหันมาถามด้วยนัยน์ตาแพรวพราว

“ไฟอะไรของมึงวะ”ผมรีบลุกบิดเนื้อบิดตัว โชคดีที่มีคนมาลอยกระทงก็เลยไม่มีอาการกระอักกระอ่วนเกิดขึ้นแต่อย่างใด


RRRRR

“ใครโทรมา”ไอ้ภูถามทันทีเมื่อเห็นผมหยิบโทรศัพท์ออกมาดู แต่เจ้าของชื่อกลับทำให้ผมแปลกใจเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

“พี่มิน”พี่แว่นของผมหายหน้าหายตาไปนานจริงๆ ไอ้ภูชักสีหน้าทันทีเมื่อรู้ว่าเป็นใคร

“ว่าไงพี่ หายไปนานเลยนะ”ผมทักด้วยน้ำเสียงดีใจ ข้างห้องมันว่าง จะว่าไปก็เหงาที่ไม่มีคนคอยป่วนประสาท

[คิดถึงล่ะซี้] พี่มินตอบกลับพร้อมหัวเราะ ผมย่นคิ้วเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างแทรกมาด้วย

“พี่อยู่ที่ไหนอ่ะ”เพราะผมได้ยินเสียงเพลงเดียวกันกับที่เปิดอยู่ที่อีกฝั่งเลย

[ให้ทาย] ยังมาทำเสียงระรื่นอีก ผมหันไปมองไอ้สองตัวที่ยืนมองอยู่ไม่ห่างก่อนจะยกนิ้วให้สี่นิ้วเพื่อบอกว่าขออีกสี่นาที แต่ไอ้
ตินชูสองนิ้วขึ้นมาแทน ไอ้นี่ก็เป็นไปกับไอ้ภูด้วยเหรอ หวงไม่เข้าเรื่อง

“งานลอยกระทง?”

[ที่ไหนเอ่ย] น้ำเสียงระรื่นของอีกฝ่ายทำให้ผมรู้เลยว่าพี่มินอยู่งานเดียวกันกับผมแน่ๆ

‘เสร็จหรือยัง’

เสียงดุๆดังแว่วมา ผมยิ้มออกเมื่อจำได้ว่าเจ้าของเสียงนี้คือใคร

“โห คบกับพี่พิสยืดเหมือนกันนะ”

[แน่นอน แล้วฟิกล่ะ มากับสองคนนั่นหรือเปล่า]

“ไม่น่าถาม ของมันแน่อยู่แล้ว”

[ยืนจ้องตาเขม็งเลยล่ะสิ] พี่มินหัวเราะเบาๆ

“พี่อยู่ตรงไหน”

[ลานเบียร์ มาหาพี่สิ คิดถึ๊งคิดถึง] ผมหลุดยิ้มออกมาเพราะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างแว่วมา แต่ก็ต้องรีบหุบเมื่อเห็นไอ้ภูชี้หน้าผมอยู่

“เออๆ งั้นเดี๋ยวแวะไป เจ้าที่เรียกแล้ว”

[โอเค ๆ แต่พี่ไม่หวังหรอกนะ เจ้าที่ดุตั้งสองคน อาจจะไม่ได้มาหาพี่ก็ได้] พอวางสายจากพี่มินปุ๊บ พวกมันก็ยิงคำถามแทบจะทันที

“มันอยู่ที่งานเหมือนกันเหรอ”ไอ้ภูถามคนแรก

“อือ มากับพี่พิส”ผมยกชื่อรุ่นพี่อีกคนขึ้นมา เพื่อให้พวกมันเบาใจ ไอ้ตินระบายยิ้มออกมาในที่สุด

“จะไปหาเหรอ ไปก็ได้นะ ไม่ได้ว่า”แน่ล่ะซี้ ผมเหลือบมองไอ้ภูอย่างขอความเห็น มันก็พยักหน้าส่งๆมาให้

“แต่แวะดูงานก่อนนะ ถ้ามันรอได้ ก็ให้รอไป”ไอ้ภูก็ยังคงเป็นไอ้ภู ไม่รู้ไปเหม็นขี้หน้าพี่มินอะไรนักหนา หลังจากที่เดินข้ามมาที่ฝั่งเดิมแล้ว ผมกับพวกมันก็เริ่มเดินเที่ยวในงาน ส่วนใหญ่ก็หมดเงินไปกับของกิน ไม่ก็ซุ้มปาโป่ง ไอ้ภูกับไอ้ตินปาโดนเกือบหมดได้ตุ๊กตามาตัวเบ่อเริ่ม แต่ผมไม่เอา เพราะไม่รู้จะหิ้วกลับยังไง แต่พี่เจ้าของร้านบอกว่าให้ย้อนกลับมาเอาทีหลัง

“ไปนั่งชิงช้าสวรรค์กันป่ะ”ห๊ะ นี่ผมหูฝาดหรือเปล่าวะเนี่ย ผมกับไอ้ภูเหลียวมองไอ้คนพูดคอแทบหัก

“เฮ้ย นี่มึงกี่ขวบแล้ววะ”ไอ้ภูย่นคิ้วแบบไม่เห็นด้วยนัก ผู้ชายตัวโตๆสามคนมานั่งชิงช้าสวรรค์นี่คงดูไม่จืดแน่

“ผมแค่อยากถ่ายรูปเฉยๆ แต่ถ้าไม่ไปก็เดินเล่นแถวนี้ก่อนก็ได้นะ ผมไปซื้อตั๋วก่อน”ผมมองหน้าไอ้ภูเพื่อปรึกษาว่าจะเอายังไง

“มึงเอาไง”ไอ้ภูก้มมากระซิบ

“ตามใจมันหน่อยแล้วกัน”ไม่อยากให้มันนั่งคนเดียว เดี๋ยวมันจะงอน ถึงจะไม่เคยเห็นมันในโมเมนต์นั้นก็เถอะ ผมเดินไปสะกิดมัน

“ซื้อให้กูกับไอ้ภูด้วย”ไอ้ตินหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าตึงๆของไอ้ภู ผมเหลือบมองรอบๆ เด็กๆต่างก็มองพวกผมเป็นตาเดียว จำไม่ได้ด้วยว่าครั้งสุดท้ายที่นั่งชิงช้าสวรรค์นั้นเกิดขึ้นตอนไหน ผมนั่งลงข้างๆไอ้ติน ส่วนไอ้ภูก็มองนู่นมองนี่เหมือนคนไม่เคยขึ้น จนเมื่อกระเช้าค่อยๆเคลื่อนขึ้นสูง มันก็ก้มมองวิวเบื้องล่าง

“มึงไม่เคยขึ้นเหรอ”

“เออดิ”

“จริงอ่ะ ตอนเด็กๆก็ไม่เคยเหรอ”ขนาดไอ้ตินยังแปลกใจ

“ไม่เคย”มันทำหน้าขรึม ผมหัวเราะ ก็นะ ครอบครัวแบบไอ้ภูนี่คงไม่พามาเที่ยวแบบนี้หรอก ผมมองอะไรไปเรื่อย ไอ้ตินก็เก็บภาพตามที่ตั้งใจ ผมเหลือบมองมันสองคน

“พวกมึงหลับตาก่อนดิ”

“ทำไม”มันถามออกมาพร้อมกัน

“หลับตาก่อนดิ”ผมยังคงยืนยันคำเดิม ไอ้ตินอมยิ้มน้อยๆก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้ๆ

“จะจูบเหรอ”

“ไม่ใช่เว้ย!”

“โอเคๆ”ไอ้ตินยอมหลับตาก่อนคนแรก ส่วนไอ้ภูยังมาทำหน้ากวนตีนใส่ผมอีก

“ถ้าไม่หลับมึงก็อด”ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าอดอะไรแต่มันก็รีบหลับตาลงในทันทีเลย สงสัยไอ้ภูคงคิดเรื่องนั้นแน่ๆ!

“ถ้าลืมตาก่อนกูโกรธอ่ะ”ผมหยิบจี้ที่ตั้งใจจะให้พวกมันสองคนนานแล้วออกมาก่อนจะยื่นไปตรงหน้ามันสองคน

“ลืมตาได้”สิ้นเสียง พวกมันสองคนก็ลืมตาขึ้นทันที มันจ้องจี้ในมือผมมึนๆก่อนจะเงยหน้ามอง

“ทำให้กูเหรอ”ไอ้ภูถามมึนๆ

“จะเอาไม่เอา”

“เอาดิ”มันรีบรับจี้ไปดู

“ขอบใจนะ”ไอ้ตินก้มอ่านชื่อที่สลักอยู่บนจี้

เกิดความเงียบขึ้นอยู่นานจนกระเช้าเลื่อนมาจอด มีเด็กๆต่อคิวแถวยาวเชียว พอลงมาได้ผมก็รีบยืดแข้งยืดขาทันที ตั้งใจว่าจะไปหาพี่มิน แต่พวกมันก็พาแวะนั่นแวะนี่ตลอดทาง

 “ตกลงพวกมึงไม่อยากให้กูไปหาพี่มินใช่ไหม”

“เปล่านี่ กูแค่ไม่เคยมา ก็เลยอยากเดินดูรอบๆแค่นั้นเอง”ไอ้ภูตอบด้วยสีหน้าไม่ชวนให้เชื่อ แต่สุดท้ายก็เดินมาถึงลานเบียร์จนได้ อยู่ไกลเหลือเกิน เดินจนขาลากเลย แต่ที่น่าแปลกคือพี่มินกับพี่พิสยังไม่กลับไปอีก

“เฮ้ย พี่มิน โห ไม่เจอนาน โทรมจังวะ”คิดเหรอว่าผมจะชม หึๆ พี่มินทำหน้ามุ่ย

“นึกว่าจะชมว่าหล่อซะอีก แต่ไม่หล่อคนแถวนี้ก็หลง”พูดพลางเหล่มองพี่พิสที่นั่งกุมแก้วเบียร์สีหน้ามึนๆ ถ้ามองไม่ผิดดูเหมือ
นพี่พิสจะโกรธอะไรสักอย่าง มหันไปมองไอ้สองคนที่ยืนมองอยู่ห่างๆ

“มานั่งนี่สิ”ผมกวักมือเรียกเลื่อนเก้าอี้มาให้พวกมันสองคน สาวเชียร์เบียร์ขาวๆหน้าตาจิ้มลิ้มมองมาทางนี้เสียหลายรอบ พี่พิสก็ยิ่ง
ทำหน้าบูด จนผมต้องเอนไปหาใกล้ๆ

“เป็นไรครับ ทำหน้าบูดเชียว”พี่พิสถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เบื่อไอ้แว่นเจ้าชู้”อีกฝ่ายพึมพำกลับมา อ้อ…หรือสาวเชียร์เบียร์คนนั้นถูกใจพี่มินเข้า พี่พิสทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะดื่มรวดเดียว
หมด

 “เบาๆหน่อย กินไปเยอะแล้วนะ”พี่มินเอ่ยเตือน

“ยุ่ง”อีกฝ่ายตอกกลับเสียงขุ่น ผมหันไปหาไอ้สองตัวที่นั่งเงียบบ้าง

“ให้กินได้แค่สามแก้วนะ”ไอ้ตินพูดขึ้นมา ผมอ้าปากจะเถียงแต่พอเห็นสีหน้าเอาจริงของมันก็เถียงไม่ออก

“งานเทศกาลทั้งที ก็ปล่อยๆฟิกบ้างก็ได้”พี่มินออกความเห็น เหมือนพี่เขาจะเมาๆมึนๆนิดหน่อย แต่สายตาภายใต้กรอบแว่นดู
กระจ่างใส ผมก็เห็นแววเจ้าชู้เรี่ยราดของพี่มินเหมือนกัน หรือเป็นเฉพาะตอนเมาๆ

“เสือก”ไอ้ภูเขวี้ยงสายตาขุ่นๆไปให้ ผมเลยได้แต่นั่งจิบเบียร์เงียบๆ ส่งให้มันสองคนก็ไม่เอาอีก สรุปเกือบทั้งโต๊ะอารมณ์ไม่จอ
ยกันทั้งนั้น ที่หนักกว่าใครก็คงไม่พ้นพี่พิสเนี่ยล่ะ

“พี่มิน เมาแล้วก็กลับดีไหม”ผมลองพูด แต่พี่มินก็รีบค้านทันที

“เมาอะไร ไม่ได้เมาซะหน่อย พี่รอเจอฟิกนะเนี่ย”

“แน่เหรอ”พี่พิสแทรกมาด้วยเสียงประชดประชัน

“อ้าว อย่าหาเรื่องกันสิ”พี่พิสถอนหายใจ ก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผมเป็นห่วงพี่เขาเหมือนกัน พี่มินพอเมาแล้วก็เอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย

“เดี๋ยวกูมานะ”

“จะไปไหน”มันสองคนถามทันที

“ไปดูพี่พิส”

“แล้วมึงเกี่ยวอะไรกับมัน”ไอ้ภูหันมาขมวดคิ้วใส่

“ไม่ได้เกี่ยว แค่เป็นห่วงเฉยๆ”ผมเห็นพวกมันดูไม่โอเคก็เลยต้องนั่งลงตามเดิม

“มึงไม่ไปดูเมียมึงหน่อยเหรอ”ไอ้ภูหันมาพูดกับพี่มินเป็นครั้งแรก

“ห๊ะ พิสทำไม”พี่มินทำหน้ามึนๆเหมือนคนไม่รู้เรื่องรู้ราว ก่อนจะมองไปรอบๆพอไม่เจอพี่พิสก็รีบลุกตามไป ไอ้ตินถอนหายใจออกมาทันที

“เบื่อพวกขี้เมา”คำพูดของมันทำเอาผมสำลักเบียร์ ไอค่อกแค่กทันที สักพักพี่มินก็กลับมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“พิสหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”

“กลับไปแล้วมั้ง”ไอ้ตินตอบแทน ก็อาจจะจริง นิสัยแบบพี่พิสคงไม่ทนรอพี่มินหรอก พี่เขาถอนหายใจ

“สงสัยจะกลับไปแล้วจริงๆแน่ กลับยังไง รถก็ไม่ได้เอามา”พี่มินพึมพำพลางกดโทรศัพท์ อย่างพี่พิสถ้าจะกลับเองก็หาวิธีได้อยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าแถวนี้มีแท็กซี่รึเปล่านี่สิ ดูท่างานลอยกระทงของพี่มินจะไม่สนุกแล้วล่ะ

“ไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ พี่ต้อง…”พี่มินถอนหายใจอีกรอบ ก่อนจะขอตัวออกไปตามหาแฟน ที่เหลือผมรับช่วงต่อเอง แต่ก็นั่งได้ไม่นานเพราะพวกมันสองคนไม่ยอมให้ผมอยู่จนดึก

“กูง่วงแล้ว จะกลับไปนอน”ไอ้ภูพูดเสียงขุ่น

“โรงแรมไม่หนีไปไหนหรอก”ผมบ่นกลับ

“ถ้าอยากกินมากเดี๋ยวซื้อให้”

“มันไม่ได้ฟีล”กินอยู่บนห้องจะไปสนุกอะไร

“เฮ้อ ไหนบอกว่าจะเบาเรื่องเหล้าเรื่องเบียร์ไง ถ้าทำไม่ได้จะพูดทำไม”ไอ้ตินเปิดฉากบ่นทันที ทำเอาผมเริ่มรู้สึกผิด

“เออๆ ไม่กินแล้วก็ได้”ผมยอมถอยให้พวกมัน เดี๋ยวจะเถียงกันยาว 

   “ประชดรึเปล่า”ไอ้ภูก้มมามองหน้าผมใกล้ๆ

“เปล่า ไม่ได้ประชด ขี้เกียจเถียงกับพวกมึงอ่ะ มีตั้งสองคนกูเถียงไม่ชนะหรอก”ไอ้พวกขี้โกง

“ที่บ่นนี่เพราะห่วงนะ”ไอ้ตินสอดมือมากอดเอวผมหลวมๆ

“รู้น่า”ผมเถียงแพ้พวกมันตลอดจริงๆ

กว่าจะถึงโรงแรมที่จองไว้ก็เข้าวันใหม่แล้ว ต้องแบกไอ้หมีตัวโตมาอีก ผมอยากนอนบนเตียงนุ่มๆจะแย่ แต่ดูเหมือนคำขอจะไม่เป็นผลเพราะทันทีที่หัวแตะหมอนไอ้สองคนนี่ก็เข้ามาก่อกวนทันที

“มึงจะถอดกางเกงกูทำไมเนี่ย”ผมลืมตามองมือปลาหมึกของไอ้ภูที่กำลังดึงกางเกงผมออก

“อาบน้ำไง”กูไม่เชื่อ!

“กูจะนอนนิ่งๆ จะทำอะไรก็ทำ”พูดตบผมก็หลับตาลงนอนเหมือนขอนไม้ทันที

“เล่นงี้เหรอ”ไอ้ตินหัวเราะก่อนจะเข้ามาจี้เอวผม

“เชี่ย อย่านะเว้ย”สุดท้ายก็หอบแฮ่กๆพอกันทั้งสามคน สุดท้ายพวกมันก็ง่วงหลับไปเอง เฮ้อ รอดไปอีกวัน ไอ้พวกนี้ชอบหาเรื่องให้ผมเสียตัวได้ตลอด!






TBC.
เอาตอนลอยกระทงสั้นๆมาให้  :กอด1: ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก
ตอนหน้าค่อยเจอกับสองหนุ่ม ภูกับตินค่ะ อยู่กันสองคนจะเป็นยังไง  :laugh:
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ




หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: hormonesyj ที่ 25-11-2015 13:22:23
สุขสันต์วันลอยกระทงค่ะทั้งคนเขียนแล้วก็สองผัวหนึ่งเมียเลย  :L2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-11-2015 13:53:50
 :impress2:  ขอบคุณค่ะ น่ารักจัง
แต่ไม่น่าเชื่อว่าฟิกจะรอดนาน
ตั้งตารอตอนหน้าเลยค่ะ อิอิ ภูตินๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Zxjmm ที่ 25-11-2015 14:23:23
รู้สึกฟินแบบบอกไม่ถูกเหมือนมันมีอยู่จริง
มาต่อเร็วๆนะค้าาาาา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 25-11-2015 15:17:57
ฟิกมันน่ารักนะ ไปลอยกระทงมันก็แอบมีทำนั่นนี่ใส่กระทงไปอย่างน่ารัก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-11-2015 15:27:08
อยู่ดีมีสุข
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Wannida ที่ 25-11-2015 15:40:01
พลาดไปตั้ง3ตอน แต่ก็ตามจนทัน คึคึ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 25-11-2015 16:01:57
สุดท้ายก็ได้หื่นกันเนอะสามหน่อ 5555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 25-11-2015 16:56:25
คิดถึงพี่มันกับพี่พิสจัง ////////
แต่พี่มินเมาแล้วไม่ไหวนะ สมควรที่โดนโกรธ 555555555555
ตอนนี้รู้สึกฟิกน่ารักมาก  :-[
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 25-11-2015 17:51:15
หลงฟิกหนักขึ้นทุกวัน
เดี๋ยวนี้ทำตัวน่ารักนะฟิก ฮ่ะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 25-11-2015 21:51:08
สุขสันต์วันลอยกระทงจ้า สามหนุ่มยังเหมือนเดิม 5555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 26-11-2015 10:36:48
5555 พิสยังขี้โมโหเหมือนเดิมเลยนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 26-11-2015 12:01:40
เป็นลอยกระทงที่น่ารักดีจริงๆพี่ภูพี่ตินแอบหึงแอบหวงฟิกตลอด ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะละเดี๋ยวตอนหลักจะเป็นเรื่องภู-ตินเหรอ อย่านะๆถึงแม้พี่ภูกับพี่ตินจะเคลียร์คำตอบให้เราแล้วแต่เราก็อดที่จะจิ้นไม่ได้จริงๆ ฮาา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 26-11-2015 12:39:44
 :-[ ตอนนี้น่ารักที่สุด ขอบคุณค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 26-11-2015 12:46:15
พิสงอนมินเลย :hao4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 26-11-2015 14:38:25
อยากไปลอยด้วยจุงเบยยยยย อ๊าคคคคคค โดนติงสองเฮีย :z6:  เป็นลอยกระทงที่หวานในแบบสามหน่อเขาอ่ะนะ ฟิกมุ้งมิ้งมากตั้งแต่รู้ว่าตัวเองดำรงตำแหน่งเมีย คอยทำอะไรฟรุ้งฟริ้งให้สองปั๋วปลื้มปริ่มตลอด ดีแล้ว รักกันไว้ อย่าไปนึกถึงว่า รักใครมากกว่า น้อยกว่า รู้แค่ว่า สามคนต้องรักกันไว้ให้เหนียวแน่น ไม่ใช่แค่เป็นผัวเมีย แต่มันคือครอบครัวเดียวกัน  :กอด1:  แอบสงสารพีภูนะ ไม่เคยขึ้นชิงช้าสวรรค์ คือมันก็ขำนะ แต่คิดอีกทีเหมือนครอบครัวพี่ภู เป็นแบบครอบครัวนักธุรกิจอ่ะ ทำแต่งาน ให้แต่ความสบายแต่ตัว แต่ความอบอุ่นไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ พอมีครองครัวเองภูเลยค่อนข้างหวงฟิกมากกว่าปกติ แต่ชอบที่ภูเป็นคนรักใครรักจริง พี่ตินก็ดี ไม่ใช่ว่าจะอวยพี่ภูคนเดียว แต่เรื่องครอบครัว รู้สึกว่าภูขาด ในขณะที่ตินมีครบ แต่ช่วงวัยรุ่นก็มีบ้างออกนอกลู่นอกทาง ฟิกถึงจะขาดพ่อ แต่แม่ก็ให้ความรักความอบอุ่นมาตลอด เข้าใจในตัวลูก ผิดกับพี่ภูที่เหมือนจะเข้ากับพ่อไม่ค่อยดีนัก มีแต่แม่ที่เข้าใจ แต่พอแม่จากไป ก็สงสารพี่ภูที่ขาดคนเข้าใจไป ตัวเองกับพ่อก็เลยต้องปรับตัวกันใหม่ แต่ก็เริ่มใหม่ด้วยดีแล้ว  :katai2-1:  อ๊ายยยยยยยย ตอนหน้า ภูติน  จิ้นๆๆๆๆๆ ชอบๆๆๆๆ  :-[
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Noah ที่ 26-11-2015 18:20:52
พี่มินนี่น่าตีนัก  :m16:
เราอยากอ่านเอ็นซีสามหน่อจังเลยอ่ะค่ะ รู้สึกไม่ได้อ่านมาสักพักละ  :-[
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 26-11-2015 19:28:28
ฟิกน่ารักมีเอาอกเอาใจสามีทั้งสอง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Cady ที่ 28-11-2015 15:49:38
 :z10:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 29-11-2015 07:32:55
ตอนพิเศษน่ารักดี
กับพี่มินคืออะไร   พี่ตินกับพี่ภูหึงตลอดๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: hormonesyj ที่ 29-11-2015 11:36:33
ฟิกเป็นมนุษย์เมียที่น่ารักมาก  :impress2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [SP:ลอยกระทง] 25-11-58 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-12-2015 11:19:11
:)
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 07-12-2015 06:04:27

ตอนที่๑๔ เมื่อฟิกไม่อยู่...?





[Tin Side]





ไอ้ฟิกไม่อยู่สองวัน...เพราะมันต้องไปดูไซต์งานที่ต่างจังหวัด ผมเลยต้องห่อเหี่ยวอยู่กับพี่ภูสองคน ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก

“เฮ้อ...”

“มึงจะถอนหายใจอะไรนักหนาวะ”พี่ภูบ่นเสียงหงุดหงิด เหลือบมองผมด้วยสายตาขุ่นๆก่อนจะกลับไปหมกมุ่นกับหนังสือการ์ตูนตรงหน้าต่อไป

“เบื่อๆเซ็งๆไงไม่รู้ว่ะ”ผมมองโทรศัพท์ในมือ ชั่งใจอยู่นานว่าจะโทรไปหาไอ้ฟิกดีไหม แต่ก็กลัวว่าจะรบกวนเวลาของมันอีก นี่ขนาดมันไปได้แค่วันเดียวก็คิดถึงมันซะแล้ว

“ไปเที่ยวไหม พอดีเพื่อนกูได้บัตรมา”พี่ภูทำหน้ามีลับลมคมใน 

“บัตรอะไร”ผมเริ่มมีลางสังหรณ์แปลกๆเมื่อเห็นสีหน้าของอีกคน

“ตอนแรกกูกะจะเอาไปให้คนอื่นอีกที...”พี่ภูพูดพลางหยิบบัตรออกมาจากกระเป๋าเงินส่งให้ผม

“ชวนผมเหลวไหลอีก”ผมก้มมองบัตรวีไอพีของอาบอบนวดแห่งหนึ่ง วีไอพีเสียขนาดไม่จำกัดชั่วโมง ผมขมวดคิ้วพลางพลิกบัตรไปมา

“พี่ตั้งใจจะไปเหรอ”ผมถามเสียงนิ่ง 

“เปล่า พอดีเพื่อนให้กูมา จะปฎิเสธก็ไม่ได้ เดี๋ยวเสียเชิงหมด”อีกคนไหวไหล่

“เหรอ...แล้วนวดแบบไหน มีนาบด้วยหรือเปล่า”ผมพยายามอ่านรายละเอียดบนบัตรวีไอพีในมือ พี่ภูหัวเราะหึๆ

“มึงถามอะไรไร้สาระ คิดว่าไปนอนแช่น้ำเฉยๆรึไง”

“พี่เคยไปมาก่อนรึเปล่า”ผมเพ่งมองอย่างจับผิด จะได้เล่นงานได้ถูก คิดจะออกนอกลู่นอกทางไอ้ฟิกเหรอ ก็อย่างที่ผมเคยบอกนั่นล่ะ ผมไม่ยอมให้ใครมาทำให้ฟิกมันเสียใจแน่ ถึงคนๆนั้นจะเป็นพี่ภูก็เถอะ

“ไม่เคย มึงเห็นกูเป็นคนยังไงวะ”อีกฝ่ายทำเสียงหงุดหงิดก่อนจะขอบัตรคืน แต่ผมไม่ให้

“เอาไว้ที่ผมดีกว่า ผมไม่ไว้ใจพี่”ผมเก็บบัตรใส่ช่องเล็กๆในกระเป๋าๆ

“ไม่ใช่ว่ามึงจะเอาไปใช้เองนะ”

“เฮ้ย ผมไม่ใช่พี่นะ”พี่ภูชักสีหน้าใส่ ผมกลับมาเพ่งมองโทรศัพท์ในมือตัวเองเหม่อๆ ก่อนจะตัดสินใจทักไลน์ไอ้ฟิกไป

แต่มันไม่อ่าน...หรือว่ากำลังยุ่ง

“วันนี้มันออกไปดูไซต์งาน คงยุ่งๆทั้งวันล่ะมั้ง”จู่ๆพี่ภูก็เสริมขึ้นมา

“พี่ถามมันเหรอ”ผมเงยหน้าจากโทรศัพท์อีกครั้ง

“ถามเพื่อนมัน ฟิกมันไม่อ่านไลน์”อีกคนทำเสียงหงุดหงิด ผมยิ้มออกมา เวลาไอ้ฟิกทำงานหรือกำลังยุ่งอยู่มันจะไม่แตะโทรศัพท์เลย 

“คิดถึงมันว่ะ”ผมเพ้อเบาๆ ไอ้ฟิกไม่อยู่ห้องเงียบมากจริงๆ ผมยังนึกภาพเวลาที่ไม่ได้อยู่กับมันนานๆไม่ออกเลย คิดแล้วก็พาลนึกไปถึงเรื่องพี่ภูเมื่อตอนที่ถูกเด้งไปนอก พี่เขาคงเหงามากแน่ๆ

“มึงยังอ่อนหัดอยู่นะ”พี่ภูหัวเราะเบาๆก่อนจะลุกเข้าไปในครัว ผมหันมองงงๆเห็นว่าพี่ภูกำลังค้นอะไรสักอย่างในตู้

“พี่จะทำอะไรอ่ะ”ผมยืนมองอยู่หน้าเคาน์เตอร์ครัว เห็นอีกคนก้มๆเงยๆหาถ้วยหาจาน

“ข้าวเย็นไง”พี่ภูกำลังตอกไข่ใส่ถ้วยใบใหญ่

“เหรอ ทำเผื่อด้วยสิ ขอฝากท้องหนึ่งวัน”เห็นท่าทางแล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้เรื่องไหม

“ไม่อร่อยมึงก็อย่าบ่นแล้วกัน”พี่ภูทำหน้ายุ่ง เพราะส่วนมากเวลาพี่เขาอาสาทำกับข้าว ผมมักจะบ่นบ่อยๆ ไม่หนักเค็มก็หวานจ๋อยจนผมกินไม่ได้

“นานๆทีจะทำก็เอาให้เต็มที่ไปเลยสิ”เดาจากส่วนผสมคิดว่าพี่เขาน่าจะทำข้าวห่อไข่ ผมนั่งมองพี่ภูหั่นหอมด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ แล้วอดไม่ไหวต้องเข้าไปช่วย

“มึงหั่นผักให้กูก็พอ นอกนั้นกูทำเอง”หันไปเจอพี่ภูตักข้าวมาเสียเยอะ

“ข้าวเยอะไปรึเปล่า”

“ไม่เยอะหรอก กูจะทำเผื่อที่บ้าน”พี่ภูตอบเสียงเรียบ นี่ผมหูฝาดไปรึเปล่าเนี่ย แต่ก็ดีแล้ว นานๆทีพี่เขาจะทำอะไรแบบนี้ ไม่รู้ไปกินอะไรผิดสำแดงมา หลังจากที่หั่นหอมและเตรียมเครื่องเคียงอย่างอื่นพร้อมแล้ว ผมก็ผละไปรอที่โซฟา ไอ้ชัยทักไลน์มาพอดีเลยด้วย

ชัย- วันนี้ไปนั่งเล่นกัน นักร้องวงโปรดมาพอดี

ผมชั่งใจว่าจะไปดีไหม แต่อยู่หอมันก็เบื่อๆไม่มีอะไรทำ ฟุ้งซ่านเปล่าๆ ออกไปสนุกบ้างก็คงไม่เสียหายอะไร

ชัย - หรือกลัวเมียมึงด่า?

ติน - เปล่า เมื่อไหร่มึงจะเลิกแขวะเรื่องนี้สักทีวะ

ชัย - จนกว่าพวกมึงจะเลิกกันอ่ะ

ผมยิ้มขำ ไอ้ชัยมันก็พูดเล่นไปเรื่อย ผมชินกับลูกหมาในปากมันจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว จะมีแต่ไอ้ฟิกนี่ล่ะ ที่เต้นเป็นผีเข้าทุกทีเวลาเจอหมาในปากไอ้ชัย

ติน - มึงปากแฉะแน่ๆ ไงเจอกันที่ร้าน

ชัย - ให้มันได้อย่างนี้สิ!

เนื่องจากขี้เกียจรอข้าวห่อไข่ที่ไม่รู้ว่าจะเสร็จตอนไหนเลยคิดว่าจะขอฝากท้องที่ร้านหน้าหอแทนดีกว่า ลองเปิดไลน์ดู จนตอนนี้ไอ้ฟิกมันก็ยังไม่อ่านข้อความของผมเลย ไอ้หมาฟิกมันจงใจกวนประสาทแน่ๆ!เพราะผมยังเห็นมันโพสต์สเตตัสในเฟสอยู่เลย

“มึงจะไปไหนวะ”พี่ภูถามระหว่างที่ใช้ทิชชูซับหน้าที่เริ่มมันด้วยท่าทางหงุดหงิด

“ไปเที่ยวกับพวกไอ้ชัย”

“นั่นแน่...อย่าบอกนะว่าจะใช้บัตรวีไอพี”

“ตลกแล้ว ไปร้านนั่งเล่น ถ้าเหงาก็ตามมา”ผมยักคิ้วกวนประสาทให้ก่อนจะรีบออกไปจากห้อง เพราะเกรงใจขวดน้ำปลาในมือของอีกฝ่ายจะลอยตามมา






- ร้านนั่งเล่น

วันนี้คนแน่นมากกว่าปกติเพราะนักร้องที่ขึ้นเวทีค่อนข้างจะดังพอตัว หลังจากที่กวาดตามองหาโต๊ะที่ไอ้ชัยกับเพื่อนเจอก็ตาลายไปพักใหญ่เพราะแสงไฟมัวๆ และทันทีที่ผมไปถึงโต๊ะพวกมันก็เปิดปากแซวทันที

“แหม วันนี้ไม่พกเมียมาด้วยเหรอ เห็นตัวติดกันตลอด”ไอ้เบลล์เปิดก่อนคนแรก

“มันไม่อยู่”

“วันนี้ถือว่ามึงโสดหนึ่งวัน”ไอ้ชัยหน้าชื่นตาบานเป็นพิเศษ มันตบบ่าผมพร้อมกับเลื่อนแก้วเบียร์มาให้ ผมแค่รับมา ไม่ค่อยอยากดื่มเท่าไหร่

“พูดบ้าอะไรของมึงวะ”ผมส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนกวาดตามองไปรอบๆส่วนใหญ่จะเจอเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันมากกว่าพวกวัยผู้ใหญ่ ผมหยุดสายตาอยู่ที่โต๊ะแถวกลาง เมื่อจำได้ว่าใคร พี่ปากับพี่เนมนั่นเองข้างตัวของทั้งคู่มีสาวสวยคอยชงเหล้าขนาบข้างอยู่ ผมยกมือทักเมื่อสองคนนั่นหันมาเจอ

“ไอ้ฟิกไม่ได้มาด้วยเหรอ”สองสหายย้ายมานั่งโต๊ะข้างๆผม หิ้วสาวสวยสองคนมาด้วย พวกไอ้ชัยมองตาเป็นมันเชียว

“บริการพวกนั้นหน่อย”พี่ปาบอกผู้หญิงที่สวมเสื้อกล้ามรัดๆโชว์สัดส่วน ผมแอบขนลุกเมื่อเห็นสายตาเยิ้มๆกะลิ้มกะเลี่ยของพี่ปา

“ไม่เป็นไรครับ”ผมรีบยกมือห้ามเมื่อสาวอีกคนตั้งท่าจะเติมเบียร์ให้

“ไม่ได้ วันนี้มึงต้องเมา เมย์เติมให้มันเลย”พี่เนมชิงพูดขึ้นมาก่อนจะพยักเพยิดให้เมย์มานั่งข้างๆผม

“เฮ้ยพี่....”

“เออน่า วันนี้วันเดียว”อีกฝ่ายทำท่านึกสนุกก่อนจะหดโทรหาใครสักคน

“เออ ไอ้ภู มึงว่างไหม กูอยู่นั่งเล่น น้องฟิกไม่อยู่ทั้งที นานๆทีจะได้ฉายเดี่ยว...ไม่ได้ยุ ไอ้ตินก็มาเนี่ย แล้วเจอกัน”คุยจบพี่เนมหันมายักคิ้วใส่ผม

“ไม่ต้องซีเรียส วันนี้เป็นคืนของหนุ่มโสด”พี่ปาแทรกมาบ้าง ผมได้ยิ้มแห้ง พยายามจิบเบียร์ช้าๆ แต่เมย์ตัวหอมจริงๆ แถมยังคอยส่งสายตาเหมือนยั่วๆมาให้เป็นระยะๆอีก ไม่นานนักพี่ภูก็ตามมาสมทบ

“อะไรของพวกมึงเนี่ย”ถึงจะทำหน้ายุ่งแต่มือกลับคว้าแก้วเหล้าของพี่ปายกดื่ม

“เชี่ย นั่นแก้วกู”

“มาๆถ่ายรูปกันหน่อยพวกพี่”ไอ้ชัยยกโทรศัพท์ออกมา ผมเห็นสีหน้าของมันกับพวกพี่ปาแล้วไม่ไว้ใจ ตั้งใจจะขยับออกห่างแต่ไอ้เบลล์ที่นั่งอยู่ข้างๆกลับดึงผมเข้ากล้องซะงั้น

“วู้ อย่างกับบอยแบนด์หนุ่มโสด”พี่เนมชะโงกหน้ามองรูปถ่ายในโทรศัพท์ไอ้ชัย

“มึงไม่ต้องแท็กกูมานะ”สิ้นเสียงพี่ภูแจ้งเตือนเฟสบุ๊คก็เด้งขึ้นมา ผมเหลือบมองหน้าพี่ภูเมื่อเห็นแคปชั่นที่ถูกแท็กมา

“กูไม่ขำด้วยนะเว้ย”ผมบ่นพึมพำเมื่อมีคนรู้จักมากดไลค์ แถมยังถามว่าผมโสดตั้งแต่เมื่อไหร่ หนึ่งในนั้นคือไอ้ขวัญน้องเทคไอ้ฟิก

“อ้าว พวกมึงสองคนกลัวไอ้ฟิกด้วยเหรอ ข่มมันออกบ่อย”พี่ปาหัวเราะเสียงดัง

“ไม่ได้กลัว แต่กูไม่อยากให้มันยุ่งยาก”พี่ภูทำหน้าฉุนๆ

“เออน่า...กูอยากเห็นระเบิดลง”สองสหายหัวเราะเหมือนสนุก ไอ้เบลล์กับไอ้ชัยก็เป็นไปด้วยอีก

“พวกมึงไร้สาระว่ะ”

ผมสังเกตุว่าไอ้พวกนี้มันมองหน้ากันด้วยสายตามีลับลมคมในแปลกๆ จนผมเริ่มเอะใจ เหลือบมองท่าทีเพื่อนตัวเองพลางยกแก้วขึ้นดื่ม ชะงักเล็กน้อยเมื่อมีรสชาติแปร่งๆของเหล้าผสมมาด้วย

“พี่ ผมว่าพวกมันทำท่าทางแปลกๆว่ะ”ผมเอนไปกระซิบคนข้างๆ

“เออ กูก็ว่างั้น”อีกฝ่ายกระซิบกลับมา แก้วของผมถูกเปลี่ยนเป็นเหล้าที่ชงเสียเข้มจนนึกว่ากินแบบเพียวๆซะอีก 

“ขอโทษนะครับ”เสียงหนึ่งดังขึ้นระหว่างที่ผมกำลังบ่ายเบี่ยงสาวชงเหล้าที่วนมาคอยบริการให้ผม เมื่อหันไปมองก็เจอชายหนุ่มหน้าขาวๆ คาดว่าคงวัยทำงานมายืนอยู่ข้างๆพี่ภู

“มีอะไร”พี่ภูถามเสียงหงุดหงิด

“พี่นั่งด้วยคนได้ไหมครับ”ผมขนลุกเกรียวอีกครั้ง พี่ปากับพวกผมมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

“ไม่เห็นเหรอว่าโต๊ะเต็ม”เจ้าของเสียงดุหันไปมองอย่างไม่สบอารมณ์ แต่พี่หน้าขาวยังยิ้มได้อยู่

“ตรงนี้ยังไม่เต็ม แสดงว่านั่งได้”พี่หน้าขาวดึงเก้าอี้จากโต๊ะว่างข้างๆมานั่งซ้อนกับพี่ภู

“เฮ้ย ผมไม่เล่นด้วยนะ”อีกคนขยับตัวตรงทันที ผมยกแก้วเหล้าจิบเพื่อกลั้นรอยยิ้ม แต่ก็แทบสำลักเพราะเข้มสุดๆ

“ผสมอะไรบ้างเนี่ย”ผมหันไปมองสาวมือหนักข้างๆ ไม่ใช่เมย์แต่เป็นคนที่สวมเสื้อกล้าม โชว์รอยสักผีเสื้อตรงเนินหน้าอก เมื่อเห็นว่าผมคุยด้วย เธอเลยก้มมาตอบใกล้ๆ

“แค่โซดาค่ะ พี่พวกนั้นบอกให้ชงเข้มๆ”ผมวางสายตากลับมาที่แก้วเหล้าตรงหน้า ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าสาวชงเหล้ายืนเบียดอยู่ใกล้ๆผม แทรกระหว่างไอ้เบลล์ แต่ดูท่ามันจะชอบ ผมเริ่มจะร้อน อาจจะเพราะทั้งฤทธิ์แอลกลอฮอและโดนเบียด ผมก้มมองโทรศัพท์บนโต๊ะ ไอ้ฟิกไลน์มาหาเมื่อสักพัก

ฟิก - อยู่ไหน

ผมเงยหน้ามองพี่ภูที่ก้มเพ่งมองโทรศัพท์เหมือนกัน เดาว่าไอ้ฟิกคงถามด้วยเหมือนกัน พี่หน้าขาวยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ผมไม่อยากมองเลยกลับมาสนใจเรื่องของตัวเองดีกว่า

ติน - อยู่ร้านเหล้ากับพวกไอ้ชัย

ฟิก - อ๋อ...ไม่เห็นบอกกูเลย

ติน - มันกะทันหียงะ

ผมขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าตัวเองพิมพ์ผิด แป้นพิมพ์มันเล็กไปรึเปล่าวะเนี่ย

ฟิก - มึงเมาแล้วเหรอ พิมพ์ห่าไรไม่รู้เรื่อง พอกันทั้งคู่เลยนะพวกมึง

ติน - ยังไม่เมา โทรมาดิ

ไอ้ฟิกไม่โทรธรรมดาแต่มันวิดีโอคอลมาเลย ผมมองข้างๆก็เจอนมเต็มๆ ยังไม่ทันได้กดรับมันก็วางไปก่อนแล้ว เหลือบมองพี่ภูก็เห็นว่าพี่เขาลุกไปเข้าห้องน้ำด้วยสีหน้าแปลกใจ

“กูว่าไอ้ฟิกคงหัวหมุนแน่ๆ”พี่เนมกลั้นยิ้มก่อนกลอกตามองพี่หน้าขาวที่เดินตามหลังพี่ภูไป

“กูไม่รู้จะขำเรื่องไหนดีว่ะ ไอ้ภูเจอสายแข็งซะแล้ว”พี่ปาทำหน้าประหลาดๆ

“มึงกลัวไอ้ฟิกเหรอวะ”ไอ้ชัยชะโงกมาคุยกับผม

“ไม่ได้กลัว”เอาจริงๆผมไม่กลัวมันหรอก แต่ก็ยังไม่เคยเห็นมันโกรธแบบจริงๆจังๆเสียที

“แต่ตอนจับโทรศัพท์เมื่อกี้มึงทำหน้าตกใจด้วยนะ”แล้วทั้งโต๊ะก็ฮาครืน จะมีก็แต่สาวชงเหล้าสองคนที่ดูงงๆ นั่งไปนั่งมารู้สึกว่าแก้วเหล้าผมพร่องไปเร็วจนน่าตกใจ ผมต้องคอยหลับตาเพื่อตั้งสติบ่อยๆ ไม่อยากเมา เดี๋ยวไอ้ฟิกโทรมาก็ยุ่งอีก

ฟิก - เดี๋ยวกูโทรไป นั่งอยู่ที่เดิมด้วยนะ ไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำแบบไอ้ภู

ติน - เออๆ

ฟิก - มันออกมาจากห้องน้ำหรือยัง

ผมเหลียวมองไปยังทางเข้าห้องน้ำเจอพี่ภูเพิ่งเดินออกมาจริงๆด้วย ท่าทางเหมือนกำลังเดือด แต่ไม่เห็นพี่หน้าขาวแล้ว ครั้งนี้ผมกดรับสายไอ้ฟิกอย่างรวดเร็ว เพราะคิดว่าตอนนี้มันน่าจะอารมณ์เสีย

“ว่าไง”ผมทักเมื่อหน้าจอปรากฏเป็นสีหน้าบูดๆของไอ้ฟิก ผมเบี่ยงกล้องมาทางฝั่งพี่ภู เพราะกลัวหน้าอกของสาวๆข้างๆจะเข้ากล้อง พอดีกับที่พี่ภูนั่งลงที่เก้าอี้พอดี ไอ้ฟิกเหลือบมองด้วยสีหน้าขุ่นๆ

“มึงอยู่กลับใคร”

“ก็พวกไอ้ชัยแล้วก็พวกพี่ปาไง”คนที่ถูกพูดถึงเงยหน้ามองด้วยรอยยิ้มล้อเลียน

“แล้วไหนบอกว่าไม่เมา”ได้ยินเสียงมันพ่นลมหายใจออกมาดังๆ ผมดึงหูฟังออกหนึ่งข้าง

“คุยกับพี่ภูเปล่า”เจ้าของชื่อโบกไม้โบกมือปฏิเสธมา สงสัยคงโดนสวดไปหนึ่งยกแล้วเหมือนกัน

“มึงไม่ต้องเฉไฉ ให้กูดูข้างๆดิ ใครนั่งข้างมึง”ผมเหลือบมองสาวคนข้างๆ ยังไม่ทันได้หมุนกล้องเธอคนนั้นก็เข้ามาในกล้องเต็มๆเพราะไอ้เบลล์มันลุกขึ้นแล้วเซชน ไม่รู้ว่าจงใจหรือเปล่า ผมขึงตาใส่เพื่อนอย่างหงุดหงิด ไอ้ฟิกเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง 

“ไม่มีอะไรนะเว้ย”

“เออ นมใหญ่รึเปล่าล่ะ”

แล้วมันก็วางสายไปทันที โกรธแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมโทรหามันอีกหลายรอบมันก็ไม่รับ จนมันส่งข้อความเสียงมาด่าบอกว่าจะนอนแล้วอย่ากวน กลับไปค่อยคุยกัน

“พวกมึงเล่นอะไรกันวะ หาเรื่องให้กูเฉย”ผมมองไปรอบโต๊ะด้วยสายตาหงุดหงิด

“เดี๋ยวกูเคลียร์ให้เอง ไอ้น้อง”พี่ปาพูดเสียงดัง สีหน้าท่าทางบ่งบอกว่าหมดสภาพแล้ว

“มึงไม่ต้องโทรไปกวนมันเลยนะเชี่ยปา”พี่ภูรีบลุกไปหาเพื่อนที่ควักเอาโทรศัพท์ออกมา

“เฮ้ย ได้ไง กูจะคุยกับมัน มึงไปนั่งที่เลย”พี่ปาไม่ยอมให้อีกคนมาแย่งโทรศัพท์ไป ผมมองแล้วถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พอกันทั้งคู่เลย

“เบื่อเหรอ”เสียงนุ่มกระซิบเบาๆ

“ก็...นิดหน่อย”ผมมองพี่ปาคุยอะไรสักอย่าง แต่ก็ถูกพี่ภูแย่งโทรศัพท์ไปคุยเอง

“มึงโกรธกูเหรอ ก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไร ...มันโพสต์เล่นๆ ..ฮะ ตลกแล้วไอ้ฟิก อย่ามาปากดี ...เออๆ ขอโทษ เอ้า เชี่ยปา”และพี่ปาก็แย่งโทรศัพท์ไปได้อีกครั้ง

“ฟิก แกฟังพี่นะ....”บลาๆ

“สัด มันวางไปแล้วนี่ พวกมึงเล่นอะไรกันวะ”พี่เนมทำหน้าขำๆเมื่อดึงโทรศัพท์มาจากเพื่อน ผมเลี่ยงความวุ่นวายไปเข้าห้องน้ำแทน รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะเมื่อได้ล้างหน้าล้างตา ผมมองเงาสะท้อนของตัวเอง เออ เหมือนคนเมาเลยว่ะ ผมก้มล้างหน้าอีกครั้ง ก่อนจะออกมาจากห้องน้ำ อยู่นานๆก็ไม่ไหว เหม็นบุหรี่แต่พอออกมาก็เจอกับเมย์สาวชงเหล้าที่โต๊ะ

“อ้าว”ผมทักมึนๆ

“โต๊ะพี่เคลียร์บิลแล้วค่ะ”เมย์ตอบให้หายข้องใจ แต่เรียกผมว่าพี่นี่ดูจากหน้าตาแล้วเมย์คงแก่กว่าผมแน่ๆ

“อ้อครับ”ผมยิ้มให้ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา

“เดี๋ยวค่ะ”แล้วก็ยัดกระดาษเล็กๆใส่มือผม

“ถ้าว่างก็โทรหากันได้นะคะ”

“ผมมีแฟนแล้วครับ คงรับไว้ไม่ได้”ผมส่งคืนก่อนจะเดินกลับโต๊ะ เห็นเพื่อนๆพี่ๆยังคงนั่งคุยกันอยู่

“ยังไม่กลับกันเหรอ ไหนว่าเคลียร์บิลกันแล้ว”ผมนั่งลงที่เดิม สาวๆหายไปจากโต๊ะแล้วค่อยหายใจสะดวกหน่อย

“เคลียร์แล้วก็ต่อ มึงสองคนยังไม่เมาก็ไม่กลับ”ไอ้ชัยชี้มาที่ผมกับพี่ภู ไอ้ตัวคนพูดก็คงจะเมาแล้ว มีแค่พี่เนม ไอ้เบลล์ที่ดูจะมีสติดีสุด

“เออใช่ วันนี้พวกมึงต้องเมาเป็นเพื่อนกู”พี่ปาผงกหัวมามอง

“กูอยากกลับแล้วว่ะ เดี๋ยวเมียงอน”ผมว่าไม่ทันแล้วล่ะ

“แค่วันเดียวน่านะๆอยู่เป็นเพื่อนกูหน่อย มึงด้วย”พี่เนมหันมามองผมกับไอ้เบลล์ สายตาดูบังคับกลายๆ

“ถ้ามีอะไร กูเคลียร์กับไอ้ฟิกเอง”พี่ปาตบโต๊ะเสียงดัง ระหว่างที่งัดตัวเองมานั่งหลังตรง

“มึงเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ”พี่ภูพึมพำ

“ผมยอมแค่สามแก้ว”ผมเสนอ แต่เมื่อเห็นแววตาแวววับของพี่เนมผมก็รู้ทันทีว่าพลาดแล้ว เพราะแก้วที่ว่าคือแก้วเบียร์และเพียวๆเลยด้วย คิดว่าผมจะรอดถึงแก้วที่สองเหรอ!

“มึงพูดแล้วอย่าตุกติกนะ คำไหนคำนั้น มึงด้วยไอ้ภูไม่ต้องทำหน้าหงุดหงิด”พี่เนมยิ้มเหี้ยมระหว่างที่รินเหล้าใส่แก้วช้าๆ

“งั้นมึงห้ามเมา ไปส่งกูด้วย”พี่ภูทำใจยอมรับสภาพตัวเองเรียบร้อยแล้ว ผมมองหน้าไอ้เบลล์มันกำลังอัดวิดีโอ

“ระหว่างพี่ภูกับไอ้ตินใครอึดกว่ากัน...พิสูจน์กันตอนนี้เลย”มันพากย์ของมันไป ผมมองหน้าอีกฝ่าย เหมือนอะไรบางอย่างกระตุ้นให้ผมต้องเอาชนะให้ได้

“มาเลย”ผมเองก็มั่นใจว่าไม่เมาก่อนแน่ๆ ผมคว้าแก้วมาจากพี่เนมก่อนจะค่อยๆผมคว้าแก้วมาจากพี่เนมก่อนจะค่อยๆกลั้นใจยกดื่มช้าๆ เหลือบมองเห็นพี่ภูกำลังยกดื่มเหมือนกัน สีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่

“รวดเดียวนะเว้ย ใจเย็นๆ มึงทำหกแล้ว อย่าโกง”เสียงพี่เนมแว่วมา เมื่อผมทำเหล้าหกใส่เสื้อตัวเอง

กึก!

พี่ภูกระแทกแก้วลงกับโต๊ะสีหน้าพะอืดพะอมก่อนจะรีบดื่มโค้กตาม

“ไอ้ตินแม่งช้าาา สาดดด”ไอ้คนที่ดื่มหมดแก้วก่อนทำเสียงดัง พี่เนมสั่งเหล้ามาอีกขวด สาวชงเหล้าชื่อเมย์โผล่มาจากไหนไม่รู้ โผล่มารินเหล้าให้พี่ภูเสียเต็มแก้วก่อนจะเดินมายืนข้างๆผม

“ไอ้ตินหมดแก้วแล้วครับ ถึงจะช้ามากๆก็ตาม ลุยอีกแก้วเลยเพื่อน”ผมเริ่มร้อน และมึนๆหัวหนักๆขึ้นมา เมย์ขยับมารินเหล้าให้ พร้อมกับวางมือลงบนบ่าก่อนจะก้มมากระซิบเบาๆ

“ถ้าหมดแก้วนี้ เมย์มีรางวัลให้”ผมได้แต่ยิ้มก่อนจะพยายามยกแก้วที่สองให้หมด

“เฮ้ย มึงถือแก้วไหวไหมไอ้ภู มาๆ เดี๋ยวกูช่วย”เสียงหัวเราะของพี่เนมดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท ผมรวบรวมแรงฮึดดื่มแก้วที่สองจนหมด

“ขอน้ำ--”ผมหันไปหาไอ้เบลล์กะจะขอน้ำเปล่าล้างคอสักแก้ว แต่จู่ๆสาวข้างๆก็ก้มมาบดจูบอย่างไม่ทันตั้งตัว ได้ยินเสียงตกใจมาจากไอ้เบลล์และพี่เนม ผมตั้งใจจะผลักเจ้าตัวออกแต่แขนก็หนักเกินกว่าจะขยับได้

โครม!

ผมมึนเบลอไปชั่วขณะว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินเสียงวีดร้องและรู้ตัวอีกทีผมก็นอนกองกับพื้นแล้ว เก้าอี้แอ้งแม้งอยู่ข้างๆ

“นี่มึงทำงานแบบนี้เหรอ”เสียงกระชากไม่น่าฟังดังขึ้น ผมปรือตามองเห็นว่าเมย์ถูกผู้ชายตัวใหญ่หน้าโฉดกำลังกระชากข้อมืออยู่ ผมเห็นท่าไม่ดีเลยรีบโงนเงนยืนขึ้น

“พี่คุยกันดีๆนะ เขาเป็นผู้หญิงอย่า--พลั่ก”หมัดหนักๆกระแทกเข้าที่เบ้าตาผมจังๆ เหมือนล่องลอยอยู่พักใหญ่แล้วจู่ๆก็ตกมากระแทกพื้น ได้ยินเสียงโวยวายดังรอบตัว และปลายเท้าที่พยายามเข้ามากระทืบผม

“ได้ เดี๋ยว...มึงเจอกู”ผมยันตัวขึ้นมาอย่างยากลำบาก

“เชี่ยตินอย่า มึงเมาแล้วนะ”ไอ้เบลล์เข้ามาฉุดกระชากผมออกจากร้าน ผมมองอะไรไม่ชัดแต่เห็นลางๆว่าวุ่นวายพอตัว

“กูยังไหว...มึงไม่เห็นเหรอห๊ะว่ากูโดนต่อยทั้งๆที่กูไม่ผิด”

“ไม่ผิดอะไร มึงลวนลามแฟนกู”เสียงหนึ่งแว่วเข้ามา

“กูไม่รู้ แฟนมึงมาอ่อยกูเอง”

“อ้าว ไอ้เหี้ยนี่--”มีเสียงวีดร้องห้ามดังวุ่นวาย

“กูไม่สนหรอก กูมีแฟนแล้ว เหอะแล้วแฟนกูนะเป็นผะ-”พูดยังไม่ทันจบก็มีมือใครไม่รู้มาอุดปากผม

“ขอโทษครับพี่ พวกเราจะออกไปจากร้านแล้ว”เสียงพี่เนมดังอยู่ข้างตัว

“ครับ เข้าพี่ด้วยนะพี่ไม่อยากให้มีเรื่อง”ผมลืมตามองเห็นร่างตะคุ่มๆตรงหน้าก็ซัดเปรี้ยงเข้าให้

“เฮ้ยยยย”

“ไอ้ติน!”

แล้วผมก็ถูกหอบหิ้วออกมาจากร้านมึนๆ

“เชี่ย มาต่อยกู”ผมสบถเมื่อเริ่มปวดบริเวณที่โดนต่อย

“วันหลังกูจะไม่ให้มึงเมาแล้วสัด”เสียงไอ้เบลล์พึมพำ

“กูไม่ได้เมา แค่มึนๆ”ผมถูกดันเข้าไปในรถใครสักคน

“ไอ้ภูลุกขึ้นมา เหนื่อยจริงๆเลยว่ะ กูผิดเอง...”เสียงบ่นน่ารำคาญดังอยู่ใกล้ๆ

“กูจะนอน พวกมึงเงียบๆกันด้วย”ผมพึมพำขึ้นมา แล้วภายในรถก็เงียบจนได้ยินเสียงแอร์








…………………………………………………..



(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 07-12-2015 06:14:52



[Phu Side]





ผมรู้สึกเหมือนหัวกำลังระเบิดเป็นเสี่ยงๆ เป็นอะไรที่ทรมานจริงๆเวลาที่คุณลืมตาขึ้นมาแล้วเจอกับอาการแบบนี้ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะลูบหน้าลูบตา นอกจากอาการปวดหัวแล้ว ยังมีอาการปวดเนื้อปวดตัวอีกแถมมาอีก ผมไปทำอะไรมาวะ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวหนึบๆ

“ใครนอนทับกูเนี่ย”ผมโพล่งออกมาเสียงดังด้วยอารมณ์หงุดหงิดก่อนจะถีบไอ้ตัวหนักๆออกไปจากหน้าท้อง เมื่อยันตัวขึ้นมองก็เห็นว่าเป็นไอ้ปา ผมกระพริบตาอย่างงุนงงเพราะที่นอนกองกันอยู่นี่ไม่ใช่มีแค่ผม แต่มีไอ้ชัยที่นอนอ้าปากหวออยู่ไม่ห่าง ไอ้ตินนอนคว่ำอยู่ใกล้ๆเพื่อนมัน และไอ้เบลล์ไอ้หนุ่มหัวฟูๆที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ใกล้ๆเท้าไอ้ปา สภาพเละพอๆกันทุกคน ผมกวาดตามองไปรอบๆก็เห็นว่านี่มันคอนโดไอ้เนมนี่หว่า

“ไง...ตื่นแล้วเหรอมึง เล่นกูซะแสบเลยนะ”ไอ้เนมออกจากห้องน้ำด้วยสภาพแปรงสีฟันคาปากฟองฟ่อดเท้าสะเอวมองผมกับที่นอนเกลื่อนอยู่

“อะไรวะ...กูเมามากเลยเหรอ”ผมถามเสียงกังวลเพราะพักหลังๆเวลาผมเมา ผมค่อนข้างจะ...แย่หน่อย ไม่อยากจะพูดถึงเลยจริงๆว่ะ

“เออ เหมือนเดิม ร้องไห้แงๆเรื่องไอ้ฟิก”มันแสยะยิ้ม

“ไอ้สัด หุบปากเลย”ผมมองหาของรอบตัวเพื่อขว้างใส่มันแต่ก็ไม่เจอ จึงทำได้แค่ก่นด่า

“ปมด้อยมึงนี่เนอะ กูไม่บอกใครหรอก”มันหัวเราะลั่นก่อนจะไอค่อกแค่กเพราะฟองยาสีฟันเข้าคอ ผมค่อยๆยืนขึ้นอย่างยากลำบากใช้เท้าปลุกพวกนั้นไปคนละทีสองที แต่พวกมันก็ไม่ตื่น ผมไม่เคยเห็นไอ้ตินหมดสภาพแบบนี้เลยจริงๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมันเมาสักครั้ง

“เมื่อคืนไอ้ตินมันเมาเหรอวะ”ผมโผเผไปเกาะกรอบประตูห้องน้ำ ไอ้เนมกำลังล้างหน้าอยู่ จากที่สังเกตุหน้ามันมีรอยฟกช้ำด้วย ผมเข้าไปดูหน้าตัวเองบ้าง

“เฮ้ย ใครต่อยกูวะ”ผมถามเสียงดังลั่นห้องน้ำ ไอ้เนมยกยิ้ม

“ไอ้ติน”ผมทำหน้ามึนมันก็หัวเราะออกมา

“คืองี้ เมื่อคืนมึงกับมันแดกเหล้าเพียวๆไปสองแก้วใหญ่ จากที่เมาๆมึนๆเลยเป็นหมา เรื่องมันเกิดก็ตอนที่สาวชงเหล้าจูบไอ้ติน ทีนี้แฟนผู้หญิงมาบ๊ะเข้าพอดี เลยมีมวย ไอ้ตินมันเมาแล้ว...เชี่ย นักเลงเรียกพี่เลย ต่อยเจ้าของร้านไปหนึ่งหมัด ต่อยกูกับเพื่อนมันคนละหมัด แล้วก็มึง...เพราะ”มันหัวเราะอีกรอบ

“เพราะไอ้ตินมันรำคาญเสียงงอแงของมึง”ไอ้เนมหัวเราะก๊ากอีกรอบ จนผมเท้าเอวทำหน้าจริงจังมันถึงหยุด

“ออกไปเลยไป”ผมไล่มันอย่างหงุดหงิด มันยกมือขออีกแป๊บ ทำธุระเสร็จมันก็เอาผ้าขนหนูวางบนบ่าผมแล้วออกไป ได้ยินเสียง
หัวเราะสั่นๆของมันแว่วมาจากข้างนอก เฮ้อ...ต่อไปผมจะไม่เมาหนักๆอีกแล้ว เสียหมาจริงๆ

หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จไอ้พวกที่นอนกองอยู่ก็ทยอยตื่น ยกเว้นไอ้ตินที่ยังไม่ฟื้น ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาดู มีแจ้งเตือนค้างเยอะแยะไปหมด ผมเบิกตากว้างเมื่อเห็นโพสต์เมื่อหลายชั่วโมงก่อนของตัวเอง ผมเดินดุ่มๆไปหาไอ้เนมที่กำลังต้มมาม่าหม้อใหญ่อยู่

“นี่กูโพสต์เองเหรอวะ”ผมยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้ามัน

“เออมั้ง กูก็เพิ่งเห็นเนี่ย”มันทำหน้างงๆ เป็นสเตตัสที่ฮอตมาก เพราะผมโพสต์ว่า 'คืนนี้พี่โสด' ตายๆ ถ้าสติดีๆผมไม่มีวัตโพสต์อะไรแบบนี้แน่ๆ ผมกดดูว่ามีใครมากดไลค์สเตตัสนี้บ้าง

“เวร”ชื่อเฟสไอ้ฟิกเด่นหราเลย มีคอมเม้นมากมายจากเพื่อน พี่ น้อง เหลนหลานรหัส ผมรีบลบสเตตัสนั้นทิ้งไปทันที เลื่อนดูอีกผมแทบลมจับ

“ตายห่า...”คนตายไม่ใช่ผม แต่เป็นไอ้ตินแน่ๆ เพราะรูปนี้ผมถ่ายแล้วแท็กให้มัน พร้อมข้อความ 'กูว่ามึงเมานมแล้วแน่ๆ' ผมแทบเอาหัวโขกโต๊ะ เพราะเป็นรูปสาวชงเหล้าที่แทบจะเกยอยู่บนตักมันแล้ว ตอนนั้นมันคงจะเมาแล้วแน่ๆ โอยตาย...ผมรีบลบออกอีกเช่นกัน

ไอ้ตินเอ้ย มึงซวยเเล้วว่ะ


ผมไล่ลบสเตตัสประหลาดๆของตัวเองจนหมด

“มึงว่ากูลืมอะไรไปรึเปล่าวะไอ้เนม”ผมหันไปถามเพื่อนอีกครั้ง มันเงยหน้ามาจากหม้อต้มมาม่าแล้วฉีกยิ้มให้

“ลืมว่าไอ้ฟิกมันโกรธมึงไง” 

“เชี่ยเอ้ย กูโทรหามันก่อนดีกว่า”ว่าแล้วก็กดโทรหามัน

“มันคงรับหรอก”ผมเลี่ยงออกมาคุยที่บานกระจกบานใหญ่ มันไม่ยอมรับสายผมว่ะ ผมครุ่นคิดว่าเมื่อคืนผมคุยอะไรกับมันบ้าง มันวีดีโอคอลมาด้วยนี่...คุยตั้งนาน...ว่าแต่คุยอะไรวะ...




“มึงอยู่ไหน” 

“อยู่ห้องน้ำ มีอะไรเหรอ”จำได้ว่าฉีกยิ้มหวานให้มัน

“มึงไปหลอกเด็กเถอะ คิดว่ากูไม่รู้เหรอว่ามากินเหล้า”

“กูยังพูดไม่จบ อยู่ห้องน้ำในร้านเหล้า เคลียร์ไหม” 

“มึงอยากโสดมากเหรอไอ้ภู”มันทำหน้าหงุดหงิด

“พวกมันแซวเล่น”บางทีเพื่อนมันก็ชอบหางานให้จริงๆ

“หึ ถ้ากูแซวเล่นแบบนี้บ้าง มึงจะโอเคไหม...แล้วไอ้นั่นใคร ข้างหลังมึงอ่ะ”ตอนนั้นไอ้หน้าขาวมันตามผมมาด้วย ตื้อจริงๆ จะมาเต๊าะผมเหรอ เหอะๆ

“ไม่รู้”

“แน่เหรอ”

“เออ มึงจะเอาไงห๊ะ”ผมดันไปหงุดหงิดใส่มันอีก ไอ้ฟิกมองหน้าผมก่อนจะกดวางสาย ผมเลยหันไประบายความโกรธใส่มันแทน





เวรแล้วไง

เวรแล้วไง 



ผมเอาหัวโขกบานกระจกสองสามทีก่อนจะเดินกลับมาปลุกไอ้ตินด้วยอุ้งเท้า

“ไอ้ติน ตื่น”ปลุกยากจริง ผมเดินไปเอาขวดน้ำในตู้เย็นออกมา ก่อนจะพลิกตัวมันนอนหงาย แล้วเทน้ำเย็นๆใส่หน้ามันจังๆ

“เชี่ย ไรวะ”มันโวยวาย น้ำเลยเข้าปากสำลักอยู่นาน มันขยับมาลุกนั่งหน้ายุ่งๆ

“ตื่นๆ”ผมตบหลังมันเสียงดัง

“เจ็บนะพี่”มันทำหน้าหงุดหงิดใส่ ผมเลยชี้มาที่โหนกแก้มของตัวเอง

“ดูมึงทำกู”

“เฮ้ย....ผมเมาเหรอ..”ขนาดเจ้าตัวยังทำหน้าตกใจ มันใช้แขนเสื้อเช็ดหน้าก่อนจะนวดขมับตัวเอง ไอ้เบลล์กับไอ้ชัยเดินมาทิ้งตัว
นอนลงบนโซฟาอย่างหมดแรง

“กูต้มมาม่าใส่ไข่ไว้นะ ใครจะกินก็ลุกมากิน เดี๋ยวกูต้องไปทำงานแล้ว”ผมทำหน้างงใส่เพื่อน อย่างไอ้เนมเนี่ยนะทำงาน ตัวสัน
หลังยาวดีๆนี่เอง

“มึงมีงานมีการให้ทำด้วยเหรอวะ”

“มี กูต้องไปเอาข้าวให้หมาที่บ้าน มึงจำหมาพ่อกูได้ไหม อีแก่ตัวเดิมนั่นล่ะ กับหมาที่น้องกูเก็บมาเลี้ยงอีกสองตัว”มันทำหน้า
ตลกๆ จนผมอดขำไปด้วยไม่ได้ 

“มึงรีบไปเถอะ”ผมโบกมือไล่ ก่อนจะหันมาจับเข่าคุยกับไอ้ตินอีกครั้ง

“มึงจำได้ไหมว่าไอ้ฟิกโกรธ”ผมเริ่มเข้าเรื่อง ไอ้ตินทำหน้ามึนๆก่อนจะยกมือตบหน้าผากเสียงดัง

“มึง...คือเมื่อคืนกูกับมึงเมามาก แล้วทีนี้...”ผมเล่าให้มันฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไหนจะเรื่องรูปและสเตตัสบ้าบอ ไอ้ตินทำหน้ายุ่งก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาดูบ้าง

“สัดเบลล์มึงแท็กอะไรมาให้กู”ไอ้ตินขยุ้มผมเหมือนหมดอาลัยตายอยาก ผมชะโงกไปดูบ้าง เป็นคลิปที่ค่อนข้างยาวพอตัว

“อะไรวะ”เพื่อนมันทำหน้างงบ้างก่อนจะควักเอาโทรศัพท์ออกมาดูบ้าง ผมเบิกตาโตเมื่อคลิปเล่นมาถึงฉากพีคสุดคือฉากจูบ ไอ้ตินปิดแทบไม่ทัน

“มึงลบออกเลย ไอ้เบลล์ ทำกูได้นะ” 

“กูเมา กูขอโทษ”ไอ้เบลล์รีบลบคลิปนั้นออก ผมมองหน้าไอ้ตินอย่างขอความเห็น

“มึงว่าทันไหม”มองหน้าอย่างรู้กัน

“จะเหลือเหรอ”แล้วมันก็ทิ้งตัวนอนกับพื้น ไอ้ฟิกไม่อยู่แค่สองวัน ทำไมเรื่องมันเยอะแบบนี้วะเนี่ย

“หมดกันความดีของผม”มันบ่นพึมพำเบาๆ




เช้าวันนั้นผมกินมาม่าเส้นอืดรองท้องก่อนไปเรียนด้วยสภาพดูไม่จืด และแน่นอนว่าถูกแซวยับเรื่องในเฟส อย่าว่าแต่ความดีของไอ้ตินเลยภาพลักษณ์อันน่าเกรงกลัวของผมก็ไม่เหลือ โทรหาไอ้ฟิกมันก็ไม่รับ ผมเลยต้องติดต่อไอ้เคนไปแทน

“เพื่อนมึงเป็นไงบ้าง”

[โกรธดิถามได้ หน้าเป็นตูด แต่พี่วางใจได้ มันโกรธไอ้ตินมากกว่าที่ไปจูบผู้หญิง] ผมไม่ได้เบาใจเลยสักนิด

“ให้ทำไงวะ ก็คนเมา”ผมถอนหายใจอย่างปลงๆ

[เมื่อคืนมันก็แทบไม่ได้นอนเพราะพวกพี่อ่ะ แต่พวกผมจะกลับตอนเย็นนี้แล้ว รอก่อนนะพี่ อย่าเพิ่งขาดใจตาย ไอ้ฟิกก็อยากกลับ
จะแย่แล้วเนี่ย] 

“เออ ไงก็ฝากทำให้มันอารมณ์ดีด้วยนะ”เผื่อจะคุยง่ายขึ้นบ้าง

[คงยากอ่ะ]

ไอ้เคนวางสายไปพร้อมกับทิ้งระเบิดไว้ให้ผม ผมไถลตัวกองกับโต๊ะหินอ่อน เอาแก้มแนบพื้นเย็นๆพลางคิดหาวิธีที่
จะทำให้ไอ้ฟิกหายโกรธ เรื่องไอ้ตินเอาไว้ก่อนเพราะผมก็มีคดีเหมือนกัน

“เป็นไรพี่ เมียทิ้งเหรอ”ไอ้ฉัตรเข้ามานั่งข้างๆผมพร้อมกับรอยยิ้มน่ากระทืบ

“ปากหมา เดี๋ยวกูถีบหรอก”ผมกลับมานั่งหลังตรงอีกครั้ง กับไอ้ฉัตรผมก็ยังคบกับมันต่อ ส่วนพวกที่เหลือ ผมไม่คบต่อ พวกมันก็
หลีกเลี่ยงเวลาเจอหน้าผมด้วย

“เมื่อคืนเห็นเฟี้ยวฟ้าวเชียว ไหงตอนเช้าแห้งเหี่ยวอ่ะ”มันยังคงล้อผมต่อไป

“ก็เมื่อคืนกูเมา...”ผมเคาะโต๊ะเบาๆ พลางใช้ความคิดไปเรื่อย

“มึงว่ากูควรง้อมันยังไงดีวะ” 

“แค่ขอโทษก็จบ”มันพูดเหมือนเป็นเรื่องง่าย

“ถ้ามันง่ายขนาดนั้น กูไม่มานั่งเครียดแบบนี้หรอก”ใช้วิธีเดิมก็คงไม่ได้ผล...แต่คนอย่างไอ้ภูซะอย่างจะกลัวอะไร มีแต่พุ่งเข้าใส่เท่านั้นล่ะ!





TBC.
เจอกันตอนหน้าในพาร์ทฟิกตามเดิม ตอนนี้ถือเป็นตอนซวยๆของตินเลย ก็พี่ภูเมาแล้วไม่ได้ตั้งใจ  :laugh:
ป.ล.นี่คือเหตุผลที่ตินไม่อยากเมาค่ะ เพราะเมาแล้วก็......ตามที่เห็น


หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 07-12-2015 07:03:28
ฮ่าฮ่าฮ่า

ปกติเห็นมีแต่ข่มฟิก

ตอนนี้หมดท่าทั้งภูทั้งตินเลย

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-12-2015 07:30:54
ฮ่าๆๆ. อ่อพอนักเลงเมาแล้วเป็นแบบนี้เอง
กลัวที่สุดคือเมีย

ฟิกเอ๊ยเบาๆหน่อยนะ. รอภาคง้อค่ะ.   :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 07-12-2015 07:49:32
อยากจะขำดังๆ พี่ภูพี่ติน โดนเละแน่เลยแก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Malila ที่ 07-12-2015 08:13:29
รำภูตินมาก เพื่อนด้วย   ชวนทำแต่เรื่องดีๆเนอะ 

โดนเยอะๆเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 07-12-2015 08:20:54
หมดกันความดีของติน :laugh:

นี่แหละน๊า เกรงใจเพื่อนจนได้เรื่อง
ง้อเมียกันเหนื่อยละทั้งตินและภู
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 07-12-2015 08:32:50
ตายๆๆๆ อย่างเดียว เปรี้ยวทั้งคู่
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-12-2015 08:48:51
 :z4: :z4: :z4: :z4:  เมาแล้วลืมเมีย เมาแล้วอยากโสดฟิกเอาคืนให้หลาบจำไปเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: kjkjji ที่ 07-12-2015 09:33:02
น้องฟิก อย่าไปยอมง่ายๆนะ
แต่ละคน เมาแล้วจบกันเลย 55555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 07-12-2015 09:33:58
อื้อหือ เมาแล้วเฮ้วใช่ย่อยเลยติน
โถๆๆๆๆๆๆ พี่ภูของไอ้เค่น เมาแล้วงอแง 555555555555555555+
บิดแก้มที 55555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 07-12-2015 09:53:30
ตินแม่งเก็บกดอ่อ ต่อยพี่ภูอะ พี่ภูงอแง 5555555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 07-12-2015 10:04:59
ขำตินเมามาก 5555555555555555
ถึงกับต่อยพี่ภูเพราะรำคาญนี่ไม่ธรรมดา(...)
ไม่ควรให้ตินเมาอีกเด็ดขาด
พี่ภูด้วย...จะง้อฟิกยังไงทีนี้
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 07-12-2015 10:17:04
สมน้ำหน้า ทั้งคู่เลย ฮ่าๆๆ แบบนี้ต้องให้ฟิกลงโทษหนักๆ  :z6:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 07-12-2015 10:53:25
มีผัว2คน ปวดหัวเป็น2เท่า
งานเข้ากันทั่วหน้า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 07-12-2015 11:20:49
แง้ พี่ตินของน้องหมดกันมาดพระเอกที่สั่งสมมา ถ้าจะเมาแล้วเรื้อนขนาดนี้ต่อไปห้ามดื่มเหล้าดีกว่านะคะ ตอนหน้าโดนฟิกเล่นทั่งคู่แน่ เหอะๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-12-2015 11:32:04
บางครั้งก็เพลียกับเพืรอนนะชอบหาเรื่องให้ซะจริง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 07-12-2015 12:49:42
ตินเมาแล้วเลือดร้อนนี่ ฟิกกลับมาตินเละแน่ ภูคงไม่เละเท่าติน ภาวนาให้ตินรอดตาย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 07-12-2015 13:54:47
ว่ากันว่า อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา เราก็เลย...สมน้ำหน้า กร๊ากกกก....งานนี้หรัหนุนให้ฟิกจ่มสามีบ้าง จัดหนักไปเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 07-12-2015 14:00:30
รอศาลฟิกที่เคารพมาตัดสินคดีความ 5555
งานนี้จำเลยตินโดนข้อหาหนักกว่าจำเลยภู ก๊ากก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Wannida ที่ 07-12-2015 16:58:45
อย่ายอมๆๆๆๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 07-12-2015 17:46:18
มีเพื่อนเหี้ยดีเนอะ
เพื่อนยังกะพ่อปฏิเสธไม่เปนหราา เวลามันชวนทำเรื่องเหี้ยๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 07-12-2015 18:43:52
ได้เวลาฟิกเอาคืนแหล่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Cady ที่ 07-12-2015 19:16:03
 :o8:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 07-12-2015 20:28:38
สุราพางานเข้า  :jul3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 07-12-2015 21:37:52
จะรอดูฟิกข่มบรรดาผัวบ้าง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 07-12-2015 21:49:59
อยากเห็นฟิกโกรธจริงจังซักครั้งอะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 07-12-2015 22:15:45
จริงด้วย..ฟิก
ถ้าเป็นฟิกทำแบบนี้มั่ง
ไอ่สองผัวนี่จะว่ายังไง

ไม่เป็นไร..ยังงั้นเหรอ
จะได้ยุให้ฟิกลุกขึ้นมาทำยังงี้มั่ง

อย่ามาอ้างเพื่อน อ้างเหล้า
เพราะมันตัวเรา..ล้วนๆ
ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้

จัดหนักไปเลยฟิก
ถ้าจะให้หายโกรธ
ยื่นข้อแลกเปลี่ยน
ทั้งภูและติน ต้องยินยอม
มอบซิงตูดให้เมีย ผลัดกันคนละคืน
อิอิ

ดีไหมๆๆๆๆๆ
กร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 07-12-2015 22:19:35

จะได้เห็นฟิกโกรธบ้างแล้ว :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 07-12-2015 22:38:35
เพื่อนนี่เหี้ยดีเนอะชวนทำแต่ละอย่าง ส่วนพวกแกสองคนจะเกรงใจอะไรขนาด ถ้าต้องทำให้เมียเสียใจก็ยอมเหรอ
ฟิกเอาให้จำนะฟิก เอาให้หนัก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 07-12-2015 22:50:52
ไม่รอดแน่งานนี้ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 07-12-2015 23:02:17

จัดหนักเลยหนูฟิก
นานๆทีจะเห็นสองปั๋วหงอ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: masmaro ที่ 07-12-2015 23:57:51
เละ !! บอกเลยงานนี้เละแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ จัดหนักจัดเต็มเลยหนูฟิก  :z6: :z6: :beat:
คราวนี้ถึงที่ของหนูแล้ว คนที่เละสุดเห็นจะเป็นพี่ตินแน่ๆมีจูบด้วยอะ ตาย!!  :hao7: :hao7:
จะรอดูภาคง้อหนูฟิกพี่ภูพี่ตินจะทำยังไง  :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Mynun ที่ 08-12-2015 04:16:34
มีเพื่อนแบบนี้ก็แย่เนาะ ชอบทำให้คนอื่นแตกกัน ถึงจะเล่นๆก็เหอะ 5555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 08-12-2015 10:25:52
ฟิกเอาคืนหน่อย  :m20:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 08-12-2015 10:47:57
อ๊ายยยยยยยยยยย นึกว่าจะมีโมเม้นท์จิ้นกระจาย ภู ติน ที่ไหนได้ อยากจิกรี๊ดดดดดดดด พวกแกทำไรกัน  :katai1:  เพื่อนนะคะไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่ หรือ คุณเมียที่เคารพรักอย่างฟิก จะได้เกรงใจขนาดนั้น  แล้วเป็นไง เกิดเรื่องจนได้  :m16: จัดเลยฟิก เอาให้หนัก เอาให้เข็ดหลาบ จะได้ไม่กล้าทำอีก ที่จริงผัวๆหนูมันก็ไม่ทำหรอก แต่พอเหล้าเข้าปากมีเพื่อนเชียร์ก็เลยอดไม่ได้ แถมยังทำครอบครัวเขาแตกแยกอีก เอาจริงๆเราก็ไม่ชอบนะเพื่อนแกล้งแบบนี้ทั้งที่รู้ว่า ทั้งสามคนเป็นยังไง ภูยังแค่มีคนตาม หนอยจะจับพี่ภูทำเมีย เดี๋ยวเจอเมียพี่ภูแหวกอกเอาตีนเหยียบ พร้อมซ้ำด้วยพี่ภูหรอก ส่วนพี่ตินนี่สิโดนจูบปากด้วย งานเข้าหนักเลย ยังไงก็เคลียร์กันให้ได้นะ แต่ขอเข้าข้างฟิกให้จัดหนัก สองหน่อหนักๆๆๆ ก่อน  :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 08-12-2015 11:08:56
อยากกินอะไรบอกได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ  จะได้ทำบุญกรวดน้ำไปได้ถูก :call:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 08-12-2015 16:49:19
 :z3:
คือสงสารตินอ่ะ
พี่ภูแม่งเมาแล้วพาคนอื่นซวย
แต่ขอบอกเลย
นี่พูดเลย
ถ้าเป็นฟิกนะ
ไม่หายโกรธภายใน  3  วันแน่ๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: hormonesyj ที่ 08-12-2015 21:53:50
พากันหาเรื่องงง เมียไม่อยู่ไง ไม่มีใครคุม พี่ภูนี่ตลอดเลย จัดหนักๆเลยฟิกเอ้ย  :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 08-12-2015 22:11:06
ตามไปอ่านภาคหลักจนมาถึงตอนนี้
ไม่คิดเลยว่าจะติดงอมแงม 5555555
เป็นเรื่องที่เราเห็นความเป็นไปของสามคนมากๆ
จากแบบคนที่ไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้ก็อยู่ได้
เราชอบความเป็นธรรมชาติของเรื่อง ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
และมันทำให้เราผูกพันกับตัวละครมากๆด้วย
ตอนนี้อยากให้ฟิกจัดหนักสองคนนี้หน่อยสิ
รู้สึกว่าห่างตาไม่ได้เลยนะคะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 09-12-2015 08:20:07
 :z10:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: meuy ที่ 11-12-2015 17:32:34
รอฟิกมาจัดการ    :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 13-12-2015 20:33:46
อยากให้จบปัญหาเก่าๆ ได้เร็ว ๆ

รอรางวัลอยู่นะ จะได้อ่านออนท็อปหรือDPบ้างไหมนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 13-12-2015 21:49:02
ฟิกต้องจัดการ :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: NanShiiWilawan ที่ 14-12-2015 21:28:22
รอคะ /ป้ายไฟพร้อม/ มีดพร้อม /ปืนพร้อม/ ไม่น่าเกี่ยว  o18 แต่หนูพร้อมมมคร้าาาามาต่อเร็วๆนะคะ คิดถึงพี่ฟิกกกกสุดใจเรย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 15-12-2015 00:17:45
แต่ละคนไม่น่ารอดน่ะ ฟิกโกรธมากกกกกกก
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๔: เมื่อฟิกไม่อยู่...] 7-12-58 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 15-12-2015 19:32:05
เมื่อไรฟิกจะมา รอฟิกมาลงโทษสามี2คนอยู่
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 17-12-2015 04:53:10
ตอนที่๑๕ เมื่อฟิกโกรธ…





ไอ้ภูกับไอ้ตินแม่ง….

ผมเพิ่งวางสายจากไอ้ตินไปเมื่อครู่นี่เอง ไม่รู้เป็นวันซวยอะไร มันสองคนถึงได้พร้อมใจกันสร้างเรื่องหงุดหงิดใจให้ผมแบบนี้ ไม่ใช่หงุดหงิดธรรมดาแต่หงุดหงิดมากถ้าไม่ติดว่าเสียดายเงินผมคงปาโทรศัพท์ทิ้งแล้วแน่ๆ

“เอาน่า…พวกมันแค่โพสต์ขำๆ คงจะเมานั่นแหละมั้ง”ไอ้เคนแทรกขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปนาน

“ขำๆเหรอ เหอะ ลองเป็นกูโพสต์ขำๆบ้างสิ”เพิ่งรู้สึกว่ามันไม่แฟร์สำหรับผมก็วันนี้นี่แหละ

“เฮ้อ นอนๆ อย่าไปคิดมาก พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”ไอ้ชายเดินมาดึงโทรศัพท์ไปจากมือผม นอกจากจะมาดูไซต์งานนอกสถานที่แล้ว พรุ่งนี้พวกผมยังต้องไปนั่งสเก็ตพวกสถูปเจย์ดีที่เมืองเก่าอีก ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงจะลั้นลาสบายใจเชิบแล้วแน่ๆ แต่ดันมาเจอเรื่องนี้เข้า

“มึงคิดว่ากูจะหลับลงอีกเหรอ”ผมเดินปึงปังออกไปนั่งรับลมที่ระเบียงหลังห้อง ปล่อยความคิดและความโกรธไปกับสายลมเย็นๆ

เบื่อพวกมันสองคนว่ะ พวกมันอาจจะคิดว่าขำๆ แต่สำหรับผมมันเสียความรู้สึก ไม่ว่าจะเพราะเมาหรือเพราะเพื่อนก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัว ก็ยอมรับว่าส่วนใหญ่ผมมักจะเป็นคนสร้างเรื่องให้พวกมันปวดหัว แต่เรื่องที่ผมเคยโกรธพวกมันก็แทบนับครั้งได้  คิดว่าผมโกรธไม่เป็นเหรอ

คอยดูเถอะพวกมึง!

ระหว่างที่สมองกำลังแล่นผมก็ได้ยินไอ้เพื่อนสองตัวมันซุบซิบกัน

“ไอ้ตินแม่งเป็นหนักนะ อย่าให้ไอ้ฟิกเห็นนะมึง…”

“มีอะไร”ผมลุกพรวดกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ไอ้เคนกับไอ้ชายพร้อมใจกันสะดุ้งโหยงเหมือนคนที่กำลังปกปิดอะไรบางอย่าง

“เปล่า”ไอ้ชายส่ายหน้าดิก มือจับโทรศัพท์แน่น ผมว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ

“พูดมา อย่าให้กูโกรธนะ”ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะกวนตีนใส่พวกมันแล้ว ไอ้สองตัวมองหน้ากัน

“มึงเคยได้ยินใช่ไหมว่าอย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา”ไอ้เคนมีท่าทางลำบากใจระหว่างที่มันขยับมาเปิดคลิปอะไรสักอย่างให้ผมดู ฟังจากเสียงคนพูดน่าจะเป็นเสียงเพื่อนไอ้ติน ในกล้องมีไอ้สองตัวที่กำลังแข่งกันกระดกเหล้าอยู่ แค่เห็นหน้ามันสองคนผมก็อยากเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง แต่ก็อยากรู้ว่ามันมีอะไรกันแน่ ผมกดข้ามไปเรื่อยๆจนถึงจังหวะที่ผู้หญิงชงเหล้ากำลังก้มมาหาไอ้ตินในระยะที่ใกล้มาก ผมกดปิดแทบไม่ทัน ไม่ต้องดูต่อก็พอจะรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น สองครั้งแล้วนะที่มันทำแบบนี้ ไอ้เรื่องจูบๆเนี่ยกับไอ้พี่ว่านผมไม่อยากพูดเยอะเพราะกลัวตัวเองจะดูงี่เง่าในสายตาพวกมัน แต่มันก็เป็นเรื่องง่ายๆ ถ้ามันนึกถึงหัวอกผมสักนิดมันก็คงไม่ทำหรอก

“กูว่ามันเมามากเลยนะ”เสียงไอ้ชายแว่วมา

“ช่างแม่ง”ผมปาโทรศัพท์ในมือทิ้ง

“เชี่ยฟิก ลูกรักกู!”ไอ้เคนปรี่ไปหาโทรศัพท์ที่หล่นตุ้บอยู่ที่พื้นห้อง ผมยิ้มเยาะใส่มันก่อนจะเดินดุ่มกลับไปที่เตียง

“กูจะนอนแล้ว ห้ามกวน”พูดจบผมก็ดึงผ้าห่มมาคลุมโปงทันที ในหัวคิดวุ่นวายไปหมด ถึงจะโกรธพวกมันแต่ก็อดห่วงไม่ได้ว่าตอนนี้พวกมันจะกลับถึงห้องหรือยัง เล่นเอาผมนอนไม่หลับไปทั้งคืนเลย








…………………………………………………………………







ตอนเช้าไม่ใช่วันที่แจ่มใสสำหรับผม นอกจากจะอารมณ์เสียเพราะนอนไม่พอ ผมยังต้องอดทนต่อการก่อกวนของไอ้ตินและไอ้ภู มันโทรเข้ามาตลอดเช้า เหมือนคนไม่มีอะไรทำ ผมไม่อยากปิดเครื่องให้พวกมันประสาทแดกกันบ้าง ไอ้เคนกับไอ้ชายเลยต้องรับกรรมแทน

“มึงคุยกับพวกมันให้รู้เรื่องก่อนไหม โทรหากูบ่อยจนกูไม่ต้องทำอะไรแล้วเนี่ย”ไอ้ชายบ่น ผมก็ทำหูทวนลม ปิดเสียงซะก็จบ พวกมันไลน์มาหา ผมก็เปิดอ่าน แต่ไม่ได้ตอบ โกรธอยู่เลยไม่อยากคุยด้วย ส่วนใหญ่ก็คำขอโทษและข้อแก้ตัวเดิมๆ เมาบ้าง เพื่อนแกล้งบ้างล่ะ เหอะ

หลังจากนั้นอาจารย์ก็สั่งงานก่อนจะปล่อยให้พวกผมเผชิญชะตากรรมต่อไป แต่ผมจะทำงานได้ไง ถ้าไม่มีสมาธิแบบนี้ เมืองเก่าสวยๆน่าค้นหาตรงหน้าก็ช่วยดับอารมณ์กรุ่นๆของผมไม่ได้เลย ผมโยนปากกาพิกม่าลงบนพื้นหญ้าอย่างหงุดหงิด นี่ก็สเก็ตมาสามรอบแล้ว ผิดสเกลหมด

                “ไอ้ฟิก วันนี้มึงจะเสร็จไหม กลับบ่ายนี้นะเว้ย”ไอ้เคนส่งเสียงเตือน มันเงยหน้ามาจากช้างปูนปั้นตรงหน้ามามองผม ไอ้เคนสเก็ตอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับผมนี่แหละ ตรงวัดช้างล้อมที่มีเจดีย์ทรงลังกา มีรูปช้างปูนปั้นล้อมรอบ จ้องจนเบื่อ

                “เสร็จดิ”ผมตอบแบบฉุนๆ ก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นใหม่ออกมาจากกระบอกซูมอย่างหงุดหงิด 

                “ไม่เอา ไม่ร้องนะเพื่อนฟิก”ไอ้ชายยังมีอารมณ์มาล้อผมอีก

                “พวกมึงเงียบๆ เดี๋ยวกูโกรธจริงๆนะ”ผมทำหน้าจริงจัง พวกมันถึงหุบปากเงียบ กลับไปสนใจงานของตัวเองต่อ ขีดๆเขียนๆไปได้สักพักไอ้ปลาก็เดินล่องลอยตรงเข้ามาทางผม พร้อมกับถือกล้องไล่ถ่ายชาวบ้านไปทั่ว ผมก็เบื่อมันนะ ชอบถ่ายรูปให้ผมดูทุเรศทุรัง

“ไงค่ะเพื่อน”มันเดินมายืนค้ำหัว พร้อมกับรัวชัตเตอร์

“มึงไปไกลๆไป”

“ทำมาอารมณ์เสียใส่กู หงุดหงิดมากเหรอ”มันถามพร้อมรอยยิ้มก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆผม

“งานมึงเสร็จแล้วเหรอ มาเจ๋อแถวนี้”ไอ้ชายหันมาถาม

“แน่นอน ระดับนี้แล้ว”มันไหวไหล่ไม่สะทกสะท้านอะไร

“เออฟิก …เมื่อวาน…”ไอ้ปลาเหมือนจะมาเลียบๆเคียงๆถามเรื่องไอ้สองตัวนั่น ไม่อยากบอกว่าเรื่องในเฟสนั่นมีหลายคนมาแจมเยอะมาก ไม่รู้ว่าคึกอะไรกัน แต่มันทำให้ผมหงุดหงิดฉิบ

“ถ้าเป็นกู กูก็โกรธเหมือนกันนะ แต่แปลกนะ เพิ่งเคยเห็นพี่ภูกับพี่ตินเป็นแบบนั้น”ไอ้ปลานั่งรำพึงเบาๆเหมือนผมไม่ได้อยู่ด้วย

“มึงจะไปรู้อะไร”ผมสอดขึ้นมา

“โอ๋เอ๋ มึงอย่าเหวี่ยงใส่กูนะ กูมาดี”มันรีบยกไม้ยกมือเหมือนไม่อยากโดนผมด่า ไอ้ปลาเงียบเสียงลง ก้มมองงานครึ่งๆกลางๆของผม ก่อนจะเหลียวมองไปรอบๆเพื่อดูลาดเลา

“เดี๋ยวกูช่วย”ผมแทบจะคอเคล็ดเพราะเหลียวไปมองมันแบบกะทันหัน

“อะไรเข้าสิงมึงวะ”มันมาแปลกๆเว้ย

 “เออน่า กูให้เวลามึงไปตาม…สามีกลับบ้าน กลัวเมานมแล้วหาทางกลับไม่ถูก”มันกลั้นหัวเราะตัวสั่น

“เชี่ย มึงเอาไปเลย ทำสวยๆด้วย กูอยากได้A”ผมส่งกระดานสเก็ตไปให้มันเหมือนไม่ใช่งานตัวเอง  เหอะๆ ไอ้ภูกับไอ้ตินชอบเนียนตลอด มันอาจจะโทรหาไอ้ปลา หรือไม่ก็โทรหาไอ้ขวัญด้วยแน่ๆ ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาเช็ค รอให้แจ้งเตือนต่างๆหยุดไปเอง มิสคอลส่วนใหญ่ไม่พ้นของไอ้ภูกับไอ้ติน มีของไอ้เนม พี่ปา และไอ้ขวัญบ้างประปราย ไอ้ชัยก็ด้วย ไอ้ห่านี่จะโทรหาผมทำไม ไอ้นี่มันต้องเสี้ยมให้ไอ้ตินทำเรื่องอุกอาจแน่ๆ ผมจึงโทรกลับไปหามัน รออยู่สักพักมันก็รับ

[กว่าจะรับสายกูได้นะ]

“เพื่อนมึงกูยังไม่รับ แล้วมึงเป็นใคร หืม”ผมทำเสียงกวนตีนใส่ ได้ยินเสียงมันเหมือนพยายามไม่พ่นลมหายใจออกมา

[มึงโทรหามันด้วย]

“ทำไมกูต้องโทร”อยากรู้ว่ามันจะมาไม้ไหน

[เอ้า ไอ้นี่…] มันเงียบไปสักพักก่อนจะกระแอม

[เมื่อคืนพวกกูแกล้งมันเองนั่นแหละ เรื่องโพสต์นั่น]

“มึงไม่ต้องแก้ตัวให้เพื่อนมึงหรอก”ผมเริ่มจะฉุนอีกรอบ

[มันเมา มึงก็รู้ว่าปกติมันเป็นแบบนี้ที่ไหน] ผมทำเสียงเหอะใส่ ปลายสายเงียบไปสักพัก ได้ยินเสียงกุกกักตามมา   

[ฟิก นี่กูเองนะ] ไม่บอกผมก็จำได้อยู่แล้วว่าเป็นเสียงไอ้ติน ผมได้แต่ฟังเงียบๆว่ามันจะพูดอะไร

[กูขอโทษ]

“ไม่มีคำอื่นที่ดีกว่านี้เหรอวะ ขอโทษแล้วยังไง มันลบความรู้สึกแย่ๆของกูได้ไหม แล้วถ้าเป็นกูที่ทำแบบนั้นบ้าง กูว่ามันคงไม่ได้จบที่คำขอโทษแน่ๆ”

[กูรู้ว่าที่กูทำมันแย่ กูไม่อ้างว่ากูเมาหรอก มันคงฟังไม่ขึ้น เอางี้ตอนเย็นกลับมาคุยกัน โอเคไหม]

“ไม่ว่ะ กูเบื่อเจอหน้าพวกมึง ไว้อารมณ์ดีๆแล้วกูจะเข้าไปคุย”ผมรีบกดวางสายด้วยใบหน้าบึ้งตึง แอบเหล่เห็นไอ้พวกจอมเผือกสามคนเงียหูฟังอยู่ ผมไล่เปิดอ่านไลน์ ลบของไอ้สองตัวนั่นทิ้ง มีของไอ้ปั๊มด้วย แปลกใจนิดหน่อยเพราะผมไม่ได้คุยกับมันนานแล้ว

ปั๊ม – พี่ฟิก อยู่รึเปล่า?

Fix – มีไร

ปั๊ม – โห กว่าจะตอบ ตั้งแต่เช้าแล้วนะเนี่ย

Fix – ก็ตอบแล้วนี่ไงวะ

ปั๊ม – อารมณ์ไม่ดีเหรอ

ปั๊ม – กลับมากี่โมง

ผมอ่านแต่ไม่ตอบ ไม่รู้ต้องการอะไรของมัน

ปั๊ม – คิดถึงนะ

Fix –  เป็นเชี่ยไรของมึง

ปั๊ม – กูขอโทษ

ผมเริ่มขมวดคิ้ว เริ่มเอะใจว่าใช่ไอ้ปั๊มแน่เหรอ ปกติมันไม่ขึ้นมึง กูกับผม หรือมันอยู่กับ….พี่มัน ไอ้หมาภู แล้วมันก็ส่งกลอนยาวๆกวนประสาทมาให้ผม

 ปั๊ม –      ถ้ารัก คือ...ฟัน

รักคงมั่น คือ...ฟันแท้

รักร่อแร่ คือ...ฟันโยก

รักโสโครก คือ...ฟันดำ         

รักถลำ คือ...ฟันเหยิน

รักหมางเมิน คือ...ฟันห่าง

รักร้าง คือ...ฟันหลอ

รักหงิกงอ คือ...ฟันกุด

รักบริสุทธิ์ คือ...ฟันขาว

รักชั่วคราว คือ...ฟันปลอม

รักอ่อนซ้อม คือ...ฟันร่วง

รักสีม่วง คือ...ฟันเก

รักจำเจ คือ...ฟันซ้อน

รักสลอน คือ...ฟันแทรก

รักแรก คือ...ฟันน้ำนม

รักระบมคือ...ฟันผุ

รักคิกขุ คือ...ฟันกระต่าย

รักสลายคือ...ฟันหลุด

รักชำรุด คือ...ฟันสึก

รักเจ็บลึก คือ...ฟันคุด

รักตุ๊ด คือ...ฟันหนุ่ม

รักทั้งกลุ่ม คือ...ฟันหมด

รักสลด คือ...ฟันพลาด

รักต่างชาติ คือ...ฟันฝรั่ง

รักปิดบัง คือ...ฟันชู้

รักอุดอู้ คือ...ฟันช้า

รักกะฮาคือ...ฟันเล่น

รักไม่เป็น คือ...ฟันดะ

รักเธออยู่เสมอ จริงๆ นะ...ฟันธง

ผมอ่านแล้วหงุดหงิด(ก็ยังบ้าอ่านจนจบ) กดโทรหาไอ้ภู แล้วมันก็รับทันที ผมไม่ปล่อยให้มันพูดก่อน

“มึงเห็นกูไม่เคยโกรธมึงจริงจังใช่ไหม ถึงได้มากวนประสาทกูแบบนี้ คิดว่ากูล้อเล่นเหรอ ไอ้ภู กวนตีนดีนัก เดี๋ยวกูจะให้มึงโสดจริงๆ”

[เฮ้ย กูแค่ไม่อยากให้มึงเครียด กูรู้ตัวว่ากูผิด แล้วเรื่องโพสต์นั่น…เพื่อนกูมันแกล้ง]

“เพื่อนแกล้ง? เมา? อย่ามาอ้าง มึงเป็นควายเหรอถึงต้องให้พวกมันคอยจูงจมูก จะอะไรยังไงก็ก็เรื่องของมึง  คือมึงอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มึงทำเหมือนไม่เห็นหัวกู ทุกครั้งเวลากูขยับตัวไปไหน กูก็บอกพวกมึงตลอด แต่ทีพวกมึงล่ะ ถ้ากูไม่เห็นที่ไอ้เนมโพสต์ กูคงไม่รู้ว่ามึงออกไปเที่ยว แล้วเมื่อคืนยังมาเสือกพูดไม่ดีกับกูอีก”ผมหยุดพูดเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเสียงดังขึ้นทุกที

[โอเคฟิก มาคุยกันตรงๆดีกว่า แบบนี้กูไม่สบายใจ]

“กูยังไม่อยากคุย กูโกรธ กูหงุดหงิด มึงเข้าใจไหม ยังไม่ต้องโทรหากู”

[เฮ้ย ไม่เอา กูอยากให้มันเคลียร์ๆ หรือมึงจะให้กูไปหามึงที่สุโขทัยตอนนี้เลยดีไหม]

“มึงลองมาสิ”คุยกับมันแล้วหงุดหงิดโว้ยย ผมกดวางสายทันที ปล่อยให้ตัวเองสงบสักพักก่อนจะหันมาสนใจงานของตัวเองที่ไอ้ปลาทำอยู่

“เสร็จยัง”เห็นมันนั่งเงียบ ไม่ทำอะไรเลย

“เสร็จแล้ว โอ๊ย ไอ้ฟิกเหมือนไม่ได้ฉีดยาอ่ะ”มันทำหน้าประหลาดๆ ก่อนจะเลื่อนกระดานสเก็ตคืนมาให้ผม

“เออ ปลา มึงพักอยู่ที่ไหนนะ”ไอ้ปลาทำหน้างงๆที่อยู่ๆผมก็ถามขึ้นมา

“อยู่ซอยเดียวกับบ้านไอ้ชายนั่นล่ะ แต่บ้านกูหรูกว่ามัน ทำไมอ่ะ”

“กูไปค้างด้วย คืนนึง”

“ห๊ะ”มันทำหน้าตกใจ

“โอเค มึงรับรู้แล้วนะ”ผมลุกบิดเนื้อบิดตัวไปมาแก้เมื่อย

“เดี๋ยว เอาให้เคลียร์ คือมึงจะมาค้างกับกู”มันชี้มาที่ตัวเอง

“เออ”

“อุ้ย มึงคิดอะไรกับกูใช่เปล่า”มันทำท่าทีเขินอายแบบไม่สมจริงนัก

“แยกไม่ออกว่าอันไหนด้านหน้า อันไหนด้านหลังแบบมึง ยังมีอะไรต้องให้กลัวอีกเหรอ”

“กูซ่อนรูปเว้ย แต่ห้องว่างรกหน่อยนะ กูเอางานเก่าๆไปเก็บ”

“เออ ก็แค่คืนเดียว”ไม่ใช่ว่าหนีพวกมัน แต่แค่หลบไปทำอารมณ์ดีๆก่อน

“แต่กูก็เริ่มชินล่ะ เวลาเพื่อนกูมันทะเลาะกับแฟน มันก็ชอบอพยพมาบ้านกูแบบนี้แหละ”ไอ้ปลาทำหน้าเข้าใจ

“แล้วพวกมึงก็อย่าบอกมันล่ะ เข้าใจไหม ไม่อย่างนั้นกูโกรธ กูพูดจริงด้วย บอกไว้ก่อน เลือกอาว่าจะเป็นเพื่อนพวกมันหรือเพื่อนกู”ผมชี้หน้าพวกมันเรียงตัว ต้องเล่นบทโหดบ้าง ไม่อย่างนั้นพวกมันจะหลงกล(โหด)ไอ้ภูกับไอ้ติน

“แหม ดุจริ๊งเพื่อนกู เข้าใจแล้วครับ”ไอ้ชายทำหน้าตากวนประสาทใส่

เนื่องจากงานของผมมีไอ้ปลามาช่วยเลยเสร็จเร็วกว่าปกติ จึงเหลือเวลาเดินเที่ยวชมเมืองเก่า แถมบรรยากาศกำลังดีเลยด้วย ฝรั่งก็เยอะ ส่วนมากเจอแต่กรุ๊ปทัวร์ใหญ่ หล่อสวยผมบลอนด์มาเต็ม ไอ้ชายนี่จ้องตาเป็นมันเชียว

“เดี๋ยวนี้หันมาบริโภคของนอกแล้วเหรอมึง คุยกับเขารู้เรื่องเหรอวะ”แซวไปไม่ให้ปากว่าง เห็นมันมองบ่อยๆ

“มึงไม่รู้อะไรซะแล้ว กูได้Bภาษาปะกิดนะเว้ย”มันยืดอกอวด

“ไม่ใช่ว่าลอกเด็กมนุษย์เหรอวะ”ไอ้เคนแทรกมา

“ระดับกู ไม่ต้องลอก”เหมือนมันจะเก่งแบบงูๆปลาๆพอถูไถ ผมแวะซื้อน้ำมะพร้าวข้างทางก่อนกลับเพราะตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงแล้วด้วย มีพวงกุญแจไม้ขายด้วย ผมเห็นว่าใช้สิ่วมือแกะเองเลย ตอนแรกตั้งใจจะซื้อ แต่ก็เปลี่ยนใจเพราะเผลอหยิบมาตั้งหลายอัน ไอ้เคนมันเดินรั้งท้าย เหมือนจะได้ยินมันคุยโทรศัพท์แว่วๆ ขอเดาว่าคงไม่พ้นไอ้ตินกับไอ้ภูแน่  บางทีพวกมันก็ทำตัวเหมือนฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง ผมรีบปลีกตัวไปขึ้นรถนั่งข้างไอ้ปลาทันที นั่งใกล้ไอ้เคนกับไอ้ชายเดี๋ยวมันจะมากรอกหูผมอีก

“มึงแน่ใจเหรอ ว่าจะไปค้างบ้านกูอ่ะ”มันถามขึ้นมาอีกรอบ

“เออ แน่ใจ ทำไม กลัวกูย่องไปปล้ำมึงตอนดึกๆเหรอ”ผมแกล้งทำหน้าหื่นๆใส่มัน

“อี๋ มึงอย่าทำหน้าตาแบบนี้”มันทำตัวสั่นๆแบบรังเกียจ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาจิ้มมือถือต่อไป ระหว่างทางผมก็หลับๆตื่นๆเป็นพัก ๆ สะดุ้งตื่นมาอีกครั้งก็พบว่าพี่ปาโทรมา ผมตัดสินใจไม่รับ เพราะกลัวจะโดนกล่อม เพราะกับไอ้พี่ปาผมก็เคารพนิดหน่อย ผมต้องรอบคอบไว้ก่อน เพราะไอ้สองคนนั่นเพื่อนเยอะเหลือเกิน กะว่าจะลงก่อนถึงคณะ เผื่อพวกมันมาดักรอผม     

“มึงเอาจริงเหรอ”ไอ้ชายทำหน้าไม่ถูกเมื่อผมขอให้ลุงคนขับจอดที่ปากทางคณะสังคม

“เออ เพราะฉะนั้นพวกมึงห้ามหลุด ไม่งั้นตาย”ผมสวมบทโหดใส่เพื่อน

“คนลำบากก็พวกกูนี่ล่ะ”ไอ้เคนบ่นพึมพำเบาๆมาให้ได้ยิน ผมลงมายืนหลบมุมที่หลังป้ายคณะ ส่องเฟสพวกมันสักหน่อย ยังดีที่ลบโพสต์บ้าๆรูปปลวกๆออกไปหมดแล้ว อันที่จริงผมก็คิดอยากโพสต์ประชด แบบที่พวกมันทำบ้าง แต่มาคิดดูแล้วก็ไม่เอาดีกว่า ผมไม่อยากทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต รอไม่นานไอ้ปลาก็ขี่รถมาจอดใกล้ๆฟุตบาตร หน้าตาดูตื่นๆ

“กูเจอแฟนทั้งสองของมึงที่คณะด้วยว่ะ”ว่าแล้วเชียว

“เหรอ งั้นมึงรีบๆบิดเลย”ผมกระโดดซ้อนท้าย ก่อนจะตบบ่าให้มันออกรถ กลัวจ๊ะเอ๋กับพวกมันน่ะสิ ไอ้ปลาเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนต่างเซคอีกสองคน ผมเคยเห็นหน้าค่าตาผ่านๆ แต่ไม่ได้สนิทอะไร

“งานแสดงละครปีนี้มึงจะมาช่วยน้องปีหนึ่งไหมวะ”ไอ้ปลาชวนคุยระหว่างที่เลี้ยวเข้าซอย

“ทำไมต้องช่วยด้วย”ปกติจะเป็นหน้าที่ของพวกผู้นำ ว้ากแล้วก็พวกหลีดสัน

“ก็คอนเซ็ปละครครั้งนี้ เป็นการรวมดรีมทีมกุ๊ยไง เห็นพวกพี่คุยกันว่าจะเอามึง น้องปีสองมาช่วยน้องเพชรอีกที แบบมารวมแสดงด้วยอ่ะ พอดีน้องเพชรไม่ได้เกิดมาทางสายฮา น้องเขาเน้นหล่อ”มันบิดรถซ้ายทีขวาที

“เหรอวะ ไม่รู้ดิ”ถ้าพวกปีโตๆมาคุย ผมก็ต้องทำอยู่ดี

“มึงไปถึงบ้านกูแล้วจะแปลกใจ ค่าเช่าแพงแต่กูก็ไม่หวั่น”มันพูดทีเล่นทีจริง  ทำเอาผมเริ่มสยองตงิดๆ ผมรู้จักมันได้ยังไงตั้งหลายปีเนี่ย ไอ้ปลาฮัมเพลงเพี้ยนๆไปตลอดทางจนกระทั่งผ่านซอยบ้านไอ้ชายไป แถบนี้ทั้งแถบดูเหมือนจะมีแต่หอพักและบ้านเช่าแพงๆทั้งนั้น ผมไม่ค่อยได้มาแถวนี้เลยไม่ค่อยคุ้น ผมลงจากรถก่อนจะเหลียวมองรอบๆตัว บรรยากาศร่มรื่นน่าอยู่กว่าหอที่ผมอยู่อีก อันที่จริงก็ดีกว่าหอพักผมหลายขุมแต่ผมอยู่จนชินแล้วเลยไม่อยากย้ายออก อีกอย่างก็หาห้องที่ใหญ่พอสำหรับผู้ชายสามคนยากด้วย

“หอตรงข้ามสีเขียวๆเดือนล่ะเท่าไหร่ว่ะ”

“เฮ้ย นี่อย่าบอกนะว่ามึงโกรธจริงจังถึงขั้นย้ายหนีอ่ะ”ไอ้ปลาทำหน้าตกใจ

“ไม่ใช่ กูแค่ถามดูเฉยๆ กูเบื่อหอเก่า แต่ย้ายก็ดีเหมือนกัน เผื่อจะเจออะไรใหม่ๆ”พึมพำประชดเบาๆ มันก็มีบางอารมณ์ที่ผมเหนื่อยแล้วก็ระอากับพวกมัน ไม่ใช่แค่พวกมันฝ่ายเดียวหรอกนะที่เหนื่อยกับผม แต่ก็แค่อารมณ์ชั่ววูบเวลาเหนื่อยๆเท่านั้นล่ะ ที่คิดแบบนี้

“เจออะไรใหม่ๆ นี่มึงคิดจะเลิกกับสองคนนั่นเหรอ”มันยังคงทำหน้าตาตื่นเข้าไปอีก ผมจึงโบกหน้าผากมันไปหนึ่งทีเพื่อเรียกสติ

“แค่พูดเฉยๆ มึงนี่ท่าจะบ้า ทำอย่างกับหาใหม่ได้ง่ายๆ”

“แต่กูเชื่อนะว่าอย่างมึงนี่หาได้ง่ายๆอยู่แล้ว”

“ทำมาชม เอาจริงๆถ้าแค่เล่นสนุก ๆคบกันผิวเผินน่ะ มันหาง่าย แต่หาคนที่ยอมรับในสิ่งที่ต่างคนต่างเป็นได้เนี่ยมันหายาก จะคบกันมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะเว้ย ไม่ใช่แค่คู่นอน แต่มันหมายถึงคนที่จะผ่านเรื่องแย่ๆไปด้วยกัน”พูดแล้วก็ถอนหายใจ บางทีผมก็คิดนะว่าการที่รู้จักสนิทกันมากเกินไปมันก็ทำให้เรามองข้ามบางสิ่งเล็กๆไป   

“อุ้ยตาย วันนี้มึงพูดดีนะ กินยาผิดขวดแน่ๆ ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว”ไอ้ปลาเหลียวมองผมหัวจรดเท้าเหมือนคนไม่เคยเห็นจนผมต้องโบกมือให้มันรีบเปิดประตูรั้วซะที หลังจากที่ผมไล่มันไปกวาดห้องได้ผมก็ออกมานั่งเล่นที่ม้าหินอ่อนตรงบริเวณราวตากผ้า โชคดีที่ไม่มีกางเกงน้องหมี ไม่งั้นผมคงไม่กล้านั่งแน่ๆ ผมลองกวาดตามองข้างบ้านเพราะนึกถึงคำพูดของไอ้ปลาได้ แสดงว่าข้างบ้านต้องมีอะไรน่าสนใจแน่นอน มองไปที่ราวตากผ้าก็ปรากฏว่ามีเสื้อกล้ามผู้ชายตากอยู่ ที่แท้ก็มีหนุ่มให้ส่องนี่เอง ผมกลับมาสนใจโทรศัพท์บนโต๊ะ เลื่อนหน้าจอไปมาเหมือนไม่มีอะไรทำ จนกระทั่งข้อความจากไอ้เคนเด้งขึ้นมากระแทกตา

Ken – พวกมันซักฟอกจนกูแทบเปื่อยแล้วเนี่ย

Fix – มึงไม่ได้หลุดอะไรใช่ไหม

Ken – ถ้าหลุดมึงก็โกรธอ่ะดิ

Fix – กูรู้สึกผิดเลยเนี่ย ขอบใจแล้วก็ขอโทษด้วยล่ะกันที่ต้องเดือดร้อนมึงทุกที

Ken – กูต้องซึ้งไหมวะ ช่างเหอะ อารมณ์ดีเร็วๆแล้วกลับไปเคลียร์กับพวกมันซะ

แล้วมันก็รัวสติ้กเกอร์มาให้ผม

“พี่ฟิก”

ผมเงยหน้าจากโทรศัพท์เมื่อได้ยินเสียงคุ้นๆเรียก ผมยิ่งเข้าใจว่าเพราะอะไรไอ้ปลามันถึงอยากเช่าบ้านนี้นานๆ เพราะไอ้คนที่ยิ้มกว้างสว่างไสวมาให้คือเพชรเดือนปีหนึ่งนั่นเอง

“อ้าว ไง”ผมยิ้มแห้งกลับไป

“พี่มาดูหอเหรอครับ”อีกฝ่ายชวนคุย

“เปล่า แค่มานอนค้างกับไอ้ปลาอ่ะ มาช่วยมันตัดโม”ผมโม้ไปเรื่อยเปื่อย

“พอดีเลย ผมกำลังหาผู้ช่วยพอดี”มันพูดทีเล่นทีจริง

“แค่งานพี่ก็แย่แล้วน้องเอ้ย”ความจริงปกติจะให้พวกสายรหัสมาช่วยกันทำงาน แต่ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ สายเลยมาขาดที่ผม พี่รหัส น้องรหัสผมยังไม่ค่อยเจอเลย หรือเจอกันแต่ผมจำไม่ได้ก็ไม่รู้ ผมก็ได้พวกไอ้เคนกับพวกสายเทคมาช่วยมากกว่า

“แต่ถ้าพี่ฟิกมีงาน ให้ผมช่วยได้นะครับ ผมอึด”มันหัวเราะไปพลาง

“ไว้จะเรียกใช้ก็แล้วกัน”

“อีฟิก--”ไอ้ปลาโผล่หน้าออกมานอกประตู แต่ก็หุบปากฉับเมื่อเห็นผมอยู่กับน้องเดือนคณะที่มันปลื้มปริ่มอยู่ มันหัวเราะแห้งๆเหมือนคนไร้ความมั่นใจ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากจริงๆ ผมส่งยิ้มล้อเลียนไปให้มัน 

“รู้จักกันด้วยเหรอเนี่ย”มันถามเรื่องที่ไม่น่าถาม

“คือแบบไม่คิดว่าสนิทกันไง”ไอ้ปลามาร่วมวงด้วย น้องเพชรก็ยังยิ้มหล่อไม่รู้เรื่องรู้ราว

“พี่ขอเตือนนะ พักนี้อย่าแก้ผ้าออกมานอกบ้าน เหมือนมีราหูจ้องจะงาบอยู่”ผมพูดติดตลกให้น้องมันขำ แต่แอบกัดไอ้ปลาที่นั่งหัวโด่อยู่

“ผมต้องไปซ้อมละครแล้วครับ ยังไงก็เจอกันที่คณะนะครับ”แล้วเดือนคณะก็จากไป ปล่อยให้ไอ้ปลามองตามตาละห้อย

“มึงชอบน้องเขาจริงๆเหรอ”ผมถามเสียงจริงจัง ปกติมันจะชอบแซวขำๆไปเรื่อย

“บ้าดิ กูก็แซวไปทั่ว ผู้หญิงอัธยาศัยดีอ่ะ มึงต้องเข้าใจ”มันตอบแบบมั่นหน้า

“ถ้ามึงอยากมีแฟนนะ กูแนะนำให้ลดอาการริกๆของมึงบ้าง ใครเห็นเขาก็กลัว”

“มึงนี่พูดซะกูดูน่ากลัวเลย”

“แต่อย่าไปอ่อยใครในร้านเหล้าล่ะ มึงไม่ได้เจอผู้ชายดีๆจากแถวนั้นหรอก กูพูดจริงนะ ห่วงมึงด้วย”ไอ้ปลามองหน้าผมก่อนจะหัวเราะเสียงดัง

“กูว่าวันนี้มึงผิดปกติจริงๆว่ะ ต่างจากทุกวัน เป็นแบบนี้บ่อยๆกูคงใจคอไม่ดีแน่”

“โหมดมีสาระ ก็ไม่ชอบอีก แต่ถ้ามึงสนเดือนคณะ เดี๋ยวกูเป็นพ่อสื่อให้”อยากเห็นมันเป็นฝั่งเปาฝาบ้าง อยู่บนคานมานานแล้ว

“โอ๊ย กูไม่สนผู้ชายหล่อๆหรอก เดี๋ยวนี้กูเป็นโรคระแวงผู้ชายหน้าตาดี กูแค่ใจป้ำ แข็งแรง มาช่วยกูจัดโมทุกวันก็พอ”มันทำหน้ามีความหวัง

“คุยเรื่องกูไม่สนุกหรอก มาเม้าท์เรื่องมึงดีกว่า”ผมทำหน้าเหนื่อยหน่ายทันที

“ยังมีเรื่องให้มึงเม้าท์อีกเหรอวะ”มันจะมาเกาะติดเฉพาะช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ล่ะ แต่โรคเผือกของมันก็ทำให้ผมหายเครียดได้บ้างในบางที

“หลายประเด็นมาก มึงคือเซเลบสำหรับสาววาย มีสามีหล่อๆตั้งสองคน ดีออก”คำหลังอารมณ์มันมาเต็มจริงๆ มันชมผมจริงๆรึเปล่าวะ

 “กูแค่โกรธที่มันสองคนทำอะไรเหมือนไม่เห็นหัวกู อาจดูเหมือนเล็กน้อยสำหรับคนอื่น แต่สำหรับกู”ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“กูว่ากูน้อยใจว่ะ”พูดแล้วก็ตลกตัวเอง นานๆทีผมจะรู้สึกแบบนี้

“ไม่เอาดีกว่า เปลี่ยนเรื่อง”แล้วมันก็ขัดฟีลกำลังดราม่าของผมหน้าตาเฉย ผมปรับอารมณ์ตัวเองสักพัก ไม่อยากจะเพ้อในโซเชี่ยลที่หลายๆคนทำ ช่วงเวลาอ่อนแอของตัวเองไม่จำเป็นต้องแชร์ให้คนอื่นรับรู้หรอก

“นานๆทีมึงจะมา วันนี้เลยจะกินหมูกระทะกัน”ไอ้ปลาบอกผม ผมทักเพื่อนมันไป รู้สึกแปลกประหลาดท่ามกลางผู้หญิงเล็กน้อย ไม่เคยอยู่ร่วมชายคาเดียวกับสาวก็แบบนี้แหละ ผมจะเข้าไปช่วยก็เหมือนเกะกะคนอื่นไปซะงั้นเลยนั่งดูเฉยๆดีกว่า

“เดี๋ยวถ่ายรูปก่อน”เพื่อนเบอร์หนึ่งมันดันอยากเซลฟี่ตอนจะกิน ผมเลยต้องเบี่ยงตัวออกเพราะไม่อยากติดกล้อง หรือกลายเป็นเพื่อนสาวในบรรดาพวกมัน คิดแล้วก็สยอง ผมเบื่อๆเลยปลีกตัวโทรหาแม่ อยู่ดีๆก้คิดถึง

[มาแปลกนะเรา ปกติไม่เคยเห็นโทรมา]

“แม่ก็เวอร์ ผมยุ่งๆเลยไม่ค่อยได้โทร บอกให้ฝึกเล่นไลน์ก็ไม่เล่น”แอบรู้สึกผิดเหมือนกัน ผมไม่ค่อยโทรไปหาแม่เท่าไหร่

[แม่อยากได้ยินเสียงน้องฟิกมากกว่านี่ โทรมาแค่นี้แม่ก็ชื่นใจแล้ว]

“เดี๋ยวผมกลับไปหาแม่เลยดีไหม”อยู่ๆผมก็นึกบ้าอยากกลับไปหาแม่ขึ้นมาจริงๆ

[บ้าเหรอ พรุ่งนี้ไม่มีเรียนหรือไง ไว้วันหยุดค่อยมา มีอะไรรึเปล่า] น้ำเสียงของแม่ติดกังวลนิดๆ

“เปล่าครับ แต่พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียน นั่งรถแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว ผมอยากกินน้ำพริกอ่อง แม่ทำไว้รอเลย เดี๋ยวผมไป”

[พูดจริงพูดเล่นเนี่ย] แม่เริ่มทำน้ำเสียงแปลกๆ

“พูดจริง ช่วงนี้งานเยอะ ผมเลยเหนื่อย อยากกลับไปนอนบ้าน คิดถึงอากาศดีๆ”จู่ๆก็คิดถึงขึ้นมาจริงๆ อาจจะเพราะว่าผมกำลังรู้สึกแย่ๆด้วยล่ะมั้ง 

[ถ้าเครียดก็กลับมาพักบ้านเราก่อนก็ได้ลูก แต่มาพรุ่งนี้เช้าได้ไหม แม่ไม่อยากให้ฟิกเดินทางมาตอนดึกๆ มืดๆค่ำๆ เส้นทางมันอันตราย]

“ครับ ไว้ผมจะโทรหาอีกทีก็แล้วกันนะ จุ๊บๆ”ผมวางสายแต่รู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัว

“กูขึ้นไปนอนนะปวดหัว”ผมเลี่ยงเข้าไปในบ้านก่อนที่ไอ้ปลาจะทันได้พูดอะไรออกมา ห้องของผมอยู่ชั้นล่าง และเต็มไปด้วยลังกระดาษและโมเดลบ้านเก่าๆ ก็ยังดูรกอยู่ดี ถึงมันจะพยายามเก็บแล้วก็ตาม

ผมทิ้งตัวลงบนฟูกแข็งๆ คิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่ารู้สึกแย่เรื่องไหนมากกว่ากัน เรื่องที่ไอ้ภูตะคอกผม ที่มันเห็นความเครียดของผมเป็นเรื่องตลก เรื่องสเตตัสพวกนั้น เรื่องจูบ เรื่องที่มันไม่บอกผมว่าไปเที่ยวหรือเรื่องที่พวกมันดูสนุกกับวงเหล้า  ยิ้มระรื่นกันขนาดนั้นมาพูดขอโทษให้ผมฟังแล้วคิดว่าผมจะรู้สึกดีเหรอ ผมเหลือบมองโทรศัพท์ข้างตัว ไอ้ตินส่งข้อความมา ผมไม่ได้เปิดอ่าน แต่เห็นข้อความที่เด้งมาแวบๆ

Tin – ถ้าอารมณ์ดีแล้วกลับมาคุยกันนะ   

พวกมึงรอคุยวันหลังเถอะ กูจะกลับบ้านเว้ย!





-------------------------------------------------------
TBC.

ตอนนี้เหมือนฟิกเหมือนเก็บกด   o18
รอติดตามตอนหน้าเน้อ  :katai5:





หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 17-12-2015 05:24:39
เราว่าคนที่ผิดและควรจะรับผิดชอบกับเรื่องนี้ที่สุดคือบรรดาเพื่อนๆของตินและภูนะ
เป็นเพื่อนที่แย่มากรู้ว่าเค้ามีแฟนยังยุให้เพื่อนเล่นชู้ทำเรื่องที่ไม่สมควร แม้จะบอกว่าแกล้งก็ไม่สมควร
ถ้าเราเป็นฟิกนะกลับไปจะหาชู้ให้แฟนพวกมันทุกคนพวกมันจะได้สำนึกซะบ้าง
นี่แหละที่เค้าว่า "คบคนพาลพาลพาไปหาผิด"
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Noah ที่ 17-12-2015 05:40:49
โอย อยากรู้ว่าจะฟิกจะทำอะไรต่อไป งื้อ ตอนหน้ารีบมาน้า  :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 17-12-2015 07:11:20
คือเข้าใจอารมณ์ฟิคนะ
คือมันเสียความรู้สึกไปแล้วอ่ะ
ไม่อยากเจอ  อยากคุยทั้งนั้น
กลับหาแม่พักใจก่อนละกันนะ
ค่อยกลับมาลงโทษ
อีก 2  หน่อ  กลัวเพื่อนว่าหงอกับเมีย  ยอมทำตามเค้า
แต่ไม่สนใจความรู้สึกฟิคเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 17-12-2015 07:18:43
เป็นไงหล่ะภูติน ฟิกน้อยหนีกลับบ้านซะแล้ว
 :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 17-12-2015 07:54:58
ดีแล้วฟิก
เหนื่อยก็กลับบ้าน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 17-12-2015 07:55:29
เอาแหล่ววว ฟิกจะกลับบ้านแล้ว  คราวนี้2หนุ่มนั้นจะทำไงต่อ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 17-12-2015 08:28:37
เหนื่อยแทนฟิก ทำอะไรไม่นึกถึงใจกันบ้างเลย จะมาอ้างว่าเมาหรอ ตลก อิพวกเพื่อนก็ตัวดี  :mew5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 17-12-2015 08:32:56
ไปซบอกแม่พักใจก่อน ไม่มีใครรักและเป็นห่วงเท่าคนในครอบครัวจริงๆ เอาใจช่วยให้ฟิกดีขึ้น แล้วไปสู้ใหม่ ดัดนิสัยสามีให้หลาบจำและเชื่อฟังให้ได้น่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58
เริ่มหัวข้อโดย: tomybsl ที่ 17-12-2015 08:33:47
เกลียดมาก......ก เกลียดอิพวกเพื่อนตินกับภูมาก พวกมันน่าจะโดนแบบเดียวกับฟิกนะจะได้รู้สึก
รู้ว่าเพื่อนมีแฟนแล้วยังหาเรื่องให้คนเขาทะเลาะกันอีก พวกนี้มันต้องโดน :z6: :z6: :z6: :beat:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: meuy ที่ 17-12-2015 08:52:05
เอาใจช่วยฟิกกก

รอตอนต่อไปนะคะ  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-12-2015 08:55:01
เอาให้หนักเลยจ้าฟิก   :L2:  ฟิกสู้ๆ
เราสงสารฟิกนะแต่เรื่องครอบครัวเราก็ต้องจัดการกันเองในครอบครัว
คนนอกรอเฉ่งทีหลัง และต้องเฉ่งแน่ๆ
เราว่าฟิกหลบไปก็ดีนะ ไปอ้อนแม่บ้าง พักใจพักกาย
เราเข้าใจว่ามันโกรธจนไม่อยากมองหน้าอะไรทำนองนั้น กลับไปให้เขาง้อมันไม่ใช่ทางอะ
ไม่ใช่ของตายอะไรขนาดนั้นป้ะ   :กอด1: 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 17-12-2015 09:06:03
อยากจะบอกว่า สมน้ำหน้าครับภูติน
สมควรโดนแล้วแบบนี้อ่ะ
อยากบ้ายุดีนัก ทีฟิกทำล่ะ อย่างนั้น อย่างนี้ พอตัวเองทำบ้าง เห๊อะๆๆ
อีกอย่างก็ไอ้พวกเพื่อนๆนั่นล่ะ ตัวดี แต่บางทีพอเหล้าเข้าปากแล้วอารมณ์บ้ามันก็มีนะ
อะไรที่ไม่เคยทำก็ทำ อันนี้ผมเคยผ่านมา 5555+ รู้เลย
พอตื่นมานี่แบบ ไล่ลบข้อความที่โพสไปทั้งหลายเลยครับ ตอนกรึ่มๆ เมาๆอ่ะ มันขาดความยั้งคิดยั้งใจจริงๆนะครับ
พอตื่นมานี่แบบ มาเห็นที่ตัวเองทำ เชี่ย! กูทำไปได้ไงวะ สภาพเป็นแบบนั้นเลยทีเดียว นับแต่นั้น เวลากินเหล้า เอาโทรศัพท์ให้ห่างตัวเลยครับ กลัวใจตัวเองทำอะไรบ้าๆ 555555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-12-2015 09:22:47
อย่าว่าเรานะถ้าเราจะบอกว่ารีบๆ มาต่อเถอะ  :mew1: :mew1:

บอกว่าเพื่อนแกล้งแล้วความรู้สึกที่ฟิกเสียไปนี่แกล้งได้ไหม
เมาแล้วเพื่อนยุพอสร่างมาก็ลืมว่าตัวเองทำอะไรไปบ้าง
แต่ฟิกที่เห็นภาพนั้นอยากบอกว่ามันติดตานะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 17-12-2015 10:09:52
ถ้าฟิกหายไปโดยไม่บอก ตินกับภูต้องใกล้บ้าแล้วแน่ๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: NanShiiWilawan ที่ 17-12-2015 10:16:31
ฮือออออออ อยากรู้ว่าจะเปนไงต่อออ รอคะพี่ฟิกของงงงหนู
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 17-12-2015 10:34:14
เออ เราเป็นฟิกเราก็โกรธอะคือมันคงผสมการเสียความรู้สึกกับอึดอัดใจ เสียความรู้สึกที่แฟนเราไปทำแบบนั้นถึงจะเมาก็เถอะและก็อึดอัดที่รู้ว่าตัวการของเรื่องทั้งหมดคือเพื่อนของทั้งสองฝั่งแต่เราจะไปอาละวาดใส่พวกนั้นก็ไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องเก็บกดหงุดหงิดอยู่คนเดียว ตอนนี้เห็นด้วยนะที่ฟิกจะกลับบ้านอารมณ์ยังไม่นิ่งแบบนี้เจอหน้ากันก็ทะเลาะกันหนักกว่าเดิมเปล่าๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-12-2015 11:44:16
วิ่งพล่านเลยแต่ละคน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 17-12-2015 12:36:09
สมน้ำหน้า ทีมฟิก  o13
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 17-12-2015 12:56:09
ฟิกทำถูกแล้ว ที่ยังไม่กลับ เพราะครั้งนี้เป็นเรื่องที่สมควรโกรธมากๆ ไม่ต้องอ้างเพื่อนอ้างเหล้า มันอยู่ที่ตัวภูกับตินเท่านั้น ทั้งที่รู้ว่าจะต้องมีปัญหาแน่แต่ก็ยังทำไป เพื่อนๆของทั้งสองฝ่ายก็เกินเหตุ แกล้งในเรื่องที่ไม่ควร ทั้งที่สองหน่อบอกว่าอย่า ก็ยังทำ คงคิดว่าผู้ชายเหมือนกันไม่เป็นปัญหา ดูแค่ ภูกับติน แล้วกัน ถ้าเป็นฟิกทำ ทั้งสองหน่อไม่อยู่เฉยแน่ แถมยังลงโทษฟิกอีกด้วย เอาคืนหนักๆเลยฟิก เอาให้เข็ดหลาบ  :katai2-1: แต่แอบฮากลอนอีพี่ภู เมิงก็คิดได้เน๊าะ เจตนาคงอยากให้เมียอารมณ์ดี  :m20:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: tkaekaa ที่ 17-12-2015 13:00:10
ทีมฟิก อิก๊วนเพื่อนภู เพื่อนตินนี่เล่นขำขำแอบแรงนะยะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 17-12-2015 13:23:57
ก็อย่างที่ฟิกบอก.  ถ้าฟิกทำแล้วบอกขอโทษภูกับตินคงไม่ยอมจบแค่นั้น.   ฟิกกลับมาหาแม่ดีแล้ว. ห่างสองคนนั้นสักพัก

.  ส่วนเพื่อนที่ชอบสร้างความร้าวฉานให้คนอื่น. ก็น่าจะโดนด้วย.  ภูกับตินต้องจัดการเพื่อนตัวเองด้วย.

ฟิกจะไปโวยวายหาเรื่องเพื่อนภูกับติน   ก็คงต้องมีปัญหาตามมาอีก. ให้สองคนนั้นกับเพื่อนๆรู้สึกมั่ง.

 เสียความรู้สึกไปแล้ว. จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 17-12-2015 13:44:18
กลับบ้านไปหาแม่ดีแล้วฟิก อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว  :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 17-12-2015 15:46:39
ฟิกงอนหนักเว้ยคราวนี้
แต่ก็สมน้ำหน้าสองคนนั้นละ อยากจะทำแบบนี้ก่อนเอง
หึหึ ฟิกหนีไปแบบนี้ คงจะขาดใจตายแน่ๆ
คราวหน้าคราวหลังจะได้รู้ว่าอย่ามาทำฟิกโกรธนะจ๊ะ 5555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 17-12-2015 17:02:33
ฟิกโกรธยาวแน่คราวนี้
คราวหลังก็อย่าไปกินอีกนะ 5555555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-12-2015 17:56:06
ก็จริงนะ ถ้าฟิกทำ คงไม่จบแค่คำขอโทษ
ดัดนิสัยสองสามีซะมั่ง ชิๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Mynun ที่ 17-12-2015 18:05:25
อย่างที่เราเคยบอกนั้นละ คบเพื่อนแบบนี้มันแย่
ฟิก เอาให้หนักๆ เอาให้เข็ด
แบบที่ฟิกว่า เป็นควายหรอถึงให้จูงจมูก เป็นเราก็รู้สึกแย่
บางทีถ้าเราเหนื่อยเกินเราก็เลิก55555
คนเขียนเอาให้สองคนนั้นเข็ดเลยยย :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: kjkjji ที่ 17-12-2015 19:32:56
น้องฟิกสู้ๆค่ะ จัดให้หนักๆ เอาให้จำไปเลย เราเชียร์ 555555
อยากเห็นสองสามีแบบจะเป็นจะตายบ้าง
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: patoya ที่ 17-12-2015 21:44:23
ฟิกแค่น้อยใจยังทำขนาดนี้ถ้าฟิกโกรธจริงๆจังๆจะเป็นยังไง
สงสารเหล่าพ้องเพื่อนของฟิกมากๆยิ่งฟิกกลับบ้านยิ่งสงสารหนักกว่าเดิม เฮ้ยย เหนื่อยแทน

อย่าแคร์คนที่เราไม่รัก แต่ถ้าคนที่เรารักไม่แคร์เรา เราก็กลับไปพักใจ กับคนที่เรารักและรักเรา(?)
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 17-12-2015 22:26:02
แคร์เพื่อนมากกว่าเมีย
งั้นก็ให้ไปอยู่กับเพื่อน
ไม่ต้องอยู่กับเมีย

ฟิกไปค้างบ้านแม่หลายๆวันเลย
งานนี้ต้องให้บทเรียน ภูกับติน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 17-12-2015 22:54:57
ไปหาความรักที่ไม่มีเงื่อนไขบ้างก็ดีนะฟิก
ไปกอดแม่ ให้แม่กอด
แล้วค่อยมาจัดการเรื่องวุ่น ๆ นี่
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: masmaro ที่ 18-12-2015 00:03:38
ภูตินควรโดนแบบนี้บ้างจริงๆ อยากให้ฟิกสั่งสอนให้เข็ด
เชื่อคำเพื่อนมากกว่าจนต้องผิดใจกับคนที่รัก เอาให้เข็ดดด  :z6: :z6:

งือออออออ อยากอ่านแล้วจร้าาาา  :hao5: :hao5: :hao5:
อยากเห็นหนูฟิกจะแก้แค้นสองสามียังไง แล้วสองสามีจะง้อยังไง
แง่งงงงง สู้ๆนะครับบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 18-12-2015 00:52:25
โครตเกลียดเลยอิพวกเพื่อนแบบนี้ แต่เกลียดสุดคือภูติณ ถ้ากลัวว่าเพื่อนจะหาว่ากลัวเมียกลัวเสียหน้า เลยไหลตามไม่ห้ามจริงจัง เราเป็นฟิกก็โกรธว่ะ ความรู้สึกมันเสียไปแล้ว ความเชื่อใจมันมีรอยด่าง มันจะกู้กลับมายังไง ถ้าเห็นว่าเรื่องเล็ก แต่ฟิกทำเป็นเรื่องใหญ่ ภูติณช่วยกลับไปทบทวนตัวเองด้วย คนอื่นเค้าไม่ได้นึกถึงใจฟิก พวกคุณสองคนเป็นแฟนช่วยนึกถึง คิดถึง ทุกเวลา ทำอะไรควรให้เกียรติทั้งต่อหน้าและลับหลังด้วย ถ้าเป็นเรา เราคงมองหน้าคนกลุ่มนั้นไม่สนิทใจว่ะ เล่นกลับความรู้สึกคนอื่นได้ไงงว่ะ แม่ม

ป.ล จะคอยดูกลุ่มเพื่อนผู้แสนดีว่าจะรับผิดชอบยังไงความรู้สึกคนนะเว้ย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 18-12-2015 02:07:32
เสียความรู้สึกจริงๆนั่นแหละ
เป็นเราก็คงไม่อยากจะมองหน้าพวกแม่งซักคน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: tukkata bambola ที่ 18-12-2015 10:17:20
กลับมาหาแม่น่ะดีแล้วกลับมาหาคนที่รักเราโดยไม่มีเงื่อนไข กลับมาหาความสบายกายสะบายใจคนที่ให้ความอบอุ่นเราได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะสุขจะทุกข์ยังไงคำว่าครอบครัวก็เป็นที่ๆอยู่แล้วสุขใจนั่นล่ะนะหายเหนื่อยแล้วก็ไปเผชิญหน้ากับสองตัวนั่นอย่างเข็มแข็งเอาให้มันรู้ว่าเราไม่ใช่หัวหลักหัวตอต่อหน้าทำอย่างลับหลังทำอย่าง กินเหล้าแล้วไงเมาแล้วไงใครบอกให้ทำอะไรก็ทำงั้นเหรอ ทำแบบนี้เหมือนไม่แคร์ความรู้สึกกันอ่ะ ต้องเอาหน้าตัวเองไว้ก่อนเหรอคนรักค่อยคิดทีหลังงั้นสินะบอกตรงเสียความรู้สึกแทนฟิก แต่ฟิกเก่งนะทนกับสองตัวนี่มาได้ ดีใจนะที่ฟิกไม่ประชดกลับเดี๋ยวเรื่องจะยิ่งแย่ไปกว่าเก่าชอบฟิกตรงนี้ล่ะ (น่ารัก) มีความคิดกว่าอิพี่สองตัวนั่นอีก #ทีมฟิก #นู๋ฟิกก็อย่ากินจนเป็นแบบนี้นะ(ทางที่ดีไม่กินเลยจะดีที่สุดนะ) #ข่มได้ข่มขู่ได้ขู่เลย

ปล.อยากบอกว่ารักคนเขียนค่ะจะว่าไรมั้ยคะว่าต่อไวๆนะคะอยากรู้ฟิกจะทำไงต่อ5555 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 18-12-2015 11:48:48
สม โดนฟิกโกรธอ่ะ ถูกแล้ว

พวกเพื่อนๆแสนดียุยงนักก็หาทางรับผิดชอบด้วยสิ ตัวการเลยนี่ :katai1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: honey_noii ที่ 18-12-2015 16:38:09
สงสารอินู๋ฟิกจัง  :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Cady ที่ 19-12-2015 21:54:18
 :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 20-12-2015 03:40:24
สะใจ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 20-12-2015 08:15:16
เยี่ยมมากฟิกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อย่าไปยอมง่ายๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: wisshy ที่ 20-12-2015 12:28:21
อยากเห็นภูกับตินกินไม่ได้นอนไม่หลับ กลัวโดนฟิกบอกเลิก กลัวเสียฟิกไป
โดยที่ฟิกแค่อยู่นิ่งๆ แล้วดู 2 คน นั้นดิ้นไปเอง แล้วไม่ยอมดีด้วยง่ายๆ

 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 20-12-2015 17:50:14
เอามันแบบนี้ละ เพราะถ้าเป็นฟิกที่เมาแล้วทำไรแบบนี้

ตินกับภูต้องเล่นหนักแน่ๆ ไม่ฟังอะไรแน่ๆ

เพราะฉะนั้น ให้เขารู้ซะบ้าง ว่าเราก็โกรธเป็น  :fire:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 23-12-2015 18:15:35
รออยู่นะไรท์  :z13:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 23-12-2015 23:25:39
ที่ฟิกโกรธก็สมควร  :katai4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 24-12-2015 13:50:51
:).
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 25-12-2015 21:28:44
สะใจมากเลยค่ะ น้องฟิกจัดเต็มไปเลย
แล้วอิพวกเพื่อน ๆ เป็นไรมากป่ะ
เห็นปัญหาของเพื่อนเป็นเรื่องสนุกเหรอ
แล้วแล จะวางแผนกันมาก่อนเมาอีก
แล้วติน กับ ภู เป็นไรมากป่ะ
เพื่อนพูดต้องเชื่อมันด้วยเหรอ
สมน้ำหน้าว่ะ #ทีมฟิก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๕: เมื่อฟิกโกรธ...] 17-12-58 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 26-12-2015 00:06:51
 เข้าใจฟิลลิ่งของฟิกนะ คนมันกำลังเหนื่อยๆจากงาน จากอะไรหลายๆ ยังต้องมาเจออะไรแบบนี้ เป็นใครก็นอยอะ งานนี้การห่างออกมาระงับอารมณ์ตัวเองและปล่อยให้อีกฝ่ายพิจารณาตัวเองบ้างท่าาขะดี ทั้งภู ตินและเพื่อนฝั่งนั่นก็จะได้รู้บ้างว่าความรู้สึกของฟิกไม่ใช่อะไรที่จะเอามาล้อเล่นได้ง่ายๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 30-12-2015 17:12:30

ตอนที่๑๖






ตอนเช้าผมโทรหาไอ้เพื่อนทั้งสองเพื่อบอกมันว่าผมจะกลับบ้าน ส่วนเรื่องเรียนไว้ค่อยเขียนใบลาพร้อมกับแนบใบรับรองแพทย์(ที่ซื้อมา)เอาทีหลังก็แล้วกัน ผมแอบย่องออกมาตอนเช้าตรู่ เขียนโน้ตบอกไอ้ปลาไว้ป้องกันอาการมโนเพ้อเจ้อของมัน


ส่วนผมก็โทรเรียกแท็กซี่กลับบ้าน ถึงจะแพงไปหน่อยแต่ก็สะดวกที่สุดแล้ว ระหว่างทางผมก็คิดทบทวนอะไรไปเรื่อย ส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นเรื่องของไอ้สองคนนั่นหรอก เรื่องเพื่อนๆของมันสองคน ผมจะไม่พูดก็แล้วกัน ไอ้พวกนั้นก็โตๆกันแล้ว คงจะคิดได้ว่าหลังจากนี้ต้องทำอะไร เพราะผมเชื่อว่าเดี๋ยวไอ้ภูกับไอ้ตินต้องไปบ่นให้เพื่อนทั้งหลายแหล่ของพวกมันฟังแน่ๆ อันที่จริงแล้วเรื่องเพื่อนผมก็พอจะเข้าใจระดับหนึ่งเพราะที่ผ่านๆมาผมก็เคยเหลวไหลเพราะไอ้ชายกับไอ้เคนเหมือนกัน

“เฮ้อ…”คิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ ผมพิงหน้าต่างรถก่อนจะมองไปตามทาง ยิ่งน้าแท็กซี่เปิดเพลงลูกทุ่งคลอไปด้วยยิ่งเหมือนนั่งทำเอ็มวีชิบ ตลกจริงๆชีวิตไอ้ฟิกเนี่ย

“เป็นไรไอ้หนู สีหน้าไม่ค่อยดี”น้าแท็กซี่ชวนคุยหลังจากที่ขับออกมาได้สักพักแล้ว

“เปล่าครับ”ผมตอบเสียงแห้ง

“น้าเนี่ยอาบน้ำร้อนมาก่อน เห็นสีหน้าหมองๆแบบนี้ ต้องเป็นเรื่องรักๆเลิกๆแน่นอน เห็นเอ็งจ้องโทรศัพท์อยู่ตั้งนาน เท่านี้ก็รู้แล้ว”น้าแท็กซี่พูดด้วยท่าทางรู้ดี อีแบบนี้น่าไปเป็นหมอดูนะเนี่ย

“น้าก็เดาไปเรื่อย ผมแค่เหนื่อย…”ผมก้มมองโทรศัพท์ที่ปิดเครื่องไปแล้วอีกรอบ เออ ก็จริงนะ ผมนี่ยังมาพะวงเรื่องนี้อีก ใจจริงก็ไม่อยากจะหนีมาเฉยๆหรอก ผมรู้ว่าพวกมันต้องห่วงแน่ๆ แต่ทำไงได้ ตอนนี้ผมยังไม่อยากเจอหน้ามันสองคน ยิ่งเห็นแล้วพาลหงุดหงิด เดี๋ยวจะเสียเรื่องเปล่าๆ

“บ้านเอ็งอยู่แถวไหนนะ น้าก็คนจังหวัดเดียวกับเอ็งเลย”คุยไปคุยมาก็เจอคนบ้านเดียวกัน เหมือนน้าแกเป็นคนคุยเก่งมากกว่า ผมไม่รำคาญหรอก เพราะอย่างน้อยๆก็ช่วยให้ผมไม่ฟุ้งซ่าน

“ลูกชายน้าก็เข้าช่วงวัยรุ่น กำลังเกเลย เหนื่อยกับมันเหมือนกัน คบเพื่อนแต่ล่ะคน…”เกในที่นี้หมายถึงดื้อตามประสาผู้ชาย แถมบังเอิ๊ญบังเอิญเคยเรียนอยู่โรงเรียนเก่าผมด้วย 

“งั้นลูกน้าก็รุ่นน้องผม ผมเคยเรียนที่โรงเรียน…เหมือนกัน”

“เอ้าเหรอ ท่าทางแบบเอ็งนี่น่าจะเกเหมือนกันนะ”

“ก็ตามประสาวัยรุ่นแหละครับ สมัยน้าตอนวัยรุ่นก็คือๆกันล่ะมั้ง”ผมแซวเล่น

“เฮ้ย เอ็งนี่พูดจาเหมือนมันเลย”ผมหัวเราะแห้งๆ จะว่าไปก็ชักอยากจะรู้จักลูกชายน้าแกแล้วสิเนี่ย ผมรู้แค่ว่ามันชื่อไอ้เกมส์ เกมส์ชื่อนี้คุ้นๆนะ แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินมาจากไหน ผมอาจจะคิดมากไปเองเพราะคนชื่อเกมส์ก็มีอยู่เยอะไปหมด หลังจากที่หมดเรื่องคุยภายในรถก็เงียบเหมือนเดิม ผมเลยถือโอกาสงีบหลับ จู่ๆก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า ป่านนี้ไอ้ภูกับไอ้ตินกำลังทำอะไรอยู่

‘จะไปคิดถึงมันสองคนทำไมวะ ทีพวกมันทำอะไรยังไม่คิดถึงผมเลย’

ผมสะบัดความคิดไร้สาระออกไป เงียหูฟังน้าแท็กซี่คุยโทรศัพท์ดีกว่า

“อย่าบอกนะว่าไปสร้างเรื่องอะไรมาอีก เมื่อไหร่จะเลิกคบเพื่อนเลวๆสักที บอกให้เลิกคบได้แล้วไอ้พวกลูกผู้ใหญ่บ้านน่ะ ไอ้พวกนั้นมันเคยมาช่วยแกไหมเวลาที่มีเรื่องเดือดร้อน ยังจะมาเถียง เออ เดี๋ยวกูจะไปเอาเลือดหัวมึงออก มึงรออยู่นั่นนะ”

น้าแท็กซี่คงคิดว่าผมหลับไปแล้วแน่ๆ ถึงได้คุยออกรสขนาดนี้ ผมนั่งเกร็งไปตลอดทางเพราะแกล้งหลับ แถมยังรู้สึกว่าน้าแท็กซี่ขับรถไวมากด้วย สงสัยจะรีบไปเอาเลือดหัวลูกชายออก

ว่าแต่…ลูกผู้ใหญ่บ้านเหรอ ได้ยินแล้วแสลงใจเพราะเมื่อสองปีก่อนผมเกือบชะตาขาดก็เพราะไอ้ลูกผู้ใหญ่บ้านนี่ล่ะ ผมลืมตาขึ้นมาเมื่อรถเบรกกึก มองไปรอบๆก็พบว่าถึงทางเข้าหมู่บ้านแล้ว น้าแท็กซี่ลดหน้าต่างลง สายตาจับจ้องไปยังวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่จับกลุ่มทำเท่ห์ทำเถื่อนกันอยู่ตรงศาลาริมทาง ผมเบิกตากว้างเมื่อเห็นหน้าตาไอ้พวกนั้น นั่นมันกลุ่มไอ้อั๋นลูกผู้ใหญ่บ้านที่เคยมีเรื่องกับผมนี่หว่า แล้วไอ้เกมส์ก็…คือหนึ่งในนั้น มันทำหน้าตกใจเมื่อเห็นพ่อตัวเอง คงไม่คิดว่าจะเจอที่นี่ ผมรีบหดคอลงเมื่อมันไล่สายตามองมาทางเบาะหลัง

เวรกรรม อย่าให้ผมต้องมายุ่งเกี่ยวกับพวกมันเลยเถอะ!

“เอ้าถึงแล้ว ไอ้หนู เป็นอะไรหน้าซีดๆ เมารถเหรอ”น้าแท็กซี่จอดลงที่หน้าบ้านของผม

“เปล่าครับ เห็นมิเตอร์แล้วจะเป็นลมเฉยๆ”ผมหัวเราะกลบเกลื่อน ระหว่างที่กำลังหยิบเงินมาจ่าย ผมเห็นว่ามีรถkawasaki ที่แต่งสีฉูดฉาดขี่ตามาห่างๆ ไอ้เกมส์นั่นเอง น้าแท็กซี่เหลือบมองกระจกก่อนจะบ่นพึมพำอะไรสักอย่าง ผมจ่ายเงินเรียบร้อยก่อนจะลงจากรถ ไอ้เกมส์ผงะไปเมื่อเห็นหน้าผม เอาสิมึง กูอยู่กับพ่อมึงนะเว้ย ผมยักคิ้วให้มันก่อนจะรีบเข้าไปในบ้าน ให้พ่อลูกเคลียร์กันเอง 

“แม่ ลูกชายหน้าตาดีกลับมาแล้วนะ”ผมตะโกนเรียกลั่นบ้าน แต่ไอ้ต้อหมาไซฯหน้ามึนกลับวิ่งกระโจนพร้อมหอนต้อนรับผมคนแรก ตามมาด้วยแม่ที่ออกมามองด้วยสีหน้าตื่นๆ

“มาถึงเร็วจัง ลมอะไรหอบมาเนี่ยน้องฟิก”แม่เข้ามากอดพร้อมกับจะหอมแก้ม แต่ผมเบี่ยงตัวออกก่อน

“โหยแม่ เลิกเรียกผมว่าน้องได้แล้ว ผมโตแล้วนะ”ผมผละออกมาจากอีกฝ่าย

“เอ๊ะ ก็แม่อยากเรียกเราแบบนี้นี่ ผอมลงรึเปล่าเนี่ย”แม่จัดการสำรวจไขมันบนร่างกายผมทันที

“งานเยอะน่ะ เลยไม่ค่อยมีเวลากิน แต่แม่ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวก็กลับมาอ้วนเหมือนเดิมนั่นแหละครับ”ผมส่งยิ้มให้แม่

“เหรอ แล้วหนูภูกับตินสบายดีใช่ไหม”ผมพยายามไม่ทำสีหน้าแปลกๆออกมา

 “สบายดีมากก แม่ไม่ต้องไปถามถึงหรอก”ผมเปลี่ยนไปถามไถ่สุขภาพของแม่บ้าง โชคดีที่แม่ไม่ได้ถามถึงพวกมันต่อ แล้วก็ไม่ได้ถามเรื่องที่ทำให้ผมกลับมาบ้านด้วย

“แม่ทำกับข้าวไว้ อยู่ในครัว”แม่บอกระหว่างที่จัดการกับไอ้ต้อที่กำลังวิ่งวนไปทั่ว

“ผมยังไม่ค่อยหิวอ่ะ ไว้ผมจะลงมากินทีหลังนะ”คราวนี้แม่ขมวดคิ้วมองหน้าผมก่อนจะหรี่ตามอง

“อกหักมารึเปล่าเนี่ยเรา”

“บ้าเหรอแม่”ผมทำหน้าไม่ถูก

“เอ้า เมื่อตอนม.สามก็มีท่าทางแบบนี้ ไม่ยอมกินข้าวกินปลาจนโรคกระเพาะถามหา”

“แม่ก็มั่ว แฟนเฟินยังไม่มีจะอกหักได้ไง”แม่เองก็ยังไม่รู้ว่าผมคบกับไอ้สองตัวนั่น ผมรีบหลบไปบนห้องเพราะกลัวแม่จะจับไต๋ได้เสียก่อน ผมเปิดโทรศัพท์เพื่อค้นเบอร์ไอ้โต้งเพื่อนเก่าที่เคยชักปืนขู่ไอ้พวกลูกผู้ใหญ่บ้าน ผมกลับมาคนเดียวกลัวจะมีเรื่องกับไอ้พวกนั้น ต้องหาพวกซะหน่อย และทันทีที่เปิดข้อความแจ้งเตือนต่างๆก็เด้งระนาว ทั้งจากเพื่อนไอ้ภูไอ้ติน และเพื่อนผม

เคน – ไอ้ภูกับไอ้ตินรู้แล้วนะ ว่ามึงไม่ได้มาเรียน

ผมถอนหายใจเฮ้อใหญ่ อีกไม่นาน ผมว่ามันต้องรู้แน่ๆว่าผมกลับบ้าน หวังว่าพวกมันจะไม่ตามมากวนใจผมอีกนะ

เคน – แต่กูบอกพวกมันไปแล้วว่าไม่ต้องตามหามึง คิดว่าพวกมันคงเข้าใจ

เหอะ อย่างพวกมันเนี่ยนะจะเข้าใจ ฟังภาษาคนไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก ไอ้พวกนี้

หลังจากได้เบอร์ไอ้โต้งมาแล้ว ผมก็ยืมโรศัพท์แม่โทรไปหามันทันที รออยู่นานสองนานมันก็รับ

“ไอ้โต้ง นี่กูฟิกเองนะ”

[อ้าว ไอ้สัด กูนึกว่ามึงตายไปแล้ว]

“ยังเว้ยยัง ตอนนี้กูกลับมาบ้านว่ะ”

[จริงดิ ยังไม่ปิดเทอมไม่ใช่เหรอ ทำไมกลับมาเร็วจังวะ]

“พอดีมีเรื่องนิดหน่อย”

[เรื่องไรวะ] ผมนิ่งไปสักพัก ไอ้โต้งยังไม่รู้ว่าผมคบกับไอ้สองคนนั่น อันที่จริงเพื่อนเก่าที่อยู่ที่นี่ก็ไม่มีใครรู้สักคน ยกเว้นไอ้ปิ่น (อดีตแฟนและเพื่อนเก่าของผม)

“ก็เรื่องไร้สาระ เดี๋ยวกูจะเล่าให้ฟังทีหลังแล้วกัน ตอนนี้มีเรื่องด่วนกว่านั้น”ผมเล่าเรื่องไอ้เกมส์กับพวกลูกผู้ใหญ่บ้านให้มันฟัง

[มึงมีเรื่องอะไรกับพวกมันกันแน่ บอกกูมาตรงๆ] ไอ้โต้งพูดเสียงจริงจัง

“เรื่องมันนานมาแล้ว คือเมื่อตอนปีหนึ่ง…”ผมเล่าให้มันฟังคร่าวๆ ไอ้โต้งเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที จนผมต้องรีบขัดมัน

“เรื่องเมื่อคราวนั้นกูเคลียร์ไปแล้ว แต่ตอนนี้กูกลัวพวกมันจะเอาคืนว่ะ”เพราะไอ้ภูกับไอ้ตินเล่นพวกนั้นไว้หนักเหมือนกัน

[กูก็ว่า…เดี๋ยวกูไปหา] ผมวางสายจากเพื่อนก่อนจะออกไปรอมันที่หน้าบ้าน ส่วนแม่กำลังห่อขนมอยู่ ใกล้สิ้นปีแล้วนี่นา เวลาผ่านไปไวจริงๆ ผมนั่งเหม่อมองต้นไม้ในกระถางที่ไอ้ตินเคยเอามาปลูกเมื่อตอนที่มันมาบ้านผมครั้งแรก ต้นไม้ก็โตไวเหมือนกัน ผมกระแอมกระไอเมื่อเห็นสายตาแม่มองมาด้วยท่าทางเหมือนคนมองออกว่าผมเป็นอะไร

“แม่…ตอนที่พ่อยังอยู่…”ผมพยายามเรียบเรียงคำพูดอยู่สักพัก แม่ละมือจากงานตรงหน้า รอฟังผมเงียบๆ เป็นครั้งแรกที่ผมพูดถึงพ่อในรอบสองสามปีนี้เลย

“พ่อเคยทำให้แม่เสียใจมากๆไหม”จนตอนนี้ผมก็ยังสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอยู่เลย

“แปลกนะเนี่ยที่น้องฟิกถามขึ้นมา…”แม่ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะลุกมานั่งข้างๆผมด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“ก็…ชีวิตคู่มันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา แต่ถึงจะทะเลาะกัน แม่กับพ่อก็เข้าใจกัน ใส่ใจกันมากขึ้น น้องฟิกมีปัญหาอะไรเล่าให้แม่ฟังได้นะ”ผมถอนหายใจ ปกติผมไม่มานั่งคุยเรื่องแบบนี้กับแม่หรอก มันดูน่าอายเกินไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มที่ตรงไหน

“คือผมแค่รู้สึกว่าเหนื่อย…คือผมบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเหนื่อยกับเรื่องไหน”เพราะเรื่องที่อัดแน่นอยู่ในอกมันก็เยอะเสียด้วย

“บางทีผมก็รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม…แม่รู้ใช่ไหมว่าฟิกเป็นคนยังไง ผมไม่ชอบให้ใครมากะเกณฑ์นู่นนี่นั่น แต่…ผมก็ยอมมาตลอด”คงไม่ต้องบอก ต้องพูดหรอกว่าเพราะอะไร

“แล้ว…ทีนี้ ไอ้คนที่คอยกะเกณฑ์ผมมาตลอดกับทำเหมือนไม่แคร์ความรู้สึกของผมเลยสักนิด มองว่าเป็นเรื่องขำๆโดยที่ไม่นึกถึงผมเลย ถ้าเป็นผมทำบ้างนะ เรื่องยาวเป็นหางว่าวแน่”ผมบ่นหน้าตึง แม่ตบบ่าผมเบาๆไม่ได้ถามด้วยว่าไอ้คนที่ผมบ่นอยู่มันเป็นใคร

“พักให้หายเหนื่อยแล้วค่อยกลับไปคุย แม่ไม่อยากให้เราใช้คำว่าทน คนรักกันเขาใช้คำว่าเข้าใจนะน้องฟิก”ผมเหลียวมองแม่ที่สวมบทจริงจังใส่ ก่อนจะหัวเราะแก้เก้อซะเอง นี่ผมเอาเรื่องอะไรมาปรึกษาแม่เนี่ย น่าอายจริงๆ

“ตายล่ะ ลูกชายแม่คบใครจริงจังเป็นแล้วเหรอเนี่ย”แม่รูแค่ว่าผมเปลี่ยนแฟนบ่อย ไม่อยากจะคิดเลยถ้าแม่รู้ว่าไอ้คนที่ผมบ่นไปนั่นเป็นใครแล้วจะทำหน้ายังไง

“แม่…ฟิกขอโทษนะ ที่เป็นแบบนี้อ่ะ คือ…”จู่ๆผมก็หนักใจขึ้นมา แม่ไม่เคยว่าผมก็จริง แต่ผมรู้ว่าแม่กดดันแค่ไหน คนรอบตัวก็เอาผมไปพูดนู่นนี่บ่อยๆ สังคมที่นี่ใช่ย่อยที่ไหน แต่แม่ผมก็แค่ทำเหมือนไม่ได้ยินเท่านั้น จะว่าไปแล้ว…ผมทำหน้าที่ลูกได้แย่สุดๆ นอกจากจะไม่ค่อยกลับบ้านแล้ว โทรหาก็ยังไม่ค่อยโทรอีก แทนที่จะช่วยแบ่งเบาภาระให้แม่ ผมกลับไม่เคยทำอะไรเลย เรียกว่าไม่เคยคิดอะไรเลยมากกว่า

“มาแปลกนะเราเนี่ย สงสัยแม่ต้องเตรียมของไปเซ่นคนที่ทำให้น้องฟิกเป็นผู้เป็นคนซะแล้วมั้ง”แม่ทำหน้าแปลกใจสุดๆก่อนจะหัวเราะ

“แม่เข้าใจเรานะ จะทำไงได้ล่ะ จะบังคับให้เรากลับไปจีบสาวก็ไม่ทันแล้ว แค่ฟิกไม่สร้างปัญหาให้แม่ก็พอแล้ว”คำพูดของแม่ทำให้ผมอุ่นในอกอย่างบอกไม่ถูก

“แล้วก็อย่าลืมพามาเปิดตัวด้วยนะ แม่อยากเจอ”แม่ยิ้มกว้างก่อนจะลุกไปนั่งที่เดิม ผมว้าวุ่นขึ้นมาอีกรอบ ถ้าแม่รู้ว่าผมควบสอง…แม่จะรับได้ไหม แม่ยอมรับที่ผมเป็นแบบนี้ก็จริง แต่เรื่องแบบนี้มันก็นะ…

พอๆเลิกคิด!

“คบถึงหกปีเมื่อไหร่ ผมจะพามาเจอ”ผมตะโกนไล่หลัง หกปีเหรอ…จะถึงรึเปล่าก็ไม่รู้!

ปิ๊นๆ~

เสียงแตรรถดังอยู่ที่หน้าบ้าน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร ไอ้โต้งยังคงเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือสิวบนหน้าผาก

“มาช้าจังวะ”ผมบ่น

“ลูกกูดันมางอแงไง ไม่เจอกันตั้งนาน ทำไมมึงหน้าโทรมๆวะ”มันมองสำรวจผมพร้อมกับหัวเราะ

“ขำไร”

“กูว่า…โหงวเฮ้งแบบนี้ อกหักชัวร์”

“ระดับกูไม่เคยมีคำนี้เว้ย”ไม่ได้อกหัก แต่อารมณ์คล้ายๆกัน แปลกจริงๆ ไอ้โต้งทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ ผมบอกลาแม่ก่อนจะออกไปซิ่งกับมัน พึ่งทำซึ้งไปแป๊ปๆ ผมก็ออกลายซ่าส์อีกแล้ว 

“แล้วจะพากูไปไหนเนี่ย”ซ้อนท้ายมันมาตั้งนาน ผมก็เพิ่งมาถาม

“ไปริมน้ำ ปรับทุกข์กัน”มันตอบกลับมา ผมได้แต่นั่งเงียบไปตลอดทางจนมันมาจอดที่สวนสาธารณะริมแม่น้ำสายหลัก ที่ๆมักจะมีพวกวัยรุ่นออกมานั่งจับกลุ่มกันเป็นคู่ๆ

“ว่าไง มึงเป็นอะไรวะ กูว่าสีหน้ามึงไม่ค่อนจะดีนะ”ผมหย่อนก้นนั่งได้ไม่กี่นาทีมันก็เริ่มยิงคำถามทันที ไหนๆก็ตกลงว่าจะเล่าให้มันฟังแล้ว ผมก็ไม่คิดจะปิดหรอก

“คือมึงก็รู้ใช่ไหมว่ากูน่ะ…”พูดไม่ทันจบประโยคดีมันก็โบกมือเหมือนรับรู้แล้ว

“เข้าเรื่องมาเลย มึงอกหักหรืออะไรก็ว่ามา”ผมจึงเล่าสาเหตุที่ทำให้ผมกลับมาที่บ้านให้มันฟัง

“ถ้าเป็นมึง มึงจะโกรธไหมล่ะ”ผมตบท้ายด้วยคำถามเคืองๆ ไอ้โต้งเหล่มองผม

 “คนไหนวะ มึงมีรูปไหม กูอยากเห็น”ผมทำหน้ายุ่ง

“กูมาปรับทุกข์นะ ไม่ใช่ให้มึงมาซักกูเรื่องมัน”

“เออๆ ดุเป็นหมาเลย กูจะพูดตรงๆเลยนะ ง่ายๆ ถ้ามึงทนไม่ได้รึอะไรก็แล้วแต่ มึงก็เลิก แค่นั้นจบ”ไอ้โต้งทำท่าตัดชับๆ

“มันไม่ง่ายขนาดนั้น”ผมตอบเสียงเบา มันเหลียวมองผมอีกรอบ

“ทำไมวะ แค่บอกไปเลยตรงๆว่ามึงเบื่อ มึงทนไม่ไหวแล้ว ที่มึงบอกว่าไม่ง่ายเพราะมึงยังรักมันอยู่ใช่ไหม”

“ก็เออน่ะสิ”ถึงได้บ้าหนีมาพักใจแบบนี้ไง ไอ้โต้งตบมือเสียงดังแปะ

“ง่ายๆ หายเคืองมึงก็ไปเคลียร์กันให้รู้เรื่อง มึงไม่พอใจอะไร ก็บอกมันไปซะ ไม่ใช่มาเก็บไว้แล้วปล่อยให้ระเบิด แบบนั้นมันจะทำให้เรื่องแย่ไปใหญ่ คุยกันแบบเคลียร์ๆแล้วปรับตัวเข้าหากัน”

“เออ กูรู้ แม่กูก็พูดคล้ายๆมึงเลยว่ะ”มันทำหน้าประหลาดใจเหลือล้น

“มึงคุยกับแม่มึงเรื่องนี้ด้วยเหรอ”

“เออ”ไม่น่าเป็นไปได้จริงๆ ทั้งปีทั้งชาติผมก็ไม่เคยพูดเรื่องตัวเองกับแม่เลย

“กูว่าไม่ธรรมดาซะแล้ว คบกันนานยัง”

“ก็ตั้งแต่ช่วงปีหนึ่ง เอาจริงๆกูไม่เคยคิดจะคบกับพวกมันเลยนะ ตอนพวกมันมาขอโอกาส กูแค่อยากลองดู จนอยู่ไปเรื่อยๆ กูก็เห็นว่าพวกมันปรับตัวเข้าหากู ตอนที่คบกันกูก็รู้สึกดีๆกับพวกมันนะ แต่ยังไม่ถึงคำว่ารัก กูถึงได้ทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ไป พวกมันบอกว่าจะออกไปจากชีวิตกู แต่กูไม่อยาก แล้วที่ตลกกว่านั้นคือกูไปรั้งพวกมันกลับมา แล้วกูกับพวกมันก็คบกันได้ตลอดรอดฝั่งมาถึงทุกวันนี้ แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะง่ายด้วยนะ กูกับพวกมันก็ผ่านเรื่องบ้าๆมาเยอะแยะ…จนกูรู้ว่าความรู้สึกของตัวเองมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เหมือนเด็กหัดรักเลยว่ะ มึงว่าไหม”ผมสาธยายให้มันฟังตั้งนาน

 “กูถึงได้บอกไง หายโกรธก็กลับไปเคลียร์ คนดีๆมันไม่ได้หาง่ายๆ”

“พวกมันไม่รอนานขนาดนั้นหรอก”ผมเชื่อว่าพวกมันต้องตามมาแน่

“พวกมัน?”ไอ้โต้งทำหน้างงๆ

“เออ พวกมัน”ผมหันไปยักคิ้วให้เพื่อน มันยังดูสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก ผมปล่อยใจล่องลอยไปเรื่อย เริ่มผ่อนคลายกับบรรยากาศดีๆ

“ชีวิตคู่มันไม่ง่ายหรอกเพื่อน”ไอ้โต้งโพล่งขึ้นมา ไอ้นี่พูดเหมือนคนแก่เลย แต่ก็นะ มันเองก็มีเมียมีลูกแล้ว คงผ่านอะไรมาเยอะกว่าผมแน่นอน

“ทุกวันนี้กูทำทุกอย่างเพื่อลูก กูอยู่ก็เพราะลูก”

“พูดบ้าอะไรของมึงวะเนี่ย”ผมเริ่มจะเครียด มันพูดอย่างกับคนหมดอาลัยตายอยากกับชีวิตเลย ไอ้โต้งถอนหายใจเฮือกใหญ่

“มีอะไรก็ระบายให้กูฟังได้นะเว้ย”ผมวางมือลงบนไหล่ของอีกคน   

“เฮ้อ…ชีวิตกูน่ะมันผิดพลาดตั้งแต่แรกแล้วว่ะ กูมีหน้าที่ที่ต้องทำ”ผมไม่เข้าใจที่มันพูดเลย

“คอแห้งแล้วว่ะ เดี๋ยวกูมา”มันชี้ไปที่รถขายนำสีสันสดใสที่จอดขายอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้าม ผมมองตามไอ้โต้ง มองภายนอกมันก็ดูมีความสุขดี ไม่ยักรู้ว่ามันจะมีเรื่องทุกข์ในใจ ผมไม่รู้หรอกว่ามันเป็นอะไรของมัน แต่พอมาเจอแบบนี้แล้ว ปัญหาของผมดูขี้ปะติ๋วไปเลย

ระหว่างที่คิดอะไรไปเรื่อย ผมก็ได้ยินเสียงรถมาจอดใกล้ๆ พอหันไปมองผมถึงกับใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม เพราะไอ้คนที่กำลังเดินมาหาผมคือไอ้เกมส์ ผมเหลียวมองไอ้โต้ง มันหันมาทางผมเหมือนกัน แต่ก็ข้ามมาไม่ได้เพราะรถที่วิ่งสวนไปมาตรงหน้า 

“เฮ้ย ผมมาดี”มันยกมือขึ้นเหมือนคนขอยอมแพ้ ผมหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ กับไอ้คนที่เคยคิดจะรุมทำเรื่องอุบาทว์กับตัวเอง ใครเชื่อง่ายๆก็บ้าแล้ว

“มึงต้องการอะไร”

“ผมแค่อยากคุยด้วยเฉยๆ สัญญาด้วยเกียรติของเด็กช่างเลยเอ้า”มันยกมือขึ้นมาอีกครั้ง ผมเหลือบมองไอ้โต้งมันวิ่งกลับมาหาผมแล้ว

“มึงมีอะไรกับเพื่อนกูหา”มันทำหน้าโหด ในมือถือแก้วน้ำสีเขียวๆ

“กูแค่อยากคุยเฉยๆ ไม่ได้มาหาเรื่อง”มันโต้กลับ

“คุยเหี้ยอะไร”

“ไม่ใช่เรื่องของมึง กูมาคุยเรื่อง…”มันเงียบเสียงลง ผมก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องไหน ไอ้โต้งส่งแก้วน้ำให้ผม ก่อนจะเข้าไปสำรวจว่ามันพกอาวุธมาบ้างรึเปล่า เมื่อไม่มีมันก็ถอยออกมา

“แล้วมึงเสือกมาคุยเอาป่านนี้เพื่อ เรื่องมันเกิดมากี่ปีแล้ว”

“ก็ไม่มีโอกาสคุยไง คราวก่อนที่เจอ ก็มาโชว์ปืนอวด ใครจะกล้าเข้าไปคุย กูก็กลัวสมองกระเด็นเหมือนกันนี่”ไอ้เกมส์หันมาทางผม

“ผมมาดีจริงๆ”ผมหันไปมองเพื่อนว่าจะเอาไงดี

“กูจะรออยู่แถวนี้ ถ้ามึงตุกติกนะ”ไอ้โต้งแตะไปที่เอวของตัวเองข่มขู่ อ้าว นี่มันพกปืนมาหรอกเหรอ

“ว่ามา”ผมพูดขึ้นเมื่อไอ้โต้งออกไปยืนรอที่โต๊ะหินอ่อนตัวถัดไป ไอ้เกมส์กระแอมกระไอเบาๆ

“ผมขอโทษ ที่ทำไปตอนนั้นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ คึกคะนองไปหน่อย”มันพึมพำกลับมา ความจริงเรื่องนี้ผมก็เกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำ ไม่ได้ติดใจอะไรเลย เพราะตอนนั้นไอ้สองตัวนั่นมันก็จัดการให้ผมแล้ว   

 “อือ กูยกโทษให้ก็ได้”ผมตอบส่งๆ ไม่อยากจะมองหน้ามันนักหรอก

“แล้วถ้ามึงสำนึกผิดจริง ทำไมยังคบกับพวกไอ้ลูกผู้ใหญ่บ้านอยู่”ผมถามเมื่อนึกได้ ไอ้เกมส์มีสีหน้าลำบากใจ

“ก็มันเป็นเพื่อนผมนี่ ถึงจะเหี้ยยังไงมันก็เป็นเพื่อนผม ถึงมันจะเคยทำเรื่องแย่ๆแต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่เคยทำเรื่องดีๆ”ผมทำหน้าเอือม

“พอเหอะกูจะอ้วก”เหอะ ถ้าดีจริง ไอ้เหี้ยนั่นก็ต้องมาขอโทษผมสิ

“พูดเสร็จแล้วใช่ไหม จะไปไหนก็ไป”ผมโบกมือไล่

“ผมขอโทษจริงๆ”มันพูดซ้ำอีกรอบ

“เฮ้ยเดี๋ยว”ผมเรียกมันไว้เมื่อนึกถึงเรื่องบางอย่างที่ต้องพูด ไอ้เกมส์หันมามองพร้อมรอยยิ้มหวาดหวั่นอยู่ในที

“มึงคงรู้ใช่ไหมว่าพ่อมึงทำงานหนัก”ไอ้เกมส์ทำหน้าไม่ถูก

“ที่เขาทำเพราะมึงนะ มึงทำตัวแย่ๆแบบนี้ กูเห็นแล้วสงสาร”น้าแท็กซี่คนนั้นจะรู้ไหมว่ามันเคยทำเรื่องชั่วๆกับผม มันไม่ได้ตอบอะไรแต่เดินกลับไปที่รถด้วยสีหน้าจ๋อยๆ

“เพื่อนกูกลายเป็นคนหัวใจพ่อพระไปซะแล้ว”ไอ้โต้งกลับมายืนข้างๆ ดูดน้ำในแก้วด้วยสีหน้าล้อเลียน

“ใจกูหล่อ เหมือนหน้ากูนั่นล่ะนะ”ไอ้โต้งเบ้หน้าใส่

“ได้พูดออกมาแล้วสบายใจขึ้นใช่ไหมไอ้คนหัวใจหล่อ”

“เออ ขอบใจนะเว้ยที่ฟังกูพล่าม”

“เรื่องเล็กน้อย นานๆทีจะได้เจอมึง ฟังมึงพูดบ้างก็ดี เออแล้วมึงจะอยู่กี่วันวะ”

“ก็ถึงช่วงวันหยุดปีใหม่นู่นเลย”ไหนๆหยุดแล้ว

“เออดี กูว่าจะชวนไปทำเรื่องดีๆซะหน่อย”ผมเลิกคิ้วรอฟัง

“มึงเคยไปเขาพระเมินใช่ไหม นั่นล่ะ ไปช่วยทำป้ายนำทางกัน กูกะจะอยู่ทำบุญพระธาตุเลย มึงจะไปไหม”

“ไป”จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน

“ถ้าเริ่มงานเมื่อไหร่เดี๋ยวกูโทรหาก็แล้วกัน”

“โทรมาเบอร์แม่กูนะ กูปิดเครื่อง”ไอ้โต้งทำหน้าระอา พูดถึงเบอร์แม่แล้วผมก็คิดได้ว่า ป่านนี้ไอ้สองตัวนั่นมันจะโทรเช็คกับแม่ผมรึเปล่า ถ้าพวกมันโทรมาล่ะก็…พรุ่งนี้ผมได้เห็นหน้าพวกมันสองคนแน่ๆ ผมเป็นคนมองการณ์ไกล เพราะฉะนั้นจะอยู่เฉยไม่ได้

“กูว่ากูจะไปนอนค้างบ้านมึงว่ะ”ไอ้โต้งถึงกับทำหน้าเหวอ

“อะไรของมึงวะ”

“เออน่า มึงบอกว่าอยากเห็น‘พวกมัน’ไม่ใช่เหรอ”

เชื่อเถอะว่า…พวกมันต้องเข้าหาทางแม่ผมแน่








……………………………………………………………………………


 

(มีต่อ)
     
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 30-12-2015 17:13:42








 ผมมาค้างกับไอ้โต้งได้สองวันแล้ว เมียกับลูกมันย้ายไปนอนที่บ้านแม่ ไม่รู้ว่าไอ้โต้งไปพูดอีท่าไหน เอ๊ะ หรือว่ามันหวงเมียมัน

“เริ่มงานพรุ่งนี้นะไอ้ฟิก”ไอโต้งเตือน

“ดี กูชักจะเบื่อแล้ว”นอนอยู่เฉยๆนี่โคตรจะน่าเบื่อเลย

“เพื่อนมึงโทรมาว่ะ”ไอ้โต้งส่งโทรศัพท์ของมันมาให้ผม เมื่อวานก่อนผมใช้โทรศัพท์มันโทรไปคุยกับไอ้เคน

“ว่าไง”ผมรับสายระหว่างที่นอนเคี้ยวข้าวโพดคั่วสบายใจเชิบ ไอ้โต้งมองด้วยหางตาแต่ผมก็ไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด

[ไอ้ฟิก] ผมแทบกลั้นหายใจเพราะที่ปลายสายคือไอ้ติน

“…”แต่ผมก็ยังเงียบ

[กูปล่อยมึงมาสองวันแล้ว พรุ่งนี้กูจะไปหานะ มาเคลียร์กัน]

“มึงโทรกวนแม่กูรึเปล่า”

[กูไม่ได้โทรกวน]

“แล้วมึงโทรไปรึเปล่าล่ะ”ผมทำเสียงแข็งใส่

[กูแค่อยากรู้ว่ามึงกลับบ้านรึเปล่า ก็แค่นั้น] น้ำเสียงมันดูไม่สบายใจเท่าไหร่

“มึงไม่ต้องโทรหาแม่กูอีกนะ มึงคงรู้ใช่ไหมว่าเพราะอะไร”ผมกลัวแม่จะเดาออกว่าผมคบกับใครอยู่น่ะสิ

[กูรู้น่า…ฟิกกูรู้ว่ากูผิด กูขอโทษ]

“กูเบื่อฟังคำนี้ว่ะ”เอาซี้ เมื่อก่อนมันก็พูดคำนี้กับผม

[เออ มึงจะให้กูไปหามึงวันนี้เลยดีไหม] ไอ้ตินดูจะฉุนขึ้นมาบ้าง แต่ผมก็ยังทำใจเย็นเคี้ยวข้าวโพดคั่วกวนประสาทมัน

“ยัง กูยังไม่อยากเห็นหน้ามึง”

[พรุ่งนี้] มันทำเสียงอ่อนลง

[มึงอย่าหนีกูอีกนะ]

“มึงห้ามกูได้เหรอ”

[มึงไม่ใช่เด็กแล้วนะฟิก]

“ก็ใช่ไง กูถึงได้ถอยออกมาก่อน”เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง ผมเหลือบมองไอ้โต้งที่เงียหูฟังอยู่ ก่อนจะโบกมือไล่ให้มันเลิกเผือกเรื่องของผม

[มึงหนักใจขนาดนั้นเลยเหรอฟิก]

“กูเสียใจมากกว่า มึงไม่แคร์ความรู้สึกกูเลย เพื่อนมึงมันดีนักนี่ไอ้ชัยน่ะ ยุให้มึงเลิกกับกูตลอด”พูดถึงมันแล้วผมยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิม

[มึงก็รู้ว่ามันแค่พูดเล่น] ไอ้ตินดูลำบากใจมากๆ

“พูดเล่นแต่มันเอาจริง”ผมรู้ว่าไอ้ชัยไม่ชอบผม

[กูเคลียร์กับมันเรื่องมึงชัดเจนแล้ว ไม่ว่าเพื่อนคนไหนก็บังคับกูเรื่องมึงไม่ได้หรอก] มันเงียบอีกครั้ง

[กูรู้ตัวว่ากูบังคับมึงหลายเรื่อง ถึงมึงจะไม่อยากฟังแต่กูขอโทษที่ทำให้มึงอึดอัด พรุ่งนี้นะฟิก กูจะไปหามึง อย่าหนี ไม่งั้น--]

“มึงยังกล้าขู่กูอีกเหรอ”ผมทำเสียงเข้มขัดก่อนที่ไอ้ตินจะพูดจบ

[ไม่รู้ล่ะ พรุ่งนี้กูจะไปเคลียร์กับมึง เอาให้จบในวันนั้นด้วย กูไม่สบายใจ] มีเสียงกุกกักตามมา ก่อนที่อีกเสียงจะแทรกเข้ามา

[มึงอย่าเพิ่งวางนะ] เสียงไอ้ภูดูอ่อนกว่าทุกที ผมเคี้ยวข้าวโพดคั่วเสียงดังเพื่อให้มันรู้ว่าผมฟังมันอยู่

[เรื่องที่มึงพูดเมื่อวันนั้นน่ะ] ผมกำลังนึกว่าเรื่องไหนมันก็แทรกขึ้นมาอีกครั้ง

[มึงคบกับกูมึงลำบากใจมากเลยเหรอวะ] ผมไม่รู้ว่าตอนนี้มันทำสีหน้ายังไง แต่เดาจากน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน้อยใจของมันผมก็สงสารไอ้ภูมันนิดหน่อย ก็ลืมไปว่ามันเป็นคนประเภทคิดมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันกลัวอะไร แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของผมเสียหน่อย ในเมื่อมันคิดมากไปเอง ก็เรื่องของมัน     

“อย่างอแงได้ไหมวะไอ้ภู เรื่องเก่ายังไม่ทันจบ มึงจะมาพูดอะไรอีก”มันถอนหายใจแว่วๆมา

[ถ้ามึงไม่ไหว มึงก็บอกกูนะ กูจะได้ทำใจไว้ก่อน] ผมข่มอารมณ์หงุดหงิดไว้เต็มที่

[พรุ่งนี้…มึงรอกูด้วยนะ คิดถึง] แล้วมันก็วางสายไปทันที

“พูดอย่างกับพระเอก พวกมึงเป็นคนผิดไม่ใช่เหรอวะ”ผมมองโทรศัพท์ในมืออย่างหงุดหงิด จนไอ้โต้งรีบมาดึงของๆมันกลับไป

“มันว่าไง”มันทำหน้าสอดรู้

“พรุ่งนี้จะมาเคลียร์”

“อ้าว แต่พรุ่งนี้มึงไปขึ้นเขากับกูนี่”

“ปัญหาของพวกมันนี่ กูต้องนั่งรอให้มันมาหาเหรอ”ผมไม่ไดเล่นตัวอะไรเลยนะ แค่เพราะพรุ่งนี้ผมมีงานต้องทำแล้วต่างหาก

“สัด อย่างกับหนังอินเดีย หลบๆหนีๆ”ไอ้โต้งส่ายหน้าไปมา แต่หน้าตาดูกำลังสนุก มันยื่นหน้ามาใกล้ๆ

“แล้วตกลงมึงเป็นนางเอกหรือพระเอกกันแน่วะ”

“แค่กๆ”ถึงกับสำลักข้าวโพดคั่ว

“นั่นแน่ มีพิรุธนะมึงเนี่ย”

“อะไรของมึง อย่างกูต้องพระเอกอยู่แล้ว”ไม่ได้ครับงานนี้ ผมจะมาเสียชื่อไม่ได้ ขนาดไอ้เพียวมันยังโง่ไม่รู้ความจริงเรื่องนี้เลย 

“เหรอ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้ มึงอย่าใจอ่อนก่อนล่ะ กูอยากดูอะไรสนุกๆ”

“เดี๋ยวเหอะมึง เห็นความทุกข์ของกูเป็นเรื่องสนุกเหรอ”คิดไปคิดมาแล้วนึกถึงเหล่าผองเพื่อนของไอ้ภูกับไอ้ตินเลย พาลอารมณ์เสียจนได้

“พรุ่งนี้มีแค่มึงกับกูเหรอ หรือยังไง”ผมเปลี่ยนเรื่องโดยฉับพลัน

“เห็นว่าเกณฑ์คนในหมู่บ้านมาช่วยด้วย”คนในหมู่บ้าน…หวังว่าจะไม่เจอกับไอ้แก๊งลูกแหง่ลูกผู้ใหญ่บ้านพวกนั้นนะแต่เหมือนไอ้โต้งจะเดาความคิดผมออก

“มึงไม่ต้องห่วง พวกมันไม่กล้าหือหรอก ผู้ใหญ่บ้านก็มา ครั้งนี้คงไม่ปล่อยให้ลูกตัวเองกร่างต่อหน้าแน่ แล้วอย่าลืมว่ามึงมากับกู”มันเสริม

“อือ”จะว่าไป…ถ้ามาจ๊ะเอ๋กับพวกไอ้ภูล่ะ กรรมของใครของมันแล้วกัน แต่ถึงอย่างนั้นผมมั่นใจและรู้ตัวว่าผมไม่ใจอ่อนให้มันสองคนง่ายๆแน่ เห็นผมเป็นคนไม่คิดอะไรก็ใช่ว่าผมจะใจอ่อนง่ายๆ ครั้งนี้ผมจะทำให้พวกมันรู้ว่าคนอย่างไอ้ฟิกก็โกรธเป็น ให้มันรู้ซะบ้างว่าความรู้สึกของผมไม่ใช่เรื่องขำๆหรือล้อเล่น







-----------------------------------------------
TBC


. เจอกันตอนหน้าค่ะ ไม่ทิ้งช่วงนานแน่นอนเพราะจะเขียนตอนรับปีใหม่ด้วย
ตอนนี้ความคิดความอ่านฟิกโตขึ้นมากๆ ตัวละครเก่าๆจะทยอยกลับมาด้วย      :กอด1:
     


หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 30-12-2015 17:40:27
ถึงคราวที่ฟิกจะเอาคืนบ้างแล้วงานนี้ต่อให้เป็นติ่งอวยพี่ตินก็ไม่เข้าข้างหรอกนะ หมั่นแทนฟิกตั้งแต่วันเกิดเรื่องล่ะ เชอะๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Noah ที่ 30-12-2015 17:58:37
อ่านจบแล้วรีบไปจุดธูปเรียกภูกะตินเลย รีบมานะ 55555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: AuyAaiz ที่ 30-12-2015 18:04:56
 :laugh: :3125:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: thepopper ที่ 30-12-2015 18:23:17
จัดหนักไปเลยฟิกกกก
เอาให้ภูกะตินกระอักเลือดตายไปเลย 5555 #ทีมฟิก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-12-2015 18:35:55
 :katai2-1:   มีอะไรสนุกๆให้ดูแน่ๆ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-12-2015 18:37:56
แหม ทำเข้ม
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 30-12-2015 18:46:22
ฟิกใจแข็งมากกก
ไงล่ะทั้งสองคน 5555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 30-12-2015 18:51:28
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-12-2015 18:55:43
รอให้ถึงวันภูกับตินมาหาฟิกเร็วๆ อยากรู้ว่าจะเคลียร์กันเข้าใจไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 30-12-2015 19:43:44
ใช่ ๆ หมั่นไส้แทนฟิกมาก ๆ อย่ายอมง่ายๆนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 30-12-2015 19:57:09
จัดหนักไปเลยฟิก 555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 30-12-2015 20:06:01
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: kjkjji ที่ 30-12-2015 20:30:22
โถน้องฟิก อะไรน้องว่าดีพี่ก็ว่าดีค่ะ งอนน่าเอ็นดู๊น่าเอ็นดู
ภูตินนี่อย่างตัวประกอบเลย โผล่มาน้อยมาก 5555
รอตอนเค้าง้อกันค่ะ น้องฟิกเอาคืนให้หนักเลยนะลูก แต่เบามือให้พี่ภูบ้าง สงสารคนแก่ขี้น้อยใจ เอาไปลงที่ตินแทนเนาะ คนนั้นคดีหนักกว่า บับว่าช่วงหลังๆน่าหมั่นไส้มาก (?) 555ไม่ใช่ละ
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: NanShiiWilawan ที่ 30-12-2015 21:25:49
 :hao5: รอตอนต่อไปค่ะ fc. พี่ฟิกกกก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 30-12-2015 21:45:51
องค์ลงประทับนู๋ฟิกเต็มร่าง
แล้วงี้ เฮียภู เฮียติน จะเคลียร์แบบไหน

ต่อให้งัดเอาองคชาติออกมาสู้
ก็คงจะสู้ไม่ไหว..
น่าจะใช้ไม่ได้นะ..เฮียเฮีย

กร๊ากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 30-12-2015 21:46:57
ใจร่ม ๆ แล้วคุยกันดีกว่าเนอะ

ผ่านเรื่องนี้ไปจะได้อยู่กันแบบสบายใจขึ้น
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 30-12-2015 22:01:28
พี่ภูกับพี่ตินจะขึ้นมาง้อแล้ว
ฟิกอย่ายอมง่ายๆนะ
เอาให้รู้เลยว่าเสียใจมาก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 30-12-2015 22:10:56
น้องฟิกใจแข็งจริงๆ
คราวนี้แหละ สองคนนั้นไม่กล้าหือไปอีกนาน
อยากเห็นหน้าโต้ง ตอนเห็น "พวกมัน" ของฟิก
ต้องฮามากแน่ๆ 55555555555
และยังมีเรื่องแม่อีก อูยยย หนูฟิกก็มีเรื่องกลุ้มเยอะอยู่นะคะ
พรุ่งนี้จะเคลียร์ได้ไม่ได้ยังไงมารอลุ้นกัน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 30-12-2015 22:40:56
ฟิกเอ้ย โตขึ้นเยอะเลยลูกหมาน้อย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 31-12-2015 00:07:15
ตอนนี้ ทีมฟิก ฟิกเอาคืนเยอะๆเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Mynun ที่ 31-12-2015 00:40:01
ภูนี้แลดูเหมือนหมาตัวโตง้อเจ้าของ
ส่วนติน .... #เลิกเลยเลิกเลย #ทีมชัย (ล้อเล่นคะ) 555555
อย่าให้ฟิกใจอ่อนเลยนะคะ สักสิบวันค่อยคืนดี ขอเวลาสะใจกับ 'พวกมัน' หน่อย
#ทีมฟิก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 31-12-2015 00:50:07
อยากอ่านต่ออ่าาาา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Malila ที่ 31-12-2015 01:22:30
ฟิกสู้นะ  555555 

ภูตินควรโตและรับผิดชอบต่อการกระทำได้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 31-12-2015 03:51:08
จะรอดูหนังอินเดีย 555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 31-12-2015 10:05:38
แอบสงสารภู 55 แต่ก็#ทีมฟิก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 31-12-2015 10:35:55
 :laugh: อิหนูฟิกร้องเพลงอินตะระเดียส่ายคอยึกยักเต้นข้ามเขาไปก่อนแล้ว  :m20:
 :hao6: สองหนุ่มจะวิ่งข้ามเขาเกี่ยวต้นไม้โผล่หน้า อะมาเต้เฮ้ ตะฮ้าาาา ง้อแบบไหนหนอ  :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: mammam ที่ 31-12-2015 13:13:51
เหอ เหอ เหอ ก็ยังงี้อ่ะน่ะ ต้องมีกันบ้างเนอะฟิกเนอะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 31-12-2015 14:05:28
โอ๊ยยยย  ลุ้น :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Cady ที่ 31-12-2015 15:13:27
 :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 31-12-2015 18:35:11
เอาคืนเยอะๆนะฟิกแต่ไม่ต้องหนักมาก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 31-12-2015 22:59:53
ดีมากฟิก นานๆจะได้งอนบ้าง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 31-12-2015 23:10:09
#ทีมฟิก
 :katai3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 31-12-2015 23:34:22
ให้นางได้เอาคืนบ้างเถอะ น้องฟิกผู้น่าสงสาร
นานๆจะได้เอาคืนซักที
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: masmaro ที่ 01-01-2016 03:00:10
#ทีมหนูฟิก ใจอยากจะให้น้องงอนนานๆแก้แค้นคืนให้เข็ด
แต่อีกใจก็อยากให้คุยได้เจอกันเร็วๆ อยากเห็นสองสามีจะง้อเมียยังไง
หึหึ แต่ลูกสาวใจแข็งจริงๆ คงยากน่าดู หุหุ  :katai2-1: :katai2-1:
มาต่อเร็วๆนะคะ สู้ๆ  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 01-01-2016 22:42:07
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 01-01-2016 23:03:33
 :impress2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 02-01-2016 12:30:14
เริ่มสงสารติน ภู :ped144:

Happy New Year   :L2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 02-01-2016 13:46:32
เอาให้แสบบ เอาใจช่วยฟิก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Wannida ที่ 02-01-2016 20:00:14
อย่าให้อภัยง่ายๆนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 03-01-2016 22:34:45
เหมือนจะน่าสงสารนะ แต่ในเมื่อเชื่อเพื่อนมากนัก รับบทเรียนไปบ้างก็ดีแล้ว หึๆๆๆๆ o8 o8
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 04-01-2016 09:11:24
ฟิกงอนยาวเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๖: ...] 30-12-58 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 04-01-2016 12:54:12
ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าต่อดี ภูตินเอ๊ย 5555+

เอ้า! เอาเป็นว่า เอาใจช่วยให้ง้อฟิกได้เร็ววันก็แล้วกัน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗: 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 05-01-2016 19:43:25

 

ตอนที่๑๗








ผมกับไอ้โต้งต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าตรู่เผื่อเตรียมตัวเดินทางไปเขาพระเมิน ต้องไปรวมตัวกันที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านก่อน ผมโทรบอกแม่ทั้งๆที่ไม่ค่อยอยากโทรเท่าไหร่เพราะรู้ว่ายังไงไอ้ภูกับไอ้ตินต้องมาเลียบๆเคียงๆถามแน่นอน อีกอย่างงานนี้มีคางคืนด้วย ผมกลัวแม่จะเป็นห่วงถ้าหากหายไปเฉยๆ     

“กูอยากรู้ว่ะ เมื่อก่อนมึงมีเด็กกี่คนวะ”อยู่ๆไอ้โต้งก็ถามขึ้นมาระหว่างที่บิดรถไปบ้านผู้ใหญ่ ผมเห็นไหล่มันสั่นน้อยๆเพราะอากาศหนาวเย็นยามเช้า

“ก็หลายอยู่”ไม่อยากจะนับเท่าไหร่

“งั้นกูขอทวนความจำมึงหน่อย เด็กคนแรกและคนสุดท้ายของมึงชื่ออะไร”

“โอ๊ย มึงคิดว่ากูจะจำได้เหรอ คนแรกกูลืมไปแล้วว่ะ แต่คนสุดท้ายกูจำได้มันชื่อไอ้เน็ต”ผมตบไหล่มันสียงดัง แหงล่ะ ไอ้เน็ตนี่ตัวสร้างเรื่องให้ผมเลย

“จนป่านนี้กูก็ยังสงสัยว่ะฟิก”

“เรื่อง?”

“ว่ามึงอยู่รอดปลอดภัยมาจนทุกวันนี้ได้ยังไง”มันหัวเราะร่วน

“รอดแบบช้ำเลือดช้ำหนองไง มึงไม่รู้หรอกว่ากูต้องผ่านเรื่องอะไรมาบ้าง”

“ขนาดนั้นเลย”มันทำเสียงเหลือเชื่อ

“เออ ถ้ามึงรู้นะ ขนหัวลุกแน่นอน”ผมหยุดพูดเมื่อเข้าใกล้บริเวณบ้านของผู้ใหญ่บ้าน ความทรงจำอุบาทว์ๆก็ผุดขึ้นมาทันที ทำไมช่วงนี้มีแต่เรื่องให้ผมรำลึกความหลังบ่อยจังวะ

“มึงไม่ต้องห่วง มากับกู ไม่มีใครกล้าทำอะไรมึงหรอก”ผมไม่ได้รู้สึกอุ่นใจเลยสักนิด น้ำเสียงของไอ้โต้งเหมือนคนที่พร้อมจะมีเรื่องมากกว่า ไอ้พวกอารมณ์ร้อนนี่มีอยู่ทุกที่เลย ไอ้โต้งเอารถไปจอดที่โรงจอดรถ จากที่มองๆดูลูกมือส่วนใหญ่จะเป็นพวกเด็กวัยรุ่น วัยมัธยมละอ่อนๆทั้งนั้น 

“ไง จำกันได้ไหม”คนทักไม่ใคร มันคือไอ้อั๋นลูกผู้ใหญ่บ้านนั่นเอง ผมยกยิ้มมอง เหลือบตามองเพื่อนมันที่ยืนอยู่ด้านหลัง ไอ้เกมส์ยิ้มเหือดแห้งมาให้ แต่ไอ้ปิ่นเพื่อนเก่าพ่วงอดีตกิ๊กยืนทำหน้าไม่ถูกอยู่ข้างหลังแฟนมัน  

“อ๋อ จำได้สิ หน้าเหี้ยๆแบบมึงมีอยู่ไม่เยอะหรอก”ผมพูดพร้อมแจกยิ้ม 

“ปากเก่งนักนะมึง คอยดู…”

“มึงจะทำไม”ไอ้โต้งโผล่มายืนข้างๆผมพร้อมกับทำหน้าเหี้ยม

“เหอะ…”แล้วพวกมันก็ถอยทัพกลับไป เมื่อผู้ใหญ่บ้านเดินเข้ามาใกล้ ผมกับไอ้โต้งมองหน้ากัน เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ไอ้ลูกแหง่มันไม่กล้ากร่างต่อหน้าพ่อมันจริงๆด้วย  

หลังจากที่ผู้ใหญ่แจกแจงงานให้แต่คนเรียบร้อย ก็แยกย้ายกันไปช่วยกันขนของใส่ท้ายกระบะ เผื่อเตรียมไปเขาพระเมิน

“สบายดีใช่ไหม ไอ้หนู”จู่ๆลุงผู้ใหญ่ก็เข้ามาทัก พร้อมรอยยิ้มใจดี

“ครับ”สบายดีมาก แต่จะสบายกว่านี้ถ้าลูกชายลุงทำตัวเป็นเด็กดี

“ถ้าเอ็งเรียนจบเมื่อไหร่ก็บอกนะ ข้าจะได้จ้างเอ็งมาช่วยสร้างโรงเรียนให้เด็กแถวนี้”

“จะจบตอนไหนก็ยังไม่รู้เลยครับ”ผมหัวเราะแห้งๆ ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่พูดจริงหรือพูดเล่น

“วันนี้มาสร้างบุญด้วยกัน ข้าขอล่ะ อย่ามีเรื่องกันเลย”ผมลดรอยยิ้มลงทันที

“บอกลูกชายลุงผู้ใหญ่ดีกว่าครับ”ผมไม่ใช่พวกนักเลงเสียหน่อย แต่ถ้าเป็นไอ้โต้งก็ไม่แน่ ผมขี้เกียจคุยเลยปลีกตัวไปช่วยคนอื่นยกแผ่นไม้ซะเลย

“ผู้ใหญ่คุยอะไรกับมึงวะ”ไอ้โต้งกระซิบถามระหว่างที่ช่วยกันยกของ

“แค่กลัวจะมีเรื่อง”ไอ้โต้งเบ้หน้าทันที

“ไม่ได้ดูลูกตัวเองเลย”มันทำเสียงหึในลำคอ สีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่าง จากที่รู้จักมันมา ผมว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่

หลังจากที่เตรียมของจนครบก็ได้เวลาออกเดินทาง ดีที่ไอ้พวกลูกแหง่มันขึ้นรถอีกคันไป ผมนั่งลงท้ายรถกระบะห้อยขามองทิวทัศน์รอบตัวอย่างที่เคยทำ ต้นไม้ใบหญ้าก็ยังขึ้นรกเรื้อเหมือนเคยเลยต้องเกณฑ์คนมาช่วยทุกปี ผมเองก็พึ่งมารู้ว่าทางขึ้นเขาพระเมินสามารถเอารถขึ้นไปได้ด้วย แต่ก็ขึ้นไปจนถึงลานตั้งแคมป์ไม่ได้อยู่ดี ที่เหลือจึงตกเป็นงานของพวกผมในการติดป้ายนำทางใหม่ ส่วนไอ้พวกลูกแหง่ก็ช่วยกันตัดหญ้าที่ขึ้นรกเรื้อออก ระหว่างที่กำลังตั้งอกตั้งใจตอกตะปู จู่ๆไอ้อั๋นมันก็เสร่อพูดขึ้นมา

“แล้วสองคนนั่นไม่ได้มาด้วยเหรอ”ไอ้โต้งหันมามองหน้าผมงงๆ

“…”ผมก็เงียบไม่ตอบคำถามของอีกฝ่าย แต่ออกแรงตอกตะปูมากขึ้น

“หรือว่าเลิกกันแล้ว”

“อย่าเสือก”ผมตอบกลับอย่างหงุดหงิด ได้ยินเสียงหัวเราะของพรรคพวกมันดังมาเข้าหู  

“ก็แค่อยากรู้”มันตอบด้วยเสียงกวนประสาท

“มึงนี่ยังไง เก็บปากมึงไว้แดกข้าวเหอะ”ไอ้โต้งสวนกลับด้วยท่าทางเหลืออด แต่เพราะมีคนงานวนเวียนอยู่แถวๆนี้ด้วย มันเลยไม่กล้าบุ่มบ่ามมาก

“อย่าบอกนะ…”ไอ้อั๋นชี้มาที่ไอ้โต้งแล้ววนมาชี้ทางผม

“คิดอะไรของมึง กลับไปที่ของมึงเลย อย่าใหกูหมดความอดทน”ไอ้โต้งยกค้อนในมือขึ้นมาสีหน้าเอาจริง จนไอ้อั๋นถอยกลับที่เดิม

“แล้วมันพูดอะไรของมันวะ ไอ้สองคนนั่นคือ…”มันเลิกคิ้วรอคำตอบ

“ก็นั่นล่ะ”ผมตอบส่งๆก่อนจะหยิบป้ายอันใหม่ไปที่ต้นไม้อีกต้น

“แฟนมึง?”มันทำหน้าไม่เก็ท

“เออ”

“สองคนเหรอ”

“แน่นอน นี่กูไอ้ฟิกนะเว้ย”ยักคิ้วให้มันก่อนจะตอกตะปูต๊อกๆต่อไป

“เฮ้ย จริงดิ แม่ง…”ไอ้โต้งทำหน้าเหลือเชื่อ ผมรู้ว่ามันอยากถามอะไรเยอะแยะ แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะคุยถึงเรื่องมันสองคนสักเท่าไหร่

“ไว้ถ้าพวกมันมา เดี๋ยวมึงก็รู้เองนั่นแหละ”

“มึงดูมั่นใจเนอะว่ามันจะตามมึงมา”

“กูอยู่กับพวกมันมาจะสามปีแล้ว ทำไมจะไม่รู้สันดานพวกมัน”ก็พอๆกับที่พวกมันรู้ไส้ผมนั่นล่ะ

“เออดี…กูจะได้ต้อนรับแฟนมึงซะหน่อย”ผมเหลือบมองหน้าเพื่อน เห็นว่ามันส่งยิ้มร้ายกาจมาให้ผม

“มึงจะทำอะไร”แอบหวั่นจริงๆ คนอย่างไอ้โต้งไม่กลัวไอ้ภูกับไอ้ตินหรอก

“เออน่า รอดูก็แล้วกัน กูจะให้บทเรียนพวกมันแทนมึงเอง รับรองซี้ดแน่ๆ”ไอ้โต้งตบบ่าผมเบาๆ ก่อนจะผิวปากเดินนำผมไป มันคิดจะทำอะไรของมันวะ….

อย่าสร้างเรื่องปวดหัวให้ผมก็แล้วกัน!








……………………………………………………………..






ผมกับไอ้โต้งปลีกตัวมานั่งกินข้าวตรงโขดหินรับลมเล่น ที่ออกมานั่งตรงนี้เพราะผมกลัวมันจะตบะแตกเข้าไปซัดหน้าไอ้อั๋นเข้า แถมตรงนี้ก็อากาศดีด้วย ผมมองไปรอบๆจำได้ว่าเดินไปอีกไม่นานก็น่าจะถึงลานตั้งแคมป์แล้ว ระหว่างที่กำลังแย่งชิ้นหมูมาจากกล่องข้าวไอ้โต้ง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเหยียบลงบนใบไม้แห้งๆแว่วมาไกลๆ

“ใครมาวะ”ไอ้โต้งที่นั่งหันหน้ามองทางเดินพึมพำขึ้นมา แต่จู่ๆมันก็ทำตาโต

 “ใช่ สองคนนั่นรึเปล่า”มันเผยรอยยิ้มจนผมร้อนๆหนาวๆ เหลียวไปมองต้นเสียง ก็พบกับคนสองคนที่ผมคุ้นหน้าดี ไอ้ภูกับไอ้ตินตัวเป็นๆ ไอ้ภูดึงหมวกออกมาพัดสีหน้าเหมือนคนอดนอน ไม่ต่างจากไอ้ตินเท่าไหร่ พวกมันแบกเป้มาด้วยคนละใบ ไอ้ตินเหลือบมองผมก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กับกลุ่มคนที่มองพวกมันงงๆ ยกเว้นพวกไอ้อั๋นที่หน้าซีดไปตามๆกัน

“คือพวกผมมาหาเพื่อนน่ะครับ”ไอ้ตินชี้มายังผมที่ทำเหมือนไม่รู้จักกับพวกมัน

“อ๋อ แล้วมากันยังไงเนี่ย เดินขึ้นมาตั้งแต่ตีนเขาเลยเหรอ”ลุงผู้ใหญ่เข้าไปคุยด้วย

“เปล่าครับ พอดีมีคนมาส่งตรงจุดพักด้านล่าง”ได้ยินเสียงไอ้ตินตอบ ผมแอบยิ้ม ขำตาลุงผูใหญ่บ้าน สงสัยจะจำไอ้สองคนนี่ไม่ได้ ผมมองพวกไอ้อั๋นที่พากันปลีกตัวไปนั่งที่อื่น

“เจ้าฟิก เพื่อนมาหาแหน่ะ”ลุงผู้ใหญ่หันมาหาผมที่นั่งกินข้าวอยู่เงียบๆ

“มานั่งด้วยกันดิ”ไอ้โต้งเอ่ยชวนพลางกวักมือเรียกไอ้สองตัวนั่น ผมถลึงตาใส่เพื่อนทันที 

“มึงจะเรียกพวกมันมาทำไม”กัดฟันพูดเบาๆ แต่ก็ขยับหนีไม่ทันแล้วเพราะไอ้โต้งคว้าข้อมือของผมไว้ และพอดีกับที่ไอ้ภูกับไอ้ตินมาตามคำเชิญ ผมเริ่มงงว่ามันคิดจะทำอะไรของมัน ผมเหล่มองมือของไอ้โต้งที่กำข้อมือของผมอยู่

“มึงจะทำอะไร”อ้าปากถามมันแบบไร้เสียง มันแค่ยิ้มกว้างก่อนจะหันไปทักทายไอ้สองตัวนั่น

“เพื่อนฟิกเหรอ ทำไมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย”เอ๊ะ ทำไมเพื่อนผมมันสุภาพจังวะ ผมเงยหน้ามองไอ้ภูกับไอ้ติน มันสองคนยังยืนค้ำหัวอยู่อย่างนั้น สีหน้าดูหงุดหงิดเล็กๆ ชั่วครู่หนึ่งผมเห็นสายตามันวางอยู่ที่มือไอ้โต้งที่จับข้อมือผมอยู่   

“ไม่ได้เป็นเพื่อน”ไอ้ภูตอบเสียงนิ่ง

“รุ่นพี่ที่ม.กูเอง”ผมตอบตามปกติ

“อ๋อ…ก็ว่าอยู่ ขอบคุณที่ช่วยดูแลไอ้ฟิกน่ะพี่ ถึงมันจะแสบไปบ้าง แต่มันก็เป็นคนน่ารัก”ผมถึงกับอ้าปากค้างกับคำพูดของไอ้โต้ง เฮ้ย ทำไมมันพูดจาแปลกๆวะ   

“กินข้าวเที่ยงกันมาหรือยังครับ เดี๋ยวผมไปเอามาให้”มันไม่รอคำตอบแต่ลุกไปหยิบข้าวกล่องมาให้ไอ้สองคนนี่ทันที เหมือนจะเปิดโอกาสให้ไอ้ภูกับไอ้ตินได้คุยกับผม

ไอ้เพื่อนเชี่ยเอ้ย!

“มึงจะหนีกูอีกเหรอ”ไอ้ตินพูดก่อนคนแรก เมื่อเห็นผมตั้งท่าจะลุกหนีอีกครั้ง

“เออ เดี๋ยวข้าวไม่ย่อย”

“นั่นเพื่อนมึงเหรอ”ไอ้ภูมองไปที่ไอ้โต้ง สายตาไม่พอใจฉายออกมา

“เออ เพื่อนรักกู”รักมากจนอยากเอารองเท้าเน่าๆปาใส่หน้า

“กูไม่เห็นรู้จักเลย”ก็แน่ล่ะ ผมไม่เคยเล่าเรื่องไอ้โต้งให้พวกมันฟัง อีกอย่างหนึ่งก็เพราะเพื่อนเก่าที่อยู่ที่นี่มีแค่ไม่กี่คนที่ผมยังคบอยู่

“ต้องรู้ด้วยเหรอ”

“ไอ้ฟิก”ไอ้ตินทำเสียงเข้ม ทำนองว่าไม่ได้เล่นอยู่ ผมหันมองมันด้วยสายตาหงุดหงิด

“กูไม่จำเป็นต้องบอกมึงทุกเรื่องนี่”หมั่นไส้ไอตินฉิบ ไอ้ภูดูเงียบๆ เพราะง่วงนอนรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ 

“กูไม่ชอบให้มึงพูดประชด”ไอ้ตินพูดด้วยเสียงอ่อนลง

“อ๋อ โอเค ได้กูจะปฏิบัติตามที่มึงบอก กูจะไม่ประชด”

“ฟิก…”

“นี่ข้าวครับ”ไอ้โต้งโผล่มาขัดจังหวะ มันนั่งลงข้างๆผมก่อนจะวางกล่องข้าวลงตรงหน้าพวกมันสองคน

“แล้วมากันยังไงเนี่ย”ไอ้โต้งพยายามสานสัมพันธ์ แต่พวกมันสองคนเอาแต่นั่งจ้องหน้าผมอย่างเดียว

“เอ้อ กูเอามาเผื่อมึงอีกกล่อง”ไอ้โต้งทำตัวประหลาดอีกครั้งด้วยการเอากล่องข้าวอีกกล่องมาให้ผม

“อะไรของมึง”ผมกระซิบถามเบาๆ

“ชอบกินหมูไม่ใช่เหรอ ทีแบบนี้ไม่กิน เมื่อกี้ยังแย่งกูอยู่เลย”แล้วมันก็จัดการเปิดกล่องข้าวตักชิ้นหมูมาวางบนกล่องข้าวของผม

“เป็นเพื่อนกับมันมานานแล้วเหรอ”ไอ้ภูแทรกขึ้นมา

“โห…ก็ตั้งแต่สมัยประถมอ่ะ”ผมเหลียวมองหน้ามันทันที กูรู้จักมึงเมื่อตอนม.ปลายนี่เองนะ ผมได้แต่เงียบและงงอยู่คนเดียว รอดูว่ามันคิดจะเล่นอะไร

“อ้อเหรอ”ไอ้ภูพยักหน้า ก่อนจะหันมามองผม

“ไม่เห็นเคยบอกเลย”

“อันที่จริงแล้ว…”ไอ้โต้งหัวเราะฮ่าๆออกมา จนผมตกใจ

“เป็นบ้าอะไรของมึง”มีวี่แววว่ามันจะทำอะไรแน่ๆ

“อะไร พูดมา”ไอ้ตินคงคิดว่าผมตั้งใจจะปิดอะไรถึงได้โพล่งออกมาแบบนี้

“ผมกับมันเคยกิ๊กกันอยู่พักนึง ไอ้ฟิกคงไม่นับเป็นเพื่อนหรอก”ไอ้โต้งหันมามองผมก่อนจะเอาหน้ามาใกล้ๆ

“รอดูก็พอ”มันกระซิบเบาๆ

เชี่ยยยยยยยย คิดจะทำอะไรของมึงงงงงงงงงงงง ผมถึงกับขนลุกร้อนๆหนาวๆแปลกๆ เมื่อบรรยากาศเริ่มไม่ค่อยดี

“อ้อ…”ไอ้ภูเงียบไปอีกครั้ง

“จริงเหรอ ไอ้ฟิก”ดูเหมือนไอ้ตินจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ มันยังดูแคลงใจอยู่นิดหน่อย ผมสบตามันตรงๆ

“แล้วแต่จะคิด”

“อันที่จริงมันก็ตั้งนานแล้ว ตั้งแต่…ปิดเทอมปีสองนู่น เผอิญได้เจอมันที่งานกาชาดพอดี เลย…”ไอ้โต้งเว้นวรรคให้มโนกันเอง แต่ไม่คิดว่าเพื่อนผมมันจะมาไม้นี้ ไอ้ภูกับไอ้ตินนิ่งไปเหมือนกำลังนึกว่าช่วงไหน

“ว่าแต่อยู่ฉลองปีใหม่ด้วยกันไหมครับ”ไอ้โต้งชวน

“ท่าทางมึงไม่เหมือนคนชอบผู้ชายเลยนะ”ไอ้ภูแทรกมาอีกรอบ

“โหยพี่ ของแบบนี้วัดกันจากข้างนอกไม่ได้หรอก ผมแค่อยากลองอะไรแปลกๆตามประสาวัยรุ่นก็เท่านั้นเอง”ไอ้โต้งไหวไหล่ แสดงได้แนบเนียนจริงๆ ผมหยิบขวดน้ำมาจิบแก้คอแห้ง

“กูนำไปก่อนนะ เสร็จแล้วก็ตามมา”ผมอึดอัดกับบรรยากาศแปลกๆเลยขอชิ่งหนีดีกว่า ผมยักคิ้วให้ไอ้โต้งก่อนจะรีบไปรวมกลุ่มกับคนงาน ตอนนี้ยังไม่เห็นพวกไอ้อั๋นเลย สงสัยกลัวพวกไอ้ภูล่ะมั้ง ผมแบกแผ่นไม้เดินนำไปรอที่จุดต่อไป นั่งรออยู่สักพักไอ้โต้งก็โผล่มาด้วยสีหน้าเหนื่อยๆ  

“เชี่ย กูโคตรเกร็งอ่ะ”มันทิ้งตัวนั่งข้างๆผม

“นั่นเกร็งแล้วเหรอวะ มึงเล่นอะไรเนี่ย ไม่รู้เหรอว่าพวกมัน…”

“เออ กูรู้น่า กูแค่อยากให้พวกมันรู้ว่าโดนเล่นแบบนี้มันไม่สนุก มึงก็ช่วยๆตามน้ำไปกับกูหน่อย”ผมหัวเราะ

“คิดว่าพวกมันจะเชื่อเหรอวะ”ผมว่าพวกมันคงไม่บ้าจี้ตามหรอก

“ยังไม่จบเว้ย ของจริงมันคืนนี้ต่างหาก”ไอ้โต้งทำหน้าจริงจังก่อนจะดึงขวดน้ำไปจากมือของผม

“ไม่กลัวพวกมันต่อยเหรอวะ”แอบหวั่นๆอารมณ์ของไอ้ภูเหมือนกัน

“ไม่ว่ะ ต่อยมาต่อยกลับไม่โกง”ไอ้โต้งหยุดพูดเมื่อไอ้ภูกับไอ้ตินเดินเข้ามาใกล้

“กูมีเรื่องจะคุยกับมึง”ไอ้ภูหน้าเครียดมาเลย

“ว่า”

“สองคน แบบส่วนตัว”มันพูดดัก ก่อนจะพยักเพยิดให้เดินตามมันไป

“เดี๋ยวกูมา”ผมบอกไอ้โต้งก่อนจะเดินตามไอ้ภูไป ไม่รู้ว่าตอนนี้ไอ้ภูมันคิดอะไรอยู่ มันพาผมเดินมาตรงเนินหินห่างไกลผู้คน ผมจะเดินฆ่าหมกป่าไหมวะเนี่ย

“มีอะไร”

“กูไม่เชื่อเรื่องมึงกับไอ้นั่นหรอก แค่มุกเด็กๆ”

“กูก็ไม่ได้ขอให้มึงเชื่อนี่”ผมหัวเราะอย่างไร้อารมณ์ขัน มันหยิบสมุดอะไรบางอย่างออกมาให้ผม คล้ายๆไดอารี่เลย คนอย่างมัน…มีอารมณ์ทำนองนี้ด้วยเหรอ แต่จะว่าไปผมเองก็เคยเขียนระบายอารมณ์เล่นๆ

“อะไร…?”ผมมองหน้าไอ้ภูตรงๆ สีหน้ามันดูอ่อนล้า มันก้มมองสมุดในมือของตัวเอง

“กูให้มึงอ่าน ความจริงกะจะเก็บไว้จนกว่ามึงจะหาเจอเอง…”ผมไม่รู้ว่ามันเขียนอะไรไว้บ้าง และผมก็ไม่อยากรู้ด้วย  

“กูไม่อยากรู้หรอกว่ามึงเขียนอะไร”ผมรับมาก่อนจะโยนทิ้ง สมุดเล่มเล็กหล่นร่วงไปกองยังพื้นเบื้องล่าง ไกลเกินกว่าจะลงไปเก็บมาได้ ผมหันมาสนใจมันอีกครั้ง ก่อนจะพูดด้วยเสียงจริงจัง

“มึงจะเอายังไงกันแน่”ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรของมัน หรือที่ผมด่ามันไปคราวนั้นจะทำให้มันเก็บเอาไปคิดมาก

“กูมาคิดดูแล้ว กูอาจจะบังคับมึงมากเกินไป”

“มึงมันโง่…”ผมล่ะหงุดหงิดกับนิสัยแบบนี้ของมันจริงๆ

“มึงมาเคลียร์กับกู หรือมาสร้างเรื่องเพิ่มกันแน่วะ เรื่องเก่าไม่ทันจบ ก็มาสร้างเรื่องใหม่อีก จะเอายังไงมึงก็พูดมาตรงๆเลย อย่ามาอ้อมค้อม”ผมพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด

“มึงแม่งพาล”

“พาลอะไร ก็มึงทำผิดจริงๆนี่”

“มึงโมโหไอ้ตินก็เลยมาลงที่กูด้วยไง”

“ไม่เกี่ยว ที่กูโกรธมึงเพราะอะไรมึงก็น่าจะรู้นะ”ไอ้ภูเม้มปากก่อนจะยกมือลูบหน้าตัวเอง มันกระแอมสองสามทีก่อนจะลดมือลง

“กูขอโทษจริงๆ กูผิดที่ไปกับเพื่อนแล้วไม่ได้บอกมึง ตอนแรกก็แค่จะแวะไปแค่พักเดียวเฉยๆ ขอโทษที่พูดไม่ดีกับมึง จะให้กูทำยังไงมึงถึงจะหายโกรธวะฟิก”มันจ้องหน้าผมตรงๆ ผมก็เข้าใจได้เลยว่ามันจะทำอะไร

“อย่านะมึง มุกเก่าๆมันใช้ไม่ได้ผลหรอกว่ะ”ผมรีบพูดเมื่อเห็นมันทำท่าจะคุกเข่าเหมือนคราวก่อน ไอ้ภูยืนนิ่งเหมือนตุ๊กตาไขลานที่ถ่านหมด 

“แล้วก็ไม่ต้องมาทำหน้าหมาหงอย กูไม่ใจอ่อนหรอก อย่าคิดว่ากูจะยอมคืนดีด้วยง่ายๆ”ก็ยอมรับว่าไม่ได้โกรธมันเต็มร้อย แต่เรื่องคืนดีผมไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆหรอก เดี๋ยวจะได้ใจ

“มึงดุขึ้นนะ”มันยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ

“กูยอมแพ้อ่ะ…แล้วแต่มึงเลย ขออย่างเดียว อย่าบอกเลิกกู”ผมอยากหัวเราะใส่หน้ามันดังๆจริงๆ ไอ้ภูนี่มันเข้าใจยากจริงๆ

“อะไรของมึงวะภู แล้วเมื่อกี้มึงจะพูดบ้าๆแบบนั้นทำไม”แล้วยังเอาไดอารี่มาให้ผมอีก

“กูแค่อยากรู้ว่ามึงยังแคร์กูอยู่รึเปล่า แค่นั้นแหละ”…เหอะ ไอ้ภูนี่โตแต่ตัว

“เออ กูบอกเลยนะ ถ้าวันไหนกูไม่สนพวกมึงขึ้นมา…พวกมึงเตรียมตัวเก็บข้าวเก็บของได้เลย ไม่ได้ขู่ด้วย ถึงกูจะรักพวกมึงแต่ถ้าวันไหนกูเหนื่อย กูชินจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว วันนั้นพวกมึงได้ออกไปจากชีวิตกูแน่ๆ”

“พอๆ มึงอย่าพูดแบบนี้ กูไม่กวนใจมึงแล้วก็ได้”มันรีบถอยห่าง ก่อนจะเดินกลับลงไปก่อน ปล่อยให้ผมถอนหายใจดังเฮ้อ เหนื่อยเหมือนกันที่ต้องตีหน้านิ่งตลอดเวลาแบบนี้ ผมปรับอารมณ์อยู่สักพักก่อนจะเดินกลับไปยังจุดพัก แต่ก็ไม่เห็นพวกไอ้อั๋นแล้ว เหลือแค่คนงานสองสามคน ไอ้ตินกำลังคุยอะไรสักอย่างกับไอ้โต้ง ส่วนไอ้ภูช่วยลุงผู้ใหญ่ดึงป้ายอันเก่าออกมาจากต้นไม้ต้นใหญ่  

“ไปนานจังวะ”ไอ้โต้งถาม แอบเห็นพวกมันสองคนเหลียวมามอง  

“ไปกินลมชมวิวมา”เสียดายไม่ได้เอากล้องมาด้วย แต่เหมือนไอ้ตินจะรู้ทันความคิดของผม

“ยืมกล้องกูไหม”

“ไม่เป็นไร”ผมบอกปัดทันที ทำมารู้ทัน

“แล้วพวกลูกแหง่ไปไหนหมดแล้วล่ะ”นึกว่าจะได้เห็นอะไรสนุกๆซะอีก

“พวกมันกลับไปแล้ว เหอะ นึกว่าจะได้ต่อยหน้าไอ้อั๋นสักหมัดสองหมัด กูบอกแล้วไง ว่ามากับกูไม่ต้องห่วง”ไอ้โต้งคุยเสียงดัง ไอ้ตินทำเสียงหึเบาๆ  

“เดี๋ยวกูไปช่วยทางนั้นแป๊บนึง”ไอ้โต้งแอบส่งสายตามาให้ ไอ้นี่กวนได้โล่จริงๆ ผมเงยมองต้นไม้ไปเรื่อยเปื่อย ได้ยินเสียงเหยียบใบไม้ดังกรอบแกรบ ไอ้ตินขยับมานั่งข้างๆผม มันขยับเป้มาวางบนตัก

“ไอ้ฟิก กูรู้ว่ามึงโกรธ แต่มึงก็รู้ใช่ไหมว่ากูเป็นคนยังไง ถ้าไม่สุดจริงๆกูจะไม่โมโห กูอยากคุยกับมึงให้รู้เรื่องไม่ใช่มาดูมึงกับเพื่อนเล่นบ้าๆ เรื่องรูป เรื่องคลิป กูเองก็เสียใจที่ทำให้มึงเสียความรู้สึกมากขนาดนี้”ผมนั่งฟังเงียบๆ ไม่ได้มองไปที่ไอ้ตินเลยแม่แต่น้อย มันถอนหายใจเบาๆ

“กูรับได้และเข้าใจ ถ้ามึงจะโกรธกู ถ้ามึงยังไม่หายกูก็จะตามมึงไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ ไม่รู้เหรอว่ากูตื้อเก่ง”ผมปล่อยให้มันคุยคนเดียว

“น่ารำคาญด้วย”ผมเสริม มันชะงักไปนิดหน่อย พยายามจะไม่มีน้ำโห

“เออ ยอมรับก็ได้แล้วเรื่องเพื่อน ถ้าทุกอย่างลงตัวกูจะให้พวกมันมาคุยกับมึง”

“แล้วเพื่อนมึงไม่เต็มใจ คุยไปก็ไม่มีประโยชน์”ไอ้พี่เบลล์คงไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้ชัยมันจะยอมขอโทษผมเหรอ ไอ้นี่มันเหม็นขี้หน้าผมจะตาย ดูเหมือนจะจี้ถูกจุดเพราะมันเองก็ดูเหมือนเถียงไม่ออก ผมถอนหายใจบ้าง

“คบกับกูเหนื่อยมากไหม”จู่ๆมันก็ถามขึ้นมา วันนี้มาแนวเดียวกันสินะ สมแล้วที่เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้อง

“ก็เหนื่อยนะ แต่คงไม่เท่าพวกมึงหรอก”ผมตอบไปตามตรง นอกจากเลิกกิ๊กกับแฟนชาวบ้านแล้ว ผมก็ไม่ได้ปรับอะไรอีก ก็มีแต่พวกมันล่ะมั้งที่พยายามปรับตัวเข้าหาผม เอ๊ะ หรือเป็นคนที่เห็นแก่ตัวคือผมกันแน่

“เรื่องเพื่อนมึง…กูไม่เชื่อหรอก กูรู้ว่ามึงไม่กลับไปทำแบบเดิมแน่”

“มึงมั่นใจในตัวกูขนาดนั้นเลย”

“อืม กูเชื่อใจมึง”ผมจุกนิดหน่อยกับคำตอบของมัน

“มึงอย่าลืมเรื่องไอ้เน็ตล่ะ ตอนนั้นพวกมึงก็พูดแบบนี้”ผมขุดเอาเรื่องเก่ามาพูด ไอ้ตินก้มมองใบไม้แห้งในมือตัวเอง

“ตอนนั้นกับตอนนี้มันไม่เหมือนกันไง”ไอตินนี่คำพูดดูดีทุกเมื่อจริงๆ นี่ถ้าผมไม่รู้ด้านมืดของมันก็คงจะคิดว่ามันแสนดีสุดๆ หรืออาจจะคบกันไม่ยืดมาถึงตอนนี้ก็ได้ ผมขี้เกียจคุยกับมันจึงชิ่งไปทำงานต่อ พวกมันจะได้ไม่มาเกะกะหาช่องมาคุยกับผมอีก จนในที่สุดแผ่นป้ายอันสุดท้ายก็ถูกติดจนเสร็จ เป็นเวลาสามชั่วโมงที่ทำงานเสร็จ เมื่อมาถึงลานตั้งแคมป์ก็เจอพวกลูกแหง่ช่วยกันกางเต้นท์อยู่ นอกจากพวกผมแล้วก็มีนักท่องเที่ยวสองกลุ่มที่กำลังตังเต้นท์อยู่ เพราะคืนนี้เป็นคืนสิ้นปี คงรอเคาท์ดาวน์กันแน่ๆ

“มึงนอนกับกูนะ”ไอ้โต้งปรี่เข้ามาหาผม มันกระตุกแขนเสื้อให้ผมเดินตามไปยังเต้นท์ที่อยู่ห่างออกไป

“แหม มีคนกางให้ด้วย ขอบใจว่ะ”ไอ้โต้งหันไปโบกมือให้พวกไอ้อั๋น ดูจากสีหน้าบูดๆคงโดนลุงผู้ใหญ่บังคับให้ทำแน่  

“เสียดายชิบ น่าจะได้เคาท์ดาวน์แบบโรแมนติก”เสียงไอ้ภูแว่วมา มันมาตั้งเต้นท์ใกลๆกับเต้นท์ที่ผมกับไอ้โต้งเลือก

“เฮ้ย พี่จำคราวก่อนที่มาเขาพระเมินได้ไหม…ถ้าจบเหมือนตอนนั้นก็ดีเนอะ”ผมก็ว่าอารมณ์คล้ายๆตอนนั้นเลย เหอะๆ เดจาวูครั้งที่เท่าไหร่แล้วว่ะ ผมเลิกสนใจพวกมัน มุดเข้าไปด้านในเพื่อเอาของไปไว้ ไอ้โต้งเบียดตามเข้ามา

“อึดอัดเชี่ยๆเลย แทนที่กูจะได้นอนกอดลูกอยู่บ้าน”มันบ่นพึมพำของมันไป ผมดึงผ้าห่มผืนบางๆออกมา ไม่รู้ว่าตอนดึกจะหนาวแค่ไหน 

“เห็นคืนนี้เขาจะก่อกองไฟกัน แต่กูมีแผน”มันทำหน้าชั่วร้ายอีกครั้ง

“ว่ามา”

“ก็ทำตัวตามปกติ จนใกล้ๆเที่ยงคืน มาเจอกันที่ห้องน้ำ”ผมเหลียวมองหน้าไอ้โต้งมึนๆ 

“มึงอยากเสียตัวให้กูเหรอวะ”

“การแสดงเว้ย”

“จะดีเหรอวะ….”ผมชั่งใจอย่างหนัก

“ขำๆไง”คำนี้ทำให้ผมเบ้หน้า ก็แค่ขำๆ…ทีพวกมันก็พูดแบบนี้กับผม ลองให้ผมพูดคำนี้ใส่หน้ามันบ้างสิ จะเป็นไง

“เอาจริงเหรอ มึงเสี่ยงโดนยำนะเว้ย”พวกมันสองคนต้องจับตามองผมกับไอ้โต้งแน่ๆ

“เออน่า แต่ไม่เอาก็ได้นะ ถ้ามึงอยากมีเวลาเคาท์ดาวน์ดีๆ”มันทำสีหน้าตลกๆ

“มึงคิดว่ากูคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแบบนี้เหรอ”ผมไม่ค่อยสนใจอะไรแบบนี้หรอก ปีก่อนๆก็เมาข้ามปี ขนาดวันเกิดตัวเองผมยังลืมๆเลย ตกลงกันเรียบร้อยแล้วผมกับไอ้โต้งก็พากันโผล่ออกมาจากไอ้เต้นท์ ถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นยักษ์สองตัวยืนเฝ้าปากทางอยู่ มองเลยไปผมเห็นไอ้พวกลูกผู้ใหญ่เกาะกลุ่มอยู่ไม่ห่างนัก

“ทำไมไม่บอกว่าไอ้พวกนั้นมาด้วย”พอไอ้ตินเหลือบมอง พวกมันก็แตกกระเจิงคนละทิศ

“พวกมันไม่กล้าทำอะไรหรอกครับ ยิ่งไอ้อั๋น พ่อมันอยู่ด้วยแล้วยิ่งไม่กล้ากร่าง”ไอ้โต้งตอบแทน

“มึงเลิกพูดเพราะๆเถอะ กูแสลงหู ไอ้สองคนนี้มันไม่ถือหรอก”

“อ้าว ไหนมึงบอกว่าชอบให้กูพูดเพราะๆไง”ได้ยินไอ้โต้งพูดผมแทบสะดุดหัวคว่ำ ผมได้แต่ด่ามันทางสายตา หันกลับอีกทีก็เห็นไอ้ตินลากไอ้ภูออกห่างจากเต้นท์

“เอาเรื่องเหมือนกันนะ สามีมึงเนี่ย”

“พูดอะไรของมึง”มันรู้ได้ไงวะ

“ดูแวบเดียวกูก็รู้แล้ว กูนึกภาพเวลาพวกมันโดนมึงจิ้มไม่ออก อีกอย่างไม่มีพระเอกทีไหนงอนหนีมาแบบนี้หรอกว่ะ เพื่อนกูพัฒนาจริงๆ”ไอ้โต้งตบบ่าผมพลางหัวเราะไปด้วย แต่ผมนี่ขำไม่ออกเลย



หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗: 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 05-01-2016 19:45:53




……………………………………………………………….

               







คืนเคาท์ดาวน์สนุกสนานตามเคย ส่วนใหญ่ก็มีแต่คนเมา ไอ้สองตัวนั่นไม่ได้แตะเหล้า เบียร์เลยสักอึก เห็นมีแต่นำโค้ก ส่วนผมก็จิบนิดหน่อย ไอ้โต้งก็วนๆเวียนๆใกล้ๆผมนี่ล่ะ ยิ่งใกล้เวลาเคาท์ดาวน์วงเหล้ายิ่งคึก พากันไปนั่งเตรียมจุดพลุตรงจุดชมวิว ผมเห็นไอ้อั๋นเอาปืนมาด้วย โชคดีที่อยู่บนเขา ไม่ใช่บริเวณบ้านคน แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าจะยิงปืนทำไม

“เท่ห์ตายล่ะมึง คิดว่าเจ๋งเหรอ กูอยากเห็นมันโดนอัดเป็นหมาจริงๆว่ะ”ไอ้โต้งมานั่งข้างๆผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มันก่นด่าไอ้อั๋นไม่หยุด ผมก็ไม่ค่อยชอบใจนักหรอก ลุงผู้ใหญ่เองก็ห้ามไม่อยู่ หรือเพราะว่าเมาสลบไปแล้วก็ได้ ผมเริ่มจะหนาว

“กี่โมงแล้วว่ะ ใกล้เที่ยงคืนยัง กูง่วงแล้วเนี่ย”ผมขยับขาไปมาเมื่อไล่ยุง

“ยัง อีกยี่สิบนาที ไปเลยดีกว่าว่ะ กูปวดฉี่”มันกระซิบก่อนจะทำเนียนสะกิดไหล่ผมให้ตามไป ผมลุกตามไปแต่ไอ้ภูมาขวางทางไว้

“มึงจะไปไหน”

“เข้าห้องน้ำ”

“ตรงนี้ก็ได้”มันบุ้ยใบ้ไปทางหมู่ไม้

“ห้องน้ำก็มี”ผมเอามือล้วงเข้าไปในเสื้อกันหนาว

“ไอ้ฟิก”ไอ้ตินทำหน้าจริงจัง ผมโบกมือให้พวกมันถอย ก่อนจะรีบเดินดุ่มไปเข้าห้องน้ำ ไอ้โต้งโผล่หน้ามาจากหองริมสุด ผมรีบตามเข้าไป

“มึงมีบุหรี่ไหม”มันแบมือขอ

“มีมั้ง”ผมลองล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง แล้วก็เจอด้วย ระหว่างที่ไอ้โต้งอัดบุหรี่ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา

“กูว่าแฟนมึงตามมาแน่ๆ”ผมกำลังคิดว่าเอาไงดี ทำยังไงให้สมจริง ผมวางมือลงบนบ่าไอ้โต้งก่อนจะกดให้มันนั่งลง

“สัด ทำไร”มันทำหน้าตื่นๆเหมือนตกใจ

“นั่งคุกเข่าดิ จะได้สมจริง”ผมคิดอะไรพิเรนทร์ได้พอดี

“บ้าดิ ไม่เอา”ไอ้โต้งทำหน้าสยอง มันหรี่ตามองผม

“แล้วจะเอาไงวะ แบบนี้มันไม่สมจริงเว้ย”ผมกดบ่าให้มันนั่งลงไปอีกครั้ง

“เฮ้ย งั้นมึงทำไหมล่ะ”มันดึงดันให้ผมนั่งคุกเข่าแทน

“ห้องน้ำเปื้อน”ผมก้มมองพื้น เห็นเงาคนอยู่ด้านนอกด้วย

“ลีลาจริง เวลามึงจะจึกๆกันมึงลีลาขนาดนี้ไหมวะห๊ะ”มันคงจะหงุดหงิดมากถึงได้จำใจนั่งคุกเข่าตรงหน้าผม

“แล้วมึงอย่าบ้ามาคึกตอนนี้น่ะ ไม่งั้นกูอัดติดกำแพงแน่”

“กูคิดลึกเลยนะ”ผมเผลอหัวเราะออกมา ผมยกมือขึ้นไม่ให้มันเสียงดัง ก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา ไอ้โต้งหน้าแห้งทันทีเมื่อได้ยินเสียงซาวด์ประกอบ

“กูเมื่อยแล้วว่ะ”มันพูดเสียงดัง

ปัง!

ประตูห้องน้ำสะเทือนอย่างรุนแรง ผมเก็บโทรศัพท์ทันที

“ไอ้ฟิก ออกมาคุยกับกู”ไม่ได้ยินเสียงไอ้ภูโหดแบบนี้มานานแล้ว ไอ้โต้งบอกให้ผมเงียบ เมื่อผมไม่ตอบก็มีเสียงดังปังอีกรอบ ผมสะดุ้งโหยงเมื่อมีเสียงพลุและปืนดังตามมาติดๆ

“จะเปิดดีๆหรือจะให้กูพังเข้าไป”คราวนี้เป็นไอ้ติน ไอ้โต้งอาสาเปิดประตูเอง เมื่อกลอนประตูเลื่อนเปิดออก บานประตูก็ถูกผลักเข้ามาทันที ผมยังไม่ทันได้เห็นหน้าพวกมันสองคนเลยด้วยซ้ำไอ้โต้งก็ถูกดึงออกไปจากห้องน้ำแล้ว  

“พวกมึงอย่าเพิ่งบ้า”ไอ้โต้งดูสงบนิ่งจนผมแอบอึ้ง ไอ้ภูกับไอ้ตินไม่ได้มองมาทางผมแต่กำลังจ้องไอ้โต้งด้วยสายตาเอาเรื่อง

“ไอ้โต้งเป็นเพื่อนกู ถ้าพวกมึงทำมันเจ็บ กูโกรธแน่”ไอ้ตินหันมามองหน้าผม

“พวกมึงเล่นเหี้ยอะไรกัน”มันข่มความโกรธไว้เต็มที่

“ไม่มีอะไร”ผมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สีหน้าคงดูกวนเท้ากวนใจพวกมันมากมันถึงไประบายเอากับกระถางพลูด่าง

“แล้วที่มึงทำอยู่นี่ล่ะ กูไม่ชอบนะ”

“เครียดทำไม ก็แค่เรื่องขำๆ ไอ้โต้งมันก็แค่ล้อเล่น”ผมพูดด้วยน้ำเสียงชิวๆ ไอ้ภูกับไอ้ตินพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ

“แล้วมันใช่เรื่องล้อเล่นไหมวะ”

“เข้าใจหรือยังว่าเรื่องความรู้สึกมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น”ผมตอกกลับก่อนจะเสริมต่อ

“กับพวกมึงก็ด้วยขอโทษด้วยแล้วกันที่เล่นอะไรพิเรนทร์ๆ อย่าโกรธกูนะ กูขอโทษ แค่นี้พวกมึงคงไม่โกรธหรอกเนอะ”ผมทำหน้าสำนึกผิดแบบไม่สมจริงนัก

“มึงเล่นแบบนี้เลยเหรอ”ไอ้ตินหัวเราะแบบไร้อารมณ์ขัน

“อืม เท่าๆกันไง ก็ถือว่าได้เอาคืนมึงแล้ว เจ๊ากัน”ผมไหวไหล่

“มึงสนุกมากเหรอวะ”ไอ้ภูดูเหมือนหมดความอดทน คงหงุดหงิดที่เห็นผมลอยหน้าลอยตาไม่สะทกสะท้านอะไร ถ้าไม่ติดว่ามันกำลังง้อผมอยู่ล่ะก็มันคงเข้ามาจับหัวผมโขกผนังห้องน้ำแน่ๆ เหอะๆ เห็นอย่างนี้ผมก็เล่นตัวเป็นเหมือนกันนะ

ถือเป็นวันต้อนรับปีใหม่ของไอ้ฟิกที่พิลึกจริงๆ

 

 




TBC.

มาเลทมากกกกกก ชีวิตของฟิกเพิ่งจะปีใหม่อยู่เลย ฮ่าๆงานนี้ง้อแบบเก่าคงไม่ได้ผลแล้วล่ะ สองหน่อต้องไปคิดมุกใหม่ๆมา :hao7: คาดว่าหนังอินเดียคงจบที่ตอนหน้าเนอะ  ขอบคุณทุกคอมเม้นเลย :กอด1:


 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ohm ที่ 05-01-2016 20:17:15
ขอบคุณที่มาต่อคับ
สงสารภูแล้วอะ
หวังว่าตอนหน้าจะ happy-ending ^^
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 05-01-2016 20:17:58
ภูตินฟิกมาแล้ว เป็นไง2หนุ่มภรรยาเอาคืน

คราวหน้าอย่ามัวเกรงใจเพื่อนละ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-01-2016 20:36:57
 :katai2-1:   น้องฟิกมาไกลแล้วจริงๆ เอาอีกเล่นตัวอีก
เพื่อนโต้งรอดตีนไป ดวงยังดีนะ แหมอ่านขาดจริงเชียว ใช่สิพระเอกที่ไหนจะหนีมางอนไกลขนาดนี้
แอบเสียดายไดอาอารี่อะ เก็บเถอะฟิก. เหมือนพี่ภูจะอดนอนเขียนมาเลยนะ
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ สวัสดีปีใหม่ค่ะ สู้ๆ  :mew1:   
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: narakstory ที่ 05-01-2016 20:40:24
ยังไม่สะใจเบยยย รู้สึกเหมือน 2 คนยังไม่สำนึกผิดกันเท่าไร แค่รู้สึกว่าพลาด    :m16:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Noah ที่ 05-01-2016 20:43:13
เอาอีกๆๆๆๆๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-01-2016 20:46:10
เคลียร์กันดีๆ เถอะนะฟิกอยากรู้ว่าภูเขียนไดอารี่ว่าไงบ้าง ฟิกเอามาอ่านให้ฟังหน่อยจิ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-01-2016 20:56:17
เอาคืนกันไปเอาคืนกันมา แล้วก็พากันเจ็บ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 05-01-2016 21:06:30
โดนเล่นกลับซะเละเลย
งานนี้ง้อธรรมดาคงไม่ได้ผลแล้วแหละพี่ 555555555
ฟิกอ่อนไหว(?)กว่าแต่ก่อนเยอะะะะะะะะะะะะะะะะะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 05-01-2016 21:15:56
ฟิกกับโต้งจัดว่าเด็ด  5555
คราวนี้ภูกับติน จะได้เข้าใจซะที  ว่าแค่ล้อเล่น  แค่ขำๆ
มันเป็นอย่างไง
ความรู้สึกทึ่เสียไปมันต้องใช้เวลานะ
กล้าทำ  ก็ต้องรอได้
รอต่อไปนะจ๊ะ ภูติน
#ทีมฟิก   555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 05-01-2016 21:26:59
เฮ้ยยยยยยยยยย
ไม่พอ มันยังไม่พอ!!!!!
เอาอี๊กกกกกกก
อ่มนไปก็ขำไป นี่ไม่อยากจะบอก ชอบโต้งเลย 55555+
ชอบเวลาฟิกมันยุกับโต้งนี่ล่ะ บ้าพอกัน ถึงว่า ยังคบกันได้ 5555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 05-01-2016 21:31:53
เอาอีกๆ สองหนุ่มเจอฟิกน้อยสวนกลับจร้า
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Aueizii ที่ 05-01-2016 21:37:35
อยากอ่านอีก อยากอ่านอีก เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ รัก ภู ฟิก ติน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 05-01-2016 21:46:47
ฟิกอ่ะ เราขอการเอาคืนที่เจ้มจ้นกว่านี้นิดนึงได้ไหม เรายังไม่อยากให้จบแค่นี้  :katai1: 555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 05-01-2016 21:53:55
แลกเปลี่ยนความรู้สึกกัน
ถ้าโดนเข้ากับตัวเองบ้าง
หวังว่าคงจะเข้าใจ

ถ้าภู-ติน จะโกรธฟิก เพราะล้อเล่นเรื่องแบบนี้
ก็ให้กลับไปถามเพื่อนๆ ดูก็แล้วกัน
ว่ามันสนุกมากไหม..ที่ทำให้คนรักเค้าต้องผิดใจกัน

เพื่อนตัวเองยังทำได้
แล้วเพื่อนฟิกล่ะ จะทำบ้างไม่ได้หรือ

อย่างที่ฟิกบอก..เจ๊ากัน
รักกันมันก็ต้องเอาคืน
 :hao3: หุหุ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 05-01-2016 21:57:30
ไม่พองะ อยากได้อีก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 05-01-2016 22:36:36
โอยยย ถือเป็นการเอาคืนที่จุกเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะเนี่ย เป็นไงละพี่ภู พี่ติน เจอแบบนี้เข้าไปสำนึกบ้างมั้ย ทีหลังเหล้าน่ะก็อย่าดื่มให้มันหนักมากนักถ้าไม่อยากงานเข้าแบบนี้อีกอะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: chadomff ที่ 05-01-2016 22:42:24
 :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 05-01-2016 23:21:40
เอาละสิน้องฟิกเอ้ย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 05-01-2016 23:31:10
เป็นการเอาคืนที่น่ายอกมากฟิก เฮียโต้งที่ขยันช่วยเพื่อนจริงๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 05-01-2016 23:43:55
ง่าเอาอีก..... :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 06-01-2016 00:16:58
ทีมฟิก. สู้ๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 06-01-2016 00:28:19
ตอนหน้าจะเป็นไงนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 06-01-2016 01:27:36
ทีมฟิกคนเดิม เพิ่มเติมแล้วจะบอก :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 06-01-2016 02:48:59
ทีมฟิกเหมือนเดิมฮะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 06-01-2016 04:49:15
รอดตีนนนไปนะโต้ง
รอตอนหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 06-01-2016 09:55:56
ขอให้จบกันด้วยดีแล้วกันนะ  :เฮ้อ: แต่ถ้าเป็นฟิกจะไม่เล่นมุกนี้กับโต้งมันดูเด็กเกินไป ถ้าจะเอาคืนเอาแบบเงียบ นิ่ง สยบกลับไปแบบให้อึดอัดกันไปเลย เชื่อว่าทั้งภูตินไม่กล้าแน่แต่จะหาทางง้อและแก้ตัวเองให้ดีขึ้น สงสารพี่ภูตอนฟิกโยนสมุดไดอารี่ทิ้ง เข้าใจนะว่าฟิกโกรธ แต่ก็ไม่น่าจะถึงกับทิ้งแค่ไม่รับและทำเมินก็น่าจะพอแล้ว ส่วนตินก็ยอมรับแต่ตินควรจะเคลียร์กับไอัชัยหน่อย ว่าอย่าก้าวก่ายให้มันมากนักในเรื่องนี้ ไม่ชอบฟิก ทำเพื่อนังอัน ก็ดูบ้างว่านังอันมันผิดเหมือนกันไม่ใช่ความผิดฟิกคนเดียว  :z6: แต่แอบฮาโต้ง ที่รู้ทันว่าสองหน่อเป็นผัวฟิกแน่นอน เพราะไม่มีพระเอกที่ไหนงอนแล้วหนี  :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 06-01-2016 14:19:44
ฟิกมันร้ายยยยย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 06-01-2016 15:42:45
ทีแบบนี้ทำเป็นเครียด ทีตอนเพื่อนยุให้ทำ ทำไมไม่คิดบ้างล่ะ :ruready
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-01-2016 15:51:44
หุๆ สะจายยยยยจริงๆ
เป็นไงหล่ะ สำนึกยังจ๊ะ 55555 อ่อกก!!//โดนสองหน่ออัด
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๗] 5-1-59 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: tukkata bambola ที่ 06-01-2016 16:29:40
แอบสงสารพี่ภูนะตอนโยนสมุดทิ้งแต่ชอบโต้งอ่ะ สามีมึง555555 ขนาดเกร็งยังยังขนาดนี้เลยโต้งเอ้ยยเล่นซะเกือบโดนถีบ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 06-01-2016 17:25:35
โต้งแม่มแสบ 5555555555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 06-01-2016 17:28:03

ตอนที่๑๘




“มึงนี่ใจแข็งเหมือนกันนะ”ไอ้โต้งพึมพำอยู่ใกล้ๆ หลังจากที่เข้ามานอนในเต้นท์แล้ว อยากบอกว่าอากาศเย็นมาก ผมต้องสวมเสื้อกันหนาวทับสองชั้นแหน่ะเพราะผ้าห่มอุ่นไม่พอ

“เออ พวกมันต้องเจอไม้แข็งแบบนี้บ้าง”ผมพึมพำตอบกลับก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้เพื่อน เป็นสัญญาณบอกมันว่าจะนอนแล้วและยังไม่อยากคุยตอนนี้ กูหนาว กูง่วงเว้ย!ผมหลับๆตื่นๆอยู่พักใหญ่ พลิกตัวแล้วพลิกตัวอีก กว่าจะรับได้ใช้เวลาเป็นพัก แต่ทำไมรู้สึกอุ่นมากกว่าเดิมวะ กลิ่นน้ำหอมแบบนี้…ไม่ใช่มั้งหรือผมมีปัญหากับโพรงจมูก ผมค่อยๆลืมตา ปรับสายตาให้ชินกับความมืดสักพัก

หืม…ผ้าห่มอีกผืนนี่ของใคร

“หนาวเหรอ”เสียงกระซิบข้างๆทำผมตัวแข็งทื่อเหมือนเจอผี

“มึงเข้ามาได้ไง”ผมกระพริบตามองไอ้ภูที่นอนเบียดอยู่ข้างๆ มันยิ้มนิดหน่อยก่อนจะพลิกตัวมาคร่อมตัวผม

“เฮ้ย มึงจะทำอะไร”ผมรีบขยับตัว ไอ้ตินที่นอนอยู่ริมสุดดึงให้ผมไปนอนใกล้ๆ ไอ้ภูกลิ้งมานอนอีกข้างผมแทน

“แล้วจะมานอนเบียดกูทำไม”

“หนาว”ไอ้ตินกระซิบ มันเกี่ยวอะไรกันวะ

“อุ่นรึเปล่า”ไอ้ภูโงหัวถาม ผมเหลือบมองมันสองคนก็เห็นว่าพวกมันมีแค่ผ้าห่มบางๆผืนเดียว

“พวกมึงถามตัวเองก่อนเถอะ”

“กูไม่หนาวหรอก ทนได้”ไอ้สัดเอ๊ย ทำไมพวกมันต้องทำแบบนี้ด้วยวะเนี่ย 

“ปอดบวมขึ้นมากูไม่รู้ด้วยนะ”ผมพึมพำกลับก่อนจะหลับตาลง แต่ก็ข่มตาได้ครู่เดียว

“เฮ้อ…พวกมึงนี่นะ ขยับมาใกล้ๆ”ผมกระซิบเสียงดุใส่มันสองคน ก่อนจะคลี่ผ้าห่มเผื่อพวกมันสองคนด้วย

“ห่วงกูด้วยเหรอ”ไอ้ภูกระซิบใกล้ๆหู ทำผมจั๊กจี้แปลกๆ

“ถ้าพูดมากมึงไปนอนนอกเต้นท์เลยไป”ผมพึมพำเบาๆ มันสองคนหัวเราะ

“โอเคๆ จะเงียบแล้ว”ไอ้ตินขยับมาแทบชิดต้นคอผมเลยทีเดียว ลมหายใจของมันเป่ารดอยู่ใกล้ๆ ผมอยากพลิกตัวหนีแต่ก็ทำไม่ได้ สุดท้ายก็ได้แต่นอนตัวแข็งอยู่แบบนั้นจนเผลอหลับไปเอง

เสียงผู้คนคุยกันเสียงดังเป็นนาฬิกาปลุกอย่างดี ผมหยีตาอย่างหงุดหงิด พึ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเอง จับใจความได้นิดหน่อย คงเป็นพวกนักท่องเที่ยวที่มาตั้งเต้นท์แถวๆนี้ ผมพลิกตัวไปอีกด้าน รู้สึกหนักอึ้งกว่าเดิม ปรือตามองก็พบว่ามีผ้าห่มอีกสองผืนมากองทับอยู่บนตัวผม และเต้นท์ก็ว่างเปล่าแล้ว หรือว่าพวกมันสองคนกลับไปแล้ว จู่ๆก็ตาสว่างขึ้นมาซะอย่างนั้น ผมดันผ้าห่มออกไปจากตัว ดึงเอาผ้าขนหนูออกมาจากเป้ ก่อนจะเตรียมตัวไปรับความหนาวด้านนอก

แสงแดดอ่อนๆเผยให้เห็นทันทีเมื่อผมรูดซิปออก กลิ่นกาแฟอ่อนๆลอยมาแตะจมูกทันที กองไฟกองเล็กๆอยู่เยื้องหน้าเต้นท์ไปนิดหน่อยและคนที่นั่งผิงไฟอยู่ก็คือไอ้ภูกับไอ้ติน

“มานั่งนี่จะได้อุ่นๆ”ไอ้ตินชวนเสียงใส ผมมองไปรอบๆ บางเต้นท์ยังไม่ตื่นเลย ก็นะ เมากันซะขนาดนั้น แล้วไอ้โต้งมันหายหัวไปไหน

“เพื่อนกูล่ะ”ผมถามระหว่างที่นั่งลงตรงหน้ากองไฟ

“กลับไปแล้ว”ไอ้ภูตอบเสียงเมินเฉย

“เห็นบอกจะกลับไปดูลูก”ไอ้ตินขยายความ ผมยื่นมือแข็งๆไปอิงไฟ เกิดความเงียบอยู่นานเป็นช่วงที่ต่างฝ่ายต่างก็จมอยู่ในความคิดของตัวเอง ไอ้โต้งก็กลับไปแล้ว เหลือแต่พวกคนงานรวมถึงไอ้พวกลูกผู้ใหญ่ด้วย ผมคงไม่โง่กลับไปพร้อมไอ้พวกนั้นแน่ ก็เหลือแต่ไอ้สองตัวนี่…

เฮ้อ…

“หิวหรือยัง มีมาม่าคัพขายที่ร้านกาแฟตรงโน้น”ไอ้ตินพยักเพยิดไปยังร้านกาแฟที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ผมไม่ได้ตอบพวกมันแต่ลุกไปเตรียมของล้างหน้าแปรงฟันแทน น้ำไม่ต้องอาบ หนาวแบบนี้ผมสู้ไม่ไหวจริงๆ ระหว่างที่รอเข้าห้องน้ำก็เหลือบไปเห็นไอ้ตินลุกไปที่ร้านกาแฟ หรือว่ามันจะไปซื้อมาม่า ผมเลิกคิดฟุ้งซ่าน รีบทำธุระส่วนตัวเพราะมีคนต่อคิวใช้ห้องน้ำเยอะ แล้วก็ดันมาปวดอึอีก โชคยังดีที่ห้องยังไม่เต็ม นั่งไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงคนกลุ่มใหญ่เดินเข้ามา 

“แม่ง ไม่สนุกเลยว่ะ เพราะไอ้สองคนนั่นแท้ๆ”สองคนไหนวะ จะว่าไปเสียงคุ้นๆนะ ผมเงียหูฟังต่อไปอย่างตั้งใจ

“จะไปกลัวมันทำไม ก็มีกันแค่สองคน”เสียงนี้…ไอ้อั๋นแน่ๆ พวกมันพูดถึงใคร สองคนไหน

“ตอนแรกก็คิดว่าเลิกกับไอ้ฟิกแล้วซะอีก”เสียงไอ้ปิ่นแว่วมา ผมถึงบางแสนเลยรู้แล้วว่าพวกมันพูดถึงใคร

“ต่างคนต่างอยู่เหอะว่ะ”เสียงไอ้เกมส์ดูหวั่นๆ

“มึงมันป๊อด”

ปัง ปัง

“เฮ้ย ทำไรวะ ชักช้า”ไอ้พวกนั้นมาเคาะประตูห้องน้ำเสียงดัง ไร้มารยาทกันจริงๆ ผมบีบจมูกก่อนจะตะโกนตอบไป

“ขี้อยู่ แดกไหมล่ะ”

“สัด มึงออกมามึงโดนแน่”อ้าวเวรแล้วไง ผมรีบจัดการตัวเองจนเสร็จ รอให้ไอ้พวกนั้นออกไปกันก่อน 

“เฮ้ย ตกส้วมตายไปแล้วรึไงวะ”เสียงใครบางคนดังมา พวกมันเคาะประตูเสียงดัง แต่เสียงก็เงียบลง มีเสียงหัวเราะดังมาแทน

“มึงเอาจริงอ่ะ”เสียงไอ้เกมส์ดูหวาดระแวง ผมเตรียมตั้งรับเต็มที่ ได้กลิ่นไหม้ๆ และได้ยินพวกมันสบถอย่างหงุดหงิด

“อันนี้ไม่ติดว่ะ มึงเอาลูกบอลมาซิ”ลูกบอล อะไรวะ ในหัวผมวิ่งวุ่นไปหมด มีกลิ่นไหม้แสดงว่าพวกมันจุดอะไรแน่ๆหรือว่า…ปะทัด 

Shiplost!

ผมเห็นไอ้ลูกบอลกลมๆลอยหวือเข้ามา ก็ไม่รอช้ารีบคว้าลูกบิดเปิดผลัวะออกไปด้านนอกทันที มีเสียงระเบิดเสียงดังจนผมหูอื้อไปชั่วขณะ ไอ้พวกลูกผู้ใหญ่กำลังจะถอยหนีพอดี 

“ไอ้พวกเหี้ย คราวนี้กูไม่ปล่อยพวกมึงไว้แน่”ผมชี้หน้าพวกมันทุกคน รู้สึกแสบที่แขนจนน้ำตาเอ่อ แทบไม่กล้ามองแขนตัวเอง ไอ้อั๋นกับเพื่อนๆวิ่งออกจากห้องน้ำเหลือไอ้เกมส์ที่เข้ามาดูแขนผมด้วยสีหน้าซีดเผือด

“เฮ้ย ฟิก…”

“แผลน่ากลัวไหมวะ”ผมใจสั่นแปลกๆ ไอ้เกมส์ส่ายหน้า

“เดี๋ยวกู…”ไอ้เกมส์จะพูดอะไรสักอย่าง แต่ร่างสูงคุ้นตาเข้ามาเหวี่ยงมันออก

“ใครทำอะไรมึง…”ไอ้ตินมองมาที่ผมด้วยสายตาตกใจ ก่อนเปลี่ยนเป็นดุดัน

“มึงทำอะไรมัน”ไอ้ภูเข้าไปอัดท้องไอ้เกมส์เต็มแรงจนมันกระเด็น

“กูเข้าห้องน้ำอยู่ แต่ไอ้ลูกผู้ใหญ่มันโยนประทัดเข้ามา”ผมตอบเสียงเบา ตอนนี้แสบแขนไปหมด ไอ้ภูกับไอ้ตินหันมามองหน้าผมทันที 

“ไอ้พวกเหี้ยนี่เอง…”ไอ้ภูตั้งท่าจะตามไป แต่ไอ้ตินห้ามไว้ก่อน 

“พี่ไม่ต้องใจร้อนยังไงไอ้พวกนั้นมันก็หนีไม่พ้นหรอก”มันพูดเสียงเย็น

“สัดเอ๊ย คราวนี้กูไม่ปล่อยพวกมันเหมือนคราวที่แล้วแน่”ไอ้ภูเสยผมอย่างหงุดหงิด เตะกระถางต้นไม้จนล้มตึง มันเดินเข้ามาหาผมด้วยสีหน้าโกรธเคือง

“เจ็บมากรึเปล่า”มันถามเสียงอ่อน

“ไม่ท่าไหร่ กูอยากกลับแล้วว่ะ”ผมอยากงอแงจริงๆ อยากไปหาหมอแต่ก็อีกตั้งสามชั่วโมงกว่าจะถึงจุดพักรถ มันสองคนพาผมกลับมาที่เต้นท์ มีไอ้เกมส์ตามมาติดๆมองไปรอบๆไม่เห็นพวกไอ้อั๋นแล้ว สงสัยกลัวจนหนีไปแล้วมั้ง ไอ้ตินหายเข้าไปในเต้นท์ค้นอะไรสักอย่าง

“เชี่ยเอ้ย ไม่ได้พกยามา”มันสบถเสียงเครียด

“กูแสบแผลว่ะ”จนตอนนี้ผมก็ยังไม่กล้ามองแขนตัวเอง โชคดีของผมที่เปิดประตูหนีออกมาได้ทัน ไม่อย่างนั้น…งานนี้มีเนื้อหลุดแน่ๆ ผมมองไอ้ตินเทของออกมาจากเป้ตัวเอง มันดึงเสื้อกล้ามออกมา ก่อนจะเดินมาหาผม

“มึงทนเจ็บหน่อยนะ เดี๋ยวจะรีบพาไปหาหมอ”มันพึมพำเบาๆก่อนจะพันแผลให้ผมเบาๆ แต่มือของมันสั่นจนเห็นได้ชัด

“คือผมมียาแก้อักแสบ เดี๋ยวเอามาให้”ไอ้เกมส์รีบวิ่งกลับไปที่เต้นท์ของมัน

“กูอยากกระทืบพวกมันชิบ คราวนี้กูไม่ออมมือแน่”ไอ้ภูเดินไปเดินมาอย่างงุ่นง่านใจ ไอ้เกมส์กลับมาพร้อมแผงยา หน้าตามันเจื่อนลงจนน่าสงสาร

“ขอบใจ”ผมฝืนยิ้มให้มัน

“มึงบอกที่กบดานไอ้เหี้ยนั่นมาให้หมด”ไอ้ภูหันไปคาดคั้นไอ้เกมส์แทน มันก็ยอมบอกแต่โดยดี

“เอาเบอร์มึงมา ไว้กูจะติดต่อไปอีก”มันพูดเสียงเหี้ยมจนไอ้เกมส์กลัวหัวหด ส่วนไอ้ตินก็เดินวนเวียนหาน้ำอยู่เป็นพักด้วยท่าทางงุ่นง่านแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก

“กินยาไปก่อนนะแล้วก็รออยู่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวกูมา”สีหน้าของมันเรียบเฉยเสียจนน่ากลัว ผมรับยากับขวดน้ำมา มองไปรอบๆก็ไม่เห็นวี่แววของไอ้ลูกผู้ใหญ่หรือไอ้ภูเลย ตอนนี้ผมแทบไม่อยากขยับตัวไปไหนเลยด้วยซ้ำ

“ไม่มียามหรืออะไรเลยเหรอวะ”ไอ้ภูบ่นเสียงดัง ถ้าจะถามหาความปลอดภัยของที่นี่ ก็ไม่มีหรอก อย่างที่ผมเคยบอกไปว่าที่นี่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวดัง รู้จักกันแค่ในพื้นที่ จึงไม่มีพวกยามรักษาความปลอดภัย ถ้าจะมาก็ต้องดูแลตัวเอง ผมเห็นไอ้ตินคุยอะไรบางอย่างกับเจ้าของร้านกาแฟก่อนที่มันจะเดินกลับมา   

 “ป่ะ กลับกันเถอะ มึงเดินไหวไหม”

“ไหว”ผมตอบอย่างไม่สบอารมณ์นัก

“มึงทนหน่อยนะ”ไอ้ตินมองผมด้วยสายตาเป็นห่วง

“อือ กูไม่ตายง่ายๆหรอก”แผลแค่นี้เอง

“แต่สีหน้ามึงตรงกันข้ามเลยนะ”ไอ้ภูเข้ามาลูบหัวผมเบาๆ

“อย่าน่า…”ผมได้แต่ทำเสียงเข้มแบบไม่จริงจังนัก เรื่องที่เคยเคืองพวกมันเหมือนจะเลือนหายไปหมดแล้ว เจ็บก็เจ็บยังต้องมาเดินไกลๆอีก ทรมานจริงๆ ไอ้ภูกับไอ้ตินเห็นสีหน้าไม่ค่อยดีของผมจึงหยุดเดิน

“มาขี่หลังกูดีกว่าว่ะฟิก”ไอ้ตินพูดด้วยเสียงจริงจัง

“แค่นี้เอง”

“แค่นี้อะไรวะ ฟิก ขอสักครั้งนะ”ไอ้ตินนั่งลงตรงหน้าผม ผมมองหน้าไอ้ภูที่เป็นห่วงพอกัน

“อย่าดื้อ เร็วๆ”

“กูกลัวมึงหนักอ่ะ”ตัวผมก็ไม่ใช่น้อยๆ แถมเดินตั้งไกล

“มึงห่วงตัวเองเถอะ ถ้าหนักเดี๋ยวเปลี่ยนกับกูก็ได้”ไอ้ภูทำหน้าจริงจัง มันดึงเป้ของไอ้ตินมาถือเอง

“เออ อย่าบ่นล่ะกัน”ผมพึมพำก่อนจะเกาไหล่ไอ้ตินอย่างทุลักทุเล

“ฮึบ น้องฟิกเกาะแน่นๆนะครับ”มันทำเสียงเหมือนกำลังพูดกับเด็กน้อย

“กูไม่ขำนะ”

“จะได้ไม่เครียดไง”มันหัวเราะเบาๆก่อนจะเริ่มออกเดินอีกครั้ง ไอ้ภูเดินอยู่ใกล้ๆ ผมเหลือบมองเสื้อกล้ามที่พันแขนตัวเองอยู่ มีเลือดซึมมาเล็กน้อย คิดแล้วเวียนหัว

“แล้วทำไมไอ้พวกนั้นมันเล่นงานมึงวะ”ม้าจำเป็นถามขึ้นมา

“กูบอกพวกมันว่าขี้อยู่ จะแดกไหม”ไอ้ภูกับไอ้ตินหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“เบาๆบ้างนะไอ้เรื่องกวนโอ๊ยคนอื่น มึงอาจจะไม่โชคดีเหมือนวันนี้ก็ได้นะรู้ไหม ไม่เก่งก็อย่าซ่าส์ เข้าใจ๊”ไอ้ภูตบขาผมเบาๆ ก็ยอมรับว่าผมมีส่วนผิดนิดหน่อย   

“แต่มึงไม่ต้องห่วง กูไม่ปล่อยพวกมันไว้แน่”ไอ้ตินกำชับเสียงแข็ง

“กูเจ็บ ใช่ว่ากูจะลืมเรื่องพวกมึงนะ”ผมลองยกเรื่องพวกมันมาพูด ไอ้ตินถึงกับหยุดเดิน

“กูขอโทษ วันหลังจะไม่ทำอีกแล้ว เลิกโกรธกูเถอะนะ”ผมเม้มปากเหลียวมองไปทางอื่น 

“กูไม่อยากเห็นมึงทำหน้าบึ้งใส่ มึงเป็นแบบนี้กูก็เจ็บเหมือนกันนะ”ไอ้ภูพึมพำเบาๆ ความเงียบคืบคลานเข้ามาอีกครั้ง 

“กูก็ไม่ได้อยากจะโกรธนานหรอก ครั้งนี้กูจะยอมยกโทษให้พวกมึงก็ได้”สถานการณ์แปลกๆมักเกิดขึ้นกับผมตลอด

“แล้วก็…”ผมเอ่ยออกมาอย่างไม่แน่ใจนัก ผมยื่นหน้าไปมองไอ้คนที่แบกผมอยู่ แต่มันหันมาพอดี จมูกเลยชนกันซะอย่างนั้น 

“เรื่องเพื่อนพวกมึง…ก็จัดการกันเองด้วย”ผมทำเสียงเข้มขึ้นมา นึกถึงไอ้ชัยแล้วหงุดหงิด

“อีกอย่างคบกับพวกมึงกูไม่ได้อึดอัดขนาดนั้นหรอก”ผมมองหน้าไอ้ภูขณะที่พูด เมื่อวันนั้นผมระเบิดอารมณ์ใส่มันมากไปจริงๆ

“ขอโทษที่ระเบิดใส่”

“ก็ดีแล้ว จะได้รู้ว่ามึงรู้สึกยังไง เอาจริงๆพวกกูก็ตีกรอบให้มึงมากเกินไป”ไอ้ภูยิ้มให้ผม

“ตั้งแต่วันนี้ไปเรามาเริ่มนับหนึ่งใหม่กันนะ”ไอ้ตินพูดเสียงนุ่ม แบบที่นานๆที่จะได้ยิน

“เหมือนกับวันนั้นไง ที่พวกกูมาขอโอกาสมึง วันนี้มึงให้โอกาสกูอีกครั้งนะ”ไอ้ภูพูดหล่อเหลือเกิน

“เออ”ไม่ชินกับบรรยากาศแบบนี้ซักที ส่วนตัวผมเองก็ไม่กล้าสัญญาอะไรกับพวกมันหรอกครับ แค่ทำให้ดีที่สุดก็พอ






……………………………………………………………





ช่วงวันหยุดผมพักฟื้นอยู่ที่บ้านยาวเลยเพราะแผลที่แขน โชคดีจริงๆที่ไม่ได้เหวอะมากถึงขั้นเนื้อหาย ไม่อย่างนั้นผมคงเป็นลมแน่ๆ ส่วนไอ้ภูกับไอ้ติน มันก็ไปจัดการพวกไอ้อั๋นทันทีหลังจากที่ผมทำแผลเสร็จ คราวนี้ลุงผู้ใหญ่ไม่ได้คอยช่วยแก้ตัวให้มันอีกแล้ว ไม่รู้ว่าไอ้ตินมันไปทำอีท่าไหน ไอ้พวกนั้นถึงเข้าไปนอนเล่นในคุกได้หนึ่งอาทิตย์ ผมไปกวนประสาทไอ้พวกนั้นมาแล้วด้วย ไอ้สองตัวนั่นบังคับผมไปเพราะมันจะให้พวกไอ้อั๋นขอโทษผมให้ได้ ส่วนตัวผมก็ไม่อยากได้คำขอโทษจากพวกนั้นหรอก แค่เห็นพวกมันมีสภาพเหมือนหมาก็สะใจแล้ว

กลับมาที่เรื่องไอ้ภูและไอ้ติน มันสองคนก็ยังไม่กล้ามาเจ๊าะแจ๊ะกับผมมากเท่าไหร่ เพราะถึงจะยกโทษให้พวกมันแล้วแต่ผมก็ยังอารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะเจ็บแผล แล้ววันนี้พวกมันก็หายหัวไปตั้งนานสองนาน บอกว่าจะไปตลาด ไปตั้งแต่ช่วงสายๆจนตลาดวายหมดแล้วมั้ง แต่ก็ช่างหัวพวกมันเถอะ

ออดดดดดดดดดดดดดดดด

เสียงออดหน้าบ้านดังอย่างต่อเนื่องเหมือนไอ้คนที่มากดตั้งใจจะกวนตีน

“ฟิก มีเพื่อนมาหาแหน่ะ”แม่เดินเข้ามาบอก รอยยิ้มขบขับปรากฏอยู่บนหน้า

“ใครอ่ะแม่”ผมทำหน้างง หรือว่าไอ้ชายกับไอ้เคน แต่ก็ไม่น่าใช่ ไม่อย่างนั้นแม่ก็ต้องพามันเข้าบ้านแล้ว

“ไปดูเองสิ”ท่าทางมีลับลมคมในแฮะ ผมผละจากหน้าจอทีวีก่อนจะหยุดชะงักอยู่หน้าประตูบ้านเพราะภาพที่เห็น ลองนึกภาพผู้ชายหกขึ้นยืนถือป้ายขอโทษอยู่หน้าบ้านแล้วมันประหลาดสุดๆ พวกมันยืนเรียงหน้ากระดานกันเรียบร้อย ไอ้ภูกับไอ้ตินเหมือนพาลูกชายมาสารภาพผิด ผมเดินเข้าใกล้ สีหน้าแต่ล่ะคนไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะเพื่อนบ้านข้างเคียงต่างเมียงมองมา โดยเฉพาะไอ้ชัย หน้าเป็นตูด

“มาผิดบ้านรึเปล่า”ผมหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพวกมัน

“ถูกแล้วบ้านหมาฟิกอ่ะ”ไอเนมตอบด้วยเสียงขุ่นๆ

“ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ต้องมา”

“เออ พวกกูขอโทษที่เล่นมากไปหน่อย ตอนเมามันก็แค่ขำๆ ไม่คิดว่ามึงจะโกรธขนาดนี้”พี่ปาพูดด้วยเสียงจริงจัง

“กูลูกผู้ชายพอว่ะ ถ้าผิดกูก็รับ”ไอ้ชัยทำหน้านิ่ง แต่ผมพอจะดูออกว่ามันอาย ผมไล่สายตาไปทางไอ้พี่เบลล์หัวพุดเดิ้ล

“กูขอโทษที่เล่นแรง”

“แล้วมึงล่ะ”ผมหยุดตรงหน้าไอ้เนม มันมองหน้าไอ้ภู ไอ้ตัวดีก็พยักหน้าให้กำลังใจเพื่อนมัน

“กูขอโทษที่ทำอะไรไม่คิด เห็นมึงเกรียนๆบ้าๆไปวันๆไม่คิดว่าจะโกรธ กูขอโทษษษษษษ”มันลากเสียงยาว ผมถอยห่างมาสองสามก้าวก่อนจะมองหน้าไอ้ภูกับไอ้ติน

“มึงคิดว่ากูจะยกโทษให้เหรอ”อันที่จริงก็เกินความคาดหมายมาก ไม่คิดว่าไอ้พวกนี้จะมาขอโทษผมถึงที่ ผมกลอกตาไปมาเมื่อนึกไอเดียอะไรออก

“ถ้าพวกพี่สำนึกผิดและขอโทษมาจากใจจริง ช่วยทำอะไรให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”ผมเปลี่ยนมาพูดจาไพเราะเพราะพริ้งจนพวกมันทำหน้าประหลาดไปตามๆกัน

“อะไรวะ”ไอ้ชัยถามอย่างไม่ไว้ใจนัก

“เข้ามาในบ้านก่อน”ผมกวักมือเรียก ก่อนจะเข้าไปเตรียมอุปกรณ์ แอบได้ยินพวกมันคุยกันด้วย

“ถ้าเป็นเรื่องพิเรนทร์ๆมึงต้องมาทำกับพวกกูด้วย ไอ้ภู”พี่ปาช่างรู้ใจผมจริงๆ หลังจากที่จัดการของเรียบร้อยแล้ว ผมก็เข้าไปหานักโทษทั้งหก

“พี่ๆทำตามที่ผมเขียนนะ”ผมแจกจ่ายใบสคริปให้พวกมันก่อนจะจัดการเตรียมอัดคลิป   

“มึงเอาจริงเหรอวะ”ไอ้เนมถามอย่างหัวเสีย มองหน้าไอ้ภูอย่างคาดโทษ

“เออดิ จะทำไม่ทำ ถ้าไม่ก็ออกไป”ผมเห็นไอ้ภูทำหน้าโหดขู่เพื่อน สุดท้ายพวกมันก็ทนแรงกดดันไม่ไหวยอมทำตามที่ผมเขียน

“ตอนทำไม่คิด ตอนนี้ก็อย่ามาตีหน้าเศร้า”ผมมองไปทางไอ้ภูและไอ้ติน 

“พวกมึงยอมทำเถอะ ไม่อย่างนั้นมันก็บ่นอยู่แบบนี้แหละ”ไอ้ตินพยายามกล่อมเพื่อน

“แมนๆหน่อย กล้าทำก็ต้องกล้ารับผิด”นั่นล่ะ พวกมันถึงยอมทำ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่คำขอโทษสไตล์ไอ้ฟิกแค่นั้นเอง! เมื่ออัดคลิปเสร็จผมก็อัพลงเฟสทันทีพร้อมแท็กหาแต่ล่ะคนเรียบร้อย

“เอาไว้หนึ่งวัน จากนั้นผมอนุญาตให้พี่ๆลบได้”ผมแจกยิ้มให้ทุกคน

“ทรงอำนาจเหลือเกินนะน้องฟิก”ไอ้เนมกระแหนะกระแหน

“แน่นอน ระดับไอ้ฟิกซะอย่าง”ผมไหวไหล่

“หิวว่ะ หาอะไรให้กูกินหน่อยดิ”ไอ้ชัยพูดขึ้นมา

“ในครัว”

“พากูไปหน่อย”ไอ้ชัยบิดตัวไปมาก่อนจะพยักหน้าให้ผมนำทางไป

“กูมีเรื่องจะคุยกับมึง”

“เรื่อง”ผมหันไปมอง ไอ้ชัยทำหน้าจริงจังก่อนจะหัวเราะออกมา

“กูยอมรับว่าเมื่อก่อนกูไม่ชอบหน้ามึง ไม่อยากให้ไอ้ตินมาคบกับมึงด้วยซ้ำ เพราะนิสัยแย่ๆของมึง”

“ตกลง เรื่องของมึงคือด่ากูใช่ไหม”

“เปล่า แค่จะบอกว่ากูยอมรับมึง”ผมลิกคิ้วมอง

“มาคิดแบบไม่อคติ มึงก็เบาลงเยอะจากแรกๆ”พูดจบมันก็เดินออกไปทันที ทิ้งให้ผมยืนงงอยู่คนเดียว อะไรของมันวะ ผมส่ายหน้าระอากับนิสัยของมัน ค้นตู้เย็นเจอน้ำส้มทิปโก้อยู่สองกล่อง แบ่งกันจิบคนละนิดละหน่อยก็คงพอ

“นานว่ะ”ไอ้ภูโผล่มายืนด้านหลัง ผมปิดตู้เย็นเสียงดัง 

“ขอกอดหน่อย”แล้วมันก็เข้ามากอดผมทันที มือหนาสอดเข้ามาในเสื้อวางอยู่บนหน้าท้องแห้งๆของผม

“เฮ้ย เดี๋ยวแม่เห็น”ผมดึงมือมันออก แต่อีกฝ่ายกลับรัดแน่นมากขึ้นพร้อมกับยื่นหน้ามาหอมแก้ม ผมเซเล็กน้อยเพราะเอนตัวหลบ

“มึงผอมนะ”

“ปล่อย กูเจ็บแผล”ไม่เจ็บแต่กลัวแม่มาเห็นมากกว่า

“ก็คิดถึงอ่ะ”มันกระซิบใกล้ๆใบหู ผมปล่อยให้มันกอดสักพัก ก่อนที่มันจะปล่อยผมออกจากอ้อมแขน ผมรอจนมันออกไปก่อนค่อยตามออกไป พวกไอ้เนมกำลังนั่งดูอัลบั้มรูปของผมอยู่ มือบอนจริงๆเลยไอ้พวกนี้

“ทำไมตอนเด็กๆมึงดูหงิมๆวะ โตมานี่เอาเรื่องจริงๆ”พี่ปาชะโงกมองรูป

“ก็ตอนนั้นยังเด็กไง ใครๆก็เป็น”ผมวางน้ำส้มลงบนโต๊ะ

“ใครบอก ดูไอ้ภูสิ ชั่วแต่เด็ก”พี่ปาเข้ามากระซิบก่อนจะหัวเราะ ไอ้คนที่โดนนินทานั่งหัวเราะรูปผมอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว   

“เออพี่ แล้ววีรกรรมสมัยเด็กของมันมีอะไรบ้าง”พี่ปากำลังอ้าปากจะตอบผม ไอ้ภูก็เงยหน้ามามองเสียก่อน พี่ปาเหล่มองผมก่อนจะหัวเราะก่อนจะส่ายหน้าไปมา จะว่าไปผมยังไม่เคยเห็นรูปถ่ายวัยเด็กน้อยฟันหลอของพวกมันเลย สงสัยต้องหาโอกาสไปบ้านพวกมันบ้างแล้ว

ผมขี้เกียจนั่งอัดอยู่ในห้อง ปล่อยให้ไอ้พวกโตแต่ตัวนั่งขำกันไป ออกมาสูดอากาศนอกบ้านดีกว่า ผมคว้าส้มติดมือออกมา เห็นไอ้ตินนอนแผ่อยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ผมเดินไปยืนใกล้ๆแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นก่อนจะแกะเปลือกส้มทิ้งไปโดนหน้ามัน   

“ไอ้ฟิก”มันพลิกตัวหนีก่อนจะลุกมานั่ง

“แผลเป็นไงบ้าง”

“ก็ค่อยยังชั่วแล้ว”ว่าแต่มันถามทำไม…

“ขอกอดหน่อย”ไอ้ตินยกมือขึ้นสองข้างเหมือนเวลาที่เด็กน้อยขอกอด 

“ไม่เอา เดี๋ยวแม่มาเห็น”ผมมองไปรอบๆเพื่อดูว่ามีคนอยู่แถวนี้รึเปล่า

“แป๊บเดียว”ผมถอนหายใจก่อนจะนั่งลงข้างๆมัน ไอ้ตินเข้ามาสวมกอดหลาวๆ

“ไม่ได้กอดตั้งนาน”มันพึมพำเบาๆ

“พอใจยัง”มันผละออกมาพร้อมกับยิ้มกว้าง

“ยัง ไว้ทดไปวันหลังก็แล้วกัน”มันทำหน้ามีเลศนัย

“เพิ่งพ้นโทษอย่าเพิ่งคิดเรื่องอื่น โอเคนะ”ยังเร็วไปที่พวกมึงจะคิดเรื่องหื่น!










แถม

คำขอโทษสไตล์น้องฟิก

เนม: พี่เนมขอโทษที่ทำตัวเหมือนเด็กไม่มีสมอง ทั้งๆที่อายุอานามก็มีเมียมี…ผัวได้แล้ว (ไอ้สัดฟิก) พี่ขอโทษจริงๆ!

ปา: พี่ปาขอโทษน้องฟิกจริงๆที่ทำให้น้องต้องคิดมาก ต่อไปพี่จะคิดเยอะๆให้สมกับน้ำหนักสมองของพี่ (…)

ชัย: พี่…ขอโทษจริงๆที่ทำอะไรแย่ๆลงไปทั้งต่อหน้าและลับหลัง ถึงพี่จะไม่ค่อยมีน้ำยา จีบใครไม่ค่อยติด แต่พี่ก็รู้สึกสำนึกด้วยใจจริงต่อไปนี้พี่จะไม่ล้อเล่นกับเรื่องแบบนี้อีก (กัดฟันพูดสุดๆ)

เบลล์: พี่ขอโทษน้องฟิกจริงๆที่เห็นความรู้สึกของน้องเป็นเรื่องล้อเล่น ต่อไปนี้พี่จะไม่ทำอีกแล้ว ขอสัญญาด้วยหัวพุดเดิ้ล (ยิ้มอ่อน)

 

 



-------------------------
TBC.
เจอกันตอนหน้าาา  :laugh:
ป.ล.ส่วนไดอารี่ของภูคือไดอารี่เล่มเดียวกับภาคหลักที่ภูเคยเขียนไว้ค่ะ  :กอด1: 



 

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 06-01-2016 17:39:25
อะไรคือการบอก เดี๋ยวแม่เห็น แต่ก็ยอมให้พี่ภูกับดินกอด :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 06-01-2016 17:57:45
สนุกจ้า รอตอนต่อไปน๊า  o13
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: mam.nalok ที่ 06-01-2016 18:09:51
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆคืนดีกันแล้ว :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 06-01-2016 18:24:54
 :laugh: :laugh: :laugh:
สะใจกับการเอาคืนเพื่อนภูและติน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Noah ที่ 06-01-2016 18:27:39
โอย อยากได้คลิปมาเก็บไว้บ้าง 555555555555  :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 06-01-2016 18:28:31
อยากดูคลิปมาก 5555555555555555555555555555555
จากคำพูดของแต่ละคนนี่รู้เลยว่าฟิกแค้นใครสุด 555555555
พี่เบลล์กับพี่ปาไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ชัยนี่หนัก ยาวสุดไรสุด 555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 06-01-2016 18:40:53
ดีกันจริงจังแล้ว
ต้องยกความดีให้ลูกผู้ใหญ่?????

น้องฟิกแสบตลอดเวลา
คำขอโทษเจ็บแสบมากๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 06-01-2016 19:07:24
ฮากับคำขอโทษของ แต่ละคน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-01-2016 19:20:46
เป็นคำขอโทษที่สะใจมากฟิก. ฟิกเลิศ  o13. 
ชอบตอนขี่หลังตอนฟิกเจอประทัด. เวลาแบบนี้มีปั๋วสองคนมันก็ดีแบบนี้เอง. เล่นมันเลยเด็กเหลือขอ

โอ๋พี่ภู ตินน้อยอ้าแขนรอกอดน่าเอ็นดูอะ.   :L1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 06-01-2016 19:45:07
ชัยคนไม่มีน้ำยา  :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-01-2016 20:27:25
 :laugh:
ฟิกคราวหน้าคราวหลังก็ระวังคำพูดบ้างซ่าจนเจ็บเลยเห็นไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 06-01-2016 20:49:46
คำขอโทษแสบจริ๊งงงงงงงงงงงงงงง 5555555555555 :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 06-01-2016 20:53:05
ฟิกนี่แสบจริงๆเลย

แต่โดนซะบ้างจะได้ไม่กล้าอีก

ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-01-2016 21:05:15
จบเรื่องเศร้าละ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 06-01-2016 21:34:09
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 06-01-2016 21:52:51
ชอบบทลงโทษสไตล์ฟิกเกรียน
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 06-01-2016 22:07:21
อยากจะเป็นเพื่อนในเฟตฟิกเลย 5555555555
เป็นคำสารภาพผิดที่ได้ใจมากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 06-01-2016 22:21:28
ฮ่าๆๆฟิกเอาคืนให้แสบจริงๆแต่ก็ต้องเจ็บตัวก่อนนะถึงจะคืนดีกันได้เนี่ย แอบเสียดายไดอารี่พี่ภูอยากให้ฟิกได้อ่าน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 06-01-2016 22:28:49
คืนดีกันแล้ว  :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Cady ที่ 06-01-2016 22:55:27
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 06-01-2016 23:05:55
ในที่สุดก็ดีกันแล้วว 5555555
สองคนนั้นเข็ดไปอีกนาน พวกเพื่อนๆด้วย
เห็นมะละ จริงๆฟิกก็ใจดีนา
ละพวกที่ทำฟิกเจ็บคือห่าไร น่าจะโดนดี
เข้าคุกอาทิตย์นึง ไม่สำนึกหรอกพวกนี้อะ
แต่กลับมารักกันสามเราก็ดีอะ รู้สึกฟิน  :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 06-01-2016 23:13:17
รออ่าน
หลังคืนดีกัน

สามคนซั่มๆ
 :haun4:
อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-01-2016 23:51:08
สะใจ*2 บอกเลย5555
ขำของชัยมากที่สุดอ่ะ ก๊ากกก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 07-01-2016 00:26:40
จะฮาก็ตรงคำของโทษไอ้พี่เนมกับไอ้พี่เบลนั่นล่ะ 5555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: tangtang ที่ 07-01-2016 02:37:35
ดีกันแล้วววว เย้~~
แต่แอบอยากให้ฟิกงอนนานกว่านี้หน่อยนะ555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 07-01-2016 07:40:12
น้องฟิกสุดยอดดดดดดดด  :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 07-01-2016 10:04:01
ตอนนี้ฟิกแสบวะ 555555555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 07-01-2016 12:06:27
 :m20:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: tukkata bambola ที่ 07-01-2016 14:02:34
คลิปขอโทษฉบับเกรียนฟิกจริงๆอย่างสะใจอ่ะ o13
ขอให้แขนหายไวๆนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 07-01-2016 16:20:48
ฟิกเจ๋งมาก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาwดาริน ที่ 07-01-2016 17:54:47

 :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Wannida ที่ 07-01-2016 18:45:45
ฮาพี่ชัยคนไม่มีน้ำยา 555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 08-01-2016 01:08:45
เค้าคืนดีกันแล้ววว
แค้นชัยมากสินะ หนูฟิก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: meng ที่ 08-01-2016 09:55:11
เป็นของขวัญปีใหม่ที่สุดยอดที่สุด  ปลื้มมากสุดท้ายก็ดีกันแล้ว

ตอนหน้าอยากให้ฟิกเป็นจำเลยรักบ้างครับ 

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 08-01-2016 10:24:06
ถือว่าเป็นการเอาคืนที่เจ็บแสบแต่แอบน่ารัก  :laugh: ดีใจที่เคลียร์กันด้วยดี และชัยก็ยอมรับฟิกได้สักที แต่ แหม ฟิกขนาดโกรธปั๋วแต่พอเจ็บตัวนี่อ้อนน่าดูเลยนะ น่ารักอ่ะ มีผัวสองก็ดีอย่างนี้แหละ เชื่อว่าครั้งหน้าสองหน่อไม่กล้าทำแล้วล่ะ แต่หลังจากนี้สิ ฟิกเอ้ย โดน  :oo1:   :jul1:  จมกองที่นอนนองเลือด  :m25: แน่ๆเลย เพราะความคิดถึงเมีย  :-[  สมน้ำหน้าไอ้อั๋นและพวก ไอ้เลว ไม่เข็ด เป็นไงมึงโดนยำซะ  :z6:  สะใจจริงๆ พ่อผู้ใหญ่ก็ดีมากๆไม่เข้าข้างลูก  o13
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 08-01-2016 11:38:34
คราวนี้ทุกคนคงรู้ซึ้งถึงคำว่า อำนาจของมนุษย์เมีย จากฟิกแล้วสินะ 555 ไม่ใช่แค่ผัวที่นางเอาอยู่ เพื่อนผัวฟิกก็คุมได้ 5555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: hormonesyj ที่ 08-01-2016 13:51:21
ตอนหน้าจะต้องแซ่บมากจริงๆอ่ะ โอยยยย ขอแบบฟิกกุมอำนาจเลยนะคะ  :oo1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๘] 6-1-59 P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 14-01-2016 10:20:01
อยากเห็นภูตินง้อฟิกอีก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 15-01-2016 08:59:59
ตอนที่๑๙










หลังจากที่เคลียร์เรื่องบ้าๆบอๆได้หมดแล้ว บ้านผมก็เหมือนระเบิดลงเพราะไอ้พวกโตแต่ตัวทั้งหลายนี่แหละ ใจจริงผมอยากจะกลับบ้านมาพักผ่อนเงียบๆมากกว่าแต่ดูซิ… มีไอ้พวกบ้าๆติดสอยห้อยตามมาด้วยอีก 

“วันนี้กูขอเลี้ยงมึงเอง”ไอ้เนมพูดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่พวกมันตกลงกันได้แล้วว่าเย็นนี้จะทำสุกี้หม้อใหญ่ 

“เป็นการไถ่โทษที่ทำให้มึงต้องหอบผ้าหอบผ่อนหนีมาพักใจที่บ้าน”ไอ้ชัยพูดด้วยเสียงสำนึกผิดจอมปลอม

“ถ้ามีลูกให้หอบหนีด้วยนี่เข้าแก๊ปเลยนะ”พี่ปาแทรกมาก่อนที่จะหัวเราะคิกๆ ผมปรายตามองอย่างหงุดหงิด พวกนี้ตามมาป่วนประสาทผมชัดๆ

“เออ มึงอยากได้ไหม เดี๋ยวกูซื้อให้”จู่ๆไอ้ภูก็โพล่งขึ้นมา สีหน้าเหมือนกำลังนึกสนุก

“อะไร พูดดีๆนะมึง”คนอย่างมันต้องพูดอะไรให้ผมดูแย่แน่ๆ

“ตุ๊กตาลูกเทพไง เห็นเดี๋ยวนี้หิ้วกันว่อนเลย”ผมเบ้หน้า สยองจริงๆ ไอ้ตุ๊กตาพวกนี้

“เลอะเทอะ ตกลงพวกมึงจะทำไหม สุกี้เนี่ย”

“เออๆ กำลังจะไปแล้ว ตั้งแต่มีเรื่องนี่ดุเหมือนหมาเลยว่ะ”พี่ปายิ้มขำ

“กูว่าพวกกูไปเองดีกว่า”จู่ๆไอ้ชัยก็เปลี่ยนใจ

“มึงรู้จักทางเหรอ”ผมมองมันงงๆ เห็นมันทำหน้าไม่ถูก

“แค่นี้ ไม่หลงหรอก อยู่บ้านก็เตรียมของไปนะ”ไอ้พี่เบลล์เข้ามาตบไหล่ผมก่อนจะออกไปรอด้านนอก พวกมันทยอยเดินเบียดออกไป ยกเว้นไอ้สองตัวที่ยืนหน้ามึนอยู่ข้างๆผม

“อ้าว พวกมึงไม่ไปดูเพื่อนมึงเหรอ”

“พวกมันไม่หลงหรอก”ไอ้ตินรีบพูด

“เนียนเลยนะพวกมึง อยากอยู่กับกูล่ะสิ”เล่นกับพวกมันหน่อย เดี๋ยวน้อยใจ เพราะตั้งแต่ช่วงสายผมก็ไม่ค่อยได้เสวนากับพวกมันสักเท่าไหร่

“แน่นอน คนมันคิดถึง”ไอ้ภูเริ่มน้ำเน่า ทำท่าจะเข้ามากอดผมอีกรอบ แต่เสียงฝีเท้าจากด้านนอกดังแว่วมา ผมจึงถอยห่างแบบเนียนๆ

“อ้าว นึกว่าไปกับพวกพี่ๆซะอีก”แม่เข้ามาในห้องด้วยสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย

“ผมอยู่จัดของไง เดี๋ยวต้องยกโต๊ะกินข้าวออกไปด้านนอกอีก”

“จะไปกันถูกเหรอนั่น น้องฟิกน่าจะไปด้วย”

“พวกนั้นเซียนอยู่แล้วครับแม่ ไม่หลงหรอก”ไอ้ตินพูดยืนยันความฉลาดของเพื่อน

“จะว่าไป ไม่ได้เจอเราสองคนตั้งนานนะ เป็นยังไงกันบ้าง”แม่หันมาสนใจพวกมันสองคนแทน ผมจึงปลีกตัวเข้าไปในครัว ขนหม้อสุกี้ออกไปไว้ด้านนอกก่อน เผอิญได้ยินไอ้สองคนนั่นคุยกับแม่ผมในห้องนั่งเล่นพอดี   

“ผมกะจะซื้อที่ไว้ปลูกบ้านน่ะครับ ตอนนี้ก็กำลังดูๆอยู่”เสียงไอ้ตินแว่วมา ผมเลยขออยู่ฟังสักหน่อย

“ดีแล้วลูก ค่อยๆสร้างค่อยๆเก็บไป”น้ำเสียงแม่ดูจะปลื้มอยู่พอดู

“ไม่เหมือนเจ้าฟิกเลย ไม่มีความคิดเป็นชิ้นเป็นอันสักที”…อ้าวแม่ ไม่รู้อะไรซะแล้ว ผมก็เกาะพวกมันอยู่นั่นล่ะ หึๆ

“คือความจริงแล้วผมก็กะจะชวนฟิกไปอยู่ด้วยกัน”ไอ้ภูพูดอะไรของมันวะ

“แบบแชร์ห้องน่ะครับ เพราะฟิกมันก็บ่นว่าพื้นที่หอแคบ”ไอ้ตินหัวเราะกลบเกลื่อน

“แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน จะได้มีคนดูแลเจ้าลิงด้วย นี่ถ้าฟิกมันเป็นผู้หญิงนะ แม่ยกให้เลย”ผมถอนหายใจเฮ้อใหญ่เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของพวกมันกับแม่ดังออกมา กะจะค่อยๆย่องออกมาแต่ก็เกิดเสียงเข้าจนได้

“อ้าว น้องฟิก มานี่ซิ แม่กำลังพูดถึงอยู่พอดี”แม่ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับขอบตาก่อนจะกวักมือเรียกผม ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าไอ้ภูกับไอ้ตินกำลังกลั้นขำเต็มที่

“ผมได้ยินแล้วน่า กะจะยกผมให้พวกมันฟรีๆเลยเหรอ”ผมแกล้งตามน้ำไปด้วย

“แถมข้าวเหนียวก็ไม่มีใครอยากได้หรอก”

“แต่ถ้ายกให้ผมก็เอานะแม่ ไว้ใช้ล้างห้องน้ำ”ไอ้ภูผสมโรง แม่หัวเราะชอบใจคงคิดว่าพูดกันขำๆ

“พอๆ เลิกคุยเดี๋ยวแม่เป็นลม”ผมรีบหยุดบทสนทนาไร้สาระก่อนที่มันจะลามไปมากกว่านี้ แม่กระแอมก่อนจะเก็บผ้าเช็ดหน้า ผมมองหน้ามันสองคนอย่างคาดโทษ

“ไปช่วยกันยกโต๊ะออกมาไว้ที่สนามด้านนอกหน่อย”ได้ทีก็ใช้ซะเลย ผมพยักเพยิดให้พวกมันลุกมาได้แล้ว อยู่นานเดี๋ยวความลับของผมรั่วหมด ผมออกมานั่งรอมองไอ้หมาไซฯหน้าหล่อแทะกระดูกยางไปพลาง จะว่าไปโทรหาไอ้โต้งสักหน่อยดีกว่า ระหว่างที่กำลังเลื่อนหาเบอร์เพื่อนพวกมันสองคนก็ยกโต๊ะออกมาด้วยท่าทางเก้ๆกังๆเพราะทางออกแคบ

“เออ โต้ง ตอนนี้มึงว่างรึเปล่า”ผมถามทันทีที่มันรับสาย ไอ้ภูกับไอ้ตินเหลียวมามองทันที

[ว่าง…ทำไมวะ]   

“ว่าจะชวนมาที่บ้าน มากินของฟรี”ไหนๆมันก็มีส่วนร่วมกับเรื่องของผม ก็ชวนมันมาทำความรู้จักกับไอ้สองคนแบบเป็นจริงจังเลยแล้วกัน

[จะดีเร้อออ กลัวไปทำให้บางคนผีเข้า] มันทำเสียงล้อเลียน

“ตกลงจะมาไหม เอ๊ะ หรือมึงกลัว”ผมระบายยิ้มออกมาเพราะรู้ว่ามันยุขึ้น เหลือบไปเห็นไอ้ภูกับไอ้ตินที่ยังคงมองมาที่ผมอยู่

[แหม กูไม่ใช่มึงนะ เออ เดี๋ยวกูไป เตรียมตัวดีๆล่ะมึง] มันหัวเราะหึๆก่อนจะกดวางสาย

“คุยกับใครวะ”ไอ้ตินเข้ามาถาม ทั้งๆที่มันเองก็คงรู้อยู่แล้ว   

“เพื่อนกูไง”มันสองคนมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย 

“เพื่อน… ไอ้โต้งน่ะเหรอ”สีหน้าของไอ้ภูแสดงออกชัดเจนว่ามันข้องใจ แต่มันคงยังไม่กล้าตีโพยตีพายมากเท่าไหร่

“เออ”

“กูเห็นเพื่อนมึงแต่ล่ะคนร้ายๆทั้งนั้น”ไอ้ตินพึมพำ มันอาจจะนึกถึงไอ้เพียวอยู่ก็ได้

“คนนี้ไว้ใจได้น่า”ผมบอกปัด

“เมื่อตอนที่คุยกับแม่ แม่มึงเล่าให้ฟังเรื่องแฟนคนแรกของมึงอ่ะ”จู่ๆไอ้ตินก็ยกมาพูด ผมนิ่วหน้าอย่างใช้ความคิด

“แล้วไง”ผมก็จำไม่ค่อยได้แล้ว

“ผู้หญิงที่สัญญาว่าจะแต่งงานกับมึงไง”ไอ้ภูทำเสียงตลก ผมนึกออกพอดี ก่อนจะมองหน้ามันสองคนขำๆ

“เห็นกูเป็นแบบนี้ กูก็มีวัยใสๆเหมือนกันนะเว้ย”แต่เรื่องมันก็นานแสนนานมาแล้ว ผมลืมไปแล้วด้วยว่าหน้าตาเป็นยังไง จำได้ว่าตอนที่เลิกกัน ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าถ้าตอนโตผมหาแฟนไม่ได้ก็มาแต่งงานกัน ก็สัญญาแบบเด็กๆ เห็นไหมว่าวัยเด็กของผมมุ้งมิ้งแค่ไหนต่างจากมันสองคนลิบลับ

“ไอ้ฟิก…”ไอ้ตินเริ่มเกริ่น

“พอพูดถึงเรื่องนี้ กูก็คิดขึ้นมาได้”มันสองคนนั่งลงข้างๆผมเหมือนกับจะพูดอะไรสักอย่าง

“มีอะไรจะพูดก็ว่ามา เดี๋ยวเพื่อนพวกมึงมา หมดสิทธ์พูดนะ”ผมมองหน้ามันสองคนสลับไปมา ก่อนจะดีดนิ้วดังเปาะ

“ในอนาคตข้างหน้า…มึงอย่าเพิ่งหัวเราะ”ไอภูรีบยกมือห้าม เมื่อเห็นสีหน้าของผม มาแนวนี้ผมว่าพวกมันต้องพูดอะไรเน่าๆแน่

“เออๆ พูดมา”ผมตั้งใจฟัง

“แบบอีกห้าหกปี มึงอยากอยู่กับกูไหม”ผมถึงกับขมวดคิ้วกับคำถามของไอ้ภู ผมเห็นมันมองไปทางอื่นที่ไม่ใช่หน้าผม สงสัยจะเขิน

“เป็นอะไรของมึงเนี่ย”ผมว่าจะไม่หัวเราะแล้วนะ

“พูดตรงๆเลยนะ มึงอยากแต่งงานรึเปล่า”ไอ้ตินเข้าเรื่องทันที ผมเหลียวมองมันคอแทบหัก ไม่คิดว่ามันจะพูดอะไรแนวๆนี้

“ห๊ะ”ผมชักจะทำหน้าไม่ถูกแล้วสิ พวกมันมาคิดบ้าๆอะไรตอนนี้

“กูแค่คิดเฉยๆ พอมีแพลนจะย้ายออกจากหอ มีแพลนจะสร้างบ้าน กูก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา”ไอ้ตินหันมาสบตาผมด้วยสายตาจริงจัง

“ไม่รู้ดิ กูไม่ได้คิดอะไรเลย”แค่อยู่กับพวกมันทุกๆวันก็พอ

“มันอาจจะดูแปลกๆ แต่กูคิดจริงนะฟิก”ไอ้ภูนอนแผ่ลงกับผืนหญ้า สายตาจับจ้องไปที่ท้องฟ้าเบื้องบน

“เราจะคบกันได้นานขนาดนั้นเลยเหรอวะ อย่าลืมนะว่าเมื่อวานกูกับพวกมึงยังทะเลาะกันอยู่เลย”บางทีผมก็กลัวความคิดตัวเองเหมือนกัน

“ใครจะรู้ ถ้ามึงโกรธกูก็จะง้อจนมึงหาย เข้ามาในชีวิตกูแล้ว อย่าหวังว่าจะได้ออกไปง่ายๆนะมึง”

“พี่พูดจาเหมือนตัวร้ายเลยว่ะ”ไอ้ตินแย้ง

“ใครจะเป็นคนดีใจพระเอกแบบมึงล่ะ”มันทำเสียงล้อเลียน

“แต่มึงตอบมาก่อน อย่าเฉไฉ ถ้าในอนาคตข้างหน้ากูขอมึงแต่งงานขึ้นมามึงจะตกลงไหม”ไอ้ตินก็ยังคงจะเอาคำตอบให้ได้ แต่งงานเหรอ คำนี้ฟังดูจั้กจี้สำหรับผมจริงๆ แค่ได้ยินก็คันเนื้อคันตัวแล้ว!ทำไมมันสองคนต้องมาพูดอะไรหลอนๆแบบนี้ด้วยวะเนี่ย

“อย่าลืมนะ ว่าบ้านกูรวย”เสียงไอ้ภูแว่วมา

“ถุย คำตอบของกูคือไม่”ผมพูดใส่หน้าพวกมันทั้งสองคน ก่อนจะรีบยืดตัวขึ้นเต็มความสูงเมื่อได้ยินเสียงรถมอเตอ์ไซต์ที่คุ้นเคยดีของเพื่อน ไอ้โต้งชะเง้อคอมองมาจากนอกรั้ว

“กูมาขัดจังหวะอะไรรึเปล่า”

“เข้ามาๆ”ผมเลี่ยงตอบคำถามมัน รีบเปิดประตูรั้วให้อีกฝ่ายเข้ามาในบ้าน เหลียวไปมองไอ้สองคนที่ย่นหน้ามองไอ้โต้งอยู่

“อะไรวะเนี่ย”แต่มันกลับกวนประสาทผมด้วยการโบกมือไปมาในอากาศเหมือนกำลังไล่อะไรบางอย่าง

“อย่ากวนตีนกู”ผมทำเสียงแข็งใส่ แต่มันกลับไม่กลัว

“ความจริงกูแอบมองอยู่นานแล้ว แต่ไม่กล้าขัด”มันหัวเราะในลำคอเบาๆ ผมตบบ่ามันก่อนจะพยักหน้าไปทางไอ้ภูกับไอ้ติน

“มึงไปเคลียร์สิ”

“กูจัดการเองเพื่อน มึงไม่ต้องห่วง”มันพูดเรื่องเดียวกันกับผมรึเปล่าวะ ไอ้โต้งเดินเข้าไปหาไอ้ภูกับไอ้ตินก่อนจะส่งยิ้มผูกมิตรอีกครั้ง

“คือเรื่องวานก่อนนู้น มันเป็นเหตุสุดวิศัย ที่ทำไปกูก็ไม่ได้พิศวาสไอ้ฟิกหรอก”

“กูโตกว่ามึง เพราะฉะนั้นเรียกกูกับมันว่าพี่”ไอ้ภูชี้มาที่ตัวเองกับไอ้ติน มันจะมีเรื่องกันรึเปล่าเนี่ย ไอ้โต้งเดาะลิ้นเบาๆ

“ไหนไอ้ฟิกบอกว่าไม่ถือ”ไอ้ภูเหลือบมองผมก่อนยกยิ้มเยาะ

“ใครเชื่อไอ้ฟิกก็ควายแล้ว”ผมสะเทือนเล็กน้อยเพราะรู้สึกเหมือนโดนด่าไปด้วยยังไงไม่รู้

“โอเค๊…ตามนั้น ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง พี่ภู พี่ติน”ไอ้โต้งก้มโค้งให้อย่างนอบน้อม กวนประสาทเหลือเกิน

“มึงอย่าเครียดกันมากสิวะ ยังไงก็รักเพื่อนกูให้เหมือนที่พวกมึงรักกูไง”ผมแสร้งยิ้มหวาน ความจริงไม่อยากให้บรรยากาศเครียดเดี๋ยวได้มีมวยจริงๆ แต่คงมันส์น่าดู เป็นคู่ที่สูสีแน่นอน

“เหอะ เพื่อนมึงแต่ละคนกูรักไม่ลงว่ะ”ไอ้ตินทำหน้าเอือมระอา

“ผมก็เป็นคนเฮฮาแบบนี้แหละ อย่าถือสากันเลยก็แล้วกันเนอะ”ไอ้โต้งเองก็คงไม่อยากมีเรื่องเหมือนกัน ไอ้ภูกับไอ้ตินพยักหน้าส่งๆ แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณสงบศึกก็แล้วกัน


หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 15-01-2016 09:00:33
……………………………………………………………………..







กว่าพวกไอ้เนมจะมาได้ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง ไม่รู้ว่าไปทำอะไรกันมา จะว่าหลงก็ไม่น่าใช่เพราะไม่เห็นโทรมาถาม

“รถยางแตกเหรอวะ ไปเป็นชาติ”ผมทักทันทีที่ไอ้ชัยขนเนื้อกับหมูออกมาจากท้ายรถ

“หาตลาดไม่เจอ”ไอ้ชัยทำหน้าเหนื่อยหน่าย

“แล้วไม่โทรมาถามล่ะวะ”งงกับมันจริงๆ

“ก็พี่ปาแม่งกลัวเสียฟอร์ม”แล้วมันก็เดินหน้าบูดเอาของไปวางบนโต๊ะ ผมเห็นพวกมันมองไอ้โต้งด้วยสายตาสงสัยก็เลยต้องแนะนำตัวเพื่อนซะหน่อย

“นี่เพื่อนผมเอง ชื่อโต้ง เขานิสัยดีมาก ทักทายพี่ๆเขาสิโต้ง”ผมหันไปทำหน้ากวนประสาทใส่มัน

“กูล่ะเบื่อหน้าตากวนโอ๊ยแบบนี้ของมึงจริงๆเชี่ยฟิก”พี่ปาแหน็บมาให้ได้ยิน ใช้เวลาไม่นานไอ้โต้งก็เข้ากับพวกไอ้เนมได้ ก็มีอยู่สองคนที่ไม่ค่อยพูดค่อยจาเท่าไหร่ ผมขี้เกียจชวนพวกมันผูกมิตรกันแล้ว เลยเลือกสนใจหม้อสุกี้ดีกว่า 

“เดี๋ยวกูไปตามแม่ก่อน”ไอ้ตินผละไปจากโต๊ะ คำพูดของมันเรียกเสียงแซวได้ดีจริงๆ 

“วันนี้ปลอดแอลกลอฮอร์ใช่ไหม”ผมมองหน้าเรียงคน

“จ้า ปลอดเหล้า”ไอ้เนมทำเสียงขุ่นในลำคอ  มีอำนาจอยู่ในมือมันฟินแบบนี้นี่เอง

“ดีมาก”

“มึงเมาน้ำส้มรึเปล่าเนี่ย กูว่ามึงคึกแปลกๆนะ”ไอ้เนมยกแก้วน้ำส้มผมไปดมๆดูว่ามีเหล้าผสมอยู่หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่า…..



มี




งานนี้ผมกุมอำนาจ คนอื่นห้ามเถียง

“เอามาจากไหนวะ”มันถามเสียงระริกระรี้

“ไอ้โต้ง”ผมบุ้ยปากไปทางเพื่อน เหล้าหมักเองด้วย แต่ผมแค่ผสมนิดหน่อย ไม่เมาแน่นอน ผมแอบเหลือบไปเห็นพี่ปายื่นแก้วไปให้ไอ้โต้ง ยกเว้นพี่เขาคนนึงล่ะกัน

“ไม่ต้องห่วงว่ากูจะเมาหรอก”ผมรีบดักไอ้ภูที่นั่งอยู่ข้างๆทันที

“รู้ทันเหรอ”มันถามพร้อมรอยยิ้ม ผมแค่ผสมให้พอมีรสชาติเฉยๆ ไม่ได้จะกินให้เมา แล้วช่วงนี้ผมจะไม่เมาเด็ดขาดด้วย สักพักไอ้ตินก็โผล่มาพร้อมกับพาแม่ผมมาด้วย ไอ้ตินนี่มันรู้จักเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่จริงๆ  แต่แม่ก็อยู่ไม่นานเพราะไม่ชินกับบรรยากาศห่ามๆของพวกผม ไอ้พวกนี้ต้องใช้คำว่าสวาปาม ไม่ไหวจริงๆ

“นี่ กูเคยคิดนะเว้ยว่านิสัยแบบพวกมึง คงคบกันได้ไม่นาน แต่ไม่น่าเชื่อว่าแม่ง…”พี่เบลล์โพล่งขึ้นมา ท่ามกลางบรรยากาศครื้นเครงของวงน้ำส้ม

“คบกันนานกว่ากูอีกว่ะ”พี่เบลล์ทำหน้าเจ็บช้ำก่อนจะกระดกน้ำส้มรวดเดียวหมด 

“เหอะ…”ไอ้ชัยทำหน้าพาล มันอาจกำลังนึกถึงพี่อันอยู่ก็ได้

“นี่…ชัย”ผมเรียก

“ไอ้นี่เรียกกูเป็นเพื่อนเล่นเลย”มันทำหน้าเหวี่ยงจนผมหัวเราะออกมา

“เออ ๆกูขอโทษ พี่ชัยก็ได้ ผมขอแนะนำอะไรอย่างหนึ่งนะ คนมันไม่รัก ทำแค่ไหนมันก็ไม่รัก”ไอ้โต้งถึงกับสำลักวุ้นเส้นที่กำลังเคี้ยวอยู่ 

“มึงเพี้ยนอะไรของมึงวะ”ไอ้ชัยพึมพำอย่างหงุดหงิด ผมกระแอมก่อนจะตัดสินใจพูดอะไรบางอย่าง

“ต่อไปนี้กูจะพยายามพูดดีๆกับมึงก็แล้วกัน ย้ำนะ ว่าพยายาม”ยังไงไอ้ชัย ไอ้เนมมันก็โตกว่าผม ถึงจะแค่ปีเดียวก็เหอะ

“อย่าพยายาม กูชินแบบนี้แล้วว่ะ”มันทำท่าขนลุกขนพอง ก่อนจะลุกไปจากโต๊ะ ไปนั่งทำเอ็มวีคนเดียว

“กูทำอะไรผิดรึเปล่า”ผมหันมาถามสหายในวงน้ำส้มที่ดูเหมือนจะกึ่มๆกันทุกคนแล้ว ไม่รู้ว่าไปแอบจิบกันตอนไหน อันที่จริงผมคงห้ามไม่ได้หรอกถ้าพวกมันจะกินกันจริงๆ ยกเว้นไอ้ภูกับไอ้ติน ช่วงนี้มันคงไม่กล้าแตะของมึนเมาแน่

“ใครอกหักต้องดื่มนี่ย้อมใจ”ไอ้โต้งเอาขวดน้ำที่บรรจุเหล้าป่าไว้ครึ่งขวดออกมา

“กูเอง”ไอ้พี่เบลล์ท่าจะยังไม่เข็ดกับเรื่องคราวก่อนเสนอตัวขึ้นมาพร้อมกับหยิบขวดไปดมๆดู 

“รวดเดียวเลยเพื่อน”ไอ้ตินบอกเสียงนุ่ม

“มึงจะบ้าเหรอ”พี่เบลล์ทำหน้าตกใจ

“ทีกูยังเคยยกรวดเดียวเลย แต่ถ้ามึงไม่อยากทำกูก็ไม่ว่า”ไอ้ภูร่วมกดดัน

“…อ่ะ ก็ได้”อีกฝ่ายยกขวดน้ำจ่อปาก ผมแอบหยิบโทรศัพท์ออกมาอัดคลิป ไอ้พี่เบลล์สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะกลั้นใจค่อยๆดื่มทีละนิดจนพร่องไปเยอะ พี่เบลล์เบ้หน้าเหมือนจะอ้วก ยกมือกุมคอ ก่อนจะวิ่งไปโก่งคอที่มุมรั้ว ผมเอาคืนอีกนิดหน่อยด้วยการโพสต์คลิปลงเฟสไว้ดูฮาๆ

“กูกลับก่อนนะ อยู่ดึกไม่ได้ เดี๋ยวเมียด่า”ไอ้โต้งยกนาฬิกาดูเวลา

“กลับดีๆนะเว้ย”พี่เบลล์ส่งเสียงอ้อแอตามหลัง ผมเดินไปส่งเพื่อนที่หน้าประตู ดูเหมือนมันยังไม่เมามากเท่าไหร่   ผมรอจนกระทั่งมันขี่รถออกไปแล้วจึงกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะ พี่เบลล์กับไอ้ชัยหายหัวไปแล้ว เหลือแค่ไอ้เนม พี่ปาแล้วก็สองเป้าหมายของผม หึๆ เหมือนจะนั่งจับเจ่าคุยกันเรื่องชีวิตโสดของอีกสองคน

“กูตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะเป็นโสด กูเบื่อ”ไอ้เนมทำหน้าเซ็ง ผมอยากแซวเรื่องไอ้ภู แต่เดาอารมณ์มันไม่ถูกเดี๋ยวมันจะแหกอกผมเอา

“พี่ไม่เปิดใจเองรึเปล่า ผมบอกแล้วไง…มันขึ้นอยู่ที่ตัวพี่”ไอ้ตินผู้รอบรู้ท้วงขึ้นมา

“กูเปิดให้ทุกคนนั่นแหละ แต่มันไม่เจอคนที่ตรงใจกูไง”มันถอนหายใจเฮ้อใหญ่ ผมแอบเหลือบมองไอ้ภูว่ามันทีท่าเป็นยังไง มันก็หันมาสบตาผมเข้าพอดี ดูมันจะอึดอัดอยู่เหมือนกัน

“เมาแล้วเพ้อเจ้อ เข้าไปนอนไป”พี่ปาหิ้วไอ้เนมเข้าไปในบ้าน จึงเหลือผมกับพวกมันสองคน บางทีผมก็เคยสงสัยว่าไอ้นมมันเลิกชอบไอ้ภูได้แล้วจริงๆน่ะเหรอ แต่มันคงพอใจกับสถานะแบบนี้แล้วล่ะมั้ง ผมนั่งเขี่ยหมูในหม้อเงียบๆ บรรยากาศแปลกๆยังไงไม่รู้ เหมือนมีช่องว่างระหว่างช่วงที่ผมโกรธพวกมัน ไม่ใช่ความอึดอัดนะแต่มันเก้อเขินยังไงไม่รู้ 

 “รู้สึกเหมือนเพิ่งจีบมึงใหม่ๆเลยว่ะ”ไอ้ตินพูดเบาๆพร้อมเสียงหัวเราะ

“ได้ข่าวว่าพวกมึงไม่เคยจีบกูเลยนะ”เล่นงานผมแล้วก็มางอแงขอโอกาส

“อยากรู้เหรอว่าเป็นยังไง”

“เออดิ อยากรู้ ไหนลองจีบกูดิ”ผมมองหน้ามันสองคน แต่แปลกที่ไอ้ภูไม่ยอมมองหน้าผมเลย ไอ้ตินยิ้มก่อนจะยกมือขอเวลานอก

“เดี๋ยวมานะ”เหลือผมกับไอ้ภูสองคน แต่มันก็ยังไม่มองหน้าผมเลย มันยังไงๆแล้วนะ

“ทำเป็นเมิน ไหนลองจีบกูซิ”อยากรู้ว่าคนแบบมันจะจีบแบบไหน ผมไม่เชื่อหรอกว่าหน้าแบบมันไม่เคยจีบใคร ผมรอดูท่าทีมันอยู่เงียบๆ จนมันหันมามองหน้าผมจนได้

“คบกับกูนะ”มันทำหน้านิ่ง ผมหัวเราะเสียงดัง

“มึงจีบแบบนี้เหรอวะ”

“เฉพาะกับมึงน่า…”มันทำเสียงฉุนๆกลบเกลื่อนก่อนยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบ แต่มันก็รีบบ้วนทิ้งเพราะผมใส่เหล้าป่าลงไป ไอ้ตินเหมือนไปหาอะไรสักอย่างในรถ 

“มาให้ตรงๆมันก็ออกจะเขินๆนะ”มันกลับมาพร้อมกับดอกกุหลาบเหี่ยวๆหนึ่งดอก

“เอาตรงๆนะ พวกมึงจีบคนอื่นติดได้ยังไงเนี่ย”

“ก็กูหล่อไง”ไอ้ภูตอบอย่างมั่นใจ แต่เอาเข้าจริงๆผมก็ไม่ชินกับการโดนจีบก่อนหรอก นั่งแช่ได้ไม่นานเพราะอากาศเริ่มเย็นและแมลงเริ่มคุกคาม ผมกับมันสองคนเลยต้องช่วยกันเก็บของ ไม่อยากทิ้งไว้ให้แม่ตามเก็บด้วย

“เดี๋ยวกูล้างเอง มึงขึ้นไปนอนไป”ไอ้ตินไล่ เมื่อผมจะเข้าไปช่วยมันล้างจาน

“เอางั้นเหรอ”ทำไมผมต้องรู้สึกเกรงใจพวกมันด้วยวะเนี่ย

“เออ ขึ้นไปนอน”ไอ้ภูทำหน้ามีนัยยะแอบแฝง ผมเลยเลี่ยงขึ้นไปบนห้อง เจอไอ้ชัยกับพี่เบลล์นอนหลับอยู่หน้าทีวี ผมเข้าไปหยิบซอฟเฟลมาฉีดให้พวกมัน กลัวยุงหาม  ผมเข้าไปดูอีกห้องตรวจความเรียบร้อยก่อนจะเข้ามาในห้องของตัวเอง ผมรีบอาบน้ำให้เสร็จเร็วๆเพราะไม่อยากออกมาจ๊ะเอ๋กับพวกมัน

“อาบเสร็จไวจัง”ไอ้ภูโผล่มาระหว่างที่ผมใส่เสื้อกล้ามเสร็จพอดี

“กูหนาว”ตอบเสร็จก็รีบกระโดดขึ้นเตียง มันหัวเราะก่อนจะค้นผ้าเช็ดตัวในกระเป๋าออกมาใช้ มันเข้าไปอาบน้ำได้ไม่นานนักไอ้ตินก็ย่องเข้ามาในห้องพอดี

“มึงกินยาหรือยัง”มันถามเดินมานั่งที่ปลายเตียง

“กินแล้ว”ความจริงยัง แต่ตอบไปแบบนั้นแหละเดี๋ยวมันให้ผมลุกมากิน กำลังนอนสบายๆขี้เกียจลุก

“โม้ ยามึงยังเหลือเท่าเดิมอยู่เลย”มันหยิบแผงยาออกมาดู

“เดี๋ยวแผลไม่แห้งนะมึง”มันโยนแผงยามาให้ ก่อนจะส่งแก้วน้ำตามมาให้

“ทราบแล้วครับพ่อ”ผมรับแก้วน้ำมาจากมัน

“เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหม คำหลังอ่ะ”ผมโบกมือไล่มันก่อนจะกินยา เสียงผิวปากของไอ้ภูแว่วมาก่อนที่ประตูห้องน้ำจะเปิดออก รู้สึกใจหวิวชอบกลที่เห็นกล้ามหน้าท้องของมัน ถึงคราวไอ้ตินเข้าไปอาบน้ำ เหลือผมกับไอ้ภูอีกตามเคย

“ทำมาโชว์”ผมแขวะ ไอ้ภูทำเป็นเดินไปเดินมาไม่ใส่เสื้อซักที

“มีของดีก็ต้องโชว์สิ เป็นไง กูเซ็กซี่ไหม”มันตบซิกแพคของตัวเองเบาๆ

“…ไม่อ่ะ”

“คิดนานนะมึง”มันหัวเราะ เฮ้อ พวกมันนี่เหมือนจะแกล้งผมคืนยังไงก็ไม่รู้ ไอ้ตินอาบน้ำเสร็จก็เดินไปเดินมาเลียนแบบลูกพี่ของมัน ผมตบหมอนให้เข้ารูปก่อนจะดึงผ้าห่มถึงคอ แกล้งทำเป็นนอนหลับ สองหูฟังเสียงมันสองคนแต่งตัวเงียบๆ จนรู้สึกว่าไฟดับลงและเตียงทั้งสองข้างยุบลงตามน้ำหนักของเจ้าตัว ผ่านไปสักพักพวกมันก็ยังคงนิ่งเงียบไม่แสดงท่าทีว่าหื่นแต่อย่างใด หรือว่าพวกมันเหนื่อย

เอ๊ะ หรือพวกมันจะแกล้งผม นี่อุตส่าห์เตรียมตัวพร้อมแล้วนะเนี่ย ผมพลิกตัวนอนหงาย ลืมตามองห้องในความมืดก่อนจะพลิกตัวนอนหงาย ค่อยๆสอดมือลงบนหน้าท้องของทั้งสองคน อยากรู้เหมือนกันว่าพวกมันจะทำฟอร์มได้นานแค่ไหน ผมค่อยๆลูบวนลงต่ำลงทีละนิดก่อนจะวนขึ้นมาที่หน้าท้องเหมือนเดิม ไอ้ภูเริ่มขยับตัวเล็กน้อย ส่วนไอ้ตินยังเป็นพระอิฐพระปูนอยู่ ผมเลยเริ่มวนต่ำอีกครั้ง และก็เป็นไอ้ภูที่ตบะแตกก่อน มันพลิกตัวมาคร่อมจนผมตกใจ   

“ว่าจะแกล้งซักหน่อย”ถึงจะมืดแต่ผมก็ยังเห็นแววตาวิบวับของมัน

“ถ้าลีลามาก เดี๋ยวพวกมึงอดนะ กูจะไปนอนข้างล่างแล้ว”ขู่ไว้ก่อน จู่ๆก็นึกถึงคำพูดของไอ้โต้งเมื่อตอนที่ผมแกล้งอยู่ในห้องน้ำกับมันเลย ไอ้พวกนี้แม่งลีลาชักช้ามากกว่าผมอีก 

 “ก็มึงอยากทำเมินก่อนเองนี่”ไอ้ตินพึมพำเบาๆ ก่อนจะกดจูบเบาๆที่ซอกคอ ไอ้ภูขยับดึงกางเกงผมออกอย่างรวดเร็ว หึๆ คิดถูกจริงๆที่ใส่ตัวนี้ ผมเอือมไปปลดกางเกงของไอ้ตินออกเช่นกัน สะดุ้งเป็นระยะเมื่อถูกริมฝีปากของอีกคนกลืนกิน ถึงแม้จะมืดแต่ผมกลับเห็นสีหน้าของไอ้ตินได้แจ่มชัด เมื่อผมค่อยๆปลุกเร้ามันด้วยปลายลิ้นร้อน มันใช้มือยันหัวเตียงก่อนจะรั้งต้นคอผมเข้าใกล้ ส่งแก่นกายเข้ามาช้าๆ กลิ่นสบู่อ่อนๆแตะจมูก

ผมหลับตาเพื่อปิดการรับรู้ป้องกันอาการเก้อกระดากของตนก่อนจะเริ่มขยับปากช้าๆ ในระหว่างที่ริมฝีปากอุ่นเบื้องล่างยังขยับหยอกล้อไม่หยุดเช่นกัน เสียงครางอือดังเบาๆจากไอ้ติน เมื่อผมลากปลายลิ้นลงต่ำ ผมครางอือในลำคอเมื่อมือหนาข้างล่างขยับรูดรั้งรุนแรงจนต้องเกร็งตัวเขม็ง ไอ้ภูผละออกมาก่อนจะกดจูบหน้าท้องผมแรงๆ ลิ้นอุ่นแยงเข้าไปในสะดือจนเสียววาบไปทั่วท้อง 

“ฟิกวันนี้กูอยากทำพร้อมกันว่ะ”ไอ้ตินพูดหอบๆ พร้อมกัน?หมายถึงอะไรวะ จู่ๆไอ้ภูก็ผละออกไปจากตัวผม และมันกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเจลลื่นๆเย็นๆ แต่ทุกอย่างก็กระเจิงไปจากหัวเมื่อนิ้วมือเย็นๆของไอ้ภูสอดเข้ามานำทางซ้ำๆ ก่อนที่แก่นกายร้อนฉ่าจะค่อยๆดันเข้ามา ผมผละออกมาเมื่อเริ่มจะเมื่อย ไอ้ตินก้มมาขบกัดริมฝีปากล่างแรงๆตามแรงอารมณ์ที่พุ่งสูง สองมือรั้งใบหน้าผมเข้าใกล้ก่อนจะบดจูบย้ำไม่ห่าง ตามมาด้วยลิ้นร้อนกวาดไปรอบโพรงปากอย่างไม่ยอมแพ้กัน   

“อือ ช้าๆดิไอ้เหี้ย”ผมผละออกมาแหวไอ้ภูที่ทำผมจุกหน่วงน้อยๆ ในขณะที่ปลายลิ้นของไอ้ตินยังตามไล้เลียไปทั่วลำคอไม่ห่าง

“อาาา กูเสียวว่ะ”ไอ้ภูพึมพำระหว่างที่จับต้นขาผมแยกห่างก่อนจะโถมตัวเข้ามาเป็นจังหวะหนักหน่วง จนเกิดเสียงดังขึ้นมา

“เชี่ยเบาๆ”ผมครางด่าอย่างว้าวุ้น หลับตาหอบเมื่อไอ้ตินก้มมาดูดยอดอกเบาๆ มืออีกข้างนวดคลึงอยู่ไม่ห่าง ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่นเพราะกลัวจะส่งเสียงดังมากเกินไป ไอ้ภูสอดมือเข้ามาใต้สะโพก รั้งเข้าไปใกล้กระแทกกระทั้นเข้ามาถี่รัวเหมือนห้ามใจไม่อยู่

“ฮื่อ…อ๊ะ ตินมึงจูบกูหน่อยดิ”ผมยันตัวเองด้วยข้อศอก เพื่อรับปลายลิ้นของอีกฝ่าย ผมกัดริมฝีปากล่างของมันแรงครางฮื่อในลำคอเมื่อแก่นกายขยับเข้ามาไม่หยุดจนต้องแอ่นกายรับ

“มึงทำหน้าแบบนี้เซ็กซี่ดีนะ”ไอ้ตินยกยิ้มร้ายกาจ

“ย…อย่าพูดดิ”กูอายยยยยยยย ผมหลบสายตาก่อนจะเอื้อมมือไปกอบกุมแก่นกายของมันอีกครั้ง ผมเผลอกำแน่นอย่างลืมตัวเมื่อไอ้ภูโถมแรงเข้ามาเต็มที่จนมันสูดปากเสียงดังและถอนตัวออกมาปล่อยธารสีขุ่นใส่หน้าท้องของผม

“อาาา”มันขยับมาจูบผมเบาๆ ก่อนทิ้งตัวลงนอนข้างๆ ผมหอบแฮ่กแต่อย่าหวังว่าจะได้พักในเมื่อไอ้ตินยังไม่เสร็จภารกิจ มันขยับเข้ามาสอดแก่นกายอุ่นพรวดเดียว ดันต้นขาผมแนบตัวก่อนจะขยับเข้ามาเน้นๆด้วยแรงอันเหลือเชื่อจนผมสะเทือนไปหมด มันกระแทกเข้ามารัวเร็วจนร้อนผ่าว

“เชี่ยกูเสียว”ผมส่งเสียงอย่างลืมตัว ไอ้ตินยิ้มมอง ผ่อนจังหวะลงช้าๆก่อนจะถอนตัวออกมา ขยับไปยืนที่ปลายเตียงก่อนจะดึงขาผมแรงๆจนตัวผมไถลพรืด และอีกครั้งที่มันใส่เข้ามารวดเดียวพร้อมกับขยับรุนแรงตามอารมณ์ที่อัดอั้นมานาน ริมฝีปากของผมถูกครอบครองอีกครั้งจากอีกคน ผมเกร็งกระตุกครางอืออาในลำคอเมื่อปลดเปลื้องอารมณ์ออกมาเป็นน้ำขุ่น ไอ้ตินครางฮึ่มก่อนจะเบียดเข้ามาจนสุดก่อนที่ความอุ่นวาบจะแผ่เข้ามา

“ฟิก…”ไอ้ตินทำหน้าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา

“อะไร”

“ใส่ให้หน่อย”เหมือนมันเปลี่ยนคำพูดอย่างฉับพลัน ไอ้ตินถอนแก่นกายออกมาก่อนจะหายไปหยิบถุงยางส่งให้ผม ผมมองหน้ามันงงๆว่ามันจะใช้ทำไมตอนนี้ มันยืนมองผมแกะซองเล็กๆด้วยมือที่สั่นน้อยๆอยู่ที่ปลายเตียง   

“มึงไม่เหนื่อยเหรอวะ”ผมพึมพำเมื่อไอ้ภูขยับมาซ้อนด้านหลังพร้อมกับซบหน้าลงบนบ่าของผม รู้สึกได้ชัดเจนว่าน้องภูของมันเริ่มขยายขนาดอีกแล้ว ไอ้พวกหื่นเอ้ย

“มึงเหนื่อยแล้วเหรอ”มันพึมพำถามกลับ มือหนาเลื่อนมาลูบแถวๆหน้าท้องของผม

“ยัง”ผมก็นะ…

“ดีแล้ว มึงไม่ต้องกลัวนะ”แต่ทำไมไอ้ตินมันพูดจาแปลกๆวะ 

“มึงว่าไงนะ”ผมใจเต้นกระหน่ำรัว มันก้มมาดุนปากผมเบาๆพร้อมกับกระซิบ

“กูอยากทำพร้อมๆกัน”ผมกำลังมึนงงว่าไอ้พร้อมๆกันของมันนี่หมายถึงอะไร แต่เมื่อมือหนาของไอ้ภูไล้วนแถวสะโพกของผมก็เริ่มจะเข้าใจลางๆ

“หมายถึงมึงกับมันพร้อมกัน”มันพยักหน้าหงึกหงัก

ไอ้พวกบ้าาา

 “ทำไมมึงไม่บอกก่อนวะ กูจะได้เตรียมตัวเตรียมใจถูก”ผมเริ่มปากคอสั่น เวรแล้ว ทำไมพวกมันต้องมานึกพิเรนทร์ๆตอนนี้ด้วยก็ไม่รู้

“ตกลงเอาไง”ไอ้ภูยังคงลูบเนื้อลูบตัวผมไม่หยุด จะเอายังไงล่ะ ผมเองก็ยังไม่สุด ก็แบบห่างหายกันไปนาน 

“สัญญาว่าจะเบาๆ”

“ถ้ากูเจ็บคือหยุดเข้าใจนะ”ไอ้ตินรีบตอบตกลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกมันจะเริ่มสานต่ออีกครั้ง เจลลื่นๆถูกชโลมอย่างหนัก ผมใจเต้นระรัวทั้งตื่นเต้นและกลัวไปพร้อมๆกัน เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางผมก็ค่อยๆกดตัวลงบนท่อนรักของไอ้ภูช้าๆพยายามไม่หลุดเสียงครางออกมา ก่อนจะเอนตัวทิ้งน้ำหนักไปบนร่างหนาของไอ้ภู ลมหายใจถี่กระชั้นของมันเป่ารดต้นคอ

“ตัวมึงหนักมาก”ไอ้ภูพึมพำ ไอ้บ้านี่…ผมกำลังได้ที่แท้ๆมาอารมณ์หดเพราะคำพูดของมัน ไอ้ภูหัวเราะก่อนจะเอื้อมมาลูบพุงผม อีกมือนวดคลึงยอดอกเบาๆ ผมลืมตามองอีกร่างที่กำลังบีบเจลล่อลื่นด้วยใจเต้นตุบๆ มองจากตรงนี้ไอ้ตินหุ่นดีฉิบ…ผมหลับตาก่อนจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ตัวเองไปด้วย ไอตินค่อยๆสอดนิ้วเข้ามาเบิกทางอีกครั้ง

“เชี่ย มันจะเข้าได้เหรอ”

“ได้สิ”มันตอบเสียงหอบและหื่นมาก

“มึงรีบๆเลยก่อนที่กูจะกลัว”ผมเร่ง ไอ้ตินเลยเปลี่ยนเอาของจริงมาแทน ผมหลับตาแน่นระหว่างที่มันค่อยๆดันเข้ามาช้าๆ ผมยกมือปิดปากตัวเองกลั้นเสียงร้อง เจ็บอยู่เหมือนกันแต่ผมก็สงสารไอ้ตินไม่อยากให้มันค้างคา ผมขยับเข้ามาเป็นครั้งสุดท้าย จนผมรับรู้แรงเต้นตุบๆจากแก่นกายของพวกมันในตัวผม 

“พวกเชี่ย”ผมสบถด่าพวกมันเบาๆเมื่อไอ้ตินเริ่มขยับตัวช้าๆและจากนั้นมันก็เร่งสปีดเต็มที่เพราะเจลล่อลื่นที่มันชะโลมไว้อย่างเยอะ ผมสะดุ้งเป็นระยะเพราะเสียงแผ่นไม้ลั่นเวลาไอ้ตินโถมแรงเข้าใส่ ยิ่งเห็นสีหน้าของมันผมยิ่งเขิน ผมไม่น่านอนหงายเลย ให้ตายเถอะ น่าอายจริง ๆ ส่วนไอ้ภูนอนหอบแฮ่กอยู่ใต้ตัวผม ไม่รู้ว่าเสียวหรือหนักกันแน่ กว่าแต่ล่ะคนจะเสร็จลำบากเหลือทน โดยเฉพาะผม ไอ้ตินถอนตัวอย่างเหนื่อยหอบ ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียง

“หนัก…”ไอ้ภูพึมพำ

“เรื่องของมึง”ผมขยับลุกนั่งก่อนจะลงโทษมันไปอีกยก ดีที่หันหลังให้มันไม่อย่างนั้นผมคงไม่กล้าทำหรอก กว่ามันจะพอใจผมก็เมื่อยไปหมด   

“ฟิกมึงนี่เก่งขึ้นนะ”มันพึมพำเมื่อผมทิ้งตัวลงนอนข้างๆ รู้สึกโล่งสบายอย่างบอกไม่ถูก

“พูดมาก”ผมพึมพำตอบอู้อี้กลับไปเพราะไอ้ตินพลิกตัวมากอด 

“กูชอบ วันหลัง…”ผมเอื้อมมือไปบีบน้องชายมันเต็มแรง จนมันร้องโวยลั่นบ้าน

“พี่จะดังทำไม”ไอ้ตินแหวเสียงดุ

“มันบีบไข่กู เห็นไหม ลูกกูช้ำหมด”มันลุกนั่งประคบประหงมลูกชายมันอยู่ในความมืด  ไอ้ตินถอนหายใจก่อนจะก้มมาจนชิดใบหูของผม

“แต่วันนี้มึงเก่งจริงๆนั่นแหละ”มันผุดรอยยิ้มมุมปาก ผมง้างมือเตรียมบีบน้องชายมันแล้วแต่มันรู้ทันรีบพลิกตัวหันไปอีกด้านทันที

“จำไว้นะพวกมึง…”ผมพูดขึ้นมาหลังจากที่พวกมันนอนเงียบแล้ว ไม่รู้ว่าหลับไปหรือยัง

“ถ้าไม่รัก กูไม่ยอมให้พวกมึงขนาดนี้หรอก”

“ฟิก…”ไอ้ตินพลิกตัวหันมามองผมอีกครั้ง

“ถึงคราวพวกมึงก็อย่ามาร้องล่ะกัน”ผมยิ้มโหดตบท้าย ไอ้ภูหัวเราะเบาๆ

“กูกำลังซึ้งมาขัดซะงั้น กูรักมึงนะ แต่มึงมันชอบทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆของกู”

“อย่ามาตีเสียงเศร้า กูรู้ว่ามึงกำลังกวนตีน”ไอ้ภูมันน่าถีบจริงๆ ในระหว่างที่ใกล้เคลิ้มหลับไอ้ตินก็โน้มมาจุ๊บหน้าผากผมเบาๆเป็นการส่งท้ายคืนอันแสนทรหด

ผมหวังว่าแม่จะไม่ตื่นมากลางดึกนะครับ… 





………………………………………………………………






เพลียว่ะ….

ผมถูกปลุกด้วยเสียงดังบ้านแทบแตก ลืมตาได้ทั้งห้องก็สว่างจ้าและมีเพียงแค่ผมที่นอนอ้าซ่าอยู่บนเตียง แล้วใครมันช่างมาทำเสียงดังเอาตอนนี้วะ

“ทำไมวันนี้เจ้าฟิกมันตื่นสายจัง”ได้ยินเสียงแม่ดังแว่วๆมาจากด้านล่าง

“มัน…แฮ้งน่ะครับ”เสียงไอ้ตินตอบ

“แล้วหลับสบายกันไหม พอดีเมื่อคืนแม่เผลอหลับยาวเลย ไม่ได้ออกมาดูพวกหนู”ดีแล้วล่ะแม่ ไม่อย่างนั้นแม่อาจช็อคได้

“ไม่ค่อยสบายหรอกครับ ผมว่าเมื่อคืนผมเจอผีหลอก”เสียงกวนประสาทของไอ้เนมดังขึ้น ผมยกหัวจากที่นอนทั้งๆที่คิ้วขมวดมุ่นอยู่อย่างนั้น

“ผีเผอมีที่ไหนกันจ๊ะ แม่อยู่มาจะสี่สิบแล้วยังไม่เคยเจอเลย”แม่ดูงุนงง

“แม่ไม่เคยเจอก็ดีแล้วครับ ผมเป็นห่วง”

“มึงเจอผีด้วยเหรอ”พี่ปาถามเสียงหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด

“ฟังจากเสียงผมว่า เจ้ากรรมนายเวรผมนี่แหละ”ไอ้ชัยเสร่อพูดขึ้นมา ผมทนไม่ไหวจึงค่อยๆเลื้อยลงจากเตียง แต่พลาดไปหน่อยจึงหล่นกระแทกพื้นเสียงดัง

“ตื่นแล้วก็ลงมา นอนกินบ้านกินเมืองจริงๆเลยลูกฉัน อายพี่ๆเขาไหม”เสียงบ่นของแม่ยังดังไม่หยุด ผมลูบหน้าลูบตาก่อนจะใช้แรงงัดตัวเองขึ้นมาจากพื้นห้อง ชีวิตของผมช่างน่าสงสาร จะนอนต่อก็ไม่ได้ โดนเสียงไอ้พวกเวรนั่นหลอกหลอนต่อแน่ๆ ลงไปก็ไม่วายโดนล้ออีก

“ไอ้พวกชั่ว”ผมก่นด่าไอ้ภูกับไอ้ตินทันทีเมื่อเห็นร่องรอยจากมรสุมเมื่อคืน ……อึสะดวกไปอีกหลายวันแน่ๆ ผมใช้เวลาอาบน้ำไปนานโข ยังดีที่มีรอยจ้ำจางๆ ไอ้ที่แดงๆอยู่ต่ำลงไปมากกว่า ผมรวบรวมความกล้าลงไปชั้นล่าง เสียงเฮฮาของพวกมันดังอยู่ด้านนอก กลิ่นเผาอะไรสักอย่างลอยมา

หนึ่ง…สอง…สาม

“จ๊ะเอ๋ แม่”ผมโผล่มาอย่างสดใสเท่าที่จะทำได้ และแน่นอนว่าไอ้พวกเวรหันมามองเป็นตาเดียว ส่วนแม่ผมกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเล็กๆกำลังใช้ไม้เขี่ยถ่าน กลิ่นเหม็นไหม้ที่ว่าก็คือกลิ่นเผาข้าวหลามนี่เอง   

“ตื่นสายเชียว เมื่อคืนเมาหนักเลยล่ะสิ”แม่ส่ายหน้าไปมา ผมพยายามไม่มองหน้าไอ้พวกเวรทั้งหลายอย่างแน่วแน่

“ก็นิดหน่อยอ่ะ”

“กูว่าไม่หน่อยแน่ๆ”ไอ้ชัยแทรกมา ผมหันไปมองมันอย่างเกลียดขี้หน้า กูขอถอนคำพูดที่ว่าจะทำตัวดีกับมึง ไอ้ชัย!

“มึงหุบปากไปก็ไม่มีใครว่านะ”ผมเผลอด่ามันเข้าให้ แม่ถึงกับหันมาทำตาดุใส่

“เออ กูกำลังคุยกันอยู่เลย เมื่อคืน…”ไอ้เนมหรี่ตามองผม ที่พยายามปั้นหน้าเต็มที่ ผมนี่อยากมุดดินให้รู้แล้วรู้รอด

“ทำไมวะ”ผมทำหน้าด้านถามกลับ

“ผีหลอก มึงไม่เจอเหรอ”

“ไม่นี่”

“แล้วมึงอ่ะไอ้ภู กูว่ามึงต้องเจอผีอำแน่ๆ”

“ไม่เจอ”เสียงไอ้ภูฟังดูฉุนเฉียว ทำมาอายนะมึง กูอายกว่ามึงอีก ผมสาปแช่งพวกมันอยู่ในใจ

“แม่เข้าไปพักดีกว่า เดี๋ยวผมดูเอง”ผมรีบออกปากเพราะกลัวว่าแม่จะเห็นความผิดปกติทางสีหน้าของผม

“อย่าให้ไหม้ล่ะ เดี๋ยวแม่จะพาไอ้ต้อออกไปเดินเล่น”แม่กำชับก่อนจะผละไปที่กรงหมา ตั้งแต่ไอ้พวกนี้มาแม่ก็ให้มันอยู่ในกรงอย่างเดียวเพราะกลัวมันจะกระโจนใส่คนแปลกหน้า ถึงจะไม่กัดแต่มันแรงเยอะเกรงว่าจะได้แผล ไอ้ต่อเห่าเสียงดังเหมือนดีใจที่ได้ออกไปยืดเส้นยืดสาย ไอ้ชัยเหมือนจะกลัวหมาไซบีเรียนเพราะเห็นมันนั่งเกร็งตอนที่แม่จูงมันออกไป ผมนี่อยากวิ่งเข้าไปกระชากสายจูงแล้วอุ้มใส่มันเลย เมื่อแม่เดินพ้นจากตัวบ้านแล้ว ขุมนรกก็มาเยือนผมทันที

“พวกมึงห้ามแซว”ผมรีบชี้หน้าพวกมันทันที พี่ปากับไอ้พี่เบลล์ทำหน้างงเพราะไม่รู้เรื่อง

“พวกมึงนี่…”ไอ้ชัยทำหน้าหมดคำพูด

“แต่กูเข้าใจนะ ขนาดที่คอนโดกู มึงยังกล้า”แล้วมันก็หัวเราะหึๆ

 “กูเสียใจกับมึงด้วยนะ มีผัวหื่นก็ซวยแบบนี้แหละ”ไอ้เนมพูดเสียงกลั้วหัวเราะ ได้ทีพวกมันก็เอาใหญ่

สัดเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย

“ถ้ามึงไม่เงียบก็เอาฟาดปากพวกมึงแน่”ผมชี้ไปที่กระบอกข้าวหลามที่กำลังโดนไฟเผาดังฉ่าๆ

“ก็แน่ล่ะ เมื่อคืนกินจนอิ่มแล้วนี่”ผมเถียงไม่ออก พูดอะไรไปก็เข้าตัวหมด ผมจึงตัดสินใจนั่งหันหลังให้พวกมันซะ พวกมันเอาคืนที่ผมแกล้งพวกมันสินะ โลกช่างไม่ยุติธรรมกับผมเลย!

 

 

 

TBC.

ในที่สุดดดดดดดดด พวกแกก็ได้กันสักทีเนาะ   :m1:
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  :กอด1:



หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-01-2016 09:38:56
 :haun4:  กรี้ด ในที่สุดก็ DP ฟิกนางเก่งนางเอาอยู่ อ่อ อิ่มข้าวหลามสองกระบอกอะเหรอ ระวังอ้วนนะอย่ากินบ่อยกะทิมันเยอะ
พี่ภูพี่ตินเตรียมมาเต็มที่เลยนะมาง้อเมียคราวนี้เนี่ย   :mew1:  อีพี่ภูทำเขินอะตอนบอกให้จีบแกขอคบเลยจ้ะ นี่บังคับหรือจีบ

ว้ายพี่ชัยกลัวหมาส่วนพี่ปากลัวผี แต่ละคน ขอบคุณคนเขียนมากๆค่ะ รู้สึกเหมือนฝันเป็นจริง ต่อไปก็สู่ขอแล้วสินะเกริ่นมาขนาดนี้แล้ว มีคำผิดนิดหน่อยตรงกลิ่นเหม็นไหม้
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 15-01-2016 09:52:00
 :hao7:
อิจฉาฟิก
อุ้ยยๆ มือลั่นน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Noah ที่ 15-01-2016 09:59:25
ตอนนี้น่ารักกันจุง ชอบให้สวีทกันอย่างงี้อ่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 15-01-2016 11:39:42
ฟิกนางแซ่บนะจ๊ะ
มัดใจสามีเหรอออออ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-01-2016 12:06:36
 :oo1: เจอพร้อมกันทีเดียว  :oo1: :oo1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 15-01-2016 12:40:24
 :z1:  :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 15-01-2016 12:52:02
ทำตัวเองนะฟิก
ใจอ่อนยอมเอง
555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 15-01-2016 13:05:05
ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ

น่าสงสาร 5555555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 15-01-2016 14:04:23
ป๊าก...จัดหนัก  :-[
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 15-01-2016 14:25:47
แซ่บมากบอกเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 15-01-2016 15:06:11
โอ๊ยคุณสามีจัดหนักจัดเต็ม 5555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 15-01-2016 15:14:29
แหม่ๆๆๆ พอดีกันก็  :oo1: เตียงลั่นบ้านสะเทือนกันเลยนะสามหน่อ อิจฉาน้องฟิกจริงๆ ปั๋วล่อ ใหญ่ อึด ถึก หื่น แต่รักฟิกมากกกกกกกกกกกกก จัดหนักจัดเต็ม กันซะจนข้าวหลามที่เผาหอมๆยังร้อนสู้ไม่ได้เลยอ่ะ  :haun4: คนเดียวสองกระบอกเบ้อเริ่ม อิ่มและฟินนานเลยฟิก ข้อดีคือ สะดวกก้นหนูฟิก  :m20:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-01-2016 15:21:46
โดนซะทีนะฟิก  :haun4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 15-01-2016 15:33:45
ดีใจกับฟิกด้วย อ่านตอนนี้ไปเขินไป  :-[
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 15-01-2016 16:33:44
กสดาหสดากสดากสดากสหด
พี่อย่าไปแซวฟิกมันนนนน 555555555555

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-01-2016 17:07:23
อร๊ายยย. หลังจากงอนมานาน โดนจนได้ แพ๊คคู่ด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 15-01-2016 18:09:18
บอกได้คำเดียวว่า ที่สุด
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 15-01-2016 20:02:54
อ๊ายยยย

ง้อกันยังไงเนี่ย
น้องฟิกได้2  จุกเลยมั๊ยคะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 15-01-2016 20:25:50
จัดหนักเลยอ่ะ  :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 15-01-2016 21:06:46
หื่นกันทั้งสามคนเลยย :ling2: :jul1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 15-01-2016 21:08:57
 :-[ หายคิดถึงกันเลยสินะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 16-01-2016 00:23:25
ฟิกน่ารักอ่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 16-01-2016 04:26:10

จัดเต็มกันทั้งสามคน :haun4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 16-01-2016 07:26:28
ยังคงหมั่นไส้ แก๊งเพื่อนภู+ตินอย่างต่อเนื่องงงงงง
อย่ามารุมน้องฟิกชั้นนะ  o18
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 16-01-2016 09:56:37
ฟิกส์อับเลเวลอย่างนี้ทั้งสองคนจะหนีไปไหนรอด
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 16-01-2016 10:12:55
ต่อให้เมียจะโกรธจะงอนแค่ไหน แต่พี่ภูพี่ตินก็ยังไม่ลืมสโลแกนหื่นตัวพ่อของตัวเองจริงๆ เมียให้อภัยปุ๊บจัดหนักปั๊บกันเลยทีเดียว  :z1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 16-01-2016 12:59:15
หนูนี่กรี๊ดเลยค่ะ  :haun4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 16-01-2016 13:15:49
ฟิกอิ่มข้าวหลามไปหลายวันแน่เลย หุหุ
นางแซ่บมาก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 16-01-2016 13:36:34
โถ ไอ้ฟิก รับตัวเองเถอะว่ะ 555555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 16-01-2016 21:48:16
ฟิกแซ่บมากกกก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 16-01-2016 22:18:23
รออ่านตอนนี้ตั้งนาน
สมใจล่ะ
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๑๙] 15-1-59 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 16-01-2016 22:51:31

ฟิกเก่งมากจ้า :o8:
สามีรัก สามีหลง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 21-01-2016 06:54:23
ตอนที่๒๐








“มึงทำเบาๆหน่อยได้ไหมวะ เดี๋ยวห้องข้างๆก็ด่าเอาหรอก”

“มึงนั่นแหละ ทำเสียงดังเอง”

“ก็พวกมึงทำอะไรชักช้าเองนี่หว่า”

“มึงเงียบๆแล้วมาช่วยกูทำดีกว่า”

บทสนทนาข้างบนนี่อย่าคิดลึกไปครับ เพราะที่กำลังบ่นๆกันอยู่นี้ พวกผมกำลังช่วยกันจัดห้องใหม่อยู่ พอดีหลังจากที่กลับมาจากบ้าน ในห้องก็มีแต่ฝุ่นจนผมหงุดหงิดทำความสะอาดห้องใหม่หมด ไปๆมาๆผมเลยมีความคิดอยากรีโนเวทห้องใหม่ก็เลยให้พวกมันช่วยย้ายของออกก่อน มันก็เป็นแบบนี้แหละครับ ตอนแรกผมก็เกรงว่าจะรีโนเวทห้องใหม่ไม่ได้เพราะสัญญาเช่าหอ แต่ผมมารู้ว่าไอ้ตินมันคุยกับทางเจ้าของหอไว้นานแล้ว ก็ตั้งแต่ที่มันตัดสินใจทุบกำแพงห้องออกนั่นล่ะ ก็สรุปว่าซื้อขาดไปตั้งนมนานแล้ว พูดถึงบ้านที่พวกมันคุยกับแม่ผมไว้ก็เหมือนกัน พวกมันอยากให้ผมเรียนจบก่อนค่อยย้ายออกไปพร้อมกันทีเดียว (แหม ซึ้งเลย) แต่ใจจริงผมอยากได้บ้านจัดสรรมากกว่า เพราะสร้างเองค่าใช้จ่ายบานเบอะ แต่เรื่องนี้ไว้ค่อยเถียงกับพวกมันทีหลังก็แล้วกัน ยังมีเวลาอีกตั้งสองปี

“แล้วคิดยังไง อยากรีโนเวทห้อง”ไอ้ตินถามระหว่างที่ยกเสื้อกล้ามเช็ดเหงื่อโชว์พุงให้ผมดู

“เห็นอะไรเดิมๆมันก็เบื่อเป็นธรรมดา”ผมไหวไหล่ประกอบให้ดูกวนประสาท ไอ้ภูที่กำลังปีนเก้าอี้เผื่อเช็ดพัดลมเพดานก้มมองผมทันที

“รวมถึงกูด้วยไหม”มันถามพร้อมรอยยิ้มมุมปาก

“ไม่รู้”ผมทำมึนไม่ตอบคำถามของมันก่อนจะเลื่อนโต๊ะหนังสือมาไว้ที่กลางห้องแทน ตอนนี้ข้าวของทุกอย่างถูกเลื่อนมาไว้ตรงกลางห้องเพราะจะทาสีผนังห้องใหม่ 

“เดี๋ยวกูลงไปยืมลูกกลิ้งกับไม้ต่อก่อน ที่เหลือก็หน้าที่พวกมึงนะ”ผมยิ้มให้สีหน้าเอือมระอาของพวกมันสองคน

“เห็นกูเป็นคนงานก่อสร้างเหรอ”ไอ้ภูบ่นเบาๆพอให้ได้ยิน

“เออ ฝึกไว้จะได้ชิน”ผมรีบออกจากห้องก่อนที่มันจะปากระป๋องแป้งใส่ผม พอออกมาจากห้องปุ๊บก็รู้สึกสดชื่นทันทีเพราะด้านในห้องอับมาก  ระหว่างที่ผมรีบวิ่งตึกๆลงไปที่ห้องเก็บของชั้นล่าง บังเอิญผมเห็นคนรูปร่างคุ้นตาเดินผ่านตรงชานบันไดไป และดูเหมือนมันเองก็จะสังเกตเห็นผมเหมือนกัน เมื่อทั้งผมและร่างนั้นมองหน้ากันก็เหมือนมีของหนักหล่นทับหัวผมจนมึนงง ดันมาเจอคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอน่ะสิ…

…ไอ้เน็ต

ผมทำเหมือนไม่เห็นมันก่อนจะรีบลงบันไดไปชั้นล่างสุด อยู่ๆผมก็กลัวขึ้นมา ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ากลัวเรื่องไหน แต่รู้สึกไม่ดีจริงๆที่เจอมันที่หอเดียวกับผม มันมาหาใคร มันมีเพื่อนอยู่แถวนี้ด้วยเหรอ ผมโคตรจะกังวลเหมือนคนมีชนักติดหลังทั้งๆที่ผมไม่มีความผิดอะไร ผมปัดความคิดวุ่นวายออกไปจากหัวก่อนจะแอบย่องเข้าไปหาของที่ต้องใช้ในห้องเก็บของมืดๆ ที่แม่บ้านหอเอาอุปกรณ์มาเก็บไว้ ระหว่างที่ผมกวาดสายตาหาของที่ต้องการก็ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์แว่วๆ มาจากนอกห้อง

“เออ กูรู้แล้วน่า…นี่กำลังมาดูห้องว่าง อยู่ชั้นสาม…อืม เออ”เสียงนั้นค่อยๆเบาลง ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ทำไมผมต้องมาเจอมันตอนนี้ด้วยก็ไม่รู้ สงสัยยังไม่หมดเวรหมดกรรมกันแน่ๆ ขอให้มันทำเป็นไม่รู้จักผมเถอะ จากที่ฟังมันพูดแว่วๆเมื่อกี้ มันบอกว่าชั้นสาม…ชั้นเดียวกับผมอีก ผมไล่นึกว่ามีห้องไหนว่างบ้าง แต่ก็นึกไม่ออก อยู่มาตั้งนานผมก็ไม่เคยสนหรอกว่าใครจะย้ายเข้าหรือย้ายออก…

ชิบแล้วไง ข้างห้องผมยังว่างอยู่! ผมรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรหาพี่มินเจ้าของห้องคนเก่าทันที แต่อีกฝ่ายไม่รับสายผม รอจนสายตัดไปเองรอบที่สามผมถึงเลิกโทรเพราะไอ้ตินไลน์มาจิกกัดว่าผมหลงทางรึเปล่า

“ชีวิตกูจะสงบสุขบ้างไหมหนอ”ผมพึมพำอย่างระเหี่ยใจก่อนจะคว้าลูกกลิ้งกับไม้ต่อและแปรงทาสีมาจากมุมห้อง ได้ของครบผมก็รีบวิ่งขึ้นไปบนห้องทันที โชคดีที่ทางปลอดโปร่งโล่งสบายไม่เจอไอ้เน็ตอีก

“กูนึกว่ามึงโดนปาดคอหมกห้องเก็บของแล้วซะอีก”ไอ้ตินเปิดฉากแขวะทันทีที่ผมเข้ามาในห้อง

“ห้องมันมืด กูมองไม่ค่อยเห็น แล้วมึงผสมสียัง”ผมเบี่ยงประเด็นไปที่ไอ้ภู เห็นว่าสีน้ำตาลอ่อนที่ผมเลือกถูกผสมน้ำรอเรียบร้อยแล้ว

“กลิ่นฉุนขนาดนี้แล้วยังจะถามอีก”ไอ้ภูปรายตามองก่อนจะส่งหน้ากากอนามัยมาให้

“นี่ถ้าห้องไม่รกนะ จะเปิดประตูทิ้งไว้เลย”ไอ้ตินบ่นเบาๆ เพราะทั้งห้องเหม็นจริงๆ ผมไปเปิดหน้าต่างกับประตูติดระเบียงเพื่อระบายอากาศ พลางคิดว่าจะบอกเรื่องไอ้เน็ตตอนไหนดี ถ้าผมบอกตอนนี้ แน่นอนว่าพวกมันต้องอารมณ์เสีย แล้วคงพาลไม่ช่วยผมทำห้องแน่ๆ ผมเลยกะว่าจะรอให้ทาสีห้องเสร็จก่อนแล้วค่อยบอกพวกมันก็แล้วกัน

“มึงจะทำยังไงมาจัดการซิ”ไอ้ตินดูจะหงุดหงิดงุ่นง่านใจอยู่เอาการ เพราะร้อนและมันไม่ชำนาญเรื่องพวกนี้ซักเท่าไหร่

“เดี๋ยวกูจัดการฝั่งนี้เอง เดี๋ยวพวกมึงทำเละ”ห้องฝั่งไอ้ตินเลือกทาสีชาเขียวอ่อน ๆ ส่วนฝั่งผมทาสีเหลืองนวล ความจริงต้องปรับพื้นที่อีกเยอะ แต่วันนี้แค่ทาสีใหม่ให้เสร็จก็พอ อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง

“มึงเป็นไรทำหน้าตาแปลกๆ”ไอ้ภูก็ดันมาสังเกตผมจนได้

“เปล่านี่”

“โกหกขอให้น้องมึงเล็กลงกว่าเดิม”ไอ้ตินปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเมื่อได้ยิน

“พี่อย่าไปทำร้ายมันสิ แค่นี้มันก็ไม่ค่อยได้ใช้แล้ว”

“มึงก็พูดเกินไป”ไอ้สัด ได้แต่ด่าพวกมันในใจไป ไอ้ภูนอกจากจะไม่ยอมช่วยทาสีให้มันเสร็จๆมันยังมากวนประสาทผมด้วยการนั่งหรี่ตามองเหมือนกำลังจับผิดผม

“เออ กูบอกก็ได้”ผมหันไปมองมันสองคนก่อนจะกระแอมกระไอเรียกความมั่นใจ

“คือเมื่อตอนที่กูลงไปด้านล่างอ่ะ กูเจอ...”ผมเว้นวรรคยาวๆเพื่อแกล้งมันสองคน

“เจอ...”

“เจอ...”

“เจอ...พวกมึงต้องสัญญาว่าจะไม่หงุดหงิดนะ”

“ใครล่ะ บอกมาอย่าชักช้า”ไอ้ภูเริ่มมีน้ำโห

“กูเจอไอ้เน็ต”ไอ้ภูกับไอ้ตินเหลียงมองกันทันที ก่อนจะกลับมาจ้องผมต่อ

“แล้วไงต่อ”ไอ้ตินส่งเสียงมาจากบันไดตัวสูง

 “ก็...ไม่แล้วไง”เหลื่อเชื่อที่พวกมันไม่เดือด

“มึงเห็นพวกกูเป็นคนยังไงเนี่ย มันจะทำอะไรก็เรื่องของมัน ตราบใดที่มันไม่ได้เข้ามายุ่งกับมึง”ไอ้ภูเอานิ้วจิ้มหัวนมผมพอดีเป๊ะ ผมปัดมือมันออกอย่างหงุดหงิด แต่ก็เบาใจขึ้นมาได้เยอะเลย

“อีกอย่างนึง...เพราะกูเชื่อว่ามึงคงไม่โง่กลับไปกินมันอีกรอบหรอก กูเชื่อใจมึง”ไอ้ตินพูดเสียงจริงจัง

“ตอนแรกกูคิดว่าพวกมึงจะโกรธ กูกังวลมากเลยนะเว้ย”ผมพูดออกมาอย่างที่คิด

“มึงเห็นกูเป็นคนไร้เหตุผลขนาดนั้นเลยเหรอ”ไอ้ภูถาม ผมอยากจะบอกว่ามันน่ะตัวดีเลย

“เออ กะจะบอกทีหลังกลัวพวกมึงพาลแล้วไม่ช่วยกูจัดห้อง”

“อ้าว นี่กลัวไม่คนช่วยทำงานว่างั้น”ไอ้ตินทำเสียงตลกๆ แต่จู่ๆไอ้ภูก็ลุกพรวดขึ้นมาจนทั้งผมและไอ้ตินตกใจ

“เดี๋ยวกูมา”มันรีบบุ่มบ่ามออกไปจากห้องทั้งๆที่ใส่กางเกงขาสั้นและเสื้อมอมๆ

“เป็นบ้าอะไรของมันวะ”ผมมองตามหลังไปอย่างนึกสงสัย

“พอจะเดาได้อยู่”ไอ้ตินทำหน้าเหมือนรู้อะไรบางอย่าง

“บอกมา”

“ห้องข้างๆว่างอยู่”ผมเข้าใจได้ในทันที พวกมันก็คงจะคิดเหมือนผม ตอนแรกผมก็กะจะโทรหาพี่มินบังคับขืนวจให้ย้ายกลับมาที่หอเดิม ไอ้ภูหายไปเป็นพักก่อนจะกลับมาด้วยสีหน้าชื่นมื่น

“ห้องข้างๆเป็นของเราแล้ว”มันทำหน้าภูมิใจ

“ลงทุนมาก”ผมยกนิ้วโป้งให้มัน

“เออดิ กูไม่ให้ไอ้จืดนั่นเฉียดใกล้มึงหรอก คราวนี้มันเจ็บหนักกว่าครั้งก่อนแน่นอน”ไอ้ภูทำหน้าจริงจังก่อนจะยกมือมาผลักศีรษะผมเต็มแรง

“มึงก็อย่าเผลออีกล่ะ”มันมิวายจิกกัดผม

“สัญญาเลย ด้วยเกียรติของลูกเสือ”ผมยกนิ้วกลางส่งให้พวกมันก่อนจะกลับมาสนใจงานตรงหน้าต่อ พวกมันเข้าใจแบบนี้ผมดีใจมากจริงๆที่พวกมันไว้ใจผม

“เออ แต่สัปดาห์หน้าคณะกูมีงานว่ะ”ไอ้ภูพูดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่ต่างคนต่างเงียบไปนาน

“งานไร”คณะผมก็มีเหมือนกัน งานเดิม งานแสดงละครของปีหนึ่งเพื่อรับรุ่น ผมต้องเข้าร่วมประชุมด้วยอีก

“Gear Music Contest กูว่าจะสมัครว่ะ ไหนๆก็จะจบแล้ว”มันเป็นงานประกวดวงดนตรีประจำคณะวิศวะ ฟอร์มวงมาแข่งกัน เหมือนจัดคอนเสิร์ต

“แหวะ งานโชว์สาว”หมั่นไส้

“โชว์มึงไง สาวน้อยของกู”มันหัวเราะหึๆ

“เชี่ยภู”ผมคว้าแป้งกระปุกเล็กๆปาใส่ แต่มันหลบได้ทัน เจ้ากระปุกแป้งจึงลอยเคว้งไปกระแทกประตูห้องน้ำเสียงดัง

“เล่นเป็นเด็ก รีบๆทำดิ จะได้เสร็จเร็วๆ”ไอ้ตินบ่นเสียงขุ่น

“มันให้เด็กต่างคณะร่วมวงได้หนึ่งคน มึงสนไหม”ไอ้ภูไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด มันหันไปเชิญชวนศิษย์น้องมันแทน

“ผมเล่นไม่เป็น”ไอ้ตินรีบปฎิเสธแทบจะทันที

 “กูยังเห็นมึงเล่นกีต้าอยู่เลย”

“ผมจับได้แค่คอร์ดพื้นๆ เล่นแก้เบื่อเฉยๆไม่คิดประกวดอะไรหรอก”

“กูจะไปหาใครดีวะ วงยังไม่ครบเลย”เห็นแบบนี้ไอ้ภูวิวัฒนาการไปไกลมาก หมายถึงสมองด้านดนตรี ถ้าเรื่องเรียนผมว่ามันก็ไม่ได้เก่งอะไรมากหรอก จริงๆ!

“ไม่ชวนกูบ้างอ่ะ”ผมเสนอตัว

 “แล้วอย่างมึงทำประโยชน์อะไรได้บ้างล่ะ”มันถามเสียงเนือย

“ผมว่าวงพี่บรรลัยแน่นอน”คำพูดของไอ้ตินทำเอาผมหน้าหงายเหมือนโดนฟาดด้วยกระบอง มาแรงแซงโค้งจริงๆ   เกิดความเงียบอยู่พักใหญ่เพราะผมเถียงไม่ออก ไม่มีอะไรยุติธรรมสำหรับผมเลยครับ เถียงอะไรไม่เคยจะชนะพวกมันจริงๆซักที

“เอาแบบห้องมาดูซิ มึงจะปรับตรงไหนบ้าง”ไอ้ตินลงมาจากบันได ยื่นมือมาขอแบบสเก็ตลวกๆของผม

“ตรงห้องนอนอ่ะ”ผมส่งแบบไปให้มัน ปกติเตียงนอนจะอยู่ที่ฝั่งห้องผม ส่วนฝั่งไอ้ตินจะเอาไว้เก็บของมากกว่า แต่ผมจะปรับใหม่ย้ายเตียงไปไว้ฝั่งห้องมัน จะขึ้นโครงไม้เป็นผนังซุ้มตัวยูขนาดพอดีกับผนังห้อง แล้วติดโป๊ะไฟสีส้มด้านใน

“อยากได้บรรยากาศใหม่ๆเหรอ”ไอ้ภูถาม สีหน้ามีเลศนัย

 “น่าจะใช้เวลานานเหมือนกันนะเนี่ย”ไอ้ตินพึมพำระหว่างที่ดูแบบ ไอ้ภูยื่นหน้าไปดูบ้าง

“เดี๋ยวกูทำซุ้มให้เอง”ไอ้ภูขอโชว์ฝีมือเด็กช่าง มันบอกว่าจะไปทำที่คณะถ้าเสร็จค่อยย้ายมาที่หอ ระหว่างที่กำลังวุ่นวายอยู่ ไอ้ตินมันเสนอให้ย้ายไปนอนที่บ้านมันแทน แต่ไอ้ภูมันไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ มันจะไปค้างบ้านพี่ปาแทน ส่วนผมก็กะจะไปค้างกับไอ้ชาย



(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 21-01-2016 06:55:21




 



หลังจากที่ทาสีผนังห้องเสร็จ ผมกับพวกมันก็ออกไปสูดอากาศด้านนอก ไอ้ตินมันพาไปตลาดต้นไม้เพราะม๊ามันอยากให้มันไปช่วยจัดสวน ส่วนมากมันจะซื้อจำพวกไม้อวบน้ำ มอสแล้วก็พวกแคคตัสจิ๋ว

“สนใจเอาเด็กๆไปเลี้ยงที่หอไหม”ไอ้ตินชี้ไปที่กระบองเพชรพันธ์แอสโตร มิราเคิล ไม่มีหนามแต่มีจุดสีขาวๆเต็มไปหมด

“มันออกดอกด้วยนะ”ไอ้ตินบรรยายสรรพคุณอยู่ข้างๆ

“กูว่ามันคงตายก่อนได้ออกดอกแน่ๆ”ไอ้ภูก้มมองกระบองเพชรใกล้ๆ ด้วยท่าทางเหมือนคนไม่เคยเห็น เห็นราคาแต่ล่ะพันธ์แล้วก็นะ…ความชอบใครความชอบมัน

“ถ้าขนาดกระบองเพชรยังตาย ก็ไม่ต้องทำอะไรกินแล้ว”ไอ้ตินพึมพำมาให้ได้ยิน

“กูอยากได้อันนี้ว่ะ”ไอ้ภูชี้ไปที่กระบองเพชรสีสันสดใส สดใสจริงๆ มีทั้งสีเหลืองสีชมพู พันธ์ยิมโนหัวสี ก็สวยดีแต่คนขายบอกว่าใช้เวลานานกว่าจะมีดอก คนเลี้ยงต้องอดทน ผมกับไอ้ตินมองหน้าสบตากันทันที คนอย่างไอ้ภูนี่…จะทนเลี้ยงได้นานแค่ไหนกัน 

“ผมว่าห้องเรามันอับ เอาพวกพันธ์ไม้ที่ช่วยฟอกอากาศดีไหม”มันเกริ่นๆพอเป็นพิธี แต่สุดท้ายแล้วมันก็เลือกพันธ์ที่มันชอบ ผมกับไอ้ภูก็เออออตามมันไป ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับมันหรอก เห็นมันซื้อต้นลิ้นมังกรกับหางจระเข้มาซะหลายต้น

“แม่กูอยากเลี้ยงหมา กูควรซื้อพันธ์ไหนดี”ไอ้ภูปรึกษาสีหน้าเคร่งเครียดจนผมนึกขำ แต่ก็ดีเหมือนกันมันจะได้ไม่เหงา

“ถ้าพันธ์เล็กๆกูชอบชิวาว่า”ผมว่าน่ารักดี ตาโปนๆหัวเล็กๆ ผมหันไปหาไอ้ภูทันเห็นสีหน้ายี้ของมันเต็มตา

“กูเกลียดหน้ามัน”

“สรุปมึงเลี้ยงเองหรือให้แม่มึงเลี้ยง”ผมสวนกลับ

“เออ เดี๋ยวค่อยคุย”ไอ้ภูผลักให้ผมเดินไปข้างหน้า จนผมเซชนหลังไอ้ตินเต็มเปา

“มาเถียงกันเรื่องหมาๆเนี่ยนะ”ไอ้ตินทำหน้าอ่อนใจ มันซื้อของเยอะแยะไปหมด ซื้อพวกโอ่งดินเผาสำหรับปลูกมอส หินกวด บลาๆ

“เดี๋ยวกูจะไปซ้อมวงก่อนนะ แล้วค่อยเจอกัน”ไอ้ภูรีบบอกเมื่อจ่ายเงินเสร็จแล้ว ผมรู้ทันความคิดของมันทันที มันคงไม่กล้าไปบ้านไอ้ตินกับพวกผมแน่ๆ

“ไม่เอา ไปด้วยกันดิ”

“กูไม่ชินกับบรรยากาศแบบนั้นว่ะ”ผมกับไอ้ตินมองหน้ากันว่าจะเอายังไง ไอ้ภูคงไม่ชินกับการแสดงความรักของป๊ากับม๊าไอ้ตินล่ะมั้ง ขนาดผมยังเคอะๆเขินๆเลย

“แล้วมึงไปกับใครบ้าง”

“เด็กในคณะนั่นแหละ เดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักวันหลัง โอเคไหม”มันรีบพูดดักเมื่อเห็นผมยังไม่เคลียร์

“เออ ถ่ายรูปมาให้กูดูเป็นหลักฐานด้วยนะ”ต้องเนี้ยบไว้ก่อน มันหัวเราะก่อนจะโทรให้เพื่อนมันมารับ

 “รอแป๊ปนึงนะ กูขอดูหน้าเพื่อนมันก่อน”ผมกระซิบเบาๆกับไอ้ติน มันหัวเราะเบาๆก่อนจะยกมือยีหัวผม

“เป็นเอามากนะ”

“กูเจ็บมาเยอะ”

“แน่เหรอ”ผมหุบปากฉับเพราะรู้ว่าเถียงไปก็ไม่มีวันชนะมันหรอก ผ่านไปพักใหญ่ผมก็เห็นรถมอ'ไซต์ที่ถูกปาดเบาะโฉบเฉี่ยวมาจอดที่ริมฟุตบาต

“นี่เพื่อนกูชื่อไอ้เปา”เคยได้ยินแต่ชื่อในที่สุดผมก็ได้เห็นหน้ามันสักที ไอ้เปาเป็นคนอวบๆ ท่าทางเหมือนคนมีอารมณ์ขัน

“ส่วนนี่เมียกูชื่อฟิก”มันชี้มาทางผมที่สะดุ้งทันควันเมื่อได้ยินคำพูดที่ไอ้ภูแนะนำผมให้เพื่อนมัน

“เคยได้ยินอยู่”ไอ้เปาพยักหน้าหงึกๆยกมือทักทายอย่างคนอารมณ์ดี

“วานดูมันด้วยนะ ถ้ามันออกนอกทาง ผมฝากตบหัวมันด้วย”ผมเข้าไปฝากฝั่งกับเพื่อนไอ้ภู

“โห...อันหลังไม่รับปากนะ”มันหัวเราะแห้งๆ

“สบายใจแล้วใช่ไหม นู่น ไอ้ตินรอตั้งนานแล้ว เดี๋ยวเด็กๆของมันไม่สบาย”ไอ้ภูหมายถึงเหล่าแคคตัสจิ๋วและพวกไม้อวบน้ำที่ซื้อมา ผมโบกมือไล่มันก่อนจะเดินไปหาไอ้ตินที่รถ

“เคลียร์ยัง”ไอ้ตินยิ้มล้อเลียน ผมชี้ให้มันไปขับรถก่อนจะรีบมุดเข้าไปนั่งด้านในทันที เปิดเพลงกล่อมไปด้วย

“มึงไม่อยากหัดขับรถบ้างเหรอ”ไอ้ตินทักขึ้นมาหลังจากที่ขับออกมาได้สักพักแล้ว

“กูยังไม่กล้าพอ รอกูมั่นใจกว่านี้ก่อนแล้วค่อยหัด”ผมไม่กล้าขับรถใหญ่หรอก เห็นข่าวสยองๆแล้วผมชอบจินตนาการไปไกล อีกอย่างแม่ก็ไม่อยากให้ผมขับรถด้วยเพราะมันอันตราย ผมยิ่งเป็นพวกมักง่ายอยู่ด้วย

“ถ้ากล้าเมื่อไหร่เดี๋ยวกูสอนให้เอง”ไอ้ตินอาสาเป็นคุณครูให้

“ทำไมเบื่อไปรับไปส่งกูแล้วเหรอ”ผมแกล้งหยอกมันเล่น ไอ้ตินหันมายิ้ม

“เปล่า แค่อยากให้ขับเป็น เผื่อได้รถเป็นของรับขวัญวันแต่งงาน”ผมถึงกับสะดุดกึก มันก็รู้นะว่าผมไม่ชอบให้พูดถึงเรื่องทำนองนี้แล้วยังจะมาแกล้งให้ผมจั้กจี้เล่นอีก

“แล้วมึงคิดไว้หรือยังว่าจบแล้วจะทำอะไร”

“อืม...ไม่รู้สิ ก็ล่องๆลอยๆไปก่อนถ้ามีไอเดียอะไรก็ค่อยทำ”ดูมันจะสบายใจมาก ก็แน่ล่ะ ยังไงบ้านมันก็มีเงินอยู่แล้ว ไม่ต้องทำงานก็ยังได้เลย อิจฉาจริงๆพวกคนมีเงินเนี่ย

“แหม คิดถูกจริงๆที่กูคบกับมึง”ไอ้ตินหัวเราะก่อนจะหันมามองหน้าผม

“เพราะ”

“มึงรวย บ้านไอ้ภูก็รวยไง”ทุกวันนี้ผมแทบจะไม่ต้องใช้เงินตัวเองออกค่าข้าวเลย ยกเว้นจ่ายค่าเทอมและค่าของจุกจิกส่วนตัวของผมนอกนั้นพวกมันใจป้ำ ออกให้ผมหมดเลย ขนาดไอ้ภูให้บัตรเครดิตผมไว้ ผมก็ไม่กล้าใช้หรอก เคยรูดไปซื้อน้ำหอมแค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ เกรงใจพวกมัน

“แค่นั้นจริงๆเหรอ”มันหันมาทำสายตาหวานซึ้งใส่

“เออ มึงมองทางด้วย”ผมชี้ไปยังถนนโชคไม่ดีที่สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีแดงพอดี ทำให้มันมีเวลากวนประสาทผมต่อ

“พักหลังๆมานี้มึงไม่เห็นบอกรักกูบ้างเลย”

“กูเคยพูดด้วยเหรอ”มันจงใจกวนผมแน่ๆ

“เคย ต้องให้รื้อฟื้นไหมว่าตอนไหน”ไอ้วอกเอ๊ย

“จำไม่ได้ว่ะ”ผมมองออกไปนอกรถ มองตรงไหนก็ได้ที่ไม่ใช่หน้ามัน ตอนนี้เงียบไว้ดีที่สุด

“ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเถียงเลยวะ”นี่มึงยังสงสัยอีกเหรอ

“เถียงแล้วไม่ชนะ กูจะเถียงไปทำไม”

“แต่มึงเป็นแบบนี้ก็น่ารักดีนะ”

“มึงกินยาผิดรึเปล่าเนี่ย”ผมมองหน้ามันงงๆ อยู่ๆก็มาพูดจาแปลกๆ

“เดี๋ยวนี้เจอแต่เรื่องเครียดๆก็อยากพูดหวานๆบ้างไง ไม่ชอบเหรอ”

“ไม่”ผมรีบตอบ คือผมไม่ชอบเวลาตัวเองเขินน่ะครับ ถือว่าเป็นโชคดีของผมที่หลังจากนั้นไอ้ตินมันยอมเงียบไปเอง จนเข้าสู่หมู่บ้านจัดสรรที่ผมพอจะคุ้นตาอยู่บ้าง 

“ไม่รู้ว่าจะมีคนอยู่บ้านรึเปล่า”ไอ้ตินพึมพำระหว่างที่จอดรถที่ประตูรั้วใหญ่ มันชะโงกหน้าออกไปมองลอดรั้ว เหมือนจะไม่มีคนอยู่จริงๆเพราะด้านในค่อนข้างเงียบ

“ป้าน้อมไม่อยู่เหรอ”ปกติผมจะเห็นแกอยู่ตลอด

“คงออกไปกับป๋าม๊าล่ะมั้ง…อืม ประตูล็อคจริงๆด้วย”ผมชะเง้อมองไปที่ประตูรั้ว สรุปว่าล็อคกุญแจไว้จริงๆ มันลงไปจากรถพร้อมกุญแจ อย่างที่ผมเคยบอกว่าบ้านไอ้ตินไม่ได้ใหญ่เท่าบ้านไอ้ภู แล้วก็ไม่มีรีโมทเปิดแบบในหนังด้วย สงสัยคนงานที่บ้านมันลาหยุดล่ะมั้ง ถึงไม่มีใครอยู่เลยสักคน ผมมองไอ้ตินไขกุญแจรั้วอยู่นานสองนาน ก่อนจะลงไปบ้างเพราะขี้เกียจนั่งรอ มันกำลังเลื่อนประตูรั้วให้พอมีที่ว่างขับเข้าไป

“ลงมาทำไม”

“เดี๋ยวปิดประตูให้ มึงขับเข้าไปก่อนเลยไป”ผมโบกมือไปมาเหมือนเด็กโบกรถ

“รู้หน้าที่เหมือนกันนี่”มันกลับไปที่รถอีกรอบก่อนจะขับเข้ามา มันเหมือนจะจอดรถรับผม แต่ผมโบกมือให้มันขับเข้าไปเลย ทางเข้าบ้านมันไม่ได้ไกลเป็นโยชน์เหมือนบ้านไอ้ภูเสียหน่อย เลื่อนประตูรั้วเสร็จผมก็เดินมองสวนสองข้างทางของบ้านมัน ดูแล้วจะชอบต้นไม้ ดอกไม้กันทั้งบ้าน สวนที่จะจัดใหม่อยู่ทางซ้ายมือ ฝั่งขวาจะเป็นพวกพันธ์ไม้ที่ชอบแสงแดด มากกว่าฝั่งขวา

“ม๊ากูเรื่องมากเหมือนกันเนอะ”ไอ้ตินบ่นพร้อมกับเข็นรถที่บรรจุพวกอุปกรณ์ทำสวนมาด้วย ผมแอบเห็นด้วยนิดหน่อยเพราะเท่าที่ดูสวนก็สวยอยู่แล้ว

“มึงมาช่วยกูทำบ้านให้มอสพวกนี้ดีกว่า”มันเอากล่องพลาสติกที่บรรจุมอสสีเขียวๆออกมา ส่วนมากผมเป็นลูกมือช่วยมันยกของหนักๆให้มันมากกว่า ได้ทีมันก็ใช้ใหญ่เลย   

“วานขุดหลุมหน่อยได้ไหม กูต้องทำน้ำตกจำลองด้วย”ผมมองไปยังหลุมกระด่อนกระแด่นที่ถูกขุดไว้ลวกๆ

“ที่แท้มึงก็เอากูมาใช้งาน”ผมทำหน้าบูด  ไอ้ภูแม่งรอดตัว ไม่รู้ว่าไหวตัวทันหรือมีซ้อมจริงๆ แต่ผมจำได้ว่าวงดนตรีของมันคนยังไม่ครบเลยนี่ แล้วมันไปซ้อมอะไรของมันวะ

“เปลี่ยนกันไง ทีกูยังช่วยมึงทำห้องเลย จอบกับพลั่วอยู่แถวๆนั้นแหละ หาเองนะ”มันชี้มั่วๆไปแถวๆบ่อที่ขุดไว้  สายตาจับจ้องอยู่กับการทาดินเหนียวบนโอ่งดินเผาเพื่อปลูกมอส ผมเดินไปย่ำๆบนดิน โชคดีที่พื้นที่ตรงนี้เอาไว้ปลูกพวกไม้อวบน้ำอยู่แล้ว ดินเลยไม่แข็งมาก ผมค้นถุงมือมาใส่ ก่อนเริ่มขุดดิน ไม่คิดว่าจะขุดยากขนาดนี้   

“แล้วมึงจะให้ขุดแบบไหนวะ”ผมเท้าเอวถามไอ้คนที่นั่งฮัมเพลงใช้เกรียงเกลี่ยดินเหนียวสบายใจเฉิบ

“แบบอยู่ในกระบะอ่ะ ลองหาดู”คือมันไม่ได้สนใจจะตอบผมเลยครับ ผมไปค้นดู เจอแบบบ่อน้ำพุจริงๆ

“มึงออกแบบเองเหรอ”ผมว่ามันก็พอจะมีหัวด้านนี้เหมือนกัน

“เออ เจ๋งใช่ป่ะ”มันหันมายักคิ้วให้ผมที่ทำหน้าบูดใส่

“เอาน่า ทำไปก่อน เดี๋ยวกูปลูกมอสกับจัดตรงนี้เสร็จแล้วจะไปช่วย”มันส่งยิ้มมาให้ ผมถอนหายใจก่อนจะไปขนอิฐมาวางรอบบ่อเพื่อทำเป็นโครงคร่าวๆก่อน อากาศเริ่มร้อน ผมหงุดหงิดก็เลยถอดเสื้อออกซะเลย คุ้ยหาหนังยางมามัดผมหน้าที่ยาวทิ่มตาอยู่

“เออ กูอยากตัดผมว่ะ”ผมกระทืบดินปึกๆระหว่างที่มองไอ้ตินนั่งจัดวางพวกแคคตัส วางแล้ววางอีก

“กูอยากตัดผมว่ะ”ผมลองพูดอีกครั้ง แต่ดูเหมือนมันจะหมกมุ่นเกินไป

“นี่มึงจะเอาให้เป๊ะเลยเหรอ”สุดท้ายผมก็เริ่มทนไม่ไหว

“ม๊ากูเนี้ยบ”

“อ้างแม่ตลอด”พอกันทั้งไอ้ภู ทั้งไอ้ติน

“กูอยากไว้ผมยาว มึงว่าเวิร์คไหม”คราวนี้ไอ้ตินหันมามองหน้าผมทันที

“พูดใหม่ซิ”

“กูว่าจะไว้ผมยาว”ยังนึกหน้าตัวเองไม่ออกเลย ถ้าไว้แล้วจะเป็นยังไง   

 “ให้โอกาสพูดใหม่”ผมชะงักไปนิดนึง กำลังคิดว่าจะกวนประสาทมันต่อดีไหม ถ้าผมไม่พูดมันต้องคิดว่าผมกลัวมันแน่ๆ แต่ถ้าผมพูด มันจะทำอะไร อันหลังนี่แหละน่ากลัว …แต่โชคเข้าข้างผมอีกแล้วเพราะโทรศัพท์ของมันร้องเสียงดังอยู่ในรถเข็น 

“ฮาโหลครับ อ้อ ผมอยู่บ้าน จัดสวนให้ม๊าอยู่ กลับมาขอรางวัลด้วยนะ ผมขุดดินจนปวดไหล่หมดแล้วเนี่ย”ไอ้ตินหันมาหาผมก่อนจะส่งยิ้มให้ ผมจึงยกนิ้วกลางตอบแทนไป ไม่คิดว่ามันจะกวนประสาทได้ขนาดนี้ ผมหยิบแบบมาดูอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มผสมปูนมาก่อเป็นชั้นน้ำตก เพิ่งรู้ว่าไอ้ตินเป็นคนจุกจิกก็วันนี้แหละเพราะบ่อน้ำตกมันต้องวางตามหลักฮวงจุ้ย บลาๆ กว่าจะถูกใจมันผมก็เฉ่งมันไปหลายรอบ

“มึงนี่เหมือนตาแก่ๆขี้บ่นเลยว่ะ”ผมบ่นระหว่างที่เอาอิฐมาวางเป็นชั้นๆแล้วฉาบปูนตามทีหลัง พยายามทำให้มีรูปร่างเหมือนชั้นน้ำตกให้มากเท่าที่จะทำได้ ส่วนไอ้ตินสวมบทเป็นโฟร์แมนคอยควบคุมและบ่นผม งานใช้แรงงานแบบนี้ผมนึกถึงไอ้ภูเลยว่ะ ว่าแล้วก็โทรหามันซักหน่อย ส่วนไอ้โฟร์แมนจำเป็นก็หายหัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ผมกดวิดีโอคอลไปหาไอ้ภู รอเป็นชาติกว่ามันจะรับ     

“ทำไร”ผมทักเสียงขุ่น เห็นมันนั่งอยู่บนเก้าอี้ในมือถือแผ่นกระดาษอะไรสักอย่าง

[หน้าเป็นตูด ใครทำอะไรมาล่ะ] ไอ้ภูเหมือนพยายามกลั้นขำ

“มึงมาช่วยกูขุดดินเลย”แล้วผมก็เปิดฉากบ่นไอ้ตินให้มันฟังทันที ไอ้ภูนั่งฟังด้วยสีหน้ายิ้มๆ

[กูว่าแล้ว คราวก่อนมันหลอกกูไปขุดดิน] งั้นไอ้ที่กระด่อนกระแด่นเหมือนโดนตัวตุ่นขุดคือฝีมือไอ้ภูงั้นเหรอ

“แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรกนะ”เอ๊ะ หรือว่ามันเอาแม่มาอ้าง แท้จริงแล้วมันอยากจัดสวนใหม่เองรึเปล่า ไอ้ภูหัวเราะ

[เดี๋ยวคุยเสร็จกูจะไปหานะ] มันยื่นปากมาใกล้ๆกับกล้องก่อนจะทำเสียงจุ๊บๆ

“มึง…ปัญญาอ่อน”ได้ยินเสียงหัวเราะและเสียงแซวจากผองเพื่อนแว่วมา

[เขินก็บอกมา]

ไอ้ตินโผล่เข้ามาในกล้อง ผมหันไปมองก็เห็นว่ามันถือแก้วน้ำส้มมาด้วย 

“คั้นมาให้”มันส่งแก้วมาให้ผม

“ห่วงกูด้วยเหรอ ไปดูเด็กๆของมึงนู่นไป”แต่ผมก็รับแก้วน้ำส้มมาอยู่ดี

[ว่าไง มึงใช้งานมันเหรอ] ไอ้ภูชี้นิ้วใส่กล้อง ผมเลยหันโทรศัพท์ไปทางไอ้ตินแทน

“พี่มาช่วยมันด้วยนะ ถ้าไม่อยากเห็นไอ้ฟิกมือด้าน”

[ช่างเถอะ มันด้านอยู่แล้ว] ไอ้ตินหันมามองปฏิกิริยาของผมก่อนจะหัวเราะ ดูเหมือนว่าผมจะพึ่งไอ้ภูไม่ได้เลย!

                “มึงรีบๆมาก็แล้วกัน”

[เดี๋ยว อย่าเพิ่งวาง ฟังกูร้องเพลงก่อน] ผมกดวางสายทันทีเพราะรู้ว่ามันจะทำอะไรพิเรนทร์ๆแน่แล้วมันก็ไลน์มาต่อว่าผม

Phupha – งอน

ผมหลุดหัวเราะออกมา ทำไมไอ้ภูมันทำตัวน่ารักจังวะ ผมกระแอมก่อนจะลุกไปทำชั้นน้ำตกให้เสร็จ ไอ้ตินก็มาช่วยหลังจากนั้น สงสัยกลัวผมจะโกรธ

“หิวรึเปล่า”ไอ้ตินเพิ่งมาถาม

“แสบท้องล่ะ”ผมตบพุงตัวเองให้มันดู

“ฝากพี่ภูซื้อลูกชิ้นมาให้แล้ว เดี๋ยวก็มา”มันหยิบแบบมาดูก่อนจะทำบ่อพักน้ำและต่อท่อน้ำเข้าไปเอง ไอ้ภูมาหลังจากที่ผมกับไอ้ตินปูผ้าใบกันน้ำในบ่อเสร็จ 

“ไม่มาซะตอนกูทำเสร็จแล้วเลยล่ะ”ผมบ่นก่อนจะปรี่ไปหาลูกชิ้นปิ้งก่อนเป็นอย่างแรก ส่วนไอ้ตินยังทำต่อไป

“มึงวางสายก่อน อดฟังกูร้องเพลงเลย”

“ไม่ได้ขอ”

“ไม่รับมุกกูเลย”ไอ้ภูทำหน้าเอือมก่อนจะไปช่วยไอ้ตินขนหินก้อนใหญ่ๆมาวางรอบบ่อและเริ่มเอาต้นไม้มาปลูก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่ชอบน้ำ อย่างพวกเฟิร์นและมอส ไอ้ภูปรับนู่นปรับนี่เสียววุ่นวาย มันบอกว่าผมทำผิดโครงสร้าง   

“ใครจะไปรู้ล่ะ”ตรงไหนฉาบปูนได้ผมก็ฉาบหมดนั่นล่ะ ผมถ่ายรูปตัวเองแบล็คกราวน์มีไอ้สองคนนั่นลงแรงทำงานอยู่ อัพลงเฟสเรียกยอดไลค์สักหน่อย

จอมขวัญ – อย่างกับคุณนายเลยพี่ฟิก

น้ำส้มแทบพุ่งออกจากปาก กำลังจะลบรูปแต่ไม่ทันแล้วเพราะพวกเพื่อนรักทั้งหลายของผมแวะเวียนมาส่งความรักกันไม่ขาด ผมจึงได้แต่ปลง

“ใกล้เสร็จแล้วเหรอ”ผมเดินเข้าไปดูใกล้ๆ พวกมันทดลองเปิดน้ำแล้ว น้ำไหลลงมาตามชั้นน้ำตกอย่างสวยงาม

“หิว…”ไอ้ตินบ่น ส่งสายตามาที่ลูกชิ้นในมือของผม

“อ้าปาก”ผมจิ้มลูกชิ้นส่งให้มัน ส่วนไอ้ภูมายืนอ้าปากรอเหมือนจระเข้อยู่ใกล้ๆ นับวันมันยิ่งน่ากลัว

“ไม่เอาลูกชิ้นปลา”มันห้ามเมื่อเห็นผมกำลังจะจิ้ม แต่ผมสนเสียที่ไหน

“จะกินหรือไม่กิน”ผมจ่อลูกชิ้นปลาไปตรงหน้ามัน สุดท้ายมันจำต้องเคี้ยวลูกชิ้นปลาที่มันไม่ชอบ

“ป้อนอะไรก็งับ ว่าง่ายกันจริงๆ”

“ไม่ใช่แมว”ไอ้ตินสวนมาทันที เดี๋ยวนี้มันเลเวลอัพแล้วจริงๆ!

ตอนเย็นป๊ากับม๊ามันถึงกับทำกับข้าวมื้อใหญ่เลี้ยงพวกผม ผมไปแอบกระซิบถามมาได้ความว่าไอ้ตินมันอยากทำน้ำตกจำลองเอง ไม่เกี่ยวกับม๊าแต่อย่างใด เนื่องจากผมกับพวกมันเสียแรงไปเยอะ อาหารมื้อนั้นก็เลยเหมือนมีแร้งลง

“ตกลงจะค้างที่ไหน บ้านใครบ้านมันเหรอ”ไอ้ตินถามขึ้นมาระหว่างที่กำลังดูละครหลังข่าวสุดแสนดราม่าอยู่ในห้อง 

“กูยังไงก็ได้”ผมไหวไหล่ ก่อนจะหันไปดึงหูไอ้ภู

“แล้วมึงล่ะ ว่าไง”

“ค้างนี่ก็ได้ กูขี้เกียจกลับแล้วเหมือนกัน”มันตอบอย่างว่าง่าย ผมเช็คข่าวในเฟส นอกจากโดนแซวเพราะรูปนั้นก็มีข่าวในกลุ่มของรุ่น

“พรุ่งนี้กูมีประชุม เรื่องแสดงละครนะ”

“มึงยังต้องแสดงอีกเหรอ”ไอ้ตินชะโงกหน้ามาอ่านบ้าง

“อืม รวมพลจิ๊กโก๋รุ่นเก๋า”

“แล้วนี่ใครวะ”ไอ้ภูชี้มาที่เมจเสจที่เด้งมาพอดี ผมกระพริบตามองไอค่อนกลมๆที่เป็นรูปของไอ้เพชรเดือนคณะ ปกติมันไม่เคยจะทักผมมาเลยสักครั้ง

“น้องที่คณะกู”ผมเปิดข้อความอ่าน มันส่งข้อความมาขอให้ผมไปประชุมกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ด้วย เมื่อมันสองคนเห็นว่าไม่มีอะไรมันก็เลิกสนใจ

 “กูยังมีรูปมึงตอนปีหนึ่งอยู่เลย เดี๋ยวทำป้ายไวนิลไปเชียร์นะ”ไอ้ตินเสนอ

“หยุดคิดอะไรพิลึกๆเดี๋ยวนี้”ผมรีบห้าม คิดจริงทำจริงขึ้นมาเดี๋ยวจะซวยเอา

 “กูเริ่มง่วงแล้วว่ะ นอนได้แล้ว ถ้าไม่ฟังระวังกูจะทำอย่างอื่นแทนนะ”ไอ้ภูเข้ามากระซิบพร้อมกับขยำพุงผมเต็มแรง นี่เป็นเพราะคำขู่ของไอ้ภูนะเนี่ย ผมจึงจำต้องเป็นเด็กดีเข้านอนเร็วแต่หัววัน

 

 

 

TBC.

ให้สามหน่อเขาได้กุ๊กกิ๊กกันบ้างเนอะ  :กอด1:

 

 

 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 21-01-2016 07:37:25

ฟิกน่ารักขึ้นเยอะจริงๆ ชอบบรรยากาศสบายๆของ3หน่อ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-01-2016 07:46:24
 :o8:  น่ารักมุ้งมิ้ง  :mew1: 
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 21-01-2016 08:41:23
 :impress2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 21-01-2016 09:54:50
เห็นชื่อเพชรละนึกถึงดราม่าในตอนพิเศษเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 21-01-2016 10:17:20
 :mew2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 21-01-2016 11:20:29
คิดถึงน้องเพชรจริงๆ 5555+
สามหน่อยังน่าติดตามเรื่อยๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 21-01-2016 13:34:27
น่ารักอ่า...
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-01-2016 14:41:20
ตอนนี้เรียบๆสบายๆ กลัวแต่จะมีคลื่นลูกใหญ่มาอีกนะซิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-01-2016 15:33:00
3 คนนี้น่ารักกันจริงๆ น่ารักแบบกวนๆนี่ล่ะ :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-01-2016 15:42:25
ฟิกเสน่ห์แรงอีกแระ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 21-01-2016 15:54:49
มุ่งมิ้งกันมาก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 21-01-2016 17:13:17
มุมสบายๆของสามหน่อจริงๆ
ตอนไม่ตีกันละน่ารักกกกกกกกก
แบบตีกันเล็กๆ รักกันหน่อยๆ ฟินๆปายยย
 :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 21-01-2016 18:17:04
ดูรักกันมุ้งมิ้ง 555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 21-01-2016 19:03:26
ตอนนี้เป็นตอนสบายๆมุ้งมิ้งหน่อยๆ น่ารักจริงๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 21-01-2016 20:37:28
ภู+ฟิก+ติน
เป็นสามคนที่อยู่ด้วยกันแล้วลงตัวที่สุด


สุดๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 21-01-2016 21:13:56
ทำบ่อเองด้วย เริ่ดอ่าาาา  o13
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 21-01-2016 21:43:49
ทำไมตินทำแบบนี้ 55555555555
หลอกฟิกมาขุดดินได้ไง นั่นเมียนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-01-2016 21:50:24
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 22-01-2016 00:17:23

พี่ภูน่ารัก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 22-01-2016 00:27:37
ขอตอนหวานๆนานๆนะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 22-01-2016 09:06:32
ชอบบรรยากาศของทั้ง 3 คนตอนนี้มาก
ดูละมุนละไม รักกันดี  :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 22-01-2016 10:05:27
ชอบโมเมนต์อย่างนี้จัง  :m1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 22-01-2016 22:28:31
ตอนนี้น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: nonnon04 ที่ 22-01-2016 23:33:28
ตอนนี้ดู มุ้งมิ้ง แบบปกติดีจัง  ทุกทีต้องมีเรื่อง อย่างละนิดละหน่อย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: venass09 ที่ 28-01-2016 21:08:26
โถฟิกน่าสงสาร โดนผัวหลอกมาขุดดิน55   :m20:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๐] 21-1-59 P.27
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 28-01-2016 22:45:36
นับวันสามคนนี้มุ้งมิ้งกันซะ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 29-01-2016 04:47:30

ตอนที่๒๑







การรีโนเวทห้องไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าหากว่ามีเวลาว่างไม่พอ ตอนนี้ห้องของผมก็ทำได้แค่ทาสีใหม่เท่านั้น ผมเดาว่าไอ้ภูกับไอ้ตินก็คงกลัวๆเรื่องไอ้เน็ตอยู่เหมือนกันเพราะตั้งแต่วันนั้นมันก็ไม่ให้ผมมานอนที่หอ อ้างว่าห้องยังไม่เสร็จ ผมก็กะจะเกณฑ์พวกเพื่อนๆน้องๆมาช่วยซะเลย จะได้เสร็จเร็วๆ แต่ส่วนมากผมจะไปค้างที่บ้านไอ้ตินมากกว่า ขี้เกียจไปเจอพ่อไอ้ภู ถึงท่านจะไม่ได้ว่าเรื่องที่ผมคบกับไอ้ภู แต่ผมคิดว่าคงไม่ยอมรับผมในเร็วๆนี้แน่ ส่วนไอ้ภูมันไปค้างบ้านไอ้เนม ไม่ก็พี่ปา ค้างบ้านไอ้ตินก็ใช่ว่าจะได้อยู่กับมันตลอดเพราะช่วงนี้มันต้องลงพื้นที่ทำโครงการสำรวจเกษตรพืชไร่อะไรของมันไป 

“กูต้องออกนอกจังหวัด”มันพูดขึ้นมาระหว่างที่ผมกับพวกมันสองคนออกมานั่งรับลมที่สวน ไอ้ตินมันบ้าๆบอๆชอบมานั่งดูน้ำตก
จำลอง เมื่อวานผมกับไอ้ภูไปซื้อปลาคราฟมาเลี้ยง ไอ้ตินมันถึงกับลากเก้าอี้มาดูไอ้พวกปลาเหล่านั้น

“ไปทำไมวะ”ผมเงยหน้ามาจากโน้ตบุค มองคนพูดที่กำลังให้อาหารปลาอยู่

“เมื่อคืนกูก็บอกไปแล้วนะ”มันหันมามองด้วยสายตาตำหนิ

“มันสนใจที่ไหนล่ะ”ไอ้ภูแทรกมา มันกำลังนั่งอ่านโน้ตเพลง เห็นอย่างนี้มันเป็นมือกลองนะครับ

“กูง่วงๆอ่ะ มึงชอบมาพึมพำใกล้ๆหูกู”นึกแล้วจั้กจี้

“กูต้องไปทำโครงการ แล้วสวนที่ว่ามันอยู่นอกเมือง”

“ไปกี่วัน”

“สองวัน”ผมเลิกคิ้วทำตาโต

“งั้นมึงก็ไม่ได้อยู่ฉลองวันเกิดกูอ่ะดิ”วันพรุ่งนี้เป็นวันเกิดผม แต่ความจริงก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากหรอก ปกติผมกับพวกมันเคยสนที่ไหน

“ฉลองย้อนหลังไง”มันกลับมานั่งข้างๆผม พร้อมกับยื่นหน้ามาดูว่าผมทำอะไร

“น้องคนนี้ทักมาอีกล่ะ”ไอ้ตินทำเสียงนิ่งๆ แต่คิ้วของมันเริ่มขมวดเข้าหากัน

“พักนี้ต้องทำงานคณะ ต้องคุยงานกับน้องไง”น้องที่ว่าก็ไอ้เพชรนี่ล่ะ ไอ้ภูหันมามองบ้าง แต่น่าแปลกที่มันไม่ได้พูดอะไร ครั้งที่มันทำท่าทางแบบนี้คือเรื่องไอ้นัท ผมเลยรีบพูดเสริม

“แต่น้องมันก็ไม่ได้อะไรกับกูนะ ไม่ต้องไปคิดมากหรอก”

“ใครคิดมาก ไม่มี”ไอ้ภูทำหน้ากวน

“เออ แล้วกับเพื่อนพี่ภูอ่ะ ไม่ต้องไปคุยบ่อยนะ”ไอ้ตินหรี่ตามองหน้าผม

“ใครวะ”ไอ้ภูรีบถามทันที

“กับพี่ฉัตรกูแค่คุยด้วยเฉยๆ ไม่มีอะไร”แค่คุยเล่น พี่แกตลกดี แต่ผมก็ไม่ได้คุยบ่อยหรอก นานๆที ไอ้ตินมันดันเอาโทรศัพท์ผมไปเล่น ตรงกับช่วงที่พี่ฉัตรทักมาพอดี

“ให้มันจริง รู้ใช่ไหม คราวนี้กูเอาจริงนะ”ไอ้ภูทำเข้มใส่

“ไม่ไว้ใจกูกันแล้วเหรอ”ผมแกล้งทำเสียงอ่อน

“อย่ามา”ไอ้ตินเอามือดันหน้าผากผมแรงๆอย่างนึกหมั่นไส้

“ทำไมหมู่นี้จริตเยอะจังวะฟิก”คำพูดของไอ้ภูทำผมเลือดขึ้นหน้า

“มึงถอนคำพูดเดี๋ยวนี้”ผมปิดโน้ตบุ๊กทันที ไอ้คำที่บอกว่าผมนิสัยเปลี่ยนแบบน่ารักขึ้นยังพอรับได้นะ มาพูดแบบนี้ผมหงุดหงิด

“แค่นี้ทำมาโกรธ”ไอ้ภูยังคงนั่งหัวเราะไม่สะทกสะท้านอะไร

“ก็กูไม่ชอบอ่ะ ถ้ากูพูดบ้างล่ะ”

“คิดว่ากูสนรึไง”เมื่อผมทำอะไรมันไม่ได้ จึงได้แต่ฟึดฟัดอยู่คนเดียว

“กูจะกลับแล้ว”มันสองคนทำหน้าตกใจ

“นี่โกรธจริงๆเหรอ”ไอ้ภูรีบมายืนขวางทางผมทันที

“กูจะไปคณะ เด็กนัดซ้อม”ผมทำหน้าเซ็ง

“ไปด้วย”ไอ้ตินรีบเก็บข้าวเก็บของทันที ไอ้ภูถอนหายใจเหมือนเบื่อหน่าย

“กูฝากดูมันด้วยนะ กูต้องเข้าห้องซ้อมว่ะ”สมัครเองยังจะมาบ่นอีก

“พวกมึงนี่ก็…ใครจะกล้ามายุ่งกับกูวะฮะ เขารู้กันทั้งคณะแล้วว่าพวกมึงเป็นอะไรกับกู แล้วอีกอย่างพวกมึงคิดว่ากูหน้าตาดีมาก
เลยเหรอ คนถึงได้จ้องอยากเอาเป็นสามี”พวกมันสองคนพร้อมใจกันทำหึทันที

“สามี? พูดใหม่ได้นะ”ไอ้ตินหัวเราะหึๆ ก่อนจะตบสะโพกผมเบาๆ

“เจียมตัวซะบ้าง”ไอ้สัด

“คนอื่นกูไม่รู้ แต่มึงน่ะ…บางทีก็ไว้ใจไม่ได้”ไอ้ตินพูดเสียงจริงจังจนผมแอบหวั่น นี่ผมไปทำอะไรให้พวกมันไม่ไว้ใจอีก

“กูไว้ใจไม่ได้ตรงไหน”

“ก็ไอ้ท่าทางเล่นๆของมึงนี่ไง กับพี่ฉัตรกับไอ้ปั้นก็ด้วย ไม่พูดไม่บ่นไม่ได้หมายความว่ากูอนุญาตนะ”ไอ้ตินทำเข้มใส่ผมอีกคน พวกมันจะเอาอะไรกับคนอย่างผมก็ไม่รู้ ก็รู้ทั้งรู้ว่าผมไม่กล้านอกใจพวกมันหรอก

“ทำตัวดีๆล่ะ”ผมเปลี่ยนเรื่องด้วยการหันไปหาเรื่องไอ้ภูแทน ความจริงคนในคณะผมก็รู้จักและชินหน้าไอ้ภูกับไอ้ตินไปแล้ว
ยกเว้นพวกปีหนึ่งหน้าใหม่ๆที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว อันที่จริงไอ้น้องเพชรมันก็มีท่าทีว่าจะชอบผมเหมือนกัน จากการกระทำหลายๆอย่าง ที่ยอมให้ไอ้ตินไปด้วยก็เพื่อให้รู้ว่าผมไม่ว่างแล้ว

“เด็กคนนั้นชื่ออะไรนะ”ดูเหมือนไอ้ตินจะติดใจอยู่ มันถามขึ้นมาระหว่างที่พาผมซิ่งไปคณะ

“ชื่อเพชร เดือนคณะ”ได้ยินมันทำเสียงเหมือนไม่ค่อยชอบออกมา ปกติมันไม่ค่อยแสดงออกหรอกเวลาไม่ปลื้มใคร แต่ครั้งนี้มัน
แสดงท่าทีเยอะเหมือนกัน ทั้งเรื่องพี่ฉัตร แล้วก็ไอ้ปั้น ผมว่ามันต้องมีเรื่องหงุดหงิดถึงได้พาลมาจับผิดเรื่องไม่เป็นเรื่องแน่ๆ

“มึงเป็นอะไรรึเปล่า พักนี้เหมือนมึงอารมณ์ไม่ค่อยดี”ผมยื่นหน้าไปถามใกล้ๆ

“เปล่า”ผมไม่ได้ถามอะไรมันต่อเพราะอารมณ์มันกลับมาตึงๆอีกแล้ว ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรของมัน

“เรื่องของมึง”ถามแล้วไม่ตอบมันน่าโมโห บางทีไอ้ตินนี่ชอบทำตัวน่าหมั่นไส้เหมือนกันนะครับ

“ไม่มีอะไรหรอกน่า”ไอ้ตินถึงกับจอดรถเพื่อหยุดคุยกับผม เสียงรถที่ขี่ผ่านไปผ่านมาเป็นซาวด์ประกอบ

“ช่างเถอะ”ถ้ามันจะยืนยันแบบนั้น ผมจะปล่อยผ่านก็แล้วกัน ไม่อยากมาทะเลาะกับมันอีก บางทีผมก็เหนื่อยที่ต้องมีเรื่องวิ่ง
เข้าหาตลอด ไอ้ตินมองหน้าผมก่อนจะถอนหายใจ

“กูขอโทษล่ะกัน ไม่ได้ตั้งใจจะอารมณ์เสียใส่”

“อืม”ผมตอบแบบไม่ใส่ใจนัก นิสัยเสียบางส่วนของไอ้ตินผมก็พยายามมองข้ามไปก็แล้วกัน เหมือนที่มันมองข้ามข้อเสียของผมได้

ผมมาถึงคณะค่อนข้างเลทไปพอสมควร ดูสีหน้าน้องๆแล้วก็คงอยากบ่นแต่เพราะเป็นผมจึงไม่มีใครกล้าปริปาก ส่วนพี่ปีห้ายังไม่โผล่มาเลย

“มึงนั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนนะ”ผมให้มันนั่งรอที่เก้าอี้ใต้โถงคณะ พวกปีหนึ่งมองมาที่ไอ้ตินด้วยสายตาอยากรู้

“หล่อดีนะน้องมึงอ่ะ”น้ำเสียงมันออกแนวประชดประชันหน่อย ผมมองตามสายตาของมันไปก็พบว่าไอ้เพชรกำลังมองมาทางผม
อยู่ เมื่อสบตากับผมเข้ามันก็ส่งยิ้มมาให้

“กล้าชมคนอื่นหล่อต่อหน้ากูได้ไง”ผมแกล้งทำเสียงเข้มใส่

“เดี๋ยวเตะเลย”ไอ้ตินหลุดหัวเราะก่อนจะผลักให้ผมไปร่วมวงกับน้องๆ

“โทษทีนะน้องๆ พอดีพี่เพิ่งทำธุระเสร็จ”ผมฉีกยิ้มขอโทษขอโพยก่อนจะนั่งตรงเก้าอี้ว่าง

“แน่เหรอ”เสียงลากล้อเลียนดังมาจากไอ้ปลา ไอ้น้องเพชรทำหน้างงๆเหมือนไม่เก็ท

“คือธีมงานก็จะเหมือนเดิม...”บลาๆ ผมนั่งฟังไปก็จะหลับไป พวกมันให้ผมมานั่งฟังรายละเอียดซะส่วนมาก ความจริงจะไม่มาก็ได้แต่ผมอยากทำตัวเป็นรุ่นพี่ที่ดีบ้าง ไหนๆก็มีเด็กในคณะรู้จักเยอะ เผื่อจะเคารพกันบ้าง บางคนนี่แทบเล่นหัวผมเลยแต่ก็ไม่
ค่อยถือเท่าไหร่ตราบใดที่พวกมันไม่ได้ล้ำเส้นมาก

ครืด~

ระหว่างใกล้หลับ เก้าอี้ข้างตัวของผมก็ถูกเลื่อนออก กลิ่นน้ำหอมจางๆลอยแตะจมูก ผมกระพริบตา ก็พบว่าหนุ่มเดือนคณะย้ายมานั่งข้างๆผม ในมือมีสคริปบทละครถือมาด้วย

“ของพี่ครับ”มันเลื่อนมาให้

“ขอบใจมากไอ้น้อง”ผมตบบ่ามันสองสามที สายตาดันเหลือบไปเห็นไอ้ตินกอดอกมองมาที่ผมอยู่ สีหน้ามันดูข้องใจกับการที่ไอ้เพชรย้ายที่มาข้างๆผมอย่างปิดไม่มิด ผมเอามือออกจากบ่ามัน

“แล้วย้ายมานั่งข้างพี่ทำไมเนี่ย”ผมยังไม่ค่อยสนิทสนมกับมันมากเท่าไหร่ ทั้งๆที่ในใจอยากถามว่ามึงมายุ่งกับกูทำไม มันไม่รู้รึไงว่าผมมีแฟนแล้ว และมันก็นั่งส่งสายตาทะมึนๆมากดดันอยู่เป็นระยะ ไอ้ปลามองผมกับน้องเพชรแล้วอ้าปากพะงาบๆว่า 'กูบอกแล้ว' มันเคยเดาๆว่าไอ้น้องเพชรมันปลาบปลื้มผม ก็ไม่รู้ว่ามันตาบอดเห็นกรงจักรเป็นดอกบัวได้ไง

“พอดีตรงนี้ผมต้องเล่นกับพี่ไง”มันชี้มาที่ย่อหน้าหนึ่ง ผมก้มมอง เออ...ทำไมพวกนี้ชอบให้ผมร้องเพลงนักก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เสียงผมเป็ดยังเรียกพ่อ

“อ้อ...”

“พี่พูดกับผมสบายๆก็ได้ ผมไม่ถือ”ไอ้เพชรส่งยิ้มหล่อมาให้ แต่ผมไม่สะเทือนแต่อย่างใด เพราะมันหล่อเพอร์เฟ็คมากไป ผมก็บอกไม่ถูก

“อะแฮ่ม”เสียงกระแอมกระไอดังมาจากผู้ปกครองที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก ไอ้เพชรหันไปมองไอ้ตินก่อนจะยิ้มให้ แต่มันกลับมองเมินเหมือนไม่เห็น ปกติมันไม่เคยแสดงออกชัดเจนขนาดนี้...หรือว่ามันจะไม่ชอบขี้หน้าไอ้น้องเพชรจริงๆ

“ใครเหรอครับพี่ฟิก”มันกระซิบถามใกล้ๆเหมือนกลัวใครได้ยิน จนผมได้กลิ่นน้ำหอมของอีกฝ่ายชัดกว่าเดิม

“ไม่รู้จริงๆเหรอ”ผมมองหน้ามันงงๆ

“ใช่ครับ”มันทำหน้าใสซื่อ ผมมองไปทางไอ้ตินอีกครั้ง มันเลิกคิ้วใส่ผมอย่างหงุดหงิด

“แฟนกูเอง”ผมตอบไปตามตรง ไอ้เพชรดูจะตกใจอยู่ไม่น้อย ผมเห็นมันเงียบไปพักใหญ่

“ทำไมผมไม่เห็นรู้เลย”มันมาทำหน้างงใส่ผมต่อ

“จะไปรู้มึงเหรอ”

“คือ...ผมชอบพี่นะ แบบเป็นไอดอลของผมเลย”ผมอ้าปากค้างน้อยๆ อย่างผมเนี่ยนะ มีคนยึดเป็นไอดอลด้วย

“กูว่าชีวิตมึงแย่แน่เลยว่ะ มึงไปหาคนอื่นเป็นไอดอลเถอะ”พูดไปแล้วก็ขำ

“ผมเห็นคลิปการแสดงของพี่แล้ว ผมเลยชอบพี่ที่กล้าทำอะไรแปลกๆ แถมพี่ยังดูน่าค้นหาด้วย”ผมหลุดขำก๊ากออกมาทันที ไม่
เคยคิดว่าจะมีคนมาพูดอะไรแบบนี้ใส่ผมจริงๆ อย่างผมน่ะเหรอน่าค้นหา...

“กูไม่มีอะไรน่าค้นหาหรอก”ยกเว้นความจัญ--ตุ้ดๆ (เซ็นเซอร์)

“ผมเชื่อว่าพี่มีดี”อืม...ผมมองหน้าไอ้เพชรอย่างพิจารณา ผมว่ามันค่อนข้างกล้ากว่าที่คิดนะ ทั้งๆที่ผมเพิ่งบอกไปว่าไอ้ตินเป็นแฟนผมแต่มันก็ดูไม่สะเทือนอะไรเลย

“มึงจะจีบกูเหรอ”ผมกระซิบถามไปตรงๆ

“...เปล่าครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้น”มันกระแอมกับตัวเองก่อนจะก้มอ่านสคริปต่อ

“ไอ้เพชรมัวแต่คุยกับพี่ฟิก”น้องผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา

“มันคงตื่นเต้นที่ได้เจอไอดอลของมันล่ะมั้ง”เพื่อนไอ้เพชรหันมามองทางผมกับมันขำๆ แต่ผมเริ่มไม่ขำเพราะสถานการณ์ไม่ค่อยดี

“พวกน้องก็ซ้อมไปตามนี้ก็แล้วกันส่วนในของพี่ๆ ไว้ใกล้วันงานค่อยมาซ้อมด้วยกันอีกที พวกแก่ๆมันเซียนแล้ว”ไอ้ปลาแทรก
อย่างรู้งาน ผมเหลือบมองไอ้ตินเป็นระยะแต่มันกลับนั่งมองอย่างอื่นเรื่อยเปื่อย เมื่อจบการพูดคุยผมก็รีบปลีกตัวไปหามันทันที

“เสร็จแล้วเหรอ”มันถามเสียงนิ่ง

“อืม กลับเถอะ”ผมรู้สึกสังหรณ์ไม่ค่อยดี

“รีบทำไม กลัวอะไรรึเปล่า”มันทำหน้าไม่สบอารมณ์

“มึงก็คิดไปเรื่อย”ผมสะกิดแขนให้มันลุกจากเก้าอี้

“เรื่อยยังไง ก็เห็นๆอยู่ว่ามันชอบมึง”

“มันไม่ได้ชอบ”ผมแก้ แต่ไม่ทันขาดคำไอ้เพชรก็เดินเข้ามาใกล้ ไอ้ตินตีหน้ามึนตึงมากกว่าเดิม

“พี่ฟิกกลับยังไงครับ”ไอ้นี่แม่งไม่เห็นเหรอวะว่าไอ้ตินนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้

“กลับกับแฟน”

“สวัสดีครับ”มันหันมาทักไอ้ตินที่จ้องหน้าไอ้เพชรนิ่งๆ ผมเริ่มทำตัวไม่ถูกโล่งอกที่มันยิ้มให้ไอ้เพชรนิดนึง นิดเดียวจริงๆ เหมือนเป็นโรคชักกระตุก

“กลับเถอะ ไม่อยากอยู่นาน แมลงวันเยอะ”มันปัดมือไปมาในอากาศ ไอ้เพชรทำหน้างงๆ ผมรีบใช้โอกาสนี้ชิ่งทันที พอพ้นรัศมีน้องเดือนคณะมาได้ไอ้ตินก็หันมาเล่นงานผมทันที

“หัวเราะคิกคักเชียวนะมึง”

“มึงจะให้กูนั่งหน้าบึ้งเหรอไง ป่ะๆ กลับเถอะ”ผมกลัวมันอาละวาดกลางคณะ อายเด็กๆมัน เดี๋ยวนี้หน้าผมไม่ค่อยด้านเท่าไหร่ ไม่รู้ไปหัดอายมาจากไหน ผมรุนหลังไอ้ตินให้เดินต่อไปที่โรงจอดรถมันหยิบกุญแจออกมาแต่จู่ๆก็ชะงัก

“รถยางรั่วเหรอ”มันก้มดู ก่อนจะยืดตัวขึ้นด้วยสีหน้าหงุดหงิดขีดสุดแบบที่ผมไม่ได้เห็นมานาน

“มีคนกรีดยางรถ มันอยากมีเรื่องรึไง”ไอ้ตินดูปรี๊ดเต็มที่ ผมไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้มาด่อนเลยได้แต่ยืนแลซ้ายแลขวา ไอ้ตินอา
รมณ์ขุ่นแบบนี้ ผมตายแน่

“เห้ย ไม่หรอก ก็แค่ยางรั่ว”พยายามทำให้มันใจเย็น

“มึงตาบอดเหรอฟิก เห็นๆอยู่ว่ามีคนกรีด”

“เออน่า...มึงใจเย็น”

“กูว่าเด็กคณะมึงแน่ๆ”แค่มองตามันผมก็รู้ทันทีว่ามันคิดว่าเป็นฝีมือไอ้เพชร

“ไม่ใช่มันน่าไอ้ติน”

“มึงรู้ได้ไง”

“มันไม่กล้าทำหรอก”ผมขยับขาไปมาอย่างว้าวุ่น

“แค่กูมอง ก็รู้แล้วว่ามันไม่ธรรมดา กูไม่เคยมองคนผิด”ใช่ ไอ้ตินไม่เคยมองคนพลาด ผมเองก็รู้สึกว่าไอ้เพชรดูกล้ากว่ารูปลักษณ์
ภายนอก แต่ผมก็ไม่คิดว่าคนอย่างมันจะมาทำอะไรแบบนี้

“อ้าว อีฟิก เป็นไร”ผมโล่งอกสุดๆ เมื่อไอ้ปลาเดินแกว่งกุญแจรถเข้ามาใกล้

“เออ มึงมาพอดี กูขอยืมรถแป๊ป พอดีรถยางรั่วว่ะ”

“โดนกรีด”ไอ้ตินแทรกมา ไอ้ปลาเห็นว่าไอ้ตินอารมณ์ไม่น่าเข้าใกล้จึงรีบส่งกุญแจรถให้ผม ระหว่างนั้นผมก็ให้ไอ้ตินถอดล้อรถ
ออกมา เพื่อเอาไปให้ที่ร้านซ่อมดู

“เดี๋ยวกูมานะ อย่าเพิ่งหงุดหงิด”ผมรีบบึ่งออกไปร้านซ่อมรถหน้าม.ทันที จะว่าไปท่าทางหงุดหงิดแบบนี้ของมัน...เหมือนเคยเกิด
ขึ้นมาแล้ว...

เมื่อตอนที่มันถูกไอ้เพียวตามจีบ หรือว่ามีคนมาจีบมันเข้าจริงๆ ที่มันหัวเสียขนาดนี้คงเพราะฝ่ายนั้นรุกเข้าหามันมากเกินไปรึเปล่า? คำถามพวกนี้วิ่งวนเข้ามาในใจไม่หยุด ผมว่าต้องใช่แน่ๆ ไอ้ตินเป็นคนที่ชอบเก็บเรื่องบางเรื่องที่จะทำให้ผมคิดมากเอาไว้กับตัว แสดงว่า...มันต้องเจอคนที่ไม่ธรรมดาแน่ๆ

ปิ๊นน

มัวแต่คิดอะไรเพลินๆ จนผมไม่ทันได้มองรถกระบะที่เลี้ยวมาทางซ้ายเลยตัดสินใจหักหลบไปอีกทาง จนเซล้มแบบไม่น่าดูนัก ผมมึนงงอยู่พักใหญ่ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ในชุดสบายๆจะลงมาจากรถเพื่อดูอาการของผม

“เป็นอะไรรึเปล่าน้อง”แค่มองหน้าแว๊บแรก ผมก็ไม่ชอบคนๆนี้เอาเสียเลย ใบหน้าเกลี้ยงเกลา สะอาดสะอ้าน สวมแว่นตากรอบเหลี่ยม และมีรอยยิ้มที่ผมไม่ค่อยชอบนัก

ไอ้นี่มันเสือตัวพ่อเลย เสือรุ่นใหญ่มักจะน่ากลัวเสมอ เพราะพวกนี้สเน่ห์แพรวพราวเลยล่ะ ผมแอบยี้อยู่ลึกๆ

“ไม่เป็นอะไรครับ”ผมปัดเศษดินตามเนื้อตามตัวออก

“ไม่เป็นไรได้ไง มีแผลที่แขนนี่นา”ผมดึงแขนตัวเองออกมาจากฝามือของอีกฝ่าย ไอ้ห่านี่ทำผมขนลุกว่ะครับ ผมเกลียดหน้ามันจริงๆ

“คือผมกำลังรีบอ่ะพี่ รถพี่ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม”ผมกวาดสายตามองรถอีกฝ่ายว่ามีรอยขีดข่วนตรงไหนหรือไม่ ก็พบกับตราประทับอะไรสักอย่างเป็นรูปใบไม้ พอมองชัดๆผมก็เห็นว่าเป็นโลโก้อะไรสักอย่าง 'เจ้าคุณรีสอร์ท'

“ไม่ครับ ห่วงตัวเองเถอะ ไปโรงพยาบาลไหม”

“ผมไม่เป็นอะไรจริงๆครับ กำลังรีบ”ผมยกรถของเพื่อนขึ้นมา ก่อนจะติดเครื่องอีกครั้ง คนที่ขี่ผ่านไปผ่านมาเริ่มมองเพราะมีส่วน
ให้รถติด อีกฝ่ายดูจะรู้ตัวเหมือนกัน

“ถ้ามีอะไรก็ติดต่อพี่ได้นะครับ”มันยื่นนามบัตรมาให้ จะไม่รับก็เสียมารยาท ผมจึงหยิบมาใส่กระเป๋ากางเกง คิดในใจว่าไม่มีทางติดต่อไปแน่ๆ

กว่าจะถึงร้านซ่อมรถไอ้ตินก็โทรมาตามถึงสองรอบ

“พี่ครับ ผมอยากได้ยางแบบนี้อ่ะ”ผมยื่นล้อรถที่เอามาให้ช่างดู

“รีบหน่อยก็ดีนะพี่ เมียผมท้องแก่ใกล้คลอดพอดี”ช่างมองหน้าผมงงๆแต่ก็ไม่ได้ถามต่อรีบเปลี่ยนยางให้อย่างว่าง่าย ระหว่างที่รอช่างเปลี่ยนยางในให้ผมก็โทรหาไอ้พี่เบลล์ทันที เรื่องนี้ผมต้องได้คำตอบ

[ว่าไงคะ] พี่เบลล์รับสายด้วยเสียงชื่นมื่น

“พี่เบลล์ ผมมีเรื่องจะถาม ตอบแบบจริงจังเลยนะ ผมซีเรียส”เป็นครั้งแรกที่ผมใช้โทนเสียงจริงจังกับอีกฝ่าย

[ว่ามาเลย]

“คือพักนี้มีคนมาจีบไอ้ตินใช่ไหม อย่าโกหกผมด้วยนะ”ผมเท้าเอวรอคำตอบไปพลาง

[ก็...]อึกอักแบบนี้ผมว่าใช่

“มันเป็นใคร พี่พอจะรู้ไหม”ผมอยากรู้จริงๆว่าคนที่ทำให้ไอ้ตินมีอาการหัวเสียได้เป็นใคร มันต้องเข้าหาไอ้ตินอย่างหนักแน่ๆ ถ้าเป็นผม ก็คงไม่ชอบเหมือนกัน

[ความจริงแล้วไอ้ตินมันก็เครียด มันไม่อยากให้มึงคิดมาก เพราะมันจะจัดการเรื่องนี้เอง]

“พี่เบลล์ บอกมา”ต้องให้ดุ

[เป็นคนในไร่ที่พวกกูไปทำโครงการ...] โครงการ...ที่ไอ้ตินต้องไปสองวันน่ะเหรอ

[ชื่อเจ้าคุณ มาดเนี้ยบโอเวอร์ทั้งๆที่เป็นเจ้าของไร่ พวกกูยังยี้ แสดงออกชัดเลยว่าอยากได้ไอ้ติน] ผมแทบปาโทรศัพท์ทิ้ง เจ้าคุณ!?ไม่ใช่ว่าผมเจอมันแล้วเหรอ ผมล้วงเอานามบัตรนั่นออกมาอีกครั้ง

“ใช่เจ้าของรีสอร์ทรึเปล่า เจ้าคุณรีสอร์ทอ่ะ”

[เออ นั่นล่ะ]


ผมว่าไอ้ตินเจอศึกหนักแล้วล่ะครับ!










TBC.

ใครจำชื่อเจ้าคุณได้บ้าง 55 ออกในตอนพิเศษของภาคแรก เพชรก็โผล่มาในตอนพิเศษ คืออธิบายนิดหน่อย ตอนพิเศษจากภาคแรก ภาคนี้เราต้องเขียนอธิบายเนื้อเรื่องให้ละเอียดกว่าภาคก่อน ส่วนประเด็นของเพชรจะมีมาเรื่อยๆเอง(คงไม่เอาเหมือนในตอนพิเศษในเล่ม)รวมถึงเน็ตกิ๊กเก่าฟิกด้วย แต่เรื่องคงไม่ดึงนานค่ะ คิดว่าต่อจากนี้โทนเรื่องคงสบายๆ เพราะเราอยากเก็บรายละเอียดที่พลาดไปจากภาคก่อนที่ไม่ได้ลงลึกเรื่องติน และเรื่องครอบครัวของแต่ล่ะฝ่าย และแง่มุมที่ไม่เคยเห็นของทั้งสามคน งานนี้อาจได้เห็นตินดาร์คมากขึ้น และน้องเกรียนออกอาการปกป้องสามี (?)

และเราเองก็ไม่แน่ใจด้วยว่าจะมีกี่ตอน แต่ก็ใกล้ๆจะจบแล้ว อาจสามสิบอัพหรือไม่ถึงก็ได้ แต่เขียนยิงยาวถึงช่วงเรียนจบแล้วของทั้งสามคนด้วย(ก่อนถึงห้าปีของทั้งสามคน) ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามน้า ไม่เคยท้อที่จะเขียนถึงแม้คนจะเม้นไม่มากเท่าแต่ก่อน เขียนเพราะอยากเขียนจริงๆ รักทุกคนเลย ขอบคุณที่ตามอ่านเรื่องไร้สาระนะคะ 55 ถึงวันๆพวกมันสามหน่อจะไม่ค่อยทำอะไรก็ตาม เอ๊ะ วันนี้เวิ่นเว้อมาก  :o

ป.ล.ความจริงตอนนี้จะลงวันเกิดฟิกไปด้วยเลย แต่เดี๋ยวแฮปปี้ไม่สุดเพราะตอนนี้   เลยแยกเลยดีกว่า เจอกันตอนหน้าวันเกิดฟิกน้า (วันที่30) ถ้าขยันอาจเอามาลงประมาณเที่ยงคืนแต่ถ้าไม่ทันจริงๆก็วันที่30สายๆบ่ายๆนะคะ  :กอด1:



หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-01-2016 06:09:40
 :L1:     ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
ฟิกน่ารัก สามคนต่องเผชิญปัญหาอีกแล้วเพราะแมลงวันมันเยอะจริงๆอย่างที่ตินว่านั่นล่ะ
เรื่องเดิมๆเพิ่มเติมคือความเชื่อใจของสามหน่อ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 29-01-2016 07:43:18
 :L1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 29-01-2016 07:55:05
โอ๊ย ฟิกเจอศัตรูจะๆเลยสิน่ะ

555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 29-01-2016 08:06:04
จะทะเลาะกันอีกไหมเนี่ย มีมือที่ 4 เข้ามาแทรกซะงั้น
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 29-01-2016 08:42:42
ใกล้จบแล้วเหรอ อยากอ่านนาน ๆ
ฟิกจะได้หวงสามีอีกแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 29-01-2016 09:15:02
ว่าแต่ฟิกฮอท ตินก็น่าเข้าหาไม่หยอก

หุหุ เซนส์แรงมากฟิก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: kjkjji ที่ 29-01-2016 10:32:02
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าน้องฟิกน่ารักมากกก
แคร์สองสามีเยอะขึ้น มีจริตเยอะขึ้น(จริงๆด้วย 555)
แต่ตินนี่แบบ น่าหมั่นไส้ขึ้นจากภาคแรกเยอะเลยอ่ะ 55555555 พี่ภูก็กลายเป็นหนุ่มมุ้งมิ้งและไร้บทไป
สนุกค่ะ ชอบมาก คนแต่งขยันมาก นี่ตามเรื่องชลเพชรอยู่ด้วย อัพถี่จนกลายเป็นตามอ่านไม่ทันเลย 55555 ทำดีค่ะ ทำต่อไปนะ เราชอบแบบนี้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: tukkata bambola ที่ 29-01-2016 11:23:52
พูดด้วยความสัตย์จริงเลยค่ะว่าหมั่นไส้เจ้าคุณอย่างมาก ณ ตอนนี้
หนูฟิกสู้ๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: ryneyz ที่ 29-01-2016 11:59:46
  :m20: :m20: :m20:

งานช้างแน่ๆพี่ติน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 29-01-2016 12:37:13
 o13 ฟิกน่ารักชะมัดด  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 29-01-2016 14:07:36
งานนี้ฟิกต้องออกโรงเองแล้วล่ะ ผัวข้าใครอย่าแตะ 55
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-01-2016 15:30:59
รอดูฟิกจะจัดการอย่างไน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: sweet98 ที่ 29-01-2016 16:50:41
จะบอกว่าตามอ่านอยู่ค่ะ ชอบเรื่องนี้มาก
เป็นกำลังใจให้นะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 29-01-2016 16:59:52
ฟิก จับมือ เราก็ไม่ชอบพวกเสือรุ่นใหญ่แบบนี้เหมือนกัน
แต่ฟิกใจเย็นขึ้น ฉลาดขึ้นนะเนี้ย(ชมนะชม)
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 29-01-2016 21:00:32

ตินเจอดีเข้าแล้ว555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 29-01-2016 21:50:19
ใครมากรีดยางแวะะะ
หรือเจ้าคุณวางแผนซ้อนแผง กะจะเฉี่ยวฟิก
โอ้ยยย พี่ตินก็เสน่ห์แรงป๊ายยย
อยากรู้ทำไมถึงโมโหอ่า หงุดหงิดอะไร
สงสัยงานนี้ยากละ ฟิกต้องออกโรงจริงจังบ้างแล้ว
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 29-01-2016 22:02:52
ขนาดคนอย่างไอ่พี่ว่าน
ทั้งรัก นับถือ ศรัทธา
ตินยังไม่ยอมเป็นเมียให้เลย

แล้วไอ่เจ้าคุณมันเป็นใคร
ตินถึงจะยอมไปเป็นเมียมัน

จะให้แดกตีนซิไม่ว่า
อย่าให้ตินโหด

ฟิกก็ห่วงเกินไป
ระวังตัวเอง เหอะ
ไอ่น้องเพชรอ่ะ..อย่าเผลอ
พี่ฟิกจะใจอ่อนได้ง่ายๆ
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: bvan ที่ 29-01-2016 22:04:09
ติดตามตลอดจ้ะ ถึงแม้จะมีcommentน้อย แต่ยอดวิวการอ่านผ่านฉลุยนะ แสดงว่าเรื่องนี้ยังคงเจ๋งเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 29-01-2016 22:10:04
เอ๊ เอ๊ะยังไงยังไง หรือจะมี 4 p
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 29-01-2016 22:26:32
กรี๊ดดดดดดก มีคนจะมาจีบพี่ตินเหรอไม่ยอมหรอกนะ ฟิกจัดการไปเลยเจ้าคุณน่ะพี่ตินเป็นของเรา เอ้ย ของฟิกเท่านั้น  o18 ส่วนเรื่องเพชรเห็นชื่อแล้วนึกถึงตอนพิเศษในเล่มเลยร้ายใช่ย่อยจริงๆ แล้วจะมีโยงไปเรื่องดราม่าในเล่มป่าวเนี่ยคุณเดือน ใจไม่ดีแท้
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 29-01-2016 22:26:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-01-2016 22:36:37
555555 ฟิกสัญชาตญานดีขึ้นเรื่อยๆนะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 30-01-2016 02:27:01
ดูเป็นตัวละครที่น่าสนใจ ท่าจะร้าย  :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-01-2016 02:35:06
อีพี่ตินเสน่ห์แรง ตลอดๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๑] 29-1-59 P.28
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 30-01-2016 08:40:25
ฟิกช่างสังเกตคุณสามี ส่วนคุณน้องเพชรเดือนคณะก็ดูร้ายลึกจริงๆแหละ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 30-01-2016 09:41:28

ตอนที่๒๒ HBD TO FIX






ผมกลับไปรับไอ้ตินที่คณะ ใจจริงก็อยากถามมันไอ้เรื่องพี่เจ้าคุณนั่นด้วยแต่ก็ไม่เอาดีกว่า ในเมื่อมันยังไม่อยากให้ผมรู้ ผมก็จะรอให้มันบอกเอง ตามที่คุยกับพี่เบลล์มา มันไม่อยากให้ผมรู้เพราะต้องไปทำงานกับเจ้าคุณอะไรนั่นด้วยสองวัน มันกลัวผมจะคิดมาก ไอ้พี่เบลล์บอกว่ามันจะบอกผมหลังจากที่ทำโครงการเสร็จแล้ว แต่ผมเองก็ไม่ได้ซีเรียสเท่าไหร่เพราะค่อนข้างมั่นใจว่าไอ้ตินคงไม่ชอบไอ้เจ้าคุณนั่นเหมือนกัน มันถึงได้หัวเสียขนาดนั้น

“มึงหิวยัง”ไอ้ตินถามระหว่างที่จอดรถที่ลานจอดรถของหอ สีหน้ามันผ่อนคลายลงบ้างแล้ว มันกำลังสนใจโทรศัพท์ จิ้มๆอะไรสักอย่าง เดาว่าคงรายงานให้ลูกพี่มันรู้เรื่องไอ้เพชรแน่ๆ

“กูอยากกินลูกชิ้น”ผมบอกมันก่อนจะเดินนำไปยังรถที่จอดอยู่หน้าหอ

“เหรอ แต่กูหิวมึงว่ะ”มันกระซิบใกล้ๆ ทำผมร้อนวูบวาบขึ้นมา เถียงไม่ออกเลยได้แต่หุบปากเงียบ ไอ้ตินหัวเราะก่อนจะเลือกลูก
ชิ้นให้ผม

“ป้าครับ ของผมได้หรือยัง”ทั้งผม ทั้งไอ้ตินชะงักกึกเมื่อคนที่โผล่มาคือไอ้เน็ต มันเองก็ดูจะตกใจมากเหมือนกัน มันหลบสายตาของไอ้ติน รีบจ่ายเงินแล้วก็รีบไป

“มันพักอยู่ชั้นไหน….”ไอ้ตินพึมพำเบาๆ ผมได้แต่ตอบมันในใจว่าชั้นเดียวกับกูนี่ล่ะ หลังจากนั้นมันก็เงียบไปไม่ได้พูดอะไรอีก

“แล้วมึงเอารถไปเองเหรอ หรือว่าไปกับเพื่อน”ผมเปลี่ยนเรื่อง

“คณะจะไปส่ง”มันตอบก่อนจะรีบดันหลังให้ผมขึ้นห้อง

“มึงจะรีบอะไรนักหนาเนี่ย”บ่นมันซะหน่อย

“หิว”ผมกำลังจะอ้าปากด่า แต่ดันไปนึกถึงที่มันบอกว่าหิวผมขึ้นมาซะงั้น พอเข้ามาในห้องถึงกับรู้สึกร้อนๆหนาวๆแปลกๆ   

“ฟิก มานี่ดิ๊”มันส่งเสียงเรียกมาจากโซฟา ผมเทลูกชิ้นใส่จานก่อนจะเดินไปหา

“มีไร”ไอ้ตินตบโซฟาข้างตัว

“มีอะไรครับพี่ติน”ผมแกล้งพูดเพราะใส่ ก่อนจะนั่งลงอย่างว่าง่าย แต่สายตาของมันก็พุ่งตรงมาที่ข้อศอกของผมทันที

“มึงไปโดนอะไรมา”

“แค่ถลอกนิดหน่อย ไม่เป็นอะไรหรอก”แต่มันไม่ฟังคำพูดผม รีบเอาพลาสเตอร์มาแปะให้ผม

“แล้วเมื่อกี้มึงจะพูดว่าอะไรนะ”ผมวกกลับมาเรื่องเดิม เดี๋ยวมันจะลืม

“พรุ่งนี้กูคงไม่ได้อยู่ฉลองวันเกิดกับมึง”

“กูไม่ได้คิดมากอะไรหรอก”ก็แค่วันเกิด อายุมากขึ้นก็เท่านั้น ผมไม่ใช่พวกให้ความสนใจอะไรเทือกๆนี้ ขนาดวันครบรอบอะไรนั่น
ผมกับพวกมันยังไม่สนใจจำเลย

“แต่กูมีของขวัญให้”ผมทำหน้าอยากรู้

“แต่ยังไม่ให้ตอนนี้”มันยื่นหน้ามาใกล้ๆ บรรยากาศเริ่มแปลกๆแล้วสิ ผมกระแอมกระไอก่อนจะจิ้มลูกชิ้นส่งให้มันแทน

“บอกแล้วว่าหิว…”มันพึมพำ ส่งสายตาวิบวับมาให้

“วันเกิดกูทั้งที มึงก็ต้องตามใจเจ้าของถึงจะถูกสิ”ไอ้ตินเลิกคิ้วก่อนจะยิ้ม

“กูรู้ว่ามึงคิดอะไร …แต่ยังไม่ได้”มันพูดเสียงจริงจัง

“แล้วเมื่อไหร่จะได้วะ ชาตินี้หรือชาติหน้า”

“เออน่า กูพร้อมตอนไหนก็ตอนนั้นแหละ”มันบอกปัด รั้งเอวผมเข้าใกล้ก่อนจะกระซิบเบาๆ

“ถ้างอน ลงโทษพี่ได้นะ”มันพูดอะไรของมันเนี่ย ผมดึงมือของอีกฝ่ายออก แต่มันกลับรัดแน่นมากกว่าเดิม

“กู…ขออาบน้ำก่อน เหนียวตัว มึงไม่เหม็นเหรอวะ”ผมหาทางรอดอย่างว่องไว

“ไม่นี่”มันส่ายหน้าก่อนจะพิสูจน์ด้วยการยื่นจมูกมาแตะตามซอกคอเป็นการยืนยัน รู้สึกไม่เห็นทางรอด เลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย เสื้อผ้าหลุดไปอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากไล่ขบเม้มไปตามหน้าอกเปลือยเปล่าของอีกฝ่าย ก่อนจะไล่ไปตามแนวลาดไหล่ ไอ้ตินครางพึมพำเบาๆ มือสอดเข้ามานวดคลึงสะโพกของผมไม่หยุด หลังจากที่จูบเย้าหยอกอยู่นาน มันก็เปลี่ยนมากัดยอดอกของผมเบาๆจนร้อนวูบวาบไปทั้งตัว สายตาวิบวับของอีกฝ่ายจ้องมองมาจนผมเริ่มอาย

“มึงหลับตาก่อนดิ”ผมพึมพำบอกเบาๆ ฝามืออุ่นลูบไล้อยู่ตรงหว่างขาของอีกฝ่าย

“ไม่”มันรั้งท้ายทอยผมมาใกล้ก่อนจะดูดเม้มกลีบปากตามแรงอารมณ์ ระหว่างนั้นผมก็ค่อยๆกดสะโพกลงช้าๆ ความแข็งขื่นอุ่นร้อนเคลื่อนผ่านช่องทางอ่อนนุ่ม ไอ้ตินหายใจสะดุดก่อนที่ผมจะเริ่มขยับโยกเป็นจังหวะ สองมือลูบไล้ไปตามร่างกายของผมไม่หยุด ผมฝังเขี้ยวลงที่ซอกคอของอีกฝ่ายก่อนจะกดสะโพกแรงขึ้น จนได้ยินเสียงหอบครางของอีกฝ่าย ผมประกบจูบซ้ำๆบนริมฝีปากของอีกคน เรียวลิ้นสอดเข้ามาอย่างไม่ยอมแพ้ เร่งจังหวะจนร้อนผ่าวไปด้วยกันทั้งคู่

ไอ้ตินกระแทกย้ำเข้ามาเหมือนทนไม่ไหว ผมได้แต่ซบบ่าครางอู้อี้อยู่ใกล้ๆกกหูของมัน มือหนาเลื่อนมากอบกุมรูดรั้งสร้างความทรมานให้ผมไม่รู้จบ ผมขยับตัวให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะกดสะโพกลงไปอย่างหนักหน่วงเมื่อริ้วอารมณ์ใกล้ถึงขีดสุด ไอ้ตินอัดกระแทกเข้ามาสุดแรงก่อนที่จะปลดปล่อยธารอารมณ์เข้ามาในตัวผม

“อ่า…มึงทำกูเลอะหมด”ผมพึมพำเบาๆ ยังไม่กล้าขยับตัวมากเพราะรู้ว่ามันยังไม่อิ่ม

“ต่ออีกหน่อยนะ”มันยิ้ม ก่อนจะพาผมไปจบที่เตียงทั้งๆที่เบื้องล่างยังเชื่อมต่อกันอยู่ ผมเสียววูบในช่องท้อง ก่อนที่ไอ้ตินจะวางผมลงบนเตียง ทุกอย่างก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง

“อือ อ่า”ผมหลุดเสียงครางเป็นระยะเมื่ออีกฝ่ายขยับแทรกเข้ามาถูกจุด ก่อนที่มันจะเริ่มโถมตัวย้ำซ้ำๆ ผมเบียดตัวเข้าหาอย่างไม่ยอมแพ้ ไอ้ตินซับจูบไปตามยอดอก ขบเม้มจนผมบิดพล่านเพราะเริ่มทนไม่ไหว ไม่รู้ว่าผมกับมันทำเสียงดังแค่ไหน แต่วินาทีนั้นใครจะสนกันล่ะ ผมสวนสะโพกกลับจนเกิดเสียงเนื้อแน่นเสียดสีกัน ไอ้ตินขยับเน้นๆอีกสองสามครั้งก่อนที่คลื่นอารมณ์จะถูกปลดปล่อยออกมา   

“มึงเหนื่อยยัง”ไอ้ตินกระซิบถามเบาๆ โรคหื่นกำเริบอีกแล้วแน่ๆ!




****************************************************************





ช่วงเย็นๆไอ้ตินก็เริ่มเก็บของ ผมอยากจะพูดเรื่องไอ้เจ้าคุณ แต่ก็เปลี่ยนใจไม่พูดถึงดีกว่า เดี๋ยวมันจะคิดว่าผมคิดมาก 

“เดี๋ยวกูต้องเข้าไปคุยกับอาจารย์ที่คณะ กูไม่อยากให้มึงอยู่หอคนเดียว”มันพูดระหว่างที่ยัดรูปเล่มโครงงานลงกระเป๋า

“ห่วงอะไรไม่เข้าเรื่อง”

“พี่ภูอยู่ที่คณะเหมือนกัน กำลังทำโครงซุ้มที่มึงอยากได้ เดี๋ยวกูไปส่ง”มันนัดแนะให้เสร็จสรรพ ผมไม่ได้ต่อล้อต่อเถียง ถ้าทำให้
มันสบายใจผมก็ยอม ตึงโป๊ะ นางเอกจริงๆเลยกูเนี่ย

“จ้าพ่อ”ไอ้ตินหันมามองผมทันที

“เปลี่ยนจากพ่อเป็นอย่างอื่นไม่ได้เหรอ”มันอ้าปากพะงาบๆเป็นคำต้องห้าม

“รอชาติหน้าเถอะ”ผมยืนมองมันเก็บของ ตัดสินใจเข้าไปกอดมันหลวมๆก่อนจะดูดเม้มที่ซอกคอมันแรงๆจนมันเอียงคอหนี

“เชี่ย ทำอะไรของมึงเนี่ยฟิก”

“กูรู้ว่ามึงเสียว”ผมหัวเราะหึๆใส่หูมันก่อนจะผละออกมา

“เดี๋ยวจะโดน”มันชี้หน้าผมก่อนจะเช็ดน้ำลายผมออก ทำสีหน้าขยะแขยงได้อย่างน่าถีบ รู้สึกว่ามันได้เชื้อไอ้ภูมาเยอะเหมือนกัน
ขอแค่อย่ากลายสภาพเป็นคนกวนไม้กวนมือแบบไอ้ภูก็พอ ไม่อย่างนั้นผมคงรับมือสู้รบด้วยไม่ไหว

“กูไปรอด้านล่างนะ”ผมปล่อยให้มันจัดการตัวเองต่อไป ไฟแรงจริงๆลวนลามนิดหน่อยอาการหื่นกำเริบ ความจริงก็ไม่ได้อยากทำรอยเอาไว้หรอก ผมก็ไม่ชอบให้คนมองแปลกๆ แต่ผมทำเผื่อไอ้เจ้าคุณมันจะมาด้วย ให้มันรู้ซะบ้างว่าไอ้ตินมีเจ้าของแล้ว
ระหว่างนั้นที่รอไอ้ตินผมก็กะจะป่วนไอ้ภูสักหน่อย

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”ผมสะดุ้งเงยหน้ามาจากโทรศัพท์ก็เจอกับไอ้เน็ต ดูเหมือนว่ามันกำลังจะออกไปข้างนอก ผมมองมันอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนจะกลับมาสนใจโทรศัพท์ต่อ

“สงสัยจะทำเวรทำกรรมมาด้วยกันเยอะ ไม่นึกว่าจะอยู่หอเดียวกัน”ไอ้เน็ตยังคงพล่ามต่อไป

“กูก็ว่างั้น”ผมเองก็ลืมทำบุญไปให้มันด้วยสิ

“ทำเหมือนไม่อยากคุยกับเราเลยนะ”มันยังคงหน่อมแน้มเหมือนเดิม ผมเก็บโทรศัพท์ก่อนจะจ้องมันตรงๆ

“แล้วมีอะไรให้ต้องคุยอีกล่ะ กูกับมึงอย่ามารู้จักกันเลยว่ะ ถือว่ากูขอ”

“กลัวทะเลาะกับแฟนหรือไง”มันยกยิ้มแบบไม่หวังดีนัก

“มึงมีอะไรกับแฟนกู”ไอ้ตินลงมาพอดี มันใช้น้ำเสียงไม่พอใจอย่างชัดเจน ไอ้เน็ตถอยห่าง

“เปล่า แค่ทักประสาคนเคยรู้จัก”มันมองหน้าผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินไปยังรถของตัวเอง

“สงสัยมันอยากเจอดีอีก”ไอ้ตินพึมพำสายตายังจับจ้องอยู่ที่ไอ้เน็ต

“ช่างหัวมันเถอะ อย่าอารมณ์เสียเพราะคนอย่างมันเลย”ไอ้ตินเลิกสนใจไอ้เน็ตก่อนจะไปส่งผมที่คณะวิศวะ ถึงจะเย็นแล้ว แต่คณะมันก็ยังมีคนเพ่นพ่านเต็มไปหมด โดยเฉพาะเด็กปีหนึ่งห้อยป้ายใหญ่ๆ

“ทำตัวดีๆนะ”ผมตบบ่าไอ้ติน มันทำหน้าเอือมๆ

“บอกตัวเองเถอะ”ผมรอจนมันขี่รถออกไป ก่อนจะไปหาไอ้ภูที่อาคารปฏิบัติการเครื่องกล ได้ยินเสียงพูดคุยแว่วๆมา ผมแอบย่องไปเงียบๆ

“พี่ฟิกมาทำอะไรลับๆล่อๆตรงนี้”เสียงกลั้นขำดังจากด้านหลัง ผมหันไปเจอไอ้ปั้นยืนมองผมอยู่ ผมรีบทำไม้ทำมือให้มันเงียบ

“ยังจับผิดพี่ภูอีกเหรอ”มันกระซิบตามผม

“เปล่า แค่อยากให้มันตกใจเล่น”ผมพยายามเงียหูฟังว่าด้านในคุยอะไรกัน แต่ก็มีเพียงเสียงหัวเราะที่ดังลอดออกมาเท่านั้น

“พี่นี่แปลกนะ ผมไปก่อนนะ ไว้เจอกันครับ”ไอ้ปั้นโบกมือลา ผมพยักหน้าให้มันส่งๆก่อนจะค่อยๆเคลื่อนเข้าไปใกล้

“มึงส่งตะปูให้กูทีซิ”เสียงไอ้ภูแว่วออกมา ตั้งใจทำงานจริงๆ อย่างนี้ต้องให้รางวัล

“ใช่กูจัง”เสียงแบบนี้พี่ฉัตรนี่หว่า

“กูกับใคร เดี๋ยวกูเตะกระเด็น”

“หู้ว งานคณะไม่เห็นตั้งใจแบบนี้เลย เรื่องเมียนี่ขยันจริงๆ”

“แน่นอน เมียจะได้รักจะได้หลง”ไอ้ห่าภู พูดอะไรของมัน แต่ผมดันเขินซะงั้น

“ขยันทำแต้มบ่อยเปล่า”มันเริ่มลามมาเรื่องใต้สะดือ ผมกำมือรอฟังว่าไอ้ภูจะพูดรึเปล่า ถ้ามันแย้มปากล่ะก็…ผมเล่นงานมันแน่

“เรื่องผัวเมียอย่ายุ่ง”ผมขี้เกียจทำลับๆล่อๆ จึงโผล่เข้าไปด้วยสีหน้าแช่มชื่น ไอ้ภูนั่งอยู่กับพื้นปูน ในมือถือสว่านที่ส่งเสียงดังอยู่

“อ้าว มาได้ไง”ไอ้ภูทำหน้างง วางของในมือลงก่อนจะเดินมาหาผม ผมกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อดูว่ามีใครบ้าง มีพี่ฉัตร ไอ้พี่เปา
แล้วก็คนชื่อกรเพื่อนไอ้ภูนี่ล่ะ แต่ผมไม่เคยเจอจะๆมาก่อน

“คิดถึงไงเลยมา”ตอบเอาใจมันไปแบบนั้นแหละ ทันเห็นมันยิ้มชอบใจอยู่แว๊บนึง

“นี่เพื่อนกูเอง มึงคงรู้จักหมดแล้วมั้ง ไอ้นั่นชื่อกร”มันชี้ไปที่ไอ้คนที่นั่งกินมาม่าอยู่ที่เก้าอี้ตรงโต๊ะ ด้านในมีเครื่องยนต์ที่ถอดซากไว้ระเกะระกะไปหมด

“ส่วนนี่…”ผมมองหน้าไอ้ภู หวังว่ามันจะแนะนำผมดีๆนะ

“สุดที่รักของกูเอง”อี๋ เสียงแซวดังก้องไปหมด ผมหยิกเอวมันแรงๆก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งตรงจุดที่มันกำลังทำโครงซุ้มอยู่

“ใกล้เสร็จยัง”ผมหยิบแบบที่วางอยู่บนพื้นมาดู

“ใกล้แล้ว เจาะรูอีกหน่อยก็โอเคแล้ว”ไอ้ภูยื่นหน้ามาดูใกล้ๆ ได้กลิ่นน้ำหอมจางๆผสมกลิ่นน้ำมันลอยมา ก็น้ำหอมที่ผมเคยซื้อให้มันเมื่อนานมาแล้วนั่นแหละ

“มึงไปซื้อน้ำมาให้กูหน่อยดิ”ไอ้ภูถือโอกาสใช้เพื่อนมัน เห็นมันกระซิบอะไรกับเพื่อนสักอย่าง แล้วมันก็กลับมาด้วยสีหน้าอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ผมไม่อยากนั่งอยู่เฉยๆ เลยลงมือช่วยมันเจาะรู

“มึงต้องทำงานอะไรต่อไหม”ผมถามระหว่างที่กวาดตามองไปรอบๆ เห็นยังมีพวกเพื่อนมันบางคนกำลังทำงานอยู่

“ไม่มี”ไอ้ภูพลางใช้แขนเสื้อช็อปเช็ดเหงื่อ อยากบอกว่าเสื้อช็อปมันเละมาก เปื้อนคราบเขม่าดำๆกันทุกคน  ไม่รู้ทนใส่ไปได้ไง ไอ้พี่กรกลับมาพร้อมกับถุงขนมและน้ำเต็มไปหมด อย่าบอกนะว่ามันใช้เพื่อนมันซื้อของกินมาให้ผม พี่ฉัตรส่งสายตาล้อเลียนมาให้ 

“อะแฮ่ม”ไอ้ภูกระแอมแทรกมา มันมองหน้าพี่ฉัตรก่อนจะหันมาหาผม

“กูซื้อมาให้มึงโดยเฉพาะ”มันยื่นขวดเครื่องดื่มชูกำลังมาให้ผม

“กูจะกินไปทำไม…”พูดจบผมก็นึกออกทันทีว่ามันต้องการจะสื่ออะไร

“ฉลองวันเกิดมึงไง”มันส่งสายตากามๆมาให้

“ตลกแล้ว”ผมตอบปัด รู้สึกร้อนขึ้นมาทันที ไอ้ภูหัวเราะหึ  ก่อนจะแกะขนมปังส่งให้

“กูกินเองได้น่า”มาทำแบบนี้ใส่ผมทำไมวะเนี่ย เห็นพวกเพื่อนๆมันเหมือนพยายามทำเป็นไม่เห็นฉากนี้ สู้รบกับไอ้ภูอยู่นานผมก็ต้องยอมให้มันยัดขนมปังเข้าปากให้ ไม่อย่างนั้นมันคงเข้ามาบีบปากบังคับแน่ๆ มันยิ่งบ้าๆซาดิสก์ๆอยู่

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 30-01-2016 09:41:53
ผมคลุกอยู่กับพวกมันจนฟ้ามืด ส่วนมากไอ้พวกนี้สายฮา บ้าเถื่อนทั้งนั้น พูดจาตรงๆเสียจนผมหน้าร้อนไปหลายรอบ เข้าใจเลยว่าทำไมไอ้ภูถึงได้หน้าด้านนัก จนสุดท้ายโครงซุ้มก็เสร็จเสียที เนื่องจากพวกมันกลัวเอาเข้าประตูห้องไม่ได้ ก็เลยกะจะไปประกอบที่ห้อง

“ส่วนที่เหลือกูจัดการเอง”ไอ้ภูไม่ยอมให้เพื่อนมันเข้าห้อง ผมกับมันเลยต้องช่วยกันยกโครงขึ้นห้องอย่างทุลักทุเล

“แทนที่มึงจะให้เพื่อนมาช่วย”ผมบ่นเมื่อขึ้นมาถึงห้องแล้ว

“กูก็หวงของกูอ่ะ มีปัญหาเคลียร์ได้นะ”มันพูดเสียงทะเล้น ไอ้ภูนับวันยิ่งกวนประสาทแต่ก็พ่วงความนักรักมาด้วย เด็กผมน่าเอ็นดู
จริงๆ!

กว่าจะประกอบเสร็จก็ปาไปครึ่งชั่วโมง แต่ไอ้ตินยังไม่กลับมาเลย ผมไม่กล้าโทรไปเพราะกลัวจะรบกวนมันเปล่าๆ ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ย้ายเตียงซะที หลังจากที่ดองมาหลายอาทิตย์

“ปวดไหล่ว่ะ”ผมใช้แขนทุบๆตรงหัวไหล่

“มา เดี๋ยวนวดให้”ผมหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจนัก

“คิดอะไรรึเปล่า”

“เปล๊า”แต่มันก็ไม่ได้ทำอะไรผมจริงๆ สงสัยมันจะเก็บไว้วันเกิดผมแน่ๆ

“นี่นามบัตรใครวะ”ไอ้ภูส่งเสียงมาจากหน้าห้องน้ำ มันกำลังอ่านนามบัตรของไอ้เจ้าคุณอยู่ ในมืออีกข้างถือกางเกงยีนส์ของผม ไอ้ภูมันชอบค้นกางเกงผมไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร

“ชื่อเจ้าคุณ”ผมถือโอกาสจับเข่าคุยเรื่องนี้กับไอ้ภูทันที

“เป็นเจ้าของไร่ มันกำลังจีบไอ้ติน”ไอ้ภูทำตาโตทันที ก่อนจะหัวเราะออกมา

“ขำอะไรวะ”

“กูนึกภาพมันโดนจีบอยู่”ไอ้ภูพลิกนามบัตรไปมาก่อนจะมองหน้าผมเหมือนนึกอะไรได้

“แล้วมึงไปเอานามบัตรของมันมาจากไหน”

“ก็กูเจอมันโดยบังเอิญน่ะ”ผมเล่าให้ฟังคร่าวๆ

“มึงรถล้มเหรอ แล้วทำไมไม่บอก”มันเข้ามาวุ่นวายกับผมทันที

“ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก”แค่ถลอกนิดเดียวเอง

“มึงไม่ต้องไปคิดเยอะหรอก มึงคิดว่าคนอย่างไอ้ตินจะยอมเป็นเมียใครหรือไง”ผมย่นหน้าทันทีเมื่อคิดตามที่มันพูด

“กูก็ไม่ได้ห่วงอะไรมากมายหรอก แต่กูเจอไอ้เจ้าคุณนี่มาก่อนแล้ว ก็เลยรู้ว่ามันไม่ธรรมดา ไอ้ตินคงต้องเหนื่อยเยอะแน่ๆ”

“เอาน่า…มาคุยเรื่องมึงดีกว่า ไอ้ตินมันบอกกูว่าไอ้เด็กเพชรชอบมึง”ไอ้ภูกลับมาทำเสียงจริงจังอีกครั้ง

“เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรหรอก กูไม่ได้ชอบมัน”ผมสบตามันตรงๆให้มันรู้ว่าผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ ไอ้ภูถอนหายใจก่อนจะพึมพำเบาๆ

“แล้วยังเรื่องไอ้เหี้ยเน็ตอีก ทำไมชีวิตมึงวุ่นวายจังวะฟิก”มันดูหงุดหงิดอีกครั้ง ผมเห็นแล้วพลอยหงุดหงิดใจไปด้วย

“ช่างหัวมันดิ อย่าอารมณ์เสียเพราะไอ้นี่เลย”ผมเหลือบมองไอ้ภูที่หน้าบูดเป็นตูด พลางคิดหาวิธีทำให้มันอารมณ์ดี รวบรวมความกล้าได้ผมก็รั้งใบหน้ามันเข้ามาใกล้พร้อมกับขบเม้มหยอกเย้าที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย มันชะงักไปเล็กน้อยเหมือนแปลกใจ ผมเบียดตัวเข้าหามากขึ้นระหว่างที่ขยับจูบให้แนบแน่นมากกว่าเดิม แต่จู่ๆมันก็ผลักผมออก จนผมมึนงงไปพักใหญ่

“เดี๋ยวกู…”มันเหมือนนึกหาคำพูดไม่ถูก แต่รีบออกไปจากห้องทันที ทิ้งให้ผมเหวออยู่คนเดียว เหมือนโดนมันหักหน้าอย่างจัง ทำไมมันผลักผมล่ะ? ปกติมันต้อง…อ๊ากกก ผมทึ้งหัวอย่างหงุดหงิด ไอ้ภูหายหัวไปเป็นชาติ จนไอ้ตินกลับมาแล้วมันก็ยังไม่โผล่มา

ทำไมมันปฏิเสธผมวะ!








         *************************************************





-   ตอนเช้า

ผมไปส่งไอ้ตินที่คณะก็เจอกับพี่เบลล์และไอ้ชัยที่มารอก่อนหน้านั้นแล้ว

“อยู่กับพี่ภูมึงก็อย่าดื้อล่ะ”ได้ยินชื่อมันแล้วผมก็หงุดหงิด

“กูไม่ใช่เด็กน่า…”

“พวกมึงทำเหมือนต้องจากกันหลายปีเลยว่ะ”ไอ้ชัยแทรกมา

“กูรู้ว่ามึงอิจฉา รีบๆหาเมียซักทีเถอะ”ผมหันไปแขวะมัน ไอ้ชัยหาเรื่อง ตอบโต้ไม่ได้จึงเงียบไป ผมสบตากับพี่เบลล์อย่างรู้กัน
เพราะผมให้พี่มันช่วยดูไอ้ติน และคอยกันเสือใหญ่อย่างไอ้เจ้าคุณ แค่นึกถึงหน้ามันผมก็ขนลุกแปลกๆแล้ว

“เออ ฟิก”ก่อนที่ผมจะกลับมันก็คว้าไหล่ผมไว้

“ว่า”

“สุขสันต์วันเกิดนะ”แค่คำพูดสั้นๆธรรมดาๆก็ทำให้ผมรู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อทั้งๆที่ปากก็บอกว่าไม่แคร์เรื่องทำนองนี้

“เออ อย่าลืมของขวัญของกูนะ”ผมเตือนมัน แอบสงสัยอยู่ว่ามันจะทำอะไรอีก ในเมื่อมันต้องไปทำโครงการ แล้วมันจะ
เซอร์ไพรส์ผมได้ไง

เช้าวันเกิดปีที่ยี่สิบเอ็ดของตัวเองก็เหมือนวันธรรมดาทั่วไป ผมกลับมาที่ห้องก็พบว่าไอ้ภูยังไม่ตื่น แอบคิดเล่นๆว่ามันได้เตรียมของขวัญไว้ใหผมรึเปล่า ผมขยับเข้าไปใกล้เตียงมากขึ้น เมื่อวานมันล่นตัวนักใช่ไหม ผมโถมตัวเข้าหาไอ้คนที่นอนอืดอยู่บนเตียงทันที

“ทำอะไรของมึงเนี่ย”มันพูดเสียงอู้อี้ เพราะโดนผมเอาหมอนอุดจมูก

“กูจะฆ่ามึง”ผมเอาหมอนออก เพื่อดูสีหน้าหอบๆของมันแล้วหัวเราะอย่างสะใจ

“มึงบ้าป่ะเนี่ย”มันลูบหน้าลูบตาให้ตื่นเต็มที่

“โทษฐานหักหน้ากูเมื่อวาน”พูดแล้วก็หงุดหงิด

“อ๋อ…งอนเหรอ”มันยิ้มกวน

“ไม่ได้งอน กูไม่ง้อมึงหรอก”ไอ้ภูหัวเราะก่อนจะกระดิกนิ้วให้ผมเข้าไปใกล้ๆ

“มีอะไรก็พูดมา”ผมไม่ทำตามที่มันบอกหรอก สุดท้ายไอ้ภูก็พูดออกมาเอง

“ก็บอกแล้วว่ารอให้ถึงวันเกิดมึงก่อน”มันกลับมาทำหน้าหื่นอีกครั้ง

“นี่ก็ถึงแล้วนะ”ไม่ได้อะไรหรอก แค่ไม่อยากให้มันค้างคา

“กูยังไม่ได้อาบน้ำ แปรงฟันเลยนะ”มันดูเหมือนกำลังสนุกอยู่

“เล่นตัวมาก มึงอดแล้วจะรู้สึก”ผมกลิ้งลงมาจากตัวมัน ขู่ไอ้ภูกลับ นี่อุตส่าห์ทำหน้าด้านเชื้อเชิญแล้วนะ

“เต้นให้กูดูก่อน”

“พ่อมึงดิ”ผมหลุดด่าออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ไอ้ภูขำเสียงดัง

“กูล้อเล่น ถ้ามึงเต้นกูคง…”มันทำหน้าพะอืดพะอม

“สรุปมึงจะ…ยังไง”ผมถามอย่างหงุดหงิด

“รอตอนดึกก่อน”มันอ้าปากหาวหวอดๆ

“มึงรอได้ก็รอไป”ผมขยับเข้าไปหามันอย่างใจกล้า ไอ้ภูแค่นอนมองว่าผมจะทำอะไร แต่เห็นสายตาแบบนี้ของมันแล้วผมก็เริ่มจะ
ไม่กล้า

“ของขวัญวันเกิดกูล่ะ”ผมเปลี่ยนเรื่อง

“ไม่มี”มันตอบทันที

“สนด้วยเหรอ”ไอ้ภูเอาคางเกยไหล่ พร้อมกับเป่าหูผมเบาๆ

“มึงอย่ามายั่วกูนะ กูกดมึงจริงๆแล้วจะหนาว”ผมทำเสียงจริงจัง ถ้าให้ทำจริงๆผมว่าตัวเองก็พอจะสู้แรงมันได้อยู่ ไอ้ภูตีหน้านิ่ง มันทำแบบนี้เหมือนจะแกล้งผมมากกว่า

“นับหนึ่งถึงสาม ถ้าไม่เริ่ม มึงอด!”ผมทำเสียงจริงจังให้รู้ว่าผมเอาจริง

“อยากมากเหรอ”คำถามของมันทำให้ผมอยากเตะก้านคอมันจริงๆ

“เออ รอแป๊ป กูอาบน้ำก่อน แล้วอย่ามาอ้อนวอนให้หยุดล่ะ”เกลียดคำพูดของมันจริงๆ ไอ้ภูหายเข้าไปในห้องน้ำ ผมก็คิดว่าจะ
นานกว่านี้ ที่ไหนได้มันออกมาทั้งๆที่เนื้อตัวเปียกน้ำ กระโดดมากอดผมบนเตียง ผมเองก็เริ่มจะหวั่นๆกับมันขึ้นมาเหมือนกัน ไอ้ภูได้หื่นขึ้นมาหยุดยากจริงๆ แต่ความคดต่างๆก็ปลิวหายไปเมื่อมันเริ่มมานวดเฟ้นไปตามร่างกายของผม หลังจากที่จูบมาราธอนกับมันไปแล้ว ไอ้ภูก็เบียดแทรกเข้ามาพร้อมกับดันของมันเข้ามาจนสุด ก่อนจะเริ่มกระแทกตัวเข้ามาหนักๆ   

“มึง…เบาๆหน่อยก็ได้นะ”เพราะได้ยินเสียงเตียงสั่น ไอ้ภูก้มมาจูบไปตามซอกคอ กัดเม้มติ่งหูผมเบาๆก่อนจะกระซิบ

“ไม่ได้ มึงก็รู้ว่ากูชอบแบบไหน”ผมหลับตาเมื่อริ้วความเขินอายแผ่ซ่านไปทั่วหน้า ไอ้ภูขยับเข้ามารวบกอดก่อนจะขยับเอวเข้า
มาเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยว 

“อ๊ะ อือ…มึง”ผมเสียววูบวาบในท้องเมื่อถูกกระตุ้นถูกจุด ได้แต่หลับตากัดริมฝีปากแน่นเมื่ออีกฝ่ายโถมตัวเข้ามาไม่หยุด ผมยื่นหน้าไปจูบมันเพื่อกลั้นเสียงร้อง ลิ้นของมันสอดแทรกเข้ามาอย่างจาบจ้วง เสียงครางต่ำของมันดังอยู่ใกล้หู ยิ่งทำให้ร้อนไปทั่วกาย ตัวผมถูกจับพลิกคว่ำ ฝามือหนาสอดเข้ามาที่หน้าท้อง ก่อนจะรูดรั้งจนเสียวซ่านไปทั่วท้องน้อย แก่นกายถูกสอดเข้ามาอีกครั้ง ผมฝังหน้าลงบนหมอน ระหว่างที่อีกคนโถมแรงเข้ามาไม่หยุด

“อื้ออ”ได้แต่ครางอู้อี้กับหมอน เกร็งท้องจนเริ่มเหนื่อย จากนั้นก็ได้แต่ปล่อยไอ้ภูทำตามใจชอบ จะบอกให้พอก่อนเดี๋ยวก็โดนมันล้อแน่ๆ ผมจึงได้แต่ปล่อยไปตามอารมณ์ แน่นอนว่าอย่างไอ้ภู….ไม่พอใจง่ายๆแน่

หลังจากที่ออกศึกจนพ่ายแพ้ราบคาบไปหลายยก มันก็เริ่มเหนื่อย ไอ้ภูผละมากอดผมก่อนจะจูบที่ปลายคางผมเบาๆ

“ของขวัญวันเกิดกูล่ะ”ผมทวงไปแบบนั้นแหละ เพราะอยากรู้ว่าจะหาอะไรมาให้ผมอีก

“กูกับไอ้ตินช่วยกันทำเลยนะ แต่ก็ไม่พิเศษอะไรหรอก”ไอ้ภูพลิกตัวนอนหงายก่อนจะเอื้อมไปหยิบอะไรสักอย่างที่ลิ้นชัก ผมคว้าเสื้อกับกางเกงมาใส่ลวกๆ อยู่กับไอ้ภูในสภาพโป๊ไม่ได้หรอก ผมรอว่ามันจะเอาอะไรมาให้ ไอ้ภูยื่นกล่องไม้เล็กๆมาให้

“แหวนเหรอ”ผมเดามั่ว

“เปิดดูสิ”ไอ้ภูคว้าหมอนมากอดแนบอก ผมเปิดออกแบบไม่คาดหวังนัก แปลกใจเมื่อเห็นว่าเป็นกุญแจดอกเล็กๆ

“กุญแจ?”

“อืม กุญแจ”มันยิ้มกว้างก่อนจะเดินโป๊ลงจากเตียงไปหาเสื้อผ้าใส่

“กุญแจอะไรวะ”มันไม่ตอบในทันที ผมต้องรอมันสวมเสื้อจนเสร็จ มันถึงตอบได้

“หาเอง แล้วจะรู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้น”ผมมองไอ้ภูอย่างงุนงง พวกมันเล่นอะไรกันเนี่ย ผมมองไปรอบๆห้อง พลางคิดว่าอย่างมันสองคนจะให้กุญแจอะไร

“ตู้เซฟ?”ไอ้ภูหัวเราะทันที

“ไม่รู้ บอกแล้วว่าให้หาเอง”มันยิ้มก่อนจะเดินมาหอมแก้มผมแรงๆ

“สุขสันต์วันเกิด หมาฟิก”มันหยิกแก้มผมก่อนจะเข้าไปในครัว ผิวปากอย่างสบายอารมณ์ ผมหยิบโทรศัพท์เพื่อวีดีโอคอลหาไอ้
ติน รอไม่นานมันก็รับ

[ว่าไงครับ] พูดเพราะใส่ผมอีก ผมโชว์กุญแจที่ได้มาให้มันดู

“บอกมาว่ากุญแจอะไร”

[หาเองสิ] มันอมยิ้มก่อนจะทำท่าไขกุญแจตรงหน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง

“ปีนี้พวกมึงให้ของขวัญกูแปลกๆนะ”แต่ที่เหมือนเดิมคือผมและพวกมันดันมาหื่นเหมือนๆกัน

[ก็กูอยู่กับมึงทุกๆวันอยู่แล้ว ให้ของธรรมดาๆมันก็ดูไม่มีอะไรไง อีกอย่างมึงคงเบื่อแน่ๆ] ผมพยักหน้า พวกมันก็เดาใจผมถูก

“กูไม่กวนมึงแล้วดีกว่า ตั้งใจทำงานล่ะ”

[ครับที่รัก] ผมมองหน้าไอ้ตินงงๆ ผมว่ามันทำตัวแปลกๆนะ ปกติมันไม่หวานออกสื่อขนาดนี้ ผมวางสายจากไอ้ตินทั้งๆที่ยังมึนๆอยู่



แต่ด้วยความสัตย์จริงเลย ขอแค่ในทุกๆปีผมได้มีพวกมันเป็นของขวัญวันเกิดก็พอแล้ว






TBC.
มาตามสัญญาค่ะ   ฟิกคงอิ่มกับการแกะของขวัญที่ชื่อภู ตินแน่ๆ  o18
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  :กอด1:




หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 30-01-2016 10:14:10
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 30-01-2016 10:19:45
ภูกับตินจัดเต็มสมใจฟิกเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 30-01-2016 10:40:28
ลุ้นไปกับฟิกมัน ปีนี้ได้ของอะไร 555555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-01-2016 10:48:21
 :katai2-1:    ถ้าเป็นกุญแจไขห้องที่ไหนสักแห่งล่ะ ไม่ใช่เซฟไม่ใช่รถแต่อาจจะเป็นห้องลับของสามคนอะไรแบบนี้
อุ๊ยตื่นเต้นแทนฟิกอะ ชอบโมเม้นท์วันสำคัญแบบนี้จังค่ะ เพราะฟิกสำคัญนี่เนอะ.  :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-01-2016 11:26:06
สงสัยที่ตินหวานออกสื่อเพราะเจ้าคุณอยู่ข้างๆ หรือเปล่า
ว่าแต่อยากรู้เหมือนกันว่าฟิกได้อะไรเป็นของขวัญวันเกิด

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-01-2016 12:20:33
ผลัดกันๆคนละวัน :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 30-01-2016 12:27:50
ฟิกเต็มที่กับตินกับภูมากกก

กุญแจไขกล่องของขวัญไมอะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 30-01-2016 12:41:09
สุขสันต์วันเกิดนะฟิกก เกิดวันเดียวกับเราเลย ////////////
นานๆทีจะเห็นพี่ภูเล่นตัว ตัวปลอมปะเนี่ย 55555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-01-2016 12:42:15
ภู ติน ให้อะไรฟิกนะ อิอิ ว่าแต่อีเจ้าคุณ นี้อะไรยังไง ตินอย่าไว้ใจมันนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 30-01-2016 13:32:23
มันคือกุญแจอะไรร
กรี๊ส เกรียนฟิกจัดเต็มให้สามีมาก :ling2: :-[
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 30-01-2016 14:47:51
เจ้าคุณดูน่ากลัวมาก
วันเกิดเลยจัดเต็มเลยสินะ  :haun4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 30-01-2016 15:27:17
สามคนนี้หื่นพอกันเลยอ่ะ :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 30-01-2016 15:37:36
อ่าน2สองตอนติดฟินมากๆ สุขสันต์วันเกิดฟิกสุดที่รักของตินภู
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Wannida ที่ 30-01-2016 16:40:20
อร๊ายยยย ฟินจุง    :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 30-01-2016 17:21:59
แกะของขวัญซะเหนื่อยเลยฟิก

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 30-01-2016 18:26:25
อื้อหือ พี่ภูนางจัดเต็ม

ว่าแต่ของขวัญอะไรน้า ลุ้นแทนเกรียนฟิกจัง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 30-01-2016 19:45:02
เอ๊ะ เอ๊ะ เอ๊ะ แลดูมีเลศะนัย  :o9:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 30-01-2016 19:51:41
แง้ อิจฉาฟิกอ่าาา ขอแบบนี้ให้หนูสักคนสิ ฮ่าๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 30-01-2016 21:32:58
กุญแจไรหว่า
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 30-01-2016 22:04:06
 :pig4 :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 30-01-2016 22:37:49
กุญแจบ้านเปล่า?
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 30-01-2016 23:00:10
ครับที่รักนี่แสดงว่าอยู่กับเจ้าคุณแน่ๆ 555555
ฟิกหื่นอ่า นี่ไม่ได้เรียกร้องเลยใช่ไหมคะ
แต่จะกระโจนเข้าหาเลยอย่างนี้ นี่แหละฟิกจริงๆ
วุ่นวายแน่ๆที่ตินอะ พี่ภูเหมือนแบบเหนื่อยๆนะ 555555
เลิฟสามคนนี้
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 30-01-2016 23:37:20
ฟินไปอีกกกกกกด :haun4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: tukkata bambola ที่ 30-01-2016 23:39:48
กุญแจไรไม่รู้...รู้แต่ว่า :z1:
สามหน่อน่ารักอ่ะตอนนี้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 31-01-2016 06:21:23
สามผัวเมียนี่เริ่ดจริงไรจริง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 31-01-2016 11:29:54
 :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 31-01-2016 11:43:36
สองวัน..สองคน..สองดอก

วันเกิดฟิก
ปีนี้..คุ้มจริงๆ
อุ๊บสสสสส
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 31-01-2016 13:56:07
 :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 31-01-2016 14:13:56
 ฟินน :heaven
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 31-01-2016 14:27:36
สุขสันต์วันเกิดน้องฟิก ร่างกายแข็งแรง ทรหดอดทน สามีรักสามีหลงงงง

ฟิกอายุเพิ่มขึ้นอีกปี ความหื่นก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: ohm ที่ 31-01-2016 19:07:22
สุขสันต์วันเกิด คนเขียน (และน้องฟิก)นะคับ
^^
 อยากให้เนื้อหาช่่วงหลังมีรวมเล่มเหมือนช่วงแรก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 31-01-2016 20:45:21
 :pig4 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๒ HBD To Fix] 30-1-59 P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 31-01-2016 22:09:53
หวานจนมดจะขึ้นละ  :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 02-02-2016 08:46:24




ตอนที่๒๓








กุญแจปริศนาก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไป ผมยังไม่ได้เซ้าซี้ถามพวกมันแบบจริงจังว่าตกลงมันคือกุญแจอะไรกันแน่ แต่แอบหวั่นๆว่าจะเป็นตามที่ผมคิด ผมลองไล่เปิดตู้ลิ้นชักในห้องก็ไม่ได้ผล อีแบบนี้ผมจะรู้ไหมวะว่าควรเปิดอะไร แต่เอาไว้ก่อนเพราะไม่ใช่เรื่องด่วนอะไร เข้าสู่วันที่สองที่ไอ้ตินไปทำโครงการ ผมเองก็โทรคุยกับมันตลอด ช่วงสายพี่เบลล์ส่งข้อความมาบอกว่าไอ้เจ้าคุณไม่ได้อยู่ที่ไร่ แต่ออกไปที่ไหนสักแห่ง ผมค่อยโล่งใจหน่อย

“ไอ้ภู ลงไปกินข้าวกัน”ผมเดินไปปลุกไอ้ตัวขี้เกียจที่นอนหลับอยู่ที่โซฟา มันปรือตามองก่อนจะพลิกตัวหนี

“ลุก!”ผมเริ่มหงุดหงิด เอื้อมไปกระตุกผมมันแรงๆสองสามที นับวันยิ่งกวนตีนและขี้เกียจ

“เออ กูไปคนเดียวก็ได้”ไม่ได้งอนอะไรมันหรอก แต่ขี้เกียจจะปลุกมันแล้ว ผมคว้าเสื้อคลุม จิ๊กเงินมาจากกระเป๋าของมันไปสามพันก่อนจะฮัมเพลงอย่างคนอารมณ์ดี ผมเลือกร้านข้าวอยู่นานช่วงสายๆร้านรอบม.จะคนเยอะเป็นพิเศษ ขี่วนสองสามรอบผมเลยเลือกร้านที่คนน้อยที่สุดอย่างจำใจ คนน้อยเพราะไม่อร่อยแน่ๆ ระหว่างที่กำลังคิดไม่ตกว่าจะสั่งอะไรดี เสียงทักแสดงความสนิทสนมก็ดังขึ้น

“หวัดดีพี่ฟิก”ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้เพชรนี่เอง

“เออ มากินข้าวเหรอวะ”ผมหาเรื่องคุย ถามโง่ๆอ่ะครับ เห็นๆอยู่ว่ามันเข้าร้านข้าว ไอ้เพชรหัวเราะก่อนจะตอบ

“มากินขี้มั้ง”เจ้าของร้านถึงกับเหลือบมอง  ผมเลือกสั่งข้าวผัดไข่เพราะไม่รู้จะสั่งอะไร ไอ้เพชรสั่งแบบเดียวกับผมก่อนจะมานั่งโต๊ะเดียวกับผมหน้าตาเฉย

“ใครชวนมึงเนี่ย”

“ผมชวนตัวเอง น่า ผมอยากนั่งด้วย กินคนเดียวมันไม่อร่อย”มันฉีกยิ้มหล่อ ก่อนจะลุกไปตักน้ำมาให้ผมด้วย บริการดีจริงๆ

“มึงทำงานอยู่คณะเหรอ”

“ใช่ครับ ตอนนี้กำลังช่วยกันทำฉากอยู่ พี่ว่างไหมอ่ะ ไปช่วยหน่อยดิ”

“ขี้เกียจ”ผมตอบไปตามตรง

“โห ช่วยนุ้งช่วยน้องก็ไม่ได้ กว่าแบบจะผ่านเลือดตาแทบกระเด็น พี่เคนแม่งโหด”พวกพี่ว้ากมีหน้าที่ตรวจแบบฉากของรุ่นน้อง มาคอยดูความคืบหน้างาน ยิ่งเข้าใกล้วันจริงจะยิ่งมีดราม่าแบบที่ทำกันมาทุกปี เพื่อกดดันให้น้องทำงานให้ดีมากขึ้น

“กูจะฟ้องมันว่ามึงนินทา คราวนี้มึงได้แก้แบบอีกรอบแน่”ผมขู่อย่างสะใจ ไอ้เพชรส่งเสียงโอดครวญเบาๆ มันมองไปรอบๆร้านเหมือนกำลังหาเรื่องคุย

“สเป็คพี่เป็นแบบไหน”อยู่ๆมันก็ถามเรื่องไร้สาระ

“แบบไหนก็ได้ ยกเว้นมึงอ่ะ”ผมรีบเสริมเมื่อเห็นสีหน้าลิงโลดของอีกฝ่ายในตอนแรก

“แหม ไม่เปิดโอกาสเลยนะ”มันทำเสียงเง้างอนได้น่าถีบเหลือเกิน

“กูมีแฟนแล้ว จะเปิดโอกาสให้มึงอีกทำไม”

“งั้นขอสมัครเป็นกิ๊ก”มันพูดทีเล่นทีจริง

“หมดสิทธิ์ว่ะ อย่างมึงไม่ใช่สเป็คกู”ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็ไม่สนมันหรอก ไอ้เพชรทำหน้าตาอ้อนวอน

“พี่ฟิกใจร้ายว่ะ”

“คนหน้าตาดีมักเป็นแบบนี้แหละ”

“พี่นี่หลงตัวเองจริงๆ”ได้ยินมันพึมพำมาเบาๆ ผมก้มมองโทรศัพท์ ไอ้ภูเพิ่งไลน์มาถามว่าผมอยู่ร้านไหน


Fix – ทีตอนแรก ชวนไม่มา

Phu – น่า อยู่ร้านไหน เดี๋ยวไปกินด้วย

ผมบอกชื่อร้านไปก่อนจะหันมาสนใจไอ้เพชรที่นั่งมองผมอยู่

“เดี๋ยวแฟนกูจะมากินข้าวด้วย อย่าปากมากล่ะ เดี๋ยวมึงได้กินอย่างอื่นแทนข้าว”ไม่ได้ขู่มัน แต่คนอย่างไอ้ภูคงไม่มานั่งใจเย็นได้แน่ๆ ไอ้เพชรแค่ยกยิ้มกลับมา ในที่สุดข้าวผัดของผมก็มาเสิร์ฟเสียที รอไม่นานไอ้ภูก็โผล่หัวมาด้วยชุดสบายๆ หนีบเตะช้างดาว เสื้อแขนสีหม่นๆที่ผมไม่ค่อยชอบกับกางเกงยีนส์ขาสั้นเก่าๆ จำได้ว่าเคยโยนทิ้งไปแล้วด้วย มันขุดมาใส่หรือไง ไอ้ภูกวาดตามองไปรอบๆร้าน ก่อนจะหยุดอยู่ที่ผม มันชี้หน้าเมื่อเห็นว่าผมไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว

“นั่งกับชู้เหรอ”มาถึงมันก็กวนประสาทพอดี ไอ้เพชรเงยหน้ามองไอ้ภูงงๆ แต่ก็ยกมือไหว้อย่างมีมารยาท

“เออ กิ๊กกูเอง ดีกรีเดือนคณะเลยนะเว้ย”ผมตามน้ำไปกับมัน ไอ้เพชรจากที่เคยพูดมาก ตอนนี้หุบปากฉับ

“หาได้แค่นี้เองรึไง”ไอ้ภูกวนกลับ มันหันไปมองไอ้เพชรก่อนจะวกกลับมาที่ผมอีกรอบ

“แค่นี้ที่ไหน เท่านี้ต่างหาก”ผมเริ่มจะเสื่อม ทำไม้ทำมือประกอบไปด้วย ไอ้เพชรถึงกับสำลักข้าวหน้าดำหน้าแดง ไอ้ภูขึงตามองก่อนจะเตะขาผมแล้วลุกไปสั่งข้าวบ้าง

“แฟนพี่เหรอ แล้วที่มาคณะวันนั้นล่ะ”ไอ้เพชรยังหน้าดำหน้าแดงอยู่

“นั่นก็แฟนกูเหมือนกัน”มันทำหน้าไม่เก็ท

“มึงไม่ต้องเข้าใจหรอก รู้แค่ว่ากูเสน่ห์แรงก็พอ”ไอ้เพชรหัวเราะแห้งๆ มันหันไปมองไอ้ภูก่อนจะกลับมากระซิบกับผม

“ก็ไม่บอกตั้งแต่แรกว่าคบกับพี่ภู”

“มึงรู้จักด้วยเหรอ”ผมถามอย่างสนใจ

“ก็เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาบ้าง”เดาว่าคงไม่ใช่ด้านดี ไอ้ภูกลับมานั่งข้างๆผมตามเดิม มันจ้องไอ้เพชรเหมือนกำลังประเมินอีกฝ่าย

“มึงใช่เด็กเก่าโรงเรียน…รึเปล่า”จำได้ว่าไอ้ภูก็เคยเรียนโรงเรียนนี้เหมือนกัน ที่อยู่ติดกับพวกช่าง

“ใช่ครับ ผมรุ่นXX”ไอ้ภูพยักหน้า

“รุ่นน้องกูนี่เอง ไงมึงช่วยไปเอาน้ำให้กูหน่อยซิ”ไอ้ภูถือโอกาสใช้ ไอ้เพชรจำต้องลุกไปตักให้แบบจำยอม

“ไม่คิดว่ามึงจะรู้จัก”

“กูมันคนกว้างขวาง จะกิ๊กกับมันก็คิดดีๆนะ”ไอ้ภูยื่นหน้ามาใกล้ๆ

“เด็กเก่าโรงเรียนกู ไม่ธรรมดาทั้งนั้น”ไอ้ภูวางมือลงบนหน้าขาของผม วางอย่างเดียวไม่ว่าแต่มันมาลูบๆคลำๆด้วยนี่สิ ร้านข้าวก็ไม่เว้น ผมปัดมือมันออก

“ทะลึ่งล่ะไอ้ภู”

“ไม่เท่ามึงหรอก ทำเป็นไก๋ทีเมื่อวานยัง…”ผมรีบส่งสายตาให้มันหุบปากทันที ไอ้เพชรกลับมาพร้อมกับแก้วน้ำของไอ้ภู

“ขอบใจ”ทั้งโต๊ะเงียบอีกครั้งเมื่อต่างฝ่ายต่างจัดการข้าวของตัวเอง

“มึงคิดจะจีบเมียกูเหรอ”

แค่กๆ

ทั้งผมทั้งไอ้เพชรพร้อมใจกันสำลัก

“พูดอะไรของมึง”ข้าวติดคอเลย ไอ้หัวหมา ไอ้ภูยกยิ้มมองหน้าผมกับไอ้เพชร

“โทษที พอดีกูเป็นคนตรงๆแบบนี้แหละ ยังไม่ชินอีกเหรอ”ประโยคหลังไอ้ภูหันมาพูดกับผม

“เปล่าครับ ผมแค่ชอบพี่ฟิกแบบรุ่นพี่รุ่นน้องเฉยๆ”

“โกหก”มันสวนกลับทันที ไอ้เพชรทำหน้ามึนๆ

“กูไม่เชื่อคำพูดมึงหรอก เลิกปั้นหน้าเถอะว่ะ แค่มองแป๊ปเดียว กูรู้แล้วว่าธาตุแท้มึงเป็นคนยังไง”แหม ไอ้ภูมันเซียนขนาดนี้เลยเหรอ ไอ้เพชรทำหน้าไม่ถูก มันไม่ได้ตอบโต้กลับแต่อย่างใด

“พวกมึงเครียดกันทำไมเนี่ย เดี๋ยวข้าวไม่ย่อยพอดี”ผมแทรกเพื่อไม่ให้เกิดความตึงเครียด ก็ไม่รู้นะว่าไอ้ภูมันรู้สึกอะไร แต่ไอ้
เพชรก็คงไม่ธรรมดาจริงๆนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นไอ้ภูกับไอ้ตินคงไม่ออกปากพูด 

“ผมกลับก่อนนะครับ ถ้าว่างๆก็แวะเข้ามาที่คณะได้นะพี่ฟิก”มันยิ้มให้ผมกับไอ้ภูก่อนจะลุกไปจ่ายเงิน

“มึงเคยรู้จักมันเหรอ”

“เปล่า แต่คิดว่ามันคงเคยรู้จักกู แต่ก็ดีแบบนี้มันจะได้ไม่กล้าทำอะไรล้ำเส้น แล้วก็อย่าเผลอจนยอมให้มันเข้าหาง่ายๆล่ะ”มันหันมากำชับกับผม

“กูรู้น่า พ่อ”

“เรียกผัวสิ เดี๋ยวให้รางวัล”ผมวางช้อนดังเคร้งทันที

“ล่อเล่นๆ อย่างอน”มันรีบขอโทษขอโพยทันที

“อยากรู้จริงๆตอนเด็กๆพ่อมึงเอาอะไรให้กิน โตมาถึงได้เป็นเด็กแบบนี้”

“กูก็อยากรู้เหมือนกัน ไปถามพ่อกูกันป่ะ”ตอนแรกก็คิดว่ามันพูดเล่นที่ไหนได้มันเอาจริงครับ หลังจากที่ผมเอารถมาเก็บที่หอ มันก็พาผมไปที่บ้านมันทันที แต่จะว่าไปผมไม่ได้มาบ้านมันนานแล้วเหมือนกัน เพราะไอ้ตัวข้างๆไม่ยอมให้ผมมาเนี่ยล่ะ

ภายในบ้านหลังใหญ่ ดูมีชีวิตชีวากว่าแต่ก่อนเยอะ ดูเหมือนว่าพ่อกับแม่ไอ้ภูจะออกมานั่งรับลมอยู่ที่สวน และที่แปลกไปกว่านั้นคือน้องหมาพันธ์โดเบอร์แมนสีดำ พ่อมันเหมือนจะกำลังสอนหมาอยู่

“ไอ้ภู มึงซื้อโดเบอร์แมนให้แม่มึงเลี้ยงเนี่ยนะ”ผมแอบกลัวเล็กน้อย ได้ยินเรื่องความดุมาเหมือนกันถ้าหากว่าเลี้ยงไม่ดี แถมยังหวงเจ้าของอีก

“เออ กูชอบ มึงมีกิ๊กเมื่อไหร่ กูจะให้มันกัดจู๋มึง”มันหันมายิ้มชั่ว

"โห่ ไอ้ภู แต่ก็เหมาะกับมึงดีนะ งั้นทีนี้กูก็ด่ามึงได้แล้วสิ”ไอ้ภูเหลียวมองงงๆ

“ด่าอะไร”

“ดุอย่างหมา”ผมหัวเราะก่อนจะหลบลูกเตะของมัน แต่ทันทีทีไอ้ภูเข้าไปใกล้เจ้าโดเบอร์แมนหางกุดๆก็วิ่งหน้าตั้งมาหาทันที

“ว่าไงโดโด้ลูกพ่อ”มันลูบหัวลูกโด้ของมันเบา ๆผมดูอยู่ห่างๆอย่างกล้าๆกลัวๆ

“มึงมานี่ดิฟิก มาทำความคุ้นเคยกับลูกกูก่อน”มันพยักหน้าให้ผมเข้าไปใกล้ๆ เจ้าหมาถอยห่าง พร้อมเสียงขู่เบาๆ

“ไอ้โด้”พ่อไอ้ภูเรียกเสียงดังจนมันหยุดส่งเสียง

“พี่มาดีนะหนูโด้”มันจะฟังผมรู้เรื่องไหม ผมค่อยๆเดินเข้าไปหา มันรีๆรอๆแต่ก็ยอมให้ผมลูบหัวจนได้

“สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้ทั้งสองท่าน แม่ภูดูมีน้ำมีนวลมากกว่าแต่ก่อนเยอะเลย

“ไม่ได้เจอหนูฟิกนานเลยนะ”ท่านส่งยิ้มใจดีมาให้

“ไอ้ภูไม่ยอมให้ผมมาครับ”ผมรีบฟ้องทันที

“เหอะ”คนพ่อเหลือบมองลูกชาย แต่ดูเหมือนมันจะสนใจหมามากกว่า

“พ่อ ไอ้ฟิกมันสงสัยว่าตอนเด็กๆพ่อเอาอะไรให้ผมกิน”ผมทำหน้าเหวอ ไม่คิดว่ามันจะถามจริงๆ

“ถามอะไรของแก”พ่อมันดูจะไม่เข้าใจ

“ทำไมถึงโตมาเป็นแบบนี้”คำถามฟังดูล้อเล่น แต่ทำไมบรรยากาศมันดูไม่ค่อยดีเลย ผมได้แต่นั่งทำตัวไม่ถูก ส่วนคนที่ปล่อยระเบิดไว้ก็หันไปสนใจลูกมันซะงั้น

“ฉันคงเอาขี้เถ้ายัดมั้ง ถึงได้เป็นแบบนี้”พ่อลูกคู่นี้เขาหยอกกันแรงจริงๆ ไอ้ภูหัวเราะก่อนจะโยนลูกบอลเล็กๆให้น้องโด้ของมันวิ่งไปเก็บ

“พูดเหมือนแม่ผมเลยครับ เผอิญผมกินเก่งเลยกินขี้เถ้าที่แม่ยัดลงท้องหมดเลย”ผมแทรกเพื่อทำลายบรรยากาศแปลกๆ

“แล้วเราดื้อเหมือนไอ้ภูรึเปล่าล่ะ”พ่อมันเปลี่ยนมาคุยกับผมบ้าง

“ก็…เอาเรื่องอยู่ครับ”แต่ไม่ได้ดื้อเกเรแบบไอ้ภู ผมก็ซ่าส์ไปตามประสาวัยรุ่น นึกถึงตอนที่ยังมีกิ๊กเยอะๆแล้วมันปริ่มอย่างบอกไม่ถูก เดี๋ยวนี้ทำได้แค่รำลึกความหลังเงียบๆ ไม่อย่างนั้นไอ้สองคนนั่นจะโวยหาว่าผมคิดถึงกิ๊กเก่า 

“เหรอ ก็ว่าอยู่ แล้วคิดยังไงถึงได้มาลงเอยกับคนไม่เอาไหนแบบไอ้ภูล่ะ”คนไม่เอาไหนที่ว่าหันมามองด้วยสีหน้ายุ่งๆ

“อ๋อ พอดีมันบังคับผมน่ะครับ”ผมตอบเอาฮา แกล้งไอ้ภูเล่น

“ท่าทางเราไม่เหมือนคนจะยอมคบกับไอ้ภูได้เลยนะ”พ่อมันยังคงถามต่อ

“ผมก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน แต่ความรักมันก็ไม่มีเหตุผลแบบนี้แหละครับ”ไอ้ภูเบ้หน้าเมื่อได้ยินคำพูดน้ำเน่าเอาใจพ่อมัน แถมแม่ไอ้ภูดูจะชอบใจเป็นพิเศษด้วย

“ก่อนที่จะมาคบกับไอ้ภู คงมีเมียเยอะสินะเรา”ผมถึงกับหน้าร้อนวูบวาบไปพักใหญ่ ไม่คิดว่าพ่อมันจะพูดตรงๆแบบนี้

“คุณก็…”แม่ไอ้ภูยิ้มขำ ผมรู้แล้วว่ามันได้นิสัยตรงๆแบบหน้าด้านมาจากใคร (ไม่ได้ด่าพ่อมันนะ)

“ก็พอได้ครับ ธรรมดาของคนหน้าตาดี”พ่อไอ้ภูหัวเราะเสียงดังเหมือนชอบใจ

“พอดีเลย แม่มีของที่อยากให้เราด้วยนะ ถ้าถึงเวลาที่สมควรแล้วแม่จะเอามาให้”ผมเห็นไอ้ภูมองหน้าแม่มันเหมือนรู้กัน   

“อะฮึ่ม ยังไงก็อย่าเพิ่งเลิกกันไปก่อนล่ะ ถ้าถึงตอนนั้นยังคบกันอยู่จริง ฉันจะไฟเขียวให้พวกแกสองคนเต็มที่”

“พ่อไม่ต้องห่วงหรอก จะอีกกี่ปีผมก็ไม่เลิกกับมันแน่”สองคนพ่อลูกเถียงกันพอหอมปากหอมคอ ผมกับแม่มันได้แต่นั่งฟัง ถึงยังไงครอบครัวนี้ ก็แสดงความรักกันแปลกๆเนอะ

“เดี๋ยวกูต้องเข้าคณะ มึงจะไปที่ไหนต่อรึเปล่า”ไอ้ภูถามหลังจากที่เถียงกับพ่อมันจนพอใจแล้ว

“กูจะไปซื้อของทำงานต่อ”เตรียมปั่นโปรเจคใหม่   

“อย่านัดผู้ชายไปเจออีกล่ะ”

“กูอยากต่อยมึงจริงๆว่ะภู”ผมลูบกำปั้นอย่างคันมือ พูดมากจริงๆ

“อ่ะ ลองสิ”มันยื่นหน้ามาให้ เชื้อเชิญด้วยรอยยิ้ม แต่ผมก็ไม่กล้าอยู่ดี

“ร้านเดิม”ช่วงปีหนึ่งเคยใช้มันออกไปซื้อตอนดึกบ่อยๆ 

“ครับเมีย”มันหันมายิ้มชั่ว ผมคันไม้คันมือซะเหลือเกิน ระหว่างที่มันกำลังไปส่งที่ร้านขายอุปกรณ์มันก็พูดเรื่องชวนหงุดหงิดทันที

“มึงโทรหาไอ้ตินยัง ป่านนี้โดนไอ้เจ้าคุณอะไรนั่นหยอดจนเปื่อยแล้วแน่ๆ”มันหันมามองผมด้วยสีหน้าล้อเลียน

“ปากมอม สายกูรายงานว่าวันนี้มันไม่ได้อยู่ที่ไร่”พูดแล้วก็คิดถึง ส่งข้อความไปป่วนดีกว่า

Fix – 8bf57’

Tin – แปลด้วย

นึกว่ามันจะไม่ว่างตอบแล้วซะอีก

Fix – ความคิดถึงแปลไม่ได้หรอก

ขอเสี่ยวใส่มันซักหน่อย

Tin- มาแปลกนะ มีอะไรรึเปล่าเนี่ย

Fix – เปล่า แล้วมึงกลับวันไหน

Tin – พรุ่งนี้บ่ายๆ ไว้ตอนดึกจะโทรหานะ ตอนนี้ต้องคุยกับพวกคนงานก่อน

Fix – เออ จะรอ

ถ้าไม่โทรมานะมึง…

ผมเก็บโทรศัพท์ด้วยความแช่มชื่น

“เออ เรื่องของขวัญวันเกิดกู--”

“ไม่บอก”มันรีบขัดก่อนที่ผมจะทันพูดจบซะอีก รู้ทันนักนะ ผมนั่งเงียบไปตลอดทาง จนถึงร้านขายอุปกรณ์เครื่องเขียน สายตาสะดุดเข้ากับรถที่ผมเคยเห็นมาก่อนหน้านี้…รถที่มีโลโก้ของรีสอร์ท รถไอ้เจ้าคุณนั่นเอง ว่าแต่มันมาทำอะไรแถวนี้

“กูรออยู่ในรถนะ ขี้เกียจออกไป”

“อือ”ผมตอบส่งๆ ยังนึกสงสัยไม่หยุด หรือมันมาซื้อของ บ้าน่า…อย่างมันจะมาทำไมแถวนี้อีก เมื่อลงจากรถ ผมก็จ้องมองรถคันนั้นอยู่สักพัก เห็นเงาทะมึนๆเหมือนว่ามีคนนั่งอยู่ด้านใน

ช่างหัวมันเถอะ

ผมเลิกคิดก่อนจะรีบเข้าไปในร้าน คนเยอะตามปกติอยู่แล้ว ผมเดินเลาะไปหาของที่ต้องการ ระหว่างที่กำลังหยิบๆจับๆแผ่นอะคลีลิก ก็รู้สึกว่ามีคนมายืนมองอยู่ เมื่อหันไปมองก็พบกับคนร่างสูงสมส่วน และสวมแว่น

เชี่ยเจ้าคุณ มาเงียบๆอย่างกับผี

“มาซื้อของเหรอ”ถามแปลกๆ

“ครับ”ผมไม่รู้จะตอบอะไร เลยรีบหยิบแผ่นอะคลีลิกออกมา

“แล้วแผลวันนั้นเป็นไงบ้าง”อีกฝ่ายแตะที่ข้อศอกของผมอย่างถือวิสาสะ

“ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับพี่”ช่วยไปไกลๆผมสักทีเถอะ ขนลุก ผมเหลียวมองรอบๆอย่างอับจนหนทาง

“เรียนสถาปัตย์เหรอ พอดีน้องชายพี่ก็เรียนเหมือนกัน”ผมเลิกคิ้วทันที น้องชายเหรอ…เหอะ ดูจากหน้าและน้ำเสียงแล้ว ผมไม่คิดว่าเป็นน้องชายหรอก

“บังเอิญจังครับ ว่าแต่น้องชื่ออะไรเหรอ เผื่อผมรู้จัก”เรื่องของเรื่องคือผมอยากเสือก

“ชื่อต้นน่ะ เรารู้จักไหม”คนตรงหน้าขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ผมถอยห่างจนแทบจะติดกับชั้นวางของอยู่แล้ว ไอ้นี่มันน่ากลัวจริงๆ ว่าแต่ชื่อต้นเหรอ ต้นไหนวะ…ผมรู้สึกเหมือนถูกต้อนจนมุม

“เอ่อ คือผมรีบ ช่วยหลีกทางหน่อย”

“เจอกันทีไร เรารีบตลอดเลยนะ”เจ้าคุณหัวเราะในลำคอชวนขนลุก

“กลัวพี่เหรอ”

“เปล่าครับ”

“ท่าทางเราเหมือนกลัวๆ”อีกฝ่ายยิ้มอย่างได้ใจ ผมกำลังนึกภาพไอ้ตินโดนต้อนแบบนี้บ้าง ไม่หรอก!ยิ่งคิดผมก็ยิ่งเดือดเหมือนมีไฟลน ปกติคนอย่างเจ้าคุณนี่มันจีบดะหมดเลยหรือไง

“ผมไม่ได้กลัว แค่ไม่ชอบ”ผมตอบเสียงดังฟังชัด

“ดื้อๆแบบนี้ ยิ่งน่าเข้าหานะรู้รึเปล่า”ไอ้เจ้าคุณฉีกยิ้ม ผมเหลือบไปเห็นเด็กปีหนึ่งคณะเดียวกับผมห้อยป้ายบอกชื่อเข้าก็ถึงบางอ้อ
น้องชายที่ว่า…คงไม่พ้นเลี้ยงไว้ดูเอ็น เอ้ย เอ็นดูแน่ๆ ผมเริ่มสยองกับเสือตรงหน้ามากทุกที

“น้องชายมองแล้วครับ”มองแบบจะกินเลือดกินเนื้อ เจ้าคุณหันไปมอง ผมใช้จังหวะนี้ รีบเบียดอีกฝ่ายออกไปทันที แต่ช่วงที่รีบ
เบียดผ่าน รู้สึกได้ว่ามือของอีกฝ่ายเลื่อนโดนแถวๆสะโพกของตนอย่างตั้งใจ

หลอนเชี่ยๆเลย ทำไมมันต้องมาตามหลอกหลอนทั้งผมทั้งไอ้ตินด้วยก็ไม่รู้ ผมขนลุกวูบวาบไปหมด รีบเข้าไปเลือกกระดาษชานอ้อย ไม้บัลซ่าและพวกของตกแต่งเทียมให้เร็วที่สุด ระหว่างที่กำลังจ่ายเงินอยู่นั้น…

“พี่จ่ายให้เอง”เสียงไอ้เจ้าคุณดังอยู่ด้านหลัง

“ไม่ต้องครับ ผมมีเงินจ่ายเอง…”แต่ก็ไม่ทัน แขนของอีกฝ่ายเลื่อนผ่านหน้าพร้อมกับส่งแบงค์พันให้เจ้าของร้านไปแล้ว ผมรับถุงมาจากเคาน์เตอร์ก่อนจะรีบเบียดออกมาจากร้านทันที

เฮ้อ…เวรกรรมอะไรของไอ้ฟิกเนี่ย

“เป็นอะไร ทำหน้าแปลกๆ”ไอ้ภูโผล่มายืนข้างๆ ในมือมันถือถุงลูกชิ้นปิ้ง รถขายจอดอยู่หน้าร้านนี่เอง

“คือ…”

กริ๊งง

เสียงประตูเปิดออกพร้อมกับไอ้เด็กต้นเดินออกมาพร้อมกับไอ้เจ้าคุณ มันทั้งสองคนต่างมองมาที่ผม ไอ้ต้นมองอย่างหมาหวงของ ส่วนไอ้เจ้าคุณ ไม่ต้องให้บรรยายก็คงเดาออก

“มองเชี่ยไรวะ”ไอ้ภูพึมพำอย่างหงุดหงิด มันคงสังเกตได้เหมือนกัน

“กลับเถอะ”ผมรีบเดินนำไปที่รถ ไอ้เจ้าคุณมันหน้าด้านจริงๆ ยังจะมายิ้มให้ผมอีก ไอ้ภูตามเข้ามาพร้อมกับปิดประตูเสียงดังปัง

“รู้จักมันเหรอ”ไอ้ภูมองไปที่รถของเจ้าคุณด้วยสายตาคุกรุ่น

“ไอ้แว่นนั่นคือไอ้เจ้าคุณ คนที่กูเล่าให้ฟังนั่นแหละ”ไอ้ภูทำตาโตทันที

“ไอ้นั่นน่ะเหรอ อย่าบอกนะว่ามันม้อทั้งมึงทั้งไอ้ติน แถมมันยังกินเด็กคณะมึงอีก”มันทำเสียงเหลือเชื่อ

“อือ”ผมตอบอย่างไร้อารมณ์

“เมื่อกี้ กูเห็นมันเข้าไปในร้าน…มันตามมึงไปรึเปล่า”ไอ้ภูเดาได้ตรงเผงเลย

“เออ กูสยองจริงๆ”คนอย่างไอ้เจ้าคุณคนละเรื่องกับไอ้ภู ไอ้ตินเลย

“คราวหน้าถ้ามันมายุ่งกับมึงอีก บอกกู เดี๋ยวกูจัดการเอง”ไอ้ภูทำหน้าจริงจังจนผมนึกกลัว แต่ผมมีลางสังหรณ์แปลกๆว่าคงเป็นมวยคนละรุ่นแน่ๆ




********************************************************






ผมมาค้างที่บ้านไอ้เคนเพราะเรื่องโปรเจ็ค ยอมรับว่าไม่ค่อยมีสมาธิฟังอะไรเท่าไหร่ เพราะรอสายจากไอ้ติน มันบอกว่าจะโทรมา จู่ๆผมก็นึกไปถึงเรื่องครั้งล่าสุด ถ้ามันไม่โทรมาล่ะ คราวนี้ผมโกรธมันแน่ ถึงเหตุผลจะดูไร้สาระก็เถอะ แต่ผมร้อนใจเรื่องไอ้เจ้าคุณมากจริงๆ ไม่ได้กลัวว่าไอ้ตินจะชอบหรืออะไรหรอก แต่เพราะเป็นไอ้เจ้าคุณ ผมเกรงว่ามันจะมีลูกไม้เยอะ

“เดี๋ยวนี้เพื่อนกูกลายเป็นคนคิดมากไปซะแล้ว”เสียงไอ้เคนแว่วมา ผมหันไปมองก็เห็นว่ามันกับไอ้ชายนั่งจ้องผมอยู่

“กูแค่เครียดๆ”

“เรื่องผีที่มึงเล่าน่ะนะ”ไอ้ชายทำหน้าเหมือนจะขำ

“ส่วนหนึ่ง มึงไม่ต้องขำ ไม่โดนกับตัวมึงไม่รู้หรอก”ผมยังสยองไม่หายเลย


RRRRRRR

ผมคว้าโทรศัพท์มาดูอย่างโล่งอกเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ ผมปลีกตัวไปคุยด้านนอกทันที

“ว่าไง”

[รออยู่รึเปล่า] น้ำเสียงของมันก็ดูปกติดี

“ไม่ได้รอ”

[แต่รับเร็วมาก]

“โทรศัพท์อยู่ข้างๆพอดี…”ผมเดินไปเดินมาอย่างว้าวุ้น

[เป็นอะไรรึเปล่า เสียงแปลกๆ] ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“กูรู้เรื่องไอ้เจ้าคุณแล้วนะ”ผมเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวไม่ได้แล้ว

[อืม พี่ภูก็โทรมาคุยเรื่องมึงแล้วเหมือนกัน] ฟังก็รู้ว่ามันค่อนข้างเครียดอยู่เหมือนกัน

“กูรู้ว่ามึงเก่ง แต่ระวังมันไว้หน่อยก็ดีนะ”ไอ้ตินหัวเราะออกมาทันที

[กูห่วงมึงมากกว่า]

“กูเอาตัวรอดได้”

[กูไม่อยากพูดกับอีกฝ่ายตรงๆ มันจะดูเสียเปรียบถ้ากูมีท่าทางคิดมากหรือกังวล กูอยู่ปกติของกูแบบนี้แหละ ถ้ามันเบื่อ เดี๋ยวมันก็รามือเอง มึงก็รู้ถ้าหากว่ากูหมดความอดทน กูไม่อยู่เฉยแน่]

“เออ”ได้ยินมันพูดแบบนี้ ความกังวลที่เคยมีก็หายไปกับสายลม

[สบายใจหรือยังครับ น้องฟิก] ไอ้ตินกรอกเสียงนุ่มพลางหัวเราะไปด้วย

“แล้วงานหนักรึเปล่า”ผมเปลี่ยนเรื่องทันควัน

[ก็เอาเรื่องอยู่ ไม่เหมือนตอนที่เรียนในห้อง ได้ลงมือทำจริงๆก็ยากกว่าที่คิด] ผมนั่งคุยเรื่อยเปื่อยกับมันอยู่นาน จนนึกขึ้นมาได้ว่าผมมีงาน

“กูต้องทำงานต่อเหมือนกัน ไว้เจอกันพรุ่งนี้ แล้วก็….”

[ก็อะไร]

“ไม่มีอะไร แค่นี้แหละ”ผมรีบวางสายทันที อยากบอกมันนะว่าผมหวง แต่จะห่วงหรือหวงมันก็คล้ายๆกันนั่นแหละ ผมเลิกคิดเรื่องไร้สาระ ก่อนจะส่งข้อความเสียงไปบอกฝันดีไอ้ภูด้วย แต่คิดว่าตอนนี้มันคงยังไม่นอนหรอก ไม่เล่นเกมส์ก็ดูหนังระเบิดกระท่อมอยู่แน่ๆ

“สบายใจแล้วล่ะสิ หน้าบานเชียวนะมึง”ไอ้เคนทักทันทีที่ผมกลับเข้ามาด้านใน

“เออกูได้ยินมาว่าน้องเดือนคณะชอบมึงเหรอ”ไอ้ชายผู้ไม่เคยตกข่าวเริ่มเม้าท์

“มึงไปได้ยินมาจากไหน”ข่าวมันไปไวขนาดนั้นเลยเหรอ

“กุได้ยินพวกหลีดคณะคุยกัน”

“เรื่องนี้กูก็เริ่มเครียดเหมือนกัน กูกลัวเป็นเหมือนคราวไอ้นัทจริงๆ”สงสัยต้องเข้าวัดทำบุญบ้างแล้วล่ะ เรื่องวุ่นๆจะได้หมดไปสักที

“เดี๋ยวพวกกูช่วยเป็นหูเป็นตาให้ ถ้ามันทำอะไรล้ำเส้น กูจะคุยให้เอง”ไอ้เคนเสนอ เพราะมันต้องทำงานกับพวกปีหนึ่งตลอดช่วงกิจกรรม อย่างไอ้เพชรอาจไม่เป็นปัญหาเท่าไอ้เจ้าคุณก็ได้…







********************************************************




ผมกลับไปที่หอช่วงสายๆ ก็ไม่เจอไอ้ภูแล้ว มีแต่โพสอิทแปะไว้ตรงตู้เย็น

‘ซ้ายมือคือหัวใจ’

หมายถึงอะไรของมัน ผมเหลียวมองไปทางซ้ายมือก็ไม่เจออะไร ‘หัวใจ’เหรอ ผมเหลือบมองเข้ากับต้นโฮย่ารูปหัวใจที่วางอยู่บนตู้ลิ้นชักข้างหน้าต่างทางซ้ายมือ ใกล้กันมีต้นเงินไหลมาเทมาตั้งอยู่ในกระถางเล็กๆ พวกมันนี่เล่นอะไรแปลกๆแฮะ จะว่าไปทำไมผมไม่เคยสังเกตว่ามีตู้ลิ้นชักอยู่ตรงนี้ หรือเพราะไอ้ตินชอบเอาต้นไม้จำพวกฟอกอากาศมาตั้งเยอะๆ ผมเลื่อนกระถางต้นไม้ออก ก่อนจะลองใช้กุญแจที่ได้มาไขดู

แกร๊กๆ

ผมใจเต้นระรัวเมื่อไขได้ ตู้เล็กๆแบบนี้ มันสองคนจะให้อะไรผม ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น ผมเปิดลิ้นชักออก ส่งเสียงงุนงงออกมาเมื่อเปิดเจอไดอารี่เล่มเล็กๆสองเล่มวางซ้อนกันอยู่ มีโพสอิทสีเขียวแปะอยู่ตรงหน้าปกอีกที

‘แปลกใจล่ะสิ แต่อย่าเพิ่งบ่น…’

สงสัยพวกมันคงจะว่างจัดแน่ๆ และผมก็บ้าจี้ทำตามมัน ส่วนไดอารี่ผมเลือกที่จะเก็บไว้ในตู้ลิ้นชักตามเดิม ยังไม่อยากอ่านตอนนี้ เพราะไม่รู้ว่าพวกมันเขียนอะไรไว้ นึกไปถึงไดอารี่ของไอ้ภูที่เคยโยนทิ้งไป หรือว่ามันลงทุนเขียนใหม่ ผมลงไปใต้หอตามข้อความที่บอกไว้ เห็นของตรงหน้าก็ได้แต่อุทานในใจว่า

‘ว่าแล้ว’

รถเบนซ์รุ่น CLS 250 สีดำจอดอยู่ที่หน้าหอ มีดอกกุหลาบเสียบอยู่ตรงหน้ารถ กำลังมึนๆงงๆ ไอ้ภูกับไอ้ตินก็โผล่มายืนข้างๆ

“เฮ้ย ไหนมึงว่ากลับตอนบ่าย”ผมโดนมันอำอีกแล้ว

“เปลี่ยนใจแล้ว รถสวยไหม”มันทำเสียงตื่นเต้น

“เปลืองเงิน รถพวกมึงก็มีอยู่แล้วจะซื้อมาอีกทำไม”ผมล่ะอยากตบกะบาลพวกมันสองคนจริง ๆและดูจากสไตล์แล้ว เหมือนจะ
เป็นรถแนวที่ไอ้ภูชอบ

“กูอยากได้”นั่นไง ในที่สุดไอ้ภูก็เผยไต๋ออกมาจนได้

“อยากได้กันเองแล้วก็เอาชื่อกูมาอ้าง”ไม่ได้โกรธอะไรหรอก ถึงยังไงผมก็ต้องใช้กับพวกมันอยู่ดี

“เดี๋ยวรถคันเก่า กูจะเอาไปคืนพ่อ”ไอ้ภูดูจะจริงจังมาก ผมก็ไม่รู้หรอก อนาคตมันไม่แน่นอน 

“พวกมึงจริงจังเกินไปรึเปล่าเนี่ย”ถึงกับซื้อรถให้ผม ถึงจะเพื่อเป็นของขวัญให้ผม แต่ยังไงผมก็คิดมากอยู่ดี แล้วรถคันนี้ผมเชื่อว่าราคาคงกระฉูด แต่เห็นสีหน้าตั้งใจจริงของมันสองคนแล้วผมก็ด่าไม่ลง 

“เดี๋ยวกูช่วยจ่ายวันละร้อยล่ะกัน”พูดออกไปเพื่อไม่ให้มันสองคนคิดมาก ความจริงต้องเป็นผมนะที่ต้องคิดเยอะ

“วันละบาทพอ จะได้อยู่ด้วยกันทั้งชีวิตไง”พวกมันชอบทำอะไรแบบนี้ทุกที และดูจากสีหน้าของพวกมันคงเตรียมใจมาโดนผมด่าแล้วแน่ๆ 

“วันหลังก็ปรึกษากูก่อนนะ กูไม่อยากให้พวกมึงมองข้ามเรื่องเงินๆทองๆ”นี่ถ้ารถไม่สวย ผมคงบ่นนานกว่านี้แน่ๆ 

“ครับแม่”มันสองคนประชดมาด้วยน้ำเสียงขบขัน ผมหยิบโทรศัพท์ที่สั่นเพราะมีข้อความเข้าออกมาดู เบอร์แปลกซะด้วย


ผมเตือนพี่นะ อย่ายุ่งกับคนของผม 




จากใครไม่ต้องสืบเลยครับ งานนี้มีเรื่องสนุกๆอีกแล้วสิ

 



****************************************************************








(http://upic.me/i/sn/1401245659-301-0.jpg)
น้องโดโด้น้อยของภูค่ะ
TBC.
ตอนหน้าดีกรีความน่าหมั่นไส้ของเจ้าคุณจะเพิ่มขึ้นค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามน้า ม้วฟๆ  :จุ๊บๆ:



หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-02-2016 09:35:58
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-02-2016 10:20:21
เจ้าคุณนี่โคตรของโคตรม่อเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 02-02-2016 10:56:42
แลดูฟิกกลัวเจ้าคุณมากนะนี่ 55
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 02-02-2016 11:10:27
ภูกับตินนี่ใจป้ำจริงๆ ว่าแต่ต้นส่งข้อความว่าฟิก ระวังโดนดีนะ ฟิกมีสามี เอ๊ย มีแบ็คดี :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-02-2016 11:16:10
ว้าว รถจ้า
คือดีงาม
คือแอบหมั่นไส้แล้วนะ ไอ้เวรเจ้าคุณเนี่ย
แล้วนี่คนรอบข้างหนูฟิกนี่เป็นเก้งกันหมดเลยไหม ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 02-02-2016 11:23:36

 :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 02-02-2016 11:32:39
อยู่เฉย ๆ เรื่องก็เข้ามา

สามคนนี้น่ารักดี
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 02-02-2016 11:36:06
แค่มีภู+ติน
ไอ่เจ้าคุณจะทำอะไรฟิกได้

ผัวผมเป็นมาเฟีย
สองคนแน่ะครับ
หุหุ
 :z2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 02-02-2016 12:03:46
อิจฉาฟิกมันจริง สามีดี สามีหล่อ สามีรวย 5555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 02-02-2016 12:46:57
 :-[
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 02-02-2016 14:19:38
ไอ้เด็กนั่นไม่ได้ดูรึไงว่าใครเข้ามายุ่งกันแน่น่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 02-02-2016 14:39:22
ฟิก ---> ไซ (ต้อ)
ภู    --->  โดเบอร์แมน (โดโด้)
ติน  ---> ???  :o8:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 02-02-2016 14:40:22
อยู่ดีๆก็มีงานเข้าซะงั้น
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 02-02-2016 17:34:42
ไม่มีใครเขาแย่งหนูหรอกน้องต้น 5555555555555555555
ไปบอกคนของน้องต้นดีกว่าว่าอย่ามาตามราวีเขา
โว้ยยย คนอะไรวะ จะเอาทั้งผัวทั้งเมีย 555555555555555555555
พี่ภูจัดการไหวมั้ย?
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 02-02-2016 18:13:17
พี่ภู&พี่ติน ดีกว่า(ไอ้) เจ้าคุณเยอะจ้ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-02-2016 18:31:45
งานเข้าอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 02-02-2016 19:29:49
ใครหาเรื่องฟิก ระวังผัวมันด้วยนะครับบบบ555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 02-02-2016 20:37:11
อยู่เฉยๆก็มีเรื่องเข้าหา
สงสัยฟิกคงต้องเข้าวัดทำบุญครั้งใหญ่แล้วมั้ง
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 02-02-2016 21:19:52
เจ้าคุณ แร๊งงงงงง  :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 02-02-2016 21:47:40
เดาไม่ยากเลย  :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 02-02-2016 22:13:36
เจ้าคุณนี่ม่อไปเลือกจริงๆนี่คงติดใจฟิกจากตอนรถชนคราวนั้นสินะ เฮ้อ ฟิกเอ้ยมีสามีเป็นตัวตนตั้งสองคนแล้วเสน่ห์ยังแรงไม่หายเลยนะ เป็นฟิกนี่เหนื่อยจริงๆอยู่ดีๆเรื่องก็วิ่งเข้ามาหา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 02-02-2016 22:40:42
น้องฟิกเสน่ห์แรงอ่าาา
ว่าแล้วว่าต้องเป็นกุญแจรถ
สองคนนี้ป่าจริงๆอะ ซื้อรถให้ดั๊วะ
เป็นฟิกนี่ดีจริงเลยน้าาาา
ตอนนี้ต้นเติ้นอะไรจะมาหึงคะ
ผิดค่ะ ไปห้ามคนของตัวเองนู่นไป
อยู่ดีไม่ว่าดีมาหาเรื่องให้ฟิก 5555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: patoya ที่ 02-02-2016 23:00:47
เจ้าคุณคงไม่สนตินแล้วละมั้งในเมื่อฟิกเคี้ยวง่ายกว่าตินเยอะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 02-02-2016 23:22:49
ฟิกนี่งานงอกตลอด คนเสน่ห์แรงจริงๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๓] 2-02-59 P.30
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 03-02-2016 00:18:28
เขามีโมเม้นท์หวานๆกันอีกแล้ว  :-[

ช่วยเตือนคนของตัวเองว่าอย่ายุ่งกับคนอื่น  :m16:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 03-02-2016 16:48:10

ตอนที่๒๔








ผมได้รับข้อความจากไอ้เด็กต้นเกือบตลอดทั้งวัน ความจริงจะบล็อกก็ได้ แต่ไม่เอาดีกว่า เก็บไว้ดูก็สนุกดี อีกอย่างถ้าไม่มีเรื่องไอ้เจ้าคุณ ผมก็แทบจะไม่รู้จักไอ้เด็กต้นนี่เลย แล้วผมก็ยังไม่ได้บอกไอ้ภูกับไอ้ตินด้วย รอให้มันเหิมเกริมหนักๆก่อนค่อยบอก เกรงว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ไปเปล่าๆ

ถ้าพี่ไม่เลิกยุ่งกับแฟนผม ผมจะแฉพี่


ไอ้ต้นนี่เหมือนหมาบ้าเลยว่ะ สงสัยกำลังอยู่ในช่วงติดสัตว์แหงๆ แต่เอาเข้าจริงๆไอ้ต้นมันก็ไม่กล้าทำอะไรผม เจอที่คณะมันก็ได้แต่มองหน้าเหมือนหมาที่ดีแต่เห่า แค่เห็นหน้าไอ้เคนมันก็หงอแล้ว

“ให้กูจัดการให้เอาไหม เห็นแล้วกูหมั่นไส้ว่ะ”ไอ้ปลาจิกตามองไอ้น้องต้นที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวฝั่งตรงข้าม

“ปล่อยมันไปเถอะ กูไม่อยากจะสนใจ”ไม่อยากมาต่อล้อต่อเถียงกับเรื่องของไอ้เจ้าคุณ คิดแล้วก็เพลีย โชคดีที่พักนี้ไอ้เพชรไม่ได้มาวุ่นวายกับผมมาก เจอมันก็แค่ช่วงซ้อมละครเท่านั้น อาทิตย์หน้าก็มีงานจริงแล้ว ผมยังจำบทในส่วนของตัวเองไม่ได้เลย ช่วงนี้ผมเลยต้องมาที่คณะบ่อย กลับดึกๆดื่นๆอีก เจอหน้าไอ้ต้นแม่งทุกวัน ทั้งๆที่เมื่อก่อนมันเป็นมนุษย์ล่องหนสำหรับผมด้วยซ้ำ

“มึงควรจะระวังเพื่อนมันให้ดีนะ”ไอ้ปลาหมายถึงหลีดสันคณะเกษตรที่เป็นเก้งนิสัยแรงๆ ความจริงผมก็แอบหวั่นนิดหน่อย คนอย่างไอ้ฟิกจะโดนพวกแก๊งเก้งหาเรื่องก็คราวนี้ล่ะ ชีวิตผมครบรสชาติจริงๆ

“ไม่เห็นต้องกลัวเลย อย่าลืมว่ามันมีไอ้ตินทั้งคน”ไอ้เคนพูดขึ้นมา ก็จริงของมัน

“กูเซ็งว่ะ”ผมตักข้าวเข้าปากอย่างเบื่อหน่าย เห็นไอ้เพชรยืมเมียงมองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เหมือนมันมีเรื่องอยากถาม มันคงจะเก
รงๆไอ้ภูอยู่ล่ะมั้ง หลังจากกินข้าวเสร็จผมเลยเข้าไปทักมันก่อน

“มีอะไรจะคุยกับกูรึเปล่า”

“ก็นิดหน่อยครับ”มันทำหน้ามีลับลมคมใน

“ว่ามา”ผมนั่งลงข้างๆ ไอ้เพชรไม่พูดพร่ำทำเพลงยื่นโทรศัพท์มาให้ ผมกวาดสายตามองหน้าจอโทรศัพท์ บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง เพราะที่ไอ้เพชรเอาให้ผมดูคือข้อความของไอ้ต้นที่โพสท์ลงในกลุ่มของรุ่น ข้อความพวกนั้นกล่าวหาว่าผมไปยุ่งกับสามีมัน เหอะๆ ถึงว่าทำไมพวกปีหนึ่งมันมองหน้าผมกันจัง

“มึงเชื่อรึไง?” 

“เชื่อก็ควายแล้ว”มันหัวเราะอย่างไร้อารมณ์ขัน

“ถ้าพี่อยากให้ผมช่วย ก็บอกผมได้นะ”

“ไม่เป็นไรว่ะ กูจัดการเองได้”ในโพสท์ของไอ้ต้น เหน็บผมเรื่องไอ้ภูด้วย ประมาณว่ามีเรื่องอะไรก็ให้พวกมันเคลียร์ให้ตลอด ปากมอมจริงๆ     

“แต่พี่ฟิกไม่ต้องห่วงนะ บางคนมันก็ไม่เชื่อไอ้ต้นหรอก”ไอ้เพชรเข้ามาตบบ่าผมเหมือนเป็นเพื่อนเล่น

“ช่างเถอะ กูไม่อยากสนใจเด็กอย่างมัน”แค่รำคาญมากกว่า หนักกว่านั้นคือกลัวว่าจะโดนพวกแก๊งเก้งมาดักตบนี่ล่ะ เสียชื่อไอ้ฟิกหมด คิดแล้วก็สยอง

“พี่ฟิกๆ”ไอ้ขวัญวิ่งหน้าตั้งมาหาผม ท่าทางร้อนรนของมันเดาว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

“มีอะไรขวัญ”รุ่นน้องหอบแฮ่กๆ ก่อนจะสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่

“เป็นเรื่องแล้ว เมื่อกี้หนูไปคณะเกษตรมาเห็นพี่ตินอยู่กับน้องต้นแล้วก็พวกแก๊งหลีดสันที่คณะ เหมือนกำลังเคลียร์กันอยู่”คำว่าเคลียร์ของไอ้ขวัญทำเอาผมใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม 

“แกพาพี่ไปหน่อยดิ”ผมร้อนใจขึ้นมา คนอย่างไอ้ตินถ้าได้โกรธ ใครก็ห้ามมันไม่อยู่หรอก ระหว่างที่ไปคณะเกษตร ไอ้ขวัญมันก็เล่าให้ฟังคร่าวๆว่าไอ้ต้นกับเพื่อนมันเอาเรื่องของผมไปโพสท์ลงกลุ่มใหญ่ แล้วเรื่องไปถึงหูเพื่อนไอ้ตินเข้า ไอ้ตินก็เลยรู้เรื่องเหมือนกัน

ไอ้ขวัญเดินนำผมไปที่ชั้นสองก่อนจะหยุดลงที่หน้าห้องประชุม

“ห้องนี้แหละพี่ฟิก”ไอ้ขวัญดูจะหวั่นๆอยู่เหมือนกัน ผมลองผลักประตูเข้าไปแต่ปรากฏว่าห้องล็อค จึงเปลี่ยนมาโทรหาไอ้ตินแทน รอไม่นานมันก็รับสาย

[ว่าไงฟิก] เสียงของมันเรียบเฉยเสียจนใจแกว่ง

“มึงเปิดประตูให้กูหน่อย”ผมเข้าเรื่องทันที กลัวว่ามันจะทำอะไรรุนแรงอยู่เหมือนกัน ไอ้ตินตัดสายทิ้งทันที ไม่นานนักประตูห้องประชุมก็เปิดออก ไอ้ตินดูจะโกรธเอาเรื่อง มันจ้องหน้าผมอยู่นานสองนาน

“ทำไมไม่บอกกูเรื่องไอ้ต้น”

“กูไม่อยากให้เป็นเรื่อง”

“แล้วตอนนี้เป็นไง”มันปรายตาไปทางไอ้ต้นและเพื่อนมันอีกสองคนที่นั่งก้มหน้าก้มตากลัวหัวหด

“มึงทำอะไรพวกมัน”ผมพยายามมองว่าไอ้ตินลงไม้ลงมือรึเปล่า

“ก็แค่พูดอะไรนิดหน่อย”ไอ้ตินหันไปหาไอ้เด็กพวกนั้น

“พวกน้องรู้ใช่ไหมว่าควรจะทำยังไง”มันมองรุ่นน้องตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา ไอ้ต้นเหลือบมองผมก่อนจะก้มหน้าลงตามเดิม

“ผม…ขอให้พี่ฟิกเลิกยุ่งกับแฟนผม”โอ้ว มันช่างกล้า ไอ้ตินขยับเข้าไปหาไอ้ต้นอย่างรวดเร็วจนผมห้ามไม่ทัน แต่มันแค่นั่งลงจนระดับสายตาเท่ากัน มันทำแค่มองหน้าไอ้ต้นนิ่งๆ เมื่อมันหลบสายตาไอ้ตินจึงบีบคางไอ้ต้นเต็มแรง

“กูไม่อยากจะใช้กำลังกับมึงนะ ไอ้ต้น”ผมเสียววูบวาบแทนไอ้ต้นจริงๆ

“พวกผมขอโทษ”น้องหลีดสันคณะไอ้ตินพึมพำตอบกลับมาด้วยเสียงสั่นเครือ แต่ดูเหมือนว่าไอ้ตินยังไม่พอใจ

“จะบอกอะไรให้นะ ไอ้เจ้าคุณน่ะ มันไม่ได้จริงจังอะไรกับน้องหรอก มีกิ๊กเป็นสิบ คราวหลังจะกล่าวหาใคร ก็หัดดูสันดานคู่นอนตัวเองหน่อยนะ อย่าคิดว่าคนอื่นจะสันดานต่ำเหมือนตัวเอง”อื้อหือ คำพูดไอ้ตินช่างเจ็บแสบจริงๆ ไอ้เด็กต้นเหมือนคนเป็นใบ้ ผมคงเห็นใจมันมากกว่านี้ ถ้าไม่ได้มาหาเรื่องให้ผม

“ว่าไง มึงยังมีเรื่องต้องพูดกับไอ้ฟิกอีกไม่ใช่เหรอ”ไอ้ตินย้ำเสียงแข็ง ไอ้ต้นสูดจมูกก่อนจะพยายามพูดออกมาให้เสียงดังฟังชัด แต่ดูมันจะกลัวไอ้ตินจนพูดไม่ออกไปแล้วมั้ง

“มึงอย่าไปบังคับมัน ถ้ามันคิดเองไม่ได้ กูก็ไม่อยากได้ยินหรอก เออ แล้วมึงช่วยแก้ข่าวให้กูด้วยนะ กูไม่ได้แย่งสามีสุดที่รักของมึง”ถ้าคนที่ไม่รู้จักผม แล้วเชื่อแบบนั้นขึ้นมาก็ซวยน่ะสิ แค่นี้เด็กปีหนึ่งมันก็มองผมแปลกๆแล้ว ผมถอนหายใจก่อนจะออกมาจากห้องประชุม ไม่อยากอยู่ดูไอ้ตินเล่นงานไอ้ต้นหรอก ไอ้ตินคงไม่พอใจที่มันไม่ยอมขอโทษผม แต่ก็ช่างเถอะ ผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้อยู่แล้ว คำขอโทษไม่จริงใจผมก็ไม่อยากได้จากมันหรอก 

“เป็นไร ขวัญ”ออกมาเจอน้องเทคทำสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“ไม่เคยเห็นพี่ตินเป็นแบบนี้เลย”ผมถึงกับหัวเราะ

“มันก็เป็นแบบนี้แหละเวลาองค์ลง”

“ก็ว่าอยู่ พี่ฟิกถึงได้ทำตัวน่ารัก”

“ใช้คำซะพี่ขนลุกเลยเนี่ย ว่าแต่แกรู้ได้ไงว่าไอ้ตินมันกำลังเอาเรื่องไอ้พวกนั้น”หูตาไวจริงๆ

“หนูมารอเพื่อน”มันตอบด้วยท่าทางแปลกๆ ไอ้เพื่อนของมันคงไม่พ้นแฟนหรอกมั้ง

“แหม สะดิ้งเชียว”

“ไม่เท่าพี่ฟิกหรอก”พูดจบมันก็รีบวิ่งหนีผมทันที ผมนั่งรอไอ้ตินอยู่ที่โถงคณะแทน มันหายไปเกือบๆยี่สิบนาทีกก่อนจะออกมา ดูอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย ผมก็ไม่กล้าถามว่ามันทำอะไรพวกไอ้ต้น

“ทำหน้าแบบนั้นทำไม”ไอ้ตินขยับมานั่งข้างๆ

“เปล่า”

“โม้”มันยิ้มออกมาจนได้ สีหน้ากลับมาจริงจังอีกครั้ง

“กูขอนะฟิก มีอะไรก็บอกกู มึงไม่ต้องไปสนใจที่คนอื่นพูดหรอก กูมีมึงแค่คนเดียว ก็อยากดูแลมึงให้ดีที่สุด วันหลังมึงอย่าอมพะนำแบบนี้อีกนะ”ไอ้ตินมองหน้าผมตรงๆ จะหลบสายตาก็ไม่ได้

“อืม กูแค่ไม่อยากมีเรื่องกับเด็กอย่างไอ้ต้น เสียชื่อกูหมด”

“เออ กูก็ลดตัวไปเอาคืนให้มึงแล้วไง สนุกออก กูยิ่งเครียดๆเรื่องไอ้เจ้าคุณอยู่ก็ถือว่าได้ที่ระบายไป”

“มันวุ่นวายอะไรกับมึงอีกเหรอ”ผมถามทันที เดาจากท่าทีของไอ้ตินแล้ว ไอ้เจ้าคุณคงยังไม่รามือแน่ๆ

 “ก็…กูเพิ่งรู้ว่าไอ้เจ้าคุณมันรู้จักกับลุงกู ทีนี้มันกำลังคุยกับลุงกูบอกว่าอยากได้ตัวกูไปช่วยงานที่ไร่ของมัน”ไอ้เจ้าคุณมันกัดไม่ปล่อยจริงๆ

“แล้วมึงจะทำยังไง”

“ก็…เย็นนี้ได้ข่าวว่าลุงกูจะมาหาป๊าที่บ้าน กูเดาว่าไอ้เจ้าคุณมันต้องมาด้วย”ไอ้ตินทำหน้าเซ็ง ผมนิ่งไปอย่างใช้ความคิด กำลังนึกว่าจะเอาไงต่อ

“งั้นเย็นนี้ไปบ้านมึงกัน”ผมอยากจะรู้จริงๆเลยว่าไอ้เจ้าคุณจะทำหน้ายังไงถ้าหากรู้ว่าผมเป็นแฟนไอ้ตินคนที่มันคิดจะจีบอยู่

“เอางั้นก็ได้ มันจะได้รู้สักที ว่ากูรังเกียจมัน”ไอ้ตินดูหัวเสียอีกครั้งเมื่อพูดถึงเรื่องเจ้าคุณ


ดังนั้นตอนเย็น ผมกับไอ้ภูและไอ้ตินจึงไปด้วยกัน ไอ้ภูเอารถคันใหม่มาใช้แล้ว คันเก่ามันเอาไปคืนตามที่พูดจริงๆ ดูมันจะมีความสุขมากๆที่ได้ขับรถใหม่คนแรก 

“มันน่ากระทืบจริง เสียดายมึงน่าจะชวนกูบ้าง”เรื่องไอ้ต้น เรื่องที่มันทำดังข้ามคณะไปเข้าหูไอ้ภูด้วย

“ผมไม่ได้ทันได้คิดอ่ะ ตอนนั้นกำลังโมโห”ไม่ใช่แค่เรื่องหื่นที่มันสองเข้าขากัน น่ากลัวจริงๆศิษย์พี่ศิษย์น้องคู่นี้

“งานที่คณะมึงมีวันไหนนะภู”ผมกะจะไปเชียร์มันซักหน่อย

“อีกสองอาทิตย์ ของมึงอาทิตย์หน้าใช่ไหม”มันหันมาถาม สีหน้าเหมือนกำลังนึกสนุกอะไรอยู่

“ขอร้องอย่าทำอะไรแปลกๆนะ กูอาย”ไอ้สองตัวนี่ชอบทำอะไรแปลกๆอยู่เรื่อย

“ทำไมกูไม่เคยอายเลยวะ”ไอ้ตินหันมามองหน้าผมอีกคน

“เพราะพวกมึงหน้าด้านไง”

“รักเมียมาก ผิดด้วยเหรอ”ผมขยับไปหยิกแขนไอ้ภูเต็มแรง มันบิดพวงมาลัยออกข้างมากไปหน่อยจนรถเซ

“เล่นอะไร เดี๋ยวได้ตายหมู่หรอก”ไอ้ตินดุเบาๆ ผมกลับมานั่งตามเดิม เจอไอ้เจ้าคุณก็ดีเลย ผมจะได้ฟ้องมันเรื่องพฤติกรรมแย่ๆของไอ้เด็กต้น ไม่รู้จักสั่งสอนบ้างเลย หรือสนแค่เรื่องบนเตียงกันอย่างเดียว

รถเบนซ์ใหม่เอี่ยมสีดำเคลื่อนเข้าไปจอดที่โรงจอดรถ รถกระบะคุ้นตาของเจ้าคุณจอดอยู่เช่นกัน

“อยู่ต่อหน้าป๊ากับม๊าก็เรียบร้อยไว้ก่อนนะ”ไอ้ตินหันมาเตือนทั้งผมทั้งไอ้ภู

“หน้าอย่างกูเป็นเด็กเรียบร้อยอยู่แล้ว”ไอ้ภูกระตุกยิ้มไม่น่าไว้ใจ ผมบิดเนื้อบิดตัวแก้เมื่อยก่อนจะเดินตามไอ้สองคนนั่นเข้าไปในบ้าน ทั้งป๊า ม๊าไอ้ตินดูจะแปลกใจที่จู่ๆพวกผมมาหา และคนที่เหวออย่างเห็นได้ชัดก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากไอ้เจ้าคุณ คงจะงงว่าผมมากับไอ้ตินได้ไง

“อ้าว จะมาบ้านก็ไม่บอก ม๊ากำลังคุยกับพี่คุณอยู่เลย ตินคงรู้จักอยู่แล้วใช่ไหม เห็นว่าทำโครงการด้วยกันนี่”เจ้าคุณฉีกยิ้มอบอุ่นเมื่อม๊าหันไปหา ส่วนลุงของไอ้ตินผมก็เคยเห็นหน้าค่าตามาแล้วจากงานรวมญาติเมื่อคราวนู้น

“ครับ รู้จักผ่านๆ”ไอ้ตินตอบด้วยสีหน้าเซ็งๆ จนผู้ใหญ่ทั้งคู่จับสังเกตอะไรได้

“สวัสดีครับ พอดีมากะทันหัน ผมเลยไม่มีของฝากติดไม้ติดมือมาด้วย”ผมได้ทีรีบประจบผู้ใหญ่ทั้งสามคน มองเมินไอ้ตัวโตที่นั่งปั้นหน้าหล่อเนี้ยบอยู่ อยากจะหัวเราะแทบแย่ แค่มองหน้ามันผมก็รู้แล้วว่าตอนนี้มันกำลังมึน

“ไม่เป็นไรหรอก หนู”ก่อนที่การสนทนาจะยาวไปกว่านี้ เจ้าคุณก็ได้โอกาสแทรกขึ้นมา

“ว่าแต่นี่เพื่อนน้องตินเหรอ”เจ้าคุณผายมือมาทางผมและไอ้ภู ผมอยากจะอ้วก มาเรียกไอ้ตินแบบนี้น่าขนลุกจริง

“นี่ฟิก แฟนผมเองครับ”ไอ้ตินตอบเสียงดังฟังชัด สีหน้าเจ้าคุณดูตกใจไปชั่วขณะ ไอ้ภูหัวเราะหึ เ

“แหม พี่ไม่เห็นรู้เลยนะเนี่ย ตอนไปทำโครงการด้วยกัน ก็ไม่เห็นบอกพี่”เจ้าคุณหันมาทางผมด้วยสายตาเป็นประกายแปลกๆ ดูมันจะปรับตัวได้เร็วจริงๆ

“เหรอครับ ผมจำได้ว่าบอกไปแล้ว แต่พี่ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่”ไอ้ตินไหวไหล่ ส่วนป๊ากับม๊ามันมองหน้ากันอย่างงุนงง เพราะปกติไอ้ตินมันไม่เคยแสดงท่าทีแบบนี้ต่อหน้าคนอายุเยอะกว่า

“แล้วหนุ่มคนนี้ล่ะ เราเคยเจอกันแล้วนี่”คราวนี้เจ้าคุณเบนเข็มมาหาไอ้ภู

“ก็คุ้นๆเหมือนกัน แต่ผมเป็นใครก็ไม่สำคัญหรอก”ผัวผมเอง เอ้ย ล้อเล่นนะ ผมพูดเล่นหรอก บรรยากาศดูจะอึมครึมแปลกๆ ไอ้ตินก็เอาแต่ทำหน้าไม่สบอารมณ์ ส่วนไอ้ภูก็ปั้นหน้ากวนตีนเต็มเหนี่ยว

“หนุ่มๆคุยกันไปก่อนล่ะกันเนอะ เดี๋ยวแม่จะเข้าไปดูในครัว”ทั้งป๊าและม๊ารีบปลีกตัวออกไป สงสัยคงรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ

“เรื่องงานที่ไร่ ยังไงคุณก็ลองคุยๆกับน้องมันก่อนก็ได้ แต่ลุงก็ยังไม่อยากให้รีบ น้องมันยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ”คุณลุงก็เตรียมชิ่งเหมือนกัน เมื่อห้องรับแขกเหลือแค่พวกผมกับเจ้าคุณ บรรยากาศก็ยิ่งประหลาดเข้าไปใหญ่

“พี่แปลกใจมากเลยนะเนี่ย”มันหันมายิ้มให้ผม ก่อนจะมองไอ้ติน เป็นสายตากะลิ้มกะเลี่ยแบบพวกหัวงู ไอ้ตินคงรู้สึกจั้กจี้แน่ๆ

“ที่มาวันนี้เพราะผมอยากพูดตรงๆกับพี่อย่างที่เคยพูดไปหลายครั้งแล้ว”ไอ้ตินยิ้มเย็นก่อนจะหันมาสบตากับผม

“ผมมีแฟนแล้ว และก็รักมากด้วย เลิกคิดจะจีบผมเถอะ ผมไม่ชอบ”มันพูดเสียงแข็ง จนเจ้าคุณหัวเราะออกมาทั้งๆไม่มีอะไรน่าขำ

“พี่ไม่รีบหรอก”มันยังหน้าด้านอยู่อีก ผมแทบทนมองท่าทางไม่สะทกสะท้านของมันไม่ไหว

“อยากรู้จริงๆว่าหน้าอย่างพี่ เสริมคอนกรีตกี่ชั้น”ไอ้ภูแทรกถามด้วยคำพูดที่ทำให้ผมกลั้นยิ้มไม่อยู่ เจ้าคุณเลิกคิ้ว เบนสายตามองมาที่ไอ้ภูอีกครั้ง

“เอ…พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน จะบอกว่าพี่หน้าทนล่ะสิ ก็แหงล่ะ ของแบบนี้ด้านได้อายอด”มันยังคงยิ้มได้อยู่

“ทุเรศ”ไอ้ตินพึมพำเบาๆ

“เอาล่ะ ผมไม่ได้อยากต่อคำกับพี่ ผมจะพูดครั้งสุดท้าย เลิกยุ่งกับผม กับแฟนผมเสียที อย่าให้ผมหมดความอดทน”ไอ้ตินเริ่มเข้าโหมดเอาจริง อีกฝ่ายเองก็พอจะรับรู้ได้

“ขู่พี่เหรอครับ”

“ไม่ได้ขู่”ไอ้ตินสวนกลับทันควัน

“แล้วเรื่องทำงาน ผมยังไม่สนใจ ไว้ถ้าผมมีความคิดอยากทำไร่เมื่อไหร่ ผมจะติดต่อไปเอง”ไม่รู้ว่าที่ไอ้ตินพูดแบบนี้เพื่อตัดปัญหารึเปล่า

“ถ้าน้องตินพูดแบบนี้ พี่ก็โอเค พร้อมเมื่อไหร่เราค่อยทำงานด้วยกัน”เจ้าคุณหยิบนามบัตรออกมาให้อีกครั้ง

“แจกพร่ำเพื่อจริงๆ”ผมอดไม่ได้ ขอแขวะสักหน่อย

“พี่แจกเฉพาะคนที่อยากแจก อย่างฟิกไง มองครั้งแรกพี่ก็รู้แล้วว่าเราน่าสนใจ”ผมจิกมือไอ้ภูไว้ ไม่อยากให้มันมีเรื่องกับไอ้คนบ้าบอแบบเจ้าคุณ เดี๋ยวเรื่องจะยาวไม่จบไม่สิ้นเสียที

“ยังไงก็ไว้เจอกันใหม่นะ ทั้งสามคน”คนตรงหน้ำไล่สายตามองทีละคน หยุดอยู่ที่ไอ้ตินนานหน่อย ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม

“พี่ชอบความห้าวของเรานะ พวกใจร้อนแบบนี้แถวบ้านพี่มักจะตายไว”

“เหรอครับ พอดีผมเป็นพวกตายยากซะด้วย แย่จริงๆ สงสัยนรกคงไม่อยากรับ”ไอ้ภูตอบกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน มันกับไอ้เจ้าคุณมองหน้ากันอยู่นาน พวกมันไม่ได้พิศวาสกันแน่นอน ผมฟันธง เจ้าคุณกระแอม ก่อนจะเข้าไปลาป๊ากับม๊าของไอ้ตินในห้องครัว

“เอ่อ เดี๋ยวกูมานะ”ผมรีบลุกขึ้นเมื่อนึกได้ ยังมีเรื่องที่ผมต้องคุยกับไอ้เจ้าคุณอีก ร่างสูงๆของมันกำลังเดินไปที่โรงจอดรถ ท่าทาง
ยังดูอารมณ์ดีอยู่   

“เฮ้ย”ผมเรียก อีกฝ่ายหยุดเดินก่อนจะเหลียวตัวมามอง

“ตกลง หลงรักพี่บ้างแล้วใช่ไหม”ผมย่นหน้าทันที

“จะอ้วก ผมแค่อยากบอกอะไรพี่หน่อย”ผมหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาเปิดข้อความของไอ้ต้นให้อีกฝ่ายดู

“ช่วยคุมเด็กตัวเองบ้างนะ อย่าปล่อยให้มาระรานคนอื่น”เจ้าคุณดูเคร่งเครียดขึ้นมา

“ขอโทษแทนต้นด้วยล่ะกัน เขาค่อนข้างจะเอาแต่ใจไปหน่อย ยังไงผมจะเคลียร์ให้ เราไม่ต้องห่วง”เจ้าคุณส่งโทรศัพท์มาให้ แต่พอผมจะรับมันก็ยื้อกลับ

“อย่ากวน”ไอ้นี่มันกวนประสาทจริง ๆ ไอ้เจ้าคุณยกยิ้มก่อนจะขยับแว่น

“ไม่เห็นบอกพี่เลยว่าคบกับตินอยู่”สายตาของมันมองไปที่ในตัวบ้าน ผมมองตามจึงรู้ว่าไอ้ภูกับไอ้ตินออกมามองผมคุยกับเจ้าคุณ

“เกี่ยวอะไรกับพี่ด้วยล่ะ รีบๆเอาคืนมา”ผมเริ่มจะหงุดหงิดเข้าไปทุกที คิดผิดหรือคิดถูกเนี่ยที่ยอมคุยดีๆกับมัน

“ถ้าเบื่อๆ…แวะมาหาพี่ได้นะ พี่เก่งไม่แพ้ตินหรอก”ผมขนลุกอีกครั้งเมื่อร่างสูงขยับโน้มมากระซิบใกล้ๆพร้อมกับยัดโทรศัพท์ลงที่กระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหลังของผม 

“ไว้เจอกันอีกทีนะ”มันหัวเราะในลำคอก่อนจะโบกมือลาไอ้ภูกับไอ้ติน หันมายกยิ้มให้ผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเข้าไปในรถกระบะ ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเจ้าคุณขับรถออกไปจากบ้านแล้ว

“กูเห็นนะเมื่อกี้”ไอ้ตินกับไอ้ภูมาถึงตัวผมอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแล่บ

“ถ้ามีคนแบบมันอีกสักสิบคน กูคงไล่ฆ่าแทบไม่ทันแน่”ไอ้ภูพึมพำเบาๆ

“มึงอยากทำงานกับมันจริงๆเหรอ”ผมวกกลับมาที่เรื่องของไอ้ติน มันหันมามองหน้าผมพร้อมกับโน้มตัวมากอดคอผม

“ไม่ได้อยากทำหรอก แต่กูคงโกยผลประโยชน์มาจากมันได้ กูไม่ได้บอกนี่ว่าอยากทำตอนไหน อาจจะสักห้าปี หกปีก็ได้ ไม่ต้องคิดมากหรอก ถ้ามันมายุ่งๆมากๆ กูถวายตีนให้มันกินก็เท่านั้น”

“โหดจริงๆ”ผมล้อ

“ไม่เท่าพี่ภูหรอก”มีการถ่อมตัวอีกนะ

“เรื่องนี้พวกมึงสองคนไม่ต้องแข่งกันหรอก แค่นี้กูก็กลัวแทบไม่ทันแล้ว”รู้สึกพวกมันจะผ่อนคลายมากขึ้นหลังจากที่ได้คุยกับไอ้เจ้าคุณไปแล้ว แต่ผมก็ยังงงๆอยู่ว่า ไอ้เจ้าคุณมันเข้าใจที่ไอ้ตินพูดจริงๆรึเปล่า!?






***********************************************************



หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 03-02-2016 16:48:43







ตั้งแต่เกิดเรื่องไอ้ต้นก็ไม่ได้เข้าใกล้ผมอีกเลย คงเพราะไอ้เคนมันจัดการสั่งสอนไอ้เด็กนี่ให้ผมด้วยแหละครับ เนื่องจากมันเอาผมไปพูดในกลุ่มในทางเสียๆหายๆ ไอ้เคนเลยให้มันออกมาขอโทษต่อหน้าเพื่อนๆทั้งรุ่น หรือโดนลงวินัยกลายๆนั่นแหละ

“ไอ้ฟิกนี่ดีนะ มีเพื่อนดี สามีเก่ง แบล็คเยอะจริงๆ”ไอ้ปลาได้โอกาสแซว วันนี้ก็ซ้อมบทอีกตามเคย ทั้งไอ้ภูและไอ้ตินยุ่งด้วยกันทั้งคู่ เลยไม่ได้ตามมาเฝ้าเหมือนทุกที

“ไม่ต้องอิจฉากูหรอก เป็นกูแล้วจะรู้ ว่าเรื่องเยอะแค่ไหน”สงสัยเป็นผลพ่วงที่ผมเคยกิ๊กกั๊กกับเมียคนอื่นแน่ๆ

“เรื่องที่ว่ารวมถึงคนนั้นด้ยใช่ป่ะ”ไอ้ปลาพยักเพยิดไปทางไอ้เพชรที่เดินมาหาผมพอดี

“พี่ยังไม่ได้ซ้อมกับผมเลย อีกสองวันต้องแสดงรอบพรีแล้วนะ”มันมุ่ยหน้าที่ผมยังจำบทไม่ได้ซักที

“โทษทีว่ะ มึงก็รู้ว่าช่วงนี้กูมีปัญหาเยอะ”ผมอ่านบทอีกครั้ง เซ็งตรงที่ต้องร้องเพลงนี่ล่ะ คณะผมก็มักเน้นเกรียนอยู่แล้ว เพลงก็ออกแนวฮาๆไปตามประสา

“เดี๋ยวผมเทรนให้เอง”สุดท้ายผมก็โดนไอ้เพชรลากไปซ้อมร้องเพลงคู่กับมันที่อีกฝั่ง ตรงนั้นจะเงียบแล้วก็ไม่ค่อยมีคนเดินไปเดิน
มาเท่าไหร่

“คิดอะไรรึเปล่า พามาซะห่างไกลคนเชียว”ผมพลิกกระดาษในมือมาอ่าน ไอ้เพชรลากเก้าอี้มานั่งข้างๆผม

“ใครจะกล้า เจ้าของดุซะขนาดนั้น”ไอ้เพชรฮัมเพลงแฟนคนอื่นอยู่ข้างๆ

“เฮ้ย มางึมงำใกล้ๆแบบนี้กูไม่มีสมาธิจำบทนะ”ผมเหล่มองไอ้เด็กข้างๆ

“หวั่นไหวอ่ะดิ”มันทำหน้าระรื่น ผมกะจะปรามมันว่าอย่ารุ่มร่ามกับผมมาก แต่มันก็ชิงพูดขึ้นมาซะก่อน

“น่า ให้ผมมีความสุขของผมไปเถอะ วันนี้แฟนพี่ไม่อยู่นี่”เหตุผลอะไรของมัน

“จะยังไงก็เถอะ กูไม่อยากให้มันเป็นเรื่อง”จู่ๆผมก็หนักใจขึ้นมา

“ไม่เอาน่าพี่ฟิก อย่าเพิ่งเครียดดิ คุยกับผมแค่ตอนนี้ก็พอ นอกคณะพี่ไม่ต้องสนใจผมก็ได้”แบบนั้นมันก็หมายถึงว่ากิ๊กกันไม่ใช่เหรอ ผมขมวดคิ้ว มองหน้าไอ้เพชรด้วยสายตาจริงจัง

“เชื่อกูเถอะ มึงอย่าทำแบบนี้เลย”ผมถอนหายใจ

“เรามาซ้อมกันต่อดีกว่า”มันรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าผมเริ่มเครียด ผมได้แต่พยายามมองข้ามเรื่องแปลกๆของมันไป ยังไงวันงานก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ อีกแค่นิดเดียวก็ไม่ต้องเจอหน้ามันบ่อยๆแล้ว

“ตรงนี้ยุงเยอะว่ะ ไปนั่งที่อื่นเหอะ”ผมไม่อยากนั่งกับมันสองคน ไอ้เพชรเลิกคิ้วอ้าปากจะพูด แต่ระหว่างนั้นก็มีเด็กปีหนึ่งกำลังถ่ายรูปหลังงานอยู่ ผมกะจะลุกหนีแต่ก็ไม่ทันแล้วเมื่อน้องทั้งสองเดินเข้ามาถึงตัวพอดี

“โหย พี่ฟิกอย่าเพิ่งหนี นานๆทีจะได้รูปพี่ มาถ่ายด้วยกันก่อน”และผมก็กลายเป็นนายแบบจำเป็นไปหลายนาที

“พี่ไม่ดีใจเหรอได้ถ่ายคู่กับเดือนคณะเชียวนะ”ไอ้เพชรกระซิบใกล้ๆ เมื่อผมกับมันถูกขอถ่ายรูป

“กูเบื่อ”ผมไม่ค่อยอยากมีรูปติดบอร์ดกิจกรรมคณะเท่าไหร่ เมื่อถ่ายรูปเสร็จไอ้เพชรมันก็เข้าไปคุยกับช่างภาพจำเป็นด้วยรอยยิ้มกว้าง ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน ผมเลิกสนใจมัน แอบชิ่งไปหาไอ้เคนบนสตูซะเลย แอบสอดส่องดูเห็นว่ามันกำลังคุยกับพวกน้องๆหลีดสันอยู่ ผมเลยนั่งรอมันอยู่หน้าห้อง เล่นเกมส์รอไปเพลินๆ   

“โดดซ้อมอีกล่ะ”ไอ้เคนผลักประตูออกมาพร้อมกับนั่งลงข้างๆผม

“ไม่ได้โดด กูซ้อมเสร็จแล้ว”ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ จนเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆสังเกตได้ว่าผมมีเรื่องไม่สบายใจ

“เป็นไร”กับไอ้เคน ผมสามารถคุยกับมันได้ทุกเรื่อง เพราะมันเป็นที่ปรึกษาที่ดี มีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากกว่าไอ้ชายหลายขุม

“กูกำลังเครียดเรื่องไอ้เพชรว่ะ”

“บอกสองสามีมึงสิ”

“มึงก็รู้ ถ้ากูบอก มันต้องเป็นเรื่องเหมือนคราวไอ้นัทแน่ กูไม่อยากเป็นสาเหตุให้รุ่นน้องมีปัญหาเป็นคนที่สองหรอกนะ อีกอย่างไอ้ภูกับไอ้ตินมันพวกบ้าขึ้นมาแล้วห้ามยาก เกิดอะไรขึ้นมามันไม่คุ้ม”ผมกระแทกหัวกับผนังห้องเบาๆอย่างคิดไม่ตก

“ทนๆไปก่อน อีกเดี๋ยวก็จบงานแล้ว”ไอ้เคนตบไหล่ผมแรงๆ ส่วนหนึ่งที่ไม่อยากบอกมันสองคนก็เพราะกลัวเสียงานนี่ล่ะ เกิดพวกมันบ้าไม่ยอมให้ผมเล่นกับไอ้เพชรขึ้นมาก็แย่น่ะสิ

“คือไอ้เพชรมันชอบเข้าหากูแบบเนียนๆ”

“มึงก็เลยกลัวว่าจะเนียนไปกับมันเหรอ”ไอ้เคนหัวเราะ

“กูรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร”ที่ไม่อยากจะสนิทกับไอ้เพชรมากก็เพราะแบบนี้แหละ

“วันนี้แปลกนะที่ไอ้ภูกับไอ้ตินมันไม่มาหามึง หรือว่าพวกมันมีกิ๊ก”

“ตลกล่ะสัด”

“ต้องให้กูแซวแบบนี้ มึงถึงจะกลับมาทำตัวเป็นไอ้ฟิกใช่ไหม”ไอ้เคนผลักหัวผมเบาๆ

“มึงลงไปซ้อมต่อไป ไอ้เพชรหามึงให้วุ่นแล้วมั้ง”มันออกปากไล่ ผมมองหน้าเพื่อนด้วยสายตาซึ้งๆ แต่มันกลับทำหน้าเหมือนแขยง

“มองแบบนั้นทำไม”

“กูอยากได้มึงเป็นเมียมั้ง ถามได้”คนกำลังซึ้ง มาขัดซะหมดมู้ด

“วู้ กูเบื่อมึงว่ะ ยอมรับบ้างก็ได้ว่ามึงครองตำแหน่งเมียดีเด่นไปแล้ว”พูดจบมันก็ผลุบเข้าไปในสตูต่อ ผมจะตามเข้าไปด่ามัน ไอ้เพื่อนเลวก็ล้อคห้องไปแล้ว ผมเลยต้องกลับไปซ้อมกับไอ้เพชรต่อ ด้วยอาการปกติตามเดิม

“นึกว่าหนีกลับแล้ว”มันถามพร้อมรอยยิ้มจางเมื่อผมเข้าไปใกล้

“กูไม่หนีหรอก”ผมกับมันมองหน้ากันสักพัก ตกลงผมกับมันคุยเรื่องเดียวกันรึเปล่าวะ สุดท้ายไอ้เพชรก็หลบสายตาไปก่อนด้วย
ท่าทางเหมือนเก้อเขิน ผมมองข้ามก่อนจะลองซ้อมบทกับมันต่อไป

“แล้วพี่กลับยังไงอ่ะ”

“เดี๋ยวเพื่อนกูไปส่ง”ผมตอบแทบจะทันที

“อ้อ…”มันพยักหน้า ก่อนจะเงียบไปสักพัก

“หอพี่อยู่ตรงไหนนะครับ”ผมเหลือบมองไอ้เพชรที่ปั้นหน้าไม่รู้ไม่ชี้แบบไม่เนียนนัก

“มึงไม่ต้องรู้หรอก”ผมยังไม่ทันได้ตอบ เสียงเข้มเจือกระแสไม่พอใจก็ดังขัดมาซะก่อน ไอ้ภูเดินเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกับลากเก้าอี้มานั่งข้างๆผมด้วย

“เลิกซ้อมแล้วเหรอ”ไหนมันว่าเลิกดึก

“เออ”ดูมันจะอารมณ์ไม่ค่อยดี

“เป็นอะไรอีกล่ะ”ผมเริ่มจะไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ ผมส่งสัญญาณให้ไอ้เพชรออกไปก่อน ขืนมันนั่งอยู่ด้วยเดี๋ยวไอ้ภูจะอารมณ์บูด
มากกว่าเดิม

“เป็นอะไร”ผมลอบสังเกตสีหน้าของไอ้ภู มันเหลียวมามองผมช้าๆ

“กูรู้นะ…”

“รู้อะไร”ผมสวนกลับงงๆ ไอ้ภูหรี่ตามอง ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ทำผมมึนไปพักใหญ่

“เป็นอะไรของมึงเนี่ย ประสาทแดกเหรอ”อยู่ๆก็หัวเราะออกมา

“เปล่า แค่ลองเชิงมึงดู”

“คิดจับผิดกูเหรอ”ไอ้ภูนี่มันร้ายจริงๆ ถ้าผมซุกกิ๊กจริงเมื่อกี้คงร้อนๆหนาวๆแน่

“ทีมึงยังจับผิดกูเลย กูโคตรเสียใจอ่ะ”มันทำหน้าหมองแบบเสแสร้ง

“ขนาดนั้นเลย”

“เออสิ กูคิดกับตัวเองตั้งหลายรอบ ว่ากูทำให้มึงไม่ไว้ใจมากขนาดนั้นเลยเหรอ เพราะฉะนั้น…”มันหันมาทำหน้าจริงจัง

“อย่าให้เรามีเรื่องต้องจับผิดกันอีกเลยนะ มันจะทำให้ต่างฝ่ายต่างรู้สึกแย่เปล่าๆ วันนี้ที่กูกับไอ้ตินไม่ได้มาหามึงไม่ใช่ว่าเพราะไม่ว่างหรอก แต่เพราะพวกกูไว้ใจมึง ถึงได้ปล่อยให้หมามันนั่งแทะ”พูดซะผมเป็นกระดูกเลย

“พูดดีจังนะวันนี้”รู้สึกภูมิใจแปลกๆ เหมือนเวลาสอบได้เกรดดี

“มีรางวัลรึเปล่าล่ะ”มันทำสายตาแพรวพราว

“ไม่มี หมดโปรแล้ว”ตกใจจริงๆที่ไอ้ตินก็โผล่มาด้วย มันซื้อข้าวกับน้ำมาให้พร้อมสรรพ

“รู้รึเปล่า ฟิก เล่นกับหมา หมาเลียปากนะ”อยู่ๆไอ้ตินก็พูดขึ้นมา ผมเริ่มรู้สึกทะแม่งๆ เหมือนกับว่ามันสองคนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเมื่อตอนที่ผมอยู่กับไอ้เพชร

“หมามันเลียไม่ถึงหรอก กูโตแล้ว”ผมมองไปทางไอ้เพชร มันกำลังอยู่กับเพื่อนๆ เช็ครูปที่ถ่ายไว้

“ถึงนะ ถ้าก้มไปให้หมาเลีย”

“พวกมึงจะพูดอะไรก็ว่ามาตรงเลยดีกว่า”เดาว่าไม่พ้นเรื่องไอ้เพชรแน่

“ไม่มีอะไรจะพูดหรอก แค่โผล่มาให้คิดถึงเฉยๆ นึกถึงพวกกูเยอะๆจะได้ไม่ต้องนึกถึงคนอื่น”ไอ้ตินระบายยิ้มออกมา ทำผมมึนไปใหญ่ว่าพวกมันเป็นอะไรกันแน่

“พวกมึงคิดมากกันจังวะ”

“กูมีมึงคนเดียวนี่ ไม่ให้แคร์มึงแล้วจะแคร์ใครล่ะ”ไอ้ภูทำหน้าหงุดหงิดเหมือนผมจี้ใจดำมัน

“หวง จบไหม”ผมมองหน้ามันสองคนก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง

“จบก็ได้”

พวกมันนี่น่ารักกันจริงๆ ปกติก็เป็นคนหน้าด้านพูดกันตรงๆอยู่แล้ว เห็นพวกมันทำท่าเขินแบบนี้แล้วมันจี้หัวใจแปลกๆ เอาล่ะ ผมไม่ว่าพวกมันหรอกที่คิดมากเรื่องไอ้เพชร ก็อย่างที่ไอ้เคนพูด เดี๋ยวผมจะเผลอเนียนไปกับไอ้เพชรด้วยเพราะฉะนั้นผมเองก็ต้องชัดเจนและเด็ดขาดกับมันมากกว่านี้
 









TBC.
เรื่องนี้มาราธอนจริงๆ หมายถึงปัญหายิบย่อยของสามหน่อนะ (ฮา) แต่คนอ่านสตรองกว่ามาก แต่ก็ใกล้จะจบแล้ว
ตอนหน้าจะเข้าเรื่องเพชรแล้วนะคะ โยงเรื่องใกล้เคียงกะตอนพิเศษในเล่ม จะได้เจอพี่มินกับพิสอีกรอบด้วย
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 03-02-2016 17:17:08
ไอ้น้องเพชรนี่ไม่ธรรมดาแล้ววว
ทั้งเจ้าคุณทั้งน้องเพชร เรื่องเยอะจริงนะพวกนาย 55555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: mam.nalok ที่ 03-02-2016 17:39:38
ฟิกนายต้องชัดเจนนะ ทำให้ไอ้น้องเพชรมันรู้ไปเลยว่ามันไม่มีแม้กระทั่งความหวัง ทำให้มันรู้ไปเลยว่านายฟิกคนนี้เป็นคนของพี่ตินและพี่ภู  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 03-02-2016 17:58:17
ดูท่าไอ้น้องเพชรนี่ท่าจะยุ่งยากใจกว่าเจ้าคุณอะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-02-2016 18:04:22
 :angry2:      รู้สึกอยากเหยีบเท้าเพชร. ถีบกระหม่อมอีเจ้าคุณจริงๆ
คนมีเจ้าของนี่ชอบร่านใส่นัก. ไม่รู้เป็นอะไรนักหนาเนาะอีพวกขอบแย่งของคนอื่นเนี่ย
จะทดสอบว่าตัวเองเจ๋งกว่าก็เท่านั้นชิ

ขอบคุณค่ะช่วงนี้มาถี่เลย.  :katai2-1:   สามหน่อน่ารักและสตรองขึ้นมาก สะใจค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: kjkjji ที่ 03-02-2016 19:03:33
เจ้าคุณนี่น่ากลัวนะ พวกระรื่นๆอย่างนี้นี่แหล่ะ ร้าย
แต่เห็นด้วยที่ว่าน้องฟิกน่าสนใจ 55555 นี่ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบน้องฟิก พัฒนาการดีสุดแล้วในเรื่อง แต่เจ้าคุณนี่ท่าทางจะสนใจตินจริงจังเลยอ่ะ สนใจกว่าฟิกอีก ตินงานหนักแล้วนะ 5555555 สู้เค้า
ส่วนน้องเพชรนี่คดว่าภูตินน่าจะจัดการได้อ่ะ ไม่เหนือบ่ากว่าแรง แถมน้องฟิกยังหนักแน่นอีก  :กอด1:
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-02-2016 19:24:47
เหลืออีกปัญหาแล้วใช่ไหม
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 03-02-2016 19:44:24
ฟิกชัดเจนขึ้นเยอะ แต่เจอคนแบบเพชรจัดการยากเหมือนกัน ตีเนียนเข้าหาตลอด น่าจะโดนสองสามีจัดหนักสักรอบ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: ohm ที่ 03-02-2016 19:44:57
เชียร์พี่ตินสุดใจ ^^
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 03-02-2016 19:49:25
ช่วงนี้มาบ่อยนะคะ
อ่านสะใจเลย

ชอบที่เป็นแบบนี้นะ
ดูทุกคนไว้ใจกัน
เข้าใจกัน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-02-2016 20:05:54
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 03-02-2016 21:25:15
นี่รักแรลลี่หรือเปล่า?
มีการเก็บแต้มประเด็นชวนทะเลาะแบบเบี้ยบ้ายรายทางด้วย

ชอบจังที่เห็นทั้ง 3 คนแสดงความรู้สึกต่อกันแบบชัดเจน

ขอให้รักแรลลี่นี้ยั่งยืนนาน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 03-02-2016 21:29:01
สะใจที่ปัญหาของต้นจบไปสักที
แต่เพชรนี่เหมือนอยากท้าทายอำนาจมืดพี่ภูนะ
แหมมมมมม ฟิก เสน่ห์แรงเกินไปอะ
ทำคุณไสยหมอไหนรึเปล่า ทำไมมีแต่คนรักคนหลง
เจ้าคุณนี่ก็น่ากลัว คนอะไรหม้อได้หม้อดี
สงสารต้น แต่ไม่สงสารตอนทำฟิกนี่แหละ เหอะๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 03-02-2016 21:37:07
ฮาฉากเจ้าคุณเงิบ  :m20: แต่ท่าทางคุณพี่จะไม่ยอมถอย กะเทครัวต่อไป 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 03-02-2016 22:09:06
กับเจ้าคุณนี่น่าเหนื่อยหน่ายใจเหลือเกิน
เพชรนี่ก็มาเนียนไปอีก
ไม่อยากให้เรื่องนี้จบเลย รักภูฟิกตินมาก  :L1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-02-2016 22:54:40
มันน่าวางยาจับเพชรกับเจ้าคุณไปร่วมหอกันเสียจริง พวกอยากได้ตื้อไม่เลิก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: tonnum18 ที่ 03-02-2016 23:01:34
ทั้งตินและภูเนี่ย หวงฟิกยังกะงูหวงไข่เลยนะเนี่ย

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 04-02-2016 00:31:52
อยากรู้ว่าเพชรเด็กโรงเรียนเก่าพี่ภู ไม่ธรรมดาอย่างไง

คงจะร้ายน่าดู แต่ตอนนี้สุภาพบุรษแสนดีมาก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: .hnk ที่ 04-02-2016 00:52:05
เอ๊ อิเดือนคณะนี่ยังไง พี่ใจไม่ดีเบย (=_=


รอจ้าาา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 04-02-2016 03:18:27
ยิ้มเขินกับสามหน่ออ่ะ ฮือออออออ
ส่วนเพชร น้องมันคงชอบฟิกเป็นไอดอลจริงๆ
ถ้าไม่ติดว่าน้องทำใจพี่แป้วในตอนพิเศษนู๊นนะ พี่คงเอ็นดูเอ็งมากกว่านี้ละเพชร
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 04-02-2016 06:11:49
เหมือนมีลางว่าจะมีเรื่อง  :m15:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 04-02-2016 08:59:33
น้องเพชรจะเป็นมือที่สามเหรอ!
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 04-02-2016 10:01:41
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 04-02-2016 11:20:57
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 04-02-2016 11:23:10
ไม่ได้เข้ามาหลายตอนเลย ขอโทษด้วยนะ  :hao5:  แต่เข้ามามันชื่นหัวจายยยยยยยย ฟินเวอร์กับความรักของสามหนุ่มที่ทุ่มเททั้งกายและใจให้กันและกัน มีกระทบกระทั่งกันบ้างแต่บอกให้รู้ว่า ทั้งสามหนุ่มมีมุมมองที่โตขึ้น ปรับตัวเข้าหากันและกัน อยู่กันไม่ใช่แค่สถานะคู่รัก แต่ทั้งสามคนเป็นครอบครัว เป็นพี่เป็นน้อง เป็นเพื่อน ทำให้ประคองชีวิตคี่ที่โดยทั่วไปในความจริง อยู่กันยากมาก เพราะมันต้องฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดมากกับความรักว่าได้รับมาก รับน้อย มีแต่คนที่ได้รับเต็มๆจากสองฝ่ายที่รักตัวเองนั่นแหละรู้สึกดี แต่บางครั้งก็หนักนะ เพราะต้องแสดงให้เห็นว่า รักทั้งสองคน ไม่ลำเอียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง  :เฮ้อ: แต่สำหรับเรื่องนี้ มันสัมผัสได้ถึงความรักที่ทั้งสามคนมีให้กัน ภูติน คือพี่น้อง ภูฟิก ตินฟิก คู่รัก แต่จบด้วย ทั้งสามรักกัน  :-[  แหม ๆ สกิลความแฮ่ดอีน้องฟิกเดี๋ยวนี้มันสูงนะ มียั่ว มีอยาก กระตุ้นให้  :haun4:  ตินก็รับความหื่นจากพี่ภูไปเต็มๆ พี่ภูก็รับความมีเหตุผล ใจเย็น จากตินไปบ้างแล้วนะ ไม่ค่อยอารมณ์ร้อนเหมือนแต่ก่อน แต่อย่าให้เป็นเรื่องเมียนะ ภูจัดเต็มทุกเรื่อง  o13 ตินนี่ก็เสน่ห์ความเป็นรับแรงเหมือนกันนะ มีหนุ่มมาติดพอกับฟิกเลย  :laugh:  พี่ภูนี่นานๆที จะมีหลงมา ถ้ามีต้องเหนือกว่าจริงๆ เอาภูอยู่ แต่ที่รู้ๆ มอบจิ้นหลัง ให้เมียรักคนเดียว  :hao6:   ไม่รู้ทำไม รักพี่ภูนะ ตั้งแต่แรกถึงพี่ภูจะดูไม่มีของให้ค้นหา เพราะแสดงออกมาหมด คิดอะไรก็ทำอย่างนั้น มันดูเป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ไม่มีใครเหมือน  :-[  ฟิก กับ ติน ก็ชอบ แต่รักพี่ภูหัวเหม่ง ขี้ใจน้อยมากกว่าอ่ะ  :jul3:  แต่ชอบที่สุดคือ ทั้งสามหน่ออยู่ด้วยกันนี่แหละ ชอบมากกกก รักมากกกกกกก  :กอด1:

เกือบลืม ไม่พูดถึงไม่ได้   อีน้องเพชรนี่ น้ำไม่นิ่งแต่ลึกนะ ทำตัวไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนจะกลัวจะเกรงแต่กวนติงใช่ย่อย ไม่ชอบเหมือนกันนะคนแบบนี้ อย่างอีเจ้าคุณนี่คือมันแสดงออกเลยไงว่า กูเอาหมด ดูรู้ว่าจะเอา แต่อีเด็กเพชรนี่มันหน้ามึน หน้าด้าน กว่าอีเจ้าคุณอีกนะ ส่วนอีเด็กคู่นอน แหม ฟิกน่าจะ  :beat:   :z6:   รัวๆๆๆให้สำนึกถึงหนังหน้าตัวเองกับอีเจ้าคุณสักหน่อย หล่อๆอย่างฟิก แถมผัวสองหน้าดีเป้าเลิศ จะไปเอาไอ้เจ้าคุณหางกุดทำไม เก็บไว้แยงคนเดียวเถอะ   :angry2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 04-02-2016 11:49:03
เหนื่อยใจแทนฟิกเลย เสน่ห์แรงเกินก็งี้แหละ 555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 04-02-2016 15:27:29
ให้ตายซิ ทำไมเราชอบคาแรคเตอร์เจ้าคุณ แบบแปลกๆ รู้สึกอยากให้มีคู่  :impress2:
สเปคเลยอ่ะ หน้าร้ายยิ้มๆได้ใจ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: ryneyz ที่ 04-02-2016 16:40:31
 :heaven :heaven ขอบคุณค่ะที่มาต่อ   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 04-02-2016 19:01:56
รู้สึกรักคนแต่ง 55 ช่วงนี้ถี่จัง..

ฟิก ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ดีกว่าปล่อยให้ไฟมันลามแล้วค่อยเอาน้ำมาดับนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 04-02-2016 22:16:32
อ่านแล้วเพลียกับไอ่เจ้าคุณ
อะไรมันจะหื่นกามได้ขนาดเน้

ก็เข้าใจนะว่าชื่นชอบจวยเป็นพิเศษ
แต่ว่าจะสะสมจวยมากไปไหม

เอาไปทำไม..จวย เยอะๆ แยะๆ
ฮ่วยยยยย ไอ่เจ้าคุณ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 04-02-2016 23:19:32
ฟิกก็ยังเสน่ห์แรงไม่เปลี่ยน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: psyfer ที่ 04-02-2016 23:51:32
อาา เพิ่งรู้ว่ามีภาคสอง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-02-2016 08:17:27
จิ้มไว้
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๔] 3-02-59 P.31
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-02-2016 09:22:45
น้องเพชรนี่น่าจะร้ายลึกแน่ๆ  แลดูน่ากลัวอ่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 07-02-2016 12:08:17


ตอนที่๒๕








หลังจากที่ซุ่มซ้อมอยู่นาน วันแสดงจริงก็มาถึง พวกปีสูงๆต้องไปช่วยปีหนึ่งจัดเตรียมสถานที่ ส่วนพวกนักแสดงและหลีดสันต้องแสดงรอบพรีให้พี่ปีห้าดู อย่างปีผมก็เคยด้นสดมาก่อน เพราะลืมบท มีแววว่าปีนี้จะเป็นเหมือนกัน กับไอ้เพชรผมก็พยายามไม่อยู่กับมันแค่สองคน เดี๋ยวจะมาเนียนใส่ผมอีก

“เดี๋ยวผมเซ็ตให้”ไม่ทันไรมันก็เข้ามาหาผมอีกแล้ว ในมือมันถือกระปุกเจลมาด้วย

“ไม่เป็นไร กูทำเองได้น่า”ผมบอกปัด ไอ้เพชรมองหน้าผม สายตาแสดงชัดว่าเจ้าตัวเองก็อึดอัด

“ผมไม่ชอบที่พี่เป็นแบบนี้เลยรู้ไหม”

“มึงก็อย่าทำแบบนี้กับกูสิ”ผมทำเสียงจริงจังก่อนจะถอนหายใจ เหลือบมองไปรอบๆเพื่อดูว่ามีคนอื่นมองอยู่รึเปล่า

“กูไม่อยากให้เป็นปัญหา”หมู่นี้ผมกลายเป็นคนคิดมากไปซะแล้ว

“ผมบอกแล้วไงว่าไม่ล้ำเส้นพี่หรอก ขอเวลาให้ผมสักหน่อยไม่ได้เหรอ...”มันดูเศร้าเล็กน้อย มันส่งกระปุกเจลในมือมาให้ ก่อนจะปลีกตัวไปนั่งกับเพื่อนๆมัน ผมหันไปสนใจอย่างอื่นเหมือนมองไม่เห็นสีหน้าหมองๆของอีกฝ่าย

“มึงนี่มันแน่จริงๆ หักอกเดือนคณะซะด้วย”เพื่อนคนหนึ่งพูดเบาๆ ผมเหลียวมองอย่างไม่ชอบใจนัก

“มึงอย่าไปพูดแบบนี้ให้ใครได้ยินนะ”ทำไมวันนี้ เจอแต่เรื่องชวนให้ขัดใจตลอดเลยว่ะ ผมกลับไปนั่งประจำที่เพื่อรอแต่งตัวอย่างน่าเบื่อต่อไป ไอ้เพชรไม่ได้มาวุ่นวายกับผมอีกเลย ผมก็สงสารมันนะ แต่ทำไงได้ล่ะ ผมไม่อยากให้เป็นเรื่องขึ้นมาเพราะความสงสาร

“พี่ฟิก มีคนซื้อมาฝากค่ะ”ไอ้ขวัญนวยนาดมาหาพร้อมกับถุงน้ำเต้าหู้ในมือ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครฝากมา เพราะไอ้ขวัญมันไม่รับฝากของจากคนอื่น ยกเว้นไอ้ภูกับไอ้ติน

“มันอยู่แถวนี้เหรอ”ผมมองซ้ายมองขวาไปด้วยเหมือนหวังว่าจะได้เห็นพวกมันสองคน

“มาแล้วก็ไป พี่เขาแค่ฝากมาเฉยๆ บอกว่ามีงาน แล้วจะแวะไปหาตอนงานเริ่มเลย”ไอ้ขวัญร่ายยาว ผมแอบหวั่นใจอยู่เหมือนกันว่าไอ้สองตัวนั่นจะทำอะไรแปลกๆรึเปล่า

ถึงแม้ธีมงานจะเหมือนเดิมแทบทุกปี แต่ก็ยังมีผู้มาชมอย่างเนืองแน่นทุกครั้ง อาจเป็นเพราะเสน่ห์เกินห้ามใจของหนุ่มๆถาปัตย์ก็เป็นได้ ผมตื่นเต้นมากทุกทีเมื่อใกล้เข้าเวลาเริ่มงาน ผมอยู่ในชุดจิ๊กโก๋แบบเดิมเมื่อตอนปีหนึ่ง เห็นแบบนี้แล้ว บรรยากาศเก่าๆกลับมาพาลให้คิดถึงอีกแล้ว วันนี้เมื่อตอนปีหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอ้ภูและไอ้ตินเพิ่งจะเริ่มต้น ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคบกับพวกมันมานานขนาดนี้

ก่อนเริ่มงานแสดงก็ทำการบวงสรวงพระพิฆเนศตามปกติ จากนั้นก็เป็นการปลุกใจของรุ่นพี่ปีห้า   

“สู้ๆนะพี่ฟิก”ไอ้เพชรเข้ามาให้กำลังใจ แต่เว้นระยะห่างอยู่พอสมควร ก็ยังดีที่มันคิดได้

“บอกตัวเองเถอะ กูเซียนแล้ว”ไอ้เพชรมุ่ยหน้าก่อนจะหัวเราะ

“หลังจบการแสดงพวกพี่ปีห้านัดเลี้ยง พี่รู้หรือยัง”

“เพิ่งรู้ตอนที่มึงบอกนี่แหละ”กำลังคิดอยู่ว่าจะไปดีไหม

“ต้องไปให้ได้นะ ถือเป็นการเลี้ยงส่งพวกพี่ด้วย”พี่ปีห้าคนหนึ่งโผล่มาตบบ่าผม

“อ่อครับ”แต่ยังไงผมก็ต้องรอถามไอ้ภูกับไอ้ตินก่อนอยู่ดี ผมแอบไปดูบรรยากาศหน้าเวที แทบล้มตึงเมื่อเห็นป้ายไวนิลขนาดใหญ่มีรูปผมโชว์หราอยู่ตรงกลุ่มคนหน้าเวที แค่เห็นช็อปก็รู้แล้วว่าใครเป็นต้นคิด อยากเป็นลมจริงๆ คิดไว้ไม่มีผิดเลยว่าพวกมันต้องขัดคำสั่งผม

“ป้ายเกร๋ดีนะ”ไอ้เคนที่เป็นสต๊าฟงานเข้ามาล้อเลียนใกล้มือใกล้บาทา

“แค่นี้กูก็อายจะแย่แล้ว”แต่ก็อดขำไปกับเพื่อนไม่ได้

“พวกมันฝากข้อความมาบอก”ผมเลิกคิ้วรอฟัง ช่วงใกล้งานแสดงพวกพี่ๆจะไม่ให้พกโทศัพท์ เพราะกลัวเสียสมาธิ

“พวกมันบอกว่าจะไปฉลองก็ไป ไม่ต้องมาถามเพราะพวกมันรู้ว่ามึงอยากไปจนตัวสั่นแต่กลัวโดนด่า”ไอ้เคนท่องให้ฟังจนจบ พวกมันช่างรู้ใจจริงๆ

“ฝากบอกพวกมันด้วยนะว่าทำดีมาก จบงานเมื่อไหร่มีรางวัลให้”

“เพื่อนกูต้องแบบนี้สิ เอาให้พวกมันขาอ่อนเลยนะ”ไอ้เคนยิ้มขำก่อนจะรีบเดินหนีไปดูงานหน้าเวที ปล่อยให้ผมเก้อเขินอยู่คนเดียว ที่พวกมันยอมให้ผมไปก็คงเพราะมีไอ้เคนกับไอ้ปลาไปด้วย มีมันสองคนก็เหมือนได้ติด GPS ตามติดผมนั่นล่ะ

สุดท้ายแล้วการแสดงก็ผ่านไปได้ด้วยดี ถึงแม้ว่าผมจะโดนโห่แซวกว่าชาวบ้านเขาเพราะไอ้ภูกับไอ้ตินมันทำป้ายมาเชียร์แถมพรรคเพื่อนมาอีก ไอ้เพชรที่ยืนอยู่ข้างๆรู้สึกว่าจะเงียบกว่าปกติ แต่พอผมหันไปมอง มันก็ส่งยิ้มเฝื่อนๆมาให้

“ทุกคนทำดีมาก งานเลี้ยงจัดที่ร้านเดิมนะ เดี๋ยวจะมีรถคณะมารับ แล้วตกลงฟิกไปได้ไหม”พี่ปีห้าหันมาถามผมโดยเฉพาะ ก็อย่างที่บอกว่าชื่อเสียงเรียงนามของไอ้ภู ไอ้ติน พวกรุ่นพี่ในคณะของผมต่างก็รู้ดี

“ไปได้ครับ”ถึงจะยังไม่ได้คุยกับพวกมันตรงๆก็เถอะ ผมเข้าไปเอากระเป๋าออกมาอีกทีก็เจอ ไอ้ภูกับไอ้ตินนั่งคุยกับพวกรุ่นพี่ที่หลังเวที ตีเนียนจริงๆ

“ว่าไง”ผมสะกิดไหล่พวกมันสองคน

“ห้ามเมานะ”ไอ้ตินสั่งทันที ผมย่นหน้า งานแบบนี้ ไม่เมาได้ที่ไหน นานๆครั้งที่ผมจะได้ออกไปเที่ยวฉลองแบบนี้ เพราะระยะหลังๆผมไม่ค่อยได้แตะพวกแอลกลอฮอร์เท่าไหร่

“เมาได้ แต่อย่าเยอะ”ไอ้ตินเปลี่ยนคำพูด

“โอเคครับพ่อทั้งสอง”ผมรับคำอย่างนอบน้อม

“ถ้ากูโทรหาแล้วไม่รับ แสดงว่ามึงเมา เพราะฉะนั้นกูไปรับถึงที่แน่”ไอ้ภูกอดอกมองด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“สามครั้ง ถ้าโทรมาแล้วกูไม่รับ พวกมึงมารับกูได้เลย”ผมก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่เมา ก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่ เมาทีไรก็มีเรื่องทุกที

“ตามนั้น”ตกลงกับพวกมันได้แล้ว ผมก็ออกไปรวมตัวกับเพื่อนๆ ไอ้เคนพาแฟนไปด้วย เป็นเพื่อนต่างเซ็ก เห็นมันคุยนักคุยหนาว่าจริงจังมาก ผมก็รอดูว่าจะแค่ช่วงโปรโมชั่นรึเปล่า เพราะที่ผ่านๆมาก็เห็นมันพูดแบบนี้

“เหมือนไอ้เพชรมันไม่ค่อยมายุ่งกับมึงแล้วนะ”ไอ้เคนให้ความเห็น

“อือ มันคงกำลังตัดใจล่ะมั้ง”ก็ไม่รู้ว่ามันมาชื่นชอบอะไรผม ทั้งๆที่คนอย่างผมเนี่ย ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ไปถามไอ้สองคนนั่นก็อาจจะไม่ได้คำตอบ เป็นเรื่องชวนพิศวงจริงๆครับ!

ร้านเดิมที่เคยไปฉลองเมื่อตอนปีหนึ่งถูกปรับเปลี่ยนสัดส่วนแล้ว ร้านทำด้วยกระจก มีโซนนั่งจิบเบียร์ชิวๆและข้างๆกันเป็นโซนร้องคาราโอเกะ ก่อนเข้างานต้องเพ้นท์สัญลักษณ์เข้างานอีกด้วยสีนีออนเรืองแสง

“เดี๋ยวผมเพ้นท์ให้พี่เอง”เพื่อนไอ้น้องเพชรอาสา

“ดีๆนะเว้ย”ไอ้เด็กนั่นพยักหน้าหงึกหงัก มันเพ้นท์อะไรสักอย่างตรงต้นคอของผม เมื่อเห็นเงาสะท้อนกับตัวร้านก็รู้ว่ามันเพ้นท์รูปปากไว้ ภายในร้านเปิดไฟหม่นๆตามธีมร้าน ส่วนใหญ่ผมเจอแต่สาวๆที่ตั้งใจมาจัดเต็มกัน พูดให้ถูกก็งานปล่อยผีนั่นแหละ ทุกๆปีจะต้องมีคนอ้วกแตกกลางร้าน ไอ้เคนพาผมมานั่งที่โต๊ะว่างติดกับฝั่งโซนคาราโอเกะ เหมือนจะมีคนเข้าไปใช้ประปราย

“กูไม่ได้มาตั้งนาน มันเละขนาดนี้แล้วเหรอ”ผมกระซิบถามเพื่อนเบาๆ เมื่อก่อนก็แค่งานสังสรรค์เฮฮาปาร์ตี้ แต่ตอนนี้เหมือนงานอะไรสักอย่าง ส่วนใหญ่ก็จัดกันเอง ไม่เกี่ยวข้องกับคณะ

“เออ กูก็คิดเหมือนมึงนั่นแหละ”ผมล่ะกลัวคนจะมองว่าเป็นงานมั่วสุมซะจริงๆ ยิ่งร้านปรับโซนใหม่ จะดูแลกันทั่วถึงเหรอ วิญญาณคนดีเริ่มเข้าสิง ผมชนแก้วเฉพาะพวกปีโตกว่าเท่านั้น ไม่ค่อยอยากกินเท่าไหร่ นั่งได้ไม่นาน ไอ้ภูก็โทรมาหาแล้ว แต่คุยตรงนี้ไม่สะดวกเพราะเสียงดังเหมือนนกแตกรัง แถมเปิดเพลงกรอกหูอีก

“กูไปคุยโทรศัพท์ก่อนนะ”ผมรายงานเพื่อน

“เชิญ”ไอ้เคนดูจะขำกับการที่ผมต้องบอกมันทุกเรื่องเหมือนเด็ก ผมหนีไปคุยที่ฝั่งห้องคาราโอเกะ ผลักประตูเข้ามานี่เหมือนอยู่คนละโลกกันเลยเพราะเสียงรบกวนหายวับทันที

“มีอะไรเหรอที่รัก”แกล้งมันซะหน่อย

[โทรมาเช็คว่าเมาหรือยัง]

“ระดับนี้แล้ว ไม่เมาง่ายๆหรอก”ได้ยินเสียงมันหัวเราะเบาะแว่วมา

[อย่ากลับดึกนะ กูเป็นห่วง]

“เออออออออออ”ดูพวกมันจะเป็นห่วงมากจริงๆ สงสัยกลัวจะมีเรื่อง เพราะเมื่อตอนที่พวกมันเมาก็เป็นเรื่องเหมือนกัน

[กูไม่สบายใจแปลกๆว่ะ]

“เรื่องไอ้เพชรล่ะสิ”

[อืม] จะว่าไปตั้งแต่มาผมยังไม่เห็นมันเลย

“กูยังไม่เจอมันเลย สบายใจได้”ผมย่นจมูกเพราะได้กลิ่นบุหรี่ ลอยมาจากห้องคาราโอเกะด้านหลัง พอหันไปมองก็พบไอ้เพชรเปิดประตูออกมามองผมอยู่ ในมือคีบบุหรี่ไว้ ไม่คุ้นตากับภาพแบบนี้เลยจริงๆ ผมตั้งใจจะเปลี่ยนที่เพื่อหนีมัน แต่ไอ้เพชรไวกว่า มันเข้ามาไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวผม

[ดีแล้ว ถึงยังไงกูก็ไม่ไว้ใจมัน] ฝามืออีกข้างเอื้อมมาปิดปากผมไว้ พร้อมกับลากผมเข้าไปในห้องคาราโอเกะที่มันเพิ่งออกมา ผมตั้งใจจะด่าเมื่อมันปล่อยมือออกแต่ก็ทำไม่ได้เพราะคุยกับไอ้ภูอยู่

“เออ กูจะระวังตัวก็แล้วกัน”ไม่ทันแล้วจริงๆ ไอ้เพชรดึงผมให้นั่งลงบนตักของตัวเอง แขนโอบรอบเอวของผมเหมือนป้องกันไม่ให้หนี ก่อนจะซุกหน้าลงที่แผ่นหลังของผม มันเป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย

 [งั้นแค่นี้แหละ] เมื่อไอ้ภูสบายใจมันก็วางสาย ผมหันไปเล่นงานไอ้ตัวที่ลากผมเข้ามาทันที

“มึงเป็นบ้าอะไรวะ”ผมดึงแขนมันออก แต่มันยิ่งรัดแน่นมากกว่าเดิม

“ขอแป๊บเดียวเอง”น้ำเสียงของมันฟังดูหม่นๆ

“ไม่ได้ กูจะออกไปด้านนอกแล้ว ไอ้เพชร”ผมทำเสียงจริงจัง

“แป๊บเดียวจริงๆ แล้วนับจากวันนี้ผมจะไม่ยุ่งกับพี่อีก นะ ขอแค่ตอนนี้”มันพูดเสียงอู้อี้เพราะฝังหน้าลงกับแผ่นหลังของผม

“มึงจะพูดอะไรก็พูดมา แต่ปล่อยกูก่อน”คุยกับมันเหมือนคุยกับคนบ้าเลย ยิ่งห้ามมันยิ่งรัดแน่น ผมย่นจมูก เมื่อได้กลิ่นบุหรี่ในมือของไอ้เพชร พักหลังๆผมไม่ค่อยได้สูบเท่าไหร่

“อย่าให้กูโมโหนะ”ผมทำเสียงเข้ม แต่มันแค่หัวเราะตอบกลับมา ผมอยากจะบ้าจริงๆ

“คือ พี่ฟิก ผมไม่ได้อยากให้พี่ลำบากใจหรอกนะ แต่พี่ต้องให้เวลาผมหน่อย”

“เอาไว้ค่อยคุยกันเหอะว่ะ ตอนนี้มึงคงคุยไม่รู้เรื่องแน่ๆ”

“เฮ้ยพี่ ผมไม่ได้เมานะ ผมรู้ตัวว่าผมทำอะไรอยู่ พี่อยู่คุยกับผมก่อนสิ”มันคลายแขนที่รัดเอวผมไว้ ก่อนจะยื่นบุหรี่มาให้ แต่ผมปัดออกพร้อมกับลุกมาจากตัวมัน ไอ้เพชรก็ยังดูปกติดี แววตายังเหมือนเดิม มันบี้บุหรี่ก่อนจะเทน้ำส้มให้ผม

“เห็นว่าช่วงนี้พี่งดเหล้า งั้นกินน้ำส้มเป็นเพื่อนผมหน่อย”มันส่งแก้วน้ำส้มมาให้ผม

“มึงมีอะไรก็ว่ามาเลย”

“ไม่มีอะไร ขอแค่ตอนนี้พี่อยู่เป็นเพื่อนผมหน่อย สาบานจริงๆว่าครั้งสุดท้าย แล้วผมจะไม่ยุ่งกับพี่อีก”มันหัวเราะทั้งๆที่ไม่มีอะไรน่าขำ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทั้งๆที่เคยบอกตัวเองไว้แล้วว่าผมต้องเด็ดขาดกับมัน แต่พอเห็นหน้าหมาหงอยของมันผมก็ใจอ่อนซะงั้น

“แป๊บเดียวนะ”ผมยกแก้วน้ำส้มดื่ม รสชาติจืดชืดเพราะน้ำแข็งละลายไปมากแล้ว 

 “ผมขอถามนะ…ถ้าพี่ยังไม่มีแฟน พี่จะชอบผมไหม”ไอ้เพชรกุมแก้วน้ำส้มในมือ ทอดสายตามองผนังฝั่งตรงข้าม

“บอกแล้วไงว่ามึงไม่ใช่สเป็คกู”

“คนที่พี่คบอยู่ ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่สเป็คพี่เหมือนกัน ทำไมถึงยอมคบได้ล่ะ”นี่ผมต้องมานั่งจับเจ่าคุยเรื่องนี้กับมันจริงๆเหรอเนี่ย

“มันเป็นเรื่องพูดยาก คิดง่ายๆก็เพราะกูรักมันไง”ถ้าพวกมันไม่ตื้อมากๆก็อาจจะไม่ได้คบกันจนถึงทุกวันนี้ก็ได้

“ถามเอง เจ็บเอง ตลกดีเนอะพี่ฟิก”ไอ้เพชรกลับมาทำหน้าเศร้าอีกครั้ง มันเทเหล้าผสมน้ำโค้กในแก้วตัวเองก่อนจะยกดื่มรวดเดียว ไม่รู้ไปตายอดตายอยากมาจากไหน   

“ถ้าเมาแล้วก็พอนะ”คนใกล้ตัวผมมีแต่พวกร้ายหลบในทั้งนั้น มาคิดๆดูก็เจอคำตอบง่ายนิดเดียว เพราะสังคมที่ผมอยู่ แวดวงเพื่อนๆก็มีแต่คนแบบนี้ ก็ไม่แปลกหรอก ต่อไปผมต้องไปคบพวกเด็กเรียน คนดีๆบ้างแล้วล่ะ เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น ผมจะได้ไม่ต้องเจอเรื่องน่าปวดหัวอีก

“เห็นไอ้ภูบอกว่ามึงไม่ธรรมดา…”แสดงว่ามันเคยทำวีรกรรมอะไรไว้แน่ๆ อย่างมันก็ดูร้ายลึกด้วย ไอ้เพชรมองหน้าผมก่อนจะถกเสื้อขึ้นพอให้เห็นลายเส้นสีดำตรงชายโครง บ่งบอกให้รู้ว่ามันสักลายไว้

“ช่วงที่เรียนอยู่ผมเคยหลงไปสักตามเพื่อนแสบๆ มารู้ทีหลังว่าคนที่รับสัก ตายไปแล้ว”ไอ้เพชรถอนหายใจ ก่อนจะมองหน้าผมอีกครั้ง

“พี่ภูก็รู้จัก”ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน ตายไปแล้ว…คนตายที่ไอ้ภูรู้จักก็มีแค่อยู่คนเดียว

“ตอนแรกผมตั้งใจจะไปลบออกสักหน่อย แต่ก็ได้ข่าวว่าอาการโคม่า ผมเลยตัดสินใจเก็บไว้”ถึงจะผ่านไปนานแล้วแต่ผมก็ไม่สบายใจทุกทีที่ได้ยินเรื่องเก่าของไอ้ภู เหมือนเป็นเนื้อร้ายในช่วงชีวิตของมันที่ผมไม่อยากจำ

“ผมเลยมาคิด…ขนาดพี่ภูเคยทำอะไรแย่ๆ พี่ยังคบได้อยู่เลย ผมนับถือพี่จริงๆ”คำพูดของมันเหมือนดูดี แต่แฝงไปด้วยความประชดประชันเต็มเหนี่ยว

“ไม่ต้องมานับถือกูหรอก กูไม่ใช่คนดีขนาดนั้น”

“จริงอ่ะ”สีหน้าของไอ้เพชรตอนนี้ดูร้ายกาจแปลกๆ

“กูจะกลับแล้ว หวังว่ามึงจะตัดใจจากกูเร็วๆนะ”ไหนมันบอกว่าผมเป็นไอดอลมันไง ผมรีบตรงไปที่ประตู ยังไม่ทันได้ผลัก บานประตูก็เปิดเข้ามาก่อน ระหว่างนั้นประตูห้องก็เปิดออก คนที่โผล่เข้ามาคือไอ้หมอกเรียนออกแบบ มันมองผมกับไอ้เพชรก่อนจะยิ้มแปลกๆ

“ไม่ต้องตกใจ กูเอง กูมาเอาของที่ฝากไว้”ผมไม่ทันได้มองว่าคืออะไร เพราะออกมาก่อน แวะส่องความเรียบร้อยของตัวเอง ก่อนจะรอไอ้หมอกอยู่ด้านนอก ผมเคยได้ยินชื่อเสียงเรื่องดูดเนื้อของมันมาพอสมควร แล้วของที่ว่า…อย่าบอกนะว่าไอ้เพชรก็ใช้ ผมส่ายหน้าอย่างนึกไม่ถึง รออยู่สักพักไอ้หมอกก็ออกมา

“อ้าว ไอ้ฟิก มึงสนเหรอ รับรองว่าแก้เครียด”มันยื่นบุหรี่ยัดไส้มาให้ ไอ้เพชรก้าวตามออกมาพอดี ผมกลับมามองไอ้หมอก ปัดของที่มันยื่นมาให้ออก

“กูไม่ได้สนของๆมึง แต่ถ้ามึงจะชั่ว ก็อย่าลากน้องไปทางผิดๆ”ผมเริ่มฉุน

“ผมไม่ได้เล่น”ไอ้เพชรตอบด้วยสีหน้าจริงจัง

“แค่รับฝากเฉยๆ”มันมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก

“กูจะบอกอาจารย์”ขู่เสร็จ ผมก็รีบผลักประตูเข้าไปอีกฝั่ง เข้าไปนั่งที่โต๊ะเดิม ไอ้เคนมองมาที่ผมด้วยสายตาเป็นห่วง

“หายไปนานจังวะ”

“มีเรื่องนิดหน่อย”ผมเล่าเรื่องไอ้หมอกให้ไอ้เคนฟัง

“เดี๋ยวจบงาน กูจัดการเอง”มันกระซิบเบาๆ ผมเครียดขึ้นมาทันที ทั้งเรื่องไอ้คนที่ตายไปแล้ว ทั้งเรื่องไอ้เพชร ความจริงก็ไม่ปัญหาของผมด้วยซ้ำ มันจะเลวก็เรื่องของมัน แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ…

“รอยอะไรวะ”ไอ้เคนจิ้มมาที่ต้นแขนของผม เพิ่งรู้ตัวว่ามีรอยข่วน

“หมาข่วน”ไอ้เคนเลิกคิ้วท่าทางเครียดๆ

“มีเรื่องอะไรรึเปล่า ไอ้ภูกับไอ้ตินมันให้กูดูมึง ถ้าเกิดมีเรื่อง กูซวยไปด้วยเลยนะ”มันดูห่วงตัวเองและผมไปพร้อมๆกัน

“ไม่มีอะไรมากหรอก”ผมจึงเล่าให้มันฟังคร่าวๆ ไอ้เคนฟังจบก็ทำหน้าเหนื่อยหน่ายทันที

“พูดจริงๆนะ ไอ้ภูกับไอ้ตินนี่โคตรจะทน เรื่องเยอะขนาดนี้พวกมันยังไม่ถอย”คำพูดของเพื่อนสะกิดใจผมอย่างหนัก นั่นสิ สำหรับพวกมันสองคนแล้ว ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักจริงๆ ผมรู้มาตลอดนั่นล่ะ ว่ามันสองคนไม่ได้ไว้ใจผมแบบที่พวกมันพูดเต็มร้อยหรอก เพราะหลายๆอย่างรอบตัวผม ไม่ค่อยแน่นอน ถ้าพวกมันจะเหนื่อยบ้างก็ไม่แปลก เฮ้อ…

“กูว่าจะกลับแล้วว่ะ”ไอ้เคนขยับเข้ามากระซิบ ดูเหมือนมันไม่อยากอยู่นานเท่าไหร่ อีกเหตุหนึ่งก็คือแฟนสาวมันงอแงจะกลับแล้ว

“มึงมีรถเหรอ”

“เออ ยืมของรุ่นพี่มา”ผมจึงตกลงกลับเพราะไม่ค่อยอยากอยู่เท่าไหร่ เมื่อออกไปนอกร้านก็เจอไอ้หมอกกับไอ้เพชรกำลังมีเรื่องกันอยู่

“เฮ้ยๆ พวกมึงมีอะไรกันวะ”ไอ้เคนรีบเข้าไปห้ามทัพ ส่วนผมแค่ดูอยู่ห่าง ๆไอ้หมอกสะบัดแขนออกการยึดเหนี่ยวของไอ้เคน มีรอยฟกช้ำตามใบหน้าของทั้งคู่เล็กน้อย

“เปล่าครับ”ไอ้เพชรตอบเสียงฉุน มันมองหน้าผมก่อนจะเดินหลบไปอีกทาง ไอ้หมอกมองตามไอ้เพชรพร้อมทำเสียงเหอะออกมาเบาๆ

“หัดสั่งสอนเด็กมึงด้วยนะไอ้ฟิกว่าอย่ามาลามปามกับกู”มันหันมาพูดกับผม

“แล้วมึงสองคนมีเรื่องอะไรกัน”ไอ้เคนถามแทรก ไอ้หมอกทำหน้าเหนื่อยหน่ายไม่ตอบคำถามก่อนจะเดินเลี่ยงกลับเข้าไปในร้านตามเดิม

“แต่ล่ะคน”ไอ้เคนพึมพำก่อนจะส่ายหน้าระอา ส่วนแฟนมันก็ยืนหน้าง้ำอยู่ข้างๆผมนี่ล่ะ

“มันสองตัวมีเรื่องอะไรกันวะ”ไอ้เคนพึมพำอย่างคนอยากรู้ ถ้าไม่ติดว่าแฟนมันกอดอกรออยู่มันคงตามเข้าไปเคลียร์แล้วแน่ๆ ผมกลัวมันโดนเมียตบเลยเร่งให้มันรีบกลับเร็วๆ

“แหม รีบกลับจังนะ”ไอ้เคนแซว

“เออ เมียรออยู่ที่บ้าน”

“ถุย อย่าลืมไปจัดรางวัลให้ด้วยล่ะ”มันย้ำเตือน นี่ผมลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าพูดอะไรไว้

หลังจากที่ไอ้เคนมาส่งที่หอผมก็แวะซื้อข้าวต้มหน้าหอเสียหน่อย ระหว่างที่กำลังรอ ไอ้ตินก็โทรตาม จู่ๆกรู้สึกอยากแกล้งพวกมันขึ้นมา ผมจึงสะกิดคนที่รอซื้อข้าวต้มเหมือนเป็นคนรู้จัก

“ช่วยรับสายนี้หน่อยได้ไหมครับ”คนข้างๆมองผมด้วยสีหน้างุนงง

“แป๊บเดียวครับ”ผมรีบรับสายก่อนยื่นโทรศัพท์ไปแนบหูอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

“สวัสดีครับ”อีกฝ่ายรับสายอย่างเรียบร้อย หันมาขมวดคิ้วใส่ผม คิดว่าไอ้ตินต้องถามอะไรแน่ๆ ผมดึงมาฟังต่อพร้อมกับก้มหัวขอบคุณแบบมีมารยาท

[มึงเป็นใครเนี่ย ไอ้ฟิกอยู่ไหน] ผมเข้ามารอในร้าน เดาได้ว่าพวกมันต้องรีบไปหาผมที่งานแน่ๆ ผมกดตัดสาย ก็พอดีกับข้าวต้มที่สั่งไว้ได้แล้ว ป้าคนขายมองหน้าผมพร้อมรอยยิ้มขำ

“เล่นอะไรแปลกๆนะหนู”

และเป็นไปตามคาด ผมเห็นไอ้ภูกับไอ้ตินลงมาแล้ว สีหน้าหงุดหงิดได้เรื่องเลย ผมเลยรีบวิ่งเข้าไปเกาะบ่ามันทั้งคู่

“จ๊ะเอ๋”ผมทักด้วยเสียงกลั้นขำ

“ไอ้ฟิก…”มันอ้าปากเหมือนจะด่า แต่ก็ดูเหมือนคิดอะไรได้

“มึงกลับมาตอนไหน แล้วใครรับสายมึง”

“นู่น”ผมทำปากยื่นไปทางคนที่รอซื้อข้าวต้มอยู่

“นี่มึงหลอกกู?”ไอ้ตินทำหน้านิ่ง

“ล้อเล่นน่า แบบบริหารหัวใจไง”เกิดมันสองคนงอนผมขึ้นมาจริงๆนี่ซวยเลยนะ

“ตบหัวสักทีได้ไหม”ไอ้ภูเงื้อมือขึ้นมาแล้ว แต่ผมรีบชิ่งหนีเสียก่อน กว่าจะขึ้นมาถึงห้องก็เล่นเอาหอบแฮ่ก

“ไหนมึงบอกว่าจะให้รางวัลกูไง”ไอ้ตินเดินตามขึ้นมาแบบชิวๆ พร้อมวางมือลงบนบ่าของผม

“กูพูดเล่น”ผมรีบไขกุญแจเข้าห้อง ไอ้พวกนี้เล่นอะไรแปลกๆ มือไม้เลื้อยอะไรตรงนี้

“มึงก็เป็นแบบนี้ตลอด หัดจริงจังกับชีวิตบ้างนะ”ไอ้ภูบีบพุงผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเบียดเข้าไปในห้อง

“มึงเมารึเปล่า”ไอ้ตินเข้ามาดมกลิ่นใกล้ๆ พร้อมกับพลิกหน้าผมไปทางซ้ายที ขวาที

“ไม่ได้เมา แค่นี้เมาก็ไม่ใช่ไอ้ฟิกแล้ว”มันสองคนพร้อมใจกันทำเสียงดูถูกทันที ดีนะที่ซื้อข้าวต้มมาด้วย งานนี้ผมเลยรอดตัวไป!






***********************************************


หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 07-02-2016 12:13:29




ช่วงก่อน
ถึงงานดนตรีคณะไอ้ภู ผมดันมาเจอมรสุมโปรเจคงานออกแบบห้องน้ำสุขภัณฑ์ส่งท้ายเทอมแรก ทั้งแบบโมเดล และสามดี แถมอาจารย์ต้องการชิ้นงานภายในสามวันอีก ผมเลยหัวแทบหลุด เกณฑ์พวกสายเทคมาช่วย ส่วนใหญ่ผมจะสิงอยู่ที่บ้านไอ้ชายเพราะช่วยงานกันได้ง่ายกว่าทำบ้านใครบ้านมัน ไอ้ตินก็แวะมาหาบ้าง ช่วงนี้มันกำลังร่างวิจัย ส่วนไอ้ภูอยู่ในช่วงซ้อมเลยแวะมาหาบ่อยๆไม่ได้ เรียกได้ว่าทั้งผมและพวกมันกำลังเข้าสู่โหมดยุ่งด้วยกันทั้งหมด ไอ้เรื่องคิดมาก น้องจงน้อยใจจึงแทบไม่อยู่ในหัว ในตอนนี้มีแค่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละ คือส่งงานให้ทัน และภาวนาว่าจะไม่โดนตีกลับมาให้ทำใหม่

“มึงทำจูรี่เสร็จยัง ถึงได้มานั่งชิวหน้าระรื่นอยู่ได้”ไอ้ชายที่กำลังหมุกมุ่นกับโปรแกรมกราฟฟิกสามดีสละเวลาอันมีค่าเพื่อไปค่อนแขวะไอ้ปลาที่มานั่งดูพวกผมทำงานอยู่

“ใกล้แล้ว กูมีตัวช่วย”มันตอบหน้าชื่น ได้ข่าวแว่วๆว่ามันแอบคบกับเด็กปีสอง สงสัยว่านั่นคือตัวช่วยของมันล่ะมั้ง

“พักผ่อนบ้างก็ได้ ดูซิ สเปคตรงนี้มึงไม่เท่ากัน”ไอ้ปลาชี้มาที่พื้นห้องน้ำกับกับตู้เก็บของแบบบิ้วอิน ผมจึงลุกไปล้างหน้าล้างตาแก้อาการเบลอ แค่ทำงานสองวันติดหน้าตาผมนี่หมดราศีความหล่อได้ขนาดนี้เลยเหรอ ออกมาอีกทีก็เจอเด็กปีหนึ่งกำลังช่วยไอ้เคนตัดแผ่นอะคลิลิกอยู่ หนึ่งในนั้นมีไอ้เพชรอยู่ด้วย ตั้งแต่จบงานคณะมันก็ไม่ได้มายุ่งกับผมตามที่พูดจริงๆ แถมหน้าตาดูสดชื่นกว่าเดิมอีก หรือเป็นเพราะว่ามันเลิกจมปลักอยู่กับผมก็ไม่รู้

“ไอดอลที่มึงถามถึงมาแล้วว่ะ”ได้ยินเพื่อนมันคนหนึ่งพูด ไอ้เพชรหันไปทำหน้าเข้มใส่เพื่อนมันทันที 

“พวกมึงมาก็ดี มาช่วยกูแก้ตรงนี้หน่อย”ผมเลื่อนโมเดลขาดๆเกินๆของตัวเองไปให้ไอ้เด็กพวกนั้น พร้อมกับกางแบบให้พวกมันดู ผมลากโน๊ตบุ๊คของตัวเองมาทำงานใกล้ๆพวกมัน จะได้คอยดูด้วยพวกมันด้วย กลัวพวกมันทำงานพัง

“พักนี้พี่ฟิกโทรมจังวะ”หนึ่งในนั้นเริ่มวิจารณ์หนังหน้าผม

“กูไม่ค่อยได้นอน พวกมึงจะพูดมากทำไม”ผมบอกให้พวกมันหุบปากเงียบก่อนจะกลับมาเพ่งมองโปรแกรมสามดีต่อ ช่วงหัวค่ำมีพี่เทคปีสี่แวะซื้อข้าวกล่องมาให้ ลืมไปแล้วเหมือนกันว่าเคยมีพี่เทค

“ก็นึกว่าเลิกกับแฟนแล้ว”ผมได้ยินแว่วๆมา กะจะด่าซะหน่อย ดันไปเจอสายตาของไอ้เพชรแทน แต่มันเลือกที่จะหลบไปก่อน บรรยากาศจึงไม่อึดอัดมากนัก ไอ้ภูโทรมาจังหวะเหมาะพอดี ผมเลยได้โอกาสปลีกตัวออกไปคุยโ?รศัพท์ด้านนอก 

[ตายหรือยัง] ดูมันทัก

“ยัง”ผมลากเสียงยาวๆใส่

“แต่ถ้ากูตาย กูจะตามไปขี่คอมึง”ไอ้ภูหัวเราะ ได้ยินเสียงโซโล่กีต้าดังก้องอยู่ในสาย

“ยังไม่เลิกซ้อมอีกเหรอ จะเอารางวัลเลยรึไง”

[เออดิ ส่งท้ายชีวิตปีสี่บ้าบอของกู นานๆทีจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน] น้ำเสียงมันออกจะหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะพ่อมันประชดมาว่าจะไปดูไอ้ภูแข่ง นึกภาพดูแล้วคงจะแปลกๆ

“เอาน่า ถึงมึงจะดูชั่วๆ ไม่มีอะไรดีกูก็รักมึงนะ”เอาใจมันหน่อย ไอ้ภูทำเสียงเหอะตอบกลับมา

[จะบอกรักทั้งที ขอฟินๆไม่ได้รึไง]

“ถุย”ผมกลั้นหัวเราะกับคำพูดของมันเต็มที่

[กูไม่กวนแล้วว่ะ โทรไปหาไอ้ตินก็กำลังแทะหนังสืออยู่] มันทำเสียงเบื่อหน่าย

“อาการแบบนี้…มึงเหงาเหรอ”มันทำผมหลุดยิ้มอีกแล้ว

[ตลกแล้ว กูแค่เหนื่อยๆ] พูดจบมันก็วางสายไปอย่างทันทีทันใด ผมโทรเช็คไอ้ตินบ้างดีกว่า แต่รอสายตั้งนานสองนานกว่ามันจะรับ

[ตายหรือยัง] ผมทักทันทีที่มันรับสาย

“แหม พูดเหมือนพี่ภูเลยนะ กูไม่ตายง่ายๆหรอก มึงนั่นแหละ กูนึกว่าตายไปแล้ว หายหน้าหายตาไม่โทรมาเลยนะ”

[อย่างอนดิ] กวนประสาทมันเล่น

“กูไม่ได้งอน”

[กูมีงานเลยยุ่งๆ] ผมถอนหายใจเหนื่อยๆ

“กูก็มี”ผมมึนไปพักใหญ่ กำลังคิดว่าคำพูดมันสื่ออะไรรึเปล่า

[แต่เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว อย่าเพิ่งเหี่ยวเฉาเพราะทนคิดถึงกูไม่ไหวไปก่อนล่ะ] แต่ปลายสายกลับเงียบสนิท จนผมเริ่มหงุดหงิด

[เฮ้ย…]

เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของมันดังลอดมาให้ได้ยิน อย่าบอกนะว่ามันหลับทั้งๆที่คุยสายกับผมอยู่ อยากเห็นจริงๆว่าตอนนี้หน้าตามันเป็นยังไง ผมวางสายอย่างคนอารมณ์ดีเข้ามาในห้องรกๆ งานกองเกลื่อนก็อารมณ์เหี่ยวตามเดิม ไอ้เคนเผางานเสร็จก่อนคนแรก ตามมาด้วยไอ้ชาย เหลือแค่ผมที่ยังต้องก้มหน้าก้มตาเพ่งมองโน๊ตบุ๊คต่อไป ระหว่างที่กำลังจดจ่อ ไอ้เพชรมันก็วางกล่องเล็กๆไว้ให้โดยที่ไม่พูดอะไร เป็นวีต้าเบอร์รี่

“ขอบใจ”ผมตอบโดยไม่มองหน้ามัน ไม่คิดจะกินหรอกเพราะผมไม่ชอบกินอะไรพวกนี้อยู่แล้ว จนเวลาล่วงเลยประมาณตีสอง พวกเด็กปีหนึ่งก็พากันทยอยกลับ เหลือไอ้เพชรที่นั่งจับเจ่าคุยกับไอ้เคนเรื่องไอ้หมอก ได้กลิ่นเหล้าลอยหึ่งมา ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้ชายนี่ล่ะ   

“มึงยังจะห่วงแดกอีกเหรอ”ผมมองมันด้วยสายตาไม่สบอารมณ์ มานั่งก๊งใกล้ๆผมแบบนี้มันล่อตาล่อใจ ยิ่งเหนื่อยๆเครียดๆอยู่

“งานเสร็จแล้วทำอะไรก็ไม่ผิด”ไอ้ชายมานั่งวิจารณ์งานของผม ไปๆมาๆผมเลยให้มันช่วยทำให้ซะเลย ไอ้ชายมันถนัดโปรแกรมมากกว่าผมอีก ข้อดีของไอ้ชายคือมันขยัน ชอบบังคับให้ผมมาทำงาน ทั้งๆที่ยังเหลือเวลาให้ทำอีกตั้งหนึ่งวัน หนึ่งวันเชียวนะ

“มีคนเอาวีต้ามาให้ซะด้วย”มันเหลียวมองไอ้เพชร ก่อนจะมองหน้าผมเหมือนต้องการมองให้ทะลุ

“มองหน้ากูทำไม”

“เปล่าครับพี่”มันเลิกกวนประสาทผมก่อนจะหันไปตั้งใจทำงานให้ผมต่อ

“มึงไม่ต้องไปยุ่งกับมันมากหรอก ก็อย่างที่เห็นว่าไอ้หมอกมันเป็นยังไง อยู่ในสังคมแบบนั้น มันก็มีแต่เพื่อนเลวๆนั่นแหละ”ผมเข้าไปร่วมวงนั่งฟังด้วย ดูท่ามันสองคนจะเริ่มกรึ่มๆแล้ว เพราะเหล้าหมักของไอ้ชาย

“แล้วตกลงวันนั้นมึงมีเรื่องอะไรกับมัน”ผมอยากรู้ขึ้นมาโดยฉับพลัน

“ไม่ใช่เรื่องของพี่น่า”ไอ้เพชรตอกกลับเอาซะผมหน้าชา

“ขอโทษที่เสือก”ผมมองมันกรุ่นๆ คว้าแก้วเหล้าตรงหน้ามายกจิบ อ้วกแทบพุ่งเพราะเหมือนมันผสมอะไรไปบ้างก็ไม่รู้

“ล้อเล่น ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็เรื่องเดิม”ไอ้เพชรไหวไหล่

“แล้วตกลงมึงเล่นเนื้อรึเปล่า”ผมยังข้องใจอยู่นิดหน่อย ถ้าไม่ได้เล่นแล้วจะไปรู้จักกับไอ้หมอกได้ไง ไอ้เคนหันมามองผมพร้อมกับหัวเราะ

“มึงมองคนในแง่ร้ายไปรึเปล่า อย่างไอ้เพชรมันไม่ยุ่งหรอก”ผมแค่หัวเราะหึ ใครจะรู้ล่ะ ตั้งแต่คบกับไอ้ภูไอ้ติน ผมก็มองเห็นด้านมืดมาเยอะ มันก็ช่วยไม่ได้ถ้าผมจะระแวง

“ผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวแล้ว เคยลองแค่ครั้งเดียว นิดๆหน่อยๆ จะเชื่อรึเปล่าก็แล้วแต่”ไอ้เพชรถอนหายใจ

“แต่ก็นั่นแหละ ผมดูไม่ดีในสายตาพี่ฟิกตลอดนั่นแหละ ผมรู้ว่าพี่ไม่ชอบผม แต่ไม่ต้องเมินผมก็ได้ ผมพลอยรู้สึกแย่ไปด้วยเลย”ไอ้เพชรหันหน้าไปทางอื่น ดูเหมือนมันจะเริ่มเมาแล้วพร่ำเพ้อไปเรื่อย ผมมองหนาไอ้เคนอย่างคิดไม่ตก

“กูไม่ได้เมิน แค่ไม่รู้จะพูดอะไร”พักนี้ผมไม่ค่อยได้เจอมันด้วย ไอ้เพชรใช้หลังมือถูจมูกก่อนจะมองหน้าผมตรงๆเป็นครั้งแรก

“พี่เกลียดผมแล้วเหรอ”

“มึงเป็นรุ่นน้องกู กูจะเกลียดมึงไปทำไม”ผมหนักใจขึ้นมาอีกแล้ว ไอ้เคนกระแอมกระไอเบาๆ

ผมจึงเลี่ยงไปหาของกินในครัว ก็เจอแต่มาม่า ในตู้เย็นมีเบียร์กับสปายติดอยู่หนึ่งแพ็ค ผมหยิบเบียร์มาดื่มแก้เครียด ความจริงยังติดใจเรื่องไอ้ภูกับไอ้ตินนิดหน่อย ตอนที่มันโทรมา พวกมันแปลกๆไปรึเปล่า พักนี้ผมสนแต่เรื่องโปรเจคไฟนอล อาจไม่ได้สนใจพวกมันเท่าไหร่ แต่คนอย่างพวกมันก็น่าจะเข้าใจได้อยู่แล้วนี่นา แล้วช่วงก่อนไอ้ตินมันก็โพสต์ข้อความแปลกๆด้วย แต่ก็นั่นแหละ ผมยุ่งๆเลยไม่ได้สนใจ 

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีเบียร์ก็หมดไปห้ากระป๋องแล้ว ผมเริ่มรู้ตัวว่ามึนๆเลยแอบย่องไปนอนในห้องว่างด้านล่าง ว่าจะโทรหาพวกมันซักหน่อย แต่ก็ฝืนตัวเองไม่ไหว หลับไปซะก่อน




*********************************************************************




เป็นเช้าที่แย่พิกล ผมลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ผมเลื่อนมือลูบไปมาอยู่สักพัก กดตรงบริเวณที่เจ็บก็ถึงกับสะดุ้งน้ำตาคลอ

“เป็นอะไรวะ”ผมขยับตัวอย่างยากลำบาก เลิกชายเสื้อดูที่หน้าท้อง พบรอยฟกช้ำดำเขียวเด่นชัด เฮ้ย นี่ผมแค่เผลอหลับทำไมถึงช้ำได้วะเนี่ย ผมลองสำรวจบริเวณอื่นด้วย ไม่พบอะไร ยกเว้นอาการปวดจี๊ดๆที่ขมับ บวมๆแบบนี้ผมโดนใครฟาดมารึเปล่าเนี่ย เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผมเลื่อนตัวลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล กว่าจะถึงประตูห้องเหมือนแต่ล่ะก้าวมันยาวนานเหลือเกิน

ผมผลักประตูเปิดออก ภายในบ้านเงียบกริบเหมือนป่าช้า แถมนอกห้องก็ดูเหมือนผ่านมรสุมอะไรมาสักอย่าง เศษขวดแก้วแตกกระจายบนพื้น และถ้าผมตาไม่ฝาดไปล่ะก็ เหมือนมีหยดเลือดด้วย ผมเริ่มมึนนี่ผมพลาดอะไรไปรึเปล่า

“เฮ้ย พวกมึงหายไปไหนกันหมด”ผมลองเรียกดู เกิดความเคลื่อนไหวจากด้านนอก ผมได้ยินเสียงลากเท้าและเสียงคุยพึมพำ ก่อนที่ไอ้เคนกับไอ้ชายจะโผล่เข้ามาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก

“หลับเพลินเลยนะมึง”ไอ้ชายดูเครียดแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

“ทำไมบ้านเงียบจังวะ โอ๊ยย เชี่ย กูไปได้แผลมาจากไหน”ผมลูบหน้าท้องก่อนมองหน้าเพื่อนอย่างต้องการคำตอบ แต่สีหน้าของมันสองคนยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่ดี

“พวกมึงเป็นอะไรเนี่ย ทำหน้าทำตา มีใครตายหรือไง”ผมชี้ให้พวกมันดูรอยเลือด

“เลือดใครวะ เมื่อคืนพวกมึงมีเรื่องกันเหรอ”ไอ้ชายกับไอ้เคนมองหน้ากัน

“กูจะบอกมึงยังไงดีวะ ไอ้ฟิก”ไอ้เคนขยุ้มผมตัวเองอย่างเครียดจัด

“แค่บอกกูมาว่าเกิดอะไรขึ้น”ผมว่ามันสองคนดูแปลกๆ

“มึงทำใจดีๆนะ คือเมื่อคืนมึงแอบจิ๊กเบียร์กูไปกิน แล้วเข้าไปหลับในห้องใช่ไหม”ผมพยักหน้าตาม

“เมื่อคืนไอ้เพชรก็เมาเหมือนกัน กูเห็นว่ามันดึกแล้ว เลยไล่ให้มันเข้ามานอนด้านใน”ไอ้เคนทำหน้าเครียด ผมเริ่มรู้สึกเห็นลางไม่ดี

“เดี๋ยวนะ”ผมใจไม่ดีแปลกๆ

“ทีนี้ไอ้ภูกับไอ้ตินมันมาหามึงเพราะโทรไม่ติด กูไปเจอเบียร์ในครัว แล้วไม่เห็นหัวมึง กูเลยให้ไอ้ชายไปหามึงบนห้อง แต่ไม่เจอ…”ไอ้เคนทำหน้าเครียดจัด แค่มองหน้ามันสองคนผมก็พอจะเดาเรื่องได้ลางๆแล้ว

“แล้วเกิดอะไรขึ้น”ผมกลั้นใจถามออกไป

“มึงกับไอ้เพชรนอนอยู่ในห้องเดียวกัน แล้วไอ้ภูมันเปิดไปเจอพอดี”ไอ้ชายถอนหายใจเฮือกใหญ่

“แต่มึงกับมันไม่ได้มีอะไรกันหรอก ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น แค่ไอ้เพชรมันช่วย เอ่อ นั่นล่ะ”ไอ้เคนเหมือนไม่อยากพูดต่อ เกิดความเงียบขึ้นมาอย่างยาวนาน

“แล้ว…มันสองคนอยู่ไหน”จู่ๆผมก็กลัวมันสองคนขึ้นมา ไอ้ชายมองหน้าผมก่อนจะพยักเพยิดไปด้านนอก

“กูไม่รู้จะพูดยังไงดีว่ะ”ผมยังมึนงงไม่หาย จ้องมองเศษขวดที่แตกกระจายบนพื้นอย่างคิดไม่ตก

“ไอ้เพชรอยู่โรงบาล”ไอ้เคนพึมพำเบาๆ ผมยกมือลูบใบหน้าอย่างเครียดๆ ไม่รู้จะพูดยังไงกับเรื่องทั้งหมด เมื่อคราวก่อนผมเพิ่งฉะไอ้ภูกับไอ้ตินด้วยเรื่องนี้ แต่ตอนนี้มันกลับเกิดขึ้นกับผม ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยรู้สึกแย่เท่านี้มาก่อนเลย

“กูขอคุยกับมัน”ใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีเมื่อได้ยินเสียงไอ้ภู นี่เป็นครั้งแรกในรอบสามวันที่ผมได้เห็นหน้ามัน ผมไม่กล้าสบตาพวกมันสองคนขึ้นมา แต่ถ้าหนี มันก็เหมือนคนมีความผิด ผมจึงได้แต่ฝืนมองหน้ามันสองคน ไอ้ตินดูอิดโรยเหมือนคนนอนไม่พอ เพื่อนทั้งสองคนออกไปจากห้อง ทิ้งความเงียบไว้อีกครั้ง

“มึงจำได้รึเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”ไอ้ตินทำลายความเงียบเป็นคนแรก ผมเม้มริมฝีปากที่แห้งผากอย่างคิดไม่ตก

“กูไม่รู้ว่า…”

“เออ กูเข้าใจ”ไอ้ภูพูดแทรก จนผมไม่กล้าพูดต่อ สีหน้าของมันไม่ใกล้เคียงกับคำว่าเข้าใจเลยสักนิด

“เจ็บไหม”ไอ้ตินถาม ผมกำลังงงว่ามันพูดถึงเรื่องไหน มันก็ก้าวเข้ามากดตรงหน้าท้องจนผมสะดุ้งถอยห่างเพราะเจ็บไปหลายก้าว

“แต่คงไม่เท่าความรู้สึกของกูหรอก”ไอ้ตินมองหน้าผมด้วยสายตาเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด

“มึงไม่รู้หรอกว่ากูรู้สึกยังไงตอนที่เปิดประตูไปเจอมึงกับไอ้เพชร”มันจ้องผมเหมือนอยากให้ผมหายไปตรงหน้าซะเดี๋ยวนี้ ผมนึกคำพูดไม่ออก ผมจะอธิบายในสิ่งที่ตัวเองจำไม่ได้ซักนิดได้ยังไง สายตาแรงกล้าของคนทั้งสองทำให้ผมรู้สึกตัวเล็กนิดเดียว

“แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นเหตุสุดวิสัย”ไอ้ภูเหมือนคนไร้ชีวิตชีวา บรรยากาศกดดันทำให้ผมแทบหายใจไม่ออก ผมสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเอ่ยถามพวกมันเป็นครั้งแรก ณ จุดๆนี้เหมือนเหตุการณ์มันวนลูปไปมา ผมกำลังนึกถึงใจพวกมันว่ารู้สึกยังไง แค่ตอนที่ผมไปเจอไอ้นนท์ในห้องไอ้ภู ผมก็แทบทนไม่ได้แล้ว แล้วกับพวกมันที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆล่ะ

“เหนื่อยมากไหม”

มันสองคนหัวเราะอย่างไร้อารมณ์ขัน

“เออสิ กูเหนื่อยมาก”ไอ้ภูกระแทกเสียงเหมือนเหลืออด

“ทั้งๆที่กูกับมึงผ่านอะไรด้วยกันมาตั้งเยอะ แต่กูคิดมาตลอดว่าจะมีเรื่องอะไรเข้ามาอีกรึเปล่า คิดว่ามึงจะเฉไฉบ้างไหม เรื่องที่ประดังเข้ามามันกลับยิ่งทำให้ความรู้สึกของกูยิ่งเปราะบาง ไว้ใจ เชื่อมั่นน่ะเหรอ มันก็แค่คำพูดสวยหรูที่กูพูดเพื่อปลอบใจตัวเอง เพราะกูรู้ไงว่าถูกคนที่รักไม่ใจมันรู้สึกแย่แค่ไหน”ไอ้ภูกำมือแน่นก่อนจะคลายออก มันสูดหายใจเข้าลึกๆเหมือนพยายามตั้งสติ ไม่ให้ทำอะไรแย่ๆ

“กูรู้ว่าที่ผ่านมาปัญหามันเยอะแค่ไหน แต่กูก็พยายามที่สุดแล้ว กูก็เบื่อที่เรื่องมันวิ่งเข้ามาหากูไม่รู้จบ มันเป็นความผิดของกูเหรอวะ”ผมเองก็สุดจะทนแล้วเหมือนกัน

“กูไม่รู้ อาจจะเป็นกู เป็นมึง พี่ภู หรือใครก็ได้ จริงๆแล้วเราต้องมาคิดกันจริงๆจังๆเสียทีว่าเพราะอะไรเราถึงเจอแต่เรื่องเดิมปัญหาเดิมซ้ำๆ”ไอ้ตินดูสงบกว่าทุกทีจนผมกลัว

“มึงจะบอกว่ากูเป็นตัวปัญหาเหรอ”ก็อาจจะจริงก็ได้มั้ง ผมก็ดีแต่สร้างปัญหาให้พวกมันเสียความรู้สึกตั้งกี่ครั้ง

“มึงก็รู้ว่ากูหมายความว่าอะไร”แต่ผมไม่เข้าใจว่ะ ผมมองหน้ามันสองคน ค้นหาคำพูดที่ฟังแล้วรู้สึกดี แต่ก็หาไม่เจอ เพราะตอนนี้ผมรู้สึกแย่เหลือเกิน

“กูไม่รู้ แล้วพวกมึงคิดอะไรล่ะ เหนื่อยกับกูกันมากใช่ไหม ก็เลิกกันก็ได้ กูไม่ว่าหรอก”ผมพูดออกมาทั้งๆที่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด

“พูดอะไรของมึง”ไอ้ภูดูจะหัวเสียขึ้นมา

“พวกมึงบอกว่าเหนื่อยนี่ ถ้าเหนื่อยแล้วจะทนกับคนอย่างกูทำไม”คำว่าทนดูจะโหดร้ายกับผมมากเกินไป

“มึงอย่างอแงนะฟิก มึงก็รู้ว่าที่ผ่านมาเราช่วยกันประคองมาตลอด กูไม่เลิกกับมึงเพราะคำว่าเหนื่อยหรอก แต่กูแค่…”ไอ้ตินเหมือนพยายามหาคำพูดมาอธิบายแต่เมื่อหาไม่ได้มันก็ถอนหายใจทิ้งขว้างแทน ทำไมผมจะไม่รู้ล่ะว่าพวกมันเหนื่อย ใครบ้างจะไม่เหนื่อย คบกับผมก็เจอแต่เรื่อง ยิ่งพวกมันพูดแบบนี้ก็ยิ่งย้ำชัดว่าเรื่องของผมกับพวกมันเปราะบางแค่ไหน 

“เรื่องไอ้เพชร--”

“กูไม่ได้อยากคุยเรื่องมัน ที่กูอยากคุยตอนนี้คือเรื่องของกูกับมึง”ไอ้ภูฟิลขาดทุกครั้งที่ได้ยินชื่อไอ้เพชร

“กูขออะไรอย่างได้ไหม ฟิก”น้ำเสียงจริงจังของไอ้ตินทำผมใจเหี่ยวไปหมด

“มึงจะขออะไรล่ะ”มันสบตาผมอย่างแน่วแน่

“ช่วยเด็ดขาดกับตัวเองมากกว่านี้ได้ไหม”คำพูดของมันกระทบใจผมเต็มๆ

“ทั้งไอ้ปั๊ม ไอ้เพชร พี่ฉัตร คนที่มึงคุยด้วยน่ะ กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงจะคุยแบบขำๆหรือยังไง กูคอยบอกตัวเองเสมอว่ามึงก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ต้องคิดมากไปหรอก แต่กูก็ยังไม่เข้าใจ ทั้งๆที่ย้ำกับตัวเองบ่อยๆว่ากูเชื่อใจมึง ไว้ใจมึง แต่ตัวกูเองกลับมีความคิดแบบนี้ตลอด”ผมได้แต่เงียบ ใช่ ผมเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ชื่อที่มันพูดมาผมไม่เคยคิดมากกว่าคำว่าพี่น้องเลยด้วยซ้ำ ทำไมพวกมันไม่เข้าใจผมบ้างเลยนะ

“กูไม่รู้ว่า…มันผิดที่กูเชื่อใจมึงไม่มากพอ หรือเพราะมึงทำให้กูเชื่อใจเต็มร้อยไม่ได้ก็ไม่รู้”

“กูเนี่ยนะ…”ผมพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ผมมองหน้าไอ้ตินสลับกับไอ้ภูไปมา ก่อนหัวเราะอย่างไร้อารมณ์ขัน

“กูชัดเจนกับพวกมึงขนาดนี้แล้ว ยังจะกลัวอะไรกันอีก กูสันดานแย่ก็จริง แต่กูก็เลิกหมดแล้ว คนอื่นไม่เข้าใจ กูไม่สน ไม่แคร์ด้วย แต่เป็นพวกมึง แบบนี้กูรู้สึกแย่ว่ะ กูยอมรับว่ากูก็ผิดที่ทำเป็นเล่นกับทุกคน”ผมมองหน้ามันสองคนอย่างเหลืออด ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงทำให้คนที่รักถึงสองคนคิดมากมายได้ขนาดนี้ หรือเราอาจจะผิดด้วยกันทั้งหมด

“มันต้องเป็นกูไม่ใช่เหรอที่เหนื่อยอ่ะ พวกมึงก็เอาเรื่องมาให้กูหนักใจเหมือนกันนั่นแหละ อย่าโยนความผิดมาให้กูคนเดียว พวกมึงจะเอายังไงก็ว่ามา พูดมาเลย อย่ามากดดันกู”ผมตะคอกใส่พวกมันสองคน 

“มาคิดๆดู เรื่องของเรามันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกเราตึงใส่กันมาตลอด มันอาจจะถึงเวลาที่เราต้องผ่อน”ผมเบื่อเวลาที่ไอ้ตินพูดจาสำบัดสำนวนจริงๆ

“กูว่า…เราถอยให้กันคนละก้าวดีไหมวะ ไม่ใช่อีกฝ่ายถอย อีกฝ่ายไล่ตามแบบที่แล้วๆมา ถอยไปเพื่อคิดทบทวนให้อะไรๆมันดีขึ้น ดีไหม”ไอ้ภูก็ดูไม่อยากจะพูดแบบนี้ออกมา ผมพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ มันก็อาจจะจริงของมัน

“แล้วแต่เถอะ พวกมึงอยากจะทำอะไรก็ทำ กูก็เหนื่อยเป็นเหมือนกัน”

“กูอยากให้มึงเข้าใจ ไม่ใช่ประชดประชันแบบนี้”

“ก็กูไม่เข้าใจนี่หว่า อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน ทำไมพวกมึงเพิ่งมาพูดเอาตอนนี้”ผมเริ่มเห็นภาพชัดเจนว่าทุกอย่างมันมาปะทุเอาตอนนี้

 “พวกมึงเบื่อกูแล้วรึเปล่า”

“ตลกน่าฟิก มึงรู้ดีที่สุดว่ากูรู้สึกยังไง”ไอ้ภูสบตาผมอยู่นาน

“กูทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าไม่รักมึงนะฟิก แต่กูอยากให้เราเข้าใจกันมากขึ้น อยู่กับตัวเองคนเดียวสักพัก สงบสติอารมณ์บ้าง แล้วเราค่อยมาปรับกันใหม่”ไอ้ตินคว้ามือผมไปบีบ ผมถอนหายใจอีกครั้งเพื่อตั้งสติ พยายามยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ให้ได้ ผมโกรธตัวเองอยู่ลึกๆที่ต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบตลอด ไม่ว่าจะมองยังไง ผมก็แพ้ราบคาบ

ผมกับพวกมันก็ อ่า อย่างที่พวกมันบอกล่ะนะ ถอยคนละก้าวเพื่อปรับความเข้าใจ ผมกำลังหลอกตัวเองอยู่ว่ามันคนละความหมายกับคำว่าเลิก ตลกสิ้นดี เรื่องของไอ้เพชรกลายเป็นปัญหาขี้ปะติ๋วไปเลยสำหรับสถานการณ์ตอนนี้ เหมือนเป็นบททดสอบเรื่องของผมกับพวกมัน ถ้าจะถามหาคนผิดมันก็ยาก เพราะผมโทษไปหมด โทษแม้กระทั่งไอ้เคนที่ยอมปล่อยให้มันมาที่บ้าน แต่ลึกๆแล้วผมก็รู้ดีกว่าใคร คนที่ผิดอาจจะเป็นที่ตัวผมเองก็ได้ที่ไม่เด็ดขาดกับไอ้เพชรมากกว่านี้   






**********************************************************************




 นาฬิกาชีวิตของผมกลับเข้าสู่ปกติ ไม่ค่อยชินหรอกที่ไม่มีพวกมันคอยป่วน แต่ผมก็ไม่ได้ว้าวุ่นหรือทุรนทุรายเหมือนคนอกหัก ผมพยายามจะเข้าใจตัวเอง พวกมัน และเรื่องต่างๆ ส่วนไอ้เพชรผมไปเยี่ยมมันที่โรงพยาบาล เอาเข้าจริงๆ ผมไม่โกรธมันเลยด้วยซ้ำทั้งๆที่มันเป็นคนก่อเหตุทำให้เขื่อนพัง แต่ก็ดีเหมือนกันที่เป็นแบบนี้ ผมได้มีเวลาทบทวนกับตัวเองมากขึ้นว่าที่ผ่านมา ผมทำแย่ๆอะไรไปบ้างและควรจะปรับตรงไหน พวกมันก็คงคิดแบบนี้เหมือนกันล่ะมั้ง แต่สำหรับไอ้เพชรมันโทษตัวเอง

“พี่ไม่น่ามาเยี่ยมผมเลย….”มันเบนสายตาไปมองที่ผนังห้องแทนหน้าผม
   
“กูไม่ได้เกลียดมึงจริงๆนะเพชร แล้วกูจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่ากูกับมึงเป็นได้แค่พี่น้องกัน”ผมย้ำด้วยเสียงหนักแน่น

“ผมเข้าใจแล้วครับ”มันยิ้มจาง ก่อนจะฝืนหัวเราะทั้งๆที่ตามใบหน้ามีรอยฟกช้ำ ลืมบอกไปว่าไอ้ตินปรี๊ดขนาดที่คว้าเอาขวดเหล้าฟาดไอ้เพชรหัวแตก และไอ้ภูนี่ล่ะเจ้าของรอยฟกช้ำที่หน้าท้องของผม

“ทำตัวน่ารำคาญอยู่ตั้งนาน ทำไมเข้าใจง่ายจังวะ”

“ผมจำได้รางๆว่า…ผมพยายามจะเอ่อ…ช่วยพี่อ่ะ”มันดูเก้อเขินเล็กน้อยต่างจากผม

“แล้ว…”

“แต่ไม่สำเร็จ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพี่เมาหรือยังไง”ผมหลุดขำออกมา

“มึงอย่าเอาไปบอกใครนะ”อย่างน้อยผมก็ยังขำได้ แบบนี้แสดงว่าพวกมันคิดไว้แล้วว่าอยากทบทวน บลาๆ ผมบอกแล้วไง ว่าผมเสียเปรียบพวกมัน ผมกำลังมึนๆไม่ทันได้ตั้งตัวอะไรเลยด้วยซ้ำ ไอ้พวกนี้ ไม่นึกถึงใจผมบ้างเลย

“ผมรู้สึกแย่ ที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่ต้องผิดใจกับแฟน”ไอ้เพชรกลับมาทำหน้าเศร้าอีกครั้ง

“ช่างเถอะว่ะ สาเหตุจริงๆมันไม่ได้มาจากมึงอย่างเดียวหรอก ถ้ามึงมองกูเป็นไอดอลจริงๆล่ะก็ หาให้ได้แบบกูนะ”มันทำเสียงประหลาดๆทันที

“เรื่องนี้ขอเป็นข้อยกเว้นดีกว่า”

“ดีแล้ว ไม่อย่างนั้นมึงจะเหนื่อยมากกก”ผมลากเสียงยาวเพื่อให้มันเข้าใจ

“ผมขอบคุณพี่ฟิกมากนะครับ สำหรับทุกเรื่องเลย ถ้าผมออกจากโรงพยาบาลแล้ว…ผมเองก็มีคนที่ต้องขอโทษเหมือนกัน”ผมเลิกคิ้วมองรุ่นน้องที่นอนหยอดน้ำเกลืออยู่บนเตียง

“ระวังจะได้แผลมาเพิ่มล่ะ”

“ผมไม่หวั่นหรอก กลาทำก็กล้ารับอยู่แล้ว”

“ดีมาก เฮ้อ กูต้องกลับแล้วว่ะ ไว้ว่างๆจะมาหาใหม่”ผมตบบ่ามันเบาๆ คว้าถุงส้มจีนที่เพื่อนมันเอามาเยี่ยมติดมือมาด้วย พรุ่งนี้ไอ้ภูต้องขึ้นแข่งร้องเพลงนี่นา ผมกำลังชั่งใจว่าจะไปดูดีไหม ใครบางคนก็ถลาเข้ามาหาผม

“เป็นไง”ผมมองหน้าอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ

“พี่มิน”ผมไล่สายตาสำรวจอีกฝ่ายเพื่อดูว่าเจ็บป่วยอะไรตรงไหนรึเปล่า

“ไม่ต้องมองแบบนั้น พี่ไม่ได้ป่วย แต่มาเยี่ยมเพื่อนเฉยๆ เหมือนฟิกนั่นแหละ”พี่มินดูอ้วนกว่าตอนที่เจอกันครั้งล่าสุดเยอะเลย

“แล้วเป็นไงบ้างล่ะเรา”คำถามนี้ของพี่มินทำผมจุกได้ซะงั้น

“ก็เรื่อยๆนั่นแหละครับ”

“หน้าตาดูไม่ค่อยดี มีปัญหาเหรอ”ผมจ้องพี่มินกลับ หน้าตาอีกฝ่ายก็ดูหงอยๆชอบกล

“แล้วพี่ล่ะ”

“เมียทิ้ง”

“ห๊ะ”หรือว่าเลิกกันแล้ว

“ทิ้งไปเจแปน”พี่มินพูดด้วยสำเนียงน่าหมั่นไส้ “พอดีครอบครัวพิสชวนไปน่ะ ถ้าพี่ไปด้วยก็คงไม่เหมาะ”พี่มินทำหน้าเซ็ง

“ได้ข่าวว่าพ่อพี่พิสเหม็นหน้าไม่ใช่เหรอ”คิดแล้วก็ขำ

“เข้าใจผิดแล้ว ท่านชอบพี่ต่างหาก”พี่มินยิ้มไม่เต็มที่นัก

“ช่วงนี้เราว่างรึเปล่า ใกล้จะปิดเทอมแล้วนี่”

“ทำไมอ่ะ”ผมถามอย่างสนใจ ไหนๆก็อยู่ว่างๆแล้ว

“พี่จะชวนไปเที่ยวที่บ้าน”

“คิดอะไรกับผมรึเปล่าเนี่ย”

“บ้าเหรอ พิสก็ไป อีกสองวันก็กลับแล้ว”ผมเดินออกมาอย่างเหม่อลอย จนพี่มินสังเกตเห็น

“ไม่สบายใจอะไรรึเปล่า แล้วสองคนนั่นไปไหน”

“ก็…”ผมเล่าให้พี่มินฟังจนหมดเปลือก พี่มินแค่ฟังอยู่เงียบๆไม่ได้ออกความเห็นต่อเรื่องที่เกิดขึ้น

“เชื่อพี่เถอะ ถึงจะพูดแบบนั้นสองคนนั่นทนได้ไม่นานหรอก”พี่พิสดูจะมั่นใจมาก

“ฟันธงรึเปล่า”

“แน่นอน ถ้าอยากเห็นผลเร็ว ก็ไปเที่ยวบ้านเกิดพี่ด้วยกันสิ ถ้าไปก็โทรมาบอกพี่นะ เบอร์เดิม”พี่มินดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเมื่อครู่มาก

“ไว้ผมจะดูอีกทีก็แล้วกันครับ”
 
จากนั้นผมก็แยกกับพี่มิน กลับมาที่ห้องเงียบๆแล้วก็เซ็ง นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนที่นอน ผมก็สะดุดเข้ากลับตู้ลิ้นชักตู้เดิมที่ใส่ไดอารี่ของพวกมันไว้ ผมยังไม่ได้อ่านเลยนี่นา ผมค้นกุญแจดอกเดิมมาไข ก่อนจะหยิบสมุดเรียบๆทั้งสองเล่มออกมา ดูจากวันที่พวกมันคงเขียนไว้นานแล้ว ยกเว้นของไอ้ภูที่ดูเหมือนจะเขียนขึ้นมาใหม่เพราะเล่มเก่าผมโยนทิ้งไปแล้ว


หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 07-02-2016 12:17:18
 



                31-xx-xx

นี่ กูชื่อภูนะ ไม่รู้หรอกว่าจะเป็นไอ้ฟิกหรือไอ้ตินมาอ่าน ถ้าหาไดอารี่เล่มนี้เจออ่ะนะ อย่าหัวเราะกูล่ะ!ผมเป็นคนอารมณ์ร้อน เป็นคนประเภทแค้นฝังหุ้น อดีตของผมมันมีแต่เรื่องแย่ ๆอย่าให้ขุดเลย ผมได้เจอไอ้ฟิกครั้งแรกเพราะการบอกเล่าของไอ้คนที่ชื่อติน ว่ามันแอบคบกับเด็กผมอยู่ ถึงขั้นนอนด้วยกันแล้ว

                ‘มันมาบอกผมทำไม’ เป็นคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว ตอนนั้นผมได้แต่จ้องหน้ามัน เพื่อประเมินมัน แต่ผมก็มองมันไม่ออก ผมไม่รู้ว่ามันเป็นคนแบบไหน แต่คิดว่ามันคงไม่ธรรมดา สรุปสิ่งที่มันบอกกับผมเป็นเรื่องจริง และผมกับมันร่วมมือกันจัดการไอ้เวรนั่น มันชื่อฟิก เป็นคนหน้าตาดี ครั้งแรกที่ผมเห็นมัน ผมยอมรับว่าสนใจมัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ปกติแล้วผมมักจะสนใจแต่พวกที่หัวอ่อน ควบคุมง่าย ๆ มีมันหลุดมาเป็นคนแรกและคนสุดท้าย อาจจะเพราะว่ามันดื้อ ไม่ยอมผม ไปกระตุ้นความท้าทายของผมเข้าล่ะมั้ง ยิ่งอยู่กับมันนานวันเข้า ผมก็ต้องยอมอ่อนให้มันในหลายๆเรื่อง

                มันไม่เรียกผมว่าพี่ เป็นคนอื่นผมซัดกะบาลมันแล้ว แต่ก็โอเค ผมไม่ว่าอะไร แถมมันไม่ฟังผมเลยสักนิด ส่วนใหญ่ทุกคนมักจะเกรง ๆผม เพราะชื่อเสียงด้านลบที่ติดตัวมา แต่มันไม่กลัว ซ้ำยังกล้าขัดคำสั่ง ทำตัวเลว ๆไม่รู้กี่ครั้ง จนผมอยากจะทำร้ายมันให้เจ็บที่สุด แต่พอเห็นหน้ามัน ผมก็ทำไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าทำไมมันถึงชอบกับไอ้การนอนกับแฟนคนอื่น มันเป็นโรคอะไรรึเปล่า หรือว่าบ้านมันมีปัญหา แต่ก็ไม่ใช่ มันขาดพ่อด้วยซ้ำ แต่บ้านมันกลับสมบูรณ์มากกว่าคนที่มีครอบครัวพร้อมหน้าอย่างผมด้วยซ้ำ เอ้อ ไอ้ตินอีกคนรายนั้นอย่างกับเทพบุตร………ที่มีปีกสีดำ ผมไม่รู้ว่าลึก ๆแล้วมันมีอะไรซ่อนอยู่ แต่ผมรู้สึกได้ว่ามันมีของ มันสามารถช่วยให้ผมเย็นลงได้ แค่มันแตะไหล่ผม บางครั้งมันแค่พูดว่าหยุดแค่นั้นเอง แต่ผมก็คิดไม่ผิด มันอาจจะร้ายกว่าผมด้วยซ้ำ ผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ ผมชอบคนที่เปิดเผยมากกว่า แบบที่เห็นจะๆ ไปเลยว่าไอ้นี่มันชั่ว ไม่ใช่แบบมันที่เดาใจไม่ค่อยออก ผมถึงไม่อยากอยู่กับมันสองคน ครั้งนึงที่ไอ้ฟิกไม่อยู่หอ มันกลับบ้านไปหาแม่ ผมกับไอ้ตินทะเลาะกัน ถ้าในแง่กำลังผมชนะมันอยู่แล้ว แต่แง่จิตวิทยามันชนะเต็ม ๆ มันกดดันคนอย่างผมได้ พูดแล้วหงุดหงิด เปลี่ยนเรื่องดีกว่า

                ไอ้เนมเคยถามผมว่าทำไมถึงต้องสนใจไอ้ฟิกมันขนาดนั้น ทั้ง ๆที่มันเป็นคนไม่มีอะไรดีเลย ผมก็ไม่รู้ ผมตอบไม่ได้แสดงว่าผมโง่รึเปล่า ผมรู้แค่ว่าผมชอบมัน แคร์มันมาก ๆ จนบางครั้งผมก็อยากจะเป็นบ้าเพราะมัน ไอ้ตินเคยเปรยกับผมว่ามันเป็นคนโง่ มันชอบไอ้ฟิกก่อนผม มีโอกาสที่จะได้มันไปคนเดียว …ผมเคยคิดว่าถ้าตอนนั้น ไอ้ตินไม่ได้มาบอกผมเรื่องไอ้ฟิก แล้วไอ้ตินลงมือจีบไอ้ฟิก ได้มันไปคนเดียว แล้วผมไปเจอมันทีหลัง ผมจะทำยังไง 

….ผมคงแย่งมันมาจากไอ้ตินแน่ ๆ แต่ก็ขอบคุณมันที่ทำให้ผมได้เจอกับไอ้ฟิก ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมัน แล้วก็ดีใจนะที่ไม่ต้องมาเป็นศัตรูกับไอ้ติน  ช่วงแรกๆที่ผมเข้ามาในชีวิตมัน  ผมเคยทำเลวกับมันไว้เยอะ และผมก็รู้ว่ามันเกลียดผม จนบางครั้งผมกลัว กลัวว่ามันจะไม่รักผม จนบางครั้งผมมักจะทำตัวงี่เง่า และกลายเป็นคนที่ขี้น้อยใจไปซะอย่างนั้น ไม่เข้าท่าเอาซะเลย สิ่งที่ผมเสียใจมากที่สุดคือผมพลาดทำร้ายไอ้เด็กนัทจนมันเข้าไอซียู ผมกลัว กลัวว่ามันจะตาย ไม่อยากให้ซ้ำรอยเดิม และเพราะผมเองนั่นแหละ ที่ทำให้ทุกอย่างพัก

                เกือบๆสี่เดือนที่ผมต้องอยู่ห่างมัน ผมคิดมาก กลัวมันจะลืมผม เพราะได้อยู่กับไอ้ติน ผมอิจฉามันมาก ในขณะที่มันได้อยู่ใกล้ไอ้ฟิกผมกลับต้องจินตนาการเอา หรือไม่ก็คุยกับมันผ่านกล้องที่จับต้องมันไม่ได้ เวรกรรมของผมล่ะมั้ง นี่คงเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ของผมและผมก็ผ่านมันมาได้ ผมกับพ่อเข้าใจกันมากขึ้น ถึงจะนิดเดียวก็เถอะ แต่ผมกับพ่อก็มีวิธีแสดงออกในแบบของตัวเอง เป็นอีกครั้งที่ไอ้ตินมันช่วยผม มันเป็นที่ปรึกษาที่ดี ผมว่าอย่างมันไม่น่าเรียนเกษตรเรียนครูน่าจะเหมาะกว่า เอาล่ะ ผมพล่ามมาเยอะแล้ว ทั้งเรื่องไอ้ติน เรื่องไอ้ฟิก ผมรักมัน ยอมให้มันได้ทุกอย่าง ยกเว้นเป็นเมียมัน เรื่องนี้ผมยอมไม่ได้จริง ๆ

แล้วก็เรื่องสุดท้ายซึ่งผมไม่อยากจะนึกถึงสักเท่าไหร่ ถ้าวันหนึ่ง ไอ้ฟิกมันต้องเลือก ระหว่างผมกับไอ้ติน แล้วถ้ามันไม่ได้เลือกผม มันเลือกไอ้ติน ผมไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง แต่ผมคงทำใจไม่ได้แน่ ๆ ผมได้สัมผัสมาแล้วเกือบสี่เดือน คำตอบของผมคือ…ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมัน

                สุดท้ายแล้วว่ะ ก็ขอบคุณไอ้ฟิกที่ยอมให้โอกาสคนเลวแบบผม ขอบคุณไอ้ตินด้วยล่ะกัน (นิดนึง) หาเจอรึยังวะ?

                ภูผา

 

                20-xx-xx

                ผมชื่อติน ความจริงก็ไม่ได้ตั้งใจจะเขียนหรอก ผมเห็นไอ้ฟิกเขียนก็เลยเขียนบ้าง แต่จะมีคนได้อ่านรึเปล่าอีกเรื่องนึง ผมคิดว่าในบรรดาสามคนผม พี่ภู ไอ้ฟิก

                ผมนี่แหละเป็นคนที่โง่ที่สุด พูดกันตรงๆ ผมรู้จักไอ้ฟิกก่อนพี่ภู แอบชอบมันมาพักหนึ่ง ถึงกับตามถ่ายรูปมันด้วยซ้ำ แต่ผมก็โง่เองที่ไม่เดินเข้าไปหามันก่อน ปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอจนต้องใช้วิธีโง่ๆจัดการกับไอ้ฟิก วันนั้นที่ผมกับพี่ภูจัดการกับไอ้ฟิก

                ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่ผมเจอพี่ภูนั้นผมค่อนข้างกลัวนิดหน่อยเพราะชื่อเสียงด้านลบนั้นมันเยอะ ผมกลัวจะโดนอัดสักสองสามหมัด ที่พูดจาไม่มีหลักฐาน แต่ด้วยบุคลิกของผมก็ทำให้พี่เขาเชื่อได้ ผมค่อนข้างที่จะไม่ชอบคนนิสัยแบบพี่ภู ใช้อารมณ์เหนือเหตุผล บางเรื่องถ้าคุยกันดี ๆ แป๊บเดียวก็เข้าใจ แต่กับพี่ภูต้องอาละวาดผ่านไปหลายชั่วโมงถึงจะจบเรื่อง

                ผมกับพี่เขามีหนึ่งอย่างที่เหมือนกันก็คือ รักคือรัก เกลียดคือเกลียด ผมไม่ชอบพี่ภูในบางครั้งที่ชอบใช้กำลังอาละวาดกับไอ้ฟิก ยิ่งทำแบบนั้นมันจะยิ่งต่อต้าน แต่จะว่าไปผมว่าพี่ภูนิสัยคล้ายไอ้ฟิกนะ เว้นแต่เกรียนน้อยกว่า เลวกว่าไอ้ฟิก แต่ครั้งนึง ผมเคยคิด แค่ครั้งเดียว ผมอยากจะกำราบพี่ภูให้อยู่หมัดบ้าง เพราะบางทีก็ทำตัวน่ารำคาญ สร้างเรื่องไม่ต่างจากไอ้ฟิกเลย แต่ในทางปฏิบัติ…ผมอาจจะลำบากหน่อยเพราะผมสู้แรงพี่ภูไม่ได้แน่ๆ…แต่เอาจริงๆ ….เลิกคิดดีกว่า ความรู้สึกแรกหลังจากที่ผมได้จัดการไอ้ฟิกคือ…ผมรู้สึกแย่มาก ผมทำอะไรเลว ๆลงไป ผมแค่คิดว่าอยากให้มันเจอบทเรียนที่เจ็บที่สุดในชีวิตมัน ผมไม่เคยบอกว่าตัวเองเป็นคนดี ผมเองก็มีด้านมืด ตอนแรกผมไม่ชินกับความสัมพันธ์แบบนี้ สามคน?

                มันเป็นอะไรที่แปลก ประหลาด ผมยอมรับว่าเคยหึงหวงไอ้ฟิกอยู่ในใจ ไม่อยากให้มันเข้าใกล้พี่ภู อยากให้มันเป็นของผมคนเดียว

                แต่ผม….เฮ้อ ผมมันโง่เองแหละ แต่มันก็ไม่ได้แย่ไปซะหมดทีเดียวหรอก ชีวิตแบบนี้มันก็มีความสุขดี ผมอยากจะถามไอ้ฟิกเหมือนกันว่ามันรู้สึกดีกับใครมากกว่ากัน แต่มาคิดดูแล้ว คงไม่เหมาะสักเท่าไหร่ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจคือผมไม่ได้คิดผิดที่เลือกมัน

                ถึงมันจะทำให้ผมเจ็บ เสียใจไม่รู้ต่อกี่ครั้งก็เถอะ แต่ความรักก็เป็นแบบนี้แหละ คนที่เรารักมากที่สุด มักจะทำให้เราเจ็บที่สุดเสมอ    ผมจำได้ว่าเมื่อตอนที่ไอ้ฟิกมันนอกใจผมกับพี่ภูด้วยการไปแอบมีอะไรกับไอ้จืดนั่น ผมโกรธมันมากจริง ๆ โกรธจน…ผมอยากทำลายมัน แต่ผมก็ทำไม่ลง เพราะผมรักมัน แคร์มัน มากกว่าที่มันคิด โกรธจนผมต้องระบายออกมาเป็นน้ำตา

                และก็เคยคิดจะถอดใจเรื่องมันแล้วด้วยเพราะไอ้ชัยมันชอบพูดกรอกหูผมทุกวันว่ามีคนที่ดีกว่าไอ้ฟิกตั้งเยอะ จนวันที่มันรอผมอยู่ที่หน้าประตูห้องทั้งคืน ร้องเพลง ผมยังมีคลิปมันอยู่เลย แอบโหลดเก็บไว้ เพราะผมรู้ว่ามันต้องลบออกแน่  ๆ ถึงมันจะร้องเพลงไม่ได้เรื่อง เป็นคนไม่เอาไหน สันดานแย่ แต่ผมก็ยังรักมัน เรื่องนี้เหมือนเป็นตะกอนที่อยู่ในใจผม ถ้าสมมุติวันหนึ่งไอ้ฟิกต้องเลือกระหว่างผมกับพี่ภู ผมไม่รู้หรอกว่าวันนั้นมันจะเลือกใคร แต่ถ้ามันไม่ได้เลือกผม ….วันนั้นค่อยว่ากัน   

                สุดท้ายขอบคุณมันที่ยอมให้โอกาสผมกับพี่ภู ผมกับพี่ภูซื้อแหวนให้มัน แหวนวงแรกที่ผมซื้อให้คนที่คบด้วย เป็นคำสัญญาว่าผมจะไม่ไปไหน.ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เอาให้สองคนนั่นอ่านรึเปล่า?

                ติน





ผมนิ่วหน้าเมื่ออ่านจบ อะไรของพวกมันเนี่ย…ทั้งๆที่ผมเป็นคนแข็งกระด้าง ไม่เคยเสียน้ำตาให้กับเรื่องความรักแท้ๆ ทำไมต้องมาไหลตอนนี้ด้วยก็ไม่รู้ ไม่น่าเปิดอ่านเลยจริงๆ



กูได้อ่านความในใจของพวกมึงแล้วนะ เพราะฉะนั้นก็รักษาสัญญาด้วยว่าจะไม่ไปไหน

 


 

 




TBC.

ตอนนี้ยาวมาก ไดอารี่ของภูและตินเป็นใจความเดิมจากภาคก่อนเนอะ ต้องขอโทษด้วยหากมีคนไม่ชอบตอนนี้ T^T ความสัมพันธ์แบบสามคนมันไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก (?) หากว่าเข้าใจและปรับตัวเข้าหากันมากกว่านี้ อย่างที่รู้ว่าทั้งสามคนไม่ได้ตั้งใจจะจบที่สามคนแบบนี้ มันก็ต้องมีเรื่องที่สั่งสมมานานจนมาระเบิดเอาในตอนนี้ ส่วนประเด็นรักใครมากกว่ากัน เราจะไม่เอ่ยถึง ตั้งแต่ภาคก่อนแล้ว เพราะมันจะกลายเป็นต้องแข่งกัน ซึ่งเราไม่ชอบแบบนั้น (ฮา) บางคนอาจคิดว่าฟิกพูดไม่ดีกับภู ไม่มีโมเม้นหวานหรืออะไร แต่ด้วยนิสัยของทั้งสองคนเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ผลลัพธ์จึงกลายเป็นแบบนี้ 55

ส่วนเนื้อหาภาคนี้ ไม่เกี่ยวกะตอนพิเศษในเล่มนะคะ (ถือเป็นความผิดพลาดของเดือนเอง ที่เขียนเสริมแล้วไปย้อนแยงกับตอนพิเศษในเล่ม ทั้งเรื่องของเจ้าคุณด้วย)  ภาคนี้คือเขียนแทรกเรื่องที่ยังไม่ได้เขียนในภาคก่อน ส่วนเจ้าคุณจากนี้ไปก็ไม่ได้ออกแล้ว แต่จะไปโผล่อีกทีในอีกห้าปีข้างหน้า(ตินต้องทำงานกับเจ้าคุณตามที่สัญญาไว้) ซึ่งในภาคนี้เราจะเขียนช่วงก่อนห้าปีด้วย
ส่วนตอนหน้าจะเป็น insideของภูและตินค่ะ ว่าช่วงที่ถอยคนละก้าวทำอะไร 

สิ่งที่จุดประเด็นให้เราเขียนภาคพิเศษคืออยากเห็นภูกับตินรับปริญญาค่ะ :กอด1:  (ต้องหล่อเนี้ยบในชุดครุยแน่ๆ)และฟิกคงหัวหมุน ไม่รู้ว่าจะต้องเป็นเบ้ใครดี 55 ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดค่ะ




หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-02-2016 12:39:55
 :katai2-1:   ฟิกได้อ่านในที่สุดเนอะ. แต่ก็นั่นแหละทนคิดถึงเมียไม่ไหวหรอก
ขอบคุณค่ะ เราชอบตอนนี้นะ ดีแล้วที่เมาแล้วสงบนะฟิก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 07-02-2016 12:46:15
ยาวมาก จิ้มไว้ก่อนนะ
อ่านจุใจแน่ๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 07-02-2016 14:50:58
สำหรับตอนนี้ เราว่าฟิกค่อนข้างเด็ดขาดมากแล้วกับเพชรนะ คือมันสุดๆแล้วสำหรับฟิกที่เคยเป็นคนแบบนั้นอะ เราว่ารอบนี้คือภูกับตินคิดมากจากสิ่งที่ฝังใจมากกว่า ดีกันไวๆ น้า  :mew6:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 07-02-2016 14:54:28
เข้าใจกันเร็วๆนะ :hao5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 07-02-2016 15:18:54
ย้อนแย้งกับตอนพิเศษในเล่มนิดๆแต่ก็ยังโอเคอยู่ไม่ถึงกับขัดมาก ตอนหน้านอกจากอินไซด์ภูตินแล้วขอตอนไปบ้านพี่มินด้วยดีมั้ยนะ แบบว่าค้างมากอยสกรู้ค่ะ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 07-02-2016 16:05:56
ฮือออออ อ่านเรื่องนี้ทีไรสอนให้รู้ว่าชีวิตนี้แม่งอยู่ยากจริงๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 07-02-2016 16:23:01
รักกันรักกันหน่า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 07-02-2016 16:24:26
คิดถึงพี่มินนน T//T
ไป ไปบ้านพี่มินนน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 07-02-2016 16:56:09
พี่ภู กับดินไม่ต้องคิดเยอะ
ฟิกเขาไม่มีใครแล้วจริงๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 07-02-2016 17:22:04
แอบสงสารฟิก...อย่าใจแข็งกันนานนะ :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 07-02-2016 18:22:30
สู้ๆ นะฟิก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-02-2016 18:33:08
ดีกันเข้าใจกันเร็วๆล่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: ohm ที่ 07-02-2016 18:48:30
ดีกันเร็วๆน้า

ปล อยากอ่านความในใจภูตินมานานแล้ว ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 07-02-2016 19:22:45
ยิ่งอ่านยิ่งหลงรักสามหน่ออ่ะ
ไม่รู้สิ อาจจะเพราะตามมาตั้งแต่แรก เลยคิดว่า เราโตไปพร้อมๆกันอ่ะ
ฮือออออ ไม่อยากให้จบเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 07-02-2016 20:14:20
ไปเถอะฟิก  ถือว่าไปพักผ่อน ปลดละวางทุกอย่าง ไปหาความสบายใจ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 07-02-2016 20:47:23
สามคนนี้ควรจะชนกันเรื่องประเด็นนี้จริงๆแหละ แลดูคาใจแต่ละคนมาตลอด  :mew6:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 07-02-2016 20:53:26
ตอนนี้ยาวจุใจมาก ชอบสุดๆ ช่วงถอยคนละก้าวถชภูกับตินจะเป็นไงบ้างนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 07-02-2016 21:29:11
https://www.youtube.com/v/2ckDnjREvU4

 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 07-02-2016 21:33:31
สามคนนี้ต้องเป็นแม่เหล็กดูดความซวยแน่ ๆ

เซ็งแทนเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: kjkjji ที่ 07-02-2016 21:39:49
เรากลับรู้สึกว่าฟิกค่อนข้างชัดเจนนะในช่วงหลังๆอ่ะ ในขณะที่พอฟิกยอมอ่อนข้อให้ สองคนนั้นก็กดฟิกเยอะขึ้นยังไงบอกไม่ถูก แต่ก็เข้าใจได้แหล่ะ เพราะประวัตินางก็ไม่ค่อยจะดี  :hao5: แต่เรื่องนี้คิดว่าฟิกไม่ผิดอ่า สงสารน้องฟิก ทีมฟิกนะ อย่าเศร้าเลย แง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 07-02-2016 23:06:43
สงสารฟิก แต่ก็เข้าใจทั้งสามคนเลย :hao5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: Annko ที่ 07-02-2016 23:35:55
สงสารฟิกอ่ะ มันวนลูป ฟิกเสียใจ เราไม่เข้าข้างภูกะติน
ห่างกันก็ดีนะ ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมันจะเจ็บเพราะความระแวง
2คนนั้น สงสังคราวก่อนง้อง่ายไปมั้ง ทำฟิกเสียใจอีกแล้ว
ไปบ้านพี่มินเลยฟิก ให้2คนตามหา ตามง้ออีก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: meuy ที่ 07-02-2016 23:39:25
เข้าใจกันเร็วๆน้า

 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 07-02-2016 23:40:49
เราว่าฟิกก็ชัดเจนนา แต่แบบคนมันไม่ไว้ใจไง
และยิ่งเพชรมาทำแบบนี้ด้วย ยิ่งแบบ....
สงสารฟิกเบาๆ ถ้าหนีไปสองวันนะ
สองคนนั้นขี้คร้านจะตามหาทั่วแผ่นดิน
ิฟิกอย่าไปยอม เราไม่ผิด
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 07-02-2016 23:45:15
สงสารฟิกนะ  ฟิกมันก็เด็ดขาดและชัดเจนตลอดนะว่าคิดยังไง

ภูกะตินนั่นละที่ไม่ไว้ใจฟิกเลย กดดันและระแวงฟิกมาตลอดเลยสินะ เหนื่อยแทนฟิกวะ คนที่เจอหนักสุดคือฟิกปะวะเวลาภูกะตินมีเรื่องอะไรเข้ามาฟิกมันก็เชื่อใจและเข้าใจได้ตลอดแต่ว่าดูสิ่งที่นางได้รับตอบแทนดิ เห้อ....
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: Mynun ที่ 08-02-2016 01:12:40
ยิ่งอ่านยิ่งเหนื่อยยิ่งเบื่อภูติณจนไม่อยากอ่านแล้วเนี้ย
ชัดเจนขนาดนี้แล้ว ยังไม่เชื่อใจกันก็จบๆไปเหอะ
จะร้องไห้ก็ร้องแทนฟิกไม่ออก
ตอนนี้เหมือนเข้าใจความรู้สึกฟิกเลย
เบื่อมากถ้ามีแฟนแบบนี้ เหนื่อยใจ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 08-02-2016 07:10:14
เรื่องเข้ามาหาฟิกได้ตลอด
กว่าจะผ่านพ้นอุปสรรคต้องเข้มแข็งเข้าไว้น่ะฟิก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 08-02-2016 08:14:34
แค่ถอย เพื่อก้าวเดินได้มั่นคงกว่า

ส่งกำลังใจให้สามหน่อ

ความรัก ก็เป็นอย่างนี้ มีทุกข์มีเสียใจ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 08-02-2016 09:10:31
นี่แหละความรัก รู้ว่ามันเรียกว่าความรัก แต่หาความหมายมาให้มันนี่ยาก มันไม่ตายตัว มันไม่มีคำจำกัด ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อได้มาจะให้มันเป็นแบบไหน  :เฮ้อ:  สองคนรักกันไม่ว่าเพศไหนก็ว่ายากแล้วในการจะอยู่ด้วยกันยังไงไม่ให้มีการเลิกลา สามคนยิ่งยากมากกว่า สำหรับ ภู ฟิก ติน มันเริ่มต้นไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อได้มีความรักเข้ามาแทรกแซง ก็ทำให้ทั้งสามอยู่ด้วยกันได้ ปรับตัวเข้าหากัน ใช้ประสบการณ์เลวร้ายที่ผ่านมาเป็นบทเรียนแก้ไขให้ดีขึ้น ทั้งสามคนต้องใช้เวลามากกว่าคู่รักทั่วไป อาจจนคิดว่า สามคน เป็นคนรุ้จักที่เราติดตามชีวิตรักเขามาตลอด มีอารมณ์ร่วมกับเขาไปหลายเรื่อง มีคิดแทนทั้งสามคนตลอด ไม่ว่าจะเรื่องไหน  :laugh: เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีใครผิดใครถูก จะโกรธเพชร ก็เข้าใจนะว่า ความรักมันห้ามกันไม่ได้ ฟิกห้ามตัวเองแล้ว แต่เพชรไม่ค่อยห้ามเท่าไหร่ อยากเอาชนะใจฟิกแต่แบบใช้วิธีตีเนียนเข้าหา ไม่ดึงดัน  เพชรนี่ลึกคล้ายติน เดาใจยาก แต่รักก็คือรัก เพชรอาจจะยังไม่ได้รักฟิกมากคิดว่าหลงมากกว่า ยังคิดว่าเพชรมีอะไรลึกกว่านั้นแบบมีเรื่องของภูเข้ามาเกี่ยวข้องและเพชรอาจจะอยากเอาคืน ยังข้องใจเรื่องคนที่สักตายไปว่า เกี่ยวอะไรกับเพชรและภูมากกว่านี้หรือเปล่า มันเหมือนค้างคานะในความรู้สึกเรา คิดว่าตัวเองไม่น่าจะอ่านข้ามอะไรนะ หรือจะลืมหว่า  :pigha2:  วิธีแบบนี้ก็ดีนะ ถอยออกมาคนละก้าวเพื่อให้มีเวลาคิดกันใหม่ ไม่ใช่เพื่อเลิก เราเชื่อว่าทั้งสามคนรักกันมาก แต่ความเชื่อมั่นมันก็ต้องมากตามด้วย ทั้งภู ติน ระงับอารมณ์ได้มากแล้วนะ แต่พี่ภูยังทำฟิกได้นะ ต่อยเมียจนจุกเขียวช้ำ แต่คิดอีกมุมก็เข้าใจว่า พี่ภูรักฟิกมาก พอเห็นแบบนั้นก็สติแตก ยังดีที่ไม่ทำเพชรถึงตาย โดนตินแค่นั้นน้อยไปนะเพชรนะ ทำอะไรลงไป ฟิกเมาแต่ไม่ได้ขอให้ช่วยนะ ทั้งที่รู้ก็ยังทำ  :m16: อ่านไดอารี่แล้ว คิดเหมือนฟิก มันน้ำตาซึมความรักของสองคนนี้เลยนะ รักฟิกมากจริงๆ พี่ภูนี่ถึงกับอยู่ไมไ่ด้เลยถ้าฟิกไม่ได้เลือกตัวเอง ส่วนตินถึงจะดูว่าเป็นคนที่อาจจะถูกเลือก ยังกลัวเลย แต่มีแอบจิ้น ตินภู ตินคิดจะกำราบพี่ภูแต่ติดตรงกำลังสู้ไม่ได้ ก็ใช้ยาดิพี่ติน พี่ภูมันไม่ระแวงว่าพี่จะเล่นประตูมันหรอก  :m20:

ปล. แต่ชอบฟิกเวลาพูดกับภูนะ ถึงจะคิดว่าพูดเหมือนไม่รักภูเท่าไหร่ แต่ก็ด้วยนิสัยภู ฟิก มันคล้ายกันเลยออกมาเป็นแบบนี้ ส่วนตินเขาเป็นคนอ่อนโยน ใจดี เวลาไม่มีด้านมืดนะ เอาเถอะยังไงก็ชอบสามคนนี้อยู่ด้วยกันมากกว่า แก้ไขปัญหาชีวิตกันเร็วๆนะ จะได้กลับมาเป็นสามคี่กันอีก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: ryneyz ที่ 08-02-2016 11:28:41
มีแฟนขี้หึงต้องทำใจ ยิ่งมี2 คน ฟิกต้องปลง  :m20:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 08-02-2016 11:33:43
มันอุ่นใจแปลกๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [๒๕] 7-02-59 P.32
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 08-02-2016 12:57:44
 :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 08-02-2016 13:50:46

ตอนที่๒๖ INSIDE PHU






[Phu Side]

ถอยคนละก้าว คงจะดีที่สุดสำหรับในตอนนี้ เพราะใจผมไม่สงบเลย ตั้งแต่แยกออกมาผมก็คิดอะไรได้หลายอย่าง แต่ที่ชัดเจนที่สุดคือความคิดถึงนี่ล่ะ หลายๆเรื่องที่ได้เจอมามันยิ่งทำให้ผมคิดมากมายไปหมด ทั้งๆที่ควรจะเชื่อใจไอ้ฟิก คนที่ผมรักมากที่สุด แต่ผมกลับทำไม่ได้ และทุกครั้งที่นึกถึงผมก็รู้สึกแย่ทุกครั้ง แต่ถ้ายังอยู่ด้วยกันทั้งๆที่ผมยังมีความคิดแบบนี้อยู่ในหัว ความสัมพันธ์ของเราคงไปไม่รอดแน่ๆ อาจจะดูใจร้าย แต่ผมไม่อยากให้มันพัง จึงเลือกจะถอยออกมาก่อน สำหรับเรื่องไอ้เพชร ผมไม่ได้โกรธไอ้ฟิกเลยแม้แต่น้อยเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องสุดวิสัยจริงๆ แต่ไอ้เพชร ผมไม่ยังไม่ยกโทษให้มันง่ายๆหรอก

นาฬิกาชีวิตของผมเปลี่ยนไปจากเดิม จากที่เคยไปมาหาส่งไอ้ฟิก ตอนนี้กลับว่างชอบกล เหมือนสิ่งที่เคยทำทุกๆวันหายไป ผมเลือกกลับมาค้างที่บ้านเพราะเบื่อขี้หน้าไอ้เนมกับไอ้ปาแล้ว เดี๋ยวพวกมันก็ถามซอกแซกน่ารำคาญอีก อยากกลับไปหาโดโด้ด้วย ไม่ได้เจอมันตั้งนานแล้ว ตั้งแต่มีไอ้โด้ บรรยากาศในบ้านเปลี่ยนไปเยอะเลยครับ ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น อาจเพราะพ่อสละเวลามาอยู่บ้านเยอะกว่าแต่ก่อนก็ได้

“ว่าไง ไอ้โด้”ลงมาจากรถได้ เจ้าลูกหมาสีดำ ขนเรียบหางกุด ก็วิ่งปรี่เข้ามาหาทันที ตอนนี้มันเก่งถึงขั้นฟังคำสั่งง่ายๆรู้เรื่องแล้ว พ่อกับแม่เป็นคนสอนเองกับมือ แถมยังมาจิกกัดผมอีกว่าสอนหมา สอนง่ายกว่าผมหลายเท่า

“เอาไว้ว่างๆจะพาพี่ฟิกมาเล่นด้วยอีกทีนะ”ผมกลัวว่าไอ้โด้จะไม่ชินกับไอ้ฟิก ไอ้ตินก็ด้วย ยังไม่เคยเจอโดโด้น้อยของผมเลย ระหว่างที่กำลังฟัดกับลูกหมา พ่อก็เดินหน้าขรึมมาหา

“แปลก…ทำไมวันนี้แกถึงกลับบ้าน”

“คิดถึงหมา”ผมตอบโดยที่ไม่มองหน้าอีกฝ่าย

“เหอะ”ชอบทำเสียงแบบนี้ทุกที ผมเกาพุงไอ้โด้ก่อนจะเงยหน้ามองคนตรงหน้า

“ผมก็อยากกลับมานอนที่บ้านบ้าง แปลกมากเหรอไง”

“แปลกสิ ปกติแกก็คลุกอยู่กับไอ้เจ้าฟิกนั่น”ผมใจแกว่งเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อมัน

“ช่วงนี้มันงานเยอะ ผมไม่อยากรบกวน”ผมไม่อยากคุยถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ จึงเดินเลี่ยงเข้าบ้าน

“พรุ่งนี้วันอะไร แกยังจำได้ใช่ไหม”ผมหยุดชะงักในทันที คลื่นความรู้สึกแย่เข้ามาเกาะกุมอีกครั้ง

“ผมไม่มีวันลืมหรอก เลิกคิดว่าผมเป็นคนชั่วช้าขนาดนั้นเสียที”ผมเร่งฝีเท้าเข้าไปในบ้านเร็วขึ้น วันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของคู่อริเก่า ทุกๆปีผมจะเอาพวงมาลัยไปวางที่โกศเสมอ เรื่องที่ไม่อยากลืม กลับฝังแน่น เหมือนรอยแผลเป็น ถึงแม้จะหายขาดแต่ก็ยังปรากฏรอยแผลเอาไว้ แต่ก็ดีแล้วที่ผมยังไม่ลืม ไม่อย่างนั้นผมคงเกลียดตัวเองมากกว่านี้แน่ๆ   

“อ้าว ภูวันนี้มาคนเดียวเหรอลูก”แม่เดินออกมาจากครัว กวาดสายตามองรอบๆเหมือนคิดว่าจะได้เห็นไอ้ฟิก

“ครับ พอดีผมอยากลองทานกับข้าวฝีมือแม่บ้าง”แม่หลุดยิ้มทันที

“วันนี้มาแปลกนะเรา อ้อนแบบนี้จะเอาอะไร หึ”ผมได้แต่ยิ้ม

“ผมไม่ได้อ้อนซักหน่อย”

“เมื่อตอนเล็กๆภูก็ทำท่าทางแบบนี้ ตอนที่น้องหมาตัวแรกตาย ยังแอบย่องมาหาแม่ตอนดึกๆให้แม่กล่อมให้หลับอยู่เลย”แค่คำพูดธรรมดาๆของแม่กลับทำให้ผมรู้สึกตื้อในอกแปลกๆ น้ำตาพาลจะไหลออกมาง่ายๆเสียอย่างนั้น

“ผมแค่…เหนื่อยๆน่ะครับ ใกล้จะจบแล้ว แถมผมยังต้องเตรียมตัวฝึกงานกับพ่ออีก”ผมยอมตกลงเรียนรู้งานในช่วงสั้นๆ ถ้าหากไม่เวิร์ค คงให้คนที่มีฝีมือสานต่อ แม่เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะวางมือลงบนบ่าของผมเบาๆ

“เป็นอะไรรึเปล่าภู”ผมเม้มริมฝีปากเพื่อปกปิดความรู้สึกอ่อนแอที่พุ่งขึ้นมา นานมากแล้วจริงๆที่ผมไม่ได้ยินคำนี้ออกมาจากคนในครอบครัว

“เปล่าครับ”ผมฝืนยิ้มส่งไปให้ท่าน

“โกหกอีกแล้ว เรื่องเกี่ยวกับแฟนเรารึเปล่า”แม้ว่าผมจะไม่ได้ตอบออกมา แต่ดูเหมือนท่านจะเข้าใจอย่างรวดเร็ว

“ไปรอแม่ที่โซฟาไป เดี๋ยวจะเล่านิทานให้ฟัง”ผมหลุดหัวเราะ

“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ”แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไปรอที่โซฟา ไถลตัวไปกับโซฟานุ่มๆ เลื่อนโทรศัพท์ไปมาอย่างเหม่อลอย ระหว่างนั้นแม่ก็เข้ามาพอดี

“มานอนตรงนี้ แม่จะนวดขมับให้”ผมลุกมองแม่หยิบหมอนอิงวางลงบนตัก พร้อมกับตบให้ผมนอนลงมาแต่ผมเก้อเขินเกินกว่าจะทำแบบนั้นได้

“ไม่เอาน่า เครียดมากเดี๋ยวเส้นเลือดในสมองแตกนะ”แม่พยักหน้าให้ผมนอนบนหมอนอิง ผมถอนหายใจก่อนจะทำตาม รู้สึกแปลกจริงๆ สองสามปีหลังผมกับที่บ้านแทบไม่ได้มีโมเม้นคุยอบอุ่นเลยด้วยซ้ำ เหมือนผมกลายเป็นคนแปลกหน้า เป็นส่วนเกินของบ้านนี้ บรรยากาศที่เหมือนไม่ต้อนรับทำให้ผมเลือกไปอยู่ที่คอนโดหรือไม่ก็หอเพื่อนมากกว่า

“ภู ยังเห็นว่าแม่เป็นแม่อยู่รึเปล่า”ผมลืมตามองใบหน้าหมองเศร้าของแม่อย่างตกใจ ไม่คิดว่าท่านจะพูดอะไรแบบนี้

“ทำไมถามแบบนี้ล่ะครับ ถึงผมไม่เคยเชื่อแม่ ก็ไม่ได้หมายความว่าผมไม่เห็นหัวแม่นะ”จู่ๆก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมา

“แล้วทำไมภูถึงไม่เล่าเรื่องไม่สบายใจให้แม่ฟังบ้างเลยล่ะ เรื่องของภู แม่แทบไม่รู้อะไรเลยนะ”ผมเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเอง จะให้พูดยังไงดี ช่องว่างที่เกิดขึ้นทำให้ผมปิดกั้นตัวเองกับครอบครัวมากเกินกว่าจะเปิดใจให้ง่ายๆ ผมจึงหลับตาลงเพื่อหลบ
สายตาหม่นๆของแม่แทน   

“แม่แค่อยากรู้ว่าภูเป็นยังไง มีความสุขดีไหม ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร แม่ไม่ได้อยากจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวอะไรของเราหรอก”มือนุ่มเลื่อนมานวดตรงขมับอย่างเบามือ ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ผ่อนลมหายใจให้เป็นปกติ 

“ผม…ก็อธิบายไม่ถูก ตั้งแต่ผมเกิดมา…เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกมีความสุขมากๆที่ได้อยู่กับมัน มันก็แค่คนไม่เอาไหนคนนึง แต่ผมก็รักมันมากกว่าที่คิดอีก ทั้งๆที่เรื่องของเรา นิสัยของเราไม่มีทางเข้ากันได้เลย แต่ก็เป็นมัน แค่มันคนเดียวที่ทำให้ผมยอมทุกอย่าง ทั้งๆที่เมื่อก่อนผมแทบจะไม่ต้องปรับตัวเข้าหาใครเลยด้วยซ้ำ ผมรักมันมากจนกลัว กลัวว่าสักวันจะถูกมันทิ้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงกลัวได้ขนาดนี้”ฝามือนุ่มๆของแม่ยังนวดวนบริเวณขมับไปเรื่อยๆเหมือนจะปลอบผมกลายๆ

“ถ้ารักเขามาก ก็รักษาเขาไว้ดีๆสิลูก”

“พยายามอยู่ครับ”ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กขี้แยขึ้นมาชอบกล

“ผมกับมันต้องคอยประคองความสัมพันธ์ไว้เพราะมันเปราะบางกว่าที่คิด ผมไม่อยากอยู่ใกล้ๆมันทั้งๆที่ในหัวมีแต่ความคิดแย่ๆเลยครับแม่ ผมเลือกถอยออกมาคนละก้าว แม่ว่าผมทำถูกไหม…”อาการเก้อกระดากวางท่าหายไปหมดเมื่อผมได้พูดออกมาหมดเปลือกแบบนี้ รู้สึกน้ำหนักที่บ่าลดลงไปกว่าเดิมเยอะ

“ถูกหรือผิด แม่ไม่ใช่คนตัดสินนะภู”

“ผมกับมันผ่านเรื่องด้วยกันมาก็เยอะ แทนที่จะเข้มแข็งอย่างที่แสร้งทำ แต่ผมกลับรู้สึกอ่อนแอจนน่าสมเพช ทำให้มันรู้สึกแย่ๆ
เพราะคำพูดของตัวเอง ทำไมผมถึงเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้”ผมพึมพำเบาๆ ทั้งที่รู้ดีว่ารู้สึกแย่แค่ไหนหากถูกคนที่รักทำร้ายด้วยคำว่าไม่ไว้ใจ โดนมากับตัวแล้วยังจะไปสร้างแผลให้คนอื่นอีก

 “แม่ไม่รู้ว่าเรื่องเป็นมายังไง แต่ถ้าภูยังเป็นแบบนี้อยู่ มันจะพังเพราะตัวลูกเองนะรู้ไหม แม่ขอโทษจริงๆที่ไม่ได้ใส่ใจเรามากพอ จนทำให้เรากลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยขนาดนี้”ผมอยากจะแย้งแม่ว่าอย่าโทษตัวเองเลย แต่ก็พูดไม่ออกเพราะมันคือเรื่องจริง เรื่องจริงมักจะโหดร้ายแบบนี้เสมอ ผมปล่อยให้แม่นวดขมับไปเรื่อยๆ รู้สึกผ่อนคลายมากกว่าเดิมหลายเท่า และแม่ก็เล่านิทานให้ผมฟังจริงๆ ตลกนะครับที่ผมยังยอมนอนฟังได้อยู่

“ว่างๆ ภูก็…คุยกับพ่อเขาบ้างนะลูก”แม่พึมพำเบาๆ คุยเหรอ…จะคุยดีได้สักกี่น้ำเชียว พ่อกับผมเป็นแบบนี้มานานแล้ว คงแก้ในเร็วๆนี้ไม่ได้แน่





*************************************************************







ตอนดึกอากาศกลับมาเย็นอีกครั้ง หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้วผมก็คว้าโทรศัพท์ที่เงียบสนิทมาหลายชั่วโมงแล้ว คิดถึงไอ้ฟิกมากจริงๆนั่นแหละ ผมกลั้นใจส่งไลน์ไปหามันเป็นครั้งแรก

Phu – อากาศเย็น ห่มผ้าด้วยล่ะ

ผมนอนมองหน้าจอโทรศัพท์เพื่อรอให้อีกฝ่ายตอบกลับมา แต่บางทีมันอาจจะไม่ตอบก็ได้ เข้าใจว่ามันอาจจะโกรธ มันดูไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวเท่าไหร่

Fix – มึงก็ด้วย

ผมเผยรอยยิ้มออกมา เอื้อมไปปิดไฟที่หัวเตียง ขยับตัวไปมาบนเตียง

Fix – กูอ่านไดอารี่ของมึงแล้วนะ ซึ้งมากกก

Phu – น้ำเน่าใช่ไหมล่ะ

ผมยิ้มค้าง รู้สึกผิดต่อมันขึ้นมา

Phu – กูขอโทษที่พูดแย่ๆใส่

Fix – ไม่ต้องขอโทษหรอก ตอนนี้กูเข้าใจแล้ว อย่าคิดเยอะ มึงก็รู้ว่ากูรู้สึกยังไงกับมึง คนเคยๆกันอย่าต้องให้พูดมากเนอะ

Phu – เหรอ หวังว่าพิมพ์อยู่คงไม่ร้องไห้หรอกนะ

Fix – กูไอ้ฟิกนะเว้ย แค่นี้ไม่สะเทือนหัวอกกูหรอก เรื่องแย่ๆกว่านี้กูยังผ่านมาได้เลย

ประโยคนี้ทิ่มใจผมอย่างจัง

Phu – เออ มึงเก่ง

Fix – มึงก็หัดเก่งแบบกูบ้างสิ หัดอยู่คนเดียวให้เป็น ถอยคนละก้าวไง

นี่มันแอบเอาคืนผมรึเปล่าเนี่ย แต่ก็ได้ผลนะ เจ็บจี๊ดๆในอกอยู่เหมือนกัน

Fix – ลืมไป ในไดอารี่ มึงบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีกูนี่นา อย่าเพิ่งเฉาตายนะ สบายใจเมื่อไหร่ค่อยปรับความเข้าใจกันใหม่ แต่ถึงยังไงกูชัดเจนกับมึงมากกว่าใครในโลกแล้วนะ สำเนียกไว้บ้าง กูย้ำนักย้ำหนาว่าไม่นอกใจมึงหรอก ไม่ใช่แค่เพราะกลัว แต่เพราะกูไม่มีทางนอกใจมึง จำใส่กะโหลกหนาๆของมึงไว้ด้วย ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่เราทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้นะ กูก็เหนื่อยเป็นเหมือนกัน

ผมมองข้อความยาวๆตรงหน้าไม่รู้ว่าตอนนี้มันทำหน้ายังไง แต่คงไม่ต่างจากผมเท่าไหร่

Fix – ไม่มีกูก็อย่าร้องไห้ล่ะ

Phu – กูไม่ร้องไห้หรอก…เออ ฟิก พรุ่งนี้..

ผมชั่งใจว่าจะบอกเรื่องวันพรุ่งนี้ดีไหม

Fix – ทำไม?

Phu – เปล่า ไม่มีอะไร มึงนอนเถอะ

Fix – คิดว่ากูจะนอนหลับได้อีกเหรอ


ผมมองข้อความในจอโทรศัพท์อยู่นาน ไม่ได้ตอบอะไรไปอีก นอนมองความมืดในห้องอยู่เงียบๆ

'อยู่คนเดียวให้เป็น'
เหรอ นั่นสิเมื่อก่อนผมก็ตัวคนเดียวมาตลอด ทำไมตอนนี้จะอยู่คนเดียวเหมือนเดิมไม่ได้ล่ะ แต่แค่คิดมันง่าย ผ่านไปค่อนคืนผมก็ยังนอนไม่หลับ จ้องมองความมืดตรงหน้าอย่างไร้จุดหมาย ...ผมจะแก้ไขนิสัยแย่ๆของตัวเองยังไงดี ถ้าหากว่าเลิกคิดเล็กคิดน้อย เลิกกลัวได้เสียทีก็คงดี

“ขนาดไอ้ฟิกยังเปลี่ยนตัวเองได้เลย แค่นี้ทำไมมึงจะทำไม่ได้ล่ะวะไอ้ภู”ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ ทำยังไงก็นอนไม่หลับ ผมจึงลงไปเดินตากอากาศเย็นๆในสวนเล่นแทน ป่านนี้มันจะนอนหลับแล้วหรือยัง มันจะทำอะไรอยู่ บลาๆ สารพัดเรื่องที่วิ่งวนอยู่ในหัว สุดท้ายก็จบลงที่เรื่องมัน

หลงรักเขาหัวปักหัวปำขนาดนี้เลยเหรอไอ้ภู!

“อะแฮ่ม”เสียงกระแอมกระไอของพ่อทำผมสะดุ้ง หันไปเจอชายวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมกอดอกมองผมอยู่

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“นานแล้ว มัวแต่เหม่อจนไม่รู้ว่าฉันมาเลยเหรอไง แล้วก็หัดพูดจาดีๆกับฉันด้วยถ้ายังจำได้ว่าฉันเป็นพ่อแก”ถึงจะรู้ว่าพ่อเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว แต่ทุกครั้งก็มักจะทำให้ผมอารมณ์เสียได้เสมอ

“ครับพ่อ”ผมหันไปประชด ความเงียบคืบคลานเข้ามาแทรกแซง ผมไม่ได้อึดอัดเลยแม้แต่นิดเพราะผมกับพ่อปกติก็ไม่ได้คุยกันบ่อยอยู่แล้ว

“แล้วเรื่องเรียนเป็นไงบ้าง”ผมเหลียวไปมองพ่ออย่างแปลกใจสุดๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นถามไถ่

“ถามก็ตอบ ไม่ใช่มามองหน้าฉัน”พ่อยังคงกวนประสารตามเคย ไม่แปลกใจเลยว่าผมได้นิสัยส่วนนี้มาจากใคร 

“ก็ดี ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ครั้งนี้ผมไม่ทำให้พ่อเสียหน้าหรอก ได้เห็นใบปริญญาแน่นอน”

“ช่วงปิดเทอมแกว่างใช่ไหม”อีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน จนผมงง คิดจะทำอะไรอีกล่ะ

“ฉันจะส่งแกไปดูงานที่ลอนดอน”

“ไหนพ่อบอกรอให้ผมจบก่อนไง”ผมเริ่มอารมณ์เสีย ไม่เคยเลยที่คนๆนี้จะถามความเห็นของผม

“จะตกใจอะไรนักหนา ฉันไม่ได้ส่งแกไปเป็นปีเป็นชาติ แค่ไปเรียนรู้งานเฉยๆ”

“พ่อเคยถามความเห็นผมบ้างไหมว่าอยากไปหรือเปล่า”อีกฝ่ายกอดอกเบือนหน้าหนีไปอีกทาง

“แกเคยรับปากไว้แล้ว”

“แต่ตอนนี้มันเร็วไป”ปัญหาชีวิตของผมยังไม่เคลียร์เลยถ้าเร็วๆนี้ผมคงไม่มีกะจิตกะใจไปหรอก

“แกเป็นเด็กสามขวบเหรอฮะ โตแล้วอยู่คนเดียวไม่เป็นหรือไง”คำพูดเหมือนไอ้ฟิกยิ่งทำให้ผมหงุดหงิด

“ปล่อยผมไว้คนเดียว พ่อคงชินล่ะสิ”

“งอแงอะไรอีก”

“ผมไม่ได้งอแง แค่พูดเรื่องจริง ไม่มีใครอยู่คนเดียวได้หรอก ถ้าพ่อยังจำได้ว่าผมเป็นลูกล่ะก็ กรุณาให้ความสนใจผมบ้างก็ได้ เจียดเวลางานมาสักนิดก็ยังดี”อดประชดประชันไม่ได้จริงๆ

“ไอ้ภู แกชักจะลามปามแล้วนะ สันดานแย่ๆอย่างแกก็เหมาะแล้วที่ต้องอยู่คนเดียว”ผมมองหน้าพ่อ กระแสบางอย่างบีบรัดอยู่ในอก ถึงผมจะรู้ตัวว่าตัวเองแย่ แต่ถูกคนเป็นพ่อมาพูดตรงๆใส่แบบนี้ แทงใจดีจริงๆ ผมยืนหันหลังให้อีกฝ่าย กำแพงที่มองไม่เห็นที่สะสมมานาน คงทำลายลงไม่ได้ง่ายๆ

“เรื่องบางเรื่องก็อย่าไปคิดเยอะ…แล้วที่ไปดูงานฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าจะให้แกไปคนเดียว”ผมไม่ได้ตั้งใจฟังพ่อพูดสักเท่าไหร่ อาจเพราะคำพูดเมื่อครู่ยังดังก้องอยู่ในหัวก็ได้ สายลมเย็นๆพัดผ่านมา ต่างคนก็ต่างเงียบ

“จะเอาใครไปด้วยก็เรื่องของแก ถ้าตัดสินใจได้แล้วก็มาบอกฉัน จะได้จัดการเรื่องไฟล์บินให้”เสียงฝีเท้าของอีกฝ่ายห่างออกไป
ปิดเทอมเหรอ อีกสองสัปดาห์นี่เอง 

“แล้วก็…”อีกฝ่ายหยุดเดิน ผมเงียหูรอฟังว่าจะเอาคำพูดไหนมาแทงใจผมอีก

“ฉันไม่เคยคิดจะทิ้งให้แกอยู่คนเดียวหรอกนะ”คำว่าขอโทษจุกอยู่ที่คอแต่ผมก็ไม่กล้าพูดออกไป ก็หลายครั้งที่ผมทะเลาะกับพ่อ สาดคำพูดแรงๆใส่กัน แต่ผมก็ไม่เคยพูดคำว่าขอโทษกับท่านเลย ยกเว้นเมื่อตอนที่ผมอยู่ที่อังกฤษ พูดถึงเรื่องดูงาน…ถ้าเป็นเวลาปกติ ผมคงชวนไอ้ฟิกไปด้วยแน่ๆ แต่ตอนนี้เรื่องของผมกับมันยังไม่เข้าที่เข้าทางเลย 

“อีกอย่างนะ หัดคิดในแง่บวกบ้าง หาคำตอบกับตัวเองซิ ว่าเพราะอะไรแกถึงรู้สึกแบบนี้ มันอยู่ที่แกหรืออยู่ที่ใคร ถ้าแค่นี้แกยังเข้าใจไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าจะไปเข้าใจใคร”พ่อเดินกลับเข้าไปในบ้านทันทีที่พูดจบ ทิ้งให้ผมจมจ่อมกับความรู้สึกแย่ๆอีกครั้ง  หลังจากที่ได้พูดความในใจของตัวเองไปแล้ว ผมกลับรู้สึกว่ามันยากมากจริงๆที่จะกลับไปสู้หน้าไอ้ฟิกได้ในเร็ววันนี้ และผมเองก็ยังสงบอารมณ์ว้าวุ่นไม่ได้   

หาคำตอบกับตัวเอง


ทำไมผมถึงคิดมากเรื่องเดิมๆ ทำไมถึงไม่ไว้ใจไอ้ฟิก…คำตอบมันเด่นชัดอยู่แล้ว ผมแค่กลัวว่าจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว ก็เลยคิดระแวงไปหมด ทำไมยังต้องกลัวต้องระแวงนักหนาก็ไม่รู้ ทั้งๆที่ไอ้ฟิกแสดงออกตั้งมากมายขนาดนี้ นี่ไอ้ฟิกต้องทนกับผู้ชายงอแงเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างผมเหรอเนี่ย

“เฮ้อ”แต่ก็สบายใจขึ้นเยอะเลย ไม่คิดว่าพ่อจะรู้เรื่องเหมือนกัน คิดว่าจะสนับสนุนให้ผมเลิกกับไอ้ฟิกซะอีก พ่อผมเองก็พัฒนา
บ้างแล้วเหมือนกันนะ







*************************************************






ผมออกจากบ้านในเวลาเช้าตรู่ สวมชุดดำสุภาพเพื่อเป็นการไว้อาลัยอริเก่าของผม ที่แล้วๆมาผมไม่ค่อยได้กล่าวถึงมันมากนัก มันชื่อยศ สนิทกับพวกเด็กช่าง งานอดิเรกของมันคือรับสักลาย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มันรู้จักคนเยอะ ไม่ต่างจากผมที่ตอนนั้นเคยเล่นดนตรีกับผับของรุ่นพี่คนสนิท ต้นเหตุของเรื่องก็มาจากการไม่กินเส้นของทั้งสองพวก …ผมไม่อยากจะนึกถึงช่วงนั้นเลยจริงๆ มาคิดย้อนดูแล้ว มันไร้สาระและน่าละอายมากจริงๆ ที่คนๆหนึ่งต้องมาตายเพราะอารมณ์ร้อนๆของผมและเพื่อนๆ และเท่าที่ผมพอจะทราบ ทางบ้านเองส่งเงินชดเชยให้กับครอบครัวของยศ แต่เงินมากมายแค่ไหนก็ทดแทนคนๆหนึ่งไม่ได้หรอก จนวันนี้พ่อแม่ของมันยังไม่มองหน้าผมเลย แต่ผมไม่โทษพวกเขาหรอก 

“แม่ร้อยพวงมาลัยไว้ให้แหน่ะ”แม่ส่งถุงพวงมาลัยมะลิหอมๆมาให้

“ขอบคุณครับ”ผมฝืนยิ้มให้แม่รับของมาจากอีกฝ่าย ส่วนพ่อแค่เงยหน้ามาจากหนังสือพิมพ์ ผมพยายามทำใจให้ปรอดโปร่งก่อน
จะมุ่งหน้าไปที่บ้านของยศอย่างที่เคยทำทุกๆปี ผมมักจะมาในช่วงเช้าเพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับพวกเพื่อนๆของไอ้ยศ ไม่ใช่ว่า
กลัว แต่ผมเหนื่อยกับเรื่องพวกนี้แล้ว

บ้านหลังกะทัดรัดตรงหน้าเงียบสงบเช่นเคย ผมจอดรถนอกรั้วเมียงมองอยู่นานก่อนจะตัดสินใจกดออดข้างๆรั้ว คนที่ออกมาคือหญิงวัยกลางคน และทันทีที่เห็นหน้าผม ใบหน้านั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นเกลียดชังทันที

“มาทำไม”

“ผมมาไหว้--”

“ต่อไปไม่ต้องมาแล้ว คนที่บ้านไม่มีใครอยากเห็นหน้าเธอ จะโผล่มาอีกทำไม”อีกฝ่ายขึงตามองอย่างขุ่นเคือง

“ให้เขาเข้ามาเถอะ”พ่อของยศพูดแทรก พร้อมกับมองหน้าผมด้วยสายตาสงบ ไม่บ่งบอกว่าชอบหรือเกลียด

“ขอบคุณครับ”ผมยกมือไหว้คนทั้งสอง ก่อนจะเข้าไปในบ้านที่บรรยากาศไม่ต้อนรับผมเลยซักนิด ความจริงผมก็น่าจะชินได้แล้ว แต่กลับยังไม่ชินซักที …ผมน่าจะพาเพื่อนมาด้วยซักคน แต่ไม่สิ ผมมาคนเดียวก็ถูกแล้ว คนในกรอบรูปบนหิ้งติดผนังจ้องมองออกมาอย่างว่างเปล่า ผมจัดการจุดธูป ยกมือพนมไหว้ ร้องขออยู่ในใจอย่างหมดหวัง

‘กูขอโทษกับเรื่องทุกอย่างทุกเรื่อง อโหสิกรรมให้กูได้ไหม’

ปีนี้เข้าสู่ปีที่สามที่ผมร้องขอคำเดิมๆ ไม่รู้ว่าส่งไปถึงเขารึไม่ ถ้าผีมีจริงผมก็อยากให้มันมาหาผม พูดกับผมให้จบเรื่องจบราวที่ค้างคาใจ การตายของไอ้ยศเหมือนบ่วงที่ผูกผมไว้ ครั้งสุดท้ายที่ผมไปเยี่ยม คือตอนที่มันอาการโคม่า สมองไม่ทำงานแล้ว ผมคล้องพวงมาลัยเสร็จ พ่อแม่ของยศก็ออกปากไล่ทันที

“ให้ผมได้กราบขอขมาคุณน้ากับคุณอาได้ไหมครับ”

“เธอรีบกลับไปเถอะ อย่าอยู่นานกว่านี้เลย”ครั้งที่สามที่คำขอของผมถูกปฏิเสธ ผมฝืนส่งยิ้มให้ทั้งสองคนก่อนจะออกมาจากบ้านด้วยบ่าที่หนักอึ้ง ระหว่างที่เดินกลับมาที่รถ ไหล่ของผมก็ถูกกระชากอย่างแรงจนเซ ตามมาด้วยหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่มุมปากอย่างจังจนผมล้มลงเพราะไม่คิดว่าจะโดนโจมตี

“มึงมาทำไม”เพื่อนไอ้ยศสี่คนขยับมายืนล้อมผมไว้ด้วยสีหน้าเกลียดชัง

“ไม่รู้เหรอว่าบ้านนี้ไม่ต้อนรับคนเหี้ยๆแบบมึง”มันขึงตามองเหมือนอยากฆ่าผมให้ตาย

“กูมาดี ไม่ได้จะมาหาเรื่องใคร”ผมไม่อยากจะมีเรื่องอะไรกับคนพวกนี้หรอก และไม่อยากตอบโต้ด้วย ก็ถือซะว่าสมควรได้รับ ผม
ขยับตัวหมายจะลุกแต่ไอ้คนที่อยู่ใกล้ที่สุดง้างเท้าเตะเข้ามาที่ชายโครงเต็มแรง ผมเจ็บแปล๊บจนต้องขบฟันแน่น

“เหอะ ทำเพื่อนกูตายไปทั้งคนมึงยังได้ลอยหน้าลอยตาใช้ชีวิตมีความสุข ไม่โดนโทษอะไรสักอย่าง กูล่ะอยากฆ่ามึงให้ตาย
จริงๆ”พวกมันหันมองรอบตัวก่อนจะประเคนทั้งเท้าทั้งหมัดมาให้ ผมไม่ได้โต้กลับ แต่พยายามหลบให้มากเท่าที่จะทำได้ เสียง
ดังขนาดนี้ผมมั่นใจว่าคนในบ้านต้องได้ยิน แต่ทั้งคู่คงไม่คิดมาห้ามหรอก

“วันนี้มึงได้ตามไปกราบตีนเพื่อนกูแน่”ใจผมหล่นไปอยู่ตาตุ่มทันที เมื่อเห็นกระบอกปืนจ่ออยู่ตรงหน้า วินาทีนั้นผมนึกถึงไอ้ฟิกก่อนคนแรก พ่อกับแม่ แย่จริงๆผมยังไม่ทันได้พูดขอโทษพ่อเลย

กริ๊ก

เสียงเหนี่ยวไก่ปืนดังขึ้น ในระหว่างที่ผมหลับตาแน่น แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น เสียงหัวเราะเยาะดังมาจากพวกมัน 

“เป็นไง กลัวตายเหมือนกันล่ะสิ จำไว้ไม่ว่าว่าใครก็รักชีวิตทั้งนั้น”มันเตะขาผมเบาๆก่อนจะมองหน้าผมเป็นครั้งสุดท้าย

“อย่าให้กูเจอหน้ามึงที่นี่อีก ครั้งต่อไปกูไม่ใจดีแบบนี้หรอก จะถือว่าทำบุญล่ะกัน”มันถ่มน้ำลายลงบนพื้นก่อนจะพากันเดินเข้าไปในบ้านหลังที่ผมเพิ่งเดินออกมา ผมหัวเราะเยาะตัวเองเหมือนคนบ้า ได้รู้รสชาติของการถูกกดให้ต่ำกว่ามันเป็นแบบนี้นี่เอง

“เป็นไงบ้างหนู…”ป้าบ้านข้างๆโผล่มาดูอย่างกล้าๆกลัว ๆ ผมพยายามส่งยิ้มให้เท่าที่จะทำได้

“ไม่เป็นไรครับ”

ผมรู้สึกแย่จนถึงขีดสุด ขับรถออกมาจากละแวกนั้นแวะหาที่พักรถเพื่อสงบอารมณ์ ผมตัดสินใจว่าจะไม่กลับบ้านในตอนนี้ ในสภาพที่อ่อนแอและน่าสมเพชสุดๆ ผมอยากได้ไหล่ของใครสักคน… ผมกดโทรหาไอ้ฟิกทันที ไม่รู้ว่ามันจะรับสายของผมรึเปล่า 

ตู้ดด ตู้ดดดดดดดด

ผมปล่อยแขนลงข้างตัวเหมือนคนหมดแรง รอจนสายตัดไปเอง เพิ่งนึกได้ว่าวันนี้มันมีเรียน ผมเลือกโทรหาไอ้ปาแทน รอไม่นานมันก็รับสายด้วยเสียงชื่นมื่น

[ว่าไงเพื่อน]

“กูอยากร้องไห้ว่ะ”ผมขำอย่างไม่รื่นรมย์นัก

[เป็นอะไรวะ ภู]

“วันนี้กูมาบ้านไอ้ยศ ครบรอบวันตายของมัน”ปลายสายเงียบไปพักใหญ่

[ทำไมไม่ชวนกู] เสียงของมันอ่อนอย่างเห็นได้ชัด

“มึงรู้ดีว่าทำไมกูถึงไม่ชวน มึงมาหากูหน่อยซิ มาให้กูกอดหน่อย”งอแงอีกแล้วนะภูผา

[เดี๋ยวกูไป มึงอยู่ตรงไหน] ผมบอกปลายทางให้มัน ก่อนจะวางสาย มองสภาพตัวเองในกระจกแล้วถอนหายใจ ดีแล้วที่ผมไม่ได้บอกไอ้ฟิกหรือไอ้ติน ผมเองก็ไม่อยากให้พวกมันมารับรู้สภาพแบบนี้ของผมเหมือนกัน ผมหลับตาลงปล่อยสมองให้ว่าง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่เสียงเคาะกระจกรถทำให้ผมตื่น ไอ้ปายืนอยู่นอกรถด้วยสีหน้าเป็นห่วงฉายชัด

“มาเร็วจังวะ”ผมถามเมื่อมันเข้ามานั่งในรถแล้ว

“กูเป็นห่วงมึง”มันส่งสำลี น้ำยาล้างแผลมาให้และพลาสเตอร์แปะแผลมาให้

“กูไม่เช็ดแผลให้มึงนะ คงแปลกพิลึก”ไอ้ปาหัวเราะเจื่อน มันนั่งมองผมทายาอยู่เงียบๆ จู่ๆมันก็ทำให้ผมตกใจด้วยการโถมตัวมากอดผมเสียแน่น

“อะไรของมึงเนี่ย”

“กอดมึงไง อยากได้ไม่ใช่เหรอ”

“กูพดเล่นหรอก”ผมดันเพื่อนออก แต่มันไม่ยอมปล่อย ก็เลยยอมให้มันกอดอยู่แบบนั้น นี่เป็นไอ้ปาหรอกถึงยอม ถ้าเป็นไอ้เนมล่ะก็ ผมเตะกระเด็นแน่

“เข้มแข็งไว้เพื่อน เหมือนชื่อของมึงไง ไอ้ภูผา”มันตบหลังผมเบาๆก่อนจะคลายอ้อมกอด

“พูดซะกูเป็นพระเอกเลยนะ”เห็นๆอยู่ว่าผมเป็นตัวร้าย

“กูเข้าใจความรู้สึกมึงนะ อย่าคิดมาก เรื่องที่ผ่านมาแล้วมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้หรอก มึงแค่อย่ากลับไปใช้อารมณ์แบบเดิมก็พอ”ไอ้ปากับผมเงียบด้วยกันทั้งคู่ ผมแปะพลาสเตอร์ที่หางคิ้วและโหนกแก้มเสร็จพอดีจึงหันไปหาเพื่อน

“กูเพิ่งรู้ก็วันนี้แหละ ว่ากลัวตายเป็นยังไง”

“มึงว่าไงนะ”ไอ้ปาทำหน้ามึนๆ

“ตอนที่ปืนจ่อมาตรงหน้ากู”ผมทำมือให้มันดู

“กูคิดเยอะแยะไปหมด กูจะตายทั้งๆที่ยังไม่ได้บอกขอโทษพ่อกับแม่ ไม่ได้บอกรักเมียเลยเหรอ ก็จริงอย่างที่มันพูด ใครๆก็รักชีวิตตัวเองทั้งนั้น”ผมก้มมองมือตัวเอง หลายครั้งที่ผมทำไปเพราะสนุก สะใจ แค่ระบายอารมณ์ ผมเกลียดตัวเองตอนนั้นจริงๆ ถ้าไม่เจอไอ้ฟิกผมก็คงวนๆเวียนๆอยู่แบบเดิม การถอยคนละก้าวแบบนี้ยิ่งย้ำชัดว่าผมรักมัน และคนอย่างผมขาดมันไม่ได้จริงๆ  ให้ผมจัดการตัวเอง จัดการความรู้สึกให้เรียบร้อยแล้วผมจะกลับไปสู้หน้าและพูดคำว่าเชื่อมั่นได้อย่างเต็มปาก


ว่าแต่….ผมยังไม่เคยจีบมันแบบจริงๆจังๆเลยด้วยซ้ำ รอก่อนนะ ไอ้ฟิก






TBC.

เอาในส่วนของภูมาลงก่อน เดี๋ยวของตินตามมาทีหลังเนอะ จะได้ไม่ขัดซีนกัน

ป.ล1.ตอนพิเศษได้เห็นสามหน่อโกอินเตอร์แน่ๆ

ป.ล.2 เร็วๆนี้จะมีกิจกรรมแจกตุ๊กตาหมีลูกสามหน่อ 6 ตัวค่ะ ติดตามกันด้วยน้า :กอด1:
เพลงที่ว่างเพราะจริงๆค่ะ รู้สึกได้ฟิลมาก 55  :heaven

 
https://www.youtube.com/v/2ckDnjREvU4

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-02-2016 14:12:29
 :o12:   โอ๋ๆ พี่ภู คนหล่อมีปม
เข้มแข็งไว้นะภูผา
เย้ สามหน่อตะลุยลอนดอน น่าสนุกนะคะ ขอบคุณค่ะ
รอตอนพี่ตินต่อค่ะ จะหน่วงจิตเหมือนกันไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: mam.nalok ที่ 08-02-2016 14:33:25
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าภูเห็นแก่ตัวมาก ภูระแวงฟิกตลอดเวลาเหมือนกับภูไม่เคยไว้ใจฟิกเลย เหมือนมันจะกลายเป็นความกลัวที่จะถูกฟิกทิ้งมากกว่าความรักที่มีมากเกินไป แบบนี้สงสารฟิกเพราะฟิกชัดเจนกับทุกคน แต่ภูกับมองไม่เฟ็นความชัดเจนนั้น ภูชอบเอาอดีตมาตัดสินฟิกภูไม่เคยมองปัจจุบันของฟิก เหนือยแทนฟิกเพราะไม่รู้เมื่อไหร่เรืองแบบนี้จะจบเพราะภูไม่เคยไว้ใจฟิกเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: tkaekaa ที่ 08-02-2016 15:21:10
พี่ภูปมเยอะเนอะ สรุปฟิกคนสบายๆเจอสามี2คนมีปมจากอดีตทั้งคู่
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 08-02-2016 15:23:24
ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน ปนกันอยู่
เกิดเป็นคน ได้เรียนรู้ ได้พบเห็น
กว่าจะโต เติบใหญ่ ได้คิดเป็น
ทั้งซ่อนเร้น ทั้งเปิดเผย ให้เคยชิน

เราเข้าใจภูผานะ
คนเราผ่านประสบการณ์อะไรมาเยอะ
กว่าจะโตมาได้ถึงทุกวันนี้
ปนๆกันไป..จะได้แข็งแกร่ง
 :katai3: หุหุ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 08-02-2016 16:01:32
โถ พี่ภูของศรี  :impress3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 08-02-2016 16:03:29
ใครจะว่ายังไงไม่รู้แต่เรากลับชอบภู เพราะรักมากไม่ใช่เหรอถึงได้กลัวถูกทิ้ง แถมภูยังมีปมเรื่องครอบครัวอีก
เราเข้าใจภูนะ น่าสงสารมากเลย :hao5: แต่จากนี้ภูจะปรับปรุงตัวเองแล้ว สู้ๆนะภูผา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-02-2016 17:02:03
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 08-02-2016 17:06:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 08-02-2016 17:46:53
เข้าใจความรู้สึกภูติน. เพราะเราก็เคยรู้สึกแบบนี้. ถึงฟิกจะไม่ได้ทำอะไรผิด  มันต้องใช้เวลา. ทั้งฟิกภูตินต้องใจเย็นๆ. เรื่องความรู้สึกมันเปราะบาง. แล้วมันจะผ่านไป. เมื่อเรารู้สึกเข้มแข็งขึ้น. เราก็จะรักและเข้าใจกันมากขึ้น.  อดทนหน่อยนะสามหนุ่ม
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 08-02-2016 18:18:39
//กอดพี่ภู
โอ๋ๆ เห็นคำว่างอแงจากพี่ภูแล้วรู็สึกน่ารักแปลกๆ 555555
พี่ภูเข้มแข็งน้าา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 08-02-2016 18:46:14
สงสารภู ตอนที่ภูคุยกับครอบครัวซึ้ง  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 08-02-2016 19:23:01
อยากเป็นพี่จะได้กอดปลอบเฮียภู อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 08-02-2016 19:43:04
โหยยย ไม่คิดว่าฝั่งพี่ภูจะดราม่านะเนี่ย อยู่ทำใจปรับสภาพก่อนนะพี่ภูก่อนจะกลับไปรู้ว่าเมียหาย ฮาา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 08-02-2016 20:12:16
ตอนนี้สงสารภูที่สุดเลย เจอมรสุมชีวิต แถมยังโดนทำร้ายอีก :mew6:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 08-02-2016 20:36:34
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 08-02-2016 21:00:00
ปมพี่ภูพาเราใจเสียนะ เจอปืจ่อหน้าเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 08-02-2016 21:08:16
งืออออออออ
อ่านตอนนี้ถึงกับน้ำตาซึม
หลงรักผู้ชายงอแงขึ้นมาเลย


รอตอนหน้าของตินจ้า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 08-02-2016 21:35:15
หน่วง  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 08-02-2016 21:48:36
ในบางครั้งผู้ชายที่เข้มแข็งที่สุดก็มีมุมที่อ่อนแอเสมอ
เป็นกำลังใจให้พี่ภูจัดการกับความรู้สึกของตัวเองให้เรียบร้อบเร็วๆ
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 08-02-2016 22:10:14
ขอให้เข้าใจกันและกันมากขึ้นนะ ห่างกันอย่าดราม่านะ ฟิกของเราเปลี่ยนไปตั้งเยอะ ทั้งเวลาทั้งอะไรหลายๆอย่างก็ทำให้เห็นแล้ว อย่าห่างกันนานเลย อยากฟิน  :hao5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 08-02-2016 22:16:39
สงสารพี่ภู
เรื่องบางเรื่องมันก็ชดใช้ไม่ได้จริงๆนั่นแหละ
เราต้องก้าวต่อไปเท่านั้นเอง เฮ้ออออ
เข้าใจว่าทำไมพี่เขาถึงโดนเกลียด โดนอัด
ถ้าใครมาฆ่าฟิกพี่ภูคงยิงทิ้งอะ
พี่ภูเอ้ย รีบกลับไปง้อฟิกเลยนะ
จะมาไม่มั่นจงมั่นใจอะไรตอนนี้น้าาา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 08-02-2016 23:24:59
ดีมาก ภู ต้องชัดเจน  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 09-02-2016 10:32:19
สงสารพี่ภูคนงอแงงง :m15:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: tukkata bambola ที่ 09-02-2016 10:55:45
พี่ภูคนงอแง :mew2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 09-02-2016 11:24:11
กอดภู
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 09-02-2016 12:57:25
 :3123:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE PHU] 8-02-59 P.33
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 09-02-2016 22:50:37
โถๆๆๆ กอดคนงอแงหน่อย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 10-02-2016 03:11:07


Inside Tin







[TIN SIDE]



หลังจากที่เกิดเรื่องไอ้ฟิก ผมพยายามทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุดเพราะต้องกลับบ้านในช่วงตรุษจีน ผมอยู่แค่วันไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษเท่านั้น เดี๋ยวม๊าจะจับสังเกตได้ เพราะม๊าเป็นพวกความรู้สึกเร็วมักจะดูออกผมไม่อยากให้ม๊าเป็นกังวลเพราะม๊าเองก็เคยกังวลเรื่องไอ้ฟิกมาก่อนหน้านี้แล้วไม่อยากให้มันกลับมาเป็นประเด็นอีก

ส่วนมากผมจะไปคลุกอยู่กับไอ้เบลล์มากกว่าไอ้ชัย เพราะต้องช่วยกันสรุปทำโครงการ แต่สมาธิและความตั้งใจที่เคยมีกลับลดฮวบฮาบอย่างน่ากลัว สาเหตุหลักๆก็มีแค่อย่างเดียวคือไอ้ฟิก ไอ้ตัวป่วนที่มักจะทำให้ผมว้าวุ่นได้เสมอ ก็ปกติผมจะเห็นหน้ากวนๆของมันเกือบทุกวัน ถึงไม่ได้เห็นหน้าก็ยังได้ยินเสียง แต่นี่ขาดไปทั้งสองอย่าง ก็ต้องเหงาเป็นธรรมดา อาการคิดถึงกำเริบตลอดทั้งวัน

การถอยให้กันคนละก้าวตอนนี้คงดีที่สุด และก็ไม่ใช่เพราะเรื่องไอ้เพชรด้วย แต่เป็นเพราะปัญหาที่สะสมมานาน เอาเข้าจริงๆ ทั้งผม ไอ้ฟิก พี่ภูแทบไม่มีส่วนไหนที่เข้ากันได้เลยด้วยซ้ำ ถึงแม้จะปรับเข้าหากันบ้างแล้วแต่ผมก็เชื่อว่าลึกๆแล้วมันก็ยังไม่เต็มร้อยอยู่ดี

คำว่าเหนื่อยที่ผมพูด ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายความรู้สึกของมัน ผมไม่ได้เหนื่อยกับการที่ต้องอยู่กับไอ้ฟิก แต่เหนื่อยกับปัญหาที่เข้ามาไม่หยุดต่างหาก ก็ขำดี เพราะไม่รู้ว่าเป็นความผิดของใครกันแน่ แต่วิธีนี้ก็ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นความรู้สึกไม่ดีมันจะเพิ่มมากขึ้นและยิ่งส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ของเราสามคน

ภายนอกอาจดูเหมือนว่าผมไม่ได้เสียใจ ทำตัวเป็นปกติ แต่ความจริงแล้วผมก็แย่พอๆกับพี่ภูนั่นล่ะ แค่ผมเก็บอารมณ์เก็บอาการเก่งกว่าพี่เขาเท่านั้นเอง ไอ้เรื่องเสแสร้งผมถนัดอยู่แล้ว แต่ไอ้อาการ ‘อวดเก่ง’กับหายไปเมื่อต้องมาเจอๆไอ้ฟิกตัวเป็นๆที่ร้านกาแฟข้างคณะร้านเดิม นี่ก็เป็นเรื่องตลกอีกเรื่อง ทั้งๆที่ผมกับมันไม่ได้เลิกกัน แต่ทั้งผมทั้งมันกลับดูเหมือนคนแปลกหน้าซะงั้น อาจเพราะคำพูดที่อยู่ในใจเมื่อวันก่อนก็ได้ ทำให้เข้าหน้ากันไม่ค่อยติด

“เลิกเรียนแล้วเหรอ”ผมเอ่ยถามก่อนในที่สุด ไอ้ฟิกสั่งชาเขียวปั่นแบบเดิม มันหันมามองหน้าผมก่อนจะยิ้มกว้าง

“จำได้ด้วยเหรอ”ถามแปลกๆ

“ก็จำได้ดิ”นั่งดูตารางสอนมันจนจำได้หมดแล้ว

“แล้วมึงล่ะ ไปทำงานต่อหรือว่าไง”มันถามเรื่อยๆ สายตามองต้นไม้นอกร้าน

“อืม ไปทำที่หอไอ้เบลล์”ผมนึกอยากหยอกมันขึ้นมา จึงกระแอมแล้วเอนตัวไปใกล้ๆ

“คิดถึงกูไหม”

“ไม่เลย เอาจริงๆคนที่เจ็บไม่ใช่กูหรอก”ไอ้ฟิกหันมามองหน้าผมอีกครั้ง เห็นแววตาสุกใสของอีกฝ่ายก็พลอยชื้นใจไปด้วยเพราะผมกลัวว่ามันจะคิดมากจนเกินไป

“ดีแล้ว”ผมเงียบไปเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

“กูอ่านไดอารี่ของมึงแล้วนะ”มันเผยยิ้มออกมา

“น้ำเน่าพอๆกับของไอ้ภูเลย”ผมได้แต่ยิ้มกับคำพูดของอีกฝ่าย

“พรุ่งนี้กูจะไปเชียร์ไอ้ภูแข่งดนตรี มึงไปไหม”

“ต้องดูก่อน อาจไม่ว่าง”ไม่ว่างจริงๆ ไม่ใช่เพราะว่าจะหลบหน้ามันแต่อย่างใด

“แล้วห่างๆกูเป็นไงบ้าง คิดอะไรได้บ้างไหม”

“ก็หลายอย่าง”โดยเฉพาะเรื่องมัน ผมรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก สงสัยได้มาเจอหน้ามันล่ะมั้ง

“เหรอ”มันเดาะลิ้นเบาๆ ท่าทางดูกวนประสาทเหมือนแต่ก่อน

“แล้ว…”ไอ้ฟิกหันมาทำหน้าจริงจังใส่อีกรอบ พร้อมๆกับที่ชาเขียวปั่นของมันได้แล้ว

“ทำแบบนี้มีความสุขไหม”พูดจบมันก็รับแก้วชาเขียวปั่นไป ชี้มือมาทางผมเหมือนบอกว่าให้จ่ายเงิน ผมได้แต่มองตาม เป็นหมา จะว่าไปอาการของไอ้ฟิกเหมือนช่วงที่มันยังแข็งๆใส่ผมเลย

“ขอบคุณครับ”ผมรับแก้วโกโก้ปั่นของตัวเอง ก่อนจ่ายเงินให้ทั้งของตัวเองและของไอ้ฟิก กลับไปนอนเบื่อที่ห้องไอ้เบลล์ต่อ อย่าว่างั้นงี้เลย แต่ห้องมันโคตรจะรก ซื้อของมาเน่าคาตู้เย็น จนผมต้องจัดการทำความสะอาดห้องให้มันเพราะทนไม่ไหว เห็นแล้วหงุดหงิดเกะกะตา

“มึงดูอารมณ์ดีกว่าทุกวันนะ”ไอ้เบลล์เงยหน้ามาจากรูปเล่มโครงการในมือ ดินสอทัดอยู่ที่ใบหูกางๆของมัน จะว่าไปมันก็เหมือนหมาพุดเดิ้ลแบบที่ไอ้ฟิกตั้งฉายาจริงๆ นึกแล้วก็ขำ

“หือ ประสาทแดกแล้วว่ะเพื่อนกู หัวเราะคนเดียวก็เป็น”มันทำหน้าเบื่อหน่าย คว้าส้มมาแกะ ทิ้งเปลือกไว้แถวๆที่มันนั่งอยู่

“ถามจริง มึงเคยถูห้องไหมเนี่ย”บนหลังตู้เสื้อผ้าฝุ่นตรึมเลย

“ไม่ว่ะ ยังหาเมียมาช่วยถูไม่ได้เลย”มันทำหน้าเซ็ง จริงๆมันก็ไม่ได้หน้าตาแย่อะไรหรอก ติดที่นิสัยบ้างานและขี้เกียจคุยกับคนอื่นของมันนี่ล่ะ ปากบ่นว่าอยากมีเมีย แต่พอมีสาวมาจีบเข้าจริงๆก็ถอย อะไรของมันก็ไม่รู้

“กูหาให้เอาไหม”ไม่รู้ว่าผมทำสีหน้าแบบไหนออกไปมันถึงได้เบ้หน้าทันที

“ให้มึงหาให้ กูหาเองดีกว่า กลัวมึงจะยัดเยียดแบบพี่อันแล้วก็ไอ้ฟิกมาให้”

“แบบไอ้เจ้าคุณล่ะ”ผมลองแหย่เล่น

“โอยยย มึงเอาไว้ไถเงินเถอะ ยินดีจะจ่ายให้อยู่แล้วนี่ ไอ้นักเลงนั่นด้วย”ไอ้เบลล์ยังจำไอ้เพียวเพื่อนเก่าไอ้ฟิกได้อยู่ ครั้งล่าสุดที่มันโดนหน้าแข้งผมอัดท้องไป ก็ไม่ค่อยโผล่มากวนประสาทผมแล้ว เหลือแต่ไอ้เจ้าคุณที่ยังมาวนเวียนเหมือนยุงน่ารำคาญ

“พอๆเลิกพูด”อารมณ์เสียขึ้นมาซะงั้น ไอ้เบลล์หัวเราะหึอย่างเคยชินกับอารมณ์ขึ้นๆลงๆของผม เก็บของลงถุงดำเสร็จ ผมก็กลับมานั่งแดกส้มเป็นเพื่อนมัน 

“ถามจริงนะๆ”ไอ้เบลล์พ่นเม็ดใส่โต๊ะ จนผมต้องขึงตาขู่มัน

“มึงจะเก็บดีๆหรือมึงต้องเจ็บตัวก่อน”ไอ้เบลล์ทำเสียงจิ๊จ๊ะก่อนจะกวาดเม็ดที่มันเพิ่งพ่นออกมาใส่ถุงขยะ

“ถามต่อได้”ยักคิ้วให้มัน

“มึงทำแบบนี้แล้วได้อะไรวะ กูเห็นมึงนั่งดูรูปมันเมื่อตอนปีหนึ่งแบบนั้นแล้วมันขัดลูกตา”

“มึงเคยได้ยินไหม ห่างกันเพื่อเรียนรู้ ช่วงนี้แหละ เราจะรู้ว่าขาดอะไรไป และสิ่งไหนสำคัญ สิ่งไหนที่ต้องแก้ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่กู ก็ต้องแก้ที่ตัวกู เรื่องของความรู้สึกถ้าได้แตกหักไปแล้ว มันจะแก้ยาก กูไม่อยากให้เรื่องของกูกับมันต้องเป็นแบบนั้น…ถึงมันจะดูเข้าใจยาก แต่เพื่อรักษาความสัมพันธ์มันก็คุ้ม”ผมสบายใจขึ้นเยอะเลยช่วงที่ได้คิดอะไรคนเดียว ไม่ใช่ว่าสบายใจที่มันไม่อยู่ใกล้ๆนะ แต่มันรู้สึกได้ชัดเจนว่าผมรักมันมากแค่ไหนและถัาต้องขาดมันไปจริงๆจะเป็นยังไง เพราะอย่างนี้ผมถึงต้องรักษามันไว้นานๆ

ความไว้ใจและเชื่อใจสองสิ่งนี้ผมต้องสร้างให้มันมั่นคงเพราะหมาฟิกของผม...ชัดเจนในความรู้สึกของตัวเองมากกว่าแต่ก่อนมากจริงๆ ผมต้องเข้าใจในตัวตนของมัน คนเราจะเปลี่ยนแปลงทั้งหมดไม่ได้หรอก ไม่อย่างนั้นคงสูญเสียความเป็นตัวเอง ทั้งผมและพี่ภูก็มีมุมของตัวเอง และผมก็เชื่อว่ามันเข้าใจ...

“บางทีกูก็คิดนะว่าเอาแต่ใจตัวเองมากไปหน่อย กะเกณฑ์ให้มันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อย่างที่อยากให้เป็น...”ผมถอนหายใจมองส้มตรงหน้าด้วยสายตาครุ่นคิด เหมือนได้กลับไปช่วงรู้จักไอ้ฟิกใหม่ๆ เหมือนได้กลับไปจีบมันเลย ไม่สิ สงสัยต้องเริ่มจีบมันสักทีแล้วสิ

“พูดจาเข้าใจยากอีกแล้ว นี่ถ้ามึงสวดมนต์ให้กูฟังด้วยกูจะอันเชิญมึงเข้าวัดบวชแม่งเลย”ไอ้เบลล์เหลือบมองพร้อมกับยิ้มขำ

“สักวันถ้ามึงมีความรักดีๆมึงจะเข้าใจเอง”ผมโยนส้มในมือให้เพื่อนก่อนจะลุกไปเช็คตารางของวันพรุ่งนี้ มีเรียนเกือบครึ่งวัน

“พรุ่งนี้ตอนบ่ายกูจะไปเดินเล่นที่อ่างเก็บน้ำหลังมอนะ”แอบนึกถึงพี่ภูนิดหน่อย ตั้งแต่วันนั้นยังไม่ได้คุยกันเลย นอกจากไอ้ฟิกแล้วคนที่ผมเป็นห่วงรองลงมาก็คือพี่ภู คนที่ดูแข็งกระด้าง ไม่ละเอียดอ่อน เป็นคนตรงๆ จะเป็นยังไงถ้าหากต้องอยู่ห่างไอ้ฟิก คนๆนี้เป็นคนที่ผมมองครั้งแรกก็ดูออกว่าเป็นคนแบบไหน ยิ่งไปเห็นครอบครัวของอีกฝ่ายแล้ว...คนแบบพี่ภูนี่ล่ะ อ่อนแอและต้องการความรักมากกว่าใครๆ
 
ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมาถึงจะมีบางเรื่องที่ขัดใจแต่พี่ภูก็เปรียบเสมือนพี่ชายคนนึงของผม อันที่จริงอยากบอกว่าเหมือนน้องชายมากกว่าแต่ไม่ดีกว่า...เดี๋ยวผมจะเจอลูกเตะมหาปะลัยเข้า ผู้ชายคนนี้มือเท้าหนักจริงๆ ผมเคยโดนพิษจนไหล่หลุดมาแล้ว ผมหยิบโทรศัพท์ออกมากดหาคนที่นึกห่วงทันที

ตู้ดด ตู้ดด ตู้ดด

รอสายอยู่นานจนผมเกือบจะวางสายแล้วเชียว อีกฝ่ายก็กดรับพอดี

[มีอะไร]...น้ำเสียงแบบนี้ มีอะไรรึเปล่านะ?

“พี่เป็นไงบ้าง”ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ปลายสายถึงเงียบไปนานขนาดนี้ ก็แค่คำถามธรรมดาๆเองนะ

[ก็ดี] ผมรู้สึกว่าตรงข้ามแน่นอน

“พรุ่งนี้พี่แข่งแล้วนี่นา พร้อมหรือยัง ผมไม่ได้โทรมากวนใช่ไหม”

[เปล่า] ได้ยินอีกฝ่ายถอนหายใจ

“มีเรื่องใช่ไหม เล่าให้ผมฟังได้นะ”เป็นอีกครั้งที่ปลายสายเงียบไปนาน

[...กูเป็นคนแย่ๆคนนึง ถ้ากูหายไปสักคนคงดี]

“เฮ้ย พูดอะไรแบบนั้น”ผมตกใจจริงๆ ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไร แต่ตอนนี้อีกฝ่ายคงอยู่ในอารมณ์เปราะบางมากจริงๆ และคนคิดมากแบบพี่ภู ช่วงอารมณ์แบบนี้อันตรายที่สุด

[แต่มาคิดดูแล้ว...กูเลือกอยู่เจอหน้าไอ้ฟิกดีกว่า]อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ

“พี่อยู่ไหนเนี่ย บอกมา”ผมเริ่มเครียด

[มึงเป็นไร ทำเสียงแบบนั้นทำไม หึ กลัวกูคิดบ้าๆหรือไง คนอย่างกูไม่หนีปัญหาด้วยวิธีทุเรศๆแบบนั้นหรอก] น้ำเสียงของอีกฝ่ายดีขึ้นกว่าเมื่อครู่มาก

“ใครจะรู้ ก็เมื่อกี้พี่พูดแปลกๆ แล้วตกลงพี่อยู่ไหน”

[บ้านไอ้ปา]ผมโล่งอกขึ้นมานิดหน่อย

“โทรหาไอ้ฟิกบ้างเหรอยัง”

[อืม...]น้ำเสียงไม่สู้ดีแบบนี้ คงเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้ผมกับไอ้ฟิกรู้แน่ๆ เรื่องอะไรนะที่ทำให้พี่ภูคนที่ดูแข็งกระด้าง อ่อนแอได้ขนาดนี้

“พรุ่งนี้ผมอาจไม่ได้ไปเชียร์พี่นะ ส่งกำลังใจไปให้แทนล่ะกัน”ฟังดูแปลกพิลึก

[กูไม่อยากได้จากมึงหรอก]

“น่าเสียดายเนอะ..”ผมลองกระตุกหนวดเสือบ้าง

[เดี๋ยวกูเตะกระเด็น ถ้าโทรมากวนกูวางล่ะนะ]

“ผมเป็นห่วงพี่หรอก”ผมพูดเสียงจริงจัง

[ขนลุกสัด ไม่ต้องห่วงกูหรอก ระดับกูไม่ตายง่ายๆอยู่แล้ว ไว้เจอกัน] พี่ภูกดวางสายทันทีที่พูดจบเหมือนไม่อยากคุยนาน จะว่าไป...พี่ภูก็มีส่วนคล้ายๆไอ้ฟิกอยู่เหมือนกันแฮะ







*****************************************






หลังจากที่เรียนช่วงเช้าเสร็จ ผมก็กะจะแวะไปผ่อนคลายที่อ่างเก็บน้ำหลังม.ระหว่างทางผมก็เจอเข้ากับสองแม่ลูกแต่งตัวปอนๆเดินหอบหิ้วของพะรุงพะรังอยู่ตรงฟุตบาตร ผมขี่รถเข้าไปใกล้ๆทันที ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่ได้เอาลูกเบ๊นซ์มาขับ แต่ผมไม่ชอบเวลาที่เห็นคนแก่กับเด็กลำบากเห็นแล้วมันสะท้อนใจแปลกๆ 

“จะไปไหนกันเหรอครับ”ผมจอดถาม เด็กน้อยมองหน้าผมด้วยสายตาฉงน

“จะกลับไปห้องพักหลังม.นี่แหละหนู”คุณแม่ตอบกลับมา ท่าทางดูอ่อนล้าเพราะน้ำหนักของที่ถือมา

“เดี๋ยวผมไปส่งครับ ไม่รบกวนหรอก”ผมรีบเสริมเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำเหมือนจะปฎิเสธ สุดท้ายผมก็กล่อมสำเร็จ

“เรียนอยู่ปีไหนแล้วล่ะเรา”คุณแม่ชวนคุยระหว่างที่ผมขับไปตามเส้นทางช้าๆเพราะเด็กน้อยนั่งแทรกอยู่ด้านหน้า

“ปีสี่แล้วครับ”

“ใกล้จะจบแล้วนี่นา ทนอีกหน่อยนะลูก เดี๋ยวก็สบายแล้ว น้าเองก็มีลูกชายคนโตเรียนอยู่ที่เดียวกับหนูเหมือนกัน ถ้าเขาเห็นน้าเขาคงไม่รับมาด้วยหรอก หนูมีน้ำใจมากเลยนะ”ผมหัวเราะให้กับคำชมของคุณแม่

“ผมแค่อยากช่วยน่ะครับ ปกติผมไม่ค่อยจะทำความดีสักเท่าไหร่ เห็นแบบนี้ผมอาจเป็นคนไม่ดีก็ได้นะครับ คนเราตัดสินกันเท่านี้ไม่ได้หรอก ต้องดูกันยาวๆ”ตัวผมก็มีทั้งสีขาวและสีดำ แล้วแต่ว่าจะเลือกใช้ด้านไหนกับใคร ต่างจากพี่ภูที่แสดงตัวตนออกมาตามอารมณ์ ผมชักจะกลัวตัวเองขึ้นมาเหมือนกันแล้วนะเนี่ย

“ฉลาดพูดซะด้วยสิ”

ผมมาส่งสองแม่ลูกที่ห้องแถวในเขตชุมชนห่างจากม.ไปพอสมควร ก่อนจากกันผมนึกบางอย่างได้พอดี

“คือ...รบกวนถ่ายรูปได้ไหมครับ”ถึงอีกฝ่ายจะดูงงๆแต่ก็ยอมให้ผมถ่ายรูปตามใจชอบ รูปที่ผมได้มาคือรอยยิ้มกว้างของสองแม่ลูก

“ขอบคุณครับ”ได้ทำอะไรแบบนี้ ก็รู้สึกดีเหมือนกัน

“อย่าลืมถ่ายรอยยิ้มของตัวเองด้วยนะหนู”คำพูดของคุณแม่สะกิดใจผมเข้าอย่างจัง แค่ช่วงเวลาสั้นๆผมกลับได้อะไรเยอะกว่าที่คิด รูปที่ผมถ่าย น้อยรูปที่จะมีรูปของตัวผมเอง

ผมวนกลับเข้าไปในม.เพื่อไปยังที่หมาย ช่วงคล้อยบ่ายใกล้เย็นแบบนี้ ส่วนใหญ่มักมีคู่รักมาวิ่งกันที่นี่ คลื่นกระแสความเหงากลับเข้ามาอีกครั้ง กลายเป็นคนไม่ชินกับการอยู่คนเดียวไปซะแล้ว ก็นะ หลายปีมานี้ไอ้ฟิกกับผมตัวติดกันตลอด คิดถึงมันอีกแล้วสิ ทั้งๆที่เจอหน้ามันไปเมื่อวานแล้วแท้ๆ

อืม...พี่ภูนี่เก่งจริงๆ ช่วงที่โดนเด้งไปนอกพี่ภูทนกับความรู้สึกพวกนี้ได้ยังไงกันนะช่วงที่โดนเด้งไปนอกพี่ภูทนกับความรู้สึกพวกนี้ได้ยังไงกัน ผู้ชายชื่อภูนี่โชคร้ายสุดๆไปเลย อยู่ๆไอ้ความคิดที่ว่าผมเป็นคนโชคดีขนาดนี้เลยเหรอก็แว๊บเข้ามา ระหว่างที่กำลังเฟลๆ ไอ้ฟิกก็ทักไลน์มาให้แปลกใจเล่น

Fix - คิดถึงกูอยู่แน่ๆ

Tin - ไม่...

Fix - เออ เรื่องของมึง

Tin- ไม่มีเวลาไหนไม่คิดถึงหรอก

Fix - ถุย ทำมาพูดดี

ผมจ้องจอมือถือเหมือนอยากทะลุไปหาอีกฝ่ายให้ได้

Tin - พี่ภูได้โทรหาบ้างรึเปล่า

เป็นคำถามที่เสี่ยงตายมากทีเดียว

Fix - ไม่ คิดถึงกูจนแห้งตายไปแล้วมั้ง

Tin - พี่เขาดูแปลกๆ...

ผมเป็นห่วงขึ้นมาอีกครั้ง ไอ้ฟิกเองก็ไม่ได้ตอบกลับมา เรื่องไหนที่ทำให้พี่ภูเป็นแบบนี้ได้นอกจากเรื่องไอ้ฟิก...ทะเลาะกับ พ่อเหรอ? ก็ไม่น่าใช่ ถ้าทะเลาะกันจริงคงอาละวาดมากกว่าจิตตก หรือเป็น...เรื่องต้องห้ามเรื่องนั้น

คู่อริที่ตาย...ก็เป็นไปได้ ผมเองก็ไม่รู้รายละเอียดลึกซึ้งของเรื่องนี้ ขนาดไอ้ฟิกเองก็รู้น้อยพอๆกับผมหรือจะร้ายแรงมากจนบอกใครไม่ได้ ผมสงสารพี่ภูจริงๆ คนนิสัยคิดมากอย่างพี่เขามาเจอเรื่องแบบนี้อีก แถมยังเป็นความผิดของตัวเอง ครอบครัวก็ไม่ใส่ใจเท่าที่ควร สิ่งที่ยึดเหนี่ยวพี่ภูไว้อาจมีแค่ไอ้ฟิกก็ได้

“เฮ้อ...”การถอยคนละก้าวสำหรับพี่ภูคงเป็นเรื่องยากแน่ๆ ก็หวังว่าจะไม่เฉาตายไปซะก่อนแบบที่ไอ้ฟิกว่านะ...

ผมนั่งคิดสะระตะจนฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี รู้สึกปลงกับชีวิตมากกว่าที่คิดซะอีก ถ้าปลงมากกว่านี้คงเข้าวัดตามที่ไอ้เบลล์บอกแล้วแน่ๆ










 
 TBC.
ขอโทษพี่ภูจริงๆตอนที่แล้วใจร้ายกับคนงอแงไปหน่อย ของตินดูเบาๆไปเลย ยังไงก็แล้วแต่ เราอยากให้คนที่เหม็นหน้าภู(เอ๊ะ555)เข้าใจเฮียเขาหน่อยเนอะ พื้นฐานชีวิตของภูต่างจากตินมากวิธีการคิดเลยค่อนข้างต่างกัน ตัวตนของทั้งสามคนก็ต่างกัน ภูคือภู ตินคือติน ฟิกคือฟิก แตกต่างแต่ก็หาทางลงอยู่ด้วยกันได้ เอ็นดูเฮียแกด้วยเนอะ ส่วนตินเองเลือกแสดงสีขาวให้เห็นในพาร์ทนี้ พาดาร์คด้วยกันทั้งคู่เดี๋ยวจะอืด สำหรับติน...อย่าหลงกับดักความดีของพี่แกล่ะ บทจะร้ายก็น่ากลัวพอๆกะภู อาจมากกว่าก็ได้
สุดท้ายนี้คนเรามักมีพลาดกันได้ #คนเขียนก็เช่นกัน เจอกันตอนหน้าเนอะ ฟิกกลับมาสตรองแล้วนะ!
อย่าเพิ่งเหนื่อยกันน้าา ขอบคุณที่ติดตามกันมาเสมอค่ะ  :กอด1:


หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Aueizii ที่ 10-02-2016 03:21:14
เข้ามาเช็คทุกวันเลย ติดงอมแงม สู้ๆค่ะคนเขียน
รัก ภู ฟิก ติน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: tukkata bambola ที่ 10-02-2016 04:47:58
ตินแลดูเป็นคนดีมาก
ขอกอดสามหน่อหน่อย :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 10-02-2016 06:41:05
รอสามหนุ่มเจอกันครบอีกครั้ง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-02-2016 08:43:27
 o13  พี่ตินดีงาม
แบบนี้แหละลงตัว
ชอบมากๆ รอสามหน่อรวมพลังกัน ฮึบๆอีกครั้งนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: mam.nalok ที่ 10-02-2016 09:19:06
เฮ้อ!เหนื่อยใจแทนแต่ละคน น่าสงสารมากสุดคงเป็นฟิกที่ไม่ได้ทำอะไรไม่ผิดอะไรกับต้องได้รับผลกระทบที่ภูและตินตัดสินใจ

สู้ๆนายฟิก เดี๋ยว2คนนั่นก็คิดได้ว่าควรจัดการอย่างไรกับตัวเค้าเอง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 10-02-2016 09:21:03
โถววว สรุปพี่ภูดราม่าอยู่คนเดียวน่าสงสาร  :กอด1: ตอนหน้าฟิกจะหนี(?)ตามพี่มินกลับบ้านใช่มั้ย ฮ่าๆ ภูตินว่าไง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 10-02-2016 09:55:12

รอฟิกกกกกกกกกกกก  :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 10-02-2016 10:32:43
เหงา เหงากันทั้งหมดนั่นแหละ
กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมไวๆน้า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 10-02-2016 10:45:58
สงสารภู เอารอยยิ้มกับความขี้หื่นของพี่ภูคืนมาาาา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 10-02-2016 11:08:32
คืนดีกันไวๆน้า คนอ่านปวดใจ แต่ก็ยินดีที่หนุ่มๆโตขค้นสักที
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 10-02-2016 11:08:53
คนเราต่างกันก็เพื่อมาเติมเต็มกันและกันนี่แหละ คนนิสัยเหมือนกันก็ใช่ว่าจะอยู่ด้วยกันได้รอดเสมอไป ฟิกกับภูนิสัยคล้ายกัน แต่ก็เข้ากันไม่ได้ ต้องมีตินอยู่ด้วย ตินนิสัยไมเ่หมือนฟิก เอาใจเก่ง พูดจาดี แต่ก็ใช่จะอยู่กับฟิกได้รอด ต้องมีภูอยู่ด้วย สรุป ภู ฟิก ติน อยู่ด้วยกันลงตัวที่สุดแล้ว ถอยออกมาเพื่อจะกลับไปหากันใหม่ ไม่ใช่ถอยจาก ทั้งสามคนผูกพันกันจนมากกว่าสถานะ ผัวเมีย ไปแล้ว เมื่อเกิดปัญหาไม่ว่าของใคร ทั้งสามคนจะประคับประคองกันไปได้ ก้าวผ่านไปด้วยกัน กลับมาอยู่ด้วยกันได้แล้วววว  :กอด1: ชอบตอนภูอ้อนแม่ แม่เป็นคนเดียวที่อ่อนโยน เอาใจใส่ภู แต่ก็ยังไม่มีเวลาให้มากนัก นึกไม่ออกเลยว่าตอนแม่เสีย ภูเป็นไงบ้าง จะเจ็บปวดเสียใจขนาดไหนที่แม่จากไป เหมือนขาดความอบอุ่นไปส่วนหนึ่งของชีวิต พ่อที่แสดงความรักกับภูไม่ชัดเจน ใจกับการแสดงออกตรงกันข้าม แต่ก็ชอบพ่อลูกคู่นี้เขาคุยกันนะ แมนๆ ดี ออกตลก  :laugh:  และที่ชอบมาก ไม่รู้เป็นไง อ่านพาร์ทติน กับ จิ้น ตินภู ซะงั้น เหมือนตินจะกลุ้มใจและเป็นห่วงพี่ภูมากกว่าฟิกที่เป็นเมียอีกว่ะ  :jul3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 10-02-2016 11:28:14
พี่ตินแค่ฟังเสียงก็รู้ว่าพี่ภูมีเรื่อง
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 10-02-2016 11:55:46
ในสายตาตินคือแบบพี่ภูคือน้องชายที่ควรดูแลอะไรแบบนี้สินะ 5555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 10-02-2016 14:42:43
 ดีกันไวๆนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: meuy ที่ 10-02-2016 18:02:53
รอทั้งสามคนกลับมาเจอกันน้าาา
:hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Wannida ที่ 10-02-2016 18:21:23
 :เฮ้อ:   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 10-02-2016 18:33:37
 :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 10-02-2016 18:59:43
ถึงตอนนี้จะเป็นพาร์ทตินแต่ก็ยังสงสารภู ตอนหน้าฟิกคนสตรองมาแล้ว คิดถึงสุดๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 10-02-2016 19:14:45
ภู ติน ฟิก สู้ๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: .hnk ที่ 10-02-2016 22:16:31
ทั้งสามคนสู้ๆ

 :sad4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 10-02-2016 22:54:22
ทั้งสามคน..รีบทบทวนใจ
ให้เสร็จๆๆๆๆ

จะได้ชวนกันไปเก็บเห็ด
ให้สะเด็ด..สะแด่วววว

ซะที
ฮี่ฮี่
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 10-02-2016 22:58:10
การได้ก้าวออกมาจากเรื่องราวที่ยุ่งเหยิง ทำให้สามารถมองได้ชัดเจนขึ้น

สามคนนี้ผูกพันและห่วงใยกันมากเลย ดีจัง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 10-02-2016 23:31:27
ชอบพี่ตินอะ ถึงจะมีส่วนดาร์ดแต่ก็ชอบบ
พี่ตินดูควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าพี่ภู
พี่ภูดูยังไม่สบายใจกับเรื่องนั้นเลย น่าสงสาร
พี่ตินโชคดีนะเอาจริง ได้เจอฟิคด้วย
ไปดามใจพี่ภูกันเร็ววววว
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-02-2016 00:23:03
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 11-02-2016 03:10:11
คือตอนนนี้ตอนของติน
แต่อ่านไปก็สงสารภูไป
คืออะไร  55555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 11-02-2016 12:46:22
 :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 11-02-2016 12:52:19
 :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: mammam ที่ 12-02-2016 17:51:14
 :mew2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: meuy ที่ 12-02-2016 18:22:17
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 12-02-2016 19:00:27
เป็นเรื่องของพี่ภูแต่ตินบรรยายใช่มั้ย 555555555555
มีแต่พี่ภูเต็มไปหมด ห่วงก็ไปหาพี่เขามั้ย/////
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 13-02-2016 07:08:51
รอสามหน่อรวมทีม
ห่างกันบ้างก็ทำใหเห็นอะไรมากขึ้น
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 13-02-2016 09:03:06
 :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 13-02-2016 12:34:15
สู้ๆนะทั้ง3
ห่างกันคราวนี้ คงคิดอะไรได้ขึ้นเยอะแหละเราว่า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [INSIDE TIN] 10-02-59 P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 17-02-2016 01:32:00
อ้างถึง
พี่ภูก็เปรียบเสมือนพี่ชายคนนึงของผม อันที่จริงอยากบอกว่าเหมือนน้องชายมากกว่า
ฮา แต่ก็จริง  :m20:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 17-02-2016 02:03:55




ตอนที่ ๒๗






เรื่องไอ้ภูทำผมเครียดขึ้นมานิดหน่อย ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรของมัน เมื่อตอนบ่ายมันโทรมาหาผม แต่เผอิญว่าติดเรียน ก็เลยไม่ได้รับสาย พอโทรกลับมันก็ดันไม่รับสายผมอีก ตอนแรกก็กะจะไม่ง้อมันหรอก แต่เพิ่งมารู้จากไอ้ตินว่าไอ้ภูมีอาการแปลกๆ ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกันแน่ ผมเองก็ไม่ได้คุยกับมันก็เลยเดาอะไรไม่ได้ เมื่อทนกับอาการร้อนรนไม่ไหว ผมจึงตัดสินใจโทรไปหาแม่ไอ้ภูเพื่อถามเรื่องของมัน (กับพ่อมันผมยังไม่กล้าโทรหา)

[ว่าไงหนูฟิก] อีกฝ่ายรับสายเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน

“เอ่อ คือว่าช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้ค่อยกับภู ไม่ทราบว่าช่วงนี้มันป่วยหรือเปล่าครับ”ผมกัดเล็บอย่างว้าวุ่นใจ ไม่รู้จะใช้คำแบบไหนถามอีกฝ่ายด้วย

[อ้อ…] ท่านหัวเราะเบาๆ

[พักนี้ท่าทางลูกชายแม่จะป่วยใจ] ผมใบ้กินไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี

[เรื่องบางเรื่อง ถามกันเองดีกว่าเนอะลูก แม่ไม่ค่อยอยากพูดถึงเท่าไหร่] เรื่องที่ไม่อยากพูดถึงสำหรับบ้านไอ้ภูมีเรื่องไหนบ้างวะ

“ครับ ยังไงแม่ก็ดูแลตัวเองด้วยนะครับ”อยากจะถอนหายใจออกมาดังๆ หลังจากที่วางสายมาจากคนแม่แล้ว ผมก็ต่อสู้กับตัวเองอย่างหนักว่าจะโทรหาตัวลูกต่อดีไหม

โทรก็โทรวะ!

ตอนแรกก็คิดว่ามันจะไม่รับสายผมเสียอีก ที่ไหนได้รับเร็วพอๆกัน

[สวัสดีครับ] สุภาพใส่ผมอีก

“มึงอยู่ไหน”ปลายสายเงียบไปเล็กน้อย
 
[บ้านไอ้ปา] ฟังจากเสียงของมันแล้ว มันคงมีเรื่องไม่สบายใจอยู่แน่ๆ

“เหรอ สบายดีรึเปล่า”ผมถามโง่ๆ เพราะไม่รู้จะเริ่มเข้าเรื่องยังไง

[…ก็ดี] ปลายสายกระแอมเบาๆ แต่ผมสัมผัสได้ว่ามันกำลังโกหก

“มีเรื่องอะไรอยากจะบอกกูไหม เล่าให้กูฟังได้นะ ถ้ามึงยังเห็นว่ากูสำคัญอยู่”ผมพูดเสริมเพื่อบีบให้มันบอกความจริงให้ผมรับรู้

[อืม มาหากูหน่อย] เสียงของมันอ่อนลง

“เรียกร้องความสนใจรึเปล่า”

[ก็แล้วแต่จะคิด] แปลกไปใหญ่ที่มันไม่ค่อยกวนประสาทผมเลย

“เออ เดี๋ยวกูไปละกัน”ผมชิงวางสายก่อน เพราะไม่อยากเจอกับบรรยากาศแปลกๆ ปกติไม่ค่อยได้เห็นไอ้ภูในโหมดนี้ ผมเลยไม่ค่อยชิน โชคดีที่ผมจำทางบ้านพี่ปาได้อยู่ พี่ปาเช่าอยู่กับแฟนสองคน เห็นว่าแฟนพี่แกจะเปิดร้านนมสดแถวๆม. พักนี้เลยออกไปไหนมาไหนกับไอ้ภูบ่อยๆ

เมื่อถึงที่หมาย ผมทำใจอยู่สักพักก่อนจะกดออดหน้าบ้านสองสามที รออยู่ไม่นานพี่ปาก็โผล่ออกมามอง ดูไม่แปลกใจเท่าไหร่เมื่อเห็นว่าผมยืนรออยู่นอกบ้าน

“พวกมึงนี่ขยันมีเรื่องกันจริงๆ”รุ่นพี่บ่นระหว่างที่เดินมาเลื่อนรั้วเปิดออก

“...ใครกันแน่ที่สร้างเรื่อง...เออ ว่าแต่เพื่อนพี่เป็นอะไร”ผมพยักเพยิดไปยังในบ้าน พี่ปาถอนหายใจเมื่อผมถามถึงไอ้ภู เดาจากสีหน้าหนักใจของพี่เขาแล้วไอ้ภูคงอาการไม่ค่อยดีจริงๆ

“มึงเข้าไปถามมันเองเถอะ”

“แย่ขนาดนั้นเลยเหรอพี่”

“ก็...เรื่องเก่าๆมันฝังใจ”ถึงตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับคู่อริที่ตายไปแล้วแแน่ๆ

“เหรอครับ...”ผมก้าวเข้าไปด้านในบ้านที่เงียบผิดปกติ กวาดสายตาหาไอ้ภู มันไม่ได้อยู่ที่โซนห้องนั่งเล่น ผมเห็นประตูที่เปิดไปสู่หลังบ้านเปิดแง้มไว้ เดาว่ามันคงไปนั่งทำเอ็มวีอยู่ตรงนั้นแน่ๆ ผมรีๆรอๆคิดหาคำพูดดีๆเพราะไม่อยากให้เกิดบรรยากาศแปลกๆเหมือนคราวไอ้ตินอีก

ผมเคาะประตูเบาๆเพื่อบอกให้คนด้านนอกรู้ ก่อนจะโผล่หน้าไปมอง เจอไอ้ภูจริงๆด้วย มันนั่งอยู่ที่เก้าอี้ผ้าใบ ข้างตัวมีกระป๋องเบียร์วางอยู่ ในมือถือมวนบุหรี่ที่หมดไปแล้วเกือบครึ่ง สีหน้ามันดูหม่นๆเหมือนถูกราหูอม ที่น่าตกใจคือมีรอยฟกช้ำปรากฎอยู่หลายแห่ง มันหันมามองผมก่อนจะหันกลับไปตามเดิม ผมถอนหายใจกับสภาพของมัน เดินเข้าไปดึงบุหรี่ออกมาจากมืออีกคน

“เลิกสูบได้ไหม กูขอ”ไม่รู้ว่ามันจะฟังคำพูดผมรึเปล่า ไอ้ภูเงยมองผมอีกครั้ง

“กูเครียดเฉยๆ”ผมลากเก้าอี้มาตัวเล็กๆมานั่งข้างๆมัน

“ไปมีเรื่องกับใครมา”ผมขยี้ปลายบุหรี่กับพื้นหญ้า ก่อนหันไปมองใบหน้าของไอ้ภูใกล้ๆ

“วันนี้กูไปบ้านไอ้ยศมา”มันไม่ตอบคำถามของผมแต่แทรกเรื่องอื่นมาแทน

“มันคือโจทก์เก่าที่ตายไปแล้วของกู วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของมัน”ผมเข้าใจทันทีว่าทำไมมันถึงมีสภาพแบบนี้ ผมสงสารมันจับใจ เพราะผมรู้ว่ามันฝังใจกับเรื่องนี้ ถึงภายนอกจะไม่แสดงออกมาก็ตาม

“อดีตมันกลับไปแก้ไขไม่ได้ กูรู้ว่ามึงรู้สึกยังไงแต่จะมัวมานั่งหงอยแบบนี้ได้ไง พรุ่งนี้มึงแข่งดนตรีไม่ใช่เหรอ พร้อมหรือยัง”ผมบีบไหล่ของอีกฝ่ายไปด้วย เปลี่ยนเรื่องคุยเพราะไม่อยากให้มันคิดมากเกินไป

“คนที่บ้านมันไม่มีวันให้อภัยกู...แต่ก็สมควรแล้ว กูมันเลวเอง”มันพึมพำเรื่องเดิม

“ถ้ารู้ตัวมึงก็ปรับปรุงตัวซะสิ กูไม่อยากเห็นมึงเป็นแบบนี้เลยว่ะ”นอกจากจะไม่ชินแล้ว ผมไม่อยากให้มันจมอยู่กับเรื่องแย่ๆในอดีต กลัวมันจะเป็นโรคซึมเศร้าไปซะก่อน
“พอดีกูคิดอะไรได้นิดหน่อย ตอนที่โดนปืนจ่อ--”

“อะไรนะ”ผมหันไปมองมันอย่างตกใจ วันนี้มันเจออะไรมาบ้างผมก็ไม่รู้หรอก เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องรู้และผมก็คิดว่ามันคงไม่บอก

“ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ แต่กูไม่เป็นอะไรหรอก บอกแล้วว่าคนอย่างกูมันตายยาก”ผมมองท่าทีของอีกฝ่ายก่อนจะคว้ามันเข้ามากอด ตอนนี้มันคงต้องการใครสักคน

“ถ้ามึงตายง่ายๆกูคงเสียใจแย่”ผมตบหลังมันเบาๆเหมือนกำลังปลอบเด็ก ไอ้ภูพ่นลมหายใจอุ่นๆออกมาก่อนจะซุกหน้าลงบนบ่าของผม

“กูคิดถึงมึง”ผมหลุดยิ้มออกมาทันที

“บอกแล้ว มึงขาดกูไม่ได้หรอก เสพแล้วเลิกยาก”

“เป็นแบบนี้ดีหรือไม่ดี”มันพึมพำเบาๆเหมือนคุยกับตัวเอง ผมปล่อยให้มันกอดอยู่นานสองนานจนมันเป็นฝ่ายผละออกมาเอง สีหน้าดูสบายใจขึ้น

“พรุ่งนี้กูจะไปดูมึงแข่ง”

“นึกว่าไม่อยากมาซะอีก”

“แค่อยากไปให้กำลังใจ หรือว่าไม่อยากได้”ผมเหลือบมอง เห็นว่ามันมีรอยยิ้มจางๆ

“ขอบใจที่ยังนึกถึง กูคิดว่ามึงจะโกรธที่กูทำแบบนี้...”

“บอกแล้วไงว่ากูเข้าใจ ย้ำว่าเข้าใจ แต่ขอถามหน่อย...”ไอ้ภูหันมารอฟัง

“ทำแล้วมีความสุขไหม”ถามคำถามเดียวกันกับไอ้ติน ไม่หวังว่าจะได้คำตอบที่ตัวเองก็รู้ดีอยู่แล้ว

“กูแค่อยากจัดการกับความรู้สึกของตัวเองก่อน”ไอ้ภูกระแอมเบาๆก่อนจะคว้ามือผมไปกุม

“รอกูก่อนนะ”

“มึงนั่นล่ะที่ต้องรอ”มันทำหน่าไม่เก็ท ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของผมเสียหน่อยที่ต้องบอกมันว่าผมจะไปเที่ยวกับพี่มินในช่วงปิดมิดเทอมสั้นๆ คราวนี้มันสองคนจะได้รู้ซึ้งถึงคำว่าห่างอย่างแท้จริงซะที ถือว่าได้ไปพักผ่อนหาความสบายใจให้ตัวเองบ้าง

“หมายความว่าไง”

“เปล่า”ผมไหวไหล่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นๆ อย่างน้อยๆตอนนี้ผมอยากให้มันสบายใจจากปัญหาที่เจอ เดี๋ยวมันจะประสาทแดกหากรู้ว่าผมจะไปกับพี่มินพี่พิสคนที่มันเหม็นหน้าทั้งสองคน แต่จะว่าไป...ผมนึกอาการของพวกมันสองคนออกเลยล่ะ!






********************************************








วันแข่งดนตรีคณะวิศวะจัดขึ้นที่ลานกว้างในคณะ ทั้งทีมาตั้งแสงสีพร้อม จัดช่วงเย็นๆคนเลยค่อนข้างเยอะ ส่วนมากจะเป็นสาวๆ ผมลากไอ้ชายมาเป็นเพื่อนเพราะไอ้เคนไม่ว่างต้องเฝ้าไข้เมีย

“คนเยอะชิบ คณะมันนี่ลงทุนเวอร์ ต่างจากคณะเราลิบลับ งบไม่ค่อยถึง”ไอ้ชายพึมพำ งานนี้นอกจากจะแข่งวงดนตรีแล้วยังมีงานออกร้านของพวกวิศวะด้วย

“แล้วไอ้ตินไม่มาเหรอ ถึงได้ลากกูมาด้วย”มันหันมาถาม ก่อนจะกลับไปมองสาววิศวะที่ร้านขายขนมครกตามเดิม
“เออ ไม่มา ถามมากว่ะ”ผมหาทำเลเหมาะๆ สอดส่องสายตาหาที่นั่งดีๆ

“ทางนี้ๆ”ไอ้เนมโบกมือมาจากฝั่งซ้ายมือ ใกล้ๆกับลำโพง ดีที่หันไปอีกข้าง ไม่งั้นได้หูอื้อหูแตกแน่ๆ ผมลากไอ้ชายเข้าไปหาไอ้เนม ข้างๆมันมีพวกเด็กปีหนึ่งและปีสี่ปะปนกันอยู่ ไอ้ปั๊มส่งยิ้มทักทายมาให้

“พี่ปาอ่ะ”ผมถามเมื่อไม่เห็นขาประจำ

“ยังไม่มา”ไอ้เนมยิ้มเหมือนคิดอะไรอยู่

“ตอนแรกคิดว่ามึงจะไม่มาซะแล้ว”

“แค่มาเชียร์เฉยๆ”วงของไอ้ภูแสดงคิวที่หกนู่น แต่ผมก็มาก่อนอยู่ดี

“คิดถึงมันอ่ะดิ”มันแซว ผมส่ายหน้าหน่ายๆ ไม่อยากจะตอบ ยังไงเดี๋ยวมันก็หาเรื่องแซวได้อยู่ดี

“อ้ะอ้าว มาเชียร์ด้วยเหรอน้องฟิก”ไอ้พี่ฉัตรโผล่มากับไอ้พี่กร ทั้งคู่ใส่เสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มเหมือนกัน ตรงอกซ้ายสกรีนรูปเกียร์ มีชื่อสาขาห้อยอยู่ด้านใต้

“ไม่ได้มาเชียร์มึงแน่นอน”ไอ้เนมแทรก วงของไอ้ภูประกอบไปด้วยไอ้พี่กร พี่เปามือกี้ตาร์ พี่ฉัตรร้องนำอีกต่างหาก (ไม่น่าเชื่อจริงๆ) และเพื่อนของไอ้พี่กรที่ผมไม่รู้จักเล่นเบส ส่วนไอ้ภูมือกลอง 

“พี่ภูอยู่หลังเวที”ไอ้พี่ฉัตรบอกไม่ทันขาดคำ เจ้าตัวก็โผล่มาพอดี มันเองก็ใส่เสื้อแบบเดียวกันกับสมาชิกในวง หน้าตามันแจ่มใสมากกว่าเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมกับมันก็ไม่ได้คุยอะไรมากอยู่ดี ไอ้เนมพึมพำอะไรสักอย่าง เบาๆ

“พวกมึงนี่เข้าใจยากจริงๆ”

“ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่มีอะไรง่ายหรอก”ไอ้เนมถึงกับเหลีนวมามองเมื่อได้ยินที่ผมพูด

“แหม ลึกล้ำจริงๆ กูก็หวังว่าพวกมึงจะคุยกันเร็วๆนะ กูเบื่อหน้าไอ้ภูแล้ว”เหตุเพราะไอ้ภูมักสลับไปค้างที่หอไอ้เนมด้วย ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าบ่อยแค่ไหน

“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้น กูไม่ได้คิดพิศวาสอะไรมันหรอก”ผมเหลียวมองเจ้าของคำพูดข้างตัวทันที

“ตลกแล้ว กูไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย”ไอ้เนมนี่หูตาไวจริงๆ

“แค่เห็นสีหน้ามึงกูก็รู้แล้ว”มันหัวเราะเบาๆ ระหว่างนั้นไอ้ตินก็โทรเข้ามาได้จังหวะพอดี

“มีไร”

[ไปดูพี่ภูแข่งดนตรีเหรอ] ผมไม่ค่อยได้ยินเสียงของมันเท่าไหร่เพราะเสียงพูดคุยจากรอบตัวบวกกับเสียงเทสเครื่องดนตรีจากบนเวที

“อืม พอดีอยู่ว่างๆ ทำไมมึงไม่มาล่ะ หรือว่ามีนัดแล้ว”ผมแกล้งพูดไปแบบนั้นอยากรู้ว่ามันจะตอบยังไง

[จะมีกับใครล่ะ ก็รักแค่คนเดียว] แอบเบ้ปากให้กับคำตอบของคนปลายสาย

“แล้วโทรมามีอะไร”ผมเปลี่ยนเรื่อง

[โทรหาแฟน]

“อ้าว นี่กูยังเป็นแฟนกับมึงอยู่เหรอ”

[เป็น ตอนนี้แค่อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ] ได้ยินเสียงลมหายใจมันแว่วมา

[มึงเบื่อไหม]

“ก็นิดหน่อย”ผมตอบไปตามตรง แต่มันก็รู้สึกแปลกไปบ้างเพราะที่ผ่านมาหากมีเรื่องไม่พวกมันก็ผมจะเป็นฝ่ายวิ่งตามตลอด พอได้อยู่เฉยๆถอยห่างบ้าง มันก็ดีไปอีกแบบ บางทีความสัมพันธ์ยุ่งยากแบบนี้อาจต้องการที่ว่างให้กันบ้างก็ได้ล่ะมั้ง

[ยังไหวไหม] ไอ้ตินนี่ถามโง่ๆอีกแล้ว

“มึงก็รู้ว่าคนอย่างกูไหวอยู่แล้ว”และผมก็รู้ว่ามันก็เหมือนกัน คนที่น่าเป็นห่วงคือคนอย่างไอ้ภูมากกว่า คนที่ไม่ค่อยมีที่พึ่งทางใจ อย่างตอนที่ได้อ่านไดอารี่ของพวกมันสองคน ความต่างอย่างเห็นได้ชัดคือไอ้ตินรับมือกับคำว่า ‘ไม่มีผม’ได้ดีกว่าไอ้ภูเยอะ เพราะไอ้ตินมันเป็นคนเข้มแข็งขนาดเจอเรื่องพี่อันมากิ๊กกั๊กกับผม มันยังทนได้ตั้งนาน คนที่ผมควรจะกลัวไม่ใช่ไอภูหรอก แต่เป็นคนอย่างไอ้ตินต่างหาก
ผมเหลือบมองไอ้ภูที่จับกลุ่มคุยกับพวกเด็กปีสองอยู่ สบตากับมันครู่หนึ่งก่อนจะเป็นฝ่ายเบนสายตาออกมาเอง

“กูไม่ค่อยได้ยินว่ะ แค่นี้ก่อนนะ”ไอ้ตินตอบอะไรมาสักอย่างที่ผมได้ยินไม่ถนัดนักแต่ไอ้ผมดันมือไวกดวางสายไปซะก่อน

“พี่ฟิกพอจะว่างไหมครับ”คนที่มาสะกิดผมไม่ใช่ใคร คือไอ้ปั๊มอดีตสายสืบของผมนี่เอง

“เออ ว่างๆ”ผมกำลังงงว่ามันมีเรื่องจะคุยอะไรกับผม ไอ้ปั๊มพยักหน้าให้ผมเดินตามมันไป

“เดี๋ยวกูมานะ”ผมสะกิดไอ้ชาย ไอ้นี่ไม่ได้สนใจผมเลย
ไอ้ปั๊มนำผมมารอบนอก บริเวณที่ห่างจากเวทีและร้านค้า โล่งหูอย่างบอกไม่ถูก สีหน้าของเด็กรุ่นน้องดูไม่ค่อยดีนักจนผมสังเกตได้

“มึงเป็นอะไรวะปั๊ม”ผมไม่ค่อยสบายใจนักอาจเป็นเพราะท่าทางของมันเหมือนกับเมื่อตอนที่มันมีเรื่องจะถามเมื่อนานมาแล้ว ไอ้ปั๊มเลียริมฝีปากอย่างคิดไม่ตก

“ผมอยากปรึกษาพี่ฟิกเพราะ...ผมไว้ใจพี่แล้วก็...ผมไม่รู้จะพูดเรื่องนี้กับใครคือว่าพี่จำเมื่อตอนนั้นได้ไหม ที่ร้านหมูกระทะ วันที่พี่ภูเมา”ผมจำได้ชัดอยู่แล้ว ก็วันนั้นไอ้ภูเมาเสียจนงอแงร้องไห้ขี้มูกโป่ง นึกแล้วก็ขำ

“เออ จำได้”ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันตั้งใจจะบอกอะไร

“วันนั้นผมได้รู้จักกับพี่เนมโดยบังเอิญเพราะพี่เขาไปส่งที่หอ ทีนี้ก็เลยรู้ว่าผมเดือดร้อนเรื่องเงิน อันที่จริงพี่เนมก็รู้ตั้งแต่วันที่เจอกันที่ผับตอนนั้นแล้ว”เมื่อครั้งที่ผมไปเจอมันโดยบังเอิญ ผมกำลังเรียบเรียงเรื่องราวตามที่มันเล่า ไอ้เนมน่ะเหรอ....เอ๊ะหรือว่ามันกับไอ้เนมมีซัมติงกัน

“อย่าบอกนะว่ามึงกับมัน...”ไอ้ปั๊มรีบโบกมือไปมาทันที

“ไม่ใช่ครับ คือพี่เนมแค่ช่วยผมเรื่องเงินเฉยๆ”ผมตาโตทันที

“แค่นั้นน่ะเหรอ”ไม่น่าเชื่อ

“แค่นั้นแหละ แปลกเนอะ”ขนาดเจ้าตัวยังแปลกใจ

“แล้วยังไง....มึงเสียดายเหรอที่ไม่ได้แอ้มมัน”ไอ้ปั๊มหัวเราะเบาๆ แล้วก็เงียบจนเสียงเพลงจากในงานแว่วแทรกแทนที่

“คือ...ความจริงพี่เนมเขาก็ไม่ได้อะไรกับผมหรอก แต่ผมกลับรู้สึกไปเอง”ผมถึงบางอ้อ นี่ผมกลายเป็นที่ปรึกษาด้านหัวใจไปแล้วเหรอ

“มึงชอบไอ้เนม?”

“ก็...ไม่รู้ ผมไม่แน่ใจ”มันกระแอม กระไอเหมือนมีอะไรติดคอ ผมมองรุ่นน้องตรงหน้าอย่างเห็นใจ

“มึงอย่าไปยุ่งกับมันเลย”ไอ้ปั๊มเลิกคิ้วเหมือนสงสัยว่าทำไม

“คนอย่างมันไม่เปิดรับใครง่ายๆหรอก มันทำดีกับมึงก็จริง แต่มันก็แค่นั้นแหละ รู้ไหมตั้งแต่กูรู้จักมันมาจนถึงตอนนี้กูก็ยังไม่เห็นมันจะสนใจใครที่ไหน”บางทีอาจเป็นเพราะว่าไอ้เนมชินกับการอยู่คนเดียวมานานแล้วก็ได้ ยิ่งเจอเรื่องไอ้ภูมันก็ยิ่งสร้างกำแพงมากขึ้น ผมเองยังอดเห็นใจมันไม่ได้เลยที่เห็นมันต้องอยู่อย่างหงอยๆเหงาๆแบบนี้

“เรื่องนี้พี่ฟิกไม่คิดว่ามีความเป็นไปได้เลยเหรอ..”แต่มันก็ยังดูมั่นใจในตัวเองอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

“อืม กูว่าไม่ ขอโทษที่ต้องพูดตรงๆ แต่คนอย่างมันไม่สนใจเด็กแบบมึงหรอก มึงชอบเหรอวะ กับไอ้การที่ต้องวิ่งตามคนอื่นน่ะ”ผมไม่ชอบเป็นฝ่ายไล่ตามเพื่อร้องขอความรัก เพราะผมคิดเสมอว่าตัวเองมีดีพอให้คนอื่นเข้าหา (มั่นใจมาก) หรืออาจเป็นเพราะผมไม่ชอบอะไรที่มันยุ่งยากมากก็ได้ ผมถอนหายใจ ก่อนมองหน้าไอ้ปั๊มอย่างเครียดๆ กับไอ้เนมผมว่าท่าจะยาก

“มึงสับสนอยู่รึเปล่า”เท่าที่ได้ยินมามันก็มีแม่ยกเหมือนกัน ร้ายใช่เล่น

“ผมเปล่า...”

“มึงปรึกษาผิดคนแล้วว่ะ”ผมถอนหายใจยาวก่อนจะกลับมามองมันอีกครั้ง

“ไม่ลองคุยกับไอ้ภูล่ะ สายรหัสมึงนี่”กับไอ้ภูจะให้คำปรึกษาแบบไหนผมก็นึกไม่ออกจริงๆ แต่คิดว่ามันคงสนับสนุนแน่ๆเพราะมันอยากเห็นไอ้เนมเป็นฝั่งเป็นฝาใจจะขาด

“ไม่เอาหรอก ใครจะกล้า”ไอ้ปั๊มหัวเราะ ทำท่าเก้ๆกังๆก่อนจะรีบเดินออกไปทิ้งให้ผมอยู่คนเดียวซะงั้น ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง หันไปมองก็พบสาเหตผิดปกติของไอ้ปั๊ม ไอ้เนมโผล่มายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

“มาซะกูตกใจหมด”

“มันมาคุยอะไรกับมึง”แต่สีหน้าของมันดูจะรู้อยู่แล้ว

“คิดจะเลี้ยงเด็กหรอมึง”ขอแซวมันบ้าง

“เด็กบ้าอะไรตัวใหญ่อย่างกับควาย มึงไม่ต้องมาแซวกูหรอก กูไม่ได้พิศวาสมัน แค่อยากช่วยเพราะไม่อยากเห็นมันเดินทางผิดๆ”ไอ้เนมถอนหายใจ หยิบลูกอมแกะเข้าปาก

“พระเอกชัดๆ”ไอเเนมหรี่ตามองอย่างหงุดหงิด

“กูพูดจริง...อย่างไอ้ปั๊มให้สาวๆเก็บไว้เป็นพ่อพันธ์เถอะว่ะ ก็เห็นว่ามันมีสาวมาติดเยอะเหมือนกัน ที่มันคิดแบบนี้
อาจเพราะตอนนั้นมันไม่มีที่พึ่ง กูคงเข้าไปถูกจังหวะล่ะมั้ง ช่วงที่เราอ่อนแอ ใจเรามันก็อ่อนตาม”มันเริ่มพร่ำเพ้อ

“กูแค่อยากช่วยมันในฐานะรุ่นพี่เฉยๆ”ผมลอบมองสีหน้าสงบของอีกฝ่าย รวบรวมความกล้าถามเรื่องที่ติดค้างอยู่ในใจมานาน

“ที่มึงไม่คบใคร ปิดกั้นตัวเองแบบนี้ เป็นเพราะไอ้ภูเหรอวะ”เกิดความเงียบทันที ไอ้เนมหันมามองผมด้วยรอยยิ้มจาง มันดูหนักใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

“ก็อาจจะมีส่วน เรื่องไอ้ภูเหมือนเป็นระเบิดลูกใหญ่ในชีวิตกูเลยว่ะ จะเคลียร์ให้สิ้นซากก็ทำไม่ได้ สำหรับกูคงต้องใช้เวลามากกว่านี้ อาจจะสามสี่ปีหรือนานกว่านั้นก็ได้”

“ถ้าย้อนเวลาได้มึงจะทำแบบเดิมไหม”

“ทำ”มันตอบชัดถ้อยชัดคำก่อนจะยกยิ้ม

“ตอนนั้นกูเหม็นหน้ามึงจริงๆนะ ได้ต่อยสักหมัดก็คงดี มันก็ตลกดีนะเว้ยมึงเข้ามาในชีวิตมันแค่แป๊บเดียว มึงก็ได้ใจมันแล้ว”ไอ้เนมพึมพำเบาๆ

“เพื่อนมึงคงชอบของแปลกมั้ง”ที่แปลกกว่าคือผมกับไอ้เนมมาคุยกันเรื่องประเด็นเก่าๆนี่แหละ

“มันจริงจังกับมึงจริงๆนะไอ้ฟิก ถึงการกระทำจะดูเข้าใจยากไปหน่อย แต่กับมึงมันให้สุดๆแล้วจริงๆ ไม่อย่างนั้นมันคงไม่ทำเรื่องงี่เง่าแบบนี้หรอก คงบอกเลิกมึงไปตั้งแต่ครั้งไอ้เน็ตแล้ว”

“เออ กูรู้”

“อย่าทำให้มันเสียใจนะ”

“มึงเก็บไว้บอกเพื่อนมึงเถอะ”
“กูหมายถึง...มึงก็คงรู้อ่ะนะว่าไอ้ภูมันอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก”

“มึงไม่ต้องมาบิ้วท์กูให้ยาก เรื่องตอนนี้ระหว่างกูกับมันปล่อยให้ช่องว่างเป็นตัวตัดสินดีกว่า”ผมชกไหล่มันให้เลิกพูดเรื่องไอ้ภูได้แล้ว ไอ้้นมก็รีบขึงตาห้ามเมื่อเห็นตั้งท่าจะพูดเรื่องมันบ้าง

“ปล่อยกูไว้แบบนี้เหอะว่ะ กูชอบอยู่คนเดียว”ฟังดูเปล่าเปลี่ยวชอบกล ไอ้เนมหลุดยิ้มออกมาอีกครั้ง

“ไม่อยากให้ใครบางคนมีคู่แข่ง...แค่นี้มันก็เข้าหากูยากล่ะ”ไอ้เนมพูดจาชวนงง มันหมายถึงใครวะ ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใครก็ตาม ผมสัมผัสได้ว่ามันผ่อนคลายและอารมณ์ดีกว่าเดิมเยอะเวลาที่พูดถึง ก็เอาใจช่วยมันล่ะกันถึงบางครั้งจะมีหมั่นไส้มันบ้าง แต่ผมไม่อยากให้มันปิดกั้นตัวเองเพราะแผลจากเรืองไอ้ภู เรื่องบางเรื่องมันก็ต้องใช้เวลา ...อาจจะรวมถึงพวกผมด้วยก็ได้!?

ผมกับไอ้เนมกลับมาที่หน้าเวทีอีกครั้งพี่ปาก็โผล่มาแล้ว พวกไอ้ภูหายไปเตรียมตัวอยู่หลังเวที เพราะใกล้จะถึงคิวแสดงแล้ว ผมซื้อดอกกุหลาบจากเด็กปีหนึ่งติดมือมาด้วย ไม่ได้จะเอามาให้ไอ้ภูหรอกครับแค่ซื้อมาเพราะเห็นว่าบริจาคให้กับมูลนิธิเด็กกำพร้า ผมมันคนใจบุญก็แบบนี้แหละ

“นั่นแน่...ซื้อมาให้เด็กแถวนี้เหรอ”พี่ปาทักทันที

“ซื้อให้พี่เปาต่างหาก”ดูท่าแล้วคงไม่มีสาวๆให้ดอกไม้แน่ ก็จริงตามคาด เมื่อวงไอ้ภูขึ้นโชว์คนที่ฮอตที่สุดคือไอ้พี่กร ได้ดอกกุหลาบไปช่อใหญ่ ส่วนไอ้ภูก็มีรุ่นน้องเอามาให้บ้าง ผมเดินไปหน้าเวทีก่อนจะส่งดอกไม้ให้พี่เปาด้วยสีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ

“ให้ผิดคนรึเปล่า”อีกฝ่ายทำหน้างง เหลียวมองไอ้ภูด้วยท่าทางเกรงๆ มันเองก็มองมาที่ผมเหมือนกัน

“ให้พี่นั่นแหละ รับไปเถอะ คนมองแล้ว”ผมสั่นดอกไม้ในมือ เมื่อเจ้าตัวยังไม่รับไปเสียที

“แล้วเอามาให้กูทำไมว้า”ไอ้พี่เปาดูว้าวุ่นน่าดู

“เห็นว่าร้องเพลงเพราะดี ผิดด้วยเหรอ แค่นี้ต้องคิดมากด้วยเหรอไง”ผมไม่ได้ตั้งใจจะกวนตีนใครทั้งนั้นแหละ ก็แค่อยากให้ แค่นั้น ผมสบตากับไอ้ภู มันแค่มองมาก่อนจะไหวไหล่ ไม่รู้ว่าตื่นเวทีหรืออะไรตอนแสดงผมเห็นมันทำไม้กลองหลุดมือด้วย

“แย่งซีนตลอด”พี่ปาบ่นพึมพำ

“เดี๋ยวสามีมึงก็งอนน้อยใจแก้มป่องหรอก”ไอ้ชายพูดซะน่ากลัวเชียว ถ้าไอ้ภูทำแบบนั้นจริงๆผมคงตาค้างไปหลายวันแน่

“ถ้าเรื่องแค่นี้งอน ชาตินี้คงไม่ต้องคุยกันแล้วว่ะ ดูที่เจตนากูด้วย”ผมทำหน้าจริงจัง มองเวลาก็ค่ำแล้วผมคงอยู่จนถึงประกาศรางวัลไม่ไหวหรอก มีงานต้องเคลียร์อีก

“กูกลับก่อนนะ ฝากบอกมันด้วย”ตอนนี้มันกำลังโดนรุ่นน้องรุมถ่ายรูปอยู่ ไม่ใช่เพราะว่ามันฮอตอะไรหรอกแต่เพราะมันคือ พี่ภูวิศวะต่างหาก เด็กในคณะมันก็ต้องเคยได้ยินชื่อเสีย(ง)ของมันมาบ้างอยู่แล้ว


ผมกลับมาที่ห้อง เอาผ้ากองโตลงไปซักที่ห้องโถง บังเอิญเจอกับโจทก์เก่าอย่างไอ้เน็ตอีก ผมแค่ปรายตามองอย่างไม่สนใจนัก มันกำลังเลือกผ้าลงถังอยู่ข้างๆ

“อยู่คนเดียวเหรอ”มันพูดลอยๆเหมือนชวนคุย ผมไม่ได้ตอบอะไร รีบๆหยอดเหรียญ แต่ไอ้ตู้เฮงซวยกลับกินเหรียญผมไปซะงั้น ไม่ทันได้บ่นไอ้เน็ตก็เอื้อมมาหยอดเหรียญให้

“แค่คุยด้วยจะตายเหรอไง”มันเริ่มจะหงุดหงิด

“ไม่อยากคุยด้วย มีปัญหาอะไรไหม”ผมหันไปมองมันเต็มตาเป็นครั้งแรก ถ้ามีเนื่องกับไอ้เน็ตผมสู้ได้อยู่แล้ว คิดว่ามันคงผอมแห้งแรงน้อยแน่ๆ ครั้งนี้ไอ้ฟิกพร้อมสู้เว้ย แต่ถ้ามันมีสามีมาด้วยค่อยว่ากันอีกที

“ทำไม กลัวจะตกหลุมเราอีกรอบเหรอ”ผมหัวเราะในทันที

“ที่บ้านเปิดคาเฟ่เหรอ ทำไมพูดจาตลกแบบนี้ กูแค่ไม่อยากคุยกับมึง แค่นี้แหละ ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย”ไอ้เน็ตเหมือนจะฉุนหนักกว่าเดิม

“เหรอ...ระวังไว้ให้ดีก็แล้วกัน”

“มึงจะย่องหากูตอนดึกเหรอ”ไอ้นี่พูดจาน่ากลัวเข้าไปทุกที ไอ้เน็ตมองผมเหมือนคนเป็นโรคประสาท ผมรีบชิ่งเพราะไม่อยากเสวนากับมันนานๆ

“สองคนนั่นไปไหนซะแล้วล่ะ”มันเดินตามมา อยากจะด่ามันอยู่หรอกแต่นึกได้ว่ามันอยู่ชั้นเดียวกับผมนี่นา!

“เลิกกันแล้วเหรอ”มันพล่ามตามหลัง ผมรีบก้าวหนีทีละสองขั้น เมื่อถึงห้องแล้วก็รีบไขกุญแจ ล็อคห้องทันที


ฟู่วววว


มันก็แค่ไอ้เน็ต นี่ผมกลัวมันขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย ไม่ได้การแล้ว จากเรื่องครั้งนี้ ผมมั่นใจเกินร้อยเปอร์เซ็นแล้วว่าจะไป เที่ยวบ้านเกิดพี่มิน!
 


(มีต่อ)


หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.35
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 17-02-2016 02:04:59






*****************************************




ผมจำได้ว่าเป็นช่วงที่อากาศร้อนสุดๆ ในวันที่แดดจ้า ผมเก็บกระเป๋าเป้สองใบใส่ท้ายรถโฟล์คสวาเกนสีชมพูหวานแหววของพี่มิน แอบคิดว่าคิดผิดรึเปล่าที่มากับคู่รักชูชื่นแบบนี้ พี่พิสดูผอมลงจากครั้งหลังสุดที่เจอกัน ผมยาวขึ้น เหมือนผิวจะขาวกว่าเดิมด้วย

“สบายดีไหมฟิก”พี่พิสหันมาถามจากเบาะหน้าหลังจากที่ผมเข้ามานั่งที่เบาะหลังแล้ว

“เรื่อยๆแหละครับ”พี่มินหันมองด้วยสายตาไม่เชื่อนัก

“หน้าตาไม่ค่อยสดชื่นเลยนะ”

“จะสดชื่นกว่านี้ถ้าพี่สองคนไม่หวานกันต่อหน้าผม”แต่คู่นี้ชอบหวานกันแปลกๆ พี่มินต้องเจ็บตัวทุกครั้งที่ปล่อยมุกเสี่ยว ๆ

“แล้วเรื่องเรียนเรียบร้อยดีใช่ไหม”พี่พิสชวนคุยต่อ พักนี้ผมไม่ค่อยเห็นพี่แกในคณะเท่าไหร่เพราะทำเรื่องฝึกงานอยู่

“กระท่อนกระแท่นตามประสาผมนี่ล่ะ แต่ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอกครับ”ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาเช็คความเคลื่อนไหวของมันสองคน แต่หน้าเฟสไอ้ตินไม่อัพเดทตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ต่างจากไอ้ภูเพ้ออะไรก็ไม่รู้ ผมไม่กดไลค์ให้หรอก เดี๋ยวมันจะรู้ว่าผมส่อง พี่พิสเหลือบมองผมอยู่หลายรอบ ใจจริงก็คงอยากถามผมเรื่องไอ้สองคนนั่นแน่ๆ

“คราวนี้ฟิกจะได้เห็นน้องชายพี่”พี่มินพูดติดตลก

“ผมไม่อยากเจอหรอก”จำได้ว่าน้องชายพี่มินเสียไปแล้วนี่ พี่มินนี่พูดอะไรก็ไม่รู้ พี่พิสเองก็ดูหัวเสียขึ้นมาเหมือนกัน

“ปากหมาตลอด”

“อ้าว ก็พูดตามที่ตนแถวนั้นว่ามาเฉยๆ”พี่มินยังไม่สลด หัวเราะเบาๆ

“สองคนนี่กลัวผีด้วยเหรอ”

“เงียบๆไป ไม่มีใครว่าหรอก”พี่พิสหยิบขนมปังยัดใส่ปากพี่มินที่ขับรถอยู่ ใจหายแว๊บเพราะรถส่ายไปมา

“เล่นอะไรเนี่ย เดี๋ยวก็ตายหมดนี่หรอก”พี่แว่นบ่นอุบ ผมได้แต่นั่งฟังสองคนนี้เถียงกันเพลินๆ สายตามองข้างทางอย่างเหม่อลอย ถ่ายรูปวิวภูเขาสวยๆอัพลงไอจี

“แต่เชื่อพี่นะฟิก สองคนนั่นไม่ทิ้งให้เราห่างสายตานานๆหรอก ยิ่งมากับพี่แล้วก็พิสด้วย...สงสัยคงมีเรื่องบันเทิงๆแน่”พี่มินผิวปากอย่างสบายอารมณ์ ส่วนผมก็อัพรูปเช็คอินตามปกติ ผ่านไปไม่นานมันสองคนก็ทักมาตามคาด

Phu - อยู่ไหนเนี่ย
 
Tin - หนีเที่ยวเหรอ?

Fix - มาพักผ่อน แบบว่าผ่อนคลายสมองไง

ผมพิมพ์ส่ง รอว่าพวกมันจะตอบมาว่าอะไร ไอ้ภูเงียบไปนาน สงสัยไอ้ตินตั้งตัวได้ก่อน

Tin- ไปกี่วัน

Fix- ไม่รู้เหมือนกัน สบายใจเมื่อไหร่ก็คงกลับ

Phu - ไปคนเดียวเหรอวะ

Fix - เปล่า ไปกับพี่มินพี่พิส

ตอนนี้ผมพยายามนึกหน้าของไอ้ภูสุดกำลัง

Phu- อ้อ...

มันตอบกลับมาสั้นๆ

Tin - งั้นก็เที่ยวให้สนุกก็แล้วกัน

Phu - ความจริงช่วงปิดเทอมกูกะจะชวนมึงไปกับกูซะหน่อย

ไอ้ภูทำให้ผมอยากรู้ขึ้นมาว่ามันจะไปไหน แต่ผมกลั้นใจไม่ถามต่อ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ระหว่างที่เก็บโทรศัพท์ พี่มินเหลือบมองจากกระจก ไม่ได้พูดอะไรอีก ผมเสียบหูฟังงีบหลับ หวังว่าตื่นขึ้นมาจะถึงที่หมายเลย เพราะนั่งนานจนปวดตูดไปหมดแล้ว


.....

...

..

บ้านพี่มินเป็นบ้านปูนสองชั้นขนาดกะทัดรัด มีป่าสวนไร่รายล้อมเต็มไปหมด จากสายตาที่เห็นบ้านนี้ถูกทิ้งร้างไว้นานทีเดียว ผมบิดขี้เกียจไปมาเหลียวมองไปรอบๆ ละแวกนี้มีบ้านห่างกันไปไม่ไกล บ้านลุงกับป้าของพี่มินอยู่ถัดไปสองสามหลังนี่เอง พี่พิสลงมายืนข้างผมด้วยสีหน้ายุ่งๆ

“โห ร้างขนาดนี้ จะเก็บกวาดไหวไหมเนี่ย”เจ้าตัวบ่นเบาๆ เจ้าของบ้านควงกุญแจรถหน้าชื่นไปไขรั้วบ้านสนิมเขรอะ

“อ้าว มินกลับมาเยี่ยมบ้านเรอะ”สาวใหญ่บ้านใกล้ๆตะโกนถามระหว่างที่เดินผ่าน ในมือหิ้วถุงพะรุงพะรังเต็มไปหมด ฝ่ายนั้นผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นผม

“อุ้ยตาย...”มองหน้าผมตั้งนานก่อนจะพึมพำเบาๆจากไป ทิ้งให้ผมกับพี่พิสยืนมองหน้ากันอย่างงุนงง

“หน้าผมมีอะไรแปลกปลอมรึเปล่าพี่พิส”

“ไม่เห็นมีนี่”พี่พิสดูกระวนกระวายใจแปลกๆ

“พี่บอกแล้วไงว่าฟิกหน้าเหมือนน้องชายพี่”ดูพี่เขาจะภูมิใจ ยิ้มตาหยีมาให้ กว่าจะไขเข้าไปได้ก็ใช้เวลาอยู่นานเพราะแม่กุญแจฝืด ผมย่นจมูกเมื่อฝุ่นคลุ้งออกมาระหว่างที่พี่มินเปิดประตูบ้านเปิดออก

“ถ้านอนไม่ได้ ไปค้างบ้านลุงกับป้าได้นะ”พี่มินเสริมเมื่อเห็นท่าทีของพี่พิส

“ห้ะ ไม่เอาหรอก พี่นอนไหนก็นอนนั่นแหละ”ผมกับพี่มินหลุดยิ้มเมื่อได้ยินพี่พิสหลุดคำว่าพี่ออกมา นานๆทีจะได้ยิน ผมฟังแล้วระคายหูนิดหน่อย แต่ก่อนที่จะได้ทำความสะอาดบ้านใหม่ พี่มินก็พาผมกับพี่พิสไปอีกห้อง ในห้องนั้นมีกรอบรูปจืดจางติดผนังใกล้กับหิ้งใส่แจกันดอกไม้และ โกศ ใส่กระดูกทองเหลืองเก่าๆ พี่พิสสูดหายใจเข้าเสียงดัง ทำท่าเหมือนอยากบ่นพี่มินที่พาเข้ามา จากในรูปถึงจะจางมากแล้วแต่ก็ยังเห็นเค้าโครงหน้าที่ละม้ายคล้ายกับผม

“เหมือนไหม”เจ้าของบ้านหันมาถาม ผมได้แต่พยักหน้าส่งๆ ให้ตายเหอะครับ ผมไม่ชอบอยู่ในห้องนี้เลย

“ไม่มีใครเข้ามาทำความสะอาดเลยเหรอ”พี่พิสพึมพำพลางมองไปรอบๆ ปัดฝุ่นที่คลุ้งอยู่ในอากาศ

“ก็...”พี่มินไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะกระแอม

“ทีแรกลุงกับป้าก็อยากย้ายโกศน้องไปอยู่ที่บ้าน แต่เห็นหมอดูทักมาว่าไอ้โมมันไม่อยากไป”ผมกับพี่พิสมองหน้ากันอีกครั้ง

“ไงไอ้น้อง พี่กลับมาหาแล้วนะ หายโกรธกูหรือยัง”พี่มินยิ่งทำให้ผมหลอนเข้าไปใหญ่ ก็เลยปล่อยให้พี่แกทำความสะอาดห้องนั้นคนเดียว พี่พิสฮึดฮัดออกมา ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

“รู้งี้ไปค้างบ้านลุงดีกว่า ไอ้มินชอบพูดอะไรก็ไม่รู้”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ พี่มินก็ปากมอมแบบนี้อยู่แล้วนี่”ผมปลอบใจตัวเองไปด้วย ก่อนจะลงมือทำความสะอาดชั้นบนก่อน โชคยังดีที่ลุงพี่มินส่งคนงานในไร่มาช่วยกันทำความสะอาดบ้าน ภาระจึงลดลงไปเยอะเลย

“ว่าแต่เราชื่ออะไรนะ”ป้าสายใจถาม ท่าทีป้าของพี่มินก็เหมือนคนแถวๆนี้คือพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าผมหนคล้ายๆน้องพี่มิน

“ชื่อฟิกครับ”ผมไม่ค่อยชินกับป้าสายใจเท่าไหร่ เพราะแกชอบมาคุยกับผมบ่อยๆ สงสัยจะเอ็นดู(?)ที่ผมหน้าคล้ายน้องพี่มินแน่

“อายุเท่านี้มีเมียมีลูกได้แล้วนะเนี่ย อย่าไปเอาอย่างไอ้มินนะ”ป้าสายใจพูดขำๆแบบไม่คิดอะไรนักแต่คงไปสะกิดใจพี่พิสเข้าล่ะมั้ง

“โห...ป้า ไอ้ฟิกน่ะนะ...”ผมถลึงตาขู่ ถ้าบอกนี่ระเบิดลงแน่ๆ คนแถวนี้อาจช็อคได้

“สาวตรึม”พี่มินหัวเราะ มองหน้าผมด้วยสายตาล้อเลียน

“แล้วนี่หนูอยู่ได้แน่นะ”ป้าสายใจหันมาถามพี่พิสอย่างเป็นห่วง

“ได้ครับ แค่นี้จิ๊บจ๊อยมาก”คำตอบของพี่พิสทำพี่มินแปลกใจสุดๆ

“ถ้าไม่สะดวกไปนอนกับลุงได้นะ คนกันเอง ไม่ต้องเกรงใจหรอก”ลุง แทรกมา
“ไม่เป็นไรจริงๆครับ”พี่พิสยิ้มตบท้าย

“ไอ้พวกนี้ดื้อเหมือนกันหมด”ลุงทำเสียงอ่อนใจ ตามจริงผมก็อยากไปนอนด้วยนะ แต่ไปคนเดียวก็คงแปลกแน่ๆเพราะฉะนั้นผมเลยต้องกลั้นใจนอนค้างที่บ้านหลังนี้ พี่พิสเองก็ดูไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่

“พอดีเลยนะ คืนนี้เราก็นอนด้วยกันสามคน”พี่มินทำสายตาวิบวับแปลกๆ ตอนแรกก็คิดว่าพี่พิสจะเล่นงานพี่มินดันเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยซะงั้น

“พี่เองก็พร้อมเปิดใจรับฟิกเสมอนะ พี่รอเวลานี้มานานแล้ว”ไม่พูดเปล่ายังมาจับไม้จับมือผมอีก

“เดี๋ยวเถอะ”พี่มินทำตาวาวภายใต้แว่นทรงกลม

“คืนนี้ก็นอนด้วยกันไปก่อน ห้องอื่นยังไม่เรียบร้อยดี”ผมเองก็ไม่ขัดข้องหรอก เรื่องของเรื่องคือผมกลัวน้องชายพี่มินมากกว่า หวังว่าจะไม่มาต้อนรับพี่ชายกลับบ้านหรอกนะ!



ตอนดึกอากาศเย็นอย่างไม่น่าเชื่อคงเพราะรอบๆมีต้นไม้เยอะแน่ๆ ผมไม่ชินที่ต้องนอนริมเตียงแบบนี้เลยปกติผมจะนอนตรงกลางเสมอเพราะให้ความรู้สึกว่ามีโล่ป้องกัน แต่ตอนนี้พี่พิสแย่งที่ของผมไปแล้ว จนผมต้องนอนตะแคงเพื่อหันหลังให้ประตูห้อง

ผมหลับตาลงเพียงแค่ไม่อยากมองเห็นรอบๆตัว หูได้ยินชัดเป็นพิเศษท่ามกลางความเงียบยามค่ำคืนแบบนี้ แม้แต่เสียงหนูวิ่งผมยังได้ยินเลย หรือจะเสียงแกรกกรากเอี๊ยดอ๊าดด้านนอก เสียงอะไรสักอย่างดังวนเวียนอยู่ด้านนอก นี่ผมไดยินจริงๆหรือจิตฟุ้งซ่านเติมแต่งไปเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แค่ว่ามือชื้นเหงื่อไปหมด ในขณะที่พยายามกล่อมตัวเองให้หลับ

“ฟิกหลับหรือยัง...”พี่พิสพึมพำถามเบาๆ

“ยังครับ”ผมตอบกลับไปเบาๆเช่นกัน

“พี่เหงื่อแตกไปหมดแล้วเนี่ย...ฟิกขยับไปหน่อยได้ไหม”

“ไม่เอา ผมจะตกแล้วเหมือนกัน”เรื่องมาดเมิดอะไรผมไม่สนแล้ว ตอนนี้กลัวผีเว้ย ขนาดตอนคุยกับพี่พิสผมยังหลับตาสนิท กลัวเจอเหมือนในหนัง

“หืออ สองคนนี้ซุบซิบอะไรกัน”เสียงพี่มินแว่วมา พร้อมเสียงขยับตัว รู้สึกว่าทั้งห้องสว่างวาบเพราะแสงไฟ

“นอนแทบจะสิงกันอยู่แล้ว”ไม่รู้ว่าพี่มินเกิดหวงอะไรขึ้นมา คนโตกว่าถึงได้ดึงให้ผมลุกขึ้น

“ก็กลัวอ่ะ”ผมพึมพำ พี่มินหัวเราะก่อนจะเอื้อมมาเปิดเปลือกตาของผม

“มันจะมีอะไรล่ะ”ผมอยากจะตอบว่าน้องชายพี่มินนั่นแหละ พี่พิสขยับเสยผมชื้นเหงื่อ

“ปวดฉี่ว่ะ ไปเพื่อนหน่อย”ห้องน้ำอยู่ด้านล่างอีก ด้านบนยังไม่ใช้ไม่ได้ต้องรอซ่อม สุดท้ายก็ลงไปเข้าห้องน้ำด้วยกันทั้งสามคน พี่มินดูไม่กลัวอะไรเลย ระหว่างที่พี่พิสหายไปในห้องน้ำ พี่มินก็เดินหายไปหลังบ้านอีกคน ผมเรียกไม่ทัน ผมยืนกระสับกระส่ายอยู่คนเดียว ได้ยินเสียงฝีเท้าลากไปมาจากด้านนอกแล้วขนลุกเกรียว ตายๆ เอาไงดีวะเนี่ย ผมหยิบโทรศัพท์โทรหาไอ้ติน จำได้ว่ามันไม่กลัวผี ตอนนี้ผมต้องหาเพื่อนคุยด่วนๆ

“เฮ้ย ไอ้ติน”ผมเรียกเบาๆเมื่อมันกดรับสายอย่างรวดเร็ว ค่อนคืนขนาดนี้มันยังไม่นอนอีกเหรอ

[...]แต่ปลายสายไม่มีเสียงใดตอบกลับมายกเว้นเสียงลมพัด

“เฮ้ย ไอ้เชี่ย”ผมเคาะประตูห้องน้ำไปด้วย พี่พิสเข้าห้องน้ำนานจังวะ ผมเหลียวมองไปที่ประตูหลังบ้านที่พี่มินเปิดแง้มไว้ ยังไงผมก็ไม่กล้าเดินไปหาอยู่ดี เพราะตรงนั้นต้องเดินผ่านห้องน้องพี่มินด้วย ผมกดวางสายเปลี่ยนไปโทรหาไอ้ภูแทน หวังว่ามันคงไม่ทำให้ผมสติกระเจิงหรอกนะ

....

ปรากฏว่ามันไม่รับสายของผม!

“พี่พิสเสร็จรึยังอ่ะ”เข้าไปหลับหรือไง

“ยัง...พี่ปวดท้อง”โอเค เรื่องท้องไส้ไม่ใช่เรื่องตลก ได้ยินเสียงพึมพำแว่วๆอยู่ไม่ห่าง...ผมเปลี่ยนมาเปิดเพลงกล่อมตัวเองไปพลาง สองหูได้ยินเสียงฝีเท้าวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ผมกลั้นหายใจหลับตาแน่นเมื่อเสียงนั้นเข้ามาใกล้มากขึ้น

“จ๊ะเอ๋!”

“เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”เชื่อว่าเสียงร้องของผมคงดังก้องทั้งซอยแน่ๆ ใจผมร่วงไปอยู่ตาตุ่มเรียบร้อย นี่ถ้าไม่เห็นหน้าไอ้คนเล่นพิเรนท์ล่ะก็ ผมคงน้ำตาไหลพรากๆแน่นอน
“ไอ้พวกเชี่ย %$&#<>?!$%#$%”สัตว์เลื้อยคลานออกมายกชุด เมื่อไอ้คนที่อยู่ตรงหน้าของผมคือคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ

ไอ้ภูกับไอ้ติน ที่ยืนหัวเราะอยู่ด้านหลังคือพี่มิน

“สนุกนักเหรอวะ”ผมเริ่มหัวเสีย คนยิ่งกลัวๆอยู่ พี่พิสเปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยท่าทางตกใจ แต่ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นว่าใครอยู่ด้านนอก

“มาทำไม”ผมถามเมื่อได้สติแล้ว พี่พิสกับพี่มินขอตัวขึ้นไปบนห้องก่อน พี่มินนี่ตัวดีเลย

“ห่วงก็เลยมา”ไอ้ภูตอบหน้าซื่อ

“มากับพี่มินจะห่วงอะไรล่ะ”หาเรื่องมาอ้างได้ตลอด ไอ้ตินยิ้มก่อนจะจับมือผมบีบเบาๆ

“ไกลขนาดนี้ กูทนไม่ไหวหรอก”มันถอนหายใจบ้าง พวกมันลงทุนจอดรถไว้ห่างไปสองสามหลังแล้วเดินมาเพื่อเซอร์ไพรส์ผม

“กูจะโกรธเพราะพวกมึงแกล้งกูนี่ล่ะ”ตอนนี้ความกลัวหายไปปลิดทิ้งเมื่อเจอมันสองคนตัวเป็นๆแบบนี้

“เจ๊ากันไง”ไอ้ภูยิ้มขำ เจ๊าอะไรของมัน

“อย่ามาโมเม”ผมจ้องมันสองคนอย่างเอาเรื่อง

“ก็ตอนที่พวกกูมาถึงมึงยังแกล้งกูเลย”ไอ้ตินย่นหน้า ผมมึนตึ้บไปพักใหญ่... ผมไปแกล้งพวกมันตอนไหน!


สงสัยน้องชายพี่มินมาต้อนรับการมาของพวกมันสองคนแน่ๆ






TBC.
มาอัพแล้วววววว มาแจ้งด้วยว่าเราจะงดอัพสามหน่อสักพักนะคะเพราะเดือนหน้ามีสอบ ต้องเก็บเวลตั้งแต่เนิ่นๆ
ส่วนสามหน่อคงใกล้จบแล้วล่ะค่ะ ใกล้ผ่านด่านสุดท้ายแล้ว ที่แพลนไว้30ตอน แตแต่ถ้าเคลื่อนก็คงไม่เกิน40ตอน อาจมีพาร์ทของเนมคนเปลี่ยว ส่วนเรื่องปลิวจะเอามาลงทีหลังไม่ก็ยกยอดในตอนพิเศษเลย

ป.ล. มีคำผิดบ้างนะคะ เพราะพิมพ์ในแท็บแล็ต (ยังไม่ได้ตรวจคำผิดเลย ฮา)
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดค่ะ  :กอด1:


หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: SOO2 ที่ 17-02-2016 02:20:48
เจอดีแล้วไงคะพี่ตินพี่ภู  หวัดดีน้องโม 555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 17-02-2016 02:38:42
ขนลุกกก มาไม่กี่บรรทัด แกทำคนจดจำได้จนจบเรื่องแน่โม  :sad4:

เขาจะไม่ห่างกันแล้วใช่มั้ยอ่ะะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 17-02-2016 03:15:52
ง่าาาาา สั้นอ่า รู้สึกไม่จุกใจ คิดถึงสามหน่อ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 17-02-2016 03:24:01
นี่ถ้าโมยังอยู่คงได้เป็นคู่หูสุดเซี้ยวกับฟิกแน่ๆ  ฟิกกะโมคู่หูกวนสุดตรีน

ปล.แอบหลอนตอนที่พี่มินคุยกับรูปโม  แถมสองสามีภูตินยังเจอโมดักแกล้งอีก  คืนนี้ขอนอนเบียดด้วยคนจิ :hao5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-02-2016 03:58:43
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-02-2016 04:05:23
ยังดีนะพอได้ฮา ถ้ามากกว่านี้ ในเวลาตีสี่แบบนี้คงไม่ต้องนอนกันยันเช้า  :ling3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 17-02-2016 06:10:05
 :sad3: o21 :sad3: :o :sad3: o21 :sad3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-02-2016 06:18:14
 :katai2-1:    ทำไปได้เนอะ โอ๊ยคิดถึงพวกนาง
  ฟิกยังขี้กลัวผีเหมือนเดิม อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 17-02-2016 08:33:52
เจอดีแล้ว
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 17-02-2016 08:34:15
และตอนที่เรารอก็มาถึงขอยาวๆเลยนะอันนี้น่ะ ฮา แบบอยากรู้แบบจริงจัง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: mam.nalok ที่ 17-02-2016 09:18:16
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 17-02-2016 11:12:03
ฟิกขี้กลัวกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 17-02-2016 11:25:44
บรื๋ออออออออออออ o22
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 17-02-2016 11:53:01
 :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 17-02-2016 12:13:21
พี่ภูพี่ตินเจอของดีเข้าให้แล้วจร้า
จบแบบนี้นี่อยากอ่านตอนต่อไปเลย
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 17-02-2016 12:48:43
 :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 17-02-2016 13:56:25
สงสัยพี่ภูพี่ตินเจอน้องโมเข้าให้แล้วล่ะ 555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 17-02-2016 14:18:57
ฟิกสัมผัสพลังงานบางอย่างได้.....บรึ๊ยส์
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: mammam ที่ 17-02-2016 16:06:14
เหงาละซิสองหนุ่ม ตามมาเลยยยยย  :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 17-02-2016 16:15:53
ถ้าไม่ใช่ฟิกแล้วจะเป็นใครไปได้ล่ะ นอกจาก... :a5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 17-02-2016 16:21:47
อุ้ย มีแอบหลอนตอนท้ายยยยย  o22   น้องโมน่าจะยังอยู่เน๊าะจะได้เป็นคู่หูกับฟิก แอบเศร้ากับน้องโมและพี่มิน  :mew6:  ดีนะฟิกไม่ฉี่แตกและพาพี่ออกจากก้นมาด้วย คุณผัวสองคนนี่มันน่านัก ฟิก จัดการเลยลูก จัดการให้สองหน่อเรียกขวัญด่วนๆๆๆ เอาเรียกแบบ  :jul1:  เลยนะเป็นการลงโทษ  :haun4:  ช่วงนี้พี่ภูอ่อนไหวมากกว่าใครเลย ด้วยเพราะพี่ภูขาดความอบอุ่นในครอบครัว เลยต้องการความรักมากหน่อย แต่พี่ภูนี่ปรับปรุงตัวเองเยอะนะ พยายามเข้าใจและยอมรับในบางเรื่องของฟิก รวมถึงตินด้วย ใจเย็นขึ้นมาหน่อย เห็นใจพี่ภูนะกับความทรงจำที่เลวร้าย ไม่แปลกที่พี่ภูจะลืมไม่ได้ เพราะมันคือจิตสำนึกที่ไม่ได้ตั้งใจอยากจะให้เกิดโดยสันดาน มันเป็นความคะนองของวัย และพี่ภูไม่ใช่คนเลวร้ายที่จะไม่รู้สึกผิด แต่กลับไปแก้ไขไม่ได้ และปัจจุบันครอบครัวของยศ รวมถึงเพื่อนยศ ก็ไม่มีวันลืมและให้อภัยได้ง่าย คนตายฟื้นไม่ได้ แต่คนมีชีวิตที่ตายทั้งเป็นไปส่วนหนึ่งของภูสิต้องทุกข์ไปชั่วชีวิตก็ได้ ที่อยู่ได้ก็เพราะได้กำลังใจจากฟิกและติน แม่และพ่อที่ถึงแม้จะไม่แสดงออกแต่ก็อยู่เคียงข้างช่วยเหลือมาตลอด ฉะนั้นกลับมาอยู่ร่วมกันเถอะ เราเชื่อว่าลึกๆในใจ ไม่ใช่แค่ภูหรอกที่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฟิก ตินก็เหมือนกัน รวมถึงฟิกที่ก็ไม่อยากจากทั้งสองคนเช่นกัน มันเป็นความรักความผูกพันมากกว่า ผัวเมีย ไปแล้วสำหรับสามหน่อนี้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 17-02-2016 18:04:54
ตินน่ะไม่เท่าไหร่ แต่พี่ภูก็กลัวผีนี่ โอ้ย 555555555555555555
ไงล่ะพี่ภู เจ๊ามั้ยล่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 17-02-2016 19:11:08
เจอดีแล้วไง 555555555555555555555555
เดี๋ยวได้ช็อคเมื่อรู้ความจริง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 17-02-2016 19:40:31
แอบขนลุกเลยอ่ะ5555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 17-02-2016 19:46:53
อยากรู้อ้ะ  สองคนนั้นโดนหลอกอะไร  555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: Annko ที่ 17-02-2016 22:45:23
เราติดเรื่องนี้อ่ะ ...รักฟิก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 17-02-2016 23:59:43
ภูตินเจอดีเข้าแล้ว 5555 จะอยู่ต่อยังไงล่ะเนี่ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 18-02-2016 01:01:24
อ่านตอนกลางดึกกลัวตามฟิกเลย ภูตินเจอของดีแล้ว
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 18-02-2016 11:33:30
ถ้าภูตินรู้ว่านั่นไม่ใช่ฟิกจะรีบกลับไหมน้า 555555
ฟิกเอ้ย อย่าไปบอกล่ะ ให้สองคนเขางงกัน
ตอนนี้เหมือนพอห่างออกมาละได้ทบทวนตัวเอง
ทุกคนดูโตขึ้นดีนะคะ พี่เนมเองก็ดูทำใจได้
และพร้อมจะเปิดใจใหม่ด้วยซ้ำ
ตัวละครอย่างเน็ต เราจำแทบไม่ได้เลยว่าเป็นใคร 55555
แต่ถ้าขืนอยู่ใกล้ๆแบบนี้ คอยมากวนแบบนี้
มีหวังสองผัวไม่ปล่อยไว้แน่ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 19-02-2016 16:43:46
แหมมมมมม น่าให้ฟิกโกรธอีกรอบ โมแกล้งอะไรอ่ะ อยากรู้  :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 21-02-2016 00:27:18
สองผัวเจอดีเข้าแล้ว55555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 21-02-2016 19:03:53
:)
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: Nattiz ที่ 21-02-2016 20:24:52
โฮ๊ยยยยยยยย ถ้าจะเเกล้งกันแบบนี้นะ
ใจหล่นลงไปที่ตาตุ่มหมดแว้วววววว
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๗] 17-02-59 P.36
เริ่มหัวข้อโดย: kawaiineko ที่ 21-02-2016 21:43:58
 :sad5: น้องโมออกมาต้อนรับพี่ภูพี่ตินแล้วไง *0*  :ling3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 24-02-2016 05:39:46


ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก







ผมกำลังจับต้นชนปลายอยู่ว่าไปแกล้งมันสองคนตอนไหนทั้งๆที่ตอนนั้นผมก็นอนอยู่บนห้อง …คิดไปคิดมาหรือว่าจะเป็นน้องพี่มิน อาการหลอนน้อยๆเริ่มแทรกเข้ามา แต่เอาเถอะ ผมจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปก็แล้วกัน จะให้บอกยังไงล่ะว่าไอ้ที่แกล้งมันน่ะไม่ใช่ผม! แค่คิดผมก็ขนลุกเกรียวแล้ว ไว้รอจังหวะเหมาะๆ ผมค่อยบอกพวกมันเรื่องนี้ก็แล้วกัน

“แล้วรู้ได้ไงว่ากูมาเที่ยวบ้านพี่มิน”เป็นคำถามที่ไม่น่าถามเลยจริงๆ

“กูมีญาณพิเศษ”ไอ้ภูตอบติดตลก

“ล้อเล่นน่า พอดีกูคุยกับไอ้มิน แล้วก็เห็นที่มึงโพสต์ ตั้งใจจะให้กูเห็นล่ะสิ”มันทำหน้ารู้ทัน

“ไม่เห็นเกี่ยวเลย กูง่วงแล้วจะชวนคุยยันเช้าเลยไหม”ผมประชด อันที่จริงไม่อยากอยู่ด้านล่างนานๆ

“มากอดให้หายคิดถึงหน่อย”ไอ้ตินอ้าแขนเดินเข้ามาหาผม

“ไม่เอา อย่ามาทำรุ่มร่ามตอนนี้”ผมปัดแขนมันออก ไอ้ตินย่นคิ้วมองสีหน้าขำๆ

“ไม่มีใครเห็นหรอกน่า”ผมอ้ำอึ้ง เสียงอะไรบางอย่างหล่นมาจากอีกห้องที่ผมไม่กล้าเข้าไป ไอ้ภูหันไปมองตามเสียงท่าทางดูตกใจเล็กน้อยแบบเก็บอาการแต่ผมก็เห็นว่ามันกลัวแน่ๆ!

“กูง่วงแล้ว”ผมพึมพำก่อนจะรีบนำพวกมันขึ้นไปด้านบน

“มึงนอนห้องเดียวกับไอ้มินเหรอ”ไอ้ภูเริ่มซัก

“เออ ก็เพิ่งจัดบ้านใหม่ จะให้นอนห้องไหนล่ะ”ผมแกล้งทำเสียงฉุนๆใส่ ไอ้ภูถึงได้เงียบ ในห้องพี่มินกับพี่พิสกำลังปูที่นอนให้ไอ้สองตัวข้างๆผม

“เดี๋ยวผมทำเองครับ”ไอ้ตินเข้าไปช่วย

“เฮ้ย ไม่เป็นไร แค่นี้เอง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน หล่อขึ้นเยอะแยะเลยนะเราสองคน”พี่มินหันไปหาไอ้ภูที่ยืนทำหน้าบูดใส่

“ฟิกนอนไหน บนเตียงกับพี่หรือกับสองคนนั่น”พี่มินทำเสียงกวนจงใจเน้นคำว่าบนเตียงเป็นพิเศษ พี่พิสทำเสียงแปลกๆ ระหว่างที่เอาหมอนส่งให้ไอ้ติน

“ก็…”ผมมองหน้ามันสองคน ไอ้ตินแค่ไหวไหล่เหมือนไม่สนใจประเด็นนี้เท่าไหร่

“มึงนอนกับมันเหอะ เดี๋ยวจะปวดหลัง”ได้ยินคำตอบไอ้ภูแล้วผมถึงกับกลั้นขำไม่อยู่เลย มันยิ่งทำหนาบูดเมื่อเห็นว่าผมหัวเราะมัน

“เออ กูไม่ลงไปนอนหลังคดหลังแข็งกับพวกมึงหรอก”ผมทิ้งตัวลงบนเตียง มองมันสองคนจัดที่นอนไปพลางๆ

“พี่เปิดไฟที่หัวเตียงไว้นะ”พี่พิสพึมพำเบาๆก่อนจะปิดไฟในห้องเหลือเพียงไฟที่หัวเตียง ผมขยับนอนในท่าถนัด พลิกตัวมองอีกสองชีวิตที่ทำเสียงดังอยู่ใกล้ๆ ไม่รู้ว่ามันสองคนเถียงอะไรกัน

“อะไรของพี่เนี่ย”

“มึงไปนอนตรงนู้น กูไม่ชอบนอนใกล้ประตู”

“ผมก็ไม่ชอบ ถือเหมือนกัน”ไอ้ตินดูจะหงุดหงิดเอาการ ผมนอนมองเพดานมืดๆระหว่างที่ฟังเสียงมันสองคนเถียงกัน สุดท้ายไอ้ตินก็เป็นฝ่ายถอยก่อนตามเคย ระหว่างกำลังเพลินๆ มืออุ่นๆของไอ้ภูก็โผล่มาจับแขนผม

“อะไร”ผมดันออก

“จับแค่นี้ไม่ได้หรือไง”มันทำเสียงเง้างอน

“อะแฮ่ม”พี่มินกระแอมมาเบาๆเหมือนจะบอกว่าให้เงียบ ไอ้ภูถอนหายใจ ก่อนจะชักมือกลับ คราวนี้ผมนอนหลับได้ง่ายกว่าเดิมคงเพราะคนเยอะทำให้ผมอุ่นใจได้ระดับหนึ่งจนผล็อยหลับไปเองรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงพูดคุยจากด้านล่างแว่วๆ ผมขยับตัวเล็กน้อยเพราะเริ่มเมื่อย ลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดต้นคอทำให้รู้ว่ามีอีกคนนอนกอดผมอยู่ แล้วไอ้ความรู้สึกอุ่นๆตรงพุงนี่คืออะไร ผมป่ายมือเปะปะเจอกับกลุ่มผมหนาๆดึงสองสามทีจนเจ้าของเส้นผมครางพึมพำ ไอ้ภู…ทำไมมันมานอนเป็นลูกลิงแบบนี้ ไอ้พวกนี้ฉวยโอกาสตลอด

ผมปรือตามองผนังห้องหม่นๆ กำลังมึนงงว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้ว เสียงพูดคุยด้านล่างยิ่งชัดขึ้น พี่มินกับพี่พิสกำลังคุยกับใครสักคน ผมดันทั้งไอ้ภูและไอ้ตินออก ขยับลุกนั่งอย่างทุลักทุเล จากแดดจ้าๆข้างนอกหน้าต่าง เดาว่าน่าจะสายแล้ว ผมเหลียวมองไอ้ติน มันนอนหลับเหมือนคนตาย สงสัยจะเพลียเพราะขับรถมาแน่ๆ ผมค่อยๆเลื่อนตัวจากเตียงให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะไม่อยากทำให้มันสองคนตื่น

หลังจากที่อาบน้ำอาบท่าจนสดชื่นแล้ว ผมก็เข้าไปในครัว หาอะไรรองท้องซะหน่อย

“เฮ้ย”ผมสะดุ้งเพราะเจอพี่พิสนั่งกินข้าวอยู่

“ขวัญอ่อนจัง”พี่พิสหัวเราะขำก่อนจะชี้ไปที่ตู้กับข้าว

“ปกติผมไม่ใช่คนแบบนี้ พี่ก็รู้”ผมทำเสียงเข้ม หมู่นี้ผมขวัญอ่อนเกินไปแล้ว

“ความรักมักทำให้คนอ่อนไหวเสมอ”พี่พิสเริ่มสำบัดสำนวน ผมเปิดตู้กับข้าว เจอพวกต้มจืด ปลาทอด แกงส้มหอมๆ

“ลุงกับป้าทำมาให้”

“พี่มินตั้งใจจะกลับมาอยู่ที่บ้านเหรอครับ”ถ้าแค่มาเยี่ยมไม่เห็นต้องจัดเตรียมอะไรขนาดนี้เลย พี่พิสดูกังวลเล็กน้อย

“ก็เห็นว่าจะมาอยู่สักปีสองปีน่ะ”พี่พิสไหวไหล่เหมือนไม่สนใจ

“แล้วพี่ว่าไงอ่ะ”

“ก็ไม่ว่าไง ทุกคนมีย่อมมีทางเดินของตัวเอง เรื่องแค่นี้พี่เข้าใจ”ผมแปลกใจกับพี่พิสอยู่เหมือนกัน ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ยินคำพูดประเภทนี้ออกมาจากคนที่เอาตัวเองเป็นใหญ่

“พี่พิสพูดได้ดีมาก”

“กว่าจะคิดได้แบบนี้ก็เถียงกันหลายยก แต่พี่ก็โอเค มันไม่ได้มาอยู่ทั้งชีวิตเสียหน่อย แต่ก็ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกเยอะ มันอยากให้พี่จบก่อน ว่าแต่เราเถอะ เป็นไงบ้าง”ผมเบาใจเรื่องของมันสองคนลงเยอะเลย อาจเพราะว่าตอนนี้ทั้งไอ้ภูและไอ้ตินมาอยู่ใกล้ๆแล้ว

“ผมรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย เหมือนเรื่องที่เคยทะเลาะกับพวกมันไม่เคยเกิดขึ้น เหมือนกับว่าผมกับพวกมันไม่เคยขุ่นใจกัน”ความรู้สึก
ตอนนี้เหมือนกลิ่นหญ้าสดใหม่เลย ผมก็บอกไม่ถูก

“ต้องขอบคุณภูกับตินเลยนะเนี่ย ที่ทำให้พี่ได้เห็นมุมนี้ของฟิก”ดูจะเป็นของแปลกสำหรับพี่พิส รุ่นพี่ตรงหน้ายิ้มก่อนจะลุกเอาจานไปเก็บในอ่าง

“กลิ่นอะไรหอมๆ”ไอ้ภูงัวเงียเข้ามาในครัวเหมือนเป็นบ้านของตัวเอง พี่พิสเลี่ยงออกไปจากครัวเมื่อมันสองคนมาแย่งพื้นที่คับแคบในห้องนี้

“วันนี้มีแพลนจะไปไหนรึเปล่า”ไอ้ตินถามระหว่างที่ตักข้าวใส่จานให้ผม

“มึงสองคนจะพากูเที่ยวเหรอ”ความจริงผมไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลยด้วยซ้ำ

“เปล่า แต่จะสอนมึงขับรถ”ไอ้ตินยักคิ้ว

“ไม่เอา”ผมยังไม่กล้าพอ แล้วตอนนี้ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องฝึก ชาตินี้ผมไม่มีรถขับหรอก (ไม่นับของที่พวกมันซื้อให้)

“มึงไม่ต้องไปบังคับมันหรอกน่า มันอยากฝึกตอนไหนเดี๋ยวมันก็มาขอให้สอนเอง”ไอ้ภูทำเป็นพูดเข้าข้าง ผมรู้ทันมันอยู่แล้ว เกิด
ความเงียบขึ้นเมื่อต่างฝ่ายต่างสนใจข้าวเช้า

“เออ แล้วมึงดูกระบองเพชรให้กูรึเปล่า”ไอ้ภูพูดเหมือนเพิ่งนึกออก ก็ไอ้ต้นกระบองเพชรที่มันไปซื้อมาเมื่อคราวก่อนนู่นนั่นแหละ

“มันไม่ตายหรอกน่า”ไม่ได้ดูหรอก ใครจะไปมีอารมณ์ทำแบบนั้น

“แล้วเมื่อคืน…”ไอ้ตินเอ่ยแทรกมา ผมรอฟังอย่างลุ้นระทึก สีหน้าของมันดูลังเลว่าจะพูดดีหรือไม่ แต่เมื่อผมยิ้ม มันก็พูดต่อทันที

“มึงได้ลงมาหาพวกกูรึเปล่า”มันถามแบบนี้แสดงว่ามีอะไรแน่ๆ ไอ้ภูวางช้อนลงเสียงดัง

“มึงคิดว่าไงล่ะ”ตอนเช้าแดดจ้าแบบนี้ ผมไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่

“พอดีตอนที่ลงมาจากห้องเมื่อกี้ กูแอบเข้าไปมองห้องว่างใกล้ๆบันได แล้วกูเห็นรูป…”

“น้องพี่มิน”ผมตอบ ไอ้ภูพยักหน้าช้าๆ

“ที่มันบอกว่าหน้าเหมือนมึงน่ะเหรอ”

“แล้วเหมือนไหมล่ะ”ผมหันไปหาไอ้ติน คิ้วของมันขมวดมุ่น หรือสังเกตอะไรได้

“ก็คล้ายๆ…”มันมองหน้าผมก่อนจะสนใจจานข้าวของตัวเองต่อ ส่วนไอ้ภูยังดูข้องใจอยู่ จู่ๆมันก็ตบโต๊ะเสียงดัง

“เมื่อคืน…มึงใส่เสื้อสีอะไรนะ”

“สีน้ำเงิน”ไอ้ภูกับไอตินมองหน้ากัน

“เพ้อเจ้อ”ไอ้ภูพึมพำเบาๆกับตัวเอง

“ช่างเหอะ พวกมึงไม่ต้องใส่ใจหรอก”เดี๋ยวจะประสาทหลอนไปใหญ่

“แต่กูข้องใจ”ไอ้ตินขมวดคิ้วมุ่น สายตามุ่งมั่น

“คืนนี้กูจะพิสูจน์”

“มึงจะบ้าเหรอ”ผมไม่อยู่พิสูจน์กับมันหรอกนะ

“กูจะพิสูจน์ด้วยเหมือนกัน”ไอ้ภูเองเหมือนอยากรู้ให้ชัด

“งั้นเชิญตามสบาย คืนนี้กูจะไปนอนบ้านลุงพี่มิน”ผมไม่อยากเจอไอ้น้องโมอะไรนั่นหรอก พูดจบผมกคว้าจานข้าวออกไปด้าน
นอก พี่มินกับพี่พิสกำลังสวีทกันอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนใต้ร่มไม้ ผมเดินเข้าไปนั่งแทรกกลาง ขัดบรรยากาศหวานแหววของทั้งคู่

“อะไรอีกล่ะเรา”พี่มินหันมามองด้วยแววตาเอ็นดูที่ทำผมขนลุกแปลกๆ

“คืนนี้ผมไปนอนที่บ้านลุงพี่ได้ไหม”

“พี่ไปด้วย”พี่พิสรีบเห็นด้วย เอ หรือว่าพี่พิสจะเจอไอ้น้องโมเหมือนกัน แล้วทำไมผมไม่เห็นยักจะเจอ แต่ก็ดีแล้วล่ะ ไม่งั้นผมคงประสาทเสีย

“ทำไมล่ะ บอกพี่ก่อน”พี่มินทำหน้าซื่อ

“อย่ามามึน”พี่พิสทำเสียงเข้ม

“ก็ได้ แล้วสองคนนั่นล่ะ”พูดถึงมันสองคนก็ออกมายืดแข้งยืดขาด้านนอกใกล้ๆโต๊ะที่ผมนั่งอยู่

“มันจะค้างบ้านนี้แหละ”เล่นอะไรของพวกมันก็ไม่รู้

“เหลือเชื่อ สองคนนั่นยอมห่างจากฟิกด้วยเหรอ”พี่มินหัวเราะเสียงดัง

“มันอยากเจอน้องพี่อ่ะ”พี่มินเลิกคิ้วก่อนจะตบเข่าตัวเอง

“ดีเลย พี่ก็อยากเจอเหมือนกัน”

“อย่างพี่เนี่ยนะ ไม่เจอ”ผมไม่รู้หรอกว่าเรื่องแบบนี้จริงแค่ไหน เรื่องบางเรื่องผมก็ไม่อยากรู้ มองข้ามไปดีกว่า ผมไม่บ้าแบบพวก
มันสองคน

“อืม สงสัยยังโกรธพี่อยู่ล่ะมั้ง”พี่มินพูดกับตัวเอง ไม่ได้ดูเศร้าแต่ดูเหงาๆจนผมนึกสงสาร พี่พิสถอนหายใจอยู่ข้างๆ

“พี่ว่าจะไปดูไร่ ฟิกไปด้วยกันไหม”

“ไปครับ”ผมอยากยืดเส้นยืดสายจะแย่แล้ว ผมหันไปมองลูกน้องอีกสองคน เห็นว่ามันเงียหูฟังอยู่

“มานี่มา ไปไร่กันเร็ว”ผมเดาะลิ้นเหมือนเวลาเรียกหมา มันสองคนทำหน้าเหนื่อยหน่าย แต่ก็ตามมาอยู่ดี

“เชื่องจริงๆ”พี่มินกวนประสาทมันสองคนตบท้าย ความจริงแล้วพี่พิสไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวเลยต้องมาด้วย ปั่นจักรยานเก่าๆไปคนละคัน พี่มินยืมมาจากคนงานในไร่ของป้าสายใจ พี่มินพาไปดูไร่ข้าวโพดกับไร่อ้อย และจำพวกถั่ว ไอ้ตินดูจะสนใจเป็นพิเศษ เหมือนมันอยากทำไร่อยู่เหมือนกัน ผมนึกไปถึงไอ้เจ้าคุณซะงั้น เพราะรายนั้นก็มีไร่ที่เชียงใหม่เหมือนกัน ผมพบว่าตัวเองไม่ได้หนักใจเรื่องนี้เท่าครั้งก่อนแล้ว ถ้าวันหนึ่งมันต้องไปเพราะเรื่องงาน ผมก็ไม่อยากขัดขามัน คำพูดของพี่พิสในห้องครัวทำให้ผมเข้าใจแจ่มแจ้งเลย ปล่อยไว้ให้เป็นเรื่องของอนาคตก็แล้วกัน

“ร้อนไหม”ไอ้ตินถาม มันหยิบเสื้อคลุมมาด้วย ซึ่งต่างจากผม ไม่รู้ไอ้ตินมันนึกเท่อะไรถึงถอดเสื้อคลุมส่งมาให้

“ไม่อยากให้มึงดำ ไม่ได้อยากทำตัวเป็นพระเอก”มันรีบดักก่อนที่ผมจะได้บ่น ผมหันไปมองไอ้ภูที่เดินรั้งท้ายคุยกับคนงานที่เพิ่งตัดอ้อยมาให้มัน เหมือนช้างที่อยากกินอ้อย ไอ้ภูนี่ทำให้ผมตลกได้กว่าที่คิดอีก

“ถ้าเหนื่อยก็พักก่อนก็ได้ ช่วงเที่ยงแดดจะยิ่งร้อน”พี่มินหันมาบอกพวกผม แต่พี่พิสยืนยันจะไปด้วย ผมไม่อยากขัดเวลาสวีทในไร่ข้าวโพดเลยขอนั่งพักที่ร่มไม้ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรงนี้ดีกว่า

“ถ้ากูดำกว่านี้ มึงว่ากูจะเข้มกว่านี้ไหม”ไอ้ภูขอความเห็น มันมองแขนของตัวเองอย่างพินิจ

“อยากได้ผิวแทนเหรอ นู่น มึงไปนั่งตากแดดตรงนู้นไป”ผมชี้ไปที่แดดจ้า ไอ้ภูหัวเราะเหลียวมองไปรอบๆก่อนจะโน้มมาหอมแก้ม
ผมอย่างรวดเร็ว

“ไม่มีคนเห็น”มันรีบพูด ผมหมั่นไส้จึงคว้าท่อนอ้อยที่กัดไว้ยัดปากมันซะเลย

“เล่นกันเหมือนเด็กเลยนะ”ไอ้ตินส่ายหน้าไปมาเหมือนผู้ใหญ่ที่เอือมระอากับเด็กซนๆ

“ช่วงที่กูไม่อยู่พวกมึงทำอะไรบ้าง เล่าให้ฟังหน่อยสิ”ผมก็อยากรู้ว่าทำอะไรกันบ้าง ไม่นับเรื่องที่ไอ้ภูเจอมา ผมจะทำเป็นลืมๆไปแล้วกัน

“กูไปค้างที่บ้านมา”ไอภูทำหน้าเหม็นเบื่อเมื่อนึกถึง มันยังพยายามกัดอ้อยของมันต่อไป

“ตรงข้ามกับผมเลย ผมไปค้างหอไอ้เบลล์”ไอ้ตินทำหน้าเหม็นเบื่อเช่นกัน แต่ก็แปลกจริงๆล่ะ ปกติแล้วมันต้องกลับกันไม่ใช่เหรอ

“แม่กูเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนทุกคืนเลยมึงรู้ไหม”น้ำเสียงมันเยาะเหมือนคล้ายจะบอกว่าเป็นเรื่องงี่เง่า แต่ก็มีรอยยิ้มปรากฏบนหน้า

“นิทานเรื่องอะไรล่ะ ใช่เรื่องน้องภูคนงอแงรึเปล่า”   

“ไอ้สัด”มันทำหน้าหงุดหงิด ตั้งท่าเหมือนจะเข้ามาต่อย แต่ผมรีบเปลี่ยนมานั่งข้างๆไอ้ตินได้ทัน

“พูดเล่นแค่นี้ก็โกรธ”สงสัยจะจี้ใจดำ

“ไม่ได้โกรธ”มันทำเสียงอ่อนก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เออ พักหลังๆมานี่กูเจอไอ้เน็ตบ่อยเหมือนกันที่หอ…”ผมเปลี่ยนเรื่อง

“อยากให้ย้ายไปอยู่ด้วยก็พูดมาตรงๆ”ไอ้ตินยิ้ม ทำมาอวดฉลาด ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวหรอก

“กูแค่เล่าให้ฟังเฉยๆ”

ระหว่างที่รอพี่มิน ผมกับมันสองคนก็เข้าสู่ช่วงเล่าสู่กันฟังเหมือนไม่ได้เจอกันหลายปี

“กลับไปกูกับพี่ภูมีของจะให้ด้วยนะ”ผมตาโตทันที แต่มันสองคนไม่ได้ขยายความต่อ คู่รักชื่นมื่นกลับมาจากทัวร์รอบไร่ มีหมาบ้านพุงพลุ้ยเดินหอบแฮ่กๆตามมา รู้มาว่าชื่อไอ้อุ้ย ชอบวิ่งไล่นก ขนาดหมายังขยันเลย

“ดูหมาไว้นะไอ้ฟิก อายมันบ้าง”ไอ้ภูได้ทีเอาคืน

“ตกลงคืนนี้ยังไงกัน ภูกับตินข้างกับพี่ใช่ไหม”ไอ้ภูเบ้หน้าเล็กน้อย

“ครับ พอดีผมอยากพิสูจน์อะไรนิดหน่อย”ไอ้ตินตอบด้วยเสียงมุ่งมั่น

“พี่ก็อยากพิสูจน์เหมือนกัน”พี่มินดูมุ่งมั่นพอกัน ผมได้แต่ถอนหายใจ เรื่องหลอนๆผมไม่ขอสู้ดีกว่า




*********************************************





ตอนเย็นก่อนที่ผมจะเตรียมไปค้างบ้านลุง ไอ้ตินก็ยื่นกุญแจรถมาให้

“ของอยู่ในกระโปรงหลังรถ”ผมตื่นเต้นอยู่เหมือนกันอยากรู้ว่ามันสองคนให้อะไรผม รถคันใหม่เอี่ยมจอดอยู่ใกล้ๆต้นไม้ต้นใหญ่ จะว่าไปผมได้นั่งไม่กี่ครั้งเองเพราะดันเกิดเรื่องซะก่อน ผมเปิดกระโปรงหลังรถ ผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นของที่อยู่ในนั้น เนี่ยน่ะเหรอ ของขวัญที่มันว่า ดอกบัวหลากหลายช่อทั้งตูมและบานเต็มกระโปรงรถไปหมด มีการ์ดใบเล็กๆเสียบอยู่ท่ามกลางช่อดอกบัวเหล่านั้น

‘รักและบูชา’

“ไอ้…”ผมพูดไม่ออก เก้ๆกังๆขึ้นมา พวกมันเล่นอะไรบ้าๆอีกแล้ว เอาดอกบัวมาให้ผมเนี่ยนะ ใครเป็นคนต้นคิด เดาว่าต้องเป็นไอ้ภูแน่ๆ ผมปรับอารมณ์อยู่สักพัก ก่อนจะกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง ไอ้ภูกับไอ้ตินนั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาว มันสองคนมีรอยยิ้มระบายอยู่บนหน้า

“เล่นอะไรของพวกมึงเนี่ย”ดีนะที่ไม่มีใครรู้ใครเห็น

“ไม่ได้เล่น หมายความตามนั้นจริงๆ”ไอ้ตินพูดด้วยเสียงจริงจัง จนผมนึกหาคำพูดมาเถียงมันต่อไม่ได้ ผมรู้สึกเก้ๆกังๆอีกรอบ จะ
บ้าตาย 

“เออ อะไรก็ช่างเหอะ วันหลังพวกมึงไม่ต้องทำแบบนี้แล้วนะ”

“เป็นแฟนกูนะ”

“ห๊ะ”พวกมันเป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย ผมอยากจะหัวเราะดังๆใส่มันสองคน

“มาขอตอนนี้เนี่ยนะ”ผมพยายามไม่หลุดหัวเราะ บรรยากาศแบบนี้ไม่ชินเลยจริงๆ มุ้งมิ้งเหมือนตอนผมมีแฟนคนแรกเลย

“เออ ไม่มีคำว่าสายเกินไปหรอก”ไอ้ตินทำขรึม ทั้งๆที่ตัวมันเองก็คงคิดว่าเป็นเรื่องน่าขำเหมือนกัน

“มึงขอกูเป็นแฟนแบบนี้น่ะเหรอ”ปวดหัวกับพวกมันจริงๆ

“แล้วจะให้ทำไงล่ะ คุกเข่าถือดอกบัวเอาไหม”ไม่รู้ไอ้ภูพูดจริงหรือพูดเล่น

“ถ้าทำแบบนั้นจริงกูโกรธยันชาติหน้าแน่”ผมเท้าเอวมองมันสองคน เหลียวมองดูว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้

“ตกลงจะเป็นแฟนกับกูไหม”ไอ้ภูมีท่าทีแปลกๆ เดาไม่ออกว่านั่นคืออาการเขินของมันรึเปล่า

“เออ เป็นก็เป็น”

“เหมือนกูบังคับมึงเลยว่ะ”ไอ้ตินเกาต้นคอแก้เก้อ

“ก็…อืม ตกลง….”ผมกลั้นใจพูดออกไปจนจบ

“ก็แค่เนี้ย พวกมึงชอบทำให้ยุ่งยากตลอด”ผมโวยเสียงดังกลบเกลื่อนอาการเขินอายของตัวเอง อาการแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับคนแบบผมเลยจริงๆ สงสัยนี่จะเป็นความรู้สึกของคนเวลามี ‘แฟน’จริงๆจังๆล่ะมั้งครับ แต่เดี๋ยว…ผมกับพวกมันนี่เลยคำว่าแฟนไปไกลโขแล้วล่ะ เรื่องนี้รู้ๆกันอยู่เนอะ   







TBC.
เอาครึ่งแรกมาหย่อนให้ก่อน ใกล้จบแล้วด้วย (มี30ตอน)
เจอกันหลังวันที่ 10 มีนาคมนะคะ รอกันก่อนน้าา :กอด1:



หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 24-02-2016 06:20:44
ขำตอนเปิดรถแล้วเจอดอกบัว 5555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 24-02-2016 07:18:23
 :impress2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-02-2016 08:31:29
โอ๊ย น่ารักมากๆเลย. ไม่ต้องไปท้าเจอน้องโมเลย คนอ่านไม่อยากหัวโกร๋นไปด้วย.  :laugh: :laugh:   
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 24-02-2016 09:48:33
รอตินกับภูเจอของดีจ้า 5555555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 24-02-2016 10:05:39
 :z2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 24-02-2016 10:14:16
ป่านนี้แล้วทำมาขงมาขอ อร้ายยยยยยย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 24-02-2016 12:19:41
รักและบูชา(เมีย)ต่อท้ายให้  :-[
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 24-02-2016 12:42:04
คนรัก คนหลงเมีย ก็แบบนี้แหล่ะ 5555+
รอสามหนุ่มท้าพิสูจน์ผี จะเจอดีหรือเปล่า??
พี่พิสกับฟิกคงไม่อยากท้าพิสูจน์หนีไปนอนที่อื่นเฉยเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: kjkjji ที่ 24-02-2016 13:55:16
น่ารักๆ น้องฟิกดูน่ารักขึ้นทุกตอนๆเลยอ่ะ
พี่พิสด้วย 5555555 นี่แอบขำตอนฟิกไปนั่งแทรกกลางนะ ทำไมน้องมันมุ้งมิ้งจังวะ
รอตอนหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-02-2016 15:06:54
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:  ตอนหน้าพี่ภูจิตสัมผัส กับตินญานทิพย์ 55555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 24-02-2016 17:10:36
กว่าจะเป็นแฟนกันนน 5555555555555
เกินแฟนมานานแค่ไหน
แล้วนี่จะเอาจริงเหรอเรื่องโม พี่ภูโอเคแน่นะ 55555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 24-02-2016 17:49:03
เอาดอกบัวมาขอเป็นแฟน5555 เเบบรักเเละบูชาเหลือเกิน

สามคนนั้นจะเจอดีไมเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: Aueizii ที่ 24-02-2016 17:51:45
รักและบูชา 555555 ชอบๆๆ
อ่านเรื่องนี้กี่ทีก็ชอบ รักที่สุดดดดดด  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: mammam ที่ 24-02-2016 19:17:01
555555รักและบูชาจริงๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-02-2016 20:17:22
อือฮือ รักและบูชา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 24-02-2016 20:46:42
แหมมมมมม พี่ภูพี่ตินรักและบูชา ช่างเข้าใจคิดจริงๆ
ว่าแต่แน่ใจแล้วเหรอที่จะล่าท้าพิสูจน์กันน่ะ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-02-2016 21:20:35
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ด้วยรักและบูชา

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 24-02-2016 23:01:58
บูชาของจริง  :jul3:
ถ้ามีธูปกับเทียนอีกอย่างละใช่เลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: .hnk ที่ 25-02-2016 02:31:29
ทำไมต้องดอกบัวว แล้วจะพิสูจน์ไรกันเธอว์
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 25-02-2016 07:36:20
โอเค มีพลังงานบางอย่าง
มีความมืด
มีความวังเวง
มีดอกบัว

หลอนสุด ๆ

ปล. ภูกับติน นี่คือพยายามหวานแล้วใช่ไหม
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: tukkata bambola ที่ 25-02-2016 12:46:55
ตอนนี้สามหน่อหน้ารักมากโดยเฉพาะฟิกน่าจับมาฟัดมาก555
รอสามคนท้าพิสูจน์ความกล้าอยู่นะพี่ภูคงไม่วิ่งก่อนคนอื่นนะ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: meuy ที่ 25-02-2016 13:21:26
น่ารักมากเลยค่า  ชอบจังง  ดอกบัวเคารพและบูชา 

สื่อคสามหมายได้ดีมาก 555555
 
 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 26-02-2016 12:07:19
แอบตีหัวฟิก
มัดตินห่อกลับบ้านเรา
อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งแรก] 24-02-59 P.37
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 26-02-2016 17:41:52
ภูตินน่ารักจริงๆ แฟนคนอื่นเขาให้ดอกกุหลาบ แต่สองคนนี้ให้ดอกบัวบูชาเมีย :m20:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 27-02-2016 06:32:06

ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง







ผมกับพี่พิสปลีกตัวมานอนค้างที่บ้านลุงกับป้าปล่อยให้พี่มิน ไอ้ภู ไอ้ติน พิสูจน์บ้าบอไป เรื่องแบบนี้ผมขอไม่ยุ่งดีกว่าครับ ยอมรับว่าปอดแหก ผมกับพี่พิสนอนด้วยกันที่ห้องว่างชั้นแรกของบ้าน อากาศเย็นเหมือนเคยและอาการนอนไม่หลับก็มาเยือน พี่พิสเองก็เช่นกันสงสัยจะเป็นห่วงพี่มินแน่ๆ

“เออ ฟิกว่าพวกนั้นจะเจอไหม”พี่พิสชวนคุยด้วยหัวข้อชวนหลอน

“...ไม่รู้สิครับ แล้วพี่พิสเคยเจอน้องพี่มินไหมอ่ะ”ผมถามบ้าง พอไม่ได้อยู่บ้านนั้นผมเลยไม่ค่อยจะกลัวเท่าไหร่ พี่พิสหันมามอง
ในความมืด

“อืม...ไม่รู้สิ ไม่แน่ใจ อาจจะเคยหรือไม่เคย”คำตอบของอีกฝ่ายทำผมงงไปด้วยเลย

“แค่ฝันถึงเฉยๆ”พี่พิสกระซิบ เล่าให้ฟังคร่าวๆว่าฝันถึงน้องโมเมื่อตอนที่ค้างคืนแรก ผมรู้สึกโชคดีจริงๆที่หลับเป็นตาย

“มินมันไม่เคยเล่ารายละเอียดเรื่องน้องชายมันให้พี่รู้เลย...แต่พี่ก็ไม่ได้อยากรู้มากขนาดนั้นหรอกนะ แค่อยากเป็นคนที่มันพร้อม
จะแชร์เรื่องราวให้ฟังเฉยๆ”ผมมองหน้าพี่พิสที่เห็นเลือนลาง

“บางทีพี่มินอาจจะยังไม่พร้อมก็ได้ครับ ถึงจะเป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว แต่สำหรับพี่มินก็คงยากถ้าจะพูดถึงเรื่องครั้งนั้น พี่พิสไม่ต้องคิดมากหรอก”ผมนอนมองเพดานมืดๆอย่างเลื่อนลอย

“พี่ไม่รู้เลยว่าในอนาคตเรื่องของพี่กับมันจะเป็นยังไงต่อ ฟิกอาจจะยังไม่รู้ แต่ไอ้มินเนี่ยตัวดีเลย ไอ้เรื่องเจ้าชู้”บรรยากาศระหว่างผมกับพี่พิสทำไมกลายมาเป็นการปรับทุกข์ไปได้ แต่ผมก็พอนึกภาพออกนะว่าพี่มินทำงานในวงการแบบนี้มันต้องยุ่งเกี่ยวกับสาวๆนางแบบนายแบบเยอะ

“ถึงพี่มินจะ...ดูมึนๆแต่ผมเชื่อว่าพี่เขาไม่นอกใจพี่พิสแน่ครับ”ไม่มีเสียงตอบสนองมาจากอีกฝ่าย มีเพียงเสียงลมหายใจที่ทำให้รับรู้ว่าเพื่อนร่วมเตียงยังไม่หลับ

“พี่เชื่อแบบนั้นเหมือนกัน แต่บางทีมันก็คิดมากเป็นธรรมดา พี่พยายามปรับนิสัยตัวเองอยู่ พี่รู้ว่าตัวเองเอาแต่ใจมากไปหน่อยจนกลัวว่าสักวันหนึ่งไอ้มินมันจะทนไม่ไหวเอา”พี่พิสหัวเราะเบาๆ แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าพี่เขากังวล

“ไม่มีใครเพอร์เฟ็คร้อยเปอร์เซ็นหรอก ผมก็เหมือนพี่นั่นแหละ มีข้อเสียเหมือนกัน ขึ้นอยู่ว่าจะมองข้ามหรือปรับปรุงแค่นั้นเอง”คำพูดของไอ้ฟิกหล่อจริงๆ

“เมื่อก่อนพี่เคยชอบฟิกด้วยนะ ลืมหรือยัง ชอบไปได้ไงก็ไม่รู้”อ้าว ผมนอนฟังพี่พิสหัวเราะ

“ตอนที่ฟิกช่วยพี่ออกมาจากดงตีนเพื่อนพี่ภู ตอนนั้นพี่ก็รู้เลยว่าฟิกเป็นคนดี ถึงภายนอกจะดูไม่ได้เรื่อง”

“อย่าชมมากครับ เดี๋ยวผมชิน”นับวันมีแต่คนชมผม โลกเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ ผมกับพี่พิสพยายามนอนให้หลับ พลิกซ้ายพลิกขวาก็แล้ว ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา ตีหนึ่งกว่าๆแล้ว ป่านนี้บ้านนั้นจะเป็นไงบ้างวะ

“พี่พิส ผมว่าจะลองไปดูไอ้พวกนั้นสักหน่อย”ไม่เห็นโทรมาหาผมบ้างเลย

“เอาจริงเหรอ...งั้นพี่ไปด้วย”

สุดท้ายผมกับพี่พิสก็พากันย่องออกจากบ้าน ถือไฟฉายคนละกระบอก ด้านนอกไม่ค่อยมืดมากนักเพราะดวงจันทร์กระจ่างใสบนฟากฟ้าสีหมึก มองเห็นกลุ่มดาวได้ชัดเจน ผมรักบรรยากาศแบบนี้จัง พี่พิสปิดรั้วบ้านอย่างเบามือ สองข้างทางเงียบสงัด มีเพียงเสียงจิ้งหรีดร้องระงม ผมสาดไฟฉายไปรอบตัว หวั่นใจนิดหน่อยเหมือนกัน พี่พิสเองก็กวาดสายตาไปทั่ว ผมได้แต่รีบก้าวฉับๆให้ถึงบ้านอีกหลังไวๆ พยายามมองตรงไปข้างหน้าไม่วอกแวกต่อเสียงใดทั้งนั้น

“...ใครน่ะ”พี่พิสสะกิดแขนผมเมื่อเห็นร่างตะคุ่มๆนั่งอยู่นอกรั้วบ้าน ผมส่องไฟไปที่ร่างนั้น โล่งอกเป็นปลิดทิ้งเมื่อพบว่าเป็นไอ้ภู แล้วมันมานั่งหมดสภาพอะไรตรงนี้ ผมเข้าไปใกล้ๆ

“เฮ้ย ภู มานั่งทำไมตรงนี้”ผมชะเง้อเข้าไปในบ้านที่ยังเปิดไฟสส่างจ้าทั้งๆที่ดึกแล้ว ไอ้ภูไม่ตอบ แต่อ้วกออกมาแทน ผมย่นจมูก
เมื่อได้กลิ่นเหล้าหึ่ง

“นี่กินเหล้ากันเหรอ”พี่พิสทำเสียงเหลือเชื่อก่อนจะเดินดุ่มเข้าไปในบ้านอาการกลัวหายไปปลิดทิ้ง ผมยืนมองไอ้ภูแหวะเอาของ
เก่าออกมาอย่างเอือมๆ มันใช้แขนเสื้อเช็ดปาก เงยหน้ามองผมแล้วผงะหงายหลังไปซะงั้น

“ไอ้สัด”มันสบถพร้อมกับขว้างก้อนหินก้อนเล็กๆใส่ผมเป็นการตบท้าย

“เป็นบ้าอะไรของมึงเนี่ย”ผมกลั้นขำสุดฤทธิ์ สภาพไอ้ภูมันน่าขำจริงๆ เมื่อกี้ตอนที่มันเห็นผมมันดูตกใจมากจริงๆ

“มึงเหรอ...”มันพึมพำก่อนจะยกมือลูบหน้าตัวเอง

“เออ คิดว่าใครล่ะ”ไอ้ภูตอนเมานี่หลุดหลายอย่างจริงๆ ผมดึงแขนไอ้ตัวหนักให้ลุกขึ้น มันเกาะผมไว้ก่อนจะยื่นหน้ามากัดหูผมเต็มแรง

“เชี่ย กัดกูทำไมวะ”ผมฟาดไหล่มันกลับ

“เออ ตัวจริงเสียงจริง”มันพึมพำเบาๆก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านด้วยอาการเซเล็กน้อย เออ ไอ้ภูท่าจะประสาทเสียไปแล้วจริงๆ ผมตามเข้าไปในบ้าน พี่มินนั่งกอดเข่าเอาหน้าซบท่อนแขนอยู่กลางบ้าน ขวดเบียร์และเหล้าอยู่ไม่ห่าง พี่พิสทำหน้าเซ็งมองอยู่ข้างๆ ไอ้ตินกำลังเก็บกวาดของที่หกเลอะเทอะด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ

“กูไม่กลัวผีเด็กหรอกเว้ย”ไอ้ภูตะโกนลั่นบ้านทำเอาทั้งผมและคนอื่นๆสะดุ้ง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก

“เมายังเนี่ย”ผมถามไอ้ตินที่ยังขยันอยู่คนเดียว

“ยัง ถ้ากูเมานะ...สภาพไม่ใช่แบบนี้หรอก”มันตอบขำๆ ผมได้ดูคลิปที่พี่เบลล์มันอัดไว้เหมือนกัน เมาแล้วบ้าจริงๆ ผมก็ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นแบบนั้นได้เลย ก็นะ น้ำเปลี่ยนสภาพ จากคนเป็นหมาดีๆนี่เอง ดูไอ้ภูเป็นตัวอย่างได้

“มึงกินไรมารึเปล่าเนี่ย ขยันอะไรตอนนี้”ผมเข้าไปดมมันใกล้ๆเพื่อสูดกลิ่นแปลกปลอม

“คิดบ้าๆ”ไอ้ตินเคาะหน้าผากผมเต็มแรง

“ถ้ากูไม่เก็บ ขี้เมาตัวไหนจะเก็บ”

“กูไง”ไอ้ภูเพ้อตอบกลับมา ไอ้ตินทำหน้าเอือม ก่อนจะยกจานเข้าไปในห้องครัว ผมตามเข้าไปติดๆ อยากจะถามมันใจจะขาดว่าเจออะไรบ้างไหม แต่ตอนนี้ยังไม่กล้าพูด ได้แต่จ้องหน้ามันแบบอยากรู้

“มองหน้าทำไม”

“กูอยากรู้”ผมกระซิบเบาๆ ไอ้ตินผินมองเล็กน้อยแต่ไม่ได้ตอบอะไรทั้งสิ้น ล้างจานของมันไปเรื่อย ผมได้แต่นั่งเฝ้า อย่างน้อยอยู่กับคนสติดีก็ยังดีกว่าคนเมา สักพัก พี่พิสก็ตึงตังเข้ามาด้วยสีหน้าหงุดหงิด

“เป็นอะไรครับ”ไอ้ตินถามงงๆ

“ไอ้มินน่ะสิ เมาแล้วเพ้อเจ้อ”ผมลองชะเง้อหน้าออกไปมองบ้าง ก็เห็นว่าพี่มินนั่งเพ้อกับขวดเหล้าคนเดียว ไอ้ภูนอนสลบอยู่ใกล้ๆ

“อ้อ...”ไม่รู้ว่าพี่มินเพ้ออะไร แต่คงไม่ใช่เรื่องน่าฟัง คนเมานี่มันเรื้อนจริงๆ

“แล้วคิดไงกินเหล้ากัน”พี่พิสยังฉุนไม่หาย

“ก็...พอดีเล่นอะไรเพลินๆแล้วอยากขึ้นมาน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”ไอ้ตินไหวไหล่ แต่ผมว่ามีแน่ๆแค่มันไม่พูดเท่านั้นเอง

“เล่น?”

“ก็...”ไอ้ตินกำลังจะตอบแต่ก็ถูกขัดโดยพี่มินที่โผล่พรวดเข้ามาในห้องครัวด้วยอีกคนพร้อมกับโถมกอดพี่พิสเต็มแรง

“มึงปล่อยเดี๋ยวนี้”พี่พิสเลือดขึ้นหน้า เขินหรือโกรธก็ไม่แน่ใจ

“ไม่”

ผมกับไอ้ตินมองหน้ากัน เห็นตรงกันโดยอัตโนมัติว่าควรปล่อยให้สองคนนี้อยู่ตามลำพังดีกว่า

“อยากกินตีนกูนักใช่ไหม จะเอาให้หายเมาเลยมึง”จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังตุ้บ คู่นี้รักกันแปลกๆ ตั้งแต่ตอนจีบกันแล้วนะ ผมกับไอ้ตินช่วยกันพาไอ้ภูขึ้นไปนอนบนห้อง แอบเหลือบมองห้องที่เปิดประตูทิ้งไว้ ดันเหลือบไปเห็นโต๊ะญี่ปุ่นเล็กๆมีกระดาษอะไรสัก
อย่างกางอยู่ แต่เมื่อเห็นแก้วเล็กๆวางอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลผมก็เข้าใจทันทีว่าพวกมันเล่นอะไรกัน ผมถึงกับร้อนๆหนาวๆ ไอ้พวกนี้ไม่บ้าก็เมาแน่ๆ เมื่อมาถึงห้องแล้ว ไอ้ตินก็ปล่อยไอ้ภูลงบนเตียงดังตุ้บพร้อมกับสะบัดแขนแก้เมื่อย

“เชี่ย”ไอ้ภูพึมพำพลางพลิกตัวไปอีกด้านอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ไอ้ตินหันมายิ้มให้ผม

“สุดท้ายก็ต้องกลับมานอนนี่อยู่ดี”

“เออ ไม่น่ามาเลยจริงๆ”ผมบ่นลงไปนอนเบียดกับไอ้ภู

“แล้วทำไมถึงมาล่ะ นึกว่ากลัวซะอีก”ไอ้ตินส่งผ้าห่มผืนบางมาให้ ก่อนจะลงมานอนเบียดบ้าง

“กลัวพวกมึงช็อคตายไง”

“ระดับนี้แล้ว...”ไอ้ตินยิ้มยิงฟันในความมืด ผมนอนหันหลังให้ไอ้ภูเพราะเหม็นกลิ่นเหล้าที่ฟุ้งออกมาเวลาที่มันหายใจ

“หลับเถอะ อยู่กับกู ผีที่ไหนไม่กล้ามาหลอกแน่นอน”ไอ้ตินพูดติดตลก ทำผมกลัวขึ้นมา อุตส่าห์ไม่คิดแล้วเชียว

“มึงนั่นแหละ หุบปากแล้วนอนซะ”ผมหลับตาลง รับรู้ว่าไอ้ภูขยับมาซุกหลัง พ่นลมหายใจอุ่นๆใส่ให้จักจี้เล่น มืออุ่นของไอ้ตินเอื้อมมาเกลี่ยเส้นผมเบาๆ เหมือนจะกล่อมให้หลับ และคืนนั้นก็หลับฝันดีซะด้วย





********************************************






ยามเช้ามาเยือนอย่างรวดเร็ว ผมสะดุ้งตื่นก่อนเป็นคนแรก พบว่าอากาศยังเย็นอยู่เหมาะแก่การนอนต่อมากๆ ฟ้ายังไม่แจ้งเลยด้วยซ้ำแต่เจ้าไก่แถวนี้ดันร้องขันกันระงม ผมสะลึมสะลือหลับต่อ จนเมื่อรู้สึกว่าปลายเท้าเย็นๆ แลจั้กจี้เหมือนมีคนมาเกาเล่น ผมสะบัดขาเหมือนปัดไล่ยุงน่ารำคาญ ลืมตาขึ้นมามองแว๊บเดียวแต่เห็นแค่หลังไวๆของใครบางคน ผมหยีตามองไอ้ตินที่ยังหลับสนิท ได้ยินเสียงดังมาจากในครัว พี่มินคงตื่นแล้วมั้ง หรือว่าเป็นพี่มินที่เข้ามาปลุก ผมดึงผ้าห่มคลุมหัวเมื่อนึกได้ว่าพี่มินตัวสูงกว่านี้

ไม่ใช่หรอกมั้ง....ผมคงคิดไปเองแน่ๆ

ผมได้แต่รอเวลาให้ฟ้าสว่างกว่านี้ค่อยลงไปด้านล่าง เพราะเช้ามืดแบบนี้อาจจะมีอะไรก็ได้ เออ ว่าแต่เมื่อคืนพี่มินกับพี่พิสนอนตรงไหนกัน

“หายใจออกเหรอ”เสียงงึมงำของไอ้ภูดังขึ้นพร้อมกับผ้าห่มของผมหลุดออกไป อากาศบริสุทธิ์ไหลเข้ามาเต็มปอด ไอ้ภูมองผม
ขำๆ เอื้อมมือมาปาดเหงื่อแถวไรผมออกให้

“บ้าเปล่าเนี่ย ร้อนแล้วห่มผ้าทำไม”

“กูหนาว”ผมยื้อผ้าห่มกลับมา

“เห็นอยู่ว่าเหงื่อออก”มันไม่ยอมเอาผ้าห่มให้ผม ไอ้ตินขยับตัวไปมาคล้ายกับรำคาญ

“มา เดี๋ยวกูกอด จะได้อุ่นๆ”มันขยับมารวบผมไปกอด หน้าชิดกับแผงอกแน่นๆของมันจนหายใจแทบไม่ออก

“เหม็นเหล้า”

“ไม่เห็นมีกลิ่นเลย”ไอ้ภูตอบหน้ามึน ผมได้แต่นอนนิ่งๆจนมันคลายอ้อมกอดเอง

“มึงมาตอนไหนนะ”มันทำหน้างงๆ

“ตอนตีหนึ่งกว่าๆไง”ไอ้ภูยังคงนิ่วหน้าอยู่

“อ้อ...มึงเจอกูตอน..กำลังอ้วกพอดีใช่ไหม”

“เออ”ผมเห็นว่ามันดูโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด

“มึงกลัวว่าจะไม่ใช่กูเหรอไง”ผมหัวเราะหึๆเมื่อนึกถึงตอนที่มันตกใจจนหงายหลังที่เห็นผม

“ไม่ใช่เว้ย”มันตอบปัด แต่ยังดูข้องใจอยู่ ผมขยับตัวเอื้อมไปเปิดสวิทซ์ไฟที่หัวเตียง

“กูยังงงๆอยู่เลย ดีนะที่กูจำกลิ่นน้ำหอมมึงได้”ไอ้ภูขยี้ตามึนๆ

“กูตื่นมาตอนตีห้าทีนึง...”ไอ้ภูขมวดคิ้วก่อนจะหันมามองหน้าผม

“มึงได้ลุกไปไหนไหมวะ”

“หลอนล่ะไอ้ภู”ผมคว้าหมอนมาฟาดหน้ามันเต็มแรง ข้อหาที่ทำให้ผมกลัว สงสัยผมกับไอ้ภูทำเสียงดังไปหน่อย จนไอ้ตินตื่นมาทำหน้ายุ่งใส่

“คุยไรกัน”มันบิดตัวไปมาไล่ความขี้เกียจ ตอนนี้ฟ้าเริ่มแจ้งแล้ว ผมมอไปรอบๆก่อนยิงคำถามใส่พวกมัน

“เมื่อคืนพวกมึงเจออะไรไหม”เล่นผีถ้วยแก้วกันด้วยอีก บ้าจริงๆ

“อืม...”ไอ้ตินเกาคอแกรกๆทำหน้าเหมือนไม่อยากพูด

“ไม่แน่ใจว่ะ ตอนเล่นผีถ้วยแก้วมันก็พิสูจน์อะไรไม่ได้อยู่ดี”

“ไอ้มินดันแก้ว ชัวร์”ไอ้ภูย่นหน้าพยายามนึกเหตุการณ์เมื่อคืน

“แต่อาจจะเจอหรือไม่เจอก็ได้ ถ้าคิดว่าเจอก็คือเจอ”ไอ้ตินไหวไหล่

“แล้วมึงคิดว่าเจอไหมล่ะ”ทั้งผมและไอ้ภูต่างก็รอคำตอบของไอ้ติน คนแบบมันจะตอบว่าอะไร?

“กูคิดว่าเจอ....ไม่รู้ดิ เมื่อคืนก็มึนๆเบลอๆ”มันหัวเราะไปด้วย

“ไหนบอกจะไม่กินแล้วไง เหล้าเบียร์อ่ะ”ผมวกกลับมาที่ประเด็นนี้อีกครั้ง

“เผอิญตอนที่เล่นผีถ้วยแก้วกัน น้องพี่มินตอบมาแบบนี้”ไอ้ตินทำหน้าไม่แน่ใจ ก้ำกึ่งเชื่อกับไม่เชื่อ

“ช่างเหอะ เรื่องบ้าๆ”ไอ้ภูขัด มันดูประสาทเสียเวลาพูดถึงเรื่องนี้

“มึงว่าไงล่ะ คิดว่าเจอหรือไม่เจอ”ผมหันไปถามบ้าง

“ไม่ต้องรู้หรอก”

“กูว่ามึงกลัวแน่ๆ”ผมล้อเลียน

“เออ กูเจอ ยืนยิ้มอยู่ที่ปลายเตียงตรงที่มึงนอนเลย เมื่อตอนตีห้าอ่ะ”พูดจบมันก็โยนผ้าห่มใส่ผม

“มึงพูดเล่นใช่เปล่า”มันหันมาทำหน้ากวนประสาทก่อนจะออกไปจากห้อง ทิ้งให้ผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ อย่าบอกนะที่มาแกล้งผมเมื่อเช้ามืดคือไอ้โมจริงๆ

“อย่าคิดมากน่า แค่มายืนยิ้มให้จะกลัวไร”ไอ้ตินหัวเราะก่อนจะหนีลงจากเตียงอีกคน ไอ้พวกนี้ถนัดนัก เรื่องกวนประสาทผมเนี่ย
ไอ้โม...บอกแล้วไงว่าอย่ามาต้อนรับกู

ผมรีบเผ่นลงมาชั้นล่างทันที ช่วงที่ผ่านของไอ้เด็กโม ผมรีบจ้ำโดยไม่แลแม้แต่น้อย  ไอ้ภูกับไอ้ตินนั่งหาวหวอดๆอยู่ที่เก้าอี้ยาวในห้องโถง มีหมอนกับผ้าห่มกองอยู่แถวนั้น เป็นของพี่มินกับพี่พิสแน่

“วันนี้จะกลับแล้วนะ”ไอ้ตินบอกเมื่อผมเข้ามาใกล้

“กลับไวจัง”ตอนแรกตั้งใจจะอยู่เที่ยวแถวนี้ซะหน่อย

“ถ้าอยากเที่ยวต่อก็ไม่ว่า พอดีพี่ภูต้องกลับไปคุยธุระกับพ่อที่บ้าน”ไอ้ตินหันไปหาไอ้ภูเหมือนจะบอกว่าให้พูดเอง

“มีอะไรก็บอกมาเร็วๆ”ธุระกับพ่อมันคงไม่ใช่เรื่องเล่นๆแน่ ไอ้ภูกระแอมก่อนจะพูด

“ช่วงปิดเทอม พ่อกูจะให้ไปลองทำงานกับญาติที่อังกฤษ”ผมใช้เวลาประมวลผลอยู่สักพัก

“ไปวันไหน”ผมกลับมาหมวดจริงจังอีกครั้ง

“อีกสองวัน กูเลยมาหามึงไง อยากบอกก่อน”ผมมองหน้าไอ้ภูอยู่นาน ก็แค่ไปช่วงปิดเทอมเอง แค่สองอาทิตย์....ไม่เห็นจะนาน ทำไมผมต้องใจหวิวๆด้วยก็ไม่รู้

“อ้อ..”ผมตอบได้แค่นั้น

“กูมีอีกคำถาม ให้โอกาสตอบแค่ครั้งเดียว”ไอ้ภูทำหน้าจริงจัง ผมมองหน้าไอ้ตินงงๆ รอยยิ้มบนหน้าของอีกฝ่ายบ่งบอกว่ารู้เรื่องอะไรแน่ๆ

“ถามมาดิ”ผมเร่งเมื่อมันไม่ถามมาเสียที

“มึงจะไปลอนดอนกับกูไหม”ไม่คิดว่ามันจะชวนคนอย่างผมไปด้วย

“ตั้งสองอาทิตย์เชียวนะ เสียดายถ้ามึงไม่ไป เพราะกูก็ไปเหมือนกัน”ไอ้ตินยิ้ม ผมเนื้อเต้นทันที อย่างไอ้ฟิกจะได้ไปเหยียบแผ่นดินเมืองนอกแล้วโว้ย แต่แล้วความจริงก็ตอกย้ำผมอย่างจัง

“กูไม่มีตังค์ว่ะ”พูดแล้วก็ขำ พวกมันหัวเราะพร้อมกัน

“ไม่ต้องห่วง พ่อกูอวดรวยพูดเองเลยว่าจะเอาใครไปก็ได้”มันทำหน้าสะใจ ไม่รู้ว่าตั้งใจเอาคืนพ่อมันหรือว่าอยากชวนผมกับไอ้ตินไปจริงๆ

“เออ ถึงงั้นก็เหอะ ค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อยๆ”

“กูให้กู้ ดอกเบี้ยไม่คิด ขอแค่....”ไอ้ตินส่งสายตาวิบวับ ความจริงผมก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้างเพราะเงินที่แม่ส่งมาให้ทุกเดือนปกติผมก็ไม่ค่อยได้เอามาใช้อยู่แล้ว ไอ้สองตัวนี่ชอบออกให้ทำตัวป๋าตลอด แต่ผมอยากเก็บไว้ทำอย่างอื่นไง เช่นบ้านของผมกับพวกมัน ผมชั่งใจอย่างหนัก เรื่องบ้านอีกตั้งนานกว่าจะเป็นรูปเป็นร่าง...งั้นผมขอเลือกปัจจุบันก่อนก็แล้วกัน

“เออ ก็ได้ กูไปด้วย แต่ไงลองถามแม่อีกทีก่อน”เผื่อจะให้ค่าขนมผมเพิ่ม พวกมันสองคนถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ตอนแรกกูคิดว่ามึงจะไม่ยอม”ไอ้ภูทำหน้าเหมือนได้รับชัยชนะ

“อะแฮ่ม ขอขัดเวลาแช่มชื่นหน่อยนะ”พี่มินออกมาจากครัว สวมชุดกันเปื้อนสีเขียว บวกกับแว่นตาแบบนี้ทำให้อีกฝ่ายดูเหมือนตัวการ์ตูน มีรอยฟกช้ำที่แขนด้วย คาดว่าฝีมือพี่พิส

“เมื่อคืน....พี่นอนกับพิสใช่รึเปล่า”พี่มินทำหน้ามึนๆ ผมกวาดมองไปรอบๆจะว่าไปตอนนี้ผมยังไม่เห็นพี่พิสเลย

“จะไปรู้เหรอ”ไอ้ภูตอบเสียงหงุดหงิดทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องลี้ลับ เสียงพูดคุยจากด้านนอกดังใกล้เรื่อยๆ มีเสียงลุงกับพี่พิส พี่มินม
องหน้าผมงงๆ

“ตื่นกันแล้วเหรอ”พี่พิสโผล่หน้าเข้ามาดู สีหน้าสดชื่นต่างจากพวกผมลิบลับ

“เมื่อคืนพิสนอนที่ไหน”พี่มินถามสีหน้างุนงง

“กลับไปนอนบ้านลุง ไม่อยากนอนกับขี้เมา”ใบหน้าของอีกฝ่ายแดงน้อยๆเมื่อพูดถึงก่อนเจ้าตัวจะกระแอม

“เอาผ้าห่มกับหมอนให้แล้ว ไม่พอใจอะไรอีก”พี่มินเหมือนวิญญาณออกจากร่าง

“เจอแกล้งซะแล้ว”พี่มินพึมพำ

“แกล้งอะไร”พี่พิสก็ช่างสงสัยเหลือเกิน

“เกาเท้าไง”พี่พิสทำหน้าไม่เข้าใจ แต่คำตอบของพี่มินตอกย้ำความจริงให้แจ่มชัด สรุปว่าผมโดนแกล้งเหมือนกันใช่ไหม คิดแล้ว
ร้อนๆหนาวๆ ผมลองสะกิดไอ้ภู

“มึงเจอป่ะ”มันทำตาดุใส่

“ไม่เจอ”ท่าทางแบบนี้ผมว่ามันโกหกแน่ๆ เฮ้อ สรุปว่าโดนต้อนรับกันหมดบ้านเลยสินะ แสบเกินไปแล้ว ไอ้เด็กแตงโม

ช่วงสายๆผมกับพวกมันก็เตรียมตัวกลับ บอกลาไอ้โมเสร็จก็มาลาคนพี่

“ผมกลับก่อนนะ ไว้วันหลังผมจะชวนเที่ยว”ผมสวมกอดพี่มินหลวมๆ อีกฝ่ายตบบ่าผมเบาๆ

“ดูแลตัวเองดีๆล่ะ น้องชาย”วูบนึงแววตาของพี่มินดูจะเศร้าๆแต่ก็แค่แวบเดียว ผมใจไม่ดีเลยที่เห็นคนที่กวนประสาทมีท่าทาง
แบบนี้ หวังว่าพี่พิสจะช่วยเยียวยาพี่มินได้

“พี่ก็ด้วยล่ะ มองไปข้างหน้าได้แล้ว”ผมโบกมือลา ไอ้ภูกวนประสาทด้วยการบีบแตรรถติดๆกันเพื่อเร่งผม

“เออ พี่มิน ผมก็เจอนะ เกาเท้าอ่ะ”อีกฝ่ายหลุดหัวเราะทันที

“แสบใช่ไหมล่ะ”เสียดายที่ไม่ได้เจอกันแบบตัวเป็นๆ คงจะสนุกน่าดู ผมกลับมาที่รถ เอาของเก็บที่กระโปรงหลังรถเห็นดอกบัว
เหี่ยวๆในนั้นแล้วอารมณ์ดีเป็นพิเศษ รักและบูชาเหรอ ขอให้จริงเถอะ ไม่อย่างนั้นผมจะส่งดอกไม้จันทน์ให้มันสองคนแน่




********************************************





TBC.
พักอ่านหนังสือเลยเอาครึ่งหลังมาลงให้จบ ><
ตอนหน้าสามหน่อไปลอนดอนแล้วค่ะ อาจได้เห็นตัวละครเก่าอีกตัว!(ใครกันนะ?)
อีกสองตอนจะจบแล้วนะคะ อยู่ด้วยกันก่อนเน้ออ กอด  :กอด1:


หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-02-2016 06:51:58
 o13.  แค่เกาเท้าเองสินะ
ตามไปมุ้งมิ้งกันต่อที่ลอนดอนดีกว่า ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 27-02-2016 07:13:02
แตงโมน้องพี่มินคงเหงานะ พอมีคนมาเยี่ยมเลยออกมาทักทาย~~
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 27-02-2016 07:30:32
แอ๊ ถึงอ่านตอนเช้าก็ยังหลอนอยู่ดี เหอๆโดนกันถ้วนหน้า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 27-02-2016 08:14:23
น่ารักไปอีกดิ สามหน่อ
งื้อออออออ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: meuy ที่ 27-02-2016 08:14:45
เจอกันถ้วนหน้าเลย  ยืนยิ้มที่ปลายเตียงนี่หลอนจริงๆ

 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 27-02-2016 08:50:46
เจอดีกันถ้วนหน้า   o22   แอบเศร้ากับพี่มิน คงจะคิดถึงน้องโมมากแน่ๆ น้องโมก็เหงา ไม่มีใครมาหานานแล้ว พี่มินที่ไม่ค่อยกลับก็คงเพราะทำใจเรื่องน้องโม แต่พี่มินทำใจเถอะนะน้องโมจะได้ไม่ต้องห่วง น้องไปดีแล้ว คิดถึงก็มาหาเขาบ่อยๆ  :mew6:  ส่วนสามหน่อนี่รักกันดีจริงจริ๊งงงง ให้ดอกไม้ก็ไม่เหมือนคนอื่นเขา ทำให้ได้อย่างที่ให้นะ ไม่งั้นน้องฟิกจะเอาไปผูกใส่มือพวกแกแทน  o18 ยินดีด้วยจ้าที่จะได้ไปฮันนีมูนที่ลอนดอน   :mc4:   แหม่ๆ ถ้าฟิกไม่ไปนี่ แล้วพี่ตินเกิดอยากไปเที่ยว กลายเป็น ตินภู ฮันนีมูนเลยนะเนี่ย  :hao6:  ดีแล้วไปไหนไปด้วยกัน ที่เพิ่มเติมคือความรักความมั่นใจให้มากๆ รอไปลอนดอนด้วยคนนะ สามหน่อ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-02-2016 09:33:08
หลอนกับโมจริงๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 27-02-2016 09:37:46
ขำอ่ะ  ภูตินให้ดอกบัวบอกว่ารักและบูชา  ดีนะไม่เอารูปใส่กรอบเลี่ยมทองห้อยคอไปไหนมาไหนด้วย :hao7:
ส่วนฟิก....ดอกไม้จันทร์  สงสัยมีแถมโลงให้ด้วยแน่ๆ :ruready

ปล.อ่านตอนแตงโมมาต้อนรับทุกคน  แล้วสงสารพี่มินมาก  เฮ้อ  คนตายยังอยู่ใกล้ๆใครบ้างจะไม่คิดถึงและบอกกับตัวเองว่า  ถ้าคนที่ตายยังมีชีวิตอยู่ก็คงดีสินะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 27-02-2016 10:08:23
แหมมมมมม น้องแตงโม ออกมาหน่อยเดียวเอง
มารอเจอเลยนะเนี่ย o3
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 27-02-2016 10:49:09
โถ่ นึกว่าจะมีไรมากกว่านี้  น้องโมมมม
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 27-02-2016 11:55:35
เจอกันท้วนหน้า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 27-02-2016 12:22:49
ขำพี่ภูตอนตกใจฟิกมาก 455555555555
เนี่ กลัวแล้วจะเล่นทำไมมมม
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: mammam ที่ 27-02-2016 13:13:13
ถ้าเจอกันนี่ต้องเรัยกสองแสบแหง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-02-2016 15:20:02
โดนตลอดไอ้เรื่องผีๆเนี่ย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 27-02-2016 15:37:15
พี่ภูก็กลัวน้องโมสิน่ะ
ตอนหน้าไปอังกฤษกัน คงไม่มีฝรั่งมาจีบฟิกน่ะ สองหนุ่มหึงตาย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 27-02-2016 15:49:15
น้องโมผู้ทั่วถึง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 27-02-2016 15:50:30
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 27-02-2016 16:22:47
เจอกันหมดแล้ว 555 หลอนเบาๆ ตอนหน้าสามหน่อโกอินเตอร์ต้องสนุกมากๆแน่เลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 27-02-2016 17:07:47
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 27-02-2016 17:40:47
โมจอมแสบ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 27-02-2016 17:54:15
หลอนไปกับสามหน่อด้วย

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-02-2016 19:54:10
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 27-02-2016 20:42:13
โดนกันถ้วนหน้าเลยจร้า
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 27-02-2016 21:57:11
ตอนหน้าถือว่าไปฮันนีมูนเลยสินะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 27-02-2016 22:46:29
ภูกลัวผี 55
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 27-02-2016 23:39:09
แหม พี่ภูเหมือนจะโดนหนักสุด
เพราะไปพูดท้าทายเขาไว้รึเปล่า 555555
แต่ฟิกนี่เหมือนจะโดนเอ็นดู ๆ นะ
มาแกล้งแต่ละที น่ารักๆทั้งน้านนนน
ถ้าสามคนไปลอนดอนนี่ มีหวังต้องโรแมนติกมากๆแน่เลย  :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 28-02-2016 01:51:02
โมอาจจะเหงา แอบสงสารพี่มิน
รอฮันนีมุนที่ลอนดอน :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 28-02-2016 08:08:36
 :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 28-02-2016 10:34:24
อยากเห็นตอนทั้ง 3 คนไปอังกฤษแล้ววว :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 28-02-2016 22:35:28
ภูเมาอีกล่ะ
สู้ตินก็ไม่ได้

แต่ยังไงฟิกก็รักทั้งสองคน
ไม่แบ่งตินมาให้บ้างเลย

ยังรออยู่นะ
เผื่อฟิกจะใจดีขึ้นมา
หุหุ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: .hnk ที่ 29-02-2016 22:40:59
ถึงจะมาดี แต่ก็อย่ามาเกาเท้าเรานะ 555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-02-2016 23:36:01
ชอบ ฟิก ติณ ภู สามหน่อมาก  :ling1:  คนอื่นๆ ก็ชอบ  :hao3: มีบทบาทชัดเจน สนุก ไรท์เตอร์ เก่งมาก อ่านไปขำไป อ่านแล้วอิน ฟินกับเรื่อง มีทุกรสชาติเลย เขียนให้อ่านนานๆ นะคะ มีความสุขมากๆ เลยที่ได้อ่าน  :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 29-02-2016 23:36:38
อ่านตอนกลางคืนด้วยสิเรา
แอบหลอนนนน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๘ ครึ่งหลัง] 27-02-59 P.38
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 01-03-2016 16:11:00
 :jul3: มารอดูสามหน่อตะลุยเมืองลอนดอน ชิชิ  :hao3:.อีกสองตอนก็จบแล้วหรอ.แอบใจหาย อ่านสามพีเรื่องนี้ไม่เคยเบื่อ ออกจะติดใจมากกว่า เพราะชอบนิสัยแบบฟิกมากดูไม่ปรุงแต่ง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 04-03-2016 10:40:26


ตอนที่ ๒๙.๑






หลังจากที่กลับมาจากบ้านพี่พิสแล้ว ไอ้ภูก็เข้าไปคุยธุระกับพ่อมันตามนัด ผมไม่ได้ไปด้วยหรอกเพราะอยากให้มันคุยกับคนในครอบครัวเองมากกว่า ดังนั้นผมกับไอ้ตินเลยรอฟังข่าวจากมันอยู่ที่หอ ผมนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่บนเตียง ส่วนไอ้ตินกำลังทำความสะอาดใบพัดลม ทิ้งไว้นานจนฝุ่นเขรอะ แล้วก็วนมาที่เรื่องของผมกับพวกมัน

“มองหน้าทำไม”ไอ้ตินถามหลังจากที่หันมาเจอสายตาของผมที่จ้องอยู่นานแล้ว

“กำลังคิดอยู่ว่าช่วงที่ผ่านมากูกับพวกมึงทะเลาะกันบ่อย”ไอ้ตินละจากงานตรงหน้าก่อนจะบิดไหล่ถอนหายใจเสียงดัง

“แต่มันก็ไม่ได้แย่ไม่ใช่เหรอ”

“ก็คงงั้น”เคยมีคนบอกไว้ว่ายิ่งทะเลาะกันบ่อย ก็ยิ่งเข้าใจกัน แต่ถ้าไม่แก้ไขมันก็อยู่ไม่ยืด

“อย่างน้อย เวลาที่มีเรื่องทะเลาะกับมึงก็ทำให้รู้ว่ามึงสำคัญกับกูมากแค่ไหน"

“น้ำเน่า”

“พูดจากใจเลยนะ”มันหัวเราะอยู่คนเดียวก่อนจะกลับไปสนใจพัดลมต่อ

ก็อก ก็อก

ผมกับไอ้ตินมองหน้ากันเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น ไม่ใช่ไอ้ภูแน่นอนเพราะคนอย่างมันไม่เคาะให้เสียเวลาหรอก

“กูไปดูเอง”มันรีบพูดเมื่อเห็นผมตั้งท่าจะลุกไปเปิดประตู ผมยังนึกไม่ออกว่าใครจะมาหาตอนนี้ ถ้าเป็นเพื่อนไอ้พวกนั้นก็ต้องโทรมาบอกก่อนแล้ว ไอ้ตินส่องที่ตาแมวก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นว่าเป็นใคร เมื่อประตูเปิดออกผมก็เห็นไอ้เน็ตยืนอยู่หน้าห้อง กล้าโผล่มาถึงห้องเชียว ผมไม่รู้ว่าไอ้ตินมีสีหน้าแบบไหน เพราะมันยืนบังกรอบประตูอยู่

“มาทำไม”ไอ้ตินถามเสียงนิ่ง ไอ้เน็ตมีท่าทางเกรงๆเมื่อเจอน้ำเสียงไม่ต้อนรับของไอ้ติน

“แค่อยากมาผูกมิตร”มันตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะยกถุงบรรจุแอปเปิ้ลเขียวโชว์เป็นหลักฐาน

“เอาเก็บไว้กินเองเถอะ”ผมได้ยินเสียงผิวปากและควงกุญแจดังมาแว่วๆ ก่อนที่เจ้าของเสียงจะโผล่มาที่ทางเดิน มันหยุดแกว่ง
กุญแจเมื่อเห็นว่าใครอยู่หน้าห้อง ก่อนที่มันจะยกยิ้มเยาะ

“นึกว่าใคร มึงมีอะไรไม่ทราบถึงได้มายืนเกะกะแถวนี้”ไอ้ภูก้าวเข้ามาใกล้ไอ้เน็ตมากขึ้น เห็นได้ชัดว่ามันกลัวไอ้ภูมากกว่าไอ้ติน
และคงไม่กล้าตอบแบบที่ตอบไปเมื่อครู่แน่

“มีแขกมาเยี่ยมทั้งที เราก็ควรต้อนรับเสียหน่อย จริงไหมพี่ภู”ไอ้ตินหันไปหาลูกพี่ใหญ่ ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ถึงได้พูดแบบนี้ ไอ้เน็ตอึกอักขึ้นมาทันที

“ดีเหมือนกัน เดี๋ยวจะเอาไปพูดว่ากูมารยาททราม”มันไม่รอช้าดันหลังไอ้เน็ตเข้ามาในห้อง ไอ้ตินคว้าถุงแอปเปิ้ลเขียวมาจากมือไอ้เน็ตด้วยรอยยิ้มนุ่มนวล ...แบบนี้แหละที่เรียกว่าอันตรายของจริง

“มึงคงไม่ฆ่ามันหมกห้องใช่ไหม”ผมกระซิบกับไอ้ภูเบาๆ

“บ้าเหรอไง กูไม่ใช่คนโหดร้ายขนาดนั้น”มันหัวเราะก่อนจะไปร่วมวงกับไอ้ตินและไอ้เน็ตที่โซฟา ไอ้สองคนนี้คิดจะทำอะไรอีกวะเนี่ย

“มึงย้ายมาอยู่นานหรือยัง”ไอ้ภูถามเสียงเข้มแต่ผมมองออกว่ามันกำลังนึกสนุก

“ก็....ประมาณเดือนกว่าๆได้”ไอ้เน็ตตอบเสียงดัง

“เหรอ...แล้วจะย้ายออกตอนไหน”ไอ้ตินแทรกถามบ้าง

“อะไรนะ”มันถึงกับเหวอ

“ล่อเล่นน่า แค่นี้ทำเป็นตกใจไปได้”ไอ้ตินหัวเราะเหมือนมีอารมณ์ขัน แต่สำหรับผมมันดูร้ายกาจจริงๆ

“คือ..พอดี ผมรีบ...”ไอ้เน็ตพูดติดๆขัดๆ

“เฮ้ย ไม่เอาน่า อยู่เป็นเพื่อนคุยเล่นก่อน”ไอ้ภูทำเสียงเป็นมิตรแบบไม่สมจริงนัก ผมได้แต่ดูอยู่ห่างๆว่ามันสองคนจะเล่นอะไรต่อ

“แต่...”

“ฟิกมึงเอาน้ำมาต้อนรับเพื่อนเก่ามึงหน่อยสิ”ไอ้ภูส่งเสียงเรียกเหมือนกำลังเรียกเด็กชงเหล้า เอ๊ะ หรือว่าไปบ่อย ผมทำหน้าเอือมใส่พวกมันสองคน แต่ก็ทำตามที่มันสั่งอยู่ดี ผมวางแก้วน้ำลงตรงหน้าไอ้เน็ต ทิ้งตัวนั่งข้างๆไอ้ภู ยิ่งเห็นไอ้เน็ตนั่งตัวลีบแบบนี้ยิ่งให้อารมณ์เหมือนสาวน้อยในดงชายโฉดเข้าไปใหญ่

“ว่าแต่มึงพักอยู่กับใคร”ไอ้ตินถามต่อ

“แฟน”มันตอบชัดเจน เหมือนต้องการให้รู้ว่าไม่ได้สนใจผมแล้ว

“คนเก่าเหรอ”ไอ้ภูถามพร้อมยิ้มเยาะ ผมขยับตัวไปมาอย่างอึดอัด อย่าวนมาเรื่องเก่าๆนะเฮ้ย ผมขี้เกียจฟัง มันจั้กจี้ใจแปลกๆ ไอ้เน็ตหน้าตึงเหมือนกันเมื่อได้ยินไอ้ภูพูด

“เปล่า”เกิดความเงียบขึ้น ไอ้ภูกับไอ้ตินนั่งจ้องหน้าไอ้เน็ตเหมือนมันเป็นตัวประหลาด ผมจิบน้ำแก้อาการคอแห้งฉับพลัน

“มึงรู้ใช่ไหม...ถ้าหากคิดอะไรไม่ซื่อล่ะก็...มึงโดนดีแน่”ไอ้ภูเริ่มข่มขู่

“ผมมีคนของผมแล้ว ไม่คิดอะไรหรอก”มันพยายามไม่ออกอาการหงุดหงิด

“เหรอ คราวก่อนกูก็จำได้นะว่ามึงก็มีแฟนอยู่แล้ว”ไอ้ตินพูดเสียงนุ่มตามสไตล์เชือดนิ่ม ผมถูจมูกไปมาเมื่อเข้าใกล้เรื่องเก่าเข้าไปทุกที

“สมาธิสั้นเหรอ ยุกยิกอยู่ได้”ไอ้ภูกระซิบเบาๆ

“เปล่า”กูร้อนตัวเว้ย

“เรื่องเก่าๆ...ก็ให้มันจบไปเถอะ ผมไม่อยากรื้อฟื้น”พูดเหมือนนางเอกเข้าไปทุกที จริตจกร้านเยอะจริงๆ 

“คิดได้แบบนั้นก็ดี หวังว่ามึงคงจำได้ว่าหมัดกูหนักแค่ไหน”ไอ้ตินส่งยิ้มให้ไอ้เน็ต

“ผมบริสุทธิ์ใจจริงๆ”ไอ้เน็ตรีบตอบ มันเหลือบมองผมแวบเดียวเหมือนจะขอให้ช่วย ผมก็เห็นใจมันหน่อยๆ แต่เรื่องนี้ผมขอไม่ยุ่ง
ดีกว่า 

“ก็ดี กูไม่อยากใจร้าย”ไอ้ภูตอบเสียงระรื่น ผมทำเสียงเหอะในลำคอเบาๆ

“ผมมีนัด ขอตัวก่อนนะครับ”ไอ้เน็ตไม่รอให้พวกผมตอบ มันรีบผลุนผลันออกไปจากห้องทันที

“นิสัยเสีย”ผมดุพวกมันสองคนเมื่อไอ้เน็ตออกไปจากห้องแล้ว

“ต้องเล่นแบบนี้แหละ เดี๋ยวมันจะมาก่อกวน”ไอ้ตินตอบพร้อมรอยยิ้ม

“ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมว่างั้น”

“อืม เราไม่มีทางรู้หรอกว่าคนอื่นคิดอะไรอยู่”ไอ้ภูพูดจามีสาระ

“แต่สำหรับกูแล้ว คิดเรื่องมึงคนเดียวนี่ล่ะ”มันปล่อยมุกเสี่ยวต่อ

“แหวะ”หมู่นี้เริ่มน้ำเน่าด้วยกันทั้งคู่เลย ไม่รู้ไปติดมาจากไหน

“แล้วไปคุยกับทางบ้านมาเป็นยังไงบ้าง”ไอ้ตินถามอย่างสนใจ

“ก็...ผ่านไปด้วยดี พ่ออนุญาตให้มึงสองคนไปกับกูได้ แต่แลกกับการเชื่อฟังคำสั่งของญาติที่ทำงานอยู่ที่นู่น ต้องพักอยู่บ้านเดียวกันกับญาติกู โทษทีว่ะ พวกมึงคงอึดอัดแย่”ไอ้ภูดูเป็นกังวลน่าจะมีเรื่องกวนใจมันอยู่

“ไม่ต้องห่วงหรอก กูอยู่ได้”ถ้าไปกับพวกมึง...น้ำเน่าอีกแล้ว สงสัยติดเชื้อในกระแสเลือด

“กูเครียดว่ะ กูไม่รู้อะไรสักอย่างเรื่องงาน ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรที่ไหน ขนาดโรงงานกูยังไม่รู้เลยว่าอยู่ตรงไหน แล้วทำอย่างกับว่ากูพูดอังกฤษคล่อง”ไอ้ภูถอนหายใจ พลางเอนพิงไหล่ผม

“ค่อยเป็นค่อยไปน่า มึงออกจะเก่ง”ปลอบมันไปก่อน มันจะมาใจฝ่อตอนนี้ไม่ได้

“พี่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวซะหน่อย ญาติพี่ก็อยู่ที่นู่นเขาคงไม่ปล่อยให้พี่ลำบากหรอก”

“คราวก่อน กูมีพ่อไปด้วยก็เลยอุ่นใจได้ กูเคยคิดว่ากูยืนด้วยตัวเองได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆกูก็กลัว”ผมมองหน้าไอ้ตินว่าจะทำยังไงกับมนุษย์จิตตกดี มันแค่ส่ายหน้าอย่างอับจนคำพูดเช่นกัน ผมใช้สมองอย่างหนักเพื่อหาคำพูดดีๆ ไอ้เรื่องดีๆไม่ค่อยอยู่ในหัวด้วย
สิ

“มึงรู้เปล่ามนุษย์จะเป็นผู้นำก็ต่อเมื่อถึงเวลาคับขัน”วิเคราะห์โดยไอ้ฟิกเอง

“อะไรนะ”ไอ้ภูทำหน้างง

“เหมือนอย่าง...เวลาเจอหน้าลูกเป็นครั้งแรกสัญชาตญาณคนเป็นพ่อก็จะทำงานอะไรแบบนี้ คือกูจะหมายถึงว่า...เมื่อถึงเวลาที่
เรามีหน้าที่ของตัวเอง เอ่อ..."ไอ้ฟิกหาทางลงแบบสวยหรูไม่ได้จริงๆไอ้ตินเริ่มยิ้ม

“เราก็มีหน้าที่ต้องทำให้ดี...หน้าที่คือหน้าที่”ผมพูดอะไรออกไปวะ ไอ้ภูกับไอ้ตินทำหน้าเหมือนพยายามเข้าใจ

“อะไรก็ช่างเถอะ ตั้งใจทำให้ดีที่สุดก็พอ โชว์ให้พ่อมึงเห็นว่ามึงเองก็มีดี ให้พ่อมึงภูมิใจที่มึงเป็นลูกชายท่าน”ผมเทศน์ใส่

“มันติดเชื้อมึงมาแน่ๆ”ไอ้ภูหันไปพูดกับไอ้ติน

“กูแค่พูดความจริงต่างหากไอ้ภู มึงต้องโตเสียที ยิ่งมึงแข็งข้อใส่ ท่านก็ยิ่งบงการมึงหนักกว่าเดิมแน่ เพราะอะไรมึงรู้ไหม”ผมมองหน้าไอ้ภูเพื่อบังคับให้มันตอบ ไอ้ตินกระแอมเบาๆก่อนจะลุกจากโซฟา ไอ้ภูพยายามเตะขาไม่ให้มันขยับไปไหนได้ แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะไอ้ตินเดินหลบฉากหายเข้าไปในครัวแล้ว

“ทำไมวันนี้บ่นมากจัง”มันทำหน้าตาน่าสงสาร แต่ผมไม่หลงกลมันแน่

“ตอบกูมาก่อน”ผมยังไม่ลืมประเด็นเก่า

“ไม่รู้โว้ย”

“ตอบใหม่ ตอบดีๆ”ผมกลั้นขำเมื่อเห็นว่ามันเริ่มหงุดหงิด

“ไม่รู้...บอกมาก็สิ้นเรื่อง”มันหันมาผลักศีรษะผมอย่างหมั่นเขี้ยว

“เพราะมึงกับพ่อมีนิสัยเหมือนกัน อยากเอาชนะเหมือนๆกัน”พ่อลูกคู่นี้ไม่ยอมอ่อนข้อให้กันเลย ไม่รู้เป็นโรคอะไร

“รู้ดีจริงๆ”มันโยกหัวผมเบาๆ

“กูพูดจริงๆนะ ถ้ามึงทำตัวดีๆ เข้าหาเขาหน่อย ประจบเนียนๆ รับรองขออะไรก็ให้”มันหัวเราะเสียงดัง

“ขำไร กูจริงจังอยู่”

“ที่พูดมาเมื่อกี้นิสัยมึงเลยนี่ ไหนลองมาอ้อนกูบ้างซิ มีอะไรกูให้หมดทุกอย่างเลย เทหมดหน้าตัก”มันเบี่ยงประเด็น

“รอชาติหน้าเถอะ”ผมชิงลุกหนีมันได้ก่อนจะแว๊บเข้าไปหาไอ้ตินในครัวแทน

“ไม่ลองไม่รู้นะหนูฟิก”มันส่งเสียงตามมา ผมจึงส่งนิ้วกลางไปแทน ไอ้เรื่องกวนประสาทนี่ถนัดจริงๆ

“ทำไร”ผมเลื่อนของบนโต๊ะออกก่อนจะนั่งมองไอ้ตินเอาผักออกมาจากตู้เย็น

“ไม่น่าถามนะ”มันตอบเสียงกวน เปิดน้ำล้างผักเสียงดัง

“มึงอยากโดนบ่นอีกคนไหม หืม”ผมขู่ นาทีนี้ผมเชื่อว่ามันไม่กล้าหือแน่

“เป็นเมนส์เหรอไอ้ฟิก”ไอ้ตินพูดได้ร้ายกาจมาก

“แสดงว่ามึงเป็นบ่อยแน่ๆ”ทันทีที่ผมพูดฟองน้ำก็ลอยมาโดนหน้าผมเต็มๆ 

“สกปรก กูเป็นสิวขึ้นมานี่หมดหล่อเลยนะ”ไอ้ตินแค่นเสียงหัวเราะเหมือนดูถูก จะว่าไปไม่ได้กินข้าวฝีมือไอ้ตินนานแล้วเหมือนกัน 

“กูช่วย”ผมขยับเข้าไปใกล้ มันกำลังหั่นบล็อกโคลี่ด้วยท่าทางตั้งใจอยู่

“อยู่เฉยๆเถอะ มาช่วยทีไร เกะกะทุกที”โหย ไอ้ตินนี่แม่งพูดจาทำร้ายจิตใจอันบอบบางของผมเหลือเกิน ผมยืนมองมันอยู่สักพัก
ก่อนจะออกมานั่งรอที่โซฟาตามเดิม ไอ้ภูเหลียวมองผมก่อนจะหันไปมองไอ้ติน

“โดนมันไล่ออกมาล่ะสิ โอ๋ อย่าร้องไห้น้า”ไอ้ภูกวนประสาทผมอีกแล้ว

“กูไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อนน่ะเว้ย”ผมเหลียวมองไอ้ตินอีกรอบ มันไม่สนใจผมจริงๆด้วยว่ะ อุตส่าห์ทำเหมือนงอนแล้วนะเนี่ย หรือมัน
รู้ทัน

“หิวว่ะ”ไอ้ภูบ่นพึมพำเบาๆก่อนจะตบหน้าท้องตัวเอง 

“ก็เข้าไปหาอะไรกินสิ”ไอ้ภูทำหน้าหน่าย เวลาที่ไอ้ตินกำลังวุ่นวายในครัว มันไม่ค่อยอยากให้ผมกับไอ้ภูเข้าไปใกล้เท่าไหร่ มันเคยบอกว่ามันรำคาญ! 

“กูขี้เกียจมีเรื่องกับมัน”มันสองคนเคยมีปัญหาด้วยเรื่องนี้มาแล้วตามประสาคนอารมณ์ร้อน

“มึงเคยคิดไหมถ้ามีเรื่องกับไอ้ตินจริงๆ มึงจะชนะมันรึเปล่า”แบบว่าถ้าไอ้ตินเอาจริง และไอ้ภูก็เอาจริง ผมนึกภาพไม่ออกเลย แต่ไอ้ตินคงชนะยากเพราะไอ้ภูดูมีภาษีเรื่องใช้กำลังมากกว่า   

“มึงได้หลั่งน้ำตาแน่ เพราะสามีแสนดีหน้าหล่อจิตใจดีของมึงเข้าโรงบาลพร้อมกัน”คำว่า ‘สามี’ของมันแทงหูผมมากกว่าคำพูดตรงๆซะอีก ผมกับไอ้ภูนั่งกร่อยรอให้มันทำกับข้าวให้เสร็จ รอจนได้กลิ่นหอมๆ ลอยมา กลิ่นแบบนี้ต้มยำปลาทับทิมแน่ๆ

“ไม่หิวข้าวกันเหรอ”ไอ้ตินเดินเนือยมาหา ฟังจากน้ำเสียงเดาได้ว่ามันกำลังกลั้นขำอยู่

“กูงอนอยู่”ผมแกล้งทำเสียงตึงจนไอ้ภูมองแปลกๆ

“อย่ามา กูรู้ว่ามึงแกล้ง”มันเดินเข้ามาใกล้ จนผมได้กลิ่นตะไคร้มาจากมัน

“กูไม่ได้แกล้ง กูงอนจริงๆ”ผมทำมึนต่อ ไอ้ภูทำท่าขนลุกขนพอง

“กูไปกินข้าวดีกว่า ก่อนที่จะกลืนไม่ลงเพราะหมาแถวนี้”มันเด้งตัวจากโซฟาเข้าไปในครัว   

“มึงนี่นะ…”ได้ยินมันถอนหายใจ

“งอนพี่เหรอ”มันก้มมากระซิบชิดใบหู มันมาไม้นี้อีกแล้วว่ะครับ ผมเขินจนหายเขินไปหลายรอบแล้วกับไม้นี้ของมันเนี่ย ผมมองหน้าอีกฝ่ายในระยะประชิด

“เปลี่ยนมุกบ้างดิ กูอยากได้ยินอะไรที่แปลกใหม่”ไอ้ตินแค่ยกยิ้มก่อนจะยืดตัวเต็มความสูง

“ไปแดกข้าว”จบเลย คำนี้ผมได้ยินบ๊อยบ่อย


ช่วงสองสามวันนี้คือช่วงเวลาเตรียมเอกสารเตรียมของเพื่อไปลอนดอน ส่วนมากทางพ่อไอ้ภูจัดการให้ ผมเกรงใจท่านมากๆ วันก่อนโทรไปขอบคุณ แต่ฝ่ายนั้นแค่บอกว่าให้ผมไปเป็น ‘ยาแก้เหนื่อย’ ให้ไอ้ภูเฉยๆ แต่อย่างผมต้องเป็นยาชูกำลังเท่านั้น คึๆ ส่วนไอ้ตินพ่อไอ้ภูถึงกับบอกว่าไว้ใจมากที่สุด อยากให้มันช่วยดึงๆไอ้ภูไม่ให้เหลวไหล เรื่องที่ผมจะไปลอนดอนกับพวกมันแพร่กระจายไวเหมือนเชื้อโรค ยิ่งไอ้ชายไอ้คนที่มักจะล้อผมบ่อยๆมันยิ่งเหิมเกริมจนน่ากลัว ถึงกับบอกว่า

‘มีสามีดีเหมือนถูกหวย’

เกลียดมันว่ะแต่มันคือความจริง อ่ะ ยอมรับก็ได้ ทุกวันนี้ผมก็ยอมรับสถานภาพอันต่ำต้อยของตัวเองได้แล้ว และพยายามทำใจให้ชินกับคำพูดแสลงหูเวลาถูกแซว แต่ก็ทำไม่ได้เสียทีโดยเฉพาะเรื่องใต้สะดือ หน้าของผมไหม้เป็นแถบมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ดังนั้นคำแซวของพวกมันเป็นตัวแปรทำให้ความตื่นเต้นลดไปห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แถมไอ้ภูกับไอ้ตินยังชอบพูดทำนองว่าไปฮันนีมูนอีก…

บ้าชัดๆ





*********************************************************





เป็นเวลาเจ็ดโมงกว่าๆที่ผมกับพวกมันมาถึงสนามบินลอนดอน เห็นว่าลูกพี่ลูกน้องไอ้ภูที่ทำงานอยู่ที่นี่จะมารับ ระหว่างนั้นผมกับพวกมันก็แวะหาอะไรรองท้องที่ร้านอาหารใกล้ๆ ฟังจากที่ไอภูเล่า ญาติคนนี้ชื่อภักดี เป็นคนขยัน ทำงานเก่งทำงานอยู่ที่นี่ได้ห้าปีแล้ว

และเท่าที่ผมพอจะทราบมาพ่อมันมีหุ้นอยู่ในโรงงานประกอบรถยนต์ แต่ก็ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อะไร ถึงจะมาฝึกงานที่นี่ก็คงไม่ใช่ตำแหน่งใหญ่อะไร และคงทำเรื่องยุ่งมากไม่ได้ ซึ่งมันเองก็รูดีถึงได้ออกอาการเครียดขนาดนี้ ส่วนญาติมันก็เคยฝึกงานอยู่ที่โรงงานอยู่สามปี ก่อนจะแยกออกมาตั้งบริษัทลูก เป็นตัวแทนจำหน่ายรถในเครือไป ผมยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตา แต่เดาว่าคงเป็นคนเคร่งเครียดแน่ๆ ผมเข้ากับคนประเภทนี้ไม่ค่อยได้ด้วยสิ   

“ญาติมึงดุรึเปล่า”ผมถามเพื่อไขความข้องใจ

“เท่าที่จำได้…ไม่น่าจะดุ กูเจอเขาครั้งหลังสุดก็เมื่อสามปีก่อนนู้น”มันไหวไหล่ 

“หล่อไหม”ผมลองแย้มถามเล่นๆ และก็ได้รับรังสีอำมหิตมาจากทั้งสองคน

“น้อยกว่ากู”มันตอบอย่างมั่นใจ ผมกวาดสายตาไปรอบๆร้านระหว่างที่รออาหาร ผมบอกไปรึยังว่าหนุ่มเมืองนอกสูงยาวทั้งนั้น พนักงานเสิร์ฟที่เพิ่งมารับออเดอร์เมื่อครู่ก็เช่นกัน ดูจากหน้าแล้วไม่น่าจะใช่คนอังกฤษ

“ชอบเหรอ”เสียงนุ่มๆส่อแววอันตรายของไอ้ตินดังอยู่ใกล้ๆ

“ห๊ะ เปล่า”ผมละสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว ไอ้ตินระบายยิ้มกว้าง เดาไม่ออกว่าคิดอะไร จู่ๆมันก็ยกมือเรียกพนักงานคนเดิม 

“ทำเหี้ยอะไรของมึง”ผมกระซิบถามอย่างร้อนรน ไอ้ภูก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจชะตากรรมของผมสักนิด ตายแน่ๆไอ้ฟิกเอ้ย

“ชอบไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวบอกให้ไง”มันทำหน้ากวน ไม่รู้ว่ามันจะทำจริงไหม แต่ตอนนี้ผมลุกลี้ลุกลนเหมือนมีไฟลนก้นเพราะ
พนักงานหน้าหล่อหนวดครึ้มเดินมาใกล้แล้ว

“เฮ้ย อย่านะมึง”ผมรีบคว้าเมนูมาปิดหน้า ใจเต้นตึกๆเมื่อได้ยินไอ้ตินเริ่มพูดบางอย่าง…

“Excuse me. Can I have a napkin please?”สัดเอ้ย ทำผมใจหายใจคว่ำหมด ถึงจะดูไม่ฉลาดแต่ก็ฟังออกนะเว้ย 

“เชี่ย กูตกใจหมด”ผมด่ามันทันทีเมื่อพนักงานเดินหายไปแล้ว   

“กูแค่กวนประสาทมึงเล่นเฉยๆ ใครจะไปกล้าพูดล่ะ”มันหัวเราะร่วนท่าทางมีความสุขที่ได้แกล้งผม

“ก็แค่มองเอง”

“มองเบ้าหน้าเฉยๆก็ไม่น่าเกลียดอะไรหรอกนะ แต่มึงมองอย่างอื่นนี่สิ ทุเรศ”ไอ้ภูออกความเห็นเป็นครั้งแรก

“มึงก็บ้า ปรักปรำกู”ใครจะไปมอง ไอ้ภูนี่…หาเรื่องกวนประสาทผมอีกแล้ว กว่าจะได้กินมื้อเช้ารอไปเกือบๆครึ่งชั่วโมง ไหนจะต้อง
รอพี่ภักดีคนขยันของไอ้ภูมารับอีก รวมๆแล้วก็เกือบสองชั่วโมงที่นั่งแกร่วอยู่ที่สนามบิน 

“โทษที พี่ไม่คิดว่าธุระจะกินเวลานาน แถมรถติดอีก”ผมหันไปมองเจ้าของเสียงเพลียๆ คนตรงหน้ามีเค้าโครงหน้าคล้ายกับไอ้ภู แต่ดูนุ่มนวลกว่า เครื่องหน้าดูธรรมแต่ดูดี คงเพราะบุคลิกนุ่มนวลด้วยล่ะมั้ง เดาจากหน้าตาคงยังไม่แตะสามสิบหรือไม่ก็สามสิบต้นๆ

“นี่ฟิกกับตินเพื่อนผมครับ”ไอ้ภูแนะนำให้อีกฝ่ายรู้จักเมื่อสายตาสงสัยจับจ้องมาที่ผมกับไอ้ติน

“สวัสดีครับ”ผมกับไอ้ตินยกมือไหว้อีกฝ่าย

“เอ้อ สวัสดี ไม่ต้องมากพิธีอะไรหรอก พี่ชื่อภักนะ โทษทีมาช้าไปหน่อย แปลกใจเหมือนกันนะเนี่ย ลุงไม่เห็นบอกว่าภูพาเพื่อนมาด้วย”เจ้าตัวออกอาการมึนงงเล็กน้อย

“คงอยากให้พี่แปลกใจเล่นล่ะมั้ง”ไอ้ภูไหวไหล่

“ที่แปลกใจกว่าคือไม่คิดว่าแกจะยอมมา”อีกฝ่ายหัวเราะ เดินนำออกไปที่ลานจอดรถ อากาศด้านนอกค่อนข้างเย็น ท้องฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะตก ทำผมง่วงนอนมากกว่าเดิมอีก 

“ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวเด็กแถวนี้จะงอแง”ไอ้ภูเหลือบมองมาทางผม จะหาว่าผมงอแงล่ะสิ ไม่ได้งอแงสักหน่อย แค่หน้าบูดเพราะเหนื่อยๆเพลียๆอยากนอน ไอ้ตินก็ไม่อยู่ในอารมณ์สดชื่นเท่าไหร่ ระหว่างทางที่ไปบ้านพักย่านเมย์เฟร์ มันก็งีบหลับ หัวพิงไหล่ผมไปตลอดทาง ผมมองทิวทัศน์แปลกตานอกหน้าต่างไปเรื่อยๆ การจราจรค่อนข้างพลุกพล่าน  เงียหูฟังบทสนทนาของไอ้ภูกับญาติมันไปด้วย ไม่พ้นเรื่องงานและแหล่งเที่ยวกลางคืน 

“ภูมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วหรือยัง”

“มีแล้วครับ อยากจะขอแต่งงานเหมือนกัน แต่ฝ่ายนั้นคงไม่ยอม”ไอ้ภูเริ่มเพ้อเจ้อ

“หือ มีคนกล้าปฏิเสธแกด้วยเหรอ”จากที่ฟังการสนทนาของทั้งคู่ สองคนนี้คงไม่สนิทกันเท่าไหร่ 

“สงสัยผมยังดีไม่พอล่ะมั้ง”มันหัวเราะชื่นมื่น อารมณ์ดีอยู่คนเดียว ไอ้ตินขยับศีรษะไปมา ก่อนจะยืดตัวพิงเบาะรถ 

“แกก็หัดทำตัวดีๆบ้างสิ อย่าสร้างเรื่องปวดหัวให้ลุงมาก”และไอ้ภูก็โดนบ่นยาวจนถึงอพาร์ทเม้นท์ที่หมาย ตามตรอกซอยไม่ค่อย
มีรถพลุกพล่านเท่าไหร่ สองข้างท้างเป็นอพาร์ทเม้นท์สามชั้นสไตล์อังกฤษทั่วไป ลักษณะเหมือนกันทั้งซอย ผมช่วยพวกมันขนกระเป๋าลงมาจากรถ ห้องของพี่ภักอยู่ที่ชั้นสอง เป็นห้องขนาดใหญ่ แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน ใช้โทนสีขาวทั้งหมด จากข้าวของเป็นระเบียบภายในห้อง ก็พอจะบอกนิสัยของผู้อยู่ได้ มองแต่ภายนอกไม่ได้จริงๆ ผมว่าไอ้พี่ภักนี่คงเจ้ากี้เจ้าการน่าดู

ผมเกลียดการวางข้าวของแบบเป๊ะเป็นสัดส่วนแบบนี้จริงๆครับ มันยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดชอบกล ไม่ใช่เพราะอยู่กับคนที่เพิ่งรู้จัก แต่เพราะห้องกว้างแต่เพดานเตี้ย ทำให้รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก ดูไม่ปลอดโปร่งเท่าไหร่ ระเบียงหลังห้องมีพื้นที่เท่าแมวดิ้นตาย ปลูกต้นไม้เลื้อยๆที่ผมไม่รู้จัก แถมยังไปติดกับกำแพงของอพาร์ทเม้นท์หลังข้างๆอีก เหมือนถูกล้อมหน้าล้อมหลังไปด้วยกล่องอิฐ  จู่ๆผมก็รู้สึกคิดถึงบ้านขึ้นมาตงิดๆ คิดถึงธรรมชาติบรรยากาศปลอดโปร่งโล่งสบาย อากาศที่นี่ก็ดี แต่เย็นจนผมปวดจมูกตุบๆ

“นอนห้องเดียวกันคงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม คือพอดี--”

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ สบายมาก”ไอ้ภูริบชิงพูดก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดยืดยาวกว่านี้ ผมเข้าเอาของไปเก็บ เป็นห้องนอนขนาดพอดี สังเกตุจากขวดน้ำหอมที่โต๊ะเครื่องแป้ง ห้องนี้ต้องเคยมีสาวมานอนก่อนแน่ๆ 

“กูว่าแล้วเชียว พี่ภักของมึงเป็นแบบที่กูคิดจริงๆด้วย”ผมพูดเบาๆเมื่อไอ้ภูกับไอ้ตินเข้ามากันหมดแล้ว ทิ้งตัวบนเตียงสีครีมกลิ้งไปมาเหมือนคนบ้า ถึงบุคลิกจะดูสบายๆ แต่ข้าวของในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นระเบียบขนาดนี้ก็บอกอะไรได้หลายอย่างแล้ว

“สองอาทิตย์ ทนๆไปเถอะ”ไอ้ภูทำหน้าเบื่อหน่ายเช่นกัน

“ผมมีเรื่องสงสัย…ตอนที่พูดเรื่องแฟน…คือพี่เขารู้ไหมว่าพี่ชอบ…”ไอ้ตินละไว้ในฐานที่รู้กันดีสามคน ไอ้ภูย่นคิ้วอย่างคิดหนัก

“กูไม่แน่ใจว่ะ ตอนแรกครอบครัวพี่ภักอยู่ที่เชียงใหม่ เพิ่งมารู้จักกันก็เมื่อหกปีก่อน ยังไม่ทันได้สนิทพี่เขาก็มาอยู่ที่ลอนดอนแล้ว
แถมนานๆทีจะกลับมาเยี่ยมบ้านอีก แต่ไม่แน่…อาจจะรู้ก็ได้ ญาติกูเขาชอบเม้าท์เรื่องนี้จะตาย”ไอ้ภูดูไม่ใส่ใจนัก

“แต่ถ้ายังไม่รู้ สงสัยงานนี้ได้สนุกแน่”ไอ้ตินหัวเราะอย่างนึกขำเมื่อนึกภาพว่าอีกฝ่ายจะทำสีหน้ายังไงถ้าหากรู้เรื่องนี้

“แล้วมึงจะเริ่มทำงานตอนไหน”

“ก็…คงอีกสองวันมั้ง”มันรื้อเสื้อไหมพรมแขนยาวออกมาเก็บเข้าตู้

“วันแรกพวกมึงต้องไปเพื่อนกู”มันทำเสียงบังคับ

“ไปได้ด้วยเหรอ”ไอ้ตินนั่งขัดสมาธิที่ปลายเตียง

“ได้…”มันตอบเสียงไม่แน่ใจนัก

“เหมือนเด็กเลยว่ะ ต้องมีคนไปเป็นเพื่อน”หาเรื่องล้อไอ้ภูเล่น ไอ้ภูอาจจะไม่ชินเพราะโรงงานประกอบรถยนต์ไม่ได้อยู่ในลอนดอน ต้องเดินทางไปเอง ไอ้ภูไม่ได้โต้ตอบอะไร มันจัดการเอาเสื้อของผมเก็บเข้าตู้ให้ด้วย ผมมองมันงงๆ อารมณ์ไหนของมันอีกเนี่ย

“มันเป็นอะไรของมันวะ”ผมกระซิบเบาๆกับไอ้ติน ท่าทางมันดูเงียบๆแปลกๆ

“คำพูดจี้ใจดำล่ะมั้ง”มันตอบกลับมาเบาๆ

“…ตอนที่กูมาคราวก่อน กูโคตรเหงาเลยว่ะ”จู่ๆมันก็พูดออกมาทำผมกับไอ้ตินเหวอเพราะตั้งตัวไม่ติด

“กูแค่พูดถึงเฉยๆ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น”มันส่ายหน้าไปมา ผมปรับอารมณ์ตามไอ้ภูไม่ทันเลย

ก็อก ก๊อก

“พี่เข้าไปนะ”พี่ภักส่งเสียงเข้ามาก่อนที่บานประตูจะเปิดออก ผ้าห่มกองโตอยู่ในอ้อมแขนอีกฝ่าย

“พี่กลัวว่าจะไม่พอ ไม่ลำบากแน่นะ ห้องออกจะแคบ ภูมานอนกับพี่ก็ได้นะ จะได้ไม่เบียดกัน”พี่ภักเสนอ

“ไม่เป็นไรจริงๆครับ ห้องแคบกว่านี้ก็เคยนอนมาแล้ว นอนเบียดกันทุกวันนั่นแหละ”ไอ้ภูรีบตอบ

“นอนด้วยกันบ่อยเหรอ”พี่ภักทำหน้าแปลกใจ

“คือพวกเราไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆน่ะครับ”ไอ้ตินขยายความ

“อ้อ...พวกเราคงสนิทกันมากเลยล่ะสิ ดีแล้วล่ะ...”

“แล้ววันนี้พี่จะไปไหนต่อไหมครับ”ไอ้ภูแทรกก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดอีกยืดยาว

“ก็กะจะเข้าไปที่โชว์รูมน่ะ ไปเช็คงานสักหน่อย”

“อ้อ…”

“จะแวะไปนั่งเล่นก็ได้นะ ถ้ายังไหวกัน แถวนั้นใกล้จุดเที่ยวเยอะเลย ขาดเหลืออะไรบอกพี่ได้ตลอด ไม่ต้องเกรงใจ ยังไงเราก็พี่น้องกัน พวกเราด้วยนะ”อีกฝ่ายหันมาหาผมกับไอ้ติน ก่อนจะออกไปจากห้อง ปิดประตูตามหลังเบาๆ พวกผมถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“อีกแค่สองอาทิตย์”ไอ้ภูพูดออกมาเหมือนย้ำกับตัวเอง เจอคนแบบพี่ภัก ไม่รู้ว่าผมหรือไอ้ภูจะสติแตกก่อนกัน








TBC.
มาแบบสั้นๆน้า พรุ่งนี้มีสอบ  :a2: คงว่างหลังวันที่10  อีกนิดเดียวเองงงง
ขอบคุณที่ติดตามค่าาา แล้วเจอกันใหม่ :กอด1:



หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-03-2016 11:03:01
อิชั้นสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างค่ะ
สู้ๆนะทั้งสามคน อิอิ
ขอบคุณคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 04-03-2016 11:30:32
เกลียดตอนพี่ภูกับตินรวมหัวแกล้งเน็ตมาก ทำไมร้ายขนาดนี้ 5555555555555555555555
แอบสงสารนิดๆ คงไม่กล้ามายุ่งแล้วล่ะแบบนี้
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 04-03-2016 12:22:20
5555 อยู่ลอนดอนสนุกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 04-03-2016 13:32:19
แง้ อิจฉาฟิกจริงๆ ยืนยันคำพูดชายว่ามีผัวดีก็เหมือนถูกหวย เจอพี่ภัคในภาคแรกตอนนั้นยังรู้สึกธรรมดาๆนะแต่พอมาเจอตอนนี้ทำไมรู้สึกแปลกๆหว่า รึคิดไปเองคนเดียวขออย่ามาม่านะคะคุณเดือน
ปอลิง ขอให้การสอบผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 04-03-2016 13:44:32
ไม่เสียชื่อภูตินจริงๆ เกือบลืมพี่ภักไปแล้วนิ  :laugh: เป็นกำลังใจให้คนเขียน  :3123:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 04-03-2016 14:00:02
พี่ภักดูสุภาพหลอกตามาก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 04-03-2016 14:29:38
เอ๊ะ หรือเฮียภักแกจะมีซัมติง :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-03-2016 14:50:04
เอ่อม จะรอดไหมเนี่ยะ สองอาทิตย์ อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-03-2016 15:06:26
มันจะดีใช่ไหม
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: GGamy ที่ 04-03-2016 15:11:38
ป้าว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ ป้าสัมผัสได้ (มั้ง)
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 04-03-2016 20:20:26
นักเขียนบอกพรุ่งนี้มีสอบ?

สงสัยนิดหน่อยคือ คงไม่ใช่ว่าคนเขียนเรียน ม.6 อยู่นะ??
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 04-03-2016 20:27:34
นักเขียนบอกพรุ่งนี้มีสอบ?

สงสัยนิดหน่อยคือ คงไม่ใช่ว่าคนเขียนเรียน ม.6 อยู่นะ??
จบม.6นานแล้วค่ะ หาที่เรียนใหม่เสยๆ  :o12:

ทำไมมีแต่คนคิดมากเรื่องภักดี 55 ไม่มีมาม่าน้า หมดซองแล้ว
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 04-03-2016 20:54:19
เห้ย!!!....อะไรยังไงต่อละทีนี
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 04-03-2016 22:32:21
เดี๋ยวต้องมีซัมธิง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 04-03-2016 23:30:06
สามหน่อในเมืองนอก น่าจะมีเรื่องสนุก

ขอให้คนเขียนสอบได้ตามที่ตั้งใจนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 05-03-2016 02:36:24

รอตอนต่อไป สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: mira ที่ 05-03-2016 03:28:06
เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
พิมพ์เดือนผิดนะคะ ควรเป็น 4-03-59 ค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-03-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 05-03-2016 05:12:41
 :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-03-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-03-2016 07:51:06
อ่า.....รอด้วยใจระทึก  :mew2:  พีภัก จะแอบ ป่ะ  :hao6:  ชื่นชมไร้ทเตอร์มาก เขียนเก่งมาก อ่านแล้วมีความสุขมากๆ อิน สนุก ไปกับฟิก ติน ภู :mew1: เหมือนตามติดชีวิตจริงของสามหน่อ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-03-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 05-03-2016 12:48:05
เหมือนได้รังสีจากพี่ภักแปลกๆ
พี่ภักจะชอบภูรึเปล่าน้าา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-03-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: Wannida ที่ 05-03-2016 14:41:42
ชักจะยังไง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-03-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 05-03-2016 16:42:56
go to london กันแล้วววววว แหม ฟิกจะเขินไม พี่สองหน่อพูดก็ถูกแล้ว มันแอบแฝงฮันนีมูน :-[ งานน่ะไม่เท่าไหร่หรอก ที่สำคัญพี่ภูอยากให้ฟิกกับตินมาด้วย  พี่ภูน่าสงสารจุง คงนึกถึงตอนที่ถูกพ่อส่งมาคราวก่อน เหงา ไม่มีใครคอยให้กำลังใจ ไม่มีใครให้ทะเลาะด้วย อย่าทิ้งกันนะ มีอะไรก็ผ่านไปให้ได้ทั้งสามคน สู้สู้  :กอด1: 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-03-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: patoya ที่ 06-03-2016 00:37:54
เหมือยเฮียแกจะให้ไปเที่ยวกลางคืนซะให้ได้
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-03-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-03-2016 13:14:07
เข้าใจอ่ะ สามหน่อต้องอยู่กับคนเจ้าระเบียยคงอึดอัด 5555
แต่แอบสงสารภูนะ มาเมืองนอกคราวนั้นคงเหงามากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-03-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 08-03-2016 01:33:19
พี่ภักมีซัมติงอะไรรึเปล่าาา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-03-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 08-03-2016 23:34:30
มาเปลี่ยนบรรยากาศกันใช่มั๊ยยยยยยย
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-03-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 09-03-2016 06:03:52
ภูกับตินนี่สามัคคีกันจริงๆ  :hao7: รอตอนต่อไปป
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-03-59 P.39
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 11-03-2016 14:31:56
 :L1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 11-03-2016 15:23:11

ตอนที่29.2









ไอ้ตินมันอยากออกไปเดินยืดเส้นยืดสาย แต่ผมรู้สึกเพลียๆเลยตัดสินใจนอนพักอยู่ที่ห้อง ไอ้ภูต้องอ่านเอกสารอะไรสักอย่าง ไม่ได้ไปเหมือนกัน มันเลยไปคนเดียว

“มึงไปได้แน่เหรอ”แอบเป็นห่วงมันเหมือนกัน ไอ้ตินเหล่มองระหว่างสวมเสื้อกันหนาว

“ไม่ต้องห่วงหรอก มึงน่ะพักซะ อีกอย่างกูไม่ได้โง่เหมือนมึง”มันเน้นคำว่าโง่ใส่หน้าผมเต็มๆ

“จ้า พ่อคนฉลาด”

“เดี๋ยวซื้อขนมมาให้”มันยิ้มจาง ก่อนคว้ากระเป๋าเป้ออกไปจากห้อง ความจริงแล้วไอ้ตินมันก็มีอารมณ์ศิลปินเหมือนกันนะ หลังจากมันออกไปไม่นาน ในห้องก็เหลือเพียงเสียงพลิกกระดาษกรอบแกรบดังมาจากไอ้ภูที่นอนอ่านเอกสารอยู่บนเตียง ผมย้ายไปนอนข้างๆมัน เจ้าตัวเหลือบมองก่อนจะกลับไปจ้องกระดาษตามเดิม นอนมองหน้ามันจนเผลอหลับไป ลืมตามาอีกครั้งไอ้ภูก็ยังนอนอ่านเอกสารอยู่เหมือนเดิม คิ้วของมันขมวดมุ่นเข้าหากันเวลาที่มันตั้งใจแบบนี้มันดูโตขึ้นเป็นกอง ผมขยับตัวเข้าไปนอนเกยไหล่อีกฝ่าย ยื่นหน้าไปดูว่ามันอ่านอะไรอยู่ ไอ้ภูเหลียวมองด้วยสายตาแปลกใจ

“เป็นไร อยู่ๆก็มาออเซาะ”มันพึมพำก้มมาจุ๊บหน้าผากเบาๆ

“เปล่า...แล้วมึงไม่เพลียเหรอ”เป็นห่วงมันน่ะครับ ผมยังไม่เห็นมันพักเลย

“กูถึก สบายหายห่วง ไม่เหมือนมึงหรอก”มันบิดจมูกผมเบาๆ ก้มมากัดขย้ำต้นคอให้ผมเสียวเล่น แล้วมันก็หันไปอ่านเอกสารภาษาอังกฤษยาวเป็นพรืดต่อ นับถือมันเหมือนกันที่พยายามอ่าน เพราะไอ้ภูเปิดกูเกิ้ลแปลภาษาเป็นพักๆ ผมนึกอยากแกล้งมันขึ้นมาจึงพลิกตัวกอดเอวอีกฝ่ายหลวมๆ วางมือลงบนหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง มันยังคงจ้องเอกสารตามเดิม ผมไล่มือลงต่ำเรื่อยๆจนถึงจุดสำคัญ

“ทำไร...”ไอ้ภูละสายตาจากเอกสาร มองผมด้วยรอยยิ้ม แต่ผมไม่ตอบ แนบหน้ากับแผ่นอกแน่นๆของมันต่อ ส่วนมือก็ซุกซนต่อไป ลมหายใจของอีกฝ่ายเริ่มถี่กระชั้น รับรู้ได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้น แต่มันก็อดทนใช้ได้ ไม่หือไม่อือสักแอะ ต่างจากลูกชายมันที่เริ่มกบฏ คิดไม่ซื่อซะแล้ว

“จะแกล้งกูรึไง”ผมแค่ยิ้มให้กับเสียงที่สั่นน้อยๆของมันเท่านั้น อยากรู้ว่าคนอย่างไอ้ภูจะทนได้นานแค่ไหน ผมลงมือทำร้ายลูกชายมันต่อ ร่างกายมันกระตุกเป็นบางครั้งเวลาที่ผมบดขยี้อ้อยอิ่ง ไอ้ภูวางเอกสารลงจนได้

“นึกว่าจะเก่ง”ผมหัวเราะ มันมองด้วยสายตาขุ่นๆ ก่อนขยับมาเอาคืนผมด้วยการกัดปากแรงๆ

“อย่าแกล้ง ถ้ากูทนไม่ไหวแล้วจะหนาว”มันกระซิบเสียงกระเส่า ผมร้อนวูบวาบทันที พอจะปล่อยมือออกจากลูกชายมัน ไอ้ภูก็คว้ามือผมไว้เหมือนบอกว่าต่อให้จบ ผมมองหน้ามันครู่นึง เห็นสีหน้าทรมานของมันแล้วก็สะใจ อย่างน้อยผมก็เอาคืนมันได้

“เร็วๆ”มันเร่ง

“ขอร้องกูดีๆก่อน”ผมต่อรอง

“ไอ้ฟิก...”

“งั้นมึงก็พึ่งตัวเองต่อไป”ผมเลื่อนตัวลงจากเตียง ความจริงก็เพลียๆแหละ แต่ตอนนี้อยากแกล้งมันมากกว่า ไอ้ภูคว้าเอวผมไว้ จรดปากแตะกกหูแรงๆเหมือนหมั่นเขี้ยว

“เออ ก็ได้ ช่วยกูหน่อย”นี่คือดีของมันแล้วเหรอ

“....นะ....”มาตกม้าตายเพราะคำนี้ของมันนี่ล่ะ หูร้อนขึ้นมาวูบวาบเลย ผมผลักให้มันนอนลงอีกครั้ง ก่อนจะก้มใช้ปากทำร้ายลูกมึนต่อ มันหลุดเสียงครางมาเป็นระยะๆ จนเมื่อใกล้ถึงฝั่งมันก็รีบกดหัวผมไว้เหมือนกลัวว่าผมจะแกล้งให้มันค้างเติ่งแบบเมื่อกี้ ผลคือผมต้องกล้ำกลืนของเหลวที่มันปลดปล่อยออกมา

“รีบๆออกไปเลย เดี๋ยวกูตบะแตกอยากทำอย่างอื่น”ไอ้ภูใช้เท้าเขี่ยผมลงจากเตียง ผมกลัวจะเป็นแบบนั้นเหมือนกันจึงรีบชิ่งออกจากห้อง

ห้องโถงด้านนอกเงียบสนิท พี่ภักคงออกไปเช็คงานแล้ว หลังจากหาน้ำล้างคอได้ ผมก็เปิดทีวีดูแก้เซ็ง ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ เหมือนดูหนังใบ้ ดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนไอ้ตินกลับมา มันหิ้วของพะรุงพะรังมาด้วย ส่วนใหญ่เป็นหนังสือ

“ขนมของกูอ่ะ”ผมทวงเมื่อมันวางของลงบนโซฟา

“ไม่ลืมหรอกน่า”มันส่งกล่องขนมปังอะไรสักอย่างมาให้ แล้วก็พวกลูกกวาด ช็อกโกแลต ทำเหมือนผมเป็นเด็กไปได้

“พี่ภูล่ะ”มันถามเมื่อไม่เห็นเงาหัว วางถุงกระดาษที่บรรจุด้วยแฮมเบอร์เกอร์และเฟรนช์ฟรายหอมๆลงบนโต๊ะ

“นอน”มั้ง

“มึงพักบ้างยังเนี่ย สีหน้ายังดูแย่ๆอยู่เลย”ไอ้ตินมองสำรวจใบหน้าของผม

“กูถึกพอๆกับพวกมึงนั่นล่ะ”ผมแกะถุงขนมปังออก ไอ้ตินเอาหนังสือออกมาดมๆ โรคจิตจริงๆ มันบอกว่าชอบกลิ่นหนังสือใหม่ๆ มันหายเอาของเข้าไปเก็บในห้อง

“พี่ภูหลับจริงๆด้วย”มันปิดประตูตามหลังเบาๆ ผมนึกอะไรดีๆได้พอดี นี่อาจเป็นวิธีทำให้ผมมีข้ออ้างในการกดไอ้ตินก็เป็นได้ ผมมองมันสำรวจนู่นนี่ด้วยสายตาครุ่นคิด

“จ้องกูแบบนี้ กินกูเลยไหม”มันพูดโดยไม่หันมามอง เจ้าตัวกำลังสนใจแจกันลวดลายสวยงามจากจีน ประเมินแล้วท่าจะแพง

“ให้กินรึเปล่าล่ะ”ไม่รู้ว่าผมทำสีหน้าแบบไหนไอ้ตินถึงได้หันมามองด้วยสีหน้าแปลกๆ”

“คิดอะไรชั่วๆอยู่รึเปล่าเนี่ย”มันย่นหน้า

“เปล่า”ผมเดินเข้าไปหามัน ไอ้ตินดูระแวดระวังขึ้นมาทันที

“มีอะไรก็พูดมาตรงๆ”ถ้าผมดูไม่ผิด คิดว่ามันมีอาการกลัวอยู่เหมือนกัน ผมเข้าไปออเซาะมันด้วยการกอด

“กูว่ามึงสมองกระทบกระเทือนแน่ๆ”มันยังดูงงๆอยู่แต่ก็ยอมให้ผมกอดต่อไป ผมเริ่มใช้แผนเดียวกับไอ้ภูค่อยๆลดระดับลงช้าๆ กดจมูกลงที่ซอกคอของอีกฝ่าย

“เฮ้ย จะทำอะไร”ไอ้ตินดึงมือผมออกจากลูกชายมัน ไอ้นี่หลงกลยากจัง

“มึงนะ....ทีไอ้ภูยังยอมกูเลย”ผมเริ่มใส่สีตีไข่

“ยอม?”มันดูงงๆ

“เออ มันเสร็จกูแล้ว”ไอ้ตินนิ่งไปอย่างมึนงง

“คนอย่างมันยังยอมกูเลย เพราะมันรักกู มึงไม่รักกูเหรอ”ประโยคเบสิกในการเสียตัวก็มา ไอ้ตินยังนิ่งอยู่ แต่ผมว่ามันกำลังมึนและตกใจมากกว่า ผมกอดมันอีกครั้ง มันยืนนิ่งเป็นท่อนไม้เลย

“แต่ถ้ามึงไม่โอเค กูก็ไม่บังคับหรอก”ทำเสียงเศร้าๆประกอบ

“ฟิก...เรื่องนี้มัน…”ไอ้ตินหันมาเผชิญหน้ากับผม สีหน้าดูลำบากใจและสับสน ผมรอให้มันพูดอะไรสักอย่าง ความจริงเรื่องนี้ผมไม่ซีเรียสอะไรหรอก ถ้าได้ก็ดีไป   

“มึงตามกูมา”ไอ้ติเดินนำผมไปยังห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องของพี่ภัก  อย่าบอกนะว่ามันยอม? ผมใจเต้นตึกตักเหมือนจะกระเด็นออกมาจากอกให้ได้

“กูยอมก็ได้ แต่ถ้าหากว่ามึงทำกูเจ็บ...”สีหน้าของมันไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ ผมล็อคห้องน้ำอย่างว่องไว

“เออๆ สัญญาว่าจะเบาๆ”ผมรีบพูด ไม่คิดว่ามันจะยอมง่ายขนาดนี้ หรือคำพูดเมื่อกี้ไปสะกิดใจมันเข้า ไอ้ตินดูกล้าๆกลัวๆ เพิ่งเคยเห็นมันเป็นแบบนี้ครั้งแรก 

“รีบๆทำเลย เร็วๆ”มันหลับหูหลับตาพูด ผมจัดการดันมันติดกับผนังห้องน้ำ ความจริงมันก็ยาก ถ้าจะทำในพื้นที่แคบๆแบบนี้ แทนที่ครั้งแรกของผมกับมันน่าจะดีกว่านี้หน่อย แต่ก็เอาเถอะ เดี๋ยวมันจะเปลี่ยนใจ ผมขบจูบไปตามแผ่นอกเปลือยเปล่า กวาดตาหาตัวช่วยในห้องน้ำ ก็มีแค่ครีมอาบน้ำ แต่เริ่มได้ไม่เท่าไหร่มันก็ฟาดผมเสียงดัง

“พอๆ กูแสบว่ะ”มันบอกว่ามันแสบทั้งๆที่ผมเพิ่งลองแค่นิ้วเดียวเอง ไอ้สาดดดด

“มาถึงขั้นนี้แล้ว...”

“รอกูพร้อมก่อนได้ไหม”มันทำสีหน้าจริงจัง ก่อนจะถอยไปยืนอีกฝั่ง ทิ้งให้ผมเคว้งคว้างกับอารมณ์ค้างๆคาๆ 

“เดี๋ยวกูช่วย”มันเข้ามากอดปลอบใจเหมือนปลอบเด็กน้อยที่ลูกโป่งลอยหลุดจากมือไปต่อหน้าต่อตา แต่ตอนนี้อารมณ์หื่นหดหายไปนานแล้ว   

“เอาน่า ยังอยู่ด้วยกันอีกนาน มีเวลาอีกเยอะ”มันกระซิบบอกเมื่อหัวเราะเบาๆ ก่อนจะออกไปจากห้องน้ำ โธ่ ไอ้ทำได้แค่พ่นน้ำอย่างเดียวจริงๆ ผมสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ทำใจได้แล้วก็ออกมาจากห้องน้ำ ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่ที่โซฟา

…พี่ภัก

เขาดูตกใจมากที่เห็นผมกับไอ้ตินออกมาจากห้องน้ำด้วยกัน

“บอกแล้วว่าให้กดแรงๆ”ไอ้ตินหันมามองผมก่อนจะหัวเราะ

“คือพอดีเมื่อกี้ชักโครกมันกดไม่ค่อยลงน่ะครับ ผมเลยต้องเข้าไปดู”มันหันไปพูดกับเจ้าของห้องที่พยักหน้ารับงงๆ ไม่รู้ว่าพี่แกจะ
เชื่อไหม ผมสำรวจตัวเองว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ โล่งหน่อยที่มันสงบหมดแล้ว

“ตอนแรกผมคิดว่าพี่จะกลับตอนเย็นๆซะอีก งานไม่เยอะเหรอครับ”ผมชวนคุย นั่งลงที่โซฟาว่างๆ

“พี่แค่เข้าไปเช็คอะไรนิดหน่อยน่ะ อีกอย่างกลัวพวกเราจะหิว แถวนี้ไม่ค่อยมีร้านอาหารถูกปากด้วย พี่เลยซื้อมาฝาก”พี่ภักชี้ไปที่กล่องข้าวสวยและพวกแกงเขียวหวานหอมๆบนโต๊ะ

“ขอบคุณมากครับ”ไอ้ตินยิ้มรับ จะว่าไปพี่ภักนี่ก็ใจดีเหมือนกันแฮะ

“คือผมขอถามเรื่องส่วนตัวหน่อยนะครับ คือพี่มีแฟนหรือยังอ่ะ หล่อแบบนี้มันต้องมีสาวมาติดบ้างแหละ”ผมลองถาม ไอ้ตินย่นคิ้วใส่ผม ไม่รู้ว่าไม่ชอบใจอะไร พี่ภักหัวเราะเสียงดัง แก้มขึ้นเลือดฝาดเล็กน้อย

“พี่สนใจเรื่องงานมากกว่าน่ะ เรื่องผู้หญิงก็ห่างไปนานแล้ว”ผมพยักหน้าเข้าใจ พอดีกับที่ไอ้ภูออกมาด้วยสภาพผมยุ่งๆ

“กลิ่นอะไร…แกงเขียวหวานเหรอ”มันทำจมูกฟุดฟิด เข้ามาค้นถุงบนโต๊ะดู 

“พี่แวะซื้อมา คิดว่าพวกเราคงชอบ ความจริงพี่ดีใจนะที่พวกเรามา ปกติพี่อยู่คนเดียวตลอด”ผมสัมผัสได้ว่าพี่ภักค่อนข้างจะเหงาอยู่เหมือนกัน เดาว่าคงไม่ค่อยมีเพื่อน

“ผมบอกแล้วว่าให้หาเวลาพักผ่อนบ้าง แค่นี้ก็รวยอยู่แล้ว”ไอ้ภูเข้านั่งข้างๆพร้อมกับเอาหัวพิงๆไหล่ผมไปด้วย

“พี่ภักเขาไม่ใช่คนขี้เกียจแบบมึงนี่”ผมดันหัวไอ้ภูออกแบบเนียนๆกลัวพี่เขาจะสงสัย

มื้อกลางวันก็เลยผ่านไปแบบกระอักกระอ่วน ผมกับไอ้ตินมองหน้ากันก็พลอยจะหัวเราะออกมาตลอดเพราะเรื่องในห้องน้ำ ผมว่าพี่ภักเขาไม่เชื่อที่ไอ้ตินพูดหรอก เพราะเจ้าตัวลอบมองมาบ่อยๆ

“แล้วฟิกกับตินมีแฟนกันหรือยังล่ะ”พี่ภักเบนเข็มมาทางผมกับไอ้ตินแทน ไอ้ภูเหลือบมอง ก่อนก้มหน้าก้มตาพุ้ยข้าวต่อไป

“มีแล้วครับ”ไอ้ตินตอบ

“ผมก็มีแล้วครับ สวยมากกก”ผมลากเสียงยาว ไอ้ภูถึงกับไอค่อกแค่ก 

“แต่แฟนผมสวยกว่าครับ”ไอ้ตินนึกบ้าอะไรไม่รู้ พี่ภักหันไปมองพร้อมรอยยิ้ม

“เวลาปกติอาจจะไม่ค่อยสวย”เมื่อเห็นพี่ภักทำหน้างง มันก็ขยายความต่อ

“แต่จะสวยมากๆเวลา….”มันเงียบเสียงลง ก่อนจะหัวเราะ ถ้าผมมองไม่ผิด ผมว่ามันแอบเขิน พี่ภักก็เช่นกัน ไอ้บ้านี่พูดอะไรก็ไม่รู้

“พี่ต้องทำใจหน่อยนะ ช่วงอวดเมียมักโหดร้ายกับคนโสดเสมอ”ไอ้ภูมองหน้าผมด้วยรอยยิ้มที่ผมไม่กล้ามอง  ทำแบบนี้ผมล่ะกลัวพี่ภักเดาอะไรได้จริงๆ

“พี่น่าจะหาแฟนได้แล้วนะ”ไอ้ภูวกกลับมาที่พี่ภัก

“รอให้พร้อมกว่านี้ก่อนค่อยมี”ผมแปลกใจจริงๆ หรือชอบอยู่คนเดียว แต่ดูจากอาการเหงาๆคงไม่น่าใช่

“เออว่าแต่ภูเล่นกล์อฟเป็นรึเปล่า”

“ไม่เป็นครับ ทำไมอ่ะ อย่าบอกนะว่าผมต้องไปออกรอบกับพวกรุ่นใหญ่ที่ทำงาน”มันทำหน้าหมองเมื่อญาติรุ่นพี่พยักหน้าตอบ

“ว่างๆค่อยฝึกก็ได้ ไปด้วยกันหมดนี่แหละ สนุกดี”พี่ภักหันมามองรอบโต๊ะ ก็แน่อยู่แล้วล่ะ ไอ้ภูคงไม่ยอมไปฝึกคนเดียวแน่
หลังจากอิ่มท้อง ไอ้ตินก็ช่วยพี่ภักล้างจาน พี่เขาเนี้ยบมากจริงๆครับ ขนาดไอ้ตินยังขอยอมแพ้  ผมกับไอ้ภูนั่งดูหนังอยู่ที่โซฟา เมื่อไอ้ตินเข้ามาร่วมวงผมก็หาเรื่องมันทันที

“มึงพูดแบบนั้นได้ไง พี่เขายิ่งสงสัยอยู่”

“เขาไม่รู้หรอกน่า”มันกระซิบตอบ หยิบเฟรนช์ฟรายเหี่ยวๆเข้าปาก

“มึงไม่เห็นที่พี่เขายิ้มเหรอ”ผมว่าพี่แกคงรู้แล้วล่ะว่าผมกับไอ้ตินมีซัมติงกัน ไอ้ภูหยิบรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ เหมือนมัน
พยายามหาอะไรทำ

“เอ๊ะ มึงหงุดหงิดอะไรเนี่ย”มันมองหน้าผมก่อนจะยิ้ม

“หรือว่าโกรธที่กูบอกว่ามึงสวย มึงพูดก่อนนะ”ผมหน้าร้อนวูบวาบ ไอ้ภูหันมองแค่แว๊บเดียวก่อนจะยื่นหน้าไปหาไอ้ติน

“แต่กูเห็นด้วยกับที่มึงพูดนะ”ไอ้เลว

“พวกมึงไม่ต้องเลย”ผมเหลือบมองที่เคาน์เตอร์ครัว พี่ภักยังคงง่วนอยู่กับการล้างจานให้สะอาดเอี่ยมอ่อง

“ถ้ามึงไม่ได้เป็นแบบนั้นก็เงียบๆไป มาร้อนตัวทำไม ดูซิ หน้าแดงหูแดงหมดแล้ว”ไอ้ตินยื่นมือมาบิดหูผมเบาๆ

“ว่าแต่เข้าไปทำอะไรกันในห้องน้ำ”ไอ้ภูถามทั้งๆที่มันน่าจะเดาได้อยู่แล้ว

“ทำไมหมู่นี้มึงหื่นบ่อยจังวะ จู่โจมกูก่อนตลอด”มันกระซิบถาม

“กูยังหื่นไม่ถึงครึ่งของพวกมึงเลย”

“เออ พี่ภู ผมมีคำถาม”ไอ้ตินกระแอม ก่อนจะย้ายมานั่งข้างๆไอ้ภู ผมขมวดคิ้วเมื่อนึกได้ว่าใส่ไข่เรื่องไอ้ภูไว้นี่นา

“ไอ้ฟิกมันบอกว่าพี่เสร็จมันแล้ว”ไอ้ตินพยายามกลั้นยิ้มระหว่างที่ถาม ไอ้ภูหันมามองผม แต่ก่อนที่มันจะได้ด่า พี่ภักก็เข้ามาช่วย
ชีวิตพอดี

“ตอนเย็นพี่ต้องจัดงานวันเกิดให้ลูกค้าพิเศษที่คลับ อยากไปด้วยกันรึเปล่า”พี่ภักไล่สายตามองเรียงคน ผมกับพวกมันมองหน้ากัน ต่างคนต่างคิดว่าจะไปดีหรือไม่ ผมก็อยากลองไปเปิดหูเปิดตาบ้าง แต่พวกมันจะอนุญาตไหม ผมจึงรอให้มันสองคนตอบก่อน 

“ก็…โอเค ไปครับ”พอไอ้ภูตอบตกลงผมถอนหายใจเบาๆ นึกว่าจะไม่ได้ไปซะแล้ว พยายามเก็บอาการเนื้อเต้นไว้เดี๋ยวพวกมันจะด่าเอา

เชื่อไหมครับว่าคุณพ่อทูนหัวของผมถึงกับเป็นคนเลือกเสื้อผ้าให้ผมเลยครับ

“แค่ไปเที่ยวเอง”ผมเกาหน้าผาก นั่งมองไอ้ภูกับไอ้ตินเลือกเสื้อเหมาะๆให้ผม ไอ้ภูหันมามองก่อนจะโยนเสื้อเชิ้ตแขนยาวมาให้

“อย่าพูดมาก ให้ไปก็บุญเท่าไหร่แล้ว”ผมทำเสียงอู้หูใส่พวกมัน

“เป็นพระคุณจริงๆที่ให้กูไป”

“อย่ากวน นี่กูเป็นห่วงนะ”ไอ้ตินทำหน้าเคร่ง 

“บอกตัวเองเถอะ ไม่ใช่ว่าเมาแล้วสร้างเรื่อง กูก็ไม่ปล่อยพวกมึงเหมือนกัน”ผมเอาเรื่องเก่าๆมาแขวะ น่าแปลกที่พวกมันสองคน
สงบปากสงบคำแต่โดยดี   


คลับที่ว่าเป็นคลับชื่อดังของย่านนี้ ผมสังเกตกลุ่มคนที่มาต่อแถวรอเข้าคลับส่วนใหญ่จะเป็นพวกเงินหนา แต่งตัวมีระดับ บางกลุ่มก็สวมสูทจัดเต็มมาเลย พี่ภักเองก็เช่นกัน ลูกค้าพิเศษมาด้วยกันสามคน หญิงหนึ่ง ชายสอง เป็นคนฟิลิปปินส์ทั้งหมด พี่ภักแนะนำไอ้ภูก่อนตามระเบียบ ผมไม่ค่อยได้ใส่ใจฟัง(เพราะฟังไม่ค่อยออก)

“เอานี่ติดตัวไว้”ไอ้ตินยัดกระดาษอะไรสักอย่างใส่กระเป๋ากางเกงของผม หยิบออกมาดูคือชื่อที่อยู่และเบอร์โทรของมันและพี่ภัก

“มึงทำเหมือนกูเป็นเด็กน้อยเลย”ผมหัวเราะหึๆ แต่ก็ยัดไว้ที่เดิม กันไว้เผื่อว่าเมาแล้วหลง ผมยิ่งไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ด้วย ผมกับ
ไอ้ตินทักทายลูกค้าของพี่ภักตามมารยาท ผมงูๆปลาๆเยสโนโอเคไป ผู้หญิงชื่ออะไรไม่รู้จำไม่ค่อยได้ แต่ผู้ชายหน้าตาพอไปวัดไปวาชื่อเดรก ส่วนอีกคนอ้วนๆหน่อยชื่อแฮร์รี่ คุยกันเป็นวรรคเป็นเวรระหว่างที่รอให้คลับเปิด มีการ์ดตัวใหญ่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู
คอยตรวจบัตร

“มึงว่า…ไอ้คนนั้นมันแปลกๆรึเปล่าวะ”ผมกระซิบเบาๆกับไอ้ติน มันหันมามองผมเหมือนไม่รู้ว่าคนนั้นที่ผมหมายถึงคือใคร

“ไอ้คนที่ชื่อเดรกอ่ะ”ผมขยายความ ผมว่าผมได้รังสีแปลกๆมาจากมัน รู้สึกจะมองพี่ภักบ่อยไปนะ หรือผมคิดมากไปเอง ส่วนเจ้า
ตัวก็ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก จิ้มโทรศัพท์บ้างหรือไม่ก็คุยกับลูกค้าผู้หญิงคนนั้น ไอ้ตินเดาะลิ้นเบาๆคอยจับผิดไปกับผมด้วย ส่วนไอ้ภูน่าสงสารหน่อยที่ต้องคุยกับนายแฮร์รี่เรื่องรถนี่ล่ะ มันดูเบื่อหน่าย ขยับสูทนอกไปมาเหมือนอึดอัด แต่ก็ต้องทำเหมือนว่าฟัง ผมยกนิ้วโป้งให้เมื่ออีกฝ่ายหันมาเจอ ให้กำลังใจมันหน่อย เดี๋ยวจะหมดแรงซะก่อน   

ภายในคลับแบ่งเป็นหลายโซน โซนที่พี่ภักจองไว้คือโซนวีไอพี โซฟาและม่านประดับหรูหราเชียว เครื่องดื่มราคาแพงมาบริการทีหลัง ผมเห็นไอ้ภูจ้องขวดวอดก้าตาเป็นมัน แต่พอมันเหลือบมาเห็นสายตาของผมมันก็ทำเป็นเสมองทางอื่น

“จะออกไปโซนด้านนอกก็ได้นะ เดี๋ยวตรงนี้พี่จัดการเอง ส่วนภู พอดีคุณแฮร์รี่เขาอยากคุยด้วย เขามีหุ้นเหมือนกัน อยู่คุยอีกแป๊ปเดียว”พี่ภักหันไปหาไอ้ภู มันทำหน้าเซ็ง

“ฝากดูมันด้วยนะ คุยเสร็จเดี๋ยวตามไป”ไอ้ภูโน้มมาคุยกับไอ้ติน

“ไม่ต้องห่วงหรอก พี่เอาตัวเองให้รอดเถอะ”ไอ้ตินกระตุกมือผม เห็นใจไอ้ภูเหมือนกัน มันคงกะมาเที่ยวเต็มที่ ตอนที่เดินผ่าน ผมเอื้อมบีบมือมันเบาๆ

“สู้ๆ”เห็นมันยังยิ้มได้ ไอ้ตินพาผมเดินลัดเลาะหาโต๊ะว่าง ส่วนใหญ่ถูกจับจองไว้แล้ว ผมเริ่มตาลายกับแสงสีม่วงๆที่หมุนวนไปทางนู้นทางนี้ที มีฟลอร์สำหรับเต้นรูดเสาด้วย แต่เป็นโชว์ของคลับ สาวๆก็สะบึ้มๆทั้งนั้น ไอ้ตินพาผมมานั่งที่โต๊ะแถวๆเคาน์เตอร์บาร์ ผมกับมันไม่ค่อยมีอารมณ์อยากเมาเท่าไหร่จึงสั่งแค่เบียร์บลูมูนมา เพราะยี่ห้ออื่นไม่ค่อยได้แตะกลัวจะเมาปลิ้นไปก่อน 

“ห้ามเมานะ”ไอ้ตินเตือน เมื่อเห็นผมกระดกทีเดียวค่อนแก้ว 

“ไม่เมาหรอก กูรู้น่า ไม่ทำให้พวกมึงเป็นห่วงหรอก”มันอมยิ้มกับคำตอบของผม

“เออ หัดเป็นเด็กดีซะบ้าง”

ผมนั่งมองกลุ่มคนเต้นอยู่ที่ฟลอร์ จังหวะเพลงน่าดิ้น แต่ผมไม่กล้าลุกไปเพราะไอ้คนข้างๆนี่ล่ะ

“ไปเต้นกันป่ะ”ผมชวน

“ไม่เอา”มันตอบแบบไม่ต้องคิด

“มึงไปเพื่อนกูหน่อย”เวลาไปเที่ยวผับอะไรเทือกนี้ ผมไม่เคยเห็นไอ้ตินมันเต้นเลย รักษามาดตลอด

“เต้นตรงนี้ก็ได้”มันพยักเพยิดไปที่โต๊ะข้างๆมีกลุ่มคนขยับตามจังวะเพลงอยู่

“กูเต้นคนเดียวก็เหมือนคนบ้าดิ มึงไปยืนเป็นเพื่อนกูเฉยๆก็ได้นะ”ผมใช้ลูกอ้อนกวนไม้กวนมือมันอยู่นาน สุดท้ายมันก็ทนรบเร้าไม่ไหว จึงได้แต่ทำหน้าบูดตามผมมา ผมคว้าขวดเบียร์แนบตัว เบียดแทรกกลุ่มผู้หญิงเมาไปที่ว่าง เหลือบมองไอ้ตินทำตัวไม่ถูกท่ามกลางขาแดนซ์

“มึงมาเต้นกับกู”ผมดึงชายเสื้อให้มันตามมา

“มึงเคยเห็นกูเต้นด้วยเหรอ”มันบ่นอุบอิบ

“เต้นตามกูก็พอ”มันทำหน้าระอาเมื่อผมออกสเต็ปให้มันดู

“ไม่มีคนสนใจหรอกน่า”มีเสียงปรบมือโห่ร้องรอบตัวเมื่อดีเจคนใหม่ขึ้นมาเล่นเพลง ไอ้ตินเหมือนอยากเดินหนี แต่มันก็ไม่กล้าทิ้งให้ผมอยู่คนเดียว แต่เอาจริงๆไม่มีใครลากผมไปปล้ำหรอก แถวนี้มีแต่มาดแมนแฮนด์ซั่มทั้งนั้น เมื่อซาวด์เพลงมันส์ๆเริ่ม ขาแดนซ์ก็เริ่มออกสเต็ป ผมตั้งใจจะคว้าไหล่ไอ้ติน แต่ก็เจอไหล่ใครเข้าไม่รู้ มองอีกทีก็เห็นมันโดนสาวๆกลุ่มข้างๆลากไปเต้นด้วย หรือ
จะพูดให้ถูกมันเป็นเสาให้สาวๆผมสั้นคนนั้นเลื้อย ไม่รู้จะขำหรือสงสารดี

“ds;li9e[‘][t]ynnu-7-=o8yr”เอาแล้วครับ มีหนุ่มนอกเข้ามาคุยกับผม ซึ่งแน่นอนว่าผมฟังไม่ออก ผมได้แต่โบกมือไปมา

“No No”ปฏิเสธไปก่อน

“fdklfkoi54v-bvrreurwea”รู้สึกเหมือนเป็นมนุษย์ต่างดาวเลยว่ะ ผมเหลียวมองไอ้ตินมันพยายามดึงมือของแม่ผมสั้นออก เมื่อเห็นชัดว่าคุยกันไม่รู้เรื่องฝ่ายนั้นก็ถอยทัพไปขอคนอื่นเต้นแทน ผมมองไปที่ไอ้ตินอีกครั้ง มันยังถูกรุมล้อมอยู่ ไม่รู้ทำไมผมขำมากกว่าจะหึง ผมปล่อยให้สาวคนนั้นสอนสเต็ปการเต้นให้มันโดยที่ผมคอยดูอยู่ใกล้ๆ ยังไงเสียผมก็ไม่กล้าปล่อยให้มันหลุดสายตาหรอก

หมับ!

ผมสะดุ้งโหยงเมื่อมีมือดีมาคว้าเข้าที่สะโพกของตัวเอง

“ไอ้ภู”ผมพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ มันยิ้มขำเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของผม

“กูตกใจหมด”มันถอดสูทออกจนเหลือแต่เสื้อเชิ้ต 

“ไม่มีใครตาถั่วอยากจับของมึงหรอก”เหมือนมันด่าตัวเองกลายๆ ไอ้ภูมองไปรอบๆก่อนจะเจอไอ้ตินแล้วกลับมามองผม 

“ระริกระรี้เป็นปลากระดี่ได้น้ำเลยนะ”มันดึงขวดเบียร์ไปจากมือผมอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ย ภู ของกูนะ”ไม่ทันแล้ว มันยัดขวดเปล่าคืนผม

“แค่นี้เอง หวงเหรอ”มันมองซ้ายมองขวา คว้าผมไปจุ๊บปากเบาๆก่อนจะปล่อยแล้วพาผมไปร่วมกลุ่มกับสาวๆที่เต้นอยู่กับไอ้ติน
ไปๆมาๆ เลยได้ออกสเต็ปกับสาวๆพวกนี้ไปปริยาย ใครเป็นใครบ้างก็ไม่รู้แต่ผมได้จับคู่เต้นกับทุกคนในกลุ่มเลย เต้นกับคนแปลกหน้าแบบไม่คิดอะไรมากก็มันส์ดี ไม่รู้ว่ามันสองคนจะสุดเหวี่ยงเหมือนผมไหม  เหมือนสาวกลุ่มนี้จะอยากไปต่อกับพวกผม แต่ก็ปฏิเสธไปตามระเบียบ เพราะผมกับพวกมันจะไปต่อกันเองต่างหาก คึๆ

“กูว่ามึงใกล้เมาแล้วนะ”ไอ้ตินเข้ามายื้อผมให้มายืนใกล้ๆ ตอนนี้ดีเจเล่นเพลงช้าแล้ว

“มึนนิดหน่อย สงสัยกูเต้นมากไป”ผมยืนพิงพวกมันสองคน ไอ้ภูผลักหน้าผากผมแรงๆ

“สนุกอยู่คนเดียว เก็บกดมาจากไหนวะ”มันยิ้มขำ

“ปกติพวกมึงไม่ค่อยให้กูออกไปเที่ยวนี่หว่า เออ แล้วทำไมพวกมึงไม่ออกอาการหวงกูเหมือนทุกทีอ่ะ”วันนี้พวกมันมาแปลกแฮะ

“ไม่รู้ดิ สงสัยมึงเต้นกับผู้หญิงล่ะมั้ง”ไอ้ตินตอบ มันส่งแก้วโค้กให้ผม “เรื่องไหนปล่อยได้ก็ปล่อย”

“อนุญาตให้มึงปล่อยผีได้หนึ่งวันไง กลัวมึงอกแตกตายไปซะก่อน”ไอ้ภูหยิบเอาผ้าเช็ดหน้ายัดใส่มือ ผมรับมาดมๆ มีกลิ่นของไอ้
ภูติดอยู่ หอมดี น้ำหอมตัวที่ผมเคยซื้อให้มัน จนวันนี้มันก็ยังใช้แบบเดิมอยู่เลย

“โรคจิตเข้าไปทุกที”มันพึมพำอยู่ใกล้ๆ ผมเริ่มหมดแรงเลยได้แต่มองคนอื่นเต้นท่ามกลางแสงสลัวๆ ไอ้ตินเลยกล้าสอดมือมากอดเอวผมไว้หลวมๆ

“แล้วพี่ภักล่ะ”ไอ้ตินถาม

“ยังคุยกับลูกค้าอยู่เลย เอาเรื่องอะไรมาคุยกันเยอะแยะก็ไม่รู้ แต่จะกลับก่อนก็ได้ มีป้ายรถเมล์อยู่แถวนี้พอดี”ตอนนี้ผมก็เริ่ม
เหนื่อยแล้วเหมือนกัน หิวข้าวด้วย ผมกับพวกมันเลยตกลงกันว่าจะกลับเพราะเริ่มหมดแรง

ออกมาสูดอากาศด้านนอกได้แล้วสดชื่นกว่าด้านในตั้งเยอะ ระหว่างที่เดินไปรอที่ป้ายรถเมล์ก็ผ่านโรงแรมสามดาวเข้าพอดี ผมกับอีกสองคนหยุดเดินอัตโนมัติ

“ต่อไหม หรือจะกินข้าวก่อน”ไอ้ตินถาม แต่ก็อย่างว่าแหละครับ แค่มองตาก็รู้ไส้รู้พุง สรุปข้าวไม่ต้องกิน กินอย่างอื่นแทน ไหนๆก็ไหนๆแล้วกลับไปอพาร์ทเม้นต์ตอนนี้เกรงว่าจะไม่สะดวก เดี๋ยวพี่ภักกลับมาจ๊ะเอ๊เข้าคงสยองน่าดู









*************************************

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 11-03-2016 15:23:45
*************************************





ตอนสายๆผมกับพวกมันเข้าไปหาพี่ภักที่โชว์รูม อากาศค่อนข้างแย่เพราะฝนตกตั้งแต่เมื่อเช้ามืด ถนนหนทางเฉอะแฉะไปหมด หนาวอีก ผมจามไปสามทีติดเพราะต้องมานั่งตากแอร์ตั้งนาน เพราะไอ้ภูมัวแต่สนใจรถพวกรถสปอร์ตรุ่นใหม่ ผมเองก็สนใจนะ แต่เดินดูรอบเดียวก็เบื่อแล้ว ต่างจากไอ้ภูวนแล้ววนอีก 

“พอดีเลย พนักงานพี่พกยามาด้วย”พี่ภักส่งแผงยากับขวดน้ำให้ผม ตอนนี้ผมย้ายมานั่งที่ห้องรับรอง เพราะไม่อยากตากแอร์ ปล่อยให้ไอ้ภูกับไอ้ตินบ้าอยู่สองคน ไอ้ภูบ้ารถ ส่วนไอ้ตินมันไปเล่นเกมส์ในแท็ปแล็ตที่โชว์อยู่ด้านนอก พอๆกันเลย แทนที่จะเอาเวลามาสนใจผม ต้องเป็นพี่ภักที่เอายามาให้ผมซะงั้น มันสลับกันไม่ใช่เรอะ

“ขอบคุณครับ”ผมกลืนขนมปังลงท้อง ก่อนรับยามา พี่ภักขยับเสื้อก่อนนั่งลงข้างๆผม ใบหน้าเต็มไปด้วยคำถาม

“เมื่อคืนพี่ตกใจหมดที่ไม่เห็นพวกเราที่ห้อง”

“โทษทีครับที่ไม่ได้โทรบอก พอดีพวกผมเมามาก เลยค้างที่โรงแรมแถวนั้น”ไม่ได้เมาเหล้า แต่เมาอย่างอื่น พูดแล้วก็นึกถึงเมื่อคืนเลย ผมมึนๆด้วย ไม่รูทำอะไรไปบ้าง หวังว่าคงไม่หื่นมากไป อายไอ้สองตัวนั่นมัน

“พี่แค่เป็นห่วงน่ะ กลัวว่าจะหลงแล้วโดนจี้โดนปล้น แถวนี้มีพวกคนดำเยอะด้วย คราวหน้าคราวหลังก็ระวังด้วยล่ะ”พี่ภักให้ความรู้สึกเหมือนคุณพ่อเลย

“ว่าแต่เมื่อคืนพี่ภักกลับดึกไหมครับ คงเหนื่อยแย่เลย”อย่าบอกนะว่าเรียนจบแล้วไอ้ภูต้องมาทำงานแบบนี้ ผมสงสารมันขึ้นมาเลย

“ก็ไม่เท่าไหร่หรอก พี่แค่คุย เป็นผู้ฟังที่ดี”แอบเห็นอีกฝ่ายทำหน้าเบื่อ

“พี่ขอถามอะไรหน่อยสิ คือ…แค่สงสัยน่ะนะ”พี่ภักเลียริมฝีปากเหมือนไม่มั่นใจ ผมเองก็พอจะรู้ว่าท่าทางแบบนี้หมายถึงอะไร สายตาของคนตรงหน้าอ้อยอิ่งอยู่ที่คอของผม จนผมเริ่มรู้สึกร้อนตัว

“ครับ”ผมยิ้มซื่อ

“คือ….”พี่ภักมองหน้าผมแล้วมุ่ยปาก ก่อนจะฉีกยิ้มอีกรอบ

“ไม่มีอะไรหรอก พอดีพี่ลืมไปแล้วว่าจะถามอะไร ไว้นึกออกจะมาถามใหม่นะ”พี่ภักทำผมงงไปพักใหญ่ แม้ว่าอีกฝ่ายจะออกไปจากห้องแล้วก็ตาม ไอ้ตินโผล่เข้ามาหาผมคนแรก มันเอามืออิงหน้าผากเพื่อวัดไข้   

“นึกว่าลืมไปแล้วว่ามีมะ--”ไอ้ตินเลิกคิ้วมอง ผมกลืนคำพูดที่เกือบหลุดออกมาลงคอตามเดิม

“เล่นเกมส์สนุกไหมล่ะ”ผมเปลี่ยนคำถาม มันหัวเราะทันที

“ก็งั้นๆแหละ คงไม่เท่ามึงเมื่อวานหรอก”

“เออ กูก็ว่า ปวดเนื้อปวดตัวเหมือนกัน กูเต้นท่าแปลกๆบ้างรึเปล่า”ผมบิดเอวไปมาแก้เมื่อย มันทำหน้าเจ้าเล่ห์

“ปวดเพราะกิจกรรมอย่างอื่นรึเปล่า”พอมันทักขึ้นมา ผมก็เริ่มจำรายละเอียดปลีกย่อยได้ ไม่อยากจะพูดเลยว่าบ้าพอๆกับตอนเต้นในคลับ

“วันหลังสงสัยต้องกรอกเหล้าให้มึงเยอะๆ จะได้อึดๆแรงดีไม่มีตกแบบเมื่อคืน แถมยัง…”ผมเอามืออุดปากมันเพราะไม่อยากจะฟังต่อ แสลงใจจริงๆ

“เออ กูรู้แล้ว มึงไม่ต้องพูดหรอก”

“เมื่อกี้พี่ภักว่าไงบ้าง เข้ามานานจัง”ยังอุตส่าห์สังเกตอีกนะ

“อืมก็ กูว่าพี่เขาเริ่มสงสัยพวกเราแล้วว่ะ ทำอะไรก็ระวังๆบ้างนะ”

“บอกตัวเองด้วยสิ”เสียงกวนประสาทแบบนี้มีแค่ไอ้ภู ผมเหลือบมองเห็นว่าที่ซอกคอมันมีรอยกัดจางๆ นั่นฝีมือผมเหรอ… 

“มันไม่กล้าพูดหรอก”ไอ้ภูพูดอย่างมั่นใจ ผมก็ว่างั้นแหละ เหตุการณ์เมื่อครู่บอกได้ชัดเจน

“แล้วอาการดีขึ้นหรือยัง”มันเปลี่ยนมาใช้สีหน้าจริงจัง

“อืม ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่ไอนิดหน่อยเพราะอากาศเปลี่ยน”ผมแตะคอตัวเองไปด้วย

“นี่ถ้ากูไม่กลัวพ่อด่านะ กูจะลองเอารถออกไปขับซะหน่อย คันไม้คืนมือว่ะ”ดีแล้วที่ไอ้ภูไม่หาเรื่องให้ตัวเอง วันพรุ่งนี้แล้วที่มัน
ต้องไปทำงานที่โรงงานนอกเมือง มันดูไม่ค่อยเครียดแล้ว คงเพราะมันปรับตัวได้เร็ว ไอ้ภูไม่อยากอยู่รบกวนเวลางานของพี่ภักจึงขอตัวกลับ แต่เพราะผมป่วยด้วยนั่นแหละ

“พวกมึงห้ามเข้าใกล้กูนะ เดี๋ยวติดหวัด ไม่อยากให้ป่วย”ผมพูดด้วยเสียงจริงจัง มันสองคนเลยหยุดกวนประสาท ยิ่งไอ้ภูมันมีหน้าที่ต้องทำ ถ้าป่วยเดี๋ยวเสียเรื่องหมด ระยะทางจากศูนย์โชว์รูมและอพาร์ทเพนท์เดินแค่สิบห้านาทีก็ถึง พวกผมเลยตัดสินใจเดินมากกว่าขึ้นรถเมล์ ได้ยืดแข้งยืดขาไปในตัว

“อย่าลืมนะว่าพรุ่งนี้พวกมึงต้องไปเป็นเพื่อนกูก่อน กูกลัวทำอะไรไม่ถูก”ไอ้ภูพูดขึ้นมา

“แต่ความจริงพี่ควรไปคนเดียวนะ คือหมายถึงว่าเอาคนนอกไปด้วยมันก็ดูแปลกๆ”ไอ้ตินถูจมูกไปมา

“กูไม่ได้มองพวกมึงเป็นคนนอกนี่”มันหยุดเดินมองหน้าไอ้ตินแทน

“อย่าเพิ่งหัวเสียดิ ผมหมายถึงในเรื่องงานน่ะ”ความจริงผมก็คิดแบบไอ้ติน แต่ไม่อยากพูด กลัวไอ้ภูฟุ้งซ่านเดี๋ยวจะคิดว่าผมไม่อยากไป ไอ้ภูขมวดคิ้วมุ่นเมื่อนึกถึงข้อนี้ก่อนจะถอนหายใจ

“แค่ไปส่งกูที่ทำงานก็พอ โอเคไหม”มันมองหน้าผมกับไอ้ตินสลับไปมา

“โอเค”ผมยกมือตกลง ระหว่างเดินผ่านเจอร้านจำพวก Fish & chip พอดี ผมเลยแวะซื้อ เห็นไอ้ตินกับไอ้ภูทำหน้าเอียน

“ไปรอตรงนู้นนะ”ไอ้ตินบุ้ยใบ้ไปทางเก้าอี้ที่อยู่ห่างออกไป ผมพยักหน้ารับรู้ ขยับเข้าไปต่อคิว ที่กล้ามาซื้อคนเดียวเพราะมันมีเมนูให้ ผมจิ้มๆใช้ภาษามือก็พอ

“เชี่ยเอ้ย ไม่ได้มาแถวนี้ตั้งนานโคตรคิดถึง มึงรอกูที่ร้านเลยนะ กูแวะซื้อของกินอยู่”เสียงคนคุยโทรศัพท์ดังมาจากด้านหลังผมนี่เอง ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองฉลาดฟังออก ที่แท้ก็ภาษาไทยนี่เอง ผมลองเหลียวมองรอบๆเพื่อมองคนด้านหลังแบบเนียนๆ ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็น อีกฝ่ายกำลังยืนหันข้างคุยโทรศัพท์ ผมใจเต้นตึกตัก เพราะไอ้คนด้านหลังที่ว่ามันหน้าตาคล้ายๆผมเลย ยิ่งหันข้างแบบนี้ก็ยิ่งคล้าย ผมเหลือบมองไอ้ภูกับไอ้ตินมันนั่งหมกมุ่นกับโทรศัพท์ด้วยกันทั้งคู่ ผมจำได้ลางๆว่าเคยเห็นหน้าไอ้เด็กคนนี้ เมื่อนานมาแล้ว ไม่หรอกมั้ง อาจจะแค่คนที่บังเอิญหน้าเหมือนผมก็ได้ 

“แค่นี้แหละ”มันวางสาย ขยับเข้ามาใกล้ผมอีกหน่อย ผมอยากมองอีกครั้งให้แน่ใจ จึงตัดสินใจหันไปมองอีกรอบ ครั้งนี้เห็นชัดมากขึ้น ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมเคยเห็นหน้ามันมาแล้ว ครั้งนึงไอ้ภูเคยเอารูปให้ดู ผมมองไปที่ไอ้สองคนนั่นอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากแถว ไม่กงไม่กินมันแล้วเพราะมีความรู้สึกบางอย่างที่ชัดเจนมากๆ


ผมไม่อยากให้ไอ้ภูกับไอ้ตินเจอไอ้เด็กหน้าเหมือนผมเลย










TBC.
มาอัพแล้วววว ออกตัวก่อนว่าไม่มีมาม่าอะไรทั้งนั้นค่ะ ตอนนี้น่าจะมีอีกสองพาร์ท(มั้ง) อาจไม่ได้จบที่สามสิบเพราะยังเก็บประเด็นไม่หมดเลย(ไม่ใช่ประเด็นมาม่านะ) 

ไม่แน่อาจเขียนตอนพิเศ๊บพิเศษ?มาให้อ่านพอดีเคยคิดแผลงๆว่าถ้าหากฟิกคนเดิมจีบภูกับตินก่อนจะเป็นยังไง ฮ่าๆ อาจเขียนมุมมองจากคนอื่นเรื่องสามหน่อด้วย ติดตามกันต่อเนอะ  :z2:
ขอบคุณที่ติดตามค่ะทั้งนักอ่านหน้าเก่าและหน้าใหม่หลายๆคนเราชอบอ่านความเห็นของทุกคนมาก เพราะเหมือนได้แลกเปลี่ยนความคิดเลย :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-03-2016 16:25:59
เด็กนี้ใครหว่า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 11-03-2016 16:40:30
คนนนั้นสินะตอนที่พี่ภูโดนบังคับให้ย้ายมาอังกฤษอะ แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว จริงๆไม่อยากให้ฟิกเดินหนีนะอยากให้เจอหน้ากันจังๆเลยจะได้รู้ว่าเหมือนกันมากแค่ไหน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 11-03-2016 17:05:34
เด็กหน้าเหมือนฟิกที่ภูเจอแน่ๆเลย ตอนนี้แอบหื่นนะสามหน่อ :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-03-2016 18:01:07
น่ารักค่ะ. ตินป๊อดอะ อิอิ
รอปมเด็กคนนั้น
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 11-03-2016 18:27:25
อ๋อ เด็กคนนั้นนี่เอง ฟิกหวงภูกับตินสินะเลยไม่อยากให้เจอ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 11-03-2016 19:02:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 11-03-2016 20:27:09
อยากรู้ว่าฟิกทำอะไร 5555544+
ตัดฉากนั้นของเราทามมายยยยยยย~
เลยอดเห็นฟิกขึ้นคร่อมเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 11-03-2016 21:16:14
เด็กนั่นเป็นใครกันนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 11-03-2016 22:10:13
แล้วเด็กคนนี้จะเป็นตัวแปรอะไรหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 12-03-2016 01:22:53
อ้าว แล้วไง พี่ภูจะงานเข้าเปล่าเนี่ย
ภรรยาโมโหหึงแล้ว 555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 12-03-2016 02:01:51
จำไม่ได้แล้วว่าเคยมีตอนที่ฟิกมีคนหน้าเหมือน  :ling1:
ความจำสั้นมาก ๆ 55555555555
สงสารพี่ภักที่แบบ ต้องมาอยู่ท่ามกลางสามผัวเมีย
ละพูดอะไรไม่ได้ด้วยนะ อึดอัดแน่ๆ
แต่ใครจะรู้ สามคนนี้ก็ยังหาทางได้อยู่นะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 12-03-2016 09:03:36
โธ่ ๆ ๆ ๆ ๆ
อดเลยฟิก   นี่ถ้าตินรู้ว่าถูกอำ....ไม่อยากจะคิดเลยว่า ฟิกจะโดนอะไร  :laugh:

ว่าแต่ เด็กนั่นใคร
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 12-03-2016 10:12:24
โลกกลมจริงๆ!

เจอกับภูตั้งแต่ภูโดนเด้งนี่ ยังมาเจอกันอีก โถ่ๆ ฟิกรีบพาหนีเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 12-03-2016 10:56:36
แหม่ ๆๆๆๆ เดี๋ยวนี้ หนูฟิกมันสกิลความเป็นเมียเยอะจริงๆเลย  :laugh: มียั่ว มีอ่อย มีหลอก แถมจะล่อ คุณสามีอีก  :m20: เกือบแล้วตินเอ้ย เกือบเป็นเมียฟิกซะแล้ว ตินก็คงเอะใจบ้างแหละ พี่ภูนี่นะ จะยอมง่ายๆ ถึงจะรู้ว่ารักฟิกมากก็เถอะ แต่จะมายอมอะไรเร็วนัก  :katai2-1:  เอาล่ะสิ เจอฟิกสองเข้าให้แล้ว อีหนูฟิกนี่มันก็หูดี ตาดี ความจำดีจริงๆเลยนะว่า เคยเห็นตอนภูส่งรูปมาให้ดู จะบอกว่าหนูฟิกหน้าโหลป่ะ  :jul3: ล้อเล่นนะฟิก แต่อยากให้เจอกันอ่ะ รู้ว่าหนูฟิกหวงผัวๆ แต่ก็อยากเห็นหนูออกอาการจังเลย ว่าเป็นยังไง  :z2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 12-03-2016 12:02:10
 ฟิกน่ารัก

:heaven :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 12-03-2016 14:13:12
พี่ภักไม่สงสัยไม่ได้แล้วแหละ
ออกจากห้องน้ำมากับติน วันต่อมาคอพี่ภูมีรอย โอ้ย 5555555555555
แต่พี่ภักคงไม่กล้าพูดอะไร..
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 12-03-2016 22:47:45
ฟิกเวลาเมาแซ่บตลอดดดด :z1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๒] 11-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 13-03-2016 04:31:52
ฟิกกกกกกกก คิดถึงมากกกก ไม่อยากให้จบเลย  :hao5:

ประเด็นคนหน้าเหมือนน่าเล่นแฮะ หึหึ แต่ถ้าจะให้เท่าเทียมอยากให้มีคนมาจีบฟิกอีก จะได้หึงทั้งสามคนเลย :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[Piw.3] 13-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 13-03-2016 06:51:14





Piw: ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆ






ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ไอ้ปั้นยังคงวนเวียนมาหาผมอยู่เสมอ ไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหนแบบที่ผมกังวล ส่วนเรื่องบนเตียง...ตั้งแต่วันนั้นมันก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรอีก ซึ่งทำให้ผมโล่งใจไปหลายเปาะ ผมเองก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ทำงานเก็บเงินพยายามประหยัดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะผมไม่อยากใช้คอนโดของพี่ภูนาน ถึงเจ้าตัวจะบอกว่าไม่เป็นไรแต่ผมก็เกรงใจอย่างบอกไม่ถูก อาจเพราะไม่ค่อยสนิทกันด้วยล่ะ

ส่วนไอ้โต...มันก็โทรมาคุยกับผมบ้างบางครั้ง มันแค่อยากเช็คให้แน่ใจว่าผมสบายดีจริงไหม ยิ่งมันทำแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้ผมตัดใจยากกว่าเก่า ได้แต่บอกตัวเองว่ามันก็แค่เป็นห่วงตามประสาคนที่เคยอยู่ด้วยกัน เพราะผมรู้อยู่เต็มอกว่ามันน่ะ...ยังรักไอ้ป่าน ช่างเถอะ มันจะโง่ก็ไม่ใช่เรื่องของผมอีกต่อไปแล้ว

ผมเลิกงานเวลาเที่ยงคืนทุกวัน แต่วันนี้ไม่เห็นเงาหัวของไอ้ปั้นเลย ไอ้เด็กที่เหมือนจะแมนมักจะมารอผมบ่อยๆหากวันไหนมันมาไม่ได้ มันจะทิ้งข้อความไว้ แต่วันนี้มันหายไปเสียเฉยๆ จนเกิดคำถามในใจว่ามันหายไปไหน มาทำให้ผมเคยตัวแล้วก็หายหัวไปไม่บอกกล่าวได้ไง

“มันคงติดสอบล่ะมั้ง”ผมบอกตัวเองเบาๆ อยากให้ตัวเองเชื่อแบบนั้นด้วย ชั่งใจว่าจะลองโทรหาไอ้ปั้นดีไหม

เอาวะ โทรก็โทร

ผมเลื่อนกดเบอร์ที่โทรเข้ามามากที่สุด รอสายอย่างลุ้นระทึก

ตู้ด ตู้ดด ตู้ดดด

ผมรออย่างใจเย็น หรือว่าหลับไปแล้ว ช่วงที่ผมกะจะวางสาย มันก็รับพอดี

[ฮัลโหลลลล] เสียงนั้นงัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่น หรือว่ามันจะหลับจริงๆ

“หลับอยู่เหรอ”

[ห๊ะ...เออ อืม] เสียงของมันดูรนๆขึ้นมาจนผมต้องขมวดคิ้ว ความรู้สึกอะไรสักอย่างทำให้ผมเริ่มเอะใจ สกิลการจับผิดของผมเริ่มทำงาน

“มึงทำอะไรอยู่”ผมถามเสียงเข้ม เริ่มใจเสีย

[ก็นอนหลับ เพิ่งสะดุ้งตื่นตอนที่พี่โทรมาเนี่ยแหละ]

“เออ ให้มันจริง”ผมกำลังจะเชื่ออยู่แล้วเชียว ถ้าหากไม่ได้ยินเสียงจามของใครบางคน ซึ่งผมมั่นใจว่าไม่ใช่เสียงไอ้ปั้นแน่ๆ

“มึงอยู่กับใครวะปั้น ตอบกูมาตรงๆ”ผมถามเสียงเคร่ง ไม่ได้ตกใจมากนัก น่าแปลกจริงๆหรือเพราะเรื่องที่ผ่านๆมาทำให้ผมตาย
ด้านไปแล้ว

[กับ...กับเพื่อนอ่ะ พี่อย่าโกรธผมนะ] น้ำเสียงสำนึกผิดของมันยิ่งทำให้ผมคิดว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ

“เหรอ เออ ช่างเถอะ กูจะนอนแล้ว แค่แปลกใจที่ไม่เห็นมึง”

[คือพี่ปลิว เดี๋ยวผมไปหา] ได้ยินเสียงกุกกักๆลอดมา

“เฮ้ย ไม่ต้อง ดึกแล้ว มึงนอนเถอะ มีเรียนไม่ใช่เหรอ”ผมชิงวางสายก่อน มองโทรศัพท์ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก จะเศร้าก็ไม่
เชิง มันเองมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ ผมกับมันไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย แฟนก็ไม่ใช่ กิ๊กก็ไม่เชิง มันแค่ทำเหมือนว่าจีบผมอยู่ ก็แค่นั้น แต่ไม่รู้ทำไม ผมถึงได้ตาค้างนอนไม่หลับแบบนี้ ถ้าหัวใจผมมันตายด้านก็ดีสิ จะได้ไม่ต้องรู้สึกอะไรอีก

ผมใช้เวลาอาบน้ำอยู่นานสองนานเพราะเอาแต่คิดเรื่องของไอ้เด็กปั้น แต่เสียงเคาะประตูก็ดังขัดจังหวะซะก่อน ผมย่นคิ้ว ดึกขนาดนี้ใครที่ไหนมา...พี่ภูเหรอ...คงไม่ใช่ ข้อที่เป็นไปได้มากสุดคือไอ้ปั้น ผมจัดการคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวม ก่อนออกไปเปิดประตูให้คนที่รออยู่ด้านนอก

“บอกแล้วว่าไม่ต้องมา”ผมมองไอ้ปั้นยืนหอบอยู่หน้าห้อง สงสัยมันจะรีบมา

“ผมไม่ค่อยสบายใจ”ผมหัวเราะทันที

“ไม่สบายใจเรื่อง?”ที่ไม่ได้มาหาผมแบบทุกทีหรือเพราะมันหลับเพลินกับเพื่อนของมันน่ะเหรอ

“ก็...”มันเกาต้นคอ ก่อนจะเบียดเข้ามาในห้องโดยที่ไม่ตอบคำถามอะไรทั้งนั้น ผมถอนหายใจปิดประตูตามหลัง

“คือผมไม่ได้นอกใจพี่ปลิวนะ”มันรีบออกตัว จนผมเผลอยิ้ม

“กูยังไม่ได้ว่าอะไรเลย”

“หน้าตาพี่มันฟ้อง”ผมยืนจ้องหน้าไอ้เด็กตัวโตอยู่นานสองนาน อยากรู้ว่ามันคิดอะไรอยู่

“เหรอ”ผมไหวไหล่

“เมื่อเย็นผมออกไปเมากับลูกพี่มา ฟื้นมาอีกทีก็มาอยู่ที่ห้องแล้ว แต่ที่ตกใจกว่าคือเพื่อนผมมันนอนอยู่ด้วย”มันอธิบายด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง มันดูไม่ค่อยสบายใจ

“กูไม่ได้ติดใจอะไรสักหน่อย”ถึงจะสงสัยว่าเพื่อนประเภทไหนก็เถอะ

“จริงอ่ะ แน่นะ ผมรู้สึกไม่ค่อยดียังไงก็ไม่รู้”ไอ้ปั้นเงยหน้ามองผมเหมือนต้องการมองให้ทะลุว่าผมคิดยังไงกันแน่

“เออ กูง่วงจะนอนแล้ว”

“ผมขอค้างด้วยนะ”มันทำหน้าอ้อนไม้อ้อนมือ

“ตามใจ”เชื่อว่าถ้าผมไล่ มันก็คงไม่ไปอยู่ดี ระหว่างที่กำลังใส่เสื้อผ้ามันก็เข้ามาสวมกอดจากด้านหลัง

“พี่ปลิว ผมรู้ว่าพี่ไม่โอเคกับเรื่องนี้...แต่ผมจะพยายาม”ไอ้ปั้นกระซิบเบาๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรื่องนี้ที่มันว่าหมายถึงเรื่องไหน ผม
ได้แต่ปล่อยให้มันซุกหน้ากับแผ่นหลังอยู่นานจนเริ่มเมื่อย

“กูง่วงแล้ว”นั่นแหละ มันถึงได้ปล่อย

ผมพาตัวเองมาที่เตียงนอน จ้องมองความมืดอย่างไร้จุดหมายในขณะที่ไอ้ปั้นเข้าไปอาบน้ำ นอนฟังเสียงน้ำไหลจนเผลองีบไป สะดุ้งตื่นอีกทีก็พบว่าไอ้ปั้นกำลังนอนกอดผมอยู่ สัมผัสได้ชัดเจนว่ามันกำลังเปลือยเปล่า

“มึงมาหากูเพราะเรื่องนี้เหรอ”

“คือ...”ไอ้ปั้นอึกอัก

“แต่ช่างเถอะ กูชินแล้ว”ผมกะจะมองข้ามแล้วเชียว ไอ้เรื่องแบบนี้ผมเจอมาตั้งแต่สมัยคบกับแฟนเก่าแล้ว   ไม่รู้ทำไมถึงได้เจอแต่คนแบบนี้ ดวงผมไม่ดีเอาซะเลย จู่ๆผมก็เจ็บแปลบในอกเมื่อคิดได้ว่ามันก็หวังแค่เซ็กซ์เหมือนคนอื่นๆ

“เฮ้ย พี่ปลิว ผมขอโทษ”มันพึมพำตอบกลับมา ไม่รู้ว่ามันทำสีหน้าแบบไหน แต่เสียงของมันไม่ดีเอาซะเลย

“กูไม่คิดมากหรอก”ผมพลิกตัวไปหาอีกฝ่าย มันดูเหมือนเด็กๆที่กำลังทำผิด

“พี่เจอคนไม่ค่อยดีมาเหรอ”

“ก็ไม่เชิง แต่กูผิดที่ง่ายเอง”

“พี่อย่าพูดแบบนี้สิ ผมไม่ชอบเลยว่ะ”ไอ้ปั้นขมวดคิ้วมุ่นประกอบ มันเงียบไปอึดใจหนึ่ง

“พี่ปลิว...ความจริงแล้วผมโกหกพี่”ผมเลิกคิ้ว ไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไหร่

“เรื่องไหนล่ะ”

“เมื่อคืน...ผม...ออฟเด็กมา”มันบอกเสียงสั่น แต่ผมใจแกว่งอย่างแรง อืม.....

“ผมอยากพิสูจน์ตัวเอง...”

“....”ผมเงียบไปเพราะอับจนคำพูด ทำไมผมถึงเสียใจนักก็ไม่รู้

“แต่ผมก็ทำไม่ได้ กลัวเสียหน้า มันก็เลยแค่ เอ่อ...แค่อมให้”ผมควรจะรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ดี ใจหนึ่งก็อยากขำ แต่ก็ขำไม่ออก จู่ๆความรู้สึกหวงเป็นเจ้าเข้าเจ้าของก็รุนแรงขึ้นมาดื้อๆ

มันทำบ้าอะไรของมัน

“พี่โกรธผมไหม”ไอ้ปั้นยกมือมาลูบใบหน้าของผมอย่างเบามือ

“เออ กูโกรธ”ผมบอกไปตามตรง

“แต่มึงจะทำอะไรก็เรื่องของมึงเถอะ กูไม่ใช่แฟนมึงนี่ คงไม่มีสิทธิ์ห้าม”

“งั้นพี่มาเป็นแฟนผมสิ ผมสัญญาจะดูแลพี่เอง”มันพูดเสียงเด็ดเดี่ยว แววตามุ่งมั่น จนผมนึกว่ามันจะไปออกรบหรืออะไรสักอย่าง

“กูไม่แน่ใจ”ผมปอดแหกขึ้นมากะทันหัน กลัวเจ็บแบบที่แล้วๆมา

“ผมไม่ทำให้พี่เสียใจหรอก สัญญา”มันขยับเข้ามาใกล้สีหน้าอ้อนวอน

“อย่าสัญญา ถ้าวันไหนมึงทำไม่ได้จะเสียหมาเอา”เชี่ยโตก็เคยสัญญาว่าจะดูแลผมเหมือนกัน แล้วเป็นไง

“นะ เป็นแฟนกับผมนะพี่ปลิว”ไอ้ปั้นเขย่าแขนผมเบาๆ ตั้งแต่เกิดมา...ผมเพิ่งเคยโดนขอเป็นแฟนแบบนี้ สรุปไอ้ปั้น...มันกู่ไม่กลับแล้วรึไง? ผมจะได้ทำใจ

“ผมพยายามฝึกอยู่ จะเป็นแบบที่พี่ชอบ”มันพึมพำ เมื่อผมหันไปมองมันก็หน้าแดงน้อยๆ ผมขำหึ เออ จะว่าไปก็น่ารัก แต่ชมได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่

“ไอ้ปั้น...ถ้ามึงจะฝึก...มาฝึกกับกูนี่ อย่าไปฝึกกับคนอื่น”ผมว่าผมหวงมันว่ะ อาจจะหวงก้างก็ได้

“ผมไม่อยากให้พี่คิดอะไรแย่ๆอีก”

“กูไม่คิดหรอก มึงเชื่อกู ถ้ากูรู้ว่ามึงไปออฟเด็กมาอีก มึงไสหัวไปไกลๆตีนกูได้เลย กูอยากได้ความซื่อสัตย์”ที่ผ่านมาผมไม่เคยได้รับเลย

“จะดีแน่เหรอ...”ไอ้ปั้นดูลังเล แต่ผมมองออกว่ามันกำลังเนื้อเต้น

“กูจะเป็นแฟนมึงก็ได้แต่...”ผมหรี่ตามองไอ้เด็กตัวโต

“ครับ?”มันทำหน้าสงสัย

“มึงต้องแมนเพื่อกู”ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบไหนแต่...ถ้ามันถึงเวลาที่ผมต้องมาดูแลใครสักคน ผมจะพยายามก็แล้วกัน เอาเถอะ
มันชื่อไอ้ปั้นนี่นะ ผมก็ต้องปั้นมันให้ได้สิ!

“เอ่อ ครับ”มันตอบเสียงไม่มั่นใจ ไอ้ปั้นดูเก้ๆกังๆเงอะๆงะๆ ไม่ทันใจเอาซะเลยจนผมต้องทำอะไรสักอย่าง ไอ้ปั้นนอนหงายมอง
ความมืดอย่างเลื่อนลอย สีหน้าดูเป็นกังวล

“ที่ผมทำเมื่อกี้ พี่รู้สึกดีรึเปล่า”มันตัดสินใจถามในที่สุด

“ก็…ดี”ผมโกหก หรือผมตั้งมาตรฐานสูงไป ก็อย่างว่าแหละ แฟนเก่าแต่ล่ะคนก็แซ่บๆทั้งนั้น ไอ้ปั้นเลยดูเหมือนแกงจืดเย็นชืด พูดยั่วให้มันโกรธดีไหม เพื่อมันจะหน้ามืดจับผมปล้ำ เผื่อจะเร้าใจขึ้นมาบ้าง ผมเหลือบมองมันอีกครั้งก่อนจะพึมพำพอให้มันได้ยิน

“ไร้น้ำยา”ผมกลั้นใจพูดออกไป ไม่กล้ามองหน้ามันเลย เกิดความเงียบขึ้นอย่างน่ากลัว ผมค่อยๆหันมอง ไอ้ปั้นนิ่งเงียบไปแล้ว มันพลิกตัวนอนหันหลังให้ผม ถึงมันจะตัวใหญ่ แต่ตอนนี้มันดูตัวหดเล็กลง ผมขยับตัวอย่างไม่สบายใจ

“ปั้น กูพูดเล่น”ผมโน้มตัวไปใกล้ๆมัน เห็นมันนอนนิ่งแบบนี้แล้วสงสาร

“…”

“ไอ้ปั้น กูแค่แซวขำๆ…”คำพูดขาดหายไปเมื่อผมเห็นชัดว่าอีกฝ่ายถึงกับน้ำตาตก อ้าวเฮ้ย…ผมทำตัวไม่ถูก

“กูขอโทษ”ผมเขย่าไหล่มัน ไอ้ปั้นแค่สูดจมูกฟืดฟาด ผมเอื้อมไปหยิบทิชชูส่งให้มัน ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสามารถทำให้ผู้ชาย
ตัวโตๆร้องไห้ได้ แต่เรื่องนี้มันก็ค่อนข้างอ่อนไหว ผมเกาต้นคออย่างว้าวุ่น

“ปั้น”ผมดึงให้มันนอนหงาย มันขืนตัวนิดหน่อย

“ผมมันไร้น้ำยาจริงๆนั่นแหละ”มันพึมพำเบาๆ ผมมองหน้าของไอ้เด็กตัวโตแล้วถอนหายใจ ผมชอบนิสัยบางอย่างของมันนะ และ
ก็ไม่อยากให้เรื่องของผมกับมันจบลงเพราะเรื่องบนเตียง ถึงผมจะเคยพูดขู่มันไปก็เถอะ ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะก้มไปจูบไอ้ปั้นเบาๆ มันรั้งต้นคอเข้าหา ตะโบมจูบเหมือนต้องการบอกว่ามันไม่ไร้น้ำยา ไหนๆก็ไหนๆ…ผมจะลองอีกสักครั้งก็แล้วกัน ผมขยับมาทาบทับอีกฝ่ายอีกครั้ง ไอ้ปั้นทำหน้าตื่นๆ

“พี่จะทำอะไร”

“มึงชอบไม่ใช่เหรอ”คือผมก็ดูออกว่าที่มันทำให้ผมมันไม่ค่อยสุดเท่าไหร่ มันอาจจะชอบแบบนี้…..

“ไม่เอาหรอก ถ้าพี่ไม่มีความสุข ผมก็ไม่อยาก--”

“กูจะลอง”ผมพูดขัดมัน ลองดูอีกสักตั้งถ้าผมปิ๋วกลางคัน ก็เป็นอันว่าจบ ผมกับมันอาจเข้ากันไม่ได้ จู่ๆผมก็นึกไปถึงไอ้ฟิก สภาพ
มันจะเหมือนไอ้ปั้นรึเปล่า… ไม่…ผมจะไม่ทำลายภาพไอ้ฟิกที่ผมเคยเห็นเด็ดขาด ครั้งนี้ไอ้ปั้นมันพยายามช่วยผมเต็มที่ ไม่รู้ว่าอยากให้ผมรู้สึกดีไปด้วยหรืออยากโดนกันแน่

“พี่ปลิวไม่ต้องห่วงนะ ผม…”มันดูเขินอายก่อนจะยกตัวมากระซิบใกล้ๆใบหูของผม

“ผมก็จะทำให้พี่มีความสุขเหมือนกัน พี่จะได้คบกับผมอย่างสบายใจ” 

สรุปสถานะของผมกับไอ้ปั้นก็ดูป่วงๆ ผลัดกันบางเวลา บอกแล้วว่าดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆจริงๆ ไม่คิดว่าชีวิตจะกลับตาลปัตรขนาดนี้







************************************







หลังจากที่ตกลงกันได้แล้ว(คิดว่างั้นนะ) ไอ้ปั้นก็พยายามทำคะแนนอย่างสม่ำเสมอ มันคะยั้นคะยอให้ผมย้ายไปอยู่กับมันที่หอ

“พี่ไปอยู่กับผมดีกว่า”

“กูไม่อยากเกาะมึง”รู้สึกแบบนั้นจริงๆ

“ไม่เกี่ยว เราเป็นผัวเมียกันแล้วนี่”ผมเหลียวมองคนพูด มันทำหน้าซื่อๆจนผมอ่อนใจ ต้องถหามมันอีกรอบ

“แล้วใครผัวใครเมีย”สิ้นคำถามมันก็เขิน

“ก็...โหย พี่ปลิวถามตรงๆแบบนี้ผมก็อายเป็นนะ”

“อายอะไรล่ะ”

“เออๆ พี่ปลิวเป็นเมียผม พอใจยัง”มันพูดอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่บางทีมันไม่ค่อยได้ทำหน้าที่เท่าไหร่ ผมไม่ค่อยชินเวลาที่เห็นมันเขินเท่าไหร่ หน้ามันจะแดง มือไม้อยู่ไม่สุข คิดไปคิดมาก็อยากได้ยาปลูกผมจริงๆ สงสัยผมต้องลดนิสัยห้าวๆลงบ้าง แต่นึกภาพไอ้ป่านแล้วก็ไม่ไหว ให้ผมจริตจกร้านแบบมัน ก็ทำไม่ได้อีก

“งั้นเอาแบบนี้...ค่าห้อง หารกันคนล่ะครึ่ง พี่โอเคไหม”ไอ้ปั้นกลับมาเกลี้ยกล่อมผมอีกรอบ

“ถ้าแบบนี้ก็โอเค”ผมเองก็ไม่ค่อยอยากอยู่คอนโดของพี่ภูสักเท่าไหร่ วันนั้นก็เลยจัดการย้ายของออกจากห้องพี่ภู หอของไอ้ปั้น
ไม่ใหญ่มาก รวมข้าวของของผมด้วยห้องก็เลยดูคับแคบ อาจเพราะของที่ไม่เป็นระเบียบของเจ้าของห้องด้วย

“มึงเคยเก็บกวาดห้องไหมเนี่ย”ผมมองหาไม้กวาด ไอ้ปั้นวางกระเป๋าของผมลงบนเตียงที่มุมห้อง ก่อนจะส่ายหน้า

“ผมไม่ค่อยมีเวลาอ่ะ”

“ยุ่งอะไรนักหนา”ก็พอจะรู้นอกจากเรียน มันก็ชอบไปเมาบ่อยๆ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ผมทนได้ ถ้ามากกว่านี้ก็ต้องคุยกันอีกที

“พี่ไม่ต้องทำหรอก เดี๋ยวผมทำเอง”มันรีบปรี่มาหาเมื่อเห็นว่าผมกำลังเก็บกวาดห้องให้มัน

“กูไม่ชอบอยู่ห้องรกๆ”ผมดันตัวมันออก

“พี่ไปนั่งเถอะ เดี๋ยวผมทำเอง”มันแย่งไม้กวาดไปจากมือของผม

“เออ กูจะช่วยก็ไม่ชอบ”ผมจึงย้ายตัวเองไปเก็บกระเป๋า

“ผมพูดไว้แล้วว่าจะดูแลพี่ให้ดี”มันหันมายิ้มให้ผม ระหว่างที่กวาดห้องจนเศษฝุ่นฟุ้ง ผมล้วงเจอกุญแจคอนโดของพี่ภูพอดี ยังไม่ได้เอาไปคืนเลย เบอร์พี่ภูก็ไม่มี  ผมเลยโทรหาไอ้ฟิกแทน ปลีกตัวออกไปคุยนอกระเบียง ปล่อยให้ไอ้ปั้นจัดห้องต่อไป

[ว่าไง ปลิว] มันรับสายด้วยเสียงแช่มชื่น

“คือกูจะเอากุญแจห้องคืนพี่ภู ตอนนี้มึงอยู่หอรึเปล่า”

[อ้าว แล้วมึงหาที่อยู่ใหม่ได้แล้วเหรอ] มันถามเสียงแปลกใจ

“อืม ได้แล้ว”

[เสียงมึงแช่มชื่นแบบนี้ แสดงว่ามีอะไรดีๆล่ะสิ] ผมยิ้มเมื่อหน้าไอ้ปั้นลอยเด่นมา

“ก็นิดหน่อย”จะดีกว่าถ้ามันแซ่บกว่านี้ แต่ไม่เป็นไรค่อยฝึกๆมันไป แต่กลัวมันจะกู่ไม่กลับ ผมก็ไม่กล้าถามอีกรอบว่ามันชอบแบบไหนมากกว่ากัน กลัวคำตอบของมันจริงๆ

[เออ เดี๋ยวมึงเอากุญแจมาให้กูเลยก็ได้ กูว่าง]

“โอเค”นัดแนะมันเสร็จสรรพ ก็วาง เจอเข้ากับสายตาจดจ้องของไอ้ปั้นพอดี

“คุยกับใคร”มันถามเสียงห้วนๆ จนผมหัวเราะ

“ไอ้ฟิก”มันย่นคิ้วทันที

“โทรหาทำไมอ่ะ”

“จะเอากุญแจห้องไปคืน”ผมเก็บโทรศัพท์ เบียดมันเพื่อกลับเข้าไปในห้อง

“อ้อ…เดี๋ยวผมไปส่ง”ผมมองสีหน้าของมันแล้วก็อยากขำ ไม่รู้ว่าคิดอะไรของมันอยู่

ระหว่างที่ลงมาจากห้องก็เจอเข้ากับเพื่อนไอ้ปั้นพอดี

“อ้าว ใครวะ”เพื่อนมันมองผมงงๆ ไอ้ปั้นยิ้มกว้าง

“แฟนกูเอง”มันตอบด้วยเสียงภูมิใจเหมือนเด็กที่มีของเล่นดีๆอวดเพื่อน ผมส่งยิ้มให้เพื่อนมัน

“แหม ใช่คนที่มึงคอยไปเฝ้ารึเปล่า”

“เออ นั่นแหละ”ผมถูจมูกไปมาพวกมันคุยกันเหมือนผมไม่ได้ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้

“ดีใจด้วยเพื่อน”เพื่อนไอ้ปั้นตบบ่ามันเสียงดัง ทำไมต้องทำท่าทางดีใจกันขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ เล่นเอาผมทำตัวไม่ถูกเลย


ไอ้ปั้นพาผมมาส่งที่หอของไอ้ฟิก เจ้าตัวนั่งรออยู่ที่ม้าหินอ่อนแล้ว มันมองผมกับไอ้ปั้นด้วยสายตาสงสัย เมื่อผมเข้าไปใกล้มันก็ยิงคำถามทันที

“มันเป็นแฟนใหม่มึงเหรอ”ไอ้ฟิกหันมองไอ้ปั้นที่นั่งรออยู่ที่รถ ก่อนจะกลับมามองหน้าผม

“อืม เพิ่งคบได้ไม่นาน”ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง ผมส่งกุญแจคืนให้มัน

“กูดีใจนะที่มึงเปิดใจอีกครั้ง ไอ้ปั้นก็ดูใช้ได้ แต่มึงต้องระวังๆไว้หน่อย มันอยู่แก๊งอันธพาลด้วย”ไอ้ฟิกเตือน

“เออน่า ไม่ต้องห่วงหรอก”ผมมองหน้าอดีตกิ๊ก มีคำถามผุดขึ้นมามากมาย แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ไอ้ฟิกเลิกคิ้วมองผมเหมือนจับ
สังเกตุได้

“เป็นไร มีอะไรก็พูดมา ตอนนี้กูกำลังว่างๆ”มันดูอารมณ์ดี

“ก็…คือ กูแค่ถามเฉยๆนะ อย่าโกรธกู”ผมออกตัวไว้ก่อนจนไอ้ฟิกย่นคิ้ว

“เออ แล้วมึงจะถามอะไรล่ะ”

“มึงรู้สึกยังไงที่ เอ่อ…”ผมเหลียวมองไอ้ปั้น ก่อนกลับมามองไอ้ฟิก

“มึงเปลี่ยนตำแหน่งแล้วรู้สึกดีไหม”ผมกลั้นใจถามออกไป ไอ้ฟิกชะงักไปทันที ถ้าหน้ามันสามารถระเบิดออกมาได้ ป่านนี้คง
ตูมตามไปแล้ว มันขึงตามองผม

“ถามเชี่ยไรของมึงเนี่ย เดี๋ยวยันโครมเลย”ไอ้ฟิกมองหน้าผมอย่างหงุดหงิด ก่อนที่มันจะเร่งรีบกลับเข้าไปในหอ ผมหัวเราะไล่หลัง รู้สึกว่ามันน่ารักขึ้น ไม่ได้ห่ามแบบแต่ก่อนแล้ว ….ผมกลับไปมองไอ้ปั้นอีกครั้ง

โอเค ผมจะพยายามปรับตัวและทำใจให้ชินก็แล้วกันว่าไอ้หมีตัวโตของผมมันไม่แมน 











TBC.
ดูๆไปปั้นมันก็น่ารักนะ  :laugh: เรื่องของคู่นี้พยายามไม่ยัดNCเยอะ ไว้ค่อยจัดเต็มทีหลัง ขอบคุณที่ติดตามค่ะ   :กอด1:



หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[Piw.3] 13-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-03-2016 07:38:31
ในที่สุดก็ลงตัวเนอะ. ลุ้นคู่นี้มาตลอดเลย
แมนเพื่อพี่ อิอิ เอาเหอะ เอาเท่าที่สบายใจ
สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องของคนสองคนที่จะตกลงกันเนอะ  :pig4:    :L2:   
ฟิกเขินอีกแล้ว 555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[Piw.3] 13-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-03-2016 08:04:02
ภาพและบรรยากาศแปลกๆนั้นลอยมาเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[Piw.3] 13-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 13-03-2016 08:12:20
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[Piw.3] 13-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 13-03-2016 09:47:06
ต้องทำใจ.. ที่ปั้นไม่แมน

55555555555555555555555555555555555555555555555

ถ้ารักจริง มันย่อมได้ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[Piw.3] 13-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 13-03-2016 10:59:29
5555 ถึงขนาดต้องทำใจกันเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[Piw.3] 13-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 13-03-2016 11:34:15
อ่านคู่นี้ทีไรขำทุกที
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[Piw.3] 13-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-03-2016 11:37:56
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[Piw.3] 13-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 13-03-2016 12:22:06
โธ่...น้องปั้นคนแมน
จะดูแลแฟนแบบงานบ้านบ้านไม่ต้องทำ
ทำเรื่องบนเตียงให้น้องปั้นก็พอ

อุ๊บส์! แสลงใจปลิว อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[Piw.3] 13-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 13-03-2016 14:51:15
 :laugh:  น้องปั้น.  :mew5:   
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[Piw.3] 13-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 13-03-2016 15:43:20
ปั้นน่ารักกก :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[Piw.3] 13-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 13-03-2016 17:06:17
ฮ่าๆๆๆๆคู่นี้อ่านแล้วก็ฮา ดูท่าปั้นคงกู่ไ่ม่กลับแล้วจริงๆแหละ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[Piw.3] 13-03-59 P.40
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 15-03-2016 07:49:24
 :z13:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 15-03-2016 14:00:22


ตอนที่29.3






ผ่านไปห้าวัน...เป็นห้าวันที่ยาวนานมากสำหรับผม ไอ้ภูไปฝึกงานที่โรงงานในเมืองสวินดัน ออกไปแปดโมงเช้ากลับมาสี่โมงเย็น ผมแทบไม่ได้คุยกับมันเลยเพราะกลับมามันก็นอนสลบ เช้าๆก็ออกไปแล้ว และมันจะหน้าบูดบึ้งเหวี่ยงไปทั่ว ผมกับไอ้ตินทำได้แค่ปล่อยให้มันอยู่คนเดียว เข้าใจว่ามันคงกดดัน เห็นมันเป็นแบบนี้ผมเลยไม่กล้าถามเรื่องที่ค้างคาใจอยู่ ก็ไอ้เรื่องเด็กที่หน้าเหมือนผมนั่นล่ะ ผมเองก็จำรายละเอียดที่มันเคยเล่าให้ฟังไม่ได้แล้วเหมือนกัน จำได้แค่ว่ามันหน้าเหมือนผม แต่ก็ไม่คิดเลยจริงๆว่าจะได้เจออีก บังเอิญอะไรอย่างนี้

วันนี้ก็เช่นกัน มันกลับมาช่วงบ่ายๆซึ่งเร็วกว่าปกติ  หน้าตาเคร่งเครียดตามเคยกับเสื้อเชิ้ตสีครีมยับๆ ทรงผมยุ่งๆต่างจากขาไป ผมกำลังนึกอยู่เลยว่าพ่อมันส่งลูกชายมาทรมานรึเปล่า เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีความสุข

“เหนื่อยชิบหาย”แล้วมันก็พ่นคำหยาบสารพัดถึงหัวหน้างานของมันให้ผมกับไอ้ตินฟัง

“ถ้ามึงสองคนเบื่อๆ จะออกไปเที่ยวก็ได้นะ กูไม่คิดมากหรอก จะอดอู้อยู่ในอพาร์ทเม้นท์ทำไม”ไอ้ภูหันมามองหน้าผมกับไอ้ติน ผมถอนหายใจ เห็นสภาพมันเป็นแบบนี้แล้ว มันคิดว่าผมยังมีอารมณ์ออกไปเที่ยวอีกเหรอ ผมกับไอ้ตินไม่ตอบอะไร

“แก้เหนื่อย”ผมส่งแก้วน้ำส้มเย็นๆให้ไอ้คนที่เหมือนถูกสูบวิญญาณจนหมดแรง ไอ้ภูเงยมองผมพร้อมกับยิ้มกว้าง

“เดี๋ยวนี้ รู้หน้าที่ดีนะ”

“อย่ากวน กูเห็นมึงเหนื่อยๆหรอก”อยากจะตบกบาลมันสักที ผมทิ้งตัวที่โซฟาข้างๆมัน ไม่รู้ช่วงนี้พี่ภักทำงานหนักรึเปล่า พัก
หลังๆไม่ค่อยมาที่อพาร์ทเม้นท์เลย 

“ออกไปเดินเล่นเถอะ พวกมึงไม่เบื่อเหรอ”ไอ้ภูชวน

“กลัวมึงเป็นลม”

“โห มึงนี่ดูถูกกูซะแล้ว พิสูจน์ไหมล่ะ”มันยกยิ้มที่แปลความหมายได้อย่างเดียว

“เออ ไปก็ไป”ผมไม่อยากเถียงกับมันเลยตัดบทไปซะอย่างนั้น

“ว่าแต่พี่ภักเขาไม่ค่อยกลับมาห้องเลยนะ มีปัญหาอะไรรึเปล่า”ไอ้ตินเกาคางสีหน้าสงสัยไม่ต่างจากผม ไอ้ภูเหลียวมองก่อนจะลุกยืดตัวเต็มความสูง

“ก็…คงเกรงใจล่ะมั้ง”มันหัวเราะในลำคอ

“เกรงใจ?”ไอ้ตินเลิกคิ้วสูง แปลกเนอะ เป็นเจ้าของห้องแท้ๆ มันสองคนยิ้มให้กัน ผมขี้เกียจซัก ปล่อยให้พวกมันรู้กันอยู่สองคนนั่นแหละ


ไอ้ภูพาผมกับไอ้ตินออกมาเดินเล่นที่สวนไฮด์ปาร์ก สวนขนาดใหญ่ใจกลางเมืองลอนดอน อากาศกำลังสบาย ๆเหมาะแก่การปั่นจักรยาน เจอจุดเช่าในสวนพอดี ผมกับพวกมันเช่าคนละคัน ไปตามเส้นทางช้าๆ ไอ้ถึกสองตัวปั่นนำหน้าผมไปลิบลิ่ว ไอ้ห่าพวกนี้ไม่รอผมกันสักคน 

“ชักช้าว่ะ”ไอ้ตินเหล่มองเมื่อผมปั่นเข้าไปใกล้

“ใครจะไปฟิตปั๋งเหมือนพวกมึงล่ะ”ผมประชด พลางหยิบขวดน้ำออกมาจากกระเป๋าเป้ นั่งเล่นรับลมแถวๆริมแม่น้ำ ไม่ไกลนักมีบาร์แบบเปิดตั้งอยู่ ลูกค้าส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว ริมแม่น้ำมีพวกนกเป็ดน้ำเต็มไปหมด 

“เดี๋ยวกูมา”ไอ้ภูกับไอ้ตินผละไปเอาขนมปังให้แม่หงส์ขาวกับลูกๆ หงส์เหมือนกับห่าน ห่านเหมือนเป็ด ที่ว่ามานั่นผมแยกไม่ค่อยออกหรอก ผมหยิบกล้องออกมาถ่ายภาพบรรยากาศเก็บไว้ กะจะอัพลงโซเชี่ยลให้คนอิจฉาเล่น ผมนั่งมองมันสองคนไปเพลินๆจนสะดุดเข้ากับเด็กคนหนึ่ง ไม่ใช่ไอ้คนที่หน้าเหมือนผมหรอก แต่มันกำลังเพ่งมองไอ้ภูอยู่ ทำท่าเงอะๆงะๆกล้าๆกลัวๆเหมือนอยากเข้าไปทักแต่ก็ไม่กล้า มันไม่ได้มาคนเดียว แต่มีเพื่อนอีกสองสามคนมาด้วย ผมคว้ากระเป๋าที่พวกมันฝากไว้มาถือก่อนจะเข้าไปร่วมวงด้วย เห็นจากทางหางตาว่ามันยังไม่ไปไหน

“เป็นไรฟิก ทำหน้าแปลกๆ”ไอ้ตินสังเกตเห็นเข้าพอดี มันกัดขนมปังก่อนจะโยนให้ลูกหงส์สีตุ่นๆในแม่น้ำ

“เปล่า”ผมมองไอ้ภูที่เอาแต่สนใจแม่หงส์ของมันอย่างหงุดหงิด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าหงุดหงิดอะไร

“ป่ะ ไปที่อื่นเหอะ”ผมกระตุกชายเสื้อเชิ้ตยับๆของไอ้ภู

“อากาศดีจะตาย กูแค่เกียจปั่นแล้ว”ในเมื่อมันไม่สนใจ ผมจึงหันไปหาไอ้ตินแทน

“ไอ้ตินกูอยากนั่งเรือถีบอ่ะ”ผมบุ้ยใบ้ไปที่เรือถีบสีฟ้าลอยเด่นอยู่กลางแม่น้ำ จุดเช่าอยู่ที่ฝั่งตรงข้าม ไอ้ตินย่นหน้า

“ตอนนี้เลยเหรอ”มันยังมาถามมากอีก

“เออดิ ถ้าพวกมึงไม่ไปกูไปเองก็ได้”พวกมันไม่ปล่อยให้ผมไปคนเดียวหรอก

“มึงบ้าเปล่าเนี่ย งอแงอะไร”ไอ้ตินยิ้มขำ

“กูไม่ชอบหงส์”พูดจบไอ้ภูมันก็แกล้งดันผมจนเซ รองเท้าเปียกน้ำ ฝูงหงส์แตกฮือ ไอ้ภูกับไอ้ตินหัวเราะ ผมหงุดหงิดหนักกว่าเดิมเพราะมีสายตาหลายคู่จ้องมา 

“เอ่อ…ขอโทษนะครับ”นั่นไง มันเข้ามาทักจนได้ ผมเขวี้ยงสายตาหงุดหงิดไปมอง มันจ้องหน้าผมก่อนจะเสมองไปที่ไอ้ภู
“ใช่พี่ภูรึเปล่า”มันยิ้มเหมือนลุ้นกับท่าทีของไอ้ภู

“รู้จักพี่ด้วยเหรอ”ไอ้ภูทำหน้ามึนๆ คิ้วขมวดมุ่นเหมือนพยายามนึกให้ออกว่าไอ้เด็กตรงหน้านี่เป็นใคร ผมกับไอ้ตินได้แต่มองหน้ากัน

“ผม…โอไง เพื่อนไอ้เบ็นซ์ ที่เมื่อปีก่อนพี่แอบตามถ่ายรูปมันอ่ะ…”ไอ้เด็กโอพูดเสียงดังเหมือนตื่นเต้น ผมขมวดคิ้วทันที อะไรนะ แอบตามถ่ายรูป ผมมองหน้าไอ้ภูทันที มันยังดูงงๆอยู่

“จำไม่ได้เหรอ ที่ไชน์น่า ทาวน์ไง ไอ้เบ๊นซ์…หน้าเหมือนแฟนพี่”ไอ้โอหันมามองผมอีกครั้งก่อนจะหัวเราะ

“เออว่ะ คล้ายจริงๆ”

“อ้อออ เฮ้ย กูจำได้แล้ว ว่าแต่มึงไปไงมาไงวะ”ไอ้ภูทำหน้าเหมือนจำได้แล้ว ผมพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อไอ้ภูกับ
ไอ้เด็กชื่อโอคุยกันยาวยืด ได้ความว่ามันเพิ่งกลับไปเรียนต่อที่ไทยให้จบหลังจากที่จบหลักสูตรแลกเปลี่ยน ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมมันเลยมาเที่ยวกับเพื่อนอีกครั้งเพราะคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ

“จะคุยกันอีกนานไหม ถ้านานก็แวะเข้าร้านนู้นก่อน กูเมื่อย”ผมบุ้ยใบ้ไปที่บาร์กลางแจ้งใกล้ๆ คือตั้งใจจะประชดแต่พวกมันกลับพากันไปนั่งที่ร้านนั้นกันจริงๆ เพื่อนไอ้โอก็ตามมาด้วยแต่นั่งแยกโต๊ะ เพราะโต๊ะไม่พอ ไอ้ตินสั่งน้ำกับของทอดมาให้ ส่วนไอ้ภูน่ะเหรอ เม้าท์ไฟแล่บกับไอ้โออยู่สองคน

“แล้วไอ้เบ๊นซ์ล่ะ ไม่ได้มากับมึงเหรอ”ผมเผลอกัดลิ้นตัวเองเมื่อได้ยินไอ้ภูถามไอ้เด็กนั่น

“เป็นอะไรมากไหม”ไอ้ตินขยับเข้ามาใกล้ ผมคายเฟรนฟรายใส่กระดาษทิชชู ถึงกับน้ำตาเอ่อ ใครเคยเป็นคงพอจะรู้ว่าเจ็บแค่
ไหน ไอ้โอหันมามองผมก่อนจะหัวเราะอีกรอบ ขำเชี่ยไรของมึง ผมมองมันกับไอ้ภูด้วยสายตาไม่สบอารมณ์

“ไหน แลบลิ้นให้กูดูดิ๊”ไอ้ตินสั่ง

“จะบ้าเหรอ”ผมย่นคิ้วใส่ แต่ก็ยอมทำตามที่มันบอก ไอ้ภูเหลือบมองก่อนจะหยิบเฟรนฟรายจิ้มซอสพริกใส่ปากผม

“กวนตีน”ผมขึงตาใส่ ยิ่งอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่ แต่มันกลับหัวเราะชอบใจ 

“ไอ้เบ๊นซ์มันนอนขี้เกียจอยู่ที่โรงแรมนู่น แต่แฟนพี่หน้าคล้ายมันจริงๆนะ”ไอ้โอย้ำอีกรอบ มันมองหน้าผมอยู่นานสองนานเหมือนคนไร้มารยาท

“เดี๋ยวผมลองโทรหามันก่อน”ว่าแล้วมันก็เอาโทรศัพท์ออกมา ไอ้ตินยกน้ำขึ้นจิบก่อนจะโน้มตัวไปหาไอ้ภู

“ใช่คนที่พี่ส่งรูปมาให้ดูรึเปล่า”ไอ้ตินก็เริ่มสนใจอีกคน ผมปล่อยให้พวกมันคุยกันอยู่สามคน ก่อนจะย้ายตัวเองไปนั่งติดกับรั้วริมแม่น้ำ มองแม่หงส์กับลูกๆแล้วสบายใจกว่ามองหน้าพวกมันอีก

“ไอ้ฟิกมันเป็นอะไรของมัน”ได้ยินเสียงไอ้ภูแว่วมา

“ฟิก มานั่งตรงนี้”ไอ้ภูเรียก แต่ผมทำเหมือนไม่ได้ยิน มองแม่น้ำ มองเรือไปเรื่อย ผมคิดว่าไอ้เบ๊นซ์เด็กหน้าคล้ายผมคงเช่า
โรงแรมอยู่ใกล้ๆแถวนี้เพราะผ่านไปเกือบๆยี่สิบนาทีมันก็มาถึงแล้ว คิดดูเถอะ ไอ้ภูยอมทนรอยี่สิบนาทีเพื่อไอ้เด็กเบ๊นซ์ ไอ้ตินก็เหมือนกัน ไม่รู้อยากเจออะไรนักหนา กะอีแค่คนหน้าคล้ายไม่เคยเห็นหรือไง พอมาถึงมันก็กอดไอ้ภูเสียแน่น

“โหยพี่ภู ไม่เจอกันตั้งนาน นึกว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะเนี่ย เอ๊ะ ทำไมผมกับพี่เจอกันที่ลอนดอนตลอดเลย สงสัยไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้วมั้ง”มันพูดด้วยเสียงขำๆ จนผมหันไปมองอย่างเหม็นขี้หน้า ไอ้เบ๊นซ์(ดันมาชื่อเหมือนเพื่อนผมอีก) สบตากับผมเข้า
พอดี เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นหน้ามันชัดๆ …ก็ยอมรับว่าคล้ายนิดๆ แต่ก็ไม่มีอะไรเหมือนสักอย่าง ยิ่งมองตรงๆก็หาไม่เจอ มีแค่เค้าหน้ารวมๆเท่านั้นที่เหมือน ผมขมวดคิ้วเมื่อมันส่งยิ้มมาให้

“รู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ เจอคนหน้าคล้ายตัวเอง”

“มึงเกิดทีกลังกู เพราะงั้นต้องพูดว่ามึงหน้าคล้ายกู”ผมส่งยิ้มนุ่มนวลไปให้ ทั้งๆที่ในใจขุ่นมัว อาการแบบนี้ผมก็เพิ่งเคยเป็น ทั้งๆที่ไม่เคยเจอไอ้เบ๊นซ์มาก่อนแต่กลับเหม็นหน้ามันสุดๆ ไอ้ตินมองผมกับไอ้เบ๊นซ์ก่อนจะหัวเราะ

“เอาน่า แค่หน้าโหลเอง อย่าซีเรียส”

“ผมไม่ได้ซีเรียสสักหน่อย”มันยิ้ม ก่อนจะส่งโทรศัพท์ไปให้ไอ้โอเพื่อนมัน

“มึงถ่ายรูปให้กูหน่อย”ผมมองว่ามันจะทำอะไร ก็เมื่อมันเข้ามาหย่อนก้นข้างๆผม

“ผมขอถ่ายรูปกับพี่ฟิกนะ จะเอาไปแกล้งเพื่อน ว่าไง นั่งข้างๆกันแบบนี้เหมือนไหมพี่ภู”มันย้อนถามไอ้คนที่นั่งพิงเก้าอี้อยู่ มันยิ้มก่อนจะตอบ

“ก็คล้ายๆอยู่”

“กูไม่อยากถ่าย”ผมพึมพำขึ้นมา เมื่อเห็นไอ้ตินหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วย พยายามจะไม่ใส่อารมณ์กับพวกมัน เพราะเห็นชัดๆว่า
เรื่องนี้มันไร้สาระ

“แค่สองรูปเองครับ”ไอ้เบ๊นซ์ยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี ต่างจากผมที่หน้าหงิกเหมือนคนปวดท้อง เบี่ยงหน้าหนีก็แล้ว พวกมันก็บังคับให้ผมมองกล้องอยู่นั่นแหละ

“ก็บอกว่าไม่ถ่ายไง”ผมลุกจากเก้าอี้ทันควัน จนพวกมันมึนงงไปตามๆกัน

“กูจะออกไปเดินเล่นแถวนี้นะ หายใจไม่ค่อยออก”พูดจบผมก็รีบเดินออกจากบาร์กลางแจ้ง ปล่อยให้พวกมันงงกันต่อไป เดินมาได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆตามมา

“ไอ้ฟิก”เสียงไอ้ภูกับไอ้ตินเรียกอยู่ด้านหลัง แต่ผมก้าวดุ่มๆต่อไปอีกสักพัก รอให้ตัวเองอารมณ์ดีก่อนจะหันไปหาพวกมันสองคน ไอ้ภูกับไอ้ตินหยุดเดินเหมือนกัน 

“กูแค่คุยกับน้องมันเฉยๆ”ไอ้ภูพูดเสียงอ่อน

“กูไม่ได้ว่าอะไรนี่”ผมเหวี่ยงแขนไปมาเหมือนทำตัวไม่ถูก เมื่อครู่ผมใส่อารมณ์กับไอ้พวกนั้นมากไปจริงๆ กะอีแค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง

“ก็แค่เด็กหน้าคล้ายมึง แค่นั้นไม่ทำให้กูสนใจหรอก”ไอ้ตินตอบเสียงนุ่ม รอยยิ้มจางอยู่บนหน้า ผมพ่นลมหายใจออกมาเสียงดัง

“กูไม่ได้สนใจสักหน่อย แค่อยากออกมาสูดอากาศ”

“ไม่เอาน่า ไอ้ฟิก กลับไปในร้านก่อน เด็กมันตกใจหมด”ไอ้ภูเข้ามาโอบคอผมให้เดินตามมันไป แต่ผมดันตัวออกมา ผลักมันออกอย่างหมั่นไส้

“กูไม่ชอบมัน ไม่อยากไป ชัดไหม”ผมขึงตามองไอ้ภูกับไอ้ติน ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเนินหญ้า

“พวกมึงอยากคุยกับพวกมันก็ไปคุยกันเองก็แล้วกัน กูจะนั่งรออยู่ตรงนี้แหละ”ผมคว้าขวดน้ำออกมาดื่มอีกรอบ ทั้งๆที่ไม่ได้คอแห้ง

“กูจะทิ้งมึงไว้คนเดียวได้ยังไง”ไอ้ตินถอนหายใจ ก่อนหันไปหาไอ้ภู เหมือนตกลงอะไรกันสักอย่าง

“เดี๋ยวกูมา ไปบอกพวกน้องมันก่อน อย่าโกรธนะ”ไอ้ภูเข้ามาดึงแก้ม แต่ผมก็ปัดออกอย่างหงุดหงิด เวลาอย่างนี้ยังมากวนประสาทผมอีก

“มึงจะไปไหนก็ไปเถอะ”

“พูดจริงรึเปล่า พวกมันชวนกูไปทัวร์อยู่พอดี”

“เออ มึงอยากไปก็ไป”เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง

“โอเค กูไม่แกล้งมึงแล้ว เป็นคนอารมณ์ร้ายตั้งแต่เมื่อไหร่ ฮึ”ไอ้ภูมองหน้าผมสลับกับไอ้ติน มาผ่อนคลายแท้ๆกับเจอเรื่องเสียอารมณ์แบบนี้ไม่ให้ผมหงุดหงิดได้ไง 

“เดี๋ยวมานะ”ไอ้ภูถอนหายใจ ก่อนจะกลับไปที่บาร์อีกครั้ง ไอ้ตินนั่งลงข้างๆผม ส่งลูกอมมาให้

“จะได้อารมณ์ดี”ผมมองผ่านเหมือนไม่เห็น

“คิดอะไรอยู่”มันชวนคุยด้วยเสียงเรื่อยๆ

“มึงสนุกมากเหรอไง”

“หืม”มันหันมามองผมงงๆ

“ก็ที่คุยกับไอ้เด็กนั่นน่ะ”พูดแล้วก็หงุดหงิด ไอ้ตินหัวเราะอีกครั้ง

“ก็แค่คุยเฉยๆ น้องมันคุยเก่ง แต่ก็แค่นั้น กูไม่เคยเห็นมึงเป็นแบบนี้เลยนะ แค่เพราะเด็กหน้าคล้ายน่ะเหรอ…”มันเอนตัวเข้ามาใกล้ ผมได้แต่เงียบไม่อยากตอบอะไรทั้งนั้น ไอ้ตินปล่อยให้ผมอยู่เงียบๆ ไม่นานนักไอ้ภูก็กลับมา มันยืนอยู่ตรงหน้า ไม่พูดไม่จาอยู่หลายนาที จนผมต้องเป็นฝ่ายเงยมองมันก่อน

“เป็นอะไรของมึง”

“มึงนั่นแหละ เป็นอะไร”ไอ้ภูก้มมองผมด้วยสีหน้าอ่อนโยนแปลกๆ ผมไม่ค่อยเห็นสีหน้าแบบนี้ของมันบ่อยเท่าไหร่

“มึงเงียบๆด้วย ไม่ต้องพูดอะไรให้กูโมโห”

“ขนาดนั้นเลย”มันเลิกคิ้ว เหมือนอยากกวนอารมณ์ผม

“เออ แค่อ้าปากมึงกูก็หงุดหงิดแล้ว”

“โห ไอ้ฟิกกูหึงแรงจริงๆ”มันหัวเราะพลอยทำให้ไอ้ตัวข้างๆขำไปด้วย

“กูไม่ได้หึง แค่ไม่ชอบหน้าไอ้เด็กนั่นเฉยๆ”

“ไม่ชอบที่มันหน้าเหมือนมึงเนี่ยนะ”ผมได้แต่เงียบ ก็ใช่ แค่เด็กหน้าคล้าย…แถมนิสัยดีกว่าผมเป็นไหนๆ ผมแค่กลัวพวกมันสองคนจะชอบมันมากกว่าผม แค่นั้นแหละ เฮอะ ตลกจริงๆ ไอ้ฟิกคนเดิมไม่เคยมีนิสัยแบบนี้เลยนะเฮ้ย ผมอยากตบหน้าตัวเองแรงๆเผื่ออาการจะดีขึ้น แต่ก็ทำได้แค่นั่งนิ่ง

“กูเคยบอกแล้วไงว่าไม่มีใครที่ไหนเหมือนมึงหรอก”มันนั่งลงตรงหน้า ไม่พูดกวนผมอีก

“เลิกทำหน้าบึ้งได้แล้ว กูเห็นแล้วท้องไส้ไม่ย่อย”ไอ้ตินเอื้อมมือมาวางบนศีรษะก่อนจะโยกเบาๆ ผมเอนตัวออกห่าง

“ถ้าไม่พอใจ คืนนี้ก็ลงโทษกูหนักๆสิ”ไอ้ภูทำหน้าทะเล้น แต่ผมตีหน้าบูด

“ยังมีอารมณ์มากวนกูอีกนะ”

“แค่อยากให้อารมณ์ดีขึ้นไง มึงหน้าบึ้งๆแบบนี้ ไม่น่ามองหรอก”

“กูไม่ได้ขอให้มอง”ผมเริ่มรู้ตัวว่าชักจะไร้สาระ จึงหันมองรอบๆหาที่สงบอารมณ์ตัวเอง เดี๋ยวไอ้พวกนี้จะเอาเรื่องนี้มาล้อผม

“ไปใหญ่แล้วว่ะ ไอ้ติน กูว่าเดี๋ยวนี้มันพัฒนาขึ้นนะ”ไอ้ภูหันไปคุยกับไอ้ตินเหมือนผมไม่ได้นั่งอยู่ด้วย ผมคว้ากระเป๋าเป้สะพาย
ไหล่ มองหน้ามันสองคนก่อนจะพูดเบาๆ

“เดี๋ยวมา”


ผมเดินเล่นไปเรื่อยๆจนมาถึงสะพานข้ามแม่น้ำ นับช่วงจังหวะย่างก้าวอยู่ในใจ รู้สึกสงบกว่าเดิมเยอะ คงเพราะไม่มีไอ้ภูกับไอ้ตินมากวนประสาท ผมเหลียวไปมองด้านหลัง พบกับร่างสูงของคนสองคนจูงจักรยานตามมาช้าๆเพราะมันต้องช่วยกันจูงของผมมาด้วย ผมหยุดมองแม่น้ำที่ไหลเอื่อยๆ รอจนกระทั่งพวกมันสองคนจูงจักรยานมาถึง กินเวลาไปนานโข

“อารมณ์ดีหรือยัง”ไอ้ตินกับไอ้ภูขยับมายืนขนาบข้าง จ้องมองแม่น้ำเหมือนกับผม

“…กู…โทษทีว่ะ พอดีกูหงุดหงิดนิดหน่อยเลยทำตัวไม่ค่อยดี”ผมตัดสินใจพูดออกไป

“ไม่หน่อยแล้วมั้ง”ไอ้ตินพึมพำเบาๆอยู่ใกล้ๆ ผมกับพวกมันยืนอยู่ด้วยกันเงียบๆ ไอ้ตินเอนพิงผม ยกมือเกี่ยวเส้นผมของผมเล่น
อาจจะเดินเหนื่อยก็ได้ผมถึงไม่ออกปากห้าม

“ที่คุยกับมันนานเพราะ…ช่วงที่กูมาคราวก่อน ก็มีแค่พวกมันที่กูคุยด้วยแล้วสนุก กูรู้จักมันเท่าๆกับที่เล่าให้มึงฟังนั่นแหละ ไม่มีอะไรหมกเม็ดทั้งนั้นครับนองฟิกของพี่ภู”ผมไม่ชอบรอยยิ้มของมันตอนนี้เลยจริงๆ เลยหันหน้าหนี

“รักมึงแค่คนเดียวนี่แหละ”ไอ้ตินพูดเบาๆเหมือนกลัวใครได้ยิน ผมห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มออกมา เดี๋ยวพวกมันจะหาว่าผมทำตัวเป็น
เด็ก ไอ้ตินมองซ้ายมองขวาก่อนจะเข้ามาหอมแก้มผมฟอดใหญ่

“เฮ้ย เดี๋ยวมีคนเห็น”ผมทำหน้าไม่ถูก จะหันหนีก็ไปเจอสีหน้าขำของไอ้ภูอีก

“มึงทำตัวน่ารักเองทำไมล่ะ”ผมอ้าปากจะด่า แต่ก็นึกคำพูดไม่ออก เลยเดินหนีอีกรอบ

“หนีอีกล่ะ จะหนีก็กลับมาเอาจักรยานตัวเองก่อน มันจูงยากนะรู้รึเปล่า”ไอ้ตินส่งเสียงไล่หลัง แต่เรื่องอะไรผมจะบากหน้ากลับไปมองอีกล่ะ!



คนเรามันก็ต้องมีช่วงที่คุมตัวเองไม่ได้ล่ะน่า….ห้ามล้อผมเรื่องนี้เด็ดขาด
 













TBC.
นานๆทีจะเห็นฟิกป็นแบบนี้เนอะ  o18  เขายังไม่ได้สวีทกันเลยเนอะ ตอนหน้าจบพาร์ทแล้วค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามมมมม  :กอด1:




หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-03-2016 14:32:54
โอ๋เอ๋ มันไม่ใช่ว่าหึงอะไรหรอกขนาดนั้นหรอกเนอะ แค่หมั่นไส้อะ
ฮ่าๆ น้องฟิกน่ารักจัง ภูตินห้ามทำให้เมียน้อยใจนะ ไม่งั้นโดนเหวี่ยงแน่ๆ  :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 15-03-2016 15:15:01
ขอให้ปลิวโชคดีกับเส้นทางสายรุก 5555555555555555555555
น้องปั้นท่าทางจะปั้นยากแล้วล่ะ
 :hao5:

ส่วนฟิก นับวันยิ่งน่ารักขึ้นเรื่อยๆนะ ขนาดปลิวยังรู้สึก 55555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-03-2016 15:29:44
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 15-03-2016 15:37:40
ระยะเวลาที่ได้ติดตามเรื่องนี้มันทำให้มีความสุขมากค่ะ ไม่อยากให้จบเลย ในที่สุดฟิกก็น่ารักขึ้นแล้ว ต่อสักภาคก็ดีเน้อ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 15-03-2016 16:01:57
ฟิกน่ารักขึ้นเยอะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 15-03-2016 16:02:52
เราเข้าใจอารมณ์ฟิกนะคืออาจจะไม่ได้หึงร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกน่าจะปนๆน้อยใจมากกว่า แบบโดนดึงความสนใจไปผสมๆกับกลัวว่าจะโดนแย่งแฟนมันเลยออกมาอาการหงุดหงิดแบบนี้ นุ้งฟิกเป็นสาวเต็มตัวแล้วนะลูกนะ #โดนตบ ฮ่าๆๆๆ เห็นฟิกดิ้นกับสองคนนี้มาเยอะแล้วขอพี่ภูพี่ตินดิ้นเรื่องฟิกบ้างสิ ตอนไปกับพี่มินยังไม่สาใจเลย หุหุ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 15-03-2016 16:29:19
โอ้ยยยย...ฟิกเวอร์ชั่นนี้บอกเลยว่าหลงแรง นางงอแงได้น่ารักมาก กลัวสามีจะลอบคนอื่นมากกว่าตัวเอง 555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 15-03-2016 16:45:10
โอ้ยย ฟิก น่ารักขึ้นเรื่อยๆเลยอ่า  :-[
งอแงน่ารักนะเราาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-03-2016 17:02:51
หึงแรงนะเรา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: bvan ที่ 15-03-2016 17:13:26
ไม่อยากให้จบเลย...รักตัวละครกลุ่มนี้มาก...
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 15-03-2016 18:01:33
ฟิกงอแงได้น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 15-03-2016 18:44:51
 :-[  ฟิกน่ารักขึ้นเป็นกองง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 15-03-2016 19:45:52
ฟิกน่ารัก หมั่นไส้ภูที่พูดว่า"น้องฟิกของพี่ภู"
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 15-03-2016 19:57:39
ฟิกหึงน่ารักอ่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-03-2016 20:03:22
หึงสามีมากไหมฟิก :z2: :z2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 15-03-2016 20:24:06
มันก็คล้าย ๆ จะงี่เง่านั่นแหละ แต่มันก็มีระแวงด้วยไง
งอนนิด ๆ น้อยใจหน่อย ๆ

#ฟิกเป็นสาวแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: kjkjji ที่ 15-03-2016 20:38:40
*เอามือทาบอก*
น้องฟิกลูกกกก น่าเอ็นดูแรงงงงง
น่ารักมากเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 15-03-2016 21:49:23
ฟิกนางหึงแรง
กลัวพี่ๆจะไปหลงรักคนอื่นซะด้วย
หึงได้น่ารักน่าเอ็นดูมาก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 15-03-2016 21:59:47
ฟิกมันหึงแรงนะเนี่ย
สองคนนั่นได้ใจใหญ่ 55555
เอาจริงๆฟิกงี่เง่านะ
คนชื่อเบ็นซ์เค้ายังไม่ได้ทำอะไรเลย
แหม หนูฟิกกกก เดี๋ยวนี้พัฒนานะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 15-03-2016 22:57:39
555 ขำฟิกหนักมาก
เหมือนที่ปลิวได้กล่าวไว้ว่า ฟิกดูน่ารักขึ้นเยอะ
เดี๋ยวนี้นางอารมณ์ขึ้นๆลงๆ กลัวสามีไม่รัก
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 16-03-2016 04:24:29
เรื่องนี้ก็จบไป แม้หึงจนพาลเลยน่ะฟิก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-03-2016 05:56:16
ฟิก หึงแรงนะ ระดับความรักที่มีต่อ ภู ติน ต้องสูงกว่าเดิมมากๆ เลย  :katai2-1:  รอ พี่ภู พี่ติน ปลอบ โอ๋ ฟิก แน่นๆ จัดหนักๆ  :ling1:  ให้สมกับความน่ารักของน้องฟิก   ชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 16-03-2016 10:06:50
บอกแล้วว่า หนูฟิกสกิลความเป็นเมียมันพัฒนาไปเยอะ เหมือนที่พี่ภูบอกแหละ มีหึง มีหวง มีงอน มีมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง น่าร๊ากกกกก ฟิกทำถูกแล้วคนของเราก็ต้องหวงเอาไว้ สองผัวยังหวงเราเลย ถึงตอนนี้จะไม่มีอะไรแต่ใครจะไปรู้ กันไว้ดีกว่ามาแก้ทีหลังเน๊าะ  :katai2-1: รอตอนสวีท เพราะเครียดกับงานของพี่ภูเหลือเกิ๊นนนน ได้มีเวลาฮันนีมูนบ้างเถอะ รอนะจ๊ะ  :mew1:


ส่วนตอนที่แล้ว เห็นใจทั้งปลิวและปั้น ทำไงได้เน๊าะ เคะ เจอ เคะ จะให้เปลี่ยนแนวก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปนะ ปลิวเอ้ย ปั้นเอ้ย   :m20:  ตอนนี้อยู่ด้วยความเข้าใจกันและกันให้ได้ก่อนดีกว่า สงสารปลิวที่ผิดหวังมาเยอะ พอจะสมหวังก็ดันเจอแนวเดียวกันอีก ปลิว ปั้น สู้สู้  :katai3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: Wannida ที่ 16-03-2016 12:10:13
น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.3] 15-03-59 P.41
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 16-03-2016 19:24:23
เข้าใจอารมณ์ฟิกนะ แต่อย่าคิดมากเลย

ถ้าภูจะชอบ ก็คงชอบไปนานแล้ว

นะนะนะนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 16-03-2016 22:55:07

ตอนที่29.4 








“ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ”ไอ้ภูลองเสี่ยงถามหลังจากที่พวกมันตามมาทันจนได้ ผมไม่ตอบในทันที   

“หายแล้ว”ผมตอบโดยไม่มองหน้าพวกมัน ช่วงเย็นๆผู้คนพลุกพล่านเป็นพิเศษ ความจริงก็ยังมีอีกหลายที่ที่ผมอยากไปปั่นจักรยานรับลม แต่ก็นั่นล่ะเสียเวลาไปกับพวกไอ้เบ๊นซ์ตั้งนาน นึกถึงพวกมันแล้วก็เริ่มหงุดหงิด   

“ไอ้ภู”ผมหยุดเดินกะทันหัน มองหน้าพวกมันสองคนด้วยสายตาจริงจัง 

“หืม”มันมีท่าทีระแวดระวัง เหมือนกลัวว่าไปทำอะไรให้ผมหงุดหงิดเข้าอีก   

“มึงสองคนได้แลกเบอร์ติดต่อกับพวกไอ้เบ๊นซ์มันรึเปล่า”ผมถามด้วยเสียงจริงจังจนพวกมันไม่กล้ากวนประสาทใส่   

“เปล่า ไม่ได้แลก จะดูไหมล่ะ”มันไม่ได้มีท่าทีประชด มันส่งโทรศัพท์มาให้ผมเหมือนกับจะบอกว่าบริสุทธิ์ใจ ผมรับมาเช็คดู ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจพวกมันนะ แต่อะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้ ผมไม่ชอบให้มันไปสนิทกับพวกไอ้เบ๊นซ์ เป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ติดต่อกันอีก แอบรู้สึกว่าตัวเองใจแคบสำหรับเรื่องนี้ แต่ก็นั่นแหละ…แค่พวกมันบังเอิญเจอกันผมก็หงุดหงิดได้ขนาดนี้ ไม่อยากจะนึกภาพถ้าหากว่ามันยังติดต่อกันสม่ำเสมอ   

“แล้วมึงล่ะ”ผมหันไปทางไอ้ติน มันยิ้มเหมือนตลกการกระทำบ้าๆของผม ไม่ได้ครับ ก็คนมันหวง จะให้ทำยังไงล่ะ หลังจากที่เช็คโทรศัพท์ของพวกมันทั้งคู่จนแน่ใจแล้ว ผมก็อารมณ์ดีขึ้นมาเป็นกอง 

“ก็เหมือนกับพวกมึงไง พวกมึงไม่ชอบให้กูคุยกับคนอื่น กูก็ไม่ชอบเหมือนกัน มึงไม่ชอบให้กูทำตัวแบบไหน กูก็ไม่อยากให้มึงทำแบบนั้นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็คิดเยอะๆ ใจเขาใจเรา”ผมได้ทีสวด 

“เออ ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย”ไอ้ภูจูงจักรยานตีคู่มาใกล้ๆ   

“คือพรุ่งนี้กูว่าง”ผมรอฟังว่ามันจะพูดอะไรต่อ แต่มันก็เงียบไปนานจนไอ้ตินต้องเป็นฝ่ายพูดแทน 

“กูกับพี่ภูอยากให้มึงไปด้วยกัน…”มันยังไม่บอกทันทีว่าไอ้ไปที่พวกมันว่าคือที่ไหน 

“ไปไหน” 

“ไม่บอก”ผมหันไปจ้องหน้าไอ้ตินอย่างหงุดหงิด ไอ้เรื่องป่วนประสาทผมเนี่ยถนัดกันนัก 

“ก็กูกับพี่จองดินเนอร์ล่องแม่น้ำเทมส์ไว้...ไปด้วยกันนะ”ไอ้ตินเอ่ยชวนเสียงนุ่ม 

“ไม่น่าถาม ยังไงกูก็ไปอยู่แล้ว” 

“อยากให้มึงไปแบบอารมณ์ดีๆไง เพราะงั้น...หายโกรธได้แล้ว”ไอ้ตินยื่นมือมาจิ้มแก้มผมเบาๆ   

“หายตั้งนานแล้ว”

ผมไหวไหล่ก่อนจะเหวี่ยงขาคร่อมจักรยาน ออกปั่นไปแบบไม่รอมันสองคน ทีใครทีมัน  ขามาพวกมันยังไม่รอผมเลย เส้นทางสำหรับจักรยานในสวนไฮด์ปาร์กค่อนข้างโล่ง ผมจึงปั่นได้เต็มแรง แต่ถ้าล้มคงไม่น่าดูเท่าไหร่ ผมเหลือบมองด้านหลัง ไอ้ภูกับไอ้ตินปั่นตามมาไม่ไกลนัก สาสส ไอ้พวกนี้แรงดีกันจริงๆ ผมต้องเร่งสปี๊ดจนหอบแฮ่ก เลี้ยวไปเลี้ยวมา ปั่นไปเรื่อยๆจนเริ่มเห็นตึกสูง โผล่มาเจอทางออกพอดี ผมถึงได้ชะลอหยุดเพราะไปไม่ถูก รอจนไอ้ภูกับไอ้ตินสองคนปั่นมาสมทบ 

“มึงคิดว่า...”ไอ้ภูหอบลิ้นห้อย ผมหัวเราะเยาะระหว่างที่รอมันปรับลมหายใจให้เป็นปกติ ไอ้ตินเองก็หอบน้อยๆหยิบเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อตามไรผม 

“แหม สำอางจริงๆนะพ่อคุณ” 

“หาเรื่องแขวะกูจนได้นะ” 

“แล้วมีปัญหาหรือไง”ผมเลิกคิ้วใส่ 

“เปล่า ใครจะกล้ามีกับเมียสุดที่รักล่ะ”ไอ้ตินมันพูดออกมาได้ยังไงวะเนี่ย แทบอ้วก ผมเตะจักรยานของมันเบาๆ 

“โห่ ไอ้ฟิก มึงพามาตรงไหนเนี่ย”ไอ้ภูเท้าเอวมองไปรอบๆ เป็นทางแยกถนนใหญ่ รถวิ่งสวนไปมาดูอันตราย 

“ไม่รู้ กูก็ปั่นตามทางมาเรื่อยๆ”ผมว่าคืนนี้ปวดขาแน่ๆ ไอ้ภูหยิบโทรศัพท์ออกมาเช็คแผนที่ ผมได้แต่รอว่ามันจะเอาไง 

“ตามกูมา รับรองไม่หลง”ไอ้ภูเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเตรียมตัวข้ามถนน   

“แน่นะ”ผมไม่มั่นใจเอาซะเลย ถนนหนทางที่ลอนดอนก็ไม่เหมือนบ้านเราด้วย 

“เออสิ ระดับพี่ภูซะอย่าง”มันยักคิ้วอย่างมั่นใจ ผมกับไอ้ตินเลยได้แต่ปั่นตามมันไป โชคดีที่เป็นถนนเส้นแคบๆ การจราจรจึงไม่หนาแน่นมาก เจอแต่รถเมล์สีแดง มีไอ้ตินคอยระวังหลังให้กับไอ้ภูปั่นนำหน้าแบบนี้ผมค่อยอุ่นใจหน่อย แต่สุดท้ายพวกมันก็ตัดสินใจใช้วิธีจูงจักรยานบนฟุตบาตรแทนเพราะกลัวผมโดนสอย หลังจากที่ไปทำยึกๆยักๆตอนข้ามไฟแดง 

“มึงนี่มันเซ่อซ่าจริงๆ”ไอ้ภูบ่นระหว่างที่เก็บรถจักรยานที่จุดคืน 

“คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด”ถึงมันจะบ่นผมไปอีกนาน ผมก็ไม่สะเทือนหรอก ปล่อยให้เข้าหูซ้ายทะลุหูไอ้ตินไปก็แล้วกัน กลับมาที่เรื่องทริปดินเนอร์ของวันพรุ่งนี้ คือพวกมันสองคนแอบจองไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่กะเอาใจผมแน่ๆ ดั่งคำที่ไอ้ชายเคยพูดไว้ มีสามีดีเหมือนถูกหวย 


ผมชักเริ่มจะเห็นด้วยแล้วสิ




******************************************************




“ไปเที่ยวที่ไหนกันมาเนี่ย”พี่ภักทักทันทีเมื่อพวกผมกลับเข้ามาในห้องด้วยสภาพไม่สู้ดีนักโดยเฉพาะไอ้ภู มาถึงปุ๊บมันก็ล้มตัวลงนอนบนโซฟาทันที พร้อมกับส่งเสียงโอดครวญเบาๆ 

“ไปสวนไฮด์ปาร์กมาครับ เหนื่อยใช้ได้เลย”ไอ้ตินตอบก่อนทิ้งตัวที่โซฟาบ้าง 

“ดีแล้ว ออกไปผ่อนคลายบ้างก็ดีเหมือนกัน พี่เห็นภูออกไปเที่ยวที่ไหนเลย” 

“ผมเหนื่อยๆเรื่องงานน่ะครับ ยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ ฝึกงานรอบนี้ต่างจากที่ไทยลิบลับ” 

“แล้วมันดีหรือแย่ล่ะ” 

“ก็…ทั้งสองอย่าง”ไอ้ภูถอนหายใจ ยังคงนอนหมดสภาพอยู่ ผมจึงแกล้งเทน้ำเย็นใส่หน้ามันจังๆ   

“ขอน้ำอย่างอื่นได้ไหม”ผมถึงกับตาโตเมื่อได้ยินมันพูด ก็มันพูดเบาเสียที่ไหน ความเงียบแทรกเข้ามาเป็นครั้งแรก เดี๋ยวเถอะมึง.... 

“กูหมายถึงน้ำส้ม”มันรีบแก้ แต่ผมว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย 

“เออ พี่ภักครับ...”ไอ้ตินมาช่วยชีวิต มันชวนพี่ภักคุยเรื่องพันธ์ต้นไม้ได้อย่างไหลลื่น จนผมโล่งอก เมื่อพี่ภักไม่ได้มอง ผมก็บิดหูมันเต็มแรง ข้อหาพูดจาไม่ระวัง ผมรีบย้ายตัวเองมานั่งที่โซฟาว่างๆเพราะไอ้ภูเด้งขึ้นมาพร้อมกับหน้าแดงๆ สงสัยผมบิดเต็มแรงมากไปหน่อย 

“พรุ่งนี้ภูหยุดนี่นา...ใช่ไหม”พี่ภักหันไปสนใจมันอีกครั้ง 

“ใช่ครับ ผมนี่รอเวลานี้มานาน”มันอารมณ์ดีขึ้นมาทันตา ยกมือลูบใบหูที่ยังแดงๆอยู่   

“ลองออกรอบตีกล์อฟกับพี่ดูไหม”ไอ้ภูออกอาการชัดเจนว่าไม่อยากไป 

“พอดีว่าพรุ่งนี้ผมมีที่ที่อยากไปอยู่แล้วน่ะครับ ไว้ครั้งหน้า...” 

“โอเค...”พี่ภักเหลือบมองผมกับไอ้ตินอีกครั้ง ผมชักจะตงิดใจแล้วสิ พี่ภักเขาระแคะระคายอะไรหรือเปล่า ผมกับพวกมันส่งซิกกันทางสายตาเนียนๆ 

“เอ่อ พี่รู้ว่าภูเหนื่อย แต่วันนี้พี่รบกวนเราหน่อยได้ไหม คือวันนี้พี่ต้องดูลูกค้า....พวกเราจำเดรกได้รึเปล่า”พี่ภักเกริ่นท่าทางดูลำบากใจ เดรกคือคนที่ชอบมองพี่ภักนั่นเอง ผมยังจำหน้าได้แม่นอยู่เลย 

“ได้ครับ ทำไมอ่ะ”ไอ้ภูถามอย่างสนใจ 

“ก็...พี่อยากชวนภูไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยน่ะ ต้องเลี้ยงต้อนรับลูกค้า แต่ไม่ใช่กลุ่มเดิมหรอกนะ เดรกเขาแนะนำให้ พี่ก็เลยจำเป็นต้องไป แต่ถ้าภูไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร”พี่ภักรีบพูด ท่าทางดูไม่สบายใจนัก ผมไม่เคยเห็นพี่เขามีท่าทีกังวลแบบนี้มาก่อนเลย หรือจะมีอะไรมากกว่านั้น   

“อ้อครับ แล้วไปที่ไหนเหรอ ใช่คลับเดิมรึเปล่า” 

“ก็...เดรกเขาขอมา...”พี่ภักเลียริมฝีปากอย่างลังเล ไอ้ผมก็รอฟังอย่างลุ้นๆ 

“บาร์เกย์น่ะ”เกิดความเงียบขึ้นระลอกใหญ่ พี่ภักดูจะเซ็งๆ ว่าแต่บาร์เกย์เนี่ยนะ หรือว่าไอ้เดรกอะไรนั่นจะเปิดตัวเต็มที่ หรือคิดจะเข้าหาพี่ภัก 

“เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อนเองครับ”ดูจากสีหน้าของไอ้ภูแล้ว มันก็ไม่อยากไปเท่าไหร่   

“ผมไปด้วย”ไอ้ภูกับไอ้ตินเหลียวมองผมทันที คือผมเองก็ไม่อยากให้ไอ้ภูไปคนเดียวอ่ะ ถึงจะไม่มีอะไร แต่ผมก็อยากไปเพื่อนมันมากกว่า พี่ภักหันมามองผมมึนๆ 

“ถ้ามึงไป กูก็ไปด้วย”ไอ้ตินผสมโรงด้วยอีกคน 

“ไม่ กูบอกแล้วไงว่าจะไปเอง พวกมึงอยู่นี่แหละ”ไอ้ภูทำหน้าตึงใส่ เป็นสัญญาณว่ามันเริ่มหงุดหงิดแล้ว 

“กูไปด้วย”ผมยอมแพ้เสียที่ไหน ใจจริงคืออยากรู้เหมือนกันว่าเป็นยังไงเพราะผมไม่เคยไปบาร์เกย์เลยสักครั้ง 

“เอ่อ...ตกลงไปกันทั้งสามคนนี่แหละเนอะ”พี่ภักเอ่ยแทรกเมื่อเห็นว่าไอ้ตินกำลังจะอ้าปากพูดอีกรอบ ไอ้ภูหน้าหงิกกว่าเดิม มันจ้องหน้าผมด้วยสายตาดุดัน ก่อนจะส่งซิกบอกให้ไปคุยในห้อง     

“คิดอะไรอยู่วะฟิก”มันเปิดฉากบ่นทันทีเมื่อผมกับไอ้ตินเข้ามาด้านในเรียบร้อยแล้ว 

“ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นแหละ แค่อยากไปเพื่อนมึงเฉยๆ” 

“กูดูแลตัวเองได้น่า มันไม่มีอะไรหรอก” 

“ไม่มีอะไร ก็ไม่เห็นต้องห่วงอะไรนี่ไอ้ภู กูแค่อยากไปเปิดหูเปิดตาเฉยๆ”มันทำหน้าไม่สบอารมณ์ มองแว๊บเดียวก็รู้ว่ามันอยากด่าผม 

“เอาน่า...อย่าเครียด”ไอ้ตินต้องทำลายบรรยากาศหนักๆอีกครั้ง ไอ้ตินมองหน้าผมกับไอ้ภูก่อนจะค้นหาเสื้อในตู้ ไอ้ภูถอนหายใจเสียงดัง ทำหน้าเหมือนท้องผูกมาเป็นอาทิตย์   

“มึงเครียดมากไปรึเปล่า ก็แค่บาร์เกย์”แถมก็ไปกับพวกมัน ยังจะต้องห่วงอะไรอีก 

“กูเกลียดอาการลั้นลาของมึงจริงๆ แล้วก็อย่าเป็นเหมือนวันนั้นล่ะ กูไม่ใจดีปล่อยมึงไปเต้นบ้าบอแบบคราวนั้นแล้วนะ” 

“เออ กูรู้” 

“เฮ้อ อย่าเถียงกันได้ไหม”ไอ้ตินมองผมกับไอ้ภูด้วยสายตาอ่อนใจ 

“รู้งี้ไม่น่าตกลงเลย”ไอ้ภูยังคงบ่นเหมือนตาแก่ขี้เมาไม่หยุด   

“มึงจะปล่อยให้พี่มึงโดนงาบเหรอ”ก็เห็นๆอยู่ว่าไอ้เดรกนั่นหวังผลอะไรแน่ๆ 

“...มันไม่โง่หรอก”มันพึมพำ แต่ก็ดูเป็นกังวล 

“ไม่เชื่อใจกูเหรอไงถึงไม่ให้กูไปด้วย”บางทีไอ้ภูมันก็ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ 

“ไอ้เชื่อมันก็เชื่อ หึๆ แต่เดี๋ยวนี้มึง...อย่าให้พูด เดี๋ยวก็ด่ากูอีก”มันมองหน้าไอ้ตินแบบรู้กัน จนผมหงุดหงิดกับสายตาของมันสองคน 

“ทำไม”ผมเดินไปยืนคั่นระหว่างไอ้ตัวกวนสองตัว 

“เอาจริงๆนะ เดี๋ยวนี้มึงแรดๆไงไม่รู้”จบคำพูดของไอ้ภูผมก็ยกเท้าหมายจะยันมันสักโครม แต่มันก็หลบได้ 

“อ๋อ...พวกมึงคิดกันแบบนี้ใช่ไหม”เกิดมาก็เพิ่งมีคนใช้คำนี้กับผมเนี่ยแหละยิ่งมาจากปากไอ้ภูด้วยแล้ว.... 

“อย่าคิดมาก ก็แค่เรื่องจริง”ไอ้ตอนกวนประสาทผมด้วยอีกคน ผมเลยต้องระเห็จออกไปด้านนอกเพราะเกรงว่าจะทนหมั่นไส้พวกมันไม่ไหว ถวายบาทาเข้าให้ แต่ผมว่าพวกมันคงไม่กลัวผมแล้วล่ะ! ถือว่าพลาดจริงๆที่ดันแสดงท่าทีเรื่องไอ้เด็กเบ๊นซ์มากไปหน่อย ออกมาก็เจอสีหน้าเคร่งเครียดของคนพี่...พี่ภักนั่งกุมขมับอยู่ที่โซฟา   

“อ้าว ฟิก..”ส่งยิ้มแบบไม่เป็นธรรมชาติมาให้ 

“พี่มีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่าครับ เล่าให้ผมฟังได้นะ ผมเก็บความลับเก่ง”ซะที่ไหน ผมหย่อนก้นลงที่โซฟาอีกตัว เดาได้ว่าคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับบาร์เกย์แน่ๆ 

“คือ...พี่ก็ไม่ได้อคติอะไรกับเรื่องพวกนี้หรอกนะ แต่พี่ไม่ค่อยโอเคกับ...เอ่อ กับเดรกเท่าไหร่”ผมแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่พี่ภักยอมพูดถึงเรื่องนี้กับผม

 “จะเอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องส่วนตัวไม่ได้อีก”พี่ภักดูหนักใจมากจริงๆ 

“ผมเข้าใจครับ บางที...ผมว่าพี่ควรจะพูดออกไปตรงๆเลย เขาจะได้ไม่ทำให้พี่ลำบากใจ”ถึงจะไม่แน่ใจว่าใช่เรื่องเดียวกันไหม แต่ผมก็พูดอย่างมั่นใจ พี่ภักมองหน้าผมด้วยแววตาแปลกๆ 

“พี่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงน่ะ เขาชอบมองว่าพี่เป็นพวกต่อต้าน” 

“พี่ต้องชัดเจนนะครับ ถ้าหากว่าพี่ยังกล้าๆกลัวๆเขาจะคิดว่ายังพอมีหวัง แล้วจะเริ่มรุกมากขึ้น”พี่ภักถอนหายใจอย่างคิดไม่ตก 

“เอ่อ แล้ว...พี่ชอบเขารึเปล่า” 

“....” 

“แค่ถามเฉยๆน่ะครับ”ผมขยายเมื่อเห็นสายตาน่ากลัวของอีกคน 

“เปล่าหรอก พี่ชอบผู้หญิง ถึงจะห่างหายไปหลายเดือนแล้วก็เถอะ”ได้ยินแบบนี้ก็แอบโล่งใจเหมือนกันครับ เพราะนามสกุลของไอ้ภูจะได้ไม่สั้นกุดไร้คนสืบต่อ 

“อย่างที่ผมบอก พูดไปตรงๆเลย แต่ต้องดูจังหวะเวลาก่อน เดี๋ยวจะเสียเรื่อง”ผมแนะนำเหมือนเป็นผู้เชี่ยวชาญ พี่ภักได้แต่ยิ้ม 

“ฟิกนี่...ดูเป็นคนแปลกๆดีนะ” 

“แปลกนี่ถือเป็นคำชมรึเปล่าครับ”ผมหัวเราะแห้งๆ 

“แล้วมาคบกับตินได้ยังไง”ผมสตั๊นไปกับคำถามของพี่ภัก ไม่รู้ว่าทราบแค่นี้หรือไม่อยากพูดถึงกันแน่ 

“เป็นเรื่องบ้าๆบอๆน่ะครับ ถ้าพี่ได้ฟังนะ พี่ต้องร้องอู้หูแน่ๆ” 

“จริงเหรอ”พี่ภักหัวเราะเบาๆ   “ตอนแรกพี่คิดว่าฟิกจะเป็นพวกรักสนุกซะอีก แบบว่าหน้าให้”...อืม...ความจริงอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ ถึงได้กล้าคบกับพวกมันสองคน   

“โลกเรานี่ก็แปลกเนอะ” 

“ผมว่าคนต่างหากที่แปลก..”ตงิดๆว่าหมายถึงโลกสีม่วงของผมกับพวกมันรึเปล่า 

“พี่ยังยืนยันคำเดิมว่าฟิกเป็นคนแปลกจริงๆ...”ผมได้แต่ยิ้มรับเพราะไม่รู้จะตอบยังไง 

“ขอโทษด้วยที่ทำให้ลำบาก”พี่ภักบุ้ยใบ้ไปทางห้องนอนที่มีมนุษย์น่ารำคาญสองคนอยู่ด้านในก่อนที่เจ้าของห้องจะตบบ่าผมเบาๆสองสามที 






บาร์เกย์ที่เดรกเลือกอยู่ในย่านโซโห ดึกๆแบบนี้คนยิ่งแน่น พี่ภักพาพวกผมมารอที่หน้าร้านตกแต่งด้วยธงสีรุ้งบ่งบอกรสนิยมชัดเจน เจ้าตัวดูจะไม่ค่อยอยากมายืนแถวนี้นัก คอยจะมองไปรอบๆตลอดเวลา หน้าบาร์มีพนักงานต้อนรับหน้าตาดีเป็นผู้ชายสวมเสื้อกล้ามกับกางเกงยีนส์สีซีดสองคน   

“ไอ้ฟิก กูนับหนึ่งถึงสาม ถ้ายังไม่หันมา…”ไอ้ตินพึมพำอยู่ข้างๆ ผมย้ายสายตากลับมามองพวกมันสองคนอย่างรวดเร็ว ไอ้ภูดูอารมณ์เสียกว่าทุกที   

“เข้าไปรอด้านในก่อนไหม”ไอ้ภูเสนอเพราะไม่รู้ว่าเดรกกับผองเพื่อนจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะมาถึง 

“ห๊ะ เอางั้นเหรอ…คือพี่ไม่เคยมา…”พี่ภักดูซีดๆเซียวๆ 

“ไม่มีอะไรหรอก ตามผมมา”ไอ้ภูมองหน้าพี่มันครู่หนึ่งก่อนจะเป็นคนนำทัพ หนุ่มหล่อสองคนเอ่ยทักลูกค้าตามปกติ ไอ้ตินดันให้ผมเดินเข้าไปด้านในเร็วๆ มันเองก็เริ่มหน้าบูดแล้วเหมือนกัน ด้านในตกแต่งด้วยโทนสีชมพูและม่วงแดง เสียงเพลงหนักๆดังกระหึ่ม

ฟลอร์สำหรับเต้นเนืองแน่นไปด้วยผู้คน มีหนุ่มหล่อหุ่นแน่นออกสเต็ปอยู่บนบาร์กลางฟลอร์ สวมแค่ชั้นในตัวเดียว โชว์ซิกแพคแน่นๆ  ผมรีบย้ายสายตาไปที่อื่นทันที ไอ้ภูนำไปที่โซฟาชุดใกล้กับเคาน์เตอร์บาร์ จุดนี้เป็นโซนสำหรับนั่งดริ๊ง มีบาร์เทนเดอร์คอยบริการตลอด และทุกคนสวมแค่กางเกงยีสน์หรือไม่ก็กางเกงชั้นในเท่านั้น บนหน้าอกเปลือยเปล่าเพ้นท์ชื่อร้านไว้ชัดเจน …จะเป็นลมครับ บอกไม่ถูกว่าบาร์นี่ดีหรือแย่ ผมชอบโซนนี้มากกว่าฟลอร์เต้นอีก ไอ้ตินพยักเพยิดให้ผมไปนั่งที่โซฟาด้านใน 

“เอ่อ เอาเครื่องดื่มอะไรไหม”พี่ภักหน้าซีดกว่าปกติ เหลือบมองไปที่บาร์มีคนรอต่อแถวสั่งเครื่องดื่มยาวเหยียด 

“ผมขอแค่เบียร์ดีกว่า ไม่อยากเมา”ไอ้ภูถอนหายใจ มันหันมามองหน้าผมสีหน้าดุจนผมไม่กล้าหือ

 “ให้แค่ขวดเดียว” 

“อือๆ”ผมอือออตอบ สายตากวาดไปรอบ ๆ ก่อนจะหยุดอยู่ที่เสาเหล็กตรงทางเดินว่างๆ…และก็เป็นแบบที่ผมคิด มีเกย์สาวมาเต้นโชว์จริงๆ ผมแอบมองสีหน้าของพวกมันสองคน ไอ้ภูเอาแต่สนใจโทรศัพท์ส่วนไอ้ตินนั่งจ้องหน้าผม พี่ภักกลับมาพร้อมกับเบียร์และเหล้ายี่ห้อแพงสามขวด 

“ของลูกค้าน่ะ”อีกฝ่ายรีบตอบเมื่อไอ้ภูมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ไอ้ตินส่งแก้วเบียร์มาให้ สังเกตว่าน้ำแข็งในแก้วผมเยอะมากๆ ส่วนเบียร์แค่ค่อนแก้ว รอไม่นานผมก็เห็นร่างคุ้นๆของเดรก ที่ตามมาด้วยคือเพื่อนเกย์อีกสามคน เมื่อมาถึงโต๊ะ ผมเห็นแววตาหงุดหงิดของเดรกฉายชัด คงคิดว่าพี่ภักจะมาแค่คนเดียว หลังจากที่แนะนำตัวพอเป็นพิธี เพื่อนสองคนของไอ้เดรกก็หายไปในหมู่ขาแด๊นที่ฟลอร์เต้น 

“หวังว่าคงจะไม่มีเรื่องนะ”ไอ้ตินกระซิบกับผมเบาๆ พยักเพยิดไปทางมุมโซฟา ไอ้ภูนั่งกั้นกลางระหว่างญาติมันและเดรก ส่วนเพื่อนเดรกอีกคนนั่งมองผมกับไอ้ติน มองอะไรก็ไม่ทราบได้ แต่เมื่อไอ้ตินทำท่าหงุดหงิด อีกฝ่ายก็เสมองทางอื่น ถ้าผมไม่หลอกตัวเองล่ะก็...ผมคิดว่าไอ้เดรกนั่นคงคิดว่าไอ้ภูเป็นแฟนกับพี่ภักแน่ๆ เพราะมันคอยกันท่าตลอด เดี๋ยวก็ส่งแก้วเหล้าให้บ้าง ไอ้ภูมันก็คงกลัวญาติมันโดนสอยล่ะมั้ง ถ้าพี่ภักมาคนเดียว ผมมองไม่เห็นทางรอดเลย น่ากลัวจริงๆ     

“สายตาสยองชิบ”เวลาที่เดรกมองพี่ภัก...ผมเข้าใจพี่เขาเลยว่ากระอักกระอ่วนมันเป็นยังไง ไอ้ภูยักคิ้วกวนๆมาให้ พี่ภักเองก็พยายามชวนเพื่อนไอ้เดรกคุย เพราะดูเป็นมิตรมากสุด คุยเรื่องงานการได้ไม่เท่าไหร่ก็ชนแก้วกันอีกแล้ว 

“Hay”เพื่อนเดรกที่ผมลืมชื่อไปแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นมาเหมือนจะขอชน ผมยกแก้วชนตามมารยาท 

“dlfpa898V[.OQAmmo07;[t”แล้วก็พยายามชวนผมคุย ไอ้ตินหันหน้าไปทางอื่นปล่อยให้ผมมึนงงกับเพื่อนไอ้เดรกอยู่สองคน 

“อยากสูบบุหรี่ว่ะ”ผมหันไปกระซิบบอกไอ้ตินที่นั่งมองแก้วเบียร์เหมือนไม่รู้จะวางสายตาตรงไหน โชว์อะโกโก้ผมกับพวกมันไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่   

“จะสูบก็ไปที่ห้องน้ำ”ผมเหมือนเด็กน้อยที่ต้องพกผู้ปกครองไปทุกๆที่แต่ก็ไม่ว่ามันหรอก เพราะผมยิ่งโง่ๆอยู่ด้วย 

“ไปสูบบุหรี่แป๊บนะ”ผมบอกไอ้ภูกับพี่ภัก เดรกพูดอะไรสักอย่างพร้อมกับส่งบุหรี่นอกราคาแพงมาให้ผมหนึ่งมวน ผมรับมาเพราะเกรงใจ เห็นไอ้ภูทำหน้าหงิก 

“ภูจะไปด้วยกันก็ได้นะ พี่อยู่ได้”พี่ภักรีบบอก   

“ไม่เป็นไรครับ ผมงดบุหรี่”มันจงใจเน้นให้ผมได้ยิน ผมก็อยากงดอยู่หรอก แต่ไม่ได้แตะแอลกลอฮอร์แล้วมันอยากบุหรี่ขึ้นมา

 “นิดเดียว”ผมยิ้มแห้งให้มันก่อนจะเดินตามไอ้ตินไปที่ห้องน้ำ ก่อนถึงมีจุดให้สูบบุหรี่อยู่ใกล้ๆกับกระถางต้นไม้ลวดลายสวยงาม ผมจุดบุหรี่ อยากลองของแพงบ้าง ไอ้ตินได้แต่ยืนพิงผนังมอง 

“เอาไหม”ผมส่งบุหรี่ที่สูบแล้วไปให้ แต่มันโบกมือปฎิเสธ ผมสูบอยู่คนเดียวรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ รีบๆพ่นควันสีขาวออก กลิ่นลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ ผมบี้บุหรี่ทิ้งสงสารไอ้ตินที่มายืนรอ 

“กูไม่ค่อยสนุกเลยว่ะ”มันบ่นจนผมหัวเราะ 

“แล้วมึงสนุกรึเปล่า อยากมาเปิดหูเปิดตาไม่ใช่เหรอ” 

“ก็…ไม่ว่ะ สงสัยไม่ใช่แนว แต่บาร์เทนเดอร์หล่อดี”ผมเสริม คือหล่อเข้ม ไม่ใช่ออกสาวแบบนักเต้นอะโกโก้ 

“เดี๋ยวเถอะมึง…”มันยกกำปั้นชกเข้าที่ไหล่ผมเบาๆ ผมกับไอ้ตินกลับไปที่โต๊ะอีกครั้ง ไอ้ภูดูเหมือนกำลังกลายร่าง ผมหมายถึงมันกำลังโกรธจัด มันขึงตามองไอ้เดรกเขม็ง พี่ภักยืนอยู่ข้างๆเหมือนกำลังห้ามศึก ผมมองไปรอบๆเพราะกลัวโดนการ์ดลากออกไปด้านนอก พอมันเห็นผมกับไอ้ตินก็ก้าวมาหาทันที

“ผมจะกลับแล้ว พี่คงรู้นะว่าต้องจัดการเรื่องนี้ยังไง”ไอ้ภูพูดกับพี่ภักเสร็จก็คว้าข้อมือของผมเบียดเสียดผู้คนออกไปด้านนอก ออกมาจากบาร์เกย์ได้มันก็ก่นด่าไอ้เดรกยาว ผมกับไอ้ตินได้แต่เงียบ ไม่รู้ว่าช่วงที่ผมออกไปสูบบุหรี่เกิดอะไรขึ้นบ้าง

“กูจะรอมันตรงนี้แหละ”

“พี่ใจเย็นน่า..”ไอ้ตินส่งเสียงเตือน ผมกลัวมันจะปรี๊ดแตกเหมือนกัน แล้วยิ่งไม่ใช่บ้านเราอีก คงมาซ่าไม่ได้ ผมกับไอ้ตินเลยลากมันออกมาให้ห่างจากบาร์เกย์

“มึงเป็นอะไร”ผมถามเมื่อเห็นว่ามันใจเย็นขึ้นแล้ว

“ไอ้เดรก...มันกวนประสาทกู”ไอ้ภูไม่ยอมเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น ผมจึงไม่ซักต่อ นึกไปแล้ว...ผมได้จิบเบียร์แค่ค่อนแก้วเอง นึกแล้วก็เปรี้ยวปาก

“กูได้กินเบียร์นิดเดียวเอง”ไอ้ตินเหลียวมองด้วยสายตาแพรวพราวก่อนจะประกบจูบลงมา ลิ้นสอดเข้ามาทั่ว ผมขบเม้มกลับก่อนผละออกมา ไอ้ภูเอาแต่เดินไปเดินมาอย่างหงุดหงิดใจ

“ลูกค้าก็ลูกค้าเถอะ...ครั้งนี้กูไม่ไว้หน้าแน่”

“แล้วพ่อพี่จะไม่ว่าเหรอ”ไอ้ตินดูจะเป็นห่วงเรื่องพ่อมัน มากกว่าเรื่องต่อยตี

“เดี๋ยวกูคุยเอง จะให้ทำไงล่ะ ปล่อยให้ญาติโดนสอยตูดเหรอ..”ถ้ามันพูดกับพ่อมันแบบนี้ล่ะก็...ผมนึกสีหน้าพ่อมันไม่ออกเลยจริงๆ นึกแล้วก็ขำ ไอ้ภูหันมามองพร้อมสาวเท้าเข้ามาใกล้ ตอนแรกคิดว่ามันจะเข้ามาต่อย ผมจึงหลับตาแน่น จนเมื่อมันบดจูบแรงๆผมถึงได้ลืมตาเห็นใบหน้าของมันในระยะประชิด

ไอ้ภูดูดเม้มริมฝีปากจนพอใจถึงได้ถอยออกห่าง ไม่ต้องถามเรื่องยางอาย พวกผมไม่ค่อยมีหรอก ยิ่งย่านนี้ตอนดึกๆแถวๆบาร์เกย์ด้วยแล้ว ไม่มีใครที่ไหนสนใจด้วยซ้ำ ผมยืนจนเมื่อยจึงเปลี่ยนมานั่งที่ริมฟุตบาตแทน สภาพเหมือนพวกคนไร้บ้านเข้าไปทุกที

และเวลาที่ไอ้ภูรอคอยก็มาถึง กลุ่มของพี่ภักออกมาแล้ว สีหน้าดูไม่ดีอีกตามเคย ส่วนที่เดินตามมาด้วยสึหน้าหงุดหงิดคือไอ้เดรก มีเพื่อนอีกสามคนที่เมาเป๋ตามหลังมาไม่ห่าง

“พี่ภู...”ไอ้ตินเรียก ไม่ใช่เพราะว่าไอ้ภูผลุนผลันเข้าไปหา แต่ไอ้เดรกมันพุ่งเข้ามาหาเรื่องไอ้ภูถึงที่

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไอ้ตินเข้าไปร่วมวงมวยเพราะเพื่อนไอ้เดรกถลาเข้ามานัวเนียด้วย ...จากนั้นน่ะเหรอ...การ์ดเข้ามาห้ามเหตุการณ์ ดีที่เรื่องไม่ถึงตำรวจ ไม่งั้นคงซวยนัก พี่ภักช่วยเคลียร์กับการ์ดให้ เสียค่าปรับ เสียเครดิต โดนแบล็คลิสต์ซึ่งผมคิดว่าพี่ภักคงไม่แคร์อยู่แล้ว
 

 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 16-03-2016 22:55:39
เหตุการณ์กระโดดข้ามช็อตมาที่อพาร์ตเมนต์อันคุ้นเคย พี่ภักกำลังทายาให้ไอ้ภู บนหน้าของมันมีรอยฟกช้ำไม่กี่จุด แต่ไอ้ตินนี่สิ มีรอยช้ำปื้นใหญ่ใต้ดวงตาของมัน เพราะไอ้เดรกเหวี่ยงหมัดมั่วๆมาโดนหน้ามันเต็มๆ ผมนั่งมองพวกมันสองคนเงียบๆ ตอนเกิดเรื่องผมถูกผลักออกมานอกวงเลยไม่โดนลูกหลงอะไร

“พี่ขอโทษที่เป็นต้นเหตุทำให้เราสองคนเจ็บตัว”พี่ภักเอนพิงพนักโซฟาเหมือนคนหมดแรง

“ช่างมันเถอะ ได้ตั๊นหน้าไอ้เดรกก็พอใจแล้ว ผมจะบอกพ่อให้ก็แล้วกัน”ไอ้ภูแตะรอยช้ำบนหน้าเบาๆ

“ไม่ต้องหรอก พี่จัดการเองได้”

“ผมพูดตรงๆเลยนะ...พี่ไม่ต้องเกรงใจลูกค้ามากหรอก เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ ไม่คิดเลยว่าพี่จะทนให้มันพูดจาแย่ๆใส่ได้ตั้งนาน”ไอ้ภูดูหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง ผมไม่รู้รายละเอียดเรื่องนี้เลย...สงสัยพี่ภักคงไม่อยากพูดถึง

“ไม่เป็นไรครับ ที่เหลือผมจัดการเองได้”ไอ้ตินรีบบอกเมื่อพี่ภักจะเข้ามาช่วยมันทายา 

“งั้นเหรอ...โทษทีทำเรายุ่งไปด้วย”พี่ภักหันมาทางผม

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถือว่าได้เปิดหูเปิดตา”ผมหัวเราะหึๆ ถึงโชว์อะโกโก้จะไม่ค่อยโอสำหรับผม แต่บาร์เทนเดอร์หล่อๆก็พอจะทำให้ผมกระชุ่มกระชวยได้

 “เปิดหูเปิดตา..”ไอ้ภูเลียนเสียงของผม พี่ภักหัวเราะกับท่าทางของมัน

“เอ่อ...งั้น พี่ขอตัวก่อนนะ”ว่าแล้วพี่ภักก็ถือโอกาสหลบเข้าห้อง ทิ้งผมไว้กับไอ้ภูกับไอ้ติน

“ว่าแต่มึงไปทำอีท่าไหนวะ ถึงโดนหมัดมันเข้า”ผมชี้ไปที่รอยช้ำใต้ตาของไอ้ติน มันแค่เหวี่ยงสายตาหงุดหงิดมาที่ผม 

“มองแต่ผู้ชาย”ไอ้ตินบ่นเบาๆพอให้ผมได้ยิน

“เอ้า แล้วจะให้กูมองผู้หญิงหรือไง กูเห็นเหมือนกันนะไอ้ตอนที่มึงมองบาร์เทนเดอร์คนนั้น...”พวกมันสองคนก็มองเหมือนกันนั่นแหละ ก็แค่อาหารตา

“กูไม่รู้จะมองอะไรนี่”ไอ้ตินแก้ตัว มันเก็บหลอดยาใส่กล่อง 

“มองกูไง”ผมตอบหน้ามึน ไอ้ภูถึงกับหัวเราะ

“มึงพัฒนาขึ้นจริงๆว่ะไอ้ฟิก”

“แล้วดีหรือไม่ดี”ผมเลิกคิ้วรอฟังคำตอบจากมันทั้งคู่

“ไม่ดี...เพราะแค่นี้กูก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้นล่ะ”ไอ้ตินหยอด

“...บางทีกูยังสงสัยเลย ว่ามึงมีดีอะไรนักหนา เลิกรักก็ไม่ได้ด้วย”ไอ้ภูทำหน้าสงสัยก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้ๆ

“มึงเล่นของใส่พวกกูรึเปล่าเนี่ย”

“ตลก...พวกมึงมันโง่ไง”ไอ้พวกนี้ทำผมไม่เป็นตัวเองอีกแล้ว ไอ้ภูยิ้ม สองมือรวบผมไปกอด 

“เฮ้ย ปล่อย เดี๋ยวพี่ภัก...”คำพูดถูกกลืนลงคอเพราะไอ้ตินประกบจูบแนบแน่น ผมพยายามดิ้นให้หลุด 

“ไปในห้องกัน...”ไอ้ภูกระซิบ ออกแรงฉุดดึงให้ผมตามเข้าไปในห้อง

ตุบ~

ไอ้ภูผลักผมลงบนเตียง ตามมาทาบทับอย่างรวดเร็ว เสียงเพลงเบาๆจังหวะช้าๆดังมาจากโทรศัพท์ของไอ้ตินเพลง Just a feeling เพลงโปรดของผมเลย ไอ้ตินไล่เล็มขบเม้มไปตามซอกคอ กระดุมเสื้อถูกปลดออกอย่างรวดเร็วทั้งของผมและพวกมัน

“พี่ภักล่ะ...”ผมพึมพำกลัวจะไปรบกวนเจ้าของห้องเข้า แต่...ไงก็ช่างเถอะ ผมเองก็เริ่มหวิวๆแล้วเหมือนกัน   

“ขอนิดเดียว”ไอ้ตินพึมพำ ขบเม้มซอกคอผมไม่หยุด

“จะกินกูเหรอไง”ผมย่นคอหนี ขนลุกวูบวาบไปหมด ไอ้ตินหัวเราะเบาๆ ไม่ทันได้โต้เถียงเพราะริมฝีปากของไอ้ภูโฉบเข้ามาดูดเม้มเพื่อปิดเสียงบ่น หืม ไอ้สองคนนี้ทำงานกันเป็นทีมจริงๆ ท่อนแขนแข็งแรงของไอ้ตินสอดยกขาของผมขึ้น เจลเย็นๆถูกป้ายจนขุนลุกซู่ ผมครางในลำคอเมื่อริมฝีปากของไอ้ภูขบกัดยอดอกเบาๆ ฝามือร้อนลูบคลำลูกชายของผมไม่หยุด

ไอ้ตินกดจูบที่ท้ายทอยเบาๆก่อนจะเบียดแทรกบางอย่างที่อุ่นร้อนเข้ามาช้าๆ ผมดึงไอ้ภูมาจูบเพื่อกลั้นเสียงพอใจของตัวเอง ไอ้ตินครางฮึ่มในลำคอเมื่อถูกบีบรัด มันเริ่มขยับเอวช้าๆเนิบๆก่อนจะเร่งจังหวะเร็วขึ้น เสือกไสเข้ามาจนสุด ผมฝังเขี้ยวลงที่ต้นคอของไอ้ภูเป็นการระบายอารมณ์ เอื้อมมือไปขยับรูดรั้งลูกชายของมันอยู่ไม่ห่าง  มันครางฮึมก่อนจะก้มมาดูดเลียตุ่มไตอีกครั้ง ในขณะที่ไอ้ตินยังคงกระแทกตัวเข้ามาหนักหน่วงจนผมแทบดิ้นพล่านเพราะริ้วอารมณ์ แถมไอ้ภูยังใช้ฝามือบดขยี้เหมือนจงใจจะแกล้ง

“อือ...เบาๆ”ผมกระซิบเสียงแผ่วเมื่อรู้สึกว่าพวกมันชักจะทำเสียงดังเข้าไปทุกที แต่ก็เหมือนยิ่งยุทั้งไอ้ภูและไอ้ตินยิ่งลงมือทรมานผมมากขึ้น ผมร้อนผ่าวๆไปหมด เพราะแรงขยับเสียดสีของไอ้ติน เอื้อมไปลูบๆคลำๆบั้นท้ายของไอ้ภูเล่นแต่มันก็ฟาดเพี๊ยะเต็มแรง

“อย่าซน”มันพึมพำ ผมจึงเลื่อนมือไปซนที่จุดอื่นแทน จนมันครางแผ่วเบาแทนคำด่า ไอ้ตินถอนตัวออกมา ระหว่างที่ไอ้ภูจับผมพลิกคว่ำรั้งสะโพกเข้าใกล้ เบียดร่างกายเข้าใส่ ผมซุกหน้ากับเตียงระหว่างที่ร่างกายแน่นๆของไอ้ภูขยับกระแทกรุนแรง หน้าร้อนวูบวาบแทบระเบิดเมื่อไอ้ตินขยับเข้ามาใกล้ ลูกชายแทบจะโดนหน้าผมอยู่แล้ว เห็นสีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ของมันแล้วอดไม่ไหวต้องช่วยปลดปล่อยให้มัน ไอ้ตินลูบแก้มผมเบาๆครางฮื่อเมื่อเรียวลิ้นของผมลากไล้อย่างรู้หน้าที่ ก่อนเปลี่ยนมาดูดกลืนด้วยริมฝีปากอุ่นร้อนจนมันแทบทนไม่ไหว

มีแค่เสียงเพลง เสียงครางอืออาของพวกผมดังอยู่ในห้อง จนเมื่อไอ้ภูเร่งจังหวะรุนแรงเร็วๆนั่นล่ะถึงมีเสียงน่าเกลียดลอดมา ไอ้ภูบดสะโพกพร้อมๆกับเอื้อมมารูดรั้งของผมให้เสร็จไปพร้อมๆกัน จนเสียงครางพอใจดังลอดมาเบาๆ แรงกระตุกในช่องท้องมาพร้อมๆกับเขื่อนอารมณ์ที่ทลายออกมา ไอ้ตินขยุ้มเส้นผมของผมไว้ ปล่อยน้ำอุ่นออกมาอีกคน ผมทำท่าจะพ่นใส่ไอ้คนที่ปล่อยออกมา

“ฟิก อย่าเล่น”มันเข้ามาฟัดหน้าท้องผมอีกครั้ง จนผมเผลอกลืนลงคอหมด อ็อกกกกก

“กูรักมึงนะ”ไอ้ภูกอดหมอนมองหน้าผม

“พูดให้ฟังหน่อย”ไอ้ตินพึมพำเบาๆ มันคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง สองมือประคองใบหน้าของผมให้จ้องมองมัน

“เออ...กูรักมึง”ผมมองตามันได้แค่แป๊ปเดียวเพราะสู้สายตาวิบวับนั่นไม่ไหว ผมหันมองไอ้ภู

“มึงด้วย รักเหมือนกัน”

“เคยมีใครบอกมึงไหมว่าโลภมาก”ไอ้ภูย่นคิ้วมอง

 “พอๆกับพวกมึงสองคนนั่นแหละ”ผิดคำพูดที่ไหนเพราะ...คืนนั้นเพลงเดิมๆเล่นวนไปวนมาไปหลายชั่วโมงเลยทีเดียว 







**********************************************************





ตื่นมาช่วงเที่ยงๆ...ไอ้ภูกับไอ้ตินยังนอนซมอยู่ข้างๆอยู่เลย ไม่ใช่ผมคนเดียวแน่ๆที่โลภมาก ผมก้มหอมแก้มพวกมันไปคนละฟอด ก่อนจะออกไปอาบน้ำ แวะดูในครัวเห็นว่ามีข้าวอยู่ในหม้อ จึงรู้ว่าพี่ภักออกไปทำงานแล้ว ก็ดีเหมือนกันเพราะผมไม่รู้ว่าพี่ภักจะได้ยินเสียงอะไรไหม แต่คงได้ยินนั่นแหละ ใครมันจะบ้าเปิดเพลงตอนดึกๆดื่นๆ แถมเพลงที่มันเปิดก็เป็นเพลงอกหักไม่ได้เข้ากับบรรยากาศหื่นๆเลยสักนิด

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ สำรวจตัวเองว่าพวกมันไม่ได้ทิ้งรอยน่าสงสัยไว้ก็กลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง มันสองคนยังนอนหลับอุตุอยู่เลย แค่นี้หมดแรง ผมก็ใช้แรงเยอะยังฟิตปั๋งอยู่เลย ผมเข้าไปปลุกพวกมัน

“เฮ้ย พวกมึง ตื่นนน”แน่นอนว่าปลุกไอ้ภูคนขี้เกียจเป็นเรื่องยากผมจึงหันไปหาไอ้ตินแทน เอานิ้วจิ้มแผลฟกช้ำเต็มแรง

“อะ..โอ๊ยย”ได้ผล มันตื่นเต็มตาเลยพอมันเห็นว่าใครทำ มันก็ดึงผมเข้าไปใกล้ๆยกตัวกัดปากผมแรงๆเป็นการเอาคืน  ผมเข้าไปฟัดมันอีกรอบ แค่แกล้งมันเล่นเฉยๆแต่มันเอาจริงว่ะ ผมเลยต้องย้ายตัวเองออกมายืนที่ปลายเตียง

“จะนอนไปถึงไหนกัน ฮึ”ผมดึงผ้าห่มของไอ้ภูออก มันขยับตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน พอรู้ตัวว่าโป๊อยู่มันก็ใช้มือปกปิดน้องภูของมันด้วยสีหน้างัวเงีย ไอ้ภูนี่น่ากระทืบจริงๆ

“แล้วล่องเรือของกูล่ะ”

“ดินเนอร์ก็ต้องตอนเย็นสิ”ไอ้ตินขยี้ตาไปมา น้ำเสียงที่พูดเหมือนด่าว่าผมโง่กลายๆ มันโยนผ้าห่มของตัวเองไปคลุมตัวไอ้ภู คงเป็นภาพที่แสลงตาสำหรับไอ้ติน มันคว้าผ้าขนหนูออกไปนอกห้อง เหลือผมกับไอ้ตัวขี้เกียจ

“ภู...”ผมเข้าไปเป่าลมใส่หูมันเบาๆ สุดท้ายมันก็ตื่นนะ แต่เป็นลูกชายมันที่ตื่น ทะลึ่งจริงๆ

“มึงมายั่วกูทำไมเนี่ย”มันทำหน้ายุ่ง แต่ก็ยิ้มชั่ว

“แต่กูชอบว่ะ วันหลัง...” “ไปอาบน้ำเลยไป”ผมฟาดหลังเปลือยเปล่าของมันเสียงดังเพี๊ยะ มันคว้าผมไปกอด ซุกจมูกลงที่ซอกคอของผมก่อนจะคว้าผ้าขนหนูออกไปจากห้อง กวนประสาทจริงๆ





ผมยอมรับว่าตื่นเต้นกับดินเนอร์ที่พวกมันจองไว้ แต่เริ่มจะประสาทเสียเมื่อเห็นชุดสูทที่พวกมันจัดเตรียมไว้ มองแว๊บแรก....อย่างกับชุดสูทในงานแต่งแหน่ะ ผมพยายามไม่คิดมาก พวกมันคงแค่อยากใส่ชุดโทนสีเดียวกัน ผมเริ่มไม่มั่นใจเมื่อต้องสวมสูทสีชมพูอ่อน...สีชมพูอ่อน...เป็นสีที่ผมไม่เคยคิดอยากจะหยิบมาใส่เลย แต่ไหนๆพวกมันก็เลือกให้แล้ว ผมคงไม่มีทางเลือกอื่น

ผมกับอีกสองคนถึงท่าเรือก็เย็นย่ำแล้ว เรือใกล้จะออกพอดี เป็นเรือรูปทรงแปลกๆ ติดกระจกหนารอบเห็นวิวชัดเจน โต๊ะดินเนอร์ที่พวกมันจองไว้อยู่ติดกระจกพอดี ผู้คนส่วนใหญ่บนเรือส่วนมากมากันเป็นคู่ หรือไม่ก็ครอบครัว พวกมันสองคนอารมณ์ดีเป็นพิเศษ  สีหน้าแจ่มใส ผมบอกไปหรือยังว่าไอ้ภูกับไอ้ตินในชุดสูทดูดีมากจริงๆ ต่างจากผมลิบลับ ทำไมไม่เลือกสูทที่ทำให้ผมดูสมาร์ทบ้างวะ

เรือออกช่วงห้าโมงกว่าๆฟ้าใกล้มืดแล้ว ผมเลือกสั่งอาหารที่ราคาถูกที่สุดในเมนู ก็มีแค่สเต็กปลาแซลมอนซีกเดียว

“พวกมึงเสียเงินไปเท่าไหร่เนี่ย”ผมถามพลางกวาดตาไปรอบเรือที่ล่องเอื่อยๆอยู่ในแม่น้ำเทมส์ ลอนดอนอายส์โผล่มาให้เห็นไกลๆ เรือลำนี้ล่องผ่านพวกสถานที่แลนด์มาร์ค

“รู้แค่ว่าพ่อกูบ่นจนหูชาก็พอ”ไอ้ภูรินไวน์ส่งให้ผม ทำไมพวกมันต้องทำเหมือนผมเป็นสาวน้อยบอบบางด้วยก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็หั่นสเต็กในจานของพวกมันส่งมาให้ หนักสุดคือป้อน ผมไม่อยากให้พวกมันเก้อ ก็เลยต้องหลับหูหลับตายอมไปก่อน แต่คิดว่าคงไม่มีใครสนใจเพราะส่วนใหญ่อาหารเริ่มมาเสิร์ฟที่โต๊ะแล้ว

“แต่เพื่อมึง จนก็ยอม”ไอ้ตินหัวเราะเบาๆ พวกมันสองคนคอยจะมองหน้ากันเหมือนตระเตรียมอะไรไว้ ดนตรีแจ๊สบรรเลงกล่อม ผมมองคู่รักที่โต๊ะข้างๆ เขินแทนฝ่ายหญิงเหมือนกันที่จู่ๆผู้ชายก็คุกเข่าขอแต่งงานท่ามกลางเสียงปรบมือของลูกค้าบนเรือ ผมหันมาสบตากับพวกมันสองคน เผลอยิ้มออกมาทั้งๆที่ไม่เรื่องให้ขำ

ยิ่งฟ้ามืดบรรยากาศก็ยิ่งโรแมนติก ไฟตกแต่งเรือถูกเปิดจนสว่างโล่ แสงไฟจากตึกริมแม่น้ำก็สวยงามไม่แพ้กัน ผมยกแก้วทรงสูงขึ้นจิบเมื่อพนักงานเอาของหวานมาเสิร์ฟ แต่เมื่อพนักงานเปิดฝาครอบออก   ผมก็มึนไปพักใหญ่เพราะในจานใบนั้นมีแค่แหวนเกลี้ยงเกลาค้นตาวางอยู่ ซอสสีแดงวาดเป็นรูปหัวใจ ดอกบัวสองดอกวางอยู่ข้างๆกัน ไอ้ภูกับไอ้ตินไม่ได้มองหน้าผม คงเขินพอๆกับผมตอนนี้ ผมไม่รู้ว่ามีคนมองหรือไม่ แต่ตอนนี้ก้อนเนื้อในอกของผมเต้นแรงจนแทบระเบิด

“แหวนวงนี้...มึงจำได้ไหม”ไอ้ตินพูดก่อนคนแรก ทำไมผมจะจำไม่ได้ล่ะ เป็นแหวนวงแรกที่พวกมันเคยให้ผมเมื่อนานมาแล้ว แต่ผมเป็นพวกไม่ชินกับแหวน ใส่ได้ไม่นานผมก็ถอดเก็บไว้ในกล่องอย่างดี ไม่คิดว่าพวกมันจะเอามาใช้อีก

“พวกกูทำแบบผู้ชายคนนั้นไม่ได้ แต่นี่คือความตั้งใจของกูกับไอ้ติน...”ผมเกาจมูกเก้ๆกังๆ ทำไมพวกมันต้องทำให้ผมไม่เป็นตัวเองด้วยวะ ไม่ชอบเวลาที่ตัวเองเป็นแบบนี้จริงๆ บรรยากาศกำลังดีถ้าหากว่าไอ้ตินไม่กวนประสาทผมซะก่อน

“เป็นเมียกูนะ”ไอ้เชี่ยยยยย

“พูดมาก กูเป็นผัวพวกมึงแล้วจะหนาว”มันสองคนยอมสงบปากสงบคำเพราะไม่อยากทำลายบรรยากาศดีๆ ของหวานของจริงมาเสิร์ฟช่วยชีวิตผมพอดี ผมเก็บดอกบัวมาเหน็บที่กระเป๋าเสื้อ ส่วนแหวนผมรับมาใส่ด้วยตัวเอง ไม่รู้ว่าจะใส่ได้นานแค่ไหนเหมือนกัน สู้หน้าพวกมันไม่ไหว เลยเลี่ยงออกมารับลมที่ระเบียงด้านนอกของเรือแทน แสงไฟสว่างจ้ามาจากสะพานทาวเวอร์บริดจ์ ตัดกับท้องฟ้าสีหมึก ไอ้ภูกับไอ้ตินมายืนข้างๆผมพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง

“กูกับพี่ภูหาที่เหมาะๆได้แล้วนะ”

“ที่อะไร”อยู่ๆก็มาพูดแบบนี้ก็ต้องมีงงบ้างล่ะ

“บ้านไง บ้านของกู ไอ้ตินแล้วก็มึง”ไอ้ภูจับมือผมก่อนจะจูบหลังมือเบาๆ ผมถึงกับเอ๋อ 

“เชี่ย พอเลย เดี๋ยวกูเขิน”ผมยกมือห้ามใส่ทั้งคู่ ไอ้ตินหัวเราะ เอื้อมมือมาโอบเอวผมหลวมๆ เรือเคลื่อนผ่านใต้สะพานพอดี

“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ”ผมพึมพำพอให้มันสองคนได้ยิน ผมไม่แคร์ว่าจะมีคนเห็นหรือไม่ รีบหอมแก้มพวกมันสองคนเร็วๆแทนคำพูดดีๆ

“รักนะพวกเชี่ย อยู่กับกูไปนานๆนะ”ผมกะจะเดินหนีแต่ไอ้ภูกับไอ้ตินก็คว้ามือผมไว้เสียแน่น

“มือกูแกะยากใช่ไหมล่ะ ไม่ต้องกลัวหรอก”

“เออ ไม่ปล่อยมือมึงง่ายๆหรอก”ไอ้ภูกระซิบเบาๆทำผมขนลุกน้อยๆ ผมต้องทนหน้าแดงหูแดงไปตลอดทริปเพราะพวกมันเนี่ยแหละ








TBC.
ใกล้จบแล้ววว เจอกันตอนหน้าค่ะ :กอด1:



หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: kjkjji ที่ 16-03-2016 23:27:53
กรี๊ดดด น่ารักมาก ทั้งสามคนเลย
ตอนนี้น่าจะเป็นตอนที่เราชอบที่สุดในเรื่องนี้เลยค่ะ บรรยากาศมันละมุนไปหมด น้องฟิกก็น่ารักกก :กอด1ภูตินก็ดี หวานมาก ชอบตอนที่อยู่ในห้องนอนตอนเช้ามากอ่ะ มันเป็นความสัมพันธ์ที่แบบ..โอย พูดไม่ถูก แต่ดีมาก ชอบมาก ไม่อยากให้เรื่องนี้จบเลยค่ะ จบพาร์ทนี้แล้วแต่งต่อไปเรื่อยๆเถอะนะคะ คือต่อให้เล่าชีวิตประจำวันเราก็อ่านอ่า ดีมากก
รอตอนต่อไปค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-03-2016 23:32:16
ชอบความสัมพันธ์ของสามคนนี้

รู้จักรู้ใจกันจริง ๆ

เป็นการขอแต่งงานที่เกรียนมาก "เป็นเมียกูนะ" แม่ง!
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-03-2016 23:42:51
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 16-03-2016 23:57:29
งื้ออออ...น่ารักกกกกก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 17-03-2016 00:11:05
หวานมากๆ ภูกับตินเป็นป๋าบุญทุ่มสุดๆ ตอนนี้อยากจะเป็นฟิกเหลือเกิน  :-[
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 17-03-2016 01:11:24
เขินเลยย ;/////;
ฟิกน่ารักอะ ทุกคนก็น่ารัก 55555555
โรแมนติกมาก ///////
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-03-2016 01:34:53
เอาซะอิจฉาเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-03-2016 01:38:42
เอาซะอิจฉาเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 17-03-2016 03:00:06
โอ๊ย ฉากดินเนอร์ฟินมากกกกกกกกก

แต่มุกพี่ติน บรรลัยมาก "เป็นเมียกูน่ะ" มันพีคมากพี่ติน ฉากโรแมนซ์หายหมด
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-03-2016 05:24:05
 :katai2-1:   โอ๊ยน่ารักดีงามฟินน่าเล่ที่สุดเลย
ขอบคุณค่ะ
เพลงอกหักก็ทำอะไรความหื่นไม่ได้เนอะ ฮ่าๆ. แอบสงสารพี่ภักจัง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 17-03-2016 07:11:40
โหยย สองสามีทุ่มมากกก อิจฉาาา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-03-2016 10:10:37
อิจฉาฟิกทั้งล่องเรือดินเนอร์ไหนจะบ้านที่จะอยู่ด้วยกันอีก :katai2-1: :katai2-1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 17-03-2016 10:53:42
น่ารักเข้าไว้ สามีจะได้รักจะได้หลง :hao6:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 17-03-2016 10:54:03
ตอนนี้คือโรแมนติกมากกกกกกกกก
สงสารพี่ภักเหมือนกันนะ
อยู่ในบ้านที่มีเกย์สามคน และมีคนเป็นเกย์มาจีบอีก
โอ้ยยยยย และคืนนั้นพี่เขาจะนอนหลับไหมนั่น  :hao6:
สามคนนี้ก็รักกันจริง รักกันจัง
อิจฉาฟิกอะ ได้สามีดีแบบนี้ จะหาได้อีกที่ไหน
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 17-03-2016 11:02:44
มีความหวาน ความโรแมนติก อิจฉาแรงมาก
มีสามีดีเหมือนถูกหวยจริงๆ
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 17-03-2016 11:37:20
มีสามีดีมันก่น่าอิจฉาอย่างนี้ล่ะน่า ฟิกน่าฮัก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 17-03-2016 12:48:38
อย่าว่าหนูฟิกสกิลความเป็นเมียเต็มตัวเลย สองผัวปากก็ใช่ย่อย แหม่ๆๆ มีว่า เมียแฮด กับ เป็นเมียกูนะ  พอกันนั่นแหละ น่าร๊ากกกตัลลอด นี่แหละมันเหมาะแล้วกับสามหน่อ  :laugh:  มันยิ่งกว่าถูกหวยอีกหนูฟิก มีผัวแบบนี้ หวยออกงวดละ 2 ครั้ง ต่อเดือน แต่ผัวนี่ออกทุกวันเลยนะหนูฟิก คิดเอาเองออกอะไร อะไรออก   :z1:  ยังไม่อยากให้จบเลย อยากติดตามไปเรื่อยๆ เหมือนเป็นบันทึกประจำวันของพวกหนุ่มๆ ถ้าจบรู้แล้วล่ะว่าต้องมีพิเศษๆๆๆ แต่อยากพิเศษนานๆอ่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 17-03-2016 13:10:33
น่ารักกก :mew1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 17-03-2016 13:15:18
โอ้ยยยยย หวานเว่อวังอลังการจริงๆ อิจแรง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 17-03-2016 13:17:53
โอ้ยยย หวาน มดขึ้นได้อีก

หมั่นเขี้ยวจริงๆ สามคนนี้  :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: Mikino ที่ 17-03-2016 14:32:22
 :pig4: :hao7:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: Aueizii ที่ 17-03-2016 15:09:08
ฟิกพัฒนาขึ้นมากจริงๆ ทั้งความน่ารักและสถานะคำว่าเมีย 55555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: tukkata bambola ที่ 18-03-2016 08:18:58
น่ารักกันมากๆเลย :-[ :-[
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 18-03-2016 08:25:33
หวานมากกกกก :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-03-2016 18:46:06
 :pig4 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: mammam ที่ 18-03-2016 22:15:09
 :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: meng ที่ 18-03-2016 23:49:40
อ่านแล้วรู้สึกฟิกสาวแตกยังไงไม่รู้

มีอัพเลเวลงอนโกรธมากขึ้น
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่ 29.4] 16-03-59 P.42
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 19-03-2016 00:08:37
 :L2: ฟิกน่ารักอ่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 19-03-2016 13:43:13
(http://www.mx7.com/i/ecc/AA6x35.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZdO26gzNna3Qa5s)






ตอนที่ ๓๐ END






18-xx-25xx

ผมกับไอ้ตัวกวนกลับมาไทยได้สองวันแล้ว แค่สองอาทิตย์ก็ทำให้ผมน้ำหนักขึ้นมาสองกิโล ก็นะ ก็เอาแต่กินกับนอน นี่หว่า ไอ้พวกนั้นนั่นแหละตัวดี ชวนผมกินแล้วก็หาเรื่องออกกำลังบนเตียงตลอด วันนั้นพี่ภักมาส่งที่สนามบิน พี่เขาเองก็ดูจะเหงาๆขึ้นมาอีกครั้ง ถึงจะได้รู้จักกับพี่ภักแค่สองอาทิตย์แต่ผมคงไม่ลืมเรื่องของพี่เขาง่ายๆแน่  และหลังจากที่กลับมาก็ต้องทำความสะอาดห้องใหม่อีกรอบ ผมสังเกตว่าไอ้ภูกับไอ้ตินกำลังหาอะไรสักอย่างอยู่ มันค้นแฟ้มเก็บงานของผมเสียวุ่นวาย หยิบนู่นหยิบนี่ออกมาดูจนรกไปหมด เป็นผมที่ต้องตามเก็บ   

“พวกมึงหาอะไรกัน”ผมต้องถามออกมาเมื่อทนมองพวกมันรื้อห้องไม่ไหว 

“แบบบ้าน งานของมึงเมื่อตอนปีสองไง มึงจำได้ไหมว่าเก็บไว้ตรงไหน”ไอ้ภูตอบหน้าเฉย กลับไปค้นงานของผมต่อ งานที่มันว่าคือโปรเจคมิดเทอมเมื่อตอนปีสอง ผมเองก็จำไม่ค่อยได้ว่าเก็บไว้ตรงไหน...แต่มั่นใจว่าไม่ได้ทิ้ง คงหมกอยู่ตรงไหนสักที่ 

“แล้วพวกมึงจะเอาไปทำไม”ผมมองไอ้ตินเทม้วนกระดาษออกมาจากกระบอกซูม อยู่ๆก็นึกถึงดินเนอร์ที่ลอนดอนขึ้นมา...พวกมันบอกว่าหาที่ดินสำหรับปลูกบ้านได้แล้ว...หรือว่าจะเกี่ยวข้องกัน

“เดี๋ยวๆพวกมึงรีบร้อนไปหรือเปล่าเนี่ย”

“ไม่รีบหรอก ก็แค่เตรียมพร้อมเฉยๆ”ไอ้ภูตอบหน้าระรื่น 

“แปลนนั่นใช้ไม่ได้หรอก ถ้าจะเอาจริงๆต้องปรับใหม่”จะว่าไปผมยังไม่รู้เลยว่าพวกมันไปดูที่แถวไหนไว้ มันสองคนมองหน้าผมพร้อมฉีกยิ้ม เหมือนจะเดาออกว่าผมคิดอะไรอยู่

“รับรองมึงต้องชอบแน่ๆ”ไอ้ตินพูดอย่างมั่นใจ

“เหรอ กูยังไม่เห็นเลย”

“งั้นไปดูกัน”ไอ้ตินได้ทีชวน ผมก็ไม่ขัดเพราะอยากไปดูเหมือนกัน ไอ้ภูเอารถเบ๊นซ์คันโปรดมาใช้ มันพาผมมาแถวๆหมู่บ้านเงียบสงบแห่งหนึ่ง พื้นที่โดยรอบของหมู่บ้านค่อนข้างกว้าง ต้นไม้เยอะ ร่มรื่นดีเหมือนกัน ผมว่าไอ้ตินคงชอบ และที่สำคัญเงียบและดูเป็นส่วนตัวมากกว่าที่คิด แต่ก็ดีแล้วผมชอบ เวลาทำงานจะได้มีสมาธิ มันขับวนรอบหมู่บ้านเพื่อให้ผมดูพื้นที่โดยรอบ มีบึง สวนสาธารณะ สนามบอล ฟิตเนสครบครัน แต่ข้อเสียคือไม่ค่อยมีร้านค้า

ส่วนแปลงที่ดินที่มันสองคนหมายตาไว้ อยู่ห่างจากบ้านหลังอื่นๆไม่มาก พวกมันเองก็เหมือนผมคือไม่ชอบพื้นที่ที่กว้างหรือแคบเกินไป แปลงที่ดินตรงหน้าก็เหมือนตอบโจทย์ของพวกผมได้ แค่ใช้สายตามองผมก็เห็นโครงร่างของบ้านที่ผมคิดไว้แล้ว มีสวนหน้าบ้านพอให้น้องหมาวิ่งเล่นหรือปลูกต้นไม้ได้   

“มึงโอเคไหม”ไอ้ตินถาม กระแสเป็นกังวลอยู่ในน้ำเสียงเมื่อเห็นผมเอาแต่กวาดตามองรอบๆ ไอ้ภูหยิบแว่นสีดำมาสวม เพราะแดดค่อนข้างแรง ผมทำหน้าบึ้งๆก็เพราะความร้อนนี่ล่ะ

“ถ้าไม่ชอบไปดูที่อื่นก็ได้...”ไอ้ภูเสริม

“อะไรเนี่ย กูยังไม่ได้ว่าอะไรเลย กูชอบ ขอบใจที่นึกถึงกู”ผมว่าที่พวกมันเลือกที่เงียบๆบรรยากาศดีก็เพราะความชอบของผมด้วยแน่ๆ

“ไอ้ปามันแนะนำให้กูน่ะ บ้านมันอยู่หมู่บ้านถัดไปนี่เอง”ไอ้ภูอธิบาย ผมถึงบางอ้อก็ว่าอยู่ทำไมไอ้ภูถึงเลือกพื้นที่ตรงนี้ มันเป็นประเภทชอบความสะดวกสบายครบครัน มันถึงได้ไม่ค่อยชอบเข้าร้านปิ้งย่างเพราะมันยุ่งยาก

“แล้ว...ราคา...”ผมไม่ค่อยอยากถามถึงจริงๆ แต่ก็คิดไว้แล้วว่าน่าจะแพง

“กูยังไม่ได้คุยกับเจ้าของเลย วันนี้ไม่ได้นัดไว้ คงนัดคุยวันพรุ่งนี้”ไอ้ตินตอบ ไอ้พวกนี้หลบเลี่ยงจริงๆ 

“ป๊ากูออกค่ามัดจำให้ เขาอยากออก..”มันเสริมเมื่อเห็นว่าผมมองหน้ามันอยู่

“อันที่จริงก็กูไปปรึกษากับที่บ้านมา เขาก็แนะนำมาแบบนี้”มันดูกลัวผมจะโกรธ ที่ไม่ได้บอกผมก่อน

“ปรึกษาแม่กูด้วยรึเปล่า”เห็นพวกมันเคยเปรยๆเรื่องนี้ไว้กับแม่ผม พอพวกมันไม่ตอบผมก็เริ่มเดาได้

“ช่วยปรึกษากูซักนิดบ้างเถอะ กูไม่ได้โกรธ แค่บอกไว้เฉยๆ”ผมดักคอไอ้ภูเพราะหว่างคิ้วเริ่มย่นเข้าหากัน

“สิ่งที่พวกมึงทำ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ กูซึ้งใจที่พวกมึงอยากให้เรื่องของเรามั่นคง...แต่สำหรับกู กูว่ามันเร็วไปว่ะ”มันสองคนจริงจังชนิดที่ผมยังตกใจ เพราะพวกมันวางแผนกันไว้ไกลมาก ไม่รู้ว่าผมชินกับการที่มีคนคอยจัดการธุระให้หรือเปล่าถึงได้มองว่ามันรวดเร็วแบบนี้ ผมยังเรียนไม่จบเลยนะเฮ้ย อีกตั้งสองปี

“กูแค่อยากเตรียมพร้อมไว้เฉยๆ ไม่ได้หมายถึงว่าต้องทำตอนนี้”ไอ้ภูถอดแว่นออกแล้ว บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นมา

“เอาจริงๆกูไม่ได้เครียดเรื่องที่มึงสองคนเตรียมไว้นะ แต่กูกังวลเรื่องเงินมากกว่า พวกมึงทำให้กูมาหลายอย่างแล้วนะ ถ้าครั้งนี้
พวกมึงทำอีก กูรับไว้ไม่ได้จริงๆว่ะ”

“กูรู้ว่ามึงห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย แต่กูกับพี่ภูไม่ได้รีบ ค่อยๆเก็บค่อยๆทำก็ได้ กูไม่อยากให้มึงไม่สบายใจ สะดวกตอนไหนก็ค่อยเริ่ม”ไอ้ตินเข้าโหมดจริงจัง นั่นแหละคือปัญหา ลำพังผมเองก็ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง เงินเก็บของผมก็เหลืออยู่แค่ครึ่งเดียวแล้ว

“ให้กูเรียนจบก่อนได้ไหม ระหว่างนี้กูจะเก็บเงินเอง”ผมมองหน้าพวกมันสองคนสลับไปมา ก็รู้ว่าดูเอาแต่ใจไปหน่อย เพราะสองปีนั้นพวกมันคงเรียนจบกันแล้ว

“กูไม่อยากให้มึงลำบากเพราะเรื่องนี้”ไอ้ตินถอนหายใจเบาๆ

“กูไม่ลำบากหรอก ชอบซะอีก พวกมึงตามใจกูจนเคยตัวแล้ว พวกมึงก็ด้วยมีเงินใช้จนเคยตัว สำหรับพวกมึงก็แค่...โทรคลิ๊กเดียว มันสำเร็จรูปเกินไป”ผมอาจจะบ้าที่หยิบยกเรื่องนี้มาพูด แต่พวกมันสองคนให้ผมมาเยอะแล้วจริงๆ ถึงจะเป็นแฟนกันก็เถอะ

“โอเค ยอมรับว่าพวกกูใจร้อนไปหน่อย”ไอ้ภูถอนหายใจ

“แต่กูไม่ได้บอกให้พวกมึงล้มเลิกเรื่องพวกนี้นะ แค่เลื่อนออกไปก่อน ได้ไหม”ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายหรือกลัวการเริ่มต้นที่จับต้องได้แบบนี้กันแน่ ผมว่าผมยังไม่พร้อม

“กูเข้าใจน่า ไม่ต้องเครียดหรอก”ไอ้ตินปลอบ ผมว่าพวกมันต่างหากที่เครียด รู้สึกไม่ดีขึ้นมาที่ทำลายความหวัง ความตั้งใจของ
พวกมันแบบนี้ ผมเข้าไปกอดปลอบใจพวกมันสองคนหลวมๆ

รอกูกันก่อนนะ






หลังจากที่พวกมันสองคนปรับอารมณ์ได้แล้ว (รู้สึกบาปจริงๆ) ไอ้ภูก็แวะไปหาพี่ปาที่บ้าน ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ผมได้มาเห็นบ้านของพี่ปา บ้านไอ้เนมเคยเห็นเมื่อครั้งที่มันเอาพี่พิสไปยำ ผมจำได้แม่นเลย แต่บ้านพี่ปาไม่ได้ใหญ่แบบนั้น เป็นบ้านจัดสรรหลังกะทัดรัดน่ารัก มีสวนเล็กๆให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ

“นึกว่ามึงจะไม่อยู่ซะแล้ว”ไอ้ภูทัก ผมลงจากรถตามหลัง พี่ปาใส่แค่เสื้อกล้ามกับบ็อกเซอร์เก่าๆ

“ก็กะจะไปหอพอดี มึงมาถูกเวลานะ”พี่ปาเลื่อนสายตามองผมกับไอ้ตินแล้ววนมาที่เพื่อนอีกครั้งก่อนจะหัวเราะลั่น

“หัวเราะอะไร”ไอ้ภูดูหัวเสีย

“แหม แต่ล่ะคน หน้าตาบอกอาการชัดเจนจริงๆ กูบอกแล้วก็ไม่เชื่อว่าไอ้ฟิกมันไม่เอาด้วยหรอก มึงสองคนนี่รอจังหวะไม่เป็นเลย เข้ามาๆ”พี่ปาเลื่อนประตูให้ผมกับอีกสองคนเข้ามาในบ้าน นี่แสดงว่าพวกมันมาปรึกษาพี่ปาด้วยสินะ แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะพี่ปาเรียนจบแล้วดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเดิมเยอะ

“อย่ามาซ้ำเติมกันน่า”ไอ้ตินทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้หินอ่อน

“พวกมึงคิดกันง่ายไป ชีวิตจริงๆมันไม่ง่ายนะเว้ย อย่างที่กูบอกไปนั่นแหละ”พี่ปาหันมามองหน้าผมแล้วส่งยิ้มยิงฟันมาให้

“พี่ไม่ต้องมายิ้มแบบนั้นเลย ผมไม่เล่าให้ฟังหรอก”แค่มองหน้าก็รู้ใส่รู้พุงแล้ว เพื่อนไอ้ภูหรือไอ้ตินก็สอดรู้ไม่ต่างจากไอ้ชายเลย ไอ้ภูทำหน้ายุ่งใส่เพื่อน

“มึงดูดีใจนะที่เห็นกูผิดหวัง”

“แน่นอนสิ มึงจะได้รู้ว่าชีวิตคู่มันไม่ง่าย”

“พี่อย่าพูดเหมือนผมแต่งงานกับพวกมันแล้วได้ไหม”แสลงหูชอบกล

“โธ่ ไอ้ฟิก อยู่กินกันมาเป็นปีล่ะ ถ้ามึงมีมดลูกนะ ลูกดกหัวปีท้ายปีแน่นอน”พี่ปาหัวเราะหึๆ ผมขี้ค้านจะเถียงต่อปากต่อคำ เลยได้แต่นั่งเงียบ มองหน้าไอ้ภูกับไอ้ตินไปพลางๆ สงสารก็สงสาร แต่ก็อดขำไม่ได้พวกมันทำเหมือนว่าถูกผมปฏิเสธ การขอแต่งงานเลยว่ะ

“แล้วฮันนีมูนที่ลอนดอนเป็นไงบ้าง”วกกลับมาเรื่องนี้จนได้ ผมได้แต่ปล่อยให้มันสองคนฝอยกันไป ส่วนผมก็นึกถึงสิ่งที่พวกมันวางแผนกันไว้...ไอ้ภูกับไอ้ตินนี่...คิดไกลและจริงจังมากต่างจากผมที่ไม่เคยคิดอะไรเลย




20-xx-25xx


หลังจากเรื่องวันนั้น ผมก็คุยกับพวกมันถึงเรื่องค่าใช้จ่ายบ้าง ค่าที่ดินต้องหารสามแต่เป็นจำนวนเงินที่เยอะสำหรับผม โทรไปหาแม่ แต่กลับเจอเรื่องน่าตกใจเพราะแม่เองก็ช่วยพวกมันออกเงินค่ามัดจำที่ดิน แถมยังจะออกส่วนที่เหลือให้ผมอีก แต่ผมปฏิเสธเพราะอยากใช้เงินที่เป็นของตัวเอง อยากได้บ้านที่เป็นของผมจริงๆ แบบนั้นมันน่าภูมิใจมากกว่า

เวลาสองปีก็ไม่รู้ว่าจะเก็บทันรึเปล่า พูดถึงเรื่องเงินๆทองๆแล้วเครียด ไอ้ผมก็ถนัดแต่ใช้ด้วยสิ เอาล่ะ ผมว่าคงถึงเวลาที่ผมต้องมาวางแผนคิดจริงจังบ้างแล้วล่ะ เรื่องบุหรี่เหล้าของมึนเมาคงเป็นเรื่องแรกที่ผมพยายามจะลดละให้ได้ เพื่อสุขภาพของตัวเอง
และลดค่าใช้จ่ายไปในตัว อย่างน้อยๆก็ลดค่าใช้จ่ายไปได้บ้าง

“เออ ไอ้เคนพวกมึงเคยบอกว่าอยากทำเสื้อขายใช่ไหม”เมื่อนานมาแล้วผมกับพวกมันเคยคิดกันเล่นๆว่าอยากสกรีนเสื้อขาย ไอ้เคนหันมามองผมอย่างแปลกใจ

“แต่ก็ล้มเลิกเพราะมึงขี้เกียจ”มันเตือนความจำ

“กูคิดว่า…เรามาลงทุนด้วยกันเถอะ”ผมทำเสียงตื่นเต้น คว้ามือของไอ้เคนกับไอ้ชายชูขึ้นเหนือศีรษะ

“สัดฟิก มึงนึกบ้าอะไรขึ้นมา ทีเมื่อก่อนกูชวนตั้งนานล่ะไม่อยากทำ”ไอ้ชายสะบัดมือออกพร้อมกับผลักจนผมหน้าหงาย

“ตอนนี้กูกำลังมีปัญหาว่ะ”ผมพูดกับเพื่อนด้วยเสียงเป็นการเป็นงาน จนพวกมันสองคนทำหน้าแปลกใจอีกรอบ

“พูดเหมือนไปทำใครท้องเข้า”

“เปล่า กูกำลังวางแผนชีวิต กูต้องเก็บเงินให้ได้ภายในสองปี”

“ทำไมวะ”ไอ้เคนถามอย่างสนใจ เพราะนานๆครั้งผมจะพูดเรื่องมีสาระ ผมจ้องหน้าเพื่อนอย่างชั่งใจว่าจะบอกดีไหม

“เก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัวไง”ผมเล่าให้พวกมันฟังถึงแผนชีวิตอันยิ่งใหญ่ของไอ้ภู ไอ้ติน

“กูเลยคิดว่าพวกมันแม่งโคตรจริงจัง กูยังเรียนอยู่เลย หมายถึงยังเด็กไปสำหรับเรื่องพวกนี้ ไหนจะค่าใช้จ่ายนู่นนี่อีก”

“มึงอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ”ไอ้เคนหันมาสั่งสอน

“อายุขนาดมึง เขาไม่เรียกว่าเด็กแล้วนะ เออ แต่กูลืมไปว่าสมองมึงมันไม่ค่อยได้ใช้งาน”

“เอ้า ไอ้นี่ หลอกด่ากูเหรอ”

“ไม่ได้หลอก กูด่ามึงเลยเนี่ย แต่จะไปว่ามันสองคนก็ไม่ได้ มึงก็รู้ใช่ไหมว่าความสัมพันธ์เรื่องมึงกับมัน ไม่ค่อยจะแน่นอน พวกมันคงต้องการความมั่นคงล่ะมั้ง”ไอ้เคนพูดเหมือนคนเข้าใจในชีวิต

“มึงน่าจะดีใจนะที่พวกมันจริงจังขนาดนี้”ไอ้ชายพูดจาเข้าหูเป็นครั้งแรก

“ไอ้ดีใจมันก็ดีใจ แต่กูยังไม่พร้อมไง”

“พูดเหมือนโดนขอแต่งงาน”ไอ้ชายหัวเราะ แต่มันก็ตบโต๊ะเสียงดัง

“ชวนสร้างบ้านแบบนี้ กูว่าพวกมันขอแต่งงานทางอ้อมรึเปล่า”ผมถึงกับส่ายหน้าให้ความคิดไอ้ชาย

“ไร้สาระ”

“กลับมาเรื่องเดิมก่อน เพราะแบบนี้มึงเลยอยากทำเสื้อขายว่างั้น”ไอ้เคนกลับมาพูดเรื่องเดิมก่อนที่จะออกทะเลไปไกลกว่านี้

“ทำนองนั้น”ต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกจริงๆที่ผมกับพวกไอ้เคนสุมหัวทำเรื่องจริงจังแบบนี้ เรื่องบล็อคอุปกรณ์อะไรมีพร้อมอยู่แล้ว นอกจากสกรีนเสื้อก็ทำจำพวกผ้ามัดย้อม กะทำขายที่ตลาดนัดม.ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะขายได้เยอะแยะ แต่ตอนนี้แค่อยากทำ
อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันบ้าง

ไอ้ภูกับไอ้ตินก็ไม่ได้ห้ามเรื่องนี้ และผมก็ย้ำกับพวกมันหลายรอบแล้วเรื่องนี้ไม่ทำให้ผมลำบากแม้แต่นิด ไอ้สองคนนี่ชักเป็นคนคิดมากเข้าไปทุกวัน


ชีวิตของไอ้ฟิกชักจะมีสาระแล้วครับ หลังจากเหลวเป๋วมาเกือบยี่สิบเอ็ดปี



22-xx-25xx


ผ่านไปไม่นาน ก็มีเรื่องน่าแปลกใจอีกแล้ว ผมกลับมาที่หอพร้อมไอ้ติน ก็มาเจอไอ้เดือนคณะมานั่งรออยู่ที่หน้าหอ โชคดีของไอ้เพชรที่ไอ้ภูยังไม่กลับ   

 “มาทำไม”ไอ้ตินเดินเข้าไปหาช้าๆอย่างรักษาท่าที ไอ้เพชรเองก็ดูระวังตัวอยู่เหมือนกันเพราะครั้งล่าสุดที่เจอกันก็ไม่น่าจำเท่าไหร่ 

 “ผมอยากมาคุยให้เคลียร์สำหรับเรื่องวันนั้น”ไอ้เพชรเหลือบมองผม สีหน้าของมันดูสดใสขึ้นมาเป็นกอง ไม่รู้ว่าอกเดาะจากผมหรือไงถึงได้เพี้ยนตัดผมใหม่ 

“มีอะไรก็ว่ามา”ไอ้ตินยังไม่มีท่าทีเดือดแต่อย่างใด ผมเลยได้แต่มองเหตุการณ์อยู่ห่างๆ

“ผมแค่อยากขอโทษที่ล่วงเกินพี่ฟิก ทำให้พวกพี่ผิดใจกัน ผมขอโทษจริงๆ”ไอ้เพชรพูดด้วยเสียงจริงใจ มันมองหน้าไอ้ตินโดยไม่คิดจะหลบสายตา   

“ความจริงเรื่องมันก็ผ่านมาได้ระยะหนึ่งแล้ว พี่เองก็ไม่ติดใจอะไรหรอก ขอแค่น้องอย่ามาวุ่นวายกับแฟนพี่อีกก็พอ อย่าให้เกินขอบเขตของคำว่ารุ่นพี่ รุ่นน้อง ถ้ามีครั้งหน้า เรื่องคงไม่จบดีๆแบบนี้แน่”ผมนึกขำในใจ จบดีๆเหรอก็มันไม่ใช่เหรอไงที่เอาขวดฟาดหัวไอ้เพชรเมื่อคราวก่อน 

“ครับ”ไอ้เพชรก็เจียมตัวดีมาก เรื่องกำลังจบด้วยดี ถ้ารถเบ๊นซ์ของไอ้ภูไม่ขับเลี้ยวเข้ามาจอดที่ลานจอดซะก่อน ไอ้ภูลงจากรถมาได้ก็รีบตรงดิ่งมาที่ไอ้เพชรทันที     

“มึงยังกล้าโผล่หน้ามาอีกเหรอ” 

“ไอ้ภู ใจเย็น”ผมกลัวจะมีเรื่อง จึงคว้าไหล่มันไว้ ไอ้เพชรดูจะกลัวอยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่ขยับไปไหน ไอ้ภูเข้าไปคว้าคอเสื้อ เงื้อหมัดขึ้นเหมือนจะต่อย แต่ไอ้เพชรก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว ไอ้ภูหัวเราะหึก่อนจะลดมือลง

“มึงก็กล้าเหมือนกันนี่...” 

“ผมมาครั้งนี้เพราะรู้สึกผิด ถ้าพี่จะต่อยผม นั่นก็สมควรแล้ว ผมขอโทษจริงๆ” 

“พูดซะกูกลายเป็นตัวร้ายเลย แล้วกับไอ้ฟิกล่ะ มึงยังชอบมันอยู่รึเปล่า”ไอ้ภูหันมาทางผม ไอ้เพชรเหลือบมองแค่แว๊บเดียวก่อนจะเสมองทางอื่น 

“ผมกำลังอยู่ในช่วงทำใจ ความจริงก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากมายหรอก พวกพี่วางใจได้”   

“ก็ดี ถ้ามึงจะคุยกับมันกูไม่ว่า แต่อย่าล้ำเส้นก็พอ”ผมถึงกับมึนเมื่อได้ยินไอ้ภูพูด ไม่คิดว่ามันจะยอมให้ผมคุยกับไอ้เพชรอีก 

“กูอยากรู้จริงๆ ไอ้ฟิกมันมีดีอะไรวะ ถึงได้หลงไปชอบมัน”ไอ้ภูถามอย่างข้องใจ ไอ้เพชรยิ้มจางก่อนจะมองหน้าผม 

“ไม่รู้สิครับ สงสัยผมคงชอบของแปลกเหมือนพวกพี่ล่ะมั้ง ผมมีธุระต่อ ขอตัวก่อนนะครับ”ว่าแล้วมันก็ส่งยิ้มให้กับพวกผมก่อนจะเดินไปที่โรงจอดรถ ผมกลับมามองพวกมันสองคนอีกครั้ง

“ทำไมพวกมึงมาแปลกวะ ปกติหวงกูอย่างกับอะไรดี” 

“กูมีเหตุผลพอน่า…”ไอ้ตินตอบ ไอ้ภูเบ้หน้าเหมือนคำพูดนั้นกระทบตัวมัน 

“กูไม่อยากตีกรอบมึงมาก เดี๋ยวจะหนีกูไปอีก”มันฉีกยิ้มกว้าง

“แล้วเป็นไง เรื่องทำเสื้อของมึงน่ะ”มันถามความคืบหน้า ไอ้พวกนี้เกาะติดยิ่งกว่าไอ้เคนไอ้ชายซะอีก

“กำลังออกแบบเสื้ออยู่ พวกมึงกังวลอะไรกัน ฮึ”ตั้งแต่ผมบอกมันเรื่องนี้ พวกมันก็ดูบ้าๆบอๆทันที

“เปล่า กูแค่ไม่สบายใจเท่าไหร่ ถ้าเป็นเพราะเรื่องบ้านทำให้มึง…”นั่นไง เรื่องนี้อีกแล้ว

“กูบอกแล้วไง ว่ากูไม่ได้ลำบากอะไร หรือจะล้มเลิกเรื่องบ้านไปเลยดีไหม พวกมึงจะได้เลิกกังวลซะที”ผมขู่ มองหน้ามันสองคนสลับไปมา

“กูแค่ห่วง”ไอ้ตินทำเสียงอ่อน

“อย่างกูไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก เลิกคิดๆ ถ้ามึงพูดอีกกูจะออกไปกระโดดตึกลงมาให้ดู”ผมพยายามทำให้พวกมันตลก แต่ไอ้ภูยิ่งทำหน้าหงิกก่อนถอนหายใจ

“กูเพิ่งเข้าไปคุยกับพ่อมา”แล้วมันก็เล่าให้ฟังว่าเรื่องอะไรบ้าง ความจริงมันควรจะไปตั้งนานแล้ว แต่มันก็กวนประสาทพ่อมันด้วยการยืดเวลาออกไป มันเอาเรื่องไอ้เดรกไปบอกพ่อมันจริงๆ แต่มันบอกว่าพูดตามที่มันพูดวันนั้นเป๊ะๆเพราะอยากให้พ่อมันเห็นภาพชัดๆ ไม่รู้ว่าพ่อมันจะว่าไงบ้าง อ้อ แล้วมันก็เข้าไปคุยกับพ่อมันเรื่องงานด้วย ได้ข่าวมาว่าพี่ภักอาจจะรับช่วงดูแลบริษัทต่อ แต่เจ้าของก็ยังเป็นของพ่อไอ้ภู เรื่องนี้ไอ้ภูเองก็ไม่คิดมากอะไรอยู่แล้ว เพราะมันไม่อยากสานต่อตั้งแต่แรก ผมเองได้รู้จักพี่ภักมาบ้างก็ค่อนข้างเบาใจไปกับครอบครัวมันว่าพี่ภักไม่มีทางเข้ามาทำลายบริษัทแน่นอน



9-xx-25xx 


ผมเรียนจบปีสามแล้วครับ พวกมันก็เรียนจบแล้วด้วย รอรับปริญญาปีหน้า ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมและผมไม่ได้กลับบ้านเหมือนทุกปีเพราะผมตัดสินใจจะทำงานพาร์ทไทม์เพื่อเก็บเงินสร้างอนาคตกับพวกมัน(น่าอ้วกไหม) เพราะลำพังแค่ขายเสื้อคงไม่พอ พวกไอ้เคนเอาไปต่อยอดเปิดเพจขายออนไลน์ ได้รายได้อีกทาง แต่ก็นั่นล่ะในเมื่อผมตัดสินใจแล้ว พวกมันก็ห้ามไม่ได้ ผมเลือกร้านอาหารกึ่งบาร์แห่งหนึ่ง ความจริงไปสมัครหลายร้านเพราะอยากได้เงินเดือนที่เยอะที่สุด จนมาเจอร้านนี้ งานค่อนข้างเลิกดึกพอสมควร 

“ช่วงนี้ มีเมนูแนะนำอะไรบ้างครับ”

“ลดให้ได้รึเปล่า”

คำพูดพวกนี้มาจากลูกค้ากวนประสาทอย่างไอ้ภูไอ้ติน มาแวะเวียนเป็นลูกค้าประจำตลอด ถ้าวันไหนไม่มีธุระ พวกมันก็นั่งยาวจนร้านปิดเป็นเพื่อนผมนั่นล่ะ มาแบบนี้เกือบทุกอาทิตย์จนเจ้าของร้านและเด็กเสิร์ฟคนอื่นจำหน้าได้แล้ว ผมก็ไม่ว่ามันหรอก อยาก
ทำอะไรก็ทำเพราะพวกมันว่างงงงงงงงงงง

“เที่ยงแล้วนะฟิก พักกินข้าวเลยก็ได้”พี่เอ๋เจ้าของร้านยิ้มกว้าง เพราะมื้อเที่ยงของผมถูกจัดไว้ให้แล้ว ที่โต๊ะเดิมและเจ้ามือหน้าเดิมสองคน ผมล้างมือก่อนเดินมาร่วมโต๊ะ

“ถามจริง มาบ่อยๆแบบนี้ไม่เบื่อบ้างเหรอ”ผมมองหน้ามันสองคนสลับไปมา

“ไม่เห็นเบื่อเลยนี่ ไม่ได้มานั่งเป็นวันๆซะหน่อย”ไอ้ภูแถแก้ตัว มันจะมาช่วงใกล้เที่ยงหรือไม่ก็ตอนดึกๆ

“เหรอ”ผมหรี่ตามองมัน ไอ้ตินตักแกงส้มแปะซะใส่จานให้

“กินเยอะๆจะได้มีแรง ถ้าเหนื่อยก็พักบ้างนะ ไม่ต้องขยันมาก”ดูไอ้ตินมันพูด นิสัยไม่ดีเลยจริงๆ

“กูขยัน กูได้ทิปอ่ะ”ถ้าพวกกระเป๋าหนัก ผมจะได้เยอะตลอด ถ้าเป็นงานเลี้ยงตอนค่ำ พวกเมาๆยิ่งให้เยอะ มีอยู่ครั้งนึงให้เด็กเสิร์ฟในร้านไปตั้งหลายรอบ ผมก็พลอยได้ไปด้วย

“ได้ข่าวว่าพี่ภักกลับมาเหรอ”

“อืม แค่กลับมาพักผ่อนเฉยๆ ปีหน้าถึงจะได้กลับมาแบบถาวร”

“ถามหาบ่อยจังนะช่วงนี้”ไอ้ตินพูดลอยๆ ไม่อยากบอกว่าผมคุยกับพี่ภักหลายเรื่องเลย ปรึกษาเรื่องงานน่ะ ไม่มีอะไรหรอก

“แอบคุยกันซะด้วย”ไอ้ภูเสริม

“แค่คุยเรื่องงานเฉยๆ”แต่มองหน้าพวกมันก็รู้แล้วว่าแค่ป่วนประสาทผมเล่น


นาฬิกาชีวิตของผมวนเวียนแบบเดิมซ้ำๆ ไอ้ภูกับไอ้ตินแวะมากินข้าวที่ร้านให้หายคิดถึง พวกมันไม่เคยบ่นให้ได้ยินสักคำ ผมรู้สึกดีนะ ที่อย่างน้อยมันก็เข้าใจผม ไม่ต้องห่วงว่าจะมีลูกค้ามาจีบ เพราะเด็กเสิร์ฟในร้านคอยเป็นหูเป็นตาให้มันฟรีๆซะงั้น

ผมออกจากงานในช่วงใกล้เปิดเทอม เพิ่งมานึกได้ว่า…ไอ้ภูกับไอ้ตินเรียนจบแล้วนี่นา…ไม่ได้ไปเรียนพร้อมพวกมันแบบนี้ก็เหงาขึ้นมา ยังดีที่พวกมันยังไม่ได้เริ่มทำงานจริงจัง ก็เลยมาเอ้อระเหยกับผมที่หอได้อยู่ ส่วนเรื่องบ้านน่ะเหรอ...ตอนนี้ผมส่งแปลนบ้านไปให้ช่างรับเหมาที่ไอ้ตินรู้จักไปแล้ว


 1-xx-25xx




“กูเหงาว่ะ”ผมบ่นให้ไอ้เคนกับไอ้ชายฟังในเช้าวันหนึ่ง วันที่งดคลาสทั้งๆที่ผมแหกขี้ตามาแต่เช้า

“เหงาอะไรของมึง กูอยู่ด้วยทั้งคน ยังเหงาอีกเหรอ”ไอ้ชายดัดเสียงห้าวๆจนผมขนลุกขนพอง

“คิดถึงสามีว่างั้น”ผมส่งสายตาทิ่มแทงไปที่ไอ้เคน ความจริงก็ใช่นั่นแหละ เพราะปกติพวกมันจะแวะเวียนมาหาผมที่คณะ หรือไม่ผมก็แวะไปหา ตอนนี้ไม่มีพวกมันผมก็เลยเหงา มันว่างแปลกๆ พวกมันจะรู้สึกแบบผมรึเปล่าวะ

“อย่างกับแมวหงอย”ระหว่างที่เขี่ยข้าวในจานไปมา

“เดี๋ยวกูพาไปส่องเด็กมนุษย์อิ้งเอาป่ะ”ไอ้ชายชวน

“อย่ามาหาเรื่องให้กูได้ไหม”ผมทำหน้ายุ่ง ดีดข้าวใส่หน้ามันซะเลย

“ฟังให้จบ”มันยกมือขึ้นเป็นการป้องกัน

“คือกูได้ข่าวมา…”

“กูก็ได้ข่าว…”ไอ้เคนผสมโรงด้วย

“ข่าวอะไรวะ”ผมชักหงุดหงิด พวกมันกวนประสาทกันจริงๆ

“บอกว่าเดือนคณะมนุษย์ปีนี้….หน้าเหมือนมึง”

“ห๊ะ…”ผมอ้าปากค้าง นึกไปถึงไอ้เบ๊นซ์เลยครับ

“มึงรีบพากูไปดูเลย”ผมภาวนาว่าขอให้ไม่ใช่ แต่ถาใช่ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผมนี่หว่า ดีนะ ไอ้ภูกับไอ้ตินเรียนจบไปแล้ว ความ
จริงคณะมันก็ชวนให้แวะเวียนมาดูน้องๆเข้าใหม่บ้าง แต่มันสองคนไม่อยากกลับไปยุ่งเกี่ยวแล้ว ก็เลยปล่อยผ่าน 

ไอ้ชายพาผมมาที่คณะมนุษย์ศาสตร์แล้วเรียบร้อย ตอนนี้กำลังมีกิจกรรมอะไรกันสักอย่าง

“คนไหนวะ”ผมพยายามมองหา ผมจำหน้ามันได้แน่ๆอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เจอ

“มองหาใครครับ”ได้ยินเสียงทักผมก็รีบหันไปหาทันที มันคือไอ้เบ๊นซ์จริงๆด้วย

“พี่ฟิก”มันทำเสียงตื่นเต้นก่อนจะโผเข้ามากอดผมหน้าตาเฉย ไอ้เชี่ยนี่ทำอะไรของมัน

“อะไรของมึงเนี่ย”ผมดันมันออกอย่างยากลำบาก

“โทษทีครับ พอดีเวลาตื่นเต้นแล้วชอบเป็นแบบนี้ทุกที”มันหัวเราะเขินๆ  ไอ้เคนกับไอ้ชายได้แต่ยืนมองเงียบๆ พวกมันมองไอ้เบ๊นซ์ด้วยสายตามึนๆ

“เฮ้ย…คล้ายมึงจริงๆว่ะ”น่าแปลกนะ ที่ผมไม่ค่อยหงุดหงิดเท่าไหร่ คงเพราะไอ้ภูกับไอ้ตินไม่อยู่แถวนี้ แต่ยังไงผมก็ไม่ชอบมันอยู่ดี

“พี่ฟิกเรียนอยู่ถาปัตย์ใช่ไหมครับ ว่างๆผมจะแวะไปคุยเล่นนะ”มันตะโกนไล่หลังเพราะผมลากเพื่อนสองคนเดินหนีออกมา

“มึงรู้จักมันด้วยเหรอ”ไอ้เคนยังคงมึนๆอยู่

“บอกตรงๆ กูไม่อยากรู้จักหรอก”จู่ๆไอ้ชายก็หยุดเดินทันที สีหน้านึกสนุก

“มีอะไรวะ”ผมเห็นมันทำหน้าแบบนี้แล้วคันส้นเท้าจริงๆ

“มันบอกว่าจะแวะไปหามึงที่คณะใช่ไหม เดี๋ยวกูจะแนะนำมันให้ไอ้เพชรรู้จัก”ไอ้ชายหัวเราะอย่างชั่วร้าย

“หยุดคิดอะไรบ้าๆเลยมึง”ไอ้เคนตบหัวมันเต็มแรงคิดผิดจริงๆที่มาตามคำพูดของไอ้ชาย ….ส่วนไอ้เพชรน่ะเหรอ แค่มันหน้ามืดตาบอดมาหลงชอบผม แต่ใช่ว่ามันจะชอบไอ้เบ๊นซ์มนุษย์หน้าคล้ายผมเสียหน่อย




หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 19-03-2016 13:43:51
29-xx-25xx   


พักนี้ไอ้ตินมันกลับไปค้างที่บ้านบ่อยๆเพราะที่บ้านใกล้จะมีงานอีกแล้ว คืองานแต่งญาติมัน  ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าวงศาคณาญาติของไอ้ตินเนี่ยน้อยเสียที่ไหน  เรื่องของเรื่องคือ มันได้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว  งานจะมีขึ้นในอีกสองวันนี้แล้ว

“กูยังหาชุดไม่ได้เลย เสื้อที่ม๊าเตรียวไว้ให้ก็…”ไอ้ตินทำหน้าเอือมระอา ผมเคยเห็นแว๊บๆ เป็นเสื้อสูทเชยๆ ไม่อยากบอกว่าเป็นของป๊ามันนั่นล่ะ ประมาณว่าอยากส่งต่อให้ไอ้ติน คืออย่างไอ้ตินเนี่ยคงไม่มีทางได้จัดงานแต่งแน่ ป๊ามันเลยอยากให้มันใส่เสื้อตัวนั้นในงานแต่งญาติ

“มึงก็ใส่ไปเถอะ ป๊ามึงจะได้สมหวัง”ผมกับไอ้ภูได้การ์ดเชิญด้วย งานนี้จะพลาดได้ไง

“ความจริงก็เห็นใจป๊าอยู่หรอกนะ แต่กูกับมึงมันกู่ไม่กลับแล้ว”มันหัวเราะ ผมเข้าใจหัวอกป๊าม๊ามันเลย ผู้ใหญ่ที่บ้านก็มักจะหวังอยากอุ้มหลาน พูดแล้วก็นึกถึงแม่ เมื่อวานก่อนโทรมาบอกว่าลูกชายเพื่อนได้ลูกสาว ก็อย่างที่ไอ้ตินบอกนั่นแหละ พวกผมมันกู่ไม่กลับแล้วจริงๆ

“กูเพิ่งนึกได้”ไอ้ภูตบเข่าดังฉาด ก่อนทำหน้าเซ็ง

“คุณม๊าของมึงส่งการ์ดเชิญมาให้พ่อกับแม่กูด้วยนะ”

“จริงอ่ะ ทำไมผมไม่เห็นรู้เลย”ไอ้ตินทำหน้างง จากนั้นก็เริ่มเครียด

“พ่อพี่รู้ไหม ว่าเราสามคน…”จากนั้นคำพูดก็ปลิวหายไป เรื่องก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าทางบ้านไอ้ภูไม่รู้

“มึงไม่ต้องคิดมากหรอก วันจริงเดี๋ยวกูจัดการเอง”ไอ้ภูพูดเสียงหนัก

ผมใช้สูทตัวใหม่ต้องลงทุนไปซื้อมาเพราะพวกมันกะให้ผมใส่ไอ้สูทสีชมพูอ่อนนั่นอีกรอบ เหอะๆ ฝันไปเถอะ ผมไม่มีทางหยิบมาใส่รอบสองแน่ คอยดูนะ ผมจะแอบเอาไปขายต่อ ส่วนไอ้ตินสุดท้ายมันต้องใส่สูทมรดกตกทอดของป๊ามัน แต่ใครจะรู้มันใส่แล้วอาจดูดีก็ได้



งานแต่งจัดที่โรงแรมหรูหราใจกลางเมือง ผมหาห้องจัดเลี้ยงจัดงานแทบไม่เจอแหน่ะ ผมไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน ผมมางานคนเดียวเพราะไอ้ตินต้องนอนกับญาติมัน ส่วนไอ้ภูเป็นคนขับรถให้ที่บ้าน นานๆทีจะได้เห็นไอ้ภูมากับครอบครัว ผมมาสายนิดหน่อย
แขกเรื่อในงานเริ่มทานอาหารกันแล้ว ว่าแต่ผมต้องนั่งที่โต๊ะไหนวะ ยังไม่เจอไอ้ตินเลย คงอยู่กับเจ้าบ่าวล่ะมั้ง ผมเลยเดินเลียบๆเคียงๆอยู่แถวนั้น หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นเพื่อให้มีอะไรทำ หิวก็หิว 

“น้องฟิก”เสียงแบบนี้…ผมหันไปพร้อมกับอ้าปากค้าง

“แม่”มาได้ไงวะเนี่ย คุณนายอยู่ในชุดเดรสสีขาวยาวเชยๆ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ดีไซน์ของสมัยนี้ หรือไปขุดชุดเก่ามาจากตู้ 

“ตกใจอะไรนักหนา อ้าปากหวอเดี๋ยวแมลงวันก็บินไปไข่หรอก”ผมยังมึนๆงงๆอยู่ แม่ก็เข้ามาควงแขนผมพาไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ม๊าไอ้ตินนั่งรออยู่ก่อนแล้ว และที่น่าตกใจกว่าเจอแม่คือ แม่ไอ้ภูก็ร่วมโต๊ะด้วย จะเป็นลมครับ ผมรีบกวาดตามองรอบๆเพื่อหาไอ้ภู

สุดท้ายก็เจอ ไอ้ภูสวมสูทสีอ่อน ยืนฉีกยิ้มปลอมๆอยู่ข้างๆพ่อมันที่กำลังคุยกับแขกร่วมงาน เส้นผมสีเข้มถูกหวีเสยไปด้านหลัง เปิดหน้าเหม่งรับแสงอาทิตย์ ยอมรับว่าหล่อ มองแล้วใจสั่น ผมเลยย้ายสายตากลับมาที่คุณนายข้างๆแทน

“สวยเชียว นึกว่าสาวที่ไหน”พูดเอาใจหน่อย เพื่อได้เงินค่าขนม

“ไม่ต้องมาปากหวาน”ตีแขนผมดังเพี๊ยะแต่ก็ยิ้มกว้าง

“นี่เป็นชุดที่พ่อซื้อให้ ก็เลยดูเชยๆไปหน่อย คงสู้สาวสมัยนี้ไม่ได้หรอก”

“สำหรับผม แม่สวยที่สุดอยู่แล้วน่า”ผมชมต่อ

“แหม ทำมาพูดเพราะน้องฟิกไม่ค่อยมองผู้หญิงสวยๆหรอก”พูดอีกก็ถูกอีก 

ผมสงบปากสงบคำเมื่อมาถึงโต๊ะที่มีผู้ใหญ่นั่งอยู่ พวกแม่ๆทักทายกันพอเป็นพิธีก่อนจะออกปากเม้าท์ยืดยาว แม่ไอ้ภูก็ใช่ย่อยนะครับ แต่สังเกตว่าท่านดูผอมกว่าครั้งก่อนที่เจอ ผมตอบรับพอให้มีส่วนร่วมในบทสนทนา มองไปเรื่อยๆในที่สุดผมก็เจอไอ้ตินครับ มันกำลังคุยกับบรรดาญาติๆอยู่

ทำไมวันนี้มีแต่เรื่องชวนตกใจก็ไม่รู้ เพราะไอ้ตินอยู่ในลุคที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน มันสวมสูทเชยๆของป๊ามันก็จริง มันคงจะดูจืดๆเชยๆไปแล้วแต่คงเพราะมันสวมแว่นตาทรงกลมวินเทจ ผมแสกกลางเนี้ยบๆ วันนี้ทั้งไอ้ภูทั้งไอ้ตินทำผมแปลกใจด้วยกันทั้งคู่เลย แล้วมองดูตัวเองซิ ผมก็ไม่ได้หวี สูทยับนิดหน่อย สีหน้าไม่สดชื่นเพราะอดนอน ผมจะไม่ยืนข้างๆพวกมันแน่นอน งานนี้ไอ้ฟิกดับอนาถ

“มึงอาบน้ำมารึเปล่าเนี่ย”นั่นไง เสียงกวนประสาทของไอ้ภูลอยมา มันเดินมาหาผมที่โต๊ะพร้อมยกมือไหว้แม่ไอ้ตินกับแม่ผม

“มึงไม่ต้องมาพูดเลย”ผมก็ลืมว่ามีผู้ใหญ่นั่งอยู่สามคน เพราะงั้นคุณนายข้างๆผมถึงได้หยิกเอวเต็มแรง

“ผมขอพาฟิกไปนั่งตรงนู่นนะครับ”ทำไมมันต้องมาขออนุญาตแม่ผมด้วย จะไปก็ไป แอบเห็นแม่มันอมยิ้ม ผมรีบลุกจากโต๊ะเดินตามมันไป ผมมองเห็นพ่อไอ้ภูยังคุยกับแขกคนดื่มอยู่ ไม่รู้คุยอะไรกัน แต่อาจจะอวดลูกชายอยู่ก็ได้ ไม่นานนักไอ้ตินก็เข้ามาร่วมโต๊ะด้วย

“กูโคตรเหนื่อยเลย คนแก่พูดเยอะจริงๆ”มันนั่งลงที่เก้าอี้ว่าง ในมือถือจานอาหารมาด้วย หลังจากที่ท้องอิ่ม พวกมันก็ล้อผมเรื่องสภาพมางานแต่งของผมต่อ 

“ทำไมไม่หวีผมมา ซกมกว่ะ”

“กูเผลอหลับ”ตื่นอีกทีก็ผมมองไปรอบๆงาน ไอ้ภูเพิ่งไปเอาผลไม้มาให้ผม เรื่องของเรื่องผมไม่อยากลุกไปหลายรอบ มันดูน่าเกลียด ไฟในห้องจัดเลี้ยงถูกหรี่ลง พิธีกรพูดบลาๆ ก่อนจะเปิดวีดีทัศน์แนะนำคู่แต่งงาน หวานยดย้อย เจ้าบ่าวหน้าตาตี๋ๆธรรมดาๆส่วนเจ้าสาวขอชมว่าสวยดี   

“ถ้ากูแต่งงานนะ จะไม่ถ่ายอะไรแบบนี้เด็ดขาด”ไอ้ภูพึมพำอยู่ใกล้ๆ ระหว่างนั้นพิธีกรก็เชิญเจ้าบ่าว เจ้าสาวตัวจริงขึ้นมาบนเวที จากนั้นก็เป็นพิธีการต่างๆ ไอ้ตินถูกตามตัวไปถ่ายรูปรวมเครือญาติอีกรอบ จากนั้นคู่แต่งงานก็เข้าสู่ช่วงตัดเค้ก บรรยากาศชื่นมื่นมากเสียจนผมพลอยยิ้มไปด้วย จนถึงช่วงเจ้าสาวโยนดอกไม้

“มึงไปแย่งดิ”ไอ้ภูกระซิบ

“บ้าเหรอ”ผมทำหน้ายุ่งใส่มัน ก่อนจะมองสาวๆในงานไปรุมแย่งดอกไม้จากเจ้าสาว ก็แปลกดีเหมือนกัน

“อ้าว เชี่ย…”พอกลับมามองข้างตัว ไอ้ภูก็หายไปอีกคน เหลือผมนั่งที่โต๊ะคนเดียว ผมมองไปรอบๆห้องก็ไม่เจอ ตอนนี้ที่โต๊ะคุณนายมีพ่อไอ้ภูกับพ่อไอ้ตินไปแจมแล้ว

“ต่อจากนี้จะมีการร้องเพลงอวยพรให้แก่คู่บ่าวสาว….”ผมคงไม่สนใจถ้าหากว่าคนที่ขึ้นไปร้องไม่ใช่ไอ้ภูกับไอ้ติน สัดเอ้ย รู้เลยครับว่ามันไม่ได้ร้องให้เจ้าของงานแต่งวันนี้แน่ ร้องเพลงสากลซะด้วย แค่ชื่อเพลงก็ทำให้ผมยิ้มได้แล้ว

your man


ช่วงใกล้เลิกงานผมกะจะกลับอยู่แล้วเชียวหากไม่ถูกป๊าไอ้ตินรั้งไว้

“มาถ่ายรูปด้วยกันก่อนมา”ผมจัดการใช้มือสางผมให้เรียบร้อย แอบถูมือกับแก้วน้ำเพื่อใช้น้ำมาสางผมให้เรียบร้อย(อนาถจริงๆ) ได้ถ่ายกับไอ้ภูไอ้ติน ผมไม่อยากให้รูปออกมาทุเรศนี่นา ไอ้สองคนนี่จะแข่งกันหล่อไปถึงไหน ผมจ้องหน้าพวกมันจนจะสึกอยู่แล้ว

“เชิญคุณพ่อ คุณแม่มาถ่ายด้วยกันเลยครับ อบอุ่นดี”อีกแล้ว…เจอเรื่องน่าตกใจอีกแล้ว เพราะไม่ใช่มีแค่ป๊าม๊าไอ้ติน แต่มาทั้งแม่ผม และพ่อแม่ไอ้ภูเลยครับ เป็นภาพครอบครัวที่อบอุ่นจริงๆ!?






-END-





จบแล้วววววววว ความจริงแอบตันกับตอนจบนิดๆ เพราะเหมือนเรื่องจะจบที่ตอนที่แล้ว
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ นิยายเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายที่ดีและมีสาระ แถมยังยืดเยื้ออีก
ก็ขอบคุณมากๆที่ตามอ่านมาจนจบ ชื่นชมนักอ่านทุกคอมเม้นต์ที่ยังอยู่ด้วยกันมาถึงตอนนี้จริงๆค่ะ
อดทนมากกกกก กอด ทุกคอมเม้นเป็นแรงผลักดันให้เราเขียนต่อจนจบจริงๆค่ะ :กอด1:
ยอมรับว่าสามหน่อยังมีข้อบกพร่องหลายอย่าง และจะแก้ไขเนื้อหาบางส่วนในร่วมเล่มนะคะ
ถ้ามีข่าวอัพเดทจะแจ้งให้ทราบค่ะ เหลือบทส่งท้ายกับตอนพิเศษ รออ่านด้วยเน้ออออ จุ๊บๆ  :L1:



หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: lion ที่ 19-03-2016 14:29:20
สนุกมากเลยค่า นึกว่าจะมีเซอร์ไพร์สอะไรซะแล้วเห็นพ่อแม่ทุกคนมาหมด :laugh: จะรอตอนพิเศษนะคะ :mew3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: Aueizii ที่ 19-03-2016 14:38:03
เอาอีกๆๆๆ ไม่อยากให้จบเลย เรารักเรื่องนี้ที่สุดอ่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-03-2016 14:53:59
 :katai2-1:ดีงามค่ะ. หนูฟิกและสองสามีเติบโตขึ้นมาก
ชอบที่แบบว่าสร้างเนื้อสร้างตัว รู้จักคิด
ถึงจะอ่านตอนพิเศษครบรอบห้าปีมาแล้วแต่ก็ยังฟินกับตอนจบตอนนี้นะคะ
เพชรก็แวะไปส่องเด็กคณะมนุษย์บ้างสิเผื่อเจอของดี
ขอบคุณมากค่ะ ผูกพันจริงๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-03-2016 14:58:09
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 19-03-2016 15:02:19
คือดีอะ...งานนี้ครอบครัวอบอุ่นสุดๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 19-03-2016 15:12:31
รู้สึกใจหายเลย ติดตามภูตินฟิกมาตั้งแต่ภาคแรกตอนที่1เลย ถ้าจะไม่ได้ค่อยเม้นก็ตาม  :katai1:
อยากให้แต่งภาค3ต่อจังเลย คงได้คิดถึงทั้ง3แน่ๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 19-03-2016 15:14:22
เหมือนงานแต่งของสามคนเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: mam.nalok ที่ 19-03-2016 15:34:15
เฮ้อออออใจหาย จบไปอีกเรื่องแล้ว  เป็นเรื่องที่ชอบมากๆอีกเรื่องเลยละ รัก 3 คนนี้มากมาย  อย่าลืมตอนพิเศษนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 19-03-2016 15:47:15
เป็นครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นมากกกกกกกกกเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 19-03-2016 15:51:07
เผลอแปปๆ ก็ตอนจบแล้ว
ใจหายแว้บบ รู้สึกเหมือนอยู่กับวงจรพวกนี้มานาน
ภูกับตินน่ารักมาก ชอบความจริงจัง
เอาจริงๆคือฟิกโชคดีจริงๆนั่นแหละ ที่ได้สองคนนี้
คิดดูสิว่าใครจะดีไปกว่านี้อีก 555555
งานแต่งนั่นเหมือนนัดกันมาแบบ official
ว่าพ่อแม่ทุกคนรู้เรื่องแล้วนะจ๊ะ อะไรแบบนี้เลย  :hao3:
ตอนพิเศษของพิเศษต้องโผล่มาแน่ๆเลย ใช่ป่าว
ขอบคุณคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-03-2016 16:05:06
 :katai2-1: อ่านไป หลุดขำหัวเราะ เป็นระยะๆ ยังสนุก เบนซ์ดูท่าอยากสนิทสนมกับฟิก มันยังไงๆ นะ  :hao7:
เพชรจะชอบเบนซ์มั้ยน้า :mew2:  อ่านแล้วโลภ  อยากรู้เรื่องความรักของพี่ภัก  อยากรู้เรื่องของเจ้าคุณ ขอบคุณไร้ท   :mew1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-03-2016 16:22:54
ติต่างว่าเป็นงนแต่งทั้งี่เลยได้ไหม
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: Mikino ที่ 19-03-2016 16:40:10
 :L1: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 19-03-2016 16:48:13
ชอบเรื่องนี้มากกกกก
รักสามหน่อมากๆ
ขอบคุณคนแต่งมากๆ ค่ะ
ได้อ่านเรื่องนี้แล้วเรามีความสุขทุกครั้งเลย
ปล.อยากได้ตอนพิเศษ(อีกแล้ว555)ตอนที่ย้ายไปอยู่บ้านใหม่จังงง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: คุณลิ้นจี่ ที่ 19-03-2016 17:45:24
ขอบคุณค่ะ คถ.สามหน่อแน่ๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 19-03-2016 18:41:57
 ทำไมรีบจบบบบบบบบบบ โถ่ เอาตอนพิเศษมาเลยย  :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: meuy ที่ 19-03-2016 19:13:56
สนุกมากเลยค่าาา บ้านหลังนั่นถ้าสร้างเสร็จคงจะดี
งามมากแน่ๆ   :katai2-1: :katai2-1:

คิดถึงฟิก ภู ติน มากแน่ๆ  รอตอนพิเศษนะคะ><
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 19-03-2016 20:19:40
ครอบครัวสุขสันต์มาก 55555555555555
คิดถึงสามคนนี้ ฮือ ไม่อยาดให้จบเลยค่ะ 55555555555555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: ohm ที่ 19-03-2016 20:49:33
ขอบคุณมากๆครับ
สำหรับเรื่องสามหน่อ
ชอบมากๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 19-03-2016 21:41:18
 :pig4: :pig4: :pig4:

อยากอ่านตอนพิเศษหลังทำบ้านเสร็จจัง  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-03-2016 21:44:05
ขอบคุณมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 19-03-2016 22:21:21
สามหน่อจบแล้ว
นึกว่างานแต่งงานสามหนุ่มเลยนะเนี่ยะ
มีผู้ใหญ่แต่ละบ้านมาครบเลย

หวังว่าทั้งสามคนจะมีความสุขไปตลอด
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 19-03-2016 22:21:54
จากตอนแรกภาคแรกมาจนตอนสุดท้ายในภาค 2 นี้  เนื้อหาเปลี่ยนไปเยอะเลยค่ะ
ไม่ได้ว่าแย่ลงหรือไงนะคะ    ในตอนแรกๆเราเชื่อว่ามีหลายคนเข้ามาอ่านเพราะคำว่า 3P  แต่มาช่วงหลังๆเห็นการเปลี่ยนแปลงในทุกๆด้านของตัวละครทุกตัว  แนวการเขียนของ การคิดของคนเขียนก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา   อาจจะเพราะว่ากินเวลานาน คนเขียน คนอ่านก็โตไปกับเวลา   เราชอบช่วงหลังๆมากที่โฟกัสการเปลี่ยนแปลงของแต่ละคน  มีทั้งปูมหลัง  นิสัยเสียๆ  นิสัยดีๆ  แม้กระทั่งพ่อของภูก็ยังเปลี่ยนไปเลยค่ะ  หลังๆจะไม่ค่อยเน้นเรื่องฉากเท่าไหร่แต่เราก็ยังชอบอ่าน  ชอบตัวประกอบด้วยค่ะ  จบแล้วก็อย่าลืมพวกไซด์สตอรี่นะคะ   ยังค้างเติ่งอยู่ก็มีนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

ป.ล
อ้างถึง
ผมหาห้องสูทจัดงานแทบไม่เจอแหน่ะ
ไม่ควรเป็นห้องสูทค่ะ  มีแต่ห้องสวีท ที่เป็นห้องพักระดับหรูหรามีตั้งแต่ห้องเดี่ยวไปจนถึงห้องที่เป็นห้องชุด 
ห้องที่ใช้ในการจัดงานเลี้ยงส่วนใหญ่จะเรียกว่าห้องบอลรูมหรือห้องจัดเลี้ยงค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: sindy ที่ 19-03-2016 23:12:31

เหมือนงานแต่งของทั้งสามคนเลย ขอบคุณคนแต่งค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 19-03-2016 23:50:19
ครอบครัวอบอุ่นจริง ๆ

ทำฟิกแตกตื่นเลย ฮ่าฮ่าฮ่า

ดีใจที่ได้เห็นทั้งสามคนวางแผนอนาคตร่วมกันอย่างจริงจัง
ขอให้รักนี้ยืนยง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: bvan ที่ 20-03-2016 02:25:45
ไม่อยากให้จบอ่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: kjkjji ที่ 20-03-2016 06:37:35
จบแล้ว ใจหายเหมือนกันนะ 5555
รู้สึกเหมือนอ่านมานานมากและยังคงอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ
เรายกเรื่องนี้ให้เป็นที่หนึ่งเรื่องพัฒนาการของตัวละครเลย ทุกคนในเรื่องดูโตขึ้น(ในทิศทางที่ดี) ขนาดพี่ภูที่ตอนแรกดูเป็นไม้แก่ดัดยากยังเปลี่ยนไปเลยเพราะความรัก :กอด1: ชอบมากค่ะ ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่าน รอตอนพิเศษต่อไป  :L2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: Wannida ที่ 20-03-2016 11:37:33
ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีค่ะ รอตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 20-03-2016 12:12:20
ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆค่ะ กีใจจริงๆที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้ ไม่อยากให้จบเลย ขอตอนพิดศษน่ารักๆ หรือภาคต่อไปเลยยิ่งดีค่ะ รักฟิก รักภูติน รักคนเขียนนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 21-03-2016 09:50:26
เอ้อ สรุปงานแต่งญาติติน หรือ งานแต่งของสามหน่อคะ ได้ข่าวร้องเพลง แถมมากันครบครอบครัวสามหน่อ  :laugh: ใจหายนะที่จบแล้ว ยังอยากตามติดชีวิตสามหน่อไปเรื่อยๆ แบบเป็นไดอารี่ประมาณนี้ อ่านไปนานเหมือนอ่านชีวิตจริงๆเลยนะเนี่ย คนเขียน เขียนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสามหน่อมากๆ ในเรื่องนิสัย การปรับตัว การใช้ชีวิต กว่าจะมาถึงตอนนี้ได้ บอกให้รุ้ว่าต้องปรับมากขนาดไหน ถ้าเป็นชีวิตจริงก็ขออวยพรให้อยู่กันไปนานๆ เลยนะ สามหน่อ ในนิยายก็อยู่นานๆด้วย รอตอนพิเศษนะคะ ที่เคยบอกไว้คืออยากขอให้คนเขียน เขียนถึงตอนที่พี่ภูไม่มีแม่แล้ว ไม่ได้ลำเอียงหรืออยากตอกย้ำ แต่อยากให้เห็นถึง ความรักความห่วงใยของทั้งสามคน ในวันที่คนที่ตัวเองรัก ที่เรียกว่า แม่ จากไป แล้วเยียวยาปลอบประโลมกันอย่างไรถึงผ่านช่วงนั้นมาได้ ถ้าคนเขียนไม่ว่าอะไร สะดวกเขียนให้อ่านหน่อยนะคะ เอาที่คนเขียนสะดวกนะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 21-03-2016 19:42:32
ตอนจบนี่รวมพ่อแม่ทุกคนเลย  :L1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: npsp2555 ที่ 21-03-2016 21:27:32
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 23-03-2016 14:08:58
ครอบครัวอบอุ่นจริงๆ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 23-03-2016 20:19:04
รอตอนพิเศษ
 :mew3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 23-03-2016 23:27:58
เป็นนิยายอีกหนึ่งเรื่อง



ที่เสียดาย
ว่าจบซะแล้ว


ติดตามอ่านจนผูกพันกับทั้งสามหนุ่ม
คิดถึงน่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: Aueizii ที่ 24-03-2016 21:41:00
คิดถึง สามหน่อ จัง  :mew6: :mew2:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 25-03-2016 19:55:21
จบแล้ว ลุ้นมากเลยค่ะ
สามหน่อพากันป่วนสุดๆ ขี้หึงขี้หวงต้องยกให้เค้าเลย แต่น่ารักมากจ้า
ตอนจบก็ลุ้น นึกว่าภูตินจะมีเซอร์ไพรส์อีก

ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ รออ่านตอนพิเศษจ้า
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 25-03-2016 21:56:45
แฮปปี้เอนดิ้งมีความสุข
เป็นครอบครัวอบอุ่นดี  :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: tukkata bambola ที่ 26-03-2016 09:48:00
นู๋ฟิกไม่ต้องแข่งหล่อกับเขาหรอกนู่น่ารักก็พอแล้ว555
เป็นการถ่ายรูปครอบครัวที่ดูน่ารักอบอุ่นมาก :mew3:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 28-03-2016 21:16:36
 :L2: สามหน่อจบลงอีกครั่ง รักกันนานนะสามหน่อ 3p เรื่องแรกที่ตัดสินใจอ่าน คือเรามาถูกทางแหละ ชอบทุกๆตัวละคร แต่ชอบสุดคงต้องยกให้นายเอกของเรื่อง ชอบนิสัย ลักษณะท่าทางฟิกนะ ไม่เหมือนเคะอื่นๆ  :laugh:
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ  o13
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: Aueizii ที่ 02-04-2016 01:53:56
อยากอ่านตอนที่ฟิกได้จิ้ม ภูกับตินตอนวันเกิดอายุ25ของฟิกอ่ะค่ะ ^.^
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 02-04-2016 07:34:46
ไม่ยืดเยื้อเลยค่ะ อยากให้มีต่ออีกด้วย ขอบคุณมากนะคะที่แต่งเรื่องน่าอ่านให้ได้ติดตาม

เป็นชีวิตที่มีสีสันมาก ครบรสทุกคน เป็นช่วงเวลาของการเรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยกัน

ตินภูคิดไกลมาก วางแผนดี ฟิกก็เปลี่ยนไป น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: TiwAmp_90 ที่ 02-04-2016 15:58:07
 :hao7:

ฟิกยิ่งน่ารักขึ้นทุกวันๆ อิอิอิ
ขอให้รักกันนานๆน้าาา .
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 22-05-2016 00:53:55
น่ารักมากๆ เป็นครอบครัวใหญ่เลย 5555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[ตอนที่๓๐ END] 19-03-59 P.43
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 27-05-2016 12:43:26
กลับมาอ่านอีกครั้ง ก็ยังรัก  :กอด1: เป็น 3p ที่ชอบที่สุดแล้ว อยากอ่านอีกเยอะๆ  :ling1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 02-06-2016 23:11:26
 


บทส่งท้าย



เสียงกลองและเสียงบูมจากหลายๆคณะดังมาไม่ขาดสาย เป็นบรรยากาศอันแสนคุ้นเคยตามธรรมดาเมื่อเข้าใกล้วันรับปริญญาของพี่บัณฑิต ปกติแล้วผมคงไม่สนใจเท่าไหร่ แต่เพราะว่าปีนี้มันพิเศษกว่าปีไหนๆ ผมจึงต้องยอมบากหน้ามาร่วมซ้อมบูมกับน้องๆปีหนึ่ง ซึ่งไอ้ผมเนี่ยก็ปีสี่แล้ว คงเป็นเรื่องที่แปลกน่าดู

“ทำไมพี่ฟิกมาซ้อมบูมกับพวกผมอ่ะ หรือว่ากิจกรรมไม่ผ่านเลยต้องมาซ่อม”ไอ้เก่งผู้เป็นน้องเทคของไอ้จอมถามด้วยสีหน้าอยากรู้เมื่อเห็นผมมาซ้อมบูมเป็นวันที่สองแล้ว รู้สึกแก่ๆอยู่เหมือนกันวลามารวมกลุ่มกับเด็กปีหนึ่ง

“ไม่ต้องถามมาก กูทำด้วยใจว่ะ”ฟังดูหล่อซะจริงๆ ไอ้เก่งแอบเบ้ปาก ช่วงที่ผมมาซ้อมก็มักจะจับกลุ่มอยู่กับไอ้นี่แหละ และเนื่องจากพักหลังๆผมไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายสักเท่าไหร่ ช่วงสองวันที่ได้ซ้อมบูม ร่างกายจึงประท้วงอย่างหนัก ทั้งปวดหลังและปวดขา เพราะไอ้การบูมของคณะผมเนี่ยมันค่อนข้างจะเหนื่อย แถมต้องบูมเท่ารุ่นอีก งานนี้มีตายแน่ แต่จะมาโอดโอยให้ขายขี้หน้ารุ่นน้องไม่ได้ แล้วอีกอย่างไอ้ภูกับไอ้ตินเองก็ไม่รู้ด้วยว่าผมแอบมาซ้อม   

“ผมซื้อน้ำมาฝาก”เป็นเรื่องปกติไปซะแล้วที่ไอ้เพชรมันจะซื้อน้ำเปล่ามาให้ผมช่วงหลังซ้อม แต่ก็ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น เพราะผมได้ข่าวมาว่ามันกำลังคบกับรุ่นน้อง ซึ่งเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย แต่ก็ดีแล้วล่ะ หล่อๆแบบมันเสียดายของ

“เออ แล้วพักนี้มึงได้เจอไอ้เบ๊นซ์บ้างไหม”ผมลองถามถึงไอ้เด็กที่หน้าคล้ายตัวเอง ช่วงก่อนๆมันแวะเวียนมากวนตีนผมบ่อยๆ ได้เจอกับไอ้เพชรบ้างบางครั้ง

“ไม่นี่”ไอ้เพชรทำหน้าหงิกเล็กน้อย เวลาไอ้เบ๊นซ์แวะมา ไอ้เพชรจะพยายามไม่เข้ามายุ่ง สงสัยจะไม่ค่อยชอบหน้าไอ้เบ๊นซ์สักเท่าไหร่ ดีเลย เพราะถึงยังไงผมก็ยังเหม็นหน้ามันอยู่ เหอะๆ

“ดีแล้วกูไม่ค่อยชอบหน้ามัน”

“ทำไมครับ พี่หึงเหรอ”ไอ้เพชรถามด้วยเสียงล้อเลียน

“ถุยเหอะ”ผมโบกมือไล่ให้มันกลับไปทำงานได้แล้ว หลังจากที่ซ้อมบูมเสร็จ เปลี่ยนกางเกงเรียบร้อยแล้ว ก็แวะไปหาไอ้เคนกับไอ้ชายที่สตู พอก้าวเข้าปีสี่ อะไรๆก็ยุ่งยากมากกว่าเดิม ไอ้เคนกับไอ้ชายถึงได้ที ล้อผมเรื่องที่เจียดเวลาทำงานทำโปรเจคไปซ้อมบูม ถ้าตอบตรงๆก็ ผมทำเพื่อไอ้ภูกับไอ้ตินนั่นแหละ แต่ไม่ได้ในฐานะแฟน แต่ในฐานะรุ่นน้องต่างหาก ก็แหม นานๆทีผมก็อยากทำเรื่องดีๆบ้าง

“ว่าไงน้องฟิก ซ้อมบูมเสร็จแล้วเหรอ”ไอ้เคนเงยหน้ามาจากจอโน๊ตบุ๊คหลังจากที่หมกมุ่นกับโปรแกรมสามดีอยู่นาน ผมแค่พยักหน้าตอบก่อนทิ้งตัวนั่งลงข้างๆเพื่อน ทุบต้นขาของตัวเองไปด้วย 

“เออ เหนื่อย”ผมบ่น ไอ้ชายโผล่หน้ามาจากโน๊ตบุ๊คอีกคน

“หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง”ผมทำหน้าเหม็นเบื่อเมื่อรู้ว่าเพื่อนจะล้อเรื่องไหน

“กูไม่เห็นหน้าพวกมันสองคนมาเป็นอาทิตย์แล้ว จะเอาหนามที่ไหนมาบ่ง”ผมตอบอย่างอารมณ์เสีย จนไอ้เคนกับไอ้ชายหัวเราะ

“เดี๋ยวนี้ล้อมึงไม่ค่อยสนุกเลยว่ะ”

“เอาเวลาไปสนใจเรื่องตัวเองเถอะ”พักนี้ไอ้ชายมันวุ่นๆเพราะสาวคนใหม่ที่มันคบด้วย ถึงกับกล้าควงสาวนอก ไม่รู้ว่าคุยกันรู้เรื่องรึเปล่า หรืออาจไม่ค่อยได้คุยกันก็ได้

“พูดถึงเรื่องไอ้ชาย ได้ข่าวมาว่าไอ้เบ๊นซ์มันกลับมายุ่งกับมึงอีกแล้วเหรอ”ได้ยินคำพูดของไอ้เคนผมถึงกับหูผึ่ง ไอ้เบ๊นซ์รุกไซต์มินิที่ตามจีบไอ้ชายเมื่อตอนปีหนึ่งนั่นเอง ผมก็แทบลืมเรื่องของมันไปแล้วเหมือนกัน ไอ้ชายชักสีหน้าหงุดหงิดเหมือนทุกทีที่มีคนหยิบชื่อนี้ขึ้นมาพูด

“อย่าพูดถึงมันเลยว่ะ อารมณ์เสีย”ผมกับไอ้เคนเลยไม่เซ้าซี้ถามอะไรอีก ผมคว้าถุงขนมปังของไอ้เคนมาแกะกิน นั่งได้ไม่นาน ไอ้แชมป์เพื่อนในเซคที่ผมไม่ค่อยได้คุยด้วยก็เข้ามาหาที่โต๊ะด้วยสีหน้าตื่นเต้นร้อนใจ

“เฮ้ยไอ้ฟิก กูไปเจอแฟนมึงไปกับผู้หญิงว่ะ”มันหายใจหอบเสียงดัง ก่อนมองมาที่ผมที่ยังคงมีท่าทีเมินเฉย

“เหรอที่ไหน”ผมถามเสียงเอื่อย ไอ้แชมป์มองท่าทีไม่ทุกข์ร้อนของผมด้วยสีหน้างงๆ   

“ร้านเฟื่องฟ้า”ไอ้แชมป์ตอบ ร้านเฟื่องฟ้าเป็นร้านอาหารบรรยากาศหรูอยู่ห่างจากรั้วมหา’ลัยไปไกลโข ผมเองเคยผ่านไปสองสามครั้ง ไอ้เคนกับไอ้ชายหันมามองผมอย่างพร้อมเพียง นั่นไง ไอ้เรื่องสอดรู้ต้องยกให้มันสองคนจริงๆ ไอ้แชมป์เห็นผมยังไม่ขยับ มันก็เสริมต่อ

“ไม่ได้มากันแค่สองคนนะเว้ย แต่มีผู้ใหญ่มาด้วย กูว่างานนี้มีเงื่อนงำแน่ๆ”…มีผู้ใหญ่มาด้วย ใครวะ ผมเริ่มสนใจบ้างเหมือนกัน 

 “ใครวะ ไอ้ภูหรือไอ้ติน”ในที่สุดผมก็ยอมเปิดปาก   

“ไอ้ตินว่ะ แต่กูว่าคนอย่างมันไม่น่าจะนอกใจมึงนะ”ไอ้แชมป์ออกความเห็น ผมมองหน้าเพื่อน พลางครุ่นคิดอยู่ในหัว ก็จริงอย่างที่มันว่านั่นล่ะ อย่างไอ้ตินไม่มีทางทำนิสัยเสียๆแบบนั้นอยู่แล้ว ข้อนี้ผมเบาใจได้แน่นอน เพราะตั้งแต่ที่มันติดแหง็กอยู่กับผมก็ไม่เคยออกนอกทาง แต่เรื่องมันก็น่าสงสัยจริงๆ ผมติดใจตรงที่มีผู้ใหญ่มาด้วยนี่ล่ะ ป๊าม๊าของมันเหรอ? หรือไปคุยเรื่องธุรกิจกัน   

“เออ ไงก็ขอบใจมาก ที่อุตส่าห์มาบอก”หวังดีกันจริงๆไอ้พวกนี้ ไอ้แชมป์ยักไหล่สองสามทีก่อนจะลอยละล่องจากไป ทิ้งเรื่องคาใจไว้ให้ผมกับเพื่อนขี้เสือกอีกสองคน

“น้องฟิกว่าไง”ไอ้ชายถามเสียงล้อเลียน

“เฉยๆ”ผมไหวไหล่

“ถุย หน้ามึงบอกว่าอยากรู้มาก”

“มึงจะไปดูไหม”ไอ้เคนถามยิ้มๆ

“ไปดิ”แต่ผมไม่ได้ไปจับผิดไอ้ตินมัน แค่คิดว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำแน่นอน




***********************************************







ผมกับไอ้เคนไอ้ชายมายืนด้อมๆมองๆที่ร้านเป้าหมายอย่างคนที่ไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อ

“มึงจะเข้าไปไหมเนี่ย”ไอ้ชายถามเสียงฉุน

“ไป...”ผมลังเลเล็กน้อยเพราะไม่อยากทำตัวเหมือนจับผิดไอ้ติน เพราะคิดแล้วก็หงุดหงิด

“เฮ้อ...ตามมา”ไอ้เคนถอนหายใจก่อนจะนำทัพไปคนแรก ผมยังไม่เคยเหยียบมาร้านนี้เลยสักครั้งเพราะความหรูหราของมันเนี่ยแหละ และทันทีที่ย่างเท้าเข้าไปเสียงไวโอลินไพเราะเพราะพริ้งก็ดังก้อง ผมกับเพื่อนอีกสองคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เหมือนเข้ามาผิดที่ผิดทาง ยืนเก้ๆกังๆอยู่นาน ไอ้เคนกระตุกเบาๆที่ชายเสื้อ

“เห็นแล้ว นู่นไง”มันพยักเพยิดไปยังโต๊ะใหญ่มุมร้านที่ค่อนข้างสะดุดตา แค่มองปราดเดียวผมก็เห็นไอ้ตินนั่งร่วมโต๊ะกับคนอีกสามคน สีหน้าดูเหมือนไม่สบอารมณ์ ข้างๆตัวมีหญิงสาวผมยาวผิวขาวโดดเด่นนั่งอยู่ สายตาที่มองไอ้ตินบอกชัดเจนว่าเจ้าตัวปลื้มปริ่มเป็นนักหนา ส่วนฝั่งตรงข้ามคนทั้งคู่มีผู้ใหญ่สองคนกำลังคุยกันอยู่ เนื่องจากมองไม่เห็นหน้า ผมเลยไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ดูจากรูปร่างแล้วไม่ใช่ป๊าม๊าของไอ้ตินแน่ๆ ความจริงข้อนี้ทำให้ผมสบายใจไปเปราะใหญ่

“มึงว่ามันมาทำอะไรวะ”ไอ้ชายพึมพำเบาๆอย่างสงสัย ผมรีบกวาดตามองหาโต๊ะว่าง เมื่อเจอก็รีบพุ่งไปจับจองทันที เลือกมุมที่สามารถมองเห็นโต๊ะของไอ้ตินได้อย่างชัดเจน ระหว่างที่ทำทีเป็นเปิดเมนูอาหาร ไอ้ตินก็เงยหน้ามาเห็นผมเข้า ผมยกยิ้มส่งไปให้มัน เจ้าตัวดูแปลกใจก่อนจะหลุดยิ้มสบายตาออกมา

ผมเห็นผู้หญิงข้างตัวของมันทำหน้างง สายตามองมาที่ผมก่อนจะเอ่ยปากถามอะไรบางอย่างกับมัน และนั่นทำให้ผู้ใหญ่อีกสองคนหันมองมาทางโต๊ะของผมด้วย คุณอาท่าทางใจดีคงเป็นญาติ(ฝ่ายไหนไม่รู้)ของไอ้ติน ส่วนอีกคนคงเป็นแม่ของผู้หญิงคนนั้น เดาจากส่วนคล้ายของใบหน้า ดูๆแล้วคงเป็นคุณหญิงคุณนายชัวร์

“เวรกรรม หันมามองหมดเลย”ไอ้ชายทำหน้าไม่ถูก มันนั่งอยู่ข้างผมก่อนจะแย่งเมนูอาหารในมือของผมไปบังหน้าตัวเอง

“กูว่าบรรยากาศแปลกๆว่ะ”ไอ้เคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามชะโงกหน้ามาคุย

“มาคุยธุรกิจกันรึเปล่า”เพราะทั้งไอ้ตินและฝ่ายหญิงแต่งตัวเป็นงานเป็นการ...เอ๊ะ...หรือจะเป็นเรื่องอื่น ผมแอบเหลือบมองไปยังโต๊ะนั้นอีกครั้ง เห็นไอ้ตินคุยอะไรบางอย่าง ก่อนจะยิ้มสุภาพแล้วลุกจากเก้าอี้...มาหาผม

ผมมึนงงไปหมดเมื่อเห็นมันหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ไอ้ตินแตะไหล่ผมเบาๆก่อนทำหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย

“ป่ะ ไปนั่งเป็นเพื่อนกูหน่อย”

“ห๊ะ มึงจะบ้าเหรอ”ผมเหล่มองโต๊ะนั้นอีกครั้ง เห็นผู้หญิงทำหน้าบึ้งน้อยๆเหมือนไม่พอใจ

“เออน่า...มาเถอะ กูจะได้กลับซักที”มันถอนหายใจเบาๆ สีหน้าแสดงชัดเจนว่ามันเบื่อสุดๆ

“เฮ้ย มันเสียมารยาท”จู่ๆมันก็มาชวนผมที่เป็นคนนอกไปร่วมโต๊ะหน้าตาเฉยซะงั้น ไอ้ตินหัวเราะทันที

“ไม่เคยรู้ว่ามึงมีด้วย อย่าป๊อดน่า ไปกับกูซะอย่าง”ผมไม่อยากให้เสียเวลานานไปกว่านี้ จึงจำต้องตามน้ำไปกับไอ้ตินด้วย ส่วนเพื่อนอีกสองคนก็ถูกลอยแพอยู่ที่โต๊ะนั้นเหมือนตัวประกอบ แต่อย่างพวกมันคงไม่อยากพลาดเรื่องสนุกๆอยู่แล้ว ผมจึงไม่แปลกใจที่เห็นพวกมันสองคนยังคงนั่งอยู่ที่เดิม

“นี่ฟิกเพื่อนผมเองครับ”ไอ้ตินแนะนำเมื่อมาถึงโต๊ะแล้ว แถมยังเน้นคำว่าเพื่อนเป็นพิเศษอีก ผมตีหน้าลำบากสุดๆ ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง ไอ้ตินก็บ้าเหลือเกินไม่รู้ว่านึกบ้าอะไรของมัน ทำแบบนี้เหมือนไม่ไว้หน้าผู้ใหญ่ทั้งสองคนเลย แต่ก็น้อยครั้งจริงๆที่มันจะทำนิสัยเสียๆใส่ผู้ใหญ่ ผมได้แต่ยิ้มแห้งให้กับสีหน้าบึ้งตึงของสองแม่ลูก

“นั่งดิ”ไอ้ตินขยับเข้ามากระซิบ มีรอยยิ้มขบขันประดับอยู่บนหน้า นี่มันยังขำออกอีกเหรอ ผมกวาดตามองเห็นว่าไม่มีเก้าอี้ว่างแล้ว กะจะถือโอกาสถอยทัพ แต่ไอ้ตินดันเร็วกว่า มันถือวิสาสะไปยกเก้าอี้จากโต๊ะข้างๆที่ว่างอยู่มาให้ผมแทน การกระทำนี้ของมันทำให้หญิงสาวหน้าบูดกว่าเดิม

“ตามสบายเลยครับ”ไอ้ตินโปรยยิ้มรอบโต๊ะ พาลทำให้บรรยากาศประหลาดกว่าเดิม เป็นอาของไอ้ตินที่ดึงสติมาได้ก่อน ท่านกระแอมเบาๆก่อนจะหันมามองสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้า

“หนูฟิกนี่เอง....อาได้ยินเรื่องของเรามาเยอะเหมือนกัน..”ผมนึกคำพูดไม่ออก เพราะคำว่าหนูฟิกที่ออกมาจากปากคุณอาฟังดูพิกล

“แหะๆ หวังว่าจะได้ยินมาแต่เรื่องดีๆนะครับ..”ผมพึมพำพลางยิ้มแห้ง ไอ้ตินหัวเราะเบาๆก่อนจะหันไปพูดกับสองแม่ลูกอย่างนุ่มนวล

“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมพาเพื่อนมารบกวน แต่เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนที่ผมสนิทและรักมาก พอดีไม่ได้เจอกันนาน...”ก่อนที่ไอ้ตินจะร่ายยาวอีกฝ่ายก็ขัดเสียก่อน

“ไม่เป็นไรจ๊ะ”แต่ดูจากสีหน้าแล้วในใจคงด่ามันอยู่แน่ๆว่าเกี่ยวอะไรด้วย

“เพื่อนพี่ตินก็เหมือนเพื่อนฟ้าแหละค่ะ อย่าเคร่งเครียดกันไปเลย ยินดีที่ได้รู้จักนะพี่ฟิก”หญิงฟ้าหันมาทักทายผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“เช่นกันครับ”แต่พอดีผมไม่ใช่เพื่อนไอ้ตินน่ะสิ หึๆ

“ว่าแต่เรามีเวลาว่างมาติวให้ยัยฟ้าตอนไหนล่ะ”คุณอาที่นั่งมองมาสักพักเอ่ยถามไอ้ตินทำเหมือนว่าเหตุการณ์ที่ผมโผล่มาแทรกไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“ช่วงนี้ผมยุ่งๆน่ะครับ อาก็รู้”ไอ้ตินตอบแทบจะทันที หญิงฟ้าทำหน้ายู่ดูน่ารัก ส่วนผมนั่งจิบน้ำเปล่าเงียบๆ

“ถ้าพี่สะดวกตอนไหน ก็ตอนนั้นแหละค่ะ ฟ้าเข้าใจ”ผมถึงกับหลุดยิ้ม เหอะๆ ขนาดผมมันยังไม่ค่อยมีเวลามาหาเลย ลองมันพูดว่ามีเวลาว่างไปหายัยหนูฟ้าสิ ผมเหยียบเท้าไอ้ตินอยู่ใต้โต๊ะข้อหาทำตัวน่าหมั่นไส้ ผมชักเดาที่มาที่ไปของเรื่องนี้ได้แล้วสิว่าเป็นมายังไง

“หิวรึเปล่า”ไอ้ตินกระซิบถามเบาๆ ผมกะจะบอกว่าไม่หิวแต่ดันเห็นสายตาไม่ชอบใจของอาไอ้ตินเข้า ผมจึงยกยิ้มเปลี่ยนใจทันที

“อือ มึงสั่งของอร่อยที่สุดมาให้กูหน่อยซิ”ผมกระซิบกลับ ไม่สนว่าใครจะมองยังไง ในเมื่อไอ้ตินยังไม่แคร์แล้วผมจะคิดมากไปทำไม ไอ้ตินเรียกพนักงานมาสั่งอาหารเพิ่มแต่ล่ะอย่างราคาแพงทั้งนั้น ผมเห็นสายตาของสองแม่ลูกที่มองมาก็ยิ้มสู้ จะบอกว่าผมหน้าหนาล่ะสิที่จู่ๆก็มาสั่งเอาอาหารแพงๆทั้งๆที่ปกติคนทั่วไปต้องเกรงใจ แต่เผอิญผมคือไอ้ฟิก!

“เออ แล้วเมื่อไหร่มึงจะกลับหอ หายหน้าหายตาไปเป็นอาทิตย์”ผมคุยพึมพำกับมันสองคนเหมือนมองไม่เห็นคนอื่น ไอ้ตินยิ้มกว้างดูจะพอใจกับท่าทีของผม

“ก็ว่าจะกลับ...แต่ดันมีเรื่องซะก่อน”เดาว่าต้องเป็นเรื่องนี้แน่ๆ

“อ้อ...”ผมพยักหน้า ปล่อยให้ไอ้ตินคอยพะเน้าพะนอเหมือนตัวเองเป็นง่อย ผมล่ะอยากหัวเราะดังๆเวลาเห็นสีหน้าของสองแม่ลูกและอาไอ้ติน เหลือบไปเห็นไอ้เคนกับไอ้ชายกำลังมองมา มันสองคนยกนิ้วโป้งให้ ผมทำเสียงหึอย่างหงุดหงิด พวกมันต้องหาเรื่องมาล้อผมอีกแน่ๆ

“แล้วทางพี่ภูว่าไงบ้าง”ไอ้ตินถามเสียงเอื่อยๆ หันไปมองก็เห็นว่ามันจ้องหน้าผมอยู่

“เหมือนมึงนั่นแหละ”หายหัวพอกันทั้งคู่ น่าหงุดหงิดไหมล่ะ!

“ตกลงว่าพี่ตินจะรับข้อเสนอไหมคะ”หญิงฟ้าถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด หลังจากที่เงียบอยู่นานสองนาน ว่าแต่ข้อเสนออะไรกัน?

“อืม...ข้อเสนอนั้นน่ะเหรอ...ลองถามพี่ฟิกดูสิ พี่เขาว่าไง พี่ก็ว่างั้นแหละ”ไอ้ตินโบ้ยมาให้ผมหน้าตาเฉย

“ติน…”คราวนี้อาของมันดุเสียงเข้ม สีหน้าจริงจังมองมาที่ผมกับไอ้ติน

“ผมเคยบอกอาไปแล้วนี่ครับ แล้วที่ผมรับปากอามาวันนี้...ก็เพราะว่าป๊าขอร้องมา”มันไหวไหล่ ผมย่นคิ้วเมื่อได้ยินคำว่าป๊า อย่าบอกนะว่าป๊ามันเห็นดีเห็นงามด้วย

“ตกลงจะยังไงกันคะ ไว้หน้ากันบ้างเถอะ”คุณหญิงโพล่งออกมาเดือดๆ

“อาพูดเองแล้วกัน ต้นเหตุนี่”ไอ้ตินยิ้มก่อนกลับมาสนใจผมต่อ ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“เดี๋ยวเล่าให้ฟัง กินให้อิ่มก่อน”ไม่รู้ว่ามันจงใจหรือเปล่า แต่ผมหน้าชาไปทั้งแถบเมื่อนิ้วมืออุ่นๆของมันแตะเข้าที่ริมฝีปากของผม

“กินเลอะเทอะเป็นเด็กไปได้”ไม่ใช่แค่ผมแน่ๆที่อ้าปากค้าง แล้วเชื่อเถอะว่าไม่มีอะไรเปื้อนแม้แต่นิด มันก็แค่อยากแกล้งผม แกล้งอา แกล้งยัยน้องฟ้าแค่นั้นเอง

“เชี่ย”ผมด่ากลับเบาๆ ปัดมือมันออก ไอ้ตินนะไอ้ติน ไอ้สารเลว!

มีเสียงเก้าอี้เลื่อนออกเสียงดัง มองไปเห็นสองแม่ลูกหน้าแดงก่ำก่อนจะพากันเดินหนีออกไปจากโต๊ะ ยัยน้องฟ้าหันมามองไอ้ตินด้วยแววตาเสียดายและถลึงตาใส่ผมก่อนจากไป ทิ้งไว้แค่ความเงียบ ผมไม่มีอารมณ์จะกินต่อเพราะมีสายตาของอาไอ้ตินจ้องมองอยู่

“คิดว่าทำถูกกันแล้วเหรอ”น้ำเสียงเหมือนสั่งสอนดังขึ้น

“ก็ผมบอกอาไปแล้วนี่ครับว่าผมมีแฟนแล้ว ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมอาต้องวุ่นวายยัดเยียดคนอื่นมาให้ผมด้วย ขนาดป๊ากับม๊ายังยอมรับเรื่องนี้ได้เลย อีกอย่างผมกับฟิกก็คบกันมานานแล้ว ผมเป็นแบบนี้ตั้งนานแล้ว อามาเปลี่ยนตอนนี้มันก็สายไปแล้วครับ ผมไม่อยากพูดแบบนี้หรอกนะอา...” ไอ้ตินตอบด้วยเสียงแข็งๆก่อนถอนหายใจยาว ผมคงต้องมองใหม่แล้วล่ะ ไอ้ตินโหมดก้าวร้าวกับผู้ใหญ่ทำผมแปลกใจอยู่เหมือนกัน

“อาแค่หวังดี แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปาก ก็อย่างที่เราว่า พ่อแม่แท้ๆของเรายังปล่อยผ่านได้...” 

“ไม่ใช่ปล่อยผ่านครับ เขาเรียกว่ายอมรับต่างหาก”ผมแทรกเบาๆ อาถอนหายใจบ้าง สงสัยบ้านนี้ติดเชื้อถอนหายใจแน่ๆ

“อาไม่ได้อยากจะต่อต้านพวกเรานะ สงสัยอาคงหัวโบราณเกินไป....”ท่านพึมพำเบาๆก่อนดื่มน้ำตาม

“ผมขอโทษด้วยล่ะกันที่พูดจาไม่ดี แต่ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะอา” 

“เป็นซะแบบนี้...แล้วไม่อยากอุ้มลูกกันหรอกเรอะ”ท่านนวดขมับเบาๆ

“อีกตั้งนาน ผมยังไม่ได้คิด แต่ถ้าเกิดผมอยากมีลูกจริงๆ ผมก็หาทางมีจนได้น่า...”แปลกหูจริงๆ ผมไม่ชินจริงๆว่ะครับเวลาไอ้ตินพูดแบบนี้กับผู้ใหญ่ สงสัยโดนภาพลักษณ์เทวดาของมันหลอกเอาแน่ๆ แต่คุณอาคนนี้ก็ดูไม่ตกอกตกใจหรือโกรธที่ไอ้ตินพูดจาทำนองนี้ 

“แล้วเราล่ะ ไม่อยากมีลูกหรือ”อาหันมาถามผมบ้าง

“ผมไม่ค่อยชอบเด็กเท่าไหร่...”ผมตอบอย่างลังเล ท่านมองหน้าผมกับไอ้ตินอยู่สักพักก่อนจะถอนหายใจอีกรอบ

“เด็กสมัยนี้....”ท่านบ่นพึมพำก่อนจะค่อยๆลุกจากโต๊ะออกไปด้วยท่าทางอ่อนล้า

“แล้วมาได้ไง”ไอ้ตินหันมาถามเมื่ออยู่กันสองคน...ไม่สิ ยังมีเพื่อนจอมเสือกนั่งมองอยู่

“กูมีสาย ทำอะไรก็ระวังตัวไว้ล่ะ”ผมเหลือบมองข่มขู่ มันหัวเราะเสียงดัง

“เหรอ...แสดงว่าสายมึงพลาด”มันทำสีหน้าแพรวพราว

“อย่ามาเล่นตลก”ผมมองมันอย่างอารมณ์เสีย

“เออ กูพูดเล่น เหนื่อยจะแย่จะเอาเวลาที่ไหนไปซุกกิ๊กล่ะ” 

“ไม่โปรเอาซะเลย”ผมกวนกลับบ้าง ไอ้ตินชกไหล่ผมเบาๆ มันถอดเสื้อสูทเป็นการเป็นงานของมันออก เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีอ่อน 

“ช่วงที่ไม่ได้กลับหอ กูไปค้างที่บ้านมา มีเรื่องต้องปรึกษาป๊าเยอะแยะไปหมด”มันถอนหายใจดังพรืดอีกรอบ

“กูไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”

“บอกเฉยๆ”

“เออ แต่เมื่อกี้กูตกใจเลยนะ ไม่คิดว่าพี่ตินผู้แสนดีจะทำตัวไม่น่ารักใส่ญาติผู้ใหญ่”มันมุ่นคิ้วทันทีที่ได้ยินผมพูด

“กับอาคนนี้ก็เป็นแบบนี้แหละ ชอบยัดเยียดผู้หญิงให้กู แถมวันนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีด้วย”มันทำเสียงเหนื่อยหน่าย ไม่ยักรู้ว่ามันโดนยัดเยียดบ่อยๆหรือมันกลัวผมจะคิดมากเลยไม่กล้าบอก 

“แล้วข้อเสนอที่ว่าคือ...” 

“ออกแรงสร้างธุรกิจให้ บวกตำแหน่งลูกเขย”มันย่นหน้าเหมือนไม่ชอบใจ

“อื้อหือ ใจป้ำจริงๆ แบบนี้มึงก้าวหน้าไวเลยนะ”ไอ้ตินส่งเสียงเหอะออกมาเบาๆ

“กูมีเป้าหมายของกูอยู่แล้ว”ผมมองหน้าไอ้ตินอยู่ครู่นึง ตอนที่มันพูดมันดูมุ่งมั่นมาก

“อ้อ...การทำงานกับเจ้าคุณนี่นับด้วยไหม”ผมได้ทีหยิบยกเรื่องนี้มาพูด ผมยังไม่ลืมไอ้เจ้าคุณง่ายๆหรอก เสือร้ายตัวนั้นน่าสยองออกปานนั้น

“เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง...” ไอ้ตินมันเคยบอกผมว่าจะร่วมงานกับเจ้าคุณตามที่รับปากไว้แน่นอน แต่จะรอให้ฝ่ายนั้นแต่งงานเสียก่อน ผมไม่อยากจะคิกว่าจะมีวันนั้นไหม อย่างเจ้าคุณเนี่ยนะจะแต่งงาน? เป็นไปไม่ได้แน่ๆ แต่ไอ้ตินดูมั่นใจมาก เพราะกิจการของเจ้าคุณค่อนข้างใหญ่ จำเป็นต้องแต่งงาน ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ผู้หญิงคนนั้นในอนาคตของมันคงน่าสงสารมากๆแน่

“ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน มึงเหงาไหม”ไอ้ตินพึมพำเบาๆเคาะนิ้วกับโต๊ะเบาๆเข้ากับจังหวะเสียงเพลง ผมเหล่มองคิดจะหลอกล่อให้ผมเผยไต๋ล่ะสิ ไม่เอาด้วยหรอกเว้ย

“งานกูออกจะเยอะแยะ ไม่มีเวลานั่งเหงาหรอก”ผมทำเสียงหึในลำคอ เอาเข้าจริงๆ ก็มีเบื่อๆบ้างเพราะทั้งไอ้ตินและไอ้ภูต่างก็เริ่มมีงานทำแล้ว ฝั่งไอ้ภู ได้พี่ภักกลับมาช่วยงานบริษัทแล้ว มันเองเลยไม่รีบ อยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานที่บริษัทอื่นก่อนค่อยกลับมาช่วยงานบางส่วนของพ่อมัน เพราะจะให้พี่ภักดูแลทั้งหมดก็ไม่ได้

อีกอย่างช่วงนี้สถานการณ์ที่บ้านมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มันไม่ได้ทะเลาะกับพ่อมัน แต่เพราะเรื่องสุขภาพของแม่ที่ไม่ค่อยดี แม่ไอ้ภูป่วยเป็นเบาหวาน และมีความเสี่ยงว่ามีโรคแทรกซ้อนสูง พักนี้บรรยากาศในบ้านมันเลยหนักอึ้งไปหมด นึกแล้วก็เครียดเหมือนกัน เรื่องแบบนี้ก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับมันเหมือนกัน ผมเองก็ปลอบใจคนไม่เก่งด้วย ผมเผลอถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงไอ้ภู นี่มันก็หายหน้าหายตาไปเป็นอาทิตย์แล้วเหมือนกัน

“เครียดเรื่องพี่ภูเหรอ”ไอ้ตินถามหลังจากที่เห็นท่าทีกลุ้มใจของผม

“เฮ้อ...ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง กูกลัวแค่ว่ามันจะเครียดจนหาเรื่องทะเลาะกับพ่อมันอ่ะดิ”นิสัยไอ้ภูก็รู้ๆกันอยู่

“วางใจน่า พี่เขาคงไม่ว่างขนาดนั้นหรอก”

“มึงรู้จักมันน้อยไปซะแล้ว” 

“ตอนนี้อะไรๆมันยังไม่เข้าที่ เลยดูวุ่นๆไปหมด ถ้าหมดเรื่องแล้วเดี๋ยวก็ดีเอง”ไอ้ตินปลอบ ผมพยักหน้าช้าๆ ก็หวังว่าอย่างนั้นเหมือนกัน

คืนนั้นไอ้ตินแวะมานอนเป็นเพื่อนผม สงสัยกลัวผมจะเหงาล่ะมั้ง อันที่จริงผมก็โหวงอยู่บ้างที่ไม่ได้อยู่ป่วนพวกมันแบบทุกที แต่ก็นะ ผมก็เข้าใจว่าพวกมันต้องทำงาน ทุกวันนี้ห้องหอ เฮ้ย ห้องนี้กลายเป็นแค่ห้องของผม ไม่ใช่ห้องของผมกับพวกมันอีกแล้ว ผมตะหงิดแปลกๆว่าอีกไม่นานระหว่างที่มันสองคนทำงานต้องย้ายไปอยู่ที่ใหม่ ที่สะดวกกับการเดินทางมากขึ้นแน่ๆ บ้านที่วางแผนไว้ก็ยังสร้างไม่เสร็จเสียด้วย ผมจึงทำใจไว้พอสมควร จะว่าไปการเป็นผู้ใหญ่ก็ยากเอาการเหมือนกันแฮะ!






(มีต่อ)

 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 02-06-2016 23:13:30
******************************************************






ตารางชีวิตของผมวนเวียนซ้ำๆไปมาคือ ปั่นโปรเจค ช่วงเย็นปลีกมาซ้อมบูมจนตอนนี้ผมชักชินซะแล้ว จะว่าไปก็สนุกดี ไอ้พวกปีหนึ่งก็กล้ามาตีสนิทกล้าเล่นหัวกับผมมากขึ้น เห็นทีผมต้องเข้มมากกว่านี้แล้วล่ะ เมื่อถึงช่วงพักผมกับเดอะแก๊งปีหนึ่งก็มานั่งกินน้ำกินขนมที่ใต้อาคาร

“หวัดดีพี่ฟิก”ไอ้ขวัญเข้ามาทักก่อนจะหย่อนก้นลงข้างๆผม

“มาทำไม”ผมปาถุงขนมใส่มันแก้เบื่อ

“มาดูน้อง”มันเชิดหน้าตอบ แจกยิ้มให้พวกไอ้เก่ง

“จะว่าไปพี่ฟิกก็ลงทุนเหมือนกันนะเนี่ย”มันเริ่มหาประเด็นมาพูด ผมไม่ค่อยอยากให้คนอื่นรู้ว่าผมมาซ่อมบูมเพราะอะไรเท่าไหร่ พอได้ยินมันพูดผมจึงตบไหล่มันเต็มแรง

“โอ๊ย อะไรเนี่ย”มันมองค้อนผมก่อนจะยิ้มชั่ว   

“ถ้าพี่ตินกับพี่ภูรู้ว่าพี่ฟิกทำแบบนี้คงตกใจแน่ๆ”

“เดี๋ยวเถอะ ไอ้ขวัญ”ผมยกขวดน้ำในมือขู่ พวกไอ้เก่งทำหน้าอยากรู้ทันที

“อะไรยังไง พี่ขวัญบอกมาเลย พวกผมเคลียร์กับพี่ฟิกเอง”ไอ้เก่งพูดจบ เดอะแก๊งค์ปีหนึ่งสี่ห้าคนก็เข้ามาล็อคแขนล็อคขาผมทันที ไอ้เก่งคว้าเอวผมไว้มั่น

“เฮ้ย พวกมึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้เลย กูหลุดไปเมื่อไหร่โดนเตะเรียงตัวแน่”จากนั้นผมกับพวกมันก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ไอ้เด็กพวกนี้แรงเยอะกันจริงๆ ไอ้ขวัญหัวเราะเสียงดังเมื่อทั้งผมและไอ้เด็กพวกนั้นล้มกลิ้งกองกับพื้น

“พวกเชี่ย”ผมด่าเสียงดังเพราะใครไม่รู้แกล้งดึงกางเกงวอร์มเก่าๆของผม ระหว่างที่กำลังชลมุนนั่นเอง เสียงตวาดก็ดังขึ้น

“เล่นเหี้ยอะไรกัน”ใจร่วงไปอยู่ตาตุ่มทันที เสียงนี้ผมจำได้ดีไม่ใช่ใครนอกจากไอ้ภู

“พวกมึง...ออกไปไกลๆเลย”ผมหอบแฮ่ก พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น แต่คงดูน่าอนาถเพราะไอ้พวกปีหนึ่งก็ดึงดันอยู่ใกล้ๆ ไอ้เก่งโดนผมทับอยู่ด้วย สมน้ำหน้า

“พวกมึงทำอะไรแฟนกู หือ”ไอ้ภูเข้ามาฉุดให้ผมยืนขึ้น ผมรีบดึงกางเกงให้เข้าที่เข้าทาง พวกไอ้เก่งอึ้งไปตามๆกันที่ได้ยินคำว่าแฟน คือไอ้พวกนี้ไม่รู้เรื่องของผมเลยสักติ๊ด ผมมองไอ้คนตรงหน้า มันดูหงุดหงิดและขบขัน ผมชกไหล่มันเต็มแรง ข้อหาหัวเราะผม

“กูนึกว่ามึงตายห่าไปแล้ว”ผมทักเสียงฉุน พยายามเบี่ยงประเด็น ไอ้เก่งมองผมตาปริบๆ

“กูไม่ตายง่ายๆหรอก ยังไม่ได้เห็นหน้ามึงเลยจะตายได้ไง”มันยิ้ม คิดว่าพูดแบบนี้แล้วผมจะเคลิ้มรึไง เหอะ ผมเหลือบมองไอ้ขวัญที่ยิ้มเขินเหมือนเมากัญชา ผมเห็นมันยิ้มแบบนี้ทีไรเป็นต้องหงุดหงิดทุกที

“เดี๋ยวๆพี่ นี่แฟนพี่ฟิกจริงดิ”ไอ้เก่งชี้ไปที่ไอ้ภู

“ของแบบนี้มีปลอมด้วยเหรอ ทำไม มึงมีปัญหารึไง”ไอ้ภูหันไปมองหน้าไอ้เก่งเขม็งจนมันหัวหด

“เปล่าครับพี่” ไอ้ภูมองหน้าไอ้เก่งกับผองเพื่อน พวกมันไม่รอช้ารีบสลายตัวทันควัน

“มึงนี่ก็นะ...ทำน้องกูหัวหดหมด”ผมทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม   

“แต่ถ้าเป็นมึง กับกูก็ไม่หดใช่ไหม”มันยิ้มชั่วตามแบบฉบับ ผมถลึงตามอง ไอ้ขวัญได้ยินเข้าพอดีมันก็ไม่กล้าอยู่ต่อรีบก้มหน้าก้มตาหลบฉากออกไป

“มึงพูดถึงอะไร กูใสๆ”ผมทำหน้าซื่อ มันเบ้ปาก พอเห็นสีหน้าสดชื่นแบบนี้ของมันแล้วผมก็เบาใจได้เยอะเพราะแสดงว่าเรื่องที่บ้านของมันไม่หนักหนาแล้วแน่ๆ

“ถ้าอย่างมึงใสนี่ กูคงโปร่งแสงแล้วไอ้หนูเอ้ย”กวนตีนจริงๆ แฟนใครวะ ผมจะไม่ยิ้มต่อหน้ามันเด็ดขาด

“มึงมาทำไม” 

“คิดถึง”

“กูไม่เห็นจะคิดถึงมึงเลย”ผมไหวไหล่ทำเหมือนชิวๆ ไอ้ภูยิ้มเยาะทันที มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้

“เหรอ…พอดีมีคนมาบอกกูว่ามึงคิดถึงกูจะแย่แล้ว กูเลยกะโผล่หน้ามาให้เห็นซะหน่อย กลัวคนแถวนี้จะตายเพราะทนคิดถึงไม่ไหว”ผมถึงกับหัวเราะเสียงดัง

“มั่นใจขนาดนั้นเลย?”ผมยักคิ้วใส่

“เออดิ ลองตอบว่าไม่คิดถึงกูสิ ได้กินหน้าแข้งกูแน่ๆ”

“อย่าเพิ่งโหด”ผมยกมือห้าม ไอ้ภูมองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าไม่มีคน มันก็เข้ามากอดผมแน่นๆ หอมแก้มไปสองสามทีด้วยความไวแสง ผมรีบมองไปรอบๆตัวทันทีเพราะกลัวว่าไอ้พวกเดอะแก๊งค์จะอยู่แถวนี้ พอไม่พบใครผมจึงระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“แล้ว…ที่บ้านมึงโอเคแล้วใช่ไหม”ผมไม่กล้าถามถึงอาการป่วยของแม่มันตรงๆ ไอ้ภูยิ้มก่อนจะคว้ามือผมไปบีบเล่น

“อือ ดีขึ้นเยอะ”มันถอนหายใจเบาๆก่อนพูดเสริม

“กูนี่แย่เนอะ”

“เฮ้ย ไม่เอาดิ”ผมไม่ชอบเวลามันเครียดเลย ไอ้ภูเหม่อมองไปไกล

“กูไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าแม่ป่วย ลูกแบบไหนกันวะ ดีแต่สร้างความเดือดร้อนให้ กูไม่เคยทำเรื่องให้แม่สบายใจเลย”ไอ้ภูดูเสียใจจริงๆเวลาที่พูดถึงเรื่องนี้ ผมบีบฝามือของอีกฝ่ายเบาๆ

“ตอนแรกกูไม่อยากกลับมาทำงานที่บริษัทพ่อหรอก แต่เพราะแม่ กูเลยอยากทำ อย่างน้อยแม่กูจะได้สบายใจซักที”

“ที่กูพูด ไม่รู้ว่ามึงจะเชื่อรึเปล่า แต่มึงรู้ไหมว่าแค่ที่มึงเป็นอยู่ แม่มึงก็ภูมิใจแล้ว”ถึงท่านไม่พูด ผมก็รู้ จากคนที่ไม่เอาอะไรเลยอย่างไอ้ภู เปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ ก็นับว่าดีแล้ว

“ไอ้ฟิก กูไม่อยากปล่อยให้มึงอยู่คนเดียวหรอกนะ แต่ช่วงนี้ชีวิตกูวุ่นวายชิบ กูนึกว่าเรียนจบแล้วจะสบายซะอีก กูต้องเข้าๆออกๆบ้าน ที่ทำงาน บริษัทพ่อ จะปล่อยให้พี่ภักดูคนเดียวก็ยังไงอยู่…”ผมมองใบหน้ากลัดกลุมของมันก็พอจะรู้ว่ามันยังมีเรื่องอื่นที่ต้องพูดอีก 

“มึงมีอะไรจะพูดก็ว่ามา”ผมรอฟังอย่างตั้งใจ มันกัดริมฝีปากเหมือนลังเลที่จะพูด

“มึงแอบซุกกิ๊กบ้างรึเปล่า”

“ไอ้ภู อย่าลีลา”รู้หรอกว่ามันไม่ได้อยากพูดเรื่องนี้ ไอ้ภูกระแอมประวิงเวลาสองสามครั้ง

“กูต้องย้ายหอว่ะ”

“อ้อ…”ผมใจหายเหมือนกัน ถึงจะเคยคิดอยู่บ้างแต่ไม่คิดว่าจะเร็วปานนี้

“ระยะทางที่หอมึงกับที่ทำงานกูมันค่อนข้างห่างกัน กูไม่อยากจะย้ายเลยจริงๆ พักนี้ไอ้ตินก็ยุ่งด้วย กูกลัวมึงจะพาเด็กมาซุก”ไอ้ภูพยายามทำเสียงกวนประสาท

“เออ กูเข้าใจน่า คิดว่ากูจะร้องไห้งอแงไม่ให้มึงไปหรือไง”ขำเหมือนกันที่เห็นมันพยายามอธิบายแบบนี้

“ไอ้ฟิกมึงนี่ไม่เข้าใจหัวอกกูซะเลย”มันดูอารมณ์เสียที่ผมไม่บิ้วไปกับมันด้วย

“มึงไม่ได้ไปเมืองนอกเมืองนาซะหน่อย”ผมคงต้องเร่งเก็บเงิน สร้างบ้านให้เสร็จเร็วๆแล้วล่ะครับ ผมเป็นโรคประหลาด ไม่อยากอยู่หอเงียบๆคนเดียว

“มึงทำงานเสร็จหรือยัง”มันชวนคุย

“ยัง”

“พอดีกูกะจะไปเก็บของบางส่วน”

“เชี่ยภู”ผมเกิดอารมณ์หมั่นไส้ เลยเตะมันไปเต็มแรงที่หน้าแข้ง มันไม่ได้ตั้งตัวจึงไม่ทันได้หลบโดนไปเต็มๆ

“สัดฟิก มึงจะฆ่ากูเหรอ”มันน้ำตาคลอหน่วย ลูบหน้าแข้งตัวเองป้อย ๆ

“มึงจะกลับหอไปเก็บของก็กลับไปดิ กูจะไปทำงานแล้ว”อยู่ๆก็หงุดหงิดขึ้นมาซะงั้น

“ไม่เอา กูรอให้มึงทำงานเสร็จแล้วค่อยกลับพร้อมกัน”มันเดินตามหลังผมมาต้อยๆ ผมพ่นลมหายใจแรงๆ

“ของมึงเยอะมากเลยเหรอ ถึงต้องเก็บออก”ผมหันไปถาม

“ลืมแล้วรึไงว่ากูแทบขนมาจากบ้านหมด”มันเข้ามากอดคอผม ก่อนจะกระซิบเบาๆ

“มึงไม่อยากให้กูย้ายใช่ไหม”ผมทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ

“กูให้ขนแค่เสื้อผ้าไป”คงจะแปลกอีกนั่นแหละ ถ้าในห้องของผมไม่มีของๆพวกมัน ไอ้ภูตามมาเฝ้าผมปั่นงานจริงๆ พวกไอ้เคนมองเป็นตาเดียว แต่ไม่ปริปากแซวเพราะเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของผม ไอ้ภูเดี๋ยวก็คุยกับพี่ภักเรื่องรถ เดี๋ยวก็คุยกับพ่อมันบ้าง ผมพยายามเงียหูฟังก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง มีมันมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ งานของผมไม่เดินเลยสักนิด สุดท้ายจึงล้มเลิกกลับพร้อมกับมันเลย

ไอ้ภูรู้ว่าผมอารมณ์ไม่ดีจริงๆ มันจึงไม่กวนประสาทผมมาก ถึงห้องปุ๊บมันก็เริ่มเก็บข้าวเก็บของที่จำเป็นบางส่วนของมัน ผมนั่งมองมันเงียบๆอยู่ที่โซฟา โทรทัศน์เปิดไว้แต่ไม่ได้ดู บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกยังไง 

“มึงหงุดหงิดอะไรเนี่ย”ในที่สุดไอ้ภูก็เงยหน้าถาม มันเพิ่งยัดเสื้อใส่กระเป๋าเสร็จพอดี

“เปล่า”ผมไหวไหล่ แค่…รู้สึกว่ามันหายหน้าไปนาน โผล่มาให้ผมดีใจเล่น แล้วก็บอกว่าจะย้ายออก ปกติผมก็ไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยขนาดนี้…ไอ้ฟิกคนเก่ากับไอ้ฟิกตอนนี้ต่างกันมากจริงๆ

“ไอ้ฟิก”จู่ๆมันก็เดินเข้ามาตะโกนใส่หูใกล้ๆ จนผมสะดุ้งโหยง   

“อะไร แค่นี้ตกใจเหรอ”มันหัวเราะเบาๆ ผมถอนหายใจก่อนจะจ้องหน้าไอ้ภูเขม็ง เพิ่งสังเกตจริงๆว่ามันตัดผมใหม่ สงสัยเอาแต่หงุดหงิดมันแน่ๆ

“มึงตัดผมใหม่เหรอวะ”ตอนนี้หน้ามันเกลี้ยงเกลาใสกว่าเดิม เหมือนจะดูเด็กลงด้วย

“กูรอให้มึงทักตั้งนานแล้วเนี่ย ใกล้วันสำคัญทั้งที กูก็ต้องดูดีหน่อยเป็นธรรมดา”ไอ้ภูเข้ามานั่งใกล้ๆ มองดูผมสักพักก่อนจะเข้ามากอดหลวมๆ

“เฮ้ย ดูหนังอยู่”ผมแกล้งทำเหมือนไม่พอใจ

“แค่กอดเอง”ว่าแล้วมันก็เอาหน้ามาซุกใกล้ๆ 

 “มึงไม่ต้องคิดมากนะ..”มันพูดเบาๆ

“กูไม่ได้คิดมาก มึงบ้ารึเปล่าเนี่ย”

“แล้วที่หงุดหงิดอยู่นี่คือ…เฮ้อ ไอ้หมาฟิกของกู”มันกัดแก้มผมเบาๆเหมือหมั่นเขี้ยว 

“กูวางแผนอนาคตไว้แล้ว”

“โห ไอ้ภู ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ออกมาจากคนอย่างมึงเลยนะ”ไอ้ภูเลิกคิ้วหัวเราะเบาๆ

“เออ คนอย่างกูก็จริงจังเป็นเหมือนกัน อยากเก็บเงินไว้แต่งเมีย”อีกแล้ว มันชอบพูดทำนองนี้อีกแล้ว ยิ่งมันรู้ว่าผมไม่ชอบมันก็ยิ่งกวนประสาท ผมส่งสายตามืดมนไปให้ ด่ามันแบบไม่ออกเสียง ไอ้ภูเข้ามาประชิดตัว แกล้งล็อคแขนผมหลวมๆ แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันว่ามันแรงควายแค่ไหน ทำเอาผมเจ็บแขนนิดหน่อย ผมขยับแขนไปมา จนไอ้ภูคลายแขนออก ก่อนเปลี่ยนมาขบเม้มที่ริมฝีปากแทน ลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้ามาอย่างรวดเร็ว ผมเบือนหน้าหนีเพราะเดี๋ยวจะเตลิดช่วงนี้ยิ่งห่างๆมันอยู่ อีกอย่างคือผมยังต้องซ้อมบูมครับ จะเสียแรงไปเปล่าๆปลี้ๆไม่ได้ นี่ผมทำเพื่อมันเลยนะ

“มึงนี่หัดเล่นตัวเป็นด้วยนะ”ไอ้ภูกระซิบ เอื้อมมือมาบีบก้นผมเต็มแรง

“ไอ้เชี่ยภู”ผมปัดมือมันออกอย่างหงุดหงิด ไอ้ภูยิ้มอย่างนึกสนุก

“แค่นี้โวยวายไปได้”

“กูจับตูดมึงบ้างได้ไหมล่ะ”ว่าแล้วผมก็ยื่นมือหมายจะจับก้นไอ้ภู แต่มันวิ่งหนี จนเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่ถึงหยุด รอจนมันปรับลมหายใจได้ถึงพูดต่อ

“อีกไม่กี่วันจะใกล้ถึงวันรับปริญญา กูต้องกลับไปค้างที่บ้าน”มันยิ้มกว้างแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก นึกถึงว่าพ่อกับแม่มันต้องปลื้มมากแน่ๆ ผมยิ้มตามมัน เท่าที่รู้มาไอ้ตินรับช่วงเช้า ส่วนไอ้ภูรับช่วงบ่าย ผมตัดสินใจแล้วว่าจะปล่อยให้ที่บ้านมันเป็นคนดูแลพวกมันไปล่ะกัน เรื่องของเรื่องผมขี้เกียจเป็นเบ้พวกมัน ไหนจะมีเรื่องบูมอีก จบงานเมื่อไหร่ผมค่อยเข้าไปแสดงความยินดีกับพวกมัน ผมอารมณ์ดีเล็กน้อยเมื่อคุยเรื่องนี้

“ไว้หลังจบงาน กูจะกลับมาคิดบัญชี”มันพูดแค่นี้ก็กลับไปเก็บของบางส่วนต่อ กำลังอุ่นใจมันกลับทำให้ผมรู้สึกอึนๆมึนๆอีกแล้ว หรือว่าพักนี้ผมพักผ่อนน้อยไป

ไม่ได้เรื่องกันทั้งคู่เลยเว้ย ทั้งไอ้ภู ทั้งไอ้ติน






******************************************************






งานรับปริญญา

ผมต้องตื่นแต่ไก่โห่เพื่อไปรวมตัวกับรุ่นน้องที่คณะ ตอนนี้ทั่วทั้งม.เต็มไปด้วยบรรยากาศครึกครื้นอิ่มเอมใจแปลกๆ ผมรู้สึกแบบนี้เป็นครั้งแรก ปีที่แล้วๆมาผมมองว่าน่ารำคาญด้วยซ้ำ เพราะทำให้รถติดและคนเยอะมากกว่าทุกวัน แต่ปีนี้ต่างไปจริงๆ คงเพราะเป็นวันสำคัญของคนสำคัญทั้งสองคนของผมล่ะมั้ง ตอนนี้ผมปิดโทรศัพท์ไว้ กันพวกมันโทรมากวน

บรรยากาศในคณะก็ครึกครื้นเช่นกัน บริเวณโดยรอบมีซุ้มต้อนรับพี่บัณฑิตอยู่หลายซุ้ม ผมเห็นพี่บัณฑิตในชุดครุยแล้วนึกถึงไอ้ภูกับไอ้ตินขึ้นมา ผมยังไม่เห็นมันสองคนใส่ชุดครุยเลย แต่มั่นใจว่าต้องดูดีแน่ๆ

“พี่ฟิกก็ตื่นเต้นเหมือนกันอ่ะดิ”ไอ้เก่งนั่งอยู่ข้างๆพูดขึ้นมา

“จะตื่นเต้นทำไม กูเห็นมาหลายปีแล้ว”ผมทำหน้าเหมือนอารมณ์ไม่ดี

“โกหกกันอีกแล้ว ผมรู้น่าว่าแฟนพี่ก็รับปีนี้ มิน่า…ถึงมาซ้อมบูม”ผมไม่รอให้มันพูดจบก็ถวายฝามือไปเปรี้ยงใหญ่

“แหม่ รู้ดีจริงๆ”ผมทำเสียงประชด ผมขี้เกียจไปรอที่หอก็เลยกะจะไปตะลอนกับพวกปีหนึ่งด้วย หลังจากที่แบ่งกลุ่มเสร็จก็แยกย้ายไปรอพี่ๆบัณฑิตตามจุด ผมไปกับพวกไอ้เก่งและเดอะแก๊งค์ บางคนหิ้วกลองมาด้วย ขนาดว่าตอนเช้าคนยังแออัดขนาดนี้…ไม่อยากคิดตอนที่พวกบัณฑิตทั้งหลายออกมา

ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เดินผ่านกลุ่มเด็กปีหนึ่งที่ทำเสียงดังอยู่ริมฟุตบาตร สายตาไปสะดุดเข้ากับร้านขายของที่ระลึกจำพวกตุ๊กตาบัณฑิต ดอกไม้ ป้ายจบเข้าพอดี ความจริงผมก็มีของให้พวกมันแล้ว แต่อยู่ที่หอ ผมควรจะซื้อตุ๊กตาน่ารักๆพวกนี้ด้วยดีไหม แต่นึกถึงหน้าไอ้ภูกับไอ้ตินแล้ว ผมไม่ซื้อให้มันสองคนดีกว่า เดี๋ยวคงมีคนซื้อมาให้พวกมันเยอะแน่ๆ ของที่ผมให้พวกมันต้องพิเศษกว่าคนอื่นอยู่แล้ว!

 “วู้ ว่าไงน้องฟิก”กำลังคิดอะไรเพลิน ก็ถูกเสียงกลั้นขำของใครบางคนแทรกมา ผมเหลียวไปมองก็ถึงกับพ่นลมหายใจออกมาดังพรืด

ไอ้เนมกับพี่ปานั่นเอง

“มาทำไมวะ”ผมทำเสียงฉุนใส่ กล้ามาขำผมได้ไง ผมไม่ใช่ตัวตลกนะเว้ย ผมเหลียวไปมองเดอะแก๊งค์ปีหนึ่งที่นั่งหลบร้อนอยู่ที่ต้นไม้ริมฟุตบาตร พวกมันก็เหมือนไอ้เคนไอ้ชาย ชอบเสือกเหมือนกัน

“กูมาเป็นเบ้ให้ไอ้ภู แต่อยากมารับบรรยากาศเก่าๆก็เลยมาก่อน”พี่ปาตอบพร้อมรอยยิ้ม

“มันออกจากบ้านหรือยัง”ตอนนี้ผมไม่รู้ความเคลื่อนไหวของพวกมันสองคนเลย แต่คิดว่าไอ้ตินคงออกมาจากบ้านตั้งแต่ไก่โห่แล้ว

“ยัง คงมาช่วงสายๆ”ไอ้เนมตอบก่อนจะยิ้มชอบใจอีกครั้ง

“นานๆทีกูจะเห็นมึงอยู่ในกฎในเกณฑ์”วันนี้ผมสวมเสื้อรุ่นของเด็กปีหนึ่งกับกางเกงวอร์ม ผ้าใบสีสุภาพเหมือนกับเด็กปีหนึ่งทั่วๆไป

“ดูไว้เป็นบุญตาซะ”

“มึงนี่มีความตั้งใจดีนะ สมแล้วที่เป็นเมียไอ้ภู”พี่ปาตบไหล่ผมเบาๆเหมือนพ่อที่ภูมิใจในตัวลูกชาย

“พี่อย่าว่ะ วันนี้ห้ามล้อผม”ไอ้เนมทำหน้าบู้บี้

“กูสงสัยมานานแล้ว ทำไมมึงไม่พูดดีๆกับกูวะ”มันเท้าเอวมองผมกับพี่ปา

“ก็เพราะ…ครั้งแรกที่กูเจอมึงมันไม่น่าจำไง จำได้ไหม”ผมมองด้วยสายตาอาฆาต ผมยังจำได้ดี วันที่ผมเจอมันเป็นครั้งแรกคือที่ห้องน้ำในสนามฟุตบอลตอนปีหนึ่ง มันยังทำท่าทางหยามผมอยู่เลย ไอ้เนมนิ่งงันไปนานก่อนจะหัวเราะ

“เรื่องก็ตั้งนานแล้ว มึงจะเก็บมาจำทำไม”

“เหอะ วีรกรรมมึงไม่ใช่น้อยๆ”มันทำหน้าเคร่งขรึมทันที

“มึงนี่วอนตีนกูแล้วนะ”เรื่องเก่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องต้องห้ามของไอ้เนมเลยทีเดียว

“เหมือนฝันร้ายเลยสิมึง”ผมยิ้มเยาะมันบ้าง พี่ปาถอนหายใจยกมือขึ้นเหมือนห้ามทัพ

“พวกมึงสองตัวนี่ น่ารำคาญจริงๆ กูจะไปถ่ายรูปที่คณะแล้ว ไปด้วยกันไหม”พี่ปาชวน แต่ผมปฎิเสธ

“อย่าเพิ่งบอกไอ้ภูล่ะ ผมอยากเซอร์ไพรส์มัน”อยากเห็นสีหน้าของพวกมันตอนเห็นผมในแถวบูมจริงๆ

“มึงได้เซอร์ไพรส์แน่”ไอ้เนมยิ้ม พูดจามีเลศนัยอีกแล้ว ผมเลิกคิ้ว

“มีอะไร”

“เปล่า แค่มันเคยเป็นพี่ว้าก”แล้วยังไง ผมทำหน้าไม่เก็ท แต่พี่ปาโบกมือลาก่อนจะพาไอ้เนมออกไป จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาแห่งการรอคอย น่าเบื่อชิบ ผมรอชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าจนกระทั่ง…เริ่มเห็นชุดครุยของพี่บัณฑิตออกมาจากทางออก ช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายเริ่มขึ้นเมื่อเด็กปีหนึ่งทั้งหลายต่างพากันหาเป้าหมายล้อมวงบูม ผมบูมให้พี่บัณฑิตบางคนเท่านั้น คนไหนหล่อก็บูม เอ้ย ไม่ใช่ จะให้ผมอยู่เฉยๆก็อายเด็กมัน ก็เลยต้องร่วมบูมบ้างเป็นครั้งคราว เมื่อเห็นใบหน้าคุ้นตาของพี่บัณฑิตคณะเกษตร ผมก็เริ่มมองหาไอ้ตินทันที หวังว่าผมจะไม่คลาดกับมันซะก่อน

ตอนแรกผมไม่เห็นไอ้ตินเพราะมันเพิ่งโดนล้อมกรอบบูมไปสองสามรอบ วันนี้มันตัดผมใหม่ถูกระเบียบทุกตารางนิ้ว รองพื้นบางๆ ในอ้อมแขนมีดอกไม้ช่อใหญ่ ชุดครุยที่สวมทับทำให้มันดูดีราศีจับมากจริงๆ ต้องบอกว่าทุกคนที่ใส่ชุดครุยดูดีขึ้นมาร้อยเท่าทุกคน แต่สีหน้าหงุดหงิดของมันกลับทำให้ดูหมองๆไปบ้าง วันสำคัญของมันแท้ๆทำไมไม่ยิ้มบ้างวะ คนที่คอยตามถ่ายรูปให้ไม่ใช่ใครนอกจากคุณป๊าของมัน สีหน้าของท่านดูปลื้มปริ่มเป็นล้นพ้น พลอยทำให้ผมยิ้มไปด้วย ผมสะกิดไอ้เก่งที่ยืนมองซ้ายมองขวาหาพี่บัณฑิตอยู่ข้างๆ

“เฮ้ย มึงเตรียมบูมพี่คนนั้นนะ”ผมพยักเพยิดไปทางไอ้ติน ที่ยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเด็กปีหนึ่ง

“ดูท่าทางพี่แกหงุดหงิดนะ หรือจะเหนื่อย เอาคนอื่นไหม”ไอ้เก่งมองหาเป้าหมายใหม่

“ไม่เอา คนนี้ต้องบูม”ไม่รอช้า เมื่อเด็กปีหนึ่งกลุ่มนั้นได้เงินไปแล้ว ผมก็รีบลากไอ้เก่งและเดอะแก๊งค์เข้าไปล้อมวงตีกรอบไอ้ตินทันที ผมก้มหน้าก้มตาแอบเห็นว่ามันขมวดคิ้วมุ่นคงหงุดหงิดเต็มทน

“ให้ผมบูมให้พี่นะครับ”ผมรีบพูดก่อนที่มันจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ ไอ้ตินอ้าปากค้างน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงของผม มันชี้หน้าผมทันที

“หายไปไหนมา”ผมไม่ตอบคำถามของมัน แต่ออกคำสั่งบูมทันที ไอ้ตินยังงงไม่หาย แต่มันก็งงไม่นาน นี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่ผมบูมคณะได้ ผมหวังว่ามันจะรับรู้ว่าผมบูมเพื่อมัน เสียงบูมดังกระหึ่มอยู่รอบตัว ผมกับเดอะแก๊งค์บูมไปจนครบเพลง ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นรอยยิ้มกว้างของไอ้ติน ผมกลับหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง   

“มึงบูมให้กูเหรอ”มันพึมพำถาม ปากยิ้มถึงหู ดูมันจะปลื้มใจมากจริงๆ

“เออ”

“พูดเพราะๆสิน้องฟิก”มันตีหน้านิ่ง เออ วันนี้ผมยอมให้มันก็ได้

“ครับผม ผมบูมให้พี่ติน เป็นไง พอใจไหม”กระดากปากจริงๆโว้ย

“พอใจมาก เมื่อเช้ากูโทรหามึงไม่ติด กูโคตรจะหงุดหงิด นึกว่ามึงจะไม่มาซะแล้ว”ไอ้ตินเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนคนบ้า เห็นแล้วขำจริงๆ

“ขอบคุณที่ฝึกบูมให้กูนะฟิก ”มันหัวเราะอีกครั้ง ไอ้ตินแม่งบ้าไปแล้วจริงๆ จากนั้นผมก็ถูกจับถ่ายรูปกับไอ้ตินอยู่นานสองนาน ยิ้มจนเหงือกแห้ง ป๊าไอ้ตินถ่ายแล้วถ่ายอีก ถ่ายเสียอีกต่างหาก จนไอ้เก่งต้องมาถ่ายให้แทน

ผมรู้สึกหัวหมุนไปหมดเพราะต้องวิ่งรอกไปหาไอ้ตินที่คณะเกษตร เพื่อถ่ายรูปรวมกับครอบครัวไอ้ตินตามซุ้มต่างๆจนผมมึน แถมม๊ามันยังอยากถ่ายที่ซุ้มคณะผมอีก ผมก็ต้องติดสอยห้อยตามไปด้วย ระหว่างนั้นก็ดูเวลาไปพลาง ป่านนี้ไอ้ภูคงหน้าบูดแล้วแน่ๆ เพราะไม่เห็นเงาหัวของผม บรรยากาศอบอุ่นตามสไตล์บ้านไอ้ตินนั่นแหละ แถมไอ้เด็กป่านก็มาด้วยอีก มันสวมชุดสูทมา ดูดีเอาเรื่อง 

“อะแฮ่ม มองนานแล้วนะ”ไอ้ตินกระแอม

“ก็แค่มอง มันโตกว่าเดิมเยอะเหมือนกันนะ เวลาแค่แป๊บเดียวเอง”ไอ้เด็กป่านกำลังกินไอติมดับร้อนอยู่ มันยืนอยู่ข้างๆม๊าไอ้ตินที่กำลังดูรูปถ่ายด้วยอาการปลื้มปริ่ม

“เหรอ อยากวัดขนาดของน้องมันรึเปล่าล่ะ”โอ้ ไอ้ตินนี่จับเหตุการณ์ที่ผมจับไข่ไอ้ป่านได้ดีจริงๆ

“ตลกแล้ว มันโตขนาดนี้กูไม่กล้าวัดหรอก”ผมขำไม่ออกเมื่อเห็นสายตาของมัน ผมจึงแกล้งหยิบกระดาษซับมันซับตามหน้าผากให้มันแทน

“มึงนี่จริงๆเลย อย่าให้รู้ว่ามึงคิดไม่ซื่อ มึงโดนหนักแน่”วันดีแบบนี้มันยังขู่ผมอีก

“เออ มึงต้องไปบูมให้พี่ภูอีกใช่ไหม มึงไปเถอะ เดี๋ยวม๊ากูต้องอยากถ่ายรูปที่ซุ้มอีกหลายคณะแน่ๆ เดี๋ยวจะไม่ทัน”ไอ้ตินดึงกระดาษซับมันมาจากมือของผมก่อนยัดแบงค์พันสามแบงค์มาให้ผมแทน

“ค่าบูม”มันยิ้มกว้างอีกแล้ว

“ใจป้ำจริงๆ”

“ให้เป็นค่าเหนื่อย กูดีใจนะที่เห็นมึงทุ่มเทขนาดนี้ ถ้าเอาไปบอกไอ้ชัยมันคงไม่เชื่อแน่ๆว่ามึงบูมเป็น”ไอ้ตินหัวเราะ ผมเองก็เพิ่งนึกถึงมันได้ขึ้นมา

“ตอนนี้มันอยู่ไหนวะ”

“จะไปบูมให้มันเหรอ”ไอ้ตินขมวดคิ้วทันที

“เปล่า”ใครจะไปบูมให้ไอ้ชัยล่ะ แค่อยากไปป่วนประสาทมันในวันดีๆแบบนี้เฉยๆ

“ดี กูหวง”มันพูดเต็มปากเต็มคำ

“มึงก็บ้าว่ะ”ไปๆมาๆทำไมผมเขินวะเนี่ย ผมกระแอมเมื่อรู้สึกตัวว่าถูกคนจ้องมอง

“ไว้เจอกันที่หอนะ”ผมรีบปลีกตัวออกมา เดินออกจากคณะเกษตรได้ไม่นานก็เห็นไอ้ชัยเดินหอบช่อดอกไม้กับตุ๊กตามา พอเห็นไอ้ชัยผมก็นึกถึงพี่อันทันที หวังว่าจะไม่โผล่ไปหาไอ้ตินนะ

“ไง มาหาไอ้ตินเหรอ”ไอ้ชัยมองการแต่งตัวของผมด้วยสายตาแปลกใจ ข้างตัวมันมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาด้วย ในมือถือกล้อง ใบหน้ายิ้มแย้ม

“แฟนมึงเหรอ”ผมกระซิบถาม

“เสือก”มันตอบกลับเบาๆ ผมว่าใช่ชัวร์ แล้วพี่อันล่ะ มันไม่ชอบพี่เขาแล้วเหรอ แล้วแบบนี้ใครจะกันพี่อันให้ห่างจากไอ้ตินได้ล่ะ ไอ้ชัยหันไปหาผู้หญิงคนนั้น

“เต้ยเข้าไปรอพี่ที่คณะก่อนนะ เดี๋ยวพี่ตามไป”ผมแอบลูบแขนไปมา เพิ่งเคยได้ยินไอ้ชัยพูดด้วยเสียงอ่อนเสียงหวานแบบนี้ก็วันนี้แหละ แต่เท่าที่ฟังเหมือนไม่ได้ออกมาจากใจ ฟังดูประดิษฐ์ๆชอบกล สาวเต้ยพยักหน้าอย่างเชื่อฟังก่อนจะเดินจากไป

“เต้ยเข้าไปรอพี่ที่คณะก่อนนะ เดี๋ยวพี่ตามไป”ผมเลียนเสียงของเจ้าตัวเบาๆ ไอ้ชัยหันมาถลึงตาใส่

“มึงจะทำตัวดีๆบ้างไม่ได้หรือไงวะ”

“ผมล้อเล่นน่าพี่ชัย วันนี้วันดี ผมมาแสดงความยินดีกับพี่ด้วย ขอโทษล่ะกันที่เคยล่วงเกินหลายๆอย่าง มันอดไม่ได้จริงๆว่ะ”ผมพูดออกมาจากใจจริง ถึงแม้จะเหม็นขี้หน้ามันขนาดไหน แต่วันนี้ผมถือว่าเป็นรุ่นน้องของมัน ไอ้ชัยอ้าปากค้างมองผม ก่อนจะหัวเราะลั่น

“โอ๊ยไอ้ฟิก มึงรู้ไหม กูขนลุกวาบเลย มึงอย่าพูดกับกูแบบนี้อีกนะ สยองว่ะ”มันหัวเราะเสียงดังก้อง

“เฮ้ย กูอุตส่าห์จริงจังนะเว้ยไอ้ชัย”มันหยุดขำทันที

“ถือว่ากูรับรู้ความจริงใจของมึงก็แล้วกัน แล้วนี่…มึงใส่เสื้อแบบนี้ทำไม”มันชี้เสื้อ กางเกงของผม

“มาบูมไง”ผมตอบหน้าตาย มันยิ่งทำหน้าพิลึกเข้าไปใหญ่

“ห๊ะ”

“กูกำลังรีบ ไว้เจอกัน”ผมยกมือลา แต่ก้าวได้ไม่กี่ก้าว มันก็คว้าไหล่ของผมไว้

“เดี๋ยวสิวะ มึงบูมให้กูดูหน่อย”ผมหัวเราะเสียงแห้ง

“ไม่บูม ไอ้ตินหวง”พูดจบผมก็รีบเดินดุ่มออกห่างจากไอ้ชัยทันที ปล่อยให้มันหัวเราะลั่นอยู่ตรงนั้น เหอะ ขำมากนักรึไงวะ ไอ้ชัยเอ๊ย 


 
   
 
 
 
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 02-06-2016 23:15:19


 
ผมเดินเบียดเสียดกลับมายังจุดเดิม ไม่รู้พวกไอ้เก่งจะยังอยู่ที่เดิมไหม เสียงบูมรอบตัวทำผมปวดประสาทอยู่เหมือนกัน มองหาอยู่นานผมก็เห็นพวกมัน ปรากฏว่ายังอยู่ครบ ไอ้พวกนั้นนั่งหลบแดดอยู่ที่ร่มไม้ ผมส่ายหน้าอย่างเอือมระอา

“พวกมึงอู้นี่หว่า”ผมคันไม้คันมืออยากตบเกรียนเรียงตัวซะจริงๆ ไอ้เก่งมองหน้าผมก่อนทำหูทวนลม

 “คนที่บูมให้ ใครอ่ะพี่”มันถามทันที 

“เสือก”

“อร่อย”ไอ้พวกเดอะแก๊งค์ตอบพร้อมกัน ผมยกนิ้วกลางส่งให้พวกมันเรียงตัว กวนประสาทจริงๆ

“พี่รอบูมให้พี่ภูแฟนพี่ใช่ไหม”ไอ้เก่งถามอย่างรู้ดี ผมไม่ตอบแต่นั่งลงข้างๆพวกมันก่อนยัดเงินใส่กล่อง พวกมันถึงกับตาโตทันที ผ่านไปเกือบๆสองชั่วโมง ผมงีบไปได้หลายรอบ จนกระทั่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวรอบตัวดังหึ่ง ไอ้เก่งสะกิดผมสองสามที

“ออกมากันแล้ว”มันทำเสียงตื่นเต้น ผมรอจนเห็นว่าพวกบัณฑิตคณะวิศวะออกมาถึงได้ไปเฝ้าตรงทางออกเพื่อมองหาไอ้ภู ครั้งนี้ผมจะไม่พลาดจะต้องบูมให้มันเป็นคนแรกให้ได้ ไอ้เก่งกับเดอะแก๊งค์ช่วยมองหาอีกแรง ผมกำลังสอดส่องก็ถูกดึงไปอีกทาง รู้ตัวอีกทีกลุ่มของผมก็ล้อมตัวไอ้ภูเอาไว้ได้แล้ว

ไอ้ตินว่าดูหงุดหงิดแล้ว แต่ไอ้ภูเหมือนมันใกล้ระเบิดมากกว่า หน้าตามันไม่รับแขกสุดๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมก็มองว่ามันในชุดครุยหล่อมากๆ มันจ้องมาที่ผมนิ่งๆ ถึงจะดูแปลกใจแต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันโกรธผม จากหางตาผมเห็นพี่ปากับไอ้เนมเดินวนเวียนอยู่ใกล้ๆ   

“มึงหายหัวไปไหนมา กูโทรหามึงตั้งหลายครั้ง”เสียงของมันทั้งเข้มและดุดัน จนผมใจฝ่อไอ้เก่งกลอกตามองผมล่อกแล่ก ๆ ผมมองไปรอบๆเห็นว่ารุ่นพี่คณะวิศวะคนหนึ่งกำลังถ่ายรูปพวกผมอยู่ มันน่าสนใจขนาดนั้นเลยเหรอ

 “กู…เตรียมบูมให้มึงไง”ผมตอบเสียงชื่นมื่นแต่ใจแป้วไปแล้ว ผมเห็นไอ้เนมทำมือปาดคอ อยู่ด้านหลัง เฮ้ย ผมทำผิดขนาดนั้นเลยเหรอวะ

“ผมเป็นพี่คุณ พูดให้ดีด้วย พวกคุณมาจากคณะอะไร”ผมเหมือนโดนตีแสกหน้าด้วยค้อน ไอ้ภูเป็นบ้าอะไรของมึงเนี่ย ไอ้เก่งและเดอะแก๊งค์เริ่มใจฝ่อเช่นเดียวกับผม มันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

“ผมถามว่ามาจากคณะอะไร”มันถามด้วยเสียงอันดัง ถึงจะไม่ทำให้รอบข้างหันมามองก็ทำให้ผมเหงื่อตก สัดภูมันจะว้ากผมเหรอ!

“สถาปัตย์ครับ”ผมกับไอ้เด็กปีหนึ่งตอบเสียงดัง แว๊บหนึ่งผมเห็นไอ้ภูยกยิ้ม แต่ก็แค่แว๊บเดียว

“ถ้าบูมไม่ดัง ผมไม่ให้หยุด บูมจนกว่าผมจะให้หยุด”ผมกัดฟันด่าไอ้ภูในใจ ก่อนจะเริ่มบูม ผมไม่ได้นับว่าบูมไปกี่รอบ แต่เหนื่อยเชี่ยๆ จนเหมือนแรงตกเสียงไอ้ภูก็ดังอยู่ด้านบน

“ไม่ได้ยินครับ บูมอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง ดังอีก”ไอ้ภูยังคงเล่นงานต่อไป สัดภูเอ๊ย มันเล่นผมแล้วไง

“พอครับ”ในที่สุดหลังจากที่เสียงแหบคอแทบแตก ขาแทบทรุด หัวมึนงง ไอ้ภูก็สั่งให้หยุด ผมกับเดอะแก๊งค์ก้มหน้าสงบเสงี่ยมเจียมตัวกันทุกคน ไอ้ภูหันไปหาไอ้เนม หย่อนซองสีขาวลงกล่องเงิน

“ขอบคุณมากครับน้องๆ”มันย้ำคำว่าน้องๆเป็นพิเศษ สายตาหยุดอยู่ที่ผม ถึงมันจะตีหน้าบึ้งแต่เหมือนสายตาของมันกำลังยิ้ม

“ผม…ผมไปก่อนนะครับ”ไอ้เก่งแทรกเสียงสั่นเพราะความเหนื่อยก่อนที่พวกมันจะสลายตัวกันอย่างรวดเร็ว เหลือแค่ผมกับไอ้ภู

“คุณคิดว่าทำแบบนี้แล้วผมจะพอใจเหรอ หึ”อ้าว…ไอ้นี่

“กูแค่…”

“ผมเป็นพี่คุณ”ผมกระพริบตามองมันงงๆ เหลือบมองหาพี่ปากับไอ้เนมตัวช่วยสุดท้าย แต่สองคนนั้นก็พากันมองเด็กดนตรีบูมซะงั้น ไอ้ภูจ้องหน้าจนผมเกร็งไปหมด ผมใจเต้นตึกๆเพราะอาการเหนื่อย จะว่าไป…ก็กลัวมันด้วย ตอนมันว้ากน่ากลัวจริงๆ ผมไม่เคยเห็นมันว้ากมาก่อน พอมาเจอแบบกะทันหัน รู้สึกจะพูดไม่ออกอยู่เหมือนกัน ผมกับมันยืนจ้องหน้ากัน ผมกะจะตะโกนออกมาดังๆว่ามึงจะเอายังไงแต่ไอ้ภูดันหลุดหัวเราะออกมาซะก่อน

“เชี่ยภู กูไม่ขำนะเว้ย”ผมมองมันหัวเราะอยู่อย่างนั้น

“อะไรวะ ไอ้ฟิก แค่นี้มึงกลัวเหรอ ไม่สมกับเป็นมึงเลย โอ่ขวัญเอ๊ยขวัญมา พี่ภูแค่ล้อเล่น”แล้วมันก็หัวเราะยกใหญ่ ผมชักจะฉุนขึ้นมาจริงๆแล้ว

“มึงขำมากรึไง นี่กูตั้งใจบูมให้มึงเลยนะไอ้…”ผมอยากพ่นคำหยาบออกมา แต่ก็เห็นว่าวันนี้เป็นวันดีของมัน ผมหันไปด่าอีกทางแทน

“เออ กูรู้ กูไม่คิดว่ามึงจะมาทำอะไรแบบนี้นี่หว่า กูขอบใจนะ เอาจริงๆกูไม่คิดว่ามึงจะยอมทำอะไรแบบนี้ วันนี้มึงสุดยอดมาก”ไอ้ภูเข้ามากอดผมแบบไม่อายสายตาใคร ผมเริ่มคลายความโกรธลงได้บ้าง

“ซ้อมมานานหรือยัง”ไอ้ภูถามพลางขอกระดาษทิชชูมาจากไอ้เนม วันนี้มันเหมือนคนใช้จริงๆ เรื่องนี้ทำผมหลุดยิ้มออกมา ยอมให้ไอ้ภูเอาทิชชูมาถูหน้า ผมใช้คำไม่ผิด มันเอากระดาษทิชชูมาถูหน้าผมจริงๆ กวนประสาทชิบเป๋ง

“นานแล้ว รู้ไว้ด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะมึงสองคน กูไม่ทำอะไรแบบนี้หรอกนะ”ไอ้ภูยิ้มกว้างชกไหล่ผมเบาๆ

“มึงกลัวกูจริงๆเหรอเมื่อกี้นี้น่ะ”มันถามอีกรอบ ผมทำหน้าบึ้ง

“กูแค่ตกใจไม่ได้กลัว”เสียมาดหมด

“แต่หน้ามึงโคตรเหวออ่ะ”ไอ้เนมเสล่อแทรกขึ้นมา มันหัวเราะตบท้ายอย่างเจ็บแสบ

“ช่างเถอะ ๆ ไปที่คณะกูก่อน พ่อกับแม่กูรอถ่ายรูปอยู่”ไอ้ภูพูดด้วยเสียงภูมิใจ แต่เดินไปได้ไม่นานก็มีเด็กปีหนึ่งมาขอบูมแถมมันยังได้ตุ๊กตาหมีมาอีกด้วย

“สามีมึงฮอตจริงๆ นอกจากบูมมึงไม่มีอะไรจะให้มันเหรอ”พี่ปาพึมพำอยู่ใกล้ๆ

“ไม่มีอ่ะ”ความจริงแล้วมี แต่อยู่ที่หอ แต่เห็นมันทำแบบนี้กับผมก็ชักไม่อยากให้แล้ว
 


ที่คณะวิศวะคนเยอะเป็นพิเศษ ทั้งคนในคณะและคนนอก สาวๆจากคณะใกล้เคียงมามอบดอกไม้ตุ๊กตาให้พี่บัณฑิตกันให้ควัก ไอ้ภูนำผมไปที่โต๊ะหินอ่อนใต้ร่มไม้ ผมเห็นพ่อกับแม่ไอ้ภูนั่งอยู่ที่นั่นด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่แสดงออกว่าภูมิใจในตัวลูกชาย

“วันนี้ลูกชายแม่หล่อที่สุดเลยรู้ไหม”แม่ไอ้ภูลุกโอบกอดมันหลวมๆ ท่านดูผอมไปบ้างแต่ก็ปกติดี ส่วนพ่อมันวางท่าพยักหน้าอยู่ข้างๆ ผมเห็นแล้วอยากหัวเราะดังๆ ผมอยู่ถ่ายรูปกับครอบครัวนี้สักพัก ไอ้ภูกับไอ้ตินยังมีกำหนดการต้องอยู่ที่คณะต่อ วันนี้ผมเหนื่อยอยากจะอยู่ต่อ แต่ก็เลือกลำบาก ผมเลยไม่อยู่ดีกว่า จะได้ไม่ต้องมีคนไหนน้อยใจ

“กูจะไปรอที่หอ อย่าลืมกลับนะ”ผมกำชับกับไอ้ภู มันยิ้มรับ

“ขอโทษที่ให้บูมนาน ถึงห้องแล้วก็พักนะ”ไอ้ภูดูเป็นห่วงและรู้สึกผิด ผมโบกมือว่าไม่ต้องใส่ใจ จะคิดเสียว่าตอนนั้นไอ้ภูถูกวิญญาณพี่ว้ากเข้าสิงก็แล้วกัน 






*******************************************************
   





ผมก็กลับมาที่หอเดิม เช่าอยู่มาตั้งแต่ปีหนึ่ง แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือผมต้องอยู่คนเดียว ระหว่างที่ผิวปากขึ้นห้อง ก็จ๊ะเอ๋กับไอ้เน็ตพอดี มันเองยังคงอยู่ที่หอนี้เหมือนเดิม แต่ก็ลดท่าทีเวลาอยู่กับผมไปบ้าง หลังจากที่เคยเจอไอ้ภูกับไอ้ตินขู่ไป

“วันนี้กลับเร็วจัง”มันทักเหมือนชวนคุย

“ก็ปกติ”ผมไหวไหล่ เดินแกว่งกุญแจรถไปตามโถงทางเดิน ได้ยินเหมือนมันเดินตามมา แต่ก็ด่ามันไม่ได้อีกเพราะห้องมันก็มาทางเดียวกับผม

“มึงมีอะไรรึเปล่า”ผมหันไปทักเพราะคิดว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ ไอ้เน็ตคลี่ยิ้มบาง

“เปล่า…แล้ว ทำไมพักนี้ไม่เห็นหน้าแฟนฟิกเลยล่ะ”มันเข้าเรื่องจนได้ ผมเลิกคิ้วน้อยๆ หรือว่าไอ้นี่คิดว่าผมเลิกกับไอ้สองตัวนั่นแล้ว

“แล้วถามทำไม”

“เลิกกันแล้วเหรอ”ผมยกยิ้มทันที

“ยัง กูกับพวกมันยังอยู่กวนประสาทกันอีกนาน หมดธุระหรือยัง”ผมไล่มันทางสายตา ไอ้เน็ตไหวไหล่ก่อนจะเอ่ยชวน

“วันนี้วันเกิดเรา ถ้าว่างก็แวะมาได้นะ จัดที่ห้อง”ผมหัวเราะหึ มันคิดว่าผมอยากไปหรือไง ไอ้เน็ตเดินกลับไปห้องตัวเองทิ้งกลิ่นน้ำหอมจางๆเอาไว้ จะว่าไปเมื่อคราวก่อน…ตอนเกิดเรื่องก็วันเกิดมันพอดี มันคิดว่าผมอยากไประลึกความหลังแย่ๆเหรอ

ผมไขกุญแจเข้าไปในห้องเงียบๆ กดสวิซเปิดไฟ โยนกระเป๋าเป้ทิ้งที่โซฟา กวาดตามองห้องหับที่ถูกจัดไว้เหมือนมีงานเลี้ยงเล็ก ๆ ตรงผนังห้องมีตัวอักษรเขียนข้อความแสดงความยินดี มีขวดเบียร์วางอยู่ที่โต๊ะกลางห้อง ที่ผมอยากให้พวกมันก็แค่งานฉลองธรรมดา พวกมันไม่ค่อยชอบงานยุ่งยาก ผมยินดีกับพวกมันในฐานะรุ่นน้องไปแล้ว ก็อยากฉลองในฐานะคนสำคัญบ้าง ไม่มีของขวัญอะไรพิเศษ มีแค่เบียร์กับตัวผมนี่ล่ะ

ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน อยู่ๆก็รู้สึกเหนื่อยมากๆ ปวดขาไปหมด ผมเดิมดุ่มไปที่เตียงและผล็อยหลับไปทั้งอย่างนั้น

…..



..

.


ผมตื่นมาอีกทีก็เจอแต่ห้องมืดๆ แต่ที่ว่างทั้งสองข้างกลับอุ่นไปด้วยไออุ่นของคนคุ้นเคย ผมยิ้มออกมา วันนี้พวกมันสองคนคงจะเพลียและเหนื่อยมาก ผมจะปล่อยให้พวกมันนอนพักก่อนก็แล้วกัน แค่พวกมันสองคน…แค่นี้แหละที่ผมต้องการ ผมนอนฟังเสียงลมหายใจหนักแน่นของคนทั้งคู่ ตาก็มองดาวดวงเล็กๆบนเพดานส่องแสงอย่างอ่อนแรง แต่ก็ยังเห็นได้ชัดในความมืด

ก็เหมือนผมกับพวกมัน ถึงจะห่างกันบ้างแต่ความรักของผมกับพวกมันก็ยังเหมือนเดิม





---END---

ฮาโหลลลล มาต่อแล้ว ยังมีตอนพิเศษอีกนะคะ(เนื้อเรื่องต่อกัน)
จะทยอยเอามาลง ขอบคุณที่ยังไม่ลืมกันจ้า






หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Noah ที่ 03-06-2016 00:42:49
ไหแตกแล้ว ๆ ดีใจในที่สุดก็มา ภูอ่ะแกล้งฟิก ฟิกกลัวเลย  :katai4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 03-06-2016 03:49:53
คิดถึงฟิกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
น่ารักขึ้นเรื่อยๆเลยนะเนี่ย ทำตินกับพี่ภูหงุดหงิดเพราะโทรหาไม่ติดเลย 5555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: yunghanna ที่ 03-06-2016 04:57:12
คิดถึงฟิกกกกก  :กอด1:
อ่านตอนนี้เหมือนได้ดูภูกับตินเติบโตสู่โลกกว้าง รู้สึกภูมิใจไปด้วย โดยเฉพาะพี่ภูคนโหด  :mc4:
ส่วนน้องฟิกก็ยังน่ารักเหมือนเดิม แอบไปซ้อมบูมเพื่อสามีด้วย5555 น่ารัก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-06-2016 05:45:57
ดีใจค่ะ น่ารักกันเหมือนเดิม  :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-06-2016 05:55:49
คิดถึง ฟิก ติณ ภู  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ดีใจ ไร้ท มาลง  อ่านไปยิ้มไป มีความสุขมาก :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
รอ ตอนต่อไป  :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: chadomff ที่ 03-06-2016 09:10:31
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-06-2016 09:24:51
รีบสร้างบ้านให้เสร็จเร็วๆจะได้อยู่ด้วยกันครบ 3 คน อีกครั้งนะ :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 03-06-2016 15:12:57
เป็นวันรับปรญญาที่ลงตัวดีเพราะรับคนละรอบเลยวิ่งได้ง่าย 555 น่ารักจังเลย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: bvan ที่ 03-06-2016 15:59:41
คิดถึงจัง
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-06-2016 17:38:56
ผ่านไปกับอีกบทบาทหนึ่งของชีวิต
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: NUBTANG ที่ 03-06-2016 22:39:10
คิดถึงสามหน่อนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ทะยอยมาลงด้วยน้าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 04-06-2016 00:09:31
ตอนโดนว้ากเรานี่แอบน้อยใจนิดๆแทนฟิกเลย คนอุตส่าห์ซุ่มซ้อมมาเจอแบบนี้ก็นอยด์หน่อยๆนะถึงภูจะทำไปในฐานะพี่ว้ากก็เถอะ
ส่วนพี่ตินนั้นตอนที่คุยกับอาเราเห็นถึงความแบดของพี่นิดๆนะคะ ฮ่าๆ ดีใจที่โหลดองแตกแล้วแต่ก็เสียใจที่เรื่องนี้จบแล้วถึงจะมีตอนพิเศษต่ออีกก็อดใจหายไม่ได้จริงๆ ยังไงก็รอรวมเล่มนะคะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 04-06-2016 08:45:24
 o13
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 04-06-2016 09:47:39
ยาวสะใจเลย. คิดถึงภูตินฟิก  รอตอนต่อไป. ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 04-06-2016 13:40:19
โถ่ หมาฟิกโดนพี่ภูว๊ากทีหงอเลย

หายไปนานมากคิดถึงเลย จะรอตอนพิเศษน่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-06-2016 14:19:25
ฟิกน่ารักวุ้ย 555555
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 04-06-2016 15:33:52
ฟิกน่ารักขึ้นทุกวัน ยิ่งอ่านยิ่งหลง  :-[
รอตอนพิเศษค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 04-06-2016 21:41:08
ขอคุณสำหรับตอนพิเศษครับ. รอให้กำลังใจต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 05-06-2016 11:58:57
ชอบพี่ภูตอนเป็นพี่ว๊าก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: konjingjai ที่ 05-06-2016 17:00:06
ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้สนุกมาก...ขอบคุณผู้เขียนที่เสียสละเวลาอันมีค่ามาเขียนให้นักอ่านอย่างผมได้อ่านและมีความสุข
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 05-06-2016 17:07:42
 :pig4: :pig4: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 05-06-2016 19:07:05
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 05-06-2016 20:36:12
ปลื้ม ฟิกทำได้
พี่ภูพี่ตินปลื้มลืมแน่เลย

ฟิกเริ่มเพ้อละนะ ต้องอยู่คนเดียวแล้ว หรือบ้านจะทำด่วนนะ แบบว่า ไม่อยากอยู่ห่างกันเลย อะไรแบบนี้

ไม่หวานมาก แต่รักกันดี น่ารักมากเลยค่ะ

รออ่านเรื่อยๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 06-06-2016 10:18:54
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :mc4: ดีใจได้เจอ สามหน่อ ครอบครัวสุขสันต์ อีกกกกกกก  :katai2-1:  ทุกคนโตขึ้นมาก มีความคิดดีขึ้น และ หนูฟิกมีความเมียยยย เยอะมากขึ้นด้วยยยยยยยยย เป็นสาวแล้วลูก  :-[  ชอบฟิกตรงที่รู้ว่าทำยังไง สองสามีจะไม่น้อยใจ จะไม่คิดว่ารักใครมากใครน้อย และ สองสามีก็ดีด้วยไม่สร้างความลำบากใจให้ฟิก ดีแล้วอย่าไปนึกเลยมากน้อย แค่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันทุกวันให้มากที่สุดก็พอแล้ว เริ่มจะมีมาม่าพี่ภูแล้วใช่ไหม คือ อยากอ่านนะ ไม่ได้จะแช่งแม่พี่ภู แต่อยากรู้ถึงความรักความเข้าใจที่ทั้งสามคนมีให้กัน เวลาที่หนึ่งในสามมีทุกข์ไม่ว่าจะเรื่องไหน ก็อยู่ข้างๆกันเสมอ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 06-06-2016 15:42:20
โอ้ยยยย
นึกว่าตาฝาด มาจริงๆด้วย พึ่งเห็นฟิกมาาาาาา
กอดที อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 06-06-2016 18:31:06
น่ารักตินดูกวนๆ ภูมามาดเข้ม ฟิกน่ารักสุดๆ ไม่อยากให้จบเลยรักเรื่องนี้มาก ขอบคุณคนเขียนมากๆนะ  :L1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 06-06-2016 20:36:07
คิดถึงสามหน่อจริงๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[บทส่งท้าย] 2-06-59 P.44
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 06-06-2016 22:15:09
รอๆๆ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 17-06-2016 09:15:05



 
Phu side





เป็นเวลาห้าโมงเย็นกว่าๆ แต่ผมยังไม่ได้กลับบ้าน เพราะงานสรุปงบประมาณยังไม่เสร็จ คราวก่อนพี่โอ หัวหน้าโฟร์แมนเคยสอนงานผมไปบ้างแล้ว แต่ก็นั่นล่ะ มันไม่ได้จำกันง่ายๆเสียหน่อย ผมจ้องตารางมากมายบนหน้าจอคอมฯมึนๆ  ตอนนี้ผมทำงานกับบริษัทL มาได้ห้าเดือนกว่าๆแล้วตำแหน่งของผมคือวิศวกรสนาม ผมเลือกออกไซต์งานมากกว่าทำในโรงงาน เพราะยังไงๆอีกสองสามปีข้างหน้า เดี๋ยวผมก็ต้องถูกตีกรอบกลับไปทำงานกับพ่ออยู่ดี ตอนนี้ขอทำอะไรที่มันท้าทาย ไม่เคยทำดีกว่า

….ซึ่งก็อย่างที่เห็น ชีวิตการทำงานของผมตอนนี้ เหมือนต้องนับหนึ่งใหม่เพราะความรู้หน้างานแทบไม่มี ผมยังไม่ผ่านโปร เข้างานเช้า กลับค่ำ วันดีคืนดีโดนพวกช่างก่อสร้างลองภูมิซะหน้าหงาย โชคดีที่พี่เลี้ยงสอนงานของผมไม่ใช่พวกอีโก้จัด หรือพวกชอบโยนงานมาให้โดยไม่ยอมสอน แต่ถึงจะใจดียังไง พี่แกก็ชอบด่าผมว่าสมองกลวงอยู่ดี ผมกลับมาสนใจงานตรงหน้าอีกครั้ง จะได้กลับบ้านไปฟังพ่อบ่นต่อ

“ยังไม่กลับอีกเหรอวะภู”คนที่โผล่เข้ามาคือไอ้เต้ นักศึกษาจบใหม่จากม.ชื่อดังแห่งหนึ่ง มันจบโยธา หน้าที่คล้ายๆกันแต่มันดูแลสเกลงานใหญ่กว่า ผมแค่งานระบบ ทำนองลูกเมียน้อย

“งานยังไม่เสร็จ”ผมตอบเสียงเหนื่อยหน่าย ไอ้เต้ลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ สีหน้าของมันดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผมได้ยินแว่วๆว่ามันโดนหัวหน้าด่าเพราะอ่านแบบผิด

“เฮ้อ มึงโชคดีนะได้พี่โอคอยสอนงาน แต่กูนี่สิ…”มันเว้นวรรคเสียงทนทุกข์ ผมหัวเราะหึๆ จะว่าไปก็น่าสงสารที่มันได้คนสอนงานที่คนข้างเฮี้ยบ โดนด่าทุกวัน

“เอาน่า เดี๋ยวมึงก็ชิน ทนไปอีกซักเดือน เดี๋ยวก็ผ่านโปรแล้ว”ผมปลอบ ไอ้เต้นั่งเงียบไปพักใหญ่ระหว่างนั้นผมก็รีบสรุปงานให้เสร็จ

“พวกช่างด้านนอกตั้งวงเหล้าว่ะ กูไม่กล้าเดินผ่าน”

“มึงจะกลัวอะไรวะ เขาไม่ฆ่าปาดคอมึงหรอก”กูจะขำหรือสงสารมึงดีเนี่ย ไอ้เต้

“ชอบแขวะกูเรื่องงาน”ไอ้เต้มันไม่ค่อยเป็นงาน เงอะๆงะๆยิ่งกว่าผม พวกช่างก่อสร้างบางคนไม่ค่อยชอบเด็กจบใหม่ทำอะไรไม่
เป็น

“แม่ง กูนี่แบบหน้าหงายเลยนะเว้ย กูสั่งงานอยู่มาพูดแทรก…”ไอ้เต้ยังคงบ่นต่อไปอย่างอัดอั้น ผมพิมพ์งานต๊อกแต๊กจนเสร็จ ปล่อยให้มันบ่นไปคนเดียว ระหว่างที่รอสั่งปริ๊นงาน โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะก็สั่นครืดๆ แค่ได้เห็นชื่อคนโทรมา อาการเหนื่อยก็แทบปลิวหายทันที 

“ว่าไง”ผมรับสาย ไอ้เต้หันมองอย่างสนใจ

[เลิกงานยัง] 

“ใกล้เสร็จแล้ว คิดถึงล่ะสิ”

[แค่โทรมาถามเฉยๆ กลัวจะเป็นลมเป็นแล้งไปก่อน]

“กูไม่ใช่คนอ่อนแอขนาดนั้น”ผมหัวเราะ รู้ทันว่ามันต้องมีเรื่องอื่นด้วยแน่ๆ

[เออ คือกูเพิ่งทำงานเสร็จ ยังไม่ได้กินข้าว…มึงกินหรือยัง แวะมารับกูหน่อย] มันพูดรัวเร็วเหมือนกลัวใครแย่งพูด

“ยัง แต่กูมีนัดกับที่บ้านแล้ว”ทุกวันศุกร์ผมจะแวะไปกินข้าวเย็นที่บ้าน ถึงอาการป่วยของแม่จะคงที่แล้ว แต่ผมยังไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่ ไม่รู้สิ ช่วงนี้แม่ชอบทำตัวแปลกๆให้ผมคิดมากหรือบางทีผมอาจจะคิดเยอะไปเอง

“เดี๋ยวมึงไปกับกู”ผมพูดต่อ ไม่รอให้มันแทรก เอามันไปด้วยอย่างน้อยผมจะได้ไม่หงุดหงิดกับพ่อมากจนเกินไป รายนั้นชอบหาเรื่องมาบ่นผมตลอด ส่วนใหญ่เป็นเรื่องงาน

[จะดีเหรอวะ กูไม่อยากจะพูดแบบนี้หรอกนะ แต่พักนี้พ่อมึงอารมณ์ไม่ค่อยปกติ]

“จะบอกว่าพ่อกูประสาทว่างั้น”แต่ก็เห็นด้วยตามที่มันบอก

[เฮ้ย มึงพูดเองนะ] มันหัวเราะชอบใจ

[เออ กูไปก็ได้ ถ้าพ่อมึงด่ากูจะบอกว่ามึงเป็นคนบังคับกูไป]

“โอเค ให้ไปรับที่ไหน หอรึคณะ”

[คณะ]

คุยจบไอ้ฟิกก็ชิ่งวางสายไปก่อน ผมเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า ช่วงที่ผมย้ายออกมาจากหอ ส่วนมากไอ้ฟิกมักจะไปขลุกอยู่กับพวกไอ้เคน ส่วนไอ้ตินพักหลังๆเหมือนมันจะยุ่งกับงานวิจัยพันธ์ไม้ ก็ไม่รู้ว่ามันจะสนใจไปทำไม เพราะเรื่องนี้ทำให้มันต้องตระเวนไปต่างจังหวัดบ่อยๆ คราวนี้ก็ขึ้นเหนือ ผมนึกสีหน้าของไอ้ฟิกออกเลยว่าเป็นยังไง มันอาจจะยังคิดมากเรื่องไอ้เจ้าคุณอยู่ก็ได้ พูดถึงไอ้หมอนี่แล้วหงุดหงิด

ผมกลับมาสนใจเรื่องของตัวเองต่อ สะดุดกับสีหน้าล้อเลียนของไอ้เต้เข้าพอดี

“นั่นแน่ คุยกับแฟนเหรอ สวยไหมวะ ว่างๆพามาแนะนำให้รู้จักหน่อย”ผมทำเสียงหึในลำคอ

“มึงจะอยากรู้จักไปทำไม”ผมไม่สนใจเสียงพร่ำเพ้อของมัน รีบเก็บของกลับบ้าน ไอ้เต้ช่วยเก็บนู่นเก็บนี่จนเสร็จ  สำรวจว่าปิดไฟ
เรียบร้อยหมดแล้วจึงปิดประตูล็อคห้อง พอออกมาด้านนอกห้องถึงได้รู้ว่าอากาศค่อนข้างร้อน ห่างไปไม่ไกลเท่าไหร่ที่แคมป์คนงานกำลังคึกคัก ผมไม่ค่อยสนิทกับพวกช่างก่อสร้าง จะมีแค่บางคนที่ยังคุยกันได้ บางคนไม่ค่อยเชื่อเวลาที่ผมสั่งงานเพราะผมเพิ่งจบใหม่ จะเชื่อพวกโฟร์แมนมากกว่า 

“เจอกันวันพรุ่งนี้ครับ”ผมตะโกนบอกลา พวกเขาแค่โบกมือพยักหน้าให้นิดหน่อย ก่อนกลับไปสนใจวงเหล้าต่อ ผมถอนหายใจ นี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผมอยากทำงานที่นี่ต่อ ผมอยากเอาชนะใจพวกเขาให้ได้ในฐานะหัวหน้า

“กูกลับก่อนล่ะ”ไอ้เต้บอกลาเซ็งๆ แยกตัวไปที่ลานจอดรถ ผมไม่ได้เอารถเบ๊นซ์มาใช้ เพราะผมก็มีรถประจำตำแหน่ง เหอะๆ ฟังดูหรูหราใช่ไหมล่ะ แต่จริงๆแล้วมันแค่รถกระบะของไซต์ก่อสร้างที่พี่โอให้ผมเป็นคนถือกุญแจ เพราส่วนใหญ่แล้วผมจะได้รับหน้าที่เป็นเบ๊ไปรับไปส่งคนนู้นคนนี้ หรือไม่ก็ถูกใช้ไปซื้อของ ตามเดิมไอ้รถกระบะนี่สภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผมเลยไปยกเครื่องใหม่   

ผมไปรับไอ้ฟิกที่คณะ ช่วงเย็นๆบรรยากาศคึกคักตามเคย ไม่รู้มีงานอะไรรถถึงติดยาวเหยียด กว่าจะถึงคณะสถาปัตย์ก็เกือบๆยี่สิบนาที ผมจอดรถที่หน้าคณะ เห็นไอ้ฟิกนั่งจับกลุ่มอยู่กับพวกแก๊งค์เด็กปีหนึ่งที่ผมพอจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง มันหันมามองด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจ คว้ากระเป๋าแฟ่บๆมาจากโต๊ะ โบกมือลาให้น้องๆ ผมเห็นแล้วหมั่นไส้จึงแกล้งบีบแตรยาวๆ มันเดินเข้ามาใกล้ เข้ามานั่งในรถอย่างรวดเร็ว 

“จะบีบทำซากอะไรหลายรอบวะ”มันปิดระตูรถเสียงดัง หันมาทำหน้าหงิกใส่

“มัวแต่ชักช้าทำไมล่ะ”ไอ้ฟิก ย่นหน้า กวาดตามองรอบๆรถ สภาพด้านในไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่วนมากจะเต็มไปด้วยของ เบาะหลังมีพวกอุปกรณ์ก่อสร้างวางกองเต็มไปหมด

“รถมึงนี่เกินบรรยายจริงๆ”มันหัวเราะหึๆ

“นี่รถรับส่งระดับหัวหน้าเชียวนะ มึงควรภูมิใจที่ได้นั่ง”

“เป็นเกียรติมาก มึงนี่รั้นจริงๆ ไปช่วยงานพ่อมึงก็จบแล้ว ได้ยืนสั่งงานหล่อๆในออฟฟิศ”

“พ่อกูจ้างมึงมาเป่าหูกูรึเปล่าเนี่ย”ผมพูดขำๆ ไอ้ฟิกหันมาทำหน้าจริงจังใส่

“กูรู้ว่ามึงอยากพิสูจน์ตัวเอง กูไม่ห้ามหรอก แต่มึงควรจะห่วงสารรูปตัวเองบ้าง”ผมทำเป็นก้มมองตัวเอง

“หล่อเหมือนเดิม”

“มึงผอม”มันทำเสียงเหนื่อยหน่าย ผมถอนหายใจเซ็งๆ จริงอยู่แหละที่พักหลังผมค่อนข้างเครียดเรื่องงาน ผมทำได้แค่พึ่งตัวเอง แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้บ้างไม่ได้บ้าง ถ้าพลาดก็โดนด่า โชคดีที่บางครั้งพี่โอรับหน้าแทนผม เรื่องคุมคนงานผมก็ทำได้ไม่ค่อยดี มากคนก็ยิ่งเรื่องเยอะ จิตวิทยาก็สำคัญ และผมเองก็ไม่ถนัดไอ้เรื่องพวกนี้เลย หลังจากที่เรียนจบ ก็เหมือนว่าผมได้เริ่มชีวิตใหม่ด้วยขาของตัวเอง อะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนไปเยอะ ผมมีเรื่องให้คิดเยอะแยะไปหมด 

“กูจะบอกอะไรให้นะ เรื่องพ่อมึงน่ะ”ไอ้ฟิกทำเสียงมีลับลมคมในเหมือนรู้อะไรมา

“ทำไม”ผมตามน้ำทำท่าตื่นเต้นไปกับมัน

“เขาเป็นห่วงมึงนะ”ผมหลุดหัวเราะออกมาทันที 

“มึงพูดไปเรื่อย”


จากนั้นทั้งรถก็เงียบกริบ ผมขับรถกลับบ้านเงียบๆ ไอ้ฟิกเหมือนจะมีเรื่องอยู่ในใจ เห็นมันไม่พูดไม่จาไปตลอดทาง บ้านก็ยังเหมือนเดิม ยกเว้นพ่อขอให้พี่ภักย้ายเข้ามาอยู่ด้วย เหอะ ไม่รู้ว่าทำไปทำไม ตอนนี้พี่ภักยังไม่ได้ตำแหน่งใหญ่อะไร แค่เข้ามาช่วยดูแลบางส่วน ผมเคยบอกพ่อไปแล้วว่าขอเวลาสองสามปีแล้วจะกลับมาช่วยงาน แต่ก็เหมือนพูดให้รูปปั้นฟัง พ่อไม่ค่อยพอใจที่ผมทำงานให้บริษัทอื่น เรื่องนี้จึงเป็นประเด็นถกเถียงระหว่างผมกับพ่อเสมอ นี่คือเหตุผลหลักๆที่ผมไม่ค่อยอยากกลับบ้าน แต่เพราะห่วงแม่ ผมเลยเลือกกลับมาแค่ช่วงศุกร์เสาร์อาทิตย์ 

“ไอ้โด้โตแล้วนี่หว่า มันจะกัดกูไหมเนี่ย”ไอ้ฟิกทำลายความเงียบเมื่อผมเลี้ยวรถเข้ามาจอดในลาน มันมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ไอ้โดโด้หมาพันธ์โดเบอร์แมนที่ผมเคยเอามาเลี้ยง ตอนนี้ตัวใหญ่กว่าเดิมมาก และมันค่อนข้างดุกับคนแปลกหน้า ไอ้ฟิกเองก็ไม่ค่อยได้มาที่บ้านผมบ่อยๆด้วยเหมือนกัน

“มึงไม่ค่อยอาบน้ำ มันกัดไม่เข้าหรอก”

“สัดภู กูอาบตลอด ยกเว้นเวลาง่วงๆแล้วลืม”มันแก้ตัว ก่อนหนีลงจากรถ ไอ้โด้วิ่งเข้ามาหาพร้อมเห่าเสียงดัง โชคดีที่จำไอ้ฟิกได้ ป้าพิมพ์ได้ยินเสียงหมาเห่ารีบกระวีกระวาดออกมาดู พอเห็นว่าเป็นผมกับไอ้ฟิกก็ทำท่าโล่งอก

“คุณภูมาแล้วเหรอคะ นึกว่าจะไม่มาแล้วซะอีก”ป้าพิมพ์เข้ามากอดผมพร้อมหอมแก้มฟอดใหญ่ ผมทำตัวไม่ถูกเพราะไอ้ฟิกมองอยู่ ดูมันจะขำ

“พอดีวันนี้งานเสร็จช้าน่ะครับ”ป้าพิมพ์ย่นหน้า หันไปหาไอ้ฟิกบ้าง

“ไม่ได้เจอเรานานเลย เหมือนมีเนื้อมีหนังขึ้น ไม่เหมือนคุณภูเลย เข้าไปด้านในกันเถอะค่ะ ตอนนี้คุณท่านกำลังเตรียมโต๊ะอาหารอยู่”ป้าพิมพ์รุนหลังให้ผมเข้าไปในบ้าน ก่อนจะบ่นพึมพำถึงเรื่องน้ำหนักของผมอีกหนึ่งรอบ 

“พึ่งเลิกงานเหรอภู”พี่ภักทัก เหมือนกำลังออกไปข้างนอก

“ครับ พอดีแวะไปรับไอ้ฟิกมาด้วย”ผมพยักหน้าไปทางไอ้ฟิก มันเดินหายเข้าไปในครัวก่อนผมอีก แปลกเหมือนกันปกติมันจะเกร็งๆเวลามาบ้านผม

“อ้อ เสียดายพี่มีธุระพอดี มีเรื่องอยากคุยกับภูเยอะเลย”พี่ภักตบบ่าผมสองสามที

“ไปหาสาวเหรอ”ผมแซวไปงั้นแหละ เพราะไม่เห็นพี่ภักจะสนใจมีแฟน เอาแต่ทำงานงกๆ 

“บ้าเหรอ”พี่ภักหัวเราะ ก่อนจะขอตัวออกไป สงสัยพี่เขาคงไม่อยากมาแทรกเวลาครอบครัวล่ะมั้ง ผมกะจะแวะเข้าไปในครัวบ้าง แต่ได้ยินเสียงโทรทัศน์แว่วมาจากในห้องนั่งเล่น ผมยิ้มเข้าไปกวนประสาทคนแก่ดีกว่า จึงเปลี่ยนโผล่หน้าเข้าไปในห้อง ชายที่ดูแก่กว่าวัยไม่ได้ดูโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้ แต่ยืนมองปลาในตู้กระจก สองมือไพล่หลัง พ่อก็ยังเหมือนเดิมยกเว้น หงอกบนศีรษะที่พอมองเห็นได้ประปราย ผมเคาะผนังห้องเบาๆ 

“พ่ออารมณ์ไม่ดีเหรอ”ผมถามยิ้มๆ เวลาที่ท่านหงุดหงิดจะชอบยืนมองอะไรนานๆเพื่องบอารมณ์ อีกฝ่ายไม่ได้หันมามอง ยังคงจ้องไอ้ปลาโง่ๆนั่นต่อ ผมพ่นลมหายใจฉุนๆ 

“แม่แกลงทุนเข้าครัวกับข้าวให้ไอ้เด็กแถวนี้กิน ห้ามแล้วก็ไม่ฟัง”ท่านพูดเบาๆแต่ยังไม่ได้หันมามอง

“ให้แม่ออกกำลังบ้างเถอะครับ อยู่เฉยๆท่านคงเบื่อ”ผมเข้ามานั่งที่โซฟา คว้ารีโมทหาช่องสนุกๆดู

“แกเห็นสารรูปของตัวเองบ้างรึเปล่า”นั่นไง ว่าแล้วเชียวต้องวกกลับเรื่องงานของผม พ่อหันมามองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ยังหล่อเหมือนเดิม”ผมกวนประสาทกลับ

“เหอะ!”ท่านคว้ารีโมทไปจากมือ จากนั้นหน้าจอโทรทัศน์ก็ดับมืด พร้อมความเงียบเข้ามาแทนที่   

“พ่อ…ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ให้ผมได้ทำตามใจตัวเองเถอะ ไหนเคยสัญญากับผมแล้วไงว่าจะให้ผมทำตามที่ใจอยากก่อน รออีกสองสามปีไม่ได้หรือไง”ผมพูดโดยไม่มองหน้าพ่อ เลยไม่เห็นว่าท่านทำสีหน้าแบบไหน

“ฉันไม่เข้าใจว่าแกจะทรมานตัวเองไปทำไม มีตำแหน่งดีๆรอแกอยู่ แต่กลับเลือกวิศวกรสนามเนี่ยนะ”

“แล้วไม่ดีตรงไหน ใครๆก็เริ่มจากจุดนี้ทั้งนั้น”ผมพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด ถึงมันจะจริงก็เถอะ ตำแหน่งของผมไม่ได้ดีไปกว่าโฟร์แมนเลยด้วยซ้ำ หรืออาจจะเท่าๆกัน แต่งานแบบนี้ไม่ได้วัดกันที่ตำแหน่ง วัดที่ประสบการณ์ และผมเองก็ตั้งใจไว้แล้ว ตั้งแต่ที่เข้าไปทำงานวันแรกแล้วทำได้แค่เดินเกะกะชาวบ้านเขา วินาทีนั้นผมยอมทิ้งอีโก้ของตัวเองเพื่อเรียนรู้งานจากรุ่นพี่อย่างตั้งใจ ถึงแม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเป็นแค่ช่างก่อสร้างตำแหน่งเล็กๆก็ตาม     

“แกก็รู้ว่าตัวเองควรอยู่ตำแหน่งไหน”

“ผมไม่ทิ้งบริษัทพ่อหรอก ผมอยากเริ่มต้นด้วยตัวเองก่อน พ่อน่าจะเข้าใจดีนะครับว่าสายงานนี้ประสบการณ์เป็นเรื่องสำคัญ พ่อจะให้ผมไปนั่งสั่งงานทั้งๆที่ผมไม่เข้าใจเนื้องานไม่ได้หรอก คนเขาจะหัวเราะเยาะเอา ผมไม่อยากมีตำแหน่งสูงๆแต่สมองกลวง”ผมไม่อยากถูกคนอื่นมองว่าได้งานเพราะนามสกุลของพ่อ แค่ที่ไซต์งานผมก็อึดอัดมากพอแล้ว

“ฉันเข้าใจระบบงานดีว่าควรเริ่มตรงไหน ใช่ว่าฉันจะส่งแกไปลุยงานเลยเสียเมื่อไหร่ ฉันต้องให้แกดูงานก่อนอยู่แล้ว มีภักดีคอยช่วยแกจะกลัวอะไร แล้วอีกอย่างฉันก็เชื่อใน…”ท่านหยุดกะทันหัน ก่อนจะเอื้อมหยิบน้ำมาดื่มแทน 

“ผมยังไม่พร้อม ให้พี่ภักดูไปก่อน”ถึงผมจะไม่ซีเรียสเรื่องบริษัท แต่ก็รู้สึกข่มขื่นแปลกๆ ผมเบนสายตาไปที่มุมห้อง เห็นกรอบรูปในตู้โชว์ เป็นรูปเมื่อหลายปีก่อน ผมยืนอยู่ตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่ ใบหน้ากระจ่างไปด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา แววตาของแม่เปี่ยมสุขและพ่อดูภูมิใจเสียจนเหมือนหัวโตกว่าตัว เป็นรูปสมัยที่ผมยังเป็นเด็กดี เป็นน้องภูของแม่ เป็นเจ้าภูของพ่อ จู่ๆผมก็รู้สึกว่าเวลามันช่างผ่านมานานแล้ว นานจนผมลืมไปแล้วว่ารูปนั้นถ่ายตอนไหน เมื่อไหร่ จู่ๆเหมือนมีก้อนแข็งๆมาจุกที่อก ผมนึกถึงเรื่องเมื่อตอนนั้น ตอนที่ผมทำให้ความเชื่อใจของพ่อพัง พ่อพูดคำๆหนึ่งออกมา และเหมือนคำนั้นจะติดอยู่ในใจของผมตั้งแต่นั้นมา   

“พ่อยังเกลียดผมรึเปล่า”ผมถามเบาๆ

“พูดอะไรของแก”

“ก็ตอนนั้นไง ตอนที่เกิดเรื่อง พ่อบอกว่าเกลียดผม”ผมรับรู้ได้เลยว่าบรรยากาศในห้องเปลี่ยนไป ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ผมยังคงจ้องกรอบรูปใบนั้นอยู่เหมือนเดิม จำได้แล้วว่าภาพถ่ายตอนไหน เป็นตอนที่ผมอยู่ม.หนึ่ง แล้วสอบวัดความรู้ได้อันดับสองของจังหวัด ผมยิ้มออกมาเมื่อจำได้ว่าวันนั้นที่บ้านถึงกับจัดงานเลี้ยง   


“…เรื่องมันก็ตั้งนานแล้ว”พ่อหยุดพูดไปดื้อๆอีกครั้ง ก่อนกระแอมเบาๆแล้วพูดต่อ

“ไอ้เรื่องงานของแกน่ะ ฉันก็แค่เป็นห่วง เห็นแกทำงานงกๆแต่ยังอยู่แค่ขั้นทดลองงานเนี่ยนะ หึ”เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง จนเมื่อพ่อขยับตัวลุกจากโซฟา ท่านเดินผ่านผมไปพร้อมเสียงบ่นพึมพำเบาๆ 

“สงสัยฉันคงตายไปก่อนทันเห็นแกได้ดีล่ะมั้ง”

ผมอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็หุบปากฉับตามเดิม ถอนหายใจเบาๆกับตัวเอง ระหว่างพ่อกับผมคงดีได้แค่นี้นั่นแหละ ผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา ตอนแรกคิดว่าไอ้ฟิก แต่กลับเป็นแม่ ท่านยังดูมีน้ำมีนวลอยู่ แต่แววตาไม่ค่อยสดใส ทำให้ผมกังวลใจทุกครั้ง

“ผมกำลังออกไปพอดีเลย”

“ทะเลาะกับพ่ออีกแล้วเหรอภู”แม่เข้ามานั่งข้างๆ ดึงมือไม่ให้ผมเดินหนี แววอ่อนล้าปรากฏอยู่บนหน้า

“แม่ไปให้หมอตรวจอีกดีไหม ผม…”

“แม่ไปตรวจอยู่ตลอดนั่นแหละ ก็แค่เบาหวาน”ผมยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี หรือผมควรย้ายมาอยู่ที่บ้าน จะได้โล่งใจ

“แม่ไม่อยากให้เราทะเลาะกับพ่อบ่อยๆเลย ไม่เหนื่อยหรือไง”   

“เปล่าครับ แค่แลกเปลี่ยนความคิดกันเฉยๆ”ถ้าแม่เชื่อก็บ้าแล้ว 

“แม่ไม่อยากให้ภูกลับมาบ้านแล้วเจอเรื่องไม่สบายใจ แล้วพ่อเราก็รู้ๆอยู่ว่าเป็นยังไง เราก็ไม่ยอมลงให้พ่อด้วยเหมือนกัน  ถ้ากลับมาบ้านแล้วทำให้ภูไม่สบายใจ แม่ก็ไม่อยากให้ภูมา”

“ผมไม่ได้ลำบากอะไรสักหน่อย”ผมเริ่มใจเสีย

“คราวหลังผมจะพยายามไม่กวนประสาทพ่อก็แล้วกัน”   

“แม่ไม่ได้หมายความในทางไม่ดี แค่อยากให้ภูไม่เครียด มีเรื่องเยอะแยะไปหมดอยู่ในหัว เราไม่เหนื่อยหรือไง”แม่เอื้อมมือมาลูบ
หน้าผากของผมเบาๆ ผมไม่ได้ตอบ แค่ทิ้งตัวพิงโซฟา มีเรื่องหลายเรื่องที่อยาก แต่การเปิดใจกับครอบครัว มันยากเกินไปสำหรับคนอย่างผม

“ถึงพ่อจะชอบด่าผม แต่ผมก็ยังอยากกลับบ้านอยู่ดี”ผมหลับตาพึมพำ อย่างน้อยผมก็ยังรู้สึกว่ามีที่พึ่ง มืออุ่นๆของแม่วางอยู่บนไหล่ 

 “ผมรู้ว่าพักหลังๆพ่อเครียด ผมเลยมาคลายเครียดให้พ่อไง”พ่ออาจมีเรื่องอยู่ในใจ ถ้าด่าผมแล้วได้ระบายก็เชิญทำไปเถอะ  ผมอาจจะรำคาญอยู่บ้าง แต่อีกสองสามชั่วโมงก็หาย หรือเพราะความสัมพันธ์ของผมกับพ่อเป็นแบบนี้มาตลอด ถ้าไม่ได้ด่า พ่อคงเหงาปาก

“เรานี่นะ…เมื่อไหร่จะโตสักที”เสียงพึมพำของแม่ทำให้ผมลืมตา

“ผมโตแล้ว มีเงินเดือนของตัวเองแล้วด้วย”ผมทำเสียงจริงจัง แต่แม่กลับหัวเราะซะงั้น   

“จ้ะ โตก็โต หิวหรือยัง แม่ทำของโปรดให้เราเยอะเลย”

ผมออกมากับแม่ ที่โต๊ะอาหารไอ้ฟิกกำลังพยายามหาเรื่องคุยกับพ่ออยู่ ท่าทางดูกระอักกระอ่วน พอมันเห็นผมออกมามันก็โล่งอก เหมือนได้ปาระเบิดทิ้ง กับข้าวบนโต๊ะมีแค่ไม่กี่อย่าง ส่วนใหญ่ก็ของชอบของผม พ่อพับหนังสือพิมพ์เก็บเมื่อเห็นผมกับแม่มาที่โต๊ะ สีหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมตักข้าวให้ทุกคนเสร็จก็ย้ายมานั่งข้างๆไอ้ฟิก

“ปล่อยให้กูตกที่นั่งลำบากตั้งนาน”มันพึมพำเบาๆ ระหว่างที่ตักต้มจืดใส่จานตัวเอง มื้อนั้นผ่านไปเงียบๆ นานๆครั้งไอ้ฟิกจะพูดโพล่งชมฝีมือของแม่ ผมสังเกตว่าแม่เหมือนไม่ค่อยอยากอาหารจนผมพลอยกลืนไม่ลงไปด้วย ยังดีที่มีไอ้ฟิกนั่งอยู่ข้างๆ ไม่งั้นผมคงลุกหนีไปแล้ว







****************************************************







สองเดือนผ่านไป ผมปรับตัวกับที่ทำงานได้แล้ว ถึงผมกับไอ้เต้จะผ่านโปรแล้ว แต่ผมกับมันก็มาที่ไซต์งานก่อนเวลาเข้างานตลอด เพราะไม่อยากให้งานพลาด ผมยังคงทำตัวเหมือนเดิม วันศุกร์เสาร์อาทิตย์กลับไปค้างที่บ้าน วันไหนว่างก็ไปค้างที่ไอ้ฟิก วันไหนยุ่งจัดจนลืมกินข้าวแค่เห็นชื่อไอ้ฟิกอยู่โทรมาผมก็ดีใจแล้ว

วันนี้มีประชุมกับผู้รับเหมาและผู้คุมงานและสถาปนิกที่รับผิดชอบแบบ แรกๆผมไม่ได้ใส่ใจรายชื่อผู้รับผิดชอบโครงการ แต่พอมาเห็นชื่อสถาปนิกเข้าก็อดแปลกใจไม่ได้เพราะคนที่เป็นเจ้าของงานคือไอ้พิสนั่นเอง อีกฝ่ายไม่แปลกใจสักนิดที่เห็นผมอยู่ในที่ประชุมด้วย 

“ผมคิดว่าค่อนข้างมีปัญหาในการวางสลีฟ บล็อคเอาท์…”ผมเริ่มถกปัญหาที่จะเกิดขึ้นหากไม่แก้แบบงานโครงสร้างบางส่วน อาจทำให้มีปัญหาในการวางพวกระบบท่อน้ำ ท่อลม ท่อร้อยสายไฟฟ้าต่างๆเพราะขอจำกัดของพื้นที่ ไอ้พิสหันไปปรึกษากับหัวหน้าโปรเจค ผมอดชื่มชมอยู่ลึก ๆ มันดูต่างจากเวลาปกติมากๆ เหมือนคนละคน มีความสุขุมและดูไม่เจ้าอารมณ์ กว่าจะได้ข้อสรุปก็ผ่านไปนานโข ผมฟังพวกหัวหน้าคุยเรื่องงบไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ฟังแค่ส่วนรับผิดชอบของตัวเองก็พอ หลังจากจบการประชุมพี่โอก็เข้ามาคุยคนแรก     

“แกพอจะทำงานแทนฉันได้แล้วนะเนี่ย”พี่โอตบบ่าผมแรงๆ สีหน้าดูพอใจกับการประชุมวันนี้

“ผมไม่ได้ครึ่งของพี่หรอก”รู้สึกภูมิใจอยู่เหมือนกันที่โดนชม

“ไม่ต้องมาถ่อมตัว รู้ไหมตอนที่แกเข้ามาตอนแรก ๆ ฉันล่ะยังแปลกใจที่แกเลือกมาทำไซต์งานนี้ ยังคุยกับพวกช่างอยู่เลยว่าแกคงทนได้ไม่นานหรอกแต่วันนี้ฉันเชื่อแล้วว่าแกทำได้”ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี จะยืดมากก็ไม่ได้อีก

“ต่อจากนี้แกคงแบ่งเบางานให้ฉันได้บ้างแล้วนะไอ้น้อง”พูดจบพี่แกก็ออกไปเตรียมงานต่อ

“ไม่คิดว่าคนอย่างภูจะทำงานเป็น”ไอ้พิสทัก ผมหันไปมองอีกฝ่ายที่หอบแฟ้มงานออกมาสีหน้าดูเซ็งๆที่ได้งานเพิ่ม

“ชมหรือประชด”ผมเห็นหน้ามันแล้วหงุดหงิดทุกที คงเพราะดันไปนึกถึงเรื่องเก่าๆล่ะมั้ง

“แล้วแต่จะคิด”มันไหวไหล่ ผมยังไม่ได้ย่างเท้าไปไหน เจ้าของโปรเจคก็เดินเข้ามาใกล้แล้ว จะเดินหนีก็ไม่ได้ ผมยิ้มทัก

“ไงเรา ไม่คิดว่าลูกชายของภิภพจะทำงานเป็นด้วย”ผมหุบยิ้มฉับทันทีเมื่อได้ยินชื่อพ่อตัวเองมาเอี่ยว

“ผมขอตัว”ผมรีบหมุนตัวออกมาทันที ผมหงุดหงิดทุกครั้งที่ถูกเอาไปพูดทำนองนี้ เมื่อก่อนผมเฉยๆกับพี่ภัก แต่พักหลังผมถูกดึงไปเปรียบเทียบมากขึ้น ประมาณว่าผมไม่ได้เรื่องเสียจนต้องให้ญาติมาคุมงาน ผมเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองอิจฉาพี่ภักก็วันนี้แหละ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมอยากไปแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกับพี่ภัก และผมเชื่อว่าพี่เขาไม่มีความคิดแบบนี้แน่นอน ผมมั่นใจ

 

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 17-06-2016 09:15:33

ช่วงที่แก้เนื่องจากต้องแก้แบบโครงสร้างระบบคานใหม่ งานก่อสร้างจึงชะลอไปบางส่วน แต่ก็ยังต้องทำงานส่วนอื่นต่อไป โชคดีที่ผมยังมีพื้นวิชาดรออิ้งกับเขียนแบบอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นคงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ทันการณ์ ความสัมพันธ์กับคนในไซต์ก่อสร้างดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกเย็นผมถูกลากไปดื่มเหล้ากับพวกช่าง ต้องดื่มอย่างน้อยสองแก้วถึงจะขอตัวกลับได้  ชีวิตการทำงานของผมกำลังดีขึ้นเรื่อยๆแต่ความสุขมักจะอยู่ได้ไม่นาน


คืนนั้นผมอยู่ทำสรุปแผนงานครั้งสุดท้ายก่อนปิดโปรเจ็คที่ไซต์ก่อสร้างจนดึกดื่น จ้องคมจนตาลายเห็นตัวเลขในจอไม่ชัด ผมก็รู้ตัวว่าต้องพัก ผมออกไปรับลมเย็นๆด้านนอก รอบตัวเงียบสงัด มีเพียงแสงไฟลางๆมาจากแคมป์คนงาน เมื่อร่างกายกลับมาตื่นตัวเต็มที่ผมจึงกลับเข้าไปทำงานอีกครั้ง เหลือบมองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างแปลกใจ มีสายเข้าจากไอ้ปาเกือบๆหกสาย ผมขมวดคิ้วยังไม่ทันได้ขยับตัวเสียงฝีเท้าหนักๆก็ดังมาจากด้านนอก ประตูสำนักงานเปิดออกเสียงดังปัง

“ไอ้ฟิก”ผมเรียกอย่างงุนงงเมื่อเห็นมันยืนหอบแฮ่กๆอยู่หน้าประตู คำถามเต็มไปหมด มันมาได้ไง แล้วทำไมสีหน้ามันดูไม่ค่อยดี

“มึงมี--”

“มากับกูก่อน”ไอ้ฟิกไม่รอให้ผมพูดจบ มันคว้าข้อมือผมได้ก็ฉุดกระชากผมออกมาด้วยแรงอันมหาศาลจนผมคาดไม่ถึง นิ้วมือของมันเย็นเฉียบและมีเหงื่อออก

“มึงเป็นอะไรไอ้ฟิก”มันไม่ได้ตอบคำถาม แต่รีบลากผมไปที่รถเบ๊นซ์คุ้นตาที่ติดเครื่องอยู่ เห็นลางๆว่าไอ้ตินอยู่ในรถ

“มึงมีอะไร โทรศัพท์กูอยู่ด้านใน เมื่อกี้ไอ้ปาโทรมา…”ปกติไอ้ปาไม่ค่อยได้โทรมาหา ถ้ามันมีเรื่องมันจะมาเจอผมด้วยตัวเอง

“มึงอย่าเพิ่งถาม มากับกูก่อน”ไอ้ฟิกหันมามองหน้าผม สีหน้าของมันเผือดซีด น้ำเสียงไม่ค่อยดี ทำให้ผมเริ่มใจเสีย

“ไม่ มึงบอกมาก่อนว่ามีอะไร ไม่งั้นกูไม่ไปไหนทั้งนั้น”ผมดึงมือออกมาจากการเกาะกุมของมันได้ภายในครั้งเดียว ผมใจเต้น
กระหน่ำ ไม่รู้ทำไมถึงสังหรณ์ไม่ดีเอาซะเลย ผมจ้องมันด้วยสายตาจริงจัง มันกัดริมฝีปากแน่น เหมือนสับสนและไม่กล้าพูด เสียงปิดประตูรถดังปังไอ้ตินลงมาจากรถ

“ไปด้วยกันก่อนแล้วผมจะบอก”มันดูสงบอย่างน่าแปลก ยิ่งทำให้ผมใจเสียเวลาที่มีเรื่องมันมักจะเป็นแบบนี้

“แล้วเป็นเหี้ยอะไรถึงบอกตอนนี้ไม่ได้”ผมเดินไปที่รถกระบะ ควานหากุญแจรถ แต่ก็ไม่เจอ ผมสบถอย่างหงุดหงิด นึกได้ว่าวางไว้ในห้อง ไอ้ตินเข้ามาคว้าแขนของผมก่อนออกแรงลากไปที่รถ

“ไปโรง’บาล แม่พี่…แม่พี่อาการไม่ค่อยดี”ทันทีที่ไอ้ตินพูดจบ ผมเหมือนโดนตีเข้าที่หัว มึนงงและว่างเปล่า ไอ้ฟิกดึงผมเข้าไปใน
รถอย่างง่ายดาย จนเมื่อไอ้ตินเริ่มออกรถ ผมถึงมีสติอีกครั้ง

“มึงขับเร็วๆหน่อยได้ไหมวะ”ผมอยากเข้าไปกระชากไอ้ตินออกแล้วขับเองซะเดี๋ยวนี้เลย ไอ้ตินไม่ได้ตอบอะไร ผมจึงหันมองนอกหน้าต่างแทน ทุกอย่างเลือนราง ไม่รู้ว่าเพราะไอ้ตินขับรถเร็วเกินไปหรือเพราะผมใกล้จะร้องไห้กันแน่ เวลาผมร้องไห้มันน่าขำออก ไอ้ฟิกเคยเห็นไปแล้วรอบหนึ่ง และผมไม่มีทางให้มันเห็นเป็นครั้งที่สองแน่ 

“มึง…ทำไมไม่บอกกูเร็วกว่านี้”

“มันไม่ทันแล้ว ภู”มันไม่ได้พูดต่อ ยิ่งทำให้ผมกลัวมากกว่าเดิม ผมอยากถามต่อว่าแม่เป็นยังไง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของไอ้ฟิก ผมก็รู้คำตอบได้ในทันที เหมือนมีลมหนาวพัดมาใส่จนเย็นเฉียบไปทั้งตัว ผมมองหน้ามันอีกครั้ง เพื่อให้มันแย้งอะไรออกมาบ้าง แต่มันก็ไม่พูดซ้ำยังทำหน้าจะร้องไห้จนผมปวดใจแปลบๆ

ในรถเงียบกริบได้ยินแค่เสียงแอร์หึ่งๆ จนผมไม่รู้ว่าตัวเองผ่านช่วงเวลาที่เงียบและนานขนาดนี้มาได้ยังไง สุดท้ายเมื่อรถจอดสงบอยู่ที่ลานจอดรถในโรงพยาบาล แต่ผมกลับไม่กล้าลงจาก อยากให้มันวิ่งนานกว่านี้ซักหน่อย   

“ไอ้ภู”ไอ้ฟิกกระตุกมือผมเบาๆ ผมหลับตาเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากมัน 

“กูยังไม่อยากไป มึงออกไปก่อนเถอะ”ผมพึมพำตอบ หันมองนอกหน้าต่าง เพราะไม่อยากให้มันเห็นสีหน้าของผม 

“มึงมากับกู”ฝามือของมันบีบไหล่ของผมเบาๆ ผมทำได้แค่ส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าผมจะกล้ามองแม่ในสภาพนั้นได้หรือเปล่า   

“กูขออยู่คนเดียว”ผมยังคงมองออกไปด้านนอก ในใจภาวนาให้พวกมันสองคนลงจากรถซักที ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว ผ่านไปสักพักจนเมื่อไอ้ตินกับไอ้ฟิกลงไปจากรถ ประตูปิดดังปัง และผมอยู่คนเดียวอย่างที่ต้องการ มองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก เห็นเพียงใบหน้าเผือดซีดบิดเบี้ยวเพราะพยายามข่มความรู้สึกไว้ไม่ให้ทลายออกมา แต่สุดท้ายก็กลั้นไม่ไหว ปั้นหน้าเข้มแข็งไม่ได้อีกแล้ว ผมปล่อยให้ไหล่ตกอย่างสิ้นหวัง รู้แค่ว่าผมปล่อยให้ตัวเองร้องไห้เหมือนเด็กๆ

เหมือนตอนที่ผมหกล้มเข่าแตก ตอนนั้นพ่อไม่ยอมเข้ามาปลอบ ปล่อยให้ผมร้องไห้โยเยเสียงดังจนแม่ต้องเข้ามาปลอบแทน ผมมีแค่แม่ที่เข้าใจ  รสชาติฝาดๆของน้ำตาน้ำมูกไหลเข้าปากทำให้ผมหัวเราะเหมือนประสาทเสีย พยายามสงบสติอารมณ์ เห็นเลือนลางผ่านม่านน้ำตาว่าไอ้ฟิกหันมามองที่รถหลายรอบแล้ว แต่สภาพของผมตอนนี้ไม่น่าดูเลยจริงๆ ผมใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำมูก รอให้น้ำตาแห้ง รอให้ตัวเองพร้อมไปเจอความจริงว่าแม่ไม่อยู่แล้ว ผมนั่งหลับตา ปล่อยให้เวลาผ่านไปสักพัก ได้ยินเสียงประตูรถเปิดออก ผมจึงลืมตาขึ้นอีกครั้งเห็นไอ้ฟิกยืนอยู่ตรงหน้า

“มาเถอะ”มันพูดแค่นั้น ผมสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะก้าวลงจากรถ ไอ้ฟิกคอยดึงให้ผมเดินตาม ไอ้ตินเดินนำไปตามทางเดินโล่งๆ ทุกอย่างเหมือนความฝัน และผมก็แค่เดินละเมอเท่านั้น ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาถึงเตียงผู้ป่วยตอนไหน เหมือนเหลือแค่ผมกับแม่ที่นอนสงบอยู่บนเตียง เหมือนท่านแค่หลับลึก แต่ผมรู้ดีว่าแม่ไม่มีวันตื่น หลอกตัวเองไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ผมยื่นมือไปแตะหลังมือเย็นเฉียบของแม่ ดูเหมือนว่าแม่จะเสียได้สักพักแล้ว 

ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ผมร้องไห้มาพอแล้ว และจะไม่ร้องอีก ผมกระพริบตามองรอบตัว พ่อไม่อยู่ มีแค่ไอ้ปา กับไอ้เนม ไอ้ตินกับไอ้ฟิกก็ไม่อยู่ ผมกระแอมเพื่อเรียกเสียงตัวเองกลับมา

“มึงโทรหากูเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม…”ไอ้ปาพยักหน้าตอบ ดูเหมือนมันจะรู้เร็วกว่าผมอีก ยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่

“มึงไม่ต้องคิดมากหรอก”ผมนั่งมองหน้าพวกมันสองคนเงียบๆ อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆแม่จะเป็นแบบนี้ได้ยังไง

“หมอบอกว่าแม่มึงมีอาการหลอดเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน โรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน ตอนเกิดอาการช่วยไว้ไม่ทันเพราะมาถึงมือหมอช้า”ไอ้เนมบอกเบาๆ

ผมเบนหน้าออกจากเตียงผู้ป่วย รู้สึกเศร้าใจกับความจริงที่ว่าไม่มีใครอยู่กับแม่ในตอนนั้น พ่อก็คงทำงานที่อีกห้องหรือไม่ก็อยู่ที่บริษัท แต่เรื่องนี้ผมไม่โทษพ่อหรอก เพราะแค่นี้พ่อก็ทุกข์ใจมากพอแล้ว ครั้งนี้แม่ทำให้ผมฉุกคิดได้ว่าควรทำดีกับพ่อมากกว่านี้ พ่อเองคงทำใจยาก การอยู่บ้านหลังใหญ่คนเดียวคงไม่ใช่เรื่องง่าย ผมตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะย้ายมาอยู่กับพ่อสักพัก  หากเกิดอะไรขึ้นมา ผมจะได้ไม่ต้องมาเศร้าใจทีหลัง



 
 
TBC.

ขอตัดจบแค่ตอนนี้ก่อน เพราะถ้าเขียนต่ออารมณ์(ของเรา)จะยิ่งหม่นไปใหญ่ ซึ่งเราไม่รู้จะเขียนตอนนี้ออกมายังไงดี
กรี๊ดดด T^T ไม่ถนัดเขียนอะไรแบบนี้จริงๆ อาจออกมาไม่ค่อยดี หรือขัดอารมณ์ไปบ้าง  :z6:

ป.ล. ขอโทษภูด้วยชีวิตแกดราม่ามากก :hao5:

แล้วเจอกับตินในตอนหน้าค่ะ
 
 
 
 

หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 17-06-2016 13:27:16
 :hao5: :hao5: :hao5:
พี่ภู TwT
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-06-2016 13:31:59
 :L1:  พี่ภู
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 17-06-2016 14:47:38
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 17-06-2016 15:34:12
ฮือออออออออ อย่างเศร้า  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-06-2016 15:45:33
 :sad11: :sad11: :sad11: :sad11: :sad11:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: NUBTANG ที่ 17-06-2016 15:50:44
มาซะเศร้าเลย ภู ฮืออออ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 17-06-2016 17:23:51
เฮียภู สู้ๆ เป็นกำลังใจ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: asakurafy ที่ 17-06-2016 17:56:00
 :m15: ชีวิตพี่ภูจะเศร้าไปไหน ฮือ...ฮืออออ(ค้างอ่ะ)
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 17-06-2016 19:40:00
แง้ กอดพี่ภู ชีวิตพี่นี่ดราม่าไม่ได้หยุดเลยจริงๆนะ เข้มแข็งนะคะพี่
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: yunghanna ที่ 17-06-2016 22:19:20
พี่ภู  :hao5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 18-06-2016 10:06:58
หนูฟิกน่ารักกกกก แหมมมมมม
ทำให้พี่ๆทั้งสองด้วย น่ารักกว่าเดิม
แต่ตอนล่าสุดที่แม่พี่ภูเสีย
โคตรเศร้าอ่ะ ร้องไห้เลย
พี่ภูเป็นคนเข้มแข็ง พออ่อนแอแล้วมันน่าสงสารมากกกก
หวังว่าตอนหน้าหนูฟิกจะปลอบใจพี่ภูได้
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 18-06-2016 11:09:13
โธ่ ภู
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 18-06-2016 12:59:02
เศร้าจัง  :hao5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 18-06-2016 14:51:44
รักฟิก 3p
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: Aueizii ที่ 08-08-2016 05:20:37
รอ รอ พาร์ทติน  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: ployspy ที่ 09-08-2016 22:42:58
ชอบค่ะ ติดตามมาตั้งแต่ภาคแรก
ตกใจเหมือนกันว่าเอะมีอีกภาคด้วย
อาจไม่ค่อยได้เข้ามานานก็ได้ 5555
แต่ยังคงครบรถเหมือนเดิมเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 17-08-2016 10:50:57
ก่อนอื่นขอโทษด้วยจ้า ที่ไม่ได้เข้ามาอ่านเลย ทั้งที่ขอตอนแม่พี่ภูเสีย แต่วันนี้มาเม้นท์ก็ต้องบอกขอบคุณมากกกกกกกกกกกก ที่เขียนให้อ่านค่ะ พออ่านแล้วตอนแรกยังฟินๆ ซึ้งๆ กับสามหน่อที่เขาปรับตัวใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เป็นการพัฒนาความรักที่สื่อให้เห็นได้ขัดเจนมากๆ รักสามหน่อมากๆ  :กอด1:  แต่พอตอนแม่พี่ภูเริ่มป่วย พี่ภูทำงานหนักเพื่อพิสูจน์ตัวเอง รู้สึกสงสารเห็นใจเลย พอแม่เสีย พี่ภูกลับไม่มีโอกาสได้ไปดูใจ ได้ไปเห็นแค่หน้า ลูกผู้ชายต่อให้เข้มแข็ง เกเร ดื้อรั้นยังไง แต่กลับผู้หญิงสำคัญที่สุดในชีวิตที่เรียกว่า "แม่" จากไป ก็ต้องหลั่งน้ำตาจนได้ น้ำตาซึมเลยกับตอนนี้ของพี่ภู  :mew6: แต่ยังดีที่มีฟิกและติน คอยอยู่เคียงข้าง คอยให้กำลังใจ ปลอบโยน ต้องผ่านไปด้วยดีได้แน่นอน จะรอตอนต่อนะคะ ถ้าว่างมาเขียนต่อนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[SP1 ภูผา] 17-06-59 P.45
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 17-08-2016 21:16:17
การสูญเสียคนที่เรารัก  มักทำใจลำบาก  สงสารภูอ่ะ    :m15:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน[cut] แฉ?10/9/59
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 10-09-2016 09:47:13


****เนื้อหาบางส่วนจากในเล่ม****







ผมนัดรวมตัวกับเพื่อนกลุ่มเดิมที่บ้าน ประกอบไปด้วยไอ้เคน ไอ้ชาย(ที่หักใจไม่ได้เอาลูกสาวมาด้วย) ไอ้เนม พี่ปา พี่เบลล์ และพี่เปาเพื่อนต่างรุ่นของไอ้ภูที่มันยอมให้มาด้วย ที่เหลือคือตามตัวไม่เจอ ไอ้ตินติดต่อไอ้ชัยไม่ได้มาสามเดือนแล้ว ผมกลัวมันจะคิดสั้นเรื่องพี่อันอยู่เหมือนกัน แต่คิดว่ามันคงไม่บ้าขนาดนั้น ถึงจะเหม็นหน้ามันแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้

จุดมุ่งหมายของพวกผมคือทะเลใต้ อำเภอขนอม นครศรีธรรมราช ความจริงก็เล็งไว้หลายที่แต่เนื่องจากเลือกกันไม่ได้จึงใช้วิธีจับฉลากเอาแทน หวยเลยมาออกที่นี่แหละ คนเสนอคือพี่ปา เจ้าตัวเคยมากับแฟนเมื่อหลายปีก่อน

“รถตู้ของใครวะ”ผมถามไอ้ภูเมื่อเช้าวันรุ่งขึ้นเห็นรถตู้สภาพพอใช้ได้จอดอยู่หน้าบ้าน ไอ้ตินกำลังจัดการล็อคประตูบ้าน

“เพื่อนไอ้เนม”ไอ้ภูตอบ รอยยิ้มที่มุมปากบ่งบอกว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้น ผมทำตาโต แต่มันยกนิ้วแตะปากผม

“ความลับ”ยิ่งมันพูดแบบนี้ ผมยิ่งอยากรู้ ไอ้ภูออกไปคุยกับไอ้เนม พี่ปาเป็นคนขับจำเป็นเพราะชำนาญทาง เหมือนว่าพี่ปาจะไปรับคนอื่นมาหมดแล้ว ผมหันมองไอ้ตินที่ขนกระเป๋าสองลูกออกมาให้

“เห็นว่าเพื่อนชื่อคิง”ไอ้ตินกระซิบบอกเบาๆอย่างมีเลศนัย

“อ๋อ…”เสียดายที่ผมไม่มีโอกาสได้เห็นเพื่อนคนนี้ของไอ้เนม ผมเดินตัวปลิวเข้าไปในรถที่มีกลิ่นบุหรี่ ผมมองหน้าไอ้เคนเป็นคนแรก จากสายตาวันนี้เกือบทุกคนใส่เสื้อมัดยอมสีช้ำเลือดช้ำหนองที่ผมกับพวกไอ้เคนเคยทำขายเมื่อตอนปีสี่ คนที่ไม่ใส่คือไอ้ภูกับพี่เบลล์

“พี่เบลล์เป็นไงบ้างล่ะ”ผมเลือกนั่งข้างๆพี่เบลล์ พอแต่งงานแล้วรู้สึกหล่อขึ้นเยอะ แบบมีน้ำมีนวลแปลกๆ ที่สำคัญตัดผมใหม่แล้วด้วย ตอนที่ผมได้ยินว่าพี่เบลล์แต่งงานก็ตกใจอยู่บ้างเพราะตอนนั้นมันรวดเร็วจริงๆ ผมนึกถึงนิสัยของไอ้เจ้าคุณแล้ว ก็ไม่คิดว่าพี่เบลล์จะอยู่สบายเท่าไหร่   

“ก็เรื่อยๆ ถึงจะรำคาญไอ้คุณบ้าง แต่รวมๆก็สงบดี ตอนแรกนึกว่าจะเจอเรื่องปวดหัวซะอีก”พี่เบลล์เล่าให้ฟังว่าย้ายออกมาจากฟาร์มเจ้าคุณแล้ว เพราะไม่อยากยุ่งเรื่องภายในฟาร์ม เจ้าคุณไม่กินเส้นกับทางครอบครัวแฟนมัน แต่ที่ต้องแต่งด้วยก็เพราะเรื่องฟาร์มเนี่ยล่ะ ซับซ้อนจริงๆ

ไอ้เนมเปิดเพลงคลอระหว่างที่เริ่มออกเดินทาง บรรยากาศดิบๆในรถทำให้ผมนึกถึงสมัยเรียนขึ้นมา โดยเฉพาะเวลาเมาๆ พูดถึงเรื่องเมาก็ได้กลิ่นเหล้าลอยมาทันที ผมหันมองเบาะด้านหน้าเหมือนว่าไอ้เนมมันจะเอาเหล้าขาวออกมา

“อย่าเพิ่งเมากันนะพวกมึง เจอด่านขึ้นมาซวยแน่ๆ”พี่ปาเตือนอยู่ที่ฝั่งคนขับ แต่เหมือนจะไม่ทันเพราะไอ้ภูจัดการไปแล้วคนแรก สงสัยจะคิดถึงสมัยเรียนเหมือนกันล่ะมั้ง คนแรกที่มีวี่แววว่าจะโดนมอมคือพี่เปา

“เฮ้ย ไอ้เปาอย่าขัดคำสั่งกู”ไอ้ภูพยายามยัดเยียดให้พี่เปากระดกเหล้าขาวให้ได้ น่าสงสารจริงๆ ผมหันมองไอ้ตินที่นั่งอยู่เบาะถัดไป มันกำลังพยายามหลีกเลี่ยงเหล้าขาวจากไอ้ภู เพราะดูจะโดนเป็นรายต่อไป 

“เอาไว้ก่อน ถึงรีสอร์ทค่อยกิน”

“ไม่ได้เว้ย แค่นิดเดียวเอง”ไอ้ภูยกมือบอกปริมาณ สุดท้ายไอ้ตินก็ต้านคำพูดไอ้ภูไม่ไหว ผมยกมือขอเมื่อไอ้ภูหันมามอง แต่มันจงใจข้ามผมหน้าตาเฉย

“แล้วกูล่ะ”ผมมองแก้วเหล้าเล็กๆผ่านหน้าไปหาพี่เบลล์ตาละห้อย

“มึงเอาไว้ทีหลัง”มันยิ้มเหี้ยม ผมจึงเลิกถาม ไอ้ภูส่งเหล้าไปให้ไอ้เคนกับไอ้ชายต่อ 

“กูรู้สึกเหมือนกลับไปโสดอีกครั้งเลยว่ะ นึกถึงสมัยตอนปีหนึ่งที่พวกมึงไปจีบพี่ปีสอง เฟี้ยวกันจริงๆ”พี่ปาเริ่มเล่าวีรกรรม ผมหูผึ่งอย่างสนใจ

“ไอ้ภูก็จีบคนเป็นด้วยเหรอ”สิ้นคำพูดของผม พี่ปากับไอ้เนมก็หัวเราะเสียงดัง ผมเหลียวมองพี่เปาที่ยิ้มไปกับเขาด้วย หรือว่าไอ้ภูมันแอบไปจีบใคร
“พวกมึงอย่าหาเรื่องให้กูได้ไหม”ไอ้ภูทำเสียงหงุดหงิดมาจากเบาะหลังสุด

“กูแค่พูดเฉยๆว่าสมัยปีหนึ่งมึงเฟี้ยวแค่ไหน”พี่ปาเริ่มเล่า ผมคันหัวใจแปลกๆที่ได้ยินเรื่องทำนองนี้ ปกติไม่เคยเห็นไอ้ภูมันจะจีบใครก่อน เหอะ

“พอๆ ผมขี้เกียจฟังแล้ว”ผมโพล่งออกมา ไอ้เนมเหลียวมามองพร้อมหัวเราะชั่วร้าย

“อย่าเพิ่งหึง วีรกรรมไอ้ภูมีเยอะกว่านี้อีก”วันนี้เป็นวันที่ผมได้รู้ว่า ไอ้ภูเคยคบกับคนแก่กว่า แต่ก็ไปไม่รอดเพราะนิสัยเอาตัวเองเป็นใหญ่แบบมัน จากนั้นมันจึงหันไปบริโภคเด็กๆว่าง่ายแทน พี่เปาดันมาเล่าให้ผมฟังอีกว่าช่วงที่มันเล่นดนตรีก็มีนุ้งมีน้องมาติดมันเหมือนกัน หนึ่งในนั้นคือไอ้นนท์

แค่ได้ยินชื่อมันผมก็แทบปรี๊ด ไอ้เคนจึงจัดการเปลี่ยนหัวข้ออย่างรู้งานโดยเปลี่ยนประเด็นมาที่เรื่องของผมแทน…

“ผมจะเล่าเรื่องไอ้ฟิกสมัยหัวเกรียนให้ฟังบ้างดีกว่า พี่ๆคงรู้ใช่ไหมว่ารสนิยมของมันเป็นยังไง”ไอ้เคนภูมิใจนำเสนอเต็มที่ แต่มีพี่เปาดูไม่เข้าใจอยู่คนเดียว 

“เออ กูล่ะอยากรู้ว่ามันทำแบบนี้มานานแล้วเหรอ”พี่เบลล์ถามอย่างสงสัย ผมเหลือบมองไอ้ตินที่นั่งเงียบมานาน มันยังมีรอยยิ้มอยู่บนหน้า แต่ผมรู้ดีว่าเป็นรอยยิ้มที่น่ากลัวแค่ไหน

“เรื่องมันก็นานมาแล้ว จะไปพูดถึงอีกทำไม”

“กิ๊กคนแรกของมันชื่อไอ้เอม”ไอ้ชายแฉ ไอ้เอมเหรอ ผมแทบลืมชื่อนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ มันเป็นคนที่ทำให้ผมมีเรื่องทะเลาะกับไอ้เชนเพื่อนเก่า

“มึงจำได้ไงวะ กูลืมไปตั้งนานแล้ว”พวกมึงไม่รู้เหรอ ว่าคุยเรื่องนี้เสี่ยงต่อชีวิตผมมากๆ

“ลองไม่ลืมสิ”ไอ้ตินส่งเสียงเป็นครั้งแรกก็ทำเอาผมเสียวหลังวูบวาบ พี่เบลล์หัวเราะอยู่ข้างๆ ก่อนจะเริ่มมหกรรมแฉบ้าง

“กูก็มีเรื่องแฉไอ้ตินเหมือนกัน”ผมทำตาโตทันที ไอ้ตินกระแอมทันที ผมยิ้มอย่างผู้ชนะ สะกิดไหล่พี่เบลล์อย่างอยากรู้

“ว่ามาเลยพี่”

“ไอ้ตินเคย….”

“สัดเบลล์”ไอ้ตินนั่งไม่ติดแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรมันถึงได้มีอาการแบบนี้

“กูว่าชักน่าสนใจแล้วสิ”ไอ้ภูส่งเสียงมาบ้าง พี่เบลล์ดูลังเลว่าควรพูดดีไหม

“มึง…”ไอ้ตินชี้หน้าขู่เพื่อน
 
“พี่เบลล์พูดออกมาเลย ไม่ต้องกลัวมัน”หรือมันเคยซุกกิ๊ก? ผมมองหน้าไอ้ตินเห็นว่ามันดูมีอาการแปลกๆ หน้าแดงนิดๆ เอ๊ะ หรือว่าเป็นเพราะเหล้าขาว หรือ…

“บอกผมคนเดียวก็ได้”ผมกระซิบ แอบสังหรณ์ใจว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับผมรึเปล่าวะ

“ไอ้เบลล์มึงพูดมาเลย”ไอ้ภูเริ่มข่มขู่ พี่เบลล์กระแอม เอนตัวมาหาผม ระหว่างนั้นผมก็ลอบมองสีหน้าของไอ้ตินไปด้วย มันทิ้งตัวนั่งตามเดิม แต่หันหน้าเข้าหาหน้าต่าง ซึ่งพี่เปานั่งอยู่ข้างๆมันทำหน้ากระอ่วนอยู่

“ก็…ไอ้ตินมันตามสตอร์คเกอร์มึงใช่ไหมล่ะ มีวันหนึ่งมันเมา…แล้วทีนี้ ไม่รู้มันนึกอะไรอยู่…”

“ไม่ต้องเล่าแล้ว”ผมพูดแทรกเพราะไม่อยากทำลายภาพลักษณ์อันดีงามของไอ้ตินในหัว ผมเคยเห็นเวลามันเมาแล้วเสื่อมมาแล้ว ก็ครั้งที่ผมกับพวกมันแยกกันครั้งแรก

 วันนั้นมันเมาแล้วร้องเพลงอยู่ห้องข้างๆ ผมถึงได้รู้ว่าคนอย่างไอ้ตินก็เสื่อมเป็น พี่เบลล์ขยับตัวไปมาเหมือนเขินแทนเพื่อน เห็นไอ้ตินนั่งหูแดงอยู่ที่เบาะข้างๆแล้วก็ตลกเหลือเกิน ผมพยายามไม่นึกคำพูดต่อมาของพี่เบลล์ ไอ้ตินมันทำอะไร…ช่างเถอะ   


มหกรรมแฉจึงจบลงด้วยบรรยากาศขัดเขิน ผมว่าพวกที่เหลือก็อาจจะเดาได้ ไอ้ตินพยายามนิ่ง แต่ก็ไม่ค่อยได้ผลเพราะไอ้ภูพูดถึงเรื่องนี้ไปตลอดทาง ก็นะ นานๆทีไอ้ตินจะมีเรื่องให้ล้อ แต่ทำไมต้องมีเอี่ยวกับผมทุกที ไอ้เนมรีบเปิดเพลงจังหวะสนุกๆแทรกเพื่อไล่บรรยากาศแปลกๆในรถแต่ก็ไม่ทันแล้ว!เชื่อว่าไอ้ตินจะถูกถามเรื่องนี้ไปอีกนาน



**********************************************

ลืมกันหรือยังงง :กอด1:
ไม่มีอะไร แค่เรียกน้ำย่อย :hao6: รายละเอียดนิยายหากใกล้เปิดจองจะแวะมาบอกอีกทีนะคะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [cut] แฉ?10/9/59 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 10-09-2016 09:59:33
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
อยากอ่านอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [cut] แฉ?10/9/59 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 10-09-2016 10:17:21
ได้เวลาเก็บเงินอีกแล้ว 55555+
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [cut] แฉ?10/9/59 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 10-09-2016 14:51:22
ใจร้าย.  ยั่วให้อยากแล้วจากไป :sad4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [cut] แฉ?10/9/59 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-09-2016 15:04:53
โธ่.....ยั่วให้อยากจริงๆ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
มาลงอีก นะะะะะ  :mew1: :mew1: :mew1:
คิดถึง ฟิก ติน ภู  : :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
วีรกรรม อดีตของฟิก ตินยังหึงไมเลิกอีก
ฟิก ก็หึงภู ที่เคยจีบรุ่นพี่

      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [cut] แฉ?10/9/59 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 10-09-2016 22:02:21
ตินทำตัวน่ารัก
แต่ภูชอบกวนตรีน

ผัวทั้งสองของฟิก
อิอิ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [cut] แฉ?10/9/59 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-09-2016 22:18:23
 :katai2-1:   ต่อมเผือกทำงานหนักมาก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [cut] แฉ?10/9/59 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 11-09-2016 01:58:31
คิดถึงสามหน่อ รอเล่มน้าาาา
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [cut] แฉ?10/9/59 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 11-09-2016 22:02:57
ตินน่ารักนะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [cut] แฉ?10/9/59 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 12-09-2016 14:45:07
รักฟิกมากมาย
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 01-02-2017 22:46:13
 

[In Stock] เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน ภาคพิเศษ By DTBII

Author : DTBII

Pairing : ภูxฟิกxติน             

จำนวน : 2 เล่มจบ

ของแถม : แมกเนท 2 ลาย

 
 

**ตอนนี้มีอินสต็อกจำนวน 30ชุดค่ะ จัดส่งภายใน 7 วันหลังเช็กยอดเงิน** เปิดขายเป็นรอบๆนะคะ ป้องกันรอหนังสือนาน

 

ลิงค์สั่งจอง >> http://www.nana-naris-ybooks.com/product/94/in-stock-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9-by-dtbii-2


หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 02-02-2017 12:59:23
สนุกมากเลย

แล้วก็มีความอยากได้มาก
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 09-03-2017 08:46:59
 o13 o13
ขอบคุณค่ะ

สนุกกกกกก :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 13-03-2017 22:23:31
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 13-03-2017 23:19:59
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: noknaja01 ที่ 03-08-2017 13:22:18
สนุกมากคะ ตามอ่านตั้งแต่ตอนแรก เขียนได้สนุก ฮา เศร้า ครบรสเลย รักภู ติน ฟิก เข้าแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-10-2017 10:54:25
รักนะทั้ง 3 คนเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 05-01-2019 22:01:06
สนุกมากจริงๆค่ะ อ่านเรื่องหลัก 2 รอบแล้ว
ตามมาอ่านตอนพิเศษ ฟินมากกกกกก
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 06-06-2020 13:49:48
ขอบคุณมากนะคะ แต่งได้สนุกมากๆ จริงๆ เป็นการอ่านต่อ ไม่รุ้สึกขัดเลย  มีความรุ้สึกว่าไม่อยากให้จบ  พัฒนาการของตัวละคร เหมือนยังมีได้อีก เรื่องราวที่จะดำเนินต่อไปข้างหน้า  ... ถ้าเป็นไปได้ มีอีกภาคก้อดีนะคะ 5555 เอาแต่ใจ  ขอบคุณจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: Punnnchi ที่ 19-04-2023 00:45:24
ใครมีหนังสือเรื่องนี้ ครบทุกเล่มบ้างคะ สนใจค่ะ ติดต่อแอดไลน์มาได้นะคะ Punchika2540
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimookrose ที่ 15-04-2024 02:12:16
ทำไมเราถึงกดอ่าน ภาคหลัก ไม่ได้คะ อยากอ่านภาคแรกมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 17-04-2024 20:54:08
เอไอเอส  ระบบเติมเงิน  #ได้ทุกเบอร์
เน็ตไม่อั้น  #เน็ตไม่ลดความเร็ว  (เน็ตอย่างเดียว)
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  43  บาท  นาน  1  วัน
*777*7721*117010#  แถมโทรฟรีทุกค่าย  10  นาที
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  75  บาท  นาน  2  วัน
*777*7724*117010#
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  113  บาท  นาน  3  วัน
*777*7719*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  59  บาท  นาน  1  วัน
*777*7722*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  97  บาท  นาน  2  วัน
*777*7725*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  140  บาท  นาน  3  วัน
*777*7720*117010#
เร็ว  10 Mbps(เม็ก)  ราคา  70  บาท  นาน  1  วัน
*777*7723*117010#
ต่ออายุอัตโนมัติ
#ไม่ลดความเร็ว  #ห้ามใช้โหลดบิท
ร้านสราวุธคอมพิวเตอร์  สตูล
สาขามะนัง 0826499917
ไลน์  sarawutcomputer
เฟซบุ๊ก  sarawutcomputer
www.sarawutcomputer.lnwshop.com
เปิดทุกวัน  09.00 – 20.00  น.
ท่านเต็มใจมา  ร้านฯ  เต็มใจบริการ
#AIS5G #AISOne2Call5G #AISเติมเงิน #เน็ตไม่อั้น #โปรเน็ตส่งท้ายปี #เน็ตไม่ลดสปีด
http://sarawutcomputer.lnwshop.com/b/757 (http://sarawutcomputer.lnwshop.com/b/757)
.
https://web.facebook.com/photo?fbid=909129034559463&set=a.496909265781444 (https://web.facebook.com/photo?fbid=909129034559463&set=a.496909265781444)