3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบใครมากที่สุด (ถามอีกแล้ว 55)

พี่ภูคนโหด เรื่องหื่นไว้ใจได้
61 (25.2%)
น้องเกรียนฟิก ผู้มีสามี2คน
98 (40.5%)
พี่ตินคน(แอบ)โหด อย่าให้โมโหเชียว
83 (34.3%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 242

ผู้เขียน หัวข้อ: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46  (อ่าน 294670 ครั้ง)

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อยากเห็นตอนทั้ง 3 คนไปอังกฤษแล้ววว :katai5:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ภูเมาอีกล่ะ
สู้ตินก็ไม่ได้

แต่ยังไงฟิกก็รักทั้งสองคน
ไม่แบ่งตินมาให้บ้างเลย

ยังรออยู่นะ
เผื่อฟิกจะใจดีขึ้นมา
หุหุ

ออฟไลน์ .hnk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
ถึงจะมาดี แต่ก็อย่ามาเกาเท้าเรานะ 555555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบ ฟิก ติณ ภู สามหน่อมาก  :ling1:  คนอื่นๆ ก็ชอบ  :hao3: มีบทบาทชัดเจน สนุก ไรท์เตอร์ เก่งมาก อ่านไปขำไป อ่านแล้วอิน ฟินกับเรื่อง มีทุกรสชาติเลย เขียนให้อ่านนานๆ นะคะ มีความสุขมากๆ เลยที่ได้อ่าน  :mew1:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อ่านตอนกลางคืนด้วยสิเรา
แอบหลอนนนน

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
 :jul3: มารอดูสามหน่อตะลุยเมืองลอนดอน ชิชิ  :hao3:.อีกสองตอนก็จบแล้วหรอ.แอบใจหาย อ่านสามพีเรื่องนี้ไม่เคยเบื่อ ออกจะติดใจมากกว่า เพราะชอบนิสัยแบบฟิกมากดูไม่ปรุงแต่ง  :katai2-1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2016 21:48:13 โดย Name Vee »

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4


ตอนที่ ๒๙.๑






หลังจากที่กลับมาจากบ้านพี่พิสแล้ว ไอ้ภูก็เข้าไปคุยธุระกับพ่อมันตามนัด ผมไม่ได้ไปด้วยหรอกเพราะอยากให้มันคุยกับคนในครอบครัวเองมากกว่า ดังนั้นผมกับไอ้ตินเลยรอฟังข่าวจากมันอยู่ที่หอ ผมนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่บนเตียง ส่วนไอ้ตินกำลังทำความสะอาดใบพัดลม ทิ้งไว้นานจนฝุ่นเขรอะ แล้วก็วนมาที่เรื่องของผมกับพวกมัน

“มองหน้าทำไม”ไอ้ตินถามหลังจากที่หันมาเจอสายตาของผมที่จ้องอยู่นานแล้ว

“กำลังคิดอยู่ว่าช่วงที่ผ่านมากูกับพวกมึงทะเลาะกันบ่อย”ไอ้ตินละจากงานตรงหน้าก่อนจะบิดไหล่ถอนหายใจเสียงดัง

“แต่มันก็ไม่ได้แย่ไม่ใช่เหรอ”

“ก็คงงั้น”เคยมีคนบอกไว้ว่ายิ่งทะเลาะกันบ่อย ก็ยิ่งเข้าใจกัน แต่ถ้าไม่แก้ไขมันก็อยู่ไม่ยืด

“อย่างน้อย เวลาที่มีเรื่องทะเลาะกับมึงก็ทำให้รู้ว่ามึงสำคัญกับกูมากแค่ไหน"

“น้ำเน่า”

“พูดจากใจเลยนะ”มันหัวเราะอยู่คนเดียวก่อนจะกลับไปสนใจพัดลมต่อ

ก็อก ก็อก

ผมกับไอ้ตินมองหน้ากันเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น ไม่ใช่ไอ้ภูแน่นอนเพราะคนอย่างมันไม่เคาะให้เสียเวลาหรอก

“กูไปดูเอง”มันรีบพูดเมื่อเห็นผมตั้งท่าจะลุกไปเปิดประตู ผมยังนึกไม่ออกว่าใครจะมาหาตอนนี้ ถ้าเป็นเพื่อนไอ้พวกนั้นก็ต้องโทรมาบอกก่อนแล้ว ไอ้ตินส่องที่ตาแมวก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นว่าเป็นใคร เมื่อประตูเปิดออกผมก็เห็นไอ้เน็ตยืนอยู่หน้าห้อง กล้าโผล่มาถึงห้องเชียว ผมไม่รู้ว่าไอ้ตินมีสีหน้าแบบไหน เพราะมันยืนบังกรอบประตูอยู่

“มาทำไม”ไอ้ตินถามเสียงนิ่ง ไอ้เน็ตมีท่าทางเกรงๆเมื่อเจอน้ำเสียงไม่ต้อนรับของไอ้ติน

“แค่อยากมาผูกมิตร”มันตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะยกถุงบรรจุแอปเปิ้ลเขียวโชว์เป็นหลักฐาน

“เอาเก็บไว้กินเองเถอะ”ผมได้ยินเสียงผิวปากและควงกุญแจดังมาแว่วๆ ก่อนที่เจ้าของเสียงจะโผล่มาที่ทางเดิน มันหยุดแกว่ง
กุญแจเมื่อเห็นว่าใครอยู่หน้าห้อง ก่อนที่มันจะยกยิ้มเยาะ

“นึกว่าใคร มึงมีอะไรไม่ทราบถึงได้มายืนเกะกะแถวนี้”ไอ้ภูก้าวเข้ามาใกล้ไอ้เน็ตมากขึ้น เห็นได้ชัดว่ามันกลัวไอ้ภูมากกว่าไอ้ติน
และคงไม่กล้าตอบแบบที่ตอบไปเมื่อครู่แน่

“มีแขกมาเยี่ยมทั้งที เราก็ควรต้อนรับเสียหน่อย จริงไหมพี่ภู”ไอ้ตินหันไปหาลูกพี่ใหญ่ ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ถึงได้พูดแบบนี้ ไอ้เน็ตอึกอักขึ้นมาทันที

“ดีเหมือนกัน เดี๋ยวจะเอาไปพูดว่ากูมารยาททราม”มันไม่รอช้าดันหลังไอ้เน็ตเข้ามาในห้อง ไอ้ตินคว้าถุงแอปเปิ้ลเขียวมาจากมือไอ้เน็ตด้วยรอยยิ้มนุ่มนวล ...แบบนี้แหละที่เรียกว่าอันตรายของจริง

“มึงคงไม่ฆ่ามันหมกห้องใช่ไหม”ผมกระซิบกับไอ้ภูเบาๆ

“บ้าเหรอไง กูไม่ใช่คนโหดร้ายขนาดนั้น”มันหัวเราะก่อนจะไปร่วมวงกับไอ้ตินและไอ้เน็ตที่โซฟา ไอ้สองคนนี้คิดจะทำอะไรอีกวะเนี่ย

“มึงย้ายมาอยู่นานหรือยัง”ไอ้ภูถามเสียงเข้มแต่ผมมองออกว่ามันกำลังนึกสนุก

“ก็....ประมาณเดือนกว่าๆได้”ไอ้เน็ตตอบเสียงดัง

“เหรอ...แล้วจะย้ายออกตอนไหน”ไอ้ตินแทรกถามบ้าง

“อะไรนะ”มันถึงกับเหวอ

“ล่อเล่นน่า แค่นี้ทำเป็นตกใจไปได้”ไอ้ตินหัวเราะเหมือนมีอารมณ์ขัน แต่สำหรับผมมันดูร้ายกาจจริงๆ

“คือ..พอดี ผมรีบ...”ไอ้เน็ตพูดติดๆขัดๆ

“เฮ้ย ไม่เอาน่า อยู่เป็นเพื่อนคุยเล่นก่อน”ไอ้ภูทำเสียงเป็นมิตรแบบไม่สมจริงนัก ผมได้แต่ดูอยู่ห่างๆว่ามันสองคนจะเล่นอะไรต่อ

“แต่...”

“ฟิกมึงเอาน้ำมาต้อนรับเพื่อนเก่ามึงหน่อยสิ”ไอ้ภูส่งเสียงเรียกเหมือนกำลังเรียกเด็กชงเหล้า เอ๊ะ หรือว่าไปบ่อย ผมทำหน้าเอือมใส่พวกมันสองคน แต่ก็ทำตามที่มันสั่งอยู่ดี ผมวางแก้วน้ำลงตรงหน้าไอ้เน็ต ทิ้งตัวนั่งข้างๆไอ้ภู ยิ่งเห็นไอ้เน็ตนั่งตัวลีบแบบนี้ยิ่งให้อารมณ์เหมือนสาวน้อยในดงชายโฉดเข้าไปใหญ่

“ว่าแต่มึงพักอยู่กับใคร”ไอ้ตินถามต่อ

“แฟน”มันตอบชัดเจน เหมือนต้องการให้รู้ว่าไม่ได้สนใจผมแล้ว

“คนเก่าเหรอ”ไอ้ภูถามพร้อมยิ้มเยาะ ผมขยับตัวไปมาอย่างอึดอัด อย่าวนมาเรื่องเก่าๆนะเฮ้ย ผมขี้เกียจฟัง มันจั้กจี้ใจแปลกๆ ไอ้เน็ตหน้าตึงเหมือนกันเมื่อได้ยินไอ้ภูพูด

“เปล่า”เกิดความเงียบขึ้น ไอ้ภูกับไอ้ตินนั่งจ้องหน้าไอ้เน็ตเหมือนมันเป็นตัวประหลาด ผมจิบน้ำแก้อาการคอแห้งฉับพลัน

“มึงรู้ใช่ไหม...ถ้าหากคิดอะไรไม่ซื่อล่ะก็...มึงโดนดีแน่”ไอ้ภูเริ่มข่มขู่

“ผมมีคนของผมแล้ว ไม่คิดอะไรหรอก”มันพยายามไม่ออกอาการหงุดหงิด

“เหรอ คราวก่อนกูก็จำได้นะว่ามึงก็มีแฟนอยู่แล้ว”ไอ้ตินพูดเสียงนุ่มตามสไตล์เชือดนิ่ม ผมถูจมูกไปมาเมื่อเข้าใกล้เรื่องเก่าเข้าไปทุกที

“สมาธิสั้นเหรอ ยุกยิกอยู่ได้”ไอ้ภูกระซิบเบาๆ

“เปล่า”กูร้อนตัวเว้ย

“เรื่องเก่าๆ...ก็ให้มันจบไปเถอะ ผมไม่อยากรื้อฟื้น”พูดเหมือนนางเอกเข้าไปทุกที จริตจกร้านเยอะจริงๆ 

“คิดได้แบบนั้นก็ดี หวังว่ามึงคงจำได้ว่าหมัดกูหนักแค่ไหน”ไอ้ตินส่งยิ้มให้ไอ้เน็ต

“ผมบริสุทธิ์ใจจริงๆ”ไอ้เน็ตรีบตอบ มันเหลือบมองผมแวบเดียวเหมือนจะขอให้ช่วย ผมก็เห็นใจมันหน่อยๆ แต่เรื่องนี้ผมขอไม่ยุ่ง
ดีกว่า 

“ก็ดี กูไม่อยากใจร้าย”ไอ้ภูตอบเสียงระรื่น ผมทำเสียงเหอะในลำคอเบาๆ

“ผมมีนัด ขอตัวก่อนนะครับ”ไอ้เน็ตไม่รอให้พวกผมตอบ มันรีบผลุนผลันออกไปจากห้องทันที

“นิสัยเสีย”ผมดุพวกมันสองคนเมื่อไอ้เน็ตออกไปจากห้องแล้ว

“ต้องเล่นแบบนี้แหละ เดี๋ยวมันจะมาก่อกวน”ไอ้ตินตอบพร้อมรอยยิ้ม

“ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมว่างั้น”

“อืม เราไม่มีทางรู้หรอกว่าคนอื่นคิดอะไรอยู่”ไอ้ภูพูดจามีสาระ

“แต่สำหรับกูแล้ว คิดเรื่องมึงคนเดียวนี่ล่ะ”มันปล่อยมุกเสี่ยวต่อ

“แหวะ”หมู่นี้เริ่มน้ำเน่าด้วยกันทั้งคู่เลย ไม่รู้ไปติดมาจากไหน

“แล้วไปคุยกับทางบ้านมาเป็นยังไงบ้าง”ไอ้ตินถามอย่างสนใจ

“ก็...ผ่านไปด้วยดี พ่ออนุญาตให้มึงสองคนไปกับกูได้ แต่แลกกับการเชื่อฟังคำสั่งของญาติที่ทำงานอยู่ที่นู่น ต้องพักอยู่บ้านเดียวกันกับญาติกู โทษทีว่ะ พวกมึงคงอึดอัดแย่”ไอ้ภูดูเป็นกังวลน่าจะมีเรื่องกวนใจมันอยู่

“ไม่ต้องห่วงหรอก กูอยู่ได้”ถ้าไปกับพวกมึง...น้ำเน่าอีกแล้ว สงสัยติดเชื้อในกระแสเลือด

“กูเครียดว่ะ กูไม่รู้อะไรสักอย่างเรื่องงาน ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรที่ไหน ขนาดโรงงานกูยังไม่รู้เลยว่าอยู่ตรงไหน แล้วทำอย่างกับว่ากูพูดอังกฤษคล่อง”ไอ้ภูถอนหายใจ พลางเอนพิงไหล่ผม

“ค่อยเป็นค่อยไปน่า มึงออกจะเก่ง”ปลอบมันไปก่อน มันจะมาใจฝ่อตอนนี้ไม่ได้

“พี่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวซะหน่อย ญาติพี่ก็อยู่ที่นู่นเขาคงไม่ปล่อยให้พี่ลำบากหรอก”

“คราวก่อน กูมีพ่อไปด้วยก็เลยอุ่นใจได้ กูเคยคิดว่ากูยืนด้วยตัวเองได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆกูก็กลัว”ผมมองหน้าไอ้ตินว่าจะทำยังไงกับมนุษย์จิตตกดี มันแค่ส่ายหน้าอย่างอับจนคำพูดเช่นกัน ผมใช้สมองอย่างหนักเพื่อหาคำพูดดีๆ ไอ้เรื่องดีๆไม่ค่อยอยู่ในหัวด้วย
สิ

“มึงรู้เปล่ามนุษย์จะเป็นผู้นำก็ต่อเมื่อถึงเวลาคับขัน”วิเคราะห์โดยไอ้ฟิกเอง

“อะไรนะ”ไอ้ภูทำหน้างง

“เหมือนอย่าง...เวลาเจอหน้าลูกเป็นครั้งแรกสัญชาตญาณคนเป็นพ่อก็จะทำงานอะไรแบบนี้ คือกูจะหมายถึงว่า...เมื่อถึงเวลาที่
เรามีหน้าที่ของตัวเอง เอ่อ..."ไอ้ฟิกหาทางลงแบบสวยหรูไม่ได้จริงๆไอ้ตินเริ่มยิ้ม

“เราก็มีหน้าที่ต้องทำให้ดี...หน้าที่คือหน้าที่”ผมพูดอะไรออกไปวะ ไอ้ภูกับไอ้ตินทำหน้าเหมือนพยายามเข้าใจ

“อะไรก็ช่างเถอะ ตั้งใจทำให้ดีที่สุดก็พอ โชว์ให้พ่อมึงเห็นว่ามึงเองก็มีดี ให้พ่อมึงภูมิใจที่มึงเป็นลูกชายท่าน”ผมเทศน์ใส่

“มันติดเชื้อมึงมาแน่ๆ”ไอ้ภูหันไปพูดกับไอ้ติน

“กูแค่พูดความจริงต่างหากไอ้ภู มึงต้องโตเสียที ยิ่งมึงแข็งข้อใส่ ท่านก็ยิ่งบงการมึงหนักกว่าเดิมแน่ เพราะอะไรมึงรู้ไหม”ผมมองหน้าไอ้ภูเพื่อบังคับให้มันตอบ ไอ้ตินกระแอมเบาๆก่อนจะลุกจากโซฟา ไอ้ภูพยายามเตะขาไม่ให้มันขยับไปไหนได้ แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะไอ้ตินเดินหลบฉากหายเข้าไปในครัวแล้ว

“ทำไมวันนี้บ่นมากจัง”มันทำหน้าตาน่าสงสาร แต่ผมไม่หลงกลมันแน่

“ตอบกูมาก่อน”ผมยังไม่ลืมประเด็นเก่า

“ไม่รู้โว้ย”

“ตอบใหม่ ตอบดีๆ”ผมกลั้นขำเมื่อเห็นว่ามันเริ่มหงุดหงิด

“ไม่รู้...บอกมาก็สิ้นเรื่อง”มันหันมาผลักศีรษะผมอย่างหมั่นเขี้ยว

“เพราะมึงกับพ่อมีนิสัยเหมือนกัน อยากเอาชนะเหมือนๆกัน”พ่อลูกคู่นี้ไม่ยอมอ่อนข้อให้กันเลย ไม่รู้เป็นโรคอะไร

“รู้ดีจริงๆ”มันโยกหัวผมเบาๆ

“กูพูดจริงๆนะ ถ้ามึงทำตัวดีๆ เข้าหาเขาหน่อย ประจบเนียนๆ รับรองขออะไรก็ให้”มันหัวเราะเสียงดัง

“ขำไร กูจริงจังอยู่”

“ที่พูดมาเมื่อกี้นิสัยมึงเลยนี่ ไหนลองมาอ้อนกูบ้างซิ มีอะไรกูให้หมดทุกอย่างเลย เทหมดหน้าตัก”มันเบี่ยงประเด็น

“รอชาติหน้าเถอะ”ผมชิงลุกหนีมันได้ก่อนจะแว๊บเข้าไปหาไอ้ตินในครัวแทน

“ไม่ลองไม่รู้นะหนูฟิก”มันส่งเสียงตามมา ผมจึงส่งนิ้วกลางไปแทน ไอ้เรื่องกวนประสาทนี่ถนัดจริงๆ

“ทำไร”ผมเลื่อนของบนโต๊ะออกก่อนจะนั่งมองไอ้ตินเอาผักออกมาจากตู้เย็น

“ไม่น่าถามนะ”มันตอบเสียงกวน เปิดน้ำล้างผักเสียงดัง

“มึงอยากโดนบ่นอีกคนไหม หืม”ผมขู่ นาทีนี้ผมเชื่อว่ามันไม่กล้าหือแน่

“เป็นเมนส์เหรอไอ้ฟิก”ไอ้ตินพูดได้ร้ายกาจมาก

“แสดงว่ามึงเป็นบ่อยแน่ๆ”ทันทีที่ผมพูดฟองน้ำก็ลอยมาโดนหน้าผมเต็มๆ 

“สกปรก กูเป็นสิวขึ้นมานี่หมดหล่อเลยนะ”ไอ้ตินแค่นเสียงหัวเราะเหมือนดูถูก จะว่าไปไม่ได้กินข้าวฝีมือไอ้ตินนานแล้วเหมือนกัน 

“กูช่วย”ผมขยับเข้าไปใกล้ มันกำลังหั่นบล็อกโคลี่ด้วยท่าทางตั้งใจอยู่

“อยู่เฉยๆเถอะ มาช่วยทีไร เกะกะทุกที”โหย ไอ้ตินนี่แม่งพูดจาทำร้ายจิตใจอันบอบบางของผมเหลือเกิน ผมยืนมองมันอยู่สักพัก
ก่อนจะออกมานั่งรอที่โซฟาตามเดิม ไอ้ภูเหลียวมองผมก่อนจะหันไปมองไอ้ติน

“โดนมันไล่ออกมาล่ะสิ โอ๋ อย่าร้องไห้น้า”ไอ้ภูกวนประสาทผมอีกแล้ว

“กูไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อนน่ะเว้ย”ผมเหลียวมองไอ้ตินอีกรอบ มันไม่สนใจผมจริงๆด้วยว่ะ อุตส่าห์ทำเหมือนงอนแล้วนะเนี่ย หรือมัน
รู้ทัน

“หิวว่ะ”ไอ้ภูบ่นพึมพำเบาๆก่อนจะตบหน้าท้องตัวเอง 

“ก็เข้าไปหาอะไรกินสิ”ไอ้ภูทำหน้าหน่าย เวลาที่ไอ้ตินกำลังวุ่นวายในครัว มันไม่ค่อยอยากให้ผมกับไอ้ภูเข้าไปใกล้เท่าไหร่ มันเคยบอกว่ามันรำคาญ! 

“กูขี้เกียจมีเรื่องกับมัน”มันสองคนเคยมีปัญหาด้วยเรื่องนี้มาแล้วตามประสาคนอารมณ์ร้อน

“มึงเคยคิดไหมถ้ามีเรื่องกับไอ้ตินจริงๆ มึงจะชนะมันรึเปล่า”แบบว่าถ้าไอ้ตินเอาจริง และไอ้ภูก็เอาจริง ผมนึกภาพไม่ออกเลย แต่ไอ้ตินคงชนะยากเพราะไอ้ภูดูมีภาษีเรื่องใช้กำลังมากกว่า   

“มึงได้หลั่งน้ำตาแน่ เพราะสามีแสนดีหน้าหล่อจิตใจดีของมึงเข้าโรงบาลพร้อมกัน”คำว่า ‘สามี’ของมันแทงหูผมมากกว่าคำพูดตรงๆซะอีก ผมกับไอ้ภูนั่งกร่อยรอให้มันทำกับข้าวให้เสร็จ รอจนได้กลิ่นหอมๆ ลอยมา กลิ่นแบบนี้ต้มยำปลาทับทิมแน่ๆ

“ไม่หิวข้าวกันเหรอ”ไอ้ตินเดินเนือยมาหา ฟังจากน้ำเสียงเดาได้ว่ามันกำลังกลั้นขำอยู่

“กูงอนอยู่”ผมแกล้งทำเสียงตึงจนไอ้ภูมองแปลกๆ

“อย่ามา กูรู้ว่ามึงแกล้ง”มันเดินเข้ามาใกล้ จนผมได้กลิ่นตะไคร้มาจากมัน

“กูไม่ได้แกล้ง กูงอนจริงๆ”ผมทำมึนต่อ ไอ้ภูทำท่าขนลุกขนพอง

“กูไปกินข้าวดีกว่า ก่อนที่จะกลืนไม่ลงเพราะหมาแถวนี้”มันเด้งตัวจากโซฟาเข้าไปในครัว   

“มึงนี่นะ…”ได้ยินมันถอนหายใจ

“งอนพี่เหรอ”มันก้มมากระซิบชิดใบหู มันมาไม้นี้อีกแล้วว่ะครับ ผมเขินจนหายเขินไปหลายรอบแล้วกับไม้นี้ของมันเนี่ย ผมมองหน้าอีกฝ่ายในระยะประชิด

“เปลี่ยนมุกบ้างดิ กูอยากได้ยินอะไรที่แปลกใหม่”ไอ้ตินแค่ยกยิ้มก่อนจะยืดตัวเต็มความสูง

“ไปแดกข้าว”จบเลย คำนี้ผมได้ยินบ๊อยบ่อย


ช่วงสองสามวันนี้คือช่วงเวลาเตรียมเอกสารเตรียมของเพื่อไปลอนดอน ส่วนมากทางพ่อไอ้ภูจัดการให้ ผมเกรงใจท่านมากๆ วันก่อนโทรไปขอบคุณ แต่ฝ่ายนั้นแค่บอกว่าให้ผมไปเป็น ‘ยาแก้เหนื่อย’ ให้ไอ้ภูเฉยๆ แต่อย่างผมต้องเป็นยาชูกำลังเท่านั้น คึๆ ส่วนไอ้ตินพ่อไอ้ภูถึงกับบอกว่าไว้ใจมากที่สุด อยากให้มันช่วยดึงๆไอ้ภูไม่ให้เหลวไหล เรื่องที่ผมจะไปลอนดอนกับพวกมันแพร่กระจายไวเหมือนเชื้อโรค ยิ่งไอ้ชายไอ้คนที่มักจะล้อผมบ่อยๆมันยิ่งเหิมเกริมจนน่ากลัว ถึงกับบอกว่า

‘มีสามีดีเหมือนถูกหวย’

เกลียดมันว่ะแต่มันคือความจริง อ่ะ ยอมรับก็ได้ ทุกวันนี้ผมก็ยอมรับสถานภาพอันต่ำต้อยของตัวเองได้แล้ว และพยายามทำใจให้ชินกับคำพูดแสลงหูเวลาถูกแซว แต่ก็ทำไม่ได้เสียทีโดยเฉพาะเรื่องใต้สะดือ หน้าของผมไหม้เป็นแถบมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ดังนั้นคำแซวของพวกมันเป็นตัวแปรทำให้ความตื่นเต้นลดไปห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แถมไอ้ภูกับไอ้ตินยังชอบพูดทำนองว่าไปฮันนีมูนอีก…

บ้าชัดๆ





*********************************************************





เป็นเวลาเจ็ดโมงกว่าๆที่ผมกับพวกมันมาถึงสนามบินลอนดอน เห็นว่าลูกพี่ลูกน้องไอ้ภูที่ทำงานอยู่ที่นี่จะมารับ ระหว่างนั้นผมกับพวกมันก็แวะหาอะไรรองท้องที่ร้านอาหารใกล้ๆ ฟังจากที่ไอภูเล่า ญาติคนนี้ชื่อภักดี เป็นคนขยัน ทำงานเก่งทำงานอยู่ที่นี่ได้ห้าปีแล้ว

และเท่าที่ผมพอจะทราบมาพ่อมันมีหุ้นอยู่ในโรงงานประกอบรถยนต์ แต่ก็ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อะไร ถึงจะมาฝึกงานที่นี่ก็คงไม่ใช่ตำแหน่งใหญ่อะไร และคงทำเรื่องยุ่งมากไม่ได้ ซึ่งมันเองก็รูดีถึงได้ออกอาการเครียดขนาดนี้ ส่วนญาติมันก็เคยฝึกงานอยู่ที่โรงงานอยู่สามปี ก่อนจะแยกออกมาตั้งบริษัทลูก เป็นตัวแทนจำหน่ายรถในเครือไป ผมยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตา แต่เดาว่าคงเป็นคนเคร่งเครียดแน่ๆ ผมเข้ากับคนประเภทนี้ไม่ค่อยได้ด้วยสิ   

“ญาติมึงดุรึเปล่า”ผมถามเพื่อไขความข้องใจ

“เท่าที่จำได้…ไม่น่าจะดุ กูเจอเขาครั้งหลังสุดก็เมื่อสามปีก่อนนู้น”มันไหวไหล่ 

“หล่อไหม”ผมลองแย้มถามเล่นๆ และก็ได้รับรังสีอำมหิตมาจากทั้งสองคน

“น้อยกว่ากู”มันตอบอย่างมั่นใจ ผมกวาดสายตาไปรอบๆร้านระหว่างที่รออาหาร ผมบอกไปรึยังว่าหนุ่มเมืองนอกสูงยาวทั้งนั้น พนักงานเสิร์ฟที่เพิ่งมารับออเดอร์เมื่อครู่ก็เช่นกัน ดูจากหน้าแล้วไม่น่าจะใช่คนอังกฤษ

“ชอบเหรอ”เสียงนุ่มๆส่อแววอันตรายของไอ้ตินดังอยู่ใกล้ๆ

“ห๊ะ เปล่า”ผมละสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว ไอ้ตินระบายยิ้มกว้าง เดาไม่ออกว่าคิดอะไร จู่ๆมันก็ยกมือเรียกพนักงานคนเดิม 

“ทำเหี้ยอะไรของมึง”ผมกระซิบถามอย่างร้อนรน ไอ้ภูก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจชะตากรรมของผมสักนิด ตายแน่ๆไอ้ฟิกเอ้ย

“ชอบไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวบอกให้ไง”มันทำหน้ากวน ไม่รู้ว่ามันจะทำจริงไหม แต่ตอนนี้ผมลุกลี้ลุกลนเหมือนมีไฟลนก้นเพราะ
พนักงานหน้าหล่อหนวดครึ้มเดินมาใกล้แล้ว

“เฮ้ย อย่านะมึง”ผมรีบคว้าเมนูมาปิดหน้า ใจเต้นตึกๆเมื่อได้ยินไอ้ตินเริ่มพูดบางอย่าง…

“Excuse me. Can I have a napkin please?”สัดเอ้ย ทำผมใจหายใจคว่ำหมด ถึงจะดูไม่ฉลาดแต่ก็ฟังออกนะเว้ย 

“เชี่ย กูตกใจหมด”ผมด่ามันทันทีเมื่อพนักงานเดินหายไปแล้ว   

“กูแค่กวนประสาทมึงเล่นเฉยๆ ใครจะไปกล้าพูดล่ะ”มันหัวเราะร่วนท่าทางมีความสุขที่ได้แกล้งผม

“ก็แค่มองเอง”

“มองเบ้าหน้าเฉยๆก็ไม่น่าเกลียดอะไรหรอกนะ แต่มึงมองอย่างอื่นนี่สิ ทุเรศ”ไอ้ภูออกความเห็นเป็นครั้งแรก

“มึงก็บ้า ปรักปรำกู”ใครจะไปมอง ไอ้ภูนี่…หาเรื่องกวนประสาทผมอีกแล้ว กว่าจะได้กินมื้อเช้ารอไปเกือบๆครึ่งชั่วโมง ไหนจะต้อง
รอพี่ภักดีคนขยันของไอ้ภูมารับอีก รวมๆแล้วก็เกือบสองชั่วโมงที่นั่งแกร่วอยู่ที่สนามบิน 

“โทษที พี่ไม่คิดว่าธุระจะกินเวลานาน แถมรถติดอีก”ผมหันไปมองเจ้าของเสียงเพลียๆ คนตรงหน้ามีเค้าโครงหน้าคล้ายกับไอ้ภู แต่ดูนุ่มนวลกว่า เครื่องหน้าดูธรรมแต่ดูดี คงเพราะบุคลิกนุ่มนวลด้วยล่ะมั้ง เดาจากหน้าตาคงยังไม่แตะสามสิบหรือไม่ก็สามสิบต้นๆ

“นี่ฟิกกับตินเพื่อนผมครับ”ไอ้ภูแนะนำให้อีกฝ่ายรู้จักเมื่อสายตาสงสัยจับจ้องมาที่ผมกับไอ้ติน

“สวัสดีครับ”ผมกับไอ้ตินยกมือไหว้อีกฝ่าย

“เอ้อ สวัสดี ไม่ต้องมากพิธีอะไรหรอก พี่ชื่อภักนะ โทษทีมาช้าไปหน่อย แปลกใจเหมือนกันนะเนี่ย ลุงไม่เห็นบอกว่าภูพาเพื่อนมาด้วย”เจ้าตัวออกอาการมึนงงเล็กน้อย

“คงอยากให้พี่แปลกใจเล่นล่ะมั้ง”ไอ้ภูไหวไหล่

“ที่แปลกใจกว่าคือไม่คิดว่าแกจะยอมมา”อีกฝ่ายหัวเราะ เดินนำออกไปที่ลานจอดรถ อากาศด้านนอกค่อนข้างเย็น ท้องฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะตก ทำผมง่วงนอนมากกว่าเดิมอีก 

“ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวเด็กแถวนี้จะงอแง”ไอ้ภูเหลือบมองมาทางผม จะหาว่าผมงอแงล่ะสิ ไม่ได้งอแงสักหน่อย แค่หน้าบูดเพราะเหนื่อยๆเพลียๆอยากนอน ไอ้ตินก็ไม่อยู่ในอารมณ์สดชื่นเท่าไหร่ ระหว่างทางที่ไปบ้านพักย่านเมย์เฟร์ มันก็งีบหลับ หัวพิงไหล่ผมไปตลอดทาง ผมมองทิวทัศน์แปลกตานอกหน้าต่างไปเรื่อยๆ การจราจรค่อนข้างพลุกพล่าน  เงียหูฟังบทสนทนาของไอ้ภูกับญาติมันไปด้วย ไม่พ้นเรื่องงานและแหล่งเที่ยวกลางคืน 

“ภูมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วหรือยัง”

“มีแล้วครับ อยากจะขอแต่งงานเหมือนกัน แต่ฝ่ายนั้นคงไม่ยอม”ไอ้ภูเริ่มเพ้อเจ้อ

“หือ มีคนกล้าปฏิเสธแกด้วยเหรอ”จากที่ฟังการสนทนาของทั้งคู่ สองคนนี้คงไม่สนิทกันเท่าไหร่ 

“สงสัยผมยังดีไม่พอล่ะมั้ง”มันหัวเราะชื่นมื่น อารมณ์ดีอยู่คนเดียว ไอ้ตินขยับศีรษะไปมา ก่อนจะยืดตัวพิงเบาะรถ 

“แกก็หัดทำตัวดีๆบ้างสิ อย่าสร้างเรื่องปวดหัวให้ลุงมาก”และไอ้ภูก็โดนบ่นยาวจนถึงอพาร์ทเม้นท์ที่หมาย ตามตรอกซอยไม่ค่อย
มีรถพลุกพล่านเท่าไหร่ สองข้างท้างเป็นอพาร์ทเม้นท์สามชั้นสไตล์อังกฤษทั่วไป ลักษณะเหมือนกันทั้งซอย ผมช่วยพวกมันขนกระเป๋าลงมาจากรถ ห้องของพี่ภักอยู่ที่ชั้นสอง เป็นห้องขนาดใหญ่ แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน ใช้โทนสีขาวทั้งหมด จากข้าวของเป็นระเบียบภายในห้อง ก็พอจะบอกนิสัยของผู้อยู่ได้ มองแต่ภายนอกไม่ได้จริงๆ ผมว่าไอ้พี่ภักนี่คงเจ้ากี้เจ้าการน่าดู

ผมเกลียดการวางข้าวของแบบเป๊ะเป็นสัดส่วนแบบนี้จริงๆครับ มันยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดชอบกล ไม่ใช่เพราะอยู่กับคนที่เพิ่งรู้จัก แต่เพราะห้องกว้างแต่เพดานเตี้ย ทำให้รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก ดูไม่ปลอดโปร่งเท่าไหร่ ระเบียงหลังห้องมีพื้นที่เท่าแมวดิ้นตาย ปลูกต้นไม้เลื้อยๆที่ผมไม่รู้จัก แถมยังไปติดกับกำแพงของอพาร์ทเม้นท์หลังข้างๆอีก เหมือนถูกล้อมหน้าล้อมหลังไปด้วยกล่องอิฐ  จู่ๆผมก็รู้สึกคิดถึงบ้านขึ้นมาตงิดๆ คิดถึงธรรมชาติบรรยากาศปลอดโปร่งโล่งสบาย อากาศที่นี่ก็ดี แต่เย็นจนผมปวดจมูกตุบๆ

“นอนห้องเดียวกันคงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม คือพอดี--”

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ สบายมาก”ไอ้ภูริบชิงพูดก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดยืดยาวกว่านี้ ผมเข้าเอาของไปเก็บ เป็นห้องนอนขนาดพอดี สังเกตุจากขวดน้ำหอมที่โต๊ะเครื่องแป้ง ห้องนี้ต้องเคยมีสาวมานอนก่อนแน่ๆ 

“กูว่าแล้วเชียว พี่ภักของมึงเป็นแบบที่กูคิดจริงๆด้วย”ผมพูดเบาๆเมื่อไอ้ภูกับไอ้ตินเข้ามากันหมดแล้ว ทิ้งตัวบนเตียงสีครีมกลิ้งไปมาเหมือนคนบ้า ถึงบุคลิกจะดูสบายๆ แต่ข้าวของในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นระเบียบขนาดนี้ก็บอกอะไรได้หลายอย่างแล้ว

“สองอาทิตย์ ทนๆไปเถอะ”ไอ้ภูทำหน้าเบื่อหน่ายเช่นกัน

“ผมมีเรื่องสงสัย…ตอนที่พูดเรื่องแฟน…คือพี่เขารู้ไหมว่าพี่ชอบ…”ไอ้ตินละไว้ในฐานที่รู้กันดีสามคน ไอ้ภูย่นคิ้วอย่างคิดหนัก

“กูไม่แน่ใจว่ะ ตอนแรกครอบครัวพี่ภักอยู่ที่เชียงใหม่ เพิ่งมารู้จักกันก็เมื่อหกปีก่อน ยังไม่ทันได้สนิทพี่เขาก็มาอยู่ที่ลอนดอนแล้ว
แถมนานๆทีจะกลับมาเยี่ยมบ้านอีก แต่ไม่แน่…อาจจะรู้ก็ได้ ญาติกูเขาชอบเม้าท์เรื่องนี้จะตาย”ไอ้ภูดูไม่ใส่ใจนัก

“แต่ถ้ายังไม่รู้ สงสัยงานนี้ได้สนุกแน่”ไอ้ตินหัวเราะอย่างนึกขำเมื่อนึกภาพว่าอีกฝ่ายจะทำสีหน้ายังไงถ้าหากรู้เรื่องนี้

“แล้วมึงจะเริ่มทำงานตอนไหน”

“ก็…คงอีกสองวันมั้ง”มันรื้อเสื้อไหมพรมแขนยาวออกมาเก็บเข้าตู้

“วันแรกพวกมึงต้องไปเพื่อนกู”มันทำเสียงบังคับ

“ไปได้ด้วยเหรอ”ไอ้ตินนั่งขัดสมาธิที่ปลายเตียง

“ได้…”มันตอบเสียงไม่แน่ใจนัก

“เหมือนเด็กเลยว่ะ ต้องมีคนไปเป็นเพื่อน”หาเรื่องล้อไอ้ภูเล่น ไอ้ภูอาจจะไม่ชินเพราะโรงงานประกอบรถยนต์ไม่ได้อยู่ในลอนดอน ต้องเดินทางไปเอง ไอ้ภูไม่ได้โต้ตอบอะไร มันจัดการเอาเสื้อของผมเก็บเข้าตู้ให้ด้วย ผมมองมันงงๆ อารมณ์ไหนของมันอีกเนี่ย

“มันเป็นอะไรของมันวะ”ผมกระซิบเบาๆกับไอ้ติน ท่าทางมันดูเงียบๆแปลกๆ

“คำพูดจี้ใจดำล่ะมั้ง”มันตอบกลับมาเบาๆ

“…ตอนที่กูมาคราวก่อน กูโคตรเหงาเลยว่ะ”จู่ๆมันก็พูดออกมาทำผมกับไอ้ตินเหวอเพราะตั้งตัวไม่ติด

“กูแค่พูดถึงเฉยๆ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น”มันส่ายหน้าไปมา ผมปรับอารมณ์ตามไอ้ภูไม่ทันเลย

ก็อก ก๊อก

“พี่เข้าไปนะ”พี่ภักส่งเสียงเข้ามาก่อนที่บานประตูจะเปิดออก ผ้าห่มกองโตอยู่ในอ้อมแขนอีกฝ่าย

“พี่กลัวว่าจะไม่พอ ไม่ลำบากแน่นะ ห้องออกจะแคบ ภูมานอนกับพี่ก็ได้นะ จะได้ไม่เบียดกัน”พี่ภักเสนอ

“ไม่เป็นไรจริงๆครับ ห้องแคบกว่านี้ก็เคยนอนมาแล้ว นอนเบียดกันทุกวันนั่นแหละ”ไอ้ภูรีบตอบ

“นอนด้วยกันบ่อยเหรอ”พี่ภักทำหน้าแปลกใจ

“คือพวกเราไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆน่ะครับ”ไอ้ตินขยายความ

“อ้อ...พวกเราคงสนิทกันมากเลยล่ะสิ ดีแล้วล่ะ...”

“แล้ววันนี้พี่จะไปไหนต่อไหมครับ”ไอ้ภูแทรกก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดอีกยืดยาว

“ก็กะจะเข้าไปที่โชว์รูมน่ะ ไปเช็คงานสักหน่อย”

“อ้อ…”

“จะแวะไปนั่งเล่นก็ได้นะ ถ้ายังไหวกัน แถวนั้นใกล้จุดเที่ยวเยอะเลย ขาดเหลืออะไรบอกพี่ได้ตลอด ไม่ต้องเกรงใจ ยังไงเราก็พี่น้องกัน พวกเราด้วยนะ”อีกฝ่ายหันมาหาผมกับไอ้ติน ก่อนจะออกไปจากห้อง ปิดประตูตามหลังเบาๆ พวกผมถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“อีกแค่สองอาทิตย์”ไอ้ภูพูดออกมาเหมือนย้ำกับตัวเอง เจอคนแบบพี่ภัก ไม่รู้ว่าผมหรือไอ้ภูจะสติแตกก่อนกัน








TBC.
มาแบบสั้นๆน้า พรุ่งนี้มีสอบ  :a2: คงว่างหลังวันที่10  อีกนิดเดียวเองงงง
ขอบคุณที่ติดตามค่าาา แล้วเจอกันใหม่ :กอด1:




ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อิชั้นสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างค่ะ
สู้ๆนะทั้งสามคน อิอิ
ขอบคุณคนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
เกลียดตอนพี่ภูกับตินรวมหัวแกล้งเน็ตมาก ทำไมร้ายขนาดนี้ 5555555555555555555555
แอบสงสารนิดๆ คงไม่กล้ามายุ่งแล้วล่ะแบบนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ LSK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
5555 อยู่ลอนดอนสนุกแน่ๆ

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
แง้ อิจฉาฟิกจริงๆ ยืนยันคำพูดชายว่ามีผัวดีก็เหมือนถูกหวย เจอพี่ภัคในภาคแรกตอนนั้นยังรู้สึกธรรมดาๆนะแต่พอมาเจอตอนนี้ทำไมรู้สึกแปลกๆหว่า รึคิดไปเองคนเดียวขออย่ามาม่านะคะคุณเดือน
ปอลิง ขอให้การสอบผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ไม่เสียชื่อภูตินจริงๆ เกือบลืมพี่ภักไปแล้วนิ  :laugh: เป็นกำลังใจให้คนเขียน  :3123:

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
พี่ภักดูสุภาพหลอกตามาก

ออฟไลน์ cowinsend

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
เอ๊ะ หรือเฮียภักแกจะมีซัมติง :hao3:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เอ่อม จะรอดไหมเนี่ยะ สองอาทิตย์ อิอิ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ GGamy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ป้าว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ ป้าสัมผัสได้ (มั้ง)

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
นักเขียนบอกพรุ่งนี้มีสอบ?

สงสัยนิดหน่อยคือ คงไม่ใช่ว่าคนเขียนเรียน ม.6 อยู่นะ??

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4
นักเขียนบอกพรุ่งนี้มีสอบ?

สงสัยนิดหน่อยคือ คงไม่ใช่ว่าคนเขียนเรียน ม.6 อยู่นะ??
จบม.6นานแล้วค่ะ หาที่เรียนใหม่เสยๆ  :o12:

ทำไมมีแต่คนคิดมากเรื่องภักดี 55 ไม่มีมาม่าน้า หมดซองแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เห้ย!!!....อะไรยังไงต่อละทีนี

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
เดี๋ยวต้องมีซัมธิง

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
สามหน่อในเมืองนอก น่าจะมีเรื่องสนุก

ขอให้คนเขียนสอบได้ตามที่ตั้งใจนะ

ออฟไลน์ sindy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

รอตอนต่อไป สู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ mira

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [ตอนที่๒๙.๑] 4-04-59 P.39
พิมพ์เดือนผิดนะคะ ควรเป็น 4-03-59 ค่ะ

ออฟไลน์ คุณลิ้นจี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อ่า.....รอด้วยใจระทึก  :mew2:  พีภัก จะแอบ ป่ะ  :hao6:  ชื่นชมไร้ทเตอร์มาก เขียนเก่งมาก อ่านแล้วมีความสุขมากๆ อิน สนุก ไปกับฟิก ติน ภู :mew1: เหมือนตามติดชีวิตจริงของสามหน่อ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Yundori

  • From where I stand...
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
เหมือนได้รังสีจากพี่ภักแปลกๆ
พี่ภักจะชอบภูรึเปล่าน้าา

ออฟไลน์ Wannida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
go to london กันแล้วววววว แหม ฟิกจะเขินไม พี่สองหน่อพูดก็ถูกแล้ว มันแอบแฝงฮันนีมูน :-[ งานน่ะไม่เท่าไหร่หรอก ที่สำคัญพี่ภูอยากให้ฟิกกับตินมาด้วย  พี่ภูน่าสงสารจุง คงนึกถึงตอนที่ถูกพ่อส่งมาคราวก่อน เหงา ไม่มีใครคอยให้กำลังใจ ไม่มีใครให้ทะเลาะด้วย อย่าทิ้งกันนะ มีอะไรก็ผ่านไปให้ได้ทั้งสามคน สู้สู้  :กอด1: 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด