เริ่มต้นจากการแอบรัก ตอนที่30(END) 06/06/2559(03.33) p.16 *จบแล้วย้ายห้องได้ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เริ่มต้นจากการแอบรัก ตอนที่30(END) 06/06/2559(03.33) p.16 *จบแล้วย้ายห้องได้ค่ะ  (อ่าน 308386 ครั้ง)

ออฟไลน์ kub_kwonny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
อิจฉาเวอร์

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
หึๆ ถ้าพัตรู้ว่าวินแอบชอบตัวเองมานานแค่ไหน
บางทียิ่งจะเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นไปอีกแน่นอน

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
แม้ตอนสอบก้อยังหวานแหววได้อีก >\\\\\\<
ฟินเบาๆ

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
วินตั้ลล้าตคคคคคคคคคคค
 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ iamtsubame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่ารักมากกกกกก อยากให้หวานกว่านี้อีก :mew1:

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
มาตามอ่านแล้ว ไปเจอคนเค้าแนะนำเรื่องนี้ในแท็ก #ยิ้มหวานของหมอ เลยตามมาอ่าน

ชอบมากกกก  :mew1: :mew1: :mew1:

ติดตามต่อไป :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
ตอนที่ 11

#เริ่มต้นจากการแอบรัก

แล้ววันที่ผมรอคอยก็มาถึงซักที...

พอสอบเสร็จผมก็แทบจะไปรับวินที่หน้าห้องสอบเลยด้วยซ้ำ คิดถึงมากๆเพราะไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่วันที่เราไปกินข้าวด้วยกัน มหกรรมการสอบเล่นเอาหัวหมุนไปหมด เวลาพักผ่อนยังแทบไม่มี

“ดูเรื่องนี้นะๆ เราอยากดูอ่ะ” ผมยืนมองโปสเตอร์หนังภาคต่อเรื่องนึงที่วินบอกว่าอยากดูอยู่หน้าโรงเป็นเรื่องที่ผมเองก็อยากดูอยู่เหมือนกัน สไตล์หนังเราค่อนข้างจะไปในทางเดียวกันนั่นเป็นเรื่องที่ดีแต่ถึงจะไม่ใช่สไตล์เดียวกันถ้าวินอยากดูผมก็ตามใจเขาอยู่ดี

“โอเค งั้นเดี๋ยวพัตไปซื้อบัตร วินรออยู่ตรงนี้นะ” เอ่ยบอกคนข้างๆเมื่อเห็นว่ามีรอบต่อไปที่ไม่ต้องรอนานพอดี

“เราว่าจะไปซื้อป็อปคอร์นเดี๋ยวกลับมาเจอกันตรงนี้ก็ได้ พัตอยากกินไรเพิ่มไหม”

“ไม่ครับ วินอยากซื้ออะไรก็ซื้อมาเถอะ” ผมเปิดกระเป๋าตังค์แล้วดึงบัตรของโรงหนังออกมาก่อนจะยื่นให้วินเอาไปซื้อของ

“ให้เราทำไม? พัตจ่ายค่าตั๋วเราจ่ายค่าของกินไง”

“ใช้ตังค์พัตเนี้ยแหละ พาแฟนมาดูหนังทั้งทีก็ต้องเลี้ยงดิ” แค่แฟนคนเดียวเลี้ยงได้อยู่แล้วครับ ผมไม่ได้คิดมากอะไรกับเรื่องพวกนี้นะแล้วก็อยากทำหน้าที่แฟนที่ดีในการดูแลวิน เวลามาดูหนังผู้ชายก็ต้องเป็นคนจ่ายใช่ไหม(??)

“เราก็พาแฟนมาดูหนังเราก็ต้องจ่ายเหมือนกัน ไม่รู้ล่ะเราจะใช้เงินเรา...พัตไปซื้อตั๋วได้แล้ว” เดือนทันตะไม่รอให้ผมได้พูดอะไรร่างเล็กๆก็ก้าวเท้าไปเคาท์เตอร์ซื้อของกินทันที ผมมองตามหลังแล้วก็ต้องเก็บกระเป๋าตังค์ตัวเองไว้อย่างเดิมเมื่อวินยืนยันว่าอย่างนั้นแล้วเดินไปซื้อตั๋วหนังเสร็จแล้วจึงกลับมาที่เดิมที่เรานัดกันไว้

“ได้อะไรมาเยอะแยะเนี้ยหืม” เดินกลับมาหาคนตัวเล็กก็ต้องถามออกมาพร้อมทั้งยื่นมือไปถือช่วย ทั้งป็อปคอร์นถังใหญ่ น้ำ ขนม และไส้กรอกเต็มไม้เต็มมือ ก่อนจะมาโรงหนังเราไปกินข้าวกันมาแล้วนะ ไหงแฟนผมทำเหมือนว่ายังไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่เมื่อวานอย่างนั้นล่ะ

“ก็...อยากกินหมดเลยเลยซื้อมา” อยากกินเยอะเกินไปไหมที่รัก คือไม่ใช่อะไรนะผมกลัวว่าเขาจะกินไม่หมดซะมากกว่า ซื้อมาขนาดนี้บางทีมันก็ไม่จำเป็นไง

“ก็ถ้าเดี๋ยวไม่อิ่มเราก็ค่อยไปกินหลังหนังจบก็ได้ วินซื้อมาแบบนี้มันสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์นะถ้ากินไม่หมด” แค่อยากบอกให้เขารู้ตัวบ้าง บางทีวินก็ชอบเป็นแบบนี้ ซื้อมาหลายอย่างแล้วกินไม่หมด ว่าจะบอกเขาหลายครั้งอยู่เหมือนกัน

อะไรที่ผมมองว่ามันไม่จำเป็นหรือมันไม่สมควรผมก็บอกวินนะ ไม่ใช่ว่าจะตามใจไปหมดซะทุกอย่าง แบบนั้นไม่ดีครับ ถ้ารักเขาก็ต้องบอกต้องเตือน

“ขอโทษ...ตอนซื้อเราลืมคิดไปอ่ะ” คนตัวเล็กก้มหน้าสำนึกผิดจนผมไม่กล้าว่าอะไรเขาต่อ ผมไม่ได้ดุเขาขนาดนั้นนะทำไมท่าทางของวินทำให้แม้แต่ผมยังคิดว่าตัวเองดุเขาล่ะ

“ที่พัตบอกแค่ไม่อยากให้วินสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ เอาไว้เราซื้อเท่าที่จำเป็นจะได้ไม่เปลืองตังค์นะรู้ไหม”

“...อื้อ” ถึงอย่างนั้นวินก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองผมซะที เขาเอาแต่ก้มมองเท้าของตัวเองอยู่อย่างนั้น
 
“ไม่เอาดิ เงยหน้าขึ้นมาคุยกับพัตก่อน เป็นอะไรครับ” เขาไม่ได้งอนหรือโกรธที่ผมพูดหรอกครับ วินไม่ใช่คนไร้เหตุผลเขาเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะบอก แต่อาการของคนตรงหน้าก็ทำให้ผมต้องถามออกมา

“พัตไม่ชอบ...เราทำตัวไม่ดี ใช้เงินไม่คิดใช่ไหม” พอเงยหน้าขึ้นผมนี่อยากจะดึงคนตรงหน้าเข้ามากอดชะมัด ไอ้ท่าทางสำนึกผิดพร้อมกับแววตาที่สั่นไหวด้วยความไม่มั่นใจและน้ำเสียงอ้อนๆนี่ทำให้ผมแทบทนไม่ไหว ถ้าไม่เกรงใจคนอื่นที่เดินไปมาหน้าโรงนี่ผมดึงเขามากอดแน่ๆ

“ไม่ได้ไม่ชอบครับพัตแค่บอกให้วินได้รู้ ทีหลังเวลาจะซื้ออะไรวินจะได้คิดมากขึ้นไง” อยากจะดึงมือวินมาจับก็ทำไม่ได้เพราะติดที่มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยของกินนี่แหละ

“ขอโทษ”

“พัตไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย คิดมากเหรอหืม” ผมส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้คนที่ยังคงมองมาด้วยแววตาไม่มั่นใจ ไม่ยักกะรู้ว่าวินเป็นคนที่คิดมากขนาดนี้ ปกติเห็นเขาอารมณ์ดีอยู่ตลอด

“ก็พัตทำหน้าดุ” ปากเล็กๆเบะใส่เหมือนปากเป็ดด้วย

“เหรอ พัตไม่รู้ตัวอ่ะ แต่ไม่ได้จะว่าอะไรจริงๆนะ” มิน่าล่ะวินถึงดูคิดมากขนาดนี้ ผมเผลอแสดงสีหน้าเข้มๆดุๆออกไปนี่เอง

“แน่นะ”

“ครับ เลิกคิดมากนะ...พัตว่าเราเข้าโรงกันดีกว่า ไปนั่งรอข้างในดีกว่ายืนอยู่ตรงนี้เนอะ” เหลือบดูนาฬิกาบนข้อมือก็พบว่าอีกประมาณสิบนาทีจะได้เวลาแล้ว

“อื้อๆ” อีกคนเริ่มยิ้มออกมาเมื่อผมยืนยันให้เขาสบายใจก่อนที่เราสองคนจะเดินเข้าไปในโรงด้วยกัน ที่ที่เรานั่งเป็นที่เกือบท้ายโรงเพราะว่าหนังเรื่องนี้กระแสค่อนข้างดีคนเลยเข้ามาดูเยอะ ดีแค่ไหนแล้วที่ยังได้ดูรอบนี้ไม่ต้องรอไปอีกเป็นชั่วโมง

“พัตกินไส้กรอกไหม” คนข้างตัวผมไม่พูดเปล่า มีบริการส่งไส้กรอกมาจ่อให้ถึงที่ปากอีกต่างหาก น่ารักเกินแฟนผมไม่มีแล้ว่าไหม ป้อนขนาดนี้ผมไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน

เจ้าตัวป้อนผมสลับกับป้อนตัวเองไปเรื่อยๆจนไส้กรอกหมด ทีนี้เริ่มหันไปแกะห่อขนมแล้วเมื่อจอยังคงฉายโฆษณาต่อไป

“อ้าว ไม่ป้อนพัตอีกเหรอ” ผมแซวขึ้นหลังจากที่เปิดห่อขนมแล้ววินแค่เอียงปากห่อมาทางผมเฉยๆ

“กินเองเลย ไม่ป้อนแล้วววว” พูดพร้อมกับลากเสียงยาวตาก็จ้องมองจอข้างหน้า ผมเลยได้โอกาสมองซ้ายมองขวาก่อนจะพบว่าฝั่งซ้ายมือผมมีคนนั่งถัดไปสี่ตัว ส่วนวินเขานั่งเก้าอี้ตัวสุดท้ายอยู่แล้ว

ฟอด

“พัต!” ทำตัวน่ารักใส่ดีนักผมเลยจัดการกดริมฝีปากตัวเองลงบนแก้มนุ่มๆซะเลย วินเอามือข้างที่ว่างกุมแก้มพร้อมกับเรียกชื่อผมออกมาอย่างตกใจ(และพยายามไม่เสียงดัง) เขามองซ้ายมองขวาก่อนจะเบิกตานิดๆเมื่อเห็นว่าฝั่งผมมีคนนั่งอยู่ แต่เชื่อเถอะว่าพวกเขาไม่สนใจหรอกห่างตั้งสี่ตัวเลยนะ

“หอมจัง หึหึ” ส่งยิ้มระรื่นให้กับคนที่มองมาอย่างคาดโทษ แสงจากจอที่ออกมาเพียงพอที่จะทำให้ผมเห็นว่าวินหน้าแดงแค่ไหน

“คนบ้า ไม่ต้องมาพูดเลยนะ...ทำอะไรแบบนี้ได้ยังไงนี่โรงหนังนะ คนเต็มไปหมด” วินพยายามเขยิบตัวหนีไปติดเก้าอี้ฝั่งขวามือเขาให้มากที่สุดจนผมต้องยื่นหน้าไปใกล้เขามากขึ้น ความสุขอีกอย่างหนึ่งของผมก็คือการที่แกล้งให้เขาเขินนี่แหละ ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายเขินง่ายแค่ไหน

“งั้นแสดงว่าถ้าไม่ใช่ที่โรงหนังงวินก็โอเคใช่ไหม” ทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่มากขึ้นด้วย

“พัต! ถ้าพูดหรือทำอะไรแบบนี้อีกเรากลับบ้านแล้วนะ”

“เขินหนักแฮะ ครับๆ...ไม่แกล้งแล้วก็ได้” ผมหลุดหัวเราะน้อยๆก่อนจะยอมกลับมานั่งอย่างปกติ ส่วนวินก็ยังทำหน้าไม่ไว้ใจอยู่อย่างนั้น

“ให้มันจริงเถอะ” ผมไม่ตอบอะไรแต่หยิบขนมที่วินถือมากินอย่างอารมณ์ดี ไม่นานนักเพลงสรรเสริญพระบารมีก็ดังขึ้นให้ต้องยืนตรง พอจบหนังก็เริ่มดูหนังแบบจริงจังโดยที่ผมไม่ได้ก่อกวนวินอีก ต่างคนต่างสนใจแค่จอที่ฉายเรื่องราวสุดมันส์และลุ้นระทึกอยู่ข้างหน้า








“สนุกดีเนอะ แต่จบไม่ค่อยเคลียร์เลย ทำให้เราอยากดูภาคต่ออีกแล้ว” คนตัวเล็กพูดทันทีที่ออกมาจากโรงหนัง สองมือก็หอบถังป็อปคอร์นที่เหลืออยู่ครึ่งนึงมาด้วย

เขากินไม่หมดจริงๆครับเพราะผมไม่ได้กินป็อปคอร์นเลยเนื่องจากไม่ชอบ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะถือว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วก่อนเข้าโรง วินรู้ตัวแล้วว่าคราวหลังเวลาจะซื้ออะไรต้องคิดให้มากขึ้น

“ก็ตามสไตล์คนทำหนังก็ต้องทิ้งปมให้เราอยากดูภาคต่อไปอีกเรื่อยๆ...ว่าแต่วินจะไปดูอะไรต่อรึเปล่า” หันไปถามคนข้างตัวเพราะตอนนี้เราออกมาจากส่วนของโรงหนังกันแล้ว ต้องตัดสินใจว่าจะไปโซนทางไหน

“อืม...เราต้องไปซื้อของใช้เข้าห้องแล้วก็พวกของสดด้วย” วินทำหน้านึกพร้อมกับค่อยๆพูดออกมา

“โอเคครับ งั้นไปกัน” ผมหันไปหยิบของในมือวินทิ้งให้หมดเมื่อเดินผ่านถังขยะ ก่อนที่จะกุมมือเล็กเดินไปทางโซนของใช้ก่อนเป็นอันดับแรก

คนตัวเล็กหยิบจับทุกอย่างดูคล่องไปหมด หน้าที่ของผมก็มีเพียงเข็นรถเข็นตามหลังเขาไปเรื่อยๆ ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องพวกนี้หรอกครับ ส่วนมากก็จะเป็นที่บ้านจัดมาให้เลย ทุกวันนี้ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าของใช้แต่ละอย่างของผมมันต้องเลือกยังไงซื้อที่ไหน

“พัต...ที่ห้องมีอะไรขาดรึเปล่า จะได้ซื้อเข้าไปเลย” วินหันมาถามผมที่อยู่ด้านหลัง

“หืม ไม่รู้สิ เรื่องนี้แม่ให้คนที่บ้านจัดการให้พัตเลยไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ซักเท่าไหร่” คือแม่บ้านที่มาทำความสะอาดห้องผมจะเป็นคนของที่บ้านเข้ามาทำ เพราะฉะนั้นเขาก็จะตรวจดูว่าด้วยว่าที่ห้องผมขาดเหลืออะไรบ้าง ถ้าต้องการอะไรเป็นพิเศษก็แค่บอกผ่านแม่ไปเท่านั้น ผมเลยไม่รู้เรื่องพวกนี้นอกจากว่าจะเป็นพวกของสดที่ซื้อไปทำอาหารอันนั้นผมรู้เรื่อง

“เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องรบกวนที่บ้านเลย ต้องหัดทำเองนะรู้ไหม...ดีซะอีกที่เราจะได้เลือกในสิ่งที่ถูกใจเราที่สุด แถมยังช่วยแบ่งเบาภาระคนที่บ้านได้ด้วย” เริ่มเห็นแววความเป็นแม่ศรีเรือนของแฟนผมมาแต่ไกล กลายเป็นว่าตอนนี้ผมต้องเป็นฝ่ายเชื่อฟังวินบ้างแล้ว

“ครับๆ...งั้นวินก็สอนพัตสิว่าควรต้องเลือกอะไรยังไง หรือไม่วินก็เป็นคนเข้ามาดูแลห้องพัตเลยขาดเหลืออะไรวินก็เป็นคนจัดการ เอ...แต่เข้ามาอยู่ด้วยกันเลยง่ายกว่าเนอะ” ในทีสุดก็ลากเข้ามาเรื่องนี้อีกจนได้ แต่ทางออกของผมมันดีจริงๆนะ ถ้าเราอยู่ด้วยกันวินก็เป็นคนจัดการเรื่องนี้ งานแบบนี้เขาถนัดอยู่แล้ว สะดวกสบายเป็นไหนๆ คนที่บ้านก็ไม่ต้องลำบากด้วย ดีไปหมดทุกอย่าง

“รอไปก่อนเถอะ เราไม่ยอมง่ายๆหรอก...แต่ว่าต่อไปเรื่องนี้ไม่ต้องให้คนที่บ้านมาทำให้แล้วนะ เดี๋ยวเราจัดการเอง จะเข้าไปดูที่ห้องให้ว่าขาดเหลืออะไรบ้าง” คนตัวเล็กบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะหันกลับไปสนใจพวกของใช้ของเขาต่อ ผมยืนยิ้มคนเดียวอย่างลิงโลดเมื่อวินพูดออกมาแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้แสดงออกไปหรอกครับเดี๋ยวเขาจะเปลี่ยนใจไป

กลับไปผมจะโทรบอกแม่เลยว่าไม่ต้องให้คนมาดูแลเรื่องนี้แล้วให้จัดการแค่เรื่องทำความสะอาดห้องก็พอ

“วิน...” เดินเข็นรถตามหลังวินไปเรื่อยๆก่อนที่ผมจะหยุดที่โซนๆนึงในขณะที่วินเองก็ดูของอยู่ล็อคเดียวกันแต่ฝั่งตรงข้าม

“หืม” ขานรับแต่ก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมา

“เอากลิ่นไหนดีอ่ะ” ผมหยิบกล่องถุงยางออกมาหลากหลายสีแล้วชูให้เขาเลือก แน่นอนว่าเมื่อวินหันมาเขาก็ทำหน้าตกใจก่อนที่แก้มจะค่อยๆขึ้นสีเรื่อยๆ

“ถะ ถามเราทำไมเล่า! ไม่มีทางได้ใช้หรอกไม่ต้องคิดเลย” คนที่เขินจัดตะโกนเสียงดังแล้วรีบเดินหนีไปทันที ทิ้งให้ผมยืนหัวเราะอยู่คนเดียวท่ามกลางสายตาของสาวน้อยวัยมัธยมปลายกลุ่มหนึ่งที่มองมาอย่างเขินๆ ตัวผมไม่รู้สึกอะไรหรอกครับเพราะเป็นเรื่องธรรมชาติ(ธรรมชาติหรือหน้าด้าน) ส่วนไอ้เมื่อกี้ที่วินเขาบอกว่าไม่มีทางได้ใช้น่ะ หึหึ

ก็มารอดูกัน...แล้วถึงตอนนั้น ผมจะให้เขาได้ลองทุกกลิ่นทุกแบบเลยคอยดู





(ทำไมวันนี้ไม่กลับบ้านละจ๊ะ ปกติสอบเสร็จลูกชายแม่ต้องกลับบ้านนี่) หลังจากที่ผมแยกย้ายกับวินแล้วกลับมาถึงห้องได้ซักพักแม่ก็โทรเข้ามาพอดี สงสัยท่านพึ่งไปงานเลี้ยงถึงได้โทรมาดึกขนาดนี้

“ผมไปดูหนังกับวินมาครับเพราะอาทิตย์ที่แล้วไม่ได้เจอกันเลย พรุ่งนี้เขาก็ต้องกลับบ้านด้วย” ปกติวันศุกร์เราสองคนจะต้องกลับบ้านของพ่อกับแม่ใครมัน แต่อาทิตย์นี้เลื่อนเป็นวันเสาร์ตอนเช้าแทนเพราะมีนัดไปดูหนังด้วยกันชดเชยเวลาที่ไม่ได้เจอ บ้านวินเองก็อยู่กรุงเทพแต่อยู่คนละฟากกับบ้านผม

(เอ๊ ไปดูหนังกันแบบนี้คบกันแล้วรึยังลูก) อ่า ผมลืมไปเลยว่ายังไม่ได้บอกแม่เรื่องนี้ ลืมไปเสียสนิท

“คบกันแล้วครับแม่ ซักพักแล้ว”

(โอ้ แม่ดีใจด้วยนะจ๊ะ สงสัยน้องวินจะต้องเหนื่อยน่าดูที่คบกับเรา...ถ้าน้องว่างก็พาน้องมาทานข้าวที่บ้านบ้างนะลูก แม่อยากเจอ) ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าดูท่าทางแม่ผมจะเข้าข้างวินมากกว่าลูกตัวเองซะแล้ว อีกหน่อยผมคงกลายเป็นหมาหัวเน่าไปเลย ใครๆก็เอ็นดูวินทั้งนั้น

“ได้ครับแม่ พัตก็ว่าจะพาไปอยู่เหมือนกันแต่ว่าช่วงนี้ติดสอบซะก่อน เอาไว้ถ้าว่างผมจะพาน้องวินของแม่ไปหานะครับ”

(ได้จ้ะ...แล้วพรุ่งนี้พัตมาถึงกี่โมงลูก แม่จะได้เตรียมอาหารไว้ให้)

“คงเกือบเที่ยงอ่ะครับแม่ ว่าจะนอนยาวเพราะไม่ได้นอนมาทั้งอาทิตย์ อ้อแม่ครับ...แม่ไม่ต้องส่งคนมาดูเรื่องของใช้ของพัตแล้วนะ วินเขาจะดูให้บอกว่าไม่อยากให้รบกวนคนที่บ้าน” พูดกับแม่ไปทั้งปากก็ฉีกยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงคนที่พึ่งจะไปดูหนังด้วยกันมา คิดถึงหน้าน่ารักๆของวินไปด้วย

(แหม หมั่นไส้จริงเชียวลูกคนนี้ ถ้าไม่เป็นการรบกวนวินแม่ก็ตามใจจ้ะ งั้นเดี๋ยวแม่โอนเงินค่าของใช้ให้เป็นเดือนๆไปแล้วกันนะจ๊ะ)

“โอเคครับ”

(จ๊ะ งั้นแม่วางสายแล้วนะ พักผ่อนนะจ๊ะลูก พรุ่งนี้เจอกัน)

“ครับ ฝันดีนะครับแม่ ฝากกู้ดไนท์พ่อด้วย”

(จ้ะ)

ยังไม่ทันจะวางสายจากแม่ดีคนที่ผมพูดถึงเมื่อซักครู่ก็โทรเข้ามา

“ครับ”

(พัตทำไรอยู่)

“พึ่งคุยกับแม่เสร็จเมื่อกี้นี้เอง วินล่ะทำอะไรอยู่ครับ”

(เราอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังจะนอนล่ะ...ง่วง) ตอนนี้เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้วไม่แปลกที่วินกำลังจะเตรียมตัวนอน แถมวันนี้ยังเดินทั้งวันอีกคงเหนื่อยเป็นะรรมดา ผมเองก็อยากจะนอนแล้วเหมือนกันแต่ว่าขี้เกียจลุกไปอาบน้ำมากตั้งแต่กลับมาเลยยังไม่ได้ทำอะไรนอกจากนอนนิ่งๆอยู่บนโซฟา

“งั้นก็นอนเลย พรุ่งนี้ต้องกลับบ้านแต่เช้าอีกนะ” พรุ่งนี้วินต้องกลับบ้านเช้ามากครับ ออกจากคอนโดหกโมงเช้าเพราะว่ามีธุระกับที่บ้าน

(อื้อ พัตก็รีบนอนนะ...ฝันดี) เสียงวินเริ่มจะไม่ไหวแล้ว อ้อแอ้อยากนอนเต็มแก่

“ฝันดีครับ” ไม่นานสายก็ตัดไปให้ผมได้วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะก่อนจะลุกไปอาบน้ำซะที เหนื่อยอยากนอนจะแย่แล้วเหมือนกัน
 





.....................................................







 “อีพัตตตตตต...มึงช่วยกูหน่อยไม่ได้เหรอ นะๆๆๆๆ มึงก็รู้ว่าทั้งสาขาเราไม่มีใครหล่อเท่ามึงแล้ว ปีก่อนมึงก็หนีรุ่นพี่ถือซะว่าไถ่โทษปีที่แล้วนะ แค่ไปเดินแป๊บเดียวเองมึง”

“อย่างอื่นกูก็พอรับได้แต่ให้ถอดเสื้อคืออะไร มึงเป็นคนคิดคอนเซ็ปใช่ไหมเมี่ยง” ผมหันไปถามกระเทยประจำสาขาอย่างอ่อนใจ มันมาขอให้ผมเป็นคนถือป้ายของสาขาซึ่งอันที่จริงถ้ามันเป็นงานของคณะผมก็ช่วยนะ ทั้งที่ผมเองก็มีหน้าที่อย่างอื่นในวันนั้นแต่ช่วงเช้าก็ยังช่วยเดินขบวนได้

“อุ๊ย เท่จะตาย คนอื่นเห็นจะได้รู้ว่าสาขาเรานั้นมีของดี...น่านะมึง ถือให้หน่อยถอดเสื้อโชว์นิดเดียวเอง ผู้ชายเขาก็ต้องถอดกันทุกคนแหละมันเป็นคอนเซ็ปต์ของคณะเรานะมึง”

“กูว่าที่มึงมาขอไอ้พัตเพราะมึงอยากเห็นซิกแพคมันเป็นความต้องการส่วนตัวเลยใช่ไหม เอากูไปแทนก็ได้นะงั้น” ไอ้กิมเอ่ยออกมา นี่ก็ตัวสั่นอยากโชว์ระริกระรี้ ปีก่อนไมมึงไม่เสนอตัววะให้รุ่นพี่ตามจิกผมอยู่ได้

“เกลียดจริงคนรู้ทัน แต่ไม่ค่ะมึงทำหน้าที่ประธานรุ่นต่อไปเถอะ เป็นหน้าเป็นตาประจักรแก่ทั่วโลกต้องผัวของคนทั้งสาขาอย่างอีพัตเท่านั้น...นะพัตนะ ช่วยกูเถอะ กูไปโม้กับอีแบงค์เอกผังเมืองไว้แล้วว่าสาขากูเด็ดสุด ถ้าไม่ใช่มึงก็พังพินาศหมดเลยนะที่กูโม้ไว้อ่ะ กระเทยหน้าแตกดังโผล๊ะหมอไม่รับเย็บค่า”

“มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบอะไรแบบนี้ ให้ไปแบกธงกูจะไม่คิดมากเลย” ผมไมชอบจริงๆนะงานพวกต้องใช้หน้าตาอะไรเทือกนี้ ให้เป็นที่จับจ้องให้คนมองเยอะๆผมไม่ชอบ

“โถว่ เสียดายน่าตาอันหล่อเหลาของสามี...กูสัญญาว่าครั้งนี่ครั้งสุดท้ายเลยนะ จะไม่ส่งชื่อมึงเข้าประกวดเดือนอีกเลยด้วย สัญญา งานอื่นกูก็จะให้มึงเลือกหน้าที่ของมึงเองแบบไม่ขัดไม่ดึงมึงมาทำงานกูเลย”

เมี่ยงมันชอบมาเล็งผมให้เข้าประกวดเดือนมหาลัยอยู่เรื่อย แต่ผมก็เลี่ยงมาตลอดโดยที่มันหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องส่งผมเป็นตัวแทนของสาขาไปประกวดให้ได้ในซักปี พอมันยื่นข้อเสนอนี้มาผมเลยเริ่มสนใจไอ้งานกีฬาถอดเสื้อนี้ขึ้นมา

“จริงนะ ห้ามมาถามกูเรื่องให้ประกวดเดือนแล้วนะ เดือนสาขา เดือนคณะ เดือนมหาลัยไม่เอาทั้งนั้น”

“ตกลงค่ะที่รัก” มีการกระพริบตาปริบๆใส่ด้วย นี่ถ้าลงมานั่งตักผมได้คงทำไปแล้ว

“เออๆ ก็ได้ งานสุดท้ายนะ” เมื่อลองชั่งน้ำหนักก็คิดว่าตัดปัญหาไอ้เรื่องจะให้ผมไปทำอะไรพวกนั้นจบๆไปได้ซักที

“กรี๊ดดดดดดดดดดด ได้ค่ะได้ โอ้ย รอดแล้วชีวิตกู ปีนี้สาขาเราต้องเลิศสุดคณะเราต้องเลิศสุดแน่นอนกูคอนเฟิร์ม งั้นกูไปคุยเรื่องงานต่อนะคะ ไว้มีอะไรจะบอกอีกทีนะ จุ๊บๆ” ร่างอันมหึมาของเพื่อนในสาขาเดินจากไปกับภารกิจกันหนักอึ้ง
เอาว่ะ อย่างน้อยก็งานสุดท้ายแล้ว...ผมจะได้ไม่ต้องมาทนคำรบเร้าของมันในครั้งต่อๆไปอีก

“หึหึ โดนแน่มึง ถ้าวินรู้ว่ามึงต้องถอดเสื้อนะ ชะตาขาดแน่ๆ” ไอ้จีนที่คุยโทรศัพท์กับสาวเสร็จพูดออกมา เออว่ะ! ลืมคิดถึงตอนที่วินรู้ไปเสียสนิท

แต่วินคงไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง ก็มันเป็นงาน....

“มึงเตรียมตัวง้อยาวเลยเพื่อน ถ้าเป็นกูกูโวยวายแน่ มึงไม่รู้หรอกว่ามีคนจ้องจะเอามึงมากแค่ไหน งานนี้งานมหาลัยด้วยคนเป็นล้านอ่ะ” ขอบคุณคำปลอบโยนของไอ้กิม ช่วยกูได้เยอะเหลือเกิน

“มึงก็รู้ว่ากูเบื่อกับการที่ต้องทนคำรบเร้าของไอ้เมี่ยงแค่ไหน งานไหนๆมันก็จ้องจะเอากูไปเดินขบวนทั้งนั้นแหละ ทำงานนี้แล้วมันจะไม่ตามตื้ออีกก็ถือว่าคุ้ม”

“เออ มันคุ้มกับชีวิตมึงแต่ช่วยถามแฟนมึงด้วยนะครับคุณพัตครับ ศพไม่สวยแน่มึงว่าไหมกิม”

“ล้านเปอร์เซ็นต์เลยเพื่อน” แล้วพวกมันสองคนก็ไฮไฟว์กันอย่างถูกอกถูกใจ ตอนแรกก็ไม่ได้กังวลเท่าไหร่หรอกนะเพราะคิดว่าน่าจะอธิบายให้วินเข้าใจได้ แต่โดนพวกมันไซโคหนักก็เริ่มคิดแล้วเหมือนกันว่าจะบอกวินว่ายังไง

และที่หนักกว่าการบอกคือ...

วินจะว่ายังไง?




TBC.



Talk


ตอนแรกกะว่าจะอู้มาต่อพรุ่งนี้แต่เห็นคอมเมนต์ของคุณ QXanth139 เลยมาต่อให้คืนนี้ซะเลย :katai4: :katai4: คือจะบอกว่าพรุ่งนี้มีเรียนเช้าและคิดว่าต้องไปสายแน่ๆเพราะมัวแต่มาแต่งพัตกับวิน  :mew4: :mew4: ต้องบอกว่าดีใจมากๆนะคะ พอเห็นแล้วเลยเข้าไปดูในทวีตแล้วได้เห็นจริงๆว่ามีคนแนะนำเรื่องนี้ในทวีตด้วย ดีใจมากๆจริงๆที่มีคนที่ชื่นชอบนิยายของเรา(ดีใจจนน้ำตาจะไหลเลย ไม่คิดว่าจะมีคนติดแท็กให้><) ทุกๆคอมเมนต์มีค่ากับคนแต่งมากจริงๆนะคะ เวลาที่เราเห็นว่ามีคนติดตามมีคนชอบเรื่องของเรามันเป็นอะไรที่ทำให้มีพลังมากๆเลย จำได้ทุกคนที่เมนต์ แล้วก็รู้สึกขอบคุณมากๆที่เข้ามาติชมกัน

ไม่มีอะไรจะพูดนอกจากคำว่าขอบคุณมากจริงๆ รักแล้วก็ขอบคุณมากๆเลยนะคะ :pig4: :pig4:

แล้วก็ขออนุญาติใช้แท็กตามคนที่แนะนำเลยน๊า มีอะไรอยากพูดพัตวินในทวีตติดแท็ก #เริ่มต้นจากการแอบรัก ได้เลยนะคะ คนแต่งอยู่ทวีตตลอดเลย  :-[ :-[



https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/timeline/?ref=aymt_homepage_panel


ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เมี่ยงหยุด แต่หนุ่มน้อยสาวน้อยที่เป็นแฟนคลับของพัตอยู่แล้วจะไม่คลั่งหนักกว่าเดิมหรอกเหรอคะเนี่ย :laugh:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พัตคิดหาวิธีบอกวินพร้อมกับหาวิธีง้อวินไปด้วยเลยนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
วินคงจะเข้าใจอยู่ว่ามันเป็นงาน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พัตรีบบอกวินเลย รู้ทีหลังคงเสียความรู้สึก

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :hao3: งานเข้าพัดเต็มๆคิดว่าวินน่าจะเข้าใจ

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
สมาคมเกรียมัว

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
โอ๊ยยยยยย ตอนดูหนังนี่หวานหยุดอ่ะ
โมเม้นต์น่ารักๆของวัยรุ่น >\\\\\<

พัต จะได้ง้อวินไหมเนี่ย ไม่รู้วินจะงอนไหม
เดาไม่ถูก 55555

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
สนุกมากกกกกกพัตนี่ก็หื่นนิดๆนะเนี่ยยยย วินจะรอดมือไปได้อีกนานแค่หนายยยยยย :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
น่ารักอะ ชอบตอนที่รู้ว่าวินก็แอบชอบพัตมาก่อน ชอบแนวแอบรักแบบนี้จังเลยครับ ^^

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เรื่องน่ารักจัง
น้องวินคงไม่ว่าเรื่องพี่พัตถอดเสื้อหรอกเนอะ
ขอบคุณคนเขียนค่ะ
 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พัตต้องงานเข้าแน่ๆเลย จะได้เห็นวินหึงบ้างแล้วใช่มั้ย

ออฟไลน์ withmeto_PJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
เราเพิ่งได้เข้ามาอ่าน สนุกค่ะ ชอบพระนายมากเลยย

เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ จะรอตอนต่อไปค่าาาา ^^

ออฟไลน์ กระดาษเก่า

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เพิ่งเข้ามาอ่านเหมือนกัน ชอบบบบบ

รวดเดียวเลย อยากอ่านต่อมาก :hao7:

เป็นกำลังใจให้คะ มาต่ออีกน่ะ

 :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6

ตอนที่ 12

“ทำไมซื้อไข่กับกล้วยมาเยอะนักล่ะ...อกไก่ก็ด้วย” วินถามขึ้นในขณะที่เราสองคนกำลังช่วยกันจัดของเข้าที่ให้เรียบร้อย วันนี้เราออกไปซื้อของใช้เข้าห้องของผมครับ ไหนๆก็ไหนๆแล้วเลยซื้ออาหารพวกโปรตีนมาตุนไว้ซะเยอะเพราะมีเวลาเพียงสามอาทิตย์ในการฟิตหุ่น ฟิตเนสที่ไปอาทิตย์ละสองสามครั้งก็คงต้องเพิ่มเวลาซักหน่อย

ว่าแต่...ยังไม่ได้บอกวินเรื่องนี้เลยแฮะ

“ก็...คืองานกีฬาของมหาลัยพัตต้องไปถือป้ายสาขาอ่ะ แล้ว...” สายตาที่มองมาอย่างตั้งใจฟังทำเอาสติและความกล้าเริ่มจะหายไป กลัววินงอนอ่ะยอมรับเลย

“แล้ว?”

“คะ คือ...คอนเซปต์ของสาขาพัต...ผู้ชายต้อง...ถอดเสื้อ” ไอ้คำว่าถอดเสื้อนี่เบาจนแทบไม่ได้ยินแถมผมก็ยังไม่กล้าจะสบตาแฟนของตัวเองอีกด้วย พอพูดไปแล้วก็รับรู้ได้ถึงความเงียบที่ปกคลุมรอบตัว บรรยากาศเริ่มแผ่ความเย็นแปลกๆ “คือมันเป็นงานของสาขาอ่ะวิน เพื่อนมาขอให้ช่วยพัตก็ไม่อยากจะปฏิเสธ” 

ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่มองมานิ่งๆด้วยสายตาหวาดหวั่น ตอนนี้คือขอยกเหตุผลร้อยแปดมาเอาตัวรอดก่อนเถอะ ถ้าไม่รีบอธิบายเกรงว่าอาจจะไม่มีชีวิตรอดไปช่วยงานเพื่อนก็เป็นได้

เมี่ยงเอ้ย...หางานมาให้ผมแท้ๆเลย

“วินครับ...” สืบเท้าเข้าไปใกล้คนที่ยังคงนิ่งพร้อมกับดึงมือที่อยู่ข้างลำตัวของคนตรงหน้าขึ้นมาจับ

“ถอดเสื้อ...งานกีฬามหาลัย...คนทั้งมหาลัย ไม่สิ มีคนข้างนอกมาด้วย...ก็ต้องเห็นกันหมดเลยเหรอ” ร่างเล็กๆขยับปากพูดทีละประโยคช้าๆ ดวงตาไหววูบที่แสดงออกทำให้ผมต้องลูบไล้มือบางเบาๆอย่างปลอบประโลม

“เห็นก็เอาไปไม่ได้ซักหน่อย มันเป็นงานของสาขาพัตช่วยได้ก็อยากจะช่วย งานเดียวงานสุดท้ายนะ...จริงๆ” เป็นใครก็ต้องคิดต้องรู้สึกบ้างผมเข้าใจ เพราะถ้าจะให้วินถอดเสื้อต่อหน้าคนอื่นผมเองก็ไม่โอเคเหมือนกัน ไม่โอเคอย่างแรงและไม่มีวันยอมให้ทำแบบนั้นด้วย

“...จะพยายามเข้าใจ” ถึงแววตาจะยังคงแสดงออกว่าทำใจไม่ได้ซักเท่าไหร่แต่วินก็พยายามยิ้มให้ผมเหมือนว่าเขาโอเคทั้งที่ลึกๆแล้วเขาก็ยังคงทำไม่ได้ทั้งหมดก็ตาม

ผมรั้งเดือนทันตะเข้ามาในก้อมกอดพร้อมกับลูบหลังเขาเบาๆเพื่อปลอบโยน มันยากที่จะทำใจผมรู้ดี

“อย่าคิดมากนะ พัตเองก็ไม่ได้อยากทำแต่นั่นมันเป็นงาน” ผมสัมผัสได้ว่าแรงรัดที่โอบรอบตัวจากคนในอ้อมกอดนั้นมากขึ้น หน้าของวินก็ซบอยู่ที่อกราวกับต้องการที่พึ่งพิง 

“อื้อ...วันนั้นห้ามมองใครด้วย ห้ามมองเด็ดขาดเลยนะไม่ว่าจะดาวหรือเดือนของคณะไหนก็ตาม อ้อ...อนุญาตให้มองเดือนของคณะทันตะได้ ห้ามมองคนที่อยู่บนอัศจรรย์ด้วย พิธีกรนักร้องคอรัสก็ห้าม”

“หืม ไม่ห้ามก็ไม่มองใครอยู่แล้ว จะมองแค่เดือนทันตะคนเดียวแน่นอนสัญญาครับ วินก็เหมือนกัน...ห้ามมองใครเด็ดขาด หญ้าในสนามก็ห้ามมอง” วินเองก็ต้องเดินขบวนเหมือนกันในฐานะของเดือนคณะเขา แน่นอนว่าผมรู้ดีว่าต้องมีคนสนใจเขามากมายเช่นกัน ถ้าผมเห็นว่าใครส่งสายตาให้แฟนผมหลังจากเดินขบวนมีเคลียร์กันแน่ๆ

“ห้ามมองหญ้าอะไรกันเล่า งั้นเราจะต้องหลับตาเดินเลยไหม” วินผละออกมาให้เราได้มองหน้ากัน แต่มือก็ยังคงโอบเอวอีกฝ่ายไว้ทั้งคู่

“ถ้าได้ก็ดีน่ะสิพัตจะได้ไม่ต้องห่วง ใครมันส่งสายตามาวินจะได้ไม่เห็น ไม่หวั่นไหว”

“กี่คนส่งมาก็ไม่หวั่นไหวอยู่แล้ว พัตนั่นแหละที่ต้องระวัง...ต้องถอดเสื้อโชว์ด้วย แล้วนี่อยากโชว์มากเหรอถึงได้ซื้อทั้งไข่กล้วยแล้วก็อกไก่มาขนาดนี้ จะฟิตหุ่นให้สาวๆกรี๊ดใช่ไหม” แววตาที่เคยหวานกลับกลายแปรเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นทันที

ผมอมยิ้มอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นท่าทางและคำพูดของวิน ผมไม่ได้อยากจะโชว์ใครหรอกครับแต่คนมันเยอะก็ต้องทำให้ตัวเองดูดีบ้าง ขืนถอดเสื้อทั้งที่พุงพลุ้ยนี่คงดูไม่จืดแน่ๆ

“ก็วันนั้นคนมันเยอะนี่นา...แต่ไม่ได้อยากจะโชว์ใครเลยนะนอกจากเดือนทันตะอ่ะ”

“ไม่ต้องมาพูดเลย ไม่อยากโชว์แล้วฟิตหุ่นทำไม”

“โถ่ที่รัก ไม่อยากโชว์แต่พัตก็ไม่อยากให้มันดูน่าเกลียดนี่นา”

“ทะ ที่รักอะไรเล่า มั่ว!” แล้วอารมณ์ที่ดูขุ่นมัวจากคนตรงหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นท่าทีตระหนกแบบที่ผมยังคงงงๆ

อ้อ...เป็นเพราะเมื่อกี้ผมเรียกวินว่าที่รักออกออกไปด้วยความลืมตัวสินะ แต่ถึงจะลืมตัวผมก็ไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหนในเมื่อวินเป็นที่รักของผมจริงๆ แต่ดูท่าว่าคนที่ผมโอบอยู่ตอนนี้จะยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่กับสรรพนามใหม่ หน้าเน่อนี่เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับสายตาที่เสมองไปทางอื่นไม่ยอมสบตาอย่างเคย ริมฝีปากเล็กก็เม้มแน่น

“พัตรักใครก็เรียกคนนั้นว่าที่รักไม่เห็นจะแปลกตรงไหน...จริงไหมครับที่รัก?” ผมยิ้มกว้างพร้อมกับส่งสายตาไปให้วินเพราะรู้ว่านั่นจะยิ่งเป็นการทำให้เขาเขินหนักขึ้นไปอีก

“พะ พอแล้ว...ปล่อยเลยนะ จะไปเก็บของต่อ” ของที่เรายังเก็บไม่เรียบร้อยยังคงวางอยู่ที่เดิม แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสนใจของพวกนั้นเพราะวินาทีนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่ากับคนที่อยู่ตรงหน้าผมแล้ว

“ไม่ปล่อยครับ”

“พัต! ปล่อยเราเดี๋ยวนี้นะ” แรงดิ้นแค่นี้จะมาสู้อะไรผมได้ ยิ่งวินดิ้นผมก็เลยยิ่งแกล้งเขาโดยการรัดให้แน่นขึ้น

“หยุดดิ้นก่อนเร็ว เดี๋ยวพัตปล่อย” ที่จริงวินก็ดิ้นไม่แรงหรอกครับ แต่ถ้าเขาอยู่นิ่งๆก็คงจะดีกว่า

“แน่นะ?”

“ครับ” คนในอ้อมกอดค่อยๆผ่อนแรงดิ้นลงจนกลายเป็นยืนอยู่เฉยๆตามเดิม และนั่นแหละคือสิ่งที่ผมต้องการ “จูบได้ไหมครับ” มือที่โอบเอวบางถูกยกขึ้นมาลูบไล้ที่ริมฝีปากของวินแผ่วเบา สีหน้าที่เป็นปกติได้ไม่นานเริ่มกลับมาแดงอีกแล้ว

วินไม่ได้ตอบรับหรือว่าปฎิเสธ มีเพียงสายตาที่มองมาอย่างเขินอายและหวั่นไหวให้เท่านั้น เราทั้งคู่สบตากันเนิ่นนานก่อนที่ผมจะถือว่าความเงียบนั้นคือคำตอบรับว่าตกลง

และเป็นผมเองที่เคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายเรื่อยๆ จากระยะที่ห่างพอประมาณก็สั้นลง สั้นลง และสั้นลงจนสามารถมองเห็นขนตาที่เรียงเป็นแพรของวินได้อย่างชัดเจน ดวงตาคู่นี้ที่ผมชอบ คิ้ว จมูก แก้ม ปาก ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าคือสิ่งที่ผมหลงใหล ลมหายใจระหว่างเราสั้นเรื่อยๆจนในที่สุดมันก็แทบจะกลายเป็นลมหายใจเดียวกันในจังหวะที่ต่างฝ่ายต่างค่อยๆหลับตาลง

ผมไล้ลิ้นชื้นแฉะของตัวเองไปบนริมฝีปากที่เผยอน้อยๆของวินไปมาอย่างแผ่วเบา ละเลียดราวกับมันเป็นขนมหวานที่ผมชอบที่สุดจนไม่อยากจะตะกรุมตะกรามกินให้มันหมดไปเร็วนัก ขบเม้มปากบางไปเรื่อยๆอย่างใจเย็นจนวินยอมเปิดทางให้ผมเข้าไปสำรวจภายใน เรียวลิ้นค่อยๆบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ของอีกฝ่ายก่อนจะสัมผัสเข้ากับกับลิ้นเล็กของเขาที่หดหนีทันทีเมื่อผมสัมผัสโดน แต่ผมไม่ได้กดดันเขา ก็ยังคงค่อยๆไล้เลียดลิ้นเกาะเกี่ยวตามวินไปอย่างแผ่วเบาจนในที่สุดก็สามารถครอบครองมันไว้ได้

“อือ อะ อะ อืม” เสียงครางจากในลำคอของคนที่ไม่ประสีประสาดังขึ้นอย่างทำให้ผมพอใจ

แรงดูดดึงเรียวลิ้นเล็กเริ่มเพิ่มมากขึ้นตามอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็พยายามควบคุมมันไม่ให้มากเกินจนวินรับไม่ไหว ปฎิกิริยาของเขากำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ลิ้นเล็กเริ่มตอบสนองกลับมาเป็นฝ่ายจูบผมกลับบ้างตามสัญชาตญาณ ใบหน้าก็ปรับเอียงให้เราทั้งสองได้แนบชิดกันมากขึ้นอย่างที่มันควรจะเป็น มือผมค่อยๆลูบไล้ทั่วเอวบางไปมาในขณะที่อีกข้างก็ยังอยู่ที่ข้างแก้มวินเพื่อบังคับทิศทาง

จากที่ลูบเอวเล็กผ่านร่มผ้ามือของผมก็เริ่มสอดเข้าไปภายในเพื่อสัมผัสกับผิวเนียนโดยที่วินไม่รู้ตัวเพราะยังคงมัวเมากับจูบของผมอยู่ ผิวที่ผมได้สัมผัสนั้นเนียนราวกับเม็ดทรายเล็กละเอียด ยิ่งสัมผัสยิ่งต้องการมากขึ้น...มากขึ้น

จนในที่สุดก็ต้องเป็นผมที่ต้องตัดใจถอดถอนริมฝีปากออกมาจากปากบางอย่างอ้อยอิ่งแม้ว่าใจจะต้องการทำมากกว่านั้นก็ตาม

“แดงหมดเลย” ผมไล้มือไปยังปากที่บวมเจ่อนิดๆจากแรงดูดดึงของตัวเองพร้อมกับส่งสายตาไปให้คนที่ยืนหอบเล็กน้อยจากการจูบเมื่อครู่

“พะ เพราะใครกันเล่า” วินรีบซุกตัวเข้ามาในอ้อมกอดผมอีกครั้งคงเพราะอายเกินกว่าที่จะสู้หน้าผมล่ะมั้ง ทั้งที่ไม่เห็นมีอะไรจะต้องอายกันซักนิด ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของเราและวันนั้นผมก็สอนเขาไปเยอะแล้ว แต่ดูท่าว่าจะยังคงไม่เป็นผลเท่าไหร่ ไร้เดียงสายังไงก็ยังคงไร้เดียงสาอย่างนั้น

“หึหึ เลิกเขินได้แล้ว แฟนกันทำแบบนี้เป็นเรื่องปกติวินควรจะชินได้แล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องเขินพัตซักหน่อย” ผมอยากให้เขาสบายกับทุกการกระทำที่ทำต่อผม ไม่ว่าจะทำอะไรก็ให้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ การแสดงออกของความรักแบบนี้ยิ่งไม่มีอะไรต้องอาย

“ก็มันยังเขินๆนี่นา ใครจะหน้าด้านเหมือนพัตกันล่ะ...แล้วมือน่ะเอาออกไปเลยนะคนทะลึ่ง เอาเข้ามาตอนไหนเนี้ยไวชะมัด” อ้าว รู้ตัวซะแล้ว คนกำลังเพลินเลย

“โอเคๆ งั้นจัดของต่อให้เสร็จดีกว่าเนอะจะได้เริ่มทำกับข้าวกัน” ผมหอมหัวคนในอ้อมกอดไปทีนึงก่อนจะผละออกมาซึ่งวินก็รีบถอยห่างไปอย่างรวดเร็ว

“ไม่ต้องเลย เดี๋ยวเราจัดการตรงนี้เอง” ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวการอยู่ในห้องครัวกับผมสองต่อสองซะแล้วล่ะ

“ครับๆ ตามใจ งั้นพัตไปรอข้างนอกนะ มีอะไรก็เรียกได้เลย” วินเขาจัดการเรื่องอาหารได้โดยที่ผมไม่ต้องช่วยอะไรได้อย่างสบาย เราทำอาหารเป็นทั้งคู่แต่ส่วนมากวินจะเป็นฝ่ายทำให้ผมกินซะมากกว่าเวลามาที่ห้อง และแน่นอนว่าาผมชอบอาหารที่เขาทำมากๆเลยล่ะ อร่อยทุกอย่างไม่ได้ยอเกินเหตุจริงๆ





.................................................





3 อาทิตย์ผ่านไป

“ไอ้พัต ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยดิวะ”

“ดีเท่าที่จะทำได้แล้ว ตอนนี้กูง่วงจะตายห่า” ผมบ่นใส่ไอ้กิมทันที วันนี้เป็นวันกีฬาของมหาลัยแล้ว ไอ้เมี่ยงนัดให้มาตั้งแต่ตีสามทั้งที่ผมก็ไม่ได้จะต้องแต่งอะไรมากมาย แต่งเสร็จตั้งแต่ตีสี่ครึ่งต้องให้มานั่งรอจนตอนนี้เกือบจะหกโมงเช้าแล้วรอเดินขบวนตอนแปดโมงอย่างเดียว คือขอหลับก่อนได้ไหมวะ วันนี้ผมก็มีแข่งกีฬาช่วงบ่ายต่ออีก

“เออน่า เดี๋ยวรอไอ้จีนกลับมาก่อนมึงค่อยพัก หาไรรองท้องบ้าง...เมี่ยงบอกเดี๋ยวมันมาตามมึงอีกที” ไอ้จีนไปซื้อของกินที่เซเว่นให้อยู่ แล้วเดี๋ยวพวกมันก็ต้องออกไปดูความเรียบร้อยต่างๆแล้วก็ช่วยงานด้านอื่นๆด้วย

“สามี~ มาถ่ายรูปกันก่อนค่ะ” ประตูเปิดผ่างเข้ามาพร้อมเสียงที่พยายามดัดให้เล็กดังขึ้นจนผมหันไปมองผู้ที่เข้ามาใหม่อย่างเหนื่อยใจ นี่ขนาดใช้อำนาจอันไม่ชอบจนได้มาอยู่คนเดียวในห้องนี้แล้วนะ มันยังอุตสาห์ตามมาทำให้ผมเหนื่อยได้อีก
งานสุดท้าย...งานสุดท้าย ท่องไว้ในใจ

“ถ่ายทำไม” ผมมองหน้าไอ้ปาร์คช่างกล้องประจำสาขาอย่างอึนๆทันที ง่วงอย่างแรงจนปวดตาแล้ว

“ระดับมึงทั้งทีไม่เก็บภาพไว้ได้ไงวะ”

“ใช่ค่ะ ไม่เก็บภาพไว้ได้ไง ถอดเสื้อเร็วจะได้ถ่ายกันซักที ทีนี้มึงก็จะได้พักยาวจนกว่าจะเดินขบวนนู้น อยากเสร็จเร็วก็รีบถอดเลยค่ะ” ไอ้เมี่ยงกระดี๊กระด๊าบอกผมถอดเสื้อใหญ่จนอดคิดไม่ได้ว่ามันเอาการถ่ายรูปมาเป็นเหตุผลบังหน้ารึเปล่าเพราะตั้งแต่มาแต่งหน้าแต่งตัวผมก็ไม่เคยถอดเสื้อคลุมที่ใส่ทับไว้ออกเลย

“เก็บอาการหน่อย น้ำลายจะไหลแล้วนั่น” ไอ้กิมแซะไอ้เมี่ยงเพราะคงคิดไม่ต่างกัน

“ไหลเหลยอะไรอีกิม ไม่มีค่ะ กูไม่ได้คิดอะไรเลยจริงจริ๊งงงง....ถอดเลยค่ะสามี ด่วนค่ะด่วน” จะไม่เชื่อมันก็ตรงนี้นี่แหละ แต่ถึงอย่างนั้นสุดท้ายแล้วผมก็ต้องยอมถอดเสื้อคลุมออกอยู่ดี ไม่ใช่อะไรนอกจากจะได้ให้มันรีบๆออกไปให้ผมได้นอนซักที

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!! โอ๊ย อกอีแป้นจะแตก ซิกแพคที่กูใฝ่ฝันอยากเห็นมาตลอด เซ็กซี่ขยี้ใจมากค่ะผัว...มาเป็นผัวกูเถอะนะ กูขอร้อง” มันกรี๊ดแบบกรี๊ดจริงๆจนพวกผมสามคนที่อยู่ในห้องต้องยกมือขึ้นมาปิดหูทันที ไอ้เมี่ยงไม่พูดเปล่าแถมยังเขยิบมาประชิดตัวพร้อมกับลวนลามผมทางสายตาอีกต่างหาก ถ้าไม่ใช่เพื่อนนี่จะเตะให้จริงๆนะ

สามอาทิตย์ที่ผ่านมาผมก็พยายามฟิตร่างกายเท่าที่จะทำได้ ไปฟิตเนสเกือบทุกวันยกเว้นวันที่ผมต้องไปซ้อมบอลซ้อมวิ่งก็จะไม่ได้ไป ปกติก็ออกกำลังกายบ้างอยู่แล้วตามประสาคนชอบเล่นกีฬาร่างกายเลยมีกล้ามอย่างที่มันควรจะมี พอไปฟิตมากขึ้นก็เลยเห็นรูปร่างชัดขึ้นพร้อมกับดูหนาขึ้น

“กูมีแฟนแล้ว”

“กระเทยเซ็ง...ไม่ต้องย้ำค่ะกูรู้แล้ว ข่าวมึงดังทั่วมหาลัยขนาดนั้นใครไม่รู้คงไม่ได้มาเรียนหนังสือแล้วล่ะ  นี่ถ้าไม่ใช่วินกูไม่ยอมง่ายๆหรอกนะ แต่วินตั้ลล้าคคคคคค...กูยอมให้ได้” มีการจีบปากจีบคอพูดทำเหมือนงอนผมเล็กๆด้วย แต่ผมก็ไม่ได้ถือสาอะไรมันหรอกครับ รู้ว่ามันทำเล่นๆพูดไปงั้น

“พอๆ เริ่มถ่ายกันได้แล้ว กูต้องไปตามเก็บภาพที่อื่นด้วย” ในที่สุดไอ้ปาร์คทนความไร้สาระของเราไม่ไหวจนต้องพูดออกมา
 
ปึง~

“อ้าว มาทำไรวะปาร์ค” ไอ้จีนที่พึ่งประตูเข้ามาพร้อมถุงของกินเต็มสองมือถามขึ้นมาด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่ามีบุคคลเพิ่มขึ้นมาจากที่ควรจะมีแค่ผมกับไอ้กิมอยู่สองคน

“มาถ่ายรูปว่ะ ระดับไอ้พัตทั้งทีต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ซักหน่อย...พัตมึงเดินไปหน้าต่างเลย กูจะเอามุมนั้น” ผมเดินไปตามคำสั่งช่างกล้องทันทีเพราะอยากให้งานเสร็จไวๆ ระหว่างการถ่ายภาพก็มีไอ้เมี่ยงคอยจัดการนู้นจัดการนี่ ไม่ว่าจะเรื่องโพสต์เรื่องฉากเรื่องแสงมันก็ทำยิ่งกว่าช่างกล้อง ผมมีหน้าที่แค่ขยับร่างกายตามที่มันสั่งเพราะหน้ามีอยู่หน้าเดียวอยู่แล้วไม่ต้องทำอะไร กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงผมก็ได้พักซักที

“เอ้อ...แล้วตอนนี้วินอยู่ไหนอ่ะ ออกมาคณะยัง” ไอ้จีนถามขึ้นในขณะที่เรากำลังกินของที่มันซื้อมาอยู่ ตัวผมกินแค่ไข่กับนมเท่านั้น คือทำมาตั้งสามอาทิตย์ก็กะว่าจะทำจนถึงตอนเดินขบวนเสร็จ หลังจากนั้นจะซัดให้เกลี้ยงเพราะต้องใช้พลังงานในการเล่นกีฬาด้วยไม่กินไม่ได้

“กำลังแต่งหน้าอยู่คณะ” ไลน์มาบอกผมแค่ตอนตีห้าแล้วก็หายเงียบไปเลยไม่ตอบไลน์ที่ผมส่งกลับไปใดๆ สงสัยคงจะวุ่นๆอยู่กับการแต่งตัวเหมือนกัน แต่ของวินก็ไม่ได้อะไรมากเช่นกันเพราะเขาก็แค่ต้องใส่ชุดนักศึกษาเต็มยศก็เท่านั้น

“แฟนมึงนี่ก็ดีไม่งอแง ถ้าเป็นเด็กกูนะป่านนี้ต้องเคลียร์กันยาวแล้ว” ไอ้กิมเอ่ยขึ้นมา ใครว่าไม่งอแงกัน พอโทรหาผมแล้วผมอยู่ฟิตเนสทีไรก็งอนตลอดหาว่าผมอยากฟิตหุ่นไปให้คนอื่นดู แต่ดีที่วินแค่งอนเล็กๆน้อยๆไม่ได้งี่เง่าอะไร

“ถ้ามาเห็นตอนนี้ก็ไม่แน่”

“กูว่าตามไอ้จีน แต่งหน้าแล้วเซตผมแล้วแถมยังลงครีมผิวแทนด้วยแม่งสาวคลั่งมึงแน่ ทีนี้แหละจะได้เคลียร์กับวินยาวจริงๆ” ที่พูดมาคือเมี่ยงจัดการหมดเลย ไอ้ครีมผิวแทนนี่ผมโคตรจะหงุดหงิดเพราะคือปกติก็ไม่ชอบทาอะไรเหนอะๆอยู่แล้วด้วย แต่ไอ้เมี่ยงมันบังคับขู่เข็ญจนผมต้องยอมทา มันบอกอย่างให้เห็นซิกแพ็คผมชัดๆ ยังดีที่ทาเพียงบางเบาให้ผิวดูแทนขึ้นนิดๆเพราะผมทาเองโดยมีไอ้จีนและไอ้กิมช่วย

“พอๆ ไม่ต้องมาไซโคกูให้เครียด พวกมึงจะออกไปตอนไหนก็ปิดไฟให้กูด้วยนะกูจะนอนแล้ว” ชั่วโมงนึงก็ยังดีก่อนที่จะโดนตามไปเตรียมตัว เพื่อนผมพยักหน้าให้เมื่อเห็นท่าทางผมก่อนจะเริ่มเก็บซากของกิน ส่วนผมก็เอนหลังลงนอนที่ที่ไอ้เมี่ยงเอาผ้ามาปูไว้ให้ทันที






....................................





“โอ๊ย กูจะเป็นลมกับซิกแพ็คพี่เขา”

“หุ่นดีสัดอ่ะมึง”

“แอร๊ย พี่พัตเดินขบวนด้วยเหรอ เลือดจะพุ่งแล้วขอยาดมด่วน”

“อยากได้อยากโดนค่าาา”

“หุ่นโคตรดีเลยว่ะ”


บลาๆๆๆๆๆ

ถ้าจะพูดกันขนาดนี้ก็เดินมาพูดกับผมเลยก็ได้นะ คือไม่ได้หงุดหงิดเลยครับแต่ว่าเขาซุบซิบกันใกล้มากๆจนผมได้ยินหมดเลย ตรงจุดนี้เป็นจุดดรวมตัวแล้วคนเลยมาออกันเยอะ แล้วก็มีเสียงเซ็งแซ่อีกมากมายที่ผมจับใจความไม่ได้แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรนอกจากอยากจะรีบเดินรีบเสร็จ

Rrrrr

“พัต วินโทรมาว่ะ” ไอ้จีนที่ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงชั่วคราวในระหว่างเดินขบวนเอ่ยบอกเพราะของทุกสิ่งอย่างของผมฝากไว้ที่มันหมดส่วนไอ้กิมเป็นประธานรุ่นต้องดูความเรียบร้อยต่างๆงาน

“วินอยู่ไหน” ผมรีบถามออกมาทันทีที่ยื่นมือไปรับโทรศัพท์แล้วสไลด์หน้าจอรับสาย คิดถึงใจจะขาด อยากเจอหน้าอยากได้กำลังใจ เมื่อซักครู่ก่อนออกจากห้องผมโทรหาเขาแล้วเขาไม่ได้รับสายนี่คงพึ่งได้จับโทรศัพท์ล่ะมั้งถึงโทรกลับมาได้

(กำลังไปที่จุดเริ่มขบวนแล้ว เราจะโทรมาถามว่าทาครีมกันแดดรึยัง แดดแรงมากเลยนะ) เสียงรอบข้างวินเองก็ดังไม่แพ้กัน ดูเหมือนว่าเขาค่อนข้างที่จะต้องใช้เสียงมากกว่าปกติที่ในการคุยกับผม

“ไม่ได้ทา พัตไม่ชอบทาครีม” คือดำก็ดำไปเถอะเพราะไม่ชอบทาจริงๆ ผมเองก็เล่นกีฬากลางแจ้งตลอดก็ไม่เคยทาเลย คล้ำลงแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับมาเป็นผิวสีเดิมผมเลยไม่ห่วง พ่อกับแม่เป็นคนขาวครับเลยไม่มีปัญหาด้านนี้ แต่อย่าให้พูดถึงวินนะ อันนั้นน่ะเรียกว่าโคตรขาวเลยเถอะ ขาวมากๆ

(ไม่ได้นะ ไม่ชอบยังไงก็ต้องทา ไม่งั้นผิวไหม้แน่ๆ)

“พัตไม่มีครีมกันแดด วินเอามาให้หน่อยดิ” อันนี้เป็นแผนการที่อยากจะเจอเขาเท่านั้นแหละ ใจจริงไม่ได้อยากทาครีมอะไรเลย

(น่าตีจริงๆคนอะไร เดี๋ยวเราจะรีบไปยังคงพอมีเวลาบ้าง พัตอยู่ตรงไหน)

“เดี๋ยวพัตรออยู่ตรงห้องน้ำฝั่งทิศตะวันออกนะ”

(อื้อๆ)

“กูไปห้องน้ำเดี๋ยวมา” เอ่ยบอกไอ้จีนทันทีที่วางสาย

“เร็วๆก่อนที่เขาจะเริ่มจัดแถวกัน เดี๋ยวไอ้เมี่ยงมาฉีกอกกูอีก” ผมพยักหน้าก่อนจะรีบวิ่งไปที่ที่บอกวินไว้ ตลอดทางก็พยายามไม่สนสายตาของคนที่มองมา คือไม่ได้ใส่เสื้อแล้ววิ่งไปทั่วคงไม่ใช่ภาพที่น่ามองเท่าไหร่หรอกมั้ง

“คนมองเต็มเลย” ปากเล็กเบะออกราวกับไม่พอใจอะไรซักอย่างอย่างรุนแรงเมื่อเห็นผมเดินเข้าไปหา ดวงตาโตกวาดมองตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะส่งสายตาขุ่นเคืองมาให้

“เขามองวินต่างหาก...พัตหวงจะแย่แล้วเนี้ย” วันนี้วินแต่งหน้าเล็กน้อยพร้อมกับเซตผมขึ้นเปิดหน้าใสๆนั่นให้เห็นชัดๆเต็มตา ออร่าออกจนผมไม่อยากจะให้ไปเดินให้คนมองแล้ว หวง

“อย่าให้เห็นว่ามองใครที่ส่งสายตามาให้นะ เราจะโกรธไม่ยอมคุยด้วยเลยคอยดู”

“ไม่มีแน่นอนครับสัญญาเลย” อยากจะดึงวินมาจูบมาหอมใจจะขาดแต่ก็รู้ว่าทำไม่ได้ การที่เราสองคนยืนอยู่ด้วยกันแบบนี้คนก็ให้ความสนใจจะแย่แล้ว ที่สาธารณะแบบนี้ก็ต้องวางตัวให้ดีจะทำอะไรรุ่มร่ามไม่ได้

“ใกล้ได้เวลาแล้ว เดี๋ยวเราฉีดสเปรย์กันแดดให้ผิวจะได้ไม่ไหม้ แดดร้อนขนาดนี้ต้องสุกแน่ๆ” แดดร้อนมากจริงๆครับ ขนาดนี่แค่เจ็ดโมงครึ่งยังขนาดนี้แล้วผมจะต้องเดินอยู่กลางแดดเกือบชั่วโมงคงสุกอย่างที่วินว่าจริงๆ “ยื่นแขนออกมาก่อนเดี๋ยวเปื้อนกางเกง” วินสั่งต่อและผมก็ทำตามอย่างว่าง่าย

แฟนผมเดินไปห่างตัวหน่อยก่อนจะฉีดสเปรย์กันแดดให้ทั้งตัว แต่พอมาฉีกที่หน้าอกเป็นที่สุดท้ายแก้มขาวๆกลับแดงขึ้นมาซะงั้น

“ลูบให้ด้วยดิ” เอ่ยอย่างเหย้าหยอกเมื่อเห็นอาการคนตัวเล็ก

“ลูบเองเลย...เดี๋ยวเราต้องไปแล้วนะ เดินขบวนเสร็จแล้วไลน์มาด้วย” วินสั่งรัวๆ

“ครับ เดี่ยวพัตเดินไปส่งนะ”

“ไม่ต้องเลย จะเดินไปทั่วให้คนอื่นมองทำไมกัน....เราไปแล้วจริงๆนะ บ๊ายบาย”

“ครับ” วินแยกไปอีกทางในขณะที่ผมก็ต้องเดินไปอีกทาง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยืนมองจนคนตัวเล็กลับหายไปจากสายตาอยู่ดีแล้วค่อยรีบวิ่งกลับไปที่จุดของตัวเอง เอาล่ะ รีบๆเดินจะได้เสร็จซักทีนะ






.....................................................





“โอ๊ย ตอนที่มึงเดินเข้าสนามกูนึกว่าสนามจะแตก ทั้งผู้หญิงทั้งกระเทยกรี๊ดจนกูปวดหู”

“เออ เหมือนเหตุจราจลย่อมๆเกิดขึ้นเลยก็ว่าได้ ทุกคนนี้ลุกขึ้นมาดูกันใหญ่ แถมช่างกล้องแม่งยังจับแต่ซิกแพคมึงขึ้นฉายบนจออีกนะ”

ผมฟังเรื่องเจากไอ้กิมและไอ้จีนอยู่ในห้องพักอย่างเฉยๆ อยากทำอะไรก็ทำเถอะเพราะคงจะไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นผมทำอะไรแบบนี้อีก แล้วก็จะบอกว่าตลอดทางที่เดินขบวนผมโคตรอึดอัดกับสายตาที่มองมาเลยแม้ว่าคนในขบวนสาขาผมผู้ชายจะถอดเสื้อกันหมดก็เถอะ ช่างเป็นคอนเซปต์ที่หื่นกามจริงๆ==

“พวกมึงก็พูดโอเวอร์ ไปๆ ไปซ้อมบาสกันได้แล้ว” บาสคณะผมชิงที่สามครับโดยมีไอ้จีนกับไอ้กิมอยู่ทีมบาสและมีผมคนเดียวที่อยู่ทีมบอล ผมเองก็มีแข่งวิ่งกับบอลรอบชิงในช่วงบ่ายซึ่งบอลเป็นรายการสุดท้ายเลย

“ปะๆ” เราสามคนเลยเก็บของให้เรียบร้อยก่อนจะรีบออกจากห้องไปยิมแข่ง ผมไม่ได้มีหน้าที่แต่ก็ไปเพราะไม่มีเพื่อนอยู่ด้วย ไปนั่งเล่นที่ยิมแล้วค่อยไปเตรียมตัวแข่งวิ่งทีหลัง

“มาหานะ อยู่ยิมกลาง” นั่งอยู่บนอัศจรรย์ในขณะที่โทรหาวินไปด้วยแล้วก็อ้อนให้อีกฝ่ายมาหา วินไม่ได้ทำอะไรแล้ว วันนี้คนน่ารักเขามาแค่เดินขบวนเฉยๆ พูดแล้วก็เสียดายที่ไม่ได้เห็นแฟนตัวเองตอนเพราะตัวผมก็อยู่ในขบวนเช่นกัน

(ไม่ไป) หืม? เสียงเหมือนจะงอนอะไรหน่อยๆแฮะ

“มาเถอะนะ พัตอยากเจอจะแย่แล้ว” อารมณ์วินเขาคงจะนอยด์ๆเพราะบรรยากาศแปลกๆในสนามตอนผมเดินเข้าไปล่ะ
มั้ง ไหนจะตากล้องที่เอาแต่แพลนมาที่ตัวผมอยู่ตลอดนั่นอีก(คือแทบจะไม่ซูมหน้า) ได้ยินเสียงกรี๊ดดังขึ้นตลอดแต่ผมพยายามไม่สนใจ ทำหน้านิ่งๆแล้วก็เดินนิ่งๆไปตามหน้าที่

(อยากเจอจริงๆเหรอ ไม่ได้อยากเจอใครนอกจากเราคนเดียวนะ) อันนี้เริ่มไม่โอเค วินเริ่มที่จะคิดไปไกลแล้ว

“อยากเจอที่รักคนเดียวจริงๆครับ ว่างแล้วใช่ไหม? มาหาพัตนะ...นะครับ”

(กะ ก็ได้...เดี๋ยวเราไป) จุดอ่อนของวินคือคำว่าที่รักสินะ ผมเรียกเขาทีไรยอมใจอ่อนทุกที งั้นต่อไปต้องงัดมาใช้บ่อยๆซะแล้ว หึหึ

มองดูไอ้กิมกับจีนที่วอร์มร่างกายอยู่กลางสนามกับพวกในทีมไปเพลินๆไม่นานก็มีคนเดินมานั่งข้างๆ กลิ่มน้ำหอมที่ลอยมาไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร

“เหนื่อยไหม” ผมหันไปดึงมือวินมาจับทันที เขาล้างหน้าเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อของคณะเรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกับผม

“ไม่หรอก...พัตล่ะเหนื่อยไหม เมื่อคืนก็นอนนิดเดียวเอง” เมื่อคืนผมต้องไปช่วยพวกคัตเอาท์กว่าจะกลับมาก็ดึกแล้ว นอนไปแค่สองสามชั่วโมงก็ต้องออกมาแต่งตัวเลยเพลียๆหน่อย

“นิดหน่อยอ่ะ แต่เดี๋ยวแข่งกีฬาเสร็จก็คงหลับเป็นตาย” เรียกได้ว่าต้องสลบไปเลยแน่ๆหลังจากนั้น

“แล้วต้องไปซ้อมวิ่งกี่โมง”

“บ่ายโมงครึ่งครับ” อีกราวๆเกือบสองชั่วโมงเห็นจะได้

“งั้นนอนไหม นอนตักเราก็ได้....พักซักนิดก็ยังดี ต้องแข่งทั้งวิ่งทั้งบอลต่ออีกเดี๋ยวจะไม่ไหวนะ” พูดพร้อมกับหันไปหยิบเป้ของตัวเองที่วางอยู่ข้างๆมาไว้บนตักและนั่นทำให้ผมไม่ลังเลที่จะล้มลงนอนลงทันที เหยียดขาไปตามเก้าอี้แล้วพลิกตัวนอนหงายก่อนจะหลับตาลง

“บ่ายโมงสิบห้าปลุกพัตด้วยนะ” พูดทั้งที่หลับตาลงแล้ว

“อื้อ เดี๋ยวเราปลุก” สัมผัสแผ่วเบาจากมือนุ่มที่ลูบไปตามเส้นผมทำให้รู้สึกผ่อนคลายจนทำให้ผมหลับลงอย่างรวดเร็ว





TBC.


Talk


พัตหุ่นแซ่บมาก :z1: :z1: หน้าก็หล่อมากนะเออ แต่เอาแค่หุ่นมายั่วก็พอเพื่อให้เห็นภาพของตอนนี้ชัดขึ้น(นี่เป็นภาพพัตทั้งหุ่นทั้งหน้าเลยนะ^^) :impress2: :impress2: กางเกงพัตก็ใส่แบบนี้แหละน๊าาาา(จะบอกว่าได้คอนเซปต์นี้มาจากสาขาเราจริงๆนะ คือให้ผู้ชายถอดเสื้อเดินค่า...อาหารตามากมายพูดเลย อิอิ) เขาหล่อจริงๆเนาะ :ling1: :ling1:

ตอนนี้อึนมากเลยค่ะ ง่วงมากกกกกกกกกกกกกกกก~ วันนี้ไปเหมานิยายมาหลายเล่มเลยมาต่อเพื่อที่จะได้อ่านนิยายอย่างสบายใจ55555555555 ...ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ :bye2: :bye2:

*ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และที่สำคัญคือขอบคุณทุกคอมเมนต์มากๆค่ะ :L1: :L1:


https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/timeline/?ref=aymt_homepage_panel


ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
หลับทั้งๆ ที่ได้นอนหนุนตักวินไปด้วยแบบนี้พลังงานกลับมาเต็มเปี่ยมแน่นอนเลยนะคะพัต ^^ 

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
กรี๊ดดดดดดด ตอนนี้คือฟินแลนด์!!!
ทั้งฉากทำกับข้าวมุ้งมิ้ง ซิกแพคของพัต
แระตบท้ายด้วย "นอนตัก" ชาร์ตพลัง!!! >\\\\\\<
ดิ้นๆๆๆ กรี๊ดๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ซิกแพคพางานเข้าพัตซินะวินหวงมากกกกกกก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
วินงอนน่ารักอ่ะ ไม่ได้มากเกินไป
มีหวานก่อนแข่งด้วย ตักวินนุ่มไหมพัต
 :o8: :o8:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ขอสัมผัสได้ไหมจ้ะ 5555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ฝันหวานเลยซิ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ชอบแบบวินอ่ะ ไม่มากไปไม่น้อยไป

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
วินน่ารักจริงๆนะ /ทาสวิน
หุ่นพัตแซ่บมากจีจีค่ะ  :hao6:

ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
น่ารักจัง มาต่อไวๆนะครับ ชอบอะ ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด