เริ่มต้นจากการแอบรัก ตอนที่30(END) 06/06/2559(03.33) p.16 *จบแล้วย้ายห้องได้ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เริ่มต้นจากการแอบรัก ตอนที่30(END) 06/06/2559(03.33) p.16 *จบแล้วย้ายห้องได้ค่ะ  (อ่าน 308588 ครั้ง)

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
เอิ่มมมม มิกะ......... :a5:

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6


ตอนที่ 26

“...”

(...)

เราต่างคนต่างนั่งเงียบเมื่อผมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงที่แล้วให้คนที่อยู่อีกประเทศฟัง วินนั่งเงียบและนิ่งแต่สายตากลับมีแววสั่นไหวอย่างชัดเจน ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดหรือเอ่ยอะไรที่จะทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นไปกว่านี้ รู้ดีว่าความรู้สึกที่เสียไปแล้วของคนฟังทำยังไงก็คงไม่อาจย้อนคืนมาได้

ผมไม่ได้ตั้งใจ...แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ดีพอ เพราะสุดท้ายแล้วผลลัพธ์ก็เหมือนเดิมไม่ต่างกัน

“วิน...” อีกคนนั่งนิ่งนานจนเป็นผมเองที่ทนไม่ไหว

(...)

“ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ” เป็นเพราะตัวเองที่ไม่ระวังตัวให้มากพอ แม้มันจะเสี้ยววินาทีแต่มันก็เกิดขึ้น

หลังจากที่มิกะเข้ามาจูบผมก็ผลักเธอออกอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณ แรงผลักนั้นมากตามความตกใจจนร่างเพรียวของเธอล้มลง น้ำตาที่ไหลอาบแก้มเนียนไม่ได้ทำให้ผมเห็นใจแต่อย่างใด ณ ตอนนั้นความโกรธมันมีมากกว่า

'อย่าทำให้ตัวเองดูไร้ค่าไปมากกว่านี้เลยมิกะ'

พูดเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกมาโดยไม่ได้หันกลับไปมองคนที่ล้มอยู่บนพื้นอีก

กลับมายังไม่ทันที่จะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าหรือทำอะไรทั้งนั้นผมก็ติดต่อหาอีกคนทันที รู้ว่ายังไงก็ต้องคุยกันยาวจนต้องเปิดแมคแล้วสไกป์หาวิน

“วินครับ ช่วยพูดอะไรหน่อยนะ เงียบแบบนี้พัตไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”  แทบจะอ้อนวอนให้เขาพูดหรือเอ่ยอะไรออกมาบ้าง

(...ค่อย ค่อยคุยกันใหม่ได้ไหม ตอนนี้ ระ เราไม่พร้อม) เสียงแหบแห้งที่ได้ยินให้ความรู้สึกราวกับมีมือหลายสิบมือมาบีบหัวใจจนหายใจแทบไม่ออก

แววตาและสีหน้าของวินทำให้ผมเจ็บข้างในไปหมด

“ถ้าวินไม่สบายใจที่จะคุยกันตอนนี้เอาไว้ค่อยคุยกันก็ได้ครับ พักผ่อนนะ...ขอโทษสำหรับทุกอย่าง ขอโทษที่ไม่ระวัง ขอโทษที่ทำให้เสียใจ...รัก” อยากคุยใจแทบขาดแต่ก็อยากให้วินได้พักผ่อนมากกว่า เขาคงยังต้องใช้เวลาทำใจกับเรื่องนี้ซักพัก

“ฝันดีครับ” อีกคนไม่ได้ตอบอะไรก่อนที่ภาพจะตัดไปเป็นเพียงหน้าจอที่ว่างเปล่า ผมถอนหายใจออกมาทิ้งตัวพิงกับพนักเก้าอี้อย่างหมดแรง

คงต้องให้เวลาทั้งเขาและผมเอง...








2อาทิตย์ผ่านไป

เสียงเซ็งแซ่ของคนที่มารับผู้โดยสารคนอื่นๆดังขึ้นมากมายให้ได้ยินเมื่อเดินออกมาจากเกต ผมเดินออกมาตามทางที่ได้นัดหมายกับคนขับรถไว้ก่อนหน้า ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่ม แม้จะทั้งเหนื่อยและเพลียขนาดไหนแต่ก็ยังไม่สามารถกลับบ้านไปพักได้ตอนนี้

ผมมีที่ที่ต้องไป...

“อ้าว คุณพัต มาดึกเชียวนะคะ”

“ผมพึ่งกลับจากต่างประเทศน่ะครับเลยเลยมานี่เลย วินอยู่ไหมครับ”

ที่ที่ผมมาเป็นที่แรกคือบ้านของวิน...

กว่าสองอาทิตย์ที่ไม่ได้คุยกันทำให้ผมต้องเร่งทำงานสะสางทุกอย่างจนได้เวลากลับไทยเร็วขึ้น5วัน วินไม่ยอมรับโทรศัพท์หรือการติดต่อจากทางไหนตั้งแต่วันนั้น อาทิตย์แรกที่เป็นแบบนี้ผมแทบจะตายจนแม่ต้องเข้ามาคุยด้วยเพื่อให้ใจเย็นและมีสติมากขึ้น หลังจากนั้นพอคิดได้ผมก็เร่งทำงานจนเป็นฝ่ายที่ไม่ได้ติดต่อวิน โหมงานจนเสร็จภายในเวลาอันรวดเร็วแล้วบินกลับมาทันที

ได้เวลาง้อแฟนแบบเต็มที่แล้ว

“อยู่ค่ะ นี่ก็พึ่งทานขนมแล้วขึ้นห้องไปเมื่อซักครู่นี่เอง”

“งั้นผมขอเข้าไปหาวินหน่อยนะครับ”

“เชิญค่ะๆ” แม่บ้านเปิดประตูให้ผมเข้าบ้านอย่างใจดี พอเข้าไปในตัวบ้านเรียบร้อยก็ไม่ได้ขึ้นไปหาวินทันทีอย่างที่ใจนึกเนื่องจากต้องผ่านด่านใหญ่ที่สุดไปก่อน

พ่อและแม่ของวิน...

“มาทำอะไรดึกๆดื่นๆไม่รู้จักกลับบ้านกลับช่อง” เสียงของคุณพ่อดังขึ้นทันทีที่ผมก้าวเท้าเข้าตัวบ้าน

“สวัสดีครับ ผมมาหาวินครับ” ยกมือขึ้นไว้ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ พ่อของวินกวาดตามองชุดที่ผมใส่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมไม่ได้เปลี่ยนชุดทำงานเสียด้วยซ้ำ มีเพียงแค่สูทที่ถอดออกไปแล้วก็พับแขนเสื้อเชิตสีขาวขึ้นลวกๆเท่านั้นเนื่องจากอยากกลับมาให้เร็วที่สุด

“มาหาทำไม ป่านนี้ลูกฉันคงนอนเรียบร้อยแล้ว”

“คุณคะ” เสียงปรามเบาๆจากคุณแม่ดังขึ้น คงไม่แปลกที่ท่านเหมือนจะไม่พอใจกับการมาครั้งนี้ของผม สองอาทิตย์ที่ผ่านมาท่านก็คงจะพอรู้เรื่องของผมกับวินบ้างตามประสาคนเป็นพ่อเป็นแม่ อะไรที่เกิดขึ้นกับลูกตัวเองคงจะไม่สามารถคลาดสายตาไปได้

“ขอโทษที่มารบกวนตอนดึกครับ แต่ผมมีเรื่องที่ต้องคุยกับวิน” ถ้าให้รอมากว่านี้ผมต้องตายแน่ๆ รอไม่ไหวจนต้องบึ่งมาที่นี่ทันทีที่ลงเครื่อง

“ยังต้องคุยอะไรอีก ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกลับมาเองไม่ใช่หรือไง” คงจะไม่ใช่แค่รู้เรื่องนิดหน่อยแล้วถ้าพ่อของวินจะรู้ถึงขั้นว่าผมไม่ได้ติดต่อเขาขนาดนี้ แต่ที่ไม่ได้ติดต่อใช่ว่าจะนิ่งเฉย ผมถามข่าวคราวเขาจากเพื่อนทั้งสองของวินตลอดเพียงแต่ไม่ให้วินรู้ ทั้งยุ่งเรื่องงานด้วยแล้วก็อยากให้เวลากับวินด้วย และตอนนี้ก็คิดว่าได้เวลาที่สมควรแล้วที่ต้องมาง้ออีกฝ่ายแบบเต็มที่

“ผมอยากให้เวลากับวินครับ แต่ว่าตอนนี้คงได้เวลาที่ต้องคุยกันแล้ว...ผมขอโทษคุณพ่อและคุณแม่ที่ทำให้วินเสียใจ” คราวนี้ยกมือไหว้ไม่ใช่การไหว้สวัสดีแต่เป็นการขอโทษที่ทำให้ลูกชายของท่านทั้งสองต้องเสียใจ

“...”

“คนแก่ขี้เก๊กน่ะจ้ะ...เอาเถอะ แม่เข้าใจว่าคนรักกันต้องมีการกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา พัตขึ้นไปหาวินที่ห้องเถอะลูก ยังไงดึกแล้วจะนอนที่นี่เลยก็ได้ ท่าทางคงจะเหนื่อยน่าดู” คุณแม่ส่งยิ้มอ่อนๆให้อย่างเห็นใจ ดูจากสภาพภายนอกก็คงแย่ไม่น้อย ผมไม่ได้นอนมาจะสองวันเต็มๆหน้าตาคงปิดความอิดโรยไว้ไม่มิด

“ขอบคุณครับ..ผมขออนุญาตนะครับ” คุณพ่อยังยืนจ้องผมนิ่งแต่คุณแม่พยักหน้าพร้อมกับส่งสัญญาณให้ขึ้นไปข้างบน ผมจึงค้อมหัวให้ท่านทั้งสองก่อนจะเลี่ยงขึ้นไปหาวิน

ก๊อก ก๊อก

เคาะประตูห้องนอนของคนที่โหยหาเพียงไม่กี่ทีแล้วรอให้เขามาเปิด

“ใครครั...” วินเอ่ยเสียงก่อนที่จะเปิดประตูออกมา พอเห็นว่าเป็นใครที่ยืนอยู่หน้าห้องหางเสียงก็หายเข้าลำคอเล็กไปทันที

“ขอพัตเข้าไปได้ไหมครับ” คนที่อยู่ในห้องมองมาที่ผมโดยไม่ได้พูดอะไร เมื่อเห็นเขานิ่งผมเลยลองเอื้อมมือไปจับประตูให้เปิดออกกว้างอีกนิด พอเขาไม่ได้มีท่าทีต่อต้านก็ค่อยๆสอดกายเข้าไปในห้องก่อนจะดันประตูให้ปิดลงพร้อมกับกดล็อค

“มาง้อนะครับ” ค่อยๆจับมือเล็กๆทั้งสองข้างขึ้นมาจับ โล่งอกไปอีกนิดที่วินไม่ได้สะบัดออก

“...”

“...”

“พึ่งจะมาทำไมตอนนี้ อึก หายเงียบไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือไง” น้ำตาหยดสวยไหลลงกระทบแก้มทันทีที่วินเอ่ยพูด พอเห็นอีกฝ่ายร้องไห้ผมก็รั้งตัวเขาเข้ามากอดแล้วลูบหลังเล็กๆอย่างปลอบโยน

“ที่หายเงียบไปเพราะคิดว่าวินคงยังไม่พร้อมคุย...แต่ไม่ได้ทิ้งนะครับ รู้ตลอดว่าอยู่ไหนทำอะไรเป็นยังไงบ้าง กลับมาง้อแล้วนะ...คิดถึงที่สุด” คนในอ้อมกอดดูเหมือนจะผอมลงไปนิดทั้งที่ปกติวินจะกินเก่งตลอด แต่เมื่อช่วงที่ผ่านมาจากการายงานของเพื่อนเขาบอกว่าวินซึมๆไม่ค่อยจะทานอะไรนั่นคงเป็นสาเหตุ

“ฮึก มะ ไม่ต้องมาพูด...เรา อึก โกรธ คนนิสัยไม่ดี ไปจูบกับคนอื่นแล้วก็ หะ หายเงียบไป ไม่ติดต่อมา...เหนื่อยที่จะง้อแล้วใช่ไหม ไม่รักเราแล้วใช่ไหม” สองมือเล็กๆทุบที่หลังผมไปมาอย่างสะเปะสะปะแต่ไม่ได้ทำให้สะเทือนเท่ากับน้ำตาที่หยดลงบนไหล่และคำพูดจากปากเล็กๆนั่น

คำว่าไม่รักเขาที่ออกจากปากคนที่เรารักที่สุดนี่แหละเจ็บปวดที่สุดแล้ว

“ยอมรับผิดทุกอย่างเลย แต่ไม่ยอมรับเรื่องไม่รัก...รักนะครับ รักเหมือนเดิม อย่าพูดว่าพัตไม่รักวินเลยนะ มันไม่เคยน้อยลงเลย ไม่มีวันไหนที่ไม่รัก ไม่เคยเหนื่อยที่จะง้อ ทุกเรื่องที่วินเสียใจพัตผิดเอง ผิดจริงๆ...เลิกร้องไห้นะ”

“ ฮะ ฮึก “ อีกคนยังคงสะอึกสะอื้นอยู่เบาๆ

“เลิกร้องเถอะนะคนเก่ง” ผละออกมามองหน้าคนที่ร้องไห้จนหมดสภาพ หน้าเล็กๆนั่นแดงไปหมด ทั้งตาและจมูกก็แดงก่ำจนผมต้องยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาออกจากกรอบหน้าของอีกคนให้อย่างแผ่วเบาโดยมีวินจ้องหน้าผมอย่างไม่คลาดสายตา

“คะ คนนิสัยไม่ดี”

“ครับ”

“ใจร้าย”

“ครับ” ยอมรับทุกข้อที่วินว่ามาทั้งหมด “เป็นคนที่นิสัยไม่ดีเลยเนอะ ทำแฟนเสียใจแล้วก็ร้องไห้ขนาดนี้” มือทั้งสองข้างเลื่อนไปกุมหน้าเล็กๆของวินเอาไว้แล้วไล้ไปที่แก้มนุ่มเบาๆ

“ยังไม่หายโกรธ” แม้จะพูดแบบนั้นแต่ท่าทีที่มีต่อผมของวินก็ดูเหมือนว่าจะอ่อนลงมากแล้วให้พอได้ใจชื้น

“ครับๆ จะง้อจนกว่าจะหาย จะให้ทำอะไรจะทำให้หมดเลย”

“แล้วไหนบอกกลับต้นเดือน” ตามกำหนดเดิมก็เป็นอย่างนั้น

“ต้องกลับมาหาแฟน คิดถึงมากจนทนไม่ไหวเลยรีบเคลียร์งานแล้วก็กลับมานี่แหละครับ ลงเครื่องก็รีบมาหาเลย...เหนื่อยจัง ขอพักก่อนได้ไหม” ซบหัวลงกับไหล่เล็กแล้วเคาะเบาๆสองสามที พอมาถึงตอนนี้อยู่เฉยๆความเหนื่อยที่สะสมมาทั้งหมดก็แสดงผล อยากหลับมันซะตรงนี้และตอนนี้ทั้งที่ก่อนหน้าผมไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นนอกจากคิดแค่ว่าต้องรีบมาหาวินให้เร็วที่สุด

“ไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยพัก...ยังไม่ได้หายโกรธนะแต่จะยอมให้ก่อนก็ได้” เห็นไหมว่าแฟนผมน่ารักที่สุดแล้วจริงๆ

“อาบน้ำให้ด้วยได้ไหม” เงยหน้าขึ้นแล้วส่งสายตาวิบวับให้

“คนบ้า! ไม่ต้องมาพูดทะลึ่งนะ ไปอาบน้ำเดี๋ยวเราจะไปเตรียมเสื้อผ้าแล้วก็หาอะไรรองท้องให้” วินผละออกไปก่อนจะค้อนงามๆให้หนึ่งวงจนผมหลุดหัวเราะออกมา ความรู้สึกหนักอึ้งทั้งหมดตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาเบาบางลงราวกับยกภูเขาออกจากอก

“ไม่ต้องมายิ้ม โทษยังเหลืออีกเยอะ...เข้าห้องน้ำไปได้แล้ว”

“ครับๆ” แฟนพูดอย่างนั้นก็ต้องรีบทำตาม พอวินเดินออกจากห้องผมก็เดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวของเจ้าของห้องแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ผ้าเช็ดตัวที่ยังไม่ได้ใช้ผมก็รู้ว่าอยู่ตรงไหนแต่แค่อยากใช้ของวินก็เท่านั้น

เปิดตู้เล็กๆตรงเคาท์เตอร์ในห้องน้ำคว้าแปรงสีฟันออกมาแปรงฟันก่อนจะรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว
ผมใช้เวลาในห้องน้ำไม่นานนักก็เดินออกมาโดยมีผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างไว้เพราะไม่มีเสื้อผ้าใส่ มาแค่ตัวจริงๆ

“ทำไมไม่ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ในตู้” วินเดินถือชุดเข้ามาให้พร้อมกับเอ่ยถาม คิ้วเล็กๆขมวดเข้าหากันแน่นเมื่อเห็นว่าผ้าเช็ดตัวที่อยู่บนตัวผมเป็นของเขา

“อยากใช้ของแฟน”

“รีบแต่งตัวเลย” ทำมาเป็นเปลี่ยนเรื่องด้วย

“กางเกงใน?”

“อยู่ในนั้นแหละ”

“ของใคร” ไม่ใช่ของวินแน่ๆ วินจะมีกางเกงในไซส์อื่นไว้เพื่ออะไร ส่วนเสื้อผ้าที่เอามาให้ก็เป็นชุดบอลของผมที่วินยึดไปเป็นของตัวเอง

“ก็ซื้อมาไว้ให้คนแถวนี้แหละ ไม่ต้องถาม ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้เลย” วินดันหลังให้ผมเดินเข้าไปแต่งตัว พอออกจากห้องน้ำอีกรอบก็เห็นคนตัวเล็กนั่งรออยู่ที่โต๊ะมุมห้อง เป็นโต๊ะตัวเล็กๆแล้วบนนั้นก็อาหารวางอยู่สองสามอย่าง

“ยังไม่ทานอะไรเลยใช่ไหม ข้างล่างมีแค่แกงจืดกับนักเก็ตนะ” ผมทรุดตัวนั่งลงตรงข้ามวินแล้วยิ้มให้เขา

“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากที่อุตสาห์ยุ่งยากหาอะไรมาให้พัตทาน”

“ก็...ไม่ได้ยุ่งยากอะไรซักหน่อย”

“ยังไงก็ขอบคุณครับ” ผมลงมือทานข้าวโดยมีวินนั่งทานขนมอยู่เป็นเพื่อน จำได้ว่าเมื่อก่อนจะขึ้นมาหาเขาแม่บ้านก็บอกแล้วว่าพึ่งกินขนมไป ตอนนี้ก็กินอีกแล้ว เหมือนว่าวินคนกินเก่งคนเดิมจะกลับมาแล้ว







“กอดเบาๆก็ได้” ทั้งห้องปิดไฟเรียบร้อยหลังจากที่เราจัดการตัวเองกันเสร็จ ผมและวินกำลังเตรียมตัวจะเข้านอน ทั้งที่ตาปรือเริ่มจะปิดแต่ผมก็ยังรออีกคนลงมานอนข้างๆกัน พอวินดูความเรียบร้อยเสร็จล้มตัวลงผมก็คว้ามากอดทันที

“คิดถึง” พูดพร้อมกับพรมจูบไปทั่วหน้าหวานทั้งที่อยู่ในความมืด

“อื้อ นอนได้แล้ว”

“รัก...” จำได้แค่ว่าผมเอ่ยคำนี้ออกไปเป็นคำสุดท้ายก่อนที่สติจะดับวูบลงเนื่องจากความง่วงที่เข้าครอบงำ รู้เพียงแค่ว่าพอมีวินในอ้อมกอดก็ไม่ต้องห่วงหรือต้องกังวลอะไรอีก เรื่องที่ผมไม่สบายใจทั้งหมดได้เบาบางลงแล้ว







“อะ อือ” ไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน ผมนอนยาวจนกระทั่งร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ถึงได้รู้สึกตัว รอบๆห้องของวินมืดสลัวเนื่องจากผ้าม่านที่บดบังแสงแดดจากภายนอกจนหมด คนที่นอนอยู่ข้างตัวตั้งแต่เมื่อคืนคงจะตื่นไปนานแล้ว

ผมค่อยๆก้าวลงจากเตียงพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาบนโต๊ะข้างหัวเตียงถึงได้รู้ว่าตอนนี้ปาเข้าไปเกือบจะบ่ายโมง
พอก้าวเท้าเข้าไปในห้องน้ำก็เห็นเสื้อผ้าชุดที่ผมใส่มาเมื่อคืนวางไว้ให้ที่เคาท์เตอร์ เห็นแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ การกระทำเล็กๆน้อยๆของอีกคนที่คอยดูแลทำให้ในใจรู้สึกอุ่นๆทุกครั้งที่ได้รับ

ออกจากห้องน้ำมาก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาจากคนข้างนอก

“อาบน้ำแล้วเหรอ หิวไหม?” วินถามพร้อมกับเดินไปเปิดไฟให้ทั้งห้องสว่างขึ้น

“นิดหน่อยครับ” ผมยิ้มแล้วเดินเข้าไปหาวินใกล้ๆ

“น้ำหยดหมดแล้ว ทำไมไม่รู้จักเช็ดผมให้ดีๆ” ถึงจะบ่นแต่เขากลับเป็นฝ่ายคว้าผ้าเช็ดตัวในมือผมไปแล้วดันให้นั่งลงปลายเตียงก่อนจะขยับไปนั่งด้านหลัง ผ้าผืนใหญ่ถูกวางไว้บนหัวแล้วมือเล็กก็ขยำเช็ดไปมาให้เบาๆ

“สบายจัง” รู้สึกดีจนทำเอาผมเคลิ้มจะหลับอีกรอบ

“ลงไปกินข้าวได้แล้ว” วินเอาผ้าออกจากหัวแล้ววางลงข้างเตียงเมื่อเช็คว่าผมหมาดแล้ว ผมเลยได้โอกาสดึงมือทั้งสองข้างของเขามาประสานกันข้างหน้า ลำตัวของคนตัวเล็กเลยแนบกับหลังของผมเต็มๆ ท่าทางตอนนี้คือวินโอบผมจากด้านหลัง หัวทุยๆก็คลอเคลียอยู่ข้างไหล่

“คิดถึงมากๆเลยรู้ไหม...พัตขอโทษนะที่ทำให้วินเสียใจ” ลูบไล้มือที่แสนจะบอบบางไปมาเบาๆ มือคู่นี้สินะที่คอยดูแลผมมาตลอดตั้งแต่ที่คบกัน มือที่คอยทำนู้นทำนี่ให้ตลอด

“ถ้าทุกอย่างที่พัตทำอยู่บนความรู้สึกที่ยังรักเราก็ไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณที่ยังรู้สึกเหมือนเดิม ขอบคุณที่ไม่เคยน้อยลง ขอบคุณที่ยังอยู่ตรงนี้” หัวเล็กซุกเข้ากับซอกคอให้ผมต้องกระชับมือที่จับกันอยู่ให้แน่นขึ้น

“ขอบคุณเหมือนกันนะครับ...ส่วนเรื่องมิกะพัตผิดเองที่ไม่ได้ระวังตัว แต่มันก็จบไปแล้ว ต่อไปนี้จะไม่มีมีเรื่องแบบนี้อีก” ผมคิดไว้แล้วว่าต่อให้เธอจะมีข้อเสนอเรื่องงานดีๆก็คงไม่รับไว้ หลังจากที่คุยกับพ่อและแม่ท่านทั้งสองก็บอกว่าไม่เป็นไรถ้าหากมันทำให้ผมกับวินต้องมีปัญหากัน

“ถึงเราจะเข้าใจแต่ก็ไม่ชอบอยู่ดี ปากนี้เหรอที่เขาจูบ นี่ๆๆๆ” วินชะโงกหน้ามากดจูบลงบนปากผมรัวๆราวกับจะลบรอยสัมผัสของมิกะออกไปให้หมดจนผมต้องหลุดหัวเราะออกมา รั้งคนที่อยู่ด้านหลังให้ลงมานั่งตักอย่างรวดเร็วจนวินผวาคว้าเข้าที่ต้นคอเพราะกลัวตก

“แตะกันไม่ถึงสามวินาทีไม่มีสึกหรออะไรเลยทั้งนั้น แต่ถ้าวินอยากลบรอยเดี๋ยวพัตจัดการเอง”

คราวนี้ไม่ใช่แค่กดปากแนบกันเฉยๆแบบที่วินทำ ผมจัดการเลาะเล็มปากนุ่มของบนตักแล้วดูดดึงเบาๆก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปหาความหวานภายในเมื่ออีกคนเผยอปากออกโดยไม่ได้ตั้งใจ เสียงแลกเปลี่ยนน้ำลายดังขึ้นเบาๆก่อนจะรุนแรงขึ้นตามอารมณ์ของเราทั้งคู่ นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้สัมผัสกันแบบนี้ สองอาทิตย์ที่ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่แสนทรมานทำให้ผมอยากจะเติมเต็มมันให้มากที่สุด

เสียงครางของวินดังเล็ดรอดออกมาเบาๆจนทำให้อะไรบางอย่างภายใต้กางเกงเนื้อดีของผมมันดุนดันขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เหมือนว่าอีกคนพึ่งจะรู้ตัวว่าเขาได้ปลุกอะไรๆที่มันหลับใหลให้ตื่นถึงได้รีบผละออก

“ฮะ แฮกๆ...ละ ลงไปทานข้าวได้แล้ว” คนพูดกอดรอบคอแล้วซบหน้ากับไหล่ผมแน่นอย่างเขินอาย

“ลงไปแบบนี้ไม่ได้แล้ว ทำไงดีอ่ะ” ก็มันคับแน่นซะขนาดนี้

“กะ ก็ไปจัดการตัวเองสิ! ปล่อยเราลงนะ เดี๋ยวยาวแล้วไม่ได้ลงไปทานข้าวพอดี” คนในอ้อมกอดดิ้นขลุกขลักเมื่อผมรัดเอวเขาไว้แน่นอย่างไม่ยอมให้ลงไปง่ายๆ

“ช่วยพัตนะครับ ถ้าวินไม่ช่วยวันนี้ลงไปไหนไม่ได้แน่ๆ ทำให้มันตื่นแล้วก็ต้องรับผิดชอบดิ” ก็ไม่ได้เจอกันตั้งนาน พอมาอยู่ใกล้ๆได้กลิ่นตัวหอมๆได้สัมผัสกันแบบนี้ใครไม่มีอาการก็ให้มันรู้ไป อยู่นู้นวันไหนที่คิดถึงวินมากๆก็ใช้มือตัวเองนี่แหละ แต่ตอนนี้มีวินอยู่ตรงนี้แล้ว มีแฟนก็ต้องให้แฟนช่วยถูกไหม

“มะ ไม่เอา” ปฏิเสธเสียงเบาจนผมต้องเพิ่มเลเวลการอ้อนอีกนิด

“นะครับ...แค่ปากเองนะ นะ” แววตาของคนตรงหน้าสั่นไหวอย่างชัดเจนจนผมแอบยิ้มกับตัวเองในใจ เกร็งหน้าไว้สุดแรงห้ามหลุดเด็ดขาด ไม่งั้นภารกิจนี้จะล้มเหลวแน่




...........................................................




สรุปแล้วกว่าที่เราจะได้ลงไปทานข้าวกันก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายสองครึ่ง ดีที่ว่าพ่อกับแม่วินไม่อยู่เพราะวันนี้เป็นวันธรรมดาที่ท่านต้องออกไปทำงานไม่อย่างนั้นคงน่าเกลียดน่าดูที่กว่าจะลงมาก็บ่ายคล้อยเข้าไปแล้ว พอลงมาวินก็แทบไม่มองหน้าผมเลย สบตาทีก็หน้าแดงทีจนผมอดแหย่ไม่ได้

“เลิกเขินได้แล้วครับ ตัวแดงเหมือนกุ้งแล้วนะ” วินนั่งทานข้าวอยู่ฝั่งตรงข้ามโดยไม่เงยหน้าขึ้นมองผมเลยซักนิด ที่จริงเจ้าตัวเขาทานข้าวเที่ยงไปแล้วแต่พอเห็นผมทานก็หิวขึ้นมาด้วยซะอย่างนั้น

“ก็เพราะใครเล่า! ไม่ต้องมาแกล้งเลย”

“พัตไม่ได้แกล้งซักหน่อย ขนาดนี้แล้วเลิกเขินได้แล้วครับ” คบกันมาขนาดนี้เขายังเขินไม่ต่างจากแรกๆที่เราคบกันเลย

“ใครจะหน้าด้านเหมือนพัตล่ะ รีบกินไปเลยไม่ต้องคุยกับเรา” ว่าจบคนพูดก็ลงมือทานข้าวของตัวเองอย่างตัดบท ผมได้แต่หัวเราะกับความน่ารักของแฟนตัวเองแล้วลงมือทานข้าวของตัวเองเช่นกัน

ระหว่างที่ทานข้าววินก็ถามผมทุกเรื่องที่เจ้าตัวอยากรู้ ทั้งตอนอยู่ญี่ปุ่น กลับมาตอนไหนอะไรยังไง ละเอียดยิบราวกับกำลังสอบสวนคนทำความผิดมาซึ่งผมยินดีที่จะตอบทุกเรื่อง ไม่มีปิดบัง







“เจ้าเจมส์ ให้ตัวอื่นกินด้วยสิ” ผมนั่งข้างๆมองวินด้วยความตลก เขานั่งคุยกับปลาตัวเองเป็นตุเป็นตะราวกับมันจะรู้เรื่องอย่างนั้นแหละ

“ตรงนี้เย็นสบายดีนะ” บ่อปลาที่ประจำของวินอากาศดีเพราะถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด ลมโกรกเย็นๆทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย เหมาะกับการมานอนเล่นจริงๆ

“อื้อ เรามานอนตรงนี้ประจำแหละ มาคุยกับบรรดาเจ้าพวกนี้”

“พัตพึ่งรู้ว่ามีแฟนพูดกับปลารู้เรื่องด้วยนะเนี้ย”

“เพราะเราเก่งไง”

“ครับๆ เก่งมากครับ” วินยักคิ้วให้ก่อนจะวางอาหารปลาลงข้างตัวแล้วขยับมานอนข้างๆกัน เราเอาเสื่อมาปูข้างๆบ่อปลาแล้ววินก็จัดการขนหมอนมาเต็มไปหมด ผมหลับตาลงแล้วรั้งให้วินขยับมานอนเกยอก หอมหัวคนในอ้อมไปทีนึงเน้นๆ

“แล้วนี่งานเรียบร้อยแล้วเหรอครับ”

“อื้อ แต่ก็เหลือแก้อีกนิดหน่อยนอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะ รอแค่พรีเซ้นตอนเปิดเทอม”

“หายโกรธพัตหรือยัง” จำได้ว่าเขาบอกผมว่าโทษยังเหลืออีกเยอะเลยถามออกมา ถ้ายังจะได้ง้อต่อ

“โกรธแล้วหายแล้ว” ผมลืมตาขึ้นมามองแต่ก็เห็นเพียงหัวเล็กๆด้านหลังของคนที่ซบอยู่บนอก

“ถ้ายังก็จะง้อ...ง้อนะ หายโกรธนะครับ”

“หายแล้วววววว” วินลากเสียงยาวพร้อมกับกอดเอวผมแน่นขึ้น

“แฟนใครใจดีจัง”

“แฟนใครก็ไม่รู้”

“แฟนพัตดิ”

“หึ พรุ่งนี้พาเราไปตัดผมด้วยนะ ผมยาวแล้ว” อยู่ดีๆก็เปลี่ยนเรื่องซะอย่างนั้น

“แบบนี้ก็น่ารักอยู่แล้ว”

“ร้อน พาไปนะ ไปซื้อของด้วย...ไปเจเจด้วยนะ อยากเดินเล่น”

“งั้นไปซักบ่ายๆ ค่ำๆค่อยไปเจเจ โอเคไหมครับ”

“อื้อ”





TBC.


Talk

บอกแล้วว่าดราม่าไรไม่มี กลับมาใสๆล้าวววว :mew3: :mew3:

มีฉากคัทเล็กๆของตอนนี้ที่ไม่ได้ลงค่ะ(เพราะเขินจัด><) ใครที่อยากได้เค้ามีข้อเสนอเล็กๆ

นั่นก็คืออออออออออออ.....เค้ามีแอคเคาท์ทวิตแล้วนะคะะะะะะ ใครอยากได้ขอมาได้ที่ทวิตนะ @exsoull_ โลดดดดดดดดด

(ฉากนี้ตั้งใจไม่ลงอยู่แล้วนะคะ คนอยากอ่านขอมาได้ แต่ถ้าไม่อ่านก็ไม่เสียหายน๊า)

https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/?fref=ts #twiter >> @exsoull_

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พูดตรงๆเลยนะพัต เรา... ขอวินเถอะ น่ารักมากๆ อยากเอาไปกอด ไปฟัดอ่ะ งื้อออ :hao5:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
นึกว่าจะได้ง้อนานกว่านี้ซะแล้วดีนะวินเข้าใจ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
 :-[
เย้ดีกันแล้ว
 :mc4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รักกันขนาดนี้ก็ไม่ต้องโกรธกันนานๆหรอก

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เข้าใจกันเหมือนเดิมแล้ว  :mew1:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ดีแล้วที่ไม่มีมาม่า
คู่นี้น่ารักมุ้งมิ้ง  :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
แค่จูบนิดเดียวไม่สึกหรออย่างที่พัตพูดและ

แต่วินนี่สิอยู่กับพัตแล้วเปลืองตัวชะมัด เผลอที่ไรฉกจูบตลอด  :hao6:

ออฟไลน์ GMJeam

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่ารัก

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ถึงจะน้อยใจพัตอยู่ แต่วินก็ห่วงพัตดูแลอย่างดี
พอปรับความเข้าใจแล้ว ก็สวีทหวานเชียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2016 13:14:26 โดย maemix »

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
รักกันนานๆ ดูแลกันดีๆ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ DE SaiKuNee

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-9

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
น่ารักใสๆ ไม่ง๊องแง๊ง

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เฮ้อออออ ดีกันแล้วๆ ค่อยยังชั่ว

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
ตอนที่ 27

หลังจากนั้นผมก็อยู่บ้านของวินต่อจนถึงตอนค่ำก่อนจะขอตัวกลับหลังจากทานข้าวเย็นที่บ้านเขาเสร็จ พ่อกับแม่ที่ยังไม่กลับจากญี่ปุ่นยังโทรมาแซวผมว่าบ้านของตัวเองคงไม่จำเป็นแล้วเพราะลูกชายรีบบึ่งไปบ้านแฟนทันทีก่อนจะที่เข้าบ้านตัวเองเสียอีก

พอกลับบ้านมาก็จัดการอาบน้ำแล้ววิดีโอคอลหาวินทันที

(พ่อกับแม่ยังไม่กลับอีกเหรอ)

“ครับ มีดูงานต่ออีกนิดหน่อยเลยกลับช้า แม่บอกว่าให้วินแวะมาทานข้าวที่บ้านด้วยนะท่านมีของฝากจะให้”

รักยิ่งกว่าลูกตัวเองเสียอีก ส่วนของผมที่เป็นลูกแท้ๆไม่ได้อะไรหรอกครับ ไปทำงานเหนื่อยแสนเหนื่อยแถมยังโดนบ่นเรื่องที่ทำให้วินเสียใจอีกต่างหาก จนตอนนี้ผมชักจะงงๆว่าใครกันแน่ที่เป็นลูกแม่

(พ่อกับแม่กลับวันไหน เดี๋ยวเราไปรับท่านด้วย) ก็เป็นซะอย่างนี้ ไม่แปลกเลยที่แม่ผมจะรักเขา

“อีกสามวันครับ”

(โอเค มารับเราด้วย)

“ครับผม แล้วพรุ่งนี้ให้พัตไปรับกี่โมง”

(เที่ยงตรงแล้วกันนะ กว่าเราจะไปถึงห้างคงบ่ายโมงเลย รถต้องติดแน่ๆ) แน่นอนว่าการจราจรที่กรุงเทพ ไม่ต้องเป็นห่วงเลย ==

ผมกับวินคุยกันไปเรื่อยๆจนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหน ตื่นเช้าขึ้นมาก็เห็นโทรศัพท์นอนแอ้งแม้งอยู่ข้างหัวถึงได้รู้ว่าเมื่อคืนหลับคาโทรศัพท์ไปเลย ผมจัดการไลน์ไปบอกอีกคนว่าตื่นแล้วก่อนจะลงไปห้องฟิตเนส ไม่ได้ออกกำลังมาหลายวันไหนๆวันนี้ก็ว่างแล้วยืดเส้นยืดสายเสียหน่อยก็ดี

ผมใช้เวลากับการออกกำลังกายราวสองชั่วโมงกว่าๆก่อนจะกลับขึ้นไปอาบน้ำ ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสิบเอ็ดโมงแล้วกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวออกไปรับวินก็คงจะเที่ยงตามที่เขานัดไว้พอดี เช็คโทรศัพท์ที่วางเอาไว้บนห้องเห็นข้อความของวินไลน์มาเมื่อชั่วโมงที่แล้วว่าตื่นแล้วผมเลยส่งสติกเกอร์กลับไปก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ จัดการตัวเองเรียบร้อยโดยใช้เวลาไม่นานมากนักแล้วออกไปรับอีกคน

“อยากกินไอติม” พอขึ้นรถมาคนตัวเล็กก็บ่นทันที

“ตัดผมเสร็จค่อยไปครับจะได้เดินดูของทีเดียวด้วยไปเลย” วินพยักหน้ารับ ปรับแอร์ในรถเปิดนู้นเปิดนี่ของเขาไปเรื่อยตามประสา

“ทิชชู่หมดเหรอ”

“ไม่รู้สิครับ เขาคงลืมเอาขึ้นไว้มั้ง” เพราะว่าผมไม่ได้ใช้รถนานเลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีอะไรในรถขาดเหลือไหม คนที่บ้านก็อาจจะลืมเอาขึ้นไว้ให้เช่นกัน วินยู่ปากเล็กน้อยเมื่อไม่มีของที่ต้องการเพราะเหงื่อเขาซึมออกมาตามไรผม เจ้าตัวคงร้อนแล้วอยากเช็ดมัน

“พัตทานอะไรมารึยัง”

“ทานแล้วครับ” ผมทานไข่แล้วก็นมจืดก่อนออกมาเพราะฉะนั้นเรื่องหิวเลยไม่เป็นปัญหา วินเองก็ทานข้าวแล้วเหมือนกัน ไปถึงที่หมายจะได้ตรงไปที่ร้านตัดผมเลย

“เราอยากทานแพนเค้กด้วยอ่ะ ควรเลือกอะไรดี” คนข้างตัวมีสีหน้าลำบากใจกับการคิดเรื่องของกินจนผมหลุดขำ จริงจังกับการกินไปไหน

“ก็ทานร้านที่มันมีทั้งสองอย่างสิครับ”

“อืม...จริงสิ!” คงพึ่งจะนึกออกว่ามันมีร้านแบบที่มีทั้งไอติมและแพนเค้กอยู่เต็มไปหมด  พอเจ้าตัวนึกได้หลังจากนั้นวินก็พูดเรื่องกินของตัวเองไปอยู่คนเดียวจนผมนึกขำ อายุก็ไม่น้อยแล้วแต่ไม่ได้ต่างจากเด็กเลยซักนิด ยิ่งถ้าเป็นเรื่องของกินแล้วด้วยเขายิ่งเหมือนเด็กเข้าไปใหญ่

เราสองคนมาถึงห้างในเวลาต่อมา เดินมาจนถึงร้านตัดผมร้านประจำของวินพนักงานก็เข้ามาต้อนรับคุยกันสนิทสนม ผมเองไม่ค่อยมีร้านประจำแล้วแต่อารมณ์ว่าอยากไปร้านไหนหรือเดินไปเจอร้านไหนมากกว่าเพราะไม่ค่อยได้ทำอะไรกับหัวอยู่แล้ว ส่วนมากก็แค่เล็มผมให้สั้นขึ้นแต่ยังคงเป็นทรงเดิม

“ผมพัตก็เริ่มยาวแล้วนะ ตัดพร้อมกันทีเดียวเลยไหมเดี๋ยวเราบอกช่างให้” คนข้างตัวหันมาถามเมื่อสังเกตว่าผมของผมเองก็ค่อนข้างยาวแล้วเหมือนกัน ตอนนี้ช่างประจำวินติดลูกค้าอยู่เราเลยต้องรออีกหนึ่งคิวเพราะวินไม่ได้โทรมาจองล่วงหน้า

“อืม...ตัดเลยก็ดีเหมือนกันครับ” ไหนๆได้มาแล้วตัดไปเลยก็ดีเหมือนกัน

“โอเค ดูทรงก่อนไหม?” วินหันไปหยิบนิตยสารที่โต๊ะข้างๆเขาขึ้นมาให้หลายเล่ม ผมรับมาแล้วเปิดดูทั้งที่จริงแล้วก็ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนทรง แค่อยากรู้ว่าเดี๋ยวนี้แฟชั่นเขาไปในด้านไหนบ้างเพราะผมไม่ค่อยมีเซ้นส์เรื่องนี้เลย

“เราทำสีด้วยดีไหม” ผมเงยหน้าขึ้นจากหนังสือในมือแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆว่าเอาจริงหรือเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ตอนนี้ผมวินเป็นสีธรรมชาติซึ่งมันก็ดีอยู่แล้ว ผมไม่ได้คิดจะห้ามเรื่องทำสีถ้าเขาอยากจะทำจริงๆก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร

“แล้วแต่วินเลยครับ แต่ไม่ต้องเอาสีที่มันแรงมากอย่างแดง เขียว อะไรแบบนี้ไม่เอา”

“เราอยากทำสีเทาออกน้ำเงิน แบบนี้ๆ” นิ้วมือเล็กจิ้มลงที่นิตยสารในมือตัวเองให้ดูสีผมที่นายแบบทำอยู่

“สีน้ำตาลอ่อนก็พอแล้วไหมครับ”

“อยากลองเปลี่ยนลุคดูบ้าง พัตว่าถ้าเราทำจะเป็นยังไง”

“ทำสีไหนก็น่ารักทั้งนั้นแหละครับ”

“เสี่ยววววววว” ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่แก้มกลมกลับขึ้นสีจางๆจากประโยคเลี่ยนๆของผมที่ตั้งใจเล่นให้เขาเขิน แล้ววินก็หันกลับไปดูเรื่องของสีผมต่อ อันไหนที่ถูกใจหน่อยก็จะหันมาถามบ้างว่าเป็นยังไง ส่วนผมก็ดูทรงผมของนายแบบในนิตยสารบนมือของตัวเองต่อไป

อืม บางอย่างก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสมัยนี้เขาเป็นหรือเขาทำแบบนี้ ดูมาเรื่อยๆจนกระทั่งพลิกมาเจอกับหน้าที่มีนายแบบคนนึงกำลังโพสต์ท่าถ่ายด้านข้าง

“วินว่าทรงนี้เป็นไงบ้าง” หันไปถามวินที่ยังวุ่นกับเรื่องสีผมไม่หยุด พอคนตัวเล็กหันมาเห็นเขาก็ขมวดคิ้วมุ่น มองหน้าผมสลับกับหน้านายแบบบนนิตยสารอยู่อย่างนั้น

“ตัดแล้วจะไม่หล่อเกินไปเหรอ” เขาเงียบไปซักพักก่อนจะเอ่ยขึ้นในที่สุด และประโยคนั้นก็ทำเอาผมหลุดหัวเราะออกมาจนช่างที่ตัดผมอยู่หันมามอง อะไรคือคำว่าหล่อเกินไปของเขากัน

“หล่อเกินไปอะไรกันครับ มันมีแบบนั้นด้วยเหรอ” ผมไม่เข้าใจว่าหล่อเกินไปเป็นยังไง ไม่ว่าจะหน้าตาแบบไหนก็คนธรรมดาเหมือนกันหรือเปล่า ผมไม่ค่อยมองว่าคนนั้นคนนี้หล่อมากหรือสวยมาก คนทุกคนก็มีแบบที่แตกต่างกันออกไป มีตัวตนที่แตกต่างกัน ผมชอบคนที่มองแล้วดูสบายตาและสบายใจมากกว่า

“ก็คือหล่อเกินไปไง ก็พอหล่อแล้วเดี๋ยวก็มีคนเข้ามาหาอีก แค่นี้ก็เยอะจะแย่แล้ว” วินยู่ปากใส่อย่างน่ารักจนผมอยากดึงเขาเข้ามาจูบแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว น่าเสียดายที่ตอนนี้เราอยู่ในที่สาธารณะซึ่งเป็นที่ที่ไม่สามารถทำแบบนั้นได้

“ไม่ได้ขนาดนั้นซักหน่อยครับ”

“ขนาดนั้นแหละ ทุกวันนี้ที่เราต้องมาเคลียร์ไลน์ให้ตลอดนี่ไม่เรียกขนาดนั้นเหรอ...หึ เดี๋ยวเราให้ไลน์คนอื่นบ้างดีไหม”

“ก็ลองให้ดูสิครับ” ผมส่งยิ้มเย็นให้เขาเป็นการเตือนกลายๆว่าอย่าแม้แต่จะคิด อย่านึกว่าของวินไม่มีคนเข้าหา ต่างจากผมที่ไหนกัน แค่เขาจัดการของเขาได้ผมเลยไม่เข้าไปยุ่ง ของผมนี่เป็นพวกขี้เกียจวินเลยต้องมาจัดการลบแชทพวกนั้นออกให้ ไม่ได้เปิดอ่านหรือตอบอะไรกลับไปลบออกอย่างเดียวเท่านั้น บางทีเพื่อนไลน์มาก็ไม่เห็นเพราะว่ามีไลน์ของคนอื่นทับมา

“ถ้าให้เดี๋ยวคนแถวนี้ก็มีโหมดโหดขึ้นมา”

“แน่นอนครับ พัตไม่ปล่อยไว้แน่”

“ไม่ต้องมาพูดเลย สรุปจะตัดทรงนี้เหรอ?” นี่เราคุยกันมาไกลจนผมเกือบจะลืมหัวข้อที่ตั้งใจคุยกันในตอนแรกไปแล้ว

“ก็...ลองเปลี่ยนบ้างก็คงจะดีเหมือนกันมั้งครับ” หรืออาจจะเป็นเพราะนายแบบเขาดูดีเลยทำให้ผมทรงนี้มันดูดี? ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันแต่อยากลองเปลี่ยนแนวดูบ้าง นานมากแล้วที่อยู่กับทรงนี้ บางทีถ้าตัดมันก็อาจจะเข้ากับผมมากกว่าทรงปัจจุบันก็ได้ ถ้าไม่เข้าก็แค่ไม่ตัดอีก ง่ายๆเลย

“อื้อ ลองดูก็ได้ ถ้าหล่อเกินไปครั้งหน้าก็ไม่ให้ตัด”

“แล้วแต่จะบัญชาเลยครับ”

แม้จะยังไม่เข้าใจคำว่าหล่อเกินไปแต่ก็ต้องตามใจเขา พอได้รับคำตอบที่พอใจวินก็หันไปสนใจอย่างอื่นต่อ ผมได้แต่ยิ้มอ่อนแล้วส่ายหน้ากับตัวเองเบาๆ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องขัดใจเขาอยู่แล้วเพราะไม่อย่างนั้นคงต้องเคลียร์กันยาว และมันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีซักเท่าไหร่นัก อะไรที่แฟนพอใจเราก็ไม่ควรขัด เหมือนที่มีคนกล่าวเอาไว้ว่าคนเชื่อเมียเจริญทุกคน

“น้องวินเชิญค่ะ” พนักงานเข้ามาเรียกหลังจากที่คิวก่อนหน้าตัดเสร็จแล้วเรียบร้อย

“พี่ทรายคนนี้ตัดด้วยนะครับ แล้วของวินก็ทำสีด้วย” เรื่องสีผมสรุปคือมีหลายสีที่วินชอบจนสุดท้ายจึงตัดสินใจว่าจะปรึกษาช่างทำผมว่าสีไหนที่เหมาะกับเขา ให้คนที่เชี่ยวชาญช่วยเลือกช่วยตัดสินใจคงจะดีกว่า

“ได้ค่ะ งั้นน้องวินก่อนเนอะ สุดหล่อจะได้ไม่ต้องตัดเสร็จแล้วมานั่งแกร่วรอเรา ทำสีจะนานนิดนึงนะคะ”

“โอเคครับ” วินตอบรับในขณะที่ผมพยักหน้าเบาๆอย่างไม่มีปัญหา วินหันมายิ้มผมเล็กน้อยให้ก่อนจะเดินตามช่างไป ส่วนตัวผมก็นั่งอยู่ที่เดิมเปิดดูนั่นดูนี่รอไปพลางๆ ไอ้กิมกับไอ้จีนก็ไลน์มาทวงของฝากยิกๆ

ในช่วงระหว่างที่วินกำลังรอให้สีผมติดช่างก็มาเรียกผมไปตัด พอถามว่าจะเอาทรงไหนผมก็ชี้ให้เขาดู

“หืม ตาถึงเว้ย รับรองว่าตัดออกมาต้องมีคนโวยวายแน่” อาจจะเป็นผมเองที่โวยวายเพราะไม่เข้ากับหน้าตัวเอง==

แล้วหลังจากนั้นช่างก็บรรเลงหัวผมไปราวๆครึ่งชั่วโมงเพราะไม่ได้สระ ท่าทางการตัดมั่นอกมั่นใจไม่มีการลังเลเลยซักนิด ดูจากลูกค้าและใบประกาศนียบัตรมากมายก็คงจะวางใจในฝีมือได้

“เรียบร้อยแล้ว หล่อเว้ย หน้าชัดกว่าทรงเดิมเยอะ วันไหนไม่เซ็ตก็ปล่อยๆได้ไม่น่าเกลียด” ผมมองตัวเองในกระจกเมื่อช่างจัดการเซตทรงให้เรียบร้อย

 อืม หน้าแอบเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน สไตล์ก็ดูเปลี่ยนไปอีกแบบ

“ป่านนี้วินก็เสร็จแล้วมั้ง ออกไปนี่โวยใส่กูแน่”

ประโยคหลังดูเหมือนว่าช่างเขาจะคุยกับตัวเองเสียมากกว่า ผมลุกออกจากเก้าอี้แล้วเดินกลับไปที่เดิม เห็นคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

สีผมวินเป็นสีน้ำตาลประกายทองเล็กๆผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันเป็นสียังไง ข้างบนตรงโคนถูกแซมด้วยสีเงินเจือน้ำเงินจางๆ ตอนทำเขาอยู่อีกโซนนึงผมเลยไม่เห็นว่าสรุปแล้ววินเลือกสีอะไร ยอมรับว่าสีสวยมากและเข้ากับวินสุดๆแต่ข้อเสียของมันก็คือยิ่งขลับให้ใบหน้าของวินน่ามองและดึงดูดความสนใจของผู้คนมากไปอีก

“ไง สีถูกใจไหม” ช่างตัดผมเอ่ยถามวินก่อน แต่เจ้าตัวมองมาทางผมพร้อมกับส่งค้อนวงเล็กๆให้แล้วหันไปตอบ

“ถูกใจมาก แต่ไม่ถูกใจทรงผมคนนั้น” วินชี้มาทางผม คือมันไม่โอเคเหรอหรือยังไง สำหรับผมแล้วมันก็โอเคนะ

“ว่าละ ซื้อหวยทำไมไม่ถูกแบบนี้บ้าง ทำใจเว้ยไอ้น้องได้แฟนหล่อ”

“ก็ไม่เห็นต้องตัดให้ออกมาดูดีขนาดนี้นี่นา”

“เอ้า คนเราเนอะ จะให้พี่ตัดผมให้ลูกค้าออกมาเหี้ยใครจะเข้าร้านกันวะ”

“ก็วินนี่ไง”

“โอ๊ย พอเถอะๆ รีบเอาแฟนไปได้แล้วก่อนที่พนักงานร้านพี่จะฉุดเอา”

“ฉุดไปเลย...ไว้วินแวะมาใช้บริการใหม่นะ”

ผมได้แต่ยืนนิ่งฟังคนทั้งสองคุยกัน พอมองไปรอบๆก็พึ่งจะสังเกตว่ามีคนมองมาที่ผมพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ หันกลับมาหาวินก็เจอสายตาขุ่นๆก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาหาแล้วดึงแขนออกไปตรงเคาท์เตอร์จ่ายเงิน คนตัวเล็กมัวแต่หากระเป๋าตังค์จนผมยื่นบัตรของตัวเองส่งให้พนักงานเป็นที่เรียบร้อย กระเป๋าเขาของเยอะขนาดนั้นกว่าจะหาเจอคงโดนลูกค้าข้างหลังบ่นน่าดู

“ไปไหนต่อครับ” ออกจากร้านก็หันมาถามคนข้างตัว

“ไปกินติม”

“หน้ายับหมดแล้ว เป็นอะไรครับพูดดีๆซิ” ผมยื่นมือไปดึงแก้มคนที่หน้ายุ่งๆทีนึงจนเขายิ่งส่งสายตาขุ่นเคืองมาให้ ไม่รู้ว่าที่เป็นแบบนี้เพราะว่าโดนดึงแก้มหรือเพราะประโยคที่ผมถามกันแน่

“ไม่ให้ตัดผมทรงนี้แล้ว” ไม่พูดเปล่าปากเล็กๆสีสดนั้นยังเบะออกอย่างบ่งบอกความไม่พอใจขั้นสุด ให้อารมณ์เหมือนเด็กเวลาที่ถูกขัดใจแล้วพร้อมจะร้องไห้อยู่รอมร่อ

“ทำไมครับ ดูไม่ดีเหรอ?” ผมแกล้งถามทั้งที่พอจะรู้อยู่ว่าทำไม ได้ยินจากที่เขาคุยกับช่างตัดผมเลยพอจะเข้าใจว่าอะไรที่เป็นสาเหตุให้วินเป็นแบบนี้ จนอดที่จะตลกแฟนตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ไม่มีใครสนใจผมขนาดนั้นหรอกบางทีเขาคิดมากไปเอง มีคนมองบ้างก็จริงแต่ที่เข้ามาหาเลยมีน้อยมากๆ มากที่สุดก็ไลน์มาหาอย่างที่วินรู้ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว

“ไม่ต้องมาถามเลยนะ”

“ฮ่ะๆ ไม่เอาครับไม่งอแง เดี๋ยวพัตเลี้ยงหนมนะโอเคไหม” ต้องใช้การ์ดของกินเข้าแลก พอเดี๋ยวเขาได้กินของอร่อยๆอารมณ์ก็จะเริ่มดีขึ้น วินไม่ใช่คนย้ำคิดย้ำทำเดี๋ยวอาการของเขาก็หายไปเอง

“ซื้อไอติมกลับห้องให้เราห้าถังเลยด้วย”

“จะกินหมดเหรอครับ ถ้าต้องทิ้งเสียดายของนะ”

“หมด ไม่ทิ้ง!”
“โอเคๆ หมดก็หมดครับ งั้นตอนนี้ไปที่ร้านก่อนเนอะ” ผมเอื้อมมือไปคว้ามือเล็กมาจับไว้แล้วไล้นิ้วลูบไปมาเบาๆอย่างเอาใจ คิดดูว่าขนาดจะไปที่ร้านไอติมอยู่แล้วยังบอกให้ไปซื้อเก็บไว้ที่ห้อง กินจนผมคิดว่าเจ้าของไอศครีมซักยี่ห้อน่าจะมาจ้างวินไปเป็นพรีเซนเตอร์ เงินค่าไอติมที่กินเข้าไปนี่เอาการเลย

“รีบไปเลย เราอยากกินแล้ว” แล้วผมก็ต้องรีบพาแฟนสุดที่รักไปกินไอติมก่อนที่เขาจะงอแงไปมากกว่านี้

มาถึงร้านพอได้เห็นของกินอารมณ์วินก็กลับมาสดใสลืมเรื่องราวก่อนหน้าไปหมดสิ้น เป็นฝ่ายผมเองบ้างที่เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องผมของเขา

ไอ้ผู้ชายโต๊ะถัดไปนี่จะมองวินอีกนานไหม

“พัตลองชิมไหม ร้านนี้ช็อกโกแลตเข้มข้นมากเลยนะ ไม่หวานเลี่ยนเลย” คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเอ่ยชวนให้ทานของโปรดเขาในขณะที่เจ้าตัวซัดมันไปจนเหลือแค่ค่อนถ้วย

“ไม่ครับ วินทานเลย” ผมไม่ค่อยทานอะไรพวกนี้อยู่แล้ว อีกทั้งตอนนี้ก็ไม่มีอารมณ์ที่จะกินอะไรทั้งนั้น “พัตว่าหมดถ้วยนี้ก็พอเนอะ เดี๋ยวเราต้องไปที่เจเจต่ออีกถ้ากินอิ่มมากจะกินของที่นั่นได้น้อยนะ”

พูดหลอกล่อให้วินออกจากร้านนี้เร็วๆเพราะรำคาญสายตาไอ้คนข้างหลังนั้นเต็มที่ นี่ขนาดว่าวินนั่งหันหลังให้ยังมองซะหยดย้อยขนาดนั้น ผมส่งสายตาไปให้หลายครั้งก็ยังทำเป็นไม่สนใจ

“นั่นสิเนอะ เราอยากไปกินไอติมมะพร้าวด้วย” ไอติมที่กินไปสามลูกใหญ่คนเดียวยังไม่จุใจอีกใช่ไหมครับ...

ผมได้แต่คิดในใจเท่านั้น รู้ดีว่าของชอบของเขาจะกินแค่ไหนก็ไม่มีอิ่ม พวกอะไรหวานๆเย็นๆนี่วินชอบมาก

“งั้นเช็คบิลเลยนะครับ”

“อื้อ” ผมรีบโบกมือเรียกพนักงานทันทีเมื่อวินกินเสร็จเรียบร้อย จ่ายเงินแล้วก็ลากวินออกจากร้านจนเขาทำหน้างงๆ

“พัตจะรีบไปไหนรึเปล่า”

“ก็...เปล่าครับ เราจะได้มีเวลาเดินเจเจเยอะหน่อยไง พอดีพัตมีของที่จะไปดูหลายอย่างเลย...ว่าแต่วินจะเดินดูของในนี้ก่อนไหม”

“งั้นไปเจเจเลยก็ได้ เราอยากเดินดูของที่นั่นมากกว่า...ขากลับอย่าลืมแวะมาซื้อไอติมให้เรานะ”

“ครับๆ ไปกันเลยนะ” 




TBC.

Talk

กลับมาแล้วนะ ยังมีขีวิตอยู่ค่ะะะะะะ   :impress2: :impress2: หนีเที่ยวกลับบ้านไม่มีคอมใช้เบย พอกลับมาเมื่อวันก่อนอีกไม่กี่วันจะสอบก็ต้องอ่านหนังสือเลยยาวเลย~ คนแต่งกลับมาแล้วคนอ่านก็ต้องกลับมานะ อ่านกันเถอะน๊า อย่าพึ่งทิ้งเค้าเลย  :sad4: :sad4:
สอบพรุ่งนี้แต่ขุดร่างมาพิมพ์นิยายคืออะไร เหนื่อยเหลือเกิน  :o12: :o12: ไม่มีแรงแล้ววววว เลิฟยูวออลนะคะ  :mew1: :mew1:



page >> https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/
tw >> @exsoull_
ask.fm >> @itsmesoull

ทักมาได้ทุกช่องทางนะคะ ไม่ดุไม่กัดฉีดยาแล้ว เหงาๆเบื่อก็ทักมาโลดดดดด :man1: :man1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
วินน่ารักจนพัตไปไหนไม่รอด

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :pig4: :pig4:
หวานไปหมดทุกสิ่งทุกอย่างงงงงงงง

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ไม่อยากให้พัตตัดผมทรงใหม่เพราะกลัวคนมาชอบพัตเยอะกว่าเดิม ขี้หึงเหมือนกันนะวิน ส่วนพัตทั้งหึงทั้งหวงตลอดอยู่แล้ว

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
น่ารักอะไรเบอร์นั้น

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
หวานโน๊ะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด