เริ่มต้นจากการแอบรัก ตอนที่30(END) 06/06/2559(03.33) p.16 *จบแล้วย้ายห้องได้ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เริ่มต้นจากการแอบรัก ตอนที่30(END) 06/06/2559(03.33) p.16 *จบแล้วย้ายห้องได้ค่ะ  (อ่าน 308808 ครั้ง)

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
นี่เราไปอยู่ไหนมาเนี่ย
ทำไมเพิ่งเจอเรื่องนี้ :katai4:
พอเจอก็ดันจะจบแล้วซะอีก  :hao5:
อ่านรวดเดียวจบเลยจ้ะ น่ารักมากๆๆๆๆๆเลยยยย  :กอด1:

ออฟไลน์ zzzzzz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกก น่ารักฟรุุ้งฟริ้งมุ้งมิ้ง กันมากๆเลยยย ชอบๆ
วินก็น่าร้ากก  พัตก็อ่อนโยนมากๆเลย :m1:  :m1:

บวกเป็ดเป็นกำลังใจให้สู้ๆนะคะชอบๆ  :mc3: :mc3: :mc2:

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6

ตอนพิเศษ Valentine’s Day

(Win Part)

วันแห่งความรัก...

ทุกที่ต่างคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ดอกไม้ และช็อกโกแลต...

มันควรจะเป็นวันที่ทุกคนที่มีความรักมีความสุขและรอยยิ้ม ไม่ใช่แค่คนที่มีแฟน...คนรักนั้นมีได้หลายความหมาย ทั้งเพื่อนและครอบครัวก็ต่างเป็นคนรัก

อ่า แต่คนที่มีแฟนแบบผมก็อยากให้วันนี้มันเป็นวันที่พิเศษเหมือนกันนะ

ไม่ต้องมีเซอร์ไพร์ส ไม่ต้องมีดอกไม้ช่อโต ไม่ต้องมีดินเนอร์หรู ....ขอแค่เราได้เจอกันเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

เห้อ แต่แค่นั้นยังเป็นไปไม่ได้เลย

“ทำไมลูกชายแม่นั่งเหี่ยวขนาดนี้ล่ะคะ” คุณแม่เดินเข้ามาทรุดตัวลงข้างตัวพร้อมระบายรอยยิ้มบนหน้าอย่างรู้อาการของคนเป็นลูกดี เพราะอารมณ์ไม่ค่อยแจ่มใสผมเลยเลือกมานั่งเล่นที่บ่อปลาหลังบ้าน เวลาที่มีเรื่องไม่สบายก็ชอบมานั่งตรงนี้เป็นประจำ มองเจ้าปลาคาร์ฟสุดรักสุดหวงของคุณพ่อแหวกว่ายไปมาให้จิตใจได้สงบลง

“วินไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย”

“หืม นั่งเปื่อยมาตั้งแต่เช้าขนาดนี้ไม่เป็นอะไรจริงๆเหรอจ๊ะ หน้านี่จะเหมือนเจ้าเจมส์อยู่แล้ว” เจ้าเจมส์ก็คือปลาตัวใหญ่สุดที่อยู่ในบ่อข้างหน้าตอนนี้ มันเป็นปลาตัวเดียวที่มีสีที่แตกต่างจากปลาตัวอื่นๆในบ่อ เป็นปลาตัวที่มีอายุยืนยาวมากที่สุดและถือว่าเป็นปลาที่มีความพิเศษมากที่สุดในบ้าน

“งือ วินน่ารักขนาดนี้จะเหมือนเจ้าเจมส์ได้ไงกัน...ไม่เหมือนหรอกนะเจ้าปลาขี้เหร่” พอพูดถึงมันก็ว่ายมาวนข้างหน้าราวกับรู้ว่าถูกพูดถึงยังไงอย่างงั้น

“แต่ที่แม่เห็นนี่ใกล้จะเหมือนแล้วนะ”

“แม่อ่า” เดี๋ยวก็งอนคุณแม่ด้วยอีกคนซะเลย แต่ยิ่งเห็นผมหน้างอคนเป็นแม่กลับยิ่งยิ้ม

“ไหน เป็นอะไรบอกแม่มาดีๆซิ”

“ก็...ไม่ได้เป็นซักหน่อย แต่ลูกชายของคุณแม่นั่นแหละ! ไม่โทรหาไม่ติดต่อมาจะสามวันแล้ว จะโทรไปวินก็กลัวว่าจะรบกวน แต่นี่เล่นไม่ติดต่อมาหากันเลย ไลน์มาบอกบ้างซักนิดก็ยังดี” ยิ่งพูดปากยิ่งเบะจนอยากจะร้องไห้ใส่แม่ที่นั่งหัวเราะอยู่ข้างๆ
 
ดูสิ ผมไม่ได้อยากจะงี่เง่าเลยนะ อีกคนมีธุระต้องไปต่างประเทศกับครอบครัวแม้จะอยากงอแงที่ดันมาไปในช่วงคาบเกี่ยววันนี้แต่ก็ดีรู้ว่าอะไรเป็นอะไร งานก็คืองาน ไหนบอกไม่ได้อยากไป ไหนบอกจะคอลหาตลอด ไหน?

คอลมาวันเดียวแล้วก็หายไปเลย!

“ก็พัตเขามีธุระไม่ใช่เหรอจ๊ะ คงจะยุ่งมากจนไม่มีเวลานั่นแหละ”

“ก็แค่ไลน์มาบอกกันบ้างก็ไม่ได้เลยเหรอ แค่ล้วงโทรศัพท์ออกมากดสองสามวิมันเสียเวลามากขนาดนั้นเลยหรือไงกัน”

“โอ๋ๆ ลูกแม่ไม่งอแงนะจ๊ะ แค่สองสามวันเอง แม่ยังเคยไม่ได้คุยกับพ่อเราตั้งเป็นอาทิตย์ตอนที่พ่อเราไปทำงานเลยนะ”

“แล้วแม่ไม่งอนพ่อเลย?”

“พ่อกลับมาแม่ก็ไม่ยอมคุยด้วยเป็นอาทิตย์เหมือนกันจ๊ะ^^” เห็นไหมว่าเป็นใครก็ต้องงอน!

“เดี๋ยววินจะงอนเหมือนกัน จะไม่ยอมคุยเลยคอยดู”

“ให้มันจริงเถอะเรา กลัวว่าพอพัตโทรหาก็จะรีบรับแล้วก็หายงอนทันทีซะมากกว่า” อย่าว่าแต่แม่เลยที่ไม่เชื่อ ผมเองก็ไม่เชื่อหรอกว่าตัวเองจะงอนอีกฝ่ายได้นาน งือ ก็คนมันขี้ใจอ่อนนี่นา แค่ได้ยินเสียงทุ้มๆนั้นเอ่ยเรียกเสียงอ่อนผมก็ยอมแพ้แล้ว ไม่เคยจะทนใจแข็งได้ซักที

“วินจะพยายามใจแข็ง!” บอกแม่เสียงหนักแน่น บอกตัวเองด้วย ต้องใจแข็ง!

“จ๊ะๆ ขอให้ทำได้อย่างนั้น...เดี๋ยวแม่ว่าจะซื้อของมาทำอาหารเย็นที่ตลาดวินจะไปกับแม่ไหม”

“ไปครับ” เบื่อๆอยู่พอดี ไปหาอะไรกินที่ตลาดเผื่ออารมณ์จะดีขึ้นมาบ้าง อ่า ของกินต้องช่วยได้แน่ๆ แค่คิดถึงของที่ขายอยู่ตลาดอย่างละลานตาผมก็เริ่มยิ้มออกได้บ้าง จะไปเหมามาให้หมดเลยคอยดู

.
.
.
.
.
.

“คุณวินคะ มีโทรศัพท์ค่ะ” ในขณะที่กำลังง่วนอยู่หน้าเตาเป็นลูกมือคุณแม่ทำอาหารสำหรับเย็นนี้ก็มีเด็กในบ้านเดินถือโทรศัพท์บ้านเข้ามาหาให้ต้องหันไปทำหน้าสงสัยใส่

ใครกันนะ? ทำไมไม่โทรเข้ามือถือ

“ขอบคุณครับ” ผมถอดผ้ากันเปื้อนพาดไว้ที่เคาท์เตอร์ รับโทรศัพท์มาไว้ในมือก่อนจะเอ่ยบอกแม่ว่าขอออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก

“วินพูดครับ” ทรุดตัวลงนั่งที่โซฟารับแขกแล้วกรอกเสียงลงไป

(วินครับ)

กึก

ผมยกโทรศัพท์ที่แนบหูออกมาดูเบอร์ปรากฏว่าเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นโทรเข้ามาจากต่างประเทศ รู้ดีว่าเป็นใครแต่ก็ยังอยากดูให้แน่ใจ สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเอาโทรศัพท์แนบหูใหม่

“ครับ” รับคำสั้นๆให้รู้ว่าตอนนี้ไม่พอใจ งอน งอนมาก!

(วิน...ฟังก่อนนะ ฟังก่อนนะครับ ขอโทษที่ไม่ได้โทรหาไม่ได้ติดต่อไปหาเลย แต่เพราะว่าที่นี่ยุ่งมากจริงๆ อยากโทรหาใจจะขาดเหมือนกันแต่ก็ทำไม่ได้ คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว)

“...” ผมยังคงเงียบทั้งที่ใจเจ้ากรรมเริ่มโอนอ่อนตั้งแต่ที่รู้ว่าอีกฝ่ายโทรมา

(ไม่ได้อยากจะไม่ติดต่อหาเลยจริงๆ โรงแรมที่นี่เกิดเหตุไฟไหม้นิดหน่อยพัตเลยต้องช่วยพ่อจัดการทางนี้ก่อน นี่ก็พึ่งเข้าไปคุยกับตำรวจมา พอเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยก็โทรหาทันทีเลย)

“จริงเหรอ! แล้วมีใครเป็นอะไรหรือเปล่า เสียหายมากไหม” ตอนแรกที่พัตต้องไปเพราะมีเจรจาเรื่องของการจัดงานใหญ่ที่โรงแรม เป็นการประชุมของผู้นำหลายประเทศที่จะมีขึ้นที่โรงแรมสาขาประเทศญี่ปุ่นเลยต้องไปกันทั้งครอบครัว

(นิดหน่อยครับแต่ปล่อยผ่านไม่ได้ ยิ่งกำลังจะมีงานใหญ่ด้วยทุกอย่างเลยต้องเข้มเป็นพิเศษ)

“ก็ดีแล้ว” แค่รู้ว่าไม่ได้ร้ายแรงมากผมก็โล่งอก

(ขอโทษที่ไม่ได้ติดต่อหาเลย เดี๋ยวจะกลับไปง้อนะครับ) ก็เป็นซะแบบนี้จะให้งอนเขานานได้ยังไง

ไม่สิ...แต่ถึงจะมีเหตุผลแค่ไหนงอนก็คืองอน งอนไปแล้ว เอาคืนไม่ได้ ไม่ยอมหายง่ายๆด้วย

“ง้อก็ไม่หาย”

(หายเถอะนะ แค่นี้ก็จะแย่แล้ว... ยอมรับผิดทุกอย่างจริงๆ)

“ดูความประพฤติก่อน” ทำหน้าตาคาดโทษทั้งที่อีกฝ่ายไม่มีทางเห็น ถึงแม้ว่าคราวนี้จะเป็นเพราะเหตุสุดวิสัยแต่ว่าก็ต้องทำให้รู้ เป็นใครก็ต้องงอนกันบ้างจริงไหม แฟนไม่ติดต่อหาเลยตั้งสามวัน ทั้งเป็นห่วงทั้งคิดถึงสารพัด

(ยอมทุกอย่าง...แล้วนี่ทำอะไรอยู่ครับโทรเข้ามือถือไม่ติดเลย) พออีกฝ่ายถามถึงเลยพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเอาโทรศัพท์ไว้บนห้องนอน ก่อนจะไปตลาดแบตก็เหลือไม่กี่เปอร์เซ็น แล้วตอนนี้มันคงดับไปแล้วเพราะไม่ได้ชาร์ต มิน่า...พัตเลยโทรเข้าเบอร์บ้าน

“อยู่กับกิ๊ก”

(วิน! ไม่พูดงี้ดิ อยากโดนตีใช่ไหม) ปลายสายเสียงเข้มขึ้นทันที แต่ไม่รู้ทำไม พอเห็นพัตเป็นแบบนี้ผมกลับชอบ ขอแกล้งคืนบ้างเถอะ : p

“ทำไมอ่ะ จะทำอะไรเราเหรอ...ก็แฟนไม่อยู่ แฟนหาย แฟนไม่สนใจ”

(ใครบอกไม่สนใจกัน กลับไปจะย้ำให้ชัดๆเลยว่าวินเป็นแฟนใคร...ตอนนี้พัตมีความผิดจะยอมให้ก่อน เดี๋ยวถึงนู้นพอง้อเสร็จแล้วจะลงโทษที่พูดเมื่อกี้ให้เข็ด)

“ก็รีบกลับมาสิ ไม่งั้นจะมีกิ๊กจริงๆคอยดู”

(จะกลับแล้วครับ เครื่องแลนดิ้งถึงตีสอง...ถ้าวินมีกิ๊กมันไม่รอดแน่ๆ ส่วนวินพัตจะจับขังไว้ที่เตียงแล้วลงโทษแบบไม่ให้ไปไหนเลยคอยดู) การลงโทษที่พลานให้สมองจินตนาการเป็นฉากๆจนแก้มร้อนขึ้นมาจนต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง

“ตัวเองกลับมาให้ได้ก่อนเถอะ...แค่นี้นะเราจะทำกับข้าวต่อแล้ว” ผมแค่ยั่วให้พัตโมโหเล่นๆเท่านั้นแหละ พอเขาหงุดหงิดขึ้นมาบ้างผมก็เริ่มอารมณ์ดี

(ครับๆ ถ้าถึงแล้วไปหาเลยนะ) พรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ที่ผมมีเรียนเช้าเลยต้องกลับคอนโดคืนนี้ เขารู้ดีว่าถ้าผมกลับบ้านจะกลับไปคอนโดอีกทีคือคืนวันอาทิตย์

“อื้อ”

(คิดถึงนะ...บายครับ) ผมไมได้ตอบอะไรกลับไปเพียงแต่กดวางสายไปเท่านั้นทั้งที่ปากนี่ยิ้มจะถึงหูอยู่แล้ว เก๊กฟอร์มไว้ทั้งที่ในใจนี่แทบไม่เหลืออะไร แค่คิดว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงจะได้เจอกันอารมณ์ขุ่นมัวก็หายไปหมดเลย

อ่า งั้นคงต้องกลับคอนโดเร็วขึ้นซักหน่อยแล้ว -////-

.
.
.
.
.
.

“อะ อื้อ” ไม่รู้ว่าตัวเองนั่งรอคนที่จะกลับมาได้ถึงตอนไหน เพราะเมื่อคืนนอนดึกมากเลยทำให้ง่วงเร็วจนคงเผลอหลับไปทั้งที่นั่งดูทีวีอยู่โซฟา กลิ่นตัวของคนที่ช้อนตัวให้ขึ้นไปอยู่ในอ้อมแขนตอนนี้ทำให้รู้ว่าพัตกลับมาแล้ว พอรับรู้ก็ขยับหน้าซบซอกคอแกร่งมากขึ้น

คิดถึงจัง...

“นอนนะครับ” ผมถูกอุ้มมาวางไว้ที่เตียงก่อนจะถูกห่มผ้าให้เรียบร้อย สัมผัสอ่อนนุ่มกดลงบนหน้าผากพร้อมกับเสียงกระซิบขับกล่อมให้หลุดเข้าสู่ห้วงนิทราลงไปอีกครั้ง





เสียงนาฬิกาปลุกข้างหัวเตียงที่ตั้งไว้ประจำดังขึ้นให้รู้ว่าได้เวลาที่ต้องตื่นแล้ว แรงโอบรัดที่เอวเล็กแน่นหนาจนผมทำได้แค่เอื้อมแขนไปปิดมันก่อนจะกลับมานอนตำแหน่งเดิมอย่างกลัวว่าอีกคนจะตื่น เช้านี้พัตก็มีเรียนเช่นกันแต่เดี๋ยวค่อยปลุก ยิ่งเห็นใต้ตาคล้ำพร้อมโครงหน้าซูบๆของพัตยิ่งเห็นใจ ท่าทางจะทำงานหนักจริงๆ

“อืม...” ขนาดว่าพยายามลุกขึ้นเบาแค่ไหนแต่พัตก็รู้ตัวจนได้ มือหนารั้งเอวให้ทั้งตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดเช่นเดิมก่อนจะซุกหน้าเข้ากับซอกคอแล้วขบเม้มเบาๆจนผมอดจะย่นคอหนีอย่างจั๊กจี้ไม่ได้

“คิดถึงนะครับ” คนที่นอนกอดอยู่ด้านหลังกดจูบแผ่วๆไปมาตรงตำแหน่งที่เขาชอบ

“เดี๋ยวเราไปอาบน้ำแล้วก็ทำอาหารไว้รอ พัตนอนต่อก่อนนะเดี๋ยวเราเข้ามาปลุก” เพราะดูจากท่าทางก็รู้ว่าเขาเหนื่อยแค่ไหนเลยไม่อยากจะงี่เง่าให้อีกคนต้องเหนื่อยเพิ่มอีก พูดเสียงอ่อนพร้อมกับลูบหลังมือที่พาดอยู่บนเอวเบาๆ

“อื้อ จุ๊บก่อน” เสียงทุ้มเอ่ยแหบพร่าแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยอมทำตามอย่างง่ายดาย หันกลับไปกดจูบเบาๆคนที่ยังไม่ตื่นเต็มตา ลูบเปลือกตาเขาเบาๆให้อีกคนหลับต่อ พอพัตหลับไปอีกครั้งผมก็เลยค่อยๆลุกขึ้นแล้วออกไปทำอาหารไว้รอ เรียบร้อยก็เข้ามาอาบน้ำแล้วปลุกคนที่นอนอยู่ พัตเดินเข้าห้องน้ำไปอยางสะลึมสะลือ

ฟอด

อีกฝ่ายอยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อย หน้าตาดูสดชื่นขึ้นแต่รอยใต้ตายังยืนยันได้ดีว่าคงยังเหนื่อยอยู่ไม่น้อย พัตยิ้มกว้างหลังจากที่เข้ามาหอมแก้มผมแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม

“ยังมีคดีอยู่นะ”

“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จจะเคลียร์ทุกคดีเลยครับ” ผมส่งสายตางอนๆไปให้แล้วบอกให้เขารีบทานข้าวก่อนที่จะสายไปมากกว่านี้ ต่างคนต่างทานไปเงียบๆพอเรียบร้อยพัตก็เริ่มเอาใจด้วยการเก็บถ้วยชามทุกอย่างบนโต๊ะให้เรียบร้อย






“แฮปปี้วาเลนไทน์ย้อนหลังนะครับ” พัตเข้ามาโอบรอบไหล่จากด้านหลังผมที่นั่งอยู่บนโซฟา คางแกร่งวางลงที่ลาดไหล่พร้อมกับหอมแก้มดังฟอด ถุงเครื่องประดับยี่ห้อดังถูกวางไว้บนตัก

“เอาของมาล่อเหรอ”

“เอามาไถ่โทษครับ เปิดดูเหน่อยนะพัตจะได้รู้ว่าชอบไหม” หลอกถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าผมชอบ เพราะดูแค่ถุงก็รู้ว่าข้างในเป็นอะไร เป็นของที่ผมเคยเปรยๆให้เขาฟังว่าอยากได้

“ไม่ต้องมาพูดเลย รู้อยู่แล้วนี่ว่าเราชอบ” ตอนนี้เกร็งหน้าไม่ให้ยิ้มจนปวดแก้มไปหมดแล้วแต่ขอทำเป็นงอนให้โดนเอาใจต่ออีกหน่อย

“ชอบแล้วจะยกโทษให้ไหมครับ มีออฟชั่นเสริมไปดินเนอร์เย็นนี้แล้วก็พาไปช็อปปิ้งด้วย ทุ่มหมดตัวตามใจทุกอย่างเลย”

“อยากได้กระเป๋า” เอ่ยลองเชิงไปเรียบๆ

“ให้สามใบเลย”

“รองเท้าด้วย”

“จะเอากี่คู่ว่ามาเลยครับ”

“กางเกง”

“ให้เสื้อด้วยเลย”

“จริงนะ?”

“แน่นอน”

“เย้!...ขอบคุณนะ เราชอบมาก ฟอดๆๆ” ผมเอี้ยวตัวกลับไปแล้วหอมแก้มสากไปมาทั่วหน้าอย่างไม่เก็บอาการอะไรทั้งสิ้น กำไลข้อมือเส้นนี้ที่พัตซื้อให้หาซื้อยากมากๆ เป็นรุ่นลิมิเต็ดที่ผมอยากได้สุดๆ หาซื้อมาหลายเดือนแล้วก็หาไม่ได้ซักที

“หายงอนยัง” พัตเอื้อมมือมาหยิบของขวัญที่ผมเปิดออกมาดูแล้วหยิบไป มือหนาคว้าข้อมือของผมแล้วค่อยๆสวมให้อย่างแผ่วเบา พอดีเป๊ะเลย

“หายแล้ว คิคิ” ผมโถมตัวไปกอดอีกฝ่ายทั้งที่ตัวเองยังอยู่บนโซฟาแล้วเขายืนอยู่ด้านหลัง

“สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะครับ การมีวินคือสิ่งที่ดีที่สุดเลยรู้ไหม” พัตลูบหลังผมไปมาเบาๆให้ยิ่งต้องซบหน้ากับอกแกร่งมากขึ้น

“เหมือนกันนะ...รัก”

“รัก”

ผมเองก็มีของขวัญที่จะให้พัตเหมือนกัน แม้วันแห่งความรักเราทั้งคู่จะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ไม่เป็นไรหรอกเนอะ แเค่มีพัตอยู่ด้วยกันแบบนี้ทุกๆวันเลยเป็นวันที่พิเศษ ไม่ใช่แค่วันที่14กุมภาเท่านั้น : )






***************************************



Talk

สรุปคือแล้วพัตวินก็ไปเรียนสาย5555555555555555
(ปล.หลายตอนจะเห็นว่าพัตไปต่างประเทศกับพ่อบ่อยๆ เพราะว่าที่บ้านพัตทำธุรกิจส่วนตัวนะคะ คือพัตก็ต้องเข้าไปช่วยดูอยู่แล้วแม้จะเรียนสาขาที่ไม่ตรงก็ตาม อารมณ์แบบก็เห็นการบริหารงานมาตั้งแต่เด็กอ่ะเนอะ ถึงทำงานอย่างอื่นก็ต้องดูธุรกิจของตัวเองอยู่แล้วจ้า)

จะตบจะตีจะเฆี่ยนบ่าวก็เอาเลยค่ะ บ่าวยอม บ่าวขอโทษที่หายไปนาน :o12: :o12: พึ่งเข้ามาดูตอนที่จะอัพนี่แหละว่าตัวเองหายไปนานขนาดไหน>< กลับพร้อมตอนพิเศษย้อนหลัง(ย้อนนานมาก เขาไปกันถึงไหนแล้วววว) คือตอนสุดท้ายเขียนไปแล้วแต่มันยังต่อไม่ได้เลยค่ะ ถามว่าแล้วแต่งตอนพิเศษได้ไง? คือมันคนละฟีลอ่ะเนอะ ตอนพิเศษมันไม่มีพล็อตเรื่องมาบังคับมันเลยไม่ต้องใช้เวลานานเท่า

คือใจง่ายมากค่ะ มีคนมาทวงในเฟสนี่เปิดคอมพิมพ์ให้เลย :mew1: :mew1: คือช่วงนี้ยุ่งมากๆๆๆๆเพราะสอบมิดเทอมค่ะ นอนเช้าทุกวันเวลาเปิดคงเปิดคอมอะไรไม่มีหรอก(เวลาจะนอนยังไม่มีเลย :katai1: :katai1:) แต่เค้าใจง่าย มีคนมาทวงก็ยอมสลัดหนังสือทิ้งเลย  :katai4: :katai4:

ขอบคุณสำหรับคนที่ยังไม่ลืมกันนะคะ ขอโทษที่ชอบหายชอบดอง...ชีวิตทาสของนักศึกษาก็งี้แล กระซิกๆ

มีอะไรติดต่อที่เพจเลยน๊า~ พูดคุยกันได้ตลอด ^^ >> https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/?ref=aymt_homepage_panel

ไปใช้กรรมต่อแล้วค่ะ  :ling3: :ling3:



ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
วินน่ารักเสมอเลยยย

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พัตน่ารักจริงๆ เป็นพ่อบุญทุ่มมากๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ตามใจไม่มีใครเกิน

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :L2: น่าอิจฉาสุดๆอ่ะ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ดีใจที่มาต่อ การเรียนสำคัญต่ออนาคต สู้ๆ
วินไม่เคยงอนพัตได้นาน เป็นเพราะพัตเป็นคนสม่ำเสมอด้วย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
น่าร๊ากกกกกกก >\\\\<
ชอบวินที่งอนได้ไม่นาน และน่ารักสุดๆ
พัตคะ รอบนี้เหตุผลผ่าน พอให้อภัยนะครัช

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ GMJeam

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เรื่องนี้น่ารักมากกกกกกค่ะ
นี่อ่านรวดเดียวเลย ไม่หลับไม่นอน :-[

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
กำลังน่ารักเลย //อย่ามีดราม่านะครับ

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
วินน่ารักกก ขอแบบนี้กลับบ้านหนึ่งที่ค่ะ!  :hao7:

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ชอบคู่นี้จังง

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6

ตอนที่ 22


แรงขยับตัวจากคนที่หลับไปข้ามวันทำให้ผมต้องสายตาจากหน้าจอไอแพดในมือให้หันไปมอง เมื่อเห็นว่าเปลือกตาบางของวินค่อยๆขยับขึ้นจึงวางของในมือลงไว้ที่โต๊ะข้างเตียงแล้วขยับตัวเขาหาคนที่พึ่งตื่นนอน

“อะ อื้อ พัต...กี่โมงแล้ว” เสียงแหบแห้งเอ่ยถามให้ต้องหันไปมองหน้าจอไอแพดที่ยังไม่ทันจะดับ

“บ่ายสามครับ” ที่จริงแล้วก็ยังไม่ทันจะบ่ายสามดี แต่อีกสองสามนาทีนี้จะเรียกว่าบ่ายสามแล้วก็คงไม่ผิด หันกลับมาอีกทีคนที่ลืมตาขึ้นมาแล้วก็ปิดมันลงอีก โดยปกติวินก็ค่อนข้างจะขี้เซาอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ยิ่งขี้เซา

“หิวจัง” หลุดหัวเราะออกมากับความเป็นวิน มีอย่างที่ไหนตื่นนอนขึ้นมาก็บ่นว่าหิวทันที มือใหญ่ถูกยกมือขึ้นเสยผมที่ยุ่งกระเซอะกระเซิงของคนที่ยังไม่ลืมตาดีให้ปัดขึ้นไปด้านบน โน้มหน้าลงไปกระซิบแผ่วเบา

“หิวก็ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวพัตสั่งอาหารขึ้นมาให้” ผมตื่นก่อนวินนานพอสมควรเพียงแต่ขี้เกียจที่จะลุกไปทำอะไร ตั้งแต่ตื่นก็แค่ลุกขึ้นไปล้างหน้าแล้วก็กลับมานั่งบนเตียงเช่นเดิม ปิดเทอมแล้วอะไรก็สบายไปหมด

“อือ ปวดเอว” คราวนี้ลืมตาตื่นขึ้นมาบอกเต็มตา ท่าทางที่ทำให้ผมต้องละมือจากบนหัวเล็กให้ลงมาที่แก้มนุ่มแล้วลูบเบาๆอย่างปลอบโยน ยอมรับว่าตัวเองนั้นยั้งแรงยั้งใจไม่อยู่จริงๆ คนที่ต้องเป็นฝ่ายรับความเอาแต่ใจของผมแบบเขาเลยต้องลำบาก

“งั้นอาบน้ำก่อนเนอะ เดี๋ยวพัตเปิดน้ำอุ่นให้ ทานข้าวแล้วจะได้ทานยาด้วย” เอ่ยบอกเสียงนุ่มวินก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย อาบน้ำอุ่นๆจะช่วยให้เขาผ่อนคาย ลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายลงไปได้บ้าง ผมลุกจากเตียงแล้วอ้อมไปอุ้มคนตัวเล็กเข้าห้องน้ำ วางคนในอ้อมกอดให้นั่งลงที่เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า เดินไปเปิดน้ำที่อ่างให้เรียบร้อย

จุ๊บ

เสร็จแล้วก็เดินกลับมาหาคนที่นั่งซึมๆอยู่แล้วกดจูบไปที่หน้าผากเนียนแผ่วเบาก่อนจะวางมือลงไปตำแหน่งที่พึ่งสัมผัสเมื่อซักครู่เพื่อวัดไข้ ให้แน่ใจว่าเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้ส่งผลร้ายแรงจนทำให้วินไม่สบาย

“ง่วงเฉยๆ” พออีกคนเห็นท่าทีของผมเขาก็เอ่ยบอกพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนมาให้เพื่อให้สบายใจ

“งั้นหลังกินข้าวค่อยนอนต่อนะครับ” เลยเวลาทานข้าวมามากแล้ว ผมอยากจะให้เขาพักแต่เรื่องอาหารก็เป็นเรื่องสำคัญ

“อื้อ” กดจูบไปที่ปากเล็กๆแล้วก็ผละออกไปดูน้ำที่เปิดไว้ เมื่อได้ระดับที่ต้องการแล้วก็วัดความอุ่นให้พอดี ผสมสบู่ลงไปเสร็จก็กลับมาจัดการลอกคราบชุดที่ตัวเองเป็นคนใส่ให้วินกับมือแล้วอุ้มเขาลงไปไว้ในอ่าง

“เดี๋ยวพัตมาอาบน้ำให้นะ ออกไปโทรสั่งข้าวก่อน” กว่าจะอาบน้ำเสร็จอาหารก็คงมาส่งพอดี

“อื้อๆ” คนที่อยู่ในอ่างพยักหน้าหงึกหงักผมจึงผละออกไปนอกห้อง หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรออกไปที่รูมเซอร์วิสของคอนโด สั่งรายการอาหารที่ต้องการไปเรียบร้อยก็รีบกลับไปดูคนที่อยู่ในห้องน้ำ วินไม่ได้หลับคาอ่างอย่างที่นึกเป็นห่วง ตอนนี้มือเล็กๆกำลังขยับลูบไปไล้ไปตามเนื้อตัวเพื่อชำระร่างกาย

“เสร็จแล้วเหรอ” พอเห็นผมนั่งลงข้างๆที่ขอบอ่างก็หันมาถาม หน้าตาดูสดชื่นขึ้นมาบ้าง

“ครับ มีขนมหวานด้วยนะ” ผมสั่งให้เขาหลายอย่างเลย วินเป็นคนที่ชอบกินขนม หลังจากที่ทานข้าวหรือพวกอาหารคาวเสร็จต้องกินอะไรตบท้าย ขนมหรือของหวานอะไรก็ตามเขาชอบหมด

“หิวๆๆ~”

“แล้วฟอกตัวเสร็จหรือยังครับ จะได้ล้างตัวแล้วออกไปทานข้าวเนอะ”

“เสร็จแล้ว” พอได้ยินว่าจะได้ทานข้าวนี่รีบเสร็จเลย ผมส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปกดปุ่มปล่อยน้ำออกแล้วเปิดฝักบัวแทน อีกอย่างคือไม่อยากให้วินแช่น้ำนานกว่านี้เช่นกัน กลัวว่าจะทำให้เขาไม่สบาย

“พัต...เดี๋ยว ละ ล้างเองก็ได้”

พอเริ่มมีสติเริ่มตั้งตัวได้แล้วต่อมความอายก็เริ่มจะทำงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ห้ามหรือหืออืออะไรเลยซักนิด พอเริ่มอายความแดงก็ลามไปทั้งตามหน้าและตามตัวเหมือนกุ้งโดนน้ำร้อน หึ เขินอะไรของเขากัน เห็นกันมาหมดแล้ว

“อายอะไรหืม เห็นมาทุกซอกทุกมุมแล้ว” พูดแล้วก็แกล้งปัดผ่านวินน้อยให้อีกคนสะดุ้งสุดตัวจนต้องถดกายหนี

“ใครจะหน้าด้านแบบพัตกันเล่า!”

“ฮ่ะๆ ไม่แกล้งแล้วครับ ขยับมาดีๆเร็วจะได้เสร็จไวๆ” เพราะผมแกล้งเขาวินเลยขยับไปจนชิดอ่างอีกฝั่งนึง ผมนั่งอยู่บนขอบอ่าง ขยับตามเขาไม่ได้แล้ว

“ห้ามแกล้งนะ หิวแล้วจริงๆ” พูดด้วยหน้าอ้อนๆแบบนี้แล้วบอกไม่ให้แกล้ง? ก็เขาน่ารักขนาดนี้เลยยิ่งทำให้ผมอยากแกล้งขึ้นไปใหญ่ แต่ไม่เอาดีกว่า แค่นี้ก็สงสารมากแล้ว

“ครับๆ” ได้ยินคำยืนยันถึงยอมขยับเข้ามาหาดีๆ คราวนี้จริงจังแล้ว รีบล้างตัวให้เขาแล้วพาไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ พอจัดการวินให้ไปนั่งรอที่โต๊ะทานข้าวเสร็จก็เข้ามาจัดการตัวเองบ้าง ออกมาก็เห็นว่าอาหารที่สั่งถูกจัดขึ้นโต๊ะไว้แล้วเรียบร้อย สงสัยจะมาส่งตอนที่ผมอาบน้ำอยู่

“เรากินเลยนะๆ”

“ครับ ไม่ต้องรอพัตหรอก” ความวินอีกอย่างนึงคือถ้าผมไม่มาที่โต๊ะอาหารเขาก็จะรออยู่อย่างนั้น ไม่ทานก่อน

“อันนี้อร่อยดี เขาบอกว่าเป็นเมนูใหม่เอามาให้เราลองชิม พัตลองดูนะ” อาหารพอดีคำถูกยื่นมาให้ถึงปาก พอผมอ้าปากรับอีกคนก็ยิ้มกว้าง พอมีอาหารวินก็เริ่มกลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิม “อร่อยไหม?”

“ก็ดีครับ” ตลอดเวลาที่ทานข้าววินก็กินข้าวของเขาบ้างตักให้ผมบ้าง บางทีก็เคยตัวเหมือนกันที่มีแฟนคอยทำอะไรเล็กๆน้อยแบบนี้ให้

.
.
.
.
.
.
.

“เดี๋ยวมะรืนเราต้องกลับบ้านนะ ป๊าจะไปเชียงใหม่แหละ ไปทั้งครอบครัวเลย” คนที่นอนอยู่บนตักเอ่ยบอกในขณะที่เรานั่งดูหนังกันอยู่ ไม่สิ ผมนั่งก็จริงอยู่ ส่วนวินนอน

“ครับ พัตเองก็ต้องไปญี่ปุ่นกับพ่อเหมือนกัน” ปิดเทอมทุกครั้งก็ต้องไปช่วยดูงานของครอบคัวอยู่แล้ว ครั้งนี้เองก็เช่นกัน

“ไปวันไหนอ่ะ ไม่เห็นบอกเราก่อนเลย” คนที่นอนอยู่ที่ตักช้อนสายตาขึ้นแล้วส่งค้อนเล็กๆให้ผมทันที เรื่องวินจะไปเชียงใหม่นี่ผมก็พึ่งรู้เหมือนกันนะ

“น่าจะซักอีกสองสามวัน” คงจะใกล้ๆที่วินจะไปเชียงใหม่

“ไปกี่วัน”

“หนึ่ง...”

“หนึ่งอาทิตย์?”

“หนึ่งเดือนครับ” คราวนี้โดนมองแรงไม่ใช่แค่ค้อนแล้ว มองอย่างเดียวไม่พอยังลุกขึ้นมานั่งจ้องหน้ากันอีกต่างหาก หนังเหนิงอะไรไม่ได้สนใจแล้วเพราะเหมือนว่าผมจะมีงานเข้าเล็กๆ...

“ตั้งหนึ่งเดือนเลยเหรอ เราไปเชียงใหม่แค่สามวันเองนะ!”

“วินครับ...พัตต้องไปช่วยพ่อกับแม่ดูงานนะ ไม่งอแงใช่ไหม เก่งแล้วเนอะเก่งแล้ว” จะขยับเข้าหาก็ไม่กล้า วินเล่นนั่งนิ่งไม่ไหวติงเลย “เดี๋ยวซื้อของมาฝากเยอะๆเลยสัญญา”

“เราไม่ใช่เด็กแล้วนะ...ตั้งเดือนนึงเลยเหรอ” คราวนี้ผมขยับเข้าไปกอดเขาไว้ทันที ก่อนจะโยกคนในอ้อมกอดไปมาเบาๆ เล่นมาทำเสียงหงอยๆหน้าหงอยๆแบบนี้ผมไม่เป็นอันทำงานกันพอดี แค่นี้ก็ไม่อยากไปจะแย่แล้ว

“ต้องคอลหาเราทุกวันนะ”

“แน่นอน” ถ้าไม่คอลกันผมนี่แหละที่จะเป็นฝ่ายตาย วินต่างหากที่ต้องคอยรับสายตลอดเวลาที่ผมคอลหา

“ต้องไลน์มาบอกด้วยว่าอยู่ไหน ทำอะไรบ้าง”

“สัญญาเลย วินเองก็เหมือนกัน..จะไปไหนจะทำอะไรต้องบอกพัตก่อนทุกอย่างนะ แล้วถ้าพัตไม่ตอบก็ไม่ต้องงอนนะครับ บางทีก็ยุ่งจริงๆ” เพราะวันๆนึงมีงานเข้ามาไม่หยุดอาจจะมีบ้างที่ผมไม่มีเวลาแม้แต่ที่จะจับโทรศัพท์ กลัวว่าพอผมหายไปวินจะงอแงคิดนู้นคิดนี่ ยิ่งอยู่ห่างกันขนาดนั้นจะปลอบก็ลำบาก

“ไม่งอนหรอก เราไม่ใช่คนขี้งอนซักหน่อย” ไม่ได้ขี้งอนแต่ว่าขี้อ้อน ไอ้อาการเอาหัวถูๆซุกที่อกตอนนี้นี่เหมือนแมวไม่มีผิด

“ครับๆ แล้วไปเชียงใหม่ห้ามไปมองใครที่ไหนนะ เข้าใจไหม” คราวนี้เป็นตาผมบ้าง แม้ว่าเขาจะไปแค่สามแต่ก็วางใจไม่ได้ ทางวินนี่ผมไม่ได้ห่วงมาก ไอ้คนอื่นที่คิดจะเข้าหานี่สิที่มันไม่น่าไว้ใจ

“จะมองใครเล่า มีแฟนแล้วนะ”

“จริงอ่ะ?” เอ่ยเหย้าออกไป

“ไม่จริง ไม่มีแฟนแล้วงั้น...โสดดดด” แรงรัดที่แขนกระชับคนในอ้อมกอดแน่นขึ้นทันทีเพื่อเตือนคนที่พูดประโยคเมื่อกี้ให้รู้ตัว แม้ว่าวินจะพูดเล่นแต่ผมก็ไม่อยากให้เขาพูดซักเท่าไหร่ ไม่รู้สิ ไอ้คำว่าโสดของวินนี่ผมรู้สึกไม่ชอบใจเลยจริงๆ

“โสดเหรอ? ให้โอกาสพูดอีกที”

“ยอมให้เราโสดไหมล่ะ”

“ไม่มีทาง!” คราวนี้ซุกหน้าเข้ากับซอกคอเล็กแล้วเม้มแรงๆเป็นการลงโทษซะเลย เมื่อคืนพยายามไม่ทำรอยไว้นอกร่มผ้าแต่ตอนนี้จะทำเอาให้ชัดๆไปเลย หมั่นเขี้ยว

“อะ เบาๆ...เราก็ไม่ยอมให้พัตโสดนะ เจอใครคนไหนก็บอกไปเลยว่ามีแฟนแล้ว” ถึงจะบอกให้เบาแต่ร่างเล็กกลับเอียงคอให้ผมลงโทษได้สะดวกมากขึ้นเสียอย่างนั้น เอาเข้าจริงแล้วผมเองก็ไม่กล้าทำรอยไว้เยอะหรอกครับ มันทำให้อีกคนลำบากเวลาไปไหนมาไหน การมีอะไรแบบนี้แล้วคนเห็นร่องรอยมันไม่ใช่เรื่องดีอะไร นี่ก็ทำตรงที่ผมวินลงมาปรกจะได้ไม่เห็นชัด

“ครับ ไม่ยุ่งกับใครแน่นอน...ง่วงไหม จะนอนหรือเปล่า” ผละออกมาถามเมื่อนึกได้ว่าคนที่ทั้งเหนื่อยและเพลียยังไม่ได้หลับอีกเลยตั้งแต่ตื่นมา แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลากว่าหกโมงเย็นแล้วก็ตาม

“ฮื่อ ก็ง่วง...แต่เย็นแล้วรอนอนทีเดียวเลยดีกว่า” เขาว่าอย่างนั้นผมก็ตามใจ คุยกันเรียบร้อยวินก็นอนลงแบบเดิมอีกครั้งแล้วหันกลับไปดูหนังที่ค้างไว้ต่อ ส่วนผมก็มีหน้าที่นั่งนิ่งๆเป็นหมอให้แฟนนอนดูทีวีไป

.
.
.
.
.
.
.

“สวัสดีครับ” ยกมือขึ้นไหว้พ่อกับแม่วินเมื่อมาถึงสนามบิน วันนี้เป็นวันที่วินจะเดินไปทางไปเชียงใหม่ในขณะที่ของผมจะเดินทางไปญี่ปุ่นพรุ่งนี้ วันนี้ก็เลยได้มีโอกาสมาส่งเขาขึ้นเครื่อง

“สวัสดีจ๊ะ เป็นไงบ้าง ตามใจวินจนเหนื่อยแย่เลยสิเรา” แม่ของวินเอ่ยถามยิ้มๆในขณะที่คุณพ่อเพียงแค่มองมานิ่งๆ

“วินไม่ได้เอาแต่ใจตัวเองขนาดนั้นซักหน่อย” คนเป็นลูกก็โวยวายขึ้นมาทันที ปากเล็กยู่เข้าหากันจนอยากจะกดจูบลงไปแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว แต่ขืนทำอย่างนั้นพรุ่งนี้ผมอาจจะไม่ได้ไปดูงานให้พ่อแล้วเพราะโดนพ่อของวินฆ่าตายแล้วหมกศพไว้ที่สนามบิน

“แม่เลี้ยงเรามากับมือนะ จะไม่รู้ได้ไง...พัตก็อย่าตามใจวินมากนะลูก ไม่งั้นเดี๋ยวเหลิงใหญ่”

“ตามใจอะไรกันครับ นี่ก็ดุเหมือนป๊าอีกคนแล้ว” ผมดุเหรอ? นี่ก็ว่าตามใจเขาสุดๆแล้วนะ

“ใกล้ได้เวลาหรือยังคุณ” คราวนี้เป็นคนที่ยืนนิ่งเอ่ยขึ้นมา ทุกคนเลยยกนาฬิกาข้อมือตัวเองขึ้นมาดูว่าถึงเวลาที่ต้องเข้าไปข้างในแล้วหรือยัง

“เหลืออีกประมาณ20นาทีค่ะ เดี๋ยวแม่ว่าจะไปซื้อกาแฟนตรงนู้น วินรออยู่นี่ก่อนนะลูก”

“ครับ เดี๋ยววินนั่งรอตรงนี้แหละ”

“เอาไรไหมจ๊ะ...พัตล่ะ” ท่านหันมาถามผม

“ไม่ดีกว่าครับ” ผมทานข้าวจากที่บ้านมาแล้ว ทั้งผมและวินต่างแยกย้ายกันกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวาน

“วินก็ไม่ครับ”

“จ๊ะ ไปค่ะคุณ” คุณแม่หันไปเอ่ยชวนคุณพ่อ

“ผม?”

“ค่ะ คุณนั่นแหละ ไปเร็วค่ะเดี๋ยวไม่ทัน” แล้วคุณพ่อก็โดนคุณแม่ท่านลากออกไปแบบไม่ได้ตั้งตัวเท่าไหร่ ดูเหมือนจะเป็นการเปิดทางให้ผมอยู่กับวินสองคน

“แค่เมื่อวานห่างกันก็คิดถึงแล้วอ่ะ” หลังจากที่หาที่นั่งได้มือเล็กก็เอื้อมมาคว้ามือผมไปจับแล้วลูบไปตามนิ้วเบาๆ ตั้งแต่ที่คบกันมาเรายังไม่เคยห่างกันนานขนาดนี้มาก่อน พูดถึงเรื่องคิดถึงก็ต้องคิดถึงมากอยู่แล้ว แต่แน่นอน...เราไม่สามารถอยู่ด้วยกันตลอดเวลาได้ ช่วงเวลาที่ต้องห่างกันต่างคนจะอยู่ยังไงจะได้รู้

“อดทนนะ เดือนเดียวเอง” ถ้าคิดว่านานมมันก็นาน ถ้าคิดว่าไม่นานมันก็ไม่นาน แต่ถึงอย่างไรเราทั้งสองก็ต้องอดทน ผมเองก็ต้องคิดถึงวินมากไม่ต่างกัน

“ฮื่อ...” วินส่งเสียงหงุงหงิงออกมาก่อนจะเอนหัวมาพิงแขนผมไว้แล้วโขกเข้าเบาๆ “พัตทำให้เรากลายเป็นคนติดแฟนนะ นิสัยไม่ดีเลย”

มีโทษกันด้วย เขาเป็นฝ่ายติดผมฝ่ายเดียวที่ไหนกัน

“นั่นแหละดี ติดให้เยอะๆเลย จะเอาให้วินไปไหนไม่รอด”

“ไม่ดีดิ ติดมากเวลาห่างก็คิดถึงมาก...ทรมาน” คำพูดของเขาทำให้ผมต้องกดจูบลงไปที่หัวทุยๆนั้นเบาๆอย่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ตัวผมเองก็ทรมาน

“พัตเองก็ไม่ต่างกันเลยรู้ไหม...อ่ะ จะได้เวลาแล้วครับ เตรียมตัวเร็ว” เห็นคุณพ่อกับคุณแม่วินเดินออกมาจากร้านกาแฟแล้วเรียบร้อยผมยกนาฬิกาข้อมือมาดูจึงพบว่าเหลืออีกไม่กี่นาทีก็ได้เวลา “ถึงแล้วโทรมานะครับ”

เอ่ยย้ำกับคนที่ผละออกไปนั่งตัวตรงเป็นรอบที่สี่ ย้ำมาตั้งแต่เมื่อคืนว่าถ้าถึงที่พักเรียบร้อยแล้วให้บอกกัน

“อื้อ” หงอยเลย ยิ่งใกล้ได้เวลาวินยิ่งเริ่มหงอยหนัก หน้าหวานๆไม่สดใสอย่างที่เคย แต่ถึงวันนี้ถ้าเขาจะไม่ได้ไปเชียงใหม่แต่ยังไงพรุ่งนี้ผมก็ต้องไปญี่ปุ่นอยู่ดี ท้ายที่สุดแล้วช่วงเวลาหนึ่งในสองของช่วงปิดเทอมก็ต้องห่างกัน

“เรียบร้อยหรือยังลูก” คุณแม่เดินเข้ามาถาม

“ครับแม่...เราไปแล้วนะ” ประโยคหลังวินหันมาพูดกับผม

“ครับ เดินทางปลอดภัยนะ...เดินทางปลอดภัยนะครับ”ผมหันไปอวยพรพ่อกับแม่วินด้วยทั้งคู่ คนที่หน้าหงอยพยักหน้ารับแล้วส่งยิ้มอ่อนๆให้ก่อนจะเดินไปยืนข้างๆพ่อกับแม่เจ้าตัว “สวัสดีครับ” ยกมือไหว้ลาท่านทั้งสอง

“จ๊ะ” คุณแม่ยิ้มรับ คุณพ่อก็ทำเพียงพยักหน้าเบาๆก่อนที่ทั้งสองจะเดินเข้าไปให้วินต้องเดินตาม ผมส่งยิ้มให้คนที่มองมาราวๆซักครึ่งทางก่อนที่เขาจะรีบหันหลังเดินเข้าไปโดยไม่สนใจกันอีก แล้วแผ่นหลังบางก็ลับสายตาไปพร้อมๆกับประโยคที่เราคุยโทรศัพท์กันเมื่อคืนจะดังขึ้นมาในหัว

'เราจะไม่มองพัตจนวินาทีสุดท้ายหรอกนะ...โบราณบอกไว้ว่าถ้าเรามองใครตอนจากลาจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย มันหมายความว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก'

ผมได้แต่หัวเราะกับทฤษฎีแปลกๆของแฟนตัวเองแล้วก็ต้องส่ายหน้าเบาๆ...ทำแบบนั้นจริงๆด้วยสินะ

.
.
.
.
.
.
.

เป็นเวลากว่าสามวันแล้วที่ผมเดินทางมาถึงญี่ปุ่น  วินกลับจากเชียงใหม่แล้วเรียบร้อยเมื่อวานนี้ คนหงอยๆพอไปถึงที่เที่ยวก็ไม่หลงเหลือความหงอยอีกเลย วินกลับมาร่าเริงเหมือนเด็กเช่นเดิมในวันนั้น ลืมอาการที่ต้องคิดถึงผมไปแล้ว

“วันนี้มีอะไรอีกไหมครับ” ผมถามผู้ช่วยที่เป็นคนญี่ปุ่นด้วยภาษาอังกฤษ เธอส่วยหน้าแล้วบอกว่าวันนี้ไม่มีอะไรที่ต้องตรวจอีกแล้วและแจ้งว่าพรุ่งนี้มีประชุมร่วมกับผู้บริหารพวกผู้ใหญ่ หน้าที่ผมที่ต้องเข้าไปก็ไม่ได้มีอะไรมากแค่เข้าไปฟังด้วยเพื่อหาประสบการณ์เท่านั้น

พอประตูห้องปิดลงเรียบร้อยก็เอนหลังพิงพนักเก้าอี้โต๊ะที่นั่งอยู่แล้วพักสายตาลง วันนี้ต้องดูต้องอ่านเอกสารทั้งวันเลยปวดตาไม่น้อยเลย

ติ๊ง~

เลิกงานหรือยัง
คิดถึง.


พอเห็นข้อความที่โชว์ขึ้นหน้าจอโทรศัพท์ก็รีบคว้าเจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ปากก็ฉีกยิ้มไปอย่างอัตโนมัติเมื่อคิดถึงหน้าคนที่ไลน์มา วันนี้ทั้งวันเรายังไม่ได้คุยกันเพราะผมบอกเขาไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าจะคอลหาตอนที่ว่าง ถ้าผมไม่คอลคือสะดวกคุย

“เลิกงานแล้วครับ” ผมไม่พิมพ์ตอบแต่จัดการวิดีโอคอลหาทันที

(วันนี้ยุ่งเหรอ) เห็นด้านหลังแวปๆวินน่าจะนอนเล่นอยู่แถวๆบ่อปลาหลังบ้านเขาอีกแล้ว เห็นเจ้าตัวบอกว่าตรงนี้เป็นที่ประจำ พอปิดเทอมแล้วยิ่งสนุกใหญ่ นอนเล่นกลิ้งไปมาพร้อมกับกินไปด้วย

“ก็ต้องดูเอกสารย้อนหลังเยอะน่ะครับ แต่ตอนนี้ว่างแล้ว...วินทำอะไรอยู่”

(นอนเล่น วันนี้ออกไปข้างนอกกับแม่มา แดดร้อนมากกกกกกกกกก)

“ใส่เสื้อออกไปไหมครับ” เวลาออกไปข้างนอกผมจะต้องหยิบเสื้อคลุมเผื่อให้เขาตลอด แดดที่บ้านเราร้อนขนาดนั้นถ้าไม่ใส่ผิวได้ไหม้กันพอดี

(ใส่สิๆ แดดร้อนมากเลย...เอ้อ เดี๋ยววันนี้พ่อกับแม่จะออกไปงานเลี้ยงแหละ ต้องอยู่บ้านคนเดียว)

“ที่บอกนี่จะอ่อยกันหรือ?” ถ้าเป็นตอนที่อยู่บ้านผมคงคิดว่าวินอยากให้ไปหาแน่ๆ หึหึ

(รุ่นนี้ไม่ต้องอ่อยแล้วไหม ไม่ได้ทำไรก็มีคนคิดถึงจะแย่) เสียงปลายสายเอ่ยล้อเลียนกลับมา และมันก็ไม่มีตรงไหนผิดจากที่เขาพูดซักนิด มาที่นี่แค่สามวันให้ความรู้สึกราวกับมาสามเดือน

“ครับ คิดถึงจริงๆ”

(เหมือนกันนะ...)

ก๊อก ก๊อก

“เข้ามาได้...แป๊บนะครับ” ยังไม่ทันจะพูดต่อเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ผมจัดการเอ่ยบอกปลายสายไป ก่อนจะส่งสายตามีคำถามให้กับคนที่เข้ามาตอนนี้

“ขอโทษค่ะ แต่คุณมิกะมาขอเข้าพบคุณพัตค่ะ”

ให้ตายเถอะ...งานเข้าจนได้

“เธอบอกหรือเปล่าครับว่ามีธุระอะไร ถ้าไม่ใช่เรื่องงานบอกไปเลยว่าผมไม่รับแขก” มิกะเป็นลูกสาวของคู่ค้าทางด้านธุรกิจคนนึง ครอบครัวผมและเธอต้องอาศัยซึ่งกันและกัน เจอกันครั้งแรกตอนที่ไปงานเลี้ยงซักงานใดงานนึง และหลังจากนั้นทุกครั้งที่รู้ว่าผมมาญี่ปุ่นเธอก็จะเข้ามาหาเสมอ

“เธอแจ้งว่าเรื่องของโรงแรมKKKค่ะ” ให้มันได้อย่างนี้สิ แม้ว่าจะไม่อยากพบแค่ไหนแต่มิกะก็หาเรื่องให้เข้าพบให้ได้อยู่ดี ครั้งนี้ก็เช่นกัน โรงแรมKKKเป็นโรงแรมคู่แข่งของเรา ข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามรู้ไว้ก็ไม่เสียหาย ยิ่งรู้เยอะรบร้อยครั้งก็ย่อมชนะร้อยครั้ง

“งั้นให้เธอเข้ามาได้ครับ”

“ค่ะ”

พอผู้ช่วยออกไปแล้วผมก็รีบยกโทรศัพท์ในมือขึ้นมาดู พอเห็นว่าอีกคนยังอยู่ก็โล่งใจ วินนอนจ้องผมตาแป๋วเลย

“เดี๋ยวพัตคุยงานแป๊บนึงนะ ดึกๆจะคอลหาอีกทีนะครับ”

(อื้อ งั้นพัตทำงานต่อเถอะ เราจะรอนะ)

“บ๊ายบายครับ” แล้วก็เป็นผมที่ตัดสายก่อนเมื่อประตู้ห้องทำงานถูกเปิดเข้ามา เจ้าของเรือนร่างเย้ายวนเดินนวยนาดเข้ามาหาอย่างช้าๆ มิกะถอดแว่นกันแดดออกแล้วเอาคล้องที่คอให้ชุดเดรสที่ค่อนข้างเปิดเผยเนื้อหนังรั้งลงจนเห็นอะไรๆไปหมด
แต่เสียใจ...มันไม่ได้น่าดึงดูดสำหรับผมเลยซักนิด

“ทำไมจะเข้าพบพัตแต่ละทีมันยากจังคะ มิกะต้องมีเรื่องงานเท่านั้นใช่ไหมพัตถึงจะให้เข้ามาหาได้” ใบหน้าสวยเฉี่ยวบูดบึ้งเล็กๆ

“ครับ แค่เรื่องงานเท่านั้น...เอาล่ะ ว่ามาว่าวันนี้มิกะมีเรื่องอะไร” ผมไม่เคยให้ความหวังเธอและบอกชัดเจนเสมอในทุกครั้งว่าไม่มีทางที่จะสานต่อความสัมพันธ์ มิกะเองก็คงจะชินแล้วถึงไม่รู้สึกอะไรตอนที่ผมพูดออกไป

“ข้อแลกเปลี่ยนล่ะคะ?” แน่นอนว่าทุกครั้งที่เธอมาพร้อมข้อมูลมิกะไม่มีทางจะเข้ามาโดยไม่หวังอะไรเป็นการตอบแทน คนเราก็แบบนี้ ทุกอย่างต้องมีการแลกเปลี่ยนเสมอ

“คุณต้องการอะไรล่ะ”

“ดูหนังซักเรื่องแล้วดินเนอร์หรูๆเป็นไงคะ” แล้วก็อีหรอบเดิม ไม่เคยพ้นเรื่องแบบนี้

“ถ้าข้อมูลที่คุณมีมันดีพอ ผมตกลง”









TBC.


Talk.

ย่องมาเสิร์ฟฮะ!
เอาแล้ววววว~ เพราะเรื่องงานเนอะพัตเขาเลยต้องยอมแลกอ่ะจ้า  :mew3: :mew3: ย้ำอีกทีว่าเรื่องนี้ไม่มีดราม่านะคะไม่ต้องห่วง :mew1: :mew1: งอนกันเล็กๆน้อยๆตามประสาแค่นั้นเองงงงงง อ้อ...เรื่องโบราณว่าที่สนามบินนี่คนเขียนก็เอามาจากนิยายที่เคยอ่านซักเรื่องนะคะ มันทำให้คนเขียนเองก็เชื่อแบบนั้นมาตลอดเลยเอามาเขียนซะเลย^^
ตอนแรกบอกจะจบตอนนี้ใช่ไหมเอ่ย...ปัญหาคือมันหาที่ลงไม่ได้อ่ะค่ะ ก็เลยแบบ...โอเค ยังไม่จบก็ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ยิ่งมีตัวละครเพิ่มมาอีกก็คงอีกซักพักเลย(แล้วแต่อารมณ์คนเขียนล้วนๆ อิอิ)
ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจนะคะ :pig4: :pig4:


FanPage >>> https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/?ref=aymt_homepage_panel


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะก่อดราม่าใช่ไหมเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
งานมันจะเข้าพัตไหม 
วินยิ่งคิดมากอยู่ ไม่รู้ว่าข่าวอะไรจะหลุดไปถึงเมืองไทย

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ชะนีโผล่มาทีไร มักเกิดเรื่องทุกที

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
หวานกันมากกกก มาอ่านรวดเดียวจบเลย555

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
เดี๋ยวๆ ยัยมิกะนี่เป็นตัวก่อดราม่าแน่เลยอ่ะ

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
คิดถึง  นานแล้วไม่ได้อ่าน

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
ชะนีมาแบบนี้ ดราม่าแน่ๆๆ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
วินก็นั่งเครื่องมาหาพัตที่ญี่ปุ่นเลยก็หมดเรื่อง

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :z6: :z6: :z6: :z6: โดดถีบให้น้องวิน

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
มีชะนีที่ไหน มีดราม่าที่นั้น

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด