เริ่มต้นจากการแอบรัก ตอนที่30(END) 06/06/2559(03.33) p.16 *จบแล้วย้ายห้องได้ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เริ่มต้นจากการแอบรัก ตอนที่30(END) 06/06/2559(03.33) p.16 *จบแล้วย้ายห้องได้ค่ะ  (อ่าน 308402 ครั้ง)

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ปัญหาของคนหล่อและแฟนรูปหล่อกว่า  อิอิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
อย่างนี้แหละมีแฟนน่าตาแซบทั้งคู่ต้องทำใจนะ

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6

ตอนที่ 28

ทันทีที่คนที่เรารอคอยเดินออกมาในระยะที่สามารถมองเห็นได้วินก็รีบลากผมให้เดินเข้าไปหาก่อนจะยกมือไหว้จนพ่อกับแม่ผมรับไว้แทบไม่ทัน

“สวัสดีครับ”

“ไม่น่าเหนื่อยมารับแม่เลยลูก ไปรอที่บ้านก็ได้” ประโยคนี้แม่ผมพูดกับวินเท่านั้นแหละครับ สำหรับผมแล้วไม่มีหรอกที่แม่จะบอกไม่ต้องเหนื่อย ถ้าพูดกับผมท่านคงจะบอกว่ามารับแค่นี้เป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆไม่ได้ลำบากอะไรเลย

ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน...

“ผมบอกแล้วครับแต่คนโปรดของแม่ไม่ฟังเอง” ผมบอกวินแล้วว่ารอรับท่านทั้งสองอยู่ที่บ้านก็ได้แต่เจ้าตัวก็ยังยืนยันว่าจะมารับพ่อกับแม่ถึงสนามบิน และแน่นอนว่าผมไม่มีทางขัดเขา ตามใจที่สุดแล้วคนนี้

“วินอยากมาเองครับ^^” คนตัวเล็กยิ้มหวานจนแม่ผมขยับเข้าไปใกล้แล้วจับมือเล็กทั้งสองข้างของเขาขึ้นมาลูบเบาๆอย่างเอื้อเอ็นดู

“โธ่ลูก งั้นเรารีบกลับบ้านกันดีกว่าเนอะ ไปทานข้าวที่บ้านกันนะลูกแม่มีของให้น้องวินเยอะเลย” ผมกับพ่อได้แต่มองตากันปริบๆปล่อยให้สองแม่ลูกสุดที่รักคุยกันกระหนุงกระหนิงอย่างไม่สนใจเราทั้งคู่ พ่อได้แต่ส่งสายตาปลอบใจมาให้ราวกับจะบอกว่าทำใจให้จนผมต้องยิ้มอ่อนออกมา

ดีใจที่เห็นวินและแม่ผมเข้ากันได้ดีจนวินกลายมาเป็นคนในครอบครัวอีกคนหนึ่งแล้วสำหรับเรา แต่บางทีแม่อาจจะลืมไปว่านั่นคือแฟนของลูกชายตัวเอง พออยู่ด้วยกันทีไรผมกับพ่อกลายเป็นหมาหัวเน่าทุกที

“ไปกันเลยเนอะลูกเนอะ พัตเข็นกระเป๋าแม่ไปด้วยนะจ้ะ” ท่านเอ่ยบอกเพียงเท่านั้นก่อนจะหันไปรั้งเอวเล็กให้วินเดินไปด้วยกัน ทิ้งผู้ชายต่างวัยสองคนมองตามอย่างปลงๆ

“เราสองคนยังจำเป็นอยู่ไหม” พ่อเป็นคนเอ่ยปากขึ้นก่อน

“นั่นแฟนผมหรือแฟนแม่กันแน่ครับ”

“นี่พ่อไง พ่อเป็นสามีแม่นะถ้าจำไม่ผิด” (  - -)(- -  )

“เห้อ/เห้อ” แล้วเราทั้งสองก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกันก่อนที่พ่อจะตบบ่าผมเบาๆอย่างให้กำลังใจ สองพ่อลูกหัวเราะกับตัวเองเบาๆอย่างขบขันก่อนที่ผมจะรีบเข็นกระเป๋าเดินตามคนข้างหน้าที่กระหนุงกระหนิงกันไปไกลแล้ว นอกจากจะน่าสงสารเพราะโดนแม่และแฟนทิ้งยังน่าสงสารที่ต้องมาเข็นกระเป๋าตามต้อยๆ โดนไม่สนใจแล้วยังโดนใช้อีกต่างหาก ==

.
.
.
.
.
.
.
.

“น้องวินทานเยอะๆนะลูก อันนี้อร่อยแถมดีต่อสุขภาพด้วยนะ”

“ขอบคุณครับ คุณพ่อกับคุณแม่ก็ทานเยอะๆนะครับ^^” มือเล็กหยิบช้อนกลางตักอาหารใส่จานให้ทั้งพ่อและแม่อย่างเอาอกเอาใจ

“วินครับ แล้วพัตล่ะ” ทำไมรู้สึกว่าโลกนี้มีความลำเอียงสูงเหลือเกิน นี่ผมโดนทั้งแฟนและแม่ทิ้งเลยเหรอ มีใครน่าสงสารกว่านี้อีกไหม ตลอดการเดินทางจากสนามบินจนกลับมาที่บ้านทั้งแม่และวินก็ยังไม่หยุดคุยหยุดกันเลยครับ ไม่สนใจทั้งผมและพ่อด้วย

“พัตก็ตักเองสิ~” ไม่ต้องมาทำหน้าและเสียงน่ารักใส่เลย คิดดูว่าแม้แต่นั่งทานข้าวเขายังเลือกนั่งข้างแม่ผม ปล่อยให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนนั่งอ้างว่างอยู่อีกฝั่งเพียงคนเดียว

“ครับๆ พัตไม่สำคัญแล้วนี่” ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมาถึง นี่ผมต้องทำตัวแบบนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากแฟนตัวเองแล้วเหรอ ใครมาเห็นก็คงหัวเราะใส่ว่าทำตัวอย่างกับผู้หญิง แต่นาทีนี้ใครจะสนกัน ผมขอปฏิบัติภารกิจทวงคืนวินจากแม่ของตัวเอง

“รู้ตัวก็ดีนี่จ้ะลูกชาย น้องวินทานข้าวต่อดีกว่านะลูกอย่าสนใจพัตเลยแม่ว่า” ดูแม่ผมสิ

“ผมก็รู้สึกเหมือนโดนเมียทิ้งยังไงก็ไม่รู้นะ นี่ตั้งแต่กลับมาเมียก็เอาแต่สนใจเด็กๆมากกว่าตาแก่แบบผมเสียอีก” คราวนี้เป็นพ่อที่นั่งอยู่หัวโต๊ะพูดขึ้นบ้าง แม้จะรู้ว่าท่านทำเป็นแซวไปอย่างนั้นแต่ทุกอย่างที่พูดมาก็ล้วนแต่เป็นความจริง เราทั้งสองคนพ่อลูกคือบุคคลที่ถูกลืม

“โธ่คุณคะ เราอยู่ด้วยกันทุกวันอยู่แล้วนี่ ให้เวลาฉันได้อยู่กับน้องวินบ้างสิคะ วันๆอยู่แต่กับผู้ชายทื่อๆแบบคุณกับลูกพอมีน้องวินฉันก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดา”

“เชิญเลยครับคุณนายครับ” พ่อส่ายหัวน้อยๆให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาอย่างอ่อนใจก่อนจะหันกลับไปทานข้าวต่อ

หลังจากนั้นแม่กับวินเข้าสู่โหมดโลกส่วนตัวกันอีกครั้ง ตัวผมจะทำยังไงได้นอกจากหันกลับมากินข้าวในจานของตัวเองต่อเช่นเดียวกัน ปล่อยสองแม่ลูกให้เขาคุยกันต่อไป

บางทีแม่อยู่แค่กับผมและพ่อก็คงจะเบื่อ พอมีวินที่น่ารักสดใสเข้ามาท่านเลยเอ็นดูเขาเป็นพิเศษ






เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นทำให้ผมที่กำลังนั่งตรวจความเรียบร้อยของงานอยู่ปลายเตียงเงยหน้าขึ้นมอง พอเห็นว่าเป็นคนตัวเล็กที่เอาเวลาหลังกินข้าวไปดูหนังเป็นเพื่อนคุณแม่จนพึ่งจะขึ้นห้องมาได้ผมก็หันกลับมาสนใจไอแพดในมือเช่นเดิม ถึงแม้จะทำเหมือนไม่สนใจแต่จริงๆแล้วประสาทสัมผัสก็คอยจับสังเกตตลอดว่าวินกำลังทำอะไรบ้าง

และเขาก็เดินมาหยุดอยู่ข้างหน้า นั่นยิ่งทำให้ผมต้องเกร็งหน้าตึงเข้าไว้ ถึงเวลาของผมแล้ว...

“งอนอะไรเราอ่ะ” ประโยคที่เขาพูดออกมาทำเอาผมแทบหลุดหัวเราะ น้ำเสียงหงอยๆนั่นทำให้ผมรู้ว่าวินคงคิดว่าผมงอนเจ้าตัวแบบจริงจัง นี่คิดว่าผมจะเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ ที่ผมทำทั้งหมดก็แค่แกล้งเรียกร้องความสนใจจากเขาเท่านั้น แค่อยากแกล้งแม่ที่เอาแต่กักตัวแฟนผมไว้แค่นั้นเอง

“...”

“พัต...สนใจเราหน่อย” มือเล็กเอื้อมมาหยิบไอแพดออกจากมือแล้ววางมันลงบนเตียงก่อนจะขยับเข้ามาทรุดตัวลงนั่งที่ตัก แขนเรียวเล็กก็ยกขึ้นมาคล้องคอจนผมต้องบอกตัวเองในใจ

เย็นๆไว้ อย่าพึ่งให้เหยื่อรู้ตัว

“พึ่งจะสนใจกันได้เหรอครับ” รางวัลตุ๊กตาทองปีนี้ผมอาจจะถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลดาราดาวรุ่งก็อาจเป็นได้

“ฮื่อ ก็สนใจตลอด” คนตัวเล็กส่งสายตาออดอ้อนมาให้จนผมแทบจะทนไม่ไหว อยากพลิกตัวเขาลงบนเตียงแล้วจู่โจมแบบที่ใจอยากให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่ยังไงก็ต้องทนไว้ก่อน คนเราต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน

“ตอนไหน พัตไม่เห็นรู้ตัว” แสร้งตีหน้านิ่งพูดออกไป ปากเล็กๆยู่ใส่ราวกับไม่พอใจในประโยคนั้น ถึงผมจะไม่คิดอะไรแต่ที่พูดก็ความจริงทั้งนั้น วันนี้ทั้งวันยังไม่รู้สึกว่าถูกเขาสนใจเลยซักนิด

“คนอะไรตัวโตแต่ขี้ใจน้อยชะมัดเลย เราพึ่งรู้ว่ามีแฟนเป็นแบบนี้”

“...”

“ต้องทำยังไงถึงจะหายงอน” มาแล้วสเต็ปแรก ใบหน้าเล็กขยับเข้ามาเอียงซบที่ซอกคออย่างออดอ้อน ลมหายใจร้อนถูกเป่ารดซอกคอจนพลันทำให้ลมหายใจของผมสะดุด ยิ่งกลิ่นตัวหอมๆที่กระจายออกมาจากเรือนกายบอบบางยิ่งกระตุ้นความรู้สึกให้ลุกโชนจนต้องขบกรามแน่น

นี่วินจะง้อหรือจะยั่วผมกันแน่

“แล้ววินคิดว่าต้องทำยังไงพัตถึงจะหายล่ะครับ”

“อืม....แบบนี้หายไหม” คนบนตักผละออกจากซอกคออุ่นของผมแล้วแตะริมฝีปากเล็กลงมาทาบทับเบาๆ พร้อมกับที่ใบหน้าหวานฉีกยิ้มกว้างอย่างเอาใจ

“...”

“งั้นแบบนี้ล่ะ” คราวนี้คนตรงหน้ากดริมฝีปากลงมาแนบแน่นยิ่งกว่าเดิมแต่แล้วไม่นานก็ผละออก ในขณะที่ผมยังนิ่งรอดูอย่างใจเย็น(ทั้งที่กายร้อนรุ่ม)ว่าวินจะทำยังไงต่อไป

“...”

“ยังไม่หายอีกเหรอ? งั้น...” ทันทีที่ปากเราแนบกันสนิทอีกครั้งริมฝีปากผมก็โดนไล้เบาๆด้วยปลายลิ้นเล็กของคนที่นั่งอยู่บนตัก สัมผัสอ้อยอิ่งที่วาบหวามทำให้ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหวพลิกตัววินให้นอนราบลงกับเตียง เขามีท่าทีตกใจในคราแรกแต่เพราะสัมผัสของผมทำให้ต้องละความสนใจจากเรื่องอื่นๆทั้งหมด

เสียงแลกเปลี่ยนน้ำลายดังขึ้นอย่างบ่งบอกว่าจูบนี้มันเริ่มจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมตะโบมจูบจนคนใต้ร่างหายใจแทบไม่ทัน ในที่สุดมือเล็กก็ทุบเบาๆที่อกเป็นสัญญาณจนผมต้องยอมละสัมผัสออกมา

คนตัวเล็กนอนหอบหายใจโกยอากาศเขาปอด ริมฝีปากบวมเจ่อ ใบหน้านวลก็แดงปลั่งราวกับผลไม้ใกล้สุก

“หะ หายงอนเราหรือยัง”

“อืมมมม...เอาไว้ตอบหลังจากนี้นะครับ” ผมส่งยิ้มหวานให้เขาก่อนจะกดริมฝีปากลงไปอีกครั้ง ถึงจะต้องการแค่ไหนแต่ทุกสัมผัสก็เต็มไปด้วยความรัก จนในที่สุดวินจึงได้แต่นอนอ่อนระทวยอยู่ใต้ร่างอย่างยอมแพ้ มือทั้งสองข้างถูกลากไล้ไปตามสีข้างของอีกคนอย่างที่ใจอยากทำ ฟ่อนเฟ้นตั้งแต่สะโพกจนถึงท่อนขาเรียวสวย ทิ้งสัมผัสไว้ทุกที่มือของผมลากผ่าน

ผิวเนียนละเอียดของวินยิ่งทำให้รู้สึกอยากสัมผัสเขามากกว่าที่ทำอยู่ จากมือที่ลูบไล้ถูกสอดเข้าไปภายในเสื้อยืดตัวบางเพื่อสัมผัสกับเม็ดเล็กๆที่ผมรู้ว่าเป็นตัวกระตุ้นเขาชั้นดี ทันที่นิ้วมือแกร่งสะกิดโดนวินก็ตัวกระตุกเล็กน้อย เสียงครางที่หลุดรอดออกมาให้ได้ยินบ่งบอกว่าเขาพอใจ

“อ๊ะ อื่อ พะ พัต” ละจากปากนุ่มที่หวานราวกับทานลูกกวาด ไล้ลงมายังซอกคอหอมก่อนจะขบเม้มเบาๆจนเกิดรอยสีกุหลาบประปรายไปทั่ว เพราะวินขาวจัดและผิวบอบบางพอดูดเม้มแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ขึ้นสีได้ไม่ยาก เสียงลมหายใจจากทั้งผมและถูกปล่อยออกมาหอบถี่เพื่อระบายความต้องการที่ก่อตัวอย่างรุนแรง แม้จะต้องการแค่ไหนแต่ผมก็จะไม่มีทางทำให้เขาเจ็บเด็ดขาด

เสื้อยืดตัวบางถูกถอดออกก่อนเป็นอันดับแรกโดยที่เจ้าของมันก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จากลำคอบางถูกเปลี่ยนเป้าหมายมาที่เม็ดเล็กๆสีเชอร์รี่ทั้งสองข้างทันทีที่มันปรากฎสู่สายตา

“อื้อ! อึก อืม อะ อ๊ะ อือ” เสียงร้องราวกับว่าคนถูกกระทำแสนทรมานช่างขัดกับการที่หน้าอกบางโค้งขึ้นเพื่อให้ผมได้สัมผัสเขามากขึ้นเสียเหลือเกิน กายบางบิดเร้า มือเล็กสอดเข้ามาในกลุ่มผมพร้อมกับขยุ้มเบาๆเพื่อระบายความเสียวซ่าน ยอดอกของวินเริ่มแข็งเป็นไตจากสัมผัสของผม ความเย็นภายในห้องจากเครื่องปรับอากาศไม่ได้ลดความร้อนแรงของเราทั้งคู่เลยแม้แต่นิดเดียว

เรียวลิ้นทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี ผมละจากเม็ดเล็กบนอกวินลงมาเรื่อยๆตามหน้าท้องแบนราบ ยิ่งลมหายใจร้อนที่เต็มไปด้วยความต้องการกระทบลงผิวต่ำลงเท่าไหร่วินยิ่งหายใจติดขัดและเกร็งตัวมากขึ้นเท่านั้น กระดุมกางเกงสี่ส่วนที่เขาสวมใส่ถูกปลดออก ซิปถูกเลื่อนลงจนสุดก่อนที่กางเกงจะถูกรั้งออกจากสะโพกบาง เกี่ยวออกจากขาเรียวพร้อมกันทั้งชั้นนอกและชั้นใน

“พัต! พะ พัต อึก “ และทันทีที่ริมฝีปากผมครอบลงกลางกายวินก็สะดุ้งเฮือก เสียงหวานที่เปล่งออกมาสั่นระรัว ทั้งตัวก็บิดเกร็งจนผมต้องส่งมือไปลูบตามร่างกายเขาเพื่อให้ผ่อนคลายมากขึ้น แต่นั่นกลับดูเหมือนไม่ได้ช่วยอะไร ยิ่งสัมผัสร้อนลากไล้ไปตามวินน้อยคนที่เสียวกระสันก็ยิ่งเกร็ง เสียงที่ถูกเปล่งออกมาเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากผมเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น

ไม่นานนักวินก็ปลดปล่อยทุกอย่างออกมาเมื่อเขาไปถึงขีดสุดของความต้องการ

“ฮะ แฮก แฮก” ผมปล่อยให้เขาได้หายใจหายคอเนื่องจากต้องผละออกมาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองบ้าง แล้วภายในไม่กี่นาทีทุกอย่างก็หลุดออกจากร่างอย่างไม่สนใจว่ามันจะตกอยู่ตรงไหน ร่างเปลือยเปล่ากลับมาทาบทับกันอีกครั้งให้อะไรๆที่ชูชันสัมผัสกันแนบแน่นแล้วผมก็จงใจขยับให้มันเสียดสีเบาๆจนคนที่พึ่งปลดปล่อยเริ่มส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง

“ถะ ถุงยาง อะ อื้อ อยู่ไหน” ผมยื้อมือไปที่โต๊ะข้างหัวเตียง เปิดลิ้นชักออกแล้วหยิบของที่ต้องใช้ออกมา

“ใส่ให้หน่อยได้ไหมครับ” คำขอร้องที่ทำให้วินหน้าแดงแจ๋ราวกับถูกของร้อนนาบ คนที่นอนอยู่ข้างใต้เสมองไปทางอื่นแต่ถึงอย่างนั้นก็ค่อยๆพยุงร่างตัวเองขึ้นนั่ง จากที่ผมนอนคร่อมเข้าอยู่กลายเป็นเรานั่งหันหน้าเข้าหากันแทน

มือบางคว้ามาหยิบอุปกรณ์ป้องกันไปก่อนจะฉีกมันออกแล้วค่อยๆเอื้อมมือมาสวมให้ผมด้วยมืออันสั่นเทา เพียงแค่สัมผัสไม่กี่นาทีจากมือเล็กทำเอาแก่นกายขยายขึ้นอีกจนวินมองด้วยตาตื่นๆ

ผมหัวเราะน้อยๆใส่เขาก่อนจะหยิบขวดเจลมาเปิดเทใส่มือแล้วชโลมไปที่ตัวตนของตัวเอง

“พร้อมนะครับ” วินไม่ได้ตอบรับแต่การเอนกายลงนอนเช่นเดิมสำหรับผมคือคำตอบว่าเขาพร้อมแล้ว ขาเรียวเล็กถูกแยกออกให้กว้างขึ้นก่อนที่ผมจะไล้มือไปที่ช่องทางรักสีกุหลาบแล้วขยับตัวตนเข้าไปจ่อ ถูไถสองสามทีก่อนจะค่อยๆแทรกกายเข้าไปในตัวของอีกคน

“อะ อึก อือ“ แม้จะมีอะไรกันหลายครั้งแต่ด้วยขนาดของผมแล้วใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับวินซึ่งต้องเป็นฝ่ายรับมันเข้าไปอยู่ในตัว ผมเองก็กัดฟันแน่นเมื่อความนุ่มอุ่นร้อนภายในตอดรัดจนแทบขยับไม่ได้ กว่าจะเข้าไปจนสุดทั้งผมและเขาก็ต่างหอบหายใจทั้งคู่

“พัต จะ จูบหน่อย” ผมส่งยิ้มให้คนที่อ้อนขอก่อนจะตอบรับเขาด้วยสัมผัสอันนุ่มนวล ผมสัมผัสชีพจรเขาได้จากภายในจุดที่เราเชื่อมต่อกัน ก่อนจะเริ่มขยับเมื่อเห็นว่าวินมีอาการผ่อนคลายมากขึ้น เสียงจูบดังคละเคล้าไปกับเสียงครางจากทั้งผมและเขา ร่างกายเราขยับตอบรับกันอย่างรู้จังหวะ เสียงหอบหายใจ กลิ่นหยาดเหงื่อยิ่งทำให้อารมณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ไต่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
ร่างกายเล็กสะท้านไหวขึ้นลงจากแรงที่ผมสอดใส่

ใบหน้าหวานซบลงซอกคอแล้วกัดเบาๆเพื่อระบายอารมณ์ความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น วินทั้งขบเม้มและกัดจนผมคิดว่ารอยที่คอเราทั้งคู่คงไม่ต่างกันมากนัก เสียงหวานครางผะแผ่วข้างหูช่างเป็นเสียงที่ไพเราะราวกับเพลงที่ผมชอบที่สุด

เตียงตัวใหญ่เริ่มโยกสั่นคลอนเมื่อจังหวะสะโพกขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มือเล็กของวินกำแน่นจิกลงที่ไหล่ ผมสูดกลิ่นกายของคนใต้ร่างเข้าเต็มปอด เหงื่อไหลโทรมกายของเราทั้งคู่จนไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร

“อืมห์” เสียงครางต่ำดังขึ้นจากผมเนื่องจากแรงตอดนั้นช่างถี่และรัดแน่นเกิน สัญญาณที่บ่งบอกว่าอีกคนใกล้จะถึงฝั่งฝันเต็มที

“อื้อ พัต อะ ระ แรง อึก แรงอีก” วินเอ่ยร้องขออย่างเว้าวอน แขนเล็กรัดเข้ากับคอผมแน่น ร่างกายเขาเกร็งสะท้าน

“อือ วิน วินครับ” ความรู้สึกเริ่มพุ่งสูงขึ้นราวกับจะไม่มีวันสิ้นสุด สะโพกแกร่งกระทบกับความบอบบางรุนแรงจนเสียงดังก้องไปทั่วห้อง วินตัวสั่นไหวในอ้อมกอดผมจนหัวคลอน

อีกนิด...อีกนิดเดียวเท่านั้น

“พะ พัต พัต! อะ อึก ไม่ อ๊ะ ไม่ไหว ระ อื้อ เราไม่ไหว...อาาาาาาา” ช่องทางรักของวินทั้งรัดแน่นและตอดรัดตัวตนของผมถี่ ยิ่งเร่งจังหวะขึ้นร่างกายของวินยิ่งเกร็งแน่น ผมจงใจกดร่างเข้ากับจุดกระสันของเขาจนวินดิ้นพล่าน ไม่นานนักร่างบางก็กระตุกแรงๆแล้วปลดปล่อยน้ำรักออกมา

“อืมมมมมมมม” เช่นเดียวกับผมที่ปลดปล่อยทุกอย่างเข้าไปในตัวของวินโดยที่มีเยื้อบางๆห่อหุ้ม แรงตอดของเขาแน่นเสียจนร่างกายผมกระตุกตาม

หัวเล็กๆของวินซบลงกับไหล่ผมอย่างหมดแรงเมื่อทุกอย่างจบลง จนเวลาล่วงเลยไปราวๆห้านาทีกว่าที่ลมหายใจเราจะเริ่มกลับมาเป็นปกติถึงค่อยๆผละออกจากกัน

“พัตหายงอนแล้วนะครับ” เอ่ยบอกพร้อมกับฉีกยิ้มเต็มหน้าจนได้รับค้อนวงงามๆกลับมาหนึ่งวงเป็นรางวัล

“ไม่หายเราก็ไม่ง้อต่อแล้ว”

จุ๊บ

กดจูบลงไปที่ปากแดงบวมเจ่อหนึ่งทีอย่างรวดเร็ว

“หึหึ งั้นรอบต่อไปถือว่าพัตเอาใจวินคืนแล้วกันนะครับ”

“ไม่นะ....พะ พัต อื้อ...”

แล้วเสียงครางหวานๆของวินก็ดังก้องทั่วห้องไปจนเกือบรุ่งสาง ผมจัดการเอาใจแฟนตัวเองทั้งคืนจนเขาหลับคอพับคออ่อนคาอกจนต้องอุ้มไปอาบน้ำทั้งอย่างนั้น

ต่างจากผมที่รู้สึกสดชื่นราวกับได้รับพลังอย่างเต็มที่

.
.
.
.
.
.
.

“ฮื่อ รอยเต็มคอเราเลย” วินหันกลับมามองหน้าผมทันทีที่เขาเดินเข้าห้องน้ำมาแล้วส่องกระจกเห็นสภาพตัวเอง

ผมกับวินตื่นราวๆเที่ยง และวันนี้เราไม่ได้มีอะไรทำเป็นพิเศษมากนักนอกจากพักผ่อนกันธรรมดา พ่อเขายอมปล่อยตัวมาทั้งทีใครจะทิ้งโอกาสดีๆแบบนี้ไปง่ายๆกัน พอผมตื่นมาก็คว้าตัวเขาเข้ามานอนกอดเอาไว้ทั้งอย่างนั้นโดยที่ไม่ยอมให้วินลุกไปไหนแม้ว่าเขาจะตื่นนานแล้วก็ตาม สรุปกว่าที่เราจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายได้ก็กินเวลาไปจนเกือบบ่ายสองโมง

“ของพัตก็มีเหมือนกันนะครับ”

“เราไม่ได้ทำเยอะขนาดนั้นซักหน่อย ดูพัตทำสิ...เราต้องใส่เสื้อคอเต่าไปทั้งอาทิตย์แน่ๆ”

“ตอนพัตทำวินก็ชอบนี่นา” คนตัวเล็กมองผมตาเขียวปั๊ดแม้ว่าแก้มของเขาจะมีสีจางๆก็ตาม

“ไม่ต้องพูดเลย...รีบมาแปรงฟันอาบน้ำจะได้ลงไปทานข้าวซักที เราหิวแล้วนะ” เวลาล่วงเลยมาขนาดนี้ไม่แปลกที่เขาจะหิว ปกติแล้ววินอดข้าวได้ที่ไหนกัน มีวันนึงตอนที่เราอยู่คอนโดด้วยกันวินเผลอหลับไปตอนเย็นทั้งที่ยังไม่ได้ทานข้าว เช้าต่อมาเขาก็ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อลุกขึ้นทานข้าวแล้วก็กลับมานอนต่อให้ผมได้แต่งงกับแฟนตัวเอง

เราสองคนใช้เวลาในห้องน้ำอย่างเร่งรีบเพราะหิวด้วยกันทั้งคู่ พอตอนเดินลงบันไดผมแทบจะต้องอุ้มวินลงมาเพราะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาเดินเหินไม่สะดวก คนที่โมโหหิวบ่นให้ผมตลอดทางว่ารังแกเขาทั้งคืนจนมีสภาพเป็นอย่างนี้

“คุณหญิงสั่งให้เตรียมไว้ให้คุณวินค่ะ” แม่บ้านคนเก่าคนแก่เอ่ยบอกวินเมื่ออาหารหลายอย่างถูกลำเลียงขึ้นมาบนโต๊ะ แต่ของวินดูเหมือนจะพิเศษกว่านั้น มีของบำรุงร่างกายหลายอย่างจนผมงง

“ขอบคุณครับ” วินส่งยิ้มหวานให้อย่างขอบคุณก่อนที่แม่บ้านจะขยับตัวออกไปยืนข้างๆเผื่อเราจะเอาอะไรเพิ่ม

“นั่นอะไรบ้างครับ ทำไมเยอะแยะขนาดนั้น” แค่อาหารบนโต๊ะก็เยอะมากแล้ว ยังมีนู่นนี่นั่นเต็มไปหมด

“พัตไม่ต้องรู้หรอก อันนี้ของเราพัตไม่เกี่ยวอยู่แล้ว” แล้ววินก็ลงมือทานข้าวของตัวเองอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจผมอีก เจ้าตัวคงจะหิวมากจริงๆเพราะกินทุกอย่างแทบไม่เหลือทั้งของคาวและของที่แม่ผมเตรียมไว้ให้ แถมยังมีขนมเค้กร้านโปรดเป็นของตบท้ายอีกด้วย

“คุณพ่อกับคุณแม่จะกลับมากี่โมงอ่ะพัต” คนที่กดรีโมทเลื่อนช่องไปเรื่อยเอ่ยถามขึ้น หลังจากที่เราทานข้าวเสร็จแล้วก็มานั่งย่อยดูโทรทัศน์ด้วยกัน วินบอกว่าเขาอยากดูการ์ตูน

“คงจะซักหกโมงเย็นครับ” พ่อกับแม่ผมออกไปดูงานที่โรงแรมตั้งแต่เช้าผมเลยมีเวลาได้อยู่กับวินอย่างที่คนเป็นแฟนกันควรจะมีบ้าง แต่ถ้าตอนไหนที่แม่กลับมาคงไม่เป็นแบบนี้ ผมจะกลายเป็นเสมือนคนนอกของทั้งแม่และวินทันที

“เดี๋ยวเราออกไปซุปเปอร์มาเก็ตกันดีกว่า เราจะไปซื้อของสดมาทำอาหาร” วินวางรีโมทในมือลงแล้วหันมาผมที่นั่งอยู่ข้างๆ ใบหน้าหวานยิ้มกว้าง สายตาเป็นประกายสดใส

“หืม อยากทานอะไรครับ บอกแม่บ้านก็ได้”

“ไม่เอา วันนี้เราจะเป็นคนทำอาหารเย็นเอง บอกแม่บ้านให้อยู่แบบสบายๆเลยเชฟวินจะโชว์ฝีมือ^___^”

“ตัวเองอยากกินเยอะๆใช่ไหมเลยอยากทำเอง หืม” ยกมือขึ้นบีบจมูกรั้นเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว

“ไม่ใช่ซักหน่อย เราแค่อยากทำอะไรตอบแทนที่ครอบครัววินเอ็นดูเราบ้าง” ประโยคน่ารักๆจากคนตรงหน้าทำให้ผมต้องยิ้มออกมากับความน่ารักของแฟนตัวเองอย่างห้ามไม่ได้ สองมือเอื้อมไปจับมือทั้งสองข้างของวินขึ้นมาแล้วบีบมันเบาๆ

“วินไม่จำเป็นต้องทำอะไรตอบแทนเลย เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ วินก็เป็นสมาชิกของบ้านพัตอีกคนนึง ครอบครัววินก็เหมือนกัน”

“อื้อ พัตก็เป็นคนในครอบครัวเราแล้วนะ ” มือเล็กยกขึ้นมากุมหน้าผมเอาไว้แล้วส่งทุกความรู้สึกผ่านทางสายตาให้แก่กัน

“เป็นครอบครัวตัวหมูใช่ไหม” วินไม่ได้ตัวเหมือนหมูเลยซักนิดทั้งที่เขากินเยอะขนาดนั้น แต่เจ้าตัวเองก็ชอบให้ผมเรียกเขาว่าหมูเพราะชอบเจ้าสัตว์ชนิดนี้ วินกินเก่งเหมือนมันแต่ตัวไม่ได้ใกล้เคียงเลย บางทีก็อยากจะพาเขาไปตรวจบ้างเหมือนกัน คนอะไรกินเยอะแต่ตัวยังเท่าเดิม

“ใช่ เป็นครอบครัวหมูๆของเรา...ว่าแล้วก็อยากจะเลี้ยงหมูจิ๋วจัง” วกกลับมาที่เรื่องนี้อีกแล้ว เมื่อวันก่อนวินเล่นเฟสบุ๊คแล้วดันไปเจอกับโพสต์ที่คนอื่นแชร์มาเป็นรูปของหมูจิ๋ว เขามางอแงกับผมใหญ่ว่าอยากเลี้ยงจะไปซื้อให้ได้ ต้องกล่อมอยู่นานถึงจะยอมฟัง เราไม่ได้มีเวลาดูแลและเอาใจใส่มันขนาดนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเลี้ยงเพราะต้องดูแลให้ดีมากๆ วินยังต้องอยู่คอนโดแค่นี้ก็ไม่สะดวกแล้ว เอาไว้ตอนซื้อบ้านค่อยว่ากันอีกที

“ไว้เรามีเวลาแล้วก็ทุกอย่างเอื้ออำนวยมากกว่านี้ค่อยว่ากันนะครับ โอเคไหม?”

“โอเค! ซื้อให้เราเป็นของขวัญวันเกิดนะ”

“ครับ แต่ไม่รู้ว่าวันเกิดปีไหนนะ” ต้องดูว่าถึงตอนนั้นเราพร้อมแล้วหรือยัง

“อื้อ ขอบคุณนะ”

ฟอด

วินขยับเข้ามาหอมแก้มผมเร็วๆทีนึงก่อนจะผละออกไปนั่งดูการ์ตูนต่อ ผมได้แต่ส่ายหัวกับความเด็กของเขาก่อนที่จะหันกลับมาดูการ์ตูนบนหน้าจอเช่นเดียวกัน

แค่วันธรรมดาๆวันนึงที่ได้นั่งดูการ์ตูนเรื่องโปรดด้วยกัน ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน...คือความสุขเล็กๆน้อยๆที่ผมอยากจะมีในทุกวันของชีวิต

เสี้ยวหน้าของคนข้างๆ เสียงหัวเราะเพราะขำตัวละครบนจอ แววตาสุกใสของเขา...เป็นภาพที่ทำให้ผมยิ้มออกมาอย่างมีความสุข





TBC.

 :mew1: :mew1:




page >> https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/
tw >> @exsoull_
ask.fm >> @itsmesoull

เข้ามาคุยกันได้ทุกช่องทางนะคะ ไม่ดุไม่กัดฉีดยาแล้ว  :man1: :man1:





ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
หวานมาก...

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ฮืออออ น่ารักกกกก  :-[

ออฟไลน์ keawhan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :o8: :o8: :o8: :o8:  อีพัตหื่นอะ. อิอิ แต่ชอบนะ 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อิจฉาคนมีความรัก

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หวานมากกกกกกก
วินอยากเลี้ยงน้องหมู5555555555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
ฮือ..หมูจิ๋วน่าร้ากกก :katai5:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พัตต้องงอนบ่อยๆ :z1:

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เอ็นดู~~~~~~!!!
หวานแหววใสใสอ่ะ (แม้จะมีไม่ใสบ้างก้อตาม -.,- )

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น่ารักเข้าไป หวานเข้าไป #โสดแล้วพาล ฮ่าๆ

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
ตอนที่ 29

ช่วงเวลาของการหยุดปิดเทอมได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว สองเดือนแห่งการพักผ่อนหมดไปแล้วก่อนที่มหาลัยจะกลับมาเปิดเรียนตามปกติให้นักศึกษาได้ทำหน้าที่ของตัวเองกันอีกครั้ง จากที่เคยอยู่ปีสองตอนนี้ทั้งผมและวินก็กลายมาเป็นพี่ปีสาม มีหลานรหัสให้เรารู้สึกถึงคำว่าแก่มาคอยตอกย้ำจิตใจ

แม้ว่าจะเปิดเทอมมาได้เป็นเดือนแล้วแต่ก็ยังไม่อยากจะชิน

“ลุง! เลี้ยงข้าวหลานหน่อยยยยยยย” ทันทีที่หลานรหัสตัวแสบเดินเข้ามาเห็นผมอยู่ในร้านมันก็รีบถลาเข้ามาหาพร้อมกับส่งเสียงดังจนคนอื่นหันมามอง

“พูดดังขนาดนี้มึงจะเอาไมค์เลยไหม” คนถูกประชดไม่ได้มีท่าทีอะไรนอกจากยิ้มระรื่นมาให้อย่างลอยหน้าลอยตา ผมปวดหัวกับมันเหลือเกิน เด็กมีเป็นล้านแต่ดันได้ไอ้เด็กแสบที่ชื่อว่าไปป์นี่มาอยู่ในสาย มันวอแวกับผมมากกว่าพี่รหัสมันอีก

“ไม่เป็นไรลุงเสียงผมดังฟังชัดแล้ว...นานๆจะเจอทีเลี้ยงหน่อยดิ นะๆ” ผมตั้งใจแค่จะแวะมาซื้อกาแฟมันก็ไลน์ตามจิกจนในที่สุดก็ตามผมมาที่ร้านนี้ได้

“กับแฟนกูยังไม่ค่อยได้เจอนับประสาอะไรกับมึง” เปิดมาวันแรกอาจารย์ก็สั่งโปรเจคทันทีให้เป็นของขวัญชิ้นโตและมีงานของวิชาอื่นๆตามมาอีกมากมายจนแทบไม่มีเวลาแม้แต่จะนอน ทุกอย่างเร่งส่งก่อนสอบมิดเทอมซึ่งมันก็เหลืออีกเพียงไม่กี่อาทิตย์

และอย่างที่พูดไป...ผมแทบไม่ได้เจอกันกับวินเลยด้วยซ้ำ

เขาเองก็มีงานมีสอบเยอะแยะไปหมด ทั้งผมและวินแทบไม่ได้กลับคอนโดเพราะฉะนั้นการได้เจอกันยิ่งไม่ต้องพูดถึง โทรศัพท์เป็นสิ่งเดียวที่พอจะช่วยลดระยะห่างระหว่างเราได้บ้าง แม้คิดถึงใจจะขาดแต่งานและหน้าที่ก็บีบให้ต้องทำใจและอดทน

“โดว่ แฟนก็ส่วนแฟนดิลุง นี่หลานไงๆ...เออ แต่เมื่อวานผมเห็นแฟนลุงด้วยที่หอสมุดด้วยอ่ะ” วินคงไปอ่านหนังสือตามปกติ เห็นเขาไลน์มาบอกว่าอาจจะออกไปถ้างานที่ทำกับเพื่อนเรียบร้อยแล้ว ไปป์เจอวินที่นั่นแสดงว่างานก็คงไม่มีปัญหาอะไร

“แล้วน้ำหน้าอย่างมึงไปทำอะไรที่หอสมุด” ยิ่งวันหยุดอย่างเมื่อวานซึ่งเป็นวันเสาร์คนอย่างไอ้ไปป์ไม่มีทางตื่นไปอ่านหนังสือที่หอสมุดแน่ๆ ปกติวันแบบนี้มันตื่นเย็นทีเดียวเลย

“รุ่นนี้ก็ต้องไปส่งสาวสิครับ”

“หึ กูว่าแล้วเชียว...นี่ตังค์ อยากกินอะไรก็สั่งเอากูต้องกลับไปดราฟแบบต่อแล้ว” ผมมีเวลาพักเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นต่อวัน นี่ที่ได้ออกมาข้างนอกก็เพราะหัวมันไม่แล่นบวกกับการไม่ได้นอนมาทั้งคืนสมองเลยตื้อไปใหญ่ กะว่าจะออกมาเพื่อหากาแฟเข้มๆซักแก้วเผื่อมันจะช่วยได้บ้าง ส่วนไอ้กิมกับไอ้จีนก็ยังคงนั่งทำงานต่อไปเพราะพวกมันอู้นอนไปเมื่อคืน

“ขอบคุณคร้าบ มีไรให้ช่วยก็บอกได้นะลุง”

“มึงเอาเวลาไปเข้ากิจกรรมรับน้องบ้างเถอะ” ได้ยินเสียงมันโวยวายอะไรซักอย่างแต่ผมไม่ได้อยู่ฟัง พูดเท่านั้นแล้วก็ลุกออกจากร้านพร้อมกับแก้วกาแฟในมือ

ประโยคสุดท้ายที่พูดออกไปเพราะหลานผมมันแทบไม่เข้าร่วมกิจกรรมของมหาลัยเลย มหาลัยอาจจะไม่เคร่งไม่มีผลต่อการเรียนก็จริง แต่กิจกรรมพวกนี้ก็จะช่วยให้เราเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างระหว่างเพื่อนได้ ความอินดี้ของมันบางทีก็มีมากเกินไป - -

“มีอะไรมาให้พวกกูบ้าง” ทันทีที่กลับเข้ามาในห้องทำงานอีกครั้งเพื่อนผู้มีสภาพไม่ต่างจากซากศพก็รีบขยับตัวเข้ามาหา เราหมกตัวทำงานกันร่วมเดือนอยู่ห้องไอ้จีนเพราะห้องมันนี่แหละเหมาะจะทำรกที่สุดแล้ว เครื่องมือเครื่องใช้มีครบทุกอย่าง

“เอ็มร้อยคนละแพ็ค กระทิงแดงก็มีหรือว่าจะลิโพ”

“ไอ้สัดขอขนมเถอะ แดกจนตาค้างกันไปหมดแล้ว” ไอ้จีนพูด

“หาดูเอาในถุงนั้นแหละ” เดินเข้ามาในห้องเพื่อเปลี่ยนกางเกงจากยีนส์เป็นกางเกงบอลที่ใส่สบายๆอย่างพร้อมออกไปทำงานต่อ แต่ไม่ทันทีที่จะได้เดินออกจากห้องเสียงไลน์ที่ตั้งแจ้งเตือนไว้ก็ดังขึ้น

เรากำลังกินข้าวอยู่ อย่าลืมกินข้าวด้วยนะ 

วินส่งรูปอาหารมากมายหลายอย่างจากเซเว่นมาให้ดู ผมยิ้มออกมาทันทีเมื่อรู้ว่าเกินกว่าครึ่งของกองนั้นต้องเป็นของเขาแน่ๆ

“อยู่ไหนครับ” วิดิโอคอลหาคนที่ไลน์มา พอฝ่ายนู้นรับก็มาให้เห็นแค่หน้าเลยไม่ว่าตอนนี้วินอยู่ไหนระหว่างหอสมุดหรือห้องเพื่อน

“ห้องมายด์เหมือนเดิมเลย พัตทานอะไรรึยัง”  ประโยคแรกที่ถามอีกฝ่ายส่งสายตาคาดคั้นมาให้พร้อมเพราะรู้ว่าผมชอบทำงานจนลืมเวลาที่จะต้องทานข้าว

“ทานกาแฟไปแล้วครับ” อีกอย่างคือพออยู่ในช่วงทำงานทีไรความรู้สึกที่จะหิวมันก็ไม่ค่อยทำงาน ในหัวรู้สึกแค่อยากให้งานมันเสร็จและออกมาให้ดีที่สุดเท่านั้น

พอปลายทางได้รับคำตอบไปคิ้วสองข้างก็ขมวดเข้าหากันแน่น

“เป็นแบบนี้อีกแล้วนะ”

“โอเคๆ เดี๋ยวออกไปกินนะ” ส่งยิ้มเป็นคำสัญญาให้เขาด้วย แม้ว่าจะไม่หิวแต่เพื่อความสบายใจของอีกฝ่ายผมจะฝืนตัวเองกินอะไรรองท้องบ้าง ตั้งแต่เช้ามาจนตอนนี้สี่โมงเย็นนอกจากกาแฟก็ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยจริงๆ

“ไปตอนนี้เลย” สายตาบ่งบอกว่าถ้าผมไม่ไปเขาก็ไม่ยอมแน่ๆ

“ครับ วินก็ไปทำงานต่อเถอะ”

“อื้อ คิดถึงนะ รักพัตนะ”

“เหมือนกัน”

“ไม่เอา บอกคิดถึงเราก่อนบอกรักด้วย”

“เด็กน้อยงอแงอีกแล้ว...รักมากๆ คิดถึงมากๆเลยนะครับ”

“โอเค^^ บ๊ายบาย” สัญญาณภาพถูกตัดไปเป็นที่เรียบร้อยแต่ผมยังคงนั่งยิ้มกับหน้าจอโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น การได้คุยกับวินเหมือนเป็นการชาร์จพลังให้ตัวเองไปในตัว แม้ว่าแต่ละครั้งเราจะไม่ได้คุยกันนานมากแต่แค่นี้ก็ถือว่าดีแล้ว หลังจากพรีเซนต์งานชิ้นนี้เสร็จผมก็จะหายใจหายคอได้สะดวกขึ้น คงมีเวลาทำอะไรหลายๆอย่างมากกว่านี้








“โอ๊ย เสร็จซักทีโว้ย!” เราทั้งสามคนเดินออกมาจากห้องหลังจากพรีเซนต์งานเสร็จด้วยความรู้สึกตัวเบาเป็นที่สุด แม้จะยังมีงานยิบย่อยที่ต้องทำและลุยต่อกับมิดเทอมที่กำลังจะมาถึงแต่อย่างน้อยก็ถือว่ามีเวลาพักพอสมควรแล้วหลังจากที่ลุยยาวกันมาเป็นเดือน นี่ขนาดปีสามผมไม่อยากจะนึกภาพปีสี่เลย

“น้ำตาจะไหลขอแชร์ กูขอกลับไปนอนก่อนเถอะตอนนี้” ไอ้กิมพูดออกมาบ้าง หน้าตามันบ่งบอกความต้องการจะนอนมากมายจริงๆ และทุกคนมีสภาพไม่ได้ต่างกันเลยแม้แต่น้อย วันนี้เจอเพื่อนในเซคเดียวกันที่ต้องมาพรีเซนต์งานทั้งหมดผมนึกว่าหลุดเข้าไปในเมืองซอมบี้

“มึงอ่ะจะไปไหนวะ นอนห้องกูก่อนไหม”

“กลับคอนโดกูแต่เดี๋ยวต้องแวะไปเอารถที่คอนโดมึงก่อน” ตอนนี้ผมก็ต้องการนอนเช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้เก็บของจากห้องไอ้จีนเลยซักชิ้นแต่เดี๋ยวเอาไว้ทีหลังก่อน นอนห้องมันจนแทบจะลืมเตียงนอนห้องตัวเองแล้ว

“กูว่าอย่าเลย นอนห้องกูก่อนเถอะเดี๋ยวแม่งมึงหลับใน ยิ่งไม่มีคนไปด้วยอีก”

“กูเห็นด้วยกับไอ้จีน” ไอ้กิมเอ่ยเสริมอีกแรง

“กูยังไหวน่า ขึ้นรถ” ยืนคุยข้างนอกกันตั้งนานสองนานทั้งที่ในรถก็มีให้เปิดแอร์เย็นๆนั่งคุยสบาย เจริญกันแล้วแต่ละคน

แล้ววันนี้คนที่มีหน้าที่ต้องขับรถก็คือไอ้จีนเพราะเมื่อคืนมันได้นอนไปบ้างแล้ว ต่างจากผมและไอ้กิมที่ไม่ได้นอนเลยเพราะต้องคอยปรับแก้งานให้มันออกมาแบบที่ไม่ให้มีข้อผิดพลาดตรงไหนเลยซักจุด

“กูว่ามึงพักซักชั่วโมงก่อนไหม บอกตรงๆว่ากูกลัวมึงหลับในชิบหาย”

“นั่นดิวะ สภาพนี้อันตรายนะเว้ย”

“พวกมึงก็รู้ว่าถ้ากูบอกว่าไหวก็คือไหว ส่วนของเดี๋ยวกูมาเก็บทีหลังฝากไว้ที่นี่ก่อน”

“เห้อ /เออๆ ถึงแล้วโทรหาพวกกูด้วย” คนนึงถอนหายใจส่วนอีกคนตอบรับแบบปลงๆ

“เออ” ผมรีบสอดตัวเข้ามาในรถอย่างรวดเร็วก่อนที่พวกมันทั้งสองคนจะไม่ยอมปล่อยให้ผมได้กลับคอนโดตัวเอง

ยอมรับว่าง่วงมากแต่ผมชินแล้วกับการอดหลับอดนอนแบบนี้ แล้วอีกอย่างคอนโดไอ้จีนก็ไม่ได้ไกลจากคอนโดผมมากนัก ระยะทางแค่นี้ไม่มีปัญหาอะไร

..
..
..
..
..
..


ขับรถไปก็รู้สึกว่าคอแห้งจนต้องหยิบน้ำขวดเล็กที่ติดรถอยู่ขึ้นมาดื่มแก้กระหายและเพื่อให้ร่างกายตัวเองรู้สึกสดชื่นขึ้น

...แต่ในจังหวะที่สายตาเหลือบไปมองช่องเก็บน้ำข้างรถแล้วหย่อนขวดน้ำลงไปอยู่ๆผมก็รู้สึกถึงแรงอัดกระแทกจากข้างตัวรถอย่างแรง...


..
..
..
..
..
..


ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากแต่ผมยังพอมีสติที่จะเหยียบเบรกทัน ทุกอย่างหมุนอยู่รอบตัวราวกับภาพสโลว์ทั้งที่ความจริงแล้วคงไม่ใช่เลย แรงกระชากจากเข็มขัดนิรภัย แรงกระแทกระหว่างช่วงตัว หัวและพวงมาลัยรุนแรงจนถุงลมนิรภัยพองตัวมาทำหน้าที่ของมัน...

เมื่อทุกอย่างหยุดนิ่งความรู้สึกแรกคืออาการเจ็บแปลบที่สีข้างทางด้านขวาและมึนหัวเล็กน้อย ผมซบหน้าลงกับพวงมาลัยที่มีถุงลมรองรับอยู่อย่างหมดแรง ประเมินร่างกายตัวเองคร่าวๆแล้วว่าคงไม่ได้มีส่วนใดแตกหรือหักแต่อย่างใด

นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นเพราะไม่มีแรงจะขยับตัวจนกระทั่งได้ยินเสียงคนจากรอบข้างทางด้านนอก กระจกด้านข้างถูกเคาะแรงๆพร้อมกับส่งเสียงเรียก ผมยกมือขวาที่รู้สึกชาๆไปปลดล็อคประตูอย่างสะเปะสะปะ และทันทีที่กดโดนปุ่มปลดล็อคประตูรถก็ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว

“คุณครับคุณ! ได้ยินผมไหมครับ! / ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลทีครับ!” ผมจับจำความได้บ้างไม่ได้บ้างว่าคนข้างนอกพูดอะไรกัน พยายามมองหน้าคนที่มาช่วยแต่ทุกอย่างช่างเลือนรางเหลือเกิน

“อะ อือ” ส่งเสียงตอบรับออกไปเพื่อให้คนที่เข้ามาช่วยรู้ว่าผมยังรู้สึกตัวอยู่เพียงแต่ตอนนี้มันไม่มีแรงก็เท่านั้น

เหนื่อย...

“อดทนหน่อยนะครับรถพยาบาลกำลังมา ผมจะเอาตัวคุณออกมาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้”

“คะ อึก ครับ” ความเจ็บที่สีข้างแล่นริ้วขึ้นจนต้องค่อยๆพูด ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ในที่สุดเสียงสัญญาณรถพยาบาลก็ดังขึ้น หลังจากนั้นก็มีคนมากมายเข้ามาจับนู้นจับนี่ช่วยเคลื่อนย้ายผมไปนอนที่เปลแล้วก็ถูกเข็นขึ้นรถพยาบาลไปอย่างรวดเร็ว








“คนไข้คะ ได้ยินที่พยาบาลพูดไหมคะ” ไม่รู้ว่าตอนนี้ถูกเข็นเข้ามาตรงส่วนไหนของโรงพยาบาลแล้วแต่กลิ่นแอลกอฮอล์ที่รุนแรงบ่งบอกได้ว่าน่าจะเป็นห้องอะไรซักอย่าง

“ได้ ดะ ได้ยิน...ครับ” ผมปรือตามองหน้าพยาบาลที่ยืนอยู่ข้างเตียง มองเห็นเค้าโครงหน้านั้นในความเลือนรางแต่ยังพอมีสติอยู่

“คนไข้จำเบอร์ติดต่อครอบครัวได้ไหมคะ”

“ศะ ศูนย์...แปด...” ผมค่อยๆบอกเบอร์ไอ้จีนไปทีละตัวอย่างช้าๆ แม้จะแทบหมดแรงแต่ก็ยังพอมีสติที่จะเลือกไม่ให้พยาบาลโทรหาคนที่บ้านหรือให้เธอโทรบอกวิน ผมไม่อยากให้พวกเขาตกใจ

“ช่วย...ช่วยบอกเขา...วะ ว่า...อย่าพึ่ง...บอกใครด้วย...นะครับ”

แล้วทุกอย่างก็ดับมืดไป...







“อะ อือ” ความรู้สึกปวดร้าวตามลำตัวเข้าจู่โจมอย่างรวดเร็วจนผมยังคงไม่สามารถประมวลผลได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง ทุกอย่างเบลอไปหมด

กลิ่นยา...

โรงพยาบาลงั้นหรือ

“เห้ย ไอ้พัตตื่นแล้ว!” ราวกับต้องใช้พลังทั้งหมดที่มีอยู่เพียงเพื่อแค่เปิดเปลือกตาขึ้น แสงจากภายนอกเข้ามากระทบดวงตาให้ต้องรีบหลับลงไปใหม่ พยายามอยู่หลายครั้งจนในที่สุดก็สามารถลืมตาขึ้นมาได้แต่ทุกอย่างยังคงไม่ค่อยชัดเท่าไหร่

“พัต มึงได้ยินกูไหม” เสียงไอ้กิม...

“นะ น้ำ” เอ่ยร้องขอเพราะรู้สึกเจ็บคอเหลือเกิน ไม่มีแม้แต่เสียงจะเปล่งออกไป ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันสองคนจะได้ยินสิ่งที่พูดออกไปไหมเพราะเหมือนแทบจะมีแต่ลมเปล่าๆเท่านั้นที่ออกมา แต่ไม่นานก็มีหลอดมาจ่อที่ปากให้ค่อยๆดูดน้ำขึ้นดื่ม

“มึงเป็นไงบ้างวะ” ผมมองหน้าคนพูดที่ค่อยๆชัดขึ้นเป็นปกติแล้วจึงได้เห็นเพียงไอ้กิมกับไอ้จีนสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆเตียง รอบห้องไม่มีคนอื่นอยู่อีกแล้วแสดงว่าไม่ได้บอกใครอย่างที่ผมสั่งเอาไว้

“ยะ..ยัง ไม่...ตาย”

“ไอ้เหี้ยปากดี”

“เออ! กูบอกแล้วว่าให้นอนที่คอนโดกูก่อนเป็นไงล่ะมึง”

“...ไม่ได้เป็น...เพราะกูซักหน่อย...อยู่เฉยๆก็โดนชน” เพื่อนทั้งสองคนส่ายหน้าให้ผมอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะเปลี่ยนเรื่องอื่น

“แล้วก็โทรบอกพ่อแม่มึงด้วยล่ะ...พยาบาลบอกมึงไม่ให้พวกกูบอกพวกกูเลยยัง กลัวเขาช็อคที่มึงเกิดเรื่อง กูยังช็อคเลยไอ้เหี้ยตอนที่รับโทรศัพท์”

“อือ แล้วกูหลับไปนานแค่ไหน” ผมพยักหน้าตอบรับเบาๆ พ่อกับแม่ไม่เท่าไหร่...แต่กับวินนี่สิ

“วันนึง”

“กูเรียกหมอเข้ามาแล้วนะ” ไอ้กิมพูดแล้วกดปุ่มที่ข้างหัวเตียงให้หมอเข้ามาตรวจดูอาการถามนู้นถามนี่ชี้แจงอาการเยอะแยะไปหมด พอเรียบร้อยแล้วผมก็ตัดสินใจโทรบอกพ่อเพราะถ้าโทรบอกแม่กลัวว่าท่านจะเป็นลมไปเสียก่อน ส่วนเรื่องรถไอ้จีนเคลียร์ให้อยู่ เห็นบอกว่าคงต้องเอาเข้าอู่ซักเดือนสองเดือน









“จะไม่บอกน้องวินหน่อยเหรอลูก นี่น้องโทรหาแม่ด้วยนะ แม่ก็ต้องโกหกไปว่าลูกบอกว่างานยุ่งมาก” แม่ที่นั่งปลอกผลไม้ให้ผมอยู่ข้างเตียงถามขึ้น วันนี้เป็นวันที่สองแล้วของการเข้าโรงพยาบาล อาการไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วงนอกจากฟกช้ำขนาดใหญ่ตรงสีข้างและหัวถลอก หมอบอกว่าระบบป้องกันรถช่วยไว้ได้เยอะจริงๆไม่อย่างนั้นอาการผมสาหัสแน่

“พรุ่งนี้ก็กลับไปพักที่บ้านได้แล้วครับ เอาไว้ค่อยบอกวินทีหลังก็ได้ ช่วงนี้เขามีสอบย่อยด้วยพัตไม่อยากให้วินกังวล”

“น่าตีจริงๆเลยเรา เดี๋ยวพอน้องรู้ข่าวก็ช็อคจนเป็นลมแบบแม่หรอก...ต่อไปไม่เอาแล้วนะแบบนี้ แม่จะตายเอาให้ได้” แม่เอื้อมมือมากุมมือผมเอาไว้ ดวงตาทั้งสองข้างมีน้ำมาคลอจนผมรู้สึกราวกับมีใครกำลังบีบอวัยวะข้างใน

“ขอโทษนะครับแม่” แม้ว่ามันจะไม่ใช่ความผิดของผมเท่าไหร่แต่ก็อยากจะขอโทษแม่ที่ทำให้ท่านต้องเป็นห่วง

เรื่องคดีสรุปว่าฝั่งที่มาชนผมผิดเต็มๆเพราะฝ่ายนั้นยูเทิร์นมาโดยไม่ดูป้ายสั่งห้ามและไม่ทันมองเห็นรถผม อาการบาดเจ็บก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เรื่องค่าเสียหายฝ่ายนั้นรับผิดชอบทุกอย่าง

“จ้ะ...” แม่ลูบหัวผมเบาๆแล้วกลับไปปลอกผลไม้ต่อ พ่อผมมีประชุมแม่เลยอยู่ที่นี่คนเดียว วันนี้เป็นวันอังคารเข้าไปแล้วทั้งไอ้กิมและไอ้จีนไปเรียนแล้วก็ทำเรื่องลาให้ผมด้วย

ก๊อก ก๊อก

เสียงประตูห้องที่ดังขึ้นทำให้ผมที่นอนดูทีวีอยู่หันไปมอง แม่ที่นั่งอยู่โซฟาเองก็เช่นกัน แต่แล้วประตูก็ถูกเปิดเข้ามา

“วิน...” ผมเอ่ยชื่อคนที่เดินเข้ามาหาอย่างแผ่วเบา ดวงตาที่มักประกายสดใสของเขาแดงก่ำจนผมอยากจะรั้งคนตัวเล็กให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขน สายตาของวินค่อยๆกวาดมองทั่วร่างผมอย่างช้าๆ...

“วินครับ” ไร้ซึ่งคำพูด ไร้ซึ่งเสียงสะอื้น แต่เพียงแค่น้ำตาที่ไหลลงแก้มเนียนเงียบๆนั้นไม่ได้ต่างจากน้ำกรดที่สาดใส่ผมเลยซักนิด มือเล็กถูกผมเอื้อมไปจับแล้วบีบมันไว้แน่น

สายตาของวินตอนนี้มันมีหลากหลายความรู้สึกแต่ที่ผมเห็นได้ชัดที่สุด...คือเขากำลังเจ็บปวด

“พัตไม่เป็นอะไรแล้วนะลูกน้องวินไม่ต้องเป็นห่วง...แม่ขอโทษที่ไม่ได้บอก...คุยกันดีๆนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่ลงไปข้างล่างก่อน” แม่เดินเข้ามาพูดกับวินก่อนจะมองหน้าผมอย่างให้กำลังใจแล้วออกจากห้องไปเพื่อเปิดโอกาสให้เราได้อยู่กันสองคน

“ทำไมไม่บอกเรา” เสียงแผ่วเบาที่ถูกเปล่งออกมาจากปากเล็กช่างบางเบาแต่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเกิน

“ขอโทษนะครับแต่ไม่อยากให้เป็นห่วง” ผมคิดว่าวินมีเรื่องที่ต้องคิดมากอยู่แล้วช่วงนี้ ไม่ได้จะไม่บอกแต่อยากให้เขาผ่านวันนี้ไปได้ก่อน วินสอบวันนี้และพรุ่งนี้ผมจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว

“ไม่ให้ห่วงพัตแล้วจะให้เราห่วงใคร คิดถึงใจเราดิ ถ้าเป็นเราที่ทำแบบนี้บ้าง...” วินหันหน้าหนีไปด้านข้างราวกับทนมองหน้ากันไม่ไหวอีกต่อไป ผมค่อยๆดึงเขาให้นั่งลงบนเตียง ขยับตัวเข้าไปกอดร่างเล็กให้รู้ว่าผมยังอยู่ตรงนี้ วินซบหน้าลงกับไหล่แล้วกอดผมแน่น

“พัตไม่เป็นไรแล้วครับ” มือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังบางภายใต้เสื้อนักศึกษาไปมาเบาๆอย่างปลอบประโลม

“แค่คิดว่าเราอาจจะ...ไม่ได้มีพัตอยู่ตรงนี้...อึก เราก็จะตายแล้ว ไม่เอานะ ...ไม่เอาแบบนี้แล้ว ห้ามขับรถคนเดียวอีกนะ” น้ำตาที่เริ่มแห้งไปแล้วกลับมาพรั่งพรูอีกครั้ง คนในอ้อมกอดเริ่มมีอาการสะอื้นจนผมต้องคอยปลอบคอยกอดเขาอยู่อย่างนั้นราวๆครึ่งชั่วโมง

“วินรู้เรื่องได้ยังไงครับ” ผมถามคนที่อยู่ข้างเตียงขึ้นมาเมื่อเขาสงบลงแล้ว วินเป็นฝ่ายนั่งจับมือผมแน่นไม่ยอมละสายตาไปไหนเลย

“มีเพื่อนในเฟสส่งมาให้เราดู” วินมีสีหน้าไม่สู้ดีนักเมื่อเขาต้องตอบคำถามผม

“พัตไม่อยากให้วินต้องกังวล อยากให้สอบเสร็จก่อนแล้วค่อยบอก ไม่ได้จะปิดเลยนะครับ”

“ทีหลังไม่เป็นแบบนี้นะ...ไม่ว่ายังไงก็ต้องบอกเรา” คนตัวเล็กยกมือผมขึ้นเอาไปแนบแก้มตัวเองแล้วหลับตาลงอย่างช้าๆ

“ครับ สัญญา” วินพยักหน้าที่แนบอยู่บนฝ่ามือผมสองสามที แล้วเราคงจะอยู่แบบนั้นไปอีกซักหน่อยถ้าประตูห้องไม่ถูกเปิดเข้ามาเสียก่อน

มีทั้งแม่ที่ลงไปซื้อของ ไอ้กิม ไอ้จีน พ่อ มาครบทีมเลย...

“ดีกันแล้วเราต้องฉลอง” เพื่อนผมส่งยิ้มแหยะๆมาให้วินอย่างรู้ว่าตนเองก็มีความผิดเนื่องจากมีส่วนช่วยในการปิดบังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

“ใช่แล้วๆ ฉลองกันเนอะวินเนอะ” ไอ้จีนเอ่ยเสริมไอ้กิมอีกคน ส่วนพ่อกับแม่ผมทำเป็นไม่รู้ไม่สนอย่างเดียว

“ครั้งนี้เราจะยอมยกโทษให้ แต่ถ้ามีครั้งหน้านะ...โดนหนักแน่ๆโดยเฉพาะพัต”

“ไม่มีครั้งหน้าแล้วครับ” ถึงขั้นต้องส่งยิ้มอ่อนให้วินเลยผม





TBC.

Talk

พอเวลาจะเดินเรื่องเร็วก็เร็วมากเลยเนอะ :mew3: :mew3: ไม่ใช่ความผิดพัตเนอะ พัตไม่ได้หลับในน๊า เขามาชนของเขาเอง  :mew2: :mew2:

ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกคนที่เข้ามาอ่านมากๆเลยนะคะ ขอบคุณที่เป็นกำลังน้อยๆที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับคนแต่ง เยิฟน๊า  :mew1: :mew1:

ปล.ตอนหน้าตอนสุดท้ายแย๊ว




page >> https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/
tw >> @exsoull_
ask.fm >> @itsmesoull

เข้ามาคุยกันได้ทุกช่องทางนะคะ ไม่ดุไม่กัดฉีดยาแล้ว  :man1: :man1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ดีแล้วที่พัตไม่เป็นอะไรมาก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ am_am

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
หวานมุ้งมิ้งจริง ๆ เรื่องนี้ น่าร้ากกกกก :-[

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
จะจบแล้วเหรอเนี่ย  ไวจัง  ขอตอนพิเศษหวานๆ  น่ารักสัก 2-3 ตอนนะคะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด