ตอนที่ 28
ทันทีที่คนที่เรารอคอยเดินออกมาในระยะที่สามารถมองเห็นได้วินก็รีบลากผมให้เดินเข้าไปหาก่อนจะยกมือไหว้จนพ่อกับแม่ผมรับไว้แทบไม่ทัน
“สวัสดีครับ”
“ไม่น่าเหนื่อยมารับแม่เลยลูก ไปรอที่บ้านก็ได้” ประโยคนี้แม่ผมพูดกับวินเท่านั้นแหละครับ สำหรับผมแล้วไม่มีหรอกที่แม่จะบอกไม่ต้องเหนื่อย ถ้าพูดกับผมท่านคงจะบอกว่ามารับแค่นี้เป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆไม่ได้ลำบากอะไรเลย
ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน...
“ผมบอกแล้วครับแต่คนโปรดของแม่ไม่ฟังเอง” ผมบอกวินแล้วว่ารอรับท่านทั้งสองอยู่ที่บ้านก็ได้แต่เจ้าตัวก็ยังยืนยันว่าจะมารับพ่อกับแม่ถึงสนามบิน และแน่นอนว่าผมไม่มีทางขัดเขา ตามใจที่สุดแล้วคนนี้
“วินอยากมาเองครับ^^” คนตัวเล็กยิ้มหวานจนแม่ผมขยับเข้าไปใกล้แล้วจับมือเล็กทั้งสองข้างของเขาขึ้นมาลูบเบาๆอย่างเอื้อเอ็นดู
“โธ่ลูก งั้นเรารีบกลับบ้านกันดีกว่าเนอะ ไปทานข้าวที่บ้านกันนะลูกแม่มีของให้น้องวินเยอะเลย” ผมกับพ่อได้แต่มองตากันปริบๆปล่อยให้สองแม่ลูกสุดที่รักคุยกันกระหนุงกระหนิงอย่างไม่สนใจเราทั้งคู่ พ่อได้แต่ส่งสายตาปลอบใจมาให้ราวกับจะบอกว่าทำใจให้จนผมต้องยิ้มอ่อนออกมา
ดีใจที่เห็นวินและแม่ผมเข้ากันได้ดีจนวินกลายมาเป็นคนในครอบครัวอีกคนหนึ่งแล้วสำหรับเรา แต่บางทีแม่อาจจะลืมไปว่านั่นคือแฟนของลูกชายตัวเอง พออยู่ด้วยกันทีไรผมกับพ่อกลายเป็นหมาหัวเน่าทุกที
“ไปกันเลยเนอะลูกเนอะ พัตเข็นกระเป๋าแม่ไปด้วยนะจ้ะ” ท่านเอ่ยบอกเพียงเท่านั้นก่อนจะหันไปรั้งเอวเล็กให้วินเดินไปด้วยกัน ทิ้งผู้ชายต่างวัยสองคนมองตามอย่างปลงๆ
“เราสองคนยังจำเป็นอยู่ไหม” พ่อเป็นคนเอ่ยปากขึ้นก่อน
“นั่นแฟนผมหรือแฟนแม่กันแน่ครับ”
“นี่พ่อไง พ่อเป็นสามีแม่นะถ้าจำไม่ผิด” ( - -)(- - )
“เห้อ/เห้อ” แล้วเราทั้งสองก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกันก่อนที่พ่อจะตบบ่าผมเบาๆอย่างให้กำลังใจ สองพ่อลูกหัวเราะกับตัวเองเบาๆอย่างขบขันก่อนที่ผมจะรีบเข็นกระเป๋าเดินตามคนข้างหน้าที่กระหนุงกระหนิงกันไปไกลแล้ว นอกจากจะน่าสงสารเพราะโดนแม่และแฟนทิ้งยังน่าสงสารที่ต้องมาเข็นกระเป๋าตามต้อยๆ โดนไม่สนใจแล้วยังโดนใช้อีกต่างหาก ==
.
.
.
.
.
.
.
.
“น้องวินทานเยอะๆนะลูก อันนี้อร่อยแถมดีต่อสุขภาพด้วยนะ”
“ขอบคุณครับ คุณพ่อกับคุณแม่ก็ทานเยอะๆนะครับ^^” มือเล็กหยิบช้อนกลางตักอาหารใส่จานให้ทั้งพ่อและแม่อย่างเอาอกเอาใจ
“วินครับ แล้วพัตล่ะ” ทำไมรู้สึกว่าโลกนี้มีความลำเอียงสูงเหลือเกิน นี่ผมโดนทั้งแฟนและแม่ทิ้งเลยเหรอ มีใครน่าสงสารกว่านี้อีกไหม ตลอดการเดินทางจากสนามบินจนกลับมาที่บ้านทั้งแม่และวินก็ยังไม่หยุดคุยหยุดกันเลยครับ ไม่สนใจทั้งผมและพ่อด้วย
“พัตก็ตักเองสิ~” ไม่ต้องมาทำหน้าและเสียงน่ารักใส่เลย คิดดูว่าแม้แต่นั่งทานข้าวเขายังเลือกนั่งข้างแม่ผม ปล่อยให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนนั่งอ้างว่างอยู่อีกฝั่งเพียงคนเดียว
“ครับๆ พัตไม่สำคัญแล้วนี่” ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมาถึง นี่ผมต้องทำตัวแบบนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากแฟนตัวเองแล้วเหรอ ใครมาเห็นก็คงหัวเราะใส่ว่าทำตัวอย่างกับผู้หญิง แต่นาทีนี้ใครจะสนกัน ผมขอปฏิบัติภารกิจทวงคืนวินจากแม่ของตัวเอง
“รู้ตัวก็ดีนี่จ้ะลูกชาย น้องวินทานข้าวต่อดีกว่านะลูกอย่าสนใจพัตเลยแม่ว่า” ดูแม่ผมสิ
“ผมก็รู้สึกเหมือนโดนเมียทิ้งยังไงก็ไม่รู้นะ นี่ตั้งแต่กลับมาเมียก็เอาแต่สนใจเด็กๆมากกว่าตาแก่แบบผมเสียอีก” คราวนี้เป็นพ่อที่นั่งอยู่หัวโต๊ะพูดขึ้นบ้าง แม้จะรู้ว่าท่านทำเป็นแซวไปอย่างนั้นแต่ทุกอย่างที่พูดมาก็ล้วนแต่เป็นความจริง เราทั้งสองคนพ่อลูกคือบุคคลที่ถูกลืม
“โธ่คุณคะ เราอยู่ด้วยกันทุกวันอยู่แล้วนี่ ให้เวลาฉันได้อยู่กับน้องวินบ้างสิคะ วันๆอยู่แต่กับผู้ชายทื่อๆแบบคุณกับลูกพอมีน้องวินฉันก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดา”
“เชิญเลยครับคุณนายครับ” พ่อส่ายหัวน้อยๆให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาอย่างอ่อนใจก่อนจะหันกลับไปทานข้าวต่อ
หลังจากนั้นแม่กับวินเข้าสู่โหมดโลกส่วนตัวกันอีกครั้ง ตัวผมจะทำยังไงได้นอกจากหันกลับมากินข้าวในจานของตัวเองต่อเช่นเดียวกัน ปล่อยสองแม่ลูกให้เขาคุยกันต่อไป
บางทีแม่อยู่แค่กับผมและพ่อก็คงจะเบื่อ พอมีวินที่น่ารักสดใสเข้ามาท่านเลยเอ็นดูเขาเป็นพิเศษ
เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นทำให้ผมที่กำลังนั่งตรวจความเรียบร้อยของงานอยู่ปลายเตียงเงยหน้าขึ้นมอง พอเห็นว่าเป็นคนตัวเล็กที่เอาเวลาหลังกินข้าวไปดูหนังเป็นเพื่อนคุณแม่จนพึ่งจะขึ้นห้องมาได้ผมก็หันกลับมาสนใจไอแพดในมือเช่นเดิม ถึงแม้จะทำเหมือนไม่สนใจแต่จริงๆแล้วประสาทสัมผัสก็คอยจับสังเกตตลอดว่าวินกำลังทำอะไรบ้าง
และเขาก็เดินมาหยุดอยู่ข้างหน้า นั่นยิ่งทำให้ผมต้องเกร็งหน้าตึงเข้าไว้ ถึงเวลาของผมแล้ว...
“งอนอะไรเราอ่ะ” ประโยคที่เขาพูดออกมาทำเอาผมแทบหลุดหัวเราะ น้ำเสียงหงอยๆนั่นทำให้ผมรู้ว่าวินคงคิดว่าผมงอนเจ้าตัวแบบจริงจัง นี่คิดว่าผมจะเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ ที่ผมทำทั้งหมดก็แค่แกล้งเรียกร้องความสนใจจากเขาเท่านั้น แค่อยากแกล้งแม่ที่เอาแต่กักตัวแฟนผมไว้แค่นั้นเอง
“...”
“พัต...สนใจเราหน่อย” มือเล็กเอื้อมมาหยิบไอแพดออกจากมือแล้ววางมันลงบนเตียงก่อนจะขยับเข้ามาทรุดตัวลงนั่งที่ตัก แขนเรียวเล็กก็ยกขึ้นมาคล้องคอจนผมต้องบอกตัวเองในใจ
เย็นๆไว้ อย่าพึ่งให้เหยื่อรู้ตัว
“พึ่งจะสนใจกันได้เหรอครับ” รางวัลตุ๊กตาทองปีนี้ผมอาจจะถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลดาราดาวรุ่งก็อาจเป็นได้
“ฮื่อ ก็สนใจตลอด” คนตัวเล็กส่งสายตาออดอ้อนมาให้จนผมแทบจะทนไม่ไหว อยากพลิกตัวเขาลงบนเตียงแล้วจู่โจมแบบที่ใจอยากให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่ยังไงก็ต้องทนไว้ก่อน คนเราต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน
“ตอนไหน พัตไม่เห็นรู้ตัว” แสร้งตีหน้านิ่งพูดออกไป ปากเล็กๆยู่ใส่ราวกับไม่พอใจในประโยคนั้น ถึงผมจะไม่คิดอะไรแต่ที่พูดก็ความจริงทั้งนั้น วันนี้ทั้งวันยังไม่รู้สึกว่าถูกเขาสนใจเลยซักนิด
“คนอะไรตัวโตแต่ขี้ใจน้อยชะมัดเลย เราพึ่งรู้ว่ามีแฟนเป็นแบบนี้”
“...”
“ต้องทำยังไงถึงจะหายงอน” มาแล้วสเต็ปแรก ใบหน้าเล็กขยับเข้ามาเอียงซบที่ซอกคออย่างออดอ้อน ลมหายใจร้อนถูกเป่ารดซอกคอจนพลันทำให้ลมหายใจของผมสะดุด ยิ่งกลิ่นตัวหอมๆที่กระจายออกมาจากเรือนกายบอบบางยิ่งกระตุ้นความรู้สึกให้ลุกโชนจนต้องขบกรามแน่น
นี่วินจะง้อหรือจะยั่วผมกันแน่
“แล้ววินคิดว่าต้องทำยังไงพัตถึงจะหายล่ะครับ”
“อืม....แบบนี้หายไหม” คนบนตักผละออกจากซอกคออุ่นของผมแล้วแตะริมฝีปากเล็กลงมาทาบทับเบาๆ พร้อมกับที่ใบหน้าหวานฉีกยิ้มกว้างอย่างเอาใจ
“...”
“งั้นแบบนี้ล่ะ” คราวนี้คนตรงหน้ากดริมฝีปากลงมาแนบแน่นยิ่งกว่าเดิมแต่แล้วไม่นานก็ผละออก ในขณะที่ผมยังนิ่งรอดูอย่างใจเย็น(ทั้งที่กายร้อนรุ่ม)ว่าวินจะทำยังไงต่อไป
“...”
“ยังไม่หายอีกเหรอ? งั้น...” ทันทีที่ปากเราแนบกันสนิทอีกครั้งริมฝีปากผมก็โดนไล้เบาๆด้วยปลายลิ้นเล็กของคนที่นั่งอยู่บนตัก สัมผัสอ้อยอิ่งที่วาบหวามทำให้ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหวพลิกตัววินให้นอนราบลงกับเตียง เขามีท่าทีตกใจในคราแรกแต่เพราะสัมผัสของผมทำให้ต้องละความสนใจจากเรื่องอื่นๆทั้งหมด
เสียงแลกเปลี่ยนน้ำลายดังขึ้นอย่างบ่งบอกว่าจูบนี้มันเริ่มจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมตะโบมจูบจนคนใต้ร่างหายใจแทบไม่ทัน ในที่สุดมือเล็กก็ทุบเบาๆที่อกเป็นสัญญาณจนผมต้องยอมละสัมผัสออกมา
คนตัวเล็กนอนหอบหายใจโกยอากาศเขาปอด ริมฝีปากบวมเจ่อ ใบหน้านวลก็แดงปลั่งราวกับผลไม้ใกล้สุก
“หะ หายงอนเราหรือยัง”
“อืมมมม...เอาไว้ตอบหลังจากนี้นะครับ” ผมส่งยิ้มหวานให้เขาก่อนจะกดริมฝีปากลงไปอีกครั้ง ถึงจะต้องการแค่ไหนแต่ทุกสัมผัสก็เต็มไปด้วยความรัก จนในที่สุดวินจึงได้แต่นอนอ่อนระทวยอยู่ใต้ร่างอย่างยอมแพ้ มือทั้งสองข้างถูกลากไล้ไปตามสีข้างของอีกคนอย่างที่ใจอยากทำ ฟ่อนเฟ้นตั้งแต่สะโพกจนถึงท่อนขาเรียวสวย ทิ้งสัมผัสไว้ทุกที่มือของผมลากผ่าน
ผิวเนียนละเอียดของวินยิ่งทำให้รู้สึกอยากสัมผัสเขามากกว่าที่ทำอยู่ จากมือที่ลูบไล้ถูกสอดเข้าไปภายในเสื้อยืดตัวบางเพื่อสัมผัสกับเม็ดเล็กๆที่ผมรู้ว่าเป็นตัวกระตุ้นเขาชั้นดี ทันที่นิ้วมือแกร่งสะกิดโดนวินก็ตัวกระตุกเล็กน้อย เสียงครางที่หลุดรอดออกมาให้ได้ยินบ่งบอกว่าเขาพอใจ
“อ๊ะ อื่อ พะ พัต” ละจากปากนุ่มที่หวานราวกับทานลูกกวาด ไล้ลงมายังซอกคอหอมก่อนจะขบเม้มเบาๆจนเกิดรอยสีกุหลาบประปรายไปทั่ว เพราะวินขาวจัดและผิวบอบบางพอดูดเม้มแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ขึ้นสีได้ไม่ยาก เสียงลมหายใจจากทั้งผมและถูกปล่อยออกมาหอบถี่เพื่อระบายความต้องการที่ก่อตัวอย่างรุนแรง แม้จะต้องการแค่ไหนแต่ผมก็จะไม่มีทางทำให้เขาเจ็บเด็ดขาด
เสื้อยืดตัวบางถูกถอดออกก่อนเป็นอันดับแรกโดยที่เจ้าของมันก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จากลำคอบางถูกเปลี่ยนเป้าหมายมาที่เม็ดเล็กๆสีเชอร์รี่ทั้งสองข้างทันทีที่มันปรากฎสู่สายตา
“อื้อ! อึก อืม อะ อ๊ะ อือ” เสียงร้องราวกับว่าคนถูกกระทำแสนทรมานช่างขัดกับการที่หน้าอกบางโค้งขึ้นเพื่อให้ผมได้สัมผัสเขามากขึ้นเสียเหลือเกิน กายบางบิดเร้า มือเล็กสอดเข้ามาในกลุ่มผมพร้อมกับขยุ้มเบาๆเพื่อระบายความเสียวซ่าน ยอดอกของวินเริ่มแข็งเป็นไตจากสัมผัสของผม ความเย็นภายในห้องจากเครื่องปรับอากาศไม่ได้ลดความร้อนแรงของเราทั้งคู่เลยแม้แต่นิดเดียว
เรียวลิ้นทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี ผมละจากเม็ดเล็กบนอกวินลงมาเรื่อยๆตามหน้าท้องแบนราบ ยิ่งลมหายใจร้อนที่เต็มไปด้วยความต้องการกระทบลงผิวต่ำลงเท่าไหร่วินยิ่งหายใจติดขัดและเกร็งตัวมากขึ้นเท่านั้น กระดุมกางเกงสี่ส่วนที่เขาสวมใส่ถูกปลดออก ซิปถูกเลื่อนลงจนสุดก่อนที่กางเกงจะถูกรั้งออกจากสะโพกบาง เกี่ยวออกจากขาเรียวพร้อมกันทั้งชั้นนอกและชั้นใน
“พัต! พะ พัต อึก “ และทันทีที่ริมฝีปากผมครอบลงกลางกายวินก็สะดุ้งเฮือก เสียงหวานที่เปล่งออกมาสั่นระรัว ทั้งตัวก็บิดเกร็งจนผมต้องส่งมือไปลูบตามร่างกายเขาเพื่อให้ผ่อนคลายมากขึ้น แต่นั่นกลับดูเหมือนไม่ได้ช่วยอะไร ยิ่งสัมผัสร้อนลากไล้ไปตามวินน้อยคนที่เสียวกระสันก็ยิ่งเกร็ง เสียงที่ถูกเปล่งออกมาเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากผมเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น
ไม่นานนักวินก็ปลดปล่อยทุกอย่างออกมาเมื่อเขาไปถึงขีดสุดของความต้องการ
“ฮะ แฮก แฮก” ผมปล่อยให้เขาได้หายใจหายคอเนื่องจากต้องผละออกมาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองบ้าง แล้วภายในไม่กี่นาทีทุกอย่างก็หลุดออกจากร่างอย่างไม่สนใจว่ามันจะตกอยู่ตรงไหน ร่างเปลือยเปล่ากลับมาทาบทับกันอีกครั้งให้อะไรๆที่ชูชันสัมผัสกันแนบแน่นแล้วผมก็จงใจขยับให้มันเสียดสีเบาๆจนคนที่พึ่งปลดปล่อยเริ่มส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง
“ถะ ถุงยาง อะ อื้อ อยู่ไหน” ผมยื้อมือไปที่โต๊ะข้างหัวเตียง เปิดลิ้นชักออกแล้วหยิบของที่ต้องใช้ออกมา
“ใส่ให้หน่อยได้ไหมครับ” คำขอร้องที่ทำให้วินหน้าแดงแจ๋ราวกับถูกของร้อนนาบ คนที่นอนอยู่ข้างใต้เสมองไปทางอื่นแต่ถึงอย่างนั้นก็ค่อยๆพยุงร่างตัวเองขึ้นนั่ง จากที่ผมนอนคร่อมเข้าอยู่กลายเป็นเรานั่งหันหน้าเข้าหากันแทน
มือบางคว้ามาหยิบอุปกรณ์ป้องกันไปก่อนจะฉีกมันออกแล้วค่อยๆเอื้อมมือมาสวมให้ผมด้วยมืออันสั่นเทา เพียงแค่สัมผัสไม่กี่นาทีจากมือเล็กทำเอาแก่นกายขยายขึ้นอีกจนวินมองด้วยตาตื่นๆ
ผมหัวเราะน้อยๆใส่เขาก่อนจะหยิบขวดเจลมาเปิดเทใส่มือแล้วชโลมไปที่ตัวตนของตัวเอง
“พร้อมนะครับ” วินไม่ได้ตอบรับแต่การเอนกายลงนอนเช่นเดิมสำหรับผมคือคำตอบว่าเขาพร้อมแล้ว ขาเรียวเล็กถูกแยกออกให้กว้างขึ้นก่อนที่ผมจะไล้มือไปที่ช่องทางรักสีกุหลาบแล้วขยับตัวตนเข้าไปจ่อ ถูไถสองสามทีก่อนจะค่อยๆแทรกกายเข้าไปในตัวของอีกคน
“อะ อึก อือ“ แม้จะมีอะไรกันหลายครั้งแต่ด้วยขนาดของผมแล้วใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับวินซึ่งต้องเป็นฝ่ายรับมันเข้าไปอยู่ในตัว ผมเองก็กัดฟันแน่นเมื่อความนุ่มอุ่นร้อนภายในตอดรัดจนแทบขยับไม่ได้ กว่าจะเข้าไปจนสุดทั้งผมและเขาก็ต่างหอบหายใจทั้งคู่
“พัต จะ จูบหน่อย” ผมส่งยิ้มให้คนที่อ้อนขอก่อนจะตอบรับเขาด้วยสัมผัสอันนุ่มนวล ผมสัมผัสชีพจรเขาได้จากภายในจุดที่เราเชื่อมต่อกัน ก่อนจะเริ่มขยับเมื่อเห็นว่าวินมีอาการผ่อนคลายมากขึ้น เสียงจูบดังคละเคล้าไปกับเสียงครางจากทั้งผมและเขา ร่างกายเราขยับตอบรับกันอย่างรู้จังหวะ เสียงหอบหายใจ กลิ่นหยาดเหงื่อยิ่งทำให้อารมณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ไต่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
ร่างกายเล็กสะท้านไหวขึ้นลงจากแรงที่ผมสอดใส่
ใบหน้าหวานซบลงซอกคอแล้วกัดเบาๆเพื่อระบายอารมณ์ความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น วินทั้งขบเม้มและกัดจนผมคิดว่ารอยที่คอเราทั้งคู่คงไม่ต่างกันมากนัก เสียงหวานครางผะแผ่วข้างหูช่างเป็นเสียงที่ไพเราะราวกับเพลงที่ผมชอบที่สุด
เตียงตัวใหญ่เริ่มโยกสั่นคลอนเมื่อจังหวะสะโพกขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มือเล็กของวินกำแน่นจิกลงที่ไหล่ ผมสูดกลิ่นกายของคนใต้ร่างเข้าเต็มปอด เหงื่อไหลโทรมกายของเราทั้งคู่จนไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร
“อืมห์” เสียงครางต่ำดังขึ้นจากผมเนื่องจากแรงตอดนั้นช่างถี่และรัดแน่นเกิน สัญญาณที่บ่งบอกว่าอีกคนใกล้จะถึงฝั่งฝันเต็มที
“อื้อ พัต อะ ระ แรง อึก แรงอีก” วินเอ่ยร้องขออย่างเว้าวอน แขนเล็กรัดเข้ากับคอผมแน่น ร่างกายเขาเกร็งสะท้าน
“อือ วิน วินครับ” ความรู้สึกเริ่มพุ่งสูงขึ้นราวกับจะไม่มีวันสิ้นสุด สะโพกแกร่งกระทบกับความบอบบางรุนแรงจนเสียงดังก้องไปทั่วห้อง วินตัวสั่นไหวในอ้อมกอดผมจนหัวคลอน
อีกนิด...อีกนิดเดียวเท่านั้น
“พะ พัต พัต! อะ อึก ไม่ อ๊ะ ไม่ไหว ระ อื้อ เราไม่ไหว...อาาาาาาา” ช่องทางรักของวินทั้งรัดแน่นและตอดรัดตัวตนของผมถี่ ยิ่งเร่งจังหวะขึ้นร่างกายของวินยิ่งเกร็งแน่น ผมจงใจกดร่างเข้ากับจุดกระสันของเขาจนวินดิ้นพล่าน ไม่นานนักร่างบางก็กระตุกแรงๆแล้วปลดปล่อยน้ำรักออกมา
“อืมมมมมมมม” เช่นเดียวกับผมที่ปลดปล่อยทุกอย่างเข้าไปในตัวของวินโดยที่มีเยื้อบางๆห่อหุ้ม แรงตอดของเขาแน่นเสียจนร่างกายผมกระตุกตาม
หัวเล็กๆของวินซบลงกับไหล่ผมอย่างหมดแรงเมื่อทุกอย่างจบลง จนเวลาล่วงเลยไปราวๆห้านาทีกว่าที่ลมหายใจเราจะเริ่มกลับมาเป็นปกติถึงค่อยๆผละออกจากกัน
“พัตหายงอนแล้วนะครับ” เอ่ยบอกพร้อมกับฉีกยิ้มเต็มหน้าจนได้รับค้อนวงงามๆกลับมาหนึ่งวงเป็นรางวัล
“ไม่หายเราก็ไม่ง้อต่อแล้ว”
จุ๊บ
กดจูบลงไปที่ปากแดงบวมเจ่อหนึ่งทีอย่างรวดเร็ว
“หึหึ งั้นรอบต่อไปถือว่าพัตเอาใจวินคืนแล้วกันนะครับ”
“ไม่นะ....พะ พัต อื้อ...”
แล้วเสียงครางหวานๆของวินก็ดังก้องทั่วห้องไปจนเกือบรุ่งสาง ผมจัดการเอาใจแฟนตัวเองทั้งคืนจนเขาหลับคอพับคออ่อนคาอกจนต้องอุ้มไปอาบน้ำทั้งอย่างนั้น
ต่างจากผมที่รู้สึกสดชื่นราวกับได้รับพลังอย่างเต็มที่
.
.
.
.
.
.
.
“ฮื่อ รอยเต็มคอเราเลย” วินหันกลับมามองหน้าผมทันทีที่เขาเดินเข้าห้องน้ำมาแล้วส่องกระจกเห็นสภาพตัวเอง
ผมกับวินตื่นราวๆเที่ยง และวันนี้เราไม่ได้มีอะไรทำเป็นพิเศษมากนักนอกจากพักผ่อนกันธรรมดา พ่อเขายอมปล่อยตัวมาทั้งทีใครจะทิ้งโอกาสดีๆแบบนี้ไปง่ายๆกัน พอผมตื่นมาก็คว้าตัวเขาเข้ามานอนกอดเอาไว้ทั้งอย่างนั้นโดยที่ไม่ยอมให้วินลุกไปไหนแม้ว่าเขาจะตื่นนานแล้วก็ตาม สรุปกว่าที่เราจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายได้ก็กินเวลาไปจนเกือบบ่ายสองโมง
“ของพัตก็มีเหมือนกันนะครับ”
“เราไม่ได้ทำเยอะขนาดนั้นซักหน่อย ดูพัตทำสิ...เราต้องใส่เสื้อคอเต่าไปทั้งอาทิตย์แน่ๆ”
“ตอนพัตทำวินก็ชอบนี่นา” คนตัวเล็กมองผมตาเขียวปั๊ดแม้ว่าแก้มของเขาจะมีสีจางๆก็ตาม
“ไม่ต้องพูดเลย...รีบมาแปรงฟันอาบน้ำจะได้ลงไปทานข้าวซักที เราหิวแล้วนะ” เวลาล่วงเลยมาขนาดนี้ไม่แปลกที่เขาจะหิว ปกติแล้ววินอดข้าวได้ที่ไหนกัน มีวันนึงตอนที่เราอยู่คอนโดด้วยกันวินเผลอหลับไปตอนเย็นทั้งที่ยังไม่ได้ทานข้าว เช้าต่อมาเขาก็ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อลุกขึ้นทานข้าวแล้วก็กลับมานอนต่อให้ผมได้แต่งงกับแฟนตัวเอง
เราสองคนใช้เวลาในห้องน้ำอย่างเร่งรีบเพราะหิวด้วยกันทั้งคู่ พอตอนเดินลงบันไดผมแทบจะต้องอุ้มวินลงมาเพราะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาเดินเหินไม่สะดวก คนที่โมโหหิวบ่นให้ผมตลอดทางว่ารังแกเขาทั้งคืนจนมีสภาพเป็นอย่างนี้
“คุณหญิงสั่งให้เตรียมไว้ให้คุณวินค่ะ” แม่บ้านคนเก่าคนแก่เอ่ยบอกวินเมื่ออาหารหลายอย่างถูกลำเลียงขึ้นมาบนโต๊ะ แต่ของวินดูเหมือนจะพิเศษกว่านั้น มีของบำรุงร่างกายหลายอย่างจนผมงง
“ขอบคุณครับ” วินส่งยิ้มหวานให้อย่างขอบคุณก่อนที่แม่บ้านจะขยับตัวออกไปยืนข้างๆเผื่อเราจะเอาอะไรเพิ่ม
“นั่นอะไรบ้างครับ ทำไมเยอะแยะขนาดนั้น” แค่อาหารบนโต๊ะก็เยอะมากแล้ว ยังมีนู่นนี่นั่นเต็มไปหมด
“พัตไม่ต้องรู้หรอก อันนี้ของเราพัตไม่เกี่ยวอยู่แล้ว” แล้ววินก็ลงมือทานข้าวของตัวเองอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจผมอีก เจ้าตัวคงจะหิวมากจริงๆเพราะกินทุกอย่างแทบไม่เหลือทั้งของคาวและของที่แม่ผมเตรียมไว้ให้ แถมยังมีขนมเค้กร้านโปรดเป็นของตบท้ายอีกด้วย
“คุณพ่อกับคุณแม่จะกลับมากี่โมงอ่ะพัต” คนที่กดรีโมทเลื่อนช่องไปเรื่อยเอ่ยถามขึ้น หลังจากที่เราทานข้าวเสร็จแล้วก็มานั่งย่อยดูโทรทัศน์ด้วยกัน วินบอกว่าเขาอยากดูการ์ตูน
“คงจะซักหกโมงเย็นครับ” พ่อกับแม่ผมออกไปดูงานที่โรงแรมตั้งแต่เช้าผมเลยมีเวลาได้อยู่กับวินอย่างที่คนเป็นแฟนกันควรจะมีบ้าง แต่ถ้าตอนไหนที่แม่กลับมาคงไม่เป็นแบบนี้ ผมจะกลายเป็นเสมือนคนนอกของทั้งแม่และวินทันที
“เดี๋ยวเราออกไปซุปเปอร์มาเก็ตกันดีกว่า เราจะไปซื้อของสดมาทำอาหาร” วินวางรีโมทในมือลงแล้วหันมาผมที่นั่งอยู่ข้างๆ ใบหน้าหวานยิ้มกว้าง สายตาเป็นประกายสดใส
“หืม อยากทานอะไรครับ บอกแม่บ้านก็ได้”
“ไม่เอา วันนี้เราจะเป็นคนทำอาหารเย็นเอง บอกแม่บ้านให้อยู่แบบสบายๆเลยเชฟวินจะโชว์ฝีมือ^___^”
“ตัวเองอยากกินเยอะๆใช่ไหมเลยอยากทำเอง หืม” ยกมือขึ้นบีบจมูกรั้นเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
“ไม่ใช่ซักหน่อย เราแค่อยากทำอะไรตอบแทนที่ครอบครัววินเอ็นดูเราบ้าง” ประโยคน่ารักๆจากคนตรงหน้าทำให้ผมต้องยิ้มออกมากับความน่ารักของแฟนตัวเองอย่างห้ามไม่ได้ สองมือเอื้อมไปจับมือทั้งสองข้างของวินขึ้นมาแล้วบีบมันเบาๆ
“วินไม่จำเป็นต้องทำอะไรตอบแทนเลย เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ วินก็เป็นสมาชิกของบ้านพัตอีกคนนึง ครอบครัววินก็เหมือนกัน”
“อื้อ พัตก็เป็นคนในครอบครัวเราแล้วนะ ” มือเล็กยกขึ้นมากุมหน้าผมเอาไว้แล้วส่งทุกความรู้สึกผ่านทางสายตาให้แก่กัน
“เป็นครอบครัวตัวหมูใช่ไหม” วินไม่ได้ตัวเหมือนหมูเลยซักนิดทั้งที่เขากินเยอะขนาดนั้น แต่เจ้าตัวเองก็ชอบให้ผมเรียกเขาว่าหมูเพราะชอบเจ้าสัตว์ชนิดนี้ วินกินเก่งเหมือนมันแต่ตัวไม่ได้ใกล้เคียงเลย บางทีก็อยากจะพาเขาไปตรวจบ้างเหมือนกัน คนอะไรกินเยอะแต่ตัวยังเท่าเดิม
“ใช่ เป็นครอบครัวหมูๆของเรา...ว่าแล้วก็อยากจะเลี้ยงหมูจิ๋วจัง” วกกลับมาที่เรื่องนี้อีกแล้ว เมื่อวันก่อนวินเล่นเฟสบุ๊คแล้วดันไปเจอกับโพสต์ที่คนอื่นแชร์มาเป็นรูปของหมูจิ๋ว เขามางอแงกับผมใหญ่ว่าอยากเลี้ยงจะไปซื้อให้ได้ ต้องกล่อมอยู่นานถึงจะยอมฟัง เราไม่ได้มีเวลาดูแลและเอาใจใส่มันขนาดนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเลี้ยงเพราะต้องดูแลให้ดีมากๆ วินยังต้องอยู่คอนโดแค่นี้ก็ไม่สะดวกแล้ว เอาไว้ตอนซื้อบ้านค่อยว่ากันอีกที
“ไว้เรามีเวลาแล้วก็ทุกอย่างเอื้ออำนวยมากกว่านี้ค่อยว่ากันนะครับ โอเคไหม?”
“โอเค! ซื้อให้เราเป็นของขวัญวันเกิดนะ”
“ครับ แต่ไม่รู้ว่าวันเกิดปีไหนนะ” ต้องดูว่าถึงตอนนั้นเราพร้อมแล้วหรือยัง
“อื้อ ขอบคุณนะ”
ฟอด
วินขยับเข้ามาหอมแก้มผมเร็วๆทีนึงก่อนจะผละออกไปนั่งดูการ์ตูนต่อ ผมได้แต่ส่ายหัวกับความเด็กของเขาก่อนที่จะหันกลับมาดูการ์ตูนบนหน้าจอเช่นเดียวกัน
แค่วันธรรมดาๆวันนึงที่ได้นั่งดูการ์ตูนเรื่องโปรดด้วยกัน ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน...คือความสุขเล็กๆน้อยๆที่ผมอยากจะมีในทุกวันของชีวิต
เสี้ยวหน้าของคนข้างๆ เสียงหัวเราะเพราะขำตัวละครบนจอ แววตาสุกใสของเขา...เป็นภาพที่ทำให้ผมยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
TBC.
page >>
https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/tw >> @exsoull_
ask.fm >> @itsmesoull
เข้ามาคุยกันได้ทุกช่องทางนะคะ ไม่ดุไม่กัดฉีดยาแล้ว