Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=  (อ่าน 228107 ครั้ง)

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :z6:

โมโห ราม อยู่ดี ใดๆก็ตามแต่

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
รอตอนต่อไป รอรามอินทร์ เค้าชอบคู่นี้ๆๆๆ
หมอเงินสู้ๆนะคะ อย่าเพิ่งถอดใจน้าาาา

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
เค้ายังรออินทัชอยู่น้าาา

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
คิดถึงอินทัชจัง
 :-[

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เฮ้ออออ เมื่อไหร่อินถึงจะได้เอาคืนบ้าง อินแสนดียอมรามตลอดเลยถึงแม้จะยอมเพราะสู้ไม่ได้ก็เถอะ

เราจะรอวันที่จะได้ "สมน้ำหน้า" รามเมื่อวันนั้นมาถึงคงสะใจพิลึก ที่เห็นคนอย่างรามเจ็บปวดเหมือนที่ทำกับอินไว้

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 9
เจ็บกายไม่เท่าเจ็บใจ





ในขณะที่ต้องช่วยจักรเผด็จศึกเจ้าจอมกับช่วยหมอเงินให้ปรับความเข้าใจกับขรรค์แล้ว ก็ยังต้องเอาตัวเองให้รอดจากมรสุมงานหนักที่รามินทร์มักจะชอบเอางานมาให้ทำอยู่ทุกครั้ง ทุกวันก็เพิ่มขึ้นจนเขาแทบจะเหนื่อยแทบตาย

“อย่ามัวแต่อู้”

“อย่ามัวแต่สั่ง กูรำคาญ”

“ไอ้อิน!!!” เสียงทุ้มตะโกนดังลั่นเมื่ออินทัชสวนกลับอย่างไม่ยอมแพ้

“เรียกทำไมเสียงดัง ได้ข่าวว่าห่างกันไม่ถึงหนึ่งเมตร ประสาท!” เขาด่าร่างแกร่งเบาๆ กับตัวเองก่อนจะเดินตัดหญ้าในสวนต่อไปตามคำสั่งของร่างสูง

“มึงว่ากูอีกแล้วนะ อยากตายหรือไง”

“กูก็เห็นมึงถามกูแบบนี้ทุกครั้ง แต่ก็ไม่เห็นจะฆ่าอย่างที่พูดเลย” เขาหันมาสบตากับดวงตาคมของรามินทร์คล้ายจะท้าทายหน่อยๆ

“ทำไม? มึงอยากตาย?”

“ถ้าถามว่ากูอยากตายไหม ก็คงตอบได้เลยว่าไม่...ใครจะไปอยากตายล่ะจริงไหม แต่เลิกเอาเรื่องตายมาขู่กู ถ้ามึงไม่คิดที่จะทำจริงๆ”

“ปากดี ถ้าวันนั้นที่มึงกำลังจะตายบอกเลยว่ากูไม่ช่วยมึงแน่”

“อือ...ไม่ขอให้ช่วยอยู่แล้วล่ะ ถ้าต้องติดหนี้บุญคุณมึงนะ กูยอมตายดีกว่า”

“หุบปากแล้วทำงานต่อไปซะ!! เสร็จแล้วก็ไปซักผ้า”

“ซักบ้าอะไรอีกวะ!! เมื่อวานเพิ่งจะซักไปเอง”

“คราวนี้เป็นเสื้อผ้าของคนงานทั้งหมด!” รามินทร์ตอบด้วยสีหน้าที่สะใจที่เห็นสีหน้าไม่พอใจออกมาจากใบหน้าของอินทัช

ดี...โกรธเข้าไปอีก มึงยิ่งทุกข์ กูยิ่งสะใจ

“อะไรวะ รับใช้มึงกูยังพอทน แต่นี่กูต้องมาทำให้คนอื่นทั้งรีสอร์ท มึงไม่คิดว่ามันมากเกินไปหน่อยหรือวะไอ้ราม!!” ถามเสียงดังลั่น ดับเครื่องตัดหญ้าในมือแล้วขว้างมันอย่างไม่ใยดี เดินเข้ามาหาร่างใหญ่ในร่ม

“มากไปยังไง กูจะให้มึงทำอะไรก็ได้”

“แต่กูไม่ทำ!!”

“มึงต้องทำ”

“ยังไงกูก็ไม่มีทางทำเด็ดขาด ชีวิตกูแค่โดนมึงโขกสับก็พอแล้ว แต่นี่มึงลากกูมาเป็นขี้ข้าของคนทั้งรีสอร์ทอีก คอยดูนะถ้ากูหลุดจากที่นี่ไปได้ รีสอร์ทของมึงทุกที่ กูจะไม่ให้มันได้อยู่ดีเลย” ว่าขู่ออกไปด้วยความโกรธ

มีอย่างที่ไหนที่จะให้เขาไปซักเสื้อผ้าให้กับคนงานทั้งรีสอร์ท มันเกินไปแล้ว เกินไปจริงๆ

“มึงต้องทำ!!”

“กูไม่ทำ!!” ว่าแล้วก็วิ่งหนีเสียเลย เพราะคนรักศักดิ์ศรีอย่างอินทัชไม่ยอมก้มหัวให้กับคนงานของรามินทร์เด็ดขาด เพราะเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องสาวของรามินทร์ฆ่าตัวตาย ฉะนั้นจึงยอมรับใช้ แต่ถ้าให้เขาทำให้คนงานที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา

อินทัชไม่ทำ

“ไอ้สัตว์นี่! อย่าหนีนะเว้ย” ขายาวออกวิ่งตามคนตัวบางไปอย่างรวดเร็ว ในใจก็คิดว่าทำไมอินทัชถึงได้วิ่งเร็วนัก และคาดโทษอีกคนเอาไว้ด้วย

จับได้เมื่อไหร่ มึงเจ็บแน่!!

ร่างโปร่งวิ่งลงไปด้านล่างที่เป็นเชิงเขาเพื่อไปยังบ้านพักของตนเอง หากแต่พ้นตัวบ้านของรามินทร์ไปได้ไม่เท่าไหร่ เจ้าของที่นี่ก็วิ่งมาประชิดตัวแล้วจับแขนเอาไว้ได้ในที่สุด

หมับ!!

“โอ้ย!! เจ็บนะไอ้เหี้ยราม”

“เจ็บน่ะดี มึงจะได้จำ แล้วไม่คิดทำอะไรปัญญาอ่อนแบบนี้อีก” ว่าแล้วก็จัดการผลักร่างบางของอินทัชลงไปที่พื้น จนก้นกระแทกเข้ากับหินน้อยๆ ตามพื้นจนรู้สึกเจ็บไปหมด ช่วงล่างที่ยังไม่หายดีเท่าไหร่ก็เกิดอาการเจ็บแปลบไปทั้งร่าง คิ้วสวยขมวด ฟันขาวกัดริมฝีปากแน่นเพื่อระงับเสียงร้องของตน

“ลุกขึ้น!! แล้วไปขนเสื้อผ้าคนงานมาซักซะ!!”

“ไม่!!”

“ไอ้อิน กูจะพูดอีกรอบ ถ้ามึงไม่ทำ มึงเจ็บแน่”

“งั้นกูก็จะพูดอีกรอบเหมือนกันว่ากูไม่ทำ!!” สิ้นเสียงของอินทัช รามินทร์ก็ถึงกับสติขาดผึง ประเคนหมักหนักๆ เข้าไปที่ใบหน้าสวยขาวของอินทัชเต็มแรงจนอีกคนหันไปตามแรงต่อย

ผลัวะ!!!

ความชาแล่นไปทั่วทั้งบริเวณก่อนจะเริ่มเจ็บขึ้นมาทีละน้อยจนรู้สึกเจ็บสุดๆ ในโพรงปากมีรสชาติของเลือด จนต้องถุยมันออกมาอย่างช่วยไม่ได้

อินทัชไม่มองหน้าคนที่ลงไม้ลงมือใส่เลยสักนิด ได้แต่ปาดเลือดที่มุมปากออกก่อนจะพยายามยืนหยัดลุกขึ้นมาแต่แอบเซเล็กน้อย

“อึก...ถ้าจะให้กูซัก ก็ให้ลูกน้องมึงคนไปไว้ที่ธารน้ำ กูไม่ไปขนเอง คงจะได้นะ” เสียงของอินทัชดังขึ้นมาเรียบๆ และเย็นยะเยือกจนรามินทร์แอบรู้สึกกลัวนิดๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก

“ก็ได้ กูจะสั่งคนให้เอามาให้ หึ...แล้วเป็นไง กูพูดดีๆ ไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลัง สมน้ำหน้า” ว่าเยาะเย้ยอย่างไม่รู้สึกผิดหรือสำนึกผิดแต่อย่างใดที่ลงไม้ลงมือจนร่างบางปากแตกแบบนี้

“พอใจยัง กูขอตัว”

ไม่โวยวาย ไม่ด่า ไม่ว่าอะไรอีก...

เพราะอินทัชรู้ตัวเองดี ว่าทำไป โวยวายไปก็ไร้ความหมาย...

“มึงทำตัวของมึงเอง มึงดื้อเอง กูไม่ผิด” รามินทร์พึมพำกับตัวเองเบาๆ มองตามร่างโปร่งบางที่เดินจากไปด้วยสายตารู้สึกผิด หากแต่ใจก็ยังไม่คิดว่าตัวเองผิด

เพราะมันดื้อ เพราะมันไม่ฟัง เขาเลยต้องทำแบบนั้น

แต่ดูเหมือนว่ารามินทร์จะลืมไป ว่านอกจากใช้กำลังแล้ว มันยังมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ในการสั่งให้ร่างโปร่งทำตามที่เขาสั่ง ดีกว่าการทำร้ายร่างกาย


สำหรับอินทัชแล้ว การที่เขาโดนต่อยในครั้งนี้มันทำให้รู้สึกอยากร้องไห้มาก เขาได้แต่ตัดพ้อโชคชะตาของตัวเองอยู่ในใจเพียงลำพัง

ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ เขาทำผิดอะไร...

“เจ็บกาย มันไม่เท่าเจ็บใจ”

ก็รู้ซึ้งในความหมายของประโยคนี้ก็วันนี้นี่แหละ


ร่างโปร่งยืนมองดูกองเสื้อผ้าราวๆ เกือบสิบตะกร้าด้วยความรู้สึกโกรธแค้น และน้อยใจไปในคราวเดียวกัน ดวงตาใสมองสบเข้ากับดวงตาที่มองอย่างเย้ยหยันสะใจของรามินทร์อย่างตัดพ้อจนร่างสูงถึงกับชะงักแล้วขมวดคิ้ว

“ทำหน้าน่าสมเพช”

“เออ...กูน่าสมเพช กูเลว กูชั่ว กูสมควรโดนแบบนี้แล้ว นี่ใช่ไหมคือสิ่งที่มึงอยากจะพูด” อินทัชดักทางอย่างรู้ทัน แม้จะเจ็บที่ต้องตอกย้ำตัวเอง แต่ก็ยังดีกว่าฟังประโยคพวกนี้ซ้ำไปซ้ำมาจากคนที่เขาเกลียด

“…”

“กูจะทำงาน ต้องการสมาธิ ช่วยออกไปจากตรงนี้ด้วย เป็นเจ้าของรีสอร์ทแล้วไม่มีงานการทำหรือไง”

“กูไม่ได้อยากอยู่ แค่จะดูให้แน่ใจว่ามึงทำจริงก็เท่านั้น”

“คอยเช็คตอนตากก็ได้”

“กูกลัวว่ามึงจะแค่เอาจุ่มน้ำแล้วขึ้นน่ะสิ”

“งั้นมึงคอยดมเอาก็ได้” อินทัชตอบอย่างหน่ายใจ

รามินทร์เป็นพวกที่ไม่ยอมใครจริงๆ ทั้งไม่ยอมฟังใคร และไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย

“งั้นกูจะคอยดู ถ้ามาตรวจแล้วมันไม่สะอาด กูจะให้มึงซักใหม่ทั้งหมด!! ทำซะ อย่ามัวแต่ยืนนิ่ง” สั่งเสียงแข็ง ซึ่งร่างโปร่งก็นั่งลงกับเก้าอี้ไม้เล็กๆ อย่างจำยอม มองกองเสื้อผ้าอย่างทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรเริ่มจากกองไหน

“อ้อ! ช่วยแยกกองด้วยนะ เพราะมันมาจากหลายๆ ส่วน หลายๆ แผนก”

“เออ”

“อีกชั่วโมงกูจะมาดู และต้องเสร็จ”
“มึงจะบ้านหรือวะ!!! ใครมันจะไปทำได้ เสื้อผ้าเยอะแยะแบบนี้ อย่างน้อยก็สามชั่วโมง” อินทัชตวัดสายตาขึ้นมองคนสั่งที่ไม่รู้ว่าตั้งใจแกล้งหรือว่าไม่รู้กันแน่

“กูต้องการให้เสร็จในหนึ่งชั่วโมง มึงก็ต้องทำให้เสร็จ”

ถ้ารามินทร์ยืนยันขนาดนี้แล้ว อินทัชจะค้านอะไรได้ เถียงไปก็เจ็บคอ เปลืองน้ำลายเปล่าๆ เขาเลยไม่เถียงอะไร แต่ลงมือซักตะกร้าแรกก่อน ไม่สนใจร่างสูงใหญ่อีกต่อไป

คนตัวใหญ่เองก็ยกยิ้มแบบพอใจนิดๆ ก่อนจะเดินจากธารน้ำตกไป เพื่อไปเคลียร์งานของตนต่อ ซึ่งในอีกหนึ่งชั่วโมงเขาจะกลับมาหาเรื่องมันแน่ๆ

ยังไงก็ไม่มีทางซักเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมงแน่นอน

“เสร็จกูแน่ไอ้คุณชาย หึหึ”


“พี่รามไม่คิดว่ามันจะเกินไปกับพี่อินหน่อยหรือฮะ” เสียงเล็กติดหวานของเจ้าจอมที่นั่งทำบัญชีในสำนักงานถามลูกพี่ลูกน้องที่อายุมากกว่าอย่างรามินทร์ทันทีที่อีกคนเข้ามาในตัวสำนักงาน

“แล้วเราจะไปสงสารมันทำไมล่ะจอม”

“พี่ราม แต่พี่อินเขาไม่ผิดอะไรเลยนะ”

“รู้ได้ยังไง! ก็เพราะมันนั่นแหละที่ทำให้รินเกือบฆ่าตัวตาย” ตะโกนเสียงดังลั่นจนร่างเล็กสะดุ้งด้วยความกลัว เพราะไม่เคยเห็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนของตนมีสีหน้าที่โกรธแค้นมากมายขนาดนี้มาก่อน

ทำเอาไม่กล้าพูดอะไรเลย ไม่กล้าพูดแม้กระทั่งความจริงที่ตนรู้ และเจ้าจอมคิดว่า...รามินทร์ในตอนนี้ ไม่รับฟังใครทั้งนั้น นอกจากตัวเอง

“ก็เพราะความเจ้าชู้ของมัน ก็เพราะมันนั่นแหละ ที่ทำรินอับอายคนทั้งมหา’ ลัย จนจะต้องฆ่าตัวตาย อย่าให้พี่ได้ยินว่าจอมกำลังเข้าข้างคนเลวพรรค์นั้นอีกนะ”

 “ฮะ...จอมจะไม่พูดแล้ว”

“ดีมากครับ คนดีของพี่” รามินทร์ปรับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว ความอ่อนโยนที่เจ้าจอมมักจะได้รับอยู่เสมอก็กลับคืนมา มือใหญ่ลูบเบาๆ ที่กลุ่มผมนุ่มของเขา รอยยิ้มอบอุ่นมอบให้กับเจ้าจอมเหมือนอย่างเคย

บอกตามตรงว่าเขาไม่อยากเห็นพี่ชายในโหมดนั้นอีกแล้ว

ก็คงจะต้องรอให้พี่ราม พร้อมที่จะฟัง และรับความจริงเท่านั้นแหละ แม้ว่าตอนนั้น มันอาจจะทำให้พี่เขารู้สึกผิดจนวันตายเลยก็ได้...

“ฮะ จอมเคลียร์บัญชีเสร็จแล้ว จะออกไปอ่อยจักรหน่อยนะครับ” นี่แหละคือเจ้าจอมตัวจริง

“หึหึ ตามสบายก็แล้วกัน พี่เองก็จะไปทำงานต่อ อ้อ! รู้สึกว่าจะมีสาวครัวคนหนึ่งคิดจะจีบจักรมันอยู่นะ ชื่อ...เอ...ชื่อปิ่นล่ะมั้ง ถ้าจำไม่ผิด” รามินทร์บอกน้องชายเมื่อคิดอะไรบางอย่างออก

“ว่าไงนะ อีไหน มันบังอาจมาชอบผัวกู!!”

ดวงตาสวยเบิกกว้างอย่างตกใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นไม่พอใจ ร่างเล็กเดินฟึดฟัดออกจากสำนักงานทันทีโดยมีรามินทร์มองตามอย่างระอาบวกกับสงสารจุลจักรไปด้วย

“นางฟ้าของแกน่ะ ที่แท้ก็นางมารดีๆ นี่เองไอ้จักร”

ใครจะไปรู้ว่าสองปีที่ผ่านมา เจ้าจอมให้ท่าจักรทุกวันนั่นแหละ แต่เจ้าตัวมันเป็นพวกอ่อนหัด อ่อนประสบการณ์ เลยมองเจ้าจอมไม่ออก...

และรามินทร์รับรองได้ว่า จักรไม่พ้นเงื้อมือของมัจจุราชแสนน่ารักอย่างเจ้าจอมไปได้แน่นอน หากแต่รามินทร์ก็คงไม่รู้ว่าในไม่ช้า ตัวเองก็จะหลงมัวเมากับความแค้นแสนหวานที่เขามอบให้กับอินทัชเอง...






หนึ่งชั่วโมงผ่านไป

“ทำไมถึงไม่เสร็จ” ร่างสูงกอดอกถามคนตัวเล็กกว่าที่กำลังนั่งขยี้ผ้าอยู่ที่เดิม อารมณ์กรุ่นๆ ไม่พอใจเริ่มตีขึ้นมาตามที่ตัวเองบังคับให้รู้สึก

“ก็ไม่เสร็จไง จะอะไรนักหนา”

“กูบอกแล้วไงให้มึงทำให้เสร็จในหนึ่งชั่วโมง นี่อะไร เสร็จยังไม่ถึงครึ่งเลย แล้วไอ้ที่ซักๆ เสร็จก่อนก็ไม่ยอมเอาไปตากก่อน เดี๋ยวผ้ามันก็อับอีก โง่จริงๆ เลยมึง” ทั้งสอน ทั้งด่าไปในตัว แต่อินทัชก็ฟังเป็นคำด่ากับคำถากถางมากกว่า

“ก็มึงให้เวลากูน้อยไปไง กูเลยกะทำทีเดียว ตากทีเดียว”

“เออ!! งั้นให้อีกหนึ่งชั่วโมง เสร็จแล้วก็ไปตาก อ้อ เสร็จจากตรงนี้ เก็บของให้เรียบร้อยนะ แล้วไปทำข้าวเที่ยงให้กูแดกด้วย ย้ำ! มึงต้องทำ”

“กูทำอาหารไม่เป็น”

“ก็หัดสิวะ!! อยู่ที่นี่มึงต้องเป็นทุกอย่าง เพราะไม่มีคนใช้ให้มึงหรอกนะ”

ใครอยากอยู่วะไอ้สัตว์!!!

“ไม่ต้องด่ากูในใจ กูไปแล้ว อารมณ์เสีย เห็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ งานแบบนี้ก็ทำไม่เป็น สงสัยเป็นแต่จับปากกากับสั่งลูกน้องให้ทำทุกอย่างให้แน่ๆ หงุดหงิดจริงๆ” รามินทร์บ่นไป ด่าไป ระหว่างที่เดินออกจากตรงนี้ ทำเอาอินทัชแทบจะขว้างแปรงซักผ้าใส่หัวอีกคน แต่ก็ทำไมได้ เลยเอาความโกรธ ความโมโหมามาลงที่เสื้อผ้าพวกนี้แทน

เขาใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการซักผ้าที่เหลือและเอาเสื้อผ้าไปตาก ก่อนจะเก็บของเข้าที่เดิม ล้างไม้ล้างมือให้เรียบร้อยแล้วเดินไปที่โรงครัว ซึ่งร่างโปร่งบางไม่ได้สังเกตหรือรู้สึกที่มือเลยว่า มันแดงมากขนาดไหน

“ผมมาทำอาหารเที่ยงให้ไอ้รามครับ”

“ตามสบายเลยค่ะ” ป้าหัวหน้าแม่ครัวตอบ ซึ่งร่างโปร่งก็ได้แต่ยิ้มเนือยๆ เดินไปมาแบบทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเกาแก้มเบาๆ ยิ้มแหยๆ ให้คนสูงวัย

“ทำไม่เป็น ช่วยสอนหน่อยครับ”

“ไม่มีปัญหาจ้า เอ๊ะ!! ว่าแต่มือแดงมากเลย ไม่คันหรือจ้ะ เหมือนแพ้อะไรสักอย่าง” เธอถามอย่างสงสัยที่เห็นมัน ซึ่งพอมีคนทัก อินทัชก็รู้สึกคันขึ้นมาทันที

แพ้ผงซักฟอก...

“ผมแพ้ผงซักฟอกน่ะครับ แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็หายครับป้านี”

“ได้ยังไงล่ะคุณอิน ต้องทายาและทานยาแก้แพ้ ถ้าอย่างนั้นมีโอกาสไข้ขึ้นเลยนะคะ” ว่าแล้วเธอก็จัดการสั่งลูกน้องให้หายาทากับยาทานมาให้ ก่อนจะจัดการทาที่มือแดงๆ ของอินทัชทันที และยังบังคับให้ร่างโปร่งทานยาอีกด้วย ฤทธิ์ของยาแก้แพ้คือทำให้ง่วง และคนที่นอนไม่ค่อยเพียงพออย่างเขา จะไม่ง่วงได้ยังไง

ตาจะปิดอยู่แล้ว

“คุณอินไปนอนพักเถอะค่ะ ทางนี้ป้าจัดการเอง”

“แต่ว่า…” เขาลังเล เพราะกลัวว่าร่างสูงจะรู้และหาเรื่องทั้งเขาและป้านี ซึ่งหาเรื่องเขาเขาไม่ว่า แต่ถ้าหาเรื่องคนอื่น อินทัชไม่มีทางยอม

“รับรอง...ป้าไม่ให้คุณรามรู้แน่ๆ คุณอินนอนที่แคร่ตรงนั้นก็ได้ค่ะ ป้าเอาไว้นอนพักนั่นแหละ” เธอชี้ไปยังแค่ที่อยู่ห่างจากพื้นที่ทำอาหารประมาณสองร้อยเมตร

“ไม่ดีกว่าครับ”

“ไปพักค่ะ!!” เธอสั่งเสียงเข้ม จนอินทัชต้องเกรงเพราะเธออายุมากกว่า ร่างผอมโปร่งเดินไปยังแค่แล้วนอนลงอย่างช่วยไม่ได้ ไม่นานเขาก็หลับไปด้วยฤทธิ์ยา...






50%

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

   หายไปนานเลย งานเยอะจริงๆ ค่ะ และนี่ก็อยู่ในช่วงสอบมิดเทอม บวกกับวันที่ 6 นี้ ยูกิจะไปงาน Gen Y  ใครสนใจก็ไปกันได้นะคะ ^_^ ครึ่งหลังจะมาหลังวันจันทร์นะคะ ช่วยเม้นท์ๆ ให้หายคิดถึงด้วย แหะๆ

https://www.facebook.com/sawachiyuki/


ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
อิราม ชั้นเกลียเแก  :z3:
เปลี่ยนพระเอกทันมั้ยคะ 555+

ปล.ดีใจที่มาต่อนะคะ รอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาต่อแล้ววววววมาบ่อยๆนะ

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ยังคงร้ายแบบไม่มีเหตุผลเช่นเดิม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
หมั่นไส้อิรามจัง

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สงสารอินทัช  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :angry2:


เมื่อไหร่จะได้เอาคืนสักที พูดสิ !!!

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pig4: รอติดตามตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
คิดถึงจางงงงเลย..คิดถึงทั้งยูกิ..คิดถึงทั้งอิน..

ออฟไลน์ boommerang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
บางครั้งการรอนานๆมันก็ลืมอ่ะ

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
คิดถึงอินทัชชชชชชชชชชชช

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 9
ครึ่งหลัง





ซ่า!!!

“ไอ้เหี้ยอิน ตื่น!!!”

ร่างโปร่งสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะความเย็นของน้ำที่สาดมาที่กายเขาจนเปียกโชก ไม่ต้องลืมตามองก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ เจ้าตัวค่อยๆ ลุกขึ้นมา ก่อนจะลูบน้ำที่หน้าออกแบบไม่รู้สึกอะไร เพราะรู้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้

“อู้นะมึง!!”

“โทษที...” ร่างผอมโปร่งที่ตัวเปียกโชกลุกขึ้นยืน หันมองไปยังรอบๆ ก็พบว่าคนครัวพากันมองเหตุการณ์อย่างสนใจ ดวงตาสวยมองสบกับป้านีที่มองอย่างรู้สึกผิดก่อนจะยิ้มให้คนอายุมากกว่าน้อยๆ แบบไม่ได้โกรธอะไร

“ใครอนุญาตให้มึงนอน อยากลองดีหรือไงวะ!!” ตวาดใส่หน้าสวยอย่างโมโห ขว้างถังน้ำในมือลงพื้นด้วยความไม่พอใจแบบรุนแรง ทำเอาลูกน้องสะดุ้งเป็นแถว เนื่องจากไม่เคยเห็นเจ้านายในโหมดนี้เลย เพราะในสายตาของลูกน้องทุกคน รามินทร์คือคนที่อบอุ่น อ่อนโยน และใจดี การที่เห็นเจ้านายโกรธเกลียดอินทัชแบบนี้ ก็ทำให้พากันคิดไปต่างๆ นาๆ ว่าอินทัชเป็นคนที่ไม่ดีหรือเปล่า หรือทำอะไรร้ายแรงไว้แน่ๆ

ตอนนี้ ทุกคนมองร่างโปร่งแบบติดลบไปแล้ว เพราะยัง เจ้าชีวิตของพวกเขาก็เป็นคนดี...ดีมากๆ สำหรับพวกเขา

“ป้าเองค่ะ คุณราม พอดีว่าคุณอินแพ้ผงซักฟอกเลยให้ทายากับกินยาแก้แพ้ แล้วฤทธิ์ยาเนี่ยมันทำให้ง่วง ป้าก็เลยให้คุณอินไปนอน ถ้าจะทำโทษ ก็ทำป้าเถอะค่ะ” ป้านีรีบเดินเข้ามาแสดงตัว เพราะไม่อยากให้อินทัชโดนทำโทษในสิ่งที่เจ้าตัวเขาไม่ผิด

เธอผิด เธอรับเอง

“ป้านี...ทีหลังอย่าให้มันพักนะครับ ต่อให้มันกำลังจะตายก็อย่าให้มันพัก ถ้าผมไม่อนุญาต ใครก็ห้ามช่วยเหลือเด็ดขาด เข้าใจนะครับ” รามินทร์พูดบอกเสียงอ่อนลง

ยังไงป้านีก็คือคนงานเก่าแก่ตั้งแต่ตอนที่พ่อของเขาบริหารอยู่ เป็นคนที่เขานับถือและเคารพมาโดยตลอด

“ค่ะ...แต่ขอทราบได้ไหมว่าทำไมต้องทำคุณเขาถึงขนาดนี้ด้วย”

“มันเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกผม ป้าไม่ต้องกังวล ผมไม่ทำมันถึงตายหรอกครับ” เสียงโหดเหี้ยมของรามินทร์ทำให้ทุกคนต่างเกรงกลัว มองหน้ากันเลิกลัก แต่อินทัชกลับรู้สึกเฉยๆ

“ไม่ต้องกังวลหรอกครับ เราทะเลาะกันนิดหน่อยน่ะ” อินทัชตอบออกไป ทำเอาทุกคนต่างซุบซิบกันหนัก และเป็นในทางที่เขาคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินเหมือนกัน

“แฟนของคุณรามหรือเปล่า สงสัยจะมีชู้อะไรแบบนี้ แล้วคุณรามก็โกรธ เอามาทำโทษไง ว่าไหมแก”

“ฉันก็ว่าแบบนั้นแหละ”

สาบานว่านี่กระซิบแล้ว...

“ไม่ใช่ครับ เราไม่ใช่แฟนกัน แค่ ‘เพื่อน’ กันครับ” อินทัชรีบแก้ตัว ซึ่งทำเอาคนที่พูดเมื่อกี้ตกใจ ไม่คิดว่าใครจะได้ยินสิ่งที่ตนพูด

ขอบอกว่าเป็นเพื่อนดีกว่า...เพราะการที่จะบอกว่าไม่รู้จักกันเลย แล้วโดนจับมาทำแบบนี้ มันจะทำให้ทุกคนสงสัยหนักเข้าไปอีก ไม่อยากให้บานปลายไปมากกว่านี้ ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าเพื่อนทะเลาะกันน่ะดีแล้ว หากแต่อีกคนก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือเท่าไหร่นัก

“อย่าพยายามทำให้ตัวเองดูดีหน่อยเลย ที่ลูกน้องกูพูดก็ถูก มึง ‘นอกใจ’ กูไง ถ้ามึงไม่ทำกู ‘เจ็บ’ ก่อน มึงก็ไม่ต้องมาชดใช้แบบนี้!!! ทุกคนทำงานต่อครับ ส่วนมึง...ตามกูมา!” แขนเรียวขาวถูกกระชากอย่างรุนแรงเป็นการบังคับให้เดินตาม ก่อนที่จะออกจากโรงครัว หูของเขาก็ได้ยินเสียงนินทาดังตามมา

และแน่นอน...ว่าเขา กลายเป็นคนร้ายไปโดยปริยาย


ปึก!!!

แผ่นหลังของอินทัชกระแทกเข้ากับแผ่นหินหนาที่อยู่ตรงธารน้ำตกอย่างแรง จนใบหน้ายู่ยี่เพราะเจ็บ ส่งเสียงร้องออกมาอย่างไม่อาจจะทนได้

“โอ้ย!!”

“มึงนี่ขยันทำให้กูโมโหจริงๆ เลยนะไอ้สัตว์” มันกระชากคอเสื้อยืดขึ้นมาจนคอแหงนตามแรงของอีกคน ส่วนคอเสื้อก็รัดคอจนหายใจลำบาก

“อ่ะ อะไรของมึง”

“กูสั่งให้มึงทำอาหารมาให้กูกิน แต่มึงกลับนอนอู้ ให้ป้านีทำอาหารให้กูแทน ขัดคำสั่งกูนะมึง บอกกูซิ! กูควรลงโทษมึงยังไง”

“ก็แล้วแต่มึง อยากทำอะไรก็ทำ อึก...กูมีสิทธิพูดอะไรหรือไง”

“ยังจะมาพูดจากวนประสาท”

“อึก!!”

อีกแล้ว รามินทร์มันกำลังจะฆ่าเขาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าอะไรนักหนา แค่เขานอนเท่านั้นเอง มันต้องโกรธจนกระทั่งต้องลงไม้ลงมือเชียวหรือ

“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ห้ามมึงมากินข้าวที่โรงครัว อยากกินก็ทำเอง อ้อ!! ใช้ผักในสวนนั่นแหละทำ ส่วนไข่ ถ้าอยากได้มึงก็ต้องเอาเงินค่าแรงไปซื้อจากโรงครัวเอาเอง ส่วนเนื้อสัตว์ กูไม่ให้มึงกิน และเครื่องปรุง...กูจะใจดีอนุเคราะห์ให้ ข้าวกูก็จะให้ทุกเดือน ไม่มีเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า อยากทำก็จุดไฟ เตาถ่านเอาเอง” ร่างสูงสั่ง ทำเอาอินทัชถึงกับเบิกตาด้วยความตกใจ

ไม่มีทางแน่ๆ คราวนี้เขาได้ตายเพราะอดตายแน่ๆ

เขาทำอาหารไม่เป็น ไม่เคยทำ ไม่เคยแตะเลยสักครั้งในชีวิต ลำพังที่เรียนๆ กับป้านียังไม่เข้าหัวเท่าไหร่ แต่นี่ต้องมาทำเอง...

“มึงจะบ้าหรือวะ อึก! กูทำอาหารไม่เป็น”

“ช่วยไม่ได้” รามินทร์ว่าอย่างไม่ใส่ใจ ปล่อยคอเสื้อแล้วผลักร่างของคนที่บางกว่ากระแทกโขดหินอีกครั้ง มองอินทัชอย่างเหนือกว่า “ถ้าไม่อยากอดตาย มึงก็ต้องทำ”

“มึงมันเลือดเย็น”

“แต่ก็ไม่เท่ามึงหรอกมั้งไอ้อิน ถ้ากูมันคนเลือดเย็น คนอย่างมึงเรียกว่าอะไร คงจะเรียกว่า...คนไม่มีหัวใจล่ะมั้ง หึหึ” ไม่ว่าจะพูดอะไร รามินทร์ก็วกกลับไปเรื่องเดิมๆ จนได้

จะพูดอีกสักกี่ครั้งกัน...

“กูไม่ได้กินข้าวเที่ยงเพราะมึง ฉะนั้นวันนี้มึงก็ต้องอด”

“เออ!! ไม่กินก็ได้ แล้วมีอะไรจะทำโทษกูอีกไหมวะ รำคาญหน้ามึงฉิบหาย!!”

“ปากดีนะไอ้สัตว์ เอาอีกสักหมัดไหมวะ!!” รามินทร์ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมอารมณ์ของตนถึงได้ขึ้นง่ายแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะอคติที่มีต่ออีกคน ที่เห็นแค่หน้าก็อยากหาเรื่องแล้ว

“มึงก็ต่อยมาสิวะ!!! คิดว่ากูไม่สู้หรือไง” สิ้นคำท้าทายของร่างโปร่ง หมัดหนักก็ประเคนเข้ามาที่แก้มซ้ายเต็มๆ ทำเอาหน้าหันไปตามแรง แต่เขาก็โกรธเกินกว่าที่จะเจ็บ และไม่ทันที่รามินทร์จะรู้ตัว..

ผลัวะ!!!

อินทัชก็สวนกลับคืนอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกัน เล่นเอาปากของรามินทร์เต็มไปด้วยเลือด จนต้องถุยมันออกมาด้วยท่าทางที่โกรธสุดๆ สวนกลับอีกครั้ง และอินทัชก็สวนกลับไปอีกไม่ยอมแพ้ จากที่ต่างคนต่างสลับกันต่อย ทั้งคู่ก็เข้าปะทะกัน โดยที่อินทัชเสียเปรียบเล็กน้อยเพราะตัวบางกว่า แรงน้อยกว่า หากแต่ก็สามารถทำให้หน้าหล่อๆ ของรามินทร์มีแผลได้เหมือนกัน

คนอย่างอินทัช...ไม่ใช่คนที่ไม่สู้ใคร แต่เขาเป็นผู้ชาย ที่พร้อมเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน...

“อะไรกันเนี่ย!!”

“คุณราม” เสียงทุ้มพึมพำชื่อเจ้านายตัวเองเบาๆ อย่างไม่เชื่อสายตา

“ขรรค์ๆ ไปแยกพวกเขาร็ว”

“อ่ะ อือ”

หมอเงินที่เดินตามขรรค์มาที่นี่เห็นภาพที่เพื่อนคนใหม่กำลังเสียเปรียบเจ้าของที่นี่ก็อยู่ไม่สุข ทั้งเป็นห่วงและกังวลกลัวว่าอินทัชจะเจ็บหนัก เลยบอกเสียงละล่ำละลักให้ขรรค์เข้าไปแยกทั้งคู่ ซึ่งคนตัวใหญ่อย่างขรรค์เข้าไปช่วยแยกยังถูกลูกหลงไปด้วย หากก็สามารถแยกทั้งสองได้สำเร็จ

“พอแล้วครับ!!!” เป็นครั้งแรกที่ขรรค์คนซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อรามินทร์จะกล้าตะโกนใส่หน้าเจ้าชี้วิตแบบนี้ และนั่นมันก็ทำให้รามินทร์ได้สติ คิดโทษตัวเองที่ทำให้ลูกน้องมาเห็นภาพแบบนี้เข้า

มันไม่ใช่ภาพที่น่าดูจริงๆ

“อินครับ เป็นอะไรหรือเปล่า” ร่างโปร่งของหมอเงินรีบเข้าไปประคองอินทัชที่กำลังจะล้มลงแล้วถามอย่างเป้นกังวล

“ไม่...ครับ” ตอบเสียงสั่นๆ

“ผมจะพาจะไปทำแผล ขรรค์พาเจ้านายขรรค์ไปทำแผลด้วยนะ อ้อ! คุณรามครับ วันนี้ผมขอละกันนะครับ ให้อินพักหน่อย” ไม่รู้ว่าทำไม หมอเงินถึงได้กล้าพูดขอออกไปขนาดนี้ ทั้งๆ ที่กลัวว่ารามินทร์จะขัดขวางไม่ให้เขากับขรรค์เจอกันอีกเหมือนกัน

“ไม่! มันต้องไปทำงานต่อ เหลือความสะอาดห้องเก็บของ”

“แต่ว่า...” เงินทำท่าจะค้าน แต่อินทัชก็ห้ามไว้ก่อน

“ผมทำได้ครับหมอเงิน เดี๋ยวทำแผลเสร็จผมจะไปทำงานต่อ”

“เอางั้นหรือ” มีท่าทีที่ลังเล เนื่องจากเขาเป็นหมอ เห็นคนเจ็บ ย่อมก็อยากให้คนๆ นั้นพักผ่อน พักฟื้นร่างกาย ไม่ใช่ต้องมาทำงานตรากตรำต่อไป

“ครับ”

“งั้นผมขอช่วยอินด้วย คงไม่ว่ากันนะครับคุณราม” หันไปขออนุญาตกับรามินทร์แทน ซึ่งร่างสูงก็ทำท่าครุ่นคิดไปสักพักก่อนจะยอมพยักหน้าจำยอม

“แล้วแต่หมอแล้วกัน”

“ขอบคุณครับ”

“ไอ้ขรรค์ แกพาฉันไปบ้านหน่อย แล้วค่อยกลับมาคุมงานไอ้อินมัน จะได้ไม่เอาเวลาทำงานไปอู้อีก” ไม่วายแขวะร่างโปร่งบางอีกครั้ง

“ครับ”

“ไปกันเถอะครับหมอ หายใจไม่ออก อากาศมีพิษ” ฝั่งนี้ก็ใช่ย่อย ตอกกลับทันที ก่อนที่หมอเงินจะตัดปัญหาด้วยการประคองร่างของอินทัชไปยังบ้านพักของเจ้าตัวที่อยู่ห่างไม่ไกลนัก

พอถึงบ้านพัก หมอเงินก็ให้อินทัชนั่งรออยู่ตรงแคร่ด้านล่าง ส่วนตัวเองก็ไปเอาอุปกรณ์ทำแผลที่รีสอร์ทมาแล้วลงมือทำแผลที่ใบหน้าสวยของอินทัชทันที

“ปากแตก หน้าช้ำหลายที่มากเลยครับอิน แบบนี้ต้องกินยาแก้อักเสบเอาไว้ด้วยนะ ไม้งั้นไข้ขึ้นแน่ๆ เย็นๆ ผมจะเอามาให้ก็แล้วกันนะ”

“ไม่ต้องลำบากก็ได้หมอเงิน”

“ลำบากอะไรล่ะ เราเพื่อนกันนะครับ”

“ขอบคุณนะหมอ” เอ่ยขอบคุณหมอเงินเสียงสั่น ดวงตาร้อนผ่าวเหมือนน้ำตาจะไหลลงมา หากแต่เขาก็พยายามกระพริบตาถี่ๆ เพื่อไม่ให้มันไหลออกมา

ไม่อยากอ่อนแอให้ใครเห็น

“เจ็บไหม” หมอเงินถามเสียงอ่อนโยนระหว่างที่มือก็ทำแผลไปด้วย

“เจ็บอะไรล่ะหมอ กายหรือว่าใจ แต่ถ้าจะให้ตอบ เจ็บกายมันไม่เท่าเจ็บใจหรอก มันเจ็บสุดๆ แล้ว ผมต้องมารับกรรมอะไรก็ไม่รู้ ไม่เห็นจะเข้าใจเลยหมอ...”ระหว่างที่ระบายไป น้ำตาใสก็ไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่อยู่จนได้ หมอเงินทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ลุกขึ้นแล้วโน้มตัวกอดอินทัชเบาๆ อย่างปลอบใจ

“ไม่เห็นจะเข้าใจเลย...” เสียงสั่นเทาทำเอาเงินอยากจะร้องตาม

“ผมจะอยู่กับอินเอง ใครไม่เชื่ออิน ผมจะเชื่ออินเอง ใครจะว่าอินยังไง ผมจะเป็นคนเดียวที่จะฟังอิน เพราะงั้น เข้มแข็งนะครับ”

“ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วหมอ อยากกลับบ้านแล้ว”

“ผมก็อยากช่วยคุณนะอิน แต่ว่า...”

“เข้าใจครับ อึก...ผมเข้าใจดี อย่าต้องมาเดือนร้อนเพราะผมเลย”

“ไม่ๆ อิน มันไม่ได้เดือดร้อนอะไร อย่าคิดแบบนี้ ผมบอกแล้วว่าผมเป็นเพื่อนคุณ ฉะนั้นแล้ว ผมช่วยคุณไม่ได้ แต่ผมอยู่ข้างๆ คุณได้” มือขาวลูบเบาๆ ที่กลุ่มผมนุ่มของอินทัช ส่วนร่างโปร่งก็ซบไหล่ของเงินเพื่อระบายน้ำตาออกมา

จะร้องไห้...จะร้องให้พอ แล้วจะเข้มแข็งให้มากกว่านี้

สักวันหนึ่ง... สักวันหนึ่งเขาจะได้กลับบ้าน

สักวันหนึ่งเขาจะได้ออกไปจากที่นี่...






“ไปดูมันทำงาน เดี๋ยวฉันจัดการทำแผลเอง” รามินทร์เอ่ยไล่ขรรค์ทันทีที่ถูกประคองเข้ามาในห้องนอน

“ครับ...”

“แล้วอย่าเอาเรื่องนี้ไปพูดบอกใครล่ะ ช่วยเก็บเป็นความลับด้วย”

“ได้ครับ”

“อืม...ไปได้แล้ว”

“ขอตัวครับ”

เมื่อขรรค์ออกจากห้องไป ร่างสูงของรามินทร์ก็ทิ้งตัวนอนราบกับเตียงนุ่มทันที ยกแขนขึ้นก่ายหน้าผาก พลางครุ่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย และทุกเรื่องที่คิด

เป็นเรื่องของอินทัชทั้งนั้น

“ไม่เคยรู้สึกเลือดร้อนแบบนี้มาก่อนเลยว่ะ”

คิดภาพใบหน้าสวยราวกับผู้หญิงของอินทัชมีแต่รอยช้ำก็รู้สึกสมเพชตัวเองที่เหมือนจะรังแกคนที่อ่อนแอกว่า แม้ว่าหน้าของเขาจะมีแผล แต่ก็ไม่เยอะเท่ากับอีกคนที่เขาปล่อยหมัดไม่ยั้ง

ตอนนั้นเขาคิดว่ามันเป็นอะไรนะ ถึงได้ทำลงไปได้ขนาดนั้น

“โว้ย!!!”

รามินทร์ตะโกนลั่นเพราะความว้าวุ่นใจ รู้สึกผิดหรือ? ก็ใช่ อยากขอโทษหรือเปล่า ก็ไม่ มันเป็นความรู้สึกผิดที่ไม่อยากขอโทษ ใจหนึ่งก็คิดว่าสมควรแล้ว แต่อีกใจก็คิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย

น้องสาวของเขา เขาช่วยไว้ได้ทัน เลยไม่บาดเจ็บตรงไหน แต่อินทัช...เขากลับทำร้ายมัน ทำร้ายซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า

“สิ่งที่มึงทำ ถูกแล้วไอ้ราม อย่าใจอ่อนเด็ดขาด”

มันยังไม่สาแก่สิ่งที่มันทำไว้เลยสักนิด!!

อินทัชต้องชดใช้อีก เมื่อพอใจ...เขาจะปล่อยมันไป

“ถ้ากูพอใจ แล้วมึงคุกเข่าขอโทษน้องกูแล้ว กูจะปล่อยมึง แล้วต่างคนต่างอยู่” ฉะนั้น อย่าตายไปก่อนล่ะ...

นอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เสียงโทรศัพท์ของรามินทร์ก็ดังขึ้น พร้อมกับเบอร์โทรศัพท์จากต่างประเทศที่รู้เลยว่าใครโทรมา เขายิ้มอ่อนโยนแล้วรับสายทันที

“ว่าไงครับริน…พี่ก็คิดถึงรินเหมือนกัน...พี่สบายดี แล้วรินล่ะ...ฮ่าๆ มีหนุ่มแล้วอย่าลืมเอามาให้พี่สแกนนะ...แล้วจะกลับมาตอนไหน เรียนจบแล้วไม่ใช่หรือ อ๋อ อีกสองเดือน วันเกิดพี่สินะ โอเคครับ ครับ...ฮ่าๆ ได้ๆ เดี๋ยวพี่จะโทรหารินบ้าง ไม่เอา ไม่น้อยใจพี่นะคนดี พี่รักรินครับ ครับ บาย”

รามินทร์วางสายจากรินลณีด้วยรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก เนื่องจากเขามีกันสองพี่น้อง ฉะนั้นแล้ว รามินทร์จึงรักและหวงน้องสาวมาก ไม่แปลกใจที่จะแค้นเคืองอินทัชขนาดนั้น แค่คนว่าน้องสาวเขานิดๆ หน่อยๆ รามินทร์ก็พร้อมที่จะจัดการให้

เพราะรินลณีเป็นเหมือนคำสั่งเสียของแม่ที่กำลังจะจากไป

‘ดูแลน้องดีๆ รักน้องให้มากๆ นะลูก อย่าทิ้งน้องนะ แม่รักลูกนะราม’

แม้ว่าแม่เลี้ยงจะรักเขากับรินลณีเหมือนลูกแท้ๆ แต่ก็ไม่อาจจะแทนที่แม่บังเกิดเกล้าที่เสียไปเมื่อ 10 ปี ก่อนได้ เขารักทั้งสองท่านก็จริง แต่คำสั่งเสียในวันนั้นยังฝังลึกอยู่ในหัวใจจนถึงทุกวันนี้...






100%

 :katai5: :katai5: :katai5:

   จะหาว่ารามงี่เง่าก็ได้ แต่อยากจะบอกว่าคนแบบรามมีจริงๆ นะคะ ไม่ยอมฟังอะไรเลย เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ และคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำน่ะถูกแล้ว ฉะนั้น รามจะค่อยๆ ปรับใหม่เพราะด้านดีของอิน (แอบสปอย)

   เม้นๆ กันด้วยน้า... มีอะไรก็ไปพูดคุยกัน ทวงนิยายที่แฟนเพจนะคะ การแจ้งข่าวสารอะไรจะอยู่ที่นั่นหมดเลย https://www.facebook.com/sawachiyuki/


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เอ่อมม. อยากให้ดำเนินเรื่องให้ไวกว่านี้นิดนึงนะ รู้สึกซ้ำไปซ้ำมาจุดเดิมคือรามแกล้งอินสารพัด. ซึ่งคิดว่ามันยืดเยื้อเกินไป ไม่ค่อยมีการพัฒนาเลย

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
อืมมมม เราว่าอินน่าสงสารเกินไปละ
อินี่อยากดราม่าแล้ววววววว นุ้งอินโดนกลั่นแกล้งเยอะขนาดนี้ สมควรค่อยๆไปต่อได้ละเนาะ
เราว่ามันยังวนลูปกับการแกล้งอินอยู่เลย
รอตอนต่อไปเนาะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
กว่าอิรามมันจะปรับตัวใหม่ น้องอิน(ของอิชั้น) ไม่ช้ำในตายไปก่อนเหรอ :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สงสารอินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :hao5: :hao5:อินสู้ๆนะอย่ายอมแพ้อิรามมัน

ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ไม่อยากให้อินรักรามเลยค่ะ

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
ราม เลวเข้าไป เลวให้มันเยอะๆ
ตอนโดนเอาคืน มันจะได้เจ็บเยอะๆเหมือนกัน
ทำอะไรเค้าไว้ มันจะตามทันเข้าสักวัน
ชั้นหล่ะสงสารอิน ทนหน่อยนะค้าอินทัชของเจ้
อยากให้รามเจ็บ #ทีมอิน

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
อยากให้อินหนีไปจริง ๆ อยากจะรู้เหมือนกันว่ารามจะรู้สึกยังไง

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 10
อินทัช หัดทำอาหาร




เคร้ง!!

ปึก!!

ร่างโปร่งกอดอกพิงราวบันไดมองลูกน้องของรามินทร์ เอาของที่ใช้ทำอาหารมาลงให้ที่ใต้ถุนของบ้านพักโทรมๆ หลังนี้ สายตาที่เขาใช้มองไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆ ทั้งนั้น แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความกังวล เพราะอินทัชรู้ตัวเองดีว่าการทำอาหารของเขาอยู่ในขั้นที่ติดลบสุดๆ แม้จะเรียนๆ ไว้บ้างก็รู้แค่ทฤษฏี ไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้ตามที่ใจคิดเท่าไหร่

“หมดยัง” ถามเสียงเรียบ

“ก็หมดแล้ว คุณรามท่านสั่งมาแค่นี้” ลูกน้องคนดังกล่าวตอบ

“แล้วไอ้นั่น มันคืออะไร” ร่างสูงโปร่งชี้ไปยังสิ่งที่ตนไม่รู้จัก

“นี่แกไม่รู้จักเตาหรือวะ”

“เตา?”

เตาอะไรรูปร่างแปลกๆ แล้วมันใช้ยังไงกัน ที่เคยใช้ในการแคมป์ปิ้งไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย

“เออ! มันเรียกว่าเตาถ่าน มองแบบนี้แสดงว่าใช้ไม่เป็นสินะ ถ้างั้นจะทำให้ดูเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน” ลูกน้องของรามินทร์ใจดีแสดงวิธีจุดไฟกับเตาให้อินทัชดู ซึ่งเขาก็มองตามแล้วรู้สึกหนักใจ

“ฉิบหายแล้วไหมล่ะชีวิต...” พึมพำกับตัวเองเบาๆ

“ก็แค่นี้แหละ จุดไม่ติดหรอก แค่สาธิตตามคำสั่ง ยังไงแกก็ต้องจุดเอง คุณรามสั่งมาอย่างนี้ ไปล่ะ ขอให้โชคดี...” อินทัชถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อลูกน้องที่แสนจะภักดีต่อเจ้านายเดินจากไป ทิ้งเขาไว้กับกองข้าวสาร เครื่องปรุง เตา ถ่าน กับฟืนอันน้อยนิด

“ไอ้อินเอ้ย!! แค่อาหารยังเอาตัวไม่รอด แต่นี่ให้มาจุดไฟกับเตาถ่านอีก จะอดตายก็คราวนี้แหละ” แม้จะเป็นประโยคที่ดูจะไม่ซีเรียสอะไรมาก หากแต่ความเป็นจริงคือกลุ้มและกังวลสุดๆ

“แล้วจะทำอะไรกิน หุงข้าวทำยังไง กับข้าวทำยังไง โว้ย!! ไม่แดกแม่งแล้ว ทำงานดีกว่า ฮึ่ย!!” แต่คิดอีกทีถ้าไม่ทำแล้วจะเอาแรงที่ไหนทำงาน เขาก็เลยต้องนั่งลงจุดไฟไปอย่างช่วยไม่ได้

โชคดีที่เคยแคมป์ปิ้งกับธีรไนยมาก่อน เรื่องแค่นี้ก็ไม่ยากเท่าไหร่ แต่อาหารนี่สิ...

“หุงข้าว แล้วก็กินคลุกซอสเอาก็ได้วะ”

ประทังชีวิตไปก่อน ตอนเที่ยงๆ ค่อยแวบไปถามป้านีว่าทำยังไง จะได้ขอเนื้อ ไข่มาด้วย

“หม้อ...เอ ใช้น้ำอะไรหุงวะ น้ำดื่มๆ” เขาใส่ข้าวไปในหม้อสองด้วยเล็กๆ ก่อนจะไปที่โอ่งน้ำดื่มตักใส่หม้อทันที ไม่มีการล้างและการซาวแต่อย่างใด

“หลักการอะไรนะ น้ำสูงกว่าข้าวหนึ่งข้อนิ้วงั้นหรือ” นิ้วชี้จุ่มเข้าไปในหมอก่อนจะวัดน้ำว่าสูงกว่าข้อถึงหนึ่งข้อนิ้วไหม พอรู้ว่าเกินก็เทออกหน่อย แต่พอเทไป ก็เทมากเกินเลยต้องเติมอีก จนกระทั่งพอดีสุดๆ เขาก็เอามันวางลงบนเตาที่จุดไฟเรียบร้อยแล้วก่อนจะปิดฝา

“จะสุกตอนไหนวะเนี่ย”

นั่งรอไปไดสิบนาทีเขาก็เปิดฝาหม้อดูเพราะมันเดือดจนฟองดันฝาหม้อ อินทัชเอาช้อนตักเข้าขึ้นมาชิมดุว่ามันสุกหรือยัง

“ทำข้าวต้มเลยไหมวะ แฉะขนาดนี้” คิดได้ดังนั้นก็เริ่มเอาซอส เครื่องปรุงรสลงในหม้อเพื่อจะทำเป็นข้าวต้ม ส่วนข้าวที่เขาชิมก็ไม่แข็งแล้ว คิดว่าน่าจะทานได้

 “ถ้าไอ้ธีร์เห็น คงหัวเราะเยาะแน่ๆ”

อินทัชชิมน้ำซุปแล้วก็ปรุงไปด้วย พอได้รสชาติที่คิดว่าทานได้ ก็ปิดฝาต้มให้ข้าวมันดูเหมือนที่เคยทานมาที่สุด ทำไม่เป็น แต่ก็ขอใช้ความจำที่เคยทานๆ มาช่วยเอาก็แล้วกัน

“คงจะได้แล้วล่ะมั้ง เอาเถอะๆ มันไม่ตายหรอก แค่อาจจะปวดท้อง” อินทัชไม่อยากจะรอไปมากกว่านี้เลยตักข้าวต้มที่สีเข้มๆ เพราะซอสใส่ชามก่อนจะลงมือทานด้วยสีหน้าที่ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย

แม้ว่ารสชาติมันจะมีแต่ซอสกับผงปรุงรสและพริกไทยเล็กน้อย แต่อย่างน้อยก็ประทังชีวิตของเขาไปได้อีกมื้อหนึ่ง ร่างโปร่งตั้งใจเอาไว้อย่างแน่วแน่แล้วว่า

คงต้องหัดทำอาหารอย่างจริงจังสินะ








ร่างสูงโปร่งเดินจากบ้านไปเพื่อไปไซต์งานก่อสร้างที่สถานที่พักผ่อนของคนงานของรีสอร์ทใกล้จะเสร็จเข้าไปทุกที ในเจ็ดวัน อินทัชจะไปทำงานก่อสร้าง 3 วัน คือ จันทร์ พุธ ศุกร์ นอกนั้นจะเป็นทาสจิปาถะให้กับรามินทร์

พอร่างสูงของอินทัชเดินมาถึงที่ก็เจอกับจักรที่กำลังยืนมองร่างเล็กๆ ของเจ้าจอมอยู่ เขาเลยเดินไปด้านหลังของคนตัวใหญ่กว่าแล้วจี้เอวแรงๆ จนคนตัวสูงสะดุ้งหันมาด่าเสียงดัง

“เฮ้ย!!! ไอ้ควายไหนวะ!”

“กูเอง”

“ไอ้อิน...”

“เออ...ไม่ต้องเรียก มองเขาตาละห้อยเลยนะมึง” อดแซวคนตัวใหญ่ไม่ได้

“คุณจอมมาทำอะไรตอนนี้วะมึง” จักรถามด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้นและดีใจที่ได้เห็นคนที่ตัวเองหลงรักมายืนเป็นกำลังใจในการทำงานให้อยู่ใกล้ๆ

“หน้ามึงจะฟินไปไหนไอ้จักร เห็นแล้วขนลุก แล้วที่ถามกูนี่ กูควรรู้คำตอบไหม”

“ก็เห็นว่ามึงฉลาด คิดว่ามองออกว่าคุณจอมมาทำอะไรแถวนี้ เขามาหากูหรือเปล่า”


“เพ้อเจ้อนะมึง” ที่คิดน่ะถูกแล้ว เขามาหามึงนั่นแหละไอ้โง่

“เฮอะ! มึงก็ให้กูเข้าข้างตัวเองบ้างสิวะ ไหนมึงบอกว่าคุณจอมเขาชอบกูไง”

“ก็แล้วไงล่ะ”

“นี่สรุปมึงหลอกกูหรือวะ” จักรทำท่าจะบีบคอคนหน้าสวยที่เตรียมเดินหนีด้วยรอยยิ้มกวนๆ

“ไม่ได้หลอก กูพูดจริงๆ”

“เออ!!! กูเชื่อ ว่าแต่ว่า กูได้ยินมาจากคนงานน่ะ มึงเป็นคนรักของคุณรามจริงหรือเปล่าวะ?” สิ้นคำถามของจักร ใบหน้าที่ยิ้มๆ อยู่ถึงกับหุบลงทันที

กะแล้วว่ามันต้องสร้างเรื่อง...นี่พยายามมองข้ามพวกเหล่าคนงานที่มองมาที่เขาตลอดทางที่เดินมานี่แล้วนะ ไม่คิดว่าจักรมันจะกล้าถาม

“ข่าวมั่ว มึงอย่าไปเชื่อ”

“แต่คุณรามประกาศกลางโรงครัวเลยนะมึง ทุกคนในนั้นก็เห็นๆ กันหมด สรุปว่าจริงไม่จริง” จักรคาดคั้น

“มึงจะเชื่อกู หรือว่ามึงจะเชื่อคนอื่น” อินทัชถามด้วยสีหน้า แววตาและน้ำเสียงที่จริงจัง จนจักรลังเลมองสบตาของอินทัชอย่างต้องการหาคำตอบ

จ้องตาอยู่นาน จักรก็ทนไม่ไหว

“เออๆ กูเชื่อมึง ไม่รู้หรอกนะว่ามึงกับคุณรามมีปัญหาอะไรกัน แต่ว่านะ...ถ้ารู้ตัวว่าผิด มึงก็ควรขอโทษ”

ต่อให้สนิทกันขนาดไหน ยังไงซะ อินทัชก็เป็นคนที่ผิดในสายตาของคนที่นี่อยู่ดี คิดแบบนั้นแล้วน้ำตาเหมือนจะไหล เขาหันหน้าหนีจักร จนร่างสูงตกใจคิดว่าเพื่อนโกรธ

“อือ...ขอบคุณมึงมาก ขอตัวไปทำงานก่อนก็แล้วกัน เพราะกู...กำลังทำเพื่อไถ่โทษอยู่”

ร่างโปร่งบางของอินทัชเดินไปแบกอิฐ ขนทราย ผสมปูน งานเดิมๆ ที่เขาสามารถทำได้อย่างไม่ต้องการที่จะคุยกับจักรอีก คนเป็นเพื่อนก็ได้แต่เกาหัวแกรกๆ ไม่เข้าใจในสถานการณ์สักเท่าไหร่นัก ก่อนจะเริ่มลงมือทำงานตามอินทัชไป ไม่วายหันไปมองร่างเล็กของเจ้าจอมที่ยืนชมต้นไม้อยู่ใกล้ๆ ด้วยความชื่นชอบและสูบเอากำลังใจมา


“เฮ้ย!!! อิน ระวัง!!!”

ตุบ!!!

“โอ้ย!!!”

เสียงตะโกนของพี่คมทำเอาร่างโปร่งต้องรีบหลบคานไม้ที่กำลังหล่นจากตัวฐานวางไม้ด้านบนที่จะประกอบเป็นตัวตีเพดาน แต่ก็เสียจังหวะล้มลงไปทำให้คานไม้หล่นใส่ขาเต็มๆ

“อินๆ เฮ้ย! มึงเป็นไงบ้างวะ” จักรวิ่งเข้ามาหาเพื่อนด้วยความเป็นห่วง ยกไม้ออกจากขาเห็นรอยแดงและรอยช้ำที่เผยให้เห็นได้ชัด

“เจ็บสิวะ”

“พักก่อนไหมมึง ไปหาหมอเหอะ”

“เออๆ พี่ก็เห็นด้วยว่ะอิน เดี๋ยวพี่พาไป” คมเดินเข้ามาบอกด้วยความกังวล

“ไม่เป็นไร มันแค่ช้ำ ไม่กี่วันก็หายแล้ว” ร่างโปร่งพยายามลุกขึ้นเพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเขาไม่เป็นอะไรมาก ไม่พลิก ไม่แพลง แค่ช้ำตรงหน้าแข้งซ้ายเท่านั้น

ยังเดินได้ แค่เจ็บเล็กน้อยเท่านั้น

“มันช้ำก็จริง บางทีกระดูกอาจจะแตกก็ได้นะ ข้าว่าเอ็งไปหาหมอเถอะอิน เดี๋ยวพี่จะพาไป”

“พี่คม ฉันไม่เป็นไรจริงๆ พี่ เนี่ยเห็นไหม ยังเดินได้ อุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ” ร่างผอมโปร่งพยายามเดินให้ทุกคนในไซต์งานดูว่าตัวเองยังไหว ทำเอาคมต้องมองไปยังจักรด้วยสายตาแกมบังคับ

“งั้นก็พักหน่อย”

“กูไม่พัก กูไม่เป็นไรจริงๆ นะ ไอ้จักร ขอทำงานต่อก็แล้วกัน” ถ้าเกิดเรื่องนี้ถึงหูไอ้ราม มันจะต้องหาว่าเขาอู้อีก และที่สำคัญ ไม่อยากให้ทุกคนที่นี่โดนตำหนิด้วย

“ไอ้จักร จัดการดิ๊!” สิ้นเสียงคำสั่งของคม ร่างของคนอายุมากกว่าก็เดินไปทำงานต่อ พร้อมๆ กับคนงานที่กระจายไปทำงานเหมือนเดิม เหลือเพียงจักรที่ยืนมองอินด้วยสายตาไม่พอใจ

“อย่ามาดื้อนะมึง ไปนั่งพักไป”

“ไม่!!”

“ไอ้อิน จะเอางี้ใช่ไหม ฮึบ!!!” ร่างูงใหญ่ของจักรช้อนตัวของคนตัวเล็กกว่าขึ้นอุ้มในท่าที่อุ้มผู้หญิง จนร่างโปร่งบางตกใจนิ่งไปสักพักแล้วค่อยเริ่มดิ้น

“ไอ้ห่า อย่าอุ้มกู ไอ้สัตว์จักร มึงอย่าทำแบบนี้!!!”

อายฉิบหายเลย ให้ผู้ชายด้วยกันมาอุ้มเนี่ย

“ไม่ปล่อย อยู่นิ่งๆ กูจะพามึงไปนั่งพัก”

“แต่กูไม่พัก”

“มึงต้องพัก นิ่งนะมึง ไม่งั้นก็โยนมึงแน่ๆ” ขู่ออกไป

“กูไม่กลัว แน่จริงก็โยนสิวะ”

“ทำไมมึงถึงดื้อขนาดนี้ด้วยวะเนี่ย อย่าดิ้นไอ้สัตว์ ล้มทั้งคู่นะมึง ตัวมึงก็ไม่ใช่จะเบา” จักรบ่นเมื่อจะหมดแรงอุ้มอีกคนแล้ว ถึงแม้ว่าอินทัชจะตัวเบา แต่เล่นดิ้นแบบนี้ก้ไม่ไหวปะ

“หนักก็วางกูลง โว้ย!! เอากูลง”

“เฮ้ยๆ อย่าดิ้น ไอ้สัตว์!!!”

“เฮ้ย!!!”

แล้วทั้งคู่ก็ล้มลงกับพื้นโดยที่ร่างสูงเป็นฐานรองรับไม่ให้อินทัชเจ็บไปกว่านี้ แต่จักรเนี่ยสิ หลังกระแทกพื้นเต็มๆ ไหนจะร่างของอินทัชที่ล้มทับใส่ตัวอีก ร่างสูงใหญ่ถึงกับหลับตาปี๋เนื่องจากความเจ็บที่หลัง ก้น และหน้าท้อง แผ่นอกที่โดนเพื่อนทับแบบเต็มๆ พอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าใบหน้าของเพื่อนอยู่ห่างจากใบหน้าของตัวเองไม่เท่าไหร่ จากความคิดที่ว่าอินทัชสวยเหมือนผู้หญิงเลย ตอนนี้ยืนยันคำตอบได้แล้วว่า มันไม่ใช่แค่สวยเหมือนผู้หญิง แต่นี่มันสวยกว่าผู้หญิงหลายๆ คนที่เขาเคยเห็นเสียอีก

“ทำไม...มึงสวยจังวะ” ถามอย่างเพ้อๆ แต่ไม่คิดพิศวาสอะไร

“อย่าพูดนะเว้ย ไอ้เหี้ยนี่ปากเสียจังวะ เจ็บจริงๆ เลย เพราะมึงดื้อด้านอุ้มนี่แหละ เห็นไหม เจ็บทั้งคู่” อินทัชพยายามยันตัวเองขึ้นก็ทำได้ยากเพราะแทนที่เจ็บเพิ่มขึ้นมาทำให้ยันตัวเองยาก

“มึงดื้อเหมือนกันนั่นแหละวะ ลุกสิเฮ้ย หนักนะเนี่ย”

“มึงช่วยดันกูทีสิ”

“ห่า...ภาระกู นี่ถ้าคุณจอมมาเห็นต้องเข้าใจกูผิดแน่ๆ” จักรดันร่างด้านบนให้ลุกขึ้นพลางบ่นร่างโปร่งบางไปด้วย โดยไม่เห็นเลยว่า ร่างเล็กของเจ้าจอมกำลังยืนมองอยู่ด้วยสายตาที่ไม่อาจจะเดาได้ว่าคิดอะไรอยู่ แน่นอนว่าอินทัชมองเห็น เพราะเขาอยู่ในจุดที่หันหน้าไปทางที่เจ้าจอมอยู่พอดี

ใบหน้าสวยยิ้มให้เจ้าตัวนิดๆ แต่ก็ได้เพียงแค่แววตาไม่พอใจตอบกลับมา ทำเอาอินทัชอยากจะเล่นสนุกให้มากกว่านี้เข้าไปอีก

ในขณะที่ทั้งคู่ช่วยกันประคองกันยืนขึ้น อินทัชก็ได้เอามือของตัวเองช่วยปัดฝุ่นกับเสื้อของจักร แล้วส่งยิ้มท้าทายให้กับเจ้าจอม

“มึง ก้มหน้าลงมาหน่อย”

“ทำไมวะ” จักรถามงงๆ

“เถอะน่า”

“เออๆ แม่ง อะไรนักหนาวะ” ว่าแล้วก็ก้มลงตามที่ร่างบางสั่ง ซึ่งนั่นก็ทำให้ร่างเล็กของเจ้าจอมหมดความอดทน เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“จักร!!”

“เฮ้ย! คุณจอม มาได้ไงครับ” หันไปถามคนมาใหม่ด้วยความตกใจ ในใจก็หวังว่าร่างเล็กคงไม่เห็นภาพเขากับอินทัชล้มลงไปทับกัน

“มานานแล้ว และก็เห็นอะไรที่มันไม่ควรด้วย ทีหลังถ้าจะพลอดรักกันน่ะ ก็พากันไปในที่ที่มันลับๆ หน่อย ไม่ใช่ทำเรี่ยราดเหมือนสัตว์แบบนี้”

“เฮ้ย!! ไม่ใช่นะคุณจอม ผมกับไอ้อิน...” ร่างสูงพยายามจะแก้ต่าง หากแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรให้จบ ร่างสูงของชายหนุ่มอีกคนก็เดินมาก่อน และนั่นทำเอาจักรเย็นสันหลังวาบ...

ส่วนอินทัชก็ได้แต่ยืนนิ่งๆ ไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา

“ใช่…ต่อให้สันดานเหมือนสัตว์ยังไง ก็ช่วยคิดหน่อยว่ามันเหมาะสมที่จะทำตัวแบบนี้หรือไม่ ไม่ใช่ว่าอยาก ก็เรี่ยราดไปทั่ว ไม่สนฟ้าสนดิน ถ้ามักมากหรืออยากขนาดนั้น...ก็ช่วยหาที่ดีๆ หน่อย!!!”

“คุณราม...”

“พี่ราม...”

ใช่แล้ว มันคือไอ้รามินทร์ ไอ้รามที่ยืนแสยะยิ้มน่ากลัวให้อินทัชอยู่ตอนนี้...

...

...

...





50%

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

   มาแล้วจ้า...รามอินตอนที่ 10 ครึ่งแรก ครึ่งหลังกำลังปั่นอยู่นะคะ ยูกิล่ะสงสัย นี่เกลียดรามกันขนาดนั้นเลยหรือคะ? (แอบสะใจเล็กน้อย) เม้นท์ให้กำลังใจด้วยนะคะ หากมีอะไร อยากเสนอแนะ ทวงนิยาย ไปได้ที่แฟนเพจค่ะ....

https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เดี๋ยวอิรามมันคงได้บ้าอีกรอบ อินจะโดนอะไรอีกเนี่ย :hao5:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
หวังว่าอิรามมันจะไม่อารมณ์ขึ้นจนต้องข่มเหงน้ำใจอินมันอีกหรอกนะ สงสารอินทัชสุดหัวใจเมื่อไหร่อิรามมันจะรู้ความจริงแล้วหายโง่เลิกกินหญ้าซะทีวะ นี่ถ้าอิรามรู้ความจริงทั้งหมดแล้วมันคงรู้ว่าตัวเองนั่นโง่ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดแน่ๆ เราจะรอวันที่จะได้ซ้ำเติมอิรามมันอยากโง่ไม่ยอมสืบเรื่องต่างๆ ให้ดีก่อนลงเอง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด