9 หักใจจู่ๆ พี่แจ็คสันก็หายไป หายไปทั้งๆ ที่แม้แต่คุณพ่อคุณแม่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่าลูกชายของตนหายไปไหน...ผู้ใหญ่ทั้งสองได้แต่บอกคนตัวเล็กที่ตาแดงๆ มาถามหาลูกชายที่บ้านอยู่ทุกวันว่าพี่แจ็คสันเก็บของออกไปไม่ได้บอกอะไรไว้สักอย่าง ทิ้งแค่โน้ตสั้นๆ เอาไว้ให้แบมแบมแค่แผ่นเดียวเท่านั้น
‘ดูแลตัวเองด้วยนะครับคนดี’แบมแบมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างตนกับพี่ชายแสนดี จู่ๆ คนตัวโตฮีโร่ที่หนึ่งของแบมแบมก็มาหายไปให้หลังจากวันที่มากอดแบมแบมทั้งน้ำตาเมื่อวันก่อน
พี่แจ็คสันผู้ที่มีแต่รอยยิ้มเสมอ วันนั้นกลับอ่อนแอจนต้องยื่นมือเข้าไปประคองไว้ ครั้นอยากจะคุยกันให้รู้เรื่องความเป็นมาสักนิดบ้าง...ตื่นมาพี่ก็หายไป หายไปทั้งๆ ที่คืนนั้นตลอดทั้งคืนแบมแบมรับรู้ได้ดีว่าตนยังได้รับอ้อมกอดอุ่นอยู่เลย
“พี่เขาคงมีธุระต้องทำจริงๆ น่ะครับคนเก่ง” คุณป้ากับคุณแม่พี่แจ็คสันปลอบจนไม่รู้จะสรรหาคำแก้ตัวใดๆ มาบอกคนทำหน้าหงอย ในมือเล็กกำดินสอและสมุดที่เคยเขียนโต้ตอบกับพี่แสนรักไว้แน่น ตัวบางสั่นระริกกับใบหน้าที่แสดงออกชัดว่าเจ็บปวดนั้นทำให้ผู้ใหญ่ที่มองอยู่ต้องเบือนหน้าหนี มีเพียงผู้เป็นลุงเท่านั้นที่เอื้อมมือไปดึงร่างเล็กของผู้เป็นหลานทางนิตินัยของตนเข้ามาใกล้
“การกระทำของคนเราตั้งอยู่บนคำว่าเหตุและผล และทุกๆ คนย่อมมีเหตุของตัว มีผลของตน วันนี้เรารับรู้ไม่ได้หรือเราอาจไม่เข้าใจในการกระทำของเขา แต่ถ้าหากแบมแบมเชื่อใจในคนๆ นั้น ก็ต้องอดทนรอในวันที่จะได้รับรู้สิ่งที่เขาคิดนะลูก ลุงเชื่อว่าพี่แจ็คสันเขาก็มีเหตุผลที่จะมาบอกในวันที่ที่เขาพร้อมกับพวกเราแน่ๆ นะ” คำสอนของผู้เป็นลุงทำให้คนที่ยืนก้มหน้าตัวสั่นอยู่เงยหน้าขึ้นมาสบตาที่เต็มไปด้วยร่องรอยของการผ่านพ้นกาลเวลาของช่วงชีวิตมานาน น้ำใสในดวงตาที่สะกดกลั้นไว้จึงไหลออกมาอย่างจำนนต่อความสับสนที่บังเกิดขึ้น
น้องแบมกลัวการสูญเสียเพราะว่าเคยต้องสูญเสียต่อหน้าต่อตา
เพราะฉะนั้นการกลัวของแบมแบมจึงรุนแรงมาก
‘พี่แจ็คสันจะไม่ทิ้งแบมใช่ไหมครับ’ เด็กน้อยสะอื้นตัวโยน มือที่สั่นเทาเขียนข้อความคำถามให้คนที่ไม่สามารถตอบคำถามได้อย่างแท้จริงได้อ่าน ผู้เป็นป้าปิดปากเบือนหน้าหนีความสะเทือนใจตรงหน้าอย่างร้าวราน
เมื่อไม่มีคำตอบจากใครสักคน แบมแบมก็เลือกที่จะใช้สองมือที่ยังคงสั่นเทาอยู่ปิดหน้ากระดาษลง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แต่น้ำตาก็ยังคงไหลอยู่อย่างต่อเนื่องด้วยความกลัวที่เกาะกินหัวใจดวงน้อยอยู่
“รอพี่แจ็คสันเขากลับมาอธิบายนะครับคนดี” คุณแม่พี่แจ็คสันเข้ามาลูบหัวเล็กอย่างนึกสงสาร นึกเคืองลูกชายตัวเองไม่น้อยที่จะไปไหนไม่บอกไม่กล่าว แต่ก็เพราะว่าเธอกับสามีเลี้ยงลูกให้ทำอะไรด้วยตนเองตลอด เวลามีปัญหาหรือเกิดเรื่องอะไรขึ้นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนหนึ่งเดียวจึงชอบหาทางแก้อยู่คนเดียวอยู่ร่ำไป
โตขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจหรอว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว...
ความสัมพันธ์กับเด็กน้อยที่ตนเอ็นดูนึกรักเหมือนลูกเหมือนหลานอีกคนตรงหน้านี้มันไกลเกินกว่าคำว่าพี่น้องไปมากขนาดไหนแล้วทำไมคนเป็นผู้ใหญ่จะดูไม่ออกกันล่ะ
ค่ำคืนนั้นจึงเป็นคืนแรกที่แบมแบมไม่ได้นอนอยู่ในอ้อมกอดอุ่นของแจ็คสัน
แต่เช้าวันต่อมาก็มีนมสดร้อนๆ กับเอแคลร์ไส้วานิลลาพร้อมกระดาษโน้ตที่แปะระบุไว้ว่าของสองสิ่งเป็นของใครก็ถูกนำมาแขวนอยู่ที่รั้วหน้าบ้านของแบมแบม
‘นมสดร้อนๆ เจ้าโปรดของเด็กใบ้’เมื่อได้รับของกินที่เป็นของโปรดตนจากมือของผู้เป็นป้าและอ่านโน้ตเสร็จครบถ้วน ขาเรียวเล็กก็วิ่งออกมานอกบ้านอย่างเรียบร้อนแต่ก็ไม่ลืมที่จะคว้าเอาสมุดและดินสอคู่ใจตนออกมาด้วย สองเท้าก้าววิ่งอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยออกแรงวิ่งมาก่อน ผ่านสวนของหมู่บ้านตรงดิ่งไปที่หน้าสวนสาธารณะที่ในตอนเช้าๆ จะมีคุณพ่อค้าแม่ค้าออกมาตั้งบูธขายของกินยามเช้ากันอยู่เกือบสิบเจ้า
หนึ่งในนั้นขายนมสดร้อนๆ กับเอแคลร์หลากหลายไส้...
“ป้าจำไม่ได้แล้วลูก แต่ป้าว่าป้ายังไม่เจอเจ้าหนุ่มคนหล่อๆ เลยนะ” คุณป้าคนขายหันมาตอบคำถามเจ้าเด็กตัวน้อยที่เห็นหน้าอยู่บ่อยๆ เมื่ออ่านข้อความที่เจ้าตัวที่ยืนหอบแฮ่กยื่นให้อ่านเรียบร้อย
‘ขอบคุณครับ’ แบมแบมถอนหายใจอย่างล้าแรง รีบเขียนข้อความก่อนโค้งให้คุณป้าแล้วเดินกลับไปยังบ้านตนที่ตอนนี้ป้ากำลังเดินวนไปวนมาอยู่หน้าบ้านอยู่
“แบมแบมลูก! คราวหน้าอย่าวิ่งออกไปอย่างนี้อีกนะลูก ป้าเป็นห่วง” ป้าเข้ามากอดตัวหลานชายไว้แน่น ในอกมันโล่งสบายใจเมื่อเห็นว่าหลานชายกลับมาในเวลาอันรวดเร็วแถมไม่ได้รับอันตรายใดๆ อีกด้วย
‘อย่าหนีหน้ากันอย่างนี้...ขอร้อง...ขอร้อง’แบมแบมเขียนโน้ตแปะไว้ที่ถุงเยลลี่แล้วเอาไปห้อยที่รั้วหน้าบ้านและคืนนั้นแบมแบมก็ไม่ยอมนอนด้วย ออกมายืนเฝ้าหน้าบ้านจนคุณลุงคุณป้าขู่ว่าถ้าแบมแบมไม่เข้าบ้านทุกคนก็จะออกมายืนอยู่ข้างนอกด้วยหมด เจ้าตัวจึงยอมเข้ามาอยู่ข้างในแต่ก็ลากเก้าอี้มานั่งเสียชิดติดหน้าต่างบานที่มองเห็นรั้วบ้านในชัดที่สุด ตากลมจ้องแป๋วอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าจะง่วงแสนง่วงแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเห็นคนที่เฝ้ารอคอย จนเด็กน้อยสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาอีกทีตอนที่คุณป้าเดินลงมาเตรียมทำข้าวเช้าให้สมาชิกในบ้าน แบมแบมถึงได้รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปและเวลาที่นาฬิกาที่ดูครั้งสุดท้ายคือ 4 นาฬิกาของเช้าวันใหม่!
‘วันนี้ก็สู้ๆ นะคนเก่ง’เพราะอย่างนี้...ในตอนที่แบมแบมรีบวิ่งมาที่หน้าบ้าน เยลลี่พร้อมโน้ตของตัวเองก็หายไปกลับกลายเป็นน้ำส้มคั้นสามขวดใหญ่ๆ และโน้ตจากคนใจร้ายที่ห้อยคืนไว้ให้อีกเช่นเคย
เด็กน้อยไม่ร้องไห้แล้ว เป็นความโกรธขุ่นใจแทนในตอนนี้ ทำไมหายไปไม่บอกเหตุผลกันแล้วยังจะมีหน้ามาบอกให้สู้ๆ อีก พี่แจ็คสันก็น่าจะรู้ว่าแบมแบมเข้มแข็งได้ก็เพราะตัวเอง ถ้าไม่มีพี่แจ็คสันแล้วแบมแบมจะสู้ๆ ได้อย่างไรล่ะ
ไม่ใช่ว่าคุณลุงกับคุณป้ารักแบมแบมน้อยไป แต่เพราะว่าพลังใจที่เกิดจากความรักในอีกรูปแบบหนึ่งก็มีอิทธิพลต่อความเข้มแข็งได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นรักจากครอบครัวคือสิ่งที่ตระหนักถึงได้อยู่ตลอด แต่รักจาก...คนที่นึกอยากให้อยู่เคียงข้างกันแม้นไม่ใช่สายเลือดเดียวกันนั้นก็ส่งผลรุนแรงต่อหัวใจได้เช่นกัน
ทำไมมาหนีหายไปในวันที่ ‘รัก’
‘กลับมา แบมจะขาดใจแล้ว’แบมแบมไม่อดหลับอดนอนอีกต่อไปแล้วเพราะรู้ว่าพี่จะไม่มาในวันตอนที่ตนยังไม่นอน เพราะฉะนั้นจึงวางแค่ห้อยสมุดไว้หน้าบ้านแทน เขียนข้อความที่ทำให้คนที่หนีหายไปได้รู้ว่าตนเองทรมานจากการรอคอยในครั้งนี้อยู่
‘อย่านอนดึกนะครับ กินข้าวให้ตรงเวลา อย่าลืมแวะไปทักทายคุณหนอนด้วยนะ’ข้อความจากตัวอักษรที่คุ้นตาถูกเขียนตอบกลับมาพร้อมกับตุ๊กตาแกะตัวน้อยที่ห้อยไว้ในถุง แบมแบมอ่านแล้วก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก็การไปหาคุณหนอนคนเดียวน่ะ...ไม่รู้หรือไงว่ามันเหงา
‘แบมคิดถึงพี่’พี่ล่ะคิดถึงแบมไหม?
‘ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะคนเดียวได้หรือยัง’เมื่อก่อนก็ไปคนเดียวได้แค่โดนเด็กๆ ล้อนิดหน่อยเอง แล้วทำไมตอนนี้จะไปไม่ได้ล่ะ...แค่ไปคนเดียวแล้วมันก็ไม่สนุกเหมือนเคยแค่นั้นเอง เมื่อไหร่จะกลับมาพาแบมแบมไปเดินเล่นเหมือนอย่างเคยล่ะ
‘แบมแบมจะรอพี่แจ็คสัน’...แบมแบมจะรอพี่...
กลับมาไวๆ กลับมาง้อแบมแบมไวๆ นะ...ที่รัก
**********
ไม่ใช่แต่ฝ่ายที่รอที่เจ็บปวดเข้าใจประโยคนี้ทันทีที่เป็นฝ่ายต้องทำให้ใครคนหนึ่งต้องเฝ้ารอตน
แจ็คสันมาอยู่กับเพื่อนๆ ในกลุ่มที่คอนโดชานเมือง ไม่ได้มาเพราะจะหลบหนี และก็ไม่ได้หนีมาเพื่อหลบหน้าแคล อีกทั้งไม่ได้มาเพราะจะตัดใจจากเจ้าตัวเล็ก
แต่ถอยออกมาเพื่อถามใจตัวเอง
จะเดินต่อไปในทางใดระหว่างรักครั้งเก่าก่อนที่ยังตกตะกอนค้างอยู่ในความทรงจำกับความรู้สึกในรักใหม่ที่เริ่มงอกเงยขึ้นมาอย่างสวยงามกับใครอีกคน วันที่ไม่คิดว่าจะต้องเลือกกลับมาถึงแล้วโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว
ไม่ได้เลือกที่จะรักใครแต่กำลังจะเลือกว่า...จะเดินทางไหนต่อ
จะไปในทางที่รู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้รับรู้เรื่องราวของความรักที่จบลงไปอย่างไม่เข้าใจแล้วดึงดันฝืนก่อรักครั้งใหม่ด้วยใจที่ยังไม่เต็มดวง หรือจะรอ...รอจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่เหลือเยื่อใยของความรักกับคนก่อนแล้วทุ่มทั้งหัวใจแบบชัดเจนไปที่อีกคน
หักใจจบเรื่องเก่าก่อนแม้ยังรักแต่รู้แน่ชัดในเหตุผลที่จะจากหรือยอมเจ็บแบบหน่วงๆ ต่อไปโดยใช้ความรักของคนใหม่มาเป็นเครื่องมือเยียวยา จะยอมหักดิบให้ตัวเองกับเด็กใบ้แสนดีเจ็บกันตอนนี้ไปเลยหรือยื้อไว้ให้ต่างคนต่างเจ็บปวดแบบเรื้อรังกันต่อไปอีกยาวๆ และคงไม่จบสิ้นง่ายๆ
ที่เจ็บฝังใจก็เพราะรักมันฝังลึก ลังเลก็เพราะว่าจริงจังกับรักที่จบไปขนาดไหน ถ้าหากว่าคบกันเพื่อเพียงผ่านเลยไป ทั้งคู่ต่างเข้ากันไม่ได้หรือทะเลาะเบาะแว้งกันจนเบื่อที่จะยื้อก็ว่าไปอย่างแต่เพราะว่ามันมีแต่เรื่องราวดีๆ ให้จดจำ มีแต่ภาพหวานซึ้งติดอยู่ในใจแล้วถ้าจะร่วมสร้างเวลากับคนใหม่ๆ โดยที่ยังคิดถึงภาพวันวานอยู่เรื่อยๆ ก็ดูจะเลวแสนเลวกับหัวใจบริสุทธิ์ของแบมแบมจนเกินไปเหลือเกิน
ตอนนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าแคลจะกลับมาเพราะอะไร ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าแบมแบมจะแสนดีขนาดไหน มันขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง...จึงเลือกออกมาก่อน มาเพื่อถามใจตัวเองก่อนว่าจะเอาอย่างไรต่อไป
แต่ถึงกระนั้นก็เป็นห่วงเจ้าตัวเล็กที่เพื่อนๆ ของตนต่างบอกว่า ‘น้องกำลังแย่’ คำบอกเล่าของเพื่อนไม่ได้ทำให้เห็นภาพชัดเท่ากับการไปเห็นด้วยสายตาตัวเอง ถึงได้รับรู้ว่า...มันย่ำแย่กว่าที่ตัวเองคิดภาพไว้เสียอีก
‘อย่าหนีหน้ากันอย่างนี้...ขอร้อง...ขอร้อง’ข้อความที่ได้รับ อ่านมันซ้ำๆ อ่านกว่าร้อยรอบพันรอบ รับเอาความเจ็บปวดในเนื้อความสั้นๆ ไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อหวังที่ว่ามันอาจจะบรรเทาความเศร้าโศกของคนอีกฝั่งได้ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าไม่มีทาง
“มึงจะหักดิบตัวเองขนาดนี้ไม่ได้นะ” เพื่อนรักบอกกับเขาอย่างนั้น ทั้งพีเนียล ซองจุน และนิโคลัสต่างไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ของเขาเท่าไหร่นัก
“กูว่าจะไปเจอหน้าแคล” เขาตอบกลับไปโดยที่ไม่ได้เข้ากับประโยคก่อนหน้าเลยสักนิด
“ทำใจได้แล้วรึไง”
“ไม่ได้มาอยู่ที่นี่เพราะทำใจอยู่แล้ว” ...เพราะคงเลิกรักแคลไม่ได้หรอก
จะไปเจอ ไปตักเอาตะกอนขุ่นออก...ถ้าในน้ำใสๆ นั้นยังมีแต่เรื่องของแคลก็คงจะขอเจ็บปวดกับความรักนั้นไปต่อ จะไม่เป็นฝ่ายหลอกล่อให้คนที่รอเขาอยู่มาติดกับเพื่อช่วยเหลือให้ลืม แต่ถ้าไม่...ถ้าในน้ำที่มันไม่หลงเหลือตะกอนอยู่นั้นมีความทรงจำดีๆ กับแคลที่อยู่เบื้องลึกสุดโดยมีความรักที่ให้แบมแบมลอยวนอยู่เหนือสิ่งนั้น...ก็จะกลับไป กลับไปเพื่อทำหน้าที่ฮีโร่คนเก่ง...พี่ชายแสนดี...คนรักที่มีรักเต็มเปี่ยมทั้งหัวใจ...ให้เจ้าเด็กใบ้ของเขาคนเดียว
รอพี่นะ...คนดี...
*********
ตอนแรกนึกว่าจะไม่ได้มาลงวันนี้แน่ๆ TT
ตอนนี้งงไหมคะ?
ถ้าสรุปง่ายๆ ก็คือ แจ็คสันไม่ได้หนีไปเพราะว่าจะเลือกกลับไปรักแคลหรือรักน้องแบมต่อ
แจ็คสันแค่หลบไปถามตัวเองว่า ยังเจ็บกับความรักที่มันจบแบบไม่สมบูรณ์อยู่ไหม? แล้วถ้ารู้เรื่องจริงๆ แล้วมันจะยังเจ็บปวดเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า? ถ้าเจ็บก็จะรักษาให้หายด้วยตัวเองก่อน จะไม่ไปรั้งน้องแบมมาเป็นเครื่องมือของตัวเอง แต่ถ้าไปเคลียร์ชัดแล้ว และพบว่า เออ...ความรักครั้งเก่าก่อนน่ะก็เป็นความทรงจําดีๆ นะ เก็บมันไว้แล้วเดินหน้าต่อไปกับคนใหม่ด้วยหัวใจที่มันเต็มดวง ความรู้สึก การกระทํา สถานะที่มันชัดมากกว่านี้ดีกว่า อะไรงี้...
ให้เวลาพี่แจ็คสันหน่อยนะคะ เดี๋ยวนางก็กลับไปปากปลาร้าใส่น้องแบมเหมือนเดิมแล้ว
อย่าว่าพี่แจ็คกันเลยน้าาาา
