✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59  (อ่าน 244393 ครั้ง)

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เอิ่ม.......

เหมือนจบไม่สุด โอเคที่พี่ธาราตาย แต่เหมือนคนอื่นนี่ค้างๆคาๆเอามากๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ KaeM_PonG

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
คือเราว่ามันตัดจบห้วนไปนะ

เหมือนหลายๆประเด็นในความสัมพันธ์ของคู่อื่นๆยังไม่เคลียร์เลย

 :a5: :a5: :mew5: :mew5:

ออฟไลน์ Timber Huang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
ธาราตายจริง????  แงๆๆๆๆๆๆๆๆ :sad4:

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1

ออฟไลน์ Blue

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
โอเค เก็บรองเท้าไว้ก่อนก็ได้
เผื่อจะไม่ได้ใช้
รอตอนต่อไปเนาะะะ

ออฟไลน์ ศตรัศมี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
47794



ครั้งสุดท้าย
   

   เคยรู้สึกกันบ้างรึเปล่า รู้สึกเหมือนกับว่ามีใครอยู่ข้างกายตลอดเวลาทั้งที่เขาคนนั้นไม่ไม่มีตัวตนอยู่ข้างกายอีกแล้ว

   ชีวิตของผมมันเป็นอย่างนั้น ผ่านมาสามปีแล้วที่ภายใต้จิตสำนึกของผมยังคงมีพี่ธาราอยู่

   ความทรงจำในช่วงเวลาไม่นานที่เราเข้าใจกันและมีกันแบบคนรักได้ถูกกักเก็บเอาไว้

   ทุกครั้งเวลาที่มองคลื่นทะเลถูกซัดเข้ามาที่ฝั่ง ผมจะต้องนึกถึงเขา นึกถึงวันแรกที่เราพบกัน

   มันเป็นเรื่องตลกที่ครั้งแรกที่เราเจอกันผมกลับคิดว่าเขาเป็นโจรและไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดกับผมเลย

   มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ใครล่ะจะไปเชื่อเรื่องราวพวกนั้นได้





   “แม่มณี พี่สินแกล้งน้องมีนาอีกแย้ว”เสียงเจื้อยแจ้วของสุดธาราเรียกมาแต่ไกล

   ร่างจ้ำม่ำของเด็กวัยสามขวบวิ่งย้ำบนผืนทรายมาเกาะขาผมให้ผมก้มลงไปมองแล้วชี้ไปทางพี่ชายฝาแฝดที่กำลังจับแขน
เด็กตัวเล็กผิวขาวซีดอีกคน

   มีนาหรือสุวรรณสินธุ์ลูกชายของพี่วรรณกับชลาสินธุ์ ผิวขาวซีดกับตัวที่เล็กกว่าเด็กวัยเดียวกันเกิดจากการฟักตัวออกจากไข่
ช้ากว้ากำหนดถึงเจ็ดวัน

   ผมเดินไปยังกองทรายกองใหญ่เต็มไปด้วยของเล่นวางเกลื่อนกลาดอยู่รอบๆ

   “ว่าไงครับสินสมุทร แกล้งน้องอีกแล้วใช่ไหม”

   “ไม่ใช่สักหน่อยสุดขี้ฟ้อง สินไม่ได้แกล้ง มีนาไม่ให้หอมแก้ม”สินสมุทรแก้ตัว

   ตามเคย เวลาที่จับมารวมอยู่ด้วยกันสามคน ไม่สิ จะเรียนว่าตนก็ไม่ใช่ คนก็ไม่เชิง ลูกครึ่งด้วยกันทั้งนั้น

   ครึ่งคนครึ่งยักษ์กับครึ่งคนครึ่งปลา เวลาอยู่ด้วยกันทีไร ไม่ใช่แค่สินสมุทรคนพี่จะเป็นฝ่ายแกล้งมีนาคนเดียว

   สุดธาราเองก็ใช่ย่อย บางครั้งก็ร่วมกันแกล้งบางครั้งก็แย่งกันแกล้ง แต่มีนาเองก็ไม่ได้ร้องไห้โยเยหรืออะไร กลับยิ้มรับทั้ง
สองคนราวกับว่าชอบใจซะงั้น

   ถ้าตัดเรื่องแกล้งไปสินสมุทรกับสุดสาครนับเป็นพี่ที่ดีเลยทีเดียว คอยช่วยเหลือและปกป้องตลอดทั้งที่ตัวแค่นี้

   “แล้วทำไมต้องหอมแก้มน้องล่ะ”ผมถามพลางนั่งลงบนผืนทรายข้างๆเด็กๆ

   “แก้มมีนานุ่ม”

   “งั้นเปลี่ยนจากแก้มมีนาเป็นหอมแก้มแม่มณีได้ไหมล่ะ”ผมยิ้ม

   เจ้าตัวแสบทั้งสองหันไปมองหน้ากันทำท่าคิดสักพักก่อนพนักหน้า

   ปีนขึ้นมาบนตักผมแล้วหอมแก้มกันคนละข้างฟอดใหญ่

   “แก้มแม่มณีหอมจัง”สินสมุทรชม

   “แก้มแม่มณีหอมที่สุด”สุดธาราเองก็ไม่ยอมแพ้

   “งั้นห้ามแกล้งมีนาอีกนะครับ เล่นกันดีดี”ผมต่อรอง

   “ฮับ/ฮับ”เจ้าสองตัวพยักหน้า

   เดินไปนั่งขนาบข้างลูกเงือกตัวเล็กผิวซีดแล้วเล่นก่อกองทรายตามเดิม

   ถึงแม้จะมีดื้อไปบ้าง แต่ก็ยังคุยง่ายตกลงกันง่ายจึงทำให้ไม่เหนื่อยนักกับการที่ต้องเลี้ยงลูกสองคนไปพร้อมๆกัน

   

   ตอนนี้ผมเปิดคลาสเรียนเล็กๆสอนศิลปะนาฏศิลป์อยู่ที่บ้านหลังจากเรียนจบ การมีลูกทำให้ผมต้องติดอยู่กับบ้านไปไหนไม่
ได้ไกลเลย

   ผมเริ่มเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากพ่อเพื่อรับช่วงต่อสืบสารสิ่งที่บรรพบุรุษสืบทอดต่อกันมา

   แค่ช่วงกลางวันเท่านั้นที่ผมจะอยู่ที่คลาสสอนกับโรงฝึกลิเก แต่พอตกเย็นผมก็พาเด็กๆกลับไปที่บ้านของพี่ธารา บ้านที่
หลงเหลือเพียงแค่ความทรงจำ

   จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่หยุดคิดถึงพี่ธารา และไม่มีวันที่จะเลิกล้มความตั้งใจที่จะรอ รอว่าสักวันพี่ธาราจะกลับมา





   “มณีลูก ทำไมไปนั่งบนทรายอย่างนั้นล่ะ”เสียงแม่เรียกมาจากส่วนที่เอาไว้นอนอาบแดด

   จริงๆแล้ววันนี้จะเรียกว่าเป็นวันพักผ่อนของครอบครัวก็ได้ ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา

   พ่อแม่ พี่วรรณ ชลาสินธุ์ และเด็กๆ ที่ขาดไม่ได้เลยคนที่เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของครอบครัวก็คือหมอทศ คนที่คอยดูและสิน
สมุทรและสุดธาราเรื่อยมา

   ทุกคนมารวมอยู่ที่รีสอร์ทเปิดใหม่ซึ่งเจ้าของเป็นคนรู้จักของพ่ออีกทีจึงได้สิทธิมาพักฟรีในวันเปิดตัว

   “มาดูเด็กๆน่ะแม่”ผมตอบกลับแล้วลุกขึ้นปัดทรายเดินไปยังวงปิกนิกไม่ไกลจากกองทราย

   “ไปซื้อน้ำแข็งให้แม่หน่อยสิ อากาศร้อนๆแบบนี้ เผลอแปบเดียวหมดอีกแล้ว”แม่ชี้ไปยังร้านสะดวกซื้อที่อยู่อีกฟากของ
ถนน

   ส่วนที่ติดทะเลของรีสอร์ทค่อนข้างจะอยู่ใกล้กับหาดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทำให้คนค่อนข้างเยอะ

   ผมพยักหน้ารับแล้วเดินออกมา

   โชคไม่ค่อยดีที่วันนี้เป็นวันหยุดนักท่องเที่ยวจึงค่อนข้างเยอะ ทำให้มีบ้างที่ต้องเดินเบียดเสียดกัน

   ผมรอสัญญาณไฟคนข้ามถนน มองไปยังข้างหน้ามองดูผู้คนเดินผ่านไปมาเรื่อยๆระหว่างรอสัญญาณไฟ

   ผมเริ่มอยากรู้แล้วว่า ร้อยคนพันคนที่เดินผ่านหน้าผมไป จะมีใครพบเจอชะตาชีวิตแบบผมบ้าง

   พบเจอคนที่รักจากชาติที่แล้ว ที่ไม่ใช่มนุษย์  รักกัน มีลูกด้วยกัน แล้วก็จากกันไปในที่สุด


   เรื่องราวมันค่อนข้างจะบ้ามาก หากเล่าให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อ



   สัญญาณไฟสีเขียวปรากฏ ผมเดินข้ามถนนไปพร้อมๆกับคนที่ไม่รู้จักอีกหลายสิบคน

   ผมจ้องมองไปยังเบื้องหน้า อย่างไม่มีจุดหมาย ไม่สนใจสิ่งใดที่อยู่รอบตัว



   หากแต่สายตาของผมก็ไปสะดุดกับแผ่นหลังที่คุ้นเคย แผ่นหลังกว้างที่เคยซบ

   ผมชะงัก กระพริบตาเพื่อเรียกสติ บางทีมันอาจจะเป็นภาพลวงตา

   แต่เปล่าเลย แผ่นหลังนั้นยังคงเคลื่อนไปเรื่อยๆท่ามกลางผู้คนนับร้อย

   มันเป็นเหมือนแรงดึงดูดและแรงผลักดันจากความหวังอันเล็กน้อย เรือนผมสีดำขลับที่เคยยาวเคลียต้นคอ ผิดกับคนที่ผม
เดินตาม ผมของเขายาวเลยไหล่จนเกือบถึงกลางหลัง

   ผมเดินตามมาจนถึงแหล่งขายของฝากที่คนค่อนข้างแออัด พยายามชะเง้อมองกลัวว่าเขาจะคลาดสายตา ระยะห่างของผม
กับใครคนนั้นห่างกันอยู่หลายสิบก้าว

   ผมเดินเบียดเสียดผ่านผู้คนมาเรื่อยๆ เข้าลึกมาในแหล่งรวมของฝาก คนเริ่มซาลง

   ในระหว่างนั้นเอง ตอนที่ลมพัด ผมของเขาลู่ไปตามแรงลมเผยให้เห็นเสี้ยวหน้ากับดวงตาที่คุ้นเคย

   หัวใจของผมราวกับถูกกระตุ้นด้วยแรงที่มองไม่เห็น ร่างกายของผมแทบจะชาดิกไม่มีแรงยกขาให้ก้าวออกไป

   พี่ธารา!!

   ผมเฝ้าเรียกชื่อนี้อยู่ในใจซ้ำไปซ้ำมา

   เร่งฝีเท้าเดินตามมาจนสุดพื้นที่ มีเพียงซอยเล็กๆที่ค่อนข้างเงียบต่างจากเมื่อครู่ลิบลับอยู่เบื้องหน้า

   ดวงตาของผมร้อนผ่าวราวกับว่าน้ำที่คลอเคลียอยู่นั้นกำลังจะเอ่อลงมาเต็มทน

   ผมเดินตามเข้ามาในซอย

   ทว่ากลับหายไปแล้ว มีเพียงความว่างเปล่า ทางตันและก็ตรอกเล็กๆแคบๆ

   ผมพยายามมองหาทางอื่น ทาที่จะไปต่อได้ แต่กลับไม่มี

   ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว สิ่งที่ผมเห็นมันไม่ผิดแน่ ผมไม่มีลืมใบหน้าของคนที่ผมรักได้แน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น

   ผมเดินเข้ามาในตรอกเล็กๆอย่างระมัดระวัง

   ค่อนข้างที่จะกังวลว่าจะจำทางกลับไปที่หาดไม่ได้ อีกทั้งโทรศัพท์มือถือก็ไม่ได้หยิบติดมือมา

   ในตรอกแคบๆมันเริ่มที่จะมีแสงสว่างผ่านเข้ามาน้อยลงเมื่อผมเดินเข้ามาลึกขึ้น

   ข้างในนี้เงียบงันและอับชื้นต่างจากทางเมื่อครู่ที่เดินเข้ามา

   แล้วความหวังที่ผมตั้งเอาไว้มันก็เหมือนกับพังทลายลง ทางเบื้องหน้ากลับเป็นทางตันอีกครั้ง ไม่มีแม้แต่ประตูทางเข้าหรือ
อะไรเลย มันเป็นเพียงแค่ตรอกแคบๆที่เกิดจากการสร้างตึกมาปิดกั้นแค่นั้น

   ผมถอนหายใจ ผมคงจะตาฝาดไปจริงๆ มันอาจจะเกิดจากภาพหลอนหรือภาพที่มาจากจิตใต้สำนึก

   ผมคงคิดไปเอง มันคงเป็นไปไม่ได้ที่คนคนหนึ่งจะหายไปดื้อๆ ถ้าไม่ใช่ภาพลวงตา

   ผมหันหลังเตรียมจะเดินกลับ











   “กล้ามากนะ ที่ตามฉันมา”





   แว่วเสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู

   น้ำเสียงที่คุ้นเคยทำให้ผมสะดุ้งเฮือก

   ลมหายใจที่เป่ารดหูจากทางด้านหลังทำให้ผมรีบหันกลับไปมอง


   แต่กลับไม่มี มีเพียงแต่ความว่างเปล่าเท่านั้นที่อยู่เบื้องหน้า

   หรือผมจะหูฟาดไป เป็นเพราะความคาดหวังหรือเพราะอะไรกันแน่

   ทำไมชีวิตของผมมันถึงได้น่าตลกขนาดนี้





   “ฟู่”

   เสียงลมหายใจรดหูจากทางด้านหลังอีกครั้ง

   ไม่ผิดแน่ ผมรีบหันกลับมาอีกที

   แต่คราวนี้ร่างของผมลอยหวือไปปะทะกับผนังตึก มันค่อนข้างจะรวดเร็วและรุนแรงมากจนผมต้องหลับตา

   แผ่นหลังของผมแนบชิดกับผนังตึกสูง แสงสว่างอันน้อยนิดที่ส่องเขามาทางมุมตึกทำให้ผมมึนงง

   ผมถูกดันด้วยแรงที่มากจนแทบจะรู้สึกว่าถูกบีบอัดด้วยแรงที่มองไม่เห็น

   “อะ อื้อ”

   ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร ริมฝีปากก็ถูกปิดลงมาอย่างหยาบโลน มันต่างจากทุกทีที่ผมเคยเจอ

   ผมหลับตาแน่น ร่างกายราวกับถูกตรึงเอาไว้ เรียวลิ้นชื้นถูกหยอกเย้า ตวัดให้คล้อยตาม

   หากแต่สัมผัสที่ต่างไปจากทุกทีทำให้ผมปฏิเสธ

   ผมลืมตาขึ้นมองไปยังเบื้องหน้า

   เสี้ยวหน้าที่คุ้นเคยกับดวงตาสีเขียวมรกตทำให้ผมใจเต้นแรงอีกครั้ง

   พี่ธารา!!

   เป็นพี่ธาราจริงๆ

   ลิ้นร้อนชื้นสอดเข้ามาตวัดรัด ลึกขึ้นและเร่าร้อนขึ้น

   เพียงแค่สบตาคู่นั้น เรี่ยวแรงที่มีของผมก็แทบจะเหือดหาย ผมยกมือขึ้นคล้องคอของพี่ธาราอย่างดีใจ น้ำตาที่กักเก็บเอาไว้
เอ่อล้นลงมาอย่างห้ามไม่อยู่

   ทว่าดวงตาสีเขียวเข้มมองมาอย่างเจ้าเล่ห์ พี่ธาราถอนจูบออกไปทำให้ผมต้องหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด

   “ฮึก พี่ธารา”ผมเรียกเสียงแผ่ว

   หากแต่เรียวปากของเขายกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มันต่างจากทุกที ทั้งดวงตาที่ส่งผ่านมา



   “ดูท่านายจะรู้จักฉันดี”



   คำพูดของเขาที่พูดออกมา ทำให้ผมได้รู้ว่า

   เขาไม่ใช่พี่ธาราคนที่ผมรู้จัก!!





จบ การชดใช้หนี้ครั้งสุดท้าย ขอบคุณที่สนับสนุนเรื่อยมาค่ะ



เจอกันอีกทีในภาคสอง  ทวงรัก….นายยักษ์จอมหื่น นะคะ

=================================================================
   

   

   

   คือมันเหมือนแปลกๆใช่ไหมที่จู่ๆแบบเฮ้ย มาเปิดภาคสอง เนื่องด้วยคาแรคเตอร์ของธาราอาจจะเลี่ยนไปเพราะความจำเสื่อม
เลยคิดว่าไหนไหนก็ไหนไหน ขึ้นภาคสองให้ทุกคนมาเริ่มกันใหม่ก็แล้วกัน เหมือนกับตามใจฉันยังไงไม่รู้ 555 แต่ไม่วุ่นวายเท่ากับ
ภาคแรก ยังไงก็อย่าลืมดู น้องมณีตามจีบพี่ธารา เอะ ยังไง ส่วนพี่ธาราคาแรคเตอร์ใหม่ก็แสนจะหื่น เจอเป็นจูบ
อย่าลืมตามติดกันนะคะ เด็กๆโตกันหมดแล้ว มาลุ้มกันว่าขุ่นพ่อจะจำลูกน้อยได้หรือไม่ (ลึกๆแล้วก็ลงโทษมณีให้เลี้ยงลูกคนเดียว
สามปีนั่นแหละ555)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2016 14:17:08 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ภาคต่อนี่ช่วยชีวิตคนเขียนไว้จริงๆนะ บอกเลย 5555+

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0


ภาคต่อ......

รอสิครับ......

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ


ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เตรียมหยิบเกิบแล้วนะ จะบอกให้ เพราะรู้สึกว่ามันยังไม่จบ ยังไม่เคลียร์  :serius2:

พอบอกมีภาคต่อเลยวางเกิบลงก่อน

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
 :pig4: :pig4: :pig4:

ภาค2 มาแล้วบอกด้วยนะ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
โอ้ววว พี่ธาราเวอร์ชั่นใหม่ที่มณีต้องตามง้อ
ไหนจะอเลนอีกที่ชะรอยโดนหมอทศแสกเด็กเข้าท้องแน่ๆ คึๆ

ดีนะที่มีภาคต่อ ถ้าตัดจบดื้อๆแบบนี้จริง คนเขียนโดนรุมแน่นอน 55555

รอภาคต่อนะคร้าบบบบบ

ออฟไลน์ ศตรัศมี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โฮ่ๆๆๆ ต้องตามจีบสามีใหม่จริงๆด้วยสินะ มณีเอ้ยยยย เจอพี่ธาราเวอร์ชั่นใหม่นี่สงสัยมีกระอัก

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
คราวนี้ก็ตามณีแล้วล่ะนะ!!!!
จีบพ่อของลูกกันเถอะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2016 16:18:46 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
 :a5:
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ meanmena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
แล้วไปอยู่ไหนมา 3 ปี นะ

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0

มานิดเดียว......

แต่ก็อ่าน


ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
 :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:



กลับมาต่อคนเขียนนนนนน :serius2:

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
ระวังอยู่ดีๆแก๊สก็ระเบิดนะคะ.......//ส่งกระแสจิต

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ dEmonvEsus

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ค้างรุนแรงงงง  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ทวงครั้งที่ 1 โจรปล้นน้ำ


   เคยบ้างไหมตื่นมาอีกทีก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแล้ว สำหรับผมคนนี้แล้ว สิ่งนี้มันเกิดขึ้นกับตัวผมประจำ

   ผมกระพริบตาถี่ๆยกเปลือกตาที่หนักอึ้งมองเห็นเพดานห้องสีขาวขุ่นที่ดูจะเก่าเอามากๆ

   พัดลมสีขาวมอมบนเพดานหมุนคว้างส่งลมเอื่อยๆมาปะทะตัว ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ผมคุ้นเคย ผมเข้าใจดี

   ว่าแต่ผมมาที่นี่ได้ยังไงกัน?

   พอนึกย้อนกลับไป หัวใจมันก็เต้นระรัว หรือมันเป็นเพียงแค่ความฝัน ฝันที่ผมได้เจอกับพี่ธารา

   ความรักที่ผมเคยทำหลุดมือหายไป……

   ผมปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิด จ้องมองพัดลมสีเก่า หมุนไปเรื่อยๆ จ้องมองมัน ราวกับว่ามันจะหมุนย้อน
กลับไป



   แต่เดี๋ยวก่อน ที่นี่ที่ไหน!!

   จะมัวแต่นอนมองพัดลมไม่ได้เด็กขาด

   แสงแดดสีส้มอ่อนส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างบ่งบอกถึงเวลาล่วงเลยเข้าสู่ช่วงเย็นของวัน

   แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

   ผมผลุดลุกขึ้น ทว่า……



   ร่างกายของผมมันหนักอึ้งราวกับมีแรงมหาศาลมากดเอาไว้ให้มันขยับไปไหนไม่ได้

   ผมกรอกตาไปมา นี่มันอะไรกัน ทำไมผมถึงขยับตัวไม่ได้



   “ตื่นแล้วสินะ นายหลับไปนานเชียวล่ะ”น้ำเสียงดูยียวนดังมาจากมุมห้อง

   น้ำเสียงที่คุ้นเคย น้ำเสียงที่ผมจำได้ดี

   พี่ธารา!!

   ผมเหลือบตามองไปยังมุมห้องทั้งที่ตัวยังขยับไม่ได้ ร่างสูงใหญ่เปลือยท่อนบนเผยให้เห็นแผ่นอกกำยำเรียกให้ผมกลืน
น้ำลาย

   ใบหน้าหล่อเหลาที่ดูน่าอิจฉา ดวงตาคมดุ เรียวคิ้วคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักน่ามองนั่น ผมไม่เคยลืม

   ผมเบิกตามองด้วยความดีใจ ความทรงจำก่อนที่ผมจะไม่รู้สึกตัวเรียกให้ทั้งความดีใจและความกังวลของผมมันตีรวน

   ประโยคนั้น

   ‘ดูท่านายจะรู้จักฉันดี’

   พี่ธาราพูดเหมือนกับว่าไม่รู้จักผม

   พูดเหมือนเราพึ่งจะเคยเจอกัน คำพูดที่แสดงตัวกันและกันมันต่างออกไป



   “พี่ธารา”ผมเรียกเสียงเบา

   มองดูเขาลุกขึ้นมาจากเก้าอี้มุมห้อง ร่างสูงหยัดกายยืนขึ้นและเดินเข้ามาที่เตียง เขาเดินเข้ามาหาผม

   ผมอยากจะตรงเข้าไปกอดเขาหากว่าเขาคือพี่ธารา

   “ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นใคร แต่นายมาได้เวลาพอดีเลยล่ะ”เขายกยิ้มมุมปาก


   แล้วก้าวขึ้นมาบนเตียง

   หัวใจของผมมันเจ็บแปรบเมื่อกับคำที่เขาพูดออกมา เขาไม่รู้ว่าผมเป็นใคร!!

   เขาจะจำผมไม่ได้?

   “พี่ จำผมไม่ได้เหรอ”ผมถามเสียงเบา สายตาที่ดูเจ้าเล่ห์คืบคลานเข้ามาทำให้ใจนึกกลัว

   ผมพยายามขยับกายเพื่อจะถอยหนี ผมต้องการเวลาเพื่อที่จะตั้งหลักและทำความเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

   ทุกอย่างทำไมดูเหมือนมันวุ่นวายและตาลปัดไปหมด

   “อา นายรู้จักฉันจริงๆด้วย”เขากระซิบน้ำเสียงหยอกเย้า

   กายสูงใหญ่เปลือยอกหยัดตัวขึ้นมาคร่อมเข่าทับผมเอาไว้ ผมได้แต่เบิกตากว้าง

   มองดูผู้ชายที่ภายนอกเหมือนกับพี่ธาราแต่ภายในกลับไม่ใช่คร่อมทับอยู่เหนือร่างกาย

   “จะ จะทำอะไรน่ะ”ผมถาม

   ดวงตาของเขาพราวระริกราวกับว่ามีอะไรซ่อนอยู่ข้างใน ไม่มีวี่แววที่บ่งบอกได้ว่าหลงเหลืออะไรอยู่ในนั้น

   เรือนผมสีดำขลับคลอเคลียอยู่ตรงช่วงคอยาวเลยไปที่กลางหลังส่งให้พี่ธาราดูต่างจากที่เคยเป็น

   เขาแสยะยิ้มแล้วโน้มใบหน้าลงมาใกล้

   แขนทั้งสองข้างคร่อมทับผมเอาไว้ราวกับกรงขังที่ปิดกั้นไม่ให้ผมได้หนีออกไป

   “นายก็ลองเดาดูสิ ว่าฉันจะทำอะไร”

   เสียงกระเส่ากระสิบข้างหู จมูกโด่งเฉียดผ่านพวงแก้มไล่ไปที่ใบหู ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดใบหูและซอกคอจนทำให้ขนลุก
ชันไปทั้งตัว

   จมูกของเขากดลงบนซอกคอแล้วสูดหายใจเข้าปอด เหมือนกับพวกโรคจิตที่กำลังดอมดมผิวกายด้วยความหื่นกระหาย

   ผมได้แต่ตัวสั่น ขยับตัวไม่ได้

   “อา กลิ่นของนาย หอมต่างจากคนอื่นๆ”

   “อะ อือ ดะ เดี๋ยวสิ”

   ผมร้องห้าม มันต่างจากทุกครั้งที่พี่ธาราสัมผัสผม ความรู้สึกมันต่างออกไป

   ผมรู้สึกกลัว……

   ริมฝีปากหยักกดลงจูบเน้นย้ำลงบนลาดไหล่ของผม นั่นทำให้ผมรู้ว่าร่างกายของผมไม่มีอะไรปกปิด มีเพียงผ้าห่มผืนบาง
เท่านั้นที่ปิดเอาไว้

   ผ้าห่มถูกร่นลงไปจนถึงแผ่นอก พี่ธาราจูบเน้นย้ำลงไปเรื่อยๆ เขากดจูบลงที่ไหปลาร้า

   และผมก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อลิ้นร้อนตวัดเลียลงบนหน้าอก ข้างหนึ่งถูกเค้นคลึงด้วยปลายนิ้ว อีกข้างถูกหยอกเย้าด้วยปลาย
ลิ้น

   “อะ อื้อ พะ พี่ ธะ ธารา”ผมครางเสียงเบา

   อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีตามไปด้วย

   อาจจะเป็นเพราะจริงๆแล้วเขาคือพี่ธารา ถึงแม้ว่าจะจำผมไม่ได้ก็ตาม


   “นายหวานกว่าที่ฉันคิดเอาไว้”

   เขาพึมพำพลางแลบเลียร่างกายของผม

   หัวสมองของผมมันอื้ออึงไปหมด ความรู้สึกดีที่ก่อเกิดขึ้นมันกำลังตีกับจิตใจที่ต่อต้าน

   ยังไงซะตอนนี้เขาไม่ใช่พี่ธารา เขาจำอะไรไม่ได้ เขาจำผมไม่ได้ และที่สำคัญเขาจำสินสมุทรกับสุดธาราไม่ได้

   ผมไม่ควรจะยอมเขา เพราะจิตใต้สำนึกเขาไม่ใช่พี่ธารา

   เขาไม่ได้รักผม!!

   “ปะ ปล่อยผม”

   “ในเมื่อนายตามฉันมาถึงที่ขนาดนี้แล้ว เรื่องอะไรฉันจะปล่อยนายไปง่ายๆล่ะ”

   “แต่พี่ จำผมไม่ได้ ทำไมถึง…”ผมสะอึก มันเหมือนกับมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอทำให้พูดไม่ออก

   อยากจะต่อว่า อยากจะถามว่าเพราะอะไร ทำไมถึงลืมกัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้

   “ใช่ ฉันจำนายไม่ได้ จำอะไรไม่ได้เลย นอกจากชื่อและตัวตนของฉันเอง แต่ฉันก็ไม่คิดว่านั่นมันจะสำคัญสักเท่าไร หรือว่า
มันสำคัญกับนายล่ะนายถึงได้ลงทุนตามฉันมา หืม ว่าไง”

   เขากระซิบถามทั้งที่จมูกของเขายังคลอเคลียอยู่กับเม็ดสีแดงเรื่อบนยอดอก

   คำพูดของเขาทำเอาผมเจ็บ เขาพูดว่าความทรงจำที่ผ่านมาไม่สำคัญกับเขา

   “สำคัญสิ มันสำคัญกับผมมาก พี่เป็นคนสำคัญของผม”ผมพูดเสียงสั่น

   “งั้นนายก็ลองพิสูจน์สิ ว่าฉันสำคัญกับนาย”

   พี่ธาราเงยหน้าขึ้นมามอง ตาของเราประสานกัน ดวงตาที่ดุดันตอนนี้ฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาไม่ปกปิด รอยยิ้มร้ายแสยะขึ้น
มาที่มุมปากทำให้นึกหวั่น

   “แล้วผมต้องพิสูจน์ยังไง”

   พูดจบร่างกายของผมก็รู้สึกว่าเป็นอิสระจากการถูกตรึงจากสิ่งที่มองไม่เห็น พี่ธารายิ้ม ไม่ได้ตอบคำถา แต่ใบหน้าของเขา
เคลื่อนเข้ามาใกล้

   “ดะ เดี๋ยวสิครับ คุยกันก่อน”คราวนี้ผมยกมือขึ้นดันหน้าของเขาเอาไว้ก่อนที่มันจะเข้ามาใกล้

   “หึหึ เป็นอย่างที่คิด เหยื่อที่ดิ้นรนได้น่ากินกว่าเหยื่อที่ไร้สีสันขึ้นเยอะ”

   “มะ หมายความว่าไง”

   เขาหมายความว่าผมเป็นเหยื่องั้นเหรอ และดูเหมือนว่าเขาจะชอบใจที่ผมขัดขืนเขาซะด้วย คงรู้อยู่แล้วว่ายังไงผมก็ขัดขืน
เขาไม่ได้ แต่ก็ยังจะทำเหมือนผมเป็นของเล่น

   มันน่านักเชียว ทำไมพี่ธาราที่เคยสุขุมถึงได้เปลี่ยมไปขนาดนี้กัน

   “ดะ เดี๋ยวก่อน พะ พี่ธารา อะ อื้อ ยะ อย่าจับตรงนั้นสิ อะ”

   ไม่ทันแล้ว มือซุกซนของเขาล้วงเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนบาง ขยับเข้าไปกอบกุมมณีน้อยให้ได้ลุกขึ้นมาสู้

   “นายดูท่าจะชินกับมือนะ ว่าไหม”

   “อะไม่ใช่นะ อะไรของพี่เนี่ย ผมบอกให้คุยกันก่อน”

   ไม่ไหวแล้ว พี่ธาราคนนี้ น่ากลัว เขาน่ากลัวและหื่นเกินที่ผมจะรับมือไหว

   ผมได้แต่ดันแผงอกเปลือยเปล่าและใบหน้านั้นเอาไว้ไม่ให้คุกคามไปมากกว่านี้ จมูกโด่งเฉียดไปมาระหว่างแก้มและริม
ฝีปาก

   ผมพยายามผลักเขาออกด้วยแรงทั้งหมดที่มีอยู่ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยสะทกสะท้านสักเท่าไร

   “ขัดขืนให้มากกว่านี้สิ ฉันจะได้สนุกมากขึ้น”

   “อะ อย่า จับ อือ”

   “ฉันยังมีเวลาเล่นกับนายอีกไม่มาก อาทิตย์ตกดินเมื่อไร เราจะสนุกกันให้เต็มที่”เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า มือใหญ่เริ่ม
ขยับชักจูงมณีน้อยให้คล้อยตาม

   แต่เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้ว่าอะไรนะ

   “อะ อะไรนะ อย่าบอกนะว่า วันนี้พระจันทร์ ตะ เต็มดวง”

   “น่าแปลกใจนะที่นายรู้มากกว่าที่ฉันคิด”

   “ไม่จริง ไม่ได้นะ พี่ทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ”

   ถ้าทำเรื่องแบบนี้ในคืนนี้ มีหวังผมท้องอีกแน่!!

   “นายเดินเข้ามาหาฉันเอง หมูน้อย”

   “หะ ห่ะ แล้วทำไมต้องหมูน้อยด้วยล่ะ”ผมสะดุดแต่ก็ยังยกมือดันอกล่ำๆของพี่ธาราเอาไว้

   “ก็นายเป็นเหยื่อของฉันไง ไม่ต้องกลัว ฉันจะค่อยๆกินนาย ลิ้มรสทั้งหมดจากตัวนายเอง”

   “บะ บ้าไปแล้ว”

   ทำไมเขาถึง เอ่อ ถึง หื่นได้ขนาดนี้ ต่างจากพี่ธาราคนก่อนลิบลับ

   มือที่กุมมณีน้อยเริ่มขยับและกุมแน่นขึ้น ผมได้แต่กัดฟัน ขมวดคิ้วเข้าหากันเพื่อข่มอารมณ์

   ไม่ได้เด็ดขาดผมจะยอมเขาไม่ได้

   “ยะ หยุด ก่อน ผม อะ อื้อ”

   ยังไม่ทันได้พูดจบ ริมฝีปากร้อนประดับด้วยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ฉกจูบลงมา


   เป็นจูบที่ทั้งจาบจ้วงและหยาบโลน เพียงความหื่นกระหายเท่านั้นที่ส่งผ่านเรียงลิ้นเขาเข้าเข้ามา

   ผมไม่ทันได้ขัดขืนและตั้งตัว ลิ้นของเขาก็ซุกไซร้เข้ามาในโพรงปาก ดูดดึงเอาลิ้นผมให้คล้อยตาม

   ผมควรจะทำยังไงดี ร่างกายของผมมันดูเหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจต่อต้านสักเท่าไร

   “อะ อื้อ อือ”ผมทั้งทับ ทั้งผลักอกหวังให้เขาผละออก แต่เปล่าเลย มือของเขายิ่งเร่งมือหนักขึ้น

   จูบยิ่งเพิ่มความหนักหน่วงขึ้นเป็นเท่าตัว ความรู้สึกในตอนนี้เหมือนกับถูกฉุดดึงขึ้นสู่ที่สูง


   ร่างกายมันเริ่มดิ้นเร่าไม่รู้ตัว ความรู้สึกจุกหน่วงมันไปองรวมกันที่ท้องน้อย รู้สึกสุขสมทั้งที่ใจต่อต้าน ความรู้สึกมันเหมือน
กับคาราคาซัง

   ยอกอกข้างหนึ่งถูกมือที่ว่างอีกข้างเค้นคลึงทำให้ต้องสะดุ้ง

   เรียวลิ้นร้อนยังคงชักจูงให้ผมคล้อยตาม

   มันเหมือนเชือกที่รัดตัวของผมเอาไว้ค่อยๆดึงจนตึงแน่น ร่างกายมันอึดอัดจนแทบจะทนไม่ไหว มันทรมานจนต้องจิกเล็บ
บนลาดไหล่ของเขาเพื่อเป็นที่ระบาย

   “อะ อื้อ อื้อ”

   ผมดิ้นพล่าน แรงชักจูงทำให้ในที่สุดสิ่งที่อัดอั้นเอาไว้ก็ถูกระเบิดออกมา

   ผมหอบหายใจถี่สูดลมหายใจเข้าปอดด้วยความเหนื่อยอ่อน ได้แต่นอนหมดแรง ปรือตามองใครที่คร่อมอยู่เหนือร่างกาย
ด้วยความอับอาย

   ทั้งอายและก็โกรธ นี่มันเรื่องบ้าอะไร!!

   จู่ๆก็โดนพี่ธาราเวอร์ชั่นใหม่ปล้นน้ำไปตั้งแต่แรกเจอแบบนี้ มันน่าอับอายขายหน้าชะมัด

   แต่เรื่องราวมันยังไม่จบ ดวงตาคมกริบหรี่มองผมด้วยความพึงพอใจ เขาคงพอใจมากที่เห็นผมนอนหอบหายใจผมหมด
สภาพขนาดนี้

   แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น สิ่งที่ทำให้ร่างกายของผมร้อนวูบไปทั้งร่างด้วยความอายที่แทบจะแทรกแผ่นดินหนี

   มือใหญ่ถูกยกขึ้นมาอยู่เหนือสายตาของผม มือที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำสีขาวขุ่นน่าอาย

   ผมหน้าร้อนวูบจนแทบจะไหม้

   “เสร็จเร็วจังเลยนะ”เขาพูดหยอก

   ลิ้นชุ่มน้ำลายค่อยๆสอดออกมาจากริมฝีปากของเขา พี่ธารากำลังเลียสิ่งนั้นที่อยู่บนมือ

   ผมอยากจะบ้าตาย!!

   ให้ผมตายไปตอนนี้เลยก็ได้ ผมอายจนแทบจะมุดลงไปในที่นอน

   “พะ พี่ ทำอะไรน่ะ”ผมถามเสียงสั่น

   “รสชาติดีนี่ ชักอยากจะให้ถึงคืนนี้เร็วๆแล้วสิ”

   พี่ธาราพูดหน้าตาเฉยแล้วมองไปที่หน้าต่างบานเกร็ดสีขุ่น ทำให้ผมมองตาม

   แล้วสะดุ้ง แสงสีส้มอ่อนตอนนี้กลายเป็นแสงสีส้มอมม่วงบอกเวลาว่าพระอาทิตย์ใกล้ตกดินเต็มที

   “ไม่จริงน่า ผมว่า เอ่อ เราคุยกันก่อนดีไหม”

   ผมต่อรอง ทั้งห่วงตัวเอง ทั้งห่วงเด็กๆ ป่านนี้คงจะกลับไปที่รีสอร์ทแล้ว แต่ป่านนี้แล้วไม่มีใครสังเกตเลยรึไงว่าผมออกมา
ซื้อน้ำแข็งนานอย่างกับผลิตเองอย่างนี้

   “ได้สิ ฉันยินดีจะคุยกับนาย”เขายิ้ม





   “แต่ต้องด้วยภาษากายนะ”

   พูดจบลำตัวสูงใหญ่ก็โถมทับลงมา แผ่นอกเปลือยแนบมาจนชิด ร่างกายของเราแนบชิดกันจนสัมผัสได้ถึงไออุ่น

   “ไม่ใช่ เดี๋ยวก่อน ผมไม่ได้หมายความ ว่าอย่างนั้น อะ อื้อ”

   ผมพยายามปฏิเสธ แต่ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตร?ก็ซุกไซล้ลงบนลำคอ

   “หอม”

   นี่คือคำที่เขาพร่ำบอกพร้อมกับสูดหายใจเข้าปอด

   ทั้งหื่นทั้งโรคจิต เขาต้องบ้าไปแล้ว

   ตอนนี้ผมทั้งผลักทั้งดันทั้งถีบ แต่แรงที่มีมันก็น้อยนิดเหลือเกิน ปฏิบัติการปล้นน้ำเมื่อครู่ทำเอาเรี่ยวแรงผมหายไปกว่าครึ่ง



   โครมมมมมมมมม!!

   แต่แล้วเหมือนโชคชะตาเข้าข้างคุณพ่อ เอ้ย ไม่สิ คุณแม่ลูกสองอย่างผม

   ประตูที่ดูเหมือนจะผุแหล่ไม่ผุแหล่ถูกผลักออกอย่างแรงจนกระแทกกับผนังเสียงดังสนั่น

   ผมกับพี่ธาราที่ละจากการปลุกปล้ำอย่างเมามันหันไปมองทางประตูพร้อมกันทันที

   หมอทศ!!

   “คิดไว้แล้วว่าต้องใช่ กลิ่นเหม็นเน่าของยักษ์อีกตัวที่อยู่แถวนี้คงเป็นนายสินะ”

   คุณหมอพ่นควันบุพรี่ออกจากปากแล้วพูดด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย ผมถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก

   เกือบจะต้องอุ้มท้องอีกแล้วสิ

   “หึหึ ดูท่าวันนี้นายจะรอดนะ”เขาโน้มหน้าลงมากระซิบข้างหู


   ริมฝีปากขบเม้มลงมาบนติ่งหูของผมอย่างแรงจนสะดุ้ง

   “อะ อ๊ะ”ผมหน้าแดง มองดูพี่ธาราหยัดกายขึ้นลุกลงไปยืนที่พื้นห้องข้างเตียง

   ใบหน้าของเขาดูไม่ค่อยหยี่ระและดูจะจะหมอทศกัณฐ์ไม่ได้

   “ไม่คิดว่าจะมีพวกเดียวกันติดตมมาด้วย”พี่ธาราพูดด้วยน้ำเสียงยียวนแล้วยกมือเสยผม

   แต่ว่า เอ่อ หล่อ พี่ธาราแบบนี้ก็หล่อไปอีกแบบ


   เรือนกายสูงใหญ่สมส่วนท่อนล่างสวมกางเกงยีนส์สีเลือดหมู ท่อนบนเปลือยเผยมัดกล้ามแน่นน่าอิจฉากำลังยืนอยู่กลาง
ห้องแคบ

   ผมได้แต่มองพี่ธาราสลับกับคุณหมอทศ

   ทั้งสองคนกำลังคุมเชิงกันอยู่

   “คงจะจำอะไรไม่ได้สินะ อย่างที่คิดไว้เชียว”คุณหมอพูดก่อนจะสูดบุหรี่เข้าปอด

   “ก็คงงั้น”

   พี่ธารายักไหล่ ปรายตามองมาทางผม

   “แล้วเจอกัน”

   เขาหันมาบอกผม มันเร็วมากจนมองแทบไม่ทัน ทันทีที่คุณหมอทศก้าวเข้ามาในห้องเพียงก้าวเดียว

   พี่ธาราก็พุ่งไปที่ประตูระเบียงห้อง มันถูกกระแทกเปิดอย่างแรง และปิดลง

   คุณหมอทศได้แต่พุ่งตามออกไป แต่ไม่ทันแล้ว คุณหมอสบถอย่างหัวเสีย

   ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาห่อร่างกายแล้วเดินตามออกไปนอกระเบียง

   อยากจะบ้าตายพอนับดูอีกที

   หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก นี่มันชั้นหก

   พอมองลงไปข้างล่างก็เห็นพี่ธาราวิ่งไปหลังไวไวเข้าไปในตรอกเคบๆซะแล้ว

   “ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”เขาหันมาถาม

   “มะ ไม่ครับ”

   ไม่เป็นก็บ้าแล้ว ถึงจะตอบอย่างนั้น แต่หน้าก็แดงเรื่อ

   พี่ธาราหนีไปแล้ว แล้วคราวนี้ผมจะไปตามที่ไหน แต่ก็ยังดีอย่างน้อยผมก็ได้รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ เขายังอยู่กับผมและลูกๆ

   ถึงจะไม่ได้อยู่ข้างกันก็ตาม แต่ปัญหาที่มีอยู่ตอนนี้ก็คือ

   พี่ธาราจำอะไรไม่ได้เลย

   “ดูท่าคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะหาเจ้าบ้านั่นเจอ”คุณหมอทศออกความคิดเห็นพลางหยิบเอาเสื้อผ้าของผมที่กองอยู่บน
พื้นยื่นให้


   ผมหันไปรับ แต่สายตาก็สะดุดเข้ากับบัตรอะไรสักอย่างที่เหมือนกับบัตรพนักงาน

   “มันอาจจะไม่นานอย่างที่คิดก็ได้ครับ”ผมตอบ อาศัยจังหวะที่อีกคนเผลอหยิบบัตรพนักงานติดมือมา

   “นั่นมันก็แล้วแต่โชคชะตา”เขาพึมพำ พ่นควันบุหรี่ออกมา

   “ครับ ว่าแต่คุณหมอหาผมเจอได้ยังไง แล้วเด็กๆ”

   “จะว่าตามนายมาก็คงไม่ใช่ ฉันตามเจ้านั่นมามากกว่า”

   “หมายถึงตามพี่ธารา?”

   “ใช่ ฉันได้กลิ่นของหมอนั่นแถวนี้ ก็เลยลองตามมา ไม่นึกว่าจะเจอนาย เจ้านั่นคงจะได้กลิ่นของนายถึงได้พานายมาด้วยอย่างนี้ แต่ก็เอาเถอะ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เรารีบกลับกันดีกว่า อีกเดี๋ยวก็จะมืดแล้ว”

   เขาบอกทำให้ผมนึกได้ว่าเขาเองก็ไม่ถูกกับพระจันทร์เวลาเต็มดวง

   ผมรีบใส่เสื้อผ้าแล้วเดินตามเขาออกมา

   ยังไงซะ ผมจะต้องเอาพี่ธารากลับมาให้ได้ ผมจะต้องพาพี่ธาราไปเจอกับลูกๆของเราให้ได้แน่นอน

   ผมคิดพลางพลิกบัตรพนักงานในมือไปมา



=================================================================   




ตอนที่ 1 ภาค 1 ชื่อตอน โจรห้าร้อย
ตอนที่ 1 ภาค 2 ชื่อตอน โจรปล้นน้ำ
ห้า ห้า ห้า เรื่องบังเอิญใช่ไหม หรือยังไง รภาคนี้เน้นหื่น เน้นฮา ไม่ขายมาม่า ไม่เอาไวไว
ใครรออเลน จะได้เจออลัน อลันคือใคร ต้องรอดู แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะ ห้าห้าห้า
ปลลอ ของรางวัลผู้ร่วมสนุกตอบแบบสอบถาม แพ็คแล้ว แต่ยังไม่ได้ส่ง ห้าห้าห้า วันจันทร์ไปส่งให้น้าาาาารับแซ่บเน้อ

รูปนี้มโนเป็นอลัน อลันคือใคร ให้ทาย

 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2016 16:52:28 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เราว่ารูปนั้นน่าจะเป็นลูกพี่อเลนกับหมอทศ ว่ากันไปนั่น 555555
ตามพี่ธารากลับบ้าน เอาไม้ทุบหัวแล้วลากเข้าถ้ำเลยมณี!!!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด