✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59  (อ่าน 244360 ครั้ง)

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2016 03:49:43 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ Nam-Ing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านแล้วขัดใจทำไมมณีบื้ออย่างนี้  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
มันขัดใจจริงๆ นะ กับความบื้อของมณีนี่

โดนเล่นงาน โดนทำร้าย เพราะไม่เคยระวังกับรูปโฉมภายนอกที่มาในรูปร่างสตรี

ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้องพลาดท่า แต่ก็ไม่เคยจดจำเลยซักที  :katai1:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
อ๊ากกกกกก หงุดหงิดกับมณีจริงๆ! :ling1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ขอตบมาลีกับมณีหนึ่งที  :beat:
หงุดหงิดเว้ยเฮ้ย  :m16:

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
รู้สึกขัดใจในความซื่อบื้อของมณีสุดๆเลยอ่ะ  :serius2:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
บื้อเกินก็น่าเบื่อนะ แต่ก็ว่าไม่ได้ ไม่รู้ก็คือไม่รู้

แต่อย่างน้อยก็น่าจะเชื่อใจ ฟังคำอธิบายก่อนนะ   :serius2:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
มณีนีตลอดเลยผิดซ้ำผิดซาก แก้ไม่หายซักทีไม่คิดบ้างเหรอว่าถ้าอีกฝ่ายหมดความอดทนแล้วทิ้งไปจะทำไง

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
42369

ครั้งที่ 27 ใส่ร้าย


   ครั้งที่ 27 ใส่ร้าย+หลอกลวง


   แสงแดดในยามบ่ายถูกบดบังด้วยก้อนเมฆมืดครึ้ม บ่งบอกถึงสภาพอากาศในช่วงฤดูมรสุมกำลังจะมาถึง

   ลมฝนเริ่มพัดแรงขึ้นเรื่อยๆจนต้นไม้ที่อยู่ในบริเวณบ้านหลังใหญ่ห้อมล้อมด้วยกำแพงสูงลิ่วปลิวลู่ไปตามแรง



   “ได้เวลาขึ้นจากสระแล้ว อีกไม่นานฝนใกล้จะตก ลูกจะไม่สบายเอา”ร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลาราวกับรูปปั้นโบราณพูด
ทัก

   มนุษย์ครึ่งปลากำลังแหวกว่ายอวดหางสวยอยู่ในสระน้ำใสอย่างสบายอารมณ์

   “พี่วรรณ ข้ายังอยากเล่นน้ำอยู่เลย”เสียงหวานเอื้อนเอ่ย

   “ขืนนายดื้อล่ะก็ พรุ่งนี้ฉันจะไม่พานายออกไปข้างนอก”ศรีสุวรรณขู่ทีเล่นทีจริงกับเงือกหนุ่มท้องโย้กำลังว่ายเข้ามาเกาะริม
ขอบสระแล้วช้อนตามอง

   คิ้วเรียวสวยตกลงเล็กน้อยเมื่อถูกขู่

   ท้องทะเลกว้างใหญ่ที่ว่าท่าเที่ยวเล่นไปทั่วยังเทียบไม่ได้กับผืนแผ่นดินที่เต็มไปด้วยสิ่งแปลกใหม่ที่แทบจะไม่รู้จัก

   ยิ่งยามค่ำคืนแสงไฟต่างๆหลากสีสันยิ่งทำให้น่าดูน่ามองจนอดที่จะทึ่งไม่ได้เลย

   การปรับตัวไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิดสำหรับการใช้ชีวิตบนผืนแผ่นดินของเงือกหนุ่ม หากแต่มีคนรักข้างกายที่คอยอยู่เคียง
ข้างทำให้ทุกเรื่องดูง่ายดายไปถนัดตา

   เรียวหางปรกคลุมเกร็ดสีครามเข้มตวัดขึ้นเหนือผิวน้ำ

   ใบหน้าขาวแดงเรื่อเมื่อมือร้อนทาบลงบนสะโพกกลมกลึงลูบไล้เอาเกร็ดลื่นอย่างเบามือ

   “ขึ้นมาได้แล้ว ลูกของเราจะเหนื่อยเอาได้ อีกอย่างเมื่อเช้าฉันก็ซื้อขนมเค้กที่นายชอบมา นายไม่อยากกินรึไง”ศรีสุวรรณยิ้ม
มุมปาก

   ตาดุดันลอบมองปฏิกิริยาของเงือกหนุ่มที่ขมวดคิ้วคล้ายกับจะชั่งน้ำหนักสิ่งแลกเปลี่ยน

   “งั้นก็ได้ ข้าเชื่อพี่”

   เงือกหนุ่มเงยหน้าขึ้นยิ้ม ร่างโปร่งบางถูกช้อนอุ้มขึ้นมาจากผืนน้ำ หยดน้ำเม็ดเล็กๆหล่นลงมาจากฟ้า มากขึ้นเรื่อยๆพร้อม
กับเสียงเซ็งแซของสายฝน



   ร่างครึ่งปลาถูกวางลงบนเตียงหนานุ่มอย่างเบามือ ริมฝีปากหยักจรดลงบนหน้าผากนูน

   กายเล็กกว่าสั่นเล็กน้อยเมื่อหางยาวเรียวกำลังแปลเปลี่ยนเป็นเรียวขาขาวเนียน น่าสัมผัสไม่น้อย

   “อื้อ พี่วรรณ”

   เจ้าของใบหน้าหวานราวกับนางในตำราเบือนหน้าหนีริมฝีปากร้อนแล้วขมวดคิ้วมุ่น

   “มีอะไร?”ศรีสุวรรณถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายขมวดคิ้วคล้ายกำลังเจ็บ

   “ลูก อื้อ ลูก”

   ชลาสินธุ์ร้องเสียงแผ่วพลางกุมท้องที่ภายในกำลังเคลื่อนไหวจนเห็นเป็นรูปร่าง

   

   “เจ็บมากไหม”เขาถามอย่างกังวล

   “ไม่ อื้อ ข้าไม่เจ็บหรอกพี่วรรณ เพียงแต่ รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเวลาที่ลูกดิ้น”ตอบพลางคลี่ยิ้ม

   “ลูกนายท่าทางจะอยู่ไม่สุข เหมือนนายไม่มีผิด ชักจะรอให้คลอดไม่ไหวแล้วสิ”ชายหนุ่มบอก

   จมูกโด่งก้มลงคลอเคลียกับท้องกลมนูนที่สงบนิ่งลงไปแล้ว จูบอันอ่อนโยนประทับลงผ่านผิวกายส่งผ่านความรักสู่สิ่งมีชีวิต
ที่ใกล้จะลืมตาขึ้นมามองโลกในอีกไม่นาน

   “นายนอนพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะลงไปเอาของว่างมาให้”

   ว่าที่คุณพ่อบอกพร้อมกับดึงเอาผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมกายเงือกหนุ่ม ในขณะที่สภาพอากาศเริ่มเย็นตัวลงจากฝนที่เท
กระหน่ำลงมา



===================================================================



   เสียงคล้ายกับของหล่นแตกปลุกให้ผมรู้สึกตัวจากการหมดสติ กลิ่นหอมหวานน่าเอียนลอยคลุ้งเข้ามาในจมูกจนรู้สึกเวียนหัว
อยากจะอาเจียน

   

   ผมเปิดเปลือกตาอันหนักขึ้นขึ้นมาอย่างยากลำบาก สิ่งแรกที่เห็นคือแจกันดอกไม้สีขาวสะอาดพระดับด้วยดอกกุหลาบ
สีชมพูอ่อนหวานสะดุดตา

   นี่คงเป็นต้นตอของกลิ่นหอมน่าอาเจียน

   ภายในห้องผนังกั้นด้วยไม้ดูแปลกตาทำให้ผมขมวดคิ้วมุ่นนึกย้อนไปถึงความจำครั้งสุดท้าย

   พอยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว จำได้เพียงแค่ว่ามีใครเอาผ้ามาอุดจมูกเอาไว้

   ความเป็นห่วงลูกในท้องทำให้ผมต้องรีบยันตัวขึ้นนั่งแล้วยกมือลูบท้องด้วยความใย   

   โชคดีที่ไม่มีอะไรผิดปกติทำให้ผมถอนหายใจออกมาแล้วลุกขึ้นเพื่อหาทางออก

   ภายในห้องที่กั้นด้วยไม้ แม้แต่พื้นยังเป็นพื้นไม้ทำให้ผมสันนิษฐานว่าบ้านหลังนี้น่าจะเป็นเรือนไทย

   ว่าแต่เสียงของแตกเมื่อครู่นี้ผมยังไม่คลายลงสัยเลยว่าดังมาจากไหน

   

   กรี๊ดดดดด!



   เสียงกรีดร้องพร้อมกับเสียงคล้ายโลหะหล่นด้านนอกทำเอาสะดุ้ง

   นั่นเสียงของมาลี!!

   บางทีเธออาจจะถูกจับตัวมาเหมือนกับผมได้

   แล้วใครล่ะที่เป็นคนทำ?

   ผมดึงประตูไม้แบบโบราณออก โชคดีที่มันไม่ได้ล็อก แค่ใช้ไม้ขัดเอาไว้จากด้านในเฉยๆ

   ผมรีบก้าวข้ามธรณีประตูอย่างระมัดระวังแล้วหันไปมองทางต้นเสียงที่คุ้นเคย

   

   คนแรกที่ผมเห็นเลยคือคนที่ผมรัก มันทำให้ผมใจชื้นและดีใจขึ้นมาทันที

   ผมเชื่อว่าเขาต้องมา ผมเชื่อว่าเขาจะต้องปกป้องผมและลูกตลอดเวลา

   พี่ธารายืนหันหลังให้

   ทันทีที่ผมเดินออกมาจากตัวห้องเขาก็หันมามองผมด้วยสายตาที่เป็นห่วงจนผมรู้สึกผิด

   แต่สิ่งที่น่าสะดุดตาคือในมือของพี่ธาราถือวัตถุเงินวาวฉาบด้วยเลือดสีแดงสด

   ดวงตาสีดำสนิททอสีเขียนมรกตเข้มจนน่ากลัว เขียวโค้งเรียวงองุ้มที่ผมไม่เคยนึกจะชินตาประดับอยู่บนริมฝีปากหยัก



   “พะ พี่ธารา”

   ผมเรียกเสียงแผ่ว เพราะเมื่อเดินเข้าไปใกล้อีกเพียงไม่กี่ก้าว เบื้องหน้าของพี่ธาราคือร่างของผู้หญิงที่กำลังทรุดนั่งลงกับ
พื้นไม้กระดาน

   ใบหน้าที่เคยขาวสะอาดน่าทะนุถนอมครึ่งหนึ่งอาบไปด้วยเลือดสีแดงฉาน


   ผมชะงักเท้ามองภาพนั้นด้วยกายที่เริ่มสั่นเทาด้วยความกลัว



   “มะ ฮึก มณี”เสียงหวานครางสะอื้น


   มาลีหันมามองผม สีหน้าดูหวาดกลัวจนน่าสงสาร



   สิ่งที่อยู่ในความคิดของผมก็คือ ทำไมพี่ธาราจะต้องทำร้ายมาลีด้วย



   “มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด มณี”พี่ธาราปล่อยวัตถุเปื้อนเลือดแดงสดร่วงลงบนพื้นกระดาน

   สิ่งที่พี่ธาราพูดแทบจะไม่ได้เข้ามาในหูผมเลยเมื่อสิ่งที่สำคัญสำหรับผมตอนนี้คือผู้ถูกกระทำอย่างมาลี

   มือเล็กสั่นยกขึ้นกุมใบหน้าอาบเลือดด้วยท่าทางอ่อนแอ

   ทำไมพี่ธาราถึงได้ทำร้ายมาลีได้ ร่างยักษ์ที่ดุดุดันอาจจะเป็นตัวชั้นดีที่ทำให้ผมคิดว่า สัญชาติญาณของอมนุษย์อาจจะเป็น
สิ่งที่ควบคุมยากเกินไป


   “มะ ณี ช่วยมาลีด้วย เขาจะฆ่ามาลี เขาบอกว่า มาลีอยู่ใกล้มณี ฮึก มาก ไป มาลีเจ็บ”เธอสะอื้น

   “ทำไม พี่ต้องทำแบบนี้ด้วย ผมไม่เข้าใจ”

   “แต่นางจะทำร้ายเจ้ามณี หากข้ามาไม่ทันล่ะก็”

   “มะ ไม่ใช่นะ มาลีถูกจับมาเหมือนกัน เขาโกหก คนที่จับเรามาหนีไปแล้ว มณีต้องเชื่อมาลีนะ ฮึก มาลีเจ็บ”


   มาลีละล่ำละลั่กพลางร้องไห้จนผมอดไม่ได้ที่จะถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกเพื่อเช็ดเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด

   “เจ้าอย่าไปเชื่อนาง นางกำลังโกหก”พี่ธาราปฏิเสธ ร่างสูงใหญ่ก้าวเดินเข้ามาทำท่าทางทำร้าย


   “อย่าเข้ามามากกว่านี้แม้แต่ก้าวเดียว ไม่ใช่ทุกคนที่เข้าใกล้ผมจะทำร้ายผมสักหน่อย ผมว่าครั้งนี้พี่ทำเกินไป มาลีอ่อนแอ
ขนาดนี้จะทำร้ายผมได้ยังไง ผมไม่คิดเลยว่าพี่จะใจร้ายแบบนี้”

   “มณี ทำไมเจ้าถึงได้”

   “พอเถอะ ตอนนี้ผมยังไม่อยากคุยกับพี่ในสภาพนี้”ผมว่า

   ร่างยักษ์ของพี่ธาราทำให้ผมเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา มันเหมือนกับว่าผมยังไม่รู้จักพี่ธาราดีพอ

   สายฝนที่ตกลงมาแรงเริ่มซาลง เมฆหนาครึ้มเริ่มเบาบางทำให้แสงแดดอ่อนๆทอลงมา

   ใบหน้าคมดุของพี่ธาราดูจะผิดหวัง เมื่อเห็นผมแสดงท่าทีห่างเหิน ดวงตากร้าวสีมรกตอ่อนลงเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทในทันตา




   “ไปเถอะครับมาลี รีบไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่า”ผมพยุงมาลีขึ้นแล้วเดินจากมา





==================================================================



   อีกฟากของเรือนไทยในห้องที่อยู่มุมสุด แสงแดดอ่อนสาดเข้ามาผ่านหน้าต่างไม้ที่เปิดแง้ม ใบหน้าขาวซีดถูกทาบทับด้วย
แสงสีส้มดูน่ามอง

   เรียวคิ้วยาวขมวดมุ่น ริมฝีปากเล็กรูปกระจับเม้มลงเล็กน้อยก่อนเปลือกตาปรกคลุมด้วยแพขนตาหนาจะขยับเปิดให้เห็น
ดวงตาสีดำสนิท

   “อื้อ”

   เสียงแหบห้าวครางอือในลำคอ มือทั้งสองข้างถูกมัดรวบไปด้านหลังทำให้สีหน้าเหนื่อยอ่อนตื่นตระหนกลืมตาโพล่งขึ้นมา
เต็มตา

   รู้สึกเจ็บแปลบที่ต้นขึ้นมาทันที

   พอนึกขึ้นได้ว่าเห็นว่าเพื่อนรุ่นน้องถูกอุ้มไปต่อหน้าต่อตา จึงสะกดรอยตามมาจนถึงบ้านทรงไทยโบราณหลังนี้



   พอเห็นท่าไม่ดีถึงได้โทรไปบอกกับธาราเจ้าของตัวจริงให้ได้รับรู้ แต่วางสายได้ไม่นาน ในขณะที่พยายามสังเกตการอยู่ไม่
ไกล

   รู้สึกตัวอีกทีก็มีของแข็งมากระทบต้นคอแล้วสลบไปในทันที นึกแล้วก็เจ็บใจตัวเองขึ้นมาที่เผลอไม่ระมัดระวังจนถูกจับตัว
มาอีกคนแบบนี้

   แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความเป็นห่วงในเพื่อนรุ่นน้องและเด็กในท้องนั่นยังคงมีมากกว่าเป็นห่วงตัวเองเสมอ







   “ดูท่านายจะดวงแข็งน่าดู”

   เสียงยียวนเรียกให้หันไปมอง กลิ่นบุหรี่ฉุนจมูกลอยคลุ้งไปทั่วห้องทำให้นึกถึงยักษ์กวนประสาทที่เคยลวนลามตัวเอง

   “มาได้ไง”อเลนร้องทัก กระถดตัวหนีทั้งที่นอนอยู่บนพื้นไม้

   เพียงพริบตายักษ์หนุ่มสิบหน้าก็เข้ามาประชิดจนแทบจะอยู่เหนือกายทำให้ดวงตาคมเบิกกว้าง

   “คิดจะทำอะไรกัน รีบแก้มัดสิ”เบือนหน้าหนีเมื่อใบหน้าดุดันไม่สมกับดีกรีคุณหมอโน้มเข้ามาใกล้

   “จะให้ช่วยก็พูดดีดี แล้วที่สำคัญ…..”คุณหมอเว้นเอาไว้

   “อะ อะไรล่ะ”

   “จะให้ช่วยมันก็ต้องมีของแลกเปลี่ยนสิ ไม่งั้นฉันจะขาดทุนเอา”

   “อะไรของคุณ ต้องการอะไรก็บอกมาจะได้จะได้จบๆ ผมรีบ เป็นห่วงมณี”อเลนขมวดคิ้ว เงยหน้าจ้องด้วยท่าทีไม่ค่อยสบ
อารมณ์

   “นายจะเป็นห่วงคนที่มีเจ้าของอยู่แล้วไปทำไมกัน นายน่าจะตัดใจดีได้แล้วนะ ยังไงนายก็ไม่มีทางได้ในสิ่งที่นายหวัง
หรอก”

   ทศกัณฐ์ยิ้มมุมปากยกบุหรี่ขึ้นสูบก่อนจะปล่อยควันสีเทาหม่นลอยคลุ้ง

   “ผมไม่ได้ขอความเห็น”

   “นั่นสินะ คนที่ทระนงตัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรคงจะไม่ต้องการความเห็นจากใคร”

   “รีบแก้มัดสักที”อเลนสะบัดหน้าหลบมือใหญ่กร้านที่ลูบลงบนแก้มของตัวเอง

   กายบางนอนตะแคงอยู่บนพื้นไม้กระเถิบหนีเมื่อรู้สึกว่ากำลังโดนคุกคามอยู่ยังไงยังงั้น



   “ก็อย่างที่ว่า ถ้าอยากจะให้ช่วยก็ต้องมีของแลกเปลี่ยน มันถึงจะสมน้ำสมเนื้อ”

   “ต้องการอะไรก็รีบบอกมา ผมไม่ได้มีเวลามาเล่นกับคุณ”

   “แล้วนายคิดว่าฉันต้องการอะไรจากนายล่ะ ละเวง”ริมฝีปากหยักยิ้มยั่ว

   


   “รู้จักชื่อนี้ได้ยังไง”เด็กหนุ่มลูกผสมดูตกใจไม่น้อย

   “นั่นสินะ ว่าแต่ จะเอายังไงล่ะ ฉันไม่ได้ว่างตลอด บอกไว้ก่อน”คุณหมอยักษ์ถือไพ่เหนือกว่า

   “ต้องการอะไรกันแน่ เท่าที่จำได้ผมไม่เคยทำอะไรให้คุณ”ตอบเสียงเริ่มขาดหาย

   กายถูกคร่อมทับด้วยกายใหญ่จนบดบังแสงที่ส่งลงมา ทั้งที่พยายามจะแข็งใจไม่แสดงถึงท่าทีหวาดกลัวอีกฝ่าย

   แต่ใจก็ยังหวาดระแวงเพราะอีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นยักษ์ที่พร้อมจะกินตนเองได้ทุกเมื่อ

   “ใครบอกล่ะ ว่าไม่เคยทำ เป็นเพราะนาย ทำให้ฉันต้องไร้หัวใจ”

   “พูดอะไร ผมไม่เข้าใจ แก้มัด ฮึก”ร่างกายสะดุ้งเฮือกตั้งแต่ยังพูดไม่ทันจบ

   มือเย็นชืดสอดเข้ามาภายใต้เสื้อยืดสีสะอาด กายเล็กกว่าสั้นเล็กน้อยเมื่อมือนั้นเลื่อนขึ้นสูงจนน่าหวาดเสียว

   

   “ใบหน้านี้ หลอกลวงคนอื่นให้หลงมาเยอะแค่ไหนแล้ว นายไม่รู้ตัวเลยรึยังไง”

   ทศกัณฐ์โน้มหน้าเข้าไปหาใบหน้าหวานติดไปทางลูกครึ่ง จมูกโด่งคลอเคลียลงบนพวงแก้มนุ่มจนมันแดงเรื่อ

   “หยุด จะ ทำบ้าอะไร”

   มือสองข้างที่โดนรวบไพล่หลังเป็นปัญหาข้อใหญ่ที่ทำให้ขัดขืนไม่ได้เลย

   “ลองฟังดูสิ นายได้ยินเสียงหัวใจของฉันรึเปล่าล่ะ”น้ำเสียงเกือบจะแข็งกร้าวออกปากคล้ายกับจะสั่ง

   แผ่นอกล่ำสันเลือนขึ้นไปเหนือใบหน้าที่ตะแคงหลบทำให้แผ่นอกนั้นแนบลงกับใบหูพอดี

   ใบหน้าหวานคมแดงระเรื่อง แต่สิ่งที่น่าตกใจคงไม่พ้นกับเสียงเงียบสงบภายในอกซ้าย

   “ไม่มีหัวใจ ”อเลนอุทาน สีหน้าดูตกใจไม่น้อย

   “ใช่ คนที่ทำให้ฉันต้องถอดหัวใจออกไปก็คือนายไงล่ะ”

   ทศกัณฐ์หยัดตัวขึ้นนั่งเคียงขุ่นคาง เบือนหน้ามองไปทางอื่นพลางครุ่นคิด





   ในอดีตเคยหลงรักนางละเวงจนแทบอดใจไม่ไหวจึงได้ลักพาตัวนางมา แต่ซ้ำร้ายนางไม่เคยมีใจอีกทั้งยังทรยศพาคนอื่น
เข้ามาลอบทำร้าย

   มีดลงมนต์ดำแทงเข้าตัดขั้วหัวใจยักษ์ผู้ลุ่มหลงในรักที่ไม่อาจเอื้อมถึง

   ในที่สุดนางก็หนีไป ความเจ็บช้ำจากมนต์ดำส่งผลให้ต้องควักเอาหัวใจออกมาเพื่อยืดชีวิต

   

   ถึงแม้จะต้องเป็นยักษ์ที่ไร้หัวใจ ทว่าแต่ความเจ็บเจ็บใจที่ที่ถูกทรยศยังไม่เพียงพอที่จะลบล้างความรักและความลุ่มหลงต่อ
นางไม่ได้เลย



   “เฮ้ย ทำอะไร แก้มัดสิ”

   ในขณะที่กำลังตกอยู่ในความคิด กายก็ถูกอุ้มขึ้นพาดลงบนบ่าหนาทำให้ต้องร้องเสียงหลง

   “ถ้าอยากจะให้แก้มัดก็ต้องมีของแลกเปลี่ยน ฉันจะไม่พูดซ้ำ”

   “แล้วจะให้แลกกับอะไรก็บอกมาสิ”

   “อันนี้นายก็คิดเอาเองแล้วกันว่าฉันต้องการอะไร”ยักษ์หนุ่มยิ้มกริ่ม อุ้มพาร่างที่ไม่ค่อยจะอยู่สุขเดินออกจากห้อง

   “บ้าไปแล้ว ปล่อยเดี๋ยวนี้”

   “ถ้านายดิ้นแล้วตกลงมา ฉันไม่รับผิดชอบนะจะบอกให้”คุณหมอขู่

   แต่ก็ได้ผล อีกฝ่ายดูนิ่งไปถนัดตา



   หมอยักษ์เดินออกมาก็เห็นเพื่อนคู่กัดอย่างธารายืนนิ่งไม่ไหวติง บนพื้นข้างกายมีมีดลงอาคมเปื้อนเลือดสีแดงสด

   ข้อมืออีกข้างมีรอยแผลสีคล้ำนูนขึ้นมา

   “รอบนั่นถ้าปล่อยให้พ้นตะวันตกดิน มันจะรักษาไม่หาย”ทศกัณฐ์ทักยักษ์หนุ่มอีกตน

   รอยช้ำเล็กๆคล้ายรอยกัดดูน่ากลัวที่ปรากฏตรงแขน หากไม่สังเกตให้ดีคงจะมองไม่เห็น


   “เรื่องนั้นข้าย่อมรู้ดี”ธาราตอบเสียงเบาโหวง

   “ยักษ์โลภมากสู้มารยาหญิงไม่ไหวรึไง หึหึ”คล้ายกับจะเป็นการเยาะเย้ยแต่ก็แฝงด้วยความเป็นห่วงยักษ์หนุ่มคู่กัด

   “มณีไม่เชื่อใจข้า”

   “นั่นมันเพราะเจ้าเด็กนั่นยังไม่รู้ความจริง”

   



===============================================================

(ย้อนไปหลายเดือนก่อน)
   เคร้งงงงง

   แจกันที่พึ่งถูกเช็ดจนสะอาดดีร่วงหล่นลงสู่พื้นหินอ่อน

   ดวงตาสีอ่อนมองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่ค่อยจะเชื่อสายตา มนุษย์ครึ่งปลาถูกอุ้มเข้ามาภายในตัวบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ใน
เกาะไกลจากแผ่นดิน



   ถึงจะเป็นเพียงเวลาไม่นาน แต่ภาพนั้นมันยังตราตรึงอยู่ในสมอง มือผอมสั่นเทากับสิ่งที่ยังถูกตรึงอยู่ในความคิด

   กว่าสองเดือนแล้วที่ถูกพามาปล่อยทิ้งไว้ที่เกาะนี้ ถูกทำราวกับเป็นคนรับใช้ ทั้งที่ตลอดมาไม่เคยแม้แต่จับไม้กวาดทำงาน
บ้านมาสักครั้ง

   เจ้าบ้านที่นานครั้งจะเจอหน้าเอาแต่คอยออกคำสั่งก่อนจะหายไป บางครั้งเป็นอาทิตย์ก็จะกลับมา

   ความรู้สึกที่ราวกับว่ากำลังถูกย่ำยีศักดิ์ศรีโถมเข้ามากัดกินหัวใจ

   “ตกใจงั้นรึ”

   อย่างที่คิด เมื่อเกิดอะไรที่ผิดปกติหรือของในบ้านเสียหายหล่นแตก เจ้าของบ้านมักมาโผล่มาเสมอ

   เขาไม่ตอบแต่ย่อตัวลงเก็บเศษแจกันกระเบื้องเคลือบรวมกันไว้

   ความหวาดหวั่นในใจที่คิดว่าอีกฝ่ายที่กำลังจ้องมองนั้นเป็นอมนุษย์ ทำให้ต้องคอยระแวง ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

   มือผอมสะดุ้งชักกลับทันที

   เลือดสีแดงจางผิดกับเลือดของคนปกติทั่วไปซึมออกมาตามบาดแผล



   ฉับพลันมือก็ถูกดึงไปจากยักษ์สูงอายุที่ย่อตัวลงมา

   “เลือดเจ้าหอมนัก”น้ำเสียงคล้ายกับจะหยอกเย้า ทำท่าสูดดมกลิ่นเลือดสดเข้าไปในปอด

   “ปล่อย!!”วาลีชักมือกลับในทันที

   ดูท่าเจ้าตัวคงจะไม่รู้ว่ายักษ์ตรงหน้านั้นไม่กินเนื้อ

   วสินหัวเราะอยู่ในใจคล้ายกำลังขบขันท่าทีที่ดูเย่อหยิ่งจองหองไม่เสื่อมพยายามกลบเอาความหวาดกลัวเอาไว้ แต่ก็ไม่
มิดชิด



   “ทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วก็คืนนี้อย่าได้ออกมาจากห้องเป็นอันขาด”

   “ผมไม่ชอบให้ใครมาสั่ง”บอกปัดทั้งที่ไม่มองหน้าด้วยท่าทางวางตัวตามเคย

   “เจ้าไม่ได้อยู่ในสถานะที่ร้องของสิ่งใดได้”

   พูดจบยักษ์ผู้มากอายุก็เดินจากไป ทิ้งให้คนอย่างวาลีได้แต่นั่งเจ็บใจ

   บาดแผลที่มีเลือดซึมออกมายังไม่เท่าใจที่เจ็บจากการโดนดูถูกเลยสักนิดเดียว

===================================================================
   







CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ต่อจ้า

   โชคดีที่บาดแผลของมาลีไม่ได้ถึงกับลึกจนเป็นอันตราย แต่ก็ต้องเย็บหลายเข็มและต้องอยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลอย่าง
น้อยหนึ่งคืน

   ผมกลับบ้านมาด้วยสภาพร่างกายที่เหนื่อยอ่อนเต็มทนกับการที่ต้องเจอเรื่องราวที่สุดจะบรรยายต่างๆนานาติดต่อกันมาเป็น
เวลานาน

   อีกทั้งความไม่เข้าใจเกี่ยวกับตัวของพี่ธาราเองทำให้ผมค่อนข้างที่จะค้างคาใจเป็นอย่างมาก

   ผมไม่รู้ว่าตกลงแล้วพี่ธาราเป็นคนยังไงกันแน่

   ทันทีที่ก้าวเข้าไปในตัวบ้าน แผ่นหลังที่คุ้นเคยของคนที่ผมไม่อยากเจอมากที่สุดในตอนนี้ปรากฏสู่สายตา

   “ข้าเป็นห่วงเจ้า”พี่ธาราทักทันทีที่เห็นหน้าผม

   ภายในบ้านบรรยากาศเงียบงันเนื่องจากพ่อกับแม่มีซ้อมลิเกอยู่ที่โรงซ้อมที่ตั้งอยู่ข้างตัวบ้าน



   “พี่กลับไปก่อนดีกว่า ตอนนี้ผมยังไม่อยากคุยกับใคร”

   “เจ้ากำลังเข้าใจข้าผิดอยู่ มณี ข้าไม่ได้ทำอย่างที่เจ้าเห็นเลย”พี่ธาราอธิบาย

   “ถ้าพี่ไม่ทำแล้วใครจะทำ มาลีจะลุกขึ้นมาเอามีดกรีดหน้าตัวเองทำไม”

   “ใช่ นางทำตัวนางเอง”พี่ธาราเดินเข้ามาใกล้

   “จะเป็นไปได้ยังไง ไม่มีใครที่จะทำร้ายตัวเองแบบนั้นแน่นอน พี่กำลังโกหกผมอยู่”ผมถอยหนี

   “ข้าพูดความจริง”

   “ไม่ อย่าเข้ามา ผมไม่มั่นใจว่าพี่จะเปลี่ยนไปแล้วลุกขึ้นมาทำร้ายผมกับลูกตอนไหน”ผมว่า

   ซึ่งนั่นทำให้พี่ธาราชะงักมือที่กำลังเอื้อมมาหมายจะคว้าเอาผมไปกอด

   มือนั้นชักกลับไปพร้อมกับใบหน้าที่แสดงออกถึงความผิดหวัง

   

   ผมหลบสายตาคู่หมองก่อนจะเหลือบไปเห็นข้อมือที่พันด้วยผ้าพันแผล มันทำให้ผมตกใจเล็กน้อย แต่พอนึกได้ว่าพี่ธารา
เป็นยักษ์แล้วแผลของเขาหายเร็วมากแค่ไหนก็ทำให้คลายกังวลลงไปบ้าง

   แต่ก็ยังคงกังวลอยู่ดี ทว่าความหวาดกลัวและความไม่เชื่อใจทำให้ผมหยุดความคิดที่จะถามไถ่ได้แต่มองข้อมือที่พันผ้าสี
ขาวเอาไว้นิ่ง

   “พี่กลับไปก่อนดีกว่า ผมอยากจะพักผ่อน”ผมออกปากไล่

   “รับปากกับข้าได้หรือไม่ง่าดูแลตัวเองกับลูกให้ดี อย่าได้ออกไปข้างนอกคนเดียวเป็นอันขาด”

   “ครับ ผมจะดูแลลูกเป็นอย่างดี”ผมตอบรับ



   ใบหน้าคมคายพยักหน้าเล็กหน่อยก่อนจะเดินผ่านตัวผมไป ทิ้งให้ผมได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วง



   แรงดิ้นเล็กๆในช่องท้องเคลื่อนเสียดกันไปมาทำเอาต้องรีบทรุดนั่งลงกับโซฟา ยิ่งนานวันเข้าลูกๆในท้องก็ยิ่งมีปฏิกิริยามาก
ขึ้น

   ความสับสนที่เกิดขึ้นทำให้ผมนึกหนักใจขึ้นมา




   



   เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นขึ้นมาด้วยสภาพสมองที่ยังไม่พร้อมจะทำงานเลยสักนิด นอกหน้าต่างที่อึมครึมบ่งบอกถึงมรสุมที่ยังคง
ก่อนตัวอยู่เรื่อยในฤดูนี้

   

   ในช่วงเช้าของวันหยุดสุดสัปดาห์อีกวันของวันนี้เริ่มต้นด้วยความสงบสุข สงบจนนึกเบื่อขึ้นมา

   อาจจะเป็นเพราะเคยเจอแต่เรื่องราวประหลาดและปวดหัวอยู่เรื่อย เรื่องธรรมดาทั่วไปจึงกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อขึ้นมาทันที

   ในเช้าของวันไร้วี่แววของพี่ธาราต่างจากทุกทีทำให้พ่อกับแม่อดไม่ได้ที่จะถาม แต่คำตอบของผมก็คงมีแค่คำว่าไม่รู้คำ
เดียวที่จะบอกุกอย่างได้ดีที่สุดในตอนนี้

   ในช่วงสายพ่อกับแม่ก็พากันไปคุมลูกคณะซ้อมลิเกกันตามเคย ทิ้งให้ผมนั่งกินของว่างอยู่หน้าทีวี กดรีโมทเปลี่ยนช่องไป
มาทั้งที่ไม่รู้ว่าจะโฟกัสดูรายกันใด



   เสียงสั่นครืดของโทรศัพท์บนโต๊ะกลางเรียกให้ผมหยิบยกมันขึ้นมาดู หน้าจอแสดงเบอร์ของมาลีทำให้ขมวดคิ้วขึ้นมาด้วย

ความสงสัย

   “ว่าไงครับ หมอให้ออกจากโรงพยาบาลวันไหนครับ”ผมทักทายพร้อมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง




   ‘ฮึก มณี ฮึก มาหามาลีหน่อย มาลีเจ็บ’แว่วเสียงสะอื้นตอบมาจากปลายสาย

   “ทำไมไม่เรียกพยาบาลล่ะครับ”

   ‘ไม่มี ฮึก ไม่มีพยาบาล’เธอสะอื้น

   ทำให้ผมนึกสงสัย อีกทั้งเสียงลมที่พัดแรงแทรกมาจากปลายสายนั่นอีก

   “เดี๋ยวสิครับ ตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำไมเสียงลมถึงได้แรงแบบนั้นล่ะ”

   ‘ฮึก มาหามาลีหน่อยนะ ต้องมานะ มาลีเจ็บมากเลย มาลีกลัว ไม่นะ ช่วยมาลีด้วย มณี กึก กึก’



   เสียงกุกกักดังแทรกขึ้นมาทั้งที่มาลียังพูดไม่จบทำเอาตกใจ

   “ที่ท่าเรือสุดหาด….  มีเรือจอดอยู่ถ้าไม่อยากให้นังนี่เป็นอะไรไปซะก่อนก็รีบมา”เสียงแข็งกร้าวพูดกระชากเสียงห้วนดัง
แทรก

   “คุณเป็นใคร นี่ เดี๋ยว” ยังไม่ทันจะถามไถ่ ปลายสายก็ถูกตัด

   พอโทรกลับก็ไม่มีสัญญาณ



   ผมได้รับโทรศัพท์อีกครั้งเพื่อขู่ว่าห้ามแจ้งตำรวจหรือบอกใคร ซึ่งนั่นมันทำให้ผมยิ่งกดดัน

   มันมากเกินไปที่จะช่างน้ำหนักระหว่างผู้หญิงที่อ่อนแอกับลูกในท้อง

   ผมเป็นห่วงลูกในท้องมากจนหยุดที่จะกังวลไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน ความเป็นมนุษย์ก็ทำให้ผมละทิ้งคนคนหนึ่งไม่ได้
เช่นกัน



   ลมทะเลเริ่มพัดแรงเพราะพายุที่ใกล้จะพัดเข้ามาอีกระรอก คลื่นทะเลขึ้นสูง กลิ่นอายของฝนใกล้เข้ามาทุกที

   ท่าเรือด้านหน้าเป็นสะพานทอดยาวออกไปถึงเรือลำใหญ่สีขาวดูมีราคา

   เป็นเรือลำเดียวที่จอดอยู่ที่ท่านี้เพราะค่อนข้างจะไกลห่างจากแหล่งท่องเที่ยว

   เรืองลำใหญ่โคลงเคลงไปตามแรงคลื่นที่ซัดเข้ามา ฝนเม็ดเล็กเริ่มหยดปะปรอยลงมามากขึ้น



   กรี๊ดดดดดด!!

   เสียงกรีดร้องราวกับย้ำเตือนว่าผมมาที่นี่เพื่ออะไรทำให้ผมต้องรีบรุดเข้าไปที่เรือลำนั้น

   ทันทีที่ขึ้นไปบนเรือ ไร้วี่แววของใครอยู่ข้างบน

   ผมก้าวอย่างระมัดระวังเผื่อว่าคนร้ายจะอยู่แถวนี้

   ผมเดินมาหยุดหน้าประตูที่จะพาลงไปในท้องของตัวเรือ พอชะโลกหน้าเข้าไปก็เจอกับความว่างเปล่าทำให้นึกสงสัย

   แต่ไม่ทันไร มือก็ถูกกระชากดึงไปทางด้านหลังแรงจนเกือบล้มลงไป แขนอีกข้างเองก็ถูกจับเอาไว้ไพร่หลังจากแรงที่มีอยู่
มากจนไร้ทางจะตอบโต้

   ผู้ชายผิวขาวสะอาดท่าทางดูดีและสุภาพแต่แววตากลัวดูน่ากลัวและโหดเหี้ยมจับผมเอาไว้ทำให้ผมดิ้นไม่หลุด

   “ปล่อย คุณเป็นใครกันแน่ ต้องการอะไร ถ้าไม่ปล่อยผมจะเรียกให้คนช่วย”

   ผมขู่ไปแต่ก็ไร้เสียงตอบจากอีกฝ่าย หรือแม้กระทั่งท่าทีกังวลใดใดนอกจากท่าทีแข็งทื่อเหมือนเก่า

   “หากคุณไม่ปล่อยล่ะก็ ผมจะแจ้งตำรวจให้มาจัดการคุณ”ผมขู่





   “หึ คิดว่าทำได้ก็ลองดูซิ คิดว่าแถวนี้จะมีใครผ่านมารึไง อีกอย่าง แกลองแหกตามองดูซะบ้างมาตอนนี้แกอยู่ที่ไหน เรือมัน
ออกป่างจากฝั่งมาไกลแล้ว โง่จริงๆเลย”

   เสียงแหลมเล็กพูดสะบัดเสียง ทำให้แทบไม่เชื่อหูจนต้องหันไปมองทางต้นเสียง

   แล้วก็เป็นจริง มาลีเดินเข้ามาจากทางท้ายเรือพร้อมกับมีดวาววับปลายแหลมจนสะท้อนแสง

   ผมมองไปยังฝั่งตามที่มาลีบอก แล้วก็เป็นจริงอย่างที่ว่า เรือได้เคลื่อนตัวออกมาจากฝั่งตั้งแต่เมื่อไรก็ไม้รู้

   “ทำไมถึง”ผมพูดไม่ออกได้แต่มองหญิงสาวที่มีผ้าพันแผลแปะอยู่ครึ่งใบหน้า

   “หึ ไม่เสียแรงจริงๆที่ลงทุนกรีดหน้าตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจ แกมันโง่กว่าที่คิดเอาไว้จริงๆ ส่วนไอ้ยักษ์นั่นก็โง่ยิ่งกว่า
ที่รักแกจนยอมเจ็บเพื่อที่จะช่วยแก”

   “หมายความว่ายังไง”

   ในตอนนี้ผมงงไปหมด ถ้ามาลีบอกว่ากรีดหน้าตัวเอง นั่นก็แสดงว่าพี่ธาราไม่ได้ทำร้ายมาลี ทั้งหมดนี้เกิดจากมาลี

   เธอโกหกทุกอย่าง เธอหลอกผมมาตลอด

   แล้วที่แย่ไปกว่านั้น

   ผมกลับไม่เชื่อใจพี่ธารา ทั้งที่พี่ธาราพยายามจะปกป้องผมอยู่ตลอด

   “แกมันโง่ไง แต่ก็ดี ฉันจะได้จัดการเอาสิ่งที่ฉันต้องการมาง่ายๆ”

   “สิ่งที่ต้องการ พูดถึงอะไรกัน!!”


   ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากมือแข็งที่จับแขนของผมเอาไว้

   มาลีเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับเงื้อมีดสีเงินวับในมือ



   “สิ่งที่อยู่ในตัวของแกยังไงล่ะ เด็กที่มีเลือดของยักษ์อยู่น่ะ มันน่าจะแข็งแกร่งไม่น้อย”

   “อย่าแม้แต่จะคิด อย่ามาแตะลูกของผม คิดจะทำอะไรกันแน่”

   เธอรู้มาตลอดว่าในตัวของผมมีอะไรอยู่ ที่เธอเข้าหาผมตั้งแต่แรกก็เพื่อจะเข้ามาทำร้ายลูกของผมกับพี่ธารา ทำไมผมถึง
ไม่รู้เรื่องนี้และไม่เอะใจมาก่อน

   ผมมันแย่ เกินกว่าที่จะให้อภัยตัวเองได้เลย



   “แกไม่ต้องห่วง ลูกๆของแก จะต้องกลายเป็นลูกกรอกที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยล่ะ”เธอพูดพร้อมแสยะยิ้ม ยืนอยู่
เบื้องหน้า

   ทั้งที่พยายามดิ้นจนสุดแรงแต่ก็ไม่สามารถจะหลุดออกไปได้เลย

   มือที่ถือมีดปลายแหลมเงื้อขึ้นจนสุดแขนก่อนจะจ้วงแทงลงมาบนท้องของผม



   กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!



   





   




   

=================================================================

รอบนี้ไม่ค้างนะ มาต่อให้เลย อ่านต่อข้างล้างนะจ๊ะ

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2016 20:59:48 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ yingmin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 ขึ้นบนไม่ค้าง..แต่มาค้างข้างล่าง
อ๊ายยยยยย....มณีจะเป็นไรมั้ยยยยยย
 :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ junpa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :ling1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ค้างหนักกว่าเดิม

ออฟไลน์ meanmena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เค้าเรียกว่าไม่ค้าง จริงเหรอ!!

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
สำนึกตอนนี้มันก็สายไปแล้วป่ะคนรักกันแต่ไม่ให้ความเชื่อใจกันเลย คือมันหลายรอบหลายหน
แล้วผลทีตามมาคือบานปลายตลอดแล้วใครต่อใครต้องมาคอยแก้ไขปัญหาให้ตลอดแบบนีไม่ดีเลยนะ
ทำไรคิดถึงลูกบ้างไหมอ่านแล้วป่วยจิตกับนาง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
43126

   ครั้งที่ 28 ปกป้อง+สูญเสีย

      
   กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!


   เสียงกรีดร้องของมาลีดังก้อง

   แสงสีเหลืองสว่างวาบออกมาจากสร้อยพระที่พี่อเลนเคยให้เอาไว้ ผมเบือนหน้าหนีแสงที่สว่างจนต้องหลับตาลง



   ชายคนที่อยู่ด้านหลังของผมปล่อยมือจากผมทันทีทำให้ผมทรุดตัวลงนั่งบนพื้นดาดของเรือที่กำลังแล่นอย่างไร้จุดหมาย
ด้วยความอ่อนแรง

   

   “แก ไอ้บ้า ยังจะมัวเฉยทำไม ไปเอาสร้อยมันออกมาสิ”มาลีสั่งผู้ชายคนที่ผละออกไป

   ผมลุกถอยหลังหนีผู้ชายคนนั้น เขาเดินเข้ามาพร้อมกับนัยน์ตาโหดเหี้ยมราวกับไม่ใช่ดวงตาของมนุษย์

   มือของเขาเอื้อมมาข้างหน้าของผมหมายจะดึงเอาสร้อยคอที่ผมใหญ่อยู่ออกไป

   ทว่าแสงเหลืองสว่างวาบขึ้นอีกครั้งทำให้เขาต้องกุมตาของตัวเองเอาไว้ ควันทะมึนสีเทาไหววูบผ่านออกจากตัวของเขาก่อ
ตัวเป็นรูปร่างของเงาสีซีดใบหน้าอิดโรยซูบโซม

   ร่ากายของผู้ชายคนนั้นฟุบลงกับพื้นราวกับว่าพึ่งถูกผีสิง เงาทะมึนจ้องหน้าผมอย่างอาฆาตก่อนจะชี้หน้าอย่างแค้นเคือง
ก่อนจางหายไป

   “ไม่ได้เรื่อง ไอ้ผีตายโหงงี่เง่า”


   “ที่นี่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น”เสียงแหบพร่าต่างจากเมื่อก่อนหน้าถามขึ้น


   ผมถอยหลังหนีกลัวว่าเขาจะทำอันตราย แต่พอมองดูท่าทางที่ต่างจากเมื่อครู่ลิบลับยังพอดูท่าทีได้บ้าง

   ตาก็เหลือบมองวาลีที่ดูโกรธไม่ใช่น้อยที่ทำให้วิญญาณที่เธอควบคุมสลายไป

   “เธอคนนั้น แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง นี่มันกลางทะเล แล้วนี่เรือของฉัน นี่เธอทำอะไรกับฉันกันแน่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

   ดูท่าเขาจะถูกผีสิงจริงๆ

   “แก ถ้าแกไม่อยากตายล่ะก็จับมันเอาไว้ ไอย่างนั้นฉันจะสั่งให้ผีที่สิงแกเมื่อกี้หักคอแกให้ตาย”

   “อะ ไรนะ ผะ ผีงั้นเหรอ เธอ ใช่จริงๆด้วย ฉันไม่ได้ตาฝาด ครั้งสุดท้ายที่จำได้ฉันเห็นว่าเธอเรียกผีออกมา เธอสั่งให้ผีมาสิง
ฉันใช่ไหม ไม่เอานะ อย่าทำอะไรฉัน อย่าให้ผีมาเข้าสิงฉัน”

   “ถ้าแกไม่อยากจะถูกสิงอีกรอบล่ะก็ จับมันเอาไว้แล้วก็ถอดสร้อยคอมันซะ”

   “แต่ว่า ทำแบบนี้มันไม่ถูก มีดนั่น เธอจะฆ่าเขารึไง”

   “แก ไอ้โง่ ถ้าขืนแกพูดมากฉันจะฆ่าแกอีกคน”

   “ไม่เอานะ ฉันทำก็ได้ แต่อย่าฆ่าฉัน อย่าเอาผีออกมาด้วย ฉันขอร้อง”เขาพูดละล่ำละลักด้วยความกลัว

   ท่าทางนุ่มนิ่มเหมือนพวกผู้ดีขี้ขลาดเมื่อถูกจี้ทำให้เขาพุ่งเข้ามาหาผมด้วยความรวดเร็ว

   มันเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทันและถูกล็อกเอาไว้อีกครั้ง

   สร้อยคอถูกกระชากออกไปอย่างรวดเร็ว เร็วมากจนแทบจะไม่รู้สึกนอกจากความเจ็บจากสร้อยคอที่รัดชั่วครู่ก่อนมันจะขาด
ลง



   ในจังหวะที่สร้อยคอหลุดลง ผมก็ถือโอกาสผลักตัวของเขาออกก่อนจะวิ่งหลบไปยังอีกทาง

   แต่เขาก็ยังคงตามมาติดๆด้วยท่าทางลนลานเพราะความกลัวราวกับเป็นคนวิกลจริต

   “อย่าหนีนะ บอกว่าอย่าหนีไง”เสียงสั่นเครือขู่ในขณะที่ผมพยายามหาทางหนีทีไล่

   อีกทั้งเรือที่โคลงเครงและเม็ดฝนเริ่มตกลงมาถี่ ยากต่อการทรงตัว

   “อย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามาผมจะสู้นะครับ”

   หากมันเลือกไม่ได้ผมคงจะต้องสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อปกป้องลูก

   ผมมาสุดเอาที่ท้ายเรือเพราะโดนต้อนจากมาลีและผู้ชายคนนั้นจนจนมุม

   ฝนที่ตกลงมาทำให้ผมเปียกปอนจนต้องยกมือขึ้นเช็ดน้ำออกจากใบหน้าอยู่เรื่อย

   ตาจ้องมองร่างสูงดูสุภาพเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย

   เสียงฟ้าร้องคำรามตามด้วยแสงสว่างวาบดูน่ากลัว ไม่นานเสียงสายฟ้าก็ฟาดลงมาดังก้อง

   ผมตัวสั่นจากอากาศที่หนาวเย็นและความกลัว ผืนน้ำเบื้องล่างกำลังแปรปรวนจนดูเหมือนกับว่าหากตกลงไปร่างคงถูกกลืน
กินและดึงลงไปลึกจนไม่มีที่สิ้นสุด



   “จับมันเอาไว้”

   มาลีสั่ง ไม่นานเขาก็มาจับตัวผมดึงเอาไว้อีกรอบ ความเหนื่อยล้าและพายุที่เริ่มแรงขึ้นมันยากเกินกว่าที่ผมจะยื้อเอาไว้ได้



   มาลีก้าวเข้ามาแล้วเงื้อมีดขึ้นอีกครั้ง ปลายแหลมวาววับกำลังจะจ้วงลงมาบนท้องของผมถ้าหากว่าจู่ๆเรือไม่โครงไปเสียก่อน

   ราวกับว่าถูกกระแทกหรือผลักดันจากสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างรุนแรงร่างหายใหญ่มหึมาโผล่พ้นขึ้นมาเหนือน้ำ

   ผมมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา

   พี่ธาราที่มีลำตัวใหญ่จนผมยากที่จะคะเนได้ว่าใหญ่ขนาดไหน



   ใบหน้าโกรธเกรี้ยวนัยน์ตาสีมรกตและคมเคี้ยวงอโง่งจนน่ากลัว

   ผมไม่ได้ขยับไปไหนจากแรงกระแทกเพราะการยื้อยุดเมื่อครู่ทำให้ผมต้องเกาะขอบเรือเพื่อขืนตัวเอาไว้

   ต่างจากมาลีและผู้ชายที่ถูกผีสิงก่อนหน้ากระเด็นไปคนละทิศละทาง



   พี่ธาราค่อยๆหดตัวเล็กลง

   “เจ้าเจ็บตรงไหนหรือไม่”พี่ธาราถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงพลางประครองตัวผม

   “ไม่ครับ ฮึก ผมนึกว่าพี่จะไม่มา”

   ในที่สุดสิ่งที่พยายามจะปกปิดเอาไว้ก็พังทลายลง ทั้งที่พยายามเข้มแข็งเพื่อปกป้องลูกเอาไว้

   แต่พอคนคนนี้มา ผมก็กลายเป็นคนอ่อนแอขึ้นมาทันที

   อาจจะเพราะผมรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาก็เป็นได้ ทำให้ผมทิ้งตัวลงสู่อ้อมกอดของพี่ธาราด้วยความอ่อนแรง

   “ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเจ้ากับลูกอีกเด็ดขาด”

   “ฮึกๆ ผมขอโทษ ที่ไม่เชื่อพี่”

   “ข้าไม่เคยถือโกรธเจ้าเลย มณียอดรักของข้า”

   “ผมขอโทษ”ผมพูดพร้อมปาดน้ำตา

   



   “รออยู่ตรงนี้ อีกไม่นานเจ้ากับลูกจะปลอดภัย”พี่ธาราบอกพร้อมกับดันให้ผมหลบอยู่มุมสุดของตัวเรือ

   

   ร่างของผู้ชายคนนั้นสลบล้มฟุบอยู่กับพื้นเรือหลังจากที่หัวกระแทกตัวเรือ ทำให้ตอนนี้เหลือแต่มาละที่จ้องมองพี่ธารา
ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อพร้อมกับถือมีดจ่อไปที่พี่ธารา

   “แก ไอ้สัตว์เดรัจฉาน แกบังอาจมาขัดขวางฉัน แกจะต้องเจอดี”

   มาลีพูดด้วยเสียงกราดเกรี้ยวล้วงหยิบเอาตุ๊กตาดินเผารูปทรงเหมือนสัตว์มีเขารูปร่างคุ้นตาออกมาแล้วท่องคาถา ก่อนจะ
โยนมันออกไป

   เงาดำทะมึนก่อตัวเป็นรูปควายสีดำดวงตาสีแดงฉานน่ากลัว

   มันหันไปทางพี่ธาราแล้วพุ่งเข้าหาทันทีที่เห็น

   พี่ธาราจับเขาแหลมคมที่พุ่งเข้าหาเอาไว้แล้วดันก่อนมันจะเข้าปะทะกับตัว แรงมหาศาลมากมายปะทะกันจนพื้นของเรือยุบ
ลง

   ดูเหมือนว่าแรงของควายธนูจะสู้แรงของพี่ธาราไม่ได้ มันค่อยๆถอยหลังออกไปเรื่อยๆจนสุดริมเรือ

   ในที่สุดพี่ธาราก็ผลักมันจนตกลงไปในท้องสมุทร

   ฉับพลันเกลียวคลื่นที่ถาโถมก็หมุนวนเป็นน้ำวนขนาดใหญ่กลืนกินเจ้าควายตัวนั้นลงไป พร้อมกับเสียงคำรามร้องดังอย่าง
ทุรนทุราย



   พี่ธาราจ้องมองน้ำวนกำลังดูดสิ่งชั่วร้ายโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว มาลีเดินเข้าหาพี่ธาราพร้อมกับยกมีดขึ้นมา

   พี่ธารากำลังท่องมนต์อะไรสักอย่าง ถ้าปล่อยไว้คงจะไม่ทันแน่

   ผมรีบวิ่งเข้าไปทันที มีดที่เงื้อขึ้นจ้วงลงไป

   ผมถลาเข้าไปผลักมาลีออก ในช่วงเวลาที่ผมต้องการจะปกป้องใครสักคนที่ผมรัก

   ความคิดอ่านมันจางหายไปแทบไม่เหลือชิ้นดี

   รู้ตัวอีกที ร่างของมาลีก็หล่นลงไปจากเรือ

   ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดมักเกิดขึ้นเสมอ ทันทีที่พี่ธาราหันมา ดวงตาสีเขียวมรกตดูตกใจ

   แต่มันก็สายไปซะแล้ว ผมถูกมาลีดึงตกลงไปพร้อมกับเธอด้วย

   ถึงแม้จะเอื้อมมือไปเพื่อจะไขว่คว้ามือที่เอื้อมมา แต่มันก็ไม่ทันพอที่จะยื้อมือนั้นเอาไว้

   ทั้งหมดเป็นเพราะผม ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความโง่เขลาของผม

   ลูกๆของผมถึงต้องมารับผลกรรมที่ผมทำเอาไว้อย่างนี้

   สายน้ำเย็นเยือกกลืนกินตัวผมลงไปใต้ผืนสมุทร ความเย็นแล่นเข้าสู่ผิวหนังจนรู้สึกเย็นไปถึงกระดูก

   แสงสว่างด้านบนเริ่มริบหรี่ลงไปทุกที จนในที่สุดมันมืดสนิทและดับลง



================================================================



   ร่างกายของคนที่รักจนสุดหัวใจถูกมหาสมุทรกลืนกินลงไปในชั่วพริบตา ร่างกายแข็งแกร่งดุจศิลาคล้ายกับแตกสลายใน
เสี้ยวอึดใจ

   หัวใจของยักษาถูกฉุดดึงด้วยผืนทะเลที่กำลังบ้าคลั่ง กลืนกินลงไปในห้วงลึกจนไม่อาจจะมองเห็น

   ราวกับโลกนี้กำลังจะดับสลายสูญสิ้นชีวิตชีวา ยักหนุ่มไม่รอช้ากระโจนลงไป





   อ้อมแขนแข็งแรงโอบอุ้มร่างเย็นชืดของคนรักเอาไว้ ใบหน้าที่เคยร่าเริงดูซุกซนกลับซีดเซียวไร้วี่แววของชีวิต



   พายุที่พัดโหมพัดผ่านไปในที่สุด แสงแดดอ่อนทอลงมาพาดผ่านร่างไร้ชีวิตขาวซีด

   ร่างนั้นถูกวางลงบนผืนทรายอย่างเบามือพร้อมกับหัวใจที่แหลกสลาย

   “เป็นยังไงบ้างธารา เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้”

   ทศกัณฐ์รี่เข้ามาเมื่อเห็นว่ายักษ์หนุ่มคู่กัดอุ้มร่างไร้เรี่ยวแรงกลับมา

   สัญชาติญาณหมอรีบแตะตัวร่างที่ไร้การตอบสนองก่อนจะวัดชีพจรมือเป็นระวิง

   “เป็นไปไม่ได้”หมอทศกัณฐ์พึมพำ นิ้วจ่อเข้าที่จมูกของมณี ทว่ากลับไม่มีสัญญาณของลมหายใจที่พรูออกมาเลยแม้แต่นิด

   ในขณะที่ธาราได้แต่จ้องมองคนรักอย่างไร้เรี่ยวแรง

   “ข้าช่วยมณีเอาไว้ไม่ทัน ลูกข้า คนรักข้า ข้าไม่อาจจะปกป้องเอาไว้ได้”

   

   “อย่ามัวแต่นั่งซื่อบื้อสิ คิดว่าลูกของแกจะตายง่ายๆรึไง”

   ทศกัณฐ์พยายามปั๊มหัวใจสุดกำลัง เพื่อช่วยยื้อความหวังของเผ่าพันธุ์เอาไว้

   หมอหนุ่มพยายามแจะชีพจรสลับกับปั๊มหัวใจ

   และแล้วสิ่งที่คาดหวังก็เกิดผล ชีพจรสองดวงเต้นขึ้นมาพร้อมกันราวกับปาฏิหาริย์

   ทว่ายังคงมีอีกดวงที่ยังคงแน่นิ่ง



   “ธารา ลูกนายหัวใจยังเต้นอยู่ หากทำตอนนี้ละก็ต้องรอดแน่”

   “จริงหรือไม่ แล้วมณีเล่า”ธาราถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ราวกับว่าฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง

   “ฉัน  ฉันคิดว่าชีพจรของมณีไม่เต้นแล้ว บางทีนายอาจจะต้องทำใจ”

   
   “ไม่!! ไม่มีทางที่ข้าจะยอมเสียคนที่ข้ารักไปอีกครั้งเป็นแน่ เจ้าเป็นหมเจ้าย่อมรู้ดีว่าต้องทำอันใด”

   “แต่ถ้าไม่รีบผ่าท้องออกมาตอนนี้ละก็ นายอาจจะเสียไปทั้งหมดก็ได้”

   “ไม่มีทางข้าไม่ยอมเสียใครไปเด็ดขาด ต่อให้แลกด้วยชีวิตของข้าก็ตาม”

   “อย่ามัวแต่พูดไร้สาระ มันเป็นไปไม่ได้”ชุดมีดผ่าตัดที่ติดตัวไว้เผื่อฉุกเฉินถูกหยิบขึ้นมา

   แสงแดดสะท้อนเอาวัตถุมีคมวาววับจนน่าใจหาย

   



   “ยังพอมีทาง”ยักษ์หนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงแน่วแน่

   “ทางที่ว่ามันทางไหนละ ขืนไม่รีบจะตายไปทั้งแม่ทั้งลูก อย่าลืมว่ามณีเป็นคน ไม่ใช่ยักษ์ใช่มารเหมือนพวกเรา”

   “ข้าจะสละชีวิตที่เหลือของข้าเพื่อลูกเมียของข้าเอง”

   พูดจบคนฟังถึงกับชะงักมือนิ่ง จ้องมองอีกฝ่ายราวกับว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ

   “มันอาจจะทำให้สิ้นอายุขัยได้”



   “ต่อให้ถูกกักขังอยู่ในนรกชั่วกัปชั่วกัลป์ข้าก็ยอม”

   ใบหน้าของธาราเคลื่อนเข้าหาใบหน้าไร้ชีวิต ริมฝีปากร้อนผ่าวประทับจูบลงไปบนริมฝีปากเย็นชืด

   ไร้วี่แววหรือการตอบโต้ใดใดอย่างที่เคยเป็น

   ถ้อยคำยอกย้อนหรือต่อว่ามักจะมีขึ้นมาเสมอเมื่อเขาทำเช่นนี้

   

   “ฝากดูแลมณีกับลูกของข้าด้วยล่ะ”

   สิ้นสุดคำพูดร่างกายกำยำสมชายชาตรีของธาราก็ถูกกลืนลงไปในท้องสมุทรเหลือเพียงแต่เกลียวคลื่นที่สาดซัดเข้ามาเพียง
เท่านั้น






   ชั่วอึดใจที่รอคอยร่างไร้ชีวิตก็ขยับขึ้นมาอีกครั้ง



   “แค่กๆ ๆ”





===================================================================



   “แค่กๆๆ”

   เหมือนกับร่างกายมันถูกกระตุกวูบอย่างรุนแรง

   ผมสำลักน้ำที่อยู่ในปอดออกมาเมื่อได้สติ ท้องฟ้าสีสว่างต่างจากเมื่อครู่ลิบลับทำให้ผมวางใจแล้วคลี่ยิ้มออกมา ปล่อยตัว
ให้นอนราบลงไปกับผืนทราย

   “เป็นยังไงบ้างล่ะ”น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงเอกลักษณะทายทักทำให้หันไปมอง

   กลับไม่ใช่พี่ธาราแต่เป็นคุณหมอทศกัณฐ์แทน ยังไม่ทันที่จะไถ่ถามอะไรก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมา

   ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าสิ่งที่อยู่ข้างในมันพยายามจะดันออกมาทำให้ผมแทบจะทนไม่ไหว

   ต้องจึกมือลงกับผืนทราบด้วยความทรมาณ

   “ปะ ปวด ปวดท้อง ฮึก”ผมละล่ะละลักบอกเสียงสั่น

   จู่ๆมันก็ปวดเจียนจะบ้าตาย สิ่งที่อยู่ในท้องมันเหมือนกับว่ากำลังตะกายหาทางออก

   “ใจเย็นๆ เธอกำลังจะคลอด”

   คุณหมอทศบอกพลางจับผมเอาไว้ไม่ให้ดิ้น

   ผมถูกจับเอาไว้ให้นอนชันขาในท่าสบาย แต่กลับไม่รู้สึกเลยสักนิดว่ามันสบายเลย

   ผมบิดตัวไปมาเพราะความปวดที่แล่นริ้วอยู่ข้างใน

   “ไม่ไหวแล้ว ปวด ฮึก พี่ธารา ผมปวด”ผมร้องเรียกชื่อคนที่ผมรักออกมา

   ทั้งที่ตาปิดสนิทจากความเจ็บปวด



   ความเจ็บจุกก่อตัวรวมกันเป็นจุดๆเดียวอยู่ที่ช่วงสะดือ มันเจ็บมากที่สุดในชีวิตเท่าที่จำความได้ตั้งแต่เกิดมา

   ในที่สุดแสงสีเขียวมรกตก็สว่างออกมา ดวงแสงทรงกลมผุดออกมาจากหน้าท้องของผม

   มันลอยอยู่ตรงหน้าของผม เมื่อมองเข้าไปดีดีก็เห็นว่าเด็กทารกสองคนกำลังนอนขดกอดกันอยู่ข้างในดวงแก้วสีเขียวนั่น

   ทันทีที่เห็นน้ำตาของผมก็ร่วงหล่นลงมา มันทั้งเจ็บทั้งปวด แต่เหนือสิ่งอื่นใดมันคือความดีใจที่ในที่สุดลูกของผมและพี่ธารา
ก็ได้ลืมตาออกมาดูโลกสักที



   ทารกร่างจ้ำม่ำหน้าตาคล้ายคลึงกับพี่ธาราลอยมาซบอยู่แทบอกของผมคนละข้าง

   “โชคดีที่ปลอดภัย”คุณหมอทศกัณฐ์บอพร้อมคลี่ยิ้ม



   แต่ตอนนี้ความสนใจของผมทั้งหมดอยู่ที่ธาราน้อยทั้งสองคน ถึงแม้ว่าจะแปลกใจว่าทำไมอีกคนถึงได้สีผิวเข้มกว่า

   

   “แว๊ แว๊ แว๊”ทันทีที่ซบอก

   สองตัวน้อยก็เริ่มร้องงอแงขึ้นมาอวดเอาเขี้ยวงอโง้งที่บ่งบอกได้ว่าได้พ่อมาเต็มๆ

   มันทำให้ผมตกใจจนไม่รู้จะทำยังไง เพราะไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อนเลย

   แสงแดดสีส้มอ่อนส่องมายังเจ้าตัวเล็กสองคนที่แข่งกันร้องงอแงจนลั่นหาดทรายสีขาวแม่แต่เสียงคลื่นลมที่ว่าดังแล้วยังไม่
อาจสู้ได้

   “ผะ ผม จะทำไงดี”ผมหันไปถามคุณหมอทศเมื่อเจ้าตัวเล็กร้ององแงไม่หยุด

   อีกอย่างผมก็ไม่มีนมให้กิน

   “เอานี่ นมของนารีผล”

   ขวดนมดูแปลกตาถูกส่งยื่นใส่ปากเจ้าตัวเล็กทำให้นิ่งสงบลงได้

   

   “แล้วพี่ธาราล่ะครับ พี่ธาราอยู่ไหน”

   ผมมองไปรอบๆเพื่อมองหาพี่ธารา หากรู้ว่าลูกของเราเกิดมาแล้วพี่ธาราจะต้องดีใจมากแน่ๆ แค่คิดก็นึกถึงใบหน้าเรียบนิ่งที่
มักจะอมยิ้มให้กับเด็กๆที่อยู่ในท้องบ่อยๆ

   คุณหมอทศกัณฐ์มีสีหน้าซีดลงไปเล็กน้อยเมื่อถามถึงพี่ธาราทำให้ผมเริ่มใจไม่ดี

   “พี่ธาราล่ะครับ”ผมถามย้ำด้วยเสียงที่เริ่มสั่นเครือ

   “ธาราไม่อยู่แล้ว เจ้ายักษ์นั่นเสียสละเพื่อช่วยเธอกับลูกเอาไว้”

   “คุณหมอหมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ แล้วพี่ธาราล่ะ พี่ธาราไปไหน”

   พอนึกขึ้นได้ว่าครั้งสุดท้ายผมได้ถูกมาลีดึงลงทะเลไปพร้อมกับเธอตัวผมก็สั่นขึ้นมาทันที

   “ไปกันเถอะ ฉันอยากให้เธอกับเจ้ายักษ์แฝดพักผ่อน”

   

   “ไม่จริง เป็นเพราะผม เพราะผมคนเดียว พี่ธาราถึงได้ ฮึก”

   น้ำตาที่เหือดแห้งไหลลงมาอีกครั้ง ผมจ้องมองลูกด้วยสายตาที่หมดอาลัยตายอยาก

   ตาของผมสะดุดที่แผ่นอกเล็กๆของทั้งสองคน ปานสีจางดวงเล็กๆรูปครึ่งวงกลมขึ้นอยู่ตรงแผ่นอกด้านซ้ายตรงหัวใจพอดี
มันส่องแสงสีแดงวาบออกมาชั่วครู่

   บางทีนี่อาจจะเป็นสัญลักษณ์ของลูกแก้วที่พี่ธาราว่าก็ได้

   



   





ยักษ์แฝดน้อยโผล่มาพ่อยักษ์ใหญ่ธาราไปไหนละเนี่ยยยย

รวบรัดไปไหม หรือว่าอย่างไร อาจจะแก้ เพราะไม่ค่อยพอใจเท่าไร


ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
เอาพี่ธารากลับมาาาาาา  :katai1: :katai1:

เพราะมณีงี่เง่าไงเรื่องถึงได้เป็นแบบนี้ แงง  :ling1:

 :pig4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :katai1: ตอนต่อไปเสิรฟ์ด่วนค่า

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
ม่ายน้าาาาาาาาาา :z3:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
แก้เลยคับ อิอิ จะได้อ่านใหม่อีกรอบหนึ่ง

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
มณีโลเลเอง มณีผิดมาก

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
จับมณีไปเฆี่ยนตีเบาๆ
ข้อหาดื้อ บวกเซ่อซ่า
เป็นเหตุให้พี่ธาราต้องหายไป
งื้ออออ นางคลอดก่อนกำหนดนะเนี่ยยย

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
โกรธมณีมาก! พูดเลย :katai1:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นจากมณีไม่ซื่อสัตย์

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด