ทวงครั้งที่ 6 ยักษ์เล็ก VS ยักษ์เล็ก
“นี่คุณลุงฮะ ทำไมแดดดี๊ถึงไม่ชอบคุณลุงล่ะฮะ”
เด็กผิวขาวจัดใบหน้าจิ้มลิ้มเงยหน้าถาม
ขณะมือป้อมล้วงเอาขนมที่เป็นสินบนยัดใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆแต่ก็ไม่วายถามคำถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เธอก็ไปถามแม่ของเธอเอาแล้วกัน”
“แล้วคุณลุงรู้ได้ไงฮะว่าแดดดี๊เป็นแม่ของอลัน”ใบหน้าจิ้มลิ้มเอียงคอถาม
“ฉันรู้ก็แล้วกัน ทำไมถึงได้พูดมากขนาดนี้นะ”
ทศกัณฐ์ถอนหายใจ เกือบชั่วโมงที่ยักษ์ตัวน้อยตื่นขึ้นมาแล้วเอาแต่ตั้งคำถามถามเขาไม่หยุดหย่อน จะไม่ตอบก็ทำหน้า
ทำตาจะร้องไห้เรียกให้ใจอ่อน
“แล้วแดดดี๊ไปไหนล่ะฮะ”
“เดี๋ยวก็มา”
“แล้วคุณลุงเป็นอะไรกับแดดดี๊เหรอฮะ”
“เป็น…”ทศกัณฐ์นิ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อยมองใบหน้าขาวจัด ดวงตากลมโตเหมือนคนเป็นแม่จ้องมองมาที่เขาอย่างรอคำตอ
อบ
เป็นอะไรน่ะเหรอ แน่นอน ก็ต้องเป็นสามีอยู่แล้ว จะให้เป็นอะไรไปได้ แต่จะตอบก็เกรงใจตาใสใสที่มองมา
จะให้คนขวานผ่าซากอย่างเขามานั่งรักษาน้ำใจเด็กนี่มันยากน่าดู
“ทำไมไม่ตอบล่ะฮะ”
“แล้วเด็กอย่างเธอจะรู้ไปทำไม”
“ก็อยากรู้นี่ฮะ ทำไมแดดดี๊ถึงไชอบคุณลุง”
“แม่ของนายบอกอย่างนั้นเหรอ”
“ฮะ แดดดี๊บอกว่าไม่ชอบคุณลุง อย่าเข้าใกล้ คุณลุงใจร้าย”
“แล้วเธอคิดว่าฉันใจร้ายไหมล่ะ”
“ไม่ฮะ คุณลุงใจดี เท่มาก”อลันพยักหน้าเคี้ยวขนมจนแก้มปริ
“หึหึ พูดได้ดีนี่”พอถูกชมทศกัณฐ์ก็ยิ่มออกมาที่มุมปาก
“เมื่อไรแดดดี๊จะมาล่ะฮะ”
“คงไม่นานหรอก ว่าแต่ อยู่ที่นู่นมีใครมาจีบแม่เธอไหม”
“มีเยอะแยะเลยฮะ แดดดี๊น่ารักลุงจอน ลุงแม็ก ลุงเดล เยอะแยะ ชอบเอาเอกไม้มาให้แดดดี๊ แล้วก็เอาขนมมาให้อลัน”
“แล้วทำไมแม่ของเธอถึงได้ปล่อยให้เขามาจีบล่ะ”
“ไม่หรอกฮะ แดดดี๊บอกว่ารักอลันคนเดียว”
อลันตอบเสียงใสหันไปจ้องมองรายการเด็กที่ฉายอยู่หน้าจอทีวี
ยักษ์หนุ่มสิบหน้าได้แต่นั่งเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน รู้ทั้งรู้ว่ามีสามีมีลกเป็นตัวตน ยังเที่ยวปล่อยให้คนอื่นมาจีบได้
หากมาถึงคงได้สั่งสอนกันอีกสักรอบ
ว่าแต่ป่านนี้ทำถึงได้ยังมาไม่ถึงอีก
ปัง!!
เร็วดังใจนึก เสียงประตูเปิดโครมพร้อมกับร่างเจ้าตัวที่กำลังนึกถึงเดินลงส้นเข้ามาในบ้าน
“แดดดี๊”
อลันยิ้มแป้นอวดฟันน้ำนม ทว่าอเลนกลับใบหน้าบึ้งตึงเมื่อเห็นหน้ายักษ์ใจร้ายยิ้มแสยะ
“อลันหลับตา”
เอลนหันไปสั่ง ทันทีที่ลูกชายหลับตา หมัดเล็กๆก็ส่งใบที่ใบหน้าของยักษ์ฉวยโอกาส
สุดแรงของอเลนแต่เหมือนจะแค่มดกัดของทศกัณฐ์ ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ลงไม้ลงมือรายความเจ็บใจ
รอยยิ้มยังคงผุดอยู่บนริมฝีปากหยัก มือหนาคว้าเอาตัวของคุณแม่ลูกอ่อนอารมณ์ร้ายดึงให้ถลามานั่งบนตักกักเอาไว้ด้วย
อ้อมกอด
จูบร้อนๆประกบลงไปอย่างหยอกล้อ ค่อยๆขบเม้มอย่างอ้อยอิ่ง ตรึงมือซุกซนเอาไว้ด้วยมือเดียว
อเลนตาโต เหลือบมองลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆบนโซฟา เหมือนโชคร้ายจะเข้าข้างเขาเมื่ออลันลืมตาขึ้นมา
ดวงตากลมโตกระพริบตาปริบๆ
“อะ อื้อ”อเลนดิ้นจนมือหลุดออกมาและผลักใบหน้ายักษ์ฉวยโอกาสออก
“ไง นายมาช้า”
“จะบ้ารึไง”อเลนเช็ดปากลุกขึ้นยืน ดวงตาคมสีดำสนิทจ้องมองไปที่ทศกัณฐ์เขม็ง
“นายจะได้จำได้ไงว่าเมื่อคืนเราทำอะไรกัน”
“คนโรคจิต”
“คนโรคจิตคืออะไรเหรอฮะ”อลันเงยหน้าถามตาใส
“คนโรคจิตคือคนที่ไม่ควรเข้าใกล้ มาหาแดดดี๊เร็ว”
อเลนเดินเข้าไปจะคว้าตัวลูกชาย ทว่าทศกัณฐ์กลับไวกว่า คว้าตัวยยักษ์น้อยขึ้นมาอุ้มแล้วลุกหนี
“นายควรจะเลิกให้ลูกเรียกว่าแดดดี๊แล้วหันมาเรียกแม่ได้แล้วนะ เด็กน้อย”
“นั่นมันเรื่องของผม อลันมาหาแดดดี๊”
“แต่แดดดี๊ให้อลันเรียกว่าแดดดี๊ฮะ”อลันกอดคอคุณลุง เพียงแค่ชั่วโมงเดียวยักษ์เล็กกับยักษ์ใหญ่ก็สนิทกันซะแล้ว
อเลนขมวดคิ้วมองภาพตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ
“เอาอลันคืนมา”
“ว่าไง อลัน ไหนลองเรียกแม่เธอว่าแม่สิ”ทศกัณฐ์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ยักษ์น้อย กดจมูกโด่งลงไปบนพวงแก้มแดง
“อย่ามาสอนอะไรแปลกๆให้ลูกผม”
“นี่ก็ลูกฉันเหมือนกัน”ทศกัณฐ์สวนกลับทันที
“ใครบอกว่านี่ลูกคุณ”
“ถ้าไม่ใช่ลุกฉันแล้วจะลูกของใครล่ะ นายเองก็น่าจะรู้ดี”
“ใช่ อลันไม่ใช่ลุกของคุณ คุณเข้าใจผิดแล้ว ส่งอลันคืนมา”
“นายอย่ามากวนอารมณ์ฉันหน่อยเลยน่า เขี้ยวเล็กๆนี่จะมาจากไหน ถ้าไม่ได้ได้มาจากฉัน เรื่องนั้นนายรู้ดี”คุณหมอไหว
ไหล่ เบี่ยงหลบมือของอเลนที่พยายามจะเอาอลันคืนไป
อลันได้แต่ฟังบทสนทนาของทั้งคู่ตาปริบๆ ดวงตากลมโตดูจะคิดตามบทสนทนาอย่างมึนงง
“คุณลุงเป็นแฟนกับแม่เหรอฮะ”อลันหันไปถาม
ทว่าอเลนกลับนิ่งอึ้งเมื่ออลันกลับเรียกเขาว่าแม่ตามที่ทศกัณฐ์สอน
“จะว่าไงดีล่ะ จะเรียกว่าฉันเป็นสามีของแม่เธอก็คงจะได้นะ”
“งั้นคุณลุงก็เป็นพ่อของอลันสินะฮะ”
อลันเอียงคอ มองใบหน้าหล่อเหลาของคุณหมอตาปริบๆรอคำตอบ
“มะ ไม่ใช่นะ อลัน คนคนนี้ไม่ใช่…”
“ใช่ ฉันเป็นพ่อเธอ แต่แม่ของเธอโกรธฉัน เลยพาเธอหนีไป”
“คุณ พูดบ้าอะไรน่ะ”
“จริงเหรอฮะ”
“จริงสิ ฉันไม่โกหกลูกชายตัวเองอยู่แล้ว”ทศกัณฐ์ตอบเด็กชายในอ้อมกอด
“พอได้แล้ว อลันมาหาแดดดี๊”
“บอกแล้วไงให้แทนตัวเองว่าแม่ ถ้านายยอมแทนตัวเองว่าแม่ ฉันจะยอมคืนลูกให้นาย”
“โอเค ก็ได้ อลัน มาหาแม่”อเลนกัดฟัน เดินเข้าไปหวังจะดึงเอาอลันคืนมา
ทว่ายักษ์เจ้าเล่ห์ยังไงก็เจ้าเล่ห์อยู่วันยันค่ำ แขนแข็งแรงอีกข้างอึงเอาร่างโปร่งบางเข้าไปกอด คราวนี้รวบทั้งแม่ทั้งลูก
เข้าไปกอด
ต่อให้อเลนขัดขืนแค่ไหน เจ้าตัวก็ดิ้นไม่หลุดเสียแล้ว
“พ่อกับแม่หายโกรธกันรึยังฮะ อลันอยากให้พ่อกับแม่หายโกรธกัน”
อลันยิ้มแป้นจนตาหยี ก้มลงหอมแก้มอเลนไปฟอดใหญ่แล้วก็หันมาหอมทศกัณฐ์อีกฟอด
“ไม่”คำเดียวสั้นๆ ทำเอาทั้งพ่อทั้งลูกขมวดคิ้ว
“อะไรของนาย เดี๋ยวลูกร้องไห้ใครจะรับผิดชอบ”
“คุณมันน่าโมโห”
น่าโมโหที่เอาอลันมาเป็นตัวหลอกล่อ
“แล้วยังไง นายจะไม่ยกโทษให้ฉันเลยรึไง”
“ไม่มีวัน”อเลนเบือนหน้าหนี
ดวงตาสีดำสนิทของยักษ์หนุ่มจ้องมองไปยังใบหน้าขาวสะอาด ดวงตาคมนิ่งหลุบตาลงไม่ยอมมองตอบทั้งที่อยู่ในอ้อม
กอดของเขา
“ถ้าจะเอาอย่างนั้นก็ได้”
ทศกัณฐ์ตอบเสียงเบา คลายอ้อมกอดออกปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ
“ทำไมแม่อเลนไม่หายโกรธพ่อล่ะฮะ”อลันกระซิบถาม
“ไม่รู้สิ บางทีเธออาจจะต้องช่วยฉันง้อแม่เธอ”ทศกัณฐ์กระซิบข้างหูยักษ์น้อย
อลันหัวเราะคิกคักกับแผนการ เรียกให้อเลนมุ่ยหน้ามองสองพ่อลูกกระซิบกระซาบพลางกอดอก
ยังไงทศกัณฐ์ก็คงจะไม่คืนลูกให้เขาง่ายๆแน่ อีกทั้งอลัน ตอนนี้ก็ติดคนเป็นพ่อแจ ไม่ยอมห่าง
พออลันรู้แล้วว่าตัวเองมีพ่อเขาเองรู้ก็รู้สึกเบาโหวงในใจแปลกๆ หากเอาอลันกลับไป ก็เป็นเหมือนการพรากพ่อพรากลูก อ
ลันคงเสียใจ
ในระหว่างที่กำลังสับสนกับความคิด รู้ตัวอีกที พ่อก็อุ้มลูกเดินออกหน้าประตูบ้านซะแล้ว
“เดี๋ยวสิ นั่นคุณจะพาลูกผมไปไหน”
อเลนเร่งฝีเท้าเดินตามมา ไม่เข้าใจจริงๆว่าทศกัณฐ์ต้องการอะไรกันแน่ จู่ๆก็มาทำแบบนี้
ทั้งที่ก่อนหน้านั้นทำเรื่องโหดร้ายกับเขาไว้แท้แท้
“ไปเที่ยวกัน”
“คุณจะบ้าเหรอ ผมไม่ไป”
“หลงตัวเองรึไง ฉันพาอลันไปต่างหาก จริงไหม”เงยหน้าขึ้นไปถามยักษ์เล็กที่กำลังขี่คอยิ้มแก้มปริสบายใจ ให้พยักหน้า
รับหงึกๆ
“พ่อทศบอกว่าจะพาไปเที่ยวบ้านมณี”
“จะไปกันได้รึยัง ยืนหน้าบูดอยู่ได้”
พอถูแขวะก็อดไม่ได้ที่จะเบ้หน้าตามหลังไป
สุดท้ายรถก็มาจอดที่หน้าบ้านไม้สองชั้นแถบชานเมือง ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
อลันดูจะตื่นเต้นมากกว่าปกติ ส่วนเขาเองพอมองไปที่บ้านหลังนี้มันทำให้นึกถึงอตีตอะไรหลายๆอย่าง
ที่นี่เป็นที่ที่ทำให้อลันเกิดมา…
“แม่อเลนฮะ ไปหามณี อลันอยากเจอมณี”
อลันกระตุกแขนเสื้อเมื่อเห็นว่าคนเป็นแม่กำลังใจลอย
ทศกัณฐ์อุ้มอลันเดินนำเข้าบ้านไปตามด้วยอเลนที่เดินตามเข้ามาทีหลัง
พอเดินเข้ามาก็ถึงกับงงงวยเมื่อเด็กแฝดร่างจ้ำม่ำผิวต่างสีกำลังยืนแยกเขี้ยวเล็กๆใส่อลันที่ผวากอดทศกัณฐ์แน่น แต่ก็หัน
ไปแยกเขี้ยวใส่คืน
“ไม่เอานะสิน สุด อย่าไปแยกเขี้ยวใส่น้องอย่างนั้น”
เป็นเสียงของรุ่นน้องที่เอ่ยปากห้ามลูกชายแฝดของตัวเองให้เก็บเขี้ยวเล็บกลับคืน
สามปีมาแล้วที่ไม่ได้เจอหน้ากัน มณียังคงน่ามองอยู่เสมอ
==============================================================
พอมองไปตรงหน้าผมก็แทบจะยกมือขึ้นกุมขมับ เจ้าแสบสองตัวพอเห็นลูกหมอทศเดินเข้ามาพร้อมอุ้มเด็กผิวขาวจัดคน
นั้นเขามาก็แยกเขี้ยวใส่ทันที
ถ้าไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของหมอทศผมคงจะแปลกใจไม่น้อยที่เด็กคนนั้นก็แยกเขี้ยวตอบท่าทางหวาดกลัวแต่ก็ไม่ยอม
แพ้
ว่าแต่ก็ยังหน้าคุ้นๆอยู่ดี เหมือนเคยเห็นที่ไหน
“สิน สุด อย่าไปแกล้งน้อง มานี่เลย”
พอเก็บเขี้ยวไม่ทันไร เจ้าสองแสบก็ยืนเงยหน้ามองเด็กที่คุณหมออุ้ม คนเป็นแม่อยากผมนี่แทบลมจับ
สินสมุทรกับสุดธารายืนจ้องเด็กคนนั้นจนน้ำลายไหลย้อยออกมาที่มุมปาก
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าสองแสบนี่คิดอะไรอยู่
“สิน สุด มานี่เลย ไปเล่นกับมีนานู่น”ผมลากคอเจ้าแฝดยักษ์ตะกละดันให้เข้าไปในห้องนั่งเล่น
“แต่ว่าสินกะสุดหิว อยากกิน”ยังไม่วายหันมาบอก ผมได้แต่ดันหลังเจ้าตัวให้หันกลับไป
“เอ่อ”ไม่รู้จะพูดยังไงดี เด็กคนนี้คงยังเด็กอยู่ถึงยังเก็บเขี้ยวเองไม่ได้
“กลัวเหรอ”คุณหมอทศถามลูกชาย
“มะ ไม่ อลันไม่กลัว”
เด็กนี่ชื่ออลันนี่เอง ว่าแต่ชื่อคล้ายๆคนที่ผมรู้จักนะ ปากบอกไม่กลัว แต่ตัวก็สั่นเชียว คงจะตกใจ
“มณี”เสียงคุ้นเคยเรียกให้ผมหันไปมอง
ผมยิ้มกว้างเมื่อเจอกับคนที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี เวลาสามปีที่ไม่เจอกันพี่อเลนเปลี่ยนไปเยอะจนดูแปลกตา ผมเริ่มกลับมา
ยาวจนถึงไหล่ทำให้หน้าตาเริ่มเหมือนอเลนที่เป็นผู้หญิงอีกแล้ว
“ไม่เจอตั้งนาน เห็นแม่บอกว่าพี่จะมา แต่โทรไปหาก็โทรไม่ติด”
“อุบัติเหตุนิดหน่อย”พี่อเลนยิ้มแห้งปรายตามองไปทางหมอทศ
ว่าแต่พอมองสงคนนี้สลับกันไปมาทำไมถึงยังรู้สึกแปลกๆระหว่างสองคนนี้ถึงแม้จะผ่านไปสามปี
พี่อเลนเดินเข้ามากอดผม
“คิดถึงมณีจัง”
“อลันก็คิดถึงมณีฮะ”เจ้าเด็กผิวขาวจัดหันมายิ้มหวานให้ผม
“หืม รู้จักน้าด้วยเหรอ”ผมหันไปถามพลางชี้มาที่ตัวเอง
“ฮะ แม่ของอลันบอกว่ามณีน่ารัก”
แม่ของอลันเป็นใคร ทำไมถึงได้รู้จักผมได้ล่ะ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย
“แล้วแม่ของอลันเป็นใครล่ะบอกน้าหน่อยได้ไหม”ผมหันไปถามเมื่อพี่อเลนคลายอ้อมกอด
“เอ่อ มณี คือว่า”พี่อเลนอ้ำอึ้ง
“นั่นไงฮะ แม่อเลน แม่ขออลัน”นิ้วป้อมๆชี้มาทางพี่อเลน
“หือออออ”ผมได้แต่ตาโตกระพริบตาปริบๆ
ผมหันไปมองคุณหมอทศที่ไม่ได้สนใจอะไรสลับกับมองพี่อเลนที่มีสีหน้าแดงเรื่อ
เอ่อ ผมตกข่าวอะไรไปเมื่อไรกัน
“พวกพี่สองคน “
ถ้าอลันโตขนาดนี้แล้ว ก็แสดงว่า พี่อเลนโดนคุณหมอทศเสกเด็กเข้าท้องไปเมื่อสามปีที่แล้ว
มิน่าถึงบินกลับไปโดยไม่บอกไม่กล่าว แถมยังห้ามบอกคุณหมออีกว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
“มันเป็นอุบัติเหตุน่ะ”พี่อเลนแก้ตัว
อุบัติเหตุของพี่ แต่เป็นความตั้งใจของยักษ์ที่มองมาด้วยความไพอใจพอได้ยินว่าพี่บอกว่าอุบัติเหตุน่ะ
ใช่ว่าจะท้องกันง่ายๆซะที่ไหน ดูยังไงคุณหมอก็ตั้งใจชัดๆ
ถึงว่าอลันถึงได้หน้าตาเหมือนพี่อเลนขนาดนี้
“ขะ เข้าบ้านก่อนสิครับ”ผมไม่รู้จะเริ่มพูดยังไงเลย เหมือนเจอเพื่อนร่วมชะตากรรมยังไงไม่รู้
คุณหมอปล่อยให้อันลงเดินเอง เจ้าตัวเล็กอายุน้อยกว่าเพื่อนจงใจเดินไปหามีนาที่นั่งเล่นอยู่บนพื้นกับสินและสุด
ผมก็ไม่รู้ว่าเด็กพันธุ์ผสมพวกนี้มันคิดอะไรกัน
อลันเดินไปหามีนา ดวงตากลมโตดูมีความมุ่งมั่นแปลกๆ เจ้าตัวเล็กเดินไปแล้วทิ้งตัวลงนั่งเบียดมีนาจนแทบเกย แถมยัง
ยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บแก้มขาวๆของมีนา
มีนาได้แต่กระพริบตาปริบๆ
งานเข้าซะแล้ว คนเป็นพ่อแม่ได้แต่มองตากันไปมา
เจ้ายักษ์แฝดที่ใหญ่กว่าเพื่อนหันมามองหน้ากัน คิ้วเล็กๆขมวดเข้าหากันไม่พอใจ ลุกขึ้นเดินดุ่มๆไปหาอลัน
ดันไปแตะต้องของหวงของเจ้ายักษ์แฝดเข้าให้
“อย่ามายุ่งกับมีนานะ”
“ใช่ ห้ามยุ่งกะมีนา”
“อลันจะเล่นกับมีนา”อลันไม่ยอมเหมือนกัน
“ถ้ายุ่งกับมีนาจะจับกินให้ดู”สินสมุทรขู่
“ใช่ จะจับกินให้หมดเลย”สุดธาราก็เอาด้วย
มีนาได้แต่มองตามตาปริบๆ ไม่ได้สนใจใครอีกเช่นเคย นิสัยใสซื่อเหมือนชลาสินธุ์ไม่มีผิด
“ผมคิดว่า ปล่อยให้เด็กๆเล่นกันดีกว่านะ แหะๆ”
ได้แต่ยิ้มแหยๆ สองแฝดทำแม่เสียขายหน้าซะแล้ว จู่ๆก็ไปขู่ว่าจะกินลูกชาวบ้านเขา
ลูกเขาก็ยักษ์เหมือนพวกเอ็งนะ ไม่รู้ว่านิสัยแบบนี้ได้มาจากใครกัน
===================================================================
เลือกเหล้าแสดงว่าชอบผู้ชายเซ็กซี่เย้ายวนกวนอารมณ์แบบพี่ธารา
เลือกน้ำส้ม หวานอมเปรี้ยว แสดงว่าชอบแสบๆไม่ยอมคน มีสองด้านแบบอเลน
กาแฟ ขมเข้ม เข้มข้น ยิ่งทระนง ไม่ยอมฟังใครง่ายๆ(ถึงได้โดนหนักกว่าเพื่อน)เหมือนคุณวาลี
นมเย็น หวานเลี่ยน ใสใส แต่ถ้ากินมากก็เบาหวาน เหมือนความชั่วร้ายที่แอบแฝง เหมือนมาลี
ใครเลือกนมผงชง แบ๊วๆ 555 แคลเซียมสูง เสมือนกับการเขมือบเด็กกินแล้วเข็งแรงอายุยืน 555
ไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวมาต่อ