✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59  (อ่าน 244361 ครั้ง)

ออฟไลน์ ศตรัศมี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เสียใจเสียอย่างสุดซึ้งเลยดิมณี เห็นคนอื่นดีกว่ามาตั้งแต่ต้นแล้วพอเสียผัวก็มาคร่ำครวญ อะโด่! ถ้าธารากลับมาอยากให้ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับมณีเหลือแม้แต่เสี้ยวเดียว ให้มณีนางชดใช้โดยการตามจีบผัวใหม่ และที่สำคัญคือเป็นแม่คน เอ้ยย! แม่ยักษ์แล้ว หวังว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่จะช่วยให้ฉลาดทันคนขึ้นนะ ไม่งั้นลูกหล่อนแย่แน่ๆ

ออฟไลน์ KoTo_Nat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
แต่งใหม่เลยครับ

เอาพี่ธารากลับมาหรือไม่ก็แค่ให้พี่ธาราโดนแผลร้ายแรงแทนแต่ไม่ถึงชีวิตครับ

ไม่เอาพี่ธาราตายน๊าาา

เออว่าแต่มีเขี้ยวทั้งสองคนเลยเหรอครับ

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
สงสารธาราจริง ๆ
การไม่เชื่อใจกันก็
เป็นอย่างนี้แหละ

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
ให้สามคำ  เกลียด-ม-ณี  งี่เง่าง้องแง้งยิ่งกว่านางเองละครน้ำเน่าของไทยอีก เซ็งๆๆๆๆ

ออฟไลน์ ฤดูใบไม้หลากสี

  • ผู้เป็นอิสระเหนือทุกสิ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
    • อิสระ ไม่อาจพรากไปจากเรา, จินตนาการก็อยู่คู่เราจนสิ้นลมหายใจ
เนื้อเรื่องอยู่ที่ปลายปากกา หวังว่าคนเขียนคงไม่สร้างปาฏิหารย์ขึ้นมาหรอกนะ

บอกได้คำเดียวสมน้ำหน้ามณีมากมาย ภาวนาให้แกเสียลูกและธาราไปด้วยเลย จะได้สะใจ

ธาราเป็นคนรัก ไม่เชื่อใจไม่พอ กระทำการไม่ซื่อสัตย์ไม่บอกมาลีว่ามีแฟนแล้วทั้งที่ก็ท้องโย้

ธาราเป็นห่วงแค่ไหน มณีไม่เคยเป็นห่วงตัวเองและลูกเลย

ธาราต้องตาย เพื่อสละชีวิตต่อลมหายใจให้มณี และช่วยมณีซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่มณีก็ไม่เคยสำนึกผิดใด ๆ สักหน แม้แต่นางสุดท้ายอย่างมาลี

โถ่ อีมณี อีนางเอก อีโง่ สมน้ำหน้า มึงหน้าจะเสียทั้งลูกทั้งผัวมึงเลยนะ ไม่ซื่อสัตย์กับผัวไม่พอ ยังไม่นึกถึงลูก อีโง่ ไม่เคยเจอนายเอกที่ไหนโง่ขนาดนี้มาก่อนเลย โง่ ๆ โง่ โง่ชิบหาย

คนเขียนเรื่องนี้จบแบดเอนจะเป็นอะไรที่โรแมนติกมาก เพราะอันดับแรก มณีควรได้รับผลของการกระทำ ครั้งหนึ่งมณีทำพลาดเพราะความไม่รู้ แต่ครั้งนี้มณีทำพลาดด้วยความตั้งใจ ดังนั้นจบแบบมณีเลี้ยงลูกเดี่ยวจะดีมาก

แต่เราก็คงเดาว่าคนเขียนคงมีตอนจบที่ถูกใจตัวเองไว้แล้วล่ะ และคงเป็นแบบที่เราเดา เฮ้อ

มณีทำให้เราตั้งสเปคแฟนขึ้นมาอีกสามข้อ เกลียดมณีมาก โง่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โง่แล้วโง่อีก โง่จนไม่คิดว่าใครจะโง่ได้ขนาดนี้

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
เคยมีคนกล่าวว่า หากทำผิดเรื่องเดิมเป็นครั้งที่สอง นั่นไม่นับเป็นความผิดพลาด แต่มันคือทางเลือก
แต่คนเราควรได้รับ โอกาส การเลือกผิดพลาดไม่ได้หมายความว่า คุณควรได้รับบทลงโทษที่เจ็บปวดถึงวันสุดท้ายของชีวิต
+เป็ด เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-01-2016 01:36:38 โดย กบกระชายไทยนิยม »

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
เป็นกำลังใจให้คนเขียนครับ
อย่าถือสาคนอ่านบางคอมเม้นต์เลยนะ บางครั้งอ่านแล้วก็มีของขึ้นกันบ้าง เป็นธรรมดา

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
46173

ครั้งที่ 29 ชีวิตไม่มีเจ้าของ


   “เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ บอกให้เปิดไง ไอ้บ้าเอ้ย!!”

   มือบางพยายามทุบประตู แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววว่าจะมีใครได้ยิน หรือให้ความสนใจจากภายนอกเลยสักนิด

   “เปิดโว้ย ไอ้บ้า คุณจะมาขังผมไว้อย่างนี้ไม่ได้นะ”

   เขาทั้งทุบทั้งพยายามดึงลูกบิดประตูให้เปิดออก ทั้งที่มันหมุนมาเหมือนกับว่าไม่ได้ล็อกเอาไว้ แต่บานประตูนั้นกลับไม่
ขยับแต่อย่างใด

   อเลนเตะประตูทิ้งท้ายด้วยความหงุดหงิดใจ แต่ก็ต้องกระโดดขึ้นยกเท้าขึ้นมากุมด้วยความเจ็บ

   สองวันแล้วที่ถูกขังเอาไว้ มีเพียงข้าวและน้ำถูกเอามาวางไว้ให้ และทุกครั้งจะเป็นเวลาที่เขาไม่รู้สึกตัว

   และครั้งนี้ก็เช่นกัน ถาดอาหารได้วางไว้ก่อนหน้าแล้วก่อนที่เขาจะตื่น

   ทั้งโกรธทั้งโมโหอีกฝ่ายที่จับเขามาขังเอาไว้ มันไม่มีเหตุผลเลยสักนิดที่จู่ๆจะมาจับเขาขังเอาไว้ราวกับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่
เมื่อถึงเวลาแล้วก็จะมาให้อาหาร

   “บ้าชิบ”

   เขาสบถ นั่งลงบนขอบเตียงหยิบจานข้าวขึ้นมา

   ใช่ว่าไม่เคยเททิ้ง แต่พอเททิ้งแล้วมันก็ต้องมาหิว ไม่มีแรง สู้กินแล้วเอาแรงไว้หาทางออกยังจะดีกว่า

   

   แกร๊ก!!

   หลังจากทานอาหารเสร็จได้ไม่นานเสียงลูกบิดประตูก็ดังเรียกความสนใจให้หันไปมอง

   และก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากคนที่จับเขามาขังเอาไว้

   ไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมาก แก้วน้ำก็ปลิวหวือไปทางแขกที่ไม่ได้รับเชิญทันที

   ทว่ามือใหญ่ของทศกัณฐ์ก็รับเอาไว้ได้อย่างง่ายได้

   อเลนชักสีหน้าหงุดหงิดใส่

   “เมื่อไรจะปล่อยผมไปสักที คุณบ้ารึไง เป็นโรคจิตรึไงกัน”ใบหน้าคมจ้องอีกฝ่ายอย่างหาเรื่อง

   “หึ ตั้งแต่ข้าเกิดมา ยังไม่เคยมีใครกล้าต่อว่าฉันได้เท่านายเลย”

   “นั่นมันเรื่องของคุณ ผมต้องการจะออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”เขายืนขึ้น พูดเสียงดัง ดวงตาคมโตมองผ่านหมอโรคจิตไปยัง
ประตูที่เปิดทิ้ง

   “เอาสิ ถ้านายคิดว่านายออกไปได้ก็ลองดู”

   ทศกัณฐ์ตอบก่อนจะเดินผ่านเขาไปแล้วนั่งลงบนเตียงด้วยท่าทางไม่หยี่ระ

   อเลนได้แต่มองตามอีกฝ่ายอย่างนิ่งอึ้ง นึกไม่ถึงว่าบทจะง่ายมันก็ง่าย

   เรียวปากบางยกยิ้มอย่างพอใจ ในที่สุดก็ได้ออกไปจากที่นี่สักที

   ขายาวก้าวไปทางประตูไม่สนใจหันกลับมามอง ไม่แม้แต่สังเกตรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผุดอยู่ที่มุมปากของยักษ์ร้าย

   ปัง!!

   ทันทีที่เดินเข้าหาประตู อีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้นที่มือจะเอื้อมถึงลูกบิด บานประตูก็ปิดกระแทกลงเสียงดังสนั่นราวกับมีใครสั่ง

   อเลนสะดุ้งเอกหันไปมองยักษ์สิบหน้าด้วยความไม่พอใจที่มากจนแทบอยากจะกระโดดเข้ไปบีบคออีกฝ่ายที่นอนเอกเขนก
อยู่บนเตียงอย่างสบายใจ

   “คุณบ้ารึไงกัน เมื่อไรจะปล่อยผมไปสักที”

   “ฉันไม่จำเป็นต้องตอบ”

   “แต่คุณจะมาขังผมเอาไว้แบบนี้ไม่ได้”

   “ทำไมจะไม่ได้ ฉันว่านายเริ่มจะพูดมากจนน่ารำคาญแล้ว มานี่”ทศกัณฐ์กวักมือเรียก

   “อะ อะไร”

   “ขึ้นมานอน วันนี้ฉันเหนื่อย ไม่มีแรงจะมาตอบโต้นายให้มากความ”

   “นั่นมันก็เรื่องของคุณ”อเลนกอดอกเบือนหน้าหนี

   “นายแน่ใจนะว่าจะไม่มา”

   “แน่ใจ อะ เฮ้ยยยยยย”ทันทีที่ตอบออกไป ร่างก็ลอยหวือขึ้นมา

   มันเร็วมากจนมองตามไม่ทัน รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังก็ปะทะเข้ากับแผ่นอกของอีกฝ่าย

   “ฉันต้องการจะพักผ่อน หากนายไม่อยากให้ฉันทำมากกว่านี้ล่ะก็ อยู่เงียบๆ”

   พอได้ยินคำขู่อเลนก็ถึงกับนิ่งเฉย เขาไม่กล้าแม้จะกระดิกตัว

   ยังงงอยู่ด้วยซ้ำว่าเขาลอบมาตรงนี้ได้ยังไงกัน แต่คำขู่ของทศกัณฐ์ก็ได้ผลชะงัด

   เพราะจำได้ว่าเมื่อคืนนี้ถูกสะกดจิตหรืออะไรสักอย่างให้ทำตามอีกฝ่าย รู้ตัวอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงเสื้อผ้าก็ถูกเปลี่ยนออก
เป็นอีกชุด แล้วที่หนักกว่านั้นคือข้างกายก็มีทศกัณฐ์นอนอยู่ด้วย

   เขาไม่เขาใจเลยว่าเพราะอะไรอีกฝ่ายถึงได้จองล้างจองผลาญเขานัก



===================================================================



   “โอ้ย อะไรกันนักหนา เมื่อไรจะปล่อยไปสักที ไอ้บ้าเอ้ย”

   จากที่สุภาพ หนักวันเข้าก็เริ่มจะใช้คำรุนแรงขึ้นตามอารมณ์ ผ่านไปเกือบอาทิตย์แล้วที่ถูกจับมาขังเอาไว้

   ทั้งที่ประตูหน้าต่างได้ล็อก แต่ก็ไม่สามารถออกไปได้ คิดอยู่ว่ามันอาจจะเป็นเวทมนต์คาถาอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่กล้าฟันธง
สักเท่าไร

   แล้วยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆก็คงเป็นเรื่องที่เขาต้องกลายเป็นหมอนข้างของอีกฝ่าย ต้องนอนสูดกลิ่นบุหรี่จางๆที่ติดตัวอีกฝ่ายอยู่
ร่ำไป

   แรกๆก็รู้สึกไม่ชอบใจ แต่หลังๆก็รู้สึกว่ามันชิน จนทุกวันนี้พอไม่ได้กลิ่นบุหรี่แล้วมันกลับกลายเป็นว่านอนไม่หลับไปซะ
อย่างนั้น

   “ฮึ่ย บ้าเอ้ย”

   ไม่รู้ว่ากี่ครั้งแล้วที่ต้องเตะประตูด้วยความหงุดหงิด แต่แล้วก็ต้องยกเท้าขึ้นมากุมเอาไว้เพราะความเจ็บ

   เสร็จแล้วก็ต้องไปทิ้งตัวนั่งลงบนที่นอนแล้วกินข้าวตามเดิม โชคดีหน่อยที่ยังพอมีทีวีเอาไว้ดูแก้เหงาได้บ้าง

   ทศกัณฐ์ต้องการอะไรจากเขากันแน่ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

   

   แกรก!!

   เสียงเปิดประตูดังเรียกให้หันไปมอง ประตูถูกเปิดทิ้งเอาไว้ คราวนี้อเลนเลือกที่จะเลิกสนใจอีกฝ่ายและหันไปสนใจรายการ
ทีวีต่อ

   ต่อให้โวยวายไปก็เท่านั้น ดีไม่ดีอีกฝ่ายก็กลับยิ้มชอบใจอีกต่างหาก

   “ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยรึไง”

   ทศกัณฐ์ทักพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างๆบนโซฟาตัวเดียวกัน

   กลิ่นบุหรี่จางๆลอยปะทะเข้าจมูกของอเลนทำให้เขาหันมาหลายตามองเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปดูรายการทีวีดังเก่า

   แต่แล้วเสียงบางอย่างแว่วเข้ามาในหูจากด้านนอกทำให้เขาขมวดคิ้วมุ่น เงี่ยหูฟังดูอีกทีเพื่อให้หายข้องใจ

   เสียงเด็กร้องไห้งอแงดังผ่านประตูเข้ามา ร่างกายโปร่งบางยืดตัวตรงหันขวับมามองคนข้างๆทันที

   “เสียงนั่น”พูดทิ้งไว้คล้ายกับตั้งคำถาม

   ทศกัณฐ์ไม่ตอบแต่ก็ยิ้มแล้วไหวไหล่

   อเลนผลุดลุกขึ้นทำท่าจะเดินไปที่ประตู แต่แล้วก็ต้องหันกลับมามองเพราะกลัวว่าประตูจะปิดลงเหมือนกับครั้งก่อน

   แต่ในเมื่อไม่ลองก็ไม่รู้ อีกฝ่ายเองก็มองดูรายการทีวีไม่ได้สนใจเขาด้วย บางทีเขาอาจจะใช้ช่วงเวลาที่อีกฝ่ายเผลอ

   มันอาจจะได้ผล เขาก้าวออกมาอีกก้าว และรอดูท่าทีอีกฝ่าย

   “สัญญากับฉันก่อนว่า ตกเย็นนายจะกลับมาที่ห้องนี้”

   “หมายความว่ายังไง”อเลนถามย้ำ ไม่เข้าใจข้อเสนอเลยสักนิด แต่พอมองดูท่าทีอีกฝ่ายที่ไม่ได้สนใจตัวเองเลยก็เงียบ

   คล้ายกับจะตอบรับไปในตัว


   เขาเดินเข้าหาประตู อีกก้าวเดียว อีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้นที่จะผ่านประตู

   ปัง!!

   แต่แล้วประตูก็ปิดลง

   “สัญญากับฉันมาก่อนว่านายจะกลับมา”ทศกัณฐ์ยื่นข้อเสนออีกครั้ง

   มือเล็กกำเข้าหากันแน่น เขาหมดหนทางที่จะต่อต้านแล้วจริงๆ

   “ก็ได้ ผมจะกลับมา”

   “จำคำนายไว้ก็แล้วกัน”คุณหมอยักษ์สรุปบท

   อเลนลองยื่นมือไปที่ลูกบิดอีกครั้ง ลูกบิดถูกบิดออกจนสุด เหลือแค่เปิดมันออก

   อเลนหัวใจเต้นระรัว เขาลุ้นว่าประตูบานตรงหน้ามันจะเปิดอออกได้หรือไม่

   เสียงของเด็กทารกยังแว่วผ่านประตูมาเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเปิดมันออก

   บานประตูสีขาวถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย เรียวปากบางคลี่ยิ้มกว้างอย่างดีใจ

   ขาวยาวรีบสาวเท้าลงไปยังชั้นล่างต้นเสียงของเด็กทารก



   “มณี”ทันทีที่ก้าวพ้นบันไดของตัวบ้าน

   ร่างของรุ่นน้องก็ปรากฏสู่สายตา พร้อมกับร่างของเด็กทารกท่าทางจ้ำม่ำผิวเข้มถูกอุ้มอยู่แนบอก

   “พี่อเลน”อีกฝ่ายเอกก็หันมาทักเช่นกัน


   “นี่ ละ ลูกของมณีเหรอ”อเลนถามเสียงสั่น

   น้ำเสียงเจือไปด้วยความยินดีที่ได้เห็นชีวิตเล็กๆที่อยู่ในท้องของรุ่นน้อง

   รุ่นน้องที่ยังคงหลงเหลือความรู้สึกดีดีเอาไว้อยู่

   “ครับ นี่สินสมุทร ส่วนนั่น สุดธารา”มณีหันมายิ้มบาง พยักหน้าไปทางศรีสุวรรณที่อุ้มทารกผิวขาวอีกคนเอาไว้

   เหมือนกันที่หน้าตาและคมเขี้ยวที่ดูน่าแปลกตาเล็กน้อยแต่ก็ดูไม่น่ากลัวเท่ายักษ์ใจร้ายที่เขาเคยเจอ

   “ขอพี่อุ้มบ้างได้ไหม”

   “ได้ครับ แต่อย่าพูดเสียงดังนะครับ สินสมุทรไม่ค่อยชอบเสียงดังเท่าไร”

   “อืม”อเลนรับคำรับเอาร่างจ้ำม่ำของทารกเข้ามาในอ้อมอก

   “แล้ว ธาราล่ะ ปกติคนเห่อลูกแบบนั้นจะทิ้งลูกเอาไว้แบบนี้ได้ไง”เขาถาม แต่เมื่อเห็นสีหน้าของรุ่นน้องก็ต้องหน้าซีดตาม

   “พี่ธารา อึก พี่ธาราไม่อยู่แล้ว”มณีตอบน้ำเสียงเครือ

   “ได้ยังไงกัน”

   “เขาช่วยผมเอาไว้จากมาลี ผมผิดเอง”


   “มณีไม่ผิดหรอก มาลีต่างหากที่ผิด มณีต้องเข้มแข็งนะ สินสมุทรกับสุดธารากำลังมองอยู่”อเลนปลอบ ก้มลงมองร่างจ้ำม่ำ
ที่หันไปมองแม่ของตัวเองตาแป๋ว

   “แล้ว เอ่อ พี่ ไม่เป็นอะไรนะครับ”มณีถามท่าทีอึกอัก

   “ไม่ ไม่เป็นอะไร”

   “แน่ใจนะครับ”

   “แน่ใจ พี่ไม่เป็นอะไร”ตอบโกหกออกไป ทั้งที่ใจตัวเองก็อึดอัดไม่แพ้กัน

   ไม่อยากให้รุ่นน้องต้องเสียใจไปมากกว่านี้ ไหนจะสูญเสียคนที่รักไปอีก

   อเลนลอบมองสีหน้าของรุ่นน้องที่ใกล้จะร้องไห้อยู่เต็มกลืน แต่เมื่อมองหน้าเด็กแล้วใบหน้าที่เศร้าหมองนั้นคล้ายกับมีแรง
ผลักดันให้ยิ้มออกมา

   ถึงแม้ว่ามันจะดูฝืนไปบ้างก็ตาม

   “อะ อา อา”เสียงอ้อแอ้ร้องเรียกให้เขาก้มลงไปมอง

   “ว่าไงครับ ยักษ์ตัวน้อย”อเลนหยอกเย้า

   เจ้าเขี้ยวเล็กๆน่ารักนี่มันช่างล่อตาล่อใจชวนให้อยากจะจับเล่นซะจริงเชียว หากแต่กลัวว่าจะร้องงอแงเอาก็เท่านั้น

   “อา อา อะ อะ อา”เสียงอ้อแอ้ตอบทักทายคล้ายกับจะรู้เรื่อง ตากลมสีเขียวเข้มจ้องมองเขาตาแป๋ว

   



   “สีตาเหมือนสีตาของธารานายว่าไหม”เสียงกระซิบดังขึ้นข้างหู

   กลิ่นบุหรี่จางๆลอยเข้ามาจากทางด้านหลัง

   เมื่อไรไม่รู้ที่ทศกัณฐ์มายืนชิดจากทางด้านหลังของเขา


   อเลนตกใจสะดุ้งจนแทบจะเผลอปล่อยร่างของทารกหลุดมือ ดีที่ทศกัณฐ์รับเอาไว้ได้ทัน แต่นั่นก็เท่ากับว่าร่างของเขา
กำลังถูกยักษ์ที่อยู่ในคราบของคุณหมออย่างทศกัณฐ์กอดเอาไว้

   “ระวังหน่อยสิ ถึงจะเป็นลูกยักษ์ แต่ก็ใช่ว่าจะเจ็บไม่เป็น”คุณหมอกระซิบข้างหู

   “ขอบคุณ”

   อเลนตอบเสียงแข็ง ผละออกจากอ้อมกอดแข็งแรงทันทีที่ตั้งตัวได้


   หัวใจดวงเล็กที่อยู่ในอกจู่ๆก็สั่นไหวราวกับถูกกระตุ้นจากแรงที่มองไม่เห็นเมื่อสบตากับดวงตาสีเหลืองอำพันทอแสงวาววับชั่วครู่





===============================================================



ตัดสินใจพลิกเอาคู่นี้ขึ้นมาก่อน ไม่รู้จะเรียกอะไรดี พิศาลก็ไม่ใช่ ได้แรงบัลดาลใจมาจากที่ทศกัณฐ์ลักพาตัวนางสีดามานั่นแหละ
อากาศเปลี่ยนแปลงดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :mew4:

ส่งธาราไปเกิดใหม่เลยค่ะ โฮะๆ  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ลักพาตัวละเวงก็ให้อารมณ์จำเลยรัก แต่ยังไม่ได้.........
พี่ธาราล่ะคะ? เอาไงดีน้ออออ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
การที่ต้องเสียธาราไป เราก็ยังถือว่าเป็นความผิดของมณีอยู่ดี!
แม่ยกคนนี้ไมาปลื้มอย่างแรง :m16:

ส่วนอเลน หนียักษ์ใจร้ายให้ได้นะ :laugh:

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
    รอพ่อธาราปล่อยให้มณีคอยตั้งนาน คอยจนลูกคลอดออกมาแล้วอ่ะ
  รอ รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ meanmena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
พี่ธารา เอากลับมา

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
29.2 วุ้นน้ำหวาน



   “แล้วนี่เลี้ยงคนเดียวไหวได้ยังไง”ถามออกไปพลางมองรุ่นน้องป้อนขวดนมทรงประหลาดใส่ปากทารกร่างอวบคนน้องที่ผิว
ออกไปทางขาวมากกว่า

   “ก็พอไหวอยู่หรอกครับ ดีที่พ่อกับแม่ช่วยเลี้ยงบ้าง แต่ถ้าทั้งสองคนไม่อยู่ก็ต้องเลี้ยงคนเดียวอย่างที่เห็น เลยเอามาให้พี่
วรรณกับชลาสินธุ์ช่วยเลี้ยงน่ะครับ”

   “งั้นเหรอ แสดงว่าวันนี้พ่อกับแม่ของมณีไม่อยู่งั้นสิ”

   “ครับไม่อยู่”มณีตอบแล้วเงยหน้าขึ้นมาจากเจ้าตัวเล็ก

   “อืม”

   “ว่าแต่ พี่อเลน ไม่มีอะไรแน่นะครับ เห็นคุณหมอทศบอกว่าไม่สบายหลังจากที่โดนจับตัวไปเมื่อคราวก่อน”

   มณีถามเสียงเบาเพราะสุดธาราตัวน้อยกำลังปรือตาทั้งที่ขวดนมยังคาปากทำท่าเหมือนจะหลับไปทั้งอย่างนั้น

   อเลนเมื่อได้ยินคำถามก็เข้าใจได้ทันทีว่าเพราะอะไรคนอื่นๆถึงไม่แปลกใจเลยกับการที่เขาถูกกักเอาไว้ในห้องไม่ได้ออก
ไปไหน

   “ไม่ ไม่เป็นไร”

   เขาตอบเพราะไม่อยากให้มณีเป็นห่วง หลายเรื่องแล้วที่ทำให้รุ่นน้องคนนี้ทุกข์ใจพอแรง เขาไม่อยากให้มณีเป็นทุกข์เพราะ
เขามากขึ้นไปอีก

   อเลนหลุบตามองพื้น พลางครุ่นคิด



   “งั้นตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่ที่บ้านของมณีใช่ไหม”

   “ใช่ครับ ว่าแต่ทำไมเหรอครับ”

   “ปะ เปล่าหรอกไม่มีอะไร พี่คิดว่าพี่ลืมเอาสมุดบันทึกของพี่ไว้ที่ห้องน่ะ พอจะเห็นบ้างไหม”

   “นี่ครับ ไม่คุ้นเลยว่าเคยเห็นในช่วงนี้”

   “แย่จริง งั้นพี่ไปลืมไว้ที่ไหนนะ”อเลนแสร้งทำท่าทีว่าทำของสำคัญหายไป แต่แท้จริงแล้วสมุดบันทึกที่ว่าก็อยู่ในห้องที่เขา
ถูกจับขังเอาไว้ในทุกวันนี้ต่างหาก

   “นั่นสิครับ ดูท่าจะเป็นของสำคัญด้วย”สีหน้าของรุ่นน้องดูเป็นห่วง

   “งั้น ขอพี่ยืมกุญแจบ้านหน่อยได้ไหม แค่ไปเอาสมุดแล้วจะรีบกลับมาเลย”

   “มันจะดีเหรอครับ คุณหมอทศไม่ว่าเอาเหรอครับ อีกอย่างพี่ก็ไม่สบาย”อีกฝ่ายมีท่าทีครุ่นคิด

   “พี่ไม่เป็นไรแล้ว เห็นไหม ดีขึ้นมาก รับรองว่าจะรีบกลับมาเลย ไม่เกินชั่วโมง”

   “งั้นก็ได้ครับ แต่ถ้าโดนจับได้อย่าบอกว่ามณีรู้เห็นนะครับ ไม่งั้นคุณหมอทศดุมณีแน่”

   “ตกลง พี่ไม่บอกแน่นอน”อเลนรับคำรับเอาพวงกุญแจมาจากมือของมณี

   “เอ่อ อย่ากลับดึกนะครับ คืนนี้….”

   ยังไม่ทันที่มณีจะพูดจบอเลนก็อาศัยช่วงเวลาที่ทศกัณฐ์เผลอเดินออกจากตัวบ้านไป

   เขาไม่ทันได้ฟังเลยว่ารุ่นน้องจะเตือนสิ่งใดกับตน

   คืนพระจันทร์เต็มดวงคือคำที่มณีกลืนลงคอกลับไปเพระยังไม่ทันได้พูดเจ้าตัวผลุนพลันออกไปเสียแล้ว




   บ้านไม้สองชั้นแถบชานเมืองอเลนเก็บของใช้จำเป็นเข้ากระเป๋าเดินทางใบใหญ่อย่างเร่งรีบ ยังไงซะเขาจะต้องหาทางหนี
จากยักษ์โรคจิตนั่นให้ได้

   กล้าดียังไงถึงมากักขังหน่วงเหนี่ยวเขาเอาไว้

   แสงแดดสีส้มอ่อนส่องเข้ามาทางหน้าต่างบ่งบอกเวลาเย็นจัดจน ใกล้ถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตกดินเต็มที

   อเลนเร่งมือ ยอมรับเลยว่าเขาจำเป็นจะต้องหักหลังรุ่นน้อง

   ในระหว่างที่กำลังเก็ยข้าวของอย่างเร่งมืออยู่นั้น จู่ๆก็เกิดลมโหมกระหน่ำพัดเข้ามาในห้องจนข้าวของหลายอย่างปลิว
กระจาย

   ร่างโปร่งบางสะดุ้งเล็กๆมองไปยังหน้าต่างที่ถูกพัดจนมันกระแทกเข้ากับวงกบ

   เขาลุกขึ้นเพื่อที่จะเกี่ยวจะขอไม่ให้หน้าต่างถูกพัดไปตามแรงลม

   ทว่าสายลมอ่อนๆแปลกประหลาดจู่ๆก็วูบผ่านตัวเข้าไป มันเร็วจนเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ปรกติ

   ร่างกายมันชาดิกขยับเขยื้อนไม่ได้ดั่งที่ใจนึก

   ลมหายใจอุ่นร้อนหอบหายใจกระเส่าอยู่ข้างหูคล้ายกับกำลังเหนื่อย

   ดวงตาคมสีดำสนิทเบิกกว้าง กลิ่นหอมจางของบุหรี่ลอยเข้ามาในปอดเรียกให้ร่างกายสั่นเทาไปทั้งตัว

   “ไหนนายบอกว่าจะกลับไป”เสียงทุ้มลึกจนท่ากลัวกระซิบ

   กรอบหน้าถูกมือใหญ่บีบเอาไว้แล้วยกให้เชิดขึ้นสบตากับดวงตาสีอำพัน

   “มะ อื้อ”

   ริมฝีปากเรียวบางถูกประกบอย่างรุนแรงและจาบจ้วงก่อนที่จะได้อื้อนเอ่ยถ้อยคำใดใดออกมา

   เรียวลิ้นของยักษาสอดลึกเข้าไปในโพลงปากเกี่ยวกระชากเอาก้อนเนื้ออ่อนยวบให้สั่นระริก

   บทลงโทษที่แสนจะฉาบฉวยไม่สามารถที่จะต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย

   อเลนตัวแข็งทื่อ ร่างกายขยับไม่ได้ ได้แต่หลับตาลง ไม่ต้องการที่จะมองดวงตาสีเหลืองน่ากลัวนั่น

   ร่างกายที่เหมือนกับก้อนนุ่นถูกอุ้มขึ้นมาแล้ววางลงบนเตียงนอน

   เขาเบิกตากว้างอย่างตกใจ สิ่งที่น่ากลัวเกิดขึ้นในความคดแทบจะทันที ทั้งที่อยากจะขยับหนีแต่ก็ทำไม่ได้

   เสื้อตัวบางถูกเลิกขึ้นจนเกือบจะถึงช่วงอก

   “มะ ไม่”พยายามเปล่งเสียงห้ามแต่มันก็ลำบากเต็มทน

   “นายผิดเองที่หนีฉันไปอีกครั้ง”

   มือหนาทาบลงบนช่วงท้อง และแล้วความเจ็บปวดจนเกิดบรรยายก็แล่นเข้ามาสู่ช่วงท้อง เจ็บจนแทบจะทนไม่ไหว

   “เจ็บ ฮึก”

   บอกเสียงแผ่ว ดวงตาคลอไปด้วยน้ำใสแทบจะล้นเอ่อ

   ไม่มีทางที่จะขัดขืนได้เลยสักนิด ได้แต่ยอมรับบทลงโทษที่แสนจะเจ็บปวด

   ไม่เข้าใจเลยว่าตนเองผิดอะไร ความเจ็บปวดในช่องท้องมันรวมขึ้นมาก่อมวนอยู่ที่ช่วงสะดือ

   มือเล็กกำเข้าหากันแน่นจิกเกร็งลงกับผ้าปูที่นอนจบมันยับ

   ความเจ็บส่งผลให้สติที่มีแทบจะลางเลือน สิ่งสุดท้ายที่เห็นก็คือดวงตาสีอำพันที่วาวโรจน์อย่างน่ากลัว

   



================================================================



   “พี่วรรณ ลูกของเราจะน่ารักเช่นนี้หรือไม่”เงือกหนุ่มลูบท้องตัวเองไปมาด้วยท่าทีรักใครพลางมองทารกร่างอ้วน้ทวนใน
อ้อมอกของคนรัก

   “แน่นอน ลูกของเราต้องรักน่าชังกว่านี้แน่”

   “แต่ว่าข้ากังวลเหลือเกินในยามที่ลูกของเราจะออกมาดูโลก”

   “ไม่ต้องกลัวหรอก เมื่อถึงเวลานั้นฉันอยู่อยู่ข้างนายเอง”ศรีสุวรรณปลอบโยนเอกขี้กลัว

   ริมฝีปากจูบซับบนขมับ

   เงือกหนุ่มหน้าแดงระเรื่อ ยังไม่ชินสักทีกับการกระทำที่แสดงออกถึงความรักใคร่ที่อีกฝ่ายมีให้

   ถึงแม้ว่าในใจจะค่อนข้างรู้สึกเป็นกังวลกับการมีลูกครั้งแรก

   ใช่ว่าเผ่าพันธุ์เงือกที่เป็นเพศผู้นั้นจะไม่เคยมีลูก หากแต่เงือกเวลาออกลูกช่วงแรกนั้นจะเกิดมาเป็นไข่ ต้องใช้เวลาดูแล
อย่างใกล้ชิดถึงเจ็ดวันเต็ม

   น้อยมากที่โอกาสรอดของทารกที่เกิดจากเงือกตัวผู้ อีกทั้งครึ่งหนึ่งของสายเลือดยังเป็นมนุษย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่
อ่อนแอกว่า

   ความกังวลถูกกักเก็บเอาไว้ในใจไม่กล้าบอกให้ใครได้รับรู้มีเพียงหอทศกัณฐ์เท่านั้นที่รู้ดี

   “อย่ากังวลไปเลย ลูกของเราจะต้องปลอดภัย”

   ศรีสุวรรณปลอบเมื่อเห็นเงือกหนุ่มนั้นมีสีหน้าที่หมองลงเล็กน้อย

   “พี่วรรณ ข้าอยากกินอันนั้นจัง”

   เงือกหนุ่มชี้ไปทางทีวีเพื่อเบนความสนใจของคนรัก

   รายการทีวีกำลังสาธิตการทำขนมหวานอยู่เสียงเจื้อยแจ้ว

   ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น จะว่าไปเวลานี้ก็เย็นซะแล้วด้วย จะไปหาวุ้นน้ำหวานแบบนั้นได้ที่ไหนกัน

   “ไว้พรุ่งนี้จะพาไปกินนะ”

   “แต่ข้าอยากกินตอนนี้นี่ พอเห็นข้าก็เกิดอยากลิ้มลองเอาเสียตอนนี้”ชลาสินธุ์กอดอก

   นิสัยที่อยากรู้อยากลองถึงแม้ว่ามีลูกอยู่ในท้องมันก็ยังไม่จางหายไปสักที

   “นี่มันก็เย็นแล้ว”

   “แต่ลูกข้าอยากกิน”ชลาสินธุ์อ้างยิ้มกริ่ม

   เพราะรู้ว่าเมื่อใดที่เอาลูกมาอ้าง คนรักจะไม่สามารถปฏิเสธตนได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

   “แต่ไม่มีที่ไหนขายหรอกนะตอนนี้ ไว้พรุ่งนี้เถอะนะ”พอถูกเล่นมุขเดิมเวลาที่ต้องการในสิ่งที่อยากจะได้ศรีสุวรรณก็แทบจะ
ยกมือขึ้นมากุมขมับ

   “งั้นท่านก็ทำให้ข้ากินสิ”

   “จะว่างั้นมันก็”ศรีวุวรรณอ้ำอึ้ง เคยแต่ทำอาหารง่ายๆเวลาอยู่ต่างประเทศแล้วนึกถึงอาหารไทย

   แต่พูดถึงขนมหวานนี่ไม่เคยอยู่ในความคิดเลย แต่จะทำยังไงได้

   “นะพี่วรรณ ลูกเราอยากกิน”เงือกหนุ่มเงยหน้าช้อนตามองเป็นประกาย สลับกับเหลือบมองรายการทำอาหารในทีวี

   “ก็ได้ๆ แต่ไม่รู้ว่าในครัวจะมีอุปกรณ์รึเปล่านะ”





   แล้วโชคร้ายก็เข้าข้างศรีสุวรรณเหลือเกินที่ในครัวของบ้านนี้มีอุปกรณ์ครัวครบครันซะจริง

   ผ้ากันเปื้อนสีหวานที่ไม่รู้ว่าจะมีไปทำไมทั้งที่บ้านนี้มีแต่ผู้ชาย ถูกค้นมาจากในตู้ด้วยฝีมือของคนรักแล้วจัดการมาใส่ให้เสร็จ
สรรพเพราะต้องการให้เหมือนในรายการทีวีที่ชอบดู

   “เหมาะกับท่าเสียจริง”ชลาสินธุ์ยิ้มแก้มปริมองดูศรีสุวรรณในคราบผ้ากันเปื้อนสีหวาน

   “เฮ้อ”

   ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ บางทีผ้ากันเปื้อนผืนนี้อาจจะถูกเตรียมเอาไว้ให้น้องชายของตนเสียมากกว่า

   ร่างสูงใหญ่ของศรีสุวรรณเดินไปมาในครัวเพื่อเตรียมอุปกรณ์ มุมห้องมีเงือกหนุ่มคอยส่งยิ้มเป็นกำลังใจคล้ายจะบังคับอยู่
กลายๆ

   ก็ยังดีที่อีกฝ่ายยังพอฟังว่าให้นั่งรอดูอยู่ไกลๆเพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อลูก

   เสียงเชียร์ดังแว่วมาเรื่อยๆ พอหันไปทีไรก็เจอกับรอยยิ้มที่ดูเหมือนกับคาดหวัง

   ในที่สุดวุ้นน้ำหวานที่ค่อนข้างจะเหลวกว่าที่ควรต่างจากรูปที่ปรากฏในจอทีวีก็เสร็จออกมา

   “ท่านเก่งมากเลย พี่วรรณของข้า”เงือกหนุ่มเอ่ยชม

   “อือ”

   ชายหนุ่มรับคำ ไม่รู้จะว่าอะไรต่อดี ไอ้ผลงานที่ออกมามันค่อนข้างเกือบจะดูไม่ได้เอา

   “อ้าม”

   “เป็นไง”

   “อร่อยมากเลย”ชลาสินธุ์ยิ้มแก้มปริ

   “ก็ดีแล้ว”

   “จุ๊บ ข้ารักพี่วรรณ”ริมฝีปากบางจูบลงบนแก้มสาก

   เหมือนเป็นรางวัลชั้นเลิศสำหรับศรีสุวรรณเลยก็ว่าได้ สงสัยหลังจากนี้คงจะต้องเปิดรายการทีวีดูบ่อยๆซะแล้ว

   







=========================================================

เชียร์คู่ไหนคะ โซอึนเชียร์สามีตัวเอง(อเลน)555


ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
สามีแบบนี้น่ารักจริงๆเลย หาอยากมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อเลนโดนทำให้ท้องได้เหรอนี่

หมอทศรังแกอเลนเกินไปแล้วนะ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
แอบสงสารมณีเหมือนกันโดนแม่ยกรุมด่าไม่มีชิ้นดี แต่ก็น่านะทำตัวเองแท้ๆ

สงสารอเลนอ่าาาาา ไม่รู้เรื่องราวอะไรแต่โดนทศกัณฑ์มาทำอย่างนี้ เราว่ามันก่ไม่ค่อยแฟร์นะ :m16:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
คืนจันทร์เต็มดวง + อาการเจ็บที่ท้อง = ไม่รอดแน่น้องหนูอเลน เสร็จพี่ทศ ได้ลูกแถมด้วย  :hao6:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
บ้ายบายอเลนคนโสด

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
เอาเลยคุณหมอทศ เรื่องนี้หนับหนุนนน :hao7:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
47082

ครั้งที่ 30 ความว่างเปล่า


   ร่างโปร่งบางในอ้อมแขนของศรีสุวรรณถูกปล่อยลงในสระน้ำที่อยู่ในตัวบ้าน

   ใบหน้าหวานแดงเรื่อเหงื่อผุดซึมทุกอณูของใบหน้าคล้ายกำลังทรมาน

   “อื้อ พี่วรรณข้าจะไม่ไหว”

   ทันทีที่ร่างกายสัมผัสกับผืนน้ำขาทั้งสองก็แปรเปลี่ยนเป็นเรียวหางประดับครีบสีท้องทะเลลึก เช่นเดียวกับดวงตา

   ผมสีดำขลับยาวระสะโพกถูกปัดรวบให้ไปในทางเดียวกันเผยให้เห็นหวงหน้าอันหวานซึ้งสมเผ่าพันธุ์

   “ใจเย็นๆฉันอยู่ตรงนี้”

   ศรีสุวรรณกระซิบข้างหูอุ้มเอาร่างครึ่งปลาของคนรักนั่งบนตัก แผ่นหลังสั่นเทาซบลงกับอกแข็งแรงเพื่อเป็นที่พึ่งพิง

   “ข้าปวดท้อง อึก พี่วรรณ”ชลาสินธุ์ซบหน้าลงกับอกแกร่ง มือสีซีดกำแขนของศรีสุวรรณแน่น

   เสียงร้องโหยหวนดังคลอกกับเสียงปลอบโยนอยู่ร่ำไป นานนับชั่วโมงของการรอคอย

   ถ้อยคำกำลังใจเฝ้ากระซิบอยู่ข้างหูให้ได้อุ่นใจ หยาดน้ำตาใสคลอเคลียอยู่บนดวงตาสีครามเข้มจนเอ่อล้น

   ริมขอบสระมีคุณหมอสิบหน้าคอยดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด

   “พี่วรรณ ข้า อะ ไม่ไหว อึก ลูกข้า อะ อื้ออออออ”

   แล้วในที่สุดก้อนน้ำทรงรีก็ผลุดออกมาจากรอยแยกของครีบสวย

   ข้างในมีเด็กทารกครึ่งกายล่างเป็นปลานอนขดอยู่ข้างใน ผิวขาวซีดใบหน้าหวานได้ผู้เป็นแม่ แต่ยังไม่สามารถระบุเพศได้

   “ลูกพ่อ”ศรีสุวรรณกล่าวรับทารกร่างเล็ก

   “ลูกของเรา ฮึก ข้าดีใจเหลือเกินพี่วรรณ”ชลาสินธุ์สะอื้นซบหน้าลงบนอกคนรักพลางกอดไข่ของทารกแน่น

   “ฉันเองก็ดีใจ อีกไม่นานก็จะได้เจอกันแล้ว”เขากระซิบโอบกอดคนรัก

   อีกเพียงแค่เจ็ดวันทารกก็จะฟักตัวออกมา

   “ข้ารักพี่วรรณเหลือเกิน”ชลาสินธุ์บอกเสียงแผ่วก่อนที่ดวงตาสีฟ้าครามจะหลุบซ่อนอยู่ใต้เปลือกตา ฉุกดึงสู่ห้วงของนิทรา
ด้วยความเหนื่อยอ่อน

   “ฉันก็รักนาย ชลาสินธุ์”

   เขากระซิบตอบพลางจูบซับลงบนขมับอุ่นชื้นเหงื่อ

   ความรักที่ไม่เคยคิดว่าจะเจอ ความรักที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ บัดนี้มันได้อยู่ในกำมือของเขาแล้ว

   สายสัมพันธ์ของชีวิตถูกผูกติดจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้เกิดขึ้นกับตัวเขาแล้ว

      





===============================================================



   เพล้ง!!!

   เสียงแก้วแตกดังลั่นหลังมหึมาบนเกาะกลางท้องทะเล

   กี่ใบแล้วไม่สามารถที่จะนับได้ที่วาลีได้ทำแตกไป มือที่พันปลาสเตอร์แปะแปลค่อยๆเก็บเศษจานที่เกลือนกระจายอยู่บน
พื้นอย่างอ้อยอิ่ง

   หลายเดือนกับการที่ต้องทนอยู่บนเกาะๆนี้ราวกับนักโทษที่ไม่มีอิสระ

   ทั้งที่พยายามจะออกไปจากเกาะนี้ให้ได้แต่ทว่ารอบด้านที่เป็นน้ำไม่สามารถมีหนทางไหนเลยที่จะพาเขาออกไป

   “ทำแตกอีกแล้วรึ”เสียงทุ้มต่ำของเจ้าบ้านดังแว่วมาจากหน้าประตู

   เช่นเคยที่พอมีเรื่องคนคนนี้จะต้องโผล่มา

   “เมื่อไรกัน เมื่อไรคุณจะปล่อยผมไป”เขาเอ่ยถามอย่างเหลืออด

   มือที่ถือเศษแก้มแหลมคมสั่นระริกอย่างห้ามไม่ได้

   “ไม่ใช่หน้าที่ที่ข้าจะต้องตอบ”

   “โถ่โว้ย!!!”

   สิ้นเสียงเศษแก้มชิ้นใหญ่ในมือของเขาก็ถูกปาใส่เจ้าของคำตอบอันน่าโมโหนั่น

   เคร้ง!!!!

   เฉียดไปแค่นิดเดียวเศษแก้วนั้นลอยไปกระทบบนพื้นผนังห้องจนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆร่วงลงสู่พื้น

   “ดูเหมือนเจ้าจะยังไม่เข้าใจอะไร”วสินเอ่ยเสียงเรียบ

   “ผมยังจะต้องเข้าใจอะไรอีก พวกคุณบ้ารึไงที่จับผมมาขังไว้ จะกินก็กินเลยสิ จะต้องให้ทำอะไรนักหนา”

   ทั้งงานบ้านงานสวนต่างๆนานา ถูกใช้ราวกับเป็นทาสเป็นนักโทษก็ไม่ปาน

   “หึ เจ้าอยากให้ข้ากินเจ้าขนาดนั้นเลยรึ เจ้ามนุษย์”

   เพียงวูบเดียวเท่านั้นราวกับมีลมพัดผ่านไป

   ใบหน้าดุดันของยักษ์เจ้าบ้านก็ใกล้มาจนแทบชิด

   ดวงตาสีดำสั่นระริกแทบไม่เชื่อสายตา

   ทั้งที่ก่อนหน้าอยู่ไกลกันนับหลายก้าว แต่เพียงพริบตาร่างของอีกฝ่ายก็อยู่ตรงหน้าเขา อีกทั้งใบหน้ายังใกล้เข้ามาจนเกือบ
จะชิด

   ประโยคคำถามที่คล้ายกับเป็นการบอกกล่าวทำเอาตัวเริ่มสั่นเล็กๆ กลัวว่าจะเป็นจริงขึ้นมา

   “คุณ จะ จะกินผมจริงๆใช่ไหม”วาลีถาม เบือนหน้าหลบสายตานิ่งเฉย

   “เจ้าคิดว่าเช่นไรล่ะ”

   “ผม”เขาอ้ำอึ้ง หากโดนกินอย่างที่ว่าจริงๆล่ะ จะทำยังไง

   “เก็บเศษจานที่แตกให้เรียบร้อย หากข้ากลับมาพบว่ามีแม้เพียงเศษเสี้ยว ข้าจะใช้งานเจ้าเพิ่มเป็นสองเท่าในวันพรุ่ง”

   วสินผละออกหันหลังให้ ริมฝีปากของยักษ์ถือศีลอดไม่ได้ที่จะยิ้มด้วยอารมณ์ขันที่เกิดขึ้นมาเฉียบพลันที่ได้เห็นดวงตาสั่น
ระริกคู่นั้นยามที่เขาขู่ว่าจะกิน

   หารู้ไม่ว่าเขานั้นไม่กินเนื้อ

   “จะช่วยบอกผมได้ไหมว่าเมื่อไรคุณจะปล่อยผมไปสักที”

   วาลีถามย้ำอีกครั้งหากแต่วสินไม่ใส่ใจที่จะตอบ ใช่ว่าคำตอบของเขานั้นไม่มี

   เพียงแต่ว่าโรคร้ายที่ยากจะรักษาของวาลีนั้นจะเป็นตัวกำหนดอิสระของตัวเอง



===================================================================



   “ละเวง ไปหาหมอไหม พ่อว่าไปหาหมอบ้างก็ดี”ผู้เป็นพ่อกล่าวกับลูกชาย

   “ไม่หรอก ไม่ได้เป็นอะไร แค่โรคกระเพาะ”อเลนตอบกลับไป

   “แต่พ่อว่าไปให้หมอดูหน่อยก็ดี ถ้าแม่ของลูกกลับมาจากนิวยอร์จะว่าพ่อเอา”

   “ไม่เป็นอะไรหรอก ผมแข็งแรงดี น้ำหนักขึ้นอีกต่างหาก”อเลนอ้าง

   เกือบสองเดือนแล้วที่บินกลับมายังนิวเจอร์ซี่เมืองที่อยู่ทางตะวันออกของประเทศมหาอำนาจ

   การเตรียมตัวเพื่อเรียนรู้กิจการของที่บ้านค่อนข้างจะวุ่นวายพอควร

   แม่ของเขาเป็นชาวต่างชาติผิดกับพ่อที่เป็นคนไทย แม่สืบทอดฟาร์มชีสนมวัวที่เป็นมรดกจากต้นตระกูลที่มีมานานทำให้เขา
หนีไปไหนไม่ได้นอกจากจะต้องตอบรับมรดกก้อนใหญ่ก้อนนี้

   ถึงแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม ข้อแม้ที่ถูกตั้งเอาไว้ได้จลลง อิสระที่ได้รับก่อนจะต้องรับช่วงต่อสิ้นสุดลงเร็วกว่ากำหนด

   สิ้นสุดพร้อมกับความเจ็บใจที่ไม่มีวันจางหาย คืนสุดท้ายที่อยู่กับยักษ์น่ากลัวตนนั้นทำให้เขาไม่มีวันลืม

   “งั้นก็ตามใจ อย่าลืมล่ะ อีกสองวันลูกจะต้องไปเรียนทำชีสกับแม่”

   “ครับ ไม่ลืม”เขาตอบรับ

   อาการคลื่นไส้ที่มีเริ่มทุเลาลงเล็กน้อย แต่ก็ยังคงมีอยู่ ภาพในความทรงจำมันยังคงตอกย้ำสิ่งที่ต้องเจออยู่เรื่อยไปไม่มีวัน
เลือน

   ต่อจากนี้คงจบสิ้นกันสักที ผลกรรมที่เคยก่อเอาไว้ในชาติก่อน

   ความรักที่ไม่มีวันเป็นจริง ความรักที่ไม่สามารถแทรกแซงเข้าไปได้เลย



==================================================================



   “ฮึก พะ พี่วรรณ ข้าจะ ไม่ไหวแล้ว อื้อ”

   “ใจเย็นๆนายทำได้”

   “อื้อ แต่ข้า ทะ ทรมานเหลือเกิน”

   “นายทำได้ ฉันอยู่ตรงนี้”

   เสียงพี่วรรณสลับกับเสียงของชลาสินธุ์แว่วมาจากทางสระน้ำ ตอนนี้ได้กำหนดเวลาคลอดของชลาสินธุ์แล้ว

   ต่างจากผมที่คลอดก่อนกำหนดจากเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น

   สองเดือนผ่านมาแล้วที่ผมอยู่โดยไม่มีพี่ธารา มีเพียงสินธุ์สมุทรกับสุดธาราเท่านั้นที่เป็นยาชั้นดีรักษาจิตใจของผมไม่ให้
หมองเศร้า

   ไม่ปฏิเสธเลยว่าผมคิดถึงพี่ธารา จนสุดหัวใจ หากแต่พี่ธารานั้นไม่กลับคืนมาอีกแล้ว

   ต้องโทษผมที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด โทษที่ผมนั้นไม่เข้มแข็งพอและไม่ซื่อสัตว์กับพี่ธารา

   เสียงสั่นเครือของสุวรรณสินธุ์ดังแว่วมาเรื่อยลอดประตูที่ปิดกั้นเอาไว้

   ผมมองไปเห็นหมอทศอยู่ใกล้ๆคอยช่วยเหลือตลอด ชลาสินธุ์นั้นต่างจากผมตรงที่ต้องคลอดในน้ำ

   ผมไกวเปลขนาดใหญ่มองลอดผ่านผ้าคลุมเปลผืนบางมีเจ้ายักษ์ตัวเล็กสองตัวนอนแยกเขี้ยวหลับตาพริ้มกันอยู่

   เป็นเพราะยังเด็กมาก และเป็นลูกครึ่ง ทำให้ในบางครั้งอาจจะอยู่ในร่างของยักษ์ บางครั้งอาจจะอยู่ในร่างของคน

   แต่ก็ก็แค่ช่วงแรกๆเท่านั้นที่ระยะเวลาของร่างยักษ์จะมากกว่า

   ผมนั่งให้กำลังใจชลาสินธุ์อยู่ในห้องนั่งเล่น ไม่อยากเข้าไปเกะกะเพราะคงไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา ดีที่วันนี้พ่อกับแม่มี
งานแสดงที่ต่างจังหวัด ไม่งั้นคงพากันแห่มาดูหน้าหลานอีกคนที่กำลังจะคลอด

   ส่วนพี่อเลนกลับต่างประเทศไปก่อนกำหนด ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรแต่ผมก็ไม่กล้าที่จะถามไถ่เพราะคิดว่าพี่อเลนคงไม่
อยากจะบอกอยู่ดี

   เสียงของพี่วรรณยังดังเคล้ากับเสียงของชลาสินธุ์ที่บ่งบอกถึงความทรมานอย่างหนัก

   ไม่นานเสียงกรีดร้องของชลาสินธุ์ก็จบลงตามด้วยเสียงของครางเบาเบา

   ผมเดินมายังสระน้ำมองดูครอบครัวที่กำลังมีชีวิตใหม่เกิดขึ้นมา

   ครอบครัวที่พร้อมหน้าพร้อมตา….

   อดที่จะอิจฉาไม่ได้เลย ในอ้อมกอดของชลาสินธุ์มีก้อนน้ำใสใสรูปทรงเหมือนกับไข่ ภายในมีเด็กทารกกำลังนอนขดตัวดูด
นิ้วท่าทาบงน่ารัก

   ครึ่งตัวด้านล่างเป็นหางของปลาด้านบนเป็นเหมือนเด็กทารกทั่วไป กายเล็กในก้อนน้ำทรงรีขยับเล็กน้อยพอให้รู้ว่ายังมีชีวิต

   รอยยิ้มแห่งความปลื้มปิติฉายอยู่บนใบหน้าของทุกคนแม้แต่ใบหน้าของทารกครึ่งปลาในก้อนน้ำนั้น

   คงต้องรอเวลาอีกเจ็ดวันตามที่คุณหมอทศบอกกว่าจะฟักตัวออกมา

   ทารกร่างขาวซีดใบหน้าเหมือนกับชลาสินธุ์ไม่มีผิด

   แว๊ แว๊ แว๊

   เสียงร้องไห้งอแงแข่งกันดังระงม

   ผมผละออกจากภาพที่น่าดีใจรีบกลับไปยังเปลที่มีร่างของยักษ์ตัวน้อยร้องให้โยเยอยู่ข้างในเปล

   สองเดือนแล้วที่ต้องทำหน้าที่ของแม่ อีกทั้งยังต้องเรียน ยอมรับว่าบางครั้งอาจจะทำหน้าที่ของแม่ไม่ดีนัก

   การเรียนที่เริ่มหนักขึ้นส่งผลให้ต้องอาศัยคนใกล้ตัวคอยช่วยดูแลสินสมุทรกับสุดธาราอีกแรง

   ผมอุ้มเจ้าสินสมุทรกับสุดธาราขึ้นมา เป็นงานยากที่จะต้องอุ้มทั้งสองคนขึ้นมาพร้อมๆกัน

   แต่ก็ต้องพยายาม ผมอยากให้ส่วนหนึ่งที่พี่ธาราทิ้งเอาไว้มีความสุข

   แต่แล้วสินสมุทรก็ถูกคุณหมอทศแย่งเอาไปอุ้ม

   ผมเงยหน้ามองแล้วส่งยิ้มให้ รู้สึกเกรงใจคุณหมอทศที่ต้องคอยช่วยดูแลเด็กๆอีกแรงตามที่สัญญากับพี่ธาราเอาไว้

   “ขอบคุณครับ”ผมยิ้ม

   “สงสัยจะรู้ตัวว่ามีสมาชิกใหม่”คุณหมอพูดเสียงเรียบก่อนจะอุ้มสินสมุทรเดินนำไปยังส่วนของสระน้ำ

   ดวงตาสีเขียวเหลือบดำจ้องมองร่างทารกครึ่งปลาที่อยู่ในก้อนน้ำนิ่งสุดธาราเองก็เช่นกัน

   ทั้งสองคนหยุดร้องไห้งอแง

   “อะ อา อา อะ”ทั้งสองคนส่งเสียงอ้อแอ้เอื้อมมือเหมือนจะคว้าเอาทารกครึ่งปลาให้ได้



   “ดูไว้นะสินสุทรสุดธารา นั่นสุวรรณสินธุ์น้องของลูก”ผมบอกเสียงเบา

   ทั้งสองคนส่งเสียงอ้อแอ้คล้ายกับตอบรับ

   สิ่งที่พี่ธาราหลงเหลือเอาไว้ผมจะเป็นคนดูแลเอง ผมจะเป็นคนคอยปกป้องให้เหมือนกับที่พี่ปกป้องผม



   จบ


==================================================================


จบจริงๆนะ

เดี๋ยวมีตอนพิเศษสั้นๆอีกตอน
อย่าเพิ่งเขวี้ยงเกิบกันนะ อยากจะให้เกาะขอบตอรอดูกัน



ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
อ่าวววว. ธาราละ ไปจริงๆๆหรอ

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
กรี๊ดดดดดด!!!!!

ขอปาเกิบใส่คนเขียนรัวๆได้ไหม?! :ling1:

คือยังเหลือตอนพิเศษสั้นๆอีกตอนมันจะครอบคลุมส่วนที่ยังค้างคาได้หมดเหรอ?

ขอดิ้นรัวๆ :katai1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด