พิมพ์หน้านี้ - ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: โซ อึน ที่ 01-08-2015 18:30:11

หัวข้อ: ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 01-08-2015 18:30:11
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 บทนำ ทวงหนี้
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 01-08-2015 18:33:51
ต้องชี้แจงไว้ก่อนว่านิยายเรื่องนี้ไม่ได้หวังจะต้องการให้ส่งผลกระทบต่อมรดกของชาติหรือสิ่งใดใด
เพียงแค่เกิดมาจากมโนเล็กๆของคนเขียนเท่านั้น
อาจจะมีดัดแปลงเอาส่วนหนึ่งมาอ้างอิง ไม่ได้หวังทำลายประวัติศาสตร์ของชาติแต่อย่างใด ยังไงก็ฝากเอาไว้ด้วยนะค่ะ


ปอลอ เรื่องนี้นายเอกท้องได้ค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผลงานที่จบแล้ว
# Accident Lovely อุบัติรัก...พ่อลูกอ่อน # (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45960.0)เรื่องราวของหนุ่มเพลบอยที่จู่ๆดันไปไข่ทิ้งไว้กับใครที่ไหนก็ไม่รู้
รู้ตัวอีกทีสาวเจ้าที่จำหน้าไม่ได้ก็เอาลูกมาทิ้งไว้ให้เลี้ยง
เป็นเหตุที่ทำให้เขาต้องรีบหาพี่เลี้ยงโดยด่วน
เรื่องราวสุดป่วนของหนุ่มพ่อลูกอ่อนสุดมึนกับคุณพ่อวัยใสสุดเฮี๊ยบจะเป็นยังไงต่อไป

Oh! No papa! ป๊าครับ.…อย่าคลุมถุงชน!! 01/11/58 [จบ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49573.0)
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาไม่อยากจะเเต่งงานแล้วดันไปโกหกพ่อตัวเองว่าเขาเป็นตุ๊ด ความรักวุ่นๆเกิดขึ้นแล้วกับลูกชายคนเล็กของเฮียเล้งที่แสนจะแสบ

[Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.0)จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อจู่ๆก็มีใครคนหนึ่งเดินมาบอกเขาว่าเขาสร้างหนี้เอาไว้เมื่อชาติที่แล้ว
แล้วเขาคือพระอภัยมณีกลับชาติมาเกิดแล้วบอกว่าตัวเองเป็นพี่ชายของผีเสื้อสมุทร
นี่มันเรื่องบ้าอะไรไม่รู้ ทางเดียวที่จะล้างหนี้ได้ก็คือการมีลูกกับหมอนี่
แล้วเขาจะหลีกหนีการทวงหนี้ครั้งนี้ได้หรือไม่


@ สารบัญ @

ภาค 1 หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย

บทนำ 15/09/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.2)
ครั้งที่ 1 โจรห้าร้อย 15/09/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.15)
ครั้งที่ 2 ธาราสมุทร 15/09/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.25)
ครั้งที่ 3 จุมพิต 16/09/58  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.152)
ครั้งที่ 4 ยักษ์สมุทร 16/09/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.155)
ครั้งที่ 5 มนตรา 17/09/58  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.160)
ครั้งที่ 6 โน้ตเพลง 17/09/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.164)
ครั้งที่ 7 ดอกไม้ปริศนา 18/09/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.167)
ครั้งที่ 8 ดอกมะลิ 18/09/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.168)
ครั้งที่ 9 นางในฝัน 19/09/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.180)
ครั้งที่ 10 เสน่ห์นางลวง 20/09/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.187)
ครั้งที่ 10 แสงจันทร์ (ครึ่งหลัง)03/10/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.201)
ครั้งที่ 11 พลาด 03/10/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.209)
ครั้งที่ 12 คืนเดือนมืด 08/10/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.224)
ครั้งที่ 13 ใกล้อีกนิด 11/10/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.236)
ครั้งที่ 13 ชะตา (ครึ่งหลัง) 16/10/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.243)
ครั้งที่ 14 ความจริง 17/10/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.251)
ครั้งที่ 15 บทกลอน 20/10/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.260)
ครั้งที่ 15 ชลาสินธุ์ ครึ่งหลัง21/10/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.267)
ครั้งที่ 1ุ6 จันทร์เต็มดวง 23/10/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.277)
ครั้งที่ 1ุ7 คำสัญญา 18+ 24/10/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.290)
ครั้งที่ 1ุ8 เหตุผล 18+ 05/11/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.306)
ครั้งที่ 1ุ8 ของต่างหน้า 18+ 14/11/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.316)
ครั้งที่ 1ุ9 กุหลาบสีน้ำเงิน 15/11/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.330)
ครั้งที่ 20 ตามหาหมอ 17/11/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.339)
ครั้งที่ 20 ตามหาหมอ2 (ครึ่งหลัง) 19/11/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.359)
ครั้งที่ 21 ข้อเสนอ+ชีพจร 21/11/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.376)
ครั้งที่ 22 ปรับตัว 01/12/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.397)
ครั้งที่ 22 ลวนลาม (ครึ่งหลัง) 02/12/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.408)
ครั้งที่ 23 ลักหลับ 03/12/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.417)
ครั้งที่ 23 ความเดิม (ครึ่งหลัง) 04/12/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.427)
ครั้งที่ 23 แผนร้าย (ครึ่งหลัง) 06/12/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.441)
ครั้งที่ 24 ปิดฉากหัวขโมย 10/12/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.450)
ครั้งที่ 25 ได้ด้วยเล่ห์ 16/12/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.463)
ครั้งที่ 25 ท้อง (ครึ่งหลัง) 26/12/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.477)
ครั้งที่ 26 สารภาพ  26/12/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.478)
ครั้งที่ 26 นางสุดท้าย (ครึ่งกลาง)  26/12/58 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.487)
ครั้งที่ 26 ตาฝาด (ครึ่งหลัง) 09/01/59 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.504)
ครั้งที่ 27 ใส่ร้าย 10/01/59 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.510)
ครั้งที่ 28 สูญเสีย 13/01/59 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.530)
ครั้งที่ 29 ใส่ร้าย 28/01/59 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.547)
ครั้งที่ 29 วุ้นน้ำหวาน  29/01/59 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.557)
ครั้งที่ 30 ความว่างเปล่า [จบ]  30/01/59 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.566)
พิเศษ ครั้งสุดท้าย 31/01/59 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.566)

ภาค 2 ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น

ทวงครั้งที่ 1 โจรปล้นน้ำ 06/02/59 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.598)
ทวงครั้งที่ 2 หลุมพลาง 08/02/59 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.ุ607)
ทวงครั้งที่ 3 กลับบ้านเรา 12/02/59 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48081.ุ615)


หัวข้อ: Re: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 บทนำ ทวงหนี้
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 01-08-2015 18:35:06
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)


(http://www.mx7.com/i/5f4/37WMic.png)

ธารา / ธาราสมุทร
สูง  185 หนัก 75
 สถานะ เป็นยักษ์ อายุ 180 ปี ผิวสีแทน ตาสีเขียวมรกตเวลาแปลงกาย
นิสัย สุภาพบุรุษ ขรึมนิดๆ เจ้าเล่ห์หน่อยๆ

(http://www.mx7.com/i/e67/RNKBCo.png)

มณี / อภัยมณี
สูง 175 หนัก 55
สถานะ มนุษย์ธรรมดา อายุ 18 ผิวขาว
นิสัย ขี้หงุดหงิด ขี้โวยวาย ชี้โมโห คิดเองเออเองตลอด

อลวนวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด


บทนำ

“อะไรกัน ผมไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน คุณจะบ้าเหรอผมจะเป็นหนี้คุณได้ยังไง”จู่จู่เขาก็เดินเข้ามาหาผมแล้วบอกว่าผมเป็นหนี้เขา
“ชาติที่แล้วยังไงเล่า เจ้าขโมยของสำคัญของข้าไป”เขายังคงยืนยัน

แต่ถึงยังไง คนที่ชอบคิดเองเออเองอย่างผมก็ไม่เข้าใจสักที ผมไปยืมอะไรของเขามาเมื่อไร เจอหน้ากันก็ไม่เคยเจอสักครั้ง แล้วยังมาพูดจากับผมเหมือนกับพวกลิเกอีก

ผมชักเริ่มคิดแล้วว่าคนคนนี้ต้องเป็นบ้าแน่ๆ เขาอาจจะหลุดออกมาจากโรงพยาบาลบ้าก็ได้ ผมเริ่มมองเขาด้วยท่าทีไม่ค่อยไว้ใจ ดวงตาของผมหรี่ลงจ้องมองคนตรงหน้าอย่างระวังตัว

 “ขโมยอะไร คุณอย่ามาขี้ตู่ ประสาทรึไง”ผมว่าออกไป พยายามมองซ้ายมองขวา แต่ดึกแบบนี้ แทบจะไม่มีใครผ่านมาแถวนี้เลย
“จะยอมชดใช้ข้าดีดี หรือจะต้องให้ข้าต้องบังคับขืนใจเจ้า”

“ไม่เอา คุณนี่ท่าจะบ้า สมองถูกกระทบกระเทือนรึยังไง ”มาหาว่าผมติดนี้เขา แล้วยังจะมาพูดจาแปลกๆ คิดว่าผมจะเชื่อรึยังไง ถ้าเชื่อก็บ้าแล้ว

คนอย่างไอ้มณี ไม่ได้เชื่อคนง่ายเหมือนหน้าตานะเว้ย อีกอย่าง ผมกับเขาก็เพิ่งจะเคยเจอหน้ากันครั้งแรกผมจะไปติดหนี้เขาได้ยังไง

“สมองข้าไม่ได้กระทบกระเทือน แต่ชาติที่แล้วเจ้าฆ่าผีเสื้อสมุทรน้องข้าด้วยความโหดเหี้ยมยิ่งนัก”

“อะไรนะ บ้ากันไปใหญ่ อย่าบอกนะว่าชาติที่แล้วผมเป็นพระอภัยมณี มั่วแล้วเหอะ โอ้ย เพี้ยนมาก นี่คุณอายุเท่าไรกันเนี่ย ดูท่าก็น่าจะรุ่นเดียวกับผม ผมว่าคุณคงจำคนผิดแล้วล่ะ”หรือว่าเขาจะรู้จักผมกัน แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าผมชื่ออภัยมณี หรือจะบังเอิญ แต่มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง ไอ้ชื่อที่ทำเอาอายไปสามบ้านแปดบ้านแบบนี้ จะมีใครเหมือนกันล่ะ แล้วคนคนนี้เขารู้ได้ยังไงกันว่าผมชื่ออภัยมณี หรือเขารู้แล้วตั้งใจจะมาล้อผม

 “อีกยี่สิบปีข้าก็จะอายุสองร้อยปีพอดิบพอดี”อะไรนะ สองร้อยปี บ้ารึป่าว เขาเนี่ยนะ อายุสองร้อยปี ดูยังไงก็อายุไม่น่าจะแก่ไป
กว่าผมสักเท่าไร บวกลบอีกไม่เกินห้าปี นี่เขาคิดว่าผมเป็นเด็กรึไง ถึงจะได้เชื่อคนง่าย หรือว่าเขาเป็นโจรมาหลอกปล้นผมกันแน่ แต่ท่าทางของเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะคุคามผมเลย นอกจากไอ้คำพูดที่ฟังดูแล้วเพี้ยนๆของเขา ที่ยิ่งฟังก็ยิ่งอยากจะขำออกมา

 “โอ้ย ผมไม่คุยกับคุณแล้วนะ บ้ากันไปใหญ่ คุณคงจะจำคนผิด”ผมบอกเขาพลางหันหลังจะเดินหนี แต่ทว่าข้อมือของผมก็ถูกคว้าเอาไว้ แรงดึงที่มีมากจนผมตกใจทำให้ผมถอยหลังกลับไปตามแรงด้วยความตกใจ

“อย่าบังอาจหันหลังให้ข้า”เสียงของเขาดังทุ้มลึกคล้ายกับกำลังโกรธอยู่เล็กน้อยทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาผ่านแสงจันทร์ที่สาดลงมาให้พอได้เห็นเสี้ยวหน้าของเขาอยู่บ้าง

“เฮ้ย  คุณจะมาจับอะไรผม ปล่อยมือ”ผมสะบัดมือเขาออกแทบจะทันทีที่ตั้งสติได้ ชั่วครู่ผมเห็นดวงตาของเขาทอประกายสีเขียวอยู่วูบหนึ่งก่อนจะเลือนไป แต่นั่นมันก็แค่วูบเดียว

   ใครกันจะไปมีสีตาสีเขียว ผมคนจะตาฝาดไปเองล่ะมั้ง ผมคิดในใจ พลางถอยเพื่อเว้นระยะห่างออกจากตัวเขาอย่างระมัดระวังตัว
   สายตาของผมสอดส่อง มองเขาเพื่อที่จะดูว่าเขามีอาวุธอะไรที่พอจะทำร้ายผมได้บ้าง แต่ก็ไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะมีอาวุธอะไร แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังไม่ไว้ใจเขาอยู่ดี

“ชดใช้มาเสียเถิด เผ่าพันธุ์ของข้าต้องอยู่บนโลกมนุษย์มาอย่างทรมาน นั่นก็เพราะสิ่งที่เจ้าได้ทำเมื่อชาติที่แล้ว”

“ชดใช้อะไรล่ะ ผมไม่มีหรอกนะ เงินน่ะ ตอนออกจากบ้านผมไม่ได้หยิบมา”

“ข้าไม่ได้ต้องการเงินทอง สิ่งที่ข้าต้องการคือสิ่งที่เสียไปเมื่อร้อยปีที่แล้ว”

“ร้อยปีอะไร ผมไม่เข้าใจ คุณคงจะเมา ผมว่าคุณอาจจะกำลังสับสน เราไม่เคยเจอกัน แล้วผมก็ไม่มีอะไรที่ติดค้างกับคุณ”

“เจ้าต้องมีลูกให้ข้า เมื่อใดที่เด็กเกิดมา หนี้ที่เคยติดค้างเอาไว้จะถูกชำระเเล้วสิ้น”

“ห่ะ จะบ้าเหรอ มีลูก นี่ผู้ชายด้วยกันนะ เผื่อคุณจะยังไม่รู้”

   อะไรกัน คนคนนี้ จู่จู่ก็เข้ามาคุยกับผมเหมือนกับคนบ้า บอกมาทวงหนี้ แล้วนี่อะไร บอกให้ผมมีลูกกับเขา นี่เข้าบ้ารึยังไง นี่ผมผู้ชายนะครับ เผื่อเขาจะยังไม่รู้ว่าผมเป็นผู้ชาย

   ผู้ชายบ้าอะไรจะมีลูกได้ นี่เขาเมารึยังไง พูดจาเป็นลิเกหลงโรง แล้วยังมาพูดเรื่องบ้าบออะไรอีก มีลูกเนี่ยนะยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้!!


***********************************************************************************

19/09/58
หัวข้อ: Re: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 บทนำ ทวงหนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 01-08-2015 18:40:46
เป็นใครได้มาเจอคนทวงหนี้(?)อย่างน้องมณีก็ต้องสติแตกค่าา :laugh:

ติดตามนะค้าา.. :L2:
หัวข้อ: Re: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 บทนำ ทวงหนี้
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 01-08-2015 18:44:53
เรื่องแปลกดีอ่ะ ชอบๆ 55555
ลงชื่อติดตาม :)
หัวข้อ: Re: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 บทนำ ทวงหนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 01-08-2015 18:46:53
อืม เป็นการชดใช้ที่เข้าท่าดี :o9:
หัวข้อ: Re: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 บทนำ ทวงหนี้
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 01-08-2015 18:55:32
ติดตามด้วยคนจ้า :mew1:
หัวข้อ: Re: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 บทนำ ทวงหนี้
เริ่มหัวข้อโดย: littletwinstar. ที่ 01-08-2015 19:11:52
ติดตามตอนต่อไปค้า
หัวข้อ: Re: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 บทนำ ทวงหนี้
เริ่มหัวข้อโดย: mimasopu ที่ 01-08-2015 20:05:46
น่าติดตามม
พระเอกเป็นยักษ์สินะ
หัวข้อ: Re: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 บทนำ ทวงหนี้
เริ่มหัวข้อโดย: sirikanda28 ที่ 01-08-2015 20:07:31
แปลกดี งานนี้สุนทรภู่
มีสะดุ้งแน่ :laugh:
หัวข้อ: Re: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 บทนำ ทวงหนี้
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 01-08-2015 20:36:28
เรื่องนี้เปิดทาก็ขำล่ะ
หัวข้อ: Re: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 บทนำ ทวงหนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 01-08-2015 22:07:26
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 บทนำ ทวงหนี้
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 01-08-2015 22:40:53
รอมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 บทนำ ทวงหนี้
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 02-08-2015 00:31:23
แปลกดี งานนี้สุนทรภู่
มีสะดุ้งแน่ :laugh:

อันนี้ต้องออกตัวแรง กราบขอขมาสุนทรภู่งามๆเสียสามที
ข้อหาเอาผลงานเขามาอ้างอิงเสียแบบนี้
แต่ยังไงก็จะพยายามทำออกมาให้ดีที่สุด
มิเช่นนั้นคงรุ้สึกผิดแย่
หัวข้อ: Re: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 บทนำ ทวงหนี้
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 02-08-2015 02:52:51
อภัยมณี???
กับยักษ์
แปลกดี
แค่เริ่มก็สนุกแล้ว
หัวข้อ: [Mpreg]----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 ตอนที่ 1 โจร500
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 02-08-2015 14:34:43
ชำระหนี้ครั้งที่ 1 โจร 500

   ผมเดินลัดเลาะพลางเขี่ยปลายเท้าไปมาลงไปบนผืนทรายขาวอย่างสบายอารมณ์ เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังก้องระงม ประสานกับสายลมที่หอมเอากลิ่นอายทะเลเข้าปอดทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกบอกไม่ถูก

   ค่ำคืนที่เหมือนกับความฝันท่ามกลางคลื่นลมในความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์สาดลงมาทำให้ผมรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก มันรู้สึกว่าผ่อนคลายจนแทบจะไม่มีความคิดอะไรอยู่ภายในหัวของผมเลยสักนิด

   ตาของผมทอดมองไปที่ผืนน้ำทะเลที่สะท้อนเงาของดวงดาวมากมาย ราวกับเป็นผืนฟ้าที่คู่ขนานกัน

   ดวงจันทร์กลมโตฉายแสงลงมาอาบพื้นให้พอเห็นรอบกายอยู่รำไร

   อีกไม่กี่วันแล้วสินะ ที่ผมจะต้องเข้าไปอยู่ในรั้วมหาลัย ก้าวเข้าสู่ชีวิตที่ต้องอยู่กับกฎเกณฑ์แห่งความรับผิดชอบที่มีเพิ่มมากขึ้น
   อุตส่าห์ได้แอบมาเที่ยวผ่อนคลายคนเดียวทั้งที แต่ยังไงผมก็ต้องคิดเรื่องปวดหัวอยู่ดี

   ผมส่ายหน้าให้กับความคิดของตัวเอง อุตส่าห์ขวนขวายพยายามที่จะสอบเข้ามหาลัยชื่อดังในเมืองหลวงเพื่อจะได้เปิดหูเปิดตากับเขาบ้าง แต่ที่ไหนได้ ถึงจะสอบได้ก็จริง แต่ทว่า พ่อกับแม่และคนอื่นอื่นในครอบครัวกลับไม่เห็นพ้องต้องตามกันเลยสักนิด   

   แต่กลับให้ผมเรียนมหาวิทยาลัยที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านอย่างมหาลัยที่อยู่ในตัวเมืองเพื่อที่ผมจะอยู่ในสายตาของพวกเขาตลอด

   มันน่าน้อยใจนักที่ชีวิตวัยรุ่นอย่างผมจะต้องมาอยู่บ้านกับครอบครัวอย่างนี้ แทนที่จะเจอโลกภายนอก และใช้ชีวิตวันรุ่นวัยรุ่นแบบคนอื่นเขาบ้าง แต่ผมก็เข้าใจดีว่าครอบครัวเขาห่วงผมแค่ไหน


   “แล้วโชคชะตาก็นำพาเจ้ามาพบข้าเสียที”

   เสียงทุ้มลึกดังขึ้นจากทางเบื้องหลังทำให้ผมหันไปมองอย่างตกใจ เพราะล่วงเลยเวลามาดึกพอสมควร ที่ชายหาดเวลาดึกแบบนี้ไม่น่าจะมีคนเดินผ่านไปผ่านมา แถมคำพูดคำจาที่ฟังแล้วกระดากหูทำให้ผมอดใจไม่ได้ที่จะต้องหันกลับไปมอง

   ร่างสูงใหญ่ผิดกับคนทั่วไปโผล่พ้นออกมาจากมุมมืดเผยให้เห็น ใบหน้าคมคายดุดันเรียกสายตาผมให้มองเขาอย่างอิจฉา เรียว
คิ้วเข้มหนารับกับดวงตาที่ดูแล้วดุดันอย่างลงตัว จมูกโด่งตอบรับกับรูปหน้า ดูแล้วราวกับหลุดออกมาจากนิตยสารยังไงยังงั้น

   ผมมองผู้ชายตรงหน้าด้วยท่าทีตกใจเล็กน้อย คิดว่าคนตรงหน้าคงจะเข้าใจอะไรผิดที่มาทักผมแบบนั้น ผมคิดว่าเขาทักผมนะ เพราะแถวนี้ก็ไม่มีใครอีกเลยนอกจากผม อีกอย่าง เขากำลังจ้องมองมาทางผมอยู่ด้วย

   “คุณทักคนผิดแล้วครับ”ผมยิ้ม พยายามที่จำไม่หัวเราะออกมาเพราะคำพูดเหมือนลิเกของเขา  สงสัยจะดูหนังจักรๆวงศ์ๆมากไปล่ะมั้ง ผมได้แต่คิดใจใจ 

   “ไม่ผิดเป็นแน่ ใบหน้าของเจ้าข้าจดจำมันได้เป็นอย่างดี ใบหน้าของผู้ที่ติดหนี้ข้าไว้แต่ชาติปางก่อน”หนี้อะไรของเขา แล้วจู่ๆมาพูดถึงเรื่องชาติก่อนแบบนี้ มันเริ่มไม่ธรรมดาแล้วคนคนนี้

   
   “นี่ คุณจำคนผิดแล้ว ผมไม่ได้เป็นหนี้อะไรกับคุณ เราเพิ่งเจอกันครั้งแรก”

   “ใช่ ถึงแม้ว่าชาตินี้เราจะพึ่งได้พบเจอกันคราแรก ทว่า ชาติก่อนเรากับเจ้ารู้จักกันอย่างดี”ร่างสูงของเขาเดินก้าวเข้ามาหาผมอย่างใจเย็น ใบหน้าคมดุจับจ้องมองผมไม่วางตาทำให้ผมเริ่มวิตกแล้วถอยหนีอย่างระวังตัว

   
   อะไรของคนคนนี้ เขาบ้ารึยังไงกัน ดูรูปร่างหน้าตาก็ดี ไม่น่าจะบ้า หรือว่าผมกับลังโดนอำ แต่นี่มันห้าทุ่มจะเที่ยวคืนแล้ว หรือว่าคนคนนี้จะเป็นโจร

   ไม่ได้การแล้ว โจรสมันนี้มันมาอ้างเอาง่ายๆเลยเหรอ ว่าผมติดหนี้มันเนี่ยนะ นี่มันคือการปล้นแบบใหม่ใช่ไหม จะง่ายเกินไปแล้วมั้ง

   “ถะถอยไปนะ ไม่งั้นจะร้องให้คนช่วย”ผมถอยหนีเขาที่ก้าวเข้าหาอย่างคุกคาม ถึงจะไม่มีอาวุธก็เถอะ แต่ผมก็ไม่ไว้ใจเขาอยู่ดี ตัวใหญ่ขนาดนี้ ใครจะสู้ไหว

   “จงชดใช้หนี้ข้ามาเสียเถิด”

   “อะไรกัน ผมไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน จะบ้ารึไงผมจะเป็นหนี้คุณได้ยังไง”จู่จู่ก็เดินเข้ามาหาผมแล้วบอกว่าผมเป็นหนี้เขา มันง่ายเกินไปแล้ว โจรสมัยนี้

   “ชาติที่แล้วยังไงเล่า เจ้าขโมยของสำคัญของข้าไป”เขายังคงยืนยัน แต่ยังไง คนที่ชอบคิดเองเออเองอย่างผมก็ไม่เข้าใจสักที กับไอ้คำที่เขายืนยันว่าผมติดหนี้เขาผมไปยืมอะไรของเขามาเมื่อไร เจอหน้ากันก็ไม่เคยเจอสักครั้ง แล้วยังมาพูดจากับผมเหมือนกับพวกลิเกหลงยุค

   หรือไม่ก็พวกหนังจักรๆวงศ์ๆ จนผมชักเริ่มคิดแล้วว่าคนคนนี้ต้องเป็นบ้าแน่ๆ เขาอาจจะหลุดออกมาจากโรงพยาบาลบ้าก็ได้ ผมเริ่มมองเขาด้วยท่าทีไม่ค่อยไว้ใจ ดวงตาของผมหรี่ลงจ้องมองคนตรงหน้าอย่างระวังตัว

    “ขโมยอะไร คุณอย่ามาขี้ตู่ ประสาทรึไง”ผมว่าออกไป พยายามมองซ้ายมองขวา แต่ดึกแบบนี้ แทบจะไม่มีใครผ่านมาแถวนี้แล้ว
   “จงยอมชดใช้ข้าดีดี หรือจะต้องให้ข้าต้องบังคับขืนใจเจ้า”

   “ไม่เอา คุณนี่ท่าจะบ้า สมองถูกกระทบกระเทือนรึยังไง ”มาหาว่าผมติดนี้เขา แล้วยังจะมาพูดจาแปลกๆ คิดว่าผมจะเชื่อรึยังไง ถ้าเชื่อก็บ้าแล้ว คนอย่างไอ้มณี ไม่ได้เชื่อคนง่ายเหมือนหน้าตานะเว้ย อีกอย่าง ผมกับเขาก็เพิ่งจะเคยเจอหน้ากันครั้งแรกไม่ใช่รึไง

   “สมองข้าไม่ได้กระทบกระเทือน แต่ชาติที่แล้วเจ้าฆ่าผีเสื้อสมุทรน้องข้าด้วยความโหดเหี้ยมยิ่งนัก”

   “อะไรนะ บ้ากันไปใหญ่ อย่าบอกนะว่าชาติที่แล้วผมเป็นพระอภัยมณี มั่วแล้วเหอะ โอ้ย เพี้ยนมาก นี่คุณอายุเท่าไรกันเนี่ย ดูท่าก็น่าจะรุ่นเดียวกับผม ผมว่าคุณคงจำคนผิดแล้วล่ะ”หรือว่าเขาจะรู้จักผมกัน แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าผมชื่ออภัยมณี หรือจะบังเอิญ แต่มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง ไอ้ชื่อที่ทำเอาอายไปสามบ้านแปดบ้านแบบนี้ จะมีใครเหมือนกันล่ะ แล้วคนคนนี้เขารู้ได้ยังไงกันว่าผมชื่ออภัยมณี หรือเขารู้แล้วตั้งใจจะมาล้อผม

    “อีกยี่สิบปีข้าก็จะอายุสองร้อยปีพอดิบพอดี”อะไรนะ สองร้อยปี บ้ารึป่าว เขาเนี่ยนะ อายุสองร้อยปี ดูยังไงก็อายุไม่น่าจะแก่ไป
กว่าผมสักเท่าไร บวกลบอีกไม่เกินห้าปี นี่เขาคิดว่าผมเป็นเด็กรึไง ถึงจะได้เชื่อคนง่าย หรือว่าเขาเป็นโจรมาหลอกปล้นผมกันแน่ แต่ท่าทางของเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะคุคามผมเลย นอกจากไอ้คำพูดที่ฟังดูแล้วเพี้ยนๆของเขา ที่ยิ่งฟังก็ยิ่งอยากจะขำออกมา

    “โอ้ย ผมไม่คุยกับคุณแล้วนะ บ้ากันไปใหญ่ คุณคงจะจำคนผิด”ผมบอกเขาพลางหันหลังจะเดินหนี แต่ทว่าข้อมือของผมก็ถูกคว้าเอาไว้ แรงดึงที่มีมากจนผมตกใจทำให้ผมถอยหลังกลับไปตามแรงด้วยความตกใจ

   “อย่าบังอาจหันหลังให้ข้า”เสียงของเขาดังทุ้มลึกคล้ายกับกำลังโกรธอยู่เล็กน้อยทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาผ่านแสงจันทร์ที่สาดลงมาให้พอได้เห็นเสี้ยวหน้าของเขาอยู่บ้าง

   “เฮ้ย  คุณจะมาจับอะไรผม ปล่อยมือ”ผมสะบัดมือเขาออกแทบจะทันทีที่ตั้งสติได้ ชั่วครู่ผมเห็นดวงตาของเขาทอประกายสีเขียวอยู่วูบหนึ่งก่อนจะเลือนไป แต่นั่นมันก็แค่วูบเดียว

   ใครกันจะไปมีสีตาสีเขียว ผมคนจะตาฝาดไปเองล่ะมั้ง ผมคิดในใจ พลางถอยเพื่อเว้นระยะห่างออกจากตัวเขาอย่างระมัดระวังตัว

   สายตาของผมสอดส่อง มองเขาเพื่อที่จะดูว่าเขามีอาวุธอะไรที่พอจะทำร้ายผมได้บ้าง แต่ก็ไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะมีอาวุธอะไร แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังไม่ไว้ใจเขาอยู่ดี

   “ชดใช้มาเสียเถิด เผ่าพันธุ์ของข้าต้องอยู่บนโลกมนุษย์มาอย่างทรมาน นั่นก็เพราะสิ่งที่เจ้าได้ทำเมื่อชาติที่แล้ว”

   “ชดใช้อะไรล่ะ ผมไม่มีหรอกนะ เงินน่ะ ตอนออกจากบ้านผมไม่ได้หยิบมา”

   “ข้าไม่ได้ต้องการเงินทอง สิ่งที่ข้าต้องการคือสิ่งที่เสียไปเมื่อร้อยปีที่แล้ว”

   “ร้อยปีอะไร ผมไม่เข้าใจ คุณคงจะเมา ผมว่าคุณอาจจะกำลังสับสน เราไม่เคยเจอกัน แล้วผมก็ไม่มีอะไรที่ติดค้างกับคุณ”

   “เจ้าต้องมีลูกให้ข้า เมื่อใดที่เด็กเกิดมา หนี้ที่เคยติดค้างเอาไว้จะถูกชำระเเล้วสิ้น”

   “ห่ะ จะบ้าเหรอ มีลูก นี่ผู้ชายด้วยกันนะ เผื่อคุณจะยังไม่รู้”

   อะไรกัน คนคนนี้ จู่จู่ก็เข้ามาคุยกับผมเหมือนกับคนบ้า บอกมาทวงหนี้ แล้วนี่อะไร บอกให้ผมมีลูกกับเขา นี่เข้าบ้ารึยังไง นี่ผมผู้ชายนะครับ เผื่อเขาจะยังไม่รู้ว่าผมเป็นผู้ชาย

   ผู้ชายบ้าอะไรจะมีลูกได้ นี่เขาเมารึยังไง พูดจาเป็นลิเกหลงโรง แล้วยังมาพูดเรื่องบ้าบออะไรอีก มีลูกเนี่ยนะยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้!!



********************************************************************************************

15/09/58



   
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 ตอนที่ 1 โจร500
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 02-08-2015 14:42:55
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 ตอนที่ 1 โจร500
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 02-08-2015 14:50:52
ใช่ค่ะน้องมณี~ หนูไม่น่าแอบที่บ้านมาเดินทะเลคนเดียวแบบนี้ให้โดนตามทวงหนี้เลยเนอะ :laugh: ตอนนี้หนีได้ แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะได้เจอกันที่มหา'ลัยก็ได้นะคะเนี่ย ^^
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 ตอนที่ 1 โจร500
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 02-08-2015 15:42:09
ข้อหาชาติที่แล้วเจ้าชู้เกินไป พี่ยักษ์จับมาปล้ำ เอ้ย จับมาผลิตลูกเยยย  :hao6:  :hao7:

 :z13:  :z13:  :z13: จิ้มฉึกๆ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 ตอนที่ 1 โจร500
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 02-08-2015 16:00:27
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 01/08 ตอนที่ 1 โจร500
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 02-08-2015 16:36:20
จริงชาติทีแล้วปล่อยไข่ไปทั่วหนิสมน้ำหน้าชายนี้เลยโนเจาะไข่เลย 5555
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 1 โจร500
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 02-08-2015 17:17:41
หนีไม่พ้นหรอกจะหนูมณี มาใช้หนี้ให้พี่ยักษ์โดนการมีลูกให้ซะดีๆ

ปูเสื่อนอนรอตอนต่อไป อิอิ :mew1:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก 02/08 ตอนที่ 1 โจร500
เริ่มหัวข้อโดย: บุหลันรัศมี ที่ 02-08-2015 17:24:18
ชาตินี้น้องมณีจะมีเมียกี่คนดี
หรือจะมีสามีกันแน่ รอนับเจ้าค่ะ

 :laugh:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 1 โจ
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 02-08-2015 18:12:18
สนุกกก ตลกอ่ะ 555
รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 1 โจร500
เริ่มหัวข้อโดย: aaoo ที่ 02-08-2015 18:24:34
รอตอนต่อไปจร้า    สนุกอ่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 1 โจร500
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 02-08-2015 19:12:15
อ้างอิง::ชาติที่แล้ว พระอภัยมณี มีสหายพราหมณ์ 3 สามคน คือโมรา สานนท์ วิเชียร
ที่ติดตามกันจนพระอภัยมณีถูกนางผีเสื้อสมุทรจับตัวไป


** ชดใช้หนี้ครั้งที่ 2 ธาราสมุทร **




   “มณี นายหาพี่รหัสเจอยัง”เสียงโมเพื่อนใหม่ทักทำให้ผมหันไปมองพลางยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ฝืนยิ้มเต็มที่

   วันนี้เป็นวันรับน้องวันสุดท้ายที่แสนจะเหนื่อยกว่าการโดนซ่อมในทุกทุกวันที่ผ่านมาซะอีก ก็จะอะไรอีกนอกจากเรื่องพี่รหัสที่ทำเอาเฟรชชี่ปีหนึ่งหัวหมุนกันไปตามตามกัน

   วันนี้ทั้งวันพวกรุ่นพี่เปิดโอกาสให้รุ่นน้องได้ตามหาพี่รหัสของตัวเองโดย แบ่งเป็นรอบเช้ากับรอบบ่าย

   จะมีกระดาษคำให้ให้รอบละใบ รอบเช้าหนึ่งใบรอบบายหนึ่งใบ ซึ่งหากใครเจอพี่รหัสทันภายในรอบเช้าก็จะได้รับอภิสิทธิได้กลับบ้านทันทีหลังจากที่รายงานตัวพร้อมกับพี่รหัสของตัวเอง

   ซึ่งโชคร้ายก็ได้มาเยือนผมซะแล้ว เมื่อเวลามันได้ล่วงเลยเข้ามาสู่ช่วงบ่ายเรียบร้อยแล้ว

   ตอนนี้คำใบ้ทั้งรอบเช้าและรอบบ่ายกำลังอยู่ในมือผม ซึ่งผมกำลังกำมันจนยับยู่ยี่ด้วยแรงแค้นที่กำลังปะทุอย่างเพิ่มพูน

   เพราะถ้ารุ่นน้องคนไหนยังหาพี่รหัสของตัวเองไม่เจอล่ะก็ ทั้งพี่รหัสแล้วก็น้องเฟรชชี่จะต้องถูกซ่อมโดยการบำเพ็ญประโยชน์ให้กับคณะเป็นเวลาเจ็ดวันเต็ม ไม่มีขาดมีเกิน

   แล้วเวลานี้ คนอย่างไอ้มณีคนนี้ก็ยังไม่เห็นใครที่มีวี่แววพอจะเป็นพี่รหัสของตัวเองได้เลย ให้มันได้อย่างนี้สิ มันเหมือนกับโดนโกงกันเห็นเห็น

   ก็ไอ้คำใบบ้าบ้าที่กำลังยับยู่ยี่อยู่ในมือทั้งสองใบทำให้ผมต้องเดินกุมขมับไปสามรอบเจ็ดรอบ ท่ามกลางกลุ่มรุ่นพี่ที่อมยิ้มกันไปมาเหมือนกำลังเยาะเย้ยยังไงยังงั้น

   “ยังเลยว่ะโม นายละเจอยัง”ผมหันไปถามอย่างจนปัญญา

   “ยังเหมือนกัน อีกสองชั่วโมงก็หมดเวลาอีกแล้ว สงสัยคงต้องไปบำเพ็ญประโยชน์ด้วยล่ะมั้ง ว่าแต่คำใบ้นายว่าไงอะมณี”

   “นี่ไง!! คำใบ้บ้าบอ ใบ้มาได้ เจ้าหนี้  ใครจะไปติดหนี้ใครตอนไหนเราจะไปรู้ไหมวะ ทำอย่างกับจงใจให้ซ่อมกันตั้งแต่แรก”ผมตอบเสียงเบาอย่างระวัง กลัวว่าพวกรุ่นพี่จะได้ยิน แต่ก็ใส่น้ำเสียงไปเต็มที่อย่างไม่พอใจ เป็นใครใครก็ไม่พอใจ กับคำใบ้โลกแตกแบบนี้ ใครจะไปรู้ได้

   “หนักเลยดิเจอคำใบ้แบบนี้ อิจฉานนท์กับเชียร สงสัยกลับบ้านไปแล้วมั้ง”โมบ่นบ้างพลางส่ายหน้ามองกระดาษคำใบ้ใบที่สองพลางยกมือข้างที่ว่างดันแว่นที่กำลังลู่ลงขึ้นไปอย่างเคยชิน

   “งั้นเราไปหาต่อดีกว่า นายก็รีบหาล่ะโม อย่าอู้ เดี๋ยวได้โดนซ่อมกันทั้งคู่”ผมบอก พยายามให้กำลังใจเพื่อนใหม่เต็มที่ ทั้งที่ตัวเองก็ยังเอาตัวไม่รอด

   ผมพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้หงุดหงิดกับไอ้คำใบ้รอบบ่ายที่ไม่ได้ให้เพื่อนใหม่อย่างโมดู

   ไอ้คำใบ้ที่ผมอ่านซ้ำกี่รอบกี่รอบก็ไม่เข้าใจ กับไอ้คำใบ้บ้าบอ

   “ยักษา”

   ยักษาบ้าบออะไรของมัน ไม่เข้าใจว่าพวกรุ่นพี่เล่นอะไร ให้คำใบ้กันมายากขนาดนี้

   ผมเดินเกาหัวแกรกๆเดินวนไปวนมาใต้ตึกคณะ มองดูคนที่เริ่มเบาบางตาลงเพราะหลายคนต่างก็ได้พี่รหัสน้องรหัสแล้วเขาก็พากันกลับบ้านกัน เหลือกันแค่ไม่กี่คนพลางมองหาคนที่คิดว่าน่าจะตรงกับคำใบ้

   ใช่!!เหลือแค่ไม่กี่คน แต่ทำไมกัน ผมยังหาพี่รหัสของตัวเองไม่เจอ นี่มันเรื่องบ้าบออะไรในชีวิตของผมกันนะ กับไอ้คำใบ้ เจ้าหนี้ แล้วก็ ยักษา เนี่ย ให้ตายก็หาไม่เจอเถอะไอ้มณี

   จ้างอัลเบิร์ดไอสไตล์มาช่วยหา คงนั่งเกาหัวฟูแล้วฟูอีก ถามผมว่าทำไมเครื่องบินที่บินผ่านสามเหลี่ยมเมอบิวด้าทำไมต้องหายไปยังง่ายเสียกว่า

   ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดหัวสมองแทบจะระเบิดออกมานอนเล่นบนพื้นได้แต่เดินก้มหน้างุดๆเกาหัวตัวเองระบายอารมณ์ หลายคนบอกว่าคนยิ่งน้อยยิ่งหาง่าย แต่ว่าแต่ละคนก็ไม่ได้มีเค้าโครงว่าเป็นเจ้าหนี้หรือว่ายักษ์อะไรเลย ไม่ได้มีใครตัวใหญ่ หรือดูร่ำรวยเป็นเจ้าหนี้อะไรที่ว่าเลยสักนิด

   มองไปทางโมโมเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันเดินถามคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย จะให้ผมถามแบบโมมันบ้างก็กระดากอายกับคำใบ้ ไม่รู้จะไปถามเขาอีท่าไหน

   จะให้ไปถามว่าพี่เป็นเจ้าหนี้รึป่าว หรือว่าเป็นยักษ์รึป่าวเนี่ย ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าอาย พาลให้หงุดหงิดเข้าไปใหญ่ เหลือเวลาอีกแค่
ชั่วโมงกว่า ถ้าผมหาไม่เจอผมก็คงต้องไปบำเพ็ญประโยชน์เจ็ดวันเต็มเต็ม แต่นั่นก็ไม่เท่ากับอายเพื่อนอายรุ่นพี่หรอก

.   ชีวิตใสใสวัยรุ่นของไอ้มณีคงจะจบสิ้นแค่วันนี้ละมั้ง ถ้าหากว่ายังหาพี่รหัสไม่เจออยู่อย่างนี้

   จะว่าไปถ้าผมหาไม่เจอคนที่โดนซ่อมก็คงไม่ใช่มีผมแค่คนเดียว แต่ก็ดี สมน้ำหน้า อยากเขียนคำใบ้มายากดีนัก

   ให้โดนซ่อมมันพร้อมๆกันเนี่ยล่ะ มันน่านัก คำใบ้บ้าบอ หาให้ตายก็หาไม่เจอ


   ปึ๊ก!!

   “โอ๊ย”ผมร้องเสียงดังอย่างตกใจพลางยกมือขึ้นกุมหัว ไม่คิดว่าเดินก้มหน้าก้มตาแบบที่ทำอยู่นี่มันจะส่งผลทำให้เดินชนคนอื่นอย่างนี้

   ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ อะไรมันจะซวยปานนั้น พี่รหัสก็หาไม่เจอ แถมยังมาเดินชนคนอื่นอีก

   “ขะ ขอโทษครับ”ผมบอกเสียงเบาเงยหน้ามองคู่กรณีอย่างสำนึกผิด แต่ทว่า

   “เฮ้ย มาได้ไงวะ”ผมถามเสียงหลง ชี้หน้าคนตรงหน้าอย่างตกใจ คนคนนี้ช่างดูคุ้นหน้าคุ้นตาจนผมต้องหยุดคิดแล้วนึกแล้วนึกอีกว่าเหมือนเคยเจอกันที่ไหนมาก่อน

   ใช่แล้ว!!

   ที่หาดทรายคืนนั้น คนที่เหมือนคนบ้าหลงยุคหลุดออกมา พูดจาเล่าเป็นเรื่องเป็นราวแล้วยังมาบอกให้มีลูกด้วยกัน

   จำได้แล้ว แต่ว่าหมอนี่เป็นนักศึกษามหาลัยเดียวกับผมอย่างงั้นเหรอ โลกมันจะกลมเกินไปแล้วไอ้มณี

   แล้วทำไมเขาต้องทำท่าทำทางจ้องมองเหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อผมด้วยเป็นผมต่างหากที่ต้องโกรธที่เขาพูดจาเหมือนคนบ้ากับผมวันนั้น

   “หึ”เขาแค่นเสียง พลางยกยิ้มที่มุมปากคล้ายจะเยาะเย้ย ดวงตาสีดำสนิทของเขาจ้องมองมาที่กระดาษคำใบ้ในมือของผมด้วยสายตาที่ดูยังไงก็เป็นการเย้ยกันอย่างเห็นได้ชัด

   นี่มันหมายความว่ายังไง!! ยอมไม่ได้เด็ดขาด จะให้ผมยอมได้ยังไง

   “อะ อะไร เดี๋ยวก็หาเจอน่า ไม่ต้องมาเยาะเย้ย”ผมรีบแก้ตัวพลางซ่อนกระดาษคำใบ้สองใบในมือหนีสายตาเยาะเย้ยจากเขา

   นี่มันหยามกันชัดๆกำลังจะเยาะเย้ยว่าเขาหาพี่รหัสไม่เจอสิท่า มันน่านักเชียว ไม่ได้การแล้ว ผมต้องหาพี่รหัสให้เจอ ไม่อย่างนั้น คนคนนี้ล้อผมตาย

   ว่าแต่เจอหน้ากันคราวนี้ไม่ยักจะขอมีลูกด้วย หรือว่าเขาลืมผมไปแล้ว แต่จะยังไงก็ช่างมัน ในเมื่อหมอนี่แขวนป้ายที่บอกว่าตัวเองเป็นรุ่นพี่ปีสอง นั่นก็หมายความว่าอายุมากกว่าผมแล้วก็เป็นรุ่นพี่น่ะสิ

   “เจ้าเด็ก งี่เง่า”เสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้นทำเอาผมที่พยายามที่จะระงับอารมณ์ที่มีอยู่ทุนเดิมให้ปะทุขึ้นหนักเข้าไปใหญ่

   ไอ้คำว่างี่เง่ามันหมายความว่ายังไง ไอ้บ้านี่มันกำลังด่าผมว่างี่เง่าใช่ไหม หรือว่าผมหูฝาดกันแน่

   แล้วไอ้ริมฝีปากหยักที่ยกยิ้มอยู่นี่มันอะไร มันน่าหมั่นไส้แล้วก็กวนอารมณ์ได้ดีไม่น้อย มันน่านัก มันน่าต่อยกันสักยกให้รู้แล้วรู้รอด
   นี่คนคนนี้กำลังว่าผมไม่มีประสิทธิภาพในการหาพี่รหัสอยู่ใช่ไหม

   ก็แล้วใครจะไปหาเจอกันเล่า คำใบ้บ้าบออย่างนี้ แล้วถือดียังไง คิดว่าเป็นรุ่นพี่จะมาว่าคนอื่นงี่เง่าอย่างนี้ได้ไง ถึงหน้าตาผมจะดูเชื่อคนง่าย แต่ผมก็ใช่ว่าจะยอมง่ายง่ายนะ แค่เห็นว่าเป็นรุ่นพี่ วันนี้จะปล่อยไปแบบคืนนั้นก็แล้วกัน

   มันน่านักเชียว คนอารมณ์หงุดหงิดอยู่แล้วยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ ไอ้บ้านี่ ถ้าไม่ติดว่าเป็นรุ่นพี่พ่อจะตบหัวให้ทิ่ม

   จบรับน้องเมื่อไรจะเอาเรื่องที่พูดจาเหมือนลิเกไปโพธนาให้ทั่วเลยคอยดู

   หน้าตาดีซะปล่าว มันน่าตบให้หัวทิ่มพื้น กวนโมโหชะมัด ไอ้ยักษ์หลงยุคเอ้ย

   ว่าแต่เหมือนผมจะหลงลืมอะไรไป

   แต่ก็ช่างมันเถอะ ผมส่ายหัวพยายามไล่ความคิดแล้วเดินหาพี่รหัสต่อไป ตราบใดที่ยังไม่หมดเวลาก็ยังคงมีความหวัง


****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****

   “อ่าว น้องมณียังหาพี่รหัสไม่เจอเหรอครับ เหลือเวลาอีกแค่สิบนาทีเอง นี่ก็เหลือปีหนึ่งอีกแค่สามคนที่ยังหาพี่รหัสไม่เจอ”

   “โห พี่ จะให้ผมหาเจอได้ไง คำใบ้อะไรของพวกพี่เนี่ย ลีโอนัลโดดาวินชียังงงอะ”ผมบอกด้วยท่าทางทีเล่นทีจริง เดินจนเริ่มจะรู้สึกว่าขามันล้าไปหมดถึงได้เดินกลับมาที่โต๊ะรับรายงานเผื่อจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมขึ้นมาบ้าง

   “เรื่องนี้พวกพี่ไม่เกี่ยวนะ พี่รหัสน้องคนเดียว อย่าเหมาพี่นะ”รุ่นพี่ปีสี่ว่าพลางหัวเราะ

   หัวเราะได้หัวเราะไป คงจะรวมหัวกันสิท่า มันน่าโมโหนักเชียว

   “รู้ครับ รู้”ผมว่าพลางยกมือโบกลมเข้าหน้าตัวเองเผื่ออารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่จะลดลงไปบ้าง สายตาผมมองไปรอบรอบอย่างสำรวจ เผื่อจะมีใครใจดีส่งซิกให้ผมบ้าง แต่ทว่า

   สายตาก็เหลือบไปเห็นโจทย์ที่ผมเพิ่งจะถูกเขาโจมตีทางคำพูดมาไม่นานนั่งอยู่รวมกับกลุ่มรุ่นพี่ปีสี่

   แต่นั่นก็ไม่เท่ากับไอ้สายตาที่จ้องมองมาราวกับกำลังจะบอกว่าผมมันไม่มีน้ำยาพอที่จะหาพี่รหัสของตัวเองเจอ

   แค่ว่าผมว่างี่เง่ามันก็น่าโมโหอยู่พอแรงแล้ว ยังจะมามองกันแบบนี้อีก แล้วอย่างนี้จะให้วัยรุ่นอย่างไอ้มณีปล่อยไปได้ยังไง

      บังอาจมากที่มานั่งทำหน้าทำตาลอยหน้าลอยตาแบบนั้นมันน่าหมั่นไส้จริงจริง

    สาธุ ขอให้มันได้น้องรหัสขี้เหล่ด้วยเถอะ จะคอยดู!!!ไอ้มณีคนนี้ขอสาปแช่ง

   “เหลือห้านาทีแล้วนะครับ ถ้าไม่รีบหาจะโดนซ่อมเอานะครับ”

   “ครับๆ รู้แล้ว เตรียมใจไว้แล้วล่ะครับ”ผมเดินออกมาจากโต๊ะรับรายงานตัวด้วยท่าทีห่อเหี่ยว

   หูก็แว่วเสียงหัวเราะของพวกพี่พี่ดังมาจากเบื้องหลัง หึ ยังไม่ทันก้าวออกมาพ้นดีก็โดนหัวเราะเยาะเอาซะแล้ว มันน่านักเชียว
   คอยดู โดนซ่อมละก็ พี่รหัสก็พี่รหัสเถอะ จะโกรธไปยาวยาวเลย จะไม่นับถือเลยคอยดู


   ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด


   เสียงนกหวีดดังมาจากโต๊ะรายงานตัวทำเอาผมสะดุ้งอย่างตกใจ ทั้งที่เตรียมใจเอาไว้แล้วเชียว แต่ใจมันก็แป้วอย่างบอกไม่ถูก ผมหันไปมองทางโต๊ะที่ตั้งไว้สำหรับรายงานตัวด้วยท่าทางเหนื่อยหน่ายเสียเต็มประดา

   หมดเวลาแล้วสินะ จะรอดูว่าไอ้เจ้าหนี้ กับไอ้ยักษาเนี่ย จะได้พี่รหัสแบบไหน

   โต๊ะรับรายงานตัวเริ่มมีรุ่นพี่มามุงกันจนแยกไม่ออกว่าใครอยู่ปีไหน

   “เหลือน้องมณีคนเดียวเลยนะเนี่ยที่หาพี่รหัสไม่เจอ”รุ่นพี่ปีสี่คนหนึ่งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนกับดีใจ ทำเอาผมอดที่จะมุ่ยหน้าอย่างขัดใจไม่ได้

   “ไหนพี่ว่าเมื่อกี้เหลือสามคนไง”ผมถามตาโต

   เมื่อสิบนาทีก่อนยังมีสามคนเลยที่หาพี่รหัสไม่เจอ ตอนนี้กลับเหลือผมคนเดียว นี่มันจะเว่อเกินไปแล้ว ชีวิตอย่างไอ้มณีเนี่ย

   “ตอนนี้เหลือน้องมณีคนเดียวไง”

   “แล้วผมจะต้องไปทำไรอ่ะพี่”ผมถาม 

   หวังว่าไอ้บำเพ็ญประโยชน์ของคณะเนี่ย คงจะไม่ให้ไปล้างส้วมหรอกนะ

   “ตามจริงพวกพี่ก็กะจะให้ ทำความสะอาด หรือช่วยงานคณะอะไรเทือกนั้น แต่พวกพี่ได้เห็นพ้องกันแล้วว่า ไม่เหมาะกับมณีสักเท่าไร”

   “แล้วจะให้ผมทำอะไรล่ะครับ บอกไว้ก่อนนะว่า ถ้าทำอะไรแปลกๆน่าอายผมไม่เอานะ”ผมตอบด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายเล็กน้อย พูดดักเอาไว้ก่อน เผื่อใช้ให้ไปทำอะไรที่มันน่าอายน่าอาย มีหวัง ชีวิตวันรุ่นของไอ้มณีคนนี้คงเหี่ยวเฉาไปอีกนาน

   “พวกพี่ไม่ใจร้ายกับน้องมณีขนาดนั้นหรอกน่า แค่จะให้ช่วยลงประกวดเดือนคณะก็แค่นั้น”

   “อะไรนะ ประกวดเดือนอะไร ผมไม่เอาหรอกพี่ ผมไม่ชอบเป็นจุดเด่น อีกอย่าง ผมไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษด้วย”

   “มีสิ มณีเล่นไวโอลินเป็นไม่ใช่รึไงแล้วก็เห็นว่าเก่งนาฏศิลป์ ตกลงไหม ถ้าไม่ลงประกวดเดือน พวกพี่จะสั่งซ่อมให้ช่วยงานห้องสมุดคณะหนึ่งเดือนนะ เอาไง”

   “อะไร ไหนว่าอาทิตย์เดียวไงละพี่ โห เล่นงี้ผมก็แย่ดิ”ผมเถียง ให้ประกวดเดือนคณะ ผมไม่เอาด้วยหรอก ไม่ชอบเป็นจุดเด่นอยู่แล้ว ยิ่งไอ้เรื่องแข่งขันนี่ยิ่งไม่เอาไปใหญ่

   แต่ให้ช่วยงานห้องสมุดหนึ่งเดือนเนี่ย อันไหนมันจะดีกว่ากันนะ เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ

   “อันนี้พวกพี่เปลี่ยนกฎกันใหม่ ว่าไง จะยอมประกวดดีดี หรือว่าจะช่วยงานห้องสมุดหนึ่งเดือนเต็มว่ามา”พี่ปีสี่คนหนึ่งถามมาทำให้ผมต้องมุ่ยหน้าอย่างใช้ความคิด คิดไม่ตกเลยจริงๆว่าจะเลือกอะไร

   “ไม่เอา ผมไม่อยากประกวด ช่วยห้องสมุดก็ได้ หนึ่งเดือนก็หนึ่งเดือน ดีกว่าต้องขึ้นเวทีประกวด”ผมตอบ แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นร่างสูงของคู่กรณียกยิ้มที่มุมปากอย่างกวนอารมณ์ เห็นแล้วมันก็ยิ่งหมั่นไส้

   ไอ้ลิเกหลังโรงเอ้ย!!

   “เฮ้ย ธารา น้องรหัสแกไม่ยอมประกวดเดือนให้พี่ว่ะมาคุยกับน้องรหัสแกให้พี่หน่อยสิ ถ้าน้องรหัสแกไม่ยอม แกก็ต้องช่วยงานห้องสมุดกับน้องนะเว้ย”รุ่นพี่ปีสี่พูด

   ทำให้ผมหันไปมองตามด้วยความอยากรู้อยากเห็นหน้าพี่รหัสตัวดีที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องมาเจอชะตากรรมแบบนี้ ถ้าเป็นผู้ชายพ่อจะเคืองไปยาวยาวเลย ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะขอเบอร์ซะให้เข็ด

   ผมมองไปตามสายตารุ่นพี่คนนั้นก็เจอเข้ากับคนที่กำลังยิ้มเยาะอย่างกวนอารมณ์อยู่พอดิบพอดี

   หมายความว่าไง!!

   อย่าบอกนะว่า หมอนี่เป็นพี่รหัสเขา

   ไอ้คนหลงยุคเนี่ยคือพี่รหัสเขา ไม่จริงใช่ไหม

   แล้วทำไมเขาไม่บอกผมตั้งแต่ทีแรกที่เดินชน แถมเขายังมาหาว่าผมงี่เง่าอีก มันน่าไหม มันน่าตบหัวให้ทิ่มเลยไหม

   ไอ้ที่ว่าเจ้าหนี้เนี่ย นึกออกเลย ตอนที่เจอกันครั้งแรก หมอนี่ตั้งหน้าตั้งตาทวงหนี้ผมลูกเดียว บอกว่าเป็นหนี้กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน
   ส่วนไอ้ยักษาเนี่ย เขาเคยบอกว่าน้องสาวตัวเองเป็นพี่เสื้อสมุทร แสดงว่าเขาคิดว่าตัวเองเป็นยักษ์อย่างนั้นเหรอ

   บ้ากันไปใหญ่ ถึงตัวจะใหญ่กว่าคนทั่วไป แต่ว่าไม่ได้หมายความว่าเป็นยักษ์สักหน่อย

   มันน่าตบให้หัวทิ่มสักสองที ทีแรกตบไอ้คนหลงยุคนี่ที่มันดันเอาคำใบ้โง่ๆมาให้ทำให้ต้องถูกซ่อม ทีที่สองต้องตบหัวตัวเองเรียกให้สมองทำงานซะบ้าง

   คำให้บ้าบอกับคนบ้าบอมาอยู่ตรงหน้าแล้วเชียว เป็นผมเองที่ดันนึกไม่ออก มิน่า ไอ้ลิเกหลงยุคนี่มันถึงได้ว่าเขางี่เง่า

   
   “น้องเขาไม่อยากประกวดก็ไม่ต้องไปบังคับ ไม่เหมาะหรอกที่จะให้น้องเขาโดดเด่น”เสียงทุ้มต่ำของคำตอบของเขาเรียกให้ผมหันไปมองด้วยความหงุดหงิดเข้าไปอีก

   ไม่เหมาะที่จะโดดเด่น มันหมายความว่าไง จะบอกให้ว่าไอ้มณีคนนี้หล่อแค่ไหน มีแต่คนชมว่าหน้าตาดี รูปงาม จะให้ประกวดก็
ทำได้ แค่ขี้เกียจขึ้นเวทีให้คนจ้องมองแค่นั้นเอง ไม่ชอบแข่งขันกับใครน่ะ เข้าใจไหม แล้วมีสิทธิอะไรมาว่าคนอื่นเขาไม่โดดเด่น นี่ตั้งใจจะหาเรื่องกันใช่ไหม

   ไอ้ยักษ์ลิเกหลงโรง ไอ้คนบ้าหลงยุค ทีตอนพูดกับคนอื่นล่ะพูดปกติได้ ทีกับผมละข้าข้าเจ้าเจ้า คอยดู!!จะเอาไปป่าวประกาศให้ทั่วเลย ว่าไอ้รุ่นพี่คนนี้มันเป็นพวกหลงยุค บ้าบอมาขอให้ผมมีลูกด้วย

   “เออ งั้นทั้งพี่รหัสน้องรหัสก็เตรียมไปช่วยทำงานที่ห้องสมุดกันเองละกัน”

   “ครับ/ครับ”

   ผมจ้องมองคนที่ตอบรับรุ่นพี่อย่างไม่ละสายตา รู้สึกหมั่นไส้คนตรงหน้าไม่น้อย ชื่อธาราอย่างนั้นเหรอ

   ทั้งน่าหมั่นไส้ ทั้งสมน้ำหน้าที่ทั้งตัวเองทั้งหมอนี่ต้องมานั่งทำงานให้ห้องสมุดฟรีๆเป็นเดือนๆ เพราะใคร เป็นเพราะใครกันที่ดันเขียนคำใบ้งี่เง่าแบบนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห

   ไอ้พี่รหัสประสาทกิน ทีพูดกับคนอื่นก็พูดปกติได้ ทีพูดกับเผมละยังกับหลุดออกมาจากโรงลิเก

   คอยดู แค้นนี้คนอย่างไอ้อภัยมณีจะต้องชำระ
   
   รุ่นพี่หลายคนเริ่มเตรียมตัวกลับบ้านแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางเหลือแต่ผมที่ยืนจ้องมองดวงตาสีดำสนิทของเขาอย่างแค้นเคือง

   “มันไม่เหมาะที่เจ้าจักต้องเป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้คน ข้ามิอยากมีศัตรูคู่แข่งเช่นแม่เงือกที่เจ้าบรรเลงเพลงเกี้ยวเมื่อชาติที่แล้ว”

   เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน แต่นั่นมันก็ทำให้ผมงงเป็นไก่ตาแตก

   ก็จะอะไรซะอีกจู่ๆก็หันมาพูดข้าข้าเจ้าๆอีกแล้ว แล้วอะไรแม่เงือก บรรเลงเพลงอะไร นี่ไอ้มณีไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม

   ทำไมไอ้ลิเกหลังโรงนี่มันกลับมาพูดจาเพี้ยนๆกับผมอีกล่ะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรในชีวิตไอ้มณีอีกล่ะเนี่ย

   ไม่เข้าใจ!! ไม่เข้าใจจริงๆ กับไอ้ชีวิตวัยรุ่นแบบนี้ มณีไม่เข้าใจ
   
   



   ****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****-----****
   


16/09/58





หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราส
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 02-08-2015 19:15:27
จิ้มมม
เก็บมณีไว้ให้พี่ยักษ์คนเดียวเหอะ *O*
มาต่อไวมาก ชอบบบ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 02-08-2015 20:01:11
ให้พี่ธาราเก็บน้องมณีเอาไว้คนเดียวนั่นล่ะค่ะ ดีแล้ว~ ไหนๆ ก็อุตส่าห์ตามมาทวงหนี้กันเช้าถึงเย็นถึงขนาดนี้แล้วนี่เน้ออ..
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 02-08-2015 20:21:16
มาไวมาก ชอบจัง อิอิ

แต่เราอยากให้มณีไปนะกวดนะ  จะได้มีหนุ่มๆสาวๆ มาเกี้ยวพาราสีมีเพิ่ม หุๆๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 02-08-2015 20:24:32
รอ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 02-08-2015 21:19:13
 :laugh: พี่ยักษ์นี่ท่าทางจะมึ๊นมึนนะเนี่ย หนูมณีก็ขี้วีนซะ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 02-08-2015 21:34:01
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 02-08-2015 21:38:25
พียักษ์ไม่ลามโซ่ไว้ดมที่บ้านเลยล่ะ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 02-08-2015 22:48:54
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 02-08-2015 23:54:37
พียักษ์ไม่ลามโซ่ไว้ดมที่บ้านเลยล่ะ

พี่ยักษ์ไม่ขี้ดมเหมือนพี่หลงสักหน่อยน้า
พี่ยักษ์แค่จ้องจะจับน้องมณีกินเฉยๆ
หุหุ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 03-08-2015 10:57:03
แอบมาดัน
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 03-08-2015 11:20:22
เป็นพี่ จะเอาะพระอภัยมณีไปเสียบทิ้งไว้ที่มอไซให้อ่าน
ช่วยตระหนักวรรณคดีนิดนึงค่ะลูก พี่ธาราเค้ารองาบเอ็งอยู่เช้าเย็น ยิ่งทำงานด้วยกันเป็นเดือน โอ๊ยยย ไม่เหลือๆ
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 03-08-2015 12:58:16
เอิ่ม...... แบบว่านี่มานพระอภัยมณีเวอร์ชั่นใหม่สินะ 555

จะรอติดตามนะมาต่อด้วยนะจ๊ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 03-08-2015 14:47:02
เราอ่านแล้วปวดหัวมากเลย แล้วรู้สึกไม่พอใจเหมือนมณีด้วย คนมาเกิดใหม่มันจะไประลึกชาติได้ไงว่ะ ถ้ามันจำได้มันก็คงจำได้ไปนานล่ะ หรือว่ารอให้อายุครบตามกำหนดก่อนค่อยจำได้ ปานนั้นคงโดนจับกินตับไปหลายยกแล้วล่ะ หุ่นบางร่างน้อยขนาดนั้น เจอเจะทีเดียวคงกระดูกหักไม่มีชิ้นดีล่ะ  ขนาดเรายังอึดอัดแท้มณีเลยเนียน เพราะคนไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้มันคงไม่เชื่อถ้าไอ้ธารามันไม่แปลงร่างเป็นยักย์กินคนให้ดูอะนะ ถ้าชาติก่อนมณีมีวิชา ชาตินี้ก็ต้องมีวิชาป้องกันตนเอง แบบนี้มันเหมือนจงใจให้ไอ้ยักต์บ้านั้น มากินตับอย่างดีนะสิ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 03-08-2015 15:00:34
เข้ามาดัน  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 03-08-2015 23:54:17
น้องมณีจะรอดพ้นเงื้อมือพี่ยักษ์ไหม
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก......กลับชาติมาเกิด <---- 02/08 ตอนที่ 2 ธาราสมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 04-08-2015 01:34:52
นี่ลุ้นตัวโก่งเลยครัชว่าคู่จะรักกันอิท่าไหน
หัวข้อ: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 05/08 ตอนที่ 3 เรียกพี่ได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 05-08-2015 15:31:45
1264
(http://www.mx7.com/i/da0/0kXVRW.jpg)



   


หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 05/08 ตอนที่ 3 เรียกพี่ได
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 05-08-2015 15:47:07
ตัดได้ทำร้ายมาก TT
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 05/08 ตอนที่ 3 เรียกพี่ได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 05-08-2015 15:49:55
เฮ้ยยยยยยย ค้างอ้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 05/08 ตอนที่ 3 เรียกพี่ได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 05-08-2015 16:03:31
นี่เลย คนเค้าเสนอตัว ก็ตอบรับไปเลยลูก
วรรณคดีเมื่อก่อนน่ะเป็นร้อยกรอง พอเอามาถอดร้อยแก้วก็ตกๆหล่นๆบ้าง ยิ่งอ่านเป็นนิทานยิ่งแล้วใหญ่
เรียกพี่ธาราแล้วถามให้เคลียร์เลย เจ้แนะนำ
จะได้จับเข้าคุยกัย เนาะะะะะะะ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 05/08 ตอนที่ 3 เรียกพี่ได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 05-08-2015 16:05:24
พี่ธาราคนบ้า~ เจอหน้ากันทีไรเป็นชวนมีลูกด้วยทุกที แล้วแบบนี้ใครเขาจะกล้าอยู่สู้หน้าพี่ได้กันเล่า.. :-[
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 05/08 ตอนที่ 3 เรียกพี่ได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 05-08-2015 16:25:19
น้องมณีเป็นคนเจ้าใจอะไรยาก แนะนำ ให้พี่ธาราจับปล้ำเลย 55555
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 05/08 ตอนที่ 3 เรียกพี่ได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 05-08-2015 16:57:18
เอ้าพี่ยักษ์ :mew2:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 05/08 ตอนที่ 3 เรียกพี่ได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 05-08-2015 17:57:35
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 05/08 ตอนที่ 3 เรียกพี่ได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 05-08-2015 19:47:05
อ่านทวนแล้ว คำผิดเยอะมาก
เดี๋ยวกลับมาแก้ให้นะจร๊ะ คนอ่านที่น่ารักทุกคน
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 05/08 ตอนที่ 3 เรียกพี่ได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 05-08-2015 19:48:30
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 05/08 ตอนที่ 3 เรียกพี่ได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-08-2015 21:16:09
โดนซะแล้ว
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 05/08 ตอนที่ 3 เรียกพี่ได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: korinasai ที่ 05-08-2015 21:38:21
พระอภัยมณีเป็นพระเอกวรรณคดีที่อ้อนแอ้นที่สุดที่เคยอ่านมา
เดี๋ยวก็สลบ เดี๋ยวก็เป็นลม เดี๋ยวก็ร้องไห้
แต่ชาตินี้ ดูท่าจะแสบ
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <----
เริ่มหัวข้อโดย: บุหลันรัศมี ที่ 05-08-2015 23:25:06
 :oo1: :oo1: :oo1:ยอมเถอะหนูมณี

 :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 05/08 ตอนที่ 3 เรียกพี่ได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 05-08-2015 23:32:35
โดนกินแน่มณีชาตินี้ไม่รอด
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 05/08 ตอนที่ 3 เรียกพี่ได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 05-08-2015 23:34:18
พี่อภัยของสุนทรภู่มีหลายเมีย แต่น้องอภัยของโซอึนจะมีสักกี่ผัวหนอ....
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3.2 กินจุ (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 05-08-2015 23:55:55
ต่อ
(http://www.mx7.com/i/da0/0kXVRW.jpg)
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่อ)p2
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 06-08-2015 00:29:24
แอร๊ย! พี่ธาราาาาาา <3<3<3
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 06-08-2015 04:30:00
ตัดอีกแล้ววว
ฉากนี้ได้แรงบันดาลใจจากนายต่างดาวเปล่าเนี่ย 555
รอน้า
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่อ)p2
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 06-08-2015 06:17:33
โอ้วววว นึกถึงทไวไลท์เลยทีเดียววววววว
ดีงามค่ะ เลือดสีเขียว ไปทำแผลก่อนเถอะพ่อคุณ!!!!
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่อ)p2
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 06-08-2015 06:53:13
น้องมณี~ อย่าเสียใจไปเลยนะคะ ที่หนูตั้งใจแกล้งพี่ธาราเขาทั้งที แต่กลับกลายเป็นว่า เป็นตัวหนูเอ็งที่ดันมาเงิบแทนพี่เขาเสียอย่างนั้นล่ะ :laugh: น้องมณีเป็นเด็กที่น่ารังแกให้หงุดหงิดมากๆ เลยนะคะเนี่ย เพราะเวลาน้องไปไม่เป็นน่ะน่ารักสุดๆ ไปเลย ><
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่อ)p2
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 06-08-2015 07:20:51
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 06-08-2015 07:41:07
ตัดอีกแล้ววว
ฉากนี้ได้แรงบันดาลใจจากนายต่างดาวเปล่าเนี่ย 555
รอน้า
อ่า ใช่เลย คิดว่าใช่นะ ฉากมันอยู่ในหัวแวบๆิผุดขึ้นมาเหมือนเคยเหนในหนัง
เลยเอามาใส่ดู
แต่จำไม่ได้ว่าเรื่องไหน555 น่าจะนายต่างดาวเนี่ยแหละ ใช่เลย
พระเอกหล่อเก่ง ฉลาด แต่พระเอกโซอึน ท่าจะมึนเป็นอย่างเดียว555
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่อ)p2
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 06-08-2015 08:59:39
รอมาต่อนะๆ  :katai4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่อ)p2
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 06-08-2015 10:56:01
ชอบๆๆๆ รอตอนต่อปาย
แล้ว
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่อ)p2
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 06-08-2015 11:38:02
เห็นชื่อเรื่องนานแล้ว แต่คิดว่าคงจักรๆวงศ์ๆ เลยไม่เรามาอ่าน

แต่มาอ่านแล้ว >_< สนุกมากกกกกก
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่อ)p2
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 06-08-2015 14:36:21
อ๊ากกกกก ค้างงงงงง   :ling1: :ling1:

พี่ธาราชั่งเท่นัก  :mew1: :mew1:

หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่อ)p2
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 06-08-2015 15:12:16
และแล้วความจริงก็ปรากฏพร้อมหลักฐาน พยานอีกหนึ่ง  :ruready
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่อ)p2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 06-08-2015 16:35:22
มารอคะ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่อ)p2
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 06-08-2015 18:46:37
ห๊ะ เลือดสีเขียว.... อย่างนี้เวลามีเลือดออก คนรอบข้างคงแตกตื่นกันแน่ๆ

รอตินต่อไปน้า :katai5:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่อ)p2
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 06-08-2015 21:15:07
เอาแล้วพี่ธาราเลือดสีเขียว
น้องมณีจะทำไงต่อ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 06/08 ตอนที่ 3 กินจุ (ต่อ)p2
เริ่มหัวข้อโดย: sirikanda28 ที่ 07-08-2015 15:10:29
แล้วจะมีผีเสื้อออกมา
แย่งอดีตสามีป่ะ
หัวข้อ: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 08/08 ตอนที่ 4 ยักษ์สมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 08-08-2015 17:26:43
2409
(http://www.mx7.com/i/da0/0kXVRW.jpg)

อ้างอิง::นางผีเสื้อสมุทรเป็นยักษ์ที่ได้ทำความดีความชอบเอาไว้พระอิศวรจึงให้ถอดหัวใจใส่ไว้ในก้อนหินได้ ต่อมาได้กำเริบว่า
ตนเองเป็นอมตะจึงได้ไปต่อสู้กับพระเพลิงจนร่างกายถูกไฟเปาไหม้ วิญญาณได้ไปสิงอยู่ในก้อนหินที่ถอดหัวใจซ่อนเอาๆไว้ นานวันเข้าก้อนหินน้ำได้กลับกลายเป็นร่างกายที่อัปลักษณ์ แต่นางผีเสื้อสมุทรสามารถแปลงกายให้เป็นหญิงงามได้ ต่อมาจึงได้เจอพระอภัยมณีแล้วรักตั้งแต่แรกเห็นจึงได้ลักพาพระอภัยมณี โดยที่พระอภัยมณีไม่ยินยอมและรู้อยู่แล้วว่านางเป้นยักษ์เพราะแววตาที่ไร้ชีวิตและกลิ่นกายที่เหม็นสาบผิดกับมนุษย์ แต่นางผีเสื้อสมุทรก็บังคับพระอภัยมณีโดยพระอภัยมณีออกอุบายว่าถ้าหากยอมล่ะก็หากวันหน้าผิดใจกันห้ามฆ่ากันเด็กขาด นางผีเสื้อสมุทรตอบตกลงทันทีแล้วก็มีอะไรกัน จากนั้นก็เกิดสินสมุทร

   ปรับปรุงจ้า



****************************************************************************************************************************************

รักน้องมณีกด 1
รักพี่ยักษ์กด 2
รักน้องจูบ กด 3 (คนละเรื่องกันแล้ว?)

นานนานมาที 555+ :laugh:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 08/08 ตอนที่ 4 ยักษ์สมุท
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 08-08-2015 17:38:54
กด 1 2 3 เล้ยยย
ในที่สุดมณีก็รู้แล้วว่าธาราเป็นยักษ์
จะเป็นยังไงต่อน้อ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 08/08 ตอนที่ 4 ยักษ์สมุทร p3
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 08-08-2015 17:42:37
พี่ธาราตอนแปลงกายเป็นยักษ์นี่หล่อไม่ใช่น้อยเลยนะค้าา :hao7:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 08/08 ตอนที่ 4 ยักษ์สมุทร p3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 08-08-2015 17:58:32
รอคะ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 08/08 ตอนที่ 4 ยักษ์สมุทร p3
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 08-08-2015 20:29:04
โถถถถถ ตกอกตกใจหมดเลย รีบชินนะคะน้องมณี พี่ธารายังมีทีเด็ดอีกเย้อะะะะะ
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 08/08 ตอนที่ 4 ยักษ์สมุทร p3
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 08-08-2015 22:23:53
พี่ธาราหล่อจนตะลึงเลยมั้ยน้องมณี
ตกใจในความหล่อรึอะไร
หนีกลับบ้านเชียว
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 08/08 ตอนที่ 4 ยักษ์สมุทร p3
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 08-08-2015 23:22:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <----
เริ่มหัวข้อโดย: บุหลันรัศมี ที่ 09-08-2015 14:55:31
น้องมณีจะทำไงต่อ

 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 08/08 ตอนที่ 4 ยักษ์สมุทร p3
เริ่มหัวข้อโดย: sirikanda28 ที่ 09-08-2015 16:36:13
คงไม่รอดหรอกมณี
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 08/08 ตอนที่ 4 ยักษ์สมุทร p3
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-08-2015 16:59:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 08/08 ตอนที่ 4 ยักษ์สมุทร p3
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 09-08-2015 18:18:22
พ่อมณีของพี่ยักษ์ เป็นไงหล่ะเจอร่างจริง 555
หัวข้อ: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 10/08 เเจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 10-08-2015 18:50:44
แจ้งข่าวค่าาา
เห็นคนอื่นแจ้งข่าวกันเยอะก็เลยอยากลองทำบ้าง
พอดีว่าติดติดธุระ น่าจะยาว เลยจะแจ้งคร่าวๆว่า
จะไม่ได้มาลงนิยายสัก 3- 4 วันนะค่ะ
สองเรื่องเลย ทั้งน้องจูบ และ น้องมณี
(จากที่ลงเกือบทุกวัน) จริงๆแล้วไม่อยากให้รอเลย เกรงใจ
ใครที่ติดตาม ใครที่คอยเชียร์ก็อย่างพึ่งหนีโซ อึนไปไหนกันนะคร้าาา
โซ อึนรักคนอ่านทุกคนเลยค่ะ ใจจริงอยากจะมาลงทุกวัน ไม่อยากเว้นระยะ
กลัวคนอ่านลืม ยังไงก็ถ้าเสร็จธุระแล้วจะรีบปั่นมาลงเลยจร้าาาา
ขอบคุณที่สนับสนุนกันตลอดมา
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 08/08 ตอนที่ 4 ยักษ์สมุทร p3
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 10-08-2015 19:05:04
รอจ้าา~ :L2: :กอด1:
หัวข้อ: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 14/08 ลงรูป
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 14-08-2015 22:05:24

(http://www.mx7.com/i/5f4/37WMic.png)

ธารา / ธาราสมุทร

(http://www.mx7.com/i/e67/RNKBCo.png)

มณี / อภัยมณี

หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 14/08 ลงรูป
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 14-08-2015 22:08:20
จิ้ม
รออยู่น้า
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 14/08 ลงรูป
เริ่มหัวข้อโดย: pe-ar ที่ 14-08-2015 23:59:07
รอๆๆๆ น้าา
น้องณีน่ารักพี่ยักน่ากัด หืมมมม
 :hao6:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 14/08 ลงรูป
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 15-08-2015 00:30:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 14/08 ลงรูป
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 15-08-2015 21:49:28
 :laugh: ทำใจให้ชินเข้าไว้นะจ๊ะน้องมณี
กดทุกเลขเลยจ้าคนแต่งจ๋า  :m4:
รอร๊อรอตอนต่อไปจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 16/08 ตอนที่ 4 ครอบครัว p.4
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 16-08-2015 20:08:26
3587
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)


   ปรับปรุงจ้า
[/color]
***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***

รอกันนานไหมค่ะทุกคน คิดถึงจังเลย

https://www.youtube.com/watch?v=VVKVn-aI9ow (https://www.youtube.com/watch?v=VVKVn-aI9ow) ตัวอย่างรำฉุยฉาย ที่น้องมณีจะรำ




หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 16/08 ตอนที่ 4.2 ครอบครัว
เริ่มหัวข้อโดย: sirikanda28 ที่ 16-08-2015 20:26:34
ไม่ใช่คนจ้างเป็นพี่ยักษ์นะ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 16/08 ตอนที่ 4.2 ครอบครัว
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 16-08-2015 20:42:42
น้องมณีถูกพี่ยักษ์เล่นเข้าแล้วล่ะค่ะ เพราะเรื่องตอกย้ำอดีตชาติของน้องเนี่ยพี่เขาถนัดนักล่ะ~ :laugh:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 16/08 ตอนที่ 4.2 ครอบครัว
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 16-08-2015 20:48:52
ดีใจจัง กำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่เลย

คนที่ว่าจ้างนี่พี่ยักษ์แน่ จะต้องมีอะไรแอบแฝงแน่นอน

มณีเตรียมตัวเป็นเมียพี่ยักษ์เสียเถอะ 555555
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 16/08 ตอนที่ 4.2 ครอบครัว
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-08-2015 20:55:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 16/08 ตอนที่ 4.2 ครอบครัว
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 16-08-2015 22:43:07
คุณพ่อคุณแม่น่าสงสัยยยยยยย
ต้องรู้อะไรแน่ๆ
ถ้าพี่ธาราจ้างไปรำก็ฮาแตกแน่ 5555555
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 16/08 ตอนที่ 4.2 ครอบครัว
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 17-08-2015 00:06:51
น้องมณีคงไม่รอดแน่
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 16/08 ตอนที่ 4.2 ครอบครัว
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 17-08-2015 13:25:10
พึ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ เนื้อเรื่องแหวกแนวดี
มาอัพบ่อยๆก็ได้นะคะ ชอบบบบบบ
ปล.รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 16/08 ตอนที่ 4.2 ครอบครัว
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 17-08-2015 15:12:54
รอ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 16/08
เริ่มหัวข้อโดย: บุหลันรัศมี ที่ 17-08-2015 16:07:58
น้องมณีจะรอดไหมน้อ

รอดไม่รอด ต้องรอดูพี่ยักษ์ต่อไป
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 16/08 ตอนที่ 4.2 ครอบครัว
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 17-08-2015 18:16:40
ธาราจ้างใช่มั้ยเนี่ย  :ruready
หัวข้อ: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 19/08 ตอนที่ 5 มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 19-08-2015 20:50:13
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)
4165
ตอนที่ 5 มนตรา


อยู่ในช่วงปรับปรุงจ้า

หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 19/08 ตอนที่ 5 มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 19-08-2015 21:03:20
จิ้ม
สนุกจ้าาา แยกไปยังงั้นจะเป็นไงเนี่ย พ่อมณี~
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 19/08 ตอนที่ 5 มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: allegiant1994 ที่ 19-08-2015 21:07:16
สนุกดีค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 19/08 ตอนที่ 5 มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 19-08-2015 21:09:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 19/08 ตอนที่ 5 มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 19-08-2015 22:17:30
พี่ธาราจะเอาน้องมณีไปไหนจ๋ะ?! :hao7:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 19/08 ตอนที่ 5 มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 19-08-2015 22:20:58
ใครมาจ้างพี่ยักษ์หรือเปล่า
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 19/08 ตอนที่ 5 มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-08-2015 22:45:05
ตอนแรกเราคิดว่าพี่ธาราจะใช้มนตราแปลงกายเป็นนนท์ (ที่บังเอิญเข้าห้องน้ำพอดี) ไปเฝ้าน้องมณีที่ร้านหมูกระทะแทนเสียอีกค่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 19/08 ตอนที่ 5 มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 19-08-2015 22:52:09
สงสารมณีงิ  :hao4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 19/08 ตอนที่ 5 มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 20-08-2015 00:49:55
จะเอาน้องมณีไปไหนนนนน
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 19/08 ตอนที่ 5 มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 20-08-2015 11:42:49
อ๊ายยย คิดถึงเรื่งนี้จุงเบยยย น้องมณีโดนนน :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 19/08 ตอนที่ 5 มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 20-08-2015 13:46:23
รอ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 19/08 ตอนที่ 5 มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 20-08-2015 15:41:08
พี่ธาราอย่าทำน้องมณีนะ ค่อยๆ จีบน้องดีๆ ซิค่ะพี่ธาราขี้ค้านน้องจะยอมเพราะรักพี่แทนนะเออ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 19/08 ตอนที่ 5 มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 20-08-2015 15:54:16
อยากรู้จริง  จริงๆ แล้วธารารู้สึกยังไงกับมณี  :hao4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 20/08 ตอนที่ 5 ฝืน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 20-08-2015 17:00:14
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)
4530

ตอนที่ 5.2 ฝืนชะตา


อยู่ในช่วงปรับปรุงจ้า


   
***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***

พี่ธาราจะจีบน้องมณียังไงน้อ

เป็นกำลังใจให้โซอึนด้วยนะคร้าาาา

ปอลิง วันนี้น้องจูบไม่มาจร้าาาา ป่านนี้น้องจูบโดนข่มขืนไปแล้วมั้ง 55+ คนเชียนชักช้า

 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 20/08 ตอนที่ 5 ฝืน (ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 20-08-2015 17:51:11
จิ้มมม
ได้เวลาเดินหน้าจีบเต็มกำลังแล้วสินะ หึๆ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 20/08 ตอนที่ 5 ฝืน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 20-08-2015 18:19:48
ถึงตอนนี้จุดมุ่งหมายของพี่ธาราจะมีแค่ 'สินสมุทร' กับ 'แก้วแห่งอายุรา' เท่านั้น แต่อีกไม่นานหรอกค่ะ น้องมณีจะกลายเป็นอีกสิ่งสำคัญที่พี่จะไม่ยอมเสียไปเด็ดขาดเลยเชียวล่ะ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 20/08 ตอนที่ 5 ฝืน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 20-08-2015 19:22:03
เอาแล้วซิ มณีจะหนีรอดเหรอโชคชะตาฟ้าลิขิตไว้แล้วจะฝืนได้เหรอจ๊ะมณี
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 20/08 ตอนที่ 5 ฝืน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-08-2015 19:23:34
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 20/08 ตอนที่ 5 ฝืน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 20-08-2015 21:06:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 20/08 ตอนที่ 5 ฝืน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 20-08-2015 21:19:09
ตอนนี้รู้สึกน้องมณีจะมุ้งมิ้งเหลือเกิน
ต้องจีบก่อนสิ อะไร ทำไมแบบนี้อะค้าาาาาาาาา  :hao7:
นั่งนับนิ้วรอชมพี่ธาราจีบเด็กดีกว่า
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 20/08 ตอนที่ 5 ฝืน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 20-08-2015 23:49:18
ใช่แล้ว
ต้องจีบก่อนสิพี่ธารา
จีบน้อฃ
งมณีก่อน
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 20/08 ตอนที่ 5 ฝืน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 21-08-2015 08:36:53
ถ้าเม้นทำร้ายจิตใจก็ขออภัย  เรารู้สึกว่าจะไม่ชอบทั้งไอ้ยักต์นั้นและมณีเลย แบบตัวละครมันแตกต่างเกินไป เรายอมรับว่ามีอคติ เพราะมันชวนอึดอัด ถ้ากลับชาติมาเกิด ทำไหมมณีถึงเกิดมาเป็นชนชั้นที่ไม่มีอะไรเด่นเลย แถมธรรมดาซะ แถมฉลาดน้อยด้วย แบบไม่มีอะไรดีอ่ะ สู่ใครก็ไม่ได้ แบบนี้เหมือนจะอวยแต่ไอ้ยักต์บ้านั้น ไปแหละ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 20/08 ตอนที่ 5 ฝืน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 21-08-2015 11:48:00
 :oo1:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 20/08 ตอนที่ 5 ฝืน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 22-08-2015 15:08:14
ชาติที่แล้วทำอะไรไว้อะ

 ทำไมต้องให้สินสมุทรเกิดใหม่ แก้วอายุราคืออะไร   :hao4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 20/08
เริ่มหัวข้อโดย: บุหลันรัศมี ที่ 22-08-2015 15:25:53
ชาติที่แล้วมณีทำอะไรไว้ :katai1:
หรือว่าเจ้าชู้เกินไป
จิ้มคนเขียน :z13:มาต่อไวไว

 :hao5:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 20/08 ตอนที่ 5 ฝืน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 24-08-2015 19:42:10
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)
5443

ตอนที่ 6 โน๊ตเพลง


อยู่ในช่วงปรับปรุงจ้า



มีต่อ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 24/08 ตอนที่ 6 โน๊ตเพลง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 24-08-2015 19:52:00
ต่อ

อยู่ในช่วงปรับปรุงจ้า


***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***


ปุกาด:: ตั้งแต่ตอนที่ 7 เป็นต้นไป เค้าจะเปลี่ยนชื่อเรื่องน้า คนอ่านที่น่าร๊าก
[Mpreg]  #  หนี้รัก.....นายยักษ์ตัวร้าย #
[Mpreg]  #  อลวลวุ่นรัก.....ยักษ์ตัวร้าย #
สักชื่อนึง ช่วยโหวดหน่อยเร๊ววววว เอาที่จำง่ายๆ



หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 24/08 ตอนที่ 6 โน๊ตเพลง
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 24-08-2015 20:37:54
โหวตให้ชื่อใหม่อันแรกคับ  :mew6:

ชอบจังเลยเริ่มฉากในอดีตของทั้งสองคนออกมาบ้างแล้ว
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 24/08 ตอนที่ 6 โน๊ตเพลง
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 24-08-2015 21:25:22
เราโหวตชื่อแรกค่ะ ขอตัดคำว่า"นาย"ออกได้ก็ฟังดูดีนะคะ

ที่แท้พี่ธาราดอดไปมีซัมติงกับพ่อมณีตั้งแต่สมัยโน้นเลย
เพลงที่พ่อให้ สงสัยเอาไว้ปราบยักษ์
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 24/08 ตอนที่ 6 โน๊ตเพลง
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 24-08-2015 21:54:41
ท่าทางว่าพี่ธาราเองก็คงจะปักใจในเสน่ห์ของน้องมณีตั้งแต่สมัยนั้นแล้วเหมือนกันนะคะเนี่ย >< ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ลักลอบไปพบหน้ากันแบบนั้นหรอกเนอะ

ปล. ขอโหวตชื่อ [Mpreg] # หนี้รัก..นายยักษ์ตัวร้าย # เช่นกันจ้าา ^^
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 24/08 ตอนที่ 6 โน๊ตเพลง
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 25-08-2015 01:23:51
พี่ยักษ์สนใจน้องมณีก่อนแล้ว มิน่า

น้องมณีได้โน๊ตเพลงปราบยักษ์แน่เลย

โหวตชื่อแรกเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 24/08 ตอนที่ 6 โน๊ตเพลง
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 25-08-2015 07:12:19
ชอบตอนอดีตอ่ะ อยากอ่านบ่อยๆ
พ่อน่าจะให้โน้ตเพลงไว้เพื่อปราบยักษ์นะเนี่ย
โหวตอันแรกเหมือนกันจ้า เพราะเรารู้สึกว่าเจอไอ่พวกคำว่าอลวนอลเวงอะไรงี้เยอะแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 24/08 ตอนที่ 6 โน๊ตเพลง
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 25-08-2015 18:14:12
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 24/08 ตอนที่ 6 โน๊ตเพลง
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 27-08-2015 21:24:09
มาตามอ่าน +เป็ด ย้อนหลัง :)

โหวตให้ชื่อ หนี้รัก  o13
หัวข้อ: [Mpreg] # Wonder Love # หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย # 30/08 [CH.7] ดอกไม้ปริศนา
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 30-08-2015 19:05:05
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)
6000
ตอนที่ 7 ดอกไม้ปริศนา


   อยู่ในช่วงปรับปรุงจ้า



***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***


ตั้งแต่ตอนหน้าไป จะเปลี่ยนชื่อเป็น [Mpreg] #  Wonder Love #  หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย นะค่ะ

ขอโทษที่หายไปหลายวัน ขอบคุณทุกตอมแม้นกำลังใจค่ะ หากว่ามีอะไรติดขัดก็ขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ ขอบพระคุณที่รอคอยค่ะ

ตอนนี้ศัตรูตัวแรกเริ่มโผล่มาแล้ว


7 com ขอตายแปบนะ ค่อยมาต่อตอนใหม่  :o12:

หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 30/08 ตอนที่ 7 ดอกไม้ปร
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 30-08-2015 19:06:10
จิ้มมม
โว้ววว ละเวงก็มาแฮะ
ชาตินี้ดูท่าจะเป็นผู้ชายสินะ
เชียรกะนนท์คู่นี้มีลุ้นนะเนี่ย กรั่กๆ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 30/08
เริ่มหัวข้อโดย: บุหลันรัศมี ที่ 30-08-2015 19:33:31
ละเวง มาได้ไงงงงงงงงง

 :a5: :a5:

ธาราจัดการ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <---- 30/08 ตอนที่ 7 ดอกไม้ปริศนา
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 30-08-2015 19:47:43
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] # Wonder Love # หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย # 30/08 [CH.7] ดอกไม้ปริศนา
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 30-08-2015 21:04:36
นางละเวงรึเปล่า เมียพระอภัยอีกคนอ่ะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] # Wonder Love # หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย # 30/08 [CH.7] ดอกไม้ปริศนา
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 30-08-2015 21:07:22
ละเวงโผล่มาแล้วววว จะมาเป็นศัตรู(หัวใจ)รึเปล่าน้อออ
รอตอนต่อไปน้าาาาา :mew1:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] # Wonder Love # หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย # 30/08 [CH.7] ดอกไม้ปริศนา
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 30-08-2015 21:08:58
พี่ธาราถูกบุคคลปริศนาแย่งซีนเสียแล้ว..
หัวข้อ: Re: [Mpreg] # Wonder Love # หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย # 30/08 [CH.7] ดอกไม้ปริศนา
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 30-08-2015 23:01:37
ละเวงมาได้ไง
เมียเก่าโผล่มาซะงั้น
ธาราจะเอาไงต่อ
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ 30/08 [CH.7] ดอกไม้ปริศนา
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 31-08-2015 09:51:13
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ 30/08 [CH.7] ดอกไม้ปริศนา
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 31-08-2015 10:39:32
ละเวงใครหว่า!? :confuse:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ 30/08 [CH.7] ดอกไม้ปริศนา
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 31-08-2015 16:07:56
อ่า
มาเสริมให้เผื่อใครยังไม่รู้ว่านางละเวงคือใคร
นางละเวงคือหนึ่งในบรรดาเมียของพระอภัยมณี
ว่ากันว่ามีเชื้อสายฝรั่งปนอยู่ด้วย
มีนิสัยออกจะร้ายนิดนึง
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ 30/08 [CH.7] ดอกไม้ปริศนา
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 31-08-2015 21:53:09
 :hao4: หลังจากนี้คงจะเกิดเรื่องวุ่นๆขึ้นสินะ รอติดตามมมมม
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ 30/08 [CH.7] ดอกไม้ปริศนา
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 01-09-2015 13:43:12
สนุกอ่ะ วาร์ปไปเดือนกุมภาเลยได้ไหมคะ 555+
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ 30/08 [CH.7] ดอกไม้ปริศนา
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 08-09-2015 20:01:14
รอนะค้าา.. :impress:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ 15/09 [CH.2] รีไรส์
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 15-09-2015 06:49:12
ปุกาด ตอนนี้โซอึนกำลังรีไรส์เรื่องนี้ใหม่
ตอนนี้กำลังรีไรส์ถึงตอนที่สองแล้ว คาดว่าไม่เกินอีกวันเดียวจะเสร็จสิ้นพร้อมเอาตอนที่8มาลงเพิ่มให้ใหม่
ความจริงอยากให้อ่านซ้ำกัน เพราะว่ามันจะต่างอารมณ์กับฉบับเก่า
แต่หลายคนอาจจะไม่ว่างไม่มีเวลา จะอ่านซ้ำ ก็ไม่เป็นไรค่ะ อ่านต่อตอนที่8ได้เลย
ขอบคุณที่คอยสนับสนุนเรื่อยมาค่ะ ขอบคุณคนอ่านที่น่ารักที่อุตส่าห์รอคอยนะค่ะ
 :pig4:  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: [Mpreg] ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ 15/09 [CH.2] รีไรส์
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 15-09-2015 08:26:57
เพิ่งมาอ่านรอบรีไรท์

ธาราชอบมณีมานานแล้วสินะ แต่แม่นางเงือกมาคว้าไปก่อน

แล้วธาราจะเอาลูกไปทำไร??

ปอลอ ผีเสื้อสมุทรกลับมาเกิดใหม่ไหม??
หัวข้อ: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ 16/09 [CH.3] จุมพิต
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 16-09-2015 01:11:08
8545
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ชดใช้หนี้ครั้งที่ 3 จุมพิต


   “น้อง น้อง น้องครับ น้อง!!”

   “อ่ะ อ่า ครับ”ผมตอบรับแทบไม่ทันเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่แทบจะตะคอกดังขึ้นจากด้านหน้าของตัวเอง

   “พี่เอาหนังสือมาคืน เป็นอะไรเหม่อเชียว แค่โดนซ่อมแค่นี้ ถึงกับนั่งเหม่อเลยรึไง”รุ่นพี่ที่ผมไม่ค่อยจะคุ้นหน้าถามราวกับว่ากำลังจะตอกย้ำให้ผมตั้งใจทำงาน เพราะกำลังอยู่ในช่วงโดนซ่อม

   แต่ทำไม ฟังดูแล้วผมกลับคิดว่ามันเยาะเย้ยกันยังไงก็ไม่รู้

   หลังจากที่ผ่านพ้นพิธีรับน้องของมหาวิทยาลัย ไม่นานชื่อเสียงของผมในฐานะของเฟรชชี่คณะมนุษย์ศาสตร์เอกภาษาไทยคนเดียวที่หาพี่รหัสไม่เจออย่างผมก็ดังไปทั่วคณะ ไม่เว้นแม้แต่ขณะรอบข้าง ทำให้ผมอับอายจนเริ่มที่จะชินกับชีวิตวัยรุ่นในรั้วมหาวิทยาลัยที่กำลังจะเหี่ยวเฉาลงไปทุกที

   “ครับ โทษที เล่มเดียวนะครับ รหัสนี้นะครับ”ผมรีบรับหนังสือมาคีย์เข้าระบบให้เรียบร้อยพลางยื่นบัตรนักศึกษาคืนให้พี่เขาไป ก่อนที่จะตกอยู่กับความเงียบอีกรอบ

   บรรยากาศที่เงียบเหงาบวกกับเสียงแอร์ที่ครางเสียงเบาในห้องสมุดหลังเลิกเรียนเป็นอะไรที่ทำเอาน่านอนมากมากเลยล่ะตอนนี้  ติดที่ว่าตอนนี้ผมไม่ได้กำลังง่วงนอนเสียแต่อย่างใด กลับตรงกันข้าม

   ผมกำลังนั่งเหม่อลอยมองดูใครอีกคนที่อยู่ห่างไปไม่ไกล

   คนที่มีชะตากรรมร่วมกันกับผม คนที่ทำให้ผมต้องมานั่งเหม่ออยู่ในห้องสมุดยามเย็นแบบนี้

   ใครอีกคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่เกินคนอื่นจนผมเห็นแล้วยังอดอิจฉาไม่ได้ รูปร่างสูงใหญ่ซึ่งดูท่าแล้ว ภายใต้เสื้อผ้านั่นคงจะรูปร่างดีไม่ใช่น้อย คงจะเล่นกล้ามล่ะมั้ง พี่เขาถึงได้ตัวใหญ่ขนาดนี้

   พอผมไปยืนเทียบกับเขาแล้วทำให้ดูต่างชั้นกันไปเลย ทั้งที่ผมสูงตั้งร้อยเจ็ดสิบกว่า แต่ทำไมถึงได้ต่างกันราวกับฟ้ากับเหวเชียว แค่คิดสภาพจิตใจผมมันก็ห่อเหี่ยวแล้ว

   นี่ก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่หลังเลิกเรียนผมต้องมาคอยนั่งรับหนังสือที่ถูกยืมไปคืนเข้าระบบ ส่วนพี่เขาก็ทำหน้าที่เก็บ

   ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของใครของมัน แต่ทำไม ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าตัวเองอึดอัดเอามากมายขนาดนี้

   ทั้งที่พี่เขาเป็นคนที่เป็นต้นเหตุทำให้ผมต้องมาโดนซ่อมเป็นเดือนๆ แต่ทำไมเจ้าตัวถึงไม่ดูทุกข์ร้อนหรือรู้สึกผิดอะไรเลยสักนิด ตรงกันข้ามเขากลับมีท่าทีสบายใจเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเสียอย่างนั้น

   การพูดคุยระหว่างผมกับพี่เขาก็แทบจะนับคำกันได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำเป็นมาพูดจาแปลกแปลกใส่ผมเป็นตุเป็นตะ ทีตอนนี้กลับมีท่าทีไม่ทุกข์ร้อนเหมือนกับว่าลืมเรื่องราวที่เคยพูดไป

   หรือว่าพี่เขาเป็นพวกสองบุคลิกกัน ผมล่ะไม่เข้าใจจริงๆ  วันวันพี่เขาก็แค่เดินมาหยิบหนังสือแล้วเอาไปเก็บไว้ที่ชั้นตามหมวดหมู่  ไม่เห็นว่ามีอะไรที่แปลกไปกว่านั้น ทั้งที่พี่เขาเพิ่งจะบอกให้ผมมีลูกด้วยกันกับเขา ซึ่งฟังยังไงมันก็ดูแปลกเอามากมาก

   คนเรานี่มันเข้าใจยากขนาดนั้นเลยรึไง เริ่มคิดว่าชีวิตวัยรุ่นของผมมันคงไม่ง่ายขึ้นมาแล้วสิ

   ผมจ้องมองดูพี่เขาเดินมาเอาหนังสือไปเรียงที่ชั้นตามหมวดหมู่กองแล้วกองเล่า

   ความเงียบงันกับเสียงเครื่องปรับอากาศที่ครางเบาเบาก่อให้เกิดบรรยากาศที่น่าเบื่อหน่ายทำให้ผมต้องยกมือขึ้นมาเท้าคางชันแขนลงบนเคาท์เตอร์

   ยิ่งมองดูพี่เขาแล้ว ผมก็ยิ่งเกิดความรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นหนักกว่าเก่า นักศึกษาผู้หญิง หลายคนเอาแต่ลอบมองตามพี่เขาไปอยู่บ่อยบ่อย

   ไม่เว้นแม้กระทั่วผู้ชายด้วยกันที่ผมแอบเห็นว่ามองตามพี่เขาด้วยสายตาที่อิจฉาปนหมั่นไส้ไม่น้อย

   
      ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังสวมวิญญาณนางร้ายในละครที่กำลังริษยาพี่เขาอยู่

   ทำไมเขาถึงได้ดูดีในทุกทุกอิริยาบถแบบนี้ ไม่ว่าจะเอื้อมเก็บหนังสือในชั้นที่สูง หรือว่าจะนั่งยองก้มลงเก็บหนังสือในชั้นที่ต่ำสุด
   ผมก็ไม่ได้อิจฉามากมายอะไรหรอกนะ แค่มันเกิดอารมณ์หมั่นไส้เฉยๆ ที่เป็นตัวต้นเหตุทำให้ผมต้องมาทำงานหลังเลิกเรียนอย่างนี้ ซ้ำยังทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวทั้งที่ตัวเองเป็นคนก่อเหตุเอาไว้ แถมยังทำท่าทำทางหล่อซะเต็มประดา เรียกให้สาวสาวหันไปมองกันหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ชายบางคนที่ผมเองก็ไม่รู้ว่ากำลังมองเขาด้วยจุดประสงค์อะไรกันแน่ แค่เห็นก็ขนลุกแล้ว ดูดีจนผู้ชายด้วยกันบางคนยังอาย

   ถ้าขืนอยู่ใกล้ๆพี่เขาอีกต่อไปล่ะก็ ชีวิตวัยรุ่นของผมก็คงเหี่ยวเฉาหนักขึ้นไปอีก เพราะถูกรัศมีความดูดีของพี่เขากลบเอาหมด
   ว่าแล้วผมก็ถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไรก็ไม่รู้ พลางหลุบตาลงมองหนังสือเล่มที่พึ่งจะถูกคืนมา

    “พระอภัยมณี”

   จะว่าไป ชื่อของผมเองก็มาจากตัวเอกของวรรณคดีเรื่องนี้ แต่ว่าผมเองก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องราวที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้เลย ไม่รู้แม้กระทั่งที่มา จำความได้ก็ใช้ชื่อนี้มาตลอด

   จะเป็นไปได้ไหมที่พี่เขารู้เรื่องชื่อผมอยู่แล้วแล้วเอามาอำเพราะรู้ว่าเขากำลังเข้าเรียนที่เดียวกัน

   แต่ว่าต่างคนต่างก็เพิ่งจะเจอหน้ากันครั้งแรกไม่ใช่รึไง ผมเองก็เพิ่งจะเคยเห็นพี่เขาเป็นครั้งแรก จำได้ว่าไม่เคยเจอคนที่ดูดีเท่าเขามาก่อนในชีวิต ถึงจะน่าหมั่นไส้แค่ไหนก็เถอะ

   แต่ยิ่งคิดผมยิ่งปวดหัว หนี้ตั้งแต่ชาติที่แล้วอะไรผมไม่เห็นจะรู้เรื่อง หรือว่าพี่เขาจะชอบวรรณคดีเรื่องนี้มาก เลยเอามารวมกับชีวิตจริง แต่มันก็คงไม่มีใครเพี้ยนขนาดนั้น

   แล้วทำไม ดวงตาที่พี่เขาจ้องมองผมในคืนนั้น มันถึงเป็นดวงตาที่แสดงออกว่ากำลังมุ่งมั่นเกินกว่าที่จะเป็นแววตาที่แสดงออกถึงการโกหกหรือว่าผมอาจจะคิดไปเอง

   แต่ทำไมเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันถึงได้ค้างคาใจผมจนผมแทบจะหยุดคิดถึงมันไม่ได้

   ทำไมผมถึงได้บังคับใจตัวเองให้ปล่อยมันผ่านเลยไปไม่ได้กัน ทั้งที่คิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ แต่มันก็ยังคงค้างคาอยู่ในใจผมราวกับว่ามันอยู่ข้างในนั้นมาตลอด

   ผมหยิบหนังสือเล่มที่ปกยับยู่ยี่จนกระดาษแทบจะเปื่อยบ่งบอกถึงความเก่าขึ้นมา แล้วตัดสินใจคีย์รหัสนักศึกษาของตัวเองลงไปเพื่อทำเรื่องยืมเข้าระบบ
      

   ไม่รู้ว่าทำไมผมจะต้องยืมมัน แต่ว่าความสงสัยที่อยู่ภายในใจมันไม่หายไปสักที

   จะยืมไปมันก็คงไม่เสียหายอะไร อย่างน้อยๆก็คงจะได้รู้จักพระอภัยมณีเจ้าของชื่อที่ผมกำลังใช้อยู่


   “เจ้าสนใจมันเช่นนั้นหรือ?”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นด้านหน้าเค้าท์เตอร์ทำเอาผมแทบสะดุ้งเพราะกำลังคิดอะไรเพลินๆ

   คำพูดแบบนี้ของเขาทำเอาผมจดจำได้ดีโดยไม่ต้องจำน้ำเสียงกันเลยทีเดียว

   ทำไมตอนคุยกับคนอื่นพี่เขาถึงคุยปกติได้ ทีตอนนี้ล่ะทำมาเป็นพูดจาลิเกหลงโรงกับผม

   ผมล่ะไม่เข้าใจพี่เขาจริงๆ หรือว่าเขาจะเป็นคนสองบุคลิกอย่างที่ผมคิด

   “ก็ไม่ได้สนใจสักหน่อย  แค่เห็นคนยืมบ่อยเลยอยากจะดูว่ามันเป็นยังไงเฉยๆ ไม่ได้สนใจสักนิด”

   ผมตอบปัดพลางเชิดหน้าอย่างวางฟอร์ม พลางหยิบหนังสือยัดใส่กระเป๋าตัวเองด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยพอใจเขาสักเท่าไร

   ข้อหาหล่อเกินคนอื่น อีกทั้งยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมต้องมาซ่อมที่ห้องสมุดเป็นเดือนเดือนแบบนี้

   “หากเจ้าอยากรู้อะไร ถามความเอากับข้าก็ได้”

   “อะไร ก็ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย อย่ายุ่งให้มากเรื่องได้ไหม”

   ผมบอกปัดพลางเบือนหน้าหนีพี่เขา เขาทำอย่างกับตัวเองรู้ดี จนน่าหมั่นไส้ พูดจาเหมือนกับว่าตัวเองอยู่ในเรื่องพระอภัยมณี แถมยังไม่เลิกพูดภาษาลิเกอีก

   ผมเริ่มที่จะหงุดหงิดแล้วไม่อยากจะคุยกับพี่เขาแล้ว

   ผมผลุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะคว้าเอากระเป๋าตัวเองมาสะพายเพราะนาฬิกาบอกเวลาเลิกงานพอดิบพอดี ทำให้ผมมีข้ออ้างที่จะออกห่างจากพี่เขาได้


   แล้วทำไม ท่าทีของผมมันถึงได้ดูเหมือนว่าผมกำลังกลัวพี่เขาอยู่กันนะ สายตาที่ยิ่งมองก็เหมือนกับยิ่งคุ้นเคยของพี่เขาทำให้ผมรู้สึกหวาดหวั่นเวลาที่จะต้องจ้องมองมันกลับ

   “เฮ้อ”

   ผมถอนหายใจเป็นรอบที่สองร้อยแล้วมั้งสำหรับวันนี้

   ผมยกมือขึ้นยีผมตัวเองเบาเบา พยายามสลัดภาพของพี่เขาที่ติดมาในหัวออกไป

   เวลาที่ผมถูกเขาจ้องมอง ทำไมผมถึงได้รู้สึกแปลกๆในอกอย่างบอกไม่ถูก ทั้งรู้สึกกลัว แล้วก็หวั่นไหวในใจ จนไม่สามารถที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูด

   แสงนีออนของไฟถนนยามเย็นเริ่มติดขึ้นทีละดวงอย่างอัตโนมัติบ่งบอกว่าความมืดกำลังเข้ามาเยือน

   สายลมของฤดูหนาวพัดผ่านในยามเย็นหอบเอาความเงียบงันเข้าปกคลุมทำให้เวลาที่ไม่ค่อยมีผู้คนอย่างนี้ดูหดหู่ไม่น้อย

   อาจเป็นเพราะล่วงเลยเวลาเย็นมากแล้ว นักศึกษาต่างก็พากันกลับไปหมด ที่มีเหลืออยู่ก็แทบจะนับคนได้

   ผมเดินไปยังลานจอดรถมอเตอร์ไซที่อยู่ไม่ไกลจากตึกคณะ

   บรรยากาศยิ่งเงียบสงบเข้าไปใหญ่เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า เพราะเป็นฤดูหนาวทำให้ความมืดเริ่มเข้าปรกคลุมพื้นที่ในเวลาไม่นาน มีเพียงแสงจากหลอดไฟเท่านั้นที่พอจะให้แสงสว่างทำให้เห็นบริเวณรอบรอบ

   เสียงฝีเท้าดังมาจากทางด้านหลังทำให้ผมหันไปมองพลางหรี่ตาลงเมื่อลมพัดแรงขึ้นกว่าเก่าเล็กน้อยทำให้ใบไม้ที่เริ่มแห้งร่วงหล่นลงมาตามสายลม

   วินาทีที่ราวกับถูกดวงตาสีดำเหลือบสีเขียววาบสะกด เพียงชั่วครู่ที่ผมมองเห็นดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นทอประกายสีเขียวมรกตก่อนจะกลับไปเป็นสีดำสนิท

   หรือว่าผมตาฝาดอีกแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะเห็นตาเขากลายเป็นสีเขียวแบบคืนนั้นอีกครั้ง หรือว่าผมกำลังจะคิดมากไปเอง
   ร่างสูงใหญ่ของพี่ธาราอยู่ห่างจากผมไปแค่ไม่กี่ก้าว ดวงตาสีดำสนิทของเขาทอดมองมาทางผม

   “อภัยมณี เจ้าลืมสิ่งนี้เอาไว้”พี่ธาราเดินเข้ามา ยื่นโทรศัพท์เครื่องสีขาวมาตรงหน้าผม

   ดูเหมือนว่าผมจะลืมมันเอาไว้บนโต๊ะเพราะความรีบร้อนเกินไป

   “ขอบคุณ”ผมตอบสั้นสั้นได้ใจความ พยายามที่จะรักษาเวลาให้น้อยที่สุดในการที่ต้องอยู่เพียงลำพังกับคนประหลาดอย่างพี่เขา
   ผมรับมือถือเครื่องสีขาวมาอย่างไว พยายามที่จะไม่สัมผัสกับผิวของพี่เขาใบหน้าของผมรู้สึกว่ามันร้อนวูบอย่างบอกไม่ถูกเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกจ้องอยู่จากมุมสูง

   รู้อย่างนี้ผมไม่น่ารีบจนลืมของสำคัญเอาไว้เลย มันน่าอายชะมัดที่ต้องให้คนเพี้ยนเพี้ยนอย่างพี่เขามาคอยช่วยเหลือ รู้สึกว่าเสียฟอร์มขึ้นมาเลย

   “เจ้ากำลังจะไปที่ใดกัน”จู่จู่พี่ธาราก็ถามขึ้นหลังจากที่เราของคนเงียบกันมาพักหนึ่งจนผมรู้สึกว่าเริ่มอึดอัด

   “อะไร จะรู้ไปทำไม”

   ผมตอบเสียงห้วนอย่างขัดใจ ไม่ชอบใจเลยที่พี่เขาพูดแทนตัวเองว่าข้าแล้วแทนตัวผมว่าเจ้าเหมือนกับภาษาลิเกแบบนี้

   “มีสิ่งใดเป็นข้อห้ามที่ห้ามไม่ให้ข้าอยากรู้ได้”

   “เออ ก็กลับบ้านดิ ป่านนี้แล้ว แล้วก็เลิกพูดจาอะไรแบบนั้นได้แล้ว บ้าบอ”ผมบอกพลางขมวดคิ้ว จ้องมองเขาอย่างไม่พอใจ

   “ข้าพูดกับเจ้าอย่างที่เคยพูดกับเจ้าเมื่อชาติที่แล้ว”

   “ชาติที่แล้วบ้าอะไร มันมีซะที่ไหน เลิกบ้าได้แล้ว นอนน้อยรึไง ถึงได้ฝันประหลาด เลิกพูดแบบนนั้นสักที”

   “จะให้ข้าเลิกพูดได้อย่างไรในเมื่อมันคือความเป็นจริง”พี่ธาราพูดด้วยน้ำเสียงจิงจังพลางจ้องมองผมด้วยสายตาที่มุ่งมั่นราวกับจะต้องการยืนยันในสิ่งที่พูดว่ามันเป็นความจริง

   แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ชาติที่แล้วมันมีจริงที่ไหนกัน

   “ความจริงบ้าบออะไร เลิกพูดเหอะน่า สิ่งที่คุณพูดมันไม่มีจริงสักอย่าง คุณน่ะบ้าไปแล้ว มันไม่มีจริงหรอกไอ้กลับชาติมาเกิดอะไรนั่นนะ แล้วอีกอย่าง เลิกเรียกชื่อจริงสักที เรียกแค่มณีสั้นๆพอ ฟังแล้วมันดูพิลึก”

   ผมว่าไปยาวยาวเพราะไม่ต้องการที่จะเสวนากับคนอย่างพี่เขาอีก คนเพี้ยนเพี้ยนอย่างพี่เขา ไม่มีค่าพอที่จะให้ผมนับถือเป็นพี่ด้วยซ้ำ เรียกแบบเหินห่างแบบนี้น่ะดีแล้ว ไม่ค่อยอยากจะสนิทกับคนพรรค์นี้สักเท่าไร ถึงแม้ว่าพี่เขาจะเป็นพี่รหัสก็ตาม

   
   “ถึงอย่างไรเจ้าก็หลีกหนีความจริงไปไม่ได้หรอก อภัยมณี”

   “ความจริงที่ว่าผมติดหนี้คุณน่ะเหรอ เอาจริงนะ นี่บ้าไปแล้วรึไงแล้วอะไรต่อล่ะ จะให้ผมมีลูกกับคุณน่ะเหรอ เลิกพูดดีกว่า ก่อนที่ผมจะประจานคุณให้รู้กันไปทั้งว่าคุณชอบพูดเหมือนพวกลิเกหลงโรงกับผม”

   ผมหันกลับไปจ้องมองเขาแล้วพูดเสียงดังอย่างเหลืออดเต็มที

   ทำไมไอ้เรื่องเพี้ยนๆที่พี่เขากรอกเข้ามาในความคิดของผมต้องคอยตามหลอกหลอนผมอยู่ตลอด

   ชีวิตวันรุ่นใสใสที่ผมต้องการนี่มันยากขนาดนี้เลยรึไงกัน ไม่เข้าใจจริงๆเลย ว่าชีวิตวัยรุ่นของไอ้มณีคนนี้ทำไมมันถึงได้แห้งเหี่ยวขึ้นทุกวันทุกวันแบบนี้

   “เจ้าต้องกำเนิดบุตรให้กับข้า เมื่อใดที่บุตรของข้ากับเจ้ากำเนิดมา หนี้แค้นทั้งหมดจะถูกชำระสิ้น”

   “อะ อะไรนี่ ยังไม่เลิกพูดอีกรึไง แล้วทำไมผมต้องไปมีลูกกับคุณ ผมเป็นผู้ชายนะ แหกตาดูบ้างดิ เผื่อจะยังไม่รู้ ไม่ได้เป็นเกย์”
   ผมปรี๊ดขึ้นมาทันทีเมื่อพี่เขาท้วงเรื่องให้ผมไปมีลูกกับเขาอีกรอบ มันอะไรกันนักหนา ผู้ชายบ้านไหนเขาจะท้องได้ คนนะไม่ใช่ไส้เดือนถึงจะได้สืบพันธุ์กันโดยไม่อาศัยเพศ   

   “ข้าบอกเจ้าแล้วอย่างไรว่าเผ่าพันธุ์ยักษ์เราสืบพันธ์ได้ทุกเพศทุกตน แค่เราไม่ค่อยนิยมสืบพันธ์กับเพศบุรุษแค่นั้น”

   “คุณนี่มัน หึ่ม ยังไงจะไม่หยุดพูดเรื่องพรรณนี้ใช่ไหม”

   ผมเดินเข้าไปใกล้พี่เข้าด้วยท่าทางที่กำลังหงุดหงิดเต็มทน

   ทั้งหงุดหงิดทั้งโมโหกับไอ้บทสนทนาบ้าบออะไรนี่แล้ว ใครเชื่อก็ออกลูกเป็นแมวแล้ว นี่มันไม่ใช่นิทานหลอกเด็กจะได้ให้เชื่อกันง่ายๆ

   “ใช่ ข้าจะไม่หยุดพูดตราบใดที่เจ้ายังไม่ได้สืบพันธุ์ร่วมกับข้า”พี่ธาราบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง พลางจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาที่แน่วแน่ แต่นั่นมันก็ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดเข้าไปใหญ่จนอยากจะชกหน้าเขาสักหมัด

   ติดแค่ว่าพี่เขาเป็นพี่รหัส ขืนทำไปคงจะมองหน้ากันไม่ติดอีกหลายปี ผมจึงได้แต่ยืนเงยหน้าจ้องมองเขานิ่งอย่างโกรธเคืองไปตามอารมณ์

   “สืบพันธ์บ้าอะไรกัน อะ อะไรเล่า ปล่อยสิเว้ย มันน่าโมโหจริงๆเลย ปล่อยนะ”

   จู่จู่พี่เขาก็ดึงจับข้อมือของผมดึงเข้าไปหาตัวเองโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว

   ผมพยายามสะบัดมือใหญ่ของพี่เขาให้หลุดออกจากข้อมือ แต่มันก็ไม่เป็นผล ทั้งที่พี่ธาราดูเหมือนไม่ได้ออกแรงอะไรเลย แต่ทำไมผมถึงได้รู้แรงเขาไม่ได้ล่ะเนี่ย มันน่าเจ็บใจนักเชียว แกะยังไงก็แกะไม่หลุดสักที

   “เจ้าต่างหากที่น่าโมโหยิ่งนัก ไม่ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆเสียที”

   “อะไร ทำไมต้องเข้าใจด้วย ไอ้นี่นี่ ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ”

   ผมโวยวาย จะร้องให้คนช่วยก็ไม่มีแมวตัวไหนโผล่มาสักคน ทีอย่างนี้ล่ะเงียบหายกันไปหมด

   อีกอย่างตอนนี้ก็เริ่มมืดเข้าไปทุกที ผมได้แต่กัดริมฝีปากแน่นอย่างขัดใจตัวเอง ดวงตาเริ่มหรี่ลง แล้วขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

   “อีกอย่าง เวลานี้ข้าอายุมากกว่าเจ้าเป็นร้อยปี เจ้าควรจะเรียกข้าว่าพี่ ถึงจะถูก เรียกข้าว่าพี่ธาราเหมือนดังชาติก่อนสิ อภัยมณี”
   “ไม่เรียกโว้ย ไอ้บ้านี่  ก็บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกชื่อจริง แล้วนี่ เป็นยักษ์รึไง ถึงได้แรงเยอะขนาดนี้”

   ผมโวยวายเอาเสียงดังเข้าข่ม พยายามทุบที่มือของเขาที่กุมข้อมือผมอยู่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้สะเทือนอะไรพี่เขาเลยสักนิด
   ความจริงเรื่องนี้มันจะไม่มีอะไรมากไปกว่านี้เลยถ้าพี่เขาไม่ได้มาชวนให้ผมไปผสมพันธุ์ด้วยอย่างนี้   

   “ใช่ เจ้าก็รู้นี่ว่าข้าเป็นยักษ์ ยังจะต้องถามอีกรึ”พี่ธารายังคงยืนยันคำตอบเดิมจนผมชักจะหงุดหงิดจนแทบจะคลั่งตาย

   “ไม่ใช่โว้ย ยังจะมายักษ์เยิกอะไรอีก ยักบ้าอะไรไม่มีเขี้ยว”

   ก็จริงไหมล่ะ ถ้าเป็นยักษ์จริงจริงก็ต้องมีเขี้ยวไม่ใช่รึไง   ดูยังไงก็คนชัดๆ ไม่มีอะไรแตกต่างนอกจากตัวที่ใหญ่กว่าชาวบ้านแค่นั้นเอง

   “นี่เป็นร่างแปลงของข้า เหมือนที่ผีเสื้อสมุทรแปลงตอนที่อยู่กับเจ้า”

   “จะบ้าไปใหญ่แล้ว ไม่คุยด้วยแล้ว ยิ่งคุยยิ่งยาว ปล่อยสิ ผีสงผีเสื้ออะไรกัน ว่างมากก็ไปเช็คสมองไป”

   ทำไมตอนนี้ถึงได้ไม่มีใครผ่านมาสักคนเลยนะ ไม่เข้าใจจริงๆ ไอ้ลิเก(ย์)นี่มันกำลังชวนลวนลามผมอยู่ใช่ไหม

   แล้วก็ชวนผมผสมพันธุ์อีก ถ้าเกิดจู่จู่พี่เขามีอารมณ์ขึ้นมาจะทำยังไง ไอ้มณีคนนี้ไม่กลายเป็นเหมืองทองให้เขาขุดไปเลยรึไง
   แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว ไอ้มณีคนนี้ยิ่งเป็นพวกดูดีน่าดึงดูดใจอีกต่างหาก

   
   “ไม่ต้องห่วงไป ข้าไม่สืบพันธุ์กับเจ้าตอนนี้หรอก มันยังไม่ถึงเวลาอันควร เจ้าอย่าเป็นกังวลไป ยังมีเวลาอีกมากพอที่จะให้เจ้าได้เตรียมใจ”

   “อะ เออ ก็ปล่อยสิ ใครจะไปคิดเรื่องนั้นกัน มีแต่คุณเท่านั้นแหละที่คิดเรื่องพรรค์นั้นคนเดียว อย่ามาทำรู้มากไปหน่อยเลย”

   ผมว่าพลางเบือนหน้าหนี ทำไมต้องรู้สึกว่าหน้าตัวเองมันร้อนผ่าวไปหมด นี่ผมกำลังหน้าแดงอยู่ใช่ไหม

   “ข้าจะปล่อยก็ต่อเมื่อเรียกข้าว่าพี่”

   “มะ ไม่เอา ไม่เรียก ก็ทำตัวไม่สมกับเป็นรุ่นพี่เอง ทำไมจะต้องเรียกพี่ด้วยล่ะ”

   “เรียกข้าว่าพี่ธารา มิเช่นนั้นเจ้าจะต้องถูกลงโทษ”พี่เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่ต่างออกไป

   ทำให้ผมเริ่มรู้สึกขนลุกขึ้นมาแปลกๆ อีกทั้งสายตาที่จ้องมองมาเหมือนกับจะคาดคั้นนั่นอีก มันจะอะไรนักหนา

   “ไม่เรียก”

   “เรียกเดี๋ยวนี้”

   “ไม่”ยังไงผมก็จะไม่เรียกเขาว่าพี่เด็ดขาด ตราบใดที่เขายังไม่เลิกพูดภาษาลิเกกับผม

   “ข้าบอกให้เรียกพี่ธาราอย่างไรเล่า อภัยมณีเจ้านี่ชั่งดื้อดึงยิ่งนัก”

   พี่เขาพูดเสียงดังกลับมาจนผมสะดุ้ง รู้สึกว่าข้อมือที่ถูกกุมเอาไว้จะถูกบีบแน่นกว่าเก่าจนเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา

   “อะไร ทีคุณยังเรียกผมว่าอภัยมณี เรียกมณีก็พอแล้ว แล้วแทนตัวข้าข้าเจ้าเจ้าบ้าบออะไร ถ้าอยากให้ผมเรียกพี่ก็แทนตัวเองใหม่สิ ไอ้เพี้ยนเอ้ย”

   “ก็ได้ ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้น เจ้าก็เรียกพี่ว่าพี่ธาราเสีย”

   “ไม่เรียก”ผมเมินหน้าหนี ยังไงก็ไม่ยอมรับอยู่ดี

   “พี่ธารา”

   “ไม่ ก็บอกว่าไม่เรียกไง”

    ให้ตายยังไงพี่เขาก็ไม่ยอมปล่อยผมอยู่ดี แขนที่ถูกบีบเริ่มจะรู้สึกเจ็บขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะพยายามที่จะสะบัดให้หลุด มันน่าเจ็บใจนัก

   “เรียกเดี่ยวนี้”

   “ไม่เรียกโว้ย ปล่อยสักที อื้มมมมม”

   ผมยังพูดไม่ขาดคำดี ริมฝีปากของพี่ธาราก็กระแทกลงมาที่ปากผมอย่างรวดเร็วโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว

   ปากของพี่เขาก็ขยี้ลงมาหนักหน่วงจนผมตกใจแทบจะหมดแรงลงไปกองกับพื้นถ้าไม่ติดที่พี่เขาถือโอกาสที่ดึงผมเข้าไปกอดประคองเอาไว้

   ดวงตาของผมเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้จนชิด ดวงตาสีดำสนิทนั้นกำลังจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของผมในระยะประชิด

   มันจ้องเข้ามาในดวงตาผมอย่างจาบจ้วงพอพอกับลิ้นร้อนๆที่ผมเผลอเปิดปากรับมันเข้ามาด้วยความตกใจ

   สายตาที่ราวกับกำลังแผดเผาทำให้ผมต้องเลือกที่จะหลบตาคู่นั้นโดยการหลับตาหนี

   จูบที่ราวกับเปลวเพลิงร้อนแผดเผาอยู่ภายในปากของผมอย่างหนักหน่วง

   พร้อมกับอ้อมแขนที่โอบกระชับผมมากกว่าเก่าเพราะผมพยายามที่จะขืนตัวเองออก

   ทั้งที่ผมพยายามยามที่จะไม่ตอบสนอง จูบแรกที่เคยวาดฝันเอาไว้กับสาวมหาลัยน่ารักน่ารักสักคนกลับพังทลายกลายเป็นจูบที่เร่าร้อนเกินกว่าที่ผมจะตามทัน

   ในเกมส์นี้ผมถูกต้อนให้จนมุม ถูกบังคับให้ตอบรับในสิ่งที่พี่เขากำลังเชื้อเชิญ ผมไม่เข้าใจจริงจริง

   ไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่เขากำลังทำอยู่กับผมตอนนี้เลย


***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***

มีต่อ

หัวข้อ: Re: [Mpreg] ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ 16/09 [CH.3] จุมพิต
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 16-09-2015 02:34:19
ต่อ

“น้องผีเสื้อ น้องก็รู้ว่ามันผิดที่จะใช้มนตราลักพาเอามนุษย์มาเช่นนี้”ร่างสูงใหญ่ใบหน้าดุดันราวกับรูปปั้นเทวาแห่งสงครามกล่าวด้วยท่าทีตำหนิน้องสาวร่วมสายเลือดของตนเองด้วยท่าทีที่เป็นกังวล

   “น้องรู้ว่ามันผิด แต่น้องหลงรักเขาตั้งแต่แรกเห็น เขารูปงามเกินกว่าที่น้องจะหักห้ามหัวใจดวงนี้เอาไว้ ความรักที่น้องมีต่อเขามันมากล้นเหลือเกินพี่ธารา ต่อให้น้องต้องตาย น้องก็จะทำเขาเป็นของน้องให้จงได้ ชีวิตนี้น้องไม่ต้องการสิ่งใดอีกแล้วนอกจากได้เขามาเคียงคู่”ร่างท้วมใหญ่ใบหน้าคล้ำเอยด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ราวกับกำลังต้องมนต์ให้ตกอยู่ในห้วงแห่งรัก

   “ถ้าเช่นนั้นน้องก็จงดูแลเขาให้เป็นอย่างดี เขาเป็นมนุษย์ มิใช่สัตว์เลี้ยง จงอย่าได้คิดทิ้งขว้างหรือทำอันตรายต่อเขาเป็นอันขาด”

   “น้องจะดูแลเขาด้วยชีวิต ชาตินี้ทั้งชาติชีวิตของน้องจะเป็นของเขาเพียงผู้เดียว”ผีเสื้อสมุทรกล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ก่อนจะแปลงกายให้เป็นหญิงงาม เรือนร่างสะโอดสะองนุ่งน้อยห่มน้อย

   แล้วใช้มือเรียวบางดันก้อนหินใหญ่เปิดปากถ้ำปากถ้ำออก เดินเข้าไปภายใน แล้วดันมันปิดประตูถ้ำไว้ดังเดิม

   ทิ้งให้ธาราสมุทรยักษารูปงามผู้เป็นพี่ส่ายหน้าด้วยความระอาใจกับการกระทำที่เอาแต่ใจของผู้เป็นน้อง

   ที่รู้ทั้งรู้ว่าเผ่าพันธุ์ของยักษ์นั้นจะผูกติดชีวิตกับคู่ครอง หากเมื่อใดที่อายุขัยของคู่ชีวิตสิ้นสุด เมื่อนั้นชีวิตตนก็จะสิ้นตามไป

   ชีวิตของมนุษย์ช่างสั้นยิ่งนักหากเทียบอายุขัยกับเผ่าพันธุ์ยักษาที่มีอายุขัยไม่รู้จบสิ้น


   แต่หากเพราะความเป็นอมตะที่ยั่งยืนนั้นเป็นสิ่งที่น่าเศร้ายิ่งนักเมื่อต้องมองดูสิ่งที่เปลี่ยนผันไปตามกาลเวลา โดยที่ตนเองไม่เคยเปลี่ยนแปลงตามสิ่งรอบตัว

   หลายร้อยปีผ่านมาจึงได้กำเนิดลูกแก้วอายุรา โดยการบำเพ็ญเพียรของยักษ์เฒ่า ที่สามารถบันดาลให้เผ่าพันยักษา สามารถมีการเวียนว่ายตายเกิดเช่นสิ่งมีชีวิตทั่วไป ทำให้อายุขัยของเผ่าพันยักษ์อยู่ได้เพียงสามร้อยปี จากเดิมที่ไม่มีวันจบสิ้น หรือเป็นเพียงสามเท่าของเผ่าพันธุ์มนุษย์


***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***

   “ทะ ทำ อะไรน่ะ บะ บ้ารึไง ปะเป็นเกย์ ระ เหรอ”

   ผมผลักพี่ธาราออกอย่างแรงทันทีที่พี่เขาคลายอ้อมแขน ผมยกมือขึ้นเช็ดปากตัวเองไปมาอย่างเจ็บใจ ทั้งโกรธทั้งอายที่พี่เขามาทำแบบนี้ ไม่น่าเสียท่าเลยจริงจริง

   “โทษที่เจ้าไม่ทำตามคำของข้า”

   “ละ แล้วทำไมต้องจูบเล่า  ไอ้บ้าเอ้ย ไอ้เกย์โรคจิต” ไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรมาต่อว่าผู้ชายคนนี้แล้วจริงจริง

   ไอ้ลิเกย์บ้านี่มันจูบผม จูบที่เรียกว่าจูบจริงๆไม่ใช่เอาปากแตะปาก มันเอาลิ้นเข้ามาในปากผมด้วย

   ไอ้บ้านี่มันช่างหน้าด้านนักมันน่าโมโหไหมล่ะ นี่จูบของผมนะ จูบแรกด้วย จูบแรกกับสาวน่ารักๆ กับชีวิตวัยรุ่นในฝันของผมพังทลายลงไปแทบจะทันที แล้วทำไมผมถึงปล่อยให้เขามาจูบได้ล่ะเนี่ย

   ไม่ใช่แล้ว!! ผมขัดขืนพี่เขาแล้วต่างหาก เขาใช้กำลังบังคับผม ใช่ ผมไม่ได้สมยอม ไม่ได้สมยอมเลยสักนิด ผมไม่ผิด พี่เขาต่างหากที่เป็นคนผิด

   ใจเย็นเย็นสิมณี ตั้งสมาธิเอาไว้ ท่องเอาไว้ อย่าเดินเข้าไปในเส้นทางสีม่วงเด็ดขาด

   ผมกำลังถูกดึงเข้าไปในเส้นทางสีม่วง

   เมืองทองหนอ ขุดทองหนอ ไม่นะ เหมืองทองหนอ ขุดทองหนอ

   ไม่จริงใช่ไหม ไอ้พี่ธารามันเป็นเกย์จริงๆใช่ไหม หรือว่าผมกำลังคิดไปเอง ใครก็ได้ ช่วยบอกผมที

   แล้วทำไมพี่เขาต้องมาทำอย่างนี้กับผมด้วย หรือว่าพี่เขากำลังจีบผม

   แล้วคนบ้าที่ไหนจะมาจีบกันด้วยการชวนไปผสมพันธุ์แบบนี้ นี่มันไม่ใช่ นี่มันต้องไม่ใช่เรื่องจริง

   ชีวิตวันรุ่นของไอ้มณี บ้าไปแล้ว ไอ้มณีเสียจูบไปแล้ว เสียจูบให้ผู้ชาย

   ผมมองซ้ายขวาอย่างตื่นตระหนกกลัวว่ามีใครจะมาเห็นว่าเมื่อกี้ผมกำลังจูบอยู่กับพี่ธารา

   ถ้ามีใครมาเห็นเข้าล่ะก็ ชีวิตวัยรุ่นหน้าตาดีอย่างที่วาดเอาไว้ของผมคงจะพังทลายหายไปในพริบตาทันที

   แล้วทำไมพี่ธาราเขาถึงได้ยกยิ้มมุมปากเหมือนเยาะเย้ยผมแบบนั้นล่ะ นี่เขากำลังเยาะเย้ยผมอยู่ใช่ไหม เขากำลังว่าผมอ่อนประสบการณ์จูบอยู่ใช่ไหมถึงได้มองผมด้วยท่าทีแบบนั้น มันจะมากไปแล้ว

      “รสจูบเจ้า ช่างหอมหวานเหมือนเมื่อร้อยปีที่แล้วยิ่งนัก”

   พี่ธาราพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่ดูยังไงมันก็เหมือนกับกำลังหยอกเย้าผมอยู่ ทำให้ผมหน้ายิ่งแดงหนักเข้าไปใหญ่

   ดวงตาสีดำสนิทของเขาจ้องมองผมเหมือนกับกำลังจะมองเข้าไปข้างในร่างกายผมยังไงยังงั้น

   อีกทั้งตอนนี้เขากำลังยิ้ม

   “หวะ หวานบ้าบออะไร บอกไว้ก่อนนะ ว่าฉันไม่ใช่เกย์ อย่าเข้าใจผิด ละ แล้วก็ อย่าบอกใครล่ะ ไอ้บ้าเอ้ย”ผมชี้หน้าพลางพูดบอกเขาอย่างเจ็บใจ

   หันหลังเตรียมออกเดินหนี ความคิดมันตีกันไปหมด จนเริ่มไปไม่เป็น ทำอะไรไม่ถูก ยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองอย่างหงุดหงิด ทั้งโมโหทั้งเจ็บใจจนไม่รู้จะเลือกเอาอย่างไหนก่อนดี

   “เดี่ยวสิ”พี่ธาราเรียกเอาไว้ก่อนจะยื่นมือมาจับที่แขนผมรั้งเอาไว้

   “ฮะ เฮ้ย บะบอกไว้ก่อนนะ มะไม่ได้กลัว อย่าเข้ามาใกล้ ไปไหนก็ไปเลย ถ้าจูบอีกผมต่อยแน่”

   ผมสะบัดมือเขาออกทันทีพลางถอยหลังออกจากเขาหลายก้าวเพื่อที่จะตั้งหลักหากถูกจู่โจมอีกรอบจะได้หนีทัน

   แค่โดนจูบครั้งเดียวมันก็หนักเกินพอแล้วสำหรับชีวิตวัยรุ่นที่วาดฝันเอาไว้   ไอ้จูบแบบนี้ใช่ไหมที่เขาทำกันในหนังโป๊ที่เคยดู มันไม่เห็นสยิวแบบในหนังโป๊เลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับตื่นเต้นจนหัวใจแทบวายมากกว่า

   “แต่ข้าหิว”พี่ธาราบอกเสียงเบาทำให้ผมหันไปมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ

   คนอะไรจะเปลี่ยนอารมณ์ได้ไวขนาดนั้น ได้ข่าวว่าเมื่อกี้พี่เขาเพิ่งจะจูบผมไป

   “เป็นยักษ์ไม่ใช่รึไง นู่นไง หมาเดินอยู่นั่นน่ะเห็นไหม จับกินเอาสิ”ผมหันไปบอก

   พอดีเห็นไอ้ด่างหมาที่ยามเลี้ยงเอาไว้เดินผ่านไปถึงได้พยักหน้าบอกพี่เขา ถ้าเป็นยักษ์จริงก็ต้องกินสัตว์เป็นตัวตัวสิ จะมาบอกผมทำไมกัน

   หรือว่าที่บอกว่าหิวคือเขาจะจับผมกิน ยิ่งคิดก็ยิ่งไปกันใหญ่

   “เจ้านี่ช่างดื้อด้านยิ่งนัก”

   “เออ แล้วไงล่ะ ยืนอยู่นั่นเลยนะ ไม่ต้องเดินเข้ามา”ผมชี้หน้า พลางเดินถอยหลังเมื่อเห็นว่าพี่เขาเดินเข้ามาใกล้

   “เจ้ากลัวข้าอย่างนั้นรึ”

   “ไม่ได้กลัว สักหน่อย”ผมตอบแทบจะทันทีพลางยืดอก ไม่อยากจะบอกว่ากลัวพี่เขาจับผมจูบอีกรอบต่างหาก

   “งั้นไปเถอะ ข้าหิวแล้ว”

   “หิวก็เรื่องของคุณสิ มะ ไม่เกี่ยวกับผมสักหน่อย”

   “ไปเถอะ มือนี้ข้ารับผิดชอบเอง”พี่ธาราว่าพลางยกยิ้มเมื่อเห็นว่าผมเริ่มเหล่มองเขาด้วยท่าทีสนใจ

   ใครจะไม่สนใจล่ะ นี่พี่เขากำลังบอกว่าจะเลี้ยงผมอยู่ใช่ไหม ว่าแต่ทำไมผมถึงไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้พี่เขาเดินเข้ามาใกล้จนมายืนอยู่ข้างหน้าผมแล้ว

   “เลี้ยงจริงเหรอ”

   “ข้ามีสัจจะ ไม่โกหกเจ้าหรอกอภัยมณี”

   “งะ งั้นอาหารญี่ปุ่นได้ไหม”ผมถาม พลางคิดแผนจะฉีกกระเป๋าพี่เขาให้สมกับจูบแรกที่เสียไปเลย

   เอาคืนให้สาสมที่บังอาจมาจูบไอ้มณีคนนี้ได้

   “นั่นเป็นสิ่งข้าโปรดปราณ”พี่ธาราพลางยิ้มพยักหน้ารับเบาเบาทำให้ผมแสยะยิ้มออกมาทันที
   คอยดู จะกินให้ขนหน้าแข้งร่วงกันไปข้างหนึ่งเลย
   
   

   “ใครจะขับ”ผมถามเมื่อเดินมาถึงลานจอดรถ

   “ข้าขับเอง”

   “ขับเป็นรึป่าว มอไซต์อ่ะ”ผมถามอย่างไม่แน่ใจ

   คนที่ดูดีมีชาติตระกูลอย่างพี่เขาน่ะเหรอจะขับมอเตอร์ไซเป็น

   ดูท่าทางการมองมอเตอร์ไซยังมองแบบงงงงอยู่เลยไม่ใช่รึไง ยังมีหน้าจะมาอาสาขับ ตกลงพี่เขาไม่เต็มบาทหรือว่าอะไรกันแน่ ผมล่ะไม่เข้าใจ ไม่รู้จะสรรค์หาคำไหนมาเปรียบเปรยดี ดูท่าแล้ว ไม่รู้ว่าเคยนั่งมอเตอร์ไซบ้างรึป่าว

   “ไม่เคย แต่ก็คงไม่ยาก”

   พี่ธาราตอบพลางยักไหล่ทำให้ผมหันไปถลึงตาใส่แทบจะทันที เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด แล้วยังมีหน้าจะมาอาสาขับเอง คนคนนี้นี่มันยังไง ถ้าไม่ติดว่าผมเห็นเขาเป็นคนเพี้ยนเพี้ยนผมคงคิดว่าพี่เขากำลังกวนตีนผมอยู่เป็นแน่

   “ไม่ยากอะไร ไม่เคยขับมอเตอร์ไซเลยรึไง”ลูกคุณหนูจริงๆ ผมพูดพลางหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซออกมาเสียบที่เต้ารับก่อนจะถอยมันออกมา

   “ไม่เคย แต่คิดว่าคงทำได้”

   “เชื่อก็บ้าแล้ว ขับมอไซต์นะ ไม่ใช่ปั่นจักรยาน จะได้หัดกันง่ายๆ ขืนให้ขับล่ะตายคู่กันพอดี”ยังมีหน้ามาบอกว่าจะขับเองทั้งที่ขับไม่เป็นพี่เขา เพี้ยนหนักมากจริงๆ ชักเริ่มสงสัยว่าความคิดของพี่เขาเป็นยังไงกัน ทำไมถึงได้สุดยอดจนไม่รู้จะบรรยายออกมาด้วยคำพูดอะไรอย่างนี้

   “งั้นเจ้าก็ขับ”

   “เออ นั่นแหละ ขับเองดีกว่า ถอยไปล่ะ ห้ามนั่งใกล้เด็ดขาด นั่งท้ายๆเบาะจนสุดเลยนะ ถ้าเข้าใกล้จะยกล้อให้ร่วงเลย”ผมพูดขู่ พลางปั้นหน้าโหด ที่ไม่รู้ว่ามันดูแล้วจะโหดสักแค่ไหน

   ว่าแต่มันจะดีเหรอที่ยอมให้พี่เขานั่งซ้อนแบบนี้ เมื่อกี้พี่เขายังจูบผมอยู่เลย  แต่ถ้าพี่เขาเกิดตุกติกล่ะก็ คอยดูจะยกล้อให้ร่วงกลางถนนกันไปเลย
   



   พอถึงร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิยาลัยผมก็ตรงดิ่งเข้าไปนั่งจับจองพื้นที่ วางตัวอย่างกับเป็นเจ้ามือมาเอง

   ผมเปิดเมนูออกพลางสอดส่ายสายตาหาเมนูที่คิดว่าแพงที่สุดอร่อยที่สุด ช่วยไม่ได้ เขาอยากรับปากว่าจะเลี้ยงผมเอง

   ลองดูว่าจะมีปัญญาจ่ายแค่ไหน ถ้าเงินไม่พอจ่ายจะทิ้งให้นั่งล้างจานอยู่ที่ร้านนี่ไปเลย


   “เป็นยักษ์ไม่ใช่รึไง กินได้เหรอ”ผมถามพลางหรี่ตาอย่างจับผิดเมื่อพี่ธาราเปิดเมนูบ้าง

   ก็พี่เขาบอกว่าตัวเองเป็นยักษ์ แล้วเขาจะมากินอาหารของคนได้ยังไงกัน

   “ยักษ์ก็เหมือนมนุษย์ ไม่ต่างกันตรงที่ชอบกินเนื้อ”

   “หึ ให้มันจริงเถอะ”ผมว่าพลางชี้เมนูสั่งอาหารพนักงานไปหลายชุด

   พอสั่งเสร็จก็หันไปยักคิ้วให้พี่เขาอย่างสะใจนิดหน่อย คงจะอึ้งสิท่าที่เห็นผมสั่งของแพงแพงเยอะขนาดนี้

   แต่ทำไมพี่เขาถึงยิ้มรับคล้ายกำลังหัวเราะผมอยู่กันนะ ไม่เห็นจะมีทีท่าว่าเจ็บใจผมสักนิด

   แทนที่พี่เขาจะโดนเอาคืน ทำไมผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบไปซะได้

   ผมมองหน้าพี่ธาราที่กำลังยิ้มอย่างพอใจ แล้วสั่งเมนูอาหารที่ทำให้ผมต้องตาโต

   เมื่อเมนูที่สั่งล้วนเป็นของสด ดิบดิบทั้งนั้น อีกทั้งพี่เขายังสั่งมาเกือบห้าสิบกว่าจาน นี่กินหรืออะไรกันเนี่ย


   “มองหน้าข้ามีอะไรรึ”พี่ธาราหันมาถามหลังจากส่งเมนูคืนพนักงาน ดวงตาสีดำสนิทของเขาคล้ายกับมีประกายขบขันอยู่ภายในทำให้ผมยิ่งมองก็ยิ่งตกใจกับเมนูอาหารที่เขาสั่ง

   “ไม่มีอะไรสักหน่อย แล้วนั่นกินคนเดียวเลยเหรอ”ผมถามพลางบุ้ยหน้าอย่างกลัวเสียฟอร์ม

   ตกลงไอ้ที่พี่เขาบอกว่าตัวเองเป็นยักษ์เนี่ย เรื่องกินผมคงต้องคิดดูใหม่


   ผมลอบมองอาหารจานแล้วจานเล่าที่ทยอยเสริฟออกมาจากหลังร้าน จ้องมองดูพี่ธารากินไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด






   “กินเข้าไปได้ไงหมดนั่น”ผมพูดเสียงเบาพลางมองจานเปล่าที่วางกองเรียงเป็นคอนโดจนสูง

   อาหารที่พี่เขากินไปมันเทียบเท่ากับของคนสิบคนกินเลยก็ว่าได้ แค่เห็นผมก็พะอืดพะอมแทนแล้วไอ้ไอ้ของสดกลิ่นคาวแบบนั้น

   “ก็ข้าเป็นยักษ์ แค่นี้ถือว่าเล็กน้อย”

   “ยังจะว่าไปเรื่อยอีก”ผมบ่นเบาเบา ไม่ว่ายังไง พี่เขาก็ยังจะยืนยันอยู่ดีว่าตัวเองเป็นยักษ์

   เป็นยักษ์ภาษาอะไรกัน ถึงได้เหมือนมนุษย์ขนาดนี้ ทั้งการวางตัว การพูดจากับคนอื่นๆถ้าไม่นับรวมผมล่ะก็ ดูจากภายนอกเขาก็แค่คนคนหนึ่งเหมือนๆกับคนทั่วไป

   ถ้าไม่นับรวมว่าหน้าตาหล่อกว่าชาวบ้านนิดหน่อย กินจุกว่าชาวบ้านหลายเท่า ตัวใหญ่กว่าชาวบ้านพอประมาณ แล้วก็ดูรวยกว่าชาวบ้าน ดูจากบัตรเครดิตสีทองวาววับตอนที่จ่ายค่าอาหาร นอกนั้นก็ไม่มีอะไรผิดแปลก เขี้ยวก็ไม่มี ตัวก็ไม่ได้ใหญ่เท่าตึก  ทำไมเขาถึงชอบบอกว่าตัวเองเป็นยักษ์กันนะ


   ผมทำสีหน้าครุ่นคิดพลางมองไปที่คนข้างข้างอย่างไม่เข้าใจ ทำไมพี่เขาต้องเข้ามาหาผมแล้วพูดเรื่องราวแปลกแปลกด้วย

   ถ้าพี่เขาไม่มีนิสัยที่ผมคิดว่ามันเพี้ยนมากล่ะก็ ผมคงจะคิดดีกับเขามากกว่านี้

   ผมเดินไปเรื่อยๆผ่านทางม้าลายเพื่อที่จะไปยังลานจอดรถมอเตอร์ไซที่อยู่ชั้นใต้ดินของตัวห้างสรรพสินค้า โดยที่ไม่ได้สังเกตุว่าพี่ธาราไม่ได้อยู่ข้างข้างผมแล้ว

   
   “อะ อ่าว ไปไหนของเขา เมื่อกี้ยังอยู่”หันมาอีกทีพี่ธาราก็หายไป ทำให้ผมยกมือขึ้นเกาหัวเบาเบาอย่างมุนงง

   คนอะไรนึกจะมาก็มา นึกจะหายก็หาย แต่ช่างมันเถอะ เดี๋ยวก็คงโผล่มาเอง อีกอย่างตอนนี้ผมก็มีที่จะให้คิดมากเกินที่จะมาสนใจเขา


   “ระวัง!!!!!!”

   เอี๊ยดดดด

   เสียงร้องดังทำให้ผมหันไปมองอย่างตกใจ แต่ไม่ทันแล้ว แสงไฟของรถสาดเข้ามาที่ตัวผมจนผมต้องหลับตาลงแทบจะทันที เสียงเบรกจนล้อรถเสียดกับถนนดังก้องไปทั่ว ผมหลับตาแน่นสนิทด้วยความหวาดกลัวก่อนจะยกมือกุมหัวตัวเองแล้วย่อตัวลงอย่างตกใจ


   ปังงงงงงง

   เสียงชนสนั่นดังไปทั่วเรียกให้คนที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองด้วยความสนใจ

   ไม่นานคนขับก็ลงมาจากรถด้วยสีหน้าที่ดูตื่นตระหนกไม่น้อย พลางรีบเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกงอย่างร้อนรน

   เพราะมัวแต่คุยโทรศัพท์จึงไม่ทันเห็นว่ามีคนข้ามทางม้าลายอยู่

   “เป็นอะไรไหม”เสียงทุ้มต่ำกระซิบเรียกผมลืมตาขึ้นมองด้วย มือทั้งสองข้างมันสั่นจนไม่อาจจะควบคุมได้

   นี่ผมยังไม่ตายใช่ไหม ทำไมผมถึงไม่เจ็บเลยสักนิด

   “มะไ ม่เป็นไร”ผมตอบกลับด้วยความมึนงง พยายามตั้งสติมื่อครู่ รถคันนี้วิ่งมาด้วยความเร็ว ใกล้เพียงแค่เอื้อม ทำไมผมถึงไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด ทำไมผมถึงไม่โดนชน

   แล้วพี่ธาราล่ะ พี่เขามาได้ยังไง ในเมื่อเมื่อกี้พี่เข้าไม่ได้อยู่ตรงนี้กับผม

   ผมหันไปมองรถที่จอดสนิททับเส้นทางม้าลาย กันชนของรถบุบลึกเหมือนกับกระแทกกับอะไรสักอย่างจนมันยุบลงไป เหมือนกับว่าถูกค้อนหนักๆทุบจนมันบุบ

   ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมแปลกใจเข้าไปใหญ่แต่นั่นก็ไม่แปลกใจเท่ากับตรงกันชนของรถส่วนที่ยุบนั้นมีมือของธาราทาบอยู่  มือที่เริ่มมีรอยปริของบาดแผล

   แล้วที่สำคัญ เลือดที่ไหลซึมออกมานั้นมีสีเขียวเข้มราวกับสีของมรกตจนน่าหวาดกลัว

    นั่นมันเลือดใช่ไหม!! ของเหลวที่ออกมาจากมือของพี่ธาราคือเลือดใช่ไหม

   เลือดของพี่ธาราเป็นสีเขียว!!!!!!



***---***---***---***---***---***---***---***---***---***---***---***---***---***---***---***---***---***---***

16/09/58

ถูกผิดตรงไหนติชมกันได้ค่ะ
ยินดีตอบรับคำติชมเพื่อพัฒนาผลงานค่ะ



หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 16/09 [CH.3] จุมพิต (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 16-09-2015 05:01:33
ก็บอกว่าพี่ธาราเป็นยักษ์ไงลูกมณี แบบนี้คงไม่คิดว่าพี่เค้าเป็นเอเลี่ยนเลือดสีเขียวหรอกนะ
รอตอนต่อไปเนาะ
หัวข้อ: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 16/09 [CH.4] ยักษ์สมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 16-09-2015 16:23:18
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย::นางผีเสื้อสมุทรเป็นยักษ์ที่ได้ทำความดีความชอบเอาไว้พระอิศวรจึงให้ถอดหัวใจใส่ไว้ในก้อนหินได้ ต่อมาได้กำเริบว่าตนเองเป็นอมตะจึงได้ไปต่อสู้กับพระเพลิงจนร่างกายถูกไฟเปาไหม้ วิญญาณได้ไปสิงอยู่ในก้อนหินที่ถอดหัวใจซ่อนเอาๆไว้ นานวันเข้าก้อนหินนั้นได้กลับกลายเป็นร่างกายที่อัปลักษณ์ แต่นางผีเสื้อสมุทรสามารถแปลงกายให้เป็นหญิงงามได้ ต่อมาจึงได้เจอพระอภัยมณีแล้วตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นจึงได้ลักพาพระอภัยมณี โดยที่พระอภัยมณีไม่ยินยอมและรู้อยู่แล้วว่านางเป็นยักษ์เพราะแววตาที่ไร้ชีวิตและกลิ่นกายที่เหม็นสาบผิดกับมนุษย์ แต่นางผีเสื้อสมุทรก็บังคับพระอภัยมณีโดยพระอภัยมณีออกอุบายว่าถ้าหากยอมล่ะก็หากวันหน้าผิดใจกันห้ามฆ่ากันเด็ดขาด นางผีเสื้อสมุทรตอบตกลงทันทีแล้วก็มีอะไรกัน จากนั้นก็เกิดสินสมุทร

** ชดใช้หนี้ครั้งที่ 4 ยักษ์สมุทร **


   “เอ่อ คือ เป็นอะไรไหม”

   ผมถามเสียงเบาหลังจากที่พากันเดินมาที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้า

   ผมจ้องมองมือที่มีผ้าเช็ดหน้าของผมคลุมอยู่โดยที่มีของเหลวสีเขียวมรกตไหลซึมออกมา โชคดีที่ความตกใจของผมทำให้ผมรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาคลุมมือเขาเอาไว้ทัน ประกอบกับแสงไฟที่น้อยจนเห็นภาพได้แค่ลางๆ คนอื่นที่มามุงดูจึงไม่มีใครสังเกตเห็นได้ทัน

   หรือว่าเห็นไปแล้วก็ไม่รู้ ผมเองก็ไม่แน่ในเท่าไร

   แต่ยังไงซะตอนนี้เรื่องพวกนั้นมันก็คงไม่สำคัญเท่ากับตอนนี้ เลือดของพี่ธาราเป็นสีเขียว สีเขียวจริงๆ

   ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าคนอย่างไอ้มณีจะต้องมาพบเจอเรื่องแบบนี้

   “ข้าไปไม่เป็นอะไรหรอก มีก็แต่เจ้าที่มัวแต่เหม่อลอยจนเกือบโดนรถนั่นชน”พี่ธาราหันมาตอบทำเอาผมรู้สึกผิดไปเลยทีเดียว

   “งะ งั้นเหรอ แล้วแผลนั่น เอ่อ จะเอายังไง”

   ผมถามอ้ำอึ้ง จะพาไปโรงพยาบาลคนอื่นอื่นเขาก็ได้แตกตื่นกับไอ้เลือดสีเขียนนั่นพอดี เกิดมาเพิ่งจะเคยพบเคยเห็น ตอนนี้ผมเองก็ยังช็อคไม่หายเลยด้วยซ้ำ

   “ปล่อยไว้อย่างนี้ล่ะ เดี๋ยวแผลก็หายไปเอง”

   “จะบ้าเหรอ”ผมร้องเสียงดัง โชคดีที่ตอนนี้ไม่ค่อยมีคนอยู่แล้ว ถึงจะเลือดสีเขียวก็เถอะ แต่แผลนี่มันคงไม่ได้หายเองง่ายง่ายหรอกมั้ง หรือว่ามันจะหายเองจริงจริงถามที่พี่เขาบอก

   ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองมึนแล้วก็ไปไม่ถูกเลยทีเดียว

   ตอนนี้อยากจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ ถ้าพี่เขาเป็นยักษ์จริงๆ ผมไม่ต้องผสมพันธ์กับพี่เขาจริงจริงตามที่พี่เขาบอกรึไง แค่คิดก็ขนลุกแล้ว

   “ข้าไม่เป็นอะไร แล้วเจ้าล่ะ ขับรถกลับไหวหรือไม่”พี่ธาราหันมาถามผมด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความห่วงใย ทำเอาผมยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก

   “ไหวอยู่ ไม่เป็นไร”ผมตอบพลางเบือนหน้าหลบ แต่ก็ยังไม่วายเหลือบมองดูมือที่มีผ้าเช็ดหน้าปิดเอาไว้อยู่ดี

   “งั้นเจ้าก็ขับรถกลับบ้านดีดีล่ะ”

   “คือ เอ่อ แล้วพี่จะกลับยังไง”ผมถามออกไป สิ่งที่เขาช่วยเหลือผมมันมากเกินไปจนทำให้ผมยอมเรียกพี่เขาว่าพี่ได้จริงจริงแล้ว แต่ถึงยังไงผมก็ยังไม่ไว้วางใจเขาอยู่ดี

   “นั่งรถเมล์กลับ”

   “ให้ผมไปส่งก็ได้นะ เจ็บมืออยู่ไม่ใช่รึไง รถเมล์ตอนกลางคืนมันขับไม่ดี เดี่ยวจะเจ็บเข้าไปใหญ่ เห็นว่าช่วยหรอกนะ ไม่ได้อยากไปส่งเท่าไรหรอก”ผมบอกแก้เก้อ ทำไมรู้สึกว่าช่วงนี้ผิวหน้าตัวเองร้อนขึ้นบ่อยเกินไปยังไงก็ไม่รู้

   “ก็ได้ ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้น”


   
   แสงไฟสลัวสองข้างทางสาดลงมาบนพื้นถนนทำให้ผมพอจะเห็นทางอยู่บ้าง ผมขับรถลัดเลาะเข้ามาในซอยที่แยกออกมาจากถนนใหญ่ สองข้างทางเป็นป่าที่มีต้นไม้ขึ้นสูงทึบจนดูน่าขนลุก มีเพียงไฟถนนไม่กี่ดวงเท่านั้นที่ส่องสว่างต่อระยะทางของซอยที่ลึกมากของซอยนี้

   ผมไม่อยากจะนึกเลยว่า ถ้าปล่อยให้พี่เขานั่งรถสองแถวมาจากห้างสรรพสินค้า พี่เขาจะต้องเดินเข้ามาอีกลึกแค่ไหน
   มองดูสองข้างทางไม่มีบ้านคนเลย ไม่มีแม้กระทั่งคนที่ผ่านไปมา ไม่ยักรู้ว่ามีที่แบบนี้อยู่ในจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยวแบบนี้อีก

   แล้วพี่เขาเข้าออกทุกวัน พี่เขาไม่กลัวบ้างรึยังไง

   “อีกไกลไหม”

   ผมเปิดหมวกกันน็อกขึ้นแล้วถามแข่งกับเสียงลมที่พัดแรง ความหนาวในเวลากลางคนทำให้ผมต้องห่อตัวลงแต่นั่นก็ไม่เท่ามือที่กำลังจับเอวของผมอยู่อย่างฉวยโอกาส

   ถ้าเป็นสาวมหาลัยน่ารักน่ารักมาซ้อนท้ายล่ะก็ ผมจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่มันผู้ชาย ผู้ชายที่มีเลือดสีเขียว ที่ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าพี่เขาเป็นตัวอะไร

   ถ้าไม่ใช่ว่าพี่เขาช่วยผมเอาไว้ ผมคงถีบพี่เขาตกรถไปนานแล้ว

   
   “สุดทางข้างหน้าเจ้า”พี่ธาราบอกก่อนจะชี้ไปด้านหน้า

   ทำให้ผมมองเห็นรั้วบ้านที่สูงจนท่วมหัว เอาคนสองคนยืนต่อกันแล้วยังสูงไม่ถึง

   กำแพงรั้วบ้านที่ทึบจนไม่สามารถมองเห็นภายในบ้าน อีกทั้งหลังคาบ้านสไตล์โมเดิร์นสองชั้นหลังใหญ่ที่สูงเลยพ้นกำแพงบ้านมาพอให้เห็นทำให้ผมอดทึ่งไม่ได้ที่มีบ้านแบบนี้อยู่ในที่ที่ไร้ผู้คนอย่างนี้

   
   “หลังนั้นเหรอ”ผมถามย้ำเพื่อความแน่ใจกับบ้านหลังใหญ่ที่ผมกำลังเห็นอยู่

   “ใช่ หลังนั้นนั่นล่ะ”พี่ธาราย้ำ

   ทำให้ผมเริ่มคิดว่าพี่เขาหลอกผมมารึปล่าว ทำไมบ้านหลังใหญ่แบบนี้มาตั้งอยู่ตรงนี้แล้วยังไม่มีบ้านคนอื่นเลย ทำอย่างกับมาซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น

   แล้วไอ้คนที่อยู่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ ใช้บัตรเครดิตสีทองอร่ามขนาดนั้น ทำไมถึงไม่มีรถขับกับเขา แต่กลับขึ้นรถเมล์ไปไหนมาไหน มันก็น่าสงสัยอยู่ไม่ใช่รึไง

   ตอนนี้เลยกลายเป็นหลายเรื่องเลยที่ผมยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจเกี่ยวกับตัวพี่เขา


   ผมจอดรถหน้าบ้านที่คิดว่าเป็นบ้านของพี่เขาตามที่พี่เขาบอก พลางมองดูมือที่มีผ้าเช็ดหน้าผมคลุมอยู่ ไม่ว่ายังไง ผมก็ยังคงสงสัยไม่หายอยู่ดี

   “เอ่อคือ ไปแล้วนะ”ผมบอกพลางมองไปยังประตูบ้านที่ถูกออกแบบมาให้ทึบจนมองไม่เห็นภายในบ้าน ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสร้างให้ทึบบังตัวขนาดนั้นด้วย

   หรือว่าพี่ธาราขี้ตู่ว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านตัวเอง เพราะคนที่มีบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้เขาก็ต้องมีรถหรูหรูขับกันไม่ใช่รึไง

   แถมบรรยากาศก็เงียบเหงาวังเวงเหมือนไม่มีใครอยู่อีกต่างหาก ไม่รู้ว่าข้างในจะเป็นบ้านแบบไหนกันทำไมถึงต้องสร้างกำแพงสูงๆประตูทึบๆปกปิดแบบนี้ด้วย

   “เจ้าอยากจะเข้าไปข้างในไหมล่ะ”

   เสียงพี่ธาราถามทำให้ผมหันขวับไปมองพี่เขาแทบจะทันที สลับกับมองประตูบ้านพี่เขา นี่พี่เขากำลังชวนผมเข้าในข้างในจริงๆเหรอ

   ความจริงผมก็ไม่ได้อยากที่จะอยู่สองต่อสองกับพี่เขาสักเท่าไร แต่ใจมันก็อยากรู้ว่าบ้านที่อยู่ข้างในจะเป็นยังไง

   “นี่บ้านพี่จริงจริงเหรอ”ผมถามย้ำพลางหรี่ตาลงอย่างจับผิด แต่ดูท่าพี่เขาคงไม่ได้โกหกอะไร เพราะเขาดูท่าทางนิ่งเกินกว่าที่จะโกหก

   “บ้านชั่วคราวน่ะ”

   บ้านชั่วคราว? ตอบมาได้ นี่น่ะเหรอบ้านชั่วคราว แล้วถ้าบ้านจริงจริงพี่เขาล่ะ จะขนาดไหน

   “เข้าไปได้เหรอ”

   “ได้สิหากเจ้าต้องการ”

   พี่ธาราตอบพลางกดรหัสบนแป้นกดหน้าประตูบ้าน ไม่นานประตูบ้านบานเล็กก็ดีดตัวแง้มออกเล็กน้อยแล้วพี่ธาราก็เปิดมันออก
   “เข้ามาสิ”เขาพยักหน้าเรียกพลางเบี่ยงตัวให้ผมจูงรถมอเตอร์ไซเข้าไปในตัวบ้าน

   ทันทีที่ผมเดินเข้ามาในตัวบ้าน โมชั้นเซ็นต์เซอร์ก็ทำงานทันที ไฟภายในสวนของตัวบ้านเริ่มติดทีละดวง

   แสงสีส้มเริ่มสาดลงมาเผยให้เห็นพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดที่ปลูกเอาไว้จนเต็มสวนอย่างสวยงาม

   ผมมองไปรอบรอบด้วยความแปลกใจ กำแพงรั้วบ้านที่ว่าสูงแล้ว ต้นไม้ที่อยู่ด้านในยิ่งสูงกว่า ราวกับคนออกแบบต้องการให้มันสูงเพื่อปิดกั้นสายตาจากคนภายนอก

   ตัวบ้านหลังใหญ่ที่คล้ายกับเรือนกระจกเพราะมันใสจนมองทะเห็นเกือบแทบทั้งหมดภายในบ้านที่ตกแต่องอย่างเรียบง่ายเน้นพื้นที่กว้าง

   อีกทั้งอีกฝั่งของตัวบ้านที่มองทะลุไปได้ก็มีสระว่ายน้ำขนาดพอดีที่ล้อมรอบสามด้านด้วยต้นไม้และไม้พุ่มบังตา

   ผมเพิ่งจะเคยเข้ามาในบ้านหรูแบบนี้ครั้งแรกเลย แล้วเมื่อกี้พี่เขาบอกกับผมว่าอะไรนะ บ้านชั่วคราว

   ขนาดบ้านชั่วคราวของพี่เขายังขนาดนี้ แล้วบ้านจริงจริงของเขาล่ะ ไม่เป็นคฤหาสน์พันล้านเลยรึไง

   ยิ่งคิดยิ่งสงสัย ว่าบ้านพี่เขาทำอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้รวยขนาดนี้ รวยจนหน้าหมั่นไส้ นอกจากจะหล่อแล้วยังรวยอีก ใจคอจะไม่แบ่งความดีความชอบให้ใครบ้างเลยรึยังไง

   “นี่ พ่อแม่พี่ อยู่ไหนเหรอ”ผมถาม เพราะไม่สังเหตุเห็นว่ามีใครอยู่ในบ้านหลังนี้เลยนอกจากผมกับพี่เขา

   “บิดาของข้าสิ้นอายุขัยตามมารดาของข้าไปเมือหลายสิบปีที่แล้ว”

   “อะ เอ่อ พ่อพี่ฆ่าตัวตายเหรอ”ไอ้ที่ว่าสิ้นอายุตามเนี่ย ก็คือฆ่าตัวตายตามใช่ไหม

   “มิใช่อย่างที่เจ้าคิดหรอก เผ่าพันธุ์ยักษ์จะผูกชีวิตไว้กับคู่ครอง หากวันใดที่คู่ครองสิ้นอายุขัย ก็จักตายตามไปในไม่ช้า”

   ยิ่งพี่เขาพูดก็ยิ่งทำให้ผมสงสัยหนักเข้าไปอีก กับไอ้เรื่องที่มีแต่ความไม่น่าจะเป็นไปได้

   “ละ แล้วพี่ เอ่อ พี่เป็นยักษืจริงจริงใช่”ผมถามอ้ำอึ้ง เริ่มไม่แน่ใจว่าที่มาอยู่กับพี่ธาราเขาตามลำพังอยู่นี่มันจะดีไหม

   ถ้าหากว่าพี่เป็นยักษ์จริงๆล่ะก็ ผมอาจจะถูกเขาจับกินเอาตอนไหนก็ได้

   “หืม?”ผมร้องถามทันทีเมื่อถูกดึงมือไปจับมือที่เป็นแผลอยู่ ตอนนี้ผ้าเช็ดหน้าที่คลุมเอาไว้ถูกเปิดออกทำให้ผมเห็นแผลที่มีของเหลวสีเขียวซึมออกมาได้ชัดเจนขึ้น

   ทั้งรู้สึกกลัว ทั้งรู้สึกผิดไปตามตามกัน แต่ก็พยายามใจแข็งเอาไว้

   “เอ่อ จะ จับทำไมเหรอ”

   ผมถามพลางมองหน้าพี่เขาเหลอหลา หรือว่าพี่เขากำลังคิดที่จะกินผมอยุ่กัน เขาอาจจะกินผมก็ได้เพราะตอนนี้ผมกำลังล่วงรู้ความลับของเขาว่าเขาอาจจะเป็นยักษ์จริงจริงอย่างที่เขาบอก

   “เจ้าอยากเห็นไหมเล่า ร่างกายจริงของข้า”

   “คือ ละแล้ว จะกินไหม”ผมถามอ้ำอึ้ง เริ่มอยากจะกลับบ้านแล้วจริงๆ ความคิดที่ว่าพี่เขาเป็นยักษ์จริงๆเริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
 
   “กินเจ้าน่ะเหรอ”

   “อือ”ผมพยักหน้าหงึกๆ

   “ข้าไม่ใคร่กินเนื้อมนุษย์ มนุษย์นั้นกลิ่นเนื้อไม่น่าพิศมั้ยเท่ากลิ่นสัตว์กินพืช วางใจได้ ข้าไม่กินเจ้าหรอก”

   พี่ธาราว่าพลางยิ้มคล้ายกับกำลังหัวเราะ

   แล้วดึงแขนผมให้เดินตามเข้าไปภายในตัวบ้าน ด้วยความที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ผมเดินตามพี่เขาเข้าไปอย่างง่ายดาย

   ผมถูกดึงให้เดินตามไปยังส่วนหลังบ้านที่เป็นสระน้ำ ตอนนี้หัวใจของผมกำลังเต้นโครมครามอย่างบอกไม่ถูก อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าพี่เขาจะลวงผมมาฆ่าหมกป่าเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้

   แต่เพราะความอยากรู้อยากเห็น ทำให้ผมเดินตามเข้ามาในที่ทีไม่ปลอดภัยเข้าจนได้

   ถึงพี่เขาจะบอกว่าไม่กินผม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำอย่างอื่น อย่างอื่นที่ว่าผสมพันธุ์อะไรนั่น   มณีเดินตามมาทรุดตัวลงนั่งข้างสระน้ำตามแรงดึงของธารา

   “มานี่ทำไมเหรอ ไม่ทำแผลรึไง”ผมถามพลางทำสีหน้ารู้สึกผิด

   “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด แผลแค่นี้ไม่สามารถทำให้ข้าเจ็บได้หรอก”

   พี่ธาราบอกพลางฉุดให้ผมนั่งลงริมสระน้ำ

   ก่อนจะทำเรื่องที่ทำเอาผมแทบจะพูดไม่ออกเมื่อพี่เขาเอามืออีกข้างที่ไม่เจ็บกวักน้ำในสระขึ้นมาแล้วเทไปที่แผลที่มีเลือดซึมออกมา
   

   ผมมองภาพที่เห็นอย่างตกใจ นัยน์ตาของผมเบิกกว้าง ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่กำลังเห็น

   รอยแผลที่ปริแตกของพี่ธารากำลังสมานตัวอย่างน่าประหลาดใจ เหลือเอาไว้เพียงแต่คราบเลือดสีเขียวที่กำลังตกผลึกจับตัวเป็นก้อนราวกับมรกตล้ำค่า

   นี่ผมกำลังตาฝาดอยู่ใช่ไหม หรือว่าผมกำลังคิดไปเองกันแน่

   “ทะ ทะ ทำได้ไง”ตอนนี้สติของผมแทบจะหลุดลอยออกจากร่างเลยทีเดียว

   “ข้าเป็นเผ่าพันธุ์ยักษ์สมุทร น้ำสะอาดสามารถชำระล้างและสมานบาดแผลได้”

   พี่เขาตอบพลางยกยิ้มมุมปากคล้ายกับกับลังขบขันกับสีหน้าของผมที่กำลังแสดงออกอยู่ตอนนี้

   “อะ เอ่อผมว่าผมกลับดีกว่า”

   ผมว่าพลางผลุดลุกขึ้น เริ่มไม่ไว้ใจในตัวพี่เขาแล้ว ว่าพี่เขาจะไม่ทำอะไรผม ดวงตาของผมเริ่มหลุกหลิกมองซ้ายมองขวา
   “เฮ้ย วะ เหวยยยย”ผมร้องขึ้นเสียงดังเมื่อมือถูกดึงเอาไว้ พร้อมกับแรงฉุดที่มากพอจะดึงรั้งให้ผมเข้าไปหา

   
   ตูมมมมมม

   
   เสียงตกกระทบผิวน้ำดังก้องไปทั่ว ผมกลั้นหายใจยกมือขึ้นปัดป่ายไปมาอย่างตกใจ กลัวว่าตัวเองจะจมน้ำ

   ความเย็นเยียบของสายของฤดูหนาวแผ่ซ่านไปทั่วกายทำให้ผมขนลุกชัน ร่างกายจมดิ่งสู่ก้นสระ ผมหลับตาแน่นสนิทอย่างหวาดกลัว

   แต่แล้วก็มีมือมาฉุดดึงทำให้ลืมตาขึ้นมา มองผ่านสายน้ำที่ใสจนสามารถเห็นได้ทุกอย่าง

   ดวงตาของผมเบิกกว้าง อากาศในปอดทะลักออกจากปากเฮือกใหญ่ สิ่งที่ตาผมเห็นไม่ใช่ภาพในความฝัน แต่มันคือความเป็นจริง
   ใบหน้าหล่อเหลาดุดันจ้องมองมาที่กำลังจ้องมองมาทางผมทำให้ผมแทบจะหมดลมหายใจ ใบหน้าที่มีเค้าโครงดูคุ้นเคยแต่กลับ
แตกต่างออกไป เรียวคิ้วดำดกเข้มที่หนาของพี่เขาหนาขึ้นกว่าเก่า เรียงตัวสวยงาม คล้ายกับเป็นลวดลายกระหนก กอปรกับ ดวงตาสีเขียวเข้มสีมรกตที่จ้องมองมานิ่ง จมูกโด่งงองุ้มเล็กน้อยเป็นสันรับเข้ากับใบหน้าได้รูป เรียวปากหยักของพี่เขาที่กำลังยกยิ้ม
ราวกับหยอกล้อ กับเรือนผมหยักศกที่ยาวเกือบถึงไหล่ ทำให้ผมตกใจ แต่นั่นก็ไม่เท่ากับ

   คมเขี้ยวที่งอโง้งที่นออกมานั่นมาจากริมฝีปาก

   ยักษ์!!

   เป็นยักษ์จริงๆ ด้วยพี่ธาราเป็นยักษ์จริงๆ

   ไม่ผิดแน่เขี้ยวที่งองอกออกมา เขี้ยวที่ไม่ใช่แบบแวมไพร์ในหนัง แต่เป็นเขี้ยวแบบยักษ์ในวรรณคดี

   ผมรีบผลักตัวออกแล้วดึงมือที่ถูกฉุดเอาไว้ออก ก่อนจะโผล่พ้นขึ้นมาบนผืนน้ำสูดเอาอากาศเข้าไปในปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะกระวนกระวายรีบขึ้นมาบนขอบสระ

   ใครก็ได้ช่วยบอกว่าทีว่านี่ไม่ใช่ความจริง

   “กะ กลับแล้วนะ”ผมบอกพยายามคุมเสียงไม่ให้สั่นโดยที่ไม่หันกลับไปมอง

   ผมรีบเดินผ่านตัวบ้าน คว้าเอากระเป๋าที่วางเอาไว้ทั้งๆตัวเปียกออกมา

   ทิ้งให้พี่เขามองตามด้วยท่าทีราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องตลก


   
   ผมจูงรถออกมาจากตัวบ้าน โชคดีที่ขาออกไม่ต้องกดรหัส ผมคงจะต้องติดอยู่ในบ้านนี้โดยที่มีพี่ธาราที่กลายร่างเป็นยักษ์ตามหลอกหลอนเป็นแน่

   แค่คิดก็หลอนมากแล้ว ไม่น่าไปยุ่งกับพี่เขาเลยจริงจริง ทำไมชีวิตวัยรุ่นของผมถึงไม่ได้สวยหรูเหมือนชีวิตคนอื่นบ้าง ทำไมผมจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

   หรือว่านี่จะเป็นเพราะบาปกรรมที่ผมทำเอาไว้แต่ชาติปางก่อนอย่างที่พี่เขาว่าจริงจริง

   หรือว่าชาติที่แล้วผมเป็นพระอภัยมณีจริงอย่างที่เขาบอก แล้วก็ไปฆ่าผีเสื้อสมุทรตาย ถึงได้เป็นเวรกรรมมาจนถึงชาตินี้

   เห็นพี่เขาบอกว่าตัวเองเป็นยักษ์ แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเป็นยักษ์จริงจริง ถ้ารู้ว่าของจริงล่ะก็ ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเลยเด็ดขาด

   ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมชีวิตวัยรุ่นใสใสของไอ้มณีทำไมต้องเป็นอย่างนี้

   หนาวก็หนาวเป็นทุนอยู่แล้ว ยังจะมาเปียกอีก

***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***

มีต่อ
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 16/09 [CH.4] ยักษ์สมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 16-09-2015 17:20:21
ต่อ
ผมขับรถกลับบ้านด้วยสภาพที่เปียกปอน บวกกับลมหนาวยามดึกที่เริ่มพัดแรงทำให้ตัวผมสั่นแล้วสั่นอีก

   แต่นั่นก็ไม่เท่ากับใจที่กำลังสั่นรัว ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พาลให้สิบล้อที่ขับผ่านผมไปคันแล้วคันเล่าแทบจะแบเอาผมไปมุดอยู่ใต้ท้องรถ

   ตอนนี้ในหัวสมองของผมมีแต่เรื่องของพี่ธาราคนเดียวเต็มไปหมด

   ไม่ใช่คนสิ ไอ้ที่ผมเห็นน่ะไม่ใช่คนสักหน่อย นั่นมันยักษ์ต่างหาก ยักษ์ตัวเป็นเป็นเลย ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ายักษ์ที่อยู่ในวรรณคดีนั้นจะมีตัวตนจริงๆ

   ใครจะไปคิดว่าจู่ๆพี่ธาราเขาจะดึงผมลงไปในสระน้ำนั่น พอลืมตาในน้ำก็เห็นเข้ากับสภาพที่เปลี่ยนไปของของเขาทำเอาผมแทบจะหมดอากาศหายใจจมน้ำเขี้ยวที่งอโง้งของเขามันเป็นอะไรที่ติดตาจนลืมไม่ลงเลยจริงๆ

   ไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อแล้ว แล้วคราวนี้ผมควรจะต้องทำยังไงดี ในเมื่อพี่ธาราคนนั้น เอะ ไม่ใช่คนสิ ต้องเป็นยักษ์ ไอ้ยักษ์บ้านั่นมันบอกว่าเขาเป็นพระอภัยมณีกลับชาติมาเกิด

   ถ้าการที่ยักษ์มีตัวตนจริงล่ะก็ การที่ผมเป็นพระอภัยมณีกลับชาติมาเกิดก็ดูจะเป็นเรื่องจริง แต่เรื่องนี้ผมก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่ดี

   ตอนนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้นปัญหามันอยู่ที่ ไอ้พี่ยักษ์ธารานั่นมันดันตามมาแก้แค้นให้ผีเสื้อสมุทรที่พี่เขาบอกว่าเป็นน้องสาวต่างหาก

   แล้วทำไมการแก้แค้นของเขา ถึงต้องให้ผมไปผสมพันธุ์แล้วมีลูกกับเขาด้วย แล้วอีกอย่างผมเป็นผู้ชาย จะไปท้องให้เขาได้ยังไงกัน

      
   ไม่เข้าใจ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆไอ้พี่ธาราบ้านั่นมันเพี้ยนหรือว่าผมเพี้ยนกันแน่ ความคิดมันตีกันวุ่นวายไปหมดจนไม่รู้จะเอาเรื่องไหนขึ้นมาคิดก่อนดี

   เรียงลำดับความสำคัญไม่ถูกเลยจริงๆ ระหว่างเรื่องที่จะเอาเวลามากลัวว่าพี่เขานั่นจะมาจับผมกินเพื่อแก้แค้น หรือว่าจะจับผมผสมพันธุ์แล้วมีลูกกันตามที่พี่เขาบอก

   ผมควรจะหลบหน้าพี่เขาดีไหม หรือว่ายังไงดี ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว

   กว่าจะถึงบ้านเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ก็เกือบจะแห้งดีแล้ว ผมขับรถมาจอดหน้าบ้านของผมที่อยู่ตรงชานเมือง เป็นบ้านไม้สองชั้นสีครีมทรงประยุกต์หลังเก่าที่พ่อบอกว่าตกทอดมาตั้งแต่สมัยปู่ทวดของทวดอะไรสักอย่างที่ผมเองก็เรียงลำดับไม่ถูก



   
   ผมจูงรถมอเตอร์ไซผ่านเข้าประตูรั้วไม้เตี้ยๆเข้ามาจอดภายในบ้าน ดีที่ไฟหน้าบ้านติดสวิตซ์ออโต้ ถึงจะมืดแล้วมันก็ติดเองทำให้พอมองเห็นอยู่บ้าง

   พอปิดประตู่รั้วบ้านดีแล้วผมเดินเข้าบ้านด้วยท่าทีเหม่อลอยเพราะเอาแต่คิดถึงภาพยักษ์ที่มันติดตาผมมาตลอด

   ผมไม่รู้ว่าจะเอายังไงดี ถ้ารู้ว่าก่อนว่าชาตินี้จะมียักษ์มาตามล้างแค้นตามทวงหนี้ล่ะก็ ชาติที่แล้วผมคงไม่เป่าปี่ฆ่านางผีเสื้อสมุทรตายหรอก ใครมันจะไปรู้ล่วงหน้ากัน

   ผมส่ายหัวอย่างกลุ้มใจ ยังไงซะผมก็คงต้องหลบหน้าไอ้พี่ยักษ์ธารานั่นไปก่อน


   “อ่าวเฮ้ยพ่อ ตกใจหมด”

   ผมสะดุ้งเมื่อเห็นพ่อตัวเองในชุดลิเก ทาหน้าขาวปากแดง มีเพชรรัสเซียระยิบระยับติดอยู่ที่ชุดจนลายตา

   “ตกใจอะไร เอ็งนี่ ทำยังกับไม่เคยเห็น”พ่อผมว่าเหน็บไอ้ท่าทีที่ตกใจจนเกิดเหตุของผม

   เป็นใครใครล่ะจะไม่ตกใจ ตอนหัวค่ำมาเจอยักษ์ ตอนนี้มาเจอลิเก

   “ก็ใครบอกให้พ่อกลับมาทั้งอย่างนี้เล่า มณีก็ตกใจดิ”

   ผมบ่นออดแอดพลางเดินไปนั่งบนโซฟาตัวยาวข้างข้างพ่อหยิบรีโมทขึ้นกดเปิดทีวี

   “ว่าแต่ทำไมวันนี้กลับดึกเชียว”จู่ๆพ่อก็ถามขึ้นหลังจากที่เงียบกันมาพักใหญ่

   “พ่อนั่นแหละกลับเร็ว แล้วแม่ล่ะ”

   “แม่เอ็งยังไม่เลิก เรื่องนี้พ่อถูกฆ่าตายตั้งแต่ต้นเรื่องเลยกลับมาก่อน แม่เอ็งอยู่ยันจบเรื่องนู่น”

   พ่อตอบพลางเอาสำลีจุ่มโทนเนอร์ล้างเครื่องสำอางที่ติดอยู่บนหน้าออก

   “พ่อนี่ก็ทิ้งแม่อีกแล้ว”ผมว่าแซว

   “ทิ้งแม่เอ็งที่ไหน แม่เอ็งสั่งให้มาดูเอ็งเนี่ยแหละ ไอ้นี่นิ เดี๋ยวข้าจะฟ้องแม่เอ็งว่าเอ็งมาว่าพ่อ”

   “โห่ ฟ้องแม่ตลอด ไม่เก่งจริงนี่หว่า”

   ผมว่าพลางยกเท้าขึ้นมาชันแล้วนั่งกอดเข่ามองทีวี

   จริงอยู่ที่ครอบครัวของผมเป็นครอบครัวสุขสันต์ ความเอาใจใส่ของคนในครอบครัวที่มีมากทำให้ผมต้องอยู่ติดกับบ้านไม่เคยได้ไปไหนไกลไกลคนเดียวมาก่อนเลยในชีวิต

   บางครั้งผมก็รู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง ทั้งที่เริ่มโตขนาดนี้ ผมเองก็อยากจะใช้ชีวิตวัยรุ่นเท่เท่แบบคนอื่นบ้างก็แค่นั้น

   แต่ด้วยความเอาใจใส่ของครอบครัว บวกกับกิจการที่มีกำลังคนไม่ค่อยแน่นอนในการสืบทอดศิลปะวัฒนะธรรมที่เก่าแก่ ทำให้บางครั้งผมที่อยู่กับครอบครัวที่สืบทอดศิลปะการแสดงมาตั้งแต่เด็กต้องขึ้นแสดงด้วยเพราะคนไม่พอ

   บ้านของผมเป็นครอบครัวที่เป็นเจ้าของคณะลิเกที่ไม่รู้ว่าสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยไหน ปู่ของผมเคยเล่าว่าต้นตระกูลสืบเชื้อสายมาจากลูกหลานเจ้าเมืองอะไรเนี่ยล่ะ เห็นบอกว่าเขาเป็นคนที่ชอบการแสดงชอบดนตรีมาก แต่นั่นมันก็นานมากแล้ว

   แต่ยังไงผมก็ไม่เคยได้รับบทเด่นเด่นสักที ที่เล่นได้ก็มีแต่ตัวโจ๊ก ตัวตลก หรือไม่ก็ตัวประกอบ
   

   “แล้ววันนี้เขาจ้างไปเล่นเรื่องอะไรอ่ะพ่อ”

   “เรื่องเจ้าจอมในดวงใจ พ่อก็เลยตายตั้งแต่ต้นเรื่อง แม่เอ็งถึงได้ให้กลับมาดูเอ็งนี่ไงกลัวว่าจะไปเถลไถลจนไปเจอคนไม่ดีเข้า”

   ไม่ใช่เจอคนไม่ดีหรอกพ่อ เจอยักษ์ไม่ดีมากกว่าพ่อนี่ก็ไม่รู้อะไรบ้างเลย รู้บ้างไหมว่าลูกตัวเองกำลังจะโดนยักษ์จับกินอยู่รอมร่อ

   “ไอ้มณี”

   “อะไรพ่อ”

   “เอ็งจะยกเท้าขึ้นมาทำไม พ่อเหม็น ไอ้นี่นิ ไปอาบน้ำไป”

   “พ่อ อะไรเนี่ย ใครบอกให้พ่อมาดมล่ะ แม่มาจะฟ้องแม่ว่าพ่อว่าแม่แก่แล้วไม่เร้าใจ”ผมลุกขึ้นพลางบ่นล้อเลียนพ่อ ที่ป่านนี้ก็ยังลบเครื่องสำอางออกจากหน้าไม่หมด

   “ไม่เร้าใจบ้าอะไรของเอ็ง ไปอาบน้ำไป ไอ้ลูกนี่”

   “วันนี้มณีไม่กินข้าวนะพ่อ กินมาแล้ว”ผมหันมาบอกพ่อก่อนจะเดินกำลังจะก้าวขาขึ้นบันได

   “ไปกินกับใครมา”พ่อชะงักมือที่กำลังล้างเครื่องสำอางนิ่งก่อนจะถามเสียงเข้มผิดกับเมื่อครู่ลิบลับ

   “ก็เพื่อนน่ะ”ผมตอบ

   ใจจริงอยากจะตอบว่าไปกินกับยักษ์มากกว่า แล้วก็เกือบจะโดนกินด้วย แต่ถ้าพูดไปพ่อคงจะหาว่าผมบ้า

   “คราวหลังจะไปไหนมาไหนก็บอกพ่อก่อน ไม่ใช่ว่าไปไหนตามอำเภอใจแล้วไม่บอกกล่าว”

   “ทำไมอ่ะพ่อ มณีไปแค่นี้เอง”

   “ไม่ต้องทำไมหรอก เอ็งหายไปเดี๋ยวแม่เอ็งเป็นห่วงแย่ ไม่ต้องมาสงสัยอะไรมากหรอก ขึ้นไปอาบน้ำนอนไป”

   “คร๊าบ พ่อหัวหน้าคณะลิเก”

   ผมแซวก่อนจะเดินขึ้นชั้นบนของตัวบ้านไป

   แค่บอกว่าไปกินข้าวกับเพื่อนทำไมพ่อต้องทำท่าทางเหมือนไม่พอใจด้วย ผมล่ะไม่เข้าใจ หรือว่าผมเป็นคนเข้าใจอะไรยากกันนะ

   ไม่ไหว ไม่ไหว ทำไมชีวิตวัยรุ่นใสใสของไอ้มณีถึงมีเรื่องไม่เข้าใจเยอะแยะไปหมดอย่างนี้ หรือว่ามันเป็นปรกติของชีวิตวัยรุ่นที่คนเป็นวัยรุ่นอย่างผมจะต้องเจอ


***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***

   “มณี มานี่สิ เมื่อคืนพ่อบอกว่าลูกกลับบ้านดึก แถมยังไปกินข้าวกับเพื่อนมาโดยที่ไม่บอกพ่อก่อน ไหนมาคุยกับแม่สิ”

   เสียงเรียกแหลมมาแต่ไกลตั้งแต่ที่เท่าผมยังไม่ก้าวลงจากบันไดขั้นสุดท้าย ก็ถูกแม่ที่ควงทัพพีตักข้าวดักเอาไว้เสียก่อน

   “โหแม่ มีเรียนเนี่ย เดี๋ยวไปไม่ทัน”

   ผมพยายามเบี่ยงหนีประเด็นที่กำลังจะถูกหยิบยกมาเต็มที่ สงสัยพ่อต้องไปฟ้องแม่แล้วแน่แน่ว่าผมกลับบ้านดึก

   เป็นเรื่องใหญ่แน่ ถ้าหากว่าแม่โมโหขึ้นมา ผมอาจจะสูญเสียของรักของหวงไปเลยก็ได้

   “ไม่ต้องเลย แม่พูดเนี่ยเข้าใจไหม คราวหลังถ้าจะไปไหนมาไหนต้องบอกก่อน”

   “ครับครับ คราวหลังมณีจะบอกก่อน”

   “ถ้ามีอีกคราวหน้า แม่จะยึดกุญแจรถแล้วจะให้พ่อไปรับไปส่ง”นั่นไงผมว่าแล้ว ของรักของหวงของผมจะต้องอยู่ในลิสรายการลงโทษขั้นสูงสุด

   “ไม่เอานะแม่ มณีโตแล้ว ให้พ่อแม่ไปรับไปส่งอายเขาตาย วัยรุ่นนะแม่ วัยรุ่นอ่ะเข้าใจป่ะ”ผมพูดพลางส่ายหัวหลบทัพพีแม่โดยไว

   “แม่ไม่สน ถ้าคราวหลังแม่รู้ว่าไปแวะที่อื่นก่อนกลับบ้านล่ะก็โดนแน่ ไม่ต้องขี่มันแล้วมอไซอะไรเนี่ย”

   “แม่อ่ะ มณีอยากจะเท่กับเขาบ้างดิ วัยรุ่นเฟี้ยวๆอ่ะ อยากจะเป็นกับเขาบ้าง”

   “เฟี้ยวบ้าอะไร คนที่บ้านเขาเป็นห่วงลูกกันทั้งนั้น รีบกินแล้วก็รีบไปเรียนได้แล้ว แล้วก็ไม่ต้องขับรถเร็วล่ะ”

   “ครับครับคุณนายโรงลิเก”

   “เอ้อ ว่าถึงลิเก เรื่องหน้าเห็นพ่อบอกว่าจะให้ลูกเป็นพระเอกนะ”แม่หันมาบอกทำเอาผมตาโตชะงักช้อนที่กำลังตักข้าวเข้าปากทันที

   “จริงเหรอแม่”ผมถามย้ำ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยได้รับบทเด่นเด่นกับเขาสักที

   เพื่อนพระเอกก็ยังไม่เคยได้เป็นกับเขาเลย คราวนี้พ่อคงจะเห็นแววความหล่อในตัวของมณีคนนี้แล้วสิท่า ถึงได้ให้เล่นบทพระเอกได้

   “จริงสิ เห็นว่าแม่ขี้โม้เหมือนพ่อรึไง”

   “ว่าแต่พ่อจะให้มณีเล่นเรื่องอะไรอ่ะแม่”

   “เรื่องพระอภัยมณีตอนผีเสื้อสมุทรอะเนี่ยแหละ”

   “อะไรนะแม่!!”ผมตะโกนเสียงดังอย่างตกใจ แทบจะสำลักข้าวออกมาทันทีที่ได้ยิน

   “จะตกใจอะไรกัน เดี๋ยวก็สำลักหรอก”

   “ทำไมต้องเรื่องนี้อ่ะแม่”

   “ก็คนจ้างเขาอยากให้เล่นเรื่องนี้ ถามมากน่า ไปไป ไปเรียนได้แล้ว”แม่บ่นเบาเบาพลางกวักมือไล่

   ผมเดินออกมาจากครัวหลังจากที่พยายามฝืนกินข้าวเข้าไปจนหมด อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น คนจ้างเขาก็คิดอะไรของเขา ลิเกมีตั้งร้อยตั้งพันเรื่อง กลับมาจ้างให้เล่นเรื่องนี้

   จ้างอย่างกับจะตอกย้ำว่าผมเป็นพระอภัยมณีกลับชาติมาเกิดอย่างนั้นแหละ จะไม่รับก็ไม่ได้

   “มณี แม่เอ็งบอกแล้วใช่ไหมว่าให้ช่วยเล่นลิเกให้น่ะ เป็นพระเอกเลยนะเว้ย”

   “รู้แล้วน่าพ่อ”ผมบอกปัดด้วยท่าทีที่กำลังห่อเหี่ยวเต็มที่ พลางหยิบถุงเท้ามาใส่ข้างพ่อที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่หน้าทีวี

   “นี่เอ็งไม่ดีใจรึไง ได้เป็นพระเอกเลยนะเว้ย”

   “ดีใจครับดีใจ”

   “อะไรของเอ็งไหนบอกว่าอยากจะเป็นพระเอก ก็ได้เป็นแล้วนี่ไง”

   “ก็ไม่ได้อยากเป็นพระเอกเรื่องนี้สักหน่อย”

   “เอ็งนี่เรื่องมากจัง เจ้าภาพเขาบอกให้เอ็งรำฉุยฉายพราหมณ์แก้บนก่อนจะออกแขกด้วยนะเว้ย”

   “อะไรนะพ่อ แล้วทำไมต้องเป็นมณีอ่ะ คนอื่นไม่ได้รึไง”

   “ก็เขาเคยเห็นเอ็งเล่นลิเกตอนเด็กๆเขาชอบใจเลยเลือกเจาะจงเป็นเอ็ง เขาบอกว่าเอ็งรำสวย”

   “พี่แก้วนางเอกพ่อก็รำสวย ทำไมไม่เอาเขาล่ะ มาให้ผู้ชายรำฉุยฉายเขาบ้ารึป่าว”

   “บ้าอะไร เอ็งก็รำเป็นไม่ใช่รึไง”

   “ขี้เกียจบ่นแล้ว มณีไปเรียนดีกว่า”

   “รีบกลับมาล่ะ จะได้ซ้อมกับพวกพี่พี่เขา”

   “ครับครับ รู้แล้ว”ผมใส่รองเท้าหยิบกุญแจรถที่แขวนหน้าประตูเดินออกมาจูงรถสตาร์ทหน้าบ้าน

   ไม่อยากจะคิดว่าชีวิตนี้จะต้องเจอกับเรื่องอะไรอีก ไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ

   ไปมหาลัยก็ต้องเจอกับไอ้พี่ยักษ์ธารานั่น แล้วยังต้องมาเล่นลิเกที่รับบทเป็นพระอภัยมณีอีก

   มันจะตอกย้ำกันไปถึงไหน ชีวิตวัยรุ่นของไอ้มณีเนี่ย มันช่างเหี่ยวเฉาดีจริงจริง

   แล้วยังมารำฉุยฉาย ที่ปกติเขาจะให้ผู้หญิงรำอีก ไม่รู้เจ้าภาพเขาคิดอะไรของเขากันแน่

   ทำไมเรื่องราวมันถึงได้วุ่นวายกันไปหมด ตั้งแต่ที่ผมเจอพี่ธาราเขา เรื่องราวในชีวิตของผมก็ดูท่าจะวุ่นวายขึ้นมาทันที ถ้าพี่เขาไม่โผล่มา เรื่องราวทั้งหมดก็คงจะไม่เป็นอย่างนี้ เพราะพี่เขาคนเดียวที่ทำให้ชีวิตผมวุ่นวายอย่างนี้

   

***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***


https://www.youtube.com/watch?v=VVKVn-aI9ow (https://www.youtube.com/watch?v=VVKVn-aI9ow)ตัวอย่างรำฉุยฉายที่น้องมณีจะต้องรำ


16/09/58

หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 16/09 [CH.4] ยักษ์สมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 16-09-2015 18:44:23
น้องมณีหน้าหวานจริงๆ ขนาดไปรำฉุยฉายได้


คนที่ขอมาน่าจะมีคนเดียวล่ะมั้ง

หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 16/09 [CH.4] ยักษ์สมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-09-2015 20:47:43
 :mew1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 16/09 [CH.4] ยักษ์สมุทร
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 17-09-2015 00:26:01
 o13
หัวข้อ: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 17/09 [CH.5] มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 17-09-2015 03:34:40
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

** ชดใช้หนี้ครั้งที่ 5 มนต์สะกด **

   “มณี วันนี้ไปกินหมูกระทะกันไหม”

   โมถามในขณะที่ผมกำลังเก็บหนังสือใส่กระเป๋าหลังจากเวลาเรียนคาบสุดท้ายหมดลง

   ก็ดีเหมือนกันเพราะผมเองก็คิดว่าวันนี้จะไม่ไปทำงานที่ห้องสมุดเอ็นอันขาด

   ขืนผมหลงไปล่ะก็ ได้เจอพี่ธาราที่อยู่ในคราบยักษ์จับกินแน่ แค่คิดก็สยองแล้ว

   มันเป็นอะไรที่อึดอัดใจผมมาโดยตลอดทั้งวันจนแทบจะเรียนไม่รู้เรื่อง ความรู้ที่อาจารย์บรรยายในคาบเรียนมันไม่ได้หลั่งไหลเข้าไปในหัวสมองผมเลยสักนิด

   ถ้าหากว่าเมื่อคืนผมไม่หนีออกมา ป่านนี้ผมก็คงจะนอนอยู่ในท้องของพี่ธาราอยู่ก็เป็นได้

   ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าชีวิตของผมคนนี้จะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ใครจะคิดว่าจะมียักษ์ตัวจริง ตัวเป็นเป็นมายืนอยู่ตรงหน้าอย่างนี้

   ดังนั้น สิ่งที่ผมคิดว่าควรทำมากที่ในเวลานี้ก็คือ การหลบเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับพี่เขา

   โดยการไม่ไปทำงานที่ห้องสมุด ส่วนเรื่องข้ออ้างผมได้คิดล่วงหน้าเอาไว้แล้ว นั่นก็คือ ไม่สบาย หวังว่าพวกรุ่นพี่จะเชื่อกันนะ ไม่งั้นผมคงโดนซ่อมเพิ่มอีกแน่ แต่ก็ดีกว่าอยู่สองต่อสองกับไอ้พี่ยักษ์ธารานั่น

   “โม นายก็ไปชวนมณีมัน รู้ก็รู้ว่ามณีต้องไปห้องสมุดต่อยังจะไปชวนมันอีก”เชียรหนุ่มหล่อผิวแทนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนใหม่ในรั้วมมหาวิทยาลัยของผมท้วงขึ้นมาทันทีทำเอาผมหันขวับไปมองด้วยสายตาที่เจ็บเจ็บคันคันเล็กน้อย

   “เออ เราก็ลืมไปเลย”โมเกาหัวแก้เก้อ

   “ไม่เป็นไร ไปสิ ไปเลยเนี่ย วันนี้ไม่ไปห้องสมุด”ผมรีบบอกก่อนที่จะชวดไม่ได้ไปกับเพื่อนๆ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเหมือนกัน ดีกว่าไปทำงานที่ห้องสมุดแล้วอยู่สองต่อสองกับพี่ธารา

   “ไม่ไปห้องสมุดจะดีเหรอมณี รุ่นพี่จะว่าเอานะ แล้วพี่ธาราอ่ะ เขาจะไม่ว่าเอาเหรอ”โทถามพลางยกมือขยิบแว่นตา

   “อะ เออ ช่างมันเถอะน่า เขาคงไม่ว่าอะไรหรอก ไปกินหมูกระทะกับพวกนายน่ะแหละดีแล้ว”

   ผมรีบบอกอย่างร้อนรน ดูเหมือนว่าบรรดาเพื่อนๆจะไม่ค่อยสนับสนุนให้ผมโดดงานสักเท่าไร แต่ว่าให้ตายยังไง วันนี้ผมก็จะไม่ไปห้องสมุดเด็ดขาด

   เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงที่จะเจอหน้าใครบางคนที่ผมหลบหน้าเขามาทั้งวัน

   แค่นึกถึงเขา ภาพเขี้ยวที่มันงอโง้งออกมาจากปากมันก็ผุดขึ้นมาติดตาแทบจะทันที

   ภาพที่ผมเห็นในสระน้ำเมื่อคืนทำให้มันติดตาผมจนแทบจะเก็บเอาไปฝัน

   
   “ตกลงไปใช่ไหมมณี พอดีเลยจะได้ไม่ต้องซ้อนสามไป ได้เอารถนายไปอีกคัน”เชียรบอก

   “อือ ไปกันกี่คน”

   “ไปกันสามคน มีโม มีเราแล้วก็นนท์”

   “แล้วนนท์ไปไหน”ผมถามพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาเบอร์พ่อ ถ้าไม่รายงานเดี๋ยวจะหาว่าผมไม่บอกก่อนจะไปไหน เดี๋ยวจะพาลไปฟ้องแม่ให้มายึดกุญแจรถผมอีก

   “ไปห้องน้ำ เดี๋ยวคงมา”

   “เออ เดี๋ยวขอโทรบอกพ่อก่อนนะ รอแปบ ”ผมยกมือขึ้นให้สัญญาณโมก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูฟังเสียงรอสาย

   “มณี”

   “อะไร รอแปบนึง ขอโทรบอกพ่อก่อน”ผมพูดเสียงเบาพลางยกมือจุ๊ปากให้โมเงียบหลังจากที่โมเรียกผมในขณะที่ผมกำลังฟังเสียงรอสาย

   “มณี”คราวนี้โมสะกิดอีก ไม่รู้ว่าจะสะกิดอะไร

   “ว่าไง รอแปบนึง ขอโทรบอกพ่อก่อน”

   “แต่ว่า”โมอ้ำอึ้งพลางชี้นิ้วไปทางด้านหลังผม ไม่รุ้ว่าจะชี้ให้ดูอะไร

   “แปบนึงดิ ขอโทรบอกพ่อก่อน อ่ะ ฮัลโหลพ่อ ขอไปกินหมูกระทะกับเพื่อนหน่อย น่า เดี๋ยวกลับ ไม่ดึกหรอกพ่อ จ๊ะ จ๊ะ บอกแม่ด้วย จ๊ะๆแค่นี้นะ”
   

   “โมมีอะไร เมื่อกี้เห็นสะกิด”ผมหันไปถามพลางยัดโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋าเมื่อคุยเสร็จแล้ว

   “มณี นายจะไปกับพวกเราจริงเหรอ”โมถามเสียงเบา ใบหน้าขาวซีดเริ่มมีเหงื่อผุดทั้งที่อากาศภายในห้องก็ไม่ได้ร้อนอะไร

   “เออ ก็ไปจริงดิ ทำไปอ่ะ หรือเปลี่ยนใจไม่ไปกินหมูทะกันแล้ว”

   “ปะ ปล่าว มันก็ไม่ใช่หรอก แต่ว่า”โมบอกเสียงแผ่วพลางหลบตา ดวงตากลมภายใต้แว่นตาหนาเตอะเริ่มหลุกหลิกจนผมชักสงสัยว่าโมเป็นอะไร

   “แต่ว่าอะไร งั้นก็ไปดิอ้ำอึ้งทำไม”ผมว่าพลางก้มหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาสะพาย

   “คือมณี เราว่า”โมพยายามแย้งพลางสะกิดไหล่ผมทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจ ว่าจะสะกิดอะไรกันนักกันหนา

   “คืออะไรเล่า ไปกันได้แล้ว หิวแล้ว”

   “ตกลงมณีจะไปใช่ไหม”คราวนี้เชียรถามผมบ้าง เท่าที่ผมจำได้ผมก็ตอบทั้งสองคนแล้วนี่ว่าผมจะไปด้วย แล้วทำไมต้องมาถามย้ำอีกรอบด้วยผมล่ะไม่เข้าใจ

   “เออก็ไปไง แล้วไม่รู้ว่าโมมันจะอ้ำอึ้งทำไมวะ จะพูดอะไรก็ไม่พูด”

   “แล้ววันนี้ไม่ไปห้องสมุดเหรอ”เชียรถามน้ำพลางกรอกตาหลุกหลิกไปมาอีกคน

   “ไม่เอาอ่ะ วันนี้ไม่อยากไป”ผมตอบเป็นรอบที่สอง ชักเริ่มที่จะหงุดหงิดกับเพื่อนช่างซักสองคนซะแล้ว

   “งะ งั้นเหรอ แต่เราว่ามณีไปหน่อยก็ดีนะ อย่างน้อยก็ไปบอกพี่รหัสก็ยังดี”

   “นี่พวกนายเป็นอะไรกันวะเขาคงไม่ว่าอะไรหรอก ตกลงพวกนายไม่อยากให้เรารึว่าอะไร ถามกันอยู่ได้”ผมชักเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแล้วสิ

   ตอนแรกก็ชวนกันซะดิบดี พอจะไปก็ทำเหมือนไม่อยากจะให้ไปด้วย อะไรของพวกนี้

   “มะ ไม่ใช่ พวกเรานอยากให้นายไปนะเว้ยมณี  แต่ว่า”เชียรอ้ำอึ้ง
   “เออ งั้นก็ไปกันสักที จะตงจะแต่อะไรกันนักหนา ไปได้แล้ว”ผมตัดบท ขืนคุยกันต่อไปมากกว่านี้คงจะอ้ำอึ้งไม่ได้กินกันพอดี

   แต่แล้วโชคชะตาก็เหมือนจะกลั่นแกล้งชีวิตวัยรุ่นหลังเลิกเรียนอย่างผมที่ควรจะมีเวลาไปเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนเพื่อนบ้าง ข้อมือของผมถูกรั้งเราไว้ด้วยมือใครบางคนจากทางด้านหลัง

   
   หมับ!!

   “จะไปไหนกันเหรอครับ”พรอ้มกับเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหูทำให้ผมรู้สึกว่าขนของตัวเองพร้อมใจกันลุกเกรียวขึ้นมาทั้งตัว

   เสียงทุ้มทุ้มต่ำๆแบบนี้ มันช่างคุ้นหูผมดีจริงๆ ไอ้สัมผัสที่ส่งผ่านมาทางฝ่ามือทำให้ผมเริ่มคิดออกว่าคนที่เข้ามาขัดขวางเส้นทางชีวิตของผมคือใคร

   และเขาก็คือ พี่ธารา ยักษ์ที่อยู่ในคราวหนุ่มหล่อที่สาวสาวต่างพากันมองเหลียวหลัง ไม้เว้นแม้กระทั่งสาวเทียม

   “อะ เอ่อ พี่ธารา คือว่า พวกเราจะไปกินหมูกระทะกันน่ะครับ พี่จะไปกับพวกเราด้วยไหม”เชียรถามพลางยิ้มแห้งแก้เก้อ

   ดูหน้าก็รู้ว่าเพื่อนผมคนนี้กำลังกลัวว่าพี่ธาราจะคิดว่ามันเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดชวนผมโดนงานแน่

   “อ้อ งั้นหรอกเหรอ น้องมณีก็จะไปด้วยงั้นเหรอครับ”พี่ธาราถามพลางแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างร้ายกาจพลางจ้องมองมาที่ผมซึ่งตอนหนี้กำลังหลบตาพี่เขาอยู่เต็มที่

   “อ่าครับ มณีจะไปด้วย”คราวนี้โมตอบแทนผม เมื่อเห็นว่าผมไม่มีสัญญาณตอบรับใดใดต่อคำถามของพี่เขา

   เพราะว่าตอนนี้ผมกำลังอยู่ในช่วงสภาวะของการช็อกต่างหากล่ะ ใครจะคิดว่าพี่เขาเล่นมาตามผมถึงห้องเรียนอย่างนี้

   “ไหนน้องมณีมีนัดกับพี่ไม่ใช่รึไงครับ เรานัดกันไว้ จำไม่ได้เหรอ”

   อะไรนะ!นี่ผมไปนัดกับพี่เขาตั้งแต่เมื่อไร ผมไปนัดกับเขาตอนไหน อะไรของเขาเนี่ย ไอ้มนุษย์ปลอมขี้ตู่

   “นะ นัดที่ไหน ไม่มี ไม่มี๊ เด็ดขาด”ผมว่าเสียงสูง

   พลางก้าวถอยหนีพี่เขาที่กำลังจับมือผมอยู่

   “น้องมณีลืมนัดพี่ธาราแล้วเหรอครับ เรานัดกับเมื่อคืนนี้เอง จำไม่ได้เหรอ ที่บ้านพี่ไง”ที่บ้านไหน พูดอย่างนี้ไอ้มณีก็เสียหายสิครับ ไอ้พี่ธารา

   เดี๋ยวคนอื่นเขาก็หาว่าไอ้มณีเป็นเจ้าของเหมืองทอง คราวนี้สาวน่ารักๆที่ไอ้มณีเคยจิ้นเอาไว้ก็พากันหายหมดสิ

   “ทะ ที่ไหน ไม่มี อย่ามามั่ว วันนี้จะไป กับเพื่อน ไม่ได้นัดสักหน่อย มั่วแล้ว” ผมยกมือขึ้นโบกห้ามทันทีพลางสะบัดมือพี่ธาราออกอย่างเนียนเนียนแล้วถอยมาหลบหลังเชียร หนุ่มหล่อล่ำผิวที่กำลังเป็นว่าที่เดือนคณะ

   “บ้านเหรอ มณีไปบ้านพี่ธารามาเหรอ”เชียรถามเสียงเบาเหมือนกับสงสัย

   งานเข้าแล้วไง คราวนี้อิมเมจิ้นของไว้มณีที่วาดเอาไว้ได้พังทลายแน่

   “มะ ไม่ใช่อย่างที่คิดนะเว้ยเชียร มันแค่อุบัติเหตุ”ผมกลัวรีบแก้ตัว

   “หึหึ อุบัติเหตุงั้นเหรอครับ น้องมณีก็รู้นี่ครับว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ พี่ว่าเราไปกันดีกว่านะครับน้องมณี”

   พี่ธาราที่อยู่ในคราบหนุ่มหล่อที่แสนจะร้ายกาจยกยิ้มที่มุมปากพลางสาวท้าวเข้าเข้ามาทางผมที่หลบอยู่ด้านหลังเชียร

   แต่เรื่องอะไรผมจะยอมไปกับไอ้พี่ยักษ์ธารานี่กันล่ะ ขืนยอมไปมีหวังพี่เขาจับผมกินแน่

   ไอ้มณีคนนี้ยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลย

   “มณี เอ่อ เราว่านายไปกับพี่ธาราก่อนก็ได้นะ พวกเราค่อยไปกันวันหลังก็ได้”โมบอกพลางกระชับแว่น

   “มะ ไม่เอาดิ เราจะไปกับพวกนาย รับปากแล้วก็ต้องไปสิ ละ ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำ ปะ ไปกันได้แล้ว หิวจนกินหมูได้ทั้งตัวแล้ว”ผมจับแขนโมเตรียมจะออกเดินทางเต็มที่

   “แต่ว่าแกนัดพี่ธาราไว้ก่อนไม่ใช่รึไง”โมแย้ง

   “ก็บอกว่าไม่ได้นัด พี่เขามันมั่ว ไปกันเหอะน่า อย่าไปสนพี่เขาเลย”ผมว่าพลางหันหลังเดินหนี

   อาศัยช่วงเผลอเนี่ยแหละชิ่งเอาตัวรอดไว้ก่อน ค่อยไปเจอกันที่โรงจอดรถแล้วกัน

   “เฮ้ย!!จับทำไม”

   ผมก้าวได้เพียงก้าวเดียวก็ถูกดึงมือให้หันกลับไปอีกครั้ง

   “เดี๋ยวสิครับ ใจคอจะไม่ไปกับพี่จริงๆเหรอ เรานัดกันไว้แล้วนี่ครับ น้องมณี”

   พี่ธาราว่าเสียงเรียบก่อนจะออกแรงบีบข้อมือของผมที่กุมเอาไว้จนผมเริ่มรู้สึกเจ็บจนต้องเงยหน้าขึ้นมองพี่เขาอย่างขัดใจ

   ชั้วครู่ที่ผมจ้องมอง ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกตอยูวูบหนึ่งด้วยความเกรี้ยวกราด

   แต่มันก็แค่วูบเดียวเท่านั้นก่อนจะกลับมาเป็นเหมือนเก่า มีแต่ผมคนเดียวที่เห็นใช่ไหม ทำไมเพื่อนคนอื่นถึงได้ไม่มีท่าทีตกใจอะไรกันเลยสักนิด

   มันยิ่งตอกย้ำว่าเขาแตกต่างจากผม เขาเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเริ่มที่จะหวาดกลัว เป็นสิ่งที่ผมไม่อยากจะเข้าใกล้

   ผมเริ่มหน้าซีด พยายามแกะมือที่กุมข้อมือตัวเองออก แต่มันก็ไม่เป็นผลราวกับว่าแรงที่เขาบีบข้อมือผมอยู่นั้นมันมีอยู่มากเกินที่ผมจะต้านมันได้
   นี่ผมจะขัดขืนสิ่งที่ผมทำกับเขาสักครั้งไม่ได้เลยใช่ไหม ครั้งที่แล้วพี่เขาก็จูบผมโดยที่ผมไม่เต็มใจเลยสักนิด
   

   “ก็บอกว่าไม่ได้นัดไง ปล่อย ไม่งั้นผมจะบอกคนอื่นนะพี่ว่าเป็นอะไร”ผมว่าพลางบิดข้อมือแรงกว่าเก่าจนเพื่อนๆที่หลงเหลืออยู่ในห้องไม่กี่คนหันมามองด้วยความสนใจ

   รวมถึงโมกับเชียรที่มองมาด้วยความเห็นใจแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะว่าอีกคนเป็นรุ่นพี่

   
   “โม เชียรช่วยกันหน่อยสิ”ผมหันไปขอความช่วยเหลือ

   ผมไม่ได้มีนัด หรืออยากไปกับไอ้ยักษ์นี่สักหน่อย

   “มณี เราว่ามณีไปกับพี่เขาก่อนดีกว่านะ พี่เขาคงมีเรื่องจะคุยกับนาย”

   “ไม่มี มีที่ไหน มีอะไรจะคุยที่ไหน โม ช่วยพูดหน่อยสิ”

   “จริงอย่างที่น้องโมพูด พอดีพี่มีเรื่องอยากจะคุยกับน้องมณีอยู่เยอะแยะไปหมด แต่ว่าน้องมณีสงสัยจะลืมว่าเราสองคนมีธุระ ‘ส่วนตัว’ กัน  ”แล้วทำไมต้องเน้นคำว่าส่วนตัวให้คนอื่นเขายิ่งคิดลึกด้วย

   แค่เขามาหาผมถึงห้องเรียนมันก็หนักหนามากพอแรงแล้ว ยิ่งพูดไปแบบนี้ เพื่อนๆก็ยิ่งซุบซิบกันเข้าไปใหญ่

   “มะ ไม่มีนะ พี่ อย่ามามั่วได้ไหม”

   “มณี เราว่านายไปกับพี่เขาก่อนดีกว่านะ พวกเราไปก่อนนะ คุยกันดีดี”เชียรพูดตัดบทก่อน

   “เฮ้ย พวกนายอย่าทิ้งเราดิะ โม เชียร เราเพื่อนกันนะเว้ย”

   “เอาน่า พี่เขาไม่ฆ่าแกหรอก มณี”

   “ใครบอกว่าไม่ฆ่า ฉันไม่ไป ฉัน ฮึก”ผมเถียง แต่ไม่ทันขาดคำดี หัวสมองก็รู้สึกว่ามันอื้ออึงจนรวนไปหมดทันทีที่พี่ธาราทาบมือลงมาบนหน้าผากของผม

   “ไปกันได้รึยังครับน้องมณี”ธาราถามเสียงเบาพลางยกยิ้มดึงให้ผมไปยืนข้างข้างเขา

   ซึ่งก็แปลกที่ผมทำตามอย่างว่าง่ายโดยที่สมองของผมมันขาวโพลนไปหมดจนไม่มีความคิดใดใดอยู่ภายในหัว ร่างกายของผมมันขยับไปตามคำสั่งของพี่ธาราอย่างว่าง่าย

   ทำให้โมและเชียรหันไปมองหน้ากันอย่างมึนงงในปฏิกิริยาที่แตกต่างกันออกไปของผม

   “ไปกันเถอะครับพี่ธารา”ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบราวกับไร้ชีวิต

   “อยากไปกับพี่ไหมครับ”พี่ธาราถามย้ำ

   “ครับ ผมอยากไปกับพี่ธารา”ตอบตอบพร้อมกับยกมือขึ้นจับแขนพี่ธาราอย่างสนิทสนม

   “ดีมากครับ คราวนี้เราก็ไปกันได้แล้ว”

   พี่ธาราดึงมือให้ผมเดินตามอย่างว่าง่ายท่ามกลางสายตาของเพื่อนเพื่อนที่มองมาอย่างคาดเดาไปต่างต่างนานาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผมกับพี่ธารา

   
   “เชียรว่ามันแปลกไหมทำไมจู่ๆมณีก็ยอมพี่เขาง่ายๆ”โมถามขึ้นหลังจากที่ผมเดินตามพี่ธาราออกมาจากห้องเรียน

   “เออ ตอนแรกเถียงพี่เขาหัวชนขวา ไปไปมามากลับยอมเขาง่ายๆซะงั้น แถมมีมีครับด้วย”เชียรตอบว่า

   “นั่นสิ”

   “เออน่า เขาอาจจะทะเลาะกันแล้วคืนดีกันแล้วก็ได้ นั่นมันเรื่องของเขา”เชียรบอกด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ

   แต่ก็อดข้องใจไม่ได้ว่าทำไมผมถึงเปลี่ยนใจง่ายขนาดนี้
   

***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***


มีต่อ

ปอลอ ใครว่าตอนนี้บทพูดมันยืดเยื้อไปก็บอกนะค่ะ รุ้สึกว่ามันยืดๆยังไงไม่รู้ แต่ก็ไม่แน่ใจ
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 17/09 [CH.5] มนตรา
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 17-09-2015 05:21:51
ต่อ

ผมได้สติขึ้นมาอีกทีก็รู้สึกว่าเปลือกตาของตัวเองหนักอึ้งจนแทบจะลืมไม่ขึ้น

   ผมยกมือขึ้นกุมหัวที่รู้สึกว่ามันปวดจนรู้สึกมึนงง

   นี่ผมกำลังอยู่ที่ไหน?

   ทำไมถึงได้รู้สึกว่าหัวสมองของตัวเองถึงได้ว่างปล่าวเหมือนกับว่าไม่มีความคิดอะไรอยู่ภายในหัวเลย

   ผมปรือตาขึ้นมาด้วยความยากลำบากพลางจ้องมองเพดานที่ขาวสะอาดตาด้วยความแปลกใจ ทำไมโคมไฟระย้าช่อโตถึงมาอยู่ในห้องผมได้

   ปกติห้องผมไม่มีแชนเดอเรียสวยหรูแบบนี้นี่ มีก็แต่ไฟเพดานสีขาวเรียบง่ายที่ราคาไม่กี่บาท

   แล้วเตียงที่ผมนอนอยู่นี่ก็ดูหนานุ่มฟูมากเป็นพิเศษ หรือว่าผมกำลังฝันอยู่กันแน่

   ผมชันตัวขึ้นมองไปรอบรอบสถานที่ที่คิดว่ามันไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย

   ผมกำลังนอนอยู่บนโซฟาสีเบจตัวใหญ่ที่อยู่ในห้องรับแขกรอบข้างเป็นกระจกใสล้อมรอบ มองเห็นไปถึงข้างนอก

   ความมืดกับแสงสลัวของดวงไฟบ่งบอกว่าตอนนี้ได้ล่วงเลยเข้าสู่เวลากลางคืนแล้ว แสงไฟสีเหลืองอุ่นสาดส่องให้พอมองเห็นสวนที่มีต้นไม้สูงใหญ่สีเขียวขจีไล่ระดับอย่างสวยงาม

   ภาพที่เห็นมันเหมือนจะคุ้นอยู่ในความทรงจำ แต่สมองของผมมันก็รุ้สึกมึนงงจนแทบจะคิดอะไรไม่ออก

   ผมมองไปอีกฟากของตัวบ้าน ก็เจอสระว่ายน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก พื้นสระเป็นสีฟ้าเขียวคล้ายกับสีน้ำทะเล มีไฟสาดส่องมาจากใต้น้ำทำให้มันดูสวยงามตอบรับกับผืนน้ำที่นิ่งสนิท

   นี่คือความฝันอย่างนั้นเหรอ หรือว่าผมยังไม่ตื่นกันแน่ แล้วที่นี่ที่ไหน ทำไมผมถึงคิดอะไรไม่ออก ผมยันตัวขึ้นนั่งพิงพนักพิงพลางยกมือกุมหัว กระพริบตาถี่ๆอีกครั้ง

   แล้วยกมืออีกข้างขึ้นจ้องมองมือตัวเองที่กำมือไปมาตามที่สมองสั่งการ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าผมกำลังตื่นอยู่ นี่ไม่ใช่ฝัน!!
   แล้วผมกำลังอยู่ที่ไหน?

   มันเริ่มคุ้นเหมือนกับว่าผมเคยมาที่นี่มาก่อนแต่ก็นึกไม่ออก ผมมองไปที่สระน้ำอีกครั้ง

   เริ่มคุ้นกับสระน้ำนั่นขึ้นมาบ้างแล้ว

   สระน้ำนั่น เหมือนจะคุ้นว่าเคยตกลงไป เหมือนเคยมีใครอยู่ด้วยในสระน้ำนั้น ในความทรงจำที่เลือนราง

    แต่ยิ่งคิดภาพก็ยิ่งเบลอ ใครกันนะผมพยายามคิด

   จนภาพที่มันเบลอค่อยๆรวมตัวกันจนเริ่มจะชัดเจน ใครคนนั้น ที่มีเขี้ยวงอกออกมา

   ใช่แล้ว!!

   ยักษ์!! พี่ธาราที่เป็นยักษ์!!

   นี่คือบ้านของเขา

   นี่ผมกำลังอยู่ในรังของยักษ์ใช่ไหม อย่าบอกนะว่าพี่เขาพาเขามาเพื่อเตรียมตัวเชือด

   ไม่จริงใช่ไหม!!

   ผมเริ่มมองซ้ายมองขวาเพื่อหาพี่ธารา แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าพี่เขาจะอยู่แถวนี้

   หรือว่าเขากำลังเตรียมเครื่องมือเพื่อที่จะเชือดผมอยู่

   ไม่ได้การแล้ว ชีวิตของไอ้มณีกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย

   ผมต้องกลับบ้าน ผมต้องหนี

   แต่ทำไมขาของผมมันเหมือนจะไม่มีแรง แล้วผมมาที่นี่ได้ยังไง ทำไมผมถึงจำอะไรไม่ได้เลย

   ครั้งสุดท้ายที่จำได้ก็กำลังจะไปกินหมูกระทะกับเพื่อนๆหลังเลิกเรียน แล้วผมถึงมาโผล่ที่นี่ได้ล่ะ

   ผมพยายามที่จะยืนขึ้นแต่ก็ทำไม่ได้ ร่างกายมันหนักอึ้งคล้ายกับถูกตรึงเอาไว้ให้อยู่แต่ตรงนี้

   อย่าบอกนะว่าพี่ธาราใช้เวทมนต์กับผมเพื่อพาผมมาที่นี่ นี่มันไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาที่คนทั่วไปอย่างผมจะรับได้แล้ว    ตกลงพี่เขาจะกินผมจริงจริงใช่ไหม

   คนอื่นมีตั้งเยอะทำไมไม่กิน ทำไมถึงต้องตามมาล้างแค้น มาจับผมกินกันถึงชาตินี้ด้วย

   ผมเริ่มที่จะคิดฟุ้งซ่าน แต่ยังไม่ทันไร เสียงกระซิบก็ดังขึ้นมาข้างหูพร้อมกับลมหายใจอุ่นร้อนเป่าเฉียดแก้มผมไปนิดเดียว                     

   “ตื่นแล้วรึ อภัยมณีของข้า”

   “พะ พี่ธารา”
   มณีสะดุ้งเมื่อเสียงที่ได้ยินมันก้องกังวานอยู่ภายในหู แต่กลับไม่เห็นตัวพี่เขา

   ผมรู้สึกถึงลมอุ่นร้อนที่เป่ารดหลังหู พร้อมกับได้ยินเสียงกระซิบบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจไหลผ่านหูเข้ามาในโสตประสาท

   ผมพยายามจะหันไปมอง แต่ร่างกายมันก็หนักอึ้งคล้ายกับถูกกดทับตรึงเอาไว้อยู่กับที่ จนผมเริ่มกลัว

   พยายามที่จะหันไปมองด้านหลัง แต่ก็ทำไม่ได้ คล้ายกับศีรษะของผมนั้นถูกมือใหญ่จับตรึงเอาไว้ให้มองไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว

   “นะ นาย จะทำอะไรน่ะ”ผมถาม พยายามคุมสียงไม่ให้สั่น ตอนนี้ความกลัวเริ่มกัดกินเข้ามาใจใจจนเริ่มที่จะคุมสติไม่อยู่

   “เจ้ากลัวข้าอย่างนั่นรึ”

   “มะ ไม่ได้กลัวสักหน่อย”ผมตอบด้วยคำตอบที่ตรงข้ามกับความเป็นจริงไปโดยสิ้นเชิง

    ทั้งที่ยังมองไม่เห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน ได้ยินเพียงแค่เสียงที่ดังก้องอยู่ในหู กับลมหายใจที่เป่าแก้ม

   ผมรู้สึกว่าปอยผมของผมที่ระต้นคอกำลังถูกเขี่ยเล่นไปมาอย่างหยอกเย้าจนน่าขนลุก

   “ถ้าเจ้าไม่กลัว เช่นนั้นวันนี้เจ้าจะหลบหน้าข้าไปทำไม ไหนลองตอบข้ามาสิ อภัยมณี”

   “มะ ไม่ได้หลบหน้าสักหน่อย”

   “เจ้านี่ช่างไม่ซื่อสัตย์เอาเสียจริง”เขาพูดด้วยน้ำเสียงคล้ายกับกำลังขบขัน

   “ฮึก”

   ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกว่ามีมือที่อุ่นจนร้อนไล้ผ่านมาทางด้านหลังแล้วใช้เรียวนิ้วลูบเอากรอบหน้าของผมอย่างเบามือ

   นั่นมันน่าขนลุกไม่น้อยกับไอ้สัมผัสแผ่วเบาที่ทำให้ผมเสียวไปถึงกระดูกสันหลัง ผมตัวสั่นเทาพยายามเชิดหน้าขึ้นเพื่อหลบนิ้วที่กำลังลูบหน้าผมอยู่

   ผมเหลือบตาลงมองก็เห็นเรียวนิ้วมือสีเข้ม กับเล็บยาวมนที่ค่อยค่อยกรีดกรายลงบนโครงหน้าของผมไล่ลงไปที่คาง

   มันดูน่ากลัวไม่น้อยเลยถ้าเล็บนั่นมันจิกลงมาบนผิวเนื้อของผม มันคงจะเจ็บมากถ้าเกิดว่าเขาทำขึ้นมาจริงจริง

   “พี่ต้องการอะไร กันแน่ อย่าบอกนะว่าจะกินผม”

   “หึ หึ เจ้านี่ช่างคิดอะไรไปไกลยิ่งนัก ไม่ต้องกังวล ข้าไม่พิศวาสกินเนื้อมนุษย์นักหรอก”

   พี่ธาราบอกพลางหัวเราะคล้ายกับกำลังขำกับสิ่งที่ผมกำลังกลัว

   “ละ แล้วพี่จะจับฉันมาทำไมล่ะ”

   “เข้าผิดแล้ว อภัยมณี เจ้ามานี่นี่โดยเต็มใจต่างหาก”

   “แล้วผมจะมาที่นี่ได้ยังไง ถ้าพี่ไม่ได้จับผมมา”ผมถามอย่างสงสัย

    ก่อนที่จะหลังด้านหลังเพื่อเผชิญหน้ากับพี่เขา แต่สิ่งที่ผมเห็นทำเอาผมตกใจไม่น้อยเมื่อด้านหลังของผมไม่มีใครอยู่เลย

   นั่นมันทำให้ผมขนลุกขึ้นมาทันทีแล้วลมหายใจที่เป่ารดแก้มผมจากทางด้านหลังเมื่อกี้มันคืออะไร

   
   “เจ้าเต็มใจมากับข้าเองต่างหาก”

   แล้วเสียงทุ้มต่ำก็ดังมาจากด้านข้างของตัวผมทำให้ผมกระทดตัวหนีทันทีด้วยความตกใจ ผมขยับตัวไปชิดโซฟาอีกด้านในทิศที่ตรงข้ามกับเสียง ตอนนี้ผมขยับตัวได้อย่างที่ใจนึกแล้ว แต่ก็ไม่สามารถลุกขึ้นจากโซฟาตัวนี้ได้เลย

   “พะ พี่มาได้ไง”ผมยกมือขึ้นตั้งการ์ดถามเสียงสั่น

   เมื่อมองเห็นพี่ธารานั่งอยู่อีกฝั่งของโซฟาไกลจากผมแค่เอื้อม

   แต่ในสายตาพี่ธาราผมคงเป็นได้แค่ลูกแมวที่กำลังขู่ฟ่อฟ่อมากกว่า


   “รู้บ้างไหมว่าท่าทีของเจ้านั้นไม่ได้แตกต่างจากชาติก่อนแม้สักนิด เจ้ามิต้องกลัวข้าไปหรอก ข้ายังไม่ทำอะไรเจ้าตอนนี้”พี่ธาราบอกพลางยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

   “งะ งั้นพูดอย่างนี้แสดงว่าพี่จะทำตอนอื่นใช่ไหม ตกลงพี่จะกินผมจริงจริงใช่ไหม”

   มณีเบียดตัวเข้ากับที่พักแขนของโซฟาอีกด้านพลางชันเข่าขึ้นเป็นการบอกเป็นนัยน์ว่าถ้าเข้ามาผมถีบพี่เขาจริงจริงแน่

   “เจ้านี่ช่างคิดไร้สาระได้เก่งไม่เปลี่ยนแปลงเลยเชียว”

   “นี่พี่ จะหาว่าผมไร้สาระเหรอ”

   “นั่นเจ้าก็คิดไปเอง”พี่ธารายิ้ม

   “แล้วพี่จับผมมาทำไม พี่ไม่ทำอะไรผม พี่ก็ปล่อยผมไปสิ คนก็ส่วนคน ยักษ์ก็ส่วนยักษ์ สัญญาว่าผมไม่บอกใครหรอก เราต่างคนต่างอยู่เหอะนะ”

   “ที่พาเจ้ามาที่นี่ ข้าเพียงแค่อยากจะเตือนให้เจ้าได้เตรียมใจเท่านั้น ไม่ได้ต้องการจะทำอะไรอย่างที่เจ้าคิดอยู่หรอกนะ อภัยมณี”

   “ตะ เตรียมใจอะไร ไหนพี่บอกว่าจะไม่กินผมไง” ไหนบอกว่าจะไม่กินผมแล้วไง แล้วจะให้ผมเตรียมใจทำไม

   “ข้าไม่ได้จะกินเจ้าหรอก ต้องให้ข้าบอกเจ้าครั้งกี่ครั้งเชียว เจ้าเด็กงี่เง่า”

   “อย่ามาว่าผมงี่เง่านะ ละ แล้วทีพี่ล่ะ ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกชื่อเต็มแบบนั้น แล้วก็บอกมาสักทีว่าผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

   “ข้าบอกแล้วว่าเจ้าเต็มใจที่จะมาเอง”ธาราตอบพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ ถึงมันจะดูดีแค่ไหน แต่ผมก็อยากจะต่อยเขาสักทีให้หายเจ็บใจ
   ทำไมพี่เขาถึงได้เข้ามายุ่งกับชีวิตผมจนมันวุ่นวายอย่างนี้

   “ไม่จริงน่า ผมไม่มีทางเต็มใจจะมากับพี่ง่ายง่ายหรอก พี่ใช้เวทมนต์กับผมใช่ไหม พี่เองก็เป็นพ่อมดด้วยใช่ไหมล่ะ”

   “ทำไมเจ้าชอบพูดอะไรที่มันน่าขบขันนัก ข้าไม่ได้ใช้เวทมนต์หรือเป็นพ่อมดอะไรอย่างที่เจ้าว่าหรอก”

   “แล้วทำไมผมถึงมาที่นี่ได้ล่ะ ไม่มีทางที่ผมจะเต็มใจมากับพี่เองเด็ดขาด”ผมพูดพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย

   “ข้าเพียงแค่ใช้มนตราแปรเปลี่ยนใจให้เจ้าคล้อยตามสิ่งที่ข้าพูดเพียงแค่นั้น”

   “แล้วมันต่างจากใช้คาถา ใช้เวทมนต์ตรงไหน พี่นี่มันมั่วจริงจริงเลย”มันแตกต่างจากเวทมนต์คาถาตรงไหนเนี่ย ไอ้คำว่ามนต์ตรา
 
   “อ้อ งั้นรึ”พี่ธารายิ้มเล็กๆพลางยักไหล่ด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ ยังมีหน้าจะมาไหลไปเรื่อยอีก มันน่าหมั่นไส้ดีจริงจริง

   “แล้วเรื่อง นั้น มันหมายความว่ายังไง”

   “เรื่องอะไร?”

   “ก็เรื่องนั้นไงเล่า เรื่องที่พี่บอกให้เตรียมใจ ไหนบอกว่าจะไม่กินผม”ถึงผมจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังคล้ายกับว่ากำลังจะข่มพี่เขา
   แต่ตัวผมนี่กำลังจะเบียดแทบจะแทรกลงไปรวมกับพื้นผิวของโซฟาเลยทีเดียว

   “เรื่องที่เจ้าต้องชดใช้ยังไงล่ะ”

   “ผมต้องชดเชยอะไร” คงไม่ใช่ว่าเรื่องที่บอกตอนเจอกันครั้งแรกหรอกนะ ที่ว่าให้ผมผสมพันธุ์กับพี่เขา

   “เจ้าต้องชดใช้เผ่าพันธุ์ยักษ์ด้วยการมีบุตรให้แก่ข้า”

   “อะ อะไร แล้วทำไมผมต้องมีลูกกับพี่ด้วยล่ะ”

   “มันเป็นการปลดปล่อยพวกเราจากกรงขังที่เจ้าได้ก่อเอาไว้เมื่ออดีตชาติ”

   “เดี่ยว เดี๋ยว กรงขังอะไร ผมไม่เคยได้รู้เรื่อง แล้ว ต้องมีลูกกันอย่างเดียวเลยรึไง ทำอย่างอื่นไม่ได้เหรอ แบบอุทิศส่วนกุศลอะไรเทือกนั้นน่ะ”

   “มีทางเดียวที่จะปลดปล่อยพวกเราได้ นั่นคือข้ากับเจ้าจะต้องมีบุตรร่วมกัน”

   “ไม่มีทาง”ผมยกมือค้าน

   “เจ้ามิอาจหลีกหนีโชคชะตาได้พ้นหรอก ในราตรีของคืนเพ็ญเดือนยี่ เจ้าจักต้องสืบพันธุ์เชื้อสายครึ่งมนุษย์ครึ่งยักษ์ให้แก่ข้า เมื่อใดที่กำเนิดสายเลือดของเราออกมา เมื่อนั้นโซ่กรรมของเจ้าก็จักถูกปลดออก หนี้ที่เจ้าคั่งค้างกับเผ่าพันยักษ์ก็จักจบสิ้นทันที”

   “เดี๋ยว เดี๋ยวสิ เดือนยี่ที่พี่ว่านี่มันเดือนกุมภาใช่ไหม”

   “ใช่”

   “เดี๋ยวสิ นั่นมันอีกแค่เดือนเดียวเองนี่”ผมพูดเสียงดังอย่างตกใจ

    อะไรกัน จู่ๆก็จะให้เตรียมใจมีลูกพี่เขา แล้วอีกแค่เดือนเดียวเองนี่นะ มันเป็นไปไม่ได้ ผู้ชายจะมามีลูกกับผู้ชายด้วยกันได้ยังไง

   “เวลาหนึ่งเดือนก็เพียงพอแล้วสำหรับการที่จะให้เจ้าเตรียมใจ”พี่ธาราบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

   แต่สำหรับผมมันเป็นเหมือนกับเสียงกระซิบที่พัดผ่านหูลอยหายไปกับสายลมมากกว่า

   ผมนิ่งอึ้งมองพี่ธาราตาค้าง ไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะต้องมีลูกกับพี่ธาราจริงจริง ทั้งๆที่ผมเองก็เป็นผู้ชายผู้ชายพี่เขาก็เป็นผู้ชาย

   ทำไมชาติที่แล้วผมต้องเกิดเป็นพระอภัยมณีด้วย ไม่น่าไปเป่าปี่ให้นางผีเสื้อสมุทรได้ยินเลย ถึงได้เป็นผลกรรมาจนถึงชาตินี้
   “แล้วจะให้ผมทำยังไง”ผมถามลองเชิง พลางมองพี่ธาราด้วยท่าทีหวาดหวั่น

   “เจ้ามิต้องทำอะไร แค่ร่วมรักกับข้า แล้วก็”ธาราบอกเสียงเบาพลางคืบคลานเข้ามาหาผมอย่างใจเย็น

   แต่นั่นก็ทำให้ผมตกใจไม่น้อย ผมยกมือขึ้นกันพี่เขาทันที แต่ร่างกายมันก็นิ่งอยู่แค่นั้นเหมือนกับถูกตรึงเอาไว้อีกครั้ง

   “ฮึก”

   ผมสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงมือร้อนๆสอดของพี่เขาสอดเข้ามาภายใต้เสื้อนักศึกศาตัวบาง

   ผมนิ่วหน้าลงอย่างเสียวไส้เมื่อมือนั้นลูบไว้ไปมาบนหน้าท้องของผม จนรู้สึกว่ามันสะท้านไปทั้งร่างกาย

   พี่ธาราโถมตัวขึ้นคร่อมอยู่เหนือร่างของผมพลางโน้มหน้าเข้ามาใกล้ซึ่งแน่นอนว่าผมหลบเลี่ยงไม่ได้เพราะกำลังโดนตรึงด้วยสิ่งที่มองไม่เห็น


   “อุ้มท้องลูกของข้า แค่เจ้าอุ้มให้ลูกของเราเท่านั้น”พี่ธารากระซิบข้างหูพลางเป่าลมร้อนรดหูผม

   “อือ”ผมร้องขึ้นอย่างขัดใน เมื่อนิ้วร้อนกรีดเล็บวนตรงแอ่งสะดือของผมไปมาจนผมต้องงอตัว

   ทำไมกัน ทำไมผมถึงขยับตัวไม่ได้ ทั้งที่อยากจะถอยหนี อยากจะขัดขืน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยสักนิด

   “เจ้าอย่าคิดหนี หรือว่าขัดขืนเป็นอันขาด อภัยมณี หนี้ครั้งนี้ของเจ้าช่างใหญ่หลวงยิ่งนัก เจ้ามิอาจขัดขืนโชคชะตาที่ฟ้าได้ลิขิตเอาไว้ได้หรอก”พี่ธารากระซิบ

   คราวนี้น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าว จมูกร้อนผ่าวของพี่เขากดลงบนผิวคอของผมโดยที่ผมไม่อาจจะเบี่ยงหลบได้เลย

   “ฮึก พี่จะบ้ารึไง เป็นไม่ไม่ได้หรอกที่ผู้ชายจะมีลูก ผมมีลูกให้พี่ไม่ได้หรอก”ผมเถียง พยายามเบือนหน้าจมูกที่จรดลงมาบนต้นคอ แต่ทว่ากายกับแข็งทื่อ

   “เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าจักรู้เอง”

   “แล้วถ้าผมไม่ยอมล่ะ ถ้าผมไม่ทำ”

   ผมถามอย่างลองเชิง แต่ทว่าสิ่งที่ถามออกไปกลับเป็นเหมือนหอกที่พุ่งกลับมาทิ่มแทงตัวผมเอง

   ฉับพลันดวงตาสีดำสนิทก็กลับกลายเป็นสีเขียวมรกตที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

   เรียวคิ้วดกดำเริ้มแปลเปลี่ยนสภาพเป็นลวดลายกระหนกวิจิตรงราวกับเป็นรอยสักที่บรรจงวาดมันขึ้นมา

   ริมฝีปากหยักแสยะยิ้มมุมปากเผยให้เห็นเขี้ยวที่ยาวยื่นออกมาสองข้าง งอโง้งอย่างงดงาม ผมสีดำสนิทราวกับสีของยามค่ำคืนจากที่สั้นระลำคอก็ยาวจนคลอเคลียช่วงลาดไหล่

   เรือนร่างกำยำที่จัดว่าสูงใหญ่อยู่แล้วก็ขยายใหญ่ขึ้นอีกจนบดบังแสงไฟเกิดเงาทะมึนขึ้นทาบทับร่างของผมทันที

   ผมตาเบิกกว้างด้วยความตกใจพยายามกระถดตัวหนี แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อมือใหญ่ของพี่ธารายื่นมาจับโครงหน้าของผมตรึงเอาไว้ให้จ้องมองสบกับดวงตาสีมรกตที่กราดเกรี้ยวของเขาแน่น

   “พะ พี่ธารา”ผมเรียกชื่อเขาเสียงเบา พยายามหันหน้าหนีมือแข็งแรงที่ตรึงโครงหน้าเอาไว้อย่าง

   “เจ้าคิดว่าเจ้าจะขัดขืนโชคชะตาได้อย่างนั้นหรือ อภัยมณี โชคชะตามันมีอาจฝืนได้หรอกนะ”พี่ธาราพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน พลางจ้องลึกเข้ามาในดวงตาสีอ่อนของผม

   “ไม่จริง ทำไมจะทำไม่ได้ ในเมื่อผมไม่ยอมซะอย่าง”ใช่ ผมจะไม่ยอมให้พี่เขาทำอะไรตามใจชอบกับตัวผมเด็ดขาด

   “นั่นมันไม่ได้อยู่ที่เจ้า ว่าเจ้าจะยอมหรือไม่ แต่มันอยู่ที่ข้า”ธาราบีบมือลงบนคางของผมพลางเชิดมันขึ้นจนผมรู้สึกเจ็บ

   “ก็ผมไม่ยอมซะอย่าง พี่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว”ผมนิ่วหน้าพยายามเถียง

   “หากเจ้าไม่ยอมโดยดี ข้าก็จักฝืนใจเจ้า”

   “หมายความว่ายังไง นั่นมันไม่ถูกต้อง พี่จะมาบังคับผมได้ยังไง ผมไม่ใช่สิ่งของที่พี่จะมาทำอะไรตามใจชอบนะ”

   “เช่นใดเจ้าถึงคิดว่าข้าทำไม่ได้”

   “ไม่ได้ก็คือไม่ได้ไง คนเราจะมีลูกกันก็ต้องมีอะไรกันไม่ใช่รึไง”

   “เจ้าคิดถูกต้อง แล้วมีอันใดที่เจ้าไม่เข้าใจงั้นรึ”พี่ธาราตอบ พลางคลายมือที่หน้าผมแน่นออกแต่ก็ยังไม่ปล่อยอยู่ดี

   เทียบกับมือพี่ธาราแล้วใบหน้าของผมดูเล็กลงไปถนัดตาเลยดีเดียว

   เขี้ยวที่โผล่ออกมาของพี่เขาเริ่มคืนกลับสภาพไปสภาพเก่า เรียวคิ้วก็บางลงไปเหมือนกับคิ้วของคนปกติแล้ว

   “แต่ว่าคนจะมีอะไรกันมันก็ต้องรักกันไม่ใช่รึยังไง”มณีถาม

   พยายามคิดหาทางหลบเลี่ยง ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ยอมให้พี่เขามาทำอะไรผมง่ายง่ายเด็ดขาดถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะคิดว่าผมไม่ท้องก็ถาม ถ้าหากว่าพี่เขาเกิดทำอะไรผมขึ้นมาจริงจริง

   “ใช่แค่ส่วนเดียวเท่านั้น ความใคร่ มีทั้ง ใครแบบพิศวาส กับใคร่แบบรักใคร่”พี่ธาราพูดเสียงเรียบก่อนจะปล่อยผมแล้วถอยกลับไปนั่งที่เดิม

   “หมายความว่าไง พี่จะบอกให้ผมมีลูกกับพี่โดยที่ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ คนเรามีอะไรกันอย่างน้อยก็ต้องรู้สึกดีต่อกันบ้านสิ ใช่ว่านึกจะทำก็ทำ ผมไม่ยอมหรอกนะ”

   “ข้าก็ยังมิได้บอกเช่นนั้น”พี่ธาราแก้

   “ยังไงผมก็ไม่ยอมเด็ดขาด ผมไม่ยอมมีอะไรกับคนที่ไม่ได้รักหรอกนะ”ผมค้านหัวชนฝา พลางยกมือขึ้นลูกคางที่โดนพี่ธาราบีบเมื่อครู่

   บีบกันมาได้ เจ็บชะมัด

   “ถ้าเช่นนั้นเจ้าจะทำอย่างไร ในเมื่อหัวใจคนเรามิอาจบังคับกันได้”

   “นั่นผมก็รู้อยู่แล้ว”

   “แล้วเช่นนั้นเจ้าต้องการสิ่งใด”

   “คือ มันก็ไม่ใช่อย่างนั้น ยังไงผมก็หนีนายไม่พ้นอยู่ดีใช่ไหมล่ะ อย่างน้อย ก็”ผมอ้ำอึ้ง เสตามองไปทางอื่นเมื่อรู้สึกได้ว่าพี่ธารากำลังจ้องมองผมอยู่ไม่วางตา

   “เจ้ามีสิ่งใดก็พูดออกมา”พี่ธาราจ้องมองผมอย่างคาดคั้น

   “เออน่า อย่างน้อย พี่ก็น่าจะ เอ่อ คือ”

   “น่าจะอันใด”

   “ก็น่าจะจีบกันก่อนดิ อย่างน้อยคนจะมีอะไรกันก็ต้องรู้สึกดีต่อกัน ถ้าพี่ไม่ทำให้ผมรู้สึกดีกับพี่ผมก็ไม่ยอมมีอะไรกับพี่หรอกนะ บอกไว้ก่อนว่าผมจะไม่ยอมมีอะไรกับใครง่ายง่ายหรอกนะถ้าผมไม่ได้รู้สึกดีด้วยน่ะ”ผมบอกพลางเบือนหน้าหนี

   ว่าแต่ทำไมผมต้องหน้าแดงใส่พี่เขาด้วยนะ รู้สึกว่าตัวเองกำลังพูดเชื้อเชิญเขาอยู่ยังไงก็ไม่รู้

   “อ้อ เจ้าหมายถึงให้ข้าเกี้ยวเจ้าเช่นนั้นรึ”

   “ก็เออไง แล้วทำไมพี่ต้องพูดว่าเกี้ยวด้วย มันน่าอายไม่ใช่รึไง ”ผมยกมือขึ้นโบกไปมา

    ทำไมต้องรู้สึกเขินไอ้ยักษ์นี่จนวางตัวไม่ถูก ก็ไม่รู้ ไม่รู้จะเอามือไม้ไปวางไว้ตรงไหนดี

   “แล้วถ้าข้าเกี้ยวพาเจ้าไม่สำเร็จล่ะ”พี่ธาราถาม

   ทำให้ผมครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ หัวสมองเริ่มคิดถึงแผนการที่จะเอาตัวรอดโดยไม่ต้องตกเป็นเมียของเขาได้

   “ถ้าพี่จีบผมไม่สำเร็จ พี่ก็ห้ามผสมพันธุ์กับผมเด็ดขาด โอเคไหม”   “หากไม่สำเร็จข้าก็ใช้กำลังฝืนใจเจ้าก็สิ้นเรื่อง”

   “ไม่ได้นะ พี่จะมาขืนใจคนอื่นง่ายๆได้ยังไง หรือว่าพี่ไม่กล้าเดิมพันกับผม เพราะกลัวจะจีบผมไม่ได้ใช่ไหมล่ะ”ผมเชิดหน้าขึ้น

   “หึ เรื่องนั้นข้ามั่นใจอยู่แล้วไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติก่อน ใจเจ้าก็จักอ่อนไหวมิเคยเปลี่ยนแปลง  เพียงแค่ข้าคิดว่าไม่จำเป็นที่จักต้องตอบรับข้อเสนอของเจ้าในเมื่อเจ้าจักเป็นผู้ที่ต้องชดใช้ แต่เอาเถอะ ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้นข้าก็จักยอมเจ้าสักครั้งก็แล้ว
กัน”

   “พี่สัญญาเองนะ ถ้าหากว่าพี่ทำไม่ได้ล่ะก็ พี่จะเลิกยุ่งกับผม แล้วก็จะ เอ่อ จะไม่จับผมผสมพันธุ์ด้วย โอเคไหม”

    “ได้ ข้าสัญญา”พี่ธาราตอบพลางยิ้มมุมปาก ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ปล่อยผมให้หลุดไปจากเงื้อมือเขาง่ายง่ายอยู่ดี



   ‘เจ้าเตรียมใจไว้ให้ดีเถิด อภัยมณี ข้าจักให้สินสมุทรได้เกิดมาลืมตาดูโลกอีกครั้ง พร้อมแก้วแห่งอายุราที่เจ้าได้ฉกชิงไปเมื่อครั้งก่อน’

   
***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***


17/09/58

โอยยย แก้ไขเกือบทุกบรรทัด ทำไมมันเยอะอย่างเน้ แงแง เมื่อไรจะแก้เสร็จ เหลืออีกสองตอน

หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 17/09 [CH.5] มนตรา (ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 17-09-2015 08:47:24
ติดตามตอนต่อไปปปปป

อยากเห็นมณีตอนท้องแล้ว ><
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 17/09 [CH.5] มนตรา (ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 17-09-2015 16:02:16
 :hao6:
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 17/09 [CH.6] โน้ตเพลง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 17-09-2015 16:52:05
9432
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ชดใช้ครั้งที่ 6 เพลงพิฆาต

   “ทะ ท่านเป็นใครน่ะ”ร่างสูงโปร่งนั่งชันเข่าอยู่บนเตียงไม้หลังใหญ่ถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนกเมื่อมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาภายใน

   เป็นเวลาล่วงเลยผ่านมาจนนับวันนับคืนไม่ถูกแล้วที่พระอภัยมณีถูกลักพาตัวมาโดยนางผีเสื้อสมุทร เขาถูกนางผีเสื้อสมุทรขังไว้ภายในถ้ำใหญ่นี้โดยไม่เคยได้เห็นเดือนเห็นตะวันสักครั้ง ร้องเรียกให้คนช่วยก็ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับจากภายนอกถ้ำเลยสักครั้ง
   “แล้วเจ้าคิดว่าข้าเป็นใครล่ะ”

   “ทะ ท่านเป็นยักษ์หรือไม่”อภัยมณีถามพลางกระถดตัวชิดหัวเตียงสี่เสาหลังใหญ่

   “ข้าชื่อธาราสมุทร เป็นพี่ชายของนางผีเสื้อสมุทร”ร่างสูงกำยำ ไร้เสื้อผ้าปกปิดส่วนบนเดินเข้ามาภายในโถงถ้ำที่พระอภัยมณีอยู่ด้วยท่าทีนิ่งเฉย

   “งะ งั้นท่านก็เป็นยักษ์น่ะสิ”

   “เจ้ากลัวข้างั้นรึ”ธาราสมุทรถามเสียงดังก้อง พลางจ้องมองร่างสูงโปร่งไร้ซึ่งกล้ามเนื้อกุมมือกับเครื่องดนตรีประจำกายแน่น

   “ขะ ข้ามิได้กลัวท่านสักหน่อย ข้าเพียงแค่ตกใจ ที่จู่จู่ท่านก็โผล่เข้ามา”

   “อ้อ งั้นเหรอ แล้วนี่เจ้าร้องไห้หรืออย่างไรกัน”ธาราสมุทรเดินมาชิดขอบเตียงพลางนั่งลงอีกฝั่ง

   “ขะ ข้ามิได้ร่ำไห้เสียแต่อย่างใด ท่านนี่ช่างพูดจามั่วยิ่งนัก”อภัยมณีขมวดคิ้วพลางเบือนหน้าหนี

   “งั้นรึ งั้นข้าคงจะตาฝาดไปเอง”ธาราสมุทรพูดพลางยิ้มอย่างขบขัน เมื่อเจ้าตัวที่นั่งชิดอยู่อีกริมฝั่งเตียงรีบเช็ดหยาดน้ำตาที่ยังไม่เหือดแห้งอยู่บนพวงแก้มออกอย่างรวดเร็ว

   “แล้วท่านเข้ามาได้อย่างไร ต้องการอะไร ยะ อย่าบอกนะว่าท่านจะกินข้า”พระอภัยมณีจ้องมองอีกฝ่ายอย่างหวาดระแวง

   “ข้ามิได้จะกินเจ้าหรอก ข้ามิชอบเนื้อมนุษย์”

   “มิน่า ท่านถึงมีกลิ่นกายต่างจากนางผีเสื้อสมุทรนัก”

   “งั้นหรอกเหรอ เจ้านี่ช่างเจรจาเสียจริง ทั้งที่ตัวยังสั่นอยู่แท้แท้”

   “ข้าปล่าวสั่นนะ ข้าแค่ตั้งหลัก ข้ามิรู้ว่าท่านจะกระโจนเข้าใส่ข้าเมื่อใด ข้าก็แค่ ระวังตัวเองไว้เพียงแค่นั้น”

   “งั้นหรอกรึ งั้นเจ้าพอจะบอกนามของเจ้าให้ข้ารู้ได้หรือไม่ล่ะ”ธาราสมุทรยิ้มกับคำตอบที่ได้รับฟัง พลางไถ่ถามกลับอย่างใคร่รู้

   เหยื่อที่น้องสาวของตนจับมา ช่างน่าดูน่ามองยิ่งนักจนไม่อาจที่จะละสายตาไปได้ รูปโฉมงามสมกับที่นางผีเสื้อสมุทรทุ่มเทใช้มนตราลักพาเอาตัวมาเสียจริง

   ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่นางผีเสื้อสมุทรออกไปหาอาหาร เขาเห็นต้องลอบเข้ามาภายในถ้ำนี้เสมอ เพียงเพื่อมาดูหน้าของคนรูปงาม เจ้าของเพลงปี่หวานหู

   “ข้าชื่อ อภัยมณี”

   “ชื่อช่างแปลกนัก”

   “ท่านก็ชื่อยาวเกิน ข้าเรียกยาก”

   “งั้นเรียกข้าว่าพี่ธาราก็ได้ ข้ามิถือสา”

   “ทำไมข้าต้องเรียกท่านว่าพี่ด้วยเล่า ท่าอายุสักเท่าใดเชียว”

   “ข้าอายุ หกสิบกว่าปีแล้ว เช่นนี้เจ้าจะเรียกข้าว่าพี่ได้รึยังเล่า”ธาราสมุทรยกยิ้ม มองดูคนที่กอดปี่ประจำตัวแน่น จ้องมอมางเขาด้วยท่าทีราวกับสัตว์ตัวเล็กกับลังตั้งท่าขู่ป้องกันตัว

   “ก็ได้ ข้าเรียกท่านว่าพี่ก็ได้ ว่าแต่ ท่านพอจะมีของกินติดตัวมาบ้างหรือไม่ ข้าเบื่อผลไม้พวกนี้เต็มทน”พระอภัยมณีหันมาถาม พลางกระเถิบตัวเข้ามาใกล้ธาราเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายวางตัวเฉยนิ่งไม่มีท่าทีว่าจะทำร้ายตน

   “ข้ามิมีหรอก แต่ถ้าเจ้าต้องการ ครั้งหน้าข้าอาจจะมีกุ้งหอยปูปลาติดไม้ติดมือมาหน่อยก็ย่อมได้”

   “อ่า ท่านพูดจริงนะ จะไม่ปดข้าใช่ไหม พี่ธารา”อภัยมณีคลานเข่าเข้ามาใกล้ ช้อนตามองร่างสูงอีกฝั่งเตียงอย่างมีความหวัง

   “ข้าจักต้องปดเจ้าทำไม เห็นข้าเป็นคนสับปลับเช่นนั้นรึ”ธาราถาม พลางเลิกคิ้ว เมื่อสังเกตเห็นว่าคนที่ตั้งท่าทีขู่ราวกับสัตว์ตัว
เล็กๆกำลังกลัว คืบคลานมาจากริมฝั่งเตียงตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ จนตอนนี้มานั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยว่าเผลอลืมที่จะระวังตัวไปเสียแล้ว


   ‘เจ้านี่ช่างเดียวสานัก อภัยมณี’





***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***


   ท่ามกลางกลางคืนที่สนจะวุ่นวายของเมืองแห่งการท่องเที่ยว ที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวง แสงสีของดวงไฟยามค่ำคืนเปิดถูกเปิดจนสว่างทั่วท้องถนน

   ผมนั่งเบียดตัวชิดกับประตูรถฝั่งตรงข้ามคนขับพลางลอบมองไปที่พี่ธาราอย่างไม่ไว้ใจ

   ใครจะรู้ว่าพี่ธาราก็มีรถขับกับเขา แถมเป็นรถหรูราคาหลักเจ็ดหลักแปดที่แม้แต่ผมก็ยังกระดากที่จะยกก้นตัวเองขึ้นมานั่ง

   ผมเหลือบตามองพี่ธาราที่ตอนนี้กับลังอยู่ในคราบมนุษย์ธรรมดาที่แสนจะดูดีจนกลบรัศมีวันรุ่นของผมจนหมด กำลังจับจ้องท้องถนนเบื้องหน้าอย่างใช้สมาธิ

   ไม่รู้มาก่อนเลยว่าพี่เขาจะขับรถเป็น ความจริงผมไม่ได้อยากจะให้เขามาส่งเงยสักนิด

   แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อรถมอเตอร์ไซของผมยังจอดอยู่ที่มหาวิทยาลัย ถ้าไม่ให้พี่เขามาส่งผมคงจะต้องเดินกลับเอง
   แต่จะเพราะใครล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ธารา ไอ้ยักษ์ที่อยู่ในคราบมนุษย์คนนี้


   ผมก้มลงมองนาฬิกาเมื่อรถของพี่ธาราจอดเทียบประตูรั้วไม้เตี้ยสีครีมของบ้านผม ผมก็ถึงกับตาโตเท่าไข่ห่านขึ้นมาทันที

   
   “ตายห่าน เที่ยงคืน ชิบหายแล้ว”ผมร้องอย่างตกใจ

   อุตส่าห์สัญญากับพ่อไว้ว่าจะกลับไม่เกินสองทุ่ม แล้วนี่อะไร แล้วนี่มันอะไร!! เที่ยงคืนพอดิบพอดี ไม่ขาดไม่เกิดแม้แต่วินาทีเดียว
   โครก!!!

   มิหนำซ้ำท้องของผมก็ยังร้องอีก ผมหันไปมองค้อนคนขับอย่างหงุดหงิดทันทีที่ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของอีกฝ่าย

   ยังมีหน้ามาหัวเราะผมอีก ที่ผมเป็นอย่างนี่ก็เพราะเขาไม่ใช่รึไง

   “เพราะพี่เลย เป็นเพราะพี่คนเดียว หมูกระทะผมก็ไม่ได้กิน แล้วยังกลับบ้านดึก พ่อต้องยึดกุญแจรถผมแน่”

   “ถ้าพ่อเจ้ายึดกุญแจรถ ข้าจะเป็นคนมารับส่งเจ้าถึงที่เอง”

   “ไม่ต้องเลย!! อย่าแม้แต่จะคิด”

   “ทำไมเล่า เจ้าเองมิใช่รึ ที่เป็นคนเชิญชวนให้ข้ามาเกี้ยวพาเจ้าเอง”

   “ใครไปเชิญชวนพี่ตอนไหน พี่อย่ามามั่วดิ”

   “ก็ได้ๆ เจ้ามิได้เชิญชวนข้า เจ้าเพียงแค่ให้ท่าข้าเท่านั้น”พี่ธาราตอบแล้วยกยิ้ม

   “พี่ไปเอาคำแบบนี้มาจากไหนวะเนี่ย ผมไม่ได้ให้ท่าพี่สักหน่อย พี่อย่ามาพูดแบบนี้ดิ แม่ม ไปแล้ว ขอบคุณที่มาส่ง คราวหลังไม่ต้อง”

   ผมบอกเสียงห้วนพลางเปิดประตูรถ

   “เดี๋ยวสิ”   แต่ว่าผมก็ถูกธาราดึงมือเอาไว้ให้เซไปทางพี่เขา

   “อะไร อะ อื้อ”

   จู่จู่พี่ธาราคว้าเอาคอผมโน้มเข้าไปหาก่อนที่จะประกบริมฝีปากของที่เขาจะเข้ามาประกบบนปากของผม แต่ก็แค่แวบเดียวเท่านั้น
   แต่นั่นมันก็มากพอที่จะทำให้ผมอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหน ผมผลักพี่เขาออกทันที ทันทีที่พี่เขาปล่อยมือ

   “นะ นี่มัน ทำอะไรน่ะ”ผมถามพลางยกมือขึ้นเช็ดปากตัวเองเป็นระวิง

   “จูบฝันดี แบบที่คนรักเขาทำกันอย่างไรล่ะ เจ้านี่ เป็นคนบอกให้ข้าจีบเจ้า พอข้าทำเจ้าก็ตื่นตูมเป็นนกแตกรังไปได้”

   “พี่นี่มัน เข้าใจอะไรบ้างไหมเนี่ย ฮึ่ย ผมไม่รู้จะพูดยังไงกับพี่แล้วเนี่ย”

   ปึง!!!

   ผมกระแทกประตูรถเบนซ์สปอร์ทสุดหรูอย่างแรง ไอ้รถคันเล็กๆที่นั่งได้แค่สองคน แถมราคาก็แพงแสนแพง มันน่าโมโหนัก
   เป็นแค่ยักษ์แท้แท้ แต่ทำไม ทั้งหล่อทั้งรวย  ทั้งดูดีแทบคนอื่นเขาแทบจะมองว่าเป็นเทวดามาจุติขนาดนี้

   ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วผมทำกรรมอะไรมาอีกนอกจากฆ่านางผีเสื้อสมุทร ทำไมชีวิตผมถึงได้ต้องเจอแต่เรื่องราวน่าปวดหัวอย่าง

   

   ผมเอื้อมมือไปปลดล็อกกลอนประตูรั้วอย่างเบามือกลัวว่าคนในบ้านจะตื่นขึ้นมาแล้วจับได้ว่าผมกลับบ้านดึก

   แต่ไม่ทันไรขนหลังผมก็พร้อมใจพากันลุกซู่เมื่อได้ยินเสียงดังมาจากโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้านแต่ไกล

   “ไอ้มณี เอ็งไปไหนมา ถึงได้กลับมาเสียดึกดื่นมืดค่ำอย่างนี้ นี่แม่เอ็งรอเอ็งจนหลับไปแล้วเอ็งรู้บ้างไหม”

   “เอ่อ คือว่า”ผมอ้ำอึ้ง ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามพ่อยังไงดี จะบอกว่าถูกยักร่ายคาถาใส่แล้วลักพาตัวไป อย่างนี้ดีไหม พ่อจะได้คว้าไม้เรียวฟาดน่องผมลายพอดี
   
   “ว่าไง พ่อรอเอ็งจนนั่งสัปปะหงกไปหลายรอบ ไหนเอ็งตกลงกับพ่อว่าไม่เกินสองทุ่ม”

   “เอ่อ คือ มณีไป”

   “ว่าไงก็ว่ามา อย่ามัวอ้ำอึ้ง”
   ไม่รู้จะตอบพ่อว่ายังไงดี ไม่ได้ซ้อมบทมาซะด้วย ไอ้ครั้นจะพูดความจริงไป พ่อก็คงหาว่าผมโกหกอยู่ดี

   “เอ่อ คือว่า มณีไป เอ่อ”ผมอ้ำอึ้ง ยกมือเกาหัวตัวเองแกรกแกรก มองดูไม้เรียวที่หวดจนเสียงดังฟึบฟับไปมาในอากาศแล้วกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่

   “ว่าไงก็ว่ามา แล้วนั่นข้างหลังเอ็งน่ะ ใคร? เอ็งไม่คิดจะแนะนำให้พ่อรู้จักหน่อยรึไง”

   “ห่ะ ข้างหลังไหนอ่ะพ่อ”กลางค่ำกลางคืนใครเขาให้ทักกันอย่างนี้ล่ะพ่อ เสียวหลังกันพอดี

   “ก็ข้างหลังเอ็งนั่นไง ตัวสูงๆ พ่อไม่เคยเห็นหน้า”พ่อบอกพลางชี้ไม้เรียวไปทางข้างผม

   “ข้างหลังอะไรล่ะพะ เย้ย มาได้ไงเนี่ย จะลงมาทำม้ายยยย”

   ผมหน้าร้องเสียงหลงยกนิ้วชี้หน้าพี่ธารา ตกอกตกใจหมด มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง จู่ๆก็มายืนยิ้มแบบหล่อร้ายกาจอยู่ข้างหลังผมได้

   “สวัสดีครับคุณพ่อ”พี่ธารายกมือไหว้พ่อผมอย่างอ่อนน้อม ทั้งที่ตัวเองอายุมากกว่าพ่อผมเป็นร้อยปีแท้ๆ
   ทำมาเป็นไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ น่าหมั่นไส้ ว่าแต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เขาเรียกพ่อสุทัศน์ของผมว่ายังไงนะ

   “เฮ้ย พี่ ใครเป็นพ่อพี่ ไม่เอา ไม่เรียกพ่อคนอื่นว่าพ่อดิ”ผมโวยวาย

   “เอ็งนี่ก็ขี้โวยวายไอ้มณี ว่าแต่เป็นใครชื่ออะไรล่ะไอ้หนุ่ม”

   “ชื่อธาราครับ เป็นพี่รหัสของน้องมณี วันนี้พาน้องมณีเขาไปเอาหนังสือที่เคยใช้เรียนตอนปีหนึ่ง เลยพาน้องกลับมาช้า ขอโทษด้วยนะครับคุณพ่อ”พี่ธาราบอกพลางปั้นยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติประจบประแจงพ่อผมทันที

   ไม่ได้สนใจผมที่ยืนถลึงตาใส่อยู่ข้างข้างเลยสักนิด เรื่องอะไรพี่เขามาประจบเอาใจพ่อผมเนี่ย

    ผมนี่แทบจะเต้นแร้งเต้นกาเลยทีเดียว พ่อนะพ่อ จะรู้อะไรบ้างไหม ว่าไอ้พี่ธารานี่มันเป็นยักษ์ มันกำลังจะหลอกขุดเหมืองทองลูกพ่ออยู่ แล้วไอ้พี่ธารานี่ก็เนียนได้โล่เลย ตีสนิทพ่อผมจนได้

   “งั้นเหรอ ก็ว่าอยู่ ว่าทำไมถึงกลับบ้านช้า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เข้ามากินน้ำกินท่าก่อนไหมล่ะพ่อธารา”

   “ไม่เป็นไรครับครับ ไม่อยากรบกวนคุณเพราะ เพราะว่าดึกมากแล้ว เดี่ยวผมกลับเลยดีกว่า พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าน่ะครับ คุณพ่อ”

   “งั้นเรอะ งั้นก็ขอบคุณนะที่มาส่งไอ้มณีมันนะ มืดค่ำดึกดื่นอย่างนี้มันอันตราย กลัวว่าจะมีตัวอะไรมาฉกมันไปกินซะ ยังไงก็ขับรถดีดีล่ะ”ตัวอะไรฉกไปกินหมายความว่าไงล่ะพ่อ เหมือนมีเสศนัยน์

   “ครับ งั้นผมลาเลยนะครับคุณพ่อ”

   “เดี๋ยวสิ”ผมคว้าแขนเสื้อพี่ธาราเอาไว้ทันทีที่พี่เขากำลังจะเดินหันหลังกลับ

   “มีอะไรเหรอครับน้องมณี”พี่ธาราหันมายิ้มหวานจนน่าขนลุก แต่ทำไมผมกลับรู้สึกว่าภายใต้รอยยิ้มที่หวานเชื่อมนั่นมันมีอะไรเคลือบแคลงอยู่กัน

   “อะไรของเอ็งไอ้มณี พี่เขาจะกลับแล้ว จะไปดึงเขาทำไม”

   “จะคุยกับพี่เขาอีกแปบนึงอ่ะพ่อ พ่อเข้าไปก่อนก็เลย”ผมว่า

   “เออ งั้นตามใจเอ็งแล้วกัน”

   ผมมองตามหลังพ่อจนแน่ใจว่าหายเข้าบ้านไปแล้วถึงได้หันมาถลึงตาใส่พี่ยักษ์ธาราตัวโตที่ยืนยิ้มอย่างไม่ทุกรข์ไม่ร้อนอยู่ตรงหน้าผมนี่

   “พี่นี่มัน ผมไม่รุ้จะว่ายังไงดี ใครสั่งใครสอนให้มาเรียกพ่อคนอื่นว่าพ่อกันห่ะ”

   “ก็มนุษย์มักเรียกพ่อแม่ของคู่ชีวิตว่าพ่อแม่ด้วยมิใช่รึไง”

   “มันก็ใช่ แต่ผมไม่ใช่คู่ชีวิตของพี่สักหน่อย”

   “อีกไม่นานก็จะใช่ เจ้าเตรียมใจรอไว้ได้เลย”

   “หึหึ นายพี่คิดว่าพี่จะจีบผมติดรึไง ไม่มีทาง”ผมกอดอกพลางเชิดหน้า ก็ลองดูสิ ไอ้มณีคนนี้ไม่ได้จีบติดกันง่ายง่ายนะ

   แถมอีกฝ่ายลองเป็นผู้ชายด้วย ร้อยทั้งร้อยไม่มีทางที่พี่ธาราจะได้ใจผมไปครองแน่นอน

   “แล้วข้าจะรอดู อภัยมณี”


***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***


   “มณี เอ็งมานั่งนี่สิ”

   ผมก้าวเข้ามาในบ้านได้แค่ก้าวเดียวพ่อก็เรียกผมพลางตบลงที่โซฟาด้านข้างทันที

   “อะไรอ่ะพ่อ”ผมถาม

   “พ่อไม่ยักรู้ว่าเอ็งรู้จักกับคนแบบนั้นด้วย”

   “ก็พี่รหัสน่ะพ่อ”ผมตอบปัดปัด

   ใจจริงอยากจะตอบพ่อด้วยซ้ำว่าพี่เขาเป็นยักษ์ที่เป็นเจ้าหนี้ผมเมื่อชาติที่แล้ว โผล่มาเพื่อจะจับผมผสมพันธุ์ด้วย แต่ถ้าตอบไปอย่างนั้นมีหวังไม้เรียวที่วางอยู่ไกล้ๆมีพ่อคงหวดมาบนน่องของผมแน่   

   “งั้นรึ เอานี่พ่อมีอะไรจะให้ เอ็งเอานี่ไป ลองเล่นดู ถึงเวลาแล้วที่เอ็งต้องใช้มัน”

   พ่อพูดพลางยื่นกระดาษแผ่นเก่าที่เหลืองจนแทบกรอบสามสี่แผ่นให้ผม

   “อะไรอ่ะพ่อ ทำไมเก่าอย่างนี้อ่ะ”ผมรับมาพลางจ้องมองดูกระดาษโน๊ตเพลงแผ่นเก่าที่ไม่สามารถคาดเดาอายุของมันได้เลยว่าเก่าแค่ไหน

   “เออน่า ลองเอาไปเล่นดู แล้วอย่าทำหายล่ะ ของตกทอดมาหลายรุ่นแล้ว”

   “แล้วทำไมต้องเอามาให้มณีด้วยล่ะ พ่อกลัวหายพ่อก็เก็บไว้สิ”

   “เอ้อ ไอ้นี่นินี่ พ่อบอกให้เอาไปก็เอาไปสิ จะมายึกยักอะไร แค่นี้ล่ะ พ่อไปนอนแล้ว แล้วเอ็งก็เตรียมบอกแม่เอ็งเรื่องมอไซให้ดีล่ะ โดนยึดกุญแจขึ้นมาพ่อไม่รู้ด้วยล่ะ”
   “อ่าว พ่อ ยึดไม่ได้นะ พ่อก็ช่วยคุยกับแม่ให้หน่อยไม่ได้รึไง”
   “ไม่รู้เว้ย จัดการเอาเองเรื่องใครเรื่องมัน”
   “อ่าว พ่ออ่ะ พ่อ”ผมเรียก แต่ก็ไม่ทันซะแล้วในเมื่อพ่อเดินขึ้นไปบันไดบ้านไปเรียบร้อยแล้ว
   ผมมองกระดาษโน้ตเพลงสามในในมือ กระดาษที่เก่าจนกลายเป็นสีเหลืองน้ำตาล แต่ก็ไม่มีรอยขีดข่วนจนยับยู่ยี่ราวกับว่าถูกเก็บเอาไว้เป็นอย่างดี
   โน้ตเพลงอะไรของพ่อเนี่ย มันสำคัญมากขนากนั้นเลยรึไงถึงได้ตกทอดกันมาหลายรุ่นจนดูเก่าขนาดนี้ ทำท่าทำทางเหมือนกับมีความลับตลอด


   ผมเดินสะพายกระเป๋าขึ้นห้องด้วยท่าทางเหนื่อยล้า แต่ก็ไม่ได้คลายความสงสัยลงไปบ้างเลยกับไอ้โน้ตเพลงที่พ่อให้มา

   พออาบน้ำเสร็จก็เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ มองดูกระดาษโน้ตเพลง ที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มเล่นยังไง

   ได้แต่คิดอย่างสงสัย แล้วก็สอดมันไว้ที่ลิ้นชักหัวเตียงอย่าไม่ใส่ใจ

   “เอาไว้ก่อนแล้วกัน ค่อยว่ากัน ไว้ในนี้คงไม่หาย”ผมว่ากับตัวเองพลางปิดลิ้นชักลง

   หวังว่าหลังจากนี้คงจะไม่มีเรื่องอะไรวุ่นวายเพิ่มมาอีกไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ผมจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง ไม่รู้ว่าพี่ธารานั่นจะงัดลูกไม้อะไรมาเล่นอีก


***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***


รีไรส์ 17/08/58

อ่า เหลืออีกตอนเดียวจะรีไรส์เสร็จแล้ว

หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 17/09 [CH.6] โน้ตเพลง
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 17-09-2015 18:04:28
เพลงที่ผีเสื้อสมุทรฟังแล้วขึ้นสวรรค์ไปสินะ จะใช้ได้กับยักษ์ตนอื่นไหม?? แบบพี่ธาราไรงี้
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 17/09 [CH.6] โน้ตเพลง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 17-09-2015 20:47:01
เพลงที่ผีเสื้อสมุทรฟังแล้วขึ้นสวรรค์ไปสินะ จะใช้ได้กับยักษ์ตนอื่นไหม?? แบบพี่ธาราไรงี้
เกรงว่านางผีเสื้อสมุทรจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์น่ะสิค่ะ555
หัวข้อ: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 18/09 [CH.7] ดอกไม้ปริศ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 18-09-2015 03:21:58
9729
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ชดใช้หนี้ครั้งที่ 7 ดอกไม้ปริศนา

   ปัง! ปัง! ปัง!

   เสียงเคาะประตูห้องนอนดังโครมคราวแต่เช้าตั้งแต่นาฬิกาปลุกของผมยังไม่ทำงานดังขึ้นทำให้ผมที่กำลังนอนหลับอย่างสบายใจสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที

   ร้อยวันพันปีวัยรุ่นอย่างไอ้มณีไม่ต้องรอให้ใครมาปลุกนอกจากนาฬิกา แล้วไงวันนี้แม่กลับมาเคาะประตูห้องนอนแต่เช้าได้ล่ะ
   “มณี เมื่อไรจะตื่น ปล่อยให้คนอื่นรอมันไม่ดีนะลูก”

   เสียงแม่เรียกโวยวายดังมาจากข้างนอกทำเอาผมชักเริ่มสงสัยปนหงุดหงิดขึ้นมานิดนึงแล้วสิที่โดนปลุกเอาแต่เช้าขนาดนี้
   “ตื่นแล้วแม่ ทำไมวันนี้มาปลุกอ่ะ”ผมตะโกนถามพลางแคะขี้ตาตัวเอง

   “ก็ลูกมีนัดไม่ใช่รึไง ทำไมไม่เตรียมตัวล่ะ”เสียงแม่ดังลอดมาจากด้านนอกทำเอาผมได้แต่เกาหัวแกรกๆด้วยความงง ผมไปมีนัดอะไรยังไงตอนไหน ทำไมผมถึงจำอะไรไม่ได้เลย

   
   “จ๊ะแม่ เดี๋ยวมณีอาบน้ำแปบนึง”

   “เร็วๆล่ะ อย่าปล่อยให้คนอื่นรอนาน”

   คนอื่นอะไร แล้วใครมารอผม ตื่นเช้ามาก็มีเรื่องให้งงอีกแล้ว ครั้นจะออกปากถามออกไปว่าใครมารอเสียงฝีเท้าแม่ก็เดินลงบันใดไปซะแล้ว

   “เฮ้อ เอาแต่เช้า”ผมบ่นกับตัวเอง พลางลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไป




   “มณี ยังไม่ลงมาอีก ลูกคนนี้ นัดคนอื่นไว้แล้วทำไมไม่รีบตื่นมาเตรียมตัว”ยังไม่ทันลงจากบันไดดีเสียงแม่ก็ดังลอดขึ้นมาให้ได้ปวดหูแต่เช้า

   “จ้าแม่ มาแล้ว เนี่ยเสร็จแล้ว ให้รีบไปไหนแต่เช้าเนี่ย”

   ผมถามพลางกำลังติดเข็มขัดให้เข้าที่ เน็กไทที่ยังไม่ได้ผูกดีก็เอาคล้องคอไว้เฉยๆ แขนอีกข้างก็คล้องไว้กับกระเป๋าที่จะหล่นแหล่ไม่หล่นแหล่   แถมเสื้อก็ยังไม่ได้ทับใน

   ช่วยไม่ได้ ก็แม่อยากรีบปลุกเอง ผมถึงได้รีบลงมาในสภาพแบบนี้

   “ดูทำพูดเข้า ลูกคนนี้ ตั้งนานตั้งเนยังแต่งตัวไม่เสร็จอีก ปล่อยให้พี่เขามารอ”แม่บ่นพลางเดินมาดึงแขนผมให้เดินตามไปที่ห้องนั่งเล่นแทนที่จะเดินเข้าครัว


   “อะไรล่ะแม่ มณีไม่ได้นัดใครที่ไหน”ใครมารอผม ผมไม่เข้าใจ จู่ๆแม่ก็เดินลากผมมาที่ห้องนั่งเล่นทำอย่างกับมีใครมารอผมอย่างนั้นแหละ เท่าที่จำได้ผมไม่ได้นัดใครเอาไว้นี่นา

   “ดูพูดเข้า ลูกคนนี้ ขี้ลืมจริงๆ ก็นัดพี่เขาให้มารับไม่ใช่รึไง”

   “พี่เขาไหนอ่ะแม่ ไม่ได้นัดใคร”ผมว่าพลางคว้าเอากระเป๋าที่กำลังจะหล่นลงจากไหล่ไม่ทันได้มองว่ามีใครรออยู่ในห้องนั่งเล่น
   “ไม่เป็นไรครับคุณแม่ ผมรอได้”เสียงทุ้มต่ำแทรกขึ้นทำให้ผมที่ก้มหน้าก้มตาจัดเน็กไทที่เบี้ยวอยู่ให้เข้าที่เงยหน้าขึ้นมามองแขกไม่ได้รับเชิญทันที

   หมายความว่าไง!!

   พี่ธารามาได้ยังไง มาอยู่ในห้องนั่งเล่นบ้านผมแต่เช้าได้ยังไง

   “มาได้ไง!!”ผมชี้หน้าถามเสียงดัง

   ไม่ทันระวังตัวก็โดนทัพพีตักข้าวของแม่เคาะหัวไปอีกทีข้อหาเสียงดังแต่เช้า

   “ก็ลูกนัดพี่เขาให้มารับไม่ใช่รึไง แล้วนี่อะไร ตื่นก็สาย แล้วยังลืมว่านัดพี่เขาให้มารับอีก อะไรกันลูกคนนี้ มันน่าตีนัก ให้พี่เขารอตั้งนาน”

   แม่ยืนเท้าสะเอวพลางบ่น แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือว่า ผมไปนัดให้พี่เขามารับผมไปมหาลัยตอนไหน

   “หมายความว่าไง”ผมหันไปถามพี่ธาราที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่กับพ่ออย่างสบายอารมณ์พร้อมกับดูข่าวยามเช้าที่กำลังถ่ายทอดอยู่ทางหน้าจอทีวี

   “ก็เมื่อคืนน้องมณีบอกให้พี่มารับไงครับ จำไม่ได้เหรอ”พี่ธาราตอบพลางหันมายิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

   “บะ บอกเมื่อไรกัน อย่ามามั่วดิ”ผมโวยวาย แล้วไอ้ท่าทีที่วางตัวเข้ากับครอบครัวชาวบ้านเขาได้เป็นอย่างดี กับไอ้รอยยิ้มชั่วร้ายนั่นอีก นี่มันอะไรกันนี่ ทำไมไอ้พี่ธารามันชอบขี้ตู่อย่างนี้

   “มณี นี่ขนมปัง แม่ใส่กล่องไว้ให้ไปกินที่มหาลัย ไม่ต้องกินข้าวแล้ว พี่เขารอนานแล้ว เอาใส่กระเป๋าไป”

   “อะไรอ่ะแม่ ใครบอกว่ามณีจะไปกับพี่เขา มณีไม่ไป”เรื่องอะไรจะไป ใครจะอยากไปอยู่กับไอ้ยักษ์นี่สองต่อสองกัน

   “เอะ นัดเขาไว้แล้วก็ต้องไปกับเขาสิ พี่เขาอุตส่าห์มารับ เรานี่ยังไง ลูกคนนี้”

   “แม่ อะไรเนี่ย มณีไม่รู้เรื่องอะไรเลย”

   “ไปกันเถอะครับ น้องมณี เดี๋ยวจะสายนะครับ ขอบคุณสำหรับกาแฟนะครับคุณแม่”พี่ธารายิ้มพลางเดินมาจับแขนผมดึงให้เข้าไปหาตัวอย่างแนบเนียน

   เดี๋ยวนะ!นี่อะไรของพี่เขา จะมาจับแขนผมลากไปอย่างนี้ได้ยังไง

   มันจะมากไปแล้วนะไอ้ยักษ์ขี้ตู่ นี่ลูกมีพ่อมีแม่นะเว้ย ถึงพ่อแม่จะดูเข้าข้างกันอย่างดิบดีก็เถอะ

   “จ้า ไม่เป็นไร แม่ต่างหากที่ต้องขอบคุณที่อุตส่าห์มารับมณีไปมหาลัยแต่เช้า แล้วจะยังซื้อขนมมาฝากแม่อีก ขับรถดีดีนะจ๊ะลูก แม่ฝากมณีด้วยล่ะ”แม่ปทุมคุณแม่ยังสวยของผมโบกมือลาด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มทันที

   นี่ใจคอแม่จะไม่แย้งอะไรเขาหน่อยรึไง แถยังไปรับสินบนมันอีก นี่ผมลูกแม่นะแม่

   ปม่นี่ก็ไม่ได้รู้อะไรบ้างเลยว่าไอ้ยักษ์นี่มันต้องการจะขุดเหมืองทองลูกแม่อยู่นะ

   “ครับ งั้นผมลานะครับคุณแม่”พี่ธาราบอกก่อนจะลากให้ผมเดินตามออกมาทันที



   “พี่มาได้ไง ผมไปนัดพี่ตอนไหนเนี่ย ใครบอกให้พี่มารับผม”ผมโวยวายดึงแขนตัวเองออกทันทีที่พ้นประตูรั้วบ้าน

   “ขับรถมา”พี่ธาราตอบพลางยักไหล่ พยักหน้าไปที่รถบีเอ็มดับบริวคันสีดำที่ไม่ใช่คันเมื่อ

   ผมคืนแอบเหล่มองรถคันสีดำเงาวับแล้วก็กลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ อะไรจะรวยปานนั้น

   “ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ที่ผมหมายถึงน่ะ คือพี่มาทำไมต่างหาก”

   “ข้าก็มารับเจ้าไปเรียน”

   “ผมไม่ได้บอกให้พี่มารับสักหน่อย แล้วก็เรื่องอะไรพี่จะต้องมาประจบประแจงพ่อแม่ผมด้วย แถมยังโกหกว่าผมบอกให้มารับอีกต่างหาก”

   “การไปรับไปส่งเป็นเรื่องปกติที่คู่รักกระทำกันไม่ใช่รึ เจ้าเป็นคนบอกให้ข้าจีบเจ้าเอง”

   “จีบเหรอ นี่ตกลงพี่จะจีบผมจริงจริงใช่ไหม”ผมกอดอกมองพี่ธาราด้วยท่าทางที่ไม่พอใจสักเท่าไร

   กำลังคิดว่ายิ่งคุยกับพี่เขาก็ยิ่งไม่รู้เรื่อง แถมพี่เขายังชอบคิดเองเออเองอีกต่างหาก

   “เจ้าเป็นคนให้ท่าข้าเอง มีอะไรข้องใจกันเล่า อภัยมณี จิตใจเจ้านี่เข้าใจยากยิ่งกว่าสตรีเสียอีก”

   “ใครให้ท่าพี่ แล้วอีกเรื่อง ผมไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยเหมือนผู้หญิงอย่างที่พี่ว่าด้วย อ่าวเฮ้ย ฟังกันก่อนสิ”

   ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ พี่ธาราก็เดินเปิดประตูขึ้นรถไปซะแล้ว

   “เฮ้ย มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนดิ ไอ้บ้านี่”




   ในระหว่างทางไปมหาวิทยาลัย ภายในรถที่เงียบสนิททำให้ผมเริ่มอึดอัดเล็กน้อย

   ผมเหล่มองไปยังฝั่งคนขับแอบมองเสี้ยงหน้าคมดุของพี่เขาที่กำลังตั้งใจมองไปยังถนนข้างหน้า


   “นี่”ผมเรียกเสียงเบา

   “เจ้ามีอะไรรึ อภัยมณี”

   “พี่น่ะ เป็นยักษ์ใช่ไหม”ผมย้ำ

   “ใช่ แล้วเจ้ามีอะไรข้องใจ”พี่ธาราหันมามองหน้าผมครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองทางข้างหน้าเหมือนเดิม

   “ก็ พี่เป็นยักษ์ แล้วทำไมถึงได้รวยอ่ะ พี่ใช้เวทมนต์เสกเงินได้ใช่ไหม”ผมถามออกไป

   ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ดูติ๊งต๊องมากก็เถอะ แต่ก็เคยดูหนังกันไม่ใช่รึไง ที่เสกเงินได้เสกบ้านเสกรถได้


   “ทำไมเจ้าถึงคิดว่าข้าเสกเงินได้ล่ะ”พี่ธาราหันมาถามพลางหัวเราะในลำคอ นี่มันน่าขำมากรึไงกับข้อสงสัยที่ผมสันนิษฐานเนี่ย

   “ก็พี่รวยมากมีบ้านหลังใหญ่แล้วก็มีรถขับหลายคัน”แถมบ้านที่อยู่ก็เป็นแค่บ้านชั่วคราวอีกต่างหาก

   “ข้าไม่มีเวทมนต์เสกเงินตราอะไรอย่างที่เจ้าว่าหรอก”

   “แล้วทำไมพี่ถึงรวยล่ะ แบบว่ามีเงินเยอะอ่ะ”

   “หึหึ เจ้านี่ช่างน่าขัน คิดไร้สาระได้เก่งจริงเชียว”พี่ธาราหัวเราะพลางยิ้มมุมปาก นี่เขากำลังว่าผมไร้สาระอยู่ใช่ไหม

   “ไม่ได้ไร้สาระสักหน่อย แล้วทำไมต้องขำด้วย บอกกันหน่อยไม่ได้รึไง”

   ผมบ่นพลางกอดอกหันไปมองนอกหน้าต่างรถ

   ความจริงพี่เขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ติดที่ว่าเป็นยักษ์แล้วก็ชอบกวนประสาทมากก็แค่นั้น

   “นี่เจ้าอยากรู้มากเลยรึ”

   “ก็อยากรู้น่ะสิ ไม่งั้นผมจะถามพี่ทำไม”ผมตอบเสียงห้วนพลางเบ้ปากใส่พี่เขา

   “ครอบครัวของข้าทำสัมปทานรังนก ถ้าเรียกอย่างที่มนุษย์เขาเรียก”

   “ไอ้น้ำลายนกที่กินกินกันอ่ะน่ะ”

   “ใช่”พี่ธาราพยักหน้า

   “ไหนบอกว่าพ่อแม่ไม่อยู่แล้วไงแล้วใครเป็นคนทำล่ะ”

   “ครอบครัวของข้าใช่ว่าจะมีแค่พ่อแม่”

   “หรือว่ามีพี่น้องอีก”

   “ไม่หรอก นอกจากผีเสื้อสมุทรแล้วข้าก็ไม่มีพี่หรือน้อง มีแค่ท่านอาวสินที่คอยดูแลทุกอย่างทั้งหมดของครอบครัว”

   “เป็นอาเหรอ อาคนเดียวเหรอ แล้วคู่ของอาพี่ล่ะ ไหนนายบอกว่าอายุขัยของยักษ์จะผูกไว้กับคู่ไง แล้วทำไมเหลือแค่อาพี่คนเดียวล่ะ”

   “ท่านอาไม่มีคู่หรอก ท่านถือศีลมาตลอด เพราะฉะนั้นท่านเป็นคนเดียวที่ยังเหลืออยู่กับข้า”

   “คนเดียวเลยเหรอ ไม่มีคนอื่นเลยเหรอ”ผมพึมพำพลางพยักหน้า งั้นยักษ์ก็กำลังจะสูญพันธุ์น่ะสิ เพราะเหลืออยู่แค่พี่ธารากับอาของเขา

   ยังไงซะการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตที่เหนือกฎเกณฑ์ธรรมชาติอย่างยักษ์นี่
ทำเอาผมค่อนข้างจะไม่เข้าใจโลกขึ้นมาซะแล้วสิ


***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***

   “มณี มากับพี่ธาราเหรอ แล้วเมื่อวานสรุปเป็นไงบ้าง พี่เขาไม่ได้ว่าอะไรใช่ไหม”โมทักทันทีที่ผมเดินมาที่โต๊ะม้าหินอ่อนที่ประจำของกลุ่มเราใต้ตึกคณะพลางกระชับแว่นที่ร่นลงขึ้นไปอย่างเคยชิน

      ผมเหลือบตามองใครอีกคนที่กำลังเดินไปที่กลุ่มรุ่นพี่ปีสองที่อยู่ไม่ไกลจากกลุ่มที่ผมกำลังนั่งอยู่

   “ไม่ได้เป็นอะไรนิ ทำไมถามงั้นล่ะ”

   “ก็เมื่อวานนายบอกว่าไม่ได้มีนัดอะไรกับพี่เขา พอพี่เขาจับตัวนายก็ยอมพี่เขาเลย เรานึกว่าพี่เขาขู่บังคับอะไรนายซะอีก”โมตอบ

   “ปล่าว ไม่ได้บังคับหรอก”แค่โคตรบังคับต่างหาก

   “งั้นเหรอแล้วกินอะไรมายัง เราได้ซื้อเผื่อ”โมถาม

   “ยังเลย แต่แม่เอาขนมปังใส่มาให้ พอดีเลย โมกินด้วยกันดิ เรากินไม่หมดหรอก ว่าแต่เชียรกับนนท์ยังไม่มาเหรอ”

   “ยังเลย สงสัยตื่นสายกันอีกแล้วมั้ง”

   “อืม ช่างมันเถอะ เดี่ยวก็คงมา”ผมว่าพลางส่งขนมปังที่แม่อุ่นร้อนมาให้ให้โม

   ผมกินขนมไปตาก็เหลือบมองไปยังกลุ่มรุ่นพี่ปีสอง มองดูใครอีกคนที่ดูโดดเด่นกว่าคนอื่น แต่ทำตัวเข้ากับคนอื่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนกับคนทั่วๆไป
   

   “ทำไมมากันเร็วจังวะ”นนท์เพื่อนในกลุ่มที่มีดีกรีเป็นว่าที่เดือนคณะเช่นเดียวกับเชียรทักหลังจากกระแทกก้นลงข้างๆโมพร้อมกับนมสดขวดใหญ่ที่มักติดมือมาตลอดในทุกทุกเช้า ที่เจ้าตัวให้คำตอบว่ากินบำรุงร่างกาย

   “นั่นสิ ทำไมวันนี้มากันเร็วจัง”เชียรนั่งลงข้างผม พลางจ้องมองมาที่ผมคล้ายกับมีเรื่องจะถาม

   “มองอะไร”ผมถาม

   “ป่าวๆ แค่สงสัยว่าวันนี้ทำไมนายมาเช้าก็แค่นั้น”

   “แน่ใจ? จ้องกันอย่างกับว่ามีอะไรจะจับผิดเรา”ผมว่าพลางยักไหล่

   “ไม่ใช่สักหน่อย”เชียรส่ายหน้า


   “เอ้ยๆ พวกแกดูนั่นสิวะ มีดอกไม้มาส่งอีกแล้วโว้ย คราวนี้จะเป็นของสาวคนไหน กุหลาบแดงช่อใหญ่เชียว”นนท์ หนุ่มเซอร์ผิวขาว มีลักยิ้มที่มุมปากเป็นเอกลักษณ์พูดเสียงดังทำให้ผมกันไปมองคนส่งดอกไม้ที่กำลังถามนักศึกษาผู้หญิงที่อยู่ไม่ไกลจากกลุ่มที่ผมนั่งอยู่คล้ายกับถามทาง

   “ชี้มาทางนี้ด้วย”เชียรว่าพลางศอกเข้าที่เอวผมเบาเบา

   เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมเลิกสนใจคนส่งดอกไม้ที่มีมาบ่อยบ่อยหันกลับไปสนใจกินอาหารเช้าอย่างขนมปังต่อ

   ดวงตาผมสบเข้ากับดวงตาสีดำสนิทของพี่ธาราที่มองมาอย่างบังเอิญก่อนจะผละออกจากกัน

   เพียงแค่วูบเดียว แต่ทำไมกัน ทำไมผมหัวใจผมมันถึงได้กระหน่ำเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมานอกอกเหมือนกับเป็นลางบอกเหตุอะไร

   “มาส่งให้นายป่าววะเชียร”นนท์ถามอย่างตื่นเต้นพลางยิ้มจนแก้มบุ๋มเผยให้เห็นลักยิ้ม

   “บ้าเหรอ เลิกหมดแล้วเว้ย”เชียรหนุ่มหล่อผิวเข้มที่ค่อนข้างจะเจ้าชุ้พอพอกันพูดปัดเบาเบา

   “มาทางนี้แล้วเว้ย เชียร ของใครวะ”

   นนท์พูดทำให้ผมหันไปมองคนส่งดอกไม้ที่กำลังเดินใกล้เข้ามาที่กลุ่มผมอีกครั้ง

   จริงอย่าสงที่นนท์บอกว่าคนส่งดอกไม้ตรงมาที่กลุ่มเขาจริงจริง ก็คงจะเป็นของนนท์หรือไม่ก็เชียรที่มีสาวสาวในสต็อกเยอะจนนับแทบไม่ถ้วน

   ผมมองกุหลาบแดงช่อใหญ่ที่เป็นจุดดึงดูดสายตาของนักศึกษาที่กำลังรอให้ถึงเวลาเข้าเรียนในช่วงเช้าทำให้เวลานี้เป็นเวลาที่มีนักศึกษามารวมกันเยอะมากที่สุดของวัน

   “ของนายรึป่าวโม”นนท์หันไปถามพลางจิ้มไปที่แก้มโมเบาเบา

   “จะบ้าเหรอ ใครจะส่งมาให้เรา”โมรับตอบแทบจะทันที ใบหน้าขาวเนียนแบบลูกผู้ดีของโมแดงก่ำเป็นลูกตำลึงก่อนที่เจ้าตัวจะก้มหน้าก้มตาดันแว่นขึ้นอย่างเคยชิน ก็แล้วทำไมโมถึงต้องทำท่าทำทางอายขนาดนั้นด้วย

   “แล้วของใครล่ะ”ผมถามขึ้นมาบ้าง ถ้าไม่ใช่ของโม ของเชียร ของนนท์จะของใคร ก็ต้องของหนึ่งในนั้นแหละ

   ตอนนี้หลายคนกำลังจับจ้องมาที่กลุ่มของผมเป็นตาเดียวเพราะว่าหนุ่มส่งดอกไม้กำลังยืนอยู่หน้ากลุ่มของผมเรียบร้อยแล้ว

   “ขอโทษนะครับ ใช่น้องมณีรึปล่าวครับ”คนส่งดอกไม้ถามผมที่กำลังมองดอกกุหลาบแดงที่ถูกจัดเป็นช่ออย่างมึนงง

   “อ่า ใช่ครับ”ผมตอบไปอย่างมึนมึน

   “มีคนส่งดอกไม้มาให้นะครับ รบกวนเซ็นต์รับตรงนี้หน่อยครับ”

   “อ่า ใช่ของผมเหรอครับ พี่ส่งผิดรึป่าว”ผมถามย้ำเพื่อให้พี่เขาแน่ใจ

   “ไม่ผิดหรอกครับ นี่ไงครับ ใช่น้องรึป่าว”พี่คนส่งดอกไม้ยื่นโทรศัพท์ให้ผมดูหน้าจอที่เปิดรูปผมทิ้งไว้

   ไม่ผิดหรอกครับ รูปของผมจริงจริง แล้วเขาไปเอารูปผมมาจากไหน

   “อ่าใช่ครับ”ผมตอบพลางเซ็นลงไปบนใยรับสินค้าอย่างงงๆ

   “งั้นเรียบร้อยนะครับ ขอบคุณมากครับ”

   ผมได้แต่พยักหน้ารับช่อกุหลาบช่อใหญ่มาไว้ในวงแขนอย่างมึนงง ตอนนี้สายตาคนในคณะแทบจะทั้งหมดกำลังจ้องมองที่ผมอยู่
   แล้วช่อกุหลาบแดงที่ส่งกลิ่นอบอวลนี่มันอะไร หรือว่าใครกำลังเล่นตลกกับผมกัน

   หรือว่าจะเป็นพี่ธารา พี่เขากำลังจีบผมอยู่ใช่ไหม งั้นก็ต้องเป็นของพี่เขา

   ผมหันไปมองยังกลุ่มพี่เขา มองดูพี่เขาที่กำลังมองมาทางผมอยู่แล้ว

   ใบหน้าของเขาเรียบนิ่งเกินที่จะบอกว่านี่คือดอกไม้ที่เขาส่งมาให้ผม และที่สำคัญ ดวงตาสีดำที่กำลังทอประกายสีเขียวของเขากำลังจ้องมองมาทางผมอย่างวาวโรจน์

   หมายความว่ายังไง!!

   ถ้านี่ไม่ใช่ดอกไม้ของพี่เขา แล้วเป็นดอกไม้ของใคร

   ผมก้มลงมองกระดาษการ์ดลายกุหลาบที่แนบมากับช่อดอกไม้

   “ใครส่งมาให้นายวะมณี”นนท์ถามพลางชะโงกหน้ามาจากฝั่งตรงข้ามอย่างอยากรู้อยากเห็น

   “นั่นสิ มณี เปิดการ์ดเลย เราก็อยากรู้”เชียรเสริม

   ทำให้ผมตัดสินใจเปิดการ์ดลายกุหลาบสีแดง

   ทั้งที่ปกติแล้วมีคนอื่นส่งดอกไม้มาให้ก็ต้องเกิดอาการดีใจ แต่ทำไมกัน ทำไมผมถึงไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิด

   กลับกัน ผมกลับรู้สึกว่าดอกกุหลาบแดงนี่มันมีสีที่แดงสดจนดูน่ากลัว สีราวกับสีของเลือดสดสดนี่ทำให้ใจผมกระตุกวูบคล้ายกับกำลังจะเกิดเรื่องอะไรไม่ดี

   ‘ดอกไม้งาม สำหรับคนรูปงาม’

               ‘ละเวง’


   ข้อความสั้นสั้นที่เขียนด้วยลายมือบนการ์ดทำให้ผมขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่เข้าใจ


   “อะไรวะ ละเวง ชื่อคนหรือว่าอะไรวะเนี่ย แปลกๆ”นนท์ที่ยื่นหน้าเข้ามาอ่านบ่นเบาเบา

   “คนที่รูปงาม อย่างมณีอ่านะ รูปงาม ผู้หญิงที่ไหนชมผู้ชายด้วยกันว่างามวะ เลยไม่รู้เลยว่าใครส่งมา”

   “มาเรียนไม่ทันไรก็มีคนส่งดอกไม้มาให้ซะแล้ว เนื้อหอมไม่เบานี่หว่า ๆม่เหมือนโมมัน วันวันก็เอาแต่อ่านการ์ตูน ไม่สนใจใคร”นนท์ว่าพลางจิ้มแก้มโมไปมา

   “แล้วเกี่ยวอะไรกับเราล่ะ อย่ามาจิ้มน่า”โมเบี่ยงหน้าหลบพลางดันแว่น ใบหน้าขาวขึ้นสีจนแดงก่ำ

   “ไม่ดีใจรึไงมณี”เชียรถามหลังจากที่ผมเงียบไปพักใหญ่

   “อ่า ดะ ดีใจสิ”ผมตอบเสียงเบา พลางก้มมองดอกกุหลาบแดงในมือ สีของมันแดงเหมือนกับสีเลือดไม่มีผิด

   
   ‘ละเวง’

   จะใช่หนึ่งในบรรดาเมียของพระอภัยมณีในชาติที่แล้วรึปล่าวนะ แล้วทำไมหัวใจz,มันถึงได้วูบไหวแปลกๆคล้ายกับว่ากำลังจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ในไม่ช้านี้กัน


***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***

   
[/color]


รีไรส์ 18/09/58


จะบอกว่าตอนนี้คนเขียนรีไรส์ครบทุกตอนแล้วนะคร้าาาา
สำหรับคนที่รอตอนที่แปดก็ช่วงเย็นค่อยว่ากันน้า ตีสามครึ่งแระ โฮะๆ
รักคนอ่านเหมือนเดินคร่า อย่าเพิ่งทิ้งกันนะคร้า อาจจะใช้เวลารีไรส์นานไปหน่อย
แต่ก็อยากให้คนอ่านได้อ่านอะไรที่มันไม่ดีกว่าเดิม ยังไงก็อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค่ะ คนอ่านที่น่ารักทุกคน
 :mew1:  :mew1:  :mew1:

[/color]
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 18/09 [CH.8] ตอนใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 18-09-2015 17:46:35
8968
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

เกร็ดเล็ก::นางละเวงวัณฬา กษัตริย์สาวแห่งเมืองลังกา ที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตกับนางสุวรรณมาลี(หนึ่งในเมียของพระอภัย)และพระอภัยมณี ต่อมาก็เกิดพี่ชายของนางละเวงก็ยกทัพมาทำศึกเพราะว่าชอบนางสุวรรณมาลีแต่นางสุวรรณมาลีเป็นเมียพระอภัยไปแล้ว แล้วพี่ชายของนางละเวงก็ถูกจับตัวเป็นเชลยศึก พ่อแม่นางละเวงจึงตรอมใจตาย นางละเวงจึงแค้นแล้วทำศึกกับพระอภัยมณี โดยออกอุบายล่อพระอภัยมณีออกมาโดยใช้รูปวาดของตนที่ผสมเสน่ห์ยาแฝดลงไป จนพระอภัยหลงรักนางละเวงจนหัวปักหัวปำ สุดท้ายพระฤษีก็แก้มนเสน่ห์ให้ ถึงได้กลับไปอยู่กับสุวรรณมาลี แต่ก็ทิ้งลูกไว้ในท้องนางละเวง


ชดใช้หนี้ครั้งที่ 8 ดอกมะลิ

   ปัง! ปัง! ปัง!

   ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ด้วยเสียงเคาะประตูของแม่อีกครั้ง โดยที่นาฬิกาปลุกเองก็ไม่ต้องเปลืองแรงติดกันเป็นวันที่สอง

   “ครับ ตื่นครับแม่”ผมว่าพลางชันตัวลุกขึ้นนั่งมองนาฬิกาปลุกที่อีกนานเกือบชั่วโมงกว่าจะทำงาน

   “พี่ธาราเขามารอน่ะลูก รีบตื่นอาบน้ำเลยนะ”

   “ห่ะ อะไรนะแม่ ใครรอใคร”ผมตะโกนถามแม่ที่อยู่อีกฟากประตูอย่างตกใจ

   พี่ธารามารอ? หมายความว่าไง

   “ก็พี่ธาราเขามารับลูกไปเรียนไง อย่ามัวแต่ถาม รีบลุกอาบน้ำได้แล้ว”

   “โอ้ย จะบ้าตาย”ผมบ่นพลางขยี้หัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง

   อะไรของพี่เขาเนี่ย ตกลงที่พี่เขาทำอย่างนี้คือพี่เขาต้องการจีบผมจริงจริงใช่ไหม ไม่อยากจะเชื่อ

   ชีวิตที่กำลังเดินทางเข้าสู่การเป็นเหมืองทองของไอ้มณีกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว



   ผมลงมาชั้นล่างของตัวบ้านก็เจอเข้ากับไอ้ยักษ์ขี้ตู่นั่งจิบกาแฟอยู่กับพ่อผมเหมือนเมื่อวานไม่มีผิด

   “เอานี่ ขนมปังเหมือนเมื่อวาน ช่วยไม่ได้ อยากตื่นสายเอง”แม่ยัดกล่องขนมปังใส่มือผมก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้พี่ธาราที่มองมา
   นั่นมันไม่ใช่ลูกแม่นะแม่ ลูกแม่อยู่นี่ต่างหาก ไปยิ้มให้มันทำไมมันจ้องจะขุดเหมืองทองลูกแม่อยู่นะแม่

   “ทำไมขนมปังอีกแล้วอ่ะแม่ มณีอยากกินข้าว”

   “รีบไปได้แล้ว พี่เขามารอนานแล้ว ขืนกินข้าวพี่เขาก็รอรากงอกพอดี”

   “โห อะไรอ่ะแม่ นี่มณีลูกแม่นะ”ผมว่าพลางขมวดคิ้วมุ่น

   ทำไมคนในครอบครัวผมถึงได้เออออกับพี่เขาจัง เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย

   “ขอบคุณสำหรับกาแฟนะครับคุณแม่ ยังอร่อยเหมือนเดิมนะครับ งั้นผมพาน้องไปเรียนแล้วนะครับ”มาแล้วครับ พี่ธาราเดินมาดึงแขนผมให้เข้าไปยืนชิดเหมือนเมื่อวานไม่มีผิด

   ใบหน้าหล่อคมของพี่เขากำลังปั้นยิ้มหวานใส่แม่ผมอีกต่างหาก นี่พี่เขาจะประจบครอบครัวผมเอาโล่รึไง

   “แหม ลูกธาราล่ะก็ปากหวาน ถ้าแม่มีลูกสาวคงจะยกให้แล้ว เสียดายที่มีแต่ลูกชาย แม่ฝากมณีด้วยนะ”

   อะไรนะแม่ นี่แม่หลงพี่จนถึงขั้นบอกว่ามีลูกสาวจะยกให้เลยเหรอแม่ อะไรของแม่เนี่ย มันชักจะมากไปแล้ว ดีนะที่ผมเป็นผู้ชาย แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แม่จะรู้บ้างไหมว่าพี่ธารามันกำลังจีบผมอยู่

   “ลูกชายก็ได้ครับ ผมไม่ถือ”พี่ธาราบอกพลางทำเป็นหัวร่อต่อกระซิกกับแม่ใหญ่

   กลายเป็นว่าผมนี่ยืนหัวโด่อยู่ในวงสนทนาไปโดยปริยาย แล้วเมื่อกี้มันอะไร ลูกชายก็ได้งั้นเหรอ ไปบอกอย่างนั้นกับแม่ได้ยังไง ไอ้ยักษ์งี่เง่าเอ้ย

   “อ้อ แล้วก็ขอบคุณสำหรับขนมนะจ๊ะลูกธารา วันนี้ก็ซื้อมาฝากแม่อีกแล้ว แม่ล่ะเกรงใจเชียว เดี๋ยววันนี้แม่ทำขนมบัวลอยน้ำขิง ตอนเย็นก็แวะมากินข้าวด้วยกันสิจ๊ะถ้าไม่รังเกียจ”

   “ครับ เดี๋ยวยังไงตอนเย็นผมคงต้องฝากท้องไว้กับฝีมือคุณแม่ ขอบคุณคุณแม่นะครับที่ชวน ผมลานะครับ”





   “หมายความว่าไง”ทันทีที่ออกมาจากบ้านผมก็ถามขึ้นด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไร

   “เจ้ามีอะไรไม่เข้าใจรึมณี”

   “ยังจะมาถามอีก ใครบอกให้พี่มารับ แล้วอะไร ใครอนุญาตให้พี่มากินข้าวเย็นที่บ้านผม”

   “ก็แม่เจ้าชวนข้าเอง ข้าจำเป็นต้องขออนุญาตใครอีกอย่างงั้นรึ”พี่ธาราหันมามองหน้าผมพลางดึงแขนให้ผมเดินตามไปที่รถ

   “ไม่เอา ผมไม่ไปกับพี่หรอกนะ ผมจะขับรถไปเอง”

   “เจ้านี่ช่างเอาแต่ใจนักต้องให้ข้าเข้าไปบอกแม่ของเจ้าไหมว่าเจ้าไม่ยอมไปกับข้า ลองดูว่าแม่เจ้าจะเข้าข้างใคร”

   “พี่อย่ามาประจบครอบครัวคนอื่นหน้าตาเฉยอย่างนี้นะ คนอะไรวะขี้ตู่ได้โล่เลย”

   “เจ้าเองก็ขี้หงุดหงิดไม่แพ้กัน”

   “ใครถามความเห็นพี่ แล้วก็เลิกประจบพ่อแม่ผมสักที เห็นแล้วมันหงุดหงิดยังไงชอบกล”

   “ข้าต้องเข้าหาพ่อแม่เจ้าเป็นธรรมดาอยู่แล้ว หากว่าข้าจะเอาเจ้ามาเป็นแม่ของลูก”

   “แม่ของลูกอะไร เลิกพูดเรื่องนี้เถอะน่า มันน่ารำคาญ ตกลงจะไปส่งใช่ไหมล่ะ ก็รีบๆเปิดประตูสิ รีบไปรีบแยกกัน ทางใครทางมัน”
   ผมว่าพลางขยี้ผมตัวเอง ต่อให้เถียงกับพี่เขายังไง คำพูดทุกอย่างของพี่เขามันก็ตรงเข้ามาแทงใจดำผมอยู่ดี



   “แล้วทำไมไม่ออกรถล่ะ”ผมถามหลังจากที่รถยังจอดนิ่งอยู่ที่หน้าบ้านยังไม่เคลื่อนไปไหน

   พลางสอดส่องสายตาไปทั่วรถที่นั่งได้เพียงสองคน มองหาต้นตอของกลิ่นหอมที่เตะจมูกตั้งแต่เปิดประตูเข้ามาในรถ

   กลิ่นหอมอ่อนๆที่ทำให้รู้สึกสบายใจอยากบอกไม่ถูกทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายพรอ้มกับสงสัยถึงที่มาภายในเวลาเดียวกัน

   “ดอกไม้เมื่อวาน”จู่ๆพี่ธาราก็พูดขึ้นมา

   “ดอกไม้พี่มีคนมาส่งเมื่อวานอ่ะนะ”ผมว่าพลางหันไปมองหน้าพี่ธาราที่มองมาอยู่ก่อนหน้าแล้ว

   “ใช่ เจ้ายังเก็บมันเอาไว้หรือไม่”

   “อะไรกัน ถามทำไม ไม่ใช่ของพี่สักหน่อย”ผมว่าพลางหันไปมองหาต้นตอของกลิ่นหอมหวานที่กำลังลอยคลุ้งอยู่ทั่วรถคันหรู
   กลิ่นอะไรกันนะ? ทำไมมันหอมหวานจนน่าค้นหาอย่างนี้

   “ทิ้งมันไปซะ ข้าไม่อยากให้เจ้าเก็บมันเอาไว้”น้ำเสียงเย็นเยียบของคำตอบทำให้ผมหันไปมองพี่ธาราด้วยความไม่เข้าใจ

   ทำไมพี่เขาต้องบอกให้ผมทิ้งมันด้วย พูดเหมือนกับว่ามันมีอะไร กับไอ้ช่อดอกกุหลาบแดงที่เหมือนกับสีเลือดนั่น หรือว่าพี่ธารากำลังหึงผม แต่มันจะเป็นไปไม่ได้

   “ทำไมผมต้องทิ้งด้วย ดอกไม้ช่อใหญ่ขนาดนั้น สวยจะตาย”

   “ทิ้งมันซะ ข้าไม่อยากให้เจ้าเก็บมันไว้”พี่ธาราพูดซ้ำ คราวนี้ใบหน้าของเขานิ่งเรียบราวกับไร้อารมณ์ ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองมาทางผมอย่างคาดคั้น

   “ก็แล้วทำไมผมต้องทิ้งด้วยล่ะ เก็บไว้ไม่เห็นจะเป็นไร”

   “เจ้าเก็บมันไว้ที่ไหน”

   “ก็ต้องในห้องนอนน่ะสิ ถามมาได้”

   “เอามันไปทิ้ง ถ้าเจ้าไม่ทำข้าจะเป็นคนเก็บมันไปทิ้งเอง”

   “เรื่องอะไรเล่า นั่นมันของผมนะ แล้วอีกอย่างทำไมผมต้องทิ้งมันด้วย”

   “ข้าไม่ชอบ”ตอบมาได้

   “ผมไม่ทิ้ง โอ้ย”พูดยังไม่ทันขาดคำพี่ธาราก็โน้มตัวมาทางฝั่งผมแล้วดึงแขนผมให้เซไปทางเขาอีก

   ใบหน้าของเขาเริ่มแสดงออกถึงความไม่พอใจ ดวงตาของเขาทอประกายสีเขียววาบ มันมักจะเป็นอย่างนั้นตลอดเวลาที่พี่เขาไม่พอใจ

    แล้วทำไมเขาถึงไม่พอใจ?

   “อย่าให้ข้าต้องบุกเข้าไปในห้องนอนเจ้า แล้วจับดอกไม้นั่นโยนทิ้งออกมา”พี่ธาราพูดด้วยน้ำเสียงแข็ง

   “อะไร เจ็บนะ ปล่อยสิ ทำไมผมต้องทิ้งมันเพียงเพราะว่าพี่ไม่ชอบมันด้วยล่ะ พี่ไม่ได้เป็นคนให้สักหน่อย มีสิทธิอะไรกัน”

   “สิทธิในความเป็นคู่ชีวิตของเจ้าใจ ข้าจะไม่ยอมให้ใครผู้ใดมาขัดขวางสิ่งที่ข้ากำลังจะทำหรอกนะ ถ้าเจ้าไม่ทิ้งมัน ข้าเองที่จะเป็นคนทำแทนเจ้า”

   “โอ้ย อะไรของพี่เนี่ย ผมเจ็บ”แล้วทำไมพี่เขาต้องดูโมโหขนาดนี้ด้วย แถมยังบีบต้นแขนผมจนผมรู้สึกเจ็บจนชาไปหมดแล้ว

   “เจ้าจะทิ้งมันหรือไม่”

   “ไม่เอา เรื่องอะไรจะทิ้ง”

   “เลือกเอา ระหว่างทิ้งดอกไม้สีเลือดนั่นไป หรือว่าจะให้ข้าจูบเจ้าข้อหาที่ดื้อดึงกับข้าเกินไป”

   “อะ อะไรนะ”ตัวเลือกของพี่ธาราทำเอาผมตาโตหน้าเหวอทันที อะไรของพี่เขา จูบงั้นเหรอ ใครจะบ้าเลือกจูบกันเล่า แล้วอีกอย่างดอกไม้นั่นผมก็ทิ้งไปตั้งแต่เมื่อเย็นวานแล้วด้วย ใครจะขับมอเตอร์ไซทั้งๆที่มีดอกไม้ช่อใหญ่มาด้วยได้ล่ะ

   “เลือก”

   “ผม ทะ อื้อ”ยังไม่ทันที่ผมจะสารภาพความจริงพี่ธาราก็คว้าคอผมเข้าไปจูบจนรู้สึกได้ว่าจูบครั้งนี้มันหนักหน่วงและรุนแรงมากกว่าครั้งก่อน

   เรียกลิ้นที่ร้อนราวกับเปลวไฟสอดเข้ามาลุกล้ำในปากผมอย่างจาบจ้วง ดวงตาสีเขียวมรกตวาวโรจน์จ้องมองเข้ามาในตาผมราวกับจะกลืนกิน

   ผมพยายามผลักอกพี่เขาออก แต่แรงที่มีอยู่กลับไม่สามารถสู้แรงที่กอดรั้งของพี่ธาราได้เลยสักนิด

   นี่ผมทำผิดอะไร?

   เพียงเพราะบอกว่าไม่ได้ทิ้งดอกไม้แค่นั้นเหรอ


   “เฮือก”ผมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เมื่อถูกปล่อยตัว

   ใบหน้าของผมแดงก่ำทั้งรู้สึกโกระทั้งรู้สึกอายที่พี่เขาทำอย่างนี้ ผมยกมือขึ้นถูกริมฝีปากของตัวเองไปมาพลางจ้องมองพี่เขาด้วยสายตาที่โกรธเคือง

   มันจะมากเกินไปแล้วที่พี่เขามาทำแบบนี้กับผม แล้วทำไมผมจะต้องฟังที่เขาสั่งด้วย อยากให้ผมทำอะไรผมก็ต้องทำรึไง

   “รับนี่ไป แล้วก็ทิ้งดอกไม้แดงนั่นไปซะ อย่าให้ข้าต้องพูดซ้ำ”

   ถึงเวลานี้เขาก็ยังคงสั่งผม พร้อมกับยื่นถุงกระดาษทรงเตี้ยมาวางไว้ที่ตักผมโดนที่ผมยังไม่ทันจะปฏิเสธอะไร”

   “ทะ ทิ้งไปแล้ว”ผมบอกเสียงเบาพลางก้มลงมองถุงกระดาษที่วางอยู่บนตัก

   “ไหนเจ้าบอกว่าเก็บมันเอาไว้”

   “นั่นผมแค่โกหกต่างหาก ใครจะไปรู้เล่าว่าพี่จะ เอ่อ จะบ้ามาจูบผม”ผมว่าพลางเบือนหน้าหนี รู้สึกว่าหน้ามันร้อนจนแทบจะละลายได้แล้วมั้ง

   “ช่วยไม่ได้ เจ้าบอกข้าช้าเอง”

   นี่ผมผิดอีกแล้วใช่ไหม


***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***

   “พี่ธารา ข้างนอกนั่นข้าได้กลิ่นหอมเวลาพี่ธาราจะมาทุกที ดอกอะไรทำไมช่องหอมเช่นนี้”อภัยมณีถามหลังจากที่ชะเง้อมองปากทางเข้าถ้ำเห็นธาราสมุทรเดินเข้ามาก็ทักแต่ไกล

   “เจ้าได้กลิ่นมันด้วยรึ”

   “ข้าได้กลิ่น มันหอมมากเลยทีเดียว”อภัยมณีตอบพลางรับห่ออาหารที่ธารามักจะเอาติดมือมาให้ทุกวันด้วยความดีใจ จนคนที่เอามาให้แอบลอบยิ้มด้วยความปลื้มใจ

   “ดอกมะลิซ้อนมันขึ้นพุ่มอยู่ด้านนอก หากเจ้าต้องการ วันพรุ่งข้าจักเก็บเอามาเผื่อให้”

   “พี่ธาราไม่ปดข้าใช่ไหม”

   “ข้าเคยปดเจ้าด้วนรึอภัยมณี”

   “งั้นข้าขอเข็มร้อยมาลัยดับเส้นด้ายด้วยได้หรือไม่”อภัยมณีเงยหน้าถามพลางแตะแขนของธาราสมุทรอย่างตีสนิท

   แต่สำหรับธาราสมุทรแล้ว นั่นเป็นเหมือนการอ้อนขอของเด็กที่อยากได้ขนมเสียมากกว่า

   “เจ้าอยากร้อยมาลัยรึ เช่นใดเจ้าถึงใคร่ทำสิ่งที่สตรีทำกัน”

   “มิใช่สิ่งที่สตรีทำหรอกพี่ธารา ผู้ชายที่อยู่ในวังบางคนก็ทำกัน ข้าคิดว่ามันเป็นศิลปะที่งดงามมากกว่า ข้ามิใคร่ชอบวิชากระบี่กระบอกย่างน้องศรีสุวรรณ หากแต่ชอบวิชาศิลปะการดนตรีและงานบ้านเสียมากกว่า”

   “งั้นหรือ มิน่านิ้วมือของเจ้าช่างเรียวแล้วก็นุ่มนิ่มราวกับกลีบของดอกไม้นัก ถ้าเจ้าต้องการวันพรุ่งข้าจักหามาไว้”

   “พี่ธาราช่างใจดีกับข้าเสียจริง หากพี่เป็นสตรีชาวบ้าน ข้าคงหลงรักพี่หัวปักหัวปำ”อภัยมณีบอกพลางส่งยิ้มให้หับธารา

   “งั้นหรอกรึ”

   ‘ข้าก็หวังอย่างนั้นเช่นกัน’


***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***


   “มณีมากับพี่ธาราอีกแล้วเหรอ”คราวนี้โมทักทำให้นนท์กับเชียรที่วันนี้มาก่อนผมเงยหน้าขึ้นมามอง

   “เคยมาด้วยกันเหรอวะมณี”นนท์ถามพลางทำหน้าสงสัย

   “อะ อืม เมื่อวานน่ะ”ผมบอกพลางเหลือบมองพี่ธาราที่เดินไปยังกลุ่มเพื่อนของตัวเอง

   “อะไรวะ ไม่เห็นเล่าให้ฟังเลย”

   “ทำไมต้องเล่าล่ะ ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ”

   “ไม่น่าสนใจได้ไง ก็เห็นไม่ค่อยถูกกันแล้วไหงไปมาด้วยกันบ่อยๆ แถมมีมารับมาส่งด้วย”นนท์ถาม

   “มันก็แค่บังเอิญ”แล้วทำไมผมต้องมานั่งตอบคำถามอย่างกับดาราด้วยนะ

   “บังเอิญอะไร เราเองก็ได้ยินเพื่อนกลุ่มอื่นซุบซิบกันว่ามณีกับพี่ธาราสนิทกัน”เชียรว่า

   “อะไร ใครซุบซิบ”ผมถามทันที

   อย่าบอกนะว่ามีคนรู้แล้วว่าผมกับพี่ธารากำลังมีซัมติงกัน

   ไม่ได้นะ ถ้าคนอื่นในมหาวิทยาลัยรู้ล่ะก็ ชีวิตของไอ้มณีที่จะมีสาวน่ารักๆเข้ามาสนใจก็ต้องเป็นอันจบสิ้นพอดี

   “ก็เพื่อนในห้องเรียนเขาซุบซิบกัน แอบได้ยินมา ว่าแต่จริงไหมที่ว่าสนิทกัน”

   “ไม่ได้สนิทกันสักหน่อย แค่เป็นสายรหัสกันไม่ได้สนิทกันสักหน่อย”ผมตอบพลางขยับไปใกล้โมที่นั่งอ่านการ์ตูนเงียบไม่สนใจใคร สงสัยได้เล่มใหม่มาแน่ๆ

   “จริงเหรอ ว่าแต่วันนี้จะมีดอกไม้ส่งมาอีกไหมวะ ถ้ามีล่ะก็ คราวนี้นายได้ดังแน่มณี”นนท์ว่าพลางเอาหลอดน้ำจิ้มแก้มโมที่กำลังอ่านหนังสือการ์ตูนไม่สนใจใคร

   ก็แล้วทำไมสองคนนี้ถึงดูว่าเหมือนมีซัมติงกันตลอด โมก็เอาแต่หน้าแดงนนท์ก็เอาแต่แกล้ง

   “แล้วรู้ไหมว่าใครคือละเวง”เชียรถามเสียงเรียบพลางเอื้อมมือไปดึงหลอดดูดน้ำออกจากมือนนท์เรียกให้นนท์หันมาบุ้ยหน้าใส่อย่างไม่พอใจพลางแยกเขี้ยวใส่

   อะไรของสามคนนี้ ทำไมเหมือนมีบรรยากาศอะไรรอบๆตัวสามคนนี้แปลกๆ

   “ยังไม่รู้เลย”ผมตอบพลางจ้องมองถุงกระดาษทรงเตี้ยที่พี่ธารายัดให้มาตั้งแต่อยู่บนรถ

   ผมเริ่มสงสัยแล้วสิว่าข้างในถึงกระดาษมีอะไร ทำไมกลิ่นหอมที่ผมได้กลิ่นตอนอยู่ในรถมันถึงได้ตามติดผมมาจนถึงตอนนี้กลิ่นนั่นก็ยังไม่หาย

   หรือว่าจะเกี่ยวกับของที่อยู่ในถุงกระดาษใบนี้กัน

   “ถุงอะไรวะมณี”นนท์ถาม ยิ่งทำให้ผมสงสัยหนักกว่าเก่า

   “ไม่รู้เหมือนกัน”

   “อ่าว แล้วเอามาได้ไง”

   “พี่ธาราให้มา”ผมตอบ

   “ไหนว่าไม่สนิทกันไง”

   “ก็ เออ นั่นแหละ พี่เขาให้มาก็แค่รับไว้ ไม่ได้สนิทอะไรกันมากมาย”ทำไมช่วงนี้ผมรู้สึกว่าพูดอะไรแล้วมันชอบเข้าตัวเองตลอดเลย

   “แล้วเขาให้อะไรนายมาวะ เปิดดิ อยากรู้”

   “เออน่าก็จะดูอยู่นี่ไง”ผมว่าพลางมองไปยังกลุ่มพี่ธาราที่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว สงสัยว่าพากันขึ้นเรียนกันหมดแล้วมั้ง

   พอดีเลย ผมจะได้รู้สักทีว่าอะไรอยู่ในนี้ ทำไมมันถึงได้หอมหวานซะจนเหมือนกับน้ำตาลที่กำลังละลายอยู่ในปากขนาดนี้

   ผมหยิบชามแก้วมีฝาปิดสีขาวขุ่นเคลือบลายดอกไม้สีหวานออกมาจากถุงกระดาษ

   อะไรของพี่ธาราเขา ชามแก้วเนี่ยนะ แล้วเอามาให้ผมทำไม

   “ชามอะไรวะเนี่ย แต่ก็สวยอยู่ ท่าทางจะแพง”นนท์พูดเรียกให้เชียรและโมเงยหน้าขึ้นมามองบ้าง

   “พี่ธาราให้มาเหรอ”เชียรถามย้ำ

   “อืม พี่เขาให้มา ไม่รู้ให้มาทำไม”ผมว่าพลางมองสำรวจชามสีขาวขุ่นเคลือบลายดอกไม้สีหวาน

   แปลกชะมัด ใครเขาจีบกันแล้วเอาชามมีฝาปิดมาให้กันอย่างนี้ อะไรของพี่ธาราเขากันนะ

   “เปิดดุสิเผื่อข้างในมีอะไร”โมว่าพลางกระชับแว่น

   นั่นสินะ ข้างในมันต้องมีอะไรสิ ไม่งั้นมันจะหอมขนาดนี้ได้ยังไง

   ผมเปิดฝาของชามแก้วที่ดูเปราะบางออก ไม่รู้ว่าผมหิ้วมาได้ยังไงโดยที่มันไม่แตก

   คนให้ก็ไม่ได้บอกผมเลยสักนิดว่ามันเป็นของแตกได้

   ทันทีที่เปิดฝาแก้วออกผมก็พบกับต้นตอของกลิ่นหอมหวานที่น่าสงสัยมาตั้งแต่ช่วงเช้า

   ดอกไม้สีขาวสะอาดตาถูกร้อยเรียงเป็นมาลัยกลมชายเดียวพวงใหญ่ที่ส่งกลิ่นอบอวลไปทั่วหลังจากที่ผมเปิดฝาออก

   “ดอกมะลิเนี่ยนะ”เชียรพูดขึ้นหลังจากที่ผมนิ่งเงียบไปพักใหญ่กับพวงมาลัยที่เห็นอยู่

   “ทำไมพี่ธาราต้องให้ดอกมะลินายวะมณี”นนท์ถาม

   “จะ ไปรู้เหรอ”

   “หรือว่าพี่เขาจีบนายวะมณี พอเห็นว่าเมื่อวานมีคนให้ดอกกุหลาบช่อใหญ่แก พี่เขาเลยเอาพวงมาลัยดอกมะลิมาให้”นนท์ว่า
พลางยิ้มจนเห็นลักยิ้มที่มุมปาก แต่มันก็มีส่วน จู่ๆจะเอาดอกมะลิมาให้ก็คงไม่ใช่ ถ้าหากว่าพี่เขาไม่ได้คิดอะไร

   “เออ ก็มีส่วนนะ มณี เราคิดว่าพี่เขากำลังจีบนายแบบที่เขาซุบซิบกัน”

   “จะ จะใช่ได้ยังไงเล่า พวกนายก็มั่ว เราว่าเราขึ้นห้องเรียนก่อนดีกว่า”

   ผมว่าพลางรีบเก็บของ ถึงจะรู้ว่าพี่เขากำลังจีบผมอยู่

   แต่มาเล่นแบบนี้ผมก็เริ่มจะใจเต้นแปลกๆแล้วสิ ยอมรับเลยว่าชอบดอกมะลิที่พี่เขาให้มามากกว่าดอกกุหลาบแดงช่อใหญ่นั่นเสียอีก


***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***


ตอนหน้านางละเวงจะออกมาแล้วนะคร้าาา
ยังมีคนอ่านอยู่ไหมน้อ 55+หลังจากไม่ได้มาต่อนาน
อย่าเพิ่งทิ้งกันสิคร้าาาาาา คนเขียนเหงาแย่



หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 18/09 [CH.8] ดอกมะลิ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 18-09-2015 18:30:13
ยังตามอยู่น้าาาาา


รอนางชะนีออกโรง จะสวยแค่ไหนกันเชียว
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 18/09 [CH.8] ดอกมะลิ
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 18-09-2015 18:32:46
แหมๆ น้องมณีอย่าพึ่งรีบใจเต้นไปสิจ๊ะ  :impress2:
อร๊ายยยยย ตอนหน้าแล้วหรอที่นายละเวงจะออกมาอ่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 18/09 [CH.8] ดอกมะลิ
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 18-09-2015 18:56:32
โอ้ จีบด้วยดอกมะลินี่คลาสสิคสุดๆเลยยยยย
เอาใจเจ้ไปเลยจ้ะ :hao7:
ตอนหน้าเตรียมรับละเวง ฮี่ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 18/09 [CH.8] ดอกมะลิ
เริ่มหัวข้อโดย: mimasopu ที่ 18-09-2015 20:29:46
น่ารักออกจีบด้วยมาลัยมะลิ 55555
นางละเวงนี่จำอดีตได้ด้วยรึเปล่ามาดีมาร้ายหนอ
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 18/09 [CH.8] ตอนใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-09-2015 20:37:48
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 18/09 [CH.8] ดอกมะลิ
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 18-09-2015 22:11:23
อยากได้ดอกมะลิบ้าง
คลาสสิกจริงพี่ยักษ์
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 18/09 [CH.8] ดอกมะลิ
เริ่มหัวข้อโดย: แดนเหนือ ที่ 18-09-2015 22:51:08
ยังรออยู่ และจะรอต่อไปจ้า  o13
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 18/09 [CH.8] ดอกมะลิ
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 18-09-2015 22:51:28
 :-[
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 18/09 [CH.8] ดอกมะลิ
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 18-09-2015 23:38:23
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg]
เริ่มหัวข้อโดย: บุหลันรัศมี ที่ 19-09-2015 00:44:42
เข้ามาอ่านต่อ
รอดูนางละเวง
พี่ธาราให้ดอกมะลิ :o8: :-[ :impress2:
จีบได้ดีงามมากเจ้าค่ะ o13
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 18/09 [CH.8] ดอกมะลิ
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 19-09-2015 02:29:29
หนุ่มลูกครึ่ง???  :hao6:
หัวข้อ: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 18/09 [CH.9] นางในฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 19-09-2015 14:45:32
10500
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)


** ชดใช้หนี้ครั้งที่ 9 นางในฝัน **

   เสียงเทปเพลงเครื่องดนตรีไทยบรรเลงผสานกับเสียงขับกลอนของเนื้อเพลงฉุยฉายพราหมณ์ดังคลอไปพร้อมๆกับการขับร้องบทกลอนลิเกของนักแสดงคนอื่นๆในคณะลิเกปทุมทัศน์ที่เลื่องชื่อติดอันดับต้นๆในประเทศ

   ตอนนี้ผมกำลังซ้อมรำฉุยฉายอยู่กับคุณครูผู้ประสิทธิ์ประศาสตร์วิชานาฏศิลป์ให้ผมมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งนั่นก็คือพ่อของผมนั่นเอง
   เพี๊ยะ!!

   “โอ้ย พ่อ เจ็บ” ผมร้องลั่นเมื่อพ่อหวดไม้เรียวลงมาที่น่องผมครั้งที่เท่าไรไม่รู้แล้ว

   “เจ็บอะไร เอ็งก็รำดีดีสิวะ มือไม้แข็งไปหมดแล้ว เดี๋ยวกินข้าวเสร็จให้แม่เอ็งเก็บน้ำซาวข้าวไว้ให้เอ็งดัดมือด้วย พอไม่ได้ซ้อมไม่ได้ใช้ก็แข็งไปใหญ่”

   “อะไรล่ะพ่อ ผู้ชายก็อย่างนี่ล่ะน่า จะเอาอะไรกับผู้ชายรำฉุยฉาย ไม่เข้าใจเจ้าภาพของพ่อเลย ให้ผู้ชายมารำฉุยฉาย บ้ารึปล่าว”
   “น้อยน้อยหน่อยไอ้มณี เขาจ้างไปรำก็ดีเท่าไรแล้ว เอ็งนี่กระโดกกระเดกจริงจริง”

   “เอ้า ก็ผู้ชายนี่พ่อ”

   “ทีไอ้เพชรมันยังรำได้เลย”เพชรของพ่อนั่นมันพระเอกลิเก เขาทำเป็นอาชีพ เขาเป็นพระเอกตัวหลักของพ่อเลยน่ะนั่น เขาก็ต้องรำสวยเป็นธรรมดา

   จะเอานักศึกษาวัยรุ่นเท่ๆอย่างผมไปรำเปรียบเทียบกับพระเอกลิเกมันจะเทียบกันติดได้ยังไงเล่า

   “ใครมันจะไปสู้พระเอกของพ่อได้เล่า”

   ถึงแม้การรำการดนตรีมันจะเป็นศิลปะที่ติดตัวผมมาตั้งแต่เกิดก็เถอะ แต่จะให้มานั่งรำต่อหน้าคนตัวใหญ่ที่กำลังนั่งจ้องผมอยู่อย่างสนอกสนใจนี่มันก็ไม่ใช่เรื่อง

   ผมหยุดรำทันทีที่เห็นว่าพี่ธารากำลังนั่งมองผมรำอยู่อย่างสนอกสนใจ แถมยิ้มเยาะอีกเวลาที่ผมโดนไม้เรียวฟาดน่อง

   ใจคอพี่เขาจะแทรกซึมเข้ามาในครอบครัวผมให้ได้จริงจริงใช่ไหม เสนอหน้าเข้ามาแม้แต่ในห้องซ้อมรำของคณะที่อยู่ข้างบ้าน
   โทษใครก็ไม่ได้ ต้องโทษแม่ประทุมสุดสวยของผมที่ดันไปชวนไอ้พี่ธารามากินข้าวเย็นด้วย พี่เขาเลยมานั่งเสนอหน้าดูผมซ้อมรำอยู่ตอนนี้

   “มองอะไร”ผมเท้าเอวถามพลางจ้องหน้าพี่ธาราอย่างไม่พอใจ แต่ยังไม่ทันที่พี่เขาจะตอบ

   “โอ้ย อะไรล่ะพ่อ”หัวผมคว่ำคะมำไปด้วยฝ่ามือของพ่อที่เข้าปะทะจนแทบจะตกเวที

   “เอ็งไปถามพ่อธาราอย่างนั้นได้ยังไง พ่อธาราเขาอุตส่าห์มาดูเอ็งซ้อม เอ็งนี่ มัวแต่รำกระโดกกระเดก จะพาลเสียชื่อพ่อแม่เอ็งเอา”

   เขาติดสินบนพ่อแล้วก็บอกมาเถอะ แอบเห็นว่ารับถุงกาแฟจากนอกพี่เขามาตอนที่ผมเผลอ พ่อนี่ก็พอพอกับแม่ไม่มีผิด

   ครอบครัวผมเป็นอะไรกันไปหมด คงจะพึ่งได้แค่พี่ศรีสุวรรณล่ะมั้งที่ยังพอไว้เนื้อเชื่อใจได้

   ไม่รู้ป่านนี้จะได้แฟนสาวผมแดงมานอนกกกี่คนแล้ว

   เหลือก็แต่ผมที่กำลังเผชิญชะตากรรมชีวิตวันรุ่นที่แสนเหี่ยวเฉาอยู่อย่างนี้

   “ทำไมต้องจ้องขนาดนั้นด้วย”ผมว่าพึมพำพลางมองค้อนพี่ธารา

   “เอ็งซ้อมไปก่อน เดี่ยวพ่อไปดูชุดว่านังแมวมันแก้เสร็จรึยัง จะได้มาลองกัน”

   พ่อพูดเสร็จก็เดินไปทางหลังเวทีที่สำหรับเอาไว้เก็บชุดเก็บอุปกรณ์การแสดง

   “ข้าไม่ยักรู้ว่าเจ้าร่ายรำได้สวยราวกับสตรีเช่นนี้”พี่ธาราเดินมานั่งที่ขอบเวทีพลางพูดทำเอาผมหันไปมองค้อนหนักยิ่งกว่าเขา

   เขากำลังบอกว่าผมเหมือนผู้หญิงอยู่ใช่ไหม นี่ผมสูงร้อยเจ็ดสิบกว่า ถึงรูปร่างจะไม่ใหญ่โตเหมือนพี่เขา แต่ก็ไม่ได้หวานแหววอะไรจนเหมือนผู้หญิงปานนั้น

   ออกจะหล่อ ดูดีมีชาติตระกูล พอมีกล้ามเนื้อรูปร่างสูงโปร่ง พอให้สาวให้เหลียวมองอยู่บ้าง เล่นพูดซะผมห่อเหี่ยวหนักกว่าเก่าอีก

   “ใครถามความเห็นพี่ ไปเลย นู่น ไปช่วยแม่ทำกับข้าวไป ประจบประแจงกันดีนักนิ”ผมว่าประชดพลางโยนผ้าขนหนูผืนเล็กที่เอาไว้เช็ดเหงื่อใส่พี่ธารา

   “ข้ามิได้ประจบสักหน่อย ข้าเพียงแค่ทำความรู้จักแบบที่มนุษย์ชอบทำกัน”พี่ธารารับผ้าคนหนูที่ผมโยนใส่พลางลุกขึ้นเดินเข้ามาหาผม

   เอาอีกแล้ว พออยู่กันลำพังทีไรเป็นอันต้องเข้ามาใกล้ผมทุกที ถึงจะมีคนอื่นซ้อมบทกลอนอยู่ไม่ไกลก็เถอะ แต่เขาก็ก้มหน้าก้มตาท่องกันไม่เห็นมีใครสนใจ

   “อย่าเข้ามาใกล้นะ”ผมว่าพลางถอยหนี

   “เป็นอะไรเล่า เจ้ากลัวข้าเช่นนั้นรึ”

   “ปะ ปล่าว ไม่ได้กลัวสักหน่อย ถอยไปได้แล้ว”ผมว่าพลางผลักอกพี่ธาราที่เดินเข้ามาใกล้จนแทบชิดออก

   ผมมองดูคนอื่นที่กำลังท่องบทอยู่ ที่ตอนนี้พร้อมใจเงยหน้าขึ้นมามองทางผมกันใหญ่ แถมยังซุบซิบกันอีก อย่าเพิ่งเข้าใจผิดกันซี่

   “อยู่นิ่งนิ่งสิ”พี่ธารากระซิบ ตอนนี้พี่เขาอยู่ห่างจากผมไม่กี่คืบ แถมยังโน้มหน้าเข้ามาหาผมอีก

   “จะ จะทำอะไร”ผมถามพลางหลบสายตาสีดำสนิทที่มองมาแล้วเบือนหน้าหนี ยอมรับเลยว่าไม่กล้าสบตากับพี่ธารา เพราะมันกำลังเปล่งประกายวิบวับอย่างเจ้าเล่ห์ ยิ่งบวกกับมุมปากที่ยกยิ้มแบบนั้นอีก ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะละลายหายไปได้นะ

   พี่ธารายกมือข้างที่ถือผ้าขนหนูของผมขึ้นมาก่อนจะยกมันมาซับเหงื่อบนหน้าผากให้ผมเบาเบา

   “เจ้าเหงื่อออกอยู่”พี่ธารากระซิบข้างหู

   ทำไมหัวใจผมถึงได้เต้นแรงขนาดนี้ ผลักออกไปสิ ผมพยายามสั่งร่างกายแต่ทำไมมือผมไม่ผลักเขาออกไปให้ออกห่าง นี่ผมกำลังเป็นอะไร คราวนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมาตรึงเอาไว้ แต่ทำไมผมถึงได้ไม่ผลักเขาออกนะ


***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***


   หลังจากที่จบสิ้นอาหารมือเย็นและการพูดคุยกันเล็กน้อยระหว่างครอบครัวและส่วนเกินอย่างพี่ธารา พี่ยักษ์ขี้ตู่เจ้าเดิมที่กว่าจะกลับบ้านกลับช่องของตัวเองไปอยู่คุยกับพ่อแม่ของผมอีกยาว

   พอผมต่อว่าไปว่าประจบอะไรพ่อแม่ผมนักหนาพี่เขาก็แก้ตัวว่าทำความรู้จัก นิสัยอะไรชักเหมือนมนุษย์ขึ้นมาทุกที

   ผมเปิดประตูห้องนอนตัวเองก็เจอเข้ากับการ์ดลายกุหลาบสีแดงที่ผมยังเก็บเอาไว้วางเด่นอยู่บนหัวเตียง

   ไม่รู้ว่าถ้าพี่ธารารู้ว่าผมทิ้งไปแค่ดอกไม้ แต่ยังคงเก็บกระดาษการ์ดนี้เอาไว้ พี่เขาจะว่าอะไรผมรึปล่าว หรือว่าจะจูบเหมือนเมื่อตอนเช้าก็ไม่รู้ ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าโมโห

   คนอะไร ไม่สิ ยักษ์ต่างหาก ยักษ์อะไรพอนึกจะหงุดหงิดก็หงุดหงิดจนตามไม่ทัน แถมกระแทกปากลงมาบนปากคนอื่นได้ เล่นเอาซะปากผมเกือบแตก

   ผมหยิบการ์ดลายกุหลาบแดงขึ้นมาเปิดอีกครั้ง ชื่อละเวงมันยังคงติดอยู่ในใจผม

   สาเหตุที่ผมยังคงเก็บมันไว้ก็คือ ตัวหนังสือที่เขียนด้วยลายมือ แล้วที่สำคัญ หมึกที่เขียนก็มีสีแดงเข้มคล้ายกับสีของเลือดนก
แถมยังมีกลิ่นคล้ายกับเครื่องหอมจำพวกธูปหรือเทียนหอมทำให้ผมทิ้งมันไม่ลง เพราะมันมีอะไรที่น่าสงสัยมากกว่าจะทิ้งไปง่ายๆ
   บางทีผมอาจจะเอาลายมือที่เขียนอยู่นี่ไปเทียบกับลายมือคนที่คิดว่าอาจจะใช่เจ้าของดอกไม้นี้ก็ได้ เผื่อว่าผมอาจจะได้รู้สักทีว่าเจ้าของกุหลาบแดงสีเลือดนั่นเป็นใคร

   ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

   “มณี เอ็งนอนรึยัง”เสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงพ่อที่ดังลอดเข้ามาทำให้ผมละสายตาจากการ์ดลายกุหลาบ

   “ยังพ่อ เข้ามาเลยไม่ได้ล็อกประตู”ผมว่าพลางวางการ์ดลายกุหลาบไว้ที่หัวเตียงเหมือนเดิม

   “กลิ่นอะไร”ทันทีที่เข้ามาได้พ่อก็ถามถึงกลิ่นหอมที่ลอยคลุ้งอยู่ภายในห้องผมทันที

   “กลิ่นดอกมะลิน่ะพ่อ”ผมตอบพลางเหลือบมองชามเคลือบลายดอกไม้สีขาวที่วางอยู่หัวเตียง

   “เอ็งไปเอามาจากไหน”

   “พี่ธาราเขาให้มา”ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจ นึก

   แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่ทิ้งมันไปเหมือนดอกกุหลาบแดงช่อใหญ่นั่น

   “แล้วทำอะไรอยู่ล่ะ ทำไมเอ็งถึงยังไม่นอน”

   “ก็รอพ่อมานี่ไง”ผมตอบกวนกวนไป

   “เอ็งอย่ามากวนตีน เอาดีดี ไอ้ลูกคนนี้”

   “ก็ว่าจะอ่านหนังสือแล้วก็ท่องบทพระเอกของพ่อไง เดี๋ยวถึงเวลาขึ้นเล่นจำบทไม่ได้ก็อายคนดูพอดี”ผมว่าไป แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับตรงข้ามเลยต่างหาก

   “แล้วเพลงที่พ่อให้ไปล่ะ เอ็งลองเล่นดูรึยัง”พ่อว่าพลางนั่งลงบนเตียงข้างๆผม

   “ยังเลย ถามทำไมอ่ะพ่อ”

   “เอ็งก็ลองเล่นดูได้แล้ว ชักช้าจะไม่ทันการ”ไม่ทันการอะไร?

   “ไม่ทันการอะไร พูดอย่างกับว่าจะมีเรื่องอะไร”ผมถาม

   “เออน่าเอ็งก็ถามมาก ก็ลองลองเล่นดูไป อีกไม่กี่อาทิตย์ก็วันเกิดเอ็งแล้วไม่ใช่รึไง พ่ออยากให้เอ็งเล่นเพลงนี้ให้ได้ก่อนจะถึงวันเกิดเอ็ง”

   ถึงอีกไม่กี่อาทิตย์จะถึงวันเกิดครบรอบสิบแปดปีของผมก็เถอะ

   แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่ผมจะต้องเล่นเพลงที่มีแต่กระดาษโน้ตใบเก่าด้วย ทำอย่างกับมีความลับอะไรอย่างนั้นล่ะ

   “โอเค ถ้าพ่ออยากให้มณีเล่นให้ได้ก่อนวันเกิดล่ะก็ มณีจะเล่นวันนี้เลย พอใจยัง ทำอย่างกับมีความลับกันตลอด”

   “พูดมากนะเอ็ง พ่อไปนอนแล้ว อย่าลืมลองเล่นเพลงที่พ่อให้ล่ะ”

   “รู้แล้วน่า ย้ำอยู่ได้ ไปนอนไป เดี๋ยวแม่ปทุมก็มาตามหรอก”ผมว่าไล่หลังหลังจากพ่อปิดประตูลง

   อะไรของพ่อกันนะ ชอบพูดเหมือนมีความลับตลอดเลย

   ผมเปิดลิ้นชักหัวเตียงแล้วหยิบกระดาษโน้ตเพลงแผ่นเก่าสามแผ่นออกมาพลางจ้องมองตัวโน้ตแบบเก่า

   ผมลองฮัมเพลงในลำคอไล่โน้ตดู น่าแปลกที่ผมเว้นจังหวะได้ถูกต้องตั้งแต่ครั้งแรกที่ลองอ่าน ตัวโน้ตที่แต่งต่างกันไล่ระดับเสียงขึ้นลงสอดรับกันอย่างลงตัวกับจังหวะที่ผมเว้นวรรคเอาไว้

   ทำไมผมรู้สึกว่าบทเพลงที่ผมกำลังฮัมอยู่มันช่างลึกซึ้งจนผมหยุดที่จะไล่ระดับเสียงตามโน้ตเพลงต่อไปไม่ได้

   ทำไมมันเหมือนกับคุ้นเคยอย่างนี้ ผมฮัมมันไม่หยุด จากแผ่นแรกไปแผ่นที่สอง จากแผ่นที่สอง จนไปแผ่นที่สาม จนกระทั่งถึงตัวโน้ตตัวสุดท้าย

   อะไรกัน?ตัวโน้ตไล่ระดับขึ้นลงไปมาซับซ้อนขนาดนี้ แต่ทำไมผมกลับอ่านมันออกอย่างง่ายดายจนดูน่าประหลาดใจ

   ในใจผมมันรู้สึกทั้งอย่างรู้อยากเห็นและตื่นเต้นไปพร้อมๆกัน จนต้องเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบไวโอลินที่ซุกอยู่ข้างในเปิดกล่องออกมาแล้วทาบตัวไวโอลินลงบนลาดไหล่

   ผมเปิดกระดาษโน้ตกลับไปที่แผ่นแรกก่อนจะยกคันสีขึ้นจรดลงบนสายไวโอลิน ก่อนจะชักคันสีจนเกิดเสียงก้องกังวาล

   ครั้งนี้ผมแทบไม่ต้องดูกระดาษโน้ตเลยด้วยซ้ำ ท่วงทำนองที่เสียดสีมันช่างหวานจนทำให้ผมที่กำลังฟังอยู่โอนอ่อนไปตามท่วงทำนอง

   หัวใจราวกับว่ากำลังหลอมละลายคล้ายกำลังถูกโอบอุ้มเอาไว้ด้วยปุยเมฆที่บางเบา

   คราวนี้ผมเร่งความเร็วในการสีไวโอลินให้เร็วยิ่งขึ้นท่วงทำนองของบทเพลงเริ่มให้ความรู้สึกที่แตกต่างราวฟ้ากับเหวโถมเข้าในกัดกินข้างในจิตใจ

   ท่วงทำนองที่ราวกับบาดลึก สั่นคลอนให้หัวใจรู้สึกว่าถูกกัดกินจนเจ็บปวด มันบาดลึกราวกับพายุที่โหมกระหน่ำกำลังถาโถมเข้าใส่จิตใจ

   ยิ่งเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น เสียงกรีดร้องของบทเพลงก็ยิ่งรุนแรงราวกับจะฉุดลมหายใจให้หยุดนิ่ง คล้ายกับต้องการจะพรากชีวิตของผู้ที่ได้ฟัง จนกระทั่งถึงตัวโน้ตตัวสุดท้าย

   น้ำตาของผมไหลงลงมาจากดวงตาข้างขวาโดยที่ผมไม่ทันได้รู้สึกตัว

   น้ำตาของผมไหลลงมาจากตาข้างขวาเพียงข้างเดียว

   “เฮือก”ผมสุดหายใจเข้าปอดพลางรีบปิดกระดาษโน้ตเพลงแล้วยัดมันลงลิ้นชักหัวนอนตามเดิมทันที

   น่ากลัว!!

   บทเพลงอะไรกัน ทำไมตอนเล่นช้าๆถึงได้หวานจนแทบหลอมละลาย แต่พอเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นมันถึงได้ฟังดูบาดลึกกัดกินจิตใจอย่างนี้

   ผมยกมือขึ้นมากุมอกข้างซ้ายที่หัวใจกำลังเต้นกระหน่ำแล้ววางไวโอลินลงใส่กล่องแล้วเอามันไปเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าเหมือนเดิม
   สงสัยวันนี้ผมคงจะเหนื่อยเกินไปจริงจริง

   ผมมองดูการ์ดลายกุหลาบแดงที่วางเด่นอยู่บนหัวเตียง ผมจ้องมองมันนิ่งราวกับว่ามันกำลังเรียกร้องให้ผมหยิบมันขึ้นมาดูอีกครั้ง
   ผมหยิบมันขึ้นมาพลางเปิดมันอีกครั้ง ลายหมึกสีแดงเข้มที่ถูกเขียนด้วยลายมือที่เป็นระเบียบปรากฏอยู่บนการ์ด

   คล้ายกับถูกชักจูงด้วยสิ่งที่ผมมองไม่เห็น ผมลูบมือลงบนเส้นหมึกที่เขียนอยู่บนกระดาษเรียงเป็นตัวหนังสือผมไล่นิ้วกรีดบนตัวหนังสือตั้งแต่ต้นจบจบประโยคราวกับว่ามันกำลังเรียกร้องให้ผมทำอย่างนั้น

   แล้วทำไมผมจะต้องทำล่ะ?

   สงสัยว่าวันนี้ผมอาจจะเหนื่อยมากเกินไปจริงๆ ถึงได้รู้สึกว่ามีแต่เรื่องราวแปลกๆเกิดขึ้นกับผมมากมายขนาดนี้


***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***

   ที่นี่ที่ไหน?

   ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่ามันวาบหวามจนกำลังจะหลอมละลายอย่างนี้

   ทำไมรอบกายผมถึงมีแต่กลีบกุหลาบเต็มไปหมด กลีบกุหลาบสีแดงที่สีเหมือนกับสีของเลือด

   ทำไมผมถึงได้ฝันประหลาดแบบนี้

   กลีบกุหลาบที่อยู่รอบกายค่อยๆเพิ่มมากขึ้นมากขึ้นจนแทบจะโถมเข้ามาทับผมทั้งตัว

   นี่ผมกำลังจมอยู่ในกลับกุหลาบที่เยอะมากมายนี่ใช่ไหม ทำไมมันถึงได้เยอะขนาดนี้

   กลีบกุหลาบแดงรอบกายผมยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนสูงท่วมเลยคอผมขึ้นมา

   อะไรกัน? นี่ผมกำลังจะจมกลีบกุหลาบตายอย่างนั้นเหรอ ทำไมถึงได้รู้สึกว่ากำลังถูกดึงให้จมลงไปในบ่อที่เต็มไปด้วยกลีบกุหลาบสีเลือด

   แต่วินาทีที่ผมกำลังจะจมลงไป มือผมถูกเกาะกุมเอาไว้ด้วยมือที่เย็นชืดไร้ชีวิตชีวา

   ผมเงยหน้ามองคนที่ช่วยดึงมือผมเอาไว้ไม่ให้จมลงไปในบ่อกุหลาบสีเลือด

   ใครกัน เจ้าของเรือนผมยาวสลวยที่ผมกำลังเห็น แสงที่ส่องผ่านตัวเธอทำให้ผมแสบตาจนแทบจะมองไม่เห็นหน้าของเธอ

   เธอเป็นใคร?

   ผมจ้องไปที่เธอก่อนที่จะกระพริบตา ภาพที่ผมเห็นคือผู้หญิงที่มีใบหน้าสวยราวกับนางฟ้าลงมาจากสวรรค์

   เธอคนนี้เป็นใครกัน ใบหน้าที่สวยหวานจนผมแทบจะละสายตาไปจากเธอไม่ได้

   ดวงตากลมโตบวกกับริมฝีปากเล็กรูปกระจับ จมูกที่เชิดรั้งเล็กน้อย ผมสีดำสวยที่ยาวจนถึงสะโพก

   ผมถูกดึงขึ้นมาจากบ่อที่เต็มใบด้วยกลีบกุหลาบสีเลือด ตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่เบื้องหน้าผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ความรู้สึกของผมตอนนี้คือผมกำลังหลงใหลผู้หญิงคนนี้จนไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้

   เธอเป็นใคร?ผมได้แต่ถามตัวเอง เธอยิ้มให้ผม ในวินาทีที่เธอยกมือขึ้นจับที่ใบหน้าผมอย่างแผ่วเบา

   เบาพอที่จะทำให้ผมรู้สึกดีจนแทบคลั่ง ทำไมผมถึงได้รู้สึกหลงใหลเธอมากมายขนาดนี้

   ผมมองใบหน้าที่สวยหวานของเธอ มองที่เรียวปากรูปกระจับของเธอที่กำลังขยับคล้ายกำลังจะพูดอะไร

   ‘อภัยมณี’

   เสียงนั้นหวานจนแทบจะละลายผมได้เลย สิ้นเสียงที่เธอเรียกผมริมฝีปากของเธอก็ค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้


   ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

   ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยเสียงนาฬิกาปลุก

   ผมฝันไปอย่างนั้นเหรอ

   ทำไมถึงได้ฝันน่ากลัวอย่างนี้ แต่ว่าในฝันช่วงหลังๆนี่ก็รู้สึกดีอยู่เหมือนกัน ผู้หญิงในฝันที่ผมเห็นเป็นใครกัน

   แต่คงจะเป็นแค่ฝัน คนในฝันมันจะมีตัวตนอยู่จริงจริงได้ยังไง ผมนี่ก็บ้า

   แต่นาฬิกาปลุกก็ไม่น่ามาปลุกเอาตอนนี้เลย กำลังจะได้จูบผู้หญิงสวยสวยอยู่แล้วเชียว ดันมาตื่นเอาซะได้

   ผู้หญิงอะไร สวยจนผมลืมภาพไม่ลงเลยจริงๆ  ความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังถูกรัก และกำลังตกหลุมรักเริ่มก่อเกิดขึ้นมาในใจจนผมรู้สึกว่ามีความสุขแต่เช้า

   ผมกำลังตกหลุมรักผู้หญิงในฝันอยู่ใช่ไหม ความรู้สึกของผมมันบอกอย่างนั้น ผมรู้สึกว่าหลงใหลเธอ รู้สึกว่าอยากจะกอดเธอจนใจจะขาด

   ผมคงบ้าไปแล้ว แต่ใครจะว่ายังไงก็ช่าง ผมหลงรักเธอ ผมรู้สึกหลงเธอเข้าแล้ว

   ผมอยากให้ผู้หญิงที่อยู่ในฝันของมีตัวตนจริงๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมจะกอดเธอ ผมจะบอกรักเธอ และผมจะดูแลเธอตลอดไป ความรู้สึกของผมมันบอกอย่างนั้น



   เช้านี้ผมขับมอเตอร์ไซรถมาเรียนตามปกติโดยที่ไม่มีพี่ธารามาเป็นส่วนเกินในครอบครัว

   พอนึกถึงพี่ธาราทีไรผมก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันทีโดยไม่รู้ทราบสาเหตุ แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะตอนนี้ผมกำลังนึกถึงใบหน้าของผู้หญิงในฝันของผมต่างหาก

   เธอสวยเหมือนกับนางฟ้าเลย ถ้ามีตัวตนอยู่จริงล่ะก็คงจะดี

   ผมเดินไปใต้ตึกคณะที่โต๊ะประจำก็เห็นโมกับนนท์นั่งอยู่ก่อน น่าแปลกที่วันนี้ไม่มีเชียร

   “ว่าไงมณี วันนี้มาคนเดียวเหรอ”นนท์ทักพลางหันไปหยิกแก้มโมที่อ่านหนังสืออยู่ข้างๆ

   “โอ้ย เจ็บน่านนท์”โมว่าพลางปัดมือนนท์ออก

   “อืม มาคนเดียว ทำไมถามงั้นล่ะ”ผมถามกลับ

   “ก็เห็นว่ามากับพี่ธาราสองวันติดแล้วไม่ใช่รึไง”

   “ไม่เห็นต้องมาด้วยกันทุกวันนี่ ต่างคนต่างอยู่ต่างหาก”ผมพูดด้วยน้ำเสียงห้วนทันทีที่นึกถึงพี่ธารา

   “แล้ววันนี้จะไปทำงานห้องสมุดไหม”

   “ไม่ไปว่ะ รุ่นพี่อนุโลมให้ทำแค่วันพฤหัสศุกร์แค่สองวัน เพราะเราต้องไปช่วยงานที่บ้าน”ผมตอบ

   พลางมองไปที่กลุ่มรุ่นพี่ปีสอง น่าแปลกที่วันนี้ไม่มีพี่ธารา แต่ก็ดี ผมก็ไม่ได้อยากเห็นหน้าพี่เขาสักเท่าไร

   “ก็ดี จะได้มีเวลาไปหาอะไรกินตอนเย็นกัน”นนท์ว่าพลางหยิกแก้มโมที่ตอนนี้เป็นรอยหยิกจนแดงอีกครั้ง

   “นี่ อย่าหยิกสินนท์”โมโวยวายพลางปัดมือออก

   “ก็น่าแกล้งเองทำไมล่ะ สมน้ำหน้าวันนี้ไม่มีเชียรมันคอยอยู่ช่วย”

   “ไร้สาระน่า”โมว่าแล้วก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือการ์ตูนต่อไม่สนใจนนท์ที่ยังไม่หยุดหยิกแก้มตัวเอง

   บางที ผมก็ว่าสามคนนี้ดูสนิทกันเกินไป ถึงแม้ว่าจะรู้จักกันมาตั้งแต่มัธยม แต่ว่าถึงขั้นหยอกล้อกันแบบนี้มันก็ดูเกินเพื่อนไปหน่อย หรือว่าผมจะคิดมากไปเอง

   “เอาแต่อ่านหนังสือการ์ตูน ใส่แว่นจนหนาเตอะแล้วโม”ผมว่าพลางหยิบบทของตัวพระอภัยมณีขึ้นมาท่อง

   โชคดีที่เพิ่งเริ่มเรียนเลยยังไม่มีอาจารย์ท่านไหนสั่งงาน ไม่งั้นผมคงไม่ได้มีเวลาเหลือพอมาท่องบทแน่

   “มณีเข้าข้างนนท์อีกแล้ว”โมว่าทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกจากหนังสือการ์ตูน

   ความเงียบเข้าครอบคลุมอีกครั้งเมื่อผมกำลังพยายามตั้งสมาธิท่องบท ส่วนนนท์ก็มองซ้ายมองขวาไปเรื่อยๆตามภาษาคนเจ้าชู้ไม่อยู่สุข

   ผมพยายามตั้งสมาธิท่องบทที่อยู่ในมือ แต่ทำไมผมถึงได้แต่นึกถึงแต่ภาพของผู้หญิงที่อยู่ในฝันของผมอย่างเดียวเลย


   “เฮ้ย มณี มณี ดูนั่นเว้ย กุหลาบแดงมาอีกแล้ว”นนท์สะกิดแขนพลางชี้ให้ผมมองไปยังทางเข้าตึกคณะ

   “อะไร ท่องบทอยู่”ผมว่าพลางเงยหน้าขึ้นมอง

   แต่พอผมมองผ่านนนท์ไปผมกลับเห็นใครคนที่ตอนนี้ผมไม่อยากเห็นหน้ามากที่สุดยืนอยู่ไม่ไกล

   พี่ธารากำลังจ้องมองมาที่ผม และตอนนี้เขากำลังมองผ่านผมไปที่ใครอีกคน

   ผมละสายตาออกจากเขาอย่างไม่ใส่ใจและหันไปในทิศทางที่นนท์สะกิดให้ดู

   ผมเห็นผู้หญิงที่อยู่ในชุดนักศึกษากำลังถือดอกไม้เดินตรงมายังกลุ่มที่ผมนั่งอยู่

   ช่อดอกกุหลาบแดงสีเลือดช่อใหญ่ที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอเป็นจุดเด่นจนหลายคนเริ่มมองไปที่เธอ

   แต่นั่นไม่น่าตกใจเท่ากับเธอคือคนที่อยู่ในฝันของผม

   ใบหน้าที่สวยหวานจนผมไม่อาจจะละสายตามองผ่านเธอไปได้

   ตอนนี้เธอหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผมพร้อมดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ที่อยู่ในมือเธอ

   เธอเป็นใครกัน?


***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***----***


อ่านจบแล้วอย่าลืมกำลังใจคนเขียนนะคร้าาา
ว่าแต่....น้องมณีเป็นอะไรไปน้อ โฮะๆ โดนเข้าแล้ว







หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 19/09 [CH.9] นางในฝั
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 19-09-2015 16:01:35
จิ้มจึกๆ
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 19/09 [CH.9] นางในฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 19-09-2015 16:37:48
โดนยาเสน่ห์ของนางละเวงเข้าให้แล้ว คราวนี้ยาเสน่ห์อยู่ที่การ์ดลายกุหลาบนั่น

อภัยมณีที่แสนจะซื่อ (บื้อ)  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 19/09 [CH.9] นางในฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 19-09-2015 18:35:44
น้องมณีโดนมนต์นางละเวงเข้าแล้วสินะ
พี่ยักษ์จะช่วยยังไงล่ะเนี่ยยยยย
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 19/09 [CH.9] นางในฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 19-09-2015 21:00:53
น้องมณีโดนอะไร
 :mew2:
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 19/09 [CH.9] นางในฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 20-09-2015 01:12:37
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg]
เริ่มหัวข้อโดย: บุหลันรัศมี ที่ 20-09-2015 04:15:27
พี่ยักษ์อย่าช้า
น้องมณีโดนเสน่ห์เข้าแล้วเจ้าค่ะ
เร่งจีบให้โดยไว :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 21/09 [CH.10] เสน่ห์นางลวง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 21-09-2015 04:16:52
11200
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

** ชดใช้หนี้ครั้งที่ 10 เสน่ห์นางลวง **


ผมยืนขึ้นโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวแล้วจ้องมองใบหน้าของผู้หญิงที่ปรากฏตัวในฝันของผม

   ใบหน้าของเธอสวยงามจนเหมือนผู้หญิงในฝันของผมไม่มีผิด ผิดที่ว่านี่คือเธอตัวเป็นๆ

   ดวงตากลมโตของเธอจ้องมองมาที่ผมทำให้ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมกำลังสั่นไหว ผมมองเธอด้วยสายตาที่เลื่อนลอยพลางยิ้มตอบกลับไป

   ผมยิ้มตอบเพราะคิดว่าตัวเองกำลังมีความสุข ผมยิ้มเพราะดีใจที่ได้เจอกับเธอ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยจนผมไม่อาจละสายตา

   “ดอกไม้นี่ พี่ให้ รับไปสิ”เธอพูดพลางยื่นดอกไม้มาให้ผม

   “ครับ”ผมรับช่อดอกไม้มา

   “นี่เบอร์พี่ ไว้พักเที่ยงโทรมานะ”เธอบอกพลางยื่นกระดาษใบเล็กให้ผมแล้วส่งยิ้มให้ผม จนผมแทบรู้สึกว่าจะละลายหายไปในเวลานี้เลย

   สวย...เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก สวยจนทำให้ผมหลง

   และผมก็ยืนมองตามเธอ จนกระทั่งเธอเดินห่างออกไปจนลับสายตา

   “ใครวะมณี”นนท์ถาม

   “ไม่รู้สิ”ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจ...เพราะตอนนี้ใจผมกำลังจดจ้องอยู่ที่เจ้าของดอกไม้นี่ต่างหาก

   ผมไม่รู้เลยว่าเธอเป็นใคร รู้แค่ว่าเธอเป็นผู้หญิงในฝันของผม
   

   ช่อกุหลาบสีเลือดกับการ์ดลายกุหลาบแดง เหมือนกับวันนั้นไม่มีผิด

   ‘สิ้นสุดการรอคอย....ในที่สุดก็ได้เจอ’

   ข้างในการ์ดเขียนเอาไว้อย่างนี้ด้วยลายมือและหมึกสีแดงเข้มเหมือนเดิม

   “นั่นกระดาษอะไรน่ะมณี”โมถาม

   “เบอร์โทรศัพท์น่ะ พี่เขาบอกว่าให้โทรไป”ผมตอบพลางยิ้มให้กับกระดาษใบเล็กที่มีเบอร์โทรศัพท์เขียนเอาไว้



***----***----***----***----***----***----***

   และแล้วผมก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าผมจะได้ทำในชีวิตนี้ นั่นก็คือโทรไปหาผู้หญิงในฝันของผม

   ผมยืนรอเธอที่หน้าโรงอาหารของคณะพลางตามเวลาที่นัดกันไว้ ผมชะเง้อมองอย่างรอคอยว่าเมื่อไรเธอจะมา ผมยังไม่รู้จักชื่อของเธอเลย

   จะว่าไปในการ์ดนั่นก็ลงท้ายชื่อว่า...ละเวง

   แต่ผมคิดว่าคงจะไม่ใช่ชื่อนั้น เพราะมันดูแปลกเกินไป

   “รอพี่นานไหม”

   “ไม่ครับ ไม่นานเลย”ผมยิ้ม

   “ไปกันเถอะ คงจะหิวแย่”

   สิ้นเสียงมือผมก็ถูกคว้าไปจับด้วยมือยาวเรียวของเธอ เธอกำลังจับมือผม เราเดินจับมือกันเข้าไปในโรงอาหารโดยที่มีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เรา

   อาจจะเป็นเพราะเธอไม่ใช่คนของคณะนี้ล่ะมั้ง ทุกคนถึงได้ให้ความสนใจแล้วก็เริ่มซุบซิบกัน

   “กินอะไรดีจ๊ะน้องมณี”เธอหันมาถามพลางยิ้มหวาน เธอเรียกผมว่าน้อง เธอคงจะแก่กว่าผม

   ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่แขนของผมถูกเธอกอดเอาไว้ มันเลยกลายเป็นว่าผมกำลังถูกควงอยู่แต่ผมก็รู้สึกว่าผมชอบที่พี่เขาทำ

   “แล้วแต่พี่จะ เอ่อ พี่...”ผมพูดค้างไว้เพราะไม่รู้ว่าพี่เขาชื่ออะไร

   “อ้อ พี่ยังไม่ได้บอกชื่อใช่ไหมล่ะ เรียกพี่ว่าอเลนก็ได้”

   “อเลน? แล้วละเวงล่ะครับ”ผมถามอย่างสงสัย

   “อันนั้นชื่อภาษาไทยที่พ่อตั้งให้น่ะ แต่พี่ไม่ค่อยชอบเท่าไร เรียกอเลนน่ะดีแล้ว ชื่อทางการของพี่”

   “อ่ะ ครับ”

   “น้องมณีรู้ตัวไหม ว่าน่ารักมากแค่ไหน”พี่อเลนพูดจบก็ยกมือขึ้นหยิกแก้มผมเบาๆ ถึงจะสงสัยว่าทำไมพี่เขาชมผมว่าน่ารัก แต่ผมก็รู้สึกว่าตัวเองมีความสุข

   “คะ ครับ พี่ก็ เอ่อ สวยมากเลย”

   “จริงเหรอ เอาเป็นว่ากินสปาร์เก็ตตี้ดีกว่าเนอะ”

   “ครับอะไรก็ได้”

   “เดี๋ยวน้องมณีนั่งรอพี่ตรงนี้นะ เดี่ยวพี่จะไปซื้อมาให้”พี่อเลนดันให้ผมนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่าง

   “อ่า ให้ผมไปดีกว่านะครับ”ผมว่า มันออกจะแปลกไปหน่อยที่ให้ผู้หญิงเป็นคนไปซื้อ แทนที่จะเป็นผมที่เป็นผู้ชาย

   “ไม่เป็นไรจ๊ะ ให้พี่ไปเองดีกว่านะ รอพี่อยู่นี่แหละ”

   “งั้นก็ได้ครับ”ผมตอบ ยังไงซะผมก็ไม่คิดจะขัดอะไรพี่เขาอยู่แล้ว

   ผมมองตามพี่อเลนไป มองพี่เขาต่อแถวซื้ออาหาร แอบเห็นว่ามีหลายคนมองพี่เขาแต่พี่เขากลับไม่สนใจ แล้วหันมาโบกมือให้ผมพลางยิ้ม

   ผมโบกมือตอบแล้วยิ้มให้บ้าง โลกของผมกำลังกลายเป็นสีชมพู ผมรู้สึกว่าผมไม่สามารถที่จะหักห้ามใจไม่ให้รู้สึกดีกับพี่เขาไม่ได้เลย

   ผมกำลังหลง......



   ไม่นานทั้งอาหารทั้งน้ำก็มาอยู่ตรงหน้าผมด้วยบริการจากพี่อเลน ผู้หญิงในฝันที่มีตัวตนอยู่จริงของผม

   “กินกันเลยดีกว่า  ว่าแต่วันนี้ตอนเย็นน้องมณีว่างไหม พอดีพี่ว่าจะไปซื้อของน่ะ ไปกับพี่ได้ไหม”พี่อเลนเอียงคอถาม

   แล้วทำไมจะไปไม่ได้ล่ะ ผมบอกแล้วว่าผมปฏิเสธพี่เขาไม่ลง ถึงแม้ว่าจะมีซ้อมกับพ่อตอนเย็น แต่เรื่องนั้นคงเอาไว้ก่อนก็ได้ เรื่องผู้หญิงในฝันของผมสำคัญกว่า...ความรู้สึกผมมันบอกอย่างนั้น

   “ว่างครับ”

   “งั้นดีเลย มณีเนี่ย น่ารักจังเลยนะ สมกับที่พี่รอที่จะเจอจริงๆ”

   “อะไรนะครับ”ผมถามย้ำ รู้สึกว่าจะได้ยินว่าพี่เขาบอกว่ารอที่จะเจอผม

   “ปล่าวหรอก กินได้แล้วเดี๋ยวเย็นหมดนะ” พี่อเลนส่ายหน้าพลางส่งยิ้มละลายใจ

   ในใจลึกๆผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นเร็วไปหมด แต่หัวใจมันเหมือนกับถูกบีบบังคับให้ยอมรับและยินดีไปกับมัน...เหมือนกับว่าผมกำลังสูญเสียตนเอง แต่ผมคงจะแค่คิดไปเอง

   ในขณะที่ผมจะตักสปาร์เกตตี้เข้าปาก ตาของผมก็สบเข้ากับดวงตาสีมรกตที่เต็มไปด้วยความโกรธเคืองอยู่ภายใน

   ผมนิ่งค้างจ้องมองไปที่พี่ธาราอย่างไม่ลดละ สีหน้าผมเฉยชาไม่แสดงออกถึงท่าทีใดใดเพราะไม่มีความจำเป็นอะไรที่ผมจะต้องมีความรู้สึกอะไรต่อเขา ต่างจากเขาที่มีสีหน้าราวกับกำลังโกรธผมอยู่

   แล้วภาพของพี่ธาราที่ผมจ้องมองอยู่ก็เปลี่ยนเป็นความมืดสนิทด้วยมือของพี่อเลนที่มาปิดเอาไว้ ผมถูกบังคับให้หันกลับมามองใบหน้าสวยหวานที่ยิ้มรอผมอยู่

   “มองอะไรน่ะ”พี่อเลนถามพลางหน้ามุ่ยเล็กน้อยเหมือนกับทำท่าว่ากำลังงอนผมอยู่

   “ปะ ปล่าวครับ”ผมรีบตอบพลางส่ายหน้า

   “งั้นก็กินได้แล้วจ้า ”

   “ครับ”ผมตอบรับพลางก้มหน้าก้มตากิน

   โดยที่ไม่รู้ว่าผู้หญิงในฝันของผมกำลังจ้องตอบเจ้าของดวงตาสีเขียวมรกตวาวโรจน์อย่างไม่ลดละ ดวงตากลมโตหรี่ลงอย่างเจ้าเล่ห์ส่งสายตาไปให้อีกฝ่ายราวกับต้องการจะเยาะเย้ยก่อนจะยกมือลูบหัวผมแผ่วคล้ายกับกำลังจะตอกย้ำว่าผมเป็นของเขา


***----***----***----***----***----***----***----***

   หลังเลิกเรียน ผมรีบเก็บของทั้งหมดลงกระเป๋าแล้วออกจากห้องเรียนตรงไปที่โรงจอดรถทันที

   ไม่มีแม้แต่คำล่ำลาให้เพื่อนในกลุ่ม โดยที่ผมไม่รู้ตัว ตอนนี้ผมกำลังละทิ้งความเอาใจใส่ต่อคนรอบข้างแล้วหันมาเอาใจใส่กับคนเพียงคนเดียว

   ซึ่งนั่นก็คือนางในฝันของผม...พี่อเลน

   เพียงวันเดียวที่เจอกัน แต่กลับทำให้ผมและพี่เขาสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว

   ผมเดินมาทางหลังตึกเรียนเพราะว่าต้องแวะไปเอาดอกไม้ที่ฝากเอาไว้ที่ห้องธุรการ

   “จะไปไหน”แขนของผมถูกรั้งเอาไว้พร้อมกับน้ำเสียงเรียบนิ่งที่เรียกเอาไว้

   “ปล่อย”ผมบอกพลางเบือนหน้าหนีพี่ธารา

   แค่เห็นเขาผมก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที

   “เจ้าคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่”

   “ก็คิดว่าจะเลิกยุ่งกับพี่สักทียังไงล่ะ”

   “อย่ายุ่งกับเจ้านั่น”พี่ธาราพูดเสียงแข็งพลางบีบแขนผมแน่น...คงจะหมายถึงพี่อเลน

   “ทำไม ผมจะต้องเลิกยุ่งกับพี่อเลน แล้วทำไมผมจะต้องทำตามที่พี่สั่ง พี่ปล่อยผมดีกว่า ก่อนที่ผมจะบอกคนอื่นว่าพี่เป็นตัวอะไร”

   “เลิกยุ่งกับเจ้านั่นเถอะ เชื่อข้า เจ้านั่นมีหมอกดำไม่น่าไว้ใจคลุมอยู่ทั่วตัว”

   “อย่ามาพูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้ไปหน่อยเลยพี่อเลนไม่เหมือนกับพี่สักหน่อย พี่อิจฉาที่ผมสนิทกับพี่อเลนก็บอกมาเถอะ อย่ามาเหมารวมคนอื่นอย่างนี้ ปล่อยมือผมสักที ผมจะรีบไป”

   ผมพยายามแกะมือใหญ่ที่กำแขนผมเอาไว้แน่นออก แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลุดเลยสักนิด

   “ต้องให้พูดอย่างไรเจ้าถึงจะเชื่อข้า”

   “ไม่ต้องพูด จบไหม”

   “ไม่ได้ ข้าปล่อยให้เจ้าไปกับเจ้านั่นไม่ได้”

   พี่ธาราพูดจบก็ดึงผมเข้าไปหาตัวจนปะทะเข้ากับแผ่นอกก่อนทันที

   “พี่ไม่มีสิทธิจะมาสั่งผม ปล่อยผมสิ”ผมพยายามยื้อเอาไว้ แต่ก็ออกแรงได้ไม่เต็มที่เพราะมืออีกข้างถือดอกไม้ช่อใหญ่เอาไว้อยู่

   “มีสิ ตัวเจ้าในชาตินี้เป็นของข้า ข้ามีสิทธิที่จะห้ามไม่ให้เจ้าไปยุ่งกับเจ้านั้น”

   “ไม่ใช่ ปล่อย ปล่อย สักทีสิเว้ย!!”ผมตะคอกด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดเต็มทนทำให้พี่ธารานิ่งชะงัก

   ช่อดอกไม้ใหญ่ถูกผมปาใส่หน้าพี่เขาด้วยอารมณ์โกรธของผมที่เพิ่มขึ้นสูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น...ผมไม่เคยเป็นอย่างนี้...ไม่เคยก้าวร้าวอย่างนี้ แต่ผมก็ทำสิ่งที่ผมไม่เคยคิดว่าจะทำลงไป

   ผมก้มลงมองดอกกุหลาบแดงที่ตกลงกระจายอยู่เต็มพื้นด้วยความโกรธ ดอกไม้ที่คิดว่าเป็นของสำคัญที่พี่อเลนให้มาตกกระจายอยู่เต็มพื้น

   “เลิกมายุ่งกับผมสักที พี่ไม่ใช่เจ้าของชีวิตผมนะ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวพลางจ้องมองพี่เขาด้วยสายตาที่โกรธเคือง โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีใครผ่านมาที่หลังตึกคณะ ไม่งั้นผมคงถูกตราหน้าว่าเป็นพวกปีนเกรียวข้ามรุ่นแน่

   “แต่เจ้าต้องชดใช้ในสิ่งที่เจ้า.....”

   “ไร้สาระ!! พี่มีหลักฐานไหมล่ะว่าสิ่งที่พูดมันเป็นเรื่องจริง ถึงแม้ว่าพี่จะเป็นสิ่งที่พี่เป็นอยู่ตอนนี้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องที่พี่พูดจะเป็นเรื่องจริง มันไม่มีอะไรจะมาทำให้ผมเชื่อได้ เลิกยุ่งกับผมสักที”ผมถอยหนีพลางเตรียมที่จะเดินออกห่างจากพี่เขา

   แต่พี่ธาราตรงเข้ามาฉุดแขนผมอีกรอบ แต่ครั้งนี้ผมเบี่ยงตัวหลบ แต่ถึงยังไงก็ไม่พ้นอยู่ดี

   “ไปกับข้า”

   เอวผมถูกคว้ารวบเข้าไปกอด แขนทั้งสองข้างถูกจับรวบเอาไว้ก่อนที่ผมจะดิ้นให้หลุดได้

   “ปล่อย”ผมพยายามขืนตัวให้หลุดออกจากอ้อมแขนที่แข็งแกร่ง

   “เจ้าบังคับให้ข้าต้องทำเช่นนี้เอง มณี”

   และแล้วความโกรธเกรี้ยวของผมก็มลายหายไป แทนที่ด้วยความว่างปล่าวเมื่อฝ่ามือร้อนได้ทาบทับลงบนหน้าผากผม

   พี่ธาราคลายอ้อมกอดจากผมก่อนจะจับมือของผมเอาไว้หลวมๆ โดยที่ผมไม่มีทีท่าว่าจะสะบัดหรือว่าขัดขืนใดใด

   “ไปกับข้า”พี่ธาราบอกย้ำด้วยน้ำเสียงที่เบากว่าเดิม

   “ครับ”

   ผมเดินตามมือที่จับจูงอย่างว่าง่ายไปที่รถคันหรูของพี่ธารา ไม่นานผมก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลยว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่


   ทิ้งให้หญิงสาวอีกคนที่ผมไม่ได้ไปตามนัดเดินย้อนกลับมา ดวงตากลมโตจ้องมองดอกกุหลาบที่หล่นกระจายอยู่เต็มพื้นด้วยความแค้นเคือง

   มือเรียวกำมือเข้าหากันแน่นอย่างเจ็บใจ

   อีกนิดเดียวเธอก็จะได้ตัวคนที่เธอรอคอยอยู่แล้วเชียว



***----***----***----***----***----***----***----***

   ขอบคุณทุกท่านที่คอยติดตามและทุกกำลังใจที่คอยส่งเสริมกันตลอดค่ะ :hao5:
ว่าแต่พี่ธาราจะพาน้องมณีไปไหนน๊า อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะคร้าาา
ใครทิ้งเค้าโป้งจิงจิงด้วย 55+

หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 21/09 [CH.10] เสน่ห์นาง
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 21-09-2015 07:16:04
จิ้มจึกๆ
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 21/09 [CH.10] เสน่ห์นางลวง
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 21-09-2015 07:39:31
ฮา พระเอกกับนางร้ายจะทำศึกแย่งน้องมณีงั้นรึ

แอบสงสารน้องมณีนิด โดนมนตราเยอะเลยนะเนี่ย

มาต่อไวๆนะค้า กะลังสนุกเลย
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 21/09 [CH.10] เสน่ห์นางลวง
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 21-09-2015 07:54:48
รู้สึกช่วงนี้น้องมณีดวงขาลงจริงๆ
โดนละเวงสะกดแล้ว โดนพี่ยักษ์สะกดอีก
อย่าเพิ่งพาไปกดนะคะะะะะ
รอตอนต่อไปเนาะ
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 21/09 [CH.10] เสน่ห์นางลวง
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 21-09-2015 10:16:11
อเลนบอกว่ามณีคือคนที่นางรอคอย แต่อาจไม่ได้หมายถึงรักชิมิ อาจจะรอคอยที่จะล้างแค้นก็ได้ :ruready

พี่ยักษ์ไหนๆก็ไหนๆแล้ว จับมณีปล้ำเลย :katai3:
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg]
เริ่มหัวข้อโดย: บุหลันรัศมี ที่ 21-09-2015 15:24:39
พ่อธาราจับน้องมณีปล้ำเลยเจ้าค่ะ

ข้อหาเซ่อซ่าโดนนางทำเสน่ห์ใส่

จับกดซะให้เข็ด จะได้ท้องๆไปเลย
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 21/09 [CH.10] เสน่ห์นางลวง
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 21-09-2015 17:54:16
พี่ธาราชิงลงมือก่อนได้เปรียบนะคะ ><
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 21/09 [CH.10] เสน่ห์นางลวง
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 21-09-2015 21:23:58
ธาราจะทำอะไรรรรรรร

เอาน้องมณีไปทำไม

 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 21/09 [CH.10] เสน่ห์นางลวง
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 22-09-2015 01:10:03
 :z3:
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 21/09 [CH.10] เสน่ห์นางลวง
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 22-09-2015 13:00:11
รออออออ ตินิดนึงค่ะนิดเดียวจริงๆแบบว่าเวลาอ่านผ่านแล้วขัดตา

'เปล่า' เขียนแบบนี้นะคะ ไม่ใช่ ปล่าว

เนื้อเรื่องสนุกน่าติดตามค่ะ สู้ๆนะคะ จุ้บบบบ :impress2:
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 21/09 [CH.10] เสน่ห์นางลวง
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 22-09-2015 17:30:17
แย่งพ่อมณีกัน
อยากรู้ว่าพี่ธาราจะพามณีไปไหนนะ
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 21/09 [CH.10] เสน่ห์นางลวง
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 22-09-2015 21:08:19
จงมา จงมา

 :call:  :call:  :z13:
หัวข้อ: Re: ๏๏ Wonder Love ๏๏ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 21/09 [CH.10] เสน่ห์นางลวง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 25-09-2015 03:41:30
อ้างจาก: supizpiz link=topic=48081.msg3183742#msg318374 :o12:2 date=1442901611
รออออออ ตินิดนึงค่ะนิดเดียวจริงๆแบบว่าเวลาอ่านผ่านแล้วขัดตา

'เปล่า' เขียนแบบนี้นะคะ ไม่ใช่ ปล่าว

เนื้อเรื่องสนุกน่าติดตามค่ะ สู้ๆนะคะ จุ้บบบบ :impress2:
ขอบคุณมากเลยค่ะ
คือสงสัยมานานแล้วว่าเขียนยังไงถึงจะถูกเพราะเวิร์ดมัดขีดเส้นใต้สีแดงว่าผิด
เลยใช้แบบมั่วๆปนๆกันมาตลอด
จะเอาคำแนะนำไปใช้นะค่ะ ขอบคุณมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 21/09 [CH.10] เสน่ห์นางลวง
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 25-09-2015 14:30:37
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 21/09 [CH.10] เสน่ห์นางลวง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 27-09-2015 20:36:53
12719
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

10.2 แสงจันทร์

ผมลืมตาขึ้นมาในความมืด มีเพียงแสงจากโคมไฟหัวเตียงเท่านั้นที่พอจะให้แสงสว่าง

   กลิ่นหอมของอาหารทำให้ผมหันไปมองบนโต๊ะตัวเตี้ยที่อยู่ข้างหัวเตียง มีถาดใส่ข้าวต้มร้อนๆกำลังส่งกลิ่นหอมคลุ้งกับแก้วน้ำที่บรรจุน้ำจนเกือบเต็ม

   ผมอยู่ที่ไหน... สถานที่ที่ไม่คุ้นตาอีกแล้ว ครั้งสุดท้ายที่จำได้ก็ตอนที่อยู่กับพี่ธารา

   จริงสิ!ดอกไม้ของผม....ถูกทำลายด้วยความโมโหที่เกิดขึ้นจนเกลื่อนกระจายอยู่เต็มพื้น

   ดอกไม้ที่เป็นสิ่งสำคัญ...ดอกไม้ที่เป็นตัวเชื่อมสายสัมพันธ์กับผมและเธอ

   เพราะพี่ธาราคนเดียวที่ทำให้ทุกอย่างผิดเพี้ยนไปหมด

   เพียงแค่คิดผมก็รู้สึกโกรธเคืองพี่ราขึ้นมาทันที ผมจะมัวอยู่ที่นี่ไม่ได้ ผมจะต้องไปเก็บดอกไม้ที่ถูกทิ้งเอาไว้
   ...เพราะว่ามันเป็นของสำคัญที่เธอคนนั้นให้ผมมา!!


   “เจ้าจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!!”

   น้ำเสียงเยียบเย็นดังมาจากมุมมืดของห้องทำให้ผมมองไปทางต้นเสียงด้วยความตกใจปนหวาดระแวง

   น้ำเสียงที่ผมจำมันได้เป็นอย่างดี!!

   พี่ธาราก็เดินลุกออกมาจากเก้าอี้ในมุมมืดแล้วหยุดยืนกอดอกอยู่เบื้องหน้าของผม สายตาที่ทอประกายสีมรกตของเขามองมาอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก

   ...ทำไมเขาถึงต้องมายุ่งกับผมด้วย...

   ...ผมไม่เคยรู้สึกรำคาญพี่ธารามากขนาดนี้มาก่อน...

   “พี่ไม่มีสิทธิมาทำอย่างนี้กับผม พี่จะมาขังผมแบบนี้ไม่ได้นะ”

   ผมลุกขึ้นยืนแล้วจ้องตอบดวงตาดุดันอย่างไม่เกรงกลัว

   ....ผมกำลังรู้สึกว่าเกลียดพี่ธารา

   ความรู้สึกที่โกรธเกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล….


   “ข้าโทรบอกพ่อแม่เจ้าแล้วว่าคืนนี้เจ้าจะค้างที่นี่”น้ำเสียงเรียบนิ่งบอกออกมา

   “พี่ทำอย่างนี้ได้ไง พี่จะมาทำตามใจตัวเองอย่างนี้ไม่ได้ พี่ไม่มีสิทธิมาตัดสินชีวิตผม”

   แล้วมันเรื่องอะไรที่เขาจะเข้ามาก้าวก่ายชีวิตคนอื่นอย่างนี้.....

   ผมไม่ชอบเลยสักนิดที่พี่ธาราพยายามเข้ามาในชีวิตของผมจนผมรู้สึกอับจนหนทางที่จะหนีแบบนี้

   “กินข้าวซะแล้วก็พักผ่อน คืนนี้เจ้าจะอยู่ค้างที่นี่”

   “ไม่มีทาง!! ผมจะกลับ”

   พูดจบผมเดินตรงไปที่ประตูแล้วบิดลูกบิดออกทันที

    แต่ประตุกลับไม่เปิดออกทั้งที่ลูกบิดถูกบิดจนสุด

   อะไรกัน!!!มันเหมือนกับว่าประตูถูกดันเอาไว้โดยมือที่มองไม่เห็น

   อีกแล้วที่ผมต้องเจอกับเรื่องราวที่คาดไม่ถึงกับสิ่งที่มองไม่เห็น!!

   แต่นั่นมันทำให้ผมยิ่งโมโหมากขึ้นกว่าเก่า

   ผมหันหลับไปมองพี่ธาราด้วยสายตาที่โกรธเกรี้ยวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ริมฝีปากของผมขบเม้นเป็นเส้นตรงอย่างเจ็บใจ

   ท่ามกลางค่ำคืนที่ดึกสงัดอย่างนี้ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ที่คั่นอยู่ระหว่างความเงียบที่เกิดขึ้น               
                ผมพยายามกำมือแน่น บังคับไม่ให้มือ

   “เปิดประตู!!”ผมสั่งด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง

   “ข้าจะไม่เปิดประตูให้เจ้า ตราบใดที่ยังไม่ถึงเวลารุ่งเช้า”พี่ธาราบอกด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแส

   “ก็ผมบอกให้เปิดประตูไง!!อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่อง”ผมตวาดเสียงดังเท่าที่จะทำได้ ริมฝีปากของผมกำลังสั่น

   ดวงตาของผมกำลังจ้องมองพี่ธาราด้วยสายตาที่ไม่พอใจ แต่พี่ธาราก็ยังคงนิ่งเฉยไม่สะทกสะท้าน

   ร่างสูงใหญ่ยังคงยืนกอดอกนิ่งไม่ไหวตึง.....ทำเหมือนไม่ได้ยินที่ผมบอก

   “กินข้าวแล้วก็พักผ่อนซะ วันพรุ่งข้าจะไปส่ง”

   “พี่อย่ามาทำเป็นว่าไม่ได้ยินที่ผมพูด.....ก็ได้ ในเมื่อไม่ยอมเปิดประตูให้ผม ผมก็จะปีนลงไปทางระเบียงเนี่ยล่ะ”

   ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่โมโหจนแทบสั่น ผมเดินไปที่ประตูกระจกบานเลื่อนที่กั้นระหว่างระเบียงกับห้องนอนโดยที่มีม่านสีทึบปิดกั้นเอาไว้สนิทจนมองไม่เห็นภายนอก

   ....แล้วทำไมต้องปิดม่านทึบขนาดนี้ทั้งที่เป็นเวลากลางคืน?

   ผมไม่รู้ว่าทำไมห้องนี้ถึงได้มีม่านทึบขนาดนี้ปิดเอาไว้ และปิดไว้ทำไม รุ้แค่ว่าผมต้องการออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

   ...ตอนนี้ในใจผมมีเพียงดอกกุหลายสีแดงเลือดเพียงเท่านั้น....

   ...นั่นคอสิ่งที่ผมต้องการ...
   
   “อย่าเปิดม่านนั่น!!”สิ้นเสียงเตือน

   พี่ธาราก็ดึงเอาแขนผมเอาไว้ก่อนที่ผมจะไปถึงประตูระเบีงที่มีม่านปิดทึบ

   “ทำไมจะเปิดไม่ได้”

   “คืนนี้เป็นคืนเพ็ญ อำนาจมนต์ดำจะแข็งแกร่ง หากเจ้าไม่อยากเสียใจในวันข้างหน้า จงอย่าได้เปิดมันเป็นเด็กขาด”

   “ไร่สาระ!! ทำไมผมต้องเชื่อ”

   ผมสะบัดมือพี่ธาราออกอย่างแรงก่อนจะตรงไปเปิดม่านสีดำทึบออกโดยที่ไม่ฟังคำค้าน

   ทันทีที่ม่านถูกรูดเปิดออกจนสุด แสงจันท์สีเหลืองนวลก็สาดเข้ามาภายใน

   แสงที่ส่งผ่านจันท์เต็มดวงมีมากพอจะทำให้ผมมองเห็นภายนอกได้โดยไม่ต้องพึ่งแสงไฟ

   ความสูงจากระเบียงกับพื้นเบื้องล่างห่างกันไม่น้อยเมื่อผมชะโงกหน้ามองผ่านบานเลื่อนกระจก

   เสียงคำรามกึกก้องในลำคอทำให้ผมชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูบานใส

   ร่างของผมถูกกระชากอย่างรุนแรงเข้าหาอ้อมกอด ก่อนจะถูกกดลงกับที่นอนอย่างแรงจนแทบจุก

   หัวสมองของผมเบลอไปชั่วขณะด้วยความตกใจ

   ...ผมกำลังพลาด...

   ริมฝีปากหนาบดขยี้ลงมาบนริมฝีปากของโดยไร้ความปราณี

   ผมรู้สึกเจ็บจนได้กลิ่นคาวของเลือกคละคลุ้งอยู่ในริมฝีปาก

   เกิดอะไรขึ้น!!! จู่ๆพี่ธาราก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน

   เสียงคำรามในลำคออย่างน่ากลัวบวกกับแรงบีบลงมาที่ต้นแขนทำให้ผมเจ็บจนนิ่วหน้า

   “เจ็บ....นะ”ผมร้องเสียงเบา พยายามที่จะดึงตัวเองให้หลุดจากการโถมทับของลำตัวที่สูงใหญ่กว่าผมเกือบเท่าตัว

   ตาของผมเบิกกว้างเมื่อจ้องมองเห็นดวงตาสีเขียวมรกตกำลังจ้องมองผมด้วยสายตาที่เกรี้ยวกราด ราวกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย

   ...ต่างออกไปจากทุกที”

   สายตาของพี่ธาราแตกต่างออกไป

   ริมฝีปากของผมกำลังถูกกัดดึงอย่างโหดร้ายด้วยคมเขี้ยวที่แหลมคม

   ร่างกายสูงใหญ่กำลังโถมทับร่างกายของผมเป็นการตรึงเอาไว้ทำให้ผมไร้หนทางที่จะสู้

   วินาทีนั้นเรียวลิ้นร้อนราวกับเปลวเพลิงที่ลุกไหม้กำลังแทรกซึมเข้ามากวาดต้อนภายในโพลงปากของผมอย่างหยาบโลน
    มือใหญ่ที่หยาบกร้านกำลังฟอนเฟ้นร่างกายของผมอย่างบ้าคลั่ง


   
   เขาไม่ใช่พี่ธารา!!

   ความรู้สึกมันแตกต่างออกไป ไม่มีความปราณี ไม่มีแม้แต่ความอ่อนโยน มีเพียงความหิวกระหายที่กำลังถาโถมเข้าใส่ผมอย่างบ้าคลั่ง

   มันทำให้ผมเริ่มรู้สึกกลัว ผมพยายามที่จะดันไหล่หนาที่แข็งแกร่งของพี่ธาราออก แต่มือที่กำลังโลมไล้อยู่บนกายผมมันบีบขย้ำไปตามร่างกายอย่างเน้นย้ำจนผมทนไม่ได้ที่จะจิกเล็บลงบนลาดไหล่หนาของพี่ธาราอย่างอดกลั้น

   ริมฝีปากผมถูกบดขยี้จนบวมช้ำ   

   เนิ่นนานซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ลิ้นร้อนนั่นตวัดรัดหยอกล้อกับลิ้นของผมที่จนมุมจนพอใจ

   กว่าพี่ธาราจะถอนริมฝีปากออก

   จมูกโด่งซุกไซร้ลงบนซอกคอของผมอย่างไม่เบาแรงนักลมหายใจอุ่นร้อนพร้อมกับเสียงครางในลำคออย่างหยาบคายทำให้ร่างกายของผมแทบหมดแรง

   “ปะ ปล่อยผม”ผมขอร้องด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา

   .....แต่ดูเหมือนเสียงนั้นจะไม่ได้ส่งไปถึงพี่ธารา จมูกโด่งยังคงฟอนเฟ้นและสูดดมกลิ่นหอมจากตัวผมอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
   “กลิ่นเครื่องหอมที่ติดตัวเจ้ามันน่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก”พี่ธาราพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

   สิ้นเสียงขู่คำราม มือใหญ่กระชากเสื้อเชิ๊ตสีขาวของผมออกอย่างไม่ใยดี

   แรงดึงทิ้งกระชากมันจนขาดวิ่นติดมือแล้วถูกโยนทิ้งโดยที่เขาไม่สนใจเลยสักนิดว่ามันจะไปตกตรงไหน

   สายตาที่ไร้ความรู้สึก.....มีแค่เพียงความกระกายที่อยู่ภายใจ จดจ้องมองบนร่างกายของผมอย่างพึงพอใจ

    คมเขี้ยวที่งอกออกมา ทำให้ผมรู้ได้ว่าพี่ธารากลายร่างเป็นยักษ์ไปแล้ว

   “ปะ ปล่อยผมนะ”ผมพยายามถอยหนีทั้งที่ร่างกายถูกตรึงเอาไว้

   กระบอกตาเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

   ผมยกมือพลักร่างกายกำยำที่กำลังโถมเข้าอย่าอย่างไร้ทางสู้ แต่มือของผมก็ถูกปัดออก แทนที่ด้วยริมฝีปาดนั้น บดจูบขยี้ลงมาบนตัวของผมอย่างไร้ความเมตตา

   “อย่า ทะ ทำ ผมนะ”

   ผมทั้งผลักทั้งจิกพี่เขา แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าพี่ธาราจะรู้สึก

   ....ทำไมกัน....

   ....อะไรทำให้พี่ธาราเปลี่ยนไป...

   แสงจันทร์นั้นเหรอ!!ปมมองไปยังระเบียงห้องที่มีแสงจันทร์สาดลอดเข้ามา


   เสียงคำรามดังในลำคอพร้อมแรงบีบเค้นทั่วลำตัวผม มันรุนแรงและหยาบกระด้างขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
   ....ผมขัดขืนจนเริ่มที่จะหมดหวัง

   เรี่ยวแรงที่มีเริ่มน้อยลง แรงผลักกลายเป็นแรงปัดอย่างไร้หนทาง   

   น้ำใสใสมันเอ่อคลอขอบตาผมโดยที่ผมห้ามมันไม่ได้

   เสียงสะอื้นเล็กๆดังลอดออกมาจากลำคอของผม

   ...ผมกำลังอ่อนแอ...

   ตอนนี้ผมทั้งกลัวทั้งเกลียดพี่ธาราจนไม่อยากที่จะมอง

   สิ้นหวังที่จะหลุดออกไปจากเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นตอนนี้

   ....นี่ไม่ใช่ชีวิตที่ผมโหยหา...

   กางเกงของผมถูกปลดออกดึงลงไปผ่านข้อเท้า

   จนของผมกระตุกไปตามแรงดึง ผมได้แต่ดันอกพี่ธาราแรงที่มีเพียงน้อยนิด

   ผมเบือนหน้าหนีอย่างไร้ทางสู้ น้ำใสใสกำลังเอ่อล้นลงมาจากขอบตา

   ความสิ้นหวังที่กักเก็บเอาไว้พังทลายออกมา

   “ฮึก อึก ปล่อย”ผมสะอื้นเสียงเบา

   ทั้งที่พยายามจะกลั้นเอาไว้ แต่มันก็ไม่มีประโยชน์

   ความร้อนของมือใหญ่ไล้ผ่านไปบนผิวกายของผมทำให้ผมรู้สึกร้อนผ่าวราวกับถูกเปลวไฟเผาไหม้ไปทั้งร่างกาย

   ร่างกายของผมกำลังถูกคุกคามด้วยมือของคนที่ผมไม่รู้จักนิสัยเลยสักนิด

   ผมนอนนิ่งเลิกที่จะตอบโต้ ร่างกายของผมมันไร้สิ้นเรี่ยวแรง หัวใจกำลังถูกบีบรักจนเจ็บจุก

   วินาทีนั้นดวงตาสีเขียวมรกตที่ไร้แววตาของความมีชีวิตกลับกลายเป็นสีดำสนิทเมื่อจ้องมองมาที่ผม

   ร่างกายสูงใหญ่ที่แปรสภาพเป็นยักกลับคืนสู่กายของมนุษย์เหมือนเก่า

   นิ้วมืออุ่นๆของพี่ธาราเกลี่ยลงบนขอบตาของผมอย่างเบามือแตกต่างจากเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง

   ผมช้อนตาขึ้นมองพี่ธาราอย่างหวาดระแวง ตัวของผมกำลังสั่นเทาด้วยความกลัว

   “ข้าขอโทษ”น้ำเสียงกระซิบที่แผ่วเบาราวกับสายลมผ่านเข้ามาในหูของผม พร้อมกับรอยจูบที่อ่อนโยนกดซับลงบนขมับ

   “ปล่อยผม”ผมบอกด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น พลางกระถดตัวหนี
   “ข้าไม่สารถปล่อยเจ้าไปในคืนจันทร์เพ็ญได้ มนต์ดำจะแข็งแกร่งขึ้นมันอาจจะทำร้ายเจ้า เช่นเดียวกับความกระหายของเผ่าพันธุ์ยักษ์”
   พี่ธาราพูดจบก็ยันตัวขึ้นจับผ้าห่มคลุมร่างกายที่ไร้สิ่งปกปิดของผมให้อย่างเบามือ
   
   ตอนนี้พี่ธาราเหลือแค่กางเกงตัวเดียวเท่านั้นที่ติดร่างกาย ทำให้ผมมองเห็นร่างกำยำที่ผึ่งผายสมชายชาตรีของเขาภายใต้แสงจันทร์ที่สาดเข้ามา

   ผมมองจ้องมองพี่ธาราเดินไปปิดม่านด้วยความไม่ไว้วางใจ

   ตัวของผมยังคงไม่หยุดสั่น

   “นอนเถิด ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเจ้าอีก ขอเพียงเจ้ายังอยู่ในห้องนี้”พี่ธารานั่งลงบนขอบเตียงพลางยกมือขึ้นมาเพื่อที่จะมาแตะหัวผม

   หากแต่ผมกระถดตัวหนีด้วยความไม่ไว้

   ...ไม่มีทางที่ผมจะไว้ใจพี่ธาราอีกครั้ง...

   ผมพลิกตัวนอนหันหลังให้พี่ธาราด้วยทิฐิที่เกิดขึ้นพร้อมๆกับความหวาดระแวง ผมแกล้งทำเป็นนิ่งสนิททำทีว่าหลับลงเมื่อผ่านไปได้สักพัก


   ไม่นานเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นแล้วก็ปิดลง ทำให้ผมลืมตาขึ้นในความมืด

   ...ไม่มีอีกแล้วความไว้วางใจที่ผมมีต่อพี่ธารา...

    ผมก้าวลงจากเตียงแล้วหยิบกางเกงที่กองอยู่ขึ้นมาใส่เพื่อที่จะลองเปิดประตูอีกครั้ง แต่ก็เหมือนเดิม...ประตูมันเปิดไม่ออก
   ทางเดียวที่จะไปจากที่นี่ได้คงจะเป็นระเบียง ผมเปิดผ้าม่านออกจนสุด

   เป็นอีกครั้งที่แสงจันทร์สาดเข้ามาภายในห้อง

   ผมดึงบานเลื่อนกระจกออกอย่างเบามือ แต่มันกลับไม่ขยับสักนิด

   ผมพยายามออกแรงเพิ่มอีก แต่ก็เหมือนเดิม ประตูบานเลื่อนเองก็เปิดไม่ออกเช่นเดียวกับประตูห้อง

   ผมกำลังถูกขัง!!

   ผมเดินกระวนกระวายด้วยความหงุดหงิด ผมหยิบเสื้อที่ขาดจนไม่เหลือชิ้นดีของตัวเองขึ้นขว้างใส่กระจกบานเลื่อนอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด

   ผมกำลังโมโห จานข้าวต้มที่ส่งกลิ่นหอมอยู่บนโต๊ะเรียกสายตาให้ผมหันไปมองมันด้วยความเกะกะสายตา ผมกวาดมันลงจนมันหกอยู่เต็มพื้น

   ผมไม่เข้าใจว่าทำไมอารมณ์ของผมมันถึงได้พุ่งสูงขึ้นขนาดนี้ มันเหมือนกับผมไม่สามารถจะควบคุมมันได้

   ความรุนแรงที่ผมไม่เคยคิดที่จะใช้ ตอนนี้ผมกลับทำมันด้วยความชินชาราวกับต้องการที่จะระบายอารมณ์

   ผมพยายามที่จะยืนนิ่ง จ้องมองข้างของที่หล่นอยู่เต็มพื้น แต่นั่นผมก็เหลือบไปเห็นกระเป๋าของตัวเองที่วางอยู่ที่หัวเตียง

   ผมรีบหยิบกระเป๋ามาค้นเพื่อที่จะหาโทรศัพท์ แต่ก็เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ พี่ธาราคงจะเก็บมันไปแล้ว

   ด้วยความหงุดหงิด ผมทุ่มกระเป๋าลงพื้นอย่างไม่ใยดี แต่ก็นึกขึ้นได้ว่ามีสิ่งสำคัญอยู่ในนั้น ผมจึงรีบทรุดลงหยิบกระเป๋าขึ้นมาเปิดดูข้างใน

   การ์ดลายกุหลาบสีแดงถูกหยิบขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของผมต่างกับเมื่อครู่ลิบลับ

   โชคดีที่ผมเก็บมันแยกเอาไว้กับช่อดอกไม้

   ผมเปิดดูข้อความข้างในราวกับว่าคิดถึงนักหนา

   ‘สิ้นสุดการรอคอย....ในที่สุดก็ได้เจอ’

   ผมไล่นิ้วลงไปบนตัวหนังสือด้วยความหลงใหลแล้วยกการ์ดขึ้นมาสูดดมกลิ่นหอมจางๆของเครื่องหอมที่ติดมากับหมึกสีเลือด

   ความเหงาที่รู้สึกได้เวลาที่ไม่มีพี่อเลนข้างหายทำให้ผมรู้สึกหนาวจนคิดว่าไม่อาจที่จะอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวหากปราศจากเขา

   ผมคิดถึงพี่อเลน....อยากเจอ...อยากอยู่ใกล้ ความอ้างว้างที่เกิดขึ้นทำให้ผมรู้สึกเดียวดายจนแทบบ้า

   ผมกอดการ์ดที่ถือไว้แนบกับอกอย่างคิดถึง น้ำตาของผมไหลลงมาอีกครั้งเพราะความเหงาที่ทิ่มแทงเข้าไปในจิตใจ

   ผมอยากจะเจอ......อยากเจอพี่อเลน






***----***----***----***----***----***----***----***
วันนี้ยอมรับเลยว่ามาสั้นมากจริงๆ ยังไงก็ขออภัยคนอ่านนะคร้า
เอ้ รู้สึกว่าวันนี้ธารารับบทตัวร้ายรึเปล่าน้อออออ
น้องมณีนี่ท่าจะโดนของหนัก คิดถึงแต่ละเวงวัลฬา
พี่ธาราเองก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย ในคืนเพ็ญแบบนี้
ปอลิง.วันนี้หลงจูบครบ500รีพลาย ธารามณีก็ครบ200รีพลาย บังเอิญเนอะ

หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 27/09 [CH.10] แสงจันทร์ (
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 27-09-2015 20:41:30
จิ้มจึกๆ
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 27/09 [CH.10] แสงจันทร์ (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 27-09-2015 20:56:19
ลำพังน้องมณีก็ต่อต้านพี่ธาราอยู่แล้วนะคะ พอโดนของเข้าไปเลยหนักกว่าเดิมอีก สงสารพี่ธาราเหลือเกิน.. :impress:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 27/09 [CH.10] แสงจันทร์ (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 27-09-2015 20:56:44
สงสัยต้องหาวิธีคลายมนต์ดำก่อนแล้วล่ะพี่ยักษ์
ไม่งั้นคงไม่ได้แอ้มละ :katai1:
รอตอนต่อไปเน่อออ
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 27/09 [CH.10] แสงจันทร์ (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 27-09-2015 20:57:23
 :mew4:

เสกมนต์ใส่นี่ใช้ได้ผลทุกราย

ชาตินี้นางละเวงจะเอามณีไปทำผัวเหรอคะ?
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 27/09 [CH.10] แสงจันทร์ (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 27-09-2015 22:36:30
พี่ธาราต้องแก้มนต์ของนางละเวงก่อน
ไม่งั้นน้องมณีจะไม่ยอมง่ายๆ
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 27/09 [CH.10] แสงจันทร์ (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-09-2015 23:26:31
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 27/09 [CH.10] แสงจันทร์ (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 28-09-2015 00:16:38
 :z3:
หัวข้อ: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 03-10-2015 16:41:47
13529
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ชดใช้ครั้งที่ 11 พลาด



   หลายวันผ่านไปผมก็ไม่เจอหน้าพี่ธาราอีกเลยนับจากคืนนั้น

   งานที่ห้องสมุดของผมถูกยกเลิกไปโดยที่ผมไม่ทราบสาเหตุ แต่มันก็ดีสำหรับผมเพราะว่าผมจะได้ไม่ต้องใกล้ชิดกับพี่ธาราอีก

   ความสัมพันธ์ของผมกับพี่อเลนไปกันได้ด้วยดีในขณะที่พี่ธาราหายเข้ากลีบเมฆไป ไม่มีแม้แต่เงามาให้ผมเห็น

   วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวันสำหรับผม หลังจากที่ตกลงคบกับพี่อเลน

   หลังเรียนเสร็จในทุกๆวันผมจะออกจากห้องอย่างรีบร้อน ไม่มีแม้แต่จะบอกลาเพื่อนๆ

   ผมรีบเก็บของใส่กระเป๋าอย่างลวกๆแล้ววิ่งไปที่คณะบริหารอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

   ...ผมไม่อยากให้เขารอ...ความรู้สึกของผมมันบอกอย่างนั้น...

   หลายวันมานี้ผมไม่ได้ใส่ใจกับคนรอบข้างเลยสักนิด....มีเพียงคนเดียวที่ผมใส่ใจ นั่นก็คือผู้หญิงในฝันของผม

   ตลอดเวลา ความหลงใหลในตัวของพี่เขามันยิ่งก่อตัวเพิ่มมากขึ้นและมากขึ้นจนผมไม่มีเวลาที่จะนึกถึงเรื่องอื่นเลย แม้กระทั่งเรื่องเรียน
   “รอนานไหมครับ”ผมถามพลางยิ้มแล้วยื่นน้ำส้มคั้นที่ไปต่อคิวซื้อเพื่อเตรียมมาเอาใจให้กับเขา

   “ไม่นานจ๊ะ วันนี้ไปเดินเล่นกับพี่หน่อยได้ไหม พี่อยากได้เสื้อผ้าใหม่สักชุดน่ะ”

   “ดะ ได้ครับ”ผมรีบตอบทันทีเมื่อพี่อเลนหันมายิ้ม

   รอยยิ้มเล็กๆเพียงแค่ยกมุมปากขึ้นมา เพียงแค่นั้นมันก็ทำให้ผมหลงจนแทบคลั่ง

   อาจจะฟังดูบ้าที่ผมกลับไปนอนกอดการ์ดที่พี่อเลนให้มาทุกๆคืน

   


   ผมขับมอเตอร์ไซคันเก่งมาที่ห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองโดยที่มีพี่อเลนซ้อนท้าย

   ความพึงพอใจได้เกิดขึ้นเมื่อมือเล็กๆของพี่เขากอดเอวผมเอาไว้

   ....ตอนนี้ผมมีความสุข ผมบอกกับตัวเองอย่างนั้น...


   “ตัวนี้สวยไหม มณี ตัวนี้กับตัวนี้ชอบแบบไหน”พี่อเลนยิ้มพลางทาบชุดกระโปรงเข้ารูปสองชุดเทียบกันไปมา

   “สวยทั้งสองครับ”

   “งั้นเหรอ งั้นพี่ว่าเดี๋ยวพี่ไปลองดีกว่า มณีรอพี่ได้ไหม”

   “ได้สิครับ ผมรอได้”

   “แน่นะ เดี๋ยวพี่มา นั่งรอตรงนี้นะจ๊ะเด็กดี”

   ผมถูกดันให้นั่งลงหน้าห้องลองชุดของผู้หญิงก่อนที่พี่เขาจะเดินหายเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้า

   ผมมองไปรอบรอบอย่างไม่คุ้นตา

   ไม่ค่อยมาในโซนเสื้อผ้าของผู้หญิงเท่าไร นอกจากจะมากับแม่...ความรู้สึกมันเลยแปลกๆเหมือนกับถูกจ้องมอง

   ไม่นานพี่อเลนก็ออกมาจากห้องลองพร้อมกับชุดกระโปรงเข้ารูปสีหวานดูแปลกตาทำให้ผมมองด้วยความตะลึง

   ....สวยจนผมไม่อาจละสายตา..

   “เป็นไง ชุดนี้สวยไหม”พี่อเลนถามพลางหมุนตัว

   “ครับ สวยมากเลย”ผมตอบ

   “งั้นเหรอ งั้นเอาชุดนี้เนอะ”

   “ครับ”ผมตอบรับพร้อมกับยิ้ม

   มองดูร่างบอบบางหายเข้าไปในห้องลองชุดอีกครั้ง

   และก็เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกราวกับถูกจับจ้องจนอดไม่ได้ที่จะลุกเพื่อเดินดูของรอบๆ

   ...บางทีผมอาจจะคิดไปเอง...

   ผมดูเสื้อผ้าอยู่ในโซนใกล้เคียงเรื่อยๆพลางมองทางประตูห้องลองชุดรอให้พี่อเลนออกมา

   ผมมองไปยังรอบๆเพื่อฆ่าเวลา

   แต่แล้วผมก็ต้องชะงัก ดวงตาผมสบเข้ากับดวงตาสีดำสนิทคู่ที่ผมไม่ได้เจอมาหลายวัน

   พี่ธารากับผู้ชายวัยกลางคนกำลังจ้องมองมาทางผม ด้วยสายตาที่ผมเองก็อ่านไม่ออกว่ามันคืออะไร

   ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆพี่ธาราดูไม่คุ้นตาผมสักนิด แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะต้องใส่ใจ

   อุตส่าห์ไม่เจอหน้าเขามาเป็นอาทิตย์ แทนที่จะหายไปเลยกลับโผล่มาให้ผมเห็นหน้าอีกครั้งจนได้

   ความโกรธความเกลียดเล่นเข้าสู่จิตใจผมทันทีที่นึกถึงเรื่องที่พี่เขาทำกับผมเอาไว้

   ผมสะบัดหน้าหนีแล้วเดินกลับไปที่โซนเสื้อผ้าผู้หญิงทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่อเลนออกมา

   “ไปไหนมาเหรอ”พี่อเลนถามเมื่อเห็นผมเดินมาจากทางอื่น

   “ไปดูเสื้อผ้าด้านนู้นมาน่ะครับ ไม่มีอะไร เราไปจ่ายเงินกันดีกว่าครับ”ผมว่าพลางเดินนำไปที่เค้าเตอร์

   โดยที่ไม่รู้เลยว่าพี่อเลนหยุดอยู่ตรงนั้นแล้วจ้องมองไปทางสายตาที่มองมาทางผมด้วยแววตาที่เย้ยหยัน กับรอยยิ้มชั่วร้ายที่แสยะขึ้น ก่อนจะเดินตามผมไป


***///***////***////***////***////***////***////***////***////***

   หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จพี่อเลนก็พาออกมาเดินเล่น มือเล็กของเอาเกาะเกี่ยวแขนผมไว้แน่นเหมือนกับที่คู่รักปกติทั่วไปทำกัน

   เราเดินดูของไปเรื่อยๆเพื่อถ่วงเวลาในการอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด ไอศกรีมคำแล้วคำเล่าถูกป้อนเข้าปากผมด้วยความเอาใจใส่จากพี่อเลน

   ผมไม่คิดว่าผมจะมีวันนี้...วันที่ผมมีความสุขมากๆกับการเดท

   “นี่ มณี เดี๋ยวพี่ไปห้องน้ำแปบหนึ่งนะ พี่ฝากถือก่อน”พี่อเลนพูดขึ้นระหว่างที่เราสองคนเดินผ่านห้องน้ำ

   “ได้ครับ ผมรอตรงนี้นะ”ผมบอกแล้วยิ้มให้บางๆ ทำให้พี่อเลนหันมาหยิกแก้มผม

   ถึงเขาจะชอบทำเหมือนกับว่าผมเป็นเด็ก ด้วยการหยิกแก้มหรือลูบหัว แต่ผมก็รู้สึกว่าผมชอบ และยิ้มรับตลอด...เพราะว่าผมรู้สึกว่าขัดอะไรพี่อเลนไม่ได้อยู่แล้ว

   
   “เช่นใดเจ้าจึงไม่ฟังคำเตือนจากข้า”

   ในระหว่างที่ผมรอพี่อเลนอยู่หน้าห้องน้ำหญิง เสียงแข็งห้วนก็ทักขึ้นมาทำให้ผมตัวแข็งทื่อหันไปมองด้วยความไม่พอใจ

   แขนของผมถูกถึงให้เข้าไปใกล้ ในขณะที่ผมพยายามถอยหนีทำเป็นไม่สนใจท่าทีที่คาดคั้นของพี่ธารา

   ตอนนี้ข้างกายพี่ธาราไม่มีชายวัยกลางคนที่ผมเจอเมื่อครู่แล้ว

   “ปล่อยผมน่า อย่ามายุ่งกับผมจะได้ไหม”ผมตอบพลางแกะมือพี่ธาราออก แต่พี่ธาราก็ยังคงบีบแขนผมเอาไว้แน่น

   ..ผมไม่เข้าใจ ทั้งที่อุตส่าห์เลิกยุ่งกับผมไปแล้ว ทำไมยังตามมาวุ่นวายกับผมอีก...

   “ทำไมเจ้าจึงต้องไปยุ่งกับเจ้านั่นอีก ข้าเตือนเจ้าแล้ว มณี”พี่ธาราพูดข่มเสียง

   “อะไรเล่า ปล่อยผมสิ อย่ามายุ่งกับผมจะได้ไหม”

   “ไม่ได้ เจ้าเป็นของข้า มณี เจ้าต้องเลิกยุ่งกับเจ้านั่น เจ้ากำลังถูกคิดไม่ดีอยู่”

   “พี่จะบ้ารึไง หายหัวไปตั้งกลายวัน จู่ๆก็โผล่มาบอกว่าพี่อเลนคิดไม่ดีกับผม จะให้ผมเชื่อได้ไง”ผมว่าอย่างค่อนขอด

   ส่วนลึกในใจมันสั่งให้ผมต่อว่าที่เขาหายไปโดยที่ไม่บอกผม แต่ความรู้สึกในอารมณ์มันกลับตรงกันข้ามที่จะแสดงออกว่าไม่ใส่ใจ

   “ข้าขอโทษ”พี่ธาราพูดเสียงแผ่วพลางหลุบตาลงเล็กน้อย “ข้าเพียงแต่ไปภาวนาศีล”

   “นั่นผมไม่สน พี่จะเป็นอะไร จะไปไหนก็เรื่องของพี่ ต่อไปนี้เลิกยุ่งกับผมสักทีจะได้ไหม ผมรำคาญพี่เต็มทน”

   ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น...แต่ทำไม หัวใจผมมันกลับกำลังสั่นไหวคล้ายกับถูกทำร้ายอย่างรุนแรงกันนะ

   “ข้าเลิกยุ่งกับเจ้าไม่ได้ มณี...ข้า”

   “มีอะไรกันรึเปล่าจ๊ะ มณี”เสียงหวานคุ้นหูทักขึ้นทำให้ผมรีบสะบัดมือจากพี่ธาราออกทันทีแล้วไปยืนอยู่ข้างพี่อเลนที่แสร้งมองพี่ธาราด้วยแววตาสงสัย

   “อ่อ ไม่มีอะไรครับพอดีพี่เขาแค่มาทักทาย เดี๋ยวเขาก็จะไปแล้ว”ผมว่าพลางถือวิสาสะจับมือพี่เอลนเตรียมจะพาเดินหนีสายตาขุ่นเคืองปนตัดพ้อที่มองมา

   “เดี๋ยว จะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น มณีต้องไปกับพี่”คำพูดของพี่ธาราเปลี่ยนทันทีเมื่อมีคนอื่นมาร่วมวงสนทนา

   พี่อเลนหันไปมองแขนของผมที่ถูกมือของพี่ธาราจับเอาไว้ วูบหนึ่งในดวงตากลมคู่สวยฉายแววอาฆาตแค้นก่อนจะเปลี่ยนเป็นแววตาแสร้งตกใจ

   กลายเป็นว่าตอนนี้ผมกำลังคั่นกลางระหว่างพี่อเลนกับพี่ธารา ตอนนี้มือของผมกลับถูกพี่อเลนกุมไว้แน่นคล้ายกับกำลังขอความมั่นใจจากผม ในขณะที่พี่ธาราดึงรั้งผมเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

   “มณี”เสียงหวานแว่วเข้าหู พร้อมกับสายลมแผ่วเบาจากริมฝีปากแต้มลิปสติกปะทะเข้ามาโดยที่ผมไม่รู้ตัว

   ชั่วครู่ อารมณ์โกรธผมก็ทวีขึ้นมาทันที ตอนนี้ผมมีพี่อเลนอยู่ข้างๆ ผมจะต้องรักษาเวลาทุกวินาทีที่อยู่กับพี่เขา

   ไม่ใช่มาเสียเวลากับคนอย่างพี่ธาราแบบนี้

   ผมจ้องมองไปที่พี่ธาราเขม็ง ดวงตาของผมเปลี่ยนไปแทบจะทันที

   “ใครบอกว่าผมจะไปกับพี่  เลิกมายุ่งกับสักที ผมรำคาญ”

   “ไม่ได้ จะไปกับเขาไม่ได้” พี่ธารายืนยันคำพูดก่อนจะดึงผมเข้าหาตัว

   “มณี มะ มีอะไรรึเปล่า”พี่อเลนพูดพลางกระชับมือผมแน่นแล้วชิดตัวเข้ามากอดแขนเอาไว้จากทางด้านหลัง

   ผมไม่รู้เลยว่าพี่อเลนกำลังถลึงตามองพี่ธาราอยู่ด้วยความไม่พอใจ

   “เปล่าครับ พี่ไม่มีอะไรจะคุยกับพี่เขาแล้ว แต่ดูเหมือนพี่เขาจะไม่เข้าใจ”ผมบอกพร้อมๆกับพยายามดึงแขนของตัวเองกลับ

   ตอนนี้ผู้คนรอบข้างเริ่มหันมาสนใจเหตุการณ์ที่เหมือนกับการยื้อแย่งอะไรสักอย่าง ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงจะอาย

   แต่ทำไมตอนนี้ผมไม่รู้สึกอะไรเลย นอกเสียจากเป็นห่วงจิตใจของคนที่กอดแขนผมอยู่

   “กลับไปกับพี่ มณี”พี่ธาราพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นเหมือนกับคำสั่ง

   “ไม่ได้นะ มณี พี่ไม่ให้ไป”พี่อเลนพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพลางกอดแขนผมแน่น

   ผมกำลังถูกสั่งให้เลิกระหว่างคนสองคน ราวกับเวลาที่ผ่านไปเพียงไม่กี่วีเป็นเวลาที่นานชั่วกัปชั่วกัลป์

   คนทั้งสองคนมองหน้าผมราวกับต้องการที่จะได้คำตอบเพื่อยืนยัน


   ผมเลือกที่จะกุมมือพี่อเลนเอาไว้แล้วสะบัดมือพี่ธารารออก น่าแปลกใจที่ครั้งนี้มันถูกสะบัดออกโดยง่าย

   ริมฝีปากของพี่อเลนยกขึ้นอย่างยิ้มเยาะใส่พี่ธาราโดยที่ผมไม่รู้ตัวก่อนจะหันมายิ้มให้ผมอย่างดีใจ


   
   พี่อเลนดึงแขนผมเดินออกมาจากที่ตรงนั่น ทิ้งให้พี่ธารามองตามมาด้วยแววตาที่ผิดหวัง แต่นั่นผมก็ไม่เห็นมันเพราะผมได้หันหลังให้เขาแล้วเดินจากมาแล้ว

   ...ผมเลือกพี่อเลน...และผมหวังว่าเรื่องระหว่างผมกับเขาจะจบลง

   ในขณะที่ใจผมมันกำลังเจ็บปวดอย่างไม่ทราบสาเหตุ มันเจ็บเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบเอาไว้

   ...ผมกำลังเป็นอะไร...


***///***////***////***////***////***////***////***////***////***


   “เข้ามาข้างในก่อนไหม...พ่อพี่ไม่อยู่ ท่านกลับไปหาแม่ที่นิวเจอซีแล้ว พี่เลยต้องอยู่คนเดียว มณีช่วยอยู่เป็นเพื่อนพี่สักพักได้ไหม”พี่อเลนเอ่อยช่วนหลังจากที่ผมจอดรถที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของพี่เขาที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง

   “อะ เอ่อจะดีเหรอครับ ผมกลัวว่าจะไม่เหมาะ”ผมตอบไปอย่างที่ใจคิด

   เพราะว่ากลัวว่าคนอื่นจะมองพี่อเลนเป็นคนไม่ดี…ถึงแม้ว่าใจผมยังอยากจะอยู่ต่อกับพี่อเลนให้นานที่สุด

   “ไม่เป็นไรหรอก มณีมาบ่อยแล้ว อีกอย่าง บ้านพี่ก็ไม่มีใคร ไม่เห็นต้องกลัวเลย”

   “แต่ผมก็ไม่อยากให้พี่ถูกมองไม่ดี”ตอบตอบเสียงขัดๆเมื่อพี่อเลนเดินเข้ามาคล้องแจนผมอย่างออดอ้อน

   ..ถ้าเป็นอย่างนี้ผมก็คงจะขัดอะไรไม่ได้”

   “แต่เมื่อคืนพี่ก็อยู่คนเดียวนะ...ได้ยินเสียงกุกกักที่ประบ้าน น่ากลัวมากเลย น้องมณีช่วยอยู่กับพี่...จะได้ไหม สักพักก็ยังดี”

   ดวงตากลมโตช้อนมองผมอย่างเอาใจ

   ถ้าถึงขั้นนี้ต่อให้เป็นผมก็คงต้องยอม

   “ก็ได้ครับ”





   สุดท้ายผมก็เข้ามานั่งในห้องรับแขกของตัวบ้าน ถึงแม้จะบ่อยครั้งที่ผมมาส่งพี่อเลนแล้วถูกพ่อพี่เขาเชิญเข้ามาในบ้าน แต่นั่นมันตอนที่มีคนอื่นอยู่ด้วย

   มองมองออกไปนอกประตูบ้าน บรรยากาศภายนอกเริ่มมืดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากเป็นฤดูหนาว เป็นอีกครั้งที่ผมไม่ได้กลับไปซ้อมตามที่รับปากกับพ่อเอาไว้

   สงสัยกลับไปผมคงต้องโดนบ่นอีกยาว

   “นี่จ๊ะ น้ำส้ม”

   เสียงเรียกให้ผมหันไปมองพร้อมกับร่างสูงโปร่งในชุดนักศึกษาเดินเข้ามาพร้อมกับแก้มน้ำส้มคั้นสด

   “ขอบคุณครับ”ผมรับมาพลางวางลงกับโต๊ะกลาง

   “เป็นอะไร ทำหน้าเครียดเชียว”พี่อเลนนั่งลงข้างๆผมบนโซฟาตัวเดียวกัน

   “มะ ไม่เป็นไรครับ ผมแค่คิดอะไรเพลินๆ”

   “งั้นเหรอ ว่าแต่คนนั้นที่เรียนคณะเดียวกับมณี ใช่ปีสองรึเปล่า ทำไมเหมือนเขามีปัญหาอะไรกับมณี”

   พี่อเลนถามพลางขยับเข้ามาชิดทำให้ผมยืดตัวตรงอย่างประหม่า ยังไงซะ ผมก็ยังไม่เคยใกล้ชิดพี่เขาโดยที่อยู่ตามลำพังสองต่อสองเลยสักครั้ง

   ทั้งที่มันน่าจะเป็นโอกาสที่จะใกล้ชิด แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าผมกำลังขัดเขินจนทำตัวไม่ถูก

   “คะ คือ พี่ธาราเขาชอบพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ล่ะครับ เขาชอบพูดอะไรที่แปลกๆ”

   ผมตอบพลางกลืนน้ำลายเมื่อเรียวจับลงที่บันเอวแล้วบีบเบาเบา ขาเรียวยาวก่ายมาทับหน้าขาผมอย่างยั่วยวน โดยที่รอบแหวกของกระโปรงมันแหวกลึกจนเห็นไปถึงขาอ่อนที่เนียนจาผมตาแทบจะหลุดออกมาพลางกลืนน้ำลายลงไปอีกอึกใหญ่

   “เล่าให้พี่ฟังหน่อยได้ไหม ว่าธาราเขาชอบพูดอะไรแปลกๆกับมณีของพี่ พี่จะได้ไปต่อว่าเขา”เสียงแผ่วเบากระซิบข้างหูของผมก่อนที่มือที่บีบอยู่ที่เอวจะขย้ำไปมาเบาเบา

   ..ให้ตายสิ!!ผมกำลังทำอะไรอยู่..ผมปรำหม่าถึงขั้นรุนแรง

   ผมไม่เคยมีแฟน ไม่เคยเดทกับผู้หญิง ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงเวลาที่ผู้หญิงรุกแบบนี้

   หากตอบกลับผมก็จะถูกหาว่าเป็นพวกฉวยโอกาส แต่ถ้าหากผมนิ่งเฉย จะถูกหาว่าไร้น้ำยา หรือไม้ก็ไร้อารมณ์

   ...นี่ผมควรจะทำยังไงดี...

   “หืม...ให้พี่ฟังหน่อยได้ไหม มณีคนดี”เสียงกระซิบพร้อมกับแรงกัดเบาเบาที่ติ่งหูทำเอาสติผมแทบหลุดกระเจิง

   “ขะ เขาชอบบอกว่าผมเอ่อ ผมเป็นพระอภัยมณีกลับชาติมาเกิด แล้วก็บอกว่าผมจะต้องชดใช้หนี้เขา”ผมบอกไปพลางเบี่ยงหน้าหนีออกจากริมฝีปากที่ขบติ่งหูอยู่อย่างขัดเขิน

   “ชดใช้เหรอ? ใช้ยังไงล่ะ”พี่อเลนถามด้วยเสียงอ่อนหวาน จมูกโด่งไล้ลงบนซอกคอผมไปมาคล้ายกำลังหยอกเย้า

   ผมขนลุกซู่ไปทั้งตัวทันที มือผมกำเข้าหากันแน่นไม่รุ้จะทำยังไงดี

   “ขะ เขา ให้ผม มีลูกด้วย”ผมตอบไป

   “เอ๋ มีลูกเหรอ? ฮ่าฮ่า มณีเป็นผู้ชายจะมีลูกได้ไง ธารานี่ท่าจะบ้าเนอะ”พี่อเลนพูดพลางหัวเราะ

   “นะ นั่นสินะครับ”ผมยิ้มแหยๆ

   ตอนนี้ผมควรจะทำยังไงดี...มือของพี่อเลนกำลังไล้วนอยู่บนหน้าท้องผมไปมา

   “กินน้ำส้มนี่สิ พี่ทำเองเลยนะ”พี่อเลนเอื้อมไปหยิบแก้วน้ำส้มก่อนจะยื่นมาจนชิดปากผม

   ผมเหล่มองใบหน้าสวยหวานที่มองมาอย่างออดอ้อนก่อนจะดื่มน้ำส้มที่ถูกป้อนโดยพี่เขาจนหมด

   “อร่อยไหม”

   “ครับ อร่อยดี”ผมบอกพลางยิ้มอย่างโล่งอกเมื่อพี่อเลนปล่อยมือออกจากท้องน้อยของผมแล้ว

   “งั้นเหรอ ดีใจจังที่มณีชมว่าอร่อย มณีเนี่ย น่ารักจังเลยนะ”

   เสียงหวานกระซิบข้างหูก่อนที่มือของพี่เขาจะเกลี่ยผมของผมที่ปรกหน้าออกทัดหูให้

   ทำไมผมถึงรู้สึกว่าการกระทำของพี่อเลนมันดูแปลกๆตั้งแต่แรกที่รู้จักกัน

   ทั้งทำตัวเป็นที่พึ่งแทนที่จะพึ่งผม ทั้งบริการผม ทั้งเอาใจ แล้วก็ลูบหัวผม หยิกแก้มผมเหมือนผมเป็นเด็กตลอด

   แต่นั่นผมคงจะคิดมากไปเอง...รวมถึงเปลือกตาที่หนักอึ้งพร้อมกับความง่วงที่เข้ามาแทนที่

   ผมพยายามกระพริบตาถี่ๆไล่ความง่วงออกไป แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล ตาของผมกำลังจะปิดลง

   ผมมองไปทางพี่อเลน พร้อมกับดวงตาที่กำลังจะปิด ทำไรรอยยิ้มที่พี่เขามีมันถึงเปลี่ยนไป

   รอยยิ้มแสยะอย่างพึงพอใจ...ที่ผมไม่เคยเห็น




***///***////***////***////***////***////***////***////***////***

เหมือนเรื่องนี้กำลังจะถูกความมือเข้าครอบงำ เงียบเชียบเชียว
คล้ายกับว่าเป็นซอยเปลี่ยวที่นานนานทีมีคนเดินผ่าน 555+
สู้ๆค่ะ(ให้กำลังใจตัวเอง) ยังไงก็อย่าทิ้งกันเน้อ อยู่ด้วยกันจนจบเนอะ
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

มีแพลนเปลี่ยนชื่อรื่องอีกแล้ว555+ ทีแรกสุดเลยนะ จะตั้งชื่อว่า "มณีสมุทร" แต่กลัวไม่มีคนเข้ามาอ่าน
แต่อีกสักตอนสองตอนก็จะเปลี่ยนชื่ออีกแล้ว555+ จะเปลี่ยนชื่อว่า "มณีสมุทร" เครน้า 

   
   
   
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....ยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 03-10-2015 17:23:46
เธอหลงเค้าแล้วคนดี~ จนลืมไปว่าตรงนี้~ ยังมมีพี่ยักษ์อีกตน~ โว้ว~ โว้ว~ เย้~ เย้~
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 03-10-2015 17:39:38
เราชอบชื่อนี้นะคะ แต่มณีสมุทรมันแปลกๆยังไงชอบกล

พี่ยักษ์เราน่าจะรุ้นี่ว่านางละเวงเป่ามนต์ใส่น้องมณี พี่ไม่แก้มนต์ให้หน่อยเหรอเคอะ -..--
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 03-10-2015 18:02:25
อเลนจะปล้ำมณีเหรอ? อย่าบอกนะว่าอเลนเป็นสาวดุ้น! 55555
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 03-10-2015 18:50:09
หรือว่ามนต์ตราจะคลายได้ก็ในวันที่ละเวงจะลงมือแก้แค้นกันคะ
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: mimasopu ที่ 03-10-2015 19:49:19
มณีเอ้ยเอาสั้นๆนะ "โง่เตือนแล้วไม่ฟัง" ทีนี้ละเวงจะเอาไปทำอะไรต่อละเนี่ย
พาร์ทนี้สงสารพี่ยักษ์ คาดว่าเดี่ยวพี่ยักษ์ก็ต้องมาช่วยอีกนั่นแหละ
(อย่าเปลี่ยนชื่อเลยเราชอบชื่อนี้อะ)
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: KoTo_Nat ที่ 03-10-2015 21:20:14
ให้ธาราจับขังและข่มขืนเลย

หมั่นใส้ 55555 
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 03-10-2015 22:59:07
ให้ธาราจับขังและข่มขืนเลย

หมั่นใส้ 55555

ใจเยนๆจ้าาาา
 :hao7:

หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 04-10-2015 00:38:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-10-2015 10:09:19
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 04-10-2015 19:41:04
ธาราาช่วยด่วนนนน
 มณีแย่แล้ว :katai4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 05-10-2015 13:54:44
ธารามาเร็วววววววว
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: sirikanda28 ที่ 05-10-2015 17:05:26
น่าลุ้นมาก ๆ รู้สึกมี
อะไรน่าค้นหา
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: momoji ที่ 06-10-2015 08:20:54
พี่ธารา ช่วยน้องมณีด้วย :sad4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 03/10 [CH.11] พลาด
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 06-10-2015 09:43:30
สมควรน่ะ ดื้อ ไม่หยุด
หัวข้อ: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 08/10 [CH.12] คืนเดือนมืด
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 08-10-2015 02:16:11
14740
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)


** ชดใช้ครั้งที่ 12 คืนเดือนมืด **


   ในคืนเดือนมืดที่แสงจันทร์เหือดหายไร้ซึ่งแสงที่สาดส่อง ความมืดมิดได้ก่อตัวขึ้นหลังจากที่ตะวันลับขอบฟ้า

   แสงจันทร์ที่เคยอาบไล้ลงมาหายไปราวกับถูกความมืดแห่งรัตติกาลลักพาไปซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครได้พบเจอ


   ร่างสูงใหญ่นัยน์ตาสีดำสนิทปรากฏตัวขึ้นภายในห้องนอนของบ้านไม้สีขาวครีมสองชั้นแถบชานเมือง

   พร้อมกับร่างที่สูงใหญ่ไม่แพ้กันยืนอยู่เคียงข้าง

   “ท่านแน่ใจได้อย่างไรท่านอาว่าของที่ต้องมนต์ดำนั้นจักอยู่ภายในห้องของมณี”ร่างสูงใหญ่กว่าถามขึ้นภายใต้เงามืดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบยากที่จะเดาอารมณ์

   “อาแน่ใจ ภายในห้องนี้มีเงาดำมืดมิดกระจายไปทั่ว เจ้าจงค้นดูให้ดีเถิดธารา ก่อนที่คนในบ้านนี้จะมาเจอเรา”คนที่ถือศักดิ์เป็นอาพูดก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆห้องที่มีข้างของวางเกลื่อนกระจายอยู่เต็มไปหมด

   รวมถึงไวโอลินที่ทำจากไม้เนื้อเงาวางแน่นิ่งอยู่บนเตียง ทับกับกระดาษโน้ตเพลงที่เปิดทิ้งเอาไว้


   ...นี่คงจะเป็นโชคชะตา...


   ใบหน้าสะอาดเกลี้ยงเกลามีรอยเหี่ยวย่นประปรายบ่งบอกถึงช่วงวัยกลางคน หากแต่อายุขัยที่แท้จริงกลับสูงวัยยิ่งกว่าภาพลักษณ์ยืนมองสิ่งนั้นอย่างชั่งใจ

   “ใช่นี่หรือไม่ท่านอาวสิน”ธารายื่นกระดาษการ์ดลายกุหลาบสองใบยื่นให้แก่คนสูงวัยกว่า

   วินาทีที่ผู้สูงวัยที่คร่ำเคร่งในการภาวนาศีลปรายตามอง เงาดำที่ฟุ้งกระจายไปทั่ววัตถุแผ่นบางสองใบก็ปรากฏ

   “เผามันทิ้งเสียในคืนเดือนมืด คืนที่จันทร์ไร้แสง ลอยเด่นอยู่ตรงกลางฟ้า เช่นนั้นมนต์ดำจักคลาย รีบเร่งเข้า อีกไม่กี่เพลา จันทร์ก็จักตรงหัว”

   “แล้วมณีเล่า ท่านอา ข้าควรทำอย่างไร”ใบหน้าคมคายสมบุรุษถามผู้เป็นอาด้วยท่าทีเป็นกังวล

    “เจ้าจงไปชิงตัวอภัยมณีมา ไปก่อนที่แผนการของเราจะถูกขัดขวางโดยศัตรูที่กลับชาติมาเกิด”

   “แล้วของต้องมนต์นี่เล่า ท่านอาจะให้ข้าทำเช่นไร”

   “ข้าจักทำลายมันเอง”

   “งั้นข้าขอฝากไว้กับท่านด้วย ท่านอา”



***////***////***/////***/////***////***////***////***////***////***////***


   ผมรู้สึกตัวขึ้นมาด้วยความมึนงง แล้วกระพริบตาถี่ๆปรับข้ากับแสงสลัว ไอ้เหตุการณ์ที่ผมรู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนคงจะเป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว

   สายตาพลางมองไปรอบรอบห้องนอน ที่ไม่คุ้นตาเอาซะเลย ผ้าห่มและผ้าปูเตียงเป็นสีชมพูหวานเข้ากับการตกแต่งห้องที่เน้นเป็นสีชมพูสวย

   ดูดูไปแล้ว การตกแต่งห้องแบบนี้คงจะไม่ใช่ห้องของผู้ชายหรอกมั้ง ถ้าจะให้ผมคิด

   เสียงน้ำกระทบลงบนพื้นเรียกให้ผมละสายตาไปมองยังประตูที่คาดว่าเป็นห้องน้ำถูกปิดเอาไว้

   แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงทำให้ผมมองไปที่ประตูห้องน้ำนั่นด้วยความสงสัย

   ไม่นานเสียงน้ำก็หยุดลง....

   แล้วนี่ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง...ที่นี่ที่ไหน...หลายครั้งแล้วที่ผมต้องตั้งคำถามเดิมๆซ้ำๆ และรู้สึกตัวขึ้นในที่ที่ไม่คุ้นเคย

   ทำไมชีวิตวัยรุ่นของผมมันต้องมีแต่เรื่องน่าสงสัยเข้ามาตลอด...

   แล้วทำไมผมถึงได้รู้สึกมึนหัว แล้วก็เหนื่อยเหมือนไปวิ่งมาราธอนมาทั้งวันอย่างนี้

   ร่างกายมันอ่อนแรงมันล้าจนรู้สึกว่ายากที่จะพยุงตัวให้ลุกขึ้นมา แม้แต่จะยันตัวขึ้นลุกยังทำได้ยากลำบาง

   
   จนสุดท้ายผมก็ถอดใจที่จะพยายามพยุงตัวขึ้นมา...ความรู้สึกว่าอ่อนล้าทำให้ผมนอนแผ่ราบลงไปกับเตียง

   ไม่นานแสงสว่างจ้าจากห้องน้ำก็สาดออกมาพร้อมกับประตูห้องน้ำที่เปิดออก

   ร่างสูงโปร่งในชุดคลุมอาบน้ำทำเอาหัวใจผมแทบหยุดเต้น

   ชุดคลุมอาบน้ำที่แทบจะหลุดออกจากไหล่ถูกใส่อย่างหมิ่นเหม่

   พะ...พี่อเลน

   
   ช่วงคอกับช่วงไหล่โผล่พ้นออกมาวับวับแวบๆทำเอาร่างกายของผมร้อนผ่าวอย่างบอกไม่ถูก

   มันไม่ใช่อารมณ์แบบวัยรุ่น แต่มันเป็นอารมณ์ตกใจมากกว่า

   ...ทำไมพี่เขาถึงอยู่ในสภาพนี้ล่ะ...

   “ตื่นแล้วเหรอ”เสียงลากยาวเหมือนยั่วยวนถาม พลางเดินก้าวขามาที่เตียงเผยให้เห็นเรียวขาอ่อนที่โผล่ออกมาเวลาที่สาบเสื้อเปิดออก

   ผมสะดุ้งเฮือกพยายามกระถดตัวหนี ทันทีที่พี่อเลนนั่งลงบนเตียง

   ความรู้สึกของผมมันรู้สึกแปลกไป ผมไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะใกล้ชิดพี่อเลนเหมือนเก่า ผมรู้สึกโล่งใจแบบแปลกๆ มันรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นอิสระในแบบที่ผมไม่เข้าใจตั้งแต่ที่ผมลืมตาขึ้นมา ทำให้ผมถอยหนีพี่เขาเพื่อที่จะออกห่าง

   “ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”ผมถามไปงั้นๆ ทั้งที่คิดได้ว่าครั้งสุดท้ายผมดื่มน้ำส้มที่พี่เขาเอามาให้ผม

   ไม่อยากจะคิดเข้าข้างความหล่อของตัวเองเลยว่าพี่เขาวางยาในน้ำส้มให้ผมกิน

   “พอดีน้องมณีหลับไป...พี่ก็เลย...อุ้มขึ้นมา”พี่อเลนพูดพลางนั่งลง

    นิ้วเรียวยาวของพี่เขากรีดลงบนแผ่นอกที่เปลือยเปล่าของผมไปมาคล้ายหยอกล้อ

   แต่เดี๋ยวนะ!!

   ผมกำลังเปลือยงั้นเหรอ!!

   ผมเลิกผ้าห่มขึ้นแล้วก้มลงมองข้างใน    

   ไม่มี...ไม่มีแม้แต่กางเกงใน...นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ผมกำลังแก้ผ้า

   แล้วใครจะเป็นคนแก้ผ้าผมล่ะ นอกจากพี่อเลน..งั้นพี่เขาก็เห็นมณีน้อยของผมแล้วสิ

   ผมเงยหน้ามองหน้าพี่อเลนตาค้าง...เหมือนพี่เขาจะเข้าใจความคิดผม

   เขาหัวเราะเบาเบา ดวงตาของเขากำลังเป็นประกายเจ้าเล่ห์ในแบบที่ผมเองก็อธิบายไม่ถูก

   แต่เดี๋ยวนะ...พี่เขาบอกว่าเขาอุ้มผมขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ....

   มันจะเป็นไปได้ยังไง..นี่ผมตัวเบาขนาดให้ผู้หญิงอุ้มขึ้นมาบนห้องนอนได้ที่ไหนล่ะ

   บ้าไปแล้ว!!

   “มณีรู้ไหม ว่ามณีกวนใจพี่มานานมากเลยนะ”เสียงกระเส่าบอกผมพลางจ้องมองมาทำให้ผมขนลุก

   พลางนิ้วเรียวนาวของพี่อเลนลูบไปมาบนกรอบกน้าของผมทำเอาผมเกร็งจนตัวแข็งทื่อ

   ผมกำลังกลัว...ใช่เลย...ผมกำลังกลัวผู้หญิงอยู่

   ทำไมพี่เขาโรคจิตชะมัด…ความรู้สึกของผมตอนนี้มันต่างจากเก่า ทำให้ผมอยากจะตีตัวออกห่างจากพี่เขา

   “พะ พี่อเลนพูดอะไร ผมไม่เข้าใจเลย เอ่อ พี่เห็นเสื้อผ้าผมไหม คือ...ผม หนาวน่ะ”ผมตอบพลางยิ้มแหยๆ

   พยายามจะโยกหน้าหลบนิ้วเรียวกับเล็บยาวๆที่กรีดลงมาบนหน้าอย่างหวาดเสียว

   “มณีน่ะ เข้ามาอยู่ในฝันของพี่ ตั้งแต่พี่อายุครบสิบแปด ตั้งแต่นั้นมาแทบทุกคืน พี่ก็เอาแต่เห็นหน้ามณีอยู่ในฝัน เป็นอย่างนี้มาตลอด”

   พี่อเลนบอกเสียงเบาราวกับกระซิบ ทำให้ผมเงยหน้ามองพี่เอาแน่นิ่ง....นี่เขากำลังพูดถึงอะไร?

   “พี่..พูดเรื่องอะไร”ผมถามเสียงเบา

   รู้สึกว่าตกใจกับสิ่งที่พี่เขาพูดออกมา

   หมายความว่ายังไง ที่ว่าผมไปอยู่ในฝันของพี่เขา...นี่มันเรื่องบ้าใช่ไหม...เพราะอย่างนี้พี่อเลนถึงเข้ามาในชีวิตของผมรึเปล่า

   “พี่ฝันเห็นมณีแทบทุกคืน ตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมา...รู้ไหมว่าพี่ทรมานมากแค่ไหนที่ต้องในเห็นคนคนเดียวที่ไม่เคยเจอหน้าซ้ำไปซ้ำมาตลอด”

   พี่อเลนพูดพร้อมกับมองมาที่หน้าผม มือของเขาไล้วนบนหน้าผมไปมาเหมือนกำลังสำรวจ

   ดวงตาของเขาตอนนี้มันดูน่ากลัวเหมือนพวกโรคจิตจนผมเองก็รู้สึกได้ ว่าใบหน้าที่สวยงามแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่ชวนขนลุก

   “พี่ยอมอยู่ที่นี่ก็เพื่อที่จะรอเจอกับมณี คนที่อยู่ในฝันพี่มาตลอด จนสุดท้ายที่ก็เจอ  ที่ท้ายหาดตอนที่พี่ไปนั่งดูพระอาทิตย์ตก พี่เห็นมณีเดินผ่านไป แวบแรกที่เห็น พี่รู้เลยว่าเป็นมณี ถึงแม้ว่าจะเห็นแค่ด้านหลัง”

   ด้วยน้ำเสียงราบเรียบยังคงพูดไม่หยุด ทั้งที่ยังไม่ละสายตาไปจากผม...สายตาที่จ้องมาทำให้ผมรู้ว่าพี่เขาไม่ได้โกหก

   ...แล้วทำไมเขาถึงฝันเห็นผมล่ะ...หรือว่าเขาจะเป็นคนที่กลับชาติมาเกิดเหมือนผม

    จริงสิ...เขาอาจจะเป็นละเวงกลับชาติมาเกิด

   เพราะพี่เขาเคยบอกว่าชื่อไทยเขาชื่อละเวง...ผมไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม....เหมือนกับชื่อผม...อภัยมณี

   “พี่..เอ่อ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้พี่เข้ามาหาผมอย่างนั้นเหรอ”

   ผมถามออกไป...ถ้าพี่อเลนคือละเวงกลับชาติมาเกิดจริง..ผมคงจะถูกตามล้างแค้น...และคงจะต้องชดใช้หนี้แบบที่พี่ธาราเคยบอก
   “ใช่...พี่ทนไม่ได้กับการที่ฝันเห็นใครที่ไม่เคยเห็นหน้าซ้ำไปซ้ำมา”

   “ผมขอโทษ”ผมพูดออกไป ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร แต่ก็รู้สึกผิด

   “มณีไม่ต้องขอโทษพี่หรอก...ตั้งแต่วันนี้ไป ฝันของพี่ก็จะกลายเป็นจริง...ในที่สุด พี่ก็ได้มณีมาครอบครองสักที..ต่อจากนี้ไป มณีจะมีตัวตนทั้งในความฝันและในความจริงของพี่”

   สิ้นเสียงพูดของ  ริมฝีปากเล็กก็จูบลงมาบนหน้าฝากของผม พี่อเลนจูบไล่ลงมาเรื่อยๆตามสันจมูกของผม จนมาถึงปลายจมูก และกำลังจะจรดลง บนริมฝีปากของผม

   แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ!!

   ผมดันพี่ออกพี่เขาออก..

   แต่เดี๋ยวนะ!!...

   ทำไมหน้าอกแบน แถมแข็งๆแบบแปลกๆ หรือว่าผมจะคิดไปเอง...แต่นี่ผมกำลังจับหน้าอกพี่เขา

   ผมสะดุ้งชักมือกลับออกมาทันทีพลางหน้าแดง...ทำให้พี่อเลนหัวเราะเบาเบา

   ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกกระชากออกจากตัวผม ทำให้ตอนนี้ผมไม่มีอะไรปกปิดร่างกาย...

   ผมคว้ามือสองข้างปิดส่วนสำคัญเอาไว้ทั้งหน้าที่กำลังแดงก่ำ

   ร่างสูงโปร่งของพี่อเลนเคลื่อนขึ้นมาทาบทับ ใบหน้าสวยหวานกำลังฉายแววเจ้าเล่ห์ทำให้ผมยิ่งหน้าแดงหนักเข้าไปอีก

   ผมไม่ได้ต้องการแบบนี้....ไม่ได้อยากมีอะไรกับพี่เขา โดยที่ผมไม่เต็มใจอย่างนี้

   นี่ผมกำลังถูกผู้หญิงปลุกปล้ำอยู่อย่างนั้นเหรอ....ถ้ารู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น

   “พะ พี่อเลน ผมว่า เอ่อ พี่กำลังอยู่ผิดที่”ผมพูดอ้อมแอ้มเมื่อเสื้อคลุมของพี่อเลนกำลังเลื่อนหลุด

   ผมรีบเงยหน้าหนี หัวใจของผมเต้นแรง ผมเกือบจะเห็นหน้าอกของพี่เขาแล้ว..

   ผมยกมือขึ้นดันไหล่ของเขาให้ออกห่าง แต่เรี่ยวแรงของผมมันมีน้อยเต็มตน จากความรู้สึกที่เหนื่อยล้าราวกับผ่านการออกแรงมามาก

   “ไม่ต้องอายหรอกน่า..พี่จะไม่ทำให้มณีเจ็บ พี่สัญญา..”เสียงหวานกระซิบข้างหู

   ตอนนี้ตัวผมกำลังสั่น ผมหลับตาสนิท รู้สึกได้ว่าพี่อเลนกำลังขยับตัวเพื่อถอดเสื้อคลุมออก

   ถ้าพี่เขาถอดเสื้อคลุมออกก็หมายความว่า....เราสองคนกำลังแก้ผ้า

   นี่เรากำลังจะ...กันจริงๆเหรอ

   ไม่นะ ชีวิตวัยรุ่นของผมผมต้องเป็นคนนำสิ...แล้วอะไรกับไอ้คำพูดที่บอกว่าจะไม่ทำให้ผมเจ็บ ผมไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์นะเออ

   “น่ารักจังเลยน้า มณีเนี่ย”

   ผมรู้สึกได้ว่ามือของพี่อเลนกำลังลูบไล้อยู่ทั่วตัว แล้วไปหยุดอยู่ตรงบั้นเอว

   มือนั้นค่อยๆวนไปที่ท้องน้อย...สะดือของผมถูกเกลี่ยเล่นเบาเบาอย่างหยอกล้อ

   ผมกำลังจะขาดใจอยู่แล้ว มันรู้สึกหวิว..รู้สึกว่ามันขนลุกไปทั้งตัว...แต่เหนือสิ่งอื่นใด

   ...ผมกำลังกลัว และกังวล

   มันต่างจากสัมผัสของใครอีกคน สัมผัสที่ดุดัน...แต่เต็มไปด้วยความรู้สึก..ต่างจากตอนนี้ลิบลับ

   “พะ พี่อเลน คือผม...ยัง..”

   “จุ๊ จุ๊ ถ้าพูดมากจะเป็นเด็กไม่ดีนะ รู้ไหม”คำพูดของผมถูกยุดเอาไว้ด้วยนิ้วเดียวนิ้วเดียวที่ยกขึ้นมาจรดปากผม

   รอยยิ้มเหยียดบนริมฝีปากเล็ก ทำให้ผมนึกหวั่น ขาของผมถูกจับให้อ้ากว้างตามด้วยลำตัวของพี่อเลนเข้ามาแทรกระหว่างกลาง
   แต่เดี๋ยว!!ผมกำลังอ้าขาโดนที่พี่เขาแทรกกลางอย่างนั้นเหรอ!?

   ผมก้มลงไปมองเบื้องล่างทันที...ไอ้ความรู้สึกร้อนๆเหมือนมีอะไรมาดุนดันอยู่ตรงโคนขาทำให้ผมเริ่มสังหรณ์ใจอะไรแปลกๆ
   แล้วก็เป็นอย่างที่คิด...ดุ้นอันเบ้อเริ้มกำลังถูไถกับต้นขาของผมอยู่

   ผมเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าสวยหวานของพี่อเลนทันที

   แล้วพี่เขาก็กำลังยิ้ม ยิ้มแบบกำลังขบขัน เหมือนเป็นเรื่องตลก

   “พะ พะ พี่...ผู้ชาย”ผมพูดขึ้นอย่างตกใจ

   “อื้อ..แปลกใจเหรอ”พี่อเลนยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย

   นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!!

   ยังไม่ทันที่ผมจะโวยวายดี ขาของผมก็ถูกจับให้อ้ากว้างยิ่งกว่าเก่า

   “เดี๋ยวสิ เฮ้ย...ไม่ได้นะพี่..ผมไม่ใช่..”

   ผมพยายามดิ้นทั้งที่อ่อนแรง เรื่องราวมันกลับตาลปัตรไปหมด ยังไงผมก็จะถูกทะลวงเหมืองทองจริงๆใช่ไหม

   ทั้งพี่ธารา ทั้งพี่อเลน...เป็นอะไรกันไปหมด


   ปัง!!!!!!!

   เสียงประตูดังขึ้นทำให้ผมและพี่อเลนสะดุ้งหันไปมองประตูที่เปิดค้าง



   “พี่ธารา!”ผมพูดเสียงเบาเมื่อเห็นพี่ธาราปรากฏตัวอยู่หน้าประตู

   ดวงตาสีดำสนิททอประกายสีเขียววาวโรจน์ทันทีที่เห็นผมกับพี่อเลนในสภาพที่ล่อแหลมขนาดนี้

   ร่างสูงใหญ่ตรงมาที่เราสองคนก่อนที่พี่ธาราจะกระชากร่างสูงโปร่งของพี่อเลนแล้วเหวี่ยงลงไปที่มุมห้อง

   ร่างของสูงโปร่งไร้อาภรณ์กระแทกตัวเข้ากับกำแพงอย่างแรงก่อนจะตกลงกองลงกับพื้น

   ทำให้ผมเห็นพี่อเลนชัดเจนกว่าเก่า ร่างสูงโปร่งของเขากับหัวไหล่มนที่กว้างกว่าผู้หญิงทั่วไปเล็กน้อยกับช่วงเอวคอดที่พอดีตัวโปร่งบาง

   อีกทั้งยังดุ้นอันใหญ่นั่นอีกที่ทำให้ผมเหวอ...เป็นผู้ชายที่สวยจนผมดูไม่รู้เลยสักนิด

   พี่อเลนยันตัวขึ้นนั่งชันเข่าข้างหนึ่งโดยไม่อายพร้อมกับเช็ดเลือดที่ไหลลงมาจากมุมปากพร้อมกับแสยะยิ้ม

   โดยที่ผมรีบคว้าผ้าห่มมาคลุมท่อนล่างเอาไว้

   “เป็นอย่างที่คิด....กะแล้วว่าต้องมีเจ้าของ น่าเสียดายจริงๆหึหึ”เสียงหวานแปรเปลี่ยนเป็นเสียงแหบทุ้มพูดประชดพลางมองหน้าพี่ธาราด้วยท่าทีเยาะเย้ยทั้งที่กำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

   “อย่าพูดมากความ!!”พี่ธาราตวาดพลางเดินเข้าหาพี่อเลนที่นั่งกองอยู่ที่พื้น

   ด้วยท่าทีที่กำลังโกรธ บางทีพี่เขาอาจจะทำร้ายพี่อเลนก็เป็นได้

   แต่ให้ผมคิดอีกทีถ้าไม่นับรวมกับที่พี่อเลนพยายามยิงประตูผมทั้งที่ผมไม่ยินยอม...ผมคิดว่าสิ่งที่พี่เขาทำก็ไม่ได้ผิดอะไรมากมาย

   เขาทำเพียงเพราะผมไปปรากฏตัวหลอกหลอนอยู่ในฝันของเขาก็แค่นั้น...ผมเองก็มีส่วนผิด ที่ชาติที่แล้วผมไปทำร้ายจิตใจเขาเอาไว้

   “พี่ธารา... อย่าทำพี่เขาเลย ผมขอร้อง”ผมเรียกพี่ธาราเอาไว้ก่อนที่พี่เขาจะลงมือทำร้ายพี่อเลนไปมากกว่านี้

   ไม่ใช่ว่าผมสงสารหรือว่าพระเอกอะไร แต่ว่า...

   ผมไม่ต้องการที่จะจบเรื่องด้วยการทำร้ายกัน...มันจะกลายเป็นเวรกรรมที่ไม่มีที่สิ้นสุด

   ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันอาจจะเป็นผลกรรมที่พี่เขากับผมทำร่วมกันมา

   “มั่นใจได้อย่างไร หากจะปล่อยเจ้านี่ไป”พี่ธาราหันมาถามผมด้วยแววตาขุ่นเคืองก่อนสะหันกลับไปมองพี่อเนที่นั่งพิงร่างกับผนังห้องอย่างหมดสภาพ

   “ผมไม่อยากให้ทำร้ายพี่เขา มันจะเกิดเวรกรรมกันไม่สิ้นสุด ผมอยากจะให้มันจบลงแค่เวลานี้...อยากให้เลิกแล้วต่อกันด้วยดี”
   ผมบอกพลางเหลือบมองพี่อเลนที่จ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาที่อ่อนลง

   “ในที่สุดเจ้าของก็มาตามเอาของคืน  เราคงทำกรรมด้วยกันมาน้อยไปละมั้ง”พี่อเลนพูดพลางหัวเราะ

   “ผมแค่อยากให้เราเลิกแล้วต่อกันด้วยดี ผมจะไม่เอาเรื่องพี่ ถ้าพี่สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้กับผมอีก”

   “คงจะไม่อยู่ทำหรอกนะ อาทิตย์หน้าพี่ต้องบินกลับไปที่นิวเจอซีแล้ว...เวลาตามหาคนในฝันของพี่มันหมดลงแล้วล่ะ ในที่สุดก็ได้เจอตัวสักที ต่อไปนี้พี่คงจะนอนหลับสบายโดยที่ไม่มีใครมารบกวน”ใบหน้าสวยหวานยิ้มออกมา

   คำพูดที่แสดงออกถึงความจริงใจทำให้ผมรู้สึกโล่งอก

   “นายทำลายเสน่ห์ที่ทำเอาไว้แล้วสินะ”พี่อเลนหันไปถามพี่ธารา

   ทำให้ผมนึกสงสัยขึ้นมาทันที

   เสน่ห์อะไร?

   ทำไมพี่ธาราถึงได้แค่พยักหน้าตอบรับ

   “พี่อเลน...เสน่ห์อะไร ผมไม่เข้าใจ”ผมถามกลับบ้าง

   “ดูเหมือนจะซื่อจนไม่รู้อะไรเลยสินะ...ไม่รู้ต่อไปน่ะแหละดีแล้ว”

   “ไหงงั้นล่ะ”ผมแย้งขึ้นมา เพราะว่าไม่ได้คำตอบที่ต้องการ

   “พี่จะคิดเอาเองนะว่ามณียกโทษให้พี่”พี่อเลนบอกเสียงเรียบ

   “ผม...ผมไม่ได้โกรธพี่สักหน่อย...เพียงแค่ ผมไม่ต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ผมเองก็ไม่ได้เป็นอะไร”ผมพูด

   รู้สึกได้ว่าพี่ธารากำลังจะจ้องมองผมเขม็งเหมือนกับจะโกรธผมอยู่ไม่น้อย

   สิ่งที่ผมทำเอาไว้ตอนก่อนหน้าทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าพูดไม่ดีเอาไว้กับพี่เขาเยอะ ความเอาแต่ใจและอารมณ์ที่ไม่ควรที่ผมแสดงเอาไว้ทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมา

   แต่ผมก็ยอมรับว่าดีใจที่พี่ธาราโผล่มาในตอนที่ผมกำลังต้องการความช่วยเหลือ...เหมือนกับตอนนั้น ตอนที่ผมกำลังจะถูกรถชน


***////***////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***

มีต่อนะจร๊ะ รอแปบนุง

   เอาแฟนเพจมาแปะจ้า พึงจะมี เอาไว้ทวงนิยาย อัพเดทนิยาย ฝากไว้ด้วยนะคร้า

แฟนเพจของโซอึนจ้า (https://www.facebook.com/ผู้หญิงบ้าวาย-543150342508084/timeline/)

หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 08/10 [CH.12] คืนเดือนมืด
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 08-10-2015 02:57:30
 :z13:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 08/10 [CH.12] คืนเดือนมืด
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 08-10-2015 04:10:09
ต่อกันเลย

“พะ พะ พี่จะพาผมไปไหน”ผมถามเสียงสั่นหลังจากถูกโยนขึ้นมาบนที่นั่งข้างคนขับโดยไม่ออมแรงเลยสักนิด

   เสี้ยวหน้าหล่อคมคายภายใต้แสงสะท้อนของไฟถนนทำให้ผมจ้องมองอย่างรู้สึกผิด

   พอรู้สึกตัวว่าผิดมันก็สายไปแล้ว ผมใส่พี่เขาซะเต็มที่ในตอนก่อนหน้าที่ผ่านๆมา

   ทั้งด่า ทั้งว่า ทั้งไล่ ทั้งสะบัด ทั้งทุบทั้งตี สารพัด ต่างๆนานาที่ผมคิดว่ามันเลวร้ายมาก

   “เอ่อ นี่ไม่ใช่ทางไปบ้านผม น่ะ คือ เผื่อพี่จะจำไม่ได้”ผมพูดเสียงแผ่วหลังจากปลายสายไม่มีเสียงตอบรับ

   มีเพียงความเงียบที่เข้าปกคลุมภายในรถสปอร์ตคันหรูที่นั่งได้เพียงแค่สองคน

   “เจ้ากลับบ้านทั้งสภาพนี้ไม่ได้หรอก พ่อแม่ของเจ้าคงจะสงสัยแน่”

   ในที่สุดพี่ธาราก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

   จริงสิ..ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในสภาพผ้าห่มผืนสีชมพูหวานแหววคลุมร่างกายโดยที่ภายในไม่ได้สวมใส่อะไรเลย

   ก็อะไรซะอีกถ้าพี่อเลนไม่ได้บอกว่าทิ้งเสื้อผ้าของผมไปหมดแล้ว กันผมหนี...ทำให้ผมต้องอยู่ในสภาพดักแด้แบบนี้

   ว่าแต่พี่ธาราจะพาผมไปไหน...อย่างนี้ผมรู้สึกว่ามันล่อแหลมชะมัด

   ถ้าเกิดว่าพี่เขาคิดจะทำอะไรผมขึ้นมาอีกคนผมก็แย่น่ะสิ...

   ผมไม่อยากจะคิดเลยว่า บรรดาเมียที่เหลืออีกสามคนของพระอภัยมณีจากชาติที่แล้วจะเวียนมาเกิดกันครบรึเปล่า

   ไม่งั้นผมคงต้องเจอเรื่องวุ่นๆอีกแน่...แค่พี่อเลนคนเดียวก็ทำเอาผมป่วนมากพ่อแล้ว

   ไหนจะพ่อกับเพื่อนๆที่ผมเมินในระหว่างที่ผมอยู่ในช่วงหลงพี่อเลนอีก

   ผมคงต้องไปขอโทษพวกเขาอีกยาวที่ทำเมินใส่กันแบบนั้น



   ในที่สุดพี่ธาราก็ขับรถเข้ามาจอดภายในตัวบ้านหลังใหญ่ที่ผมเคยมาแล้วหลายรอบ แต่ก็ไม่รู้สึกคุ้นเคยสักที

   “คือว่า ผมต้องนอนที่นี่จริงๆเหรอ”ผมถามเสียงแผ่ว

   ครั้งที่แล้วที่นอนที่นี่ ผมเกือบจะโดนพี่ธาราบังคับให้เป็นเมียโดยไม่จำยอม ดีที่พี่เขาหยุด ไม่งั้นผมคงเสียเอกราชให้พี่ไปแล้ว

   “วางใจได้ คืนนี้คืนเดือนมืด ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก”

   พี่ธาราบอกก่อนจะเปิดประตูลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดฝั่งผมบ้าง

   ผมเงยหน้ามองพี่ธาราพลางกระชับผ้าห่มที่คลุมกายแน่น

   จะเชื่อได้จริงเหรอ.....

   “เดี๋ยวสิ ผมเดินเองได้”ผมคัดค้านทันทีที่จะโดดอุ้มขึ้นพาดบ่าอีกรอบ

   นี่ตัวผมเบาขนาดนั้นเลยรึยังไง ทั้งพี่อเลนและพี่ธาราถึงได้อุ้มผมโยนกันเป็นว่าเล่น

   “เจ้าเดินเองไม่ไหวหรอก มณี ถ้าไม่เชื่อเจ้าก็ลองดูก็ได้”พี่ธาราถอยออกไปหนึ่งก้าวก่อนจะยักไหล่

   “ผมเดินเองได้หรอกน่า”ผมบอกเสียงเบาพลางลุกขึ้นยืน

   แต่เหมือนกับโชคชะตาเล่นตลกให้ผมเสียฟอร์ม ดันสวมบทนางเอกในละครน้ำเน่าซะงั้น

   ทันทีที่เท้าที่สองแตะพื้น ร่างทั้งร่างมันก็โงนเงนไร้แรงพยุง ดีที่อ้อมกอดแข็งแรงคว้าผมเอาไว้ก่อนจะอุ้มผมขึ้นพาดบ่าอย่างง่ายดาย

   เดี๋ยวสิ ทำไมร่างกายผมถึงไม่มีเรี่ยวแรงอย่างนี้...พี่ธาราใช้คาถากับผมอีกแล้วใช่ไหม

   “พี่ทำอะไรกับผม ทำไมผมถึงไม่มีแรงล่ะ”ผมว่าพลางทิ้งตัวอย่างไร้เรี่ยวแรงหัวสั่นครอนตามแรงเดินของพี่ธารา

   “ข้าไม่ได้ทำ มันเป็นผลข้างเคียงของมนต์ดำที่เจ้าโดนเข้าไป”

   “มนต์ดำอะไร”

   ผมไปโดนมนต์ดำตอนไหน...ไม่เห็นจะรู้เรื่อง

   “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้...คืนนี้เจ้าพักผ่อนไปก่อน วันพรุ่งข้าจะไปส่งเจ้าที่บ้านเอง”

   “พูดอย่างกับผมเป็นเด็กไปได้...ไอ้ยักษ์บ้า”ผมบ่นเสียงเบา ไม่วายแอบเหน็บตอนท้ายด้วยความที่หมั่นไส้ในความไร้อารมณ์ของพี่ธารา
   “ข้าได้ยิน”พี่ธาราพูดขัดทำเอาผมสะดุ้ง

   นอกจากจะเย็นชา ขี้มึนแล้วยังหูดีอีก


   ในที่สุดผมก็ถูกเอามาโยนไว้บนเตียง โดยที่ไม่ผ่อนแรงเลยสักนิด ทำเอาทั้งจุกทั้งเจ็บ

   ดูจากใบหน้าที่เฉยเมยกับการประหยัดคำพูดของเขาแล้ว ดูท่าพี่ธาราคงจะโกรธผม

   ...หรือว่าผมคิดไปเอง..

   ผมนอนมองพี่ธาราหายเข้าไปในห้องน้ำ สักพักก็ได้ยินเสียงน้ำดังออกมา

   ว่าแต่...นี่ไม่ใช่ห้องนอนที่ผมเคยนอนเมื่อครั้งที่แล้ว

   พอนึกได้ว่าครั้งที่แล้วผมเล่นอาละวาดซะเละก็เริ่มละอายใจขึ้นมา...ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมก้าวร้าวได้ขนาดนั้น


   ไม่นานเสียงน้ำก็หยุดลงพร้อมกับพี่ธาราที่ออกมาจากห้องน้ำในสภาพกางเกงนอนขายาวตัวเดียวพร้อมกับกะละมังขนาดย่อมกับผ้าขนหนูผืนเล็ก

   ร่างสูงใหญ่ที่อวดมัดกล้ามแน่นขนันสมชายกับแผ่นอกเต่งตึงทำให้ผมกลืนน้ำลายลงคอเบาเบา

   “พี่ จะทำอะไรน่ะ”ผมถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเอามาเช็ดตัว

   หน้าของพี่ธารายังไม่คงหายมึนตึงกับผมสักที

   มือใหญ่บรรจงชุบน้ำกับผ้าเช็ดตัวในน้ำอุ่นก่อนจะบิดมันหมาดน้ำ โดยไร้คำตอบในคำถามที่ผมถามไป

   “ผะ ผมเช็ดเองได้น่า ไม่ได้ง่อยสักหน่อย”ผมว่าพลางเบี่ยงหน้าหลบผ้าขนหนู

   “งั้นก็ตามใจเจ้า”

   พี่ธาราบอกแล้วยื่นผ้าขนหนูใส่มือผม...ว่าแต่ทำไม พี่เขาถึงได้นั่งจ้องผมอยู่ข้างๆไม่ไปไหนล่ะ

   จะบอกให้ออกไปก็กระไรอยู่ เพราะนี่มันบ้านเขา

   ทำให้ผมจำใจคลายผ้าห่มที่พันตัวออกเผยเห็นเห็นร่างกายสมส่วนตามภาษาวัยรุ่น

   ผมเช็ดตัวไปพลางรู้สึกร้อนวูบแบบแปลกๆเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกสายตาคู่คมกร้าวจ้องมองผมอยู่ไม่วางตา

   ผมกำลังประหม่าได้จากมือที่พยายามไม่ให้สั่นเทา...รู้สึกเขินต่างจากตอนที่พี่อเลนจ้อง

   ใจมันเต้นแรง จนรู้สึกว่ามันจะหลุดออกมา

   “หัวใจเจ้า...เต้นแรง”เสียงราบเรียบเอ่ยขึ้นทำเอาผมหน้าแดงด้วยความอาย

   ทั้งอายทั้งเสียหน้า

   “ระ รู้แล้วน่า ก็แค่ หนาวเฉยๆ”ผมแก้ตัว

   “งั้นหรอกรึ”พี่ธารายิ้มที่มุมปากพลางลุกขึ้นไปหยิบรีโมทเบาแอร์ลง

   นี่ผมตาฝาดไปรึเปล่า เมื่อกี้พี่ธารายิ้ม ถึงจะแค่ยิ้มที่มุมปาก แต่มันก็ยิ้มล่ะนะ

   ผมเช็ดตัวไปพยายามไม่สนใจร่างสูงใหญ่ที่กำลัง ขะมักเขม้นเม้น ค้นตู้เสื้อผ้าตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ

   ไม่นานพี่ธาราก็เดินกลับมาที่เตียงพร้อมกับเสื้อผ้าที่ดูเหมือนจะใหญ่ไปเล็กน้อยสำหรับผม

   กางเกงหูรูดที่ผมดึงเชือกให้มันรัดแน่นจนเชือกที่ถูกดึงออกมามันยาวไปจนเกือบถึงเข่า

   เสื้อนอนแขนยาวที่ใส่แล้วปลายนิ้วไม่แม้จะโผล่พ้นออกมาทางชายแขนเสื้อให้เห็น

   ถึงพี่ธาราจะเป็นยักษ์ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องตัวใหญ่กว่าผมขนาดนี้!!


   “เรียบร้อยแล้วเจ้าก็ควรจะพักผ่อน”

   เสียงทุ้มต่ำพร้อมกับไฟที่ถูกปิดลงทำให้ภายในห้องมืดสนิท

   พี่ธาราเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงแล้วนั่งลงพลางจัดที่นอน

   “เดี๋ยวสิ!! ทำไมพี่ไม่ออกไปล่ะ”ผมถามด้วยท่าทีตื่นตระหนก

   ไงพี่เขายังอยู่อีกล่ะ แล้วทำท่าทางเหมือนจะล้มตัวลงนอนข้างผม

   “นี่ห้องนอนข้า ข้านอนบนเตียงข้ามันผิดตรงไหน”พี่ธาราพูดพลางยิ้มมุมปาก

   เริ่มรู้สึกแล้วสิว่าไอ้ความเจ้าเล่ห์เหมือนเก่าของพี่เขาเริ่มจะคืนกลับมา พอพอกับอารมณ์ร้ายของผมที่หายไป

   “แล้วทำไมผมต้องมานอนห้องนี้ด้วยล่ะ ให้ผมนอนห้องเดิมก็ได้นะ”

   “ไม่ได้หรอก ข้าไม่ไว้ใจเจ้านั่น มันอาจจะกลับมาลักเอาตัวเจ้าไปอีก”

   “แล้วทำไมพี่ต้องไปช่วยผมไว้ด้วย”ผมถามทั้งที่นอนหันหลังให้พี่เขา

   ทั้งที่ผมพูดไม่ดีเอาไว้กับเขาตั้งเยอะ แต่เขากลับช่วยผม และอยู่กับผมในเวลาที่ผมกำลังตกที่นั่งลำบาก

   รู้สึกได้เลยว่า เวลาที่อยู่กับพี่เขา ผมรู้สึกว่าตัวเองอุ่นใจ และสามารถหลับตาลงได้โดยที่ไม่ต้องกลัวอะไร....หรือผมจะคิดไปเองอีกแล้ว

   ผ้าห่มผืนหนาสีเข้มถูกยกมาคลุมกายผมตามด้วยตัวพี่ธาราสอดเข้ามาภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน

   ถึงจะรู้สึกประหม่า แต่ผมก็รู้สึกวางใจ...ถ้าหากว่าไม่เป็นคืนที่ประจันทร์เต็มดวง ผมคงจะไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก

   “เจ้าสำคัญต่อข้า และเผ่าพันธุ์ของข้า ข้าไม่ยอมให้เจ้ามีอันตราย หรือยอมให้ใครมาขัดขวางโชคชะตา จากนี้ไป เจ้าจะอยู่ในความดูแลของข้า”

   “เพราะผลกรรมที่ผมทำเอาไว้ชาติที่แล้วสินะ”

   พี่ธาราถึงตามปกป้องผม เพราะผมจำเป็นต่อเขาและยักษ์ตนอื่นๆ ทำให้ผมพูดตัดพ้อออกไป

   “เจ้ามีค่าต่อข้า มากกว่าที่เจ้าคิด หลับตาเสียเถิดมณี ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องคิดมาก”
   สิ้นเสียง ร่างของผมถูกโอบกอดจากทางด้านหลัง ความอบอุ่นแผ่นซ่านเข้ามาภายในใจทำให้ผมไม่รู้วางใจและหลับตาลง
   วันนี้ผมคงจะเหนื่อยเกินไปที่จะคิดอะไร


***////***////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***

   
   ผมตื่นเช้ามาพร้อมกับอาการกระปี้กระเป่าเกินกว่าทุกวัน อาจจะเป็นเพราะได้พักผ่อนเต็มที่

   คนข้างกายผมเมื่อคืนไม่อยู่แล้วตอนที่ผมตื่นขึ้นมา

   ผมเดินลงมาข้างล่าง พร้อมกับได้กลิ่นโจ๊กหอมฉุยกับโกโก้ร้อนควันกรุ่นวางอยู่บนโต๊ะ พร้อมเจ้าตัวที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์จิบกาแฟด้วยท่าประจำ

   “รีบกินเถอะ ข้าต้องเอาตัวเจ้าไปส่งให้ทันเวลาที่รับปากกับพ่อของเจ้า”พี่ธาราพูดเสร็จก็หันไปอ่านหนังสือพิมพ์อย่างเก่า

   ดูเหมือนว่าพี่เขาก็ยังคงน่าหมั่นไส้อยู่ดี หลงคิดว่าดูดีไปได้


   ไม่นานผมกับพี่ธาราก็มาถึงบ้านของผมด้วยรถคันหรูสีแดงสด คันใหม่ ที่ไม่รู้ว่าพี่เขามีคันนี้ด้วย

   พี่ธาราก็ยังคงประจบแม่ของผมเหมือนเก่า ต่างจากผมที่ถูกเมินในสภาพเสื้อผ้าหลวมโครก

   “แม่ต้องรบกวนพ่อธาราอีกแล้ว ลูกมณีนี่ก็จริงๆเลย ตอนเรียนก็ไม่สนใจเรียนเดือดร้อนพี่เขาต้องติวหนังสือให้ตลอด”แม่ผมว่าพลางยิ้มให้พี่ธาราพร้อมกับรับถุงขนมไทยที่พี่ธารายื่นให้

   ยังไงพี่ธาราก็คือพี่ธารา ขี้ตู่แถมขี้ประจบอีก เรื่องพูดเองปั้นเรื่องเองเนี่ยที่หนึ่ง

   “แม่ สนใจลูกตัวเองบ้างสิ เอาแต่สนใจพี่ธาราอยู่ได้”ผมว่าเหน็บไปเรียกให้คุณแม่ยังสวยหันมามองค้อนผมพร้อมกับยิงคำถามทันที

   “แล้วเสื้อผ้าอะไรล่ะนั่น เสื้อผ้าตัวเองไปไหน”

   “พอดีเสื้อน้องมณีเลอะน่ะครับ ผมเลยให้แม่บ้านซักให้ แล้วยังไม่แห้งดี เลยให้น้องมณีใส่ชุดนี้มาก่อน”พี่ธาราพูดแทรกช่วยเอาไว้ทัน
   ความเออออเอาเองของพี่เขารู้สึกว่ามีประโยชน์ก็คราวนี้ล่ะ

   “ว่าแต่พ่อไปไหนล่ะแม่ มณีไม่เห็นเลย”

   ปกติถ้ารู้ว่าพี่ธารามาก็จะมาคุยด้วยแท้ๆ

   “อยู่โรงซ้อมแน่ะ เห็นว่าคนจ้างมาดูไว้ก่อนขึ้นแสดง เห็นว่าเป็นแมวมองด้วยอะไรเนี่ยล่ะ รีบรีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว ชักช้าพ่อจะว่าเอา”

   “ครับๆ เดี๋ยวมณีไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วกัน แม่ก็คุยกับลูกชายคนโปรดแม่ไปแล้วกัน”ผมว่าไม่วายทิ้งท้ายเอาไว้

   ซึ่งดูท่าแม่จะชอบที่ผมว่าอย่างนั้น ยกมือยกไม้ป้องปากใหญ่

   แม่ไม่ได้รู้เลยว่าไอ้พี่ธาราตัวดีเขากำลังคิดหวังเหมืองทองลูกชายแม่อยู่


   ไม่นานผมก็เดนเข้ามาในโรงฝึกพร้อมกับกางเกงวอร์มขายาวและเสื้อยืดธรรมดาโดยที่มียักษ์ตัวใหญ่เดินตามมาอย่างมึนมึนทั้งที่ผมไม่ได้เชิญ

   ถ้าเขาจะกลับไปหรือไปไหนผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย ถ้าพี่เขาไม่ได้มาตามติดผมแบบนี้

   “ทำไมพี่ต้องตามผมด้วย”ผมกระซิบกระซาบพลางมองใบหน้าเรียบเฉยของเขา

   เห็นแล้วมันหงุดหงิด

   “ข้าไม่ไว้ใจเจ้า เกรงว่าเจ้าจะสร้างความวุ่นวายด้วยการเชื้อเชิญเจ้ากรรมจากชาติที่แล้วให้เข้าหาอีก”

   น้ำเสียงราบเรียบแต่คำพูดเหมือนจะเสียดแทงทำเอาคิ้วขวาผมกระตุก

   แล้วใครจะรู้ว่ามันจะมีเจ้ากรรมจากชาติที่แล้วโผล่มาทวงคืนอย่างนี้...ไม่รู้ว่านอกจากพี่อเลนแล้วจะยังมีใครโผล่มาอีกไหม


   ผมกับพี่ธาราเดินไปทางด้านหน้าเวที มองเห็นพ่อกำลังยืนคุยอยู่กับคนแปลกหน้าที่ท่าทางจะเป็นนายจ้างอย่างที่แม่บอก

   ดูท่าอายุคงไม่น่าจะเกินสามสิบ ใบหน้าที่ไม่ได้จัดว่าดี แต่ดูมีความน่าเชื่อถือ กับรูปร่างสูงโปร่ง โดยรวมแล้วดูมีภูมิฐานน่าไว้วางใจ

   พ่อและนายจ้างหันมามองทางผมแล้วพูดคุยอะไรกันสักอย่างก่อนที่พ่อจะโบกมือเรียก

   ทำให้ผมเดินไปหาแล้วทิ้งให้พี่ธารานั่งลงที่เก้าอี้ที่วางเรียงอยู่ด้านหน้าเวทีทั้งที่ยังมองตามผมไม่วางตา

   “มีอะไรเหรอพ่อ”ผมถามพลางยิ้มให้อีกคนอย่างเป็นมารยาท

   “นี่พ่อวาลีเขาเป็นคนของนายจ้าง มาดูเราก่อนขึ้นแสดง ไหว้พี่เขาสิ”พ่อแนะนำ

   ผมยกมือไหว้พี่เขาตามมารยาท รู้สึกว่าสายตาคมกริบที่ดูเหมือนมีเลศนัยน์กำลังมองผมไม่วางตา

   วินาทีที่ผมจ้องตาเขา ผมรู้สึกได้เลยว่าเขาเป็นคนที่ดูฉลาดและน่านับถือมากคนหนึ่ง

   “นี่มณีลูกพ่อเอง รับบทเป็นพระอภัย ตามที่นายจ้างเขาขอไว้”

   “งั้นเหรอครับ รูปงามสมกับบทบาทนะครับ”เขาว่าพลางรับไหว้ผม

   คำว่ารูปงามทำเอาคิ้วผมกระตุก..มันเหมือนกับผมเคยได้ยินมาจากไหน เหมือนว่าเคยโดนชมว่ารูปงามมาครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้

   ว่าชื่อวาลี...ชื่อนี้มันคุ้นๆอีกแล้ว


***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////

โผล่มาอีกแล้วจ้าาาา นางวาลี เดี๋ยวตอนหน้าเรามาทำความรุ้จักกับนางวาลีผู้มีปัญญาเป็นเลิศ หนึ่งในเมียของพระอภัยมณีกันนะค่ะ

วันนี้ลงยาว เพราะฉะนั้น กำลังใจมาให้รัวจร้าาาา หหุหุ โจ้รุ่งอีกแย้ว สามีเผลอ(หลับ)เราก็แอบนั่งพิมพ์ พยายามมาก กลัวนางจับได้

 :katai4: พิมพ์ไป  :hao4: เหลือบมองนางไป  :katai4: พิมพ์ไป  :call: ภาวนาไปว่าอย่าให้นางตื่นมาเจอ  :เฮ้อ: สุดท้ายก็เสร็จ
ใจไม่รักทำไม่ได้นะเออ

หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 08/10 [CH.12] คืนเดือนมืด
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 08-10-2015 05:49:24
พี่ธาราคะ งานเข้าอีกแล้ว.. :try2:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 08/10 [CH.12] คืนเดือนมืด
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 08-10-2015 06:52:05
55555+

เมียของมณีชาติที่แล้ว กลับมาเกิดใหม่เป็นผชกันหมดเลยรึ


น้องมณีระวังประตูหลังดีๆล่ะ :p
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 08/10 [CH.12] คืนเดือนมืด
เริ่มหัวข้อโดย: mimasopu ที่ 08-10-2015 08:10:48
พี่ธาราคะจับรวบหัวรวบหางเลอะเถิด
เล็งเห็นแล้วว่ามณีจะซื่อจนเซ่อเหมือนอีรอบเดิม =_=
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love ❤ หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย ๏๏ [Mpreg] 08/10 [CH.12] คืนเดือนมืด
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 08-10-2015 16:34:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย❤ [Mpreg] 08/10 [CH.12] คืนเดือนมืด
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 08-10-2015 23:04:26
โผล่มาอีกแล้ว :a5:
คราวนี้พี่ธาราทำไงต่อ
อย่างนี้ต้องมีปล้ำ
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย❤ [Mpreg] 08/10 [CH.12] คืนเดือนมืด
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 09-10-2015 00:26:51
แล้วงานนี้จะรับมือกันยังไง  :ruready
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย❤ [Mpreg] 10/10 [CH.13] ใกล้เข้ามา
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-10-2015 21:27:05
 :ling2:

พ่อจะถวายน้องมณีใส่พานให้พี่ธาราเลยไหมเนี่ย ลูกเขยดีงามครบสูตรแบบนี้จะไปหาได้ที่ไหนอีก??????
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย❤ [Mpreg] 10/10 [CH.13] ใกล้เข้ามา
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 10-10-2015 21:53:09
เกิดเป็นธารานี่ปวดหัวจริงๆ เมียเก่าของว่าที่เมีย(?!)เยอะมาก 55555 :hao7:

รีบๆปล้าจับทำเมียเถอะ คึๆ
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย❤ [Mpreg] 10/10 [CH.13] ใกล้เข้ามา
เริ่มหัวข้อโดย: mimasopu ที่ 10-10-2015 23:05:41
ดีค่ะพ่ออย่างงี้มันผิดผีก็ให้พี่ธารารับผิดชอบยกน้องมณีให้พี่เขาเลยค่ะ
พี่ธาราไม่ต้องรอวันเพ็ญละเดี๋ยวคู่แข่งโผล่มาเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก....นายยักษ์ตัวร้าย❤ [Mpreg] 11/10/58 [CH.13] ใกล้อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 11-10-2015 04:25:50
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)


เกร็ดความรู้ นางวาลีเป็นเด็กกำพร้า อาศัยอยู่กับตายาย แต่รูปร่างหน้าตาที่ไม่งามของนางทำให้คนอื่นๆมักดูแคลน ต่อมานางได้เพียรพยายามหาความรู้การศึกษาเล่าเรียนเพื่อที่จะมีปัญญาและมีความสามารถที่โดดเด่นกว่าใคร ต่อมานางจึงใช้ความรู้ความฉลาดของตนเข้าหาพระอภัยมณีจนสำเร็จ แล้วต่อรองกับพระอภัยให้แต่งตั้งนางเป็นนางสนมเพื่อที่จะช่วยให้พระอภัยต่อกรกับท้าวอุศเรน(พี่ชายของนางละเวง) พระอภัยมณีจึงแต่งตั้งนางวาลีเป็นสนมเอก จนท้าวอุศเรนอกแตกตายด้วยคำพูดของนางวาลี แล้วนางวาลีก็ถูกวิญญาณของท้าวอุศเรนที่ตายไปแล้วเข้าสิงจนป่วยตายนั่นเอง


ชดใช้ครั้งที่ 13 ใกล้อีกนิด

   พอรู้ข่าวเจ้าเมืองผลึกใหม่

   พระอภัยพูลสวัสดิ์รัศมี

   งามประโลมโฉมเฉิดเลิศโลกีย์

   นางวาลีลุ่มหลงปลงฤทัย   

**เป็นกลอนบทที่นางวาลีเจอพระอภัยมณีซึ่งได้กับนางสุวรรณมาลีแล้วขึ้นเป็นเจ้าเมืองผลึก


   หลังจากที่เสียงเพลงจากเครื่องเล่นเทปจบลง ผมก็หยุดการเคลื่อนไหวแล้วถอนหายใจพรูออกมา ไม่ใช่ว่าผมเต้นแรโรบิกแล้วเหนื่อยอะไรหรอกนะ

   ตอนนี้ผมกำลังซ้อมรำฉุยฉายพราหมณ์ให้เจ้าของงานที่เขามาดูความคืบหน้าของงานได้รับชมต่างหาก

   ดวงตาคมกริบของคุณวาลีผู้จัดการในเรื่องการจ้างวานจ้องมองมาที่ผมอย่างไม่วางตาทำให้ผมรู้สึกอึดอัดและอยากจะให้มันจบจับไปสักที

   ...มันแปลกๆ มันเหมือนว่ามีอะไรซ่อนอยู่ภายในดวงตาของเขาทำให้ผมรู้สึกว่ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออกเวลาจ้องตอบกับมัน

   “เป็นไงบ้างพ่อ”ผมถามหลังจากเดินลงมาจากเวทีพื้นไม้ยกระดับแล้วเดินไปคว้าผ้าเช็ดหน้าบนโต๊ะข้างๆพี่ธาราเพื่อซับเหงื่อ

   ดวงตาคมที่กำลังจ้องมองผมอยู่แล้วฉายแววระริบระยับก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก

   ไม่เข้าใจว่าพี่เขาจะตามติดอะไรผมนักหนากัน

   ตั้งแต่มีเรื่องพี่อเลน พี่ธาราก็ดูจะตามติดผมทั้งวัน พอนึกถึงเรื่องนั้นแล้ว ผมก็พึ่งจะคิดออก

   ผมยังไม่ได้ขอโทษที่พูดไม่ดีกับพี่ธาราเลย...


   “ดีแล้ว แต่ต้องอ่อนๆมากกว่านี้หน่อยเอ็งน่ะยิ่งโตก็ยิ่งแข็ง ว่างๆก็ดัดมือดัดไม้เพิ่มบ้าง แล้วพ่อวาลีว่ายังไงล่ะ จะให้ปรับตรงไหนบ้างอีกไหมล่ะ”พ่อหันไปถามคนที่นั่งไขว้ขากับเก้าอี้วางมาดอย่างน่าเกรงขาม

   แต่เขาเพียงแค่หันมายิ้มตอบพ่ออย่างวางเชิง

   “ไม่ครับ...แค่นี้ก็เพอร์เฟกแล้วครับ น้องมณีทำเอาผมอึ้งไปเลย ผมว่าพอถึงวันแสดงจริง คนที่มาดูจะต้องชมกันไม่หยุดปากแน่เลยครับ นึกไม่ถึงว่าน้องจะเก่งขนาดนี้”

   “พ่อวาลีก็ชมเกินไป ไอ้มณีลูกชายพ่อมันฝึกร้องฝึกรำมาตั้งแต่เด็กแล้ว มันก็เป็นธรรมดาของเขาล่ะ เกิดมาในครอบครัวลิเก”
   ทำเป็นถ่อมตัวนะพ่อ...แต่จริงๆนี่ยิ้มปากบานเลย

   “น้องมณีเนี่ย เก่งจังเลยนะครับ ทั้งที่ยังเด็กแต่ทำได้ถึงขนาดนี้”คุณวาลีหันมาพูดกับผมเสียงเรียบ

   สายตาคมกริบจ้องมองมาทางผมทำให้ผมรู้สึกเสียงสันหลังยังไมก็ไม่รู้

   “อ่า ขอบคุณครับ”

   ผมได้แต่เกาหัวแกรกๆ รู้สึกตัวอีกทีด้านหลังก็รู้สึกถึงเงาดำทะมึนมาทาบทับ แล้วมีออร่าอำมหิตแผ่กระจายยังไงก็ไม่รู้

   หันไปอีกทีพี่ธาราก็มายืนซ้อนทับแล้ววางมือบนไหล่ผมคล้ายกับแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผมซะแล้ว

   อะไรของไอ้ยักษ์ขี้ตู่นี่อีกแล้ว...ผมล่ะไม่เข้าใจ  ใจคอเขากะจะแยกเขี้ยวใส่ทุกคนที่เข้าใกล้ผมเลยรึยังไง

   สายตาคู่ดำสนิทจ้องมองไปยังผู้ว่าจ้างของพ่ออย่างไม่วางตา นัยน์ตาคมแสดงออกถึงความไม่พอใจและไม่ไว้วางใจอีกฝ่าย

   ผมเงยหน้าขึ้นไปมองพี่ธารา ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวก็กำลังจ้องหน้ากับคุณวาลีไม่วางตา ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรซะด้วย

   นี่พ่อผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลย...แต่พี่เขานี่ออกตัวแรงกว่าพ่อผมอีก

   “ดูแล้วน้องมณีน่าจะมีแววทางด้านการแสดงนะครับ ผมว่าน้องน่าจะลองหันมาเอาดีทางด้านการแสดงดู”

   มันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่รึไง จะไม่ให้ผมถนัดการแสดงได้ยังไง ในเมื่อผมคลุกคลีอยู่กับเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ว่าทำไมเขาต้องพูดเรื่องนี้ขึ้นมาด้วย

   “อันนั้นก็เห็นกันอยู่หรอก แต่ตอนนี้มณีมันเรียนอยู่ พ่อก็อยากให้สนใจแต่เรื่องเรียนมากกว่า ถ้าทำอย่างอื่นกลัวว่าจะเสียการเรียนเอาได้”

   “ไม่หรอกครับ ดาราตังหลายคนเขาก็เรียนไปด้วย รับงานแสดงไปด้วย ผมร้อยละร้อยก็ประสบความสำเร็จนะครับคุณสุทัศน์”

   ดูท่าเขาคงกำลังเกลี้ยกล่อมพ่ออยู่...ว่าแต่ทำไมเขาต้องมาเกลี้ยกล่อมพ่อด้วยล่ะ

   ถึงผมจะหล่อจะดูดี แต่ก็ไม่ได้น่าสนใจขนาดเห็นปุ๊บจะต้องสนใจปั๊บนี่นา

   “เออ เรื่องนี้พ่อเองก็ไม่ค่อยรู้หรอก แต่เรื่องแบบนี้พ่อเองก็ตัดสินใจแทนมณีมันไม่ได้หรอก ต้องให้เจ้าตัวเขาตัดสินใจเอาเองว่าสนใจรึเปล่า”

   อ่าวพ่อ!!โยนมาให้ผมเฉยเลย

   แต่ว่าก็ดีแล้ว ดูจากท่าทาง ดูท่าคุณวาลีอะไรของพ่อเนี่ย ท่าทางจะโน้มน้าวใจเก่งพูดเก่งน่าดู ทำเอาพ่อเคลิ้มจนยิ้มไม่หุบแล้ว
   ดีที่พ่อยังเคารพการตัดสินใจของผมอยู่บ้าง ถึงจะปรายตามามองอยู่บ้างแล้วทำให้ผมเกร็งๆก็เถอะ

   “น้องมณีสนใจจะเข้าวงการไหมครับ พี่คิดว่าบางทีน้องมณีอาจจะเป็นที่รู้จักของผู้คนด้วยการแสดงนาฏศิลป์ที่น้องมณีถนัด คุณสุทัศน์ว่ายังไงล่ะครับ ถ้าหากว่าผมจะดึงน้องมณีไปลองแคสงาน เพื่อที่จะได้เอาศิลปะดั้งเดิมไปเผยแพร่”คุณวารีพูดพลางหันไปขอความเห็นจากพ่อ

   มีเหรอที่คนอย่างพ่อที่รักในเรื่องที่ทำสืบทอดกันมาจะไม่สนใจ ขานี่เขายิ่งอวยง่ายอยู่
   ยิ่งไปยกเขาเขาก็ลอยสิเออ

   “จะว่าอย่างที่พ่อว่าลีพูดพ่อก็เห็นด้วย เด็กสมัยนี้มันแทบจะไม่รู้จักการร้องรำของสมัยก่อน พ่อเองก็อยากให้ศิลปะของเราเราเผยแพร่ให้คนรู้จักกันทั่ว”

   พอเขาโน้มน้าวเข้าหน่อยก็เอาใหญ่เชียวนะพ่อ ดูท่า อีกฝ่ายท่าจะพูดโน้มน้าวได้เก่งกว่าพี่ธาราเสียอีก

   ว่าแต่พูดถึงพี่ธารา...ผมก็ลืมไปว่าเจ้าตัวกำลังยืนซ้อนหลังวางมือไว้บนไหล่ผมอยู่

   ก็แล้วทำไมต้องมายืนซ้อนทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผมด้วย

   “แล้วพ่อธาราล่ะ ว่ายังไง พ่อเองก็ไม่มั่นใจหรอกนะว่าจะตัดสินใจยังไง ใจหนึ่งก็อยากให้วนใจแต่เรื่องเรียน ในฐานะที่พ่อธาราเรียนอยู่คณะเดียวกัน พ่อธาราว่ายังไงดี”พ่อหันมาถามความเห็นพี่ธารา

   แทนที่จะถามความเห็นจากผมนะพ่อ...นี่ตกลงใครลูกพ่อกันแน่ ผมล่ะไม่เข้าใจ

   นี่ตกลงพ่อรับพี่ธาราเขาเป็นลูกแล้วใช่ไหมพ่อ...

   ผมได้แต่ยิ้มแหยๆให้กับสายตาคู่คมกริบที่มองมาที่ผม

   “ถ้าถามผมในฐานะรุ่นพี่ของน้องมณี ผมเองก็คิดว่าอยากให้น้องเขาสนใจแต่เรื่องเรียนมากกว่า เพราะว่าบางวิชาน้องเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจแล้วเอามาให้ผมติมอยู่บ่อยครั้ง ถ้าหากว่าคุณพ่อให้น้องมณีเข้าวงการ วันข้างหน้าน้องอาจจะไม่มีเวลาพอจะใส่ใจเรื่องการเรียนแล้วจะพาให้การเรียนแย่นะครับ”

   แล้วผมไปไม่เข้าใจเรื่องเรียนตอนไหน แล้วเมื่อไรที่ผมให้พี่เขาติวให้

   อะไรของพี่เขาเนี่ย...นี่ใจคอพี่เขาจะไม่เลิกนิสัยขี้ตู่บ้างรึไง อยากจะบ้าตาย

   แต่ละคน

   พ่อก็อวยง่ายเหลือเกิน ส่วนพี่ธาราก็ขี้ตู่ ยิ่งคุณวาลีอะไรของพ่ออีก พูดเก่งเสียเหลือเกิน ทำเอาพ่อนี่เคลิ้มตาม

   ถึงพี่ธาราจะช่วยเบรก หรือสกัดก็ไม่แน่ใจ แต่มันก็เกินไปแล้ว ผมไม่ได้เรียนแย่ขนาดนั้น

   มีแค่เรียนไม่ทันคนอื่นตรงที่เอาเวลาไปคิดกับเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นต่างหาก

   “นั่นสิ พ่อเองก็คิดเหมือนพ่อธารา อยากจะให้เจ้ามณีมันสนใจแต่เรื่องเรียน ลำพังมันก็ยิ่งเซ่อๆซ่าๆป้ำๆเป๋อๆลำบากให้พ่อธาราคอยช่วยเหลือตลอด เลยไม่ค่อยจะมั่นใจสักเท่าไร”

   พ่อพูดเหมือนจะอวยผมรึว่าอย่างไร ทำไมมันเหมือนทำให้ลูกพ่อดูเป็นตัวอะไรไปเลย

   ว่าแต่...นี่ตกลงว่าไม่มีใครสนใจจะถามความคิดเห็นผมเลยเหรอ คุยข้ามหัวผมกันไปมาเนี่ย

   “เรื่องเรียนผมว่าไม่น่าจะมีปัญหานะครับคุณสุทัศน์ เพราะว่าทางผมสามารถจัดการตารางเวลาเพื่อไม่ให้กระทบกับการเรียนของน้องได้ ผมว่าคุณพ่อน่าจะลองเอาไปคิดดูก่อน ผมเองก็อยากให้น้องเอาศิลปะเก่าแก่ไปนำเสนอให้คนทั่วไปได้รู้จักกันมากขึ้นนะครับ”ฝ่ายคุณวาลีของพ่อก็ไม่ยอมหยุดเหมือนกัน

   “แต่ถ้าทำอย่างนั้นเวลาพักผ่อนของน้องก็อาจจะไม่เพียงพอแล้วกระทบต่อสุขภาพของน้องนะครับคุณพ่อ”พี่ธาราแย้ง
   แล้วหันไปจ้องตาตอบกับคุณวาลี

   ตกลงสองคนนี้อะไรกัน จะไม่อมกันเลยใช่ไหมเนี่ย...จะมีใครถามความคิดเห็นผมบ้าง

   ใจคอชีวิตวัยรุ่นของผมจะตัดสินใจอะไรเองบ้างไม่ได้เลยรึยังไง

   “นั่นสินะ แล้วเอ็งล่ะจะว่ายังไงมณี”พ่อเออออกับพี่ธาราแล้วหันมาถามผม

   นี่พ่อเพิ่งจะรับรู้ได้เหรอว่าลูกตัวเองยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้

   “ผม ว่าผม ยังไม่แน่ใจ”ผมตอบไป

   ไม่ใช่อะไรหรอก ก็ไอ้สายตาคมกริบของพ่อวาลีของพ่อท่านมองมาที่ผมอย่างกับคาดหวังยังไงยังงั้น

   ทำเอาผมปฏิเสธไม่ลงเลย

   “ถ้ายังไงแล้ว ถ้าน้องมณีสนใจก็ติดต่อไปที่ผมก็ได้ครับ นี่ครับนามบัตรผม”คุณวาลีพูดตัดบทพลางปรายตามองไปทางพี่ธาราเพราะกลัวว่าจะโดนแย้งอะไรขึ้นมาอีก

   “เออ งั้นจะลองคิดดูก่อนแล้วกัน”พ่อรับมาก่อนจะยัดมันใส่กระเป๋าเสื้อ

   “นี่ครับน้องมณี อันนี้เป็นเบอร์ส่วนตัวพี่เลย ถ้าสนใจยังไงก็โทรมาหาพี่ได้ตลอดเวลานะครับ”

   ไม่พูดเปล่า เจ้าตัวยังคะยั้นคะยอยัดนามบัตรใส่มือผมอีก

   จะว่าผมเซ่อๆซ่าๆแบบที่พ่อว่าตอนนี้ผมก็ยอมรับเลย เพราะว่าผมกำลังยืนนิ่งอึ้งให้คุณวาลีเขายัดเอานามบัตรใส่มือมาเรียบร้อยแล้ว

   ทำอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากยืนมองพ่อกับคุณวาลีเดินออกไปจากโรงซ้อม

   ทิ้งให้ผมอยู่กับพี่ยักษ์ขี้ตู่สองต่อสองอีกแล้ว

   นี่ใจคอจะไม่ให้ผมคิดเองกันบ้างรึยังไง คนพวกนี้

   ทำไมชีวิตวัยรุ่นของผมต้องเจอกับเรื่องชวนปวดหัวอยู่ตลอดก็ไม่รู้



   “แล้วพี่จะมาใกล้ผมทำไมเนี่ย”ผมว่าพลางหันไปบ่นคนตัวสูงที่ยังยืนซ้อนหลังผมไม่ยอมถอยออกไปสักที

   “เจ้าเขินข้าอย่างนั้นรึ”พี่ธาราก้มลงมากระซิบข้างหูทำเอาหูผมร้อนวาบวาบเพราะลมหายใจร้อนๆทันที

   “อะ อะไรของพี่ ผมเปล่าเขนสักหน่อย แค่...แค่ไม่ชินเวลาคนอื่นอยู่ใกล้ๆต่างหาก”ผมก็ว่าไป

   ไม่ใช่ไม่ชินอะไรหรอก แค่มันระแวง กลัวว่าจะโดนเข้าข้างหลังไม่รู้ตัวต่างหาก


   พอนึกถึงเรื่องนี้แล้วก็นึกถึงพี่อเลนขึ้นมาเลย
   ภาพมันยังติดตาผมไม่หายเลย เจ้าดุ้นใหญ่ยักษ์นั่น นึกไม่ถึงว่าบอบบางอย่างพี่เขาจะใหญ่ปานนั้น แค่คิดก็ขนลุกไปทั้งตัวแล้ว

   ถ้าหากวันนั้นผมพลาดท่าแล้วพี่ธาราไม่มาช่วยขึ้นมา ผมคงจะเดินไม่ได้อีกหลายวันถ้าหากโดนเข้าไป

   
   “เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่อย่างนั้นรึ”พี่ธาราถาม พร้อมกับแรงกดจมูกลงมาบนหัวของผม

   อย่าบอกนะว่าพี่เขาแอบดมผมผมอยู่น่ะ นี่ผมยังไม่ได้สระมาสองวันแล้วนะ

   “ปะ เปล่าคิดสักหน่อย แล้วพี่จะมาใกล้ผมอะไรนักหนาเนี่ย”ผมว่าพร้อมหันไปกะจะชี้หน้าด่าสักหน่อยข้อหาแอบลักลอบดมหัวเหม็นๆ

   แต่ใจเจ้ากรรมเหมือนกับโดนแกล้ง

   จมูกของผมดันไปจิ้มโดนเอาคางพี่ธาราในระยะประชิด ทำเอาผมถอยกรูดออกมาแทบไม่ทัน

   “พี่ จะยื่นหน้ามาทำไมเล่า”ผมว่าพลางลูบจมูกแก้เขินแล้วหลุบตาลงหนีดวงตาคมกริบที่จ้องมองมา

   รู้สึกว่าหน้ามันร้อนๆยังไงก็ไม่รู้

   “เจ้าเองที่หันมาชนข้า”

   “เออ นั่นแหละ แล้วพี่จะมาใกล้ผมทำไมล่ะ ดูสิ ผมเกือบชนหน้าพี่เลย นี่หน้าผมเอาไว้ทำมาหากินนะเนี่ย ดูสิยังไม่ทันไรก็มีแมวมองมาทาบทามซะแล้ว”

   ผมพูดพร้อมกอดยกยืดทันที

   จะว่าไปเรื่องทาบทามเข้าวงการอะไรนั่นผมก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก เพราะว่าหากเข้าวงการอะไรนั่นจริงๆเวลาส่วนตัวของผมคงหมดไป

   แล้วคราวนี้ชีวิตวัยรุ่นจ๊าบๆของผมก็จะหายไปในทันที

   แต่อีกใจก็อดเห็นใจพ่อไม่ได้ รู้อยู่ว่าพ่ออยากจะให้คนรู้จักสิ่งที่สืบทอดกันมายาวนานตั้งแต่รุ่นปู่ทวดของปู่ทวดที่นับลำดับยังไม่ถูก

   แต่ถ้าจะให้ทำงานกับคนที่พูดจาโน้มน้าวคนเก่งแบบนั้น แล้วท่าทางเจ้าเล่ห์ไม่น่าไว้ใจ ผมเองก็รู้สึกไม่สบายใจ แล้วก็คงอึดอัดน่าดู



      “แล้วทำไมพี่ต้องมาเฝ้าผมด้วย...บ้านช่องไม่กลับรึไง”ผมอดค่อนขอดไม่ได้เมื่อเราเงียบกันไปสักพักเพราะพี่ธาราไม่ตอบอะไร

   “อีกไม่กี่เพลาสิ่งที่ข้ารอคอยก็จะมาถึง ข้าจะไม่ปล่อยให้บรรดาเมียในอดีตชาติของเจ้ามาขัดขวางหรอก”พี่ธาราบอกเสียงเรียบ
   บรรดาเมียๆเหรอ...ก็คิดอยู่หลอกว่าคุณว่าลีอาจจะเป็นหนึ่งในบรรดาเมียที่มาจากชาติที่แล้ว

   แต่ว่า ถึงท่าทางเขาจะดูสุขุม น่าเชื่อถือ แต่ดูจากภายนอกแล้วอายุก็ไม่น่าจะต่ำกว่าสามสิบเลย

   แล้วเขาจะใช่หนึ่งในเมียของพระอภัยมณีในชาติก่อนจริงรึเปล่า

   แล้วที่พี่ธาราพูดมันหมายความว่ายังไง ว่าอีกไม่นานส่งที่รอคอยก็กำลังจะมาถึง

   ยิ่งผมรับรู้เรื่องราวแปลกๆนี่มากเท่าไร ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าผมไม่เข้าใจมากเท่านั้น

   “พี่คิดว่าพี่จะมีลูกกับผมได้จริงๆเหรอ”

   “ได้สิ เจ้ากังวลเรื่องอะไรกัน”

   “เปล่ากังวลสักหน่อย ผมแค่ไม่คิดว่าผมจะท้องได้ อีกอย่าง ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าผมจะยอมทำตามที่พี่พูดน่ะ พี่ยังจีบผมไม่ถึงไหนเลยด้วยซ้ำ”ผมพูดปนหัวเราะ

   พลางเชิดหน้าขึ้นเหมือนจะเยาะเย้ย ถึงในใจลึกๆจะเริ่มรู้สึกว่าเวลาที่อยู่กับพี่ธาราไม่อึดอัดเหมือนครั้งก่อนๆก็เถอะ

   ถ้าไม่นับรวมในคืนวันเพ็ญที่พี่เขาเกือบจะยิงประตูผมเอา

   “ข้ามั่นใจว่าใจเจ้าไปไหนไม่รอดหรอก นอกจากตกเป็นของข้า”พี่ธาราพูดพร้อมกับยิ้ม

   ดวงตาคู่ดำสนิทฉายแวววิบวับทำเอาผมรู้สึกใจสั่นในประโยคที่เขาพูดออกมา

   ใจของผมจะต้องเป็นของเขาอย่างนั้นเหรอ...นี่พี่เขาไปเอาความมั่นใจนี่มาจากไหน

   แต่ว่าทำไมผมร้องรู้สึกว่าเหมือนถูกสารภาพรักยังไงยังงั้น

   “ผมไปดีกว่า...หิวข้าวแล้ว ไม่รู้ว่าแม่ทำอะไรไว้รอ พี่เองก็กลับบ้านไปได้แล้ว อยู่นานเดี๋ยวพ่อแม่ผมจะหลงผิดคิดว่ายักษ์อย่างพี่เป็นลูกอีกคนเอา”

   ผมว่าพลางโบ้ยมือใส่แก้เก้อ ไม่อยากจะยอมรับว่าใจกำลังเต้นแรง

   “เดี๋ยวก่อน”

   “อะไรอีกล่ะ ผมหิวแล้ว”ผมหันไปมองหน้า

   “เจ้าไม่จำเป็นต้องใช่สิ่งนี้ มันจะนำพาความวุ่นวายมาสู้เจ้าอีก”

   พอพี่ธาราพูดจบ นามบัตรที่อยู่ในมือของผมก็ถูกดึงไปโดยที่ผมเองก็ไม่ทันได้แย้งอะไรเลยสักนิด

   นี่ตกลงผมมีพ่อเพิ่มมากอีกคนใช่ไหม

   “อะไรของพี่เนี่ย จะดึงของจากมือคนอื่นมันเสียมารยาทน่า ยักษ์เขาไม่ได้สอนมารยาทกันรึไง”

   ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ผมก็ดันยอมเอาง่ายๆซะได้
   

   
   “นี่ ผมบอกแล้วไงว่ากลับบ้านไปได้แล้ว จะเดินตามผมมาทำไม”

   ผมออกปากไล่ยักษ์ตัวใหญ่ที่เดินตามผมมาจากโรงซ้อมจนจะถึงบ้านอยู่แล้ว

   “แม่เจ้าชวนข้ากินมื้อเย็นด้วย”ที่ธาราตอบพลางยิ้ม

   ยิ้มที่ผมรู้สึกว่ามันกวนประสาท

   “แล้วเรื่องอะไรพี่จะต้องมาประจบพ่อแม่ผมด้วย แค่นี้เขาก็จะลืมว่าผมเป็นลูกอยู่แล้ว”

   “ข้าเปล่าประจบ ข้าแค่ทำความรู้จักต่างหาก แค่จันทร์เพ็ญ เจ้าก็จักเมียข้า ข้าต้องรีบตีสนิทกับพ่อแม่ของเจ้า”

   พี่ธาราพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ทำเอาผมแทบจะตาถลนหลุดออกจากเข้าทีเดียว

   จันทร์เพ็ญเดียว เมื่อคืนเป็นคืนเดือนมืด งั้นก็อีกสิบสี่วัน ถึงจะถึงคืนเพ็ญอีกรอบ                        

            แล้วคืนเพ็ญเดือยอ้ายใช่ไหมที่พี่ธาราบอกว่าจะทำลูกกับผม

   สิบสี่วันก็สองอาทิตย์

   เวลาอะไรมันจะผ่านไปไวขนาดนั้น

   “เดี๋ยวสิ พี่ แต่...ผมยังไม่ได้ชอบพี่ยังไม่ได้อะไรพี่เลย”ผมแย้ง...ถึงแม้ว่าเขาจะเริ่มจีบผมแล้วก็เถอะ

   “ไม่ต้องกังวล ข้าจะทำให้ร่างกายเจ้าจดจำสัมผัสข้าได้เอง”

   จบคำพูดของพี่ธารา ผมก็ชะงักเท้าที่กำลังเดินย่ำสวนข้างบ้านทันทีแล้วหันไปมองหน้าพี่ธาราแบบอึ้งๆ

   ร่างกายจดจำสัมผัส...คืออะไร

   แล้วทำไมพี่ธาราต้องเดินเข้ามาใกล้จนชิดแบบนี้

   พี่จะทำอะไรผมมมมม

   นี่มันในบ้านผมนะ ถ้าบรรพบุรุษที่เขาเคยอยู่ในบ้านนี้รู้เข้าผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

   ในขณะที่ผมกำลังกระวนกระวายใจแต่ร่างกายแข็งทื่อนั่นเอง

   แขนแข็งแรงก็โอบเอาเอวผมคว้าเข้าไปหาตัวจนชิด

   ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรโน้มลงมาใกล้ ทำเอาใจผมนี่กระหน่ำรัวเป็นกลองในงานคอนเสิร์ตเลยทีเดียว

   “พะ พี่จะทำอะไรน่ะ”ผมว่าพลางยันอกแข็งๆของพี่ธาราไว้ไม่ให้เข้ามาใกล้ไปมากกว่านี้

   “ข้าก็กำลังทำให้ร่างกายเจ้าจกจำสัมผัสอย่างไร”พี่ธาราตอบพร้อมกับยิ้ม

   ยิ้มที่แทบจะกระชากวิญญานผมออกจากร่างพร้อมกับประโยคล่อแหลมที่หลุดออกมาจากปากอิ่มๆนั่น

   ใบหน้าคมคายของพี่ธาราก้มลงมาใกล้จนเกือบชิดทำให้ผมมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่ดำสนิท

   เอวผมถูกกระชับให้แน่นกว่าเก่าทำให้แนบชิดร่างกายเข้าหากันมากขึ้น หัวใจผมเต้นโครมครามอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

   พ่อแก้วแม่แก้ว ใจคอจะให้ลูกช้างถูกลวนลามในบ้านเลยเหรอเนี่ย

   ผมมองไปรอบรอบอย่างหวาดระแวง โชคดีที่ฤดูนี้ดอกพูดกำลังเบ่งบานเต็มที่จนบดบังทัศนียภาพโดยรอบพร้อมกับส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล
   มันเป็นเกราะกำบังสายตาได้ดีเลิศ แต่ว่า...เขาจะมาทำกับผมอย่างนี้ในบ้านผมไม่ได้นะเฮ้ย!!
   
   “ปะ ปล่อยผมได้แล้ว พี่จะกอดผมอีกนานไหม”ผมว่าพลางดันอกพี่ธาราออก

   “ข้าจะปล่อยเจ้าก็ต่อเมื่อข้าได้ลิ้มรสจูบจากเจ้าเสียก่อน”

   “อะ อะไรนะ จะจูบเหรอ พี่จะบ้าเหรอ  อื้อ”ผมยังไม่ทันโวยวายจบ ริมฝีปากพี่ธาราก็กดจูบลงมาบนปากผมเป็นการปิดปากทันที
   อารมณ์ไหนของเขา...แล้วทำไมเขาต้องมาจูบผมด้วย

   ร่างกายของผมสะดุ้งทันทีที่ลิ้นร้อนถูกกวาดต้อนเข้ามาในโพลงปาก ความอุ่นร้อนมันแผ่ซ่านไปทั้งร่างกาย

   นี่ผมกำลังเคลิ้มไปกับจูบครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้....เรื่องนี่มันไม่สำคัญเท่ากับผมกำลังจูบผู้ชายอยู่ในบ้านของตัวเองโดยที่ไม่ได้ขัดขืนอะไรเขามากมายเลย

   ความจริงผมน่าจะต่อพี่เขาไปสักหมัดสองหมัด หรือไม่ก็ปลักออกก็ยังดี แต่นี่อะไร ผมกลับยอมให้เขาจูบง่ายๆซะงั้น

   ถึงปากจะพูดมากความอย่างนั้นอย่างนี้ก็เถอะ

   ยังไงซะพี่ธารานี่ก็กำลังจ้องจะขุดเหมืองผมในอีกสองสัปดาห์อยู่รอมร่อ




   แต่แล้ว.....






   พ่อผมก็เดินย้อนกลับมาแล้วเห็นผมกับพี่ธาราจูบกันพอดี....




   อะไรมันจะวุ่นวายขนาดนี้...นี่ไม่ใช่ชีวิตวัยรุ่นที่ผมต้องการเลยสักนิดดดด!!


***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***

   คนเขียนจะเคืองแล้วนะเออ :m16: โน๊ตบุ๊คเจ็งต้องต่อเข้ากะทีวี ลำบากในการพิมพ์มาก ปกติก็พิมพ์ผิดเป็นอาจินแล้ว
นี่ยิ่งกว่าเก่าอีก เง้อ ยังไงก็อย่าลืมกำลังใจคนเขียนนะคร้าาา แบบว่าตอนที่แล้วอุตส่าห์ลงตั้งยี่สิบกว่าหน้า มีรีพลายตอบแค่หากรีพลาย ร้องให้เบาเบาเบยง่า แต่ยังไงก็ยังรักคนอ่านเหมือนเดิมน้าาา

ฝากเพจด้วยจ้า
แฟนเพจของโซอึนจ้า (https://www.facebook.com/ผู้หญิงบ้าวาย-543150342508084/timeline/)

มีแพลนจะซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่ด้วย ซื้อที่ไหนดี ใครพอจะแนะนำได้บ้างเอ่ย

หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย❤ [Mpreg] 11/10/58 [CH.13] ใกล้อีกนิดNEW
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 11-10-2015 06:45:22
พี่ธาราต้องรู้อยู่แล้วแน่เลยว่าคุณพ่อจะต้องเดินมา ^^
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย❤ [Mpreg] 11/10/58 [CH.13] ใกล้อีกนิดNEW
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 11-10-2015 11:55:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย❤ [Mpreg] 11/10/58 [CH.13] ใกล้อีกนิดNEW
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 11-10-2015 19:54:24
 :z10:แอบมาดัน
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย❤ [Mpreg] 11/10/58 [CH.13] ใกล้อีกนิดNEW
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 11-10-2015 21:18:08
 :hao7:พ่อมาเห็นนนน
ทำไงล่ะทีนี้
แย่แล้วมณีเอ้ย
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย❤ [Mpreg] 11/10/58 [CH.13] ใกล้อีกนิดNEW
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 11-10-2015 23:47:29
 :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย❤ [Mpreg] 11/10/58 [CH.13] ใกล้อีกนิดNEW
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 15-10-2015 01:18:58
 :katai4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 16/10/58 [CH.13] ชะตา / 2
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 16-10-2015 05:55:17
16842
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ชดใช้ครั้งที่ 13.2 ชะตา

   “รู้จักมณีมันมานานแค่ไหนแล้วล่ะ”พ่อถามเสียงเข้มหลังจากที่พวกเราต่างก็พากันนั่งเงียบมานานจนมีแต่ความเงียบเข้าปรกคลุม
   พ่อนั่งตรงโซฟาเดี่ยวที่อยู่อีกฝั่งตรงข้ามกับพี่ธาราโดยที่ผมกับแม่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวคั่นกลางท่ามกลางบรรยากาศที่น่าหดหู่เอามากมากสำหรับผม

   ผมปาดเหงื่อออกจากหน้าผากตัวเอง นึกอยากจะหายตัวได้เหมือพ่อดในหนังก็วันนี้ล่ะ

   ผมจ้องมองพี่ธาราสลับกับมองพ่อ ต่างฝ่ายต่างก็จ้องกันไม่วางตา โดยที่แม่เองก็เอื้อมมือไปจับมือพ่อเป็นเชิงบอกให้ใจเย็น ทั้งที่ตัวเองก็อยากจะรู้เรื่องอยู่เต็มแก่

   “เอ่อ พ่อ คือแบบว่า”ผมพยายามแทรกกลางคำถาที่ทะลุกลางป้องของพ่อก่อนที่พี่ธาราจะตอบคำถามในตามแบบฉบับของตัวเอง

   ใครจะไปรู้ว่าพ่อจะดันมาเห็นช๊อตเด็ดระหว่างผมกับพี่ธาราเข้าให้

   อยากจะบ้าตายก็วันนี้ล่ะ เกิดมาจะสิบเก้าปี เพิ่งไม่เคยเจอเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้มาก่อน

   “เอ็งไม่ต้องพูดอะไร พ่อไม่ได้ถามอะไรเอ็ง เอ็งอย่าพูดแทรก”

   พ่อหันมาเอ็ดทำเอาผมหดคอกลับแทบไม่ทัน ได้แต่นั่งหน้าจ๋อยมองหน้าของพี่ธารากับพ่อสลับกันไปมา

   “รู้จักน้องตั้งแต่น้องเข้าเรียนวันแรกครับ”พี่ธาราตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

   นิ่งได้อีก นี่ตกลงยักษ์มีอารมณ์กับเขาบ้างไหมเนี่ย ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยสักนิดว่ากำลังอยู่ในสถานะการณ์ไหน

   “งั้นก็พึ่งจะรู้จักกันแค่ไม่กี่เดือนน่ะสิ”พ่อย้ำ

   “ครับ”

   ผมอยากจะเข้าไปแทรกกลางแทบตาย ตอนนี้รู้ภายในห้องกำลังเข้าสู้สภาวะอึมครึมขั้นสมบูรณ์

   “แล้วไปคบกันตั้งแต่เมื่อไร คิดจะบอกผู้ใหญ่ให้รู้กันตอนไหน”

   “พ่อ!!มันไม่ใช่อย่างที่พ่อคิดนะพ่อ ผมไม่ได้”ผมแย้งทันที

   ใครบอกว่าผมกับพี่ธารา เราไม่ได้คบกันสักหน่อย อะไรของพ่อเนี่ย

   “พ่อบอกให้เอ็งเงียบไง เอ็งไม่ต้องพูด พ่อจะคุยกับพ่อธาราคนเดียว ส่วนเอ็งเอาไว้ทีหลัง”พ่อหันมาปรามพร้อมกับมือแม่อีกข้างที่เอื้อมมือมาจับแขนผมให้อยู่นิ่ง

   ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ รู้กว่าอึดอันจนไม่อยากจะนั่งอยู่ตรงนี้เลยสักนิด

   อีกอย่าง พี่ธาราที่เป็นตัวตันเหตุ แต่ไหงไม่ช่วยกันบ้าง เอาแต่นั่งเฉยอยู่ได้

   “ตามจริงผมก็จะบอกกับคุณพ่อกับคุณแม่วันนี้ครับ ส่วนทางฝ่ายผมผมคิดว่าถ้ามีโอกาสจะพาน้องมณีไปรู้จัก”
   ห่ะ!! อะไรนะ

   แล้ว ทำไมไอ้พี่ยักษ์ธาราถึงได้พูดอย่างนั้น…อะไรของพี่เขา พูดอย่างกับว่าเราคบกันเป็นแฟนเรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้วอย่างนั้น

   ผมก็เสียหายผมหมดสิ ไอ้ยักษ์บ้าเอ้ย

   อะไรของพี่เขาเนี่ย ผมอยากจะบ้าตาย ใครก็ได้เอาอะไรไปอุดปากพี่เขาที

   ถ้าจะพูดอย่างนี้ก็เงียบปากไปเถอะ ….อะไรดลใจให้เขาพูดแบบนี้เนี่ย

   ทำไมชีวิตวัยรุ่นมันถึงได้วุ่นวายขนาดนี้…ผมไม่ได้คบกับพี่ธาราสักหน่อย พ่อนี่ก็ทำหน้าตกใจซะพอพี่ธาราเขาพูดเป็นตุเป็นตะ
   ลูกพ่อไม่ได้นิยมขุดทองสักหน่อยพ่อ ฟังลูกพ่ออธิบายบ้างสิ

   “แล้วเป็นลูกเต้าเหล่าใครล่ะ พ่อแม่ทำอะไร บอกไว้ก่อนนะว่าพ่อไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่พ่อธารากับไอ้มณีมันทำอยู่น่ะ แต่จะให้กีดกันก็กระไรอยู่”

   “ครับผมเข้าใจส่วนเรื่องทางบ้าน พ่อแม่ของผมเสียแล้ว มีแค่คุณอาที่ดูแลผมมาตั้งแต่ยังเด็ก ที่บ้านผมเป็นเจ้าของสัมปทานรังนกนะครับแล้วก็มีหุ้นส่วนของรีสอร์ทที่ภูเก็ตกับที่อื่นอีกพอประมาณ”พี่ธาราตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่หยี่ระกับมาดเข้มเข้มของพ่อ

   แต่ถ้าพี่เขาจะช่วยเกรงกลัวและสลดสักนิดผมจะรู้สึกดีขึ้นกว่านี้เยอะ

   ประโยคของพี่ธาราบ่งบอกว่าโปรไฟล์ของเขาน่ะ โคตรดี..แต่วาจาของพี่เขาน่ะสิ พาลเอาคนที่บ้านผมเข้าใจกันผิดหมดแล้ว

   แล้วทำไมถึงได้ไปยอมรับกับพ่อแบบนั้นด้วย….. ผมไม่เข้าใจเลยจริงจริงว่า จะมีใครขี้ตู่เท่าพี่เขาบ้างไหม หรือว่าพวกยักษ์เนี่ยขี้ตู่เป็นชีวิตจิตใจกันอยู่แล้ว ทำไมถึงได้ยอมรับอะไรกันมั่วๆ

   “ถือว่าทางบ้านมีปัญหาอะไร แต่พ่อธาราคิดดีแล้วเหรอที่มายุ่งกับมณีมัน”

   อ่าวไหงพูดงั้นล่ะพ่อ พูดอย่างกับเตือนเขาว่ามายุ่งกับผมแล้วมันไม่ดี นี่ตกลงใครลูกพ่อผมหรือว่าพี่ธารา

   “ครับ ผมคิดดีแล้ว ความจริงผมชอบน้องเขาตั้งแต่เจอกันที่ชายหาดแล้วล่ะครับ แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้รู้จักอะไรกัน พอมาเจอน้องที่มหา’ลัยผมก็เลยเข้ามาทำความรู้จักกับน้อง”พี่ธาราตอบหน้าตาย

   ได้ข่าวว่าไอ้ที่พี่พูดมามันไม่จริงเลยสักนิด โอย ผมอยากจะบ้าตาย ทั้งพ่อที่ทำอย่างกับผมเป็นลูกสาวโดนผู้ชายมาสู่ขอ กับพี่ธาราที่พูดเอาเองเป็นตุเป็นตะ

   แม่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เอาแต่เงียบ

   นี่ตกลงผมเป็นส่วยเกินเป็นตัวแถม หรือเป็นอะไรเนี่ย ทำไมถึงไม่มีใครถามไถ่หรือสนใจที่จะฟังผมบ้างเลย

   “งั้นรึ แล้วคิดว่าจะทำยังไงต่อไปล่ะ ถ้าพ่อจะขอให้พ่อธาราเลิกยุ่งกับลูกพ่อ”พ่อถามเสียงเข้มพลางตีหน้านิ่ง

   คำถามพ่อโดนใจผมก็คราวนี้ล่ะ ลูกพ่อน่ะอยากจะเลิกยุ่งกับเขาจะแย่อยู่แล้ว ไอ้ที่เขามาหาเนี่ย ไม่ได้เชิญมาเลย มาเองล้วนๆ
   ถ้าไล่ไปง่ายง่ายอย่างที่พ่อคิดก็ดีน่ะสิ ผมคนนี้จะรำแก้บนริมหาดเลยเอ้า

   “ผมทำไม่ได้หรอกครับ ผมรู้สึกชอบน้องมณีจริงๆ ผมจะอยู่ข้างน้องมณีจนกว่าคุณพ่อจะยอมรับ”พี่ธาราตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นพร้อมกับจ้องตาพ่อ

   คำตอบนั่งก็ทำเอาใจผมสั่นไปวูบหนึ่งเลยทีเดียว ถึงจะไม่รู้ว่าพี่เขาพูดจริงรึเปล่า เพราะรู้สึกว่าพี่ท่านชอบพูดเองเออเอง

   แต่ว่า…พ่อผมก็ถึงกับนิ่งเงียบไปเลยเชียว อีกทั้งแม่ที่ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองอย่างตกใจ

   อะไรล่ะแม่ นี่เขาจะมายิงประตูลูกแม่อยู่มะรืนมะเรื่อง ไหงไม่พูดอะไรสักคำ ให้พ่อทำเข้มอยู่คนเดียว

   “แต่พ่อคงจะยอมให้พ่อธาราคบกับมณีมันไม่ได้หรอกนะ”

   “ครับ ผมเองก็ไม่ยอมเลิกคบกับน้องมณีเหมือนกัน”พี่ธาราตอบแทบจะทันทีที่พ่อพูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปพักใหญ่

   “เรื่องนี้มันได้อยู่กับการตัดสินใจของพ่อ พ่อรู้ว่าเรื่องนี้มันอาจจะเป็นเรื่องใหม่ที่ผู้ใหญ่อย่างพวกพ่อไม่เข้าใจ แต่เรื่องแบบมันก็ขึ้นอยู่กับตัวของมณีมันว่าจะเอายังไง ถ้าจะคบกันพ่อก็ไม่ห้าม แต่ก็ต้องอยู่ในขอบเขต”

   อ่าว แล้วไงพ่อถึงได้ยอมเขาง่ายๆล่ะ ขึ้นต้นมาซะดี อย่างกับหวงลูกนักหนา พอเขาบอกโปรไฟล์แบบพรีเมียมเข้าหน่อยล่ะยอมเขาเลย
   “พ่อ มันไม่ใช่อย่างที่พ่อคิดน่า พ่อกำลังเข้าใจผิดอยู่”ผมทนไม่ไหวแล้ว ที่จะฟังคนอื่นพูดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียว

   “พ่อบอกแล้วไงว่าไม่ต้องพูด เอ็งพาผู้ชายเข้าบ้านมาตั้งหลายรอบโดยที่พ่อไม่รู้เลยว่าพี่เขาเป็นแฟนเอ็ง ใจคอต้องให้พ่อแม่มารู้กันเอง เอ็งนี่มันน่านัก”

   จะแก้ตัวก็ดันกลายเป็นคนผิดซะงั้น…นี่ตกลงผมผิดใช่ไหมเนี่ยที่พาผู้ชายเข้าบ้าน

   นี่ตกลงใครลูกพ่อเนี่ย..ผมไม่เข้าใจเลยจริงจริง ไอ้การที่พูดแล้วไม่มีใครฟังเนี่ย มันช่างน่าเศร้าใจยิ่งนัก

   ชิตที่แล้วไม่น่ามีเมียเยอะเลย ชาตินี้ถึงได้อาภัพ ประตูหลังก็ถูกจ่อเตรียมรอยิง ไหนจะยังไม่มีใครสนใจที่พูดอีก ชีวิตหนอชีวิต เป็นไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นที่หดหู่เกินไปแล้ว


   หลังจากนั่นพ่อก็ตกลงอยู่กับพี่ธาราพักใหญ่เกี่ยวกับเรื่องที่ต้องคบกันโดยที่ต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่บ้าที่สุดในสามโลก

   นี่ผมกำลังถูกมัดมือชกให้คบหาดูใจกับยักษ์เพศผู้โดยที่พ่อแม่รับรู้ และคอยดูอยู่อย่างใกล้ชิด

   เรื่องบ้าบ้านี่มันยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เมื่อพ่อดันเออออตามพี่ธารา ที่พี่ท่านก็สรรหาคำพูดมาทำให้ตัวเองดูดีน่าเชื่อถือจนพ่อรู้สึกว่าจะหายข้องใจที่พี่ธาราย่องจะมาโจมตีประตูหลังผม

   รวมทั้งแม่ด้วยที่ดูจะชอบอกชอบใจว่าที่ลูกเขย?ที่ผมไม่ได้เต็มใจจะได้มาสักนิด

   อย่างผมต้องหาลูกสะใภ้สวยสวยให้แม่สิ แบบพี่อเลนก็ยังดี หากว่าพี่เขาไม่มีดุ้นล่ะนะ

   พอนึกถึงพี่อเลนแล้วก็ยังสยองไม่หาย หน้าตาสวยจนโลกตะลึง แต่ดันเป็นผู้ชายซะงั้น อยากจะบ้าตาย กับชีวิตของตัวเอง ที่ต้องเจอแต่เรื่องแปลกๆ



   แล้วมื้อเย็นจบลงด้วยดีโดยที่ทุกคนในบ้านต่างก็ทำความรู้จักด้วยการซักประวัติว่าที่ลูกเขยอย่างพี่ธาราจนละเอียดยิบ

   ถ้าจะถามละเอียดขนาดนั้น ไม่ถามพี่เขาไปล่ะว่าเป็นคนรึเปล่า พี่เขาจะได้ตอบว่าไม่ใช่ แต่เป็นยักษ์แทน

   ผมล่ะไม่เข้าใจพ่อแม่ ทำไมถึงยอมพี่เขาง่ายๆ ทั้งที่ผมก็เป็นผู้ชาย พี่เขาก็เป็นผู้ชาย

   ส่วนพี่ธาราช่างเป็นยักษ์ที่ร้ายกาจมากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา เพราะเคยเจอแค่ตัวเดียวเท่านั้น

    แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ไอ้ที่ร้ายนั่นมันไอ้เรื่องที่มโนเอาเองของพี่เขามากกว่า นอกจากเรื่องกิจการของครบครัวแล้วญาติพี่น้อง นอกนั้นรู้สึกว่าพี่เขาจะมโนภาพเองล้วนๆ

   ยิ่งน่ากลุ้มเข้าไปอีกก็อีกไม่กี่วันผมจะต้องเป็นแม่พันธุ์ปั๊มลูกให้พี่ธารา ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะจริงอย่างที่พี่เขาบอกรึเปล่า

   ผมจะมีลูกให้พี่เขาได้ไหม ในเมื่อผมเป็นผู้ชาย ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไรว่าผมจะมีลูกให้พี่ธาราได้

   ผมไม่รู้ว่าชาติที่แล้วผมได้สร้างกรรมอะไรไว้กับพี่ธาราหรือเปล่า ชาตินี้เขาถึงตามเข้ามาก้าวก่ายชีวิตผมขนาดนี้

   มันมากกว่าพี่อเลนที่เป็นนางละเวงในชาติที่แล้วซะอีก นั่นก็เป็นอีกเรื่องที่ผมสงสัย

   “คุณพ่อครับ ผมว่าจะขออนุญาตคุณพ่อกับคุณแม่พาน้องไปรู้จักกับคุณอาของผมน่ะครับ”พี่ธาราพูดขึ้นระหว่างที่มื้ออาหารจบลงตามด้วยของหวานอย่างบัวลอยน้ำขิงที่แม่ทำเตรียมเอาไว้

   “จะไปกันเมื่อไรล่ะ พ่อไม่ห้ามหรอกนะ แต่แค่บอกให้รับรู้ว่าไปไหนทำอะไรก็พอแล้วไม่ต้องขออนุญาตหรอก โตโตกันแล้ว”

   “ในวันหยุดยาวอีกสองอาทิตย์น่ะครับ ว่าจะค้างคืนด้วย เกรงว่าคุณพ่อจะห่วงน้องเลยมาขออนุญาตก่อน”พี่ธาราพูดด้วยถ้อยคำสุภาพ
   แต่ไอ้คำว่าสองอาทิตย์ที่ว่าทำเอาผมแทบตาถลนออกมา เม็ดบัวลอยแทบจะพุ่งออกทางรูจมูก

   ไอ้ช่วงเวลาที่พี่เขาว่านี่ใช่คืนเพ็ญเดือนยี่ที่พี่เขาบอกว่าจะปั๊มลูกกับผมใช่รึเปล่า
   พระเจ้าจ๊อด มันยอดมาก นี่ใจคอพี่เขาจะมัดมือชกผมไปถึงไหน แค่นี้ผมก็คิดเองเออเองไม่เป็นแล้ว ยังจะมาดึงเอาพ่อกับแม่เป็นผู้ร่วมอุดมการณ์อีก
   แล้วจะมีใครช่วยผมปกป้องประตูหลังของผมบ้างไหม



   แล้วมื้อเย็นก็จบลงด้วยความเจ็บแสบราวกับเยื่อพรหมจรรย์ประตูหลังของผมได้ฉีกขาดออกพร้อมกับสภาพจิตใจที่แสนจะห่อเหี่ยว
   ผมถูกบังคับให้ออกมาส่งพี่ธาราที่หน้ารั้วบ้าน

   “กลับดีดีล่ะ” ผมบอกเสียงเบาพอเป็นพิธีแล้วหันหลังกลับทันที

   ทั้งเคืองทั้งโกรธไอ้ยักษ์ขี้ตู่นี่ที่มันเอาแต่พูดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียวไม่ถามความเห็นผมเลยสักนิด

   มันน่าตบหัวให้ทิ่มสักรอบสองรอบถ้าไม่กลัวว่าพี่เขาจะมาจับผมกินซะก่อน

   “เดี๋ยวก่อน”พี่ธาราเรียกพร้อมกับฉุดแขนของผมดึงให้เข้าไปยืนตรงหน้าของเขา

   แต่มันชักจะชิดกันมากเกินไปแล้ว

   ลมหายใจร้อนร้อนของพี่ธารากำลังเป่ารดจมูกผมอยู่

   รสจูบเมื่อตอนบ่ายของพี่ธารายังติดอยู่ในความทรงจำของผมไม่จางหาย

    มันเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมด ทำให้ผมต้องตกอยู่ในสถานะที่ดิ้นไปไหนจากพี่เขาไม่ได้อีกแล้ว

   อดคิดไม่ได้ว่าเป็นเป็นแผนการของเขา แต่ก็คงจะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้วเมื่อพ่อแม่ก็ดันพร้อมใจกันยกลูกให้เขาง่ายๆ

   “มี อะไร”ผมถามเสียงเบา ก้มหน้าหนีจมูกโด่งที่รู้สึกว่ามันโน้มลงมาใกล้ยังไงก็ไม่รู้

   “ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่ไม่อยากให้เจ้าคิดมาก มันเป็นโชคชะตาที่เจ้าต้องเจอ”

   โชคชะตาเล่นตลกล่ะสิไม่ว่า ถึงได้ดลบันดาลให้ผมเป็นเมียยักษ์อย่างนี้

   “แล้วทำไมพี่ต้องมากอดผมด้วยเล่า ปล่อยผมน่า”ผมว่าเมื่อแขนพี่ธาราโอวเอวผมให้เข้าไปหา

   ใบหน้าของเราห่างกันแค่คืบจนผมนึกใจสั่นขึ้นมาหากว่าพี่เขาจะจูบผมอีกรอบล่ะก็

   อีกอย่าง นี่มันหน้าบ้าน โอกาสที่คนอื่นจะเห็นมันก็สูงทะลุเพดานซะด้วย เพราะช่วงเวลาหัวค่ำแบบนี้คนผ่านไปมาก็มีออกบ่อย

   “พ่อแม่เจ้าดูเราอยู่”พี่ธารากระซิบพร้อมกับเอาจมูกมาคลอเคลียกับหัวทุยทุยของผม

   ผมหันไปมองด้านหลังก็จริงอย่างที่พี่พูด พ่อกับแม่ยืนดูอยู่หน้าประตูบ้านไม่วางตาเลยทีเดียว

   กลัวว่าผมจะกระโดดกัดหูลูกเขยเขารึไงกันถึงได้ตามเฝ้ากันขนาดนี้

   “ก็แล้วจะกอดผมทำไมล่ะ อึดอึด”

   ผมก็ว่าไปนั่น แต่ใจมันก็สั่นๆเวลาที่มันอยู่ใกล้เกินไปก็เท่านั้น

   หลังจากที่พี่เขาไปช่วยผมจากการยิงสกอร์ของพี่อเลน ผมก็ถึงได้รู้ว่าเขาเฝ้าตามผมอยู่ตลอด

   สองรอบที่ถูกช่วยเอาไว้ทำให้ผมเริ่มรู้สึกว่าการที่อยู่ใกล้พี่ธารามันก็ไม่ได้แย่อะไรนัก เสียแค่ว่าพี่เขาจ้องจะเอาผมทำเมียแค่นั้นเอง

   “ข้าแค่เป็นห่วงเจ้า ไม่อยากทิ้งให้เจ้าอยู่ตามลำพัง”

   น้ำเสียงเบากระซิบข้างหูแทบทำเอาผมระทวย

   น้ำเสียงที่แสดงออกถึงความเป็นห่วง สั่นคลอนเอาหัวใจของผมหล่นวูบราวกับถูกกระชากเบาเบาจากมือที่มองไม่เห็น

   สายลมยามเย็นพัดผ่านโดยที่ผมยืนเยหน้ามองพี่ธารานิ่ง

   สายตาคู่สีดำสนิทจ้องมอมาที่ผมราวกับยืนยันว่าสิ่งที่พูดนั้นเป็นความจริง

   “อะ อะไรล่ะ พ่อแม่ก็อยู่ ไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อย อีกอย่า พี่อเลนเขาก็สัญญาแล้วว่าจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับผมอีก ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงหรอกน่า ไม่ใช่เด็กๆซะหน่อย”

   ผมดันอกพี่ธาราออก

   “ข้ามิได้ห่วงเรื่องนั้น การอโหสิทำให้กรรมของเจ้ากับเขาสิ้นสุดต่อกันแล้ว”

   “แล้วพี่จะห่วงอะไรผมอีก ดูแลตัวเองได้น่า”

   ผมว่าทำเก่งไปอย่างนั้น ทั้งที่จริงแล้วก็นึกกลัวเหมือนกันว่าจะมีใครโผล่มาเล่นงานผมตอนเผลอเอาอีก

   “ข้าไม่รู้หรอกว่าเช่นใดข้าจึงห่วงใยเจ้า เพียงแต่ข้าไม่อยากจะเสียเจ้าไปอีกเป็นครา”พี่ธาราบอกเสียงเบาพร้อมกับมือหนาเอื้อมมาประคองศีรษะของผมจากทางด้านหลัง

   จุมพิตแผ่วเบากดลงบนหน้าผากผม ชั่วครู่เดียวแต่รู้สึกว่ากลับยาวนานจนนับเวลาไม่ได้

   ความอบอุ่นมันแผ่ซ่านเข้าไปในใจ รู้สึกขึ้นมาทันทีว่าปลอดภัยเวลาที่อยู่ใกล้เขา




   ผมเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วทิ้งตัวลงกับเตียงนอนหลังเล็กของตัวเอง อุตส่าห์หลบเลี่ยงพ่อที่กำลังดูทีวีเดินขึ้นห้องมาก่อนจะถูกถามอะไรให้มากความเพราะยังไม่พร้อมที่จะตอบ

   กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกมะลิยังคงอบอวลอยู่ภายในห้อง ผมหยิบชามที่พิมพ์ลวดลายสวยงามมาจากหัวเตียง

   พวงมาลัยที่ก่อนหน้าเคยสีขาวสะอาดตอนนี้กลับกลายเป็นสีเหลืองนวลแปรเปลี่ยนตามกาลเวลาแต่ยังคงกลิ่นคละคลุ้งเอาไว้

   ผมยกมันขึ้นมาดมอย่างชั่งใจในความหอมหวานของมันพาลหวนนึกถึงเจ้าของพวงมาลัยพวงหอมนี้

   ใบหน้าที่หล่อเหลาราวเทพบุตรแต่กลับเป็นยักษ์ที่ผู้คนต่างคิดว่าเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย

   แต่ความเป็นจริงกลับแตกต่าง ทั้งความเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวและความอ่อนโยนและอ่อนน้อมถ่อมตน อีกทั้งยังสุภาพ ถ้าไม่นับว่าเป็นพวกที่เผด็จการมัดมือชกและชอบสร้างเรื่อง พี่เขาก็นับว่าเป็นคนดีคนหนึ่งที่ไม่ได้เลวร้ายอะไร

   หากแต่ความเป็นเพศเดียวกันเท่านั้นที่ทำให้ผมกระดากอายที่จะยอมรับในตัวเขา หากว่าเขาเป็นผู้หญิง ผมคงจะยินยอมพร้อมใจสานต่อความสัมพันธ์ที่ถูกหยิบยื่นมาตั้งนานแล้ว

   
   นานพอดูที่ผมสูดเอากลิ่นหอมของของดูต่างหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของพี่ธาราก่อนจะเก็บวางมันไว้ในชามแก้วบนหัวเตียง

   สายตาสะดุดเอาหนังสือเล่มเก่าที่ยืมมาจากห้องสมุดนานร่วมเดือนยังไม่ได้ไปคืนเขาสักที

   ดูท่าผมจะยืมมันมานานเกินไปแล้ว คงต้องเอาไปคืนสักที

   แต่ก่อนคืนความสงสัยอีกอย่างที่ผมสงสัยอยู่ตลอดทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะเอื้อมหยิบหนังสือเล่นหนานั่นมา

   พระอภัยมณี

   เรื่องราวที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผมมันวุ่นวาย

   ผลกรรมแต่ชาติปางก่อนที่ได้สร้างเอาไว้

   แต่สิ่งเดียวที่ผมอยากรู้คือ เรื่องราวเกี่ยวกับพี่ธารา อยากจะรู้ว่าพี่ธารามีตัวตนอย่างไรในครั้งอดีต ทำไมผมถึงต้องมาเจอกับเขาในชาตินี้
   และทำไมผมถึงต้องมีลูกกับเขา สิ่งที่ได้ฟังมาคือพี่ธาราต้องการจะให้ผมมีลูกให้เขา เพื่อที่จะเอาลูกแก้วอะไรสักอย่าง

   เกี่ยวกับชีวิตที่เป็นอมตะของยักษ์ทุกตัว ซึ่งนั่นผมเองก็ไม่เข้าใจ ถึงจะไม่เห็นด้วยในสิ่งที่พี่ธาราบอกว่าผมจะต้องมีลูกกับเขา

   ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ผู้ชายอย่าผมจะท้องหรือว่ามีลูกก็ตาม

   แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะสิ่งที่ผมทำในชาติที่แล้วชิตนี้ผมถึงต้องมาแก้ไขมันเพื่อให้มันได้จบสิ้นลง

   นานจนค่อนคืนที่ผมเปิดหนังสือดูคร่าวๆมองแต่ละหน้าไปแบบผ่านๆ

   แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีหน้าไปที่มีชื่อของพี่ธาราหรือว่าระบุว่าเขามีตัวตนอยู่ในเรื่องนี้เลย

   ความสงสัยยิ่งทวีมากขึ้นเมื่อจบเล่มแล้วก็ยังไม่ปรากฏสิ่งที่บอกถึงตัวตนของเขา

   แล้วตกลงเขาคือใคร?

   ในเมื่อในเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรที่บ่งบอกเลยว่าพี่เขาเกี่ยวข้องอะไรกับผมในชาติที่แล้ว

   หรือว่าผมจะถูกหลอก เขาเป็นยักษ์ก็จริง แต่ไม่มีอะไรมาบ่งบอกว่าผมกับพี่ธาราเคยรู้จักกันหรือว่ามีกรรมต่อกันเมื่อชาติที่แล้ว

   แล้วพี่เขาคือใคร จุดประสงค์ที่พี่เขาเข้ามาในชีวิตของผมเพียงเพื่อให้ผมมีลูกให้กับเขาแค่นั้นเหรอ

   
   “พี่ธารา ท่านไปแห่งหนใดมาในคืนเพ็ญ ท่านรู้ไหมว่าเกิดสิ่งใดขึ้น”อภัยมณีค่อนขอดทันทีที่ชายหนุ่มร่างกำยำเจ้าของนามที่คิดถึงตลอดคืนที่ผ่านมาเดินเข้ามาภายในถ้ำ

   “เจ้าคิดถึงข้าเช่นนั้นหรือ”ใบหน้าหล่อเหลาแสยะยิ้มอย่างหยอกล้อ

   “ข้ามิได้คิดถึงท่านสักหน่อย เพียงแต่เมื่อคืนเพ็ญนางผีเสื้อน้องท่านเกือบจะข่มเหงจิตใจข้าแทบจนสิ้นไร้ไม้ตอก”อภัยมณีบอกด้วยสีหน้าโกรธเคืองที่อีกฝ่ายที่คอยอยู่เคียงข้างได้หนีหายไปในทุกคืนพระจันทร์เต็มดวง ทิ้งให้เขาต้องอยู่กับนางยักษ์ที่คอยแต่จะเข้าใกล้เขาจนน่ารำคาญ

   “ข้าขอโทษที่ทำให้เจ่าต้องถูกข่มเหงน้ำใจเช่นนี้ เพียงแต่มันจะดีกว่าหากว่าข้าอยู่ห่างจากเจ้าในคืนเพ็ญ”

   “แล้วเช่นใดพี่ต้องหายไปในทุกคืนเพ็ญด้วยเล่า ข้าไม่เข้าใจเลยพี่ธารา”อภัยมณีกอดอกขยับตัวหนีร่างสูงใหญ่ที่นั่งลงบนริมขอบเตียงข้างๆ

   “ข้ามีเหตุผลที่สามารถบอกเจ้าใด ไม่ใช่ข้าไม่ห่วงเจ้า เพียงแต่ข้าอยากให้เจ้าปลอดภัย”ธาราสมุทรกระซิบเสียงเบาก่อนจะเคลื่อนตัวไปเคียงข้างร่างสูงโปร่งของอีกคนที่กำลังเคืองโกรธเขาไม่หาย

    มือใหญ่เกลี่ยเอาปอยผมที่ยาวละบ่าทัดกับหูแดงเรื่อเผยให้เห็นใบหน้าขาวสะอาดเชื้อสายผู้สูงศักดิ์

   “ข้าเหงาเหลือเกินพี่ธารา ยามไม่มีท่านอยู่ข้างกายข้าก็อยากจะกลับบ้านเมืองข้าอยู่ทุกครา”

   อภัยมณีหันมาบอกด้วยสายตาเว้าวอน หลายครั้งหลายเวลาที่ร้องขอให้อีกฝ่ายพาหนี หากแต่ถูกปฏิเสธอยู่ทุกครั้งไป

   “ข้าก้าวก่ายเรื่องชีวิตของใครไม่ได้ มันเป็นกฎเกณฑ์ที่ถูกตั้งขึ้นมาแต่กาลก่อน”รวมถึงการแย่งคู่ครองหรือการเป็นชู้ก็เช่นกัน

   สิ่งนั้นเขาย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ หากแต่ก็ไม่สามารถหักห้าใจให้ละสายตาไปจากไปหน้างดงามนี้ได้ยากนัก

   เสียงเพลงบรรเลงยามเหงาที่มักจะแอบฟังอยู่ด้านนอกทำให้เขาหลงใหลมันราวกับต้องมนต์

   ทำได้แต่เพียงแอบลอบเเวะเวียนเข้ามาหายมที่นางผีเสื้อสมุทรนั้นออกไปข้างนอก

   ส้มสูกลูกไม้ถูกหยิบติดมือมา หรือแม้กระทั่งอาหารคาวหวานที่ได้แปลงเป็นร่างมนุษย์เสาะหามาให้ไม่ขาด

   ความเสน่ห์หาแปรเปลี่ยนเป็นรักใคร่ภายในเวลาไม่นาน

   ครั้งแรกที่รู้ว่านางผีเสื้อสมุทรผู้เป็นน้องตั้งท้องกับอภัยมณีที่แอบรักหัวใจก็ราวกับสลายหายในในอากาศ

   หากแต่อีกฝ่ายนั้นยังไม่รู้ว่านางผีเสื้อสมุทรได้ตั้งท้องแล้ว มิเช่นนั้น จิตใจก็คงจะเปลี่ยนไปโดยง่าย


   “แล้ววันนี้ท่านมีสิ่งใดมาให้ข้าบ้าง”อภัยมณีหันมาถามอย่างใคร่รู้ รอยยิ้มบางถูกคลี่ออกในเวลาไม่นานจากที่บึ้งตึงก่อนหน้า

   “ข้ามีเขียวหวานกับมัสมั่นไก่ที่เจ้าชอบ คิดว่าเจ้าน่าจะอยากมัน”ธารายิ้มเมื่อเห็นว่าเจ้าของร่างสูงโปร่งนั้นหายโกรธเขาได้ไวกว่าที่เขาคิด
   คงจะเป็นเพราะกลิ่นเครื่องแกงหอมหวานที่ตลบอบอวลเป็นแน่


   ตาคู่ดำสนิทจ้องมองคนรักของผู้เป็นน้องกินอาหารที่สรรหามาให้อย่างเอร็ดอร่อย รอยยิ้มถูกแต่งแต้มบนใบหน้ารูปงามราวกับเทวดาที่ลงมาจุติ

   หากแต่เจอกันเร็วกว่านี้ คนคนนี้คงจะต้องตกเป็นของเขาจงได้ ผิดกับเวลานี้ ราวหับพลอยชั้นเลิศที่ไม่สามารถเอื้อมมือไปแตะต้องได้ทั้งที่มันอยู่ตรงหน้า

   กฎเกณฑ์ถูกตั้งมาเพื่อเป็นสิ่งต้องห้ามในการลักลอบหรือแย่งคู่กัน นั่นคือหนาวที่คอยทิ่มแทงใจ


   “พี่ธารา ท่านว่าจะมีวันไหมที่ข้าจะเป็นอิสระ”อภัยมณีถามพลางนั่งอิงแอบกับร่างสูงใหญ่ของธาราสมุทรอย่างสนิทชิดเชื้อ

   “ข้าตอบเจ้าไม่ได้”ธาราสมุทรตอบด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด

   หากว่าอภัยมณีได้อิสระจริง นางผีเสื้อสมุทรก็คงจะสิ้นอายุ แต่เมื่อถึงเวลานั้นเขาก็จะมีสิทธิที่จะเข้ามาเคียงคู่

   หากแต่มันคงจะเป็นไปไม่ได้เมื่ออภัยมณีนั้นเป็นมนุษย์

   มนุษย์นั้นการมีสัมพันธ์กับเพศเดียวกันถือว่าเป็นสิ่งต้องห้ามพอกับการห้ามคบชู้กันของยักษ์ หากแต่มนุษย์ สามารถมีคู่ครองได้เยอะตามที่ต้อการผิดกับยักษ์โดยสิ้นเชิง

   ธาราสมุทรคิดอย่างเจ็บปวดพลางจ้องมองเสี้ยวหน้าของผู้ที่กำลังอิงแอบกับร่างกายของตน

   หากว่าอภัยมณีรู้ว่าความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นนั้นมีสิ่งอื่นเคลือบแคลงอยู่ คงจะเคืองโกรธกันไม่น้อย


   “หากไม่มีพี่ธารา ข้าก็ไม่อยากอยู่ที่นี่หรอก กล้าทั้งกลัว ทั้งหวาดระแวงกลัวว่าวันใดวันหนึ่งนางจะจับข้ากิน”อภัยมณีพูดพลางเอนหัวลงบนไหล่ของยักษ์หนุ่ม

   “ข้ามั่นใจว่านางจะไม่มีวันกินเจ้า”

   “ทำไมท่านถึงได้มั่นใจนักว่านางจะไม่กินข้า ในเมื่อน้องท่านนางชอบกินเนื้อยิ่งนัก”

   “ยักษ์อย่างพวกเราไม่สามารถกลืนกินคู่ครองได้หรอกถึงแม้ว่าคู่ครองนั้นจะเป็นมนุษย์”

   “ทำไมถึงกินไม่ได้เล่า ในเมื่อข้าก็เคยได้ยินว่ายักษ์นั้นชอบเนื้อมนุษย์ยิ่งว่าเนื้ออะไร”

   “จริงอยู่ที่ยักษ์กินเนื้อมนุษย์ หากแต่ไม่สามารถกลืนกินคู่ครอง เพราะเมื่อใดที่คู่ครองสิ้นใจ ยักษ์ตนนั้นก็จักสิ้นใจตามในไม่ช้า”

   “ทำไมข้าไม่เคยได้รู้เรื่องราวนี้”อภัยมณีเงยหน้าถามด้วยใบหน้าใคร่ที่จะรับรู้

   “เป็นสิ่งที่ยักษ์อย่างพวกเราไม่อยากให้มนุษย์ที่คิดว่าเรามายุยืนยาวรู้กันสักเท่าไร”

   “แต่ข้าเคยได้ยินว่ายักษ์เป็นสิ่งมีชีวิตี่เป็นอมตะ”อภัยมณีแย้ง

   “ก่อนนั้นเผ่าพันธุ์ยักเป็นอมตะก็จริง หากแต่เวลานี้ ลูกแก้วที่เกิดจากการบำเพ็ญเพียรเป็นสิ่งกำหนดชะตากรรมของยักษ์ให้มีช่วงอายุขัย”

   “ลูกแก้วอะไรกัน ทำไมถึงดูน่าอัศจรรย์นัก”

   “เป็นลูกแก้วอายุราแห่งชีวิต ทำให้ชีวิตยักษ์จะยาวนานเพียงแค่สามร้อยปี ต่างจากนานนับอสงไขย”

   ธาราตอบพลางจ้องมองสิ่งที่อยู่ในมือนิ่ง พวงมาลัยสีขาวสะอาดตาที่ถูกถักร้อยด้วยมือของเจ้าของใบหน้าที่งดงาม

   กลิ่นหอมฟุ้งของดอกไม้ทำให้นึกถึงกลิ่นตัวที่ติดอยู่บนกายของอีกฝ่าย

   “เช่นนั้นถ้าลูกแก้วนั่นหายหรือถูกทำลายเล่า พวกท่านจะเป็นเช่นไร”

   “ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร เผ่าพันธุ์ยักษ์อาจจะสูญสิ้น หรือไม่ก็ไม่มีวันดับสูญ”

   ร่างสูงใหญ่ที่เป็นที่พิงกายของอภัยมณีในเวลานี้ถอนหายใจออกมา การมีชีวิตยาวนานเพื่อดูสัจธรรมที่ไม่มีที่สิ้นสุดไม่ใช่เรื่องดี

   ยิ่งต้องตกอยู่ในห้วงรักที่เต็มไปด้วยขวากหนามก็ยิ่งทรมานยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็น

   “แล้วลูกแก้วนั่นอยู่ที่ใดกันพี่ธารา ข้าชักอยากเห็นแล้วสิ”เสียงเจื้อยแจ้วถามขึ้นอย่างสนใจพร้อมกับคลึงเอาดอกมะลิที่บานแล้วไปมา

   “มันอยู่ในโพรงต้นไม้ใหญ่กลางเกาะแห่งนี้ ที่นั่นจะมีเขตอาคมทำให้ไม่มียักษ์หรือว่าเงือกตนใดเข้าไปใกล้ได้”

   “งั้นข้าก็เข้าไปได้น่ะสิ”

   “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกนว่าเจ้าจะเข้าใกล้มันได้หรือไม่ เพราะไม่เคยมีเรื่องราวที่บอกว่ามนุษย์นั่นเข้าไปในโพรงไม้นั่นไม่ได้”

   “งั้นหรอกรึ ข้าชักอยากจะเห็นมนแล้วสิพี่ธารา มันจะน่าอัศจรรย์สักแค่ไหนเชียว”อภัยมณีพูดก่อนจะหันมายิ้มให้คนฟัง

    หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นภายในความนึกขึ้นนั้นคือสิ่งที่จะกำหนดชะตากรรมของชีวิตหลายชีวิตที่กำลังจะเปลี่ยนไป   





=================================================================

ตอนหน้าไปบ้านพี่ธารากัน  ขอบคุณทุกคนที่ยังติตตามค่า
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 16/10/58 [CH.13] ชะตา / 2
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 16-10-2015 09:10:47
อย่าสงสัยในตัวของพี่ธาราเลยนะคะน้องมณี เพราะไม่ว่าจะเป็นตอนนี้หรือในอดีตพี่ธาราก็มีแต่ความหวังดีให้กับหนูจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 16/10/58 [CH.13] ชะตา / 2
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 16-10-2015 12:25:29
อยากให้ถึงวันเพ็ญเร็วๆ  :call:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 16/10/58 [CH.13] ชะตา / 2
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 16-10-2015 14:41:06
 o13
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 16/10/58 [CH.13] ชะตา / 2
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-10-2015 19:27:22
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 16/10/58 [CH.13] ชะตา / 2
เริ่มหัวข้อโดย: sirikanda28 ที่ 16-10-2015 20:15:16
พระอภัยไปขโมยลูกแก้ว
แน่เลย
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 16/10/58 [CH.13] ชะตา / 2
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-10-2015 20:25:29
อ่านรวดเดียว 5 ตอนสุขใจ ข้ามดราม่าที่ชื่อละเวงไปเลย

อาจจะดูเหมือนหายตัว แต่ความจริงแค่รอให้พ้นดราม่าเท่านั้นเอง  :bye2:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 16/10/58 [CH.13] ชะตา / 2
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 16-10-2015 21:30:43
มณีไปทำอะไรกะพี่ธาราไว้
แร้วพ่อแม่ก็ยกให้ง่ายๆเลย
หัวข้อ: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 17/10/58
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 17-10-2015 00:48:28
17338
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ครั้งที่ 14 ความจริง


   
   เช้านี้ผมมาเรียนโดยสารถีชั้นเลิศ จะเป็นใครได้ถ้าไม่ใช่ว่าที่ลูกเขยผู้แสนดีของพ่อกับแม่
   ผมยังเคืองไม่หายที่พ่อกับแม่ดันยอมให้พี่ธาราเอาง่ายๆ แถมไม่ฟังความจากผมอีก ไหนครั้งแรกพ่อบอกว่าแล้วแต่ผมจะตัดสินใจไง
   สุดทเยผมก็ไม่ได้พูดอะไรเลยอยู่ดี
   “มณี”เสียงเรียกทางกด้านหลังในระหว่างที่ผมจะเดินไปยังห้องสมุดเพราะวิชาแรกงดสอนผมเลยกะว่าจะเอาหนังสือที่ยืมมาร่วมเดือนแต่ใช้เวลาอ่านไม่กี่นาทีไปคืน
   ผมหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นหู แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นใคร ก็เจอเข้ากับร่างสูงโปร่งในชุดหนังศึกษาเขารูปพร้อมกับใบหน้าสวยหวานส่งยิ้มมาอย่างอ่อนโยน
   พี่อเลนคนงามคนเดิม ไม่เหมือนเดิมคือผมถอยห่างออกมาจากเขาก้าวหนึ่งโดยอัตโนมัติแล้วก้มลงไปมองตรงเป้าของพี่เขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
   ดูยังไงมันก็เหมือนผู้หญิงจนแยกไม่ออกอยู่ดี
   ว่าแต่ พี่เขาต้องการอะไรจากผมอีก  บอกไว้ก่อนว่าหน้าสวยสวยนั่นใช้ไม่ได้กับผมอีกแล้วนะเออ
   “พี่…มีอะไรกับผมรึเปล่า”ผมถามพลางมองพี่อเลนด้วยท่าทีที่หวาดหวาดระแวง
   “วางใจได้ พี่ไม่ทำอะไรมณีหรอก พี่แค่จะเอานี่มาคืน”
   พี่อเลนยื่นพวกกุญแจที่ห้อยกับตุ๊กตาหมียื่นมาให้….ผมลืมไปสนิทเลย
   รถมอเตอร์ไซจอดมันทิ้งไว้ที่บ้านพี่เขานี่หว่า ดีที่พ่อแม่ไม่เอะใจเพราะช่วงนี้พี่ธาราเสนอหน้า เอ้ย เสนอตัวมารับมาส่งผมโดยที่ผมไม่ได้ต้องการเลยสักนิด
   “ขอบคุณพี่มากครับ ผมนึกว่าทำหายไปแล้ว เอ่อ แล้วตอนนี้…รถผม”ผมกะจะถามถึงรถว่าอยู่ที่ไหนแต่มันก็กระดากใจ เหมือนกับไม่ค่อยจะกล้าคุยกับพี่เขาเท่าไร
   “อยู่ที่โรงรถคณะพี่น่ะ จะเอาเลยไหมล่ะ ได้เดินไปคุยไปด้วย พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับมณี”
   “ก็ได้ครับ”ผมตอบรับไป ความจริงผมเองก็มีเรื่องอยากจะถามพี่เขาเหมือนกัน
   เกี่ยวกับเรื่องเสน่ห์ที่พี่ธารากับพี่อเลนพูดถึงในคืนนั้น ผมมั่นใจว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับผม เพียงแต่เหมือนถูกปิดบังไม่ให้รับรู้
   ผมกับพี่อเลนเดินออกมาจากทางเดินคณะผมไปยังคณะบริหาร สายตาหลายคู่ก็ยังคงจับจ้องมองมาที่ผมกับพี่อเลนมากมายเหมือนเดิม
   แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเพราะว่าพี่อเลยเป็นคนที่จัดว่าสวยจนน่ามอง ถ้าไม่ติดว่าพี่เขาเป็นผู้ชายยล่ะก็
   ไม่รู้ว่าคนอื่นๆจะรู้กันบ้างไหมว่าผู้หญิงที่พวกเขามองอย่างหมายปองนั้นแท้จริงแล้วเป็นสาวดุ้น ที่ดุ้นใหญ่เอามาก  ใหญ่จนน่าขนลุกเลยเชียว
      “พี่ต้องขอโทษด้วยนะที่ทำไม่ดีกับมณี เพียงแต่พี่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี มันเหมือนกับมีอะไรบอกว่าการที่พี่เจอกับมณีมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”พี่อเลนพูดเสียงแผ่วแล้วหันมายิ้มบางให้ผม
   “ครับ สงสัยคงเป็นชะตาล่ะมั้ง”ผมยิ้มแหยๆ หยิบเอาคำที่พี่ธาราชอบใช้ขึ้นมาแอบอ้าง
   อาจจะเพราะไม่รู้ว่าจะคุยอะไร ความเหินห่างมันถูกตั้งขึ้นมาโดยที่ผมเองก็อดรู้สึกไม่ได้
   “โกรธพี่ไหม”เขาถามเสียงเบา ทำให้ผมหันไปมอง สีหน้าที่บ่งบอกถึงความรู้สึกผิดที่แท้จริงทำเอาผมนึกโกรธไม่ลง
   “ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย พี่ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก อีกอย่าง อย่างที่บอก มันคงเป็นโชคชะตาของผมกับพี่”
   ผมพูดออกไปอย่างที่ใจคิด
   มันคงเป็นโชคชะตาจริงๆ การที่พี่อเลนฝันถึงผมในทุกๆคืน และการที่ผมฝันถึงพี่อเลน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆสำหรับผม แต่บางครั้งผมก็สัมผัสได้ถึงความผูกพันที่เกิดขึ้น
   “น้องมณี..จะให้อภัยในสิ่งที่พี่ทำได้ไหม อย่าน้อยก็อย่าโกรธเกลียดพี่เลยนะ”พี่อเลนหยุดเดินแล้วันมาจ้องหน้าผม
   ดวงตาคมกริบสีอ่อนจ้องมองผมมาด้วยแววตาที่จริงจัง แต่ลึกๆแล้วผมก็เห็นความรู้สึกผิดที่ฉายอยู่ในแววตาคู่นั้น
   “ไม่ครับ ผมไม่คิดจะให้อภัยพี่”ผมตอบเสียงห้วน
   “งั้นหรอกเหรอ พี่คงจะทำเกินไปจริงๆ ทั้งเสน่ห์ทั้งเรื่องคืนนั้น”
   “ครับ ผมไม่ให้อภัยพี่ เพราะว่าผมไม่ได้โกรธเคืองอะไร อีกอย่างที่พี่ทำไปก็เพราะว่าพี่มีเหตุผลของพี่ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ผมไม่ติดใจอะไรหรอก มันสำคัญที่วันข้างหน้าเราจะทำอะไรหั้นดีขึ้นต่างหาก”ผมตอบทำให้พี่อเลนยิ้มออกมา
   “นั่นสินะ พี่คิดไม่ผิดเลยจริงๆว่ามณีต้องเป็นคนแบบนี้”คนแบบนี้มันคนแบบไหน
   เหมือนจะว่าผมเลยแฮะ
   “แล้วเสน่ห์ที่พี่บอกมันคืออะไร ผมเห็นพี่กับพี่ธาราพูดกัน แล้วเมื่อกี้พี่ก็พูดขึ้นมาอีก พี่พอจะบอกมได้ไหม ทำไมไม่มีใครบอกอะไรผมเลย”
   “หึหึ น้องมณีไม่รู้นั่นแหะดีแล้ว รู้แค่ว่าพี่รู้สึกผิดมากที่ทำมันลงไปก็พอ”
   “ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันคืออะไร แล้วพี่ทำมันได้ยังไง ทำแบบให้ผมเอ่อ สนใจพี่”เรื่องนี้ผมก็นึกสงสัยเหมือนกัน
   มันรู้สึกว่าความสนใจที่ผมมีต่อพี่อเลนมันมากผิดปกติ มากจนไม่สนใจอะไรเลย
   พอนึกถึงดอกกุหลาบกับการ์ดพวกนั้นผมก็นึกแหยงๆยังไงไม่รู้ที่คิดว่าของพวกนั้นมันสำคัญมาก
   “พี่ทำตามที่ในหนังสือบอกน่ะ พี่ไปเจอหนังสือของพ่อที่พ่อได้รับตกทอดมาอีกที ในนั้นมันมีบอกว่าต้องทำยังไงให้คนที่เราหมายปองหันมาสนใจ แบบที่พี่ทำกับน้องมณีไง”พี่อเลนบอกพลางเดินต่อ
   “แล้ว ตอนนี้ผมยัง”
   “ไม่หรอก ธาราเขาทำลายไปหมดแล้ว คืนนั้นที่ธารามาช่วยมณีเอาไว้น่ะ เขาทำลายสิ่งที่พี่ทำไว้หมดแล้ว มณีถึงได้ไม่รู้สึกอะไรกับพี่อีก”พี่อเลนยิ้มบางๆคล้ายกับจะหัวเราะเยาะตัวเอง
   “แล้วเรื่องเรียนของพี่”
   “พี่ทำเรื่องจบไว้แล้ว พอดีแม่พี่เขาเร่งให้พี่รีบกลับ เลยขอยื่นเรื่องจบไวกว่าเดิม”
   “งั้นเหรอครับ”ผมตอบรับ รู้สึกว่าเรื่องที่สงสัยได้ถามไปหมดแล้ว ความรู้สึกอึดอัดที่ถึงแม้จะคลายลงแต่ก็ยังคงเอาไว้ซึ่งความห่างเหินอยู่ดี
   ความเงียบเข้าปรกคลุมระหว่างเราสองคนอีกครั้ง เราเดินมาเรื่อยๆระหว่างทางเดินที่เชื่อมกันของแต่ละคณะ
   “มณี…ก่อนที่พี่จะไป พี่ขออะไรเราอย่างหนึ่งได้ไหม”พี่อเลนพูดขึ้นเมื่อเราเดินมาถึงโรงจอดรถของคณะพี่เขา
   “อะ อะไรเหรอครับ”ผมเงยหน้าถามพลางมองมือที่เอื้อมมือมาจับมือผมแล้วดึงเข้าไปกุมไว้
   จนทำให้คนที่อยู่แถวนั้นเริ่มมอง
   “พี่อยากให้มณีคิดกับพี่เป็นพี่น้อง มณีจะให้พี่เป็นพี่สาวมณีได้ไหม”
   “เอ่อผมว่า…พี่ชายดีกว่ามั้งครับ”ผมแก้
   “ฮะฮะ จริงด้วย พี่ลืมไป”พี่อเลนบอกแก้เก้อ ยกมือขึ้นจับเส้นผมยาวสลวยทัดหูแก้เขิน
   “ถ้าพูดถึงเรื่องนั้น ผมเองก็…ไม่มีปัญหาอะไรหรอกถ้าเราจะคุยกันเหมือนพี่น้องทั่วไป แต่พี่ก็จะบินไปต่างประเทศแล้ว”
   “ไม่เป็นไรหรอก พี่มีเบอร์กับไลน์มณีอยู่แล้ว ว่างๆพี่ค่อยโทรหาก็ได้ หรือไม่ก็เฟสทามคุยกัน”
   “นั่นสินะ ผมก็ลืมไป แล้วกับพี่ธารา พี่โกรธเขาที่เขาทำแบบนั้น กับพี่รึเปล่า”ผมถามเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ไปทำร้ายอะไรพี่ธาราเพราะพี่เขาโดนพี่ธาราเหวี่ยงใส่ผนังซะขนาดนั้น เป็นผมผมคงลุกไม่ขึ้นแล้ว
   “ไม่หรอก พี่ก็สมควรโดนอยู่แล้ว กับธาราน่ะ พี่เชื่อว่าความผูกพันของมณีกับเขามีมากกว่ากับพี่เยอะ พี่ถึงได้ต้องเป็นฝ่ายที่ไปซะเอง”
   “งั้นเหรอครับ ยังไงผมก็ขอให้พี่โชคดีนะครับ”ผมบอกสิ่งที่ผมคิดออกไป
   สิ่งที่ค้างคามันได้ถูกลบออกไปเรียบร้อยสักที ติดก็ตรงพี่ธารา ที่ตอนนี้ผมเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเขาคือใคร มีส่วนอะไรที่เกี่ยวข้องกับผมในชาติที่แล้วกันแน่


   สุดท้ายแล้วผมกับพี่อเลนก็จากกันด้วยดี อย่างกับในหนังน้ำเน่าไม่มีผิด หากแต่นั่นคือสิ่งที่ผมอยากให้มันเป็นอยู่แล้ว
   เพราะกรรมที่มีต่อกันทำให้เกิดการจองเวรมาจนถึงชาตินี้ หากไม่มีใครเป็นคนหยุด สิ่งนี้มันก็จะวนเวียนไปเรื่อยๆไม่มีวันสิ้นสุดลง
   ผมเดินมาถึงห้องสมุดจนได้ หนังสือที่ถูกยืมไปร่วมเดือนวางลงบนเคาท์เตอร์
   มันเหมือนจะบังเอิญรึเปล่านะที่มีหนังสืออีกเล่มวางลงพร้อมกันและเป็นหนังสือที่เหมือนกันอย่างแกะ ทำให้ผมหันไปมองหน้าอีกคนที่ยืมหนังสือเหมือนผมไป
   คนที่ยืมหนังสือเหมือนกับผมคืออาจารย์สอนวรรณคดีในเอกที่ผมเรียนอยู่
   แล้วทำไมถึงได้ยืมหนังสือเหมือนผมเปะเลย มันจะบังเอิญเกินไปแล้วมั้ง
   “อาจารย์ก็อ่านด้วยเหรอครับ”ผมถามขึ้นแก้เก้อเพราะไม่รู้จะพูดอะไร
   “เอ้า ถามแปลกๆ อาจารย์สอนวรรณคดี อาจารย์ก็ต้องอ่านเป็นปกติ ว่าแต่เธอสนใจเรื่องนี้ด้วยเหรอ”อาจารย์ที่อายุอานามน่าจะห้าสิบแล้วได้ขยับแว่นตาที่ใส่แล้วมองหน้าผม
   “อ่า ครับ พอดีผมมีเรื่องที่สงสัยนิดหน่อยก็เลยลองค้นหาดู”ผมตอบ
   “แล้วเจอไหมล่ะ”อาจารย์ถาม
   “ไม่เจอครับ”ผมส่ายหน้า
   “แล้วอยากรู้เรื่องอะไรล่ะ เผื่ออาจารย์จะตอบได้”
   “อาจารย์จะรู้เหรอครับ”ผมถามด้วยสีหน้ามีความหวัง
   แต่นั่นก็ทำเอาอาจารย์หน้ามุ่ยขึ้นมาทันที นี่ผมพูดอะไรผิด?
   “แล้วทำไมจะไม่รู้ล่ะ อาจารย์เป็นอาจารย์สอนวรรณคดีนะ ลืมไปแล้วรึไง”
   “อ่า จริงด้วย ผมก็ลืมไป”ผมยิ้มแห้งๆ
   “ว่าแต่เธอสงสัยอะไรล่ะ”
   “คือ..”ผมอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะถามดีหรือเปล่า
   “เอา ว่ามาสิ อาจารย์มีสอนช่วงสาย ไม่ใช่ว่าง”
   “ครับครับ คือผมอยากรู้ว่าพระอภัยมณีมีคนรักคนอื่นรึเปล่าที่นอกจากเมียทั้งห้าคน”ผมถาม
   “เท่าที่รู้ก็ไม่มีนะ แต่ก็ไม่แน่ใจ เพราะเรื่องที่ถูกพิมพ์เผยแพร่ทั่วไปเป็นฉบับตัดต่อให้เหมาะสมกับสังคมทั่วไป อาจารย์ก็ไม่แน่ใจเท่าไร ว่าแต่ทำไมถึงได้ถามแบบนั้นล่ะ”
   “คือพอดีผมเห็นว่าพระอภัยมณีเป็นคนเจ้าชู้ ผมก็เลยสงสัยว่าอาจจะมีเมียคนอื่น หรือไม่ก็คนรักที่เป็นแบบ ผู้ชายหรืออะไรประมาณนั้น”
   “ก็แล้วอะไรทำให้เธอสงสัยเรื่องพรรค์นี้ได้ เรื่องเมียทั้งห้านะ อาจารย์ก็ว่าน่าจะมีแค่นั้นแหละส่วนเรื่องคนรักที่เป็นผู้ชาย หรือพวกประมาณว่าตัวละครที่ไม่ได้ระบุอะไรในเนื้อเรื่องที่เผยแพร่นั้นอาจารย์ก็ไม่รู้หรอก”อาจารย์ตอบ ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรผมเลยสักนิด
   “นึกว่าจะรู้ซะอีก”ผมว่าพลางบุ้ยปาก
   “ก็ถ้าอยากรู้ก็ลองไปหอสมุดในตัวเมืองดูสิ ที่นั่นน่าจะมีฉบับที่ไม่ได้คัดกรองบางทีอาจจะมีข้อมูลที่เธออยากรู้ก็ได้ แต่ไอ้เรื่องที่พระอภัยมณีมีเมียเป็นผู้ชายหรือว่าอะไร อาจารย์คิดว่ามันไม่น่าจะมีนะ คิดว่ามันน่าจะแปลกเกินไป”
   “งั้นเหรอครับ ขอบคุณอาจารย์มากครับ”ผมว่าพลางเดินออกมาจากห้องสมุดหลังจากคืนหนังสือเรียบร้อยแล้ว
   หอสมุดของจังหวัดงั้นเหรอ แล้วมันมีฉบับคัดกรองไม่คัดกรองอะไรอีก
   ยิ่งค้นหาผมก็ยิ่งไม่เข้าใจ
   ตกลง พี่ธารามีตัวตนอยู่จริงๆในชีวิตของผมในชาติที่แล้วจรึงรึเปล่า

   ผมเดินกลับมาที่ใต้ตึกคณะเพราะนัดกับเพื่อนๆในกลุ่มเอาไว้ให้มาเจอที่เดิม ก่อนหน้านั้นผมได้บอกขอโทษเพื่อนๆที่ไม่ได้สนใจในตอนที่ผมคบกับพี่อเลนแล้ว ซึ่งทุกคนต่างก็เข้าใจ ทำเอาผมรู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิมอีก
   พอเดินเข้าไปใกล้ๆก็ถึงได้รู้ว่ามีสมาชิกที่ไม่ได้รับเชิญเพิ่มเข้ามาในกลุ่มอีกตั้งสามคน
   ผมเดินเข้าไปพลางมองหน้ารุ่นพี่ปีสองที่โผล่เพิ่มเข้าไปเลิกลัก หนึ่งในนั้นมีพี่ธารารวมอยู่ด้วย
   “ไปไหนมา”พอมาถึงพี่ธาราก็ถามขึ้นทันที พร้อมสายตาทั้งหกคู่ที่มองมา
   รวมถึงเพื่อนของพี่ธาราด้วย
   แล้วเรื่องอะไรเขาต้องพาเพื่อนพี่มายุ่งกับเพื่อนผมด้วยล่ะเนี่ย
   “ไปคณะบริหารมา”ผมว่าพลางนั่งลงข้างๆพี่ธารา เพราะมันเหลือที่ว่างแค่ที่เดียว
   “ไปทำไม”พี่ธาราถามอีก
   ตกลงผมเป็นนักโทษของพี่เขาใช่ไหมเนี่ย เขาถึงคอยตามคุมตลอด
   “ไปเอามอไซ แล้วก็ไปคุยกับพี่อเลน”ผมตอบ
   ชื่อพี่อเลนทำให้คนอื่นๆหันมามองกันด้วยความสงสัย แต่พี่ธารากลับเงียบนิ่ง
   ข่าวลือที่ว่าผมคบอยู่กับพี่อเลนมันแพร่กระจายไปไวพอพอกับข่าวที่ว่าผมเลิกยุ่งกับพี่เขาเหมือนกัน
   “มณียังคับกับพี่อเลนอยู่เหรอ ไม่ใช่ว่าคบกับธารามันแล้วรึไง”พี่นัทเพื่อนพี่ธาราถามทะลุกลางปล้องขึ้นมาทันที
   อะไรของพี่เขา อย่าบอกนะว่าพี่เขาไปป่าวประกาศกับเพื่อนตัวเองเรียบร้อยแล้วว่าผมคับกับเขา
   ตาย ตาย แล้วคราวนี้ผมจะเอาหน้าไปวางไว้ที่ไหนถ้าคนทั้งมหา’ลัยรู้คิดว่าผมชอบผู้ชาย
   คราวนี้ผู้หญิงเขาก็จะมองผมเป็นเก้งเป็นกวางกันหมด
   “มะ ไม่ใช่ คือผมแค่ไปเอากุญแจรถคืนแล้วก็คุยกันเฉยๆ”ผมว่า
   อยากจะมุดหน้าหนีไปจากตรงนี้จริงจริง ทำไมคนอื่นถึงได้มองว่าผมเป็นแฟนพี่ธาราไปกันหมด
   ผมไม่ใช่แฟนเขาสักหน่อย ผมถูกบังคับบบบบบ
   “แล้วมณี กับพี่ธาราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม”โมหันมาถามพลางดันแว่น
   แล้วผมจะตอบว่ายังไงล่ะเนี่ย เพื่อนๆก็ดันเออออตามกันไปหมดแล้ว นี่ตกลงผมจะไม่มีพวกบ้างเลยใช่ไหม
   “วันก่อนควงกับสาวสวยคณะบริหาร วันนี้ควงกับหนุ่มคณะมนุษย์ เปรี้ยวมากนะเว้ยมณี”นนท์เสริมเรียกเสียงหัวเราะจากคนในกลุ่ม
   แต่ผมไม่ได้หัวเราะด้วยเลย ใครบอกว่าผมคบกับพี่ธารากัน
   ผมไม่ได้คบสักหน่อย ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่ธาราที่นั่งอยู่ข้างๆ นี่ก็เงียบยอมให้เขาแซวกันไปกันมา
   “พี่ก็พูดอะไรบ้างสิ”ผมว่าพลางสะกิดพี่ธารา
   ทำให้พี่เขาหันไปมองเพื่อนเขาและเพื่อนผม
   แล้วคำตอบที่เขาตอบาทำให้ผมแทบจะทึ้งหัวตัวเอง
   “พี่กับน้องมณีเราคบกัน ที่บ้ายมณีเองก็อนุญาติพี่แล้ว”พี่ธาราตอบแล้วยกยิ้มมุมปาก
   ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาได้รู้กันไปทั่วว่าผมกับพี่ธาราเป็นซัมติงต่อกัน
   โดยที่ข่าวลือได้แพร่กระจายไปเร็วเสมือนสี่จี



   จนหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกหก พี่อเลนกลับไปยังบ้านของแม่ที่อยู่ต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว
   แต่ก่อนไปไม่วายทิ้งของขวัญกล่องใหญ่ให้ผมเอาไว้ บอกว่าห้ามเปิดจนกว่าเขาจะติดต่อกลับมาอีกที นั่นทำให้ผมแบกมันมาไว้ในห้องวางทิ้งเติ่งเอาไว้โดยที่ยังไม่ได้เปิดมัน
   ใจก็นึกกลัวว่าจะเป็นอะไรแปลกๆอีกรึเปล่า
   ผมพาตัวเองมาจนถึงหอสมุดในตัวเมืองจนได้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ความสงสัยของผมมันไม่จบไม่สิ้นสักที
   อีกแค่หนึ่งอาทิตย์ที่ผมจะต้องอุ้มท้องให้พี่ธารา
   ความรู้สึกของผมมันคงยังก้ำกึ่ง ถามว่าผมรักเขาไหม ตามประสาของคนที่กำลังจะมีความสัมพันธ์ทางกายกัน
   ผมตอบได้ทันทีว่าไม่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชอบที่พี่เขาอยู่ใกล้ มันทำให้รู้สึกได้ว่าปลอดภัยแล้วก็อบอุ่น
   ยิ่งใกล้ชิดกับพี่เขาผมก็รู้สึกว่ายิ่งคุ้นเคยจนน่าประหลาดใจ
   ผมเดินเข้าไปตรงเคาท์เตอร์เพื่อที่จะติดต่อสอบถามถึงโซนหนังสือเกี่ยวกับวรรณคดี
   เจ้าหน้าที่ที่ดูแลห้องสมุดยิ้มให้ผมเป็นการทักทาย
   ดูท่าอายุน่าจะมากกว่าผมไม่เท่าไร ยังดูเป็นวัยรุ่นอยู่เลย
   “ติอต่ออะไรครับ”เขาถามอย่างเป็นมิตร
   “คือผมอยากจะค้นหาหนังสือที่เกี่ยวกับวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี”ผมตอบไป
   “งั้นเดี๋ยวพี่พาไปดูนะครับ”เขาว่า
   ว่าแต่ทำไมต้องพาไปดูด้วย แค่บอกผมก็พอแล้ว ผมเกรงใจ แต่ไม่ทันจะพูดพี่เขาก็เดินนำผมไปซะแล้ว
   “ตรงนี้เลยครับ ชั้นนี้จะเป็นวรรณคดีของสุนทรภู่ทั้งหมด”เรามาหยุดอยู่ในชั้นหนังสือเกือบในสุดของหอสมุด
   “ขอบคุณมากครับ”
   “ไม่เป็นไรครับ พอดีพี่ว่างๆ ถ้ามีอะไรไม่เจอหรือสงสัยอะไรเรียกพี่ได้ พวกนี้พี่อ่านหมดแล้ว”เขาว่าพลางยิ้มแล้วยักคิ้วให้
   “ขอบคุณครับ”
   ผมยิ้มแล้วหันไปสนใจกับหนังสือเล่มเก่ามากมายบนชั้นแล้วเลือกหยิบเล่มริมสุดออกมา
   “หายากนะครับที่วัยรุ่นอย่างน้องจะเข้าห้องสมุด”
   “อ่าครับ พอดีมีเรื่องที่สงสัยนิดหน่อยเลยลองมาหาดู”
   ผมตอบไป แต่ใจลึกๆก็คิดว่าทำไมพี่เขาต้องมายืนเฝ้าผมด้วยเนี่ย ผมไม่ได้จะมาขโมยรึอะไรสักหน่อยทำไมต้องมายืนเฝ้าด้วย
   รู้สึกได้เลยว่าถูกสายตาของเขาจ้องอยู่
   “ให้พี่ช่วยหาไหม”
   “เอ่อ ไม่เป็นไรครับ ผมหาเองได้ พี่ไปทำงานของพี่ต่อเลยก็ได้ครับ”
   “งั้นพี่นั่งอยู่หน้าเค้าเตอร์นะครับถ้ามีอะไรก็เรียกได้”
   “ครับ”
   แล้วพี่เขาก็ไปจนได้ ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะหยิบหนังสือเล่มถัดไปและก็ถัดไปเปิดออกมาอ่านคร่าวๆ
   แต่ก็ไม่มีเล่มไหนเลยที่จะมีข้อมูลที่ผมต้องการ
   นานจนเริ่มเมื่อยเหลืออีกแค่ไม่กี่เล่มทำให้ผมเริ่มท้อแล้วถอนหายใจ
   “ยังหาไม่เจอเหรอครับ”เสียทักจากด้นหลังทำเอาผมแทบสะดุ้ง
   “ยังเลยครับ”ผมตอบไป
   “ถามพี่ได้นะครับ พี่อ่านพวกนี้หมดแล้ว”
   “จะดีเหรอครับ”ในที่สุดผมก็เริ่มสนใจความช่วยเหลือของพี่เขาขึ้นมาเพราะเมื่อยขาแล้วก็เริ่มปวดตาขึ้นมาแล้ว
   “แล้วอยากรู้เรื่องอะไรล่ะครับ”เขายิ้ม
   “คือผมอยากรู้เรื่องคนรักของพระอภัยมณีน่ะ ว่ามีคนอื่นนอกจากที่ปรากฏในหนังสือทั่วไปไหม”
   “อืม เมียคนอื่นของพระอภัยมณีเหรอ”พี่เขาว่าพลางทำท่าคิด
   “ใช่ครับ แล้วมันมีตัวละครอื่นที่ถูกตัดออกหรือถูกลบออกไปหรือเปล่า”
   “อ่อ ถ้าเรื่องตัวละครหรือส่วนที่ถูกลบพี่ก็พอจะช่วยค้นได้ เพราะว่าช่วงนั้นเรื่องศีลธรรมเป็นสิ่งที่ต้องคิดถึงมากที่สุด เนื้อหาบางส่วนที่ไม่เหมาะจึงถูกตัดออก แต่ว่าที่หอสมุดแห่งชาติพอจะมีข้อมูลของต้นฉบับอยู่บ้าง”เขาตอบทำให้ผมมุ่ยหน้าอย่างใช้ความคิด
   หอสมุดแห่งชาติผมคงไม่มีปัญญาไปไกลขนาดนั้นแน่
   ผมทำหน้าผิดหวัง
   “ไม่ต้องผิดหวังหรอกครับ สมัยนี้ข้อมูลมันเชื่อมต่อถึงกันหมด แค่เปิดคอมก็ใช้ได้แล้ว”
   “จริงเหรอครับ งั้นผมต้องไปดูที่ไหน พี่เปิดให้ผมดูหน่อยได้ไหม”
   “ได้สิ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนนะ”
   “อะไรล่ะครับที่ว่าแลกเปลี่ยน”ผมถาม
   นี่ตกลงเขาเป็นเจ้าหน้าที่ที่คอยบริการประชาชนหรือว่าพวกรีดไถกันล่ะเนี่ย
   “งั้นก็บอกหน่อยว่าน้องชื่ออะไร”
   “ห่ะ แค่นี้อ่านะ”
   “อืม แค่อยากรู้ชื่อน้องว่าน้องชื่ออะไร”
   “ผมชื่อมณี”ผมตอบไป แล้วทำไมถึงได้อยากรู้จักชื่อผมล่ะเนี่ย
   “อืม ชื่อคล้ายพระอภัยมณีเลยนะครับ”เขายิ้ม
   ไม่ใช่แค่คล้ายนะ ผมนี่พระอภัยมณีตัวจริงเลยขอบอก
   “นั่นชื่อจริงผม”
   “จริงเหรอครับ ชื่ออภัยมณีจริงๆเหรอ”เขาหัวเราะเบาเบา
   โชคดีที่ในห้องสมุดไม่ค่อยมีคน ไม่งั้นเราคงจะโดนว่าแน่ว่าคุยกันเสียงดัง
   “ไม่เห็นน่าขำ”ผมบ่นอุบ บ่อยครั้งที่มักจะโดนล้อเรื่องชื่อ จนป่านนี้ก็ไม่ชินสักที
   “ครับครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจหัวเราะ แค่คิดว่ามันบังเอิญ”เขายอกพลางปาดน้ำตา
   นี่เขาหัวเราะจนน้ำตาไหลเลยเรอะ มันจะมากไปแล้ว

   ในที่สุดผมก็มายืนอยู่เบื้องหลังพี่เขาที่กำลังนั่งกดเข้าเมนูในโปรแกรมอะไรสักอย่างเกี่ยวกับข้อมูลของห้องสมุด
   ไม่นานรูปถ่ายของหนังสือที่ดูเก่ามากๆก็ปรากฏ ดูท่าน่านะเป็นต้นฉบับ ดูจากลายมือที่แปลกๆกับตัวหนังสือสมัยนี้
   “อันนี้เป็นต้นฉบับที่เขาค้นพบเลยนะครับ”พี่เขาพูดก่อนจะเปิดเลื่อนแต่ละรูปไปช้าๆ
   “ครับ”ผมตอบรับ
   “มีแค่ไม่กี่รูปหรอกเพราะหนังสือมันเก่าและเสียหายมากน่ะ แต่ก็อาจจะมีข้อมูลที่อยากรู้ก็ได้ ว่าแต่พอจะบอกได้ไหมว่าตัวละครแบบไหนที่สนใจ หรือไม่ก็เจาะจงข้อมูลให้แคบขึ้น เผื่อจะเจอข้อมูลที่หาไวขึ้น”
   “ก็ ตัวละครที่สนใจก็คงเป็นพี่ชายของนางผีเสื้อสมุทรนะครับ”ผมตอบไป
   ไม่รู้ว่าพี่เขาจะว่าผมบ้ารึเปล่า
   “อืม น่าสนใจดี แล้วทำไมถึงได้คิดว่าผีเสื้อสมุทรมีพี่ชายล่ะ แล้วเกี่ยวอะไรกับคนรักของพระอภัยมณี”
   “เอ่อ พี่จะว่าผมตลกไหม ถ้าผมอยากรู้ว่าพระอภัยมีคนรักเป็นผู้ชายรึเปล่า แล้วก็ แล้วผู้ชายคนนั้นใช่พี่ชายของผีเสื้อสมุทรไหม”
   “อืม ก็น่าสนใจดี ไม่เคยมีใครสงสัยแบบน้องมณีเลยนะครับเนี่ย มีคนแรกเลยที่สงสัยแบบนี้”   
   “ครับ ผมก็ว่างั้น”
   จนแล้วจนรอดจนเหลืออีกแค่สองรูปเท่านั้นที่เหลืออยู่ มีรูปที่กำลังดูอยู่กับกับอีกแค่รูเดียว
   “ดูท่าน้องมณีจะไม่ได้ข้อมูลที่ต้องการนะครับเนี่ย เหลืออีกแค่รูปเดียวเอง”เขาว่า
   “ไม่เป็นไรครับ ลองดูรูปสุดท้ายเผื่อจะพอมีอะไรบ้าง”ผมพูดเสียงเบา เริ่มจะหมดหวังที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับพี่ธาราในอดีตซะแล้ว
   รูปสุดท้ายถูกเปิดออก มีเพียงข้อความสองบรรทัดสั้นๆเท่านั้นที่ปรากฏ
   ข้อความที่ทำเอาผมแทบน้ำตาไหลกับสิ่งที่บ่งบอกถึงอดีตที่ผ่านมา
   มันไม่เหมือนกับรูปอื่นๆที่บ่งบอกถึงเนื้อหา แต่มันเป็นคล้ายกับจดหมายหรืออะไรสักอย่างที่เขียนทิ้งข้อความเอาไว้
   ‘หญิงใดก็ไม่อาจเทียบเทียมท่าน…พี่ธารา’
                                                     ‘อภัยมณี’
   “ดูท่าพระอภัยมณีจะมีคนรักเป็นผู้ชายจริงๆอย่างที่น้องมณีว่านะครับเนี่ย แปลกใจนะครับที่รู้ว่าเสือผู้หญิงในวรรณคดีจะมีคนรักเป็นผู้ชายด้วย เรื่องนี้คงจะถูกตัดออกเพราะสมัยนั้นเรื่องที่เพศเดียวกันรักกันคงจะเป็นเรื่องผิดศีลธรรมน่ะ”
   “นั่นสินะครับครับ”ผมตอบรับ
   ข้อความสั้นๆแต่กลับทำให้ผมรับรู้ได้เลยว่าพระอภัยมณีในตอนนั้นไม่สามารถลืมพี่ธาราได้เลย
   หมายความว่าพระอภัยมณีเห็นพี่ธาราดีกว่าผู้หญิงคนอื่นๆงั้นเหรอ แล้วความรักที่พระอภัยมณีมีต่อพี่ธาราจะมากกว่าคนอื่นๆไหม
   
   
   
   ผมเปิดประตูรั้วบ้านแล้วจูงรถมอเตอร์ไซเข้าบ้านโดยที่ไม่ทันสังเกตหรือว่าเซ่อซ่าก็ไม่รู้ว่าหน้าบ้านมีรถของยนต์จอดอยู่สองคัน
   ผมเดินเข้าบ้านในสภาพที่ใจลอย แต่แผ่นหลังกว้างที่คุ้นเคยก็ทำเอาผมสะดุดตาแล้วยิ้มกว้างออกมาโดยที่ห้ามเอาไว้ไม่อยู่
   พี่ศรีสุวรรณ
   ผมทิ้งกระเป๋าหนังสือแล้วกระโดดขี่หลังอีกฝ่ายทันทีโดยที่ไม่ทันให้เขาตั้งตัว
   “เฮ้ยอะไรเนี่ย มณี เดี๋ยวก็ล้มไปทั้งคู่”พี่วรรณหันมาดุทั้งที่กระเตงผมอยู่ข้างหลัง
   “แล้วกลับมาเมื่อไรทำไมไม่เห็นบอกผมเลย”ผมถามอย่างตื่นเต้นพลางกอดคอไม่ยอมปล่อย ตอนนี้กลายเป็นลูกลิงที่กำลังขี่หลังพี่ชายไปเรียบร้อยแล้ว
   “มณีลงมาเลย ลูกคนนี้ พี่เขามาเหนื่อยๆ ไปขี่เขาแบบนั้นเดี๋ยวพี่วรรณก็หลังหักเอา ตัวไม่ใช่เล็กๆแล้วนะ”
   “โห แม่ ก็มณีคิดถึงพี่วรรณ อยู่กับพ่อแม่จนเบื่อ อยากออยู่กับพี่วรรณบ้าง ไหนมีของฝากมาให้กันไหม”
   “พอมาถึงก็ทวงของฝากเลยเรา รู้ไหมว่าที่พี่มาเพราะอะไร”พี่วรรณพูดเสียงเข้มทำเอาผมลงจากหลังมายืนมองหน้าพี่เขาแทน
   “ว่าแต่ทำไมพี่กลับมาไม่บอกใครก่อน”
   “บอกพ่อกับแม่แล้วไง แต่บอกแล้วว่าไม่ให้บอกเรา”
   “อ่าว ทำไมล่ะ แล้วของฝากล่ะว่าไง”ผมยิ้มเผล่ ให้พี่วรรณพี่ชายที่แสนดีที่หนีไปทำงานที่ต่างประเทศทิ้งให้ผมอยู่กับพ่อแม่คนเดียว
   “ของฝากอะไร ที่พี่กลับมาไม่ใช่อะไรเห็นพ่อโทรไปบอกว่ามีแฟนพี่ก็เลยมาดูหน้า แต่ไม่คิดว่าแฟนเราจะเป็นผู้ชาย”
   อะไรกัน นี่พ่อถึงกับโทรทางไกลไปหาพี่วรรณเลยเหรอว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชาย ใจคอจะไม่มีใครถามความเห็นผมกันบ้างเลย
   “แล้วทำไมพ่อต้องไปบอกพี่วรรณด้วยล่ะพ่อ”ผมหันไปบ่นพ่อ
   “ไม่ต้องไปว่าพ่อเลย นี่ใจคอจะไม่บอกให้พี่รู้เลยใช่ไหมว่ามีแฟน แล้วแฟนก็เป็นผู้ชายอีก คราวนี้จะให้พี่คิดยังไง”
   พี่วรรณว่าพร้อมกับทำหน้าขรึม
   ใบหน้าที่ไม่ต่างอะไรจากผมมากนัก หากแต่จะดูคมเข้มมากกว่า อีกทั้งรูปร่างที่สูงใหญ่จากการออกกำลังกายเพราะพี่วรรณเป็นพวกชอบใช้กำลังมากกว่าผมที่มักจะอยู่กับพ่อแม่สนใจแต่เรื่องศิลปะที่สืบทอดกันมาทำให้รูปร่างภายนอกของเราต่างกันโดยสิ้นเชิง
   “คือ…ก็กะว่าจะบอกอยู่”
   ผมได้แต่ตอบไปเสียงอ่อย ความรู้สึกตอนนี้ยังไงก็เหมือนไม่ได้คบกันอยู่ดี ถึงจะโดนเหมือนว่าโดนมัดมือชกก็เถอะ แล้วไงพี่วรรณถึงได้มองหน้าผมแล้วทำหน้าโหดแบบนั้น
   แล้วคนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกมันอะไร แล้วมาตั้งแต่ตอนไหน
   ผมได้แต่มองพี่วรรณสลับกับมองหน้าพี่ธารา
   ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างก็มองหน้ากันไปมา ดูท่าทั้งสองคนน่าจะรู้จักกันแล้ว แต่ว่าไม่รู้ว่ามาเจอกันตอนไหน
   ผมคงไม่ต้องแนะนำแล้วสินะ
   แล้วทำไมเหมือนกับว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลยล่ะเนี่ย

   
   







   



   
   
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 17/10/58 [CH.14] ความจริง
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 17-10-2015 01:19:21
 o13
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 17/10/58 [CH.14] ความจริง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 17-10-2015 04:27:26
เอาไปรวมกันหมดแล้วจ้า แก้ไขคำิดรอบที่ร้อยด้วย ห้าห้า
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 17/10/58 [CH.14] ความจริง
เริ่มหัวข้อโดย: £.Ma|e¥ ที่ 17-10-2015 06:00:30
สนุกค่าา มาต่ออีกนะ  :mew1:
อยากรู้ชาติที่แล้วมณีเอาลูกแก้วไปทำไม  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 17/10/58 [CH.14] ความจริง
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 17-10-2015 08:10:46
แค่ประโยคเดียวของพระอภัยมณีก็ทำเอาน้ำตาซึมเลยค่ะ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 17/10/58 [CH.14] ความจริง
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 17-10-2015 11:03:32
ตอนนี้ยาวสะใจมาก ขอบคุณน้าคนเขียน :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 17/10/58 [CH.14] ความจริง
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 17-10-2015 13:22:35
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 17/10/58 [CH.14] ความจริง
เริ่มหัวข้อโดย: sirikanda28 ที่ 17-10-2015 18:40:27
สุวรรณมาลีหรือป่าว :m28:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 17/10/58 [CH.14] ความจริง
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 17-10-2015 22:37:55
พระรองน่าจะเป็นพี่ชายของมณี
ส่วนนายรองนี่เดาว่าเปนนางเงือกแล้วกัน
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 17/10/58 [CH.14] ความจริง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 20-10-2015 05:14:25
18371
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)


เอาไปรวมกับครึ่งหลังรีพลายที่267แล้วจ้า มีแก้ไขแล้วก็เพิ่มเติมด้วย
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 20/10/58 [CH.15] บทกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 20-10-2015 05:51:37
พระอภัยมณีเองก็รู้สึกไม่ต่างกันกับพี่ธาราเลยนะคะ :mew2:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 20/10/58 [CH.15] บทกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 20-10-2015 15:39:35
ดัน
 :z10:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 20/10/58 [CH.15] บทกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 20-10-2015 21:11:52
 :heaven
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 20/10/58 [CH.15] บทกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 20-10-2015 21:30:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 20/10/58 [CH.15] บทกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-10-2015 22:25:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 20/10/58 [CH.15] บทกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 20-10-2015 23:38:59
 :3123:
หัวข้อ: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 21/10/58 [CH.15] ชลาสินธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 21-10-2015 02:55:19
18876
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

เกร็ดความรู้:: ศรีสุวรรณ เป็นน้องชายของพระอภัยมณี เชี่ยวชาญวิชากระบี่กระบองการต่อสู้ แต่ทว่าถูกขับไล่ออกจากเมืองพร้อมกับพระอภัยมณี เพราะวิชาที่เรียนนั้นไม่ถูกใจผู้เป็นบิดา ต่อมาได้พลัดหลงกับพระอภัยมณีเพราะนางผีเสื้อมาลักพาตัวพระอภัยมณีไป ศรีสุวรรณพลัดหลงไปเจอกับนางเกษรา ลูกสาวเจ้าเมือง ต่อมาได้แต่งงานกันและครองเมืองนั้นไป ผ่านมาอีกหลายปีกว่าที่ศรีสุวรรณจะมาเจอกับพระอภัยมณีอีกครั้ง คนนี้ก็ใช่ย่อย มีเมียสามคน น้อยกว่าพี่ชายสองคน

มีเเก้ไข บวกเพิ่มเติมคำแปลบทกลอนจ้า ส่วนใครไม่อยากอ่านซ้ำก็ผ่านไปรีพลายต่อไปเลย
ครั้งที่ 15 ชลาสินธุ์(แปลว่าทะเล)


   “พี่ธารา ดูนี่สิ ลูกชายข้ารูปงามเหมือนข้าหรือไม่”อภัยมณีอุ้มเด็กผู้ชายรูปร่างอ้วนท้วนแทบอกแล้วยื่นให้ร่างสูงใหญ่ที่พึ่งจะก้าวเข้าภายในห้องได้ดู

   “เป็นผู้ชายหรอกรึ”ธาราสมุทรพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกเจ็บราวกับถูกกรีดแทงลงที่ใจก็ตาม

   เด็กน้อยรูปร่างสมบูรณ์ลูกครึ่งคนยักษ์ส่งเสียงอ้อแอ้

   “ผู้ชายเหมือนกับข้าและพี่ธารา ข้าตั้งชื่อเขาว่าสินธุ์สมุทร”อภัยมณียิ้มให้กับชื่อที่ภูมิใจนักหนา

   “เป็นชื่อของนางผีเสื้อสมุทรครึ่งหนึ่งสินะ”ธารากล่าวอย่างอิจฉาอยู่ในใจ

   “เปล่าเลย ครึ่งหนึ่งของชื่อลูกข้ามาจากชื่อพี่ธาราต่างหาก ครั้งแรกข้าจะตั้งชื่อลูกว่ามณีสมุทร หากแต่มันดูจะไม่เข้ากัน
ระหว่างของมีค่าที่มีขนาดเล็กกับทะเลที่กว้างใหญ่ ข้าจึงตั้งชื่อว่าสินธุ์สมุทรจะได้เข้ากันระหว่างทะเลกันทะเล”อภัยมณีตอบด้วยท่าทีดีอกดีใจ

   หากแต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่ได้เอื้อนเอ่ยออกมานั้นทำให้อีกฝ่านั้นปลื้มจิตปลื้มใจนักหนา

   จิตใจที่เจ็บช้ำรู้สึกค่อยยังชั่วขึ้นมาบ้างเหมือนกับได้ยาดีรักษา

   ครึ่งหนึ่งของชื่อนั้นมาจากเขาเองอย่างนั้นหรือ

   ธารายิ้มออกมาเล็กน้อย

   “แล้วเจ้าเลี้ยงดูเด็กเป็นรึยังไงเล่ามณี”ธาราถามแล้วรับลูกครึ่งสายเลือดคนยักษ์มาอุ้ม

   “ข้าไม่เคยเลี้ยงเด็กหรือว่าใครหรอก แต่นางผีเสื้อน้องท่านไม่ยอมให้น้ำนมสินธุ์สมุทร หากแต่คลอดเสร็จแล้วก็ทิ้งเอาลูกไว้แล้วออกหากินโดยมิสนใจใยดีลูกบ้างเลย”อภัยมณีตัดพ้อ

   “แล้วเจ้าจะทำเช่นไร”ธาราสมุทรถาม

   “น้ำนมจากสัตว์เลี้ยงลูกอ่อนใช้แทนกันได้ พี่จักหาให้ข้าได้หรือไม่”อภัยมณีมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเว้าวอนแล้วคว้าเอาลูกมาอุ้มอีกครา

   “แค่น้ำนมเพียงหยิบมือ ข้าหามาให้ได้แน่นอน แล้วเจ้าเล่า ต้องการสิ่งใดหรือไม่ ดูเจ้าอิดโรยยิ่งนัก”

   “ข้าเพียงแต่ไม่ได้หลับนอนเพราะเอาแต่กล่อมสินธุ์สมุทรอยู่ตลอดเวลา”

   “เช่นใดเจ้าจึงไม่ห่วงใยตัวเองเช่นนี้ แล้วอย่างนี้เจ้าจักมีแรงพอเลี้ยงดูบุตรได้อย่างไรเล่า”ธาราสมุทรพูดเสียงแข็งอย่างไม่พอใจ

   “งั้นท่านก็มาช่วยข้าเลี้ยงลูกสิพี่ธารา ถือเสียว่าสินธุ์สมุทรคือลูกของเรา”อภัยมณียิ้มคล้ายกับจะออดอ้อนให้อีกฝ่าหลงคารม

   “หากเจ้าต้องการเช่นนั้นข้าก็จะไม่ปฏิเสธ”ธาราสมุทรตอบ

   “ข้าว่าแล้วพี่ธาราต้องตามใจข้าเสมอ”

   “อย่าพูดดีไป ข้าจักออกไปหานมสัตว์เลี้ยงลูกอ่อนมาให้ หลังจากที่ข้ากลับมา เจ้าต้องพักผ่อนเอาแรง ตกลงหรือไม่”ธาราสมุทรยื่นคำขาด มือหนาเอื้อมไปเกลี่ยผมเส้นเล็กที่เจ้าของไม่มีเวลาดูแลมันทัดกับใบหูเล็กอย่างเบามือ

   “ได้อยู่แล้วหากพี่ธาราจะคอยเฝ้าข้ากับลูกอยู่ข้างๆ”อภัยมณียิ้ม พวงแก้มเล็กแดงปลั่งอย่างดีใจ


===============================================================


   “แม่ มณีไม่ไปไม่ได้เหรอ”ผมเงยหน้าขึ้นมองแม่อย่างเว้าวอน

   “เอะนี่อะไร จะไม่ไปได้ยังไง อย่างน้อยก็ต้องไปรู้จักวงศาคณาญาติเขาบ้าง ไม่ใช่จะคบกันเฉยไม่บอกผู้หลักผู้ใหญ่ อย่า
มาทำตัวเป็นเด็กทั้งที่ริอาจแอบไปมีแฟนไม่บอกให้พ่อกับแม่รู้ไปหน่อยเลย ลูกคนนี้”แม่บ่นพลางพับเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเป้ช่วยผมอีกแรง

   ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองรึเปล่าว่าพ่อกับแม่ดูจะไม่ว่าอะไรเลยที่ผมกับพี่ธาราคบกัน

   ซ้ำยังทำท่าทางราวกับว่าจับผมใส่พานถวายให้พี่ธาราง่ายๆอย่างนั้น

   พรุ่งนี้แล้วที่ผมจะต้องไปบ้านพี่ธารา

   จะต้องเจอกับยักษ์ตนอื่นที่ผมไม่รู้ว่าจะใจดีเหมือนกับพี่ธาราไหม

   เพราะว่าสิ่งที่ผมทำเอาไว้เมื่อชาติที่แล้วดูเหมือนจะสร้างเรื่องยุ่งๆเอาไว้ให้พวกเขามากพอดู

   “ดูสิโตป่านนี้ยังเตรียมเสื้อผ้าเองไม่ได้ ไม่รู้ว่าพ่อธาราเขามาชอบพอเอาได้ยังไงกัน”แม่ยังบ่นไม่เลิก

   จะมีประโยคไหนหรือคำไหนบ้างไหมเนี่ยที่แม่จะเข้าข้างลูกตัวเองบ้าง

   หดหู่ใจดีจริงๆ

   “ไม่ได้บอกให้แม่มาช่วยเก็บสักหน่อย”ผมบ่นเสียงเบาแล้วบุ้ยปาก

   “น้อยๆหน่อย ก็แล้วใครที่มันเอาแต่ถามว่านั่นอยู่ไหนนี่อยู่ไหนน่ะ ทำตัวให้เหมือนพี่วรรณเขาบ้าง ป่านนี้เก็บของเสร็จจนนอนตีพุงสบายไปแล้วมั้ง”

   “แม่ก็ อย่าเอามณีไปเทียบกับพี่วรรณดิ ขานั้นเขาเก่งไปซะทุกเรื่อง”ผมเหน็บแนม

   อย่างที่ได้ยินแม่บอกนั่นแหละว่าพี่วรรณเองก็เก็บกระเป๋าหมือนกัน

   แต่ไม่ได้จะกลับต่างประเทศหรือไปไหนไกลเลย

   นอกจากจะติดสอยห้อยตามผมไปบ้านพี่ธาราด้วย

   พึ่งจะรู้ว่าพี่วรรณเป็นห่วงผมก็คราวนี้ล่ะ ค่อยชื้นใจขึ้นมาหน่อยที่ในบ้านยังพอมีคนที่ห่วงใยผมหลงเหลืออยู่บ้าง

   แต่กว่าจะลงตัวก็โดนพี่ชายที่แสนดีอย่างพี่วรรณสอบสวนอยู่นานพร้อมกับใบหน้าที่โหดเหี้ยมจนผมนึกขยาด

   ดูท่าพี่วรรณจะโกรธมากที่ผมมีแฟนโดยที่ไม่บอกแล้วยิ่งโกรธหนักไปใหญ่ที่ผมดันมีแฟนเป็นผู้ชาย

   ถึงจะดีใจที่พี่วรรณจะไปด้วย ทำให้อุ่นใจขึ้นมาบ้าง แต่อีกใจก็เป็นห่วงพี่วรรณ เพราะรู้ดีว่าคืนที่พระจันทร์เต็มดวงยักษ์จะมีอาการไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างที่เคยเจอมากับตัว

   มันไม่ปลอดภัยที่จะให้พี่วรรณไปด้วย แต่ต่อให้ห้ามยังไงพี่วรรณเองก็ยืนยันที่จะไปอยู่ดี จนผมเหนื่อยที่จะห้าม

   “พ่อเขาบอกว่าเอานี่ไปด้วยนะลูก อย่าให้ห่างตัว”แม่หยิบโน้ตเพลงที่พ่อเคยให้ไว้กับไวโอลินตัวโปรดมาให้ผม

   “อีกแล้วเหรอ”ผมว่าแล้วหยิบกระเป๋าไวโอลินกับกระดาษโน้ตมาไว้ในมือ

   ยังจำตอนที่หัดเล่นเพลงนี้ได้ครั้งแรก และครั้งเดียวเท่านั้น แต่ผมก็รู้สึกว่าผมจำตัวโน้ตของเพลงนี้ได้ทุกตัว

   “เอาน่า พ่อเขาบอกก็ฟังเขาไปเถอะ เดี๋ยวแม่ไปนอนแล้วนะ ที่เหลือก็เก็บใส่กระเป๋าเอาเองแล้วกัน”

   “จ๊ะ คุณนาย”ผมแกล้งตอบ

   “อย่านอนดึกล่ะ พรุ่งนี้พี่เขามารับตอนเก้าโมงเช้าใช่ไหมล่ะ รีบเข้านอนได้แล้ว”

   “รู้แล้วครับ”




   หลังจากแม่เดินออกจากประตูไปผมก็กลับมานั่งครุ่นคิดว่าทำไมผมถึงยอมไปกับพี่ธารา

   มันอาจจะเป็นเพราะผมเชื่อในสิ่งที่เขาพูดและสิ่งที่ได้เห็นมากับตัว ทำให้ผมยอมรับและยอมชดใช้ในสิ่งที่เคยทำเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว

   แต่ส่วนลึกแล้ว ผมคิดว่าที่ผมยอมส่วนหนึ่งอาจจะมาจากข้อความสั้นๆที่ถูกทิ้งเอาไว้

   พระอภัยมณีในชาติที่แล้วคงจะรักพี่ธารามาก และคงยังคิดถึงอยู่ตลอดเวลา ถึงต้องทิ้งข้อความนั้นเอาไว้

   แล้วพี่ธาราล่ะ….รักพระอภัยมณีบ้างไหม รักผมบ้างหรือเปล่า ตัวผมในชาติที่แล้ว

   สิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจได้เด็ดขาดก็คือข้อความที่ชวนหดหู่นั่น ยิ่งนึกถึงมันผมก็ยิ่งเสียใจขึ้นมา

   มันเหมือนกับว่าส่วนลึกของผมยังคงร้องไห้อยู่ที่ก้นบึ้งของจิตใจ



   ก๊อก ก๊อก


   “หลับรึยัง พี่เข้าไปนะ”เสียงพี่วรรณเรียกจากด้านนอก

   “เข้ามาเลย ผมไม่ได้ล็อกประตู”ผมตอบ

   “นึกว่าจะนอนไปแล้ว”พี่วรรณบอกแล้วนั่งลงบนพื้นข้างผม

   “เดี๋ยวก็นอนแล้ว ว่าแต่พี่ ทิ้งงานมาแบบนี้เพื่อนพี่ไม่ว่ารึไง”

   ผมถาม เพราะว่าพี่วรรณหยุดงานมาเป็นอาทิตย์แล้ว ถึงงานที่พี่เขาทำจะเป็นงานกึ่งอิสระ และเจ้านายจะเป็นเพื่อนสนิทที่เป็นเจ้าของบริษัททัวร์ที่ร่วมหุ้นกัน

   “ใครจะกล้าว่าหุ้นส่วน ถามอะไรเซ่อซ่าอีกแล้ว แล้วนี่เก็บของยังไม่เสร็จอีกรึไง”พี่วรรณพูดเสียงเข้มคล้ายจะดุ

   “ใครบอก แค่กลัวจะว่างต่างหากเลยค่อยเก็บ”ผมบุ้ยปากใส่พี่วรรณ

   “ว่าไปนั่น ไม่รู้จักโตสักที แต่ริอาจจะมีแฟน”พี่วรรณพูดแล้วเอื้อมมือมาดันหัวผมจนเกือบทิ่ม

   “มันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดกันหรอกน่า แล้วพี่วรรณเหอะ จะไปให้เกะกะทำไม เอาเวลาไปหาฟงหาแฟนได้แล้ว”ผมพูดเหน็บ

   “ใครจะไปรีบเหมือนเรา แล้วที่ไปไม่ใช่อะไร ขืนปล่อยให้ไปกันเองได้ทงได้ท้องกลับมาจะยุ่งไปกันใหญ่”

   พี่วรรณพูดทำเอาผมสะอึก เหมือนจะถูกแทงใจดำอยู่กลายๆ

   “ทงท้องที่ไหนกันเล่า พี่ก็พูดไปนั่น ผู้ชายที่ไหนจะท้องได้”

   ผมโบกมือแย้ง ถึงแม้จะกลัวๆอยู่ในใจก็ตาม

   แม้ผมจะคิดว่าท้องไม่ได้ แต่ก็อดระแวงไม่ได้เลยว่าจะท้องขึ้นมาจริงๆ

   “นั่นสินะ นึกว่าจะเซ่อซ่าเออออกับคำพูดคนอื่นเขาไปทั่ว”นี่ก็อีก

   แทงใจดำอยู่เรื่อย

   “ไปนอนได้แล้วน่า อยู่ก็เกะกะ ชิ่วๆ”ผมไล่

   “พรุ่งนี้ก็อย่าตื่นสายล่ะ เดี๋ยวธารามารับแล้วเห็นว่าไม่ตื่นเขาไม่รอรู้ด้วย”

   “ดีเลย ไม่รอยิ่งดี”ผมตอบกลับไปทันที

   ให้มันรู้ไปว่าจะไม่รอ จะได้ไม่ต้องไปน่ะ ภาวนาให้มันเป็นอย่างที่พี่วรรณพูดทีเถอะ ผมจะได้ไม่ต้องตกเป็นเมียของพี่ธาราโดยที่ไม่รู้ว่าพี่เขาคิดยังไงกับผม





   เวลาเช้ามักจะมาเยือนไวเสมอ นาฬิกาบอกเวลาแปดโมงทำเอาผมรีบผลุดลุกขึ้นมาอายน้ำแต่งตัวทันที

   ผ่านไปยี่สิบนาทีกว่าจะเสร็จแล้วหอบสัมภาระลงมาได้ พร้อมกับครอบครัวที่ทานอาหารเช้ากันเสร็จเรียบร้อยแล้วมานั่งดูข่าวยามเช้ากันพร้อมหน้า

   คงมีแต่ผมเท่านั้นละมังที่ตื่นสาย

   “ดูสิวรรณ แม่ว่าแล้วว่าน้องชายลูกต้องตื่นสายเอาจนได้ กว่าจะลงมาก็แปดโมงครึ่งเข้าแล้ว”พอแม่หันมาเห็นก็บ่นทันที

   ใครเขาจะตั้งใจตื่นสายล่ะแม่ อุตส่าห์ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่เจ็ดโมงเช้า แต่ดันไม่ตื่น ตื่นอีกทีก็เลทไปเป็นชั่วโมง

   แล้วดูเขาทำกัน พอพี่วรรณมาก็ไม่มีใครสนใจผมเลย

   “รีบไปกินข้าวกินปลาได้แล้ว เดี๋ยวพี่เขามาจะกินไม่ทันเอา”พ่อหันมาบอก

   “จ๊ะจ๊ะ”ผมตอบรับ วงกระเป๋าไว้บนพื้นแล้วเดินเข้าครัวไปหยิบขนมปังที่ปิ้งทิ้งเอาไว้ยัดใส่ปากอย่างเซ็งๆ

   ทำไมถึงไม่รู้สึกกระปี้ประเป่าเลยนะ



   ครืด ครืด ครืด

   โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่นเรียกให้ผมหยิบขึ้นมาดู ก็เห็นเบอร์แปลกโทรเข้ามา

   “มณีครับ”ผมกรอกเสียงลงไป

   ‘น้องมณี นี่พี่วิทย์นะครับ ที่เป็นบรรณารักษ์ห้องสมุด ยังจำได้รึเปล่าครับ’

   “อ่า จำได้ครับ พี่มีอะไรรึเปล่า”ผมถามด้วยความสงสัย

   ถ้าไม่ติดว่าเป็นการแลกเปลี่ยนกับข้อมูลที่ผมอยากรู้ผมคงไม่ให้เบอร์เขาเพื่อให้เขาเปิดต้นฉบับเรื่องพระอภัยมณีให้ดูหรอก

   ‘พี่จะโทรมาบอกน้องมณีว่าพอดีมีอัพเดทจากห้องสมุดส่วนกลางเข้ามาในระบบน่ะ’เขาบอกทำให้ผมเลิกคิ้วแล้วกัดขนมปังอย่างตั้งใจฟัง

   “แล้ว ยังไงครับ”ผมถามทั้งที่ยังคงเคี้ยวขนมปังต่อ

   แต่หัวใจผมกำลังเต้นรัวกับสิ่งที่พึ่งจะได้รับรู้

   อาจจะเป็นข้อความอะไรเพิ่มเติม

   “แล้วข้อมูลเพิ่มเติมว่าไงครับ พอจะบอกผมเลยได้ไหม”ผมว่า เพราะอีกแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พี่ธาราก็จะมารับแล้ว

   ‘จะว่ายังไงดีล่ะครับ มันเป็นบทกลอน พี่ก็ไม่สันทัดเท่าไร น้องมณีน่าจะมาดูเอาเองนะครับ’

   เขาบอก

   ผมจะเอายังไงดี อยากจะไปเห็นเองกับตาว่ามันคือกลอนอะไร อยากรู้จนรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาซะแล้ว

   “ได้ครับ เดี๋ยวผมไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”ผมบอกก่อนจะวางสาย


   

   “ผมไปข้างนอกนะ”ผมว่าพลางคว้ากุญแจรถที่แขวนไว้ข้างประตูบ้าน

   “เดี่ยวสิ จะไปไหนล่ะมณี เดี่ยวพี่เขาก็จะมารับแล้ว”

   “ไปไม่นานหรอกแม่ เดี่ยวมา”ผมบอกก่อนจะออกจากบ้านไปโดยไม่ฟังใคร

   ถ้ามัวแต่ยืดเยื้อเวลาที่มีอยู่เพียงน้อยนิดนะเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ผมต้องรู้ให้ได้ว่าส่วนที่เหลือคืออะไร

   


   ผมจอดรถขวาหน้าหอสมุดขวางทางเข้าโดยที่ไม่สนใจจะดึงกุญแจรถออก โชคดีที่คนยังไม่ค่อยมีเพราะยังเช้าอยู่ อีกอย่างก็มียามคอยเฝ้าอยู่ตรงประตูทางเข้าด้วย

   “มาไวจังเลยนะครับ”พี่วิทย์ บรรณารักษ์ คนเดิมที่ช่วยผมหาข้อมูลทักทายด้วยความแปลกใจ แต่ผมไม่มีเวลาที่จะทักตอบแล้ว

   เพราะตอนนี้ผมกำลังรีบและกระวนกระวายใจที่จะอยากรู้เป็นอย่างมาก

   “ช่วยเปิดให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ ตอนนี้เลย”ผมเร่ง

   “ครับๆ ทำไมดูรีบจัง”เขาถาม

   ก็เพราะว่าคืนนี้จะเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง คืนที่ผมกับพี่ธาราจะทำในสิ่งที่คิดว่ามันเป็นชะตากรรมยังไงล่ะ

   แต่ก่อนหน้านั้นผมจะต้องการรู้อะไรมากกว่าข้อความสั้นๆนั่นให้ได้

   ผมรอคอมพิวเตอร์โหลดเครื่องอยู่ร่วมนาที แต่สำหรับผมมันรู้สึกว่านานนับสิบนาทีได้

   เม้าท์ชี้ไปที่โปรแกรมแล้วเปิดมันออก พี่วิทย์กรอกรหัสลงไปทีละตัว ตามปกติ แต่ผมรู้สึกว่ามันช้า ช้ามาก อาจจะเป็นเพราะผมอยากรู้เรื่องมากกว่านี้ก็ได้

   “นี่ครับ ได้แล้ว ถึงจะมีเพิ่มแค่รูปเดียว แต่ข้อมูลก็เยอะอยู่สำหรับกลอนสองบท”พี่วิทย์บอกทำให้ผมไล่อ่านบทกลอนนั้นด้วยจิตใจที่ไม่สงบ


   อุปสรรค ขวากหนาม ช่างกลั่นแกล้ง      

   เหมือนน้ำแล้ง ยามเหล่าไม้ ต้องการฝน      

   ความรักน้อง แสนอาภัพ สุดอับจน      

   ตรอมทุกข์ทน หักห้าม ในอุรา      



   ผิดจารีต ประเพณี ผิดผีไข้   

   ต้องตัดใจ จากลา พี่ยักษา      

   แสนทุกข์ตรม ชอกช้ำ ในอุรา      

   ชั่วชีวา ปักจิตรัก สิ้นวายปราน      



(อุปสรรคที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนขวากหนามที่คอยกั้นความรักระหว่างเรา)

(เหมือนยามหน้าแล้งที่ขาดน้ำในเวลาที่ต้นไม้ต้องการน้ำเพื่อผลิดอกเบ่งบาน)

(ความรักของน้องก็เช่นกัน แสนจะอาภัพอับจนหนทางที่จะไปต่อ)

(ต้องอยู่กับความทุกข์ที่เกิดขึ้นเพราะต้องหักห้ามความรักที่เกิดขึ้นภายในใจ)

(ผิดกฎเกณฑ์ประเพณีแบบแผนที่ถูกวางไว้มาแต่ช้านาน เป็นข้อห้ามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้)

(ต้องตัดใจในความรักที่เกิดขึ้นแล้วหนีจากไป)

(แต่ความทุกข์ก็ยังคงอยู่ หลีกหนีไม่ได้ มันยังคงติดอยู่ข้างในจิตใจ)

(ชั่วชีวิตสัญญาว่าจะเก็บรักษาความรักนี้เอาไว้จนวันสิ้นลมหายใจ)


   

   สิ้นสุดบทกลอนวรรคสุดท้ายผมไม่รู้ว่าทำไมร่างกายราวกับไร้เรี่ยวแรงเอาซะดื้อๆ

   น้ำตาผมไหลลงมามาอาบแก้มโดยที่ผมไม่รู้ตัว ผมไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร แต่ผมรู้สึกเจ็บ ผมเจ็บมากๆ

   เจ็บข้างในใจที่ไม่อาจจะทำได้ตามที่คิด

   “เป็นอะไรไหมครับน้องมณี”พี่วิทย์หันมาแตะไหล่ผมด้วยความเป็นห่วง

   “ไม่ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณพี่มากนะครับ”ผมบอกแล้วเดินออกมาด้วยสภาพที่เหมือนไร้จิตวิญญาณ

============================================================
มีต่อ
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 21/10/58 [CH.15] ชลาสินธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 21-10-2015 03:29:35
ต่อกันเลย ยาวหน่อยนะ



“ลูกไปไหนมา พ่อเขาจะออกไปตามหาแล้วรู้ไหม จู่ๆก็ผลุนผันออกไป คนอื่นเขาตกใจกันหมด”ทันทีที่จอดรถหน้าบ้านแม่ก็ข้ามาแตะไหล่ด้วยความเป็นห่วง

   “ขอโทษครับ พอดีว่าไปธุระนิดหน่อย”ผมตอบเสียงแผ่ว มองเห็นพี่ธารายืนรออยู่หน้าบ้านกับคนอื่นๆอยู่ก่อนแล้ว

   “แล้วธุระอะไรกันตอนนี้ สำคัญนักรึไงต้องไปเอาเวลานี้”พ่อพูดขึ้นมาบ้าง

   “ไม่มีอะไรหรอกครับ กลับมาแล้ว ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวจะสาย”ผมบอก

   “ในเมื่อมาแล้วก็แล้วไป ออกเดินทางกันได้แล้ว เดี๋ยวจะไปถึงช้า ฝั่งนู้นเขาจะเป็นห่วงเอา”พ่อพูดแล้วเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าสัมภาระของผมในบ้านพร้อมกับแม่ที่เดินตามไปด้วย



   “เจ้าร้องไห้อย่างนั้นรึ”พี่ธาราเดินเขามาใกล้

   ใบหน้าคมคายก้มลงมองผมในระยะประชิด แล้วยกมือขึ้นมาเกลี่ยน้ำคราบน้ำตาที่ยังคงติดอยู่

   “เปล่า”ผมโกหก

   “เจ้าจะโกหกข้ากี่ร้อยครั้งกี่พันครั้งก็ย่อมได้ แต่ใจของเจ้า เจ้าไม่สามารถโกหกมันได้หรอกมณี”พี่ธาราพูดเสียงเบา

   “ขอโทษ”ผมขอโทษออกไป

   ไม่รู้ว่าทำไมต้องขอโทษทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

   รู้เพียงแต่ว่าอยากจะขอโทษ อยากจะให้เขาให้อภัยผม

   “เจ้าไม่จำเป็นจะต้องขอโทษข้า ในเมื่อข้าไม่เคยคิดที่จะโกรธเคืองเจ้า”





   เรานั่งรถกันมาชั่วโมงกว่าโดยที่พี่ธาราเป็นคนขับโดยมีผมนั่งข้างคนขับและพี่ศรีสุวรรณนั่งอยู่เบาะด้านหลัง

   “ถึงแล้วเหรอครับ”ผมถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะเราขับรถเข้ามาจอดในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง

   จะว่าบ้านเป็นรีสอร์ทก็ไม่น่าจะใช่

   “ยังหรอก ยังต้องไปอีกไกล”พี่ธาราพูดพร้อมกับลงจากรถและเตรียมขนของลงมา ทำให้ผมกับพี่ศรีสุวรรณต้องลงมาช่วย

   ทั้งที่ผมยังคงสงสัยว่าพี่ธารามาที่รีสอร์ททำไม

   ไม่นานก็มีเพนักงานของรีสอร์ทอีกสองคนมาช่วยขนกระเป๋าของพวกเราแล้วเดินนำไปที่ท่าเรือของรีสอร์ท


   “ทำไมมาที่นี่ล่ะ”ผมถามอีกครั้ง

   ไหนพี่เขาบอกว่าจะพาไปบ้าน แล้วบ้านอยู่อีกไกล แล้วทำไมถึงพาพวกเรามาที่ท่าเรือ

   ผมมองดูพนักงานพากันขนของลงไปในเรือสปีทโบ๊ทลำขนาดพอดี

   “เรายังต้องเดินทางอีกไกล”พี่ธาราตอบ นั่นก็ทำให้ผมไม่เข้าใจอยู่ดี

   ในเมื่อพี่เขากระโดดลงเรือไปแล้ว ตามด้วยพี่ศรีสุวรรณที่ตามลงไปเงียบๆ

   “ทำไมต้องด้วยเรือด้วยล่ะ ขับรถไม่ได้เหรอ”ผมถาม เพราะไม่ค่อยถูกกับพวกน้ำเท่าไร เพราะว่ายน้ำไม่ค่อยแข็ง แล้วยิ่ง
ลึกๆแบบนี้ มีแต่จมกับจมอย่างเดียวแน่

   “มาเถอะ อย่าห่วงเลย”พี่ธารายื่นมือมาให้ผมจับ

   ผมยื่นมือให้พี่ธาราจับเอาไว้แล้วก้าวขึ้นเรือ
   

   ไม่เคยรู้มาก่อนว่าพี่ธาราจะขับเรือเป็นด้วย เรานั่งเรือออกมาจากฝั่งจนริมฝั่งไกลลิ่วออกไปทุกที

   “ทำไมต้องไปด้วยเรือล่ะ”ผมตะโกนถามแข่งกับเสียงลม มือสองข้างพยายามจับเส้นผมที่ปลิวไปตามลมจนยุ่งเหยิงอาไว้

   “เดี๋ยวก็รู้เอง”ธารายิ้มมุมปากแล้วดันให้ผมนั่งลง

   “ชักรู้สึกว่าไม่ธรรมดาแล้วสิ”พี่ศรีสุวรรณยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อขับเรือออกมาจากฝั่งได้ครึ่งชั่วโมงก็เจอเข้ากับเกาะขนาดใหญ่ ด้านหน้าเป็นเกาะมีท่าเรือเป็นลักษณะสะพานสีขาวทอดยาว และมีชายหาดทรายขาวสะอาดตายาวทอดไป

   ด้านหน้าเกาะถัดไปจากชายหาดเป็นบ้านขนาดใหญ่ ไม่ใช่บ้านสิ คฤหาสน์ตากอากาศมากกว่า ใหญ่มาก

   นี่ใช่ไหมบ้านที่ไม่ใช่บ้านชั่วคราวที่พี่ธาราเคยบอก ใหญ่ซะยิ่งกว่าใหญ่อีก

   ผมอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้เห็น มันไม่ธรรมดาจริงๆ นี่ตกลงพี่เขาไม่ใช่ยักษ์ธรรมดาใช่ไหม แต่เป็นยักษ์มหาเศรษฐี อภิอลังการรวย

   “เข้าใจเลือกแฟนนี่”พี่ศรีสุวรรณกะซิบข้างหูหลังจากที่เรือผ่อนแรงลงแล้วเทียบท่า

   “อะไรเล่า ผมจะไปรู้ไหม”ผมตอบทั้งที่ใบหน้ารู้สึกว่าร้อนผ่าว


   “มาถึงกันแล้วเรอะ เดินทางสะดวกไหม”ทันทีที่เราพากันขึ้นฝั่งชายวัยกลางคนที่ยืนรออยู่ที่ท่าเรือหน้าเกาะก็ถามพร้อมกับส่งมือมาที่ผมแล้วยิ้มให้

   ผมชะงักเมื่อใบหน้าของเขาช่างคุ้นเคยเหมือนกับว่าผมเคยเห็นเขามาก่อน

   ใบหน้าที่จะบ่งบอกถึงวัยแต่ก็มีความน่านับถือน่าเกรงขามในแบบผู้ใหญ่

   “นี่อาของพี่เอง ท่านอาวสิน”พี่ธาราเข้ามาใกล้แล้วแตะไหล่เป็นเชิงบอกให้ผมไว้ใจเข้าได้

   ผมยื่นมือไปจับมือของอาวสินซึ่งเป็นคุณอาของพี่ธาราแล้วมองหน้าเขา

   ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าผมคิดอะไรทำให้เขายิ้มออกมา

   “ข้าไม่นิยมกินเนื้อ”เขาพูดเสียงเบาให้ได้ยินกันสองคนทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าแดงที่เขาเดาความคิดผมออก

   ก็เป็นใครใครจะไม่กลัว มาถึงถิ่นของยักษ์ถึงที่แบบนี้ จะโดนจับกินทั้งพี่ทั้งน้องเมื่อไรไม่รู้

   พอคุณอาของพี่ธาราบอกว่าเขาไม่กินเนื้อผมก็วางใจขึ้นมา

      “สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้

   “รูปงามสมคำล่ำลือเสียจริง”เขาว่าก่อนจะแตะไหล่ผมให้เดินตามไปยังสะพานสีขาวที่ทอดยาวออกมาจากฝั่ง

   ทิ้งให้พี่ธารากับพี่ศรีสุวรรณเป็นเด็กแบกกระเป๋าไปโดยปริยาย
   
   

   “กินน้ำกินท่าก่อนสิ เกี่ยวให้ธาราเขาพาไปดูห้อง ส่วนวรรณเดี๋ยวอาพาไปเอง”อาวสินบอกหลังจากที่เราเข้ามาในห้องรับแขก

   ขอกตกแต่งทั้งเก่าและใหม่มากมายถูกรวบรวมมาไว้ในห้องนี้ บ่งบอกถึงมูลค่าที่สูงมากทำเอาผมมองไปยังรอบๆอย่างอดทึ่งไม่ได้

   เป็นอะไรที่เวอร์มาก กับคฤหาสน์สไตล์ตากอากาศที่เน้นรอบๆเป็นกระจก แต่ก็มีผ้าม่านสีดำทึบติดอยู่ทั่ว เพียงแต่ตอนนี้มันไม่ได้ถูกปิดลงแต่อย่างใด

   “เอ่อ ไม่ได้พัก ด้วยกันเหรอครับ”ผมถาม ตามจริงก็รู้อยู่หรอกว่าคืนนี้จะเจอกับอะไร แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่พร้อมอยู่ดี ถึงจะ
ตัดใจได้แล้วก็ตาม

   “อาอยากให้วรรณเขาพักห้องใหญ่ฝั่งทิศตะวันตกน่ะ ตอนพระอาทิตย์ตกวิวจะสวยเชียว อยากให้เห็นวิวสวยๆ”เขาบอก

   “ไม่มีปัญหาครับ แต่จะดีเหรอครับ เรานอนห้องเดียวกันก็ได้ จะได้ไม่รบกวน”พี่วรรณแก้ต่าง

   “ไม่เป็นไร ห้องหับเยอะแยะ มาสิ เดี่ยวจะพาไป”พูดจบอาวสินก็เดินนำไปไม่รอให้พี่วรรณแย้ง

   เหมือนว่ากำลังวางแผนอะไรกันอยู่เลย

   พี่วรรณเดินถือกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองตามไปเงียบๆเหลือแค่ผมกับพี่ธาราที่เงียบมาสักพักแล้ว


   “มาสิข้าจะพาไปห้องเรา”

   ห้องเรา? ช่างพูดได้เต็มปากดีจริง นี่ผมกับพี่เป็นเรากันตั้งแต่เอไร ขี้ตู่อีกแล้ว

   แต่ผมก็ดันเดินตามเขาไปซะงั้น



   “ไม่ได้อยู่ชั้นสองเหรอ”ผมถามเมื่อเราเดินขึ้นบันไดผ่านชั้นสองมา

   “ดาดฟ้าน่ะ”พี่ธารายิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์

   “ทะ ทำไมห้องผมถึงอยู่ดาดฟ้าล่ะ อยู่ห้องข้างๆห้องพี่วรรณไม่ได้รึไง”

   “เจ้าจะพักที่ห้องข้า”พี่ธาราพูดจบก็เดินนำขึ้นไป

   ทิ้งให้ผมแทบจะดิ้นกระแด่วอยู่บนขั้นบันได

   จะเอายังไงดี เอายังไงกับคืนนี้ดี ผมพร้อมรึยัง ผมยังไม่รู้ใจตัวเองเลย

   เรามาหยุดอยู่หน้าประตูห้องบ้านใหญ่สีขาวทึบ

   พี่ธาราเปิดประตูออกให้มองเห็นด้านในของห้องที่เป็นกระจกใสล้อรอบ มีเตียงไม้สี่เสาอยู่กลางห้อง ด้านนอกกระจกเป็นดาดฟ้ามีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถมองออกไปเห็นทะเลไกลสุดลูกหูลูกตา

   แต่ที่สำคัญ เพดานห้องนั้นเป็นกระจกใสสามารถมองเห็นท้องฟ้าได้ชัดเจน

   ผมอ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็น กระเป๋าที่ถืออยู่ในมือร่วงลงพื้นเพราะความทึ่งในสิ่งที่เห็น

   สวยจนบรรยายไม่ถูกเลยทีเดียว

   ด้านนอกที่เป็นสระว่ายน้ำมีต้นมะลิปลูกเต็มไปหมด ดอกสีขาวที่กำลังออกดอกบานจนเต็มต้นส่งกลิ่นหอมผ่านประตูกระจก
ที่เปิดทิ้งเอาไว้ ทำให้ทั้งกลิ่นอายทะเลและกลิ่นอายของดอกมะลิถูกลมพัดหอบเอาเข้ามา

   “เจ้าชอบหรือไม่”พี่ธาราจับเอวทั้งสองข้างของผมดันให้ผมเข้าไปในห้อง

   “ชะ ชอบ”ผมตอบเสียงขาดหาย

   นะ นี่น่ะเหรอห้องเชือดผม

   ผมคิดพลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ



   เราทั้งสอคนเงียบกันอยู่พักใหญ่หลังจากที่มเดินเข้ามาในห้อง

   พี่ธารานั่งลงบนเตียงสี่เสาสีดำสนิทข้างๆผมที่กำลังรื้อของออกมาจากกระเป๋าเพื่อจัดให้เข้าที่เข้าทาง
   

   มีเพียงเสียงคลื่นทะเลด้านนอกและกลิ่นหอมหวานของดอกมะลิเท่านั้นที่กั้นอยู่ระหว่างเรา

   หัวใจของผมกำลังเต้นโครมครามเมื่อรู้สึกว่าสายตาคู่สีดำสนิทกำลังจ้องมองมาที่ผม

   บทกลอนที่ยังคงติดอยู่ในใจทำให้ผมไม่สามารถคลายความสงสัยไปได้เลย

   ทั้งที่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าพระอภัยมณีนั้นรักพี่ธาราจนสุดหัวใจ แต่ไม่สามารถยอมรักความรักที่เกิดขึ้นในใจของตัวเองได้

   แล้วพี่ธาราล่ะ….รักพระอภัยมณีบ้างหรือเปล่า


   ผมได้แต่คิดถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา

   “เจ้าจะนอนพักก่อนก็ก็ได้หากเจ้าง่วง”พี่ธาราบอกเสียงเบาแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้

   ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรผู้เข้มแข็งกำลังโน้มลงมาจนจมูกโด่งนั้นคลอเคลียกับปลายจมูกของผม

   คำถามที่เฝ้าถามวนเวียนซ้ำไปซ้ำมาในห้วงแห่งสำนึกทำให้ผมหลับตาลงตอบรับกับริมฝีปากอุ่นร้อนที่ทาบลงมา

   ฝ่ามือใหญ่ประคองหน้าผมเอาไว้ ก่อนที่มันจะลูบไปมาเบาๆเพื่อให้ผมผ่อนคลายแล้วเปิดปากออกตอบรับปลายลิ้นที่แทรกเข้ามา

   ลิ้นร้อนกวาดต้องอยู่ภายในโพลงปากของผมให้ผมได้คล้อยตามและตอบรับการชักจูงที่อ่อนโยนนั้น

   ความอบอุ่นแผ่เข้ามาข้างในจิตใจทำให้ผมรู้สึกมั่นใจในสิ่งที่ก่อเกิดในจิตใต้สำนึก

   ความรักที่หลงเหลืออยู่ในบทกลอนทำให้ผมคล้อยตามและรู้สึกถึงมัน ความรักที่ผมหลีกเลี้ยงไม่ได้

   ผมกำลังรักพี่ธารา….รักแบบที่พระอภัยมณีรัก

   แล้วพี่ธาราล่ะ รู้สึกยังไงกับพระอภัยมณีคนก่อน และรู้สึกยังไงกับผม

   สิ่งที่เขากำลังทำอยู่เป็นเพราะโชคชะตาหรือว่าความรักกัน

   ผมช้อนตาขึ้นมองหลังพี่ธาราถอนจูบออกไป นึกอยากจะถามออกไปอย่างที่ใจคิด

   หากแต่ผมไม่กล้า…ผมกลัวคำตอบของเขา

   “เจ้าควรพักผ่อน”พี่ธาราบอกก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
   


   “เดี๋ยวก่อน”ผมรั้งมือพี่ธาราเอาไว้

   แต่ความอดทนของผมได้จบสิ้นลงเพราะความอยากรู้

   คืนนี้แล้วที่เราจะทำในสิ่งที่คิดว่ามันถูก หากแต่หัวใจของเราสองคนล่ะ รู้สึกอย่างไร ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน

   และมั่นใจว่าพระอภัยมณีในชาติที่แล้วก็อยากรู้ไม่ต่างจากผม

   พี่ธาราจ้องหน้าผมแล้วเลิกคิ้วเป็นการตั้งคำถาม

   “พี่….ช่วยตอบคำถามผมสักข้อได้ไหม ก่อนที่เราจะทำในสิ่งที่พี่ต้องการ”ผมถามเสียงเบา

   “เจ้าลองว่ามาสิ”เขาเหลือบมองมือผมที่รั้งเขาเอาไว้

   “พี่….รักพระอภัยมณีบ้างไหม”ผมเงยหน้ามองเขา

   พี่ธาราเงียบไปสักพัก แต่ใบหน้านั้นยังคงนิ่งเฉย ถึงแม้ว่าในดวงตานั้นจะแสดงออกถึงความเจ็บปวดก็ตาม

   แต่ผมก็โง่จนไม่สามารถที่จะอ่านได้ว่าพี่ธารารู้สึกอย่างไร หากว่าเขาไม่บอก

   “ความรู้สึกของข้าต่อเจ้าในชาติที่แล้วข้าไม่สามารถบอกเจ้าได้ หากเจ้าในชาตินี้เป็นตัวตนของเจ้า มิใช่เป็นตัวตนของชาติที่แล้ว”

   คำตอบที่เป็นราวกับคำปฏิเสธทให้จิตใจของผมสั่นคลอน

   “งั้น จะเป็นอะไรไหม ถ้าผม…จะถามพี่อีกข้อ”ผมถามอีกครั้ง

   ความเงียบของพี่ธาราผมจะทึกทักเอาเองแล้วกันว่าเขาอนุญาต
   

   “พี่…รู้สึกยังไงกับผม”

   หลังจากคำถามสุดท้ายถามออกไป ความเงียบก็ก่อเกิดขึ้นอีกครั้ง

   เราทั้งสองจ้องตากัน

   ผมจ้องมองเขาเพื่อต้องการที่จะได้คำตอบที่ผมสงสัย

   แล้วพี่ธาราล่ะ จ้องมองผมด้วยสายตาที่เจ็บปวดแบบนั้นเพราะอะไร
   

   เป็นพี่ธาราที่หลบสายตา

   นั่นทำให้ผมรู้สึกเจ็บจนร่างกายรู้สึกอ่อนแรงขึ้นมาทันที ผมปล่อยมือร่วงลงข้างตัว

   ทิ้งให้พี่ธาราเดินออกไปจากห้องโดยไร้คำตอบ

   ทำไมล่ะ?

   ทำไมเขาถึงไม่มีคำตอบให้ผม หรือเป็นเพราะที่เขาทำทั้งหมดก็เพื่อหน้าที่ เพื่อสิ่งที่เขาต้องการ



   จิตใจของผมปั่นป่วนจนไม่สามารถจะอยู่นิ่งเพื่อรองรับอารมณ์ของตัวเองได้

   ผมเหลือบมองไวโอลินตัวโปรดที่แม่ส่งให้ก่อนที่จะออกเดินทาง

   บทเพลงที่ผมเคยเล่นเพียงแค่ครั้งเดียวมันกำลังเรียกร้องผม

   เสียงคลื่นด้านนอกที่ปั่นป่วนพอๆกับจิตใจผมก็เช่นกัน

   ผมต้องการที่จะอยู่เงียบๆในที่ที่ไม่มีใคร ความรู้สึกที่เกิดขึ้นโดยกะทันหันทำให้ผมว้าวุ่น



   ผมหยิบเครื่องดนตรีตัวโปรดขึ้นมาแล้วเดินออกจากห้อง

   ความเงียบภายในบ้านหลังใหญ่ทำให้ผมรู้ได้ว่าที่นี่ไม่มีใครเลยนอกจากพี่ธารากับคุณอาของเขา

   ผมเดินเลาะมาที่ชายหาดตรงที่เป็นแนวโขดหิน

   ภาพของพี่ธาราที่เดินหันหลังให้ผมในเวลาที่ผมต้องการคำตอบยังคงติดค้างอยู่ในใจ

   ผมยืนบนโขดหินก้อนใหญ่หลายก้อนที่ขึ้นเรียงตัวกันตรงท้ายหาดไกลออกมาจากตัวบ้านพอสมควร

   คันสีถูกยกขึ้นจรดกับสายเครื่องดนตรีแล้วขยับไปมาทำให้เกิดห้วงทำนองที่ผมจดจำมันได้อย่างขึ้นใจ

   เสียงเพลงหวานหูสอดแทรกไปด้วยความรู้สึกที่เศร้าโศกดังสอดประสานกับเสียงขึ้นที่กระทบกับโขดหิน

   ยิ่งบรรเลงเพลงไปนานเท่าไร หัวใจของผมมันก็ยิ่งปวดร้าว

   นานจนผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว

   จ๋อม!!

   เสียงเหมือนอะไรไรตกน้ำทำให้ผมสะดุ้งหันไปมองยังทิศทางที่เสียงนั้นดังขึ้น

   ผมเดินหากแต่ผมไม่เจออะไร

   แต่ความสงสัยยังไม่คลายออกทำให้ผมก้าวไปข้างหน้าริมโขดหิดที่ยื่นไปในทะเล

   กลุ่มผมสีดำที่หลบซ่อนอยู่ด้านหลังโขดหินทำให้ผมเบิกตากว้างแล้วร้องออกมาอย่างตกใจ

   “ใครน่ะ”ผมถามออกไป

   เรือนผมยาวสลวยที่ไม่รู้ว่ายาวไปถึงไหนเพราะผมเห็นไม่ค่อยชัด ใบหน้าที่ขาวจัดชะโงกหน้าออกมาจากโขดหินอย่างหวาดกลัว

   ใครที่ไหนมาเล่นน้ำแถวนี้กัน นึกว่าไม่มีใครอื่นแล้วนอกจากพี่ธารากับคุณอาของเขา หรือว่าเขาจะเป็นยักษ์

   แต่พี่ธาราเคยบอกเอาไว้ว่ายักษ์ที่นี่มีแค่เขากับอาวสินแค่นั้น

   แล้วคนคนนี้เป็นใครกัน มันจะอันตรายไหมหากว่าคนอื่นรู้ว่าคนคนนี้อยู่ที่นี่

   ผมเดินก้าวเข้าไปอีกก้าวเพื่อที่จะบอกว่าที่นี่ไม่ปลอดภัย

   “ทะท่านอย่าเข้ามานะ”เขาพูดพร้อมทำสีหน้าตกใจ ผละออกห่างจากผมทันที

   นั่นทำให้ผมเห็นใบหน้าของเขาชัดเต็มตา

   ใบหน้าที่งดงามเหมือนกับนางในวรรณคดี ดวงตาเรียวคมกับคิ้วที่เหยียดรับกับดวงตา จมูกโด่งเชิดรั้น เรียวปากบางสีชมพูหวาน และที่สำคัญ นัยน์ตาของคนคนนี้สีฟ้า สีฟ้าเหมือนกับสีของน้ำทะเล

   “ฉันไม่ทำร้ายนายหรอกน่า แค่จะบอกว่าอยู่ที่นี่ไม่ปลอดภัย”ผมบอกไป

   “ไม่ปลอดภัยอย่างไรกันในเมื่อข้าอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด”เขาตอบทำให้ผมเลิกคิ้วสงสัยในคำตอบ และสำนวนการพูดแบบโบราณเหมือนพี่ธารา

   แต่คำถามที่ผมเพิ่งจะนึกขึ้นได้ก็ถูกตอบโดยภาพที่เห็นเองกับตา

   ไม่อยากจะเชื่อ!!

   น้ำทะเลที่ใสจนสามารมองเห็นทุกอย่างได้ทำให้ผมมองเห็นหางที่ปกคลุมด้วยเกร็ดสีฟ้าเข้มเหลือบเขียวเหมือสีน้ำทะเลลึก

   มันกำลังสะบัดไปมาอยู่ในน้ำทะเลที่ใสแจ๋วนั่น

   ผมอ้าปากจนกรามแทบค้าง

   “นะ นาย เป็นนางเงือกเหรอ”ผมถามออกไป เพราะหน้าอกของเขาแบราบ ผมจึงเรียกว่านาย ถึงแม้ว่าหน้าตาและผมที่ยาว
นั่นจะทำให้เขาเหมือนผู้หญิง

   “นายเงือกต่างหาก แล้วท่านเป็นใคร เช่นใดจึงดูคุ้นหน้าข้านัก”

   “ฉัน ชื่อมณี”ผมบอกไป

   “มณี? พระอภัยมณีหรือไม่ ท่านช่างเหมือนเขายิ่งนัก”นายเงือกตอบแล้วมองผมคล้ายกับไม่เชื่อในสิ่งที่กำลังเห็น

   “ไม่ใช่ พระอภัยมณีเป็นแค่ตัวตนของฉันในชาติที่แล้ว”

   ใช่ตัวตนของชาติที่แล้วไม่เกี่ยวอะไรกับชาตินี้ เพราะอย่างนั้นพี่ธาราถึงไม่ตอบคำถามของผม

   “ท่านกลับชาติมาเกิดอย่างนั้นรึ น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก หากนางเงือกพี่ข้ายังคงอยู่ นางคงจะดีใจที่ได้รู้”

   นายเงือกตอบด้วยเสียงตื่นเต้นแล้วเข้ามาเกาะริมโขดหินที่ผมยืนอยู่พร้อมกับสะบัดหางไปมาในน้ำ

   “ยังมือเงือกตัวอื่นด้วยเหรอ”

   “มีพ่อกับแม่ข้าที่อาศัยอยู่ในถ้ำใต้น้ำที่อยู่เบื้องล่างเกาะนี้ แล้วก็ข้า”

   “แล้ว เอ่อ นางเงือกล่ะ”ผมถามเพราะอยากรู้ว่านางเงือกที่เป็นคู่รักของพระอภัยมณีในชาติก่อนนั้นยังอยู่รึเปล่า

   “นางสิ้นใจตามท่านไปนานแล้วล่ะ”

   “แล้วทำไมนายถึงยังอยู่ล่ะ แล้วนายเป็นน้องชายของนางเงือกเหรอ”

   “ใช่ ข้าเป็นน้องชายฝาแฝดของนางเงือก ข้าชื่อชลาสินธุ์ ข้าไม่มีคู่ครอง เลยยังอยู่มาได้จนถึงวันนี้”เขาตอบทำให้ผมคิดถึงคำของพี่ธารา

   พวกเงือกอาจจะเป็นเหมือนยักษ์ก็ได้ ที่ผูกชีวิตไว้กับคู่ครอง พอคู่ครองตายไปก็จะตายตาม

   “ชลาสินธุ์? แล้ว นายไม่กลัว เอ่อ พวกยักษ์เหรอ”ผมถามออกไป

   “ไม่หรอก ท่านวสินท่านเป็นยักษ์ถือศีล ส่วนท่านธาราสมุทรท่านไม่ทำร้ายพวกเราหรอก”

   “งั้นเหรอ”

   ผมตอบรับ นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อ รู้สึกว่าเรื่องราวในชีวิตผมมันแปลกซะจนผมไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับมันไปมากกว่านี้แล้ว

   “แล้วเมื่อครู่บทเพลงอะไรกัน ช่างไพเราะยิ่งนัก”ชลาสินธุ์ถาม

   “เมื่อกี้น่ะเหรอ ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันนึกขึ้นได้ก็เลยเล่นดู”ผมตอบแล้วย่อตัวลงนั่งลงบนโขดหิน

   “ท่าพอจะเล่นให้ข้าฟังอีกได้หรือไม่ ข้าไม่แปลกใจเลยที่นางเงือกพี่ข้ายอมครองคู่กับมนุษย์แล้วหนีไปด้วยกัน เป็นเพราะบทเพลงเช่นนี้นี่เอง”

   ชลาสินธุ์บอกพลางเท้าแขนลงกับโขดหินแล้วเกยคางไว้กับมือ

   หางสีฟ้าเขียวสะบัดไปมาใต้น้ำ รูปร่างเปลือยท่อนบทดูบอบบางจนผมนึกว่ามันดูน่ามองจนละสายตาออกไปจากร่างที่ผมกำลังมองอย่างสำรวจไม่ได้

   สิ่งที่มีอยู่ในวรรณคดีมันช่างสวยงามจริงๆ

   ผมเล่นไวโอลินในเพลงเดิมอีกครั้ง นึกถึงเรื่องราวในชาติที่แล้วที่นางเงือกพาพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทรไป

   หากชลาสินธุ์พาผมหนีไปบ้างอย่างที่นางเงือกพาพระอภัยมณีหนีไปก็คงจะดี

=================================================================
จุใจกันไปเลยจ้า ยาวๆ ว่าแต่จะเป็นยังไงต่อน้อ
อย่าเพิ่งทิ้งกันเน้อ อยู่ข้างๆเขาก่อนนะ
รักทุกคนเหมือนเดิมจ้า ขอบคุณทึกคนที่คอยติดตาม อาจจะวังเวงสักนิด แต่ก็ไม่หายนะจ๊ะ

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ฝากเพจจ้าแฟนเพจของโซอึนจ้า (https://www.facebook.com/ผู้หญิงบ้าวาย-543150342508084/timeline/)
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 21/10/58 [CH.15] ชลาสินธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 21-10-2015 08:28:56
ว้าย นายเงือกโผล่มาอีกหนึ่ง :ling3:

แล้วพี่ธาราจะได้สมหวังกับณีไหมเนี่ย :ling2:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 21/10/58 [CH.15] ชลาสินธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 21-10-2015 09:29:36
น้องมณีจะเกิดอาการปิ๊งปั๊งกับนายเงือกไหมคะเนี่ย พี่ล่ะกลัวใจน้องเหลือเกิน :try2:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 21/10/58 [CH.15] ชลาสินธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 21-10-2015 10:30:51
มณีจะหลงรักชลาสินธุ์มั้ยละเนี้ยยย โอ้ยยลุ้นมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 21/10/58 [CH.15] ชลาสินธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 21-10-2015 10:57:26
ความรู้สึกช่างซับซ้อนยิ่งพี่ธารา ทำไหมไม่ตอบมณี เดียวมณี นายรองออกโรงแล้ววหรือเปล่า ^_^ รอๆๆๆ ตอนต่อไปจ้า  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 21/10/58 [CH.15] ชลาสินธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-10-2015 12:32:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 21/10/58 [CH.15] ชลาสินธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 22-10-2015 02:42:17
ถ้าน้องมณีหนีไปพี่ธาราจะทำไงล่ะีนี้
นายเงือกก็โผล่มาอีกนายรองรึเปล่า
รอดูว่าจะหนีไหม
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 21/10/58 [CH.15] ชลาสินธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 22-10-2015 09:36:41
พี่ธาราหาเมียใหม่เถอะ คนรักเก่าตามมาเยอะเกิน

คนที่มาจ้างคณะลิเกยังไม่เคลียร์เลย นี่มีมาเพิ่มอีกแล้ว ง้อววววว
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 21/10/58 [CH.15] ชลาสินธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 23-10-2015 00:20:36
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 23/10 [CH.15] จันทร์เต็มดวง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 23-10-2015 14:13:38
19750
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ครั้งที่ 16 จันทร์เต็มดวง


   “พี่ธารา ใยวันนี้ท่านถึงได้ใจดีกับข้านัก”อภัยมณีถามเมื่อเดินออกมาภายนอกถ้ำยามที่พระอาทิตย์ตกไปได้หลายชั่วยามก่อนหน้าแล้ว ทิ้งให้สินธุ์สมุทรนอนหลับอยู่ภายในถ้ำ

   “ข้าเพียงแต่อยากให้เจ้าได้เห็นความสวยงามของดาวเดือนในยามค่ำคืนบ้าง มิได้มีสิ่งใดแปลกไปนักหรอก”

   ธาราตอบพลางมองเสียวหน้าที่งดงามของชายผู้สูงศักดิ์อย่างอภัยมณี

   นึกรังเกียจใจตัวเองที่ทำตัวเป็นดั่งแมวขโมยเช่นนี้ พอนางผีเสื้อสมุทรน้องสาวของตนไม่อยู่ ตนก็ถือโอกาสเข้าหาคู่ครองของนางแล้วพาออกมา

   คำพูดตัดพ้อของเจ้าของรูปลักษณ์ที่งดงามหาใดเปรียบ มักชอบค่อนขอดอยู่หลายเมื่อหลายเวลาว่าไม่พาออกมาดูเดือนดูตะวันบ้าง จนชักจะจำไม่ได้แล้วว่าเดือนและตะวันรูปร่างเป็นเช่นไรทำให้เขาตัดสินใจพาเจ้าตัวออกมายามที่มีโอกาส

   “แล้วเช่นใดท่านจึงไม่พาข้าออกมาดูวันพรุ่งเล่าพี่ธารา วันพรุ่งต่างหากที่จันทร์จะเต็มดวงสวย”อภัยมณีถามอย่างแปลกใจ

   “ข้าไม่อาจพบเจ้าได้ในคืนข้างขึ้น ข้าไม่อยากทำผิดต่อเจ้า”ธาราสมุทรตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด

   “งั้นหรอกรึ ถึงพี่จะพูดเช่นนั้นข้าก็ไม่เข้าใจหรอกว่าพี่พูดถึงสิ่งใด หากแต่ข้าไม่ถือโทษโกรธเคืองพี่หรอก จันทร์คืนนี้ก็
สวยไม่แพ้คืนพรุ่งสักเท่าไรหรอก ข้ากลับดีใจเสียมากกว่าที่พี่มีน้ำใจต่อข้าถึงเพียงนี้ หากเป็นยักษ์ตนอื่นคงจะหมางเมินใส่ข้า หรือไม่ก็จับข้ากินเป็นมืออาหารแน่”

   คำพูดเจื้อยแจ้วของอีกฝ่ายยามที่จ้องมองดวงจันทร์ทำให้จิตใจของยักษ์หนุ่มนั้นสั่นคลอน

   ใจที่เข้มแข็งดุจหินผาที่ยากจะทลายลงบัดนี้มันอ่อนไหวราวกับใบไม้ที่ลู่ไปตามแรงลม

   เสียงลมทะเลพัดพาคลื่นเข้ากระทบฝั่งดังก้อง กลิ่นหอมของดอกมะลินั้นตลบอบอวล แสงจันทร์สีเหลืองนวลวาดส่องไปทั่วบริเวณ

   มือหน้าเอื้อมไปปัดเอาปอยผมที่ถูกพัดไปปรกใบหน้ารูปงามมาทัดหูให้

   เจ้าของเส้นผมหอมนั้นได้แต่หันมามองหน้าคนมีน้ำใจโดยแอบแฝงความต้องการที่จะสัมผัสแม้เพียงเส้นผมเส้นเล็กๆก็ยังดี

   ดอกมะลิสีขาวบริสุทธิ์ดอกบานสะพรั่งถูกเด็ดออกมาจากต้นแล้วทัดเข้าที่ใบหูเล็กอย่างเบามือทำให้เจ้าของดูเงยหน้าช้อน
ตามองด้วยความฉงน

   “ข้ามิใช่สตรีสักหน่อย เช่นใดท่าจึงเอาดอกไม้หอมมาทัดหูข้าล่ะพี่ธารา”น้ำเสียงเอื้อนเอ่ยคล้ายจะตัดพ้อดังแล้วเสนาะหู

   หากแต่ยักษ์หนุ่มกลับไม่ใส่ใจในคำพูดนั้น ใบหน้าที่แดงระเรื่อถูกโอบประคองโดยมือใหญ่เอาไว้ไม่ให้บ่ายหนี

   ใบหน้าคมคายดุจบุรุษชาติโน้มเข้าหาอย่างไม่สามารถที่จะหักห้ามใจได้

   ริมฝีปากได้รูปจุมพิตลงบนริมฝีปากบางเป็นกระจับก่อนจะคลอเคลียไปมา

   แรงบดเบียดราวกับเป็นการล่อหลอก หลอกให้หนุ่มรูปงามเปิดปากรับเอาความหอมหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งเดือนห้าไปลิ้มลอง

   จิตใจที่อ่อนไหวนั่นไม่อาจหักห้ามหรือขัดขืนใดใดได้เลย ความรู้สึกหวั่นไหวที่มีต่อยักษ์หนุ่มนั้นมันยากที่จะปกปิดไม่ให้เล็ดรอดออกมาได้

   หากแต่มันเป็นสิ่งที่ผิตจารีต ขนบธรรมเนียมที่มีมาแต่ยาวนาน ชาติบุรุษนั้นมิอาจที่จะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อกันได้

   เขาถึงห้องหักห้ามใจมิให้แสดงสิ่งใดออกมา

   หากแต่ยักษ์หนุ่มตนนี้ล่ะ ทำไมถึงทำเช่นนี้กับเขา

   รอยจูบที่อ่อนหวานนั้นประทับลงมา ข้างในนั้นความหวานล้ำที่ยิ่งกว่าขนมหวานชนิดใดมันกำลังแผ่ซ่านไปทั่ว

   อ้อมกอดที่ไม่รู้ว่ายักษ์หนุ่มฉวยโอกาสเอาตอนไหน กระชับจนแน่นไม่อาจจะหลุดรอดออกไปได้

   แม้จะหักห้ามใจได้ แต่ร่างกายนั้นยากยิ่งกว่า มันซื่อตรงเกินกว่าจะบังคับได้

   ดวงตาคมซึ้งจ้องมองยักษ์หนุ่มยามที่ริมฝีปากนั้นถอดถอนออกไป

   ใบหน้ารูปงามนั้นกำลังบ่งบอกถึงความไม่เข้าใจในสิ่งที่ยักษ์หนุ่มนั้นทำกับตน

   “เช่นใดท่านจึงทำเช่นนี้พี่ธารา”อภัยมณีถามออกไป

   หากแต่ธาราสมุทรนั้นไม่ตอบ มีเพียงแววตาตัดพ้อที่ส่งมาเท่านั้น

   “ข้าถามท่าน เหตุใดท่านจึงไม่ตอบข้า พี่ธารา”อภัยมณีถามย้ำ

   ภายในใจอยากจะรู้ว่ายักษ์หนุ่มนั้นคิดยังไงกับเขา จะคิดเหมือนที่เขาคิดหรือไม่

   หากเป็นเช่นนั้น ทั้งเขาและพี่ธาราคงจะเจ็บปวดกันทั้งสองฝ่าย

   “เหตุใดท่านจึงไม่ตอบข้าล่ะพี่ธารา ท่านรู้สึกอย่างไรกับข้ากันแน่”อภัยมณีถามย้ำ

   ถึงอย่างไรก็ต้องเอาคำตอบจากพี่ธาราให้จงได้
   

   “เจ้ากลับเข้าไปในถ้ำเสียเถิด ดึกมากแล้ว น้ำค้างลงเจ้าจักไม่สบายเอา”ธาราบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับเดินหนี

   หากแต่นั่นกลับไม่ใช่คำตอบที่อภัยมณีต้องการ เขาไม่ได้ต้องให้ยักษ์หนุ่มเดินหนี

   รสจูบที่หอมหวานนั่นยังคงติดตรึงอยู่ที่ปลายลิ้น แต่ทำไมในหัวใจดวงนี้มันถึงได้รู้สึกเจ็บยิ่งนัก
   

   ธาราสมุทรเดินกลับออกมาจากถ้ำหลังที่ปิดมันลงด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ความรักที่ไม่สามารถสานต่อให้มันงอกเงยและเบ่งบานนั้นทำให้หัวใจของยักษ์หนุ่มเหมือนกับถูกบีบจนมันแหลกเหลว

   เขาไม่อาจที่จะเอื้อนเอ่ยคำรักกับอีกฝ่ายได้ ในเมื่อฝ่ายนั้นเป็นคู่ครองของน้องสาว

   การผิดคู่ครองในเผ่าพันธุ์นั้นถือเป็นเรื่องต้องห้าม

   เช่นเดียวกับการรักเพศเดียวกันของมนุษย์ซึ่งผิดจารีตประเพณี

   เขามิอาจทำให้อภัยมณีถูกตีตราว่าเป็นพวกแหกคอกผิตจารีตได้

   รสจูบที่เกิดจากหัวใจของเขาที่ไม่หนักแน่นพอมันยังคงตราตรึงอยู่ข้างในจิตใจ

   ความรักที่ไม่อาจสมหวังมันช่างเจ็บปวดหัวใจยิ่งนัก


===================================================================


   “นี่ ฉันถามอะไรนายหน่อยได้ไหม”ผมถามออกไปพลางมองหน้าเงือกหนุ่มที่กำลังสะบัดหางไปมาอยู่ในน้ำ

   “ได้สิ ท่านมีสิ่งใดจะถามข้ากัน”ชลาสินธุ์ตอบมาแทบจะทันที

   “ตอนที่พระอภัยมณีหนีไปกับนางเงือกน่ะ เขาว่ายน้ำไปยังไงถึงไม่จมล่ะ หรือว่าทำยังไง”ผมถามในสิ่งที่สงสัยออกไป

   “ไม่หรอก ท่านไม่ได้ว่าน้ำ แต่เกาะหลังไปต่างหาก ท่านถามข้าทำไมกัน”ชลาสินธุ์ทำหน้าแปลกใจ

   ผมคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ความไม่มั่นใจของพี่ธาราทำให้ผมเกิดความคิดที่จะคัดค้านการมีสัมพันธ์กับเขา

   เพราะว่าเขาไม่ชัดเจน ทำให้ผมเริ่มคิดว่า ที่เขาทำทั้งหมดก็เพื่อตัวเขาและพวกพ้อง ไม่ใช่เพราะความรู้สึกหรืออะไรเลย

   ผมเงียบอยู่พักหนึ่งจนชลาสินธุ์ยันตัวขึ้นมานั่งบนโขดหินข้างผมแล้วมองมาอย่างสงสัย

   เมื่อชลาสินธุ์ขึ้นมาข้างบนทำให้ผมได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเงือกได้เต็มตา

   ลำตัวที่ขาวราวกับไข่มุกล้ำค่า กับเส้นผมสีดำสลวยยาวไปจนถึงสะโพก ท่อนบนนั้นเปลือยเปล่าจนเห็นถึงร่างกายที่บอบบางน่าทะนุถนอม หากแต่เป็นร่างกายของผู้ชาย

   ท่อนล่างนั้นเป็นหางที่ยาวสวยคลุมด้วยเกร็ดสีฟ้าอมเขียวสะท้อนกับแสงแดด

   ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ขนาดเงือกหนุ่มยังน่ามองขนาดนี้ แล้วเงือกสาวจะน่ามองขนาดไหน

   ผมคิดพลางเอื้อมมือไปเกลี่ยเอาเส้นผมยาวสลวยมาจับดู

   น่าแปลกใจที่มันไม่เปียกทั้งที่โดนน้ำมาเมื่อครู่ มันนุ่มเหมือนกับเส้นไหมไม่มีผิด

   “ทะ ท่านทำสิ่งใดกัน”ชลาสินธุ์เมื่อเห็นว่าผมจับเส้นผมของตัวเองอยู่ก็ถามอย่างตกใจ

   ใบหน้าขาวสะอาดแดงก่ำขึ้นมาทันที

   “อ้อ นี่เหรอ เปล่าๆแค่จับดูเฉยๆ นุ่มดีนะ”ผมว่าแล้วปล่อยมือออก

   “หากท่านชอบ ท่านจะจับมันเท่าไรก็ได้ ตามที่ท่านต้องการ”เขาหันมาพูดทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ

   ทำไมผมถึงคิดว่ามันน่ารักดี

   แต่ว่าตอนนี้สิ่งที่อยู่ในใจของผมก็คือพี่ธารา ความรู้สึกในชาติที่แล้วของตัวเองที่ผมได้รับรู้มันช่วยผลักดันให้ผมรู้สึกรักพี่ธาราในชาตินี้

   แต่สิ่งสำคัญที่ผมอยากจะรู้ก็คือ เขาคิดยังไงกับผมกันแน่ ทำไมเขาถึงไม่ตอบ

   ผมไม่เข้าใจ เป็นเพราะว่าเขาไม่รู้สึกอะไรกับผมใช่ไหม เขาถึงไม่มีคำตอบ ผมควรจะตัดสินใจยังไงดี


   “นายช่วยพาฉันหนีได้ไหม แบบที่นางเงือกเคยพาพระอภัยมณีหนี”ผมตัดสินใจพูดในสิ่งที่ทำให้ชลาสินธุ์ตกใจออกไป

   เขาหันมามองผมด้วยใบหน้าที่ตกใจคล้ายจะกังวล

   “ท่านจะหนีท่านธาราเช่นนั้นหรือ”

   “ทำไมล่ะ ชาติที่แล้วก็ยังหนีได้เลย ไม่ได้รึไง”ผมตอบไป

   “หากท่านต้องการให้ข้าพาหนีนั่นไม่มีปัญหา หากแต่ว่าคืนนี้เป็นคืนเพ็ญ ข้า เอ่อ ไม่สามารถพาท่านไปได้หรอก”

   “ทำไมล่ะ อย่าบอกนะว่าคืนพระจันทร์เต็มดวงนายก็จะเปลี่ยนไปอีกคน”ผมถามอกไป

   “ชะ ใช่ ข้าไม่สามารถออกมาจากถ้ำข้างใต้ได้ หากอยู่ในคืนเพ็ญ แต่ถ้าท่านจะหนีล่ะก็ ท่านก็ควนจะไปก่อนที่พระอาทิตย์จะลับฟ้า”

   “ได้ ไม่มีปัญหา งั้นอีกหนึ่งชั่วโมงเรามาเจอกันที่นี่นะ”ผมนัดเวลา

   “ได้ ข้าจะมารอท่านที่นี่ งั้นข้าไปก่อนนะ ขึ้นมานานพ่อแม่ข้าจะเป็นห่วง”

   “อืม แล้วเจอกัน”



   ในระหว่างที่ผมกำลังจะลุกเดินออกไป ผมไม่ได้ล่วงรู้มาก่อนเลยว่า ตลอดเวลาที่ผมคุยอยู่กับชลาสินธุ์ มีตาคู่หนึ่งจ้องมองมาที่เราตลอด

   
   ผมกลับไปที่ห้องเพื่อที่จะจัดการให้เวลากับตัวเองเพื่อทำใจและเขียนจดหมายบอกพี่วรรณเพื่อที่เขาจะได้ไม่เป็นห่วง

   ส่วนเขาจะเชื่อผมไหมว่าผมหนีไปกับเงือกก็อีกเรื่องหนึ่ง

   ในเวลานี้คือผมต้องหนี ผมจะไม่ยอมอยู่ใกล้กับคนที่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมเด็ดขาด
   

   กว่าผมจะสรรหาถ้อยคำมาเขียนเพื่ออธิบายในสิ่งที่ผมต้องการจะบอกกับพี่วรรณ เวลาก็ผ่านล่วงเลยไปเกือบชั่วโมงพอดี

   ผมรีบวางกระดาษไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงแล้วหาอะไรแถวนั้นมาทับไว้


   ผมเดินกลับมาที่โขดหินเดิมที่นัดกับชลาสินธุ์เอาไว้

   ชลาสินธุ์นั่งห้อยหางลงไปในน้ำแล้วตวัดมันไปมา พอเจ้าตัวหันมาเห็นผมก็คลี่ยิ้มอย่างดีใจ

   “ข้านึกว่าท่านจะเปลี่ยนใจ”ชลาสินธุ์บอก

   “ไม่หรอก แค่หาของที่จำเป็นน่ะ”ผมบอกพร้อมกับยกกระเป๋าใบเล็กที่ผมหยิบของจำเป็นที่ต้องใช้ยามที่ไปถึงฝั่งเอาไว้

   อย่างน้อยก็ต้องใช้เงินเพื่อนั่งรถกลับบ้าน



   “ท่าน!!”

   ในระหว่างที่เรากำลังเตรียมตัวจะลงน้ำชลาสินธุ์ก็ทักขึ้นมาทำให้ผมชะงัก

   “มีอะไรเหรอ”ผมถามเมื่อเห็นว่าชลาสินธุ์มองมาที่ผมแล้วหน้าซีด
   

   “เจ้าคิดจะทำอะไรกัน”เสียงแข็งกระด้างถามขึ้นทำให้ผมตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที

   พี่ธารา!!

   ผมหันไปมองเขาด้วยสีหน้าตกใจ แต่พี่ธารากลับไม่ตกใจเลยสักนิดใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความโกรธเกรี้ยว ดวงตา
ของเขาทอประกายสีเขียวอย่างน่ากลัวเวลาที่เขาโมโห

   ผมนึกคำพูดที่จะพูดไม่ออก นึกก้าวขาเดินถอยหนีก็ไม่ได้

   พี่ธาราดูจะโกรธเคืองผมเอามาก เขากำมือแน่นอย่างไม่พอใจ

   “เจ้าคิดจะทำอะไร!!”พี่ธาราถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น ทำให้ผมสะดุ้งด้วยความตกใจ

   ผมมองไปด้านหลังพี่ธาราก็เจอกับคุณอาวสิน คุณอาของพี่ธารายืนอยู่

   พี่ธาราไม่พูดให้มากความหรือแม้จะรอคำตอบจากผม

   ร่างสูงใหญ่ตรงเข้ามาที่ผมก่อนจะดึงตัวผมเข้าหาแล้วจับผมอุ้มขึ้นพาดบ่า

   “พี่ทำอะไรน่ะ!!ปล่อยผมลงนะ!!”ผมร้องบอกเขาทันที

   ตัวของผมโดนอุ้มขึ้นพาดบ่าแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น ทิ้งให้ชลาสินธุ์มองตามด้วยสายตาที่หวาดกลัวและเป็นกังวล


   “ปล่อยผม”ผมร้องบอกพร้อมกับทุบเข้าที่หลังพี่ธารา

   ในเมื่อเขาไม่มีคำตอบให้ผม ไม่ชัดเจนในความรู้สึกกับผมเขาก็ไม่มีสิทธิจะมาทำอย่างนี้กับผม

   แต่ดูเหมือนว่าพี่ธาราจะไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิดที่ผมทุบเขาไป

   กลับตรงกันข้ามที่เขาสาวเท้าขึ้นบันไดเร็วขึ้นกว่าเก่า ตามด้วยคุณอาวสินที่เดินมามาติดๆ



   “ปล่อยผม พี่ไม่มีสิทธิจะมาทำอย่างนี้ โอ้ย”ผมร้องเมื่อถูกโยนลงบนเตียงไม่เบานัก

   “เจ้าไปที่หาดนั่นทำไม เช่นใดถึงไปคุยกับเงือกนั่น”พี่ธาราถามด้วยน้ำเสียงที่แข็ง

   ตอนนี้ดวงตาของเขากลายเป็นสีเขียวมรกตเต็มดวง บ่งบอกให้รู้ว่าเขากำลังโกรธผมมาก

   “ผมไม่จำเป็นต้องตอบ”ในเมื่อก็เห็นๆกันอยู่ว่าผมกำลังจะหนี

   อีกอย่างทีผมถามพี่เขายังไม่ตอบ แล้วเรื่องอะไรผมจะต้องตอบเขา

   ผมลุกขึ้นเพื่อจะหนีไปจากเขา แต่ร่างของผมก็ถูกกดลงกับเตียงด้วยมือของพี่ธาราเพียงมือเดียว

   “ปล่อยสิ อย่ามาจับ”ผมตะโกน มือของผมทั้งสองข้างพยายามที่จะดึงมือพี่ธาราออก

   แต่พี่ธาราก็จับมันรวบเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวแล้วตรึงมันลงกับเตียงทำให้ผมขัดขืนไม่ได้

   “ข้าฝากท่านด้วยท่านอา”พี่ธาราหันไปบอกอาของเขา

   แล้วทำไมเขาต้องเรียกอาของเขาแล้วบอกว่าให้ช่วย

   อย่าบอกนะว่าจะลงแขกผม

   ผมพยายามดิ้น แล้วยันตัวเพื่อจะลุก

   แต่ผมก็สู้ไม่ได้เมื่อมือใหญ่อีกข้างของพี่ธารากดลงบนท้องน้อยผม

   มันแรงพอที่จะทำให้ผมจุกและขยับตัวไม่ได้

   อาวสินเดินเข้ามาที่เตียงแล้วนั่นคุกเข่าลงข้างๆผม

   ผมมองเขาด้วยความหวาดกลัว พยายามจะถอยหนี แต่ก็ทำไม่ได้เพราะถูกพี่ธาราตรึงเอาไว้

   ยังดีที่เขาไม่ใช่เวทมนต์กับผมให้ผมไม่รู้สึกตัว

   แต่มันก็เลวร้ายเมื่อผมต้องมาเห็นและรับรู้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

   เสื้อของผมถูกเลิกขึ้นสูงจนเห็นหน้าท้องที่แบนราบของผม

   ผมมองไปที่คุณอาวสินด้วยสายตาที่ตกใจ

   นี่เขากำลังจะทำอะไรกัน!!

   แทนคำตอบ มือของอาวสินวางลงบนหน้าท้องของผมแล้วกดลงเบาๆ เขาพึมพำในภาษาที่ผมไม่รู้จัก

   แสงสีเขียวอ่อนวาบเปล่งแสงออกมาจากท้องของผม

   ผมมองมันด้วยความตกใจ แต่ไม่นาน ความเจ็บปวดมันก็แทรกลึกเข้ามาภายในช่องท้อง

   มันเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆจนผมแทบจะรู้สึกว่าผมกำลังจะตาย

   “โอ๊ย เจ็บ ปะ ปล่อยนะ ผมเจ็บ”ผมร้องโอดครวญ ร่างกายพยายามบิดไปมาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด หากแต่มันขยับไปไหนไม่ได้เพราะพี่ธาราตรึงเอาไว้ด้วยแรงที่มีมหาศาล

   “อึก ปล่อย ผมเจ็บ อะ  เจ็บ”ผมร้องออกมาจนเสียงเริ่มจะแหบแห้ง

   ความเจ็บปวดยังคงแทรกลึกเข้าไปภายในช่องท้อง

   มันเจ็บจนผมไม่สามารถที่จะทนมันได้ต่อไป

   ผมไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ผมทนความเจ็บปวดนั้นได้ ไม่นานสติของผมก็หมดไป

   ผมหลับตาลงจากความเจ็บปวดที่ไม่สารถจะทนกับมันต่อไปได้

   ผมไม่รู้ว่าผมจะต้องเจอกับอะไรหลังจากที่ผมหลับตาลงและไม่ได้สติ

   แต่ผมรู้เพียงแค่ว่า…ไม่มีวันที่ผมจะหนีไปจากพี่ธาราได้เลย

   มีเพียงน้ำตาหยดเดียวเท่านั้นที่ไหลลงมาจากหางตาของผม

===================================================================

มีต่อ
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 23/10 [CH.15] จันทร์เต็มดวง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 23-10-2015 14:20:33
         ต่อ


         ชลาสินธุ์มองดูเจ้าของร่างสูงโปร่งซึ่งเป็นคนรักของพี่สาวกลับชาติมาเกิดถูกอุ้มไปด้วยสายตาที่ทั้งกลัวทั้งเป็นห่วง

   ถึงแม้เวลานี้ยักษ์จะไม่ทำร้ายเงือกและไม่สนใจที่จะกินเนื้อสัตว์ใหญ่หรือฆ่าแกงใคร

   แต่เขาเองก็รู้สึกว่าเป็นห่วงอภัยมณีไม่หาย

   หากตาสายตาที่จ้องมองไปที่ยักษ์สองตนกับคนที่ถูกอุ้มไปจนลับตานั้น ไม่ได้เอะใจว่ามีอะไรรออยู่

   จนลับตาเงือกหนุ่มจึงได้ถอนหายใจออกมา ครั้นอยากจะไปช่วยก็ไร้สิ้นเรี่ยวแรงจะไปสู้รบกับเผ่ายักษ์ษา ได้แต่เอาใจช่วยอยู่ห่างๆ

   นานจนพระอาทิตย์คล้อยเคลื่อนผ่านจุดเดิมไปไกลที่ชลาสินธุ์จ้องมองไปในทิศทางที่อภัยมณีถูกพาตัวไป

   เงือกหนุ่มถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ถึงมองไปอีกนานแค่ไหนก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้

   ร่างบอบบางไม่ต่างอะไรกับสตรีขยับตัวเพื่อที่จะเคลื่อนตัวลงสู่มหาสมุทร

   หากแต่ข้อมือก็ถูกคว้าเอาไว้แน่นจนต้องหันกลับไปมองด้วยความตกใจ

   “ท่าน!!”ชลาสินธุ์ถามด้วยน้ำเสียงที่ตกใจยามสบตาเข้ากับดวงตาคมกริบของอีกฝ่าย

   ใบหน้านั้นเขาจำมันได้ดี ใบหน้าที่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปเป็นหลายปีเขาก็ยังจำได้

   เด็กหนุ่มที่เขาเคยเจอเมื่อครั้งก่อนในตอนนั้น



   ย้อนเวลากลับไปห้าปีกว่า

   ด้วยความไม่ค่อยเชื่อฟังคำของพ่อแม่จึงได้ออกมาว่ายน้ำเล่นไกลจากเกาะอยู่มากพอดู

   ความที่อยากเห็นมนุษย์ตัวเป็นๆเพราะไม่ได้เห็นมานานทำให้ว่ายเข้าไปใกล้เรือของนักท่องเที่ยว

   เคราะห์ดีที่เป็นยามค่ำคืนถึงไม่มีใครเห็นถึงสิ่งที่ผิดปรกติ

   ใบหน้างดงามแฝงอยู่ในความมืดเฝ้ามองผู้คนสังสรรค์กันอยู่บนเรือพร้อมกับรอยยิ้มฉายอยู่บนใบหน้าเมื่อได้ยินเสียงเพลงที่เปิดจนดังแว่วมากดาดฟ้าของเรือ

   เป็นมนุษย์นี่ท่าจะดูสนุกไม่น้อย



   แต่ไม่นานความสนุกของเขาก็หมดลงเมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรกระทบผิวน้ำอยู่ไม่ไกล

   ตามด้วยเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือเพราะมีเด็กตกน้ำ

   เงือกหนุ่มเริ่มกระวนกระวาย ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้ เพราะกลัวว่ามนุษย์จะเห็นแล้วทำร้ายตน



   แต่แล้วก็มีมนุษย์หนุ่มคนหนึ่งกระโดดลงมาจากเรือทั้งที่ไม่มีใครคิดสนใจลงมาช่วยเด็กที่ตกลงมาเพราะความมืดของท้อง
ทะเลนั้นดูน่ากลัว

   ชลาสินธุ์มองดูด้วยท่าทีเป็นกังวลเพราะความมืดของท้องทะเลนั้น มนุษย์ผู้นั้นไม่สามารถมองเห็นใต้น้ำได้แน่

   หากดันทุรังไปคงจะจมน้ำกันทั้งคู่

   เงือกหนุ่มดำลงไปใต้น้ำแล้วฉุดเอาเด็กเข้ามาในอ้อมกอด แสงไฟจากเรือที่ส่องลงมามีเพียงน้อยนิด

   ชลาสินธุ์ว่ายเข้าหาชายหนุ่มก่อนจะส่งเด็กชายในอ้อมแขนคืน โดยอาศัยความมืดเป็นสิ่งพลางกาย

   แต่กลับไม่รู้เลยว่าคนไฟที่ถูกส่องมาจากบนเรือนั้นจะมีแสงสว่างพอที่จะทำให้ชายหนุ่มเบิกตากว้างกับสิ่งที่เห็น

   แต่ชลาสินธุ์ก็ว่ายน้ำหนีออกมาเสียแล้ว

   เด็กถูกส่งถึงมือพ่อแม่ที่รอรับอยู่อย่างปลอดภัย แต่คลื่นน้ำที่พัดมาแรงทำให้เขาอ่อนแรงแล้วจมดิ่งสู่ท้องทะเล

   ชลาสินธุ์เห็นท่าไม่ดี ความคิดน้อยและความเป็นห่วงชายที่มีน้ำใจต่อผู้อื่นนั้นไม่อาจปล่อยให้ชายผู้นั้นตายได้

   ร่างกายครึ่งปลาแหวกว่ายเข้าไปใกล้ชายหนุ่มที่เกือบจะสิ้นลมหายใจ

   ริมฝีปากเรียวสวยประกบลงบนริมฝีปากได้รูปก่อนจะมอบลมหายใจให้

   ดวงตาคมเบิกโพล่งขึ้นมาทันทีแล้วดันตัวออกห่างด้วยความตกใจ

   ชลาสินธุ์เองก็เช่นกัน ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมองเห็นเขา

   เงือกหนุ่มยกมือขึ้นจรดปาก เป็นการขอร้องว่าไม่ให้บอกใครก่อนจะดำดิ่งลงไปสู่ห้วงสมุทรที่ดำมืด



   ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลจ้องมองชายผู้นั้นก้าวขึ้นเรือไปโดยปลอดภัย

   เรียวปากบางคลี่ยิ้มอย่างดีใจที่ไม่มีใครเป็นอะไร

   สายตาคมซึ้งเหลือบไปเห็นสิ่งแปลกตากำลังจมดิ่งมาที่ท้องทะเล สร้อยข้อมือประดับลูกปัดที่ทำจากนิลสีดำดูแปลกตา
ร่วงลงมาบนฝ่ามือเล็กพอดิบพอดี

   คงจะเป็นของแทนคำขอบคุณที่ทำให้เงือกหนุ่มยิ้มออกมาด้วยความดีใจ



   “ท่านจะทำสิ่งใด”ชลาสินธุ์ถามออกมาด้วยความตกใจ

   ลำตัวถูกช้อนช้อนอุ้มแนบอดจนตัวลอยขึ้นมาทำให้แขนเล็กคว้าเอาคอของคนที่กระทำการอุกอาจด้วยที่กลัวตก

   หากแต่เงือกหนุ่มไม่ได้รับคำตอบ

   “ท่านจะทำเช่นนี้กับข้าไม่ได้ อาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว ข้าอยู่ที่นี่ไม่ได้”

   ชลาสินธุ์พยายามดิ้น แต่หางยามอยู่บนบกนั้นอ่อนแรงนัก อีกทั้งหากตกไปแล้วแตะพื้นดินร่างกายก็จะกลายสภาพ กว่าจะ
กลับคืนก็ล่วงเลยไปอีกวันที่พระอาทิตย์จะโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมา

   เขารอไม่ได้แน่

   “ได้โปรด ปล่อยข้าไปเถอะ ข้าขอร้อง คืนนี้เป็นคืนจันทร์เพ็ญ ข้าจะต้องแย่แน่หากอยู่ที่นี่”

   “ได้โปรดเถิด ข้าขอร้อง จะให้ข้าทำอะไรข้าก็ยอม จะให้ข้าร้องไห้แล้วเอาน้ำตาของข้าไป หรือจะเอาเลือดของข้าไปก็ได้ ข้าให้ท่านได้หมด เพียงแต่ปล่อยข้าไปเถอะนะ”

   เงือกหนุ่มร้องขอ

   น้ำตาของเลือกนั้นเมื่อร้องไห้ออกมาจะเป็นอัญมณี ล้ำค่าที่หาได้ยาก เลือดของเงือกนั้นถ้าหากมนุษย์ได้กินเข้าไปก็จะเป็นยารักษาโรคได้ทำให้แข็งแรง

   ยิ่งร้องขอก็ยิ่งเปล่าประโยชน์เมื่อชายหนุ่มร่างสูงนั้นไม่ได้สนใจที่จะปล่อยร่างของเขาเลยสักนิด
   

   ไม่นานก็มาหยุดที่ร่มไม้ข้างบ้านหลังใหญ่ลับตาคนเขาวางเงือกหนุ่มลงบนพื้นหญ้าอย่างเบามือ

   “ไม่ ไม่นะ ท่าน ข้าขอร้อง อย่าปล่อยข้าลง”

   เหมือนคำขอจะไม่ได้ช่วยอะไรเมื่อร่างกายครึ่งปลานั้นถูกวางลงบนพื้นหญ้า

   หางที่เป็นปลานั้นค่อยๆกลายสภาพเป็นขายาวเรียว จนทั้งร่างนั้นกลายเป็นร่างของมนุษย์ในสภาพที่ไร้อาภรณ์ปกปิด
   

   แต่ถึงจะมีขาก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีเรี่ยวแรงในเร็วไว ขาที่ได้มาใหม่นั้นจะอ่อนเปลี้ยไม่มีแรง จะต้องรออีกนับหลายชั่วโมงกว่าจะยืนขึ้นได้

   เม็ดพลอยสีน้ำทะเลร่วงหล่นบนพื้นหญ้า จากหนึ่งเม็ดหลายเป็นสองเม็ด แล้วมากขึ้นเรื่อยๆ

   น้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความหวาดกลัวนั้นกลายเป็นเม็ดพลอยสีสวยเหมือนกับสีตาของเงือกหนุ่ม จนชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงมองอย่างอดทึ่งไม่ได้

   “ข้าทำสิ่งใดผิดกัน ท่านถึงได้ทำกับข้าเช่นนี้”

   ใบหน้าหวานราวกับนางสวรรค์เอ่ยถามด้วยความน้อยใจ ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรงเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ในลำคอ

   ดวงตาสีน้ำทะเลจ้องมองไปยังชายหนุ่มร่างสูงด้วยแววตาตัดพ้อแล้วปลดสร้อยข้อมืดที่ทำจากนิลสีดำคืนให้

   “ฉันไม่ได้อยากได้มันคืน แต่ฉันอยากได้สิ่งนี้”สิ้นเสียงชายหนุ่มก็ชี้ไปที่ร่างกายที่เปลือยเปล่าของเงือกหนุ่มทำให้ชลาสินธุ์เบิกตาด้วยความตกใจ
   


=================================================================

เอร๊ยยยยยย คนเขียนใจรัายยยยยย

คราวนี้ล่ะพ่อเอ้ย
ลูกเขยเป็นยักษ์ ลูกสะไภ้เป็นเงือก
งามหน้าไหมล่ะเจ้าค่ะ  ขุ่นพ่อ

หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 23/10 [CH.15] จันทร์เต็มดวง
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 23-10-2015 15:51:10
ชอบคู่รอง~


งานนี้ลูกสะใภ้ ลูกเขยหน้าตาดีทั้งคู่  ขุ่นพ่อต้องดีใจแน่แท้
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 23/10 [CH.15] จันทร์เต็มดวง
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 23-10-2015 16:07:15
ต๊ายยยยยย พี่วรรรณเมียสาม จะเอาน้องเงือกแล้วเจ้าข้า
ขณะที่มณีคงจะโดนทำพิธีกรรมบางอย่าง
รอตอนต่อไปปปปปป
ปล.คู่รองโผล่มาแล้วน่ารักอะะะะะ
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 23/10 [CH.15] จันทร์เต็มดวง
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 23-10-2015 16:14:22
ชัดเจนมากเลยค่ะพี่วรรณ :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ❤ [Mpreg] 23/10 [CH.15] จันทร์เต็มดวง
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 23-10-2015 18:14:18
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 23/10 [CH.15] จันทร์เต็มดวง
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 23-10-2015 20:56:10
เอาละวุ้ย เขยเป็นยักษ์ สะใภ้เป็นเงือก  :hao3:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 23/10 [CH.15] จันทร์เต็มดวง
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 23-10-2015 21:27:36
ชวนลุ้นมากเลย >< ตายละงานนี้สงสัยจะได้ (หลาน) ทีถึงสอง!!!
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 23/10 [CH.15] จันทร์เต็มดวง
เริ่มหัวข้อโดย: KoTo_Nat ที่ 23-10-2015 22:59:17
อร๊ากกกกก เมื่อไหร่จะถึงฉาก

ร่วมรักของพระอภัยมณีกับพี่ธารา

จะรอนะคร๊าฟฟ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 23/10 [CH.15] จันทร์เต็มดวง
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 24-10-2015 00:53:05
 :hao6:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 23/10 [CH.15] จันทร์เต็มดวง
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 24-10-2015 09:47:37
ทำไมบางตอนก้ออ่านไม่ได้อ่ะคะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 23/10 [CH.15] จันทร์เต็มดวง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 24-10-2015 10:47:37
ทำไมบางตอนก้ออ่านไม่ได้อ่ะคะ
เป็นเพราะรีไรส์แล้วก็ลงใหม่
แต่ทำลิ้งค์ไว้แล้วจ้า
คิดว่าลงครบแล้วน้า เด่วดูให้เนอะ

ตอนที่ 3 4 5 6 7 8 อยู่หน้า 6 จ้า
 
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 23/10 [CH.15] จันทร์เต็มดวง
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 24-10-2015 15:32:20
รอฉากนั้นอยู่นะ  :hao7: :hao7:

ปล. เหมือนคนเขียนจะลืมเปลี่ยนตอนจาก 15 เป็น 16 หรือเปล่าคะ  :confuse:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 24/10 [CH.17] คำสัญญา 18+
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 24-10-2015 23:20:40
20700
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ครั้งที่  17  คำสัญญา


   “อะ อือ”

   ผมครางอือในลำคอเสียงเบา รู้สึกหนักหัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

   นี่ผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมามองดูเพดานห้อง

   แต่กลับมองเห็นท้องฟ้าที่กำลังกลายเป็นสีแดงอมส้มของยามเย็นผ่านเพดานกระจกใสแทน

   จริงสิ ตอนนี้ผมอยู่ในบ้านพี่ธารา ครั้งสุดท้ายที่ผมจำได้ ผมถูกพี่ธาราอุ้มมาจากชายหาดก่อนที่ผมจะหนีไปกับชลาสินธุ์ นายเงือกรูปงามแล้วถูกพามาโยนลงบนเตียงนี่

   แล้วก็ถูกพี่ธาราจับกดเอาไว้ และคุณอาวสินก็ทำอะไรแปลกๆกับผม ทำให้ผมรู้สึกเจ็บท้องมาก เหมือนมีอะไรมันแทรกเข้าไปข้างใน

   พอนึกได้ผมก็ยกมือคลำที่ท้องตัวเองทันที แต่แปลกที่มันไม่รู้สึกว่าเจ็บปวดหรืออะไรเลยสักนิด

   หรือว่าผมจะฝัน ไม่สิ ไม่ใช่ฝันแน่นนอน

   ผมก้มลงมองตัวเองที่อยู่ในสภาพชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดด้วยความตกใจ โดยที่ด้านในชุดคลุมอาบน้ำนั้น ผมไม่มีอะไรปกปิดร่างกายเลยสักนิด

   นี่มันหมายความว่ายังไงกัน ผมอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำนี่ได้ยังไง

   ต้องเป็นพี่ธาราแน่ที่ฉวยโอกาสเปลี่ยนให้ผมตอนที่ผมหมดสติไป

   ผมสำรวจตัวเองทันที ผมรีบเปิดเสื้อคลุมอาบน้ำออก แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แถมก้นก็ไม่เจ็บ

   เลยได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาเบา ถึงจะงงว่าพวกขำอะไรกับผม แต่มันไม่ใช่เวลาจะมานั่งคิดแล้ว

   ผมต้องหนี จะต้องหนีให้ได้ ไม่งั้นผมจะต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำมากที่สุดในตอนนี้

   พอนึกถึงมันผมก็รู้สึกเคืองพี่ธาราขึ้นมาทันที ในเมื่อเขาไม่มีความรู้สึกอะไรต่อผมแล้วเขาไปพาผมกลับมาทำไมล่ะ

   หรือเป็นเพราะแค่หน้าที่และสิ่งที่พวกเขาต้องการเท่านั้น เขาถึงได้ดูโกรธเคืองผมมาก

   ผมยันตัวขึ้นลุกเตรียมจะหาเสื้อผ้าใส่ แต่คนที่ก้าวออกมจากห้องน้ำก็ทำเอาผมแทบจะหงายเงิบ

   พี่ธาราออกมาจากห้องน้ำในสภาพชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดตาเหมือนกันกับผม ต่างกันที่ขนาดเท่านั้น

   หยดน้ำยังคงเกาะพราวอยู่บนตัวเขา บ่งบอกว่าเขาพึ่งจะอาบน้ำเสร็จ เสื้อคลุมแหวกออกกว้างและลึกจนเห็นถึงแผงอกล่ำสี
เข้มกับหน้าท้องเป็นลอนที่ทำให้ผมกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่

   พี่ธารามองมาที่ผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่าแล้วค่อยๆเดินเข้ามาหาผมที่ยืนอยู่ข้างเตียง

   ดวงตาสีดำสนิทของเขาทอประกายสีเขียวอ่อน รับกับแสงของดวงอาทิตย์สีแดงอมส้มที่กำลังจะลับขอบฟ้า

   ท้องฟ้าเบื้องบนกำลังจะเปลี่ยนสีกลายเป็นสีฟ้าเข้มและกำลังจะมืดลง ดาวมากมายเริ่มทอแสงออกมาให้เห็นอยู่ประปราย

   อีกทั้งพระจันทร์ดวงกลมโตที่กำลังจะขึ้นอยู่อีกฟากตรงกันข้าวในทิศที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดิน

   ผมถอยหลังหนีพี่ธาราอย่างหวาดระแวง โดยไม่ทันระวังว่าด้านหลังจะเป็นขอบเตียง ทำให้ผมล้มลงไปนั่งอยู่บนขอบเตียงพอดิบพอดี

   ผมสุดทางหนีอยู่ที่เตียงโดยที่พี่ธาราก้าวเข้ามายืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาโน้มเข้ามาหาจนชิด จมูกโด่งคลอเคลียกับจมูกของผมโดยที่สายตาของเขายังคงว่างเปล่า ไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดใด

   ผมของเขาค่อยๆยาวลงมาเรื่อยๆจนถึงลาดไหล่ของเขา คิ้วหนาเข้มค่อยๆเปลี่ยนเป็นลวดลายอย่างที่ผมเคยเห็นตอนแรกเจอกับพี่ธารา ดวงตาที่ยังเป็นสีดำอยู่ก่อนหน้าตอนนี้กลายเป็นสีเขียวมรกตเต็มดวง ถึงแม้จะเป็นสีที่ยังไม่เข้มจัดเหมือนเวลาที่เขาโกรธ

   แต่มันก็ยังดูน่ากลัวอยู่ดี

   จมูกของเขาไล้ลงมาที่แก้มผมเบาเบา ผมได้ยืนเสียงสูดหายใจของพี่ธารา ทำให้ผมหลับตาลงด้วยความกลัว

   เหลือแค่เขี้ยวเท่านั้นที่ยังไม่โผล่ออกมา รูปร่างของพี่ธาราเหมือนจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

   รู้ตัวอีกทีจมูกที่คลอเคลียผมอยู่พักใหญ่ก็ถอนออกไป ทำให้ผมลืมตาขึ้นมอง แต่นั่นผมก็ต้องตกใจอีกรอบ

   ท้องฟ้ากลายเป็นสีฟ้าเข้มไปแล้ว พี่ธาราอุ้มช้อนขึ้นมาโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้ผมกอดคอเขาแน่นเพราะกลัวตก

   ในเวลานี้พี่ธาราตัวใหญ่กว่าเดิม ทำให้ขนาดของร่างกายผมกับเขาต่างกันโดยสิ้นเชิง

   “พี่จะทำอะไรน่ะ!!”ผมถามเมื่อเขาอุ้มผมขึ้นแล้วกำลังเดินไปที่นอกระเบียงห้องซึ่งเป็นส่วนของสระน้ำ

   “ปล่อยผมนะ จะพาผมไปไหน”ผมเริ่มดิ้น และดันอกเขาออก

   ถึงแม้ว่าจะกลัวตก แต่ผมก็กลัวว่าพี่ธาราจะทำอะไรผมมากกว่า

   “ปล่อยผมสิ พี่ไม่มีสิทธิมาทำกับผมอย่างนี้นะ”ผมโวยวาย

   แต่พี่ธาราก็ไม่สะดุ้งสะเทือนกับคำพูดของผมเลยสักนิด

   ผมถูกอุ้มมาถึงสระน้ำ

   ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมตาโตขึ้นมา น้ำในสระถูกลอยด้วยดอกมะลิสีขาวจนเต็ม ทำให้มันส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่ว เหมือนจะถูกเตรียมเอาไว้

   ดอกมะลิสีบริสุทธิ์ขยับไปตามแรงเคลื่อนไหวของน้ำเมื่อพี่ธาราก้าวลงไปในสระส่วนที่ตื้นที่สุดที่มีไว้สำหรับนั่งแช่

   ผมถูกวางนั่งลงพิงขอบสระ โดยที่พี่ธาราเองก็ตามลงมาไม่ไกล

   เขากำลังจะทำอะไรกัน?

   ครั้งสุดท้ายที่เขาทำสิ่งที่ผมไม่เข้าใจคือ ความเจ็บปวดที่แทรกเข้ามาในท้อง

   แสงของพระจันทร์ที่เต็มดวงกำลังสาดลงมาที่เราสองคน

   พี่ธารามองมาที่ผมด้วยสายที่ที่เปลี่ยนไปจากเดิม….สายตาที่ผมไม่เข้าใจ

   และไม่คิดว่าจะอยากเข้าใจมันด้วยในเมื่อผมไม่ได้ต้องการที่จะเข้าใจมันเองโดยที่เจ้าตัวไม่ได้บอกถึงความรู้สึกของเขาที่มี
ต่อผม

   ผมลุกขึ้นถอยหนีมือที่กำลังเอื้อมเข้ามาหา ผมปัดมันออก

   แต่พี่ธาราก็เร็วเกินกว่าที่ผมจะลุกหนีไปได้ มือของผมถูกคว้าเอาไว้ ทำให้ผมหันไปมองเขาด้วยสายตาที่โกรธเคือง

   ในเมื่อเขาปฏิเสธในคำถามที่ผมต้องการคำตอบ

   ผมเองก็จะปฏิเสธในสิ่งที่เขาต้องการเหมือนกัน

   “อย่ามายุ่งกับผม ผมไม่อยากจะอยู่ใกล้กับพี่”จบคำพูดผมก็ดึงมือของตัวองออกจากมือใหญ่ที่กุมไว้

   “อย่าคิดหนีไปจากข้า”พี่ธาราพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

   แต่นั่นมันก็สายไปแล้วในเมื่อผมคิดหนีแล้วหนีเขาไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่มันก็ไม่สำเร็จ

   เขาลุกตามผมมาทำให้ผมเลี่ยงไม่ได้ที่จะถอยไปในสระส่วนที่ลึกขึ้น

   “ปล่อยผมสิ อย่ามายุ่งกับผม”ผมพยายามผลักเขาออกเมื่อมือใหญ่นั้นมาคว้าผมอีกครั้ง

   คราวนี้มันแรงพอที่จะดึงรั้งผมเอาไว้ ผมถลาเข้าไปหาเขาตามแรงดึง

   การเคลื่อนไหวในน้ำไม่ใช่เรื่องง่าย

   ดอกมะลิที่ลอยอยู่เหนือน้ำกระจายไปตามแรงผลักดันของผมที่พยายามจะหลุดออกจากอ้อมออดของพี่ธารา

   “ปล่อยสิวะ พี่ไม่มีสิทธิจะมาจับผมด้วยซ้ำ อย่ามาทำเหมือนว่าตัวเองมีสิทธิที่จะทำอะไรกับผมก็ได้น่า”

   ใช่ เขาทำเหมือนว่าผมไม่มีความรู้สึก ทั้งที่เขากอดผม จูบผม ทำให้ผมรักแบบนี้

   แต่เขากลับไม่เคยแม้แต่จะบอกความรู้สึกของเขาที่มีต่อผม

   สำหรับเขาผมเป็นอะไรกัน

   “อย่าให้ข้าต้องบังคับเจ้า ”เขากระชับอ้อมกอดแน่นจนผมรู้สึกอึดอัด

   “พี่ก็ดีแต่บังคับ ดีแต่พูดเอาเองทั้งที่พี่ไม่เคยบอกอะไรผมเลย ปล่อยผมสิ”ผมทุบเข้าที่ไหล่พี่ธาราอย่างแรงเพื่อหวังให้เขา
ปล่อยผม

   “สิ่งนั้นหาได้จำเป็นไม่”

   “ใช่สิวะ ก็พี่เป็นยักษ์นี่ ถึงได้ไร้หัวใจแบบนี้ ไม่คิดถึงความรู้สึกของคนอื่น ว่าเขาจะคิดยังไง ปล่อยสิเว้ย บอกให้ปล่อย”ผมเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเก่าแล้วเริ่มที่จะพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกไป



   พอผมพูดจบพี่ธาราก็นิ่ง ปล่อยให้ผมทุบตีเขาอยู่อย่างนั้นเหมือนกับเขาไม่ได้สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด

   “ข้าไม่ได้ไร้หัวใจ”เขาบอกเสียงเบา

   แต่นั้นก็ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดเข้าไปใหญ่

   เขากล้าพูดได้ยังไงว่าเขาไม่ได้ไร้หัวใจ ในเมื่อเขาไม่เคยบอกเลยว่าเขาผม ไม่ว่าจะทั้งในชาติที่แล้วหรือชาตินี้

   เขามันเป็นยักษ์ใจร้าย เป็นยักษ์ที่ไร้หัวใจมากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา

   “ถ้าพี่ไม่ได้ไร้หัวใจ พี่ก็ตอบผมมาสิ…ว่าพี่คิดยังไงกับผม”

   น้ำอุ่นๆมันไหลออกมาจากดวงตาของผมโดยที่ผมไม่รู้ว่ามันออกมาได้ยังไง มาไหลลงมาผ่านแก้มของผม แล้วจรดลงที่คาง ก่อนจะร่วงหล่นลงสู่ผืนน้ำที่โรยไปด้วยดอกไม้ขาวสะอาด

   ความเงียบเข้าปกคลุมเราทั้งสองคน อ้อมแขนของพี่ธาราค่อยๆคลายออก สายตาของพี่ธารามองมาที่ผมด้วยแววตาที่เหมือนกับตัดพ้อ

    ตอนนี้แสงจันทร์ค่อยๆจัดเจนขึ้น ผมถือโอกาสที่อ้อมแขนนั้นคลายออกถอยห่างจากพี่ธารา

   ระดับน้ำในสระที่แตกต่างกันทำให้ผมจมลงสู่ก้นสระที่ลึกกว่าเป็นเท่าตัว ผมมองไปเบื้องบน

   จิตใจของผมตอนนี้มันรู้สึกตีรวนจนวุ่นวายไปหมด ในขณะที่ร่างกายของผมมันกลับตรงกันข้าว มันไร้เรี่ยวแรงจนไม่อยากที่จะขยับ และค่อยๆจมดิ่งสู่ก้นสระ

   ร่างกายของผมถูกฉุดเข้าไปกอดอีกครั้ง ครั้งนี้ทั้งรุนแรงและแน่นหนากว่าเก่าจนผมรู้สึกเจ็บ

   ริมฝีปากร้อนผ่าวเบียดจูบลงมาที่ริมฝีปากของผม ทำให้ผมลืมตาขึ้นมองด้วยตาที่เบิกกว้าง

   อ้อมแขนที่กอดรัดจนแน่นทำให้ผมหนีไปไหนไม่ได้ แรงบดเบียดที่บดขยี้ลงมาทำให้ผมรู้สึกว่าแทบไม่มีช่องว่างระหว่างปาก
ของเราหลงเหลืออยู่

   ผมพยายามทั้งผลักทั้งดันพี่ธาราออกไป แต่มันไม่ขยับเลยสักนิด

   ผมถูกดึงขึ้นมาในส่วนที่น้ำตื้นอยู่แค่ช่วงสะโพก  แรงบีบที่แขนทำให้ผมรู้ทันทีว่าพี่ธาราเริ่มจะเปลี่ยนไปเพราะแสงของดวง
จันทร์ที่เริ่มจะส่องมามากขึ้น

   “อื้อ ปะ ปล่อย”ผมพยายามดิ้นและห้ามเขา แรงจูบและลิ้นร้อนที่บดเบียดเข้ามามันไม่น้อยเลยจนทำให้ผมรู้สึกเจ็บ

   “อย่าหนีข้าไปอีก”เสียงคำรามดังขึ้นในลำคอของเขา พร้อมกับแรงบีบและริมฝีปากขยี้ซุกไซร้ลงที่บนลำคอ

   “อึก อย่า ปล่อยผม”ผมร้องขอ

   แต่มันเหมือนกับไม่เป็นผล

   สาบเสื้อคลุมอาบน้ำถูกแหวกออก ขาของผมถูกดันให้อ้ากว้างตามด้วยร่างกายที่สูงใหญ่แทรกเข้ามาระหว่างกลาง

   ใบหน้าคมกร้านมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เหมือนกับโกรธเคือง

   “อย่าบังอาจหนีข้าไปอีก”คำราม เสื้อคลุมของผมถูกดึงออกแล้วโยนทิ้งไว้ที่ขอบสระ มือของพี่ธาราลูบลงมาที่บั้นเอวของผมแล้วเคล้นคลึงมันอย่างหนักหน่วง

   ความเย็นของน้ำเริ่มอุ่นขึ้นเมื่อร่างกายของผมและพี่ธาราเริ่มที่จะร้อนจนเหมือนเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้

   “อย่า อือ อย่าทำผม”ผมเบือนหน้าหนีริมฝีปากของพี่ธาราที่ฉกจูบลงมาอีกรอบ

   “อื้อ”ผมร้องในลำคออย่างไม่พอใจ

   เขากำลังใช้กำลัง โดยที่ผมไม่ยินยอม ทั้งที่เขายังไม่มีคำตอบให้กับผม

   แผ่นอกของผมกำลังถูกเคล้นคลึงเช่นเดียวกับริมฝีปากที่กำลังถูกบดเบียด และเรียวลิ้นกำลังถูกกวาดต้อน

   ปลายยอดทั้งสองข้างถูกบีบขยี้คล้ายกับกำลังจะหยอกล้อทำให้ผมขนลุกไปทั่วร่าง

   เท้าของผมจิกเกร็งขึ้นมาทันทีเมื่อพี่ธาราผละริมฝีปากออก แล้วก้มลงบดเบียดลิ้นร้อนกับยอดอกอย่างหื่นกระหาย

   “อือ ปล่อย ยะ อย่า อย่าทำอย่างนี้”ผมร้อง มือทั้งสองพยายามจะดึงทึ้งหัวเขาออกมาแผ่นอก

   แต่มันดูเหมือนจะผมจะจิกทึ้งมันระบางอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นมากกว่า

   ความจุกเสียดเกิดขึ้นที่แก่นกายของผมจนมันตั้งชันท้าทายสายตาของพี่ธาราที่มองมันผ่านสายน้ำที่ใส่จนเห็นทะลุปรุโปร่ง

   เสียงคำรามในลำคออย่างพึงพอใจแว่วมาตลอดเวลาที่ริมฝีปากนั้นลิ้มรสกับเม็ดสีอ่อนจนมันเริ่มบวมช้ำและขึ้นสีแดงก่ำ

   “ปล่อย ผม อึก พอ แล้ว พี่จะทำ กับผมแบนี้ มะ ไม่ได้”ผมพยายามดันหัวพี่ธาราออก

   ขาของผมถูกจับให้ยกขึ้นไปเกาะเกี่ยวเอาเอวหนาของพี่ธาราเอาไว้ ทำให้ร่างกายของเราแนบชิดกว่าเก่า

   ความร้อนของพี่ธาราส่งผ่านมาทางผิวกายของเขา

   มือหนาลูบไล้และบีบเค้นไปทั่วร่างกาย พร้อมกับเสียงครางอย่างพึงพอใจกับรสชาติที่เขาได้ลิ้มลอง

   ผมขมวดคิ้วเมื่อถูกยกตัวขึ้นให้นั่งขนหน้าขาแข็งแรงนั่น ก่อนที่ริมฝีปากของพี่ธาราจะประกบจูบลงมาอีกรอบ

   แต่รอบนี้มันดูจะร้อนแรงและกระหายมากกว่าเดิม

   ทั้งเนื้อทั้งตัวผมถูกลูบไล้อย่างหื่นกระหาย ร่างกายสูงใหญ่บดเบียดเข้ามาหา โถมเข้ามาจนผมรู้สึกว่าผมหนีไปไหมไม่ได้อีกแล้ว

   “อะ อื้อ”ผมยังคงพยายามดิ้น

   เล็บของผมจิกลงบนลาดไหล่ของหนาของเขา และพยายามผลักมันออก สลับกับทุบลงไป

   มือของเขาบีบขยี้ลงบนเผ่นอกของผม ไล่ลงไปที่บั้นเอว ก่อนจะหยุดแล้วบีบเคล้นที่แก้มก้นอันกลมกลึงของผม

   มันถูกบีบเคล้นซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนั้น และถูกแหวะออกด้วยเรียวนิ้วจนผมสะดุ้งผละตัวออก

   “จะ ทำอะไรน่ะ มะ ไม่ได้นะ”ผมส่ายหน้า

   หลบริมฝีปากที่พยายามฉกฉวยลงมา

   “อย่าดื้อน่า ข้าไม่อยากขืนใจเจ้า”เขาเค้นเสียงทั้งที่ยังซุกหน้าลงบนซอกคอของผม

   “ไม่ พี่กำลังทำอยู่  ปล่อยผมสิ อื้อ”ผมสะอื้นในลำคอ

   “กายเจ้าช่างหวานนัก”เขาพูดขณะที่ลิ้นของเขากำลังไล้เลียอยู่ที่ต้นคอของม

   เขาแตกต่างออกไปจากพี่ธาราคนเดิมที่อ่อนโยน เพราะแสงจันทร์ที่ส่องลงมา

   “พี่ไม่มีสิทธิ จะ ทำแบบนี้ ในเมื่อพี่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมเลย ปล่อยผมนะ พี่ไม่ได้รักผม ได้รู้สึกอะไรกับผม พี่ก็อย่าทำกับผมแบบนี้ ผมเป็นคน ที่มีหัวใจ ไม่ใช่ยักษ์ ในเมื่อพี่ไม่ได้รู้สึกอะไรต่อผมพี่ก็ไม่มีสิทธิที่จะทำกับผมอย่างที่พี่ทำอยู่ ผมเกลียดพี่ เกลียด
ที่พี่ไร้หัวใจแบบนี้”

   ผมพูดพร้อมกับจ้องมองสายตาสีเขียวมรกตคู่นั้นที่มองมา แค่ฉับพลันมันก็แปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่เกรี้ยวกราดเมื่อผมพูดจบ

   “ข้าไม่ได้ไร้หัวใจ!!”

   เขาประกาศกร้าวก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากลงมา

   “อื้อ”คราวนี้มันทั้งหนักหน่วงและรุ่นแรงจนผมรู้สึกเจ็บ

   เรียวขาของผมถูกดันให้ยกขึ้นอ้ากว้างก่อนที่นิ้วร้อนจะสอดแทรกเข้ามาแหวกเอาแก้มก้นออกจากกันเผยให้เห็นช่องทางของ
ผมต่อสายตาของเขา

   “ข้าจำเป็นต้องทำ”สิ้นเสียง นิ้วร้อนแข็งกระด้างก็สอดแทรกเข้ามาในร่างกายของผมจนสุด

   ความร้อนของนิ้วมือบวกความความจุกเสียดทำเอาผมหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด

   เจ็บที่ร่างกายก็ไม่เท่ากับเจ็บที่หัวใจ

   ผมไม่เข้าใจ และไม่เคยเข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำกับผมมาตลอดมันคืออะไร แม้กระทั่งตอนนี้

   จากหนึ่งนิ้วกลายเป็นสองนิ้ว

   “อึก จะ เจ็บ”ผมร้องเมื่อนิ้วเริ่มขยับไปมา

   ความเสียดและความรู้สึกร้อนข้างในมันทำให้ผมรู้สึกแย่

   ผมผวาคว้าเอาไหล่ของพี่ธาราเกาะเอาไว้เพื่อพยุงตัว นิ้วที่อยู่ข้างในตัวของผมเพิ่มเป็นสามโดยที่ผมเริ่มยังคงรู้สึกถึงความ
เจ็บจนต้องขบเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียง

   เท้าของผมพยายามถีบไปมาเพื่อที่จะหลุดออกจากเรียวนิ้วของพี่ธาราที่สอดเข้ามา แต่มันก็ไร้ผล

   “อึก พะ พอแล้ว ไม่เอา”ผมร้องขอออกไปทั้งที่รู้ว่าพี่ธาราคงจะไม่ฟัง

   นิ้วทั้งสามขยับเข้าออกไปมา จากที่รู้สึกแสบก็เริ่มรู้สึกหน่วงๆอยู่ข้างไปจนต้องจิกเล็บเท้าลงกับพื้นสระ

   กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกมะลิที่ลอยอยู่เต็มผืนน้ำช่วยบรรเทาให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

   แต่มันก็ได้เพียงแค่เศษเสี้ยวเมื่อนิ้วทั้งสามถูกถอดถอนออก

   ผมเงยหน้ามองพี่ธาราด้วยความไม่เข้าใจ แล้วถอยหลังหนีเมื่อพี่ธาราถอดเสื้อคลุมตัวเองออกบ้างทั้งที่แผ่นหลังผมชิดริมสระ
อยู่แล้ว

   ผมแทบจะอยากหายเข้าไปในผนังของสระน้ำเมื่อร่างกายเปลือยเปล่าของพี่ธาราปรากฏอยู่เบื้องหน้า

   ร่างกายกำยำเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสมบุรุษ กับผิวสีแทนที่ถูกสาดด้วยแสงจันทร์เหลืองนวล

   ผมไม่รู้ว่าเขี้ยวของพี่ธารางอกออกมาเมื่อไร รู้ว่าแค่สิ่งที่อยู่กึ่งกลางร่างกายของพี่ธารากำลังตั้งตระหง่านทักทายกับสายตา
ของผมอยู่

   ความใหญ่โตของมันทำให้ความกลัวแล่นเข้าสู่ก้นบึ้งของจิตใจทันที

   ขาของผมถูกจับแยกออก แทนที่ด้วยลำตัวของพี่ธาราที่กดลงมาระหว่างกลาง

   “ยะ อย่า”ผมร้องเสียงเบา แล้วกลืนน้ำลายลงคอ

   ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ช่องทางเบื้องหลังเมื่อกายสูงใหญ่นั้นกดลงมาที่ปากทางเข้าของผม

   มันดันลึกเข้าไปจนผมรู้สึกว่าด้านหลังแทบจะฉีกขาด

   “จะ เจ็บ อึก ผมเจ็บ”ผมพยายามดันอกพี่ธาราไว้เพื่อให้เขาหยุด

   หากแต่พี่ธาราไม่ฟังมัน

   กลับกดแก่นกายลึกเข้าไปอีก ความรู้สึกเจ็บมันแล่นเข้าสู่ทุกอนุของร่างกายทำให้ผมจิกเล็บลงบนลาดไหล่ของเขาเพื่อ
ระบายมันออกมา

   “อะ อึก ผมเจ็บ ฮึก”ผมสะอื้น

   พี่ธาราขยับมันเข้าไปจนสุดแล้วเริ่มขยับมันเข้าออก บั้นเอวของเขาขยับมันจากช้าๆเริ่มกลายเป็นถี่ขึ้น

   เหมือนกับความรู้สึกเจ็บของผมที่ค่อยๆกลับกลายเป็นรู้สึกแปลกใหม่

   “ฮึ่ม”พี่ธาราครางในลำคออย่างพึงพอใจ ในขณะที่ผมเริ่มที่จะกรีดร้องออกมาด้วยความรู้สึกแปลกกับสิ่งที่ได้รับ

   “ปะ ปล่อย อ๊ะ พี่ ปล่อยผม”ทั้งที่ผมอยากจะให้เข้าหยุด แต่แขนของผมกำลังโอบรอบคอของเขา

   แรงกระแทกเข้ามาในร่างกายของผมเริ่มหนักหน่วง ทั้งเร่าร้อนและรุนแรง จนน้ำในสระกระเพื่อมไปตามแรงกระแทก

   ความกระสันมันก่อตัวขึ้นตรงจุดกึ่งกลางของร่างกายผม ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ถูกกระแทกกระทั้นเข้ามาในร่างกาย ความสุขมันก็ถูกเติมเต็มจนแทบจะล้น ส่วนลึกในใจที่รู้สึกดีกำลังต่อต้นอยู่กับจิตใต้สำนึกที่คัดค้าน

   เรียวขาของผมกอดรัดบั้นเอวหนาที่กำลังกระแทกเร็วรัวเข้ามาอย่าบ้าคลั่ง

   “อะ อ๊ะ ปล่อย อื้อ มะ ไม่ไหวแล้ว”ผมกรีดร้องสุดเสียง

   ในที่สุดผมก็ยอมพ่ายแพ้ให้กับสิ่งที่ถูกเติมเต็มจนล้นออกมา ผมสำลักความกระสันแล้วปลดปล่อยมันออกมาผ่านสายน้ำที่กำลังกระเพื่อมไปมาอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับคลื่นน้ำในทะเลที่กำลังเจอพายุ

   ลำตัวของผมกระตุกเกร็งเบาเบาก่อนจะกอดรัดพี่ธาราแน่น ทั้งที่ร่างกายยังถูกสอดใส่เข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน

   แสงจันทร์เหลืองนวลยังคงสาดส่องมาที่เราสองคนแม้ว่ามันจะเคลื่อนที่จนเกือบจะตรงหัวของเรา

   เสียงร้องครวญครางของผมก็ยังคงดังแว่วทั้งที่รู้สึกเหนื่อยจนแทบขาดใจ แต่ดูเหมือนว่าพี่ธารายังคงไม่พอสำหรับมัน

   กายที่แข็งขืนสอดเข้ามาภายใน ครั้งแล้วครั้งเล่า ใบหน้าของเขาซบลงที่ลำคอของผม พร้อมกับเสียงครางคำรามอย่างพึงใจ

   ความบ้าคลั่งในอารมณ์ของพี่ธารายังไม่ยอมจบสิ้น ร่างกายของเขายังคงขยับเข้าออกอยู่ภายในร่างกายของผมเรื่อยๆ

   จนผมถูกช่วยให้เติมเต็มจนล้นออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า

   “อะ พะ พี่ธารา ผะ ผมไม่ไหวแล้ว อึก ผะ ผม ฮึก พอแล้ว”

   ผมทั้งร้องขอทั้งคราญครางไปพร้อมๆกัน

   “อะ อือ อย่าหนีข้าไปอีก”พี่ธารากระซิบข้างหู

   “อือ”ผมตอบรับ เพราะถึงยังไง ผมก็หนีเขาไปไม่พ้นอยู่ดี

   “ข้า….”




   พี่ธาราเหมือนจะพูดแต่ก็เงียบไป ร่างกายของเขาเริ่มเกร็งและขยับเร็วรัวกว่าเก่า เหมือนพายุที่กำลังโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง
ก่อนจะสิ้นสุด

   “ข้า…รัก…”

   ถึงคำพูดของเขามันจะแผ่วเบาคล้ายกับสายลมที่พัดผ่าน

   “เจ้า…”

   แต่ผมก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน

   “อย่าหนีข้า….ไปอีก”

   พี่ธารากระแทกกายเข้ามาอย่างรุนแรง พร้อมกับความกระสันของผมที่กำลังจะล้นเอ่อออกมาอีกครั้ง

   น้ำในสระขยับไปมาจนล้นขอบสระในขณะที่เราสองคนกำลังขยับกายสอดประสานเข้าหากัน

   น่าแปลกที่รอบนี้ผมกลับเต็มใจที่จะโอบกอดพี่ธารา หัวใจของผมกลับสุขล้นราวกับถูกเติมเต็ม ในที่สุดมันก็ล้นเอ่อออกมาอีกครั้ง ตามด้วยเสียงหอบหายใจของผมที่ดังขึ้นตามมาติดๆ

   แรงโหมกระหน่ำของพี่ธารายังคงส่งเข้ามาในร่างกายจนครั้งสุดท้ายที่พายุได้สิ้นสุดลง พร้อมกับน้ำอุ่นจนร้อนถูกสาดเข้ามาข้างในกายผมจนผมรู้สึกอุ่นวาบอยู่ข้างใน

   ใบหน้าของผมแดงก่ำทันทีที่รับรู้ว่ามันคืออะไร พี่ธาราหยุดนิ่งแล้วกอดผมเอาไว้พร้อมกับลมหายใจถี่รัวเป่ารดใบหูผม

   “ข้าขอร้อง อย่าหนีข้าไปอีก ได้หรือไม่”พี่ธารากระซิบพร้อมกับจูบซับลงที่ข้างหู

   “อะ อือ”ผมก้มหน้าพยักหน้าเบาเบา

   ใบหน้าของผมรู้สึกว่าร้อนวาบอย่างบอกไม่ถูกที่พึ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเราพึ่งจะทำอะไรกันในสระน้ำนี่


   “สัญญากับข้าได้หรือไม่ มณีของข้า”พี่ธาราก้มหน้าลงมาแล้วมองผมด้วยดวงตาที่อ่อนลงจากเมื่อครู่

   “อือ อะ ออกไป ได้แล้ว”ผมตอบไป ทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ

   ร่างกายของพี่ธารา ร่างกายของพี่ธารายังคงค้างคาอยู่ภายในร่างกายของผม ความอุ่นร้อนมันไหล่เวียนอยู่ด้านในจนรู้สึกว่า
มันทั้งชื้นและแฉะ

   “สัญญากับข้าได้หรือไม่ คู่ครองของข้า”

   “อะ อะไรนะ คู่ครอง?”ผมเงยหน้าถามอย่างแปลกใจกับไอ้คำว่าคู่ครอง นี่ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม

   “ใช่คู่ครอง เมื่อใดที่ร่วมรักในคืนจันทร์เพ็ญ จักถือว่าเป็นคู่ครองซึ่งกันกัน ชีวิตจะผูกติดกันตลอดไป”เขาตอบแล้วยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

   หมายความว่าไง เมื่อกี้ยังไม่ใช่อย่างนี้เลย

   ทำไมถึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างนี้ล่ะ

   “มะ หมายความว่าไง งั้น พี่ก็จะตายตามผมอะดิ เวลาที่ผมตายน่ะ ไม่ได้นะ พี่มีอายุยาวนานกว่าผม จะมาตายพร้อมผมได้ไง”ผมโวยวาย

   “ข้าไม่อยากอยู่อย่างเดียวดายอีกคราหากไร้สิ้นเงาของเจ้า”

   คำพูดของพี่ธาราทำเอาผมอายยิ่งกว่าเก่า นี่เขาเรียกว่าสารภาพรักใช่ไหม แล้วทำไมก่อนหน้าเขาถึงไม่ยอมบอกกับผมล่ะ

   “ทำไมก่อนหน้าพี่ไม่ยอมบอกผม”

   “ข้ารู้สึกละอายต่อเจ้า ที่ทำให้เจ้าผิดต่อจารีต ทั้งชาติที่แล้วและชาตินี้”

   นี่คงเป็นสาเหตุที่เขาไม่ยอมตอบรับพระอภัยมณีในชาติที่แล้วและผมในชาตินี้สินะ

   “แล้วทำไมพี่ถึงยอมบอกผมล่ะ”ผมถามพลางเบือนหน้าหนีริมฝีปากของเขาที่ฉกจูบแก้มผมอีกรอบ

   “ข้าทนต่อไปไม่ได้ ถ้าหากจะเสียเจ้าไปอีกครั้ง แล้วเจ้าเล่ามณี คิดอย่างไรกับข้า”เขาถามทั้งที่จมูกยังคลอเคลียอยู่บนพวง
แก้ม

   “มะ ไม่ได้คิด สักหน่อย”ผมตอบไป เรื่องอะไรจะยอมบอกง่ายๆ

   ทีเขากว่าจะบอกผมก็เล่นซะผมเสียหายไปหลายรอบ

   “เจ้าอายข้าเช่นนั้นหรือ”พี่ธาราจ้องตาผมทำให้ผมหลบตาวูบหลุบตาลงมองผืนน้ำที่เต็มไปด้วยดอกมะลิ

   “มะ ไม่ได้อาย”

   “แล้วใยเจ้าจึงไม่บอกข้าเล่า ว่ารู้สึกเช่นไรกับข้า”

   “ไม่บอก ไม่อยากบอก”ผมเบือนหน้าหนีแล้วยกมือขึ้นกอดอก

   “ก็ได้ งั้นข้าจักทำให้เจ้าสารภาพเอง”สิ้นเสียงพี่ธาราก็ยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

   พี่ธาราช้อนแขนเข้ากับข้อพับขาของผมแล้วยกมันขึ้น ทำเอาผมกอดคอเขาแทบไม่ทันเพราะกลัวตก

   “ทะ ทำอะไรน่ะ”ผมถามทั้งหน้าแดงก่ำ

   พี่ธาราลุกขึ้นยืนทั้งที่ส่วนนั้นของเรายังเชื่อมติดกันอยู่ กลายเป็นว่าตอนนี้ผมกำลังถูกอุ้มและกอดคอพี่ธาราอยู่ โดยที่กายของเขายังฝังอยู่ข้างในร่างกายของผม

   และดูเหมือนว่ามันจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งจนผมรู้สึกแน่นข้างในไปหมด



   “ซ้ำอีกครั้งเผื่อไม่ติด ข้าเกรงว่าสินธุ์สมุทรจักไม่ได้มาเกิดใหม่”

   พูดจบ พี่ธาราก็อุ้มผมเข้าไปด้านในแล้ววางลงบนเตียง

   “ดะ เดี๋ยว มะ ไม่เอาแล้ว พอแล้ว ตะติดแล้ว”ผมพูดไป ทั้งที่ยังไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าจะท้องอย่างที่พี่ธาราบอกได้หรือไม่

   แต่ตอนนี้ผมได้แต่ยอมให้พี่ธาราขยับกายเข้ามาในตัวอีกครั้ง โดยไม่รู้เลยว่าเมื่อไรจะได้นอน ถึงแม้พระจันทร์เคลื่อนผ่านหัวเราไปไกลมากแล้วก็ตาม
   


==================================================================


ไม่รู้จะดีพอไหม ไม่ค่อยถนัดฉากมโนเลย
ขาดเหลือตรงไหนติชมเอาเน้อ เขิลๆยังไงไม่รุ พยายามใช้คำไม่ลามก  ไม่รู้ว่าเปลี่ยนอารมณ์ไวไปไหม
กะจะให้ออกมาแบบ ง้อกันในมุ้ง ประมาณนั้น
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 24/10 [CH.17] คำสัญญา 18+
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 24-10-2015 23:47:52
 :m25:
เอาอีก
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 24/10 [CH.17] คำสัญญา 18+
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้เงา ที่ 24-10-2015 23:48:29
 :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 24/10 [CH.17] คำสัญญา 18+
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 25-10-2015 00:14:54
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: ต่ออีกๆ555 สายหื่นมาเอง :z1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 24/10 [CH.17] คำสัญญา 18+
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 25-10-2015 00:29:48
อุ้ย มีการซ้ำ 5555555

รบกวนช่วยใส่หน้ากำกับให้ด้วยนะคะ เวลาจะย้อนกลับไปหานี่หาย๊ากยาก นิยายสนุกมากค่ะ สู้ๆเนอะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 24/10 [CH.17] คำสัญญา 18+ p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 25-10-2015 06:05:19
ได้กำไรไปเป็นกอบเป็นกำเลยนะคะ
พี่ธารา :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 25/10 [CH.17] คำสัญญา 18+ p.10
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 25-10-2015 10:13:01
พี่ยักษ์กินเรียบแล้วคร๊าบ
น้องเงือกละจิโดนกินด้วยป่าว
 :hao6:  :pighaun:  :impress2:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 25/10 [CH.17] คำสัญญา 18+ p.10
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 25-10-2015 10:13:39
 :m25: เอาอีก  :o8:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 25/10 [CH.17] คำสัญญา 18+ p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 25-10-2015 14:16:37
เจ้ว่าถ้าทำคืนนี้ทั้งคืน น้องสินธุ์สมุทรมาเกิดใหม่แน่ๆ :hao7:
เดี๋ยวๆ อย่าลืมคู่รองนะคะะะะะะะ นี่ก็คืนเพ็ญเหมือนกัน
รอตอนต่อไปน้าาาา มาไวๆ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 25/10 [CH.17] คำสัญญา 18+ p.10
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 25-10-2015 18:47:27
 :heaven
fly
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 25/10 [CH.17] คำสัญญา 18+ p.10
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 25-10-2015 19:18:47
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 25/10 [CH.17] คำสัญญา 18+ p.10
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 25-10-2015 20:15:54
หยิบทิชชู่มาซับเลือดโดยไว    :haun4:     :haun4:

พี่ธาราจะซ้ำจนสินธุ์สมุทรจะมาใช่ไหม 

น้องมณีรับศึกหนักทั้งคืนแน่  คุคุ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 25/10 [CH.17] คำสัญญา 18+ p.10
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 25-10-2015 21:18:44
 :pighaun: :haun4: :jul1:
เอาอีก เอาอีก :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 25/10 [CH.17] คำสัญญา 18+ p.10
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 26-10-2015 04:35:54
 :pighaun: :m25: :haun4: :jul1: :oo1: :ling1:
รออีกคู่นึง
น้องเงือกกะพี่วรรณ
 :katai4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 25/10 [CH.17] คำสัญญา 18+ p.10
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 02-11-2015 10:09:32
 :hao3: :m25:  กลัวลูกไม่ได้มาเกิดต้องซ้ำ เข้าใจ ๆ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 25/10 [CH.17] คำสัญญา 18+ p.10
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 02-11-2015 10:16:47
 :m1: รอสินสมุทรมาเกิด  :เหอะ1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 25/10 [CH.17] คำสัญญา 18+ p.10
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 05-11-2015 19:28:55
22859
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ครั้งที่ 18 เหตุผล



   “พี่ธารา ท่านไม่จำเป็นต้องลำบากมีของติดไม้ติดมือเวลามาที่นี่แล้วก็ได้”อภัยมณีบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ข้างในใจนั้นกำลังแตกร้าวจนไม่อาจจะปกปิดมันได้

   สิ่งที่เกิดขึ้นภายในใจนั้นมันเป็นสิ่งที่ผิดเกินกว่าจะให้อภัยหัวใจของตนเองที่ดื้อรั้นดันไปปักใจรักยักษาไร้หัวใจเช่นพี่ธารา

   การใกล้ชิดกันดังเก่าเป็นดั่งเช่นหนามแหลมคมที่คอยทิ่มแทงจิตใจอยู่ร่ำไป

   “เช่นใดเจ้าจึงพูดเช่นนั้นเล่ามณี ข้ามิได้ลำบากประการใด ทุกสิ่งที่ข้ามอบให้เจ้านั้นล้วนแล้วมาจากความเต็มใจของ
ข้า”ยักษาหน้าคมคายสมบุรุษตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

   “พี่ธาราไม่ต้องลำบากมาช่วยเหลือข้าอีกต่อไปแล้ว บัดนี้สินธุ์สมุทรได้โตพอที่จะเปิดปากถ้ำได้เอง ข้าสามารถไปข้างนอกได้โดยที่ไม่ต้องรบกวนท่านอีกแล้ว ข้าขอบใจท่านมากที่คอยมีน้ำใจกับข้าเรื่อยมาต่อไปนี้ข้าคงไม่ต้องรบกวนท่านอีก”

   ถ้อยคำที่เป็นราวกับของมีคมตัดขาดเยื่อใยที่เคยมีจนแทบสะบั้นลง

   ใบหน้ารูปงามพยายามไม่แสดงออกถึงท่าทีใดใดหากแต่ในใจกำลังเจ็บปวด

   สิ่งเดียวที่ต้องรีบตัดเสียแต่ต้นลมตอนนี้คือการตัดใจ ตัดขาดความสัมพันธ์ที่เป็นไปไม่ได้ ความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายมิได้โต้ตอบใดใด ทั้งที่มอบจุมพิตให้เขาเมื่อครานั้น

   “เช่นนั้นข้าก็จักให้ตามที่เจ้าต้องการ”

   ยักษ์หนุ่มตอบรับเสียงเบาแล้วเดินหันหลังจากไป ทิ้งเอาชามแก้วใสที่เก็บดอกมะลิขาวตูมจนเต็มวางเอาไว้


   ภายในใจที่แข็งราวกับหินผาของยักษาตนนี้กำลังถูกพังทลายลงมาจนแทบไม่เหลือชิ้นที

   น้ำเสียงตัดขาดความสำคัญนั้นดูเหมือนจะเด็ดเดี่ยว แต่มันกลับสั่นเครือซ่อนไปด้วยความเจ็บปวด

   แต่เพื่ออีกฝ่าย เขาจำเป็นที่จะต้องตัดใจ ความสัมพันธ์ที่เป็นเรื่องผิดนั้นไม่อาจจะเกิดขึ้นได้

   เขาไม่อาจผิดลูกเมีย อภัยมณีเองก็ไม่อาจยอมรับในความรักที่เกิดต่อบุรุษเช่นกันได้
   

   นานวันเข้าไปทุกทีที่เขาได้แต่ลอบแอบมองหรือลอบเข้าหาในเวลาที่อีกฝ่ายหลับสู่ห้วงแห่งราตรี

   ใบหน้าที่งดงามจนหาใดเปรียบนั้นทำให้เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น สิ่งนั้นทำให้ใครผู้ใดที่พบเจอต่างหลงใหลโดยไม่มี
ข้อกังขา ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะรู้หรือไม่

   มือหนาหยาบกร้านลูบไล้เบาเบาบนใบหน้ารูปงามยามที่อีกฝ่ายกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งนิทรา

   เขาจำเป็นที่จะต้องตัดใจเจ็บจากมนุษย์ที่ไม่เคยนึกไม่เคยฝันว่าจะได้พบเจอ

   “ใจ ร้าย”น้ำเสียงพึมพำราวกับละเมอดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากฉ่ำได้รูป

   เป็นเหมือนหอกทิ่มแทงทะลุจิตใจของเขาให้ทุลุกลวงในทันทีทันใด

   ยักษ์หนุ่มชักมือกลับแล้วพิศมองใบหน้าที่ขมวดมุ่นราวกับกำลังร่ำไห้

   …แม้ในเวลาฝัน เขาก็ยังคงทำร้ายจิตใจของอีกฝ่าย…

   ยักษ์หนุ่มได้แต่คิดอย่างเจ็บใจตัวเองก่อนจะเร้นกายหายไปในเงามืด โดยไม่ได้สังเกตเห็นหยดน้ำตาใสที่ไหลออกจาก
ดวงตาที่ปิดสนิท



   นับวันยักษ์หนุ่มยิ่งคลับคล้ายคลับคลากับพวกจิตวิปริตที่คอยติดตามอีกฝ่ายไปทุกหนทุกแห่งเข้าเต็มที

   ยักษ์หนุ่มแฝงกายอยู่ข้างโขดหินใหญ่ลอบมองคนที่ตนตกหลุมรักกำลังคุยอยู่กับเงือกสาวด้วยท่าทีสนิทสนม

   แน่นอนสิ่งนั้นเป็นดั่งเช่นสายฟ้าที่ผ่าลงมากลางใจ หากแต่มันเป็นการดีที่จะให้อภัยมณีลืมเลือนเขาได้

   

   ทุกวันเขาจะแอบตามเจ้าของรูปหน้าที่งดงามออกมาเจอกับเงือกสาว ถ้อยคำเกี้ยวพาและแผนการที่ถูกวางเอาไว้เขาเองรับรู้ทั้งหมด

   หากแต่ไม่ต้องการที่จะขัดขวาง เขาอยากให้อภัยมณีนั้นมีความสุขโดยที่ไม่ต้องมีเขา

   คืนวันเดือนมืดวันที่แผนการที่ถูกวางเอาไว้ก็มาถึง

   ถึงแม่จะพยายามยินดีกับอิสระของมนุษย์ผู้กุมหัวใจของเขา แต่เช่นใดเขากลับรู้สึกเจ็บปวดคล้ายกับหัวใจนั้นกำลังสลาย
ไปในอากาศธาตุ

   เขาเฝ้ามองทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ไกลไกล ได้เห็นแม้แต่ยามที่อีกฝ่ายนั้นมีสัมพันธ์กับเงือกสาว

   

   “เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า เช่นใดจึงได้มีสีหน้าหม่นหมองเช่นนี้”ยักษ์หนุ่มอดที่จะทักไม่ได้

   ห้ามใจไม่ให้พาตัวเองเข้ามาใกล้อีกฝ่ายไม่ได้ เพราะกำลังจะจากลากันไปในที่ที่ไกลแสนไกล ซึ่งนั้นหมายถึงจะไม่ได้พบ
เจอกันอีก

   “ท่านหาได้ต้องใส่ใจสีหน้าข้าไม่ ข้าก็เป็นของข้าเช่นนี้”

   อภัยมณีตอบด้วยน้ำเสียงกร้าว แต่เจือไปด้วยความตัดพ้อ

   นานแล้วที่แทบจะไม่ได้สนทนาหรือได้แม้แต่จะเจอหน้ากัน

   ยักษ์ตนนี้ช่างใจร้ายกับเขานัก ช่างไร้หัวใจเกินที่เขาจะเอ่ยได้

   ทั้งที่เขารักคนคนนี้หมดหัวใจ แต่ทำไมความรักนั้นมิอาจได้ตอบทนกลับคืนมา

   ยิ่งพยายามตัดใจ แต่ก็ทำไม่เคยได้ แม้จะมีหญิงโฉมงามก็ไม่อาจจะลืมเลือนเจ้าของหัวใจที่เขามอบให้

   สัมพันธ์สวาทที่เกิดกับนางเงือกที่สวยหยาดเยิ้มนั้นก็ยังไม่สามารถลบเลือนยักษ์หนุ่มที่อยู่ข้างในใจได้เลย มันยิ่งน่าหงุดหงิดใจยิ่งนัก

   แต่เหนือสิ่งอื่นใดมันคือความเจ็บปวด

   อภัยมณีเบือนหน้าหลบก่อนที่จะเดินหนีจากมา ไม่อยากให้ยักษ์ไร้หัวใจอย่างพี่ธาราได้เห็นน้ำตาของเขา

   ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการพูดคุยและได้เห็นหน้าอีกฝ่ายเป็นครั้งสุดท้าย



===================================================================



   ท่ามกลางมหาสมุทรกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เสียงคลื่นลมทะเลขับกล่อมสอดประสานกับคลื่นลมได้อย่างลงตัว

   เสียงกระทบกับผืนน้ำจนแตกกระจายดังอยู่กลางมหาสมุทรลึก มือเรียวบางพยายามดึงเอาบ่วงเชือกที่รัดกับปลายหางนั้นออก

   หากแต่ยิ่งพยายามจะดึงรั้งเอามันออกมากเท่าไร บ่วงเชือกนั้นก็ยิ่งรัดแน่นมากขึ้น

   กับดักของพวกเรือสำเภาที่มาจากแผ่นดินใหญ่อันไกลโพ้นนั้นถูกทำขึ้นมาสำหรับไว้จับเงือกโดยเฉพาะ

   ความเชื่อที่ว่าหากได้กินเลือดเนื้อของเงือกนั้นจะเป็นอมตะทำให้ผู้คนจากแดนไกลนั้นออกล่าเงือกเพื่อที่จะนำมาซึ่งความ
เป็นอมตะ

   นั่นคือสิ่งที่พ่อกับแม่ได้บอกเตือนเอาไว้และห้ามไม่ให้ออกจากบริเวณเกาะ หากแต่ความดื้อดึงของเขานั้นทำให้เขาต้อง
เจอกับชะตากรรมที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้

   เมื่อถึงเย็นเรือสำเภาพวกนั้นกลับมาดูกับดักที่วางเอาไว้เขาคงต้องกลายเป็นอาหารของพวกมนุษย์โลภมากนั้นแน่



   เงือกหนุ่มพยายามดึงรั้งเอาบ่วงเชือกนั้นออกจากหากตัวเองจนมือระบม หากแต่บ่วงเชือกที่ผูกกับถังไม้ถ่วงด้วยหินก้อน
ใหญ่นั้นยังคงรัดแน่น

   เสียงคนพูดคุยกันทำให้เงือกหนุ่มระแวงหันไปมองยังเรือเล็กที่แล่นเข้ามาใกล้

   เงือกหนุ่มหน้าซีดเผือดเมื่อในเรือนั้นมีมนุษย์อยู่ หางที่ปกคลุมไปด้วยเกร็ดสีน้ำทะเลสวยตวัดลงไปซ่อนอยู่ในน้ำแล้วถอย
ห่างจากเรือที่ใกล้เข้ามาทุกที


   “เจ้าเป็นใครกัน เช่นใดถึงมาอยู่ที่นี่ได้”สุรเสียงทุ้มห้าวดังขึ้นทำให้เงือกหนุ่มสะดุ้งหันไปมองยังบุรุษเจ้าของเสียงด้วยใบหน้าหวาดระแวง

   ใบหน้าคมเข้มสมบุรุษเสมือนนักรบผู้เข้มแข็งกำลังจ้องมองมาทำให้ใจนึกหวั่น หากแต่ใจของเงือกหนุ่มนั้นกำลังหวาดกลัวเรือที่แล่นเข้ามาใกล้เข้าไปทุกที

   “ท่าน อย่าเข้ามานะ!!”เงือกหนุ่มห้ามเสียงดังก่อนจะถอยหนี

   “เจ้าเป็นใครกัน เหตุใดถึงได้มาลอยคออยู่กลางทะเลเช่นนี้ ยื่นมือมาให้ข้า ขืนชักช้าเจ้าอาจจะจมลงไปได้”

   ศรีสุวรรณโอรสเจ้าเมืองผู้ถูกขับไล่ออกมาพร้อมกับพี่ชายได้กล่าวก่อนจะส่งมือไปให้เงือกหนุ่ม

   “ไม่ อย่าเข้ามาใกล้ข้า”เงือกหนุ่มถอยหนีทำให้ศรีสุวรรณหันไปบอกสหายคนสนิทให้บังคับเรือเข้าไปใกล้อีก

   ใบหน้าที่งดงามราวกับอัปสรได้ปรากฏใกล้สู่สายตาชายผู้สูงศักดิ์อย่างศรีสุวรรณที่ไม่อาจละสายตาออกจากใบหน้านี้ได้

   เขาไม่เคยพบพานผู้ใดที่รูปงามขนาดนี้มาก่อน หากแต่แผงอกเรียบตึงนั้นบ่งบอกให้เขารับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นชาย

   ถ้าหากเป็นหญิงล่ะก็ เขาคงจะต้องห้ามในที่สั้นไหวนี้ไม่ให้ตกหลุมรักคงไม่ได้

   “ยื่นมือของเจ้ามาสิ”

   “ไม่ ท่านอย่าเข้ามาใกล้ข้า อย่ามายุ่งกับข้านะ”

   เงือกหนุ่มถอยหนีเรือเล็กที่เข้ามาใกล้จนเทียบชิด

   พลันดวงตาคมกร้าวก็เบิกกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่ตวัดวนอยู่ในน้ำ

   “เจ้าเป็นเงือก!!”ศรีสุวรรณอุทานเสียงเบาเรียกให้สหายทั้งสามที่มาด้วยมองด้วยความประหลาดใจ

   “ท่านอย่ามายุ่งกับข้านะ ได้โปรดเถิด”

   “ข้ามิได้จะทำร้ายเจ้าเสียหน่อย เช่นใดจึงต้องตีโพยตีพายเช่นนี้”ศรีสุวรรณนึกขำเมื่อเห็นใบหน้าราวกับจะร่ำไห้ของเงือก
หนุ่ม

   “อย่ามายุ่งกับข้านะ”ชลาสินธุ์บอกก่อนจะพยายามดึงบ่วงเชือกนั้นให้หลุด

   “อยู่นิ่งนิ่งสิ”เสียงทุ้มสั่งพร้อมกับมือหยาบใหญ่เอื้อมมาจับมือเล็กผอมเอาไว้ไม่ให้ดึงเชือกที่รัดแน่นเข้าไปทุกที

   “ปล่อยข้านะ ได้โปรด อย่าจับข้าไปเลย”เงือกหนุ่มดึงขืนมือพยายามดึงมันออกจากมือแกร่งที่จับเอาไว้

   มือมนุษย์ช่างอุ่นนัก ความอุ่นวาบมันแล่นเข้ามาผ่านผิวกายเย็นเยียบเหมือนสายน้ำทำให้เงือกหนุ่มช้อนตาขึ้นมอง

   แต่ดวงตาก็ต้องเบิกกว้างเมื่อมนุษย์หนุ่มหยิบมีดมีคมนั้นมาถือไว้แล้วจ่อเข้ามาใกล้เขาทุกที

   “ท่านจะทำอะไรน่ะ!!”เงือกหนุ่มดิ้นหากแต่ไปไหนไม่รอดเมื่อมือทั้งสองถูกจับรวบเอาไว้ด้วยมือใหญ่เพียงมือเดียว

   “เจ้าอยู่นิ่งนิ่งสิ”น้ำเสียงดุบอกยามที่หางแสนสวยนั้นตวัดไปมาทำให้มืดนั้นตัดบ่งเชือกไม่ถนัด

   “ได้โปรด อย่าทำข้าเลย”เสียงหวานเอ่ยสะอื้นก่อนที่อัญมณีเม็ดสวยจะร่วงหล่นออกมาจากดวงตา

   “ข้าบอกว่าอย่าดิ้นอย่างไรเล่า บ่วงเชือกนี่จะยิ่งรัดแน่น”สิ้นเสียง บ่วงเชือกก็คลายออกทำให้หางเงือกหนุ่มนั้นกลับคืนสู่
อิสระ

   “เห็นไหมเล่าว่าข้ามิได้จะทำร้ายเจ้า”ศรีสุวรรณถอนหายใจออกมา

   “ท่านมิได้จะกินข้าเช่นนั้นรึ”เงือกหนุ่มเงยหน้าถามพร้อมกันตวัดปลายหางยกขึ้นมาดูเรียกให้ศรีสุวรรณหันไปมองช่วงหาง
ที่ปรกคลุมด้วยเกร็ดสีฟ้าอมเขียวด้วยความตะลึง

   ความหลงใหลดลใจให้ชายหนุ่มเอื้อมมือไปลูบไล้เอาเกร็ดนุ่มลื่นนั้นอย่างเบามือแล้วลากไล้ไปเรื่อยๆโดยที่ไม่รู้เลยว่า
เจ้าของหางนั้นจะมีใบหน้าที่แดงก่ำอย่างไร

   “ข้าจะกินเนื้อเจ้าไปทำไม เนื้อเจ้าอร่อยนักรึ”ถึงจะเอ่ยถามแต่ดวงตาก็ยังไม่ละออกไปจากเกร็ดสีสวย โดยที่มือสากนั้นยังคงสัมผัสลูบกับเกร็ดนั้นไปมาลาวกับว่ากำลังหลงใหลในความงามของมัน

   เช่นเดียวกับใบหน้าแดงเรื่อที่งดงามกับเรือนผมยาวสีดำขลับที่ลู่ลงไปยาวจนถึงบั้นเอวสอบได้รูป

   “ข้า…นึกว่าท่าจะกินข้า”เงือกหนุ่มตอบเสียงแผ่วพลางหลุบตาลงมองหางตัวเองที่กำลังโดนสัมผัส

   “ข้ามิได้ออกเรือมาเพื่อจะกินของพิสดารเสียหน่อย ข้าเพียงแค่มาตามหาคนเจ้าจะบอกข้าได้หรือไม่”

   “มนุษย์เช่นนั้นหรือ?”เงือกหนุ่มเลิกคิ้วมองหนุ่มผู้สูงศักดิ์

   “ใช่ พี่ข้าชื่ออภัยมณี ถูกยักษ์ลักพาตัวเอามา เจ้าพอรู้หรือไม่ว่าพี่ข้าอยู่ที่ใด”

   ชื่อของมนุษย์ที่คุ้นเคยถูกเอ่ยออกมาจากปากผู้มีบุญคุณทำให้ชลาสินธุ์นึกชะงัก

   มนุษย์นั่นเข้ารู้จักดี เพราะเป็นคู่ครองของนางยักษ์ใจร้ายอย่างนางผีเสื้อสมุทร

   หากแต่เงือกหนุ่มมองไปยังผู้ที่มีบุญคุณ ลำพังมนุษย์ตัวเล็กๆสี่คนนี้จะสู้อะไรกับนางยักษ์ผีเสื้อสมุทรได้

   มีแต่จะสิ้นท่าแล้วกลายเป็นมื้ออาหารแน่

   “ข้า..รู้สิ พี่ท่านข้ารู้จักดี ตอนนี้เขาหนีออกมา ได้นั่งเรือกลับไปยังแผ่นดินเมื่อหลายคืนเพ็ญที่แล้ว ท่านคงจักคลาดกับพี่
ท่านเสียแล้วล่ะ”

   เงือกหนุ่มจงใจโกหก

   “งั้นหรอกรึ”ศรีสุวรรณยิ้มอย่างพึงใจ “เช่นนั้นข้าคงจะต้องกลับเข้าฝั่งไปพร้อมกับข่าวดีเพื่อไปตามหาพี่ชายข้าเสียแล้วล่ะ
ขอบใจเจ้ามาก ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรล่ะ”

   “ชลาสินธุ์ ข้าชื่อชลาสินธุ์”เงือกหนุ่มตอบ


   ดวงตาสีน้ำทะเลลึกจ้องมองเรือที่แล่นกลับเข้าไปยังฝั่ง เขามิอาจบอกความจริงต่อมนุษย์ผู้มีบุญคุณต่อเขาได้

   ความจริงนั้นจะพามนุษย์ผู้นี้พ่ายต่อนางยักษ์แล้วกลายเป็นอาหารมื้อใหญ่ได้

   เขาจำเป็นจะต้องโกหกถึงแม้ว่าจะทำให้พี่น้องได้พลัดพรากจากกัน แต่มันก็ช่วยรักษาชีวิตเอาไว้ได้

   ถึงแม้ว่ามันจะเกิดเป็นบ่วงกรรมที่คล้องเอาไว้ทำให้ต้องมาตามชดใช้กันในชาติหน้า

   เงือกหนุ่มไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาทำกำลังย้อนกลับเข้ามาหาตัวเอง




   
================================================================


   “ได้โปรดเถิด ท่านปล่อยข้าไปเถิด ข้าอยู่ที่นี่ไม่ได้”ชลาสินธุ์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าปนสะอื้น

   ความมืดมิดภายในห้องมีเพียงแสงไฟสลัวนั้นทำให้รับรู้ได้ทันทีว่าพระอาทิตย์นั้นได้ตกดินไปเสียแล้ว

   ขาเรียวยาวไร้เรี่ยวแรงพยายามหยัดหายขึ้นลุกไปทางประตูห้อง

   ทุกอย่างดูแปลกตาไปหมดสำหรับเงือกหนุ่มในยามนี้

   ทว่าร่างกายที่บอบบางไร้อาภรณ์ใดใดก็ถูกตวัดรั้งให้ฟุบลงกับที่นอนหนานุ่มอีกครั้งภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ที่คลุมกาย

   “ได้โปรด ท่านศรีสุวรรณปล่อยข้าไป ถะ อื้อ”ยังไม่ทันได้เอ่ยประโยควอนขอได้จบริมฝีปากบางฉ่ำก็ถูกเรียวนิ้วหยาบแตะ
ลงเบาเบาเป็นเชิงให้หยุดพูด

   “เรียกว่าวรรณก็พอ อีกอย่างฉันไม่ได้จะทำร้ายนาย หยุดร้องไห้ได้แล้ว”ศรีสุวรรณบอกเสียงเบาก่อนจะเกลี่ยหยาดน้ำตาที่
กำลังจะตกผลึกเป็นพลอยเม็ดงาม

   “ได้โปรด พาข้ากลับไปเถิด นี่ก็ราตรีแล้ว ข้าไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้”ชลาสินธุ์เว้าวอนก่อนจะจับแขนชายหนุ่ม

   “ฉันจะไม่ปล่อยนายไปไหนหรอกนะ คืนนี้นายจะต้องอยู่กับฉัน”สิ้นเสียงชายหนุ่มก็ยกสายผูกเอวของชุดคลุมอาบน้ำที่ดึงออกมาอวดให้ดวงตาสีน้ำทะเลนั้นได้มองมันอย่างตกใจ

   “ท่าน ท่านจะทำอะไรน่ะ”เงือกหนุ่มกระถดกายหนีมองดูเชือกแปลกตาในมือของศรีสุวรรณอย่างหวาดระแวง

   “กันไว้ก่อน กลัวว่านายจะหายไปแบบครั้งที่แล้ว”ศรีสุวรรณตอบด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย

   พลางดึงมือเรียวผอมทั้งสองข้างมารวบไว้ทั้งที่เจ้าตัวพยายามยื้อและขัดขืน แต่แรงของเงือกผู้บอบบางจะสู้อะไรกับผู้ชาย
ร่างใหญ่อย่างเขาได้

   มือทั้งสองถูกสายรัดชุดคลุมผูกเอาไว้แน่นจนไม่สามารดิ้นหลุดได้

   ศรีสุวรรณมองร่างตรงหน้าอย่างพึงพอใจ ในที่สุดเขาก็ได้เจอเสียที คนที่ทำให้เขาข้องใจมาตลอด

   ตลอดเวลาหลายปีที่ค้นคว้าศึกษาข้อมูลที่บอกถึงสิ่งมีชีวิตที่คนอื่นๆเชื่อว่าไม่มีจริง แต่สำหรับเขาที่เคยได้เห็นมาแล้ว สำหรับเขามันมีอยู่จริง


   ดวงตาสีน้ำทะเลลึกยังคงติดตรึงอยู่ภายในใจไม่ยอมจางหายไปทำให้นับวันที่อยากจะลืมกลับกลายเป็นยิ่งต้องการที่จะได้
ครอบครอง

   สร้อยที่ประดับเม็ดนิลของเขาเป็นตัวบ่งบอกอย่างดีว่าเงือกตนนี้คือตนเดียวกับที่เขาตามหามาตลอด

   ตนเดียวกับที่ช่วงชีวิตเด็กและเขาเอาไว้

   …เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นโชคชะตา….

   คำพูดของหลวงตาท่านหนึ่งพูดเอาไว้ตอนที่เขาไปทำบุญที่วัดกับครอบครัว

   คำทำนายถึงชาติก่อนถูกเล่าออกมาจากปากผู้ถือศีลมากข้อ หากเป็นคนอื่นอาจจะไม่เชื่อ แต่เป็นเขาเขากลับเชื่อโดยสนิทใจ เพราะได้เห็นมากับตา

   ผลกรรมจากชาติที่แล้วนำพาให้เขามาพบกับเงือกหนุ่มตนนี้อีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย



==============================================================
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 05/11 [CH.18] เหตุผล p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 05-11-2015 20:20:36
ชลาสินธุ์เป็นเงือกหนุ่มที่น่าทะนุถนอมมากๆ เลยค่ะ ยิ่งตอนที่แก้มแดงเพราะถูกศรีสุวรรณลูบหางนี่ยิ่งน่าเอ็นดู~~ :-[
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 05/11 [CH.18] เหตุผล p.11
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 05-11-2015 21:15:44
 :ling3:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 05/11 [CH.18] เหตุผล p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 05-11-2015 21:40:19
ทาสรักนี่ คงไม่ใช่กักตัวแบบจำเลยรักด้วยนะ
น้องเค้ามีพ่อมีแม่นะพี่วรรณ!!!!! แหมมมมมมมมม
เตรียมทิชชู่และเลือดสำรอง :heaven
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 05/11 [CH.18] เหตุผล p.11
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 05-11-2015 21:45:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 05/11 [CH.18] เหตุผล p.11
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-11-2015 21:56:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 05/11 [CH.18] เหตุผล p.
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 05-11-2015 23:29:37
กรี๊ดดดคู่หลักกกกเสด ขอกรี๊ดดดดต่อคู่รอง ชอบง่า โอ๊ย อยากอ่านอีกกก พึ่งเฃ้ามาอ่านรวดเดียว คือชอบมากกกก
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 05/11 [CH.18] เหตุผล p.11
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 07-11-2015 03:13:07
ทาสรัก :hao6:
นางเงือกนี่ท่าจะไร้เดียงสา
โดนพี่วรรณฉุดมาทำเมียซะแล้ว
มาต่อด่วนนนนน
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 05/11 [CH.18] เหตุผล p.11
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-11-2015 18:22:14
ทิชชู่พร้อม  :hao6:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 05/11 [CH.18] เหตุผล p.11
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 08-11-2015 01:48:12
ผมนี่เฝ้ารอความใจจดใจจ่อเลย  :ruready
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 05/11 [CH.18] เหตุผล p.11
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 14-11-2015 04:28:45
24364
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ครั้งที่ 18.2 ของต่างหน้า


ดวงจันทร์กลมโตได้เคลื่อนคล้อยไปเมื่อยามเย็นล่วงลับ เสียงลมทะเลดังแว่วคลอกับเสียงคลื่นน้ำกระทบฝั่งทราย

   ร่างกายไร้อาภรณ์สั่นเทาเมื่อผ้าห่มผืนหนาถูกดึงออกจากกาย เรือนร่างขาวโพลนสะอาดตาปรากฏสู่สายตานิ่งเฉยของชายหนุ่ม

   เขายกยิ้มและมองร่างกายที่แสนจะเย้ายวนตรงหน้าอย่างพึงใจ

   หางที่ปรกคลุมด้วยเกร็ดสีสวยนั้นว่าสวยจนไม่อาจละสายตาแล้ว แต่เรียวขาเนียนนุ่มนี้กลับตรึงตาตรึงใจเขายิ่งกว่า

   “อะ อย่าแตะข้านะ”เงือกหนุ่มชักขาหนีมือหนาที่กำลังจะแตะปลายเท้า

   “ทำไมฉันถึงแตะนายไม่ได้ล่ะ”ศรีสุวรรณนั่งลงที่ปลายเตียง ทิ้งให้ร่างเปลือยของเงือกหนุ่มถอยกายไปชิดฝั่งหัวเตียงอย่างหวาดกลัวทั้งที่มือทั้งสองถูกมัดเอาไว้

   “คืนนี้เป็นคืนเพ็ญ ข้าไม่อยากให้ใครแตะต้องกายข้า ได้โปรด ปล่อยข้าไปเถอะนะท่านศรีสุวรรณ”เงือกหนุ่มอ้อนวอน


   “ฉันมีความคิดอะไรดีดีแล้วล่ะ”

   “อย่าเข้ามานะ ข้าขอร้อง ได้โปรด”เงือกหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ดวงตาคลอไปด้วยหยาดน้ำตาที่กำลังจะเอ่อล้นลงมา

   “เรียกฉันว่าพี่วรรณสิ”ชายหนุ่มบอกก่อนจะแตะมือเข้าที่ใบหน้าสวยได้รูป

   “แต่ข้าอายุมากกว่าท่าน”

   “จริงอยู่ที่นายอายุมากกว่าฉัน แต่เรื่องความไร้เดียงสานั้นนายอ่อนกว่าเห็นๆ เรียกสิ บางดีฉันอาจจะใจดีกับนาย”


   “พะ พี่วรรณ”เสียงหวานเอ่ยเบาหูทำให้เขายิ้มอย่างพอใจ ดวงตาสีน้ำทะเลรื้นไปด้วยน้ำใสช้อนตามองมาที่เขาอย่าง
อ้อนวอน

   แต่เขากลับคิดว่ามันเป็นการชักชวนซะมากกว่า

   ร่างสูงใหญ่หยัดกายขึ้นจากเตียงแล้วเดินตรงไปที่ระเบียงทิ้งให้เงือกหนุ่มมองตามอย่างไม่เข้าใจ

   “ท่านจะทำอะไรน่ะ”เงือกหนุ่มตาโตเมื่อม่านสีดำทึบนั้นถูกรูดเปิดออกเผยให้แสงจันทร์เหลืองนวลค่อยๆสาดเข้ามาในห้อง

   “ฉันบอกให้นายเรียกฉันว่าอะไร หือ? หรือนายจำไม่ได้”เขาหันไปถามทั้งที่ยังไม่หยุดรูดม่านสีทึบปิดออกเรื่อยๆอย่างเบามือ

   ร่างกายบางราวกับจะแตกหักเอาง่ายๆถดกายหนีแสงจันทร์จนชิดริมผนัง แสงจันทร์ค่อยๆสาดเข้ามาในห้องมากขึ้นจนเกือบจะแตกที่ปลายเท้าของเงือกหนุ่ม

   “ได้โปรด อย่าเปิดมันเลย ข้าขอร้อง จะให้ข้าทำอะไรก็ได้ ข้ายอมท่านทุกอย่าง”เงือกหนุ่มอ้อนวอน

   “ทุกอย่างจริงหรือ?”ศรีสุวรรณหันไปถาม

   “ข้ายอมทำให้ท่านทุกอย่าง พี่วรรณ ขอเพียงแต่ท่านจะช่วยปิดม่านนั่นลงก็พอ”


   “แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ”พูดจบ ม่านสำดำสนิทก็ถูกรูดเปิดจนสุดทำให้ทั่วห้องอบอวลไปด้วยแสงจันทร์เหลืองนวลที่สาดเข้ามา

   ดวงตาคมกริบจ้องมองร่างผุดผ่องต้องกับแสงนวลของดวงจันทร์อย่างจดจ่อ

   เรียวปากบากฉ่ำขมเม้มเข้าหากันแน่น เรือนผมสีดำค่อยๆกลายเป็นสีดอกเลาอ่อนลงจนเห็นได้ชัด ดวงตาสีน้ำทะเลทอประกายเข้มขึ้นจนกลายเป็นสีฟ้าอมเขียวเข้ม

   เรียวขายาวขดเข้าหาลำตัวแล้วจิกลงกับฟูกนอนแน่น ร่างกายเปลือยคู่เข้าหาแล้วกอดตัวเองอย่างหวาดกลัวทั้งใบหน้าแดงก่ำ

   “ใจ ร้าย”น้ำเสียงต่อว่าเบาราวกับสายลมทั้งที่ดวงตาคู่นั้นกำลังสั่นระริก

   แก่นกายสีหวานกำลังตั้งชันขึ้นมาเรียกให้สายตาคมจ้องมองมันอย่างไม่วางตาทั้งที่เงือกหนุ่มพยายามปิดบังมันเอาไว้

   “พี่วรรณ ท่านช่างใจร้ายกับข้ายิ่งนัก”น้ำเสียงตัดพ้อยังคงดังแว่วทั้งที่มันแหบพร่า

   กายเล็กกว่ากำลังสั่นระริกจ้องมองกายสูงใหญ่ย่างกายเข้าไปหา

   ดวงตาสีสวยหรี่ปรือราวกับกำลังเชิญชวนโดยไม่รู้ตัว

   “นายต่างหากที่ใจร้าย ปล่อยให้ฉันตามหาเงือกอย่างนายเหมือนกับคนเป็นบ้า”

   “อย่าเข้ามาใกล้ข้า ข้าขอร้อง”เงือกหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ปลายเท้าถูกมือร้อนแตะอย่างเบามือ

   ครั้นใจอยากจะชักเท้าหนี แต่ร่างกายนั้นกลับดื้อดึงไม่ฟังตามที่ใจสั่ง

   “พี่วรรณ ออกห่างจากตัวข้าเถิด ข้าแทบจะทนไม่ไหวแล้ว”

   ร่างกายไร้อาภรณ์สั่นระริก ช้อนตามองชายหนุ่มอย่างเชื้อเชิญ

   “ไม่นึกว่าแสงจันทร์จะทำให้เงือกเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้”เขาพูดเสียงเบาพร้อมกับเอื้อมมือไปเกลี่ยปอยผมยาวสีดอกเลา
อย่างมือ

   มือใหญ่ลากมือผ่านมาที่ใบหน้าแดงเรื่องก่อนจะช้อนใบหน้านั้นให้เงยมองตอบ

   “อย่าแตะตัวข้า”ถึงจะพูดอย่างนั้นดวงตาสีสวยนั้นก็ทอดมองตอบอีกทั้งยังไร้ท่าทีขัดขืนหรือผลักไสร่างที่กำลังโถมกาย
ทาบทับ

   ความพิศวาสทางกายกำลังครอบงำจิตใต้สำนึกให้ไร้สติ มือเรียวขาวยกมือขึ้นทาบลงบนโครงหน้าหล่อเหลา

   ดวงตาสีฟ้าเข้มมองใบหน้าที่คุ้นเคยเมื่อหลายร้อยปีก่อนอย่างพินิจ ใบหน้าที่เขาตกหลุมรักแต่แรกเห็น

   ริมฝีปากหนาเคลื่อนเข้ามาใกล้ก่อนจะทาบลงบนริมฝีปากฉ่ำ เรียวปากบางถูกคลึงเคล้าด้วยลิ้นร้อนราวกับเล็กนาบไฟแล้ว
ถูกบังคับให้กลืนมันเข้าไปหยอกเย้าอยู่ภายใน

   “อื้อ”ร่างกายสั่นระริกเมื่อแผ่นอกเรียบตึงที่แสนจะเย็นชืดถูกคลึงเคล้าด้วยมือร้อนผ่าว

   “ได้โปรด หยุดเถิด”ถึงจะร้องขอ อ้อนวอนให้หยุด แต่กายกับตอบรับแรงปรารถนาที่ถูกมอบให้

   มือที่ถูกมัดรวบเอาไว้วางทาบลงบนอกแกร่ง ขาทั้งสองถูกจับให้อ้ารับร่างกายที่ใหญ่โตเคลื่อนเข้าไปสอดแทรก

   รสจูบหวานล้ำถูกมอบให้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จิตใจที่รุ่มร้อนพยายามหักห้ามสั่งให้กายนั้นขัดขืน

   หากแต่กายนั้นไม่ยอมฟัง กลับตอบรับถูกสัมผัสที่ทาบทับผ่านผิวเนื้อร้อนผ่าว

   “ได้โปรดเถิด หากทำเช่นนี้ชั่วชีวิตนี้ข้าคงจะขาดท่านไม่ได้แน่”เงือกหนุ่มเบือนหน้าหนีทั้งอ้อนวอนทั้งร้องขอ แต่มือร้อน
นั้นยังไม่หยุดลูบไล้ไปทั้งกายขาวมุก

   “แน่นอน นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ การมีเซ็กในคืนพระจันทร์เต็มดวง สำหรับเงือกคงจะเป็นเหมือนกับการแต่งงานสินะ”ศรีสุวรรณยกยิ้มก่อนจะกดจูบลงบนขมับเนียน

   “ในเมื่อท่านรู้แล้ว เหตุใดท่านจึงรังแกข้าเช่นนี้ ท่านต้องการจะกลั่นแกล้งข้าเช่นนั้นหรือ”

   “ฉันไม่ต้องการจะแกล้งนาย หรือรังแกอะไรนายทั้งนั้น ที่ฉันต้องการคือตรงนี้ หัวใจของนาย”พูดจบ นิ้วเรียวยาวก็ชี้ลงบน
อกเรียบตึงข้างซ้ายเป็นการย้ำเตือนในสิ่งที่พูดออกไป

   “เหตุใดกัน ข้าไม่เข้าใจ”เงือกหนุ่มส่ายหน้าทั้งน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นแล้วตกผลึกเป็นพลอยเม็ดงาม ล่วงหล่นลงลนผืนเตียง

   “อีกหน่อย นายก็จะเข้าใจเอง”

   จบคำพูดมือใหญ่ก็ผลักให้ร่างกายของเงือกหนุ่มนั้นนอนราบลงกับพื้นเตียง เรียวขายาวถูกจับอ้าออกจนกว้างเผยให้เห็น
แก่นกายสั่นระริกอีกทั้งยังช่องทางสีหวานสวยที่กำลังตอดรัดอย่างเชิญชวน

   ศรีสุวรรณถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกโดยใช้เวลาอันน้อยนิดก่อนจะแทรกกายทาบทับลงบนลำตัวบอบบางของอีกฝ่าย

   ผิวเนื้อร้อนทาบเอาลงบนผิวกายเย็นเฉียบผสานอุณหภูมิของกันและกัน

   “หยุดร้องไห้ได้แล้ว นายไม่จำเป็นต้องร้องไห้”มือร้อนเกลี่ยลงที่ดวงตากลมสีสวย

   “ข้าไม่เข้าใจ เหตุใดท่านถึงต้องทำเช่นนี้ ท่านรังแกข้า”

   “บอกแล้วไงว่าไม่ได้รังแก”

   “แล้วเช่นใดเล่า ท่านเองก็รู้ว่าการร่วมรักในคืนเพ็ญนั้นสำคัญกับข้ามาก ท่านยังจะ”ยังไม่จบคำพูดตัดพ้อ นิ้วเรียวยาวก็จรด
ลงที่ริมฝีปากเรียวบางเพื่อหยุดคำพูด

   “หยุดพูดได้แล้ว นายเองก็แทบจะทนไม่ไหวแล้วไม่ใช่รึยังไง”

   เขาพูดพร้อมกับเลื่อนมือไปเคล้าคลึงร่างกายเล็กที่กำลังชูชันเรียกร้องความสนใจของเงือกหนุ่ม

   “อา ได้โปรด หากท่านไม่คิดใยดีต่อข้าท่านก็หยุดเถิด ปล่อยให้ข้าอยู่ลำพัง”มือเล็กพยายามดันเอาเขาออกทั้งที่แก่นกาย
มันกำลังกระตุกรับกับมือของเขาที่กำลังหยอกล้อ

   ร่างกายบอบบางบิดกายแอ่นเข้าหาร่างของเขาอย่างยั่วยวน เรียวฟันขบเม้มเข้าที่ริมฝีปากฉ่ำทั้งที่ใบหน้านั้นแดงเรื่ออย่างเขินอาย

   “อย่าเอาแต่คิดไปเอง”เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหูทั้งซุกไซร้ที่ลำคอขาว

   มือหนาขยับรั้งรูดเอากายเล็กกระตุกครั้งแล้วครั้งเล่า  เอวบางหยัดกายเข้าหาอย่างไม่รู้ตัวพร้อมกับเสียงร้องอ้อนวอน
หวานหูดังแผ่วเบา

   “พี่วรรณ ข้าจะไม่ไหวแล้ว ได้โปรดช่วยข้าที”กลับกลายเป็นความต้องการที่ชนะหัวใจที่ต่อต้าน

   น้ำอุ่นร้อนถูกปล่อยออกมาเต็มมือหนาทำให้ศรีสุวรรณยกยิ้มอย่างพึงใจ เงยหน้ามองใบหน้าแดงก่ำที่มองมาอย่างเขินอาย

   “ท่านมันใจร้าย”เงือกหนุ่มตัดพ้อทั้งยังครางเสียงแผ่ว

   “แต่นายก็ชอบไม่ใช่รึไง”เขายิ้มพร้อมกับเค้นคลึงน้ำอุ่นร้อนนั้นป้ายลงบนช่องทางสีหวาน

   “พะ พี่วรรณ ข้า ไม่อยากทำเช่นนี้”ถึงจะร้องห้ามแต่เรียวขากลับอ้ารับให้มือใหญ่สัมผัสได้เต็มที่

   “ฉันจะรับผิดชอบเอง”

   “แต่ข้าเป็นเงือก ท่านเป็นมนุษย์”

   “น้องชายฉันกับธารายังไม่เห็นมีปัญหาอะไร”นั่นคือความจริงที่เขาพึ่งจะรับรู้มาเมื่อไม่นานนี้

   “ท่านมันเจ้าเล่ห์ ฮึก ข้า อือ”เสียงหวานครางเบาเมื่อนิ้วยาวสอดเข้าไปในร่างกายทำให้กายนั้นบิดเร่า

   ความวาบหวามที่เกิดขึ้นทำให้ร่างกายมันแทบจะทนไม่ไหว

   “อา พี่วรรณ ข้า ฮึก ได้โปรด ช่วยข้าที ข้ารู้สึกทรมานเหลือเกิน”มือทั้งสองที่ถูกรวบจิกเข้าที่แผงอกอย่างอดกลั้น

   แสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาทำให้ความปรารถนาในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัวจนไม่อาจต้านทาน

   เรียวขายาวอ้าออกกว้างให้ปลายนิ้วร้อนสอดเข้ามาในช่องทางรักเยิ้มฉ่ำ จากหนึ่งกลายเป็นสอง และกลายเป็นสาม

   ความแข็งขืนของถูกส่งเข้าออกเพื่อความคุ้นชิน จนภายในตอดรัดมันและคลายตัวออกเมื่อคุ้นเคยดี

   “ฉันจะเข้าไปแล้วนะ”เสียงทุ้มกระซิบข้างหูอย่างปลอบโยนพร้อมกับนิ้วร้อนที่ถูกดึงออกมา

   เขาโน้มเข้าไปหาก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากบางเรื่ออีกครั้งคล้ายกำลังปลอบโยน กายแข็งขืนและร้อนผ่าวถูกจดจ่อเข้าที่
ช่องทางร้อนอย่างเอาแต่ใจ

   “ฮึก พี่วรรณ ข้าแทบทนไม่ไหวแล้ว ได้โปรดช่วยข้าที”

   สิ้นคำอ้อนวอน กายแข็งแรงก็หยัดกายเข้าไปในช่องทางเย็นเฉียบ ความร้อนที่แทบจะเผาไหม้แผ่ซ่านอยู่ภายในช่องทาง
อ่อนนุ่ม

   “ฮึก ได้โปรด รักข้าที มอบความรักของท่านเข้ามาในตัวข้า”

   เงือกหนุ่มวอนขอ ร่างสูงใหญ่ขยับกายเข้าออกในช่องทางอ่อนนุ่มอย่างเบามือก่อนจะเร่งเร้าจนเสียงครางหวานหูดังก้อง

   
   วันเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไวเสมอ ดวงจันทร์กลมโตลับขอบฟ้า ขนานกับดวงอาทิตย์แดงเพลิงที่กำลังโผล่พ้นในทิศ
ตรงข้าม

   แสงสว่างยามเช้าส่องผ่านเข้ามาทางระเบียงปลุกให้ร่างที่พึ่งจะหลับไปลืมตาขึ้นมาด้วยความอ่อนเพลีย อีกทั่งร่างกายยัง
ปวดร้าวราวกับร่างทั้งร่างแตกออกเป็นเสี่ยง

   ดวงตาสีสวกระพริบปรือตามองไปยังรอบๆบ่งบอกให้รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นไม่ใช่ความฝัน

   “ช่างใจร้ายนัก”เงือกหนุ่มพึมพำอย่าปวดใจมือทั้งสองข้างถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ขาที่งอกออกมานั้นเริ่มมีเรี่ยวแรงพอที่จะ
ลุกเดินได้

   เงือกหนุ่มคว้าเอาผ้าห่มผืนเล็กที่วางอยู่ปลายเตียงขึ้นคลุมกาย

   แสงจันทร์ที่สาดเข้ามาทาบทับร่างกายเมื่อราตรีที่ผ่านมานั้นทำเอาเขาแทบจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา

   เงือกหนุ่มมองใบหน้าของคนใจร้ายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกมาอย่างเบาฝีเท้า

   เขาคงจะอยู่ที่นี่นานไปกว่านี้ไม่ได้ หากพ้นอีกคืนเพ็ญ หางก็จะไม่กลับคืนมา

   ร่างโปร่งบางเดินออกมายังชายหาดด้วยเรี่ยวแรงที่อ่อนลงไปมาก

   เรียวขายาวแตะลงบนผืนน้ำที่สาดเข้ากระทบฝั่ง

   ไม่นานเรียวขานั้นก็กลับกลายเป็นหางสีสวยก่อนร่างกายของเงือกหนุ่มจะหายลับไปกับเกลียวคลื่นทิ้งเอาไว้เพียงเม็ด
พลอยสีฟ้าสวยเกยอยู่ริมหาดทราย



======================================================================

ให้เดาว่าชลาสินธุท้องไม่ท้อง กลายเป็นเจ้าสาวคืนเดียวไปซะแล้ว
แล้วคราวนี้พี่วรรณจะเอาไงล่ะ เอ้อ ขอโทษที่หายไปยาววววนะจร้าาาาา
รีบมาลงให้จบตอนไป บัดเดี๋ยวคนอ่านสิลืมเอา ยอมรับว่าไม่ถนัดฉากแบบนี้เอาซะเลย
เลยเอามาแค่พอสุภาพ? ไม่หวือหวา เนอะ จะพยายามไม่หายไปนานเนอะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 14/11 [CH.18.2] ต่างหน้า 18+
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 14-11-2015 05:34:52
ไปตามน้องกลับมาบัดเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้พี่วรรณ!!!!!!! :m31:
นอนอุตุอยู่นั่นแหละ ถ้าตื่นมาหาไม่เจอแม่จะสมน้ำหน้าให้
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 14/11 [CH.18.2] ต่างหน้า 18+
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-11-2015 05:51:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 14/11 [CH.18.2] ต่างหน้า 18+
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 14-11-2015 07:24:26
 :sad4: ฮือๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 14/11 [CH.18.2] ต่างหน้า 18+
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 14-11-2015 10:05:02
พี่วรรณจะตามหาเจอมั้ยล่ะเนี่ยยยย o18
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 14/11 [CH.18.2] ต่างหน้า
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 14-11-2015 11:44:08
แอร๊ยยย ขอทายว่าท้อง ท้องแน่ๆ อยากอ่านต่ออีกง่า คนเขียนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 14/11 [CH.18.2] ต่างหน้า 18+
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 14-11-2015 11:47:52
 :hao3: เมียหนีแล้วจ้ารีบตาม อย่ามัวนอน
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 14/11 [CH.18.2] ต่างหน้า 18+
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 14-11-2015 12:47:34
 :oo1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 14/11 [CH.18.2] ต่างหน้า 18+
เริ่มหัวข้อโดย: luzileas ที่ 14-11-2015 13:01:56
พี่วรรณไปตามเมียด่วนเลย  เมียหนีแล้ว
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 14/11 [CH.18.2] ต่างหน้า 18+
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 14-11-2015 14:49:09
อยากอ่านอีกจัง
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 14/11 [CH.18.2] ต่างหน้า 18+
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 14-11-2015 18:11:26
เจ้าสาวคืนเดียวหนีลงทะเลไปแบบนี้จะไปงมที่ไหนดีล่ะ  :hao7:

ลำบากพี่วรรณแล้ว  ดังนั้น ท้องซะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 14/11 [CH.18.2] ต่างหน้า 18+
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 14-11-2015 19:28:36
มีแววว่ารอบนี้คงไม่ง่ายที่จะเจอชลาสินธุ์แล้วล่ะค่ะพี่วรรณ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 14/11 [CH.18.2] ต่างหน้า 18+
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 14-11-2015 20:16:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 14/11 [CH.18.2] ต่างหน้า 18+
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 14-11-2015 23:17:28
โธ่น้องเงือกเสร็จพี่วรรณไปเสียแล้ว :mew2:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 14/11 [CH.18.2] ต่างหน้า 18+
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 15-11-2015 03:07:22
 :z3: :z3: :z3:
ตามสิครับจะรออะไร
มัวแต่นอนปล่อยให้เมียหนีไปซะงั้น
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 15/11 [CH.19] กุหลาบสีน้ำเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 15-11-2015 21:15:42
25555
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)


ครั้งที่ 19 กุหลาบสีน้ำเงิน
(ตอนนี้ค่อนข้างหลายอารมณ์)


   

   แสงอาทิตย์สีอ่อนสาดเข้ามาภายในห้องโปร่งแสงที่อยู่ชั้นบนสุดของตัวบ้านหลังใหญ่บนเกาะใจกลางทะเล

   เสียงคลื่นน้ำกับสายลมยามเช้าปลุกให้ผมลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ

   ทันทีที่ขยับตัวก็รู้สึกปวดร้าวที่บั้นเอวจนแทบจะหลุดเสียงร้อยโอยออกมา

   พอนึกได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองแล้วมันก็เริ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาทันที

   ใครจะไปนึกไปฝันล่ะว่าชีวิตวัยรุ่นเฟี๊ยวฟ้าวอย่างผมจะดันมากลายเป็นเมียของคนอื่นอย่างเต็มรูปแบบ แถมสามีที่โคตรจะ
เพอร์เฟกก็เป็นถึงยักษ์ตัวตนในเรื่องปรัมปรา

   ใจมันอยากจะมุดหายจมไปกับที่นอนเอาซะตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด

    แผงอกล่ำๆสีแทนกระทบเข้ามาในม่านตาของผมเป็นอันดับแรก พร้อมด้วยอ้อมแขนที่กระชับผมเข้าไปกอดจนแทบจมหายเข้าในร่างกายสูงใหญ่

   “ปล่อยดิ อึดอัด หึ่ย!!”ผมก็ได้แต่ทำโวยวายไปเมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าตัวที่จ้องมองผมอยู่ก่อนหน้าแล้ว

   “เจ้านอนกรน”พี่ธาราทักทายยามเช้าทำเอาแทบเงิบ

   ไม่มีคำทักทายที่มันหวานกว่านี้รึไง

   “อย่ามายุ่งน่า”ว่าไปพร้อมกับพยายามดันตัวออกจากอ้อมกอดแข็งแรงนั่น

   “จะไม่ให้ข้ายุ่งได้อย่างไร ในเมื่อ…เจ้าเป็นเมียข้า”พูดเสร็จใบหน้าหล่อเหลานั่นก็ยิ้มหยอกเล่นเอาแทบจะซุกหน้าเข้ากับ
แผงอก ถ้าไม่ติดว่ามันออกจะน่าอายที่ผู้ชายจะเอาหน้าซุกอกผู้ชาย

   “มะ ไม่ได้เป็นเมียสักหน่อย พี่อย่ามาขี้ตู่ดิ มั่ว ปล่อยผมได้แล้ว”ไม่รู้จะพูดะไรดี มันเขินจนต้องแถเนียนไปก่อน

   “ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปอีกแล้ว บอกความในใจของเข้าต่อข้าอีกครั้งสิ ข้าอยากฟัง”ไม่พูดเปล่า จมูกโด่งซุกลงมาบนหน้า
ผากของผมทำเอาผมไปแทบไม่เป็น

   “อย่ามาทำเป็นเอาแต่ใจน่า ปล่อยได้แล้ว น่ารำคาญจะตาย”

   “ข้าไม่ปล่อย เจ้าจะขัดขืนอะไรได้”ริมฝีปากหยักยกยิ้มเจ้าเล่ห์

   แต่นั่นก็ไม่เท่าเจ้าธารายักษ์ที่มันกำลังขู่ฟ่อๆผงกหัวหงึกๆถูไถกับขาของผมอยู่

   “อะ อะ เฮ้ย บ้าแล้ว บอกให้ปล่อยไง อย่ามาทะลึ่งแต่เช้าดิ”

   “งั้นเจ้าก็ลองขัดขืนข้าดูสิ”ไม่พูดเปล่า มือข้างที่โอบเอวมอยู่เลื่อนต่ำลงไปเคล้นคลึงบั้นท้ายที่ระบมจาากศึกหนักเมื่อคืน
ซะเต็มไม้เต็มมือ

   ไอ้ยักษ์หื่น!!

   “ปล่อยสิ อย่ามาจับมั่วๆน่า”

   “ข้าไม่ปล่อย”

   “แต่ผมปวดฉี่ จะให้ฉี่ตรงนี้รึไง”ผมขมวดคิ้วจ้องใบหน้าเจ้าเล่ห์อย่างเริ่มไม่พอใจทำเอาพี่ธาราหลุดขำอกมาเบาเบา

   “แล้วเจ้าก็ไม่บอกตั้งแต่แรก”

   พี่ธาราปล่อยผมจากอ้อมแขนแข็งแรงที่แทบจะกดผมให้จมหายเข้าไปในอกแล้วลุกขึ้นนั่ง

   ยังไม่ทันที่จะลุกขึ้นนั่งได้ดีผมก็ถูกอุ้มช้อนตัวขึ้นไปแล้วพาเข้าห้องน้ำไป

   “เฮ้ย ทำอะไร ปล่อยผมดิ พี่จะบ้ารึไง ฉี่จะแตกแล้ว จะมาอุ้มผมทำไม”

   “อาบน้ำกัน”พูดเสร็จยักษ์ธารายักษ์จอมเจ้าเล่ห์ก็ยิ้มเยาะใส่ผมแล้วอุ้มผมเข้าห้องน้ำไปจนได้




   พอปล่อยผมลงกับพื้นห้องน้ำเท่านั้นล่ะขามันไร้เรี่ยวแรงจนแทบร่วงลงไปกองกับพื้นถ้าไม่มีมือหนาจับบั้นเอวโอบประคอง
เอาไว้ผมคงร่วงไปกองลงกับพื้นแน่

   ใครจะรู้ว่าการมีเซ็กครั้งแรกแบบมาราธอนแบบนี้มันจะทำเอาแทบยืนไม่เป็นต้องเกาะขอบอ่างล้างหน้าพยุงตัวอีกแรง

   พอเงยหน้าก็เหลือบเห็นกระจกหน้าอ่างล้างหน้าในห้องน้ำสุดหรูหลังคาเปิดโลงแบบเอ้าท์ดอร์สะท้อนให้เห็นร่างกายอัน
เปลือยเปล่าของผมโดยที่มีพี่ธารายืนซ้อนทับ

   

   “จะมายืนชิดทำไมเล่า”หันไปโวยวายเมื่อไอ้ยักษ์ใหญ่ธารามันขู่ฟ่อๆจ้องจะกัดตูดผม ส่วนเจ้าของมันก็ยืนยิ้มกรุ่มกริ่ม
สะท้อนกับกระจกเงาที่อยู่ด้านหน้าให้ได้อายแล้วอายอีก

   ยังไม่พอ มือร้อนๆยังเลื่อนไปทั้งบีบทั้งเค้นก้นของผมจนมันเริ่มจะรู้สึกว่าชักไม่ค่อยปลอดภัย

   “เจ้าหน้าแดงรึ”พี่ธาราพูดหยอกแล้วจูบซับลงบนแก้มผม ที่เอาแต่ยืนแข็งทื่อ

   “กะ ก็แล้วทำไมเล่า อย่ามาทะลึ่งสิโว้ย หน้าแดงแล้วยังไง ไม่ได้แดงบนหน้าพี่สักหน่อย”

   “เจ้านี่ขี้โวยวายไม่มีเปลี่ยน เห็นทีข้าจักต้องสั่งสอนให้สงบเสียบ้าง”

   สั่งสอนของเขามันหมายถึงมือใหญ่เลื่อนมาด้านหน้าของผมแล้วเคล้นคลึงปลุกให้มณีน้อยลุกขึ้นฮึดหายปวดฉี่ในทันที
ทันใดใช่ไหม

   “ข้ารักเจ้า”ถ้อยคำหวานหูกระซิบแผ่วเบาทำเอาใจผมเต้นโครมคราม

   แล้วแบบนี้ผมต้องยอมพี่ธาราอีกแล้วใช่ไหม

   จมูกโด่งซุกไซร้ลงที่ซอกคอผมจากทางด้านหลังทำให้ผมเข่าอ่อนโชคดีที่แขนแข็งแรงข้างหนึ่งรับผมเอาไว้

   สุดท้ายยังไม่ทันได้อาบน้ำผมก็ถูกอุ้มกลับไปที่เตียงอยู่ดี

===================================================================


   แสงอาทิตย์แยงตาปลุกให้ร่างสูงใหญ่ที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราลืมตาขึ้นมามองไปที่ระเบียงห้องที่ถูกเปิดม่านทิ้งเอาไว้

   ดวงตาคมมองไปที่ข้างกายด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความพึงพอใจ แต่แล้วมือที่ควานหาร่างที่คาดหวังว่าจะเจอกลับเจอเพียงแต่พื้นที่นอนที่ว่างเปล่า

   ดวงตาคมดุเบิกกว้างอย่างตกใจ ในเมื่อคนที่คิดว่าหลับอยู่ข้างกายได้หายไปแล้วเหลือเพียงแต่ความเย็นชืดบนผ้าปูที่นอนเอาไว้เพียงแค่นั้น

   ศรีสุวรรณหยัดกายลุกขึ้นอย่างเร่งรีบแล้วสวมกางเกงนอนอย่างรวดเร็วแล้วออกจากห้องไปในทันที

   เขาวิ่งไปยังชายหาดด้านหน้าของตัวเกาะที่เป็นหาดทราบทอดยาว

   แต่ก็ไม่มีแม้แล้ว ไม่มีแม้แต่เงาของใครที่เขาตามหา

   อีกแล้วแล้วที่ปล่อยให้หนีไปได้ อีกครั้งที่ต้องพบเจอกับความรู้สึกแย่ที่ถาโถมเข้ามาภายในจิตใจ

   เขาทรุดกายลงบนผืนทรายริมหาดอย่างเจ็บใจในความสับเพร่าของตนเอง

   เขาไม่น่าปล่อยให้เงือกหนุ่มเป็นอิสระ

   ศรีสุวรรณขบกรามแน่นเขาผิดเองที่ไม่รอบคอบและรีบร้อนเกินไป

   มือหนาหยิบเม็ดพลอยสีน้ำทะเลที่ถูกซัดมาเกยตื้นขึ้นมามองด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย

   

================================================================



   หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป ไวเหมือนโกหกหลังจากที่ผมต้องตกเป็นเมียของยักษ์อย่างพี่ธารา

   เรื่องราวมันเริ่มจะยุ่งขึ้นมาเพราะว่าพี่วรรณไม่ยอมกลับมาพร้อมผมและพี่ธารา แต่กลับยืนยันที่จะอยู่ที่เกาะนั่นต่อ

   ทำเอาผมงงเป็นไก่ตาแตก แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ และไม่รู้สาเหตุเลยสักนิดว่าทำไม

   และไม่คิดจะเซ้าซี้เพราะว่าเรื่องของตัวเองผมยังจะเอาตัวเองไม่ค่อยจะรอด

   

   เสียงเซ็งแซ่ของผู้คนมากมายดังห้องในโรงละครขนาดใหญ่ในตัวเมืองแห่งการท่องเที่ยว

   ใครจะไปรู้ว่ามันจะเป็นงานใหญ่ขนาดนี้

   “ไหนพ่อบอกว่าเป็นงานแก้บนไง ทำไมมาจัดในโรงละครแบบนี้ล่ะ แล้วยังจะนักข่าวตั้งเยอะ ยังกับเป็นดารา อย่างนี้ก็ตาย
กันพอดีดิ”ผมหันไปบ่นใส่หลังจากที่ไหว้พ่อแก่เสร็จก็ชะโงกหน้าออกไปดูหน้าเวทีหลังม่านผืนใหญ่

   “อะไรของเอ็ง ทำเป็นปอดแหกไปได้ ไม่โปรสมกับเป็นลูกพ่อเอ็งเลย ขายหน้าบรรพบุรุษกันพอดี อย่างนี้แหละดีแล้ว ใคร
จะได้รู้ว่าลิเกคณะเรามันเจ๋ง”

   

   “ว่าไปนั่น เฮ้อ”ได้แต่ถอนหายใจปล่อยให้พ่อเดินไปหลังเวทีคุมลูกคณะคนอื่นเตรียมตัวให้พร้อม ในขณะที่อยู่ในชุดรำ
ฉุยฉายแบบครบเครื่องหลังจากที่แต่งองค์ทรงเครื่องอยู่นาน

   

   “เจ้ากังวลสิ่งใดกัน”เสียเรียบนิ่งเรียกให้ผมหันไปมองเจ้าของประโยคที่ไม่เหมือนใคร

   “ไม่ได้กังวลสักหน่อย ผมแค่ไม่คุ้นเฉยๆ”ผมหันไปตอบ

   “ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องทำได้”พี่ธาราพูดปลอบพร้อมกับวางมือทาบลงมาบนหัวz,

   “อะไรเล่า  ไม่ใช่เด็กๆน่า จะมาลูบหัวทำไม”ผมโยกหัวหลบ

   “เจ้าเป็นเมียข้า”พี่ธาราพูดด้วยท่าทีนิ่งเฉย ไอ้เขาน่ะนิ่งๆแต่ผมนี่สิ ตาโตมองซ้ายมองขวากลัวใครจะมาได้ยิน

   “อะไร จะมาพูดอะไรข้างนอกแบบนี้ เดี่ยวคนอื่นได้ยิน”ผมถลึงตาใส่

   “เจ้าเกรงกลัวอะไรกัน ในเมื่อมันเป็นความจริง อีกอย่างมันก็เป็นการดีหากพ่อเจ้าจะรู้และเข้าใจว่าข้าได้เสียกับเจ้าแล้ว”

   “ก็บอกว่าอย่าพูดไง พี่จะบ้ารึไง เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยืนหรอก”

   ผมกระโดดเอามือไปอุดปากยักษ์พูดมากแทบไม่ทัน มองซ้ายมองขวาไม่มีใครสนใจฟังถึงได้ถอนหายใจออกมาอีกรอบ

   “แล้วนี่มาทำไม ไม่ได้เชิญสักหน่อย”ผมบุ้ยปากแล้วปล่อยมือลง

   “พ่อเจ้าชวนข้ามา อีกอย่างข้ามาเฝ้าเมียข้า มันแปลกตรงไหนรึ”พี่ธารายิ้มมุมปาก

   “ก็บอกว่าอย่าพูดไง เฮ้อ งั้นก็ไปนั่งดูหน้าเวทีนู่น ข้างหลังเขาเอาไว้ให้นักแสดง ยืนตรงนี้ก็เกะกะเขาเปล่าๆ”

   ผมไล่ พอโดนเรียกว่าเมียบ่อยเข้าก็เริ่มเขินๆจนชักจะทำตัวไม่ถูกแล้วสิ

   ขืนปล่อยให้พี่ธาราพูดมากนี่อยู่ต่อมีหวังปากโป้งจนคนเขารู้กันไปทั้งคณะแน่



   
   พอถึงเวลาทำการแสดง คิวแรกเป็นการรำฉุยฉายพราหมณ์เปิดงาน

    กล้องหลายตัวจับจ้องมาที่หน้าเวทีทำเอาผมนึกใจสั่นตื่นเต้นแบบแปลกๆ ทั้งที่เคยแสดงมานักต่อนักแล้ว

   เสียงดนตรีค่อยๆดังขึ้นผมค่อยๆเคลื่อนตัวไปยังหน้าเวทีด้วยท่วงท่าที่อ้อนช้อยตามที่ฝึกมา เสียงตบมือของผู้ชมดังระงม
ก้องโรงละคร

   แขกที่มาชมเกือบครึ่งที่ผมสังเกตเห็นคือชาวต่างชาติ พอเดินเข้ามาตอนเปิดงานผมรู้ได้ทันทีว่างานนี้มันแปลกๆ พอมอง
ป้ายของงานก็พบว่ามันเป็นงานเกี่ยวกับการแสดงออกถึงวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

   ซึ่งมันเป็นงานระดับประเทศ ก็ถึงกับบางอ้อ

    ผมขยับตัวสลับท่าทางพลางเอียงตัวแล้วกรีดกรายนิ้วอย่างที่พ่อสอน ท่ารำในเบบฉบับดั้งเดิมถูกแสดงออกมาสู่สายตาของผู้ชมที่มากันจนเต็มโรงละครแห่งนี้

   ดรายไอซ์ถูกปล่อยทั่วพื้นเวทีใหญ่ ผู้ชมต่างก็นิ่งเงียบจ้องมองมาที่ผมเป็นจุดเดียว แต่แสงแฟรชยังคงวูบวาบ

   เสียงดนตรีค่อยๆเร่งจังหวะพร้อมบทกลอนที่เริ่มขับกล่อมเสนาะหู

   ผมชำเรืองมองไปยังด้านหน้าเวทีทางที่พี่ธารานั่งอยู่ โชคดีที่พี่ธารารูปร่างสูงใหญ่กว่าคนปกติทั่วไปจึงค่อนข้างดูเด่น
ทำให้ผมมองหาได้ง่าย

   พี่ธารายิ้มบางส่งมาให้เมื่อเห็นผมมองไป น่าแปลกที่ผมกลับยิ้มกลับไปให้แต่ก็ได้แค่เล็กน้อยพอเป็นพิธี

   นึกเขินในใจที่ตอนนี้ผมกับพี่เขาทำตัวเหมือนคู่รักที่คอยให้กำลังใจกันตลอดไปซะแล้ว

   จนเพลงใกล้จบเต็มที สิ่งที่ผมไม่ได้คาดคิดก็เกินขึ้นเบื้องหน้าของผม

   คุณวาลีเดินเข้ามาตามด้านหน้าเวทีที่ทอดยาวออกไปบนเพรมสีแดงสด เขาเดินตรงมาที่ผม ที่ด้านหน้าเวทีพร้อมกับช่อ
ดอกกุหลาบช่อใหญ่

   ดอกกุหลาบช่อใหญ่อีกแล้ว!!

   แต่ครั้งนี้เป็นดอกกุหลาบสีน้ำเงินเข้ม สีที่หมายถึงความลึกลับ ความเป็นปริศนา

   จนกระทั่งเพลงจบลง เสียงผู้ชมต่างก็ปรบมือพร้อมเสียงชื่นชมกึกก้อง

   แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมละสายตาไปจากผู้ชายที่ดูมีท่าทางเคร่งขรึมน่านับถือตรงหน้าของผมเลย กลับตรงกันข้ามที่ผมจ้อง
เขาไม่วางตา

   เพราะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร

   ช่อกุหลาบสีนำเงินช่อใหญ่ที่ถูกตกแต่งจนสวยถูกยื่นมาเบื้องหน้าของผมทำให้ผมนิ่งชะงัก

   กล้องหลายตัวจับภาพมาที่ผมกับเขาราวกับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่น่าจับตามอง

   คุณวาลียิ้มมุมปากเล็กน้อย

   “รับไปสิ”

   ถึงผมจะไม่ได้ยินเสียงเขาเพราะเสียงของผู้ชมและสียงแฟรชดังแต่ผมก็สามารถอ่านปากเขาได้

   ผมเหลือบมองไปยังพี่ธาราที่มองมาอยู่ก่อนหน้า ดวงตาสีดำสนิทบ่งบอกถึงความไม่พอใจ

   เกือบแทบทุกคนจ้องมองมาทางผมราวกับกำลังจะบีบคั้นให้ผมรับช่อดอกไม้สีน่ากลัวนั่น

   แล้วผมก็เอื้อมมือไปรับมันจนได้ มันเป็นมารยาทของคนที่อยู่บนเวทีที่ต้องรับสิ่งของจากคนดู ถึงแม้ว่าไม่อยากจะรับมันก็ตาม

   ผมก้มลงมองดอกไม้กุหลาบสีน้ำเงินในอ้อมแขนก่อนจะเงยหน้ามองคุณวาลีที่ยิ้มอย่างมีความหมาย

   ความหมายที่ผมเองก็อ่านไม่ออกว่าคืออะไร แต่มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่

   ผมเดินกลับเข้ามาหลังเวทีพร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่

   ทั้งที่ต้องรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมการแสดงชุดต่อไป แต่ผมกลับยืนนิ่งมองดอกไม้ช่อใหญ่ที่อยู่ในมือราวกับว่ามัน
เป็นสิ่งของน่าพิศวงชวนให้น่าค้นหา

   หรือว่าผมจะคิดมากไปเอง ความรู้สึกมันเหมือนกับตอนเจอกับพี่อเลน มันเหมือนมีอะไรค้างคาแต่ก็นึกไม่ออก

   หรือว่าแท้จริงแล้วคุณวาลีก็คือหนึ่งในเมียของผมในชาติที่แล้วกัน

   “มัวแต่เหม่ออะไร รีบไปเปลี่ยนชุดสิไป เดี๋ยวก็ไม่ทัน”

   เสียงเรียกของพ่อปลุกให้ผมหลุดออกจากความคิดกังวลของตัวเอง

   “รู้แล้ว รู้แล้ว”ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ยังไม่หายกังวล

   ไม่รู้ว่าพี่ธาราจะว่าอะไรไหม จะโกรธผมรึเปล่าที่ผมรับดอกไม้มาจากคนอื่นแบบนี้

   แต่ก็คงจะโกรธอยู่แล้ว เล่นส่งสายตาไม่พอใจมาให้ขนาดนั้น

   พอคิดถึงพี่ธาราขึ้นมาก็ค่อยสบายใจหน่อย ผมคงจะไม่ต้องกังวลอะไรมากมายถ้าหากว่ามีพี่เขาคอยอยู่ข้างๆแบบนี้


   การแสดงดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนถึงฉากสุดท้ายที่พระอภัยมณีต้องเป่าปี่ฆ่านางผีเสื้อสมุทร พอมาถึงฉากนี้แล้วผมรู้สึกใจไม่ดียังไงไม่รู้

   มันเหมือนกับตอกย้ำในสิ่งที่ผมเคยทำในชาติที่แล้ว แต่การแสดงยังไงมันก็ต้องดำเนินต่อไปอยู่ดี

   ผมนั่งบนฉากโขดหินที่ถูกทำขึ้นแล้วเป่าปี่เป็นเพลง ไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมถึงได้นึกถึงบทเพลงที่พ่อเคยให้มา

   และผมก็เล่นเพลงนั้นแทนเพลงที่เตรียมเอาไว้ก่อนหน้า

   เสียงปี่ชวาเครื่องดนตรีที่ผมไม่ค่อยคุ้นเคยเริ่มดังขึ้น ท่วงทำนองค่อยๆเริ่มขึ้นอย่างช้าๆ

   มันเป็นท่วงทำนองที่ค่อนข้างจะเศร้าทำเอาคนดูเงียบสนิทและตั้งใจฟังเพลงที่บรรเลงอย่างเนิบนาบ

   ท่วงทำนองของมันในช่วงแรงดูเศร้าใจและน่าหดหู่เมื่อมันบรรเลงอย่างช้าๆ

   แต่เมื่อผมค่อยๆเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นและรุนแรงขึ้น เนื้อหาของบทเพลงมันค่อยๆบีบคั้นหัวใจ และมันก็มากขึ้นทุกทีจนผม
รู้สึกว่ามันน่าเศร้าและน่าเสียใจจนรู้สึกว่าหัวใจมันเหมือนกับถูกบีบรัดเอาไว้ด้วยมือที่มองไม่เห็น

   เรื่องราวในอดีตที่ผมจำไม่ได้ แต่ผมก็พอที่จะรับรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำให้สมองของผมมันอื้ออึง ความเศร้าที่ไม่เคยมีรุม
เข้ามาโจมตีผมโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว

   ผมมองไปยังพี่ธาราโดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องมอง

   ร่างสูงใหญ่ของเขาลุกขึ้นมองผม แล้วเขาก็เดินตรงไปยังประตูทางออก

   ผมมองตามด้วยความสงสัย และแล้วเขาก็เปิดประตูออกไปโดยที่ไม่หันกลับมามอง

   จู่ๆน้ำตาของผมมันก็ร่วงลงมาจากขอบตาโดยที่ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร และทำไม แต่ผมรู้เพียงแค่ว่าตอนนี้ผมเสียใจ

   ผมรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ผมไม่รู้ว่าคืออะไร

   ม่านสีทึบค่อยๆปิดตัวลงอย่างช้าๆท่ามกลางเสียงปรบมือที่ดังก้อง

   แต่ผมยังตกอยู่ในภวังค์ของบทเพลงที่แสนเศร้า

   จนกระทั่งพ่อมาดึงมือให้ผมลุกเดินไปพร้อมๆกับคนอื่นเพื่อไปขอบคุณคนดูที่หน้าเวที

   ผมมองไปรอบๆหวังว่าจะเจอพี่ธาราที่ผมไม่รู้ว่าเขาเดินออกไปไหนแต่ก็ไร้วี่แวว ไม่มีแม้แต่เงาคนตัวใหญ่ที่ผมคุ้นเคย

   “ขอโทษนะคะ เดี๋ยวขอตัวน้องไปสัมภาษณ์ได้รึเปล่าค่ะ ในฐานะเยาวชนที่เผยแพร่วัฒนะธรรมสู่สายตาชาวต่างชาติในวันนี้น่ะค่ะ”

   “ได้สิไม่มีปัญหา ไปสิ มณี ยืนนิ่งอะไรของเอ็งอยู่ได้”พ่อหันมาสะกิด

   ทำให้ผมเดินตามผู้หญิงที่ดูท่าจะเป็นเหมือนนักข่าวเดินนำผมไปยังด้านล่างของเวที

   ผมเห็นคุณวาลีที่ยืนอยู่ต่อหน้ากล้องหลายตัวอยู่ก่อนหน้ามองมาแล้วยิ้มพอเป็นพิธีก่อนจะเดินเข้ามาหาผมทำเอาผมรู้สึกงงไม่น้อย

   ผมถูกคุณวาลีจูงไปยืนตรงกลางวงท่ามกลางนักข่าวที่ค่อยๆยิงคำถามมาให้เขาตอบ

   “น้องมณีรู้สึกอย่างไรค่ะกับการที่ได้รับหน้าที่นี้”

   “ก็ดีใจครับ”ได้แต่ตอบพอเป็นพิธีแล้วยิ้มอย่างมีมารยาท

   มันไม่คุ้นเลยที่จะต้องมามีคนรุมถามแล้วตอบคำถามแบบนี้

   “แล้วเคยคิดบ้างไหมค่ะว่างานนี้จะเป็นบันไดก้าวแรกที่ทำให้เข้าไปทำงานในวงการบันเทิง ได้ข่าวว่าคุณวาลีทาบทาม
น้องมณีเอาไว้แล้วจริงรึเปล่าค่ะ”ผมคิดว่าคำถามมันเริ่มทะแม่งๆแล้วหลงประเด็น

   “เอ่อ”ผมได้แต่อ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบว่ายังไงดี ตอนนี้ใจของผมกำลังนึกถึงพี่ธาราจนไม่อยากจะสนใจฟังหรือตอบคำถามจาก
ใครเลยสักนิด

   “ครับ ตอนนี้ผมกำลังทาบทามน้องเข้าสู่วงการอยู่ ตอนนี้กำลังเตรียมให้น้องถ่ายโฆษณาเชิญชวนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอยู่นะครับ อีกไม่นานก็น่าจะมีผลงานออกมาให้เห็น”

   กลายเป็นคุณวาลีที่ตอบแทนทำเอาผมอึ้งหันไปมองเขาด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจ

   โฆษณาอะไรของเขา แล้วผมยังไม่ได้ตอบตกลงเรื่องเข้าวงการอะไรกับเขาเลย หลายคำถามที่คุณวาลีชิงตอบเอาเอง เป็นคำตอบที่ผมถึงกับปวดหัวเพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ผมยินยอมหรือตกลงอะไรด้วยเลยสักนิด

   ขืนเขาพูดต่อหน้าสื่อแบบนี้แล้วผมจะปฏิเสธยังไงได้ บ้ากันไปใหญ่แล้ว รู้สึกว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาจะฉลาดจนรับมือยากเกินไป

   “แล้วเมื่อครู่ดอกไม้ช่อใหญ่ที่เอามาให้น้องตอนน้องแสดงชุดแรกจบนั่นมีความหมายอะไรแอบแฝงรึเปล่าค่ะ คุณวาลี กลัวว่านักแสดงคนอื่นในสังกัดจะน้อยใจบ้างรึเปล่าค่ะ”

   “เรื่องนี้ผมขอไม่ตอบนะครับ ส่วนที่ถามว่ากลัวนักแสดงคนอื่นในสังกัดน้อยใจไหม อันนี้คนเราก็ต่างความคิดครับ อยู่ที่ว่าใครจะคิดยังไง ผมว่าเราพอแค่นี้ก่อนดีกว่านะครับ ให้น้องไปพักผ่อน”

   พูดเสร็จเขาก็เดินจับแขนผมให้เดินมาหลังเวที

   มันทำให้ผมนึกสงสัยว่าตกลงคุณวาลีเป็นใครกันแน่ คงไม่ใช่แมวมองปกติทั่วไปที่เคยบอกแน่นอน ไม่งั้นสื่อจะสนใจเขามากขนาดนี้ได้ยังไง

   

   “ทำไมถึงไปบอกพวกเขาอย่างนั้นล่ะครับ”ด้วยความที่ทนไม่ไหว ถึงได้ถามไปหลังจากหลุดออกมาจากนักข่าวที่รุมล้อม

   “ฉันมั่นใจว่าเธอจะต้องทำตามที่ฉันต้องการ”พูดจบนามบัตรใบเล็กก็ถูกยื่นมาให้ผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันเป็นสีดำสนิทขลิบ
ขอบด้วยสีทองสว่างดูมีคุณค่าต่างจากใบเก่าทำให้ผมต้องมองมันด้วยความสนใจ

   สิ่งที่แตกต่างจากครั้งเก่าไม่ใช่ชื่อหรือเบอร์โทรหรืออะไร หากแต่เป็นตำแหน่งที่สูงขึ้นมากจนผมอดตกใจไม่ได้

   ประธานกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการโฆษณา

   ตกลงเขาเป็นใครกันแน่

   “ถึงเธอไม่โทรหาฉัน ฉันก็จะโทรหาเธอเอง เธอจะต้องตกลงรับงานนี้แน่นอนมณี”พูดจบเขาก็เดินจากไป ทิ้งให้ผมได้แต่งุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น


   ผมกลับบ้านมาพร้อมกับพ่อและคนอื่นๆโดยที่จิตใจยังคงว้าวุ่นกับเรื่องที่เกิด ไหนจะเรื่องคุณวาลีที่จู่ๆก็เข้าหาผมโดยที่ผมไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร

   อีกทั้งเรื่องของพี่ธารา ที่จู่ๆก็เดินออกไป ไม่ว่าจะพยายามโทรหาเท่าไรก็โทรไม่ติด

   “เป็นไงบ้างล่ะ ได้ข่าวว่านักข่าวเขาถามนั่นถามนี่จนมึนไปเลยรึไง”พ่อถามขณะที่นั่งลงโซฟาด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน

   “ก็ประมานนั้นแหละ”ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจ

   “อะไรของเอ็ง และมึนๆนิ่งตั้งแต่แสดงจบ”

   “ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”ผมหันไปตอบปัดทั้งที่จริงแล้วกำลังนึกเป็นห่วงพี่ธารา

   ถึงอีกใจจะบอกว่าพี่เขาคงจะไม่เป็นอะไร แต่มันก็แปลกที่คนอย่างเขาที่คอยเอาตัวเข้ามายุ่งกับชีวิตผมไล่เท่าไรก็ไม่ไป จู่ๆก็หายไปติดต่อไม่ได้เลย

   “นี่ดอกไม้นี่ใครให้มาล่ะ สวยเชียว พี่ธาราให้มาเหรอ แม่เห็นมันวางอยู่ในรถน่ะ ”แม่ถามพร้อมกับอุ้มดอกไม้ช่อใหญ่มาวางไว้บนโต๊ะกลางในห้องนั่งเล่น

   “เปล่าหรอกแม่ พี่ธาราไม่ได้ให้”

   “แล้วใครให้มาล่ะแปลกนะดอกกุหลาบสีน้ำเงินแม่ไม่เคยเห็น สงสัยจะแพง แล้วว่าแต่พ่อธาราไปไหนล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ”

   “ไม่ได้มาด้วยหรอกแม่ปทุม สงสัยมีธุระถึงได้ออกไปไม่บอกไม่กล่าว ส่วนดอกไม้นี่พ่อว่าลีเขาให้มา ทีแรกไอ้เราก็นึกว่าเขาเป็นแมวมองธรรมดา ที่ไหนได้ ดันเป็นถึงเจ้าของบริษัทโฆษณาใหญ่โต มิน่านักข่าวถึงได้มากันเยอะแยะเต็มไปหมด เสียดายที่แม่ปทุมไม่ได้ไป”

   “งั้นเหรอ น่าแปลกใจเชียว”

   “เดี่ยวมณีขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะแม่ เหนื่อยๆ กินข้าวเมื่อไรไปเรียกด้วย”

   “อะไร ทำไมซึมๆแปลกๆนะลูกคนนี้ ไปไป ไปอาบน้ำอาบท่า เดี่ยวถึงเวลากินข้าวแล้วแม่ไปเรียก”


   พอเข้ามาในห้อได้ผมก็ทิ้งตัวลงบนที่นอนด้วยความอ่อนเพลีย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไรแล้วของวัน

   เสียงฝากหมายเลขโทรกลับทำให้ทั้งกังวลทั้งหงุดหงิด

   นี่ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรือว่าพี่เขาจะไม่พอใจที่ผมรับดอกไม้จากคุณวาลี หรือว่าเขาไม่พอใจที่ต้องมานั่งดูเนื้อเรื่องที่บ่งบอกถึงการตายของน้องสาวของตัวเองแล้วเกิดไม่พอใจผม

   แล้วมันเพราะอะไรจู่ๆนึกจะไปก็ไปอย่างนี้

   โทรศัพท์ถูกโยนทิ้งลงบนเตียงอย่างหงุดหงิดใจ แขนข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมาก่ายหน้าผาก

   ความกังวลมากมายมันเกิดจนผมรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะบ้ามากเข้าไปทุกที





=============================================================


แฟนเพจของโซอึนจ้า (https://www.facebook.com/ผู้หญิงบ้าวาย-543150342508084/timeline/)ถ้าไม่อยากพลาดโมเม้นน่ารักนอกเรื่อง

 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 15/11 [CH.19] กุหลาบสีน้ำเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-11-2015 22:05:41
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 15/11 [CH.19] กุหลาบสีน้ำเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 15-11-2015 22:16:57
 :sad4: ไม่ชอบมาม่าและเซ้นบอกว่ามันกำลังจะมา
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 15/11 [CH.19] กุหลาบสีน้ำเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 15-11-2015 22:26:46
สงสัยพี่ยักษ์จะบาดเจ็บจากเพลง
วาลีมาแบบ....น่ากลัวอะะะะะะ :katai1:
พยายามต่อไปนะพี่วรรณ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 15/11 [CH.19] กุหลาบสีน้ำเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 15-11-2015 23:32:42
ทำไมพี่ธาราถึงลุกออกไปอ่ะ แล้วหายไปไหนน :katai1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 15/11 [CH.19] กุหลาบสีน้ำเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 16-11-2015 09:40:24
มมม่ามาแล้วไม่เอาไม่อยากกิน
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 16/11 [CH.19] กุหลาบสีน้ำเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 16-11-2015 11:24:33
โอ้ยยยยย นู๋มณีงานเข้าเสียแล้ว :hao7:

ธารางอนหรือหายไปจัดการคู่แข่งหัวใจกันนะ?!

หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 16/11 [CH.19] กุหลาบสีน้ำเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-11-2015 22:45:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 17-11-2015 05:43:43
ธาราหายไปไหนนนนนนน
แล้ววาลีจะมาทำไม
เขาได้กันไปแล้ว
อย่าแทรกสิ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 17-11-2015 05:50:54
26375
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)


ครั้งที่ 20 ตามหาหมอ



   หลายวันผ่านไปที่ผมไม่ได้เจอกับพี่ธาราเลย ไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงทั้งที่มหา’ลัยและที่บ้านของผมซึ่งพี่เขามักจะมาเองโดยไม่มีใครเชิญเพื่อมาประจบประแจงพ่อแม่ของผมเสมอ   

   ซึ่งนั่นมันก็ทำให้ผมยิ่งหงุดหงิดมากไปกว่าเก่า อารมณ์มันเหมือนกับว่าโดนฟันแล้วทิ้งประมาณนั้น

   การที่พี่ธารหายไปไม่มีแม้แต่เงาและร่องลอยทำให้คนอื่นๆที่เขารับรู้กันทั่วและเออออไปเองว่าผมกับพี่ธารานั้นเป็นแฟนกันต่างก็มาถามหาพี่ธารากับผม

   ซึ่งผมก็ตอบไปตามจริงทำให้หลายคนคิดว่าผมกับพี่ธาราอาจจะทะเลาะกันหรือเลิกกัน ซึ่งนั่นมันยิ่งกวนใจผมเข้าไปใหญ่
เพราะว่าผมไม่รู้ว่าเหตุใดพี่ธาราถึงได้หายไป

   นึกถึงครั้งแรกที่เจอกันแล้วมันน่าโมโห ไล่เท่าไรก็ไม่ยอมไป ทีตอนนี้กลับหายเข้ากลับเมฆไม่มีแม้แต่เงาให้ได้เห็น ถ้าเจอล่ะก็ ไอ้มณีคนนี้จะจับหมกส้วมให้เข็ด

   “เป็นอะไรวะมณี อารมณ์แปรปรวนอย่างกับคนท้อง”

   “คนท้องบ้าอะไรล่ะ พูดเรื่อยเปื่อย”ผมตอบนนท์ไป พูดถึงเรื่องท้องแล้วมันจี๊ดขึ้นมา

   พูดอย่างกับว่าผู้ชายจะท้องได้ ให้ตายก็ไม่เชื่ออยู่ดี ถึงแม้ว่าจะแอบหวั่นๆก็ตาม

   “แล้วเป็นอะไรเดี๋ยวก็หงุดหงิดเดี๋ยวก็เศร้า”เชียรถามบ้าง

   “ไม่ได้เป็นอะไร กินๆไปเถอะถามมาก ติดคอตายพอดี”ผมว่าพร้อมตักข้าวเข้าปาก ไม่วายรู้สึกหงุดหงิดใจ

   “แล้วพี่ธาราไปไหนล่ะ ทำไมเราไม่เจอเลย”โมถามบ้าง ซึ่งคำถามนี้มันยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดมากกว่าเดิมเข้าไปอีก

   “จะไปรู้เขาเหรอ จะไปสนใจทำไม ตกส้วมตายไปแล้วมั้ง นึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไป”ผมตอบอย่างหงุดหงิด

   “เลิกกันแล้วรึไง”เชียรถาม

   ไม่รู้ว่าตอนนี้ผมเป็นดาราแล้วรึไง ทำไมคนอื่นๆตั้งคำถามกับผมกันจังเลย แม้กระทั่งเรื่องข้าวจานที่สามที่ผมกำลังจะเริ่ม
กิน

   ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงกินเยอะกว่าปกติ แต่ก็คิดได้แค่อาจจะเป็นเพราะโมโหหิวที่พี่ธาราหายไป

   “เลิกอะไรได้เลิก ไม่ได้คบกันด้วย”ไม่ได้คบ ไม่ได้เป็นแฟน แต่เป็นผัวเมียกันแล้วต่างหาก

   แต่จะให้คนอื่นรู้ได้ไงว่าผมโดนพี่ธาราฟาดเรียบไปแล้ว ขืนรู้มีหวังข่าวกระจายยิ่งกว่าสี่จี

   “ปากแข็ง ยังจะบอกว่าไม่ได้คบอีก มีคลิปอะไรหลุดออกมาก็ยังไม่รู้รึไง”นนท์หันมาแขวะ

   “คลิปอะไร”

   “ก็คลิปที่ไปยืนจูบกับพี่ราที่โรงจอดรถนั่นไง มีคนเอามาลงในเพจซุบซิบมหา’ลัย อย่าบอกนะว่ายังไม่เห็น”

   “ได้ไง จะบ้าเหรอ มั่วแล้วตัดต่อรึเปล่า”

   ข้าวในปากจานที่สามของผมนี่แทบจะพุ่งออกมา ไหนจะพูดไปเคี้ยวไปก็เต็มกลืนอยู่แล้ว นี่ยังจะมาเรื่องบ้าบอน่าขาย
หน้าที่เพิ่งจะรู้อีก

   ผมเปิดเข้าไปในเพจซุบซิบที่ว่า แล้วก็ชัดเลย หมาตัวไหนมันดันถ่ายเอาไว้ ทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเลย

   มิน่าคนถึงมองแปลกๆ นึกว่าแค่เรื่องที่ออกข่าวกับคุณวาลีแล้วก็เรื่องการแสดงอะไรอีก ที่ไหนได้

   “ยอมรับเถอะว่าเป็นแฟนกัน แต่ก็ยังมีอีกข่าวนะ ข่าวที่ออกทีวีกับเจ้าของบริษัทโฆษณาอะไรนั่น เห็นเขาว่ากันว่ากิ๊กกับแก
จริงรึเปล่าวะ มีเอาดอกไม่ไปให้กันด้วย ดูท่าจะเกิดศึกชิงนายอีกแล้ว มิน่าพี่ธาราถึงหายไป สงสัยจะงอน”นนท์ว่า

   “บ้าบอ ใครจะไปกิ๊กกับคนน่ากลัวแบบนั้น น่ากลัวจะตาย แล้วพี่ธาราเขาไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้สักหน่อย”

   ตอบไปถึงจะยังไม่แน่ใจ

   คิดว่าชีวิตตัวเองจะหมดเรื่องวุ่นวายหลังจากที่ยอมเสียตัวให้กับพี่ธาราไปแล้ว เรื่องจะได้จบๆ

   แต่ที่ไหนได้เรื่องมันยิ่งวุ่นวายเมื่อพี่ธาราดันหายตัวไปซะอย่างนั้น แล้วไปจะมีคุณวาลีที่ผมยังไม่รู้เลยว่าเขาเข้ามาในชีวิต
ผมเพราะอะไร

   ดูเหมือนว่าชีวิตของผมมันมีเค้ารางจะวุ่นวายมากขึ้นกว่าเก่า พี่ธาราที่คอยอยู่ข้างๆก็ดันหายไปทั้งที่ก่อนหน้าคอยตามปกป้อง

   ชักเริ่มทนไม่ไหวแล้ว

   ไหนไหนก็ไหนไหน ขอใช้สิทธิเมียที่ไม่เคยยอมรับสักทีเถอะ


   แล้วผมก็จอดมอเตอร์ไซที่หน้าประตูบ้านหลังใหญ่ที่เข้ามาในซอยลึกห่างจากถนนใหญ่อยู่มากพลางชะเง้อหวังว่ามันจะเห็นข้างในตัวบ้าน

   แต่มันจะเห็นอะไรได้ยังไงในเมื่อกำแพงบ้านมันทั้งสูงทั้งทึบขนาดนี้

   ดีที่พี่ธาราเคยให้รหัสเอาไว้

   ผมมองซ้ายมองขวากดรหัสลงบนแป้นกดหน้าประตู

   เสียงดังติ๊ดก่อนที่ประตูจะเด้งเปิดออกเล็กน้อย

   

      บรรยากาศภายในบ้านหลังใหญ่ที่ส่วนมากเป็นกระจกโปร่งแสงมองเห็นทะลุปรุโปร่งดูเงียบสงัดราวกับว่าไม่มีคนอยู่
   ผมชักเริ่มน่ากลัวขึ้นมาเมื่อบรรยากาศค่อยๆมืดลง ผมเอื้อมมือไปเลื่อนประตูบ้านออกอย่างเบามือ โชคดีที่มันไม่ได้ล็อก

   พอมองสำรวจตัวบ้านจนทั่วก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครอยู่ ไม่รู้จะเอายังไงดี แค่เข้ามาโดยพลการก็พอแรงแล้ว

   ได้แต่มองบันไดทางขึ้นชั้นสอง คิดอยู่ว่าจะขึ้นไปดีไม่ขึ้นไปดี

   ถ้าเจอหน้าพี่ธาราแล้วจะทำยังไง จะทำโกรธทำโมโหหรือทุบทักทีสองทีให้มันหายหงุดหงิดปล่อยให้คนอื่นเขาเป็นห่วง
   

   แล้วจนในที่สุดผมก็ตัดสินใจเดินขึ้นมาบนชั้นสองของตัวบ้านที่ค่อนข้างจะเงียบสงัด

   ดีที่บ้านนี้ค่อนข้างจะไฮเทค ไฟตรงทางเดินของตัวบ้านทั้งหมดจะเป็นระบบเซ็นเซอร์ทำให้มันติดอัตโนมัติเมื่อแสงสว่าง
เริ่มน้อย ทำให้ผมมองเห็นทางได้สะดวก

   ผมองประตูห้องของพี่ธาราที่ปิดสนิทไม่มี่แววและเสียงใดใดเล็ดลอดออกมาเหมือนไม่มีทีท่าว่าใครอยู่ข้างในนั้น

   ใจผมตุ๊มๆต่อมๆมือค่อยๆบิดลูกบิดออกเบาเบา

   ใจตั้งคำถามว่าถ้าเปิดไปไม่เจอกับพี่ธาราผมจำทำอย่างไร จะไปตามหาเขาที่ไหนต่อ

   ประตูค่อยๆเปิดออกอย่างเบามือ ก้อนเนื้อในอกมันแทบจะออกมาเต้นอยู่บนพื้น

   เสียงในอกมันดังโครมครามจนน่ารำคาญ ประตูห้องค่อยๆแง้มออก ภายในห้องมีเพียงแสงไฟสีวอร์มสลัวที่พอจะมองเห็นกลุ่มผมวีดำโผล่พ้นผ้าห่มผืนใหญ่ออกมา

   ความรู้สึกเป็นห่วงของผมมันหายไปเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นร่างหายใหญ่โตนอนคลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่ม

   ความรู้สึกดีใจมันเอ่อล้นขึ้นมาจนนึกแปลกใจว่าทำไมผมถึงเป็นได้หนักขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะเป็นห่วงคนที่ไม่ใช่ครอบครัวของตัวเองแบบนี้มาก่อน ยิ่งเป็นคนที่รู้สึกดีด้วยแล้วยิ่งเข้าไปใหญ่

   ผมเดินตรงเข้าไปหาคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้วเปิดผ้าห่มออกเผยให้เห็นใบหน้าชื้นเหงื่อทั้งที่ห้องเปิดเครื่องปรับอากาศจนเย็นฉ่ำขนาดนี้

   พี่ธาราอยู่ในสภาพเปลือยออกไม่ได้ใส่เสื้อเผยให้เห็นแผงอกสีเข้มแน่นตึง

   แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ทำให้ผมนิ่งชะงักคือไอร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา

   มันร้อนจัดจนสัมผัสได้ทั้งที่อากาศภายในห้องเย็นขนาดนี้

   ผมแตะมือไปที่แขนพี่ธาราเพื่อที่จะปลุกเขาเพราะคิดว่ามันผิดปรกติ แต่อุณหภูมิร่างกายที่ผมสัมผัสได้มันร้อนจนผมต้องชักมือกลับด้วยความตกใจ

   “พี่ธารา ตื่นได้แล้ว นี่”ผมเขย่า แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าพี่ธาราจะตื่น

   “นี่ ไม่ตลกนะ ตื่นดิ ถ้าไม่ตื่นผมกลับแล้วนะ”

   “ผมไม่ตลกนะ ถ้าไม่ตื่นผมกลับจริงๆแล้วนะ”แต่ก็เงียบ ไม่มีแม้แต่สัญญาณว่าพี่ธาราจะรับรู้ว่าผมอยู่ตรงนี้

   ตาของเขาปิดนิ่งสนิทไม่ไหวติง แม้แต่ขยับรับรู้อะไรทำให้ผมนึกกังวลขึ้นมา

   “นี่ กลับแล้วนะ”ผมเริ่มใจไม่ดี เริ่มเขย่าแรงขึ้น

      “นี่ ตื่นสิ พี่ ผมไม่ตลกด้วยนะ ใจคอทิ้งให้คนอื่นเค้าเป็นห่วงแล้วยังจะแกล้งคนอื่นเขาอีกรึไง”
   ผมพยายามเขย่าพี่ธารา และเริ่มเขย่าแรงยิ่งขึ้นจนร่างใหญ่เปลือยกายท่อนบนนั้นคลอนไปตามแรงแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น

   “ถ้าพี่ไม่ตื่นผมจะกลับแล้วนะ”

   ผมขู่ทำท่าว่าจะเดินออกมา แต่ก็เปล่าเลย ไม่มีแม้แต่เปลือกตาที่ขยับรับรู้อะไร มีแต่ลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดออกมา

   “ตื่นสิ พี่เป็นอย่างนี้ผมใจคอไม่ดีนะ”ผมเรื่องเสียงสั่น

   “นี่ อย่ามาสำออยดิ ปกติก็เก่งไม่ใช่รึไง”

   “นี่!! ถ้าไม่ตื่นผมจะทิ้งพี่ไปจริงๆนะ ฮึก”ผมสะอื้นในลำคอ รู้สึกกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เขย่าพี่ธาราอยู่อย่างนั้น

   “ตื่นขึ้นมาดิ ไอ้ยักษ์โรคจิต เป็นอะไรก็ตื่นขึ้นมาบอกสิ บอกให้ตื่น”ผมพยายามปลุก

   

   

   ท้องฟ้าข้างนอกมืดสนิทลง ผมไม่รู้ว่านานเท่าไรที่ผมเช็ดน้ำตาออกจากดวงตาที่แดงก่ำของตัวเอง

   ผมไม่รู้ว่าเดินเข้าไปในห้องน้ำกี่รอบเพื่อที่จะเปลี่ยนน้ำในกะละมังใบเล็กแล้วซักผ้าขนหนูเพื่อมาเช็ดตัวให้คนที่หลับไม่ได้สติอยู่บนเตียง

   อุณหภูมิร่างกายของพี่ธารายังไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย สีหน้าที่ปกติมักเรียบนิ่งกลับแสดงสีหน้าที่บ่งบอกว่ากำลังทรมาน

   ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เช็ดตัวให้พี่ธาราโดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาเป็นอะไร

   เพราะว่าผมไม่ใช่ยักษ์ผมถึงไม่รู้ว่าพี่ธาราเป็นอะไรเจ็บตรงไหนทำไมถึงได้ไม่ยอมตื่นขึ้นมา

   แล้วผมจะต้องทำอย่างไร? ในเมื่อผมไม่ใช่ยักษ์ ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

   จริงสิ!!ถึงผมจะไม่ใช่ยักษ์แต่ก็น่าจะถามยักษ์ด้วยกันได้ ยักษ์ด้วยกันน่าจะรู้ดี

   ยักษ์อีกตนที่รู้จักพี่ธาราดี

   คุณอาวสิน!!

   ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์หาพี่วรรณทันที หวังว่าพี่วรรณจะยังอยู่ที่เกาะนั่น

   ‘ว่าไง ถ้าจะถามว่ากลับเมื่อไรบอกพ่อกับแม่เลยนะว่าพี่ยังไม่มีกำหนดกลับ’เสียงทักทายดังแทรกขึ้นมาก่อนที่ผมจะทักไป
ซะอีก

   ถึงมันจะดูน่าสงสัยว่าทำไมพี่วรรณถึงไม่ยอมกลับ แต่เรื่องนี้มันก็ไม่สำคัญเท่ากับเรื่องของพี่ธาราตอนนี้

   “อยากคุยกับคุณอาวสิน พี่วรรณขอมณีคุยกับอาวสินหน่อย”

   ‘อืม อยู่ใกล้ๆพอดี รอเดี๋ยว’

   พี่วรรณบอกทำให้ผมดีใจเพราะปกติแล้วคุณอาวสินของพี่ธาราจะไม่ค่อยอยู่ให้เห็นตัวสักเท่าไร

   ไม่นานก็ได้ยินเสียงดังเหมือนเสียงคนเดิน ตามด้วยเสียงทักทายของคุณอาของพี่ธารา

   และผมก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้คุณอาวสินฟังจนหมดโดยที่คุณอาวสินบอกว่าให้ผมรอเขา เขาจะรีบมา

   ผมจึงได้แต่รอโดยที่วนเวียนเช็ดตัวให้พี่ธาราแล้วผลัดกับนั่งเฝ้า

   ไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตอนไหน รู้แค่ว่าได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของตัวเองดังถึงได้ผงกหัวขึ้นมาจากที่นอนแล้วควาน
หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าเป้อย่างสะลึมสะลือ

   ‘มณีเอ็งอยู่ไหน ทำไมไม่กลับบ้านกลับช่อง ป่านนี้แล้ว รู้ไหมว่าแม่เอ็งเป็นห่วง’

   “มณีอยู่บ้านพี่ธาราน่ะพ่อ พี่เขาไม่สบาย”


   ‘เอ้า แล้วเป็นอะไรมากไหมล่ะ เป็นหนักไหม’

   “หนักมากเลยพ่อ ไม่รู้ว่าจะตื่นไหม”

   ‘แล้วทำไมไม่พาไปหาหมอล่ะวะ’

   “ไปไม่ได้ พี่ธาราเขาไม่ค่อยชอบหมอเท่าไร เอาเป็นว่าวันนี้มณีไม่กลับบ้านนะพ่อ”

   “เออๆเอ็งก็ดูแลพี่เขาดีดีแล้วกัน ดูหาเช็ดตัวหาหยูกหายาให้พี่เขากิน”

   “จ๊ะพ่อ รู้แล้ว แค่นี้นะ”พูดจบก็ตัดสายแล้วดูเวลา

   นาฬิกาบอกเวลาปาเข้าไปสามทุ่มกว่า มิน่าพ่อถึงได้โทรตาม

   ผมไม่รู้ว่าฟุบหลับไปนานแค่ไหนทั้งที่นั่งอยู่บนพื้นอยู่ข้างกะละมังน้ำแบบนี้ จนขาเริ่มเป็นเหน็บชา

   มือก็ค่อยๆนวดขาเพื่อคลายอาการชาพลางชะโงกมองใบหน้าคมคายกับดวงตาที่ปกติจะเป็นสีดำสนิทวันดีคืนดีจะเป็นสีเขียวนิ่งไม่มีทีท่าว่าจะลืมขึ้น

   ไม่รู้ว่าเมื่อไรคุณอาวสินจะมาถึง

   พออาการชาที่ขาเริ่มหายผมก็พยุงตัวลุกขึ้นเอามือแตะทาบบนหน้าผากของพี่ธารา

   ความร้อนเริ่มลดลงไป แต่ก็แค่นิดเดียว ตัวของพี่ธาราก็ยังอยู่ในระดับที่ร้อนมากอยู่ดี

   ผมลุกขึ้นอุ้มเอากะละมังใบเล็กกับผ้าขนหนูไปเปลี่ยนน้ำอีกรอบ

   รู้สึกว่ามันเจ็บข้างในใจแบบแปลกๆ ความเป็นห่วงมันเริ่มทวีมากขึ้นเมื่อเวลายิ่งผ่านไปนาน

   ไม่รู้ว่าพี่ธาราหลับไปตั้งแต่เมื่อไร    


   ตลอดทั้งคืนจนรุ่งสางผมเช็ดตัวสลับกับเผลอหลับไป

   ในที่สุดคุณอาวสินก็มาถึงด้วยท่าทางรีบร้อน

   “คุณอาวสิน”ผมทักทายอย่างดีใจ

   “ธาราเป็นอย่างไรบ้าง”

   เขาทักแล้วตรงเข้าไปดูพี่ธารา

   “ร่างกายไม่ค่อยร้อนเท่าไร”คุณอาวสินหันมาบอกแล้วเหลือบตามองไปที่กะละมังที่มีน้ำอยู่

   “นี่เจ้าเช็ดตัวให้ธารารึ”

   “ครับ ผมเช็ดไปเป็นร้อยรอบแล้วแต่พี่ธาราก็ไม่หายตัวร้อน”

   “ดีแล้ว ถ้าขืนปล่อยให้ร้อนมากกว่านี้มีหวังคงแย่ไปมากกว่านี้”

   “แล้วผมต้องทำยังไง ทำไมพี่ธาราถึงไม่ฟื้นเลยล่ะ แล้วจะพาไปหาหมอได้ไหม ถ้าเขาไม่หาย”ผมรัวคำถามไม่หยุด

   “ใจเย็นๆ ธาราจะไม่เป็นอะไรหรอกถ้าเขาได้รับการรักษา”

   “จะรักษายังไงในครับในเมื่อพาไปหาหมอไม่ได้”ผมถามออกไป อดที่จะสงสัยไม่ได้

   “เลือดในร่างกายของธารากำลังจะตายลง หากไม่รีบรักษาให้ทันการล่ะก็ ชีวิตของธาราก็จะเป็นอันตราย”

   คำพูดของคุณอาวสินทำเอาหัวใจผมกระตุกวูบ

   ไหนว่ายักษ์เป็นอมตะไง ถึงจะไม่รู้ว่าเลือดตายคืออะไรสำหรับยักษ์ แต่ถ้าบอกว่าถึงขั้นอันตรายล่ะก็ผมคงจะยอมไม่ได้

   ทั้งที่เป็นคนที่เข้ามายุ่งกับชีวิตผมเองแท้แท้ จู่ๆก็จะทิ้งกันไปแบบนี้ผมไม่ยอมเด็ดขาด

   “งั้นก็รักษาเลย ตอนนี้เลยได้ไหมครับ ให้ผมช่วยก็ได้ ให้ผมทำอะไรก็ได้”ผมว่าอย่างร้อนรน

   “ธาราจะไม่เป็นอะไร เจ้าอย่ากังวลไป หากธารารู้เข้าจะเสียใจที่เป็นเหตุทำให้เจ้าต้องเป็นเช่นนี้”

   “แต่ผม …. ผมไม่อยากให้พี่ธาราตาย”

   ใช่ผมไม่อยากให้พี่ธาราตาย ผมจะไม่ยอมให้เขาตายต่างหาก

   “เราต้องใช้หมอเฉพาะทาง เจ้าจะต้องไปตามหมอมาที่นี่”

   “หมอเฉพาะทาง?แล้วผมจะต้องไปหาหมอที่ไหน”

   “เจ้าต้องไปตามเขามา เขาไม่ไกลนักขับรถไปไม่กี่ชั่วโมง”

   “ทำไมไม่โทรเรียกล่ะครับ แล้วมันต่างกับหมอธรรมดายังไงผมไม่เข้าใจ”

   “ต่างกันตรงที่เป็นยักษ์อย่างไรล่ะ”

   “ยักษ์?”

   อย่าบอกนะว่าหมอที่ว่าคือหมอที่เป็นยักษ์เหมือนกัน

   “ข้าจะเขียนจดหมายแนะนำตัวฝากไปกับเจ้า จำเป็นที่จะต้องมีคนคอยเช็ดตัวให้ธาราตลอด ไม่เช่นนั้นเลือดในร่างกายจะ
ร้อนตายลงเร็วกว่าที่ควรจะเป็น”

   “งั้น ผมต้องไปหาหมอที่ว่าที่ไหน ผมไม่มั่นใจว่าจะไปถูก”

   ตอนนี้ให้ผมทำอะไรผมก็ยอม ถึงไม่รู้ว่าถ้าไปเจอกับยักษ์แปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักแล้วจะถูกจับกินไหม แต่ในเวลานี้ผมไม่
ต้องการให้พี่ธาราเป็นอะไรไป

   “ข้าจะให้คนพาเจ้าไปเอง ไม่ต้องห่วง ธาราจะไม่เป็นอะไร”

   ผมก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น


================================================================

ตอนหน้าเราไปตามหาหมอกัน 555 ชีวิตพี่ธาราอยู่ในกำมือคนเขีนแล้ว (รู้สึกตัวเองยิ่งใหญ่ยังไงไม่รู้)
เหมือนเดิมเจ้า กดบวก กดเม้น คนเขียนรออ่านเม้นใจจดจ่อ ชอบอ่านเม้น อ่านแล้วมีพลัง ประหนึ่งว่าเม้นคือแครอท กินแล้วมีพลัง
  :z10: :z13: :z2: :katai4: :a5: (เป็นเสตป)
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-11-2015 06:48:17
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 17-11-2015 06:48:56
รีบตามหาหมอเร็วๆนะ

เป็นเพราะเสียงขลุ่ยตอนนั้นเปล่าอ่ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 17-11-2015 07:25:26
เลือดยักษ์ตาย!! หมายความว่า พี่ธาราจะเป็นมนุษย์ยังงั้นหรอก!?
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: Appman ที่ 17-11-2015 07:32:10
บวกเป็ดนะ.....รีบฟื้นได้แล้วพี่ธารา
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 17-11-2015 09:29:15
ทำไมคุณอาไม่ไปตามคะะะะะะ?
ถ้าตามแล้วน้องมณีจะมีบทไหมเล่า!!!!!!!
พี่ธาราเป็นอะไร รอตอนต่อไปนะะะะะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 17-11-2015 09:42:07
ต้องเป็นเพราะเสี่ยงขลุ่ยแน่ๆเลยอะ ต่อนอีกกก
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 17-11-2015 13:43:40
พี่คะตื่นเถอะ เมียมาหาถึงบ้านแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 17-11-2015 15:36:16
เพราะโน้ตเพลงนั่นแหง ๆ พี่ธาราเลยนอนซมงี้
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: noksamsee ที่ 17-11-2015 16:24:27
 :katai1:หมอจะคู่ใคร
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 17-11-2015 19:26:12
มณีเกือบจะเป็นหม้ายตั้งแต่ยังไม่คลอดเสียแล้ว
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 17-11-2015 19:40:26
ทำไมต้องเป็นมณีที่ต้องไปตามหมอ
ทำไมไม่ให้อาสินที่เป็นยักษ์ด้วยกันไปตาม.......
แล้วทำไมเลือดในกายธาราถึงไพ้ค่อยๆตาย?!
ใครเป็นคนทำ?! :katai1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-11-2015 19:57:17
เป็นเพราะเพลงนั้นเหรอ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 17-11-2015 20:51:39
ธาราป่วยเพราะอะไร เพลงปี่นั้นหรือเปล่า  :m28:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 18-11-2015 16:44:53
ดันนนน
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 18-11-2015 17:00:12
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 18-11-2015 17:39:17
อาการของพี่ธาราจะเกี่ยวข้องอะไรกับเพลงที่น้องมณีเป่าไหมล่ะนี่
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 19-11-2015 07:07:21
ตกลงธาราเป็นอะไรถึงได้ป่วย
ใครเป็นคนทำ
แล้วมณีไปตามหาหมอที่ไหน
ท้องแล้วใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 19-11-2015 09:40:40
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 17/11 [CH.20] ตามหาหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 19-11-2015 19:49:25
27690
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)


ตอนที่ 20.2 ตามหาหมอ


ถึงจะสงสัยว่าทำไมคุณอาวสินของพี่ธาราถึงไม่เป็นคนมาตามหมอเองกลับเป็นผมที่มาตาม

   แต่คุณอาวสินก็บอกว่าอาการของพี่ธาราต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเขารู้ดีว่าควรทำอย่างไรจึงกลายเป็นผมที่ตอนนี้มาหยุดอยู่
ที่คลินิกขนาดใหญ่

   แต่จะว่าไปมันเป็นเหมือนกับโรงพยาบาลมากกว่า

   คนขับรถที่คุณอาวสินจัดไว้ให้จอดรถรออยู่ด้านนอกทำให้ผมต้องเดินเข้าไปภายในคลินิกที่ดูเหมือนโรงพยาบาลนั้นคนเดียว

   ในระหว่างเดินเข้าไปมือก็กำจดหมายที่คุณอาวสินเขียนฝากมาไว้แน่น

   น่าแปลกที่คลินิกใหญ่ขนาดนี้แต่กลับมีคนไข้แค่สองสามคน ซึ่งตอนนี้กำลังจ้องผมตาเป็นมัน

   ถ้าจะไม่ให้คิดไปเองละก็ หวังว่าคนไข้สองสามคนที่อยู่จะไม่ใช่ยักษ์ใช่เงือกอะไรหรอกนะ

   “มีอะไรให้ช่วยค่ะ”พยาบาลที่เค้าเตอร์ถามพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานให้มาให้

   ซึ่งถ้าผมไม่มีพี่ธาราอยู่แล้วผมคงต้องขอเบอร์หรือขออะไรสักอย่างจนได้

   สมกับเป็นที่ที่แปลกจริงๆ พยาบาลที่นี่สวยเหมือนนางไม้ทุกคน แต่ละคนก็จ้องมาที่ผมเหมือนกับว่าผมเป็นเหยื่อหรืออะไร
ที่หลงทางเข้ามา

   “เอ่อ คือว่า มาพบคุณหมอกัณฐ์น่ะครับ ไม่ทราบว่าเขาอยู่รึเปล่า”ผมตอบไป เริ่มรู้สึกระแวงแล้วเมื่อพยาบาลสุดสวยคนนี้มี
ท่าทีแปลกใจ

   “นัดเอาไว้รึเปล่าค่ะ”พยาบาลคนนั้นยื่นหน้าเข้ามาใกล้

   “เอ่อ ไม่ครับ”ผมผงะเมื่อเธอเข้ามาใกล้ผมเกินไป

   แต่อะไรก็ไม่เท่ากับกลิ่นกายที่หอมเหมือนดอกไม้ของเธอ มันไม่ใช่หอมแบบน้ำหอม แต่มันหอมเหมือนดอกไม้ต้นไม้
อะไรประมาณนั้น

   ดูเหมือนว่าโลกนี้จะมีสิ่งมีชีวิตที่ผมไม่รู้จักอยู่เยอะเกินไปแล้ว

   “ถ้าไม่ได้นัดก็คงเข้าพบไม่ได้หรอกค่ะ  คุณหมอทศกัณฐ์จะไม่รักษาคนไข้ที่ไม่ได้นัด แล้วยิ่งคนไข้ที่เป็น คนอย่างเธอ
ด้วยเนี่ย ยิ่งแล้วไปใหญ่ เสียใจด้วยนะจ๊ะ”พยาบาลสุดสวยพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาลูบใบหน้าของผม ทำเอาขนลุกขนชันไปทั้ง
ตัว

   แต่ผมคงจะยอมให้พี่ธาราเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด!!

   “แต่ ผมมีจดหมายมาด้วย หวังว่าคุณหมอกัณฐ์จะดูมันก่อน”

   ผมยื่นจดหมายพลางหดคอหลบจมูกของพยาบาลที่เริ่มใกล้เข้ามาแล้วดูเหมือนว่าเธอกำลังสูดดมกลิ่นผมอยู่

   

   “มีอะไรกันหรือเปล่ามักกะลี แล้วคนคนนี้มีอะไรให้ช่วยทำไมถึงปล่อยให้เขาเข้ายืนรอล่ะ”

   “ไม่มีอะไรค่ะคุณหมอทศกัณฐ์”พยาบาลที่ชื่อมักกะลียิ้ม

   อย่าบอกนะว่ามักกะลีที่ว่าคือมักลีผล ไม่จริงน่า โลกนี้มันชักจะแปลกเกินไปแล้ว

   แล้วที่บอกว่าไม่มีนี่หมายความว่ายังไง

   คนนี้สินะคุณหมอกัณฐ์หรือทศกัณฐ์ที่ว่า ว่าแต่ชื่อมันคุ้นๆ แต่ก็ช่างเถอะ

   ผมมองไปยังผู้ชายร่างสูงในชุดกราวสีสะอาดตา ร่างของเขาสูงใหญ่ต่างจากคนอื่นๆ รูปร่างพอพอกับพี่ธารา

   แต่ว่าทำไมเสื้อผ้าที่เขาใส่มันถึงได้ออกแนวแฟชั่นอย่างกับพวกดารา ถ้าไม่ติดว่ามีเสื้อกราวสวมทับ คงไม่มีใครรู้ว่าเป็น
หมอแน่

   ใบหน้าคมคายสวมแว่นแฟชั่นดันแว่นขึ้นพลางมองผมอย่างสนใจ

   “ถ้าไม่มีธุระอะไรนายก็น่าจะออกไปจากที่นี่นะ ที่นี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับคนอย่างนาย”เขาพูดพลางยิ้มที่มุมปากแล้วมองไป
ยังคนไข้อีกสองคนที่จ้องมองผมราวกับว่ากำลังหิวกระหาย

   ทำเอาผมขนลุกขนชัน

   “เอ่อ ใครบอกว่าผมไม่มีล่ะ ผมมีธุระกับคุณนั่นแหละ”ผมว่าแต่ก็ไม่วายเขยิบตัวออกจากนางพยาบาลมักลีผลที่ยัง
ป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัวผม แถมยังใช้จมูกดมผมเหมือนผมเป็นของแปลก

   “ไปทำงานของเธอไปมักกะลี เดี่ยวเด็กคนนี้ฉันจัดการเอง”เขาหันไปบอกกับนางพยาบาล

   ทำให้ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เชื่อแล้วว่ามักกะลีผลสวยอย่างที่ว่าจริงๆ แต่เคยได้ยินบางเรื่องเล่าที่บอกว่า
ความสวยนั้นเอาไว้ล่อมนุษย์ให้เข้าไปใกล้

   พอมนุษย์เข้าไปใกล้แล้วจะถูกจับกิน แค่คิดก็สยองแล้ว

   ไหนจะคุณหมอตรงหน้าที่มองมาที่ผมอย่างมีเลศนัยน์นี่อีก หวังว่าทศกัณฐ์ที่ว่าจะไม่ใช่ยักษ์ตัวเขียวที่มีสิบมือสิบหน้า
หรอกนะ

   “เอ้า มีธุระอะไรก็ว่ามา”เขาถามพลางกอดอกหันหลังพิงเค้าท์เตอร์อย่างไม่ใส่ใจ

   “ผมอยากให้คุณช่วยไปรักษา คน เอ่อ คือ คนคนหนึ่งน่ะ”ผมพูดคำว่าคนได้ไม่เต็มปาก

   “แล้วทำไมฉันต้องไปรักษาคนไข้ให้นายด้วยล่ะ คนไข้ของนายพิเศษยังไง ถึงต้องให้ฉันทิ้งคนไข้ที่น่ารักของฉันไว้ที่นี่”

   พอเขาพูดว่าคนไข้ที่น่ารักของเขาผมถึงกลับกลืนน้ำลายแล้วหันไปมองคนไข้ที่ว่า

   แต่ละคนจ้องมองผมอย่างกับหิวกระหาย นี่ถ้าผมเผลอคงโดนจับกินซะละมั้ง

   “ผมมีจดหมายของคุณอาวสินมาฝากมาให้คุณหมอ”ผมยื่นจดหมายให้เขา

   เขามองจดหมายอย่างไม่ค่อยเชื่อใจก่อนจะรับมันไปแล้วเปิดมันอ่าน



   “เข้าไปคุยกันข้างในสิ”เขาว่าก่อนจะเดินนำไป

   “เอ่อ ตรงนี้ก็ได้ครับ”ผมแย้ง

   ใครจะกล้าไปกับเขาสองต่อสองล่ะ เกิดโดนจับกินขึ้นมาก็แย่

   “ฉันไม่ทำอะไรนายหรอกน่า ดูเหมือนว่านายจะถูกจองเอาไว้แล้วนี่”

   “คะ ครับ?”

   “เข้ามา อย่าให้ฉันต้องเปลี่ยนใจ”คุณหมอกัณฐ์บอกพร้อมกับเปิดประตูห้องตรวจเบี่ยงตัวให้ผมเข้าข้างใน

   ผมลอบกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่แล้วปรายตามองดูหน้าคุณหมอสุดเท่ที่ไม่มีเค้าโครงว่าเป็นคุณหมอก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตรวจด้วยความจำยอม


   “ก่อนอื่น นายจะยืนยันกับฉันได้ไหมว่าจดหมายนี่เป็นของจริง”เขาว่าพลางโยนจดหมายลงกับโต๊ะ

   “ครับ ผมยืนยัน”

   “แล้วนายรู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นใคร”

   “ครับผมรู้ ผมถึงต้องการให้คุณช่วยรักษาพี่ธารา”ผมว่าพลางถอยหลังไปสองก้าวเมื่อใบหน้าหล่อของคุณหมอยื่นเข้ามา
ใกล้

   “ฉันคงรักษาให้นายไม่ได้หรอกนะ”คุณหมอว่าพลางทิ้งตัวลงกับเก้ากี้บุนวม

   “ทำไมล่ะครับ แต่พี่ธารากำลังแย่ มีแต่คุณเท่านั้นที่ช่วยได้ ขอร้องล่ะครับ ช่วยรักษาพี่ธาราที”

   “จะให้ฉันช่วยรักษาโรคที่มันสาบสูญไปเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วได้ยังไง ในเมื่อโรคนั้นจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อถูกกระตุ้นโดนเสียง
ดนตรีที่ตอนนี้คนที่รู้จักมันก็ได้ตายไปนานแล้ว”เขากอดอกแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด แล้วพ่นควันคนฟุ้งเต็มห้อง

   “หมายความว่ายังไงครับ ผมไม่เข้าใจ เสียงดนตรีอะไร?”

   “นายคงจะรู้จักนางผีเสื้อสมุทรสินะ  โรคเลือดตายที่ว่าเนี่ย คนสุดท้ายที่ฉันรู้จักก็มีแต่นางผีเสื้อสมุทรเท่านั้นที่เป็นและคน
เดียวที่ทำได้ก็คือพระอภัยมณี”

   “ได้ยังไงกัน”ผมพึมพำเสียงแผ่ว

   อย่างบอกนะว่าเพลงที่ว่าคือเพลงที่ผมเป่าไปตอนที่แสดงลิเกนั่น

   ผมคือคนที่ทำร้ายพี่ธาราอย่างนั้นเหรอ

   ร่างกายของผมมันรู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาทันที เป็นผมเองที่ทำร้ายพี่ธารา

   “ไงล่ะ ทีนี้นายเข้าใจรึยัง ถึงจะบอกว่าเป็นจดหมายโกหกเพื่อที่จะพบปะกัน แต่มันก็ดูไม่น่าจะเชื่อถือเอาเสียเลย ไปบอก
ท่านอาวสินของนายใหม่นะว่าโกหกให้มันเนียนกว่านี้หน่อย”

   เขาว่าพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก

   “เขา ไม่ได้โกหก”ผมพูดเสียงเบาทำให้เขาเลิกคิ้วมองมาที่ผม

   “ดูเหมือนนายจะยังไม่เข้าใจอะไร เอาเป็นว่านายกลับไปซะเถอะ ฉันไม่มีเวลาว่างขนาดไปเจอใครเพื่อที่จะพูดคุยได้หรอกนะ”

   “แต่เขาไม่ได้โกหก คุณอาวสินไม่ได้โกหก พี่ธาราป่วยจริงๆ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา

   “นายอย่าดื้อดึงไปเลยน่า มันไม่มีจริงหรอกโลกนั้นมันได้ตายไปแล้ว”

   “มีสิ ในเมื่อ ผมเป็นคนทำมันเอง”ผมพูดเสียงแผ่ว

   แต่นั่นก็ทำให้คุณหมอชะงักแล้วเงยลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาใกล้ผม

   “นายอย่าพูดอะไรบ้าบ้า นายจะบอกว่านายเป็นคนเป่าปี่ทำให้ธาราป่วยรึยังไง อย่ามาล้อเล่นตอนนี้ เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องน่าล้อเล่น”

   “ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมเป็นคนที่ทำให้พี่ธาราป่วยเอง เป็นผมเองที่เป็นคนทำ”ผมพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมา

   “นายจะทำแบบนั้นได้ยังไง เพลงนั้นมันหายสาปจากโลกนี้ไปแล้ว”

   “ทำได้สิ ในเมื่อผมเป็นพระอภัยมณีกลับชาติมาเกิด”ผมว่าพลางเช็ดน้ำตา

   “ไม่จริงน่า เป็นไปไม่ได้”

   เขาพูดก่อนที่เข้ามาประชิดตัวผมแล้วจ้องมองใบหน้าของผมใกล้ๆ

   “นี่นายไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม”ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องเข้ามาในตาของผมอย่างจริงจัง

   “ผมไม่ได้โกหก”ผมส่ายหน้า

   “งั้นนายก็เตรียมใจไว้ได้เลย ธาราไม่มีโอกาสรอดแน่”

   “คุณหมายความว่ายังไง คุณเป็นหมอนี่ คุณต้องช่วยได้ ทำไมถึงได้พูดว่าเขาจะไม่รอดทั้งที่ยังไม่ได้รักษาล่ะ”ผมจับแขน
คุณหมอแล้วเขย่าอย่างอ้อนวอน

   “การรักษาจำเป็นจะต้องใช้สมุนไพร แล้วสมุนไพรที่ว่ามันก็หายสาบสูญจากโลกนี้ไปหลายสิบปีแล้ว”

   “สมุนไพรอะไร บอกผมสิ ผมจะไปหาเอง”

   ถ้าหากพี่ธาราจะต้องเป็นอะไรทั้งหมดเป็นเพราะความผิดของผม เป็นความผิดของผมเองที่มันไม่รู้อะไรเลย

   “ไม่ได้หรอก ตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมาฉันพยายามหามันมาโดยตลอดแต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของมัน”

   “บอกผมได้ไหมว่าสมุนไพรอะไร ผมจะไปหามันเอง ผมขอร้อง ฮึก คุณช่วยรักษาพี่ธาราที”

   “ให้ฉันรักษาให้ฉันทำได้อยู่แล้ว แต่จะให้หารากของกุหลายสีน้ำเงินฉันคงต้องบอกนายไว้เลยว่าจนปัญญา”

   “กุหลาบสีน้ำเงิน ทำไมถึงหาไม่ได้ล่ะครับ ซื้อเอาไม่ได้เหรอ”

   “มันไม่ใช่กุหลาบสีน้ำเงินทั่วไป แต่มันเป็นกุหลาบที่เป็นอมตะไม่มีวันตาย ดอกของมันจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม ไม่เหมือนสีของดอกกุหลาบทั่วไปที่นายเคยเห็นหรอกนะ”

   “กุหลาบสีน้ำเงิน?”ผมพึมพำในขณะที่เช็ดน้ำตา

   แล้วคราวนี้ผมจะทำอย่างไรดี ผมจะช่วยพี่ธาราได้ยังไงในเมื่อไม่รู้ว่าต้องไปหากุหลาบสีน้ำเงินนั่นมาจากไหน

   แต่แล้วหัวสมองผมก็ผุดภายกุหลาบสีน้ำเงินช่อใหญ่ขึ้นมา

   ผมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยความรีบร้อนแล้วเปิดรูปที่ถ่ายในวันแสดงให้คุณหมอดู

   “นี่ใช่ไหมครับ ใช่แบบนี้รึเปล่า”ผมถามอย่างร้อนรน

   เขาจ้องดูที่หน้าจอโทรศัพท์ของผมที่ถ่ายติดดอกกุหลาบสีประหลาดนั่นก่อนจะฉกโทรศัพท์ไปจากมือของผมแล้วจ้องมองมันด้วยสายตาที่จริงจัง

   “นายไปได้มันมาจากไหน”เขาพูดทำให้ผมเริ่มใจชื้นขึ้นมา

   มันอาจจะใช่สิ่งที่กำลังหาอยู่ก็ได้

   “มีคนให้ผมมา บอกผมสิว่าเป็นกุหลาบที่คุณหมอบอกน่ะ”ผมเขย่าแขนคุณหมอ

   “ไอ้ใช่มันก็มันก็ใช่อยู่ แต่เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าเขาจะมอบมันให้กับเจ้าในเมื่อมันเป็นสิ่งที่มีค่าหาอะไรเปรียบไม่ได้”

   “ผมมั่นใจ ผมจะไปเอามันมาเอง”

   รากของดอกกุหลาบที่ผมได้รับตากคุณวาลี ผมจะต้องไปเอามันมาให้ได้
   

===============================================================

เอาแล้วไง ตอนหน้าเราจะพาน้องมณีไปเข้าถ้ำเสือกัน
ไปไหมๆ
[/color]
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 19-11-2015 20:13:11
 :mew5:

นับวันอดีตเมียมณียิ่งแสบมากนะเนี่ย

ขอละเวงเถอะ  :z3:

ปอลอ คุณหมอทศกัณฐ์xพระรามป่ะคะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-11-2015 20:15:59
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 19-11-2015 21:24:12
ไม่รู้จะได้ลูกเสือหรือจะกลายเป็นแม่ม่ายลูกติด  :mew5:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 19-11-2015 21:26:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 19-11-2015 21:56:06
ไม่นะ! วาลีเป็นคนวางแผนการนี้ขึ้นมาหรือเปล่า :ling3:
สงสารธาราจังเลยคงจะทรมารมากซินะ
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 19-11-2015 22:20:07
ไม่เข้าถ้ำเสือก็ไม่ได้ลูกเสือ
สู้เขาน้องมณี ก่อนที่พี่ธาราจะอกแตกตาย(คิดถึงในวรรณคดีตอนที่บอกว่าพระอภัยเป่าปี่ทำให้นางผีเสื้อสมุทรอกแตกตายเลย)
รอตอนต่อไปปป
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 19-11-2015 22:51:34
น้องมณีจะฆ่าปั๋วตัวเองโดยไม่ตั้งใจซะละ  :mew5:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-11-2015 23:30:45
ขานั้นยิ่งเจ้าเล่ห์อยู่ด้วยนะคะ แล้วน้องมณีจะตามเขาทันไหมล่ะนี่~~
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 19-11-2015 23:30:53
 :hao3:  แล้วคุณพ่อไปเอาโน็ตเพลงมาจากไหน แล้วเมียเก่ามณีเนี่ยยิ่งร้ายขึ้นยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆรึเปล่าเนี่ย โอยๆๆปวดหัวแทนจริงๆ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 20-11-2015 02:10:19
คนนี้เขาเมียเยอะของจริงค่ะ
เจ้าชู้ไว้เยอะ
ขุ่นวาลีเป็นเมียที่พระอภัยแทบจะไม่ได้รักเลย แต่ยอมให้เป็นสนมก็เพราะว่านางวาลีฉลาด
พูดง่ายๆคือเเาไว้ใช้งานนั่นเอง
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 20-11-2015 06:54:29
จำได้ว่าแผ่นเพลงมี 2 แผ่นหนิอีกแผ่นไว้ทำไรอ่ะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 20-11-2015 10:34:24
โอ๊ยตาย ตาย วาลีวางแผนชัวร์ๆ เลยเนี่ย น้องมณีตอนหน้ารับบทหนักแน่
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 20-11-2015 10:57:01
ช่วยให้ได้น้าาา มณี  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 20-11-2015 17:10:19
:hao3:  แล้วคุณพ่อไปเอาโน็ตเพลงมาจากไหน แล้วเมียเก่ามณีเนี่ยยิ่งร้ายขึ้นยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆรึเปล่าเนี่ย โอยๆๆปวดหัวแทนจริงๆ

มันเป็นของตกทอดของตระกูลจ้า
 มีบอกในตอนโน๊ตเพลง ถ้าคนเขียนจำไม่ผิด  :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 20-11-2015 20:35:20
ความสนุกกำลังจะเริ่ม เลยขอติดตาม
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 19/11 [CH.20.2] คุณหมอ
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 21-11-2015 02:33:30
เมียเก่าร้ายกว่าที่คิด
คราวนี้มณีจะเอายังไง
จะช่วยธารายังไงล่ะทีนี้
ก่อนจะเป็นหม้าย
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 21-11-2015 05:25:49
28677
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ครั้งที่ 21 ข้อเสนอ+ชีพจร

   
ถึงแม้ว่าผมกำลังจะคิดหนักเกี่ยวกับเรื่องที่จะต้องไปเอารากขอต้นกุหลาบสีน้ำเงินจากคุณวาลี

   แต่มันก็เป็นสิ่งที่ผมจะเป็นจะต้องทำเพื่อช่วยพี่ธารา คนที่ผม เอ่อ คนที่ผมรัก

   พอคิดถึงพี่ธาราผมก็ยิ่งเป็นห่วง ทั้งห่วงทั้งรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้พี่ธาราเป็นอย่างนี้

   ผมชั่งในกับนามบัตรที่ดูสวยเกินว่าที่จะเป็นนามบัตรทั่วไปก่อนที่จะกดเหมายเลขที่ระบุอยู่บนนามบัตรนั้นแล้วโทรออก

   เสียงรอสายดังอยู่สักพักในขณะที่หัวใจของผมกำลังเต้นรัวด้วยความกังวล



   “คิดไว้แล้วว่าเธอจะต้องเป็นฝ่ายที่โทรมาหาฉันเอง”น้ำเสียงราบเรียบทักทายดังแว่วมาคล้ายกับไม่แปลกใจอะไร

   “คือ…ผมมีเรื่องอะไรจะรบกวนคุณให้ช่วยหน่อยนะครับ”ผมพูดไปตามตรงถึงแม้จะไม่อยากที่จะคุยกับเขาก็ตาม เพราะคิดว่าคนอย่างเขามันช่างจ้าเล่ห์และไม่ค่อยน่าไว้ใจสักเท่าไร

   “มีอะไรให้ฉันช่วยล่ะ ตอนนี้ฉันอยู่ที่บ้านตากอากาศของฉัน…ซึ่งมันอยู่ไม่ไกลจากบ้านของนายเท่าไร บางทีนายน่าจะมาคุยกับฉันที่นี่นะ”

   “แต่ว่า”ผมพยายามจะแย้ง ผมต้องการเพียงแค่รากขอกุหลาบสีน้ำเงินแค่นั้น ไม่ได้ต้องการที่จะคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวและไม่คิดจะเสี่ยงเข้าไปใกล้เขาเกินกว่าที่จำเป็น

   “ฉันจะคุยกับเธอก็ต่อเมื่อเธอมาที่นี่บ้านฉัน แล้วฉันจะรอ”

   ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบปฏิเสธหรือต่อรองอะไรเขาก็วางสายไป แต่ไม่นานข้อความที่แนบที่อยู่ของเขาก็ถูกส่งมา


   
   ผมหยุดยืนและช่างใจอยู่หน้าบ้านพักต่างอากาศริมทะเลไกลจากตัวเมือง ที่นี่ค่อนข้างจะไม่มีคนสักเท่าไรเพราะเป็นพื้นที่ส่วนตัวจึงทำให้ผมค่อนข้างประหม่าหากเกิดอะไรขึ้นเหมือนกับในครั้งของพี่อเลน

   ผมยืนรอหลังจากกดออดไปได้สักพักหน้าบ้านไม้สีขาวสะอาดตาถูกตกแต่งเป็นสไตล์เรียบหรูมีรั้วไม้มิดขนาดไม่สูงมากกั้นไว้รอบๆ ในขณะที่ลมทะเลพัดโกรกมาทำให้บริเวณนี้ลมข้นข้างจะแรง

   “เข้ามาสิ”หลังจากที่ยืนรอไม่นานประตูรั้วไม่ก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของคุณวาลีในชุดดูเรียบสุขุม รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากของเขาทำให้ใจของผมนึกหวั่นอย่างบอกไม่ถูก

   “ผมว่าเราคุยกันตรงนี้ก็ได้ คือ ผมไม่อยากรบกวนคุณ”ผมตอบไป

   “เข้ามาสิ”เขายิ้มมุมปากและยืนยันคำเดิมก่อนจะเดินนำข้าไปโดยไม่ฟังคำที่ผมแย้ง

   นี่มันเป็นการมัดมือชกกันชัดๆ!! ผมได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินตามเข้าไป คงจะเลือกอะไรไม่ได้ในเมื่อสถานการณ์ในตอนนี้มันบีบบังคับให้ผมแทบขยับไปไหนไม่ได้เลย

   
   คุณวาลีทิ้งตัวลงลงบนโซฟาในห้องรับแขกที่ตกแต่งด้วยเฟอนิเจอร์ดูหรูและราคาแพงด้วยท่าทีสบายใจ

    ด้านหน้าของเขาเป็นบานกระจกใสที่สามารถเลื่อนเปิดได้และมองเห็นวิวทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา

   “นั่งลงสิ”เขาพยักหน้าไปที่โซฟาตัวเดี่ยวฝั่งที่อยู่ด้านข้าง

   “ผมอยากจะถามอะไรคุณวารีหน่อยน่ะครับ”ผมเปิดประเด็น

   “เธอดูรีบร้อนจังเลยนะ”เขายิ้มพร้อมกับรินน้ำเทใส่แก้วแล้วดันมาทางผม “ดื่มน้ำก่อนสิ”

   “ไม่ดีกว่าครับ ผมแค่จะมาถามว่าผมจะหาดอกกุหลาบสีน้ำเงินแบบที่คุณเอามาให้ผมในวันนั้นได้ที่ไหน”ผมปฏิเสธน้ำแก้วใสแต่ดูไม่น่าไว้ใจ นึกถึงคราวน้ำส้มหวานอร่อยของพี่อเลนแล้วยังเข็ดไม่หาย


   “กุหลาบสีน้ำเงินนั่นน่ะเหรอ เธออยากรู้จริงจริงเหรอว่าฉันได้มันมาจากไหน”

   “ครับ ผมอยากรู้”

   “มันเป็นกุหลาบที่ตกทอดมาจากรุ่นของพ่อฉันเอง เธอสนใจมันอย่างนั้นสินะ”

   “ครับ คุณวาลีจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะขอมัน”ผมบอกพร้อมกับมองหน้าเขาด้วยสีหน้าที่จริงจัง

   “กุหลาบพันธุ์นี้ค่อนข้างเลี้ยงยากมาก มันต้องดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมากเลยทีเดียวถึงจะออกดอกได้ เธอรู้ไหมว่ามันค่อน
ข้างจะเป็นอะไรที่มีค่ามากสำหรับฉัน และสิ่งที่มันสามารถให้ฉันได้มันมากกว่าที่เธอจะนึกได้เลยล่ะ ว่าแต่เธอต้องการมันไปทำ
อะไรล่ะ ดูเหมือนว่ามันคงจะเป็นเรื่องสำคัญมาก เธอถึงเป็นฝ่ายที่มาหาฉันเอง”

   เขาถามด้วยท่าทีที่นิ่งเฉยแต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์และไม่น่าไว้วางใจ

   “ผมต้องการเอามันไปรักษาคนรู้จักของผม”

   “เธอรู้ใช่ไหมว่ามันมีค่ามากแค่ไหน ฉันคงให้เธอไปฟรีฟรีไม่ได้หรอกนะ”เขาประสานมือแล้วมองมาที่ผมด้วยสายตาที่แฝงความนัยน์

   “คุณจะคิดเงินผมเหรอ”ผมถามในขณะที่ดวงตาของผมเบิกกว้างอย่างตกใจ

   ถ้าหากเขาจะคิดเงินผมล่ะก็ผมคงจะไม่มีจ่ายแน่ๆ


   “ฉันไม่ต้อการเงินของเธอหรอกนะ เงินฉันมีมากพออยู่แล้วล่ะ เธอไม่ต้องกังวลไป”

   “แล้ว คุณ เอ่อ ต้องการอะไร”ผมถามออกไป อดที่จะระแวงไม่ได้

   คิดแล้วว่าคนที่ดูฉลาดและเจ้าเล่ห์อย่างเขาคงจะต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ๆ

   ผมมองเขาที่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าของผม

   เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ผมแล้ววางเข่าข้างหนึ่งไว้บนโซฟา ทำให้ผมตกใจและเกร็งในสิ่งที่เขากระทำโดยที่ผมไม่ได้ตั้งตัว

   มือเย็นชืดของเขาช้อนหน้าของผมขึ้นมาให้เงยหน้ามองตอบเขา ดวงตาของเขามองเข้ามาลึกในดวงตาของผมอย่างเจ้าเล่ห์


   “แต่งงานกับฉันสิ ถ้าหากเธอต้องการมัน”

   คำพูดที่ช่างเป็นราวกับเป็นสายฟ้าที่ฟาดฟันลงมาในความคิดของผมให้มันทำให้ความคิดของผมนั้นตีรวนไปหมด

   ผมมองเขาด้วยความตกใจในสิ่งที่ได้ยิน ในขณะที่ร่างกายมันรุ้สึกราวกับด้านชาและไร้เรี่ยวแรง

   “อะ เอ่อ คุณกำลังพูดเล่นใช่ไหมครับ ผมคิดว่า มันเป็นเรื่องที่ไม่ขำ เอาซะเลย”ผมถามเสียงสั่น เบาโหวง

   ร่างกายของผมเกร็งตัวอย่างตกใจเมื่อมือของเขากำลังลูบเข้ามาที่ท้องของผมด้วยสัมผัสที่เบามือ

   เขากำลังทำอะไร เขาต้องการอะไรจากผมกันแน่

   ทั้งที่ผมอยากจะปัดมือเขาออก แต่ผมก็กลัวว่าเขาจะไม่พอใจและไม่ให้ต้นกุหลาบกับผม

   “ฉันไม่ได้พูดเล่น เพียงแต่เธอคงไม่ได้ต้องการที่จะแลกอะไรขนาดนั้นใช่ไหม ฉันคิดว่าเธอคงจะเป็นแบบนั้น”

   เขาหัวเราะในลำคอก่อนที่จะผละออกไป และเดินเข้าไปในห้องห้องหนึ่งที่อยู่ติดกัน

   ผมได้แต่มองเขาเดินหายเข้าไปในห้องห้องหนึ่งทั้งที่ใจของผมกำลังเต้นรัวด้วยความตื่นตกใจและหวาดกลัวในความคิดที่
ผมไม่สามารถหยั่งถึงของเขา

   โลกนี้มันเป็นอะไรกันไปหมด ผมเริ่มจะเชื่อแล้วว่าคุณวาลีเป็นหนึ่งในบรรดาเมียของผมในชาติที่แล้ว

   และดูเหมือนว่าชาตินี้เขาคงจะกลับมาเอาคืนผมอย่างหนัก

   มือของผมยกขึ้นมาทาบอกของตัวเองเพื่อจะเรียกความมั่นใจพยายามบังคับใจไม่ให้สั่น

   ผมมาที่นี่ก็เพราะเพื่อพี่ธารา ผมมาที่นี่เพื่อคนที่ผมรัก ถึงจะยังเขินอายกับใจตัวเองก็เถอะ


   ไม่นานคุณวาลีก็เดินออกมาพร้อมกับแผ่นกระดาษหลายแผ่นในมือ

   “นี่เป็นสัญญาที่ระบุว่าเธอจะเป็นดาราในสังกัดของฉันเป็นเวลาสองปี ถ้าหากเธอยอมเซ็นฉันจะยอมแบ่งต้นกุหลาบสีน้ำเงินนั่นให้กับเธอ แต่ถ้าเธอปฏิเสธเธอก็จะไม่ได้มันไป”

   เขาพูดพร้อมกับวางสัญญาไว้บนโต๊ะด้านหน้าของผม

   ทำให้ผมก้มมองกระดาษแผ่นนั้นด้วยความตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่เขาเสนอมา

   เวลาสองปีผมคิดว่ามันมากเกินไปกับการแลกด้วยต้นกุหลาบเพียงต้นเดียว


   “แต่สองปีผมคิดว่ามันมากเกินไป”ผมพูดพึมพำเสียงแผ่ว มือหยิบปากกาขึ้นมาคล้ายกับไร้เรี่ยวแรง

   มันเหมือนกับการบังคับกันชัดๆ ผมมองแผ่นกระดาษตรงหน้าแล้วเม้มปากอย่างเจ็บใจที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
   

   “นั่นสินะ ฉันคิดไว้แล้วว่าเธอคงจะไม่พอใจกับระยะเวลาในสัญญาที่มันนานเกินไป”พูดจบสัญญาอีกฉบับก็เลื่อนมาที่ตรง
หน้าผม “เพื่อความสบายใจของเธอและเธอจะได้ไม่รู้สึกว่าถูกบีบบังคับ สัญญาฉบับนี้ระบุเวลาเอาไว้หนึ่งปี ฉันคิดว่ามันคงจะสม
เหตุสมผลกับสิ่งที่เธอต้องการแล้วล่ะ”

   เขาแสยะยิ้มเล็กน้อยแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟา ดวงตาที่ดูมีเลศนัยน์จ้องมองมาที่ผมราวกับกำลังคาดคั้นให้ผมเซ็นสัญญานั่น

   หนึ่งปีมันก็มากเกินไปอยู่ดีที่ผมจะต้องอยู่ใกล้คนที่มีความคิดน่ากลัวอย่างเขา

   แต่ผมคงจะปฏิเสธอะไรไม่ได้แล้ว ในเมื่อตอนนี้พี่ธารากำลังรอผมอยู่

   ผมจรดปากกาลงด้วยจิตใจที่ค่อนข้างจะขุ่นเคืองกับวิธีการที่เขาใช้ เป็นเพราะเขาทำให้ผมต้องทำร้ายที่ธาราโดยที่ผมไม่ตั้งใจ
   


   ในที่สุดผมถูกพามาที่เรือนกระจกโปร่งแสงด้านข้างของตัวบ้านพักต่างอากาศสิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย

   ด้านในของเรือนกระจกที่อากาศเย็นชื้นมีดอกกุหลาบสีน้ำเงินที่ถูกเพาะพันธุ์จนละลานตา

   มันขัดแย้งกับความคิดของหมอทศกัณฐ์ที่บอกว่ามันได้หายสาบสูญไปจากโลกนี้แล้วอย่างชัดเจน

   ทำไมคนอย่างคุณวาลีถึงได้มีของแบบนี้เยอะขนาดนี้ แล้วเขามีมันเอาไว้เพื่ออะไรกัน

   กระถางของต้นกุหลาบต้นเล็กถูกยกยื่นมาด้านหน้าของผมทำให้ผมมองดูมันด้วยสายตาที่เรียบนิ่ง ถึงแม้ว่าผมจะดีใจแต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ต้องแลกไปมันจะทำให้ผมเป็นกังวล

   “รับไปสิ นี่เป็นของนาย”

   “ขอบคุณครับ”ผมตอบเสียงเรียบแล้วรับเอากระถางกุหลาบสีน้ำเงินต้นเล็กมาถือเอาไว้ในมือ


   ผมกลับมาที่บ้านของพี่ธาราพร้อมกระถางของดอกกุหลาบสีน้ำเงินกระถางเล็กและส่งมันให้มือของหมอทศกัณฐ์

   ในระหว่างที่หมอทศกัณฐ์กำลังนำกุหลาบสีน้ำเงินที่ผมเพิ่งจะแลกมันมาด้วยระยะเวลาที่น่าอึดอัดไปจัดการ

   ผมขึ้นมาบนชั้นสองของตัวบ้านและมองดูคุณอาวสินกำลังเช็ดตัวให้พี่ธาราโดยที่น้ำในกะละมังนั้นเป็นน้ำที่ใสสะอาดตี่ประกายสีรุ้งสะท้อนกับแสงไฟจนน่าตกใจ

   หากผมไม่ได้รู้จักกับยักษ์มาก่อนผมคงจะตกใจที่น้ำนั้นเปล่งประกายออกมาเองได้

   “มาแล้วรึมณี ลำบากเจ้าแล้วจริงๆที่ต้องให้เจ้าไปช่วยตามหมอมา อีกทั้งยังให้เจ้าไปหาดอกกุหลาบนั่นอีก”คุณอาวสินหัน
มายิ้มด้วยท่าทางดูผ่อนคลายกว่าเดิม

   “พี่ธาราเป็นยังไงบ้างครับ ให้ผมช่วยเช็ดให้นะครับ”ผมว่าพลางขอผ้าขนหนูจากคุณอาวสิน

   มันเป็นความรู้สึกผิดที่ผมเป็นฝ่ายทำให้พี่ธาราต้องเป็นอย่างนี้ ดังนั้นสมควรแล้วที่ผมจะจัดการปัญหาทุกอย่างเอง

   “เอาสิหากเจ้าต้องการ”

   “น้ำนี่ อะไรเหรอครับ”อดถามไม่ได้เมื่อรับผ้านั้นมาซักในน้ำประหลาดนี่


   “นั่นเป็นน้ำบริสุทธิ์ที่มาจากท้องฟ้าด้านบน น้ำนี่จะช่วยบรรเทาอาการของธาราได้”

   ท้องฟ้าด้านบนคงจะไม่ได้หมายความว่าคุณอาวสินบินไปเอามาหรอกนะ

   ผมอ้าปากค้าง

   “เป็นอย่างที่เจ้าคิดนั่นถูกต้องแล้ว”คุณอาวสินยิ้มราวกับตลกกับท่าทีของผม

   “ยังไงก็ต้องฝากธาราไว้กับเจ้าด้วย ข้าจะไปดูทศกัณฐ์เสียหน่อย”คุณอาวิวสินบอกก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป




   ผมเช็ดตัวผืนเล็กซับลงบนตัวพี่ธาราที่อุ่นลงอย่างเห็นได้ชัด อาการของพี่ธาราดูทุเลาลงมาแล้ว แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าพี่พี่ธาราจะฟื้นขึ้นนาเลยสักนิด

   ใบหน้าคมเข้มนั้นดูอ่อนลงไม่ทรมานเหมือนก่อนหน้านี้ทำให้ผมค่อยเบาใจขึ้นมา

   “ผมขอโทษนะที่ทำให้พี่ต้องเป็นแบบนี้”

   ผมว่าเสียงเบาคล้ายกับกระซิบ ไม่รู้ว่าพี่ธาราจะได้ยินรึเปล่า

   

   ผ่านไปพักใหญ่จนหมอทศกัณฐ์ทำยารักษาให้พี่ธาราเสร็จร่าง ยาน้ำสีน้ำเงินเข้มถูกรินผ่านริมฝีปากหยักอย่างเบามือในขณะที่ผมนั่งลุ้นอยู่บนพื้นข้างเตียงและจับมือพี่ธาราภาวนาให้กุหลาบสีน้ำเงินนั้นช่วยพี่ธาราได้สำเร็จ

   ผมกำมือพี่ธาราแน่นในขณะที่พี่ธาราได้กลืนยานั้นเข้าไปจนหมด ทั้งผมคุณอาวสินและหมอทศกัณฐ์ต่างก็รอลุ้นว่าพี่ธาราจะฟื้นมาหรือไม่

   จนในที่สุดแพขนตาสีดำหนาก็ขยับและกระพริบเผยให้เห็นดวงตาสีดำที่ดูอิดโรย

   ริมฝีปากซีดเซียวเม้มเข้าหากันคล้ายกับกำลังแปลกใจก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะหันมามองผม

   ผมมองริมฝีปากที่ซีดเซียวคลี่ยิ้มปาดด้วยหัวใจที่พองโต ในที่สุดพี่ธาราก็ฟื้นขึ้นมาจนได้

   ในที่สุดผมก็ช่วยคนที่ผมรักเอาไว้ได้ ไม่เคยดีใจกับอะไรมากเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต

   ผมยอมรับเลยว่าตัวผมเป็นเอามากที่จะยอมรับใครสักคนเข้ามาในใจขนาดนี้

   “ข้า หิว น้ำ”เสียงของพี่ธาราเอ่ยขึ้นอย่างแหบแห้ง

   “ได้สิ เดี่ยวผมไปเอามาให้เอง”ผมรีบพูดอย่างดีใจ รีบกุลีกุขอผลุดลุกขึ้นมาอย่างร้อนลนและตื่นเต้นโดยที่ไม่รู้เลยว่า

   ตัวเองไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่เมื่อเย็นวาน

   ภาพที่เห็นมันค่อยๆเบลอลง หนังตามันหนักอึ้งจนยากจะต้านทานทั้งที่พยายามจะยกมันขึ้นมา แต่ก็ทำไม่ได้

   รอบกายมันมืดไปหมด จากนั้นผมก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย




   ผมกระพริบตาขึ้นถี่ๆด้วยความแปลกใจว่าผมหลับไปตอนไหน แต่พอนึกขึ้นได้ว่าผมไม่ได้นอนหลับแต่เป็นลมไปผมก็มองยังเพดานด้านบนที่ไม่คุ้นตา

   ผมกำลังนอนอยู่บนเตียงของพี่ธาร แล้วพี่ธาราล่ะ!!

   สัมผัสอุ่นที่กุมมือดึงให้ผมหันไปมอง พี่ธารานั่งอยู่ที่ขอบเตียงพลางกุมมือผมด้วยท่าทีที่เป็นห่วง

   “พี่เป็นอะไรไหม หายรึยัง”ผมถามทั้งรอยยิ้มเมื่อเห็นพี่ธารากลับมาเป็นเหมือนปกติ

   “อย่างห่วงข้าเลย ห่วงตัวเจ้านั่นแหละ ดีที่เจ้ายักษ์สิบหน้านี่รับไว้ได้ทัน มิเช่นนั้นเจ้าคงจะเจ็บตัว”พี่ธาราพูดด้วยน้ำเสียง
เป็นห่วงเป็นใย แต่ก็มิวายไปแขวะเอาคุณหมอทศกัณฐ์ที่ยืนกอดอกอยู่ข้างเตียง

   ดูเหมือนเขาจะรู้จักและสนิทกันดีถึงได้มีท่าทีมึนตึงต่อกันอย่างนี้

   “ผมเป็นห่วงพี่แทบแย่”ผมว่า ถึงจะรู้สึกกระดากกับคำพูดตัวเองก็เถอะ

   “ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าเป็นห่วง ข้าผิดเอง”

   “ผมต่างหากที่ผิด”ผมพูดเสียงแผ่วพลางหลบตาที่มองมาด้วยความห่วงใย

   “เจ้าไม่ผิดหรอก ข้าไม่เป็นอะไรเสียหน่อย”พี่ธาราพูดพร้อมกับจุมพิตลงมาบนหน้าผากผม

   แต่ว่าไอ้ชอบมันก็ชอบอยู่ แต่เล่นมาจูบอวดชาวบ้านแบบนี้นี่มันอะไรของเขา

   พอตื่นมาได้ก็หาเรื่องให้ได้อับอายชาวบ้านกันอีกแล้ว รู้อย่างนี้มันน่าให้หลับไม่รู้เรื่องอยู่อย่างนั้นก็ดี
   

   “นายคิดว่าที่นี่มีแค่นายกับมณีรึไง ถึงได้ประเจิดประเจ้อแบบนี้”หมอทศกัณฐ์หันมาแขวะพี่ธาราด้วยท่าทีหมั่นไส้

   “แล้วเจ้าล่ะยืนบื้ออะไรกัน รีบมาตรวจเมียข้าสิ ชักช้าอยู่ใยเล่า”พี่ธาราหันไปเถียง

   ดูท่าคงจะหายดีเป็นปลิดทิ้งแล้วถ้าจะมีแรงต่อกรกับคนอื่นขนาดนี้ ว่าแต่เมื่อกี้อะไรนะ เรียกผมว่าอะไรนะ เมียงั้นเหรอ
หรือว่าผมหูฝาด

   “งั้นนายก็หลบไปสิ เกะกะฉันเปล่าๆ”หมอทศกัณฐ์ว่าพลางเบียดให้พี่ธาราลุกไปจากเตียงแล้วนั่งลงแทน
   

   มือของผมถูกจับวัดชีพจรตามปกติ แต่ไม่ปกติคือผมไม่ค่อยมั่นใจกับคุณหมอยักษ์คนนี้มากกว่า

   ไม่มั่นใจว่าเขาจะรักษามนุษย์เป็น

   “เมียข้าเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมเจ้าต้องจับมือเมียข้านานขนาดนี้ด้วยเล่า”พี่ธาราถาม

   คราวนี้คำว่าเมียชัดเจนเต็มสองหูทำเอาหน้าซีดๆของผมนี่แดงลามไปจนถึงหู

   “ถ้านายหวงเมียของนายนักนายก็มาจับชีพจรเมียนายดูเองสิ แล้วจะรู้ว่าเมียของนายเป็นอะไร”คุณหมอสิบหน้าหันไปบ่นใส่พี่ธารา

   “งั้นเจ้าก็ลุกไปให้ห่างจากเมียข้าเสีย เจ้าเป็นหมอภาษาอะไรกัน แค่วัดชีพจรใช่ไหม”พี่ธาราว่าด้วยท่าทางไม่พอใจก่อนจะคว้ามือของผมไปวัดชีพจร

   ใบหน้าที่มีท่าทีไม่พอใจยักษ์ร่วมรุ่นเริ่มขมวดขึ้นคล้ายกำลังประหลาดใจทำเอาผมนึกหวั่น

   “มีอะไรเหรอ”ผมถามเพราะพี่ธาราเงียบไปซักพักและขยับนิ้วคล้ายกับหาจุดชีพจนใหม่

   แต่คิ้วของเขาก็ขมวดมุ่นอีกรอบ

   “หาไม่เจอเหรอ”ผมถาม เริ่มกลัวแล้วว่าจะมีอะไรแปลกๆ
   

   “หัวใจเจ้าเต้นแปลกๆ มันเต้นถี่เกินกว่าที่เคย อีกทั้งยังไม่สม่ำเสมอและแรงไม่เท่ากัน”พี่ธาราว่า

   “ให้ข้าดูสิ”คุณอาวสินเข้ามาพร้อมกับดึงมือผมไปจับบ้าง

   “เอ่อ เป็นยังไงครับ”ผมถาม เริ่มเป็นกังวล หรือว่าผมจะเป็นโรคหัวใจ อะไรสักโรคที่มันบอกว่าหัวใจของผมมันเต้นเพี้ยนแบบนี้

   ไม่นานคุณอาวิสนก็เงยหน้าขึ้นมามองผมคล้ายกับจะแน่ใจแล้ว


   “เจ้ากำลังตั้งท้อง”

   คำตอบของคุณอาวสินทำเอาผมช็อคเป็นรอบที่สองของวันพลางอ้าปากค้าง

   ถ้าเป็นลงรอบที่สองได้ผมคงเป็นไปแล้ว

   “จริงรึท่านอา ท่านไม่ได้ปดข้าใช่หรือไม่”พี่ธาราถามด้วยท่าทางดีใจ

   แต่ผมนี่สิ กำลังอ้าปากค้าง กับเรื่องราวน่าอเมซิ่งขนาดนี้

   “ไม่ใช่ท้องธรรมดา เป็นเด็กแฝดซะด้วย”หมอทศกัณฐ์บอกพลางยืนกอดอกมองพี่ธาราด้วยท่าทางเหนื่อยใจปนหมั่นไส้

   “แฝดงั้นรึ?”พี่ธารามีท่าทีงงเล็กน้อย

   แต่ผมนี่ยิ่งงงยิ่งช็อกหนักกว่าเดิม นอกจากจะท้องแล้ว ยังท้องลูกแฝดอีก

   นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันฟะเนี่ยยยยยยยยย


   “ในคืนเพ็ญเจ้าทำไปกี่ครั้งกันธารา”คุณอาวสินหันไปถามพี่ธาราคล้ายกับกำลังตำหนิ

   “ข้า ทำไปสองครั้งครับท่านอา”พี่ธาราเองก็มีท่าทีรู้สึกผิดเล็กน้อย

   “เช่นใดเจ้าจึงได้โลภมากเช่นนี้กัน”

   “ข้าเกรงว่าสินสมุทรจักไม่มาเกิดข้าจึงทำอีกครั้งเพื่อแน่ใจ”พี่ธาราตอบด้วยท่าทางมั่นใจ

   หากแต่คุณอาวสินกำลังกุมขมับด้วยท่าทางเคร่งเครียด

   แต่ผมนี่สิเครียดยิ่งกว่า

   “เจ้ารู้ตัวหรือไม่ ว่าไม่ใช่เพียงแค่สินสมุทรเท่านั้นที่จักมาเกิด หากแต่เป็นสุดสาครที่จักตามมาเกิดด้วย”

   พอคุณอาวสินพูดจบเท่านั้นทุกคนในห้องต่างก็ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

   แต่ผมนี่สิ อยากจะหายไปจากโลกนี้จริงๆ

   นี่มันบ้าไปแล้ว นี่มันต้อไม่จริง ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหมมมมมมมมมม



==================================================================

แหมมมม พี่ธาราตื่นขึ้นมาได้ก็นะ ขี้หวง ขี้เห่อ

ใครอยากให้ละเวงวัลฬากลับมาบ้าง ยกมือ (ละเวงวัลฬาสามีคนเขียน#มโน)

ขอบคุณทุกกำลังใจจ้าาาาาาา

หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเ
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 21-11-2015 08:07:12
จิ้ม
โอ้ยยย มาทีได้สินสมุทรกะสุดสาครเลยอ่ะ 55555555
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 21-11-2015 08:07:21
ยกอเลนให้วาลีไป เป็นของเซ่นแทนน้องมณีเถอะค่ะ ฮาาาา


ปล สุดสาคร~

นางเงือกชาตินี้อยุ่ไหนน้อ?
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 21-11-2015 08:41:55
รอแฝดดดด
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 21-11-2015 10:00:38
เดี๋ยวๆ อย่าลืมอธิบายเรื่องสัญญามหาภัยให้พี่ธาราฟังด้วย
มันเป็นเรื่องใหญ่มากกกกกกกก พี่วาลีจะทำอะไรเนี่ย!
ลูกแฝดดดดดด เพราะความหื่นแท้ๆเชียว นี่มันดีรึเปล่าเนี่ย
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-11-2015 10:09:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 21-11-2015 10:28:19
ตอนนี้มีข่าวดีสองเรื่องเลย
ธาราหายแล้ว ไหนจะท้องลูกแฝดอีก :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 21-11-2015 10:46:04
 :mew5:จะได้มาเกิดแล้วน้าาาา  สินสมุทรสุดสาคร :mew1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 21-11-2015 10:51:42
   ดีใจด้วยนะมณี ๕๕๕ อย่าเครียด อย่าเครียด ได้ลูกแฝดดีซะอีก พ่อธาราเลี้ยงได้สบาย
     รอ รออ่านตอนต่อไปคับ มาเร็วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย✿[Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 21-11-2015 12:45:04
เวงง กลับมาเลี้ยงหลานเร้ววว มณีมีน้องแล้วว 5555555
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 21-11-2015 13:19:53
ลูกแฝดดีหรือไม่เนี่ย เห็นเครียดๆ กัน คงมีเรื่องตามมาอีกแน่ๆ

น้องมณีอย่าลืมบอกสัญญาด้วยนะจ๊ะ นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากกกก อย่าลืมโดยเด็ดขาดนะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 21-11-2015 15:14:11
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 21-11-2015 16:31:28
แล้วดีหรือไม่ดีเล่า ทีเดียวได้ทั้งสินสมุทรและสุดสาครอ่ะ  :m28:

หนูมณีอย่าลืมพูดเรื่องสัญญามหาภัยนั่นด้วยล่ะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 21-11-2015 18:19:57
อัลไร ๆ คืออัลไร ใครให้ละเวง(อเลน)มาจัดการวาลี
ไม่มี๊ ไม่มี นางไม่ได้คู่กับวาลีน๊าาาาา เอะหรือยังไง
แต่นางจะมาเป็นคู่กัดคู่ใหม่ (ได้ข่าวว่านายเงือกจมน้ำหายไปยังงมไม่เจอ คู่ใหม่มาอีกแล้วเรอะ)
ยังไงก็ต้องลุ้นกัน พี่ไม่ค่อยชอบวาลี นางหน้าตาไม่ดี ไม่เหมาะกับใคร อีกอย่างนางร้ายง่ะ เจ้าเล่ห์
ไม่เอาไม่เอา ไม่จิ้นกันน๊าาา
 :z2:   :z2:  :z2:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 21-11-2015 23:33:58
 :laugh: กร๊ากกก อย่าพึ่งเป็นลมไปก่อนนะจ๊ะน้องมณีของพี่ธารา
ท้องลูกแฝดนี่สุโค่ยมากง่ะ หนึ่งไม่พอต้องขอเบิ้ล  :haun5:
แล้ววารีนี่จะคู่กะใครง่ะ เล่นร้ายแบบเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวซะขนาดนี้อ่ะ หรือไร้คู่ อยู่บนคาน ? :hao4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 22-11-2015 12:51:38
 :katai4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 22-11-2015 15:50:53
อ่านแล้วเขินแทนจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 23-11-2015 16:39:43
โฮกกกกกกก
ท้องแล้วท้องแฝดด้วย
ข้อดีของการเบิ้ลก้องี้
ทำกลัวไม่ติดดันติดสองคน
วุ่นวายไปใหญ่
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 23-11-2015 16:50:40
น่ากลัวว่าน้องมณีจะไม่ได้อ่านสัญญาให้ละเอียดก่อนเซ็นน่ะสิคะเนี่ย ตอนนั้นน้องยิ่งเป็นห่วงพี่ธาราอยู่ด้วย
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21] ชีพจร+ข้อเสนอ
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 23-11-2015 17:20:59
ทำไมตั้งแต่ตอนที่แล้วเราสัมผัสได้ถึง ซัมติ่ง ของหมอทศกับอาวศิน ตอนนี้ก็มีมาแว๊บๆๆๆ

สัญญาไม่น่ากลัวเท่าคนสินะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 24/11 [CH.22] ปรับตัว
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 24-11-2015 07:09:55
ญาติ? ภรรเมียคนที่สาม?
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 21/11 [CH.21]
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 01-12-2015 03:13:50
31213
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ครั้งที่ 22 ปรับตัว


   หลังจากคืนพระจันทร์เต็มดวงที่แสนโหดร้ายของเงือกหนุ่ม เขากลับเข้ามาภายในถ้ำใต้ทะเลลึกที่อยู่ด้านล่างของตัวเกาะด้วยหัวใจที่แตกร้าว

   ได้แต่ขังตัวเองเอาไว้ภายในนั้นจนไม่รู้คืนรู้วัน แม้ว่าหัวใจนั้นจะโหยหาให้กลับไปตามที่ส่วนลึกของหัวใจเรียกร้องเพียงใด แต่ความคิดนั้นกลับปฏิเสธมันทิ้งอย่างไม่ใยดี

   เขาหวาดกลัวความรักที่ฉาบฉวยของมนุษย์ ไม่สิ เขาไม่รู้ว่ามนุษย์หนุ่มผู้นั้นรักเขาบ้างหรือไม่

   “ชลาสินธุ์ ใจคอเจ้าจะไม่ออกไปภายนอกถ้ำหน่อยรึ แม่เห็นเจ้าเป็นเช่นนี้แม่เป็นห่วงเจ้าเหลือเกิน”

   “ข้าไม่เป็นไรหรอกท่านแม่ ขาเพียงแต่อยากอยู่เงียบๆ ไม่อยากออกกไปเที่ยวเล่นเหมือนแต่ก่อน”

   เพราะว่าการเจอมนุษย์หนุ่มรูปงามคนนั้นล้วนแล้วแต่มาจากการเที่ยวเล่นของเขาทั้งนั้น

   “แม่รู้ว่าเจ้าคิดอย่างไร แต่การที่เจ้าจะมาอุดอู้อยู่เช่นนี้หาได้ดีแต่ตัวเจ้าไม่ และการที่เจ้าหนีมานั้นมันเป็นการผิดต่อคู่ของ
เจ้า”เงือกผู้แม่กล่าวเตือน

   เมื่อรุ่งสางหลังจากคืนเพ็ญ ลูกชายได้กลับมาพร้อมกับสภาพที่โรยแรงและเกร็ดหางสีอ่อนที่เกิดใหม่นั้นก็รู้ได้ทันทีว่าลูกนั้นได้
ขึ้นไปบนผืนแผ่นดิน

   การที่ไม่ได้กลับมาในคืนวันเพ็ญนั้นย่อมหมายความว่าได้มีการเลือกคู่แล้วเป็นแน่

   หากแต่เมื่อไถ่ถามจึงได้รู้ว่าผู้ที่เป็นคู่ชีวิตของลูกชายนั้นเป็นมนุษย์ มิหนำซ้ำยังเป็นบุรุษ

   “ท่านแม่…ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคิดเช่นไรกับข้า ข้ากลัวว่าเขาคิดกับข้าเพียงแค่เรื่องใคร่มิใช่เรื่องรัก”ชลาสินธุ์บอกด้วยน้ำเสียงที่
แผ่วเบาพลางซบหน้าลงกับโขนหิน

   “เจ้ามิรู้ว่าเขาคิดเช่นไร แล้วเหตุใดเจ้าถึงรีบด่วนตัดสินใจในตัวเขา บางทีเจ้าควรจะไถ่ถามเขาให้ได้ความมิใช่หนีมาเช่นนี้”

   “แต่ท่านแม่บอกว่ามนุษย์นั้นไม่น่าเชื่อถือน้ำใจ ข้ากลัวเหลือเกินท่านแม่”

   “แม่รู้ว่าเขารักลูกของแม่ เขาต้องรักลูกของแม่แน่นอน”เงือกรุ่นแม่ว่ายน้ำเข้าไปใกล้แล้วลูบหัวลูกของตนอย่างแผ่วเบา

   “ท่านแม่จะรู้ได้อย่างไร ในเมื่อข้าเองยังไม่รู้”

   “แม่รู้สิ แม่เห็นเขามานั่งรอเจ้าบนก้อนหินนั่นทุกวัน หากเจ้าไม่เชื่อแม่เจ้าก็ลองขึ้นไปดูสิ เขาคงยังนั่งรอเจ้าอยู่”

   “นั่งรอข้ารึ? ทุกวันเลยรึท่านแม่”

   “ใช่ แม่กับพ่อเจ้าเห็นเขามานั่งรอเจ้าทุกวันจนอาทิตย์อัสดง”

   “เขามารอข้าทุกวันเช่นนั้นหรือ ขะ ข้า”เงือกหนุ่มเบือนหน้าหนี

   หัวใจดวงเล็กเต้นระรัวคล้ายกับมีน้ำหล่อเลี้ยงถูกรดรินให้หัวใจนั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

   “ไปเถิด อย่างน้อยก็เห็นแก่ลูกของเจ้าที่กำลังจะเกิดมา”

   “แต่ว่า..ท่านแม่ไม่กลัวเขาหรือที่เขาเป็นมนุษย์”

   “จะกลัวไปทำไมเล่าในเมื่อเขาเป็นคู่ของเจ้า ใครที่เจ้ารักแม่ก็รักไม่แตกต่าง"

   “งั้น ข้าจะไปพบเขา”



==================================================================



   ผ่านไปได้หลายวันหลังจากที่พี่ธารอาการดีขึ้น แต่ผมก็ยังคงช็อคกับเรื่องที่บอกว่าผมท้องไม่หาย

   ที่สำคัญไม่ใช่ท้องแบบธรรมดา แต่ดันท้องลูกแฝดซะด้วย

   ผมไม่เข้าใจเลยว่าผมท้องได้ยังไง ทั้งที่มั่นใจอยู่เต็มอกว่าไม่ท้องแน่

   อดคิดไม่ได้ว่าของพี่ธาราเขาดีจริงๆ ผู้ชายอย่างผมถึงได้ท้องได้อย่างนี้

   อยากบ้าบ้าตายถ้าไม่ติดว่าจะพาลูกๆ?ไปตายด้วย

   นี่ผมควรทำยังไงดีกับเจ้าเปี๊ยกครึ่งยักษ์ครึ่งมนุษย์ที่กำลังจะเกิดมา แล้วยังจะพ่อกับแม่อีก

   ผมไม่รู้เลยว่าจะบอกพวกท่านว่ายังไง จะให้บอกว่าพ่อแม่ มณีท้อง นั่นมันก็ตรงเกินไป ไม่มีความน่าเชื่อถือเลยสักนิด



   ผมเดินวนอยู่ภายในห้องนอนของตัวเอง พอยิ่งเดินก็ยิ่งหิว พอหิวแล้วก็ยิ่งกิน

   ไม่รู้ว่าจะบอกพ่อกับแม่ยังไงดี แล้วยังจะสัญญาที่ถูกมัดมือชกให้เซ็นอีกซึ่งผมยังไม่รู้จะหาโอกาสไหนไปบอกพี่ธาราดี

   หากพี่ธารารู้คงจะโกระและรู้สึกผิดแน่ที่ผมตัดสินใจเซ็นสัญญานั่นไป

   

   อีกอย่างหลายวันก่อนหน้าคุณวาลีได้ติดต่อมาทางพ่อว่าต้องการให้ผมถ่ายโฆษณาการชวนเชิญท่องเที่ยว


   การถ่ายทำจะถ่ายในสตูดิโอที่อยู่ในตัวเมือง จะใช้เวลาถ่ายทำเป็นเวลาสองวันซึ่งเป็นวันเสาร์อาทิตย์ไม่กระทบเวลาเรียนของผม
ตามที่เขาตกลงไว้กับพ่อ

   และก็เป็นโชคดีของผมที่สามารถยืดเวลาในการสารภาพบาปกับพี่ธาราออกไปอีกเมื่อพี่ธารามีรายงานกลุ่มที่จะต้องทำกับเพื่อนๆ
จึงไม่ได้มีเวลามาคอยเฝ้าผมเป็นยักษ์หวงไข่ในสองวันหยุดที่จะถึง



   ผมเดินลงมาชั้นล่างของตัวบ้านที่ก็เจอเข้ากับพ่อและแม่กำลังดูละครหลังข่าว

   “อ้าว ดึกดื่นป่านนี้ยังไม่นอนอีกลูกคนนี้ วันพรุ่งนี้จะต้องไปแต่เช้าไม่ใช่รึไง”

   “มณีหิว เลยกะว่าจะมาหาอะไรกินน่ะแม่”ผมตอบก่อนจะเดินเข้าครัวไป

   เชื่อเลยว่าในท้องนี่ลูกยักษ์จริงๆ แถมยังมีถึงสอง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผมถึงกัน กัน และก็กินเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้

   กล่องปลาแซลมอนสดถูกดึงออกมาจากตู้เย็น เป็นของโปรดที่ไม่รู้ว่าโปรดผมหรือโปรดเจ้าตัวเล็กๆที่อยู่ในท้อง

   ตู้เย็นที่ปกติเต็มอยู่แล้วยิ่งถูกอีกไปด้วยของหวานและของสดมากมายด้วยอภินันทนาการจากว่าที่คุณพ่อที่เอาใจใส่ผมจนผม
รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ

   

   “กินอีกแล้วเหรอ แม่จำได้ว่าก่อนหน้านี้ก็หยิบขึ้นไปบนห้องกล่องหนึ่งนี่ ทำไมช่วงนี้กินเยอะใหญ่ล่ะ เจ้าลูกคนนี้ เดี่ยวก็ได้อ้วน
เป็นหมูเค้าได้ยกเลิกสัญญาเอา”แม่บ่นเมื่อเห็นผมเดินถือกล่องไปทิ้งตัวลงนั่งตรงโซฟาข้างๆ

   “ไม่อ้วนหรอกน่า มณีกินแค่นี้เอง”

   “แค่นี้อะไรกัน เดี่ยวนี้ชักกินเยอะใหญ่ เดือดร้อนพี่ธาราเขาซื้อนั่นซื้อนี่มาให้ จะมีใครดีเท่าพ่อธาราไม่มีอีกแล้ว แม่ล่ะเกรงใจพ่อ
ธาราเขาจริงๆ”

   “เกรงใจอะไรกันล่ะแม่”ที่กินเยอะก็เพราะพี่รานั่นแหละที่เสกเด็กเข้าท้องผมถึงสองคน

   ว่าแล้วก็จิ้มชิ้นแซลมอนสดชิ้นโตเข้าปาก

   “ระวังเถอะอ้วนขึ้นมาแล้วโดนพี่เขาทิ้งแม่ไม่รู้ด้วยล่ะ”

   “ก็บอกแล้วไงว่าไม่อ้วน แม่ก็ขี้บ่น พ่อไม่รำคาญแม่บ้างรึไง”ชักเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแล้วสิ

   สงสัยจะเป็นเพราะท้องแน่ๆ ให้ตายเถอะ ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าชีวิตประจำวันของผมที่มันป่วนหนักอยู่แล้วมันจะป่วนมากไป
กว่านี้อีกแค่ไหน

   

   “มันก็จริงอย่างที่แม่เอ็งพูด อ้วนขึ้นมาเขายกเลิกสัญญาพ่อไม่เข้าข้างเอ็งหรอกนะ”พ่อละสายตาจากทีวีมาช่วยแม่บ่นอีกแรง

   เอาเข้าจริงก็อยากจะให้มันยกเลิกจะแย่อยู่แล้ว ก็ได้แต่ภาวนาว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาจะเปลี่ยนใจ

      “อยากให้ยกเลิกอยู่แหละ มันตั้งหนึ่งปี”ผมพึมพำพลางจิ้มชิ้นแซลมอนเข้าปากอีก

   “เอาน่า มันก็ดีต่อเรา ดีต่อของที่คนรุ่นก่อนๆเขาทิ้งเอาไว้ให้ จะได้มีคนเห็นความสำคัญของมันมากขึ้นแค่นี้ก็ถือว่าดีเท่าไรแล้ว
เอ็งอย่าบ่นไปเลยน่า”

   “ไม่บ่นก็ไม่บ่น มณีไปนอนแล้วพรุ่งนี้เจอกันนะพ่อ”ผมบอกเมื่อในกล่องนั้นมันว่างเปล่าไม่มีอะไรอยู่แล้ว

   “รีบๆไปนอนแล้วกัน พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า”

   “รู้แล้วๆ อย่าสวีทกันจนดึกล่ะพ่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไม่ตื่นเอา”

   แล้วก็ได้ยินเสียงบ่นไล่หลังก่อนที่จะเดินเข้ามาในครัวเพื่อเอากล่องทิ้งลงถังขยะแล้วหยิบกล่องใหม่ติดมือขึ้นไปอีกกล่อง

   ถ้าหากอ้วนแล้วจะทำให้สัญญาถูกยกเลิกก็อยากจะอ้วนอย่างที่พ่อกับแม่ว่าเหมือนกัน

   ไม่รู้ว่าคนอย่างคุณวาลีจะทำอะไรให้ผมปวดหัวอีก แค่นี้ก็มีเรื่องให้คิดมากพออยู่แล้ว

   ไม่รู้ว่าป่านนี้พี่วรรณจะนั่งรับลมทะเลสบายใจอยู่หรือว่าหลับไปแล้ว ทิ้งผมเอาไว้แล้วสบายอยู่คนเดียวตลอด



   ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มที่จะเครียดขึ้นมาแล้วสิ หลายเรื่องหลายอย่างที่มันรุมเข้ามา อีกทั้งเรื่องอนาคตที่ยังไม่ได้วางแผน
อีก

   ตอนนี้ชักรู้สึกว่าต้องการใครสักคนมาคอยฟังเรื่องทุกอย่างของผมโดยที่ผมไม่ต้องปกปิด

   ผมหยิบเจ้าตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่มีป้ายชื่อว่าอลันมากอด

   ชื่อคุ้นหูนี่เดาเอาก็รู้เลยว่าเจ้าของตุ๊กตาหมีสีขาวตัวใหญ่นี่คือใคร

   ของขวัญกล่องใหญ่ที่รับมาจากพี่อเลนก่อนที่เขาจะบินไปต่างประเทศภายในกล่องมีเจ้าหมีตัวใหญ่กับสร้อยพระใส่กรอบ
เรียบร้อยอยู่ด้านใน

   





   เช้าวันรุ่งขึ้นผมมาถึงสตูดิโอในตัวเมืองด้วยสภาพที่ไม่ค่อยจะเต็มที่สักเท่าไร

   การมีสิ่งชีวิตที่คอยหารพลังงานอยู่ภายในตัวมันทำให้ค่อนข้างที่จะเหนื่อยง่าย

   นี่แค่เดือนเศษๆยังขนาดนี้ แล้วกว่าจะคลอดนี่จะขนาดไหนกัน

   ผมกุมท้องตัวเองในขณะที่ช่างแต่งหน้ากำลังรุมทึ้งผมเผ้าและใบหน้าของผม

   ตั้งแต่มาผมยังไม่เจอกับคุณวาลี แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังรู้สึกเครียดอยู่ดี ผมจะทำยังไงกับสัญญางี่เง่านั้นดี

   มันเหมือนเวลาของผมถูกเขาผูกมัดให้อยู่กับเขาไปแล้ว

   พอเต่งหน้าเสร็จผมก็แต่งตัวและก็มานัดแนะกับตากล้องแล้วก็ทีมงานเกี่ยวกับมุมกล้อง

   โชคดีที่โฆษณาค่อนข้างเน้นความเป็นธรรมชาติผมจึงไม่ต้องเกร็งและพยายามอะไรมาก

   แต่รู้สึกว่ามันเหนื่อย แล้วก็เหนื่อยมากเลยทีเดียวชุดแรกจะเป็นชุดโขนพระรามได้จบไป ชุดที่สองจะเป็นชุดลิเก ทีมงานได้พาผม
ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้าอีกครั้ง

   วันนี้การถ่ายทำจะมีเพียงผมถ่ายเพียงแค่คนเดียว แต่วันพรุ่งนี้จะมีนักแสดงอื่นมาร่วมด้วยอีกคนสองคนเพื่อให้เนื้อเรื่องนั้นดูมีมุม
มองมากขึ้น

   ในระหว่างที่ผมกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่นั้นเอง ร่างสูงโปร่งดูสุขุมของคนที่ผมไม่อยากเจอก็เดินเข้ามาภายใน

   มันทำให้ห้องที่ดูไม่มีอะไรอึดอัดขึ้นภายในพริบตา

   ผมมองเขาผ่านกระจกและเขาก็กำลังมองผมอยู่เช่นกัน ช่างแต่งหน้าและฝ่ายเสื้อผ้าต่างก็ทักทายเขาอย่างเอาอกเอาใจ ต่าง
จากผมซึ่งนิ่งเฉย มองดุเขาผ่านกระจกเพียงเท่านั้น

   เขาพยักหน้าให้ทีมงานทั้งหมดที่อยู่ในห้องก่อนที่ทุกคนจะเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ผมอยู่กับเขาตามลำพัง

   “ผมนึกว่าคุณจะไม่มา”ในที่สุดผมก็เปิดปากทั้งที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้ากระจกมองดูเขาที่ยืนซ้อนผมอยู่ด้านหลังผ่านกระจกเงา
บานใหญ่

   ใบหน้าของผมถูกลบจนหมดเพื่อที่จะแต่งหน้าใหม่กำลังสะท้อนอยู่ในกระจกอย่างเป็นกังวล

   ผมไม่รู้ทำยังไงดี ผมไม่อยากอยู่ใกล้เขา

   “ฉันต้องมาสิ ในเมื่อเธอเป็นคนที่อยู่ในการดูแลของฉัน”เขาขยับเขามาชิดพนักพิงของเก้าอี้และสบตาผมในกระจกเงา

   “ครับ ผมเข้าใจ”ผมตอบเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องย้ำก็ได้

   “นี่เป็นงานแรกของเธอ แต่งานต่อๆไปเธออาจจะต้องเดินทางไกล แต่ไม่ต้องเป็นห่วงฉันจะอำนวยความสะดวกให้กับเธอเต็มที่
เท่าที่ฉันจะทำได้เลยล่ะ”

   เขาพูด แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมสนใจเท่ากับมือของเขาที่วางลงบนไหล่ของผม

   ไหล่ที่เกือบเปลือยเพราะผมใส่เพียงเสื้อกล้ามปิดเอาไว้

   “ผมว่า เรียกพี่พี่เขามาแต่งตัวดีกว่านะครับ ผมไม่อยากให้พี่พี่เขาเสร็จงานช้า”ผมว่าและเบี่ยงตัวหลบ

   “นั่นสินะ เวลาของเรายังเหลืออีกเยอะ ฉันจะรอดูเธออย่างใกล้ชิดก็แล้วกัน”พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้ผมได้แต่มองตามด้วย
ความไม่ไว้วางใจกับสิ่งที่เขาพูดทิ้งท้ายเอาไว้





   การถ่ายทำสองวันที่แสนจะน่าอึดอัดผ่านไปได้ด้วยดีผมรู้สึกโล่งใจและสบายใจมากขึ้นเมื่องานนี้จบลง อย่างน้อยงานต่อไปก็คง
ยังไม่มาในเร็ววันนี้



   “เอ้ย จะกินอะไรเยอะแยะ”นนท์ทักแล้วเเย่งกล่องแซนวิสทูน่าไปจากมือผมระหว่างที่เราอ่านหนังสือเพื่อรอเข้าสองย่อยช่วงสาย

   “เอามานี่น่า กินเยอะที่ไหนกัน ก็ปกติ”ผมแย่งกล่องแซนวิสคืนมาแล้วหยิบมันใส่ปากเคี้ยว

   “จริงอย่างที่นนท์ว่านะมณี เราว่าแกกินเยอะไป”โมเสริม

   จนผมชักเริ่มหงุดหงิดอีกแล้วจากที่อารมณ์ดีๆอยู่เมื่อครู่

   “มันไม่เยอะหรอกน่าโม ทำเป็นบ่นกันไปได้”ผมบุ้ยปาก

   

   “เอานี่ คิดว่าน่าจะชอบ”เสียงคุ้นเคยทักมาจากด้านหลังพร้อมกับยื่นถุใสที่เต็มไปด้วยขนมเค้กหลายรสชาติเกือบจะสิบชิ้นได้
เรียกให้บรรดาคนที่กำลังตั้งใจอ่านหนังสือร้องหืออย่างตกใจ

   “พี่ธาราเลี้ยงดีอย่างนี้ พี่อยากมีเมียเป็นหมูเหรอไงครับ”เป็นนนท์ที่ถามไปตรงๆ

   ทำให้พี่ธารายิ้มที่มุมปากอย่างอารมณ์ดี

   “ไม่ใช่หมูหรอก แม่หมูต่างหาก”

   แต่คำพูดของพี่ธาราทำเอาผมแทบสำลัก

   ไอ้เห็นเค้กแล้วดีใจมันก็จริงอยู่ แต่ไอ้คำพูดนี่สิ ทำเอาหน้าแดงแล้วแดงอีก ถึงได้หยิกเอวหนาไปเต็มๆแรง เรื่องอะไรมาเรียกผมว่าแม่หมูกัน

   “หรือไม่จริง”พี่ธาราว่าก่อนจะฉวยโอกาสยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนจมูกโด่งนั้นเกือบจะแตะเอาแก้มของผมเล่นเอาเกือบหลบแทบไม่ทัน

   ให้มันได้อย่างนี้สิ ไอ้เรื่องฉวยโอกาสนี่หาใครสู้ไม่ได้เลยสักนิด

   “เป็นยังไงบ้าง เหนื่อยไหม”พี่ธาราถามยกมือยกไม้ขึ้นมาทาบหน้าผากผมต่อหน้าบรรดาเพื่อนๆและคนที่ผ่านไปผ่านมา

   ได้หันมามองค้อนส่งสายตาประมานว่าอิจฉา

   “อย่ามาทำต่อหน้าคนอื่นซี่”ผมปัดมือนั่นออกเบาเบาแล้วเบือนหน้าหนี

   ต่อให้พยายามปรับตัวมากแค่ไหนแต่ใจมันก็ยังเต้นแรงอยู่ดี

   ยิ่งช่วงนี้หลังจากรู้ว่าในตัวผมมีสิ่งมีชีวิตอยู่ พี่ธารายิ่งดูแลเอาใจใส่สรรหานั่นหานี่มาให้ตลอด มันทำให้ผมทั้งเขินทั้งอายไป
พร้อมๆกันที่พี่ธาราดีกับผมขนาดนี้

   “อย่างกับข้าวใหม่ปลามัน”เชียรแขวะ

   “อ่านหนังสือไปเถอะน่า”

   “ทำเป็นหน้าแดงไปได้”

   “ไม่ได้แดง แค่ร้อนต่างหาก”ผมแก้ตัว

   “ร้อนรึ?”พี่ธาราขมวดคิ้วแล้วหยิบสมุดขึ้นมาพัดให้

   “มะ ไม่ร้อนแล้ว”พอยิ่งถูกเอาใจใส่ก็ยิ่งอายเข้าไปอีก

   ชีวิตที่จู่ๆก็เปลี่ยนไปนี่เข้าใจยากจนปรับตัวไม่ทันเลยจริงๆ




   แล้วผ่านไปอีกเกือบหนึ่งเดือนกลายเป็นว่าตอนนี้ผมท้องได้เกือบจะสองเดือนแล้ว

   คุณวาลีก็ได้ติดต่อมาทางพ่ออีกครั้งว่าให้ผมไปถ่ายโปรไฟล์เพื่อเอาไว้เสนองาน

   ซึ่งมันทำให้ผมเริ่มกลับมาคิดมากอีกครั้ง ผมควรจะจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงดี ควรจะทำยังไงให้เขาถอยห่างจาดชีวิตของผม

   โฆษณาเริ่มถูกปล่อยออกไปทางโลกโซเชียลทั้งมนและต่างประเทศและมันค่อนข้างจะเห็นหน้าผมชัดเจนทำให้คนอื่นๆเริ่มรู้จัก
ผมมากขึ้นและเริ่มมองมาที่ผมมากขึ้น

   มันทำให้ชีวิตส่วนตัวของผมแคบลงและทำให้ผมรู้ว่านี่มันไม่ใช่ชีวิตในแบบที่ผมต้องการ

   ข่าวลือและข่าวซุบซิบในวงการที่เล็กลอดออกมาเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผมเป็นที่รู้จักของคนในวงการมากขึ้นเพราะความใกล้ชิด
ของผมกับคุณวาลีที่เขาคิดไปเอง

   มีเพียงคนรอบข้างผมเท่านั้นที่รู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเพราะข้างกายผมมีพี่ธารา

   
   ผมเดินเข้าบ้านพร้อมๆกับพี่ธาราที่เดินตามไม่ห่าง ไม่วายที่มือนั้นจะฉวยโอกาสโอบเอวผมเอาไว้ให้ผมได้มองค้อนแจกไปวงโต

   “แต่เจ้าเป็นเมียข้านะ”ยักษ์ขี้ตู่หันมายิ้ม

   “ปล่อย”ผมขมวดคิ้วมุ่น

   “ข้าไม่ปล่อยหรอก แล้วอีกอย่างเจ้าจะให้ข้าบอกพ่อกับแม่เจ้าได้รึยัง”

   “ไม่ได้นะ พี่จะบอกพ่อกับแม่ตอนนี้ไม่ได้ ผมยังไม่พร้อม”ผมรีบปฏิเสธ

   “งั้นก็ตามใจเจ้าก็แล้วกัน”


   “อ้าวมากันแล้วเหรอ มาพอดีเลย”แม่ร้องทักมาแต่ไกล



   “กลับมาแล้วเหรอ”

   เสียงใสไม่คุ้นหูร้องทักตามด้วยเจ้าตัวที่กระโดดมากอดคอผมแล้วชิดแก้มนั้นลงบนแก้มผมอย่างสนิทสนม

   ใครกัน?

   เด็กผู้ชายหน้าหวานคนนี้

   ผมดันตัวเขาออกแล้วมองใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลาเส้นผมสีดำสนิทยาวระต้นคอแต่อีกด้านหนึ่งถูกซอยสั้นจนเปิดให้เห็นหู จมูก
เล็กเชิดรั้นริมฝีปากบางเฉียบ

   ดูจากผิวพรรณและรูปร่างหน้าตาดูยังไงก็เป็นลูกครึ่ง แล้วผมไปรู้จักเขาเอาตอนไหนล่ะเนี่ย

   ผมได้แต่มองเขาตาปริบๆ

   แต่เขากลับยิ้มให้ผมจนตาแทบหยี

   “อะ เอ่อ”ผมได้แต่อ้ำอึ้งปรายตามองพี่ธาราที่เริ่มทำท่าทำทางหงุดหงิด

   “ไม่เจอกันตั้งนาน คิดถึงมณีจังเลย”เขาว่าแล้วทำท่าจะเข้ามากอดผมอีกรอบ

   “ดะ เดี่ยวสิ”ผมดันเอาไว้ไม่ให้เขาเข้ามา

   เป็นใครผมยังไม่เคยรู้จักเลย อีกทั้งการแต่งตัวแนวเกือบๆพั้งนี่อีก เท่าที่รู้มาผมไม่เคยรู้จักผู้ชายที่เป็นลูกครึ่งมาก่อนเลย

   จนพี่ธาราดึงเอาตัวผมไปหลบอยู่ข้างหลังผมถึงได้หายใจหายคอได้สะดวก แล้วลอบมองคนที่จะเข้ามาจู่โจมกอดผมลูกเดียว

   “ใครอะแม่”ผมหันไปถามแม่อย่างสงสัย เป็นใครก็ไม่รู้ จู่ๆก็เข้ามากอดแล้วบอกว่าไม่ได้เจอกันตั้งนาน แล้วบอกว่าคิดถึงอีก ผมได้แต่มองแขกที่ไม่ได้รับเชิญจากด้านหลังของพี่ธารา

   เรื่องเก่ายังไม่จบเลย เรื่องใหม่ก็เข้ามาซะแล้ว ชีวิตผมนี่มันอะไรกันเนี่ยยยยยยย ยังไม่ทันจะปรับตัวได้ก็มีเรื่องเพิ่มขึ้นอีกแล้ว



===================================================================
ให้ทายว่าใคร ?
แต่ไม่ใช่สุวรรณมาลีแน่นอน

แฟนเพจของโซอึนจ้า (https://www.facebook.com/ผู้หญิงบ้าวาย-543150342508084/timeline/)


หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 01/12 [CH.22] ปรับตัว
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 01-12-2015 04:10:21
เย้ยยยย ใครอ่ะ?! อดีตเมียของมณีอีกคน? :mew5:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 01/12 [CH.22] ปรับตัว
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 01-12-2015 07:34:01
มาต่อไวๆนะครับผมรออยู่
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 01/12 [CH.22] ปรับตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 01-12-2015 07:34:55
น้องมณียังคงงานเข้าอย่างต่อเนื่อง
ไปทำบุญกันไหมลูก......
อย่าลืมบอกพี่ธาราเรื่องสัญญาล่ะ นี่เรื่องใหญ่นะ :hao4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 01/12 [CH.22] ปรับตัว
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 01-12-2015 10:04:38
มีเรื่องเข้ามาอีกแล้วววว

ว่าแต่เด็กที่ไหนเนี่ยยยย :katai1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 01/12 [CH.22] ปรับตัว
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-12-2015 10:57:19
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 01/12 [CH.22] ปรับตัว
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 01-12-2015 13:12:02
มณีนี่เยอะนะ... เมียเก่าเยอะะะะะะ....
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 01/12 [CH.22] ปรับตัว
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 01-12-2015 18:36:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 01/12 [CH.22] ปรับตัว
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 01-12-2015 19:20:31
เขาเป็นใครไม่รู้ แต่หวังว่าจะมาปราบวาลี  :katai5:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 01/12 [CH.22] ปรับตัว
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 02-12-2015 08:48:23
นางเงือก?
ใครนิ เสน่ห์แแรงขิงๆ เลย
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 01/12 [CH.22] ปรับตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 02-12-2015 17:43:25
คุณวาลียังว่างอยู่นะคะหนุ่มน้อย :hao3:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 01/12 [CH.22] ปรับตัว
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 02-12-2015 19:45:59
32100
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)


ครั้งที่ 22.2 ลวนลาม

   “ใครอะแม่”
ผมหันไปถามแม่อย่างสงสัย เป็นใครก็ไม่รู้ จู่ๆก็เข้ามากอดแล้วบอกว่าไม่ได้เจอกันตั้งนาน แล้วบอกว่าคิดถึงอีก ผมได้แต่มองแขกที่ไม่ได้รับเชิญจากด้านหลังของพี่ธารา

   เรื่องเก่ายังไม่จบเลย เรื่องใหม่ก็เข้ามาซะแล้ว ชีวิตผมนี่มันอะไรกันเนี่ยยยยยยย ยังไม่ทันจะปรับตัวได้ก็มีเรื่องเพิ่มขึ้นอีกแล้ว



   

   “อะไรกัน ก็ไหนพี่เขาบอกว่ารู้จักกับลูกไง ยังไงกันแน่”แม่เท้าสะเอวส่ายหน้าขมวดคิ้วเป็นเชิงตำหนิแล้วเดินหนีเข้าไปในครัว

   จะหาว่าผมความจำเสื่อมจำคนอื่นไม่ได้ว่างั้น แต่มันไม่ใช่เลย ผมไม่เคยรู้จักมักจี่กับเด็กผู้ชายหน้าลกครึ่งเลยด้วยซ้ำแล้วนี่มาได้ยังไง

   “อะไรกัน จำพี่ไม่ได้รึไง”เขายิ้มแล้วเดินเข้ามาหาผมที่หลบอยู่ด้านหลังพี่ธารา

   “จำไม่ได้”ผมส่ายหน้าพรืด

   ใบหน้าหวานขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่ค่อยพอใจแล้วยกมือขึ้นกอดอกจ้องมองผมคล้ายกับกำลังจะโกรธเคือง

   “อะไรกัน ทั้งที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันตั้งหลายครั้งแท้แท้ อีกทั้งยังเคยเห็นพี่แก้ผ้า ทำไมถึงจำกันไม่ได้ล่ะ”เขาว่า

   แล้วผมไปเห็นเขาแก้ผ้าตอนไหนล่ะนั่น มันบ้าบออะไรกันอีกล่ะเนี่ย

   “ผะ ผมไปเห็นพี่โป๊ตอนไหนกัน ไม่จริงสักหน่อย”

   “อย่าบอกนะว่าลืมไปแล้ว ธารา นายดูแลมณียังไงถึงปล่อยให้ลืมฉันไปได้”แล้วไหงหันไปพูดกับพี่ธาราเหมือนรู้จักกันล่ะ


   “เรื่องความซื่อบื้อมันห้ามกันไม่ได้หรอก”

   พี่ธาราตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แล้วทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าถูกเหน็บอยู่ไม่มากก็น้อยนะ

   หรือว่าจะเป็นคนที่รู้จักกับพี่ธารา แต่เขาบอกว่าผมรู้จักเขา แถมเคยเห็นเขาโป๊

   อย่าบอกนะว่า

   คนเดียวที่ผมเคยเห็นว่าโป๊นอกจากพี่ธาราแล้ว ก็มีแค่



   “พี่อเลนนนนนน!!”

   ผมอุทานออกมาเสียงดังพร้อมกับเจ้าตัวที่กอดอกพยักหน้าหงึกๆ

   “จำได้แล้วสินะ”

   “แล้วทำไมพี่ถึงได้ผมสั้นล่ะ เอ่อ ผมหมายถึงเป็นผู้ชาย”ผมมองเขาหัวจรดเท้าอย่างงงงงแล้วเดินออกมาจากทางด้าน
หลังพี่ธารา

   “พอกลับไปพ่อพี่ก็บอกว่าพี่หมดกรรมกับเจ้ากรรมนายเวรแล้วอะไรเนี่ยแหละ ถึงได้แต่งตัวเป็นผู้ชายได้”เขาอธิบาย

   จำได้ว่าเขาเคยบอกว่าตั้งแต่ตอนเกิดมาร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเลยต้องแต่งเป็นผู้หญิงมาตลอด

   “แล้วทำไมพี่ถึงได้อยู่ที่นี่ล่ะ”

   ผมถามยังไม่วายมองสำรวจพี่อเลนหัวจรดเท้าอีกทีด้วยความทึ่ง จากผู้หญิงสวยที่เคยทำให้ผมหลงหัวปักหัวปำ ตอนนี้
กลับกลายเป็นหนุ่มลูกครึ่งหน้าหวานไปซะแล้ว

   “พอดีพี่เห็นโฆษณาที่มันออกอากาศ พอเห็นมณีปุ๊บพี่ก็คิดถึงปั๊บ แล้วก็ว่างๆด้วยเลยตัดสินใจบินกลับมากะว่าจะมาเที่ยว
สักหน่อย ตอนอยู่ที่นี่ไม่เคยได้เที่ยวแถวนี้เลย กะว่าจะให้มณีเป็นไกด์กิติมาศักดิ์ เนอะ”เขายิ้ม

   “อะ เรื่องนั้นมันก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่ว่า”

   ผมหันไปมองพี่ธาราที่กำลังขมวดคิ้วมุ่นเหมือนจะไม่พอใจอะไร อีกทั้งยังจ้องมาทางผมเขม็ง

   “อะไรกัน ธาราไม่ว่าหรอก ใช่ไหม ว่าแต่ทำไมมณีดูแลอ้วนขึ้น หรือว่าพี่จะคิดไปเอง ถ้าเป็นผู้หญิงพี่คงคิดว่ามณีท้องแล้
วนะเนี่ย”พี่อเลนตบไหล่ผมเบาเบา

   แต่มันทำให้ผมเกือบจะสำลักกับข้อสันนิษฐานของเขาเลยทีเดียว

   “เอ่อ จะ จะท้องได้ยังไงล่ะครับ ก็เป็นผู้ชายนี่”ผมกรอกตา

   “ก็นั่นสินะ พี่ก็พูดไปเรื่อย ว่าแต่ทำไมถึงได้ไปอยู่ในโฆษณานั่นได้ล่ะ น่ารักไม่ใช่เล่นเลยเนอะ”

   พี่อเลนชวนคุยไปเรื่อยไม่วายดึงเอาผมไปนั่งที่โซฟาอย่างกับเป็นบ้านตัวเอง

   แล้วไอ้กระเป๋าเดินทางสองใบใหญ่ๆนี่มันอะไร มันเหมือนมีเค้าลางอะไรทะแม่งๆ

   แล้วทำไมถึงได้รู้สึกถึงรังสีทะมึนๆแปลกๆมาจากพี่ธารา หรือว่าผมจะคิดไปเอง

   

   “อ่ะ นี่จ้า น้ำส้ม แม่พึ่งจะคั้นเมื่อตอนบ่ายนี้เอง”แม่ยกน้ำส้มมาให้ให้พี่ธารากับพี่อเลน

   “แล้วของมณีล่ะแม่”

   “พอเลย จะกินอะไรนักหนา พักนี้อ้วนใหญ่แล้ว งดๆซะบ้าง”

   “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่แม่ลำเอียงด้วยเล่า”

   เป็นแบบนี้ตลอด พอมีคนอื่นแม่ก็ชอบลืมลูกตัวเองตลอด

   แล้วเรื่องที่ผมอ้วนขึ้นมันความผิดผมที่ไหน นั่นมันความผิดของพี่ธาราที่เสกลูกยักษ์มาอยู่ในท้องผมต่างหาก

   ว่าแล้วก็รู้สึกหิวของสดๆขึ้นมาอีกแล้ว

   “พูดความจริงมาทำเป็นหน้างอไป ว่าแต่หนูอเลน ที่บอกว่าบ้านที่อยู่แต่ก่อนถูกขายไปแล้วแล้วคืนนี้จะนอนที่ไหนล่ะเนี่ย
ถ้าไม่รังเกียจก็นอนกับมณีก็ได้ ถึงจะแคบแต่ก็ดีกว่าไปเดินหาโรงแรมเอาตอนเย็นป่านนี้”

   “จะดีเหรอครับ”พี่อเลนยิ้มหวานส่งไปให้แม่

   เดี่ยวนะ ที่พูดถึงกันนี่มันคืออะไร ใครจะมาอยู่ที่ไหน บ้านใครถูกขาย ผมไม่เข้าใจ

   “ไม่เป็นไรหรอก คิดซะว่าแม่มีลูกเพิ่มมาอีกคน”

   “เดี๋ยวสิแม่ พูดเรื่องอะไรกัน มณีไม่รู้เรื่อง”

   “เอ้า ลูกคนนี้ เข้าใจอะไรยากตลอด ก็พี่เขาพึ่งจะบินมาจากต่างประเทศ แต่ดันลืมไปว่าบ้านที่อยู่ที่นี่ประกาศขายไปแล้ว
ก็เลยยังไม่ไม่ที่พัก แต่พี่เขาก็ยังมีกะจิตกะใจจะแวะมาทักทายเราก่อน เห็นไหมว่าเขาคิดถึงเราแค่ไหน”


   แม่สาธยาย พอหันไปมองหน้าพี่อเลน ทำไมผมถึงได้คิดว่ามันเป็นแผนที่ถูกวางมาอย่างดีแล้วนะ หรือว่าจะคิดไปเองอีก
แล้ว

   “ยังไงก็รบกวนด้วยนะครับ”พี่อเลนยิ้ม



   “บ้านผม มีห้องว่างเยอะนะครับคุณแม่”

   จู่ๆคนที่นั่งเงียบมาตลอดก็พูดแทรกขึ้นมาทำเอาทุกคนหันไปมองพี่ธาราเป็นตาเดียว

   “หือ จะดีเหรอ จริงสิ หนูอเลนก็รู้จักพ่อธารานี่เนอะ”แม่พยักหน้าพูดเองเออเอง

   แม่ก็ไม่รู้อะไร ว่าเขาเกือบจะไฟว้กันมาก่อนแล้ว ขืนปล่อยไปมีหวัง เละ แล้วอีกอย่าง

   ตอนนี้บ้านพี่ธาราก็มียักษ์สิบหน้าอยู่ด้วยอีกตนหนึ่ง ขืนปล่อยให้พี่อเลนไปมีหวังถูกจับหักคอกินเป็นอาหารว่างแน่

   “ผมว่ามันน่าจะดีกว่า ผมกลัวว่ามันเป็นจะการรบกวนน้องมณี เพราะว่าช่วงนี้น้องมีสอบน่ะครับคุณแม่”พี่ธาราส่งยิ้มบาง

   ว่าแต่ช่วงนี้ผมมีสอบด้วยเหรอ ทำไมไม่เห็นรู้เรื่อง

   “นั่นสินะ แม่ล่ะดีใจจริงๆ คิดว่าหนูอเลนจะไม่มีที่พักซะแล้ว”

   ว่าแต่ว่าทำไมพี่อเลนถึงได้ยิ้มแหยแบบนั้นล่ะ แล้วทำไมผมถึงรู้สึกสึกว่ามันไม่ชอบมาพากลกับออร่าที่แผ่ออกมาจากพี่
ธารา ถึงแม้ใบหน้าหล่อเหลานั้นกำลังยิ้มอยู่ก็เถอะ

   


   แล้วมื้อเย็นก็จบลงไปด้วยดีอย่างมีความสุขตามที่พ่อกับแม่คิด แต่สำหรับผมแล้วมันเปล่าเลย แขกที่ไม่ได้รับเชิญแต่ก็มาทุกวันกลับไม่ค่อยพูดค่อยจา

   ส่วนแขกที่ไม่ได้รับเชิญและไม่คิดว่าจะมาก็กำลังประจบประแจงพ่อกับแม่ยกใหญ่ ดูยังไงมันก็เหมือนวางแผนล่วงหน้ามาแล้วชัดเจน

   แต่คงจะผิดแผนเพราะพี่ธาราที่เสนอตัวอออกมา ไม่ว่าจะด้วยอะไร แต่มันก็อดรู้สึกว่าพี่ธารากำลังหึงอยู่ไม่ได้
   

   ก็แล้วตอนนี้ทำไมผมถึงได้มาอยู่ที่บ้านของพี่ธาราล่ะ ผมควรที่จะต้องนอนพักผ่อนกับอาหารว่างอร่อยๆอยู่บนเตียงของตัวเองไม่ใช่รึไง

   เป็นเพราะพี่ธาราแท้ๆพี่บอกว่าผมจะมาค้างด้วยโดยอ้างเหตุผลว่าติวหนังสือ มันจะมากเกินไปแล้วกับไอ้ความขี้ตู่ของพี่ธาราที่เอาแต่ใจเกินเหตุแบบนี้

   แต่จะปล่อยให้พี่อเลนเข้ามาในรังยักษ์ที่มียักษ์อยู่ด้วยตั้งสองตัวตามลำพังก็ดูจะโหดร้ายเกินไป ถึงได้ยอมตามมาง่ายๆ

   ผมเดินตามพี่ธาราเข้ามาในบ้านพร้อมกับพี่อเลนที่หอบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ตามมาติดๆ

   “กลับมาแล้วเหรอเจ้ายักษ์โลภมากอ่ะ อ้อ วันนี้มีแขกเพิ่มมาสินะ”หมอทศกัณฐ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก

   ผมยังคงสงสัยมาถึงทุกวันนี้ว่าทำไมเขาถึงยังอยู่ที่นี่ แล้วคนไข้ ไม่สิ ไม่ใช่คน จะตัวอะไรก็แล้วแต่ เขาไม่ไปทำหน้าที่
หมอของเขารึยังไง

   “วันนี้มีแขก ยังไงนายก็ช่วยเงียบปากไปด้วยแล้วกัน”พี่ธาราเปลี่ยนสรรพนาม

   “หืม เป็นมนุษย์งั้นเหรอ”

   หมอทศกัณฐ์เดินเข้าใกล้พี่อเลนที่มองมาที่เขาด้วยสายตาไม่ค่อยไว้ใจตามประสาคนไม่เคยรู้จักกัน



   “ฮะ เฮ้ย จะทำอะไร”พี่อเลนปัดมือของหมอทศกัณฐ์ออก

   เป็นผมผมก็ตกใจ จู่ๆหมอยักษ์สิบหน้าก็ดันไปจับหน้าอกของพี่อเลน แถมยังบีบเอาแบบเต็มไม้เต็มมืออีก

   ตกลงยักษ์พวกนี้มันเต็มกันรึเปล่าเนี่ย

   “นึกว่าจะเป็นผู้หญิงซะอีก”หมอทศกัณฐ์ยักไหล่แล้วเดินไปนั่งที่โซฟา ไม่วายหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดไฟ

   “ไอ้บ้าเอ้ย”อเลนบ่นอุบ ยืน ทำท่าทาจะเข้าไปทึ้งหัวคุณหมอให้ได้

   ตอนเป็นผู้หญิงคงไม่เคยโดนแบบนี้ พอมาเป็นผู้ชายแล้วโดนแบบนี้ คงจะโกรธไม้น้อย ถึงได้ยืนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่คุณ
หมอที่นั่งกระดิกเท้าดูดบุหรี่อย่างสบายอารมณ์หลังจากบีบหน้าอกคนอื่นไปแล้ว

   

   ผลั๊วะ!!!

   กระเป๋าสัมภาระของผมที่พี่ธาราเป็นคนถือให้ถูกโยนไปตกลงบนหัวของหมอยักษ์โรคจิตอย่างไม่ออมแรงด้วยน้ำมือของ
ยักษ์อีกตัว

   “ทำบ้าอะไรของนายวะ”คุณหมอหันมาบ่นใส่

   “นายกำลังทำร้ายลูกของฉันอยู่ โง่จริง ไปสูบข้างนอกไป”พี่ธาราไล่ด้วยถ้อยคำเจ็บแสบ

   ดูเหมือนคู่นี้เขาจะเป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่เป็นเด็กสินะ ตามที่คุณอาวสินเคยบอก

   “หึ ทำเป็นกลัวไปได้ แค่บุหรี่มันทำอะไรไม่ได้หรอกน่า ฮึ่ย น่าโมโห!!”

   พูดจบคุณหมอก็ดับบุหรี่ลงกับซองบุรี่ แต่ไอ้คำว่าน่าโมโหนี่ ถ้าผมมองไม่ผิด เขาจงใจที่จะหันไปทางพี่อเลน หรือว่าผมจะ
คิดไปเองอีกแล้วนะ




   หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างแยกย้าย แล้วถ้าจำไม่ผิด คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง

   อีกแล้ว แล้วไม่เข้าใจว่าในคืนที่ความหื่นของเขาจะทำงานทำไมเขาต้องเอาผมมาอยู่ด้วยเนี่ย

   “เอ่อ พี่ ไม่ทำอะไรผมนะ”ผมเกาหัวแกรกๆหลังจากที่อาบน้ำเสร็จไปสักพัก

   เริ่มไม่มั่นใจว่าอาจจะมีแฝดคนที่สามตามมารึเปล่า

   “วางใจได้ ตราบใจที่แสงจันทร์ไม่ได้ส่องผ่านม่านนั้นมาข้าก็จะไม่เป็นอะไร”

   “งั้นเหรอ ผมนึกว่าพี่จะ เอ่อ”ผมหยุดพูดเมื่อพี่ธาราทิ้งตัวลงมานั่งบนขอบเตียงจนชิดกับผม

   “ลูกๆข้าเป็นอย่างไรบ้าง”



   จู่ๆพี่ธาราก็ถามเสียงเบาพร้อมกับดึงเสื้อนอนของผมเปิดขึ้นมา ท้องที่นูนออกมาเล็กๆถูกมือใหญ่ลูบลงอย่างเบามือพร้อมกับริมฝีปากหยักประทับจูบลงไป

   หัวใจผมเต้นระรัวกระหน่ำราวกับกลองชุดที่กำลังถูกตีอย่างแรง

   ความรู้สึกดีมันเอ่อขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

   

   “ดะ เดี๋ยวสิ ผมไม่อยากให้ทำแบบนั้น อะ อื้อ”ยังไม่ทันจะห้ามได้จบ

   พี่ธาราก็เงยหน้าขึ้นมาจูบปิดปากผมไม่ให้พูดต่อ

   ปลายลิ้นร้อนแทรกเข้ามาภายในโพลงปากพร้อมกับอ้อมกอดที่ผลักดันผมให้นอนราบลงไปบนผืนเตียง

   “อะ อื้อ”ผมพยายามทักท้วง

   ไหนบอกว่าไม่ทำอะไร แล้วตอนนี้ผมก็ท้องอยู่

   มือของผมถูกดึงให้ไปจับส่วนที่ร้อนราวกับเล็กนาบไป มันกำลังแข็งขืนอย่างน่ากลัว

   รสจูบที่ร้อนผ่าวทำเอาสมองผมมันเบลอไปหมด พี่ราไม่พูดอะไรนอกจากความรุนแรงที่มีมากกว่าปกติเล็กน้อย

   แต่ทำไมกัน ผมถึงได้รู้สึกว่าพี่ธาราแปลกไป เหมือนกับจะถูกบังคับด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจ

   แต่ก็ไม่ได้มีแววตาสีเขียวที่แสดงออกถึงความโกรธ ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าเขากำลังเคืองอะไรผมอยู่

   “เจ้าเป็นเมียของข้า เรื่องของเจ้าคือเรื่องของข้า ข้าควรรู้ทุกอย่าง”

   เขากระซิบด้วยน้ำเสียงพร่าข้างหูของผม ผมไม่เข้าใจว่าเข้ามีความหมายอะไรแอบแฝงหรือไม่

   หากแต่ความแตกต่างจากทุกๆทีทำให้ผมเริ่มคิดว่ามันต้องมีอะไรแน่นอน



===================================================================

===================================================================


เรื่องนี้มันเริ่มจะรั่วตั้งเเต่ดันไปดึงเอาทศกัณฐ์เข้ามาแระ หลายคนอาจจะผิดหวังที่ละเวงไม่ได้กลับมาเพื่อจะคู่กับวาลี
ยังไงก็ขออภัยล่วงหน้าเน้อออออ แต่ยังรักคนอ่านเหมือนเดิมมมมมมม ไม่เปลี่ยนแปลงจ้า
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 02/12 [CH.22.2] ลวนลาม (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 02-12-2015 21:05:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 02/12 [CH.22.2] ลวนลาม (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 02-12-2015 21:10:41
ธาราขี้หึงจังเลย

ว่าแต่คุณหมอแอบสนใจอเลนอยู่ใช่ม้าาาาา. คึๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 02/12 [CH.22.2] ลวนลาม (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 02-12-2015 22:06:10
ละเวงจะมาเสร็จทศกัณฑ์แทนละหรือ  :hao7:

เห็นคำผิดอยู่ประปรายค่ะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 02/12 [CH.22.2] ลวนลาม (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 02-12-2015 22:29:59
เอ้าาาา บอกเรื่องโฆษณายังไอ้บื้อออ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 02/12 [CH.22.2] ลวนลาม (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 02-12-2015 22:43:37
ละเวงคู่กับทศกัณฑ์ก็น่าสนุกนะ อิอิ :mew1:

ว่าแต่ พี่สุวรรณกับเงือกเป็นไงบ้างเนี่ยยย อยากรู้ววววว :hao3:

มณียังไม่ได้บอกเรื่องถ่ายโฆษณากับธารานี่เนอะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 02/12 [CH.22.2] ลวนลาม (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: mimasopu ที่ 02-12-2015 22:50:09
งั้นก็เอาละเวงมาให้ทศกัณฑ์แล้วกัน
พ่อยักษ์มีตั้ง10หน้า20มือคุ้มจะตายยย 555 :hao6:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 02/12 [CH.22.2] ลวนลาม (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 02-12-2015 22:58:19
พี่ธารารู้ทุกอย่าง แต่รอน้องมณีพูดน่ะสิ ความจำปลาทองจริงลูก แซลมอนไม่ได้ช่วยอะไรเลย
อีกอย่าง..........ถึงทำตอนนี้ก็ปั๊มแฝดอีกคนยัดเข้าไปไม่ได้หรอกมณี๊!!!!!!
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 02/12 [CH.22.2] ลวนลาม (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 02-12-2015 23:06:00
หรือคุณวาลีจะตัดหน้าบอกความจริงให้พี่ธารารู้ก่อนน้องมณีไปเสียแล้วล่ะคะเนี่ย 
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 03/12 [CH.23] ลักหลับ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 03-12-2015 04:57:26
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)


ครั้งที่ 23 ลักหลับ


   บรรยากาศยามค่ำคืนที่หนาวเย็น แสงจันทร์สีเหลืองนวลสาดส่องไปทั่วบริเวณ

   หากแต่มันไม่สามารถเล็ดรอดเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ที่ไม่ได้มีแค่คนอาศัยอยู่

   ประตูห้องนอนรับรองแขกถูกเปิดออกอย่างเบามือ บนเตียงหนานุ่มปรากฏร่างโปร่งบางใบหน้าสะอาดกำลังหลับสู่ห้วงนิทราอย่างมีความสุข

   ใบหน้าสวยหวานกำลังยิ้มให้กับฝันที่ร่างเจ้าใหญ่โตของเงาดำทะมึนผู้บุกรุกไม่อาจจะหยั่งรู้ได้

   ห้องนี้เป็นห้องเดียวภายในบ้านหลังใหญ่ที่มีแสงจันทร์เล็กลอดผ่านมาทางระเบียงที่ถูกเปิดม่านทิ้งเอาไว้

   ดูเหมือนว่าแขกที่เข้ามาใช้ห้องนี้จะไม่ได้ล่วงรู้เลยสักนิดว่าแสงจันทร์คืนเพ็ญจะเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับคนในบ้านหลังนี้

   

   เจ้าของใบหน้าที่กำลังแสดงออกถึงความสุขค่อยๆขมวดคิ้วมุ่นด้วยความอึดอัด

   จู่ๆความรู้สึกเบาสบายมันก็แปลเปลี่ยนราวกับถูกพันธนาการและทาบทับเอาไว้ด้วยสิ่งที่มองไม่เห็น

   ดวงตาคมซึ้งหรี่ปรือขึ้นมาอย่างหนักอึ้ง ใบหน้าหวานมุ่ยหน้าลงเมื่อสิ่งที่เห็นมันช่างลางเลือนในแสงจันทร์สลัว

   ฉับพลันสิ่งที่เห็นนั้นค่อยๆก่อรูปร่างชัดเจนยิ่งขึ้น เงาดำทะมึนกำลังกดทับอยู่เหนือร่างกาย

   ภาพค่อยๆชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อใบหน้าของร่างเงาดำคือใบหน้าของคนที่เขาพึ่งจะเจอหน้ากันไม่นาน

   หากแต่ดวงตาที่อยู่ภายใต้เงาจันทร์นั้นกลับเป็นสีเหลืองอำพันน่าหวาดกลัว ทั้งที่มันเหลืองสกาวราวกับอัญมณี แต่ทว่ามัน
กลับไม่ใช่สีตาของบุคคลทั่วไป

   “อะ อื้อ”

   พอจะเปิดปากร้องเรียกให้คนช่วยเรียวปากบางฉ่ำก็ถูกประกบปิดย่างจาบจ้วง

   ดวงตาคมซึ้งเบิกกว้างพยายามดันร่างกายใหญ่โตนั้นออก แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อร่างนั้นแข็งแรงกว่าเขามากเกินจะต่อต้าน

   ผ้าห่มที่คิดว่าคลุมกายเอาไว้ได้หายไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่อาจจะรู้ได้ รู้เพียงแค่ความเย็นชืดจากร่ากายที่ทาบทับมันแผ่เข้า
มาจนขนทั่วร่างนั้นลุกชัน

   “ปะ ปล่อ อื้อ”

   ยิ่งพยายามบ่ายเบี่ยงก็ยิ่งถูกมือที่แข็งราวกับหินมานั้นบีบบังคับให้ตอบรับจูบที่แข็งกร้าว

   ดวงตาดุดันสีเหลืองอำพันนั้นกำลังจ้องมองมาที่เขาราวกับกำลังโกรธเกรี้ยวอะไรบางอย่าง

   มือทั้งสองถูกรวบเอาไว้ด้วยมือใหญ่เพียงข้างเดียว

   ลิ้นแฉะชื้นซอกซอนเข้ามาภายในโพลงปากอย่างหยาบโลน

   มือใหญ่ที่ทั้งเย็นชืดกำลังสอดเข้ามาภายใต้เสื้อผ้าทำให้ยิ่งต้องดิ้นรนเพื่อหนีสัมผัสที่ไม่เต็มใจตอบรับ

   ความรู้สึกผิดมันก่อขึ้นมาชั่ววูบเมื่อคิดได้ว่าเคยทำในสิ่งที่คลับคล้ายคลับคลาแบบนี้กับใครบางคนมาก่อน

   ปลายยอดเต่งตึงทั้งสองถูกหยอกเย้าด้วยน้ำหนักมือที่ไม่ผ่อนปรนทำให้สะดุ้งเฮือกครางอือในลำคออย่างตกใจ

   เพราะอะไรกัน มันเกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้เขายังไม่เข้าใจ



   จูบรสหวานที่เป็นไปอย่างเร่าร้อนกำลังถูกปรนเปรอครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยฝีมือยักษ์หนุ่มผู้มากรัก

   ใบหน้าหวานราวอัปสรดึงให้เขาฉุกคิดถึงนางผู้ที่เคยหลงรักอย่างสุดหัวใจ

   ผมดำราวกับสีขนของอีกานั้นฉุดดึงให้เขาต้อมองตามอย่างลุ่มหลง เหมือนกันราวกับรูปปั้นที่ถูกแกะออกมาจากพิมพ์
เดียวกัน

   หากแต่มนุษย์คนนี้นั้นเป็นชาย แต่ยักษ์หนุ่มก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมใบหน้าของมนุษย์ที่ตนเคยหลงรักนั้นช่างเหมือน
ใบหน้าของมนุษย์คนนี้นัก

   มันทำให้เขารู้สึกราวกับอยู่ในความฝันเมื่อครั้งแรกเห็น

   มันยากที่จะห้ามใจไม่ให้แตะต้องเจ้าของใบหน้าที่เหมือนกับหญิงคนที่ตนเคยรักได้

   แสงจันทร์ที่สาดส่องเป็นตัวกระตุ้นสัญชาติญาณดิบเถื่อนชั้นดี มันทำให้จิตใต้สำนึกที่อยากจะห้ามในนั้นขาดสะบั้นลง

   เสื้อนอนตัวบางถูกกระชากออกอย่างไม่มีชิ้นดี

   แต่พลันแสงสีเหลืองสว่างก็สาดส่องเมื่อสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านั้นเป็นจี้ที่ทำจากบุษราคัมห้อยกับสร้อยคอเส้นเล็ก

   ริมฝีปากของยักษ์หนุ่มผละออกมาด้วยความตกใจแล้วผงะถอยออกมาเล็กน้อย

   “ทะ ทำบ้าอะไร”

   เจ้าของร่างที่ถูกคุกคามลุกขึ้นถอยหลังไปชิดหัวเตียงอย่างหวาดระแวงพลางกุมเม็ดบุษราคัมสีเหลืองอำพันเอาไว้

   “ไปได้นั่นมาจากไหน”

   ยักษ์หนุ่มถามเสียงร้าวทำท่าทางจะเข้าไปฉุดร่างที่ตั้งใจจะล่วงเกินมาไว้ใต้ร่าง

   “อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นจะเรียกคนอื่นแน่”อเลนส่ายเชิดหน้าขู่ยักษ์ตัวใหญ่

   “คิดว่ากล้าก็ลองสิ บอกมาว่าได้สร้อยนั่นมาจากไหน”

   “เรื่องอะไรต้องบอก ออกไปเดี๋ยวนี้”เจ้าของร่างโปร่งบางรวบรวมความกล้าไล่ผู้บุกรุกออกไป

   “บอกมาว่าได้มันมาจากไหน”

   “ก็บอกว่าอย่างเข้ามาไง”

   พอไม่ตอบคำถามยักษ์ตัวดีเจ้าของตาสีเหลืองอำพันก็กระโจนเข้าไปใกล้ร่างที่คุดคู้กับหัวเตียง

   เป็นอีกครั้งที่แสงสีเหลืองสว่างเปล่งออกมาจากจี้บุษราคัมยามที่ผู้ใส่หวาดกลัวคนตรงหน้าทำให้ยักษ์ผู้บุกรุกถอยออกไป
ยืนคุมเชิงอยู่ปลายเตียง

   ตอนนี้เจ้าของร่างโปร่งบางทั้งสั้นทั้งกลัวเจ้าของตาสีเหลืองสว่าง ดวงตาสีแปลกไปจากคนทั่วไปทำให้ไม่อยากจะคิดไป
ไกลเลยว่าคนคนนี้ไม่ใช่คนแบบปกติทั่วไป

   “บอกมาว่าได้สร้อยนั่นมาจากไหน…แล้วจะไป”ทศกัณฐ์ถามเสียงแข็งจ้องมองร่างเปลือยอกเขม็งอย่างไม่พอใจ

   “ถ้าบอกแล้วจะออกไปจริงใช่ไหม”อเลนถามย้ำอย่างไม่ค่อยวางใจ สร้อยที่พ่อเคยให้ไว้บังคับติดตัวตลอดไขข้อสงสัยได้
ดีว่าทำไมต้องบังคับให้ใส่ตลอดเวลา

   “ถ้านายไม่โกหกฉันล่ะก็ ฉันจะยอมออกไปไป”เขาตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง


   “พ่อฉันเป็นคนให้มา พอใจยัง ถ้ารู้แล้วก็ออกไปได้แล้ว”



   “หึ…อย่าหวังว่าจะรอด”

   พูดจบผู้บุกรุกยามวิกาลก็เดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวที่ยากจะคาดเดาว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร

===================================================================



ขุ่นหมอออกตัวแร๊งงง สั้นไปนิสสส

หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 03/12 [CH.23] ลักหลับ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 03-12-2015 06:18:25
อเลนมีคู่แล้ววววว


ดีงามมาก แล้วสร้อยนั่นคืออะไรหรอคะ??
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 03/12 [CH.23] ลักหลับ
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 03-12-2015 08:02:22
คุณหมอโมโหกลบเกลื่อนความผิดนี่นา เนียนเชียวนะคะ :m20:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 03/12 [CH.23] ลักหลับ
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 03-12-2015 08:35:38
เข้ามาลักหลับถึงที่เลยนะคุณหมออออ :hao3:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 03/12 [CH.23] ลักหลับ
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-12-2015 14:11:14
 :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 03/12 [CH.23] ลักหลับ
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 03-12-2015 17:19:35
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 03/12 [CH.23] ลักหลับ
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 03-12-2015 18:03:09
สร้อยนั่นคืออะไร เกี่ยวข้องยังไงกับทศกัณฑ์ // วิญญาณโคนันเข้าสิงอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 03/12 [CH.23] ลักหลับ
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 03-12-2015 19:40:01
แม้คุณหมอเล่นอย่างงี้เลยเหรอ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 03/12 [CH.23] ลักหลับ
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 03-12-2015 21:37:43
นึกว่าหมอ กับ ท่านอาเสียอีก >///<
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 03/12 [CH.23] ลักหลับ
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 03-12-2015 21:47:29
ห่ะะะะะะะะะะ เรื่องพี่อเลนนี้มีเงื่อนงำ
รอตอนต่อไปปปป อร๊ายยยย
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 03/12 [CH.23] ลักหลับ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 03-12-2015 23:37:52
 :mew5:คิดว่าเรื่องนี้มันเริ่มออกทะเลไปไกลลลล
ดึงกลับมาไม่ทันแล้ววว55
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 03/12 [CH.23] ลักหลับ
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 04-12-2015 05:19:42
คุณหมอมันร้าย
ว่าแต่ีเงี่ยนงำอะไรกันรึเปล่า
ถึงได้จู่โจมซะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 03/12 [CH.23] ลักหลับ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 04-12-2015 16:19:17
23.2 ความเดิม


   “ยายครับ ทำไมเราต้องมาที่นี่ด้วยล่ะครับ”เด็กชายผิวซีดในชุดเสื้อผ้าแขนขายาวปิดมิดชิดกับหมวกไหมพรมที่สวมคลุมศีรษะเอาไว้เงยหน้าถามผู้เป็นยายที่อยู่ในชุดสุภาพดูมีฐานะ

   “ยาวคิดถึงบรรยากาศเก่าๆน่ะ แล้วที่สำคัญหลานเองก็บังไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกใช่ไหมล่ะ”

   “อื้ม พ่อกับแม่บอกว่าไม่ให้ออกไปไหน”เด็กชายตอบ

   ตั้งแต่จำความได้ก็นับครั้งได้เลยที่จะได้มีโอกาสออกมาภายนอกบ้าน เพราะว่าตัวของเด็กชายนั้นเป็นโรคโลหิตที่ยังไม่มีวิธีการรักษาที่ระบุแน่ชัด

   ผมที่น่าจะขึ้นดกดำก็กลับร่วงโลนจนเหลือแต่หนังศีรษะที่ขาวซีดต้องใส่หมวกไหมพรมปิดไว้ตลอด

   พ่อแม่ที่เป็นนักเภสัชก็เอาแต่หมกมุ่นกับการคิดค้นยารักษาเพื่อให้ลูกชายรอดพ้นจากการทรมานจากโลกร้ายนี่สักที



   เก้าอี้ด้านหน้าถูกจองเอาไว้ด้วยผู้มีศักดิ์เป็นยายเอาไว้ก่อนหน้า เวทีที่ตกแต่งไปด้วยผ้าที่เป็นฉากคล้ายกับท้องพระโรงใน
หนังจักรๆวงศ์ๆปรากฏแก่สายตาทำให้เด็กชายตื่นเต้น

   เรียกระนาดทุ้มหูเสียงกลองก้องกังวานเสียงฉิ่งดังแว่วแหลมสูงคล้ายกับปลุกใจดวงเล็กที่เต้นอย่างเอื่อยเฉื่อยให้มีชีวิต
ชีวา

   “อันนี้เขาเรียกว่าอะไรครับยาย”เด็กชายวัยสิบสามหันไปถาม

   “อันนี้เขาเรียกว่าลิเกจ๊ะ หลานคงไม่เคยดู สมัยก่อนยายชอบมาดูประจำทุกๆปี แต่ตั้งแต่มีหลานก็ไม่ได้มาดูเลย ปีนี้เห็นที
เลยพาหลานมาดูด้วย หลานน่าจะชอบ”

   “อื้ม”เด็กชายพยักหน้า

   เสียงร้องบทกลอนออกแขกเริ่มต้นขึ้นเรียกให้เด็กชายฟังอย่างตั้งใจกับบทกลอนแปลกที่ไม่เคยได้ยิน

   

   การแสดงต่างบทบาทเริ่มดำเนินไปเรื่อยๆโดยที่เด็กชายนั้นยังไม่ละสายตาจากเวที

   แล้วตัวตลกที่เรียกว่าตัวโจ๊กฝ่ายพระเอกก็โผล่มาตามแบบฉบับของเนื้อเรื่องลิเก

   แต่ตัวตลกครั้งนี้กลับเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กรูปร่างจ้ำม่ำผิวขาวดูน่ากอด

   เสียงร้องที่ยังไม่ประสีประสากับรอยยิ้มและท่าทีที่เรียกเสียงตลกให้บรรดาคนดูที่แน่นขนัดทำให้หัวใจที่เต้นอย่างเชื่องช้า
เต้นแรงราวกับผืนกลองที่ถูกกระหน่ำตีอย่างไม่เคยเป็น

   มือเล็กยกขึ้นกุมหน้าอกอย่างแปลกใจ ทำไมเขาถึงต้องใจเต้นแรงเวลาที่เด็กคนนั้นยิ้มแล้วหัวเราะด้วย

   “เป็นอะไรรึเปล่า เจ็บหัวใจเหรอ”คนเป็นยายหันมาถามด้วยความห่วงใยเกรงว่าอาการของหลานจะกำเริบ

   “เปล่าครับ ไม่เป็นอะไร”เด็กชายส่ายหน้า



   “เดี๋ยวหลานนั่งรออยู่ในรถก่อนนะ ยายจะไปทักทายเจ้าของคณะสักหน่อย ยายถูกใจเจ้าตัวเล็กที่เล่นเป็นตัวตลกจังเลย
หลานชอบไหม”

   หญิงสูงวัยถามหลานชายหลังจากดูลิเกเสร็จก็พาหลานชายมานั่งรอในรถ

   “ชอบครับ”

   “เดี๋ยวยายมานะ อย่าออกไปไหนล่ะ”

   “อื้อ”เด็กชายรับปาก

   ด้านนอกหน้าโรงลิเก เด็กชายทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างรถคันหรูมองเห็นร้านขายขนมแปลกตากับของเล่นที่
ไม่เคยเห็น

   ใจหนึ่งก็อยากจะทำเป็นไม่สนใจ แต่อีกใจก็คิดว่าคงจะไม่มีโอกาสมาอีกแล้ว จึงตัดสินใจเปิดประตูรถแล้วเดินลงไป

   

   เด็กชายไปหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายขนมเบื้อง พ่อค้าละเลงแป้งเป็นแผ่นลงบนกระทะแล้วเอาน้ำตาลที่ตีจนฟูป้ายลงไปตาม
ด้วยฝอยทอง กลิ่นหวานกระทบเข้ามาในจมูกพาลให้น้ำลายสอ

   น้ำย่อยที่อยู่ในกระเพาะเริ่มทำงานส่งเสียงร้องขึ้นมาทันที เด็กชายกุมท้องด้วยความหิวและอยากลองกินขนมที่มันกลิ่น
หอมหวานดูบ้าง

   แต่ติดที่ว่าไม่มีเงินมาเลย ถึงจะขอผู้เป็นยายให้ซื้อให้ก็คงไม่ได้กินแน่ เพราะอาหารแต่ละอย่างจะต้องแน่ใจว่าไม่เป็น
อันตรายต่อร่างกาย ทำให้จะกินอะไรมั่วซั่วไม่ได้



   “นี่นี่ หิวเหรอ อยากกินใช่ไหมล่า”ชายเสื้อแขนยาวถูกกระตุกจากทางด้านข้างให้หันไปมองเด็กชายตัวเตี้ยป้อมที่ได้เห็น
บนเวที

   ท่าทางซกซนกับรอยยิ้มบนใบหน้าทำให้ใจนั้นพาลเต้นแรงอีกรอบ ชุดที่ปักเพชรลายเลื่อมนั้นดูสะดุดตา แต่ก็ไม่เท่ากับ
รอยยิ้มที่ดูจริงใจที่ส่งมาให้

   “ว่าไง อยากกินอ่าดิ”เด็กชายในชุดลิเกถามหน้าทะเล้น

   “อืม”เด็กชายพยักหน้า

   “แล้วไม่มีตังเหรอ”ตากลมโตมองมาด้วยท่าทางสงสัย

   “ไม่มี”เด็กชายส่ายหน้า

   “กะแล้ว อ่ะนี่ เดี๋ยวเลี้ยงเอง อันนี้อร่อยมากเลยนะแล้วจะติดใจที่ซู๊ด”เจ้าของร่างจ้ำม่ำตัวกะเปี๊ยกทำท่าทางอร่อยทั้งที่ยัง
ไม่ทันจะกิน

   ว่าแล้วก็จัดการดึงเอาเงินที่ติดพวงมาลัยที่แม่ยกคล้องให้ดึงออกมา

   “ลุงๆ เอาที่ใส่เส้นเหลืองๆให้ยี่สิบหน่อยจ๊ะ”เจ้าตัวเล็กเขย่งตัวตะโกนสั่ง กลัวว่าพ่อค้าจะไม่เห็นหัวที่ยังไม่โพล่เลยออกมา
จากโต๊ะ

   

   “กินอีกแล้วเหรอ เมื่อก่อนหน้าก็กินไป”พ่อค้าบ่นด้วยความเอ็นดู

   “เปล่าจ๊ะ มณีซื้อเลี้ยงพี่คนนี้”ว่าแล้วก็ชี้ไปที่เด็กชายใส่ชุดมิดชิดที่อยู่ด้านข้าง

   “แล้วไป ถ้าอิ่มแล้วไม่กินข้าวกินปลาเดี๋ยวตาสุทัตจะมาว่ากับลุงเอา”

   



   “อ่ะนี่ กินดู อร่อย”ถึงจะบอกอย่างนั้นแต่ตัวเองก็หยิบขนมในถุงกระดาษหนังสือพิมพ์พับเป็นซองขึ้นมากินก่อนคนที่ถูก
ชวนเสียอีก

   เด็กชายลิงหยิบขนมที่ดูท่าทางจะหวานลิ้นขึ้นมาชิม แป้งกรอบหอม กับครีมนุ่มฟูละมุนลิ้นกับฝอยทองรสหวานทำเอา
ใบหน้าเรียบนิ่งผุดยิ้มออกมาเล็กๆอย่างชอบใจ

   “ชอบไหมอร่อยล่ะซี้”เจ้าตัวเล็กหันมาถามส่งยิ้มทะเล้น

   ทั้งสองพากันมานั่งกินที่ม้านั่งไกลจากหน้าเวที กลายเป็นว่าคนที่บอกว่าเลี้ยงกินเยอะกว่าคนที่ถูกเลี้ยงไปซะแล้ว

   “ขอบใจนะ”เด็กชายบอกเสียงเบา

   “อื้อ ไปดูของเล่นกัน มีรถลายใหม่มาด้วย ไปกัน ไปกัน”ว่าแล้วเจ้าตัวเล็กสูงแค่ครึ่งตัวเด็กชายก็จูงมือเด็กชายไปไม่บอก
ไม่กล่าวทำให้ต้องจำใจเดินตาม

   จะว่าจำใจก็ไม่ถูก ต้องบอกว่าเต็มใจต่างหาก


   ร้านขายของเล่น รถไขลานกำลังถูกสาธิตโดยคนขายให้เด็กคนอื่นดู เจ้าตัวเล็กมองตาโตอย่างตื่นเต้นไม่รีรอดึงเอาแบงค์แดงๆออกมาจากพวงมาลัยแล้วยื่นให้คนขาย

   “ลุงๆ เอาอันแบบนั้นสองอันเลย”

   “เอาไปทำไมสองอัน เดี๋ยวแม่ก็ตีเอาหรอก”คนขายเตือน

   “ไม่ตีหรอกจ๊ะ เก็บไว้อันเดียว อีกอันให้พี่คนนี้”ว่าแล้วก็ชี้ไปที่เด็กชายที่ยืนข้างๆ

   “งั้นก็แล้วไป”คนขายยื่นรถไขลานให้สองคันแล้วทอนเงินให้



   “เอ้านี่ ให้ เก็บไว้ดีดีนะ รุ่นนี้ออกใหม่เลย”เจ้าตัวเล็กยิ้มเผล่

   “ขอบใจนะ”เด็กชายบอก

   ตลอดมาทั้งชีวิตไม่เคยมีเพื่อนหรือใครเข้ามาคุยด้วยแบบนี้เลย เพราะว่าศีรษะที่ไร้เส้นผมแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆเลยไม่มี
ใครกล้าเข้ามาใกล้เพราะเห็นว่าแปลก

   มีก็แต่เด็กคนนี้ที่เข้ามาใกล้ หนำซ้ำยังทำเรื่องที่คิดว่าแปลกกับเขาอีก หัวใจดวงเล็กกระหน่ำรัวอย่างบอกไม่ถูก

   รู้สึกว่าความสุขมันเอ่อล้นขึ้นมาในจิตใจ

   “นี่นี่ เดี๋ยวต้องไปก่อนนะ ถ้ากลับช้าพ่อจะตี”เจ้าตัวเล็กสะกิด

   “อื้ม”

   “ไปแล้วนะ”เจ้าตัวเล็กโบกมือ

   “เดี๋ยวสิ”

   “อะไรเหรอ”

   “บอกชื่อหน่อยได้ไหม ชื่ออะไร”

   “ชื่อมณี มณีสุดหล่อ ไปแล้วๆ พ่อจะตีเอา”ว่าแล้วก็วิ่งหายเข้าไปหลังเวทีทิ้งให้เด็กชายจ้องมองรถสังกะสีไขลานคันเล็ก
ในมือ



===================================================================

ใครทันขนมเบื้องรุ่นถุงกระดาษที่พับมาจากหนังสือพิมพ์บ้าง ว่าแล้วก็คิดถึง หื้มมมมมม ดักแก่

เรียกละเวงไปปรับทัศนะคติด่วน เดินเรื่องช้าเนอะ เก็บรายละเอียดมากไป๊ 555 พยายามเดินเรื่องเร็วที่สุดแระ ได้แค่นี้ หุหุ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 04/12 [CH.23.2] ความเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 04-12-2015 16:24:31
หื้มมมมม

ตกลงนี่บ่ใช่อดีตเมีย(?)

แต่เป็นคนที่เจอกันตอนเด็กๆหรือคะ งั้นก็เจอก่อนพี่ธาราในชาตินี้ซะอีก~

มณีเนื้อหอมแฮะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 04/12 [CH.23.2] ความเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 04-12-2015 17:02:31
หว่านเสน่ห์ไว้ตอนเด็ก หุหุ  :ruready
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 04/12 [CH.23.2] ความเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 04-12-2015 17:21:25
ถุงหนังสือพิมพ์ ห่อกระท้อน ห่อมะม่วง ห่อกล้วยแขก สารพัด.... อุ๊ปส์!
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 04/12 [CH.23.2] ความเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 04-12-2015 17:54:38
แล้วเด็กที่มากับยายคือใคร  :m28:

มีแต่ คำถาม และก็คำถาม  :katai5:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 04/12 [CH.23.2] ความเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 04-12-2015 18:00:24
เสน่ห์แรงจริงๆ เลยค่ะน้องมณี
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 04/12 [CH.23.2] ความเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 04-12-2015 19:09:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 04/12 [CH.23.2] ความเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-12-2015 19:43:30
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 04/12 [CH.23.2] ความเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 04-12-2015 20:18:30
อดีตใครอ่ะ พี่อเลนป่าววว

มีคนหลงแต่เด็กเลยนะมณี :hao3:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 04/12 [CH.23.2] ความเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 04-12-2015 21:26:00
เสร่ห์แรงแต่เด็กเลยนะน้องมณี ตัวอ้วนจ้ำม่ำ ต้องน่ารักแน่ๆๆ
ใครกันหนออออ มาเจอมณีในชาตินี้ก่อนพี่ธารารึเปล่า
รอตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 04/12 [CH.23.2] ความเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 04-12-2015 22:05:09
มีปริศนาเพิ่มขึ้นมาอีกอัน มณีนี่เนืัอหอมตั้งแต่เด็กเลยนะ :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 04/12 [CH.23.2] ความเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 05-12-2015 03:58:00
ให้ทายน่าจะเป็นอดีตขงละเวงกับมณี
มณีตอนเด็กมีบอกว่าตัวเองหล่อด้วย
หลงตัวเองตั้งแต่เด็ก
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 06/12 [CH.23.3] แผนร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 06-12-2015 06:03:18
23.3 แผนร้าย


สองวันถัดมา ถึงกำหนดวันที่ผมจะต้องไปถ่ายโปรไฟล์ให้กับคุณวาลีและเป็นโชคดีอีกครั้งที่พี่ธาราเองก็มีธุระที่จะต้องไปทำกับเพื่อนๆเกี่ยวกับโปรเจ็กของปีสอองอะไรสักอย่าง

   มันจะเป็นการดีถ้าหากว่าการถ่ายโปรไฟล์ททำประวัติที่คุณวาลีว่า โลเคชั่นมันจะไม่ใช่บ้านพักริมทะเลสุดหรู

    ซึ่งผมคิดว่าจะถ่ายกันที่สตูดิโอหรือที่ไหนซะอีก และโชคร้ายอีกอย่างสำหรับผมก็คือ พ่อมีนัดไปคุยเรื่องว่าจ้างงานกับผู้ว่าจ้างคนอื่นที่นัดเอาไว้ จึงทำได้แค่เอผมมาทิ้งไว้ที่บ้านของคุณวาลี ทักทายเจ้าของบ้านพอเป็นพิธีแล้วก็ปล่อยเกาะผมเอาไว้

   ผมนั่งก้มหน้ามองพื้นหินอ่อนเงาวับแล้วกุมมือในขณะที่คุณวาลียิ้มมุมปากเดินหายเข้าไปในครัวสักพักใหญ่

   ผมชักเริ่มรู้สึกประหม่าที่จะต้องอยู่กับเขาสองต่อสองอีกครั้งแล้วสิ นึกถงตอนที่ไปบ้านพี่อเลน

   ตอนที่อยู่ด้วยกันสองต่อสองแล้วกินน้ำส้มเข้าไป พอรู้ตัวอีกทีก็ดันไปอยู่บนเตียงแล้วก็เกือบจะโดนพี่อเลนทำสกอล์ ดีที่พี่ธารามาช่วยเอาไว้

   ก็ได้แต่หวังว่าเหตุการณ์มันจะไม่ซ้ำรอย คงทำได้แค่ระวังตัวเอาไว้เป็นดีที่สุด

   ผมถอนหายใจแล้วมองไปรอบรอบอย่างสำรวจ ครั้งที่แล้วที่มายังไม่ทันได้มองอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเพราะมัวแต่ห่วงพี่ธารา

   ด้านหน้ามีตู้โชว์ที่มีโมเดลรถหลายแบบเต็มไปหมดทั้งแบบเก่าแบบใหม่หลายยุคสมัย

   ทำให้นึกถึงตอนเด็กๆที่ชอบแอบเอาเงินติดพวงมาลัยไปแอบซ้อแล้วโดนพ่อดุเอา

   ผมเดินไปที่ตู้โชว์ด้วยความลืมตัวเพราะคิดว่ามันน่าสนใจ แต่ก็ไปสะดุดกับรถไขลานของเล่นที่ทำจากสังกะสีสมัยเก่า

   มันดูคุ้นตาเหมือนว่าเคยมี ทำให้คิดถึงแล้วอดยิ้มที่มุมปากอย่างชอบใจไม่ได้



   “เธอชอบมันไหมล่ะ”

   เสียงคุณวาลีถามทักมาจากด้านหลังในระยะประชิดทำให้ผมสะดุ้ง

   ไออุ่นจากร่างกายของเขาทำให้รู้ว่าเขาอยู่ด้านหลังผมจนแทบจะชิด ลมหายใจร้านๆมันกำลังเป่าต้นคอผม

   “อะ เอ่อ ไม่คิดว่าคุณจะชอบรถพวกนี้เหมือนกัน สมัยเด็กๆผมก็ชอบซื้อมาเล่น”ผมตอบพลางหลุบตามองปลายเท้าตัวเอง

   ไม่รู้จะเอายังไงดี รู้สึกว่าไม่อยากจ้องหน้าและมองตาที่ดูมีความหมายที่ผมไม่เข้าใจแฝงเอาไว้

   “ก็ไม่เชิงชอบหรอก แต่มีเด็กคนหนึ่งทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันอยากจะเก็บของพวกนี้ไว้ เผื่อวันหนึ่งเขาจะได้มาเห็นแล้วชอบมัน”

   เขาตอบทำให้ผมเลิกคิ้ว ถึงจะไม่ค่อยอยากรู้แต่ก็ต้องถามออกไปเป็นมารยาท

   “เด็กคนนั้นเป็นใครเหรอครับ โชคดีจังเลยนะครับ แหะแหะ”ผมทำทีเดินไปดูตู้ช่องถัดไปเพื่อจะได้หนีห่างจากเขาแบบ
เนียนๆ

   “เรื่องมันผ่านมานานแล้ว ดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะจำอะไรไม่ได้ แต่ฉันก็ดีใจที่เด็กคนนั้นดูท่าจะชอบมัน”

   “งั้นเหรอครับ”ผมตอบรับก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โซฟาเหมือนเก่า



   “ดื่มกาแฟนี่ก่อนสิ จะได้สดชื่นขึ้น”แก้วกาแฟหนึ่งในสองแก้วถูกยื่นมาด้านหน้าของผม

   มันทำให้ใจผมหล่นวูบไปเล็กน้อยเมื่อนึกถึงแก้วน้ำส้มของพี่อเลน

   ถ้าไม่รับก็เสียมารยาท ถ้ารับแล้วไม่กินก็ยิ่งไปใหญ่ ถ้าบอกว่าไม่กินกาแฟก็ดูเด็กไป

   ผมจ้องมันพลางครุ่นคิด ไม่รู้จะเอายังไงดี

   “รับไปสิ”เวลาเริ่มเดินไปเรื่อยๆทำให้เขาคะยั้นคะยอ

   “คือว่าผม…”

   “ฉันไม่ได้ใส่อะไรไว้ในแก้วนี้สักหน่อย วางใจได้”เขายิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

   แต่ผมก็ยังไม่อยากจะเชื่อกับรอยยิ้มที่ดูไม่น่าเชื่อถือนั่นอยู่ดี



   “งั้นเพื่อความสบายใจ เธอจะเอาแก้วนี้ไปก็ได้นะ”เขาพยักหน้าไปที่แก้วกาแฟของเขา

   นั่นสินะ หากว่ามันเป็นแก้วของเขาผมคงไม่ต้องกลัวอะไร

   “ครับ จะเอาแบบนั้นก็ได้”

   แก้วกาแฟถูกสลับกัน ผมยกมันขึ้นจรดริมฝีปากแต่ยังไม่กล้ากลืนมันลงคอ ตาก็จ้องมองคุณวาลีจิบกาแกจนหมดแก้ว

   ดูเหมือนว่าผมคงจะคิดมากไปเอง



   “แล้วคนอื่นๆจะมากันเมื่อไรครับ”ผมถามออกไปเพื่อทำลายความอึดอัด

   ในขณะที่เขาวางท่าทีอย่างสบายใจ

   “ไม่มีคนอื่นหรอก ฉันจะเป็นคนถ่ายเองทั้งหมด”

   คำตอบของเขาทำเอาผมแทบจะชาไปทั้งตัว

   “ครับ?”

   “ฉันคิดว่าจะถ่ายภาพเธอแบบเป็นธรรมชาติโดยไม่แต่งเติม คิดว่ามันเข้ากับเธอมากที่สุด”

   “จะดีเหรอครับที่ไม่แต่งเติมอะไรเลย”ไม่ใช่ว่าไม่มั่นใจในหน้าตาตัวเอง

   แต่ก็ไม่ได้มั่นใจซะจนไม่ต้องใช้ช่างแต่งเสริมเติมมันออกมาเพื่อให้มันดูมืออาชีพขึ้นมาบ้าง

   มันชักจะยังไงยังไงจนเริ่มอยากจะกลับบ้านซะแล้ว

   “งั้นเราถ่ายกันเลยไหมครับ จะได้ไม่กวนเวลาของคุณวาลีนาน”

   “ฉันไม่คิดว่ามันเป็นการรบกวนหรอกนะ แต่ถ้าเธอรีบล่ะก็ฉันก็ไม่ขัดหรอกนะตามมาสิ”

   คุณวาลีลุกขึ้นแล้วเดินนำไปยังห้องทางเดินในตัวบ้านมาที่ประตูบานที่อยู่ลึกที่สุด

   ประตูถูกเปิดออก เขาเบี่ยงตัวให้ผมเดินเข้าไป

   ทันทีที่ผมเดินเข้ามาก็พบว่ามันเป็นห้องนอน ตาผมกระตุกเล็กน้อย

   “นี่ ห้องนอน เราจะถ่ายกันที่นี่เหรอครับ”ผมถามย้ำเริ่มรู้สึกแปลกๆ

   “ฉันจะถ่ายภาพแบบกิจวัตรประจำวัน ตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงทานอาหาร และพักผ่อน เธอไม่คิดว่ามันจะต้องเริ่มที่นี่หรอกรึ
ไง”เขาย้ำเหมือนจะทำให้ผมจนมุม

   “อ่าครับ แล้วผมจะต้องทำยังไงบ้าง”

   “แค่ทำตัวสบายๆก็พอ”คุณวาลีตอบแล้วหันไปหยิบกล้องที่วางพร้อมเอาไว้ออยู่แล้วขึ้นมา

   ที่มุมห้องก็มีกล้องอีกตัวตั้งเอาไว้ เตียงนอนสีขาวหลังใหญ่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ผมได้แต่ยืนมองถึงจะบอกให้ทำตัวสบายๆ
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้สบายยังไงในเมื่อมันน่าอึดอันขนาดนี้

   “ปลดกระดุมเสื้อออกสิ”เขาสั่งในขณะที่มองภาพบนจอของตัวกล้อง

   “อะ อะไรนะครับ”ผมถามอย่างไม่ค่อยเชื่อหู

   “ปลอดกระดุมออก ทำให้มันเหมือนกับกำลังพักผ่อนแบบไม่สนใจอะไร”

   เขาบอกเหตุผลทำให้ผมได้แต่ทำตามอย่างช่วยไม่ได้ เสื้อเชิ้ตแขนยาวแบบพับแขนสีอ่อนที่ผมใส่มาถูกปลดกระดุมออก
จนหมด

   ผมมองพุงที่เริ่มนูนออกมา แต่สำหรับสายตาคุณว่าลีแล้วคิดว่าคงจะมองไม่เห็น

   ผมก้มลงมองแผ่นท้องและหน้าอกตัวเองที่เผยออกมา แต่แทนที่เพิ่งจะกินกาแฟไปแล้วน่าจะกระปี้กระเป่าสดชื่นกว่านี้ แต่
ทำไมหนังตาเริ่มจะหนักขึ้นมาก็ไม่รู้

   “ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วหลับตา ทำเหมือนกับว่ากำลังนอนหลับอยู่”

   “อ่า ครับ”ผมขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วหลับตา

   อากาศที่เย็นอยู่แล้วบวกกับเปลือกตาที่หนักอึ้งเข้าไปทุกทีทำให้ผมเริ่มรู้สึกว่าจะลืมตาไม่ขึ้น

   แล้วมันก็เป็นจริงๆ เมื่อหลับตาลงมาแล้วตาที่หักอึ้งมันก็ปิดลงตามด้วยสติของผมที่ดับลงทันที

   ดูเหมือนว่าผมจะประเมินความเจ้าเล่ห์ของคุณวาลีต่ำไปจริงๆ



===================================================================

   ผมรู้สึกตัวอีกทีก็รู้สึกว่าร่างกายมันโล่งเย็นๆอย่างบอกไม่ถูก แล้วที่นี่ที่ไหน? อีกแล้วที่ผมต้องตื่นมาในที่ที่ผมไม่คุ้นตา

   แต่พอนึกได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ก่อนจะหลับไปก็รีบกระพริบตาถี่ๆมองไปรอบห้องนอนสีขาวแห่งนี้

   แต่ก็ไม่มีวี่แววของคุณวาลีเลย ทว่าวิ่งที่น่าตกใจไม่ใช่เรื่องนั้น มันมีเรื่องที่น่าตกใจมากกว่านั่นคือ ภายใต้ผ้าห่มที่กำลังคลุม
กายผมอยู่นั้น

   ผมไม่ได้ใส่เสื้อผ้าสักชิ้นเลย ไม่มีเลยนอกจากกางเกงชั้นในแบบขาสั้นตัวเดียวที่ใส่ติดมาจากบ้านที่เหลืออยู่

   แล้วเสื้อผ้าของผมไปไหนหมด!! นี่มันหมายความว่ายังไง สรุปผมโดนวางยาอีกแล้วใช่ไหม

   อุตส่าห์ระวังแล้วเชียว ผมมองหาเสื้อผมของตัวเองเผื่อจะอยู่แถวนี้ แต่ก็ไม่มีเลยสักชิ้น

   อย่าบอกนะว่าใจคอคุณวาลีเขาตั้งใจจะทำไม่ดีกับผมจริงๆ  ให้ตายเถอะ ชีวิตผมใจคอมันจะวุ่นวายตลอดเลยรึยังไงกัน

   หลังจากที่ตรวจสอบร่ากายว่ายังอยู่ในสภาพครบถ้วนไม่มีอะไรเสียหายก็ตวัดผ้าห่มขึ้นคลุมกายเตรียมตัวจะลุกขึ้นก่อนที่คุณ
วาลีจะกลับมา

   ไม่อยากจะคิดเลยว่าคนท้องอย่างผมจะต้องมาเจอเรื่องวุ่นวายอะไรอีกแบบนี้

   ผมเข้าใจว่าชาติที่แล้วผมทำกรรมให้กับบรรดาเมียๆไว้เยอะ แต่ชาตินี้ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเข้ามาป่วนในชีวิต
ของผมขนาดนี้นี่



   แต่ยังไม่ทันจะลุกขึ้นหลังจากจัดการเอาผ้าห่มผืนใหญ่มาพันตัวเป็นดักแด้ก้อนกลม

   ประตูห้องก็ถูกเปิดขึ้นตามด้วยร่างสูงโปร่งของคุณวาลีเดินเขามา ทำให้ผมตกใจแทบจะหงายหลังลงไปนอนบนเตียงอีกครั้ง
เพราะก้อนผ้าห่มที่พันจนแทบจะกระดิกตัวไม่ได้

   “ตื่นแล้วเหรอ”เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับยิ้มมุมปาก

   “ผ้าของผมล่ะครับ คุณเอามันไปไว้ไหน ผมอยากจะได้คืนแล้ว”ผมพยายามใจเย็นเข้าสู้ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเริ่มหวาดๆเพราะคุณวาลีกำลังก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

   และผมก็อยู่ในสภาพที่ขยับตัวไม่สะดวกติดแหงกอยู่ในผ้าห่มเหมือนดักแด้
   

   “ผมคิดว่าคุณ กำลังเข้ามาใกล้ผมเกินไปรึเล่า”ผมพยายามกระถับตัวหนี

   “อ่า นั่นสินะ ฉันกำลังคิดว่า….อยากจะใกล้ชิดเธอให้มากว่านี้อีก”เขาว่าแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้

   จังหวะที่ผมเบือนหน้าหลบ พยายามใจเย็น ด้วยความที่ขยับตัวลำบาก ยิ่งกว่าในละครน้ำเน่า

   ผมหงายลงไปบนที่นอนอย่างหมดสภาพ ไปไหนไม่รอด

   แต่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ คุณวาลีที่ตามขึ้นมาคร่อมทับผมในระยะประชิด ทำเอาผมเบิกตากว้างมองด้วยความตกใจ

   แขนทั้งสองข้างถูกเท้าค่อมข้างตัวผมเอาไว้ทั้งสองข้างทำให้กลิ้งหนีไปไม่ได้

   “คุณเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าครับ นี่ไม่ใช่งานที่คุณให้ผมมาทำ”

   “เธอพูดถูก นี่ไม่ใช่งาน แต่เป็นสิ่งที่ฉันต้องการต่างหากล่ะ”

   คุณวาลีบอกก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้

   “คุณต้องการอะไรกันแน่ ผมไม่เข้าใจที่คุณพูดเลย ผมว่าคุณลุกออกไปก่อน จะน่าจะดีนะครับ คุณว่าไหม แหะ แหะ”

   ผมถามออกไปพร้อมกับหัวเราะแห้งๆ พยายามจ้องเจ้าเล่ห์คู่นั้นตอบ



   “ฉันต้องการตัวเธอ หัวใจของเธอ ทั้งหมดที่เป็นเธอไม่เว้นแม่แต่สิ่งนี้”พูดจบมือของเขาก็ทาบลงบนหน้าท้องของผมผ่าน
ผ้าห่มที่ห่อตัวผมอยู่

   มันทำให้ใจผมกระตุกวูบแล้วปัดมือเขาออกทันทีด้วยสัญชาติญาณ

   เขาพูดแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกันแน่ แล้วเขารู้ได้ยังไง ดวงตาของผมแข็งกร้าวขึ้นมาทันที



   “คุณรู้ได้ยังไง”

   “ไม่มีอะไรที่ยากจะรู้ได้หากเพียรพยายามที่จะศึกษา เธอว่าอย่างนั้นไหมล่ะ”

   “ผมไม่เข้าใจ”

   “ฉันรู้แม้กระทั่งคนที่อยู่รอบกายของเธอ คนที่ไม่ใช่คนธรรมดา แต่ฉันก็ไม่คิดจะใส่ใจคนพวกนั้น หากคนพวกนั้นไม่ใช่เธอ”

   คุณวาลีตอบพร้อมกับยื่นมือมาแตะบนแก้มของผมอย่างเบามือ

   

   “ในเมื่อคุณก็รู้อยู่แล้วว่าผมเป็นยังไง และมีใครอยู่แล้ว ทำไมคุณยังคิดว่าผมจะอยู่กับคุณล่ะ มันเป็นไปไม่ได้หรอกนะครับ
ผมว่าคุณเลิกคิดเรื่องนี้ดีกว่า”

   “เป็นไปได้สิ ฉันคิดเอาไว้แล้วว่าเธอคงจะปฏิเสธฉันแน่นอน แต่ภาพพวกนั้นที่ฉันถ่ายเอาไว้ตอนที่เธอหลับ มันน่าจะเพียง
พอที่จะทำให้เธออยู่กับฉันได้”

   คำตอบของคุณวาลีทำให้ผมตัวชาไปทั้งตัว  ผมแทบอยากจะต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของเขาด้วยความโกรธเคืองในสิ่งที่เขา
ทำกับผม

   มันสกปรกมากเกินกว่าจะเป็นสิ่งที่ทำออกมาจากความฉลาดของเขา ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องทำแบบนี้ด้วย

   เพียงเพราะต้องการที่จะได้ผมเอาไว้แค่นั้นรึไงกัน

   “ยังไงผมก็ไม่สน ผมไม่ได้ต้องการที่จะอยู่กับคุณ คนเดียวที่ผมต้องการอยู่ด้วยคือพี่ธาราเท่านั้น”

   ผมตอบไปด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่

   หากไม่ใช่พี่ธาราแล้ว ผมคงไม่อยากจะอยู่ด้วย คนเดียวที่ผมต้องการคือพี่ธารา

   ผมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของคุณวาลีด้วยความไม่ค่อยพอใจ คุณวาลีดูเหมือนจะเริ่มไม่พอใจในคำตอบของผมเช่นกัน

   “ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปจากฉันเป็นครั้งที่สองเด็ดขาด”



   เพล้ง!!!!!
      



================================================================
สิบหน้าเลยนะเออ จบบทสักที สรุปเด็กหัวโล้นคนนั้นก็คือวาลี คนเจ้าเล่ห์นั่นเอง อนุญาติให้โขกสับได้ ก่อนที่นางจะโดนเอาไปปรับทัศนะคติ

หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 06/12 [CH.23.3] แผนร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-12-2015 07:41:10
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 06/12 [CH.23.3] แผนร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 06-12-2015 07:48:39
เป็นคุณวาลีซะงั้นนนน มณีจำไม่ได้ก็คงผิดหวังป่าว?555

ลุ้นๆจะมีคนมาช่วยมณีมั้ยน้าาา :katai1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 06/12 [CH.23.3] แผนร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 06-12-2015 09:00:47
หงุดหงิดกับมณีจริงๆ นะ   :m16:

เรื่องสัญญานั่นแทนที่จะรีบบอกธาราไป เขาจะได้คอยช่วยระวัง โอกาสที่จะเกิดเรื่องแบบในตอนนี้ก็จะน้อยลง
แต่ก็อ้ำอึ้งอยู่นั่นแหล่ะ จนเกิดเหตุการณ์แบบนี้ 

คิดดูเอาเองว่า ระหว่างเราบอกธาราเขาไปก่อนจะเกิดเรื่อง กับให้เกิดเหตุแล้วเขามารู้ทีหลัง อะไรมันจะดีกว่ากัน แล้วแบบไหนธาราเขาจะโกรธน้อยกว่า  :angry2:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 06/12 [CH.23.3] แผนร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 06-12-2015 11:35:29
เบื่อที่มณีโดนรุมตลอดเลย ทำไมต้องมายุ่งวุ่นวายขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 06/12 [CH.23.3] แผนร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 06-12-2015 20:41:16
พี่ธารามาช่วยด่วน
เสน่หา&บรรดาเมียเก่าทำผิด
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 06/12 [CH.23.3] แผนร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 07-12-2015 23:29:50
พี่ธาราอยู่ไหนนน
ทำไมไม่มาดูแลเมียยย
ถ้ามณีเป็นไรไปนี้ผิดที่พี่เลยย :m16:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 06/12 [CH.23.3] แผนร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 07-12-2015 23:31:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 06/12 [CH.23.3] แผนร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 08-12-2015 11:21:48
จะโชคดีมีพี่ธารามาช่วยเหมือนทุกครั้ง
ไหมล่ะคะเนี่ยน้องมณี
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 06/12 [CH.24] ปิดฉากหัวขโมย
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 10-12-2015 17:44:42
35743
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ครั้งที่ 24 ปิดฉากหัวขโมย


   “ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปจากฉันเป็นครั้งที่สองเด็ดขาด”

   
   เพล้ง!!!!!


   เสียงกระจกด้านนอกแตกทำเอาผมสะดุ้งหันไปมองทางประตูห้องที่กำลังปิดสนิท

   “เสียงอะไรน่ะ ผมคิดว่าคุณน่าจะไปดูก่อนดีกว่าไหม”

   ผมพยายามพูดชักจูงเจ้าของใบหน้าที่กำลังโน้มลงมาใกล้

   ใบหน้าของเขาดูเคร่งเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเป็นนิ่งเฉยเหมือนไม่ใส่ใจดังเดิม

   “สิ่งเดียวที่ฉันให้ความสำคัญมากที่สุดตอนนี้ก็คือเธอ”



   “คุณบ้าไปแล้วรึไงครับ ลุกออกไปจากตัวผมดีกว่า ก่อนที่ผมจะเรียกให้คนอื่นช่วย”

   “เธอคิดว่าแถวนี้จะมีคนผ่านมารึไง”เขายิ้มมุมปาก

   จริงอย่างที่เขาพูด บ้านริมทะเลหลังนี้ของเขาค่อนข้างจะห่างไกลจากผู้คนจนแทบไม่ค่อยมีใครผ่านมาแถวนี้

   “แต่ว่า”

   ผมคิดคำพูดไม่ออกเมื่อถูกเขาปฏิเสธ มือข้างหนึ่งของผมถูกผ้าห่มทับเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็ได้แต่ดันไหล่คุณวาลีเอาไว้ไม่
ให้เข้ามาใกล้ไปกว่านี้



   ปัง!!

   ในระหว่างที่ใบหน้าของคุณวาลีโน้มเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ประตูห้องนอนถูกเปิดออกแล้วกระแทกกับผนังห้องอย่าง
รุนแรงเรียกให้ผมสะดุ้งแล้วหันไปมองด้วยความตกใจ

   คุณวาลีเองก็เช่นกัน

   ร่างสูงที่คุ้นตาปรากฏอยู่ตรงหน้าของผม แต่ไม่ใช่เขาคนที่ผมหวังจะให้มาช่วยเหมือนในทุกๆครั้ง



   “ให้ตายเถอะ นายบังอาจมากนะที่มายุ่งกับคนไข้ของฉัน รู้ตัวบ้างไหม ไอ้งี่เง่าเอ้ย”คำพูดที่แฝงไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดใจ

   พร้อมกับบุหรี่ที่ถูกสูบจนเกือบถูกโยนทิ้งลงบนพื้นแล้วขยี้ด้วยเท้า



   “นายเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง”คุณวาลีถามด้วยท่าทีตกใจก่อนที่จะพละออกจากตัวผม ทำให้ผมถอนหายออกมาด้วยความ


โล่งใจ

   อย่างน้อยคุณหมอทศกัณฐ์ก็มาช่วยผมเอาไว้ได้ทันเวลา ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าเขามาได้ยังไงก็เถอะ

   หรือว่าเขาสะกดรอยตามผมกันนะ?

   “เข้ามาได้ยังน่ะเหรอ พอดีประตูมันล็อก ฉันก็เลยพังกระจกเข้ามา ถ้าไม่มีเงินซ่อมก็ตามไปเก็บเอาทีหลังแล้วกัน”

   “นี่มันจะมากเกินไปแล้ว คุณจะเข้ามาในนี้ตามอำเภอใจไม่ได้ ผมมีสิทธิแจ้งตำรวจมาจับคุณข้อหาบุกรุกได้”คุณวาลีทำท่า

จะหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะมุมห้องมา

   “ก็ไม่ได้ห้ามนี่ แต่ก่อนอื่น คงจะต้องจัดการกับหัวขโมยอย่างนายก่อน ไหนจะกุหลาบสีน้ำเงิน ไหนจะคนไข้ของฉัน นายก
ล้ามากที่เข้ามายุ่งย่ามกับงานคนอื่นเขาแบบนี้”


   ร่างสูงใหญ่ที่พึ่งจะเข้ามาโดยได้รับเชิญย่างก้าวเข้าไปหาคุณวาลีด้วยท่าทีคุกคามทำให้คุณวาลีก้าวถอยหลังอย่างช่วยไม่
ได้เพราะดูจากรูปร่างแล้ว หมอทศกัณฐ์ชนะขาด


   “จะหนีไปไหนล่ะ มีเรื่องอยากจะถามหน่อย”ไม่ทันจบคำพูดร่างของคุณวาลีก็ถูกเหวี่ยงไปกระแทกกับผนังห้องจนผมสะดุ้ง
เป็นรอบที่เท่าไรก็จำไม่ได้แล้ว

   มันแรงจนคุณวาลีนั่งคุดคู้ลงกับพื้นแล้วกุมท้องด้วยความจุก

   “มันจะมากไปแล้วนะ”เขาบอกด้วยน้ำเสียงแหบที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ พยายามจะยันตัวเองลุกขึ้นมา

   


   “ดะ เดี๋ยวสิครับ”ผมร้องห้ามหมอกัณฐ์ที่ดูท่าทางจะเอาเรื่อง

   “เธอไม่ต้องยุ่ง นี่มันเป็นเรื่องของฉันกับไอ้หัวขโมยนี่”

   แล้วคุณวาลีไปขโมยอะไรมาตอนไหนกัน

   ผมหันไปมองที่คุณวาลีที่ยังนั่งอยู่ที่พื้นริมห้อง สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมตกใจมากกว่าเดิมเมื่อคุณวาลีมีเลือดออกมาจากริม
ฝีปาก

   มันไม่ใช่เลือดที่มาจากแผลกัดปากหรือปากแตก มันเป็นลักษณะที่ออกมาจากในร่างกาย

   เมื่อกี้ที่กระแทกไม่น่าจะทำให้เขาไอเป็นเลือดขนาดนั้นนี่

   “คุณหมอ แต่ผมว่า”ผมห้ามเมื่อคุณหมอยังมีท่าทีว่าจะทำร้ายคุณวาลีต่อ

   “บอกว่าอย่ามายุ่งยังไงล่ะ เจ้าหัวขโมยนี่มันสมควรจะโดนซะบ้าง บอกฉันมาว่าไปได้กุหลาบสีน้ำเงินพวกนี้มาจากไหน”

   คุณหมอถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแล้วย่อตัวเสมอกับคนที่นั่งฟุบอยู่กับพื้น

   “ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย แค่กๆ”คุณวาลีพูดพร้อมกับไอออกมาเป็นเลือดอีกรอบ

   หรือว่าเขาจะป่วย งั้นแสดงว่าดอกกุหลาบสีน้ำเงินพวกนั้นเขาเก็บมันเอาไว้ใช้เองสินะ

   นิ้วมือของหมอยักษ์สิบหน้าปาดเข้าที่เลือดบนมุมปากของคุณวาลีแล้วยกขึ้นมาชิมหน้าตาเฉย

   “จะตายแล้วยังมาปากดีอีกนะ”

   “นั่นมันก็เรื่องของฉัน”

   “แต่ของที่นายมีอยู่มันไม่ใช่ของนาย ฉันจะถามอีกรอบว่านายได้มันมาจากไหน ตอบมาก่อนที่นายจะตายเร็วกว่าที่นายคิด”


   “จากไหนก็ชั่ง รู้แค่ว่าไม่ได้ขโมยมาก็น่าจะพอ”

   “พวกมนุษย์นี่มันพูดยากพูดเย็นจริงๆ จะบอกดีดีหรือว่าอยากกลายเป็นอาหารว่างกัน ห่ะ!!”

   เสียงตะหวาดดังก้องพร้อมกับมือใหญ่กระชากคอเสื้อของคุณวาลีลุกขึ้นเข้ามาหาตัว

   “แค่กๆ”คุณวาลีไอเป็นเลือดออกมาอีกรอบ มันทำให้ผมยิ่งตกใจเข้าไปอีก



   “เดี๋ยวสิ ผมว่าพอก่อนดีกว่า เขาเลือดออกตั้งเยอะ ผมว่าปล่อยเขาก่อนจะดีนะครับ”ผมผลุดลุกขึ้นไปทั้งที่ยังมีผ้าห่มพันกายเอาไว้

   ผมดึงรั้งมือใหญ่ที่กำคอเสื้อของคุณวาลีแน่นให้ไม่รุนแรงไปกว่านี้

   กลายเป็นว่าตอนนี้ผมกำลังคั่นกลางอยู่ระหว่างคุณวาลีกับคุณหมอ

   “ฉันบอกว่าอย่ามายุ่ง เธออยากให้ฉันบอกเรื่องนี้กับไอ้บ้าธารารึไง”

   “มะ ไม่ใช่สักหน่อย แต่ผมไม่อยากให้คุณรุนแรงกับเขา เขาเลือดออก อีกอย่าง คุณ เอ่อ คุณเองก็เป็นหมอ ต้องเป็นคน
รักษาสิ ไม่ใช่คนทำคนอื่นเจ็บ”

   ผมกล่าวเตือน พอหันไปมองหน้าคุณหมอก็ต้องขนลุกเกรียว ดวงตาสีดำสนิทของเขากำลังวาวโรจน์และที่สำคัญ มันกำลัง
เป็นสีเหลืองอำพันอย่างน่ากลัว




   “ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเจ้าหัวขโมยนี่มันได้กุหลาบสีน้ำเงินนี่มาได้ยังไง กุหลาบพวกนั้น เป็นสมบัติของพ่อฉัน แต่เจ้าหัวขโมยก็
ไปขโมยเอามันมา ทำให้หลายตนต้องล้มตายโดยไม่มียารักษา”น้ำเสียงกราดเกรี้ยวดังก้องพร้อมกับมือที่ออกแรงกำคอเสื้อแน่น
ขึ้น



   “ฉันไม่ได้เป็นคนขโมยมัน”คุณวาลีแย้งด้วยน้ำเสียงราบเรียบพลางเบือนหน้าหนี ยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่ไหลย้อนลงมาที่มุม

ปาก

   “ถ้านายไม่ได้ขโมยแล้วใครขโมย อย่ามาโกหกไปหน่อยเลย ฉันไม่โง่เหมือนพวกมนุษย์งี่เง่าหรอกน่า”

   “มันเป็นของพ่อกับแม่ของฉัน เขาสองคนเจอมันเลยนำมันมาขยายพันธุ์เพื่อทำวิจัยยารักษาโรคเลือดที่ยังไม่ถูกค้น
พบ”คุณวาลีตอบด้วยสีหน้าดูจะเจ็บปวด

   จริงสิ หมอทศกัณฐ์ก็เคยบอกว่ามันหายไปหลายสิบปีที่แล้ว ซึ่งคุณวาลีก็คงยังอายุไม่กี่ขวบไม่ใช่รึไง เด็กที่ไหนจะไป
ขโมยไอ้อะไรพรรค์นี้ได้

   “งั้นพ่อกับแม่ของนายก็เป็นคนขโมยมันไปสินะ”คราวนี้หมอทศกัณฐ์พูดข่มเสียง เสียงขบฟันดังกรอดทำเอาผมขนลุก
เกรียว

   ตาของคุณหมอสีเหลืองชัดเจนยิ่งกว่าเก่า ทำให้ผมรู้ว่าเขาค่อนข้างที่จะโกรธมาก

   บรรยากาศอึมครึมเริ่มแผ่กระจาย หากว่ายักษ์ตนนี้จะอาละวาดหรือจะทำร้ายคุณวาลีขึ้นมา ผมคงจะช่วยอะไรไม่ได้

   ใจหนึ่งก็คิดว่าสมควรแล้วที่คนเจ้าเล่ห์อย่างคุณวาลีจะโดนสั่งสอน แต่อีกใจก็ไม่คิดว่าเขาจะทำเรื่องทุกอย่าโดยที่ไม่มี
เหตุผล



   “ทำไมพ่อแม่ของคุณวาลีถึงได้ขโมยมันมาล่ะ”ผมถามแทนคุณหมอที่กำลังโกรธจัดและพยายามจะข่มอารมณ์ตัวเอง

   “เขาเอามันมาเพื่อที่จะทำยารักษาโรคที่เกี่ยวกับเลือดที่ยังไม่มีใครรู้ว่ามันคือโรคอะไร”คุณวาลีบอกด้วยน้ำเสียงเบาก่อนจะ
เบือนหน้าหนี

   “อย่าบอกนะว่าโรคที่คุณกำลังเป็นอยู่”

   “ฉันเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษา ไม่มีใครรู้ว่ามันคือโรคอะไร เป็นได้ยังไง พ่อกับแม่ของฉันพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อที่จะ
รักษาฉันให้ได้ ดอกกุหลาบสีน้ำเงินนั่นสามารถบรรเทาอาการได้ ทำให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ก่อนที่จะคิดค้นวิธีการ
รักษาแบบถาวร เขาสองคนก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ฉันจึงต้องพึ่งดอกไม้พวกนั้นมาตลอด”

   มิน่าถึงมีมันจนเต็มเรือนกระจก

   “พ่อกับแม่นายก็สมควรตายแล้วล่ะ มีพวกอื่นมากมายที่ต้องตายเพราะไม่มีกุหลาบนั่นไปทำยารักษา มันเทียบไม่ได้กับชีวิต
มนุษย์โง่เง่าอย่างนาย”

   คุณหมอทศกัณฐ์ตะคอก

   “นั่นสินะ ฉันควรจะตายไปตั้งนานแล้ว เพราะฉัน พ่อแม่ถึงต้องตายเพราะมั่วแต่หมกมุ่นอยู่กับวิจัย”

   “งั้นก็ตายไปซะเลย ดีไหมล่ะ”

   ยังไม่ทันที่ผมจะตั้งตัวกับประเด็นที่เกิดขึ้น เมือที่กำคอเสื้อก็เปลี่ยนเป็นกำรอบคอของคุณวาลีแล้วบีบแน่น

   ดวงตาสีเหลืองอำพันวาวโรจน์จนน่าตกใจ

   “ไม่ได้นะ จะมาฆ่าใครง่ายๆได้ยังไง”ผมพยายามดึงมือคุณหมอออก

   “แค่กๆ”

   “ผมของร้องคุณหมอ ตอนนี้คุณจะเอาดอกไม้นั่นไปก็ได้นี่ มันมีตั้งเยอะ ใช่ไหมล่ะ อย่าให้ใครต้องตายอีกเลย คุณเป็นหมอ
คงไม่อยากจะให้ใครตายด้วยมือตัวเองใช่ไหมล่ะ”

   ผมหาข้ออ้างเพื่อโน้มน้าว ก็เข้าใจอยู่ว่าคุณหมอทศกัณฐ์อาจจะโมโหเพราะมีหลายคน ไม่ใช่สิ หลายตน ต้องตายเพราะ
ไม่มีกุหลาบนั่น ด้วยความเป็นหมอจึงทำให้ความโกรธแค้นมันมากกว่าปกติ

   แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตของคนจะเป็นผักเป็นปลา อีกอย่าง คุณวาลีเองก็ไม่ไดเป็นคนขโมยมา แต่เป็นพ่อแม่ของเขา
ซึ่งมันไม่เกี่ยวกัน




   “นะครับ ปล่อยมือก่อนเถอะครับ ผมขอร้อง คุณวาลีเขาไม่ผิด”

   “ทำไมถึงได้ช่วยมันล่ะ เจ้านี่มันต้องการอะไร นายน่าจะรู้ดีไม่ใช่รึไง”

   “เอ่อ เรื่องนั้น”ผมอ้ำอึ้ง ยังไงก็ยังโกรธที่เขาทำไม่ดีเอาไว้จริงๆ ไหนจะเรื่องลูกของผม ไหนจะเรื่องวางยาและถ่ายรูปผม
ตอนหลับไป



   “ผมขอให้คุณลบรูปที่ถ่ายเอาไว้ทิ้งได้ไหม แล้วก็ยกเลิกสัญญาที่เซ็นไปด้วย แล้วผมจะถือว่าเรื่องพวกนี้ไม่เคยเกิดขึ้น”ผม
บอก

   “ต่อให้ทำยังไง ฉันคงจะไม่ได้นายมาอยู่แล้วนี่ ของพวกนั้นคงไม่มีประโยชน์อีกแล้วล่ะ”เขาว่า

   มือที่กำรอบคอค่อยๆคลายออกแล้วปล่อยลงจนคุณวาลีทรุดลงไปกับพื้นอีกครั้งแล้วเช็ดเลือดที่เลอะอยู่มุมปาก

   คราวนี้เรื่องทุกอย่างจะได้จบลงสักที ผมถอนหายใจอย่างโล่งใจ

   

   “ผมขอถามอย่างหนึ่งได้ไหม ทำไมคุณถึงต้องทำแบบนี้กับผมด้วย เอ่อ ผมหมายถึง ทำไมจะต้องเจาะจงว่าเป็นผม”

   “นั่นสินะ เธอคงจะจำไม่ได้  ว่าเราเคยเจอกันมาก่อน”

   แล้วเรื่องราวทั้งหมดก็ถูกถ่ายทอดออกจากปากของคุณวาลี มันทำให้ผมยิ่งงงเข้าผมเคยเจอเขาตอนเด็กๆตอนไหน ทำไม
ผมถึงจำอะไรไม่ได้เลย

   อาจเป็นเพราะผมเซ่อซ่าแบบนี้ตั้งแต่เด็กล่ะมั้ง เขาอาจจะต้องกรผมเพียงเพราะผมเป็นคนที่ทำดีกับเขาเมื่อตอนนั้น

   แต่มันเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้จะรู้ถึงเหตุผลของการกระทำของเขา แต่ผมเองไม่ชอบวิธีการที่เขาใช้บังคับผม

      ผมเริ่มปักใจเชื่อว่าคุณวาลีเองก็เป็นหนึ่งในเมียของผมในชาติที่แล้วเหมือนๆกับพี่อเลน ที่ชาตินี้ผมจะต้องชดใช้ให้
   “ในเมื่อเธอรู้ทั้งหมดแล้ว เธอรู้สึกโกรธกับสิ่งที่ฉันทำไหมล่ะ”คุณวาละแสยะยิ้ม

   “ครับผมโกรธ”ผมตอบ ไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย ผมโกรธที่เขาใช้วิธีสกปรก ใช้เล่ห์เหลี่ยมกับผม  แต่

   “ก็สมควรแล้วล่ะ”

   “แต่ผมก็หายแล้วล่ะ ผมมันเป็นพวกขี้ลืม เดี๋ยวพอนอนหลับผมก็ลืมแล้ว ขอแค่คุณไม่ทำแบบนี้อีก แล้วก็ เอ่อ ไม่มายุ่งกับ
ลูกของผม”ผมว่าพร้อมกับลูกท้องตัวเองผ่านผ้าห่มที่พันตัวอยู่

   “นั่นสินะ ยังไงเธอก็ยังเป็นเธอ ไม่เคยจำอะไรได้”เหมือนจะโดนว่าเล็กๆยังไงก็ไม่รู้



   จนบัดนี้ผมก็ยังมองหาเสื้อผ้าตัวเองไม่เจอ และที่สำคัญ ผมไม่รู้จะบอกเรื่องพวกนี้กับพี่ธารายังไงดี

   ถึงแม้ว่าเรื่องราวทั้งหมดมันจะจบลงไปด้วยดีแล้วก็เถอะ



   ในระหว่างที่ผมกำลังมองหาเสื้อผ้าของตัวเอง คุณหมอที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ไม่ไกลก็เดินเข้าไปหาคุณวาลีแล้วย่อตัวลงไป
หาอีกครั้ง

   “จากนี้ไป ดอกไม้พวกนั้นจะเป็นของฉันทั้งหมด”

   “ตามสบาย ในเมื่อมันไม่ใช่ของฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”

   ถ้าหมอทศกัณฐ์เอาดอกไม้พวกนั้นไปหมด แล้วคุณวาลีจะเอาอะไรใช้ล่ะ ถ้าไม่มีดอกไม้พวกนี้ คุณวาลีจะแย่เอา



   “เดี๋ยวสิ มันจะดี อะ”ยังไม่ทันจะแย้งได้จบคำ

   มือของหมอทศกัณฐ์ก็ทาบลงบนหน้าผากของคุณวาลี

   “หลับไปซะ”เสียงกระซิบดังแผ่วเบา ไม่นานคุณวาลีก็ฟุบนอนลงไปบนพื้นห้องทันที

   “คุณทะ ทำอะไรน่ะ”ผมตาโต ร้องถามด้วยความไม่เข้าใจ เอาอีกแล้ว ไอ้พวกยักษ์ที่ชอบใช้เวทมนต์เป็นพ่อมดไปได้

   “เธออย่าพูดมากน่ารำคาญ ไปหาเสื้อผ้าใส่ได้แล้ว โรคแค่นี้ พวกมนุษย์นี่โง่จริงๆ”หมอทศกัณฐ์ส่ายหน้าอย่าเหนื่อยหน่าย

   แต่นั่นก็ทำให้ผมยิ้มออกมา เพราะมันหมายถึงเขาจะช่วยรักษาคุณวาลีให้หายจากโรคร้ายสักที

   “เมื่อกี้ยังใจร้ายเป็นยักษ์เป็นมารอยู่เลย”ผมพึมพำแต่ก็เดินไปหาเสื้อผ้าใส่



   “แต่อย่างน้อยเจ้านี่ก็ต้องโดนลงโทษข้อหาที่มายุ่งกับคนไข้ของฉันอยู่ดี ต้องดัดนิสัยขี้ขโมยที่ติดมาจากพ่อแม่ให้หายก่อน
ที่จะปล่อยไปซะก่อน”

   พูดอย่างกับคุณวาลีเป็นสัตว์ไปได้ แล้วอีกอย่าง ลงโทษนี่มันหมายความว่ายังไง แล้วใครเป็นคนไข้

   ยังไงเรื่องที่ผมไม่เข้าใจมันก็มีเยอะกว่าเรื่องที่ผมเข้าใจอยู่ดี



==================================================================


   “เอ่อ พี่ ธารา ผม คือผม มีเรื่องจะบอก”ผมกระแซะมานั่งเบียดพี่ธาราที่เพิ่งจะกลับมาระหว่างที่เรากำลังนั่งอยู่ในห้องนอน
ของพี่ธาราเพราะคุณหมอดันเอาผมมาทิ้งไว้ที่นี่ก่อนจะหายไปไหนพร้อมกับร่างของคุณวาลีที่หลับไม่รู้เรื่อง

   ถึงจะอยากแย้งแต่ก็คงแย้งไม่ได้เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวที่ผมไม่เข้าใจของพวกเขา

   ส่วนพี่อเลนก็ไปหาเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันแก้เบื่อ เพราะว่าผมไม่ว่างพาไปข้างนอก แต่ผมคิดว่าพี่อเลนดูแปลกๆ เหมือน
ไม่อยากจะอยู่ที่นี่เวลาที่มีหมอทศกัณฐ์อยู่ด้วย แต่ผมก็ไม่กล้าถาม

   “มีอะไรจะบอกข้าก็ว่ามา”พี่ธาราถามเสียงแข็งพลางอ่านนิตยสารอะไรสักอย่าง

   “คือว่า”ผมอ้ำอึ้ง

   “มีอะไรก็ว่ามา อย่าชักช้า ก่อนที่ข้าจะอดทนไม่ไหว”

   ยังไม่ทันที่ผมจะคิดหาคำแก้ตัว ร่างก็ถูกกดลงบนเตียงนอนหลังใหญ่ให้นอนราบลงไปพร้อมกับพี่ธาราคร่อมตามลงมา

   ผมหน้าร้อนวูบ หลบตาหนีดวงตาสีดำสนิทที่จ้องมาอย่างตกใจ เอาอีกแล้ว พี่ธาราในโหมดถึงเนื้อถึงตัวมาอีกแล้ว

   “ผมจะบอกว่า อื้อ”

   ในที่สุดผมก็แก้ตัวไม่ทันริมฝีปากที่ทาบลงมาอยู่ดี

   ไม่กี่คืนที่ผ่านมาผมยังจำติดตาไม่หาย ตอนที่พี่ธาราจับมือให้ผมไปจับเจ้าธารายักษ์แล้วทำให้ธารายักษ์พ่นลาวาออกมา

   ไหนจะยังโดนพี่ธาราแกล้งมณีน้อยอีก

   แล้วคราวนี้จะอะไรอีก ยังบ่ายๆอยู่เลย แล้วที่สำคัญ วันนี้ไม่ใช่วันพระจันทร์เต็มดวงสักหน่อย พวกยักษ์นี่ไม่ได้หื่นแค่วัน
เพ็ญรึไง

   ลิ้นร้อนๆดุนเข้ามาก่อนที่จะกวาดต้อนเอาลิ้นผมไปดูดดึงจนอ่อนแรง

   เสื้อเชิ้ตตัวบางถูกเลิกขึ้น ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือใหญ่ร้อนลูบไปมาบนท้องน้อยทำเอาเสียววาบ

   เสียงจูบดังเข้ามาในโสตประสาทพร้อมกับความวาบหวามในท้องน้อยที่เกิดขึ้น

   ความแข็งขืนร้อนผ่าวเสียดสีเข้าที่ต้นขาของผมทำเอาใจเต้นแรงแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

   นี่ขนาดท้องพี่ธารายังหื่นขนาดนี้ แล้วถ้าผมไม่ได้ท้องป่านนี้คงโดนจับกลืนกินแบบวันนั้นไปอีกหลายรอบ ไม่อยากจะคิด
เลยว่าชีวิตผมจะรอดจากพี่ธารายักษ์หื่นไปอีกนานแค่ไหน

   “อะ อือ ดะ เดี๋ยวสิ”ผมเบือนหน้าหนีดึงมือที่เลื่อนต่ำมุดหายเข้าไปในกางเกงเอาไว้ไม่ให้ซนไปมากกว่านี้

   ร่างกายมันรู้สึกร้อนผ่าว วูบวาบไปหมดโดยเฉพาะมณีน้อยที่ถูกกุมเอาไว้ในมือยักษ์เจ้าเล่ห์

   “อย่าขัดใจข้า หากเจ้าไม่อยากถูกข้ากลั่นแกล้งไปมากกว่านี้”

   คำพูดของพี่ธาราทำเอาผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แล้วปล่อยมือออกจากมือที่ธาราให้มันจับมณีน้อยได้คล่อง

   ผมสะดุ้งอีกครั้งเมื่อมือนั้นกำลังเค้นคลึงมณีน้อยใจมา จูบร้อนๆเฝ้าวนจูบซับบนหน้าผากและบนใบหน้าของผม

   แต่ดวงตาคมกริบนั้นก็ยังไม่คลายแววตาดุดันอยู่ดี ตั้งแต่วันนั้นแล้วที่ผมยังไม่รู้เลยว่าพี่ธาราโกรธอะไร

   จะถามก็กลัวโกรธหนักเข้าไปใหญ่ อีกทั้งเรื่องที่ผมยังไม่ได้บอกอีก

   แต่ทว่า

   

   โครกกกกกกกกกกก

   เสียงร้องดังกังวานพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนทีท้องหลายริกเตอร์เรียกให้พี่ธาราเงยหน้าขึ้นมองผมอยากขัดใจ

   “หะ หิว”ผมยิ้มแห้งๆส่งไปที่พี่ธารา

   “รออีกเดี๋ยว”พี่ธาราตอบห้วน พยายามจะคลึงมณีน้อยมากกว่าเดิม

   “ตะ อะ แต่ลูกๆหิวแล้วนะครับ”ผมอ้าง แต่ก็จริง ผมไม่ได้โกหกเลย

   ลูกๆในท้องเนี่ยตัวดี กินเก่งจนผมเองยังตกใจ

   พออ้างถึงลูกพี่ธาราถึงกับชักสีหน้าแล้วยันตัวออก พอพี่ธาราลุกออกไปผมถึงกับโล่งใจ ที่มณีน้อยยังคงหลับสนิทอยู่ดี
ครั้งนี้ต้องยกความดีความชอบให้ลูกๆจอมกินเก่งที่ช่วยเอาไว้

   “ลูกเจ้านี่ช่างดื้อเหมือนเจ้าไม่มีผิด”

   “เกี่ยวอะไรกับผม ถ้าดื้อเหมือนผมก็กินเก่งเหมือนพี่นั่นแหละ”ผมเถียงแล้วลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าเตรียมลงไปหาอะไรกิน



   ในระหว่างที่กำลังจะเดินออกไปจากห้องเพื่อลงไปข้างล่าง ตัวผมก็ถูกพี่ธาราที่เดินตามมาดึงเข้าไปสวมกอดจากทางด้าน
หลัง

   “มีอะไรรึเปล่า จู่ๆมากอดผมทำไม”ผมถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะปกติแล้วพี่ธาราไม่เคยเป็นแบบนี้ แล้วนี่มันก็ผ่านมาหลาย
วันแล้ว

   “ข้ารักเจ้า”

   คำพูดที่แผ่วเบาหลุดออกมาจากปากยักษ์ตัวโตทำเอาผมใจสั่น น้อยครั้งที่พี่ธาราจะบอกรัก แต่ผมก็ยังต้องการที่จะฟังมัน
บ่อยๆอยู่ดี



   “บอกข้าสิว่าเจ้าก็รักข้า”

   อย่างที่ผมคิดจริงๆว่ามันแปลกๆ เพราะว่าพี่ธาราไม่เคยถามอะไรที่เหมือนไม่มั่นใจแบบนี้มาก่อนหลังจากที่เราคุยกันรู้เรื่อง
ในคืนทำลูก?

   “ผม เอ่อ ทำไมจู่ๆถึงถามล่ะ”

   “บอกข้ามาสิว่าเจ้ารักข้าหรือไม่”

   “ผม รักพี่”ผมตอบ

   ไอร้อนที่แผ่มาจากอ้อมกอดทางด้านหลังทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น แต่ในความอบอุ่นนั้นผมคงจะคิดไปเองว่ารู้สึกถึงความไม่ไว้
วางใจอยู่ข้างใน

   “ข้ากลัวเหลือเกิน กลัวว่าใครจะมาแย่งเอาเจ้าไปจากข้า….อีกครั้ง”

   หัวใจของผมกระตุกวูบ อีกครั้งที่เขาหมายถึงมันทำให้ผมคิดถึงเรื่องวันนี้ หากคุณหมอไม่เข้ามาช่วย ในระหว่างที่พี่ธาราไม่
อยู่ ผมคงจะถูกแย่งไปจริงๆถึงแม้ว่าผมจะไม่เต็มใจก็ตาม

   “ผมอยู่กับพี่ตลอด พี่อย่าคิดมากดิ ลูกไม่ชอบ”ถึงจะกระดากปาก แต่ผมก็เริ่มรู้สึกว่าการเอาลูกมาอ้างก็เห็นผลดีไม่น้อย

   “นั่นสินะ ลูกๆที่ดื้อเหมือนเจ้าคงจะไม่ชอบที่ข้ากอดเจ้า จูบเจ้าแบบนี้ เรื่องที่เจ้าปิดบังข้าครั้งนี้ข้าจะยกโทษให้”

   ว่าแล้วพี่ธาราก็ระดมจูบระดมหอมอีกครั้ง ว่าแต่เรื่องทั้งหมดเขารู้อยู่แล้วสินะ แล้วรู้ได้ยังไง

   “ดะ เดี๋ยว เมื่อกี้ยัง อื้อ หิว”ผมพยายามปัดป้องมือและปากปลาหมึกที่ลวนลามไม่หยุดหย่อน

   เมื่อกี้ยังทำซึมทำโกรธอยู่เลย แล้วทำไมจู่ๆถึงกลับมาเป็นเหมือนเดิมล่ะ

   หรือเป็นเพราะว่าผมบอกรักกันนะ?

   จะยังไงก็แล้วแต่ หวังว่าคงจะไม่มีใครโผล่มาทำให้ผมวุ่นวายและทำให้ผมกับพี่ธาราและลูกๆเครียดอีก

   ตอนนี้ผมควรจะเอาความสนใจมาลงที่ลูกยักษ์ที่อยู่ในท้องผมมากกว่า ไม่รู้ว่าจะเริ่มบอกพ่อกับแม่ยังไงดี



===================================================================



   เปลือกตาที่ปิดสนิทกระพริบตาถี่ๆด้วยความยากลำบาก ความรู้สึกหนักอึ้งทำให้รู้สึกแปลกใจจนต้องมองไปรอบๆเมื่อลืมตา
ขึ้นมาได้

   สถานที่แปลกตาและไม่คุ้นเคยทำให้เขาแปลกใจไม่น้อย

   เขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าหลับไปตอนไหน อาจจะไม่ได้หลับไปเองซะด้วยซ้ำ

   การที่เขาศึกษาหาข้อมูลมาโดยตลอดทำให้รู้ว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่สิ่งมีชีวิตธรรมดาตามที่มนุษย์เข้าใจเท่านั้น

   พวกยักษ์ พวกเงือกหรือสิ่งมีชีวิตในตำนาน วรรณคดี หรือพงศาวดารยังคงมีอยู่

   แสงที่ส่องเข้ามาผ่านทางระเบียงห้องทำให้ต้องหรี่ตาลงเพื่อปรับสายตารับกับแสง

   แต่แล้วดวงตาคมนิ่งก็เบิกกว้างเมื่อสีของน้ำทะเลที่เคยเห็นนั้นไม่เหมือนเก่า มันมีสีที่เข้มและใสกว่าเป็นหลายเท่า

   ไม่เหมือนกับอยู่บนฝั่งทะเลทั่วไป ความรอบรู้ทำให้รู้ได้ทันทีว่าที่นี่ไม่ใช่แผ่นดิน หากแต่เป็นเกาะ

   แล้วเขาอยู่ที่ไหนกัน

   “ตื่นแล้วรึ เจ้าหลับไปนานมาก ทศกัณฐ์คงจะเคืองเจ้าอยู่ไม่น้อย”

   เสียงทักทายจากยักษ์สูงวัยแต่รูปกายยังคงเยาว์เรียกให้วาลีหันไปมองก่อนจะขมวดคิ้ว

   “ที่นี่ที่ไหน”

   “ข้าไม่จำเป็นต้องตอบเจ้า และข้าคงจะไม่ต้องบอกเจ้าว่าข้าคือใครสินะ”

   “ผมต้องการจะกลับบ้าน”เขาบอกพร้อมกับมองสำรวจคนที่ไม่น่าจะเป็นเหมือนคนทั่วไปเดินเข้ามาในตัวห้อง

   ใบหน้าคมคร้ามในแบบไทยสมัยก่อนกับดวงตาสีดำสนิทจ้องมองมาที่เขา คนตรงหน้าดูท่าทางอายุประมาณสามสิบปลายๆ
หรือไม่น่าจะเกินนั้น แต่เขาก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าอายุที่แท้จริงแล้วของคนคนนี้จะอายุเท่าไร



   “เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปจากที่นี่หากยังไม่ถึงเวลา  ตื่นขึ้นมาก็ดีแล้ว ที่นี่ไม่มีคนคอยดูแล ต่อจากนี้ไป เจ้าจะต้อง
เป็นคนดูแลงานบ้านที่นี่ทั้งหมด”

   วสินกล่าวด้วยท่าทีไม่ได้ใส่ใจก่อนจะเดินออกไปทิ้งให้วาลีขมวดคิ้วมุ่นกับคำสั่งที่เขาเองก็ยังไม่เข้าใจดีว่าคืออะไร

   ยังไงซะนิสัยของหัวขโมยจะต้องถูกสั่งสอนให้เข็ด จะได้ไม่ไปขโมยของรักของคนอื่นเหมือนที่พ่อแม่ที่เคยทำเอาไว้

   การมีตัวตนที่ฝืนโชคชะตาในครั้งนี้ ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดครึ่งยักษ์ครึ่งมนุษย์

   เขาจะปล่อยให้มันเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นไม่ได้



===================================================================
===================================================================

   
รู้ตัวอีกทีก็เผลอปล่อยให้วาลีอยู่มาหลายตอนเกิน ยืดดดดด


หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/12 [CH.24] ปิดฉากหัวขโมย
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-12-2015 18:05:57
อ้าว วาลีโดนคุณอาวสินงาบเหรอคะเนี่ย

แต่พ่อแม่วาลีเป็นคนขโมยนา ทำไมถึงว่าลูกมีนิสัยขโมยด้วยล่ะ???
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/12 [CH.24] ปิดฉากหัวขโมย
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 10-12-2015 18:14:49
อ้าว วาลีโดนคุณอาวสินงาบเหรอคะเนี่ย

แต่พ่อแม่วาลีเป็นคนขโมยนา ทำไมถึงว่าลูกมีนิสัยขโมยด้วยล่ะ???

ขุ่นวาลีตั้งใจจะขโมยน้องมณีไปจากพี่ธาร แถมขโมยคนไข้ของคุณหมอทศด้วย ประมานนั้นค่า
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/12 [CH.24] ปิดฉากหัวขโมย
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 10-12-2015 18:34:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/12 [CH.24] ปิดฉากหัวขโมย
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 10-12-2015 19:50:53
ปิดฉากหัวขโมย แล้วเริ่มบทบาทใหม่  "คนรับใช้" ใช่ไหมคะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/12 [CH.24] ปิดฉากหัวขโมย
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-12-2015 19:59:19
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/12 [CH.24] ปิดฉากหัวขโมย
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 10-12-2015 21:39:06
แอบสงสารวาลีเบาๆ แต่ก็อานะ  คนขี้ขโมยก็ย่อมต้องได้รับโทษเบาๆ :hao3:

ว่าแต่มีคำสะกดผิดหลายแห่ง ทำให้ติดๆขัดๆเวลาอ่าน พยายามเข้านะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/12 [CH.24] ปิดฉากหัวขโมย
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 10-12-2015 22:01:33
เอะ หรือท่านอาจะคู่กีบวลี
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/12 [CH.24] ปิดฉากหัวขโมย
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 10-12-2015 22:57:58
คู่นี้ก็น่าติดตาม... อุ๊ยยย หลายใจซะแล้วเราา >///<
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/12 [CH.24] ปิดฉากหัวขโมย
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 10-12-2015 23:54:35
คุณอาสุขุมมากๆ เลยนะคะ :-[
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/12 [CH.24] ปิดฉากหัวขโมย
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 11-12-2015 09:40:22
อ้าววารีมีคู่ด้วย
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/12 [CH.24] ปิดฉากหัวขโมย
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 11-12-2015 16:31:36
เพิ่งได้อ่าน ขอบอกว่าสนุกมาก ชอบๆๆ
มันหลากหลายอารมณ์ดีเรื่องนี้ มีหลายคู่ให้ฟินด้วย :laugh:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/12 [CH.24] ปิดฉากหัวขโมย
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 11-12-2015 16:41:07
มณีเอ้ยยยย รอดมาได้อีกแล้วสินะ  :mew1:

หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 16-12-2015 19:36:10
ครั้งที่ 25 ได้ด้วยเล่ห์

   วันคืนผ่านไปคืนแล้วคืนเล่า ศรีสุวรรณก็ยังคงเฝ้าวนเวียนมารอคอยใครคนหนึ่ง ณ ที่เดิม

   เขามองผ่านห้วงน้ำในเวลาโพล้เพล้ แสงสีส้มสดพาดผ่านผืนทะเลและเกลียวคลื่นดูน่ามอง

   มือหนาช้อนเอาพลอยเม็ดสวยที่ถูกซัดเกยตื้นเอาไว้ในมือ

   ทุกวันในเวลาเย็น เม็ดพลอยสีสวยราวกับนัยน์ตาของเงือกหนุ่มจะถูกซัดมากับน้ำ ราวกับว่าเงือกหนุ่มนั้นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
จากเขาทุกวัน

   มันเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้ใจร้ายกับเขานัก แต่เขาจะต้องทำยังไง เพื่อที่จะพบเจอและได้อยู่ใกล้

   ในบางครั้งการรอคอยมันก็ทำให้เขาหมดความอดทนลง เขาหยัดกายขึ้นเตรียมกลับเข้าไปในบ้าน

   เขายืนหันหลังให้กับท้องทะเล แล้วเดินจากมา

   การรอคอยด้วยความใจเย็นนั้นไม่ได้ช่วยอะไร เป็นเวลากว่าสามเดือนแล้ว สามเดือนที่เขาอยู่ที่นี่

   ในเมื่อใช้เวลาแล้วไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เขาก็จำเป็นจะต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมเมื่อสิ้นหนทาง

   ชายหนุ่มหลบกายอยู่ข้างโขดหินก้อนใหญ่ เสียงบางสิ่งกระทบกับผืนน้ำไม่ไกลนักทำให้เขาเหยียดยิ้มด้วยความพึงพอใจ

   เขานึกอยู่แล้วว่าเงือกหนุ่มจะต้องอยู่ใกล้เขาตลอดเวลา

   ศรีสุวรรณเดินกลับเข้าไปที่โขดหินริมน้ำอีกครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาไม่แพ้ผู้เป็นน้องยิ้ม

   ก่อนที่ร่างกายจะทิ้งตัวลงสู่ผืนทะเลลึก เสียงร่างกายกระทบกับผืนน้ำดังก้องกังวานไปทั่ว

   ร่างกายค่อยๆจมดิ่งสู่ความมืดมิดที่ลึกลงไป เขาหลับตาลงด้วยความสบายใจ

   เขามั่นใจ ว่าชลาสินธุ์จะต้องมา

   เขาหลับตาลงและปล่อยกายให้แน่นิ่ง ผืนสมุทรโอบอุ้มนำพาเขาจมดิ่งลงไป

   ก่อนที่ดวงตาคมจะปิดลง เจ้าของดวงตาสีน้ำทะเลลึกก็ปรากฏ แต่เขานั้นแน่นิ่งไปแล้ว

   

   กายสูงใหญ่ถูกโอบอุ้มและรั้งเอาไว้ ริมฝีปากเย็นชื้นทาบทับลงบนริมฝีปากอุ่น

   ลมหายใจร้อนผ่าวถูกมอบผ่านจูบอันเย็นชืด แต่เนิ่นนานก็ไม่มีวี่แวว

   จนกระทั่งริมฝีปากหยักนั้นยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มือหนารั้งเอาเอวบางเข้าไปกอดแน่นราวกับกลัวว่าจะหนีหายไปอีกครั้ง



   เจ้าของนัยน์ตาสีคราวเบิกโพล่งเมื่อมนุษย์นั้นเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก ดวงตาสีดำสนิทลืมตาขึ้นในน้ำ มองมาอย่างเจ้าเล่ห์

   เลือกหนุ่มจะถอยหนี แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ร่างกายถูกรั้งขึ้นสู่ผิวน้ำ

   เรียวหางฟ้าอมเขียงตวัดขืนเมื่อมือใหญ่ตรงเข้าลูบไล้เอาผืนเกร็ดจนแทบอ่อนแรง



   “พะ พี่วรรณ ท่านทำสิ่งใดของท่าน”เงือกหนุ่มพยายามยันกายออกจากอ้อมกอดแข็งแรง

   “ถ้าฉันไม่ทำอย่างนี้นายจะยอมออกมาไหมล่ะ”

   “ท่านมันบ้าไปแล้ว”เงือกหนุ่มหน้าแดงก่ำ ทั้งโกรธทั้งตกใจ

   แต่ความโกรธอาจจะมีมากกว่า เพราะหากศรีสุวรรณตายลง เงือกหนุ่มเองก็จะต้องตายเช่นกัน

   ชีวิตนั้นผูกพันกับชีวิต ลูกน้อยที่อยู่ในท้องก็จะไม่รอดตามไปด้วย

   “ปล่อยข้า”

   “ฉันจะไม่ปล่อยนายไปอีกแล้ว”

   คำพูดเป็นเหมือนกับคำสัญญาทำให้เงือกนิ่งชะงักมือที่ผลักไส

   ศรีสุวรรณก้มมองท้องที่นูนขึ้นมาด้วยความแปลกใจ

   เขาจ้องมองมันนิ่ง ความสงสัยก่อเกิดเป็นคำถามว่าท้องที่นูนออกมานั้นใช้ท้องที่เป็นการตั้งท้องหรือไม่

   “นายท้องเหรอ”เขาถาม

   “ขะ ข้า”

   “ว่าไง นายท้องเหรอ”เขาก้มหน้าลงไปหาใบหน้าสวยจนเกือบชิดเพื่อรอฟังคำตอบ

   “ขะ ข้าท้อง”เงือกหนุ่มตอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ

   “ทำไมนายไม่บอกฉัน”

   “ท่าน ใจร้ายกับข้า ข้ากลัวว่าท่านไม่รักข้า ข้ากลัว”

   เงือกหนุ่มหลบตา ตอบด้วยเสียงแผ่ว



   “แล้วนายเอาอะไรมาตัดสินล่ะ”เขาถาม มือก็พลางอยู่ไม่สุข จับเข้าที่สะโพกอวบอิ่มปรกคลุมด้วยเกล็ดลื่นมือ

   “ทะ ท่าน ทำอะไร ปล่อยข้านะ”

   “ทำไมล่ะ ตอบคำถามของฉันมาสิ”

   “ขะ ข้า ข้าแค่กลัวมนุษย์ มนุษย์นั้นใจร้ายนักอีกอย่าง ข้าก็เป็นเพศผู้ ทะท่านคงชอบเพศเมียมากกว่า”

   “หึหึ นายมันก็คิดไปเองอยู่เรื่อย”

   พูดจบเขาก็อุ้มร่างของเงือกหนุ่มขึ้นเหนือผืนน้ำแล้วย่ำเท้าขึ้นมาบนบก

   “ได้โปรด ท่านจะทำอันใด ไม่ได้นะ”

   ชลาสินธุ์พยายามดิ้น

   

   “ทำไมจะทำไม่ได้ นายเป็นภรรยาของฉัน และที่สำคัญลูกของฉันก็อยู่ในท้องนาย”

   “ตะ แต่พ่อแม่ข้า”

   “พ่อแม่ของนายอนุญาตฉันแล้ว”

   “ท่านหมายความเช่นไรกัน”

   “ฉันคุยกับพ่อแม่ของนายแล้ว พวกเขาอนุญาตให้ฉันพานายไปอยู่ด้วย”

   ศรีสุวรรณบอก เมื่อหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาได้พูดคุยกับเงือกที่เป็นพ่อแม่ของชลาสินธุ์

   เขาได้รับปากกับเงือกสองตนเป็นอย่างดีว่าจะดูแลชลาสินธุ์ให้ดีที่สุด จนเงือกพ่อแม่อนุญาตและแนะนำหนทางให้

   “เหตุใดข้าจึงไม่รู้อันใดเลย”

   

   “ไปกันเถอะ”ศรีสุวรรณตัดบท

   เขาอุ้มเงือกหนุ่มเดินเข้ามาในตัวบ้านหลังใหญ่

   “ท่านจะพาข้าไปไหนกัน”

   “กลับบ้านไง ฉันจะพานายกลับบ้าน”

   “แต่ ที่นี่ไม่ใช่บ้าของท่านรึ ข้าอยากอยู่กับพ่อแม่ข้า”

   เงือกหนุ่มมุ่ยหน้า ดวงตาสีสวยเริ่มมีน้ำคลอหน่วยตา

   “ไม่ต้องห่วง ฉันจะพานายมาหาพ่อแม่บ่อยๆ แต่ตอนนี้ฉันจะต้องกลับบ้านแล้ว มันนานเกินไปที่จะอยู่ที่นี่”

   “ละ แล้วท่านจะพาข้าไปที่ใดกัน ที่นั่นน่ากลัวหรือไม่”

   “อย่าห่วงเลยฉันไม่ปล่อยให้นายเป็นอะไรหรอก ฉันจะดูแลนายเอง”

   ริมฝีปากได้รูปจรดลงบนริมฝีปากบางสวยแล้วขบเม้มอย่างหยอกเย้า



   เพล้ง!!!

   เสียงแก้วแตกทำให้ทั้งสองผงะแล้วหันไปมอง

   แขกผู้มาใหม่ของบ้านได้แต่มองมาที่เขาและเงือกหนุ่มด้วยความตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น

   ร่างกายครึ่งคนครึ่งปลาที่ไม่เคยได้เห็น แค่รับรู้กลายๆว่ามีจริง

   วาลีได้แต่มอง ทำอะไรไม่ถูก เงือกเพศผู้ที่สวยราวกับหลุดออกมาจากนิทานปรัมปราทำเอาแทบจะไปไม่ถูก แจกันที่พึ่งจะ
เช็ดเสร็จร่วงลงบนพื้นแตกกระจายจนไม่เหลือชิ้นดี

   นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน แล้วที่นี่มันที่ไหน ทำไมถึงมีแต่สิ่งมีชีวิตแบบนี้เต็มไปหมด



   ศรีสุวรรณเหยียดยิ้มให้กับแขกใหม่ เขารู้มาว่าคนคนนี้ ต้องการที่จะทำอะไรกับน้องชาย เขาก็นึกดูแคลนและสะใจอยู่เล็กๆ

   เรื่องนี้เขาจะไม่เข้าไปยุ่ง ถึงมันจะเกี่ยวกับน้องชายของเขา เพราะตอนนี้คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ก็คือเจ้าของบ้าน



   “ขะ เขาเป็นใครกัน”

   “อย่าไปสนใจ นายควรสนใจเรื่องของเรามากกว่า”เขาว่าแล้ววางร่างครึ่งปลาลงบนที่นอน

   ทนใดหางที่คลุมด้วยเกร็ดสีสวยก็เปลี่ยนสภาพเป็นเรียวขายาว เรียบเนียน

   ศรีสุวรรณยิ้มอย่างพึงใจที่ได้เห็น แต่ชลาสินธุ์นั้นกลับหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย

   “พะ พี่วรรณ ทะ ท่านอย่าจ้องข้าสิ”

   “เป็นอะไรไปล่ะ มากกว่านี้นายยังไม่เห็นว่าอะไรเลย”

   “ท่านช่างเจ้าเล่ห์นัก ท่านแกล้งจมน้ำให้ข้าเข้าไปช่วย”เงือกหนุ่มหน้ามุ่ย

   “ถ้าฉันไม่ทำอย่างนั้นนายจะยอมออกมาไหมล่ะ”

   “มะ ไม่”

   “นั่นล่ะคือคำตอบ”

   ไม่ว่าเปล่า มือใหญ่วางลงบนข้อเท้าเล็กก่อนจะไล้มันขึ้นไปที่เรียวขายาวอย่างใจเย็นพลางยิ้มเจ้าเล่ห์

   “พี่วรรณ ท่านช่างลามกยิ่งนัก ลูกข้าไม่ชอบใจแน่”

   ชลาสินธุ์เบือนหน้าหนี ใบหน้าหวานแดงเรื่อด้วยความอาย

   “ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่”

   เขากระซิบข้างหู ริมฝีปากหยอกเย้าขบเข้าที่ริมหูเบาเบา ทำเอาเงือกหนุ่มตัวสั่น

   มือร้อนผ่าวเลื่อนขึ้นมากุมท้องป่องนูนแล้วลูบไล้อย่างรักใคร่

   “นี่ลูกของฉัน”

   จมูกโด่งคลอเคลียแก้มนุ่ม

   “อะอือ”

   เงือกหนุ่มหยักหน้า เบือนหน้าหลบริมฝีปากซุกซน อีกทั้งมือใหญ่ที่อยู่ไม่สุข

   “ฉันรักนาย อย่าหนีไปไหนอีกนะ”

   เสียงกระซิบดังข้างหูทำเอาเงือกหนุ่มชะงัก

   เม็ดพลอยสีสดร่วงหล่นกระทบผืนผ้าปูไม่ขาดสาย

   “อะไรกัน นายร้องไห้ทำไม”

   มือใหญ่รีบเช็ดน้ำตาที่ขอบตาก่อนมันจะร่วงลงมาเป็นเม็ดพลอยสีฟ้าสด

   หากเอาไปขายเขาคงจะกลายเป็นเศรษฐีเลยละ

   “ขะ ข้าไม่รู้”

   “แล้วนายล่ะ คิดยังไงกับฉัน”พูบไปพลางเลื่อนมือไปหยุดบนสะโพกเนียนนุ่มแล้วคลึงเบาเบา

   “ขะ ข้า”ชลาสินธุ์เงยหน้าขึ้นมอง ลมหายใจร้อนกำลังเป่ารดใบหน้าขาวทำเอาหน้าร้อนวูบ

   “ว่ายังไงล่ะ”

   “คือว่า ขะ ข้า”

   “ถ้านายไม่รีบตอบ บางที ฉันอาจจะ”


   พูดค้างเอาไว้แล้วจงใจบีบเข้าที่ก้นกลมกลึงเต็มมือ

   “อะ ข้า ข้าก็ระ รักท่าน พะ พี่ วรรณ”

   เงือกหนุ่มรีบตอบแล้วโผเข้ากอดชายหนุ่มเพราะเกรงว่าถ้าช้ากว่านี้ อาจจะเกิดเรื่องเลยเถิดขึ้นเป็นแน่

   “ก็แค่นั้น”ชายหนุ่มยิ้มพอใจ ก่อนจะจูบลงบนขมับนุ่ม

   เขาดันร่างกายบางลงบนที่นอนก่อนจะคร่อมทับ

   “เดี๋ยวสิ พี่วรรณ ข้า ข้าไม่”

   “เงียบๆน่า”

   เขากระซิบพลางยกยิ้มเจ้าเล่ห์



===================================================================



   “ไง กลับดึกเลยนะ”

   เสียงทำทายมาจากมุมมือทำให้เจ้าของร่างสูงโปร่งที่กำลังเดินผ่านห้องนั่งเล่นเข้ามาในตัวบ้านสะดุ้งเฮือก

   ควันบุหรี่ลอยคลุ้งกระจายไปทั่วทำเอาย่นจมูก

   “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ”ตอบกลับไปอย่าไม่อยากจะเสวนาด้วยแล้วเดินหนีเมื่อรู้ว่าคนที่พูดแขวะกันคือใคร

   

   “ที่นายไม่ค่อยอยู่และกลับมาตอนดึกๆ นายกำลังกลัวฉันอยู่ใช่ไหมล่ะ”

   “ฮึก”อเลนสะดุ้งเมื่อร่างกายสูงใหญ่จู่ๆก็ปรากฏขวางทางขึ้นอยู่ด้านหน้า

   เมื่อกี้ยังนั่งอยู่ที่โซฟาอยู่เลย แล้วทำไมถึงมาดักอยู่ข้างหน้าได้ล่ะ

   เจ้าของใบหน้าหวานถอยหนี ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความระแวง

   อุตส่าห์กลับมาในเวลาดึกเพราะเลี่ยงที่จะเจออีกฝ่าย แต่กลับเจอเข้าจนได้

   “ใช่ไหมล่ะ นายกำลังกลัวฉัน”ยักษ์หนุ่มยื่นหน้าเข้าไปใกล้ จนได้กลิ่นหอมจางๆจากเจ้าตัว

   เขาขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ กลิ่นหอมจางที่เหมือนเคยได้กลิ่นเมื่อนานมาแล้วทำเอาความคิดเหมือนถูกตีจนรวน

   “อะไร ผมไม่ได้กลัวสักหน่อย แค่ไปทำธุระแล้วก็แค่นั้น อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยน่า”อเลนตอบแล้วถอยหนี

   ทางขึ้นบันไดก็ถูกขวางเอาไว้ ไม่รู้จะทำไงต่อไปดี

   “งั้นหรอกเหรอ นายไม่กลัวฉันก็ดี จะได้ไม่ต้องเกรงใจ”

   ยักษ์สิบหน้าแสยะยิ้ม

   “อะ อะไร ถอยไป ไม่งั้นจะเรียกคนอื่นจริงๆด้วย”

   “คิดว่าจะมีใครได้ยินก็เอาสิ”

   เมื่อถูกท้ามีเหรอที่จะไม่ทำ

   แต่พยายามจะเปล่งเสียงเท่าไรก็เปล่งไม่ออก เสียงที่มีถูกกลืนหายลงไปในลำคอ ทำเอาดวงตาคมซึ้งเบิกกว้างด้วยความ
ตกใจ

   “ไงล่ะ ได้ผลไหม”ยักษ์หนุ่มไม่พูดเปล่า กลับเดินเข้าหาเจ้าของร่างบอบบางจนเกือบชิด

   “คะ คุณเป็นตัวอะไรกันแน่ อย่าเข้ามานะ”

   “กลัวรึไง”

   “ไม่ใช่ ไม่ได้กลัว แค่ เหนื่อย อยากพักผ่อน”พูดไปพลางถอยหนี ตาเริ่มหลุดหลิกมองหาทางรอด

   ไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้าเป็นตัวอะไรกันแน่ เมื่อคืนนั้นก็มีตาสีเหลืองน่ากลัว แล้วยังทำให้สร้อยคอที่ใส่มีแสงออกมาอีก แล้ว

คราวนี้อะไร ทำให้เขาพูดอะไรไม่ได้

   นี่มันอะไรกันแน่

   “อย่าเข้ามานะ”

   พอนึกถึงสร้อยได้ก็รีบล้วงสร้อยในคอมาถือขู่เอาไว้ แล้วก็ได้ผล

   อีกฝ่ายชะงักนิ่ง ไม่ก้าวเข้ามาหามากกว่าเดิม


   “กลัวไอ้นี่ใช่ไหมล่ะ”อเลนยกยิ้ม เหมือนผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า



   “หึหึ ดูท่านายจะไม่รู้อะไรนะ”ทศกัณฐ์หัวเราะในลำคอ

   “รู้อะไร”

   “ก็นี่มันคืนเดือนมืด มนต์ดำน่ะ ใช้ไม่ได้ผลหรอกนะ”

   “ดะ เดี๋ยวสิ มนต์ดำอะไร เฮ้ย ปล่อย”ยังไม่ทันจะตั้งตัวก็ถูกดึงมือให้เดินตามไป

   ร่างถูกกดลงบนโซฟาตัวยาวด้วยแรงที่ไม่ผ่อนนักจนแทบจะจมลงไป

   “จะทำอะไรน่ะ”

   ร้องถามอย่างตกใจเมื่อร่างถูกจับให้คว่ำหน้าลงกับโซฟาแล้วกดหัวลง

   “อื้อ ยะ หยุด”ทำได้แต่ร้องอู้อี้ เมื่อสู้แรงไม่ได้

   แผ่นหลังเย็นวาบเมื่อเสื้อเชิ้ตตัวบางถูกเลิกขึ้นทำให้สะดุ้ง แต่ก็ไม่เท่ากางเกงที่ใส่อยู่กำลังถูกดึงทึ้งให้รุ่นลง

   “อื้อ”นั่นยิ่งทำให้ต้องยิ่งขัดขืน พยายามดึงมือยื้อกางเกงที่ใส่เอาไว้

   “อย่าดิ้นนักสิ”

   ยักหนุ่มข่มเสีย พยายามดึงเอากางเกงของอีกฝ่ายให้ร่นลง แต่ดูท่าอีกฝ่ายจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไร

   เขาต้องการจะดูให้ได้ว่ามันเป็นตามที่เขาคิดจริงรึเปล่า บางทีคนคนนี้อาจจะเป็นคนเดียวกับคนที่เขาคิด

   เจ้าของเรือนผมสีดำสนิทราวกับสีขนของอีกา

   กางเกงถูกดึงจนร่นลงเผยให้เห็นแก้มก้นขาวสะอาด หากแต่มันไม่ได้ไร้ตำหนิอย่างที่ควรจะเป็น

   ปานแดงรูปกลีบกุหลาบปรากฏอยู่บนแก้มก้นด้านซ้ายทำให้ยักษ์หนุ่มเบิกตากว้าง



   “คิดจะทำอะไรกันแน่ ไอ้หมองี่เง่า”

   ยังไม่ทันจะคิดอะไรมากก็ถูกดึงด้วยแรงมหาศาลแบบไม่ทันตั้งตัวให้ถอยตัวออกมาจากร่างโปร่งที่กำลังเข่นเขี้ยวเขี้ยวฟัน
ด้วยความเจ็บใจ

   “ไอ้โรคจิต”

   พอตั้งตัวได้ก็รีบจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วเดินหนีขึ้นห้องไป



   “ไอ้ยักษ์โลภมาก แกจะมาขวางทำไมวะเนี่ย”สบถถามด้วยความหงุดหงิด

   อุตส่าห์ได้เห็นแล้วแท้ๆ

   “หากข้าไม่หยุดไว้เจ้าคงจะรังแกมนุษย์นั่น”ธาราตอบด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ

   “แล้วทำไมนายถึงไม่บอกฉันว่ามนุษย์นั่นเป็นนางกลับชาติมาเกิด”

   “ข้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นเจ้าที่ต้องค้นหาเอง อีกอย่าง ชิตที่แล้วนางก็ไม่ได้มีใจต่อเจ้า ชาตินี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้อง
ผูกพันใดใด”

   “ยักษ์งี่เง่าหลอกเด็กอย่างแกจะไปรู้อะไร”

   “จริงอยู่ข้าไม่รู้อะไร แต่ข้าไม่ได้หรอกเด็กอย่างที่เจ้าบ้า เจ้าโง่ ขืนเจ้าทำแบบที่เจ้าทำอยู่ต่อไป อีกไม่นานมนุษย์นั่นจะหนี
เจ้าไปแน่”

   “ฉันไม่ปล่อยให้หนีไปง่ายๆหรอก”

   จะมาล่อหลอกให้ตายใจแล้วหนีไปเหมือนชาติที่แล้วไม่ได้เด็ดขาด

   รูปวาดที่ลงมนต์เสน่ห์ถูกส่งไปทั่วได้ตกมาถึงมือของเขา ให้ทำให้เขาหลงรักเจ้าของรูปวาดนั้นตั้งแต่แรกเห็น

   เรือนผมสีดำสนิทกับใบหน้าที่สวยราวนางสวรรค์นั้นทำให้อดใจไม่ไหวจึงได้ลักพาตัวไปเอามา

   แต่ก็ไม่สามารถแตะต้องได้เพราะสร้อยคอที่ใส่เพื่อป้องกันตัวจากพวกอมนุษย์

   พอเผลอละสายตาเข้า รู้ตัวอีกทีก็ดันหนีไปซะได้ ถึงได้ผูกใจเจ็บและฝังใจมาถึงทุกวันนี้

   


==================================================================

หายไปหลายวัน หุหุ คิดถึ๊ง คิดถึง คนอ่าน

หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 16-12-2015 20:11:51
พี่วรรณแผนสูงมาก แล้วแบบนี้ชลาสินธุ์คนใจดีจะหนีไปไหนได้กันล่ะคะ :-[
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 16-12-2015 20:36:15
เงือกน้อยน่ารัก เดียวลูกของมณีก็จะได้มีเพื่อนเล่นแล้วซินะ :mew1:

อเลนหาที่พักใหม่เถอะนะ ไม่งั้นสักวันจะโดนหมอปล้ำแน่ๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-12-2015 20:46:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-12-2015 22:00:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 16-12-2015 22:30:49
เรื่องนี้เด็กๆเต็มบ้านแน่นอนเลย
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 16-12-2015 22:34:47
ชอบคู่ของพ่อเงือกกับพี่วรรณอ่ะ หวานซึ้งดีคับ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 16-12-2015 23:25:42
กำลังสงสัยว่านางคือใคร  :hao4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 16-12-2015 23:34:10
ตื่นเต้นก้บทุกคู่เชียรสุดใจเลยยยย
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 16-12-2015 23:36:06
สนุกๆๆๆ รอตอนต่อไปน้าาาาา :impress2:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: ฤดูใบไม้หลากสี ที่ 16-12-2015 23:41:12
ชื่อเรื่องไม่เหมือนในเด็กดีเลยแต่ชอบชื่อเรื่องในเล้า โอเคต่อไปอ่านตามต่อในเล้า อิอิ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 17-12-2015 00:43:32
ทศกัณฑ์กับอเลนนี่มีอดีตอะไรกันเนี่ยย

พี่วรรณก็ช่างเจ้าเล่ห์จริง :hao3:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 17-12-2015 20:58:53
โถถถถถถ พ่อตาแม่ยายให้ความร่วมมือ น้องเงือกจะหนีไปไหนรอด (เสร็จพี่วรรณไปตามระเบียบ)

อุ๊ย อุ๊ย ตอนท้ายนี่มันอะไร ชวนจิ้นอีกแล้วเนี่ยะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 18-12-2015 21:43:20
ฟินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 1ุ6/12 [CH.25] ได้ด้วยเล่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 26-12-2015 01:39:30
39176
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)


ครั้งที่ 25.2  ท้อง

ทางด้านหนุ่มลูกครึ่งหน้าใส พอเข้าห้องมาได้ก็รีบล็อกประตูลงกลอนเสร็จสรรพ กลัวว่าไอ้หมอบ้านั่นจะเข้ามาทำไม่ดีไม่ร้ายตัวเองอีกรอบ
   
ไม่รู้มาก่อนว่านี่มันเรื่องบ้าอะไร ก็พอรู้ว่าโลกนี้มันมีการทำไสยศาสตร์ที่รียกว่าทำเสน่ห์แบบที่เคยทำตามตำราของพ่อ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่มันมีเวทมนต์คาถา

   หรือว่ากลายร่างได้ เปลี่ยนสีตาได้แบบนั้น แค่นึกถึงก็ขนลุกไปทั้งตัว

   มือเล็กรีบค้นเอาสัมภาระในตู้เสื้อผ้าของตนออกมาแล้วจัดการพับอย่างชุ่ยๆ ยัดลงใส่กระเป๋า

   วันพรุ่งนี้ล่ะ จะต้องไปจากที่นี่ให้ได้ มีเวลาอีกไม่กี่เดือนที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระก่อนที่จะต้องรับช่วงต่อกิจการของที่บ้านที่
อยู่ต่างประเทศ

   ถ้าถึงเวลานั้นจะไม่มีเวลาว่างไปไหนมาไหนอีก ถึงได้ถ่อกลับมาที่นี่ แต่ใครจะคิดละว่าจะต้องเจอกับตัวประหลาดน่ากลัว
แบบนี้

   นึกแล้วก็รอให้ถึงเวลาเช้าแทบจะไม่ไหว





================================================================



   ในตอนเช้าของวันนี้ ผมตื่นมาพร้อมกับอาการปวดที่หลังกับบั้นเอวมากถึงขั้นต้องยกมือบีบนวดบั้นเอวของตัวเอง

   วันนี้พี่ธาราเองก็มาที่บ้านแต่เช้าเพื่อมาทานอาหารเช้าเหมือนกับทุกๆวันจนพ่อกับแม่ชินและคิดว่าพี่เขาเป็นครับครัวไปแล้ว

   แต่ผมนี่สิ สี่เดือนจนท้องนูนออกมาเหมือนคนลงพุง ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะบอกพ่อกับแม่ยังไงดี

   เสื้อผ้าที่ใส่ก็เริ่มจะคับ จนต้องซื้อเปลี่ยนใหม่ ได้สปอนเซอร์ดีดีจากว่าที่ลูกเขยอย่างพี่ธาราเป็นคนพาไปซื้อ

   เพราะพี่เขาเอาแต่ตามติดประคบประหงมจนแทบไม่ห่าง กุญแจรถมอเตอร์ไซก็ถูกยึดและถูกห้ามขับนับจากนี้เป็นต้นไป

   ทำเอาชีวิตที่คิดว่าอนาคตมันน่าจะมีรสชาติ แทบจะจืดจางลงทันที

   อาหารมื้อเช้าจบลง พี่ธาราก็พาผมไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ที่มันไซต์ใหญ่กว่าเดิม

   คนอื่นๆมองไม่เห็นว่าท้องของผมมันใหญ่แค่ไหนเพราะคุณลุงวสินบอกว่าท้องของผมเป็นการใช้มนต์อุ้มเอาไว้

   ซึ่งคนเซ่อซ่าอย่างผมไม่ค่อยเข้าใจนัก รู้แค่ว่าถ้าไม่อยากให้ใครเห็นเขาก็จะไม่เห็น

   พอเสร็จแล้วเราก็มาที่บ้านขอพี่ธารา ตามปกติเพราะต้องมาหาหมอทศกัณฐ์ ที่ผมรู้แล้วว่าเขามาอยู่ที่นี่เพื่อที่จะดูแลเด็กที่
อยู่ในท้องอย่างใกล้ชิด

   

   “ม๊านี”เสียงเรียกยานคางพร้อมกับร่างของเจ้าของเสียงโถทเข้ามากอดจนแทบจะหายใจไม่ออก

   “มีอะไรเหรอครับ เรียกซะดังเชียว”ผมถามพลางยิ้มแหยๆให้กับพี่ธาราที่ทำหน้าไม่พอใจทันทีที่พี่อเลนโผเข้ามากอดผม

   จนถึงขนาดมีลูกด้วยกันแล้วยังคิดจะหึงกันอีก?

   “พี่ขอไปอยู่ที่บ้านมณีได้ไหม นะมณี คือว่าพี่”ยังไม่ทันที่พี่อเลนจะพูดจบประโยค ใบหน้าขาวในแบบลูกครึ่งก็ถูกมือใหญ่
ของพี่ธาราดันให้ออกห่างจากหน้าผม

   “ใกล้เกินไป”พี่ธาราบอกน้ำเสียงเรียบนิ่ง

   

   “อะไรกัน จะหวงอะไรนักหนาธารา”พี่อเลนขมวดคิ้ว ยอมถอยหน้าออกไปแต่ไม่ยอมปล่อยมือที่เกาะแขนผมไว้แน่น

   “ว่าแต่ทำไมถึงอยากไปอยู่บ้านผมล่ะ ที่นี่ไม่ดีเหรอครับ”ผมถามเพราะที่นี่ออกจะกว้างและสะดวกกว่าบ้านผมเยอะ

   พี่อเลนมีสีหน้าอึกอัก หลุบตาลงต่ำคล้ายกำลังคิดหาคำตอบ

   ผมมองไปข้างๆตัวก็เห็นว่ามีกระเป๋าเดินทางสองใบใหญ่ตั้งไว้ไม่ไกล

   หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ หรือว่ารู้แล้วว่าพี่ธารากับหมอทศเป็นยักษ์

   “คือว่า พี่”

   “ว่าไครับ”

   ผมมองไปทางพี่ธาราที่ส่ายหน้าเบาเบาคล้ายกับจะบอกว่าเขาไม่เกี่ยว แล้วถ้าไม่ใช่เขา จะเป็นใครล่ะ



   “ไหนบอกว่าไม่กลัวไงล่ะ ถึงขั้นเก็บกระเป๋าหนีกันเลยรึไง”เสียงเยาะเย้ยดังขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นบุหรี่จางๆลอยมาแต่ไกล

   พี่อเลนหันไปเบ้หน้าใส่แล้วหันกลับมาจ้องหน้าผมด้วยสีหน้าอ้อนวอน

   “นะ มณี ให้พี่ไปอยู่ด้วยนะ”

   “งั้นก็ได้ครับ แต่ต้องรอให้ผมทำธุระเสร็จก่อนนะครับ”ผมบอกก่อนจะหันไปมองหมอประจำตัวที่มีสีหน้าไม่พอใจ

   สองคนนี้ต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ ไม่งั้นจู่ๆพี่อเลนไม่ลุกขึ้นมาเก็บกระเป๋ากะทันหันแบบนี้ แล้วที่ว่ากลัวนี่ คงไม่ใช่รู้อะไร
แปลกๆมาหรอกนะ

   “ไม่มีปัญหา พี่รอได้สบายมาก”พี่อเลนยิ้มดีใจ

   แล้วหันไปทำหน้าไม่พอใจใส่หมอทศกัณฐ์





   หลังจากที่ตรวจเสร็จพี่ธาราก็พามาส่งที่บ้านพร้อมกับพี่อเลนกับสัมภาระเตรียมมาอยู่กับผมด้วย

   ครั้งแรกพี่ธาราก็ไม่ค่อยอยากจะยอมให้พี่อเลนมาอยู่บ้านผมสักเท่าไร  จนผมต้องลงทุนเสียหายไปหลายจูบกว่าจะยอมให้
พี่อเลนมาอยู่ที่บ้านผมได้

   ยังไงซะห้องพี่วรรณก็ยังว่างอีกอย่างผมไม่อยากให้พี่อเลนไปอยู่ข้างนอก เพราะพี่เขาจะมาอยู่ระยะยาวมันจะเปลืองค่าใช่
จ่ายค่อนข้างสูงและค่อนข้างอันตราย ดูจากหน้าตาที่น่าล่อลวงแบบนั้น

   นึกไม่ถึงว่าพอเปลี่ยนมาเป็นผู้ชายแล้วจะตัวดูน่ารังแกแบบนี้ คงจะโดนหมอหน้าเถื่อนอย่าหมอทศกัณฐ์แกล้งมาไม่ผิดแน่



   “กลับมาแล้วเหรอตัวแสบ”

   เสียงที่ไม่ได้ยินมานานทักทายทำให้ผมเงยหน้ามอง แทบจะกระโดดไปขี่คอพี่วรรณถ้าไม่ติดว่าท้อง

   คิดว่าจะไม่กลับมาจากเกาะพิสดารนั่นแล้วเชียว

   แล้วนั่น!!

   “ชลาสินธุ์!!”

   ทำไมชลาสินธุ์ถึงมีขาล่ะ แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ผมมองพี่วรรณกับชลาสินธุ์สลับกันไปมา

   ก่อนจะสะดุดตาเข้ากับท้องของชลาสินธุ์ที่ป่องนูนออกมา

   อย่าบอกนะว่า ท้องน่ะ!!!

   “รู้จักกันด้วยเรอะ”พ่อถามขึ้นมา

   “ก็รู้จักอะพ่อ แล้วพ่ออะ รู้จักเหรอ”

   “จะไม่ให้รู้จักได้ไง เกือบจะช็อกตายไปเมื่อกี้ แม่เอ็งก็แทบเป็นลมเป็นแล้งใครจะไปคิดว่าพี่เอ็งจู่ๆจะพาลูกสะใภ้ที่เป็น
ผู้ชายเข้าบ้าน”

   “อะ อะไรนะพ่อ!”ผมถามย้ำอย่างไม่ค่อยเชื่อหู

   “ก็นั่นแหละ พ่อชลาสินธุ์นั่นเป็นพี่สะใภ้ของเอ็ง”

   “อะไร พี่วรรณ เมื่อไร ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่อง?”

   “นานแล้ว”พี่วรรณตบพลางลูบหัวผม



   “ละ แล้วนั่นทำไมท้องถึงได้ใหญ่แบบนั้นล่ะ ตัวก็เล็กนิดเดียวเอง”แม่ถามพลางดมยาดมอย่างข้อใจ หัวก็เอนซบไหล่พ่อที่
กำลังยกมือยกไม้โบกให้

   “นั่นล่ะที่ผมอยากจะบอก”พี่วรรณยิ้มก่อนจะพูดต่อ “ผมกับชลาสินธุ์เรากำลังจะมีลูกด้วยกันครับ ในท้องนี่คือลูกของผม”

   “อะไรนะ!! ทะ ท้องเหรอ โอย แม่จะเป็นลม”แม่ถามย้ำเสียงดัง พลางสูดยาดมเฮือกใหญ่

   “ครับท้อง”

   “แต่เมียลูกเป็นผู้ชายไม่ใช่รึไง”

   “ครับเป็นผู้ชายครับ”

   “ละ แล้ว ท้องได้ยังไงวะ อย่ามาพูดให้แม่เอ็งเป็นลมเป็นแล้ง ไอ้มณีก็มีพ่อธาราไปแล้วคนนึง นี่ยังจะเอ็งอีก แล้วยังมาบ
อกว่าทำผู้ชายท้อง จะล้อเล่นอะไรก็ให้มันน่าเชื่อหน่อยไอ้วรรณ”คราวนี้พ่อบ่น

   แต่ผมนี่สิ ถึงกับหน้าซีด ลูกสะใภ้เป็นผู้ชายแม่ก็จะเป็นลมเป็นแล้ง ถ้าแม่รู้ว่าผมท้องนี่จะขนาดไหนกัน



   “ท้องจริงๆครับ จะสี่เดือนแล้ว”พี่วรรณพูดจบก็ดึงชายเสื้อของชลาสินธุ์ให้เปิดขึ้นเผยให้เห็นหน้าท้องสีขาวจัดป่องออกมา
จนเห็นได้ชัด

   ผมได้แต่มองตาค้าง ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น รวมถึงพ่อแม่และพี่อเลนที่ติดสอยห้อยตามาก็มองกันอย่าไม่เชื่อสายตา

   ท้องของชลาสินธุ์เล็กกว่าของผมเล็กน้อย แต่ก็ใหญ่พอพอกัน

   ผมมองแล้วเริ่มครุ่นคิดว่าจะเอายังไงดี ผมเอื้อมมือไปจับมือของพี่ธาราแล้วบีบแน่นคล้ายกับต้องการที่พึ่งทางใจ

   

   “พ่อ แม่ มณีมีอะไรจะบอก”ผมพูดขึ้นในขณะที่ทุกคนนิ่งเงียบเพราะช็อกกับเรื่องที่ชลาสินธุ์ท้อง

   “อะไรของเอ็ง จะมาบอกอะไรตอนนี้ เห็นไหมว่าคนอื่นๆกำลังตกใจอยู่”

   พ่อหันมาบ่นเข้าให้ แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว ไหนไหนพ่อกับแม่ก็ช็อกไปแล้ว งั้นก็อาศัยจังหวะนี้ล่ะ



   “ผมท้อง”

   


===================================================================

จะบอกเลยว่า เรื่องเดิมเลยคือทศกัณฐ์หลงรักนางสีดาตั้งแต่แรกเห็น จึงได้ลักพาตัวนางสีดาไป แต่ไม่สามารถแตะต้องนางสีดาได้เพราะนางเป็นลูกแท้ๆของทศกัณฐ์
ส่วนดั้งเดิมของนางละเวลเลยคือนางส่งรูปของตัวเองที่ลงเสน่ห์ไปให้เจ้าเมืองอื่นๆทำให้หลงรัก

เลยเอามาฟีทกัน ว่าชาติที่แล้วขุ่นหมอทศหลงรักนางละเวงจากรูปภาพตั้งแต่แรกเห็นจึงลักพาตัว แต่เเตะต้องไม่ได้เพราะมีสร้อยคอทับทิมที่ใส่อยู่ แล้วนางละเวงก็หนีมา จึงได้ผูกใจเจ็บทั้งที่ยังรักอยู่

สำหรับคนที่งง เพราะมีหลายคู่จัด แถมยังอ้างอิงบ้างไ่อ้างอิงบ้าง555 ถ้าอันไหนอ้างจากของจริงเราจะบอกไว้เลย ไม่ต้องห่วงว่าจะสับสนเนอะ

หายไปนาน ปวดตาแรงมาก จ้องหน้าจอไม่ไหว ปวดสุดๆ แถมปวดข้างเดียว เง้อ ตอนนี้ก็ยังปวด แต่ไม่อยากหายไปนาน กลัวโดนลืม 555 มาต่อให้จบบท

ใกล้จบแล้วแหละ รอนางสุวรรณมาลีโผล่มา ตอนหน้านี้ละมั้ง

[/color]
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.25.2] ท้อง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 26-12-2015 03:29:45
39176
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)


ครั้งที่ 26 สารภาพ

   “ผมท้อง”


   ผมบอกออกไปหลังที่นิ่งทำใจอยู่พักใหญ่ แต่ดูสีหนาของพ่อกับไม่ไม่ได้ตกใจไปมากกว่าเดิมเลยสักนิด

   นึกว่าจะตกใจกันมากกว่านี้ซะอีก

   “ไม่ตกใจกันเหรอ”ผมหน้าเหรอหลา มองพ่อกับแม่ พี่อเลนเองก็หน้าเหวอไม่แพ้กัน

   “ยังจะมาเล่นอีก ใช่เวลามาเล่นไหมไอ้ลูกคนนี้”พ่อบ่น

   “จะ จริงๆนะพ่อ ผมท้องจริงๆ”

   “เอ็งจะท้องได้ยังไง เอ็งเป็นผู้ชาย”

   “จริงๆนะพ่อ ผมท้อง ทีชลาสินธุ์ท้องทำไมพ่อเชื่อล่ะ”


   “ก็นั่นมันชลาสินธุ์ แล้วท้องเขาก็ป่องขนาดนั้น แต่เอ็งมันอ้วน เพราะช่วงกินเยอะไม่ใช่รึไง”

   “มณีไม่ได้อ้วนนะพ่อ พ่อฟังบ้างดิ  มณีท้องจริงจริง”

   “เอะ ไอ้ลูกคนนี้ ยังไม่หยุดอีก”

   พอบอกก็ไม่เชื่อกัน ให้ตายเถอะ แต่ละคน จะมีใครสนใจและเชื่อผมบ้างไหม

   ผมได้แต่กุมขมับ





   “น้องมณีท้องจริงๆครับ ท้องกับผม”พี่ธาราดึงผมเข้าไปโอบเอว “ให้พ่อกับแม่เจ้าดูสิ”พี่ธารากระซิบพร้อมกับดึงชายเสื้อ
ของผมเปิดขึ้น

   ผมได้แต่ถอนหายใจแล้วคิดว่าอยากให้พ่อกับแม่เห็น

   พอเปิดเสื้อออกเท่านั้นพ่อกับแม่ถึงกับตาโต ไม่เว้นแม้แต่พี่วรรณ ชลาสินธุ์ หรือแม้กระทั่งพี่อเลนที่ตอนนี้ยืนเกาะกำแพง
คล้ายทำท่าจะเป็นลมไปตามๆกับแม่

   จากปกติที่ทุกคนเห็นแค่ว่าผมมีพุงนิดๆ กลับกลายเป็นว่าตอนนี้เห็นว่าท้องผมป่องออกมาเยอะเลย

   นี่แค่สี่เดือนมันยังใหญ่ขนาดนี้ แล้วถ้าเก้าเดือนจะใหญ่ขนาดไหน แถมยังเป็นลูกแฝดอีก



   “อะ อะไรกันเนี่ย โอ้ย แม่จะเป็นลมจริงๆแล้ว ไม่นึกมั่นว่าจะมีวันนี้”

   พอแม่พูดแบบนั้นพ่อก็รีบพัดรีบโบกให้แม่เป็นการใหญ่

   “นี่ เอ็งท้องได้ยังไง อย่าบอกนะว่าพ่อธาราไม่ใช่คนอย่างพวกเรา”พ่อหันไปมองพี่ธารา

   “ครับ ผมเป็นยักษ์ ไม่ใช่มนุษย์แบบพวกคุณพ่อ”พี่ธาราตอบ

   “ไม่นึกเลยว่าเรื่องที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุมันจะเป็นเรื่องจริง ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงจนได้”

   “เรื่องอะไรครับพ่อ”พี่วรรณถามพลางโอบกอดชลาสินธุ์ด้วยท่าทางรักใคร่

   แล้วไปรักกันตอนไหน อย่าบอกนะว่ารักกันตอนที่อยู่ที่เกาะ

   “มันมีคำทำนายตกทอดกันมาตั้งแต่รุนปู่รุ่นทวดว่าลูกหลานที่เกิดมาจะต้องชดใช้กรรมจะมีคู่ชีวิตเป็นอมนุษย์และมีลูกด้วยกัน
ตอนนั้นก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ไม่คิดเลยว่ามันจะมาตกอยู่กับลูกของตัวเอง”



   พ่อเท้าความ ผมได้แต่มองตาปริบๆในขณะที่พี่ธารากำลังใช้ฝ่ามือลูกท้องผมอย่างแผ่วเบา


   “แล้วคราวนี้จะทำยังไงล่ะพ่อ”แม่ถาม

   “จะทำไงได้ ก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามชะตากำหนด”พ่อถอนหายใจ

   “ไม่ดีเหรอแม่ ได้หลานทีเดียวพร้อมกันสามคน”ผมพูดพร้อมฉีกยิ้มหวังให้แม่ใจเย็นลง

   “อะ อะไรนะ สามคน ได้ยังไงกัน”แทนที่แม่จะหายตกใจ กลับตกใจมากกว่าเก่าอีก

   พลาดแล้วมณี ผมได้แต่ยิ้มแห้ง

   “ลูกของเราเป็นแฝดครับคุณแม่”พี่ธาราบอกแทน

   “ห่ะ แฝดงั้นเหรอ โอย ใครก็ไดปลุกแม่ที แม่คงจะฝันไป ลูกชายท้อง ลูกเขยเป็นยักษ์ ลูกสะใภ้เป็นผู้ชายแถมท้องอีก
แล้วลูกสะใภ้คงไม่ใช่ยักษืไม่ใช่อะไรหรอกนะ”

   แม่ถามพร้อมกับสูดยาดมอีกเฮือก



   “ปะ เป็นเงือก”ชลาสินธุ์บอกเสียงเบาจนเกือยไม่ได้ยินพลางก้มหน้าคล้ายว่าตัวเองทำความผิด



   “อะไรนะ!! งะ เงือก อย่าบอกนะว่าเงือกที่อยู่ในน้ำน่ะ วรรณ ชลาสินธุ์ล้อแม่เล่นใช่ไหมลูก บอกแม่ที”

   “ไม่ได้ล้อเล่นครับ ชลาสินธุ์เป็นเงือก พอขึ้นมาบนพื้นดินจะมีขาเหมืนอคนทั่วไปน่ะครับ”พี่วรรณตอบ

   ส่วนแม่น่ะเหรอ ยาดมร่วงลงพื้นไปแล้ว ได้แต่อ้าปากพูดอะไรไม่ออก

   เป็นใครก็ต้องเป็นแบบนี้เมื่อรู้ว่ามีลูกเขยเละลูกสะใภ้เป็นยักษ์กับเงือก



   ตุบ!!



   เสียงคล้ายกับอะไรร่วงลงพื้นทำให้ผมหันไปมองเห็นพี่อเลนทรุดลงนั่งอยู่บนพื้นก็ถึงกับถอนหายใจ

   รู้แล้วสินะว่าพี่ธาราเป็นยักษ์แล้วไหนจะมีเงือกอีก คงจะช็อกจนเข่าอ่อน

   “เป็นอะไรไหมครับ”ผมฉุดให้พี่อเลนลุกขึ้น

   “มะ ไม่เป็นไร”

   พี่อเลนตอบพลางจ้องมองท้องของผม เขาเองก็เห็นว่าท้องของผมป่องออกมาเหมือนคนอื่นๆแล้ว

   “ไม่ตกใจนะครับ”

   “มะ ไม่ ไม่เป็นไร พี่ เอ่อ รับไหว”พี่อเลนยิ้มแห้ง

   “ว่าแต่ ผมว่าพี่คงจะต้องนอนห้องเดียวกับผมแล้ว พี่วรรณกลับมาแล้ว ห้องคงไม่ว่าง”

   “ไม่เป็นไร พี่นอนได้”เขายิ้มพลางยันตัวลุกขึ้นยืน

   ผมเหลือบมองพี่ธาราเดินไปคุยกับพี่วรรณ ไม่รู้ว่าสองคนไปสนิทกันตอนไหน ส่วนชลาสินธุ์ก็นั่งหน้าแดงเรื่อคุยกับพ่อแม่
ด้วยท่าทางเขินอาย

   คงจะต้องใช้เวลาปรับตัวกันสักพัก กว่าต่างคนจะยอมรับซึ่งกันและกันได้เหมือนกับผมและพี่ธารา





   ในที่สุดเรื่องราวสุดวุ่นวายก็จบลง พี่วรรณและชลาสินธุ์ย้ายไปอยู่ที่บ้านขอพี่ธาราเพราะที่นั่นมีสระน้ำและมีหมอทศกัณฐ์
คอยดูแลชลาสินธุ์เผื่อมีอะไรผิดปกติ พี่อเลนจึงได้พักห้องพี่วรรณอย่างที่หวังเอาไว้

   ส่วนผมก็มีพี่วรรณคอยมารับมาส่งอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งพ่อแม่ที่คอยช่วยดูแลมากกว่าเดิมในเรื่องอาหารการกินและเรื่องอื่นๆ





===================================================================



   จนกระทั่งเจ็ดเดือนผ่านไป ท้องของผมมันใหญ่จนรู้สึกว่าหลังจะหักให้ได้ แต่คนอื่นๆจะมองไม่เห็นและไม่สังเกต

   หากไม่ใช่คนที่ผมอยากจะให้เห็น การที่มีคนคอยดูแลประคบประหงมตลอดเวลามันก็ดี รู้สึกว่าอบอุ่น

   แต่บางครั้งมันก็อุ่นจนเกือบจะร้อนเกินไปเมื่อโดนห้ามนั่นห้ามนี่ที่อาจจะเกิดอันตรายขึ้นมา

   “พี่ธารา”ผมเรียกพี่ธาราในขณะที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่มพร้อมกับพี่อเลนที่นั่งดูอยู่ตรงข้าม

   ปากก็คอยอ้ารับเค้กคำโตที่พี่ธาราคอยป้อนอยู่ตลอดเวลา


   “มีอะไรรึ?”

   “ที่พี่เคยบอกว่าผมขโมยลูกแก้วอะไรของพวกพี่ไป มันเกี่ยวอะไรกับผมต้องมีลูกให้พี่ด้วยล่ะ”ผมถามพลางงับช้อนที่ป้อนมา

   “ทำไมถึงอยากรู้”พี่ธาราเอียงคอถาม

   “ผมก็แค่อยากรู้ ว่ามันเกี่ยวกันยังไง”

   “ตอนที่เจ้าหนีไปกับสินสมุทร เจ้าขโมยเอาลูกแก้วไปเพื่อเป็นตัวประกัน”

   “แล้วไงต่อ”ผมอ้าปากรอ เหลือบไปมองอีกคนที่นั่งอยู่หน้าจอ พี่อเลนเองก็มองมาอย่างสนใจกับเรื่องที่พี่ธารากำลังเล่า

   คงจะทำใจยอมรับเรื่องหลุดโลกได้แล้วล่ะมั้ง

   “ตอนที่นางผีเสื้อสมุทรตามไป สินสมุทรได้กลืนกินเอาลูกแก้วนั้นเข้าไป การจะทำให้ลูกแก้วนั้นกลับคืนมาจะต้องให้สิน
สมุทรกลับมาเกิดอีกรอบ ในร่างของครึ่งคนครึ่ยักษ์เหมือนเก่า”

   “แล้วทำไมนายถึงได้ลูกแฝดล่ะ”พี่อเลนถามท่าทางสนใจ

   แต่ผมนี่สิหน้าร้อนขึ้นมาทันที จะให้บอกว่าไง บอกว่าโลภมากต่อรอบสอง ถึงได้มีสุดสาครตามมาอีกคนรึไง




   “ทำสองรอบ”

   พี่ธาราตอบหน้าตาย แล้วยิ่มมุมปากอย่างภูมิใจ


   “อะ จะไปบอกพี่เขาทำไม จะบ้ารึไง”

   “เจ้าอายรึ”พี่ธาราว่าแล้วดึงผมเข้าไปชิด

   ใบหน้าหล่อโน้มเข้ามาใกล้จนจมูกโด่งคลอเคลียอยู่ข้างแก้ม แล้วลิ้นร้อนก็ตวัดลงที่มุมปากของผม

   ฉกเอาครีมที่ไม่รู้ว่าเลอะเมื่อไรเข้าปากไป ผมได้แต่มองค้อน หันไปมองพี่อเลนที่ได้แต่ยิ้มเจ้าเล่ห์

   “ผม ไม่อายสักหน่อย ใครอาย ไม่มี๊ ไม่มี”



   “ว่าแต่พี่อเลน พี่จะกลับเมื่อไรเหรอครับ พ่อกับเเม่พี่ไม่ว่าเหรอ มานานขนาดนี้”

   “ไม่หรอก พ่อกับแม่พี่อนุญาตแล้ว ว่าก่อนจะรับช่วงต่อกิจการของที่บ้านพี่สามารถไปไหนมาไหนก็ได้ แต่นี่ก็เหลือเวลาอีก
แค่สองเดือนพี่ก็ต้องงกลับแล้ว อีกนานเลยกว่าจะได้เจอกันอีก”

   พี่อเลนพูดพลางทำหน้าเสียดาย

   “มาไม่ได้ผมก็ไปหาพี่ได้นี่”ผมปลอบใจ

   “จะไปได้เร้อ”พี่อเลนยิ้มเจ้าห์พลางเลิกคิ้วมองพี่ธารา

   “ไปได้สิ ผมจะพาลูกๆไปด้วย ไม่เคยไปหรอกต่างประเทศ อยากลองไปสักครั้ง คงได้นะครับ”ผมถามพี่ธารา

   “ตามใจเจ้ากับลูกก็แล้วกัน”

   “เห็นไหม ถึงพี่ไม่มาหาผมผมก็ไปหาพี่ได้ ไม่ต้องห่วง”

   “นั่นสินะ มณีนี่น่ารักจริงๆ เสียดายที่เสร็จธาราไปซะก่อน แถมเสร็จไปสองรอบอีก”

   “เฮ้ย ไม่ใช่ สองรอบอะไรขอพี่ ดูหนังดีกว่า กำลังมันส์ อะ โอ๊ะ”’

   แล้วผมก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อเจ้าตัวแสบที่อยู่ในท้องสามัคคีกันดิ้นจนไอ้ที่เคี้ยวในปากแทบพุ่ง

   “เป็นอย่างไรเล่า ลูกเจ้าดื้อเหมือนเจ้าไม่มีผิด มัวแค่คุยนัก แม่เจ้ากินไม่ทันใจสินะลูกพ่อ”พี่ธาราโผเข้ามากอดเป็นห่วงผม
แต่ที่ไหนได้กลับซ้ำเติมและเข้าข้างลูกในท้องกันซะได้

      มีเค้าลางว่าผมจะกลายเป็นหมาหัวเน่าซะแล้ว



===================================================================



   ในคืนที่แสงจันทร์ดับสนิทไม่มีแม้แต่จะเล็ดลอดส่องลงมาให้เห็นกายสูงโปร่งซุกตัวเข้าหาผ้าห่มเมื่ออากาศภายนอกนั้น
กำลังแปรปรวน

   พายุลูกใหญ่ก่อตัวขึ้นทำให้ฟ้าฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่งคล้ายกับใครบางคนกำลังเล่นตลก

   แสงวูบวาบจากท้องฟ้าเป็นระยะเป็นประกายส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างกระจกใส

   เงาดำทะมึนก่อตัวเป็นรูปร่างพร้อมกับนัยน์ตาสีเหลืองอำพันดูน่าหวั่นเกรง

   ฝีเท้าจรดลงบนพื้นกระดานอย่างเงียบงันไร้เสียงราวกับว่ามันไม่ได้แตะไปบนพื้นไม้นั่น

   มันคืบคลานเข้าไปที่เตียง จ้องมองร่างที่หลับไหล่อย่างสบายใจโดยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

   มือใหญ่ในเงามือค่อยๆดึงรั้งผ้าห่มให้เปิดออกอย่างเบามือ คนที่ถูกรบกวนนามหลับพลิกกายอย่างรำคาญก่อนจะแน่นนิ่ง
เหมือนเก่า

   มือใหญ่ปัดเส้นผมสีดำสนิทราวกับจะกลืนไปกับรัตติกาลให้เผยออกเห็นต้นคอยาวระหง

   สร้อยคอประดับอัญมณีเม็ดสวยถูกปลดออกอย่างเบามือก่อนที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะแสยะขึ้นอย่างพึงใจ

   ในที่สุดสิ่งที่มันเป็นตัวเกะกะก็ถูกกำจัดไปเสียที



   

===================================================================




หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26] สารภาพ Uppp!!
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 26-12-2015 03:52:54
อ้าวววว หมอทศแอบย่องมากลางดึกเชียวนะ แหม่

ชอบคู่ชลาสินธุ์มากๆเลยค่ะ ขอตอนพิเศษคู่นี้เยอะๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26] สารภาพ Uppp!!
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-12-2015 06:34:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26] สารภาพ Uppp!!
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 26-12-2015 07:54:19
เย้มาต่อแล้วอีกไม่นานก็ได้เห็นน้องแล้วคงน่ารักน่าดูแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26] สารภาพ Uppp!!
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 26-12-2015 08:24:55
รอออออออออ
พี่เลน เสดเเน่
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26] สารภาพ Uppp!!
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 26-12-2015 09:07:55
ไม่คิดว่าจะจบไวขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26] สารภาพ Uppp!!
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 26-12-2015 11:19:15
นางละเวงจะโดนลักหลับแล้ว  :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26] สารภาพ Uppp!!
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 26-12-2015 13:50:56
อั่ยย่ะ อเลนจะได้กลับบ้านไปหาพ่อแม่ไหมเนี่ย :ling3:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26] สารภาพ Uppp!!
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 26-12-2015 14:27:14
ชลาสินธุ์น่ารัก :man1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26] สารภาพ Uppp!!
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 26-12-2015 17:48:12
ครั้งที่ 26.2 นางสุดท้าย


ช่วงนี้เป็นช่วงที่หลายวิชาเริ่มจะสอบเก็บคะแนน จึงทำให้นักศึกษาหลายคนต่างคนก็ต่างยุ่งวุ่นวายกับการเรียน ไม่เว้นแม้แต่ยักษ์อย่างพี่ธาราที่มีโปรเจกอะไรหลายๆอย่างต้องทำ

   แต่เมื่อมีเวลาว่างพี่เขาก็จะมาคอยดูแลลูกในท้องผมอย่าใกล้ชิดตลอดจนผมนึกอุ่นใจ

   ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่ต้องมีแฟนเป็นผู้ชาย แถมเป็นยักษ์ ยังไม่พอ ตัวเองก็ดันมาท้องซะอีก เรื่องราววุ่นวุ่นมันเยอะมากมายจนนับไม่ถ้วน

   ชีวิตอันสุขสงบในแบบวัยรุ่นที่อยากได้ถูกก่อกวนจนรวนไปหมด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณพ่อ ไม่สิ คุณแม่ลูกสองอย่าง
ผมจะยอมเสียชีวิตวัยรุ่นเฟี้ยวๆง่ายๆ

   วันนี้วิชาเรียนในภาคบ่ายถูกยกเลิก ประจวบเหมาะกับพี่ธารากว่าจะเลิกเรียนอีกทีก็สี่โมงกว่า

   พอได้โอกาสที่จะออกไปสูดอากาศคนเดียวผมก็ไม่รีรอ ไว้ใกล้ถึงเวลาค่อยกลับมาอีกที


   “มณี แกจะไปไหน ไม่รอพี่ธารารึไงวะ”นนท์ร้องทักเมื่อเห็นว่าผมเตรียมตัวเก็บของ

   “นั่นสิ ไม่รอพี่ธารารึไงมณี”โมถามย้ำ

   “เดี๋ยวก็เป็นเรื่อง”เชียรเตือน

   “ไม่เป็นไรหรอก กลับมาทันอยู่แล้ว แค่นี้เอง สบายมาก ขอแค่อย่าบอกพี่ธาราแล้วกัน”

   “เออ แล้วแต่แล้วกัน จะหาว่าไม่เตือน แล้วจะไปไหนล่ะ”เชียรถาม

   “ไปหาด จะไปตากลมสักหน่อย ไม่ได้ไปนาน แล้วพวกแกไปไหน”

   “ก็คงไปเดินเล่นในเมือง แล้วก็กลับ”




   “งั้นโชคดี ไปละ เดี๋ยวจะเสียเวลาไปเปล่าๆ”ผมโบกมือลา

   นานๆทีจะได้เปิดหูเปิดตาไม่มีใครตามประกบซักที เจ็ดเดือนแล้วที่ไม่ได้ไปไหนมาไหนอย่างสบายใจขนาดนี้

   ถึงจะหนักท้องแต่ก็สู้ตาย!!



   

   ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มเพราะเป็นช่วงฤดูมรสุม ลมทะเลพัดเข้าฝั่งแรงจนผมที่ปรกหน้ามันยุ่งไปหมด

   ผมทอดมองผืนน้ำเต็มไปด้วยคลื่นกำลังแปรปรวนจากสภาพอากาศ

   อุตส่าห์ได้ออกมาคนเดียวทั้งที ดันเจอพายุเข้าซะได้ ผมได้แต่ถอนหายใจ แต่ยังพอมีเวลาอีกหน่อย

   ร้านค้าที่ตั้งอยู่แนวหาดเริ่มเก็บร้านเพราะพายุกำลังจะเข้า ผู้คนเริ่มบางตาลงไปเยอะ

   ครั้งแรกที่ผมเจอกับพี่ธาราก็ริมหาดเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเป็นตอนกลางคืน แถมตอนนั้นผมยังคิดว่าพี่ธาราเป็นพวกโจรมา
หลอกปล้นอีก

   พอคิดย้อนไปแล้วก็เหมือนกับฝัน ไม่นึกว่าหลังจากวันนั้นจะต้องเจอกับเรื่องวุ่นวายขนาดนี้

   

   กลุ่มเมฆเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ สายลมพัดหอบเอากลิ่นอายฝนเข้ามาเต็มปอด

   ผมเดินกลับมาที่ริมถนนเพื่อที่จะนั่งรถกลับไปยังมหาลัยก่อนที่พี่ธาราจะรู้ตัว

   ในระหว่างที่รอข้ามถนนเพื่อขึ้นรถสองแถวที่ผ่านมหา’ลัย ตรงทางม้าลาย

   ผมมองรถที่วิ่งผ่านไปมาหวังว่าจะมีรถหยุดให้ข้าม

   ทันใดนั้นเอง สายตาก็เหลือบไปเห็นรถคันหนึ่งแล่นมาด้วยความเร็ว

   แต่ผู้หญิงคนที่อยู่ข้างๆผมได้เดินออกไปหลายก้าวแล้ว ผมมองรถด้วยความตกใจ ขืนปล่อยให้ไว้จะต้องโดนรถชนแน่



   ปรี๊นนนนนน!!

   เสียงแตรรถดังจนสบแก้วหู ผมรีบวิ่งเข้าไปดึงเธอเข้ามาที่ริมถนนดังเดิม มันเร็วมากจนเราสองคนล้มก้นจ้ำเบ้าไปกับพื้นทั้งคู่

   แต่ก็รอดมาได้อย่างหงุดหวิด ผมถอนหายใจแล้วกุมท้องทันทีที่นึกได้ว่าผมกำลังท้อง

   “ไม่เป็นไรนะครับ”ผมถามเธอ

   พอสำรวจใบเธอตามมารยาทเพื่อร่วมโลกที่เป็นห่วงกันกลัวจะมีบาดแล

   ก็ไปสะดุดเอาหน้าตาที่น่ารักน่าชังเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบของญี่ปุ่น

   น่ารัก!!

   ทั้งตัวเล็กแถมยังน่ารักอีก ผมนี่ช่วยไม่ผิดคนจริงๆ ว่าแล้วก็ยิ้มให้เพราะเธอดูตกใจไม่ใช่น้อย

   “มะ ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณที่ช่วยเอาไว้นะค่ะ แย่จริงๆเลย ที่มองไม่เห็นรถคันนั้น ถ้าไม่ได้คุณช่วยไว้ต้องแย่แน่ๆ”

   เธอพูดพร้อมกับจับมือของผมที่ยื่นออกไปแล้วยันตัวลุกขึ้น

   “ไม่เป็นไรก็ดีแล้วครับ รถว่างแล้ว ไปครับเดี๋ยวผมพาข้ามเอง”

   ถึงในท้องจะมีลูกๆอยู่ แต่ผู้หญิงน่ารักๆแบบนี้ก็สเปกผมอยู่ดี

   “รบกวนแย่เลยนะค่ะ โอ้ย!!”

   พอก้าวขาไปได้ก้าวเดียวเธอก็ทำท่าจะล้มลงไปเล่นเอาผมรีบพยุงเอาไว้แทบไม่ทัน

   “สงสัยข้อเท้าแผลง ไปหาหมอก่อนดีไหมครับ”

   “แต่ว่า มาลีไม่ใช่คนแถวนี้ ไม่รู้ว่าโรงพยาบาลอยู่ที่ไหน”เธอหลุบ

   ผมก้มมองนาฬิกา อีกชั่วโมงครึ่งพี่ธาราจะเลิกเรียน ยังพอมีเวลาอยู่ ถือว่าช่วยคนน่ารักๆหน่อยแล้วกัน

   “งั้นเดี๋ยวผมพาไปก็ได้ ไม่ไกลนี้เอง”





   “ขอบคุณมากเลยค่ะ ถ้าไม่ได้ คุณ เอ่อ”

   “มณีครับ ชื่อมณี”

   “เอ๊ะ ชื่อคล้ายกันเลยนะครับ มณีกับมาลี”

   คล้ายกันตรงไหน? แต่ก็ยอมให้ เห็นว่าน่ารัก

   “แล้วจะกลับยังไงล่ะครับ

   “คงโทรให้คนมารับน่ะค่ะ”

   “งั้นยังไงก็กลับดีนะครับ ผมขอตัวก่อน”

   “แต่ว่า ฝนตกแล้วนะค่ะ จะกลับได้เหรอค่ะเนี่ย”

   พอมองไปข้านอกก็ถึงกับเหงื่อตกทันที มองดูเวลาก็ใกล้จะสี่โมงเต็มที เหลืออีกแค่สิบนาที

   เวลามันผ่านไปไวขนาดนั้นเลยเรอะ!!

   “มาลีว่ารอให้ฝนหยุดตกก่อนดีไหมค่ะ”

   “ก็คงต้องอย่างนั้นนะครับ”ยิ้มแห้งตอบกลับไปพลางซับเหงื่อที่ผุดออกมาจากหน้าผาก

   ตายแน่งานนี้ ตายทั้งแม่ทั้งลูก ถ้าพี่ธาราจับได้ว่าแอบออกมา มีหวัง งานนี้ไมได้ไปไหนอีกแน่

   

   “ถ้าไม่รังเกียจมาลีขอเลี้ยงข้าวมณีสักมื้อนะ เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยเอาไว้”

   “จะดีเหรอครับ เอ่อ ผม”ไม่ค่อยมีโอกาสไปไหนมาไหนซะด้วย

   “มณีคงไม่อยากกินข้างกับคนซุ่มซ่ามอย่างวาลีใช่ไหม”

   ว่าแล้วเธอก็ก้มหน้าทำหน้าเศร้าซะงั้น

   แล้วสุภาพบุรุษอย่างผมจะปล่อยให้เธอเสียใจได้ยังไง

   “ครับ ไม่มีปัญหา แต่ต้องนัดวันเวลาอีกทีนะครับ พอดีผมไม่ค่อยมี เวลาส่วนตัว เท่าไร แหะๆ”

   “ไม่เป็นไรค่ะ งั้นแลกเบอร์กันไว้เลยนะค่ะ จะได้ติดต่อกันง่ายๆ”

   ว่าแล้วก็แลกเบอร์กัน ได้ความว่าเธอเป็นลูกสาวของพวกที่มีเชื้อเจ้ามาจากทางเหนือ ถึงว่าทำไมผิวขาว หน้าตาเหมือน
ตุ๊กตาขนาดนี้

   แต่ที่น่าแปลกประหลาดคือ เธอมาที่นี่ตามคำดูดวงของที่บ้านว่าจะมาเจอเนื้อคู่ที่เคยเจอกันชาติที่แล้วที่นี่

   เล่นเอาผมเริ่มตะหงิดๆใจเหมือนแทงใจดำยังไงไม่รู้



   ไม่นานโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น เบอร์ที่โชว์ผ่านหน้าจอเล่นเอาใจหาย สูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เรียกกำลังใจก่อนจะ
หลบออกมาคุย

   “สะ สวัสดีครับ”พยายามยิ้มสู้ถึงแม้ว่าคนที่อยู่ปลายสายจะมองไม่เห็น

   ‘อยู่ที่ไหน ทำไมถึงไม่รอข้าเล่า’

   “ตอนนี้ผมอยู่โรงพยาบาล”

   ‘เหตุใดถึงอยู่โรงพยาบาล เจ้าเป็นอะไร ลูกของข้าล่ะ’

   “ใจเย็นๆครับ ผมไม่เป็นไร เอ่อ แค่มาหลบฝน”ถ้าบอกว่าพาผู้หญิงที่พึ่งจะเจอกันมาโรงพยาบาลเพราะขาแผลงพี่ธารา
คงจะหึงโหดแน่

   ‘งั้นรอข้าอยู่ที่นั้น อย่าไปไหนล่ะ หากข้าไม่เจอ เจ้าโดนลงโทษแน่’

   “ครับๆ”ผมตอบรับ

   ถามว่ากลัวโดนลงโทษไหม ก็กลัวอยู่หรอก แต่โดนลงโทษทีไรแล้วมันก็รู้สึกมีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียว





====================================================================

มาแล้วค่ะนางสุดท้าย ของเดิมคือพระอภัยช่วยเอาไว้ตอนเรือจะล่ม เลยได้กัน
แต่อันนี้ช่วยไม่ให้รถชน จะเจออะไรน้อนางสุวรรณมาลีคนนี้
บอกเลยว่าร้ายหว่าวาลีเยอะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 26-12-2015 17:55:19
อ้าว ดูท่าใสใส นี่ร้ายลึกหรอกเหรอ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-12-2015 18:01:47
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 26-12-2015 18:41:57
นางสุดท้ายแล้วนี่เนอะ เลยต้องร้ายกว่าเพื่อน  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 26-12-2015 19:30:41
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 26-12-2015 20:38:45
หว๋ายยยยยย น้องมาลีปล่อยพี่มณีไปเถอะ ท้องโย้ขยาดนั้นแล้ว :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 26-12-2015 20:42:44
บอกเลยว่าร้ายกว่าวาลีเยอะ <<<  :a5:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 27-12-2015 00:55:25
มีร้ายกว่าวาลีจิงดิ
 :a5:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 27-12-2015 06:13:30
เคราะห์กรรมเยอะจริงๆเลยนะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 27-12-2015 12:54:23
แหม น้องมณีจ๊ะ ไม่ทราบว่าจะซวยไปไหนจ๊ะเนี่ย แต่ละนางแต่ละนาย เด็ดๆทั้งน๊านนน  :laugh3:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 27-12-2015 13:33:49
มารอดูหน้าหลาน ไม่อยากเจอตัวอิจฉา ชิส์
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 27-12-2015 14:08:09
ร้ายกว่าวาลีอีกหรอเนี่ยยย คนสุดท้ายรึยังงง พี่ธาราห่วงแล้วนะ :hao3:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 27-12-2015 14:47:03
มาเเล้ววววว เมียอีกคนนน
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 28-12-2015 00:02:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ฤดูใบไม้หลากสี ที่ 28-12-2015 20:51:25
เบื่อมณีจังเลย เบื่อมากมายก่ายกอง คืออีบ้านี่ไม่เคยเข็ดเรื่องตัวเองสักเรื่องอะพูดจริง ๆ ล่าสุดนี่แบบเขาชวนกินข้าวบอกเขาสิว่าขอบอกแฟนก่อน เดี๋ยวธารามาแม่นางสุวรรณมาลีคงจากไปคลาดกัน แต่ถ้าเจอกันอยากดูสิมณีมันจะพูดว่าอะไร

ฉันเพลียกับนายเอกโง่แบบนี้จังเลย มีตอนไหนมันฉลาดบ้างนี่ น้องเพลียยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 07-01-2016 16:27:28
ก่อนอื่นต้องขออภัยคนอ่านนทุกคนเลยที่ตั้งตารอตอนต่อไปในทุกๆเรื่อง
พอดีว่าโซอึนติดปัญหาเรื่องการซื้อบ้านในต่างจังหวัด ทำให้ค่อนข้างเครียดเพราะติดปัญหาหลายอย่าง ข้ามปีเลยทีเดียว
แล้วที่สำคัญยังไม่ได้แจ้งคนอ่านว่าหายไปไหนอีกต่างหากทำให้คนอ่านหลายคนต้องรอคอย อันนี้ต้องขออภัยจริงๆค่ะ รู้สึกผิดมาก
ถ้าไม่ผิดพลาดประการใดก็จะพยายามปั่นตอนต่อไปมาลงไม่เกินเช้าของวันพรุ่งนี้ ขอบพระคุณที่รอคอยนะคะ
ส่วนแนวพีเรียตที่เคยเกริ่่นไว้ได้อ่านแน่นอนค่ะ แต่ต้องรอให้เรื่องนี้จบก่อน ส่วนเรื่องอันอันกับตั้งโอ๋ คาดว่าเหลืออีกแค่ไม่กี่ตอน หลงจูบก็จะจับมารีไรส์ใหม่ ยังไงก็อดใจรอหน่อยเนอะ ถ้าเรื่องบ้านใหม่จบโซอึนก็จะมีเวลามากขึ้นแล้วค่ะ ยังไงก็นักโซอึนให้เยอะๆนะค่าาาาาา
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 08-01-2016 22:32:27
แง้ ไม่หายย
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 26/12 [CH.26.2] นางสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 09-01-2016 03:50:16
ตอนที่ 26.3 ตาฝาด

==================================================================

   “หาอะไรอยู่ครับ ทำไมถึงต้องก้มขนาดนั้น”

   ผมถามทักเมื่อชะโงกหน้าเข้าไปในอดีตห้องนอนของพี่วรรณซึ่งประตูเปิดค้างเอาไว้

   ร่างสูงโปร่งผิวขาวเนียนก้มมองใต้เตียงนอนราวกับว่าจะมดเข้าไปข้างใต้นั้นให้ได้ทำให้ยิ่งต้องสงสัยหนักเข้าไปใหญ่

   “มณีเห็นสร้อยที่พี่ใส่ประจำตกอยู่ที่ไหนบ้างไหม เมื่อคืนพี่ก็ว่าพี่ใส่อยู่นะ”เงยหน้าขึ้นมาตอบครู่หนึ่งแล้วก้มลงไปควานหา
ต่อ

   “สร้อยที่มีจี้ทับทิมสีเหลืองใช่ไหมครับ”

   “ใช่ เส้นนั้นล่ะ ถ้าพ่อพี่รู้ว่าหายไปล่ะก็พี่โดนว่าแน่ เป็นของที่ตกทอดของครอบครัวซะด้วยสิ ไม่รู้ว่าไปทำขาดตกหายที่ไห
นรึเปล่า”

   “งั้นก็แย่เลยนะครับ  เท่าที่จำได้ก็ไม่เห็นตกอยู่ข้างนอก ผมว่าน่าจะอยู่ในห้องนี่มากกว่า”ผมออกความคิดเห็น หากว่าเขา
ยืนยันว่าเมื่อคืนใส่ไว้ล่ะก็

   “งั้นก็เดี๋ยวค่อยกลับมาหาใหม่แล้วกัน ว่าแต่สร้อยพระที่พี่เคยให้ไว้ได้เอามาใส่รึเปล่า”พี่อเลนหันมาถามแล้วลุกขึ้นนั่งบน
เตียง

   “ใส่อยู่ครับ นี่เลย ใส่ทุกวัน พี่อุตส่าห์ให้มา”ผมว่าพลางดึงเอาสร้อยพระที่พี่อเลนเคยให้ไว้อวดให้ดู

   “นึกว่าจะไม่เอามาใส่ซะอีก”

   ใบหน้าขาวยิ้มบ่งบอกถึงความดีใจก่อนจะหยิบสัมภาระใส่กระเป๋า

   ผมมองดูพี่อเลนหยิบกล้องกับสมุดบันทึกเล่มหนาใส่กระเป๋าด้วยความอยากรู้ ประกอบกับความเบื่อที่ต้องอยู่เฉยๆขัดกับ
หลักการความเป็นวัยรุ่นที่เคยตั้งเอาไว้

   “วันนี้จะไปไหนเหรอครับ”

   “พี่ว่าจะไปเก็บภาพตรงโขดหินท้ายหาด เห็นว่าสวยดี”

   “ให้ผมไอ้ด้วยได้ไหม ถ้าไปกับพี่ พ่อกับแม่ต้องให้ไปแน่นอน”ผมจับแขนพี่อเลนเขย่าเบาเบา

   ถ้าหากว่าเอาพี่อเลนมาเป็นข้ออ้างล่ะก็ คงพอจะไปไหนมาไหนได้บ้าง โดยไม่ต้องมีใครคอยห้าม

   “จะดีเหรอมณี แต่พี่ว่า ตอนนี้ท้องมณีดูใหญ่มาก พี่เป็นห่วงว่ามณีจะเหนื่อย”

   “ไม่หรอก ผมแข็งแรง ดูดิ เห็นกล้ามผมไหม”ผมว่าแล้วชูแขนที่แต่ก่อนเคยมีกล้ามจากการเที่ยวไปวันวันตามภาษาวัยกำลัง
กินกำลังเที่ยว บัดนี้มันกำลังห้อยโตงเตงเหมือนลูกโป่งบวมน้ำย้วยไปมา

   “งั้นก็ได้ แต่ต้องสัญญาก่อนว่าถ้าเหนื่อยแล้วต้องบอกพี่ ตกลงนะ”พี่อเลนยกนิ้วก้อยยื่นมาข้างหน้า

   “ครับ ตกลง สบายมาก เรื่องแค่นี้ มณีซะอย่าง”ผมพยักหน้าหงึกแล้วรีบเกี่ยวก้อย กลัวพี่อเลนจะเปลี่ยนใจ





   ในที่สุดพาหนะคู่ใจที่อตีตเคยพาผมไปไหนมาไหนบัดนี้ได้รับความไว้วางใจส่งต่อมันให้กับพี่อเลนเป็นผู้รับช่วงต่อชั่วคราว
พาผมมายังท้ายหากที่มีโขดหินก้อนใหญ่หลากรูปร่างขึ้นซ้อนทับกันจนสูง

   ลมทะเลกลิ่นหอมที่คุ้นเคยลอยเข้าจมูก ผมทอดมองไปยังบนผืนน้ำที่ไม่เคยสงบราวกับว่ามันมีชีวิตเป็นของตัวเอง

   เส้นผมที่เริ่มยาวจนระลำคอถูกจับทัดเข้าที่ใบหูเพราะลมค่อนข้างแรง ผมยกมือขึ้นลูบท้องใหญ่โตของตัวเองอย่างรักใคร่

   พยานความรักของผมกับพี่ธารา

   ผมนั่งลงบนโขดหินมองพี่อเลนเก็บรูปถ่ายพร้อมกับจดบันทึก อย่างน้อยก่อนที่พี่เขาจะต้องทำในสิ่งที่ไม่รักเขาก็ได้ทำใน
สิ่งที่เขาต้องการก่อน

   นั่นคือการเขียนหนังสือ

   ผมคิดไม่ออกเลยว่าหากว่าวันนี้พี่ธาราไม่มาช่วยผมจากพี่อเลน ตอนนี้ผมกับพี่อเลนระหว่างเราจะเป็นยังไง

   ส่วนคุณวาลีก็ถูกส่งตัวให้ไปอยู่ที่เกาะกับคุณอาวสินเพราะความไม่พอใจของพี่ธารากับหมอทศกัณฐ์ที่คุณวาลีทำไม่ดีกับ
ผม

   หลังจากนี้ก็คงจะจบเรื่องกันสักที หวังว่าลูกๆของผมจะออกมาแข็งแรงเหมือนกับพี่ธารา



   ในระหว่างที่ผมกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยสายตาก็ไปสะดุดกับร่างเล็กของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งผมจำหน้าได้เป็นอย่างดี

   ใบหน้าจิ้มลิ้มราวตุ๊กตากระเบื้องเคลือบสมัยโบราณ ลมทะเลพัดหอบเอาเรือนผมยาวสยายไปตามแรงลม

   ดวงตากลมโตฉายแววดีใจขึ้นมาทันทีเมื่อเหลือบขึ้นมาสบตากับผม เธอเดินเข้ามาหาผมทันทีพร้อมกับร้อยยิ้มน่ามอง

   “มณี มาลีไม่คิดเลยว่าจะเจอมณีอีก คิดว่าจะไม่เจออีกซะแล้ว โทรไปมณีก็ไม่รับเลย”

   พอมาถึงตัวเธอก็เอ่ยถามไถ่ทันที ความจริงผมก็อยากจะรับโทรศัพท์ของผู้หญิงน่ารักอย่างนี้อยู่หรอก

   แต่ติดที่ว่าเวลาที่จะได้อยู่ลำพังมันแทบไม่มีเลย กลายเป็นว่าไม่ได้รับสายเบอร์แปลกเพราะกลัวโดนจับได้ไปโดยปริยาย

   “พอดีไม่ค่อยมีเวลา แล้วก็ไม่รู้ว่าเบอร์ใคร ว่าแต่มาอยู่แถวนี้เหรอครับ”ผมถามตามมารยาทเพราะคราวที่แล้วก็เจอเธอแถวนี้

   “พอดีมาลีพักแถวนี้ค่ะ ว่าแต่มณีสะดวกไปทานข้าวกับมาลีไหม มาลียังไม่ได้ตอบแทนเรื่องคราวที่แล้วเลย”

   “อ่า จะว่าสะดวกไหมมันก็”

   ผมอ้ำอึ้งเหลือบมองพี่อเลนที่ตอนนี้หันมามองผมพอดิบพอดี

   ดวงตาสีดำสนิทฉายแววสงสัยขึ้นมาเมื่อเห็นว่าผมอยู่กับคนแปลกหน้า

   



   “ใครอ่ะ มณี”ไม่ทันไรเจ้าตัวก็เดินเข้ามาดึงแขนผมเข้าไปใกล้แล้วถามทันที

   พี่อเลนจ้องมองมาลีเหมือนกับไม่ค่อยไว้ใจตั้งแต่หัวจรดเท้า แถมยังทำท่าว่าจะลากผมออกมาให้ได้

   “คนนี้ชื่อมาลีครับ พอดีมาเที่ยวแถวนี้แล้วบังเอิญรู้จักกัน”ผมแนะนำคร่าวๆ

   “ถ้าไม่ใช่ธาราพี่ไม่ยอมหรอกนะ พี่บอกไว้ก่อน”

   “เอ่อ คือ คนนี้พี่อเลนครับ เป็นรุ่นพี่ของผมเอง”ผมแนะนำพลางยื้อเอาไว้ไม่ให้พี่อเลนดึงออกไป

   “ชื่อน่ารักจังเลยค่ะ แถมหน้าตาก็น่ารักด้วย เป็นลูกครึ่งเหรอค่ะเนี่ย”มาลีเอียงคอยิ้มหวาน

   ท่านี้ได้ใจผมไปเต็มๆ น่ารักคาวาอี้เหมือนเด็กญี่ปุ่นหลุดมาจากหนังเอวี

   “ก็ผสมๆกันไป ไม่ได้ใส่ใจ”พี่อเลนตอบ

   “งั้นเหรอค่ะ ถ้าเป็นผู้หญิงล่ะก็ พี่อเลนต้องสวยมากแน่แน่เลยค่ะ”

   “หึ มันก็ต้องอย่างนั้น”พี่อเลนตอบขัดกับท่าทาง

   ถึงเวลาอยู่ในคราบของผู้หญิงจะดูเรียบร้อยแต่พออยู่ในคราบผู้ชายก็ดูแสบใช่ย่อย

   “ว่าแต่มณีจะยอมไปกินข้าวกับมาลีรึเปล่า มาลีอยากจะตอบแทนจริงๆนะ นะนะ ไปเถอะนะ”

   อุตส่าห์ขอร้องพร้อมกับส่งสายตาออดอ้อนเหมือนแมวแบบนี้ใครจะทนได้ล่ะครับ

   “ก็ได้ครับ ไปก็ได้ แต่ไปได้ไม่ไกลนะครับ”

   “เย้ ดีใจจังเลย มณียอมไปด้วยแล้ว”

   มาลีทำท่าดีใจก่อนจะกระโดดมาเกาะแขนผมอีกข้าง คนละข้างจากพี่อเลน

   เล่นเอาคนที่อยู่อีกข้างมองหน้าผมอย่างขุ่นเคือง จนผมได้แต่ยิ้มแหยเอาหน้าไปก่อน

   



   ในระหว่างมืออาหารริมทะเล พี่อเลนกินไปพลางหน้าบูดไป ส่วนผมก็ไม่รู้จะวางตัวยังไง อาหารหลายอย่างถูกตักมาทับถาม
จนแทบจะล้มจานด้วยฝีมือคนน่ารักราวกับตุ๊กตาอย่างมาลี

   พึ่งจะรู้ตัวเองว่าแพ้ทางรอยยิ้มผู้หญิงก็วันนี้



   พอกินเสร็จมาลีก็ใช้รอยยิ้มที่ผมแพ้ทางอ้อนให้ผมพาเดินดูของฝากไปให้เพื่อนๆที่ร้านที่ขายของฝากที่ตั้งอยู่ริมหาดไม่
ไกลจากร้านอาหาร

   พี่อเลนเองก็เดินตามมาติดๆด้วยท่าทีไม่ค่อยสบอารมณ์ ซึ่งผมเองก็พอจะเดาออกว่าเพราะอะไร

   บางทีเขาอาจจะไม่ชอบให้คนอื่นมาเข้าใกล้ผมก็ได้ อาจจะเป็นเพราะว่ากลัวผมจะโดนทำร้าย หรือกลัวว่าคนอื่นจะคิดไม่ดี
กับผมเพราะว่าผมกำลังท้อง

   แต่ทว่า ผู้หญิงตัวเล็กดูไร้พิษสงอย่างมาลีจะมีพิษภัยไปได้ยังไง
   

   “มณีว่าอันนี้สวยไหม”มาลียกโมบายเปลือกหอยขึ้นมาอวด

   “ครับ สวยดี”ผมตอบ

   “พี่อเลนล่ะค่ะ ว่าอันนี้สวยไหม”

   “ไม่เห็นสวย”ใบหน้าคมบุ้ยหน้า

   “เอ๋ งั้นพี่อเลนช่วยเลือกให้มาลีหน่อยได้ไหมค่ะ มาลีอยากได้อันสวยๆไปฝากเพื่อนหลายหลายอัน”

   มาลีเอียงคอส่งยิ้มไปให้พี่อเลน ซึ่งไม่ได้รับคำตอบ แต่เจ้าตัวก็ก้มหน้าเลือกโมบายที่วางเรียกกันอย่างใจจดจ่อ

   อาจจะเป็นเพราะถือโอกาสเลือกไปฝากเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศด้วยก็เป็นได้ ถึงได้มีสมาธิเพ่งมองขนาดนั้น



   “มณี มณี”เสียงอ่อนกระซิบข้างหูจนเกือบประชิดพร้อมกับกลิ่นหอมจางของดอกกุหลาบลอยเข้าจมูก

   ผมหันไปมองมาลีก็กวักมือดึงให้ผมเดินตาม

   “แต่ว่า”ผมมองไปทางพี่อเลน

   “นะนะ มานี่แปบนึง”

   แล้วผมก็ยอมใจอ่อนให้กับสายตาอ้อนวอนเหมือนแมวของมาลีอีกจนได้

   ถือว่าเป็นเจ้าบ้านที่ดีแล้วกัน ในฐานะเจ้าบ้านก็คงต้องนำเที่ยวยอมตามใจผู้มาเยือนให้เต็มที่

   “มาลีหิวน้ำ เดี๋ยวมณีรอตรงนี้นะ”

   “ผมว่าเดี๋ยวพี่อเลนจะหาเราไม่เจอ”

   “ไม่เป็นไร แปบเดียวเอง พี่อเลนไม่ว่าหรอก รอตรงนี้นะเดี๋ยวมาลีไปซื้อน้ำมาให้”

   ยังไม่ทันจะค้านร่างเล็กก็วิ่งไปซื้อน้ำที่ร้านค้าที่อยู่ไม่ไกล

   ผมหันไปมองยังทางที่เราเดินมา มันค่อนข้างจะไกลจากร้านขายของฝากที่พี่อเลนกำลังเลือกของอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

   หากพี่อเลนรู้คงจะเคืองแย่ ที่ถูกทิ้งเอาไว้ จะให้ปฏิเสธผู้หญิงก็กระไรอยู่ กลัวจะทำร้ายจิตใจ

   อีกอย่างผมเองก็เป็นเจ้าบ้าน การตามใจและพาเที่ยวน่าจะเป็นสิ่งที่เบสิกที่สุดที่ทำได้



   ไม่นานเธอก็กลับมาพร้อมกับแก้วนมเย็นสีหวานสองแก้ว ซึ่งผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เลยทีเดียวกับสีที่หวานจนน่ากลัว

   ยังเข็ดไม่หายกับน้ำส้มของพี่อเลนกับกาแฟของคุณวาลี

   แต่อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงแล้วยังดูท่าจะไม่มีพิษภัย ทำให้ผมตัดใจยอมรับแก้วนมเย็นมาง่ายๆ

   “กินสิ อร่อยนะ”มาลีพยักหน้าคะยั้นคะยอให้กิน

   “ครับ ผมยังไม่หิวเท่าไร”ผมว่าไปตามจริงเพราะอาหารที่กินไปไม่นานยังแน่นท้องอยู่เลย

   “ลองชิมดูหน่อยก็ได้นะ นะนะ ลองชิมดู”


   “ไว้เดี๋ยวค่อยกินดีกว่า ขืนกินไปตอนนี้ท้องแตกแน่เลยครับ”

   “งั้นก็ตามใจ!”เธอตอบ

   แต่ว่าผมคงจะหูฝาด เหมือนจะได้ยินว่าเสียงที่ตอบกลับมาจะสะบัดเล็กน้อย

   

   “เรากลับกันดีกว่า เดี๋ยวพี่อเลนจะหาไม่เจอนะครับ”

   “แต่มาลียังไม่อยากกลับเลยนี่ มณีชาเดินไปตรงนั้นหน่อยนะ เหมือนจะมีร้านขายสร้อยข้อมือด้วย นะนะ มาลีอยากซื้อ”

   “ก็ได้ครับ”

   แล้วก็ตามเดิม จนเธอเลือกเสร็จก็ผ่านไปอีกพักใหญ่ แล้วจึงเดินย้อนกลับมา

   ผมคิดว่าตอนนี้ผมเริ่มจะเหนื่อยและเมื่อยเอามากๆเพราะน้ำหนักที่ต้องแบกรับกับระยะทางที่เพิ่มมากขึ้น

   “มณี ถ้าไม่กินมันจะละลายเอานะ”

   เธอเตือนทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่ามีแก้วนมเย็นอยู่ในมือ

   ผมยกแก้วบรรจุน้ำสีสวยขึ้นมาเพื่อจะดื่มดับกระหาย

   ยังไม่ทันที่หลอดจะจรดริมฝีปาก ในพริบตาแก้วนมเย็นก็ร่วงหล่นลงไปบนผืนทราย อมให้ทรายเป็นสีชมพูหวานดูน่ากลัวไป
เลย

   ผมกระพริบตาเพื่อเรียกสติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที จู่ๆลมที่แรงมากจนเรียกได้ว่าเหมือนมีอะไรมาปัดมือพัด
จนแก้วนมเย็นนั้นหลุดออกจากมือ

   “เอ่อ ขอโทษนะครับ ผมถือไม่ดีเอง”ผมรีบแก้ต่างเพราะกลัวว่าเธอที่กำลังจ้องมาเหมือนไม่พอใจก่อนจะปั้นยิ้มจะโกรธเอา

   “ไม่เป็นไรจ๊ะ มณีไม่เปื้อนก็ดีแล้ว”

   “ขอโทษจริงๆนะครับ ไม่ได้ตั้งใจให้มันหลุดมือ”

   “ไม่เป็นไรหรอก เรากลับกันดีกว่า”เธอพูดเสียงดัง

   ดังจนผมสะดุ้ง

   “อ่า ครับ”



   จากที่ก่อนหน้าเราเดินคู่กัน กลายเป็นว่าตอนนี้เธอเดินนำหน้าผมไปประมาณสองก้าวได้

   หรือว่าบางทีเธออาจจะโกรธผม ที่ผมไม่ได้กินนมเย็นนั่น แต่ว่าทำไมต้องโกรธกับนมเย็นแค่แก้วเดียว

   ผู้หญิงท่าจะเข้าใจยากอย่างที่คนอื่นว่าจริงๆ

   ผมมองตามแผ่นที่ปกคลุมด้วยเส้นผมปลิวไสวไปตามแรงเดิน บางทีผมอาจจะซื้อนมเย็นแก้วใหม่มาใช้คืน

   จะปล่อยให้ผู้หญิงถูกทำร้ายจิตใจก็คงไม่ได้

   ผมคิด

   ในระหว่างที่กำลังเดินตามเจ้าของแผ่นหลังบอบบาง จู่ๆก็รู้สึกถึงแรงดึงจนเรียกได้ว่าเป็นการกระชาก

   “อะ อื้อ”ผมพยายามยกมือขึ้นเรียกมาลี แต่ทว่ามือปริศนาก็ใช้ผ้าปิดปากผมจนแน่น

   กลิ่นหอมจนฉุนลอยคลุ้งเข้าจมูกแผ่นหลังที่ตรงหน้าหยุดนิ่ง แต่ไม่ได้หันกลับมา

   ผมพยายามยกมือขึ้นไขว่คว้า พยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนที่รัดตัวแน่น

   สติที่กำลังตื่นตัวค่อยๆลดเลือนลงไปพร้อมกับกลิ่นหอมน่าสะอิดสะเอียนถูกสูดดมเข้าปอด

   เปลือกตาค่อยๆปิดลง ในที่สุด เธอก็หันมา

   พร้อมกับแววตาที่ไม่เหมือนเก่า หรือว่าผมจะตาฝาดไปเอง


====================================================================

ไหนไหนก็นางสุดท้ายแล้ว ก่อนจะเรื่องของน้องมณี สเตชั่นต่อไปก็เรื่องของพี่อเลนคนงาม


หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 09/01 [CH.26.3] ตาฝาด
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-01-2016 06:42:04
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 09/01 [CH.26.3] ตาฝาด
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 09-01-2016 08:29:17
น้องมณีจะโดนทำมิดีมิร้ายอะไรหรือเปล่าเนี่ย  :hao4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 09/01 [CH.26.3] ตาฝาด
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 09-01-2016 08:43:35
นางร้ายคราวนี้เป็นผญ จะเอามณีไปทำอะไรคะ - -?

คือมณีก็สวยกว่าเธอป่ะเนี่ย???  :hao3:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 09/01 [CH.26.3] ตาฝาด
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 09-01-2016 11:39:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 09/01 [CH.26.3] ตาฝาด
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 09-01-2016 13:28:58
มณี!!! ทำไมไม่เข็ดหลาบสักทีเนี่ยยยยยยย :ling1:

กี่ครั้งแล้วที่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย?! โว๊ยยยยยย หงุดหงิดมณีจริงๆ :katai1:

ที่ถ้าไม่ท้องนะจะบอกให้ธาราหาเมียใหม่ที่ฉลาดๆกว่านี้เลย // อินจัดมาก :m31:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/01 [CH.27] .ใส่ร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 10-01-2016 04:44:27
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/01 [CH.27] .ใส่ร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Nam-Ing ที่ 10-01-2016 10:07:14
อ่านแล้วขัดใจทำไมมณีบื้ออย่างนี้  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/01 [CH.27] .ใส่ร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 10-01-2016 10:26:06
มันขัดใจจริงๆ นะ กับความบื้อของมณีนี่

โดนเล่นงาน โดนทำร้าย เพราะไม่เคยระวังกับรูปโฉมภายนอกที่มาในรูปร่างสตรี

ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ต้องพลาดท่า แต่ก็ไม่เคยจดจำเลยซักที  :katai1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/01 [CH.27] .ใส่ร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 10-01-2016 10:39:43
อ๊ากกกกกก หงุดหงิดกับมณีจริงๆ! :ling1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/01 [CH.27] .ใส่ร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-01-2016 11:07:08
ขอตบมาลีกับมณีหนึ่งที  :beat:
หงุดหงิดเว้ยเฮ้ย  :m16:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/01 [CH.27] .ใส่ร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 10-01-2016 11:17:28
รู้สึกขัดใจในความซื่อบื้อของมณีสุดๆเลยอ่ะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/01 [CH.27] .ใส่ร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 10-01-2016 11:32:25
บื้อเกินก็น่าเบื่อนะ แต่ก็ว่าไม่ได้ ไม่รู้ก็คือไม่รู้

แต่อย่างน้อยก็น่าจะเชื่อใจ ฟังคำอธิบายก่อนนะ   :serius2:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/01 [CH.27] .ใส่ร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 10-01-2016 15:05:23
มณีนีตลอดเลยผิดซ้ำผิดซาก แก้ไม่หายซักทีไม่คิดบ้างเหรอว่าถ้าอีกฝ่ายหมดความอดทนแล้วทิ้งไปจะทำไง
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/01 [CH.27] .ใส่ร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 10-01-2016 23:12:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/01 [CH.27] .ใส่ร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 13-01-2016 03:55:02
42369
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ครั้งที่ 27 ใส่ร้าย


   ครั้งที่ 27 ใส่ร้าย+หลอกลวง


   แสงแดดในยามบ่ายถูกบดบังด้วยก้อนเมฆมืดครึ้ม บ่งบอกถึงสภาพอากาศในช่วงฤดูมรสุมกำลังจะมาถึง

   ลมฝนเริ่มพัดแรงขึ้นเรื่อยๆจนต้นไม้ที่อยู่ในบริเวณบ้านหลังใหญ่ห้อมล้อมด้วยกำแพงสูงลิ่วปลิวลู่ไปตามแรง



   “ได้เวลาขึ้นจากสระแล้ว อีกไม่นานฝนใกล้จะตก ลูกจะไม่สบายเอา”ร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลาราวกับรูปปั้นโบราณพูด
ทัก

   มนุษย์ครึ่งปลากำลังแหวกว่ายอวดหางสวยอยู่ในสระน้ำใสอย่างสบายอารมณ์

   “พี่วรรณ ข้ายังอยากเล่นน้ำอยู่เลย”เสียงหวานเอื้อนเอ่ย

   “ขืนนายดื้อล่ะก็ พรุ่งนี้ฉันจะไม่พานายออกไปข้างนอก”ศรีสุวรรณขู่ทีเล่นทีจริงกับเงือกหนุ่มท้องโย้กำลังว่ายเข้ามาเกาะริม
ขอบสระแล้วช้อนตามอง

   คิ้วเรียวสวยตกลงเล็กน้อยเมื่อถูกขู่

   ท้องทะเลกว้างใหญ่ที่ว่าท่าเที่ยวเล่นไปทั่วยังเทียบไม่ได้กับผืนแผ่นดินที่เต็มไปด้วยสิ่งแปลกใหม่ที่แทบจะไม่รู้จัก

   ยิ่งยามค่ำคืนแสงไฟต่างๆหลากสีสันยิ่งทำให้น่าดูน่ามองจนอดที่จะทึ่งไม่ได้เลย

   การปรับตัวไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิดสำหรับการใช้ชีวิตบนผืนแผ่นดินของเงือกหนุ่ม หากแต่มีคนรักข้างกายที่คอยอยู่เคียง
ข้างทำให้ทุกเรื่องดูง่ายดายไปถนัดตา

   เรียวหางปรกคลุมเกร็ดสีครามเข้มตวัดขึ้นเหนือผิวน้ำ

   ใบหน้าขาวแดงเรื่อเมื่อมือร้อนทาบลงบนสะโพกกลมกลึงลูบไล้เอาเกร็ดลื่นอย่างเบามือ

   “ขึ้นมาได้แล้ว ลูกของเราจะเหนื่อยเอาได้ อีกอย่างเมื่อเช้าฉันก็ซื้อขนมเค้กที่นายชอบมา นายไม่อยากกินรึไง”ศรีสุวรรณยิ้ม
มุมปาก

   ตาดุดันลอบมองปฏิกิริยาของเงือกหนุ่มที่ขมวดคิ้วคล้ายกับจะชั่งน้ำหนักสิ่งแลกเปลี่ยน

   “งั้นก็ได้ ข้าเชื่อพี่”

   เงือกหนุ่มเงยหน้าขึ้นยิ้ม ร่างโปร่งบางถูกช้อนอุ้มขึ้นมาจากผืนน้ำ หยดน้ำเม็ดเล็กๆหล่นลงมาจากฟ้า มากขึ้นเรื่อยๆพร้อม
กับเสียงเซ็งแซของสายฝน



   ร่างครึ่งปลาถูกวางลงบนเตียงหนานุ่มอย่างเบามือ ริมฝีปากหยักจรดลงบนหน้าผากนูน

   กายเล็กกว่าสั่นเล็กน้อยเมื่อหางยาวเรียวกำลังแปลเปลี่ยนเป็นเรียวขาขาวเนียน น่าสัมผัสไม่น้อย

   “อื้อ พี่วรรณ”

   เจ้าของใบหน้าหวานราวกับนางในตำราเบือนหน้าหนีริมฝีปากร้อนแล้วขมวดคิ้วมุ่น

   “มีอะไร?”ศรีสุวรรณถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายขมวดคิ้วคล้ายกำลังเจ็บ

   “ลูก อื้อ ลูก”

   ชลาสินธุ์ร้องเสียงแผ่วพลางกุมท้องที่ภายในกำลังเคลื่อนไหวจนเห็นเป็นรูปร่าง

   

   “เจ็บมากไหม”เขาถามอย่างกังวล

   “ไม่ อื้อ ข้าไม่เจ็บหรอกพี่วรรณ เพียงแต่ รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเวลาที่ลูกดิ้น”ตอบพลางคลี่ยิ้ม

   “ลูกนายท่าทางจะอยู่ไม่สุข เหมือนนายไม่มีผิด ชักจะรอให้คลอดไม่ไหวแล้วสิ”ชายหนุ่มบอก

   จมูกโด่งก้มลงคลอเคลียกับท้องกลมนูนที่สงบนิ่งลงไปแล้ว จูบอันอ่อนโยนประทับลงผ่านผิวกายส่งผ่านความรักสู่สิ่งมีชีวิต
ที่ใกล้จะลืมตาขึ้นมามองโลกในอีกไม่นาน

   “นายนอนพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะลงไปเอาของว่างมาให้”

   ว่าที่คุณพ่อบอกพร้อมกับดึงเอาผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมกายเงือกหนุ่ม ในขณะที่สภาพอากาศเริ่มเย็นตัวลงจากฝนที่เท
กระหน่ำลงมา



===================================================================



   เสียงคล้ายกับของหล่นแตกปลุกให้ผมรู้สึกตัวจากการหมดสติ กลิ่นหอมหวานน่าเอียนลอยคลุ้งเข้ามาในจมูกจนรู้สึกเวียนหัว
อยากจะอาเจียน

   

   ผมเปิดเปลือกตาอันหนักขึ้นขึ้นมาอย่างยากลำบาก สิ่งแรกที่เห็นคือแจกันดอกไม้สีขาวสะอาดพระดับด้วยดอกกุหลาบ
สีชมพูอ่อนหวานสะดุดตา

   นี่คงเป็นต้นตอของกลิ่นหอมน่าอาเจียน

   ภายในห้องผนังกั้นด้วยไม้ดูแปลกตาทำให้ผมขมวดคิ้วมุ่นนึกย้อนไปถึงความจำครั้งสุดท้าย

   พอยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว จำได้เพียงแค่ว่ามีใครเอาผ้ามาอุดจมูกเอาไว้

   ความเป็นห่วงลูกในท้องทำให้ผมต้องรีบยันตัวขึ้นนั่งแล้วยกมือลูบท้องด้วยความใย   

   โชคดีที่ไม่มีอะไรผิดปกติทำให้ผมถอนหายใจออกมาแล้วลุกขึ้นเพื่อหาทางออก

   ภายในห้องที่กั้นด้วยไม้ แม้แต่พื้นยังเป็นพื้นไม้ทำให้ผมสันนิษฐานว่าบ้านหลังนี้น่าจะเป็นเรือนไทย

   ว่าแต่เสียงของแตกเมื่อครู่นี้ผมยังไม่คลายลงสัยเลยว่าดังมาจากไหน

   

   กรี๊ดดดดด!



   เสียงกรีดร้องพร้อมกับเสียงคล้ายโลหะหล่นด้านนอกทำเอาสะดุ้ง

   นั่นเสียงของมาลี!!

   บางทีเธออาจจะถูกจับตัวมาเหมือนกับผมได้

   แล้วใครล่ะที่เป็นคนทำ?

   ผมดึงประตูไม้แบบโบราณออก โชคดีที่มันไม่ได้ล็อก แค่ใช้ไม้ขัดเอาไว้จากด้านในเฉยๆ

   ผมรีบก้าวข้ามธรณีประตูอย่างระมัดระวังแล้วหันไปมองทางต้นเสียงที่คุ้นเคย

   

   คนแรกที่ผมเห็นเลยคือคนที่ผมรัก มันทำให้ผมใจชื้นและดีใจขึ้นมาทันที

   ผมเชื่อว่าเขาต้องมา ผมเชื่อว่าเขาจะต้องปกป้องผมและลูกตลอดเวลา

   พี่ธารายืนหันหลังให้

   ทันทีที่ผมเดินออกมาจากตัวห้องเขาก็หันมามองผมด้วยสายตาที่เป็นห่วงจนผมรู้สึกผิด

   แต่สิ่งที่น่าสะดุดตาคือในมือของพี่ธาราถือวัตถุเงินวาวฉาบด้วยเลือดสีแดงสด

   ดวงตาสีดำสนิททอสีเขียนมรกตเข้มจนน่ากลัว เขียวโค้งเรียวงองุ้มที่ผมไม่เคยนึกจะชินตาประดับอยู่บนริมฝีปากหยัก



   “พะ พี่ธารา”

   ผมเรียกเสียงแผ่ว เพราะเมื่อเดินเข้าไปใกล้อีกเพียงไม่กี่ก้าว เบื้องหน้าของพี่ธาราคือร่างของผู้หญิงที่กำลังทรุดนั่งลงกับ
พื้นไม้กระดาน

   ใบหน้าที่เคยขาวสะอาดน่าทะนุถนอมครึ่งหนึ่งอาบไปด้วยเลือดสีแดงฉาน


   ผมชะงักเท้ามองภาพนั้นด้วยกายที่เริ่มสั่นเทาด้วยความกลัว



   “มะ ฮึก มณี”เสียงหวานครางสะอื้น


   มาลีหันมามองผม สีหน้าดูหวาดกลัวจนน่าสงสาร



   สิ่งที่อยู่ในความคิดของผมก็คือ ทำไมพี่ธาราจะต้องทำร้ายมาลีด้วย



   “มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด มณี”พี่ธาราปล่อยวัตถุเปื้อนเลือดแดงสดร่วงลงบนพื้นกระดาน

   สิ่งที่พี่ธาราพูดแทบจะไม่ได้เข้ามาในหูผมเลยเมื่อสิ่งที่สำคัญสำหรับผมตอนนี้คือผู้ถูกกระทำอย่างมาลี

   มือเล็กสั่นยกขึ้นกุมใบหน้าอาบเลือดด้วยท่าทางอ่อนแอ

   ทำไมพี่ธาราถึงได้ทำร้ายมาลีได้ ร่างยักษ์ที่ดุดุดันอาจจะเป็นตัวชั้นดีที่ทำให้ผมคิดว่า สัญชาติญาณของอมนุษย์อาจจะเป็น
สิ่งที่ควบคุมยากเกินไป


   “มะ ณี ช่วยมาลีด้วย เขาจะฆ่ามาลี เขาบอกว่า มาลีอยู่ใกล้มณี ฮึก มาก ไป มาลีเจ็บ”เธอสะอื้น

   “ทำไม พี่ต้องทำแบบนี้ด้วย ผมไม่เข้าใจ”

   “แต่นางจะทำร้ายเจ้ามณี หากข้ามาไม่ทันล่ะก็”

   “มะ ไม่ใช่นะ มาลีถูกจับมาเหมือนกัน เขาโกหก คนที่จับเรามาหนีไปแล้ว มณีต้องเชื่อมาลีนะ ฮึก มาลีเจ็บ”


   มาลีละล่ำละลั่กพลางร้องไห้จนผมอดไม่ได้ที่จะถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกเพื่อเช็ดเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด

   “เจ้าอย่าไปเชื่อนาง นางกำลังโกหก”พี่ธาราปฏิเสธ ร่างสูงใหญ่ก้าวเดินเข้ามาทำท่าทางทำร้าย


   “อย่าเข้ามามากกว่านี้แม้แต่ก้าวเดียว ไม่ใช่ทุกคนที่เข้าใกล้ผมจะทำร้ายผมสักหน่อย ผมว่าครั้งนี้พี่ทำเกินไป มาลีอ่อนแอ
ขนาดนี้จะทำร้ายผมได้ยังไง ผมไม่คิดเลยว่าพี่จะใจร้ายแบบนี้”

   “มณี ทำไมเจ้าถึงได้”

   “พอเถอะ ตอนนี้ผมยังไม่อยากคุยกับพี่ในสภาพนี้”ผมว่า

   ร่างยักษ์ของพี่ธาราทำให้ผมเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา มันเหมือนกับว่าผมยังไม่รู้จักพี่ธาราดีพอ

   สายฝนที่ตกลงมาแรงเริ่มซาลง เมฆหนาครึ้มเริ่มเบาบางทำให้แสงแดดอ่อนๆทอลงมา

   ใบหน้าคมดุของพี่ธาราดูจะผิดหวัง เมื่อเห็นผมแสดงท่าทีห่างเหิน ดวงตากร้าวสีมรกตอ่อนลงเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทในทันตา




   “ไปเถอะครับมาลี รีบไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่า”ผมพยุงมาลีขึ้นแล้วเดินจากมา





==================================================================



   อีกฟากของเรือนไทยในห้องที่อยู่มุมสุด แสงแดดอ่อนสาดเข้ามาผ่านหน้าต่างไม้ที่เปิดแง้ม ใบหน้าขาวซีดถูกทาบทับด้วย
แสงสีส้มดูน่ามอง

   เรียวคิ้วยาวขมวดมุ่น ริมฝีปากเล็กรูปกระจับเม้มลงเล็กน้อยก่อนเปลือกตาปรกคลุมด้วยแพขนตาหนาจะขยับเปิดให้เห็น
ดวงตาสีดำสนิท

   “อื้อ”

   เสียงแหบห้าวครางอือในลำคอ มือทั้งสองข้างถูกมัดรวบไปด้านหลังทำให้สีหน้าเหนื่อยอ่อนตื่นตระหนกลืมตาโพล่งขึ้นมา
เต็มตา

   รู้สึกเจ็บแปลบที่ต้นขึ้นมาทันที

   พอนึกขึ้นได้ว่าเห็นว่าเพื่อนรุ่นน้องถูกอุ้มไปต่อหน้าต่อตา จึงสะกดรอยตามมาจนถึงบ้านทรงไทยโบราณหลังนี้



   พอเห็นท่าไม่ดีถึงได้โทรไปบอกกับธาราเจ้าของตัวจริงให้ได้รับรู้ แต่วางสายได้ไม่นาน ในขณะที่พยายามสังเกตการอยู่ไม่
ไกล

   รู้สึกตัวอีกทีก็มีของแข็งมากระทบต้นคอแล้วสลบไปในทันที นึกแล้วก็เจ็บใจตัวเองขึ้นมาที่เผลอไม่ระมัดระวังจนถูกจับตัว
มาอีกคนแบบนี้

   แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความเป็นห่วงในเพื่อนรุ่นน้องและเด็กในท้องนั่นยังคงมีมากกว่าเป็นห่วงตัวเองเสมอ







   “ดูท่านายจะดวงแข็งน่าดู”

   เสียงยียวนเรียกให้หันไปมอง กลิ่นบุหรี่ฉุนจมูกลอยคลุ้งไปทั่วห้องทำให้นึกถึงยักษ์กวนประสาทที่เคยลวนลามตัวเอง

   “มาได้ไง”อเลนร้องทัก กระถดตัวหนีทั้งที่นอนอยู่บนพื้นไม้

   เพียงพริบตายักษ์หนุ่มสิบหน้าก็เข้ามาประชิดจนแทบจะอยู่เหนือกายทำให้ดวงตาคมเบิกกว้าง

   “คิดจะทำอะไรกัน รีบแก้มัดสิ”เบือนหน้าหนีเมื่อใบหน้าดุดันไม่สมกับดีกรีคุณหมอโน้มเข้ามาใกล้

   “จะให้ช่วยก็พูดดีดี แล้วที่สำคัญ…..”คุณหมอเว้นเอาไว้

   “อะ อะไรล่ะ”

   “จะให้ช่วยมันก็ต้องมีของแลกเปลี่ยนสิ ไม่งั้นฉันจะขาดทุนเอา”

   “อะไรของคุณ ต้องการอะไรก็บอกมาจะได้จะได้จบๆ ผมรีบ เป็นห่วงมณี”อเลนขมวดคิ้ว เงยหน้าจ้องด้วยท่าทีไม่ค่อยสบ
อารมณ์

   “นายจะเป็นห่วงคนที่มีเจ้าของอยู่แล้วไปทำไมกัน นายน่าจะตัดใจดีได้แล้วนะ ยังไงนายก็ไม่มีทางได้ในสิ่งที่นายหวัง
หรอก”

   ทศกัณฐ์ยิ้มมุมปากยกบุหรี่ขึ้นสูบก่อนจะปล่อยควันสีเทาหม่นลอยคลุ้ง

   “ผมไม่ได้ขอความเห็น”

   “นั่นสินะ คนที่ทระนงตัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรคงจะไม่ต้องการความเห็นจากใคร”

   “รีบแก้มัดสักที”อเลนสะบัดหน้าหลบมือใหญ่กร้านที่ลูบลงบนแก้มของตัวเอง

   กายบางนอนตะแคงอยู่บนพื้นไม้กระเถิบหนีเมื่อรู้สึกว่ากำลังโดนคุกคามอยู่ยังไงยังงั้น



   “ก็อย่างที่ว่า ถ้าอยากจะให้ช่วยก็ต้องมีของแลกเปลี่ยน มันถึงจะสมน้ำสมเนื้อ”

   “ต้องการอะไรก็รีบบอกมา ผมไม่ได้มีเวลามาเล่นกับคุณ”

   “แล้วนายคิดว่าฉันต้องการอะไรจากนายล่ะ ละเวง”ริมฝีปากหยักยิ้มยั่ว

   


   “รู้จักชื่อนี้ได้ยังไง”เด็กหนุ่มลูกผสมดูตกใจไม่น้อย

   “นั่นสินะ ว่าแต่ จะเอายังไงล่ะ ฉันไม่ได้ว่างตลอด บอกไว้ก่อน”คุณหมอยักษ์ถือไพ่เหนือกว่า

   “ต้องการอะไรกันแน่ เท่าที่จำได้ผมไม่เคยทำอะไรให้คุณ”ตอบเสียงเริ่มขาดหาย

   กายถูกคร่อมทับด้วยกายใหญ่จนบดบังแสงที่ส่งลงมา ทั้งที่พยายามจะแข็งใจไม่แสดงถึงท่าทีหวาดกลัวอีกฝ่าย

   แต่ใจก็ยังหวาดระแวงเพราะอีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นยักษ์ที่พร้อมจะกินตนเองได้ทุกเมื่อ

   “ใครบอกล่ะ ว่าไม่เคยทำ เป็นเพราะนาย ทำให้ฉันต้องไร้หัวใจ”

   “พูดอะไร ผมไม่เข้าใจ แก้มัด ฮึก”ร่างกายสะดุ้งเฮือกตั้งแต่ยังพูดไม่ทันจบ

   มือเย็นชืดสอดเข้ามาภายใต้เสื้อยืดสีสะอาด กายเล็กกว่าสั้นเล็กน้อยเมื่อมือนั้นเลื่อนขึ้นสูงจนน่าหวาดเสียว

   

   “ใบหน้านี้ หลอกลวงคนอื่นให้หลงมาเยอะแค่ไหนแล้ว นายไม่รู้ตัวเลยรึยังไง”

   ทศกัณฐ์โน้มหน้าเข้าไปหาใบหน้าหวานติดไปทางลูกครึ่ง จมูกโด่งคลอเคลียลงบนพวงแก้มนุ่มจนมันแดงเรื่อ

   “หยุด จะ ทำบ้าอะไร”

   มือสองข้างที่โดนรวบไพล่หลังเป็นปัญหาข้อใหญ่ที่ทำให้ขัดขืนไม่ได้เลย

   “ลองฟังดูสิ นายได้ยินเสียงหัวใจของฉันรึเปล่าล่ะ”น้ำเสียงเกือบจะแข็งกร้าวออกปากคล้ายกับจะสั่ง

   แผ่นอกล่ำสันเลือนขึ้นไปเหนือใบหน้าที่ตะแคงหลบทำให้แผ่นอกนั้นแนบลงกับใบหูพอดี

   ใบหน้าหวานคมแดงระเรื่อง แต่สิ่งที่น่าตกใจคงไม่พ้นกับเสียงเงียบสงบภายในอกซ้าย

   “ไม่มีหัวใจ ”อเลนอุทาน สีหน้าดูตกใจไม่น้อย

   “ใช่ คนที่ทำให้ฉันต้องถอดหัวใจออกไปก็คือนายไงล่ะ”

   ทศกัณฐ์หยัดตัวขึ้นนั่งเคียงขุ่นคาง เบือนหน้ามองไปทางอื่นพลางครุ่นคิด





   ในอดีตเคยหลงรักนางละเวงจนแทบอดใจไม่ไหวจึงได้ลักพาตัวนางมา แต่ซ้ำร้ายนางไม่เคยมีใจอีกทั้งยังทรยศพาคนอื่น
เข้ามาลอบทำร้าย

   มีดลงมนต์ดำแทงเข้าตัดขั้วหัวใจยักษ์ผู้ลุ่มหลงในรักที่ไม่อาจเอื้อมถึง

   ในที่สุดนางก็หนีไป ความเจ็บช้ำจากมนต์ดำส่งผลให้ต้องควักเอาหัวใจออกมาเพื่อยืดชีวิต

   

   ถึงแม้จะต้องเป็นยักษ์ที่ไร้หัวใจ ทว่าแต่ความเจ็บเจ็บใจที่ที่ถูกทรยศยังไม่เพียงพอที่จะลบล้างความรักและความลุ่มหลงต่อ
นางไม่ได้เลย



   “เฮ้ย ทำอะไร แก้มัดสิ”

   ในขณะที่กำลังตกอยู่ในความคิด กายก็ถูกอุ้มขึ้นพาดลงบนบ่าหนาทำให้ต้องร้องเสียงหลง

   “ถ้าอยากจะให้แก้มัดก็ต้องมีของแลกเปลี่ยน ฉันจะไม่พูดซ้ำ”

   “แล้วจะให้แลกกับอะไรก็บอกมาสิ”

   “อันนี้นายก็คิดเอาเองแล้วกันว่าฉันต้องการอะไร”ยักษ์หนุ่มยิ้มกริ่ม อุ้มพาร่างที่ไม่ค่อยจะอยู่สุขเดินออกจากห้อง

   “บ้าไปแล้ว ปล่อยเดี๋ยวนี้”

   “ถ้านายดิ้นแล้วตกลงมา ฉันไม่รับผิดชอบนะจะบอกให้”คุณหมอขู่

   แต่ก็ได้ผล อีกฝ่ายดูนิ่งไปถนัดตา



   หมอยักษ์เดินออกมาก็เห็นเพื่อนคู่กัดอย่างธารายืนนิ่งไม่ไหวติง บนพื้นข้างกายมีมีดลงอาคมเปื้อนเลือดสีแดงสด

   ข้อมืออีกข้างมีรอยแผลสีคล้ำนูนขึ้นมา

   “รอบนั่นถ้าปล่อยให้พ้นตะวันตกดิน มันจะรักษาไม่หาย”ทศกัณฐ์ทักยักษ์หนุ่มอีกตน

   รอยช้ำเล็กๆคล้ายรอยกัดดูน่ากลัวที่ปรากฏตรงแขน หากไม่สังเกตให้ดีคงจะมองไม่เห็น


   “เรื่องนั้นข้าย่อมรู้ดี”ธาราตอบเสียงเบาโหวง

   “ยักษ์โลภมากสู้มารยาหญิงไม่ไหวรึไง หึหึ”คล้ายกับจะเป็นการเยาะเย้ยแต่ก็แฝงด้วยความเป็นห่วงยักษ์หนุ่มคู่กัด

   “มณีไม่เชื่อใจข้า”

   “นั่นมันเพราะเจ้าเด็กนั่นยังไม่รู้ความจริง”

   



===============================================================

(ย้อนไปหลายเดือนก่อน)
   เคร้งงงงง

   แจกันที่พึ่งถูกเช็ดจนสะอาดดีร่วงหล่นลงสู่พื้นหินอ่อน

   ดวงตาสีอ่อนมองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่ค่อยจะเชื่อสายตา มนุษย์ครึ่งปลาถูกอุ้มเข้ามาภายในตัวบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ใน
เกาะไกลจากแผ่นดิน



   ถึงจะเป็นเพียงเวลาไม่นาน แต่ภาพนั้นมันยังตราตรึงอยู่ในสมอง มือผอมสั่นเทากับสิ่งที่ยังถูกตรึงอยู่ในความคิด

   กว่าสองเดือนแล้วที่ถูกพามาปล่อยทิ้งไว้ที่เกาะนี้ ถูกทำราวกับเป็นคนรับใช้ ทั้งที่ตลอดมาไม่เคยแม้แต่จับไม้กวาดทำงาน
บ้านมาสักครั้ง

   เจ้าบ้านที่นานครั้งจะเจอหน้าเอาแต่คอยออกคำสั่งก่อนจะหายไป บางครั้งเป็นอาทิตย์ก็จะกลับมา

   ความรู้สึกที่ราวกับว่ากำลังถูกย่ำยีศักดิ์ศรีโถมเข้ามากัดกินหัวใจ

   “ตกใจงั้นรึ”

   อย่างที่คิด เมื่อเกิดอะไรที่ผิดปกติหรือของในบ้านเสียหายหล่นแตก เจ้าของบ้านมักมาโผล่มาเสมอ

   เขาไม่ตอบแต่ย่อตัวลงเก็บเศษแจกันกระเบื้องเคลือบรวมกันไว้

   ความหวาดหวั่นในใจที่คิดว่าอีกฝ่ายที่กำลังจ้องมองนั้นเป็นอมนุษย์ ทำให้ต้องคอยระแวง ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

   มือผอมสะดุ้งชักกลับทันที

   เลือดสีแดงจางผิดกับเลือดของคนปกติทั่วไปซึมออกมาตามบาดแผล



   ฉับพลันมือก็ถูกดึงไปจากยักษ์สูงอายุที่ย่อตัวลงมา

   “เลือดเจ้าหอมนัก”น้ำเสียงคล้ายกับจะหยอกเย้า ทำท่าสูดดมกลิ่นเลือดสดเข้าไปในปอด

   “ปล่อย!!”วาลีชักมือกลับในทันที

   ดูท่าเจ้าตัวคงจะไม่รู้ว่ายักษ์ตรงหน้านั้นไม่กินเนื้อ

   วสินหัวเราะอยู่ในใจคล้ายกำลังขบขันท่าทีที่ดูเย่อหยิ่งจองหองไม่เสื่อมพยายามกลบเอาความหวาดกลัวเอาไว้ แต่ก็ไม่
มิดชิด



   “ทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วก็คืนนี้อย่าได้ออกมาจากห้องเป็นอันขาด”

   “ผมไม่ชอบให้ใครมาสั่ง”บอกปัดทั้งที่ไม่มองหน้าด้วยท่าทางวางตัวตามเคย

   “เจ้าไม่ได้อยู่ในสถานะที่ร้องของสิ่งใดได้”

   พูดจบยักษ์ผู้มากอายุก็เดินจากไป ทิ้งให้คนอย่างวาลีได้แต่นั่งเจ็บใจ

   บาดแผลที่มีเลือดซึมออกมายังไม่เท่าใจที่เจ็บจากการโดนดูถูกเลยสักนิดเดียว

===================================================================
   






หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 10/01 [CH.27] .ใส่ร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 13-01-2016 03:55:49
ต่อจ้า

   โชคดีที่บาดแผลของมาลีไม่ได้ถึงกับลึกจนเป็นอันตราย แต่ก็ต้องเย็บหลายเข็มและต้องอยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลอย่าง
น้อยหนึ่งคืน

   ผมกลับบ้านมาด้วยสภาพร่างกายที่เหนื่อยอ่อนเต็มทนกับการที่ต้องเจอเรื่องราวที่สุดจะบรรยายต่างๆนานาติดต่อกันมาเป็น
เวลานาน

   อีกทั้งความไม่เข้าใจเกี่ยวกับตัวของพี่ธาราเองทำให้ผมค่อนข้างที่จะค้างคาใจเป็นอย่างมาก

   ผมไม่รู้ว่าตกลงแล้วพี่ธาราเป็นคนยังไงกันแน่

   ทันทีที่ก้าวเข้าไปในตัวบ้าน แผ่นหลังที่คุ้นเคยของคนที่ผมไม่อยากเจอมากที่สุดในตอนนี้ปรากฏสู่สายตา

   “ข้าเป็นห่วงเจ้า”พี่ธาราทักทันทีที่เห็นหน้าผม

   ภายในบ้านบรรยากาศเงียบงันเนื่องจากพ่อกับแม่มีซ้อมลิเกอยู่ที่โรงซ้อมที่ตั้งอยู่ข้างตัวบ้าน



   “พี่กลับไปก่อนดีกว่า ตอนนี้ผมยังไม่อยากคุยกับใคร”

   “เจ้ากำลังเข้าใจข้าผิดอยู่ มณี ข้าไม่ได้ทำอย่างที่เจ้าเห็นเลย”พี่ธาราอธิบาย

   “ถ้าพี่ไม่ทำแล้วใครจะทำ มาลีจะลุกขึ้นมาเอามีดกรีดหน้าตัวเองทำไม”

   “ใช่ นางทำตัวนางเอง”พี่ธาราเดินเข้ามาใกล้

   “จะเป็นไปได้ยังไง ไม่มีใครที่จะทำร้ายตัวเองแบบนั้นแน่นอน พี่กำลังโกหกผมอยู่”ผมถอยหนี

   “ข้าพูดความจริง”

   “ไม่ อย่าเข้ามา ผมไม่มั่นใจว่าพี่จะเปลี่ยนไปแล้วลุกขึ้นมาทำร้ายผมกับลูกตอนไหน”ผมว่า

   ซึ่งนั่นทำให้พี่ธาราชะงักมือที่กำลังเอื้อมมาหมายจะคว้าเอาผมไปกอด

   มือนั้นชักกลับไปพร้อมกับใบหน้าที่แสดงออกถึงความผิดหวัง

   

   ผมหลบสายตาคู่หมองก่อนจะเหลือบไปเห็นข้อมือที่พันด้วยผ้าพันแผล มันทำให้ผมตกใจเล็กน้อย แต่พอนึกได้ว่าพี่ธารา
เป็นยักษ์แล้วแผลของเขาหายเร็วมากแค่ไหนก็ทำให้คลายกังวลลงไปบ้าง

   แต่ก็ยังคงกังวลอยู่ดี ทว่าความหวาดกลัวและความไม่เชื่อใจทำให้ผมหยุดความคิดที่จะถามไถ่ได้แต่มองข้อมือที่พันผ้าสี
ขาวเอาไว้นิ่ง

   “พี่กลับไปก่อนดีกว่า ผมอยากจะพักผ่อน”ผมออกปากไล่

   “รับปากกับข้าได้หรือไม่ง่าดูแลตัวเองกับลูกให้ดี อย่าได้ออกไปข้างนอกคนเดียวเป็นอันขาด”

   “ครับ ผมจะดูแลลูกเป็นอย่างดี”ผมตอบรับ



   ใบหน้าคมคายพยักหน้าเล็กหน่อยก่อนจะเดินผ่านตัวผมไป ทิ้งให้ผมได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วง



   แรงดิ้นเล็กๆในช่องท้องเคลื่อนเสียดกันไปมาทำเอาต้องรีบทรุดนั่งลงกับโซฟา ยิ่งนานวันเข้าลูกๆในท้องก็ยิ่งมีปฏิกิริยามาก
ขึ้น

   ความสับสนที่เกิดขึ้นทำให้ผมนึกหนักใจขึ้นมา




   



   เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นขึ้นมาด้วยสภาพสมองที่ยังไม่พร้อมจะทำงานเลยสักนิด นอกหน้าต่างที่อึมครึมบ่งบอกถึงมรสุมที่ยังคง
ก่อนตัวอยู่เรื่อยในฤดูนี้

   

   ในช่วงเช้าของวันหยุดสุดสัปดาห์อีกวันของวันนี้เริ่มต้นด้วยความสงบสุข สงบจนนึกเบื่อขึ้นมา

   อาจจะเป็นเพราะเคยเจอแต่เรื่องราวประหลาดและปวดหัวอยู่เรื่อย เรื่องธรรมดาทั่วไปจึงกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อขึ้นมาทันที

   ในเช้าของวันไร้วี่แววของพี่ธาราต่างจากทุกทีทำให้พ่อกับแม่อดไม่ได้ที่จะถาม แต่คำตอบของผมก็คงมีแค่คำว่าไม่รู้คำ
เดียวที่จะบอกุกอย่างได้ดีที่สุดในตอนนี้

   ในช่วงสายพ่อกับแม่ก็พากันไปคุมลูกคณะซ้อมลิเกกันตามเคย ทิ้งให้ผมนั่งกินของว่างอยู่หน้าทีวี กดรีโมทเปลี่ยนช่องไป
มาทั้งที่ไม่รู้ว่าจะโฟกัสดูรายกันใด



   เสียงสั่นครืดของโทรศัพท์บนโต๊ะกลางเรียกให้ผมหยิบยกมันขึ้นมาดู หน้าจอแสดงเบอร์ของมาลีทำให้ขมวดคิ้วขึ้นมาด้วย

ความสงสัย

   “ว่าไงครับ หมอให้ออกจากโรงพยาบาลวันไหนครับ”ผมทักทายพร้อมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง




   ‘ฮึก มณี ฮึก มาหามาลีหน่อย มาลีเจ็บ’แว่วเสียงสะอื้นตอบมาจากปลายสาย

   “ทำไมไม่เรียกพยาบาลล่ะครับ”

   ‘ไม่มี ฮึก ไม่มีพยาบาล’เธอสะอื้น

   ทำให้ผมนึกสงสัย อีกทั้งเสียงลมที่พัดแรงแทรกมาจากปลายสายนั่นอีก

   “เดี๋ยวสิครับ ตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำไมเสียงลมถึงได้แรงแบบนั้นล่ะ”

   ‘ฮึก มาหามาลีหน่อยนะ ต้องมานะ มาลีเจ็บมากเลย มาลีกลัว ไม่นะ ช่วยมาลีด้วย มณี กึก กึก’



   เสียงกุกกักดังแทรกขึ้นมาทั้งที่มาลียังพูดไม่จบทำเอาตกใจ

   “ที่ท่าเรือสุดหาด….  มีเรือจอดอยู่ถ้าไม่อยากให้นังนี่เป็นอะไรไปซะก่อนก็รีบมา”เสียงแข็งกร้าวพูดกระชากเสียงห้วนดัง
แทรก

   “คุณเป็นใคร นี่ เดี๋ยว” ยังไม่ทันจะถามไถ่ ปลายสายก็ถูกตัด

   พอโทรกลับก็ไม่มีสัญญาณ



   ผมได้รับโทรศัพท์อีกครั้งเพื่อขู่ว่าห้ามแจ้งตำรวจหรือบอกใคร ซึ่งนั่นมันทำให้ผมยิ่งกดดัน

   มันมากเกินไปที่จะช่างน้ำหนักระหว่างผู้หญิงที่อ่อนแอกับลูกในท้อง

   ผมเป็นห่วงลูกในท้องมากจนหยุดที่จะกังวลไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน ความเป็นมนุษย์ก็ทำให้ผมละทิ้งคนคนหนึ่งไม่ได้
เช่นกัน



   ลมทะเลเริ่มพัดแรงเพราะพายุที่ใกล้จะพัดเข้ามาอีกระรอก คลื่นทะเลขึ้นสูง กลิ่นอายของฝนใกล้เข้ามาทุกที

   ท่าเรือด้านหน้าเป็นสะพานทอดยาวออกไปถึงเรือลำใหญ่สีขาวดูมีราคา

   เป็นเรือลำเดียวที่จอดอยู่ที่ท่านี้เพราะค่อนข้างจะไกลห่างจากแหล่งท่องเที่ยว

   เรืองลำใหญ่โคลงเคลงไปตามแรงคลื่นที่ซัดเข้ามา ฝนเม็ดเล็กเริ่มหยดปะปรอยลงมามากขึ้น



   กรี๊ดดดดดด!!

   เสียงกรีดร้องราวกับย้ำเตือนว่าผมมาที่นี่เพื่ออะไรทำให้ผมต้องรีบรุดเข้าไปที่เรือลำนั้น

   ทันทีที่ขึ้นไปบนเรือ ไร้วี่แววของใครอยู่ข้างบน

   ผมก้าวอย่างระมัดระวังเผื่อว่าคนร้ายจะอยู่แถวนี้

   ผมเดินมาหยุดหน้าประตูที่จะพาลงไปในท้องของตัวเรือ พอชะโลกหน้าเข้าไปก็เจอกับความว่างเปล่าทำให้นึกสงสัย

   แต่ไม่ทันไร มือก็ถูกกระชากดึงไปทางด้านหลังแรงจนเกือบล้มลงไป แขนอีกข้างเองก็ถูกจับเอาไว้ไพร่หลังจากแรงที่มีอยู่
มากจนไร้ทางจะตอบโต้

   ผู้ชายผิวขาวสะอาดท่าทางดูดีและสุภาพแต่แววตากลัวดูน่ากลัวและโหดเหี้ยมจับผมเอาไว้ทำให้ผมดิ้นไม่หลุด

   “ปล่อย คุณเป็นใครกันแน่ ต้องการอะไร ถ้าไม่ปล่อยผมจะเรียกให้คนช่วย”

   ผมขู่ไปแต่ก็ไร้เสียงตอบจากอีกฝ่าย หรือแม้กระทั่งท่าทีกังวลใดใดนอกจากท่าทีแข็งทื่อเหมือนเก่า

   “หากคุณไม่ปล่อยล่ะก็ ผมจะแจ้งตำรวจให้มาจัดการคุณ”ผมขู่





   “หึ คิดว่าทำได้ก็ลองดูซิ คิดว่าแถวนี้จะมีใครผ่านมารึไง อีกอย่าง แกลองแหกตามองดูซะบ้างมาตอนนี้แกอยู่ที่ไหน เรือมัน
ออกป่างจากฝั่งมาไกลแล้ว โง่จริงๆเลย”

   เสียงแหลมเล็กพูดสะบัดเสียง ทำให้แทบไม่เชื่อหูจนต้องหันไปมองทางต้นเสียง

   แล้วก็เป็นจริง มาลีเดินเข้ามาจากทางท้ายเรือพร้อมกับมีดวาววับปลายแหลมจนสะท้อนแสง

   ผมมองไปยังฝั่งตามที่มาลีบอก แล้วก็เป็นจริงอย่างที่ว่า เรือได้เคลื่อนตัวออกมาจากฝั่งตั้งแต่เมื่อไรก็ไม้รู้

   “ทำไมถึง”ผมพูดไม่ออกได้แต่มองหญิงสาวที่มีผ้าพันแผลแปะอยู่ครึ่งใบหน้า

   “หึ ไม่เสียแรงจริงๆที่ลงทุนกรีดหน้าตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจ แกมันโง่กว่าที่คิดเอาไว้จริงๆ ส่วนไอ้ยักษ์นั่นก็โง่ยิ่งกว่า
ที่รักแกจนยอมเจ็บเพื่อที่จะช่วยแก”

   “หมายความว่ายังไง”

   ในตอนนี้ผมงงไปหมด ถ้ามาลีบอกว่ากรีดหน้าตัวเอง นั่นก็แสดงว่าพี่ธาราไม่ได้ทำร้ายมาลี ทั้งหมดนี้เกิดจากมาลี

   เธอโกหกทุกอย่าง เธอหลอกผมมาตลอด

   แล้วที่แย่ไปกว่านั้น

   ผมกลับไม่เชื่อใจพี่ธารา ทั้งที่พี่ธาราพยายามจะปกป้องผมอยู่ตลอด

   “แกมันโง่ไง แต่ก็ดี ฉันจะได้จัดการเอาสิ่งที่ฉันต้องการมาง่ายๆ”

   “สิ่งที่ต้องการ พูดถึงอะไรกัน!!”


   ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากมือแข็งที่จับแขนของผมเอาไว้

   มาลีเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับเงื้อมีดสีเงินวับในมือ



   “สิ่งที่อยู่ในตัวของแกยังไงล่ะ เด็กที่มีเลือดของยักษ์อยู่น่ะ มันน่าจะแข็งแกร่งไม่น้อย”

   “อย่าแม้แต่จะคิด อย่ามาแตะลูกของผม คิดจะทำอะไรกันแน่”

   เธอรู้มาตลอดว่าในตัวของผมมีอะไรอยู่ ที่เธอเข้าหาผมตั้งแต่แรกก็เพื่อจะเข้ามาทำร้ายลูกของผมกับพี่ธารา ทำไมผมถึง
ไม่รู้เรื่องนี้และไม่เอะใจมาก่อน

   ผมมันแย่ เกินกว่าที่จะให้อภัยตัวเองได้เลย



   “แกไม่ต้องห่วง ลูกๆของแก จะต้องกลายเป็นลูกกรอกที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยล่ะ”เธอพูดพร้อมแสยะยิ้ม ยืนอยู่
เบื้องหน้า

   ทั้งที่พยายามดิ้นจนสุดแรงแต่ก็ไม่สามารถจะหลุดออกไปได้เลย

   มือที่ถือมีดปลายแหลมเงื้อขึ้นจนสุดแขนก่อนจะจ้วงแทงลงมาบนท้องของผม



   กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!



   





   




   

=================================================================

รอบนี้ไม่ค้างนะ มาต่อให้เลย อ่านต่อข้างล้างนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH.27.2+28] .ปกป้อง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 13-01-2016 04:02:42
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH.27.2+28] .ปกป้อง
เริ่มหัวข้อโดย: yingmin ที่ 13-01-2016 04:33:11
 ขึ้นบนไม่ค้าง..แต่มาค้างข้างล่าง
อ๊ายยยยยย....มณีจะเป็นไรมั้ยยยยยย
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH.27.2+28] .ปกป้อง
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 13-01-2016 07:42:15
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :ling1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH.27.2+28] .ปกป้อง
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 13-01-2016 11:21:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH.27.2+28] .ปกป้อง
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 13-01-2016 13:56:59
ค้างหนักกว่าเดิม
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH.27.2+28] .ปกป้อง
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 13-01-2016 13:58:53
เค้าเรียกว่าไม่ค้าง จริงเหรอ!!
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH.27.2+28] .ปกป้อง
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 13-01-2016 15:39:30
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH.27.2+28] .ปกป้อง
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-01-2016 18:47:25
 :pig4:   :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH.27.2+28] .ปกป้อง
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 13-01-2016 19:23:47
สำนึกตอนนี้มันก็สายไปแล้วป่ะคนรักกันแต่ไม่ให้ความเชื่อใจกันเลย คือมันหลายรอบหลายหน
แล้วผลทีตามมาคือบานปลายตลอดแล้วใครต่อใครต้องมาคอยแก้ไขปัญหาให้ตลอดแบบนีไม่ดีเลยนะ
ทำไรคิดถึงลูกบ้างไหมอ่านแล้วป่วยจิตกับนาง
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH.27.2+28] .ปกป้อง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 13-01-2016 21:05:15
43126
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

   ครั้งที่ 28 ปกป้อง+สูญเสีย

      
   กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!


   เสียงกรีดร้องของมาลีดังก้อง

   แสงสีเหลืองสว่างวาบออกมาจากสร้อยพระที่พี่อเลนเคยให้เอาไว้ ผมเบือนหน้าหนีแสงที่สว่างจนต้องหลับตาลง



   ชายคนที่อยู่ด้านหลังของผมปล่อยมือจากผมทันทีทำให้ผมทรุดตัวลงนั่งบนพื้นดาดของเรือที่กำลังแล่นอย่างไร้จุดหมาย
ด้วยความอ่อนแรง

   

   “แก ไอ้บ้า ยังจะมัวเฉยทำไม ไปเอาสร้อยมันออกมาสิ”มาลีสั่งผู้ชายคนที่ผละออกไป

   ผมลุกถอยหลังหนีผู้ชายคนนั้น เขาเดินเข้ามาพร้อมกับนัยน์ตาโหดเหี้ยมราวกับไม่ใช่ดวงตาของมนุษย์

   มือของเขาเอื้อมมาข้างหน้าของผมหมายจะดึงเอาสร้อยคอที่ผมใหญ่อยู่ออกไป

   ทว่าแสงเหลืองสว่างวาบขึ้นอีกครั้งทำให้เขาต้องกุมตาของตัวเองเอาไว้ ควันทะมึนสีเทาไหววูบผ่านออกจากตัวของเขาก่อ
ตัวเป็นรูปร่างของเงาสีซีดใบหน้าอิดโรยซูบโซม

   ร่ากายของผู้ชายคนนั้นฟุบลงกับพื้นราวกับว่าพึ่งถูกผีสิง เงาทะมึนจ้องหน้าผมอย่างอาฆาตก่อนจะชี้หน้าอย่างแค้นเคือง
ก่อนจางหายไป

   “ไม่ได้เรื่อง ไอ้ผีตายโหงงี่เง่า”


   “ที่นี่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น”เสียงแหบพร่าต่างจากเมื่อก่อนหน้าถามขึ้น


   ผมถอยหลังหนีกลัวว่าเขาจะทำอันตราย แต่พอมองดูท่าทางที่ต่างจากเมื่อครู่ลิบลับยังพอดูท่าทีได้บ้าง

   ตาก็เหลือบมองวาลีที่ดูโกรธไม่ใช่น้อยที่ทำให้วิญญาณที่เธอควบคุมสลายไป

   “เธอคนนั้น แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง นี่มันกลางทะเล แล้วนี่เรือของฉัน นี่เธอทำอะไรกับฉันกันแน่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

   ดูท่าเขาจะถูกผีสิงจริงๆ

   “แก ถ้าแกไม่อยากตายล่ะก็จับมันเอาไว้ ไอย่างนั้นฉันจะสั่งให้ผีที่สิงแกเมื่อกี้หักคอแกให้ตาย”

   “อะ ไรนะ ผะ ผีงั้นเหรอ เธอ ใช่จริงๆด้วย ฉันไม่ได้ตาฝาด ครั้งสุดท้ายที่จำได้ฉันเห็นว่าเธอเรียกผีออกมา เธอสั่งให้ผีมาสิง
ฉันใช่ไหม ไม่เอานะ อย่าทำอะไรฉัน อย่าให้ผีมาเข้าสิงฉัน”

   “ถ้าแกไม่อยากจะถูกสิงอีกรอบล่ะก็ จับมันเอาไว้แล้วก็ถอดสร้อยคอมันซะ”

   “แต่ว่า ทำแบบนี้มันไม่ถูก มีดนั่น เธอจะฆ่าเขารึไง”

   “แก ไอ้โง่ ถ้าขืนแกพูดมากฉันจะฆ่าแกอีกคน”

   “ไม่เอานะ ฉันทำก็ได้ แต่อย่าฆ่าฉัน อย่าเอาผีออกมาด้วย ฉันขอร้อง”เขาพูดละล่ำละลักด้วยความกลัว

   ท่าทางนุ่มนิ่มเหมือนพวกผู้ดีขี้ขลาดเมื่อถูกจี้ทำให้เขาพุ่งเข้ามาหาผมด้วยความรวดเร็ว

   มันเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทันและถูกล็อกเอาไว้อีกครั้ง

   สร้อยคอถูกกระชากออกไปอย่างรวดเร็ว เร็วมากจนแทบจะไม่รู้สึกนอกจากความเจ็บจากสร้อยคอที่รัดชั่วครู่ก่อนมันจะขาด
ลง



   ในจังหวะที่สร้อยคอหลุดลง ผมก็ถือโอกาสผลักตัวของเขาออกก่อนจะวิ่งหลบไปยังอีกทาง

   แต่เขาก็ยังคงตามมาติดๆด้วยท่าทางลนลานเพราะความกลัวราวกับเป็นคนวิกลจริต

   “อย่าหนีนะ บอกว่าอย่าหนีไง”เสียงสั่นเครือขู่ในขณะที่ผมพยายามหาทางหนีทีไล่

   อีกทั้งเรือที่โคลงเครงและเม็ดฝนเริ่มตกลงมาถี่ ยากต่อการทรงตัว

   “อย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามาผมจะสู้นะครับ”

   หากมันเลือกไม่ได้ผมคงจะต้องสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อปกป้องลูก

   ผมมาสุดเอาที่ท้ายเรือเพราะโดนต้อนจากมาลีและผู้ชายคนนั้นจนจนมุม

   ฝนที่ตกลงมาทำให้ผมเปียกปอนจนต้องยกมือขึ้นเช็ดน้ำออกจากใบหน้าอยู่เรื่อย

   ตาจ้องมองร่างสูงดูสุภาพเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย

   เสียงฟ้าร้องคำรามตามด้วยแสงสว่างวาบดูน่ากลัว ไม่นานเสียงสายฟ้าก็ฟาดลงมาดังก้อง

   ผมตัวสั่นจากอากาศที่หนาวเย็นและความกลัว ผืนน้ำเบื้องล่างกำลังแปรปรวนจนดูเหมือนกับว่าหากตกลงไปร่างคงถูกกลืน
กินและดึงลงไปลึกจนไม่มีที่สิ้นสุด



   “จับมันเอาไว้”

   มาลีสั่ง ไม่นานเขาก็มาจับตัวผมดึงเอาไว้อีกรอบ ความเหนื่อยล้าและพายุที่เริ่มแรงขึ้นมันยากเกินกว่าที่ผมจะยื้อเอาไว้ได้



   มาลีก้าวเข้ามาแล้วเงื้อมีดขึ้นอีกครั้ง ปลายแหลมวาววับกำลังจะจ้วงลงมาบนท้องของผมถ้าหากว่าจู่ๆเรือไม่โครงไปเสียก่อน

   ราวกับว่าถูกกระแทกหรือผลักดันจากสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างรุนแรงร่างหายใหญ่มหึมาโผล่พ้นขึ้นมาเหนือน้ำ

   ผมมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา

   พี่ธาราที่มีลำตัวใหญ่จนผมยากที่จะคะเนได้ว่าใหญ่ขนาดไหน



   ใบหน้าโกรธเกรี้ยวนัยน์ตาสีมรกตและคมเคี้ยวงอโง่งจนน่ากลัว

   ผมไม่ได้ขยับไปไหนจากแรงกระแทกเพราะการยื้อยุดเมื่อครู่ทำให้ผมต้องเกาะขอบเรือเพื่อขืนตัวเอาไว้

   ต่างจากมาลีและผู้ชายที่ถูกผีสิงก่อนหน้ากระเด็นไปคนละทิศละทาง



   พี่ธาราค่อยๆหดตัวเล็กลง

   “เจ้าเจ็บตรงไหนหรือไม่”พี่ธาราถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงพลางประครองตัวผม

   “ไม่ครับ ฮึก ผมนึกว่าพี่จะไม่มา”

   ในที่สุดสิ่งที่พยายามจะปกปิดเอาไว้ก็พังทลายลง ทั้งที่พยายามเข้มแข็งเพื่อปกป้องลูกเอาไว้

   แต่พอคนคนนี้มา ผมก็กลายเป็นคนอ่อนแอขึ้นมาทันที

   อาจจะเพราะผมรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาก็เป็นได้ ทำให้ผมทิ้งตัวลงสู่อ้อมกอดของพี่ธาราด้วยความอ่อนแรง

   “ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเจ้ากับลูกอีกเด็ดขาด”

   “ฮึกๆ ผมขอโทษ ที่ไม่เชื่อพี่”

   “ข้าไม่เคยถือโกรธเจ้าเลย มณียอดรักของข้า”

   “ผมขอโทษ”ผมพูดพร้อมปาดน้ำตา

   



   “รออยู่ตรงนี้ อีกไม่นานเจ้ากับลูกจะปลอดภัย”พี่ธาราบอกพร้อมกับดันให้ผมหลบอยู่มุมสุดของตัวเรือ

   

   ร่างของผู้ชายคนนั้นสลบล้มฟุบอยู่กับพื้นเรือหลังจากที่หัวกระแทกตัวเรือ ทำให้ตอนนี้เหลือแต่มาละที่จ้องมองพี่ธารา
ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อพร้อมกับถือมีดจ่อไปที่พี่ธารา

   “แก ไอ้สัตว์เดรัจฉาน แกบังอาจมาขัดขวางฉัน แกจะต้องเจอดี”

   มาลีพูดด้วยเสียงกราดเกรี้ยวล้วงหยิบเอาตุ๊กตาดินเผารูปทรงเหมือนสัตว์มีเขารูปร่างคุ้นตาออกมาแล้วท่องคาถา ก่อนจะ
โยนมันออกไป

   เงาดำทะมึนก่อตัวเป็นรูปควายสีดำดวงตาสีแดงฉานน่ากลัว

   มันหันไปทางพี่ธาราแล้วพุ่งเข้าหาทันทีที่เห็น

   พี่ธาราจับเขาแหลมคมที่พุ่งเข้าหาเอาไว้แล้วดันก่อนมันจะเข้าปะทะกับตัว แรงมหาศาลมากมายปะทะกันจนพื้นของเรือยุบ
ลง

   ดูเหมือนว่าแรงของควายธนูจะสู้แรงของพี่ธาราไม่ได้ มันค่อยๆถอยหลังออกไปเรื่อยๆจนสุดริมเรือ

   ในที่สุดพี่ธาราก็ผลักมันจนตกลงไปในท้องสมุทร

   ฉับพลันเกลียวคลื่นที่ถาโถมก็หมุนวนเป็นน้ำวนขนาดใหญ่กลืนกินเจ้าควายตัวนั้นลงไป พร้อมกับเสียงคำรามร้องดังอย่าง
ทุรนทุราย



   พี่ธาราจ้องมองน้ำวนกำลังดูดสิ่งชั่วร้ายโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว มาลีเดินเข้าหาพี่ธาราพร้อมกับยกมีดขึ้นมา

   พี่ธารากำลังท่องมนต์อะไรสักอย่าง ถ้าปล่อยไว้คงจะไม่ทันแน่

   ผมรีบวิ่งเข้าไปทันที มีดที่เงื้อขึ้นจ้วงลงไป

   ผมถลาเข้าไปผลักมาลีออก ในช่วงเวลาที่ผมต้องการจะปกป้องใครสักคนที่ผมรัก

   ความคิดอ่านมันจางหายไปแทบไม่เหลือชิ้นดี

   รู้ตัวอีกที ร่างของมาลีก็หล่นลงไปจากเรือ

   ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดมักเกิดขึ้นเสมอ ทันทีที่พี่ธาราหันมา ดวงตาสีเขียวมรกตดูตกใจ

   แต่มันก็สายไปซะแล้ว ผมถูกมาลีดึงตกลงไปพร้อมกับเธอด้วย

   ถึงแม้จะเอื้อมมือไปเพื่อจะไขว่คว้ามือที่เอื้อมมา แต่มันก็ไม่ทันพอที่จะยื้อมือนั้นเอาไว้

   ทั้งหมดเป็นเพราะผม ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความโง่เขลาของผม

   ลูกๆของผมถึงต้องมารับผลกรรมที่ผมทำเอาไว้อย่างนี้

   สายน้ำเย็นเยือกกลืนกินตัวผมลงไปใต้ผืนสมุทร ความเย็นแล่นเข้าสู่ผิวหนังจนรู้สึกเย็นไปถึงกระดูก

   แสงสว่างด้านบนเริ่มริบหรี่ลงไปทุกที จนในที่สุดมันมืดสนิทและดับลง



================================================================



   ร่างกายของคนที่รักจนสุดหัวใจถูกมหาสมุทรกลืนกินลงไปในชั่วพริบตา ร่างกายแข็งแกร่งดุจศิลาคล้ายกับแตกสลายใน
เสี้ยวอึดใจ

   หัวใจของยักษาถูกฉุดดึงด้วยผืนทะเลที่กำลังบ้าคลั่ง กลืนกินลงไปในห้วงลึกจนไม่อาจจะมองเห็น

   ราวกับโลกนี้กำลังจะดับสลายสูญสิ้นชีวิตชีวา ยักหนุ่มไม่รอช้ากระโจนลงไป





   อ้อมแขนแข็งแรงโอบอุ้มร่างเย็นชืดของคนรักเอาไว้ ใบหน้าที่เคยร่าเริงดูซุกซนกลับซีดเซียวไร้วี่แววของชีวิต



   พายุที่พัดโหมพัดผ่านไปในที่สุด แสงแดดอ่อนทอลงมาพาดผ่านร่างไร้ชีวิตขาวซีด

   ร่างนั้นถูกวางลงบนผืนทรายอย่างเบามือพร้อมกับหัวใจที่แหลกสลาย

   “เป็นยังไงบ้างธารา เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้”

   ทศกัณฐ์รี่เข้ามาเมื่อเห็นว่ายักษ์หนุ่มคู่กัดอุ้มร่างไร้เรี่ยวแรงกลับมา

   สัญชาติญาณหมอรีบแตะตัวร่างที่ไร้การตอบสนองก่อนจะวัดชีพจรมือเป็นระวิง

   “เป็นไปไม่ได้”หมอทศกัณฐ์พึมพำ นิ้วจ่อเข้าที่จมูกของมณี ทว่ากลับไม่มีสัญญาณของลมหายใจที่พรูออกมาเลยแม้แต่นิด

   ในขณะที่ธาราได้แต่จ้องมองคนรักอย่างไร้เรี่ยวแรง

   “ข้าช่วยมณีเอาไว้ไม่ทัน ลูกข้า คนรักข้า ข้าไม่อาจจะปกป้องเอาไว้ได้”

   

   “อย่ามัวแต่นั่งซื่อบื้อสิ คิดว่าลูกของแกจะตายง่ายๆรึไง”

   ทศกัณฐ์พยายามปั๊มหัวใจสุดกำลัง เพื่อช่วยยื้อความหวังของเผ่าพันธุ์เอาไว้

   หมอหนุ่มพยายามแจะชีพจรสลับกับปั๊มหัวใจ

   และแล้วสิ่งที่คาดหวังก็เกิดผล ชีพจรสองดวงเต้นขึ้นมาพร้อมกันราวกับปาฏิหาริย์

   ทว่ายังคงมีอีกดวงที่ยังคงแน่นิ่ง



   “ธารา ลูกนายหัวใจยังเต้นอยู่ หากทำตอนนี้ละก็ต้องรอดแน่”

   “จริงหรือไม่ แล้วมณีเล่า”ธาราถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ราวกับว่าฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง

   “ฉัน  ฉันคิดว่าชีพจรของมณีไม่เต้นแล้ว บางทีนายอาจจะต้องทำใจ”

   
   “ไม่!! ไม่มีทางที่ข้าจะยอมเสียคนที่ข้ารักไปอีกครั้งเป็นแน่ เจ้าเป็นหมเจ้าย่อมรู้ดีว่าต้องทำอันใด”

   “แต่ถ้าไม่รีบผ่าท้องออกมาตอนนี้ละก็ นายอาจจะเสียไปทั้งหมดก็ได้”

   “ไม่มีทางข้าไม่ยอมเสียใครไปเด็ดขาด ต่อให้แลกด้วยชีวิตของข้าก็ตาม”

   “อย่ามัวแต่พูดไร้สาระ มันเป็นไปไม่ได้”ชุดมีดผ่าตัดที่ติดตัวไว้เผื่อฉุกเฉินถูกหยิบขึ้นมา

   แสงแดดสะท้อนเอาวัตถุมีคมวาววับจนน่าใจหาย

   



   “ยังพอมีทาง”ยักษ์หนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงแน่วแน่

   “ทางที่ว่ามันทางไหนละ ขืนไม่รีบจะตายไปทั้งแม่ทั้งลูก อย่าลืมว่ามณีเป็นคน ไม่ใช่ยักษ์ใช่มารเหมือนพวกเรา”

   “ข้าจะสละชีวิตที่เหลือของข้าเพื่อลูกเมียของข้าเอง”

   พูดจบคนฟังถึงกับชะงักมือนิ่ง จ้องมองอีกฝ่ายราวกับว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ

   “มันอาจจะทำให้สิ้นอายุขัยได้”



   “ต่อให้ถูกกักขังอยู่ในนรกชั่วกัปชั่วกัลป์ข้าก็ยอม”

   ใบหน้าของธาราเคลื่อนเข้าหาใบหน้าไร้ชีวิต ริมฝีปากร้อนผ่าวประทับจูบลงไปบนริมฝีปากเย็นชืด

   ไร้วี่แววหรือการตอบโต้ใดใดอย่างที่เคยเป็น

   ถ้อยคำยอกย้อนหรือต่อว่ามักจะมีขึ้นมาเสมอเมื่อเขาทำเช่นนี้

   

   “ฝากดูแลมณีกับลูกของข้าด้วยล่ะ”

   สิ้นสุดคำพูดร่างกายกำยำสมชายชาตรีของธาราก็ถูกกลืนลงไปในท้องสมุทรเหลือเพียงแต่เกลียวคลื่นที่สาดซัดเข้ามาเพียง
เท่านั้น






   ชั่วอึดใจที่รอคอยร่างไร้ชีวิตก็ขยับขึ้นมาอีกครั้ง



   “แค่กๆ ๆ”





===================================================================



   “แค่กๆๆ”

   เหมือนกับร่างกายมันถูกกระตุกวูบอย่างรุนแรง

   ผมสำลักน้ำที่อยู่ในปอดออกมาเมื่อได้สติ ท้องฟ้าสีสว่างต่างจากเมื่อครู่ลิบลับทำให้ผมวางใจแล้วคลี่ยิ้มออกมา ปล่อยตัว
ให้นอนราบลงไปกับผืนทราย

   “เป็นยังไงบ้างล่ะ”น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงเอกลักษณะทายทักทำให้หันไปมอง

   กลับไม่ใช่พี่ธาราแต่เป็นคุณหมอทศกัณฐ์แทน ยังไม่ทันที่จะไถ่ถามอะไรก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมา

   ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าสิ่งที่อยู่ข้างในมันพยายามจะดันออกมาทำให้ผมแทบจะทนไม่ไหว

   ต้องจึกมือลงกับผืนทราบด้วยความทรมาณ

   “ปะ ปวด ปวดท้อง ฮึก”ผมละล่ะละลักบอกเสียงสั่น

   จู่ๆมันก็ปวดเจียนจะบ้าตาย สิ่งที่อยู่ในท้องมันเหมือนกับว่ากำลังตะกายหาทางออก

   “ใจเย็นๆ เธอกำลังจะคลอด”

   คุณหมอทศบอกพลางจับผมเอาไว้ไม่ให้ดิ้น

   ผมถูกจับเอาไว้ให้นอนชันขาในท่าสบาย แต่กลับไม่รู้สึกเลยสักนิดว่ามันสบายเลย

   ผมบิดตัวไปมาเพราะความปวดที่แล่นริ้วอยู่ข้างใน

   “ไม่ไหวแล้ว ปวด ฮึก พี่ธารา ผมปวด”ผมร้องเรียกชื่อคนที่ผมรักออกมา

   ทั้งที่ตาปิดสนิทจากความเจ็บปวด



   ความเจ็บจุกก่อตัวรวมกันเป็นจุดๆเดียวอยู่ที่ช่วงสะดือ มันเจ็บมากที่สุดในชีวิตเท่าที่จำความได้ตั้งแต่เกิดมา

   ในที่สุดแสงสีเขียวมรกตก็สว่างออกมา ดวงแสงทรงกลมผุดออกมาจากหน้าท้องของผม

   มันลอยอยู่ตรงหน้าของผม เมื่อมองเข้าไปดีดีก็เห็นว่าเด็กทารกสองคนกำลังนอนขดกอดกันอยู่ข้างในดวงแก้วสีเขียวนั่น

   ทันทีที่เห็นน้ำตาของผมก็ร่วงหล่นลงมา มันทั้งเจ็บทั้งปวด แต่เหนือสิ่งอื่นใดมันคือความดีใจที่ในที่สุดลูกของผมและพี่ธารา
ก็ได้ลืมตาออกมาดูโลกสักที



   ทารกร่างจ้ำม่ำหน้าตาคล้ายคลึงกับพี่ธาราลอยมาซบอยู่แทบอกของผมคนละข้าง

   “โชคดีที่ปลอดภัย”คุณหมอทศกัณฐ์บอพร้อมคลี่ยิ้ม



   แต่ตอนนี้ความสนใจของผมทั้งหมดอยู่ที่ธาราน้อยทั้งสองคน ถึงแม้ว่าจะแปลกใจว่าทำไมอีกคนถึงได้สีผิวเข้มกว่า

   

   “แว๊ แว๊ แว๊”ทันทีที่ซบอก

   สองตัวน้อยก็เริ่มร้องงอแงขึ้นมาอวดเอาเขี้ยวงอโง้งที่บ่งบอกได้ว่าได้พ่อมาเต็มๆ

   มันทำให้ผมตกใจจนไม่รู้จะทำยังไง เพราะไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อนเลย

   แสงแดดสีส้มอ่อนส่องมายังเจ้าตัวเล็กสองคนที่แข่งกันร้องงอแงจนลั่นหาดทรายสีขาวแม่แต่เสียงคลื่นลมที่ว่าดังแล้วยังไม่
อาจสู้ได้

   “ผะ ผม จะทำไงดี”ผมหันไปถามคุณหมอทศเมื่อเจ้าตัวเล็กร้ององแงไม่หยุด

   อีกอย่างผมก็ไม่มีนมให้กิน

   “เอานี่ นมของนารีผล”

   ขวดนมดูแปลกตาถูกส่งยื่นใส่ปากเจ้าตัวเล็กทำให้นิ่งสงบลงได้

   

   “แล้วพี่ธาราล่ะครับ พี่ธาราอยู่ไหน”

   ผมมองไปรอบๆเพื่อมองหาพี่ธารา หากรู้ว่าลูกของเราเกิดมาแล้วพี่ธาราจะต้องดีใจมากแน่ๆ แค่คิดก็นึกถึงใบหน้าเรียบนิ่งที่
มักจะอมยิ้มให้กับเด็กๆที่อยู่ในท้องบ่อยๆ

   คุณหมอทศกัณฐ์มีสีหน้าซีดลงไปเล็กน้อยเมื่อถามถึงพี่ธาราทำให้ผมเริ่มใจไม่ดี

   “พี่ธาราล่ะครับ”ผมถามย้ำด้วยเสียงที่เริ่มสั่นเครือ

   “ธาราไม่อยู่แล้ว เจ้ายักษ์นั่นเสียสละเพื่อช่วยเธอกับลูกเอาไว้”

   “คุณหมอหมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ แล้วพี่ธาราล่ะ พี่ธาราไปไหน”

   พอนึกขึ้นได้ว่าครั้งสุดท้ายผมได้ถูกมาลีดึงลงทะเลไปพร้อมกับเธอตัวผมก็สั่นขึ้นมาทันที

   “ไปกันเถอะ ฉันอยากให้เธอกับเจ้ายักษ์แฝดพักผ่อน”

   

   “ไม่จริง เป็นเพราะผม เพราะผมคนเดียว พี่ธาราถึงได้ ฮึก”

   น้ำตาที่เหือดแห้งไหลลงมาอีกครั้ง ผมจ้องมองลูกด้วยสายตาที่หมดอาลัยตายอยาก

   ตาของผมสะดุดที่แผ่นอกเล็กๆของทั้งสองคน ปานสีจางดวงเล็กๆรูปครึ่งวงกลมขึ้นอยู่ตรงแผ่นอกด้านซ้ายตรงหัวใจพอดี
มันส่องแสงสีแดงวาบออกมาชั่วครู่

   บางทีนี่อาจจะเป็นสัญลักษณ์ของลูกแก้วที่พี่ธาราว่าก็ได้

   



   





ยักษ์แฝดน้อยโผล่มาพ่อยักษ์ใหญ่ธาราไปไหนละเนี่ยยยย

รวบรัดไปไหม หรือว่าอย่างไร อาจจะแก้ เพราะไม่ค่อยพอใจเท่าไร

หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-01-2016 21:30:59
เอาพี่ธารากลับมาาาาาา  :katai1: :katai1:

เพราะมณีงี่เง่าไงเรื่องถึงได้เป็นแบบนี้ แงง  :ling1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 13-01-2016 21:41:11
 :katai1: ตอนต่อไปเสิรฟ์ด่วนค่า
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 13-01-2016 21:49:03
ม่ายน้าาาาาาาาาา :z3:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 13-01-2016 21:55:35
แก้เลยคับ อิอิ จะได้อ่านใหม่อีกรอบหนึ่ง
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 13-01-2016 22:05:06
มณีโลเลเอง มณีผิดมาก
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 13-01-2016 22:23:18
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 14-01-2016 01:41:51
จับมณีไปเฆี่ยนตีเบาๆ
ข้อหาดื้อ บวกเซ่อซ่า
เป็นเหตุให้พี่ธาราต้องหายไป
งื้ออออ นางคลอดก่อนกำหนดนะเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 14-01-2016 01:59:30
โกรธมณีมาก! พูดเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 14-01-2016 07:43:18
เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นจากมณีไม่ซื่อสัตย์
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: ศตรัศมี ที่ 14-01-2016 12:07:50
เสียใจเสียอย่างสุดซึ้งเลยดิมณี เห็นคนอื่นดีกว่ามาตั้งแต่ต้นแล้วพอเสียผัวก็มาคร่ำครวญ อะโด่! ถ้าธารากลับมาอยากให้ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับมณีเหลือแม้แต่เสี้ยวเดียว ให้มณีนางชดใช้โดยการตามจีบผัวใหม่ และที่สำคัญคือเป็นแม่คน เอ้ยย! แม่ยักษ์แล้ว หวังว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่จะช่วยให้ฉลาดทันคนขึ้นนะ ไม่งั้นลูกหล่อนแย่แน่ๆ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: KoTo_Nat ที่ 14-01-2016 12:26:54
แต่งใหม่เลยครับ

เอาพี่ธารากลับมาหรือไม่ก็แค่ให้พี่ธาราโดนแผลร้ายแรงแทนแต่ไม่ถึงชีวิตครับ

ไม่เอาพี่ธาราตายน๊าาา

เออว่าแต่มีเขี้ยวทั้งสองคนเลยเหรอครับ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: sirikanda28 ที่ 14-01-2016 17:37:07
สงสารธาราจริง ๆ
การไม่เชื่อใจกันก็
เป็นอย่างนี้แหละ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 14-01-2016 21:41:59
ให้สามคำ  เกลียด-ม-ณี  งี่เง่าง้องแง้งยิ่งกว่านางเองละครน้ำเน่าของไทยอีก เซ็งๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: ฤดูใบไม้หลากสี ที่ 17-01-2016 03:07:02
เนื้อเรื่องอยู่ที่ปลายปากกา หวังว่าคนเขียนคงไม่สร้างปาฏิหารย์ขึ้นมาหรอกนะ

บอกได้คำเดียวสมน้ำหน้ามณีมากมาย ภาวนาให้แกเสียลูกและธาราไปด้วยเลย จะได้สะใจ

ธาราเป็นคนรัก ไม่เชื่อใจไม่พอ กระทำการไม่ซื่อสัตย์ไม่บอกมาลีว่ามีแฟนแล้วทั้งที่ก็ท้องโย้

ธาราเป็นห่วงแค่ไหน มณีไม่เคยเป็นห่วงตัวเองและลูกเลย

ธาราต้องตาย เพื่อสละชีวิตต่อลมหายใจให้มณี และช่วยมณีซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่มณีก็ไม่เคยสำนึกผิดใด ๆ สักหน แม้แต่นางสุดท้ายอย่างมาลี

โถ่ อีมณี อีนางเอก อีโง่ สมน้ำหน้า มึงหน้าจะเสียทั้งลูกทั้งผัวมึงเลยนะ ไม่ซื่อสัตย์กับผัวไม่พอ ยังไม่นึกถึงลูก อีโง่ ไม่เคยเจอนายเอกที่ไหนโง่ขนาดนี้มาก่อนเลย โง่ ๆ โง่ โง่ชิบหาย

คนเขียนเรื่องนี้จบแบดเอนจะเป็นอะไรที่โรแมนติกมาก เพราะอันดับแรก มณีควรได้รับผลของการกระทำ ครั้งหนึ่งมณีทำพลาดเพราะความไม่รู้ แต่ครั้งนี้มณีทำพลาดด้วยความตั้งใจ ดังนั้นจบแบบมณีเลี้ยงลูกเดี่ยวจะดีมาก

แต่เราก็คงเดาว่าคนเขียนคงมีตอนจบที่ถูกใจตัวเองไว้แล้วล่ะ และคงเป็นแบบที่เราเดา เฮ้อ

มณีทำให้เราตั้งสเปคแฟนขึ้นมาอีกสามข้อ เกลียดมณีมาก โง่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โง่แล้วโง่อีก โง่จนไม่คิดว่าใครจะโง่ได้ขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 24-01-2016 23:29:16
เคยมีคนกล่าวว่า หากทำผิดเรื่องเดิมเป็นครั้งที่สอง นั่นไม่นับเป็นความผิดพลาด แต่มันคือทางเลือก
แต่คนเราควรได้รับ โอกาส การเลือกผิดพลาดไม่ได้หมายความว่า คุณควรได้รับบทลงโทษที่เจ็บปวดถึงวันสุดท้ายของชีวิต
+เป็ด เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH 28.2] สูญเสีย
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 25-01-2016 19:55:31
เป็นกำลังใจให้คนเขียนครับ
อย่าถือสาคนอ่านบางคอมเม้นต์เลยนะ บางครั้งอ่านแล้วก็มีของขึ้นกันบ้าง เป็นธรรมดา
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 28/01 [CH 29] ชีวิตไม่มีเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 28-01-2016 21:58:53
46173
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ครั้งที่ 29 ชีวิตไม่มีเจ้าของ


   “เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ บอกให้เปิดไง ไอ้บ้าเอ้ย!!”

   มือบางพยายามทุบประตู แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววว่าจะมีใครได้ยิน หรือให้ความสนใจจากภายนอกเลยสักนิด

   “เปิดโว้ย ไอ้บ้า คุณจะมาขังผมไว้อย่างนี้ไม่ได้นะ”

   เขาทั้งทุบทั้งพยายามดึงลูกบิดประตูให้เปิดออก ทั้งที่มันหมุนมาเหมือนกับว่าไม่ได้ล็อกเอาไว้ แต่บานประตูนั้นกลับไม่
ขยับแต่อย่างใด

   อเลนเตะประตูทิ้งท้ายด้วยความหงุดหงิดใจ แต่ก็ต้องกระโดดขึ้นยกเท้าขึ้นมากุมด้วยความเจ็บ

   สองวันแล้วที่ถูกขังเอาไว้ มีเพียงข้าวและน้ำถูกเอามาวางไว้ให้ และทุกครั้งจะเป็นเวลาที่เขาไม่รู้สึกตัว

   และครั้งนี้ก็เช่นกัน ถาดอาหารได้วางไว้ก่อนหน้าแล้วก่อนที่เขาจะตื่น

   ทั้งโกรธทั้งโมโหอีกฝ่ายที่จับเขามาขังเอาไว้ มันไม่มีเหตุผลเลยสักนิดที่จู่ๆจะมาจับเขาขังเอาไว้ราวกับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่
เมื่อถึงเวลาแล้วก็จะมาให้อาหาร

   “บ้าชิบ”

   เขาสบถ นั่งลงบนขอบเตียงหยิบจานข้าวขึ้นมา

   ใช่ว่าไม่เคยเททิ้ง แต่พอเททิ้งแล้วมันก็ต้องมาหิว ไม่มีแรง สู้กินแล้วเอาแรงไว้หาทางออกยังจะดีกว่า

   

   แกร๊ก!!

   หลังจากทานอาหารเสร็จได้ไม่นานเสียงลูกบิดประตูก็ดังเรียกความสนใจให้หันไปมอง

   และก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากคนที่จับเขามาขังเอาไว้

   ไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมาก แก้วน้ำก็ปลิวหวือไปทางแขกที่ไม่ได้รับเชิญทันที

   ทว่ามือใหญ่ของทศกัณฐ์ก็รับเอาไว้ได้อย่างง่ายได้

   อเลนชักสีหน้าหงุดหงิดใส่

   “เมื่อไรจะปล่อยผมไปสักที คุณบ้ารึไง เป็นโรคจิตรึไงกัน”ใบหน้าคมจ้องอีกฝ่ายอย่างหาเรื่อง

   “หึ ตั้งแต่ข้าเกิดมา ยังไม่เคยมีใครกล้าต่อว่าฉันได้เท่านายเลย”

   “นั่นมันเรื่องของคุณ ผมต้องการจะออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”เขายืนขึ้น พูดเสียงดัง ดวงตาคมโตมองผ่านหมอโรคจิตไปยัง
ประตูที่เปิดทิ้ง

   “เอาสิ ถ้านายคิดว่านายออกไปได้ก็ลองดู”

   ทศกัณฐ์ตอบก่อนจะเดินผ่านเขาไปแล้วนั่งลงบนเตียงด้วยท่าทางไม่หยี่ระ

   อเลนได้แต่มองตามอีกฝ่ายอย่างนิ่งอึ้ง นึกไม่ถึงว่าบทจะง่ายมันก็ง่าย

   เรียวปากบางยกยิ้มอย่างพอใจ ในที่สุดก็ได้ออกไปจากที่นี่สักที

   ขายาวก้าวไปทางประตูไม่สนใจหันกลับมามอง ไม่แม้แต่สังเกตรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผุดอยู่ที่มุมปากของยักษ์ร้าย

   ปัง!!

   ทันทีที่เดินเข้าหาประตู อีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้นที่มือจะเอื้อมถึงลูกบิด บานประตูก็ปิดกระแทกลงเสียงดังสนั่นราวกับมีใครสั่ง

   อเลนสะดุ้งเอกหันไปมองยักษ์สิบหน้าด้วยความไม่พอใจที่มากจนแทบอยากจะกระโดดเข้ไปบีบคออีกฝ่ายที่นอนเอกเขนก
อยู่บนเตียงอย่างสบายใจ

   “คุณบ้ารึไงกัน เมื่อไรจะปล่อยผมไปสักที”

   “ฉันไม่จำเป็นต้องตอบ”

   “แต่คุณจะมาขังผมเอาไว้แบบนี้ไม่ได้”

   “ทำไมจะไม่ได้ ฉันว่านายเริ่มจะพูดมากจนน่ารำคาญแล้ว มานี่”ทศกัณฐ์กวักมือเรียก

   “อะ อะไร”

   “ขึ้นมานอน วันนี้ฉันเหนื่อย ไม่มีแรงจะมาตอบโต้นายให้มากความ”

   “นั่นมันก็เรื่องของคุณ”อเลนกอดอกเบือนหน้าหนี

   “นายแน่ใจนะว่าจะไม่มา”

   “แน่ใจ อะ เฮ้ยยยยยย”ทันทีที่ตอบออกไป ร่างก็ลอยหวือขึ้นมา

   มันเร็วมากจนมองตามไม่ทัน รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังก็ปะทะเข้ากับแผ่นอกของอีกฝ่าย

   “ฉันต้องการจะพักผ่อน หากนายไม่อยากให้ฉันทำมากกว่านี้ล่ะก็ อยู่เงียบๆ”

   พอได้ยินคำขู่อเลนก็ถึงกับนิ่งเฉย เขาไม่กล้าแม้จะกระดิกตัว

   ยังงงอยู่ด้วยซ้ำว่าเขาลอบมาตรงนี้ได้ยังไงกัน แต่คำขู่ของทศกัณฐ์ก็ได้ผลชะงัด

   เพราะจำได้ว่าเมื่อคืนนี้ถูกสะกดจิตหรืออะไรสักอย่างให้ทำตามอีกฝ่าย รู้ตัวอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงเสื้อผ้าก็ถูกเปลี่ยนออก
เป็นอีกชุด แล้วที่หนักกว่านั้นคือข้างกายก็มีทศกัณฐ์นอนอยู่ด้วย

   เขาไม่เขาใจเลยว่าเพราะอะไรอีกฝ่ายถึงได้จองล้างจองผลาญเขานัก



===================================================================



   “โอ้ย อะไรกันนักหนา เมื่อไรจะปล่อยไปสักที ไอ้บ้าเอ้ย”

   จากที่สุภาพ หนักวันเข้าก็เริ่มจะใช้คำรุนแรงขึ้นตามอารมณ์ ผ่านไปเกือบอาทิตย์แล้วที่ถูกจับมาขังเอาไว้

   ทั้งที่ประตูหน้าต่างได้ล็อก แต่ก็ไม่สามารถออกไปได้ คิดอยู่ว่ามันอาจจะเป็นเวทมนต์คาถาอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่กล้าฟันธง
สักเท่าไร

   แล้วยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆก็คงเป็นเรื่องที่เขาต้องกลายเป็นหมอนข้างของอีกฝ่าย ต้องนอนสูดกลิ่นบุหรี่จางๆที่ติดตัวอีกฝ่ายอยู่
ร่ำไป

   แรกๆก็รู้สึกไม่ชอบใจ แต่หลังๆก็รู้สึกว่ามันชิน จนทุกวันนี้พอไม่ได้กลิ่นบุหรี่แล้วมันกลับกลายเป็นว่านอนไม่หลับไปซะ
อย่างนั้น

   “ฮึ่ย บ้าเอ้ย”

   ไม่รู้ว่ากี่ครั้งแล้วที่ต้องเตะประตูด้วยความหงุดหงิด แต่แล้วก็ต้องยกเท้าขึ้นมากุมเอาไว้เพราะความเจ็บ

   เสร็จแล้วก็ต้องไปทิ้งตัวนั่งลงบนที่นอนแล้วกินข้าวตามเดิม โชคดีหน่อยที่ยังพอมีทีวีเอาไว้ดูแก้เหงาได้บ้าง

   ทศกัณฐ์ต้องการอะไรจากเขากันแน่ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

   

   แกรก!!

   เสียงเปิดประตูดังเรียกให้หันไปมอง ประตูถูกเปิดทิ้งเอาไว้ คราวนี้อเลนเลือกที่จะเลิกสนใจอีกฝ่ายและหันไปสนใจรายการ
ทีวีต่อ

   ต่อให้โวยวายไปก็เท่านั้น ดีไม่ดีอีกฝ่ายก็กลับยิ้มชอบใจอีกต่างหาก

   “ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยรึไง”

   ทศกัณฐ์ทักพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างๆบนโซฟาตัวเดียวกัน

   กลิ่นบุหรี่จางๆลอยปะทะเข้าจมูกของอเลนทำให้เขาหันมาหลายตามองเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปดูรายการทีวีดังเก่า

   แต่แล้วเสียงบางอย่างแว่วเข้ามาในหูจากด้านนอกทำให้เขาขมวดคิ้วมุ่น เงี่ยหูฟังดูอีกทีเพื่อให้หายข้องใจ

   เสียงเด็กร้องไห้งอแงดังผ่านประตูเข้ามา ร่างกายโปร่งบางยืดตัวตรงหันขวับมามองคนข้างๆทันที

   “เสียงนั่น”พูดทิ้งไว้คล้ายกับตั้งคำถาม

   ทศกัณฐ์ไม่ตอบแต่ก็ยิ้มแล้วไหวไหล่

   อเลนผลุดลุกขึ้นทำท่าจะเดินไปที่ประตู แต่แล้วก็ต้องหันกลับมามองเพราะกลัวว่าประตูจะปิดลงเหมือนกับครั้งก่อน

   แต่ในเมื่อไม่ลองก็ไม่รู้ อีกฝ่ายเองก็มองดูรายการทีวีไม่ได้สนใจเขาด้วย บางทีเขาอาจจะใช้ช่วงเวลาที่อีกฝ่ายเผลอ

   มันอาจจะได้ผล เขาก้าวออกมาอีกก้าว และรอดูท่าทีอีกฝ่าย

   “สัญญากับฉันก่อนว่า ตกเย็นนายจะกลับมาที่ห้องนี้”

   “หมายความว่ายังไง”อเลนถามย้ำ ไม่เข้าใจข้อเสนอเลยสักนิด แต่พอมองดูท่าทีอีกฝ่ายที่ไม่ได้สนใจตัวเองเลยก็เงียบ

   คล้ายกับจะตอบรับไปในตัว


   เขาเดินเข้าหาประตู อีกก้าวเดียว อีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้นที่จะผ่านประตู

   ปัง!!

   แต่แล้วประตูก็ปิดลง

   “สัญญากับฉันมาก่อนว่านายจะกลับมา”ทศกัณฐ์ยื่นข้อเสนออีกครั้ง

   มือเล็กกำเข้าหากันแน่น เขาหมดหนทางที่จะต่อต้านแล้วจริงๆ

   “ก็ได้ ผมจะกลับมา”

   “จำคำนายไว้ก็แล้วกัน”คุณหมอยักษ์สรุปบท

   อเลนลองยื่นมือไปที่ลูกบิดอีกครั้ง ลูกบิดถูกบิดออกจนสุด เหลือแค่เปิดมันออก

   อเลนหัวใจเต้นระรัว เขาลุ้นว่าประตูบานตรงหน้ามันจะเปิดอออกได้หรือไม่

   เสียงของเด็กทารกยังแว่วผ่านประตูมาเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเปิดมันออก

   บานประตูสีขาวถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย เรียวปากบางคลี่ยิ้มกว้างอย่างดีใจ

   ขาวยาวรีบสาวเท้าลงไปยังชั้นล่างต้นเสียงของเด็กทารก



   “มณี”ทันทีที่ก้าวพ้นบันไดของตัวบ้าน

   ร่างของรุ่นน้องก็ปรากฏสู่สายตา พร้อมกับร่างของเด็กทารกท่าทางจ้ำม่ำผิวเข้มถูกอุ้มอยู่แนบอก

   “พี่อเลน”อีกฝ่ายเอกก็หันมาทักเช่นกัน


   “นี่ ละ ลูกของมณีเหรอ”อเลนถามเสียงสั่น

   น้ำเสียงเจือไปด้วยความยินดีที่ได้เห็นชีวิตเล็กๆที่อยู่ในท้องของรุ่นน้อง

   รุ่นน้องที่ยังคงหลงเหลือความรู้สึกดีดีเอาไว้อยู่

   “ครับ นี่สินสมุทร ส่วนนั่น สุดธารา”มณีหันมายิ้มบาง พยักหน้าไปทางศรีสุวรรณที่อุ้มทารกผิวขาวอีกคนเอาไว้

   เหมือนกันที่หน้าตาและคมเขี้ยวที่ดูน่าแปลกตาเล็กน้อยแต่ก็ดูไม่น่ากลัวเท่ายักษ์ใจร้ายที่เขาเคยเจอ

   “ขอพี่อุ้มบ้างได้ไหม”

   “ได้ครับ แต่อย่าพูดเสียงดังนะครับ สินสมุทรไม่ค่อยชอบเสียงดังเท่าไร”

   “อืม”อเลนรับคำรับเอาร่างจ้ำม่ำของทารกเข้ามาในอ้อมอก

   “แล้ว ธาราล่ะ ปกติคนเห่อลูกแบบนั้นจะทิ้งลูกเอาไว้แบบนี้ได้ไง”เขาถาม แต่เมื่อเห็นสีหน้าของรุ่นน้องก็ต้องหน้าซีดตาม

   “พี่ธารา อึก พี่ธาราไม่อยู่แล้ว”มณีตอบน้ำเสียงเครือ

   “ได้ยังไงกัน”

   “เขาช่วยผมเอาไว้จากมาลี ผมผิดเอง”


   “มณีไม่ผิดหรอก มาลีต่างหากที่ผิด มณีต้องเข้มแข็งนะ สินสมุทรกับสุดธารากำลังมองอยู่”อเลนปลอบ ก้มลงมองร่างจ้ำม่ำ
ที่หันไปมองแม่ของตัวเองตาแป๋ว

   “แล้ว เอ่อ พี่ ไม่เป็นอะไรนะครับ”มณีถามท่าทีอึกอัก

   “ไม่ ไม่เป็นอะไร”

   “แน่ใจนะครับ”

   “แน่ใจ พี่ไม่เป็นอะไร”ตอบโกหกออกไป ทั้งที่ใจตัวเองก็อึดอัดไม่แพ้กัน

   ไม่อยากให้รุ่นน้องต้องเสียใจไปมากกว่านี้ ไหนจะสูญเสียคนที่รักไปอีก

   อเลนลอบมองสีหน้าของรุ่นน้องที่ใกล้จะร้องไห้อยู่เต็มกลืน แต่เมื่อมองหน้าเด็กแล้วใบหน้าที่เศร้าหมองนั้นคล้ายกับมีแรง
ผลักดันให้ยิ้มออกมา

   ถึงแม้ว่ามันจะดูฝืนไปบ้างก็ตาม

   “อะ อา อา”เสียงอ้อแอ้ร้องเรียกให้เขาก้มลงไปมอง

   “ว่าไงครับ ยักษ์ตัวน้อย”อเลนหยอกเย้า

   เจ้าเขี้ยวเล็กๆน่ารักนี่มันช่างล่อตาล่อใจชวนให้อยากจะจับเล่นซะจริงเชียว หากแต่กลัวว่าจะร้องงอแงเอาก็เท่านั้น

   “อา อา อะ อะ อา”เสียงอ้อแอ้ตอบทักทายคล้ายกับจะรู้เรื่อง ตากลมสีเขียวเข้มจ้องมองเขาตาแป๋ว

   



   “สีตาเหมือนสีตาของธารานายว่าไหม”เสียงกระซิบดังขึ้นข้างหู

   กลิ่นบุหรี่จางๆลอยเข้ามาจากทางด้านหลัง

   เมื่อไรไม่รู้ที่ทศกัณฐ์มายืนชิดจากทางด้านหลังของเขา


   อเลนตกใจสะดุ้งจนแทบจะเผลอปล่อยร่างของทารกหลุดมือ ดีที่ทศกัณฐ์รับเอาไว้ได้ทัน แต่นั่นก็เท่ากับว่าร่างของเขา
กำลังถูกยักษ์ที่อยู่ในคราบของคุณหมออย่างทศกัณฐ์กอดเอาไว้

   “ระวังหน่อยสิ ถึงจะเป็นลูกยักษ์ แต่ก็ใช่ว่าจะเจ็บไม่เป็น”คุณหมอกระซิบข้างหู

   “ขอบคุณ”

   อเลนตอบเสียงแข็ง ผละออกจากอ้อมกอดแข็งแรงทันทีที่ตั้งตัวได้


   หัวใจดวงเล็กที่อยู่ในอกจู่ๆก็สั่นไหวราวกับถูกกระตุ้นจากแรงที่มองไม่เห็นเมื่อสบตากับดวงตาสีเหลืองอำพันทอแสงวาววับชั่วครู่





===============================================================



ตัดสินใจพลิกเอาคู่นี้ขึ้นมาก่อน ไม่รู้จะเรียกอะไรดี พิศาลก็ไม่ใช่ ได้แรงบัลดาลใจมาจากที่ทศกัณฐ์ลักพาตัวนางสีดามานั่นแหละ
อากาศเปลี่ยนแปลงดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 28/01 [CH 29] ชีวิตไม่มีเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 28-01-2016 22:05:24
 :sad4: ธารา come back pls.
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 28/01 [CH 29] ชีวิตไม่มีเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 28-01-2016 22:17:32
 :mew4:

ส่งธาราไปเกิดใหม่เลยค่ะ โฮะๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 28/01 [CH 29] ชีวิตไม่มีเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-01-2016 22:18:24
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 28/01 [CH 29] ชีวิตไม่มีเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 28-01-2016 22:24:03
ลักพาตัวละเวงก็ให้อารมณ์จำเลยรัก แต่ยังไม่ได้.........
พี่ธาราล่ะคะ? เอาไงดีน้ออออ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 28/01 [CH 29] ชีวิตไม่มีเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 28-01-2016 22:58:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 28/01 [CH 29] ชีวิตไม่มีเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 28-01-2016 23:06:24
การที่ต้องเสียธาราไป เราก็ยังถือว่าเป็นความผิดของมณีอยู่ดี!
แม่ยกคนนี้ไมาปลื้มอย่างแรง :m16:

ส่วนอเลน หนียักษ์ใจร้ายให้ได้นะ :laugh:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 28/01 [CH 29] ชีวิตไม่มีเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 28-01-2016 23:08:39
ขอพี่ธาราคืนนนน :mew6:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 28/01 [CH 29] ชีวิตไม่มีเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 28-01-2016 23:24:37
    รอพ่อธาราปล่อยให้มณีคอยตั้งนาน คอยจนลูกคลอดออกมาแล้วอ่ะ
  รอ รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 28/01 [CH 29] ชีวิตไม่มีเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 29-01-2016 01:22:23
พี่ธารา เอากลับมา
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 29/01 [CH 29.2] วุ้นน้ำหวาน
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 29-01-2016 19:47:19
29.2 วุ้นน้ำหวาน



   “แล้วนี่เลี้ยงคนเดียวไหวได้ยังไง”ถามออกไปพลางมองรุ่นน้องป้อนขวดนมทรงประหลาดใส่ปากทารกร่างอวบคนน้องที่ผิว
ออกไปทางขาวมากกว่า

   “ก็พอไหวอยู่หรอกครับ ดีที่พ่อกับแม่ช่วยเลี้ยงบ้าง แต่ถ้าทั้งสองคนไม่อยู่ก็ต้องเลี้ยงคนเดียวอย่างที่เห็น เลยเอามาให้พี่
วรรณกับชลาสินธุ์ช่วยเลี้ยงน่ะครับ”

   “งั้นเหรอ แสดงว่าวันนี้พ่อกับแม่ของมณีไม่อยู่งั้นสิ”

   “ครับไม่อยู่”มณีตอบแล้วเงยหน้าขึ้นมาจากเจ้าตัวเล็ก

   “อืม”

   “ว่าแต่ พี่อเลน ไม่มีอะไรแน่นะครับ เห็นคุณหมอทศบอกว่าไม่สบายหลังจากที่โดนจับตัวไปเมื่อคราวก่อน”

   มณีถามเสียงเบาเพราะสุดธาราตัวน้อยกำลังปรือตาทั้งที่ขวดนมยังคาปากทำท่าเหมือนจะหลับไปทั้งอย่างนั้น

   อเลนเมื่อได้ยินคำถามก็เข้าใจได้ทันทีว่าเพราะอะไรคนอื่นๆถึงไม่แปลกใจเลยกับการที่เขาถูกกักเอาไว้ในห้องไม่ได้ออก
ไปไหน

   “ไม่ ไม่เป็นไร”

   เขาตอบเพราะไม่อยากให้มณีเป็นห่วง หลายเรื่องแล้วที่ทำให้รุ่นน้องคนนี้ทุกข์ใจพอแรง เขาไม่อยากให้มณีเป็นทุกข์เพราะ
เขามากขึ้นไปอีก

   อเลนหลุบตามองพื้น พลางครุ่นคิด



   “งั้นตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่ที่บ้านของมณีใช่ไหม”

   “ใช่ครับ ว่าแต่ทำไมเหรอครับ”

   “ปะ เปล่าหรอกไม่มีอะไร พี่คิดว่าพี่ลืมเอาสมุดบันทึกของพี่ไว้ที่ห้องน่ะ พอจะเห็นบ้างไหม”

   “นี่ครับ ไม่คุ้นเลยว่าเคยเห็นในช่วงนี้”

   “แย่จริง งั้นพี่ไปลืมไว้ที่ไหนนะ”อเลนแสร้งทำท่าทีว่าทำของสำคัญหายไป แต่แท้จริงแล้วสมุดบันทึกที่ว่าก็อยู่ในห้องที่เขา
ถูกจับขังเอาไว้ในทุกวันนี้ต่างหาก

   “นั่นสิครับ ดูท่าจะเป็นของสำคัญด้วย”สีหน้าของรุ่นน้องดูเป็นห่วง

   “งั้น ขอพี่ยืมกุญแจบ้านหน่อยได้ไหม แค่ไปเอาสมุดแล้วจะรีบกลับมาเลย”

   “มันจะดีเหรอครับ คุณหมอทศไม่ว่าเอาเหรอครับ อีกอย่างพี่ก็ไม่สบาย”อีกฝ่ายมีท่าทีครุ่นคิด

   “พี่ไม่เป็นไรแล้ว เห็นไหม ดีขึ้นมาก รับรองว่าจะรีบกลับมาเลย ไม่เกินชั่วโมง”

   “งั้นก็ได้ครับ แต่ถ้าโดนจับได้อย่าบอกว่ามณีรู้เห็นนะครับ ไม่งั้นคุณหมอทศดุมณีแน่”

   “ตกลง พี่ไม่บอกแน่นอน”อเลนรับคำรับเอาพวงกุญแจมาจากมือของมณี

   “เอ่อ อย่ากลับดึกนะครับ คืนนี้….”

   ยังไม่ทันที่มณีจะพูดจบอเลนก็อาศัยช่วงเวลาที่ทศกัณฐ์เผลอเดินออกจากตัวบ้านไป

   เขาไม่ทันได้ฟังเลยว่ารุ่นน้องจะเตือนสิ่งใดกับตน

   คืนพระจันทร์เต็มดวงคือคำที่มณีกลืนลงคอกลับไปเพระยังไม่ทันได้พูดเจ้าตัวผลุนพลันออกไปเสียแล้ว




   บ้านไม้สองชั้นแถบชานเมืองอเลนเก็บของใช้จำเป็นเข้ากระเป๋าเดินทางใบใหญ่อย่างเร่งรีบ ยังไงซะเขาจะต้องหาทางหนี
จากยักษ์โรคจิตนั่นให้ได้

   กล้าดียังไงถึงมากักขังหน่วงเหนี่ยวเขาเอาไว้

   แสงแดดสีส้มอ่อนส่องเข้ามาทางหน้าต่างบ่งบอกเวลาเย็นจัดจน ใกล้ถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตกดินเต็มที

   อเลนเร่งมือ ยอมรับเลยว่าเขาจำเป็นจะต้องหักหลังรุ่นน้อง

   ในระหว่างที่กำลังเก็ยข้าวของอย่างเร่งมืออยู่นั้น จู่ๆก็เกิดลมโหมกระหน่ำพัดเข้ามาในห้องจนข้าวของหลายอย่างปลิว
กระจาย

   ร่างโปร่งบางสะดุ้งเล็กๆมองไปยังหน้าต่างที่ถูกพัดจนมันกระแทกเข้ากับวงกบ

   เขาลุกขึ้นเพื่อที่จะเกี่ยวจะขอไม่ให้หน้าต่างถูกพัดไปตามแรงลม

   ทว่าสายลมอ่อนๆแปลกประหลาดจู่ๆก็วูบผ่านตัวเข้าไป มันเร็วจนเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ปรกติ

   ร่างกายมันชาดิกขยับเขยื้อนไม่ได้ดั่งที่ใจนึก

   ลมหายใจอุ่นร้อนหอบหายใจกระเส่าอยู่ข้างหูคล้ายกับกำลังเหนื่อย

   ดวงตาคมสีดำสนิทเบิกกว้าง กลิ่นหอมจางของบุหรี่ลอยเข้ามาในปอดเรียกให้ร่างกายสั่นเทาไปทั้งตัว

   “ไหนนายบอกว่าจะกลับไป”เสียงทุ้มลึกจนท่ากลัวกระซิบ

   กรอบหน้าถูกมือใหญ่บีบเอาไว้แล้วยกให้เชิดขึ้นสบตากับดวงตาสีอำพัน

   “มะ อื้อ”

   ริมฝีปากเรียวบางถูกประกบอย่างรุนแรงและจาบจ้วงก่อนที่จะได้อื้อนเอ่ยถ้อยคำใดใดออกมา

   เรียวลิ้นของยักษาสอดลึกเข้าไปในโพลงปากเกี่ยวกระชากเอาก้อนเนื้ออ่อนยวบให้สั่นระริก

   บทลงโทษที่แสนจะฉาบฉวยไม่สามารถที่จะต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย

   อเลนตัวแข็งทื่อ ร่างกายขยับไม่ได้ ได้แต่หลับตาลง ไม่ต้องการที่จะมองดวงตาสีเหลืองน่ากลัวนั่น

   ร่างกายที่เหมือนกับก้อนนุ่นถูกอุ้มขึ้นมาแล้ววางลงบนเตียงนอน

   เขาเบิกตากว้างอย่างตกใจ สิ่งที่น่ากลัวเกิดขึ้นในความคดแทบจะทันที ทั้งที่อยากจะขยับหนีแต่ก็ทำไม่ได้

   เสื้อตัวบางถูกเลิกขึ้นจนเกือบจะถึงช่วงอก

   “มะ ไม่”พยายามเปล่งเสียงห้ามแต่มันก็ลำบากเต็มทน

   “นายผิดเองที่หนีฉันไปอีกครั้ง”

   มือหนาทาบลงบนช่วงท้อง และแล้วความเจ็บปวดจนเกิดบรรยายก็แล่นเข้ามาสู่ช่วงท้อง เจ็บจนแทบจะทนไม่ไหว

   “เจ็บ ฮึก”

   บอกเสียงแผ่ว ดวงตาคลอไปด้วยน้ำใสแทบจะล้นเอ่อ

   ไม่มีทางที่จะขัดขืนได้เลยสักนิด ได้แต่ยอมรับบทลงโทษที่แสนจะเจ็บปวด

   ไม่เข้าใจเลยว่าตนเองผิดอะไร ความเจ็บปวดในช่องท้องมันรวมขึ้นมาก่อมวนอยู่ที่ช่วงสะดือ

   มือเล็กกำเข้าหากันแน่นจิกเกร็งลงกับผ้าปูที่นอนจบมันยับ

   ความเจ็บส่งผลให้สติที่มีแทบจะลางเลือน สิ่งสุดท้ายที่เห็นก็คือดวงตาสีอำพันที่วาวโรจน์อย่างน่ากลัว

   



================================================================



   “พี่วรรณ ลูกของเราจะน่ารักเช่นนี้หรือไม่”เงือกหนุ่มลูบท้องตัวเองไปมาด้วยท่าทีรักใครพลางมองทารกร่างอ้วน้ทวนใน
อ้อมอกของคนรัก

   “แน่นอน ลูกของเราต้องรักน่าชังกว่านี้แน่”

   “แต่ว่าข้ากังวลเหลือเกินในยามที่ลูกของเราจะออกมาดูโลก”

   “ไม่ต้องกลัวหรอก เมื่อถึงเวลานั้นฉันอยู่อยู่ข้างนายเอง”ศรีสุวรรณปลอบโยนเอกขี้กลัว

   ริมฝีปากจูบซับบนขมับ

   เงือกหนุ่มหน้าแดงระเรื่อ ยังไม่ชินสักทีกับการกระทำที่แสดงออกถึงความรักใคร่ที่อีกฝ่ายมีให้

   ถึงแม้ว่าในใจจะค่อนข้างรู้สึกเป็นกังวลกับการมีลูกครั้งแรก

   ใช่ว่าเผ่าพันธุ์เงือกที่เป็นเพศผู้นั้นจะไม่เคยมีลูก หากแต่เงือกเวลาออกลูกช่วงแรกนั้นจะเกิดมาเป็นไข่ ต้องใช้เวลาดูแล
อย่างใกล้ชิดถึงเจ็ดวันเต็ม

   น้อยมากที่โอกาสรอดของทารกที่เกิดจากเงือกตัวผู้ อีกทั้งครึ่งหนึ่งของสายเลือดยังเป็นมนุษย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่
อ่อนแอกว่า

   ความกังวลถูกกักเก็บเอาไว้ในใจไม่กล้าบอกให้ใครได้รับรู้มีเพียงหอทศกัณฐ์เท่านั้นที่รู้ดี

   “อย่ากังวลไปเลย ลูกของเราจะต้องปลอดภัย”

   ศรีสุวรรณปลอบเมื่อเห็นเงือกหนุ่มนั้นมีสีหน้าที่หมองลงเล็กน้อย

   “พี่วรรณ ข้าอยากกินอันนั้นจัง”

   เงือกหนุ่มชี้ไปทางทีวีเพื่อเบนความสนใจของคนรัก

   รายการทีวีกำลังสาธิตการทำขนมหวานอยู่เสียงเจื้อยแจ้ว

   ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น จะว่าไปเวลานี้ก็เย็นซะแล้วด้วย จะไปหาวุ้นน้ำหวานแบบนั้นได้ที่ไหนกัน

   “ไว้พรุ่งนี้จะพาไปกินนะ”

   “แต่ข้าอยากกินตอนนี้นี่ พอเห็นข้าก็เกิดอยากลิ้มลองเอาเสียตอนนี้”ชลาสินธุ์กอดอก

   นิสัยที่อยากรู้อยากลองถึงแม้ว่ามีลูกอยู่ในท้องมันก็ยังไม่จางหายไปสักที

   “นี่มันก็เย็นแล้ว”

   “แต่ลูกข้าอยากกิน”ชลาสินธุ์อ้างยิ้มกริ่ม

   เพราะรู้ว่าเมื่อใดที่เอาลูกมาอ้าง คนรักจะไม่สามารถปฏิเสธตนได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

   “แต่ไม่มีที่ไหนขายหรอกนะตอนนี้ ไว้พรุ่งนี้เถอะนะ”พอถูกเล่นมุขเดิมเวลาที่ต้องการในสิ่งที่อยากจะได้ศรีสุวรรณก็แทบจะ
ยกมือขึ้นมากุมขมับ

   “งั้นท่านก็ทำให้ข้ากินสิ”

   “จะว่างั้นมันก็”ศรีวุวรรณอ้ำอึ้ง เคยแต่ทำอาหารง่ายๆเวลาอยู่ต่างประเทศแล้วนึกถึงอาหารไทย

   แต่พูดถึงขนมหวานนี่ไม่เคยอยู่ในความคิดเลย แต่จะทำยังไงได้

   “นะพี่วรรณ ลูกเราอยากกิน”เงือกหนุ่มเงยหน้าช้อนตามองเป็นประกาย สลับกับเหลือบมองรายการทำอาหารในทีวี

   “ก็ได้ๆ แต่ไม่รู้ว่าในครัวจะมีอุปกรณ์รึเปล่านะ”





   แล้วโชคร้ายก็เข้าข้างศรีสุวรรณเหลือเกินที่ในครัวของบ้านนี้มีอุปกรณ์ครัวครบครันซะจริง

   ผ้ากันเปื้อนสีหวานที่ไม่รู้ว่าจะมีไปทำไมทั้งที่บ้านนี้มีแต่ผู้ชาย ถูกค้นมาจากในตู้ด้วยฝีมือของคนรักแล้วจัดการมาใส่ให้เสร็จ
สรรพเพราะต้องการให้เหมือนในรายการทีวีที่ชอบดู

   “เหมาะกับท่าเสียจริง”ชลาสินธุ์ยิ้มแก้มปริมองดูศรีสุวรรณในคราบผ้ากันเปื้อนสีหวาน

   “เฮ้อ”

   ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ บางทีผ้ากันเปื้อนผืนนี้อาจจะถูกเตรียมเอาไว้ให้น้องชายของตนเสียมากกว่า

   ร่างสูงใหญ่ของศรีสุวรรณเดินไปมาในครัวเพื่อเตรียมอุปกรณ์ มุมห้องมีเงือกหนุ่มคอยส่งยิ้มเป็นกำลังใจคล้ายจะบังคับอยู่
กลายๆ

   ก็ยังดีที่อีกฝ่ายยังพอฟังว่าให้นั่งรอดูอยู่ไกลๆเพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อลูก

   เสียงเชียร์ดังแว่วมาเรื่อยๆ พอหันไปทีไรก็เจอกับรอยยิ้มที่ดูเหมือนกับคาดหวัง

   ในที่สุดวุ้นน้ำหวานที่ค่อนข้างจะเหลวกว่าที่ควรต่างจากรูปที่ปรากฏในจอทีวีก็เสร็จออกมา

   “ท่านเก่งมากเลย พี่วรรณของข้า”เงือกหนุ่มเอ่ยชม

   “อือ”

   ชายหนุ่มรับคำ ไม่รู้จะว่าอะไรต่อดี ไอ้ผลงานที่ออกมามันค่อนข้างเกือบจะดูไม่ได้เอา

   “อ้าม”

   “เป็นไง”

   “อร่อยมากเลย”ชลาสินธุ์ยิ้มแก้มปริ

   “ก็ดีแล้ว”

   “จุ๊บ ข้ารักพี่วรรณ”ริมฝีปากบางจูบลงบนแก้มสาก

   เหมือนเป็นรางวัลชั้นเลิศสำหรับศรีสุวรรณเลยก็ว่าได้ สงสัยหลังจากนี้คงจะต้องเปิดรายการทีวีดูบ่อยๆซะแล้ว

   







=========================================================

เชียร์คู่ไหนคะ โซอึนเชียร์สามีตัวเอง(อเลน)555

หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 29/01 [CH 29.2] วุ้นน้ำหวาน
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 29-01-2016 19:50:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 29/01 [CH 29.2] วุ้นน้ำหวาน
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 29-01-2016 20:38:10
สามีแบบนี้น่ารักจริงๆเลย หาอยากมาก
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 29/01 [CH 29.2] วุ้นน้ำหวาน
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 29-01-2016 20:41:42
อเลนโดนทำให้ท้องได้เหรอนี่

หมอทศรังแกอเลนเกินไปแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 29/01 [CH 29.2] วุ้นน้ำหวาน
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 29-01-2016 20:51:15
แอบสงสารมณีเหมือนกันโดนแม่ยกรุมด่าไม่มีชิ้นดี แต่ก็น่านะทำตัวเองแท้ๆ

สงสารอเลนอ่าาาาา ไม่รู้เรื่องราวอะไรแต่โดนทศกัณฑ์มาทำอย่างนี้ เราว่ามันก่ไม่ค่อยแฟร์นะ :m16:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 29/01 [CH 29.2] วุ้นน้ำหวาน
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 29-01-2016 22:05:18
คืนจันทร์เต็มดวง + อาการเจ็บที่ท้อง = ไม่รอดแน่น้องหนูอเลน เสร็จพี่ทศ ได้ลูกแถมด้วย  :hao6:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 29/01 [CH 29.2] วุ้นน้ำหวาน
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 29-01-2016 22:19:07
บ้ายบายอเลนคนโสด
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 29/01 [CH 29.2] วุ้นน้ำหวาน
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 29-01-2016 22:24:52
เอาเลยคุณหมอทศ เรื่องนี้หนับหนุนนน :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 29/01 [CH 29.2] วุ้นน้ำหวาน
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 30-01-2016 00:24:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 30/01 [CH30] ว่างเปล่า [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 30-01-2016 20:13:51
47082
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)

ครั้งที่ 30 ความว่างเปล่า


   ร่างโปร่งบางในอ้อมแขนของศรีสุวรรณถูกปล่อยลงในสระน้ำที่อยู่ในตัวบ้าน

   ใบหน้าหวานแดงเรื่อเหงื่อผุดซึมทุกอณูของใบหน้าคล้ายกำลังทรมาน

   “อื้อ พี่วรรณข้าจะไม่ไหว”

   ทันทีที่ร่างกายสัมผัสกับผืนน้ำขาทั้งสองก็แปรเปลี่ยนเป็นเรียวหางประดับครีบสีท้องทะเลลึก เช่นเดียวกับดวงตา

   ผมสีดำขลับยาวระสะโพกถูกปัดรวบให้ไปในทางเดียวกันเผยให้เห็นหวงหน้าอันหวานซึ้งสมเผ่าพันธุ์

   “ใจเย็นๆฉันอยู่ตรงนี้”

   ศรีสุวรรณกระซิบข้างหูอุ้มเอาร่างครึ่งปลาของคนรักนั่งบนตัก แผ่นหลังสั่นเทาซบลงกับอกแข็งแรงเพื่อเป็นที่พึ่งพิง

   “ข้าปวดท้อง อึก พี่วรรณ”ชลาสินธุ์ซบหน้าลงกับอกแกร่ง มือสีซีดกำแขนของศรีสุวรรณแน่น

   เสียงร้องโหยหวนดังคลอกกับเสียงปลอบโยนอยู่ร่ำไป นานนับชั่วโมงของการรอคอย

   ถ้อยคำกำลังใจเฝ้ากระซิบอยู่ข้างหูให้ได้อุ่นใจ หยาดน้ำตาใสคลอเคลียอยู่บนดวงตาสีครามเข้มจนเอ่อล้น

   ริมขอบสระมีคุณหมอสิบหน้าคอยดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด

   “พี่วรรณ ข้า อะ ไม่ไหว อึก ลูกข้า อะ อื้ออออออ”

   แล้วในที่สุดก้อนน้ำทรงรีก็ผลุดออกมาจากรอยแยกของครีบสวย

   ข้างในมีเด็กทารกครึ่งกายล่างเป็นปลานอนขดอยู่ข้างใน ผิวขาวซีดใบหน้าหวานได้ผู้เป็นแม่ แต่ยังไม่สามารถระบุเพศได้

   “ลูกพ่อ”ศรีสุวรรณกล่าวรับทารกร่างเล็ก

   “ลูกของเรา ฮึก ข้าดีใจเหลือเกินพี่วรรณ”ชลาสินธุ์สะอื้นซบหน้าลงบนอกคนรักพลางกอดไข่ของทารกแน่น

   “ฉันเองก็ดีใจ อีกไม่นานก็จะได้เจอกันแล้ว”เขากระซิบโอบกอดคนรัก

   อีกเพียงแค่เจ็ดวันทารกก็จะฟักตัวออกมา

   “ข้ารักพี่วรรณเหลือเกิน”ชลาสินธุ์บอกเสียงแผ่วก่อนที่ดวงตาสีฟ้าครามจะหลุบซ่อนอยู่ใต้เปลือกตา ฉุกดึงสู่ห้วงของนิทรา
ด้วยความเหนื่อยอ่อน

   “ฉันก็รักนาย ชลาสินธุ์”

   เขากระซิบตอบพลางจูบซับลงบนขมับอุ่นชื้นเหงื่อ

   ความรักที่ไม่เคยคิดว่าจะเจอ ความรักที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ บัดนี้มันได้อยู่ในกำมือของเขาแล้ว

   สายสัมพันธ์ของชีวิตถูกผูกติดจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้เกิดขึ้นกับตัวเขาแล้ว

      





===============================================================



   เพล้ง!!!

   เสียงแก้วแตกดังลั่นหลังมหึมาบนเกาะกลางท้องทะเล

   กี่ใบแล้วไม่สามารถที่จะนับได้ที่วาลีได้ทำแตกไป มือที่พันปลาสเตอร์แปะแปลค่อยๆเก็บเศษจานที่เกลือนกระจายอยู่บน
พื้นอย่างอ้อยอิ่ง

   หลายเดือนกับการที่ต้องทนอยู่บนเกาะๆนี้ราวกับนักโทษที่ไม่มีอิสระ

   ทั้งที่พยายามจะออกไปจากเกาะนี้ให้ได้แต่ทว่ารอบด้านที่เป็นน้ำไม่สามารถมีหนทางไหนเลยที่จะพาเขาออกไป

   “ทำแตกอีกแล้วรึ”เสียงทุ้มต่ำของเจ้าบ้านดังแว่วมาจากหน้าประตู

   เช่นเคยที่พอมีเรื่องคนคนนี้จะต้องโผล่มา

   “เมื่อไรกัน เมื่อไรคุณจะปล่อยผมไป”เขาเอ่ยถามอย่างเหลืออด

   มือที่ถือเศษแก้มแหลมคมสั่นระริกอย่างห้ามไม่ได้

   “ไม่ใช่หน้าที่ที่ข้าจะต้องตอบ”

   “โถ่โว้ย!!!”

   สิ้นเสียงเศษแก้มชิ้นใหญ่ในมือของเขาก็ถูกปาใส่เจ้าของคำตอบอันน่าโมโหนั่น

   เคร้ง!!!!

   เฉียดไปแค่นิดเดียวเศษแก้วนั้นลอยไปกระทบบนพื้นผนังห้องจนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆร่วงลงสู่พื้น

   “ดูเหมือนเจ้าจะยังไม่เข้าใจอะไร”วสินเอ่ยเสียงเรียบ

   “ผมยังจะต้องเข้าใจอะไรอีก พวกคุณบ้ารึไงที่จับผมมาขังไว้ จะกินก็กินเลยสิ จะต้องให้ทำอะไรนักหนา”

   ทั้งงานบ้านงานสวนต่างๆนานา ถูกใช้ราวกับเป็นทาสเป็นนักโทษก็ไม่ปาน

   “หึ เจ้าอยากให้ข้ากินเจ้าขนาดนั้นเลยรึ เจ้ามนุษย์”

   เพียงวูบเดียวเท่านั้นราวกับมีลมพัดผ่านไป

   ใบหน้าดุดันของยักษ์เจ้าบ้านก็ใกล้มาจนแทบชิด

   ดวงตาสีดำสั่นระริกแทบไม่เชื่อสายตา

   ทั้งที่ก่อนหน้าอยู่ไกลกันนับหลายก้าว แต่เพียงพริบตาร่างของอีกฝ่ายก็อยู่ตรงหน้าเขา อีกทั้งใบหน้ายังใกล้เข้ามาจนเกือบ
จะชิด

   ประโยคคำถามที่คล้ายกับเป็นการบอกกล่าวทำเอาตัวเริ่มสั่นเล็กๆ กลัวว่าจะเป็นจริงขึ้นมา

   “คุณ จะ จะกินผมจริงๆใช่ไหม”วาลีถาม เบือนหน้าหลบสายตานิ่งเฉย

   “เจ้าคิดว่าเช่นไรล่ะ”

   “ผม”เขาอ้ำอึ้ง หากโดนกินอย่างที่ว่าจริงๆล่ะ จะทำยังไง

   “เก็บเศษจานที่แตกให้เรียบร้อย หากข้ากลับมาพบว่ามีแม้เพียงเศษเสี้ยว ข้าจะใช้งานเจ้าเพิ่มเป็นสองเท่าในวันพรุ่ง”

   วสินผละออกหันหลังให้ ริมฝีปากของยักษ์ถือศีลอดไม่ได้ที่จะยิ้มด้วยอารมณ์ขันที่เกิดขึ้นมาเฉียบพลันที่ได้เห็นดวงตาสั่น
ระริกคู่นั้นยามที่เขาขู่ว่าจะกิน

   หารู้ไม่ว่าเขานั้นไม่กินเนื้อ

   “จะช่วยบอกผมได้ไหมว่าเมื่อไรคุณจะปล่อยผมไปสักที”

   วาลีถามย้ำอีกครั้งหากแต่วสินไม่ใส่ใจที่จะตอบ ใช่ว่าคำตอบของเขานั้นไม่มี

   เพียงแต่ว่าโรคร้ายที่ยากจะรักษาของวาลีนั้นจะเป็นตัวกำหนดอิสระของตัวเอง



===================================================================



   “ละเวง ไปหาหมอไหม พ่อว่าไปหาหมอบ้างก็ดี”ผู้เป็นพ่อกล่าวกับลูกชาย

   “ไม่หรอก ไม่ได้เป็นอะไร แค่โรคกระเพาะ”อเลนตอบกลับไป

   “แต่พ่อว่าไปให้หมอดูหน่อยก็ดี ถ้าแม่ของลูกกลับมาจากนิวยอร์จะว่าพ่อเอา”

   “ไม่เป็นอะไรหรอก ผมแข็งแรงดี น้ำหนักขึ้นอีกต่างหาก”อเลนอ้าง

   เกือบสองเดือนแล้วที่บินกลับมายังนิวเจอร์ซี่เมืองที่อยู่ทางตะวันออกของประเทศมหาอำนาจ

   การเตรียมตัวเพื่อเรียนรู้กิจการของที่บ้านค่อนข้างจะวุ่นวายพอควร

   แม่ของเขาเป็นชาวต่างชาติผิดกับพ่อที่เป็นคนไทย แม่สืบทอดฟาร์มชีสนมวัวที่เป็นมรดกจากต้นตระกูลที่มีมานานทำให้เขา
หนีไปไหนไม่ได้นอกจากจะต้องตอบรับมรดกก้อนใหญ่ก้อนนี้

   ถึงแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม ข้อแม้ที่ถูกตั้งเอาไว้ได้จลลง อิสระที่ได้รับก่อนจะต้องรับช่วงต่อสิ้นสุดลงเร็วกว่ากำหนด

   สิ้นสุดพร้อมกับความเจ็บใจที่ไม่มีวันจางหาย คืนสุดท้ายที่อยู่กับยักษ์น่ากลัวตนนั้นทำให้เขาไม่มีวันลืม

   “งั้นก็ตามใจ อย่าลืมล่ะ อีกสองวันลูกจะต้องไปเรียนทำชีสกับแม่”

   “ครับ ไม่ลืม”เขาตอบรับ

   อาการคลื่นไส้ที่มีเริ่มทุเลาลงเล็กน้อย แต่ก็ยังคงมีอยู่ ภาพในความทรงจำมันยังคงตอกย้ำสิ่งที่ต้องเจออยู่เรื่อยไปไม่มีวัน
เลือน

   ต่อจากนี้คงจบสิ้นกันสักที ผลกรรมที่เคยก่อเอาไว้ในชาติก่อน

   ความรักที่ไม่มีวันเป็นจริง ความรักที่ไม่สามารถแทรกแซงเข้าไปได้เลย



==================================================================



   “ฮึก พะ พี่วรรณ ข้าจะ ไม่ไหวแล้ว อื้อ”

   “ใจเย็นๆนายทำได้”

   “อื้อ แต่ข้า ทะ ทรมานเหลือเกิน”

   “นายทำได้ ฉันอยู่ตรงนี้”

   เสียงพี่วรรณสลับกับเสียงของชลาสินธุ์แว่วมาจากทางสระน้ำ ตอนนี้ได้กำหนดเวลาคลอดของชลาสินธุ์แล้ว

   ต่างจากผมที่คลอดก่อนกำหนดจากเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น

   สองเดือนผ่านมาแล้วที่ผมอยู่โดยไม่มีพี่ธารา มีเพียงสินธุ์สมุทรกับสุดธาราเท่านั้นที่เป็นยาชั้นดีรักษาจิตใจของผมไม่ให้
หมองเศร้า

   ไม่ปฏิเสธเลยว่าผมคิดถึงพี่ธารา จนสุดหัวใจ หากแต่พี่ธารานั้นไม่กลับคืนมาอีกแล้ว

   ต้องโทษผมที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด โทษที่ผมนั้นไม่เข้มแข็งพอและไม่ซื่อสัตว์กับพี่ธารา

   เสียงสั่นเครือของสุวรรณสินธุ์ดังแว่วมาเรื่อยลอดประตูที่ปิดกั้นเอาไว้

   ผมมองไปเห็นหมอทศอยู่ใกล้ๆคอยช่วยเหลือตลอด ชลาสินธุ์นั้นต่างจากผมตรงที่ต้องคลอดในน้ำ

   ผมไกวเปลขนาดใหญ่มองลอดผ่านผ้าคลุมเปลผืนบางมีเจ้ายักษ์ตัวเล็กสองตัวนอนแยกเขี้ยวหลับตาพริ้มกันอยู่

   เป็นเพราะยังเด็กมาก และเป็นลูกครึ่ง ทำให้ในบางครั้งอาจจะอยู่ในร่างของยักษ์ บางครั้งอาจจะอยู่ในร่างของคน

   แต่ก็ก็แค่ช่วงแรกๆเท่านั้นที่ระยะเวลาของร่างยักษ์จะมากกว่า

   ผมนั่งให้กำลังใจชลาสินธุ์อยู่ในห้องนั่งเล่น ไม่อยากเข้าไปเกะกะเพราะคงไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา ดีที่วันนี้พ่อกับแม่มี
งานแสดงที่ต่างจังหวัด ไม่งั้นคงพากันแห่มาดูหน้าหลานอีกคนที่กำลังจะคลอด

   ส่วนพี่อเลนกลับต่างประเทศไปก่อนกำหนด ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรแต่ผมก็ไม่กล้าที่จะถามไถ่เพราะคิดว่าพี่อเลนคงไม่
อยากจะบอกอยู่ดี

   เสียงของพี่วรรณยังดังเคล้ากับเสียงของชลาสินธุ์ที่บ่งบอกถึงความทรมานอย่างหนัก

   ไม่นานเสียงกรีดร้องของชลาสินธุ์ก็จบลงตามด้วยเสียงของครางเบาเบา

   ผมเดินมายังสระน้ำมองดูครอบครัวที่กำลังมีชีวิตใหม่เกิดขึ้นมา

   ครอบครัวที่พร้อมหน้าพร้อมตา….

   อดที่จะอิจฉาไม่ได้เลย ในอ้อมกอดของชลาสินธุ์มีก้อนน้ำใสใสรูปทรงเหมือนกับไข่ ภายในมีเด็กทารกกำลังนอนขดตัวดูด
นิ้วท่าทาบงน่ารัก

   ครึ่งตัวด้านล่างเป็นหางของปลาด้านบนเป็นเหมือนเด็กทารกทั่วไป กายเล็กในก้อนน้ำทรงรีขยับเล็กน้อยพอให้รู้ว่ายังมีชีวิต

   รอยยิ้มแห่งความปลื้มปิติฉายอยู่บนใบหน้าของทุกคนแม้แต่ใบหน้าของทารกครึ่งปลาในก้อนน้ำนั้น

   คงต้องรอเวลาอีกเจ็ดวันตามที่คุณหมอทศบอกกว่าจะฟักตัวออกมา

   ทารกร่างขาวซีดใบหน้าเหมือนกับชลาสินธุ์ไม่มีผิด

   แว๊ แว๊ แว๊

   เสียงร้องไห้งอแงแข่งกันดังระงม

   ผมผละออกจากภาพที่น่าดีใจรีบกลับไปยังเปลที่มีร่างของยักษ์ตัวน้อยร้องให้โยเยอยู่ข้างในเปล

   สองเดือนแล้วที่ต้องทำหน้าที่ของแม่ อีกทั้งยังต้องเรียน ยอมรับว่าบางครั้งอาจจะทำหน้าที่ของแม่ไม่ดีนัก

   การเรียนที่เริ่มหนักขึ้นส่งผลให้ต้องอาศัยคนใกล้ตัวคอยช่วยดูแลสินสมุทรกับสุดธาราอีกแรง

   ผมอุ้มเจ้าสินสมุทรกับสุดธาราขึ้นมา เป็นงานยากที่จะต้องอุ้มทั้งสองคนขึ้นมาพร้อมๆกัน

   แต่ก็ต้องพยายาม ผมอยากให้ส่วนหนึ่งที่พี่ธาราทิ้งเอาไว้มีความสุข

   แต่แล้วสินสมุทรก็ถูกคุณหมอทศแย่งเอาไปอุ้ม

   ผมเงยหน้ามองแล้วส่งยิ้มให้ รู้สึกเกรงใจคุณหมอทศที่ต้องคอยช่วยดูแลเด็กๆอีกแรงตามที่สัญญากับพี่ธาราเอาไว้

   “ขอบคุณครับ”ผมยิ้ม

   “สงสัยจะรู้ตัวว่ามีสมาชิกใหม่”คุณหมอพูดเสียงเรียบก่อนจะอุ้มสินสมุทรเดินนำไปยังส่วนของสระน้ำ

   ดวงตาสีเขียวเหลือบดำจ้องมองร่างทารกครึ่งปลาที่อยู่ในก้อนน้ำนิ่งสุดธาราเองก็เช่นกัน

   ทั้งสองคนหยุดร้องไห้งอแง

   “อะ อา อา อะ”ทั้งสองคนส่งเสียงอ้อแอ้เอื้อมมือเหมือนจะคว้าเอาทารกครึ่งปลาให้ได้



   “ดูไว้นะสินสุทรสุดธารา นั่นสุวรรณสินธุ์น้องของลูก”ผมบอกเสียงเบา

   ทั้งสองคนส่งเสียงอ้อแอ้คล้ายกับตอบรับ

   สิ่งที่พี่ธาราหลงเหลือเอาไว้ผมจะเป็นคนดูแลเอง ผมจะเป็นคนคอยปกป้องให้เหมือนกับที่พี่ปกป้องผม



   จบ


==================================================================


จบจริงๆนะ

เดี๋ยวมีตอนพิเศษสั้นๆอีกตอน
อย่าเพิ่งเขวี้ยงเกิบกันนะ อยากจะให้เกาะขอบตอรอดูกัน

หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 30/01 [CH30] ว่างเปล่า [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 30-01-2016 20:34:34
อ่าวววว. ธาราละ ไปจริงๆๆหรอ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 30/01 [CH30] ว่างเปล่า [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 30-01-2016 21:01:51
กรี๊ดดดดดด!!!!!

ขอปาเกิบใส่คนเขียนรัวๆได้ไหม?! :ling1:

คือยังเหลือตอนพิเศษสั้นๆอีกตอนมันจะครอบคลุมส่วนที่ยังค้างคาได้หมดเหรอ?

ขอดิ้นรัวๆ :katai1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 30/01 [CH30] ว่างเปล่า [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-01-2016 21:05:15
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 30/01 [CH30] ว่างเปล่า [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 30-01-2016 21:13:40
เอิ่ม.......

เหมือนจบไม่สุด โอเคที่พี่ธาราตาย แต่เหมือนคนอื่นนี่ค้างๆคาๆเอามากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 30/01 [CH30] ว่างเปล่า [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: KaeM_PonG ที่ 30-01-2016 21:47:41
คือเราว่ามันตัดจบห้วนไปนะ

เหมือนหลายๆประเด็นในความสัมพันธ์ของคู่อื่นๆยังไม่เคลียร์เลย

 :a5: :a5: :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 30/01 [CH30] ว่างเปล่า [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Timber Huang ที่ 30-01-2016 21:52:29
เอิม...... :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 30/01 [CH30] ว่างเปล่า [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 30-01-2016 21:52:46
ธาราตายจริง????  แงๆๆๆๆๆๆๆๆ :sad4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 30/01 [CH30] ว่างเปล่า [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 30-01-2016 23:03:21
พี่ธาราล่ะ???????
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 30/01 [CH30] ว่างเปล่า [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 30-01-2016 23:29:01
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 30/01 [CH30] ว่างเปล่า [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 31-01-2016 05:57:24
โอเค เก็บรองเท้าไว้ก่อนก็ได้
เผื่อจะไม่ได้ใช้
รอตอนต่อไปเนาะะะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 30/01 [CH30] ว่างเปล่า [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: ศตรัศมี ที่ 31-01-2016 06:27:29
รอจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 31/01 [พิเศษ] ครั้งสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 31-01-2016 16:42:17
47794
(http://www.mx7.com/i/495/CRy00t.jpg)



ครั้งสุดท้าย
   

   เคยรู้สึกกันบ้างรึเปล่า รู้สึกเหมือนกับว่ามีใครอยู่ข้างกายตลอดเวลาทั้งที่เขาคนนั้นไม่ไม่มีตัวตนอยู่ข้างกายอีกแล้ว

   ชีวิตของผมมันเป็นอย่างนั้น ผ่านมาสามปีแล้วที่ภายใต้จิตสำนึกของผมยังคงมีพี่ธาราอยู่

   ความทรงจำในช่วงเวลาไม่นานที่เราเข้าใจกันและมีกันแบบคนรักได้ถูกกักเก็บเอาไว้

   ทุกครั้งเวลาที่มองคลื่นทะเลถูกซัดเข้ามาที่ฝั่ง ผมจะต้องนึกถึงเขา นึกถึงวันแรกที่เราพบกัน

   มันเป็นเรื่องตลกที่ครั้งแรกที่เราเจอกันผมกลับคิดว่าเขาเป็นโจรและไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดกับผมเลย

   มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ใครล่ะจะไปเชื่อเรื่องราวพวกนั้นได้





   “แม่มณี พี่สินแกล้งน้องมีนาอีกแย้ว”เสียงเจื้อยแจ้วของสุดธาราเรียกมาแต่ไกล

   ร่างจ้ำม่ำของเด็กวัยสามขวบวิ่งย้ำบนผืนทรายมาเกาะขาผมให้ผมก้มลงไปมองแล้วชี้ไปทางพี่ชายฝาแฝดที่กำลังจับแขน
เด็กตัวเล็กผิวขาวซีดอีกคน

   มีนาหรือสุวรรณสินธุ์ลูกชายของพี่วรรณกับชลาสินธุ์ ผิวขาวซีดกับตัวที่เล็กกว่าเด็กวัยเดียวกันเกิดจากการฟักตัวออกจากไข่
ช้ากว้ากำหนดถึงเจ็ดวัน

   ผมเดินไปยังกองทรายกองใหญ่เต็มไปด้วยของเล่นวางเกลื่อนกลาดอยู่รอบๆ

   “ว่าไงครับสินสมุทร แกล้งน้องอีกแล้วใช่ไหม”

   “ไม่ใช่สักหน่อยสุดขี้ฟ้อง สินไม่ได้แกล้ง มีนาไม่ให้หอมแก้ม”สินสมุทรแก้ตัว

   ตามเคย เวลาที่จับมารวมอยู่ด้วยกันสามคน ไม่สิ จะเรียนว่าตนก็ไม่ใช่ คนก็ไม่เชิง ลูกครึ่งด้วยกันทั้งนั้น

   ครึ่งคนครึ่งยักษ์กับครึ่งคนครึ่งปลา เวลาอยู่ด้วยกันทีไร ไม่ใช่แค่สินสมุทรคนพี่จะเป็นฝ่ายแกล้งมีนาคนเดียว

   สุดธาราเองก็ใช่ย่อย บางครั้งก็ร่วมกันแกล้งบางครั้งก็แย่งกันแกล้ง แต่มีนาเองก็ไม่ได้ร้องไห้โยเยหรืออะไร กลับยิ้มรับทั้ง
สองคนราวกับว่าชอบใจซะงั้น

   ถ้าตัดเรื่องแกล้งไปสินสมุทรกับสุดสาครนับเป็นพี่ที่ดีเลยทีเดียว คอยช่วยเหลือและปกป้องตลอดทั้งที่ตัวแค่นี้

   “แล้วทำไมต้องหอมแก้มน้องล่ะ”ผมถามพลางนั่งลงบนผืนทรายข้างๆเด็กๆ

   “แก้มมีนานุ่ม”

   “งั้นเปลี่ยนจากแก้มมีนาเป็นหอมแก้มแม่มณีได้ไหมล่ะ”ผมยิ้ม

   เจ้าตัวแสบทั้งสองหันไปมองหน้ากันทำท่าคิดสักพักก่อนพนักหน้า

   ปีนขึ้นมาบนตักผมแล้วหอมแก้มกันคนละข้างฟอดใหญ่

   “แก้มแม่มณีหอมจัง”สินสมุทรชม

   “แก้มแม่มณีหอมที่สุด”สุดธาราเองก็ไม่ยอมแพ้

   “งั้นห้ามแกล้งมีนาอีกนะครับ เล่นกันดีดี”ผมต่อรอง

   “ฮับ/ฮับ”เจ้าสองตัวพยักหน้า

   เดินไปนั่งขนาบข้างลูกเงือกตัวเล็กผิวซีดแล้วเล่นก่อกองทรายตามเดิม

   ถึงแม้จะมีดื้อไปบ้าง แต่ก็ยังคุยง่ายตกลงกันง่ายจึงทำให้ไม่เหนื่อยนักกับการที่ต้องเลี้ยงลูกสองคนไปพร้อมๆกัน

   

   ตอนนี้ผมเปิดคลาสเรียนเล็กๆสอนศิลปะนาฏศิลป์อยู่ที่บ้านหลังจากเรียนจบ การมีลูกทำให้ผมต้องติดอยู่กับบ้านไปไหนไม่
ได้ไกลเลย

   ผมเริ่มเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากพ่อเพื่อรับช่วงต่อสืบสารสิ่งที่บรรพบุรุษสืบทอดต่อกันมา

   แค่ช่วงกลางวันเท่านั้นที่ผมจะอยู่ที่คลาสสอนกับโรงฝึกลิเก แต่พอตกเย็นผมก็พาเด็กๆกลับไปที่บ้านของพี่ธารา บ้านที่
หลงเหลือเพียงแค่ความทรงจำ

   จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่หยุดคิดถึงพี่ธารา และไม่มีวันที่จะเลิกล้มความตั้งใจที่จะรอ รอว่าสักวันพี่ธาราจะกลับมา





   “มณีลูก ทำไมไปนั่งบนทรายอย่างนั้นล่ะ”เสียงแม่เรียกมาจากส่วนที่เอาไว้นอนอาบแดด

   จริงๆแล้ววันนี้จะเรียกว่าเป็นวันพักผ่อนของครอบครัวก็ได้ ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา

   พ่อแม่ พี่วรรณ ชลาสินธุ์ และเด็กๆ ที่ขาดไม่ได้เลยคนที่เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของครอบครัวก็คือหมอทศ คนที่คอยดูและสิน
สมุทรและสุดธาราเรื่อยมา

   ทุกคนมารวมอยู่ที่รีสอร์ทเปิดใหม่ซึ่งเจ้าของเป็นคนรู้จักของพ่ออีกทีจึงได้สิทธิมาพักฟรีในวันเปิดตัว

   “มาดูเด็กๆน่ะแม่”ผมตอบกลับแล้วลุกขึ้นปัดทรายเดินไปยังวงปิกนิกไม่ไกลจากกองทราย

   “ไปซื้อน้ำแข็งให้แม่หน่อยสิ อากาศร้อนๆแบบนี้ เผลอแปบเดียวหมดอีกแล้ว”แม่ชี้ไปยังร้านสะดวกซื้อที่อยู่อีกฟากของ
ถนน

   ส่วนที่ติดทะเลของรีสอร์ทค่อนข้างจะอยู่ใกล้กับหาดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทำให้คนค่อนข้างเยอะ

   ผมพยักหน้ารับแล้วเดินออกมา

   โชคไม่ค่อยดีที่วันนี้เป็นวันหยุดนักท่องเที่ยวจึงค่อนข้างเยอะ ทำให้มีบ้างที่ต้องเดินเบียดเสียดกัน

   ผมรอสัญญาณไฟคนข้ามถนน มองไปยังข้างหน้ามองดูผู้คนเดินผ่านไปมาเรื่อยๆระหว่างรอสัญญาณไฟ

   ผมเริ่มอยากรู้แล้วว่า ร้อยคนพันคนที่เดินผ่านหน้าผมไป จะมีใครพบเจอชะตาชีวิตแบบผมบ้าง

   พบเจอคนที่รักจากชาติที่แล้ว ที่ไม่ใช่มนุษย์  รักกัน มีลูกด้วยกัน แล้วก็จากกันไปในที่สุด


   เรื่องราวมันค่อนข้างจะบ้ามาก หากเล่าให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อ



   สัญญาณไฟสีเขียวปรากฏ ผมเดินข้ามถนนไปพร้อมๆกับคนที่ไม่รู้จักอีกหลายสิบคน

   ผมจ้องมองไปยังเบื้องหน้า อย่างไม่มีจุดหมาย ไม่สนใจสิ่งใดที่อยู่รอบตัว



   หากแต่สายตาของผมก็ไปสะดุดกับแผ่นหลังที่คุ้นเคย แผ่นหลังกว้างที่เคยซบ

   ผมชะงัก กระพริบตาเพื่อเรียกสติ บางทีมันอาจจะเป็นภาพลวงตา

   แต่เปล่าเลย แผ่นหลังนั้นยังคงเคลื่อนไปเรื่อยๆท่ามกลางผู้คนนับร้อย

   มันเป็นเหมือนแรงดึงดูดและแรงผลักดันจากความหวังอันเล็กน้อย เรือนผมสีดำขลับที่เคยยาวเคลียต้นคอ ผิดกับคนที่ผม
เดินตาม ผมของเขายาวเลยไหล่จนเกือบถึงกลางหลัง

   ผมเดินตามมาจนถึงแหล่งขายของฝากที่คนค่อนข้างแออัด พยายามชะเง้อมองกลัวว่าเขาจะคลาดสายตา ระยะห่างของผม
กับใครคนนั้นห่างกันอยู่หลายสิบก้าว

   ผมเดินเบียดเสียดผ่านผู้คนมาเรื่อยๆ เข้าลึกมาในแหล่งรวมของฝาก คนเริ่มซาลง

   ในระหว่างนั้นเอง ตอนที่ลมพัด ผมของเขาลู่ไปตามแรงลมเผยให้เห็นเสี้ยวหน้ากับดวงตาที่คุ้นเคย

   หัวใจของผมราวกับถูกกระตุ้นด้วยแรงที่มองไม่เห็น ร่างกายของผมแทบจะชาดิกไม่มีแรงยกขาให้ก้าวออกไป

   พี่ธารา!!

   ผมเฝ้าเรียกชื่อนี้อยู่ในใจซ้ำไปซ้ำมา

   เร่งฝีเท้าเดินตามมาจนสุดพื้นที่ มีเพียงซอยเล็กๆที่ค่อนข้างเงียบต่างจากเมื่อครู่ลิบลับอยู่เบื้องหน้า

   ดวงตาของผมร้อนผ่าวราวกับว่าน้ำที่คลอเคลียอยู่นั้นกำลังจะเอ่อลงมาเต็มทน

   ผมเดินตามเข้ามาในซอย

   ทว่ากลับหายไปแล้ว มีเพียงความว่างเปล่า ทางตันและก็ตรอกเล็กๆแคบๆ

   ผมพยายามมองหาทางอื่น ทาที่จะไปต่อได้ แต่กลับไม่มี

   ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว สิ่งที่ผมเห็นมันไม่ผิดแน่ ผมไม่มีลืมใบหน้าของคนที่ผมรักได้แน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น

   ผมเดินเข้ามาในตรอกเล็กๆอย่างระมัดระวัง

   ค่อนข้างที่จะกังวลว่าจะจำทางกลับไปที่หาดไม่ได้ อีกทั้งโทรศัพท์มือถือก็ไม่ได้หยิบติดมือมา

   ในตรอกแคบๆมันเริ่มที่จะมีแสงสว่างผ่านเข้ามาน้อยลงเมื่อผมเดินเข้ามาลึกขึ้น

   ข้างในนี้เงียบงันและอับชื้นต่างจากทางเมื่อครู่ที่เดินเข้ามา

   แล้วความหวังที่ผมตั้งเอาไว้มันก็เหมือนกับพังทลายลง ทางเบื้องหน้ากลับเป็นทางตันอีกครั้ง ไม่มีแม้แต่ประตูทางเข้าหรือ
อะไรเลย มันเป็นเพียงแค่ตรอกแคบๆที่เกิดจากการสร้างตึกมาปิดกั้นแค่นั้น

   ผมถอนหายใจ ผมคงจะตาฝาดไปจริงๆ มันอาจจะเกิดจากภาพหลอนหรือภาพที่มาจากจิตใต้สำนึก

   ผมคงคิดไปเอง มันคงเป็นไปไม่ได้ที่คนคนหนึ่งจะหายไปดื้อๆ ถ้าไม่ใช่ภาพลวงตา

   ผมหันหลังเตรียมจะเดินกลับ











   “กล้ามากนะ ที่ตามฉันมา”





   แว่วเสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู

   น้ำเสียงที่คุ้นเคยทำให้ผมสะดุ้งเฮือก

   ลมหายใจที่เป่ารดหูจากทางด้านหลังทำให้ผมรีบหันกลับไปมอง


   แต่กลับไม่มี มีเพียงแต่ความว่างเปล่าเท่านั้นที่อยู่เบื้องหน้า

   หรือผมจะหูฟาดไป เป็นเพราะความคาดหวังหรือเพราะอะไรกันแน่

   ทำไมชีวิตของผมมันถึงได้น่าตลกขนาดนี้





   “ฟู่”

   เสียงลมหายใจรดหูจากทางด้านหลังอีกครั้ง

   ไม่ผิดแน่ ผมรีบหันกลับมาอีกที

   แต่คราวนี้ร่างของผมลอยหวือไปปะทะกับผนังตึก มันค่อนข้างจะรวดเร็วและรุนแรงมากจนผมต้องหลับตา

   แผ่นหลังของผมแนบชิดกับผนังตึกสูง แสงสว่างอันน้อยนิดที่ส่องเขามาทางมุมตึกทำให้ผมมึนงง

   ผมถูกดันด้วยแรงที่มากจนแทบจะรู้สึกว่าถูกบีบอัดด้วยแรงที่มองไม่เห็น

   “อะ อื้อ”

   ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร ริมฝีปากก็ถูกปิดลงมาอย่างหยาบโลน มันต่างจากทุกทีที่ผมเคยเจอ

   ผมหลับตาแน่น ร่างกายราวกับถูกตรึงเอาไว้ เรียวลิ้นชื้นถูกหยอกเย้า ตวัดให้คล้อยตาม

   หากแต่สัมผัสที่ต่างไปจากทุกทีทำให้ผมปฏิเสธ

   ผมลืมตาขึ้นมองไปยังเบื้องหน้า

   เสี้ยวหน้าที่คุ้นเคยกับดวงตาสีเขียวมรกตทำให้ผมใจเต้นแรงอีกครั้ง

   พี่ธารา!!

   เป็นพี่ธาราจริงๆ

   ลิ้นร้อนชื้นสอดเข้ามาตวัดรัด ลึกขึ้นและเร่าร้อนขึ้น

   เพียงแค่สบตาคู่นั้น เรี่ยวแรงที่มีของผมก็แทบจะเหือดหาย ผมยกมือขึ้นคล้องคอของพี่ธาราอย่างดีใจ น้ำตาที่กักเก็บเอาไว้
เอ่อล้นลงมาอย่างห้ามไม่อยู่

   ทว่าดวงตาสีเขียวเข้มมองมาอย่างเจ้าเล่ห์ พี่ธาราถอนจูบออกไปทำให้ผมต้องหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด

   “ฮึก พี่ธารา”ผมเรียกเสียงแผ่ว

   หากแต่เรียวปากของเขายกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มันต่างจากทุกที ทั้งดวงตาที่ส่งผ่านมา



   “ดูท่านายจะรู้จักฉันดี”



   คำพูดของเขาที่พูดออกมา ทำให้ผมได้รู้ว่า

   เขาไม่ใช่พี่ธาราคนที่ผมรู้จัก!!





จบ การชดใช้หนี้ครั้งสุดท้าย ขอบคุณที่สนับสนุนเรื่อยมาค่ะ



เจอกันอีกทีในภาคสอง  ทวงรัก….นายยักษ์จอมหื่น นะคะ

=================================================================
   

   

   

   คือมันเหมือนแปลกๆใช่ไหมที่จู่ๆแบบเฮ้ย มาเปิดภาคสอง เนื่องด้วยคาแรคเตอร์ของธาราอาจจะเลี่ยนไปเพราะความจำเสื่อม
เลยคิดว่าไหนไหนก็ไหนไหน ขึ้นภาคสองให้ทุกคนมาเริ่มกันใหม่ก็แล้วกัน เหมือนกับตามใจฉันยังไงไม่รู้ 555 แต่ไม่วุ่นวายเท่ากับ
ภาคแรก ยังไงก็อย่าลืมดู น้องมณีตามจีบพี่ธารา เอะ ยังไง ส่วนพี่ธาราคาแรคเตอร์ใหม่ก็แสนจะหื่น เจอเป็นจูบ
อย่าลืมตามติดกันนะคะ เด็กๆโตกันหมดแล้ว มาลุ้มกันว่าขุ่นพ่อจะจำลูกน้อยได้หรือไม่ (ลึกๆแล้วก็ลงโทษมณีให้เลี้ยงลูกคนเดียว
สามปีนั่นแหละ555)
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 31/01 [พิเศษ] ครั้งสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 31-01-2016 17:22:28
ภาคต่อนี่ช่วยชีวิตคนเขียนไว้จริงๆนะ บอกเลย 5555+
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 31/01 [พิเศษ] ครั้งสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 31-01-2016 18:00:11


ภาคต่อ......

รอสิครับ......

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 31/01 [พิเศษ] ครั้งสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 31-01-2016 19:01:57
เตรียมหยิบเกิบแล้วนะ จะบอกให้ เพราะรู้สึกว่ามันยังไม่จบ ยังไม่เคลียร์  :serius2:

พอบอกมีภาคต่อเลยวางเกิบลงก่อน
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 31/01 [พิเศษ] ครั้งสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 31-01-2016 19:28:39
 :pig4: :pig4: :pig4:

ภาค2 มาแล้วบอกด้วยนะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 31/01 [พิเศษ] ครั้งสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 31-01-2016 20:44:33
โอ้ววว พี่ธาราเวอร์ชั่นใหม่ที่มณีต้องตามง้อ
ไหนจะอเลนอีกที่ชะรอยโดนหมอทศแสกเด็กเข้าท้องแน่ๆ คึๆ

ดีนะที่มีภาคต่อ ถ้าตัดจบดื้อๆแบบนี้จริง คนเขียนโดนรุมแน่นอน 55555

รอภาคต่อนะคร้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 31/01 [พิเศษ] ครั้งสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ศตรัศมี ที่ 31-01-2016 22:28:25
โฮ่ๆๆๆ ต้องตามจีบสามีใหม่จริงๆด้วยสินะ มณีเอ้ยยยย เจอพี่ธาราเวอร์ชั่นใหม่นี่สงสัยมีกระอัก
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 31/01 [พิเศษ] ครั้งสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 31-01-2016 23:23:11
คราวนี้ก็ตามณีแล้วล่ะนะ!!!!
จีบพ่อของลูกกันเถอะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 31/01 [พิเศษ] ครั้งสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 31-01-2016 23:45:19
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [Mpreg] 05/02 [CH 1] ยักษ์หื่น
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 05-02-2016 20:47:38
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [Mpreg] 05/02 [CH 1] ยักษ์หื่น
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 05-02-2016 21:48:53
 :a5:
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [Mpreg] 05/02 [CH 1] ยักษ์หื่น
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 05-02-2016 21:50:38
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 05/02 [CH.1] ยักษ์หื่น
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-02-2016 01:23:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 05/02 [CH.1] ยักษ์หื่น
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 06-02-2016 01:40:09
แล้วไปอยู่ไหนมา 3 ปี นะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 05/02 [CH.1] ยักษ์หื่น
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 06-02-2016 07:37:09

มานิดเดียว......

แต่ก็อ่าน

หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 05/02 [CH.1] ยักษ์หื่น
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 06-02-2016 08:07:45
 :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:



กลับมาต่อคนเขียนนนนนน :serius2:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 05/02 [CH.1] ยักษ์หื่น
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 06-02-2016 08:49:47
ระวังอยู่ดีๆแก๊สก็ระเบิดนะคะ.......//ส่งกระแสจิต
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 05/02 [CH.1] ยักษ์หื่น
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 06-02-2016 09:15:04
 :o8: :ling2: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 05/02 [CH.1] ยักษ์หื่น
เริ่มหัวข้อโดย: dEmonvEsus ที่ 06-02-2016 13:27:36
ค้างรุนแรงงงง  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 05/02 [CH.1] ยักษ์หื่น
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-02-2016 13:39:26
:)
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 06/02 [CH.1] โจรปล้นน้ำ100%
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 06-02-2016 16:44:13
ทวงครั้งที่ 1 โจรปล้นน้ำ


   เคยบ้างไหมตื่นมาอีกทีก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแล้ว สำหรับผมคนนี้แล้ว สิ่งนี้มันเกิดขึ้นกับตัวผมประจำ

   ผมกระพริบตาถี่ๆยกเปลือกตาที่หนักอึ้งมองเห็นเพดานห้องสีขาวขุ่นที่ดูจะเก่าเอามากๆ

   พัดลมสีขาวมอมบนเพดานหมุนคว้างส่งลมเอื่อยๆมาปะทะตัว ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ผมคุ้นเคย ผมเข้าใจดี

   ว่าแต่ผมมาที่นี่ได้ยังไงกัน?

   พอนึกย้อนกลับไป หัวใจมันก็เต้นระรัว หรือมันเป็นเพียงแค่ความฝัน ฝันที่ผมได้เจอกับพี่ธารา

   ความรักที่ผมเคยทำหลุดมือหายไป……

   ผมปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิด จ้องมองพัดลมสีเก่า หมุนไปเรื่อยๆ จ้องมองมัน ราวกับว่ามันจะหมุนย้อน
กลับไป



   แต่เดี๋ยวก่อน ที่นี่ที่ไหน!!

   จะมัวแต่นอนมองพัดลมไม่ได้เด็กขาด

   แสงแดดสีส้มอ่อนส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างบ่งบอกถึงเวลาล่วงเลยเข้าสู่ช่วงเย็นของวัน

   แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

   ผมผลุดลุกขึ้น ทว่า……



   ร่างกายของผมมันหนักอึ้งราวกับมีแรงมหาศาลมากดเอาไว้ให้มันขยับไปไหนไม่ได้

   ผมกรอกตาไปมา นี่มันอะไรกัน ทำไมผมถึงขยับตัวไม่ได้



   “ตื่นแล้วสินะ นายหลับไปนานเชียวล่ะ”น้ำเสียงดูยียวนดังมาจากมุมห้อง

   น้ำเสียงที่คุ้นเคย น้ำเสียงที่ผมจำได้ดี

   พี่ธารา!!

   ผมเหลือบตามองไปยังมุมห้องทั้งที่ตัวยังขยับไม่ได้ ร่างสูงใหญ่เปลือยท่อนบนเผยให้เห็นแผ่นอกกำยำเรียกให้ผมกลืน
น้ำลาย

   ใบหน้าหล่อเหลาที่ดูน่าอิจฉา ดวงตาคมดุ เรียวคิ้วคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักน่ามองนั่น ผมไม่เคยลืม

   ผมเบิกตามองด้วยความดีใจ ความทรงจำก่อนที่ผมจะไม่รู้สึกตัวเรียกให้ทั้งความดีใจและความกังวลของผมมันตีรวน

   ประโยคนั้น

   ‘ดูท่านายจะรู้จักฉันดี’

   พี่ธาราพูดเหมือนกับว่าไม่รู้จักผม

   พูดเหมือนเราพึ่งจะเคยเจอกัน คำพูดที่แสดงตัวกันและกันมันต่างออกไป



   “พี่ธารา”ผมเรียกเสียงเบา

   มองดูเขาลุกขึ้นมาจากเก้าอี้มุมห้อง ร่างสูงหยัดกายยืนขึ้นและเดินเข้ามาที่เตียง เขาเดินเข้ามาหาผม

   ผมอยากจะตรงเข้าไปกอดเขาหากว่าเขาคือพี่ธารา

   “ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นใคร แต่นายมาได้เวลาพอดีเลยล่ะ”เขายกยิ้มมุมปาก


   แล้วก้าวขึ้นมาบนเตียง

   หัวใจของผมมันเจ็บแปรบเมื่อกับคำที่เขาพูดออกมา เขาไม่รู้ว่าผมเป็นใคร!!

   เขาจะจำผมไม่ได้?

   “พี่ จำผมไม่ได้เหรอ”ผมถามเสียงเบา สายตาที่ดูเจ้าเล่ห์คืบคลานเข้ามาทำให้ใจนึกกลัว

   ผมพยายามขยับกายเพื่อจะถอยหนี ผมต้องการเวลาเพื่อที่จะตั้งหลักและทำความเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

   ทุกอย่างทำไมดูเหมือนมันวุ่นวายและตาลปัดไปหมด

   “อา นายรู้จักฉันจริงๆด้วย”เขากระซิบน้ำเสียงหยอกเย้า

   กายสูงใหญ่เปลือยอกหยัดตัวขึ้นมาคร่อมเข่าทับผมเอาไว้ ผมได้แต่เบิกตากว้าง

   มองดูผู้ชายที่ภายนอกเหมือนกับพี่ธาราแต่ภายในกลับไม่ใช่คร่อมทับอยู่เหนือร่างกาย

   “จะ จะทำอะไรน่ะ”ผมถาม

   ดวงตาของเขาพราวระริกราวกับว่ามีอะไรซ่อนอยู่ข้างใน ไม่มีวี่แววที่บ่งบอกได้ว่าหลงเหลืออะไรอยู่ในนั้น

   เรือนผมสีดำขลับคลอเคลียอยู่ตรงช่วงคอยาวเลยไปที่กลางหลังส่งให้พี่ธาราดูต่างจากที่เคยเป็น

   เขาแสยะยิ้มแล้วโน้มใบหน้าลงมาใกล้

   แขนทั้งสองข้างคร่อมทับผมเอาไว้ราวกับกรงขังที่ปิดกั้นไม่ให้ผมได้หนีออกไป

   “นายก็ลองเดาดูสิ ว่าฉันจะทำอะไร”

   เสียงกระเส่ากระสิบข้างหู จมูกโด่งเฉียดผ่านพวงแก้มไล่ไปที่ใบหู ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดใบหูและซอกคอจนทำให้ขนลุก
ชันไปทั้งตัว

   จมูกของเขากดลงบนซอกคอแล้วสูดหายใจเข้าปอด เหมือนกับพวกโรคจิตที่กำลังดอมดมผิวกายด้วยความหื่นกระหาย

   ผมได้แต่ตัวสั่น ขยับตัวไม่ได้

   “อา กลิ่นของนาย หอมต่างจากคนอื่นๆ”

   “อะ อือ ดะ เดี๋ยวสิ”

   ผมร้องห้าม มันต่างจากทุกครั้งที่พี่ธาราสัมผัสผม ความรู้สึกมันต่างออกไป

   ผมรู้สึกกลัว……

   ริมฝีปากหยักกดลงจูบเน้นย้ำลงบนลาดไหล่ของผม นั่นทำให้ผมรู้ว่าร่างกายของผมไม่มีอะไรปกปิด มีเพียงผ้าห่มผืนบาง
เท่านั้นที่ปิดเอาไว้

   ผ้าห่มถูกร่นลงไปจนถึงแผ่นอก พี่ธาราจูบเน้นย้ำลงไปเรื่อยๆ เขากดจูบลงที่ไหปลาร้า

   และผมก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อลิ้นร้อนตวัดเลียลงบนหน้าอก ข้างหนึ่งถูกเค้นคลึงด้วยปลายนิ้ว อีกข้างถูกหยอกเย้าด้วยปลาย
ลิ้น

   “อะ อื้อ พะ พี่ ธะ ธารา”ผมครางเสียงเบา

   อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีตามไปด้วย

   อาจจะเป็นเพราะจริงๆแล้วเขาคือพี่ธารา ถึงแม้ว่าจะจำผมไม่ได้ก็ตาม


   “นายหวานกว่าที่ฉันคิดเอาไว้”

   เขาพึมพำพลางแลบเลียร่างกายของผม

   หัวสมองของผมมันอื้ออึงไปหมด ความรู้สึกดีที่ก่อเกิดขึ้นมันกำลังตีกับจิตใจที่ต่อต้าน

   ยังไงซะตอนนี้เขาไม่ใช่พี่ธารา เขาจำอะไรไม่ได้ เขาจำผมไม่ได้ และที่สำคัญเขาจำสินสมุทรกับสุดธาราไม่ได้

   ผมไม่ควรจะยอมเขา เพราะจิตใต้สำนึกเขาไม่ใช่พี่ธารา

   เขาไม่ได้รักผม!!

   “ปะ ปล่อยผม”

   “ในเมื่อนายตามฉันมาถึงที่ขนาดนี้แล้ว เรื่องอะไรฉันจะปล่อยนายไปง่ายๆล่ะ”

   “แต่พี่ จำผมไม่ได้ ทำไมถึง…”ผมสะอึก มันเหมือนกับมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอทำให้พูดไม่ออก

   อยากจะต่อว่า อยากจะถามว่าเพราะอะไร ทำไมถึงลืมกัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้

   “ใช่ ฉันจำนายไม่ได้ จำอะไรไม่ได้เลย นอกจากชื่อและตัวตนของฉันเอง แต่ฉันก็ไม่คิดว่านั่นมันจะสำคัญสักเท่าไร หรือว่า
มันสำคัญกับนายล่ะนายถึงได้ลงทุนตามฉันมา หืม ว่าไง”

   เขากระซิบถามทั้งที่จมูกของเขายังคลอเคลียอยู่กับเม็ดสีแดงเรื่อบนยอดอก

   คำพูดของเขาทำเอาผมเจ็บ เขาพูดว่าความทรงจำที่ผ่านมาไม่สำคัญกับเขา

   “สำคัญสิ มันสำคัญกับผมมาก พี่เป็นคนสำคัญของผม”ผมพูดเสียงสั่น

   “งั้นนายก็ลองพิสูจน์สิ ว่าฉันสำคัญกับนาย”

   พี่ธาราเงยหน้าขึ้นมามอง ตาของเราประสานกัน ดวงตาที่ดุดันตอนนี้ฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาไม่ปกปิด รอยยิ้มร้ายแสยะขึ้น
มาที่มุมปากทำให้นึกหวั่น

   “แล้วผมต้องพิสูจน์ยังไง”

   พูดจบร่างกายของผมก็รู้สึกว่าเป็นอิสระจากการถูกตรึงจากสิ่งที่มองไม่เห็น พี่ธารายิ้ม ไม่ได้ตอบคำถา แต่ใบหน้าของเขา
เคลื่อนเข้ามาใกล้

   “ดะ เดี๋ยวสิครับ คุยกันก่อน”คราวนี้ผมยกมือขึ้นดันหน้าของเขาเอาไว้ก่อนที่มันจะเข้ามาใกล้

   “หึหึ เป็นอย่างที่คิด เหยื่อที่ดิ้นรนได้น่ากินกว่าเหยื่อที่ไร้สีสันขึ้นเยอะ”

   “มะ หมายความว่าไง”

   เขาหมายความว่าผมเป็นเหยื่องั้นเหรอ และดูเหมือนว่าเขาจะชอบใจที่ผมขัดขืนเขาซะด้วย คงรู้อยู่แล้วว่ายังไงผมก็ขัดขืน
เขาไม่ได้ แต่ก็ยังจะทำเหมือนผมเป็นของเล่น

   มันน่านักเชียว ทำไมพี่ธาราที่เคยสุขุมถึงได้เปลี่ยมไปขนาดนี้กัน

   “ดะ เดี๋ยวก่อน พะ พี่ธารา อะ อื้อ ยะ อย่าจับตรงนั้นสิ อะ”

   ไม่ทันแล้ว มือซุกซนของเขาล้วงเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนบาง ขยับเข้าไปกอบกุมมณีน้อยให้ได้ลุกขึ้นมาสู้

   “นายดูท่าจะชินกับมือนะ ว่าไหม”

   “อะไม่ใช่นะ อะไรของพี่เนี่ย ผมบอกให้คุยกันก่อน”

   ไม่ไหวแล้ว พี่ธาราคนนี้ น่ากลัว เขาน่ากลัวและหื่นเกินที่ผมจะรับมือไหว

   ผมได้แต่ดันแผงอกเปลือยเปล่าและใบหน้านั้นเอาไว้ไม่ให้คุกคามไปมากกว่านี้ จมูกโด่งเฉียดไปมาระหว่างแก้มและริม
ฝีปาก

   ผมพยายามผลักเขาออกด้วยแรงทั้งหมดที่มีอยู่ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยสะทกสะท้านสักเท่าไร

   “ขัดขืนให้มากกว่านี้สิ ฉันจะได้สนุกมากขึ้น”

   “อะ อย่า จับ อือ”

   “ฉันยังมีเวลาเล่นกับนายอีกไม่มาก อาทิตย์ตกดินเมื่อไร เราจะสนุกกันให้เต็มที่”เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า มือใหญ่เริ่ม
ขยับชักจูงมณีน้อยให้คล้อยตาม

   แต่เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้ว่าอะไรนะ

   “อะ อะไรนะ อย่าบอกนะว่า วันนี้พระจันทร์ ตะ เต็มดวง”

   “น่าแปลกใจนะที่นายรู้มากกว่าที่ฉันคิด”

   “ไม่จริง ไม่ได้นะ พี่ทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ”

   ถ้าทำเรื่องแบบนี้ในคืนนี้ มีหวังผมท้องอีกแน่!!

   “นายเดินเข้ามาหาฉันเอง หมูน้อย”

   “หะ ห่ะ แล้วทำไมต้องหมูน้อยด้วยล่ะ”ผมสะดุดแต่ก็ยังยกมือดันอกล่ำๆของพี่ธาราเอาไว้

   “ก็นายเป็นเหยื่อของฉันไง ไม่ต้องกลัว ฉันจะค่อยๆกินนาย ลิ้มรสทั้งหมดจากตัวนายเอง”

   “บะ บ้าไปแล้ว”

   ทำไมเขาถึง เอ่อ ถึง หื่นได้ขนาดนี้ ต่างจากพี่ธาราคนก่อนลิบลับ

   มือที่กุมมณีน้อยเริ่มขยับและกุมแน่นขึ้น ผมได้แต่กัดฟัน ขมวดคิ้วเข้าหากันเพื่อข่มอารมณ์

   ไม่ได้เด็ดขาดผมจะยอมเขาไม่ได้

   “ยะ หยุด ก่อน ผม อะ อื้อ”

   ยังไม่ทันได้พูดจบ ริมฝีปากร้อนประดับด้วยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ฉกจูบลงมา


   เป็นจูบที่ทั้งจาบจ้วงและหยาบโลน เพียงความหื่นกระหายเท่านั้นที่ส่งผ่านเรียงลิ้นเขาเข้าเข้ามา

   ผมไม่ทันได้ขัดขืนและตั้งตัว ลิ้นของเขาก็ซุกไซร้เข้ามาในโพรงปาก ดูดดึงเอาลิ้นผมให้คล้อยตาม

   ผมควรจะทำยังไงดี ร่างกายของผมมันดูเหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจต่อต้านสักเท่าไร

   “อะ อื้อ อือ”ผมทั้งทับ ทั้งผลักอกหวังให้เขาผละออก แต่เปล่าเลย มือของเขายิ่งเร่งมือหนักขึ้น

   จูบยิ่งเพิ่มความหนักหน่วงขึ้นเป็นเท่าตัว ความรู้สึกในตอนนี้เหมือนกับถูกฉุดดึงขึ้นสู่ที่สูง


   ร่างกายมันเริ่มดิ้นเร่าไม่รู้ตัว ความรู้สึกจุกหน่วงมันไปองรวมกันที่ท้องน้อย รู้สึกสุขสมทั้งที่ใจต่อต้าน ความรู้สึกมันเหมือน
กับคาราคาซัง

   ยอกอกข้างหนึ่งถูกมือที่ว่างอีกข้างเค้นคลึงทำให้ต้องสะดุ้ง

   เรียวลิ้นร้อนยังคงชักจูงให้ผมคล้อยตาม

   มันเหมือนเชือกที่รัดตัวของผมเอาไว้ค่อยๆดึงจนตึงแน่น ร่างกายมันอึดอัดจนแทบจะทนไม่ไหว มันทรมานจนต้องจิกเล็บ
บนลาดไหล่ของเขาเพื่อเป็นที่ระบาย

   “อะ อื้อ อื้อ”

   ผมดิ้นพล่าน แรงชักจูงทำให้ในที่สุดสิ่งที่อัดอั้นเอาไว้ก็ถูกระเบิดออกมา

   ผมหอบหายใจถี่สูดลมหายใจเข้าปอดด้วยความเหนื่อยอ่อน ได้แต่นอนหมดแรง ปรือตามองใครที่คร่อมอยู่เหนือร่างกาย
ด้วยความอับอาย

   ทั้งอายและก็โกรธ นี่มันเรื่องบ้าอะไร!!

   จู่ๆก็โดนพี่ธาราเวอร์ชั่นใหม่ปล้นน้ำไปตั้งแต่แรกเจอแบบนี้ มันน่าอับอายขายหน้าชะมัด

   แต่เรื่องราวมันยังไม่จบ ดวงตาคมกริบหรี่มองผมด้วยความพึงพอใจ เขาคงพอใจมากที่เห็นผมนอนหอบหายใจผมหมด
สภาพขนาดนี้

   แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น สิ่งที่ทำให้ร่างกายของผมร้อนวูบไปทั้งร่างด้วยความอายที่แทบจะแทรกแผ่นดินหนี

   มือใหญ่ถูกยกขึ้นมาอยู่เหนือสายตาของผม มือที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำสีขาวขุ่นน่าอาย

   ผมหน้าร้อนวูบจนแทบจะไหม้

   “เสร็จเร็วจังเลยนะ”เขาพูดหยอก

   ลิ้นชุ่มน้ำลายค่อยๆสอดออกมาจากริมฝีปากของเขา พี่ธารากำลังเลียสิ่งนั้นที่อยู่บนมือ

   ผมอยากจะบ้าตาย!!

   ให้ผมตายไปตอนนี้เลยก็ได้ ผมอายจนแทบจะมุดลงไปในที่นอน

   “พะ พี่ ทำอะไรน่ะ”ผมถามเสียงสั่น

   “รสชาติดีนี่ ชักอยากจะให้ถึงคืนนี้เร็วๆแล้วสิ”

   พี่ธาราพูดหน้าตาเฉยแล้วมองไปที่หน้าต่างบานเกร็ดสีขุ่น ทำให้ผมมองตาม

   แล้วสะดุ้ง แสงสีส้มอ่อนตอนนี้กลายเป็นแสงสีส้มอมม่วงบอกเวลาว่าพระอาทิตย์ใกล้ตกดินเต็มที

   “ไม่จริงน่า ผมว่า เอ่อ เราคุยกันก่อนดีไหม”

   ผมต่อรอง ทั้งห่วงตัวเอง ทั้งห่วงเด็กๆ ป่านนี้คงจะกลับไปที่รีสอร์ทแล้ว แต่ป่านนี้แล้วไม่มีใครสังเกตเลยรึไงว่าผมออกมา
ซื้อน้ำแข็งนานอย่างกับผลิตเองอย่างนี้

   “ได้สิ ฉันยินดีจะคุยกับนาย”เขายิ้ม





   “แต่ต้องด้วยภาษากายนะ”

   พูดจบลำตัวสูงใหญ่ก็โถมทับลงมา แผ่นอกเปลือยแนบมาจนชิด ร่างกายของเราแนบชิดกันจนสัมผัสได้ถึงไออุ่น

   “ไม่ใช่ เดี๋ยวก่อน ผมไม่ได้หมายความ ว่าอย่างนั้น อะ อื้อ”

   ผมพยายามปฏิเสธ แต่ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตร?ก็ซุกไซล้ลงบนลำคอ

   “หอม”

   นี่คือคำที่เขาพร่ำบอกพร้อมกับสูดหายใจเข้าปอด

   ทั้งหื่นทั้งโรคจิต เขาต้องบ้าไปแล้ว

   ตอนนี้ผมทั้งผลักทั้งดันทั้งถีบ แต่แรงที่มีมันก็น้อยนิดเหลือเกิน ปฏิบัติการปล้นน้ำเมื่อครู่ทำเอาเรี่ยวแรงผมหายไปกว่าครึ่ง



   โครมมมมมมมมม!!

   แต่แล้วเหมือนโชคชะตาเข้าข้างคุณพ่อ เอ้ย ไม่สิ คุณแม่ลูกสองอย่างผม

   ประตูที่ดูเหมือนจะผุแหล่ไม่ผุแหล่ถูกผลักออกอย่างแรงจนกระแทกกับผนังเสียงดังสนั่น

   ผมกับพี่ธาราที่ละจากการปลุกปล้ำอย่างเมามันหันไปมองทางประตูพร้อมกันทันที

   หมอทศ!!

   “คิดไว้แล้วว่าต้องใช่ กลิ่นเหม็นเน่าของยักษ์อีกตัวที่อยู่แถวนี้คงเป็นนายสินะ”

   คุณหมอพ่นควันบุพรี่ออกจากปากแล้วพูดด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย ผมถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก

   เกือบจะต้องอุ้มท้องอีกแล้วสิ

   “หึหึ ดูท่าวันนี้นายจะรอดนะ”เขาโน้มหน้าลงมากระซิบข้างหู


   ริมฝีปากขบเม้มลงมาบนติ่งหูของผมอย่างแรงจนสะดุ้ง

   “อะ อ๊ะ”ผมหน้าแดง มองดูพี่ธาราหยัดกายขึ้นลุกลงไปยืนที่พื้นห้องข้างเตียง

   ใบหน้าของเขาดูไม่ค่อยหยี่ระและดูจะจะหมอทศกัณฐ์ไม่ได้

   “ไม่คิดว่าจะมีพวกเดียวกันติดตมมาด้วย”พี่ธาราพูดด้วยน้ำเสียงยียวนแล้วยกมือเสยผม

   แต่ว่า เอ่อ หล่อ พี่ธาราแบบนี้ก็หล่อไปอีกแบบ


   เรือนกายสูงใหญ่สมส่วนท่อนล่างสวมกางเกงยีนส์สีเลือดหมู ท่อนบนเปลือยเผยมัดกล้ามแน่นน่าอิจฉากำลังยืนอยู่กลาง
ห้องแคบ

   ผมได้แต่มองพี่ธาราสลับกับคุณหมอทศ

   ทั้งสองคนกำลังคุมเชิงกันอยู่

   “คงจะจำอะไรไม่ได้สินะ อย่างที่คิดไว้เชียว”คุณหมอพูดก่อนจะสูดบุหรี่เข้าปอด

   “ก็คงงั้น”

   พี่ธารายักไหล่ ปรายตามองมาทางผม

   “แล้วเจอกัน”

   เขาหันมาบอกผม มันเร็วมากจนมองแทบไม่ทัน ทันทีที่คุณหมอทศก้าวเข้ามาในห้องเพียงก้าวเดียว

   พี่ธาราก็พุ่งไปที่ประตูระเบียงห้อง มันถูกกระแทกเปิดอย่างแรง และปิดลง

   คุณหมอทศได้แต่พุ่งตามออกไป แต่ไม่ทันแล้ว คุณหมอสบถอย่างหัวเสีย

   ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาห่อร่างกายแล้วเดินตามออกไปนอกระเบียง

   อยากจะบ้าตายพอนับดูอีกที

   หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก นี่มันชั้นหก

   พอมองลงไปข้างล่างก็เห็นพี่ธาราวิ่งไปหลังไวไวเข้าไปในตรอกเคบๆซะแล้ว

   “ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”เขาหันมาถาม

   “มะ ไม่ครับ”

   ไม่เป็นก็บ้าแล้ว ถึงจะตอบอย่างนั้น แต่หน้าก็แดงเรื่อ

   พี่ธาราหนีไปแล้ว แล้วคราวนี้ผมจะไปตามที่ไหน แต่ก็ยังดีอย่างน้อยผมก็ได้รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ เขายังอยู่กับผมและลูกๆ

   ถึงจะไม่ได้อยู่ข้างกันก็ตาม แต่ปัญหาที่มีอยู่ตอนนี้ก็คือ

   พี่ธาราจำอะไรไม่ได้เลย

   “ดูท่าคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะหาเจ้าบ้านั่นเจอ”คุณหมอทศออกความคิดเห็นพลางหยิบเอาเสื้อผ้าของผมที่กองอยู่บน
พื้นยื่นให้


   ผมหันไปรับ แต่สายตาก็สะดุดเข้ากับบัตรอะไรสักอย่างที่เหมือนกับบัตรพนักงาน

   “มันอาจจะไม่นานอย่างที่คิดก็ได้ครับ”ผมตอบ อาศัยจังหวะที่อีกคนเผลอหยิบบัตรพนักงานติดมือมา

   “นั่นมันก็แล้วแต่โชคชะตา”เขาพึมพำ พ่นควันบุหรี่ออกมา

   “ครับ ว่าแต่คุณหมอหาผมเจอได้ยังไง แล้วเด็กๆ”

   “จะว่าตามนายมาก็คงไม่ใช่ ฉันตามเจ้านั่นมามากกว่า”

   “หมายถึงตามพี่ธารา?”

   “ใช่ ฉันได้กลิ่นของหมอนั่นแถวนี้ ก็เลยลองตามมา ไม่นึกว่าจะเจอนาย เจ้านั่นคงจะได้กลิ่นของนายถึงได้พานายมาด้วยอย่างนี้ แต่ก็เอาเถอะ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เรารีบกลับกันดีกว่า อีกเดี๋ยวก็จะมืดแล้ว”

   เขาบอกทำให้ผมนึกได้ว่าเขาเองก็ไม่ถูกกับพระจันทร์เวลาเต็มดวง

   ผมรีบใส่เสื้อผ้าแล้วเดินตามเขาออกมา

   ยังไงซะ ผมจะต้องเอาพี่ธารากลับมาให้ได้ ผมจะต้องพาพี่ธาราไปเจอกับลูกๆของเราให้ได้แน่นอน

   ผมคิดพลางพลิกบัตรพนักงานในมือไปมา



=================================================================   




ตอนที่ 1 ภาค 1 ชื่อตอน โจรห้าร้อย
ตอนที่ 1 ภาค 2 ชื่อตอน โจรปล้นน้ำ
ห้า ห้า ห้า เรื่องบังเอิญใช่ไหม หรือยังไง รภาคนี้เน้นหื่น เน้นฮา ไม่ขายมาม่า ไม่เอาไวไว
ใครรออเลน จะได้เจออลัน อลันคือใคร ต้องรอดู แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะ ห้าห้าห้า
ปลลอ ของรางวัลผู้ร่วมสนุกตอบแบบสอบถาม แพ็คแล้ว แต่ยังไม่ได้ส่ง ห้าห้าห้า วันจันทร์ไปส่งให้น้าาาาารับแซ่บเน้อ

รูปนี้มโนเป็นอลัน อลันคือใคร ให้ทาย

 (http://www.mx7.com/i/a14/tO7vRB.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yTQ3BoehBzGR4e9G)

หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 06/02 [CH.1] โจรปล้นน้ำ100%
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 06-02-2016 17:33:57
เราว่ารูปนั้นน่าจะเป็นลูกพี่อเลนกับหมอทศ ว่ากันไปนั่น 555555
ตามพี่ธารากลับบ้าน เอาไม้ทุบหัวแล้วลากเข้าถ้ำเลยมณี!!!
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 06/02 [CH.1] โจรปล้นน้ำ 18+
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 06-02-2016 17:55:18
ใครอ่ะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 06/02 [CH.1] โจรปล้นน้ำ 18+
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 06-02-2016 19:20:34
อลันลูกอเลนชัวร์ๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 06/02 [CH.1] โจรปล้นน้ำ 18+
เริ่มหัวข้อโดย: Loofey ที่ 06-02-2016 19:59:58
รีบมาต่อน้า :katai4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 06/02 [CH 1.2] โจรปล้นน้ำ 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 07-02-2016 10:42:19
สู้ๆนะมณี ทำภารกิจตามสามีกลับบ้านให้สำเร็จนะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 06/02 [CH 1.2] โจรปล้นน้ำ 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 07-02-2016 12:08:15
น้ำตาจะไหลลลล
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 06/02 [CH 1.2] โจรปล้นน้ำ 100%
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-02-2016 13:51:00
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 06/02 [CH 1.2] โจรปล้นน้ำ 100%
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-02-2016 19:34:13
อลัน คือ ลูกของอเลนกับหมอทศ ฟันธง

จำได้จากภาคที่แล้ว 2 คนนี้เขาแซบกันวันจันทร์เต็มดวง และอเลนก็หนีกลับบ้านแล้วมีอาการเหมือนคนแพ้ท้อง
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 08/02 [CH 2] หลุมพลาง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 08-02-2016 17:57:04
ทวงครั้งที่ 2 หลุมพลาง


   สองวันหลังจากที่ผมเจอกับพี่ธารา

   หลังจากยื่นบัตรประชาชนให้การ์ดที่อยู่หน้าประตูตรวจ พอเดินเข้ามาด้านในเสียงเพลงที่เปิดก็ดังจนกลบทุกอย่างไปหมด

   ผมยกบัตรพนักงานขึ้นมาดู ชื่อผับที่อยู่ในบัตรพนักงานเป็นผับนี้ไม่ผิดแน่

   ในวันที่เป็นวันหยุดอย่างนี้คนค่อนข้างที่จะเยอะจนเกือบแน่นร้าน ผมได้แต่สอดส่ายสายตาและเดินเบียดคนพวกนั้นเข้าไป

   ว่าแต่ทำไมผมถึงได้รู้สกแปลกๆ รู้สึกเหมือนกับว่าโดนสายตาหลายคู่กำลังจ้องมองมาที่ผม

   และถ้าไม่ได้คิดไปเอง ทำไปผับนี้ลูกค้าส่วนมากถึงเป็นผู้ชาย รองลงมาก็เป็นสาวประเภทสอง น้อยมากที่จะมองเห็นผู้
หญิง

   แต่แล้วก็ถึงบางอ้อเมื่อมองไปกลางร้านเห็นโชว์ที่กำลังมีคนมุงดูเต็มไปหมด

   ผู้ชายหุ่นล่ำนุ่งกางเกงในตัวเดียวกำลังเต้นรูดเสาอยู่กลางร้าน ชัดเลย ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีวันนี้

   วันที่ไอ้มณีคนนี้จะต้องเดินเข้าบาร์เกย์เพื่อมาตามหาสามี

   พูดได้เต็มปากว่าสามี หน้าไม่อายชะมัด

   ว่าแต่พี่ธาราอยู่ที่ไหนกัน ในบัตรพนักงานก็ระบุแค่ ‘ส่วนหน้าร้าน’

   สายตาของใครหลายคนที่อยู่ในบริเวณนั้นเริ่มมองมาทางผมมากขึ้นทำเอาขนลุกเกรียวไปทั้งร่าง

   ไม่ได้การแล้ว ขืนอยู่ที่นี่นาน มีหวังไม่เหลือแม้แต่กระดูกแน่ โดนสายตาหลายคู่แทะโลมซะขนาดนี้

   เวลาเดินก็ดูเหมือนว่าช่วงที่ต้องผ่านจะดูแคบเหมือนกับถูกเบียด เลยต้องเอามือบิดก้นเอาไว้ตามสัญชาติญาณ

   

   “นี่ๆ มาใหม่เหรอ”เสียงดัดแหลมแต่ยังคงความห้าวเรียกพร้อมสะกิดจากทางด้านหลังให้ผมสะดุ้ง

   “อะ ครับครับ” ผมยิ้มหน้าแหย

   “มานั่งกับพวกเราไหมล่ะ”

   “มะ ไม่ดีกว่าครับ พอดีผมมาตามหาคน”ผมมองตามไปยังทางที่เขาชี้ พอเห็นก็ถึงกับกลืนน้ำลาย สาวสองต่างก็พากันโบก
ไม้โบกมือมาทางผมกันยกใหญ่

   “ตามหาใครล่ะ ให้เราช่วยหาไหม เรามาที่นี่บ่อยน้า”

   เขาลากเสียงยานคาง ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางหนาเตอะ ยิ่งมองยิ่งดูสยองกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ๆ

   ผมถอยหลังหนี แต่ไม่ทันซะแล้ว มือของเขาคว้าแขนผมเอาไว้แล้วดึงเข้าไปหา

   ยังไงสาวพวกนี้ก็เป็นผู้ชายอยู่วันยันค่ำ แรงที่ดึงเข้าไปหาไม่น้อยเลย ทำเอาผมเกือบเซเข้าไปหาถ้าไม่ขืนตัวเอาไว้

   “เดี๋ยวสิครับ คือผมกำลังตามหาคนอยู่ อื้อ อย่าดึงสิ”

   “มาเถอะน่า มานั่งกับพวกเรา คนน่ะเดี๋ยวค่อยตามหาก็ได้”พูดเสร็จก็เอื้อมมืออีกข้างมาโอบเอวผมทำท่าจะดึงผมไปให้ได้

   ผมเริ่มเหงื่อตก อยากจะร้องไห้ซะให้ได้

   มองดูไปยังเพื่อนๆของเจ้าหล่อนที่ทำท่าจะลุกมาช่วย

   ให้ตายเถอะ ทำไมผู้หญิงแท้ๆถึงไม่เคยมาแย่งผมอย่างนี้กันบ้าง

   “ปล่อยผมเถอะนะครับ ผมต้องไปตามหาคนจริงๆ”ผมยื้อเอาไว้ส่ายหน้าเป็นพัลวัน

   ไม่น่าเลย ไม่น่าหลงเข้ามาในบาร์เกย์เลยจริงๆ

   เพราะพี่ธาราเลย ทำไมถึงมาอยู่ในที่แบบนี้ได้

   “มาเถอะน่า อย่าเล่นตัวไปเลย มานี่!!”ทันทีที่พูดจบเจ้าหล่อนก็กระชากผมไปด้วยแรงมหาศาล

   แรงจนผมถลาเข้าไปหา มันแย่แน่ๆหากผมเบรกไว้ไม่ทันผมต้องเซเข้าไปหาอ้อมกอดของเขาแน่

   หมับ!!


   “ว่าไงครับสาวๆ ผมว่าพวกคุณน่าจะหาเหยื่อที่เต็มใจมากกว่านี้ดีกว่านะครับ แบบนี้มันไม่สนุกหรอก ว่าไหม”

   น้ำเสียงหยอกเย้าดังแข่งกับเสียงเพลงพร้อมกับรอยยิ้มยั่วเย้าโปรยเสน่ห์ ทำเอาผมนึกหึงและเคืองไม่น้อย

   แขนแข็งแรงโอบรอบเอวเอาไว้ก่อนที่ผมจะถลาเข้าไปหาเจ้าหล่อนที่อ้าแขนรอรับ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร้าดของบรรดา
เพื่อนสาว

   กลายเป็นว่าผมโดนพี่ธารากอดเอาไว้ในขณะที่มือยังถูกอีกคนจับเอาไว้แน่นเช่นกัน

   ถึงจะตกใจที่พี่ธารามาช่วยไว้ได้อีกตามเคย แต่ทำไมถึงต้องไปยิ้มให้กับคนอื่นแบบนั้นด้วย

   ผมหน้าบูดไม่รู้ตัวพลางมองพี่ธาราที่อยู่ในชุดของบริกรสวมเสื้อกั๊กสีดำผมยาวถูกรวบเอาไว้หลวมๆดูน่าดึงดูดสายตาไปอีก
แบบ

   “แหม ธาร่าก็ เหยื่อใหม่ๆมันหายากนี่ ถ้าธาร่าไม่อยากให้พวกเราหาเหยื่อใหม่ๆ ธาร่าก็มาเป็นเหยื่อของพวกเราสิ รับสอง
พวกเราอิ่มกันไปอีกนาน”

   “อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ สาวๆอย่างพวกคุณแค่อยู่เฉยๆก็มีคนเข้ามาหาอยู่แล้ว จริงไหมครับ”พี่ธารายิ้ม

   ว่าแต่ธาร่า? คือใคร?

   อย่าบอกนะว่าคนพวกนี้เรียกพี่ธาราว่าธาร่า มันจะตลกมากเกินไปแล้ว

   คิดได้ดังนั้นผมก็ขำออกมาเล็กๆ

   “นายขำอะไรงั้นเหรอ หืม”

   ไม่ทันตั้งตัว เขาก็โน้มหน้าลงมาใกล้ จมูกเฉียดติ่งหูไปแค่นิดเดียวแล้วกระซิบถาม

   ผมสะดุ้งหน้าร้อนวูบ อ้อมแขนที่กอดรัดมันร้อนผ่าว

   “ปะ เปล่าสักหน่อย”ผมเบือหน้าหนี

   “แล้วจะให้เราทำยังไงล่ะ นั่งมาตั้งนานแล้วเนี่ย”เจ้าหล่อนเบ้หน้า จ้องมองมาทางผม ไม่ยอมปล่อยมือสักที

   “ถ้าปล่อยเด็กคนนี้ไป บางที วันไหนผมว่างๆ ผมอาจจะมีเวลาเหลือๆสักชั่วโมงสองชั่วโมงให้พวกคุณก็ได้ คิดว่าไง”พี่ธารา
ยกยิ้มกระชับอ้อมกอดแน่น

   “แหม ถ้าธาร่าพูดถึงขนาดนี้ มีแหรอที่พวกเราจะปฏิเสธ จะยอมปล่อยไปก็ได้ ว่าแต่ ไม่เคยเห็นเลยนะที่ธาร่าจะออกตัวมา
ขนาดนี้ ดูท่าเด็กคนนี้จะถูกใจธาร่าน่าดู”

   ในที่สุดมือผมก็เป็นอิสระสักที แต่ตัวก็ยังคงถูกพี่ธาราโอบเอาไว้แน่น แน่นจนได้ยินเสียงหัวใจของพี่ธาราที่เต้นรัวพอๆกับ
หัวใจของผม



   “ถูกใจสิครับ ถูกใจมาก”

   พี่ธาราตอบเสียงเน้นย้ำ มือที่โอบอยู่ลูบไล้ตรงบั้นเอวเบาเบาทำเอาผมสะดุ้งเฮือก

   “พะ พี่ธารา”ผมหันขวับไปมองเจ้าตัวทันที

   ใบหน้าเจ้าเล่ห์ก้มลงมาแวบหนึ่งก่อนจะหันไปยิ้มให้กับแก๊งสาวสอง

   แต่ก็ยังคงลูบไล้อยู่ตรงบั้นเอวผมไม่หยุด

   “ยังไงก็ขอตัวก่อนนะครับ คืนนี้ขอให้สนุก”













   หลังจากนั้นพี่ธาราก็ถือโอกาสที่บรรดาสาวสองทั้งหลายต่างกำลังหลงใหลไปกับรอยยิ้มยั่วยวนดึงเอาผมออกมาจนมาหยุด
อยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์

   “ไง ฉันบอกแล้วไงว่าเราจะต้องได้เจอกันอีก”

   พี่ธารากระซิบข้างหูแล้วดันให้ผมนั่งลงบนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ ส่วนตัวเองก็เดินอ้อมเข้าไปยังในส่วนของพนักงาน

   ผมนั่งตัวเกร็งมองดูพี่ธารายิ้มรับให้กับลูกค้าคนอื่นๆและพนักงานอีกคนที่เป็นผู้หญิง

   “จะดื่มอะไรดีล่ะ”

   เขาถามเมื่อเดินมาหยุดยืมอยู่ตรงข้ามกับผมโดยมีบาร์กั้น เก้าอี้ที่นั่งเป็นแบบสูงทำให้ใบหน้าของผมเกือบจะสูงเท่าหน้า
ของเขาจึงไม่ยากที่เขาจะเอื้อมมือมาเกลี่ยปอบผมที่ปรกหน้าขึ้นทัดหูให้ในขณะที่ผมกำลังมึนงง

   “เอ่อ ผม ขอน้ำเปล่า”

   “หึหึ ที่นี่ไม่มีหรอกนะ นายมาถึงที่นี่เพื่อที่จะมากินน้ำเปล่างั้นเหรอ มันดูเหนือความคาดหมายไปหน่อยนะ”เขายักไหล่แล้ว
จัดการเปิดขวดน้ำใสใสแล้วผสมหลายอย่างลงในขวด จากนั้นก็เขย่าจนกลายเป็นน้ำสีสวยรินใส่แก้วแล้วดันมาด้านหน้า

   “ผมไม่ได้อยากกินเหล้าสักหน่อย”ผมดันกลับคืน

   “หือ นายไม่รับเครื่องดื่ม แล้วนายมาที่นี่ทำไมล่ะ”เขาหรี่ตา

   “ผมมาหาพี่”

   “อา นั่นสินะ แล้วทำไม นายถึงมาหาฉันล่ะ หรือว่านายต้องการสานต่อจากเรื่องเมื่อคืนวาน”เขาก้มลงมากระซิบ

   “มะ ไม่ใช่สักหน่อย”พอได้ยินดังนั้นผมก็หน้าร้อนวูบ



   “ถ้างั้นแล้วนายมาทำไมล่ะ ถ้าไม่ต้องการสานต่อเรื่องที่เราทำค้างเอาไว้”

   “ผะ ผมไม่ได้อยากทำเรื่องแบบนั้นสักหน่อย ผมแค่”ผมอึกอักจ้องมองพี่ธารากอดอก

   “หืม ว่าไงล่ะ ฉันรอฟังอยู่”

   “ผมแค่อยากจะให้พี่กลับไปกับผม”

   “งั้นนายก็ดื่มสิ”

   “ห่ะ เอ่อ ว่าอะไรนะครับ”ผมเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าเจ้าเล่ห์ของพี่ธารามองมาเหมือนกับแฝงอะไรไว้บางอย่าง แล้วที่บอก

ให้ดื่ม

   ผมก้มลงมองแก้วน้ำสีสวยในมือพลางกลืนน้ำลาย หวังว่ามันคงไม่มีแอลกอฮอลผสมลงไป

   “ถ้านายอยากให้ฉันไปกับนาย นายก็ต้องแสดงความจริงใจให้ฉันเห็น ดื่มซะ แล้วฉันจะไปกับนาย”

   “แต่ว่า”คำพูดของพี่ธาราทำให้ผมเริ่มใจชื้นขึ้นมา แต่ที่ทำให้ผมหนักใจคือไอ้น้ำสีหวานที่อยู่ในแก้วนี่มากกว่า

   “ก็แค่น้ำผลไม้ หรือว่านายไม่จริงใจกับฉัน นายไม่อยากให้ฉันไปกับนายเหรอ”มือใหญ่เอื้อมมาจับให้หน้าของผมให้เชิดขึ้น
มองเขา

   “อยากสิ ผมดื่มก็ได้ แต่ถ้าผมดื่มแก้วนี้หมดพี่ต้องไปกับผมนะ”พูดจบผมก็ยกแก้วใสบรรจุน้ำสีเขียวมะนาวลงคอ   

   มันทั้งหวานทั้งขมในทีเดียว ผมได้แต่หลับตาแน่นกลืนน้ำพวกนั้นลงคอจนหมดแก้วไปในรวดเดียว

   “อาฮะ ดูท่าจะว่าง่ายกว่าที่คิด”

   “หมดแล้ว อะ อึก เอิ๊ก”ผมสะอึก

   มันเร็วมากที่รู้สึกว่าในช่วงคอมันร้อนวูบราวกับกลืนของร้อนลงไป ร่างกายมันร้อนวูบวาบ

   สมองเริ่มหมุนคว้าง อย่าบอกนะว่าผมกำลังเมา

   ผมเกาะเคาน์เตอร์บาร์เอาไว้แน่น เปลือกตามันหนักอึ้งขึ้นมาทันทีจนต้องพยายามฝืนเอาไว้

   อาการแบบนี้มันอะไรกัน ร้อนวูบไปทั้งตัว



   “พี่เคธี่ วันนี้ผมขอยืมห้องชั้นบนใช้หน่อยแล้วกัน”เสียงพี่ธาราดังแว่วแข่งกับเสียงเพลงเหมือนจะคุยกับใครบางคน ตามมา
ด้วยเสียงแหบห้าวตอบรับ

   “อา ได้สิจ๊ะ แหม ธาร่านี่ก็ ปกติไม่ยักกะล่าเหยื่อ”

   ล่าเหยื่ออะไร

   แล้วทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเบาเหมือนกับลังถูกอุ้ม

   ได้ยินเสียงประตู แล้วก็รู้สึกว่าที่นอนนุ่มมาก จนอยากจะหลับ แต่ร่างกายมันก็ร้อนวูบวาบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

   ผมปรือตามองเห็นพี่ธารากำลังยิ้ม ยิ้มแบบที่ผมไม่ชอบเอาซะเลย ยิ้มที่คอยแจกให้คนอื่นๆไปทั่ว

   “ฮึก ร้อน”ผมดันใบหน้าที่ยื่นเข้ามาออกแล้วทึ้งเสื้อของตัวเอง

   ไม่นานเสื้อผ้าที่ใส่ก็ถูกปลดออกจนหมด แต่มันก็ยังไม่หายร้อนสักที มันเหมือนกับอึดอัดจนอยู่นิ่งไม่ได้ อยากจะระบาย
ออกมา

   เปลือกตาอยากจะเปิดออกแต่ก็ลืมไม่ขึ้น

   “อือ ระ ร้อน”

   ผมครางเสียงพร่า ลิ้นร้อนชื้นตวัดขึ้นมาเลียที่คอ ไล่ขึ้นมาที่ซอกหู

   เหมือนความร้อนมันจะเพิ่มมากขึ้นไม่ได้ลดลงไปเลย ผมปัดป่ายมือไปหยุดที่ลดไหล่แข็งแรงที่ผมคุ้นเคยแล้วจิกลงไป

   ร่างกายถูกโลมเลียไปทั่ว ไปไม่รู้ว่านานแค่ไหน ที่ร่างกายกำลังรู้สึกเหมือนกับว่าถูกกลืนกิน

   สมองของผมมันไม่เป็นไปตามที่ใจนึก ผมคิดอะไรไม่ออก ได้แต่ส่งเสียงครางเบาเบายามที่มือร้อนๆนั้นนาบลงบนร่างกาย
แล้วฟอนเฟ้นไปทั่ว


   “อึก ฮึก เจ็บ”

   ช่องทางด้านหลังรับรู้ได้ถึงของเหลวเย็นวาบและนิ้วแข็งแรงสอดเข้ามาด้านใน

   รู้สึกดี……

   แต่ก็อยากได้มากกว่านี้






   อึดอัด…..จนทรมาน

   อยากให้พี่ธารารักผมมากกว่านี้…..

   “อึก อือ รักผม อือรักผมสิ”ผมกระซิบเสียงพร่า นิ้วที่สอดเข้ามาไม่รู้ว่าเป็นกี่นิ้ว รู้แค่ว่าทั้งอึดอัดทั้งรู้สึกดี

   “นายชอบใช่ไหม”เขากระซิบถามส่งลิ้นเข้ามาหยอกเย้าที่กกหู

   “อะ อือ ชะชอบ”ผมพยักหน้าซุกหน้าลงกับแผ่นอกแข็งแรง

   “อยากได้มากกว่านี้รึเปล่า”

   “อือ ผมอยาก ผม อะ อือ รักพี่”ผมบอกออกไปตามความรู้สึก

   ผมอยากให้พี่ธารากอดผมเอาไว้ กอดให้ผมรู้สึกหายเหงากับเวลาสามปีที่ขาดเขาไป

   ผมรู้สึกเหงาเกินกว่าที่จะบอกอออกมาเป็นคำพูดได้

   ผมรักเขา



   “ฉันจะกินนายจนร้องขอชีวิตเลยล่ะ”



===================================================================




   อีกซีกโลกหนึ่งใครอีกคนกำลังเรียนรู้งานอยู่ในฟาร์มนมวัวขนาดใหญ่

   สามปีผ่านมาแล้วกับการเรียนรู้งานที่ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ดูแลผู้ผลิตวัตถุดิบซึ่งนั่นก็คือบรรดาวัวลายขาวดำทั้งหลายที่กำลัง
ร้องมอมอเมื่อได้ยินเสียงเพลงยามเช้าปลุกให้ตื่น

   อเลนในชุดชาวสวนเข้ารูปกำลังอุ้มกองฟางกองใหญ่ใส่รางให้วัวแต่ละตัวพร้อมกับคนงานคนอื่นๆที่มาทำงานกันแต่เช้า

   “แดดดี๊อลันอยากเก่งไหมฮะแดดดี๊”เด็กน้อยตัวกลมเรียกเสียงใสให้หันไปมอง

   ร่างเล็กจ้ำม่ำผิวขาวจัดจนเกือบจะเห็นเส้นเลือดยิ้มโชว์ฟันน้ำนม คำพูดที่ยังไม่ค่อยชัดเจนบวกกับอายุที่เพิ่งจะแค่สองขวบ
เดินตามอเลนเตะแตะอุ้มก้อนฟางก้อนเล็กเดินเซไปมา

   “เก่งมากครับ”อเลนยิ้มตอบเจ้าตัวเล็กแก้มแดงในชุดหมีตัวน้อยแล้วขยี้หัวฟูๆนั่นเบาเบา

   สองปีแล้วที่ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตที่น่าพิศวงนี้ออกมา ลูกของยักษ์ใจร้ายที่เขาไม่มีวันให้อภัย

   สายเลือดในตัวครึ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยยอมรับ แต่ก็ต้องตัดความโกรธเกลียดออกเมื่อสิ่งมีชีวิตที่เกิดออกมานั้นคือลูกของตน

   “แดดดี๊ เมื่อไรแนนนี่จะคลอดน้องออกมาล่ะฮะ อลันรอมาหลายวันแล้วนะฮะ”

   “อลันต้องใจเย็นๆนะครับ อีกนานกว่าแนนนี่จะคลอด”อเลนบอกเมื่อลูกชายกำลังนั่งยองๆอยู่หน้าวัวนมตั้งท้องที่ชื่อแนนนี่

   “นี่ แนนนี่ เมื่อไรจะมีน้องให้อลัน อลันอยากเห็นน้องของแนนนี่”เด็กน้อยเอื้อมมือตบแปะๆเข้าที่แก้มของวัวขณะที่มันก้มลง
มากินฟาง

   เข้าวัวร้องมอเหมือนจะคุ้นเคยกับลูกเจ้าของฟาร์มดี มันพะงกหัวรับแล้วกินอาหารของมันต่อ

   “แล้วคุณปู่รู้ไหมครับว่ามาหาแดดดี๊”

   “ฮะ บอกคุณปู่แล้วฮะว่ามาหาแดดดี๊กับแนนนี่”

   “โอเค แล้วอลันกินนมมารึยัง”

   “กินแล้วฮะ แต่อยากมาหาแดดดี๊ เอาไอ้นี่มาด้วย”   

   “หืม เอาอะไรมา มาให้แดดดี๊ดูสิ”อเลนนั่งยองๆเสมอลูกชายที่กำลังลุกขึ้นยืน

   มือป้อมๆล้วงลงไปในกระเป๋าเอี๊ยมตัวเล็กหยิบกระดาดใบเท่าฝ่ามือออกมา

   “นี่ฮะ ที่นี่ที่ไหน อลันอยากเห็นจังฮะ สวยมากเลย”

   เจ้าตัวเล็กถามเสียงเจื้อยแจ้ว ทว่าอเลนกลับนิ่งเมื่อรับกระดาษใบเล็กจากมือของลูกชาย

   รูปที่เคยถ่ายเอาไว้เมื่อสามปีที่แล้ว ชายหาดที่เคยไปบ่อยๆ

   “เอ่อ ที่นี่อยู่ไกลมาก อลันไปไม่ได้หรอกครับ”

   “แต่อลันอยากไป แล้วคนที่อยู่ในรูปเป็นใครเหรอฮะ เป็นเพื่อนแดดดี๊รึเปล่า”เจ้าตัวเอียงคอชี้รูปที่มีคนอยู่เพียงคนเดียวที่
ปรากฏอยู่ในนั้น

   อเลนนิ่ง ความทรงจำที่เก็บเอาไว้ไม่เคยขุดค้นออกมาลำลึกตอนนี้กลับถูกดึงออกมาให้ได้หวนคิด

   “คนนั้นชื่อมณี”


   “ชื่อแลกจังเลยฮะ มันแปลว่าอะไรเหรอฮะ”

   “มณีเป็นสิ่งของเล็กๆที่มีค่ามากมาก”

   “งั้นแสดงว่าใครๆก็อยากได้ใช่ม๊า มณี มณี ชื่อแปลกจัง”เจ้าตัวยิ้ม


   “อืม ใครใครก็อยากได้”อเลนพูดตอบเสียงเบา

   ใครใครก็อยากจะได้มณีไปครอบครอง ตัวเขาเองก็เช่นกัน

   “แล้วเขาเป็นอะไรกับแดดดี๊เหรอฮะ เขายิ้มให้ด้วย”อลันถามยิ้มแป้นก้มมองดูผู้ชายในรูปหันมายิ้มกว้างให้กล้อง

   “เขาเคยเป็นคนที่แดดดี๊รัก”

   “ว๊าว อลันอยากเจอเขา แดดดี๊พอไปหน่อยได้ไหมฮะ ไกลมากเหรอฮะ ไกลแค่ไหน อลันอยากไป แล้วทำไมแดดดี๊ถึงไป

ได้ล่ะฮะ ว๊า อลันอยากเจอมณีจัง”อลันพอได้ยินดังนั้นก็กระโดดไปมา

   ไม่สนใจอเลนที่นั่งนิ่งมองดูรูปถ่ายใบเก่าในมือ

   คิดถึง….

   อยากเจอ แต่ก็กลัวคนคนนั้น ไม่อยากเข้าใกล้คนคนนั้นอีก

   กลัวว่าคนคนนั้นจะแย่งอลันไป



==================================================================


อลันเป็นเด็กพูดมาก อายุน้อยกว่า สิน สุด มีนา หนึ่งปี เพราะเกิดทีหลัง ไม่มาม่านะ พ่อแง่แม่งอนพอ เดี๋ยวจิเครียดกัน
แล้วธาร่าจะได้กินไหม555 ธาร่านี่ร้ายนะ จ้องจะกินอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 08/02 [CH 2] หลุมพลาง
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 08-02-2016 18:13:49
รอ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 08/02 [CH 2] หลุมพลาง
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 08-02-2016 18:51:10
ธารา ธาร่า ไม่ต้องรอคืนวันพระจันทร์เต็มดวงแล้วใช่มั้ยอ่ะ ๕๕๕
   รอ รออ่านตอนต่อไปนะคับ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 08/02 [CH 2] หลุมพลาง
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 08-02-2016 20:25:59
พี่ธาราาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
เปลี่ยนเป็นธาร่าเเล้วว :katai5:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 08/02 [CH 2] หลุมพลาง
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 11-02-2016 18:34:49
นังธาร่านี่หื่นชะมัด 5555
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 08/02 [CH 2] หลุมพลาง
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 11-02-2016 18:53:25
พี่ธาราเวอร์ชั่นนี้ หื่นโหด แอร้ยย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 08/02 [CH 2] หลุมพลาง
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 11-02-2016 20:30:01
ตั้งแต่ภาคแรกธารารักมณีมากจนยอมสละชีวิตตัวเอง มณีเสียธาราไปเพราะความไม่เชื่อใจเป็นบทเรียนให้จนจำไปจนตายนะมณี

เริ่มภาคสอง ธาราหื่นไม่รู้เวลาเลยเจอเป็นจูบ เจอเป็นกด :hao6:
อยากให้หมอทศเจออเลนกันอลันเร็วๆ หมอทศจะง้อยังไงนะ
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 08/02 [CH 2] หลุมพลาง
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 12-02-2016 14:20:08
ธาร่านี่ต้องให้ สินกะสุดมาปราบ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 13/02 [CH 3] กลับบ้านเรา
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 12-02-2016 18:18:24
ทวงครั้งที่ 3 กลับบ้านเรา


   แสงแดดที่ลอดเข้ามาผ่านหน้าต่างทำให้ผมกระพริบตาถี่ๆไล่อาการมึนงง

   อาการปวดหัวอย่างรุนแรงเข้ามาแทรกแทนทีทำเอาต้องยกมือขึ้นมากุมหัว มันเกิดอะไรขึ้นผมก็ยังไม่แน่ใจว่าทำไมถึงได้
มาตกอยู่ในสภาพแบบนี้

   พอย้อนความคิดกลับไปก็นึกขึ้นได้ว่าอยู่กับพี่ธาราแล้วทำข้อตกลงอะไรกันไว้

   ข้อตกลงที่ว่าพี่ธาราจะยอมกลับไปกับผม…

   พอคิดได้ดังนั้นผมก็รีบลุกขึ้นมานั่ง สิ่งแรกที่สำผัสได้คือความเย็นวาบเข้ามาปะทะร่างกายทันที

   เอาอีกแล้ว…

   อีกแล้วที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ผมก้มลงมองตัวเองแล้วก็ต้องตกใจ

   รอยจูบปรากฏอยู่ทั่วลำตัว แทบจะไม่เว้นที่เหลือ

   พอคิดได้ดังนั้นก็หันไปมองหาใครอีกคนแล้วยกผ้าห่มขึ้นมาปิดร่างกาย ช่องทางด้านหลังไม่ได้รู้สึกถึงขั้นเจ็บ แต่มันก็รู้สึก
ขัดเล็กๆทำให้เบิกตากว้างพร้อมกับมองใครอีกคนที่นั่งอยู่มุมห้องท่าทางหงุดหงิดใจ

   “พะ พี่ธารา เมื่อคืน”ผมอ้ำอึ้งหน้าร้อนผ่าว อย่างบอกนะว่าเมื่อคืนผมเมาแล้วก็ฟิทเจอริ่งกัน

   เป็นไปไม่ได้ อุตส่าห์คิดว่าจะไม่ยอมจนกว่าพี่ธาราจะจำได้แท้ๆ สุดท้ายก็โดนจนได้

   “ตื่นแล้วก็ดี นั่นชามานาวกินซะ จะได้สร่าง”เขาพยักหน้ามาที่แก้วที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง

   “แล้ว เอ่อ เสื้อผ้าผมล่ะ”

   “เสื้อผ้านายฉันทิ้งไปหมดแล้ว”พี่ธาราตอบท่าทางหงุดหงิด

   ใครกันที่ต้องหงุดหงิด เป็นผมไม่ใช่รึไงที่โดนพี่ยิงประตูไปเมื่อคืน

   “พี่ทิ้งเสื้อผ้าผมได้ไง แล้วผมจะใส่อะไร”

   “ถึงไม่ทิ้งนายก็เอามันมาใส่ไม่ได้อยู่ดี ถ้าตื่นก็อาบน้ำกลับบ้านไปซะ ฉันไม่มีเวลามานั่งเฝ้านาย”

   “มะ หมายความว่าไง นั่นพี่จะไปไหน เดี๋ยวก่อน แล้วเสื้อผ้าผมล่ะ ผมจะใส่อะไร”ผมเรียกเอาไว้ก่อนที่เขาจะเดินออกไป
จากห้อง

   “นายนี่นอกจากฉันจะไม่ได้อะไรแล้ว ยังต้องตามล้างตามเช็ดอ้วกให้นายทั้งคืน ไหนจะต้องคอยจับไม่ให้นอนดิ้น ถ้ารู้ว่ามัน
ยากเย็นขนาดนี้ฉันคงจะไม่หวังอะไรจากนาย”พี่ธาราเดินเข้ามาใกล้ มือหนากับใบหน้าของผมให้เงยขึ้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้

   “อะ อะไรกัน ก็พี่gองไม่ใช่รึไงที่ให้ผมกิน ผมไม่ได้ขอสักหน่อย”

   “หึ ช่างมันเถอะ ฉันไปล่ะ”พี่ธาราผละออกไป

   “เดี๋ยวสิ”ผมรั้งแขนเอาไว้

   ทำให้ผ้าห่มที่ถูกดึงมาคลุมร่างกายร่นไปกองที่บั้นเอวต่ำลงไปจนเห็นไรขนอ่อนโผล่ออกมา

   “มีอะไรอีกล่ะ”

   “ไหนพี่บอกผมว่าพี่จะไปกับผมไง”

   “ฉันบอกว่าฉันจะไปกับนาย แต่ไม่ได้บอกว่าที่ไหนและเมื่อไร นั่นก็หมายความว่าข้อตกลงของเราลุล่วงไปแล้ว”

   “ขี้โกงนี่”

   “แล้วไง ฉันเองไม่ได้อะไรมาจากนายเลยด้วยซ้ำ แค่คิดก็หงุดหงิดแล้วที่ต้องมานั่งเช็ดล้างให้นาย”

   “ก็บอกแล้วไงว่าพี่ให้ผมกินเอง ผมไม่ได้ขอสักหน่อย”ผมอุบอิบ

   “เฮ้อ คุยกับนายทั้งวันคงไม่ได้อะไร เสื้อผ้าวางอยู่หัวเตียง เอาไปใส่แล้วก็กลับบ้านไปได้แล้ว”

   พี่ธาราชี้ไปที่หัวเตียง ผมหันไปมองเสื้อผ้าที่พับไว้แวบเดียวก่อนจะหันกลับมาจ้องพี่ธาราดังเดิม มือก็ยังคงไม่ปล่อยแขน
จากพี่ธารา



   “ไม่เอา ผมไม่กลับ ยังไงผมจะต้องเอาพี่กลับไปกับผมให้ได้”

   ใช่…ผมต้องเอาพี่ธารากลับไปรักษาให้ได้

   ผมจะต้องทำให้ครอบครัวของเราอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา

   “แล้วทำไมฉันจะต้องกลับไปกับนายล่ะ หืม”พี่ก้าวขึ้นมาบนเตียงแล้วขยับมาใกล้ ทำให้ผมถอยหลังหนีออกมาเล็กน้อย
เพราะใบหน้าที่ยื่นเข้ามาใกล้ แต่ก็ยังไม่ปล่อยแขนของเขา

   “ก็ ผมอยากให้พี่ กลับไปที่บ้านเรา”

   “จริงอยู่ที่นายรู้จักกับธารา แต่ว่ามันไม่ใช่ธาราคนที่อยู่ตรงหน้านาย นายจะทำยังไงล่ะ ถ้าธาราคนที่อยู่ตรงหน้านายไม่อยากกลับไปกับนาย”

   “แต่ผมต้องการให้พี่กลับไป”กลับไปเจอลูกของเรา

   “นายมีอะไรมาแลกล่ะ ข้อเสนอที่พอจะให้ฉันกลับไปยังที่ที่ธาราคนที่นายรู้จักเคยอยู่ไหม เพราะตอนนี้ธาราคนนี้พอใจกับ
สิ่งที่เป็นอยู่และไม่ต้องการจะรู้เรื่องอดีต”

   พี่ธาราตอบกลับมา สิ่งที่ผมได้ยินมันค่อนข้างเป็นประโยคที่ไร้เยื่อใยโดยสิ้นเชิง ราวกับใบมีดที่คมกริบตัดขาดความ
สัมพันธ์ที่เคยมีให้กันก่อนหน้า

   ธาราคนนี้งั้นเหรอ…

   ทำไมถึงได้ใจร้ายและต่างกับพี่ธาราขนาดนี้ พี่ธาราที่อ่อนโยนและคอยเอาใจใส่ทุกคนตลอด

   “โอ้ยยยย!”เร็วกว่าความคิด

   ผมงับลงบนแขนพี่ธาราทันที

   หงุดหงิดที่พี่ธาราพูดเหมือนกับว่าไม่มีอะไรที่ต้องกลับไปหา ทั้งที่ลูกของเรากำลังรออยู่



   “ตื่นขึ้นมาก็ได้เรื่องเลยนะ”พูดจบพี่ธาราก็ผลักผมลงไปบนเตียงแล้วขึ้นคร่อม

   แขนทั้งสองข้างกดไหล่ของผมเอาไว้ราวกับว่าจะไม่ให้ผมหนี

   ผมเบิกตากว้างเมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวฉกจูบลงมาอย่างรวดเร็ว มันบดขยี้ลงมาอย่างรุนแรงรากับเป็นการแก้แค้นในสิ่งที่ผม
ทำไปเมื่อครู่

   

   “เพราะนาย…เพราะนายแตกต่างจากคนอื่น ฉันจึงต้องการที่จะได้ตัวนาย”เขาปละจูบออกไปแล้วพูดขึ้นมาเสียงเรียบ
ดวงตาสีดำสนิทนิ่งเฉยกำลังซ่อนความสับสนเอาไว้ “ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะคนไหน ก็ไม่ถูกใจ มีแค่นาย แค่นายที่ฉันเพียง
แค่มองก็ทำให้รู้สึกว่าอยากจะครอบครอบครอง”

   เขาพูดออกมา ทำให้ผมหยุดนิ่ง

   ผมไม่รู้ว่าพี่ธาราพูดถึงอะไร แต่สำหรับผมแล้ว ความหมายมันคงจะเหมือนกัน

   แค่พี่ธาราเท่านั้น คนเดียวที่ผมต้องการ

   อยากให้พี่ธารากลับไป กลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเก่า กลับไปหาลูกของเรา

   “ผมไม่รู้ว่าพี่พูดถึงอะไร ผมไม่สนว่าพี่จะจำได้หรือไม่ได้ ผมรู้ว่าพี่คือพี่ธารา ยังไงผมก็จะเอาพี่กลับไปกับผมให้ได้”

   “หึหึ นั้นสินะ งั้นนายก็ลองแสดงให้ฉันดูหน่อยสิ ว่าจะทำยังไงให้ฉันกลับไปกับนาย”คราวนี้ดวงตาที่นิ่งเฉยกลับมาเจ้าเล่ห์
เหมือนเก่า แล้วลุกออกไปจากตัวของผม

   “ยังไงก็จะพากลับไปให้ได้ คอยดู”

   มันเหมือนกับเป็นการท้าทาย และผมก็รับคำท้า





   ผมตามพี่ธาราลงมายันชั้นล่างที่เป็นผับเมื่อคืนที่ผมมา เจอเข้ากับพี่เคธี่ผู้หญิงที่อยู่หลังเค้าเตอร์กับพี่ธาราเมื่อวาน


   ในระหว่างที่พี่ธารากำลังเก็บของอยู่ในล็อกเกอร์ผมจึงได้รู้ข้อมูลมาคร่าวๆว่าพี่เคธี่แท้จริงแล้วคือสาวประเภทสองซึ่งถ้าไม่
บอกผมไม่รู้เลย

   เขาเป็นเจ้าของผับแห่งนี้ และเป็นคนที่ชวนพี่ธารามาทำงาน

   “ตั้งแต่ธาร่ามาทำงานที่นี่นะ ลูกค้าประจำก็เริ่มมากขึ้น บางคนก็บอกว่าแค่ได้มานั่งมองก็ยังดี พี่นี่ล่ะไม่อยากจะเชื่อ ว่าคน
แบบนี้จะมีอยู่จริงๆ แล้วมณีล่ะ คิดว่าธาร่าเขาหล่อไหมล่ะ”

   “อ่า กะ ก็หล่อครับ”พอถูกถามตรงๆกลับกลายเป็นว่าไม่กล้าตอบ ใครจะหน้าด้านชมว่าสามีตัวเองหล่อล่ะครับ ถึงมันจะจริง
ก็เถอะ

   “แหม หลงเสน่ห์ธาราเขาอีกคนแล้วใช่ไหมล่ะ รู้ไหมว่าโชคดีแค่ไหนที่ธาราเขาถูกใจ ปกติพี่ไม่เห็นจะสนใจใครสักคน”

   “งั้นเหรอครับ แต่ว่า พี่เขาดูเจ้าชู้มาก”พี่ธาราคนนี้ดูเจ้าชู้จนน่ากลัว

   “มันก็แค่รูปลักษณ์ภายนอก ตอนที่พี่ไปเจอเขาสลบอยู่ที่ชายหาด ตอนนั้นเขายังจำอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นานกว่าจะจำ
ชื่อตัวเองได้”พี่เคธี่เล่าให้ฟังพลางยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ

   ทำให้ผมรู้ว่าพี่เคธี่เป็นคนที่ช่วยพี่ธาราแล้วพาพี่ธารามาอาศัยและทำงานอยู่ด้วย

   “งั้น พี่เคธี่ใจดีจังเลยนะครับ”

   “แหมใจดีอะไร ธาร่าเขาก็ช่วยพี่ไว้เยอะเหมือนกัน ตอนแรกจะเจ๊งแหล่ไม่เจ๊งแหล่ ธาร่าเขาช่วยดึงแขกเข้ามาถึงได้มีวันนี้
โอ๊ะ นั่นไง มาแล้ว”พี่เคธี่ชี้ให้ดูพี่ธาราที่เดินออกมาจากหลังร้านเตรียมจะกลับ

   “นั่นพี่จะไปไหนน่ะ”ผมถามทันที เพราะดูท่าเขาจะใช้จังหวะที่ผมเผลอแอบออกไปด้วยซ้ำถ้าไม่ได้พี่เคธี่ช่วยบอกก่อน

   พี่ธาราไม่หันมาตอบแต่ก็เดินออกไป

   “ผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณสำหรับที่นอนนะครับ”ผมหันไปยิ้มให้กับพี่เคธี่ก่อนจะกึ่งวิ่งตามพี่ธาราออกมา

   ทันทีที่ออกมาจากผับแสงอาทิตย์ยามช้าก็แยงตาทำให้ต้องยกมือขึ้นมาบัง

   ผมที่อยู่ในสภาพกางเกงขาสั้นลายดอกที่คาดว่าน่าจะเป็นของพี่เคธี่กับเสื้อยืดเข้ารูปเรียกให้คนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้นเริ่ม
มอง

   แน่นอนเป็นใครจะไม่มอง เดินออกมาจากบาร์เกย์แถมยังใส่กางเกงขาสั้นลายดอกขนาดนี้

   “รอผมบ้างสิ”ผมเร่งฝีเท้าเดินตามมาเดินคู่กับพี่ธาราจนได้

   “นายจะตามฉันมาทำไม หรือว่านายอยากให้ฉันสานต่อจากเรื่องวันนั้นจริงๆ”เขายกยิ้ม แต่ก็ไม่วายมีท่าทีรำคาญ

   “ไม่ใช่สักหน่อย ผมบอกแล้วไงว่าผมจะพาพี่กลับไปกับผมให้ได้”

   “หึหึ ถ้าไม่มีอะไรมาแลก ฉันก็ไม่ไปกับนายหรอกนะ”

   “แล้วพี่อยากได้อะไรล่ะ”

   ผมถามออกไปทำให้พี่ธาราชะงัก จนผมต้องหยุดเดินอีกคน

   “แล้วถ้าบอกไป นายจะกล้าให้รึเปล่าล่ะ”

   พี่ธาราโน้มหน้าลงมาจนเกือบจะชิด จมูกโด่งถูกลงบนแก้มของผมเบาๆทำเอาสะดุ้งเฮือก อดไม่ได้ที่จะหลบตาเจ้าเล่ห์ที่
จ้องมาในระยะประชิด

   คนที่ผ่านไปมาเริ่มมอง ถึงพี่ธาราจะไม่บอกว่าต้องการอะไร แต่ผมก็คิดว่าผมรู้แล้วล่ะว่าพี่ธาราคนนี้ต้องการอะไร

   “มะ ไม่”ผมส่ายหน้าเบาเบา

   “งั้นนายก็หลับไปเถอะ ฉันไม่ชอบบังคับใคร”พี่ธาราผละออกแล้วเดินต่อ

   “ผมก็บอกแล้วไงว่ายังไงผมจะพาพี่กลับไปให้ได้”

   “นายนี่ท่าจะดื้อน่าดู ไม่เข้าใจว่าฉันคนก่อนทนอยู่กับนายได้ไง”

   “ก็ทนได้แล้วกันน่า ถ้าพี่ธาราคนนี้ทนไม่ได้ก็แสดงว่าแพ้พี่ธาราคนก่อนใช่ไหมล่ะ”ผมยิ้มมุมปาก

   “หึ คิดว่าพูดแบบนี้แล้วฉันจะเจ็บใจรึไง ถ้านายไม่ให้อะไรที่ฉันต้องการก็กลับไปได้แล้ว จะมาเดินตามฉันทำไม”

   “ก็ผมจะเดินตาม ไล่ยังไงก็ไม่ไปเด็ดขาด”

   “เฮ้อ เหนื่อยแทนธาราคนก่อนจริงๆ”เขาถอนหายใจ

   ตอนนี้เราเดินเข้ามาที่ตลาดเช้า กลิ่นของอาหารมากมายลอยเข้ามาในจมูกทำเอาท้องร้องดังโครกคราก กลืนน้ำลายคงคอ
ไปอึกใหญ่

   พี่ธาราหยุดลงที่ร้านโจ๊กเกือบจะลึกสุดของตลาด

   กลายเป็นผมเองที่ต้องเชิญตัวเองให้นั่งลงตรงข้ามพี่ธาราเรียกให้พี่ธาราต้องเลิกคิ้วมอง

   ถึงพี่ธาราจะไม่เต็มใจกลับไป แต่ยังไงผมก็จะเอาพี่ธารากลับไปให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม

   “ถามจริง จะตามไปถึงไหน”

   “ก็จนกว่าพี่จะยอมไปกับผม”

   “ตามใจ”เขาถอนหายใจแล้วตักโจ๊กเข้าปาก

   ผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ

   “แล้วของผมล่ะ”

   “ก็สั่งเอาสิ”

   “ใจร้าย ถ้าเป็นพี่ธาราเขาคงจะสั่งให้ผมแล้ว ไม่ต้องมาให้ผมนั่งมองอย่างนี้หรอก”ว่าแล้วผมก็ประชดเล็กๆแล้วหันไปสั่ง
โจ๊กมากินเองบ้าง

   ผมนั่งกินไปมองหน้าพี่ธาราไป กลัวจะคลาดสายตา ความรู้สึกตอนนี้ ไม่อยากให้พี่ธาราหายไปไหนอีกแล้ว

   จนโจ๊กเกลี้ยงชาม พี่ธาราจึงได้จ่ายเงินและลุกขึ้น แน่นอน ผมก็เดินตามเช่นเคย

   ทว่าป้าร้านขายโจ๊กดึงแขนผมเอาไว้ก่อนที่ผมจะได้ออกจากร้านด้วยซ้ำ

   พี่ธาราหันกลับมายกยิ้มเจ้าเล่ห์

   “เดี๋ยวก่อนสิ พี่ธารา พี่ไม่ได้จ่ายให้ผมเหรอ”ผมเรียกเสียงดัง

   “ใครสั่งใครก็จ่ายสิ”เขาหัวเราะ

   “นี่ ไม่มีเงินแล้วจะมาสั่งกินได้ไง แล้วจะเอายังไงเนี่ย ถ้าไม่มีเงินจะแจ้งตำรวจแล้วนะ”กลายเป็นว่าผมโดนป้าเจ้าของร้านดุ
จนหน้าจ๋อย

   มันน่านักไหม กระเป๋าเงินก็ไม่ได้หยิบมาจากบาร์นั่น

   “พี่ธารากลับมาจ่ายให้ผมก่อน อย่ามาเดินหนีผมนะ”ผมเรียกเสียงดังเมื่อป้าเจ้าของร้านหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนจะแจ้ง
ตำรวจ พี่ธาราได้แต่เดินยิ้ม

   ให้ตายเถอะ ชีวิตไม่เคยมีอะไรที่มันรู้สึกแย่ขนาดนี้มาก่อน ทั้งโมโหทั้งเจ็บใจ

   “พี่ธารา กลับมาก่อน ถ้าพี่กลับมาผมจะยอมตามที่พี่ขอก็ได้”

   ได้ผล พี่ธาราชะงักเท้าแล้วหันกลับมายิ้มเจ้าเล่ห์

   เงินแบงค์ยี่สิบสองบถูกยื่นให้ป้าเจ้าของร้าน แต่ไม่วายหันมามองค้อนใส่ผม

   “หึหึ”พี่ธาราหัวเราะในลำคอ

   “ยังจะมาหัวเราะอีก”ผมเบ้หน้า

   ยอมรับเลยว่าโกรธพี่ธารามาก ไม่เคยต้องเสียหน้าขนาดนี้มาก่อน เกือบจะโดนตำรวจจับแล้วไหมล่ะ

   “นายสัญญาแล้วนะ ว่าจะให้สิ่งที่ฉันต้องการ เอานี่คืนไป”พูดจบเขาก็ยื่นกระเป๋าเงินคืนมา

   ผมรับมันคืนมาด้วยสีหน้าประหลาดใจไม่น้อย งั้นที่ผ่านมาแสดงว่ากระเป๋าเงินผมอยู่กับเขามาตลอด

   “ยะ อย่าบอกนะ ว่านี่เป็นแผนของพี่”มันเหมือนกับหลายอย่างถูกวางเอาไว้ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปถามอย่างเจ็บใจ

   “นายก็คิดเอาเองแล้วกัน หมูน้อย”ฝ่ามือใหญ่เอื้อมมาช้อนหน้าผมเบาเบา ก่อนริมฝีปากหยักจะกดจูบลงมาบนหน้าผาก
เรียกให้ผมอายอีกรอบ

   มันไม่จริงใช่ไหม ที่พี่ธาราคนนี้จะทั้งเจ้าเล่ห์และเจ้าแผนการจนคาดไม่ถึงขนาดนี้

   นี่ชีวิตของผมไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้นักหนา

   ผมได้แต่เดินตามยักษ์เจ้าเล่ห์ที่เดินผิวปากนำหน้าไปเรื่อยๆ



   เรามาหยุดอยู่ที่ร้านซ่อมรถมอร์เตอร์ไซไม่ไกลจากตลาดเช้าสักเท่าไร ผมเดินตามพี่ธาราเข้ามาด้วยท่าทางที่มึนงงเพราะ
หลายคนจ้องมาทางผมด้วยความสนใจจนผมนึกเกร็ง

   พี่ธาราเดินเข้าไปคุยกับคนในร้านพักใหญ่ ไม่นานรถมอร์เตอร์ไซต์คันใหญ่ก็ถูกเด็กในร้านจูงออกมา

   “นะ นี่รถพี่เหรอครับ”ผมถามเสียงเบาเมื่อพี่ธาราขึ้นคร่อมมัน

   พี่ธาราในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์เข้ารูปขาดเป็นริ้ว เรือนผมยาวจนถึงกลางหลังถูกมัดขึ้นหลวมๆดูเซ็กซี่กำลังคร่อมรถ
บิ๊กไบท์

   ภาพลักษณ์แตกต่างจากทุกที แต่ทำไมหัวใจผมถึงได้เต้นระรัวแบบนี้กัน

   “จะขึ้นมาไหม หรือจะนอนที่นี่”

   “มะ ไม่ใช่สักหน่อย”ว่าแล้วผมก็ปีนขึ้นไปซ้อนท้าย

   โครงสร้างของรถคันใหญ่ส่งให้ผมเอนโน้มไปข้างหน้า เลี่ยงไม่ได้เลยที่ผมจะโน้มเข้าไปกอดเอวพี่ธาราเอาไว้แล้วแนบ
หน้าลงกับแผ่นหลังกว้าง

   กลิ่นกายของพี่ธารายังคงเดิม ถึงแม้ว่าความทรงจำจะเปลี่ยนไปก็ตาม

   พี่ธาราขับรถมาจอดที่ชายหาดลับตาคน ตรงนี้จะเป็นแนวของโขดหินขึ้นอยู่เรียงรายเต็มไปหมด

   พี่ธาราเดินขึ้นไปนั่งแล้วมองออกไปที่ผืนทะเลกว้าง

   ผมได้แต่เดินตามมานั่งลงข้างๆพี่ธารา

   “จำได้ไหมว่าเราเจอกันครั้งแรกที่ไหน”จู่ๆพี่ธาราก็ถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง หลังจากที่เราเงียบอยู่นาน

   “อืม จำได้”ผมตอบ “เราเจอกันที่ชายหาด คืนนั้นดาวเต็มท้องฟ้า ไม่เหมือนกับตอนนี้”เพราะตอนนี้พระอาทิตย์ขึ้นจนแสง
ของมันบดบังแสงของดวงดาว

   “งั้นเหรอ แล้วนายรู้สึกยังไงที่ฉันจำอะไรเกี่ยวกับนายไม่ได้เลย”

   “ผม”ผมอ้ำอึ้งก่อนจะตอบออกไป “ผมโกรธ โกรธมาก”

   “นั่นสินะ เป็นใครใครก็โกรธ”

   “ใช่ ผมโกรธ แต่ผมไม่ได้โกรธพี่หรอกนะ ผมโกรธตัวเองมากกว่า เพราะต้นเหตุที่ทำให้พี่เป็นแบบนี้ก็เพราะผม”

   ต้นเหตุที่ทำให้พี่ธาราก็สูญเสียความทรงจำทั้งหมดไป

   “ฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่าทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะอะไร แล้วเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ฉันก็อยากจะรู้ว่าฉันคนก่อนหน้าเป็นยังไง แล้ว
เกี่ยวข้องอะไรกับนาย ทำไมนายถึงต้องการให้ฉันกลับไปกับนายขนาดนั้น”

   “เพราะว่ามีคนรอพี่อยู่ยังไงล่ะ ไม่ใช่แค่ผม ยังมีอีกหลายคนที่รอพี่อยู่”

   “รวมถึงยักษ์ตนนั้นด้วยไหม”คงจะหมายถึงคุณหมอทศ

   “ใช่ รวมด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยถูกกับพี่ก็เถอะ”ผมหัวเราะเบาๆ

   นึกถึงตอนที่พี่ธาราชอบต่อว่าหมอทศที่เอาแต่สูบบุหรี่ในตอนที่ผมท้อง



   “ฉันจะกลับไปกับนายก็ได้ แต่มีข้อแม้”พี่ธาราหันมาบอก ใบหน้าเรียบเฉยดูจริงจังทำให้ผมค่อยวางใจขึ้นมา ไม่กลัวว่าจะ
โดนหลอกเหมือนเมื่อคืน

   “ข้อแม้อะไร ถ้าผมให้ได้ ผมก็จะให้”

   “นายจะต้องบอกฉันตามความจริง ทุกอย่างที่ฉันอยากรู้”

   “ครับ ผมสัญญา”ผมพยักหน้า “แค่นี้ใช่ไหมครับ ข้อแม้ของพี่”

   “เปล่า ยังทีอีกอย่าง”เขาบอกแล้วขยับเข้ามาใกล้

   วงแขนแข็งแรงโอบเอวผมเอาไว้ก่อนที่ผมจะขยับถอยหนี

   ผมถูกดึงตัวเข้าไปจนชิด ริมฝีปากหยักคลอเคลียอยู่บนแก้มทำเอาผมเกร็งจนตัวแข็งทื่อ

   ดวงตาที่นิ่งเฉยเมื่อครู่กลับมาพราวระยับอีกครั้ง








   “นายจะต้องยอมให้ฉันกอดเมื่อถึงคืนพระจันทร์เต็มดวง”



==============================================================




   “แดดดี๊ฮะ เราจะไปไหนกันเหรอฮะ”เด็กวัยสามขวบรูปร่างจ้ำม่ำถามขึ้นเมื่อรถกับลังขับอยู่บนถนนเลียบชายฝั่งทะเลให้
ตากลมโตได้มองอย่างตื่นเต้น

   “เราจะไปหาโรงแรมในเมืองกันครับ”อเลนหันมาตอบลูกชายก่อนจะหันกลับมองมองถนนเบื้องหน้า

   สามปีกับการทุ่มเทเวลาเพื่อจะเรียนรู้งานในฟาร์มนม เป็นหนึ่งใจธุรกิจของครอบครัว ก่อนจะแปรรูปเป็นชีสก้อนออกสู่ท้อง
ตลาด

   เทคนิคและความรู้ทั้งหมดถูกศึกษาจนครบถ้วนไม่ขาดหาย ขั้นตอนต่อไปคือการการเรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตชีสจากแม่

   หนึ่งสามเดือนเวลาแห่งการพักผ่อนก่อนจะถึงฤดูการแข่งกินชีสที่โด่งดังในแถบนั้น

   เวลาที่เป็นเหมือนกับสิ่งของล้ำค่า ความคิดถึง ความโหยหา บวกกับคำพูดรบเร้าของอลันทำให้อดไม่ได้ที่จะต้องกลับมาที่
นี่อีกครั้ง


   ขอแค่เพียงอย่าได้พบเจอกับคนคนนั้นเลย

   อเลนขับรถมาจอดที่โรงแรมแล้วจัดการเช็คอิน เขาตั้งใจจะติดต่อกับมณีเมื่อมีเวลาว่างจากการเก็บสำภาระให้เข้าที่

   “แดดดี๊ฮะ อยากเล่นน้ำ”

   “อลันไม่นอนเหรอครับ เพิ่งจะมาถึงเอง”

   “อลันนอนเยอะแล้วฮะ อยากไปที่เดียวกะในรูป”คงจะพูดถึงรูปถ่ายที่เคยให้ดู   

   “ถ้าอยากไปเร็วๆอลันจะต้องช่วยกันเก็บของก่อนนะครับ”

   “โอเค อลันช่วยแดดดี๊ฮะ อลันอยากเจอมณีไวไว”อลันเงยหน้าขึ้นมายิ้มอวดแก้มแดงปลั่ง

   “แดดดี๊ก็อยากเจอมณีเหมือนกัน”

   อยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายยังสบายดีไหม ร่าเริงเหมือนเดิมรึเปล่า อยากจะเจอไวไวเหมือนกัน

   

===================================================================


ตอนหน้าครอบครัวมาเจอกันแล้ว ฮี๊ววววววว ดีใจ ไม่เน้นมาม่า เน้นรักใสใส หัวใจพองโต จะเอาลูกยักษ์ลูกเงือกมายึดบทเด่นๆให้หมดรุ่นพ่อๆพับเก็บใส่กล่อง 555 ก็ไม่ขนาดน๊านนนนน จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อลูกยักษ์เจอกับพ่อยักษ์ จะดื้อขนาดไหน เฮ้อ รอตอนหน้าเด้อ อย่าเพิ่งไปไหนนะ เพ่ยังแต่ไม่จบ รอกันก่อน


หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 13/02 [CH 3] กลับบ้านเรา
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 12-02-2016 18:58:49
ธารากะจะปั้มน้องกันตั้งแต่ยังจำความไม่ได้เลย หื่นนนนนนนน  :o8:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 13/02 [CH 3] กลับบ้านเรา
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 12-02-2016 19:45:20
ถ้ามีอะไรกันคืนพระจันทร์เต็มดวงไม่แน่ความทรงจำของธาราอาจจะกลับมาก็ได้
ดีไม่ดีได้ลูกแถมมาอีกคน5555
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 13/02 [CH 3] กลับบ้านเรา
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 12-02-2016 20:31:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 13/02 [CH 3] กลับบ้านเรา
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 13-02-2016 09:15:36
ดัน
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 13/02 [CH 3] กลับบ้านเรา
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 13-02-2016 11:33:44
หื่นจริงงงงงงธาราคนเนี้ย
มณีสู้ๆ พี่ธาราคนเดิมต่องกลับมาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 13/02 [CH 3] กลับบ้านเรา
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 13-02-2016 12:07:42
ม. ม้า มุ้งมิ้ง, ย. ยักษ์ หื่นจัง, ร. เรือ รอนิยาย, ล.ลิง ลูกยักษ์ลูกเงือก
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 13/02 [CH 3] กลับบ้านเรา
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 13-02-2016 13:48:53
สงสัยเร็วๆนี้คงได้ลูกแน่ๆ 5555
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค 2] 13/02 [CH 3] กลับบ้านเรา
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 18-02-2016 10:31:10
เรื่องน่ารักมากเลย รอวันพี่ธาราจำน้องมณีได้ อเลนอลันเจอทศกัณฐ์ ตอนหวานๆของศรีสุวรรณชลาสินธุ์ และให้อาวสินตบะแตกใส่วาลี รุ่นลูกด้วย เพิ่งอ่านก็โลภมากแล้ว ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 18/02 [CH4] ยักษ์เล็กกัดยักษ์ใหญ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 18-02-2016 15:34:13
ทวงครั้งที่ 4 ยักเล็กกัดยักใหญ่


   “วันนี้แขก หากไม่จำเป็นคิดว่าเจ้าคงอยากจะอยู่แต่ในห้อง”

   ประโยคไม่มากความพูดขึ้นในขณะที่ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งวัยสามสิบกำลังสาละวนกับการล้างจาน

   สามปีแล้ว….

   สามปีจากหยิ่งทระนงเป็นเคยชิน

   เคยชินกับการต้องทำอะไรเอง เคยชินกับการรับคำสั่ง

   “คุณมาบอกผมทำไม…แล้วอีกอย่าง ไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้คุณสนใจจะพูดอย่างอื่นนอกจากออกคำสั่งด้วย”

   ประชดประชันทุกครั้งที่พูดคุยเช่นเคย

   ยักษ์สูงวัยยิ้มมุมปาก วาลีไม่เพียงแต่ประชดประชัน ครั้งนี้โต้ตอบทั้งที่ยืนหันหลังให้ด้วยซ้ำ

   แต่ก็ดีแล้วที่เจ้ามนุษย์นี่วางทีท่าความหวาดกลัวต่อเขาลง

   สามปีที่อยู่ร่วมชายคา มันยาวนานพอที่จะทำให้คนอย่างวาลีค่อยๆเริ่มเปลี่ยนแลงไปโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว



   ช่วงสายของวันว่างเว้นจากการทำงานบ้านที่มีมากจนคาดไม่ถึง การดูแลบ้านหลังใหญ่คนเดียวไม่ใช่เรื่องง่าย

   บ้านที่ใหญ่โตมโหฬารแต่กลับมีคนอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ไม่อยากจะคิดว่าก่อนหน้านั้นคนคนนี้อยู่คนเดียวมาได้ยังไง

   เมื่อมีเวลาว่างเขามักจะไปที่ห้องหนังสือและขลุกอยู่กับมันเสมอ หนังสือเป็นสิ่งเดียวที่รัก เป็นสิ่งเดียวที่ซื่อตรงต่อเขามาก
ที่สุด

   ซื่อตรงมากกว่าใจของเขาเอง เพียงแค่กระดาษไม่กี่แผ่นมารวมกัน แต่สามารถทำให้รับรู้ถึงโลกกว้างที่ไม่อาจสัมผัสได้

   สามปีที่ผ่านมาอาการป่วยของเขาทุเลาลงไปมาก ร่างกายจากที่รู้สึกอ่อนแรงอยู่ทุกเวลาตอนนี้กลับกลายเป็นไม่รู้สึก
เหนื่อยอะไร

   หรืออาจจะเป็นเพราะทำงานหนักทุกวัน ร่างกายมันเลยเคยชินไปเอง

   ดวงตาคมนิ่งไล่มองตามพื้นหินอ่อนขณะเดินยังห้องหนังสือที่อยู่ด้านในสุดของตัวบ้าน

   เป็นห้องกระจกขนาดใหญ่สามารถมองเห็นด้านข้างของตัวเกาะได้อย่างชัดเจน

   ในระหว่างที่กำลังย่ำเท้าบนพื้นที่ถูกจนสะอาดเอี่ยมด้วยน้ำมือตัวเอง

   หูก็พลันได้ยินเสียงแว่วคุยกันในห้องรับแขก อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองด้วยความสนใจ

   นึกขึ้นได้ว่ายักษ์เจ้านาย? นั่นบอกว่าวันนี้มีแขก

   แล้วแขกที่ว่าเป็นมนุษย์หรือยักษ์ หรือว่าตัวอะไร

   ทั้งอยากรู้อยากเห็น แล้วก็เกิดความคิดอะไรบางอย่างแวบมา

   บางทีโชคอาจจะเข้าข้างเขาบ้างแล้วก็ได้

   ชายหนุ่มเงยหน้ามองไปยังชายหนุ่มดูท่าทางอายุราวๆเดียวกับเขากำลังนั่งคุยกับวสินอยู่

   เขาหยุดยืนอยู่หน้าห้องเป็นจังหวะเดียวกับทั้งสองหันมามองทางเขาพร้อมๆกัน

   อาจจะเป็นเพราะกลิ่นกายของเขาก็เป็นได้ ที่ต่างจากพวกนี้

   “ไม่ยักรู้ว่าท่านลุงมีสมาชิกใหม่”แขกผู้มาเยือนยกยิ้มมุมปาก

   กลิ่นมนุษย์ทำให้เขานึกพอใจ

   “นั่นวาลี เขาอยู่ที่นี่มาสักพักแล้ว”วสินตอบแสดงท่าทีนิ่งเฉยต่อยักษ์เยาว์วัยกว่า

   “นี่นนทรีเป็นลูกของเพื่อนข้า”

   วาลีไม่ตอบ แค่พยักหน้า

   คงจะเป็นยักษ์ไม่ต่างกัน เดาเอาจากคำพูดที่เหมือนกับย้อนยุค

   “คิดว่าท่านชอบอยู่คนเดียวเสียอีกท่านลุง”

   “เรื่องมันยาว ว่าแต่พ่อของเจ้าสบายดีหรือไม่”

   “พ่อข้าสบายดีครับท่านลุง อันที่จริงตอนนี้ข้ากำลังสนใจเรื่องที่มีมนุษย์มาอยู่บนเกาะนี้มากกว่า ข้าค่อนข้างประหลาดใจ
เลยก็ว่าได้”

   อีกฝ่ายพูดขึ้นมา วาลีไม่สนใจฟังคำสนทนาของทั้งสองสักเท่าไร ยังไงก็คงไม่เกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว

   ชายหนุ่มหันหลังกลับเตรียมจะเดินออกมา

   ทว่าข้อมือก็ถูกรั้งเอาไว้ดึงให้หันกลับไปมอง แขกผู้มาเยือนอยู่ในระยะประชิด!!

   ไม่ทันตั้งตัวเสียงทุ้มดูน่าขนลุกก็พูดขึ้นมาทำให้รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว

   “เดี๋ยวสิครับ อยู่คุยกันก่อนสิ บ้านนี้มีสมาชิกใหม่ทั้งที ข้าจะไม่ทำความรู้จักได้อย่างไรกัน”

   ข้อมือที่ถูกกำเอาไว้บีบแน่นจนรู้สึกเจ็บขึ้นมาเล็กๆ



   “ข้าคิดว่าเขาสิ่งที่จำเป็นต้องทำอีกมาก”น้ำเสียงเรียบนิ่งขัดขึ้นมาพร้อมกับมือใหญ่วางลงที่มือของนนทรีอีกที

   ยักษ์หนุ่มกว่าเหลือบตามมองก่อนจะยอมปล่อยแต่โดยดี

   เหยื่อนี่มีเจ้าของแล้วสินะ….

   แต่ยิ่งยากมันก็ยิ่งสนุก….

   แขกผู้มาเยือนไหวไหล่ก่อนเดินกลับไปนั่งที่เดิม





   “กลับห้องเจ้าไปซะ”น้ำเสียงเตือนเริ่มแข็งกร้าว

   ยักษ์เจ้าบ้านไม่พอใจ ทั้งที่เตือนแล้วแต่วาลีกลับไม่ฟัง อีกทั้งยังไม่ระวังตัวอีก

   “คุณไม่มีสิทธิมาสั่ง”วาลีพูดสั้นๆอย่างเจ็บใจก่อนจะเดินหนี

   พวกยักษ์ก็ทุเรศเหมือนกันหมด!!

   เอาแต่ใจคิดว่าคนอื่นเป็นสิ่งของ

   วาลีเดินเข้ามาในห้องหนังสือก่อนจะหยิบหนังสือบนชั้นออกมา

   ไม่สนใจด้วยซ้ำว่ามันจะเป็นเล่มไหน เคยอ่านซ้ำมากี่รอบแล้วก็ตาม

   ตอนนี้เขากำลังคิด….

   หนทางที่จะออกไปจากที่นี่….

   



===================================================================





      “แดดดี๊ฮะ อยากเล่นน้ำ”อลันพูดเสียงเขื้อยแจ้วในขณะที่กำลังขี่หลังของอเลนอยู่

   แขนป้อมๆโอบรอบคอเอลนแน่น ใบหน้าก็ชะเง้อมองทะเลยามเย็นที่ต้องแสงแดดสีส้มอ่อน

   “พรุ่งนี้ค่อยเล่นนะครับ ตอนนี้เย็นแล้ว เดี๋ยวเราไปหาอะไรอร่อยๆกินดีกว่า”

   อเลนเดินย่ำเท้าเปลือยเตะทรายไปเรื่อยๆ

   กลิ่นอายทะเลที่คุ้นเคย

   จำได้ว่าเจอกับรุ่นน้องที่นี่ ครั้งแรกที่เจอ จำได้ดีว่าหัวใจเต้นแรงแค่ไหน

   เสียงเจื้อยแจ้วของลูกชายยังคงดังเรื่อยๆพร้อมกับเจ้าตัวที่อยู่ไม่สุกคอยชี้นั่นชี้นี่ไปเรื่อยเปื่อย

   เขาตั้งใจจะเดินไปกินข้าวต้มทะเล ร้านที่เคยไปกินกับมณีเมื่อครั้งที่ยังเคยอยู่ที่นี่

   เสียดายที่ติดต่อไปยังบ้านของมณี แต่ได้คำตอบกลับมาว่าอีกฝ่ายไม่อยู่จะกลับเมื่อไรยังไม่รู้

   ไม่อย่างนั้นคงจะได้ออกมากินด้วยกัน

   “อยากเจอมณีเร็วๆจัง”อลันพูดก่อนจะซบลงบนหลังของคนแบก

   คงจะพูดจนเหนื่อย ถึงได้เงียบไปแล้ว

   “แดดดี๊ก็อยากเจอครับ”

   อเลนเดินเตะทรายไปเรื่อยๆ

   ลูกชายที่อยู่ด้านหลังปล่อยมือที่กอดคอเปลี่ยนมาจับแค่เสื้อซบหลังพลางพึมพำเพลงที่เขาเคยสอนตามปกติ

   บรรยากาศในตอนเย็นค่อนข้างเงียบสงัด หาดตรงช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครมาเดินสักเท่าไร เพราะไม่ค่อยมีร้านค้าหรือสิ่งอำนวย
ความสะดวก

   ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงไปทุกที ดวงตาคมนิ่งมองทรายที่ถูกเท้าเตะกระเดินไปเรื่อยๆ

   ไม่ได้มองไปยังด้นหน้า…เพราะมี่จุดหมายที่จะมองหา

   อเลนเดินเตะทราย ไกลพอดูที่เดินมาจากหาดหน้าโรงแรม


   มีเพียงผืนทรายและผืนทรายที่อยู่ในสายตา

   ทว่า ร่างโปร่งบางก็สะดุดกึกเมื่อเบื้องหน้ามองเห็นเท้าคู่หนึ่งขวางเอาไว้

   อเลนเบี่ยงไปทางซ้ายเพื่อจะหลบทาง

   แต่เท้าที่เจ้ากรรมที่ขวางเอาไว้ก็กลับมาขวางหน้าเช่นเดิมทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง

   “คะ คุณ”

   อเลนพึมพำเสียงเบา ดวงตาคมเบิกกว้างด้วยความตกใจ

   ทั้งที่คิดว่าจะไม่เจอกันแล้วแท้ๆ แต่ทำถึงได้….

   อเลนถอยหลังไปครึ่งก้าวตามสัญชาติญาณ ใบหน้าคมดุมองมาที่เข้าด้วยสีหน้าไม่พอใจสักเท่าไร

   กลิ่นบุหรี่ที่ติดกายอีกฝ่ายมาอย่างคุ้นเคยทำให้หัวใจเต้นแรง

   จะให้เจออลันไม่ได้…

   อเลนถอยหลัง มือของอลันที่กำอยู่ข้างหลังจู่ๆก็กำเสื้อแน่นค่อยๆสั่นขึ้นมาเล็กๆ

   “อย่าเข้ามานะ”เป็นอเลนที่เปิดปากพูดก่อน

   กลัว…กลัวเหลือเกินว่าทศกัณฐ์จะเห็นอลัน

   กลัวว่าทศกัณฐ์จะมาเอาอลันไป

   “บะ บอกว่าอย่าเข้ามาไง”

   อเลนพูดดังขึ้น แต่น้ำเสียงกลับสั่น อลันที่อยู่ข้างหลังเริ่มกำเสื้อแน่นขึ้น

   อลันกำลังสั่น…

   “นายหายไปไหนมา”ทศกัณฐ์ย่างเท้าเข้ามาใกล้ เอื้อมมือเข้าไปหาหวังแตะต้องคนที่อยู่ตรงหน้าเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่ตนเห็น
นั้นไม่ใช่ภาพลวงตา

   ทว่ามือใหญ่กลับถูกปัดออกอย่างใยดี

   อเลนถอยหลังหนี ใช้ตัวบังเอาร่างเล็กที่อยู่บนเป้สะพายข้างหลังเอาไว้

   “อย่าหนี”เพียงคำพูดสั้นๆ ชั่วพริบตาร่างสูงใหญ่ดูน่าหวาดกลัวก็ก้าวเข้ามาประชิด

   รวดเร็วจนแขนข้างหนึ่งถูกดึงทำให้เกือบจะเซเข้าไปหา

   ทว่า

   กึก

   แขนของหมอยักษ์อย่างทศกัณฐ์มีเลือดซึมออกมาทันที

   อเลนเบิกตากว้างเมื่ออลันดึงแขนของทศกัณฐ์ไปกัด

   “อย่ามายุ่งกับแดดดี๊นะ”

   เสียงเล็กๆพูดขึ้นมา แล้วจ้องหน้าทศกัณฐ์อย่างโกรธเคือง

   คมเคี้ยวเล็กๆกัดเข้าหากันทั้งที่ตัวสั่นเพราะกลัวไม่ต่างจากอเลน

   อเลนมองภาพนั้นอย่างตกใจ เขาเบี่ยงหลบดึงอลันมาซ่อนวด้านหลังทันที

   แต่ไม่ทันแล้ว ทศกัณฐ์เห็นอลันไปแล้ว



   “แดดดี๊ คนนี้ไม่เหมือนแดดดี๊”อลันรีบบอกแล้วจ้องไปยังอีกฝ่ายเขม็ง

   ทศกัณฐ์นิ่งอึ้ง เสี้ยววินาทีที่เห็นคมเขี้ยวเล็กๆนั่นก็ทำให้รู้ได้ทันที

   เด็กคนนั้นเป็นยักษ์

   เด็กคนนั้นเป็นลูกของเขา!!!

   “กลับกันเถอะอลัน”

   อเลนปลดสายเป้ออกแล้วอุ้มให้อลันมาอยู่ด้านหน้าแทน

   น่าแปลกที่ทศกัณฐ์ไม่คิดจะตามอีกฝ่ายไป

   อาจเป็นเพราะว่า…เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าตัวเองมีลูกกับอเลน

      



ใครที่รอท่านอาวสินตะบะแตก ก็ ใกล้ละ
มาแค่นี้ก่อน งานบ้านเยอะมากกก ตอนหน้าสัญญาว่าว่าขุ่นพ่อธาราเจอสองแสบแน่นอน
คาแรคเตอร์ของอลันจะเหมือนอเลน ตรงที่เอาแต่ใจ ขี้กลัวเหมือนกัน ไม่ยอมง่ายๆ ความรู้สึกของอลันในตอนนี้คือ จะปกป้องแดดดี๊เพราะมียักษ์ตัวอื่นเข้ามาใกล้เหมือนจะทำร้าย โดยหารู้ไม่ ว่านั่นล่ะพ่อของเอ็ง 555
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 18/02 [CH4] ยักษ์เล็กกัดยักษ์ใหญ
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 18-02-2016 15:52:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 18/02 [CH4] ยักษ์เล็กกัดยักษ์ใหญ
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-02-2016 15:57:42
จะทำยังไงต่อล่ะทศกัณฐ์
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 18/02 [CH4] ยักษ์เล็กกัดยักษ์ใหญ
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-02-2016 19:09:39
  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 18/02 [CH4] ยักษ์เล็กกัดยักษ์ใหญ
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 18-02-2016 19:11:44
มึนเลยละซิหมอทศ  :laugh: โดนลูกกัดเข้าให้แล้ว
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 18/02 [CH4] ยักษ์เล็กกัดยักษ์ใหญ
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 18-02-2016 20:07:15
เง้อออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 18/02 [CH4] ยักษ์เล็กกัดยักษ์ใหญ
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 18-02-2016 21:21:44
อึ้งดิทศกัณฐ์จะทำยังไงต่อไป ตบะแตกได้แล้วคุณอา 3 ปีแล้วนะปล่อยไว้นานเกิน :ruready
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 18/02 [CH4] ยักษ์เล็กกัดยักษ์ใหญ
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 18-02-2016 21:43:53
อลันต้องปกป้องแม่อเลนนะ คิคิ :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 18/02 [CH4] ยักษ์เล็กกัดยักษ์ใหญ
เริ่มหัวข้อโดย: KoTo_Nat ที่ 19-02-2016 05:21:29
น่าติดตามทุกคู่เลยครับ

จะรอนะครับ ว่าแต่วาลีกับคุณอานี่คู่ไหนในอดีตเหรอครับ

ขอบคุณคร๊าฟฟฟ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 18/02 [CH4] ยักษ์เล็กกัดยักษ์ใหญ
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 19-02-2016 14:49:24
นึกว่า 2 แฝดจะเจอพ่อ เดาผิด
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 18/02 [CH4] ยักษ์เล็กกัดยักษ์ใหญ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 21-02-2016 07:36:09
คุณหมอติดสตั้นไปละ 5555
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 20/02 [CH4.2] ผู้มาเยือนยามวิกาล
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 21-02-2016 17:09:27
ทวงครั้งที่ 4.2



   “เจ้าเองก็รู้ว่านนทรีเหตุใดเจ้าจึงเข้าใกล้นนทรี”

   “ทำไมผมจะต้องบอกเหตุผลกับคุณ”

   จู่ๆก็ถูกดึงให้ออกจากการสนทนาที่นนทรีเป็นฝ่ายเข้ามาชวนคุยกะทันหัน ถูกดึงให้เดินตามออกจนถึงห้องนอนแล้วก็ต่อว่า
กันเหมือนว่าเป็นเรื่องผิด

   “ข้าเตือนเจ้าแล้วหรือไม่ว่าอย่าเข้าใกล้นนทรี”

   “แล้วทำไมผมจะต้องฟังคำสั่งคุณ”

   “นั่นก็เพราะเจ้าอยู่ที่นี่ เจ้าต้องฟังสิ่งที่ข้าสั่ง…ทุกอย่าง”

   ยักษ์สูงวัยเอ่ยด้วยเสียงแข็งกร้าวต่างจากทุกที ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยนิ่งสงบบัดนี้กลับฉายแววไม่พึงพอใจเท่าไรนัก

   กระวนกระวายใจ…คำนี้คงเป็นคำจำกัดความที่สามารถบ่งบอกได้ถึงเวลานี้

   แขกผู้มาเยือนรายนี้ถึงจะเป็นลูกชายของเพื่อน แต่ก็เป็นยักษ์ที่กินมนุษย์ ไม่มีเวลาไหนที่สามารถวางใจได้สักนิดถึงแม้ว่า
จะคอยกันท่าอยู่แทบทุกเวลาก็ตาม

   ขึ้นชื่อว่ามนุษย์จิตใจย่อมรวนเร อีกทั้งเจ้าเล่ห์

   คนมากคามรู้อย่างวาลี แค่เขามองเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าคิดเช่นใดอยู่

   แต่เขาจะยอมให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้

   “จากนี้เจ้าห้ามออกจากห้องนี้เด็ดขาด”

   “นั่นมันไม่มีเหตุผล”

   “ข้าไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผลกับเจ้า”

   สิ้นเสียงยักษ์ บานประตูสีขาวก็ปิดลงขวางกั้นอิสระของชายหนุ่มอีกครั้ง

   ใบหน้าเกลี้ยงเกลาของชายหนุ่มบ่งบอกถึงอารมณ์โกรธเคือง

   ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องคอยกันเขาให้ออกหากจากนนทรี

   อีกแค่นิดเดียวก็จะตีสนิทแล้วหลอกใช้ให้อีกฝ่ายพาหนีได้แล้วแท้ๆ

   คนอย่างวาลี ไม่มีทางยอมรับคำสั่งใครง่ายๆอยู่แล้ว

   วาลีเปิดบานประตูออกอีกครั้ง มองดูด้านนอกทางเดินมองไม่เห็นวสินจึงได้เดินออกมา

   ดวงตานิ่งสนิทมองสอดส่ายหายักษ์วัยเยาว์

   “ดูท่าท่านลุงจะหวงของน่าดู”น้ำเสียงแฝงไปด้วยความขันพูดขึ้นทางด้านหลังเรียกให้หันไปมอง

   “ผมนึกว่าคุณไปจากที่นี่แล้ว”วาลีถอนหายใจ โชคดีที่อีกฝ่ายยังอยู่

   “ก็กำลังจะไป แต่จะกลับไปมือเปล่าก็กระไรอยู่ คิดว่าคงได้ของดีติดไม้ติดมือไปบ้าง”

   นนทรีย่างก้าวเข้ามาใกล้ วาลีถอยหลังไปครึ่งก้าวเพื่อตั้งหลัก

   ยักษ์เบื้องหน้าถึงแม้จะไม่นิ่งสงบหรือดูโหดร้ายเท่าวสิน ทว่าก็คงความเจ้าเล่ห์ไว้ไม่มีลดละ

   “งั้นผมจะขอให้คุณช่วยอะไรบางอย่างได้ไหม”

   “ช่วยอะไรล่ะ หากไม่ยากเกินความสามารถข้าก็ยินดีช่วยท่านนะ วาลี”นนทรียกยิ้มเจ้าเล่ห์

   มือใหญ่เอื้อมมาแตะใบหน้าที่เคยซีดไร้สีเลือดลูบไปมา

   วาลีนิ่งไปชั่วขณะ เขาพยายามกลั่นใจไม่ให้ปัดมืออมนุษย์ออก ตอนนี้อิสระอยู่ใกล้แค่เอื้อม

   “ผมอยากจะ…ไปกับคุณ”

   “หึหึ ได้สิ ข้าจะได้ไม่ต้องลงแรงหากท่านยินดีที่จะยอมไปกับข้าเอง”นนทรีหัวเราะในลำคอ

   “จะให้ไปด้วยจริงใช่ไหม”

   “แน่นอน มาสิ ไปจากที่นี่กัน”

   นนทรีเลื่อนมือไปโอบเอวชายหนุ่ม

   เหยื่ออันโอชะที่สุด ก็คือเหยื่อที่แย่งมาจากผู้อื่น รอยยิ้มร้ายปรากฏโดยที่วาลีไม่อาจเห็นมันเลยสักนิด

   ชายหนุ่มเดินตามไปอย่างกระดากใจ นั่นก็ยักษ์นี่ก็ยักษ์ หากให้เลือกก็คงเลือกอิสระ

   ยังไงก็ไว้วางใจใครไม่ได้อยู่ดี ชายหนุ่มเดินตามมาจนถึงประตูบ้าน อีกแค่ก้าวเดียว ก้าวเดียวเท่านั้นที่จะได้ออกไปจาก
บ้านหลังนี้

   ทว่า แขนก็ถูกดึงเอาไว้ด้วยแรงที่มีไม่น้อย ถูกบีบแขนจนรู้สึกเจ็บเล็กๆแล้วถูกถึงเข้าไปหา

   กลับกลายเป็นว่าแขนทั้งสองข้างถูกยักษ์สองตนต่างฝ่ายต่างยื้อเอาไว้

   “เจ้าจะพาวาลีไปที่ใดกันนนทรี”

   “อา ข้าคิดว่าท่านลุงจะไปภาวนาศีลเสียอีก คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงไม่ใช่หรือ”

   “หากข้าไปข้าคงไม่มาเจอว่าเจ้ากำลังขโมยคนของข้าไป”

   “คนของท่านเต็มใจไปกับข้าต่างหาก”ยักษ์หนุ่มกว่าไหวไหล่ส่งยิ้มเยาะให้

   “จริงตามที่นนทรีพูดหรือไม่ วาลี”ดวงตาคมดุดูนิ่งเฉยกำลังโกรธเกรี้ยว สีตากลายเป็นสีเขียวมรกตวาววับ

   วาลีเบือนหน้าหนี อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นที่จะได้อิสระกลับคืน ถึงแม้ใจมันจะรู้สึกวูบไหวแปลกๆก็ตาม ดวงตาที่ดูน่ากลัวนั่น
มันทำให้เขาไม่กล้าที่จะมองตอบกลับไป

   เมื่อไม่ได้คำตอบแรงบีบที่แขนก็เริ่มมีมากขึ้น หัวใจที่นิ่งสงบมาหลายร้อยปีบัดนี้กลับแข็งกร้าวจนน่าใจหาย

   ความโกรธเกรี้ยวราวกับเวทมนต์ดลบัลดาลให้มันเกิดชั่วพริบตามันกำลังปะทุออกมา

   วสินรู้สึกทั้งโกรธทั้งเจ็บใจที่ราวกับถูกแย่งของรัก คนที่เขาเฝ้าดูแลมาตลอดสามปี

   จู่ๆก็จะถูกแขกผู้มาเยือนแย่ไปง่ายๆ นั่นเป็นสิ่งที่เขายอมรับไม่ได้เด็ดขาด

   “เจ้าควรปล่อยคนของข้าแล้วกลับไปเสียนนทรี”

   “ไม่ ไม่ได้นะ”แทบจะทันทีที่วาลีแย้งออกมา

   อุตส่าห์จะได้ออกไปจากที่นี่แล้ว จะยอมง่ายๆได้ยังไง

   “ปล่อยมือจากวาลีแล้วจงไปซะ”

   “อย่าปล่อย ผมจะไปกับคุณ”

   ดวงตาคมนิ่งจ้องมองนนทรีอย่างเว้าวอน หากแต่ดวงตาสีมรกตสว่างวาบจ้องมองยักษ์วัยเยาว์ทำให้เกิดความกดดันแก่น
นทรี

   นนทรีหลบดวงตาแห่งความโกรธเกรี้ยวก่อนจะปล่อยมือเหยื่ออันโอชะ หากให้เขาสู้ยักษ์สูงวัยกว่าเขาคงแพ้ราบคาบ

   จำต้องปล่อยมือเหยื่อให้กลับคืนเจ้าของ

   “ลาก่อนท่านลุงวสิน”

   

   “เดี๋ยวก่อน ไหนสัญญาว่าจะพาออกไป”วาลีตะโกนไล่หลัง

   แผ่นหลังของนนทรีไกลออกไปทุกที ไกลจนมือเอื้อมไปไม่ถึง อยากจะสะบัดมือที่รั้งเอาไว้ออก แต่ก็สะบัดไม่หลุด ราวกับ
โซ่เส้นใหญ่ที่พันธนาการเอาไว้

   “ข้าบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ว่าอย่าออกมา เจ้านี่ช่างดื้อด้านยิ่งนัก”

   “นั่นมันเรื่องของผม”หันกลับมาตอกกลับทันที

   แต่ดวงตาที่เคยนิ่งสงบนั้นทำให้วาลีชะงัก

   เสี้ยววินาทีที่โมโหจนแทบจะเข้าไปทุบตีอีกฝ่ายให้ได้เจ็บซะบ้าง แขนที่ถูกกุมเอาไว้ก็ถูกดึงเข้าไปหา

   ดวงตานิ่งเฉยกลับเบิกกว้าง

   ริมฝีปากร้อนราวกับเหล็กนาบไฟประกบลงมา

   รวดเร็วและรุนแรง

   ดวงตาสีเขี้ยวเข็มจ้องมองลึกลงมาจนดูน่ากลัว

   เหมือนกับจะถูกมองเข้ามาจนทะลุปรุโปร่ง

   มือผอมได้แต่ผลักไสแผงอกใหญ่ให้ผละออก

   แต่แรงที่มีกลับไม่ทำให้ยักษาสะทกสะท้าน กลับตรึงเอาใบหน้าซีดเผือดให้เงยขึ้นรับจูบที่ลึกล้ำ

   สอดลิ้นเข้ามาจ้วงเอาก้อนเนื้อร้อนข้างในเพื่อที่จะลงโทษให้หลาบจำ

   หัวใจดุจราวหินผาที่แข็งแกร่งบัดนี้ถูกพังทลายลงไปจนแล้วสิ้น



   เพี๊ยะ!!

   “ไอ้ยักษ์โรคจิตเอ้ย”

   ทันทีที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ผ่ามือก็ตบฉาดลงบนหน้ายักษ์หนุ่ม ถึงแม้จะไม่สะทกสะท้านทางร่างกาย

   แต่หัวใจที่พังทลายลงกลับเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว

   วสินได้แต่มองแผ่นหลังของชายหนุ่มเดินทิ้งเท้าขึ้นบันไดไปโดยไม่หันกลับมามอง



================================================================



   “แดดดี๊ฮะ คนนั้น เป็นเหมือนอลัน ทำไมเขาจะมาทำร้ายแดดดี๊ล่ะฮะ”

   อลันถามหลังจากกลับมาถึงโรงแรม

   อเลนรีบปิดประตูแล้วลงกลอนประตูอย่างแน่นหนา หัวใจตอนนี้กำลังสั่นเป็นเจ้าเข้าจนแทบจะควบคุมไม่ไหว

   “เขา เป็นคนใจไม่ดี อลันห้ามใกล้เขาเด็ดขาด”

   “ฮะ อลันไม่ชอบเขา เขาจะทำร้ายแดดดี๊ แล้วเขาเป็นใครเหรอฮะ”

   “เขาเป็นยักษ์ใจร้าย เป็นคนที่แดดดี๊เกลียด”

   “งั้น อลันก็เกลียดเขาเหมือนกับแดดดี๊ฮะ”ใบหน้าขาวเรื่อพยักหน้าหงึกๆขณะนอนกลิ้งไปมาบนเตียง

   อเลนมองลูกชายนอนกลิ้งเกลือกบนเตียงด้วยใจที่สั่นรัว

   กลัวว่าทศกัณฐ์จะมาเอาอลันไป

   ทศกัณฐ์เห็นอลันแล้ว…เขาควรจะทำยังไงดี

   “เดี๋ยววันนี้กินอาหารโรงแรมนะครับ”

   “รับทราบ”เจ้าตัวกลมผิวขาวจัดลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าตะเบะ

   ไม่สังเกตว่าใบหน้าของผู้ให้กำเนิดซีดเผือดแค่ไหน



   คำคืนมาเยือนเร็วกว่าที่คิด อลันนอนหลับสนิทไปแล้ว แต่เอลนไม่มีทีท่าว่าจะวางใจแล้วหลับตานอนได้เลย

   เขากำลังกลัว ยักษ์ใจร้ายอย่างทศกัณฐ์

   เขาจำคืนนั้นได้ไม่มีวันลืม คืนที่ถูกฉีกกระชากหัวใจด้วยน้ำมือของยักษ์ตนนั้น ราวกับปีศาจที่กำลังบ้าคลั่ง

   ร่างกายถูกแทรกเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า คำอ้อนวอนร้องขอกลับไม่มีความหมาย ราวกับอากาศธาตุไร้ค่า ไม่เหลือแม้แต่
เศษเสี้ยวของความรู้สึกดีดีหลงเหลือให้น่าจดจำ มีเพียงความเลวร้ายเท่านั้นที่ยังคงตราตรึงอยู่ในจิตใจตราบจนถึงทุกวันนี้

   นาฬิกาบ่งบอกเวลาล่วงเที่ยงคืนไปมาก ดวงตาคมโตค่อยๆเผลอปิดลงไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

   ร่างสูงใหญ่ย่างก้าวเข้ามาในห้องเงียบเชียบ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศและเสียงหายใจเข้าออกเสมอกัน

   ฝ่ามือใหญ่ทาบลงบนหน้าผากของอเลนอย่างเบามือ

   ร่างสูงโปร่งของอเลนบิดกายเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะนอนนิ่งสงบดังเดิม

   ผู้มาเยือนยามวิกาลเดินผ่านไปยังอีกฟากของเตียง ดวงตาสีอำพันจ้องมองใบหน้ากลมผิวขาวสะอาดราวกับสีของไข่มุกซุก
กายเข้ากับผ้าห่มดูไร้เดียงสา

   

   สายเลือดครึ่งหนึ่งที่ไหลเวียนอยู่ภายในนั่นเป็นสายเลือดของเขา หลังมือหยาบกร้านไล้ลงบนหน้ายักษ์ตัวเล็กอย่างเบามือ

   เวลาสามปีที่หายไป เขาทุ่มเทตามหา แต่ก็ไร้วี่แวว ไม่มีแม้แต่กลิ่นกายหลงเหลืออยู่ในผืนแผ่นดินนี้

   ไม่คิดว่าอเลนจะตั้งท้อง เพราะอีกฝ่ายได้สลบลงก่อนที่พิธีเตรียมการจะเสร็จสิ้นด้วยซ้ำ

   ใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลานี้ได้ผู้เป็นแม่มาเกือบทั้งหมด แม้กระทั่งดวงตาที่ดูก้าวร้าวคู่นั้นที่จ้องมา เหมือนกันราวกับออกมา
จากพิมพ์เดียว

   ทศกัณฐ์เดินกลับมายังอีกฝั่งเตียง ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมองผู้เป็นที่รักนิ่ง

   เขาจะต้องทำให้เจ้าของกายนี้หนีไปจากเขาอีกไม่ได้ ต่อให้ต้องกักขังเอาไว้เหมือนชาติก่อนเขาก็จะทำ

   

   เรือนกายใหญ่ดุจนักรบคงกลิ่นควันบุหรี่เอาไว้เรียกให้เปลือกตาของคนที่หลับไปค่อยๆเปิดออกมา

   ความคุ้นเคยทำให้อดไม่ได้ที่จะต้องลืมตาขึ้นมามอง

   แล้วดวงตาสีดำสนิทก็ต้องกระตุกวูบ ร่างกายใหญ่โตที่ไม่มีวันลืมยืนอยู่ข้างเตียง

   ความตกใจทำให้ผลุดลุกขึ้นมา ทว่าร่ากายก็ราวกับถูกแรงที่มองไม่เห็นกดตรึงเอาไว้กับผื่นเตียง

   อเลนเหลือบตามองอลันด้วยความตระหนก

   “อย่า นะ”

   ได้แต่ออกปากห้ามไม่ให้ทศกัณฐ์แตะต้องสิ่งหวงแหนที่สุดในชีวิต

   “ชู่ววว”ทศกัณฐ์ยกนิ้วขึ้นส่งสัญญาณให้เงียบก่อนที่อลันจะตื่นขึ้นมาเจอ

   ร่างสูงใหญ่เลิกผ้าห่มขึ้นมาก่อนจะสอดตัวเข้าไป โถมกายลงทาบทาบร่างโปร่งบาง

   อเลนตัวแข็งทื่อ ชุดนอนแบบเสื้อเชิ้ตตัวยาวกับกาวเกงชั้นในขาสั้นเป็นตัวเปิดทางชั้นดีให้กับการกระทำที่ล่อแหลม

   “จะ จะทำอะไรของคุณ”

   ส่งเสียงร้องห้ามเมื่อกางเกงชั้นในขาสั้นถูกรูดผ่านข้อเท้าออกไป เรียวขาทั้งสองข้างถูกจับให้ตั้งชัน

   “ถ้าไม่เงียบลูกของเราจะตื่นขึ้นมาเห็นฉันกับนายทำน้องนะ”ทศกัณฐ์ยกยิ้ม ดวงตาสีเหลืองพราวระยับ

   ผิวกายเนียนนุ่มน่าคิดถึงนี้ทำเอาใจของเขาแทบเตลิด แสงจันทร์เหลืองนวลสาดส่องเข้ามาภายในห้องเป็นตัวปลุกกระตุ้น
ความดิบเถื่อนชั้นดีให้ลงมือกระทำสิ่งที่ใจเรียกร้อง

   “ยะ อย่า อื้อ”

   ความโหยหาทำให้ยักษ์หนุ่มแทบจะอดใจไม่ไหว ฉกเอาจูบของอีกฝ่าย ลิ้มรสสิ่งที่ตามหามาตลอดสามปี

   หัวใจที่เคยหนีไปบัดนี้ได้กลับมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ให้ตายก็ไม่ยอมเสียไปอีกเด็ดขาด

   อเลนได้แต่ส่งเสียงห้ามในลำคอ ดวงตาวูบไหวเหลือบมองลูกชาย กลัวว่าอลันจะตื่นขึ้นมาเจอ

   อยากจะขัดขืนใจจะขาด แต่ก็ถูกตรึงเอาไว้ด้วยแรงที่มองไม่เห็น

   มือหยาบกร้านลูบไล้ไปทั่วร่างกาย ชุดนอนถูกเลิกขึ้นจนเห็นแผ่นอกสีแดงเรื่อ

   เม็ดที่แข็งเป็นไตถูกนิ้วสากบดขยี้หยอกล้อให้กระตุกเล็กๆ

   มันน่าเจ็บใจยิ่งกว่าเมื่อร่างกายมันกลับไม่ฟังคำสั่ง ให้คล้อยตามไปกับสัมผัสหยาบโลนที่ถูกยัดเยียด

   “อะ อื้อ ปล่อย”อยากจะต่อว่าให้มากกว่านี้

   อต่ก็กลัวอลันจะตื่นขึ้นมา

   ยิ่งมองเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นก็ยิ่งโกรธมากเข้าไปอีก

   คนอย่างทศกัณฐ์….ดีแต่บังคับ

   ไอ้หมอโรคจิต…

   “ฮะ ฮึก”รู้ตัวอีกที ก็ยากที่จะออกปากห้าม ช่องทางด้านหลังถูกล่วงล้ำเข้ามาด้วยมือที่ช่วยชีวิตผู้อื่นมานักต่อนัก


   ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวนตอนนี้มันกำลังแล่นมารวมกันนอยู่ที่จุดๆเดียว

   ทรมานจนอยากจะดิ้นให้หลุดแล้วทึ้งศีรษะตรงหน้าเอาไว้

   แต่ก็ได้แค่กัดฟันกั้นเสียงเอาไว้ ร่างกายที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระมันน่าโมโหนัก

   ทั้งที่เป็นร่างกายของตัวเอง แต่กลับไม่ฟัง หัวใจมันเต้นระรัว ทั้งกลัว แต่ก็มีความรู้สึกแปลกแทรกข้ามา ความรู้สึกนั้นคือ
อะไรก็ยังไม่เข้าใจ

   ได้แต่ยกมือขึ้นปิดกั้นเสียงน่าอายเอาไว้ด้วยความอ่อนแรง




   กายใหญ่โตแข็งดุจหินผาสอดแทรกเข้ามาให้ผลาเกาะไหล่หนาเอาไว้ กัดฟันลงบนลาดไหล่ด้วยความทรมาน

   มีเพียงน้ำเสียงเล็กๆที่หลุดลอดออกมาจากลำคอยามกายนั้นกระแทกกระทั้นไม่หยุด

   เจ็บใจ แต่ก็รู้สึกดี ราวกับเป็นสิ่งที่ขาดหาย แต่ก็ไม่คิดจะยอมรับ

   อีกฝ่ายโหดร้ายเกินจะยอมรับได้ ไม่มีทางให้อภัยเด็ดขาด

   ไม่มีทาง…





ใครที่เป็นสาวกเอสเอ็ม ตบจูบ ตอนหน้าเตรียมตัว คู่ของวาลีกับอาวสินจัดว่าโหด หุหุ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 20/02 [CH4.2] ผู้มาเยือนยามวิกาล
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 21-02-2016 17:36:42
ตอนนี้สนุกและลุ้นทุกคู่เลย :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 20/02 [CH4.2] ผู้มาเยือนยามวิกาล
เริ่มหัวข้อโดย: ศตรัศมี ที่ 21-02-2016 17:48:04
แหม่ๆๆ อเลนจ๊ะ ทำเป็นเกลียดเค้าไปเถอะ ลึกๆก็คิดถึงเค้าใจจะขาดเลยละสิ แล้วก็ยินดีกับอลันที่กำลังจะมีน้องแล้ว พี่ชื่ออลัน้องชื่ออาราเล่ดีม๊ะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 20/02 [CH4.2] ผู้มาเยือนยามวิกาล
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 21-02-2016 18:05:31
กรี๊ดกร๊าด  :o8: ปูเสื่อรอเทศกาลปิ๊งป่อง
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 20/02 [CH4.2] ผู้มาเยือนยามวิกาล
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 21-02-2016 19:42:07
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 21/02 [CH4.2] ผู้มาเยือนยามวิกาล
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-02-2016 19:56:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 21/02 [CH4.2] ผู้มาเยือนยามวิกาล
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 21-02-2016 20:32:37
หมอทศเจออเลน จับกดทำน้องให้อลันเลยอ่ะ

รออ่านคู่วาลีกับอาวสิน จะร้อนแรงเพียงใด

ขอฟินล่วงหน้าค่ะ

 :z1:          :z1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 21/02 [CH4.2] ผู้มาเยือนยามวิกาล
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-02-2016 22:19:54
อเลนโกรธเค้าแต่ก็รู้สึกดีนะ ทศกัณฑ์ขอโทษเป็นมะ เอะอะจะกดลูกเดียว ตั้งตารอตอนของคุณอากับวาลี เราไม่ได้หื่นนะ :z1: แต่จัดหนักไปเลยค่ะ55555
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 21/02 [CH4.2] ผู้มาเยือนยามวิกาล
เริ่มหัวข้อโดย: เซยูเนียส ที่ 21-02-2016 23:10:58
เรารอท่านอาวสินตบะแตกอยู่ๆ 55555
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 21/02 [CH4.2] ผู้มาเยือนยามวิกาล
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 22-02-2016 00:29:28
คู่อเลนกับทศกัณฑ์ อีโรติกดีคับ
 รอตอนใหม่นะคับ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 21/02 [CH4.2] ผู้มาเยือนยามวิกาล
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 22-02-2016 18:17:05
จริงๆ หมอทศน่าจะเคลียร์ปัญหาที่มีอยู่ให้จบก่อนนะ ไม่ใช่เอ๊ะอะก็ทำลูก! เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึก
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 21/02 [CH4.2] ผู้มาเยือนยามวิกาล
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้เงา ที่ 23-02-2016 17:36:34
มาต่อเร็วๆนะรอไม่ไหวเเล้ว :z1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 21/02 [CH4.2] ผู้มาเยือนยามวิกาล
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 24-02-2016 00:38:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 24/02 [CH5] สัญชาติญาณ Nc
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 24-02-2016 05:09:35

   ทวงครั้งที่ 5 สัญชาติญาณ


   วาลียกมือขึ้นมาถูปากอย่างหงุดหงิดใจ

   ให้ตายก็ไม่อยากจะเชื่อว่ายักษ์โรคจิตนั่นจะจูบเขาจริง

   ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครใช้ให้เขาทำอะไรมาก่อนเลยในชีวิต ยิ่งงานบ้านงานทำความสะอาด แค่คิดก็เจ็บใจพอ

   สามปีที่ถูกกักขังคงยังไม่พอใจรึยังไงกัน ถึงได้มาเล่นตลกกับเขาอย่างนี้

   วาลีทิ้งตัวลงบนเตียงนอนหลังใหญ่ ตอนนี้จิตใจที่มันอยากจะสงบก็สงบไม่ลง

   เกิดมาสามสิบปียังไม่เคยพบเจอเรื่องน่าเจ็บใจให้คิดมากอย่างนี้มาก่อน

   มือผอมซีดยกมือขึ้นทาบหัวใจที่เต้นกระหน่ำราวกลองกำลังถูกตีรัว

   ต่อให้อ่านหนังสือสักร้อยเล่มพันเล่มก็คงทำให้เลิกคิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้แน่นอน

   ในระหว่างที่พยายามลืมเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้น พลันเสียงประตูก็เปิดออกเรียกให้หันไปมอง

   ก็พบกับร่างสูงใหญ่ของยักษ์ที่อยู่ในคราบมนุษย์วัยกลางคนจ้องมองมาอยู่ก่อนแล้ว

   ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองมาที่เขา มันยากเกินจะจ้องตอบด้วยสายตาเย่อหยิ่งเช่นเคย

   ทำไมเขาถึงได้รู้สึกกระดากอายที่จะมองตอบยักษ์ใจร้ายนี่

   ทำได้แค่เพียงพลิกตัวหันหลังให้กับเจ้าบ้านแล้วออกปากถามออกไป

   “มีอะไรจะใช้ให้ทำอีกล่ะ”

   เหมือนกับการประชดประชัน แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นปกติแล้วที่จะมีประโยตเหล่านี้สอดแทรกอยู่ในบทสนทนาระหว่างเขากับว
สินเสมอ

   “ข้าแค่จะมาเตือนเจ้า”

   “ข้อนั้นผมรู้ดี”วาลีตอบ

   ทุกวันก่อนคืนวันเพ็ญวสินจะต้องมากำชับเขาเสมอว่าอย่าออกจากห้องตอนกลางคืน

   ซึ่งเขาไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอะไร แต่ก็ยอมทำตาม เพราะไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวอยู่แล้ว

   ถึงแม้จะสงสัยอยู่ไม่น้อยก็ตามที

   “คืนนี้เป็นคืนเพ็ญ ข้าอยากให้เจ้าอยู่แต่ในห้องนี้”

   วสินบอก ดวงตานิ่งเฉยแฝงความเหนื่อยใจเมื่อมองแผ่นหลังของคนป่วยที่เกือบจะหายดี

   “แค่นี้ใช่ไหม”

   “เมื่อครู่ข้าหงุดหงิดไปหน่อย ข้า..”

   “ผมไม่อยากจะคุยอะไรตอนนี้ ถ้าไม่มีอะไรจะใช้ให้ทำล่ะก็ ผมอยากพักผ่อน”

   วาลีตอบ

   เมื่อมองไปนอกหน้าต่าง เผลอแปบเดียวแสงอาทิตย์ก็อ่อนลง มองเห็นดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงมา

   อีกไม่นานก็คงจะมืด วสินถอนหายใจ

   ถึงแม้ว่าใจของยักษาจะไม่ค่อยชอบใจที่วาลีผูกสัมพันธ์กับยักษ์รุ่นลูก แต่เส้นกั้นบางๆระหว่างเผ่าพันธุ์ก็ทำให้ไม่สามารถ
ทำอะไรไปได้มากกว่านี้

   ความผูกพันที่ก่อเกิดมันถลำลึก จากน้ำใจกลับกลายเป็นห่วงใจเมื่อไร เขาเองก็ไม่เข้าใจ

   ประตูห้องนอนปิดลงอีกครั้ง

   วาลีหันกลับมาแล้วมองไปยังประตูบานนั้น

   กรงขังอิสรภาพ…คงจะต้องเรียกอย่างนี้

   ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้ออกไปสักที

   ถึงแม้จะไม่อึดอัดหรือโกรธแค้นเท่ากับวันแรกๆที่มาที่นี่ แต่ก็ยังอยากได้อิสระคืนกลับมาอยู่ดี

   เขาจ้องมองเพดานสีขาวว่างเปล่า ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่ยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากอีกครั้ง

   ทำไม…หัวใจมันถึงยังเต้นแรงไม่หยุดสักที

   



   วาลียันตัวลุกขึ้นเมื่อพบว่าบรรยากาศด้านนอกมืดสนิทเสียแล้ว

   เพราะคิดซ้ำวนไปวนมากับเรื่องที่เกิด จนไม่ได้สนใจความเป็นไปรอบกายทำให้ลืมเวลามื้ออาหารที่สำคัญ

   เขาส่ายหัวให้กับภาพติดตาก่อนจะลุกออกจากห้อง


   ทางเดินด้านนอกในบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ ดูวังเวงขึ้นมากเมื่อถึงเวลากลางคืน

   หลอดไฟทุกดวงยังคงทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดีทำให้ไม่รู้สึกกังวลอะไร

   เขาค่อยๆเดินอย่างระมัดระวังกลัวว่าเจ้าบ้านจะมาเจอ คงจะไม่เป็นไรถ้าแอบออกมาโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้อย่างนี้

   
   ทว่าร่างกายก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงคำรามกึกก้องทั่วทางเดิน ราวกับเสียงของสัตว์ดุร้าย

   ใบหน้าไร้สีเลือดซีดเผือดลงทันที มันทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น ปนเปกับความหวาดวิตกพิกล

   อดไม่ได้ที่จะเดินตามเสียงนั้นไปจนสุดทางเดิน

   แสงสีเหลืองนวลของดวงจันทร์ส่องผ่านออกมาจากประตูห้องที่เปิดแง้มเอาไว้เล็กน้อย

   แค่พอมองลอดเข้าไปเห็นด้านในเพียงแค่นั้น

   ร่างกายผอมไร้สีเลือดชาดิกทันทีที่เห็นภาพเบื้องหน้า ร่างกายที่สูงใหญ่อยู่แล้วบัดนี้ขยายใหญ่กว่าเดิม เรือนร่างเปลือย
ท่อนบนแน่นมัดกล้ามมากกว่าเก่า

   ลาดไหล่กว้าง ตอบรับกับรูปกายกำยำ ยิ่งใบหน้าประดับคมเขี้ยวงอโง้ง ดวงตาสีมรกตเข้ม คิ้วขนงเป็นลวดลาย

   ราวกับวิญญาณออกจากร่างไปชั่วขณะ

   มือผอมสั่นขึ้นมาโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว วาลีถอยหลังไปครึ่งก้าว เสียงคำรามดังกึกก้องขึ้นอีกครั้ง แสงจันทร์สาดส่องเข้ามา
ผ่านบานกระจกทำให้เห็นภาพในมุมมืดได้ชัดยิ่งขึ้น

   ร่างกายผอมสั่นเทา ดวงตาสีโศกสั่นระริกกับสิ่งที่เห็น

   น่ากลัว…คงเป็นคำนิยามที่เหมาะสมที่สุด

   นัยน์ตาดุดันไร้ความมีชีวิตชีวาทำให้ความกลัวเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

   วาลีถอยหลังออกมา แต่สายตาก็ยังคงจดจ้องร่างสูงใหญ่ที่อยู่ภายในห้องผ่านรอยแง้มของประตู

   ความสะเพร่าทำที่มัวแต่มองภาพเบื้องหน้าจนไม่อาจละสายตาทำให้ถอยหลังไปชนตู้วางของที่อยู่ด้านหลัง


   ความตกใจทำให้มือไม่ทันระวังปัดไปโดนแจกันที่อยู่ด้านบนตู้ทรงเตี้ยตกลงมา

   ราวกับฟ้ากลั่นแกล้งเมื่อแจกันใบสวยประดับลวดลายกนกงดงามร่วงหล่นลงมาแตกกระจาย

   เสียงของมันดังกึกก้องทางเดินที่เงียบสงัด

   ร่างกายผอมสะดุ้งเฮือก ดวงตาสีเขียวเข้มตวัดมามองเขาภายในพริบตา

   วาลีถอยหลัง ดวงตาคมนิ่งสั่นระริก

   ร่างกายใหญ่เจ้าของนัยน์ตาดุราวกับสัตว์ร้ายหันมาทางเข้า

   ความกลัวสั่งให้ร่างกายวิ่งออกมาจากตรงนั้น

   มันไม่เหมือน…ไม่เหมือนวสินคนที่เขารู้จักเลยสักนิด

   คนคนนั้นราวกับเป็นสัตว์ไม่มีจิตใจ มีเพียงความกระหาย และดิบเถื่อนที่ซ่อนอยู่ในแววตา

   เขาวิ่งลงบันไดมายังชั้นล่างของตัวบ้าน

   สถานที่ที่คุ้นเคยเป็นสิ่งที่เขาคิดได้เพียงสิ่งเดียว นั่นคือห้องหนังสือ

   ร่างกายซีดกอดตัวเองอยู่ในมุมอับด้านในสุดของห้องหนังสือ   

   ชั้นวางหนังสือสูงท่วมหัวมากมายเป็นเกราะกำบังจากสายตาชั้นดีเพื่อที่จะซ่อนตัวเขาเอาไว้

   วาลีตัวสั่นราวกับลูกนกที่ตกลงมาจากต้นไม้ กลัวจนร้องไม่ออก แทบจะไม่มีแรงยืนหากว่าไม่ฝืนสั่งให้ร่างกายวิ่งออกมา
จากตรงนั้น

   ตึง!!

   เสียงประตูห้องหนังสือถูกกระแทกออกอย่างแรงทำให้วาลีสะดุ้ง

   ดวงตาสีโศกมองไปยังต้นเสียงด้วยแววตาหลุกหลิก เขามองลอดหนังสือออกมายังบริเวณกลางห้องที่มีแสงจันทร์ส่องผ่าน
เข้ามา

   ในมุมมืดที่มีเพียงเขา กับฝั่งตรงข้ามที่มียักษ์ร่างใหญ่ยืนอยู่กลางห้อง

   วาลีปิดปากพยายามไม่ส่งเสียงสะอื้นออกมา

   “ข้าได้กลิ่นเจ้า วาลี”

   เสียงทุ้มพร่าราวกับสัตว์กำลังกระหายก้องไปทั่ว

   ร่างนั้นเดินไปมาราวกับราชสีห์กำลังล่าเหยื่อ

   ริมฝีปากหยักแสยะยิ้มน่าสะพรึง

   

   “ก่อนที่ข้าจะโมโหไปมากกว่านี้”เพียงกระพริบตาเท่านั้น “ออกมาจากที่ซ่อนซะ เจ้ามนุษย์”เสียงนั้นก็กระซิบขึ้นข้างหู

   ร่างกายถูกกระชากด้วยน้ำมือของยักษ์ดุร้ายแล้วตรึงลงบนพื้นเย็นเฉียบ

   วาลีจ้องมองใบหน้าที่อยู่เหนือกว่าด้วยความหวาดกลัว

   เพียงแค่มือเดียว ราวกับโซ่เส้นใหญ่พันธนาการเอาไว้

   “คุณ บ้าไปแล้วรึไง”เอ่ยถามเสียงสั่น

   ดวงตายังคงสั่นระริกด้วยความกลัว ร่างกายถูกคร่อมทับจนหนีไปไหนไม่รอด

   มือทั้งสองข้างถูกจับรวบเอาไว้ ถูกริบรอนอิสรภาพโดยสิ้นเชิง

   

   “ข้าเฝ้ามองเจ้าอยู่  เจ้ากำลังคิดจะหนีข้า!!”น้ำเสียงนั้นตวาดก้อง

   “อะ อะไรกัน ผมไม่ได้หนี”วาลีส่ายหน้า

   ดวงตาดุดันที่มองมานั้นทำให้รู้สึกราวกับถูกกัดกินวิญญาณอยู่ก็มิปาน

   “เจ้ามันเจ้าเล่ห์ คิดรึว่าเจ้ายักษ์เยาว์วัยนั่นจะช่วยเจ้าได้”

   “ผมว่าคุณ…อะ”


   ไม่ทันได้พูดจบ ริมฝีปากก็ถูกฉกฉวยลงมาอีกครั้ง

   อีกครั้งแล้วที่ถูกจู่โจมจูบโดยที่ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรผิด ร่างกายเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง พยายามดิ้นเท่าไรก็ไม่หลุดพ้น

   วาลีกัดฟันลงบนริมฝีปากของยักษ์ร้าย

   เขาอาศัยช่วงจังหวะนั้นรวบรวมเรี่ยวแรงที่มีผลักอีกฝ่ายออก

   มันทะลักทุเลเมื่อแรงของอีกฝ่ายมีมากโข ขาถูกดึงเอาไว้จนล้มคว่ำคลานอยู่กับพื้น

   “อย่าคิดหนีข้า!!”

   เสียงนั้นประกาศก้อง

   แรงมหาศาลของมือกร้านจับที่ข้อเท้าของเขาแล้วลากเข้าไปหา

   มันง่ายมากที่ร่างกายผอมอย่างเขาจะถูกดึงกลับไปอีกครั้งให้ตกอยู่ภายใต้อาณัติของวสิน

   ริมฝีปากกลิ่นคามเลือดจาบจ้วงลงมาอีกครั้ง

   คราวนี้มันช่างรุนแรงและดิบเถื่อนมากกว่าเก่า ดวงตาดุดันจ้องมองมาที่เขาเขม็ง ต่างจกเขาที่ดวงตากำลังสั่นระริกอย่าง
หวาดกลัว

   ลิ้นคาวเลือดแทรกแซงเข้ามาในโพลงปาก กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งจนนึกเอียน

   เสื้อผ้าถูกฉีกกระชากออกอย่างไม่ใยดีทำเอาตัวผวาไปตามแรงดึง

   ภายในมุมมืดที่คิดว่าลับสายตา ชั้นหนังสือมากมายเป็นตัวขวางกั้นบริเวณรอบกายเอาไว้

   วาลีสะดุ้งเมื่อยักษ์ใจร้ายถอนริมฝีปากออก

   เขาหอบหายใจเอากากาศเข้าปอดแทบจะทันที ทว่าก็ต้องสะดุ้งจนสุดตัว คมเขี้ยวของวสินขบลงบนซอกคอ กัดลงบนผิว
เนื้ออย่างรุนแรง

   เจ็บจนสะอื้นออกมาแต่กลับไม่มีน้ำตา มือทั้งสองถูกตรึงให้แนบลงบนพื้นเย็นเฉียบด้วยแรงที่มองไม่เห็น

   กางเกงนอนขายาวถูกดึงทึ้งออกไปอย่างไม่ใยดี

   “หยุดนะ ได้โปรด”เอ่ยเสียงสั่นระริก

   แต่เหมือนกับว่าเสียงนั้นส่งไปไม่ถึง ร่างกายบัดนี้กลับเปลือยเปล่าอวดผิวเนื้อสีซีดปรากฏสู่ดวงตาสีมรกต

   ความกระหายในสันดานดิบเพิ่มขึ้นทวีคูณเมื่อได้เห็นสิ่งที่ปรากฏ

   หลายร้อยปีกับการถือศีลเพื่อหลีกเลี่ยงความป่าเถื่อนในสันดานจบสิ้นลงกับคนที่อยู่เบื้องหน้า

   ฟันคมกัดลงบนผิวกายจนเลือดสีแดงซีดไหลซึมออกมา

   “เจ็บ หยุด”

   วาลีร้องขอ ส่ายหน้าไม่หยุด

   ความหวาดกลัวกำลังกดกินเข้าไปถึงส่วนลึกของจิตใจ

   “เจ้าเป็นของข้า…วาลี”

   เสียงนั้นคำรามกึกก้องอยู่ภายในหู

   ท่อนเนื้อร้อนผ่าวราวกับเหล็กลนไฟจ่ออยู่ที่รอยพับจีบของดอกไม้ตูม

   มันดันลึกเข้าไปทันทีเมื่อยับยั้งชั่งใจเอาไว้ไม่อยู่ ราวกับดอกไม้สีสวยกำลังร่ำไห้เป็นสายเลือด

   ของเหลวสีแดงซีดไหลย้อนลงมาตามเรียวขานั้นไม่หยุด

   ความกระหายของยักษ์ร้ายที่ควบคุมสัญชาติญาณตัวเองเอาไว้ไมอยู่กระทั้นกายเข้าไปจนสุด

   ร่างกายผอมสั่นระริก ความเจ็บแปรบแทรกลึกเข้ามาทำเอาต้องขบฟันลงกับริมฝีปากจนเลือดซิบ

   “ได้โปรด หยุดที”

   เสียงเว้าวอนไม่ได้ช่วยอะไร มันยังคงส่งไปไม่ถึง วสินบีบเคล้นบั้นเอวเอาไว้แน่น สอดกายลงไปจนสุดเต็มแรง

   ครั้งแล้วครั้งเล่าที่โถมกายยัดเยียดความกระสันลงไปในช่องทางนั่น

   “อะ ฮึก หยุด ขอร้อง”วาลีส่ายหน้า

   ทั้งที่สะอื้นแต่กลับไร้น้ำตา

   เสียงคำรามดังกึกก้องด้วยความพอใจ ต่างจากเสียงร่ำร้องวอนขออย่างทรมานของวาลี

   ร่างกายสั่นไหวไปตามแรกกระทั้น สมองเริ่มพร่าเบลอ

   สุดท้ายก็ปิดตาลงเพื่อที่จะไม่ต้องมองเห็นภาพเบื้องหน้า

   ความเจ็บปวดถึงแม้จะกลับกลายเป็นหฤหรรษ์โดยที่ไม่รู้ตัว

   ทว่าจิตใจมันกลับต่อต้านและไม่ต้องการ….ไม่ต้องการเลยแม้สัดนิด

   มันอาจจะเป็นเพราะผลกรรมจากสิ่งที่เขาทำเอาไว้ก็ได้

   สิ่งที่เคยทำเอาไว้ ทำให้เขาต้องมาเจอกับโชคชะตาอันน่ากลัวเช่นนี้….



   
   
   
จะเช้าแล้ว ขอนอนก่อนนะคะ เดี๋ยวมาต่อถ้าตื่นแล้ว 11 หน้าแล้วนะ ไม่รู้ยาวยัง :mew1:
   
   
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 24/02 [CH5] สัญชาติญาณ Nc
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 24-02-2016 08:05:15
ตื่นหรือยังค่ะ....สาวน้อยเฝ้ารออยู่ค่ะ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 24/02 [CH5] สัญชาติญาณ Nc
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 24-02-2016 10:45:47
อ่านมาถึงตอนนี้รู้สึกสงสารทุกคู่ :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 24/02 [CH5] สัญชาติญาณ Nc
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 24-02-2016 16:52:58
โธ่น้องวาลี.....เตือนแล้วไม่ฟัง.......จะสงสารดีไหมเนี่ย..... :hao4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2]24/02 [CH5.2] พระจันทร์หวาน (18+)
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 24-02-2016 18:50:14
5.2


   เสียงนกร้องบวกกับแสงแดดอ่อนๆส่องผ่านเข้ามาทางบานกระจก ในมุมมืดร่างกายผอมซีดกับลังถูกกระทำอย่าป่าเถื่อน
อย่างไม่มีวันรู้เวลาสิ้นสุดของบทลงโทษนี้ว่าจบลงเมื่อไร

   ร่างโรยแรงไหวสั่นไปตามแรงส่ง แขนทั้งสองข้างอ่อนล้าลู่ลงข้างกาย ดวงตาสีโศกหรี่มองใบหน้าของยักษ์ร้าย จ้องมอง
คมเขี้ยวที่น่ากลัวนั้นราวกับตอกย้ำความกลัวเข้าในในจิตใจ

   “ฮะ ฮึก”

   เช้าแล้ว แต่ร่ากายก็ยังไม่เป็นอิสระ น้ำกามมากมายถูกปลดเปลื้องออกมาจนแทบไม่หลงเหลือสิ่งใดให้ช่วงชิง

   “ยะ หยุด”เอ่ยร้องขอด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

   วสินแสยะยิ้มหยัดกายเข้าไปสุดแรงจนร่างนั้นผวาเกร็ง น้ำอุ่นร้อนสาดเข้าไปในช่องท้องของวาลีอีกครั้งจนมันล้นออกมา
จากช่องทางสีกุหลาบเกรอะเลือด

   กายใหญ่โตถูกถอดถอนออกไป วาลีกระตุกเบาๆ พยายามยันตัวขึ้นมาด้วยแรงที่แทบไม่เหลือ


   อาหารมื้อเย็นวานที่ไม่ตกถึงท้องบวกกับการกระทำดิบเถื่อนโหดร้ายช่วงชิงเรี่ยวแรงจนแทบไม่เหลือ

   ร่างโปร่งผอมพลิกกาย พยายามกระเสือกกระสนพาร่างตัวเองให้ออกห่างจากยักษ์ตรงหน้า

   วาลีคลานเข่าด้วยแรงเพียงน้อยนิด ราวกับเหยื่อกำลังจะหมดลมหายไปกระเสือกกระสนหาหนทางรอดจากกรงเล็บราชสีห์

   วสินจ้องมองร่างกายสั่นเทาพยายามคลานหนีห่างออกไปด้วยความเพลิดเพลิน รอยยิ้มชั่วร้ายจุดอยู่บนมุมปาก คล้ายกับ
สิ่งที่เห็นเป็นสิ่งน่ารื่นรมย์

   

   เขาหยัดกายขึ้นลุก เดินตามร่างนั้นที่ตะเกียดตะกายขึ้นยืนด้วยขาอ่อนแรง

   ร่างเปลือยเปล่าของเหยื่อรสโอชะปลุกให้ความกำหนัดลุกโชนขึ้นมาอีกหน

   เขาหยุดยืนอยู่ด้านข้าง กระชากเอาแขนผอมบางดึงให้วาลียืนขึ้นมา

   “อย่า ผม ขอ ร้อง”

   วาลีอ้อนวอนเสียงแหบพร่า พยายามยื้อกายหนี แต่ก็ถูกจับให้หันหน้าเข้ากับชั้นหนังสือ

   ร่างกายมันไร้สิ้นแรงจนต้องเกาะชั้นหนังสือเอาไว้เพื่อพยุงตัว

   “อะ อื้อ ปล่อย”

   ดอกกุหลาบสีช้ำถูกล่วงเข้ามาอีกครั้งจนสุดทาง วาลีสะดุ้งตะกายเกาะชั้นวางหนังสือแน่น

   ขาทั้งสองข้างอ่อนแรงแต่ก็ถูกบังคับให้ยืนด้วยอ้อมแขนแข็งแรง

   ร้อนผ่าวราวกับถูกเผาไหม้เป็นจุล กายใหญ่โตนั้นกระทั้นเข้ามาจนสุด ของเหลวขุ่นข้นไหลทะลักออกมาไล่ลงไปตามเรียว
ขาขาวซีด

   “หยุด นะ อะ ได้โปรด”

   ทั้งที่ร้องขอ ในมุมมืดแห่งนี้ยักษาร่างใหญ่ก็ยังคงส่งความกระสันเข้ามาไม่หยุดยั้ง

   เสียงร้องแหบจนแทบจะขาดใจไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น กลับปลุกกระต้นคามกำหนัดให้ทวี

   หนังสือหลายเล่มถูกมือผอมปัดป่ายจนร่วงหล่น

   ถึงแม้ว่าจะล่วงเลยผ่านเข้ามาวันใหม่ แต่ไม่มีทีท่าว่าความดิบเถื่อนอันแสนโหดร้ายที่จะจบลงสักที

   เป็นบทลงโทษที่แสนโหดร้าย จนความตายอาจจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า

   วาลีสะอื้นให้กับชะตากรรมของตน ทว่าน้ำตาที่น่าจะร่วงรินออกมานั้นกลับไม่มี

   

   

==========================================================




   แสงจันทร์สีนวลสาดส่องลงมาบนผืนน้ำ ร่างกายบอบบางครึ่งคนครึ่งปลาแหวกว่ายไปมาในผืนสมุทรริมหาดเงียบสงบ

   เป็นชายหาดส่วนตัวของบ้านยักษ์สมุทรที่ทำให้ชลาสินธุ์สามารถแหวกว่ายไปมาอย่างสบายใจท่ามกลางคืนพระจันทร์เต็ม
ดวงเช่นนี้

   “พี่วรรณ ทะ ท่านจะไม่ลงมารึ”เงือกหนุ่มถามเสียงพร่า ใบหน้าแดงก่ำสะท้อนกับแสงจันทร์สีนวล

   “อยากให้ฉันลงไปไหมล่ะ”ศรีสุวรรณยิ้มอ่อนขณะนั่งอยู่บนโขดหิน

   โชคดีที่วันนี้เอาลูกไปฝากไว้กับพ่อแม่ จึงได้มีเวลาพาคนรักออกมาเปิดหูเปิดตา

   “ยะ อยากสิ ท่านก็รู้ ว่าข้า เอ่อ ข้า”เงือกหนุ่มหลุบตา ก้มมองผืนน้ำ

   หางปกคลุมด้วยเกร็ดสีท้องทะเลลึกตวัดไปมาสั่นเล็กๆเมื่อมือใหญ่ร้อนทาบลงมาลูบเบาเบา

   ศรีสุวรรณยกยิ้มหย่อนกายลงมาจากจากโหดหินสูงแค่ช่วงเอว ไปในช่วงน้ำตื้น

   มือใหญ่ลูบลงบนใบหน้าของคนรักอย่างเบามือแล้วจูบลงบนขมับ

   ชลาสินธุ์สั่นสะท้านเบาเบาเมื่อความกำหนัดนั้นทวีเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อถูกมือนั้นต้องกาย

   กายบอบบางถูกอ้อมแขนร้อนผ่าวกอดเข้าหา เงือกหนุ่มช้อนดวงตาสีฟ้าเข้มจ้องมองศรีสุวรรณด้วยความเขินอาย

   ศรีสุวรรณอุ้มร่างของชลาสินธุ์นั่งลงบนโขดหินเหนือผิวน้ำ

   เรียวหางสีสวยค่อยๆกลายเป็นเรียวขายาวเรียวสีขาวราวไข่มุก

   เรือนกายบุรุษเพศชูชันสั่นระริกอวดรับสายตาของชายหนุ่ม

   มือบางยกขึ้นวางบนลาดไหล่เปลือยกำยำโอบเข้าหา

   ตอบรับแก่นกายร้อนผ่าวจ่อเข้ามาที่ส่วนบริสุทธิ์เบื้องล่าง

   เสียงครางแผ่วดังกังวานแข่งกับเสียงคลื่นของท้องสมุทร

   ศรีสุวรรณขยับกายอย่างแผ่วเบา กอดรัดร่างของเงือกหนุ่มเอาไว้ในอ้อมอก

   แสงสลัวของดวงจันทร์ส่องลงมาบนกลุ่มโขดหินราวกับเป็นใจ คลื่นทะเลสาดสัด กระเพื่อมไปมายามที่กายกำยำกระแทก
ลงอย่างหนักหน่วง

   “อื้อ พะ พี่วรรณ ข้าสุขใจ ยิ่งนัก”

   เงือกหนุ่มร้องบอกเสียงพร่า เรียวขาตวัดกอดรัดบั้นเอวสอบแน่น

   “ฉันรักนาย ชลาสินธุ์”

   “ข้า ก็ อึก รักท่าน”

   ชลาสินธุ์ตอบรับ

   กายทั้งสองสอดประสานเข้าหากันราวกับเป็นสิ่งที่ถูกสร้างมาเพื่อกันและกันอย่างลงตัว

   ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์สลัว

   ดวงตาสีน้ำเงินเข้มจ้องมองมาโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัว เกร็ดสีน้ำเงินเข้มดูดุดันตวัดรับกับสายน้ำก่อนจะกลืนหายไปกับท้อง
ทะเลในพริบตา

   

====================================================



   หากจะถามผมว่ารอดมาจากเงื้อมือของยักษ์หื่นกามอย่างพี่ธาราคนปัจจุบันได้ยังไง

   ก็คงไม่พ้นว่าแอบหนีออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะรู้ตัว

   ผมแอบกลับบ้านมาก่อน เพราะทำใจไม่ได้ที่จะยอมให้คนที่เหมือนจะเป็นพี่ธาราแต่ก็เหมือนกับไม่ใช่ได้ทำการสืบพันธุ์อีก
หน

   เรื่องของเรื่องไม่อยากอุ้มท้องอีกรอบต่างหาก

   ผมบิดกายไปมาอย่างขี้เกียจเมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านเข้ามาในห้อง

   “แม่มณี แม่มณี ไปเล่นกัน วันนี้มีนามาที่บ้านคุณตาฮับ”สินสมุทรวิ่งตึงตังเข้ามาในห้องแล้วเขย่าแขน

   “โอเค แต่ต้องอาบน้ำกันก่อนนะตกลงไหม”ผมขยี้ตามองดูเจ้าสองแฝดกระโดดโลดเต้นไปมา

   ก่อนหน้านั้นไม่กี่เดือนพี่ศรีสุวรรณได้ย้ายออกไปอยู่บ้านริมทะเลกับชลาสินธุ์และก็มีนาซึ่งอยู่ไม่ไกลสักเท่าไร ทำเอาสอง
ตัวแสบเหงาเพราะไม่มีใครให้แกล้ง

   ครั้นจะแกล้งกันเองคงไม่ใช่เรื่อง คงกระดากใจที่หน้าตาเหมือนกันทำให้รู้สึกเหมือนกับแกล้งตัวเองล่ะมั้ง

   “แม่มณี เอาขนมไปเยอะๆนะ เอาไปฝากมีนา”สุดธารายิ้มแก้มปริหอบขนมเต็มอ้อมแขน

   “โอเค ต้องอาบน้ำ แปลงฟันแล้วก็แต่งตัวหล่อๆก่อน”

   “เย้/เย้”เจ้าสองแสบกระโดดไปมาวิ่งเข้าห้องน้ำนำไปก่อน

   ถามว่าทำไมถึงแทบหนีมา อันที่จริงก็กลัวพี่ธาราหายไปอีกครั้ง แต่ผมเชื่อว่าเขาจะรักษาสัญญา

   ว่าเขาจะกลับมากับผมเมื่อถึงวันและเวลาที่เราตกลงกันเอาไว้

   ผมหยิบกระดาษที่อยู่ในลิ้นชักขึ้นมาดูอีกครั้ง ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของพี่ที่ไปของมาจากพี่เคธี่

   คราวนี้ไม่ว่าจะยังไงพี่ธาราก็ต้องกลับมากับผมจนได้





   พออาบน้ำเสร็จ เจ้าสองแสบก็จัดการหยิบกระเป๋าเป้ประจำตัวยัดขนมมากมายใส่กระเป๋าเพื่อไปฝากมีนาตามเคย

   “อย่าวิ่งลงบันได แม่บอกแล้วไม่ใช่เหรอ”

   ทุกครั้งต้องบอกตลอด ไม่รู้ว่าดื้อซนได้ใครมา

   

   ผมเดินตามลงมายันชั้นล่าง แต่ก็ต้องสะดุดตาเมื่อเจอกับสินสมุทรกับสุดธารายืนแยกเขี้ยวกลายเป็นยักษ์ตัวเล็กขู่ฟ่อๆใส่
เด็กตัวเล็กผิวขาวที่หลับอยู่ในอกของคุณหมอ

   “ไปเอาเด็กที่ไหนมาล่ะครับ”ผมถามออกไป

   พยายามดึงเอาสินสมุทรกับสุดธาราทำท่าทางจะกระโจนเข้าไปหาเด็กผิวขาวจัดในอ้อมกอดคุณหมอทศให้ได้

   “ลูกของฉันเอง”

   คุณหมอทศยิ้มมุมปาก มันทำให้ผมกระพริบตาปริบๆ

   เมื่อครู่เขาบอกว่าอะไรนะ ลูก ลูกที่ว่านี่คือลูกเหมือนกับสินและสุดของผมใช่ไหม

   “คุ คุณหมอไปท้องกับใครมาเหรอครับ”

   “ฉันไม่ได้ท้อง นายนี่สมองไม่โตขึ้นเลยรึไง”

   “แล้ว แม่ของเด็กล่ะครับ เป็นใครกัน”

   “อีกเดี๋ยวก็คงมา แล้วจะไปไหนกันล่ะ”

   “ไปบ้านพ่อกับแม่น่ะครับ”

   ผมตอบพลางจ้องมองใบหน้าของเด็กในอ้อมแขนของคุณหมอทศ

   ยังตัวเล็กและผิวใสมาก ท่าทางจะเด็กว่าลูกผมซะด้วยซ้ำ

   ใบหน้าที่ดูไม่ออกว่าเป็นเด็กผู้หญิงหรือผู้ชายกำลังหลับตาสนิทมีเพียงแผงขนตายาวเรียงเป็นแพเท่านั้นที่เห็นตอนนี้

   หน้าตาจิ้มลิ้มเหมือนเคยเห็นที่ไหนแต่ก็นึกไม่ออก

   “งั้นผมไปก่อนนะครับ”

   “อืม อย่าลืมเจ้านั่นล่ะ”

   “ครับ คงจะกลับไปอีกครั้งเย็นนี้”

   จะให้มัวไปตามพี่ธาราอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องกลับมาหาเจ้าสองแสบที่แสนจะซนจนพ่อกับแม่ส่ายหัวกันไปตามๆกัน

   โชคดีที่วันธะรมดาเด็กๆที่มาเรียนนาฏศิลป์ไปโรงเรียนผมจึงมีเวลาไปตามพี่ธารา แต่ถ้าเสาอาทิตย์คงจะต้องกลับมาเพื่อ
ทำงานเหมือนเดิม

   “แม่มณี เด็กคนนั้นทำไมขาวจัง”สินสมุทรถามเหลียวหลังไปมองเด็กคนนั้นอีกรอบ

   “ทำไมเด็กคนนั้นเป็นเหมือนคุณอาทศกับพวกเราล่ะฮับ”

   “เขาเป็นลูกของคุณอาทศครับ”ผมตอบไป

   ถึงแม้ว่ายังติดใจว่าแม่ของเด็กเป็นใครก็ตาม ทำไมหน้าตาถึงได้เหมือนใครที่ผมคุ้นๆหน้า

   ผมขับรถของพี่ธาราออกมา อันที่จริงก็คิดถึงน้องไซที่เคยขี่สมัยวัยรุ่น แต่ก็เป็นห่วงความปลอดภัยของเด็กๆจึงต้องเอารถ
ของพี่ธารามาขับแทน

   “น่ากินจัง”สินสมุทรพึมพำ

   “อื้อ น่ากิน”สุดธาราพยักหน้าเออออ

   “น่ากินอะไรครับ”

   “ก็คนนั้นไงฮับ ที่คุณอาทศอุ้ม”

   “ใช่ คนนั้นแหละ หิวเลย”

   เจ้าสองแสบหันมายิ้มแป้น หัวเราะกันเอ๊กอ๊าก

   อย่าบอกนะว่าจะกินลูกยักษ์ด้วยกัน พอเห็นดวงตาเจ้าเล่ห์ที่เหมือนกับพี่ธาราเป็นประกาย

   รู้สึกได้ทันทีเลยว่าขนลุก

   จะเลี้ยงลูกยังไงดี ไม่ให้ไปกินลูกคนอื่นเข้าสักวัน

   ทำไมชีวิตมันถึงได้น่าปวดหัวขนาดนี้



============================================================



   ความเมื่อล้าทำให้ต้องบิดกายกระพริบตาปรับเข้ากับแสงอาทิตย์ที่สาดเข้ามาในห้อง

   ของเหลวที่ไหลย้อนออกมาจากเบื้องหลังทำให้ดวงตาคมเบิกโผล่งออกมา

   คิดว่าความฝันเมื่อคืนเป็นเพียงแค่ฝันร้าย แต่มันแย่กว่านั้นเมื่อฝันนั้นคือความจริง


   อเลนหันไปมองบนเตียงด้านข้าง ทว่ากลับไม่มีคนที่มองหา

   “อลัน อลัน”

   อเลนส่งเสียงเรียก

   ทว่ากลับเงียบกริบมีเพียงเสียงเครื่องปรบอากาศครางหึ่ง

   ขาอ่อนแรงลุกขึ้นจากเตียงเดินไปจนทั่วห้องห้องโรงแรม เปิดประตูระเบียงและประตูห้องน้ำออก

   หัวใจของคนเป็นแม่กระตุกวูบ

   หยิบกระดาษแผ่นเล็กวางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมาอ่าน

   

   ‘อยากได้ลูกคืนก็ตามมา’

   กระดาษบรรจุข้อความสั้นๆกรุ่นกลิ่นควันถูกขยี้ลงอย่างเจ็บใจ


   ต่อให้ทำยังไงทศกัณฐ์ก็มาเอาอลันไปจนได้

   อเลนขบฟันลงบนริมฝีปากจนเป็นร้อยช้ำ

   ไม่อยากจะไปเลย…บ้านหลังนั้น

   บ้านที่เคยถูกทศกัณฐ์จับขังเอาไว้



=============================================================



   

   นั่งจิ้มนิ้วถามตัวเอง เฮ้ย โซอึน เมื่อไรพี่ธาราจะเจอกับลูกสินลูกสุดฟระ เออหวะ นี่เรากำลังทำให้คนอื่นแย่งซีนพี่ธาราไป
เสียแล้ว 555 เฮ้ย แต่ว่าตัวโกงมันจะโผล่มาอีกแระ เห็นไหม ไปแอบดูพี่วรรณซั่มกับชลาสินธุ์อะ ท่ามมองจริงๆ ว่าแต่ท่านอา ทำซะสงสารวาลี


>>มีคำถามง่ายๆมาให้ตอบกันนะ<<
ถ้าหากโดนวางยาในเครื่องดื่ม จะเลือกเครื่องดื่มแบบไหนกันดี
เลือกเลย เดี๋ยวจะส่งเจ้าตัวไปนอนข้างๆคืนนี้
1 เหล้าแรงๆ = พี่ธารานิวเวอร์ชั่น
2 น้ำส้มหวานอมเปรี้ยว = อเลน
3 กาแฟขมเข้ม = วาลี
4 นมเย็นหวานๆ = มาลี
หรือจะเอานมผงชง = เด็กๆ 55
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2]24/02 [CH5.2] พระจันทร์หวาน (18+)
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 24-02-2016 19:05:33
หื่นเกินนน  หื่นไปป  ไปเคลียด์กันเถอะะะะะะะะ

ปล.ไม่มีตัวเลือกหมอทศหน่อยเหรอ??
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2]24/02 [CH5.2] พระจันทร์หวาน (18+)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 24-02-2016 19:16:29
ตอบคำถาม เลือกเหล้าแรงๆ ใสๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2]24/02 [CH5.2] พระจันทร์หวาน (18+)
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 24-02-2016 19:18:24
เช้าแล้วนะ ท่านอา เอออ...
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2]24/02 [CH5.2] พระจันทร์หวาน (18+)
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 24-02-2016 19:57:24
ขอตอบข้อสองน้า ชอบน้ำส้มเปรียวๆ ฮี่ๆๆ

ตอนนี้สนุกทุกคู่เลยอ่า.....

ว่าแต่เด็กแฝดนี่อะไรอยู่ดีๆก็อยากกินอลัน?! o22
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2]24/02 [CH5.2] พระจันทร์หวาน (18+)
เริ่มหัวข้อโดย: Loofey ที่ 24-02-2016 22:16:36
คือดีงามตอนนี้ 555 :katai2-1:

กาแฟขมเข้มๆๆ :katai5:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2]24/02 [CH5.2] พระจันทร์หวาน (18+)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 25-02-2016 00:15:03
ความกลุ้มใจของมณี เลี้ยงลูกยังงัยไม่ให้ไปกินลูกคนอื่น555555 คุณวสินก็จัดหนักไป สงสารวาลีเลย รับศึกหนักมากคุณอาเก็บกดมานาน
เลือกเหล้าแรงๆ โดยไม่คิดอะไร ใสๆ ค่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2]24/02 [CH5.2] พระจันทร์หวาน (18+)
เริ่มหัวข้อโดย: เซยูเนียส ที่ 25-02-2016 09:47:49
เหล้าแรง!!

วาลีจะท้องไหมนั้น ถ้าท้องนิ ไม่อยากจะคิด ลุกกี่คนวะนั่น ท่านอาพอตบะแตกปุ๊บนี้ ตะกละเชียว -..-
หัวข้อ: ✿ Wonder Lover ทวงรักนายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2]24/02 [CH5.2] พระจันทร์หวาน (18+)
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 25-02-2016 14:43:53
เลือกนมผงชงดีกว่า ละมุนละไมได้ประโยชน์และแคลเซียม 55555555
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 25/02 [CH ุ6] ยักเล็ก vs ยักเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 25-02-2016 17:52:43
ทวงครั้งที่ 6 ยักษ์เล็ก VS ยักษ์เล็ก


   “นี่คุณลุงฮะ ทำไมแดดดี๊ถึงไม่ชอบคุณลุงล่ะฮะ”

   เด็กผิวขาวจัดใบหน้าจิ้มลิ้มเงยหน้าถาม

   ขณะมือป้อมล้วงเอาขนมที่เป็นสินบนยัดใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆแต่ก็ไม่วายถามคำถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

   “เธอก็ไปถามแม่ของเธอเอาแล้วกัน”

   “แล้วคุณลุงรู้ได้ไงฮะว่าแดดดี๊เป็นแม่ของอลัน”ใบหน้าจิ้มลิ้มเอียงคอถาม

   “ฉันรู้ก็แล้วกัน ทำไมถึงได้พูดมากขนาดนี้นะ”

   ทศกัณฐ์ถอนหายใจ เกือบชั่วโมงที่ยักษ์ตัวน้อยตื่นขึ้นมาแล้วเอาแต่ตั้งคำถามถามเขาไม่หยุดหย่อน จะไม่ตอบก็ทำหน้า
ทำตาจะร้องไห้เรียกให้ใจอ่อน

   “แล้วแดดดี๊ไปไหนล่ะฮะ”

   “เดี๋ยวก็มา”

   “แล้วคุณลุงเป็นอะไรกับแดดดี๊เหรอฮะ”

   “เป็น…”ทศกัณฐ์นิ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อยมองใบหน้าขาวจัด ดวงตากลมโตเหมือนคนเป็นแม่จ้องมองมาที่เขาอย่างรอคำตอ
อบ

   เป็นอะไรน่ะเหรอ แน่นอน ก็ต้องเป็นสามีอยู่แล้ว จะให้เป็นอะไรไปได้ แต่จะตอบก็เกรงใจตาใสใสที่มองมา

   จะให้คนขวานผ่าซากอย่างเขามานั่งรักษาน้ำใจเด็กนี่มันยากน่าดู

   “ทำไมไม่ตอบล่ะฮะ”

   “แล้วเด็กอย่างเธอจะรู้ไปทำไม”

   “ก็อยากรู้นี่ฮะ ทำไมแดดดี๊ถึงไชอบคุณลุง”

   “แม่ของนายบอกอย่างนั้นเหรอ”

   “ฮะ แดดดี๊บอกว่าไม่ชอบคุณลุง อย่าเข้าใกล้ คุณลุงใจร้าย”

   “แล้วเธอคิดว่าฉันใจร้ายไหมล่ะ”

   “ไม่ฮะ คุณลุงใจดี เท่มาก”อลันพยักหน้าเคี้ยวขนมจนแก้มปริ

   “หึหึ พูดได้ดีนี่”พอถูกชมทศกัณฐ์ก็ยิ่มออกมาที่มุมปาก

   “เมื่อไรแดดดี๊จะมาล่ะฮะ”

   “คงไม่นานหรอก ว่าแต่ อยู่ที่นู่นมีใครมาจีบแม่เธอไหม”

   “มีเยอะแยะเลยฮะ แดดดี๊น่ารักลุงจอน ลุงแม็ก ลุงเดล เยอะแยะ ชอบเอาเอกไม้มาให้แดดดี๊ แล้วก็เอาขนมมาให้อลัน”

   “แล้วทำไมแม่ของเธอถึงได้ปล่อยให้เขามาจีบล่ะ”

   “ไม่หรอกฮะ แดดดี๊บอกว่ารักอลันคนเดียว”

   อลันตอบเสียงใสหันไปจ้องมองรายการเด็กที่ฉายอยู่หน้าจอทีวี

   ยักษ์หนุ่มสิบหน้าได้แต่นั่งเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน รู้ทั้งรู้ว่ามีสามีมีลกเป็นตัวตน ยังเที่ยวปล่อยให้คนอื่นมาจีบได้

   หากมาถึงคงได้สั่งสอนกันอีกสักรอบ

   ว่าแต่ป่านนี้ทำถึงได้ยังมาไม่ถึงอีก

   ปัง!!

   เร็วดังใจนึก เสียงประตูเปิดโครมพร้อมกับร่างเจ้าตัวที่กำลังนึกถึงเดินลงส้นเข้ามาในบ้าน

   “แดดดี๊”

   อลันยิ้มแป้นอวดฟันน้ำนม ทว่าอเลนกลับใบหน้าบึ้งตึงเมื่อเห็นหน้ายักษ์ใจร้ายยิ้มแสยะ

   “อลันหลับตา”

   เอลนหันไปสั่ง ทันทีที่ลูกชายหลับตา หมัดเล็กๆก็ส่งใบที่ใบหน้าของยักษ์ฉวยโอกาส

   สุดแรงของอเลนแต่เหมือนจะแค่มดกัดของทศกัณฐ์ ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ลงไม้ลงมือรายความเจ็บใจ

   รอยยิ้มยังคงผุดอยู่บนริมฝีปากหยัก มือหนาคว้าเอาตัวของคุณแม่ลูกอ่อนอารมณ์ร้ายดึงให้ถลามานั่งบนตักกักเอาไว้ด้วย
อ้อมกอด

   จูบร้อนๆประกบลงไปอย่างหยอกล้อ ค่อยๆขบเม้มอย่างอ้อยอิ่ง ตรึงมือซุกซนเอาไว้ด้วยมือเดียว

   อเลนตาโต เหลือบมองลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆบนโซฟา เหมือนโชคร้ายจะเข้าข้างเขาเมื่ออลันลืมตาขึ้นมา

   ดวงตากลมโตกระพริบตาปริบๆ

   “อะ อื้อ”อเลนดิ้นจนมือหลุดออกมาและผลักใบหน้ายักษ์ฉวยโอกาสออก

   “ไง นายมาช้า”

   “จะบ้ารึไง”อเลนเช็ดปากลุกขึ้นยืน ดวงตาคมสีดำสนิทจ้องมองไปที่ทศกัณฐ์เขม็ง

   “นายจะได้จำได้ไงว่าเมื่อคืนเราทำอะไรกัน”

   “คนโรคจิต”

   “คนโรคจิตคืออะไรเหรอฮะ”อลันเงยหน้าถามตาใส

   “คนโรคจิตคือคนที่ไม่ควรเข้าใกล้ มาหาแดดดี๊เร็ว”

   อเลนเดินเข้าไปจะคว้าตัวลูกชาย ทว่าทศกัณฐ์กลับไวกว่า คว้าตัวยยักษ์น้อยขึ้นมาอุ้มแล้วลุกหนี

   “นายควรจะเลิกให้ลูกเรียกว่าแดดดี๊แล้วหันมาเรียกแม่ได้แล้วนะ เด็กน้อย”

   “นั่นมันเรื่องของผม อลันมาหาแดดดี๊”

   “แต่แดดดี๊ให้อลันเรียกว่าแดดดี๊ฮะ”อลันกอดคอคุณลุง เพียงแค่ชั่วโมงเดียวยักษ์เล็กกับยักษ์ใหญ่ก็สนิทกันซะแล้ว

   อเลนขมวดคิ้วมองภาพตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ

   “เอาอลันคืนมา”

   “ว่าไง อลัน ไหนลองเรียกแม่เธอว่าแม่สิ”ทศกัณฐ์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ยักษ์น้อย กดจมูกโด่งลงไปบนพวงแก้มแดง

   “อย่ามาสอนอะไรแปลกๆให้ลูกผม”

   “นี่ก็ลูกฉันเหมือนกัน”ทศกัณฐ์สวนกลับทันที

   “ใครบอกว่านี่ลูกคุณ”

   “ถ้าไม่ใช่ลุกฉันแล้วจะลูกของใครล่ะ นายเองก็น่าจะรู้ดี”

   “ใช่ อลันไม่ใช่ลุกของคุณ คุณเข้าใจผิดแล้ว ส่งอลันคืนมา”

   “นายอย่ามากวนอารมณ์ฉันหน่อยเลยน่า เขี้ยวเล็กๆนี่จะมาจากไหน ถ้าไม่ได้ได้มาจากฉัน เรื่องนั้นนายรู้ดี”คุณหมอไหว
ไหล่ เบี่ยงหลบมือของอเลนที่พยายามจะเอาอลันคืนไป

   อลันได้แต่ฟังบทสนทนาของทั้งคู่ตาปริบๆ ดวงตากลมโตดูจะคิดตามบทสนทนาอย่างมึนงง

   “คุณลุงเป็นแฟนกับแม่เหรอฮะ”อลันหันไปถาม

   ทว่าอเลนกลับนิ่งอึ้งเมื่ออลันกลับเรียกเขาว่าแม่ตามที่ทศกัณฐ์สอน

   “จะว่าไงดีล่ะ จะเรียกว่าฉันเป็นสามีของแม่เธอก็คงจะได้นะ”

   “งั้นคุณลุงก็เป็นพ่อของอลันสินะฮะ”

   อลันเอียงคอ มองใบหน้าหล่อเหลาของคุณหมอตาปริบๆรอคำตอบ

   “มะ ไม่ใช่นะ อลัน คนคนนี้ไม่ใช่…”

   “ใช่ ฉันเป็นพ่อเธอ แต่แม่ของเธอโกรธฉัน เลยพาเธอหนีไป”

   “คุณ พูดบ้าอะไรน่ะ”

   “จริงเหรอฮะ”

   “จริงสิ ฉันไม่โกหกลูกชายตัวเองอยู่แล้ว”ทศกัณฐ์ตอบเด็กชายในอ้อมกอด



   “พอได้แล้ว อลันมาหาแดดดี๊”

   “บอกแล้วไงให้แทนตัวเองว่าแม่ ถ้านายยอมแทนตัวเองว่าแม่ ฉันจะยอมคืนลูกให้นาย”

   “โอเค ก็ได้ อลัน มาหาแม่”อเลนกัดฟัน เดินเข้าไปหวังจะดึงเอาอลันคืนมา

   ทว่ายักษ์เจ้าเล่ห์ยังไงก็เจ้าเล่ห์อยู่วันยันค่ำ แขนแข็งแรงอีกข้างอึงเอาร่างโปร่งบางเข้าไปกอด คราวนี้รวบทั้งแม่ทั้งลูก
เข้าไปกอด

   ต่อให้อเลนขัดขืนแค่ไหน เจ้าตัวก็ดิ้นไม่หลุดเสียแล้ว

   “พ่อกับแม่หายโกรธกันรึยังฮะ อลันอยากให้พ่อกับแม่หายโกรธกัน”

   อลันยิ้มแป้นจนตาหยี ก้มลงหอมแก้มอเลนไปฟอดใหญ่แล้วก็หันมาหอมทศกัณฐ์อีกฟอด

   “ไม่”คำเดียวสั้นๆ ทำเอาทั้งพ่อทั้งลูกขมวดคิ้ว

   “อะไรของนาย เดี๋ยวลูกร้องไห้ใครจะรับผิดชอบ”

   “คุณมันน่าโมโห”

   น่าโมโหที่เอาอลันมาเป็นตัวหลอกล่อ

   “แล้วยังไง นายจะไม่ยกโทษให้ฉันเลยรึไง”

   “ไม่มีวัน”อเลนเบือนหน้าหนี

   ดวงตาสีดำสนิทของยักษ์หนุ่มจ้องมองไปยังใบหน้าขาวสะอาด ดวงตาคมนิ่งหลุบตาลงไม่ยอมมองตอบทั้งที่อยู่ในอ้อม
กอดของเขา

   “ถ้าจะเอาอย่างนั้นก็ได้”

   ทศกัณฐ์ตอบเสียงเบา คลายอ้อมกอดออกปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ

   “ทำไมแม่อเลนไม่หายโกรธพ่อล่ะฮะ”อลันกระซิบถาม

   “ไม่รู้สิ บางทีเธออาจจะต้องช่วยฉันง้อแม่เธอ”ทศกัณฐ์กระซิบข้างหูยักษ์น้อย

   อลันหัวเราะคิกคักกับแผนการ เรียกให้อเลนมุ่ยหน้ามองสองพ่อลูกกระซิบกระซาบพลางกอดอก


   ยังไงทศกัณฐ์ก็คงจะไม่คืนลูกให้เขาง่ายๆแน่ อีกทั้งอลัน ตอนนี้ก็ติดคนเป็นพ่อแจ ไม่ยอมห่าง

   พออลันรู้แล้วว่าตัวเองมีพ่อเขาเองรู้ก็รู้สึกเบาโหวงในใจแปลกๆ หากเอาอลันกลับไป ก็เป็นเหมือนการพรากพ่อพรากลูก อ
ลันคงเสียใจ

   ในระหว่างที่กำลังสับสนกับความคิด รู้ตัวอีกที พ่อก็อุ้มลูกเดินออกหน้าประตูบ้านซะแล้ว

   “เดี๋ยวสิ นั่นคุณจะพาลูกผมไปไหน”

   อเลนเร่งฝีเท้าเดินตามมา ไม่เข้าใจจริงๆว่าทศกัณฐ์ต้องการอะไรกันแน่ จู่ๆก็มาทำแบบนี้

   ทั้งที่ก่อนหน้านั้นทำเรื่องโหดร้ายกับเขาไว้แท้แท้

   “ไปเที่ยวกัน”

   “คุณจะบ้าเหรอ ผมไม่ไป”

   “หลงตัวเองรึไง ฉันพาอลันไปต่างหาก จริงไหม”เงยหน้าขึ้นไปถามยักษ์เล็กที่กำลังขี่คอยิ้มแก้มปริสบายใจ ให้พยักหน้า
รับหงึกๆ

   “พ่อทศบอกว่าจะพาไปเที่ยวบ้านมณี”

   “จะไปกันได้รึยัง ยืนหน้าบูดอยู่ได้”

   พอถูแขวะก็อดไม่ได้ที่จะเบ้หน้าตามหลังไป





   สุดท้ายรถก็มาจอดที่หน้าบ้านไม้สองชั้นแถบชานเมือง ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม

   อลันดูจะตื่นเต้นมากกว่าปกติ ส่วนเขาเองพอมองไปที่บ้านหลังนี้มันทำให้นึกถึงอตีตอะไรหลายๆอย่าง

   ที่นี่เป็นที่ที่ทำให้อลันเกิดมา…



   “แม่อเลนฮะ ไปหามณี อลันอยากเจอมณี”

   อลันกระตุกแขนเสื้อเมื่อเห็นว่าคนเป็นแม่กำลังใจลอย

   ทศกัณฐ์อุ้มอลันเดินนำเข้าบ้านไปตามด้วยอเลนที่เดินตามเข้ามาทีหลัง

   พอเดินเข้ามาก็ถึงกับงงงวยเมื่อเด็กแฝดร่างจ้ำม่ำผิวต่างสีกำลังยืนแยกเขี้ยวเล็กๆใส่อลันที่ผวากอดทศกัณฐ์แน่น แต่ก็หัน
ไปแยกเขี้ยวใส่คืน

   

   “ไม่เอานะสิน สุด อย่าไปแยกเขี้ยวใส่น้องอย่างนั้น”

   เป็นเสียงของรุ่นน้องที่เอ่ยปากห้ามลูกชายแฝดของตัวเองให้เก็บเขี้ยวเล็บกลับคืน

   สามปีมาแล้วที่ไม่ได้เจอหน้ากัน มณียังคงน่ามองอยู่เสมอ



==============================================================



   พอมองไปตรงหน้าผมก็แทบจะยกมือขึ้นกุมขมับ เจ้าแสบสองตัวพอเห็นลูกหมอทศเดินเข้ามาพร้อมอุ้มเด็กผิวขาวจัดคน
นั้นเขามาก็แยกเขี้ยวใส่ทันที

   ถ้าไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของหมอทศผมคงจะแปลกใจไม่น้อยที่เด็กคนนั้นก็แยกเขี้ยวตอบท่าทางหวาดกลัวแต่ก็ไม่ยอม
แพ้

   ว่าแต่ก็ยังหน้าคุ้นๆอยู่ดี เหมือนเคยเห็นที่ไหน

   “สิน สุด อย่าไปแกล้งน้อง มานี่เลย”

   พอเก็บเขี้ยวไม่ทันไร เจ้าสองแสบก็ยืนเงยหน้ามองเด็กที่คุณหมออุ้ม คนเป็นแม่อยากผมนี่แทบลมจับ

   สินสมุทรกับสุดธารายืนจ้องเด็กคนนั้นจนน้ำลายไหลย้อยออกมาที่มุมปาก

   ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าสองแสบนี่คิดอะไรอยู่

   “สิน สุด มานี่เลย ไปเล่นกับมีนานู่น”ผมลากคอเจ้าแฝดยักษ์ตะกละดันให้เข้าไปในห้องนั่งเล่น


   “แต่ว่าสินกะสุดหิว อยากกิน”ยังไม่วายหันมาบอก ผมได้แต่ดันหลังเจ้าตัวให้หันกลับไป



   “เอ่อ”ไม่รู้จะพูดยังไงดี เด็กคนนี้คงยังเด็กอยู่ถึงยังเก็บเขี้ยวเองไม่ได้

   “กลัวเหรอ”คุณหมอทศถามลูกชาย

   “มะ ไม่ อลันไม่กลัว”

   เด็กนี่ชื่ออลันนี่เอง ว่าแต่ชื่อคล้ายๆคนที่ผมรู้จักนะ ปากบอกไม่กลัว แต่ตัวก็สั่นเชียว คงจะตกใจ

   



   “มณี”เสียงคุ้นเคยเรียกให้ผมหันไปมอง

   ผมยิ้มกว้างเมื่อเจอกับคนที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี เวลาสามปีที่ไม่เจอกันพี่อเลนเปลี่ยนไปเยอะจนดูแปลกตา ผมเริ่มกลับมา
ยาวจนถึงไหล่ทำให้หน้าตาเริ่มเหมือนอเลนที่เป็นผู้หญิงอีกแล้ว

   “ไม่เจอตั้งนาน เห็นแม่บอกว่าพี่จะมา แต่โทรไปหาก็โทรไม่ติด”

   “อุบัติเหตุนิดหน่อย”พี่อเลนยิ้มแห้งปรายตามองไปทางหมอทศ

   ว่าแต่พอมองสงคนนี้สลับกันไปมาทำไมถึงยังรู้สึกแปลกๆระหว่างสองคนนี้ถึงแม้จะผ่านไปสามปี

   พี่อเลนเดินเข้ามากอดผม

   “คิดถึงมณีจัง”

   “อลันก็คิดถึงมณีฮะ”เจ้าเด็กผิวขาวจัดหันมายิ้มหวานให้ผม

   “หืม รู้จักน้าด้วยเหรอ”ผมหันไปถามพลางชี้มาที่ตัวเอง


   “ฮะ แม่ของอลันบอกว่ามณีน่ารัก”

   แม่ของอลันเป็นใคร ทำไมถึงได้รู้จักผมได้ล่ะ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย

   “แล้วแม่ของอลันเป็นใครล่ะบอกน้าหน่อยได้ไหม”ผมหันไปถามเมื่อพี่อเลนคลายอ้อมกอด

   “เอ่อ มณี คือว่า”พี่อเลนอ้ำอึ้ง

   “นั่นไงฮะ แม่อเลน แม่ขออลัน”นิ้วป้อมๆชี้มาทางพี่อเลน

   “หือออออ”ผมได้แต่ตาโตกระพริบตาปริบๆ

   

   ผมหันไปมองคุณหมอทศที่ไม่ได้สนใจอะไรสลับกับมองพี่อเลนที่มีสีหน้าแดงเรื่อ

   เอ่อ ผมตกข่าวอะไรไปเมื่อไรกัน

   “พวกพี่สองคน “

   ถ้าอลันโตขนาดนี้แล้ว ก็แสดงว่า พี่อเลนโดนคุณหมอทศเสกเด็กเข้าท้องไปเมื่อสามปีที่แล้ว

   มิน่าถึงบินกลับไปโดยไม่บอกไม่กล่าว แถมยังห้ามบอกคุณหมออีกว่าตัวเองอยู่ที่ไหน



   “มันเป็นอุบัติเหตุน่ะ”พี่อเลนแก้ตัว

   อุบัติเหตุของพี่ แต่เป็นความตั้งใจของยักษ์ที่มองมาด้วยความไพอใจพอได้ยินว่าพี่บอกว่าอุบัติเหตุน่ะ

   ใช่ว่าจะท้องกันง่ายๆซะที่ไหน ดูยังไงคุณหมอก็ตั้งใจชัดๆ

   ถึงว่าอลันถึงได้หน้าตาเหมือนพี่อเลนขนาดนี้



   “ขะ เข้าบ้านก่อนสิครับ”ผมไม่รู้จะเริ่มพูดยังไงเลย เหมือนเจอเพื่อนร่วมชะตากรรมยังไงไม่รู้

   คุณหมอปล่อยให้อันลงเดินเอง เจ้าตัวเล็กอายุน้อยกว่าเพื่อนจงใจเดินไปหามีนาที่นั่งเล่นอยู่บนพื้นกับสินและสุด

   ผมก็ไม่รู้ว่าเด็กพันธุ์ผสมพวกนี้มันคิดอะไรกัน

   อลันเดินไปหามีนา ดวงตากลมโตดูมีความมุ่งมั่นแปลกๆ เจ้าตัวเล็กเดินไปแล้วทิ้งตัวลงนั่งเบียดมีนาจนแทบเกย แถมยัง
ยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บแก้มขาวๆของมีนา

   มีนาได้แต่กระพริบตาปริบๆ

   งานเข้าซะแล้ว คนเป็นพ่อแม่ได้แต่มองตากันไปมา

   เจ้ายักษ์แฝดที่ใหญ่กว่าเพื่อนหันมามองหน้ากัน คิ้วเล็กๆขมวดเข้าหากันไม่พอใจ ลุกขึ้นเดินดุ่มๆไปหาอลัน

   ดันไปแตะต้องของหวงของเจ้ายักษ์แฝดเข้าให้

   “อย่ามายุ่งกับมีนานะ”

   “ใช่ ห้ามยุ่งกะมีนา”

   “อลันจะเล่นกับมีนา”อลันไม่ยอมเหมือนกัน

   “ถ้ายุ่งกับมีนาจะจับกินให้ดู”สินสมุทรขู่

   “ใช่ จะจับกินให้หมดเลย”สุดธาราก็เอาด้วย

   มีนาได้แต่มองตามตาปริบๆ ไม่ได้สนใจใครอีกเช่นเคย นิสัยใสซื่อเหมือนชลาสินธุ์ไม่มีผิด



   “ผมคิดว่า ปล่อยให้เด็กๆเล่นกันดีกว่านะ แหะๆ”

   ได้แต่ยิ้มแหยๆ สองแฝดทำแม่เสียขายหน้าซะแล้ว จู่ๆก็ไปขู่ว่าจะกินลูกชาวบ้านเขา

   ลูกเขาก็ยักษ์เหมือนพวกเอ็งนะ ไม่รู้ว่านิสัยแบบนี้ได้มาจากใครกัน



===================================================================

เลือกเหล้าแสดงว่าชอบผู้ชายเซ็กซี่เย้ายวนกวนอารมณ์แบบพี่ธารา

เลือกน้ำส้ม หวานอมเปรี้ยว แสดงว่าชอบแสบๆไม่ยอมคน มีสองด้านแบบอเลน

กาแฟ ขมเข้ม เข้มข้น ยิ่งทระนง ไม่ยอมฟังใครง่ายๆ(ถึงได้โดนหนักกว่าเพื่อน)เหมือนคุณวาลี

นมเย็น หวานเลี่ยน ใสใส แต่ถ้ากินมากก็เบาหวาน เหมือนความชั่วร้ายที่แอบแฝง เหมือนมาลี

ใครเลือกนมผงชง แบ๊วๆ 555 แคลเซียมสูง เสมือนกับการเขมือบเด็กกินแล้วเข็งแรงอายุยืน 555

ไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวมาต่อ   
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 25/02 [CH ุ6] ยักเล็ก vs ยักเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 25-02-2016 18:10:28
วร้ายยยยย เด็กๆน่ารัก
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 25/02 [CH ุ6] ยักเล็ก vs ยักเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-02-2016 18:11:28
ชอบบทนี้มากๆเลยค่ะ เจ้าเด็กน้อยลูกครึ่งทั้งหลายคงน่ารักน่าเอ็นดู เวลาอยู่ด้วยกันแล้วชักเห็นแววมารำไร
ว่าแต่คุณวาลีจะมีกับเขาบ้างมั้ยน้อ...
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 25/02 [CH ุ6] ยักเล็ก vs ยักเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-02-2016 18:26:42
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 25/02 [CH ุ6] ยักเล็ก vs ยักเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 25-02-2016 18:27:04
รอท่านอาบน้ำเสร็จคร้า
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 25/02 [CH ุ6] ยักเล็ก vs ยักเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: เซยูเนียส ที่ 25-02-2016 18:41:22
ท่าทางอลันจะไม่เคะเหมือนแม่นะ 555 ในแก๊งเด้กเล้กนอ มีนาแปลกสุด ครึ่งเงือกอยุ่ตนเดียวเลย นอกนั้นครึ่งยักษ์หมด
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 25/02 [CH ุ6] ยักเล็ก vs ยักเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 25-02-2016 19:03:20
เด็กๆ อยู่รวมกันแล้วน่ารักจัง อยากจับมีนาฟัดจังเลย หนูจะใสไปไหน  :o8:

บรรดาครึ่งยักษ์นี่แสบน่าดู มีขู่จะกินกันด้วย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 25/02 [CH ุ6] ยักเล็ก vs ยักเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 25-02-2016 19:57:59
อลันน่ารัก แต่หมอทศนี่ตีมึนได้โล่จริงๆ :ling2:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 25/02 [CH ุ6] ยักเล็ก vs ยักเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 25-02-2016 20:46:40
สนุกมากรอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿[ภาค2] 25/02 [CH ุ6] ยักเล็ก vs ยักเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 25-02-2016 22:36:02
ที่บอกว่าวันนี้จะมาต่อ
คงไม่ได้มาแล้ว พรุ่งนี้เจอกันนะคะ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 26/02 [CH 6.2] พ่อยักษ์ vs ลูกยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 26-02-2016 17:13:23

5.3

   ตกเย็นก็พากันกลับมาที่บ้านของพี่ธาราหลังจากทานข้าวเย็นบ้านนั้นเรียบร้อย

   เด็กๆพากันหลับผมเลยต้องเดือดร้อนให้คุณหมออุ้มสุดธาราช่วยอีกแรง

   พี่อเลนเดินตามเข้ามาพลางอุ้มอลันเอาไว้

   “มณี  พี่ นอนห้องเดียวกับมณีก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องเตรียมห้องใหม่ให้วุ่นวาย”

   พี่อเลนบอกเสียงเบาส่งยิ้มให้ผม

   ทว่ารังสีอำมหิตมันแผ่มาจากทางด้านหลังของผมยังไงไม่รู้

   “นายอย่าเรื่องมากไปหน่อยเลย ให้อลันนอนห้องเดียวกับสินกับสุด ส่วนนายมานอนกับฉัน”คุณหมอพูดเสียงไม่พอใจ

   ผมเริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศมาคุและกลายเป็นก้างขวางคอยักษ์ยังไงไม่รู้

   “ใครจะไปนอนห้องเดียวกับคุณ ผมจะนอนกับลูก”

   “ปล่อยให้เด็กๆเขานอนด้วยกันจะได้สนิทกัน ก็เห็นอยู่ไม่ใช่รึไง แยกเขี้ยวใส่กันจะกัดกันตลอด”คุณหมอทศไม่ยอม

   มือใหญ่ดึงเอาพี่แขนพี่อเลนเข้าไปใกล้แล้วกระซิบกระซาบ

   ไม่รู้ว่ากระซิบอะไรกัน แต่พี่อเลนหน้าแดงก่ำลามไปถึงหู

   “งะ งั้นให้อลันนอนกับสินกับสุดก็ได้”

   “ก็แค่นั้น”คุณหมอยักษ์ไหวไหล่เดินอุ้มสุดธาราขึ้นไปบนบ้าน

   

   “มณี…พี่”พี่อเลนอ้ำอึ้ง

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมนอนอยู่ห้องข้างๆ”ผมยิ้มบางให้พี่อเลน

   ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ใจก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆซะแล้ว ดูก็รู้ว่าคุณหมอทศคิดอะไรกับพี่อเลน แต่พี่อเลนนี่ผมดูยังไงก็ไม่
ยอมง่ายๆ

   “แต่พี่อยากนอนกับมณี เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน”

   “แต่คนนั้นเขาจะโกรธเอานะครับ”ผมพยักหน้าไปยังชั้นบน

   ทำให้พี่อเลนหน้าจ๋อยถอนหายใจออกมา

   การมาของพี่อเลนกับอลันทำให้แผนการเดินทางในช่วงเย็นของผมถูกยกเลิกไป

   จากที่คิดว่าจะไปหาพี่ธารา คงต้องอยู่ที่นี่กับพี่อเลน และที่สำคัญต้องคอยเฝ้าสองแสบไม่ให้ไปกินลูกเขาเข้า

      

   ผมส่งเจ้าเด็กๆเข้านอนเสร็จก็กลับมาที่ห้องตัวเองจัดการเรื่องส่วนตัวเรียบร้อยเตรียมจะนอน

   ผมทิ้งตัวลงบนที่นอนเอื้อมหยิบกรอบรูปบรรจุรูปของพี่ธาราที่หัวเตียงขึ้นมา

   ไม่รู้ว่าผมจะทำสำเร็จไหม ทำให้พี่ธาราฟื้นความจำกลับมาเหมือนเก่า อยากให้พี่ธาราเจอลูกเราเร็วๆ



   ผมไม่รู้เลยว่าจ้องมองรูปนั่นนานเท่าไร ไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอนอนกอดรูปนั้นจนหลับไป

   

   หน้าต่างห้องถูกเปิดออกอย่างเบามือ สายลมจากด้านนอกพัดเข้ามาจนผ้าม่านสีทึบปลิวไสว

   ผมพลิกตัวขดตัวเข้าหาไออุ่นจากผ้าห่ม ความรู้สึกเหมือนถูกรบกวนการนอนทำให้ขมวดคิ้วเล็กๆแล้วขดตัวมากขึ้น

   ในระหว่างที่หลับ ร่างในเงามืดก็ก้าวเข้ามาจากนอกระเบียงเคลื่อนกายเข้ามาที่เตียงที่ผมหลับอยู่

   ผ้าห่มถูกดึงออกอย่างเบามือ กายสูงใหญ่ปีนขึ้นมาคร่อมทับเหนือร่างของผม ดวงตาสีมรกตดูส่อแววถึงความไม่พอใจ

   ฝ่ามือใหญ่วางมาที่ใบหน้าด้านข้างของผมแล้วลูบไล่ไปมา ริมฝีปากหยัดแสยะยิ้มออกมาดูเจ้าเล่ห์

   เสื้อนอนของผมถูกเลิกขึ้นจนเห็นแผงอก มันจั๊กจี้จนผมขยับตัวหนี แต่ก็ยังไม่ตื่น

   “อะ อือ”นิ้วสากลากผ่านเม็ดสีอ่อนบนหน้าอก ผมขมวดคิ้วมุ่น

   เริ่มรู้สึกแปลกๆ เหมือนได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอแว่วมา หรือว่าผมจะฝันไป

   ทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนมีมือที่คุ้นเคยลูบไปมาทั่วตัวทำให้เริ่มมีอารมณ์

   เดี๋ยวนะ!! ผมมีอารมณ์งั้นเหรอ

   ผมสะดุ้งลืมตาโพล่งขึ้นมา

   แล้วก็ต้องช็อคเมื่อเจอกับเงาทะมึนคร่อมทับอยู่เหนือร่างกาย

   “ชะ ช่วย อื้อ”

   ยังไม่ทันจะเอ่ยปากร้องเรียกใครมือใหญ่ก็ตรงเข้ามาปิดปากผมเอาไว้ท่ามกลางความมืด

   ผมเกร็งตัวแน่นหลุบตาลงไปมองด้านล่างก็เห็นว่าเสื้อนอนถูกถกขึ้นมาจนเห็นแผ่นอก

   “นายทำฉันได้แสบนักนะ”

   เสียงทุ้มกระซิบข้างหูทำให้ผมชะงัก

   พอกระพริบตาถี่ๆปรับเข้าความความมืด ใบหน้าจ้าเล่ห์ของพี่ธาราก็ปรากฏ เขาดูไม่ค่อยพอใจผมเท่าไร

   อาจจะเป็นเพราะว่าผมหนีมาในคืนพระจันทร์เต็มดวงคืนนั้นก็ได้เลยทำให่เขาไม่พอใจ

   “อะ เอ่อ ผมอธิบายได้นะครับ”ผมยิ้มแห้งเมื่อพี่ธาราปล่อยมือออก

   “ฉันจะไม่ฟังอะไรทั้งนั้น นายไม่มีโอกาสเหลืออีกแล้ว หมูน้อย”เขาก้มลงมากระซิบ

   จมูกโด่งกำลังคลอเคลียอยู่ที่พวงแก้มของผมไปมาทำเอาขนลุก

   “ดะ เดี๋ยวก่อนสิครับ เรื่องนั้น ผมอธิบายได้”

   “นายจะอธิบายยังไง เรื่องที่นายละเมิดข้อตกลง แล้วหนีฉันมา”

   “คือ…ผม”

   “หึ ช่างมันเถอะ ยังไงฉันไม่ได้ถ่อมาที่นี่เพื่อที่จะฟังนายพูดอะไรอยู่แล้ว นายทำฉันแสบมาก กว่าจะตามหานายเจอ”

   “แล้ว พี่มาที่นี่ได้ยังไง”ความหายของผมคือเข้ามาในบ้านนี้ได้ยังไงมากกว่า

   “ก็ปีนเข้ามาไง”

   กะเอาไว้แล้วเชียว ประตูบ้านเป็นแบบใส่รหัสพี่ธาราคงจำไม่ได้ แต่ว่ากำแพงบ้านนี้ก็ใช่ว่าจะเตี้ยๆเหมือนบ้านอื่น แต่มันคง
ไม่เหนือบ่ากว่าแรงยักษ์ไปเท่าไร

   “กะแล้วเชียว”ผมเหลือบตามองไปที่ประตูระเบียงที่เปิดออก

   “นายเริ่มพูดมากเกินไปแล้ว”เสียงพร่ากระซิบ

   ริมฝีปากกดลงบนพวงแก้มไล่ขึ้นมาที่ขมับอย่างย่ามใจ

   แต่เดี๋ยวก่อน นี่พี่ธารากำลังจะทำอะไร

   “พี่ เอ่อ จะทำอะไร”

   “นายก็น่าจะรู้นี่”

   “ไม่ได้นะ พี่จะทำอย่างนี้ไม่ได้”ผมดันอกแข็งแรงนั่นเอาไว้ไม่ให้เข้ามาใกล้ไปมากกว่านี้

   พอมาถึงก็จะมาจับผมผสมพันธุ์อีกแล้ว ไม่เข้าใจความคิดของพี่ธาราคนนี้เลย ว่าสมองวันหนึ่งคิดเรื่องอะไรนอกจากเรื่อง
หื่นๆบ้าง

   “นายตกลงกับฉันแล้ว หืม”พี่ธาราพึมพำ จมูกยังคงซุกลงที่ซอกคอของผมพลางสูดสมหายใจเข้าปอด

   “ระ เราไม่ได้ตกลงกันอย่างนี้นะครับ”

   ทำไมผมถึงได้รู้สึกสยิวตามล่ะเนี่ย

   “ทำไมล่ะ นายบอกฉันเองว่าจะยอมฉัน”

   “แต่นั่นพี่เป็นคนบอกเองว่าคืนวันเพ็ญ”ผมอ้าง แต่พี่ธาราก็ยังไม่หยุดซุกลงบนซอกคอ แถมมือไม้ยังเลื้อยเข้ามาในเสื้ออีก

   “นั่นนายเป็นคนผิดสัญญานะหมูน้อย นายควรจะเป็นของฉันตั้งแต่คืนนั้น แต่นายกลับหนีมา”

   “แต่ พี่จะทำอย่างนี้กับผมไม่ได้ ผมไม่พร้อม”

   “เพราะอะไร”เขาเงยหน้าขึ้นมาถาม ดวงตาสีเขียวเข้มสะท้อนวาบ คิ้วเริ่มขมวดไม่พอใจ แต่มือก็ยังไม่หยุดเลื้อยขึ้นมา

   “ฮะ ฮึก”นิ้วแข็งสะกิดบนยอดอกทำเอาผมสะดุ้งเฮือก

   “ทำไมถึงไม่ได้ หมูน้อยไหนนายลองบอกฉันมาสิ”

   “พะ พี่ก็หยุดก่อน ผม อะ อื้อ”

   ให้ตายเถอะ ทำไมเขาถึงได้หื่นอย่างนี้

   “ฉันจะไม่หยุดจนกว่าจะได้คำตอบที่น่าพอใจ”เขายกยิ้มมุมปาก

   “แต่ว่า อะ อื้อ ผมผมไม่อยากมีอะไรกับ พี่เพราะ อะ อย่าขยี้”

   ผมจิกมือเข้ากับแผ่นอกของพี่ธาราแน่นเมื่อนิ้วของเขาขยี้เข้าที่เม็ดเล็กนั้นไปมา

   “เพราะอะไรล่ะ”เขาดูชอบใจ และดูสนุกจนผมเริ่มนึกหมั่นไส้

   “พี่ ไม่ได้รัก ฮึก ผม อะ อื้อ”ผมบอกออกไป

   นั่นคือทั้งหมดที่ผมยังคงกระดากใจที่จะยอมให้เขากอด

   เพราะพี่ธาราคนนี้ไม่ได้รักผม…ผมคงจะยอมให้คนที่ไม่ได้รักกอดไม่ได้

   เขาชะงักมือจ้องมองหน้าผมนิ่ง ใบหน้าหล่อเหลาเอียงคอเล็กๆคล้ายกำลังคิดอะไร

   “แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง”

   คำถามนี้มันเหมือนกับครั้งแรกที่เราเจอกัน

   ‘แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร’\

   ‘พี่ก็จีบผมสิ ถ้าผมรักพี่ผมอาจจะยอมพี่ก็ได้’

   บทสนทนาในอดีตมันแวบขึ้นมา

   “รักผมสิ ถ้าพี่รักผมผมอาจจะยอมพี่ก็ได้”ผมบอกออกไป ทำเหมือนเมื่อครั้งนั้น ข้อตกลงระหว่างเราที่ทำให้เราใกล้ชิดกัน
และรักกัน

   “หึ รู้ไหมหมูน้อย ว่านายกำลังยื้อเวลา”เขาเหยียดยิ้มประทับจูบลงมาบนหน้าผากของผม

   “แล้วพี่จะยอมตกลงไหมล่ะ”

   “ก็ได้ ฉันจะลองเล่นกับนายดู ถ้านายทำให้ฉันรักนายได้นายจะต้องยอมฉัน แต่ถ้าไม่ได้ นายได้เจอมากกว่าที่นายจะคาด
คิดแน่”

   ฝ่ามือใหญ่วางลงบนลาดไหล่ของผมแล้วลูบไปมา

   “ครั้งนี้ ผมจะเป็นคนจีบพี่เอง”ผมพูดเสียงแน่วแน่ จ้องมองไปยังดวงตาพราวระยับคู่นั้น

   “หึหึ”

   “งั้นก็ตามนี้นะครับ ไหนไหนมาแล้ว อะ อื้อ”

   ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร ริมฝีปากหยักก็ฉากจูบลงมา

   ผมทุบเข้าที่แผงอกของพี่ธาราแต่ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้าน ผมถูกดันให้นอนราบลงไป ให้ตอบรับจูบนั้นเข้ามาล้ำลึกยิ่ง
ขึ้น

   “อะ อื้อ”พี่ธาราแทรกลิ้นเข้ามา มันทั้งลึกแล้วก็ร้อนจนผมแทบจะละลาย เสื้อนอนของผมถูกเลิกขึ้นอีกครั้ง

   แต่เดี๋ยวก่อน ไหนบอกว่าจะไม่ทำไง ไหงมาโกหกกันได้ล่ะ

   แต่ก่อนที่กางเกงนอนจะถูกรูดลง

   

   แป๊ก!!

   เสียงแป๊กแปลกๆก็ดังมาจากหน้าประตู ผมจ้องมองหน้าพี่ธาราก็เจอเข้ากับวัตถุประหลาดแปะอยู่บนหน้าผากนั้น

   “นี่มันบ้าอะไรเนี่ย”พี่ธาราดูไม่พอใจ ดึงเอาลูกดอกหัวยางที่เป็นสุญญากาศออกมา

   แป๊ก!!

   พอดึงออกมา ลูกดอกสุญญากาศอีกดอกก็ถูกยิงเข้ามาแปะที่หัวอีก

   “อย่ายุ่งกับแม่มณีนะ”สินสมุทรขู่ แยกเขี้ยวใส่พี่ธาราเสียงฟ่อๆ ผมได้แต่มองเจ้าสองแสบขู่ใส่พี่ธาราตาปริบๆ

   พี่ธาราจ้องมองไปยังเจ้าสองสบนั้นด้วยแววตาไม่พอใจ

   “เดี๋ยวสิครับ อย่านะ”พี่ธาราทำท่าจะพุ่งเข้าไปหาสินสมุทรกับสุดธารา แต่ผมคว้าเอาไว้ก่อนที่เขาจะผละออกไป

   “ออกไปจากแม่มณีนะ”สุดธาราปีนขึ้นมาบนเตียงเมื่อพี่ธาราลุกออกจากเตียงเพราะแลปกใจกับยักเด็กสองคนนี้

   “หมายความว่าไง แม่งั้นเหรอ”พี่ธาราขมวดคิ้ว

   สีหน้าของเขาดูโกรธมาก หรือว่าเขาจะโกรธเจ้าสองแสบนี่

   ตอนนี้สินสมุทรกับสุดธาราปีนขึ้นมาบนเตียงกันผมเอาไว้จากพี่ธารา เขี้ยวเล็กๆแยกใส่พี่ธาราเหมือนจะขู่ไม่ให้พี่ธาราเข้า
มาใกล้

   “แม่มณีไม่เป็นไรใช่ไหม เขาจะกินแม่มณีใช่ไหมฮับ”สุดธาราเงยหน้าถาม

   “ห้ามกินแม่มณีนะ”สินสมุทรขู่ใส่ ทั้งคู่จ้องมองพี่ธาราเขม็ง



   “นี่มันอะไร ทำไมนายไม่บอกว่านายมีลูกแล้ว”พี่ธาราถามด้วยเสียงไม่พอใจ น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าวดูโกรธผมมาก

   “ผมไม่อยากบอกเพราะกลัวพี่จะไม่ยอมมากับผม”

   “นายมีคู่แล้ว มีลูกแล้ว ยังจะมาให้ความหวังฉันทำไม”

   หมายความว่าไง นี่พี่ธาราคิดว่าผมมีคนอื่นอยู่แล้วงั้นเหรอ ถึงจะรู้ว่าพี่ธาราความจำเสื่อมแต่ทำไมผมถึงได้รู้สึกไม่พอใจที่
ถูกกล่าวหาอย่างนี้กัน

   หมอใกล้มือถูกโยนเข้าไปใส่พี่ธาราอย่างแรง

   “พี่จะบ้ารึไง สินสมุทรกับสุดธาราเป็นลูกพี่ ถ้าจะความจำเสื่อมขนาดนี้ก็ช่วยอย่าคิดเองได้ไหม”

   พี่ธารารับหมอนเอาไว้ทันท่วงที

   ดวงตาที่ดูโกรธเคืองดูอ่อนลง จ้องมองเจ้าสองแสบไม่วางตา

   “ทำไมนายไม่บอกก่อนว่าฉันกับนายมีลูกด้วยกัน”

   “ก็พี่ไม่ได้ถามนี่”

   “นายนี่มัน จริงๆเลยนะ”

   “แล้วถ้าพี่รู้พี่จะยอมมาไหมล่ะ”

   “ถ้าฉันรู้ว่าตัวเองมีลูกฉันคงยอมมากับนายตั้งนานแล้ว”

   พี่ธารากุมขมับ ดูท่าคงจะช็อกที่รู้ว่าตัวเองมีลูก



   “พ่อธารา/พ่อธารา”

   สินสมุทรกับสุดธาราพึมพำมองหน้ากันตาปริบๆ

   “แม่มณี คนนี้เหรอพ่อธารา”สินสมุทรกระตุกชายเสื้อถาม

   “ครับ คนนี้แหละ”


   “แต่แม่มณีบอกว่าพ่อธาราใจดี”สุดธาราถามบ้าง

   “ทำไม ฉันดูใจร้ายมากรึไงกัน”



   พี่ธาราเริ่มเดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่น

   “ทำไมไม่เหมือนพ่อธาราที่แม่มณีบอกเลย”

   “ใช่ๆ ไม่เหมือนเลย”

   “เอ่อ พ่อเขาไม่สบาย ความจำเสื่อมน่ะครับ”ผมตอบ

   “แล้วเมื่อไรจะหายล่ะฮับ สุดอยากให้พ่อธารามาอยู่ด้วย”

   “สินก็อยากให้พ่อธาราอยู่กับแม่มณี สินคิดถึงพ่อธารา”


   เจ้าสองแสบพูดเจื้อยแจ้ว มองพี่ธาราตาแป๋ว ตอนนี้เขี้ยวเล็กๆหายไปแล้วเรียบร้อยกลายเป็นร้อยยิ้มอวดฟันน้ำนมแทน   

   แต่ก็ยังคงดูเชิงไม่กล้าเข้าไปใกล้พี่ธาราอยู่ดี

   “ไหนมา นี่สิ”พี่ธาราหยุดยืนอยู่กลางห้อง กระดิกนิ้วเรียกสองแสบเข้าไปหา

   ทว่าสินสมุทรกับสุดธารายังคงเอียงคอไม่กล้าเข้าไปใกล้

   “มาหาพ่อนี่มา”พี่ธาราเรียบเรียงประโยคใหม่

   แล้วก็ได้ผล

   เจ้าสองแสบกระโดดเข้าไปหาพี่ธาราทันทีจนร่างสูงใหญ่อย่างพี่ธาราแทบจะทรงตัวไม่อยู่เมื่อยักษ์เล็กทั้งสองโถมเข้าหา
พร้อมกัน

   ผมได้แต่มองภาพนั้น รู้สึกกระบอกตามันร้อนแปลกๆยังไงไม่รู้

   “พ่อธารา เมื่อไรพ่อธาราจะหาย”

   “พ่อธาราความจำเสื่อมเจ็บมากไหม”สุดธาราถามเรียกให้พี่ธาราหัวเราะออกมาเบาเบา

   “เจ็บสิ”พี่ธาราตอบ ทำเอาผมขมวดคิ้ว อย่าบอกนะว่าจะโกหกลูก

   “เจ็บตรงไหนเหรอฮับ ให้อาทศรักษาให้ อาทศเป็นหมอ”

   “เจ็บมากเลย เจ็บตรงนี้”พี่ธาราชี้ไปที่หัวใจ ดวงตาคมเหลือบมองผมอยู่วูบหนึ่งก่อนจะกลังไปมองเด็กๆ

   ดูท่าวันนี้คงจะไม่ได้นอนกันง่ายๆ

   “สินคิดถึงพ่อธารา”

   “สุดคิดถึงมากกว่า”

   “พ่อธารา คิดถึงแม่มณีไหม”

   “คิดถึงสิ คิดถึงจนอยากจะจำได้เร็วๆ”เขายิ้มให้กับเด็กๆ ทำเอาหัวใจของมมันรู้สึกมีความสุขอย่าบอกไม่ถูก

   รอยยิ้มของพี่ธาราตอนนี้เหมือนกับตอนที่ยิ้มให้กับท้องของผมที่มีสินสมุทรกับสุดธาราอยู่ในนั้นตอนยังไม่คลอด

   นี่เป็นสัญญาณที่ดีรึเปล่า ว่าพี่ธาราจะกลับมาเหมือนเดิม



===================================================================

มาลงต่อสักที หลังจากที่เบี้ยวนัด เค้าขอโทษน้าาาาาาา รักคนอ่านทุกคนเหมือนเดิม



ตอนนี้ค่อนข้างยาว มี 3 พาร์ท ถ้าเม้นเยอะจะมาต่อให้เน้อ (วันนี้เขี้ยวลากดิน)
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 26/02 [CH 6.2] พ่อยักษ์ vs ลูกยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 26-02-2016 18:22:09
โหหหหหห ใจป้ำ ปล้ำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!! //แหมไม่สื่อเลยว่าหวังอะไร 555
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 26/02 [CH 6.2] พ่อยักษ์ vs ลูกยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 26-02-2016 18:28:38
ซึ้งงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 26/02 [CH 6.2] พ่อยักษ์ vs ลูกยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 26-02-2016 18:32:04
มาต่อให้ทีนะครับ
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 26/02 [CH 6.2] พ่อยักษ์ vs ลูกยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 26-02-2016 19:58:05
น่ารักแท้ล่ะลูก~~~
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 26/02 [CH 6.2] พ่อยักษ์ vs ลูกยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 26-02-2016 21:21:49
พี่ธารากลับมาทวงบทเด่นคืนแล้ว หลังจากปล่อยให้คู่อื่นแย่งมาหลายตอน  :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 26/02 [CH 6.2] พ่อยักษ์ vs ลูกยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 26-02-2016 23:24:12
อยากให้พี่ธาราจำได้เร็วๆๆๆ เพี้ยง...
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 26/02 [CH 6.2] พ่อยักษ์ vs ลูกยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 26-02-2016 23:51:06
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 26/02 [CH 6.2] พ่อยักษ์ vs ลูกยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 27-02-2016 01:10:27
ตลกอ่าาาา เอาลูกดอกสูญญากาศยิ้งใส่ธารา555555 :hao7:

ดีใจที่มาต่อนะจ๊ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 26/02 [CH 6.2] พ่อยักษ์ vs ลูกยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 27-02-2016 01:47:38
พ่อลูกเจอกันแล้วววว  o13
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 26/02 [CH 6.2] พ่อยักษ์ vs ลูกยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 27-02-2016 11:06:22
สินสุด นี่แสบกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 26/02 [CH 6.2] พ่อยักษ์ vs ลูกยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 27-02-2016 14:25:39
ไม่ได้เข้ามาดูแปปเดียวอัพเยอะเลย ขอบคุณนะ ^^
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 26/02 [CH 6.2] พ่อยักษ์ vs ลูกยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 27-02-2016 14:49:52
ว้ายยยย ในที่สุดก็เจอกันจนได้ น่ารักมากอ่ะ อยากอ่านต่อจังเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 26/02 [CH 6.2] พ่อยักษ์ vs ลูกยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 27-02-2016 15:17:07
ขำตอนโดนลูกดอกยางยิง 55555
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 27/02 [CH 6.3] เจ็บใจ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 27-02-2016 17:49:48
พาร์ทสั้นๆ 5 หน้า เอสี่
5.3 เจ็บใจ


   หลังจากอาบน้ำเสร็จสรรพอเลนในชุดนอนที่ไปยืมมาจากมณีก็หยิบหมอนข้างขึ้นมาคั่นไว้ตรงกลางระหว่างเตียงเป็นการ
แบ่งเขต

   ดวงตาคมปรายตามองใครอีกคนที่ดูดบุหรี่อยู่นอกระเบียงถึงแม้จะปิดประตูระเบียงเอาไว้ดีแล้วแต่กลิ่นบุหรี่จางๆก็ยังลอย
เข้ามาอยู่ดี

   ‘ถ้านายไม่นอนห้องเดียวกับฉัน ฉันไม่รับประกันว่าคืนนี้จะแอบไปหานายเหมือนเมื่อคืน’

   คำขู่ที่ทำให้เขาเจ็บใจอยู่จนถึงนอนนี้

   อเลนได้แต่ถอนหายใจทิ้งกายลงนอนหันหลังให้อีกฝ่าย

   ดวงตาของยักษามองผ่านกระจกเข้ามายังห้องนอน มองดูอากัปกิริยา ที่ดูยังไงก็น่าจับมาตีให้รู้แล้วรู้รอด

   จนถึงเวลานี้แล้วยังจะดื้อรั้นอะไรนักหนา

   ยักษ์หนุ่มถอดถอนหายใจเดินเข้ามาด้านในห้องเมื่อร่างบนเตียงนั้นนิ่งสนิทไปแล้ว

   ทศกัณฐ์นั่งลงริมขอบเตียงฝั่งที่มีคนนอน ระวังไม่ให้อีกฝ่ายตื่นขึ้นมาโวยวายแล้วจ้องมองเขาด้วยแววตาดื้อรั้นนั่น

   มืออุ่นแตะลงบนพวงแก้มไล่ไปมา ใบหน้านี้ไม่ว่ามองเท่าไรก็ยังคงสวยงามเช่นเดิม

   จนดูเหมือนว่าไม่อาจจะละสายตาไปจากใบหน้านี้ได้เลย แม้กระทั่งเวลาที่ดวงตาสีดำสนิทลืมตาขึ้นอีกครั้ง

   ประสานสายตากันชั่วครู่ ทศกัณฐ์จ้องมองลึกเข้าไปคล้ายกับต้องการที่จะอ่านความคิดของอีก

   ส่วนคนที่ยังไม่หายโกรธเคืองก็ยังคงเดิม ขมวดคิ้วเล็กๆเมื่อถูกรบกวนการนอน

   “เป็นบ้ารึไง”อเลนมองตาขวางบันตัวขึ้นลุกนั่งพึงหัวเตียง

   “อยากโดนคนบ้าจูบไหมล่ะ”ทศกัณฐ์ยิ้มเยาะยื่นหน้าเข้าไปใกล้

   อเลนเบี่ยงหน้าหลบใบหน้าเจ้าเล่ห์ดูโรคจิตนั่นก่อนจะมองค้อน

   “ไอ้โรคจิต”

   “งั้นนายก็เป็นเมียคนโรคจิตอย่างฉันแล้วล่ะ”
   “อย่ามาฉวยโอกาสจากอุบัติเหตุแล้วพูดเองเออเองไปหน่อยเลย”

   “ถ้านายคิดว่านั่นเป็นอุบัติเหตุ งั้นครั้งนี้ฉันคงจะต้องตั้งใจทำแล้วล่ะ”ทศกัณฐ์ดันร่างโปร่งบางนอนราบลงกับเตียง

   ไม่ทันตั้งตัว ดวงตาคมกระตุกวูบเมื่อกลิ่นบุหรี่จางๆบัดนี้มันคละคลุ้มอยู่ทั่วโพรงปาก

   “อะ อื้อ”อเล็กผลักอกหนาดันออกห่างแต่ก็ไม่ไหวติงใดใดเมื่อร่างกายใหญ่นั้นโถมทับเข้ามาเต็มแรง กดให้เขาต้องอยู่ข้าง
ในอย่างช่วยไม่ได้

   “ปล่อ อื้อ”

   ใบหน้าถูกมือใหญ่บังคับให้ตอบรับจูบ รับลิ้นรสฝาดควันบุหรี่เข้ามา

   ชุดนอนถูกดึงรั้งให้เลิกขึ้นไป

   แต่แล้วริมฝีปากร้อนฝ่ายก็ชะงักถอนจูบออกไม่บอกไม่กล่าว

   ดวงตาสีดำสนิททอประกายสีน้ำตาลอมเหลืองออกมา

   “จะ จะทำอะไรน่ะ”อเลนถามเสียงสั่นเช็ดปากไปมาอย่างไม่พอใจ

   “ธารามาที่นี่”ทศกัณฐ์พึมพำ

   “ไหนว่า ธาราตายไปแล้ว”อเลนถามด้วยความแปลกใจ แต่ก็อดรู้สึกดีใจแทนมณีไม่ได้



   “ก็คิดว่าอย่างนั้น”

   “แล้วทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่เห็น”

   “ธาราความจำเสื่อม”

   “แล้วมณี…รู้เรื่องนี้รึเปล่า”ถามด้วยความเป็นห่วงความรู้สึกของรุ่นน้อง

   ทั้งห่วงทั้งอิจฉา ทุกวันนี้ยังคงตัดใจไม่ได้อยู่ดี

   “เจ้านั่นรู้อยู่แล้ว เจ้านั่นเป็นคนไปเจอธาราเอง”

   “แล้ว…”อยากจะถามคำถามที่ไม่ควรถามออกไปแต่ก็เก็บเงียบเอาไว้

   “ไม่ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันอยากนายให้ตัดใจซะตอนนี้”เสียงแผ่วเบาราวกับกระซิบ


   อเลนนิ่งกับประโยคแทงใจที่เอ่ยออกมาจากคนตรงหน้า

   “อย่า มารู้ดีไปหน่อยเลย”ใบหน้าหวานเบี่ยงหลบสายตาที่มองมาราวกับกำลังอ่านความคิดของเขาอยู่

   “ฉันจะไม่พูดเป็นครั้งที่สอง”

   ยักษ์หนุ่มเอ่ยกระซิบจับเอาใบหน้าที่เบี่ยงหลบให้หันมาจ้องตา

   ริมฝีปากนุ่มกดจูบลงบนขมับ แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อเสียงเปิดประตูดังพร้อมกับเสียงเล็กๆที่ร้องทัก

   “พ่อทศ แม่อเลนฮะ อลันกลัว”เจ้าตัวเล็กเขย่งเท้าเปิดประตูเข้ามาดวงตากลมโตกำลังสั่นระริก เขี้ยวเล็กๆงอกออกมาเมื่อ
ได้กลิ่นยักษ์อีกตนที่อยู่ไม่ไกล

   “มาหาแม่นี่มา”

   อเลนรีบผลักทศกัณฐ์ออกทันทีแล้วถลาไปอุ้มอลัน

   ทศกัณฐ์ได้แต่ถอนหายใจ อุตส่าห์จะใช้โอกาสนี้ขอคืนดี แต่ดันมียักษ์ตัวเล็กเข้ามาขวางซะได้



   “ยังเก็บเขี้ยวเองไม่ได้อีกเหรอ ไหนมาดูซิ”ทศกัณฐ์กวักมือเรียก

   “เดี๋ยวก็เก็บได้เองล่ะน่า”แต่อเลนเบี่ยงตัวหลบไม่ยอมให้ทศกัณฐ์แตะอลัน

   “นายอย่ามาดื้อต่อหน้าลูกได้ไหม ไหนมาให้พ่อดูหน่อย”

   ทศกัณฐ์เรียกย้ำให้อลันเอื้อมแขนเข้าหาทศกัณฐ์ที่อ้ารอรับอยู่แล้ว

   ใบหน้าขาวจิ้มลิ้มเงยหน้าให้คนเป็นพ่อจับเขี้ยวเล็กๆไปมา

   “อืม อีกเดี๋ยวก็เก็บเองได้แล้วคนเก่ง”คุณหมอพ่อลูกอ่อนยิ้มบาง

   ทำให้คนที่ยืนจ้องเขม็งแปลกใจเล็กๆกับรอยยิ้มบางแบบนั้นที่ไม่เคยเห็น บทจะยิ้มกับเขาก็ยิ้มได้

   เห็นแต่ชอบทำหน้าหาเรื่องอยู่ตลอด

   “เอาอลันมานี่ ส่วนคุณน่ะ ไปแปลงฟัน อลันเหม็นบุหรี่”อเลนแย่งเจ้าตัวเล็กกลับคืนมาบ่ายหน้าไปทางห้องน้ำ

   “เหม็นไหม”หันไปถามลูกชาย

   “อื้อ อลันไม่ชอบเลยฮะ”อลันพยักหน้ากอดคอคนเป็นแม่แน่น

   “ก็ได้ พ่อยอมก็ได้”ทศกัณฐ์ไหวไหล่ให้ลูกชาย

   อย่างน้อยคืนนี้ก็ได้กอดลูกเมียนอน หลังจากที่อดง้อเมีย



   หมอยักษ์ร่างใหญ่ป่ายมือข้ามอลันที่นอนคั้นกลางไปพาดเอาร่างโปร่งบางของคนที่กำลังจะเคลิ้มหลับให้สะดุ้งตื่น

   “อะไรของคุณ”

   “อือ”อลันขยับตัวเมื่อโดนรบกวน

   “นายก็นอนไปสิ เห็นไหมว่ามันรบกวนลูกของเรา”ยักษ์เจ้าเล่ห์ผงกหัวขึ้นมายิ้มยั่ว

   “ฮึ่ย!!”

   สุดท้ายก็ต้องยอมสงบศึกเพื่อลูก ยอมให้ยักษ์เจ้าเล่ห์โรคจิตกอดทั้งคืน….เจ็บใจ





=============================================================


ตอนหน้าเจอวาลีนะ
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 27/02 [CH 6.3] เจ็บใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 27-02-2016 18:28:18
คู่อาทศก็น่ารักนะ
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 27/02 [CH 6.3] เจ็บใจ
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-02-2016 18:32:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 27/02 [CH 6.3] เจ็บใจ
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 27-02-2016 18:38:05
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 27/02 [CH 6.3] เจ็บใจ
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 27-02-2016 18:44:29
อยากเจอวาลี
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 27/02 [CH 6.3] เจ็บใจ
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 27-02-2016 19:06:32
ตอนนี้หมอทศน่ารักแฮะ :katai3:
หัวข้อ: Re: ✿WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น✿[ภาค2] 27/02 [CH 6.3] เจ็บใจ
เริ่มหัวข้อโดย: เซยูเนียส ที่ 27-02-2016 19:38:07
พ่อทศน่ารักจริงๆ ><
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 27/02 [CH 7] รู้สึกผิด (ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 27-02-2016 20:22:40
ทวงครั้งที่ 7 รู้สึกผิด


   วสินอุ้มร่างผอมบางวางลงบนเตียงสี่เสาหลังใหญ่ ใบหน้าขาวซีดดูซีดกว่าทุกทีที่เคยทำให้ต้องยกมือขึ้นไปแตะบนหน้า
ผากชื้นเหงื่อ

   พบว่าอุณหภูมิของผิวกายอีกฝ่ายสูงจนผดสังเกต

   ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดลงบนผิวกาย ลากผ่านผิวหนังเอาสิ่งสกปรกออกจากพื้นผิวนั้น

   ทว่าแม้กายสะอาดแต่ก็ยังคงหลงเหลือบาดแผลและรอยช้ำปรากฏอยู่ทั่วร่าง

   “จะ เจ็บ”

   เสียงครางเครือดังแผ่วเบาคล้ายกับละเมอทำให้ยักษาชะงักมือ ดวงตาคมนิ่งชะงักมองใบหน้าซีดด้วยความรู้สึกผิด

   เขาทำอะไรลงไป…

   มือใหญ่จัดผ้าห่มขึ้นคลุมกายของวาลีเอาไว้ก่อนจะเดินออกมาด้วยความละอายใจที่ยังคงกัดกินหัวใจ

   

   ทันทีที่ประตูปิดลง คนที่คิดว่าหลับไปแล้วลืมตาขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด

   ทั้งที่โหดร้ายกับเขาขนาดนั้น แต่ทำไมจู่ๆถึงได้…ทำราวกับว่าเป็นคนละคน

   ทำไมถึงต้องเช็ดตัวและใส่เสื้อผ้าให้ทั้งที่น่าจะทิ้งเขาให้นอนหมดสภาพอยู่บนพื้นเย็นๆนั่น

   วาลีหยัดกายลุกขึ้นมา ขาผอมบางแทบไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลือที่จะทรงตัว ได้แต่เอายันเข้ากับพนังห้องพยุงตัวเอาไว้ไม่ให้
ล้มลง

   

   วสินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งพร้อมกับชามข้าวต้มควันกรุ่นกับแก้วบรรจุน้ำสีน้ำเงินเข้มดูแปลกตาแต่ก็พบกับความว่าง
เปล่า ใจที่เคยนิ่งเฉยตอนนี้กลับวูบไหว

   สายตาคู่สวยสอดส่ายมองหาร่างขาวซีดทั่วชั้นบนของตัวบ้านแต่ก็ไม่พบ จึงได้เดินลงมายันชั้นล่าง

   ห้องแล้วห้องเล่าแม้แต่ห้องหนังสือที่เจ้าตัวชอบไปคลุกอยู่เวลาว่างก็ไม่มี

   ดวงตาคมนิ่งหรี่ตามองไปยังชายหาดด้านหน้าของตัวเกาะ มองเห็นกลุ่มผมสีดำอยู่ลิบตา

   ร่างกายซีดเซียวฟุบลงบนพื้นทรายสีขาวอย่างหมดแรง ไม่มีอะไรตกถึงท้องของเขามาตั้งแต่เย็นวาน จนตอนนี้เวลาเกือบ
จะเช้าช่วงเย็นของอีกวันแล้ว

   วาลีพยายามยันตัวขึ้นลุก ทั้งแขนและขาไร้เรี่ยวแรงจนสั่นไปหมด ริมฝีปากบางถูกขบกัดจนแดงช้ำ

   อะไรอะไรก็ไม่ได้ดั่งสักอย่าง ร่างกายมันไม่ฟังเขาเลย ทั้งที่อยากจะร้องไห้ออกมา แต่ก็ร้องไม่ออก

   น้ำตามันเหือดหายไปนานแล้ว

   เพราะว่าไม่เคยร้องไห้ให้กับอะไรตั้งแต่จำความได้…

   

   “เหตุใดเจ้าจึงมาอยู่ที่นี่”เสียงทุ้มดูนุ่มนวลถามไถ่อย่างห่วงใย

   ทว่าวาลีกลับสะดุ้งเมื่อเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงเดียวกับเสียงคำรามอย่างดุดันอยู่ข้างหู

   “ยะ อย่ามาแตะนะ”มือที่หมายมั่นจะแตะต้อด้วยความเป็นห่วงถูกปัดออกด้วยความโกรธเคือง

   “เข้าบ้านเถอะ แดดข้างนอกจะทำให้เจ้าป่วยไปมากกว่านี้”

   “นั่นมันเรื่องของผม เมื่อไรคุณจะปล่อยผมออกไปจากที่นี่สักที”

   วาลีถามเสียงพร่า มือทั้งสองข้างพยายามผลักดันร่างสูงใหญ่ของวสินออกห่าง ทว่าร่างก็ถูกอุ้มขึ้นมาโดยไม่สนคำปฏิเสธ

   



   “เนื้อตัวเจ้ามอมแมมอีกแล้ว”

   “ก็ยังดีกว่าสกปรกเพราะคุณแล้วกัน”ประชดประชันทั้งที่เบือนหน้าหนี

   “ข้าจะเช็ดตัวให้เจ้าใหม่ก็แล้วกัน”

   วสินทำเหมือนไม่ได้ยินคำต่อว่า กลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช่นเดิม

   “อย่า แตะต้อง ตัวผม”วาลีเน้นย้ำ แต่ก็ไม่อาจขืนแรงของยักษ์ได้

   ผิวกายสีซีดเผยสู่สายตาของยักษาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาต้องข่มอารมณ์ความรู้สึกของตนเองไม่ให้ทำร้ายกายนี้อีกหน

   วาลีเบือนหน้าหนีทั้งที่ร่างกายกำลังสั่นเมื่อผ้าชุบน้ำเย็นๆนั้นไล้ไปทั่วร่าง

   ชุดนอนตัวใหม่ถูกสวมใส่ให้อีกครั้ง แต่วาลีก็ยังคงไม่มองเขาเช่นเดิม

   “เจ้าควรกินอาหารและยา”

   “  ”

   “หากเจ้าไม่กินมัน เจ้าจะไม่มีแรง”

   “ก็ได้ แต่น้ำที่คุณบังคับให้ผมกินทุกวันผมจะไม่ยอมกินมันอีกต่อไป”

   น้ำสีประหลาดในแก้วถูกเทราดลงบนพื้นด้วยมือของคนป่วย

   “เจ้าจำเป็นต้องกินมัน เรื่องนี้ข้าคงยอมเจ้าไม่ได้”

   “งั้นคุณก็บังคับผมสิ ให้เหมือนกับที่คุณบังคับผมเมื่อคืน เอาไหมล่ะ”

   “เจ้ามิใช่เด็กอ่อนเดียงสา วาลี”

   “คุณก็ไม่ใช่ยักษ์ที่มีจิตใจเหมือนกัน”

   “ยานั่นจะทำให้เจ้าดีขึ้น”

   “คุณบอกเองว่าผมไม่ใช่เด็ก การที่ไม่เชื่อคุณมันก็ไม่แปลกอะไรนี่”วาลีเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งจ้องมองวสินเขม็งอย่างไม่
ลดละ

   ยักษ์สูงวัยได้แต่ถอดถอนหายใจ หากบังคับไปก็คงจะมีแต่ดื้อรั้นไปมากกว่าเก่า คงจะต้องหาวิธีอื่นเอา



==============================================================



   ผ่านมาหลายวันแล้ว อาการที่น่าจะดีขึ้นกลับไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยสักนิด

   เรี่ยวแรงที่น่าจะกลับคืนมากลับไม่มีอะไรแปลกไปจากเดิม

   ร่างกายผมใช้เวลาส่วนมากนอนหลับอยู่บนเตียง นานครั้งถึงจะลุกออกไปจากเตียงเพื่อไปอ่านหนังสือในห้องหนังสือชั้น
ล่าง

   แม้จะเดินสวนกันอยู่บ่อยครั้งแต่วาลีกลับไม่แม้แต่จะปรายตามองอีกฝ่าย

   วสินเองก็คอยตามอีกฝ่ายอยู่ไม่คลาดสายตา ทั้งอาหารและความเป็นอยู่กลับคอยดูอย่างใกล้ชิดต่างจากทุกที่ที่มักจะออก
ไปถือศีล

   หลายวันแล้วที่วาลีไม่เปิดปากคุยกับเขาสักคำ ยักษ์สูงวัยได้แต่มองตามอีกฝ่ายด้วยสายตาที่นิ่งเฉย

   อยากจะดึงร่างนั้นเข้ามากอดเพราะความรู้สึกผิดที่เอ่อลุ้นอยู่ในจิตใจที่เคยนิ่งเฉย

   “ข้าอยากให้เจ้ากินกลับมากินยา”จนในที่สุดก็ทนไม่ไหว เมื่อร่างกายของวาลีกลับไปแย่เหมือนครั้งแรกที่มาที่บ้านหลังนี้

   วาลียังคงนิ่งเงียบ ยกชามข้าวต้มที่ยังกินไม่หมดเดินหนี แล้วเทมันลงใส่ถังขยะ ก่อนจะล้าง


   แล้วเดินขึ้นไปยังชั้นบน

   เป็นอย่างนี้อยู่วันแล้ววันเล่า



   “เจ้ากำลังทำสิ่งใดอยู่รึ”ประตูห้องนอนเปิดออกอย่างเบามือพร้อมกับคำถามที่ถามด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน

   เช่นเดิมที่วาลียังคงไม่ตอบโต้ ไม่แม้แต่จะปรายตามอง กลับก้มลงอ่านหนังสือไม่สนใจแขกไม่ได้รับเชิญ

   

   “ข้าไม่อยากให้เจ้าเป็นเช่นนี้นะวาลี ข้าทำผิดต่อเจ้า”

   ดวงตาที่นิ่งเฉยเมื่อได้ยินประโยคนี้กลับเริ่มสั่นระริก พยายามจะไม่นึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายในคืนนั้น

   “อย่างน้อยเจ้าก็ควรกลับมากินยานั่นดังเดิม”

   วสินพูดเสียงเบา จ้องมองร่างผอมบางนั่งพิงหัวเตียง ดวงตาจดจ้องแต่หนังสือที่อยู่ในมือ

   “เจ้าอยู่ที่นี่ ไม่มีเพื่อนคุย คงจะเหงาอยู่มาก”

   คำพูดที่เหมือนจะแทงใจทำให้วาลีเริ่มปรายตามองอีกฝ่ายด้วยหางตา

   แต่ก็หลุบตาลงอ่านหนังสือในมืออีกครั้ง

   “ข้าอยากให้เจ้ากลับมาเป็นวาลีคนเดิม อย่างน้อยเจ้าก็ยังโต้ตอบข้าอยู่บ้าง”

   เมื่อไม่มีเสียงใดใดตอบรับวสินลุกขึ้นจากเตียง เดินออกมาจากห้องนอนนั้น

   เมื่อประตูปิดลงอย่างเบามือ วาลีหันไปจ้องมองประตู

   น้ำเสียงนุ่มหูนั่นทำให้หัวใจที่พยายามจะด้านชานั้นสั่นคลอน

   ความโกรธของเขามันกลายเป็นความเฉยเมยมานานแล้ว มีเพียงกำแพงสูงที่สร้างจากทิฐิเท่านั้นที่ขวางอยู่

   แต่แล้วประตูห้องก็เปิดแง้มออกมาอีกครั้ง แต่กลับไม่มีร่างของยักษ์เจ้าบ้านเข้ามา

   มันเปิดแง้มออกเพียงเล็กน้อย

   แต่แล้วเสียงแหลมเล็กก็ดังขึ้นเรียกให้มองด้วยความแปลกใจ

   โฮ่ง!! โฮ่ง!!

   เจ้าสัตว์ขนปุยสำขาวแลบลิ้นจนน้ำลายหยดลงบนพื้นวิ่งเข้ามาภายในห้อง กระโดดไปมาทั่วห้องนอนของเขา

   “หวังว่าเจ้าคงจะชอบมัน”เสียงทุ้มดังลอดผ่านเข้ามา แต่ไม่เห็นเจ้าของเสียง ไม่นานประตูก็ปิดลง

   เจ้าตัวเล็กสี่ขาวิ่งกระโดดไปทั่วห้อง แล้วหยุดตะกายอยู่ที่ขอบเตียง คล้ายกับจะเรียกให้ลงไปเล่นด้วย

   รอยยิ้มที่เหือดหายไปนับหลายปี จู่ๆกลับปรากอยู่บนใบหน้าอีกครั้ง

   ไม่รู้ตัวเลยสักนิด ได้แต่ยันตัวขึ้นมาด้วยความแปลกใจแล้วอุ้มเจ้าสี่ขาตัวเล็กขึ้นมายืนบนตัก

   “มะ หมา ใช่ไหม”

   ถามตัวเองคล้ายกับไม่แน่ใจ เพราะตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้สัตว์มีขนเลย

   เพราะกลัวว่าจะแพ้กับเชื้อโรคที่สะสมอยู่ในตัวของมัน

   โฮ่ง!!

   เหมือนเจ้าตัวจะตอบรับคำถามด้วยเสียงเห่า ส่ายหางดุ๊กดิ๊ก แลบลิ้นเลียหน้าของเขา

   “อย่าเลียสิ”

   ถึงอย่าสั่งอย่างนั้น แต่เจ้าหมาก็ยังคงระริกระรี้ จะเลียให้ได้

   ดวงตาสีโศกสะดุดตาเข้ากับแผ่นกระดาษที่ติดมากับปลอกคอ



   ‘ให้อภัยข้าได้หรือไม่’

   

   นี่คือการง้อของยักษ์อย่างนั้นหรือ…

   ไม่รู้ว่ามันดูตลกหรืออะไรกัน ที่จู่ๆยักษ์ไร้ความรู้สึกอย่างวสินจะทำเรื่องแบบนี้

   วาลียิ้มออกมาที่มุมปาก ยกมือลูบหัวเจ้าสุนัขไปมา

   นี่เขาควรจะให้อภัยยักษ์ใจร้ายนั่นดีไหมนะ





============================================================

ใครอยากให้วารีท้องอะ อิชั้นเกรงว่าจะเจี๊ยวจ๊าวฟ้าวเฟี้ยวจนบรรดาแม่ๆปวดเฮดไปตามๆกัน รึเปล่า




หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 27/02 [CH 7] รู้สึกผิด (ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 27-02-2016 20:44:24
ว้ายยยย มาอัพไวมากกกกก

จริงๆที่วาลีมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะยานั้นใช่หรือไม่?
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 27/02 [CH 7] รู้สึกผิด (ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 27-02-2016 20:52:31
กรี๊ดดด ทำไมนะอยากอ่านต่ออ่ะ ให้อภัยวสินเถ๊อะ เขาอุตส่าห์ง้อนะ
ปล.ท้องเลยค่ะ เจี๊ยวจ๊าวสิดี ชอบบบบ ออกจะครึกครื้น
ปปล.มาอัพอีกไวๆได้ไหม อยากอ่านต่อออ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 27/02 [CH 7] รู้สึกผิด (ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 27-02-2016 21:38:38
สั่นจังเลยไม่สะใจเลย
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 27/02 [CH 7] รู้สึกผิด (ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-02-2016 22:36:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 27/02 [CH 7] รู้สึกผิด (ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 27-02-2016 23:09:08
มันจะเจี้ยวจ๊าวก็ปล่อยไปเถอะจ๊ะ  อยากเห็นลูกครึ่งยักษ์อีกซักคน  :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 27/02 [CH 7] รู้สึกผิด (ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 28-02-2016 01:51:42
กรี๊ดดด ทำไมนะอยากอ่านต่ออ่ะ ให้อภัยวสินเถ๊อะ เขาอุตส่าห์ง้อนะ
ปล.ท้องเลยค่ะ เจี๊ยวจ๊าวสิดี ชอบบบบ ออกจะครึกครื้น
ปปล.มาอัพอีกไวๆได้ไหม อยากอ่านต่อออ
อร๊ายยยยยยย
คิดว่ามาน่อไวแล้วนะเนี่ยยยยยย
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 27/02 [CH 7] รู้สึกผิด (ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 28-02-2016 02:15:46
อาวสินนี้น่ารักจังน้าาาา
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 27/02 [CH 7] รู้สึกผิด (ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: noksamsee ที่ 28-02-2016 15:03:45
เพิ่มเคะมาอีกคนก่อน่ารักดี
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 27/02 [CH 7] รู้สึกผิด (ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 28-02-2016 16:32:08
โหดในคืนจันทร์เต็มดวงแต่เวลาที่เหลือก็ดูแลดีออกนะ เห็นไหมมีเอาหมามาง้ออีกตะหาก
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าว
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 28-02-2016 18:07:27
7.2 เจี๊ยวจ๊าว


   “เย้ ถึงแล้ววววววววพ่อธารา”สินสมุทรขี่คอพี่ธารายกมือชูไปมาท่าทางดีใจ

   “แม่มณี อุ้มๆ”สุดธารากระโดดชูมือจะให้ผมอุ้มลงจากเรือที่มาเทียบท่าเรือหน้าเกาะ

   “พ่อทศอุ้มหน่อย”อลันกระตุกมือให้คุณหมอทศอุ้ม

   “พ่อวรรณ”มีนาเรียกพ่อเสียงเบาเงยหน้ามองพ่อตาปริบๆ

   เด็กๆดูตื่นเต้นที่จะพามาเที่ยวเกาะ

   พูดง่ายๆก็คือพวกเราต่างก็ลงความเห็นกันว่าจะพาพี่ธารามาที่เกาะนี้เผื่อจะจำอะไรได้จากสถานที่ที่คุ้นเคยได้บ้าง

   ถือเป็นการพาเด็กๆมาพักร้อนด้วย และก็พาพี่อเลนกับอลันมาเที่ยว

   “เดี๋ยวข้ากับพี่วรรณพาสุวรรณสินธุ์ไปหาพ่อแม่ ของข้า”สุวรรณสินธุ์บอกพร้อมกับยิ้มบางมาให้

   “อื้อ”ผมพยักหน้ารับ

   คงจะพากันไปด้านล่างของตัวเกาะ พี่วรรณคงจะลำบากไม่ใช่เล่น ไม่รู้ว่าไปถึงข้างล่างได้ยังไง

   “นี่น่ะเหรอบ้านของฉัน”พี่ธาราอุ้มสุดธาราเอาไว้ ด้านบนก็มีสินสมุทรขี่คอ

   “อืม ที่นี่ล่ะ”

   “เกินกว่าที่จินตนาการไปหน่อย”

   “พ่อธารา ไปเล่นน้ำ”

   “ไปเล่นน้ำกันนะฮับ”

   เจ้าสองแสบพอมาถึงก็ตื่นเต้นร้องจะเล่นน้ำกันยกใหญ่

   “เอาของไปเก็บก่อนครับ ค่อยลงมาเล่นน้ำ

   “เย้ เล่นน้ำกัน”

   “แล้วมีนาไปไหนฮะ”

   “มีนาไปหาคุณปู่กับคุณย่า”

   “อยากไปด้วยจัง”

   “ไปไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวตอนเย็นบ่ายมีนาก็กลับมาแล้วครับ เดี๋ยวก็ได้เล่นด้วยกัน”ผมบอกเจ้าสองแสบขณะที่พวกเรา
กำลังเดินจากท่าเรือไปยังตัวบ้าน

   “มากันแล้วรึ”

   เหมือนเดิมที่คุณอาวสินออกมาต้องรับพวกเรา พูดคุยกับพี่ธาราที่ยังคงจำอะไรไม่ได้เลย

   ส่วนพี่อเลนก็ดูเหมือนว่าจะเถียงอะไรอยู่กับคุณหมอทศ อลันก็เอาแต่วิ่งเล่นกับเจ้าสองแสบ หรือวิ่งเล่นหรือหนีผมเองก็ยัง
ไม่รู้ได้แต่มองตามอยู่ไกล   ๆ

   สายตาก็เหลือบไปเห็นใครอีกคนที่ยืนมองมาทางพวกเราอยู่ไกลๆ

   คุณวาลี!!!

   ผมกับคุณวาลีเราสบตากันอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่คุณวาลีจะเป็นฝ่ายเบือนหน้าหลบสานตาของผม

   “ไง”เขาทักเมื่อผมเดินเข้าไปใกล้

   “สบายดีรึเปล่าครับ”

   เหมือนกับบรรยากาศรอบตัวมันข้นข้างอึมครึมยังไงไม่รู้

   “ฉันสบายดี”คุณวาลีตอบ แล้วความเงียบก็เข้าปรกคลุมอีกครั้ง

   ผมมองใบหน้าขาวซีดของคุณวาลี ทั้งที่น่าจะดีขึ้น แต่ทำไมดูเหมือนว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

   หรือว่าการรักษาจะไม่เป็นผล



   โฮ่ง โฮ่ง

   จู่ๆเข้าสัตว์มีขนสีขาวรูปร่างปุกปุยก็วิ่งเข้ามาในห้องเรียกให้เด็กๆหันมามองกันยกใหญ่

   เจ้าสัตว์สี่ขาตะกายตัวอยู่ที่หน้าขาของคุณวาลีเรียกให้รอยยิ้มบางฉายอยู่บนใบหน้า

   ไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่นี่มีหมา

   “หมาของคุณเหรอครับ”ผมถามเมื่อเห็นรอยยิ้มของคุณวาลี

   “มันชื่อสโนว”คุณวาลีทรุดนั่งลงแล้วลูบหัวมัน



   “มีลูกหมาด้วยเหรอฮะ”อลันวิ่งเข้ามาถามตากลมโตด้วยความอยากรู้

   “อืม ชื่อสโนว”คุณวาลียิ้มให้แล้วตอบซ้ำ

   “น่ารักจังเลยฮะ ชื่อเหมือนสโนวที่ร่วงลงมาจากฟ้าเลย สีขาวเหมือนกันเลยฮะ”อลันช่างจ้อยิ้มให้วาลี มือป้อมๆชักเข้าชัก
ออกทำท่าอยากจะลูบขนเจ้าหมาแต่ก็ไม่กล้า

   “ลองจับดูสิ มันไม่กัดหรอก”คุณวาลียิ้มให้อลัน

   น่าแปลกที่คุณวาลีปกติไม่ได้ยิ้มง่ายแบบนี้จะยิ้มออกมา

   “ขนมนุ่มมากเลยฮะคุณอา”อลันยิ้มแก้มปริอวดแก้มสีชมพูใส

   “พึ่งจะอาบน้ำให้มันน่ะ”

   “หูย มีลูกหมาด้วย”เจ้าแสบสินสมุทรยื่นหน้าเข้ามาเบียดอลัน

   “ลูกหมาสีขาวจังเลย”เจ้าแสบสุดธาราก็ยื่นหน้าเข้าเบียดอลันอีกข้าง

   “อะ ถอยไปสิ อลันมาก่อนนะ”พอโดนเบียดเจ้าตัวเล็กกว่าก็บ่นอุบ

   “ฮ่าๆ ผิวอลันขาวเหมือนหมาเลย”

   “ใช่ๆ”

   เอ่อ จะดุลูกดีไหมเนี่ย ที่ดันไปล้อลูกคนอื่นว่าผิวสีเหมือนขนหมา

   “สินสุดอย่าไปว่าน้องสิครับ”

   ผมได้แต่ยิ้มแหยส่งให้คุณวาลีที่อมยิ้มคล้ายกำลังขำ

   

   “ลูกของเธอหมดเลยเหรอ”คุณวาลีถามออกมา

   “มะ ไม่หรอกครับ แค่สองคน”

   “เป็นคู่แฝดสินะ”

   “ครับ คู่แฝด ซนน่าดู”

   ผมว่ามองตามเจ้าสองแสบกับหนึ่งช่างจ้อวิ่งตามเจ้าหมาทั่วห้องรับแขกเสียงเจี๊ยวจ๊าว



   “ถ้าไม่มีอะไรฉันขอตัวนะ”


   “จะไปไหนเหรอครับ ผมเอาขนมมาฝากคุณด้วย เอ่อ อยู่กินด้วยกันก่อนไหมครับ”

   “ฉันก็อยากอยู่ต่อนะ แต่ฉันเหนื่อย คงต้องขอตัวไปพักผ่อน ไว้ตอนเย็นก็แล้วกัน”คุณวาลีบอกเสียงเบาก่อนจะเดินขึ้นชั้น
บนไป



   สีหน้าซีดเซียวบวกกับท่าทางเหนื่อยอ่อนทำให้ผมไม่ค่อยวางใจสักเท่าไรเลย







   หลังจากที่พาเด็กๆไปนอนกลางวันที่ห้องชั้นสองผมก็พาพี่ธาราขึ้นมาที่ห้องของพี่ธาราที่อยู่ชั้นสาม

   ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เหมือนเมื่อครั้งนั้นตอนที่พี่ธาราทำให้ผมเป็นโรงงานผลิตลูกตั้งแต่ค่ำยันเช้า

   ผมยืนมองผ่านกระจกใสไปยังวิวด้านนอก มองเห็นท้องทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา

   “บรรยากาศดีนี่”เสียงที่ฟังดูสยิวกระซิบข้างหู

   ไม่รู้ว่าพี่ธารามายืนซ้อนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีเอวก็ถูกแขนแข็งแรงนั้นโอบให้หลังเข้าไปแนบชิดกับลำตัวของ
พี่ธารา

   “พี่ อะ เอ่อ จะไม่ดูรอบๆก่อนเหรอครับ เผื่อจะจำอะไรได้ แหะ แหะ”

   เหมือนจะมีสัญญาณอันตรายดังขึ้นมา เพราะมือซุกซนมันกำลังสอดเข้ามาใต้เสื้อยืดของผม

   “ไม่เอาน่าบรรยากาศดีขนาดนี้ จะเสียเปล่าเอานะ นายก็รู้ มารำลุกความหลังกันดีกว่า อย่างน้อยเราก็น่าจะเคยทำกันที่นี่”

   เสียงพร่าพูดเบาอยู่ข้างหู ลิ้นร้อนตวัดดึงเอาติ่งหูเข้าไปกัดทำเอาผมตัวแข็งทื่อ

   “เดี๋ยวสิ ไหนบอกว่าจะยังไม่ทำไง”

   ผมดันตัวออกมา ใช่มือทั้งสองข้างดันอกพี่ธาราให้ออกห่าง

   ใบหน้าตอนนี้มันรู้สึกร้อนผ่าวอย่างบอกไม่ถูก

   ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าเผลอปรายตาไปมองที่สระน้ำนั่นตั้งแต่ตอนไหน

   “สระนั่น เราเคยทำกันที่นั่นด้วยสินะ นายถึงมองไม่วางตา”พี่ธารายิ้มยั่ว

   “มะ ไม่ ไม่เคยสักหน่อย ใครจะไปทำ อะ เฮ้ย”

   พูดยังไม่ทันจบก็ถูกอุ้มขึ้นพาดบ่า

   ตูมมมมมม

   ถูกโยนลงน้ำโดยไม่บอกไม่กล่าวทำให้จมลงไปที่ก้นสระด้วยความตกใจ

   พอจะตะกายตัวขึ้นมาเหนือน้ำ ร่างกายก็ถูกรั้งเข้าไปหาจากทางด้านหลัง

   ผมได้แต่เบิกตากว้างเมื่อพี่ธาราดึงผมเข้าไปเผชิญหน้า เอวถูกเกี่ยวให้ถลาเข้าไปหา ก่อนที่ริมฝีปากยิ้มยั่วนั้นจะจูบลงมา

   ผมได้แต่กำเสื้อของพี่ธาราแน่น ใกล้จะขาดอากาศหายใจอยู่เต็มทน แต่ลมหายใจร้อนๆมันก็ผ่านเข้ามาทางริมฝีปาก

   ทำให้ต้องหลับตาลง

   ไม่รู้ว่าเมื่อไรถูกจับให้มานั่งที่ตำแหน่งเดิมตรงที่เป็นช่วงตื้นสุดของสระ ร่างกายมันเปียกชุ่มจนเสื้อผ้าแนบเนื้อ

   “ฮะ แฮ่ก”ผมสูดเอาอากาศเข้าปอด ดันอกพี่ธาราเอาไว้

   แขนทั้งสองข้างยันเอาไว้กับขอบสระกักผมเอาในอ้อมกอด

   หน้าของผมแดงก่ำ ผมเงยหน้ามองพี่ธาราอย่างเจ็บใจที่ไม่ทันบอกอะไรก็ดันจับโยนลงสระ

   “อะ ไรของพี่เนี่ย”เช็ดหยดน้ำที่เปียกผมจนมันลู่ลงมาบนใบหน้า

   “ตรงนี้ใช่ไหมล่ะ ที่เราเคยทำกัน”พี่ธารากระซิบ เบียดเข้ามาหาจนรู้สึกถึงไออุ่น

   “คะ ใครบอก”ผมกระพริบตาปริบๆ เบี่ยงหน้าหลบใบหน้าที่ก้มลงมา หันไปมอต้นมะลิซ้อนพุ่มเตี้ยที่ปลูกอยู่ริมระเบียงรอบ
สระ


   “ดอกไม้นั่นยังหอมสู้นายไม่ได้เลย”พี่ธารากดจมูกลงมาที่พวงแก้ม

   “ผะ ผมจะขึ้นแล้ว”ปากก็บอกแบบนั้นแต่ไม่รู้ทำไมมันอ่อนยวบรู้สึกไม่มีแรงยอมให้พี่ธารากดจมูกลงมาแล้วสูดหายใจเข้า
ปอด

   “มาระลึกความหลังกันหน่อยไหม”

   “นะ ไหนจำไม่ได้ไม่ใช่เหรอ”ผมเงยหน้าถาม

   “ไม่รู้สิ แค่เหมือนจะจำได้ว่าเราเคยมีอะไรกันที่สระนี่”รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นทำเอาผมอ่านไม่ออกเลยว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่น

   “จะ จริงเหรอครับ”

   “ไม่รู้สิ บางที ถ้านายจะยอมฉันบ้าง สักเล็กน้อย ฉันอาจจะเริ่มจำอะไรได้มากกว่านี้ มันก็ขึ้นอยู่กับนาย”

   “อะไรกัน โคตรขี้โกงเลย”

   ทำไมการฟื้นความจำมันถึงได้เปลืองตัวอย่างนี้ มณีไม่เข้าใจเลยสักนิด ใครก็ได้ช่วยบอกที

   นี่แค่เริ่มจะฟื้นความจำให้พี่ธาราด้วยการพามาสถานทีที่คุ้นเคย ผมก็เปลืองตัวไปมากขนาดนี้แล้ว

   จูบร้อนผ่าวถูกป้อนเข้ามาที่ริมฝีปากทำเอาผมต้องยอมเงยหน้ารับจูบของพี่ธาราอย่างช่วยไม่ได้

   ยังไงก็ขอให้มันได้ผลทีเถอะกับการลงทุนที่มากขนาดนี้

   “อะ อือ”ผมครางเสียงเบา เสื้อเปียกชุ่มถูกดึงไปกองอยู่บนอก มือใหญ่กำลังลูบไปทั่ว

   เข็มขัดถูกปลด กางเกงถูกรูดออกไป ทึ้งให้ช่วงล่างเปลือยเปล่า จนเห็นเจ้ามณีน้อยยืนขึ้นมาทักทาย

   “ยังน่ารักเหมือนเดิม”

   พี่ธารากระซิบข้างหูพลางจูบลงบนขมับ มือใหญ่กอบกุมแก่นกายที่อยู่ใต้น้ำของผมขยับอย่างเบามือก่อนจะเร่งรูดรั้งเร็วมือ
ขึ้นจนผมเริ่มรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว

   “อือ พี่ธารา”

   “ดีไหม”

   “อือ ผม ไม่ไหว”

   “นายชอบมันใช่ไหมล่ะ”

   “อือ ผมจะไป”

   มันรู้สึกราวกับเป็นสิ่งที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ทำให้ไม่นาน น้ำสีขาวข้นก็ถูกปล่อยออกมาปะปนรวมอยู่กับน้ำในสระ

   พี่ธารายกมือที่ยังคงมีคราวข้นติดอยู่ก่อนจะตวัดลิ้นเลีย

   “บะ บ้าไปแล้ว”ผมหอบจนตัวโยน จ้องมองพี่ธาราคนนี้อย่างไม่เชื่อสายตา

   “อร่อยดีนี่ หมูน้อย”

   “ผม ไม่คุยกับพี่แล้ว”

   ว่าแล้วก็จัดการเก็บกางเกงที่จมอยู่ข้างตัวลุกขึ้นเดินหนีคนเจ้าเล่ห์ทันที

   ให้ตายเถอะ นี่แค่เริ่มต้น นี่มันแค่เริ่มต้น ผมจะต้องทำให้พี่ธาราฟื้นความจำให้ได้

   ว่าแต่ ผมจะทำให้ตัวเองรอดไปได้อีกสักแค่ไหนเชียว อีกไม่กี่คืนก็จะคืนเพ็ญอีกแล้ว



===================================================================



   “ถอยออกไปน่า น่ารำคาญ”

   ในห้องนอนหนึ่งช่วงเวลากลางดึก ได้ยินเสียงคลื่นทะเลดังอยู่ไกลๆ

   “อย่าหวงตัวไปหน่อยเลยน่า”ทศกัณฐ์กอดรัดร่างโปร่งบางเอาไว้แน่น

   “ไอ้หมอโรคจิต”

   “เลือกเอาว่าจะนอนเฉยๆหรือว่าจะให้หมอฉีดยาล่ะ”คุณหมอขู่

   “ก็ถอยไปสักทีสิ มันน่ารำคาญ”

   “อีกหน่อยนายก็ชินเอง”

   “เรื่องอะไร อื้อ อย่ามาทำลามกกับผมอีกนะ”ตวาดเสียงขุ่นเมื่อมือร้อนสอดเข้ามาใต้ชุดนอน

   ลูบไล้อยู่ที่หน้าท้องจนสะดุ้งเฮือก

   “นายไม่อยากมีน้องให้อลันรึไง”คุณหมอกระซิบทำเอาอีกคนชะงักใบหน้าหวานแดงเรื่อภายในความมืด

   “พะ พูดอะไร ใครจะไปอยากมี”

   “แต่อลันบอกกับฉันว่าอยากมีน้อง”

   “ไม่เอาด้วยหรอก”

   ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ใจมันก็เต้นแรง ถ้าหากมีน้องให้อลันอลันคงดีใจ เพราะเจ้าตัวเคยบอกอยู่หลายครั้ง แต่จะให้มีกับทศ
กัณฐ์อีกคงไม่มีซะดีกว่า

   “หึหึ นอนเถอะ วันนี้นายเหนื่อยมามากแล้ว”

   เสียงทุ้มห้วนกระซิบข้างหูก่อนที่ฝ่ามือใหญ่จะลูบลงบนกลุ่มผมสีดำไปมา


   แล้วถ้าถูกกอดอย่างนี้ใครจะนอนลง อเลนได้แต่บอกตัวเองอย่างนั้น และก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่เผลอหลับไปในอ้อมกอดอุ่นนั้น




=================================================================



   ผ่านมาหนึ่งวัน ไม่มีวี่แววว่าพี่ธาราจะจำอะไรได้มากกว่าที่เราทำกับที่สระเลย แม้แต่ทางเดินในบ้านตัวเองยังจำไม่ได้

   พอมาคิดดูดีดี ครั้งที่พี่ธาราเคยจีบผม จำได้ว่าพี่ธาราชอบเอาขนมติดมือมาตลอดเวลาที่มาที่บ้าน

   ดังนั้นผมจึงตั้งใจจะทำขนมให้กับพี่ธารา

   ว่าแต่จะทำขนมอะไรดีล่ะ



   ในระหว่างที่บรรดาพันธุ์ผสมทั้งหลายต่างก็เล่นน้ำกันอยู่ที่หาดหน้าเกาะ บรรดาคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายต่างก็นั่งรับลมเฝ้า
ลูกเฝ้าหลาน สุวรรณสินธุ์กับมีนาก็กลายร่างเป็นเงือกว่ายน้ำจนเจ้าสองแสบตามไปแกล้งไม่ทัน ถึงได้หันมารุมแกล้งลูกยักษ์ด้วย
กัน

   ใจขณะที่ทุกคนกำลังสนุก แต่ใครอีกคนที่ผมไม่เห็นหน้าตั้งแต่ที่คุยกันตอนมาถึงหายเงียบไปเลย

   ผมเดินเข้ามาในบ้าน คิกว่าคงจะทำขนมอะไรง่ายๆให้พี่ธารากับเด็กๆ แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไร เพราะทำไม่เป็นเลยสักอย่าง

   พอเดินเข้ามาในครัวก็เห็นร่างผอมผิวซีดไร้สีเลือดกำลังล้างชามข้าวต้มในมือ สงสัยเพิ่งจะกินข้างเสร็จ

   “คุณวาลี ทำอะไรอยู่เหรอครับ”ผมทักพร้อมกับยิ้มให้

   “ฉันเพิ่งจะทานข้าวเสร็จ เธอจะเอาอะไรเหรอ ให้ฉันช่วยหาเอาไหม”

   “คือพอดีผมคิดว่าจะทำขนมให้พี่ธารากับเด็กๆทาน แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี เพราะผมทำอะไรไม่เป็นสักอย่างเลย”ผมเกา
หัวแก้เก้อ

   ตอนนี้บรรยากาศอึดอัดเริ่มคลายลงจากที่คุณวาลีมีท่าทีต่างไปจากแต่ก่อนที่จะมาที่นี่

   ดูเหมือนอะไรบางอย่างที่ผมพูดไม่ถูกว่ามันคืออะไรมันหายไปจากตัวเขา

   “ให้ฉันช่วยเอาไหม ฉันพอมีเวลาว่าง”

   “จะดีเหรอครับ ผมกลัวจะรบกวน แต่ถ้าได้ก็จะดีมากเลย”ผมยิ้มกว้าง

   “ได้สิ ในตู้มีแป้งทำเค้ก บางทีเธออาจจะลองทำตามตำราทำขนมดู”คุณวาลีส่งยิ้มให้

   มันไม่ใช่ยิ้มเจ้าเล่ห์ที่แฝงอะไรเหมือนเมื่อก่อน

   “งั้นก็ดีเลยครับ ได้ลูกมือเก่งๆมาช่วยต้องออกมาดีแน่”

   ผมกับคุณวาลีเลือกทำเค้กนมสดหน้าแยมผลไม้ที่ดูจะง่ายสุดและมีวุตถุดิบครบถ้วน

   ในระหว่างที่คุณวาลีกำลังตอกไข่ซึ่งเป็นงานยาก ผมกำลังร่อนแป้งที่เป็นงานง่าย

   คุณวาลีก็ถามออกมา

   “ผู้ชายคนนั้น”

   “ครับ?”


   “ฉันหมายถึงธาราน่ะ เขาดูไม่เหมือนเดิม”คุณวาลีเงยหน้าขึ้นมาถาม

   “เอ่อ จะว่ายังไงดีล่ะครับ คือว่า พี่ธาราเขา ความจำเสื่อม”

   “งั้นเหรอ เธอกับลูกๆคงลำบากแย่”

   “ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แค่อยากให้เขากลับมาจำเรื่องในอดีตได้แค่นั้นก็พอ เพราะผมเองเป็นต้นเหตุให้พี่ธาราเป็น
อย่างนั้นเอง”

   ผมบอก แต่ก็ยังคงยิ้ม ถึงแม้ใจจะเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาอีกครั้ง

   “ฉันเอาใจช่วยให้เขากลับมาจำได้ก็แล้วกัน”

   “ครับ ผมก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”


   แล้วเราก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง



   “ฉัน มีอะไรจะถามเธออีกอย่างน่ะ”คุณวาลีเงยหน้าขึ้นมาถามหลังจากที่เราเงียบกันไป

   “ครับ?”ผมเงยหน้ามองใบหน้านิ่งสงบของเขา ใบหน้าของเขาตอนนี้ดูเป็นกังวล

   “เธอช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจะได้ไหม ฉันไว้ใจเธอ”

   “ครับ ไม่มีปัญหา เชื่อใจได้ หายห่วงครับ”ผมยิ้มเป็นการตกลง

   “ตอนที่เธอมีลูกกับธารา เธอทำยังไงเหรอ”

   ทำยังไงนี่คงไม่ได้หมายถึง ท่าไหน อะไรยังไงหรอกใช่ไหม

   “ทะ ทำไมถึงถามอย่างนั้นล่ะครับ”ผมหน้าแดงชะงักมือ

   “มะ ไม่ใช่ เอ่อ ฉัน ไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น ฉันหมายถึง สาเหตุที่ทำให้เธอท้องได้”

   ค่อยโล่งใจหน่อย

   “ถ้าพูดถึงสาเหตุ ก็คงเป็นเพราะทำกันในคืนพระจันทร์เต็มดวงล่ะมั้ง”ผมทำท่าครุ่นคิด



   แต่ไม่รู้ทำไมไข่ในมือของคุณวาลีถึงได้ร่วงลงไปแตกบนพื้นซะอย่างนั้น

   “คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ”

   ผมถามเมื่อจู่ๆท่าทีของคุณวาลีดูแปลกไป ใบหน้านั้นซีดเผือดกว่าเก่าซะอีก

   มันยิ่งน่าสงสัย

   ประกอบกับที่แอบไปถามคุณอาวสินเรื่องที่ทำไมคุณวาลีถึงอาการแย่ลง คุณอาก็ตอบมาว่าคุณวาลีไม่ยอมกินยา

   เรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำแน่นอน มณีฟันธง

   “ปะ เปล่า ฉันไม่เป็นไร”คุณวาลีก้มลงไปเช็ดเศษไข่บนพื้น

   ผมขมวดคิ้วเล็กๆ ทำท่าครุ่นคิดอยู่ยกใหญ่ในขณะที่คุณวาลีกำลังล้างมือ น่าแปลกที่ไหล่ของคุณวาลีสั่นเล็กๆระหว่างที่ผม
มองเขาอยู่จากทางด้านหลัง

   หรือว่า….ผมจะเจอเพื่อนร่วมชะตากรรม



   “งั้นผมถามคุณบ้างได้รึเปล่า”ผมยิ้ม

   “เธอจะถามอะไรล่ะ”เสียงนั้นดูแห้งไปเลย

   “คุณอาเคยทำคุณเจ็บท้องบ้างรึเปล่าครับ เจ็บแบบ จนทนไม่ไหว สลบไปเลย”ผมถามทำให้มือที่กำลังจะหยิบไข่ฟองใหม่
ชะงัก

   “ไม่เคยหรอก”คุณวาลีส่ายหน้า



   “ถ้างั้นคุณก็ไม่ท้องหรอกครับ วางใจได้”ผมบอกออกไปพลางหรี่ตาเพื่อจะจับผิด

   สีหน้าของคุณวาลีดูคลายลงอย่างเห็นได้ชัด

   “เธอพูดจริงเหรอ ที่พูดออกมาน่ะ”คุณวาลีเงยหน้าถาม

   ทว่าสีหน้านั้นก็ต้องแดงเรื่ออย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

   “อะ เอ่อ”คุณวาลีอ้ำอึ้งทันทีที่ผมจับผิดได้

   “ใช่สินะครับ”ผมยิ้มเล็กๆ

   “อะ อืม”จนสุดท้ายก็ต้องยอมรับเมื่อหนีไม่รอด

   “อย่าห่วงไปเลยครับ คุณอาวสินเป็นคนใจดี”

   “ฉันเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน”

   “จริงๆแล้วผมอยากให้คุณกลับมากินยาเหมือนเดิม”ผมเปิดประเด็นใหม่

   “เขาบอกกับเธอเหรอ”

   “ไม่ครับ ผมเป็นคนไปถามเอง”ผมบอกออกไป

   เขาดูมีสีหน้าที่แปลกใจ

   “ทำไม เธอถึง…เธอไม่โกรธที่ฉันทำกับเธอเหรอ”เขาถามเสียงเบาพลางก้มหน้า

   “ไม่หรอกครับ ผมไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้น”ผมบอกออกไป

   “ฉันขอบใจเธอมากนะ ฉันนึกว่าจะไม่ได้เห็นเธอยิ้มให้ฉันอีกแล้ว”

   “อย่าพูดถึงมันดีกว่าครับ รีบทำกันดีกว่าอีกเดี๋ยวตัวแสบก็คงจะเล่นกันเสร็จแล้ว

   ผมว่า ในที่สุด ขนมเค้กที่รูปร่างหน้าตาดี ด้วยฝีมือของผมกับคุณวาลี ต้องลงเล็บโตๆเลยว่า ถ้าไม่มีคุณวาลี ขนมนี่คงจะ
ออกมาไม่เป็นรูปร่าง

   

   “แม่มณีฮะ แม่มณีทำอะไรอยู่”เจ้าแสบคนพี่ชะเง้อหวังจะมองเห็นของที่วางอยู่บนโต๊ะ

   “แม่มณีอุ้มหน่อย สุดอย่างเห็น”

   “ไม่ครับ ความลับ ตัวเปียกไม่ดีนะครับ ไปบอกพ่อธาราให้หน่อยว่า แม่มณีบอกให้ช่วยอาบน้ำสินกับสุดแทนก่อน”

   “รับทราบ/รับทราบ”เจ้าสองแสบตะเบะก่อนจะวิ่งเจี๊ยวจ๊าวกันออกไป

   “ดูท่าคงจะวุ่นวายน่าดูสินะ”คุณวาลียิ้ม

   “วุ่นวายมากกว่าที่เห็นเยอะครับ”ผมหัวเราะเล็กๆระหว่างที่ตัดเค้ก

   “น่าอิจฉาเธอนะ ที่มีคนที่รักอยู่รอบตัว”

   “มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ คุณเองอาจจะไม่รู้ตัวว่ามีเหมือนกัน นี่ครับส่วนแบ่งของคุณ”ผมตัดขนมเค้กใส่จานแบ่งให้คุณ
สาลีสองส่วน

   “ไม่หรอก ฉันไม่ชอบกินของหวานเท่าไร”เขาว่ายหน้าเบาเบา

   “ถ้าคุณไม่ชอบ คุณก็เอาให้ให้คุณอาวสินก็ได้นี่ครับ คนนั้นเขาชอบ”

   “แต่เขาเป็น เอ่อ ยักษ์ เขากินแต่เนื้อไม่ใช่เหรอ”

   “ใครบอกล่ะครับ คุณอาวสินไม่กินเนื้อ”

   “เขาบอกว่าจะกินฉัน”

   “นั่นคุณคงโดนเขาหลอกมา”ผมหัวเราะ ทำให้คุณวาลีขมวดคิ้วเล็กๆ แต่ก็ยอมรับจานเค้กแต่โดยดี

   “เขาจะดีใจนะครับ ที่คุณเอาขนมไปให้เขา”ผมบอก

   สัมผัสได้ถึงรอยร้าวแปลกๆระว่างคนทั้งสองที่อยู่ด้วยกันมาตั้งสามปี แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสนิทกันเท่าไร

   หวังว่าเขาควรจะคืนดีกันเร็วๆ บางทีอาจจะมีพันธุ์ผสมโผล่มาอีกตัว



==================================================================
เฮ้ย มันยาวไหม ยี่สิบห้าหน้า โซอึนว่ายาวนะ คือตอนนี้มณีดูฉลาดมาก 555 แต่เรื่องตัวเองนี่จ๊าดง่าวมาก555 หวังว่าจะฟิน
สาวกวาลีตั้งชื่อหลานรอเลยค่ะ เสนอมาให้ไว เดี๋ยวจิให้ยืมอลันไปนอนกอดหนึ่งคืน
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: เซยูเนียส ที่ 28-02-2016 18:50:36
กรณีของมณีคงเป็นกรณีพิเศษนะ ที่ถูกทำให้เจ็บแบบนั้นเพราะต้องให้สินสมุทรกลับมาเกิดใหม่น่ะ

เราโหวตให้วาลีท้อง!!! เพราะทำไปขนาดนั้น ไม่ท้องนิ แสดงว่าท่านอาวิสนเราไม่มีน้ำยา 55555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 28-02-2016 18:51:46
ถือป้ายไฟรอแก็งค์เด็กเจี๊ยวจ๊าวเลยค่ะ อิอิ
พี่ธาราจำให้ได้เร็วๆสิ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 28-02-2016 18:53:34
เราว่าอาวสินไม่ได้โกหกว่าไม่กินเนื้อแต่คงเลือกเนื้อที่จะกินมากกว่าเช่น เนื้อวาลี เป็นต้น 555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 28-02-2016 19:07:50
เห็นด้วยกับทอล์คของคนเขียนเรื่องมณี
ว่าแต่ บรรทัดสุดท้ายนั่นอะไร... ไหนว่าไม่ท้องไงล่ะมณี... คุณวาลีอุตส่าห์เบาใจ

ลูกของวาลีกับอาวสินเหรอ...คิดไม่ออกอ่ะ รอคนเขียนดีกว่า อิอิ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 28-02-2016 20:38:52
ฮาตรงพันธุ์ผสม 55555555  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-02-2016 21:27:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 28-02-2016 22:24:51
อร๊ายยยยย ชอบจังวุ่นวายเจี๊ยวจ๊าว พี่ธาราหื่นจริงจังมาก 55 จริงๆจะโทษมณีไม่ได้นะ วาลีถามว่ามณีท้องยังไง ตอบอย่างนั้นก็ถูกอยู่แล้ว ไม่ได้หมายความว่ามณีจะไม่ท้องสักหน่อย
ปล.ชื่อ สิวลี ดีไหมคะ ชื่อเล่นก็น้องสิ
รอตอนต่อไปจ้าาา
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 28-02-2016 23:11:52
หุยยยยยยย อาจจะเจ็บ แต่ไม่รู้ตัว(?)ก็ได้นะะะะะ :laugh:
รอตอนต่อไปปปปปปปป
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 28-02-2016 23:22:56
วสินกับวาลี  o2  ชื่อพ่อกับแม่ก็คล้ายกันอยู่แล้วด้วย ชื่ออะไรดีน้า  :z2:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: dreeanm ที่ 29-02-2016 00:36:49
มาเชียร์ชื่อ สิวาลี อีกเสียงค่าาาา
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 29-02-2016 01:10:34
ยาวค่ะ...แต่อยากอ่านต่อ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 29-02-2016 09:56:33
เดียวอาจจะมีพันธ์ผสมจากวาลีและจากอเลนคนที่สองอีกฮี่ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 03-03-2016 10:43:23
คืนดีกันเร็ว เผื่อจะมีเจ้าพันธุ์ผสมเพิ่มอีก ^__^
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 03-03-2016 17:21:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 03-03-2016 22:06:03
ธาราก็เนอะขอหื่นไว้ก่อนทุกสถานการณ์ หมอทศก็เหมือนกัน :hao3: #ทีมหื่น


ชื่อลูกอาวสินกันวาลี  "วนาลี" ดีมะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 28/02 [CH 7.2] เจี๊ยวจ๊าวพักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 04-03-2016 19:17:44
ถ้าวาลีท้อง งานนี้คงมีฝูงยักษ์แน่ๆ. 5555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 07/03 [CH 8] ใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 07-03-2016 17:18:01
ทวงครั้งที่ 8 ใจอ่อน


   วาลีชั่งใจเปิดประตูห้องนอนสีขาวออกอย่างเบามือ จานใส่ขนมเค้กที่พึ่งจะทำเสร็จสั่นเล็กๆเมื่อเจ้าของห้องกันมาสบตา
พอดี

   ดวงตาสีโศกหลุบลงมองพื้นหลบดวงตาของยักษ์ที่มองมาด้วยความแปลกใจ

   “เจ้ามีอันใดรึ วาลี”

   “เปล่า….ไม่มีอะไร”

   วาลีตอบเสียงขาดหาย สุดท้ายก้าวถอยหลังเมื่อไม่มีความกล้าพอที่จะสบตาคู่นั้น

   “นั่น เจ้าถืออะไรมา”ยักษาถามเสียงเรียบจ้องมองจานขนมในมืออย่างแปลกใจ

   “ขนมเค้ก เอ่อ มณีให้เอามาให้คุณ”เอาชื่อของบุคคลที่สามมาอ้างอย่างไม่ตั้งใจ

   “งั้นหรอกรึ เข้ามาสิ”

   ทั้งที่ไม่ใช่ประโยคคำสั่งแต่ก็ยอมเดินเข้าไปนั่งลงบนเก้าอีกฝั่งตรงข้ามกับวสิน

   “เจ้าทำเอง?”

   “ไม่ใช่ ผม อืม ช่วยกันทำกับมณี”ตั้งใจจะโกหกแต่ก็เปลี่ยนใจจนได้

   ร่างผอมของวาลีเกร็งตัวเมื่อรู้ว่าใครที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังจ้องมองตนอยู่

   “เจ้าเองก็กินด้วยกันสิ”

   “ไม่ล่ะ ผมไม่ชอบของหวาน”ตอบไป เหลือบตามองจานเค้ก เห็นมือใหญ่หยิบช้อนคันเล็กตักลงบนขนมเนื้อนุ่ม

   จึงได้เหลือบตาขึ้นมองใบหน้าคมคร้ามของยักษ์สูงวัยแต่ใบหน้ายังคงดูเยาว์

   วสินยิ้มเล็กๆเมื่อรู้ว่ากำลังถูกจ้องมองด้วยแววตาคล้ายกับมีคำถาม

   “จ้องข้า มีอะไรติดหน้าข้ารึเปล่า”

   “มะ ไม่”

   “แล้วเหตุใดเจ้าจึงจ้อมองข้าล่ะ”

   “ผมนึกว่าคุณชอบกินเนื้อ”

   “แล้วเจ้าล่ะ คิดว่าอย่างไร”

   “ผม…ไม่รู้”

   วาลีตอบ เบือนหน้าหนี



   “ผมขอตัว”

   ในที่สุดก็ทนความอึดอัดไม่ไหว ทว่าแขนข้างหนึ่งก็ถูกคว้าเอาไว้ด้วยมือใหญ่ให้หยุดชะงัก

   “ข้า…อยากให้เจ้ากลับมากินยาเหมือนเก่า เจ้าดูอิดโรยยิ่งนัก วาลี”

   ยักษาบอกเสียงเบา จ้องมองแผ่นหลังผอมบางของอีกฝ่ายแน่นิ่ง มือใหญ่ยังคงจับกุมแขนนั้นเอาไว้ เพื่อยื้อเวลาให้อีกฝ่าย
อยู่ต่อ เพียงนิดก็ยังดี



   “ผม….จะลองเก็บไปคิดดู”

   วาลีตอบเสียงเบาก่อนจะดึงมือแล้วเดินจากมา

   เพียงเท่านั้นหัวในจองยักษ์กลับกำลังแย้มยิ้มออกมาอย่างปลื้มปิติ

   อย่างน้อยวาลีก็ไม่ได้ปฏิเสธ



====================================================



   

   “จะพาอลันไปไหน”

   นานมากแล้วที่อเลนเดินตามสองพ่อลูกเข้ามาในป่าที่อยู่ด้านหลังของตัวเกาะ



   ทศกัณฐ์เดินนำเข้าไปในป่าโดยมีเจ้าตัวเล็กขี่คอ

   อเลนไม่ได้ถูกชวนมา แต่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจให้ตามมาโดยใช้อลันเป็นตัวล่อ อลันหัวเราะคิกคักชอบใจจนแก้มใสใสแทบจก
ยกขึ้นปิดตา

   เดินมาได้พักใหญ่ก็รู้สึกพื้นที่มันยกสูงขึ้นเหมือนทางเดินขึ้นเขา

   ไม่นานลมเอื่อยๆก็ค่อยๆพัดแรงขึ้น รู้ตัวอีกทีก็อยู่บนหน้าผาสูง มองเห็นทะเลรอบด้าน

   สีน้ำเงินครามล้อมอยู่รอบกายสุดลูกหูลูกตา ลมทะเลพัดแรงจนผมลู่มาปรกหน้าทำให้มองด้านหน้าได้ไม่ชัด

   จนกระทั่งนิ้วแข็งเกลี่ยเอาปอยผมที่ปรกตาออกให้แล้วทัดหู

   ไม่รู้ทำไมหัวใจดวงเล็กๆที่อยู่ในอกถึงต้องเต้นกระหน่ำเวลาที่เงยหน้าขึ้นจ้องตาขออีกฝ่าย

   ทศกัณฐ์ยิ้มให้เล็กๆ จับแขนให้อเลนเดินเข้าไปใกล้

   ถูกพาไปที่ริมผามองดูวิวกว้างได้อย่างชัดเจน

   “ว๊าวววว สวยจังเลยฮะ พ่อทศ อลันชอบ”

   “แล้วแม่ของอลันล่ะ ชอบไหม”ทศกัณฐ์หันมาถาม

   อเลนไม่ได้หันมามองตอบ ทำไมถึงได้รู้สึกว่าหัวใจมันเต้นแรงไม่หยุด แล้วหน้ามันก็ร้อนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

   เหมือนว่าถูกจีบหรืออะไรสักอย่าง ทำให้ทำตัวไม่ถูก

   อยากจะฉีกยิ้มกว้างแต่ก็ต้องห้ามเอาไว้ เม้มปากอมยิ้มเอาไว้ไม่ให้หลุดยิ้มออกไป

   เพียงเท่านั้นทศกัณฐ์ก็ได้คำตอบแล้ว

   เจ้าตัวเล็กด้านบนจ้อไม่หยุด ส่วนคนแม่ก็เงียบกลายเป็นใบ้ไปชั่วคราว

   มีเพียงสายลมที่พัดหอบเอากลิ่นอายของทะเลเท่านั้นที่พัดผ่านร่างทั้งสามไป





===============================================================



   ช่วงเย็นหาดทรายขาวหน้าเกาะกลายเป็นลานจัดเลี้ยงขนาดเล็กชั้นดีที่ทำให้ทุกคนมารวมตัวกัน

   ปาร์ตี้บาร์บีคิวที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็พากันหัวเราะพูดคุยกันสนุกสนาน



   เสียงเคาะประตูห้องเรียกให้ร่างผอมซีดของวาลีชะงักก่อนที่จะเอนตัวลงบนที่นอนให้ลุกขึ้นมา

   “เธอมีอะไรรึเปล่า”ถามเมื่อเปิดประตูออกมาพบกับมณีที่ยืนรออยู่

   “คือ ผมมาชวนคุณไปทานมื้อเย็นด้วยกัน”

   “ขอบใจนะ แต่ฉันไม่อยากรบกวน”

   “ไปเถอะนะครับ เด็กๆถามถึงคุณทุกคนเลย”

   “ถามถึงฉัน?”วาลีแปลกใจ

   “ครับ เขาอยากให้คุณไปร่วมวงด้วย”

   “ก็ได้…ฉันขอเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วจะตามไป”


   “สัญญาแล้วนะครับ”มณียิ้มกว้าง

   ประตูห้องปิดลงอีกครั้ง วาลีถอนหายใจ

   ทั้งที่คิดว่าไม่มีใครสนใจตนเอง ครั้งนี้มันเลยทำให้เขาแปลกใจไม่น้อย



   “คุณอาวาลีฮะ ทำไมคุณออาวาลีถึงตั้งชื่อมันว่าสโนวล่ะฮะ”เด็กช่างจ้อปีนขึ้นจากเสื้อมานั่งบนตักของวาลีทำให้ชายหนุ่ม
เกร็งตัวเล็กๆ แต่ก็คลายความกังวลจากรอยยิ้มไร้เดียงสา

   “ตัวของมันสีขาวน่ะ”วาลีตอบ จ้องมองเจ้าสุนัขที่กำลังวิ่งเล่นไปมาอยู่ไม่ไกล

   “แล้วคุณอาวาลีมีลูกไหมฮับ”เจ้าแสบคนพี่สินสมุทรเงยหน้าขึ้นมาถามหลังเบียดตัวข้างๆกับเขา

   “ไม่มีหรอก”วาลีส่ายหน้า

   “แล้วแฟนล่ะฮับ คุณอาวาลีมีไหมฮับ”สุดธาราถามบ้างเมื่อเบียดตัวลงอีกข้างของวาลี

   กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ชายหนุ่มกำลังถูกเด็กๆรุมล้อมเหลือก็แต่สุวรรณสินธุ์ที่ตอนนี้ติดหนึบอยู่กับชลาสินธุ์

   “คุณอาอยู่ที่นี่นานรึยังฮะ”อลันถามเสียงใส

   “สามปีน่ะ”

   “สินกับสุดก็อายุสามปีเหมือนกัน”

   “งั้นเหรอ แล้ว…อลันล่ะ”

   “อลัน…สองขวบฮะ”อลันตอบเสียงแผ่วเมื่ออายุน้อยกว่าเจ้าสองแสบขี้แกล้ง

   “แล้วคุณอาวาลีเป็นยักษ์เหมือนพวกเรา หรือว่าเป็นเงือกเหมือนมีนาฮับ”

   “ไม่หรอก ฉันเป็นคนเหมือนแม่ของพวกเธอ”วาลียิ้ม ส่ายหน้าเล็กๆให้กับเด็กช่างจ้อทั้งหลาย

   มันเป็นการสนทนาพูดคุยมากที่สุดของเขาในรอบสามปีเลยก็ว่าได้

   วาลีกำลังยิ้ม และวสินกำลังจ้อมองอยู่ไกลไกลโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว

   

   “อ้าว จะกลับไปนอนแล้วเหรอครับ”มณีถามขณะที่กำลังยกถาดของหวานออกมาจากในครัวพอดิบพอดีกับร่างสูงผอมของ
วาลีกำลังเดินสวนเข้าไปในบ้าน

   “อืม ฉันเริ่มรู้สึกเพลียนิดหน่อย”วาลีตอบเสียงแผ่ว

   “คุณดูเหนื่อยมาก”

   “ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก”

   “คุณน่าจะกลับไปกินยาเหมือนเดิม”

   “ฉัน…”

   “ไม่เป็นไร ของแบบนี้มันขึ้นยู่กับการตัดสินใจของคุณ”มณีส่ายหน้า เพราะรู้ว่าวาลีคงจะอึดอัดไม่น้อย

   ความเงียบเข้าปรกคลุมอยู่ชั่วครู่

   วาลีเงยหน้าขึ้นมามองเสี้ยวหน้าเกลี้ยงเกลาของมณี

   ไม่ต่างกันนักกับวัยเด็ก รอยยิ้มที่เคยมียังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง

   “ฉันถามอะไรเธออีกจะได้ไหม”

   “ครับ ถามมาเลย”มณียิ้มรับ

   “เธอโอเคแล้วเหรอที่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับคนพวกนั้น”

   วาลีถาม เบือนหน้าไปยังหน้าเกาะ มณีเอียงคอเล็กๆ แต่ก็เข้าใจว่าวาลีกำลังหมายถึงอะไร

   สิ่งที่วาลีหมายถึงก็คือยักษ์ หรือเงือก ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่าง

   “ผมไม่คิดอะไรมากหรอก ขอแค่มีความสุขผมก็ไม่สนใจอะไรแล้วล่ะครับ”

   “แต่ยักษ์พวกนั้น มีอายุมากกว่าเราเป็นร้อยปี เธอจะมั่นใจได้ยังไงว่าเขาจะรักเธอแค่คนเดียว”วาลีถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล

   บางทีการที่วสินทำแบนั้นกับเขามันอาจจะหมายถึงการระบายอารมณ์หรืออะไรสักอย่างที่ทำให้เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า

   มณีหัวเราะเล็กๆ ดูท่าวาลีเองจะยังไม่เข้าใจอะไรนัก ร่างสูงโปร่งยิ้มคล้ายขบขันจ้องมองมายังวาลี

   “ผมว่าผมไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แต่คุณเองไม่รู้เรื่องมากกว่าผมซะอีกนะครับ”


   “เธอหมายถึงอะไร”

   “คุณน่าจะรู้ไว้นะครับ ว่าคืนพระจันทร์เต็มดวงมีเอาไว้ให้ยักษ์เลือกคู่”

   “   ”วาลีนิ่งเงียบ

   พยายามทำความเข้าใจกับคำว่าคู่ที่มณีบอก

   “ยักษ์อย่างพวกเขาต่อให้มีอายุสักกี่ร้อยปี แต่มีคู่ได้แค่คนเดียว ถ้าลองได้เลือกคู่แล้วก็จะมีคนอื่นไม่ได้อีกเลย”

   “เธอแน่ใจ”

   “ครับ เห็นว่าถ้าคู่ชีวิตของเขาตายยักษ์ตนนั้นก็จะตายตาม การที่เขามาเลือกคู่ที่เป็นคนอย่าวงพวกเรา ผมคิดว่ามันไม่ใช่
เรื่องง่ายๆที่พวกที่มีอายุยืนอย่างพวกเขาจะยอมรับได้ง่ายๆ”มณีพยักหน้า พูดคล้ายกับเป็นกูรูผู้รู้ดี

   “เธอหมายถึงถ้าเธอตายธาราก็ตายงั้นเหรอ”

   “ประมาณนั้นครับ”

   กูรูผงกหัวไปมา แอบลอบมองอาการของอีกฝ่าย

   ดูท่าว่าวาลีคงจะไม่รู้ตัว และไม่ค่อยจะรู้อะไร

   



   วาลีทิ้งกายลงบนที่นอน ดวงตาสีโศกจ้องมองเพดานห้องพลางครุ่นคิด

   ทำไมยักษ์ตนนั้นถึงได้เลือกเขาล่ะ เป็นเพราะอะไรกัน ถึงได้ยอมละทิ้งชีวิตที่ยืนยาว มาผูกติดกับคนป่วยอย่างเขาที่ไม่รู้จะ
มีเวลาเหลืออีกเท่าไร

   นิ้วยาวแตะลงที่ริมฝีปากของตัวเองแผ่วเบา นึกถึงริมฝีปากร้อนที่เคยจาบจ้วงลงมาไม่รู้ตัว พลันหัวใจก็เต้นระรัว

   หรือว่าวสินจะรัก….เขา

   แต่มันคงจะเป็นไปไม่ได้ ที่ยักษ์ใจร้ายตนนั้นจะมีหัวใจ

   หรือเป็นเพราะอะไรกันแน่ เขาเองก็ยังไม่รู้

   ตอนนี้รู้แค่ว่าหัวใจของเขามันกำลังรู้สึกแปลก ความรู้สึกนี้มันเอ่อล้นออกมาจนรู้สึกสับสน

   ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ความรู้สึกเหมือนกับดีใจ หรือยินดีกับอะไรสักอย่างที่มันจับต้องไม่ได้

   

================================================================





   หลังจากจบปาร์ตี้ของเหล่ายักษ์เอกมนุษย์ ที่ไม่รู้ว่ามารวมตัวกันอีท่าไหน

   ผมพาเจ้าสองแสบสินสมุทรกับสุดธาราเข้านอนเสร็จก็ลากสังขารขึ้นมายังชั้นดาดฟ้าซึ่งเป็นที่สิงสถิตของยักษ์จอมหื่นที่
คอยจ้องจะเขมือบ

   แผนการขนมลำลึกความหลังจบสิ้นไม่เป็นท่า ในเมื่อพี่ธารานึกอะไรไม่ออกเลยแม้แต่เรื่องที่คอยเอาขนมมาติดสินบนพ่อ
กับแม่เพื่อเข้าหาผม

   ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องก็พบว่าภายในห้องไม่ได้เปิดไฟทิ้งเอาไว้ มีเพียงแสงดาวจากท้องฟ้าที่ส่องแสงลงมาผ่าน
หลังคาใสราวกับกระจก

   มองจ้องมองเงาตะคุ่มของพี่ธาราที่นั่งหย่อนเท้าอยู่ริมสระนอกระเบียง

   ดูท่าคงจะยังไม่ได้อาบน้ำเหมือนกัน

   “คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกเอ็มวีรึไง”อดที่จะแขวะไม่ได้เมื่อเดินมาใกล้เห็นเจ้าตัวกำลังเงยหน้ามองพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวสี
เหลืองนวล

   “เปล่า ฉันแค่กำลังมองว่าเมื่อไรพระจันทร์จะเต็มดวงสักที”

   พี่ธาราหันมายิ้มเจ้าเล่ห์เรียกให้ผมขนลุกไปทั่วร่าง

   นึกว่าจะลืมไปแล้วซะอีก

   ผมเบ้ปากเล็กๆนั่งลงหย่อนเท้าลงไปข้างๆกับพี่ธารา

   กลิ่นมะลิหอมกรุ่นพาเอานึกถึงวันเก่าๆ ผมเอนกายลงซบเพื่อหาไออุ่นจากพี่ธารา

   ไม่รู้ว่าเมื่อไรพี่ธาราจะจำได้สักที

   “นายกำลังยั่วฉันอยู่รึไง”

   “ผมเปล่าสักหน่อย”ผมส่ายหน้าเบาเบา เงยหน้ามองดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว

   พี่ธาราเอื้อมมือมาโอบเอวผมแล้วดึงเข้าไปหา

   “ผมอยากให้พี่จำได้เร็วๆ”ผมบอกเสียงเบา

   “ฉันก็อยากจะจำได้เร็วๆเหมือนกัน…บางที…เราอาจจะลองทำกันที่สระนี่ เผื่อฉันจะจำอะไรได้”พี่ธาราสอดมือเข้ามาในเสื้อ

   กะแล้วว่ามันต้องจบในรูปแบบนี้

   “ผมขี้เกียจคุยกับพี่แล้วล่ะ ผมไปอาบน้ำดีกว่า”

   ผมลุกขึ้นยืน แต่มือก็ถูกมือใหญ่คว้าเอาไว้ให้ชะงักหันกลับไปมอง

   “นายคิดว่าการที่ฉันไม่ยอมอาบน้ำแต่มานั่งเอื่อยเฉื่อยอย่างนี้มันเพราะอะไรกัน”ถามพร้อมกับส่งตาเจ้าเล่ห์

   “จะไปรู้พี่เหรอ”

   ผมถามจ้องมองพี่ธาราที่ยันตัวลุกขึ้นมาบ้าง

   “ไปอาบน้ำด้วยกันเถอะ”

   สิ้นเสียงพี่ธาราก็ยกตัวผมขึ้นพาดไหล่

   “เดี๋ยวดิ อะไรของพี่ ไม่เอา อย่ามาทะลึ่งตอนนี้เซ่ ไอ้ยักษ์หื่น”

   “มาเถอะน่า อาบน้ำด้วยกัน เผื่อจะจำอะไรได้ ไม่ดีรึไง”

   สุดท้ายก็คิดกันเอาว่าอย่างผมจะไปขัดขืนอะไรยักษ์เจ้าเล่ห์อย่างพี่ธาราได้

   

==========================================================

แถมไว้จิ้น



   “สิน อย่าเบียดอลันซี่”อลันดันเจ้าตัวกลมใหญ่ผิวเข้มออกจากด้านหน้า เพราะโดนกอดรัดเข้าไปเต็มแรง

   “ใครบอกว่านี่สิน นี่สุดต่างหาก”

   “อื้อ สิน อย่ามาเบียดอลันน่า”อลันดันคนที่คิดว่าเป็นสินออก เข้ามาเบียดจากด้านหลัง

   กลายเป็นว่าตอนนี้โดนทั้งนอนเบียดและกอดจนเจ้าตัวเล็กกว่าเพื่อนเริ่มหุดหงิด

   “ใครบอกว่านี่สิน นี่สุดต่างหาก โดนหลอกแล้ว ฮ่าๆๆ”พอหลอกได้สำเร็จแฝดตัวแสบก็พากันหัวเราะร่วน

   “โอ้ย อย่ามากัดอลันนะ”อลันร้อนดึงแขนออกจากปากยักษ์แฝดคนพี่

   “บอกว่าอย่ากัด มันเจ็บนะ”พอดึงแขนออกจากคนพี่คนน้องก็คว้าไปกัด

   แสงจากไฟไนท์ไลท์ส่องพอให้เห็นใบหน้าได้ อลันดันทั้งคนพี่คนน้องออก แต่ก็สู้แรงไม่ได้สักที


   มองเห็นเขี้ยวเล็กๆของทั้งสองคนกับน้ำลายที่ยืดติดแขนมา

   “อีกสิบห้าปี จะกินอลันในวันพระจันทร์เต็มดวงเลย คอยดู”สินสมุทรแยกเขี้ยวขู่เบียดตัวเข้าไปหายักษืตัวเล็กที่นอนคั้นตรง
กลาง

   “จะกินให้ร้องไห้เลย”สุดธาราเองก็ไม่ยอมแพ้เบียดตัวเข้าไปหาแล้วยกแขนอวบๆดึงอลันเข้าไปกอด




หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 07/03 [CH 8] ใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 07-03-2016 17:43:52
กะ..กรี๊ดดด จิ้นสุดท้ายนี่มัน  :hao6: 3P เถอะค่ะ!!! คู่ลูกก อ๊ายยย
(แต่จะลงตัวคืนพระจันทร์เต็มดวงไหมอะ??? เป็น คู่ นี่ ไม่มี คี่)
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 07/03 [CH 8] ใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 07-03-2016 19:30:37
 1 2 3 p กรี๊ดดดด
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 07/03 [CH 8] ใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 07-03-2016 19:31:47
สองแฝดที่ยังไง? สรุปจะเหมาทั้งอลันกับน้องเงือกเลยชิมิ :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 07/03 [CH 8] ใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: เถิก19day ที่ 07-03-2016 19:35:15
เอ๊ะ ยังไงๆๆ ยังงายยยยยยยย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 07/03 [CH 8] ใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 07-03-2016 20:31:00
จะว่าลูกๆของมณีแก่แดด หรือได้พ่อ(พี่ธาราเวอร์ชันหื่น)มาเยอะกันล่ะนี่
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 07/03 [CH 8] ใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-03-2016 20:46:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 07/03 [CH 8] ใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 07-03-2016 21:00:58
มีวี่แววว่าจะได้สามพี
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 07/03 [CH 8] ใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 07-03-2016 22:56:04
อันสุดท้าย จิ้นหนักมากกกกก
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 07/03 [CH 8] ใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 07-03-2016 23:10:58
เด่วววว 3p ก้อมาาาา 5555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 07/03 [CH 8] ใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 08-03-2016 21:19:13
คู่ลูกนี่มัยอาร้ายยยยย. จิ้นเลย
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 07/03 [CH 8] ใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 08-03-2016 21:38:17
สะ สะ สะ สามพี กรี๊ดดดดดดดด  :-[
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 09/03 [CH 8.2] พวงมาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 09-03-2016 04:14:13
8.2 พวงมาลัย


ในห้องเก็บของที่อยู่ข้างๆห้องครัว ผมรื้อค้นรังแล้วรังเล่าเพื่อจะหาของที่คิดว่าน่าจะใช้ได้

   คำพูดของพี่ธาราทำให้ผมนึกอะไรสำคัญๆขึ้นมาได้

   ‘กลิ่นของนาย หอมกว่าดอกไม้นั่นซะอีก’

   ตอนที่ผมโดนพี่ธาราจีบ ดอกไม้ที่พี่ธาราเอามาให้คือดอกมะลิที่ร้อยเป็นพวงมาลัยมาให้

   พอมองต้นมะลิริมสระน้ำที่ออกดอกทั้งปีก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ถึงได้เอาเวลาที่พี่ธาราดูแลลูกแล้วแวบมาหาอุปกรณ์เผื่อว่ามัน
จะมีอยู่ที่ไหนสักแห่ง

   “เธอกำลังหาอะไรอยู่”

   คุณวาลีถามพลางชะโงกหน้าเข้ามาในห้องเก็บของก่อนจะถึงครัว

   “หาของน่ะครับ”

   ผมตอบ มองดูร่างสูงผอมกำลังถือถาดอาหารสุนัข โดยมีเจ้าขนปุยตะกายอยู่ที่หน้าขา

   “หาอะไรอยู่ เผื่อฉันจะช่วยได้”

   “เข็มน่ะครับ ที่เขาเอาไปร้อยพวงมาลัย”

   “ถ้าเธอหมายถึงเข็มยาวๆล่ะก็ น่าจะอยู่ในตู้ชั้นบน ในครัวน่ะ มาสิ ฉันจะลองดูให้”คุณวาลียิ้มให้อย่างเป็นมิตร

   “ขอบคุณครับ”

   ผมเดินตามคุณวาลีเข้ามาในครัว คุณวาลีเปิดตู้หญิงเข็มหลายแหลมอันยาวส่งมาให้พร้อมกับเชือกที่ดูเหมือนจะเป็นอุปกรณ์ไว้สำหรับร้อยมาลัยโดยเฉพาะ

   ถึงมันจะดูเก่า แต่ผมก็รู้สึกว่ามันถูกเก็บเอาไว้และดูแลอย่างดี

   หรือว่าผมจะคิดไปเอง เหมือนว่าเคยเห็นของพวกนี้มาก่อน

   “เธอร้อยมาลัยเป็นด้วยเหรอ”

   “ก็พอได้น่ะครับ เวลาไหว้ครู ไหว้พ่อแก่จะต้องใช้พวงมาลัยไหว้ตลอด แม่เลยสอนผมบ้าง แต่ก็นานมาแล้วล่ะครับ”ผมยิ้ม

   “งั้นเหรอ”

   คุณวาลีตอบรับเบือนออกไปมองนอกหน้าต่าง ความเงียบเข้ามาปรกคลุมเราสองคน

   ดูเหมือนคุณวาลีอยากจะพูดอะไร แต่ก็ไม่พูด

   “เอ่อ คือ”

   “ครับ?”

   “ฉัน คิดว่า…จะกลับไปกินยาต่อ”คุณวาลีพูดเสียงเบา

   “จริงเหรอครับ ดีใจที่คุณกลับมากินยาต่อ”

   “อืม ฉันเองก็ไม่รู้ว่าอาการจะดีขึ้นสักแค่ไหน”

   “ก็ดีกว่าต้องมาเสียใจทีหลังนะครับ”

   ผมบอก นึกถึงตอนที่ผมไม่ยอมเชื่อฟังพี่ธารา คอยทำให้พี่ธาราเดือดร้อนคอยตามแก้ไขตลอด สุดท้ายพี่ธาราก็ต้องความ

จำเสื่อมเพราะผม

   ผมไม่อยากให้คนใกล้ตัวต้องมาตัดสินใจพลาดเหมือนกับผมในอดีต

   “นั่นสินะ ขอบใจเธอที่เตือนสติฉัน”

   “ขอบคุณอะไรผมล่ะครับผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ต้องขอบคุณคุณอาวสินต่างหากที่คอยหายาให้คุณกิน”

   ผมยิ้ม มองดูใบหน้าซีดของคุณวาลีที่มีแววเหมือนกำลังสับสน

   คุณวาลีพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป

   

   ผมใช้เวลาร่วมชั่วโมงในห้องครัวเพื่อประดิดประดอยร้อยพวงมาลัยดอกมะลิอย่างเบามือเพื่อไม่ให้ดอกมะลิมันช้ำ

   ผมค้นตู้ในครัว โชคดีที่เจอชามประดับลวดลายดอกไม้มีฝาผิดคล้ายกับชามที่พี่ธาราเคยเอาใส่พวงมาลัยมาให้

   ในที่สุดก็เสร็จสักที กว่าจะเสร็จก็เล่นเอาเข็มทิ่มมือจนเลือดซิบ แต่ก็มีความสุขกับผลงานที่ถึงแม้จะไม่สวยเท่าของพี่ธารา
แต่ก็ออกมาเป็นรูปร่างพอดูได้



   “นายหายไปไหนมา”เดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นไม่กี่ก้าวก็โดนถาม

   พี่ธาราลุกขึ้นมาจากโซฟาเดินเข้ามาหา

   ผมยิ้มเล็กๆอดใจรอเซอไพรส์แทบจะไม่ไหว

   แอบมองดูเจ้าสองแสบกำลังนั่งเล่นไม่สนใจใคร

   “นายยังไม่ได้ตอบฉันว่าหายไปไหนมา”

   “ก็กลับมาแล้วไง”

   “แล้วหายไปไหนมา”

   “กลัวผมหายไปรึไง”ผมยิ้ม

   “ถ้านายไม่ตอบ ฉันจะจูบจนกว่านายจะตอบ เอาไหมล่ะ”พี่ธาราไม่พูดเปล่า เอื้อมมือมาหมายจะคว้าผมเข้าไปกอด

   “เดี๋ยวสิ อะไรของพี่เนี่ย เดี๋ยวมันตก”

   ผมหลบมือยักษ์หื่นประคองถ้วยสีขาวประดับลายดอกไม้สีอ่อนเอาไว้

   “นั่นอะไร”

   “ไม่บอก”

   “จะบอกฉันดีดีหรือว่า…”

   “โอเค บอกก็ได้”ผมยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาปิดมากก่อนที่พี่ธาราจะพูดอะไรลามกไปมากกว่านี้จนลูกได้ยิน

   “นั่นอะไร”

   “ผมบอกแล้วไงว่าผมจะจีบพี่”

   “หืม นายยังคิดจะจีบฉันอีกเหรอ ครั้งที่แล้วก็ขนมเค้ก ครั้งนี้อะไรอีกล่ะ”พี่ธารายิ้มมุมปาก ดึงผมลงไปนั่งบนโซฟา

   “ก็ดูเอาสิ ผมรู้ว่าพี่จะต้องชอบ”

   “อะไรที่ทำให้นายมั่นใจได้ขนาดนี้กันนะ”พี่ธาราพึมพำรับถ้วยแก้วไปถือไว้ในมือแล้วเปิดฝาออก

   ดวงตาคมดุชะงักเมื่อจ้องมองสิ่งที่นอนแน่นิ่งอยู่ข้างใน

   ทันทีที่เปิดออกกลิ่นดอกมะลิหอมกรุ่นก็ลอยฟุ้งขึ้นมา

   พี่ธารายิ้มเล็กๆ เหลือบตาขึ้นมองผมแล้วหยิบเจ้าพวงดอกมะลิขึ้นมา

   มาลัยสีขาวสะอาดถูกยกขึ้นจรดจมูกโด่งได้รูปก่อนเจ้าตัวจะสูดดมกลิ่นหอมเข้าไป

   ดวงตาของพี่ธาราดูเปลี่ยนไป พี่ธาราช้อนตาขึ้นมามองม ดวงตาที่ทำให้ผมรู้สึกวูบโหวงหัวใจแปลกๆ

   ถ้วยใบใหญ่สีขาวกับพวงมาลัยถูกวางลงบนโต๊ะกลาง ผมยิ้มให้กับพี่ธารา ที่ดูเหมือนจะชอบมันไม่น้อย

   “ชอบรึเปล่า”ผมถาม เริ่มรู้สึกว่าหน้าร้อนๆแล้วสิ เมื่อพี่ธาราจ้องเอามากเข้า

   พี่ธาราขยับเข้ามาใกล้รั้งเอวผมเข้าไปหาจนผมแทบเกยขึ้นไปบนตัก มือข้างหนึ่งช้อนขึ้นมาลูบแก้มของผมอย่างแผ่วเบา
ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองเข้ามาในดวงตา

   “ฉันเริ่มรู้สึกว่าฉันกำลัง….หลงรักนายขึ้นมาแล้วสิ” พี่ธารากระซิบข้างหู

   ถูไถจมูกโด่งเข้ามาที่แก้มของผมอย่างแผ่วเบา น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความจริงจัง และความอ่อนโยนที่ส่งผ่านมาทำให้ใจ
ของผมเต้นระรัว

    ผมยกมือขึ้นทาบอกของตัวเองราวกับว่ากำลังย้ำเตือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องจริง

   “ผม...ไม่ได้เชื่อคนง่ายหรอกนะ” ผมบอกไปแบบนั้นแต่ก็ก้มหน้างุด มองแต่ปลายเท้าตัวเองไม่กล้าสบตาคมดุที่จ้องมอง
มา

   “ไม่ต้องห่วง...เดี๋ยวฉันจะทำให้นายเชื่อเอง”

   พี่ธารายื่นหน้าเข้ามาใกล้ลมหายใจอุ่นร้อนเป่าข้างหูทำเอาสะดุ้งเล็กๆ

   ใบหน้าถูกจับช้อนให้เงยขึ้นมามองจ้องตอบดวงตาสีดำสนิท

   “ฉัน...คิดว่ากลิ่นของนายมันกำลังเชิญชวนให้ฉันแทบจะอดใจไม่ไหว”

   “ยะ อย่าแม้แต่จะคิดนะครับ” ต้องออกตัวแรงเมื่อถูกผลักลงกับโซฟา

   พี่ธารายันตัวขึ้นมาคร่อมทับเอาไว้ปิดทางหนีรอด

   “หอมยิ่งกว่าดอกไม้พวกนี้” จมูกโด่งลงมาบนซอกคอ

   แต่นี่มันห้องรับแขก แล้วลูกก็เล่นกันเสียงเจี๊ยวจ๊าว ใจคอ พี่ธารา จะ เอ่อ…

   ผมกรอกตาไปมา

   เหมือนโชคจะเข้าข้าง ทำให้ผมรอดตัว

   “พ่อธาราาาาาาาาา”

    เจ้าสองแสบวิ่งมาแต่ไกล กระโดดขึ้นมาแย่งกันปีนขึ้นหลังพี่ธารา

   “หืม”

    พี่ธาราเกร็งตัวเมื่อตอนนี้ทั้งคร่อมทับผมทั้งโดนเจ้าสองแสบตัวอ้วนกำลังขี่หลัง

   “พ่อธาราจะทำอะไรแม่มณี”


   “ทำน้องให้พวกเราไง”

   “จริงเหรอฮับแม่มณี”สิ้นกับสุดก้มมาถาม

   “มะ ไม่ใช่ อย่าไปเชื่อพ่อเขา ไม่จริงสักหน่อย” ผมส่ายหน้าพรืด เงยหน้ามองยักษ์หื่นเจ้าเล่ห์ที่กำลังยิ้มกริ่ม



   “หอมจังเลยแม่มณี”

   “หอมเหมือนแม่มณีเลย”

   เจ้าสองแสบทำจมูกฟิดๆ กระโดดลงจากตัวพี่ธาราไปยืนจ้องพวกมาลัย

   “นี่อะไรเหรอฮับ”

   “ดอกไม้อะไรห๊อมหอม” เจ้าสองแสบเอียงคอถาม

   พี่ธารายันตัวขึ้นนั่ง ดึงให้ผมนั่งตามเมื่อตอนนี้เจ้าสองแสบเข้ามาขัดจังหวะ

   “ดอกมะลิครับ เอามาร้อยรวมกันเขาเรียกว่าพวงมาลัย”

   “แม่มณีทำเองเหรอฮับ” สินสมุทรคนพี่ปีนขึ้นมานั่งตักแล้วเงยหน้ามองผมตาแป๋ว

   “ครับ แม่ทำให้พ่อธารา”

   “แล้วพ่อธาราชอบรึเปล่า” สุดธาราเงยหน้าถามแล้วปีนขึ้นไปนั่งตักพี่ธารา

   “ชอบสิ หอมมาก แต่หอมสู้แม่มณีไม่ได้หรอก” พี่ธาราพูดพร้อมกับยิ้มยั่ว สายสายตาเจ้าเล่ห์แพรวพราวมาให้ ไม่รู้ว่ามัวแต่
เขินหรืออะไรกับสายตาคู่นั้นที่ทำให้ผมชะงัก จนยักษ์เจ้าเล่ห์ดึงตัวผมเข้าไปแล้วกดจูบลงมาบนแก้มเสียงดังฟอด

   “พ่อธาราขี้โกงงงงง สินหอมด้วย”

   “สุดก็จะหอมด้วยยย”เจ้าสองแสบแข่งกันหอมแก้มผมทั้งสองข้างจนคิดว่ามันคงจะใกล้ช้ำเต็มทีถ้าพี่ธาราไม่มาดึงเจ้าหมู
แสบทั้งสองออกไปซะก่อน

   “ให้แค่คนละทีพอ อันนี้ของพ่อ” พี่ธาราหัวเราะ เรียกให้ผมถลึงตาใส่

   “ผมไม่ใช่ของใครสักหน่อย”

   “พ่อธาราขี้โกง”

   “ขี้งกด้วยฮ่าๆๆ”

    แล้วทั้งพ่อทั้งลูกก็พากันหัวเราะสนุกสนาน



==========================================================



    หน้าประตูห้องนั่งเล่น วาลีพิงแผ่นหลังเข้ากับผนัง เสียงหัวเราะร่วนของเด็กๆทำให้เขาเริ่มรู้สึกอิจฉาขึ้นมาไม่น้อย

    อาจจะเรียกว่าเหงา…ก็ว่าได้

   ดวงตาสีโศกหลุบมองพื้นทางเดิน แล้วเดินออกไปยังห้องหนังสือ

   สถานที่ที่เงียบสงบอันคุ้นเคย

   เจ้าสุนัขสีขาวขนปุยกระโดดเข้าใส่เมื่อเจ้าของกลับมาพร้อมกับถาดข้าวใบเล็ก วาลีก้มมองเจ้าสุนัขที่ตะกายขาของเขาเพื่อ
ขออาหาร หากสุนัขนี่พูดได้ก็คงจะดี

   สามสิบสีที่ผ่านมาไม่เคยรู้สึกเหงาเท่าวันนี้มาก่อนเลย

   “แกน่าจะพูดได้นะ สโนว”

    พึมพำเสียงเบาขณะนั่งจ้องเจ้าขนปุยกินอาหารของมัน

   ไม่รู้เลยว่ามีใครเดินเข้ามาจากทางด้านหลังด้วยฝีเท้าอันเงียบกริบ เจ้านั่น

   “มันพูดไม่ได้หรอก จ้องมองมันไปมันก็ไม่รู้เรื่องอันใด” เสียงทุ้มกังวาลดังขึ้นเรียกให้วาลีละสายตาไปมองเจ้าบ้าน

    เรือนกายสูงสง่ายืนทอดมองเจ้าหมากำลังกินอาหารมูมมาม

   “ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะพูดได้” วาลีพูดตอบเสียงเรียบ หยิบหนังสือเล่มใกล้มือขึ้นมาอ่าน

   ทั้งที่ไม่รู้ว่าอ่านไปแล้วกี่รอบ

   วสินยิ่มเล็กๆเมื่อมองเห็นเจ้าของพื้นที่แสร้งเป็นไม่สนใจเขาทั้งที่หัวใจกำลังเต้นแรงจนเขาได้ยินชัดเจน

    ยักษาร่างใหญ่ย่อกายลงไปลูบหัวเจ้าขนปุย คิดว่าวาลีคงไม่ได้อยากเห็นหน้าของตนนัก

   แต่อะไรบางอย่างมันก็ผลักดันให้ตนมายังที่นี่เพื่อจะได้เพียงแค่มองเห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตา

   “ข้าดีใจที่เจ้ากลับมากินยา”ปรายตามองแก้วใสใส่ของเหลวสีน้ำเงินสวยค่อนแก้ว

   “ผมไม่ได้อยากหินมันสักเท่าไร”วาลีตอบตัดบททันที

   ตอบไปแบบนั้นทั้งที่ลึกๆแล้วกำลังเป็นห่วงชีวิตที่ดันมาผูกติดกับชีวิตที่ไม่รู้จะมีเวลาเหลืออีกเท่าไรของตน

   ย้ำความคิดว่าไม่ใช่ความห่วงใย แต่เป็นแค่น้ำใจ เพียงเท่านั่น

    แม้ว่าใจมันจะรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก



   “ผมอยากได้ปลอกคอ...เอามาใส่ให้มัน” วาลีเอ่ยปากคอทั้งที่ยังจ้องมองหนังสือถึง

   แม้ว่าจะแค่จ้องมันโดยไม่อ่านก็ตาม

   “อ่า นั่นสินะ ข้าเองก็ไม่ทันคิด ไว้ข้าจะหามาให้”

   “ขอบคุณ”

   “แล้วเจ้าชอบสีใด ข้าจะได้หามาถูกใจเจ้า”

   “สีน้ำเงิน...ผมชอบสีน้ำเงิน”

   “อืม สีนี้เหมาะกับเจ้าดี”

   “ผมไม่ได้จะเอามาใส่เอง”วาลีลดหนังสือลงแล้วถลึงตาใส่เจ้าบ้านที่กำลังลูบหัวเจ้าสโนว แต่ดวงตาคู่นั้นกำลังจับจ้องมอง
เขาอยู่

   “ข้า....หมายถึง...สีนี้เหมาะกับเจ้า มิใช่ปลอกคอ” ยักษ์สูงวัยยิ้ม หัวเราะเสียงเบาเมื่อพลาดท่าให้กับคำพูดกำกวมของ
ตนเอง

   “ช่างเถอะ ผมไม่ได้ใส่ใจ”วาลีตัดบท

   “ถ้าเช่นนั้นข้าก็มิกวนเจ้าแล้วล่ะ”

    วสินหยัดกายขึ้นลุก ยักษาจ้องมองวาลีเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินจากไป

   วาลีเหลือบตามองแผ่นยักษ์เจ้าบ้านที่เดินออกไป

   มือผอมยกขึ้นทาบอกของตนเอง

   ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายมัยกำลังเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ

   ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันแน่

    แต่เท่าที่รู้ ในเย็นของวันนั้นเมื่อกลับขึ้นไปบนห้อง

   ผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มดูสุขุม พร้อมกับปลอกคอสีน้ำเงิน มีกระพรวนสีทองห้อยตรงกลางวาง
อยู่บนเตียง

   ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นมาโดยที่เขาเองไม่รู้ตัวเลยสักนิด ความรู้สึกอบอุ่นในใจมันยิ่งเอ่อล้นจนทำให้ยิ้มออกมาอย่างไม่เคย
เป็นมาก่อน

   หรือนี่จะเรียกว่า....รัก

    เขาเองก็ยังไม่แน่ใจใน





===============================================================
หวานไหมล่ะตอนนี้ 555 ท่านอายังคงชอบเซอร์ไพรส์เหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 09/03 [CH 8.2] พวงมาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 09-03-2016 05:22:00
มาต่อไวมาก ดีใจ :mew1:

รออ่านคู่ของอเลน
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 09/03 [CH 8.2] พวงมาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 09-03-2016 08:25:31
คุณวาลีเริ่มมีใจแล้วสินะ ฮุๆ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 09/03 [CH 8.2] พวงมาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 09-03-2016 12:38:46
ป้าโซอึน จิ้นไปไกลแล้วลูกเอ้ยยยยยยยย
ใจเย็นๆกันนะลูก
อลันจะกัดเอา


(http://www.mx7.com/i/df4/KK2eOK.jpg)
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 09/03 [CH 8.2] พวงมาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 09-03-2016 14:03:22
ป้าโซอึน จิ้นไปไกลแล้วลูกเอ้ยยยยยยยย
ใจเย็นๆกันนะลูก
อลันจะกัดเอา


(http://www.mx7.com/i/df4/KK2eOK.jpg)



ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 09/03 [CH 8.2] พวงมาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 09-03-2016 14:30:43
อายุครบ 18 ปีก่อน ค่อยจัดอลันกินก็ยังทัน :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 09/03 [CH 8.2] พวงมาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 09-03-2016 21:45:42
สินกับสุดลูกกก แววหื่นตามพ่อมาแต่เด็กเลย อิพี่ธาราก็เดี๋ยวชวนลงสระ เดี๋ยวชวนอาบน้ำพร้อมกัน ทำจริงๆ ซักทีเถอะ!!!  :-[
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 09/03 [CH 8.2] พวงมาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 09-03-2016 22:07:05
 :กอด1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 09/03 [CH 8.2] พวงมาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 09-03-2016 22:08:14
รัก....เร็วไปนา...เป็นเรายังไม่หายกลัวเลย
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 09/03 [CH 8.2] พวงมาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 10-03-2016 00:54:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 11-03-2016 20:29:25
ทวงครั้งที่ 9 ในที่สุด


   “อย่ามาแตะน่า”

   อเลนปัดป้องมือของหมอที่กำลังแตะลงบนข้อเท้า

   เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่าจะพาอลันมาเล่นน้ำ เพราะอลันชอบเล่นน้ำทะเล แต่ก็มีตัวแถมตัวใหญ่ตามมาจนได้

   ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจงใจหรือว่าอะไรที่หลังจากเล่นน้ำเสร็จทศกัณฐ์เดินเข้ามาใกล้เขาเกินไปหลังจากเล่นน้ำเสร็จ

   หมั่นไส้อีกฝ่ายที่เอาแต่คอยถามจึงได้ผลักออก แต่เวรกรรมมีจริงเมื่อกายสูงใหญ่ของทศกัณฐ์นั้นไม่ไหวติง กลับเป็นอเลน
เสียเองที่ไม่ทันตั้งหลักถอยหลังล้มไม่เป็นท่า

   สุดท้ายข้อเท้าก็เคล็ดเอาจนได้

   “แม่ของเธอดื้อนะอลัน”

   “แม่อเลนอย่าดื้อสิฮะ ให้พ่อทศรักษาให้”อลันนั่งยองๆจ้องมองข้อเท้าที่เริ่มขึ้นสีคล้ำตาปริบๆ

   พ่อลูกนี่เข้ากันดีจริงๆ

   “โอ้ย มันเจ็บ”

   ตีฝ่ามือเข้าไปที่ไหล่ของทศกัณฐ์เมื่อถูกจับเข้าที่ข้อเท้าแล้วกดลง

   “สงสัยต้องฉีดยา”ทศกัณฐ์พูดแฝงความนัยน์


   “ยะ อย่ามาพูดบ้าๆต่อหน้าอลัน”

   อเลนหน้าแดง ทั้งเจ็บทั้งโมโห

   ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัวจริงๆ



   “ขึ้นมาสิ เดินไปเองคงไม่ไหว”ทศกัณฐ์ย่อตัวหันหลังให้เรียกให้เจ้าของใบหน้าคมสวยมองแผ่นหลังนั้นด้วยความแปลกใจ

   “ไม่เอา”ปฏิเสธทั้งที่รู้ดีว่าเจ็บจนเดินจะไม่ไหวอยู่แล้ว

   “อลัน แม่ของเธอ…”

   “โอเค ขึ้นก็ขึ้น”หงุดหงิดใจที่สุดก็ตรงที่ทศกัณฐ์ชอบเอาอลันไปเป็นพวกของตัวเอง

   เหมือนกันโดนรุมยังไงไม่รู้

   “แม่เอลนขี่หลังพ่อทศ เย้ๆ แม่อเลนรักพ่อทศ”

   อลันกระโดดดีใจยิ้มแก้มใสปริจนตาหยี

   “หึหึ”

   ทศกัณฐ์ได้แต่หัวเราะกับความร่าเริงของลูกชาย ไม่รู้ว่าเอาความดื้อความซน ช่างจ้อนี่มาจากไหน

   ร่างสูงใหญ่แบกร่างโปร่งบางของอเลนได้อย่างสบาย เดินย่ำเท้าเปลือยไปบนผืนทราย

   ดวงตาคมจ้องมองร่างเล็กผิวขาวจัดของลูกชายกระโดดไปมาตรงหน้า

   “อย่ามาบ่นว่าหนักแล้วกัน”

   อเลนบ่นเสียงเบา ซบหน้าลงบนแผ่นหลังของทศกัณฐ์

   แผ่นหลังด้านซ้ายที่เงียบสนิท ไม่มีเสียงของหัวใจให้ได้ยิน

   เพราะทศกัณฐ์ไม่มีหัวใจ…

   อเลนหลับตาลงซบหน้าลงบนแผ่นหลังกว้าง เสียงคลื่นทะเลทำให้ใจเขาสงบ

   ความอุ่นร้อนของผิวกายยักษ์หนุ่มทำให้รับรู้การมีตัวตนของอีกฝ่าย

   ทศกัณฐ์ดีกับอลันมาก ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่ทำให้เขาวางใจที่จะปล่อยให้อลันเข้าใกล้ทศกัณฐ์

   อาจจะเป็นเพราะอลันเองก็รักทศกัณฐ์มาก มากจนรู้สึกไม่ดีถ้าจะต้องจับแยกทั้งสองคนนี้ออกจากกัน


   ไม่รู้จะต้องทำยังไงกับอีกสองเดือนที่จะมาถึง

   จะต้องกลับไปที่เดิมที่เคยอยู่ กลัวว่าอลันจะเสียใจ

   “หลับรึไง”เสียงทุ้มถามเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายนิ่งเงียบไปนาน จากที่ชอบบ่นให้ไม่ตลอด


   “บ้าแล้ว”

   สวนกลับทันที

   ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่ยอมให้ทศกัณฐ์เข้าใกล้ทั้งเขาทั้งอลันขนาดนี้ ใกล้จนรู้สึกว่าหัวใจตัวเองมันเต้นแรง

   มันจะผิดไหมถ้าเขาจะลืมเรื่องในอดีตทั้งหมดแล้วยอมรับให้คนคนนี้อยู่เคียงข้างเขาและอลัน


   จะผิดไหมที่ละทิ้งความโกรธแล้วยอมรับให้พ่อของลูกเข้ามาในชีวิต

   

   “หูยยย สวยจังเลยฮะ พ่อทศแม่อเลน ใหญ่เบ้อเริ่มเลย”

   อลันกระโดดเข้ามาใกล้ เรียกให้อเลนและทศกัณฐ์หันไปมองตามที่นิ้วป้อมๆนั้นชี้ไป

   แสงสีเหลืองส้มของดวงอาทิตย์ยามเย็นส่องแรงเรืองรองอยู่บนผิวน้ำ เงาของดวงอาทิตย์พาดผ่านบนม่านน้ำส่องแสงระยิบ
ระยับยามที่คลื่นนั้นซัดสาดเข้าหาฝั่ง

   ทศกัณฐ์วางอเลนลงบนหาดทราย เพราะดูท่าอลันกำลังตื่นเต้นกับเงาของดวงอาทิตย์ดวงโต

   พักใหญ่จนเจ้าตัวเล็กเริ่มหมดแรง


   ปีนขึ้นมานั่งบนตักของทศกัณฐ์ อเลนเอียงคอมองเจ้าตัวเล็กซบหน้าลงบนอกกว้าง

   “อะ…”

   “ชู่วววว”

   กำลังจะถามเมื่อเห็นว่าลูกชายเหมือนจะง่วง แต่ก็ถูกคนพ่อเบรกเอาไว้ให้ชะงัก

   อเลนก้มมองลูกชายซุกตัวเข้าหาไออุ่นจากทศกัณฐ์แล้วแน่นิ่งไป

   เป็นอย่างนี้เสมอ อลันเป็นเด็กเลี้ยงง่าย ถ้าเล่นจนเหนื่อยก็จะกลับไปเอง

   ดวงอาทิตย์เริ่มหายลับลงไปในขอบฟ้า เหลือเพียงแค่แสงสลัวสีส้มอ่อนที่พอจะให้มองเห็น

   ความเงียบเข้าปรกคลุมให้ทั้งทศกัณฐ์และอเลนที่นั่งมองดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าหันมามองหน้ากัน

   ต่างฝ่ายต่างมีเรื่องจะพูด

   “นายว่ามาสิ”เป็นทศกัณฐ์ที่ออกปากพูดก่อน


   “คุณก่อนก็ได้”

   ตอนนี้กลับแย่งกันเป็นฝ่ายเสียสละ

   “ฉัน…แค่จะบอกว่า ฉันรู้สึกผิดที่ทำไม่ดีกับนาย”

   คำพูดห้วนๆในแบบของทศกัณฐ์ทำให้อเลนชะงัก ถึงจะไม่ค่อยรู้จักทศกัณฐ์ดีเท่าไร

   แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ามันคือคำขอโทษ ที่ออกจากปากยักษ์ที่มีนิสัยขวานผ่าซากแบบนี้

   “อืม” อเลนพยักหน้า หลุบตามองพื้นทรายขาวละเอียด “ผม ไม่ว่าอะไรหรอกนะ..ถะ ถ้า คุณ…จะ…แวะไปหาอลันบ้าง”

   ในที่สุดก็พูดออกไปจนได้

   อเลนช้อนตาขึ้นมองใบหน้าคมกร้านของคุณหมอยักษ์ ดวงตาดุดันก้มมองลึกเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทนิ่ง

   เจ้าตัวเล็กขยับเล็กน้อยซุกกายเข้าหาไออุ่น

   แรงดึงดูดที่มองไม่เห็นยามอาทิตย์กำลังตกดินผลักดันให้ทศกัณฐ์โน้มใบหน้าเข้าไปหาใบหน้าคมสวยแม่ของลูก

   ทั้งที่ใจสั่งให้เบือนหน้าหลบริมฝีปากที่กดจูบลงมาอย่างแผ่วเบา แต่กลับเงยหน้ารับรสจูบของอีกฝ่ายด้วยความเต็มใจ


   ตอบความความที่ส่งผ่านมาจากไออุ่น



   มันคงไม่ผิด….ถ้าหากเขาจะให้อภัย





================================================================




   “อรุณสวัสดิ์ครับ”ผมทักขณะกำลังเตรียมนมอุ่นๆให้เจ้ายักษ์แฝดที่ยังนอนกอดกับพี่ธาราอยู่ยังไม่ตื่น

   “อืม เธอตื่นเช้า”

   เขาตอบแล้วยิ้มเดินเข้ามาในครัวเช่นกัน สีหน้าขอเขาดูดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่กลับไปกินยา

   “มาอุ่นนมให้เจ้าแฝดน่ะครับ”

   เขาพยักหน้าเล็กๆ หยิบขวดใสบรรจุน้ำสีน้ำเงินใสในตู้เย็นออกมาเท

   

   “ฉันเจอหนังสือเล่มหนึ่ง….คิดว่าน่าจะช่วยเธอได้”เขาพูดออกมาหลังจากที่เงียบอยู่พักหนึ่ง

   “หนังสือ?อะไรเหรอครับ”


   “เกี่ยวกับความจำของธารา เธอน่าจะลองดูก่อน…ไหม”เขาทำท่าไม่มั่นใจ อาจจะกลัวว่าผมไม่เชื่อใจเขา

   “ครับ ไปสิครับ ตอนนี้เจ้าแฝดยังไม่ตื่น ผมไปได้”ผมตอบรับ ทำให้สีหน้าเครียดๆคลายลง



   คุณวาลีพาผมมายังห้องหนังสือ มีชั้นวางหนังสือสูงจนเกือบชิดเพดานอยู่เยอะจนผมรู้สึกเวียนหัวตั้งแต่ยังไม่เริ่มอ่าน

   “เธอรอตรงนี้แหละ”เขาบอกให้ผมนั่งรอที่โซฟากลางห้อง แสงแดดอ่อนๆยามเช้าส่องผ่านเข้ามาในห้องผ่านกระจกใส

   จำได้ว่าที่บ้านหลังใหญ่นี่ไม่มีห้องหนังสือใหญ่ๆแบบนี้ตอนที่ผมมาครั้งแรกกับพี่ธารา

   ทำไมตอนนี้ถึงได้มีได้ หรือว่า…คุณอาวสินแต่งเติมใหม่

   เหมือนจะมีเงื่อนงำ….

   “เล่มนี้ ฉันบังเอิญเจอที่ชั้นบนสุดด้านใน มันเขียนเกี่ยวกับความจำเสื่อมของยักษ์ ฉันเองก็อ่านไม่ค่อยออกเพราะเป็นภาษา
โบราณ”

   คุณวาลียื่นหนังสือที่ดูเก่ามากมาให้ ผมรับมันมาแล้วเปิดออก

   แปลกใจที่คุณวาลียังพออ่านมันได้ แต่ผมนี่ส่ายหัวให้กับตัวหนังสือที่มันยังเป็นแบบลายสือไท หรืออะไรสักอย่างที่มันน่า
จะเป็นตัวหนังสือก่อนที่จะผ่านการวิวัฒนาการ

   “คุณอ่านออกได้ยังไง ผมอ่านไม่ออกเลยสักนิด”ผมบ่นพึมพำ

   “ฉันเคยเห็นพวกนี้ผ่านตามาบ้าง เลยพออ่านออก ถ้าเธอไม่มั่นใจ ลองเอาไปให้ทศกัณฐ์ดูก็ได้ เขาเป็นหมอใช่ไหม”

   “อา ใช่ครับ คุณหมอทศเป็นหมอ”ผมพยักหน้า “งั้นเดี๋ยวผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวลูกจะตื่น ขอบคุณมากนะครับ สำหรับไอ้
นี่”ผมยิ้มกว้างให้คุณวาลี

   “อืม ไม่เป็นไร”

   “เห็นว่ามื้อเช้ามีข้าวต้ม มาทานด้วยกันนะครับ เด็กๆคงดีใจ”ผมชวน เพราะหลายครั้งคุณวาลีดูเหมือนกับเหงาๆ และหลาย
ครั้งก็เห็นว่าชอบมองเด็กๆแล้วก็ยิ้ม

   คุณอาวสินน่าจะทำลูกให้คุณวาลีบ้าง

   “ฉันจะคิดดู”เขายิ้มเมื่อผมชวน



---------------------------------------------------------------------------------------------------------



   ผมกลิ้งหนังสือในมือไปมา มืออีกข้างก็ถือถาดใส่แก้วนมกับแก้วกาแฟ กลัวเหมือนกันว่ามันจะคว่ำ แต่ไอ้หนังสือที่อยู่ในมือ
มันก็ทำให้ผมอดสงสัยและอดหวังกับมันไม่ได้

   ติดที่ว่าอ่านไม่ออก…เท่านั้นเอง

   “นายหายไปไหนมา”

   ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้อง พี่ธาราก็ถามขึ้นมาทันที ใบหน้าคมดุของพี่ธารามุ่ยเล็กน้อย

   กายสูงใหญ่นั่งขัดสมาธิข้างบนเตียงท่อนอกเปลือยเปล่าเยให้เห็นมัดกล้ามน่าอิจฉา เรือนผมยาวมัดหลวมๆไว้ยุ่งฟู แต่ก็ดู
น่ามองไปอีกแบบ

   วันนี้เด็กๆมานอนด้วย พอตื่นก็เลยเป็นอย่างที่เห็น สินสมุทรขึ้นไปขี่อยู่บนคอของพี่ธารามือก็จับหัวของพี่ธาราเอาไว้ ส่วน
สุดธาราเองก็เตรียมกำลังจะปีนขึ้นไปกันจ้าละหวั่น

   ดูตลกจนหลุดยิ้มออกมา เจ้าสองแสบนี่ก็เอาแต่เช้า ให้มานอนด้วยก็เป็นแบบนี้ตลอด

   “ผมไปอุ่นนมมาให้ลูก”

   “แค่นั้น?”เลิกคิ้วถามคาดคั้นเหมือนรู้

   “ไปห้องหนังสือมาด้วย”

   “ไปทำไม”ขมวดคิ้วใส่ผม

   “ไปหนังสือ คุณวาลีบอกว่าหนังสือนี่น่าจะเกี่ยวกับอาการของพี่”

   “ไปกันสองคน”

   “อืม สองคน”ผมพยักหน้าวางถาดไว้ที่โต๊ะข้างๆจับสองแฝดลงมาจากตัวพี่ธารา

   “ทำไมไปบอก”

   “แล้วทำไมต้องบอก”พอโดนถามมากๆแต่เช้าแบบนี้มันก็เริ่มหงุดหงิดแฮะ

   ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆพี่ธาราส่งแก้วนมให้สองแสบตามด้วยแก้วกาแฟให้พี่ธารา

   พี่ธารายังคงทำหน้าเหมือนไม่พอใจเหมือนเดิม

   นี่ผมผิดอะไรเนี่ยยยยยยยยยยย

   “อร่อยไหม”ผมเอียงคอถามพี่ธารา

   “อืม อร่อย แต่”

   “แต่อะไร”ถ้ากาแฟสำเร็จรูปไม่อร่อยแล้วอะไรจะอร่อย

   ผมหันไปมองพี่ธารา ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมจะหันไปหาเขาเด็ดขาด ไม่เลยจริงๆ


   พี่ธาราโน้มหน้าเจ้ามาใกล้ ริมฝีปากร้อนขบลงบนหูของผมเบาๆแล้วกระซิบ

   “ฉันอยากกินนมนายมากกว่า”

   ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเจ้าสองแสบไม่อยู่มันจะเกิดอะไรขึ้น

   พี่ธารายิ้มกริ่มเหมือนจะชอบใจที่แกล้งผมได้ มันน่านัก



   




----------------------------------------------------------------------------------------------   
   หลังจากอาหารมื้อเช้าจบลง ตอนนี้ทุกคนใบบ้านไม่เว้นแต่พี่ศรีสุวรรณกับชลาสินธุ์ที่อยู่ในห้องนั่งเล่นเพื่อพักผ่อนตาม
อัธยาศัย

   โซฟารูปตัวยูขนาดใหญ่ พี่ธารานั่งริมสุด ถัดมาเป็นผม พี่อเลน หมอทศ ชลาสินธุ์ พี่วรรณ คุณอาวสิน ส่วนที่นั่งเงียบๆอยู่
ท้ายสุดก็คือคุณวาลี ที่เกือบจะเรียกเอาไว้ไม่ทันเพราะเจ้าตัวกำลังจะไปเก็บตัวอยู่ในห้องสมุดเหมือนเคย

   ในขณะที่ทีวีฉายหนังครอบครัว เด็กๆนั่งเล่นอยู่บนพื้นพรมด้านล่าง

   “มณี”พี่อเลนสะกิด ดึงแขนผมเข้าไปกอด เพราะนั่งอยู่ข้างๆกัน

   “ครับว่าไง”ผมหันไปยิ้มเหมือนทุกที

   “เดี๋ยวดูหนังจบไปเล่นน้ำกันไหม”พี่อเลนซบหน้าลงบนแขนผมเหมือนทุกที

   เป็นแบบนี้ตลอดเพราะพี่อเลนเป็นคนที่ค่อนข้างถึงเนื้อ ถึงตัว…กับผม


   “เอาสิครับ ผมมีที่เด็ดๆ”


   ว่าแล้วก็ยิ้มกันอยู่สองคน แต่พอมองผ่านไหล่ของพี่อเลนไปรู้สึกว่ามันเหมือนมีเงาดำๆอยู่ด้านหลัง

   ดวงตาสีดำสนิทของคุณหมอจ้องมองเหมือนไม่พอใจ…นี่ผมผิดอะไรอีก

   “มานี่เลย ให้ตายสิ เป็นอย่างนี้ทุกที”

   สิ้นเสียงแข็งๆของพี่ธารา คอเสื้อก็ถูกดึงจากข้างหลังให้เซไปทับพี่ธารา

   “อะไรของพี่”

   “ห้ามไป”

   “นายเองก็ห้ามไป”คุณหมอทศสั่งพี่อเลนเหมือนกัน

   “เรื่องอะไรมาสั่ง”พี่อเลนเบ้หน้ากอดอกใส่

   อะไรของสองคนนี้

   ไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงเล็กๆของอลันให้ต่างคนต่างหันไปมอง



   “โอ้ย บอกว่าอย่ากันอลันไง อลันไม่ชอบเลย”

   พอหันไปมองก็เห็นเจ้าสองแสบงับคออลันคนละข้าจนน้ำลายติดอยู่ที่คออลันยืดตามเคี้ยวมาติดๆ

   


   “ให้ตายเถอะ เจ้ายักษ์แฝดนี่ เชื้อไม่ทิ้งแถวจริง”

   คุณหมอทศหิ้วอลันออกมาจากวง ดีดหน้าผากเจ้าแสบไปคนละที มีนาได้แต่มองตามตาปริบๆ เพราะไม่ได้สนใจอะไรใคร
เลยนอกจากของเล่น


   เอ่อ…ผมควรจะทำยังไงดี ลูกตัวเองไปกัดลูกเขาอีกแล้ว

   “ฉันจะไม่ว่าอะไรหรอกนะ ถ้านายจะไม่พาดพิง”พี่ธารากอดอกพิงพนักโซฟา ยิ้มมุมปากเหมือนชอบใจ

   “สินสุด ทำไมไปกัดน้องอีกแล้ว”ผมเรียกเจ้าสองแสบมาแล้วดุ มันหลายครั้งแล้วที่เห็นเจ้าแฝดแสบกัดอลัน

   “อยากกิน”ตอบกันสั้นๆง่ายๆ เลียริมฝีปากทำหน้าเจ้าเล่ห์


   ไอ้นิสัยแบบนี้มันได้ใครมากันแน่ ผมเหลือบมองพี่ธาราที่ทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็ยิ้มเหมือนชอบใจ

   “เป็นรอยเลย”พี่อเลนอุ้มอลันมาดู

   ผมหันไปดูกะจะขอโทษ แต่รอบกัดที่คอ ไหงมันค่อยๆกลายเป็นสีน้ำตาลอมส้มเป็นดวงๆแบบนั้นไปได้



   “เอาจนได้”หมอทศกุมขมับตัวเอง

   “มีอะไร”พี่อเลนเงยหน้าถาม

   “ตราประทับ”คุณหมอพูดเสียงเบา


   “ตราประทับอะไร”พี่อเลนเริ่มเป็นห่วง เพราะเรื่องเหลือเชื่ออะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้ถ้าหากว่ามีเรื่องของยักษ์เข้ามาเกี่ยว

   “จองตัวไง เหมือนกับปานที่ก้นของนาย”

   “อะ อะไร มันเกี่ยวอะไร”พี่อเลนหน้าแดง ไม่ทันได้สังเกตว่าพี่อเลนมีปานตรงก้นในตอนนั้น หรือผมมัวแต่มองอเลนน้อยจน
ลืมสังเกต

   “ผมไม่เข้าใจ”ผมถามอีกคน

   “ถ้ารอยกัดเปลี่ยนเป็นปาน มันก็เหมือนกับการหมั้นกันของมนุษย์นั่นล่ะ เข้าใจอะไรกันยากนักหนา”

   คำตอบของคุณหมอทำเอาผมหน้าเหวอ


   “จริงเหรอ”ผมหันไปถามพี่ธาราเพื่อให้แน่ใจว่าคุณหมอทศไม่ได้โกหก

   “อืม น่าจะใช่ ถ้าจำไม่ผิด”

   “อะ อะไร จะจองสองคนได้ไง เอาออกได้ไหม”พี่อเลนละล่ำละลักถูคออลัน


   “เอาไม่ออกหรอก เลิกถูได้แล้วน่า”คุณหมอดึงเอาอลันไปอุ้ม

   “แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้ สิน สุด ทำไมไม่ปรึกษาแม่ก่อน”ผมหันไปดุ เจ้าสองแฝดยิ้มให้อย่างเดียว

   “ไม่ให้คนอื่นกินอลันไง”ตอบสั้นๆได้ใจความ

   นี่มันอะไร สองแสบแก่แดดได้ใครมา ผมล่ะไม่เข้าใจ



   “มันแก้อะไรตอนนี้ไม่ได้แล้ว ถึงเวลาก็รู้เองนั่นล่ะน่า เอานี่ไป นายน่าจะรู้ว่าต้องทำยังไง”


   หนังสือเล่มเก่าถูกโยนไปตรงหน้าของคุณหมอทศให้ยกมือขึ้นรับอย่างพอดิบพอดี

   “นี่อะไร”

   “หนังสือ”

   “ฉันไม่น่าถาม”คุณหมอตัดบท ยังคงกัดกันเหมือนเดิม “นี่มันเก่ามาก”

   “มันว่ายังไงบ้างครับ”ผมถาม

   “นายไปเอามาจากไหน”

   “คุณวาลีให้มาน่ะ”ผมหันไปยิ้มให้กับคุณวาลี

   “มันเป็นภาษาเก่า”คุณหมอขมวดคิ้ว “ในนี้บอกว่า ต้องใช้เลือดของเงือก แล้วก็กุหลาบทะเลสีฟ้า แล้วก็ ลมหายใจของผู้
แบ่งปัน คืนเดือนหงาย”

   พอบอกแบบนั้น พี่ศรีสุวรรณก็สะดุ้ง หันมามองค้อนทันที

   “อย่าบอกนะว่าจะเอาเลือดของชลาสินธุ์”

   “นะ นิดเดียวเอง”ผมพึมพำ “ทำเป็นหวงไปได้” เรื่องชลาสินธุ์ทีไรล่ะเรื่องใหญ่ทุกที

   ผมเบ้หน้าใส่พี่วรรณที่เอาแต่กอดชลาสินธุ์ไม่ยอมห่าง

   “ข้าไม่มีปัญหาหรอกนะพี่วรรณ”ชลาสินธุ์ซบหน้าลงบนอกของพี่วรรณ


   “แล้วกุหลาบทะเลสีฟ้าอะไรนั่นล่ะครับ ผมจะไปหาที่ไหน เหมือนกับของคุณวาลีรึเปล่า”

   “อันนี้ไม่แน่ใจ”คุณหมอทศส่ายหน้า

   “อันนั้นข้ารู้นะ มันเป็นดอกไม้ของเงือก ข้าเคยเจอมันในถ้ำใต้น้ำที่เกาะใกล้ๆนี่เอง ตอนที่ข้าไปเที่ยวเล่น”

   “จริงเหรอครับ งั้นก็ดีเลย แล้วลมหายใจผู้แบ่งปัน อันนี้คืออะไร”

   “อาจจะหมายถึงนาย”

   

   



   

   

================================================================

กลับเข้าเรื่อง คราวนี้สาระแล้วนะ ไม่หวานแล้วนะ กิ๊วๆ มีจิ้นเล็กๆอีกแล้ว




หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 11-03-2016 21:01:05
กรี้ดดด เค้าหมั้นกันแย้วววว :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 11-03-2016 21:36:30
เด็กๆ ใจเย้นๆนะ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: LoveYoukissme ที่ 11-03-2016 21:45:09
อุ้ย มีจองตัวไว้ด้วย
แก่แดดเกินไปแล้วสินสุด
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 11-03-2016 21:50:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 11-03-2016 21:54:36
สองแฝดแสบมากกกก :laugh:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-03-2016 22:19:04
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 11-03-2016 22:32:20
ดีแล้วล่ะอเลนให้อภัยหมอทศจะได้มีความสุขกันซักที

สินกับสุดลูกกก หนูจองตัวน้องตั้งแต่ตอนนี้เลย แล้วน้องอลันจะรับไหวมั๊ยตัวแสบ 2 คนนี้ ตั้งตารอ 3P จ้า55555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 11-03-2016 23:04:15
จะหายแล้วววว ชิมิ?
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 13-03-2016 02:05:55
แก่แดดมากสองแสบ
ได้พ่อมาเยอะ 5555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: แดนเหนือ ที่ 13-03-2016 07:04:10
มีนารอดสินะ 555555555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 13-03-2016 09:37:34
ประเด็นตอนนี้ มณีเตรียมสินสอดยัง...เดียวไม่พอขอสะใภ้นา
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 13-03-2016 13:41:10
ชักสงสัยว่าธาราความจำเสื่อมจริงมั๊ยทำไมดูหวงจนไม่น่าเชื่อ นี่ขนาดความจำเสื่อมนะ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: เซยูเนียส ที่ 13-03-2016 18:40:16
หนทางรักษามีแล้ววววว ว่าแต่ 2 แฝดแสบมาก!!! ไปหมั้นลุกชาวบ้านแบบไม่ถามไถ่แม่เจ้าสาวเลยนะเรา ว่าแต่ 3P สินะ 5555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 13-03-2016 18:48:51
จะหายแล้วเย้
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo Belle ที่ 15-03-2016 16:09:30
จะหายแล้ว ลุ้น :mew1:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 15-03-2016 21:11:55
แก่แดดมากเจ้าแฝด  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 17-03-2016 15:40:06
ลมหายใจผู้แบ่งปันนี่ชีวิตมณีป่ะ  เด็กๆไวไฟเหมือนพ่อไม่มีผิดมีการภูมิใจอีกต่างหากนะธารา  อยากให้วาลีกับอาวสินดีกันๆจะเยี่ยมมาก
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 11/03 [CH 9] สุดท้าย+หึง+หนังสือ
เริ่มหัวข้อโดย: Arancia ที่ 19-03-2016 14:03:02
อ่านทันแล้ววววววว
ตาแฉะเลย สนุกมากกกกก

พี่ธาราไม่น่าความจำเสื่อมเลย ซึ้งอะ เดี๋ยวก็กลับมาแล้วนะ รอลุ้นด้วยคน
เด็กๆน่ารักมากกกกกก
มีนามึนสุด 5555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 20-03-2016 02:10:50
 :katai4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-03-2016 06:36:48
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 20-03-2016 06:45:06
ตายละน้องเงือกโดนจับ แล้วใครจะลงน้ำมาช่วยได้ละทีนี้?!
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 20-03-2016 07:35:09
งานเข้าแล้วจ้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 20-03-2016 07:45:33
จะไปช่วยทันไหมนะ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 20-03-2016 08:52:51
โดนจับแล้วคุณสามีมาช่วยเร็ว
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 20-03-2016 09:41:07
ใครจะไปช่วยได้ล่ะทีนี้ เล่นอยู่ใต้น้ำเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 20-03-2016 17:08:47
ดัน
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: เซยูเนียส ที่ 20-03-2016 18:52:36
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด พี่วรรณลงไปช่วยด่วนนนน -*- ว่าแต่ลงไปในน้ำนิ พี่วรรณไม่ขาดอากาศตายก่อนเรอะ หากจะลงไปช่วยอ่ะ ต้องมีวิธีที่ทำให้หายใจในน้ำได้สิเนอะ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 20-03-2016 22:06:16
โถถถถถถ

เงือกน้อยยยยย

ม่ายยยยยยยยยยย น่านนที เจ้า!!!!
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 22-03-2016 17:08:42
ขอให้ลงไปช่วยทันละนะ (จินตนาการล้ำเลิศจริงๆเลย 555)
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: P_Ple ที่ 22-03-2016 17:56:02
โถถถ..... เงือกน้อยน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 24-03-2016 18:03:40
คราวนี้ใครจะช่วยทันเนี่ย  :hao5:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 24-03-2016 19:21:30
 :a5: งานนี้ใครจะไปช่วยละนี่
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: jajajelly ที่ 24-03-2016 21:22:14
ดุเดือดมากกก สงสารน้อวมณีช้ำแช่
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 25-03-2016 00:34:50
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด อ่านรวดเดียวเลยค่ะ ชอบมากๆๆๆๆๆ

/แม้จะหงุดหงิดน้องมณีก็ตาม
//ชอบคู่คุณหมออออกับน้องลี

โอย ลุ้น น้องเงือกของพี่
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 28-03-2016 01:29:23
งือ รออัพอยู่น้าา
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 28-03-2016 23:10:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 03-04-2016 01:22:38
รอ ขอรับ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 03-04-2016 11:28:29
จะว่ายไปช่วยเองละนะะะะ o18
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 03-04-2016 14:38:56
คนเขียนค่ะ คนอ่านจะลงแดงแล้วน้าาาาาาา :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 06-04-2016 13:29:50
2อาทิตย์ล้าววววว :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 20/03 [CH 10] กุหลาบแห่งท้องทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 13-04-2016 00:17:22
ทวงครั้งที่ 10 กุหลาบแห่งท้องทะเล

   “ฉันไม่อยากให้นายไปเลย ชลาสินธุ์”เจ้าของกายสูงใหญ่ดึงรั้งเอาร่างบอบบางของเงือกหนุ่มเข้ามากกกอด  จมูกโด่ง
จรดลงบนพวงแก้มสีระเรื่อจ้องมองนัยน์ตาสีฟ้าครามของผู้เป็นที่รักด้วยความห่วงใย

   “ปล่อยข้าเถิดพี่วรรณ ข้าไปไม่นานนักหรอก ท่านอย่าได้ห่วงข้าไปเลย”ชลาสินธุ์ตอบเสียงก้องไปทั่งบริเวณถ้ำใต้น้ำด้าน
ล่างของเกาะกลางทะเล ดึงรั้งแขนแข็งแรงที่กำลังโอบกอดออก ทว่าแขนนั้นยังคงโอบรัดเอวแน่น

   “แต่ฉันเป็นห่วงนาย ไม่อย่างให้นายไปไกลจากสายตาของฉัน”

   “ได้โปรดเถิดพี่วรรณ ท่านธารากับท่านวสินมีบุญคุณต่อครอบครัวของข้า ข้าคงจะเมินเฉยยามที่เขาเดือดร้อนไม่ได้”

   ชลาสินธุ์พูดเสียงอ่อนซบหน้าลงบนอกเปลือยของศรีสุวรรณอย่างเอาใจ มือใหญ่ตะโบมลูบไล้แนวเกร็ดสีฟ้าครามเป็นการ
หยอกล้อเรียกให้เงือกหนุ่มหน้าแดงระเรื่อ

   “ก็ได้ แต่นายต้องกลับมาก่อนมื้อเย็น แล้วก็”พูดทิ้งท้ายเป็นปริศนาก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากนุ่ม

   “อื้อ พี่วรรณ”

   ถูกจู่โจมเข้าจนได้ สะโพกกลมปกคลุมเกร็ดสวยกำลังถูกสัมผัสด้วยฝ่ามือร้อนจนร่างกายบางสั่นเทาเล็กๆช้อนตาขึ้นมอง
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่

   ศรีสุวรรณพรมจูบไปทั่วดวงหน้าหวานล้ำตักตวงเอาความหอมหวานจนหนำใจแต่มือปลาหมึกก็ยังคงไม่หยุด ดึงรั้งเอวบาง
เข้ามาหาจับให้ชลาสินธุ์นั่งบนตักของตน

   “พี่วรรณ”

   หางสวยสะบัดไปมาในน้ำมีเพียงช่วงสะโพกที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา เสียงหอบหายใจของชายหนุ่มหอบกระเส่าดังก้องทั่วโถง
ถ้ำใต้น้ำยิ่งปลุกความกำหนัดได้เป็นอย่างดี

   “บอกฉันหน่อยสิชลาสินธุ์…ถ้าฉันอยากจะทำรักกับนายในร่างนี้ฉันจะต้องเข้าไปทางไหน”ศรีสุวรรณยิ้มกริ่มเรียกให้ชลา
สินธุ์สะดุ้งช้อนตามองหน้าแดงก่ำ

   “พะ พี่วรรณ”

   “ว่าไง ตรงนี้ หรือตรงนี้”มือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วอ้อมไปยังด้านหน้าจับเอาเครื่องเพศที่โผล่ออกมาหยอกล้อจนมันตั้งรับ

   “อะ อา ตะ ตรงนี้”ชลาสินธุ์เอื้อมมือแหวกเกร็ดสีคราวยังเบื้อหลังเผยให้เห็นช่องทางสีอ่อนด้วยท่าทางเขินอาย “อะ อื้อ”
กายเล็กกว่าผวาเกาะลาดไหล่ของชายหนุ่มเมื่อนิ้วแข็งสอดลุกล้ำเขามาขยับวนราวกับกำลังสำรวจภายใน

   “รู้สึกมากกว่าเดิมใช่ไหม”

   “อื้อ พี่วรรณ ท่านช่าง อะ เจ้าเล่ห์นัก”ต่อว่าแต่ก็เอื้อมแขนกอดก่ายคนรักแน่น ซุกใบหน้าลงบนอกกว้างเบียดเข้าหาไออุ่น

   “ถ้ารู้ว่าทำแบบนี้ได้ ฉันน่าจะทำตั้งนานแล้ว”ยังคงพูดหยอกให้ชลาสินธุ์ได้เขินอาย จ้องมองท่าทีอ่อนเดียงสาจนไม่อยาก
จะปล่อยให้ร่างนี้ห่างกายไปไหน

   “หื้อ ข้าไม่อยากให้ท่านโลภมาก อะ อา พี่วรรณ เรามีสุวรรณสินธุ์แล้ว ขะ ข้า อา หยุดหยอกล้อข้าสักทีเถิด ข้าแทบทนไม่
ไหว”

   ชลาสินธุ์จิกนิ้วลงบนลาดไหล่แน่นเมื่อนิ้วที่ขยับอยู่ภายในกำลังคว้าลึกจนเมือกของเหลวที่ถูกขับออกมาไหลย้อนออกมา
จากช่องทาง

   “ฉันคงจะคิดถึงนายมาก”ถอนนิ้วชุ่มเมือกเหลวใสออกก่อนจะกดจูบลงบนขมับชื้นเหงื่อ มือใหญ่รวบเอาผมสีดำขลับให้พาด
ลงที่ลาดไหล่ของเจ้าของ

   “ขะ ข้าไปไม่นาน อะ อื้อ พี่วรรณ”เงือกหนุ่มสะดุ้งเฮือกเมื่อร่างกายถูกจัดให้อยู่ในท่าทางตั้งรับกายแข็งขืนของชายหนุ่ม
สอดเข้ามาผ่านช่องทางสีหวานง่ายดาย

   ร่างกายบอบบางถูกอุ้มให้นั่งทับอยู่บนตัก สะโพกสอบขยับดันเอาท่อนเนื้อร้อนดุจเหล็กนาบไฟกระทั้นเข้ามา

   “ฉันแทบไม่อยากจะปล่อยให้นายไป”ศรีสุวรรณกระซิบข้างหูเสียงหอบ มือใหญ่กอดรัดเอวบางจับให้ขยับรับกายของเขาที่
แทรกอยู่ข้างใน

   “ขะ ข้าต้องไป”

   ชลาสินธุ์หันไปโอบคอของคนรัก หางสวยตวัดไปมารู้สึกแทบขาดใจยามที่ศรีสุวรรณกดกายเข้ามาลึก

   “ฉันรักนาย”

   “อะ อา พี่วรรณ ข้า อื้อ รัก ท่าน เหลือเกิน ข้า แทบขาดใจ อา”ชลาสินธุ์กรีดร้องกับรสรักอันเร่าร้อนที่คนรักมอบให้ ราวกับ
เรือสำเภาที่กำลังแล่นอยู่บนท้องทะเลในช่วงมรสุม

   ในที่สุดมันก็ถูกคลื่นลงพัดพามันมาจนถึงฝั่ง เสียงหอบหายใจของสองร่างต่างเผ่าพันธุ์ดังกระเส่าก้องไปทั่ว

   “คนเจ้าเล่ห์”ต่อว่าอย่างเหนื่อยใจกับความโลภมากที่มีแทบทุกวันของชายหนุ่ม

   หากคืนเพ็ญเขาไม่ห้ามเอาไว้ป่านนี้คงมีลูกดกเป็นลูกหมาลูกแมวเป็นแน่

   “นายเป็นฝ่ายยั่วฉันก่อน”

   “ข้าเปล่า”ชลาสินธุ์เบ้หน้า

   “นี่ไง นายกำลังยั่วฉัน ไม่ว่านายจะทำหน้าแบบไหน มันก็ยั่วฉันหมดนั่นแหละ”ดึงรั้งเอาร่างของเงือกหนุ่มเข้ามากอด

   “ข้าถึงบอกไง ว่าท่านเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก พี่วรรณ”





   ชลาสินธุ์แยกจากคนรักได้ไม่นาน กายบางราวกับรูปปั้นของเทพยาดาท่อนร่างเป็นปลาแหวกว่ายไปตามสายน้ำ

   แสงอาทิตย์ร้อนแรงในยามบ่ายส่องลงมากระทบพื้นน้ำเป็นประกายระยับ แต่ก็ไม่เป็นผลให้กับร่างที่แหวกว่ายผ่านสายน้ำที่
เย็นเฉียบ ท่วงท่าสง่างามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย

   ดวงตาสีน้ำทะเลลึกหวานล้ำทอดมองเกาะเบื้องหน้าที่เห็นอยู่ลิบตาเหนือแนวเส้นขอบฟ้า

   ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มออกมาด้วยความดีใจหลังจากที่ว่ายน้ำออกจากเกาะมานานนับชั่วโมง



   ชลาสินธุ์ดำดิ่งสู่เบื้องล่างของเกาะใหญ่ หากจำไม่ผิดถ้ำที่เคยบังเอิญพบเจอครั้งแอบมาเที่ยวอยู่ไม่ไกลจากด้านหน้าสัก
เท่าไร

   ไม่นานก็เห็นปากทางเข้า ของถ้ำเห็นแสงสว่างของสีฟ้าอ่อนส่องออกมา

   พื้นเบื้องล่างของตัวถ้ำเต็มไปด้วยดอกไม้สีฟ้าครามละลานตา กลีบของมันบางจนเกือบใสคล้ายกับผลึกแก้วส่องแสงสว่าง
ให้มองเห็นจนทั่วตัวถ้ำ

   ชลาสินธุ์โน้มกายเพื่อจะเด็ดเจ้าดอกไม้สีฟ้าสว่างด้วยท่าทางดีใจ หากแต่ข้อมือก็ถูกฉุดรั้งจากมือที่แข็งกร้าวราวกับก้อน
หิน

   “ไม่นึกว่าเจ้าจะมาหาข้าถึงที่”กระแสจิตถูกส่งผ่านทำเอาดวงตาสีฟ้าครามของเงือกหนุ่มเบิกกว้าง หันมาตามแรงดึงให้มอง
เห็นร่างของผู้มาเยือนได้ถนัดถนี่ ร่างสูงโปร่งของเงือกอีกตัวทำให้ชลาสินธุ์ชะงัก เกร็ดสีน้ำเงินเข้มดูคุ้นตาปลุกความทรงจำให้
นึกออกว่าเงือกตรงหน้าคือใคร

   “มาทำอันใดที่นี่กัน น่านนที”ส่งกระแสจิตถามพยายามดึงมือที่ถูกจับเอาไว้แน่นออก

   “ที่นี่เป็นที่ของข้า”

   “อย่าปดข้าน่านนที ที่นี่มิมีผู้ใดครอบครอง”

   “นั่นมันเมื่อก่อน แต่เวลานี้ไม่”คำตอบทำให้ชลาสินธุ์เริ่มไม่พอใจ น่านนทียังคงไม่ปล่อยมือออกอีกทั้งบีบจนแน่น แม้ว่าจะ
พยายามออกแรงจนร่างคลอนผมสยายไปตามสายน้ำแต่ก็สู้แรงของอีกฝ่ายไม่ได้เลย

   “ปล่อยข้า”

   “เหตุใดข้าต้องปล่อยผู้บุกรุก”

   “เจ้าต้องการอันใด”

   “เจ้าถามหาสิ่งที่ข้าต้องการเช่นนั้นหรือ”เงือกหนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มไถ่ถาม อวดยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์

   “ใช่”

   “หากเจ้าทวงถามสิ่งที่ข้าต้องการ สิ่งเดียวที่ข้าจักตอบก็คือ…ตัวเจ้า”นิ้วยาวกรีดลงบนลาดไหล่ของชลาสินธุ์แผ่วเบาเรียก
ให้ชลาสินธุ์ถอยกายหนีอย่างรังเกียจโดยไม่ได้ตั้งใจ

   “ข้ามีคู่ชีวิตแล้วน่านนที”

   “เรื่องนั้นข้ารู้แก่ใจดีชลาสินธุ์”

   “หากเจ้ารู้แก่ใจเจ้าจงปล่อยมือข้าเสีย”

   “ข้าไม่ถือความมากมายเจ้าน่าจะรู้”

   “เจ้ากำลังผิดประเวณี”ชลาสินธุ์ถอยกายออกห่างร่างของเงือกอีกตนที่เคลื่อนเข้ามาใกล้

   “ข้าไม่ใส่ใจประเวณี หากว่าเจ้าเลือกคู่เป็นมนุษย์ชั้นต่ำ”

   “จะ เจ้ารู้”

   “ข้ารู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเจ้า ชลาสินธุ์ เจ้าก็รู้แก่ใจว่าข้านี้หลงรักเจ้ามาแสนนาน แต่เหตุใดเจ้าจึงเลือกคู่เป็นมนุษย์ชั้นต่ำนั่น
กัน”

   “มนุยย์มิใด้ต่ำต้อยอย่างที่เจ้าคิด น่านนที”

   “ช่างเถิด ข้าไม่นึกจะใส่ใจ”ราวกับสิ้นบทสนทนา บ่วงเชือกควันสีดำทะมึนก็เข้ามารุมล้อมฉุดให้ร่างของชลาสินธุ์ถูก
พันธนาการไว้ให้ไร้ทางสู้ ดวงตาสีฟ้าครามเบิกกว้าง พยายามดิ้นรนหากแต่บ่วงเชือกเงาทะมึนยิ่งรัดแน่น กายถูกดึงให้โผล่พ้น
เหนือผืนน้ำภายใต้ถ้ำ

   “เจ้ามีสิ่งนี้ได้อย่างไร”ชลาสินธุ์ถามออกมาทันทีที่โผล่พ้นเหนือน้ำ บ่วงเชือกเงาดำเป็นมนต์ดำของเดรัจฉานที่มีผลต่อผู้ใช้
มันจะกัดกินวิญญาณไปเรื่อยๆจนกว่าผู้นั้นจะสิ้นใจ

   “ข้ายอมแลกหากได้เจ้ามาเป็นคู่ครอง รอให้ถึงคืนเพ็ญชีวิตของเจ้ากับข้าจะเป็นของกันและกัน ข้าแทบอดทนรอคอยมัน
แทบไม่ไหว”

   “เจ้าบ้าไปแล้วรึไงน่านที หากเจ้าปล่อยข้าไปเสียตอนนี้ข้าจะไม่เคืองใจอันใดต่อเจ้า”

   ชลาสินธุ์ร้องเรียก ทว่าเงือกหนุ่มอีกตนกลับว่ายน้ำดำดิ่งหายลับไปกับท้องทะเลทิ้งให้เขานอนคู้กายอยู่บนผืนถ้ำใต้น้ำตื้น



------------------------------------------------------------------------------------------------------



   ชายหนุ่มผู้ได้รับลมหายใจของเงือกดำดิ่งสู่ท้องทะเลลึก ดวงตาคมกริบจ้องมองแสงสีฟ้าสว่างส่องผ่านออกมาจากปาก
ทางเข้าถ้ำ เมื่อเห็นดังนั้นศรีสุวรรณก็ว่ายเข้าไปด้านในทันที

   ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างเมื่อเข้าไปด้านในของถ้ำใต้น้ำ ร่างของชลาสินธุ์นอนคู้กายอยู่บนพื้นเหนือน้ำไม่ได้สติ เขา
แทบจะเป็นบ้าเพราะความเป็นห่วงที่กำลังเอ่อล้นจิตใจ

   ทว่าก่อนที่ชายหนุ่มจะเคลื่อนกายเข้าหาคนรัก ขาก็ถูกมือที่มองไม่เห็นดึงกระชากให้จมดิ่งลงไปในน้ำอีกครั้ง

   คราวนี้ศรีสุวรรณมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจนเงือกหนุ่มอีกตนจ้องมองมาที่เขาด้วยท่าทางมุ่งร้าย ดวงตาสีน้ำเงินเข้ม
มองมาที่เขาอย่างเกรี้ยวกราด

   “อย่าได้บังอาจมาแตะต้องชลาสินธุ์ของข้าอีก”เสียงหนึ่งก้องเข้ามาในหัว

   หากแต่ลมหายใจของเขากำลังจะขาดห้วงลงเพราะมือที่ฉุดดึงเอาไว้ไม่ให้โผล่พ้นขึ้นเหนือน้ำ

   “ข้าจะทำให้เจ้าหายไปจากโลกนี้ เจ้ามนุษย์ชั้นต่ำ ข้าจะแย่งชลาสินธุ์ของข้าคืนมาจากเจ้า”

   เสียงนั้นตวาดก้องแต่ศรีสุวรรณพอได้รับฟังกลับรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที ชื่อนั้นที่ถูกเอ่ยเป็นคนรักของเขาไม่ใช่ของใคร เขา
จะไม่ยอมให้ใครแย่งชลาสินธุ์ไปอย่างเด็ดขาด

   พอคิดได้ดังนั้นโทสะก็บัลดาลดึงกระชากเส้นผมยาวสยายของเงือกหนุ่มผู้ปองร้ายเข้ามาใกล้ดวงตาดุดันจ้องมองลึก
เข้าไปในดวงตาคู่สีน้ำเงิน

   “เจ้าคิดว่าจะทำอะไรข้าได้เจ้ามนุษย์อ่อนแอ”

   เสียงดูถูกของเงือกยังคงดังก้อง แต่ศรีสุวรรณกลับไม่ใส่ใจ สร้อยประดับอัญมณีสีอำพันบนคอส่องแสงเหลืองทอง
สว่างไสวแสบตาจนเงือกหนุ่มตนนั้นปล่อยมือออกจากเขา ยกมือขึ้นปัดป้องแสงนั้นๆทันที

   “นี่เจ้า”

   หมดสิ้นคำที่จะเอื้อนเอ่ยเมื่อเห็นสร้อยอัญมณีบนคอของอีกฝ่าย สร้อยที่สามารถป้องกันภัยจากอมนุษย์ได้หากผู้สวมใส่นั้น
กำลังมีภัย ศรีสุวรรณได้รับมันมาจากทศกัณฐ์ก่อนที่จะลงมาใต้ท้องทะเลแห่งนี้

   “เจ้าจะเอาชลาสินธุ์ไปจากข้าไม่ได้”เงือกหนุ่มผู้นั้นยังคงดื้อรั้นคว้าแขนของศรีสุวรรณเอาไว้ในตอนที่เขาโผล่พ้นขึ้นมายัง
ผืนน้ำอีกเพียงเอื้อมมือที่คนรักอยู่ห่างออกไป เงือกหนุ่มก็คว้าแขนของชายหนุ่มให้ดำดิ่งลงไปอีกครั้ง ถึงแม้จะเจ็บแสบผิวกาย
จากฤทธิ์ของสร้อยบุษราคัมแต่น่านนทีก็กัดฟันทนจำยอมปล่อยชลาสินธุ์ไปไม่ได้เด็ดขาด

   จิตใจที่ฝังรักอันโลภมากและเห็นแก่ตนเอาไว้ผลักดันให้น่านนทียังคงยื้อยุดกับชายหนุ่ม

   แต่ในที่สุดความเจ็บปวดทั้งกายและใจก็ไม่อาจจะทำให้ฝืนต่อไปได้ไข่มุกสีน้ำเงินมันวาวร่วงหล่นออกจากดวงตาสีเข้มดุจ
ท้องทะเลยามรัตกาลก่อนร่างนั้นจะจมดิ่งสู่อ้อมกอดความมืดมิดของมหาสมุทร



   ===============================================



   “โอ๊ะ!! มากันแล้ว”ผมอุทานออกมาเมื่อเห็นเรือสปีดโบทแล่นเข้ามาเทียบท่าเรือหน้าเกาะ

   ตอนนี้ผมปล่อยให้คุณวาลีกับพี่อเลนรับหน้าที่ดูแลเด็กๆส่วนพ่อๆทั้งหลายกับคุณอาวสินออกไปตามชลาสินธุ์กลับมา

   ร่างไร้สติมีเงาดำทะมึนรัดรอบตัวของชลาสินธุ์ทำให้ผมเริ่มเป็นกังวล พี่วรรณอุ้มชลาสินธุ์เข้ามาในบ้านวางร่างไร้สติลงบน
โซฟาอย่างเบามือถึงแม้ว่ากำลังกระวนกระวายอยู่ก็ตาม

   “ไอ้นี่มันอะไรกัน ทำไมถึงได้ติดมาด้วยล่ะ”ผมถาม แต่พอแตะมือเข้ากับเงาหมอกดำทะมึนนั่นมันก็เหมือนถูกฟ้าช็อตจน
เจ็บแปลบ

   “นี่เป็นบ่วงมนต์ดำอย่าแตะต้องมันสุ่มสี่สุ่มห้าเชียว”อาวสินบอก

   “จะทำยังไงให้มันหลุดออกครับ ช่วยชลาสินธุ์ได้ไหม”พี่วรรณถามกระวนกระวาย

   “ส่งสร้อยที่เจ้าใส่มาสิ”

   “นี่ครับ”

   พี่วรรณส่งสร้อยให้คุณอาวสิน สร้อยถูกสวมลงบนคอของชลาสินธุ์อย่างเบามือ ฉับพลันมันก็ส่องแสงสีเหลืองทองสว่าง
ก่อนที่เงาดำรอบกายชองชลาสินธุ์จะหายไป

   “ตอนนี้ก็ให้ชลาสินธุ์ไปพักผ่อนเสียก่อนตะวันตกดินแล้วก็จะฟื้นเอง”

   “ขอบคุณมากครับ”พี่วรรณตอบรับก่อนจะอุ้มชลาสินธุ์ไป

   “เอ่อ ว่าแต่ คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงอีกแล้ว”ผมบอกเสียงแห้งๆ อดยอมรับไม่ได้ว่าคาดหวังถึงแม้ว่าชลาสินธุ์จะกลับมาด้วย
สภาพนั้นก็ตาม

   “ฉันได้มาแล้ว”คุณหมอทศยกดอกไม้สีฟ้าสว่างกับขวดแก้วใสบรรจุน้ำเมือกสีฟ้าเข้มเอาไว้ เดาว่าน่าจะเป็นเลือดของชลา
สินธุ์

   

   ===========================================



   “เอานี่ให้ธารากินซะแล้วก็จูบเจ้านั่น”คุณหมอทศส่งแก้วยาสีฟ้าสว่างมาให้อันนี้ผมเข้าใจ แต่ว่าทำไมต้องให้จูบด้วย อันนี้
ผมไม่เข้าใจ

   “ทำไมต้องจูบล่ะครับ”

   “ลมหายใจผู้แลกเปลี่ยน เจ้านั่นจะต้องใช้มัน”

   ถึงจะไม่เข้าใจแต่ก็พยักหน้าเออออประคองแก้วยาเอาไว้ ทว่าก่อนจะเดินจากไปแขนก็ถูกดึงเอาไว้ให้หันไปมอง

   “ครับ?”

   “เจ้านั่นหลงลืมเรื่องในอดีต ตอนนี้มีเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้นที่ชีวิตของนายผูกติดกับอยู่ เพราะฉะนั้นเจ้านั้นอาจจะคลั่ง
แล้วทำร้ายนายตอนที่พระจันทร์เต็มดวง”

   “ทะ ทำร้ายเลยเหรอ ทำร้ายนี่ไม่ได้หมายความว่าจะฆ่ากันหรืออะไรหรอกนะครับ”

   “ฆ่าไม่ได้หรอกเจ้าบ้านั่นย่อมรู้ดี แต่ว่าอาจจะมีบางช่วงที่เจ้านั่นจะจำนายไม่ได้ แต่นั่นมันก็เป็นแค่การคาดเดาของฉัน
เพราะฉันไม่รู้ว่าความทรงจำที่หายไปจะส่งผลกระทบต่อภาวะอารมณ์ในคืนเพ็ญรึเปล่า”

   “แต่ยังไงผมก็ต้องทำให้พี่ธาราความจำกลับมาให้ได้อยู่ดี”ผมส่งยิ้มให้คุณหมอก่อนจะหันหลังกลับ

   ถึงแม้ว่าเวลานี้อาจจะไม่มั่นใจว่าความทรงจำของพี่ธาราจะกลับมาหรือไม่ แต่ผมก็จะพยายามให้ถึงที่สุด ต่อให้พี่ธาราจะ
ทำร้ายผมยังไง แต่สิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงก็คือความรักของผมที่มีต่อพี่ธารา



   บรรยากาศด้านนอกเริ่มมืดสนิทผมเดินขึ้นมายังชื้นดาดฟ้าของตัวบ้านซึ่งเป็นเขตพื้นที่ของพี่ธารา

   บรรยากาศข้างในห้องมืดสนิทมีเพียงแสงจันทร์เท่านั้นที่สาดส่องลงมาจากเบื้องบนผ่านหลังคากระจกใส

   ผมวางแก้วยาเอาไว้บนโต๊ะด้านข้างควานหาสวิตซ์ไฟแล้วเปิดมัน แวบแรกที่เปิดก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นว่าพี่ธารานั่งหันหลังให้
อยู่บนเตียง ดวงตาสีดำสนิทกลายเป็นสีมรกตเหลือบดำบ่งบอกถึงสภาพที่กำลังจะเปลี่ยนแปลง

   “ทำไมถึงอยู่มืดๆล่ะครับ”ผมถามหยิบแก้วยาแล้วเดินไปนั่งข้างๆร่างสูง

   พี่ธาราหันมาดวงตาสีดำเหลืบเขียวพราวระยิบ ตอนนี้พระจันทร์เพิ่งะเริ่มขึ้นทำให้อารมณ์ของพี่ธารายังคงตัว

   “ฉันกำลังคิดอะไรบางอย่าง”

   “แล้วอะไรที่ว่าคืออะไร บอกผมได้ไหม”

   “ถ้าบอกนายจะเชื่อใจฉันรึเปล่า”

   “พี่ก็บอกผมมาดิ”

   “นายออกจากห้องนี้ไปซะ”

   “ไม่ตลกนะพี่ ทำไมผมต้องออกไปด้วย”ผมไม่เข้าใจ ทำไมต้องทำเหมือนไล่กันทั้งที่กำลังจะทำให้ความทรงจำกลลับคืน
มา

   “ฉันบอกให้ออกไปนายก็ออกไปเถอะ อย่าให้ฉันพูดมากจะได้ไหม ก่อนที่ฉันจะควบคุมตัวเองไม่ได้”คราวนี้เสียงของพี่
ธาราเริ่มแข็งกร้าว

   “ไม่เอาหรอก ผมทำใจไว้แล้วว่ายังไงก็จะต้องทำให้พี่จำเรื่องในอดีตของเราให้ได้ ผมไม่สนหรอกว่าพี่จะไล่ผมยังไง เอานี่
คุณหมอทศเขาบอกให้พี่กินนี่”

   ผมยื่นแก้วยาสีฟ้าสว่างให้กับพี่ธารา ดวงตาของพี่เขาเริ่มสีเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเรือนผมที่ยาวจนถึงกลางหลังอยู่แล้ว
บัดนี้กลับแผ่สยายยาวถึงบั้นเอวสอบ คิ้วขนงกำลังแปรเปลี่ยนเป็นลวดลาย แต่ผมเห็นว่าพี่ธารากำลังกัดฟันคล้ายกำลังอดทน มือ
ใหญ่เล็กน้อยรับแก้วยาจากมือของผมแล้วดื่มจนหมดแก้วในที่สุด

   ฉันพลันที่ผมถอนหายใจเพราะขึ้นตอนแรกจบลง ราวกับความชั่วร้ายได้ถูกปลดปล่อยออกมา กดสวิตซ์ปลุกให้มันตื่นขึ้น
จากความมืดมิด

   ร่างของผมลอยหวือไปปะทะผนังห้องอีกฟากอย่างแรงแล้วร่วงหล่นลงมา ทั้งจุกทั้งเจ็บจนต้องขดตัวแล้วกุมท้อง เงยหน้า
มองพี่ธาราที่บัดนี้ร่างกายขยายใหญ่กลายเป็นร่างของยักษ์เต็มตัว

   ร่างสูงใหญ่เบื้องหน้าดวงตาสีเขียวมรกตวาบจ้องมองมาด้วยความดุดันและน่ากลัว พี่ธาราคนเดิมไม่อยู่แล้วอย่างที่หมอทศ
เตือนเอาไว้

   คราวนี้ร่างของผมลอยขึ้นไปอีกครั้งกระแทกกับหัวเตียงแล้วถูกตรึงเอาไว้ด้วยสิ่งที่มองไม่เห็น

   ผมพยายามที่จะไม่สั่นเทากับสายตาเสมือนสัตว์ดุร้ายกำลังจะล่าเหยื่อ เสียงคำรามในลำคอดังก้องไม่ต่างอะไรกับมัจจุราช
ที่กำลังกระหายที่จะฉุดดึงวิญญาณให้หลุดออกจากร่าง

   “พี่ ธ ธารา ตั้งสติสิ อย่า”ผมร้องห้าม

   ร่างกายใหญ่ย่างก้าวขึ้นมาบนเตียงคร่อมทับร่างกายของผมเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาจนชิด ลมหายใจร้อนผ่าว
กำลังเป่ารดใบหน้าของผมขณะที่จมูกโด่งลากผ่านแก้มไปมา

   ผมพยายามขยับตัวเพื่อที่จะหนีจากการทาบทับอันคุกคามนี้ แต่มือที่มองไม่เห็นก็ตรึงร่างของผมเอาไว้แน่น ใบหน้าถูกจับ
เอาไว้ไม่ให้เบือนหนี จ้องตอบกับดวงตาสีเขียวดุดัน

   เสียงคำรามดังเครืออยู่ในลำคอของพี่ธารา ผมหายใจเข้าออกลึกๆอย่างยากลำบางเพราะลมหายใจตอนนี้มันเหมือนกับจะ
ขากห้วงคล้ายกำลังถูกช่วงชิง แต่ฉับพลันที่เผยอปากขึ้นโกยลมหายใจเข้าปอด

   ริมฝีปากหยักก็กดจูบลงมาบดเบียดลงมาไร้ความปราณี ลิ้นร้อนกวาดเข้ามาตักตวง กอบโกยอากาศของผมไปจนเกือบ
หมด

   ถึงแม้ว่าพี่ธาราจะถอนจูบออกไปแล้ว แต่ลมหายใจมันเหมือนกับกำลังถูกดูดออกไป ผมเหลือบตามองเห็นแสงสีเขียว
ขางๆกำลังออกมาจากปากของผมและเข้าไปในปากของพี่ธารา

   ข้างในเริ่มรู้สึกอึกอัดมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ราวกับใกล้จะขาดใจตายอยู่เต็มทน ลมหายใจกำลังถูกช่วงชิง สติของผมพร่า
เลือนลงไปในที่สุด

   เหมือนกับถูกฉุดให้ออกมาจากโลกความเป็นจริง รอบกายมืดสนิทมองไม่เห็นอะไร

   ร่างกายสัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบของอากาศที่ห่อหุ้มกาย แต่แล้วก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีมือหลายมือลูบไล้ร่างกายผมไปทั่ว
ทั้งหัวไหล่ ช่วงท้อง เอว ขา คอ หรือแม้กระทั่งฝ่าเท้า ผมลืมตาขึ้นมองเบื้องล่า มองเห็นร่างสูงใหญ่ทะมึนกำลังก้มลงจรดริม
ฝีปากบรรจงจูบลงบนฝ่าเท้าของผม

   “พะ พี่ธารา”ผมเรียกด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือแต่พี่ธารากลับไม่ตอบ เลื่อนมือลูบไล้ฝ่าเท้าไปมา

   แต่แล้วผมก็รู้สึกไหววูบที่ช่วงขา มองหันไปมองเงาทะมึนอีกคนแล้วหรี่ตาจับจ้องที่ใบหน้าของอีกฝ่าย

   “พะ พี่ธารา” มีพี่ธาราสองคนจริงๆ พี่ธาราอีกคนกำลังลูบไล้ช่วงขาของผมอย่างเบามือ บรรจงจูบลงบนขาอ่อนแล้วส่งยิ้ม
มาให้

   แล้วผมก็รู้สึกเย็นวาบที่ช่วงคอ ใบหน้าถูกจับให้หันไปทางด้านข้าง แล้วดวงตาของผมก็ต้องเบิกกว้างกับสิ่งที่ได้เห็น

   “พี่ธารา!!”มีพี่ธาราอีกคนแล้ว คนนี้โน้มหน้าเข้ามาใกล้ ตวัดลิ้นเลียลงมาที่ช่วงคอ ฝ่ามือลูบไล้ไปที่บั้นเอวของผมแผ่วเบา
แต่ก็รู้สึกวาบหวิว

   ความรู้สึกเหมือนกับมีมือนับสิบลูบอยู่ทั่วร่างทำให้ผมมองรอบกาย มีพี่ธาราอยู่เกือบสิบคนที่กำลังพยายามโลมผมอยู่

   แล้วคนไหนล่ะคือพี่ธาราตัวจริง!! ร่างกายของผมเริ่มสั่นเทาเมื่อถูกลุกล้ำอย่างหนักหน่วง ช่วงขาถูกจับให้อ้ากว้าง มีคน
หนึ่งกำลังส่งสายตาจ้องมองมาที่ช่องทางของผมด้วยความกระหายจนน่าหวาดกลัว

   “ไม่นะ ไม่ใช่ อย่าทำ”ผมส่ายหน้า

   ไม่ว่าจะคนไหน ทำไมผมถึงไม่รู้สึกเลยว่าจะมีใครเป็นตัวจริงหรือคล้ายเลยสักนิด

   “เลือกฉันสิ”คนหนึ่งกระซิบข้างหู

   “ฉันต่างหาก”คนหนึ่งกระซิบที่หูอีกข้างพลางเป่าลมหายใจรดต้นคอ

   “เลือกฉันสิ”อีกคนกำลังไล้เลียอยู่บนร่างกาย

   “ฉันต่างหาก”อีกคนกำลังพรมจูบอยู่ตรงช่วงขา

   เสียงพูดดังระงมต่างคนต่างกำลังเรียกร้องให้ผมเลือกจนรู้สึกว่าสมองกำลังถูกบีบเอาไว้จนแทบระเบิด

   ทั้งหมดกำลังจ้องมองมาที่ผมด้วยสายตาของพี่ธารา แต่แววตาที่มองมานั้นกลับไม่ใช่

   “เลือกฉัน”

   “เลือกฉัน”

   “เลือกฉัน”

   ประโยคซ้ำกันวนเวียนไปคล้ายกับไม่มีจุดสิ้นสุดไม่รู้ว่ามันจะจบลงเมื่อไร ผมยกมือขึ้นอุดหูแต่เสียงนั้นก็ยังคงดังก้องอยู่ใน
หู

   ร่างกายถูกลูบไล้ไปมา ทั้งลิ่นร้อนและริมฝีปากขบเม้มลงลิ้นไปทั่วร่างกายแม้กระทั่งช่องช่างด้านหลังกำลังถูกเลียจนชุ่ม

   “อย่าทำ ไม่เอา อย่าทำ ช่วยด้วย พะ พี่ธารา”

   ผมร้องห้ามเสียงสั่น

   “ชะช่วยด้วย ไม่ใช่  อย่าทำ พะพี่ธารา พี่ธารา ฮึก พี่ธารา!!!!”มตะโกนจนสุดเสียง

   ความรู้สึกกลัวและต้องการพี่ธาราเอ่อล้นจนเต็มไปหมด ผมกำลังกลัว กำลังหวาดกลัวพี่ธาราทั้งหมดที่อยู่รอบกาย

   ไม่มีเลย ไม่มีคนไหนที่ใช่ ความรู้สึกของผมมันบอกแบบนั้น

   “พะ พี่ธารา ฮึก พี่อยู่ไหน พี่อยู่ไหนกันแน่”ผมสะอื้น พยายามปัดป้องมือทั้งหลายออกจากร่างกาย





   “มณี เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไรกัน”





================================================================
ทวงครั้งที่11 จะลงให้ตอนเช้านะคะ ไม่อยากให้ค้าง แต่มันจบบทพอดี๊ จริงจริ๊งงงงงง(เสียงสูงมาก)
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 10/2] พี่ธารา10คน
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 13-04-2016 00:56:11
กรี๊ดดดด มาแล้วววว

10คน... หือออออ คนเดียวก็หนักละ
//รอคุณอาวสินกับวาลี  :z1:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 10/2] พี่ธารา10คน
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 13-04-2016 01:59:59
ตายแล้ว?
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 13-04-2016 02:21:14
ทวงครั้งที่ 11 โหยหา


   “เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไรกันมณี”เสียงนั้นดังออกมาจากมุมมืด

   น้ำเสียงนุ่นทุ้มหูที่ฟังทีไรใจผมมันก็ยังคงสั่นระรัวไม่เคยจางหาย ผมจ้องมองไปยังต้นเสียง มองเห็นผนังอิฐเก่าสีซีดผุพัง
โซ่ตรวนห้อยระโยงระยางพันกันไปมาดูแล้วน่ามึนงง

   แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ทำให้หัวใจของผมเต้นราวกับผืนกลองที่ถูกกระหน่ำตีก็คงเป็นเพราะพี่ธารายืนอยู่ตรงนั้น เรือนกาย แขน
ขามีโซ่คล้องเอาไว้ระโยงรยางค์ตรึงให้อยู่ติดชิดกับผนังอิฐเก่า

   นี่ใช่ไหมสาเหตุที่ทำให้พี่ธารากลับไปไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมถึงได้เชื่อมั่นว่าพี่ธาราคนนั้นคือพี่ธาราตัวจริง ทั้งที่ผม
ยังไม่ได้จับต้องเขาเลยแม้แต่น้อย

   “พี่ธารา”ผมเรียกชื่อนี้อีกครั้งด้วยอารมณ์ที่ต่างกันออกไป

   แต่แล้วก็ได้ยินเสียงหวีดร้องเสียคำรามน่าขนลุกดังอยู่ชิดหูและรอบตัว พี่ธาราคนอื่นๆทั้งสิบคนค่อยๆกลายเป็นเงาดำทะมึน
ไร้ตัวตนไม่มีรูปหน้าไม่มีกายที่คงตัวแต่เงาพวกนั้นกำลังขยับเข้ามาใกล้

   ผมได้แต่ตะเกียกตะกายลุกขึ้นด้วยความหวาดกลัว

   “เจ้ากลับไปเถิดมณี เจ้าไม่ควรมาที่นี่”เสียงพี่ธาราตะโกนก้อง

   เหมือนกับว่าร่างกายของผมถูกฉุดดึงให้ออกห่างพี่ธาราไกลขึ้นเรื่อยๆ ผมยกมือขึ้นหมายจะคว้าพี่ธาราเอาไว้ ต้องการจะดึง
โซ่ตรวนที่ล่ามพี่ธาราเอาไว้ออก ทว่ายิ่งพยายามไขว่คว้าก็ยิ่งห่างไกล

   “พี่ธารา อึก พี่ธารา”ผมเรียกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะพยายามยังไงก็เอื้อมไม่ถึงสักที

   “กลับไปเถอะ เจ้าอย่าได้มาที่นี่อีกเลย”

   “ปล่อยนะ ผมไม่กลับ พี่ต้องกลับไปกับผมด้วย ไปหาลูกของเรา”

   เงาดำทะมึนกำลังดึงข้อเท้าของผมและลากออกไปไกลจากพี่ธารามากขึ้นทุกที ถึงแม้ว่าจะขืนเอาไว้ แต่ก็ยังถูกดึงไปไกล
ขึ้นเรื่อยๆ

   “หยุด อย่าดึง บอกให้หยุด ออกไป”

   “รีบกลับไปเถอะมณีของข้า เจ้าจะอยู่ที่นี่นานกว่านี้ไม่ได้”พี่ธารายังคงออกปากไล่ ผมรู้ว่าพี่ธาราเป็นห่วง แต่ผมเองก็จะ
ยอมไม่ได้เด็ดขาด

   “ก็ผมบอกว่าผมไม่ไปไง!!ถ้าผมจะกลับพี่ก็ต้องกลับไปกับผม ทุกคนรอพี่อยู่ ลูกของเรากำลังรอพี่อยู่!!”

   “มณี”พี่ธาราเรียกเสียงแผ่วเมื่อได้ยินเสียงของผมตวาดก้อง

   ใบหน้าหล่อเหลาของพี่ธารายังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่รอยยิ้มบางที่ส่งมาทั้งที่ดวงตาคู่นั้นกำลังเศร้าสร้อย

   “กลับไปเถอะนะ กลับไปกับผม”ในที่สุดผมก็เก็บกั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวหยดน้ำตาไหลร่วงลงไปในความมืด

   น่าแปลกที่ผมเห็นแสงสว่างสีเขียวสว่างวาบออกมาจากตัวของพี่ธารา โซ่ตรวนรอบกายค่อยๆจางหายไปราวกับไม่มีตัวตน

   “อย่าร้องไห้เลย ยอดรับของข้า”

   เวลานี้ระยะทางที่เหมือนจะห่างไกลกลับถูกร่นลงในพริบตา มือใหญ่ยื่นมาที่เบื้องหน้ารอให้ผมไปสัมผัส

   เงาดำทะมึนรอบกายบัดนี้หายไปจนสิ้น ความมืดถูกแทนทีด้วยแสงสว่างสดใด

   ผมจ้องมองกายเปลือยเปล่าสมส่วนเบื้องหน้าด้วยความดีใจ ส่งมือแตะลงบนฝ่ามือนั้นทั้งที่น้ำตายังคงไหลอาบหน้าถึงแม้
จะมีคำปลอบประโลมกระซิบอยู่ข้างหูก็ตาม

   “ผม คิดถึงพี่”

   ผมบอกเมื่อถูกดึงเข้าไปกอด ความอุ่นกำลังเข้ามาแทนที่ความหนาวเย็นในหัวจนจนสิ้น

   “ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน มณีของข้า”เสียงนุ่มกระซิบข้างหู

   “ผม ผมขอโทษ”

   “กลับกันเถอะ”พี่ธาราก้มกระซิบโอบรัดกายของผมเอาไว้ ให้ผมจมดิ่งสู่อ้อมกอดแข็งแรง หลับตารับความรู้สึกปลอดภัยเอา
ไว้





=============================================================



   “ตื่นเถิด ดวงใจของข้า”เสียงกระซิบข้างหูพร้อมกับลมหายใจร้อนทำให้ผมจั๊กจี้หดคอหนีพลิกกายหนี

   “หากเจ้าไม่ตื่นข้าคงจะต้องเปลี่ยนวิธีปลุก”เสียงนุ่มหูยังคงกระซิบคราวนี้รู้สึกเหมือนมีอะไรนุ่มๆแตะลงที่คอย้ำไปมาให้รู้สึก
สยิว

   “เจ้าอย่าได้โกรธข้าทีหลังก็แล้วกัน”

   เสียงของพี่ธารายังคงนุ่มหูเสมอถึงแม้ประโยคพวกนั้นจะกำกวม นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ยินภาษานี้ด้วยน้ำเสียงนุ่มหูแบบนี้

   เหมือนจริงมากหากว่านี่เป็นความฝัน เหมือนจริงจนรู้สึกว่าร่างกายกำลังถูกสำรวจด้วยมือใหญ่ ขาทั้งสองข้างถูกจับให้แยก
ออก ตามด้วยกายใหญ่เข้ามาแทรกเอาไว้

   ทำไมความฝันถึงได้เหมือนจริงจนแยกแทบไม่ออก ผมครางอือรับในลำคอเมื่อรู้สึกเหมือนกำลังถูกจูบลงที่ต้นคอ

   “ขี้เซาเสียจริงเมียรัก”คราวนี้พี่ธาราในฝันบังอาจเรียกผมด้วยคำต้องห้ามเสียด้วยสิ

   “หากเจ้าไม่ยอมตื่นขึ้นมาข้าคงต้องลักหลับเจ้าจริงๆ”

   หืออออ ลักหลับ? ลักหลับทำไมในเมื่อนี่คือความฝัน หรือว่าผมกำลังเข้าใจอะไรผิด

   “อะ อื้อออออ”ชัดเจน ความแข็งขืนที่สอดเข้ามาผ่านช่องทางด้านหลังทำเอาผมสะดุ้งเบิกตาโผล่ง

   มองเห็นท้องฟ้าเบื้องบนยังคงเหมือนเดิมดำมืดแต่ก็มีแสงของดวงดาวประดับ พระจันทร์ยังคงลอยเด่นอยู่เหนือสุดเช่นเคย

   หกแต่เมื่อเบือนหน้ามาอีกแค่เพียงนิดเดียวจมูกของผมก็จะแตะกับริมฝีปากหยักนั้นแล้ว พระจันทร์ที่ว่าสวยยังไม่สู้กับ
ดวงตาสีมรกตตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

   “พี่ธารา”ผมเรียกเสียงแผ่ว นิ้วข้างในกายขยับเข้าออก เกี่ยวกระหวัดกับผนังภายในให้ได้ตอดรัดผวาเข้ากอดไหล่ของพี่
ธาราเอาไว้

   “ดูเหมือนข้าอยากจะได้ลูกเพิ่มอีกสักคนสองคน”พี่ธารากระซิบด้วยประโยคย้อนยุคที่ในครั้งแรกเจอทำให้ผมขำกับประโยค
พวกนั้น

   “พี่ธารา!”คราวนี้ผมเรียกเสียงดัง


   ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไหม รอยยิ้มอ่อนโยนที่ไม่ใช่รอยยิ้มกรุ่มกริ่มดูเจ้าชู้นั่นผมก็ไม่ได้ตาฝาด

   “จะเรียกเสียงดังไปใยเล่า เก็บเสียงไว้ร้องครวญให้ข้าฟังเสียจะดีกว่า”

   พี่ธารากระซิบเกลี่ยจมูกลงบนแก้มขยับนิ้วสอดเข้าไปเพิ่มอีกนิ้ว


   “ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”ผมถามเสียงสั่นระริกความรู้สึกกระสันกำลังแล่นวูบอยู่ในช่องท้อง

   “เจ้าคงต้องตัดสินเอาด้วยตนเอง”คราวนี้ริมฝีปากร้อนผ่าวประกบจูบลงมา

   ไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องต่อต้านในเมื่อผมคิดถึงเขา ผมยอมเปิดปากรับลิ้นร้อนนั้นเข้ามาโดยง่ายกอดรัดกายสูงเอาไว้ด้วย
ความโหยหา

   ความรักในเวลานี้กำลังล้นปรี่ออกมาจนแทบทำให้ผมหลอมละลายเพราะมัน

   จากนิ้วแข็งกร้านถูกแทนที่ด้วยแก่นกายใหญ่โตและร้อนผ่าวประหนึ่งท่อนเหล็กลนไฟ

   “อื้อ จะ เจ็บ”

   “ทนหน่อยนะ”เสียงอ่อนโยนกระซิบปลอบ

   ต่อให้เจ็บราวกับเอามีดมาทิ่มแทงผมก็จะทน เพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่ผมรัก อยู่ใกล้ชิดกับลูกของเรา ต่อให้ต้องเจ็บ
เจียนตายผมก็ยอม

   พี่ธาราโถมกายเข้ามาจากเบาเป็นกระชั้น แสงสีนวลจากพระจันทร์ที่ลอยเด่นกำลังปลุกเร้าให้พี่ธารามอบบทรักที่ร้อนแรง
ให้ผม


   และผมก็ยอมรับมันด้วยความสุขล้นที่ไม่อาจจะคะเนได้ จะไม่ยอมปล่อยไปอีกแล้ว ไม่ว่าจะด้วยอะไร ผมจะจับมือของพี่
ธาราเอาไว้ไม่ให้จากไปไหนอีกแน่นอน

   แต่เหมือนผมจะลืมอะไรบางอย่าง บางอย่างที่อาจจะนำมาซึ่งความลำบากของตัวเองอีกรอบ



=============================================================

แถม

   “อลันเบื่อแล้ว เจ็บแก้มแล้ว อลันลำคาญสินกับสุด”ร่างจ้ำม่ำผิวขาวสะอาดอายุน้อยกว่าแฝดร่างอ้วนสมบูรณ์หนึ่งปีเต็มผลัก
สองแฝดออกก่อนจะเดินหนี

   “ห้ามรำคาญ”

   “ใช่ห้ามำคาญ อลันรำคาญไม่ได้”

   “ทำไมจะรำคาญไม่ได้ ทำไมต้อแกล้งอลันด้วย อลันเบื่อ”

   “เบื่อก็ไม่ได้”

   “ห้ามเบื่อ”

   “ทำไมจะเบื่อไม่ได้ อลันจะไปฟ้องพ่อทศ”อลันเดินหนีแต่เจ้าสองแฝดก็เดินตามแถมยังพากันกอดอลันเอาไว้ไม่ให้เดินหนี

   “ห้ามเบื่อเพราะอลันจะต้องเป็นเจ้าสาวของพวกเรา”

   “ใช่อลันเป็นเจ้าสาวของพวกเรา”

   “ไม่ใช่ อลันจะเป็นเจ้าบ่าวของมีนา”

   “ไม่ได้ อลันต้องเป็นเจ้าสาวของสินกับสุด”

   “อลันห้ามแต่งงานกับใคร สินกับสุดจองอลันแล้ว”ว่าแล้วเจ้ายักษ์แฝดก็ผลัดกับหอมแก้มป่องๆสีชมพูระเรื่อจนแทบช้ำซ้ำ
แล้วซ้ำเล่า

   มณีเฝ้าได้แต่เฝ้ามองแล้วส่ายหน้าเบาๆไอ้นิสัยชอบจองแล้วตามบังคับเอาจนได้นี่ไม่รู้ว่าได้ใครมา



   ===============================================

รู้สึกว่าพี่ธาราจะชอบพูดอะไรน้ำเน่าขึ้นเยอะ 555 ยังไม่จบตอนนะเออ แต่รอขึ้นคู่วาลีกับอาวสิน แต่ขอลำลึกชาติก่อน


หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 13-04-2016 02:23:38
ดีใจที่มาต่อแล้ว

คืนพระจันทร์เต็มดวงทีไรเหมือนคืนชิงศึกอะไรสักอย่างเลย :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 13-04-2016 08:03:15
เย้ พี่ธารากลับมาแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววว
อัพอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-04-2016 08:32:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 13-04-2016 08:51:06
คราวนี้เราจะมีเด็กๆ มาวิ่งเล่นเพิ่มขึ้นอีกแล้ว  :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: gatenutcha ที่ 13-04-2016 09:28:38
 :z6:
สินกับสุดน่ารักอะ  แต่ที่น่าหนักใจแทนคือหนู อลัน  เจอ 3P  แต่เราชอบมว๊ากกกo13
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 13-04-2016 09:34:21
แฝด2-3ละนั่นยิ่งเก็บกดอยู่
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 13-04-2016 10:14:33
  :z1: เอาอีกๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 13-04-2016 12:11:30
//นั่งรออดีตวาสิน  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 13-04-2016 13:29:34

   “ใช่ห้ามำคาญ อลันรำคาญไม่ได้” <<ห้ามรำคาญ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 13-04-2016 19:03:20
จัดมาเต็ม พ่อธารากลับมาแล้วววววว คราวนี้ขอลูกสาวดีไหม?
พี่ธาราไว้หนวด
สงสารอลันเนาะ ทำใจมีผัวแฝดเถอะลูก
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 19-04-2016 23:00:25
ยังรออยู่นาจาา :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 22-04-2016 23:29:26
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: Atroce ที่ 23-04-2016 01:15:51
สนุกกกก ขอเป็นกำลังใจให้คนเขียน
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 13/04 [CH 11] โหยหา
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 25-04-2016 03:55:25
ชอบคู่ (?) อลัน
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 25/04 [CH 11.2] หึงหวง
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 25-04-2016 12:31:20
11.2 หึงหวง

“ตื่นแล้วเหรอ”เสียงทุ้มนุ่มหูของศรีวุวรรณไถ่ถามเงือกหนุ่มแทบจะทันทีที่เปลือกตาสีขาวซีดปรือขึ้นมาเผยให้เห็นดวงตาสีฟ้าสวย

   “พี่วรรณ”

   ชลาสินธุ์เรียกเสียงเครือโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่ของคนรักแทบจะทันที เม็ดอัญมณีสีท้องทะเลลึกล่วงผล็อยลงสู่ผืนเตียง

   “เป็นอะไรไป”

   “ขะ ข้านึกว่าจะไม่ได้เจอท่านอีกเสียแล้ว ข้ากลัวเหลือเกิน ข้ากลัวว่าหากข้าต้องตกเป็นของน่านนทีพี่จะหมดสิ้นรักข้า”

   “ทำไมฉันจะต้องเลิกรักนายด้วยล่ะ เลิกร้องไห้ได้แล้ว ยังไงฉันก็ไม่มีวันเลิกรักนาย ต่อให้นายจะเป็นอะไร อยู่ที่ไหน ฉันก็
ยังจะรักนาย”กระซิบคำรักข้างหูปลอบโยนเงือกหนุ่มที่สะอื้นไห้

   “จริงๆนะ อย่าได้ปดข้าเลยนะพี่วรรณ ข้าคงตรอมใจแน่หากพี่หมดรักข้า”

   “ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันไม่มีวันเลิกรักนาย ต่อให้อีกสิบปี ยี่สิบปี หรือตลอดชีวิตฉันก็ยังรักนาย”

   “ฮึก ข้าดีใจที่พี่รักข้า”

   ชลาสินธุ์เงยหน้าช้อนดวงตาคู่สวยจ้องมองนัยน์ตาคมนิ่งของชายหนุ่มเบื้องหน้า ใบหน้าหวานโน้มเข้าหาประทับริมฝีปาก
ลงบนริมฝีปากของคนรักแผ่วเบาเนิบนาบ

   “นายแน่ใจนะ”ศรีสุวรรณผละออกก่อนจะทวงถามเพื่อความมั่นใจ

   คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง ต่างก็รู้ดีหากเขากับชลาสินธุ์ร่วมรักกันจะต้องเกิดชีวิตของสองเผ่าพันธุ์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง

   “ได้โปรดรักข้าเถิด พี่วรรณ ให้ข้าได้จดจำรักของพี่ ให้รักของพี่ตราตรึงอยู่ในใจของข้า”เอ่ยเสียงหวานคลอเคลียใบหน้า
ลงบนแผงอกคนรักท่าทางออดอ้อนมากจริตยามที่แสงจันทร์ส่องผ่านเข้ามาในห้อง

   เส้นผมยาวสลวยนุ่มลื่นแผ่กระจายทั่วผืนเตียงเมื่อร่างบอบบางถูกดันให้นอนราบลงบนผืนเตียง กายเปลือยเปล่าปรากฏอยู่
เบื้องหน้า ขาเรียวสวยแยกออกกว้าง ดวงตาสีฟ้าสวยหรี่ปรือปรอยจ้องมองคนรักอย่างเชิญชวน

   (แพลนกล้องตัดไปที่ดวงจันทร์บนท้องฟ้า จินตนาการว่ามีดาวประดับสวยงาม 555)

   



   =============================================

   หนึ่งเดือนต่อมา

   “อะ อะไรนะ! ท้องอีกแล้วเรอะ เอ็งนี่มันอะไร ไอ้มณี เจ้าสินกับสุดยังไม่ทันโตก็ท้องอีกแล้ว”เสียงเอ็ดตะโรยามเช้าของพ่อ
ทำให้ผมต้องยกมือขึ้นอุดหู

   “พูดเบาๆก็ได้พ่อ

   กลับมาที่บ้านไม้สีครีมสองชั้นที่เดิม ผมพยักหน้าหงึกๆพลางเคี้ยวขนมในปากตุ้ยๆ กลับมากินเยอะอีกแล้ว ทั้งที่ลูกในท้อง
พึ่งจะอายุได้หนึ่งเดือน ข้างๆมีพี่ธารานั่งยิ้มแป้นภูมิอกภูมิใจกับผลงานตัวเองยกใหญ่

   “แล้วครั้งนี้เป็นแฝดรึเปล่าล่ะพ่อธารา แค่นี้ก็เจี๊ยวจ๊าวกันไม่หวาดไม่ไหว”แม่ถามพลางโบกพัดในมือไปมา

   “ครั้งนี้แค่คนเดียวครับคุณแม่”

   “เห้อ โล่งอก หวังว่าชลาสินธุ์คงจะยังไม่มีเจ้าตัวเล็กโผล่มาอีกล่ะ ไม่งั้นแม่เลี้ยงไม่หวาดไม่ไหวแน่”

   “ขอแสดงความเสียใจกับแม่ล่วงหน้าเลยนะแม่ เมื่อวานพี่วรรณเพิ่งจะบอกว่าชลาสินธุ์ก็ท้องเหมือนกัน”บอกไปพลางเคี้ยว
ขนมต่อ

   คิดว่าลูกของชลาสินธุ์น่าจะอายุเท่ากับลูกของผมแน่นอนร้อยเปอร์เซ็น

   “นี่พวกเอ็งนัดกันมีลูกรึไง นึกจะมีก็มีกันนี่ฮะ”

   “ก็ประมาณนั้น”ผมไหวไหล่ เริ่มจะชินกับการตั้งต้องขึ้นมาบ้างแล้ว

   หันไปเอนตัวพึงพี่ธารา พอเห็นอย่างนั้นมือให้ก็เอื้อมมาลูบท้องทั้งที่ท้องของผมมันยังไม่ได้ป่องขึ้นมาแต่อย่างใด เป็นคุณ
พ่อขี้เห่ออีกตามเคย

   หลังจากความจำกลับมา พี่ธาราไม่ได้กลับไปเรียนต่อแต่อย่างไร แต่เข้าทำงานรับช่วงต่อกิจการต่างๆของครอบครัวต่อ
จากคุณอาวสิน แต่ก็แค่นานๆครั้งจะโผล่ไปเซ็นเอกสาร เพราะส่วนมากก็เอาแต่คอยดูแลผมกับลูกๆอยู่ตลอด

   ยิ่งช่วงนี้สินสมุทรกับสุดธารากำลังจะต้องไปโรงเรียน พี่ธาราก็สรรหาทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นของเล่น ชุดนักเรียน ต่างๆนานา
นั่นทำให้ผมวางใจว่าถึงแม้กว่าสามปีที่พี่ธาราไม่ได้อยู่กับลูก แต่พี่ธาราก็รักลูกไม่ได้น้อยไปกว่าผม

   ยิ่งช่วงนี้เด็กๆต่างก็เห่อพ่อ อีกทั้งชอบอ้อนให้พาไปนั่นไปนี่ กินนั่นกินนี่ด้วยกัน ทำอะไรที่ครอบครัวทำกัน ชีวิตมันถูกเติม
เต็มจนล้น คิดว่าไม่มีอะไรที่มุขมากกว่าการใช้เวลาอยู่กับครอบครัวที่ดีพร้อมแบบนี้แล้ว

   “พี่ว่าลูกของเราจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”

   “ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายข้ายังไงข้าก็รัก”

   “ผมไม่ได้ถามว่ารักหรือไม่รัก ผมถามว่าคิดว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย”

   “แล้วเจ้าเล่า อยากได้หญิงหรือชาย”

   “ผู้หญิงบ้างก็ดี”ผมยิ้ม

   “ถ้าหากครั้งนี้เป็นชายครั้งหน้าข้าจักทำให้ใหม่”ยิ้มกริ่มกดจมูกลงมาบนแก้มของผมไม่ถามไม่ไถ่

   “ไม่ได้ขอให้ทำใหม่สักหน่อย แค่สามคนก็พอแล้ว”

   “สิบคนข้าก็เลี้ยงไหว”

   “ลองมาท้องดูไหมล่ะ”ผมหันไปค้อน

   คนนะไม่ใช่หมูหมากาไก่จะได้มีลูกเป็นคอกๆแบบนั้น ถึงลูกจะเป็นครึ่งคนครึ่งยักษ์ก็เถอะ เชื่อว่าพี่เขาเลี้ยงไหว แต่ให้ผม
ได้พักบ้างเถอะ ใจคอจะให้ผมท้องอย่างเดียวไม่ทำอะไรเลยรึไง

   “ข้าล้อเจ้าเล่น”

   “พอๆ ผมต้องไปคลาสแล้ว”ผมดันหน้าของพี่ธาราออกแล้วเดินไปยังโรงฝึกเล็กๆข้างบ้านที่ผมต่อเติมเป็นที่สำหรับเปิด
สอนนาฏศิลป์

   “หากเจ้าขัดใจข้าข้าจักจูบเจ้าต่อหน้าแม่ของเด็กนั่น”

   “แม่ของเด็กนั่นที่ว่าก็คือแม่ของเด็กในคลาสของผม เธอเอาลูกสาวมาเข้าคลาสเรียนเพราะอยากให้ลูกสาวฝึกสมาธิและ
ใจเย็น ปกติแล้วผู้ปกครองจะเอาเด็กมาฝากเอาไว้พอถึงเวลาก็จะมารับกลับ แต่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนนี้ชอบมานั่งเฝ้าและชอบจ้อง
ผมตลอด

   เดือดร้อนพี่ธาราที่ชอบมานั่งเฝ้าผมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันนั่งหน้าบึ้งไม่พอใจตลอดเวลา บางครั้งเวลาจบคลาสคุณแม่ยังสาว
และโสด?ก็จะเข้ามาคุยกับผม มีบ้างที่แตะไม้แตะมือกันและนั่นก็ทำให้ยักษ์หน้าบึ้งแทบจะกระโดดมากัดคอคุณแม่หากว่าผมไม่
ห้ามเอาไว้

   “สวัสดีคุณครูมณีสิลูก”วันนี้ก็อีกเช่นเคย เธอมาพร้อมกับลูกสาวของเธอ

   “สวัสดีครับคุณเรย์ น้องรินไปนั่งรอกับเพื่อนก่อนนะครับ”

   “แหม บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกพี่เรย์ก็พอ”แล้วก็ทำแก้เขินด้วยการตีมาที่แขนของผมเบาๆอย่างสนิทสนม

   “อ่า ครับๆ พี่เรย์”

   “ว่าแต่วันนี้จะสอนเพลงอะไรเหรอคะ”

   “วันนี้จะสอนรำอธิษฐานครับ”

   “งั้นเหรอคะ อ้อ เกือบลืม พอดีพี่เรย์ผ่านร้านขนมก็เลยซื้อมาฝากครูมณี เห็นน้องรินบอกว่าช่วงครูมณีชอบกินขนม”

   “อ่าขอบคุณครับ”จะไม่รับก็ไม่ได้ พอยื่นมือไปรับสาวเจ้าก็ถือโอกาสจับมือผม ผมกระพริบตาปริบๆ รู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิต
จากมุมห้องขึ้นมาทันทีทันใด

   “มือครูมณีนุ่มจังเลยนะคะ”

   “อ่าครับ ผะ ผมว่าปล่อยดีกว่านะครับ เด็กๆเยอะจะดูไม่ดีเอา”ผมยิ้มแห้ง ดึงมือออกมา กว่าจะหลุดได้ เล่นเอาเหงื่อตก
เหมือนมีอะไรมันแทงอยู่ข้างหลัง

   “ครูมณีนี่น่ารักจังเลยนะคะ”

   “ขอบคุณครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่เรย์ไปนั่งรอที่โซฟาเลยนะครับ ผมจะเริ่มสอนแล้ว”

   “ได้ค่ะ”ยิ้มหวานให้ผมอีกตามเคย ก่อนจะเดินอ้อยอิ่งออกไป ทว่า “ว๊ายยยยย”

   เสียงกรี๊ดเรียกให้ผมหันกลับไปมอง เด็กๆเกือบสิบคนในคลาสต่างก็มองไปที่เธอเป็นตาเดียวเมื่อเธอล้มลงไปกองอยู่บน
พื้นไม้มันวับ

   “เป็นอะไรไหมครับ”ตามสัญชาติญาณผมรีบเข้าไปดู “เจ็บตรงไหนรึเปล่าครับ”

   “มะ ไม่เป็นไรค่ะ แต่เมื่อกี้พี่รู้สึกเหมือนมีใครผลักพี่เลยค่ะ”ดวงตาของเธอหลุกหลิกไปมา

   “อะ อะไรนะครับ พะ พื้นลื่นรึเปล่า”ผมถาม ปรายตาไปมองหน้าของใครอีกคนที่นั่งอยู่ตรงที่ประจำของผม ดวงตาคมดุก
รอกตาหนีไม่ยอมสบตา

   “จริงๆนะคะ”

   “พื้นลื่นรึเปล่าครับ”

   “แต่พี่ไม่ได้ลื่นนะคะ มันเหมือนโดนผลักจริงๆนะ”

   “คิดมากไปแล้วครับ พื้นน่าจะลื่น เดี๋ยวผมพาไปนั่งพักนะครับ”ผมพยุงเธอไปนั่งที่โซฟา ไม่วายมองค้อนไปยังตัวต้นเหตุ
อย่างคาดโทษ

   ก่อนจะละความสนใจไปเริ่มสอนเด็กๆ หันไปมองพี่ธาราเป็นพักๆ ตอนนี้พี่ธาราไม่ได้สนใจจ้องผมแล้วเพราะมีเจ้าลูกชาย
สองแสบพากันมาชวนเล่นให้ได้รับบทคุณพ่อยามที่คุณแม่อย่างผมทำงาน

   จนเลิกคลาสตอนเที่ยง

   “พี่กลับแล้วนะคะ”พี่เรย์โบกมือลา กลับมายิ้มกว้างให้ผมเหมือนเดิม

   “รินไปแล้วนะสินสุดพรุ่งนี้รินจะมาหาใหม่นะ”ส่วนลูกสาวของเธอก็โบกมือลาสินสมุทรกับสุดธารา เด็กสมัยนี้นี่โตเร็วกัน
จริงๆ

   “มาบอกทำไมไม่ได้อยากรู้สักหน่อย”

   “แบร่”แสบไหมล่ะ ลูกชายผมแต่ล่ะคน คิดว่าเจ้าลูกแฝดนี่คงไม่สนใจใครนอกจากอลันแล้วล่ะ ดันไปจองตัวลูกเขาตั้งแต่
เล็กแต่น้อย

   “สินสุดไปหาคุณตาคุณยายได้แล้วครับ”ผมดันตัวแสบเข้าไปในโรงฝึก

   “แต่พ่อธาราบอกให้สินกับสุดเฝ้าแม่มณี”

   “พ่อธาราสั่งมา”สินกับสุดกอดอก

   “แต่นี่แม่สั่งครับ ไปหาคุณตาคุณยายได้แล้วครับ”พอเจ้าสองแสบหน้ามุ่ยเดินดุ่มๆกลับบ้านไป ผมก็ได้แต่หันไปยิ้มแห้งให้
กับพี่เรย์

   “เรียกครูมณีว่าแม่พี่ก็ว่าแปลกแล้วนะ ทำไมถึงได้เรียกคนนั้นว่าพ่อล่ะ”

   “แหะๆ เรื่องมันยาวนะครับ กลับดีดีนะครับ”รีบออกปากในเชิงไล่เชิงไล่เพราะผู้ปรกครองคนอื่นๆมารับลูกหลานเขากลับกัน
หมดแล้วเหลือก็แต่พี่เรย์ที่ยังอยู่ไม่ยอมกลับสักที

   “พรุ่งนี้เจอกันนะคะ”



   สุดท้ายเธอก็ยอมไปจนได้ ผมได้แต่ถอนหายใจออกมา หันหลังเดินกลับเข้าไปในโรงฝึก มองเห็นพี่ธารายืนเป็นเงาทะมึน
อยู่กลางห้อง

   “ไม่ต้องมาหน้าบึ้งใส่ผมเลย ทำไมถึงไปลักพี่เรย์เขาแบบนั่นล่ะครับ”

   “ข้าไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องคนรักของข้า”จริงๆมันก็เขินอยู่หรอกที่พูดบอกกันแบบนี้ แต่ไอ้เรื่องนี้มันก็เรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยว
กับเรื่องพี่พี่ธาราใช้มนต์คาถาทำร้ายคนอื่น ถึงแม้จะเพราะถึงก็เถอะ

   “จะยังไงพี่ก็ไม่น่าจะไปทำร้ายคนอื่นแบบนั้นนี่”

   “ทำไมเจ้าต้องปกป้องคนเขาด้วยเล่า”พี่ธาราไม่พอใจเดินเข้ามาใกล้

   “ไม่ต้องมาใกล้เลย ผมจะไปกินข้าวแล้ว”ผมเดินถอยหนี แต่พี่ธาราก็เดินเข้ามาจนแผ่นหลังผมชิดกับกระจกบานใหญ่ที่เอา
ไว้ดูเวลาซ้อม

   “เมื่อไรเจ้าจะเลิกหว่านเสน่ห์ไปทั่วเสียที เจ้าเป็นเมียข้านะ”

   “ผมก็อยู่ของผมเฉยๆ พี่อย่ามาหวงไม่เข้าเรื่องได้ไหม แล้วก็ถอยไปได้แล้ว ผมหิว”

   “เจ้าอยากจะไปกินขนมนั่นใช่ไหม”ชี้ไปที่ถังขยะเล่นเอาผมตาโต เผลอแวบเดียวถุงขนมที่เพิ่งได้มาลอยคว้างลงถังขยะไป
แล้ว

   “ยักษ์นี่พูดไม่ค่อยจะรู้เรื่องจริงๆ”ผมขมวดคิ้ว แต่ก็ต้องตาโตเมื่อพี่ธาราจูบลงมาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง ถูกดันให้แผ่นหลัง
ชิดกระจก ใบหน้าถูกจับให้เงยขึ้นรับจูบได้ถนัดถนี่ แต่ถึงกระนั้นจูบที่ถูกป้อนมามันก็เป็นจูบที่ทั้งหวานล้ำและตะกละตะกลามจน
แทบจะทรงตัวไม่ไหว

   นานแล้วที่ไม่ได้ถูกพี่ธาราจูบแบบนี้ นานจนนึกแปลกใจ แต่แล้วก็หายสงสัย

   “ครูมณีคะ พอดีพี่เรย์ลืม คะ ของ อะ เอ้อ คือ”

   ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆประตูก็เปิดเข้ามา ความตกใจทำให้ผมดันพี่ธาราออก ทว่าพี่ธารากลับยิ่งตรึงร่างของผมเอาไว้แล้วจูบ
ต่อไม่สนใจแขกไม่ได้รับเชิญ

   ดันจูบร้อนเข้ามาลึกล้ำกว่าเก่าอวดสายตาที่ดูตกใจของพี่เรย์

   “อื้อ ปล่อย”ในที่สุดพี่ธาราก็ยอมปล่อย

   “คือ พี่ไม่รู้ว่าครูมณีกำลัง เอ่อ ยุ่ง พี่ลืมโทรศัพท์เอาไว้”เธอเอื้อมหยิบโทรศัพท์ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเดินหน้าแดงออกไป

   ปัง!!!ทันทีที่พี่เขาเดินออกไปจากโรงฝึก ประตูโรงฝึกก็ถูกปิดอย่างแรงด้วยแรงที่มองไม่เห็น

   “ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้ด้วย!!”ผมหันมาว่าพี่ธาราทันที “พี่รู้ใช่ไหมว่าพี่มาเอาของ พี่ถึงได้จูบผม”

   “หากข้าไม่ทำเช่นนี้เขาก็จะยิ่งหลงเสน่ห์เจ้า ข้าไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่”

   “คราวหลังอย่าทำแบบนี้ก็แล้วกัน”ผมถอนหายใจออกมาแตะมือลงบนแผ่นอกของพี่ธาราเบามือ

   ผมรู้ว่าพี่ธารารักผมมาก แต่ถ้าให้ผมต้องถูกจูบต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ผมก็รู้สึกอาย

   “ไปกินข้าวได้แล้ว”ผมดึงแขนพี่ธาราให้เดินตาม

   ทว่าพี่ธารากลับไม่เดินตาม แต่กลับดันให้ผมหันหน้าเข้ากระจก ทำให้ผมเลี่ยงไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมากั้นไม่ให้ตัวเองแนบ
หน้าเข้ากับกระจก

   “จะทำอะไร”ถามเสียงสั่นเมื่อใบหน้าหล่อเหลาที่สะท้อนอยู่บนกระจกก้มลงมาซุกลงบนต้นคอ จมูกโด่งคลอเคลียไปมา
ทำเอาผมขนลุก

   “ลงโทษที่เจ้าหว่านเสน่ห์ไปทั่วอย่างไรเล่า”

   เสียงนุ่มหูกระซิบบอก มือสอดเข้าไปในเสื้อลูบไล่บั้นเอวของผมแล้ววกขึ้นไปกรีดนิ้วลงบนแอ่งสะดือ ไม่นานปลายนิ้วก็ไป
หยุดลงที่เม็ดเล็กๆกลางแผ่นอก บีบขยี้จนผมสะดุ้ง

   “อะไร ผมท้องอยู่นะพี่”

   “ท้องเจ้ายังอ่อนนัก”กระซิบบอก มืออีกข้างจับใบหน้าของผมให้แหงนมองกระจกเบื้องหน้า

   มันยิ่งทำให้ผมอับอายเมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำของตัวเองสะท้อนอยู่บนกระจก กระดุมเสื้อเริ่มถูกปลดทะเม็ดจนหมด เม็ด
เล็กๆบนแผ่นอกขึ้นสีเข้มจนเห็นชัด

   “อย่าน่า นะ นี่มันห้องเรียน”

   “ช่างประไรเล่า”

   “คนอื่นจะมาเห็น”ผมอ้าง ทว่าทันทีก็ได้ยินเสียงล็อกประตูดังแกร๊ก เป็นเมียยักษ์นี่มันสะดวกสบายจริงๆ

   “ให้ข้าได้ฟังเสียงของเข้าเถิด เมียรักของข้า”ริมฝีปากพรมจูบลงบนแผ่นหลังขาของผมแทบจะไม่เหลือแรงทรงตัวหาก
ไม่มีแรงที่มองไม่เห็นคอยโอบอุ้มเอาไว้ กางเกงร่วงลงไปกองอยู่บนพื้นตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ รู้แค่ว่าความรู้สึกมันเอ่อล้นออกมา เสียง
ครางอื้ออึงถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆยามที่มือนั้นรูดรั้งอยู่เบื้องหน้า

   “พี่ธารา อะ อา”

   มันยากที่จะขัดขืนคนที่ตัวเองรัก กายใหญ่ที่ฝังอยู่ในร่างกายสอดเข้ามาแผ่วเบา แต่ก็หวามจนรู้สึกว่ากำลังจะละลาย

   “ข้ารักเจ้า มณีของข้า ของข้าคนเดียว”เสียงนั้นก้องกังวานอยู่ในหูตอกย้ำถึงความรักอันมีค่าที่ผมได้รับมาจากเขา

   “ผมก็รักพี่”



   =================================================

   ทางด้านทศกัณฐ์ที่กำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับตัวเอง ข้างข้องในห้องกระจัดกระจาย เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่ากายทั้งสองที่
กกกอดเอาไว้   เมื่อคืนหายไป แม้จะตามหาไปทั่วแต่ก็ไม่เจอ กระเป๋าเสื้อผ้าของใช้ต่างๆถูกเก็บจนเกลี้ยง

   ดวงตาสีเหลืองสว่างวาบ นัยน์ตาวาวโรจน์โกรธเคืองความโง่เขลาของตัวเองอีกแล้วที่ปล่อยให้สองแม่ลูกหนีไป

   รู้ตัวอีกทีก็ตามกลิ่นไม่เจอแม่กระทั่งกลิ่นยักษ์ด้วยกันของลูกชาย



   =================================================

   
ไม่รู้ว่าจะมีใครไม่พอใจไหมที่พี่ธาราซั่มมณีตอนท้องหนึ่งเดือน แต่แบบ แหม มันอดไม่ได้นี่นา
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 25/04 [CH 11.2] หึงหวง
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 25-04-2016 13:05:29
อลันกับอเลน หนีไปแล้ววว เฮียทศ ตามเร็ววว  :z3:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 25/04 [CH 11.2] หึงหวง
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 25-04-2016 13:39:17
 :-[ :-[ :-[ :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 25/04 [CH 11.2] หึงหวง
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 25-04-2016 14:27:18
สงสาร ทศกัน  :mew6:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 25/04 [CH 11.2] หึงหวง
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 25-04-2016 15:10:06
ธาราเอ๋ย ขี้หึงจัง
หนีอีกแล้วเราะเดี๋ยวๆๆ ทศไปทำไรมา

หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 25/04 [CH 11.2] หึงหวง
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 25-04-2016 21:19:46
ทศเอ้ยรีบตามเมียเอ็งกลับมาให้ไวนะ

แอบดีใจแทนคุณตาคุณยาย กำลังจะมีสมาชิกเพิ่มอีกสองคน ครึกครื้นแน่ :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 25/04 [CH 11.2] หึงหวง
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 25-04-2016 23:47:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 30/04 [CH 12] กุหลาบแดงข้างกาย
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 30-04-2016 13:40:36
ทวงครั้งที่ 12 กุหลาบแดงข้างกาย

   “ทำไมพ่อทศไม่มากับเราด้วยล่ะฮะ อลันคิดถึงพ่อทศ”เด็กน้อยผิวขาวแก้มใสเอียงคอถาม

   นานนับอาทิตย์แล้วที่พาลูกชายหนีคนคนนั้นมาอีกครั้ง เหมือนกันแต่แตกต่างกันที่ความรู้สึก ความทรงจำที่เกิดขึ้นในช่วง
สั้นๆยังคงค้างคา รอยจูบในคืนสุดท้ายที่เคียงข้างกายยังคงตราตรึงอยู่ข้างในใจ

   “เขาเขาติดธุระ ไม่ว่างมากับเรา”

   ทั้งหมดที่ทำลงไปเกิดขึ้นจากความสับสน อีกหนึ่งชีวิตที่กำลังเกิดมาในร่างกายของเขา สิ่งที่เชื่อมต่อความสัมพันธ์ของ

เขาให้ต่อติดกับทศกัณฐ์กำลังฝังอยู่ภายในร่างกายของเขาอีกครั้ง

   อเลนยังคงไม่ยอมรับตัวเอง และแน่นอนว่าทำใจให้ยอมรับในการมีตัวตนของทศกัณฐ์ไม่ได้ง่ายๆ

   “แต่อลันคิดถึงพ่อทศ เรากลับไปหาพ่อทศไม่ได้เหรอฮะ”

   “ไม่ได้หรอก อลันไม่คิดถึงคุณตากับคุณยายเหรอครับ”

   “คิดถึงฮะ แต่อลันก็คิดถึงพ่อทศ เราบอกคุณตากับคุณยายไม่ได้เหรอฮะว่าอลันมีพ่อแล้ว”อลันมุ่ยหน้า ถามออกมาอย่างไร้
เดียงสา

      “ไม่ได้ครับ อลันห้ามบอกใครเด็ดขาด”เพราะทศกัณฐ์เป็นยักษ์ ไม่มีทางที่ครอบครัวของเขาจะยอมรับทศกัณฐ์ได้
แน่นอน

   “ฮะ อลันไม่บอกก็ได้”ตอบเสียงอ่อย “แต่อลันบอกได้ไหมฮะว่าอลันกำลังมีน้อง”

   คำตอบของอลันทำให้อเลนชะงัก ปากกาในมือร่วงหล่นลงไปบนสมุดโน้ต ดวงตาคมสวยจ้องมองลูกชายทันทีด้วยความ
ประหลาดใจ

   “ใครเป็นคนบอกอลัน”

   “ก็อลันเห็นน้องในนี้”มือป้อมเล็กแตะลงบนหน้าท้องของอเลนอย่างเบามือ แก้มป่องใสยิ้มจนแก้มเกือบจะปริแตก

   “อลันอย่างพึ่งบอกใครนะครับ เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเราสองคน ตกลงไหม”

   “ตกลงฮะ เอาไว้เซอไพรส์คุณตาคุณยาย”เกี่ยวก้อยสัญญากันเสร็จสรรพ

   หัวใจที่อยู่ในอกของอเลนกำลังสั่นถึงแม้จะนานนับอาทิตย์แต่ชื่อของทศกัณฐ์ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ราวกับว่ากลิ่นกายเจือ
กลิ่นบุหรี่ของอีกฝ่ายตามหลอกหลอนเขาไปทุกที่ทำให้นึกถึงอีกฝ่ายแทบตลอดเวลา แต่นั่นมันก็เป็นเพียงแค่ความทรงจำที่ยังคง
หลงเหลืออยู่ เขาคิดเพียงแค่นั้น



   เช้าวันถัดมา ทั้งที่เป็นหน้าหนาวแต่อากาศภายนอกทำให้อเลนประหลาดใจ แสดงแดดอุ่นส่องผ่านเข้ามาทางบานหน้าต่าง
ที่เปิดทิ้งเอาไว้ เรียวคิ้วบางขมวดมุ่น หรือว่าเขาจะคิดไปเองว่าเมื่อคืนเขาได้ปิดหน้าต่างทุกบานในห้องแล้ว

   พลันกายโปร่งบางกำลังจะลุกขึ้นมือก็สัมผัสถึงอะไรบางอย่างทำให้สะดุ้งเล็กน้องก่อนจะหยิบยกมันขึ้นมาดูอย่างเบามือ

   ดอกกุหลาบไร้หนามสีแดงสด กลีบของมันราวกับสีของเลือดก็ไม่ปาน ทว่ามันมานอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงของเขาได้ยังไง
กัน

   ถามคนในบ้านไม่มีใครรู้ที่มาของดอกไม้สีแดงสดแม้สักคนเดียว ความสงสัยยังไม่จบเพียงแค่นั้น ในเมื่อเช้าวันแล้ววันเล่า

ตื่นมาเขาจะพบกับดอกกุหลาบสีแดงเสมือนเลือดวางอยู่บนเตียงข้างกายทุกวัน

   เกือบเดือนจนดอกไม้ดอกแรกเริ่มแห้งเหี่ยว อเลนจ้องมองดอกกุหลาบดอกแรกในแจกันที่นำดอกไม้ใส่เอาไว้ กลีบของมัน
ค่อยๆร่วงโรยลงมา และเขาก็จ้องมองมันเช่นนี้ทุกวัน จนกระทั่งกลีบสุดท้ายร่วงหล่นลงสู่พื้น

   “อเลน ตื่นรึยังลูก มีคนมาหาแน่ะ”เสียงของพ่อปลุกให้ละสายตาจากกลีบกุหลาบสีน้ำตาลอมแดงบนพื้น

   “ใครเหรอครับ”ถามพลางเดินไปเปิดประตู สบตากับผู้เป็นพ่อแล้วส่งยิ้มให้ตามปกติ

   “พ่ออยากให้ลงไปดูเองมากกว่า”

   “เดี๋ยวผมลงไปครับ”

   “เร็วเข้าล่ะ ก่อนที่แม่เขาจะเป็นอะไรไปซะก่อน”คำที่พ่อทิ้งท้ายทำให้เลิกคิ้วแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าคงจะเป็นเพื่อนหรือญาติ
พี่น้อง ใครสักคนที่มาที่บ้านตามปกติ

   ทว่าเพียงก้าวเดียวที่เหยียบย่างเข้าไปในห้องรับแขก ดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้าง ร่างสูงของอมนุษย์ที่คุ้นเคยทำให้หัวใจดวง
เล็กในอกหล่นวูบ นัยน์ตาสั่นระริกกับภาพที่ได้เห็น ถึงแม้จะตอกย้ำว่าเบื้องหน้านั้นคือภาพลวงตา แต่ยิ่งเพ่งมองภาพกลับยิ่งพล่า
เบลอ

   ทศกัณฐ์อยู่เบื้องหน้า กำลังจ้องมองมาที่เขาพร้อมกับรอยยิ้มคุ้นเคย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? อเลนกวาดสายตาเมื่อทศกัณฐ์นั้นนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นพรมหนา จ้องมองพานดอกไม้ธูปเทียนเบื้องหน้าของทศกัณฐ์

   “มานั่งก่อนสิ ส่วนพ่อหนุ่มก็ลุกขึ้นได้แล้วล่ะ”

   “ขอบคุณครับ”

   “มานี่สิอเลน”เมื่อลูกชายนิ่งอึ้งราวกับสติหลุด ผู้เป็นพ่อจึงได้เรียกให้มานั่งข้างกายมารดาผู้มีเชื้อสายต่างชาติ

   “แล้วนึกยังไงถึงมารับผิดเอาตอนนี้เสียล่ะ”

   “ที่ผ่านมาผมอยากที่จะดูแลอเลนกับลูกมาตลอด ติดแค่ผมหาพวกเขาไม่เจอ”ยักษ์หนุ่มตอบด้วยความสัจจริง ถึงแม้กลิ่น
ของยักษ์นั้นจะรับรู้ได้ไม่อยาก หากแต่การอยู่คนละผืนแผ่นดินทำให้ยากต่อการติดตามลูกเมียได้ง่ายๆ

   “แล้วฉันจะเชื่อใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่ทำร้ายลูกของเรา”หญิงชาวต่างชาติถามด้วยสำเนียงชัดถ้อยชัดคำราวกับเป็นเจ้าของ
ภาษา ดวงตาสีน้ำข้าวจ้องยักษ์หนุ่มแน่นิ่งราวคล้ายพยายามจะอ่านความคิดเสียให้ได้

   “ไม่ว่าจะชาติที่แล้วหรือว่าชาตินี้ ไม่มีวันที่ผมจะทำร้ายเขากับลูกของเรา”

   “งั้นก็ดี ดอกธูปเทียนนี่พวกเราจะรับเอาไว้ก็แล้วกัน”

   “พ่อ!!”จากที่นั่งเงียบอยู่นานแย้งทันควัน เด็กหนุ่มลูกครึ่งเกร็งตัวเมื่อดวงตาของยักษากำลังจ้องมองมาที่เขา พลันหัวใจก็
เต้นระรัว

   “เด็กที่อยู่ในท้องนั่น คิดว่าเมื่อไรจะบอกแม่กับพ่อล่ะ”

   “ระ เรื่องนั้น”

   “พ่อกับแม่จะรับเอาไว้แค่คำขอขมาและยกโทษในสิ่งที่เขาได้สำนึกผิด พร้อมที่จะให้โอกาสกับคนที่ต้องการ แต่ลูกจะให้
หรือไม่นั้นมันขึ้นอยู่กับลูก แต่ยังไงก็ต้องดูอลันกับลูกในท้องอีกคนที่กำลังจะเกิดมา”

   “ครับ”

   ตอบเพียงแค่นั้นก็ตวัดสายตาไปมองทศกัณฐ์

   “พ่อกับแม่ต้องไปธุระข้างนอก อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เป็นแขก ดูแลเขาให้ดี  ส่วนอลันเดี๋ยวเสร็จธุระแล้วพ่อกับแม่จะรับมา
จากบ้านพี่อลิสเขาให้เอง”

   สุดท้ายทั้งที่ไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่ก็จำยอมกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เสี้ยววินาทีที่ถูกปล่อยให้อยู่กันตามลำพัง

   ความร้ายกาจของยักษ์หนุ่มมากหน้าก็ปรากฏ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์คลี่ออกมา ดวงตาสีเหลืองอำพันทอประกายวาววับ

   “นายหนีฉันสองรอบแล้วนะ รู้ใช่ไหมว่านายตัดโอกาสของตัวนายเอง”

   เขาแค่กระพริบตาแค่นั้น อเลนสาบานกับตัวเอง เพียงชั่ววูบร่างกายสูงใหญ่ก็อยู่เบื้องหน้า ร่างของเขาถูกดันจนแผ่นหลัง
บางชิดพนักพิงโซฟา

   “จะทำอะ อื้อ”

   ริมฝีปากร้อนผ่าวกดจูบลงทัณฑ์ลงมาอย่างโหยหา หัวใจที่เก็บซ่อนเอาไว้ข้างในอกเต้นระรัว รสจูบที่คุ้นเคยปลุกกระตุ้นให้
ความคิดสับสนจนแทบบ้า

   เนิ่นนานจนรอยจูบนั้นตราตรึง กลิ่นบุหรี่คุ้นเคยคุกกรุ่นอยู่ในโพลงปากชัดเจนจนคิดว่าต่อให้ทำความสะอาดสักแค่ไหนก็คง
ไม่หมดไป

   “นายทำให้ฉันเกือบบ้า”

   คุณหมอยักษ์บอกเสียงห้วน ปลายนิ้วสากแตะลงที่คางมนดันให้เงยขึ้นมาสบเข้ากับตาคู่สีอำพัน

   “อย่า”

   “ฉันควรจะทำยังไงกับนายดี”จะลงโทษยังไงที่ทำให้ทศกัณฐ์คนนี้คลั่งจนฟาดงวงฟาดงากับความโง่ของตัวเอง

   “ไม่ คุณไม่ต้องทำอะไร แล้วกลับไปซะ”

   “นายคิดว่าฉันถ่อมาถึงที่นี่เพื่อที่จะให้นายไล่รึไง ห่ะ”น้ำเสียงยังคงบ่งบอกถึงความดิบเถื่อนที่มีมานานไม่เคยเสื่อมคลาย

   “ต้องการอะไรกันแน่”

   “ฉันจะจับนายขังเอาไว้เหมือนที่เคยทำก็ได้ แต่รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่ทำ”

   “ผมไม่อยากรู้”ตอบเสียงเครือ เบือนหน้าหนี แต่ก็ถูกปลายนิ้มนั้นบังคับให้หันกลับมามอง

   “แต่นายต้องรู้”

   “ผมบอกว่าผม…ไม่อยากรู้ไงล่ะ เลิกยุ่งและไปจากชีวิตผมกับลูกสักที”

   “ดูเหมือนว่าเวลาที่ฉันให้นานมันจะไม่ได้ช่วยอะไร”

   “ต่อให้สิบปี ยี่สิบปี หรือแม้กระทั่งหมดชาตินี้มันก็ไม่มีทางช่วยอะไร มันไม่มีทางช่วยให้ผมเลิกเกลียดคนที่ทำให้ชีวิตผม
เป็นแบบนี้”

   ทั้งที่ความรักของเขาควรจะได้สมหวังกับคนที่อยู่ในฝันมาตลอด กักขังหัวใจของเขาเอาไว้ให้ไม่มีอิสระ อีกทั้งยังทำให้มัน
สั่นคลอนจนเสียความเป็นตัวตน และคนเดียวที่เขาโทษก็คือทศกัณฐ์

   “แล้วฉันจะมาใหม่”

   รอยจูบประทับลงบนหน้าผากมน อเลนหลับตาลงเมื่อริมฝีปากนั้นแนบชิด จะต้องทำอย่างไรในเมื่อยิ่งใกล้ชิดหัวใจดวงนี้
มันยิ่งควบคุมไม่อยู่

   ถึงแม้สัมผัสของจูบนั้นจะจางลง แต่รอยจูบยังคงตราตรึง เพียงลืมตายักษ์หนุ่มเบื้องหน้าก็อันตรธานหายไป ทิ้งเอาไว้เพียง
กลิ่นกายหอมบุหรี่กับเบื้องหน้าที่ว่างเปล่า หยดน้ำตาเพียงหยดเดียวแต่กลับเปี่ยมไปด้วยสิ่งต่างๆมากมายร่วงหล่นลงมา


ความจริงแล้วทศกัณฐ์แอบมาหาลูกเมียทุกคืน จูบพุงอเลนทุกวัน แต่มาแบบย่องเบา 55
รู้ว่าโคตรสั้น แต่แบบโคตรง่วง ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อวาน ขอตัวไปสลบเหมือดก่อน ขอโทษแม่ยกคุณวาลีที่เบี้ยวนัด ขอจบ
คู่นี้ก่อนนะคะ เพราะว่าคู่วาลีนั้นยาวเพราะเหลือเยอะกว่าคู่อื่น ไปละๆ ถ้าฝนตกก็จะมาไม่คืนนี้ก็พรุ่งนี้ เน้อ โซอึนรักทุกคน เตรียมต่อภาคสามกันนะ








หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 30/04 [CH 12] กุหลาบแดงข้างกาย
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 30-04-2016 15:49:27
ใจอ่อนเถอะอเลนน
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 30/04 [CH 12] กุหลาบแดงข้างกาย
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 30-04-2016 19:19:49
ิอเลนเอ้ยยยยยยยยยย  แต่ก็แอบไม่แปลก ตอนแรกทศน่ากลัวชิบผาย 55555555555555555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 30/04 [CH 12] กุหลาบแดงข้างกาย
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 30-04-2016 20:23:41
คู่นี้ฟินมากกกก

จะรอดูว่าหมอทศจะใช้ไม้ไหนกับอลัน. อิอิ :hao3:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 30/04 [CH 12] กุหลาบแดงข้างกาย
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 30-04-2016 20:26:02
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 30/04 [CH 12] กุหลาบแดงข้างกาย
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 01-05-2016 08:10:00
 :z13:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 01/05 [CH 12] หัวใจทศกัณฐ์ ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 01-05-2016 12:34:35
ทวงครั้งที่ 12 กุหลาบแดงข้างกาย

   “ทำไมพ่อทศไม่มากับเราด้วยล่ะฮะ อลันคิดถึงพ่อทศ”เด็กน้อยผิวขาวแก้มใสเอียงคอถาม

   นานนับอาทิตย์แล้วที่พาลูกชายหนีคนคนนั้นมาอีกครั้ง เหมือนกันแต่แตกต่างกันที่ความรู้สึก ความทรงจำที่เกิดขึ้นในช่วง
สั้นๆยังคงค้างคา รอยจูบในคืนสุดท้ายที่เคียงข้างกายยังคงตราตรึงอยู่ข้างในใจ

   “เขาเขาติดธุระ ไม่ว่างมากับเรา”

   ทั้งหมดที่ทำลงไปเกิดขึ้นจากความสับสน อีกหนึ่งชีวิตที่กำลังเกิดมาในร่างกายของเขา สิ่งที่เชื่อมต่อความสัมพันธ์ของ
เขาให้ต่อติดกับทศกัณฐ์กำลังฝังอยู่ภายในร่างกายของเขาอีกครั้ง

   อเลนยังคงไม่ยอมรับตัวเอง และแน่นอนว่าทำใจให้ยอมรับในการมีตัวตนของทศกัณฐ์ไม่ได้ง่ายๆ

   “แต่อลันคิดถึงพ่อทศ เรากลับไปหาพ่อทศไม่ได้เหรอฮะ”

   “ไม่ได้หรอก อลันไม่คิดถึงคุณตากับคุณยายเหรอครับ”

   “คิดถึงฮะ แต่อลันก็คิดถึงพ่อทศ เราบอกคุณตากับคุณยายไม่ได้เหรอฮะว่าอลันมีพ่อแล้ว”อลันมุ่ยหน้า ถามออกมาอย่างไร้
เดียงสา

      “ไม่ได้ครับ อลันห้ามบอกใครเด็ดขาด”เพราะทศกัณฐ์เป็นยักษ์ ไม่มีทางที่ครอบครัวของเขาจะยอมรับทศกัณฐ์ได้
แน่นอน

   “ฮะ อลันไม่บอกก็ได้”ตอบเสียงอ่อย “แต่อลันบอกได้ไหมฮะว่าอลันกำลังมีน้อง”

   คำตอบของอลันทำให้อเลนชะงัก ปากกาในมือร่วงหล่นลงไปบนสมุดโน้ต ดวงตาคมสวยจ้องมองลูกชายทันทีด้วยความ
ประหลาดใจ

   “ใครเป็นคนบอกอลัน”

   “ก็อลันเห็นน้องในนี้”มือป้อมเล็กแตะลงบนหน้าท้องของอเลนอย่างเบามือ แก้มป่องใสยิ้มจนแก้มเกือบจะปริแตก

   “อลันอย่างพึ่งบอกใครนะครับ เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเราสองคน ตกลงไหม”

   “ตกลงฮะ เอาไว้เซอไพรส์คุณตาคุณยาย”เกี่ยวก้อยสัญญากันเสร็จสรรพ

   หัวใจที่อยู่ในอกของอเลนกำลังสั่นถึงแม้จะนานนับอาทิตย์แต่ชื่อของทศกัณฐ์ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ราวกับว่ากลิ่นกายเจือ
กลิ่นบุหรี่ของอีกฝ่ายตามหลอกหลอนเขาไปทุกที่ทำให้นึกถึงอีกฝ่ายแทบตลอดเวลา แต่นั่นมันก็เป็นเพียงแค่ความทรงจำที่ยังคง
หลงเหลืออยู่ เขาคิดเพียงแค่นั้น



   เช้าวันถัดมา ทั้งที่เป็นหน้าหนาวแต่อากาศภายนอกทำให้อเลนประหลาดใจ แสดงแดดอุ่นส่องผ่านเข้ามาทางบานหน้าต่าง
ที่เปิดทิ้งเอาไว้ เรียวคิ้วบางขมวดมุ่น หรือว่าเขาจะคิดไปเองว่าเมื่อคืนเขาได้ปิดหน้าต่างทุกบานในห้องแล้ว

   พลันกายโปร่งบางกำลังจะลุกขึ้นมือก็สัมผัสถึงอะไรบางอย่างทำให้สะดุ้งเล็กน้องก่อนจะหยิบยกมันขึ้นมาดูอย่างเบามือ

   ดอกกุหลาบไร้หนามสีแดงสด กลีบของมันราวกับสีของเลือดก็ไม่ปาน ทว่ามันมานอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงของเขาได้ยังไง
กัน

   ถามคนในบ้านไม่มีใครรู้ที่มาของดอกไม้สีแดงสดแม้สักคนเดียว ความสงสัยยังไม่จบเพียงแค่นั้น ในเมื่อเช้าวันแล้ววันเล่า
ตื่นมาเขาจะพบกับดอกกุหลาบสีแดงเสมือนเลือดวางอยู่บนเตียงข้างกายทุกวัน

   เกือบเดือนจนดอกไม้ดอกแรกเริ่มแห้งเหี่ยว อเลนจ้องมองดอกกุหลาบดอกแรกในแจกันที่นำดอกไม้ใส่เอาไว้ กลีบของมัน
ค่อยๆร่วงโรยลงมา และเขาก็จ้องมองมันเช่นนี้ทุกวัน จนกระทั่งกลีบสุดท้ายร่วงหล่นลงสู่พื้น

   “อเลน ตื่นรึยังลูก มีคนมาหาแน่ะ”เสียงของพ่อปลุกให้ละสายตาจากกลีบกุหลาบสีน้ำตาลอมแดงบนพื้น

   “ใครเหรอครับ”ถามพลางเดินไปเปิดประตู สบตากับผู้เป็นพ่อแล้วส่งยิ้มให้ตามปกติ

   “พ่ออยากให้ลงไปดูเองมากกว่า”

   “เดี๋ยวผมลงไปครับ”

   “เร็วเข้าล่ะ ก่อนที่แม่เขาจะเป็นอะไรไปซะก่อน”คำที่พ่อทิ้งท้ายทำให้เลิกคิ้วแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าคงจะเป็นเพื่อนหรือญาติ
พี่น้อง ใครสักคนที่มาที่บ้านตามปกติ

   ทว่าเพียงก้าวเดียวที่เหยียบย่างเข้าไปในห้องรับแขก ดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้าง ร่างสูงของอมนุษย์ที่คุ้นเคยทำให้หัวใจดวง
เล็กในอกหล่นวูบ นัยน์ตาสั่นระริกกับภาพที่ได้เห็น ถึงแม้จะตอกย้ำว่าเบื้องหน้านั้นคือภาพลวงตา แต่ยิ่งเพ่งมองภาพกลับยิ่งพล่า
เบลอ

   ทศกัณฐ์อยู่เบื้องหน้า กำลังจ้องมองมาที่เขาพร้อมกับรอยยิ้มคุ้นเคย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? อเลนกวาดสายตาเมื่อทศ
กัณฐ์นั้นนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นพรมหนา จ้องมองพานดอกไม้ธูปเทียนเบื้องหน้าของทศกัณฐ์

   “มานั่งก่อนสิ ส่วนพ่อหนุ่มก็ลุกขึ้นได้แล้วล่ะ”

   “ขอบคุณครับ”

   “มานี่สิอเลน”เมื่อลูกชายนิ่งอึ้งราวกับสติหลุด ผู้เป็นพ่อจึงได้เรียกให้มานั่งข้างกายมารดาผู้มีเชื้อสายต่างชาติ

   “แล้วนึกยังไงถึงมารับผิดเอาตอนนี้เสียล่ะ”

   “ที่ผ่านมาผมอยากที่จะดูแลอเลนกับลูกมาตลอด ติดแค่ผมหาพวกเขาไม่เจอ”ยักษ์หนุ่มตอบด้วยความสัจจริง ถึงแม้กลิ่น
ของยักษ์นั้นจะรับรู้ได้ไม่อยาก หากแต่การอยู่คนละผืนแผ่นดินทำให้ยากต่อการติดตามลูกเมียได้ง่ายๆ

   “แล้วฉันจะเชื่อใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่ทำร้ายลูกของเรา”หญิงชาวต่างชาติถามด้วยสำเนียงชัดถ้อยชัดคำราวกับเป็นเจ้าของ
ภาษา ดวงตาสีน้ำข้าวจ้องยักษ์หนุ่มแน่นิ่งราวคล้ายพยายามจะอ่านความคิดเสียให้ได้

   “ไม่ว่าจะชาติที่แล้วหรือว่าชาตินี้ ไม่มีวันที่ผมจะทำร้ายเขากับลูกของเรา”

   “งั้นก็ดี ดอกธูปเทียนนี่พวกเราจะรับเอาไว้ก็แล้วกัน”

   “พ่อ!!”จากที่นั่งเงียบอยู่นานแย้งทันควัน เด็กหนุ่มลูกครึ่งเกร็งตัวเมื่อดวงตาของยักษากำลังจ้องมองมาที่เขา พลันหัวใจก็
เต้นระรัว

   “เด็กที่อยู่ในท้องนั่น คิดว่าเมื่อไรจะบอกแม่กับพ่อล่ะ”

   “ระ เรื่องนั้น”

   “พ่อกับแม่จะรับเอาไว้แค่คำขอขมาและยกโทษในสิ่งที่เขาได้สำนึกผิด พร้อมที่จะให้โอกาสกับคนที่ต้องการ แต่ลูกจะให้
หรือไม่นั้นมันขึ้นอยู่กับลูก แต่ยังไงก็ต้องดูอลันกับลูกในท้องอีกคนที่กำลังจะเกิดมา”

   “ครับ”

   ตอบเพียงแค่นั้นก็ตวัดสายตาไปมองทศกัณฐ์

   “พ่อกับแม่ต้องไปธุระข้างนอก อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เป็นแขก ดูแลเขาให้ดี  ส่วนอลันเดี๋ยวเสร็จธุระแล้วพ่อกับแม่จะรับมา
จากบ้านพี่อลิสเขาให้เอง”

   สุดท้ายทั้งที่ไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่ก็จำยอมกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เสี้ยววินาทีที่ถูกปล่อยให้อยู่กันตามลำพัง

   ความร้ายกาจของยักษ์หนุ่มมากหน้าก็ปรากฏ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์คลี่ออกมา ดวงตาสีเหลืองอำพันทอประกายวาววับ

   “นายหนีฉันสองรอบแล้วนะ รู้ใช่ไหมว่านายตัดโอกาสของตัวนายเอง”

   เขาแค่กระพริบตาแค่นั้น อเลนสาบานกับตัวเอง เพียงชั่ววูบร่างกายสูงใหญ่ก็อยู่เบื้องหน้า ร่างของเขาถูกดันจนแผ่นหลัง
บางชิดพนักพิงโซฟา

   “จะทำอะ อื้อ”

   ริมฝีปากร้อนผ่าวกดจูบลงทัณฑ์ลงมาอย่างโหยหา หัวใจที่เก็บซ่อนเอาไว้ข้างในอกเต้นระรัว รสจูบที่คุ้นเคยปลุกกระตุ้นให้
ความคิดสับสนจนแทบบ้า

   เนิ่นนานจนรอยจูบนั้นตราตรึง กลิ่นบุหรี่คุ้นเคยคุกกรุ่นอยู่ในโพลงปากชัดเจนจนคิดว่าต่อให้ทำความสะอาดสักแค่ไหนก็คง
ไม่หมดไป

   “นายทำให้ฉันเกือบบ้า”

   คุณหมอยักษ์บอกเสียงห้วน ปลายนิ้วสากแตะลงที่คางมนดันให้เงยขึ้นมาสบเข้ากับตาคู่สีอำพัน

   “อย่า”

   “ฉันควรจะทำยังไงกับนายดี”จะลงโทษยังไงที่ทำให้ทศกัณฐ์คนนี้คลั่งจนฟาดงวงฟาดงากับความโง่ของตัวเอง

   “ไม่ คุณไม่ต้องทำอะไร แล้วกลับไปซะ”

   “นายคิดว่าฉันถ่อมาถึงที่นี่เพื่อที่จะให้นายไล่รึไง ห่ะ”น้ำเสียงยังคงบ่งบอกถึงความดิบเถื่อนที่มีมานานไม่เคยเสื่อมคลาย

   “ต้องการอะไรกันแน่”

   “ฉันจะจับนายขังเอาไว้เหมือนที่เคยทำก็ได้ แต่รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่ทำ”

   “ผมไม่อยากรู้”ตอบเสียงเครือ เบือนหน้าหนี แต่ก็ถูกปลายนิ้มนั้นบังคับให้หันกลับมามอง

   “แต่นายต้องรู้”

   “ผมบอกว่าผม…ไม่อยากรู้ไงล่ะ เลิกยุ่งและไปจากชีวิตผมกับลูกสักที”

   “ดูเหมือนว่าเวลาที่ฉันให้นานมันจะไม่ได้ช่วยอะไร”

   “ต่อให้สิบปี ยี่สิบปี หรือแม้กระทั่งหมดชาตินี้มันก็ไม่มีทางช่วยอะไร มันไม่มีทางช่วยให้ผมเลิกเกลียดคนที่ทำให้ชีวิตผม
เป็นแบบนี้”

   ทั้งที่ความรักของเขาควรจะได้สมหวังกับคนที่อยู่ในฝันมาตลอด กักขังหัวใจของเขาเอาไว้ให้ไม่มีอิสระ อีกทั้งยังทำให้มัน
สั่นคลอนจนเสียความเป็นตัวตน และคนเดียวที่เขาโทษก็คือทศกัณฐ์

   “แล้วฉันจะมาใหม่”

   รอยจูบประทับลงบนหน้าผากมน อเลนหลับตาลงเมื่อริมฝีปากนั้นแนบชิด จะต้องทำอย่างไรในเมื่อยิ่งใกล้ชิดหัวใจดวงนี้
มันยิ่งควบคุมไม่อยู่

   ถึงแม้สัมผัสของจูบนั้นจะจางลง แต่รอยจูบยังคงตราตรึง เพียงลืมตายักษ์หนุ่มเบื้องหน้าก็อันตรธานหายไป ทิ้งเอาไว้เพียง
กลิ่นกายหอมบุหรี่กับเบื้องหน้าที่ว่างเปล่า หยดน้ำตาเพียงหยดเดียวแต่กลับเปี่ยมไปด้วยสิ่งต่างๆมากมายร่วงหล่นลงมา



   เช้าของอีกวัน ทันทีทีตื่นขึ้นมา ดวงตาคู่สวยตวัดมองไปยังข้างกาย เพราะอะไรเขาจึงหวังให้มันเป็นเหมือนกับทุกครั้ง ทุก

ครั้งที่มีดอกไม้สีแดงสดราวกับเลือดวางอยู่ แต่วันนี้กลับว่างเปล่า ความรู้สึกราวกับถูกฉุดให้ร่วงหล่นจากริมผาลงมาสู่หุบเหวลึก

   “แม่อเลนฮะ อลันหิวตื่นแล้ว”เสียงเจื้อยแจ้วทักทายยามเช้าขอองลูกชายดังพร้อมๆกับประตูห้องที่เปิดออก เช่นทุกครั้งที่
ลูกชายมักจะเข้ามาปลุก แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน

   ร่างสูงใหญ่กายกำยำสมบุรุษในชุดลำลองแทรกผ่านประตูเข้ามา ในอ้อมแขนอุ้มอลันเอาไว้ ใบหน้าคมกร้านประดับรอยยิ้ม
เล็กๆที่มุมปากส่งมาให้เขา

   “ไง”

   คำทักทายสั้นๆปลุกให้หลุดจากภวังค์ จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ

   “ทำไมคุณถึงได้…”

   “มันน่าแปลกใจมากนักรึไงที่ฉันจะมาหาลูกเมียของตัวเอง”

   “ใครเป็นเมียคุณกันคุณทศ”

   “ใครก็ตามที่อุ้มท้องลูกของฉัน”

   “หมายถึงใครก็ได้สินะ”ตอบกลับทันทีทันควันโดยไม่ได้ยั้งคิดว่านั่นคือคำประชดประชัน ใบหน้าขาวสะอาดหากไม่มองดูดี
ดีคงจะแยกไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือว่าชายเบือนหน้าหนี

   “หึ”ทศกัณฐ์หัวเราะในลำคอ อุ้มลูกเดินเข้าไปหาร่างสูงโปร่งที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียงไม่ยอมขยับกาย

   “แม่อเลนฮะ ไม่ดีใจเหรอฮะ”

   “ดีใจเรื่องอะไรกัน”หันมาถามลูกชาย

   “ดีใจที่พ่อทศมาหาเราไงฮะ อลันดีใจมากเลย”หน้ากลมใสซบลงบนอกพ่ออย่างเอาใจ

   “ก็ไม่นี่ ไม่มีอะไรน่าดีใจ”เบือนหน้าหนีดังเดิม

   “จริงเหรอฮะ ทำไมถึงไม่ดีใจล่ะฮะ แม่อเลนเกลียดพ่อทศเหรอฮะ”คราวนี้เด็กน้อยแก้มใสมุ่ยหน้าเงยหน้าขึ้นมาถามทศ
กัณฐ์

   “ไม่รู้สิ พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยแม่คงจะไม่รักพ่อ”ทศกัณฐ์แสร้งตีหน้าเศร้าใส่ลูกชาย

   น้ำเสียงน่าหมั่นไส้นั้นทำให้อเลนหันขวับมามองการแสดงบทบาทย่อมๆของยักษ์เถื่อนที่กำลังหลอกล่อให้ลูกชายเบ้ปาก
ทำท่าจะร้องไห้เพราะแม่ไม่รักพ่อ

   นั่นทำให้อเลนกระวนกระวาย ดวงตาคู่สวยกรอกไปมา

   “แม่อเลนไม่รักพ่อทศ”

   “มะ มันไม่ใช่อย่างนั้น”รีบแก้ต่างพร้อมกับเหลือกตาขึ้นเมื่อเห็นดวงตาคู่เหลือบอำพันกำลังยิ้มเยาะตนอยู่กลายๆ

   “แต่แม่อเลนไม่ดีใจที่พ่อทศมาหา”

   “ดะ ดีใจสิ ดีใจครับ”

   “นายดีใจแน่นะ”พอได้ทีก็เข้าผสมโรงกันยกใหญ่ทั้งพ่อทั้งลูกทำให้แม่คนนี้กระอักกระอ่วน

   อย่างน้อยก็ยังดีกว่าที่ผ่านมา ดีกว่าปล่อยให้เขาอุ้มท้องอลันคนเดียวเหมือนกับครั้งดีแล้ว อย่างน้อยในครั้งนี้ทศกัณฐ์ก็ยัง
ตามมา ตามหาตนกับลูก

   เขาควรจะทำยังไงกับความสับสนของตัวเองดี ในเมื่อเหตุผลที่หนีมาเป็นเพราะว่าท้องลูกของทศกัณฐ์คนที่สอง ไม่ใช่ว่า
เสียใจ แต่เป็นเพราะเขาไม่ได้ยินยอม เพราะทศกัณฐ์ไม่ได้บอกกล่าวให้เขาได้เตรียมใจและร่วมกันตัดสินใจ มันไม่ใช่การโกรธ
เกลียด แต่เป็นการโกรธเคืองเสียมากกว่า

   “อืม”พยักหน้ารับ

   “แล้วแม่อเลนรักพ่อทศไหมฮะ”

   อลันยิ้มแป้นจนแก้มปริ ถามเสียงใสกอดคอพ่อทศกัณฐ์แน่น แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความนิ่งเงียบครู่ใหญ่จนอลันหน้ามุ่ยอีก
ครั้ง

   “ว่าไง ถึงนายไม่ตอบฉัน แต่อย่างน้อยนายก็น่าจะมีคำตอบให้กับลูกของเรา”

   “คุณอย่าใช้ประโยชน์อลันในทางที่ผิดได้ไหม”

   ไม่ใช่อะไร แค่แอบเห็นสองพ่อลูกขยับตาให้กัน ถึงจะเสี้ยววินาที แต่ก็เห็น จึงได้รู้ว่าสองพ่อลูกเขาแท็กทีมกันมาอย่าง
ดิบดี

   อลันเองก็สมบทบาทไม่แพ้พ่อ หรือว่ายักษ์จะเจ้าเล่ห์อย่างนี้ทุกตน เหมือนกับลูกของมณี เด็กแฝดที่กัดคออลันจนเป็นรอย
เพื่อที่จะจองตัวเอาไว้ตั้งแต่เด็ก

   อเลนทำท่าจะลุกหนีสองพ่อลูก คำตอบมันมีอยู่ในใจ แต่ไม่อยากตอบเพราะความเจ้าเล่ห์ที่คูณสองกันมา

   “พ่อทศฮะ อลันรักพ่อทศนะฮะ”

   “พ่อก็รักอลัน”

   “แต่แม่อเลนไม่รักพ่อทศ อลันเสียใจ”

   “พ่อก็เสียใจ”

   สองพ่อลูกพากันตัดพ้อ กอดกันกลม เขาได้แต่ถอนหายใจเดินหนีเข้าห้องน้ำไป พอออกมาสองพ่อลูกก็ไม่อยู่แล้ว

   สะดุดตากับดอกกุหลาบสีแดงสดช่อใหญ่ เกือบจะใหญ่กว่าตัวของอลันด้วยซ้ำ คิ้วเรียวยาวขมวดมุ่น เหมือนถูกสะกดให้
เดินเข้าหาช่อดอกกุหลาบสีเลือดช่อนั้นที่วางอยู่บนที่นอน

   หยิบยกมันขึ้นมาอุ้ม กดจมูกดอมดมกลิ่นหอมเคล้ากลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นเฉพาะกายที่ทำให้รู้สึกว่ามันกลายเป็นส่วนหนึ่งของ
ชีวิตของเขาไปเสียแล้ว กระดาษการ์ดสีแดงถูกพลิก ข้อความ

   ‘ฉันจะขอร้องนายเป็นครั้งสุดท้าย รีบรับรักฉันสักที ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน’

   ให้ตายเถอะ นี่มันเรียกว่าประโยคขอร้องซะที่ไหน สงสัยจะอายุเยอะจนหลงลืมไปรึเปล่าว่านี่มันประโยคคำสั่งที่เอาไว้ข่มขู่
กัน

   นาฬิกายังบอกเวลาเช้าอยู่เลย แต่สองพ่อลูกก็ทำให้เขาถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า อเลนหอบดอกไม้ลงมาจากชั้นบน
ของบ้าน ใบหน้าบึ้งตึง

   ตาคู่สวยกวาดมองไปยังโต๊ะอาหาร เห็นพ่อกับแม่และอลันนั่งประจำที่ แต่ที่เกินมาก็คือทศกัณฐ์

   ร่างสูงใหญ่กำลังขะมักเขม้นกับการประกอบมื้ออาหารอยู่เบื้องหน้าเตา ใบหน้านั้นกำลังจริงจังอยู่กับวัตถุดิบและเครื่องปรุง
อลันเองยังคงจ้อกับคุณตา ส่วนแม่ของเขาก็กำลังมองทศกัณฐ์อย่างพออกพอใจ

   สร้างภาพ!! นี่คงเป็นคำที่เหมาะสมที่สุดเสียล่ะมั้ง

   “ทำไมลงมาช้าจัง มาสิ พ่อทศเขาเป็นพ่อครัวเองเลยนะวันนี้”พ่อบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

   “แล้วนั่นดอกไม้อะไรกัน สวยเชียว”แม่เอ่ยชมดอกไม้ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา

   ทุกคนต่างก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่ายิ่งเหนื่อยหน่ายใจกับทศกัณฐ์ วางดอกไม้ลงบนโต๊ะ เดินไปหยิบแจกันในตู้ใกล้ๆพลางตอบ

   “เขาให้มาน่ะครับ”

   “โรแมนติกแต่เช้าเลยนะ”แม่ของเขายังคงชมทศกัณฐ์ไม่ขาดปาก



   “ทำไมของผมไม่เหมือนของคนอื่นล่ะ”แย้งเมื่ออาหารตรงหน้าของเขาไม่เหมือนของคนอื่น ไม่ยักรู้ว่าทศกัณฐ์เองก็ทำ
อาหารเป็น และยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นอาหารอิตาเลียนที่ครอบครัวของเขาชอบกินเพราะส่วนผสมส่วนมากจะใช้ชีสที่ได้มาจาก
ฟาร์มของที่บ้าน

   “นั่นมันอาหารของคนปกติ”

   “แล้วผมไม่ปกติตรงไหน”

   “จานที่อยู่ข้างหน้านายสำหรับคนท้อง”ทศกัณฐ์ยิ้ม นั่งลงข้างๆกัน

   “ผมท้อง ไม่ได้ป่วย”

   “นายอาจจะลืมว่าฉันเป็นหมอ”เถียงไม่ออกเพราะว่าทศกัณฐ์เป็นหมอจริงๆ ถึงแม้จะไม่ใช่หมอแบบธรรมดาทั่วไปก็ตาม

   “ดูท่าลูกคนนี้คงจะแข็งแรงกว่าอลันเสียล่ะมัง”พ่อของอเลนหัวเราะ

   “นั่นสินะคะ ดูแลกันดีขนาดนี้”

   “คุณตากับคุณยายต้องรักน้องเท่ากับอลัน ห้ามรักมากกว่านะฮะ”อลันรีบออกตัว ตากลืมโตเบิกกว้างหน้ามุ่ย

   “รักเท่ากันนั่นแหละน่าเจ้าเด็กคนนี้”

   “อลันก็รักน้องเหมือนกันฮะ”อลันยิ้มแก้มปริตักอาหารคำโตเข้าปากเคี้ยวตุ้ย



   “ออกมาคุยกับผมหน่อย”หลังจากมื้อเช้าจบลงทุกคนก็ไปรวมกันอยู่ที่ห้องนั่นเล่น เว้นเสียแต่ทศกัณฐ์ที่ถูกดึงออกมาเสีย
ก่อนที่จะทำเหมือนส่าเข้ากับครอบครัวของเขาได้ดีไปมากกว่านี้

   “คำตอบของฉัน?”

   “ห่ะ?”เอียงคอขึ้นปรายตามองอีกฝ่าย ใบหน้าคมสวยยิ่งหน้าบึ้งไม่พอใจ จนป่านนี้ยังกล้าจะมาเอาคำตอบจากเขาทั้งที่ตั้ง
คำถามแบบไม่มีที่มาที่ไป

   “ฉันไม่ได้ใจเย็นพอที่จะให้เวลานายมากขนาดนั้นหรอกนะ”

   กายสูงเคลื่อนเข้ามาใกล้ดันให้แผ่นหลังของอเลนแนบชิดกับผนังห้องครัว ใบหน้าคมดุโน้มเข้ามาใกล้จนปลายจมูกแตะลง
บนหน้าผากมน ลมหายใจร้อนเป่ารดได้กลิ่นควันบุหรี่จางๆ

   “ช่วยถอยออกไปก่อนจะได้ไหม”

   เพราะว่าหัวใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อถูกจ้องด้วยสายตาแบบนั้นในระยะใกล้ขนาดนี้ ดวงตาคู่สวยหลุบต่ำมองปลายเท้า
ตัวเอง

   “ว่าไงล่ะ คำตอบของฉัน”

   “คำถามของคุณมันไม่ใช่คำถาม”

   “ไม่ใช่คำถามแล้วมันคืออะไร นายกำลังจะทำให้ฉันหมดความอดทนนะ”จมูกโด่งไล่ลงมาเฉียดผิวแก้ม

   “ถอยออกไป”ดันแผงออกของอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้เข้าใกล้ไปมากกว่านี้

   “ตอบมา”

   “มันเรียกว่าข่มขู่ไม่ใช่คำถาม”

   “ฉันข่มขู่นายยังไง?”

   “ก็ที่บอกว่าจะหมดความอดทนนั่นไง คุณคิดจะทำอะไรกันแน่”

   “นายโง่รึไง”

   “ใครกันแน่ที่โง่  คุณทศ!!”ผลักอกอีกฝ่ายแรงๆทั้งที่รู้ว่าไม่มีวันสะทกสะท้านเพราะอีกฝ่ายเป็นยักษ์ แต่ก็อดไม่ไหว เหลือ
อดกับความหน้ามึนเต็มทน “จะให้ผมตอบว่าผมรับรักคุณได้ยังไงในเมื่อคุณเองยังไม่เคยพูดมันออกมาดีดีสักครั้ง”

   “นายเอาอะไรมาพูด ฉันบอกกับนายทุกวันเผื่อนายจะไม่รู้”

   “คุณบอกตอนไหน?”ถึงแม้จะเจ้าเล่ห์ชอบเอาแต่ใจแต่ก็ไม่ได้หมายความจะมาโกหกกันซึ่งหน้าอย่างนี้ได้

   “ก็ตอนที่นายหลับยังไงล่ะ ฉันบอกนายทุกวัน”ทศกัณฐ์เบือนหน้าหนี กัดฟันกรอดกับบทสนทนาที่ดูจะยืดยาวจนยักษ์ที่
ความอดทนต่ำอย่างเขาแทบจะทนไม่ไหว

   “คุณบ้ารึไง”

   “กล้าว่าฉันว่าบ้า? ปากนายนี่จริงๆเลยนะ ตอบมาได้แล้วอย่ายืดยาว”

   “ผมไม่มีคำตอบให้คุณหรอก”

   “นายอย่ามาเรื่องมากได้ไหม”

   “คุณนั่นแหละอย่ามาเรื่องมาก แค่บอกรักต่อหน้ามันยากนักรึไงถึงได้บอกตอนหลับ”

   “ฉันรักนาย พอใจรึยัง คราวนี้ก็ตอบมาได้แล้วว่านายจะรับรักฉันไหม”

   “ถ้าผมตอบว่าไม่ล่ะ คุณจะทำอะไร จะทำร้ายครอบครัวกับลูกผมไหม”
   “ถ้าขืนนายตอบว่าไม่”กดเสียงต่ำโน้มหน้าลงมากระซิบข้างหู “ฉันจะจับนายขังเอาไว้ ทำให้นายท้องลูกของฉันคนแล้วคน
เล่า จนกว่านายจะยอม”

   “ฮะ ฮึก”

   ทั้งน้ำเสียงและประโยคคำพูดที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ร่างกายมันสั่น ลมหายใจร้อนที่เป่ารดหูทำเอาใจเต้นระรัวไม่เป็นส่ำ

   “ว่าไง ตอบมาก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”ยังคงข่มขู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

   “อืม”แต่ก็พยักหน้าตอบรับ ใบหน้าคมสวยขึ้นสี ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น

   “ก็แค่นั้น”

   สิ้นเสียงริมีปากของยักษ์ขวานผ่าซากอย่างทศกัณฐ์ก็ประกบจูบลงมา ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มือยกขึ้นดันไหล่ของทศกัณฐ์
ออกทันทีทันใดเมื่อลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามา

   ทำให้กลิ่นบุหรี่ลอยคลุ้งอยู่ในโพลงปาก แต่ยิ่งทำให้ตกใจมากกว่าเก่าจนต้องทุบเข้าที่แผ่นหลังกว้างก็คงไม่พ้นผู้เป็นพ่อที่
เดินเข้ามาในครัว

   ทศกัณฐ์ยังคงไม่ยอมปล่อย เอลนเบิกตากว้าง ทว่าผู้เป็นพ่อนั้นกลับเดินเลยผ่านราวกับเขากับทศกัณฐ์เป็นอากาศธาตุ

   “หายไปไหนกัน เห็นว่าเดินเข้ามาในนี้ หรือว่าตาฝาด”บ่นพึมพำแล้วเดินกลับออกไป

   ตาคู่คมสวยตวัดมองไม่พอใจ แต่ได้คำตองจากดวงตาดุดันเหลือบสีเหลืองทองเป็นประกาย คำตอบที่เหมือนกับว่ากำลัง
หัวเราะเยาะคล้ายกับเป็นเรื่องตลก

   ไม่ว่ายังไงเขาก็คงหนียักษ์ตนนี้ไม่พ้น มีแต่จะต้องยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นและทำตามความรู้สึกของตัวเอง ปล่อย
อดีตที่ไม่มีวันเป็นจริงทิ้งไป






   “ตามมาสิ ฉันมีอะไรจะให้นาย”ถูกดึงให้ตามขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเอง

   กล่องหีบไม้เก้าใบไม่ใหญ่มากถูกยื่นมาเบื้องหน้า เขาได้แต่มองมันด้วยความฉงน

   “อะไร”

   “รับไปสิ”

   “แล้วมันคืออะไร”ถามเพราะมันดูเก่ามากและทองที่ฉลุเป็นลวดลายประดับอยู่รอบๆดูมีค่าทำให้เขาไม่กล้ารับมันมาจากมือ
ของทศกัณฐ์

   “บอกให้รับก็รับไปเถอะน่า”

   “ใครจะไปกล้ารับทั้งที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร”

   “อย่าได้ปฏิเสธเชียว รับไป”ยัดมันใส่มือบาง

   ทันทีที่อเลนรับมันมาถือ อะไรบางอย่างข้างในหีบไม้ประดับทองคำกับบุษราคัมดูสูงค่าส่งผ่านมาที่เขา อะไรที่เหมือนกับ
เคลื่อนไหวเป็นจังหวะเดียวกับหัวใจของเขา

   มือข้างที่ว่างแตะลงบนฝาของหีบใบเล็ก พยายามควบคุมไม่ให้มันสั่น หัวใจในอกเต้นโครมครามหวังว่าไม่ให้เป็นอย่างที่ใจ
คิด ค่อยๆแง้มเปิดฝาของหีบไม้ออกมา

   ก้อนเนื้อสีแดงสดเต้นตุบๆเสียงก้องหูทำให้อเลนหน้าชา ดวงตาสั่นระริกกับสิ่งที่ได้เห็น

   “ทะ ทำไมถึงเอามาให้ผมล่ะ”

   ถามเสียงสั่นพล่าจ้องมองสิ่งที่อยู่ในหีบไม้แน่นิ่ง

   “มันเป็นของนายแล้ว ดูแลมันดีดีล่ะ”บอกด้วยน้ำเสียงที่เจือความอบอุ่น แตะมือลงบนเส้นผมนุ่มย้ำๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายแน่

นิ่งไป

   “บ้าไปแล้ว”ถึงจะบ่นอุบอิบแต่ก็ปิดฝาหีบลงแล้วกอดถือมันเอาไว้แน่นเสมือนว่ากลัวมันหายไป

   ‘หัวใจของทศกัณฐ์’อยู่ในกำมือของมนุษย์อย่างเขา บอกใครใครจะเชื่อ มีเพียงตัวของเขาเท่านั้นที่รับรู้ จะทำยังไงได้
นอกจากดูแลมันอย่างดี ในเมื่อรับเอามาแล้ว ต่อให้มาอ้อนวอนขอคืนก็จะไม่คืนให้แน่




พี่ทศถึงแม้จะดิบๆไม่หวาน แต่พี่แกก็เอาหัวใจให้เลยนะเออ แบบถ้าน้องไม่ยอมพี่ก็จะปล้ำจนกว่าจะยอม 55 น่ารักไหมล่ะ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 01/05 [CH 12] หัวใจทศกัณฐ์ ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 01-05-2016 16:30:00
ดูพ่อแกขู่ แหม่
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 01/05 [CH 12] หัวใจทศกัณฐ์ ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-05-2016 18:00:31
หมอทศหวานแบบเถื่อนๆนะ  :-[
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 01/05 [CH 12] หัวใจทศกัณฐ์ ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 01-05-2016 22:36:40
งื้ออออออออออออออ น่าร้ากกกก
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 01/05 [CH 12] หัวใจทศกัณฐ์ ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 02-05-2016 17:56:50
อื้อหือออ สมกับเป็นทศกัณฐ์กันๆ บอกรักก็ยังฮารดคอร์555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 01/05 [CH 12] หัวใจทศกัณฐ์ ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 03-05-2016 23:52:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 01/05 [CH 12] หัวใจทศกัณฐ์ ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 04-05-2016 12:32:11
หวานไม่มาก แต่ทีเด็ดพี่แกเยอะ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 01/05 [CH 12] หัวใจทศกัณฐ์ ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: dreeanm ที่ 09-05-2016 08:55:18
รีบมาต่อน้าาา
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 01/05 [CH 12] หัวใจทศกัณฐ์ ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 09-05-2016 13:42:33
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:


คุณทศนี่โรแมนติคในแบบฮิมเนอะ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 01/05 [CH 12] หัวใจทศกัณฐ์ ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 09-05-2016 15:35:47
เฮียแกหวานปนเถื่อนเนอะ 5555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 15-05-2016 17:24:07
ทวงครั้งที่ 13 สองคนเหงากลายเป็นเรา


   ดวงตาดุดันของยักษ์สูงวัยจับจ้องมองร่างมนุษย์ที่นอนทอดร่างไปตามความยาวของโซฟาในห้องรับแขก บนตัวมีเจ้าสุนัข
ขนปุยสีขาวตัวเล็กนอนส่ายหางกระดิกไปมาส่วนเจ้าตัวก็เอาแต่จ้องมองเจ้าสุนัขด้วยสายตานิ่งเฉยต่างจากความร่างเริงของสุนัข
ในอ้อมกอดโดยสิ้นเชิง

   วสินเดินเข้าไปใกล้ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวข้างกัน มีเพียงแววตาประหลาดใจเท่านั้นที่ปลายตามามองก่อนจะหันกลับไป
ดังเดิม

   “วันนี้ตรงกับวันเกิดของเจ้า”

   ยักษาเอ่ยปากในความเงียบ แล้วก็ได้ผล ร่างที่นอนทอดกายชันตัวขึ้นลุกก่อนจะปล่อยให้เจ้าสุนัขได้วิ่งเล่นตามอำเภอใน
จองมัน

   วาลีจ้องมองวสินแน่นิ่ง ไม่มีวันรู้เลยว่าในดวงตาคู่สีโศกนั้นแสดงถึงความรู้สึกอะไร เพราะชายหนุ่มเพียงแค่จ้องและก็จ้อง
ราวกับว่าต้องการจะสำรวจยักษ์ตรงหน้าอย่างละเอียด

   “เจ้ารู้สึกไม่สายเช่นนั้นหรือ”

   เมื่อเห็นว่าวาลีมีท่าทีแปลกไปวสินก็อดที่จะรู้สึกเป็นห่วงเสียไม่ได้ ฝ่ามือใหญ่ของยักษ์เอื้อมเข้าหาใบหน้าขาวซีด

   ใกล้ขึ้นเรื่อยๆแล้วแตะลงบนผิวหน้าเพื่อเทียบความร้อนจากผิวกาย วาลีเบือนหน้าหนีเมื่อฝ่ามือร้อนนั้นแตะลงมา ราวกับมี
อะไรบางอย่างมากระทบผิวกายให้ได้รู้สึกเจ็บแปลบ ความรู้สึกที่พยายามจะค้นหาว่ามันคืออะไรเริ่มเด่นชัด หัวใจของมนุษย์อย่าง
เขาเต้มโครมคราม

   ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อที่จะเดินหนี ปัดมือของวสินออกในทันทีทันใด ทว่าแขนก็ถูกดึงเอาไว้ไม่ให้หนีได้ ถูกดึงให้

หันกลับมามองจ้องดวงตาคมดุของยักษ์

   “เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของเจ้า ข้าอยากให้เจ้ามาที่นี่ในคืนนี้”

   วาลีไม่ตอบแตะพยายามดึงแขนออก

   “ได้หรือไม่วาลี”วสินถามย้ำ

   “ถ้านั่นเป็นคำสั่งผมก็ต้องทำตามอยู่แล้วไม่รึไง”

   “ไม่ มันมิใช่คำสั่ง หากแต่เป็นคำขอร้องของข้า”อุ้งมือใหญ่ปล่อยแขนของวาลีออก ประโยคของวสินยิ่งทำให้ดวงใจของวา
ลีไหววูบ ดวงตาคู่คมสั่นไหวก่อนจะหลุบตาลงจ้องมองปลายเท้าตัวเองนิ่ง
   “อืม”





   วาลีปิดประตูห้องนอนของตัวเองลงด้วยหัวใจที่สั่นรัว ยิ่งพยายามบังคับมันเขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามันยากเกินกว่าที่เจ้าก้อนเนื้อใน
อกนี้จะกลับมาเชื่อฟังเขา ราวกับว่าเขาไม่ใช่เจ้าของของมันเสียแล้ว
   วาลีถอนหายใจออกมายาวๆ จ้องมองไปยังแสงสีส้มอ่อนที่ทอผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง เหมือนว่าค่ำคืนของวันนี้จะมาเยือน
เร็วกว่าปกติ หรือว่าเขาคิดไปเองกันแน่

   วสินต้องการอะไรทั้งที่เคยทำโหดร้ายกับเขาขนาดนั้น ไม่สิ เขาเองต่างหากที่เป็นอะไรกันแน่  ทั้งที่ควรจะโกรธ แต่กับรู้สึก
ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คั่นอยู่ระหว่างเขากับอีกฝ่ายมันเปลี่ยนไป

   จนสุดท้ายดวงอาทิตย์ก็ลาลับหายไปกับขอบฟ้า ชายหนุ่มเดินก้าวไปข้างหน้าด้วยย่างก้าวที่มั่นคงแต่ถึงกระนั้นภายในใจ
กลับสั่นระรัว

   วาลีพาตัวเองมายังชั้นล่างของตัวบ้าน ยิ่งดึ่งบรรยากาศยิ่งเงียบสะงัด และแล้วสิ่งที่เห็นก็ทำเอาชายหนุ่มตัวชา

   โต๊ะกลางห้องเบื้องหน้ามีขนมเค้กก้อนใหญ่ประดับด้วยเปลวเทียนส่องแสงวิบวับสวยงาม แต่นั่นก็ไม่สู้ช่อดอกกุหลาบ
สีน้ำเงินเข้มช่อใหญ่ที่ทำเอาหัวใจของวาลีเต้นไม่เป็นจังหวะ

   ทุกสิ่งทุกอย่างบนโต๊ะถูกจัดแต่งเอาไว้อย่างสวยงามบ่งบอกถึงความตั้งใจของคนให้ วาลีสะดุดตาเข้ากับกระดาษการ์ดสี
ขาวที่วางแทรกอยู่ในช่อกุหลาบ

   ไม่รอช้าเขาหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่าน แต่เหตุใดเพียงแค่ปลายตามองตัวหนังสือไม่กี่บรรทัดกระบอกตามันก็รู้สึกร้อนผ่าวอย่าง
บอกไม่ถูก กระดาษการ์ดร่วงหล่นลงพื้นในทันที



   ‘สิ่งเดียวที่ข้าจักให้เจ้าได้คืออิสระ ชีวิตของเจ้าเป็นของเจ้าแล้ว

   จงดูแลรักษามันให้ดี เป็นสิ่งเดียวที่อาจจะทำให้เจ้ากลับมายิ้มได้อีกครั้ง

   รุ่งเช้าจักมีคนมารับเจ้าเอง ขอให้เจ้าเดินทางอย่างปลอดภัย’



   ราวกับถูกค้อนขนาดใหญ่ทุบตีจนร่างแหลกสลายเป็นจุลย์ มันคืออะไรกันแน่ ความรู้สึกแบบนี้ รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังจะ
ตายทั้งที่ยังอยู่





   “เปิดประตู เปิดประตูเดี๋ยวนี้”ฝ่ามือผอมซีดกระหน่ำทุบตีบานประตูสีขาวไม่หยุด เขาอยากจะกรีดร้องหรือทำอะไรสักอย่าง
กับสิ่งที่มันเกิดขึ้นในเวลานี้ เจ็บ เจ็บจนร้องไม่ออก

   “ผมบอกให้เปิดประตู เปิดประตู!!”ตะโกนเรียกครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งที่มือที่ทุบบานประตูนั้นทั้งเจ็บและสั่นเทาไม่หยุด

   “เปิดสิ เปิด!!”ตะโกนจนเสียงสั่นพล่า กระบอกตามันเหมือนจะมีอะไรเอ่อล้นออกมา แต่มันกลับไม่มี เพราะว่าวาลีไม่เคย
รู้จักกับน้ำตาของตัวเอง ไม่เลยสักครั้ง

   

   “เจ้ามาทำอะไรที่นี่ วาลี เจ้ารู้ดีว่าคืนนี้พระจันทร์เต็มดวง เหตุใดจึงยังมา”ประตูแง้มเปิดออกในที่สุด ใบหน้าหล่อเหลาที่ยัง
คงเยาว์วัยปรากฏอยู่เบื้องหน้า หากแต่ดวงตาดุดันนั้นทอประกายสีเขียวสว่างวาบ

   ทำให้วาลีชะงักเล็กน้อย เขาจดจำดวงตาคู่นี่ในคืนอันเลวร้ายได้เป็นอย่างดี หากแต่นั่นมันเป็นเพียงภาพในอดีต ความเป็น
จริงที่เกิดอยู่เบื้องหน้ามากกว่าที่สลักสำคัญ

   “ทำไมล่ะ เพราะอะไร”

   วาลีไม่พูดเปล่าดันประตูให้เปิดออกกว้าง ใช้เศษเสี้ยวของเวลาแทรกตัวเข้าไปในห้องก่อนที่ประตูจะถูกดันให้ปิดลง

   “ทั้งที่ผมเป็นคนเรียกร้อง อ้อนวอนที่จะไปจากที่นี่ตั้งแต่แรก ตลอดสามปีที่ผ่านมาแต่พวกคุณ พวกคุณกลับปฏิเสธมัน
อย่างเลือดเย็น พอมาตอนนี้คุณอยากให้ผมไปจากที่นี่ เพราะอะไรล่ะ ทำไมถึงอยากมาไล่ไปเอาตอนนี้”

   “เจ้าพูดถึงสิ่งใดกันวาลี ข้าไม่เคยคิดจะไล่เจ้า”

   “แล้วมันคืออะไร ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยที่จะใยดี แต่ทำไมถึงมาทำดีล่ะ เพียงเพราะแค่อยากจะไล่ผมออกไปไม่ใช่รึไง!!”

   วาลีพูดออกมาอย่างเหลืออด เจ็บแทบขาดใจยามที่ช่อดอกไม้สีน้ำเงินในมือถูกปาใส่ร่างของยักษ์ตรงหน้าจนมันร่วงลง
แตกกระจายอยู่บนพื้น กลีบของมันหลุดลุ่ยไม่หลงเหลือความสวยงามเอาไว้ให้เชยชม

   “ว่ายังไงล่ะ ที่มาทำดีก็เพราะว่าต้องการจะไล่ให้ผมออกห่างจากคุณใช่ไหม จะมาทำดีกับผมทำไมทั้งที่จะเมินใส่กันก็ได้
ยังไงก็จะตัดผมออกไปจากชีวิตอยู่แล้วนี่”

   “ข้ามิได้ไล่เจ้าหรอกว่าลี”วิสนตอบเสียงเบาเดินเข้าไปใกล้ ฝ่ามือใหญ่เอื้อมแตะใบหน้าที่ดูโกรธเกรี้ยวอย่างแผ่วเบา หาก
แต่ครั้งนี้วาลีไม่ได้แตะออก

   เพราะมันเป็นเหมือนกับสิ่งที่เขากำลังต้องการ ทั้งต้องการและโหยหา ไม่อยากที่จะห่างจากยักษ์ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า

   “แล้วมันเพราะอะไรล่ะ เพราะอะไรทั้งที่ผมไม่ได้ต้องการ”ในที่สุดน้ำตาที่ไม่เคยหลั่งรินก็ไหลลงมา เป็นเพราะความเจ็บ
ปวดที่ไม่อาจจะคะเนได้หรืออะไรกันแน่ที่ทำให้น้ำตาที่เหือดแห้งกลับมาอีกครั้ง

   

   “หากเจ้าถามข้าก็จักตอบเจ้า”วสินตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งแผ่วเบา

   ฝ่ามือใหญ่จับดวงหน้าซีดไร้สีเลือดให้เงยขึ้น เกลี่ยปลายนิ้วกับพวงแก้มอย่างแผ่วเบา เกลี่ยเอาหยาดน้ำตาที่ไหลรินออก
ไป ก่อนจะผละมือออก

   จับมือผอมซีดให้ยกขึ้นมา บังคับให้มันทางลงบนแผงอกแกร่ง ที่ด้านซ้ายในตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต เสียงของก้อน
เนื้อที่อยู่ภายในอกนั้นเต้นโครมคราม วาลีรับรู้ได้ผ่านความร้อนของผิวกายของอีกฝ่าย

   “ใจของข้า เป็นของเจ้าแล้ววาลี”น้ำเสียงนั้นกระซิบเบา แต่กลับก้องทุ้มกังวานราวกับกำลังถูกเก็บเอาไว้ในความคิดส่วนที่
สำคัญที่สุด

   “ข้ามิอาจทนเห็นตัวเจ้านั้นเป็นทุกข์อีกต่อไป มิอาจทนเห็นเจ้าอยู่อย่างเดียวดายได้เหมือนก่อน หากอิสระสามารถทำให้
เจ้ากลับมายิ้มได้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าใจข้าจักต้องเจ็บข้าก็ยอมได้เพื่อเจ้า”

   

   ดวงตาสีเหลือบเขียวมรกตจ้องมองมนุษย์เบื้องหน้าด้วยความรักใคร่ที่ล้มเปี่ยม โอบเอวสอบเข้ามาใกล้ชิดจนสัมผัสได้ถึง
ลมหายใจติดขัด เสียงหัวใจของยักษาเต้นแรงภายใต้ฝ่ามือของมนุษย์เบื้องหน้า ความร้อนของผิวกายที่ต้องกันในเวลานี้ร้อน
ราวกับเหล็กนาบไฟ ใบหน้าคมคายโน้มเข้าหาใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดจนลมหายใจเป่ารดใบหน้า

   “หากเจ้ามิมีเยื่อใยต่อข้า จงปฏิเสธข้าเถิดวาลี เบือนหน้าหนีไปเสีย”


   ยิ่งดวงจันทร์ลอยขึ้นสูงเด่นมากเท่าไร ยักษายิ่งต้องสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองมากเท่านั้น

   “ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”

   ทว่าวาลีกลับนิ่งเฉยเงย ซ้ำยังเป็นฝ่ายโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ จนริมฝีปากแห้งปากแนบชิด ฝ่ามือที่แตะอยู่บนแผงอกกำ
แน่น หลับตาตอบรับจูบที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อนแต่ต้องเพลี่ยงพล้ำ ร่างถูกยกให้ลอยให้ด้วยแรงมหาศาลทั้งที่ริมฝีปากนั้นยังคงแนบ
สนิท

   ถูกวางลงบนผืนเตียง ครั้งนี้กลับแผ่วเบาและช่างอ่อนโยนผิดกลับคืนนั้นลิบลับ ชุดนอนถูกปลดออกอย่างรวดเลว ฝ่ามือ
กร้านที่ทั้งใหญ่และทั้งร้อนกวาดต้อนไปทั่วร่างกายทำให้รู้สึกไม่ต่างอะไรกับการนอนอยู่ในกองไฟที่กำลังโหมกระหน่ำ

   เสียงคำรามของยักษ์ที่ทาบทับอยู่เบื้องบนดังลอดไรฟัน ครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะควบคุมความชั่วร้ายที่มีเอาไว้ได้ หากแต่กิเลส
ตัณหาที่เกิดขึ้นนั้นกลับควบคุมได้ยากนัก

   วสินถอนจูบออกมานัยน์ตาสีมรกตจ้องมองไปยังกายเปลือยเปล่าเบื้องหน้า ลมหายใจหอบกระเส่ายากที่จะควบคุม ก่อนก้ม
ลงประทับจุมพิตลงบนหน้าผากมน

   “หัวใจของเจ้า มอบมันให้แก่ข้าได้หรือไม่”

   น้ำเสียงนั้นราวกับอ้อนวอนและร้องขอ วาลีพยักหน้าก่อนจะหลุบตาหนีเมื่อถูกจ้องมองหนักเข้า ร่างกายเวลานี้ไม่ต่างอะไร
จากขี้ผึ้งร้อนๆ แทบจะหลอมละลายอยู่เต็มทน

   “ผม อยากจะขอร้องคุณอย่างหนึ่ง คุณให้ผมได้ไหม”

   “สิ่งใดเล่าวาลีของข้า”

   เสียงนั้นช่างหวานล้ำและกระซิบอยู่ข้างหู ตะโบมจูบใบใบหน้าไม่หยุดหย่อน

   “ผมอยากมีลูก”

   สิ่งที่ได้ยินนั้นแทบทำให้ยักษาที่ตกอยู่ในอารมณ์กำหนัดนั้นแทบคลั่ง จ้องมองร่างข้างใต้อย่างไม่เชื่อหูของตน

   “เจ้ากำลังพูดถึงสิ่งใดกัน”

   “ผมอยากมีลูกให้กับคุณ เหมือนกับคนอื่นๆ”กลั้นใจบอกเสียงพล่า ขยับกายตอบรับฝ่ามือร้อนที่ฟอนเฟ้นอยู่ไม่หยุด

   “แต่ร่างกายเจ้าอาจจะรับความเจ็บปวดไม่ไหว เจ้ามั่นใจในสิ่งที่พูดหรือไม่”

   “มั่นใจสิ ผมมั่นใจ”

   

   ความเจ็บนั้นมันเทียบไม่ได้เลยสักนิดกับการที่ถูกผลักไสไล่ส่งราวกับว่าคนอย่างเขาไม่มีความรู้สึก กลับกันมันเป็นแค่เพียง
เศษเสี้ยวเมื่อเอามาเทียบกัน วาลีจิกนิ้วมือลงบนผ้าปูที่นอนเมื่อความเจ็บมันเล่นริ้วไปทั่วร่างกาย กัดกันลงบนริมฝีปากจนเลือด
ซิบ

   จูบอ่อนโยนที่ประทับลงมาบนขมับเป็นยาชั้นดีที่ทำให้กัดฟันทนความเจ็บที่เกิดขึ้น เสียงร้องอื้ออึงถูกกลั้นเก็บเอาไว้ในลำ
คอ หอบหายใจถี่รัวเหมือนกระทิงดุที่กำลังบ้าคลั่ง

   จนในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็จบลง ความเจ็บปวดกลายเป็นความหฤหรรย์ยามที่ถูกโอ้โลมให้ได้คล้อยตาม สัมผัสที่ดิบเถื่อน
แต่ก็อ่อนโยนต่างจากในเวลาแรก

   ยิ่งดวงจันทร์ลอยสูงเด่นสันดานดิบก็ยิ่งถูกปล่อยออกมา ร่างกายของยักษากระแทกกระทั้งหนักหน่วงพาให้ร่างข้างใต้สั่น
คลอน ริมฝาปกขบเม้นไปทั่วผิวกายซีดเผือด ขบกัดทิ้งร่องรอยเอาไว้ทั่ว

   “ฮะ ฮึก”

   หยดเลือดค่อยๆผุดซึมออกมาทีละนิดหลังจากที่คมเขี้ยวของยักษ์สูงวัยนั้นถอดถอนออก ว่าลีได้แต่ขยับกายไปตามแรง
กระทั้ง ร่างกายสั่นระริกไปทั้งร่าง ถึงแม้ว่าวสินจะไม่ดุร้ายและป่าเถื่อนเท่ากับครั้งแรก แต่ความรุนแรงนั้นยังคงเดิม

   ปลายนิ้วผอมซีดจิกลงบนลาดไหล่แข็งแรงเมื่อวสินกระทั้นกายเข้ามาแรงราวกับพายุที่กำลังโหมกระหน่ำ จนท้ายที่สุดมันก็
หยุดลง

   หลงเหลือเพียงลมหายใจถี่รัวหอบกระเส่าก้องไปทั่วห้อง ความเจ็บปวดกับรสชาติของบทรักอีกกทั้งร่างกายที่ไม่แข็งแรง
เป็นทุนเดิมทำให้ในที่สุดร่างกายที่ถูกโถมทับถูกฉุดดึงเข้าสู่นิทราโดยง่าย

   วสินถอนกายออกมาก่อนจะพรมจูบลงบนใบหน้านั้น ถึงแม้ว่าร่างกายของวาลีจะไม่แข็งแรง แต่การรักษาติดต่อกันมาสามปี
ทำให้เพียงพอต่อการตั้งท้อง และที่สำคัญวาลีทำในสิ่งที่ทำให้ยักษ์อย่างเขาตกใจนั่นคือการกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวดโดย
ไม่สลบไปเหมือนกับคนอื่นๆที่เขาเคยเจอ ถึงแม้จะอ่อนแอ แต่ก็นับว่าเป็นคนที่เข้มแข็งเป็นอย่างหนึ่งที่ดึงดูดให้ยักษ์อย่างเขา
สนใจในตัวของวาลี



   ------------------------------------------------------------------------------------------


   สามเดือนต่อมา

   “พี่ว่าอะไรนะ คุณวาลีท้อง!!”

   “ใช่”

   “ท้องกับคุณอาวสินเนี่ยนะ”ผมถามพลางเบิกตากว้าง

   “เจ้าอย่าพูดทั้งที่กินอยู่สิมณี”โดนดุเป็นรอบที่ร้อย

   “ท้องทั้งที่ผมก็ท้อง ชลาสินธุ์ก็ท้อง ไม่รู้ว่าพี่อเลนจะท้องไหม”

   “อืม เจ้านั่นก็ท้องอยู่”

   “จริงๆเลย คนพวกนี้คิดว่ามนุษย์เป็นแม่พันธุ์รึไง”อดที่จะบ่นไม่ได้ ไม่รู้ว่าที่อยู่ในท้องของผมเนี่ยเป็นแฝดเหมือนเดิมรึเปล่า
เพราะไอ้ที่วิ่งเล่นอยู่รอบบ้านนี่ก็แทบจะจับไม่ทันอยู่แล้ว

   ว่าแต่ว่าพี่อเลนกลับไปต่างประเทศแล้ว คงไม่ใช่ว่าหมอทศหนีตามกันไปหรอกนะ เห็นว่าช่วงนี้แอบหายไปนานๆบ่อยๆ


   “แล้วครั้งนี้คิดว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเหรอชลาสินธุ์”หันไปถามชลาสินธุ์ที่นั่งอยู่บนตักพี่สุวรรณ สองคนนี้เขาก็ตัวติดกันตลอด

   ให้ชลาสินธุ์นั่งตักพี่วรรณล่ะก็ได้อยู่ แต่ถ้าให้ผมนั่งตักพี่ธาราคงต้องส่ายหน้า ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองกำลังกลายร่างเป็นหมู
ตอนที่ทั้งกินและก็กินแบบล้างผลาญ คิดว่าถ้าได้ลูกผู้หญิงก็คงจะดี จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะไปกัดลูกใครเหมือนเจ้าสินกับเจ้าสุด
ตัวแสบ

   “ข้าเองก็ยังไม่รู้เลย แล้วท่านเล่า อยากได้หญิงหรือชายกัน”

   “แน่นอนว่าอยากได้ผู้หญิง ไม่ไหวจะมาไล่จับ”ผมส่ายหน้าพลางยิ้ม

   “แต่ข้าว่าเป็นผู้ชาย”กระซิบข้างหูพลางสอดมือเข้ามาใต้เสื้อลูบไล้ผิวท้องที่พองนูน ถึงจะท้องแต่รู้สึกว่าความหื่นของพี่
ธารายังไงก็ไม่มีวันหยุดพักแม้วันหยุดราชการก็ตาม อดไม่ได้ที่จะหันไปตวัดตามอง


   “จะไปรู้เหรอ ผมไม่ใช่คนทำนี่”

   “ไว้ครั้งหน้าข้าจะทำลูกสาวให้เจ้าเอง”

   “ฝันไปเถอะ ไม่เอา ไม่ไหวแล้ว พอ ผมพอแล้ว”ส่ายหน้าไปมา จะให้ผมท้องต่อจากคนนี้ไม่ไหวอีกแล้ว ผมหยัดตัวขึ้นลุก

เดินหนี พอนั่งกินนานๆมันก็เมื่อยเลยอยากจะยืดเส้นยืดสาย

   สงสัยถ้ามีเวลาว่างคงต้องหาเวลาไปเยี่ยมคุณแม่มือใหม่อย่างคุณวาลีบ้าง

   

   “ว่าไงมีนา มีอะไรกับน้าเหรอครับ”ผมย่อตัวเมื่อมีนาลูกครึ่งเงือกตัวเล็กเดินมาขวางตรงหน้า

   ปกติมีนาเป็นเด็กไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าพัฒนาการไม่ดีหรือว่ามีอะไรผิดปกติ แต่แค่ไม่ค่อยพูด แต่ก็เล่นกับคนอื่นๆ อยู่
รวมกับคนอื่นๆทั่วไปได้ปกติ แต่ที่แปลกคือทำไมจู่ๆถึงได้มายืนขวางผมล่ะ พาลให้คนอื่นๆหันมามองตามกันเป็นตาเดียว

   “ของมีนา”

   เสียงเล็กๆใสใสที่นานวันจะได้ยินเอ่ยออกมา ไม่ทันตั้งตัวมีนาก็เขย่งตัวเข้ามาใกล้ จูบลงบนหน้าท้องผมเฉยเลย งงเป็นไก่
ตาแตกเลยสิ แต่ที่ไม่งงคงจะเป็นพี่ธารากับชลาสินธุ์

   “เดี๋ยวสิ สุวรรณสินธุ์เจ้าจะทำเช่นนั้นโดยไม่ไถ่ถามน้าของเจ้าไม่ได้นะ”

   ชลาสินธุ์ลุกมาดึงมีนาออกไป แต่ไม่ทันแล้ว รู้สึกว่ามันมีแสงสีฟ้าอะไรแปลกๆออกมาจากท้อง แต่มันจากๆแวบเดียวแล้วก็
หายไป

   “อะ อะไรเหรอ”

   ไม่ถามไม่ได้แล้วอารมณ์นี้ ไอ้เด็กลูกครึ่งพวกนี้มันเล่นอะไรกัน เป็นอะไรกันไปหมด

   “สุวรรณสินธุ์ได้ทำการหมั้นหมายลูกของเราเอาไว้แล้ว”พี่ธาราเดินมาแตะเอว

   “มะ หมั้น ไอ้ที่สินกับสุดทำกับอลันอะนะ”หันไปถามอย่างไม่เชื่อหู คำตอบที่ได้คือพี่ธาราพยักหน้า

   นี่โลกของยักษ์กับเงือกมันหมุนเร็วหรือว่าผมเริ่มแก่ขึ้นเรื่อยๆ ทำไมรู้สึกว่าเด็กสมัยนี้มันแก่แดด นี่ลูกผมยังไม่ได้ออกจาก
ท้องผมเลย ผมยังไม่ได้เห็นแม้แต่ปลายเส้นผม

   เข้าใจความรู้สึกของพี่อเลนเอาก็ตอนนี้ แล้วนี่ลูกในท้องผมจะโดนมีนากัดไหมเนี่น เห็นเงียบๆแต่เดินมาฟาดลูกในท้องผม
เรียบเลยนะ

   ผมกระพริบตาปริบๆ เป็นเวลาเดียวกับเจ้าสินกับสุดวิ่งเข้ามาหา

   “แม่มณี เมื่อไรอลันจะมา”

   “คิดถึงอลันแล้ว ไหนแม่มณีบอกว่าอลันจะมาหา”

   นี่ก็อีกสองคน คอยเรียกหาแต่อลันเกือบทุกวัน แล้วนี่ผมจะต้องเตรียมรับมือยังไงกับเจ้าพวกลูกครึ่งตัวแสบที่นับวันแก่แดด
ขึ้นทุกวันๆ ไม่รู้ว่าจะมีลูกครึ่งลูกเสี้ยวอะไรโผล่มาอีกแค่ไหน

   แค่นั่นมันก็เป็นเรื่องของอนาคต เพราะยังไงซะสิ่งเหล่านี้มันก็คือสิ่งที่รายล้อมอยู่รอบตัวผม ก่อให้เกิดความสุขอย่างที่ไม่
เคยคิดว่าจะมามาก่อน ขอแค่ทุกคนยังอยู่ด้วยกัน จะเกิดอะไรที่ไม่คาดฝันขึ้นอีกก็คงต้องเป็นเรื่องของอนาคตสินะ




   จบบริบูรณ์



มารอต่อภาค 3 กันเถอะนะ มารอดูเด็กๆกัน ว่าโตขึ้นใครจะเป็นอะไร แซ่บๆทั้งน๊านนนนน

หลายคนอาจคาดหวังกับคู่วาลี แหะๆ ขออภัยล่วงหน้าเด้อจ้า

มีใครอยากอ่ายคู่เบี้ยนมั่ง คู่อเลนกัยมณี 555 แค่มุ้งมิ้งกัน มิได้เกินงาม เอาแค่ขำๆ 555มีใครอยากอ่านไหม มีคนเสนอมา เลย
อยากสนองเป็นตอนพิเศษ



หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 15-05-2016 17:29:31
อ่านไปอ่านมา ยักษ์นี่โรแมนติคยิ่งกว่าคนอีกนะ เขินๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 15-05-2016 18:08:43
 :-[ อยากได้ตอนพิเศษคู่วาสินค่ะ 555555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 15-05-2016 18:18:14
คำผิดน้า

ความร่างเริงของสุนัข >ร่าเริง
เจ้ารู้สึกไม่สายเช่นนั้นหรือ>สบาย
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 15-05-2016 18:25:55
 o22 ตกใจเข้ามาเจอตอนจบ แต่พอรู้ว่าจะมีภาค 3 ก็โอเคค่ะ

อยากอ่านเรื่องราวของเด็กๆ ตอนโตเหมือนกัน  :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 15-05-2016 20:00:36
ขอแปะคอมเม้นท์ไว้ก่อน้าาาาา :hao7:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 16-05-2016 06:51:51
 :z10:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 16-05-2016 10:38:43
อยากอ่านคู่อาวสิน  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 16-05-2016 15:48:12
คู่เงือกกะยักน้อยในท้องนี้ เป็นพี่น้องกันไม่ใช่โอ้ววม่ายยย :ling1:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 16-05-2016 21:38:21
มีนาชนะเลิศ55555 หมั้นตั้งแต่ในท้องเลย :laugh: ถ้าอเลนกับมณีมุ้งมิ้งกันไม่โดนหึงโหดหรา แต่ก็อยากอ่าน รอตอนพิเศษกับภาค 3 ค่ะ สนุกมาก :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 17-05-2016 19:08:51
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 19-05-2016 13:51:25
ยักษ์เล็กเนี้ยแก่แดดจริงๆ ฮี่ๆๆๆ สนุกมากๆ มารอภาค3น้า จะต่อที่กระทู้นี้หรือป่าวอ่า หรือว่าเปิดกระทู้ใหม่เหรอ ปูเสื่อรอน้า^^
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: God ที่ 27-05-2016 15:16:25
สนุกมากกกกกกกกก ชอบทุกคู่เลยค้า  :laugh:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 05-06-2016 00:01:51
รอภาค3 รอเด็กๆโต เอิ้กกกก มีนาหนูทำงี้เลยหรอลูก
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 15/05 [CH 13] ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Mayniemo ที่ 07-06-2016 23:02:29
 :-[ เขินคะ รอภาค3 รอปักธงเลยยย นอนรอนั่งรอ
กำลังจะพิมพ์ว่าให้แต่งรุ่นลูกต่อ นึกว่าจบแล้ว
ตกใจหมดเลย  :hao7:
ปล.ชอบ3pมาก อยากอ่าน ขอแบบอลัน15เลยเป็นตอนพิเศษไม่ได้หรอคะ
 o13แบบน้ำจิ้มๆ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 25/06 [ตอนพิเศษ] ผลไม้ต้องห้าม
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 25-06-2016 14:27:16
ตอนพิเศษ ผลไม้ต้องห้าม
   

   เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่ธาราได้รับความทรงจำกลับคืนมา ทุกคนก็ได้กลับมาจากเกาะนั้นพร้อมกับคำว่า
ครอบครัวสุขสันต์ เรียกง่ายๆก็คือมีความสุขกันถ้วนหน้านั่นเอง ต่างก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา งานเลี้ยงเล็กๆได้จัดขึ้นที่บ้านหลัง
ใหญ่ที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวภายในซอยลึกของถนนเลี่ยงเมืองแห่งการท่องเที่ยว ทราบกันดีว่าบ้านหลังนี้ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง
ด้วยกำแพงที่สูงลิบและต้นไม้สูงใหญ่ขึ้นทึบรอบบริเวณบ้าน

   และจะพลาดไม่ได้เลยเมื่อมีงานเลี้ยงก็ต้องมีความวุ่นวายและเสียงของเหล่าลูกยักษ์ลูกเงือกพันธุ์ผสมทั้งหลายส่งเสียงดัง
เจี๊ยวจ๊าวพาให้งานครึกครื้น

   เวลาได้ผ่านล่วงเลยไปแต่รอยยิ้มของทุกคนยังคงไม่เลือนหายไปจากใบหน้าเว้นก็แต่เด็กๆพากันง่วงเหงาหาวนอนกันไป
เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนั่นก็ทำให้บรรยากาศของงานเลี้ยงเงียบลงไปในพริบตา

   เด็กๆแยกย้ายพากันเข้านอน ส่วนผู้ใหญ่ทั้งหลายก็จับกลุ่มคุยกัน ศรีสุวรรณยังคงเฝ้าเงือกหนุ่มคนรักอย่างชลาสินธุ์อยู่ริม
สระน้ำ ธาราและคุณหมอยักษ์อย่างทศกัณฐ์นั่งคุยด้วยถ้อยคำที่ดูยังไงก็เหมือนจะไม่ค่อยลงลอยสักเท่าไร

   ซึ่งนั่นมันทำให้มนุษย์แท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งสองคนต่างก็พากันเบื่อหน่ายส่ายหน้าให้กับบทสนทนาของยักษ์คู่กัดที่ไม่ว่าจะ
เมื่อไรก็ไม่เคนคุยดีต่อกัน มันจะไม่อะไรถ้าเรื่องที่คุยในช่วงเวลานี้เป็นเรื่องเดิมๆซ้ำๆอย่างเรื่องพันธุ์ผสมรุ่นลูกเชื้อสายของธารา
ไปกัดคอจับจองลูกของฝั่งทศกัณฐ์ให้ได้ห่วงได้หวงกันตั้งแต่อ้อนแต่ออก

   มณีถอนหายใจให้กับธาราที่ยังคงเข้าข้างลูกแฝดตัวแสบที่เอานิสัยมาใช้ด้วยการทำเป็นไม่สนใจคำต่อว่าของทศกัณฐ์

   ทางด้านอเลนพอมองดูพ่อมือใหม่ที่หวงลูกชายจนออกนอกหน้าทั้งที่เหตุการณ์ที่กล่าวอ้างนั้นยังไม่เกิดก็ได้แต่ส่ายหน้า
ส่งยิ้มบางเบาให้กับรุ่นน้อง



   “ผมว่าเราไปหาอะไรกินในครัวกันดีกว่า”มณีพยักหน้าให้กับอเลนเป็นการรู้กัน

   “อืม ได้สิ”
   อเลนแตะแขนมณีเบาๆพากันเดินเข้าไปในบ้านแบบเงียบๆโดยที่สองสามียังคงนั่งถกเถียงกันถึงอนาคตของเหล่ายักษ์น้อย
ต่อไป

   “จะว่าไป ผมมีผลไม้น่าสนใจ พี่อยากลองไหม”

   “หืม?”อเลนเอียงคอมองใบหน้าขาวสะอาดของรุ่นน้องเล็กน้อย ใบหน้าที่เคยฝันถึงมาตลอดยี่สิบปี

   “รอแปบนะ ผมว่าผมซ่อนมันเอาไว้ในตู้นี่”

   มณีก้มตัวลงมุดตัวเข้าไปในตู้ใต้เค้าเตอร์ครัวเกือบครึ่งตัวในที่สุดก็โผล่ออกมาพร้อมกับผลไม้รูปทรงประหลาดรูปร่าง
หน้าตาจะว่าน่าเกลียดก็ไม่ใช่ ยิ่งมองยิ่งให้ความรู้สึกว่ามันน่ากินราวกับถูกมนสะกด มันเหมือนกับว่าพอมองเจ้าลูกขนาดพอดีมือ
สามสี่ลูกในมือที่ถืออยู่น้ำลายในปากมันก็พากันแตกฟอง ใจร่ำร้องว่าอยากจะกินมันเต็มแก่

   และนี่ก็คือผลไม้ที่แอบเก็บมาจากต้นอะไรสักอย่างที่ขึ้นแอบอยู่หลังบ้านบนเกาะนั้น เคยถามกับเจ้าบ้านอย่างธาราว่ามันคือ
ต้นอะไรอยากจะลองกิน แต่ก็ได้ความว่าห้ามกินมันเด็ดขาด มันเป็นผลไม้ต้องห้ามหรืออะไรสักอย่าง แต่ที่แน่ๆไม่ได้ตั้งใจฟังคำ
เตือน และไม่แม้จะสนคำเตือนเลยสักนิด รอฉวยโอกาสเอาทีเผลอก็แอบไปเด็ดเอามาซะได้ มองดูจากสีเหลืองอมชมพูดูเหมือน
ว่ามันกำลังจะสุกงอมเต็มที่ซะด้วย ยิ่งถูกห้ามมันก็ยิ่งสงสัยว่ามันคงอร่อยมากจนถูกแอบเอาไว้ไม่อยากจะแบ่งใคร

   “น่ากินใช่ไหมล่ะ ผมบอกแล้วว่าน่าสนใจ”

   ทั้งคู่พากันเดิมมายังห้องรับแขกพลางทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาวข้างกัน สายตาสองคู่ยังคงจับจ้องผลไม้สีสวยนั่น

   “อืม น่ากิน ไปเอามาจากไหน พี่ไม่เคยเห็นมาก่อน”

   “แอบเก็บมาจากบนเกาะ คิดว่ามันน่าจะอร่อย เอานี่ ผมให้พี่สองลูก แบ่งกัน”

   “แล้วมันจะไม่เป็นอะไรเหรอ ไปแอบเก็บเอามาแบบนี้”เจ้าของใบหน้าสวยราวกับรูปวาดของนางในวรรณคดีถามด้วยน้ำ
เสียงเจือกังวลแต่ก็รับมาโดยไม่ได้ปฏิเสธ เพราะใจก็นึกอยากกินอยู่เหมือนกัน

   “ไม่เป็นไรหรอก พี่ธาราไม่โกรธหรอก ถ้าโดนจับได้ก็แค่บอกว่าผมเป็นคนเอามา ผมรับผิดชอบเอง แค่นี้เรื่องเล็ก”

   “ถ้าไม่เป็นไนไรก็ดีแล้วล่ะ”น้ำเสียงใสของรุ่นพี่ตอบรับพลางเอนตัวพิงไหล่รุ่นน้องอย่างเคยชิน

   เพราะสำหรับอเลนแล้ว ไม่ว่าเมื่อไรต่อให้มีเจ้าของหรือว่าเป็นของใครยังไงซะมณีก็ยังเป็นคนที่น่าดึงดูดและน่าหลงใหล
เสมอ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ความลุ่มหลงและความรักที่มีต่อกัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงอดีต แต่มันก็ยังคงถูกเก็บเอาไว้ในความ
ทรงจำไม่มีลบเลือน

   ต่างกันก็แค่เวลานี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไป ความรู้สึกในใจได้ถูกชักจูงให้บิดเบือน หัวใจถูกลุกล้ำเข้ามาโดยที่ไม่
ยอมรับ สุดท้ายก็ถูกต้อนจนจนมุมด้วยเงื้อมือของทศกัณฐ์ ตกเป็นเบี้ยล่างของยักษ์ร้ายกาจอย่างทศกัณฐ์ไปจนได้ ยิ่งคิดก็ยิ่ง
เจ็บใจ อยากจะลองให้ทศกัณฐ์ตกเป็นเบี้ยล่างดูบ้าง อยากให้มีวันนั้น หากได้มองดูทศกัณฐ์หมอบราบอยู่เบื้องล่าง มันคงทำให้
เขารู้สึกมีความสุขขึ้นมามากกว่านี้บ้าง นี่คือความคิดที่หลั่งไหลเข้ามาภายในหัวสมองของอเลน ยามที่กัดกลืนผลไม้รูปทรง
ประหลาดเขาไปคำแรก

   มณีเองก็เช่นกันการที่ถูกพลัดพรากจากคนรักอย่างธารามานานนับหลายปีทำให้ยิ่งรู้สึกโหยหา ความรู้สึกมันเหมือนกับว่า
ทำของที่ในเวลานั้นคิดว่าไม่มีค่าหายไป แต่แล้วก็พึ่งจะรู้ว่ามันสุดแสนจะมีค่าหลังจากที่สูญเสีย พอได้กลับมาจึงทำให้อยาก
ทะนุถนอมมันมากขึ้นเป็นพิเศษ อยากจะกอดธาราเอาไว้ชดเชยกับก่อนหน้าที่ไม่เคยได้ใส่ใจ จะดูแลเอาใจใส่ชดใช้ให้กับก่อน
หน้าที่คอยผลักไสไล่ส่ง

   มือผอมยื่นไปเบื้องหน้า คว้าลำคอยาวระหงโน้มลงมาพลางส่งสายตายั่วเย้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มันอาจจะเป็นผลมา
จากความรักที่เพิ่มมากขึ้น หรือไม่ก็อะไรสักอย่างที่ทำให้เวลานี้เขารู้สึกว่าอยากจะกอดธารามากเป็นพิเศษ อยากจะเอาใจธารา
จอมหื่นที่ชอบทำให้ท้องลูกคนที่สามทันทีที่ได้เจอกัน

   ดวงตาปรือปรอยหรี่มองพลางแตะริมฝีปากลงไปเคล้าคลึงริมฝีปากเบื้องหน้าอย่างยั่วยวน คิดว่าธาราคงจะชอบให้เขาทำ
เรื่องแบบนี้ ไม่อย่างนั้นมือของอีกฝ่ายคงจะไม่สอดเข้ามาใต้เสื้อยืดตัวบาง

   “ชอบไหม”

   “อืม”

   ตอบพลางเอนหลังแนบลงกับโซฟาเนื้อนุ่ม แม้ว่าเสียงของธารานั้นจะต่างออกไปทุกที ไม่ใช่แค่น้ำเสียงที่แตกต่าง ทั้งน้ำ
หนักที่กดทับลงมา หรือว่ารูปร่าง รสสัมผัสก็ต่างออกไปจากทุกที

   “แล้วอย่างนี้ล่ะ เป็นไง”

   “อือ แปลกๆ”เพราะพี่ธาราในแบบปรกติจะทำแบบไม่ถามไถ่ นึกจะทำก็ทำ กอบโกยเอาอย่างเดียว แต่ทำไมคราวนี้ถึงมา
แปลก มณีแอ่นอกรับริมฝีปากที่ครอบจูบลงมาบนเม็ดสีส้มอ่อนอย่างแผ่วเบา เรียวฟันสะอาดขบลงบนริมฝีปากพยายามกลั้นน้ำ
เสียง

   จะว่าไป ทำไมพี่ธาราถึงได้ผมสั้นลง ตัวเล็กและหน้าเล็ก แต่เขาคงจะคิดไปเอง มณีคิดเช่นนั้น เสื้อยืดสีขาวถูกถอดออก
ด้วยความเร็วไว มือทั้งสองข้างวางลงบนลาดไล่ขนาดพอเหมาะที่ไม่ว่ายังไงก็ดูเล็กลงไปถนัดตา แต่ก็กอดก่ายเอาไว้ ส่งเสียง
ครางเครือในลำคอ ตอบรับยามที่ลิ้นร้อนตวัดลงบนอกไล่ไปยังแผ่นท้องและไล้วนที่แอ่งสะดือไปมา

   “อือ พะ พี่ธารา เร็วๆ จะทนไม่ไหวแล้ว”

   ออกปากรีบเร่งให้ธาราถอดกางเกงปราการด่านสุดท้ายออกให้เร็วไว สติผิดชอบชั่วดีเลือนหาย แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าที่แห่งนี้คือ
ห้องรับแขก และเขากับอีกฝ่ายกำลังอยู่บนโซฟา

   “ใจเย็นๆสิ คนเก่ง”เสียงนั้นเลื่อนขึ้นมากระซิบข้างหู ปลายนิ้วไล่ไปมาทั่วลำตัวพาลให้ได้รู้สึกดี

   ทนไม่ไหวคว้าคอของอีกฝ่ายมาจูบเป็นการออดอ้อน ริมฝีปากได้รูปเคล้าคลึงอีกฝ่าย สอดลิ้นร้อนเข้าไปเพื่อยั่วยวน แต่ก็
ถูกดันกลับคืนมา ซ้ำยังถูกลุกล้ำเอาเสียเอง

   

   อเลนยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างพึงพอใจ ร่างกายของทศกัณฐ์นั้นหอมหวานกว่าที่คิด ดูเหมือนว่าเวลานี้กายของทศกัณฐ์จะดูหดเล็กมากกว่าเดิม แต่นั่นเขาคงจะคิดไปเอง

   กายของทศกัณฐ์บิดเร่ายามที่ริมฝีปากของเขากอบกุมยอดอกสีหวานนั้น ไม่ทันสังเกตมาก่อนว่ายอดอกของทศกัณฐ์นั้นจะ
สีสวยน่าหยอกเย้าขนาดนี้

   และก็ไม่คิดมาก่อนว่าทศกัณฐ์นั้นจะยินยอมอยู่เบื้องล่างของตนโดยง่ายแบบนี้ มันยิ่งทำให้ได้ใจเมื่อมองเห็นร่างนั่นบิดเร่า
อเลนเหิมเกริมกระซิบคำปลอบใจข้างหูอีกฝ่าย

   “ชอบไหม เด็กดี”

   “อือ ชอบ”

   เสียงตอบรับหวานหูส่งผลให้อเลนพอใจ และยิ่งกว่าพอใจเมื่อถูกยั่วยวน ขาทั้งสองข้างของอีกฝ่ายอ้าออกและตั้งชันให้ได้
แทรกกายเข้าไปใกล้ โน้มกายเข้าหาได้อย่างถนัดถนี่ เวลานี้ท่อนบนของเขาและทศกัณฐ์นั้นเปลือยเปล่า



   มันคงจะดีไม่น้อยถ้าหากทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นคือความจริงไม่ใช่เป็นเพราะผลไม้ต้องห้ามเจ้าปัญหานั่น

   กายโปรงบางรูปร่างไม่ต่างกันสักเท่าไรกอดก่ายกันบนโซฟาตัวยาว อเลนโถมกายทาบทับมณีอย่างแผ่วเบา จูบย้ำบนกลีบ
ปากได้รูปไปมาราวกับกำลังลิ้มชิมรสของหวานรสชาติล้ำเลิศ

   ค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง เชื่องช้า ละเลียดปลายจมูกโด่งรั้นบนลำคอขาวสะอาด กดน้ำหนักลงเล็กน้อยลาก
ผ่านลงมาตามแนวไหปลาร้าจนมาถึงปลายยอดตั้งชันสีอ่อนอีกครั้ง

   และเช่นเคย อเลนไม่พลาดที่จะหยุดแวะลิ้มรสของมัน มืออีกข้างเคล้นคลึงลงที่บั้นเอวได้รูปของมณีเริ่มลงน้ำหนักอย่าง
หนักหน่วงเมื่อร่างข้างได้ครางอื้ออึงกัดริมฝีปากแน่น

   “เร็วๆสิ”

   มณีออกปากอ้อนวอนร้องเร่งร่างข้างบน กึ่งกลางกายอึดอัดจนรู้สึกว่ามันแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ


   “ใจเย็นๆสิ”อีกฝ่ายเอ็ดกลับมาให้ได้หงุดหงิด

   มือเรียวเอื้อมไปแตะกึ่งกลางกายของอเลนทันที ความต้องการทำให้ทนไม่ไหวแล้วที่จะรอช้า ฝ่ามืออีกข้างลูปไล่แผ่นอก
อีกฝ่ายไปมา ของที่ทั้งร้อนทั้งแข็งกำลังคับแน่นเต็มอุ้งมือ

   

   “อยากทำแล้ว”

   “อย่างเร่งสิ มันไม่ดีรู้ไหม”

   “อื้อ ผมไม่ไหวแล้ว ผมอยากให้พี่ทำ”

   ครั้งแรกเลยที่ออกปากชวนและร้องขอ มณีเบือนหน้าหนีเล็กน้อยเขินอายเมื่ออเลนเงยหน้าขึ้นมาจูบซับบนขมับของ

   ซิบกางเกงค่อยๆถูกรูดลงอย่างเชื่องช้า ต่างฝ่ายต่างก็ช่วยกันปลดของกันและกัน

   



   และนั่นก็ทำให้ยักษ์ทั้งสองตนที่พึ่งจะเบื่อหน่ายกับการตกลงกันที่ไม่ลงตัวสติแทบจะขาดผึ่งทันทีที่ได้เห็น

   ร่างกึ่งเปลือยของหนุ่มลูกครึ่งหน้าสวยลอยหวือราวกับถูกหิ้วก่อนที่จะถูกมือของยักษ์อีกตนคว้าเหวี่ยงทิ้งให้ได้เจ็บตัวซ้ำ
รอยเหมือนเมื่อครั้งก่อนในอดีต

   “คิดจะทำบ้าอะไรวะเนี่ย”คุณหมอสบถเสียงดังจ้องมองใบหน้าแดงก่ำพลางอุ้มร่างสูงโปร่งเอาไว้ด้วนสองมือในท่าที่ไม่ต่าง
อะไรกับการอุ้มทารกในท่ายืน

   “อือ อย่าดื้อสิ”

   แทนที่จะได้ความมือเรียวเอื้อมมาแตะด้านข้างที่ใบหน้าอย่างเบามือให้ยิ่งได้โมโห

   มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ดูจากหน้าตาแล้วจะว่าเมามันก็น่าจะใช่ แต่ที่แน่ๆทำไมถึงไม่ได้กลิ่นเหล้า ทศกัณฐ์หายใจเข้าออก
แรงๆกำลังจะเดือดดาลเต็มทนกับการกระทำที่พาลให้ลมเพรชหึงกำลังพัดโหมกระหน่ำภายในบ้านหลังนี้ จะว่าไปไอ้สภาพกึ่ง
กางเกงร่นลงมาครึ่งก้นนี่มันอะไร ยิ่งเจ้าอเลนน้อยที่ไม่น้อยสมชื่อตื่นขึ้นมาดันชั้นในสีขาวจนตุงนั้นอีก ไม่คิดว่าเจ้าสิ่งนั้นมันจะ
ต้องมาถูกปลุกให้ตื่นโดยมือคนอื่นแบบนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น

   รู้หรอกว่าคู่กรณีนั้นเป็นรักแรกและรักฝังใจ แต่ไม่คิดว่าจะลืมไม่ได้จนต้องทำกันแบบนี้ เห็นทีคงต้องสั่งสอนและป้อนข้อมูล
ทับข้อมูลเก่ากันยกใหญ่ เอาให้ข้ออมูลเก่ามันลบไปเลยยิ่งดี ทศกัณฐ์ตวัดตาไปมองร่างอ่อนระโหยโรงแรงบนโซฟาอย่างไม่
พอใจทันที

   



   “เจ้านี่ช่างสรรหาก่อเรื่องยิ่งนัก”ธารารีบเร่งฉุดร่างของคนรักขึ้นมา ดึงกางเกงที่ร่นลงไปครึ่งก้น จัดการรูดซิบติดกระดุมให้ใหม่

   ดวงตาดุดันได้เหลือบมองเห็นผลไม้เจ้าปัญหาที่หลงเหลืออยู่เพียงเศษเสี้ยวตกอยู่บนพื้นแล้วก็ถึงบางอ้อ

   “เร็วๆสิ ทำสิ”เสียงออดอ้อนกระซิบมือสองข้างโอบรอบลำคอ

   ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะยังไม่รู้ตัวว่ากำลังสร้างปัญหาใหญ่ หาเข้ามาไม่ทันไม่รู้เลยว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น

   รู้อยู่หรอกว่ามันเป็นเพราะฤทธิ์มึนเมาของเจ้าผลไม้นั่น แต่ไม่ว่ายังไงพอมองคู่กรณีที่เคยมีคดีด้วยกันมาก่อนแล้วมันรู้สึกว่า
ไม่อยากจะปล่อยวางแล้วอยากจะหันไปโทษคู่กรณีแทน แทนที่จะโทษคนขโมยผลไม้และผลไม้เสียเอง


    เห็นดีนิสัยไม่เชื่อฟังคงต้องถูกขจัดกันไปให้เข็ดหลาบ

   “พี่ธารา ผมอยากแล้ว”

   พอฟังเสียงร้องขอแล้วใจมันก็อ่อนยวบ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่คำพูดหวานหูแบบนี้จะออกมาจากปากของคนรัก

   “ในเมื่อเจ้าร้องขอข้าเช่นนั้น อย่าได้กล่าวโทษข้าทีหลังเสียล่ะ”



   ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



   นานนับหลายชั่วโมงแล้วที่ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาอีกครั้งจนมันเคลื่อนเลยหัวไปอีกฝั่ง

   เหลือกตาประดับแพขนตาดำเงาขยับไหวไปมาอยู่พักใหญ่กว่าจะค่อยๆลืมขึ้นอย่างเชื่องช้าราวกับว่าเปลือกตานั้นหนักอึ้ง
เสียเหลือเกิน

   มณียกมือขึ้นขยี้ตาอย่างเชื่องช้า ความเมื่อล้าและความรู้สึกปวดร้าวเหมือนร่างกายนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆทำให้ต้องฝืนลืมตา
ขึ้นมาเต็มตา มันก็เป็นปกติที่จะตื่นขึ้นมามีแขนของใครคนหนึ่งพาดอยู่บนตัว

   แต่มันไม่ปกติที่ร่างกายนั้นเปลือยเปล่า ช่องทางด้านหลังรู้สึกเจ็บปวดเหมือนมันบวมช้ำจนหุบขาไม่ลง

   ได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอของคนที่นอนสมกอดข้างกายแล้วก็เอี้ยวตัวหันไปมอง ความปวดร้าวทางร่างกายมันยิ่งเด่นชัด
เจ็บจนหลุดปากร้องออกมา


   “ตื่นแล้วรึ?”เสียงทุ้มหูกระซิบถาม

   “กะ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”

   “เจ้าคงจำไม่ได้สินะ”

   มณีจ้องมองธาราด้วยความมึนงง ปกติแล้วต่อให้เผลอหลับไป ยักษ์ที่อ่อนโยนและออกจะดูแลเอาใจใส่เขาอย่างพี่ธาราจะ
ไม่ปล่อยให้เขานอนเปลือยในอ้อมกอดแบบนี้ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น

   ไม่ได้ตั้งใจจะมอง แต่มันก็ต้องเห็นอยู่ดี ข้างของภายในห้องร่วงหล่นระเนระนาด แม้แต่ผ้าม่านปิดระเบียงก็หลุดลุ่ยลงมา
จากราว ข้าวของจากที่เคยอยู่บนโต๊ะก็ร่วงหล่นลงมากระจายเต็มพื้นไปหมด

   สังเกตดูอีกทีหมอที่เคยหนุนก็ไม่ใช่หมอนแต่เป็นแขนของคนรักต่างหาก ส่วนหมอนแต่ละใบก็พากันกระจายกันไปอยู่
คนละมุมห้องแล้วแต่ทิศแต่ทาง พูดง่ายๆคือสภาพห้องนั้นดูไม่ได้เลยสักนิด นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆไปมา
แทนคำตอบ

   “ทั้งหมดนี้เจ้าเป็นคนเอง”

   “ผมเป็นคนทำ? มะ ไม่จริงน่า พี่มั่วแล้ว”

   “ตรงนั้นของเจ้าน่าจะยืนยันคำพูดของข้าได้เป็นอย่างดี”

   “ตรงนั้น? ตะตรงไหน”

   ได้แต่หน้าแดงก่ำ ก็แล้วตรงนั่นมันคือตรงไหน มณีบิดก้นไปมาหลบมือใหญ่ไม่ให้แตะโดนกลัวจะไปกระตุ้นความเจ็บแสบ
ให้ได้ทวีเพิ่มขึ้น

   “จำได้รึยัง?”

   “มะ ไม่ ผมจำไม่ได้”ไม่ว่าจะนึกเท่าไรมันก็นึกไม่ออกอยู่ดี ว่าจะต้องทำอีท่าไหนรุนแรงแค่ไหนกันแน่ห้องมันถึงได้พัง
ระเนระนาดได้ขนาดนี้

   “ช่างเถอะ อีกเดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้าจำมันได้เอง คราวนี้เจ้าจะจดจำมันได้อย่างเด่นชัดเลยทีเดียวล่ะ ยอดรักของข้า”

   แล้วรอยยิ้มกรุ่มกริ่มนั่นคืออะไร มณีกรีดร้องโหยหวนอยู่ในใจ ยกมือยกปฏิเสธ แน่นอนว่ามันไม่ได้ผล

   “เดี๋ยวก่อนพี่ ใจเย็นๆ ผมทะ ท้องอยู่นะพี่”

   “อย่าห่วงไปใย ลูกของเราแข็งแรงพอ”

   แล้วก็เป็นบทเรียนราคาแพงที่สามารถทำให้คนที่มีนิสัยไม่เชื่อฟังคำเตือนของคนอื่นละทิ้งนิสัยนั้นไปหลังจากที่พบเจอกับ
เรื่องราวสุดแสนประหลาดที่ไม่ว่าจะพยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น จำไม่ได้แม้กระทั่งผลไม้เจ้าปัญหาที่เก็บเอา
มาจากเกาะ



   +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



   เคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดไหมว่ากรวดยังไงก็คือกรวด ไม่สามารถเป็นเพชรนิลจินดาได้หรอก

   เหมือนกับคนที่อยู่เหนือกว่า ไม่ว่ายังไงก็ต้องอยู่เหนือกว่าอยู่ดี ตอนนี้เจ้าของใบหน้าที่ไม่ต่างอะไรจากนางในวรรณคดีรู้ซึ้ง
มันดีที่สุด

   ใบหน้าชื้นเหงื่อเงยเชิดขึ้น ริมฝีปากบางเฉียบเผยอรั้นหอบหายใจเข้าปอดราวกับว่ากำลังจะขาดอากาศหายใจ เสียงลม
หายใจหอบกระเส่าบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาเหนื่อยหอบแค่ไหน

   “อยากอยู่ข้างบนไม่ใช่รึไง ขยับสิ อย่าหยุด”

   เสียงออกคำสั่งนั้นดังก้องหู ถูกบังคับให้อยู่ในท่วงท่าที่น่าอาย และมันยิ่งอัปยศไปกว่านั้นคือการที่ไม่สามารถมองเห็นสิ่ง
ใดที่เกิดขึ้นในเวลานี้ได้เลย

   ไม่รู้ว่าวันเวลามันล่วงเลยไปนานแค่ไหน ถึงแม้จะเหนื่อยแต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้หยุด กายโปร่งบางขยับรับท่อนเนื้อร้อน
เข้าไปข้างใน กลืนกินเข้าไปลึกจนรู้สึกได้ถึงความร้อนอันผะผ่าว

   “พะ พอสักที”

   เสียงร้อนสั่นระริก ขบเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น แขนทั้งสองข้างถูกตรึงให้ไพล่ไปที่ด้านหลัง ถูกมัดเอาไว้ด้วยแรงที่มอง
ไม่เห็น

   “ขยับต่อ ห้ามหยุด”

   “อะ อึ๊ก หยุด ไม่ไหวแล้ว”

   ส่ายหน้าไปมา น้ำตามันพาลจะไหลลงมาเต็มทนทั้งที่ตาทั้งสองข้างถูกปิดเอาไว้ให้มองไม่เห็น และมันแย่ไปกว่านั้นเมื่อ
ท่อนกายใหญ่โตกระทั้นสวนเข้ามารุนแรงหนักหน่วงกระตุ้นให้ปลดปล่อยออกไปอีกครั้ง ไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไร รู้แค่ว่าเหนื่อยจน
เอนกายลงไปซบกับแผ่นอกแข็งแรงอย่างหมดแรง

   ทว่ากายข้างในตัวยังคงสอดแทรกเข้ามาไม่หยุดหย่อน ราวกับเป็นบทเรียนอะไรสักอย่างที่ไม่รู้เลยว่าเป็นเพราะอะไรถึงได้
ถูกทำแบบนี้

   “บอกฉันสิว่าตอนนี้นายกำลังนึกถึงใคร”

   “ไม่”

   “บอกมาเดี๋ยวนี้ ก่อนที่จะหมดความอดทน”

   “อะ อือ คุ คุณ คะ แค่ คุณ”

   ตอบเสียงกระท่อนกับคำคู่ที่ได้ผลถนัดตา ผ้าผูกตาถูกปลดออก แรงที่ตึงแขนเอาไว้คลายลงในพริบตาแขนทั้งสองข้างลู่
ลงกลายเป็นโอบกอดร่างกายกำยำเอาไว้ แนบใบหน้าลงกับแผงอก กัดฟันกลั้นเสียงครางเครือ

   “ดี แล้วก็จำเอาไว้ด้วยล่ะ”

   ถึงจะพูดอย่างนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาอเลนก็จำอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าจะพยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก แต่หลักฐานที่เด่นชัดมันก็
คงเป็นร่องรอยบนร่างกายและความเจ็บที่ทิ้งเอาไว้ให้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับทศกัณฐ์

   

   และเรื่องทั้งหมดนี้ก็มีเพียงทศกัณฐ์กับธาราเท่านั้นที่รู้เรื่อง และการประชุมลับๆระหว่างสามีและสามีได้เริ่มขึ้นเพื่อทำการ
แยกคู่แข่งของกันและกันออกจากกัน

   

   แต่อย่างไรก็ตาม ยักษ์หนุ่มพ่อพันธุ์ชั้นดีได้แอบถามไถ่ถึงวันเวลาของผลไม้ที่จะออกในฤดูกาลหน้า ดูเหมือนเขาจะติดใจ
ในอิทธิฤทธิ์ของมันซะแล้ว

   ในขณะที่คุณหมอยักษ์เองก็แอบไปย่องถามเช่นกันว่าผลไม้เจ้ากรรมนั่นพิกัดอยู่แห่งหนไหน จะได้ถอนรากถอนโคนทิ้งซะ
ไม่ให้เหลือ



   เรื่องราวทั้งหมดมันก็เป็นเช่นนี้ ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ภาคแรก

   ขอโทษในภาษาที่เป็นกันเองมากเกินไปของโซอึนล่วงหน้า เพราะคิดว่ามันเป็นตอนพิเศษที่ค่อนข้างอยากให้ตลก เลยใช้
ภาษาบ้านๆ ยังไงก็รอภาคสามกันต่อไปนาจา

   

   




หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 25/06 [ตอนพิเศษ] ผลไม้ต้องห้าม
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 25-06-2016 22:03:32
โถถังกะละมัง จินตนาการแค่พอเหมาะพอควรนะมณี อเลน โพสิชั่นนี้เค้ากำหนดมาตายตัว ห้ามเปลี่ยนจ้ะ!!!!  :laugh: !
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 25/06 [ตอนพิเศษ] ผลไม้ต้องห้าม
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 28-06-2016 20:29:19
เราก็คงต้องตามอ่านกันต่อไป  :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 25/06 [ตอนพิเศษ] ผลไม้ต้องห้าม
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 03-07-2016 02:20:56
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 25/06 [ตอนพิเศษ] ผลไม้ต้องห้าม
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 12-07-2016 15:37:03
รอภาคลูกครัช
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค2] 25/06 [ตอนพิเศษ] ผลไม้ต้องห้าม
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 12-07-2016 16:40:52
ถ้ากินตอนอยู่คนเดียวจะเป็นยังไงนะ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/06/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 14-09-2016 00:45:08
ภาค 1+2 จบแล้วนะคะ กำลังจะต่อภาคสาม จะลงลิ้งเอาไว้ให้ตามภาคของเด็กๆนะคะ
[Yaoi] อลวนวุ่นรัก...ทายาทพันธุ์ผสม [Mpreg] ภาค 3 (http://www.tunwalai.com/story/117387/yaoi-%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B8%9C%E0%B8%AA%E0%B8%A1-mpreg-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84-3?page=1&target=none)



หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 16-09-2016 12:13:12
ไม่ต่อในเล้าเหรอคะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 16-09-2016 17:08:05
อยากให้มาต่อในเล้าท์ด้วยอ่า :ling1:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: kissings ที่ 17-09-2016 13:40:22
เพิ่งเข้ามาอ่าน จะตามอ่านให้หมดรวดเดียวเลยค่าาาาา
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 17-09-2016 19:31:53
อ่านแล้วสนุกมาเลย จร้า เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะ ตามไปอ่านเรื่องอื่นแน่นอนจร้า
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 18-09-2016 12:29:53
สนุกมากเลยจ้าา รอติดตามภาคต่อ o13
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 19-09-2016 18:50:44
สนุกมากอ่านรวดเดียวจบเลย
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: KhaoPaY ที่ 22-10-2016 10:32:46
สนุกมากเลยค่ะ ภาษาที่เขียนสนุกมากค่ะ อ่านแบบไม่อยากวาง o13 o13
แต่มีคำผิดเยอะไปนะคะ

รอตอนต่อไปสามพีชิมิ อิอิ :laugh:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: Aunttk ที่ 22-10-2016 23:51:59
จิ้มเข้ามาได้ปุ๊บ ยาวเลยคุณผู้ชมม.รุ่นพ่อแม่แซ่บขนาดนี้รุ่นลูกนี้คงแซ่บกว่า แก่แดดกันเหลือเกิน. 55555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 23-10-2016 05:02:32
เดือนยี่มันเดือนมกราคมนะคะ ถ้านับตามจันทรคติ เดือนอ้ายคือธันว่า เดือนยี่คือมกรา เดือนสามคือกุมภาค่ะ
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: nano ที่ 27-06-2017 10:15:36
ชอบเนื้อเรื่องอ่ะ คนแต่งใช้จินตนการสุดยอดมากๆเลย ไม่เคยเจอแนวนิยายผสมกับวรรณคดีไทย แล้วสนุกแบบนี้ คนแต่งเก่งมากๆ

เนื้อเรื่องสนุก น่ารัก ชอบลูกแฝดมากเลย แสบเหมือนแม่ แซ่บเหมือนพ่อเลย
ความคิดเห็นส่วนตัว ยังขัดๆกับนิสัยของมณี บางทีเหมือนไม่ชัดเจน เหมือนไม่ค่อยแคร์ธารา
ธาราก็แสนดี พ่อพระมากกก สามีตัวอย่างเลย เค้าจะหาได้จากที่ไหน 555

คู่อื่นๆ เค้าก็ชอบ น่ารักไม่แพ้กัน  :katai2-1

หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 18-07-2017 07:51:51
อยากอ่านเรื่องนี้นะแต่พอเข้ามาแล้วอ่านได้แค่สองตอน

หลังจากนั้นเนื้อเรื่องไม่มีเลย. นี่เราทำอะไรผิด ทำไมถึง

ทำกันเยี่ยงนี้
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: Panizzz3838 ที่ 20-07-2017 16:54:12
 :impress2: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 16-03-2018 00:43:12
บอกได้แค่ว่า...สนุกมากกกกก  :m11:
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: akajinkame ที่ 15-04-2018 11:59:58
สนุกมากกกกกก เด็กๆ แสบซนมากกกกก คู่พ่อยังไม่ทันจบ มาเจอคู่ลูกจองกันแล้ววววว สุดๆ น่าฟัดจริงๆ เจ้าเด็กพวกนี้ รอภาค 3 ค่า
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย ✿ [Mpreg] 13/01 [CH.27.2+28] .ปกป้อง
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 15-04-2018 22:11:43
สำนึกตอนนี้มันก็สายไปแล้วป่ะคนรักกันแต่ไม่ให้ความเชื่อใจกันเลย คือมันหลายรอบหลายหน
แล้วผลทีตามมาคือบานปลายตลอดแล้วใครต่อใครต้องมาคอยแก้ไขปัญหาให้ตลอดแบบนีไม่ดีเลยนะ
ทำไรคิดถึงลูกบ้างไหมอ่านแล้วป่วยจิตกับนาง

นี่เห็นด้วยอะ ยังอ่านไม่จบหรอกแต่เจอคอมเม้นนี้ต้องรีบพิมพ์ 5555555555
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: noknaja01 ที่ 18-04-2018 02:53:36
สนุกมาก
หัวข้อ: Re: ✿ WonderLover ทวงรัก...นายยักษ์จอมหื่น ✿ [ภาค1+2] 14/09/59 + ลิ้งค์ภาค 3
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 25-04-2018 19:49:16
สนุกมากๆ ค่ะ   :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 01-12-2018 15:49:33
ถ้าจะกลับมาเขียนภาค 3 ของเหล่าบรรดาลูกๆต่อ แล้วลงเล้า มีใครรออ่านไหมคะ  :impress3:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 01-12-2018 16:07:18
รอทุกภาคเลย  :impress2:

ไม่ลืม ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: order66 ที่ 21-01-2019 18:22:37
ยอมรับว่าอ่านไม่จบ มีหลายอย่างที่ทำให้อ่านไม่จบ เนื้อเรื่องเหมือนวนอยู่ในอ่าน น่าติดตามแค่ในช่วงแรกจากนั้นซ้ำไปเดิม การพัฒนาตัวละครน้อยมาก ทำให้เกิดความรำคาญ ไม่ใช่แค่ตัวเดียว แต่เกือบทั้งหมด รูปแบบตัวละครจะซ้ำไปหมด
ต้องขอโทษด้วยที่แสดงความเห็นแบบนี้
อยากนักเขียนให้พัฒนา ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 13-03-2024 20:33:59
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)