✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59  (อ่าน 244325 ครั้ง)

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อึ้งดิทศกัณฐ์จะทำยังไงต่อไป ตบะแตกได้แล้วคุณอา 3 ปีแล้วนะปล่อยไว้นานเกิน :ruready

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
อลันต้องปกป้องแม่อเลนนะ คิคิ :hao7:

ออฟไลน์ KoTo_Nat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
น่าติดตามทุกคู่เลยครับ

จะรอนะครับ ว่าแต่วาลีกับคุณอานี่คู่ไหนในอดีตเหรอครับ

ขอบคุณคร๊าฟฟฟ

ออฟไลน์ meanmena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
นึกว่า 2 แฝดจะเจอพ่อ เดาผิด

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ทวงครั้งที่ 4.2



   “เจ้าเองก็รู้ว่านนทรีเหตุใดเจ้าจึงเข้าใกล้นนทรี”

   “ทำไมผมจะต้องบอกเหตุผลกับคุณ”

   จู่ๆก็ถูกดึงให้ออกจากการสนทนาที่นนทรีเป็นฝ่ายเข้ามาชวนคุยกะทันหัน ถูกดึงให้เดินตามออกจนถึงห้องนอนแล้วก็ต่อว่า
กันเหมือนว่าเป็นเรื่องผิด

   “ข้าเตือนเจ้าแล้วหรือไม่ว่าอย่าเข้าใกล้นนทรี”

   “แล้วทำไมผมจะต้องฟังคำสั่งคุณ”

   “นั่นก็เพราะเจ้าอยู่ที่นี่ เจ้าต้องฟังสิ่งที่ข้าสั่ง…ทุกอย่าง”

   ยักษ์สูงวัยเอ่ยด้วยเสียงแข็งกร้าวต่างจากทุกที ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยนิ่งสงบบัดนี้กลับฉายแววไม่พึงพอใจเท่าไรนัก

   กระวนกระวายใจ…คำนี้คงเป็นคำจำกัดความที่สามารถบ่งบอกได้ถึงเวลานี้

   แขกผู้มาเยือนรายนี้ถึงจะเป็นลูกชายของเพื่อน แต่ก็เป็นยักษ์ที่กินมนุษย์ ไม่มีเวลาไหนที่สามารถวางใจได้สักนิดถึงแม้ว่า
จะคอยกันท่าอยู่แทบทุกเวลาก็ตาม

   ขึ้นชื่อว่ามนุษย์จิตใจย่อมรวนเร อีกทั้งเจ้าเล่ห์

   คนมากคามรู้อย่างวาลี แค่เขามองเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าคิดเช่นใดอยู่

   แต่เขาจะยอมให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้

   “จากนี้เจ้าห้ามออกจากห้องนี้เด็ดขาด”

   “นั่นมันไม่มีเหตุผล”

   “ข้าไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผลกับเจ้า”

   สิ้นเสียงยักษ์ บานประตูสีขาวก็ปิดลงขวางกั้นอิสระของชายหนุ่มอีกครั้ง

   ใบหน้าเกลี้ยงเกลาของชายหนุ่มบ่งบอกถึงอารมณ์โกรธเคือง

   ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องคอยกันเขาให้ออกหากจากนนทรี

   อีกแค่นิดเดียวก็จะตีสนิทแล้วหลอกใช้ให้อีกฝ่ายพาหนีได้แล้วแท้ๆ

   คนอย่างวาลี ไม่มีทางยอมรับคำสั่งใครง่ายๆอยู่แล้ว

   วาลีเปิดบานประตูออกอีกครั้ง มองดูด้านนอกทางเดินมองไม่เห็นวสินจึงได้เดินออกมา

   ดวงตานิ่งสนิทมองสอดส่ายหายักษ์วัยเยาว์

   “ดูท่าท่านลุงจะหวงของน่าดู”น้ำเสียงแฝงไปด้วยความขันพูดขึ้นทางด้านหลังเรียกให้หันไปมอง

   “ผมนึกว่าคุณไปจากที่นี่แล้ว”วาลีถอนหายใจ โชคดีที่อีกฝ่ายยังอยู่

   “ก็กำลังจะไป แต่จะกลับไปมือเปล่าก็กระไรอยู่ คิดว่าคงได้ของดีติดไม้ติดมือไปบ้าง”

   นนทรีย่างก้าวเข้ามาใกล้ วาลีถอยหลังไปครึ่งก้าวเพื่อตั้งหลัก

   ยักษ์เบื้องหน้าถึงแม้จะไม่นิ่งสงบหรือดูโหดร้ายเท่าวสิน ทว่าก็คงความเจ้าเล่ห์ไว้ไม่มีลดละ

   “งั้นผมจะขอให้คุณช่วยอะไรบางอย่างได้ไหม”

   “ช่วยอะไรล่ะ หากไม่ยากเกินความสามารถข้าก็ยินดีช่วยท่านนะ วาลี”นนทรียกยิ้มเจ้าเล่ห์

   มือใหญ่เอื้อมมาแตะใบหน้าที่เคยซีดไร้สีเลือดลูบไปมา

   วาลีนิ่งไปชั่วขณะ เขาพยายามกลั่นใจไม่ให้ปัดมืออมนุษย์ออก ตอนนี้อิสระอยู่ใกล้แค่เอื้อม

   “ผมอยากจะ…ไปกับคุณ”

   “หึหึ ได้สิ ข้าจะได้ไม่ต้องลงแรงหากท่านยินดีที่จะยอมไปกับข้าเอง”นนทรีหัวเราะในลำคอ

   “จะให้ไปด้วยจริงใช่ไหม”

   “แน่นอน มาสิ ไปจากที่นี่กัน”

   นนทรีเลื่อนมือไปโอบเอวชายหนุ่ม

   เหยื่ออันโอชะที่สุด ก็คือเหยื่อที่แย่งมาจากผู้อื่น รอยยิ้มร้ายปรากฏโดยที่วาลีไม่อาจเห็นมันเลยสักนิด

   ชายหนุ่มเดินตามไปอย่างกระดากใจ นั่นก็ยักษ์นี่ก็ยักษ์ หากให้เลือกก็คงเลือกอิสระ

   ยังไงก็ไว้วางใจใครไม่ได้อยู่ดี ชายหนุ่มเดินตามมาจนถึงประตูบ้าน อีกแค่ก้าวเดียว ก้าวเดียวเท่านั้นที่จะได้ออกไปจาก
บ้านหลังนี้

   ทว่า แขนก็ถูกดึงเอาไว้ด้วยแรงที่มีไม่น้อย ถูกบีบแขนจนรู้สึกเจ็บเล็กๆแล้วถูกถึงเข้าไปหา

   กลับกลายเป็นว่าแขนทั้งสองข้างถูกยักษ์สองตนต่างฝ่ายต่างยื้อเอาไว้

   “เจ้าจะพาวาลีไปที่ใดกันนนทรี”

   “อา ข้าคิดว่าท่านลุงจะไปภาวนาศีลเสียอีก คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงไม่ใช่หรือ”

   “หากข้าไปข้าคงไม่มาเจอว่าเจ้ากำลังขโมยคนของข้าไป”

   “คนของท่านเต็มใจไปกับข้าต่างหาก”ยักษ์หนุ่มกว่าไหวไหล่ส่งยิ้มเยาะให้

   “จริงตามที่นนทรีพูดหรือไม่ วาลี”ดวงตาคมดุดูนิ่งเฉยกำลังโกรธเกรี้ยว สีตากลายเป็นสีเขียวมรกตวาววับ

   วาลีเบือนหน้าหนี อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นที่จะได้อิสระกลับคืน ถึงแม้ใจมันจะรู้สึกวูบไหวแปลกๆก็ตาม ดวงตาที่ดูน่ากลัวนั่น
มันทำให้เขาไม่กล้าที่จะมองตอบกลับไป

   เมื่อไม่ได้คำตอบแรงบีบที่แขนก็เริ่มมีมากขึ้น หัวใจที่นิ่งสงบมาหลายร้อยปีบัดนี้กลับแข็งกร้าวจนน่าใจหาย

   ความโกรธเกรี้ยวราวกับเวทมนต์ดลบัลดาลให้มันเกิดชั่วพริบตามันกำลังปะทุออกมา

   วสินรู้สึกทั้งโกรธทั้งเจ็บใจที่ราวกับถูกแย่งของรัก คนที่เขาเฝ้าดูแลมาตลอดสามปี

   จู่ๆก็จะถูกแขกผู้มาเยือนแย่ไปง่ายๆ นั่นเป็นสิ่งที่เขายอมรับไม่ได้เด็ดขาด

   “เจ้าควรปล่อยคนของข้าแล้วกลับไปเสียนนทรี”

   “ไม่ ไม่ได้นะ”แทบจะทันทีที่วาลีแย้งออกมา

   อุตส่าห์จะได้ออกไปจากที่นี่แล้ว จะยอมง่ายๆได้ยังไง

   “ปล่อยมือจากวาลีแล้วจงไปซะ”

   “อย่าปล่อย ผมจะไปกับคุณ”

   ดวงตาคมนิ่งจ้องมองนนทรีอย่างเว้าวอน หากแต่ดวงตาสีมรกตสว่างวาบจ้องมองยักษ์วัยเยาว์ทำให้เกิดความกดดันแก่น
นทรี

   นนทรีหลบดวงตาแห่งความโกรธเกรี้ยวก่อนจะปล่อยมือเหยื่ออันโอชะ หากให้เขาสู้ยักษ์สูงวัยกว่าเขาคงแพ้ราบคาบ

   จำต้องปล่อยมือเหยื่อให้กลับคืนเจ้าของ

   “ลาก่อนท่านลุงวสิน”

   

   “เดี๋ยวก่อน ไหนสัญญาว่าจะพาออกไป”วาลีตะโกนไล่หลัง

   แผ่นหลังของนนทรีไกลออกไปทุกที ไกลจนมือเอื้อมไปไม่ถึง อยากจะสะบัดมือที่รั้งเอาไว้ออก แต่ก็สะบัดไม่หลุด ราวกับ
โซ่เส้นใหญ่ที่พันธนาการเอาไว้

   “ข้าบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ว่าอย่าออกมา เจ้านี่ช่างดื้อด้านยิ่งนัก”

   “นั่นมันเรื่องของผม”หันกลับมาตอกกลับทันที

   แต่ดวงตาที่เคยนิ่งสงบนั้นทำให้วาลีชะงัก

   เสี้ยววินาทีที่โมโหจนแทบจะเข้าไปทุบตีอีกฝ่ายให้ได้เจ็บซะบ้าง แขนที่ถูกกุมเอาไว้ก็ถูกดึงเข้าไปหา

   ดวงตานิ่งเฉยกลับเบิกกว้าง

   ริมฝีปากร้อนราวกับเหล็กนาบไฟประกบลงมา

   รวดเร็วและรุนแรง

   ดวงตาสีเขี้ยวเข็มจ้องมองลึกลงมาจนดูน่ากลัว

   เหมือนกับจะถูกมองเข้ามาจนทะลุปรุโปร่ง

   มือผอมได้แต่ผลักไสแผงอกใหญ่ให้ผละออก

   แต่แรงที่มีกลับไม่ทำให้ยักษาสะทกสะท้าน กลับตรึงเอาใบหน้าซีดเผือดให้เงยขึ้นรับจูบที่ลึกล้ำ

   สอดลิ้นเข้ามาจ้วงเอาก้อนเนื้อร้อนข้างในเพื่อที่จะลงโทษให้หลาบจำ

   หัวใจดุจราวหินผาที่แข็งแกร่งบัดนี้ถูกพังทลายลงไปจนแล้วสิ้น



   เพี๊ยะ!!

   “ไอ้ยักษ์โรคจิตเอ้ย”

   ทันทีที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ผ่ามือก็ตบฉาดลงบนหน้ายักษ์หนุ่ม ถึงแม้จะไม่สะทกสะท้านทางร่างกาย

   แต่หัวใจที่พังทลายลงกลับเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว

   วสินได้แต่มองแผ่นหลังของชายหนุ่มเดินทิ้งเท้าขึ้นบันไดไปโดยไม่หันกลับมามอง



================================================================



   “แดดดี๊ฮะ คนนั้น เป็นเหมือนอลัน ทำไมเขาจะมาทำร้ายแดดดี๊ล่ะฮะ”

   อลันถามหลังจากกลับมาถึงโรงแรม

   อเลนรีบปิดประตูแล้วลงกลอนประตูอย่างแน่นหนา หัวใจตอนนี้กำลังสั่นเป็นเจ้าเข้าจนแทบจะควบคุมไม่ไหว

   “เขา เป็นคนใจไม่ดี อลันห้ามใกล้เขาเด็ดขาด”

   “ฮะ อลันไม่ชอบเขา เขาจะทำร้ายแดดดี๊ แล้วเขาเป็นใครเหรอฮะ”

   “เขาเป็นยักษ์ใจร้าย เป็นคนที่แดดดี๊เกลียด”

   “งั้น อลันก็เกลียดเขาเหมือนกับแดดดี๊ฮะ”ใบหน้าขาวเรื่อพยักหน้าหงึกๆขณะนอนกลิ้งไปมาบนเตียง

   อเลนมองลูกชายนอนกลิ้งเกลือกบนเตียงด้วยใจที่สั่นรัว

   กลัวว่าทศกัณฐ์จะมาเอาอลันไป

   ทศกัณฐ์เห็นอลันแล้ว…เขาควรจะทำยังไงดี

   “เดี๋ยววันนี้กินอาหารโรงแรมนะครับ”

   “รับทราบ”เจ้าตัวกลมผิวขาวจัดลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าตะเบะ

   ไม่สังเกตว่าใบหน้าของผู้ให้กำเนิดซีดเผือดแค่ไหน



   คำคืนมาเยือนเร็วกว่าที่คิด อลันนอนหลับสนิทไปแล้ว แต่เอลนไม่มีทีท่าว่าจะวางใจแล้วหลับตานอนได้เลย

   เขากำลังกลัว ยักษ์ใจร้ายอย่างทศกัณฐ์

   เขาจำคืนนั้นได้ไม่มีวันลืม คืนที่ถูกฉีกกระชากหัวใจด้วยน้ำมือของยักษ์ตนนั้น ราวกับปีศาจที่กำลังบ้าคลั่ง

   ร่างกายถูกแทรกเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า คำอ้อนวอนร้องขอกลับไม่มีความหมาย ราวกับอากาศธาตุไร้ค่า ไม่เหลือแม้แต่
เศษเสี้ยวของความรู้สึกดีดีหลงเหลือให้น่าจดจำ มีเพียงความเลวร้ายเท่านั้นที่ยังคงตราตรึงอยู่ในจิตใจตราบจนถึงทุกวันนี้

   นาฬิกาบ่งบอกเวลาล่วงเที่ยงคืนไปมาก ดวงตาคมโตค่อยๆเผลอปิดลงไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

   ร่างสูงใหญ่ย่างก้าวเข้ามาในห้องเงียบเชียบ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศและเสียงหายใจเข้าออกเสมอกัน

   ฝ่ามือใหญ่ทาบลงบนหน้าผากของอเลนอย่างเบามือ

   ร่างสูงโปร่งของอเลนบิดกายเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะนอนนิ่งสงบดังเดิม

   ผู้มาเยือนยามวิกาลเดินผ่านไปยังอีกฟากของเตียง ดวงตาสีอำพันจ้องมองใบหน้ากลมผิวขาวสะอาดราวกับสีของไข่มุกซุก
กายเข้ากับผ้าห่มดูไร้เดียงสา

   

   สายเลือดครึ่งหนึ่งที่ไหลเวียนอยู่ภายในนั่นเป็นสายเลือดของเขา หลังมือหยาบกร้านไล้ลงบนหน้ายักษ์ตัวเล็กอย่างเบามือ

   เวลาสามปีที่หายไป เขาทุ่มเทตามหา แต่ก็ไร้วี่แวว ไม่มีแม้แต่กลิ่นกายหลงเหลืออยู่ในผืนแผ่นดินนี้

   ไม่คิดว่าอเลนจะตั้งท้อง เพราะอีกฝ่ายได้สลบลงก่อนที่พิธีเตรียมการจะเสร็จสิ้นด้วยซ้ำ

   ใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลานี้ได้ผู้เป็นแม่มาเกือบทั้งหมด แม้กระทั่งดวงตาที่ดูก้าวร้าวคู่นั้นที่จ้องมา เหมือนกันราวกับออกมา
จากพิมพ์เดียว

   ทศกัณฐ์เดินกลับมายังอีกฝั่งเตียง ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมองผู้เป็นที่รักนิ่ง

   เขาจะต้องทำให้เจ้าของกายนี้หนีไปจากเขาอีกไม่ได้ ต่อให้ต้องกักขังเอาไว้เหมือนชาติก่อนเขาก็จะทำ

   

   เรือนกายใหญ่ดุจนักรบคงกลิ่นควันบุหรี่เอาไว้เรียกให้เปลือกตาของคนที่หลับไปค่อยๆเปิดออกมา

   ความคุ้นเคยทำให้อดไม่ได้ที่จะต้องลืมตาขึ้นมามอง

   แล้วดวงตาสีดำสนิทก็ต้องกระตุกวูบ ร่างกายใหญ่โตที่ไม่มีวันลืมยืนอยู่ข้างเตียง

   ความตกใจทำให้ผลุดลุกขึ้นมา ทว่าร่ากายก็ราวกับถูกแรงที่มองไม่เห็นกดตรึงเอาไว้กับผื่นเตียง

   อเลนเหลือบตามองอลันด้วยความตระหนก

   “อย่า นะ”

   ได้แต่ออกปากห้ามไม่ให้ทศกัณฐ์แตะต้องสิ่งหวงแหนที่สุดในชีวิต

   “ชู่ววว”ทศกัณฐ์ยกนิ้วขึ้นส่งสัญญาณให้เงียบก่อนที่อลันจะตื่นขึ้นมาเจอ

   ร่างสูงใหญ่เลิกผ้าห่มขึ้นมาก่อนจะสอดตัวเข้าไป โถมกายลงทาบทาบร่างโปร่งบาง

   อเลนตัวแข็งทื่อ ชุดนอนแบบเสื้อเชิ้ตตัวยาวกับกาวเกงชั้นในขาสั้นเป็นตัวเปิดทางชั้นดีให้กับการกระทำที่ล่อแหลม

   “จะ จะทำอะไรของคุณ”

   ส่งเสียงร้องห้ามเมื่อกางเกงชั้นในขาสั้นถูกรูดผ่านข้อเท้าออกไป เรียวขาทั้งสองข้างถูกจับให้ตั้งชัน

   “ถ้าไม่เงียบลูกของเราจะตื่นขึ้นมาเห็นฉันกับนายทำน้องนะ”ทศกัณฐ์ยกยิ้ม ดวงตาสีเหลืองพราวระยับ

   ผิวกายเนียนนุ่มน่าคิดถึงนี้ทำเอาใจของเขาแทบเตลิด แสงจันทร์เหลืองนวลสาดส่องเข้ามาภายในห้องเป็นตัวปลุกกระตุ้น
ความดิบเถื่อนชั้นดีให้ลงมือกระทำสิ่งที่ใจเรียกร้อง

   “ยะ อย่า อื้อ”

   ความโหยหาทำให้ยักษ์หนุ่มแทบจะอดใจไม่ไหว ฉกเอาจูบของอีกฝ่าย ลิ้มรสสิ่งที่ตามหามาตลอดสามปี

   หัวใจที่เคยหนีไปบัดนี้ได้กลับมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ให้ตายก็ไม่ยอมเสียไปอีกเด็ดขาด

   อเลนได้แต่ส่งเสียงห้ามในลำคอ ดวงตาวูบไหวเหลือบมองลูกชาย กลัวว่าอลันจะตื่นขึ้นมาเจอ

   อยากจะขัดขืนใจจะขาด แต่ก็ถูกตรึงเอาไว้ด้วยแรงที่มองไม่เห็น

   มือหยาบกร้านลูบไล้ไปทั่วร่างกาย ชุดนอนถูกเลิกขึ้นจนเห็นแผ่นอกสีแดงเรื่อ

   เม็ดที่แข็งเป็นไตถูกนิ้วสากบดขยี้หยอกล้อให้กระตุกเล็กๆ

   มันน่าเจ็บใจยิ่งกว่าเมื่อร่างกายมันกลับไม่ฟังคำสั่ง ให้คล้อยตามไปกับสัมผัสหยาบโลนที่ถูกยัดเยียด

   “อะ อื้อ ปล่อย”อยากจะต่อว่าให้มากกว่านี้

   อต่ก็กลัวอลันจะตื่นขึ้นมา

   ยิ่งมองเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นก็ยิ่งโกรธมากเข้าไปอีก

   คนอย่างทศกัณฐ์….ดีแต่บังคับ

   ไอ้หมอโรคจิต…

   “ฮะ ฮึก”รู้ตัวอีกที ก็ยากที่จะออกปากห้าม ช่องทางด้านหลังถูกล่วงล้ำเข้ามาด้วยมือที่ช่วยชีวิตผู้อื่นมานักต่อนัก


   ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวนตอนนี้มันกำลังแล่นมารวมกันนอยู่ที่จุดๆเดียว

   ทรมานจนอยากจะดิ้นให้หลุดแล้วทึ้งศีรษะตรงหน้าเอาไว้

   แต่ก็ได้แค่กัดฟันกั้นเสียงเอาไว้ ร่างกายที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระมันน่าโมโหนัก

   ทั้งที่เป็นร่างกายของตัวเอง แต่กลับไม่ฟัง หัวใจมันเต้นระรัว ทั้งกลัว แต่ก็มีความรู้สึกแปลกแทรกข้ามา ความรู้สึกนั้นคือ
อะไรก็ยังไม่เข้าใจ

   ได้แต่ยกมือขึ้นปิดกั้นเสียงน่าอายเอาไว้ด้วยความอ่อนแรง




   กายใหญ่โตแข็งดุจหินผาสอดแทรกเข้ามาให้ผลาเกาะไหล่หนาเอาไว้ กัดฟันลงบนลาดไหล่ด้วยความทรมาน

   มีเพียงน้ำเสียงเล็กๆที่หลุดลอดออกมาจากลำคอยามกายนั้นกระแทกกระทั้นไม่หยุด

   เจ็บใจ แต่ก็รู้สึกดี ราวกับเป็นสิ่งที่ขาดหาย แต่ก็ไม่คิดจะยอมรับ

   อีกฝ่ายโหดร้ายเกินจะยอมรับได้ ไม่มีทางให้อภัยเด็ดขาด

   ไม่มีทาง…





ใครที่เป็นสาวกเอสเอ็ม ตบจูบ ตอนหน้าเตรียมตัว คู่ของวาลีกับอาวสินจัดว่าโหด หุหุ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ตอนนี้สนุกและลุ้นทุกคู่เลย :hao7:

ออฟไลน์ ศตรัศมี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แหม่ๆๆ อเลนจ๊ะ ทำเป็นเกลียดเค้าไปเถอะ ลึกๆก็คิดถึงเค้าใจจะขาดเลยละสิ แล้วก็ยินดีกับอลันที่กำลังจะมีน้องแล้ว พี่ชื่ออลัน้องชื่ออาราเล่ดีม๊ะ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
กรี๊ดกร๊าด  :o8: ปูเสื่อรอเทศกาลปิ๊งป่อง

ออฟไลน์ meanmena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
หมอทศเจออเลน จับกดทำน้องให้อลันเลยอ่ะ

รออ่านคู่วาลีกับอาวสิน จะร้อนแรงเพียงใด

ขอฟินล่วงหน้าค่ะ

 :z1:          :z1:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อเลนโกรธเค้าแต่ก็รู้สึกดีนะ ทศกัณฑ์ขอโทษเป็นมะ เอะอะจะกดลูกเดียว ตั้งตารอตอนของคุณอากับวาลี เราไม่ได้หื่นนะ :z1: แต่จัดหนักไปเลยค่ะ55555
 :pig4:

ออฟไลน์ เซยูเนียส

  • เป็ดขึ้นคาน
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
เรารอท่านอาวสินตบะแตกอยู่ๆ 55555

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
คู่อเลนกับทศกัณฑ์ อีโรติกดีคับ
 รอตอนใหม่นะคับ

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
จริงๆ หมอทศน่าจะเคลียร์ปัญหาที่มีอยู่ให้จบก่อนนะ ไม่ใช่เอ๊ะอะก็ทำลูก! เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึก

ออฟไลน์ ไร้เงา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มาต่อเร็วๆนะรอไม่ไหวเเล้ว :z1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ

   ทวงครั้งที่ 5 สัญชาติญาณ


   วาลียกมือขึ้นมาถูปากอย่างหงุดหงิดใจ

   ให้ตายก็ไม่อยากจะเชื่อว่ายักษ์โรคจิตนั่นจะจูบเขาจริง

   ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครใช้ให้เขาทำอะไรมาก่อนเลยในชีวิต ยิ่งงานบ้านงานทำความสะอาด แค่คิดก็เจ็บใจพอ

   สามปีที่ถูกกักขังคงยังไม่พอใจรึยังไงกัน ถึงได้มาเล่นตลกกับเขาอย่างนี้

   วาลีทิ้งตัวลงบนเตียงนอนหลังใหญ่ ตอนนี้จิตใจที่มันอยากจะสงบก็สงบไม่ลง

   เกิดมาสามสิบปียังไม่เคยพบเจอเรื่องน่าเจ็บใจให้คิดมากอย่างนี้มาก่อน

   มือผอมซีดยกมือขึ้นทาบหัวใจที่เต้นกระหน่ำราวกลองกำลังถูกตีรัว

   ต่อให้อ่านหนังสือสักร้อยเล่มพันเล่มก็คงทำให้เลิกคิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้แน่นอน

   ในระหว่างที่พยายามลืมเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้น พลันเสียงประตูก็เปิดออกเรียกให้หันไปมอง

   ก็พบกับร่างสูงใหญ่ของยักษ์ที่อยู่ในคราบมนุษย์วัยกลางคนจ้องมองมาอยู่ก่อนแล้ว

   ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองมาที่เขา มันยากเกินจะจ้องตอบด้วยสายตาเย่อหยิ่งเช่นเคย

   ทำไมเขาถึงได้รู้สึกกระดากอายที่จะมองตอบยักษ์ใจร้ายนี่

   ทำได้แค่เพียงพลิกตัวหันหลังให้กับเจ้าบ้านแล้วออกปากถามออกไป

   “มีอะไรจะใช้ให้ทำอีกล่ะ”

   เหมือนกับการประชดประชัน แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นปกติแล้วที่จะมีประโยตเหล่านี้สอดแทรกอยู่ในบทสนทนาระหว่างเขากับว
สินเสมอ

   “ข้าแค่จะมาเตือนเจ้า”

   “ข้อนั้นผมรู้ดี”วาลีตอบ

   ทุกวันก่อนคืนวันเพ็ญวสินจะต้องมากำชับเขาเสมอว่าอย่าออกจากห้องตอนกลางคืน

   ซึ่งเขาไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอะไร แต่ก็ยอมทำตาม เพราะไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวอยู่แล้ว

   ถึงแม้จะสงสัยอยู่ไม่น้อยก็ตามที

   “คืนนี้เป็นคืนเพ็ญ ข้าอยากให้เจ้าอยู่แต่ในห้องนี้”

   วสินบอก ดวงตานิ่งเฉยแฝงความเหนื่อยใจเมื่อมองแผ่นหลังของคนป่วยที่เกือบจะหายดี

   “แค่นี้ใช่ไหม”

   “เมื่อครู่ข้าหงุดหงิดไปหน่อย ข้า..”

   “ผมไม่อยากจะคุยอะไรตอนนี้ ถ้าไม่มีอะไรจะใช้ให้ทำล่ะก็ ผมอยากพักผ่อน”

   วาลีตอบ

   เมื่อมองไปนอกหน้าต่าง เผลอแปบเดียวแสงอาทิตย์ก็อ่อนลง มองเห็นดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงมา

   อีกไม่นานก็คงจะมืด วสินถอนหายใจ

   ถึงแม้ว่าใจของยักษาจะไม่ค่อยชอบใจที่วาลีผูกสัมพันธ์กับยักษ์รุ่นลูก แต่เส้นกั้นบางๆระหว่างเผ่าพันธุ์ก็ทำให้ไม่สามารถ
ทำอะไรไปได้มากกว่านี้

   ความผูกพันที่ก่อเกิดมันถลำลึก จากน้ำใจกลับกลายเป็นห่วงใจเมื่อไร เขาเองก็ไม่เข้าใจ

   ประตูห้องนอนปิดลงอีกครั้ง

   วาลีหันกลับมาแล้วมองไปยังประตูบานนั้น

   กรงขังอิสรภาพ…คงจะต้องเรียกอย่างนี้

   ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้ออกไปสักที

   ถึงแม้จะไม่อึดอัดหรือโกรธแค้นเท่ากับวันแรกๆที่มาที่นี่ แต่ก็ยังอยากได้อิสระคืนกลับมาอยู่ดี

   เขาจ้องมองเพดานสีขาวว่างเปล่า ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่ยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากอีกครั้ง

   ทำไม…หัวใจมันถึงยังเต้นแรงไม่หยุดสักที

   



   วาลียันตัวลุกขึ้นเมื่อพบว่าบรรยากาศด้านนอกมืดสนิทเสียแล้ว

   เพราะคิดซ้ำวนไปวนมากับเรื่องที่เกิด จนไม่ได้สนใจความเป็นไปรอบกายทำให้ลืมเวลามื้ออาหารที่สำคัญ

   เขาส่ายหัวให้กับภาพติดตาก่อนจะลุกออกจากห้อง


   ทางเดินด้านนอกในบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ ดูวังเวงขึ้นมากเมื่อถึงเวลากลางคืน

   หลอดไฟทุกดวงยังคงทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดีทำให้ไม่รู้สึกกังวลอะไร

   เขาค่อยๆเดินอย่างระมัดระวังกลัวว่าเจ้าบ้านจะมาเจอ คงจะไม่เป็นไรถ้าแอบออกมาโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้อย่างนี้

   
   ทว่าร่างกายก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงคำรามกึกก้องทั่วทางเดิน ราวกับเสียงของสัตว์ดุร้าย

   ใบหน้าไร้สีเลือดซีดเผือดลงทันที มันทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น ปนเปกับความหวาดวิตกพิกล

   อดไม่ได้ที่จะเดินตามเสียงนั้นไปจนสุดทางเดิน

   แสงสีเหลืองนวลของดวงจันทร์ส่องผ่านออกมาจากประตูห้องที่เปิดแง้มเอาไว้เล็กน้อย

   แค่พอมองลอดเข้าไปเห็นด้านในเพียงแค่นั้น

   ร่างกายผอมไร้สีเลือดชาดิกทันทีที่เห็นภาพเบื้องหน้า ร่างกายที่สูงใหญ่อยู่แล้วบัดนี้ขยายใหญ่กว่าเดิม เรือนร่างเปลือย
ท่อนบนแน่นมัดกล้ามมากกว่าเก่า

   ลาดไหล่กว้าง ตอบรับกับรูปกายกำยำ ยิ่งใบหน้าประดับคมเขี้ยวงอโง้ง ดวงตาสีมรกตเข้ม คิ้วขนงเป็นลวดลาย

   ราวกับวิญญาณออกจากร่างไปชั่วขณะ

   มือผอมสั่นขึ้นมาโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว วาลีถอยหลังไปครึ่งก้าว เสียงคำรามดังกึกก้องขึ้นอีกครั้ง แสงจันทร์สาดส่องเข้ามา
ผ่านบานกระจกทำให้เห็นภาพในมุมมืดได้ชัดยิ่งขึ้น

   ร่างกายผอมสั่นเทา ดวงตาสีโศกสั่นระริกกับสิ่งที่เห็น

   น่ากลัว…คงเป็นคำนิยามที่เหมาะสมที่สุด

   นัยน์ตาดุดันไร้ความมีชีวิตชีวาทำให้ความกลัวเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

   วาลีถอยหลังออกมา แต่สายตาก็ยังคงจดจ้องร่างสูงใหญ่ที่อยู่ภายในห้องผ่านรอยแง้มของประตู

   ความสะเพร่าทำที่มัวแต่มองภาพเบื้องหน้าจนไม่อาจละสายตาทำให้ถอยหลังไปชนตู้วางของที่อยู่ด้านหลัง


   ความตกใจทำให้มือไม่ทันระวังปัดไปโดนแจกันที่อยู่ด้านบนตู้ทรงเตี้ยตกลงมา

   ราวกับฟ้ากลั่นแกล้งเมื่อแจกันใบสวยประดับลวดลายกนกงดงามร่วงหล่นลงมาแตกกระจาย

   เสียงของมันดังกึกก้องทางเดินที่เงียบสงัด

   ร่างกายผอมสะดุ้งเฮือก ดวงตาสีเขียวเข้มตวัดมามองเขาภายในพริบตา

   วาลีถอยหลัง ดวงตาคมนิ่งสั่นระริก

   ร่างกายใหญ่เจ้าของนัยน์ตาดุราวกับสัตว์ร้ายหันมาทางเข้า

   ความกลัวสั่งให้ร่างกายวิ่งออกมาจากตรงนั้น

   มันไม่เหมือน…ไม่เหมือนวสินคนที่เขารู้จักเลยสักนิด

   คนคนนั้นราวกับเป็นสัตว์ไม่มีจิตใจ มีเพียงความกระหาย และดิบเถื่อนที่ซ่อนอยู่ในแววตา

   เขาวิ่งลงบันไดมายังชั้นล่างของตัวบ้าน

   สถานที่ที่คุ้นเคยเป็นสิ่งที่เขาคิดได้เพียงสิ่งเดียว นั่นคือห้องหนังสือ

   ร่างกายซีดกอดตัวเองอยู่ในมุมอับด้านในสุดของห้องหนังสือ   

   ชั้นวางหนังสือสูงท่วมหัวมากมายเป็นเกราะกำบังจากสายตาชั้นดีเพื่อที่จะซ่อนตัวเขาเอาไว้

   วาลีตัวสั่นราวกับลูกนกที่ตกลงมาจากต้นไม้ กลัวจนร้องไม่ออก แทบจะไม่มีแรงยืนหากว่าไม่ฝืนสั่งให้ร่างกายวิ่งออกมา
จากตรงนั้น

   ตึง!!

   เสียงประตูห้องหนังสือถูกกระแทกออกอย่างแรงทำให้วาลีสะดุ้ง

   ดวงตาสีโศกมองไปยังต้นเสียงด้วยแววตาหลุกหลิก เขามองลอดหนังสือออกมายังบริเวณกลางห้องที่มีแสงจันทร์ส่องผ่าน
เข้ามา

   ในมุมมืดที่มีเพียงเขา กับฝั่งตรงข้ามที่มียักษ์ร่างใหญ่ยืนอยู่กลางห้อง

   วาลีปิดปากพยายามไม่ส่งเสียงสะอื้นออกมา

   “ข้าได้กลิ่นเจ้า วาลี”

   เสียงทุ้มพร่าราวกับสัตว์กำลังกระหายก้องไปทั่ว

   ร่างนั้นเดินไปมาราวกับราชสีห์กำลังล่าเหยื่อ

   ริมฝีปากหยักแสยะยิ้มน่าสะพรึง

   

   “ก่อนที่ข้าจะโมโหไปมากกว่านี้”เพียงกระพริบตาเท่านั้น “ออกมาจากที่ซ่อนซะ เจ้ามนุษย์”เสียงนั้นก็กระซิบขึ้นข้างหู

   ร่างกายถูกกระชากด้วยน้ำมือของยักษ์ดุร้ายแล้วตรึงลงบนพื้นเย็นเฉียบ

   วาลีจ้องมองใบหน้าที่อยู่เหนือกว่าด้วยความหวาดกลัว

   เพียงแค่มือเดียว ราวกับโซ่เส้นใหญ่พันธนาการเอาไว้

   “คุณ บ้าไปแล้วรึไง”เอ่ยถามเสียงสั่น

   ดวงตายังคงสั่นระริกด้วยความกลัว ร่างกายถูกคร่อมทับจนหนีไปไหนไม่รอด

   มือทั้งสองข้างถูกจับรวบเอาไว้ ถูกริบรอนอิสรภาพโดยสิ้นเชิง

   

   “ข้าเฝ้ามองเจ้าอยู่  เจ้ากำลังคิดจะหนีข้า!!”น้ำเสียงนั้นตวาดก้อง

   “อะ อะไรกัน ผมไม่ได้หนี”วาลีส่ายหน้า

   ดวงตาดุดันที่มองมานั้นทำให้รู้สึกราวกับถูกกัดกินวิญญาณอยู่ก็มิปาน

   “เจ้ามันเจ้าเล่ห์ คิดรึว่าเจ้ายักษ์เยาว์วัยนั่นจะช่วยเจ้าได้”

   “ผมว่าคุณ…อะ”


   ไม่ทันได้พูดจบ ริมฝีปากก็ถูกฉกฉวยลงมาอีกครั้ง

   อีกครั้งแล้วที่ถูกจู่โจมจูบโดยที่ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรผิด ร่างกายเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง พยายามดิ้นเท่าไรก็ไม่หลุดพ้น

   วาลีกัดฟันลงบนริมฝีปากของยักษ์ร้าย

   เขาอาศัยช่วงจังหวะนั้นรวบรวมเรี่ยวแรงที่มีผลักอีกฝ่ายออก

   มันทะลักทุเลเมื่อแรงของอีกฝ่ายมีมากโข ขาถูกดึงเอาไว้จนล้มคว่ำคลานอยู่กับพื้น

   “อย่าคิดหนีข้า!!”

   เสียงนั้นประกาศก้อง

   แรงมหาศาลของมือกร้านจับที่ข้อเท้าของเขาแล้วลากเข้าไปหา

   มันง่ายมากที่ร่างกายผอมอย่างเขาจะถูกดึงกลับไปอีกครั้งให้ตกอยู่ภายใต้อาณัติของวสิน

   ริมฝีปากกลิ่นคามเลือดจาบจ้วงลงมาอีกครั้ง

   คราวนี้มันช่างรุนแรงและดิบเถื่อนมากกว่าเก่า ดวงตาดุดันจ้องมองมาที่เขาเขม็ง ต่างจกเขาที่ดวงตากำลังสั่นระริกอย่าง
หวาดกลัว

   ลิ้นคาวเลือดแทรกแซงเข้ามาในโพลงปาก กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งจนนึกเอียน

   เสื้อผ้าถูกฉีกกระชากออกอย่างไม่ใยดีทำเอาตัวผวาไปตามแรงดึง

   ภายในมุมมืดที่คิดว่าลับสายตา ชั้นหนังสือมากมายเป็นตัวขวางกั้นบริเวณรอบกายเอาไว้

   วาลีสะดุ้งเมื่อยักษ์ใจร้ายถอนริมฝีปากออก

   เขาหอบหายใจเอากากาศเข้าปอดแทบจะทันที ทว่าก็ต้องสะดุ้งจนสุดตัว คมเขี้ยวของวสินขบลงบนซอกคอ กัดลงบนผิว
เนื้ออย่างรุนแรง

   เจ็บจนสะอื้นออกมาแต่กลับไม่มีน้ำตา มือทั้งสองถูกตรึงให้แนบลงบนพื้นเย็นเฉียบด้วยแรงที่มองไม่เห็น

   กางเกงนอนขายาวถูกดึงทึ้งออกไปอย่างไม่ใยดี

   “หยุดนะ ได้โปรด”เอ่ยเสียงสั่นระริก

   แต่เหมือนกับว่าเสียงนั้นส่งไปไม่ถึง ร่างกายบัดนี้กลับเปลือยเปล่าอวดผิวเนื้อสีซีดปรากฏสู่ดวงตาสีมรกต

   ความกระหายในสันดานดิบเพิ่มขึ้นทวีคูณเมื่อได้เห็นสิ่งที่ปรากฏ

   หลายร้อยปีกับการถือศีลเพื่อหลีกเลี่ยงความป่าเถื่อนในสันดานจบสิ้นลงกับคนที่อยู่เบื้องหน้า

   ฟันคมกัดลงบนผิวกายจนเลือดสีแดงซีดไหลซึมออกมา

   “เจ็บ หยุด”

   วาลีร้องขอ ส่ายหน้าไม่หยุด

   ความหวาดกลัวกำลังกดกินเข้าไปถึงส่วนลึกของจิตใจ

   “เจ้าเป็นของข้า…วาลี”

   เสียงนั้นคำรามกึกก้องอยู่ภายในหู

   ท่อนเนื้อร้อนผ่าวราวกับเหล็กลนไฟจ่ออยู่ที่รอยพับจีบของดอกไม้ตูม

   มันดันลึกเข้าไปทันทีเมื่อยับยั้งชั่งใจเอาไว้ไม่อยู่ ราวกับดอกไม้สีสวยกำลังร่ำไห้เป็นสายเลือด

   ของเหลวสีแดงซีดไหลย้อนลงมาตามเรียวขานั้นไม่หยุด

   ความกระหายของยักษ์ร้ายที่ควบคุมสัญชาติญาณตัวเองเอาไว้ไมอยู่กระทั้นกายเข้าไปจนสุด

   ร่างกายผอมสั่นระริก ความเจ็บแปรบแทรกลึกเข้ามาทำเอาต้องขบฟันลงกับริมฝีปากจนเลือดซิบ

   “ได้โปรด หยุดที”

   เสียงเว้าวอนไม่ได้ช่วยอะไร มันยังคงส่งไปไม่ถึง วสินบีบเคล้นบั้นเอวเอาไว้แน่น สอดกายลงไปจนสุดเต็มแรง

   ครั้งแล้วครั้งเล่าที่โถมกายยัดเยียดความกระสันลงไปในช่องทางนั่น

   “อะ ฮึก หยุด ขอร้อง”วาลีส่ายหน้า

   ทั้งที่สะอื้นแต่กลับไร้น้ำตา

   เสียงคำรามดังกึกก้องด้วยความพอใจ ต่างจากเสียงร่ำร้องวอนขออย่างทรมานของวาลี

   ร่างกายสั่นไหวไปตามแรกกระทั้น สมองเริ่มพร่าเบลอ

   สุดท้ายก็ปิดตาลงเพื่อที่จะไม่ต้องมองเห็นภาพเบื้องหน้า

   ความเจ็บปวดถึงแม้จะกลับกลายเป็นหฤหรรษ์โดยที่ไม่รู้ตัว

   ทว่าจิตใจมันกลับต่อต้านและไม่ต้องการ….ไม่ต้องการเลยแม้สัดนิด

   มันอาจจะเป็นเพราะผลกรรมจากสิ่งที่เขาทำเอาไว้ก็ได้

   สิ่งที่เคยทำเอาไว้ ทำให้เขาต้องมาเจอกับโชคชะตาอันน่ากลัวเช่นนี้….



   
   
   
จะเช้าแล้ว ขอนอนก่อนนะคะ เดี๋ยวมาต่อถ้าตื่นแล้ว 11 หน้าแล้วนะ ไม่รู้ยาวยัง :mew1:
   
   

ออฟไลน์ meanmena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ตื่นหรือยังค่ะ....สาวน้อยเฝ้ารออยู่ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
อ่านมาถึงตอนนี้รู้สึกสงสารทุกคู่ :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
โธ่น้องวาลี.....เตือนแล้วไม่ฟัง.......จะสงสารดีไหมเนี่ย..... :hao4:

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
5.2


   เสียงนกร้องบวกกับแสงแดดอ่อนๆส่องผ่านเข้ามาทางบานกระจก ในมุมมืดร่างกายผอมซีดกับลังถูกกระทำอย่าป่าเถื่อน
อย่างไม่มีวันรู้เวลาสิ้นสุดของบทลงโทษนี้ว่าจบลงเมื่อไร

   ร่างโรยแรงไหวสั่นไปตามแรงส่ง แขนทั้งสองข้างอ่อนล้าลู่ลงข้างกาย ดวงตาสีโศกหรี่มองใบหน้าของยักษ์ร้าย จ้องมอง
คมเขี้ยวที่น่ากลัวนั้นราวกับตอกย้ำความกลัวเข้าในในจิตใจ

   “ฮะ ฮึก”

   เช้าแล้ว แต่ร่ากายก็ยังไม่เป็นอิสระ น้ำกามมากมายถูกปลดเปลื้องออกมาจนแทบไม่หลงเหลือสิ่งใดให้ช่วงชิง

   “ยะ หยุด”เอ่ยร้องขอด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

   วสินแสยะยิ้มหยัดกายเข้าไปสุดแรงจนร่างนั้นผวาเกร็ง น้ำอุ่นร้อนสาดเข้าไปในช่องท้องของวาลีอีกครั้งจนมันล้นออกมา
จากช่องทางสีกุหลาบเกรอะเลือด

   กายใหญ่โตถูกถอดถอนออกไป วาลีกระตุกเบาๆ พยายามยันตัวขึ้นมาด้วยแรงที่แทบไม่เหลือ


   อาหารมื้อเย็นวานที่ไม่ตกถึงท้องบวกกับการกระทำดิบเถื่อนโหดร้ายช่วงชิงเรี่ยวแรงจนแทบไม่เหลือ

   ร่างโปร่งผอมพลิกกาย พยายามกระเสือกกระสนพาร่างตัวเองให้ออกห่างจากยักษ์ตรงหน้า

   วาลีคลานเข่าด้วยแรงเพียงน้อยนิด ราวกับเหยื่อกำลังจะหมดลมหายไปกระเสือกกระสนหาหนทางรอดจากกรงเล็บราชสีห์

   วสินจ้องมองร่างกายสั่นเทาพยายามคลานหนีห่างออกไปด้วยความเพลิดเพลิน รอยยิ้มชั่วร้ายจุดอยู่บนมุมปาก คล้ายกับ
สิ่งที่เห็นเป็นสิ่งน่ารื่นรมย์

   

   เขาหยัดกายขึ้นลุก เดินตามร่างนั้นที่ตะเกียดตะกายขึ้นยืนด้วยขาอ่อนแรง

   ร่างเปลือยเปล่าของเหยื่อรสโอชะปลุกให้ความกำหนัดลุกโชนขึ้นมาอีกหน

   เขาหยุดยืนอยู่ด้านข้าง กระชากเอาแขนผอมบางดึงให้วาลียืนขึ้นมา

   “อย่า ผม ขอ ร้อง”

   วาลีอ้อนวอนเสียงแหบพร่า พยายามยื้อกายหนี แต่ก็ถูกจับให้หันหน้าเข้ากับชั้นหนังสือ

   ร่างกายมันไร้สิ้นแรงจนต้องเกาะชั้นหนังสือเอาไว้เพื่อพยุงตัว

   “อะ อื้อ ปล่อย”

   ดอกกุหลาบสีช้ำถูกล่วงเข้ามาอีกครั้งจนสุดทาง วาลีสะดุ้งตะกายเกาะชั้นวางหนังสือแน่น

   ขาทั้งสองข้างอ่อนแรงแต่ก็ถูกบังคับให้ยืนด้วยอ้อมแขนแข็งแรง

   ร้อนผ่าวราวกับถูกเผาไหม้เป็นจุล กายใหญ่โตนั้นกระทั้นเข้ามาจนสุด ของเหลวขุ่นข้นไหลทะลักออกมาไล่ลงไปตามเรียว
ขาขาวซีด

   “หยุด นะ อะ ได้โปรด”

   ทั้งที่ร้องขอ ในมุมมืดแห่งนี้ยักษาร่างใหญ่ก็ยังคงส่งความกระสันเข้ามาไม่หยุดยั้ง

   เสียงร้องแหบจนแทบจะขาดใจไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น กลับปลุกกระต้นคามกำหนัดให้ทวี

   หนังสือหลายเล่มถูกมือผอมปัดป่ายจนร่วงหล่น

   ถึงแม้ว่าจะล่วงเลยผ่านเข้ามาวันใหม่ แต่ไม่มีทีท่าว่าความดิบเถื่อนอันแสนโหดร้ายที่จะจบลงสักที

   เป็นบทลงโทษที่แสนโหดร้าย จนความตายอาจจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า

   วาลีสะอื้นให้กับชะตากรรมของตน ทว่าน้ำตาที่น่าจะร่วงรินออกมานั้นกลับไม่มี

   

   

==========================================================




   แสงจันทร์สีนวลสาดส่องลงมาบนผืนน้ำ ร่างกายบอบบางครึ่งคนครึ่งปลาแหวกว่ายไปมาในผืนสมุทรริมหาดเงียบสงบ

   เป็นชายหาดส่วนตัวของบ้านยักษ์สมุทรที่ทำให้ชลาสินธุ์สามารถแหวกว่ายไปมาอย่างสบายใจท่ามกลางคืนพระจันทร์เต็ม
ดวงเช่นนี้

   “พี่วรรณ ทะ ท่านจะไม่ลงมารึ”เงือกหนุ่มถามเสียงพร่า ใบหน้าแดงก่ำสะท้อนกับแสงจันทร์สีนวล

   “อยากให้ฉันลงไปไหมล่ะ”ศรีสุวรรณยิ้มอ่อนขณะนั่งอยู่บนโขดหิน

   โชคดีที่วันนี้เอาลูกไปฝากไว้กับพ่อแม่ จึงได้มีเวลาพาคนรักออกมาเปิดหูเปิดตา

   “ยะ อยากสิ ท่านก็รู้ ว่าข้า เอ่อ ข้า”เงือกหนุ่มหลุบตา ก้มมองผืนน้ำ

   หางปกคลุมด้วยเกร็ดสีท้องทะเลลึกตวัดไปมาสั่นเล็กๆเมื่อมือใหญ่ร้อนทาบลงมาลูบเบาเบา

   ศรีสุวรรณยกยิ้มหย่อนกายลงมาจากจากโหดหินสูงแค่ช่วงเอว ไปในช่วงน้ำตื้น

   มือใหญ่ลูบลงบนใบหน้าของคนรักอย่างเบามือแล้วจูบลงบนขมับ

   ชลาสินธุ์สั่นสะท้านเบาเบาเมื่อความกำหนัดนั้นทวีเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อถูกมือนั้นต้องกาย

   กายบอบบางถูกอ้อมแขนร้อนผ่าวกอดเข้าหา เงือกหนุ่มช้อนดวงตาสีฟ้าเข้มจ้องมองศรีสุวรรณด้วยความเขินอาย

   ศรีสุวรรณอุ้มร่างของชลาสินธุ์นั่งลงบนโขดหินเหนือผิวน้ำ

   เรียวหางสีสวยค่อยๆกลายเป็นเรียวขายาวเรียวสีขาวราวไข่มุก

   เรือนกายบุรุษเพศชูชันสั่นระริกอวดรับสายตาของชายหนุ่ม

   มือบางยกขึ้นวางบนลาดไหล่เปลือยกำยำโอบเข้าหา

   ตอบรับแก่นกายร้อนผ่าวจ่อเข้ามาที่ส่วนบริสุทธิ์เบื้องล่าง

   เสียงครางแผ่วดังกังวานแข่งกับเสียงคลื่นของท้องสมุทร

   ศรีสุวรรณขยับกายอย่างแผ่วเบา กอดรัดร่างของเงือกหนุ่มเอาไว้ในอ้อมอก

   แสงสลัวของดวงจันทร์ส่องลงมาบนกลุ่มโขดหินราวกับเป็นใจ คลื่นทะเลสาดสัด กระเพื่อมไปมายามที่กายกำยำกระแทก
ลงอย่างหนักหน่วง

   “อื้อ พะ พี่วรรณ ข้าสุขใจ ยิ่งนัก”

   เงือกหนุ่มร้องบอกเสียงพร่า เรียวขาตวัดกอดรัดบั้นเอวสอบแน่น

   “ฉันรักนาย ชลาสินธุ์”

   “ข้า ก็ อึก รักท่าน”

   ชลาสินธุ์ตอบรับ

   กายทั้งสองสอดประสานเข้าหากันราวกับเป็นสิ่งที่ถูกสร้างมาเพื่อกันและกันอย่างลงตัว

   ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์สลัว

   ดวงตาสีน้ำเงินเข้มจ้องมองมาโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัว เกร็ดสีน้ำเงินเข้มดูดุดันตวัดรับกับสายน้ำก่อนจะกลืนหายไปกับท้อง
ทะเลในพริบตา

   

====================================================



   หากจะถามผมว่ารอดมาจากเงื้อมือของยักษ์หื่นกามอย่างพี่ธาราคนปัจจุบันได้ยังไง

   ก็คงไม่พ้นว่าแอบหนีออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะรู้ตัว

   ผมแอบกลับบ้านมาก่อน เพราะทำใจไม่ได้ที่จะยอมให้คนที่เหมือนจะเป็นพี่ธาราแต่ก็เหมือนกับไม่ใช่ได้ทำการสืบพันธุ์อีก
หน

   เรื่องของเรื่องไม่อยากอุ้มท้องอีกรอบต่างหาก

   ผมบิดกายไปมาอย่างขี้เกียจเมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านเข้ามาในห้อง

   “แม่มณี แม่มณี ไปเล่นกัน วันนี้มีนามาที่บ้านคุณตาฮับ”สินสมุทรวิ่งตึงตังเข้ามาในห้องแล้วเขย่าแขน

   “โอเค แต่ต้องอาบน้ำกันก่อนนะตกลงไหม”ผมขยี้ตามองดูเจ้าสองแฝดกระโดดโลดเต้นไปมา

   ก่อนหน้านั้นไม่กี่เดือนพี่ศรีสุวรรณได้ย้ายออกไปอยู่บ้านริมทะเลกับชลาสินธุ์และก็มีนาซึ่งอยู่ไม่ไกลสักเท่าไร ทำเอาสอง
ตัวแสบเหงาเพราะไม่มีใครให้แกล้ง

   ครั้นจะแกล้งกันเองคงไม่ใช่เรื่อง คงกระดากใจที่หน้าตาเหมือนกันทำให้รู้สึกเหมือนกับแกล้งตัวเองล่ะมั้ง

   “แม่มณี เอาขนมไปเยอะๆนะ เอาไปฝากมีนา”สุดธารายิ้มแก้มปริหอบขนมเต็มอ้อมแขน

   “โอเค ต้องอาบน้ำ แปลงฟันแล้วก็แต่งตัวหล่อๆก่อน”

   “เย้/เย้”เจ้าสองแสบกระโดดไปมาวิ่งเข้าห้องน้ำนำไปก่อน

   ถามว่าทำไมถึงแทบหนีมา อันที่จริงก็กลัวพี่ธาราหายไปอีกครั้ง แต่ผมเชื่อว่าเขาจะรักษาสัญญา

   ว่าเขาจะกลับมากับผมเมื่อถึงวันและเวลาที่เราตกลงกันเอาไว้

   ผมหยิบกระดาษที่อยู่ในลิ้นชักขึ้นมาดูอีกครั้ง ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของพี่ที่ไปของมาจากพี่เคธี่

   คราวนี้ไม่ว่าจะยังไงพี่ธาราก็ต้องกลับมากับผมจนได้





   พออาบน้ำเสร็จ เจ้าสองแสบก็จัดการหยิบกระเป๋าเป้ประจำตัวยัดขนมมากมายใส่กระเป๋าเพื่อไปฝากมีนาตามเคย

   “อย่าวิ่งลงบันได แม่บอกแล้วไม่ใช่เหรอ”

   ทุกครั้งต้องบอกตลอด ไม่รู้ว่าดื้อซนได้ใครมา

   

   ผมเดินตามลงมายันชั้นล่าง แต่ก็ต้องสะดุดตาเมื่อเจอกับสินสมุทรกับสุดธารายืนแยกเขี้ยวกลายเป็นยักษ์ตัวเล็กขู่ฟ่อๆใส่
เด็กตัวเล็กผิวขาวที่หลับอยู่ในอกของคุณหมอ

   “ไปเอาเด็กที่ไหนมาล่ะครับ”ผมถามออกไป

   พยายามดึงเอาสินสมุทรกับสุดธาราทำท่าทางจะกระโจนเข้าไปหาเด็กผิวขาวจัดในอ้อมกอดคุณหมอทศให้ได้

   “ลูกของฉันเอง”

   คุณหมอทศยิ้มมุมปาก มันทำให้ผมกระพริบตาปริบๆ

   เมื่อครู่เขาบอกว่าอะไรนะ ลูก ลูกที่ว่านี่คือลูกเหมือนกับสินและสุดของผมใช่ไหม

   “คุ คุณหมอไปท้องกับใครมาเหรอครับ”

   “ฉันไม่ได้ท้อง นายนี่สมองไม่โตขึ้นเลยรึไง”

   “แล้ว แม่ของเด็กล่ะครับ เป็นใครกัน”

   “อีกเดี๋ยวก็คงมา แล้วจะไปไหนกันล่ะ”

   “ไปบ้านพ่อกับแม่น่ะครับ”

   ผมตอบพลางจ้องมองใบหน้าของเด็กในอ้อมแขนของคุณหมอทศ

   ยังตัวเล็กและผิวใสมาก ท่าทางจะเด็กว่าลูกผมซะด้วยซ้ำ

   ใบหน้าที่ดูไม่ออกว่าเป็นเด็กผู้หญิงหรือผู้ชายกำลังหลับตาสนิทมีเพียงแผงขนตายาวเรียงเป็นแพเท่านั้นที่เห็นตอนนี้

   หน้าตาจิ้มลิ้มเหมือนเคยเห็นที่ไหนแต่ก็นึกไม่ออก

   “งั้นผมไปก่อนนะครับ”

   “อืม อย่าลืมเจ้านั่นล่ะ”

   “ครับ คงจะกลับไปอีกครั้งเย็นนี้”

   จะให้มัวไปตามพี่ธาราอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องกลับมาหาเจ้าสองแสบที่แสนจะซนจนพ่อกับแม่ส่ายหัวกันไปตามๆกัน

   โชคดีที่วันธะรมดาเด็กๆที่มาเรียนนาฏศิลป์ไปโรงเรียนผมจึงมีเวลาไปตามพี่ธารา แต่ถ้าเสาอาทิตย์คงจะต้องกลับมาเพื่อ
ทำงานเหมือนเดิม

   “แม่มณี เด็กคนนั้นทำไมขาวจัง”สินสมุทรถามเหลียวหลังไปมองเด็กคนนั้นอีกรอบ

   “ทำไมเด็กคนนั้นเป็นเหมือนคุณอาทศกับพวกเราล่ะฮับ”

   “เขาเป็นลูกของคุณอาทศครับ”ผมตอบไป

   ถึงแม้ว่ายังติดใจว่าแม่ของเด็กเป็นใครก็ตาม ทำไมหน้าตาถึงได้เหมือนใครที่ผมคุ้นๆหน้า

   ผมขับรถของพี่ธาราออกมา อันที่จริงก็คิดถึงน้องไซที่เคยขี่สมัยวัยรุ่น แต่ก็เป็นห่วงความปลอดภัยของเด็กๆจึงต้องเอารถ
ของพี่ธารามาขับแทน

   “น่ากินจัง”สินสมุทรพึมพำ

   “อื้อ น่ากิน”สุดธาราพยักหน้าเออออ

   “น่ากินอะไรครับ”

   “ก็คนนั้นไงฮับ ที่คุณอาทศอุ้ม”

   “ใช่ คนนั้นแหละ หิวเลย”

   เจ้าสองแสบหันมายิ้มแป้น หัวเราะกันเอ๊กอ๊าก

   อย่าบอกนะว่าจะกินลูกยักษ์ด้วยกัน พอเห็นดวงตาเจ้าเล่ห์ที่เหมือนกับพี่ธาราเป็นประกาย

   รู้สึกได้ทันทีเลยว่าขนลุก

   จะเลี้ยงลูกยังไงดี ไม่ให้ไปกินลูกคนอื่นเข้าสักวัน

   ทำไมชีวิตมันถึงได้น่าปวดหัวขนาดนี้



============================================================



   ความเมื่อล้าทำให้ต้องบิดกายกระพริบตาปรับเข้ากับแสงอาทิตย์ที่สาดเข้ามาในห้อง

   ของเหลวที่ไหลย้อนออกมาจากเบื้องหลังทำให้ดวงตาคมเบิกโผล่งออกมา

   คิดว่าความฝันเมื่อคืนเป็นเพียงแค่ฝันร้าย แต่มันแย่กว่านั้นเมื่อฝันนั้นคือความจริง


   อเลนหันไปมองบนเตียงด้านข้าง ทว่ากลับไม่มีคนที่มองหา

   “อลัน อลัน”

   อเลนส่งเสียงเรียก

   ทว่ากลับเงียบกริบมีเพียงเสียงเครื่องปรบอากาศครางหึ่ง

   ขาอ่อนแรงลุกขึ้นจากเตียงเดินไปจนทั่วห้องห้องโรงแรม เปิดประตูระเบียงและประตูห้องน้ำออก

   หัวใจของคนเป็นแม่กระตุกวูบ

   หยิบกระดาษแผ่นเล็กวางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมาอ่าน

   

   ‘อยากได้ลูกคืนก็ตามมา’

   กระดาษบรรจุข้อความสั้นๆกรุ่นกลิ่นควันถูกขยี้ลงอย่างเจ็บใจ


   ต่อให้ทำยังไงทศกัณฐ์ก็มาเอาอลันไปจนได้

   อเลนขบฟันลงบนริมฝีปากจนเป็นร้อยช้ำ

   ไม่อยากจะไปเลย…บ้านหลังนั้น

   บ้านที่เคยถูกทศกัณฐ์จับขังเอาไว้



=============================================================



   

   นั่งจิ้มนิ้วถามตัวเอง เฮ้ย โซอึน เมื่อไรพี่ธาราจะเจอกับลูกสินลูกสุดฟระ เออหวะ นี่เรากำลังทำให้คนอื่นแย่งซีนพี่ธาราไป
เสียแล้ว 555 เฮ้ย แต่ว่าตัวโกงมันจะโผล่มาอีกแระ เห็นไหม ไปแอบดูพี่วรรณซั่มกับชลาสินธุ์อะ ท่ามมองจริงๆ ว่าแต่ท่านอา ทำซะสงสารวาลี


>>มีคำถามง่ายๆมาให้ตอบกันนะ<<
ถ้าหากโดนวางยาในเครื่องดื่ม จะเลือกเครื่องดื่มแบบไหนกันดี
เลือกเลย เดี๋ยวจะส่งเจ้าตัวไปนอนข้างๆคืนนี้
1 เหล้าแรงๆ = พี่ธารานิวเวอร์ชั่น
2 น้ำส้มหวานอมเปรี้ยว = อเลน
3 กาแฟขมเข้ม = วาลี
4 นมเย็นหวานๆ = มาลี
หรือจะเอานมผงชง = เด็กๆ 55
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-02-2016 19:00:20 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
หื่นเกินนน  หื่นไปป  ไปเคลียด์กันเถอะะะะะะะะ

ปล.ไม่มีตัวเลือกหมอทศหน่อยเหรอ??

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ตอบคำถาม เลือกเหล้าแรงๆ ใสๆ  :o8:

ออฟไลน์ meanmena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เช้าแล้วนะ ท่านอา เอออ...

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ขอตอบข้อสองน้า ชอบน้ำส้มเปรียวๆ ฮี่ๆๆ

ตอนนี้สนุกทุกคู่เลยอ่า.....

ว่าแต่เด็กแฝดนี่อะไรอยู่ดีๆก็อยากกินอลัน?! o22

ออฟไลน์ Loofey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คือดีงามตอนนี้ 555 :katai2-1:

กาแฟขมเข้มๆๆ :katai5:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ความกลุ้มใจของมณี เลี้ยงลูกยังงัยไม่ให้ไปกินลูกคนอื่น555555 คุณวสินก็จัดหนักไป สงสารวาลีเลย รับศึกหนักมากคุณอาเก็บกดมานาน
เลือกเหล้าแรงๆ โดยไม่คิดอะไร ใสๆ ค่ะ :laugh:

ออฟไลน์ เซยูเนียส

  • เป็ดขึ้นคาน
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
เหล้าแรง!!

วาลีจะท้องไหมนั้น ถ้าท้องนิ ไม่อยากจะคิด ลุกกี่คนวะนั่น ท่านอาพอตบะแตกปุ๊บนี้ ตะกละเชียว -..-

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด