~ ด้วยรักจากสวรรค์ ~ by DD
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ~ ด้วยรักจากสวรรค์ ~ by DD  (อ่าน 320670 ครั้ง)

ja ne

  • บุคคลทั่วไป
สงสารจิน เฮ้อ ไม่รู้จะทำอย่างไงดี
กลับบ้านก้อไม่มีใครรู้จัก อะไรมันจะอ้างว้างอย่างงี้

เศร้า :o12:

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: จินจ๋า สู้ตาย ตายแล้วก็ตายอีก :เศร้า1:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ

Taurus

  • บุคคลทั่วไป

sky-cafe

  • บุคคลทั่วไป
กลั้นน้ำตา จนเจ็บคอ

 :sad2:

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
โถ...จิน :o12:

คุณหญิงแม่ใจร้ายเนอะ

แต่วิกกี้ก้อน่ารักอ่ะ

Tsukasa999

  • บุคคลทั่วไป
 :o12:....แง๊๊ีๆๆๆๆๆ

ไม่ไหวแล้ว เศร้าได้ใจมาก ขอร้องไห้ซักทีเหอะ ขอร้องว่ามาต่อไวๆนะคะ อกจะแตกตายอยู่แล้ว ฮืออออ



แต่งเก่งมากค่ะ อินจะแย่อยู่แล้ว จะรอตอนต่อไปนะคะ o13

crazykung

  • บุคคลทั่วไป
คุณหญิงแม่ใจร้ายยสุดๆเลยอะ แทนที่จะขอบคุณ อุส่าให้ลูกชายตัวเอง รอดตายย นี่อาไร๊เนี้ยยย......


จินจาตายอีกไหมเนีย้


ต้องเปนปามานว่า พี่เหนือ โวยวาย กลับเป็นเหมือนเดิมแน่เลยอะ  แล้วหญิงแม่ก้อตามหาจิน


คุณเทวดานี่หน้าจับตีก้นนะเนี้ย  จาลบความจำนสะงั้น ชิส์ๆ


มาอัพ เรวๆน้าฮะ พวกเรารออยู่ คิคิ  :oni3:

KriT_SuN

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: ชอบจังเลยครับ "ถึงเขาจะลืมผม แต่ผมก็จะไม่ลืมเขา" สุดยอดดดดดดดดดดดดด

JoJo

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ย อ่านตอนนี้แล้วมันปวดใจ  :o12:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ SweetSerenade

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เศร้า

จินเศร้า คนอ่านก็เศร้า

 :sad2:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ทำไมมันเริ่มเศร้าละเนี่ย  :m15:

จะเป็นได้แค่คนที่ถูกลืม  :sad2:

ja ne

  • บุคคลทั่วไป
รีบไปหน่อย จำตอนผิด นึกว่าอัพตอนใหม่แย้ว อายจัง :o8:

three

  • บุคคลทั่วไป
รออยู่นะครับพี่ยาโย :L1:

KriT_SuN

  • บุคคลทั่วไป
 o7 คิดถึงเรื่องนี้จังเลยค้าบบบ

nartch

  • บุคคลทั่วไป
o12
อยากจะเหวี่ยงเทวดาให้ตกสวรรค์เจง ๆๆๆๆ  :m16:
งอนหญิงแม่ อิจฉาวิกกี้ สงสารจิน เป็นห่วงเหนือ
 :serius2:
ตอนหน้าถ้าพี่เหนือรู้... :a5:    จะตามมาเผาเล้าป่าวเนี่ย

ปล. รักก็ต้องบอกว่ารักช่ายม๊า...เชื่อเพื่อนนนน  :laugh:

ออฟไลน์ εїзป่วงน้อยεїз™

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1

three

  • บุคคลทั่วไป

yayoy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] ~ ด้วยรักจากสว&#
«ตอบ #229 เมื่อ14-07-2008 13:46:06 »

~ ด้วยรักจากสวรรค์ 18 – ที่ที่เคยยืน ~

=======================================

วันรุ่งขึ้น จินดนัยจัดแจงหิ้วกระเป๋าใบเล็กกับถุงใส่ของกระจุกกระจิกไปหาลุงโตเมื่อเห็นแกกลับมาในตอนบ่าย ยิ้มให้ชายวัยกลางคนที่ร้องคล้ายไม่อยากจะเชื่อ “นี่เอ็งอยู่มาตั้งเกือบปี มีสมบัติเท่านี้เองน่ะหรือ”

เขากอดกระเป๋ากระชับกับอกพลางตอบอย่างปกป้องตนเอง “มีของจำเป็นครบก็แล้วกัน”

ทีแรก ลุงโตตั้งใจจะขับรถจ่ายตลาดคันเล็กพาเขาออกตระเวนหาห้องพัก หากเขาค้านเสียงหลงโดยไม่สนใจแม้อีกฝ่ายจะยืนยันว่าคุณรตีคงไม่ว่าอะไรก็ตาม “ไม่ได้หรอก สมัยนี้น้ำมันแพง ค่าแรงถูก รัฐบาลชาติไหนๆ ก็ไม่มีทางแก้ ผมไม่ใช่ลูกจ้างเขาแล้วยิ่งไม่ควรเอาเปรียบ แถมตามโทรทัศน์ยังประกาศนโยบายประหยัดพลังงานกันปาวๆ ให้ใช้รถสาธารณะ ซ้อนสอง นั่งให้ครบสี่ ทางเดียวกันไปพร้อมกัน ช่วยลดแก๊สเรือนกระจก...”

ไม่รู้เพราะขี้เกียจฟังเขาพูดพล่ามเรื่องพิษเศรษฐกิจควบคู่ประเด็นโลกร้อนหรือเปล่าจึงยอมเออออช่วยเขาถือกระเป๋าและเล่าคร่าวๆ ให้ฟังยามอยู่บนรถเมล์ “ข้าจำได้ว่ามีหอพักอยู่เยอะแถวถนน... เพราะมันมีมหาลัยอยู่ใกล้ๆ ยังไงเดี๋ยวเราลองไปดูแถวนั้นกันก่อน”

ใครว่าหอพักหาง่าย โดยเฉพาะยามที่ไม่ใช่ช่วงปีการศึกษาใหม่ด้วยแล้ว หอพักที่ไหนๆ ก็เต็มตลอด เขาเริ่มขาลาก ปาดเหงื่อและถึงกับกลืนข้าวไม่ลงคอตอนนั่งพักกินข้าวกลางวันในร้านแถวๆ นั้น ยิ่งมองลุงโตก้มหน้าก้มตาตักข้าวใส่ปากไปพลาง เหลือบดูนาฬิกาข้อมือไปพลาง เขาก็ยิ่งใจเสีย

“เอ่อ ถ้าลุงต้องรีบกลับไปโรงพยาบาลก็กลับไปก่อนได้นะ ผมว่าผมน่าจะพอหาเองได้ ถ้าลงไปดูตามรอบนอกกว่านี้” สาเหตุอีกอย่างคือเขาเหนื่อย เหนื่อยจนแทบเป๋ลงข้างทางหลายรอบ ถึงแดดจะร้อนเปรี้ยงหากเหงื่อกลับออกจนตัวเย็นแต่ก็ไม่กล้าขอพักเพราะรู้ว่าลุงโตคงรีบอยู่ไม่น้อย “คงมีสักหอล่ะน่าที่ว่าง ลุงไปเฝ้าพี่เหนือเถอะ”

“ข้าจะปล่อยเอ็งเดินย่ำต๊อกหาคนเดียวได้ไง บ้าหรือเปล่า” ถึงปากจะดุแต่ท่าทางคนพูดก็ไม่ได้หงุดหงิดหรืออารมณ์เสีย นอกจากมองเจ้าเด็กที่นั่งคอตกเขี่ยข้าวไปมาไม่ยอมกินเสียที “แล้วเอ็งไม่ต้องห่วงคุณเหนือหรอก เพราะท่านรู้ว่าเอ็งออกจากโรงพยาบาลมาก่อนแล้ว แต่คุณรตียังไม่กล้าเล่าเรื่องให้เอ็งออก กลับบอกคุณเหนือว่าเอ็งกลัวผีบ้าง ไม่ชอบกลิ่นยาบ้างเลยหนีกลับไปอยู่บ้านแทน ฟังแล้วคุณเหนือเงียบกริบเลย หลังจากนั้นก็ไม่ยักหงุดหงิดหรือบ่นสักแอะตอนโดนตรวจ โดนฉีด ตอนกินยาจนคุณนายยังยิ้มร่า แต่ข้าว่าท่านคงไม่รู้หรืออย่างน้อยก็คงไม่คิดอย่างที่ข้าคิดหรอกว่าคุณเหนือคงอยากรีบหายดี จะได้รีบกลับมาหาเอ็ง...”

ข้าวที่กล้ำกลืนตักเข้าปากทำท่าจะไม่มีทางผ่านลำคอตีบตันไปได้ ต้องอาศัยดูดน้ำจนเกือบหมดแก้ว จินดนัยจึงสามารถพูดได้อีกครั้ง “ผมอิ่มแล้ว ถ้าลุงอิ่มแล้วก็รีบเรียกคนมาคิดตังค์เถอะ จะได้รีบหาต่อ”

พวกเขาเบนเข็มเปลี่ยนถนน เลี่ยงออกมายังบริเวณใกล้เคียงกันแทนและได้เจอหอพักที่ไม่เต็มอยู่หลายแห่ง คราวนี้ไม่ใช่เขาทำตัวเรื่องมาก หากกลายเป็นลุงโตที่ส่ายหน้ายามพิจารณาแต่ละที่ “ไม่ไหว มีแต่พวกโรงงานอยู่กัน ไม่ใช่ว่าข้าตั้งแง่อะไรนะ แต่เอ็งดูสิว่าหน้าตาแต่ละคนเถื่อนๆ ทั้งนั้น ขืนเอ็งอยู่คงโดนงัดห้องตั้งแต่วันแรกแน่”

จนมาถึงอาคารสี่ชั้นลึกเข้ามาในซอยที่สภาพสะอาดพอดูได้และเจ้าของห้องพักก็เป็นสตรีรุ่นป้าที่ค่อนข้างใจดียามจ้องเขาลอดแว่น “หาที่พักเหรอพ่อคุณ นี่ฉันมีห้องว่างชั้นสี่อยู่หลายห้อง จะดูก่อนไหม”

เขารีบพยักหน้ารับ เพราะหลายที่ที่ดูมา ไม่แม้แต่จะให้ดูห้องพักก่อน เขากับลุงโตจึงเดินขึ้นบันไดตามหลังเจ้าของห้องพักที่ขยับพวงกุญแจกรุ๋งกริ๋งไปด้วยตลอดทาง “พวกคนเช่าเขาไม่ค่อยเดินหาเข้ามาลึกถึงในนี้เท่าไหร่หรอก เขาว่ามันลึกเกินหรือไม่ก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะฉันชอบไล่ตะเพิดเวลาพวกเมาๆ กัน เคยแจ้งตำรวจมาลากคอไปก็มี วันต่อมามันกลับมาด่าฉัน ขู่จะเผาที่นี่มั่งล่ะ แต่เจ้าพวกนี้ส่วนใหญ่ดีแต่ปาก เอาเข้าจริงก็ไม่กล้าทั้งนั้น”

ห้องที่ถูกเปิดให้ดูมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ พื้นปูเสื่อน้ำมันสีเขียวเข้มเป็นจุดกระดำกระด่างหากดูสะอาดสะอ้าน ภายในห้องมีเตียง โต๊ะและตู้เสื้อผ้าพลาสติกครบ ส่วนห้องน้ำแม้จะมีขนาดค่อนข้างแคบแต่อย่างน้อยก็ไม่ได้มีคราบดำตามซอกตามมุม นอกจากคราบตะไคร่เขียวๆ ตามขอบกระเบื้องเล็กน้อย “ห้องด้านนี้จะดีกว่าอีกด้าน น้ำแรงกว่าแล้วก็รับลมมากกว่าเพราะด้านหลังติดที่โล่ง ตอนกลางคืนเปิดหน้าต่างนอนแล้วแทบไม่ต้องเปิดพัดลม แต่อย่าลืมปิดมุ้งลวดเชียวล่ะ ไม่งั้นยุงหามไปไม่รู้เรื่อง”

ป้าเจ้าของขยับตุ้บตั้บไปเปิดหน้าต่างออกกว้าง กระแสลมแรงที่พัดวูบเข้ามาในห้องนั้นเย็นสดชื่นอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งอาจเป็นเพราะมีหนองน้ำอยู่ด้านหลังติดกับที่โล่งด้านหลังนั่นเอง จินดนัยวางถุงลงบนเตียง ยิ้มหมดแรงให้อีกสองคนในห้อง

“เอาที่นี่ล่ะ” ลุงโตไม่ทักท้วงคำพูดเขา นอกจากมองรอบๆ อีกครั้งและหันไปตกลงเรื่องรายละเอียดกับเจ้าของหอ จนกระทั่งเสร็จสิ้นกระบวนการ เขาจึงเดินมาส่งลุงโตด้านหน้าและพยักหน้าหงึกรับฟังคำสั่งสอน

“...เออ เข้าใจไหม แล้วอย่าลืมเบอร์โทรข้าล่ะ เก็บไว้ให้ดีๆ อย่าทำหายนะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็รีบโทรมาบอกข้า เงินทองต้องเก็บให้มิดชิด จะไปไหนมาไหนก็ระวังตัวด้วย ค่ำมืดดึกดื่นอย่าออกมาเดินงุ่มง่ามคนเดียวเด็ดขาด เจอใครน่าสงสัยก็แจ้งตำรวจจับแม่มเลย เอ มีอะไรอีกวะ...”

“ผมโตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ ต้องคอยห่วงมากมายหรอก” หากก่อนที่ลุงโตจะจากไป อยู่ๆ แกกลับหันมาเอ่ยถามคล้ายไม่แน่ใจ “ไอ้หนู เอ็งจะยังไม่ไปไหนใช่ไหม”

“ไปไหน ลุงจะให้ผมไปไหนได้ล่ะ” เขาตอบขำๆ หากต้องหุบยิ้มยามโดนคาดคั้น “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่มันห่วงๆ เอ็งบอกไม่ถูก”

หลังจากยืนยันหนักแน่นและโบกมือลาจนร่างของชายวัยกลางคนหายไปจากสายตา จินดนัยก็กลับขึ้นห้องไปจัดการทำความสะอาดห้อง ล้างห้องน้ำโดยอาศัยความเอื้อเฟื้อของเจ้าของหอซึ่งให้ยืมไม้กวาด ผ้าขี้ริ้วและถังน้ำ เขาก้มหน้าก้มตาปัดกวาดเช็ดถูบ้านใหม่จนเสร็จแล้วค่อยอาบน้ำชำระคราบเหงื่อไคล เมื่อสบายเนื้อตัวดีแล้วจึงค่อยหันมาจัดการสัมภาระน้อยนิดของตนเรื่อยๆ

รอยยิ้มค่อยคลี่กระจ่างบนใบหน้ายามเขาหยิบไปโดนกรอบรูปตรงก้นกระเป๋า รีบเหลียวหาที่ตั้งและตัดสินใจวางตะแคงโชว์มุมสวยเด่นเป็นสง่าบนหัวเตียง

อืม เขาไม่อยากเรียกตัวเองว่าขโมยหรอกนะ แต่ไหนๆ ทิ้งไว้ที่เดิมก็คงทำประโยชน์อะไรให้เจ้าของเก่าไม่ได้ เลยขอยืมมาเป็นเพื่อนแค่นั้นเอง รอยยิ้มกว้างของชายหนุ่มกับมารดาในรูปยังสดใสเหมือนทุกคราวที่เขาเห็นแม้ว่าตอนนี้มันจะต้องมาอยู่ในห้องเช่าราคาย่อมเยาแทนคฤหาสน์หลังโตแล้วก็ตาม

“ยินดีต้อนรับสู่ห้องของผมครับ พี่เหนือ”

++++++++++

แม้จะแสดงท่าทางสบายดียามกลางวัน หากพอตกค่ำต้องอยู่ตามลำพังแล้วจินดนัยก็อดกลัวผีไม่ได้ ความเงียบแม้จะไม่สงัดหากก็ไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากเสียงแมลงและนานๆ ครั้งจะมีเสียงมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์แล่นผ่าน และนานยิ่งกว่าถึงจะมีเสียงคนเดินผ่านหน้าห้อง ถึงตอนนี้ต่อให้คิดว่าจะพักที่นี่ไม่นาน แต่เห็นทีพรุ่งนี้เขาคงต้องออกไปหาซื้อวิทยุสักเครื่องมาเปิดเสียงเป็นเพื่อนแก้เหงาเสียแล้ว

หลังจากพลิกนิตยสารที่เพิ่งซื้อมาพร้อมอาหารเย็นอ่านจนหมดเกลี้ยง เขาก็ตัดสินใจเข้านอนแม้ว่าจะเพิ่งเป็นเวลาหัวค่ำก็ตาม ทีแรกเขาตั้งใจจะเปิดไฟกลางห้องทิ้งไว้ แต่เมื่อนอนไปได้สักพักก็รู้สึกรำคาญแสงไฟสว่างจ้าที่มันแยงตาจนต้องลุกมาปิดและรีบกระโดดกลับขึ้นเตียง นอนฟังเสียงแมลงกลางคืนจนเคลิ้มหลับไป

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ เขาก็ต้องสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจเพราะเสียงทุบประตูโครมครามพร้อมเสียงผู้ชายตะโกนอ้อแอ้ “เปิดประตูเด๋ว...นี้! เปิดประตูสิวะ! อีนี่ กูบอกให้เปิด อย่าให้กูโมโหนะมึง!”

ผุดลุกมาหันรีหันขวางได้สักพัก คิดในใจว่าเป็นตายยังไงก็ไม่เปิด ขืนเปิดก็โง่สิวะ หากคนตรงหน้าประตูดูจะยิ่งหัวเสียหนักจึงเริ่มตะคอกพร้อมเตะประตูปัง “อย่าให้กูเข้าไปได้นะ มึงตายแน่อีแก่...”

“ไอ้หมาตัวไหนมันกล้าเรียกกูอีแก่!” เสียงที่สองดังแหวกความขวัญบินของเขาราวกับเสียงฮีโร่ ถึงจะไร้กระแสอ่อนหวานหากก็เป็นเสียงผู้หญิงที่แทบจะทำให้เขาดีใจจนน้ำตาแทบไหล “ไอ้ผัวเวร เมื่อไหร่จะเลิกทุบประตูผิดห้อง มันรบกวนชาวบ้านเขาไม่รู้หรือไง มันน่าให้โดนไม้หน้าสามสักผั๊วะจริงๆ”

จินดนัยอดย่องมาแง้มประตูดูหน้าผู้มีพระคุณไม่ได้ และทันเห็นหญิงสาวในชุดนอนตัวหลวมสีซีดคนหนึ่งกำลังลากหูเจ้าของเสียงโหดในทีแรกที่บัดนี้มีแต่เสียงร้องครางหงิงๆ หญิงสาวเองเหลือบมาเห็นเขาเช่นกันจึงรีบขอโทษขอโพย “โทษๆ ไอ้ผัวฉันมันก็แบบนี้ล่ะ อยู่มาสองปีแล้วแต่วันไหนไปแ-กเหล้ามา มันทุบประตูผิดห้องทุกที วันไหนรำคาญทนมันไม่ไหวก็แพ่นกบาลมันได้เลยนะ ไม่ถือกัน”

ปิดประตูถอนหายใจหลายเฮือก กว่าจะค่อยมุดหลบใต้ผ้าห่มผืนบาง นี่คือสิ่งที่เขาเลือกเอง ดังนั้นถ้าอยากจะโทษใครก็คงต้องโทษตัวเอง เล่นบทพระเอกขี่ม้าขาว จากมาท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดงแล้วถ้ากล้องยังคิดจะถ่ายต่อคงได้ภาพพระเอกกลับมานอนขดตัวตามลำพังบนเตียงเล็กๆ ใต้ผ้าห่มมีกลิ่นอับนิดๆ นอนหลับตาปี๋เพราะยังกลัวผีไม่หายแบบเขานี่ล่ะ

ร่างใต้ผ้าห่มนอนไม่กระดุกกระดิกหลายนาที กว่าจะค่อยๆ เอื้อมมือออกมาควานเปะปะแถวหัวเตียงจนเจอกรอบรูปที่ตั้งอยู่ แล้วจึงรีบคว้ามันซุกเข้าใต้ผ้าห่มตามเดิมท่ามกลางเสียงถอนหายใจปนเสียงสะอื้นเบาแสนเบาก่อนที่จะเสียงดังกล่าวจะค่อยลับหายไปกับเสียงแมลงเรไรร้องยามราตรี

++++++++++

วันต่อมา หลังจากอาบน้ำแต่งตัว หาข้าวเช้ากินแถวๆ ร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆ กันเสร็จ จินดนัยก็มุ่งหน้าไปยังที่หมายที่ตั้งใจ

เขามาหยุดลังเลอยู่หน้าตัวแทนบริษัทส่งออกอาหารแช่แข็งบริเวณใจกลางเมืองพักใหญ่ นึกไตร่ตรองหลายตลบก่อนจะเดินไปโทรศัพท์ที่ตู้ กดหมายเลขโทรศัพท์ที่ยังจดจำได้ดีและกรอกเสียงตื่นๆ ลงไปยามปลายสายรับ “ขอสายคุณจิดาภา แผนกบัญชีครับ”

ระหว่างรอโอนสาย จินดนัยก็ยืนใจเต้นตูมตามคับอก มือเย็นเฉียบและแทบจะหยุดหายใจยามมีคนพูด “ฮัลโหล”

หากนั่นไม่ใช่เสียงที่เขาอยากได้ยิน “เอ้อ รบกวนขอสายคุณจิดาภาครับ”

“คุณจิดาภาน่ะเหรอ เอ ขอโทษที ไม่ทราบว่านั่นใครโทรมาคะ” อีกฝ่ายย้อนถามเสียงกังวล เขาจีงรีบกล่าวสิ่งที่เตี๊ยมไว้ล่วงหน้ามาก่อนอย่างคล่องแคล่ว “ผมเป็นเพื่อนของลูกชายคุณจิดาภาครับ พอดีว่าผมเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกเลยเพิ่งทราบข่าวเรื่องอุบัติเหตุ ผมมีของของต้นที่อยากคืนให้คุณแม่น่ะครับ ไม่ทราบว่า...”

“อย่างนี้นี่เอง” ปลายสายค่อยคลายใจและอธิบายให้ฟัง “คุณเลยไม่ทราบว่าคุณจิดาภาลาออกไปตั้งนานแล้ว ก็หลังจากเกิดเรื่องกับลูกชายเขานั่นล่ะค่ะ คุณจิดาภาเธอเสียใจมากจนทุกคนกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรตามลูกชายไปอีกคน น่าสงสารเธอมากเลยค่ะ ลูกชายคนเดียวแท้ๆ รู้สึกว่าจะเป็นเด็กดีเรียนเก่งเสียด้วย น่าเสียดาย”

เขากัดปากแน่นจนได้ลิ้มรสเลือดปะแล่มๆ และเงียบจนกระทั่งปลายสายเริ่มระลึกได้ จึงรีบกระแอม “เอ่อ ดิฉันไม่น่าพูดแบบนั้นเลยสินะ เพราะเขาก็เป็นเพื่อนคุณเหมือนกัน เอาเป็นว่า ถ้าอยากติดต่อคุณจิดาภาจริงๆ ดิฉันได้ข่าวว่าตอนนี้เธอ...”

นิ่งฟังข้อมูลที่ได้รับจนจบแล้วแทบจะลืมขอบคุณยามวางสาย ยืนงงงวยสักพัก เขาจึงเดินขึ้นรถเมล์เพื่อไปยังสถานที่ที่คุ้นเคยอีกแห่งหนึ่งทันที

แม้จะมีความเปลี่ยนแปลงบนถนนเส้นเก่าเส้นนี้ หากบรรยากาศโดยรวมยังคงอบอวลด้วยความรู้สึกแบบเดิมๆ เขามองตึกแถวเป็นแนวที่เปิดเป็นร้านขายของสารพัด คิดถึงกระทั่งสะพานข้ามคลองเล็กๆ ซึ่งแทบจะถูกกลืนหายไปกับความเจริญรอบด้าน จนกะว่าใกล้ถึงจุดหมายปลายทาง เขาจึงรีบกดกริ่งลงก่อนถึงประมาณหนึ่งถึงสองป้ายรถเมล์ เพราะคิดว่าจะขอลงเดินตั้งหลักและมองหาไปด้วยพลางๆ

มันหาไม่ยากเลย ตึกแถวห้องหนึ่งซึ่งอยู่ติดริมถนนและอยู่ไม่ห่างจากป้ายรถเมล์เท่าใดนักได้ถูกทาสีใหม่เป็นสีเหลืองสดใสตัดกับสีเก่าลอกของตึกแถวห้องติดกันอย่างเห็น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2008 16:08:16 โดย yayoy »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Novel] ~ ด้วยรักจากสว&#
« ตอบ #229 เมื่อ: 14-07-2008 13:46:06 »





ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
 :o12: น่าสงสารจินสุดๆเลย

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

three

  • บุคคลทั่วไป
 :sad2:ปวดใจจังเลยอ่ะพี่ยาโย

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2

ja ne

  • บุคคลทั่วไป
จินเอ๊ยจิน ช่างเศร้านัก เศร้าต่อเนื่องมาหลายตอนแล้ว น่าสงสารจริงๆ  :m15:

sarin

  • บุคคลทั่วไป
..โฮ...เศร้าโคด...โคดเศร้าอ่ะ..... :o12:
ปายแร่ะ.... :o12:

sky-cafe

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ไหวแล้ว  :o12: สุดจะทนจริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด