[♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]  (อ่าน 283505 ครั้ง)

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
ค่อยเป็นค่อยไป เดี๋ยวก็ขาดกันไม่ได้เอง

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ยังไงก็ต้องเจอออ  o18

น่านขี้ลืมหรือว่ายังไม่เจอกันที่บริษัทหว่า ?

รอตอนต่อไปน้า :mew1:

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
หึๆๆนี่น่านยังไม่รู้อีกหรอว่าพี่เดียวเป็นเจ้าของบริษัทที่น่านจะไปถ่ายรูปฮาาาา พรุ่งนี้เจอกันน่านต้องอึ้งมากแน่ๆ

ออฟไลน์ ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-4
ในที่สุดก็ตามอ่านถึงตอนล่าสุดแล้ววว 555

อยากรู้จริงถ้าเจอพี่เดียวที่บริษัท จะทำไง  :hao6:

ออฟไลน์ tonnum18

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พึ่งเข้ามาอ่านครั้งแรกนะค่ะ  อ่านแล้วสนุกมากเลยค่ะ  อ่านแล้วเพลินไปกับความกวนของคุณเดียว

และความเกรียนของหนูน้ำน่าน  การพัฒนาการของตัวละครค่อยๆ เป็นค่อยๆไป  ไปหวนจนเกินไปค่ะ

เป็นคนอธิบายไม่เก่งค่ะ  แต่บอกได้เลยว่าชอบเรื่องนี้มาก ถ้าหากว่าร่วมเล่มเป็นหนังสือก็จะซื้อเก็บไว้ค่ะ

และอ่านตั้งแต่ หนึ่งทุ่ม ยันเที่ยงคืน  เป็นการอ่านมาราธานมากๆ เลยค่ะ  จะรออ่านตอนต่อไปนะค่ะ

สู้ๆ ค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ temaripik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ความสัมพันธ์ค่อยๆกระดึ๊บๆ ไปเรื่อยๆเนอะ

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ  by zero





- 17 -






   เสียงบีทหนักๆเร้าใจ แสงสีวิบวับตื่นตา สุรานารีตื่นใจ บรรยากาศที่ห่างหายไปนานเมื่อได้กลับเข้ามาในร้านเฮียเสกอีกครั้งทำเอาผมคึกคักอยากจะไปเต้นไปโยกใส่สาวกระโปรงดำสั้นเกือบเสมอน้องสาวคนนั้นเหลือเกิน เสื้อเกาะอกสีขาวที่รัดเอาหน้าอกหน้าใจล้นออกมานั่นก็ช่างดึงดูดสายตาเสียจริง ไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้นานๆ พอได้มองก็พาลอยากจะเข้าไปลูบคลำให้หนำใจ



   “มึงชวนพี่เขาไปเปิดโรงแรมเลยดีมั้ย”เสียงไอ้เต้ดังแว่วเข้ามา ขัดขวางความสุขของผม



   “จ้องจนเขาพรุนไปทั้งตัวแล้วไอ้ห่า”เสียงไอ้โอ๊คลูกคู่ตัวดีตามมาติดๆ



   คืนนี้พวกผมตบะแตก จากที่ว่าจะเก็บตัวจนกว่าจะสอบเสร็จก็เป็นอันล้มเลิกไปทันทีที่ไอ้เต้โทรมาโวยวายว่าจะลงแดงตายเพราะร่างกายไม่ได้รับแอลกอฮอล์ ผิวหนังไม่โดนแสงสีเกินระยะเวลาที่กำหนดไว้แล้วผื่นพาลจะขึ้น ผมเองก็เซ็งๆเลยตกปากรับคำว่าจะมาร่วมแจมด้วย ก่อนหน้านี้ผมไปทานข้าวเย็นกับพี่ยศมา จะพูดให้ถูกก็คือถูกผู้บริหารใหญ่ของบริษัทจิวเวลรี่แนวหน้าของประเทศไทยให้เกียรติพาไปเลี้ยงรับรองด้วยตัวเอง นึกถึงแล้วก็หงุดหงิดพิลึก ก็ท่านผู้บริหารใหญ่นั่นก็คือไอ้เหี้ยพี่เดียว ตอนแรกที่ผมเห็นมันเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถูกแนะนำว่าเป็นใคร ผมนี่ถึงกับอ้าปากค้าง หน้าตาตอนนั้นคงตลกมากๆ เห็นมันแอบหัวเราะด้วย อยากเอาตีนทาบหน้าขึ้นมาทันที ติดตรงที่ว่าอาจจะส่งผลกระทบต่องานของพี่ยศได้ผมเลยต้องทำใจให้นิ่ง แต่ก็ต้องชมมันอยู่ในใจเวลาทำงานมันตั้งใจมากจริงๆ การเข้ามาพูดคุยกับผมก็เป็นงานเป็นการจนผมแอบเกร็งทำตัวไม่ถูกไปเหมือนกัน ดีที่มันแค่แวะมาพูดคุยแค่ไม่ถึงยี่สิบนาทีแล้วก็ไปทำงานต่อตามประสาคนงานเยอะ ที่รู้ว่าเยอะก็เพราะได้ยินลูกน้องมันพูดกัน แถมยังแปลกใจที่ท่านผู้บริหารใหญ่ลดตัวสละเวลามาดูทีมโปรดักส์ชั่นด้วยตัวเองอีก แบบนี้ใช่มั้ยมันถึงได้ถามผมถึงเรื่องนามบัตร เดี๋ยวกลับบ้านไปต้องไปคุ้ยดูสักหน่อย ไม่รู้ตอนนี้มันไปย่อยสลายอยู่ที่ไหนแล้ว



   “ไอ้เหี้ยโฟมมันจะมามั้ย”ไอ้เต้ถามขึ้นมา พวกผมมารวมตัวกันได้เกือบชั่วโมงแล้วแต่ไร้วี่แววไอ้หมวย



   “ตอนกูโทรไปมันก็บอกว่ามา”ไอ้โอ๊คตอบ



   “แล้วไมมึงไม่รับมันมาพร้อมกันเลยวะ”



   “มันไปทำธุระที่อื่นให้มาเจอที่ร้านเลย”ช่วงนี้ไอ้โฟมธุระเยอะจริงๆ ไอ้พวกสองตัวนี้มันคงไม่รู้ไม่เห็นอะไรอย่างที่ผมเคยเห็น ถ้าถูกจับได้เมื่อไหร่มันจะโดนเค้นจนตัวลีบตัวแบนแน่ๆ



   “กูไปสูบบุหรี่แป๊บ”ผมเดินออกมาที่หน้าร้านเพื่อสูบบุหรี่ ปกติจะไปสูบที่หลังร้าน แถวห้องน้ำมากกว่าแต่จะแวะหยิบโทรศัพท์ที่ลืมไว้ในรถด้วยเลยมาสูบที่หน้าร้านแทน พอออกมาจากร้านก็เจอของดีเลย ไอ้หมวยกับธุระของมัน สองคนกำลังยืนเถียงอะไรอยู่ข้างเล็กซัสสีแดงไวน์ ผมก็ไม่ได้อยากจะแกล้งอะไรมัน แต่บังเอิญว่ารถผมก็จอดอยู่ตรงนั้นพอดี สองคนนั้นมัวแต่ตั้งแต่ตั้งตาเถียงกันไม่รู้สึกตัวเลยว่าผมเดินไปใกล้จนได้ยินเสียงคุยกัน



   “กลับไปได้แล้ว”



“ไล่จังนะ”



“แล้วจะอยู่ทำไมเนี่ย”



“กินเหล้าบ้างไม่ได้ไง”



“ไปกินร้านอื่นดิวะ”



“หึ ทำไมกลัวเพื่อนเห็นเหรอ”



ปิ๊บๆ



ผมกดปลดล็อครถ เสียงของมันทำให้ไอ้หมวยสะดุ้ง ค่อยๆหันมามองทางผมเป็นภาพสโลว์โมชั่นเหมือนในหนัง พอมันเห็นหน้าผมก็ทำหน้าเหมือนเห็นผี ผมเตรียมรอยยิ้มมุมปากไว้รอท่ามันอยู่แล้ว ตรงที่ยืนอยู่มันไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ แต่ผมก็พอเดาได้ว่าหน้ามันต้องซีดแน่ๆ



“เชี่ยน่าน”มันพูดเหมือเพ้อๆ ดูสติหลุด ผมเหลือบมองคนที่มากับมัน ทำเอาต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะไม่แน่ใจว่าใช่คนเดียวกับที่เคยเห็นที่คณะสถาปัตย์หรือเปล่าเพราะไม่มีหนวดเครารุงรัง ใบหน้าคมคายเกลี้ยงเกลาไม่ถึงกับหล่อจัดแต่ถือว่าดูดีมากๆ จะเรียกว่ามีเสน่ห์ก็คงไม่ผิด พอสบตาเท่านั้นผมก็แน่ใจเลยว่าเป็นคนเดียวกันแน่ๆ ตาคมดุคิ้วพาดเฉียง ทำให้หน้าดูเจ้าเล่ห์นิดๆ



“ตามสบายนะ เดี๋ยวกูบอกพวกข้างในให้ว่ามึงยังทำธุระไม่เสร็จ”ผมว่าแล้วหลังจากหยิบโทรศัพท์ในรถเสร็จแล้ว ไม่หมวยหน้างอเป็นส้นตีน หันไปค้อนใส่คนตัวโตนั่น



“เสร็จแล้วไอ้สัด อย่ากวนตีน”มันว่างั้นแล้วเดินหนีไปทางประตูร้าน ผมหันไปค้อมศีรษะให้อีกคนเล็กน้อย ทางนั้นก็พยักหน้ากลับมาแล้วยัดตัวเองใส่รถสีแดงไวน์ก่อนจะขับออกไป



“ออกมาทำไร”ยังไม่ทันจะก้าวไปไหนเจ้ากรรมนายเวรผมก็ออกมาจากหลุมไหนก็ไม่รู้มาดักหน้า



“กินข้าวมั้ง”



“อ้าว ตอนเย็นยังกินไม่อิ่มเหรอ”มันพูดยิ้มๆ รู้ว่าผมประชดแล้วยังจะมาถามแบบนี้อีก กวนตีนไม่มีใครเกิน



“ว่างนักหรือไงท่านผู้บริหารใหญ่”



“อะไร โกรธอะไรเนี่ย”



“ไม่ได้โกรธ หลีกทางดิ”ผมขยับไปทางซ้ายมันก็ขยับตาม พอขยับขวาก็ขยับมาดักหน้าอีก



“เข้าไปด้วยกันดิ”ไม่ว่าเปล่ามันเดินเข้ามาโอบคอผมแล้วลากให้เดินไปด้วยกัน เน้นว่าลากจนขาผมเกือบสะดุดขาตัวเองหน้าคว่ำ เห็นกูเป็นอะไรเนี่ยลากเอาๆ



“ปล่อยเว้ย เดินเองได้”คิดว่าได้ผลมั้ย ครับมันไม่ได้ผล ไอ้เหี้ยพี่เดียวลากผมเข้ามาด้านในร้านจนได้



“ชวนเพื่อนไปนั่งด้วยกันดิ”



“ไม่เอา ไม่ใช่พวกไอ้ธันว์”ผมอยากนั่งเป็นส่วนตัวกับเพื่อนบ้าง ส่องสาวส่องหนุ่มไปตามประสา



“เหรอ ไม่ใช่ก็นั่งด้วยกันได้”มันก้มลงมาพูดข้างปาก ขนแขนลุกซู่ไปหมดเมื่อริมฝีปากมันสัมผัสโดนใบหูผม



“ฮึ่ย!”ผมผลักมันออกแล้วเดินมาที่โต๊ะ ส่วนมันจะไปไหนผมก็ไม่ได้สนใจแค่ไม่ตามผมมาก็พอ ไอ้หมวยนั่งประจำที่แล้ว แก้วที่วางข้างหน้ามันนี่เพียวไม่ผสมเลย มีเพียงน้ำแข็งแค่สองก้อน



“จัดหนักเลยนะมึงไอ้ห่า”ตบหัวมันไปทีด้วยความหมั่นไส้ เมาหัวทิ่มมาก็เป็นภาระพวกผมอีก มันมองตาขวางแต่มือคว้าแก้วหมับไม่ยอมปล่อย



“ปล่อยแม่งไป เมาเมื่อไหร่กูจะทิ้งมันไว้ที่นี่ให้เกย์ล่ำๆลากไปตุ๋ยตูด”ไอ้โอ๊คซี้มันพูด



“ค_ย มึงสิโดนตุ๋ย”มันยกขาถีบไอ้โอ๊คไปที โดนสีข้างไปเต็มๆ ไอ้โอ๊คทำท่าจะกระโจนใส่แต่โดนไอ้เต้ล็อคคอไว้ได้ทัน ผมเลิกสนใจพวกมัน ออกมาเที่ยวทั้งทีขอดูอะไรที่เจริญตาเจริญใจดีกว่ามองไอ้พวกตัวเหี้ยมันตีกัน ไม่นานก็เจอของสวยงามสะดุดตา ไอ้เต้ที่นั่งข้างผมถึงกับหลุดหัวเราะเมื่อฝ่ายนั้นชูแก้วขอชนกับผม



“คืนนี้สบายตัวแน่มึง”



“กูล่วงหน้าไปก่อนนะ”ผมกระตุกยิ้มมันแล้วคว้าแก้วตัวเองเดินไปหาสาวคนนั้น หน้าตาที่ว่าสวยแล้ว มาเห็นใกล้ๆยังหุ่นดีมากอีกต่างหาก ส่วนนูนส่วนเว้าเร้าใจจนอยากเปลืองผ้าออก อยากเห็นชัดๆเต็มตาแล้วก็อยากจะพิสูจน์ว่าเต็มไม้เต็มมือแค่ไหน พอเริ่มพูดคุยก็รู้ว่าแนวเดียวกัน จากนั้นไม่นานเราก็พากันไปต่อที่อื่น ไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ ก่อนไปผมเดินผ่านโต๊ะที่ไอ้พวกเชี่ยนั่นนั่งอยู่อีกครั้ง แต่ไอ้เต้ไม่อยู่แล้ว คงได้สบายตัวเหมือนกัน ผมเลยโบกมือลาไอ้โอ๊ค ไอ้สัดนั่นมันเอามือประสานกันแล้วกระแทกปับๆเข้าหากันหน้าโคตรหื่น เป็นการบอกว่าให้ผมสุขสมอารมณ์หมาย





X





“กูนึกว่ามึงจะมาเรียนไม่ไหวแล้วไอ้สัด”มาถึงตอนเที่ยงก็เจอไอ้โอ๊คทักทาย ใจจริงผมกะมาเวลาเข้าเรียนเลยแต่หิวข้าวอยากมากินข้าวพร้อมพวกมันเลยโทรจิกรายตัว เหลือเวลาอีกชั่วโมงนิดๆให้ได้เอ้อระเหยหาของกระแทกปาก



“ระดับกู ยังไงก็ไหว ไอ้ห่านี่อ่ะ”ผมผลักหัวไอ้หมวยที่นอนฟุบอยู่ สภาพอย่างนี้มันคงโดนไอ้โอ๊คแงะมาจากเตียงแหง




“แฮงค์ไปดิ แดกเพียวไปขนาดนั้น เมื่อคืนเมาอ้วกแตกหมาไม่แดก บ่นห่าไรไม่รู้นักหนาโคตรรำคาญ อยากทิ้งให้จบกองอ้วกแม่ง แต่สมเพช”ไอ้โอ๊คบ่นยาว แต่ก็คงเป็นห่วงซี้มันนั่นแหละ เมาๆแบบนั้นปล่อยให้คลาดสายตาหน่อยถูกลากไปแน่



“เห้ยๆ ตื่น”เขย่าแขนมันแรงๆจนตัวสั่น มันเงยหน้าขึ้นมองตาขวางจิ๊ปากไม่สบอารมณ์ หน้าตาไม่พร้อมรับแขกสุดๆ



“ห่านี่”



“ไม่ต้องมาทำหน้าเป็นปลาตีน แดกเองเมาเองแฮงค์เองโทษใครได้”ผมว่ามัน



“เออ เรื่องของกู ไอ้เต้มายังกูหิว”พอถามถึงไอ้เต้ก็โผล่หัวมาพอดี สีหน้าสดชื่นระรื่นจนน่าถีบ



“กูละเบื่อพวกมึงจริงๆ”ไอ้โอ๊คทำหน้าเหม็นเบื่ออีกรอบ มันคงอิจฉาที่พวกผมได้เด็กไปกก ส่วนมันต้องอยู่กับไอ้ขี้เมาคออ่อน แต่ถึงไอ้หมวยไม่เมา มันก็ไม่ได้ใครไปกินหรอก มันดวงอาภัพเรื่องผู้หญิงจีบรายไหนก็แห้วไปทุกราย แต่ก็ขยันจีบไม่เคยเข็ด สโลแกนมันจีบร้อยได้มาหนึ่งก็ถือว่าคุ้ม



พวกผมย้ายตัวเองที่ไปโรงอาหารกลาง เดินไปเพราะถ้าเอารถไปก็จะไม่มีที่จอด เดินไปไม่ไกลเท่าไหร่แต่ก็พอให้เหงื่อออก ผมส่งไอ้หมวยไปจองโต๊ะเพราะดูท่าแล้วมันคงทนต่อแถวซื้อข้าวไม่ไหว เดินธรรมดายังหัวจะทิ่ม ไอ้โอ๊คฝากผมสั่งข้าวส่วนมันไปสั่งแดงมะนาวโซดาแก้แฮงค์ให้ซี้มัน



“น้ำน่านนนนน”เสียงมาก่อนตัวอีก ใครวะ แต่ก่อนที่ผมจะได้หันไปก็มีวัตถุขนาดใหญ่โถมเข้าใส่จากด้านหลัง กลิ่นแบบนี้ผมคุ้นดี



“เล่นเหี้ยไรของมึงเนี่ย”ไอ้พายหัวเราะร่า กอดคอผมแทบจะปีนขึ้นมาขี่หลัง ตัวมันก็พอๆกับผมเลยนะถึงจะบางกว่าแต่สภาพไม่ได้น่าดูเท่าไหร่ถึงจะหน้าตาดีทั้งคู่ก็เถอะ



“มึงลงไปเลย ห่า”ผมพยายามสะบัดมันออก แต่มือมันเหนียวเป็นตุ๊กแกเกาะหนึบไม่หลุด



“สั่งข้าวให้กูด้วยดิ หิวมากกกก”มันมีเรียนเช้า ผมกลับไปก็ไม่ทันมันออกมาก่อนแล้ว



“จะแดกก็ปล่อยกู จะเกาะทำเชี่ยไร”



“ความสุขกูอ่ะ”มันว่าแต่ก็ยอมปล่อย เพื่อนมันสองคนเพิ่งเดินมาถึง บังเอิญจริงๆที่มาเจอกัน ปกติมันจะชอบออกไปหาอะไรข้างนอก น้อยครั้งจะกินที่โรงอาหาร ผมบอกให้มันเดินไปนั่งกับไอ้หมวย แต่สงสัยต้องหาโต๊ะใหม่สมาชิกเพิ่มขึ้น



หลังจากกินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันไปตามกรรมของตัวเอง คาบบ่ายผมเรียนยาวจนถึงหกโมง ไอ้หมวยฟุบไปตั้งแต่ชั่วโมงแรก อาจารย์ไม่ว่าอะไรเพราะเป็นศิษย์รัก แค่ไอ้โอ๊คบอกว่ามันไม่สบายอาจารย์ก็ไม่ซักไซ้อะไรอีก



“มึงจะไปไหนต่อ”ไอ้เต้ถามผม วันนี้ไม่มีแพลนใดๆ แต่จะว่าไปผมก็อยากกลับไปนอนเพราะเมื่อคืนใช้พลังงานไปเยอะ



“กูจะกลับไปนอนไม่ไปไหนทั้งนั้น เชี่ยโอ๊คกูไปนอนห้องมึงนะ”ไอ้หมวยบอก



“ลำบากกูน้อยที่ไหน ที่หลังแดกเข้าไปอีกดิเพียวๆอ่ะ”



“บ่นทำซากอะไร ห่านิ ยิ่งปวดหัวอยู่”



“สมน้ำหน้ามึง ฟาย”ไอ้เต้คงหมั่นไส้ตบกบาลมันเบาๆไปหนึ่งที



“งั้นแยกย้ายเหอะ กูจะพาภาระกลับห้อง จะกลับไปทำงานต่อด้วย”



ไอ้โอ๊คสรุป พวกผมจึงสลายตัว พูดถึงงานแล้วก็นึกได้ว่าผมต้องแวะซื้ออุปกรณ์บางอย่าง ก่อนกลับเลยแวะห้างเพื่อซื้ออุปกรณ์ มุมที่ผมยืนเลือกกระดาษอยู่ค่อนข้างลับตาคนสำหรับร้านขายเครื่องเขียน ดังนั้นไม่แปลกถ้าหากใครจะเข้ามาทำอะไรตรงนั้น ทั้งคู่เหมือนกำลังฉุดยื้อกันอยู่ ผู้หญิงพยายามขัดขืนไม่แห้แตะต้องตัว แต่ผู้ชายก็ดูจะตื๊อ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมน้องผู้หญิงไม่ร้องขอความช่วยเหลือวะ แต่คิดอีกทีก็คงเป็นแฟนที่กำลังทะเลาะกันอยู่ละมั้ง



ผมเลือกเอื้อมมือหยิบกระดาษที่ตั้งใจมาซื้อ จู่ๆก็ต้องเซเพราะน้องผู้หญิงที่ผมเห็นเมื่อครู่วิ่งมาชนแล้วเกาะแขนผมไว้แน่น ละล่ำละลักให้ผมช่วยเสียงสั่น ส่วนผู้ชายเหมือนจะเข้ามาแต่พอเห็นผมยืนอยู่ด้วยมันเลยจ้องอย่างอาฆาตแล้วเดินหนีไป



“แฟน?”อดที่จะถามไม่ได้ ผมไม่นิยมเข้าไปพัวพันกับใคร



“แฟนเก่า เลิกแล้วเขาไม่ยอมเลิก”น้องผู้หญิงบอก ยังสั่นท่าทางจะกลัวจริง



“แล้วทำไมไม่ตะโกนขอความช่วยเหลือ”



“ไม่กล้า”เออแปลกดี เรื่องแบบนี้ไม่กล้า จะรอให้มันทำอะไรก่อนหรือไงวะ ผมแกะมือออกแล้วเดินจะไปจ่ายเงินแต่น้องเขาก็เดินมาจับแขนผมอีก คิดจะให้ผมเป็นไม้กันหมาหรือไง ขอโทษเถอะ เอาอะไรมาไว้ใจผม ถ้าเกิดผมเหี้ยหลอกไปทำอะไรจะทำไงวะ เพราะดูแล้วไม่น่าจะหลอกยากเลย ทำอะไรก็คงไม่โวยวายอย่างมากก็แค่กลัวตัวสั่น ปัดป้องแบบที่ไม่สามารถช่วยให้พ้นอันตรายได้เลย ยิ่งหน้าตาดี ผิวพรรณขาวเนียนเหมือนลูกคุณหนูที่ไม่เคยทำงานหนักแบบนี้ รับรองไม่รอด



“ตามมาทำไม”



“พี่ช่วยอยู่กับหนูจนกว่าเพื่อนหนูจะมาได้มั้ยคะ”



“ไม่ได้หรอก”



“แต่หนูกลัว”



“แล้วไม่กลัวผมหรือไง ไว้ใจคนที่เพิ่งเคยเจอหน้ากันครั้งแรกหรือไง”



“เอ่อ...คือ”มือที่จับแขนปมไว้คลายออก ท่าทางระแวงขึ้นมาทันที



“กลับบ้านไปสิ เพื่อนไม่ต้องรอนี่มันก็ค่ำแล้ว”



ผมไม่สนใจว่าเด็กนั่นจะทำยังไงต่อ เดินมาจ่ายเงินเสร็จก็ออกจากร้านก็เห็นเด็กคนนั้นอยู่หน้าร้าน ท่าทางหวาดระแวงกอดกระเป๋านักเรียนแน่น เอาวะ ถือซะว่าช่วยเอาบุญ เห็นแล้วก็สงสาร ถ้าเกิดผมไม่ช่วยแล้วเด็กผู้ชายคนนั้นมันย้อนกลับมาแล้วพาน้องเขาไปทำอะไรไม่ดี จะกลายเป็นบาปติดตัวเสียปล่าๆที่มีทางช่วยได้แต่ไม่ยอมช่วย



“นี่ บ้านอยู่ไหน”แค่ผมทักก็สะดุ้ง แววตาไม่ไว้ใจฉายอยู่ในดวงตากลมๆนั่น



“ไม่ทำอะไรหรอกน่า จะไปส่งให้ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว”



“....”



“แต่ถ้าไม่เอาก็ไม่เป็นไรนะ ไม่ได้เดือดร้อนอะไรด้วยอยู่แล้ว”



“หนูไว้ใจพี่ได้ใช่มั้ยคะ”



“อย่าไว้ใจใครนอกจากตัวเอง แต่รับรองได้ว่าผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ไม่นิยมบังคับใจใคร”หน้าตา ฐานะอย่างผมมีแต่คนเข้าหา ไม่เคยขาดเรื่องอย่างว่าไม่จำเป็นเลยที่ต้องไปเที่ยวหลอกใครต่อใครมานอนด้วย ยิ่งนักเรียนม.ปลายแบบนี้ไม่ใช่รสนิยมอย่างแรง



“ถ้าจะทำให้มันอุ่นใจขึ้นก็เอานี่ไป”เอาหยิบบัตรประชาชนตัวเองในกระเป๋าสตางค์ยื่นให้เป็นหลักประกัน พอรับไปดูแล้วก็เหมือนจะเบาใจขึ้น



“ไปเถอะ ค่ำแล้วยังไม่ถึงบ้านพ่อแม่ไม่ว่าเอาหรือไงเนี่ย อยู่ม.ไหนแล้ว”



“ม.4 ค่ะ”เด็กกว่าที่คิดอีก เพิ่งต้นม.ต้นมาไม่กี่เดือนเอง ซึ่งจะเอามาเทียบกับเด็กผู้ชายไม่ได้ พวกผมนี่หัวหกก้นขวิดมาตั้งแต่ขึ้นม.1 ด้วยซ้ำ มีเซ็กส์ตอนแรกก็ตอนนั้นแหละ แต่ไอ้ธันว์มีตั้งแต่ป.6 ไอ้ห่านี่แก่แดด ขึ้นครูกับพี่ม.2 ว่าแต่ผมชอบคนแก่กว่า มันเองก็ไม่เลือกละวะ ขอแค่เป็นผู้หญิง สวยหุ่นดีมันฟาดเรียบ แต่สำหรับเด็กผู้หญิงม.4 มันยังก้ำกึ้งระหว่างคำว่าเด็กกับเป็นสาวอยู่นะผมว่า ถึงหลายคนจะมองว่าไม่เด็กแล้วก็เถอะ



“มาทำอะไรที่นี่" ผมชวนคุยระหว่างเดินไปหาทางออกเพื่อไปลานจอดรถ



“เพื่อนนัดมาค่ะ แต่รอรนานแล้วก็ไม่เห็นมา แล้วก็เจอท็อปก่อน”คงหมายถึงได้เด็กหัวสกินเฮดนั่น



“โทรหาเพื่อนหรือยัง”



“ไม่ติดค่ะ ปิดเครื่อง”ชัวร์ เพื่อนที่ว่ารู้เห็นกับไอ้เหี้ยท็อปนั่นแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าอยากให้คืนดีกันหรือประสงค์ร้ายอย่างอื่นผมไม่อยากฟันธงเพราะไม่ได้ไปรู้จักด้วย



“โอ๊ย!”ด้วยสัญชาติญาณผมหันไปคว้าคนเดินข้างไว้ทัน มีไอ้บ้าวิ่งมาจากไหนไม่รู้ท่าทางจะรีบจัดวิ่งมาชนเด็กข้างๆผมเข้า ดีที่ผมเอากระดาษที่ซื้อมาใส่ซูมไว้ไม่งั้นมียับแน่ๆ



“ขอบคุณค่ะพี่”



“ระวังหน่อย เดินก็อย่าเหม่อนักสิ”



“ค่ะ”พูดแค่นี้ทำไมต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยวะ อดไม่ได้ที่จะขยี้หัวเด็กนี่ไม่ได้ ผมไม่ได้คิดพิศวาสอะไรหรอกแค่คิดว่าทำแบบนี้แล้วอาจจะหายกลัวหายเกร็งได้ ตอนที่กำลังจะเอามือผมก็ชะงักไปเมื่อรู้สึกเหมือนถูกจ้องอยู่ พอมองไปรอบๆก็เจอกับไอ้บ้าที่ผมรู้จักยืนหน้านิ่งเหมือนรูปปั้นยักษ์อยู่หน้าร้านจิวเวลรี่ ข้างกายมันมีผู้หญิงหน้าตาดีควงแขนมาด้วย เหมือนจะเป็นนางแบบที่เคยลงในหนังสือสักเล่ม มันเมินผมไปยิ้มให้กับคนข้างตัว ผมเองก็ไม่คิดจะเข้าไปทักหรือสนใจอะไร ทำเป็นเหมือนไม่รู้จักกันอย่างนี้ก็ดีแล้ว ขอให้มันไม่สนใจกันแบบนี้ตลอดไป จะได้หลุดพ้นกันไปเสียที



“เปิดเพลงฟังได้มั้ยคะ”ระหว่างที่รถติดคนที่ผมพามาด้วยก็พูดขึ้น แทนคำตอบผมเลยเลื่อนมือไปเปิดให้ ผมเอาแผ่นเพลงออกไปเลยต้องฟังเพลงตามคลื่นวิทยุเอา เปิดแค่คลอเบาๆไม่ให้เงียบเกินไป ผมไม่ชอบฟังเพลงดังเท่าไหร่ น้องดูไม่เกร็งเหมือนตอนแรกๆ เพราะผมเองก็ไม่ได้แสดงท่าทางไม่ดีใส่ ถึงผมจะชอบเที่ยว แต่ก็ไม่ได้มีความหื่นกามอยู่ในกระแสเลือดจนเห็นใครหน้าตาดีก็คิดอยากจะได้ไปเสียหมด ยังคงมีสติและศีลธรรมประจำใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ผมหิวมากถ้าแวะกินข้าวแถวข้างหน้านี่เขาจะคิดว่าผมตุกติกอะไรป่ะวะ รถมันติดมากกว่าจะขับไปถึงบ้านน้องตามที่บอกมาท่าจะนานน่าดู กำลังช่างใจว่าจะชวนกินข้าวดีมั้ย เสียงท้องร้องของคนข้างๆก็ทำให้ผมต้องหลุดหัวเราะออกมา ดังกลบเพลงมิดเลยนะ



“แวะกินข้าวก่อนมั้ย ข้างหน้ามีร้านอาหารเยอะ พวกบะหมี่เกี๊ยว เย็นตาโฟ มีก๋วยจั๊บด้วย”



“พี่จะเสียเวลา...”



“ไม่เป็นไร หิวเหมือนกัน กว่าจะถึงบ้านเราก็อีกไกลนี่”พอพ้นที่ติดไฟแดงก็ตบไฟเลี้ยวหาที่จอดในซอยข้างตึกแถวที่ว่าแถวนี้เป็นร้านอาหารติดๆกัน เลือกกินได้ตามชอบ เนื่องจากหิวจัดเราก็เลยเลือกร้านแรกที่เดินมาถึงเย็นตาโฟรสเด็ด จะเด็ดจริงมั้ยก็ต้องลอง มีเครื่องให้เลือกใส่เยอะมาก เลือกเสร็จก็รอ คนแน่นร้านขนาดนี้แสดงว่าเด็ดจริงๆ



“หนูเรียกพี่ว่าอะไรได้คะ พี่ชลหรือพี่ธร”คงเห็นชื่อจากบัตรประชาชน ไม่แปลกหรอกที่คิดจะเรียกผมด้วยสองชื่อนั้นเพื่อนเก่าสมัยเด็กผมก็เรียก บางคนก็เรียกน้ำ บางคนก็เรียกน่านแล้วแต่สะดวกปาก เรียกชื่อไหนก็หันหมด เรียกไอ้เหี้ยยังหันอ่ะครับ ฮ่า



“แล้วแต่”ผมไม่ซีเรียส ยังไงมันก็คงเจอกันแค่ครั้งเดียวกรุงเทพไม่ได้กว้างนัก แต่ก็ไม่ได้แคบ ผมเองก็ไม่ได้มีวังวนอะไรที่จะเข้าไปพัวพันกับนักเรียนม.ปลายอยู่แล้ว



“พี่ชลแล้วกันนะคะ”



“อืม”



“หนูชื่อปายนะ”



“อื้อ”ผมพยักหน้ารับ ก๋วยเตี๋ยวที่สั่งมาเสิร์ฟพอดี เวลาพูดคุยก็หมดลงต่างคนต่างกินกันไม่สนใจโลก ผมมองเด็กที่นั่งตรงข้ามแล้วอดยิ้มไม่ได้ เคี้ยวลูกชิ้นแก้มตุ่ย ปากแดงแจ๋เพราะปรุงพริกเข้าไปเยอะทั้งที่สั่งแบบต้มยำแล้วนะนั่น ไม่มีมาดเลย นี่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวต่อหน้าผู้ชายที่โคตรหล่อเลยนะเว้ย



“อร่อยอ่า”ดูดน้ำส้มปั่นเข้าไปอึกใหญ่แล้วก็พูดออกมา ท่าทางตอนที่พูดทำให้ผมนึกเอ็นดู



“ค่อยๆกินเดี๋ยวสำลัก”ผมบอก อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มอายๆแต่ก็ก้มลงไปกินต่อ ท่าทางจะอร่อยจริงๆ



อิ่มท้องแล้วก็ออกเดินทางต่อ สามทุ่มนิดๆผมก็พามาส่งถึงหน้าบ้าน แต่ที่จริงต้องเรียกว่าคฤหาสน์เพราะหลังมันใหญ่โตมาก เป็นลูกคุณหนูจริงๆสินะ พอผมจอดส่งหน้าบ้าน รปภ. ก็มาเปิดประตูพอเห็นปายก็รีบกุลีกุจอมารับกระเป๋าไปถือทั้งที่มันไม่ได้หนักอะไรเลย เห็นรถกอล์ฟจอดอยู่ข้างประตู ระยะทางเข้าบ้านก็คงไกลเดินไปคงเหนื่อยก่อน ทุกอย่างในวันนี้มันกำลังจะจบลงด้วยดี การทำความดีของผมในวันนี้อาจจะทำให้ได้บุญกุศลครั้งใหญ่ มีคนมาให้กกกอดไม่ได้ขาด แต่ป้ายชื่อที่ติดอยู่ตรงประตูทางเข้าที่ไฟหน้ารถผมส่องไปถึงพอดีก็ทำให้ผมรู้สึกว่าคนอย่างผมมีกรรมหนักเกินกว่าจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้








------------------------


มาแว้วววว หายไปสองอาทิตย์เห็นจะได้ กลับมาพร้อมกับตอนนี้ที่สั้น ฮ่าา  :hao7:
นิยายเรื่องนี้มันมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะค่ะ เลยตั้งใจว่าจะแต่งแต่ละจุดให้แน่นไต่ลำดับไปเรื่อยๆ
พระเอกของเราค่าตัวแพงมาก ออกน้อย บทน้อย ในช่วงนี้ แต่รับรองว่าหลังจากนี้จะเยอะจนเอียน 555
มันต้องมีการพัฒนาความสัมพันธ์ไปทีเล็กทีละน้อย จากคนที่ไม่รู้จัก มาเป็นคนที่ไม่ชอบขี้หน้า
คนที่ไม่ได้ทำดีต่อกันมาแต่แรก การที่จะพัฒนาปุบปับข้ามคืนมันก็ไม่ใช่เนอะ
แต่กว่าจะถึงวันที่เขาทั้งสองจะได้...เข้าใจกัน...ก็ยังอยากให้ทุกคนตามอ่านอยู่นะคะ

รักนะ จุ๊บๆ  :mew1:


ปล. อ่านทุกคอมเมนต์ ทุกกำลังใจ ทุกคำติชมนะคะ แต่อาจจะไม่ได้มาตอบเลยต้องขออภัยนะคะ
เราสนใจและใส่ใจนะ แต่ไม่ค่อยสะดวกตอบเท่าไหร่ค่ะ T_____T




 




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2016 21:10:13 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :mew1: เดียว น่าน ดีกัน เข้าใจกันซะที อยากเห็นฉากหวานๆ  :กอด1:
รอตอนต่อไป  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fdcjsy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบบบบ~

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกัน หึๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-4
ทำไม บ้านใครเหรอ บ้านนั้นจะเกี่ยวกับพี่เดียวไหมหนอ

แอบสงสัยใจพี่เดียวเหมือนกันนะ จีบจริงจีบเล่นคะ น้ำน่านหิ้วสาวกับได้สบายเลย ไม่มีออกมาท้วงมาขัด ไม่หึงบ้างเหรอ หรือเพราะยังไม่ได้คบกัน?

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
เราจะรอวันที่น่านมีผัวเป็นพี่ :hao7:
ักที

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 18 -





   สองสัปดาห์แห่งการสอบกลางภาคได้ผ่านพ้นไปแล้ว พวกผมได้พักจากการเรียนแค่ห้าวันจากนั้นก็จะต้องกลับมาเรียนกันหนักหน่วงเหมือนเดิม ถึงแม้จะสอบเสร็จแต่งานที่ถูกสั่งมาตั้งแต่ก่อนสอบก็ยังเคลียร์ไม่จบ ผมเหลืองานที่ต้องส่งอีกหนึ่งชิ้นเริ่มทำไปได้เกินครึ่งแล้ว วันนี้เลยตั้งใจว่าจะทำให้เสร็จ เพราะวันรุ่งขึ้นผมต้องไปถ่ายพรีเวดดิ้งกับพี่ยศที่ภูเก็ต ดังนั้นผมเลยปฏิเสธการออกไปสังสรรค์กับพวกไอ้เต้



   “อ้าว พวกมึงมานานแล้วเหรอ”เข้าบ้านมาก็เจอไอ้ธันว์นอนกระดิกเท้าดูหนังอยู่บนโซฟา ส่วนไอ้คิมหลับอยู่บนพื้นกอดตุ๊กตาหมาเน่าของไอ้พาย แต่ผมไม่เห็นรถมันสองคนจอดอยู่หน้าบ้าน นานเป็นเดือนแล้วที่ไม่เห็นหน้าพวกมันเลย ไอ้ธันว์ดูปกติธรรมดา แต่ไอ้คิมดูโทรมๆการเรียนเภสัชดูดพลังชีวิตมันขนาดนั้นเลยเหรอวะ



   “สักพักใหญ่ละ มึงสอบเสร็จแล้วใช่มั้ย”ไอ้ธันว์ละสายตาจากทีวีเงยหน้าขึ้นมาตอบผม



“เออ พวกมึงอ่ะ”



“กูเสร็จแล้ว แต่ไอ้คิมยัง”มันตอบเอาเท้าเขี่ยๆไอ้คิม ไอ้นั่นก็นอนนิ่งไม่ไหวติง ซ้อมตายหรือไงวะ



“แล้วมาทำไรกันวะ รถพวกมึงอ่ะ”



“มาพักผ่อนสมอง รถกูไอ้พายขับไปซื้อกับข้าว ส่วนรถไอ้คิมไม่ได้เอามากูไปขุดซากมันมาจากคอนโด”เออดี ขับปอร์เช่ไปซื้อกับข้าวแทนที่จะเอาไอ้หวานไป



“คืนนี้ไปปล่อยผีกัน”ไอ้ธันว์เดินตามผมเข้ามาในครัว ช่วงสอบตู้เย็นไม่ค่อยมีของสดติดไว้เพราะไม่มีใครมีเวลาว่างขนาดทำกับข้าวกินเอง แต่ยังมีพวกนมกับน้ำผลไม้ไว้ประทังชีวิต ผมหยิบขนมปังหลังตู้เย็นมากินรองท้องพร้อมกับนมอีกหนึ่งขวด



“ไม่ได้ว่ะ กูต้องเคลียร์งาน พรุ่งนี้กูต้องไปภูเก็ตทำงานกับพี่ยศ”




“ไรว้า กูอุตส่าห์วางแผนไว้อย่างดี ไอ้คิมถึงขนาดสละเวลาอ่านหนังสือมาเลยนะเว้ย



“ก่อนวางแผนมึงถามกูสักคำยังไอ้ห่า พวกมึงก็ไปกันดิ พวกไอ้เต้มันก็ไปร้านเฮียเสก มึงก็นัดพวกไอ้อ๊อดไอ้โก้ไปด้วยกันเลยดิ”งานนี้ได้สนุกลืมโลกแน่ถ้าพวกมันรวมตัวกัน ผมเริ่มอยากจะไปด้วยแล้วสิ แต่พอคิดถึงงานที่จะต้องทำแล้วก็คงต้องงดไปก่อน เพราะผมไปภูเก็ตสามวัน กลับมาก็คงเหนื่อยหมดอารมณ์ทำงานส่ง ตอนนี้ยังมีไฟอยู่ควรรีบทำก่อนไฟมอด



“คนครบขนาดนี้ มึงไม่เปลี่ยนใจ?”



“ไม่เว้ย กูมีงานพรุ่งนี้กูต้องไปไฟล์ทเช้าด้วย”



ผมเดินขึ้นมาเปลี่ยนชุดบนห้อง แต่คิดอีกทีลงไปว่ายน้ำดีกว่า ไม่ได้ว่ายนานแล้ว เส้นมันยึดไปหมด ว่ายสักสามสี่รอบให้ร่างกายมันตื่นตัวขึ้นมาบ้าง ว่ายไปได้สองรอบโผล่หน้าขึ้นมาก็เห็นไอ้ธันว์เอนตัวนอนจิบเบียร์บนเดย์เบด ไอ้คิมนั่งอยู่ข้างๆท่าทางมึนๆในมือถือกระป๋องเบียร์เช่นกัน



“แข่งกันสักรอบมั้ยพวกมึง”



“ตามสบาย กูเก็บแรงไว้คืนนี้”ไอ้ธันว์บอก หน้ามันตอนนี้ทั้งเลวทั้งหื่น แต่สาวๆเห็นคงกรี๊ดว่ามันหล่อเหี้ยๆ



“กูเอาด้วย”ไอ้คิมว่าถอดเสื้อออกเหลือแต่กางเกงขาสั้นแล้วมันก็กระโดดลงสระมาน้ำกระจายสาดใส่ไอ้เหี้ยธันว์ที่นอนชิลล์กระดิกเท้าดิ๊กๆอยู่ริมสระ



“สัดคิม!”ไอ้ธันว์ตะโกนด่าพร้อมยกนิ้วกลางให้



“โทษๆกูไม่ได้ตั้งใจ”ผมคิดว่ามันตั้งใจนะ



“ให้ดีไอ้เหี้ย กางเกงหลุดมาเสียสายตากูอีก”กางเกงมันเป็นขอบยางยืดคือใส่อยู่บ้านใส่นอนจะสบายตัว แต่พอมาเจอน้ำมันก็หน่วงก็รั้งจนเห็นกางเกงในมาครึ่งตัวแล้ว



“ที่จริงกูกะใส่แต่เกงในเนี่ย”ว่าแล้วมันก็ถอดกางเกงออกแล้วเหวี่ยงไว้ริมสระ เหี้ยไปอีก



ผมแข่งกับมันไปกลับสามรอบก็เล่นเอาหอบแฮ่ก ไม่ค่อยได้ออกกำลังเลยช่วงนี้เลยเหนื่อยไว พวกกล้ามเนื้อก็ไม่ค่อยเฟิร์มเท่าไหร่ ผมเคยพยายามจะทำให้หุ่นตัวเองล่ำๆกล้ามใหญ่ๆ แต่ก็ไม่เป็นผล ทำยังไงก็ไม่ได้อย่างที่หวัง กล้ามขึ้นมากสุดก็แค่เห็นเป็นเนื้อแน่นๆเฟิร์มๆ ตัวก็ยังไม่หนาอย่างที่ตั้งใจ แต่คนที่เคยนอนด้วยก็บอกว่าเซ็กซี่ทุกรายนะ



ไอ้พายไม่รู้กลับมาตั้งแต่ตอนไหนตะโกนเรียกให้ไปกินข้าวผมกับไอ้คิมถึงได้ฤกษ์ขึ้นจากสระที่ลอยคอเล่น ต่างคนแยกย้ายกันไปอาบน้ำ พอลงมาไอ้ธันว์กับไอ้พายก็กินข้าวไปครึ่งจานแล้ว พวกผมคุยกันหลายเรื่องสัพเพเหระ บางทีพวกผู้ชายก็มีเรื่องคุยกันเยอะมากกว่าพวกผู้หญิงเสียอีก แล้วเรื่องนินทาผมบอกได้เลยว่าแรงกว่าพวกผู้หญิงแน่ๆ



“น้องหมิวอ่ะนะ ไม่อยากจะเชื่อ ก็เห็นขาวๆ เอ็กซ์ๆ สวยรองจากน้องขิงดาวคณะกูเลยนะ”ไอ้พายทำหน้าไม่อยากเชื่อ น้องหมิวคนนี้เป็นรุ่นน้องในคณะมัน ผมเคยได้ยินเพื่อนๆในคณะพูดถึงเหมือนกัน



“หลอกตาทั้งนั้น ไอ้อ๊อดพิสูจน์มาแล้ว นมนี่ทำมา ขาวๆก็แค่ที่เห็นพ้นจากเสื้อผ้านี่แหละ แต่ข้างในไอ้อ๊อดว่าไม่โอเค เห็นแล้วมันไม่อยากกินผัดหอยลายเลย”ไอ้ธันว์ทำเอาผมสำลักต้มยำ



“แค่ก เชี่ย กูเห็นภาพ”



“พวกมึงนี่นะ เอาน้องเขามาพูด”ไอ้คิมดูเหมือนเป็นคนดีปกป้องเกียรติสตรี



“มึงอย่ามา ได้ข่าวมึงไปขายขนมจีบลูกเกดบัญชีมานี่หว่า”ถึงจะไม่ได้เจอหน้ากัน แต่ไอ้ธันว์นี่ข่าวไว ผมยังไม่รู้เลยนะเนี่ย



“รู้ดี”



“นี่ใคร กูธันว์นะครับ”



“แล้วเป็นไงวะ”อันนี้อยากรู้เป็นการส่วนตัว ไอ้คิมหลังจากเลิกกับเมียผมก็นึกว่ามันเพลียจนอยากพักเรื่องรักๆไป



“ไม่ยากอย่างที่เขาพูดกัน”



“พูดงี้แสดงว่ามึงไปแซ่บเขามาแล้วดิ”ไอ้พายพูด รู้สันดานซี้มัน



“หึ”ยิ้มกวนตีนแบบนี้แสดงว่าไม่พลาด



“เรียบร้อยอย่างนั้นอ่ะนะ เสร็จมึง”



“มาร้อยก็เสร็จเรียบสิไม่ว่า กูแทบไม่ต้องทำไรเลยห่า นอนเฉยๆก็ฟินได้”นี่แหละไอ้คิม ที่พูดดีเมื่อกี้นั่นตอแหลล้วน ผู้ชายนิ่งๆนี่ปากจัดที่สุดจำไว้นะครับ



“เหอะ ไอ้สัด”ไอ้พายผลักหัวเพื่อนมัน



“มึงไปภูเก็ต แบบนี้ก็เปรมเลยดิว้า กูอยากไปด้วยเลย”ไอ้ธันว์พาเรื่องวกเข้ามาที่ผม



“กูไปทำงานเว้ย ไม่ได้ไปเที่ยว”



“มึงจะทำตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยไง คนเรามันต้องมีเวลากินขี้ปี้เยี่ยวกันมั่ง”



ผมละหน่ายกับมันในหัวสมองไอ้ธันว์ไม่เคยคิดเรื่องเหนือสะดือเกินห้านาที ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือคิดเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา ทั้งที่เรียนก็หนัก โปรเจคท์ก็เยอะ หรือเพราะว่าเรียนหนักจนเครียดมากเลยต้องหาอะไรมาระบายให้หายเครียด



“มึงเรียนหนักไปหรือเปล่าวะ”ก่อนหน้านี้มันก็ไม่เคยขาดเรื่องอย่างว่า แต่มาครั้งนี้หน้ามันหื่นขึ้นกว่าปกติ



“ทำไม?”



“มึงดูว้อนๆ เก็บกด?”



“เออ กูแทบจะได้หนังสือเป็นเมีย ถึงเวลาที่กูจะได้ปลดปล่อยแล้ว กูอิ่มละไปอาบน้ำดีกว่า รอเวลาที่จะได้ออกศึกไม่ไหวแล้วโว้ย”
พูดเสร็จสะบัดตูดหนีทันที ตกลงว่าคืนนี้มันจะไปแจมกับพวกไอ้เต้ ผมไล่ไอ้พายกับไอ้คิมไปอาบน้ำแต่งตัว ไอ้คิมนี่คงแค่เปลี่ยนชุดเพราะมันอาบไปแล้วตอนขึ้นจากสระ ส่วนผมอยู่ล้างจานเคลียร์โต๊ะกินข้าว แล้วเตรียมเอางานมาทำต่อ ตอนแรกว่าจะเอามาทำริมสระ แต่เปลี่ยนใจมาทำที่ห้องนั่งเล่นแทน เปิดม่านออกไปก็มองเห็นสระว่ายน้ำ ไฟสีส้มริมสระสะท้อนบนผืนน้ำที่สงบนิ่ง ทำให้ผมรู้สึกสงบตามไปด้วย



“พี่เดียวไม่ได้แวะมานี่นานแล้วเนอะ”ไอ้พายเข้ามาตอนไหนไม่รู้พูดขึ้น สมาธิผมแตกซ่านทันที มันแต่งตัวเสร็จแล้ว หอมฟุ้งไปทั่ว



“ไม่มาก็ดีแล้ว”ถ้ามันไม่ทัก ผมก็ไม่ได้นึกถึงเลย ครั้งสุดท้ายที่เห็นหน้าก็วันที่มันเมินผมที่ห้างนั่นแหละ คงหมดสนุกกับการเล่นกับผมแล้วสินะ ดีจริง



“มึงคิดงั้นจริงเหรอวะ”ไอ้พายนั่งยองตรงหน้า ผมนั่งทำงานอยู่บนพื้น มันหยิบดินสอขึ้นมาหมุนเล่น



“เออ ทำไม?”



“ไม่รู้สึกว่าชีวิตขาดๆอะไรไปเหรอวะ หรือคิดถึงเขาสักนิดอะไรงี้”



“ไม่เลยสักนิด กูจะไปคิดถึงทำไมวะ รำคาญจะแย่ ไม่มีมันชีวิตกูโคตรสงบสุขเลย”ไอ้พายคิดว่าผมจะต้องมีความรู้สึกพิเศษอะไรกับไอ้บ้านั่นหรือไง



“เฮ้อ เสียดาย กูก็นึกว่าจะมีลุ้นบ้าง แต่ตอนนี้เขาก็...เออ ช่างเหอะ”มันบ่นอะไรพึมพำก็ไม่รู้



“ไปละ พรุ่งนี้เดินทางปลอดภัยละกัน ถึงภูเก็ตแล้วโทรหากูด้วย”



“เออ มึงก็อย่าเมาให้ใครลากไป”



“เออ กูไปเอาบรรยากาศไม่เมาแน่นนอน”






X






“กูถึงแล้ว ไหนใครบอกไม่เมา นอนเลยไปไอ้สัด”ผมด่ามันแล้วกดวางสาย ตอนนี้ผมอยู่ที่สนามบินภูเก็ตแล้ว รอคนมารับไปที่พัก นึกขึ้นได้เลยโทรบอกไอ้พายซะหน่อยแต่น้ำเสียงที่รับโทรศัพท์นี่อ้อแอ้ยังไม่สร่างเมา เมื่อคืนไอ้พายไม่ได้กลับบ้าน ไม่ได้ถามด้วยว่ามันไปค้างที่ไหนแต่ถ้าให้เดาก็คงไปนอนกับซี้มัน



“ขอบคุณครับ”ผมยิ้มให้พนักงานที่ร้านกาแฟชื่อดัง พร้อมกับรับอเมริกาโน่ไม่ใส่ไซรัปมา ร่างกายต้องการคาเฟอีนเข้าไปกระตุ้นอย่างแรง เมื่อคืนทำงานจนถึงตีสอง พอตีห้าก็ต้องตื่นเพื่อเตรียมตัวมาสนามบิน บนเครื่องก็หลับมาตลอดแต่เวลาแค่ชั่วโมงเดียวก็ไม่ทำให้หลับเต็มอิ่มดีเลยต้องโด๊บกาแฟเข้าไป



ผมนั่งรออยู่ในร้านประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เบอร์ที่โทรเข้ามานั้นเป็นเบอร์ที่เงียบหายไปพักใหญ่แล้ว ชั่งใจอยู่ว่าจะรับหรือไม่รับดีสายก็ตัดไปก่อนจะดังขึ้นมาใหม่อีกรอบ



“โทรมาไม?/อยู่ตรงไหน?”ผมกับปลายสายพูดขึ้นพร้อมกัน เรื่องมารยาทอันดีงามในการรับโทรศัพท์นั้นลืมไปได้เลย



“ทำไม?”



“แค่ตอบมาว่าอยู่ไหนมันจะตายหรือไง”



“เออ”



“เออ งั้นก็ไปรีสอร์ทเองแล้วกัน”



“ห๊ะ!”ผมยังไม่ทันฟังให้ชัดเลยมันก็กดตัดสายไปทันที”ไอ้เหี้ยเดียว! พอผมโทรกลับมันก็ไม่รับ เล่นตัวอีกนะมึง ผมโทรกลับไปสามรอบแล้วก็เลิกโทร คิดว่าคนอย่างผมจะง้อมันหรือไง แต่จากที่มันพูดเมื่อกี้ ถ้าฟังไม่ผิดมันพูดว่าให้ผมไปรีสอร์ทเอง แสดงว่ามันต้องมากับพี่ชายและว่าที่พี่สะใภ้มันแน่ๆ มาทำไมวะเนี่ย!



ผมโทรถามพี่ยศเรื่องที่พัก ถ้ารู้ว่าจะให้ใครมารับผมไปเองตั้งนานแล้ว ผมต่อคิวเพื่อรอแท็กซี่แต่จู่ๆก็มีมือดีมาลากผมออกจากแถว




“อะไรวะ!”ไอ้บ้านั่นมาทำหน้าโหดใส่ บีบแขนผมแน่นสะบัดก็ไม่หลุด ทำเอาผมเสียหลักเดินชนคนอื่นตั้งหลายคน หันไปขอโทษแทบไม่ทัน



“ตามมา”



“จะไปเอง”ผมขืนตัวไว้ ในที่สุดก็สะบัดแขนหลุดสักที โคตรเจ็บ



“อย่ามีปัญหามากได้มั้ย”มันเท้าเอว หน้าตาโคตรหาเรื่อง



“ใครกันแน่วะที่มีปัญหา”ทำไมต้องมาทำให้ผมอารมณ์เสียด้วยวะ ตอนนี้ทั้งหิว ทั้งง่วง ยังต้องมาประสาทแดกกับไอ้คนผีเข้าผีออกนี่อีก ทำเหมือนผมไปฆ่าญาติมันตาย



“แล้วจะไปด้วยกันดีๆมันจะตายหรือไง”



“แล้วพี่อ่ะพูดดีๆจะตายหรือไง กูไปทำอะไรให้มาอารมณ์เสียใส่ ทำหน้าแบบนี้ใครเขาจะอยากไปด้วยวะ”



“ตกลงจะไปหรือไม่ไป”



“จะให้ไปก็เดินนำไปดิ”



ไม่อยากเสียเวลาเถียงกับไอ้บ้านี่นานๆ ถ้าไม่ติดว่าอยากจะรีบไปให้ถึงไวๆผมไม่ยอมไปกับมันแน่ คิดว่าจะหลุดพ้นกันไปแล้วนะ ทำไมมันถึงเข้ามาในวงโคจรอีก แต่ก็ใช่ว่าระหว่างที่มันหายไปผมจะไม่รับรู้อะไรเลย เพราะมีไอ้พายอยู่มันชอบเล่านั่นเล่านี่ให้ฟังเป็นปกติ แต่เรื่องที่พูดบ่อยก็เป็นเรื่องไอ้บ้านี่แหละ เห็นว่ามีข่าวซุบซิบว่าคั่วกับนางแบบอยู่ คนเดียวกับที่ผมเห็นที่ห้างวันนั้นนั่นแหละ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร ใครจะไปมั่วคั่วกับใครก็ช่าง ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับชีวิตผมอยู่แล้ว




ระหว่างผมกับมันไม่มีคำพูดเกิดขึ้นเลยแม้แต่คำเดียวจนมาถึงที่หมาย เจ้าของที่พักเป็นเพื่อนของพี่ชายมันเปิดบ้านให้หนึ่งหลัง วิวดีสวยมาก ถ้าได้มาพักผ่อนก็คงดีไม่น้อย ราคาไม่ต้องพูดถึงไม่รวยจริงคงไม่มีทางได้พัก ด้วยความที่มันแพงมาก เป็นหลังที่ใครๆก็อยากจอง บ้านหลังนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใช้ถ่ายภาพ จากที่เห็นบริเวณด้านหน้าผมว่ามันก็ควรค่านะเพราะว่าสวยมาก



“มาถึงกันแล้ว เป็นไงคะน้องน่าน เดินทางเหนื่อยมั้ย”ว่าที่เจ้าสาวปรี่เข้ามาทักผมทันที เธออยู่ในชุดเดรสยาวสีขาว ท่อนบนเป็นลูกไม้ กระโปรงยาวพริ้วกรอมพื้น ที่ผมมีดอกไม้แซมประปราย เข้ากับชุดและบรรยากาศริมทะเล



“ไม่ครับ คุณนลินสวยมากเลยครับ”



“ขอบคุณค่ะ แต่เรียกพี่ดีกว่าเนอะ ดูเป็นกันเองดี”ยิ้มสวยจริงๆ



“ครับ”



“เดียว พาน้องเอาของไปเก็บดีกว่าเนอะ พี่รบกวนด้วยนะ”



“ครับพี่ ไม่ได้รบกวนเลย ผมว่าพี่ไปนั่งเฉยๆดีกว่ามั้ยครับ เห็นเดินไปเดินมา เดี๋ยวว่าที่เจ้าสาวเหนื่อยแย่”



“ไม่ต้องมาแซวพี่เลยนะเรา น้องน่านคะ บ้านหลังนี้มีแค่สามห้องนะคะ น้องน่านนอนกับเดียวคงไม่รังเกียจนะคะ”ผมกำลังฟังเพลินๆมาสะดุดตรงประโยคสุดท้ายนี่แหละ ทำไมผมต้องนอนกับไอ้เหี้ยพี่เดียวด้วยวะ!



“ผมนอนกับพี่ยศก็ได้ครับ เกรงใจคุณเดียว”




 “ไม่ต้องเกรงใจหรอก คนกันเอง”เสียงมันสอดแทรกเข้ามาในบทสนทนา



“นั่นสิ ไม่เห็นบอกกันบ้างเลยว่ารู้จักกันมาก่อน ตอนที่เจอที่ร้านก็ไม่ทักกัน ทำเหมือนคนไม่รู้จัก”ผมยิ้มแหย่ให้พี่นลินแล้วหันไปมองมันตาขวาง มันพูดถึงผมยังไงบ้างเนี่ย แต่มันกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้



“อีกอย่างคุณยศกับคุณฉัตรพักห้องเดียวกัน ถ้าน้องน่านนอนด้วยมันจะอึดอัดไปนะคะ”ยิ้มหวานจนผมไปต่อไม่เป็น จะแย้งอะไรก็เดี๋ยวจะกลายเป็นผมที่เรื่องมาก เขาจ้างมาทำงานก็ยังจะเรียกร้องเอานั่นเอานี่ ซึ่งผมไม่ยอมให้ใครมาว่าแบบนั้นได้



“ครับ งั้นก็ตามที่พี่นลินบอกครับ ผมไม่มีปัญหา”



“ตามมาสิ ไปเก็บของ ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น”ทำเป็นพูดดี หน้าตายิ้มแย้ม เมื่อกี้อยู่กับผมสองคนทำหน้าอย่างกับถูกบังคับไอ้กลืนอึ ผมเดินตามมันมีที่ชั้นสอง ความจริงชั้นล่างมีห้องพักอีกห้องคาดว่าเป็นห้องที่พี่ยศกับพี่ฉัตรพัก



“เข้าไปสิ”ผมมองลอดประตูที่เปิดค้างไว้แล้วรู้สึกขัดใจมันเป็นดับเบิ้ลเบดคิงไซส์ ทำไมไม่ใช่ซิงเกิ้ลเบดฟระ ห้องค่อนข้างกว้าง ตกแต่งแนว less is more ผมวางกระเป๋าเป้ไว้ในตู้เสื้อผ้า ยังไม่จัดตอนนี้เพราะต้องเตรียมอุปกรณ์ไปทำงานก่อน แต่ในตู้ก็มีเสื้อผ้าของอีกคนแขวนอย่างเป็นระเบียบอยู่ฝั่งหนึ่ง



“ผ้านี่ใช้ผืนไหนได้”



“จะใช้ผืนไหนก็หยิบๆไป”ห่านิ จะพูดดีๆไม่กวนไม่ได้ใช่ป่ะวะ ผมอุตส่าห์พูดดีด้วยแล้วนะ ต่อจากนี้ไปผมจะไม่คุยกับมันอีกคอยดู พอล้างหน้าเสร็จผมก็หยิบกระเป๋าสำหรับใส่ลูกรักลงไปชั้นล่าง ส่วนไอ้ผีบ้านั่งเป็นตอไม้อยู่บนเตียงเหมือนคนไม่มีอะไรทำ เอาจริงนะผมก็ไม่เข้าใจว่ามันจะมาด้วยทำไม ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับเขาเลย




“พี่ยศ พี่ฉัตรหวัดดีครับ”



“เออดี กินไรมายัง นั่นของว่างรองท้องไปก่อน”



“ครับพี่ เดี๋ยวจะถ่ายตรงนี้ที่เดียวเหรอ”ผมเห็นเซ็ตฉากไว้ที่ระเบียงที่ยืนออกมาจากตัวบ้าน มองไปเห็นทะเลสีฟ้าใสจรดขอบฟ้า



“เดี๋ยวจะถ่ายที่ส่วนอื่นของรีสอร์ทด้วย”



“ครับ”ผมหยิบแซนด์วิสขึ้นมากัดหนึ่งคำแล้วคาบไว้เพื่อจะได้เคี้ยวเรื่อยๆ หยิบเอาลูกรักออกมาประกอบร่าง ผมชอบความรู้สึกแบบนี้ ตอนที่ผมได้ใช้เวลากับสิ่งที่ผมรัก เวลาจับกล้องทีไรเหมือนตัวมันจะลอยๆได้ ราวกับจะหลุดไปอีกโลก เวลามองผ่านเลนส์ไป เป็นความรู้สึกดีที่บรรยายไม่ถูกจริงๆ เหมือนกับว่าเราได้เก็บโลกทั้งใบมาไว้ในมือ



ผมกดถ่ายเช็คแสงเงา เช็คภาพ ปรับตั้งค่าไปเรื่อย แล้วก็หยุดหยุดที่ไอ้เหี้ยพี่เดียวที่ไม่รู้ว่ามานั่งเกะกะการทำงานตั้งแต่เมื่อไหร่ จริงๆมันนั่งคุยกับพี่ชายมันอีกด้านหนึ่งไม่ได้ขวางเท่าไหร่แต่ผมเห็นมันแล้วรู้สึกรกหูรกตา เลยเบนกล้องหนีไปทางอื่น หน้าที่ของผมคือถ่ายแคนดิตดังนั้นผมจะกดถ่ายตอนไหนก็ได้ อย่างเช่นนตอนนี้ที่พี่นลินกำลังทำหน้ามุ่ยเมื่อช่างแต่งหน้ากำลังถามอะไรเธอสักอย่าง อาจจะเป็นสีลิปสติก เพราะเห็นหยิบมาให้ดูหลายแท่งมาก รูปที่เป็นไปตามธรรมชาติมักจะออกมาดูดีเสมอ การถ่ายพรีเวดดิ้งส่วนมากอาจจะทำให้อาร์ตโดยการจัดแต่งท่าทางของว่าที่บ่าวสาวไม่มองกล้องยังไง แต่มันก็ไม่ได้อารมณ์เหมือนกับตอนที่เราถ่ายเขาแบบไม่รู้ตัวอยู่ดี



พี่ยศกับพี่ฉัตรเริ่มทำงานหลังจากที่ว่าที่บ่าวสาวแต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อย แต่ผมเริ่มทำงานได้สักพักแล้ว ได้มาหลายหลายสิบรูป แต่ละรูปซึ่งผมว่ามันโอเค แต่คนที่จะบอกว่ามันดีหรือไม่ดีก็คงต้องเป็นเจ้าของรูปทั้งคู่ ถ่ายไปได้สักพักความหิวก็ทำร้ายผมแซนด์วิชสองชิ้นที่กินเข้าไปก่อนหน้าย่อยสลายไปหมดแล้ว ตอนนี้ร้อนด้วยอยากได้น้ำเย็นๆสักแก้ว ติดตรงที่ว่าโต๊ะสำหรับวางอาหารมีใครบางคนนั่งอยู่ ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ แต่มึงบ้าหรือเปล่าครับ ถอดแว่นกันแดดออกก่อนดีมั้ย ไอ้เหี้ยพี่เดียวเหมือนมาพักผ่อนเสื้อยืดสีฟ้าตัวพอดีตัวเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ กางเกงขาสั้นสีขาว สวมแว่นกันแดด ในมือมีหนังสืออ่านเล่น จิบน้ำมะพร้าวไปด้วย สบายเกิ๊น



ความหิวทำให้ผมทนไม่ไหวเดินเข้าไปหาของกินกับน้ำ โชคดีที่มันรับโทรศัพท์แล้วเดินไปคุยที่อื่นทางเลยสะดวกผมนเลยได้นั่งพักกินขนมกับน้ำรองท้องก่อนจะถึงมื้อเที่ยง



“หิวมากเหรอ กินข้าวมั้ยจะสั่งให้”



“แค่กๆ”มันเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย



“เห้ย กินดีๆ เอ้าน้ำ”ผมรับแก้วน้ำมาอย่างไม่อิดออดคือจะตายเพราะสำลักแล้วไม่มีเวลามาเล่นตัว



“ตะกละ”มันว่า ผมมองตาขวาง นับหนึ่งถึงสิบในใจผมจะไม่ตอบโต้ ไม่พูดไม่คุยกับมันเด็ดขาด ผมหยิบน้ำส้มมาหนึ่งขวดแล้วกลับมาทำงานของตัวเองต่อมันทำท่าเหมือนจะพูดอะไรไม่รู้แต่ผมไม่สนใจ ตลอดวันนั้นผมไม่มองหน้ามันอีก มันเองก็ไม่ได้เอาตัวเข้ามาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ แต่ผมก็รับรู้ได้ว่ามีคนคอยจับจ้องตลอดเวลาที่ทำงาน หันไปทีไรก็เจอมันมองมาตลอดเวลาด้วยสายตานิ่งๆ



“เย็นนี้เดี๋ยวอีกสักครู่ทางรีสอร์ทจะนำอาหารมาเสิร์ฟนะคะ แล้วก็มีพวกอาหารทะเลสดๆด้วย ลินสั่งมาปิ้งย่างกันทานกันน่าจะสนุกดี”ระหว่างที่พวกผมกำลังคุยกันเรื่องรูปที่ถ่ายมาวันนี้กันอยู่ พี่นลินที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ถ่ายเซ็ตเย็นริมทะเลที่เห็นพระอาทิตย์กำลังจะจมน้ำลงไปงานในวันนี้ก็สิ้นสุดลง



“ครับ ขอบคุณครับ”



“ว้าว รูปนี้สวยจัง”พี่นลินทำตาโตชี้มาที่โน้ตบุ๊คของผม ผมกำลังจะลองแต่งภาพดู




“เหมือนไม่ใช่พี่เลยค่ะ ถ่ายสวยกว่าตัวจริงอีก”




“ตัวจริงก็สวยครับพี่”



“ปากหวานนะคะ มีแฟนหรือยัง พี่แนะนำผู้หญิงดีๆให้เอามั้ย”



“อย่าเลยครับ สงสารผู้หญิงเปล่าๆ”



“แสดงว่าเราร้ายไม่เบาสินะ”พี่นลินค้อนใส่ น่ารักดี ผมก็หัวเราะเบาๆรับคำนั้น



“ผมว่าอย่าเรียกว่าร้ายดีกว่าครับ เด็กนี่เสือยังเรียกพี่ เกินคำว่าร้ายไปเยอะ”



“โห พี่ยศอย่าขายผมสิครับ”




“แบดบอยสินะ แต่แบบนี้สิเร้าใจผู้หญิง”พี่นลินตาวิบวับ ผมยิ้มรับอีกรอบไม่ปฏิเสธ



“พี่ลินครับ พี่แชมป์ถามหาอยู่ครับ”ไอ้มารจอมขัดขวางปรากฏตัวขึ้นอีกแล้ว บรรยากาศดีๆเมื่อครู่หายวับไปทันที



“อุ้ยตายจริง ว่าจะลงมาหยิบของให้แชมป์ลืมไปเลย”เธอว่าแล้วก็รีบเดินเร็วๆหายไป



“ไม่ไปอาบน้ำกันก่อนเหรอครับ เจอลมทะเลน่าจะเหนียวตัวกัน”มันถามโดยไม่เจาะจงตัวคน



“ว่าจะไปกันอยู่นี่แหละครับ พอดีคุยเรื่องรูปแล้วก็งานพรุ่งนี้เพลินไปหน่อย”หน้าที่คุยกับมันผมปล่อยให้เป็นหน้าที่พี่ยศ ผมปิดโน้ตบุ๊คแล้วเก็บเมโมรี่ลงกล่องพร้อมกับกล้องที่ถอดเลนส์ออกเรียบร้อยแล้วใส่ลงกระเป๋าเป้สำหรับเก็บอุปกรณ์ถ่ายรูปโดยเฉพาะ



“ครับ เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ เหมือนเขาจะเอาอุปกรณ์ปิ้งย่างมาให้แล้ว”



“พี่ยศผมไปอาบน้ำก่อนนะ”ทันทีที่ให้เหี้ยพี่เดียวเดินไปทางด้านหลังของบ้านที่ติดกับชายหาด ผมก็บอกพี่ยศแล้วรีบเก็บของเดินขึ้นชั้นบน กำลังคิดอยู่เลยว่าจะหาทางมาอาบน้ำโดยไม่มีมันอยู่ในห้องได้ยังไง



ในห้องพักมีห้องน้ำส่วนตัว อ่างอาบน้ำใหญ่จนผมอยากลงไปแช่ให้สบายตัวแต่กลัวว่าจะสบายจนเพลินเวลาแล้วทำให้คนอื่นรอทานข้าวเลยทำได้แค่รีบอาบน้ำ แต่ถึงจะรีบมากยังไงก็กินเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงอยู่ดี ออกมาก็ต้องตกใจเมื่อมีผีบ้านั่งอยู่บนเตียง กอดอกมองมาทางห้องน้ำ ดีที่ผมไม่ได้หลุดพูดอะไรออกมา แต่ไม่ดีตรงที่ผมใส่แค่ชุดคลุมอาบน้ำแค่ตัวเดียวนี่แหละ เสื้อผ้าก็ยังอยู่ในกระเป๋ายังไม่ได้รื้อออกมาจัดเลยเข้าตู้เลย หยิบแค่พวกอุปกรณ์สำหรับล้างหน้า อาบน้ำไปเท่านั้น มันต้องตั้งใจขึ้นมาหาเรื่องแน่ๆไม่อย่างนั้นมันจะขึ้นมาทำไมทั้งที่ตัวเองอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว



“คุยกันหน่อยสิ”เสียงเจ้ากรรมนายเวร



ผมหยิบเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าขึ้นมาแขวนทีละตัวอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาในห้องนี้ให้นานที่สุด แต่พอคิดอีกทียังไงคืนนี้ผมก็ต้องนอนในห้องนี้ ต้องเผชิญหน้ามันทั้งคืนอยู่ดีหรือว่าผมควรจะทำตัวเนียนๆ ไปคุยกับพี่ยศพี่ฉัตรแล้วก็นอนที่ห้องนั้นไปเลยดีนะ



“หูหนวกหรือไง”มันคว้าไหล่ผมให้หันไปหาแล้วกระชากเสื้อที่ผมกำลังจะใส่ออกจากมือไป ต่างคนต่างจ้องตากันอย่างไม่ลดละ



“หึ จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย จะไม่ยอมพูดด้วยใช่มั้ย ทำได้ทำได้ หลุดพูดเมื่อไหร่เจอดีแน่”มันชี้หน้าคาดโทษไว้แล้วจะปาเสื้อใส่ สัดเอ๊ย! อะไรของมันวะ?



ผมไม่รู้ว่าระหว่างผมกับมันทำไมถึงกลับมาเป็นแบบนี้อีกแล้ว ต้นเหตุมันมาจากอะไรนะ ผมก็ทำตัวปกติดี มีแต่มันนี่แหละที่มึนตึงใส่ก่อน พอผมตอบสนองบ้างทำมามีอารมณ์ ผมรีบแต่งตัวให้เสร็จ หยิบกล้องมิร์เรอร์เลสตัวใหม่ที่เพิ่งสอยมาลงมาด้วยกะเอาไว้ถ่ายเล่นๆตอนทานข้าว แล้วก็ลองฟังก์ชั่นของกล้องด้วย



อาหารมื้อเย็นก็อร่อยดี บรรยากาศดี พี่แชมป์กับพี่นลินก็เป็นกันเองมาก ทุกอย่างมันดีมากยกเว้นคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามผมนี่แหละ ที่ทำให้บรรยากาศเริ่มไม่ค่อยดี ขณะที่คนอื่นเขาสนุกสนานแล้วแฮปปี้กับอาหารมื้อนี้มากๆ พูดคุยกันเรื่องสถานที่จะไปถ่ายกัน มันก็นั่งกินเงียบๆ จิบไวน์หมดไปหลายแก้ว ไม่สนโลกเลย จะมีหืออือบ้างก็ตอนที่พี่ชายมันหันมาถามความเห็น ส่วนผมก็มีส่วนร่วมบ้างเป็นบางครั้งที่เกี่ยวกับงาน แต่นานเข้าก็เริ่มเบื่อๆ ขี้เกียจปั้นหน้าต่อหน้ามันเลยขอตัวออกมาถ่ายรูปเล่น เดินไปเรื่อยๆไม่มีจุดหมาย เจออะไรน่าสนใจก็ถ่ายไปเรื่อย จนรู้ตัวว่าออกมาไกลจากวิลล่าที่พักพอสมควร ที่นี่เป็นรีสอร์ทระดับห้าดาว ที่ดินตรงนี้นับว่าเป็นจุดที่มองเห็นวิวทะเลอันดามันที่สวยมากๆแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะเวลาที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน อาจจะสวยกว่าที่แหลมพรมเทพด้วยซ้ำ



ผมแวะนั่งดื่มเบาๆที่บาร์ด้านนอกของรีสอร์ท วิวตรงนี้มองไปก็เห็นท้องทะเลมืดดำ แต่สิ่งที่น่ามองก็คงเป็นสาวๆ ที่แต่งตัวได้เข้ากับอากาศของประเทศไทย ส่วนมากก็เป็นต่างชาติ คนเอเชียหรือคนไทยน้อยมาก มีสาวๆเข้ามาคุยเข้ามาขอชนกับผมบ้าง คุยกันแค่ไม่กี่ประโยคก็แยกย้ายกันไป จุดหมายก็แค่การคุยไม่ได้มาหาเรื่องทำอย่างว่า ซึ่งถึงมีใครจะเสนอมาคืนนี้ผมก็ไม่พร้อมจะสนองทั้งนั้น มาทำงานด้วยแล้วก็ไม่มีอารมณ์ด้วย ผมดื่มเพลินจนลืมตัวกว่าจะรู้อีกทีเบียร์ขวดที่สี่ก็หมดลง เริ่มมึนนิดๆ แต่ก็เดินกลับได้สบายไม่มีซวนเซแน่นอน



“ไปไหนมาตั้งนาน โทรศัพท์ก็ไม่เอาไป”มันมายืนดักรอหน้าวิลล่า ผมเดินผ่านมันเข้ามาด้านใน พี่ยศกับพี่ฉัตรเดินเข้ามาหาทันที



“ไปไหนมาวะ”



“โทษทีพี่ ผมเดินถ่ายรูปไปเรื่อยน่ะ แล้วก็ดื่มที่บาร์เพลินไปหน่อย”



“เมาป่ะเนี่ย”



“ไม่ครับ ดื่มนิดเดียวจริง นั่งซึบซับบรรยากาศมากกว่า”



“เออ งั้นก็ไปนอน พรุ่งนี้ตื่นเช้าไปถ่ายพระอาทิตย์เช้าที่...”พี่ยศบอกสถานที่กับบอกเวลาที่จะต้องออกเดินทางเรียบร้อย ก็แยกย้ายกันเข้านอน ว่าที่บ่าวสาวเข้านอนกันไปได้สักพักแล้ว





(มีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2016 22:35:56 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
.


.



.





“คิดว่ามาเที่ยวเล่นหรือไง”เข้าห้องได้ไอ้คนที่เดินตามหลังมาก็เริ่มบ่น



“...”



“ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโต”แม่งมากไปละ เห็นผมไม่ตอบโต้ก็เอาใหญ่ ผมคว้าหมอนอิงที่วางอยู่ปลายเตียงเขวี้ยงใส่หน้ามันไป เข้าเป้าเป๊ะ



“โอ๊ยๆๆ เจ็บเหี้ยปล่อย!”มันเข้ามาประชิดตัวผมไวมาก จับแขนผมบิดไปทางด้านหลัง แต่เมื่อบอกให้ปล่อยมันก็ยอมปล่อย แต่เป็นการปล่อยที่ผลักผมหน้าทิ่มลงบนเตียง



“เป็นบ้าอะไรวะ”



“ยอมพูดด้วยแล้วใช่มั้ย จำได้มั้ยว่าเคยบอกไว้ว่าไง”



เหี้ยละ!



มันขึ้นมาบนเตียงกระชากขาผมที่กำลังจะลุกขึ้นมายันมันจนล้มลงบนเตียงอีกรอบ หัวฟาดอย่างแรงถึงที่นอนมันจะนุ่มแต่ฟาดลงไปแรงๆก็มึนได้เหมือนกัน รวมกับมึนเบียร์ด้วยยิ่งไปกันใหญ่



“ทำไมชอบให้ใช้กำลัง”



“ไม่ได้ชอบเว้ยไอ้เชี่ย โอ๊ะ”โดนมันตบปากเน้นๆ โคตรเจ็บน้ำตาเล็ดเลยจริงๆนะ เลือดออกหรือเปล่าก็ไม่รู้




“ถ้าจะเปิดปากแต่ละทีคือคำด่าก็เงียบๆไปเลยไป”




“จะเอาไง เดี๋ยวให้พูดเดี๋ยวไม่ให้พูด อื้อ!!”



ดิ้นสิครับรออะไร จู่ๆมันก็ก้มลงมาจูบผม แบบว่ากะจังหวะไว้เป๊ะๆ ไม่มีโอกาสให้ผมได้ตั้งตัวเลยสักนิด ขยับหนีก็ไม่ได้เพราะมือมันล็อคคอผมแน่น ทุกส่วนของร่างกายถูกมันตรึงแน่นด้วยร่างกายที่แข็งแรง ผมบิดมืออกมาได้ก็พยายามผลักมันออกจากตัวแต่มันไม่ขยับเลย



“โอ๊ย แม่งกัดทำไมวะ”ในที่สุดมันก็ยอมถอยแต่ก็ฝากเลือดไว้ที่ริมฝีปากผม



“หมั่นไส้คน”



“กูหมั่นไส้บ้างได้มั้ย แม่ม เลือดด้วย”



“ได้ แต่ต้องทำกลับด้วยวิธีเดียวกันนะ”มันยิ้มเลว ผมเลยผลักมันจนหน้าหงาย แล้วพลิกตัวมาอีกฝั่งของเตียง มันก็ไม่ได้ตามมาแต่ขยับตัวนอนแผ่หันหน้ามาทางผม



“ใครจะไปทำ คิดว่าตัวเองน่าจูบตายล่ะ”



“หึ จำคำพูดตัวเองไว้นะ อย่าให้ได้ยินวันไหนเรียกร้องจูบจากพี่”



“ไม่มีวัน”ผมถีบสีข้างมันไปทีด้วยความหมั่นไส้ มันทำตาวาววับแล้วกระชากข้อเท้าจนผมไถลไปตามแรงดึง นอนราบลงไปบนเตียงอีกรอบ แรงควายไปไหนวะ



“เห้ยๆ ปล่อยก่อน มึนหัวไปหมดแล้วเนี่ย”



“สมใครใช้ให้ไปดื่ม ชอบจังนะอ่อยสาวเนี่ย”ตามันดุมาก ผมไม่อยากสบตากับมันเลยจริงๆ แต่ถ้าแสดงออกว่ากลัวก็ไม่ใช่ผมสิ



“แล้วยุ่งไรด้วย”



“ยุ่งไรด้วยๆ พูดมาได้อยากโดนกัดปากอีกไง?”มันลุกขึ้นเงื้อมือจะตบผม ท่าทางมันหงุดหงิดจริงๆ แต่คือบอกว่าจะกัดปากแต่เงื้อมือคืออะไรวะ เอะอะก็ใช้กำลัง




“ตบมากูต่อยกลับอ่ะ”



“อยากจะบีบคอให้ตายเลยเด็กเหี้ยนี่”ผมคิดว่าตอนนี้ตาตัวเองต้องเบิกกว้างแน่ๆ เป็นครั้งแรกเลยนะที่ผมได้ยินชัดเต็มสองหูว่ามันด่าผมว่าเด็กเหี้ย และคงกว้างจนตาแทบถลนแน่ๆเมื่อคนที่อยากจะบีบคอผมกลับซบหน้าลงที่ซอกคอแล้วบ่นงึมงำให้ได้ยิน ลมหายใจอุ่นทำให้ผมจั๊กจี้แปลกๆ



“เป็นบ้าอะไรถึงไม่คุยด้วย”



“ใครกันแน่ที่เริ่มก่อน”คนที่หายตัวไป พอเจอหน้ากันก็ทำเมิน มีโอกาสได้คุยก็เสือกกวนตีนมารวนใส่ซะงั้น



“ใคร ก็เห็นอยู่ว่าคุยด้วยก็ไม่ยอมคุย”มันว่า



“แล้วใครเมินก่อนวะ พอเจอหน้าก็พูดกวนตีน น่าจะหายๆไปเลย ไม่ต้องมาเจอกันอีก”



“หืม...นี่อย่าบอกนะว่างอนพี่”มันเงยหน้าขึ้นมาจากคอ แล้วยิ้มกรุ้มกริ่มน่าถีบ



“สมองมีปัญหาหรือไง ไม่ได้งอนเว้ย อย่ามาใช้คำน่าขนลุกแบบนี้”คำๆนี้ไม่เคยมีอยู่ในพจนานุกรมของผมเลย มันคิดได้ไงวะ ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องของมันเลย



“แล้วพี่พูดมาคือ?”



“แค่บอกให้ฟังเว้ย ลุกไปดิ มานอนทับอยู่ได้คิดว่าตัวเล็กไงวะ”



“ไม่เล็กหรอก น่านน่าจะรู้ดี”ผมว่ามันไม่ได้หมายถึงตัวแล้ว ไอ้เหี้ยพี่เดียวนี่แม่งเป็นคนหลายบุคลิกแน่ๆ แต่ความเหี้ย ความเสื่อมนี่คือคงสันดานส่วนลึกของมัน



กว่าจะได้แยกออกจากกันก็เปลืองพลังงานไปมากโข ไอ้เหี้ยพี่เดียวที่แสนกวนตีนฟื้นคืนชีพแล้ว สงสัยผีจะออก ถึงผมจะติดใจสงสัยกับการหายตัวของมันไปสองสัปดาห์แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถาม เดี๋ยวจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าผมไปคิดอะไรกับมัน



“นี่ไม่ถามหน่อยเหรอว่าหายไปไหน”ถึงผมไม่เริ่มมันก็เริ่มเอง ตอนนี้ปิดไฟแล้ว ผมเตรียมนอนเต็มที่เพราะต้องตื่นเช้ามาเตรียมตัวให้ทันก่อนพระอาทิตย์ขึ้น แต่ไอ้คนข้างๆมันก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ



“ไม่ได้อยากรู้”พอผมบอกไปห้องก็เงียบลงได้ยินแค่เสียงลมหายใจเบาๆของผมกับมัน



“บังเอิญไปเห็นเด็กเหี้ยคนนึง ออกไปกับผู้หญิงไม่เห็นหัวกันก็เลยโมโห เย็นวันต่อมาก็ไปเที่ยวกับเด็กม.ปลายอีก เลยยิ่งโมโหไปใหญ่ ไม่อยากเห็นหน้า แต่พอไม่ได้เห็นหน้าก็ยิ่งคิดถึง แต่เด็กเหี้ยมันก็ไม่สนใจกันเลย เราไม่ไปหาไม่โทรไปก็ไม่มีการโทรมา”



ผมนอนฟังไอ้ผีบ้ามันพล่ามไปเรื่อย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ‘เด็กเหี้ย’ นั่นหมายถึงใคร แต่ผมกลับยิ้มไม่ได้โกรธมันสักนิด ก็สิ่งที่มันพูดมาเหมือนเด็กเรียกร้องความสนใจไม่มีผิด แต่ไอ้ที่บอกว่าคิดถึงแล้วที่ควงกับนางแบบไปกินข้าวดูหนังนี่หมายความว่าไง ไอ้เหี้ยพี่เดียว!



“เห้ย หลับแล้วเหรอน่าน ได้ยินที่พูดป่ะเนี่ย”



“หลับๆไปสักทีพล่ามอยู่ได้”



“เด็กเหี้ยเอ๊ย”ท่าทางต่อไปนี้มันจะเรียกผมแบบนี้จริงจัง



“ด่าอีกที กูยันตกเตียงจริงๆไอ้เหี้ยพี่เดียว”ทนไม่ไหวต้องลุกขึ้นมาเอาหมอนฟาดมัน หมั่นไส้คนเว้ย!



“เออ นอนๆ ลงมานอนมาพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า”มันวางหมอนผมลงแล้วตบเรียก คือผมคงหลับไปนานแล้วถ้ามันไม่มัวพล่ามบ้าบอ



“มากอดทำไมวะ ปล่อยดิ”พอผมหันหลังล้มตัวลงนอนปุ๊บมันก็กอดหมับปั๊บ ขนลุกไปทั้งตัว



“คิดถึง”เหมือนมีไฟฟ้าวิ่งผ่านไปตามเส้นเลือด ใจกระตุกไปกับเสียงนุ่มๆของมันที่ดังข้างหู ร่างกายหยุดนิ่งไม่ไหวติงทันทีราวกับเป็นอัมพาต



“ต่อไปนี้ จะไม่เป็นบ้าเป็นบออยู่คนเดียวแล้ว ถ้าเจอว่าออกไปนอนกับผู้หญิงเมื่อไหร่จะตามไปลากกลับทันที”



“เป็นไรกันวะถึงมีสิทธิ์มาทำแบบนี้”



“ต้องให้ย้ำมั้ยว่าเป็นอะไร ทบทวนกันหน่อยดีมั้ย หึหึ”ไอ้เลว! ไอ้เหี้ย!



“ถ้าอยากทีหลังก็มาหาพี่จะจัดให้หายอยากเลย แต่ห้ามไปนอนกับคนอื่น ไม่ชอบ หวง”เออ เอาเข้าไปผมนี่ก็นอนนิ่งให้มันกอด หาคำพูดมาโต้แย้งมันไม่ได้สักคำ เหมือนสมองมันตื้อๆยังไงไม่รู้



“ต่อจากนี้ไปให้ถือว่าเราสองคน...เป็นแฟนกันแล้วนะ”





 




----------------

จะมาลงคืน 11 แต่ไม่ทัน พอคืน 12 ก็กลับดึก ไม่ได้ลงอีก รีบเก็บของจะกลับบ้าน แล้วก็ลืมเอาที่พิมพ์ไว้แล้วกลับมาด้วย
ต้องมานั่งระลึกพิมพ์ใหม่อีก #ร้องไห้หนักมาก กว่าจะเสร็จก็เข้าคืน 15 ต้องมาต่อสู้กับเน็ตสัญญาณอ่อนยิ่งกว่าชีพจรคนใกล้ตาย
แต่ยังไงก็มาลงแล้วนะคะ T-T ขอให้มีความสุขช่วงวันหยุดนี้นะคะ อากาศร้อนมากดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ
รักคนอ่านเสมอ  :L1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2016 22:51:08 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เดียว เริ่มแสดงความเป็นเจ้าของแบบเต็มที่ :katai2-1:
น่าน ก็มีอาการหวั่นไหวแล้ว  :mew1:
ชอบ รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
ไรท์ก็ดูสุขตัวเองตัวเองด้วยน้าาา~~  :mew1:

ออฟไลน์ imvodka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
พี่เดียว นี่เอาแต่ใจจิงๆ

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
เมื่อไหร่น้ำน่านจะใจอ่อนน้าาา

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
อ่อพี่เดียวที่หายไปนานๆคือหายไปเป็นบ้าอยู่คนเดียวสินะ โอ้โหวววยอมใจ

ออฟไลน์ Youi_chin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-4
อ่อ เพราะแบบนี้นี่เอง

แล้วน่านว่าไง ตกลงอ่ะเปล่า

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
น่านว่าไงงง พี่เดียวขอแล้วนะ ตกลงป่าววว   :hao3:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by Zero




- 19 -







   ตลอดเวลาที่ผมทำงานอยู่ก็มีสายตาคมๆเคยจับจ้องไปทุกทีเหมือนมีพวกโรคจิตเคยติดตามชีวิตแบบเรียลลิตี้โชว์ ไอ้โรคจิตนั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนหน้าด้านที่โมเมว่าผมเป็นแฟนมัน แน่นอนว่าเมื่อคืนถึงจะมึนๆ แต่ผมไม่คล้อยตามเออออไปด้วย การที่คนเราพลาดมีอะไรกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นแฟนกันนี่หว่า ไม่อย่างนั้นผมก็มีแฟนเป็นร้อยแล้วดิ สำหรับผมถ้าจะเรียกใครว่าเป็นแฟนก็คงต้องเป็นคนที่รู้สึกอะไรด้วยเท่านั้น อย่างน้อยต้องรู้สึกชอบในตัวคนๆนั้นที่นอกเหนือไปจากเรื่องบนเตียงที่เราเข้ากันได้ดี ซึ่งสำหรับผมแล้วเป็นไปได้ยากมากๆ แล้วยิ่งคนๆนั้นเป็นไอ้เหี้ยพี่เดียวมันยิ่งยากขึ้นไปอีก แล้วอย่างที่รู้กันว่าผมนิยมความสัมพันธ์คืนเดียวจบ บางคนอาจจะหลายครั้งถ้ามีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วจำได้ว่าถึงใจ เรื่องที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ผูกมัดกับใครสักคนด้วยคำว่าแฟนมันเลยไม่เคยมีอยู่ในหัวเลยสักนิด ในทางกลับกันคนอย่างไอ้เหี้ยพี่เดียวก็คงไม่ต่างจากผม มันเลยทำให้ผมแปลกใจว่ามันต้องการอะไรถึงได้พยายามยัดเยีบดตัวเองเข้ามาในชีวิตผม ขู่เข็ญให้ยอมเป็นแฟนด้วย มันต้องประสาทกลับแน่ๆ




ส่วนผมนี่ประสาทจะกิน!




เลิกจ้องสักทีสิโว้ยยยยย เกร็งจนนิ้วกดชัตเตอร์ไม่ลงแล้ว!




คือมันจ้องแบบจริงจัง จ้องแบบไม่กลัวใครจะจับได้เลยว่ากำลังจ้องผมอยู่ ผมว่าทุกคนในที่นี้ต้องจับสังเกตได้แน่นอน ผมพยายามโฟกัสไปที่งานไม่สนใจสายตาแรงกล้าของคนว่างงาน ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างแต่สุดท้ายการถ่ายรอบเช้าก็จบลง แล้วก็ต้องเตรียมตัวไปถ่ายบนเรือยอร์ชที่ได้อภินันทนาการมาจากเพื่อนเจ้าบ่าว สาวๆทีมคอร์สตูมที่แยกไปพักอีกรีสอร์ทหนึ่งต่างพากันตื่นเต้นกันใหญ่ที่จะได้ล่องเรือหรูกลางทะเลอันดามัน ได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกน้ำที่แสนโรแมนติก ตัวผมเองก็หวังจะได้ภาพสวยๆติดมือกลับไปเหมือนกัน




“เห้ย!”ตกใจสิครับ จู่ๆก็มีอะไรเย็นๆมาแนบแก้มตอนที่ผมกำลังไล่ดูรูปในกล้อง




“น้ำสักหน่อยสิ”ผมรับโค้กกระป๋องเย็นๆมาอย่างไม่อิดออดกำลังอยากดื่มอะไรพอดี



“ขอบคุณ”



“ไม่เป็นไร ทำหวังผล เผื่อจะใจอ่อนเร็วๆ”




“หึ ฝัน”ผมยิ้มเหยียดใส่ไอ้พี่เดียว แต่มันกลับทำท่าสบายๆ ยิ้มบางๆไม่ทุกข์ร้อน เมื่อคืนผมคิดว่ามันจะแสดงอาการฟึดฟัดขัดอกขัดใจที่ผมไม่ไหลไปตามน้ำ ปฏิเสธการเป็นแฟนกับมัน ซ้ำยังถีบมันซ้ำเกือบตกเตียง มันแค่มองตาขวางๆแล้วถอนหายใจพร้อมกับพึมพำประมาณว่ากะอยู่แล้วว่าผมต้องปฏิเสธ คนเราอ่ะนะรู้แต่ก็ยังทำ ไม่เรียกว่าบ้าก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร




“ฝันก็ฝัน เดี๋ยวฝันก็เป็นจริง”




“มั่นใจเหลือเกินนะ”ไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหนกันวะ




“ก็นิดนึง”มันยิ้มน่าหมั่นไส้




ผมเพลียที่จะต่อปากต่อคำกับมัน เลยปล่อยให้มันเพ้อมโนไป ตอนนี้ระหว่างผมกับมันกลับมาคุยกันเหมือนปกติ ไอ้ที่ไม่สบอารมณ์ก่อนหน้านี้ก็ปล่อยผ่านมันไป โบราณว่าอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา




เราพักทานข้าวเที่ยงกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เพื่อนเจ้าบ่าวแนะนำมาอีกตามเคย รสชาติดีมากๆผมซัดจนอิ่มพุงกาง สะสมพลังไว้ทำงาน แต่ไม่รู้ว่าพอขึ้นเรือไปแล้วจะเมาหรือเปล่าไอ้เรือยอร์ชอะไรนี่ยังไม่เคยขึ้นสักที แต่คิดว่ามันคงจะไม่เมาหรอกมั้งไม่งั้นผมคงได้ใจบุญเอามื้อเที่ยงที่กินเข้าไปบริจาคให้เป็นอาหารปลาในทะเลแน่ๆ ระหว่างที่นั่งทานก็มีคนให้ความสนใจกลุ่มของพวกผมเป็นพิเศษ อาจเพราะการแต่งตัวของว่าที่บ่าวสาวที่เด่นสะดุดตา แต่ที่น่าหมั่นไส้ก็คือมีสาวเข้ามาขอเบอร์ไอ้พี่เดียวด้วย แต่ผมไม่รู้ว่ามันให้ไปหรือเปล่า ไม่ได้สนใจออกมาเข้าห้องน้ำซะก่อน พอจบมื้อกลางวันเราก็มาที่ท่าเรือพร้อมจะขึ้นเรือยอร์ช




“อ่ะ กินซะ”



“?”ผมเลิกคิ้วถามแทนคำพูด เมื่อมันยื่นแผงยาอะไรก็ไม่รู้มาให้



   “ยาแก้เมาเรือ กินกันไว้ก่อน เผื่อเมาเรือแล้วเดี๋ยวทำงานไม่ไหว”



   “แหม่ รักษาผลประโยชน์เหลือเกินนะครับท่านประธาน”อดประชดแดกดันมันไม่ได้จริงๆ




   “ไม่ใช่อย่างนั้น เป็นห่วงต่างหาก”



   “....”มันพูดหน้าตาจริงจังมาก มาแบบนี้ไปต่อไม่ถูกเลย มันจั๊กจี้แปลกๆเวลามีคนพูดว่าเป็นห่วงแบบซึ่งหน้าอย่างนี้



   “รับไปสิ”



   “ขอบคุณ”



   “รู้จักขอบคุณ น่ารักๆ”



   “ฮึ่ย”ผมปัดมือที่ลูบหัวตามจังหวะที่มันพูดว่า ‘น่ารักๆ’ ออก ทำเหมือนผมเป็นเด็กสามขวบไปได้ เจ้าของมือหวัเราะอารมณ์ดี ผมว่ามันต้องกินยาผิดมาแน่ๆ ไม่ก็พื้เนื้อ ถึงได้ทำตัวประหลาด นอกจากจะคอยมองคอยจ้องเวลาผมทำงานแล้ว ตอนไหนที่ผมว่างมันก็มักจะพาตัวมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆตลอด ใกล้จนพี่ยศต้องมาแอบกระซิบถามว่ามีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า ผมเลยแถไปว่าไอ้พี่เดียวมันสนใจเรื่องถ่ายรูปเลยเข้ามาคุยด้วย




   พวกเรากลับมาถึงฝั่งตอนหนึ่งทุ่มหิวโซจนแทบจะจับหมึกกินสดๆตอนที่เรือยังไม่เทียบท่า แต่ด้วยความรอบคอบของพี่นลินที่เตรียมสั่งมื้อเย็นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว พอมาถึงรีสอร์ทก็สามารถทานกันได้เลย วันนี้พวกทีมคอร์สตูมก็มาร่วมทานกับพวกเราด้วย มีแอลกอฮอล์ให้จิบชุ่มคอด้วย เพราะพรุ่งนี้ไม่ต้องทำงานแล้ว สามารถตื่นสายได้แต่อย่าเลยเวลาเช็คเอ้าท์เท่านั้นเอง




   ตอนนี้ผมกำลังถูกรุมล้อมด้วยสาวๆที่เข้ามาดูรูปที่ผมถ่ายให้ อันที่จริงผมถ่ายทุกคนที่อยู่บนเรือ เพราะอาจจะมีโอกาสไม่มากที่จะได้มาชมควมงามของท้องทะเลแบบนี้อีก ใครก็คงอยากมีรูปดีๆวิวสวยๆเก็บไว้ชื่นชมหรือแชร์อวดคนอื่น ผมเลยถ่ายมาแบบเต็มที่แต่ก็ไม่ได้ละเลยหน้าที่ของตัวเองนะ บ่าวสาวเองก็มีรูปถ่ายเล่นเหมือนกัน พี่นลินพอรอเวลาเซ็ตฉาก เปลี่ยนมุมทีไรก็มาสะกิดให้ผมถ่ายรูปเล่นอยู่เรื่อย พี่แชมป์ก็ลากน้องชายตัวเองมาถ่ายคู่กัน พูดกันแบบไม่มีอคติละก็ความหล่อกินกันไม่ลงจริงๆ บางทีผมหมั่นไส้ก็อยากจะถ่ายไอ้พี่เดียวให้ตกขอบทุกที แต่เดี๋ยวจะหาว่าผมฝีมือห่วยเลยต้องจำใจถ่ายดีๆให้




   “เดี๋ยวผมไรท์ใส่แผ่นแล้วฝากพี่ยศไว้แล้วกันนะครับ”ด้วยความที่รูปมันรวมๆกันต้องใช้เวลาในการคัดแยก คืนนี้ยังไงก็คงไม่เสร็จเลยต้องหาทางออกให้พี่ๆเขาแบบนี้



   “ถ้าพี่อยากไปเอากับน้องน่านเองล่ะคะ”ไอ้คำว่าเอานี่เน้นชัดเจนมาก ไม่รู้ว่าอยากเอารูปหรือเอาอะไรกันแน่ พี่คนนี้เป็นสาวประเภทสองครับ แสดงออกแบบชัดเจนมากว่าอยากจะกลืนกินผมเข้าไป เล่นเอาผมขนลุกเลย ถึงผมจะเป็นไบแต่เจอพี่ๆประเภทนี้ทีไรผมไม่สู้ทุกที เลยได้แต่ยิ้มแหยให้



   “นังแป้งร่ำ! น้องมันกลัวแกจะแย่แล้ว ถอยออกมาเลย จะเข้าไปสิงน้องเขาเหรอยะ”



“แหม เจ๊ก็ ขัดคอหนูตลอดเลยนะ”แล้วก็โดนลากออกไป ผมเลยได้หายใจคล่องหน่อย แล้วก็ได้ยินเสียงหัวเราะแบบกวนประสาทเบื้องล่างดังเข้าหู พอหันไปมองก็เจอเจ้ากรรมนายเวรยืนยิ้มขำอยู่ในมือถือแก้วไวน์ดูมาดคุณชายเหลือเกิน



“ตลกๆ”




“เพิ่งรู้ว่ากลัวแบบนี้”




“ไม่ได้กลัว”



“นั่งเกร็งขนาดนั้น ยังปากแข็ง”นี่มันสังเกตผมตลอดเลยเหรอวะ



“ยุ่ง”



“หึหึ เขาสวยออก หุ่นก็ดีกว่าผู้หญิงบางคนอีก ไม่อยากลองหรือไง”



“ไปลองเองเถอะ”




“เคยแล้ว”




“หะ!!?”เชรี่ยยยยยย ผมไม่ได้หูฝาดใช่มั้ย หน้าผมต้องตลกมากแน่ๆ มันถึงได้หลุดขำพรืดออกมา



“ล้อเล่น”ไม่ทันแล้วป่ะวะ ผมเชื่อไปแล้วเนี่ย มันต้องเคยมาแล้วจริงๆ




“ทำหน้าไม่เชื่ออีก ล้อเล่นจริงๆ ไม่เคย”



“แม่ม แล้วพูดเพื่อ”




“แค่อยากเห็นปฏิกริยา ทำหน้าตลกดีนะ”




ถ้าไม่หาเรื่องชวนให้ขนลุกด้วยการทำตัวเลี่ยนใส่ก็ต้องหาเรื่องมาให้ผมหงุดหงิดได้ตลอด ท่าทางจะไม่ปกติจริงๆนะเนี่ย



“ประสาท”



“หึ แล้วมีรูปพี่บ้างมั้ยเนี่ย”



“ไม่มี”อันที่จริงรูปเดี่ยวๆของมันก็มีเยอะเหมือนกันด้วยความที่ผมเป็นคนหน้าตาดีและจิตใจดี มีความเมตตาสงสารเลยถ่ายให้ แต่ผมไม่บอกมันหรอก หมั่นไส้ ยิ่งเห็นมันทำหน้าแบบเคืองๆแล้วผมก็มีความสุข





X






ตกดึกต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันพักผ่อนเพราะวันนี้เหนื่อยกันมามาก มีคนเมาเรือด้วย แต่ผมนี่สบายหายห่วงต้องขอบคุณไอ้บ้านั่นแหละนะที่เอายามาให้ผมกินกันไว้ก่อน ผมอาบน้ำเสร็จก็เห็นไอ้คนตัวโตแรงควายนอนจองเตียงฝั่งหนึ่งเอาไว้ ในมือถือไอแพดดูอะไรก็ไม่รู้ เท่าที่สังเกตดูมันถือติดตัวตลอดเหมือนเป็นอวัยวะที่ 33 ของมัน ผมเดินเอาผ้าเช็ดตัวไปผึ่งก่อนจะมาทาครีมที่หน้ากระจก ใช้หน้าตาหาเหยื่อก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ ถึงจะต้นทุนดีแต่ถ้าไม่ดูแลบำรุงมันบ้างก็มีโทรมเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ไม่ว่าเพศไหนก็ต้องรู้จักดูแลตัวเองครับ ไม่มีทางที่จะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติแล้วมันจะดูดีขึ้นมาเองได้ คนบนเตียงก็เหมือนกัน ครีมบำรุงของมันก็มีพอสมควร แถมแต่ละอย่างนี่เคาน์เตอร์แบรนด์ทั้งนั้น น้ำหอมก็พกมาตั้งสามขวด ฉีดวันละกลิ่นเลยหรือไงวะ ของผมนี่แค่ขวดเดียวกลิ่นประจำที่ชอบใช้ แต่ซื้อเป็นไซส์เล็กพกพาไปไหนมาไหนสะดวก



“น้ำน่าน ยังหยุดอีกสองวันใช่มั้ย”



“อือ”



“อยู่ต่อกัน”




“ห๊ะ?”



“อยู่ต่อด้วยกันอีกคืน”




“ไม่”



“ทำไม”




“ไม่อยากอยู่”



“เที่ยวฟรี กินฟรี พักฟรี ตั๋วเครื่องบินกลับฟรีด้วย”มาเป็นแพ็คเกจเลยนะ



“ป๋าเหลือเกิน”




“ก็กับน่านคนเดียวแหละน่า”เหอะ ผมไม่เชื่อน้ำคำมันหรอก ร้อยไม่เชื่อพันไม่เชื่อ ผมไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสาที่เอาของพวกนี้มาหลอกล่อแล้วยอมแลกทุกอย่าง



“ไม่”



“กลัว?”น้ำเสียงท้าทายจนคิ้วกระตุกเลย



“ทำไมต้องกลัว?”ผมหันไปมองมันนิ่งๆ



“ก็นั่นสิ ถ้าไม่ได้กลัวแล้วทำไมไม่อยู่ต่อด้วยกัน”ยิ้มยียวนท้าทายแต่ผมไม่หลงกลมันหรอก



“คำตอบก็เหมือนเดิม คือไม่อยากอยู่ ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ ชัดมั้ย?”คุยกับมันแล้วเหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่าง เสียเวลาทาครีม เสียอารมณ์



“ชัด...แต่ก็อยากให้อยู่ด้วยกัน”



“เห้ยๆๆๆ ปล่อยเลยๆ”เผลอเป็นไม่ได้เข้าคลุกวงในตลอด มันเดินเข้ามากอดจากด้านหลังแล้วรัดแน่นทันทีชาติก่อนเป็นงูเหลือมหรือไง



“โอ๊ยๆๆ เจ็บๆ ยอมแล้ว โคตรโหดอ่ะ นั่นกระปุกแก้วนะ”มันร้องลั่น



“สม”ผมถอยไปตั้งหลักไกลจากมันหลายก้าว ในมือยังถือกระปุกครีมอาวุธสำคัญแน่น



“ไอ้เด็กโหด”




“ไม่เอาฟาดหัวก็บุญแล้ว”



“เห้ย แค่กอดเองนะ ใจร้ายไปแล้ว”มันโอดครวญ คืนนี้ผมไม่มึนไม่เมา ถึงจะเหนื่อยงานแต่ก็ยังมีแรงอยู่นะ ไม่ยอมให้กอดง่ายๆเหมือนคืนก่อนหรอก



“กอดก็ไม่ได้ ห้ามๆๆๆ”



“เออๆๆๆ”มันตอบกลับอย่างมีอารมณ์ อารมณ์หงุดหงิดอ่ะนะ แล้วก็เดินกลับไปนอนสิงสู่ไอแพดต่อ ผมยืนคุมเชิงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะไปจัดการกับตัวเองต่อ พอจะล้มตัวลงนอนก็อดระแวงไม่ได้ว่าไอ้คนข้างๆจะตะครุบตัวเข้าไปกอด แต่มันยังคงสนใจเมียไอแพดต่อไป จนผมสงสัยว่าในนั้นมันมีอะไรดีนัก หรือว่าดูคลิปโป๊อยู่วะ



“จะนอนก็ปิดไฟได้เลยนะ”มันพูดไม่ได้หันมามอง สีหน้าตอนนี้จริงจังมาก ผิดกับที่กวนประสาทผมเมื่อกี้ลิบลับ หลายอารมณ์เหลือเกิน ผมปิดไฟตามที่มันบอกแต่เหลือไฟเฮ้าส์ไว้



“นี่ ไม่นอนหรือไง”ผมลองเรียกมันดู



“ไฟแยงตาเหรอ โทษทีเดี๋ยวออกไปทำข้างนอกก็ได้”มันทำท่าจะลุกออกไปจริงๆ แต่ผมคว้าแขนมันได้ทัน



“เปล่า แล้วทำอะไรอยู่?”มันทิ้งตัวลงพิงกับหมอนที่ใช้รองหลังเหมือนเดิมแล้วยื่นไอแพดมาให้ดูแทนคำตอบ หน้าจอมีแต่ภาษาต่างด้าว คาดว่าคงเป็นฝรั่งเศสที่มันเคยพ่นให้ผมได้ยิน ซึ่งไม่รู้เรื่องสักนิด แต่เดาว่าคงเกี่ยวกับเสื้อผ้าเพราะมีรูปประกอบ



“เปลี่ยนรสนิยมไง”ก็เสื้อผ้าในนั้นเป็นเสื้อผ้าผู้หญิง ดึกดื่นขนาดนี้นั่งส่องเสื้อผ้าลูกไม้หวานพริ้วหน้าเคร่งเครียด มันก้มหน้าลงมามองผมที่ชะโงกดูหน้าจอด้วยสายตาแบบเอือมสุดชีวิต



“คิดได้เนอะ”



“เอ้า ก็เห็นดู”



“ทำงาน”



“?”



“ห้องเสื้อของแม่น่ะ”



“อ่อ มีปัญหาเหรอ”เห็นหน้ามันเครียดๆ



“ก็ไม่เชิง”มันถอนหายใจ คงมีปัญหานั่นแหละแต่คงไม่พร้อมเล่า ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย ผมขยับตัวลงมานอนฝั่งตัวเองอยากจะหันหลังให้มันแต่ก็เสียวสันหลังแปลกๆ เลยนอนหงายแล้วหลับตาลง กำลังเคลิ้มๆ ไอ้คนข้างก็สะกิด



“อะไร คนจะนอน”



“อยู่ต่อด้วยกันเถอะ”มันยังไม่ยอมแพ้ครับ



“ไม่มีงานมีการทำหรือไง”ข้องใจนะครับ ถึงจะเป็นประธานบริษัทก็ใช่ว่าจะหยุดได้ตามใจชอบ ผมว่างานมันก็มีไม่น้อยนะ ไหนจะต้องสอนอีก



“มีสิ นี่ก็จะไปทำงานด้วย มีสัมมนาสมาคมค้าเพชรพลอย”



“แล้วจะชวนให้อยู่เพื่อ?”



“ก็อยู่เป็นเพื่อนหน่อย ว่างไม่ใช่เหรอ”



“รู้ได้ไงว่าว่าง”แต่ก็ว่างจริงๆนั่นแหละ ไม่มีแผนจะไปทำอะไร ตั้งใจจะนอน นอนและนอน



“แล้วไม่ว่าง?”



“สัมมนาที่ไหน?”



“ที่เดอะ นครา วิลล่า สนใจมั้ย ทุกอย่างฟรีนะ”ชื่อโรงแรมทำเอาผมตาโต โรงแรมนี้โคตรหรู ค่าห้องพักแต่ละคืนนี่ไม่ธรรมดาเผลอๆแพงกว่าที่นอนอยู่ตอนนี้อีก ตอนที่คิดว่าจะจ่ายเองก็รู้สึกเสียดายเงินขึ้นมานิดๆ แต่ตอนนี้จิตใจเริ่มเอนเอียง ถึงจะมีเงินแต่ไอ้ของฟรีนี่ใครก็ชอบ ก่อนหน้านี้ที่ไอ้พี่เดียวเอามาล่อเป็นแพ็คเกจผมก็เฉยๆหรอกนะ แต่พอได้ยินชื่อโรงแรมนี่ชักเขว ไอ้พี่เดียวมันคงเห็นผมเริ่มสนใจเลยขุดเอาของฟรีอื่นๆมากมายมาล่อลวงผมสุดๆ ไม่ว่าจะกิจกรรมผาดโผน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อะไรก็ได้ฟรีแบบไม่อั้น สุดท้ายแล้วผมก็เห็นแก่ของฟรี ตกปากรับคำไปว่าจะอยู่ต่อเป็นเพื่อน นี่ผมไม่ได้ใจง่ายไปใช่มั้ย?





(มีต่อ)







   
   

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
แล้วก็พบคำตอบที่มาของของฟรีทั้งหลายที่ใช้ล่อลวงผมมา โรงแรมนี้เป็นโรงแรมของพี่ทักษ์เพื่อนมัน ที่ผมรู้ก็เพราะพอก้าวลงจากรถเช่าที่ไอ้พี่เดียวเช่าไว้ใช้ระหว่างพักอยู่ที่ภูเก็ต พี่ทักษ์ก็เอาหน้าตี๋ๆมารอรับถึงล็อบบี้ แต่ก็ต้องงงวยที่เห็นผมมากับไอ้พี่เดียวด้วย



“นี่คือเด็กที่มึงว่า?”พี่ทักษ์ถามไอ้พี่เดียวแต่ตาจ้องผมเขม็ง แต่เด็กอะไรวะ ผมไม่ใช่เด็กใครนะเว้ย!




“หึ”ทำมันเสียงในลำคอปรายตามองมาได้น่าถีบ ส่วนพี่ทักษ์ก็ยิ้มแปลกๆ ไอ้เหี้ยพี่เดียวมันคงไม่ได้เล่าเรื่องระหว่างผมกับมันให้เพื่อนๆฟังหรอกนะ แต่ก่อนที่ผมจะได้คำตอบก็โดนพี่ทักษ์ต้อนให้ไปทานข้าวในห้องอาหาร ที่เห็นวิวทะเลสีฟ้าสดใส พอนั่งปุ๊บอาหารก็พร้อมเสิร์ฟปั๊บ เรียงรายกันเต็มโต๊ะไปหมด แต่มีเพียงผมกับไอ้พี่เดียวที่กินกันสองคน พี่ทักษ์ขอตัวไปดูความเรียบร้อยของห้องสัมมนาที่จะเริ่มงานในตอนบ่าย



พอจัดการอาหารเสร็จก็แยกย้ายกันไป ไอ้พี่เดียวไปเตรียมตัวสัมมนา ผมเพิ่งรู้ว่าเลขามันมารออยู่ที่นี่ตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนผมพี่ทักษ์ก็ให้พนักงานมาคอยดูแลอย่างดี พามาที่ห้องพักและให้การ์ดวีไอพีสำหรับใช้ในโรงแรม จะเรียกใช้บริหารหรือจะสั่งอะไรมาดื่มกินก็ได้ตามสบาย หวานหมูเลย
ผมเริ่มจากการสั่งเบียร์วุ้นมานอนจิบริมสระดูสาวๆเล่นน้ำคลายร้อน กะเอาไว้ว่าบ่ายแก่กว่านี้ค่อยไปเล่นพารามอเตอร์ แล้วก็ลงเล่นน้ำสักหน่อยไหนๆก็มาถึงทะเลแล้ว จะว่าไปผมก็รู้สึกดีนะเหมือนได้พักผ่อนจริงๆ เบียร์หมดไปสองขวดพนักงานก็มาแนะนำให้ไปลองสปา ผมก็ไม่ขัดศรัทธาจัดไปหนึ่งชั่วโมงออกมารู้สึกฟินมาก จากนั้นก็ไปทำนั่นนี่ที่อยากทำจนต้องกลับมานอนแผ่ที่ริมหาดหมดสภาพ ผมว่าพรุ่งนี้จะไปสปาอีกรอบก่อนหลับ




“หึหึ สนุกจนลืมพี่ไปเลยมั้ง”เงาดำที่ทาบทับลงบนหน้าผมไม่ใช่ใคร ไอ้คนที่หายไปสัมมนาครึ่งค่อนวัน ยืนกอดอกยิ้มอยู่ข้างผมยังอยู่ในชุดสูทเต็มยศ




“ป่ะ อาบน้ำแล้วเดี๋ยวลงมากินข้าวเย็นกัน”มันยื่นมือมาฉุดให้ผมลุกขึ้น ไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือนั้นเพราหมดแรงไปกับกิจกรรมโลดโผน



“กี่โมงแล้ว”



“ห้าโมง”



“ไหนว่าเลิกสี่โมง”



“ก็เลิกสัมมนาสี่โมง แต่พอคนทำธุรกิจเดียวกันมาเจอกันก็เลยมีคุยติดพันกันเลยช้าไปหน่อย ทำไมคิดถึงพี่เหรอ”มันยิ้มกรุ้มกริ่มชวนอ้วก



“อย่าพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้”



“หึ วันนี้ทำอะไรมาบ้าง”



“เยอะแยะ ขี้เกียจเล่า”ผมบอกปัดไป ไม่ใช่เด็กน้อยที่ทำอะไรแล้วต้องคอยรายงาน



“ดำขึ้นป่ะ”พอมันทักผมก็เลยต้องก้มลงมาแขนตัวเองแล้วพยักหน้ากับคำพูดของมัน คือใส่เสื้อแขนกุดกางเกงขาสั้น โนแดดเต็มๆแบบนี้ไม่ดำขึ้นก็แปลก แต่ผมไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่ ไม่ใช่ไอ้พายรายนั้นกลัวดำมาทะเลทีไรต้องทาครีมกันแดดเป็นขวดๆ นึกถึงแล้วก็ลืมไปเลยว่าผมยังไม่ได้โทรบอกมันเลยว่าจะอยู่ต่อ โทรศัพท์ก็ทิ้งไว้บนห้องป่านนี้มันคงกระหน่ำโทรจนแบตหมดแล้วละมั้ง



ไอ้พี่เดียวให้ผมไปอาบน้ำก่อนเพราะเล่นมาทั้งวันแล้ว ผมก็ไม่ขัดดูเหมือนวันนี้ผมจะเชื่อฟังมันเกินไปหรือเปล่าวะ ให้ทำอะไรก็ทำ ผมขี้เกียจะเถียงด้วย แล้วสิ่งที่มันให้ผมทำก็ไม่ได้ขัดกับความต้องการเลยปล่อยๆไป ก่อนเข้าห้องน้ำผมเห็นมันหยิบไอแพดขึ้นมาทำหน้าเครียดอีกแล้ว พวกนักธุรกิจนี่ทำงานไม่เห็นน่าสนุกเลย



ผมอาบน้ำเสร็จออกมาก็เห็นไอ้พี่เดียวอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำนอนหลับตาอยู่บนเตียง หลับจริงหรือพักสายตาก็ไม่รู้ ท่าทางมันดูเหนื่อยๆ



“พี่เดียว”ลองสะกิดดูครั้งแรกยังไม่เกิดอะไรขึ้นเลยต้องเขย่าแขนมันเบาๆและเพิ่มแรงขึ้นเมื่อมันยังไม่ไหวติง จนครั้งสุดท้ายมันก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา



“ไปอาบน้ำดิ”



“อืม”มันดูงงๆเบลอๆ เดินเข้าห้องน้ำไป ไหวมั้ยนั่น




ผมแต่งตัวเสร็จก็หยิบโทรศัพท์มาเช็คดู สายจากไอ้พายห้าสาย น้อยกว่าที่คิด แต่ก็มีของไอ้ธันว์กับไอ้โอ๊คอีกคนละสาย นอกนั้นก็เป็นข้อความไลน์ ผมกดเข้าไปดูและตอบไอ้พายก่อน ขี้เกียจโทรกลับไปฟังมันบ่น ส่วนไอ้โอ๊คพอมันโทรไม่ติดก็กระหน่ำไลน์มา เรื่องงานล้วนๆไล่อ่านถึงข้อความสุดท้ายมันบอกไม่ง้อผมแล้ว คงจะได้ความช่วยเหลือจากคนอื่นเรียบร้อย ส่วนไอ้ธันว์ห่านั่นชวนเมา ข้อความจากคนอื่นๆก็ไม่มีอะไร คนที่ผมคุยด้วยช่วงก่อนก็ทักมาเป็นปกติ แต่พอผมเบื่อไม่ได้ติดต่อไป ไม่ค่อยรับโทรศัพท์หรือตอบไลน์ส่วนใหญ่ก็ทยอยหายกันไปทีละคน สรุปแล้วผมไม่ได้โทรกลับหาใคร ทิ้งตัวนอนแผ่ด้วยความเมื่อยรอไอ้พี่เดียวมันอาบน้ำ หวังว่ามันคงไม่ได้หลับคาห้องน้ำหรอกนะ



รอไปรอมาผมก็เคลิ้ม แต่ก่อนจะหลับไปมันก็ออกมาพอดี แต่งตัวเสร็จก็พากันลงมาที่ห้องอาหารพี่ทักษ์รออยู่ ส่วนเลขาไอ้พี่เดียวกลับไปแล้ว



“ไม่คิดว่ามึงจะมากับไอ้เดียว”เพิ่งจะได้มีโอกาสคุยกันจริงจังตั้งแต่เจอกัน พี่ทักษ์เลยเริ่มบทสนทนาบนโต๊ะอาหารขึ้น



“ก็ว่างๆอ่ะพี่ แล้วทุกอย่างฟรีผมก็เลยมาด้วย”



“หึ เห็นแก่ของฟรี บ้านมึงไม่มีตังค์ไง๊? กูว่าไม่น่าใช่ดูจากรถที่มึงขับ”



“เงินมีก็เก็บไว้สิพี่ ได้ของฟรีใครจะไม่เอา”



“เพื่อนกูนี่ไง ได้ฟรีๆทำไมมึงไม่เอา”



พรวด!



ไวน์ขาวพุ่งออกปาก ลงใส่แก้วเหมือนเดิม



“โหย ไอ้เหี้ย ซกมก”



“ใครให้พี่พูดแบบนั้นวะ”พี่ทักษ์แม่มหัวเราะลั่นไม่เกรงใจใคร ส่วนไอ้เหี้ยพี่เดียวมันหัวเราะสองหึ แล้วจิบไวน์สบายอารมณ์ นี่เพื่อนมันรู้เรื่องของผมกับมันด้วยเหรอวะ พอมองไปทางไอ้พี่เดียว มันก็ยักไหล่แล้วก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้ามันต่อ ส่วนไอ้พี่ทักษ์ก็ยิ้มกรุ้มกริ่ ตาวิบวับน่าควักมาเตะเล่น



“กินๆ แหม่พูดเล่นแค่นี้ถึงกับกินไม่ลงเลยเหรอวะ”พี่ทักษ์มันเลื่อนจานกั้งทอดกระเทียมมาให้ กั้งตัวโตเท่าแขนได้มั้งเนี่ย แต่มันไม่ได้ทำให้ผมเจริญอาหารขึ้นเลย แต่ก็มีระฆังมาช่วยชีวิตโทรศัพท์ของไอ้พี่ทักษ์ดังขึ้นแล้วก็ขอตัวออกไปคุย ผมเลยได้จังหวะหันไปจัดการไอ้บ้าข้างๆ



“พี่เล่าเรื่องของเราให้เพื่อนฟังเหรอวะ”



“เปล่า”



“แล้วไมเพื่อนพี่พูดงั้นวะ”



“มันแค่รู้ว่าพี่ชอบน่านอ่ะ ก็พูดไปงั้นแหละ ไอ้ทักษ์ปากมันดี”ผมมองมันอย่างเคลือบแคลงสงสัย



“พี่พูดจริง ทำไมทำหน้าไม่เชื่ออย่างนั้น”



“ก็มันน่าเชื่อหรือไงเล่า”



“เชื่อเถอะ ‘เรื่องของเรา’ พี่ไม่มีทางเล่าให้ใครฟังหรอก”มันพูดยิ้มๆ เน้นย้ำคำว่าเรื่องของเราจนผมสะดุดหูแล้วนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ผมเป็นคนใช้คำนี้เอง แม่งพลาดละ



“รู้สึกดีจังเลยน้า...เรื่องของเรา หึหึ”



“เงียบแล้วกินไปเลยไป”



“อะไร นี่เขินเหรอ”



“ไม่ได้เขินเว้ย!”



“น่ารักจังเลยน้า”โคตรแสลงหู



“โว้ย! เงียบไปเลย หยุดพูด!”ผมอยากจะล้มโต๊ะใส่ให้รู้แล้วรู้รอด เกลียดท่าทางล้อเลียนของมันจริงๆเลย



“หยุดก็ได้ มากินๆ”ทำไมทุกคนต้องทำเหมือนผมเป็นเด็กด้วยวะ ปิดปากผมด้วยของกินตลอด



“พอแล้ว มีมือตักเองได้”มันตักอาหารใส่จานผมใหญ่เลย จนแทบไม่เหลือที่ว่าง



“ก็อยากตักให้”



“ไม่ต้อง เห้ยๆ ไม่เอาเดี๋ยวน้ำมันปนกัน”ผมไม่ชอบให้กับข้าวมันปนกันเดี๋ยวจะเสียรสชาติ ยิ่งพวกที่เป็นน้ำๆด้วยแล้วต้องตักใส่ถ้วยแบ่ง อาหารมื้อนี้เป็นอาหารทะเลแบบไทย รสจัดจ้าน แต่ไอ้พี่เดียวกับเพื่อนมันกระแดะสั่งไวน์มาจิบแกล้ม คือมันขั้นเหรอวะ แต่เอาเถอะยังไงก็ฟรีผมไม่ขัดศรัทธาอยู่แล้ว ดื่มเพลินจนไม่รู้หมดไปกี่ขวด พอจบมื้อค่ำที่ไอ้พี่ทักษ์แว่บมาบอกหลังจากหายไปโทรศัพท์เกือบยี่สิบนาทีว่ามีธุระต้องไปทำต่อ ผมกับไอ้พี่เดียวก็ย้ายก้นมานั่งจิบที่บาร์ริมหาดต่อ บรรยากาศดีมาก ชิลล์จนลืมเวลา ดื่มจนรู้เลยว่าเดินไปตรงทางเหมือนจะมีสติพอรับรู้แต่บังคับตัวเองไม่ได้เลย



ไอ้พี่เดียวมันลากผมเดินมาจนถึงห้องแล้วผลักผมลงบนเตียง ที่นอนนุ่มๆรองรับตัวผมไว้แต่แทนที่จะสบายทำไม ห้องหมุนจนผมเวียนหัวแบบนี้ยนะ ไอ้พี่เดียวมันพูดอะไรก็ไม่รู้ แล้วก็เอาอะไรเย็นๆมาถูตามหน้า ตามคอ



“อื้อ เย็นไม่เอา”



“.....”



“พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่องเลย”



“......”



ผมพลิกตัวหนีมัน รำคาญทั้งเสียงหึ่งๆแล้วก็อะไรเย็นๆที่ลูบไปตามตัวด้วย แต่ก็ถูกมันจับพลิกให้นอนหงายเหมือนเดิม ผมพยายามเพ่งตามองเมื่อเงาดำๆบังตรงหน้าพอดี แต่ก็ไม่เห็นอะไรเพราะไอ้เงาดำๆนั่นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนลมอุ่นๆไล้ไปตามแก้ม ก่อนที่ความนุ่มของอะไรสักอย่างแตะลงที่ปากผม



อืม...นุ่ม รสหวานเฝื่อนเหมือนไวน์ด้วย แต่ก็ร้อนเหมือนถูกนาบด้วยไฟ แต่มันก็ไม่แสบไหม้ กลับรู้สึกดีมากๆ จนไม่อยากผละออก บดเบียดริมฝีปากเข้าหาเพราะอยากได้มากกว่านี้



สัมผัสแบบนี้มันคืออะไรกันนะ...ทำไมเหมือนผมกำลังลอยอยู่บนปุยเมฆ ทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงเหมือนอกจะระเบิด




“อือ...อย่า...”ผมร้องเรียกเมื่อสัมผัสนั้นกำลังจะหายไป ต้องรีบคว้าไว้ แล้วเริ่มใหม่อีกครั้งและอีกครั้ง...




   





-------------------------------------

กรี๊ดดด มาช้ากว่าที่บอกไว้มากเลย พอวันที่ 2 ไม่ทัน แล้วมันก็เลยยาวไป เพราะหลังจากวันที่ 2 ก็ไปนั่นมานี่ไม่ได้ว่างเบย
แต่วันนี้ลงแล้วน้าาาาาา ใครลืมย้อนไปอ่านใหม่ค่ะ 555555555555
รักคนอ่านนะค้า เลิฟๆ
   

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
พี่มันยั่วพี่เดียวชัดๆเลยน่าน ถ้าพี่แกตบะแตกนี่ไม่แปลกใจเลย โดนจับปล้ำอีกรอบเเน่เลย :hao7:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
โดนมอมซะแล้วมั้ง

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
ตัดได้โหดร้ายมากกกก.  พาร์ทนี้มีคำผิดหลายจุดอยู่นะคะ
คิดถึงคนเขียน. ถึงกับต้องไปงอแง้หน้าเพจ 555 :katai5:

ออฟไลน์ PookPick

  • มองฉัน รักฉันสิ!
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
กรี๊ดดดดด ตัดจบได้เหมาะสมมากค่ะ!!!

รอตอนต่อไปเลย สนุกมากเลยค่ะ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด