[♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]  (อ่าน 283594 ครั้ง)

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
ตื่นมาพี่เดียวตายแน่ๆลักหลับน้อง

ออฟไลน์ Sweettemp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อ่านแล้วชอบมากค่ะ แต่งเก็บรายละเอียดเก่งมากค่ะ ชอบการพัฒนาของตัวละครทั้งน้ำน่านและเดียว รวมถึงเพื่อนคนอื่นๆด้วย โชคดีที่กดเข้ามาอ่าน รอตามนะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
แหมน่าน ยั่วเขาซะงั้น555 ตื่นเช้ามาจะเป็นไงระบบ  ฮาาา

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
มาอ่าน19ตอนรวด สนุกค่ะดำเนินเรื่องดี
คู่นี้หล่อเสน่ห์แรงทั้งสอง ลุ้นกันนานเรื่องของเรา
คนของเราแฟนของเราเมียของเรา ฟินๆ
เสียดายน้องคนแต่งไม่ค่อยได้อัพถี่ๆไม่งั้น
เรทติ้งพี่เดียวกับน้องน่านคงแรงกว่านี้ 555

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 20 -





   ผมมาถึงภูเก็ตตอนค่ำของเมื่อวานนี้หลังจากที่เคลียร์งานมากมายที่คุณอ้อมนำเข้ามาให้เซ็นเกือบทั้งวัน แต่นอกจากงานหลวงแล้วก็ยังมีงานราษฎร์ที่ต้องตรวจเปเปอร์ของนักศึกษาที่เพิ่งสอบกลางภาคเสร็จไป พลังงานชีวิตของผมเข้าสู่ขีดแดงจวนเจียนใกล้จะหมดเต็มที่ ช่วงนี้โหมงานหนักเพราะมีหลายอย่างที่ต้องคอยจัดการให้เรียบร้อย เรื่องงานแต่งของพี่แชมป์ผมก็มีส่วนร่วมอยู่มาก บางอย่างต้องทำแทนเพราะพี่แชมป์ก็ต้องบินไปต่างประเทศบ่อย พี่นลินจัดการคนเดียวคงไม่ไหวเลยให้ผมช่วยดูแล แต่ในบางเรื่องพี่นลินเขาก็มีเพื่อนสนิทคอยช่วยอยู่ผมเองก็เคยเจออยู่หลายครั้ง



   “ตื่นเช้าเลยเว้ย นึกว่าจะนอนสบายๆตื่นบ่ายๆโน่น ที่ชวนมานี่กะให้พักผ่อนนะ”



   “เคยชินครับ แต่นี่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร บรรยากาศดีๆแบบนี้ตื่นสายเสียดายแย่”นั่งจิบกาแฟยามเช้าริมทะเล นานๆทำทีผมว่ามันไม่เลวเลย มองแสงแรกของวันที่ค่อยๆทอแสงจับขอบฟ้า ความงามที่หาไม่ได้ในกรุงเทพ



   “ก็จริง นลินโคตรชอบ อยากจะมีบ้านที่นี่”



   “หึหึ สงสัยพี่ชายผมต้องควักกระเป๋าแล้วละมั้งครับ”



“ก็ว่าอย่างนั้นนะ”พี่แชมป์พูดยิ้มๆ ผมว่าคงวางแผนเอาไว้แล้วแน่ๆ คุณหญิงป้าก็มีที่อยู่ที่ภูเก็ต ทำเลอาจจะไม่ดีเท่าที่นี่แต่ก็ติดทะเล ถ้าพี่แชมป์จะขอแบ่งมาก็คงไม่มีปัญหาอะไร



“แล้วนี่จะถ่ายหรือยังครับ”



   “ก็รอว่าที่เจ้าสาวเขาแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จน่ะ วันนี้ไม่รีบ แล้วก็รอช่างภาพอีกคนด้วย”



พอพี่ชายผมพูดถึงช่างภาพขึ้นมา ก็เลยเพิ่งนึกได้ว่ายังขาดไปอีกคน ลืมไปสนิทเลยว่าผมต้องเจอเด็กนั่นที่นี่ ตั้งแต่เจอกันโดยบังเอิญที่ห้างนั่น ผมก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย ไม่ใช่ว่างานเยอะล้นมือจนไม่มีเวลาไปหา แต่ผมตั้งใจที่จะไม่ไปเจอเขาเหมือนก่อนหน้านั้นต่างหาก อะไรบางอย่างบอกว่าให้ผมควรพอเสียที กลับมาเป็นนายภัทรดนัยคนเดิม ที่ไม่ต้องคอยวิ่งตามจีบตามง้อใคร ผมไม่เคยทำกับใครเหมือนกับที่ทำให้เขา ยุ่งแค่ไหนก็ยังปลีกตัวไปหา ไปเจอหน้าทุกเย็น คอยทำอาหารให้ทาน เอาใจสารพัดแต่สุดท้ายสิ่งที่ทำไปกลับไร้ความหมาย



   “อ้าว คุณยศจะไปไหนเหรอครับ”พี่แชมป์ร้องทักคุณยศวีที่ดูท่าทางรีบร้อนเหมือนจะออกไปข้างนอก ทั้งที่น่าจะเตรียมตัวสำหรับการถ่ายงานในวันนี้



   “จะไปรับน้ำน่านที่สนามบินครับ ผมกำลังหาคุณแชมป์อยู่พอดีเลย จะรบกวนขอยืมรถหน่อยครับ”



   “ไม่รบกวนหรอกครับ แต่คุณยศต้องเตรียมสถานที่นี่ครับ นายเดียวว่างให้ไปรับก็ได้”



   “เอ่อ จะดีเหรอครับ”คุณยศวีดูท่าทางเกรงใจแต่สายตาดูมีความหวัง



   “ดีสิ ต้องไปตอนนี้เลยหรือเปล่าครับ”แต่พี่ชายผมก็จัดการเสียเสร็จโดยไม่ถามผมสักคำ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วแค่ไปรับคนๆเดียว



   “ครับ เขากำลังจะขึ้นเครื่อง ออกไปตอนนี้น่าจะทันกันพอดีครับ”



   “ว่าไงนายเดียว”



“ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้ คุณยศไปทำงานต่อเถอะครับ”



ผมขับรถที่เช่าไว้ตรงไปยังสนามบิน ไม่ได้ถามหรอกครับว่าทำไมเด็กนั่นถึงตามมาทีหลัง แต่ถ้าเดาไม่ผิดก็คงเพราะเพิ่งสอบเสร็จ ผมใช้เวลาชั่วโมงกว่าก็มาถึงสนามบิน คือขับมาเรื่อยๆไม่รีบร้อนอะไร ป่านนี้เด็กนั่นคงถึงแล้ว แต่เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ตรงส่วนไหนเลยต้องโทรหา ครั้งแรกไม่รับ ผมเลยโทรอีกครั้งถ้าไม่รับอีกผมจะวนรถกลับทันที แต่เขาก็กดรับเสียก่อน ทั้งผมและเขาต่างพูดขึ้นพร้อมกัน น้ำเสียงฟังดูไม่ยินดีเท่าไหร่ ก็เลยได้ฉะกันแบบเบาๆ แต่ใช่ว่าผมจะทิ้งเขาไว้ที่นี่แล้วให้ไปเองจริงๆ ผมเจอเขาที่ยืนต่อคิวแท็กซี่พอดีเลยลากมาด้วยก็พยศตามนิสัย คุยกันดีๆไม่ค่อยจะได้แต่อย่างน้อยก็ยังเรียกพี่



พอกลับมาถึงที่พักพี่นลินที่แต่งตัวเสร็จแล้วก็รีบออกมาต้อนรับ ท่าทางจะถูกชะตากับน้ำน่านมาก ไอ้เด็กนี่ก็ปากหวาน ซึ่งก็คงเป็นไปตามนิสัย ผมได้ยินแล้วก็พาลแสลงหู แต่จะแปลกใจก็ตรงที่น้ำน่านต้องพักห้องเดียวกับผมนี่แหละ แต่ผมก็ไหลไปตามน้ำ ใครจะไปขัดว่าที่เจ้าสาวได้ ยิ่งเห็นอีกคนดูไม่อยากอยู่ร่วมห้องด้วย ผมก็ยิ่งอยากแกล้ง อารมณ์หมั่นไส้มันกลับมาอีกแล้ว ท่าทางหยิ่งๆแบบนั้นจะแกล้งให้หนักเลยคอยดู



ระหว่างที่ทุกคนกำลังทำงานกันอยู่นั้นผมที่ไม่มีแพลนว่าจะทำอะไรก็หยิบหนังสืออ่านเล่นติดมือมาหนึ่งเล่น มานั่งอ่านใกล้ๆที่เขากำลังถ่ายรูปกันอยู่ ช่างภาพผู้มาใหม่กำลังง่วนอยู่กับกล้องในมือ ก็ว่าจะไม่สนใจแต่ไม่รู้ทำไมเผลอทีไรต้องคอยจับจ้องไปที่น้ำน่านตลอด เคยบอกไปแล้วว่าเขาเป็นคนมีเสน่ห์ ซึ่งถึงแม้ตอนนี้ผมไม่ได้คิดอยากจะข้องเกี่ยวด้วยแล้วเขาก็ยังคงดึงดูดสายตาผมอยู่ดี ยังดีที่มีแว่นกันแดดบังสายตาอยู่ จึงไม่ค่อยมีใครรู้ว่าผมกำลังสนใจอะไร



ผมเดินออกไปรับโทรศัพท์จากไอ้ทักษ์มันบอกว่าลงมาที่ภูเก็ตแล้วเหมือนกัน งานสัมมนาที่ผมต้องมาเข้าร่วมจัดที่โรงแรมมัน งานใหญ่เลยต้องลงมาดูด้วยตนเอง ไม่อย่างนั้นโดนเตี่ยมันด่าเละแน่ๆ แกลับมาที่โต๊ะผมก็เห็นเด็กผู้หิวโหยกำลังซัดแซนด์วิชแล้วก็ของกินเล่นที่ยกมาเสริ์ฟทีมงานอย่างเอาเป็นเอาตาย อาการคือรีบยัดมากจนผมกลัวจะติดคอ พอเข้าไปทักอีกคนก็สำลักตาเหลือกจนต้องรีบยื่นน้ำให้ด้วยความสงสาร แต่ก็เผลอแอบเขาไปคำนึง เลยได้สายตาขวางๆเป็นของตอบแทน เป็นเด็กที่ยั่วง่ายไม่เปลี่ยน การเฝ้าสังเกตการณ์ของผมเป็นอย่างสนุกสนานไม่รู้ว่าคิดเองหรือเปล่าว่าอีกฝ่ายพยายามหลบเลี่ยงผม แต่ผมก็จ้องจนเขารู้ตัวนั่นแหละครับว่าต่อให้หลบยังไงก็ไม่พ้น



“คุยกันหน่อยสิ”ผมรู้สึกว่ามันชักจะมากเกินไปแล้วกับการถูกเมินแบบนี้ ตอนแรกผมก็คิดว่ามันบังเอิญ อีกฝ่ายแค่ยุ่งกับงาน แต่จากการเฝ้ามองมาทั้งวันผมเลยรู้ว่ามันไม่ใช่ จนถึงตอนนี้ไอ้เด็กบ้านี่มันยังไม่มองหน้าผมเลย ทำเป็นหูทวนลม



“หึ จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย จะไม่ยอมพูดด้วยใช่มั้ย ทำได้ก็ทำไปหลุดพูดเมื่อไหร่เจอดีแน่”



ผมชักจะเดือดจริงๆแล้ว ผมไม่มีความหมายต่อเขาเลยใช่มั้ย ข้างในอกผมมันเหมือนจะระเบิดออกมา ทั้งที่ไม่อยากยุ่งด้วย ทั้งที่ตั้งใจจะออกห่างกลับกลายเป็นว่าผมไม่สามารถทำอย่างที่ตั้งใจไว้ได้เลย ผมจมอยู่กับความคิดตัวเอง ทบทวนความรู้สึกและกำลังตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี มารู้ตัวอีกทีอีกฝ่ายก็ไม่อยู่ในสายตาแล้ว รออยู่นานจนอดไม่ไหวต้องขึ้นห้องไปหยิบโทรศัพท์โทรหาเลยรู้ว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปเหมือนกันเพราะมันร้องดังอยู่ตรงกระเป๋ากล้อง



    ไม่ได้มีแต่ผมที่เป็นห่วงคนที่หายไป คุณยศวีเองก็เช่นกัน ตอนแรกว่าจะแยกย้ายกันไปหา แต่พอเดินไปถึงหน้าวิลล่าก็เห็นไอ้เด็กบ้าเดินกลับมา ผมพูดด้วยมันก็ไม่พูดด้วย ผมอดทนรอจนกระทั่งได้อยู่กันตามลำพัง แน่นอนว่าสถานการณ์ระหว่างผมกับน้ำน่านไม่ได้จบลงด้วยดี ตีกันและจบลงบนเตียง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีได้มีเสียกันเหมือนครั้งก่อน



“โอ๊ย แม่งกัดทำไมวะ”



“หมั่นไส้คน”หมั่นไส้จริงๆ แต่ก็รู้สึกดีที่ได้ทำ ใจจริงอยากจูบให้ขาดใจเลย ให้สมกับที่ทำให้ผมว้าวุ่นใจมาหลายวัน ผมตัดสินใจแล้วไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ปล่อยให้เขาไปเป็นของใคร ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ตัวเขาเป็นของผมแล้ว ใจก็ต้องเป็นของผมด้วย



“กูหมั่นไส้บ้างได้มั้ย แม่ม เลือดด้วย”ทำเป็นบ่น เลือดออกน้อยกว่าเข็มจิ้มนิ้วอีก



“ได้ แต่ต้องทำกลับด้วยวิธีเดียวกันนะ”ผมแหย่กลับไป เราเลยได้ต่อสู้กันอีกยกบนเตียง ผมตลกสีหน้าของน้ำน่านมากตอนที่ผมหลุดปากเรียกเขาว่าเด็กเหี้ย ก็มันเหี้ยจริงๆ คำนี้แหละเหมาะสมแล้ว ทำคนอื่นเขารวนไปหมด จู่ๆผมก็รู้สึกว่าก้อนหนักๆที่มันทับอกได้สลายลงไปเพียงเพราะความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ผมอยากเก็บทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเอาไว้คนเดียว กลิ่นกายหอมๆแบบนี้ไม่อยากให้ใครได้กลิ่นเลย ยิ่งพอได้คุยถึงสาเหตุการมึนตึงก่อนหน้านี้ก็ทำให้ผมอยากจะยิ้มกว้างๆ มันเหมือนแฟนงอนกันเลยว่ะ การแก้แค้นแบบเด็กๆเอาผมอยากกอดน้ำน่านให้กระดูกหัก



“คิดถึง”มันคือความรู้สึกลึกๆในใจ ตลอดเวลาที่ไม่ติดต่อไป ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงเขา คิดถึงทุกช่วงเวลาทั้งที่ดีและไม่ดี พยายามไม่ใส่ใจเท่าไหร่ก็ยิ่งจดจำรายละเอียดได้แม่น ผมคงตกหลุมรักเด็กผู้ชายหน้าหล่อคนนี้ไปแล้ว เมื่อรู้ตัวผมก็จะไม่มีทางปล่อยให้เขาไประเริงกับคนอื่นแน่ๆ ผมจะขัดขวางทุกวิถีทางให้เขาไม่เป็นสุข



“เป็นไรกันวะถึงมีสิทธิ์มาทำแบบนี้”



“ต้องให้ย้ำมั้ยว่าเป็นอะไร ทบทวนกันหน่อยดีมั้ย หึหึ ถ้าอยากทีหลังก็มาหาพี่จะจัดให้หายอยากเลย แต่ห้ามไปนอนกับคนอื่น ไม่ชอบ หวง”ถึงจะยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมก็โมเมเอาได้ ที่บอกว่าหวงก็พูดจริงๆ ผมแกล้งเป่าลมหายใจรดใบหูเบาๆ ได้กลิ่นหอมๆจากซอกคอจนอยากจะกัดชิมรส ความจริงน้ำน่านก็ไม่ได้มีรูปร่างหรือหน้าตาที่ค่อนไปทางน่าฟัดเลยสักนิด แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงได้อยากฟัดนัก หมั่นไส้ มันเขี้ยว แล้วก็อยากกอดรวมๆกัน คนในอ้อมกอดผมนอนนิ่งไม่ไหวติง ที่ไม่ตอบโต้เพราะยังตั้งตัวไม่ติดหรือว่าสมยอมกันแน่ แต่ความเป็นไปได้น่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า ปฏิกิริยาแบบนี้ทำให้ผมยิ่งอยากแกล้ง




 “ต่อจากนี้ไปให้ถือว่าเราสองคน...เป็นแฟนกันแล้วนะ”รู้แน่อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่ายังไงเด็กหัวดื้อคนนี้ไม่มีทางเออออแน่ๆ ถึงจะแอบหวังอยู่บ้างนิดหน่อย แต่ก็ไม่คิดว่าปฏิกิริยาตอบกลับจะทำให้กระดูกซี่โครงของผมเกือบหัก ถีบจริงเจ็บจริง นอนจุกอยู่เกือบห้านาทีได้แต่ส่งสายตาขวางๆ ไปให้ไอ้ตัวดีดีดตัวไปยืนอยู่ข้างเตียง อย่าให้ถึงทีผมบ้าง จะเอาคืนให้ลุกจากเตียงไม่ได้เลย!





X





“ห้องที่กูขอ ตกลงได้มั้ย”หลังจากผ่านเหตุการณ์เมื่อคืนมา ผมเลยคิดว่าจะหลอกล่อเด็กไปกักขังหน่วงเหนี่ยวที่โรงแรมหรูด้วยกันอีกสักคืน ไม่ได้คิดจะพาไปทำมิดีมิร้ายหรอก ไม่มีแผนอะไรเลยด้วยซ้ำแค่อยากให้ไปด้วยกัน เลยต้องตระเตรียมสถานที่ไว้ให้พร้อม



“มึงคุยกับใครครับ นี่ลูกชายเจ้าของโรงแรมนะเว้ย”



“เออ มึงเก่ง”ชื่นชมมันหน่อย จะใช้ประโยชน์จากมันทั้งที เวลาเตี่ยมันด่าก็ด่ามันไม่ด่ามาถึงผมแน่นอน



“แล้วมึงเปลี่ยนห้องเพื่อ?  เห็นหน้าอมทุกข์เหมือนคนอกหักมาหลายวัน ที่จริงมึงแอบหิ้วเด็กมากกใช่มั้ย บอกกูมาซะดีๆ”



“เออ”



“อั้ยย่ะ ไม่มีปฏิเสธด้วยเว้ย ต่อมเสือกกูทำงานละเนี่ย ใครวะ”



“หึหึผมไม่ตอบ ”ผมกดตัดสายไอ้ทักษ์ทันทีขี้เกียจคุยกับมันแล้ว ปล่อยให้มันอกแตกตาย เอาเวลาไปเฝ้าสังเกตการณ์เด็กดีกว่า ในโทรศัพท์มือถือของผมมีรูปเขาหลายรูปเลย แอบถ่ายไว้ตอนเจ้าตัวเผลอๆ เอาไว้ดูเล่น จะว่าไปผมก็ทำตัวเหมือนโรคจิตเหมือนกันนะ



หลังจากการถ่ายในช่วงเช้าเสร็จก็จะย้ายสถานที่ไปถ่ายบนเรือยอร์ช เราแวะทานอาหารกันที่ร้านอาหารที่เพื่อนพี่แชมป์แนะนำมา รสชาติก็สมคำร่ำลือผมเห็นน้ำน่านซัดเข้าไปเยอะมากคงจะถูกปากมาก เห็นแล้วกลัวแทน ถ้าเกิดเมาเรือขึ้นมาที่กินเข้าไปได้ทิ้งลงทะเลเป็นอาหารปลาให้เสียของ แต่ผมขอยาแก้เมาเรือมาจากทางที่พักเรียบร้อยแล้วกะว่าจะให้เขาทานหลังทานข้าว แต่ก็มีคนเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน กว่าจะมีโอกาสได้คุยกันก็ที่ท่าเรือแล้ว



“ยาแก้เมาเรือ กินกันไว้ก่อน เผื่อเมาเรือแล้วเดี๋ยวทำงานไม่ไหว”



   “แหม่ รักษาผลประโยชน์เหลือเกินนะครับท่านประธาน”นี่ยังเคืองผมเรื่องนี้อยู่เหรอเนี่ย เด็กน้อยจริงๆ



   “ไม่ใช่อย่างนั้น เป็นห่วงต่างหาก”ผมเป็นห่วงจริงๆนะ เด็กนี่ตีความหมายไปเป็นอย่างอื่นเสียได้ น่ากัดปาก



   “รับไปสิ”



   “ขอบคุณ”



   ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากเขา ทำให้ผมอดที่จะยิ้มไม่ได้ ทำตัวน่ารักกับเขาก็เป็น ยิ่งสีหน้าตอนที่ปัดผมออกนี่อยากจับมากอดมาฟัด พอรู้ตัวว่ารู้สึกยังไงก็ยิ่งเห็นว่าเด็กนี่น่ารักขึ้นทุกที แต่ก็ไม่ได้น่าเอ็นดูไปเสียทีเดียว เขาก็ยังเป็นเขาที่กวนตีน อารมณ์ขึ้นง่ายให้น่าแกล้งไม่เปลี่ยน ผมเลยหาเรื่องป้วนเปี้ยนอยู่ข้างๆเขาตลอด อยากจะรู้ว่าในกล้องที่ถือติดตัวนั่นมีรูปผมบ้างมั้ย



   “นี่ ไปนั่งเฉยๆได้มั้ยวะพี่”



   “ไม่อ่ะ”



“โว๊ะ เกะกะน่ารำคาญ”



“ถ่ายรูปพี่บ้างดิ”



“เปลืองเมม”



ไอ้เด็กนี่ ตอบแบบไม่หยุดคิดเลยแม้แต่น้อย พอผมทำตาดุใส่ ไอ้เด็กบ้าก็กระตุกยิ้มมุมปากใส่ สีหน้าดูสะใจที่เห็นผมตอบโต้ไม่ได้ แต่อย่างน้อยผมก็พอจะมีรูปอยู่ในเมมนั้นบ้างแหละนะ ถึงจะเป็นเพราะพี่แชมป์ลากไปถ่ายด้วยก็ตาม





   X





   “เยิ้มเลยนะมึง”



   “อะไรของมึง”



“ก็นั่งมองน้องมันจนค...เยิ้มแล้วไง หน้ามึงหื่นมากไอ้เหี้ย”อะไรของมันวะ ผมก็ว่าผมมองปกติ อาจจะมีที่มันเขี้ยวอยากเตะเบาๆด้วยความเอ็นดูไปบ้าง แต่ไม่ถึงกับที่ไอ้ทักษ์มันว่าแน่ๆ



“ความคิดมึงนี่ ไม่จังไรจริงๆคิดไม่ได้นะ”



“ทำมาด่ากู กูก็แค่พูดอย่างที่กูเห็นเว้ย”ผมส่ายหน้าระอากับความคิดมัน แล้วหันไปมองเด็กที่นอนแผ่บนหาดทราย ช่วงบ่ายที่ผ่านมาผมปล่อยน้ำน่านไว้คนเดียว ส่วนผมต้องสัมมนาอยู่หลายชั่วโมงแต่ระหว่างนั้นก็สั่งไอ้ทักษ์ไว้เรียบร้อยแล้วว่าให้ดูแลเป็นอย่างดี จริงอยู่ที่น้ำน่านเป็นผู้ชายที่ดูแลตัวเองได้ แต่ผมเป็นคนชวนมาผมก็อยากให้สะดวกสบายและสนุกที่สุด แล้วมันก็ดูเป็นอย่างนั้นจริงๆถึงได้นอนหมดเรี่ยวแรงอย่างนั้น



เมื่อคืนหลังจากที่หลอกล่อปนท้าทาย สุดท้ายไอ้เด็กแสบก็ตอบตกลงมาจนได้ ถ้ารู้ว่าบอกชื่อโรงแรมไอ้ทักษ์ไปแล้วจะยอมมาด้วยผมคงบอกไปแต่แรกแล้ว แต่มันก็ไม่แย่นักเพราะเมื่อคืนผมก็ได้กำไรนิดๆหน่อยๆ ไม่นับเรื่องที่หวิดหัวแตกน่ะนะ



“มึงจริงจังกับน้องมันจริงๆเหรอวะ”ไอ้ทักษ์ถามอีกครั้งหลังจากที่เงียบกันไป มันยังคงสงสัยอยู่ อาจจะคิดว่าผมอยากแค่เอาชนะเพราะท้าทาย ได้มายาก พวกไอ้ทักษ์มันเคยเห็นน้ำน่านมานาน เพราะเป็นขาประจำร้านไอ้เสก แม้จะไม่เคยพูดคุยแต่ก็พอรู้พฤติกรรมดีว่าเป็นคนยังไง ผีเห็นผี


“คงอย่างนั้น”



“อะไรคือคงอย่างนั้นวะ จริงจังก็พูดมา ห่า มาถึงขนาดนี้แล้วครับพี่”



“เออ กูจริงจัง”


“รู้มั้ยตอนกูเห็นหน้าน้องมันกูโคตรงง ไม่คิดว่าเด็กที่ว่าจะเป็นไอ้หล่อนี่ มาด้วยกันได้ไงวะ”



“น่านเป็นทีมถ่ายพรีเวดดิ้งของพี่แชมป์”



“อ่อ แหม่ประจวบเหมาะอะไรแบบนี้วะ”



“หึ”



“หน้ามึงเหี้ยมากเลยรู้ตัวมั้ย”



“เหี้ยยังไงก็ดีกว่ามึง”


“เหอะ ไอ้สัด ไปเลยไป ไปหาเด็กมึงเลย”มันไล่ แต่อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่ามันก็พาสาวมาด้วย ได้ข่าวว่าเป็นเด็กมหาวิทยาลัย ชอบนักเด็กในชุดนักศึกษาเนี่ย แต่ไม่รู้ว่าคนนี้จีบได้จริงๆหรือว่าเป็นไซด์ไลน์



พอขึ้นห้องผมก็ไล่ให้น้ำน่านไปอาบน้ำก่อนเพราะเล่นเหนื่อยมาตลอดบ่าย วันนี้ก็ดูว่าง่ายบอกอะไรก็ทำ น่ารักๆ



ผมหยิบไอแพดขึ้นมาเช็คหุ้น เช็คเมลงานต่างๆ มีเมลจากฝรั่งเศสส่งมาเกือบทุกวัน ช่วงนี้ร้านเสื้อผ้าที่ฝรั่งเศสเริ่มมีปัญหาอีกแล้ว ตอนแรกที่ว่าจะขายหุ้นให้กับหุ้นส่วนอีกคนที่บุกเบิกมาพร้อมกับแม่ผม แต่สุดท้ายผมก็ได้คนที่จะมาดูแลหุ้นในส่วนนี้แทน ผมเลยจะขายให้เขาแต่ตอนนี้ยังขลุกขลักอยู่ เพราะอีกฝ่ายเพิ่งคลอด เลยยังไม่สามารถเข้ามาดูร้านและบริหารงานได้อย่างเต็มที่ ทางหุ้นส่วนเก่าเขาก็หวังว่าจะได้หุ้นที่ผมถืออยู่ไปเป็นของตัวเองทั้งหมดก็เริ่มเล่นแง่ มีแต่ปัญหาให้ตามแก้ ผมเปลี่ยนมาใส่ชุดคลุมอาบน้ำ ก่อนจะไล่ตอบเมลที่ถูกส่งเข้ามาแล้วเผลอหลับไปไม่รู้ตัวจนกระทั่งน้ำน่านมาปลุก รู้สึกมึนหัวไปหมด



อาบน้ำเสร็จก็พากันลงมากินข้าวไอ้ทักษ์จัดเตรียมทุกอย่างไว้ให้แล้ว ฟรีทั้งหมดทั้งอาหารและเครื่องดื่มเหมือนที่ผมใช้หลอกล่อน้ำน่านมา ตอนแรกที่ถูกปฏิเสธก็ใจแป้วเหมือนกัน อยากใช้เวลาด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้คุยกันดีๆเท่าไหร่ แต่แค่ได้อยู่ด้วยกันผมก็โอเคแล้ว นี่ผมกลายเป็นคนมักน้อย ดูเจียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน



ไอ้ทักษ์ทำหน้าที่ได้ดีมากทั้งหยอดทั้งชงให้ ประโยคโดนใจเรื่องของฟรีนั่นทำเอาผมอยากจะหัวเราะดังๆแต่ก็ต้องกลั้นไว้ แกล้งจิบไวน์กลบเกลื่อน ไอ้ตัวคนพูดมันไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรหัวเราะลั่นไม่ห่วงภาพพจน์ แต่น้ำน่านที่ได้ฟังคงต้องคิดไปไกลแน่ๆ พอไอ้ทักษ์ไปรับโทรศัพท์ถึงได้ไล่บี้เอากับผม



“พี่เล่าเรื่องของเราให้เพื่อนฟังเหรอวะ”



“เปล่า”ผมสะดุดหูกับคำว่าเรื่องของเรา กล้ามเนื้อมุมปากกระตุกยกขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่



“แล้วไมเพื่อนพี่พูดงั้นวะ”



“มันแค่รู้ว่าพี่ชอบน่านอ่ะ ก็พูดไปงั้นแหละ ไอ้ทักษ์ปากมันดี พี่พูดจริง ทำไมทำหน้าไม่เชื่ออย่างนั้น”ผมพูดย้ำอีกรอบเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย แต่เป็นผมเองก็อาจจะเชื่อยาก ในเมื่อตอนแรกๆเราแทบไม่เคยคุยกันดีเลยๆ



“ก็มันน่าเชื่อหรือไงเล่า”



“เชื่อเถอะ ‘เรื่องของเรา’ พี่ไม่มีทางเล่าให้ใครฟังหรอก”ผมเน้นคำว่าเราชัดๆ น้ำน่านนิ่งไปเหมือนเพิ่งรู้ตัว ซ้ำไปอีกรอบทีนี้เลยได้เห็นท่าทางที่ไม่เคยเห็นมาก่อน น้ำน่านกำลังเขิน คือไม่ได้หน้าแดงนะครับ แต่มันรู้สึกได้เลยเพราะปฏิกิริยาของเขาแปลกไป อยากจถ่ายวีดิโอเก็บไว้จริงๆ ยิ่งแหย่ก็ยิ่งหลุดมาด โคตรน่ารักและโคตรฮา ฮ่าๆ



ผลจากเครื่องดื่มฟรีทุกอย่างทุกประเภททำให้ไอ้เด็กขี้เมาซัดไปเต็มคราบ เมาแบบไม่รู้ตัวเลย แต่ไม่มีคนเมาที่ไหนยอมรับว่าตัวเองเมาหรอก ตอนพาเดินกลับมาที่ห้องนี่ยังจะเรียกร้องอยากดื่มอยู่เลย ผมพูดอะไรก็เหมือนจะฟังรู้เรื่องนะ แต่คิดว่าคงไม่เข้าใจเลย เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เหนื่อยมากกว่าจะลากมาถึงห้องได้ เขาเตี้ยกว่าผมอยู่หลายเซ็นต์ แต่ก็ไม่ได้ตัวเล็กแบบพกพาง่าย



“น่าน รู้เรื่องอยู่มั้ยเนี่ย”ผมถามคนที่นอนตาปรือปรอยบนเตียง ปากขยับเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด ตกลงรู้เรื่องมั้ยวะ



“อาบน้ำมั้ย?”



“.....”



เฮ้อ...ผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดผมในห้องน้ำชุบน้ำมาเช็ดตามตัวให้ กี่ครั้งแล้วที่ผมต้องมาดูแลอีกฝ่ายในสภาพเมาแบบนี้ คิดแล้วก็ขำแล้วก็เหนื่อยใจเมื่อคนเมาไม่ยอมให้ความร่วมมือ เช็ดตัวให้ก็ปัดมือทิ้งบ่นว่าเย็นบ้างเปียกบ้าง เช็ดตัวมันก็ต้องเปียกต้องเย็นมั้ยล่ะ พอไม่ได้ดังใจมากๆก็พลิกตัวหนีผมก็ต้องออกแรงพลิกกลับมา การรบกับคนเมานี่ไม่ง่ายเลย ผมเลยต้องคร่อมทับขาเขาไว้เพื่อไม่ให้ดิ้นไปไหนได้อีก ปลดกระดุมเสื้อเพื่อเช็ดตัวให้ แล้วความคิดบางอย่างก็แล่นเข้าหัว ตอนที่เห็นผิวเนื้อเนียนๆและรอยสักที่ทำให้เรือนร่างนี้ดูเซ็กซี่จนแทบละสายตาไม่ได้ อยากทำให้ร่างนี้ครวญครางใต้ร่าง




ดวงตาฉ่ำเยิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์นั่นราวกับจะเชิญชวนให้ผมขาดความยับยั้งช่างใจ ความรู้สึกตอนที่เคยได้ครอบครองเขาในครั้งนั้นตีขึ้นมาในอก มันชัดเจนและรุนแรงเมื่อมีสิ่งยั่วเย้าล่อตาล่อใจ กลิ่นหอมเฉพาะตัวผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์สารพัดอย่าง หลอกล่อมอมเมาผมให้เพลิดเพลินไปกับริมฝีปากนุ่มๆแดงๆ ผมได้สติเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรฉวยโอกาสและปล่อยให้ความต้องการครอบงำจนขาดสติอีก แต่น้ำน่านกลับไปฝ่ายไม่ยอมถอย และพาผมเตลิดไปกับความหวานลิ้นและร้อนรุ่มในอก




ผมแตะชิมไปทั่วร่างที่สติเริ่มขาดหายไปทุกที มีแต่อารมณ์ดิบครอบงำ ยิ่งเล่นกับร่างกายเขามากเท่าไหร่ก็ยิ่งเรียกเสียงครางพึงพอใจจากเขาได้มากเท่านั้น บางครั้งก็เหมือนจะฮึดฮัดขัดใจเมื่อผมหยุด ตอนนี้ร่างกายของเขาเปล่าเปลือยอยู่กลางเตียง บอดี้ของเขาสวยมาก ดูดีไปทุกส่วน ใครต่อใครถึงได้หลงนัก ลีลาก็คงไม่ธรรมดา ผมก็อยากจะเห็นเขามีอะไรกับสาวๆดูสักครั้ง อยากรู้ว่าจะร้อนแรงแค่ไหน แต่ก็แอบหวงถ้าเขาไปทำจริงๆ ก็เคยลั่นวาจาไปแล้วว่าถ้าเขาไปนอนกับใครผมจะตามไม่ให้เขาได้สุขสมหวัง



“อือ...”เสียงครางเบาๆ ทำให้ผมหยุดคิด มองมือเรียวที่เลื่อนมากอบกุมตัวเอง คงทนไม่ไหวแล้ว ผมปัดมือนั้นทิ้งแล้วจัดการทำให้เขาแทน เอวสอบขยับตามจังหวะ หน้าแดง ตัวแดง ไปตามแรงอารมณ์ ผมอยากเห็นเขารู้สึกมากกว่านี้ อยากได้ยินเสียงครางที่ดังกว่านี้ จึงปรนเปรอให้อย่างที่ไม่เคยทำให้คู่นอนคนไหน แค่แตะลิ้นลงไปก็เรียกเสียงจากเขาได้ทันที ก่อนจะครอบครองทั้งหมดเมื่อทรมานเขาจนพอใจแล้ว



ผมบ่มเพาะอารมณ์อีกฝ่ายจนได้ที่แล้วเปลี่ยนมาเป็นมือแทน ขยับไม่กี่ทีเขาก็ไปถึงฝั่ง ซัดสาดทุกหยาดหยดเต็มฝ่ามือผม ไอ้เด็กแสบหายใจหอบถี่อยู่บนเตียงไม่นานก็หลับไป ก็สบายตัวเขาแล้วนี่ ผมทำความสะอาดให้ จับแต่งตัวให้นิดหน่อย ไม่กล้าให้นอนแก้ผ้าเดี๋ยวตื่นมาจะมีเรื่องอีก แล้วก็ป้องกันตัวเองหน้ามืดด้วย



อย่าถามว่าผมไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ แน่นอนว่าผมไม่ได้ตายด้าน รู้สึกมากจนปวดไปหมด อยากทำมากๆ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะปลดปล่อยตัวเองในห้องน้ำแทน  คนเราไม่ควรจะทำผิดเรื่องเดิมซ้ำๆ



ผมไม่ได้เป็นคนดี เพียงแต่แค่รู้ใจตัวเองว่าต้องการอะไร








----------------------------------------


มาแว้วววว ความรู้สึกว่ายังไม่อยากให้ให้เป็นตอนที่ 20 เลยให้เป็น 19.2 ไปซะ เพื่ออะไรก็ไม่รู้ 55555 แก้เป็นตอนที่ 20 แล้ว
พี่เดียวอาจจะเป็นหนุ่มวัยทอง อารมณ์เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง บางคนอาจจะสงสัยว่านี่เอาจริงหรือหยอกเล่น
จริงๆความรู้สึกพี่เดียวไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น ที่ต้องระวังคือน้องน่าน(??)  :hao3:















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-06-2016 21:01:45 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
พี่เดียวต้องจับแน่นๆค่ะ. เดี๋ยวน้องน่านหนีไปมีชู้~~  :hao7:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ชอบเรื่องนี้ยังเลยยยยยยยย   :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11
รักที่น่านไม่ได้ออกแบบไว้สิน่ะ

ออฟไลน์ Aomoto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากเลยคะ เพิ่งเข้ามาอ่าน ตอนนี้พี่เดียวถลำเข้าไปในรักที่ไม่ได้ออกแบบแล้ว เหลือแต่น้ำน่านที่คงเริ่มถลำเข้าไปแบบไม่รู้ตัวแล้ว ตอนนี้ลุ้นตอนตื่น แล้วชีวิตประจำวันหลังจากนั้น ขอให้อย่ามีมาม่าเยอะคะ กลัว

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
ลำดับตอนชักจะเพี้ยนไปหมด เดี๋ยวมีจุด เดี๋ยวมีครึ่งแรก ครึ่งหลัง  :ling2:
เราเลยแก้ตอนที่แล้ว 19.2 ให้เป็น 20 แล้ว ตอนนี้เป็น 21 ครึ่งแรกนะคะ







รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 21 -

(ครึ่งแรก)








ผมนั่งอึนอยู่บนเตียง แสงตะวันที่ลอดผ่านผ้าม่านเจิดจ้าแยงตาสมกับเป็นแดดประเทศไทย โหดร้ายไม่แพ้ชาติใดในโลก กวาดสายตามองไปรอบห้องที่ซุกหัวนอนเมื่อคืนที่ผ่านมา ความทรงจำสุดท้ายของผมคือถูกไอ้พี่เดียวลากมาเหวี่ยงไว้บนเตียงหลังจากนั้นผมก็ไม่รับรู้อะไรอีก ทั้งเพลียทั้งเมาไม่แปลกที่จะหลับเป็นตาย แต่เหตุการณ์ตอนตื่นนี่มันคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเกิดขึ้นแล้ว แตกต่างกันที่สถานที่เท่านั้นเอง เลยทำให้ผมระลึกได้ว่าควรสำรวจตัวเองเป็นอย่างแรกว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า เสื้อผ้าก็มีทั้งล่างและบน แต่ว่าเป็นเสื้อกล้ามกับบ๊อกเซอร์ ไม่ใช่ชุดที่ใส่เมื่อวาน ไอ้บ้านั่นจับผมแก้ผ้าอีกแล้ว อยากจะเตะมันสักที ส่วนร่างกายของผมยังปกติดี ขยับแล้วไม่เจ็บไม่ปวดที่ตรงไหนแสดงว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...จะถามว่าผมมั่นใจได้ยังไงก็คงเพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้วเลยรู้ว่าถูกกระทำกับไม่ถูกกระทำมันต่างกันยังไง ซึ่งผมก็ไม่ได้อยากจะมีนักหรอกไอ้ประสบการณ์เฮงซวยแบบนั้น ชีวิตผมอยู่ยากขึ้นเมื่อรู้จักกับไอ้เหี้ยพี่เดียว เคยที่ไหนที่ตื่นมาแล้วต้องมาคอยหวาดระแวงว่าโดนเสียบหรือเปล่าแบบนี้




   “ตื่นแล้วก็ลุกไปอาบน้ำสิ แล้วเดี๋ยวลงไปทานอาหารข้างล่างกัน”ไอ้พี่เดียวเดินเข้ามา หน้าตาสดชื่นแจ่มใสแต่ดูกวนตีนในสายตาผม สายตามันที่มองมาก็แปลกๆมันระยิบระยับแพรวพราวน่าจิ้มให้ตาบอดนัก



   “เมื่อคืนนอนไหน”ผมถามมัน แต่คำตอบที่ได้รับคือการบุ้ยใบ้ให้ผมก้มมองพื้นที่ข้างตัวเอง รอยยับย่นของที่นอนและหมอนที่บุ๋มลงไปคือหลักฐานชั้นเยี่ยม ความจริงผมไม่น่าจะถามมันเลยด้วยซ้ำก็น่าจะรู้คำตอบดี ผมควรจะชินใช่มั้ยกับการนอนข้างๆมันเนี่ย



   “รีบไปอาบน้ำสิ”



“อือ”



ผมขี้เกียจเถียงเพราะแรมยังต่ำอยู่ประมวลผลช้าด้วย จัดการตัวเองในห้องน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัว ดีที่เอาชุดมาเผื่อไว้ด้วยไม่งั้นต้องวุ่นวายหาซื้ออีก




“ตื่นยังเนี่ย”มันเดินมาแหกตาผมให้กว้างขึ้น




“เจ็บนะเว้ย!”ผมปัดมือมันออกแล้วผลักอกมันให้ถอยไป คนยิ่งไม่ปกติอยู่อย่ามาทำให้หงุดหงิดนะ เดี๋ยวโดดกัดหูซะเลย




“หึหึ ไปครับ ไปหาอะไรกินแก้แฮงค์ดีกว่า”




ผมเหลือบตามองมันอย่างหมั่นไส้ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดเพราะเลย แล้วถือวิสาสะอะไรมาโอบคอผมเนี่ย พอผมสะบัดออกมามันก็ตามมาโอบใหม่หลายรอบจนรำคาญเลยต้องปล่อยมันไป ไอ้โรคจิต!




ผมหิวหนักมาก อาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์นั้นเหมาะมาก ดีที่ยังตื่นมาทันช่วงอาหารเช้าอยู่ มีอะไรผมก็ตักมาหมด รอบแรกสองจานผมก้มหน้าก้มตาซัดไม่สนใจคนที่นั่งร่วมโต๊ะ ไม่แคร์มารยาทใดๆทั้งสิ้น เงยหน้ามาก็เห็นมันมองผมยิ้มๆ ด้านหน้ามีแก้วกาแฟวางอยู่แก้วเดียว




“มองไร”




“มองเด็กน้อยผู้หิวโหย”หัวเราะหาแป๊ะเหรอวะ คนหิวตลกตรงไหน




“เอาอีกมั้ย พี่ไปตักให้”




“ออมเลต 2”ไม่ปฏิเสธหรอก อยากเสนอตัวผมก็สนอง มีคนรองมือรองเท้ามันก็ดีไปอีกแบบ ปกติก็ใช้ไอ้พายตลอด



“ไข่ลวกด้วยมั้ย โด๊ปซะหน่อย”




“ไม่เอา”จะโด๊ปไปทำไม ไม่ได้ไปออกกำลังเข้าจังหวะมาสักหน่อย มันอมยิ้มเดินไปทางโวนจัดวางอาหาร อารมณ์ดีอะไรนักหนาวะ มันหายไปไม่นานก็มาพร้อมกับออมเลตตามที่ผมสั่ง ส่วนของมันมีไข่ลวกสองฟอง ไส้กรอกชิ้นเล็กๆอีกหนึ่ง ดูแล้วไม่น่าอิ่ม




“อิ่มไง?”




“ไม่ค่อยทานเช้าอยู่แล้ว”




“อาหารเช้าสำคัญต่อร่างกาย โตจนป่านนี้ไม่รู้หรือไง”อาฝนสอนผมมาตั้งแต่เด็ก ทานอาหารไม่เคยขาดสักมื้อ จะมาออกนอกลู่นอกทางก็ตอนที่ได้มาอยู่คนเดียวที่ออกเที่ยวเมาจนตื่นสายโด่งไม่ก็นอนกับสาวๆจนหมดแรง ถ้าไม่นับวันพวกนั้นผมก็ทานอาหารเช้าตลอด




“รู้ แต่มันชิน”




“แล้วแต่นะ”ยังไงก็ไม่ใช่ร่างกายของผม




“ขี้บ่นเหมือนกันนะเนี่ย”




“ไม่เท่าคนบางคนหรอก”ผมยังจำได้ไม่ลืม ไอ้พี่เดียวทั้งขี้บ่น ปากคอเราะร้าย ด่าทีเจ็บไปยันม้าม แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นกวนตีนแทนเสียแล้ว แต่ก็น่าเบื่อ น่ารำคาญไม่แพ้กัน




ผมกลับมาถึงบ้านตอนบ่ายแก่ไอ้พี่เดียวมันขับรถมาส่ง ผมไม่ปฏิเสธหรอก เหนื่อยมีคนขับให้นั่งก็สบายดี แต่วันนี้มันไม่ได้เข้าบ้านมาด้วย พอผมเดินเข้าบ้านมันก็ออกรถไป บ้านเงียบเชียบไม่มีคนอยู่ ไอ้พายไปทำงานเมื่อเช้าผมเห็นที่มันไลน์บอกไว้ มีถ่ายซ่อมซีนอะไรของมันไม่รู้ พอเห็นเตียงก็เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างให้ผมต้องทิ้งดิ่งลงไป จากว่าจะนอนเล่นสักพักแล้วลุกไปอาบน้ำหาอะไรกิน ก็นอนเพลินมารู้สึกตัวอีกทีตอนสองทุ่มกว่าเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังปลุก




“อื้อ...”




“หลับอยู่เหรอ”คนปลายสายถามมาเสียงนุ่ม ผิดวิสัยจนถึงขนาดที่ผมยังงัวเงียขี้ตาอยู่ก็สามารถขนแขนลุกได้



“อือ”




“เพิ่งหลับหรือหลับตั้งแต่ตอนมาถึงเนี่ย”




“อย่างหลัง”ผมพลิกตัวไปกดเปิดไฟหัวเตียง พอจะลุกขึ้นนั่งก็มึนไปหมด นอนผิดเวลานี่ไม่ดีจริงๆ




“กินไรมั้ยเดี๋ยวจะซื้อเข้าไปให้”




“อยู่ไหนอ่ะ”




“เยาวราช”




“หะ ไปทำไร”



“ธุระนิดหน่อย”คงไม่อยากบอก ผมก็ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้น ก็แค่ถามไปตามเรื่อง แต่ก็สงสัยว่ามันไม่เหนื่อยหรือไง “ตกลงจะกินอะไร”




“อะไรก็ซื้อมาเหอะ แล้วจะมาถึงกี่โมงเนี่ย”เยาวราชไม่ใกล้เท่าไหร่เลยนะ กว่าจะซื้อกว่าจะมาถึงนี่ไม่สี่ทุ่มไปแล้วเหรอวะ ผมไม่ห้ามหรอกที่มันจะมา ก่อนหน้านั้นก็มาบ่อยจนไอ้พายชิน อีกอย่างผมหิว ของกินเยาวราชก็อร่อยๆทั้งนั้น ไม่ได้กินนานแล้วด้วยมีคนซื้อมาให้กินถึงที่ดีจะตาย




“สักชั่วโมงกว่าๆ ลุกขึ้นไปอาบน้ำให้สดชื่นไป”




“อือ”ผมรับคำแล้วไปอาบน้ำ ไม่ได้เชื่อฟังแต่ตั้งใจจะทำอย่างนั้นอยู่แล้ว พออาบน้ำเสร็จลงมาข้างล่างไม่ได้เปิดไฟไว้ มีแค่แสงสลัวจากแสงไฟในสวนลอดผ่านเข้ามา ผมเปิดไฟไล่ความมืด ก่อนจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อดูว่าในตู้เย็นมีของสดอะไรบ้าง ผมไม่อยู่บ้านหลายวัน ไอ้พายก็ไม่ค่อยอยู่กลัวจะเน่าคาตู้ มองดูแล้วมีแค่เนื้อหมูกับกุ้งอยู่นิดหน่อย ผักเหลือแค่ถั่วฝักยาว คงผัดกะเพราได้สักจาน แต่กะเพราต้องไปเก็บในสวน ผมลงพวกผักสวนครัวง่ายๆเอาไว้ในสวนหลังบ้าน ตอนแรกผมปลูกพริกกับกะเพราไว้ แต่ไอ้พายมันเอา ข่า ตะไคร้ ต้นมะกรูดมาลงเพิ่ม ไอ้ธันว์มันบอกว่าถ้าปลูกกะหล่ำปลีกับฟักทองด้วยจะดีมาก นั่นมันก็จริงจังเกินไป อีกอย่างไอ้คนคิดมันปลูกอะไรขึ้นที่ไหน มือร้อนปลูกอะไรตายหมด ไม่นานก็ได้ยินเสียงบีบแตรดังหน้าบ้าน เดินไปดูจอมอนิเตอร์เพื่อความแน่ใจอีกทีว่าเป็นไอ้พี่เดียวจริงๆก่อนจะกดเปิดประตูให้



“มาเร็วกว่าที่คิด”ผมเดินไปรับ จะไปช่วยถือของด้วย มีน้ำใจซื้อมาให้จะนิ่งดูดายมองมันขนเข้ามาประเคนถึงปากเลยก็เกรงใจ




“รถไม่ค่อยติด”




“ทำไมเยอะแยะขนาดนี้จะกินยังไงหมด”มันเปิดตอนหลังทำให้ผมเห็นถุงของสี่ห้าถุงวางเรียงกันบนเบาะ ขับแอสตันไปเยาวราชคนไม่มองกันเหลียวหลังเลยเหรอวะ เอาคันนี้ไปแสดงว่าไปกับหญิงชัวร์ เพิ่งสังเกตุเสื้อผ้าหน้าผมมันจัดเต็มเชียว ยืนกันคนละด้านน้ำหอมจากตัวมันก็ฟุ้งมาถึงนี่



“ซื้อมาเผื่อพายด้วย”



“มันไม่อยู่”



“ถ้าไม่หมดก็เก็บไว้กินพรุ่งนี้”



“อือ”



ผมหยิบถุงมาถือไว้จะเดินเข้าบ้านมันก็ตามมาแย่งไปถือเอง พอผมมองมันดุๆถึงได้แบ่งมาให้ผมถือตั้งหนึ่งถุง ผมขี้เกียจเสียเวลาเลยเดินเข้าบ้านมาเลย มันก็เดินตามมาติดๆเพราะน้ำหอมของมันลอยตามชิดจมูก



“ทำไมรีบกลับ กินข้าวเสร็จแล้วไม่พากันไปกินตับต่ออ่ะ”ผมวางของไว้บนโต๊ะ เปิดดูทีละถุงว่ามีอะไรบ้าง มีก๋วยเตี๋ยวหลอด เกาเหลาเลือดหมู ก๋วยจั๊บ หมูสะเต๊ะ ลูกชิ้นปลาลวก แล้วก็เป็ดย่าง ของหวานมีขนมปังสังขยา เต้าทึง หมี่หวาน จัดเต็มไปหรือเปล่าวะ



“หึ พูดเหมือนรู้ว่าไปกับใคร”มันกระตุกยิ้มมุมปากกวนๆ แต่ก็ยอมรับว่าโคตรจะดูดี แบดฉิบเป๋ง



“แต่งตัวขนาดนี้คงไปกับเพื่อนหรอก”ผมเบ้ปากใส่ หมั่นไส้คนว่ะ



“ก็นะ ไปกับผู้หญิงจริงๆนั่นแหละ”



“เหอะ”ไม่มีอะไรจะพูด




“ทำไม หึงเหรอ?”




“เลิกมโนได้แล้ว”




“เอ้า ก็ท่าทางมันบอกว่าแบบนั้น”



“มั่ว”ผมไปแสดงท่าทางอะไรให้มันเข้าใจอย่างนั้นวะ หึงบ้าบออะไร ผมแค่หมั่นไส้มันก็เท่านั้น มันจำได้หรือเปล่าว่าบอกว่าชอบผม ขอเป็นแฟน แต่ดูการกระทำมันดิ ไม่ได้มีความจริงจังจริงใจเลย




“อันนี้พี่จะกิน เทใส่ชามให้หน่อย”มันชี้ไปที่ก๋วยจั๊บ อะไรวะผมก็เล็งไว้นะเว้ย แล้วดันซื้อมาถุงเดียวอีก



“ไม่ จะกิน”



“กินอย่างอื่นไปดิ ซื้อมาให้ตั้งเยอะ”




“ก็จะกินก๋วยจั๊บเหมือนกัน แล้วไปถึงที่ยังไม่ได้กินมาไง”




“กินแต่ไม่ถูกปาก อาหารเหลา เลี่ยน”




“แล้วพาเขาไปกินทำไม”




“ก็สาวๆเขาอยากกินเลยต้องพาไป”




“สาวๆ?”ผมเผลอทวนคำ แสดงว่าไม่ได้ไปกับผู้หญิงแค่คนเดียว “ไปหลายคน?”




“อือ สวยๆทั้งนั้น”ความหมั่นไส้พุ่งสูงขึ้นอีกเท่าตัว จะบอกว่าตัวเองฮอตล่ะสิ




“เหอะ”ตอนแรกว่าจะเทก๋วยจั๊บให้แล้วแบ่งกันกิน แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจละ




“หึหึ ท่าทางเหมือนจะหึงจริงๆนะเนี่ย”ยัง ยังไม่เลิกกวนตีน ผมเลื่อนชามเกาเหลาเลือดหมูไปให้มัน นึกถึงไอ้คิมเลยรายนั้นชอบมาก แต่ผมไม่ชอบกินเลือดเท่าไหร่ ให้มันกินเหมาะแล้ว




“อย่าหึงไปเลยครับน้อง พี่พาคุณหญิงป้าไปทานข้าวกับเพื่อนๆมา สาวห้าสิบขึ้นทั้งนั้น ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก”มันบอกยิ้มๆ ผมเลื่อนชามก๋วยจั๊บไว้ตรงกลางจะได้กินด้วยกัน




“อีกอย่างคนสนใจก็ยืนอยู่ตรงหน้าเนี่ย ถึงได้มาหา”




โอ้...กูไปต่อไม่ถูกเลย ถูกมันจีบเอาซึ่งๆหน้า ทำตาหวานใส่ หัวใจเหมือนจะกระตุกไปวูบหนึ่ง หน้าก็ร้อนวูบวาบขึ้นมา เลื่อนชามก๋วยจั๊บกลับมา กินคนเดียวดีกว่า




“ประสาท กินๆเข้าไปเลยปากจะได้ไม่ว่าง”จับหมูสะเต๊ะยัดปากแม่ม




“หึหึ”




ผมล่ะเกลียดเสียงหัวเราะของมันจริงๆ









---------------------




ไม่อยากหายไปนานเลยเอาครึ่งแรกมาส่งก่อน ครึ่งหลังจะตามมาติดๆ
สวัสดีคนอ่านที่หลงเข้ามาใหม่นะคะ ดีใจที่มีคนอ่านเพิ่มค่ะ 5555
เจ้าประจำเราก็รักนะคะ >.<


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2016 14:18:01 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
น้องน่านขี้ซึนเน๊อะ~ :hao7:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ thari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารัก น่ารัก น่าร๊ากกกกกกกกกก :hao7:

ออฟไลน์ peary

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สนุกมากเลยค่ะ ^^ ตามมาจากกระทู้แนะนำนิยาย
อ่านรวดเดียวจบ ไม่ผิดหวังจริงๆ
นับวันพี่เดียวก็ยิ่งน่ารักขึ้น น้ำน่านเองก็อาการเริ่มออกมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน
แล้วมาต่อไว ๆ นะคะ :)

ออฟไลน์ ยุกยิก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่านน่ารักอ่ะ  น่านหนีพี่เดียวไม่รอดแน่ๆอ่ะ...พี่แกรุกซะขนาดนี้
คนเขียนสู้ๆนะคะ

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Ball

  • He exists now only in my memory.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +239/-0
สนุกมากกกกกกกก
ชอบทั้งพี่เดียวชอบทั้งน่านเลยยย
น้องน่านใจแข็งมากกกกก แต่ก้ใช่ว่าจะไม่สะเทือน ฮ่าาา
เอาใจช่วยพี่เดียวสุดใจค่าาา
ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีนะคะ

ออฟไลน์ anny_jr

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกมาก อ่านรวดเดียวเลย แบบว่าว่างไม่ลง อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
เดี๋ยวจะรีบมาต่อนะคะ เรากลับมาแล้ว T_T

ออฟไลน์ arakanji

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
อ่านรวดเดียว 21 ตอน
สนุกมากค่ะ
รออยู่นะค่ะ

ออฟไลน์ Qmulonimbus

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฮือออออ รีบมาต่อนะคะ. เราติดมากมายอ่าน2วันรวดเลย

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 21 -

(ครึ่งหลัง)







วันแรกหลังจากการหยุดยาวไปหลายวัน บรรยากาศที่หน้าคณะผมไม่ได้คึกคักเหมือนคณะอื่นกันหรอก มันดูเนือยๆอึนๆ เพราะแต่ละคนยังไม่สามารถทำใจให้กลับสู่สภาวะการเรียนตามปกติได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็นั่งอึนกันได้ไม่นานเพราะงานที่อาจารย์สั่งให้ทำแทนความคิดถึงที่ไม่ได้เห็นหน้ากันหลายวันก็ท่วมท้น แถมยังให้เวลาทำแค่สัปดาห์เดียวอีก งานนี้ไม่รีบทำก็คงเสร็จไม่ทัน แล้วก็ต้องทำให้ดีกว่างานที่เพิ่งส่งกันไปเมื่อเช้าด้วย เพราะถูกสับเละคาห้องกันไปหลายคน





“เย็นนี้พวกมึงเข้าประชุมกันด้วยนะเว้ย”เอเชียกระโจนเข้ามาตรงโต๊ะที่พวกผมนั่งเนือย นอนเลื้อยกันอยู่ พูดเสียงดังทำเอาไอ้หมวยที่หลับอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมาด่า




“เพลียอะไรนักหนา เพิ่งเปิดเรียนวันแรก เมื่อคืนผัวกวนหรือไง”




“ผัวหน้ามึงสิ! ถ้าไม่เห็นเป็นผู้หญิงกูเตะปากแตก”ไอ้หมวยด่าทันควัน พวกผมหัวเราะก๊ากอย่างหยุดไม่อยู่ มันทำหน้าหงิกหน้างอแต่ขึ้นสีแปลกๆ หน้าแดงทำไมวะ




“แหม่ แหย่นิดแหย่หน่อยไม่ได้เลย”




“กูเพื่อนเล่นมึงรึไง”ไอ้นี่ก็ไม่ยอมเลย




“พอเลยพวกมึง กูรำคาญ มึงจะให้พวกกูเข้าประชุมอะไร”ไอ้โอ๊คตัดบท ต้องต้องรำคาญมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ก็ไอ้สองคนนี้มันเถียงกันข้ามหัวไอ้โอ๊คจนหัวเปียกน้ำลายไปหมดแล้ว




 “งานสามสัมพันธ์ไง เดือนหน้าจะมีงานแล้ว พี่เอ้ฝากมาบอกว่าให้มึงเข้าประชุมด้วยเพราะจะให้เป็นเฮดช่วยงาน”งานสามสัมพันธ์เป็นงานระหว่างสามคณะคือคณะผม สถาปัตย์ แล้วก็ศิลปกรรม จับพวกน้องๆปีหนึ่งมาทำกิจกรรมเพื่อจะได้สนิทและรู้จักกัน เราต้องเรียนวิชาบางวิชาด้วยกันครับ สายงานมันเอื้อกันอยู่ ถือเป็นการขยายเครือข่ายการทำงานในอนาคตด้วย




“ไรว้า เห็นพวกกูเป็นคนมีความรับผิดชอบขนาดนั้นเลยหรือไง”ไอ้เต้โอดครวญ คือให้ไปช่วยงานพวกผมก็โอเคครับ แต่ถ้ามอบหมายให้ทำหน้าที่หลักเลยนี่ ไม่ไหวครับ ขี้เกียจคือคำตอบของทุกสิ่ง




“เออ พวกมึงต้องไป พี่เอ้ฝากมาบอกอีกว่าถ้าพวกมึงไม่ไปจะให้พี่กั๊กมาตามด้วยตัวเอง”




“โอ๊ย เหี้ยอย่าเอาพี่กั๊กมาขู่”พวกมันทำหน้าสยองกันสุดๆ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม ตอนรับน้องผมไม่ได้เข้ากิจกรรม แต่ได้ยินว่าโหดสุด โหดจนไอ้หมวยเกลียดจนแทบจะลาออกเมื่อรู้ว่าเป็นน้องรหัส แต่ตอนนี้เขาดีกันแล้วครับ เพราะพี่กั๊กแม่มโอ๋ไอ้หมวย เหตุผลก็รู้ๆกันอยู่




“อย่าลืมนะพวกมึง ประชุมที่ห้องกิจกรรมสี่โมงเย็น”




“เออ”ไอ้เต้รับคำ “แต่กูสงสัยอยู่อย่าง มึงไปสนิทกับพี่เอ้ตอนไหนวะ ทำไมพี่เขาฝากบอกมึงมา จริงๆถ้าอยากให้พวกกูไปให้พี่กั๊กโทรบอกไอ้หมวยก็ได้”




“สนิทตอนไหนก็เรื่องของกู สู่รู้”มันว่าแล้วก็สะบัดกระโปรงพลีทพลิ้วๆหนีไป อะไรวะ ทำไมมีแต่คนหน้าแดง




“กูว่าเรื่องนี้มันมีกลิ่น”ไอ้โอ๊คมองตามเอเชียไปเอานิ้วถูคางเหมือนคนกำลังคิดอะไรอยู่




“หมวย มึงไปสืบกับพี่กั๊กสิ”




“เรื่อง อยากรู้พวกมึงก็ไปสืบกันเอง กูไม่ใช่คนชอบเสือก”




“เหรออออ”พวกผมประสานเสียงขึ้นมาทันที ผลักหัวมันคนละที




พวกผมแยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเองก่อนจะมารวมตัวตอนสี่โมงเย็นเพื่อประชุมงาน ผมได้รับมอบหมายให้เป็นคนประสานงานเรื่องสถานที่กับพี่หลง ส่วนคนอื่นๆก็ถูกกระจายไปทำหน้าที่อื่น ไอ้หมวยไปช่วยพี่วาวประสานงานกับคณะสถาปัตย์ ไอ้เต้ช่วยพี่ชิคประสานงานกับคณะศิลปกรรม ไอ้โอ๊คช่วยพี่กั๊กดูแลเรื่องสวัสดิการ เป็นพวกใช้แรงงานแบกหาม ประชุมวันนี้เป็นการแบ่งฝ่ายกันทำงานคร่าวๆ ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะมีการนัดประชุมของแต่ละฝ่ายอีกครั้ง ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง การประชุมวันนี้ก็เสร็จสิ้น อันที่จริงเรื่องคุยงานแค่ชั่วโมงเดียวก็เรียบร้อยแล้วแต่มัวแต่คุยเล่น นอกเรื่องกันเสียมากกว่าเลยช้า ก็นานๆทีจะได้มาเจอกัน ปกติก็มุดหัวมุดหางจมกองงานกันทั้งพี่ทั้งน้อง




“หาไรแดกกัน กูหิวมาก”ไอ้เต้พูดขึ้นระหว่างเดินไปที่ลานจอดรถ




“เออกูก็หิว กินไรวะ”




“กูอยากกินข้าวต้มหลังมออ่ะ พวกมึงต้องไป”ไอ้หมวยพูดขึ้นอย่างเผด็จการ




“เออ ไอ้สัด ไปก็ไป ไม่ต้องมาทำตาโตขู่”ไอ้โอ๊คว่า ผมเห็นด้วยกับมันนะ แล้วการที่มันทำตาอย่างนั้นก็ไม่ได้น่ากลัวเลย มันกลับดูน่ารักมากขึ้นไปอีก ปกติมันก็ดูน่ารักถูกสเป็คพวกสายรุกอยู่แล้ว แต่ผมว่าช่วงนี้มันดูน่ารักมากกว่าเก่านะเนี่ย




   ร้านข้าวต้มหลังมอเป็นตึกแถวสองคูหาที่ไม่กว้างมากนัก ที่นี่แหล่งรวมเด็กมหาลัยทุกคณะ แต่ที่มากหน่อยก็คณะแพทย์เพราะอยู่ใกล้ที่สุด เปิดตั้งแต่สี่โมงเย็นไปจนถึงเที่ยงคืน ร้านแน่นทุกวัน มาหลังหกโมงเย็นไปแล้วต้องรอคิวนานมาก แต่วันนี้โชคดีที่มาถึงแล้วยังมีที่ว่างอยู่โต๊ะหนึ่งต้องนั่งเบียดๆกัน ไอ้หมวยเป็นคนสั่งอาหารอย่างรวดเร็ว มากินด้วยกันบ่อยจนรู้ว่าใครชอบอะไรไม่ชอบอะไร พวกผมมีหน้าที่รอ ไอ้เต้ไปตักน้ำที่มีตั้งไว้บริการตัวเองด้านในของร้าน เป็นน้ำใบเตยหอมๆ ตั้งแต่เข้าร้านมาก็มีแต่คนมองพวกผม ส่วนมากก็เป็นสาวๆ แต่พวกผมหิวจนเกินกว่าจะสนใจ




   “โต๊ะเล็กจะวางกับข้าวพอมั้ยเนี่ย”ไอ้หมวยมานั่งที่โต๊ะแล้วบ่นเบาๆ



   “มึงสั่งไปกี่อย่างเนี่ย”



“เยอะอ่ะ แต่เชื่อเถอะไม่พอยาไส้พวกมึงหรอก”



“ไส้พวกกูหรือมึงคนเดียวกันแน่”ไอ้โอ๊คกัดซี้มัน



“งั้นมึงไม่ต้องแดก”



“โอ๋ๆ พี่โอ๊คแหย่นิดเดียวเอง น้องหมวยอย่างอนนะ”




“โอ๊ย ไอ้เหี้ยนี่!”ไอ้หมวยพยายามดิ้นรนออกจากการล็อคคอขยี้หัวของไอ้โอ๊ค มันไม่ดูน่ารักชวนจิ้นนะครับ มันตลกมากๆ เพราะไอ้หมวยมันสู้แรงควายๆของไอ้เชี่ยโอ๊คไม่ได้ ดิ้นแด่วๆเหมือนแมวถูกมัด แต่จู่ๆก็มีคนเดินมาชนไอ้โอ๊คอย่างแรงจนหน้าแทบทิ่ม ไอ้หมวยเลยดีดตัวออกมาได้ พวกผมตกใจหันไปมองคนที่เดินมาชน เขาสบตากับผมพอดี ก่อนที่จะเบือนสายตาไปยังไอ้หมวยที่ยังจับผมตัวเองให้เข้าที่ มันคงรับรู้ได้ว่ามีคนจ้องเลยเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ชะงักเบิกตากว้าง ผมจำได้ดี ผู้ชายคนนี้คือคนที่ผมเจอเขาอยู่กับไอ้หมวยสองครั้งแล้ว เขามองไอ้หมวยนิ่งๆ ก่อนจะเอ่ยขอโทษไอ้โอ๊คแล้วบอกว่าพื้นมันลื่นเลยเสียหลัก จากนั้นก็เดินไปนั่งโต๊ะด้านหลังพวกผมที่เพิ่งมีคนลุกออกไป แต่ผมว่าพื้นมันไม่ได้ลื่นหรอก เขาจงใจจะชนไอ้โอ๊คแน่ๆ สาเหตุก็เพราไอ้ตัวขาวๆ ที่นั่งสงบเสงี่ยมขึ้นมาทันใดแต่สายตาล่อกแล่กคอยจะมองไปโต๊ะด้านหลังผม แต่พอสบตาผมเข้ามันก็หลบวูบ



“หึหึ”



“หัวเราะอะไรของมึงวะ”ไอ้เต้ที่นั่งข้างผมถามขึ้น



“ไม่มีไรมาก จู่ๆกูก็นึกเรื่องตลกขึ้นมาได้”ผมพูดแล้วมองหน้าไอ้หมวยยิ้มๆ มันถลึงตาใส่ผม ซึ่งก็ไม่ได้น่ากลัวเลย




พวกผมซัดกันจนอิ่มแปล้แล้วก็แยกย้ายกันกลับ ไอ้โอ๊คจะไปส่งไอ้หมวย แต่มันกลับปฏิเสธอย่างผิดวิสัย แล้วบอกว่าจะแวะไปทำธุระก่อนแล้วก็ชิ่งไปทันทีปล่อยซี้มันยืนงงกับพฤติกรรม แต่ผมว่าผมรู้นะว่าธุระของมันคืออะไร พวกรุ่นพี่กลุ่มนั้นเพิ่งออกจากร้านก่อนพวกผมไปยังไม่ถึงสิบนาทีเลย ที่รู้ว่าเป็นรุ่นพี่ก็เพราะได้ยินเขาคุยกัน บ่นเรื่องงานของปีสี่อะไรทำนองนั้น





x
 





“เฮ้อออออออออออ”ผมถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะไถลตัวลงไปนอนแผ่กับพื้นด้วยความเบื่อหน่าย โยนไอแพดที่เล่นเกมจนแบตจะหมดลงบนพรมหนานุ่มสีเทาเข้ม ซึ่งก็ไม่ใช่ไอแพดของผมหรอก




“ถอนหายใจมากๆจะแก่เร็ว”ผมถีบขาคนพูดที่นั่งเอนตัว ใช้ศอกเท้ากับที่วางแขนโซฟา ในมือถือแฟ้มอย่างหนาสีดำ สวมแว่นสายตาเหมือนพวกเนิร์ด ที่ผมต้องมาถอนหายใจเซ็งชีวิตในคอนโดหรูหรานี่ก็เพราะมันนั่นแหละ หลังจากที่เดินออกจากร้านข้าวต้มจนมาถึงรถที่จอดอยู่อีกซอย ก็มีโทรศัพท์เจ้ากรรมนายเวรเข้ามาทั้งที่ไม่ได้ธูปเรียก ผมเลยต้องเอาส่วนบุญร้อนๆมาส่งให้ถึงคอนโด แต่พอมาถึงแล้วเจ้าของห้องกลับวุ่นวายอยู่กับการคุยโทรศัพท์ภาษาต่างด้าว ผมกะจะวางไว้ให้แล้วก็กลับแต่ก็ถูกเหนี่ยวรั้งเอาไว้ให้อยู่ ด้วยการทำท่าทางชี้นิ้วสั่งว่าให้ไปเทข้าวต้มกับกับข้าวที่ซื้อมาใส่จานให้เรียบร้อยพร้อมทาน พ่อง! ซื้อมาให้ถึงที่ยังต้องมาบริการอีก พอผมทำท่าจะไม่ยอมมันก็กระทำการปล้นซึ่งๆหน้าแบบไม่ทันตั้งตัวด้วยการยึดโทรศัพท์ กุญแจรถของผมไปใส่ลิ้นชักล็อคแล้วเอาลูกกุญแจใส่กระเป๋ากางเกง การกระทำทั้งหมดทั้งมวลนั้นเกิดขึ้นทั้งที่มันยังคุยโทรศัพท์อยู่ คือไอ้พี่เดียวมึงจะสามารถเกินไปละ




หลังจากที่คุยเสร็จแทนที่มันจะกินข้าวต้มที่ผมซื้อมา แล้วคืนทรัพย์สินที่ยึดไป มันกลับนั่งทำงานต่อแล้วโยนไอแพดเมียรักของมันมาให้ บอกให้ผมเล่นเกมรอ รอ รอและรอจนเบื่อมันก็ไม่ยอมไปกินสักที




“ไปกินข้าวดิ”กินให้จบๆผมจะได้กลับสักที




“อีกแป๊บเดียว”




“หลายแป๊บแล้วนะแม่ม!”



“พูดไม่เพราะ”




“เรื่องของกูครับพี่! อื้อๆๆ เอ็บอ๊ะ!”ไอ้ผีบ้ามันยื่นมือบีบปากผมอย่างแรง ดึงด้วยนะนั่นแทบจะยืดติดมือมันออกมาเลยเนี่ย




“ปากดี”




“แม่ม! เอาโทรศัพท์กับกุญแจรถมาดิ จะกลับบ้านแล้ว”




“รีบกลับไปไหน”




“คนก็มีงานมีการทำ ไม่ได้ว่างนะ!”ผมเตะขามันไปอีกที หงุดหงิดแล้วนะ! ทำไมต้องเสียเวลาไปกับมันด้วยเนี่ย ไม่น่าแวะมาเลยจริงๆ




“อีกแป๊บๆ”




“ไม่แป๊บแล้ว กุญแจลิ้นชักอยู่ไหน ในนี้ใช่มั้ย”ผมพุ่งตัวเข้าใส่มันที่นั่งอยู่บนโซฟาจนมันล้มลงนอน ส่วนแฟ้มตกไปอยู่บนพื้นเรียบร้อยแล้ว มันก็ได้แต่ปัดป้องผมที่พยายามปล้ำเอากุญในกระเป๋ากางเกงด้านหลังของมัน แต่ตัวหนาๆของมันแทบไม่สะเทือน ทำไมผมรู้สึกว่ามันตัวใหญ่ขึ้น อย่าให้กูมีกล้ามมั่งนะเว้ย! แต่ทำไมไปๆมาๆเหมือนโดนกอดเลยวะ



ตุบ!



“โอ๊ะ!”



รู้สึกเหมือนเห็นดาวลอยวิบๆ ทันทีที่หลังกับหัวกระทบพื้นห้อง ถึงจะมีพรมแต่การมีคนตัวหนาๆหล่นลงมาทับด้วยนี่ก็จุกก็มึนได้เหมือนกัน



“อื้อ ปล่อยนะเว้ย!”ผมผลักอกและเบือนหน้าหนีมันที่พยายามโน้มหน้าลงมาใกล้เรื่อยๆ



ฟอด!



ไอ้เหี้ยยยยยยยยยย ไม่พ้น! เต็มซอกคอเลย ขนลุกเกรียวตั้งแต่หัวจรดหัวแม่เท้า แล้วตอหนวดของมันก็ถูไปมาให้รู้สึกจั๊กจี้หัวใจ




“หอมว่ะ ใช้อะไรเนี่ย”




“ปล่อยเว้ย”รู้สึกตัวเองเป็นสาวน้อยเข้าไปทุกที




“หึหึ”เสียงหัวเราะของมันดังชิดหู ระยะแบบที่งับหูได้แบบหลับตาก็ยังโดน มันพยายามคลอเคลียนัวเนียคลุกวงในโดยที่ผมไม่สามารถปัดป้องหรือดิ้นรนหนีได้เลย ตัวมันหนักเหมือนหินทับผมจนกระดิกไม่ได้ มือที่คอยผลักมันก็ถูกรวบไปทั้งสองข้าง และกระทำการอุกอาจด้วยการจูบลงบนหลังมือ เออดี จูบไปมือจับอะไรมาบ้างก็ไม่รู้ยังไม่ได้ล้างเลย แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะปล่อยให้มันทำอะไรน่าสยดสยองแบบนี้ต่อไป และก่อนที่ผมจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างให้หลุดพ้นจากสถานการณ์ล่อแหลมนี้ ความนุ่มหนุ่นอุ่นๆก็แต้มลงบนหน้าผากอยากรวดเร็ว ทำให้ผมถึงกับนิ่งเหมือนถูกสาป ส่วนไอ้คนทำมันลุกขึ้น เดินผิวปากอารมณ์ดีเข้าไปในครัว




สิ่งเดียวในร่างกายของผมเคลื่อนไหวได้ก็คงเป็นหัวใจที่เต้นรัวในอก...




   
X






   ไอ้เต้คงเห็นผมทำหน้าเหม็นเบื่อใส่โทรศัพท์ตัวเองมันเลยชะโงกหน้าเข้ามาร่วมใส่ใจอย่างใกล้ชิดหรือเรียกง่ายๆคือสอใส่เกือก แต่ผมก็กดปิดหน้าจอแล้วเก็บลงกระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว ก้มลงดูดแดงมะนาวโซดาเปรี้ยวปรี๊ดไม่สนใจหน้าหมาสงสัยของมัน




   ช่วงนี้ชีวิตผมวนเวียนอยู่ไม่กี่ที่ บ้าน มหาวิทยาลัยแล้วก็คอนโดไอ้เหี้ยพี่เดียว มีวันก่อนที่แวะไปหาที่ยศที่บริษัทคุยเรื่องงานของพี่แชมป์กับพี่นลินนิดหน่อยพร้อมกับแจ้งข่าวพี่ยศว่าเรียนหนักขึ้นไม่ค่อยมีเวลา จะไม่ขอรับงานสักพักซึ่งพี่ยศก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนงานถ่ายเครื่องเพชรของบริษัทไอ้พี่เดียวพี่ยศก็เป็นช่างภาพหลักอยู่แล้ว หลังๆแกไม่ค่อยเคี่ยวเข็ญให้ผมไปเพราะเห็นว่าเรียนหนัก แล้วช่วงที่ผ่านมาผมก็ติดสอบด้วย




   “คืนนี้ไปไหนกันดีวะ”ไอ้โอ๊คถาม หลังสอบกลางภาคที่ผ่านมาพวกผมก็ยังไม่ได้ออกร่อนกันเลย เหมือนชีวิตมันขาดอะไรไปสักอย่าง แต่ถ้าเที่ยวหนักมาก ชีวิตผมก็อาจจะหาไม่ได้เพราะทำงานส่งอาจารย์ไม่ทัน ไหนจะงานกิจกรรมที่พี่ๆมอบหมายหน้าที่ให้อีก งานราษฎร์งานหลวงวิ่งเข้าชนไม่ขาด




   “ร้านเฮียเสก”




   “แล้วมึงว่าไง”ไอ้โอ๊คหันมาถามผม




   “ตามใจพวกมึง”ผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว แต่ก่อนไปผมต้องแวะไปปฏิบัติภารกิจระดับชาติก่อน แค่นึกก็เซ็งแล้วเนี่ย




พอแยกกันผมก็ขับรถตรงไปยังคอนโดเจ้ากรรมนายเวร แวะซื้ออาหารเย็นเข้าไปด้วย ช่วงนี้ไอ้พี่เดียวมันเก็บเนื้อเก็บตัว เลิกงานแล้วก็กลับห้องทันทีไม่ได้ไปสังสรรค์ที่ไหน ไม่แวะไปหาผมที่บ้านแต่เรียกผมมาที่คอนโดแทนทุกวัน มันบอกว่ามีงานด่วนงานลับต้องทำ ซึ่งก็ลำบากผมที่ต้องหาเหยื่อมาหย่อนให้ถึงปาก เป็นภาระชิ้นโตที่อยากเขี่ยทิ้งแต่ก็เขี่ยไม่ได้




ไอเย็นฉ่ำปะทะหน้าทันทีที่เปิดประตูเข้ามา เจ้าของห้องมันคงเลี้ยงเพนกวินไว้ถึงได้เปิดแอร์แรงขนาดนี้ แต่ไม่ยักเห็นมันนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานประจำของมันเลย ผมเอาอาหารที่ซื้อมาวางไว้บนเคาน์เตอร์ก่อนจะเดินหาเจ้าของห้อง แล้วก็พบว่าไอ้พี่เดียวนอนหมดสภาพอยู่บนเตียง ลมหายใจสม่ำเสมอ นอนนิ่งไม่กระดุกกระดิกทั้งที่ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆจนที่นอนยวบแล้วก็ยังไม่รู้ตัวแสดงว่าหลับลึกมากๆ ผมเพิ่งสังเกตว่าใต้ตามันคล้ำมากแต่ไอ้ความหล่อจนน่าหมั่นไส้ก็ไม่ลดลง เหอะ เอาหมอนกดหน้ามันให้ขาดใจตายไปเลยซะดีมั้ยจะได้เลิกแล้วต่อกัน




“พี่เดียว”ผมลองเรียกแต่ไร้สัญญาณตอบรับ เลยเพิ่มออฟชั่นเขย่าเบาๆไปอีกที แต่สงสัยจะเบาไป เปลือกตาเลยยังคงปิดสนิท พอเพิ่มแรงไปอีกเท่าตัวอีกฝ่ายก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว ส่งเสียงอืออาในลำคอ




“ตื่นๆ มากินข้าวแล้วค่อยนอนต่อ”ผมพูดเมื่อเห็นว่าคนที่นอนค่อยลืมตาขึ้นมา




“ง่วง”




“งั้นก็นอนไป นอนให้ไหลตายไปเลย ไม่ต้องกินมันแล้วข้าวเนี่ย”



“อื้อ โกรธไรพี่เนี่ย มาแช่งให้ตายเดี๋ยวเหอะ”



ตั้บ!




“ก็ลุกขึ้นมากินข้าวดิ แล้วค่อยนอน”ผมฟาดมือลงบนอกแน่นๆของมัน แน่นมากจนผมเจ็บมือเสียเอง ส่วนมันได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นมองผมตาขวางเล็กๆ ก่อนจะขยับลุกขึ้นนั่งลูบหน้าลูบตาแบบมึนๆ ผมเผ้ายุ่งเหยิง




“ไปล้างหน้าดิ จะได้ดีขึ้น”



ไอ้พี่เดียวพยักหน้าหงึกๆแล้วเดินเซๆเข้าห้องน้ำไป ว่าง่ายๆแบบนี้ค่อยคุยกันได้หน่อย แต่ท่าทางแบบนี้จะไหวป่ะวะ โหมทำงานจนไม่ดูสภาพตัวเองเลย ผมส่ายหน้าระอาก่อนจะเดินไปเทกับข้าวที่ซื้อมาใส่จาน วันนี้ซื้อมาเผื่อตัวเองด้วยกินให้เสร็จค่อยกลับไปอาบน้ำแต่งตัวก็พอดีเวลาออกลาเหยื่อ ปกติผมก็กินกับมันบ้างไม่กินบ้างแล้วแต่อารมณ์และเวลาจะอำนวย สามสี่วันนี้ไอ้พี่เดียวมันไม่ได้กักขังหน่วงเหนี่ยวผมไว้เหมือนวันนั้นแล้ว เพราะยุ่งอยู่กับงาน พอกินข้าวเสร็จก็พุ่งตรงไปทำงาน นั่งหน้าดำคร่ำเครียดจนผมบอกว่าจะกลับมันก็ทำแค่พยักหน้าไม่เหลือบแลสายตามามองกันสักนิด




“นึกไงวันนี้กินด้วยกัน”เจ้าของห้องเดินออกมาด้วยหน้าตาสดชื่นกว่าเมื่อกี้แต่ใต้ตาก็คล้ำอยู่ดี




“วันไหนไม่กินก็บังคับป่ะวะ”



“ก็อยากมีเพื่อนกินข้าวด้วย”




“แล้วนี่เพื่อนหรือไง เพื่อนตัวเองมีเยอะแยะไม่ไปกินอ่ะ”




“เอาใหม่ อยากกินข้าวกับน้ำน่านอ่ะ”มันยิ้มตาใสแล้วนั่งลงประจำที่




“ทำไม มันเจริญอาหารขึ้นหรือไง”



“ใช่ เจริญตาเจริญใจด้วย”มันยิ้มอีก ตอนนี้ผมมีภูมิคุ้มกันแล้ว มันอยากจะหยอดอะไรก็หยอดมาเลย น้ำน่านแข็งแกร่งแล้วเว้ย!




“กำลังอยากกินพอดีเลยอ่ะ รู้ใจว่ะ”มันพูดถึงไก่ผัดขิงในจาน ผมเห็นว่าน่ากินดีก็เลยเอามา




“เพ้อเจ้อ”ผมว่ามันยิ้มรับ ตักข้าวกินคำโตเหมือนคนหิวโหย




“ค่อยๆก็ได้มั้ง อดอยากมาจากไหนเนี่ย”




“ไม่ได้กินข้าวตั้งแต่กลางวันแล้ว”




“แล้วทำไมไม่กิน"



“ประชุมท้างวันเลย”มันลากเสียงยาว ตักผัดเผ็ดขาหมูกิน ตามด้วยซดน้ำแกงจืดเต้าหู พอเห็นแล้วก็นึกสงสารแล้วก็ดีใจแปลกๆที่กับข้าวถูกปากแล้วก็กินอย่างเอร็ดอร่อย ผมไม่รู้ว่ามันชอบหรือไม่ชอบอะไรแต่ซื้ออะไรมามันก็กินหมดทุกที อ้อ ยกเว้นคื่นช่ายที่ไม่กิน




“ล้างจานเองนะ”ผมบอกตอนที่กินอิ่มแล้ว



“ได้”



“กลับแล้วนะ”




“ทำไมรีบ มีงาน?”



ผมไม่ตอบแค่ยิ้มเบาๆที่มุมปาก ไอ้พี่เดียวทำหน้าโหดขึ้นมาทันทีเหมือนนึกรู้ว่าผมจะไปไหนต่อ แต่รู้ก็ช่างมันสิ ผมมีสิทธิ์จะไปไหนมาไหนก็ได้



“ไปไหน?”มันถามย้ำ



“จะไปไหนล่ะ ก็กลับบ้านไง”



“ให้มันจริง ถ้าจะไปเที่ยวก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่หวังว่าจะไม่ลืมที่เคยบอกไปนะ”




ก็ไม่มีสิทธิ์ว่าอยู่แล้วป่ะ แต่ผมก็ไม่ได้พูดออกไปพูดทีไรก็ทะเลาะให้อารมณ์เสียทุกที แต่เรื่องที่บอกนี่เรื่องอะไรวะ ก็เรื่องที่ไอ้พี่เดียวมันบังคับให้ผมทำนั่นนี่ตามใจมันนั้นเยอะแยะไปหมด ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทำตามหรอก ผมยักไหล่คว้ากุญแจรถแล้วผิวปากเดินออกจากห้องมัน ไอ้โอ๊คไลน์มาย้ำอีกรอบว่าให้รีบมา มันกระหายแอลกอฮอล์จะแย่ แต่เอาจริงๆถึงไม่ได้ออกมาเที่ยว ห้องมันก็มีเหล้าเบียร์ติดไว้ตลอด ผมว่ามันกระสันอยากจะไปส่องของสวยๆงามๆมากกว่า





X





ผมมาถึงไอ้พวกนั้นก็มาพร้อมกันแล้วที่โต๊ะประจำ ไอ้โอ๊คมันโทรมาจองกับเฮียไว้ เหล้าตรงหน้าพร่องเกือบครึ่งขวดแล้ว ไวกันมาก บ่งบอกให้รู้ว่าเปรี้ยวปากกันแค่ไหน วันนี้ไอ้หมวยอารมณ์ดีนั่งจิบชิวๆสบายอารมณ์ ส่วนไอ้เต้นั่งป้อเด็กที่เพิ่งได้มา หลังๆมานี่ผมเห็นมันกินแต่ผู้ชายที่ดูใสๆตัวเล็กน่ารัก ไม่เห็นควงผู้หญิงเลยหรือมันจะแน่วแน่เอาทางนี้อย่างเดียวแล้ว




“มึงจะไปไหน”นั่งมาได้พักใหญ่ไอ้หมวยก็ลุกขึ้น หน้ามันเริ่มแดงแล้ว ยิ่งดูน่าหิ้วเข้าไปใหญ่ ขืนเดินไปไหนสุ่มสี่สุ่มห้าคืนนี้ได้มีผัวไม่รู้ตัว ไอ้โอ๊คซี้มันก็ออกไปสีกับหญิงแล้ว




“เยี่ยว”



“กูไปด้วย”



ผมเข้าไปทำธุระเสร็จแล้วไอ้หมวยยังไม่เสร็จเพราะมันเข้าไปฉี่ในห้องน้ำไม่ใช่ตรงโถ ผมว่ามันก็ดีแล้วปลอดภัยสำหรับมันเอง ผมออกมารอที่ทางเดิน หยิบโทรศัพท์ออกมากดเล่นไปเรื่อย ไม่ได้คุยกับใคร ผมเลิกคุยเด็ดขาดไปแล้วเพราะมันไม่ใช่แนวจริงๆ กำลังกดเพลินๆโทรศัพท์ก็ถูกดึงออกไปจากมือ กำลังจะด่าเลยแต่พอเห็นคนที่แย่งไปก็ด่าไม่ลง สาวสวยตรงหน้ายิ้มเชิญชวนมาเต็มที่




“ขอโทรศัพท์ผมคืนด้วยครับ”ผมขอคืนอย่างสุภาพ แต่สิ่งที่ได้มาคือเรือนร่างสมส่วนที่เบียดชิดจนได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเธอผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ นัยตาหวานเยิ้มคงจะเริ่มกึ่มๆแล้ว




“ถ้าคืนให้แล้วจะได้อะไร”




“แล้ว...อยากได้อะไรล่ะครับ”ผมเลื่อนมือไปประคองเอวเธอกันล้มเพราะคุณเธอเล่นเอนตัวลงมาจทิ้งน้ำหนักใส่ผมแทบจะทั้งตัว ไอ้อะไรที่นูนๆนิ่มๆก็บดเบียดจนขนลุก ‘สู้’




“ก็อยากได้...ทั้งตัวเลย ให้ได้มั้ย?”คำตอบนั้นทำให้ผมกระหยิ่มยิ้มในใจ กำลังจะเอ่บปากตอบสนอง หางตาก็เห็นไอ้หมวยเดินออกมา มันเห็นผมก็จะอ้าปากพูดแต่พอเห็นว่ากำลังอยู่กับใครท่าล่อแหลมขนาดไหนมันก็ยิ้มแบบรู้กันแล้วเดินกลับโต๊ะไป




“หืม...ว่าไง?”เธอถามย้ำอีกรอบ ใจร้อนเสียจริงแม่คุณ ไม่รู้จะรีบไปทำไม คืนนี้มันยังอีกยาวไกล แต่เธอก็ไม่ได้รอคำตอบจู่โจมผมอยู่ตรงหน้าห้องน้ำทันที แหม สถานที่มันไม่ค่อยอำนวยแหะ จูบกันอยู่ครู่หนึ่งผมก็เลยลากเธอมาที่รถผลักให้เข้าไปทางด้านหลังคนขับแล้วปิดประตูลง แขนเรียวโน้มคอผมลงไปทันที เอาวะเร่งด่วนขนาดนี้ ในรถก็ไม่เลวแค่พรุ่งนี้ต้องเอารถไปล้างใหม่ โรมรันพันตูกันเหมือนตายอดตายอยาก ริมฝีปากไม่ละออกจากกัน แต่จะว่าไปก็นานเลยทีเดียวที่ไม่ได้มีตัวช่วยแบบนี้ ผมเลยมีอารมณ์มากเป็นพิเศษ ระหว่างที่ผมละมือจากเนินเนื้อนิ่มมาลูบไล้ต้นขาแล้วสอดมือเข้าไปในเดรสตัวสั้น เธอก็รีบมาจัดการกปลดกระดุมรูดซิปกางเกงผมทันควัน อีกนิดมือนิ่มๆของธอก็จะสัมผัสกับน้ำน่านจูเนียร์ เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงผมก็แผดร้องเสียงดัง จนเราสะดุ้งทั้งคู่



ฟัค! ไอ้อีตัวไหนมันมาขัดจังหวะวะ ผมกดตัดสายโดยไม่ได้ดูแล้วจับมันโยนไปเบาะด้านหน้า แล้วก้มลงฟัดเนื้อขาวๆล่อตาล่อใจ ทว่าโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกแล้วก็เงียบ แล้วก็ดังอีก แล้วก็เงียบ แล้วก็ดังอีก



“โว้ย! ใครวะ”เหมือนจะแกล้งกันมันโทรแล้วกดวางแล้วโทรแล้ววางอยู่อย่างนั้น ผมผละออกจากร่างขาวๆที่นอนหอบอยู่บนเบาะ เสื้อผ้าถูกร่นขึ้นมาจนแทบไม่ได้ปิดร่างกายแล้ว เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอีกครั้งมาดู



ไอ้เหี้ยพี่เดียว!




“เป็นบ้าอะไรเนี่ย โทรมาทำไม”



“ลงมาจากรถ!”



“หะ?!”ผมหันขวับไปมองนอกรถทันที ปัดมือที่กำลังไขว่คว้าผมลงไปแนบชิดออก



“ลงมาจากรถเดี๋ยวนี้”น้ำเสียงมันคุกคามมาก ทำเอาผมยิ่งหงุดหงิด




“อยู่ไหน?”




“ออกมาจากรถก่อนแล้วจะบอก”




“แม่ง!”ผมกระแทกเสียงใส่ปลายสาย ไม่มีอารมณ์ทำต่อแล้ว ติดกระดุมรูดซิปผมก็ลงมาจากรถ




“อยู่ไหนออกมาเลยมา มาก่อกวนคนอื่นเขาบ้าป่ะเนี่ย”




“ผู้หญิงกลับไปหรือยัง”




“อะไร”




“ผู้หญิงที่อยู่ในรถอ่ะ กลับไปหรือยัง ถ้ายังก็บอกให้เขากลับไป”ผมหันไปมองคุณเธอหน้าหงิกหน้างอลงมาจากรถผม ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วแต่ผมเผ้ากระจุยกระจายเพราะการฟัดกันเมื่อครู่ เธอหันมามองจิกใส่แล้วก็กระแทกเท้าเดินหนีไป




“ทำไมต้องทำอย่างนั้น แล้วรู้ได้ไงเนี่ย ตกลงอยู่ไหนวะพี่”เสยผมอย่างหงุดหงิด กวาดตามองไปทั่วลานจอดรถก็ไม่เจอใครนอกจากคนดูแล ซึ่งเดินสำรวจตรวจตราอยู่อีกโซน




“อยู่คอนโดดิ”




“หะ!?”




“ให้รู้ซะบ้างว่านั่นถิ่นใคร แล้วเมื่อค่ำก็เตือนแล้วนะทำไมยังทำ”




“เตือนอะไร?”




“จำไม่ได้เหรอ พี่เคยพูดว่าไง”




แล้วคำพูดบางอย่างที่เคยได้ยินก็ผุดขึ้นมาในความทรงจำ





ถ้าเจอว่าออกไปนอนกับผู้หญิงเมื่อไหร่จะตามไปลากกลับทันที



   


   “ไม่ดื่มต่อก็กลับบ้านไป แต่ถ้าอยากจนทนไม่ไหวก็ขับรถมาหาพี่จะจัดให้ถึงใจเลย”มันส่งเสียงน่าขนลุกมาตามสาย




“ใครจะไปไอ้บ้าเอ๊ย!”ผมกดตัดสายอยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งถ้าไม่ติดว่าเสียดาย




นอนกับผู้หญิงไม่ได้ แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็คงไม่มีปัญหาสินะ!







---------------

 :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2016 10:25:22 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
พี่เดียวหึงโหดมีคนเฝ้าน้ำน่านตลอดแน่

ออฟไลน์ maixmix

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :hao5: :hao5: โอ้โหหหหหหหหห ดีใจยิ่งกว่าความสัมพันธ์ของพี่เดียวกับน่านที่พัฒนาเรื่อยๆคือดีใจที่คนเขียนมาอัพนิยายต่อค่ะ
แบบเรารอๆๆๆๆๆ รอแล้วรอเล่า รอทุกวันจริงๆค่ะ อยากอ่านมาก ฮืออออออ คนเขียนสัญญากับเราได้ไหมว่าจะไม่หายไปนานแบบนี้อีก ใจคอไม่ดีเลยค่ะ  :mew6: :mew6: ได้โปรดมาอัพบ่อยๆนะคะ คิดถึงนิยายเรื่องนี้มากจริงๆ  :pig4: :L1:

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
สายเยอะจริงๆพี่เดียวเนี่ย  :hao3:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
พี่เดียวโดนน้ำน่านพยศใส่ซะแล้ว :hao7:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
อิอิ  พี่เดียวเยี่ยม  ตามติด  ติดตามดูแล  อิอิ 

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
ตอนหน้า น่านโดนจัดแน่ อิอิ
ขอหนักๆนะพี่เดียว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด