รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero- 29 -
“อื้อ...อย่ากวน”
ผมพลิกตัวหนีความเย็นที่สัมผัสใบหน้า แต่สิ่งนั้นก็ยังคงตามมารบกวนการนอน จนต้องลืมตาแล้วพลิกตัวกลับมามอง ที่มาของความเย็นคือขวดน้ำเปล่าที่มีไอน้ำเกาะพราว มองไล่ขึ้นไปก็เห็นไอ้พี่เดียวยืนยิ้มอยู่ เสื้อที่ใส่ปลดกระดุมทุกเม็ดโชว์กล้ามท้องเป็นลอนกับอกแน่นๆ ถ้าเปลี่ยนจากน้ำเปล่าเป็นเบียร์สักประป๋องคงจะเหมาะกว่านี้
“กินข้าวได้แล้ว เผลอไม่ได้เลย หลับตลอด”
ผมลุกขึ้นนั่งลูบหน้าลูบตาตัวเองเพื่อไล่ความง่วง ช่วงนี้เร่งทำงานให้ทัน เพราะเสียเวลาตอนป่วยไปเยอะ สามวันที่ผ่านมาผมนอนวันสามสี่ชั่วโมงเห็นจะได้ แล้ววันนี้ก็เพิ่งได้เจอไอ้พี่เดียวหลังจากวันนั้นที่ยอมตกลงคบกันมันไป
สถานะตอนนี้คือ
‘แฟน’ เป็นสถานะที่ผมไม่คิดว่าจะได้ใช้กับใครในชีวิตนี้ แล้วก็ไม่คิดว่าคนแรกที่ได้ใช้จะเป็นไอ้พี่บ้านี่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าแฟนมันต้องเป็นกันยังไง แต่ผมก็ยังทำตัวปกติเหมือนเดิม ส่วนพี่เดียวที่ทำตัวว่างมานาน หลังจากผมตอบตกลงปุ๊บคิวงานต้องบินไปต่างประเทศก็เข้ามาปั๊บเหมือนรู้จังหวะ มันเพิ่งกลับมาเมื่อคืน เช้ามาก็ไปทำงานและเพิ่งได้เจอกันเมื่อเย็นนี้เอง
“ก็คนมันง่วงอ่ะ”
“พี่อุ่นกับข้าวไม่ถึงสิบนาทีก็ยังจะหลับได้นะ ไปล้างหน้าไป”
ผมลากตัวเองมาล้างหน้าไล่ความง่วง วันนี้หลังเลิกเรียนไอ้พี่เดียวไปรับที่คณะมาที่คอนโดมัน เมื่อเช้าผมติดรถไอ้พายไป รถตัวเองไม่ได้แตะเลยตั้งแต่เท้าเจ็บ ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากเกือบจะหายสนิทแล้ว และพบว่าการมีคนขับรถให้นั่งนี่มันโคตรสบายเลย
“โห บ้านพี่ทำกับข้าวทีเยอะขนาดนี้เลยเหรอ”ผมมองกับข้าวห้าหกอย่างที่วางเรียงบนโต๊ะแทบไม่มีพื้นที่ว่าง แล้วปริมาณแต่ละอย่างมันไม่น้อยเลย
“ป้าให้เด็กทำให้โดยเฉพาะ พี่บ่นๆไปว่าอยากกิน เลยจัดมาให้ชุดใหญ่เลย”
“อร่อยอ่ะ!”ยำสามกรอบนี่อร่อยสุดๆ ตัวเอกทั้งสามยังกรอบอยู่เลยสงสัยพี่เดียวมันจะเอามาคลุกเอง
“งั้นกินเยอะๆ”
พอคำแรกเข้าปากไปก็รู้ตัวว่าหิวโซมาก อาหารบนโต๊ะอร่อยทุกอย่างจนผมกินเพลินเติมข้าวไปสามจาน เสร็จแล้วก็ต้องนั่งนิ่งขยับตัวไม่ไปไหนไม่ไหว
“เดี๋ยววันหลังพาไปกินที่บ้านใหญ่”
“ไม่เอา”
“ทำไม มีแต่คนดีใจอยากจะให้พี่พาเข้าบ้านทั้งนั้น”
“งั้นก็ไปพาคนที่เขาอยากไปดิ”แม่งพูดจาไม่เข้าหู
“อะไรๆ งอนหรือไง ทำไมทำหน้าอย่างนั้น”
“ใครงอน พูดมาก ล้างจานไปเลย”
ไอ้พี่เดียวหัวเราะน่าหมันไส้ ผมเดินหนีมานั่งดูทีวีที่โซฟา รอไอ้พี่เดียวไปส่งที่บ้าน คืนนี้มีนัดกันกับพวกเพื่อนชั่วที่ร้านเฮียเสก ไอ้พี่เดียวมันก็นัดเพื่อนมันเหมือนกัน แต่ไม่ได้มีการรวมโต๊ะนั่งแต่อย่างใด
“อย่าแต่งให้มันหล่อมากนัก”ผมกำลังจะเดินขึ้นห้องเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัว ไอ้พี่เดียวก็ตะโกนบอกมา มันนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นในบ้านผม ตัวมันเองอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วถึงได้มาส่งผมที่บ้าน ตอนแรกผมจะขับรถไปเองแต่มันไม่ยอม เถียงกันอยู่นานสุดท้ายผมก็ต้องยอมมัน ผมจะกินให้เต็มที่เลยไหนๆก็มีคนพากลับอยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่มันจะปล้ำผมตอนเมานั้นผมไม่กลัว เพราะบอกมันไปแล้วถ้าทำก็ถือว่าขาดกัน ผมพูดจริงทำจริง
“ทำไม?”
“หวง!”
ผมแสยะยิ้ม กูจัดเต็มแน่ครับคืนนี้
X
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นปวดท้องไง?”คนข้างๆผมหน้าตาไม่สบอารมณ์ หน้าหงิกตั้งแต่เห็นผมแต่งตัวเสร็จ ก็บอกแล้วคืนนี้จะจัดเต็ม จะเอาให้สาวๆเหลียวหลังจนคอเคล็ดไปเลย
“ยังจะมาถามอีก”
“ก็มาเที่ยวอ่ะ จะให้ใส่เสื้อกล้ามกางเกงขสั้นลากแตะมาไง”ผมถามมันกวนๆ ไอ้พี่เดียวทำเสียงจิ๊จ๊ะม่พอใจ เห็นมันอารมณ์ไม่ดีแล้วมีความสุข ถึงใครจะเข้าหาแต่ถ้าผมไม่เล่นด้วยใครจะมาทำอะไรได้ แค่นี้ทำไมคิดไม่ได้นะ
“มาเที่ยวครับคุณ ยิ้มหน่อยๆ โต๊ะคุณยังไงก็มองเห็นโต๊ะผมนี่ ระแวงไรวะ”ผมตบแก้มมันเบาๆ โต๊ะประจำของมันอยู่ด้านบน เป็นส่วนตัว มองลงมาก็เห็นด้านล่างเกือบทุกโต๊ะ
“ไม่ได้ระแวง แต่หวงเข้าใจมั้ย”
“เออๆ เข้าไปข้างในไป ทำหน้าดีๆด้วยพี่ หน้าบึงแบบนี้สาวๆหนีหมดจะหาว่าไม่เตือน”
“อยากให้ได้สาว?”
“ก็แล้วแต่นะ”ถ้ามันได้ผมก็จะเอามั่ง ควบสองคนไปเลย
“หึ ระวังตัวด้วยล่ะ แล้วท่องไว้ด้วยว่ามีแฟนแล้วนะครับคุณน้ำน่าน”มันชี้หน้าผมเป็นเชิงขู่ คิดว่ากลัวไงวะ ผมขี้เกียจพูดด้วยก็เลยเดินเข้ามาก่อน ร้านเฮียเสกเปลี่ยนของตกแต่งใหม่ บรรยากาศแปลกตาไปอีกแบบ แต่มุมการจัดวางโต๊ะยังเหมือนเดิม ผมเดินตรงไปที่โต๊ะประจำ เห็นแวบๆว่าไอ้พี่เดียวเดินขึ้นไปชั้นบนแล้ว ตอนนี้สามทุ่มคนเริ่มหนาตา แต่ถ้าดึกกว่านี้จะยิ่งเยอะขึ้น เพลงก็จะมันขึ้นด้วย
“ช้านะไอ้สัด”ยังไม่ทันหย่อนก้นนั่ง ไอ้หมวยก็สรรเสริญทันที
“มึงรีบมากไง?”ผมย้อน ที่จริงเรานัดกันวันเสาร์ แต่จู่ๆเปลี่ยนกะทันหัน เพราะร่างกายมันเรียกร้องอยากจะได้รับแอลกอฮอล์ แต่เพราะวันนี้เป็นวันธรรมดาที่แต่ละคนก็ติดภารกิจนั่นนี่กันเลยไม่ได้ระบุเวลาที่แน่นอนใครมาก่อนก็เริ่มก่อนได้เลย ตอนนี้ไอ้คิมก็มาแล้วนั่งกดโทรศัพท์อยู่ข้างไอ้หมวย
“เออ ไอ้เชี่ย ไหนพี่เดียววะ”
“ถามหามันทำไม คิดถึงมันหรือไง”
“เออ คิดถึงม๊ากมาก”ท่าทางน่าหมั่นไส้จนอยากดีดกระโหลก
“ข้างบนนู่น คิดถึงก็ขึ้นไปหา แล้วผัวมึงล่ะ”
“ไม่ใช่ผัว! เดี๋ยวมันมา”ตลกมากครับเพื่อน ถึงจะแย้งแต่อีกคำตอบก็เหมือนจะยอมรับ ผมส่ายหน้าแล้วรับแก้วมาจากไอ้เต้ที่นั่งหัวเราะกับคำตอบของไอ้หมวย ไม่ถึงสิบนาทีแก๊งวิศวะก็ตามมาช่วยกันเรียกเรตติ้งให้โต๊ะผม เริ่มมีสาวๆเข้ามาคุยด้วย แต่ผมเฉยๆ พวกนี้เป็นนักศึกษามหาลัยเดียวกับพวกผมรู้จักกับพวกไอ้ธันว์ มีส่งสายตาให้ผมบ้างแต่ผมไม่ค่อยสนแนวนี้
“ผมไม่ได้สั่งนะพี่โต้ง”ผมบอกพี่พนักงานเสิร์ฟที่คุ้นกันดี เหล้าสองขวดพร้อมมิกซ์อีกจำนวนหนึ่งที่ถูกยกมาทำเอาพวกผมงง
“อภินันทนาการจากด้านบนครับ”ทั้งโต๊ะเงยหน้าขึ้นไปทันที มีใครบางคนทำตัวเป็นพระเอกยืนเท้ากับราวกั้นด้านบนพร้อมทั้งยกแก้วเหล้าทักทาย ผมเบ้ปากทันที ทำตัวเป็นป๋านะ แต่เสนอมาจะไม่สนองกลับไปก็กระไรอยู่ ของฟรีใครบ้างไม่ชอบ
“เฮียเขาฝากบอกมาว่าวันนี้กินให้เต็มที่ครับ เฮียเลี้ยง แต่คุณน่านห้ามเมานะครับ”
“อะไรวะพี่ เต็มที่แต่ห้ามเมา”
“หมายถึงเพื่อนๆคุณน่านที่เต็มที่ครับ ส่วนคุณน่านห้าม มีอะไรเคลียร์กับเฮียเอง ผมไม่เกี่ยวนะ”แล้วพี่โต้งก็เดินจากไป
“กูพลาดอะไรไปหรือเปล่าวะ”ไอ้อ๊อดมองหน้าผมแล้วอมยิ้ม พอผมหันกลับมา ไอ้พวกเลวทั้งหลายก็ส่งสายตาสอดรู้สอดเห็นกันเต็มที่
“มองกูทำซากอะไร มีของฟรีให้แดกก็แดกไปดิ”
“อะไรยังไงครับมึง อย่ามาเฉไฉ ตกลงคบกับพี่เขาแล้ว?”ไอ้เต้พุ่งตรงเข้าประเด็นไม่มีการอ้อมค้อม
“การที่เขาเลี้ยงเหล้า หมายความว่าต้องคบเหรอวะ?”
“ให้ตอบไม่ได้ให้ย้อนถามไอ้สัด”ไอ้โอ๊คปาเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาแต่พลาดไปโดนไอ้ธันว์ที่นั่งข้างๆ มันก็เสือกเก็บไปกินอีกนะ
“เออ ไอ้สัด หายข้องใจกันยัง ถามกันอยู่ได้ รู้แล้วพ่อมึงจะได้เป็นนายกกันรึไง”คือผมก็ไม่ได้จะปิดอะไรพวกมันอยู่แล้ว แต่ขอกวนตีนสักหน่อยเหอะ
“เออ ก็แค่เนี๊ยะ”ไอ้โอ๊คว่า ส่วนไอ้เต้ก็หัวเราะอยู่ข้างๆ ไอ้ธันว์ ไอ้คิมก็เฉยๆเหมือนมันจะเดาได้อยู่แล้ว
“จริง ยึกยักอยู่ได้ แดกเหล้าดีกว่า”
“แหมไอ้คุณโฟม อย่าไปว่ามันมึงเองก็ใช่ย่อย ถ้าพวกกูไม่จับได้เองมึงจะยอมบอกมั้ยไอ้ลูกหมา”ไอ้โอ๊คตบกบาลเพื่อนมันด้วยความเอ็นดู คนถูกตบค้อนตาคว่ำ
“อะไรวะ มึงก็มีแฟนแล้วเหรอไอ้โฟม ใครวะ”ไอ้โก้ที่นานๆจะพูดสักทีถึงกับเอ่ยปากถาม
“นั่นไง มานั่นแล้ว”ทุกคนพร้อมใจกันหันไปมองทางที่ไอ้เต้บุ้ยปาก ถึงคนจะเยอะแค่ไหนแต่พี่ไวท์ก็โคตรมีออร่าเห็นเด่นมาแต่ไกล อาจเพราะด้วยความสูงด้วยละมั้งที่ทำให้เป็นจุดสนใจของคนได้ไม่ยาก
“พี่ไวท์?”คนข้างๆผมพูดขึ้น
“มึงรู้จัก?”
“ก็เคยคุยด้วยไม่ได้สนิทอะไร เป็นเพื่อนในกลุ่มเพื่อนพี่รหัสกู”ไอ้ธันว์ตอบ ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นแต่ก็ไม่ได้ถามไป คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเพราะอีกฝ่ายไม่ได้หันมามองพวกผมเลยสักนิด พี่ไวท์เดินเข้ามาถึงโต๊ะก้มคุยอะไรกับไอ้หมวยสองสามประโยคแล้วก็แยกตัวไปนั่งกับเพื่อนตัวเอง ทุกการกระทำตกอยู่ในสายตาพวกผมตลอด ส่วนไอ้หมวยก็ดูสงบเสงี่ยมไม่ปากดีเหมือนตอนแรก เพราะมีผู้ปกครองตามมาคุมถึงที่
“งานนี้ต้องฉลองแล้ว เพื่อนกูมีผัวตั้งสองคน”
“ควาย!”ผมกับไอ้หมวยด่าออกมาพร้อมกัน แต่ไอ้โอ๊คกลับหัวเราะชอบใจ คนอื่นๆก็ด้วย
“ไอ้โฟมกูไม่แปลกใจนะเว้ย แต่มึงดิไอ้น่าน ทำไมถึงเปลี่ยนแนววะ”ไอ้อ๊อดดูข้องใจมาก แต่เอาจริงนะไม่ว่าใครก็ตามที่รู้จักผมก็ต้องแปลกใจทั้งนั้น ผมยังแปลกใจตัวเองเลย
“กูอ่ะผัว”ผมแก้ต่าง แต่ทันทีที่พูดจบทั้งไอ้เต้และไอ้ธันว์ที่นั่งขนาบข้างก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
“จริง?”ไอ้อ๊อดดูทำหน้าไม่เชื่อสุดๆ ทำไมวะ ผมจะเป็นผัวไอ้พี่เดียวไม่ได้หรือไง เกย์ควีนร่างยักษ์มีถมเถไป
“เชื่อมันเมียมึงก็ออกลูกเป็นลิงแล้วไอ้สัด”บางทีก็ไม่เข้าใจว่าไอ้ธันว์คือเพื่อนรักหรือศัตรูในหมู่มิตรกันแน่ ผมเลยถีบมันไปนั่งกับแก๊งมันที่เอาแต่หัวเราะ
X
“เมายัง?”
“เมาบ้าอะไร กินไปนิดเดียวเอง”ตั้งใจว่าจะซัดให้หมอบเลย แต่ดูเหมือนคืนนี้พวกผมจะมีเรื่องคุยกันเยอะ เลยไม่ค่อยได้กินสักเท่าไหร่ เหล้าที่ชงไว้ยุงแทบจะลงไปวางไข่ได้ สงสัยที่มีคนเลี้ยงต้องเก็บไว้กินคราวหน้า ผมเดินมาเข้าห้องน้ำพอทำธุระเสร็จก็เจอไอ้พี่เดียวดักรออยู่หน้าห้องน้ำ
“ไหนมาพิสูจน์ดิ”มันลากผมออกมาด้านหลังขึ้นไปบนชั้นสองที่เป็นห้องพักของเฮียเสก ยังไม่ทันตั้งตัวมันก็ประกบปากลงมา เมาหรือเปล่าวะเนี่ย ตาเยิ้มแปลกๆ รสจูบยังชวนให้มึนงงอีกต่างหาก
“อืม...”ไอ้พี่เดียวมันครางเบาๆก่อนจะถอนจูบออก ผมหอบเล็กน้อยกับจูบที่กินเวลานานหลายนาที จูบกันเหมือนตายอดตายอยาก
“อยากกลับว่ะน่าน”มันบอกเสียงกระเส่า ปลายจมูกคลอเคลียแถวคอผมก่อนจะวกกลับมากดจูบมุมปาก
“ก็กลับไปดิ แต่ไม่กลับด้วยนะจะกินต่อ”ผมพูดโดยไม่สนใจสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของมัน
“อย่าพูดเหมือนไม่รู้”
“ขึ้นเองก็เอาลงเองนะครับคุณ ผมไม่เกี่ยว”ผมก็เริ่มรู้สึกนิดๆแต่ก็ยังพอทนไหวกับมันผมต้องใจแข็งมากๆเพราะมันไม่เหมือนกับคนอื่นๆที่ผ่านมา เพราะถ้าปล่อยไปตามอารมณ์ผมจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่ ผมผลักมันออกแต่ยังไม่ทันได้ไปไหนก็ถูกมันรั้งเข้าไปอีกแล้วจูบกันอีกรอบ
ปึง!
“อ่าว เห้ย เชิญเลยๆ เชิญมึงสองคนตามสบาย”
ผมผลักไอ้พี่เดียวกระเด็น โคตรตกใจที่เห็นเฮียเสกเปิดประตูเข้ามา เจ้าของสถานที่ทำท่าขอโทษขอโพยแล้วก็ปิดประตูล็อกให้ด้วยความปรารถนาดี โดยที่ผมไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ
“ไอ้เหี้ยเสก!”ไอ้พี่เดียวสบถออกมามันดูหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ แต่ผมนี่สิโคตรอายอยากจะแทรกพื้นกระเบื้องหนี
“แม่ม เพราะพี่เลย!”ไม่รู้เฮียเสกจะคิดไปถึงไหนแล้ว
“เพราะพี่อะไร? พวกมันรู้กันทุกคนแหละ จูบกับแฟนผิดตรงไหน หรือไม่อยากให้ใครรู้ว่าเป็นแฟนกัน”
“จิ๊ พูดสักคำยังวะ อย่ามามองแบบนั้นนะเว้ย”ผมแค่อาย ก็สถานะผมกับมันตอนนี้มันไม่เหมือนกับคนอื่นๆที่ผ่าน กับพวกผู้หญิงหรือพวกที่ผมเหนือกว่าผมไม่อายเลยที่จะจูบโชว์ แต่นี่มันไม่ใช่นี่หว่า
“อย่ามาวะเว้ยกับพี่นะ เห็นไม่ว่านี่เอาใหญ่”กลับมาเป็นแบบนี้อีกแล้ว ขี้บ่น โคตรน่าเบื่อ
“งั้นก็ไม่ต้องมาคุยกัน”ไม่ได้อยากทะเลาะด้วยนะเว้ย คืนนี้ตั้งใจมาสนุกให้เต็มที่ผ่อนคลายความเครียด ไม่ใช่มาหาเรื่องปวดหัวเพิ่ม
“อย่าเดินหนี”
“แล้วจะอยู่ให้ทะเลาะกันหรือไง”อย่าให้ผมต้องหงุดหงิดมากไปกว่านี้เลย อะไรๆที่เพิ่งเริ่มต้นมันจะสะดุดได้ ผมสะบัดแขนออก กลับเข้ามาในร้าน พอถึงโต๊ะเพื่อนผมก็หายไปบางคน คงได้สาวๆกันแล้ว ไม่ก็ออกไปสูบบุหรี่ อารมณ์สนุกหายไปกว่าครึ่ง รู้สึกเซ็งขึ้นมาทันที
“ไปเข้าห้องน้ำที่ไหนมาวะ นานสัดแล้วหน้าหงิกมาขนาดนี้ใครทำไรมึง”
“ไม่มีอะไร”
“หึ มาๆแดกๆ ของฟรีทั้งนั้น อย่ามานั่งทำหน้าเซ็งเสียบรรยากาศหมด”ไอ้ธันว์เลื่อนแก้วใบใหม่มาให้รู้สึกจะชงเข้มมากดูจากสีน้ำในแก้ว
“แล้วไมมึงยังอยู่ ไม่ออกไปล่าแหยื่อวะ”เป็นที่น่าแปลกใจสุดๆ ปกติมันจะลุกออกไปคนแรกของกลุ่มด้วยซ้ำ ฮอตจนไฟลุก แต่คำตอบของมันทำให้ผมแปลกใจยิ่งกว่า
“ช่วงนี้กูเบื่อๆ”
“หึ เบื่อบ้างก็ดี”
“ทำไม หาพวกหรือไง ถอดเล็บหรือไงวะ อ้อ มีคนเฝ้าเลยเริงร่าไม่ได้”
“หุบปากไปไอ้สัด อย่าทำให้กูหงุดหงิดขึ้นมาอีก”
“เอ้า ทำไมวะ เมื่อกี้ไปตีกันมาหรือไง”
“เออ ปัญญาอ่อนฉิบหาย”ว่าแล้วก็กระดกเหล้าที่มันเอามาให้เป็นการแก้แค้น คืนนี้กูจกินแม่งให้หมดร้านเลย เอาให้กระเป๋าฉีก ผมกับไอ้ธันว์นั่งดวลกันอยู่สองคน ส่วนคนอื่นๆก็ไปตามทางของตัวเอง ไอ้หมวยโดนพี่ไวท์ลากไปนั่งด้วยตอนนี้โดนแซวจนพรุนไปหมดแล้วมั้ง ไอ้เต้เจอเด็กเก่าเลยไปรำลึกความหลัง ไอ้อ๊อด ไอ้โก้ ไอ้คิม ไอ้โอ๊คหายหัว
“เมาแล้ว”
“.....”ผมปรายตามองคนที่ถือวิสาสะมานั่งตรงที่ว่างข้างผมแบบไม่ได้รับเชิญ ไอ้ธันว์ก็ขยับออกไปนั่งอีกฝั่งทันที
“เชิญง้อกันตามสบายเลยครับพี่”
ง้อบ้าบออะไร ผมไม่ได้งอนใครสักหน่อย
“บอกว่าอย่าเมาไง”
“ยังไม่เมา”
“เห็นยกเอาๆ เข้มขึ้นทุกที”สายตาจะดีไปแล้วนั่งข้างบนจะมาเห็นได้ไงว่าชงเข้มไม่เข้ม มั่วชะมัด
“กลับกันเถอะ ดึกแล้ว”พอมันพูดแบบนี้แล้วผมเลยต้องก้มดูนาฬิกา เที่ยงคืนกว่าแล้ว เหมือนเวลามันผ่านไปช้าผิดปกติ ผมแค่มึนๆยังไม่เมา อยากดื่มต่ออีกหน่อยแต่เหมือนไอ้พี่เดียวจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น
“ไม่กลับไปนั่งกับเพื่อนอ่ะ”
“อยากนั่งกับแฟน ทำไมมีปัญหาหรือไง?”
“เออ เรตติ้งตกหมด”ผมแสยะยิ้มให้มันกวนๆ
“หึหึ ให้เวลาอีกครึ่งชั่วโมงร่ำลากับเพื่อนซะ จะได้กลับกัน”พูดจบมันก็เดินไปทางหลังร้าน
ห่า! ครึ่งชั่วโมงจะไปทำอะไรได้วะ แค่รินเหล้าก็หมดเวลาแล้ว
“มีเคอร์ฟิวด้วยเว้ย”
“พูดมาก รินเพียวๆมาให้กูเลย สัดต้องทำเวลา”
“ฮ่าๆ กูก็นึกว่ามึงจะไม่ทำตาม กลัวผัวนะมึงเนี่ย”
“ผัวพ่อง!”
ด้วยความที่รีบเร่งทำเวลาทำให้ผมเกือบอ้วก ตอนนี้มึนหัวไปหมด รู้สึกว่าพื้นที่ยืนอยู่มันหมุนได้ คือผมรู้เรื่องทุกอย่างนะ แต่บังคับตัวเองไม่ได้แต่กระทั่งการยืนตรงๆ ดีที่มีไอ้พี่เดียวมันคอยพยุงอยู่
“อยากนอนอ่ะ อยากนอน”
“รู้แล้วๆ นี่มันหน้าบ้านจะนอนตรงนี้หรือไง”
“ไม่นอน! จะเอาเตียงนุ่มๆ”
“งั้นก็ยืนดีๆก่อนสิ”
“ดีแล้วเนี่ยๆ”ผมกระทืบเท้าให้ดูด้วย ให้เห็นชัดๆว่ายืนดีแล้วแม้จะไม่ตรงเท่าไหร่
“เมาแล้วปัญญาอ่อนนะเราน่ะ”
“ว่าใคร”
“ว่าน่านนั่นแหละ”
“ไม่ได้ชื่อน่าน”
“แล้วชื่ออะไร”
“ชน ละ ทอน”ชื่อผมเพราะมาก พ่อตั้งให้ ผมชอบมากเลยนะ
“อ๋อ ครับๆ น่านนี่ชื่อหมาเนอะ”
“ช่าย”
“ฮ่าๆ”
“หัวเราะอะไร?”
”หัวเราะหมาครับ”
“ไหน?”
“มันวิ่งหนีไปแล้ว เอ้า นั่งลงก่อนพี่ถอดรองเท้าให้”
“ถอดกางเกงด้วยนะ อึดอัด”
“ได้ครับ จะถอดให้เกลี้ยงทั้งตัวเลย”
“ดีๆ”
“น่าน อย่าเพิ่งหลับ ลุกขึ้นก่อน ไปนอนบนห้อง”
“อื้อ ยังไม่ถอดกางเกงเลย”
“เดี๋ยวไปถอดข้างบนไง”
ก็ได้วะ แต่ขี้เกียจเดินอ่ะ ทำไงดี ทำไมที่บ้านไม่มีทางเลื่อนเหมือนที่สนามบินบ้าง บันไดก็ควรเลื่อนได้ด้วยนะ ให้เดินขึ้นเองมันเมื่อย แล้วทำไมขั้นบันไดมันถึงได้มีซ้อนกันเยอะแบบนี้ด้วยนะ
“โอ๊ย!”
“เดินดีๆ ยกเท้าสูงๆจะได้ไม่เตะมัน”
“สูงแล้วๆ”
“เอ้อ ไม่น่าเผลอเลย”
“เผลออะไร?”
ถามก็ไม่ตอบ ยังมายิ้มใส่อีก แล้วจะลากผมไปไหนเนี่ย อยากจะขัดขืนมันนะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย แค่จะดึงมือออกยังไม่มีแรง โชคดีที่มันไม่ได้พาผมไปไหนไกล พอผมเห็นเตียงที่คุ้นเคยก็รีบถลาลงไปหาทันที ความนุ่มแบบนี้ที่ผมชอบ กลิ่นแบบนี้ที่ช่วยให้หลับสบายจนถึงเช้า
X
ตึก ตึก...ตึก ตึก
เสียงดังน่ารำคาญข้างหูมันคืออะไรก็ไม่รู้ แต่มันทำให้ผมต้องตื่นขึ้นมาพบกับความปวดหัวหนึบๆและลำคอแห้งผากเหมือนอยู่ในทะเลทราย พอลืมตาก็เจอกับกำแพงที่ทำจากหนังมนุษย์ สติสัมปชัญญะกลับเข้าสู่ร่างผมทันที ที่มาของเสียงตึกๆดังหนวกหูผมมาจากด้านในกำแพงที่ว่านั่นเอง ผมขยับตัวออกห่าง เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของแผ่นอกล่ำๆที่ยังหลับสนิท พอผมลุกขึ้นนั่งแขนที่พาดเอวผมไว้ก็ล่วงผล็อยลงไป เมื่อคืนมาส่งแล้วก็ตีเนียนนอนด้วยสินะ ผมฟาดมือลงบนอกมันไปหนึ่งที เห็นมันคิ้วกระตุกก็รู้สึกพอใจ ว่าจะลงไปดื่มน้ำข้างล่างแต่เหลือบมองที่ข้างเตียงก็เห็นมีขวดน้ำวางอยู่เลยไม่ต้องลงไปด้านล่างให้เสียเวลานอน ไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองว่าขวดน้ำมาตั้งอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ผมพลิกตัวลงนอนอีกรอบแขนปลาหมึกก็ตวัดมารัดทันที ไอ้พี่เดียวมันตื่นแล้วแน่ๆ
“มาตีพี่ทำไมหืม”มึนงึมงำถามจมูกซุกอยู่หลังคอ
“ไม่กลับไปนอนที่คอนโดอ่ะ”
“ที่คอนโดไม่มีน่านให้นอนกอด”
“หึ...เดี๋ยวซื้อตุ๊กตายางให้กอด”
“ตุ๊กตาจะสู้คนจริงได้ยังไง หอมกว่า อุ่นกว่า แถมยังทำให้ตื่นตัวดีกว่าด้วย”
ครับ ตื่นตัวจริงด้วย ไอ้สิ่งที่ทิ่มขาผมอยู่มันน่าจะจับหักเป็นสองท่อนจริงๆ
“ไปไกลๆเลยแม่ง”ใช้ศอกถองท้องมันไปหนึ่งทีแต่ไม่แรงมากเพราะมันรัดผมแน่นเกินไปไม่มีที่ให้ขยับตัวมากพอ
“อยากอยู่ใกล้ๆ”
“ไปจัดการตัวเองก่อนไป”จะให้มานอนทิ่มกันแบบนี้มันรู้สึกแปลกๆ ถึงมันจะเป็นเรื่องปกติในยามเช้าของผู้ชาย แต่ไอ้การที่เหมือนมีอะไรมาจี้ตัวเองคล้ายเป็นตัวประกันอย่างนี้มันไม่ปกติ
“เดี๋ยวมันก็สงบไปเองแหละ เชื่อใจพี่ได้นะ นอนเถอะ”
ไอ้เชื่อมันก็เชื่อได้อยู่ แต่มันขนลุกป่ะวะ ผมถอนใจออกมาเฮือกใหญ่เพราะรู้แน่ว่าไอ้พี่เดียวมันคงกอดผมไม่ปล่อยแน่ แล้วอากาศเย็นๆยามเช้าเพราะฝนพรำแบบนี้ก็ดีเกินกว่าจะมาต่อปากต่อคำกับมัน พยายามไม่สนใจร่างกายของอีกฝ่าย หลับหูหลับตาเดี๋ยวมันก็หลับไปเอง
ผมตื่นอีกทีก็บ่ายโมง ไม่เห็นไอ้พี่เดียวอยู่บนเตียงแล้ว ที่นอนด้านข้างก็เย็นเฉียบแสดงว่ามันลุกไปนานแล้ว ผมจัดการตัวเองที่หมักหมมมาทั้งคืนก่อนจะเดินลงไปหาอะไรกินข้างล่าง พอได้นอนเต็มอิ่มอาการปวดหัวก็หายไป ความหิวก็มาเยือนแทน ไอ้พายไปต่างจังหวัดตั้งแต่เมื่อวานกลับอีกทีก็พรุ่งนี้ค่ำๆ บ้านเลยเงียบเชียบ แต่ที่แย่คือไม่มีคนทำกับข้าวไว้ให้กินนี่สิ
“อ่าว นึกว่ากลับไปแล้ว”ผมเห็นไอ้พี่เดียวเดินเข้ามาพอดี
“กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามา หิวยัง พี่ซื้อของกินมาเยอะเลย”มันยกของในมือให้ดูมีหลายถุงเลย
“หิวมาก”ผมเข้าไปช่วยมันถือถุงของ มีกับข้าวหลายอย่าง ขนมกับผลไม้ก็มี
“แล้วนั่นอะไร?”กระเป๋าสะพายใบไม่ใหญ่มากที่มันสะพายมาแต่ก็สะดุดตาจนทำให้ต้องถาม
“เสื้อผ้า”
“จะไปไหน?”
“เอามาไว้ที่นี่ไง ถ้าพี่มาค้างจะได้มีใส่”
“ถามเจ้าของบ้านยัง?”
“ไม่ต้องถาม ยังไงก็อนุญาตอยู่แล้ว จริงมั้ย หรือจะใจร้ายกับแฟนตัวเอง”มันเน้นย้ำคำว่าแฟนกระแทกใส่หน้าผม เหมือนกลัวว่าผมจะลืมสถานะระหว่างกัน
“เออ อยากทำไรก็ทำ”
ผมประชดแต่สำหรับพี่เดียวมันคงคิดว่าผมอนุญาตเลยเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บด้านบน ผมขี้เกียจท้วงเลยเอากับข้าวที่มันซื้อมาเทใส่จาน เพิ่งเห็นว่ามันหุงข้าวทิ้งไว้ด้วย รอบคอบไม่เบา ระหว่างรอไอ้พี่เดียวผมก็เอาชมพู่กับฝรั่งมาหั่นแช่ตู้เย็นไว้กินหลังอาหาร
“วันนี้ไม่ไปไหนหรือไง”ผมถามไอ้พี่เดียวที่นั่งลงประจำที่
“ไม่ล่ะ ขี้เกียจ อีกอย่างอยากอยู่กับน่านมากกว่า”หยอดได้หยอดดี คิดว่าผมจะรู้สึกอะไรหรือไง จะว่าไปมันก็เป็นคนปากหวานเหมือนกัน คิดถึงอย่างนั้นคิดถึงอย่างนี้ อยากอยู่ด้วย แป๊บๆเดี๋ยวก็ชมน่ารัก ถ้ามันจีบผู้หญิงผู้หญิงคนติดใจมันมาก ผมไม่รู้เลยว่าอะไรที่ทำให้มันคิดกับผมเกินเลย ทั้งที่ตอนแรกแทบจะต่อยปากกัน แต่ตอนนี้สิสายตาของมันเหมือนอยากจะจับผมจูบตลอดเวลา ฮึ่ย ขนลุก
“หยุดพูดอะไรที่มันชวนกินข้าวไม่ลงได้มั้ยพี่ เลี่ยน”
“พูดจริงก็หาว่าเลี่ยน”
“พี่เป็นคนติดแฟนเหรอวะ”ผมก็ไม่เคยมีแฟน เลยไม่รู้ว่าเขาต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลามั้ย แต่เห็นคนอื่นที่มีแฟนเขาก็ไม่ได้เป็นแบบไอ้พี่เดียว มันทำเหมือนคลั่งผมมาก หวงแบบไร้สาระ แค่แต่งตัวหล่อก็ไม่พอใจ ชอบคลอเคลียนัวเนียให้รำคาญใจเล่น แล้วที่บอกว่าคิดถึงๆนี่ก็ไม่รู้จะอะไรนักหนา ผมไม่มีความรู้สึกแบบนั้นกับมันเลยสักนิด ไอ้พี่เดียวในตอนนี้กับตอนที่เจอกันแรกแทบจะกลายเป็นคนละคนกันเลย
“ไม่รู้สิ ไม่เคยมีแฟนเหมือนกัน”
“จริง?”หน้าอย่างมันเนี่ยนะ
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น”
“ก็ไม่น่าเชื่ออ่ะดิ แฟนไม่มีแต่คู่นอนนี่เพียบใช่หรือเปล่า”
“หึหึ แต่น้อยกว่าเราแน่นอน”
“เอ้า มีของดีก็ต้องใช้ให้คุ้มดิ”
“แต่หลังจากนี้ไปก็เอามาใช้กับพี่แค่คนเดียว คนอื่นห้าม”
“เหอะๆ”
จากใจเลยนะ กับมันเนี่ยผมไม่เคยคิดจะเอามาใช้เลย!
----------------------------------------------
มาแล้วค่าาาา มาช้ามีสองสาเหตุคือทำงานกับเที่ยวค่า 555555
นี่เพิ่งออกจากป่าเขามา เพลินเลยอ่า