องค์กรลวงจิต Explicit Content [จบ] ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [7] 15/01/17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: องค์กรลวงจิต Explicit Content [จบ] ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [7] 15/01/17  (อ่าน 192860 ครั้ง)

ออฟไลน์ Vocaliist

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :hao3: ตอนแรกคิดว่าโป๊ปไม่ร้าย กลายเป็นว่า โป๊ปเองรึ ที่เป็นต้นแบบให้บอสร้าย  :laugh:  แต่ก็นะ ดันไม่ยอมบอกว่าชอบเค้าซะได้โป๊ป

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
สนุกมากเลย ขอตามติดตอนต่อไปด้วยคนจ้า  :call:

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
องค์กรลวงจิต Explicit Content [บทที่ 15] 04/08/15
«ตอบ #93 เมื่อ04-08-2015 20:29:44 »


องค์กรลวงจิต Explicit Content

บทที่ 15

หลังจากเอาเงินค่าตัวที่ได้จากการถ่ายแบบนู๊ดไปเคลียร์ค่าเทอมให้กับลูกคุณหนูที่มาอาศัยอยู่กับเขาแล้ว จอมก็พยายามหาเวลาว่างมาทำงานบริการสังคมเพื่อชดใช้หนี้สังคมที่เขาค้างอยู่จากพฤติกรรมเด็กแว้นกวนเมือง องค์กรเรียกการชดใช้ความผิดแบบนี้ว่าหมวด “ซี” ซึ่งเขาต้องมาทำงานให้ทั้งหมดห้าสิบชั่วโมง ช่วงนี้เขายุ่งมากเพราะต้องทำงานพิเศษเพื่อมาเลี้ยงอีกคนอีกคน ที่จริงนอกจากค่าเทอมแล้ว ไอลูกคุณหนูนั่นก็ไม่ได้ใช้อะไรสิ้นเปลืองเท่าไหร่ แถมยังเจียมเนื้อเจียมตัวพยายามทำตัวเป็นประโยชน์โดยการช่วยเหลืองานบ้านอย่างขันแข็ง แต่เขาก็อยากเห็นสีหน้าดีใจเวลาที่ซื้ออะไรอร่อยๆ แพงๆ ที่เด็กนั่นเคยกิน อย่างขนมเค้กร้านดัง เข้าไปฝาก และที่สำคัญ เขาต้องเริ่มเก็บเงินสำรองเผื่อจะต้องใช้จ่ายค่าเทอมเทอมหน้าให้ลูกคุณหนูอีก ยังดีที่ตอนนี้เขาไม่ต้องไปรับไปส่งไอลูกคุณหนูทุกครั้ง พี่ชายลูกลุงมันโดนองค์กรเอาตัวไปจัดการแล้ว คงไม่มาสร้างปัญหาให้มันอีก เขาเลยมีเวลามาเคลียร์เรื่องนี้ที่ค้างอยู่

เขามาถึงสถานที่ทำงานตามข้อมูลที่ได้รับจากองค์กร มันมีตัวอักษรขนาดใหญ่ติดอยู่ว่า “G-Wash” โดยมีทางรถเข้าด้านหน้า แต่เขาซึ่งมาทำงานจะต้องเข้าทางประตูพนักงานซึ่งอยู่ด้านข้าง มีที่จอดรถให้เขาจอดมอเตอร์ไซค์คันเก่งอยู่ใกล้ๆ การเข้าไปข้างในไม่ได้ยุ่งยากอะไร เขาได้จองเวลาทำงานมาล่วงหน้าแล้ว ระบบแจ้งว่าถ้าเป็นการทำงานครั้งแรกให้มาก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง ตรงประตูเป็นไม้กั้นอัตโนมัติเหมือนทางเข้ารถไฟฟ้า แต่ทำเป็นแผงสูงระดับที่ปีนข้ามไม่ได้ เขายื่นหน้าไปสแกนตรงกล้องที่ติดอยู่ข้างๆ ตามป้ายแนะนำที่ติดไว้ ระบบก็คายสายรัดข้อมือมาให้เขาอันนึง เขาหยิบมาใส่แล้วเอาไปแสกนที่ประตูแผงกั้นตามที่ระบบแนะนำ แผงกั้นนั้นก็เปิดให้เขาไปอย่างสะดวก

เขาเดินเข้าไปตามทางเดินซึ่งไปทะลุออกห้องโถงโล่งขนาดใหญ่ที่มีเก้าอี้นั่งหลายสิบตัว มีคนนั่งอยู่แค่สามสี่คนซึ่งเขาไม่คุ้นหน้า ทั้งหมดนุ่งกางเกงในตัวเดียวแต่มีผ้าเช็ดตัวห่มอยู่ ดูคร่าวๆ ห้องไม่ได้หรูหราอะไรแต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกพอสมควร มีตู้กดน้ำร้อนน้ำเย็น พร้อมของกินพวกมาม่าคัพ โจ๊กคัพ เครื่องดื่มซองๆ และขนมรองท้องวางอยู่ด้านหนึ่ง อีกด้านมีชั้นหนังสือและทีวีที่เปิดเสียงแค่เบาๆ ส่วนทางด้านหลังมีเคาเต้อร์ที่มีคนยืนอยู่ด้านใน จอมจึงเดินไปติดต่อที่เคาเต้อร์ตามคำแนะนำ

พอเดินไปใกล้ๆ ก็เห็นว่าคนตรงเคาเต้อร์เป็นคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาจอมก็เอ่ยปากจะทัก แต่ไม่ทันคนตรงหน้าที่ชิงพูดก่อน

“เฮ้ย พี่จอมเองเหรอนี่ หายไปไหนมา ไม่ได้เจอกันเลย ผมงี้นึกว่าแก๊งค์แตกไปแล้ว” คนตรงเคาเต้อร์ยิ้มด้วยความดีใจที่เจอหน้าหัวหน้าแก๊งค์ของตัวเอง

“แหม ก็โดนตำรวจจับขนาดนั้น มันคงต้องพักยาวบ้างสิ พอดีกูมีธุระสำคัญด้วย ส่วนแก๊งค์คงยังไม่แตกหรอกวะ แต่คงต้องปรับรูปแบบไป ยังไงกูก็ยังคิดถึงพวกมึงทุกคนโว้ย แล้วนี่พวกเราทำงานครบกันไปหมดหรือยัง” จอมทักตอบพอหอมปากหอมคอ

“ยังหรอกพี่ ตั้งห้าสิบชั่วโมง แต่ส่วนใหญ่ก็ทำกันได้เกินครึ่งแล้ว มีผมนี่แหละมาทำบ่อยหน่อย จนบางวันระบบก็มอบหมายให้ผมเป็นคนคุมกะอย่างวันนี้ ก็ดีเหมือนกัน ตากแดดบ่อยๆ เดี๋ยวตัวดำ” จอมมองผิวเข้มๆ ของลูกน้อง แล้วก็สงสัยว่ามันยังดำกว่านี้ได้อีกเหรอ

“แล้วงานที่ต้องทำนี่มีอะไรบ้าง” จอมถาม เขายังไม่รู้เลยว่างานที่องค์กรให้ทำ จะพิสดารพันลึกขนาดไหน

“ไม่แน่ใจเหมือนกันพี่ แต่ที่ผมเคยทำก็มีงานให้บริการล้างรถที่นี่แหละเป็นงานหลัก แล้วบางรอบก็จะโดนสุ่มให้เอาเงินเอาของไปบริจาคให้มูลนิธิ สุดท้ายก็งานนี้แหละ ทำหน้าที่เป็นคนดูแล เพิ่งโดนช่วงหลังๆ” หนุ่มแว้นผิวเข้มตอบ

ฟังดูธรรมดาไปนะ สำหรับงานขององค์กร จอมคิดแล้วก็ซักต่อ

“แล้วล้างรถนี่มันหนักมากไหมวะ พวกเราไหวกันเปล่า” จอมกลัวว่าน้องๆ ต้องไปทำอะไรแปลกๆ อย่างที่เขาเคยโดน

“โอ๊ย สบายมาก ก็ล้างรถธรรมดานี่แหละ แต่ต้องใส่แค่กางเกงในตัวเดียว ช่วยกันสองสามคน ล้างไปก็เล่นน้ำไป สนุกดี แถมได้ตังค์ด้วย”

“ได้ค่าจ้างด้วยเหรอ กูนึกว่าเป็นงานบริการสังคมเพื่อชดใช้ความผิดซะอีก” จอมสงสัย ไอ้งานนี้มันยังไงกันแน่นะ

“ก็ตามนั้นแหละพี่ ทำฟรีไม่มีค่าจ้าง แต่ถ้าลูกค้าให้ทิป เราจะได้ส่วนแบ่งครึ่งนึงตอนเสร็จงานแต่ละวัน หล่อๆ อย่างพี่นะ ทิปอื้อแน่ ถ้าใจกล้าหน่อย” หนุ่มแว้นชง ขนาดดำๆ อย่างเขา โชว์วับๆ แวมๆ ยังได้ส่วนแบ่งทิปมาวันนึงหลายร้อยเหมือนกัน

“ตกลงนี่มันเป็นการลงโทษเหรอ งานก็ไม่หนัก แถมได้ตังค์อีก อย่างนี้ใครมันจะเข็ดวะ” จอมบ่น รู้สึกงงตัวเองว่าอยากให้หนักหรืออยากให้เบากันแน่

“ไม่รู้สิพี่ แต่ผมว่าก็ดีนะ เหมือนจะฝึกให้รู้จักทำงานมากกว่า แล้วก็ตอนที่ไปบริจาคให้มูลนิธิต่างๆ เค้าก็ให้เราช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ ด้วย อย่างช่วยดูแลคนป่วยหรือคนพิการจากอุบัติเหตุ บางมูลนิธิก็ให้ไปช่วยเลี้ยงเด็กกำพร้าที่พ่อแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ผมเห็นแล้วก็สะเทือนใจเหมือนกันนะ ว่าอุบัติเหตุบนถนนมันทำให้ชีวิตคนอื่นลำบากได้ขนาดนี้ ถ้าเกิดขึ้นกับเราบ้างล่ะ หรือถ้าตัวเราเป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องพวกนี้”

จอมอึ้งเล็กๆ ไอ้เด็กห้าวที่ทำให้พ่อแม่บ่นทุกวันคนนี้ มันคิดอะไรแบบนี้ได้ด้วยเหรอ

“ผมว่าทำๆ ไปมันก็คิดได้นะ แล้วเวลาเอาเงินเอาของไปให้มูลนิธิ มันก็อิ่มใจว่าเป็นเงินที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของเราเองที่พอจะช่วยคนลำบากได้บ้าง องค์กรเขาคงต้องการประมาณนี้แหละ แล้วก็ผมเห็นคนที่มาทำที่นี่มีแต่เด็กๆ ทั้งนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกซิ่งรถ หรือไม่ก็ยกพวกตีกัน ถ้าเป็นผู้ใหญ่คงโดนรับโทษแบบอื่นมั๊ง” หนุ่มผิวเข้มพูดต่อ จอมขนลุก จริงของมัน  จากที่เขารู้มาโคตรหนักเลย

“แล้วกูต้องทำอะไรบ้างวะ” ถามในฐานะน้องใหม่

“พี่มาครั้งแรกเลยใช่ป่ะ เอาสายรัดข้อมือที่ได้ไปใช้เป็นกุญแจล็อคเกอร์กับเอาไว้ยืนยันตัวตอนทำงาน เข้าประตูด้านข้างไปจะเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า มีตู้ล็อกเกอร์กับห้องน้ำ พี่ต้องใส่กางเกงในตัวเดียวออกมานะ นั่นคือชุดทำงาน พี่ใส่ไซส์อะไรดี หุ่นอย่างพี่ เบอร์เอ็มแล้วกัน”

“ขอแอลเถอะ ตัวไม่ใหญ่ แต่อย่างอื่นใหญ่”

“เป็นไส้เลื่อนนะเหรอ โอ๊ย ไอพี่จอม เบิร์ดกระโหลกมาได้โคตรเจ็บ พอเสร็จพี่กลับมารอที่ห้องนี้ ตรงมุมนั้นมีแท็บเลทวางอยู่ พี่เข้าไปดูวิดีโอวิธีล้างรถที่ถูกต้อง แล้วมันจะบอกรายละเอียดการปฏิบัติตัวต่างๆ ไว้ด้วย พอมีลูกค้าเข้ามา ระบบจะจัดคิวแล้วประกาศเรียกชื่อพี่กับคนในทีมให้ไปประจำตามช่องล้างรถตามหมายเลขที่กำหนด ตรงนั้นจะมีหน้าจอแนะนำอีกที ถ้าลูกค้าขาดช่วง อาจจะได้กลับมาพักที่นี่บ้าง อ้อ ของกินตรงนั้นกินได้ฟรีนะ แต่ต้องเก็บให้เรียบร้อย พอทำจนหมดชั่วโมงที่จองไว้ พี่ก็เปลี่ยนชุดกลับบ้านได้ ครั้งหน้าถ้าจะมาก็ต้องจองก่อนทุกครั้ง ไม่งั้นประตูทางเข้าจะไม่เปิดให้ ผมลองมาแล้ว” หนุ่มแว้นผิวเข้มอธิบายอย่างชำนาญ

“เกือบลืมไป นี่สติ้กเกอร์แทตทู พี่เอาไปลอกติดที่ตัวนะ แนะนำให้ติดตรงหน้าอก หรือตรงเหนือขอบกางเกงในด้านหน้า ติดทีอยู่ได้เป็นเดือนถ้าพี่ไม่ไปขูดออก แต่ถ้าลอกไปแม้แต่นิดเดียวให้มาขอติดใหม่นะ” ลูกน้องแก๊งค์ซิ่งของจอมยื่นระดาษแผ่นเล็กๆ มาให้

“ติดไปทำไมวะ” จอมรับมาดู สติ๊กเกอร์รอยสักนี้เป็นรูปกราฟิกแปลกๆ แต่ไม่เห็นจะมีความหมายอะไร

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่องค์กรบอกให้ติด พี่ก็ติดไปเถอะ ในวิดีโอแนะนำ เขาก็บอกแค่ว่าเพื่อความปลอดภัย นี่ผมก็ติด”

แว้นผิวเข้มเปิดเสื้อให้ดูรอยสักปลอมที่หน้าท้องเรียบเนียนมีกล้ามนิดๆ มันเป็นรูปกราฟิกแปลกๆ แต่ก็ไม่เหมือนอันที่เขาได้ จะว่าไปฟอร์มมันก็คล้ายกันอยู่บ้าง ของบนพุงคนตรงหน้าเป็นรูปวงรีสองอันวางเหลื่อมกัน อันของเขาไม่ใช่วงรีแต่เป็นรูปข้าวหลามตัดแนวนอนสองอันแทน ในวงรีกับข้าวหลามตัดก็มีลวดลายแปลกๆ แต่รวมๆ ก็ดูคุ้นตา

“ไม่ต้องไปเทียบกันหรอก มันมีหลายลายให้สะสม เอ้ย ล้อเล่น ไม่ต้องสะสมนะพี่ เปลือง”

จอมเอาสายข้อมือให้เด็กแว้นตัวดำสแกนเพื่อรับกางเกงในมา แล้วก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องล็อคเกอร์ ในนั้นมีครบทั้งตู้ล็อคเกอร์เก็บของ ห้องสุขา ห้องอาบน้ำ และอ่างล้างหน้า สภาพคล้ายๆ กับของโรงยิมที่โรงเรียนแต่สะอาดกว่ามาก แถมยังมีครีมกันแดดขวดปั๊มป์ขนาดใหญ่ให้กดใช้กันอีก จอมเห็นเด็กหนุ่มคนนึงคอยถูพื้นที่เปียกจากคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ที่น่าประหลาดคือเด็กหนุ่มคนนั้นเปลือยทั้งร่างโชว์หุ่นสะโอดสะองกับท่อนลำเรียวยาวที่นอนสงบนิ่งในพงหญ้าสีดำ คนที่เดินผ่านไปมาก็มองแล้วอมยิ้มแต่ไม่มีใครไปยุ่งอะไร

จอมยิ้มให้กำลังใจเด็กหนุ่มคนนั้น เขาเดาว่าคงมีความผิดอะไรบางอย่างถึงโดนลงโทษตามแบบขององค์กร จอมถอดเสื้อผ้าออกหมดตรงหน้าล็อคเกอร์ เขาไม่ค่อยได้อายอะไรเท่าไหร่แล้วหลังเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้น แต่ก็หันหน้าเข้าหากำแพงก่อนจะถอดกางเกงในเพื่อเปลี่ยนเป็นตัวขององค์กร นี่ขนาดเบอร์แอลแล้วช่วงเป้ายังตึงขนาดนี้ แต่ถ้าจะเปลี่ยนให้ใหญ่ขึ้นอีกคงไม่ไหว นี่ก็ยางยืดแทบจะหลุดตูดอยู่แล้ว จอมสังเกตดูกางเกงในตัวใหม่ที่สวมอยู่ มันปักลายกราฟฟิกแปลกๆ สไตล์เดียวกับสติ้กเกอร์รอยสักที่เขาได้มา แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว จอมเห็นแล้วก็นึกขึ้นได้ รีบเอาสติ้กเกอร์มาติดไว้ที่ผิวตรงแถววีเชฟด้านซ้าย มองไปมองมาก็ดูดีเหมือนกันแฮะ แต่ถึงเป็นลายน่าเกลียดเขาก็ติดอยู่ดีเพราะเขารู้สึกเชื่อถือในองค์กรมาก

จอมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็มาเปิดข้อมูลในแทบเล็ตดูก็ได้รู้ระเบียบปฏิบัติอีกมาก ส่วนวิธีล้างรถก็ไม่ได้ต่างจากล้างมอเตอร์ไซค์เท่าไหร่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซักพักก็มีเสียงประกาศคล้ายๆ กับเสียงเรียกคิวของธนาคารบอกให้เขาและใครอีกคนนึงไปทำงานที่ช่องล้างรถหมายเลขสิบสี่ เขารีบเดินไปตามทางที่มีป้ายบอกไว้อย่างชัดเจน เมื่อเดินไปถึงช่องสิบสี่ เขาก็เจอเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนนึงยืนรออยู่ข้างๆ หน้าจอที่ไว้บอกข้อมูลประจำช่อง มันทักเขาก่อนว่า

“หวัดดีโว้ย โชคดีจังได้ทำงานกับคนหน้าตาดี แถมเป้าตุงอีก เฮ้ย สักมังกรด้วย เจ๋งว่ะ”

จอมมองอย่างไม่ไว้ใจ หรือไอหมอนี่จะเป็นเกย์

“อย่ามองอย่างนั้น กูไม่ใช่เกย์ แค่หมายถึงว่า มึงกับกูหล่อทั้งคู่ ทิปก็จะไหลมาเทมาไงล่ะ ตั้งใจทำงานนะเว้ย วันนี้ระบบจัดให้แค่ช่องละสองคน ลูกค้าคงเยอะ มึงยังไม่ได้เอาสายรัดข้อมือมายืนยันตัวตรงหน้าจอเลย เดี๋ยวทำงานฟรีหรอก” มันรีบแก้ตัว จริงๆ จอมไม่ได้รังเกียจอะไรถ้ามันจะเป็นเกย์ อย่ามาควักมาล้วงอะไรของเขาแล้วกัน

“กูมาทำวันนี้วันแรก โดนไปห้าสิบชั่วโมงเรื่องซิ่งรถปิดถนน มึงโดนข้อหาอะไรวะ แล้วเหลืออีกกี่ชั่วโมง” จอมเอาสายรัดข้อมือไปสแกนตรงหน้าจอ พร้อมกับแนะนำตัวสร้างความคุ้นเคยไปด้วย

“ยกพวกตีกันว่ะ แม่งพวกรุ่นพี่เกณฑ์ไป ไม่ไปก็ไม่ได้ ไม่งั้นไม่มีคนคบ โดนตั้งร้อยชั่วโมง แต่ทำครบไปนานแล้ว”

“อ้าวแล้วนี่มึงมาทำไมอีก” จอมสงสัย

“กูอาสาสมัครเป็นตัวสำรองไว้ วันไหนคนไม่พอ ระบบจะขอให้กูมาช่วยเสริม”

“หมดแล้วทำไมไม่เลิกๆ ไป มึงอยากได้ทิปเหรอ” ทำไมกูสงสัยไปเรื่อยวะ จอมคิด

“เปล่าหรอก ที่บ้านกูพอมีตังค์ ถึงเคสที่เป็นอาสาสมัครเราจะได้เพิ่มเป็นเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของยอดทิปก็เถอะ พูดไปไม่รู้มึงจะหาว่ากูสร้างภาพหรือเปล่านะ แต่กูอยากช่วยหาเงินไปให้มูลนิธิเยอะๆ มีตอนที่องค์กรให้กูเอาเงินที่หาได้ไปบริจาคให้มูลนิธิที่ดูแลคนป่วย กูไปเจอเด็กที่โดนกระสุนลูกหลงจากเด็กช่างอย่างพวกกูตีกันนอนเป็นเจ้าชายนิทรามาหลายเดือน พ่อแม่เขาน่าสงสารมาก ยังหวังว่าลูกเขาจะฟื้นมาซักวันนึง เด็กคนนั้นยังอายุไม่เท่าไหร่เลย อ่อนกว่ากูอีกมั๊ง” เด็กช่างที่หล่อทั้งหน้าหล่อทั้งใจเล่าไปเรื่อยๆ

เล่ามาได้ถึงตรงนี้ หน้าจอก็ส่งเสียงเตือนขึ้น รถลูกค้าวิ่งเข้ามาพอดี

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

“มึงออกไปสวัสดีต้อนรับเขาแล้วเอาป้ายผ้าที่มีคำแนะนำไปคลุมกระจกหน้าไว้ กะว่าเขาอ่านจบแล้วก็เอาออก พอลูกค้าทำท่าโอเคเราก็เริ่มได้เลย ครั้งนี้กูให้มึงเป็นคนฉีดน้ำ เดี๋ยวกูไปถูล้างคราบฝุ่นเอง มึงคอยดูลีลากูไว้นะ รับรองทิปอื้อ”

จอมทำตามคำแนะนำ พอเขาเริ่มฉีดน้ำ ไอเด็กช่างก็เดินโยกซ้ายโยกขวาเข้าไปอย่างมีลีลา น่าแปลกที่เขารู้สึกว่าเท่ดีเหมือนกัน กล้ามเนื้ออาจจะไม่แน่นกระชับเท่าเขาแต่ก็ได้สัดส่วน เมื่อรวมกับผิวขาวเนียนแน่นตึงและรอยยิ้มการค้าที่ดูดีจนใจกระตุก ก็ทำให้ลูกค้าหนุ่มวัยทำงานในรถนั่งแทบไม่ติด จอมแกล้งฉีดน้ำไปโดนเป้ากางเกงในตัวบางของเพื่อนใหม่ทำให้รอยสัมผัสของความอวบอูมด้านในชัดเจนขึ้นมาทันที ใช้ได้ๆ ถึงจะสู้เขาไม่ได้แน่ๆ แต่ก็คงไม่เบา ลูกค้าเอาหน้าแนบติดกระจกจนจมูกบี้ ท่วงท่าในการเอาฟองน้ำถูรถนี่ก็ไม่ธรรมดา มีทั้งหนักแน่น เปี่ยมพลัง เกร็งกล้ามเนื้อจนขึ้นเป็นลูกๆ บางครั้งพลิ้วไหว เอาลำตัวแนบไปกับกระจกแล้วเลื่อนไหลไปกับสายน้ำ ติ่งเนื้อสีน้ำตาลอ่อนตรงหน้าอกบี้เบียดตรงกระจกข้างคนขับให้คนข้างในเห็นได้อย่างถนัดตา

จอมยอมรับว่าเด็กช่างคนนี้เหลือร้ายจริงๆ ป่านนี้ลูกค้าไม่เกร็งจนชักกระตุกไปแล้วเหรอ ซักพักบัดดี้เขาก็ส่งสัญญาณให้หยุดฉีดน้ำ แล้วไปหยิบถังแชมพูล้างรถกับฟองน้ำสองอันออกมา จอมเริ่มรู้งานว่าเดี๋ยวเขาต้องไปช่วยลงแชมพูให้ทั่ว ลูกค้ามองมาที่เขาอย่างสนใจ จอมรู้ตัวว่าไม่มีลีลาเด็ดที่จะสร้างความพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างนั้น แต่ก็ไม่อยากเอาเปรียบเพื่อน เขาเลยเอาน้ำฉีดจนกางเกงในเปียกชุ่ม ความใหญ่ยาวข้างในทะลุมาตามรอยผ้าเปียกยิ่งกว่าหนังสามมิติ จอมยิ้มอย่างพอใจแล้วถลกขอบกางเกงลงอีกหน่อยก่อนจะเดินไปช่วยเพื่อนถูแชมพู

ลูกค้าในรถขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาดไป เด็กช่างหันมาเห็นแล้วก็หัวเราะชอบใจ

“ไอสัด กูยอม แม่งพกข้าวหลามมาก็ไม่บอก”

ทั้งสองคนแข่งกันดึงสายตาจากลูกค้าในรถ มันเป็นการประชันกันระหว่างลีลากับสรีระโดยแท้ แต่พอตอนใกล้จบที่แข่งกันเอาหลังถูกระจก จอมก็ชนะไปด้วยรอยสักมังกรที่ทำให้ลูกค้าไม่ละสายตาไปไหนอีกเลย

“มึงโกง ถ้าไม่ได้รอยสักนั่น กูไม่แพ้หรอก งั้นมึงล้างฟองไปเลย กูจะเป็นคนฉีดน้ำมั่ง” เด็กช่างพูดแบบไม่จริงจัง

จอมล้างรถไปจนสะอาด เขาไม่ได้ทำท่าอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องไปทุกการเคลื่อนไหว พอล้างฟองเสร็จ เด็กช่างก็มาช่วยเช็ดรถจนแห้ง ทั้งคู่เช็ดรถไป แกล้งจับเป้ากันเองไป ทำให้จอมนึกถึงเวลาแกล้งเพื่อนสมัยเด็ก นี่ทำให้เขารู้สึกสนิทใจกับเพื่อนใหม่ขึ้นมามากทีเดียว ส่วนลูกค้าในรถก็ไม่ต้องพูดถึง ลุ้นแล้วลุ้นอีกว่าใครจะจับโดนเป้าใครก่อน

พอเช็ดรถจนเสร็จ ลูกค้าก็ขับรถจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์ ซักครู่หน้าจอประจำช่องก็แสดงมูลค่าทิปที่ลูกค้าให้ตรงช่องทางออก

“พันสอง แม่เจ้า เยอะสัด นี่เพราะกูปล่อยลีลาเต็มที่กะโชว์น้องใหม่ หรือลูกค้าเมามังกรตัวหน้ากะมังกรตัวหลังของมึงวะ” เด็กช่างผิวปากหวือ

“พี่เค้าคงใจดีด้วยมั๊ง” จอมให้ความเห็น เท่าที่ดูรายละเอียดในคลิปมา การให้ทิปเป็นความสมัครใจแต่ฝ่ายเดียวของลูกค้า จะไม่ให้เลยก็ไม่มีใครว่าอะไร ไม่มีการกดดันใดๆ ทั้งสิ้นเพราะจะไปให้ทีเดียวตอนขาออก

คู่บัดดี้คำนวณให้เบ็ดเสร็จ

“มึงจะได้ส่วนแบ่งครั้งนี้สามร้อย เข้าการกุศลสามร้อย ครึ่งๆ ส่วนกูจะได้สี่ร้อยยี่สิบ เข้าการกุศลร้อยแปดสิบ เจ็ดสิบสามสิบเพราะกูเป็นอาสาสมัคร ก็ไม่เลวนะ สำหรับมือใหม่ ส่วนของกู กูจะเอาไปบริจาคทั้งหมดแหละ”

“แล้วมึงจะทำงานนี้ไปเรื่อยๆ เหรอ”

“ก็คงงั้น อย่างที่บอกกูอยากช่วยหาเงินให้การกุศล อีกส่วนหนึ่งเพราะกูว่าสนุกดี ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ตลอด ได้ทำงานร่วมกัน เห็นว่าใครชอบอู้ ใครขี้โกง มึงอย่าคิดอู้หรือโกงเชียวนะ องค์กรแม่งจับผิดได้เก่งมาก เดี๋ยวต้องโดนไปแก้ผ้าทำความสะอาดห้องน้ำ หรือโดนริบกางเกงในตอนล้างรถ ทีนี้ล่ะ ทิปอื้อซ่ายังกะขายตัวเลย รุ่นพี่กูเคยโดนมาแล้ว แต่มันก็ไม่เข็ดนะ พอทำครบชั่วโมงมันก็ไปหาเรื่องโรงเรียนคู่อริอีก โดนจับมาชดใช้ความผิดรอบสอง พอไปมีเรื่องรอบสามนี่เห็นหายไปเลยไม่ได้มาทำที่นี่ สงสัยองค์กรเอาไปทำอย่างอื่นแล้วมั๊ง”

ไม่ต้องเดาก็รู้ งานอย่างอื่นที่ว่าจะน่าอับอายขายหน้าขนาดไหน แล้วจอมก็เลิกคิด หันไปสนใจลูกค้ารายใหม่ที่กำลังขับรถเข้ามาจอด เด็กช่างร้องอย่างดีใจ

“รถคันนี้กูจำได้ พี่เขาเป็นทหารเรือ ใจดีด้วย ขนาดตอนนั้นทีมกูล้างโคตรห่วย ไม่มีลีลาพิเศษด้วยเพราะวันนั้นกูป่วย ยังทิปตั้งห้าร้อยแน่ะ แล้วมึงดูรถพี่เขา เอี่ยมยังกะเพิ่งล้างมาเมื่อวาน เราล้างแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว พี่เขาโคตรไม่คุ้มเลยว่ะ ค่าล้างค่าทิปเกือบพัน หรือว่าพี่เขาชอบทำบุญวะ”

จอมรีบฉีดน้ำใส่เพื่อนแบบหยอกๆ แกมหมั่นไส้ พูดเก่งจริงๆ ว่ะ แป๊บเดียวได้เป็นสิบประเด็นเลยมั๊ง ฟังไม่ทัน พอตัวเปียก ลีลามันก็เริ่มออก ลูกค้าใส่เครื่องแบบทหารเรือจริงอย่างที่มันบอก มองเข้าไปเห็นได้ชัดเพราะกระจกรถใสเหมือนไม่ได้ติดฟิล์ม สายตาพี่เขามองท่วงท่าการถูฟองน้ำของไอเด็กช่างอย่างชื่นชม มันจัดเต็มกว่ารอบที่แล้วอีกครับ มีขยับขอบกางเกงในลง จนเห็นไรเส้นขนครึ้มพอเร้าใจ แต่ไม่นานก็เสร็จเพราะรถสะอาดอยู่แล้ว จอมรีบเข้าไปจอยช่วงล้างด้วยแชมพู เขาดึงกางเกงโชว์เส้นขนไม่ให้น้อยหน้าเพื่อน จอมแปลกใจที่แทนที่นายทหารเรือหนุ่มจะตั้งใจดูโชว์ที่เขาทั้งคู่จัดให้ กลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู สงสัยจะมีธุระสำคัญ แต่ท่าทางก็ล่อกแล่กชอบกล หันโทรศัพท์ไปทางโน้นทีทางนี้ทีเหมือนไม่ได้ตั้งใจคุยเท่าไหร่

ในที่สุดขั้นตอนการลงแชมพูและล้างฟองก็เสร็จลง จอมกับเด็กช่างก็ช่วยกันเช็ดรถให้แห้ง ระหว่างนั้นจอมก็พูดขึ้นว่า

“กูเสียดายตังค์แทนพี่เขาว่ะ ล้างแป๊บเดียวก็เสร็จ แถมติดสายตลอดเลยคงไม่ค่อยได้ดูเท่าไหร่ กูว่าจะจัดพิเศษให้เขาว่ะ”

“กูไม่มีปัญหา มึงกล้าแค่ไหนว่ามาเลย” คนที่ทำงานนี้มาก่อนถามน้องใหม่กลับ

“กูขอหนึ่งนิ้วนับจากโคน” จอมเสนอพร้อมกับมองอย่างท้าทาย

“ไม่มีปัญหา แต่กูให้สองนิ้วเลย ถ้ามึงแมนพอก็ตามมา” เด็กช่างเย้ย

เกทับกันพอหอมปากหอมคอเสร็จ หนุ่มช่างก็ดึงกางเกงในลงมาคาอยู่ที่ระดับสองนิ้วนับจากฐานของท่อนเนื้ออวบสีน้ำตาลอ่อนอย่างไม่ลังเล ของลับทอดตัวสงบนิ่งกลางขนรกครึ้มสีดำที่ขึ้นเต็มบริเวณนั้นไปหมด

จอมไม่ได้ตั้งใจทำขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่มีปัญหากับมันแต่อย่างใด ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่กล้า แต่เขาในตอนนี้เคยทำขนาดชักว่าวโชว์ตอนถ่ายแบบมาแล้ว แค่นี้เด็กๆ  จอมเลื่อนกางเกงในลงในระดับเดียวกับเพื่อน เขาอาจจะแพ้ที่ขนของเขาแค่อุยๆ ไม่ครึ้มขนาดอีกคน ส่วนความยาวยังไม่รู้เพราะไม่ได้รูดลงสุดทั้งคู่ แต่ความอวบหนานี่เขาชนะแน่ๆ  แค่เห็นตรงโคนก็รู้แล้ว ยกเว้นเพื่อนใหม่ของเขาจะเป็นพวก “บานปลาย”

ทั้งคู่เช็ดรถไปเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ยังนุ่งกางเกงในแค่ครึ่งก้น ตั้งใจจะคืนกำไรให้ลูกค้า แต่คนในรถก็ยังไม่สนใจมาดูอย่างจริงจัง ยังถือโทรศัพท์แนบหูแต่ไม่ได้ขยับปากเท่าไหร่ เหมือนฟังอีกปลายสายพูดฝ่ายเดียว ท่าทางก็ยังล่อกแล่กเหมือนเดิม หันหัวไปทางซ้ายทีขวาที จนเช็ดรถเสร็จ นายทหารเรือก็ขับรถออกไปทันที

“เสียดายว่ะ สงสัยมีเรื่องด่วน ไม่ค่อยมองเราเลย ปกติทำขนาดนี้ต้องได้ทิปซักพันนึง หรือมึงหล่อไม่พอวะ พี่เขาอาจไม่ชอบของใหญ่ๆ แบบมึง อิจฉาอะไรงี้” เด็กช่างบ่นออกมา

เสียงสัญญาณดังขึ้นจากหน้าจอประจำช่องล้างรถ เด็กช่างเดินไปดูแล้วตะโกนออกมาอย่างดีใจว่า

“เฮ้ย ได้ทิปตั้งสองพันว่ะ กูว่าแล้วเรตติ้งกูต้องไม่ตกขนาดนั้น”

ให้ทิปเยอะแสดงว่าถูกใจสิ แล้วทำไมไม่ตั้งใจดู จอมคิด หรือสิ่งที่เขาตะหงิดใจจะเป็นจริง

“ที่นี่เขาห้ามถ่ายรูปถ่ายคลิปใช่ไหม” จอมถาม

“เออสิ ไม่งั้นใครจะกล้ามาทำ”

“แล้วถ้าลูกค้าแอบถ่ายล่ะ”

“ไม่หรอกมั๊ง ไม่เห็นเคยมีประเด็นนี้เลย ไม่งั้นต้องดังไปทั่วเน็ตแล้ว พวกที่ทำมารุ่นก่อนกูก็บอกว่าไม่เคยมีปัญหา” เด็กช่างนึกทบทวน  ไม่เห็นใครเคยพูดถึงเลยว่าโดนแอบถ่าย

“เหรอ” จอมคิดว่าเขาอาจจะระแวงมากไป หรือไม่ก็องค์กรคงมีวิธีจัดการ แต่ทำยังไงก็ไม่รู้

หลังจากนั้นเขาก็ช่วยกับเพื่อนใหม่ล้างรถไปได้อีกหลายคัน จนถึงเวลาปิดบริการตอนหกโมงเย็น บริการล้างรถของ G-Wash เป็นกลางแจ้งทั้งหมด พอมืดแล้วเห็นอะไรไม่ชัดก็ไม่ค่อยตอบโจทย์ลูกค้าเท่าไหร่ จอมกับเพื่อนใหม่เดินกลับไปที่อาคารกลาง ระหว่างทางเขาขอเดินออกนอกเส้นทางสำรวจพื้นที่ไปเรื่อย เพื่อนใหม่ก็แนะนำเรื่องต่างๆ เท่าที่รู้ จอมสังเกตเห็นว่าพื้นที่ทั้งหมดกว้างมาก ยังมีส่วนที่ไม่ได้ใช้งานอีกเยอะ สงสัยไว้เผื่อขยาย ใกล้ๆ ทางออกยังมีต้นไม้ใหญ่หลายต้นขึ้นร่มรื่น สงสัยจะเป็นของเดิมไม่ได้ตัดออก พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ จอมก็บอกเพื่อนใหม่ว่าขอไปชงกาแฟซองกินก่อนกลับ มันห้ามไว้ทันที

“กินเข้าไปได้ไงวะ โคตรจะไม่อร่อย น้ำล้างทีนชัดๆ”

“สัด ของฟรีมีให้กินก็ดีแค่ไหนแล้ว ถึงกูจะชอบกินกาแฟอร่อยๆ แต่ให้ไปกินแก้วละหลายสิบ เผลอๆ เป็นร้อย ไม่เอาหรอก ไว้นานๆ ค่อยกินที”

“ถ้ามึงไม่รีบ ไปกะกู กูพาไปกินกาแฟอร่อยๆ ฟรีด้วย” เพื่อนใหม่ชวน

“ไกลป่าว” จอมชักสนใจ

“ไม่ไกลมาก เลยเข้าเมืองไปอีกหน่อย มึงมายังไง เด็กแว้นน่าจะขี่มอเตอร์ไซค์มาใช่เปล่า มึงขับตามรถกูไปตรงย่านธุรกิจข้างหน้าโน้น”

จอมคิด เพื่อนใหม่ไม่ธรรมดาแฮะมีรถขับด้วย และก็จริง เพราะเมื่อขับรถตามไปถึงร้านกาแฟขนาดใหญ่ในย่านธุรกิจที่ห่างออกไปไม่ถึงกับไกลนัก เด็กช่างก็บอกว่าเป็นร้านกาแฟสาขาของที่บ้านเขาเอง ให้สั่งได้เต็มที่ถ้าไม่กลัวนอนไม่หลับ จอมมองบรรยากาศของร้านที่แต่งอย่างงดงาม หัวค่ำแล้วแต่ยังมีคนคึกคักอาจเพราะทำเลและมีขายอาหารด้วย เมื่อลองชิมกาแฟก็ต้องติดใจในรสชาติและความหอมกรุ่น

เขาเป็นคนชอบดื่มกาแฟดีๆ ออกจะผิดวิสัยเด็กแว้นไปซักหน่อย แต่ไม่ได้มีโอกาสบ่อยนักเพราะมันฟุ่มเฟือยเกินไป เขาพยายามจะหาร้านถูกๆ ดีๆ ในละแวกก็หายากเพราะของพวกนี้มันขึ้นอยู่กับคุณภาพวัตถุดิบด้วย อย่างเก่งก็ตามปั๊มป์ที่มีร้านกาแฟดได้มาตรฐานในราคาที่ไม่สูงไป

เขามองเพื่อนใหม่ที่ดูท่าทางฐานะดีกว่าเขาลิบลับแล้วก็สะท้อนใจ ตัวเขาเองไม่เท่าไหร่ แต่พอมีอีกปากอีกท้องที่ต้องดูแลก็อยากจะทำให้ดีที่สุด ไหนจะค่าเทอมเทอมต่อๆ ไปอีก เขาอยากมีอาชีพที่มั่นคงมากกว่าพวกงานพิเศษที่ทำอยู่ แต่เด็กที่ยังเรียนอยู่อย่างเขาจะทำได้ยังไง ต่อให้เรียนจบก็เถอะ ไปทำงานโรงงานจะได้เท่าไหร่กัน เขาไม่ได้โลภ แต่เมื่อมีภาระมากก็ต้องพยายามหาทางจัดการให้อยู่รอดกันไป งานถ่ายแบบคงไม่ใช่อะไรที่ยั่งยืน

คงต้องหาธุรกิจทำ จอมนึกไปถึงร้านล้างรถขององค์กรที่เพิ่งไปทำมา แม้วัตถุประสงค์น่าจะเพื่อใช้ลงโทษดัดนิสัยเด็กพร้อมกับหาเงินเข้าการกุศลไปด้วย แต่โดยรูปแบบแล้วมันก็คือธุรกิจๆ หนึ่งที่อยู่ได้ด้วยตัวเอง ต่อให้ไม่ต้องใช้องค์กรไปเกณฑ์คนมา เขาเชื่อว่าถ้าเจาะหาแรงงานให้ถูกแหล่งน่าจะมีคนอยากมาทำแบบสมัครใจ ขนาดวันนี้เขาทำแค่สามสี่ชั่วโมงยังได้ส่วนแบ่งทิปมาเป็นพันเลย ถ้าเขาสามารถคิดธุรกิจใหม่ๆ แบบนี้ขึ้นมาได้ มันน่าจะไปได้สวยนะ แต่ถ้ามันง่ายขนาดเด็กแว้นอย่างเขาคิดออก คงมีคนอื่นทำไปก่อนแล้ว หรือบางที เราอาจจะไม่ต้องคิดใหม่ทั้งหมด จอมนึกมาถึงตรงนี้ก็โพล่งถามเพื่อนใหม่ลูกเจ้าของร้านกาแฟว่า

“มึงรู้ป่ะ ทำร้านกาแฟเล็กๆ ซักที่นึง ใช้เงินเท่าไหร่”

TBC

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
พอเห็นอัพรีบเข้ามาอ่านเลย ทีแรกคิดว่าต่อไปจอมจะได้มาเป็นสมาชิกช่วยงานหลักขององค์กรซะอีก แต่นี่คิดจะไปเปิดร้านกาแฟเองซะแล้ว ยังไงเชื่อว่าก็คงยังวนๆ เวียนๆ เกี่ยวข้องกับองค์กรต่อไป ^^

แล้วคุณพี่ทหารเรือนี่พยายามจะแอบถ่ายคลิปจริงหรือเปล่า แต่แบบว่าพอจะถ่าย มันก็ทำไม่ได้ไปโดยอัตโนมัติ

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
คืนกำไรให้ลูกค้าชัดๆ

ออฟไลน์ Moko1212

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กำลังง่วงๆจะนอน แต่เห็นอัพเลยจอดอ่านก่อน

ตอนนี้ขอไปสลบต่อ  :a12:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
รอดูว่าจะมีคลิปหลุดไหม

ออฟไลน์ yoome

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
 :m25: :m25:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: องค์กรลวงจิต Explicit Content [บทที่ 15] 04/08/15
« ตอบ #99 เมื่อ: 06-08-2015 07:20:33 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wannesress

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบ part sexy ของเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆๆๆ ขอเยอะๆ เลย อิอิ
พลอตเรื่องก็แปลกดีชอบๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
องค์กรลวงจิต Explicit Content [บทที่ 16] 06/08/15
«ตอบ #101 เมื่อ06-08-2015 19:53:45 »


องค์กรลวงจิต Explicit Content

บทที่ 16

ณ อาคารสำนักงานแห่งในย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพเป็นที่ตั้งของบริษัทแห่งหนึ่ง บริษัทนี้เป็นบริษัทขนาดกลางแต่ก็มีการบริหารที่ได้มาตรฐานเพราะเป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ถ้าถามพนักงานบริษัทนี้ว่ามีเรื่องอะไรของบริษัทที่รู้สึกภูมิใจบ้าง หนึ่งในหลายๆ เรื่องที่พนักงานตอบออกมาคงไม่พ้นเรื่องผู้บริหารของบริษัทโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่การเงินหรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าซีเอฟโอคนปัจจุบัน

ซีเอฟโอคนที่พูดถึงนี้ นับว่าเป็นลูกหม้อขนานแท้ของบริษัทที่ทำงานมาตั้งแต่ยุคต้นๆ นอกจากจะเก่งขนาดสามารถใช้การบริหารเงินพลิกฟื้นบริษัทให้รอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนแล้ว อายุอานามก็ยังแค่สี่สิบต้นๆ ซึ่งถือว่าเด็กมากสำหรับผู้ที่ขึ้นมาถึงตำแหน่งดังกล่าวในบริษัทระดับนี้ เท่านั้นยังไม่พอ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาภูมิฐานสมวัยกับมนุษยสัมพันธ์ชั้นเยี่ยมทำให้ซีเอฟโอคนนี้เป็นที่กล่าวขวัญถึงจากพนักงานทุกระดับอย่างชื่นชม

ถ้าจะมีจุดด่างพร้อยอยู่บ้างในประวัติและคุณสมบัติที่ดีพร้อมคงเป็นเรื่องครอบครัว พนักงานทราบเพียงว่าซีเอฟโอผ่านการมีครอบครัวมาแล้วตั้งแต่ยังหนุ่ม เพราะเป็นพ่อหม้ายเรือพ่วงที่มีลูกชายหนุ่มหล่อโตขนาดเข้าเรียนวิศวะปีหนึ่งของมหาลัยดัง เมื่อสองปีก่อนพ่อหม้ายเนื้อหอมคนนี้คงพลาดท่าอะไรซักอย่างถึงได้ไปแต่งงานกับแม่หม้ายลูกติดอายุไล่เลี่ยกันซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกบัญชีในสายงานของตัวเอง

เธอคนนี้เพิ่งย้ายมาร่วมงานกับบริษัทเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้น นี่เองที่ความผิดพลาดได้เกิดขึ้น ภรรยาใหม่ของซีเอฟโอถึงจะดูเป็นคนเป็นคนขยันตั้งใจทำงานดี แต่จริงๆ กลับคิดทำเรื่องร้ายแรงอย่างการโกงเงินและตกแต่งบัญชีบริษัทเพื่อปกปิดความผิด ปกติเวลาเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ สามีซึ่งเป็นหัวหน้าสายงานน่าจะมีส่วนร่วมหรือรู้เห็นเป็นใจด้วย แต่พนักงานและผู้บริหารคนอื่นต่างรู้ดีว่าตัวซีเอฟโอไม่มีทางทำเรื่องอย่างนี้แน่ จึงร่วมกันให้ข้อมูลกับตำรวจและช่วยกันปกป้องคนที่ควรปกป้อง ในที่สุดสวรรค์ก็คุ้มครองคนดี ตัวภรรยาใหม่ซึ่งคงเป็นตัวการทั้งหมด ก็ถูกดำเนินคดีไปคนเดียวอย่างสาสมและถูกคุมขังระหว่างการไต่สวนในชั้นศาล ทิ้งภาระซึ่งก็คือเด็กหนุ่มลูกติดไว้ให้ซีเอฟโอดูแล ซึ่งก็ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ทั้งๆ ที่เป็นลูกของคนที่ทำให้ชื่อเสียงเสียหายแท้ๆ ช่างเป็นคนที่ดีมีมนุษยธรรมจริงๆ เหล่าพนักงานคิด

แต่ถึงจะชื่นชมศรัทธาในตัวซีเอฟโอแค่ไหน แต่พนักงานหลายคนก็เริ่มรู้สึกว่าซีเอฟโอของพวกเขามีพฤติกรรมแปลกๆ ในระยะหลัง มันดูจะเริ่มต้นเมื่อตอนงานสัมมนาสายงานบัญชีการเงินที่จัดขึ้นที่โรงแรมเมื่อเดือนก่อน ในงานมีการทำเวิร์คช็อปร่วมกันเพื่อระดมความคิดในการปรับปรุงการทำงาน เป็นที่รู้กันว่างานแบบนี้จะไม่เคร่งเรื่องการแต่งตัวมากนักเพราะส่วนใหญ่อยากจะให้บรรยากาศเป็นกันเอง

วันนั้นซีเอฟโอมาในชุดเสื้อกล้ามพอดีตัวชายเสื้อสั้นระดับเอว คู่กับกางเกงยีนส์เอวต่ำ ด้วยรูปร่างหน้าตาของคนใส่ มันก็ดูเข้ากันใช้ได้ถ้าไม่คำนึงถึงกาลเทศะและสถานะของผู้ใส่ และเมื่อถึงช่วงทำกิจกรรมระดมความคิด ซีเอฟโอหนุ่มก็ลุกขึ้นยืนแสดงความเห็นพร้อมยกไม้ยกมือทำท่าทางประกอบอย่างที่ถนัด แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครฟังรู้เรื่องเพราะมัวแต่มองขนรักแร้ที่กระพือตามท่วงท่า กับไรขนรอบสะดือบนกล้ามหน้าท้องแกร่งที่โผล่ขึ้นทุกครั้งที่ยกมือจนรั้งชายเสื้อสั้นให้เลิกขึ้น

พอซีเอฟโอหันหลังไปก้มๆ เงยๆ เขียนกระดานฟลิปชาร์ท ทุกคนในห้องก็เห็นร่องก้นอันสวยงามของผู้บริหารระดับสูงของบริษัท กางเกงที่ไหลต่ำลงไปเกาะที่บริเวณสะโพกแสดงให้เห็นว่าซีเอฟโอหนุ่มใหญ่ไม่ได้นุ่งกางเกงในมา คนในห้องไม่มีใครกล้าทักอะไร ได้แต่ซุบซิบกันเอง บางคนก็มองในแง่ดีว่าอาจจะมีปัญหาสุขภาพอะไรซักอย่างทำให้ไม่ได้ใส่กางเกงใน แต่ส่วนใหญ่รู้สึกว่าหัวหน้าไม่ให้เกียรติลูกน้องตัวเอง

หลังจากวันนั้นก็มีคนพบเห็นพฤติกรรมประหลาดๆ ของผู้บริหารหนุ่มใหญ่คนนี้อีกหลายต่อหลายครั้ง พนักงานงานหน่วยงานงบประมาณคนนึงเล่าว่า วันก่อนหลังจากประชุมร่วมกับซีเอฟโอเสร็จ เขาเดินมาเข้าห้องน้ำพร้อมกัน ตัวเขาก็เดินเข้าไปฉี่ที่โถฉี่ เห็นซีเอฟโอยืนอยู่ที่หน้าอ่างล้างมือคิดว่าคงเข้ามาล้างมือเฉยๆ พอเขาฉี่เสร็จเดินไปล้างมือ ก็เห็นว่าซีเอฟโอกำลังฉี่ใส่อ่างล้างมือหน้าตาเฉย แถมหันมาชวนเขาคุยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนแรกก็ไม่มีใครเชื่อที่หนุ่มงบประมาณคนนี้พูด แต่พอคนหน่วยงานบัญชีเจอเรื่องนี้พร้อมกันสามคน ข่าวก็แพร่สะพัดไปในหมู่พนักงานอย่างรวดเร็วพร้อมข้อมูลเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอย่างความอวบใหญ่ สีออกขาวแต่คล้ำกว่าตัวเล็กน้อย กับส่วนหัวที่หนังหุ้มปลายถูกขลิบออกไปแล้วอย่างสวยงาม

คนขับรถของซีเอฟโอถึงกับสาบานตอนเล่าเรื่องให้กับคนขับรถของผู้บริหารอีกคนนึงฟังว่า เมื่อวานตอนเขาไปส่งซีเอฟโอไปประชุมข้างนอก เขามองกระจกหลังแล้วเห็นเจ้านายตัวเองควักท่อนลำออกมารูดเล่นฆ่าเวลาขณะรถติด จนต้องแอบเอี้ยวตัวมาดูว่าตาไม่ได้ฝาดซึ่งก็เห็นอย่างเต็มตาเพราะความใหญ่ของมัน พอส่งเสร็จเจ้านายลงเสร็จ เขาต้องไปสำรวจที่เบาะหลังให้แน่ใจว่าไม่มีคราบน้ำอะไรเปรอะเปื้อนอยู่ เรื่องนี้ไปสอดคล้องกับ รปภ. ของบริษัทที่เคยเห็นคนรูปร่างคล้ายซีเอฟโอก้มหน้าก้มตาช่วยตัวเองในลิฟท์ผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ ไม่มีใครกล้าเอาเรื่องพวกนี้ไปรายงานต่อผู้บังคับบัญชา มีเพียงข่าวลือไม่ระบุที่มาที่กระพือไปทั่วบริษัท

แม่บ้านที่เข้ามาเก็บกวาดและดูความเรียบร้อยห้องทำงานของซีเอฟโอในช่วงเย็นหลังเลิกงานกำลังหนักใจ กองผ้าเล็กๆ บนพื้นที่เธอเห็นแว้บๆ ตอนเข้ามาเสิร์ฟกาแฟให้แขกของซีเอฟโอเมื่อตอนบ่ายที่แท้มันคือกางเกงใน มิหนำซ้ำยังเป็นกางเกงในยี่ห้อดังที่เปื้อนคราบน้ำอะไรต่อมิอะไรส่งกลิ่นคาวออกมาจนเธอต้องย่นจมูก นี่แสดงว่ามันกองอยู่ที่เดิมตลอดทั้งบ่าย แล้วนี่คนเข้าออกมาคุยกับซีเอฟโอตั้งเท่าไหร่ ทุกคนคงเห็นกันหมดแล้ว แต่ปัญหาของเธอคือจะทำยังไงกับสิ่งนี้ดี จะเก็บเอาไปทิ้งโดยพลการก็กลัวจะโดนถามหาทีหลัง ท่าทางจะแพงด้วย จะพับเก็บแล้วเอาไปวางให้เหม็นหึ่งที่โต๊ะก็กลัวจะเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ทำความสะอาด จะเอาไปซักให้ก็รังเกียจแล้วก็เกินหน้าที่แม่บ้านสำนักงานไปมาก แต่ที่แน่ๆ คงปล่อยทิ้งไว้บนพื้นไม่ได้ ในที่สุดเธอก็ส่งต่อการตัดสินใจนี้ให้คุณเลขาหน้าห้องโดยการหยิบกางเกงในเจ้าปัญหามาใส่ถุงเอาไปวางที่โต๊ะเลขาพร้อมโน้ตว่า “ของเจ้านายค่ะ สงสัยถอดลืมไว้” แล้วจากไปพร้อมความคับข้องใจที่ต้องรีบไประบายกับเพื่อนแม่บ้านให้เร็วที่สุด

จากปากต่อปาก ข่าวลือเกี่ยวกับซีเอฟโอก็แพร่กระจายไปในหมู่พนักงาน หลายคนไม่เชื่อ แต่พอได้รับการยืนยันจากหลายแหล่งก็คล้อยตาม ยิ่งพอมีคนประสบเหตุด้วยตัวเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งเป็นการยืนยันถึงความผิดปกติของตัวผู้บริหารหนุ่มใหญ่คนนี้ ตอนนี้ระดับผู้บริหารด้วยกันก็เริ่มได้ยินข่าวบ้างแล้ว ส่วนใหญ่ก็ยังไม่ปักใจ แต่ความไว้วางใจก็สั่นคลอนอย่างหนักเมื่อตอนประชุมบอร์ดบริษัทครั้งล่าสุด

ซีเอฟโอซึ่งมีคิวจะต้องพรีเซ้นต์งบการเงินของบริษัทในวาระถัดไปได้ขอตัวออกไปเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม เขาสังเกตว่ามีคนมองเขาแปลกๆ ระหว่างที่เขากำลังยืนฉี่อยู่ ซึ่งมันเกิดขึ้นเกือบจะทุกครั้งในระยะหลัง อาจจะต้องโทษหน้าตาของเขาเอง เขาฉี่ไปส่องกระจกไปด้วยความภูมิใจ ด้วยหน้าตาที่มีหล่อเหลามีเสน่ห์ทำให้ชีวิตการทำงานของเขาง่ายกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว เขาสะบัดท่อนลำเพื่อสะเด็ดน้ำแล้วก็เปิดก๊อกเพื่อล้างมือพร้อมกับล้างท่อนลำไปด้วย หลังๆ ขั้นตอนนี้มันดูสะดวกกว่าเดิมยังไงไม่รู้ จากนั้นก็ดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมในกระจก ทุกครั้งที่เขาพรีเซ้นท์ มันจะเริ่มต้นและจบลงด้วยความสมบูรณ์แบบเสมอ

หนุ่มใหญ่เดินกลับเข้าไปในห้อง หลังจากนั่งฟังการประชุมต่อไปได้ครู่ใหญ่ก็ถึงวาระนำเสนอของเขา เขาลุกขึ้นยืนด้วยความมั่นใจ ก้าวไปด้านหน้าห้องแล้วหันกลับมาสบตาคนในห้องด้วยรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ เขาชอบที่จะยืนพรีเซ้นท์อย่างนี้เพื่อเน้นรูปร่างและบุคลิกที่ดูดี เสียงคนในห้องฮือฮาขึ้นมาทันทีด้วยเรื่องอะไรบางอย่างที่เขาไม่รู้ เขากำลังจะเริ่มนำเสนอแต่ประธานบอร์ดตรงหัวโต๊ะก็กระแอมขึ้นมาพร้อมพูดว่า

“เอ่อ วันนี้คุณไม่สบายหรือเปล่า ถึงละ ลืมเก็บให้เรียบ...”

ซีอีโอหรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทรีบตัดบททันที

“ท่านประธานครับ เดี๋ยววาระนี้ผมจะเป็นคนนำเสนอเอง แล้วขออนุญาตให้ซีเอฟโอไปพักผ่อนนะครับ” ประธานพยักหน้าทันที

“คุณไปรอผมที่ห้องตัวเอง เสร็จจากตรงนี้แล้วผมจะเข้าไปคุยด้วย” ซีอีโอกระซิบใส่หูเร็วปรื๋อ ไม่เปิดโอกาสให้เขาโต้แย้งอะไรทั้งสิ้น

ซีเอฟโอเดินกลับไปที่ห้องด้วยความไม่เข้าใจ ปกติถ้าเป็นเรื่องการเงินเขาจะได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างมาก แต่นี่กลับทำเหมือนไล่เขาออกกลางห้องประชุม ตลอดทางคนที่เดินสวนมาต่างสะดุ้งตกใจเมื่อเจอเขา ทั้งๆ ที่เขาก็ยิ้มทักทายไปเรื่อยตามปกติ เรื่องพวกนี้เขาต้องฝึกตัวเองให้ทำเป็นประจำเพราะรู้ดีว่ามันช่วยสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้นได้ดี

จนเดินกลับไปถึงห้อง เลขาเขาก็ทำหน้าตกใจไม่แพ้คนอื่น เธอชี้มาที่เป้ากางเกงเขาแล้วก็หน้าแดงก่ำ เขาก้มลงมองก็ไม่พบอะไรผิดปกติ เธอก็ยังชี้ไม่เลิกจนเขารำคาญเดินเข้าห้องไป เขากลับไปคิดเรื่องที่โดนไล่ออกนอกห้องประชุม หรือคณะกรรมการจะระแคะระคายเรื่องโกงเงินตกแต่งบัญชีคราวนั้น ไม่น่านะ เพราะเขาก็ป้ายความผิดทั้งหมดให้นังเมียหน้าโง่ไปแล้วแถมไม่มีใครสงสัยในตัวเขาเลย

เงินก้อนนั้นยังจิ๊บๆ ถ้าเทียบกับเงินก้อนใหญ่ที่เขาจะดูดออกจากบริษัทเมื่อแผนการใหม่สำเร็จ ยิ่งตอนนี้ยัยเมียตัวดีที่เคยเป็นก้างชิ้นใหญ่อยู่ในคุกก็ยิ่งง่าย ที่เขาแต่งงานด้วยก็เพื่อจะหลอกใช้นี่แหละ ไม่งั้นใครจะไปแต่งกับผู้หญิงจืดชืดที่ไม่สามารถสนองอารมณ์เซ็กส์ที่เต็มไปด้วยสีสรรค์ของเขาได้ ยังดีที่มีลูกชายทิ้งไว้ให้เขาได้ทรมานเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ได้อย่างดี เสียดายที่ไม่ใช่ผู้หญิง ไม่งั้นเขาคงเล่นสนุกได้มากกว่านี้

ตอนนี้ลูกเลี้ยงเขาไปอยู่ในความดูแลของตำรวจเพราะเรื่องที่โดนทำร้าย แต่ก็อีกไม่นานหรอก พอตำรวจสอบสวนเป็นพิธีเสร็จก็ต้องส่งคืนเขาอยู่ดี และไม่มีทางสาวมาถึงตัวเขาได้แน่ เด็กนั่นจะไม่ยอมปริปากบอกอะไรเพราะโดนเขาขู่เรื่องแม่ไปขนาดนั้น มันรักแม่มันยังกะอะไรดี ถ้าได้ตัวคืนมาคราวนี้จะเอาให้หนัก ดูแล้วว่าเด็กน่าจะโตพอที่จะรับการทรมานที่รุนแรงขึ้นได้แล้ว

เขารู้ว่าลูกชายแท้ๆ ของเขาก็แอบเอาลูกเลี้ยงไปเล่นทรมานเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไร ก็คนนั้นเป็นลูกที่เขาแสนจะภูมิใจนี่ ทั้งหน้าตา บุคลิก ความฉลาด และรสนิยมชั้นสูงทางเพศ ล้วนถ่ายทอดเอาสิ่งดีๆ ไปจากเขา แม่มันที่หนีหายไปเพราะทนการร่วมเพศกับเขาไม่ไหวแอบเอาลูกไปด้วยกันไม่สำเร็จ เขาจึงได้เพาะบ่มเลี้ยงดูลูกชายคนนี้จนเป็นเหมือนที่เขาเป็นทุกอย่าง แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอหน้าเจอตาเลย มีธุระหรือกิจกรรมได้แทบทุกวัน บางทีก็ไปค้างข้างนอกด้วย

เลขาโทรมาบอกว่าซีอีโอเลิกประชุมแล้วกำลังจะมาหาเขาที่ห้อง เขานึกในใจอย่างรำคาญ ไม่รู้มีเรื่องอะไร ปกติซีอีโอไว้ใจเขาจะตาย ไม่เคยมายุ่งเรื่องในสายงานการเงินเลย นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาสามารถหาโอกาสดีๆ ในการถ่ายเงินของบริษัทออกมา จริงๆ เขาก็ไม่ได้โลภอะไรมากมายหรอก แค่อยากได้เงินเยอะๆ ไว้ทำให้ฝันเป็นจริง เดี๋ยวนี้จะซื้อหาคนที่จะมารองรับอารมณ์อันพิสดารโลดโผนของเขาได้ยากทุกที เขาอยากได้แบบสาวรุ่นๆ ไปเลยซึ่งกฎหมายก็เข้มงวดขึ้นมาก แถมที่สมัครใจก็มักไม่ค่อยยอมเจ็บตัวแลกกับเงินที่ไม่มากพอ แต่ถ้ามีเงินแบบไม่อั้น เขาอาจจะซื้อเด็กผู้หญิงจากพ่อแม่โดยตรงเอามาเป็นทาสหลายๆ คน ฉากหน้าอาจจะเล่นบทเป็นเศรษฐีใจบุญที่รับเด็กมาอุปถัมภ์หรือรับเป็นลูกบุญธรรมหลายๆ คนไปเลย บทนี้เขาถนัดนัก

นึกมาถึงตรงนี้ ซีอีโอหน้าโง่ที่ไม่เคยทันเกมเขาก็มาถึงห้องพอดี พอเข้ามาก็ปิดประตูมายืนตรงหน้าโต๊ะทำงานเขาแล้วระเบิดออกมาว่า

“คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง ทีมผู้บริหารเราจะเสียเครดิตแค่ไหนในสายตาของกรรมการบริษัท”

“ผมทำอะไร มีแต่คุณนั่นแหละที่แย่งผมไปรายงานงบการเงิน” แรงมาก็แรงกลับ เขาลุกขึ้นยืนเพื่อไม่ให้เสียเปรียบแล้วโต้กลับไป

ซีอีโอผงะไปเมื่อเห็นเขายืนขึ้น แล้วชี้มาที่เป้ากางเกงเขา

“นี่คุณยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ”

เขาก้มมองที่เป้ากางเกงอีกครั้งก็ไม่เห็นมีอะไรแปลกประหลาด

“ของคุณมันห้อยออกมาทั้งลำขนาดนั้น ผมว่าคุณน่าจะมีปัญหาอะไรแล้วล่ะ”

เขากลับไปมองท่อนลำขนาดเขื่องที่ห้อยหัวทอดตัวยาวออกมานอกซิปกางเกงตัวหรูที่สั่งตัดพร้อมกับสูท มันก็ปกติไม่ใช่เหรอ หรือไม่ใช่ ตายห่า ของสิ่งนี้มันควรเก็บไว้ในกางเกงนี่นะ ไม่ควรเอาออกมาโชว์ใครๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการบริษัท นี่มันโผล่ออกมาตั้งแต่ตอนนั้นหรือเปล่านะ ร่างกายเขาเย็นเฉียบไปทั้งตัวเมื่อคิดว่าภาพลักษณ์ของเขาจะป่นปี้ไปสักแค่ไหน เขาหันหลังให้แล้วรีบเก็บแท่งเนื้อเข้าที่

ซีอีโอในวัยใกล้เกษียณปาดเหงื่อหัวล้านแล้วบอกว่า

“ผมว่าคุณน่าจะไปหาหมอนะ ลองไปตรวจดูให้ละเอียด อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ก็ได้ ผมได้ยินว่าบางคนมีอาการสารเคมีในสมองไม่สมดุลทำให้มีพฤติกรรมแปลกๆ แต่กินยาไปซักพักก็หาย จริงๆ ผมตั้งใจไว้แล้วจะให้คุณลาพักผ่อนเป็นกรณีพิเศษ มันก็หลายเรื่องนะ ยิ่งตอนนี้มีข่าวลือแปลกๆ เรื่องคุณในหมู่พนักงาน ระหว่างนี้ผมจะให้บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีจากข้างนอกมาช่วยดูบัญชีบริษัทเราย้อนหลังด้วย”

ซีอีโอโบกมือเมื่อเห็นซีเอฟโอทำท่าจะประท้วง

“ไม่ใช่ว่าผมไม่ไว้ใจคุณนะ ทำงานด้วยกันมาตั้งนานขนาดนี้ แต่พอดีเหมือนกรรมการบางท่านไปได้ข้อมูลที่ไม่เคลียร์มาจากทางอื่นเลยเถียงกันเยอะหน่อยในห้องประชุม บางคนก็โยงไปเรื่องภรรยาคุณด้วย พอคุณมาเบลอจนเอาน้องชายห้อยออกมากลางห้องประชุมคนก็ยิ่งกังขา ผมว่าเอาคนนอกมาตรวจสอบเลยก็ดีเหมือนกันจะได้สบายใจกันทุกฝ่าย คุณก็รู้ว่าความถูกต้องของงบการเงินบริษัทในตลาดหลักทรัพย์มันซีเรียสขนาดไหน ถ้าพลาดไปความผิดมันเท่ากับคดีฉ้อโกงประชาชนเลยนะ ไม่งั้นภรรยาคุณคงไม่ต้องอยู่ในห้องขังจนถึงตอนนี้หรอก”

ซีเอฟโอมองดูซีอีโอเดินออกจากห้องไปหลังพูดธุระจบด้วยความกังวล เขาเพิ่งได้รับอนุมัติให้ลาพักผ่อนเป็นเวลาสองสัปดาห์ ระหว่างนี้จะมีคนมาตรวจบัญชีบริษัท เรื่องนั้นยังไม่น่ากังวลเท่าไหร่ เขามั่นใจว่าเอกสารทุกอย่างแนบเนียนเพียงพอ จุดที่ผิดปกติจริงๆ เขาก็ปัดไปอยู่ในความรับผิดชอบของเมียซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดีหมดแล้ว ถึงตัวเขาจะไม่มาทำงาน แต่คนในสายงานเขาคงยังพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งเขาโดยไม่สงสัยอะไรเหมือนเคยด้วยความศรัทธาและเครดิตที่สร้างสมไว้ แต่ที่หนักใจคือเรื่องนี้อาจกระทบแผนไซฟ่อนเงินออกจากบริษัทครั้งใหญ่ของเขาได้

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

บอสยิ้มเมื่อทราบข่าวการพักงานของพ่อเลี้ยงวิปริต ตอนนี้แผนการของเขากำลังดำเนินไปได้ด้วยดี ปกติก็แค่ไปสะกดจิตเอาตัวมาลงโทษหลังจากระบบขององค์กรสรุปได้แน่ชัดแล้วว่าผิดจริง แต่เคสนี้มันยากกว่านั้นเพราะต้องหาหลักฐานทางด้านบัญชีการเงินเพื่อเอาไปใช้เคลียร์คดีให้แม่ของเด็กชายที่โดนป้ายความผิดด้วย ซึ่งเรื่องทางบัญชีนี่ไม่ใช่อะไรที่ทั้งเขาทั้งโป๊ปรู้เรื่องเอาซะเลย โอเค ไอโป๊ปอาจจะรู้เรื่องมากกว่าเขา แต่ของพรรค์นี้มันเป็นวิชาชีพที่ต้องใช้คนที่มีความรู้ประสบการณ์จริงๆ เขาจึงให้อาสาสมัครขององค์กรคนหนึ่งที่เป็นผู้สอบบัญชีระดับหัวหน้าของบริษัทใหญ่เข้ามาช่วย ส่วนตัวเขาก็ขอไปทำงานถนัดอย่างการสะกดจิตให้พ่อเลี้ยงชั่วทำเรื่องหื่นๆ ทุเรศๆ สมกับจิตใจให้คนในบริษัทเห็นเพื่อทำให้เสียเครดิตในบริษัทก่อน

จากข้อมูลที่ได้มา คนในบริษัทเชื่อมั่นศรัทธาในตัวพ่อเลี้ยงมาก ทำให้เกิดการปกป้องให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนจนตัวซีเอฟโอขี้โกงวิปริตรอดตัวไปได้ทุกครั้ง บอสมั่นใจว่าเรื่องทุเรศๆ ที่เขาสะกดจิตให้ทำลงไป จะทำให้คนข้างในประเมินตัวพ่อเลี้ยงใหม่ ไม่ติดกับภาพลักษณ์ที่สวยหรูในอดีต คงช่วยให้งานของเขาสำเร็จในที่สุด

ผู้สอบบัญชีที่มาช่วยงานนี้เป็นคนที่เหมาะสมอย่างมาก เขาบังเอิญเคยเป็นหัวหน้าทีมสอบบัญชีให้กับบริษัทนี้เมื่อสองปีก่อนแต่ตอนหลังถูกเปลี่ยนออกเป็นบริษัทอื่นโดยไม่ทราบสาเหตุ บอสเคยเจอตัวแล้วสองสามครั้งตอนที่มาทำงานอาสาอื่นให้องค์กร เป็นหนุ่มวัยสามสิบเศษ หน้าตาก็ขาวตี๋ใส่แว่นตามแบบนักบัญชี รูปร่างอาจไม่มีกล้ามเป็นมัดๆ แต่ก็สมส่วนไร้ไขมันส่วนเกิน คงแค่ไม่มีเวลาออกกำลังกายอย่างจริงจังเพราะอาชีพนี้ทำงานค่อนข้างหนัก

บอสขอให้โป๊ปแฮ็คข้อมูลดิบที่ใช้ลงบัญชีทั้งหมดของบริษัทส่งให้ผู้สอบบัญชีหน้าตี๋ไปศึกษาเพื่อหาหลักฐานให้คนผิดจริงถูกลงโทษให้ได้ มันเป็นงานที่ค่อนข้างหนักทีเดียว แต่คราวนี้หนุ่มตี๋ขอไม่รับค่าตอบแทนตามปกติ แต่ขอโอกาสเข้าร่วมประมูลด้วยหากมีการนำตัวซีเอฟโอหนุ่มใหญ่มาประมูลเป็นทาส นับว่าแปลก ปกติอาสาสมัครที่มาช่วยงานองค์กรจะได้รับของตอบแทนเป็นเครดิตเงินไว้ใช้ซื้อของในหมวดเอ็มของคนที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงได้ และถ้าทุ่มเทมุ่งมั่นกับการช่วยงานอย่างต่อเนื่องก็อาจได้รับเชิญเป็นสมาชิกได้ในที่สุด การที่หนุ่มบัญชีหน้าตี๋จะมาประมูลซื้อทาสแข่งกับสมาชิกองค์กรที่ล้วนแต่มีทุนทรัพย์มากมายนี่แทบไม่มีโอกาสชนะเลย แต่บอสก็รับปากไป

และก็ไม่ต้องแปลกใจที่หนุ่มตี๋คนเดียวกันนี้ก็ได้รับมอบหมายจากบริษัทผู้สอบบัญชีต้นสังกัดให้เข้าไปดูแลเคสนี้เมื่อได้รับการติดต่อจากตัวซีอีโอเอง นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นการช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ จากบอส หลังจากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์ หนุ่มตี๋ก็ติดต่อมาเพื่อรายงานความคืบหน้า

“สวัสดีครับคุณบอส เคสซีเอฟโอ ผมสรุปคร่าวๆ ตามนี้นะครับ ตอนนี้ผมไล่ดูเอกสารตัวจริงที่บริษัทหมดแล้ว ส่วนมากก็สอดคล้องกับข้อมูลในคอมพิวเตอร์ที่เบอร์หนึ่งแฮ็คมาให้ จริงๆ ตอนนี้เรามีหลักฐานเอาผิดตัวซีเอฟโอได้เลยครับ แต่คนที่ไม่รู้เรื่องจะเดือดร้อนไปด้วย”

“ยังไงนะครับ” บอสตามไม่ทัน

“คือเอกสารหลักฐานที่จะใช้เอาผิดซีเอฟโอเพียงคนเดียวมันยังไม่ชัด ถ้าจะฟ้องศาล คงต้องใช้อันที่มีคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย ทั้งๆ ที่พวกเขาดำเนินการ หรือลงนามรับรองไปเพราะเชื่อใจซีเอฟโอเท่านั้นเอง ไม่ได้เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ถ้าฟ้อง คงติดคุกกันไปตามๆ กัน”

“อย่างงี้จะทำยังไงดีครับ ผมอยากให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว สงสารคนที่ติดอยู่ในคุกตอนนี้ด้วย”

“ผมก็พยายามเต็มที่อยู่ครับ นี่เบอร์หนึ่งก็รับปากจะใช้ระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรช่วยเจาะค้นหาในฐานข้อมูลของราชการและบริษัทเอกชนอื่นๆ ให้ด้วย เอ๊ะ นี่เอกสารอะไร ใครเพิ่งเอามาวางไว้ เดี๋ยวซักครู่ผมติดต่อกลับไปใหม่นะครับ พอดีพบข้อมูลสำคัญ” มีเสียงพลิกกระดาษกรอบแกรบแล้วหนุ่มบัญชีก็วางสายทันที

ซักพักใหญ่หนุ่มตี๋ก็ติดต่อกลับมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ได้เรื่องแล้วครับ ข้อมูลใหม่ที่ได้มา เหมือนเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายเลยครับ ตอนนี้เราเชื่อมโยงวิธีการไซฟ่อนเงินของเขาได้หมด แถมยังมีหลักฐานไว้กันตัวภรรยากับคนที่ไม่รู้เรื่องด้วยออกจากคดีได้เลย สงสัยต้องรีบแล้วล่ะครับ ดูเหมือนจะเตรียมตัวทำชุดใหญ่อีกรอบนึง ถ้าสำเร็จบริษัทอาจล้มได้เลยนะครับ คงมีคนตกงานกันเป็นร้อยๆ คน”

นับเป็นข่าวดีจริงๆ บอสคิด แล้วข้อมูลนี้ไปติดอยู่ตรงไหน ทำไมไม่ได้มาตั้งแต่แรกนะ

“ยังไงฝากขอบคุณเบอร์หนึ่งด้วยนะครับ สำหรับข้อมูลชุดนี้ สุดยอดจริงๆ ไม่รู้รู้ได้ยังไงว่านี่เป็นข้อมูลที่ขาดอยู่ เก่งอย่างนี้มาทำงานเป็นผู้สอบบัญชีแทนผมได้สบายเลย จริงๆ ผมก็รออยู่ คอยเช็คในคอมพิวเตอร์ตลอดว่ามีอะไรเพิ่มเติมมาให้หรือเปล่า ไม่นึกว่าจะส่งเป็นกระดาษใส่ซองอย่างดีมาวางบนโต๊ะ กว่าจะเห็นก็ตอนโทรคุยกับคุณบอสนั่นแหละครับ นึกว่าจะส่งทางคอมเหมือนคราวก่อนๆ”

บอสสะดุดใจทันที ไอโป๊ปมันเป็นพวกคลั่งไอทีจะตาย มันไม่มีทางถ่ายเอกสารใส่ซองให้คนเดินไปส่งแบบเชยๆ อย่างนั้นหรอก

“อ๋อครับ เดี๋ยวผมรบกวนช่วยถ่ายรูปเอกสารทั้งหมด แล้วก็ตัวซองด้วยส่งเข้าระบบมาให้ด้วยครับ พอดีตอนไปส่งรีบไปหน่อย ไม่ได้สำเนาเก็บไว้” บอสบอก เขาคงต้องเอาเรื่องนี้ไปถามโป๊ปดู

“ได้ครับ เดี๋ยวผมสแกนไปให้ชัดๆ เลย เอกสารมีค่าขนาดนี้”

หลังจากนั้นไม่นานไอโป๊ปก็กลับมาจากทำงาน บอสเล่าเรื่องนี้ให้ฟังมันก็ยืนยันความคิดเขาว่ายังไม่ได้ส่งอะไรเพิ่มเติมไปให้หนุ่มตี๋เลย โป๊ปเปิดเข้าไปในระบบดูภาพสแกนของเอกสารดังกล่าวที่หนุ่มบัญชีส่งเข้ามา

“เอ้า เบอร์ศูนย์ลองดูแล้ววิเคราะห์ซิ ว่าเอกสารนี้มีที่มายังไง ใช้หัวสมองมั่ง เอาแต่สะกดจิต เรื่องคิดมีแต่ให้กูคิดคนเดียว สมองฝ่อหมด”

“อันนี้เป็นเอกสารที่ถ่ายสำเนาจากตัวจริง ไม่ได้มาจากคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่เอกสารของบริษัทเองด้วยซ้ำ แต่เป็นของบริษัทคู่ค้า กูรู้แล้ว คนที่บริษัทคู่ค้าคงรู้เรื่องที่บริษัทจ้างผู้ตรวจสอบบัญชีมาตรวจสอบทุจริต เลยส่งหลักฐานมาให้ โอ๊ย” บอสสรุปไม่ทันจบ ก็โดนโป๊ปเขกหัว

“ด่วนสรุปนะมึง ถูกแค่ครึ่งแรก แต่กูว่าไม่ใช่คนบริษัทคู่ค้าหรอกว่ะ เพราะวิธีการโกงที่พ่อเลี้ยงใช้ มันสุ่มเอาไม่ได้ทำทุกครั้ง ถ้าดูเฉพาะที่ฝั่งคู่ค้า มันก็จะเป็นเอกสารปกติเหมือนกันทุกใบ ไม่มีทางรู้ว่าอันไหนโกงอันไหนไม่โกง เราต้องจับมาเทียบกับเอกสารฝั่งบริษัทแบบเป๊ะๆ ถึงจะเห็น มันต้องเป็นคนที่มีข้อมูลทั้งสองฝั่งถึงจะเลือกออกมาได้ถูกจากเอกสารเป็นร้อยๆ ฉบับ ไม่รู้ว่าเป็นใครนะ เพราะขนาดระบบขององค์กรยังเจาะไม่ถึง ก็บริษัทคู่ค้าเล่นเก็บเป็นกระดาษหมด ไม่เอาขึ้นคอมพิวเตอร์เลย ใครจะไปเจาะได้ เห็นแล้วคันมือ อยากไปทำระบบคอมพิวเตอร์ให้ฟรีเลยเอ้า”

บอสขำ ไอโป๊ปคงหงุดหงิดมากที่ระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรที่มันแสนจะภูมิใจว่าสามารถเจาะข้อมูลได้ทั่วโลก กลับมาตกม้าตายเมื่อเจอการเก็บข้อมูลแบบบ้านๆ ของบริษัทคู่ค้า

“งั้นใครเป็นคนส่งข้อมูลมากันแน่นะ” บอสสงสัย เขาเปิดดูรูปซองเอกสารที่ส่งมาก็ไม่มีข้อความที่ระบุชื่อผู้ส่งแต่อย่างใด ซองที่ว่าเป็นซองอย่างดีตามที่ผู้สอบบัญชีหนุ่มบอก เนื้อกระดาษมีลายเยื่อไม้ดูแปลกตาชวนคิดไปถึงกระดาษโบราณ ที่มุมซองมีสัญลักษณ์เล็กๆ คล้ายกับเป็นรูปภูเขาทรงสูงแบบจีนติดกันหลายลูกเรียงความสูงลดหลั่นกันลงมา

“งั้นกูจะลองค้นหาดูว่าสัญลักษณ์นี้หมายถึงอะไร เผื่อจะได้เบาะแสบ้าง ดูๆ เขาคงไม่ได้ไม่หวังดีอะไร อาจจะแค่อยากช่วยคนบริสุทธิ์” โป๊ปบอก แต่บอสยังไม่ปักใจเชื่อ ถ้าหวังดีจริงทำไมไม่เปิดเผยตัวมาล่ะ

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ซีเอฟโอกลับมาทำงานในเช้าวันจันทร์หลังจากหยุดพักผ่อนโดยไม่เต็มใจไปสองอาทิตย์ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นห้องตัวเองถูกล็อคจากด้านนอกอยู่ มองหาเลขาก็ไม่เห็น ทันใดนั้นซีอีโอพร้อมกับตำรวจและ รปภ. ซึ่งเหมือนรอท่าอยู่แล้วก็เข้ามาประกบ มีคนหลายคนทั้งที่เขารู้จักและไม่รู้จักรุมล้อมเต็มไปหมด ซีอีโอซึ่งดูแก่ไปกว่าที่เจอครั้งก่อนพูดด้วยเสียงที่อ่อนแรงว่า

“ทางบริษัทรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ผมผิดหวังในตัวคุณมาก ไม่คิดเลยว่าคนที่อยู่กับบริษัทมาตั้งแต่ต้นอย่างคุณ จะทำเรื่องแบบนี้ได้ลงคอ คุณไม่คิดเหรอว่าถ้าบริษัทล้มไป พี่ๆ น้องๆ ที่ร่วมงานกันมากับคุณ เขาจะอยู่ยังไง ครอบครัวจะเดือดร้อนแค่ไหน แต่คุณคงไม่แคร์สินะ ขนาดภรรยาตัวเองคุณยังส่งเข้าคุกได้เลย ผมไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปคุณหมดสภาพความเป็นผู้บริหารของบริษัท ขอเชิญเก็บข้าวของส่วนตัวของคุณออกไป หลังจากนี้ก็เป็นเรื่องของตำรวจที่จะเอาตัวคุณไปดำเนินคดีอาญาต่อ ส่วนตัวบริษัทเอง เราก็เตรียมจะฟ้องทางแพ่งคุณด้วย”

จากนั้นผู้จัดการแผนกบุคคลและ รปภ. ก็พาตัวเขาเข้าไปเก็บของส่วนตัวในห้องโดยมีนายตำรวจยืนคุมอยู่ห่างๆ เขาเก็บไปก็นึกสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีใครติดต่อเขาเพื่อส่งข่าวนี้เลยซักคน พวกลูกน้องที่เชื่อใจเขามีตั้งมากมาย น่าจะมีใครรู้เรื่องนี้บ้าง เพราะมันต้องมีการสอบข้อมูลทางบัญชีซึ่งก็อยู่ในสายงานของเขาก่อน ซีเอฟโอรูปหล่อไม่ได้รับรู้เลยว่าพฤติกรรมแปลกๆ ที่เขาทำไปโดยไม่รู้ตัว รวมถึงคลิปที่เขาช่วยตัวเองในลิฟท์ที่ถ่ายจากกล้องวงจรปิดซึ่งได้กระจายออกไปในหมู่พนักงาน ทำให้เกิดความคลางแคลงใจ ในเมื่อความไว้เนื้อเชื่อใจที่ว่ามีพื้นฐานมาจากภาพลักษณ์ที่ดูดี มันก็เลยหมดไปง่ายดายเมื่อภาพลักษณ์ถูกทำลายลง ยิ่งเมื่อมีหลักฐานหนักแน่นจากบุคคลที่สามที่เข้ามาตรวจสอบทุกอย่างก็ชัดเจน

ก่อนที่ตำรวจจะพาตัวเขาออกไป ผู้จัดการแผนกบุคคลก็ปราดเข้ามาแล้วพูดว่า

“เดี๋ยวก่อนครับ ผมจำได้สูทชุดนี้เป็นสวัสดิการที่เราตัดให้ผู้บริหาร รวมถึงเสื้อเชิร์ตตัวในด้วยก็เป็นยูนิฟอร์มที่เราให้พนักงานทุกคน เพราะฉะนั้นผมต้องขอให้ถอดคืนบริษัทด้วยครับ”

ซีเอฟโอหนุ่มหล่ออึ้งไปเหมือนจะบอกว่านี่มันเรื่องล้อเล่นอะไรกัน แต่ตำรวจก็บอกว่า

“ถอดเร็วๆ สิครับ ไม่งั้นผมต้องเพิ่มข้อหายักยอกทรัพย์อีกข้อนึง”

เขาดื้อแพ่งไม่ปฏิบัติตาม เขาไม่ได้โง่ขนาดนั้น ข้อหายักยอกทรัพย์แค่นี้มันไม่ได้ร้ายแรงอะไร เขายอมชดใช้ให้เลยทีหลังสิบเท่าก็ยังได้ แต่จะไม่ยอมถอดเสื้อผ้าคืนอย่างเด็ดขาด วันนี้เขาใส่กางเกงในแบบ Jockstrap หรือกางเกงในนักกีฬาซึ่งด้านหลังจะมีแค่แถบผ้ายืดสามแถบรัดตรงเอวและต้นขาสองข้างเท่านั้น ปล่อยตรงส่วนก้นโล่งโจ้ง แต่พอเขาสบตากับผู้ชายหน้าตาดีที่ยืนอยู่กับตำรวจแต่ไม่ได้ใส่เครื่องแบบเขาก็ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกทันที

เสื้อตัวนอกถูกถอดส่งให้กับผู้จัดการแผนกบุคคลที่ยืนรออยู่ ตามด้วยเสื้อเชิร์ตที่มีโลโก้บริษัท เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่แน่นตึงผิดคนวัยเดียวกัน เอวเริ่มหนานิดหน่อยแบบผู้ใหญ่แต่เต็มไปด้วยมัดกล้าม หน้าอกและหน้าท้องมีขนขึ้นเป็นไรสีดำตัดกับสีผิวขาวๆ อย่างน่าดู หัวนมค่อนข้างใหญ่ที่ไม่น่าเชื่อว่ายังเป็นสีชมพูเข้มอยู่ อดีตซีเอฟโอของบริษัทถอดกางเกงสะแล็คทรงสวยออกอย่างฝืนตัวเองไม่ได้เผยให้เห็นกางเกงในแนวสปอร์ตที่เขาใส่อยู่ มันมีเพียงผ้ายืดบางๆ หุ้มเครื่องเคราด้านหน้าจนตึงแน่นโชว์เส้นสายรูปร่างอวบของสิ่งที่อยู่ข้างในอย่างชัดเจน ด้านหลังเปิดโล่งไม่มีผ้าปิดตรงส่วนก้น ไรขนเซ็กซี่ตามแนวร่องก้นเบียดแน่นที่เขาภูมิใจคงปรากฏต่อสายตาคนพวกนี้แล้วสินะ เขาคิดเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักอย่างอดไม่ได้ของพนักงานเด็กๆ ที่มามุงดูเหตุการณ์อยู่

นายตำรวจหนุ่มคุมตัวเขาที่สวมกางเกงในโชว์ก้นแค่ตัวเดียวเดินออกไปตามทางเดิน หนุ่มหล่อสายตาคมกล้าคนนั้นเดินตามมาพร้อมกับหนุ่มตี๋ดูดีสวมแว่นที่เขาคุ้นหน้าแต่นึกไม่ออก ตลอดทางมีแต่คนจ้องมองและซุบซิบนินทา กว่าครึ่งเป็นอดีตลูกน้องของเขาทั้งนั้น สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายเมื่อลิฟท์ที่เรียกมามีคนขึ้นอยู่เกือบเต็มแล้ว เขาคิดหนักว่าจะยืนหันหน้าเข้าหาคนในลิฟท์เพื่อไม่ให้เห็นเบื้องหลังที่เปลือยเปล่าของเขาดีหรือไม่ แต่ก็เปลี่ยนใจเมื่อรู้สึกว่าสู้สายตาคนในลิฟท์ไม่ได้ เขายืนเบียดคนในลิฟท์โดยการหันหน้าเขาหาประตูลิฟท์ตามปกติ ระยะทางยี่สิบสองชั้นยาวนานเหมือนไม่สิ้นสุด ท่ามกลางลิฟท์ที่เบียดกันแน่น เขาสาบานได้ว่ามีมือใครไม่รู้มาลูบไล้ไปทั่วทั้งแก้มก้นเขา แถมพยายามสอดนิ้วเข้าไปเพื่อเขี่ยพวงสวรรค์ของเขาด้วยซ้ำ ไม่น่าเชื่อว่าสัมผัสแค่นี้ทำให้ส่วนหน้าของเขาตื่นตัวจนเริ่มพองออก

เขาเดินตามนายตำรวจต่อไปยังลานจอดรถ จนถึงตอนนี้เขาอายจนหน้าชาไปหมด ตลอดชีวิตเขาเป็นแต่ผู้กระทำผู้ควบคุมมาโดยตลอดไม่เคยต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ความทระนงว่าตัวเองฉลาดจนกรรมยังตามไม่ทันเริ่มหมดไป เขาเดินมาจนถึงรถกระบะสองตอนที่มีตราโล่สีเลือดหมู นายตำรวจหนุ่มขึ้นไปประจำตำแหน่งคนขับคู่กับหนุ่มสายตาคมกล้า ส่วนตัวเขาถูกให้ไปนั่งเบาะหลังคู่กับหนุ่มแว่น

เขาหลับตาคิดแผนการว่าจะสู้คดีนี้อย่างไร ก่อนอื่นคงต้องเรียกลูกชายที่เขาภูมิใจให้ช่วยจัดเตรียมหลักทรัพย์เผื่อการประกันตัว เขายังมีพรรคพวกในวงการอีกมากที่พอจะช่วยวิ่งเต้นเรื่องคดีได้ เงินที่ได้มาจากการโกงบริษัทคราวก่อนคงพอจะช่วยปิดปากใครบางคนไว้ได้ โชคดีที่เขารอบคอบพอเลยยักย้ายถ่ายเทไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว

“คุณจำผมได้ไหม” เขากำลังคิดวางแผนอย่างตั้งใจแต่อยู่ๆ หนุ่มแว่นข้างๆ ก็ส่งเสียงถามขึ้นจนเขาเสียสมาธิ

“ว่าไงนะ”

“ผมถามว่า คุณจำผมได้เปล่าครับ” หนุ่มแว่นถามซ้ำ น้ำเสียงเกือบจะเป็นการตั้งความหวัง

อดีตซีเอฟโอลอบมองหน้าตาของเพื่อนร่วมเบาะนั่งอีกครั้ง เขาคุ้นหน้าคนๆ นี้มาก แต่ถ้านึกไม่ออกก็แสดงว่าน่าจะไม่ใช่คนสำคัญอะไร ไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องพูดดีด้วย แต่ในสถานการณ์อับจนแบบนี้ ถ้าเขายังไม่รู้ว่าคนๆ นี้เป็นใคร ผูกมิตรไว้ก่อนคงไม่เสียหาย

“ขอโทษจริงๆ ครับ ผมจำได้ว่าเราเคยพบกันมาก่อน แต่นึกชื่อคุณไม่ออกจริงๆ คงเพราะผมมีเรื่องยุ่งยากจนสมองเบลอไปหมด คุณก็เห็น” รอยยิ้มทรงเสน่ห์ถูกส่งออกไป แม้ในยามยากจนเหลือกางเกงในตัวเดียวแบบนี้ สกิลการสร้างภาพของเขายังคงทำงานได้ดี

หนุ่มแว่นยิ้มเย็นๆ ไม่ได้มีทีท่าผิดหวังแต่อย่างใด

“เมื่อสองปีก่อนผมเคยเป็นหัวหน้าทีมผู้สอบบัญชีที่ไปทำให้บริษัทคุณไงครับ แล้วคุณก็สั่งคนไว้ไม่ให้เปิดเผยข้อมูลบางส่วนที่ผมขอ เมื่อไม่ได้ข้อมูลที่สำคัญ ผมเลยต้องเซ็นรับรองงบการเงินบริษัทคุณแบบมีเงื่อนไข ซึ่งมันก็เป็นไปตามจรรยาบรรณวิชาชีพผู้สอบบัญชี คุณก็รู้ แต่คุณกลับไม่พอใจจนใช้อิทธิพลเปลี่ยนบริษัทผู้สอบบัญชีใหม่ เรื่องนี้ทำให้อาชีพผมที่กำลังรุ่งเรืองสะดุดเลยรู้ไหม”

อดีตผู้บริหารที่ถูกพาดพิงถึงนิ่งคิด เขานึกออกทันทีถึงผู้สอบบัญชีหนุ่มไฟแรงที่ซ่อนสายตามุ่งมั่นร้อนแรงไว้ภายใต้กรอบแว่นสายตา ตอนนั้นเขาจำเป็นต้องปิดบังรายละเอียดข้อมูลบางส่วนไว้เพราะอาจจะถูกนำไปเชื่อมโยงกับแผนไซฟ่อนเงินที่เขาได้เริ่มดำเนินการไปแล้วส่วนหนึ่งได้ ปกติเรื่องแบบนี้มันพอจะคุยได้ ยิ่งระดับซีเอฟโออย่างเขาออกปากเอง แต่ผู้สอบบัญชีคนนี้ไม่ยอมและยืนยันที่จะลงชื่อรับรองงบการเงินบริษัทแบบมีเงื่อนไข นี่อาจทำให้นักลงทุนเสียความเชื่อมั่นได้ เพื่อตัดปัญหาเรื่องนี้ในปีหน้า เขาจึงบีบผู้เกี่ยวข้องให้เปลี่ยนบริษัทผู้สอบบัญชีใหม่ทันที

“แล้วยังไง ก็เลยจะโทษผมงั้นสิ ไม่คิดว่าเรื่องแค่นั้นจะทำให้อาชีพคุณตกต่ำขนาดนี้” ในเมื่อคนๆ นี้เป็นแค่ผู้สอบบัญชีธรรมดาคนหนึ่ง ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเกรงอกเกรงใจกันอีก

“อย่าเข้าใจผิดสิครับ ผมไม่ได้โกรธเคืองอะไรคุณเลย แล้วอาชีพการงานผมก็เจริญก้าวหน้าเป็นอย่างดี อีกไม่กี่ปีผมคงได้ขึ้นเป็นพาร์ทเนอร์ของบริษัทแล้ว แต่ผมคงไม่รอหรอก เดี๋ยวผมก็จะลาออกแล้ว ผมมีเป้าหมายอื่นที่น่าสนใจกว่านั้น”

หนุ่มใหญ่นั่งนิ่งไม่ได้โต้ตอบอะไร เขาเริ่มรู้สึกว่าสายตาหลังแว่นวาวที่มองมามันมีแววประหลาดที่ชวนขนลุก

“แล้วถ้าเผื่อคุณไม่รู้ ผมนี่แหละที่เป็นคนที่มาตรวจสอบบัญชีย้อนหลัง จนได้หลักฐานในการเอาผิดทั้งหมด แต่คุณคงไม่ติดคุกเร็วๆ นี้หรอกครับ น่าจะต้องไปชดใช้ความผิดที่อื่นก่อน แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ถ้าคุณถูกเอามาขายเป็นทาส ผมจะพยายามทุกทางเพื่อประมูลเอาคุณมาให้ได้” หนุ่มแว่นพูดต่อ

อดีตซีเอฟโอฟังแล้วกัดฟันอย่างเคียดแค้น ตัวการคือไอนี่ใช่ไหม แถมยังพูดจาแปลกๆ เรื่องทาสห่าเหวอะไรฟังไม่รู้เรื่อง ยังไม่มันที่เขาจะทำอะไร รถตำรวจก็แวะจอดที่ข้างทาง หนุ่มแว่นหน้าตี๋ขอบคุณตำรวจที่แวะมาส่งแล้วก็หันมาทางเขา เอานิ้วมือตัวเองมาสูดดมอย่างชื่นใจพร้อมยิ้มให้เขา

“ผมได้เป็นเจ้าของกลิ่นคุณแล้ว ต่อไปผมจะเป็นเจ้าของตัวคุณ แล้วพบกัน” ว่าแล้วก็ลงจากรถไป หนุ่มใหญ่ขนลุก นี่มันไม่ตลกนะ หรือว่าหนุ่มโรคจิตคนนี้จะเป็นคนที่แอบจับก้นแล้วเอานิ้วเขี่ยไข่เขาในลิฟท์

สุดท้ายเขาก็ไม่ได้คำตอบอะไรซักอย่าง รวมถึงเรื่องการซื้อขายทาสแปลกๆ ที่หนุ่มนักบัญชีพูดถึงด้วย แต่จุดโฟกัสความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อไปถึงจุดหมายปลายทางแล้วพบว่ารถตำรวจไม่ได้กลับไปที่โรงพัก แต่มาจอดตรงหน้าคอนโดหรูหราแห่งหนึ่ง

“ทำไมไม่เอาผมไปที่โรงพัก พาผมมาที่นี่ทำไม จะข่มขู่ผู้ต้องสงสัยเพื่อรีดข้อมูลใช่ไหม ผมไม่ยอมหรอก ผมต้องการพบทนายตามสิทธิ์ของผม” หนุ่มใหญ่โวยวายได้นิดเดียวแล้วก็หุบปากสนิทเหมือนมีใครสั่ง

“อย่าบ่นมากได้ไหม เป็นผู้ใหญ่แล้ว ลูกชายคุณยังไม่โวยวายเท่านี้เลย ผมพามานี่ก็จะมาถ่ายรูปทำโปรไฟล์ให้คุณ แล้วตอนนี้มิลค์ เอ่อ หมายถึงลูกชายคุณก็อยู่ที่นี่ด้วย คุณจะได้พบหน้าลูกชายเพื่อร่ำลา หลังจากนี้คงจะมีโอกาสเจอกันยากหน่อย อย่างน้อยก็จนกว่าจะชดใช้โทษหมด ไป ลงจากรถกันได้แล้ว หลังจากนี้คุณจะทำตามคำสั่งผมทุกอย่างไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ขอบคุณสารวัตรมากครับ ระหว่างนี้ช่วยเอาหลักฐานที่ได้ เคลียร์คดีความของแม่เด็กไปก่อนนะครับ ส่วนของนักโทษคนนี้เดี๋ยวผมตัดสินใจเรื่องโทษในส่วนขององค์กรแล้ว ค่อยมาคุยเรื่องคดีอีกที” บอสพูดแล้วหันไปฝากเรื่องกับสารวัตร

สารวัตรกล่าวคำอำลาขณะมองหน้าอดีตผู้บริหารหนุ่มใหญ่ด้วยแววตาสมเพชปนรังเกียจ เขารอจนผู้โดยสารทั้งคู่ลงจากรถแล้วถึงขับออกไป พ่อเลี้ยงในชุดกางเกงในโชว์ก้นดินตามบอสต้อยๆ ไปอย่างเชื่อฟัง แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัยและกังวลเมื่อคนที่ดูจะมีอำนาจเหลือเกินตรงหน้าพูดพาดพิงถึงลูกชายที่รักของเขา คนสามสี่คนที่อยู่บริเวณลอบบี้มองมาที่ท่อนล่างของเขาอย่างสนใจ เมื่อถึงหน้าลิฟท์ รปภ. ก็รี่เข้ามาอำนวยความสะดวกให้พร้อมกับทักทาย

“สวัสดีครับคุณบอส กลับไวเชียว เอ๊ะ วันนี้มีหน้าใหม่มาด้วย คราวนี้เล่นรุ่นใหญ่เลยเหรอครับ แต่ก็ภูมิฐานดี หล่อมากเลยนะครับ”

บอสแค่ยิ้มบางๆ ตอบขณะพาหนุ่มใหญ่รูปหล่อจน รปภ. ออกปากชมเข้าไปในลิฟท์ หนุ่มใหญ่คนที่ยังไม่รู้ตัวว่าจะต้องเจอกับอะไร หนักหนาซักแค่ไหนหลังจากนี้

TBC

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
หมดไปอีกหนึ่งคดี
 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Moko1212

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ดูแล้วคุณคนทำบัญชีจะแค้นมาแต่ครั้งก่อน  :laugh:

นี่คือเตรียมใช้เวล่ร่วมกับทาสเลยสินะ ตายแน่แก... จำชื่อไม่ได้  :ruready

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
มาจนคุณรปภ. จำได้แม่นเลยสิ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
สงสัยจะโดนหนัก เรื่องของตาพ่อเลี้ยง CFO นี่หมดแล้วหรือจะมีมาอีกครับ

ออฟไลน์ kothan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เหอเหอ ไม่ได้โกรธนะ แต่จะทำทุกทางเพื่อประมูลทาสให้ได้แค่นั้นเอง ไม่ได้โกรธจริงๆนะ

ว่าแต่จะมีฉากกุ๊กกิ๊กของเบอร์ศูนย์กับเบอร์หนึ่งไหมอ่ะ

ออฟไลน์ Vocaliist

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
รู้สึกว่าพอตัวเลขขึ้น 40 แล้วผมจิ้นไม่ออกจริงๆ

มันดูแก่ ไปสำหรับผม  5555

ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนกันรึเปล่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: องค์กรลวงจิต Explicit Content [บทที่ 16] 06/08/15
« ตอบ #109 เมื่อ: 09-08-2015 21:21:28 »





ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
รู้สึกว่าพอตัวเลขขึ้น 40 แล้วผมจิ้นไม่ออกจริงๆ

มันดูแก่ ไปสำหรับผม  5555

ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนกันรึเปล่า

ผู้ชายอายุเยอะแต่ยังดูดีคงประมาณดาราอย่าง พี่ตุ้ย ธีรภัทร์ (42), ปีเตอร์ คอร์ป (40), พี่ติ๊ก เจษฎา (38) จิ้นออกยัง  :laugh:

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
จริงๆ เห็นด้วยนะครับว่าพอเห็นเลขสี่จะดูแก่ขึ้นมาทันที เหมือน 39 กับ 40
39 จะรู้สึกดีกว่าเยอะ

แต่คนเดี๋ยวนี้หลายๆ คนดูแลตัวเองดีมาก 40 ยังดูดีอยู่เลย อย่างที่คุณ j123 ช่วยยกมาก็แซ่บทุกคน
แต่ไม่เป็นไรครับ ไม่ชอบคนพ่อ เดี๋ยวมาต่อคนลูกให้แบบเด็ดๆ ถ้าว่างลองแวะเข้ามาอ่านดูครับ ค่ำๆ พรุ่งนี้

ส่วนฉากหวานของเบอร์ศูนย์กับเบอร์หนึ่งเรื่องยังเดินไปไม่ถึงครับ แต่มีตอนพิเศษที่แต่งไว้แบบเฉียดๆ อีกประมาณสองตอนจะเอามาลงให้ครับ แต่เค้าจะค่อยๆ เริ่มทีละนิดนะครับ ไม่ได้ถอดพรืดเหมือนตัวละครอื่นในเรื่อง

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ดีค่ะ ตัวละครหลักต้องพิเศษนิดนึง จริงๆ แล้วเผลอๆ บอสนี่โดนโป๊ปสะกดจิตแบบเนียนๆ ชอบพูดขู่นั่นนี่ ทำให้บอสเป็นคนไม่ชอบให้ใครมาสัมผัสใกล้ชิด แล้วโป๊ปนี่จริงๆ (อีกรอบ) เป็นเด็กอัจฉริยะ แต่คิดถึงบอส เลยบอกว่าโรงเรียนพิเศษตรวจไอคิวผิด เลยเรียนไม่ไหวต้องย้ายกลับมา ใช่ป่าว  :laugh:

ออฟไลน์ Vocaliist

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
รอจ้า

ตอนต่อไปมาเร็วๆน้า

 :katai5:

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
องค์กรลวงจิต Explicit Content [บทที่ 17] 11/08/15
«ตอบ #114 เมื่อ11-08-2015 21:59:46 »

องค์กรลวงจิต Explicit Content

บทที่ 17

บอสกำลังคิดว่าเรื่องไอมุกกับไอมิลค์จะเอายังไงดี เหลือเวลาอีกแค่เดือนกว่าๆ ก่อนการประมูล ช่วงนี้เขาเริ่มมีเวลาเพราะกำลังจะเคลียร์เคสพ่อเลี้ยงซีเอฟโอซึ่งเป็นพ่อของไอมิลค์จบ เขาไปเอาตัวคนพ่อมาทำโปรไฟล์แล้วส่งขึ้นระบบเพื่อเปิดประมูลแล้ว อีกไม่กี่วันคงดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จ เขาเปิดโอกาสให้พ่อลูกได้พบหน้ากันนิดหน่อย ทั้งคู่ต่างตกใจมากที่รู้ว่าอีกฝ่ายโดนเอาตัวมาลงโทษเหมือนกัน บอสได้ยินพ่อลูกแอบคุยกันเรื่ององค์กร ส่วนใหญ่จะเป็นไอมิลค์เล่าให้พ่อมันฟังเพราะมันรู้รายละเอียดมากกว่า ก็ดี จะได้ไม่ต้องเปลืองแรงอธิบายมาก บอสคิด สุดท้ายไอมิลค์ก็กังวลว่าจะโดนถ่ายรูปคู่แนวพ่อลูกเหมือนตอนที่โดนถ่ายแนวพี่น้องแบบ Bromance กับไอมุกมาแล้ว บอสสงสัยว่ามองยังไงถึงคิดว่าเขาโรคจิตขนาดนั้น

เรื่องไอมุกกับไอมิลค์ บอสคิดว่าเขาต้องรีบฟิตหุ่นทั้งคู่ให้ดูดีขึ้นไปอีกจะได้ราคาดีๆ ไม่อยากพลาดเหมือนตอนที่เอาไอมุกไประดมทุนขายคลิปแล้วได้ไม่ถึงเป้า วันก่อนที่ให้ไปตัดผมมาก็ทำให้ดูหล่อขึ้นเยอะ สุดท้ายบอสก็ตัดสินใจที่จะพาสองคนไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนรถไฟตอนเย็นทุกวัน อยากให้ไปรับลมรับแดดดูบ้างด้วยไม่งั้นจะดูซีดเกิน แล้วใกล้ๆ วันประมูลค่อยส่งไปเสริมหล่อชุดใหญ่

พอไปถึงบอสก็จัดการเช่าจักรยานให้ตัวเองสำหรับขี่กำกับ ส่วนไอสองตัวนั้นก็เตรียมตัววิ่ง รอบใหญ่ของสวนรถไฟก็ประมาณสามกิโลนิดๆ บอสกะว่าจะให้วิ่งวันละสามรอบก่อน พออยู่ตัวแล้วค่อยเพิ่มรอบ บรรยากาศที่สวนรถไฟดีมาก มีคนทุกเพศทุกวัยมาวิ่งหรือขี่จักรยานกันคับคั่ง นักวิ่งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หุ่นดีหน้าตาดีก็มีไม่น้อย บอสชอบจริงๆ แต่คนที่เขาพามาด้วยสองคนก็ดูดีไม่น้อยหน้า

บอสบอกให้ทั้งสองออกวิ่ง ส่วนตัวเองก็ขี่จักรยานตาม วิ่งยังไม่ถึงครึ่งรอบบอสก็ชักไม่พอใจกับการวิ่งที่เหยาะแหยะของทั้งคู่ ยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ๆ ท่าทางจะไม่ชินกับการวิ่งบนทางจริงที่ไม่ใช่สายพานวิ่งในฟิตเนสติดแอร์ ถึงจะถูกสะกดจิตให้ทำตามคำสั่ง แต่ก็ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะทำกันแบบทุ่มสุดตัว อย่างนี้ต้องมีของกระตุ้นกันหน่อย

“ชั้นลืมบอกพวกนายไป แต่ละรอบนี่ ใครวนกลับมาถึงจุดเริ่มต้นใหม่หลังเพื่อน จะต้องถอดเสื้อผ้าออกหนึ่งชิ้นตอนวิ่งรอบต่อไปนะ”

บอสตะโกนสั่งจากจักรยานที่ขี่ตามหลัง ขณะที่มุกยังมึนๆ อยู่ มิลค์ก็เร่งฝีเท้าหนีไปหลายช่วงตัว เอาเถอะ ของอย่างนี้มันอยู่ที่ความอึด ลองดูกันหน่อยว่าไอมิลค์มันจะรักษาความเร็วอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ได้ไหม บอสคิด

มุกเริ่มจะหายงง เขามองไปที่นักวิ่งหลายคนที่วิ่งตามๆ กันไป กลุ่มนักเรียนหญิงที่ขี่จักรยานสวนมา หนุ่มสาวที่มานั่งพลอดรักกัน ผู้สูงอายุที่จับกลุ่มกันรำมวยจีนอยู่บนเนินหญ้า แล้วนึกได้ว่าถ้าต้องโชว์แถวนี้ ผู้ชมจะมีเป็นร้อยคนเลย เลยเร่งฝีเท้าตามมิลค์ที่เห็นหลังอยู่ลิบๆ ไป

ทั้งคู่วิ่งแข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตายจนมาถึงจุดที่เริ่มต้นที่มิลค์ชนะไปเพียงไม่กี่ช่วงตัว บอสให้ทั้งคู่หยุดพักแล้วแบมือไปทางมุก

“นายจะถอดชิ้นไหนเลือกมา ไม่นับถุงเท้ารองเท้านะ”

มุกหน้าซีด เขาเลือกไม่ถูก ถ้าถอดเสื้อ มันคงเป็นเป้าสายตาเห็นได้จากในระยะไกล แต่ถ้าถอดกางเกงเหลือเสื้อกับบอกซ์เซอร์ ถ้าไม่สังเกตคนอาจจะคิดว่าเป็นกางเกงวิ่งขาสั้นธรรมดา แต่พอเหงื่อออกล่ะ มันอาจจะบางแนบเนื้อจนเห็นไปถึงไหนๆ พักนี้เขายิ่งถูกกระตุ้นง่ายอยู่ด้วย จากภารกิจก่อนๆ ที่ทำกับบอส ทำให้บางทีของเขาก็ตื่นตัวขึ้นมาเองเวลามีคนจ้องมากๆ มุกมองไปทางสนามบาสที่มีคนถอดเสื้อเล่นอยู่แล้วก็ตกลงใจได้ ยังไงผู้ชายแมนๆ อย่างเขา แค่ถอดเสื้อวิ่งไม่น่าจะผิดปกติตรงไหน คิดได้อย่างนั้นเขาก็ถอดเสื้อชุ่มเหงื่อส่งให้บอส บอสรับไปใส่ไว้ในตะกร้าจักรยาน แล้วก็บอกให้ทั้งคู่วิ่งต่อในรอบสองด้วยเงื่อนไขเดิม

มุกวิ่งด้วยความตั้งใจเต็มที่ จริงๆ ด้วยพละกำลังเขาไม่น่าจะแพ้ไอเด็กเจาะนมนั่น รอบแรกเขาประมาทไปหน่อย เห็นมันผอมกว่าเลยคิดว่าจะวิ่งไม่อึด ที่สำคัญ ถ้ารอบนี้เขาแพ้อีก รอบหน้าเขาต้องวิ่งไปรอบสวนโดยใส่แค่บอกเซอร์ตัวเดียว นั่นทำให้เขาวิ่งนำมิลค์ตั้งแต่ต้นจนจบ มุกคิดถูกครึ่งเดียวว่าแค่ผู้ชายถอดเสื้อวิ่งน่าจะไม่เป็นที่สนใจของคนที่ทำกิจกรรมในสวนเท่าไหร่ แต่พอคนที่ถอดเสื้อเป็นผู้ชายที่รูปร่างหน้าตาดีอย่างมุกก็เลยตกเป็นเป้าสายตาไม่น้อย แต่ก็เป็นการมองด้วยความชื่นชมซะมากกว่า

ก่อนวิ่งรอบสุดท้ายมิลค์ก็เลือกถอดเสื้อออกเหมือนกัน รอบนี้สำหรับคนแพ้บอสขอแค่ให้ถอดกางเกงในหรือบอกซ์เซอร์ออกตอนขากลับคอนโด หนุ่มหล่อสองคนถอดเสื้อวิ่งคุมเชิงกันไปตามทางในสวนเรียกสายตาคนให้หันมามองยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่หุ่นบางกว่า มีรอยสักเท่ๆ เจาะตรงหัวนมและสะดือใส่จิวเล็กๆ ดูแปลกตาสำหรับคนแถวนั้นไม่น้อย มุกผ่อนฝีเท้าให้มิลค์แซงขึ้นหน้าไป เขาไม่อยากวิ่งใกล้กันสองคนให้ดูเด่น อีกอย่างเขาเหนื่อยมาก รอบละสามกิโลกว่านี่มันหนักไม่น้อย ถึงจะเป็นชายหนุ่มสุขภาพแข็งแรงอย่างเขา มุกตั้งใจว่าเขาจะปล่อยให้มิลค์ชนะไปในรอบนี้ แค่ไม่ใส่กางเกงในตอนขากลับมันไม่เห็นมีอะไรเลย ยังไงเขาก็กลับรถบอสอยู่แล้วไม่ได้จะไปเจอใครสักหน่อย

ในที่สุดมิลค์ก็ชนะไปในรอบสุดท้ายตามที่มุกตั้งใจ เขาไปถึงเส้นชัยช้ากว่ามิลค์เกือบห้านาที เมื่อไปถึงก็เจอแต่มิลค์ใส่เสื้อเรียบร้อยแล้วยืนรออยู่ ส่วนบอสไม่อยู่แล้ว

“เจ้านายกลับไปก่อนแล้วบอกมีธุระ ให้กูกับมึงไปรอที่คอนโดเลย” มิลค์พูดห้วนๆ แจ้งเรื่องที่บอสสั่งไว้

“ชิบหายแล้ว แล้วกูจะกลับยังไงวะ”

“เจ้านายให้ขึ้นรถไฟฟ้าไป เอ้า นี่เสื้อมึง”

มุกต้องถอดกางเกงในออกตามคำสั่ง รู้งี้เขาน่าจะวิ่งให้ชนะคนตรงหน้านี่ เขาเอาเสื้อที่ยังเปียกอยู่มาพันเอวไว้ แล้วหลบมุมไปแอบหลังต้นไม้ ถอดกางเกงออกมาโดยเร็วเพื่อเอากางเกงในออกมาแล้วรีบสวมกางเกงกลับเข้าไป โชคดีที่ไม่มีใครสังเกตเห็น จริงๆ เขาจะไปถอดในห้องน้ำก็ได้ แต่มันต้องเดินอีกไกลแล้วเขาก็หมดแรงเต็มทน มิลค์ยืนมองเงียบๆ ด้วยความสมเพช ยังไงเขาก็ต้องรอไอหน้าโง่ตัวนี้เพื่อกลับพร้อมกันตามคำสั่งนาย เห็นมันนุ่งกางเกงขาสั้นโดยไม่ใส่กางเกงในแล้วก็อุจาดตา ถึงเขาสองเคยจะเห็นกันมามากกว่านี้ขนาดแก้ผ้าเอาเนื้อแนบเนื้อถ่ายรูปกันมาแล้วก็เถอะ หวังว่ามันคงไม่เกิดอาการโด่เด่อะไรบนรถไฟฟ้านะ ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงต้องทำเป็นไม่รู้จักมัน

หลังจากนั้นถ้าไม่ติดอะไร บอสก็จะพาสองคนมาวิ่งเกือบทุกวัน เขาก็ถือโอกาสมาออกกำลังด้วยโดยวิ่งรอบหรือสองรอบที่เหลือก็ขี่จักรยานตาม กำลังของสองคนนี้ใกล้กันจริงๆ ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะตลอด ทำให้ยังไม่มีใครโดนวิ่งโดยถอดกางเกงเหลือแค่กางเกงในตัวเดียว ส่วนรอบสุดท้ายมักจะเป็นมุกที่แพ้ เพราะเดี๋ยวนี้เขาไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่กับการขึ้นรถไฟฟ้าโดยไม่ใส่กางเกงใน จะนูนบ้างโป่งบ้างเขาก็เฉยๆ ไป อาจโดนซุบซิบนินทาหัวเราะคิกคักบ้างก็ช่าง เลยไม่ได้พยายามจะวิ่งรอบสุดท้ายอย่างเต็มที่เหมือนไอมิลค์

พอผ่านมาได้ประมาณครึ่งเดือนบอสก็เห็นว่าควรจะเพิ่มรอบเป็นสี่รอบเพื่อเร่งการพัฒนากล้ามเนื้อของทั้งคู่ให้แกร่งขึ้น พอสั่งออกไปมุกกับมิลค์ก็สบตากันเองอย่างไม่ไว้วางใจ นี่เท่ากับมีความเสี่ยงสามรอบไม่นับรอบสุดท้ายที่มีผลแค่ห้ามใส่ชั้นในตอนขากลับ ถ้ามีใครแพ้รวดทั้งสามรอบเท่ากับคนนั้นต้องแก้ผ้าวิ่งทั่วสวนรถไฟในรอบที่สี่ พอเริ่มรอบแรกทั้งคู่ก็วิ่งอย่างเต็มที่ชิงความได้เปรียบก่อนปรากฏว่าไอมุกชนะไป รอบสองมิลค์ตีตื้นขึ้นมา และชนะต่อเนื่องในรอบที่สาม มุกเลยต้องวิ่งทั้งบอกซ์เซอร์ตัวเดียวในรอบที่สี่ รอบนี้เรียกสายตาคนดูรอบสวนรถไฟได้ดีจริงๆ ชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนถอดเสื้อทั้งคู่วิ่งไล่กันไปตามทางในสวน ขาประจำหลายคนเริ่มจำได้เพราะเห็นมาวิ่งกันอยู่บ่อยๆ คนหนึ่งเรียกสายตาได้ตรงรอยสักเท่ๆ ที่หัวไหล่ และจิวเล็กๆ ที่ใส่ตรงหัวนมและสะดือที่เจาะ แต่รอบนี้อีกคนชนะขาดเรื่องความน่าดูเพราะช่วงล่างเหลือแค่บอกซ์เซอร์ตัวเดียว ยิ่งพอวิ่งเต็มที่อย่างนี้ยิ่งเห็นการเคลื่อนไหวของท่อนเนื้อภายใต้ผ้าเนื้อบางนั้นอย่างชัดเจน ยิ่งพอเปียกเหงื่อยิ่งเห็นเป็นลำถนัดตา เป็นอันรู้กันว่าหนุ่มคนนี้ไม่ได้นุ่งกางเกงใน  บางคนวิ่งผ่านไปแล้วยังต้องแกล้งทำเป็นวิ่งกลับมาดูให้เห็นชัดๆ

หลังจากวันนั้น มุกก็ได้รู้ถึงความขายหน้าเวลาที่ต้องโชว์ให้คนจำนวนมากเห็นในที่โล่งแจ้ง เขาจึงขอทำสัญญาสงบศึกกับมิลค์ว่ารอบที่หนึ่งกับรอบที่สองจะผลัดกันแพ้คนละตา แล้วก็ค่อยไปวัดดวงเอารอบที่สาม ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดการแพ้รวดสามรอบแล้วต้องวิ่งเปลือยไปรอบสวนรถไฟ ยิ่งหลังๆ เหมือนจะมีคนสังเกตการวิ่งแต่ละรอบของทั้งคู่จนเดาได้ว่าใครแพ้จะต้องถอดที่ละชิ้น เลยรวมตัวกันคล้ายๆ เป็นแฟนคลับคอยตามดูตามเชียร์ทั้งคู่เป็นกลุ่มใหญ่

......................................

บอสพานักโทษทั้งสองมาวิ่งเหมือนปกติ เย็นวันนี้อากาศดูครึ้มๆ น่าสบาย ก่อนจะเริ่มวิ่งครั้งนี้บอสก็ประกาศออกมาว่า

“ครั้งสุดท้ายจะเป็นครั้งสุดท้ายสุดท้ายแล้วที่ชั้นจะพามาวิ่ง อาทิตย์หน้าพวกนายจะเริ่มสอบปลายภาคกันแล้ว ชั้นอยากให้มีเวลาเตรียมตัวเต็มที่ พอหลังจากสอบเสร็จก็จะเริ่มการประมูลเลย หลังจากนั้นเจ้านายใหม่จะมารับช่วงจัดการกับพวกนายเอง ในเวลาสั้นๆ ก็ถือว่าพวกนายรูปร่างดีขึ้นใช้ได้ แต่วันนี้จะขอพิสูจน์ผลความตั้งใจที่ผ่านมาของพวกนายอีกครั้ง ใครอู้ ใครตุกติก ใครฮั้วกัน จนกำลังไม่อยู่ตัวคงได้เห็นกัน วันสุดท้ายนี้ชั้นขอให้เริ่มวิ่งโดยไม่ต้องใส่เสื้อทั้งคู่ เงื่อนไขอื่นเหมือนเดิม”

เด็กหนุ่มทั้งคู่ถึงกับตาเหลือก ถ้าเป็นอย่างนี้ วันนี้ต้องมีคนแก้ผ้าวิ่งอย่างน้อยรอบนึง หรือถ้าแพ้ติดกันสองครั้งตั้งแต่แรก ก็ต้องวิ่งเปลือยไปตลอดสองรอบหลัง มุกรู้ตัวดีว่าเรื่องวิ่งเขาไม่อึดเท่ามิลค์เพราะชอบอู้ในรอบสุดท้าย แต่เมื่อเงื่อนไขเป็นอย่างนี้เขาเลยวิ่งเต็มที่ตั้งแต่รอบแรกเพื่อตุนไว้ก่อนโดยไม่สนเรื่องที่ฮั้วกันว่าจะให้มิลค์ชนะก่อน มิลค์ไม่คิดว่าจะโดนหักหลัง รอบแรกก็เลยวิ่งสบายๆ แต่พอโดนแซงในช่วงท้ายจนแพ้ไปในรอบแรกก็รู้ตัวว่าโดนหักหลังจนเสียเปรียบแล้ว นี่แปลว่าทั้งรอบที่สองและรอบที่สามเขาจะแพ้ไม่ได้อีกเลย ไม่งั้นโดนแก้ผ้าทันที มิลค์พยายามมองหน้าเพื่อกล่าวโทษมุก แต่อีกฝ่ายทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้จนมิลค์ยิ่งแค้นหนัก

รอบที่สองมิลค์ในกางเกงบอกซ์เซอร์ตัวเดียวจึงวิ่งอย่างเต็มที่ แต่อีกฝ่ายก็พยายามอย่างที่สุดเช่นกัน ทั้งคู่ผลัดกันนำอย่างสูสี แต่สุดท้ายมิลค์ก็เฉือนชนะไปเพียงนิดเดียว มิลค์รู้สึกว่าท่อนลำที่กวัดแกว่งกระทบหน้าขาของเขาไปมาทำให้เสียสมาธิจนเกือบจะพลาดไป

พอเริ่มรอบที่สามซึ่งเป็นรอบที่สำคัญที่สุด มุกกับมิลค์ในชุดบอกซ์เซอร์ตัวเดียวทั้งคู่จึงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต พอมาได้ครึ่งทาง ฟ้าที่ครึ้มมาตั้งแต่เริ่มวิ่งแล้วก็เริ่มมีฝนพรำลงมา พอถนนลาดยางเปียกและเริ่มมีน้ำขังการวิ่งก็ยิ่งลำบากขึ้น บอกเซอร์ผ้าบางที่เปียกลู่น้ำทำให้สัดส่วนของทั้งคู่ปรากฏต่อสายตาของกองเชียร์ที่เฝ้าติดตามโดยไม่ย่อท้อต่อฝน ส่วนคนที่มาใช้บริการสวนรถไฟโดยทั่วไปก็ต่างพากันหลบฝนหนีหายกันไปเกือบหมด

พอใกล้หมดรอบ ฝนก็ยิ่งตกหนัก กองเชียร์บางส่วนก็ทยอยกันกลับเพราะคิดว่าการวิ่งแข่งสุดเซ็กซี่นี้คงจะจบลงเพียงเท่านี้ ที่ผ่านมาก็ถือว่าครั้งนี้วาบหวิวที่สุดแล้วที่ได้เห็นท่อนเนื้ออวบใหญ่ในผ้าบางๆ แนบเนื้อเพราะเปียกฝนของทั้งคู่พร้อมกัน เมื่อถึงทางตรงสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัย มิลค์ที่แอบออมแรงไว้อย่างมีกลยุทธ์ก็เร่งความเร็วเต็มที่ไม่สนใจแรงประทะรุนแรงตามจังหวะกระแทกของท่อนเนื้อและพวงไข่จนเข้าเส้นชัยไปได้ก่อนมุกซึ่งวิ่งนำมาก่อนหน้านั้น กองเชียร์กลุ่มใหญ่กลุ่มสุดท้ายก็รีบแยกย้ายหนีฝนที่กำลังตกหนักกลับไปทันทีหลังจากยอมยืนตากฝนชมการแข่งอยู่นานจนรู้ผลให้หายข้องใจแล้ว

ถ้ากองเชียร์กลุ่มนั้นจะรอซักนิด ตอนนี้ก็คงจะได้เห็นหนุ่มหล่อมาดแมนถอดกางเกงตัวสุดท้ายออกท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำ ร่างหนุ่มแน่นกำยำที่มีแนวเส้นขนสีดำที่พลิ้วตามสายน้ำจะตัดกับผิวสีขาวอย่างมีเสน่ห์ได้ชัดเจน สายฝนที่กระหน่ำกระทบร่างชายหนุ่มแล้วไหลลงมาตามแนวลำตัวไปรวมกันที่พื้นที่สามเหลี่ยมรกทึบตรงหน้าขาที่พอเปียกน้ำแล้วดูเป็นระเบียบขึ้น สายน้ำไหลลงไปตามท่อนเนื้อขนาดเขื่องที่ทอดยาวไปถึงหนังส่วนปลายที่หดตัวเข้าหากันด้วยความเย็นของสายฝน น้ำฝนไหลจากส่วนปลายที่ว่าลงมาเป็นสายไปกระทบพื้นราวกับว่าชายหนุ่มคนนั้นยืนฉี่อยู่

มุกเตรียมออกวิ่งรอบสุดท้ายด้วยความรู้สึกที่สับสนปนเป เขาทั้งอาย ทั้งหนาว ทั้งเจ็บใจ แล้วก็เหนื่อยจนบอกไม่ถูก แต่พอเริ่มวิ่งเขาก็รู้สึกเหมือนได้พบกันสิ่งที่ไม่ได้สัมผัสมานาน ร่างกายที่เปลือยเปล่าแหวกฝ่าสายฝนที่กระหน่ำอย่างหนักมันช่างอิสระ สดชื่น และสนุกจนเหมือนกับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ใช่ มันเหมือนตอนเขาเป็นเด็กเจ็ดแปดขวบแก้ผ้าเล่นน้ำฝนที่หน้าบ้านอย่างเพลิดเพลินลืมเวลาจนตัวซีด ต่างกันเพียงแค่น้ำหนักของท่อนเนื้อที่กระทบหน้าขาและหน้าท้องตามจังหวะการวิ่งที่บอกว่าเขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไป

สายฝนที่กระหน่ำกับเมฆดำทึบในช่วงเวลาเย็นทำให้สวนรถไฟมืดลงจนเกือบจะเหมือนหัวค่ำ คนสองสามคนที่ยังติดฝนอยู่ตรงศาลาในสวนแทบจะไม่เชื่อสายตาว่าเขาเห็นชายหนุ่มรูปร่างดีทั้งร่างเปลือยเปล่าใส่แค่รองเท้าวิ่ง และมีหนุ่มหุ่นดีอีกคนใส่บอกซ์เซอร์ตัวเดียว วิ่งตามกันไปจนหายลับไปกับสายฝนและความมืด นอกจากคนโชคดีที่ติดฝนอยู่ตรงศาลาสามสี่แห่งที่กระจายทั่วสวนรถไฟแล้ว แม่ค้าที่ขายน้ำและขนมขบเคี้ยวในร้านเล็กๆ กำลังนั่งเซ็งที่ฝนตกจนน่าจะขายของไม่ได้ รวมถึง รปภ. ตรงป้อมยามต่างก็เห็นเหตุการณ์เดียวกันแต่ก็ไม่แน่ใจว่าตาฝาดไปหรือไม่ พอมองให้แน่ใจอีกทีก็เห็นแค่บั้นท้ายซึ่งไม่รู้ว่าเปลือยหรือเป็นกางเกงสีเนื้อเปียกฝนวิ่งไปลิบๆ เพิ่งจะรู้ว่าเป็นเรื่องจริงก็เมื่อตอนที่ได้ยินข่าวลือเรื่องนี้ทีหลัง แต่หลังจากนั้น ก็ไม่มีใครได้เห็นหนุ่มสองคนที่ว่าในสวนรถไฟอีกเลย
 
.............................................................

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

มุกกำลังอยู่บนแทกซี่เพื่อจะไปยังสถานที่หนึ่งตามคำสั่งของเจ้านายตั้งแต่เช้าตรู่ หวังว่าวันนี้จะเป็นวันที่ไม่แย่มากนะ เจ้านายสั่งว่าเขาต้องไปอยู่ที่นั่นทั้งวันเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการประมูลที่จะเกิดภายในหนึ่งสัปดาห์หลังเขาสอบเสร็จ เมื่อวานเขาเพิ่งสอบวิชาหลักตัวสุดท้ายไปซึ่งเขาก็ทำไม่ค่อยได้ตามปกติ ไอพวกเชี่ยนั่นก็ใจดำไม่ยอมให้เขาลอกเลย ตอนนี้เหลือเก็บพวกวิชาเลือกนอกคณะอีกแค่ตัวสองตัว ศุกร์นี้ก็เสร็จหมด แล้วคงถูกเจ้านายเอาตัวไปประมูลขายให้กับเจ้านายใหม่ มุกขนลุกเมื่อคิดว่าเจ้านายใหม่จะเป็นยังไง

บอสโหดก็จริง แถมการลงโทษแต่ละอย่างก็ทำให้เขาอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน แต่ก็ไม่เคยล่วงเกินทางเพศเขา อย่างมากก็จับส่วนนั้นส่วนนี้แบบไม่จริงจัง แต่เจ้านายใหม่จะเป็นใครก็ไม่รู้ ที่แน่ๆ คือเป็นเกย์เพราะสมาชิกองค์กรเป็นเกย์ทั้งนั้น คงเป็นเกย์แก่ๆ ถึงมีตังค์พอจะประมูลเขาไปได้ แล้วที่น่ากลัวคือยังไม่รู้ว่าเขาต้องเป็นทาสระดับไหน ถ้าเป็นระดับสองละก็ตายแน่ เพราะเจ้านายสามารถใช้ให้มีเซ็กส์ด้วยได้

ที่เขาไม่เข้าใจคือความผิดของเขาที่องค์กล่าวหามันไม่เห็นจะมีอะไรเลยทำไมต้องโดนรับโทษขนาดนี้ ก็แค่เขาเอาเด็กกาฝากที่ทำตัวเป็นภาระของพ่อเขาให้คนอื่นเก็บไปเลี้ยงแทน บังเอิญคนอื่นที่ว่านี่เป็นคู่อริของเขาเอง จนถึงตอนนี้ก็ไม่เห็นกลับบ้านซะที ได้ข่าวว่าไอจอมหัวหน้าแก๊งค์คู่แข่งของเขาเอาตัวมันไปใช้งานเป็นทาส แอบหวังให้ไอจอมมันเอาผู้ชายเป็นว่ะ ไอเด็กนั่นคงตูดบาน สะใจจริงๆ ชอบทำเป็นประจบแย่งความสนใจของพ่อกูไปจากกู มุกคิด ไม่ได้แยแสซักนิดว่าลูกพี่ลูกน้องตัวเองจะไปตกระกำลำบากแค่ไหน ขอแค่ให้พอพ่อเสร็จงานที่ต่างประเทศกลับมา เขาจะได้รับความสนใจเป็นที่หนึ่งเหมือนเดิม

มุกเป็นคนที่ต้องการความสนใจจากคนรอบข้างมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งพอสูญเสียแม่ไปตอนสิบขวบก็ยิ่งกระหายสิ่งนั้น พอเป็นวัยรุ่น เขาก็ตั้งแก๊งค์ซิ่งของตัวเอง ความชอบในพาหนะสองล้อก็ส่วนหนึ่ง แต่เหตุผลหลักคือในแก๊งค์จะเป็นที่ๆ เขาโดดเด่นที่สุดทั้งเรื่องหน้าตาและฐานะ ลูกน้องในแก๊งค์ต่างเข้าหารุมล้อมซูฮก จะเพื่อหวังประโยชน์หรืออะไรเขาไม่แคร์ ขอให้ตัวเองเป็นที่สนใจก็พอ ในด้านผู้หญิงเขาก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดูดี ลีลาลำหักลำโค่นบนเตียง พร้อมออฟชั่นเสริมเป็นมุกสองเม็ด ทำให้มีผู้หญิงมารุมล้อมมากมาย เด็กในสังกัดเขามีไม่รู้กี่คนต่อกี่คน มีทั้งที่ติดใจลีลาและที่หลงรักเขาจริงๆ

พอเข้ามหาลัย เขาก็อยากได้ความสนใจการยอมรับจากเพื่อนในสังคมใหม่ แต่ก็เริ่มไม่ง่ายเพราะภาคพิเศษที่เขาเรียนมีแต่คนรวยด้วยกันทั้งนั้น ความเป็นหัวหน้าแก๊งค์ซิ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่สังคมใหม่จะให้ราคา เขาจึงเริ่มเอาผู้หญิงในสังกัดมาแบ่งปันกับเพื่อนฝูง ใครเข้าหาเขาก็จะได้สาวๆ ไปนอนด้วยเป็นรางวัล เด็กๆ ในสังกัดเขาบางคนก็เต็มใจเองที่จะไปสนุกกัน บ้างก็ต้องจ้างหรือซื้อของให้ แต่บางส่วนก็ทำไปเพราะคำหวานล่อลวงของเขา มีเพื่อนเข้ามารุมล้อมมากมายเพื่อหวังประโยชน์ในเรื่องผู้หญิง ในที่สุดเขาก็ได้รับความสนใจเป็นที่หนึ่งในสังคมใหม่สมความปรารถนา

มุกเหลือบตามองไอคนที่นั่งมาด้วยข้างๆ ในแทกซี่แล้วก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ นี่ก็เดือนกว่าแล้ว เขาเกลียดขี้หน้าไอ้เด็กเจาะนมนี่ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ยังไงก็อย่างงั้น ทำเป็นนิ่งๆ หยิ่งๆ แต่ธาตุแท้มันเลวยิ่งกว่าเขาอีก แอบได้ยินมาว่ามันมีรสนิยมวิปริตทำร้ายคู่นอน เห็นว่าทำทารุณกับน้องบุญธรรมด้วย มุกคิดว่าตัวเองยังดีกว่าตั้งเยอะที่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายลูกพี่ลูกน้องกาฝากแบบจริงๆ จังๆ แค่หาทางกำจัดไปให้พ้นหูพ้นตาเท่านั้นเอง แล้วทำไมคนที่ความผิดไม่เยอะอย่างเขา ต้องมาโดนรับโทษแบบเดียวกับพวกความผิดหนักอย่างไอมิลค์ด้วย

ที่น่าโมโหอีกอย่างนึงก็คือ ทั้งๆ ที่ต้องรับโทษเป็นแพ็คคู่ด้วยกันมาเป็นเดือน มันกลับไม่สนใจเขาเลย ใช่ว่าเขาจะแคร์อะไรมัน แต่คนที่ต้องได้รับความสนใจเป็นที่หนึ่งอย่างเขามักจะทนไม่ได้ที่ถูกเมิน เคยหลุดปากไปครั้งนึง  มันบอกว่าถ้ายอมให้มันลองเอามีดกรีดหน้าอกดู มันอาจจะสนใจก็ได้ วิปริตชิบหาย มุกคิด

ในที่สุดแทกซี่ก็พาทั้งคู่มาถึงจุดหมาย มันเป็นคอมเพล็กซ์เพื่อสุขภาพครบวงจรขนาดใหญ่สำหรับไฮโซโดยเฉพาะที่เปิดมาได้ยังไม่ถึงปี มุกรู้จักเพราะเคยสนใจอยู่เหมือนกันตามประสาคนที่ดูแลตัวเองเพื่อใช้รูปร่างหน้าตาล่อลวงสาว ได้ยินว่าข้างในมีทั้งฟิตเนส ซาวน่า สระว่ายน้ำ สนามกีฬาประเภทต่างๆ อย่างดีและครบครันที่สุด นอกจากนั้นยังมีส่วนที่เกี่ยวกับการเสริมสร้างรูปลักษณ์อย่างสปา ซาลอน ศูนย์ดูแลผิวพรรณ ไปจนถึงคลินิกศัลยกรรมความงาม ทั้งหมดนี้จะให้บริการเฉพาะผู้ชายเท่านั้น เพราะจุดขายคือการบริการด้านรูปลักษณ์และสุขภาพเฉพาะทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชาย

มุกไม่รู้ว่าองค์กรส่งเขากับไอมิลค์มาที่นี่ทำไม คอมเพล็กแห่งนี้ทั้งหรูหราและราคาสูงมาก ขนาดเขาที่เคยสนใจพอทราบราคาแล้วก็ยังไม่กล้าสมัครเลย ได้ข่าวว่าเจ้าของเป็นหมอไฮโซที่มีธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและความงามหลายตัว แต่ที่นี่เป็นธุรกิจล่าสุดและหรูหราที่สุดแล้ว สงสัยองค์กรจะให้เขาสองคนมาทำงานอะไรที่นี่เพื่อชดใช้ความผิด

พอมาถึงเข้าไปด้านในก็มีพนักงานมาต้อนรับเหมือนทราบอยู่แล้วว่าพวกเขาจะมา

“ยินดีต้อนรับครับคุณมุกและคุณมิลค์ เดี๋ยวเรียนเชิญคุณผู้ชายทั้งสองขึ้นรถกอล์ฟทางด้านนี้เพื่อไปที่อาคารกลาง ครั้งหน้าถ้าขับรถมาเองก็สามารถเอารถไปจอดที่นั่นได้เลยครับ” พนักงานหนุ่มหน้าตายิ้มแย้มเข้ามาต้อนรับราวกับเขาเป็นแขกวีไอพี

นี่เป็นครั้งแรกที่มุกกับมิลค์คิดตรงกันว่ากูไม่ได้ชื่อนั้นโว้ย ตั้งแต่เจอกับองค์กรมาพวกเขาก็โดนเรียกด้วยชื่อที่มีที่มาทุเรศๆ นี่ตลอด ยังดีว่าย่อลงแล้วนะ เวลาบอสเรียกทั้งคู่ไม่รู้สึกโกรธเคืองอะไรเพราะนั่นคือเจ้านาย แต่พอโดนคนอื่นเรียกมันก็หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก

ระหว่างทางที่นั่งรถกอล์ฟเข้าไป ทั้งคู่ชมก็ชื่นชมกับบรรยากาศที่สวยงามราวกับอยู่ในรีสอร์ทหรูหราที่ไหนซักแห่ง ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ในกรุงเทพนี่เอง ถึงจะไม่ใช่ย่านใจกลางเมืองก็เถอะ

เมื่อไปถึงอาคารส่วนกลางที่หรูหราราวกับโรงแรม ก็มีหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีมาก อายุน่าจะประมาณยี่สิบกลางๆ ดูเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า ผิวใสกิ๊กไม่มีไฝฝ้าราคีแม้แต่น้อย เดินเข้ามาต้อนรับ

“สวัสดีครับคุณมุก คุณมิลค์ ผมธนัท เป็นผู้ช่วยของคุณหมอพฤกษ์ เจ้าของที่นี่” ขณะที่มิลค์กำลังไม่สบอารมณ์กับชื่อที่ถูกเรียก มุกก็โพล่งออกมาอย่างไร้มารยาท

“โห เด็กจัง แต่เป็นถึงผู้ช่วยของหมอนักธุรกิจชื่อดังแล้ว”

ธนัทยิ้มให้อย่างไม่ถือสา

“ไม่เด็กหรอกครับ ผมสามสิบสามแล้ว และก็ไม่ได้เป็นผู้ช่วยด้านธุรกิจคุณหมอหรอกครับ เป็นแค่ผู้ช่วยส่วนตัว จะเรียกว่าเป็นคนรับใช้ส่วนตัวก็ได้”

พอทราบอายุของคนตรงหน้า แม้แต่คนนิ่งๆ ไม่สนใจใครอย่างมิลค์ยังอึ้ง ไม่ว่าจะดูยังไง คนตรงหน้าก็อ่อนกว่าอายุจริงจะเป็นสิบปีเอา

“สงสัยเมื่อก่อนผมดื่มน้ำกรองแห่งชีวิตเป็นประจำน่ะครับ” ธนัทเสริมด้วยมุกตลกร้ายที่เขาเข้าใจอยู่คนเดียว

“สำหรับโปรแกรมของคุณทั้งสองในวันนี้จะเป็นคอร์สเสริมความหล่อแบบเร่งรัดในหนึ่งวัน เห็นแค่วันเดียวอย่างนี้ แต่จริงๆ รายการยาวเหยียดเลยครับ เดี๋ยวต้องเริ่มจากการตรวจสภาพปัจจุบันก่อน แล้ว..”

“อย่างงี้มันจะมันจะกี่บาทกันครับ ผมไม่ได้เตรียมเงินมาจะจ่ายที่แพงๆ อย่างนี้หรอกครับ” มุกแทรกมาอย่างร้อนใจ คราวนี้มิลค์แอบเห็นด้วย สงสัยต้องขายคลิปทรมานน้องบุญธรรมอีกเป็นร้อยคลิป ถึงจะพอกับค่าคอร์สที่ว่า

“ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ เป็นความร่วมมือของทางเรา กับ....” ธนัทเลือกใช้คำ “ต้นสังกัดของคุณ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงานใหญ่ของคุณที่จะมีขึ้น”

มุกดูจะไม่คิดอะไร แต่มิลค์กลับจ้องตาธนัทแล้วถามว่า

“คุณทราบเรื่องใช่ไหม ที่นี่เป็นขององค์กรด้วยใช่เปล่า พวกเราจะโดนอะไรบ้างหลังจากถูกประมูลไป”

ธนัทถอนหายใจ ดวงตามีแววเห็นใจปรากฏแว้บนึง เขาตัดสินใจถอดหน้ากากทางธุรกิจออก

“ตามปกติทาสอย่างเราๆ ไม่ค่อยมีใครอยากพูดถึงองค์กรตรงๆ เท่าไหร่หรอกนะ แต่เห็นพวกนายยังเด็ก พี่จะแนะนำบางเรื่องจากประสบการณ์การตกเป็นทาสให้แล้วกัน”

ทาสมือใหม่ทั้งคู่ร้องออกมาด้วยความคาดไม่ถึง

“โอ๊ะ พี่ก็เป็นทาสด้วยเหรอ ไม่น่าเชื่อ ไปไงมาไงครับ งั้นที่นี่ก็เป็นขององค์กรจริงๆ ด้วย”

“ไม่ใช่หรอก ที่นี่เป็นของหมอพฤกษ์ คนที่ประมูลพี่ได้เมื่อหกเดือนก่อน หมอพฤกษ์เป็นแค่สมาชิกคนหนึ่งขององค์กร ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานโดยตรงนอกจากการร่วมบริจาคซื้อคลิปหมวดเอ็ม หรือเข้าร่วมประมูลทาส แต่อาจมีกรณีที่องค์กรขอความช่วยเหลือมาเอง อย่างที่ส่งพวกเรามาวันนี้”

“พี่เป็นทาสจริงๆ ด้วย แต่เห็นพี่ก็ยังดูดีเอามากๆ เลย ท่าทางไม่ได้ถูกทารุณหรือใช้งานหนักๆ แถมได้อยู่ที่หรูหราอย่างนี้อีก แสดงว่าเป็นทาสก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด”

“มันไม่ใช่อย่างที่เห็นซะทีเดียวหรอก พี่ยอมรับว่าโชคดีที่ได้เจ้านายที่ค่อนข้างโอเค แต่เป็นทาสมันก็เหมือนติดคุกแหละ ต่อให้คุกสภาพดียังไงก็คงไม่มีใครอยากอยู่ มันขาดอิสระ และก็ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ หมอพฤกษ์ก็ไม่ใช่จะใจดีในทุกเรื่อง ในทางธุรกิจแกก็ใช้พี่คุ้มเหมือนกัน บางครั้งก็ใช้เรื่องส่วนตัวที่น่าอับอายซึ่งพี่คงขอไม่เล่า”

“ใช้ในเรื่องธุรกิจยังไงเหรอครับ”

“ดูพี่สิ หกเดือนที่พี่มาอยู่นี่ เข้าคอร์สอะไรสารพัดไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้ว ถ้าคิดตามราคาจริงคงเป็นหลายล้านแล้วมั๊ง  ไฝฝ้าราคีรอยเหี่ยวย่นอะไรไม่มีเหลือ ขี้แมงวันซักนิดก็ยังต้องเลเซอร์ออก แล้วเวลาทำ ทำทั้งตัวนะไม่ใช่แค่หน้า ไหนจะสปาผิว ทรีทเม้นทร์ โน่นนี่นั่นอีก หัวนมยังทำ พี่ก็เป็นผู้ชายแมนๆ นะไม่ได้อยากจะเป๊ะอะไรขนาดนี้ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตุ๊กตาเคนเข้าไปทุกที”

ถึงธนัทจะพูดอย่างงั้นแต่มุกกับมิลค์ก็ไม่ได้เห็นด้วย ธนัทเรียบเนียนไปทั้งตัวก็จริงแต่ไม่ได้ดูประหลาดหรือเป็นผิวพลาสติกอย่างที่ดาราหญิงชอบทำกัน ตรงกันข้าม กลับดูดีและเป็นธรรมชาติเอามากๆ

“จะกินอะไรอย่างที่อยากก็ไม่ได้ ต้องคอยออกกำลังตามโปรแกรมอีก พี่ก็อยากให้ตัวเองดูดีนะแต่นี่มันมากไป จริงๆ งานหลักอันนึงของพี่ก็เหมือนอาหารพลาสติกที่โชว์หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นนั่นแหละ” ธนัทพรั่งพรูออกมาเหมือนไม่เคยมีใครให้ระบาย

“ยังไงนะครับ” ทั้งคู่ไม่เข้าใจสิ่งที่ธนัทยกมาเปรียบเปรย

“ก็เวลามีลูกค้าวีไอพีมาเลือกคอร์สปรับปรุงความหล่อ ไม่ว่าจะเป็นหน้า ผิว หุ่น ถ้าหมอพฤกษ์มาต้อนรับเองเป็นต้องเรียกพี่ไปโชว์เป็นสินค้าตัวอย่าง แล้วพวกไฮโซน่ะ พวกเรื่องสุขภาพความงามนี่เขาสนใจจริงจัง เวลาดูก็แทบจะดูถึงไส้ติ่ง พี่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตุ๊กตายางเลยว่ะ”

ธนัทนึกถึงเวลาที่เขาต้องถอดเสื้อผ้าออกหมดให้พวกไฮโซดูหุ่นเป็นตัวอย่างเปรียบเทียบ ว่าอยากจะได้กล้ามน้อยกว่านี้หรือมากกว่านี้ แทนที่จะสนใจกล้ามหน้าอก หรือกล้ามหน้าท้องที่เขาอุตส่าห์เบ่งให้ดู กลับมัวแต่ไปดูกล้ามตรงหว่างขาซะได้ แถมยังบอกให้เขาเบ่งกล้ามขาที่สามให้ดูซะด้วย บางทีไม่ทันใจก็จับรูดกันดื้อๆ

“โชคดีที่ไม่โดนทำพวกศัลยกรรมด้วย คงเพราะกฎขององค์กรที่ห้ามเจ้านายทำอะไรที่เป็นภาระติดตัวตัวทาสในระยะยาว ไม่งั้นหน้าเปลี่ยนแย่”

มิลค์คิดว่าถึงไม่มีกฎข้อนั้นก็ไม่น่าจะมีใครอยากจะทำอะไรกับใบหน้าที่แสนเพอร์เฟ็คท์ของคนตรงหน้าให้เสียของหรอก

“พี่ก็บ่นไปอย่างนั้นแหละ จริงๆ ของพี่นี่ถือว่าโชคดีมากๆ แล้ว พี่เป็นทาสระดับสอง ถ้าตามกฎจริงๆ ยังโดนหนักกว่านี้ได้อีกเยอะ แค่อยากบอกว่า เป็นทาสน่ะ มันไม่สบายหรอก ต่อให้เจ้านายดีขนาดไหน เขาซื้อเรามาก็ต้องหวังใช้งานอยู่แล้ว”

นี่คงเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ที่น่ากังวลที่สุดสำหรับทั้งสองคน คือไม่รู้จะได้เจ้านายแบบไหน

“คำแนะนำของพี่มีแค่ว่าพยายามคิดทบทวนวิเคราะห์ความผิดที่เราทำให้ดี ว่ามันมีผลกระทบหรือความเสียหายกับคนที่เกี่ยวข้องยังไง ถ้าเราเป็นเขาโดนทำอย่างนี้เราจะรู้สึกยังไง ไม่ใช่เฉพาะร่างกายนะ ทางจิตใจก็ด้วยด้วย ไล่ถึงผลกระทบในระดับชุมชน สังคม ไปจนถึงประเทศ คิดดีๆ นะ คิดในหลายๆ แง่มุม ยิ่งเราคิดเรื่องนี้ออกเร็วเท่าไหร่ เราจะอยู่ในสภาพทาสได้อย่างเข้าใจในความผิดตัวเอง นั่นจะทำให้เราทำใจกับมันได้ดีที่สุด” ธนัทพูดต่อ

มุกรู้สึกผิดหวัง ฟังมาตั้งนาน นึกว่าจะได้คำแนะนำอะไรดีๆ ซะอีก ดันกลับมาบอกให้ทำใจ แต่ความที่คนพูดดูจริงใจและมีแววตาห่วงใยเขา ทำให้ไม่ได้ปากเสียใส่ไปอย่างนิสัยปกติ

“วันนี้เราอาจฟังพี่แล้วไม่เข้าใจ แต่ลองค่อยๆ ใช้เวลาคิดทบทวนไปเรื่อยๆ นี่เป็นคำแนะนำที่สำคัญที่สุดที่พี่จะให้ อย่าลืมนะว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต่อต้านองค์กร เขามีอำนาจโยงใยมากกว่าที่เราจะคิดได้” ธนัทปิดท้าย

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ธนัทชวนเด็กหนุ่มทั้งคู่ไปเริ่มตรวจสอบสภาพปัจจุบันเพื่อจะกำหนดโปรแกรมเสริมหล่อได้เหมาะสม เมื่อเข้าไปถึงห้องตรวจซึ่งหน้าตาดูคล้ายห้องทำสปามากกว่าจะเป็นห้องตรวจทางการ มีชายหนุ่มในชุดกาวน์สองคนยืนรออยู่ ธนัทแนะนำว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวพรรณ หนุ่มทั้งสองถูกขอให้ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงคนละเตียงซึ่งมีผ้าม่านกั้น มิลค์กับมุกสบตากันแล้วก็ยักไหล่ ช่วยไม่ได้สินะ ถ้าไม่ทำแต่โดยดีเรื่องไปถึงบอสพวกเขาก็ลำบากอีก โดนมามากกว่านี้ตั้งเยอะยังผ่านมาได้ แล้วทั้งสองคนก็ถอดเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่าแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงของใครของมัน

เจ้าหน้าที่เอากล้องมาถ่ายหน้าเขาแบบโคลสอัพแล้วก็เอาผ้าชุบโคโลญจน์อุ่นๆ หอมกรุ่นมาปิดตา มีเสียงบอกให้ทำตัวตามสบาย หนุ่มทั้งสองไม่รู้ว่าตัวเองถูกทำอะไรบ้างหลังจากนั้น เท่าทีรู้สึกคือตัวร้อนๆ เหมือนถูกไฟส่อง แล้วก็ได้ยินเสียงชัตเตอร์กล้องดังเป็นระยะๆ อวัยวะส่วนต่างๆ ถูกจับยกจับพลิกอย่างเบามือ อวัยวะส่วนที่ปลิ้นได้ก็ถูกปลิ้นออกมาสำรวจจนหมดสิ้น จากนั้นก็ถูกพลิกให้นอนคว่ำซึ่งก็ไม่อึดอัดอย่างที่คิดเพราะเตียงเป็นแบบเตียงนวดที่มีช่องให้เอาหน้าคว่ำลงไปได้ ทั้งคู่รู้สึกได้ว่าช่วงบั้นท้ายและก้นเป็นจุดที่ถูกตรวจโดยละเอียด เพราะมีการประคองให้ยกก้นขึ้น มีการแหกแก้มก้นออกจากกัน พร้อมกับรู้สึกอุ่นๆ เหมือนโดนส่องไฟในที่สุดก็เสร็จแล้วถูกจับพลิกตัวให้นอนหงายเหมือนเดิม จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็มากระซิบขออนุญาตตรวจสภาพการแข็งตัวของอวัยวะซึ่งทั้งคู่ก็อนุญาตอย่างจำยอมซึ่งก็มีมือใครไม่รู้มาทำการปลุกเร้าช่วงล่างในทันที ด้วยความที่ยังหนุ่มยังแน่นเพียงครู่เดียวก็แข็งตัวกันเต็มที่ ได้ยินเสียงชัตเตอร์ชุดจากนั้นพนักงานก็เอาชุดคลุมอาบน้ำผ้าเนื้อดีมาให้ใส่แล้วพาไปหาธนัทที่กำลังอ่านสรุปผลการตรวจสภาพของทั้งคู่อยู่

“นั่งก่อนครับ ดูแล้วสองคนก็ไม่ได้แย่นะ แต่คงไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองเท่าไหร่ล่ะสิ รายการที่ต้องทำวันนี้ก็มี ตัดแต่งจัดทรงผมและขนทั้งตัว นวดบำรุงและทำสปาขัดผิวหน้าและผิวกายทั้งตัว บำรุงและตัดแต่งเล็บ กำจัดไรขนที่ใบหน้า ทำทรีทเม้นต์ร่วมกับเลเซอร์หน้าใส และสุดท้ายทำผิวชมพูเฉพาะจุดสี่ที่”

“เยอะจัง แถมต้องทำทั้งตัวด้วย อย่างนี้จะทำทันวันนี้เหรอครับ” มิลค์บ่นออกมาเมื่อเห็นรายการยาว ทีแรกคิดว่าน่าจะทำแค่พวกสปาขัดผิวอะไรทำนองนั้น”

“ไม่ต้องห่วง ของเราเป็นคอร์สเร่งรัด อะไรทำพร้อมกันได้จะทำด้วยกันไปเลย เพราะงั้นต้องไปทำที่ห้องทรีทเมนต์อเนกประสงค์นะ เพราะมีเครื่องมือทุกอย่างพร้อมในห้องเดียว ปกติคอร์สแบบนี้เป็นหลายแสนเลยจะจัดให้วีไอพีเท่านั้น แต่เราสองคนองค์กรขอมาก็เหมือนกับวีไอพีนั่นแหละ”

และที่ธนัทพูดก็ไม่ได้ผิดความจริง ร่างเปลือยของทั้งคู่ถูกมะรุมมะตุ้มด้วยจำนวนคนที่มากที่สุดในชีวิต ทีมช่างชุดนึงดูแลสระผม ทำทรีทเม้นท์บำรุง ตัดซอย เป่าแห้ง จัดทรง อยู่ทางหัว อีกชุดเก็บไรขนจุดที่รกๆ ไปทั่วร่าง พร้อมตัดแต่งตรงรักแร้และซอยขนลับที่รกทึบให้ดูบางเบาสะอาดตาขึ้น ตัดแต่งยันไปจนถึงขนที่ก้น ทีมขัดเล็บมือเล็บเท้าก็ทำหน้าที่ไป ทีมดูแลเส้นผมเส้นขนทำงานเสร็จก็มีทีมสปาผิวทั่วเรือนร่างเข้ามาต่อ ทีมนี้เข้าพร้อมกับทีมทรีทเม้นท์และเลเซอร์หน้าใส และที่บอกว่าทั่วเรือนร่างก็หมายความตามนั้นจริงๆ ตรงท่อนลำและพวงสวรรค์ก็ได้รับการดูแลไม่น้อยหน้า ทีมนี้ขั้นตอนเยอะมากจนถึงเวลาเที่ยงก็ยังอยู่ในสภาพที่พันผ้าเพื่อให้ทรีทเม้นท์ซึมสู่ผิว ทั้งคู่ถูกประคองให้อยู่ในท่านั่งบนเตียง แล้วก็มีถาดใส่อาหารหรูหรามาเสิร์ฟให้ถึงที่ ทานเสร็จก็ทำทรีทเม้นท์สูตรที่ร้อยแปดต่อ มีทั้งครีมทั้งโคลนอะไรไม่รู้สาระพัด กว่าจะเสร็จ มิลค์ก็เหนื่อยแทนพนักงานเต็มที ขนาดเขานอนเฉยๆ ยังเหนื่อยเลย ตอนนี้เขาอายจนเลิกอายแล้ว ถึงคนจะเยอะแต่ก็เป็นผู้ชายทั้งหมด ขนาดตอนหลังโดนนวดไปนวดมาจนของขึ้นเขาก็ยังรู้สึกเฉยๆ

พอถึงช่วงทำผิวชมพูเฉพาะจุดสี่จุด มิลค์ก็เริ่มคิดว่าน่าจะเสร็จเร็วกว่าที่คิดไว้ พนักงานเอาพลาสเตอร์ที่เจาะเป็นช่องพอดีกับรูปปากและหัวนมของเขามาปิดกันเนื้อส่วนที่ไม่เกี่ยวข้อง จากนั้นก็เอาครีมมาทาริมฝีปากบน ริมฝีปากล่าง หัวนมด้านซ้าย หัวนมด้านขวา ของเขา นับรวมได้สี่จุดตามโปรแกรม จากนั้นก็เอาเครื่องมาฉายไฟอุ่นๆ ใส่ ทิ้งไว้หนึ่งชั่วโมงก็มาเอาออกแล้วทำความสะอาดทั้งสี่จุดจนเรียบร้อย เขาชำเลืองดูหัวนมข้างที่เจาะของเขา ชมพูขึ้นจริงๆ ดูดีเลยเรา

เท่านี้ก็เสร็จซะที มิลค์คิด ขณะเตรียมลุกขึ้น

“คุณผู้ชายจะไปไหนครับ”

“อ้าว เสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ยังครับ เหลือทำผิวชมพูเฉพาะที่อีกสองจุดครับ”

“อ้าว ก็ทำไปแล้วสี่จุดไม่ใช่เหรอ”

“หามิได้ครับ ริมฝีปากกับหัวนมนับรวมกันเป็นอย่างละหนึ่งจุด ยังเหลืออีกสองจุดที่รอบรูก้น กับส่วนอวัยวะเพศทั้งหมดครับ มีส่วนหัว ส่วนลำ และถุงอัณฑะครับคุณผู้ชาย” พนักตอบ

“ผมไม่ทำ ยังไงๆ ก็ไม่ทำ” มิลค์ยื่นคำขาด ได้ยินเสียงโวยวายจากไอมุกที่อยู่เตียงข้างๆ ดังขึ้นมาด้วยเรื่องเดียวกัน อวัยวะส่วนบอบบางขนาดนั้นใครจะไปกล้า แค่ที่หัวนมยังหวั่นๆ อยู่เลย สารเคมีที่ใช้คืออะไรก็ไม่รู้ ถ้ามันทำให้แพ้จนผิวส่วนนั้นตายด้านขึ้นมาล่ะ อดเสียวตลอดชีวิตแน่ ต่อให้บอสมาสั่งตรงหน้า เขาก็คงต้องเถียงกลับไป

“ไปเชิญคุณธนัทมาเร็ว” พนักงานคนนึงร้องบอก

ธนัทมาถึงในชั่วอึดใจเดียว

“เป็นอะไรกัน สองคน ไม่ต้องกลัวนะ ไม่มีอะไรอันตราย” มองมิลค์ที่น้ำตาคลอนิดๆ อย่างเห็นใจ ยังไงก็ยังเด็กล่ะนะ

“พี่ก็พูดได้สิ ไม่ได้มาโดนอย่างผม ตรงนั้นบอบบางจะตาย แถมมีเส้นประสาทเยอะแยะอีก เอาสารเคมีอะไรก็ไม่รู้มาทา ถ้าทำแล้วตายด้านหมดความรู้สึกล่ะ ชีวิตจบสิ้นตั้งแต่หนุ่มๆ แน่ ฮือๆ”

ธนัทถอดกางเกงออกจนท่อนล่างเปลือยเปล่าต่อหน้าเด็กทั้งสองและพนักงานอีกเต็มห้อง เขาประคองท่อนลำอวบที่เกินหน้าคนทั้งคู่ยื่นให้มิลค์กับมุกดู พร้อมกับปลิ้นหนังหุ้มปลายออกจนสุด

“เอ้า ลองดูด้วยตาตัวเอง พี่ทำมาตั้งหลายเดือนแล้ว ยังปกติดีอยู่”

มิลค์มองท่อนลำอวบตรงหน้า ส่วนหัวเป็นสีชมพูใสสวยจริงๆ ให้ความรู้สึกเหมือนของเด็ก แต่เด็กที่ไหนจะใหญ่เว่อร์อย่างนี้

“แล้วยังเสียวดีอยู่เปล่าพี่”

“ก็ปกตินะ เวลา... เฮ้ย จับเลยเหรอ อย่าแตะตรงนั้น ซี้ดส์ อย่า...”

มิลค์เอานิ้วแตะไปตรงส่วนหัวโดยไม่ลังเล ผิวสัมผัสก็ดูเรียบลื่นชุ่มชื่นปกติดี เขาเอานิ้วแตะซ้ำๆ เพื่อดูปฏิกิริยา แป๊บเดียวก็ได้ผล ท่อนลำของธนัทค่อยๆ ผงาดขึ้นอย่างน่าเกรงขาม รูที่ส่วนหัวมีน้ำเหนียวใสเอ่อขึ้นมาพอเยิ้มๆ

“ท่าทางจะยังเสียวอยู่จริงๆ ด้วย” มิลค์ตาโตกับขนาดที่อลังการ เขาว่าของเขากับไอมุกก็ใหญ่มากแล้วนะ แต่นี่เหนือกว่าไปอีกระดับ

“เออสิวะ ก็พี่บอกอยู่ พอเถอะ หมอพฤกษ์เจ้านายพี่ไม่ให้พี่เอาน้ำออกพร่ำเพรื่อ ของที่นี่เป็นน้ำยาธรรมชาติที่วิจัยขึ้นมาเอง ปลอดภัยและได้ผลดีกว่าวิธีอื่นๆ วางใจได้ ไม่งั้นหมอพฤกษ์ไม่กล้าสั่งให้พี่ทำหรอก ถ้าเกิดผิดพลาดอะไรขึ้น หมอพฤกษ์โดนสอบสวนจากองค์กรข้อหาทำร้ายร่างกายทาสเกินกว่ากฎแน่ ต่อให้เป็นหมอพฤกษ์ก็ไม่กล้าหรอก ทีนี้ก็ไปทำต่อได้แล้ว” ประโยคที่เกี่ยวกับองค์กร ธนัทกระซิบให้ได้ยินกันแค่สามคน

“เดี๋ยวครับ ขอดูที่รูก้นด้วยได้ไหม”

ธนัทยอมอย่างเสียไม่ได้เพื่อปัดรำคาญ เขาเอาตัวไปเท้าโต๊ะ หันหลังเอามือแหวกแก้มก้นให้คนช่างสงสัยเห็น พนักงานเอาไฟมาส่องให้อย่างรู้งาน ทั้งคู่ก้มไปมองอย่างใคร่รู้ นี่มันดูดีเกินไปแล้ว ไรขนที่น่าจะผ่านการจัดแต่งอย่างดีแต่ก็ดูเป็นธรรมชาติ รอยจีบสีชมพูเรื่อๆ ดูไม่ปิดสนิทแน่นมากอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ถึงกับจะบ่งบอกได้ชัดว่าผ่านการมีอะไรกับผู้ชายมาแล้ว อาจเป็นที่สรีระของแต่ละคน ที่สำคัญที่มิลค์ไม่ได้สังเกตตั้งแต่ทีแรกเพราะมัวแต่กลัวอยู่ คือทุกสิ่งทุกอย่างในร่มผ้านวลเนียนไปทั้งหมด ไฝฝ้าราคีรอยด่างดำถ้าอาจจะมีบ้างน้อยนิดก็แทบจะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ที่ธนัทบอกว่าโดนทำมากจนเหมือนตุ๊กตาไม่จริงเลย เหมือนเทวดาซะมากกว่า

หลังจากมั่นใจแล้วทั้งคู่ก็ขึ้นเตียงไปทำต่อ ขั้นตอนก็คล้ายๆ กับตอนทำที่ริมฝีปากกับหัวนม แต่ไม่มีการฉายแสง ธนัทไม่ได้ลุกไปไหนนั่งชวนคุยเป็นเพื่อน เขาเล่าว่าสารสกัดธรรมชาติที่ตอนนี้ทาอยู่บนส่วนหัวของทั้งคู่แพงมากและมีที่นี่ที่เดียว เวลาใช้ต้องมีการผสมเพื่อให้ได้เฉดสีที่ต้องการ ช่างของที่นี่ชำนาญมากในการที่แนะนำว่าลูกค้าผิวเดิมสีอะไร ควรจะทำสีชมพูโทนไหนให้ดูดีและเป็นธรรมชาติตามอวัยวะส่วนนั้นๆ

ไฮโซทั่วไปก็มีมาทำตรงจุดนั้นบ้างแต่ไม่มากเพราะส่วนใหญ่ก็ไม่ได้คิดจะไปโชว์ใคร ยกเว้นในหมู่เกย์ไฮโซที่ค่อนข้างเป็นที่นิยม แต่กลุ่มที่ใช้บริการเยอะจริงๆ คือพวกนักแสดงหนังโป๊ชายหลากหลายค่ายทั้งอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ต้นสังกัดจะเป็นสปอนเซอร์ส่งมาทำที่เมืองไทยกันครั้งนึงหลายคน ถือโอกาสมาเที่ยวกันด้วย ถึงเป็นกลุ่มอาชีพนี้ หมอพฤกษ์ก็ไม่ได้รังเกียจ แต่จัดให้บริการในในสถานที่ที่แยกต่างหากจากสมาชิกของคอมเพล็กซ์ ป้องกันลูกค้าไม่สบายใจ ทั้งๆ ที่นักแสดงมืออาชีพจริงๆ ค่ายหนังจะดูแลเรื่องการตรวจเลือดและการรักษาสุขภาพเป็นอย่างดี

หมอพฤกษ์พยายามส่งเสริมความเข้าใจอันดีต่อกลุ่มอาชีพนี้โดยเชิญคนที่เป็นนักแสดงดังๆ มาสาธิตการใช้เครื่องมือออกกำลังกายประเภทต่างๆ ที่ฟิตเนสของคอมเพล็กซ์ ปรากฏว่าเหล่าไฮโซสมาชิกศูนย์สุขภาพของหมอพฤกษ์รู้จักนักแสดงเหล่านี้มากกว่าที่คิด ธนัทเห็นเรียกชื่อได้ถูกต้องกันก็หลายคน แถมมีตามไปคุยกันต่อในห้องอาบน้ำอีก

หมอพฤกษ์มีการทำวิจัยเพื่อปรับปรุงคุณภาพร่วมกับกลุ่มอาชีพนี้ด้วย โดยขอเก็บข้อมูลต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของสีตามเวลาและจำนวนครั้งในการร่วมเพศ การเปรียบเทียบกลิ่นและรสก่อนและหลังทำ รวมไปถึงเทรนด์ความนิยมในการจับคู่สีใหม่ๆ เช่น ลำน้ำตาลเข้มกับหัวชมพูแก่ ลำขาวอมชมพูกับหัวชมพูเข้ม ลำขาวเหลืองกับหัวชมพูอมส้ม ลำสีดำกับหัวชมพูอมม่วง ถ้าไม่ได้ขลิบก็จะเลือกได้อีกว่าจะเป็นแบบสีตัดกันหรือจะเป็นแบบไล่เฉดสี หมอพฤกษ์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากจนบางครั้งต้องเจียดเวลาบินไปดูงานด้วยตัวเอง

เมื่อเด็กหนุ่มทั้งสองคนได้รับบริการจนครบทั้งคอร์สแล้ว ธนัทก็บอกว่าองค์กรขอให้ทำการสักลายให้ทั้งคู่ด้วย มิลค์เป็นพวกชอบรอยสัก แต่ทีแรกก็กลัวว่าจะเป็นการสักเพื่อแสดงความเป็นทาสแบบในหนัง ประเภทสักหมายเลขทาสลงบนหน้าผาก หรือสักคำว่า “SLAVE” ไว้ที่หน้าอก แต่พอเห็นลายที่เอามาให้เลือกก็พบว่าเป็นแค่ลายกราฟฟิกเล็กๆ รูปร่างดูแปลกๆ หน่อย มีให้เลือกหลายแบบหน้าตาไม่เหมือนกัน แต่ก็คล้ายกันตรงที่จะเป็นทรงเลขาคณิตแบบเดียวกันสองอันวางเหลื่อมต่อกัน ด้านในมีลวดลาย มิลค์เลือกอันที่เขาคิดว่าสวยที่สุด

“ผมเอาลายนี้ครับ องค์กรเขาให้สักไปทำไมครับพี่”

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ของพี่ก็โดน เราน่าจะเห็นแล้วตอนพี่ถอดให้ดู เลือกตำแหน่งที่จะสักด้วย องค์กรเขาบอกให้เลือกบริเวณที่ไม่ห่างจากอวัยวะเพศมากนะ”

มิลค์นึกออกว่าธนัทมีรอยสักเล็กๆ ตรงบริเวณหัวเหน่าด้านซ้ายเห็นได้ชัดบนผิวเนียนใส แต่ตอนนั้นนึกว่าสักเท่ๆ เขาเลือกสักบริเวณสะดือแต่ต่ำลงมาเกือบติดขนอุย มันน่าจะช่วยเสริมจิวที่ใส่อยู่ตรงสะดือของเขาได้

“แล้วไม่ต้องกังวลนะ หมึกที่ใช้เป็นแบบกึ่งถาวร ถ้าไม่ไปทำอะไรเลยมันจะจางออกเองเมื่อผ่านไปประมาณสามปี หรือถ้าอยากเอาออกก่อนหน้านั้น ก็ใช้น้ำยาพิเศษเช็ดออกได้ รับรองผิวเนียนใสเหมือนเดิม แต่กรณีเราคงต้องรอองค์กรสั่งก่อน” ธนัทอธิบายต่อ

เมื่อเสร็จ ธนัทก็ขอให้เขากลับไปนอนบนเตียงที่ใช้ตรวจสภาพตอนแรก มิลค์แหล่มองรอยสักของมุกที่เดินมาข้างๆ กัน แล้วนึกบ่นในใจว่าเสือกเลือกลายคล้ายกันอีกแน่ะ ที่บนเตียงก็ไม่ได้ทำอะไร แค่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่จับโน่นพลิกนี่เพื่อถ่ายรูปเหมือนที่ทำตอนแรก

จนเมื่อทั้งคู่แต่งตัวเสร็จก็เป็นเวลาเกือบทุ่มแล้ว ธนัทเชิญทานอาหารเย็นด้วยกัน ทั้งคู่ตกลงและพูดคุยกับธนัทอย่างถูกคอระหว่างนั่งทานอาหารเลิศรส แม้ว่ามุกกับมิลค์จะไม่คุยกันเองโดยตรงซึ่งธนัทก็สังเกตเห็นแต่ไม่ได้พูดอะไร ธนัทเล่าประสบการณ์ที่น่าสนใจในการทำงานที่รีสอร์ทสุขภาพแห่งนี้ให้ฟังอย่างสนุกสนาน แต่พอมุกถามถึงว่าเคยโดนหมอพฤกษ์สั่งให้ทำอะไรที่ทนไม่ได้มากที่สุด ธนัทก็เงียบไปและปฏิเสธที่จะพูดถึง

ก่อนกลับธนัทยื่นอัลบั้มรูปให้ทั้งคู่คนละเล่ม

“เอ้า เก็บไว้เป็นที่ระลึก พอดีเราอยู่ทานข้าวต่อ มีเวลาพี่เลยสั่งให้เขาทำเสร็จทันพอดี”

มิลค์กับมุกรับไปพลิกดูก็พบว่า เป็นอัลบั้มรูปขนาดใหญ่ภาพคมชัดสีสันงดงาม ภาพในนั้นทั้งหมดเป็นรูปของเขาแต่ละคนเอง อัลบั้มใครอัลบั้มมัน หน้าแรกเป็นรูปเขาในชุดที่ใส่มาวันนี้ท่าทางเป็นธรรมชาติเหมือนโดนแอบถ่าย มีรายละเอียดส่วนตัวนิดหน่อย แค่อายุ เชื้อชาติ น้ำหนัก และส่วนสูง จากนั้นก็เป็นรูปแอบถ่ายในอิริยาบถต่างๆ ระยะไกลบ้าง เต็มตัวบ้าง โคลสอัพบ้าง แต่หน้าต่อจากนั้นไปจนจบ เป็นรูปเปรียบเทียบตัวเขาระหว่างก่อนและหลังการเข้าคอร์สเสริมหล่อที่เพิ่งเสร็จไป แน่นอนว่าเป็นรูปเปลือย มีทั้งรูปถ่ายเต็มตัว และรูปโคลสอัพอวัยวะทีละส่วน ตั้งแต่ใบหน้า ริมฝีปาก ลำตัว หน้าท้อง หน้าอก หัวนม แขน ขา รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ท่อนลำทั้งแบบเปิดหัว ปิดหัว และแบบแข็งตัว รูปถ่ายเปรียบเทียบมีไปจนถึงแก้มก้นและรูก้น แต่ละรูปเห็นความแตกต่างระหว่างก่อนทำและหลังทำได้มากบ้างน้อยบ้าง แต่แม้แต่ในส่วนที่ดูต่างกันน้อยที่สุด ก็ยังบอกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

“อะไรกันนี่พี่” มิลค์ออกจะตกใจ

“อัลบั้มทำไว้ให้ลูกค้าดูไง เวลาเขามาเลือกคอร์ส คนไหนรูปร่างสีผิวคล้ายๆ เรา เอาให้ดูเขาจะนึกภาพออกมากกว่า อันนี้ทำแล้วเป็นยังไง ไหนๆ ต้องทำแล้ว พี่เลยทำเผื่อพวกเราด้วย”

“อย่างนี้ผมก็อายแย่สิ เอารูปแบบนี้ไปให้ใครดูก็ไม่รู้” มิลค์ไม่สบายใจเลย

“เราไม่ได้รับรู้ด้วยซะหน่อย เขาดูแป๊บๆ เลือกคอร์สได้ก็ลืมแล้ว และก็ไม่ได้ให้ดูพร่ำเพรื่อด้วยนะ ต้องเป็นคนที่รูปร่างสีผิวใกล้เคียงกับเราและสนใจคอร์สแบบที่เราทำเท่านั้น อันนี้หมอพฤกษ์ขอองค์กรเป็นของตอบแทนที่ให้เรามาทำฟรีๆ นี่แหละ”

ธนัทอธิบายต่อเมื่อเห็นทั้งคู่ทำหน้าไม่แน่ใจ

“อย่าไปคิดมาก พี่โดนยิ่งกว่านี้อีก อัลบั้มพี่มีเป็นสิบๆ เล่มเลย แถมส่วนใหญ่ต้องเอาของจริงไปโชว์ลูกค้าด้วย หมอพฤกษ์บอกว่า ร้อยทั้งร้อยพอเห็นตัวอย่างจากพี่ ก็ตัดสินใจเลือกคอร์สแพงสุดโดยไม่ลังเล นี่ถือว่าเราโชคดีทั้งคู่แล้วนะที่ได้มาทำคอร์สนี้ ยิ่งเราดูดีเท่าไหร่ โอกาสประมูลสำเร็จก็ยิ่งมาก ไม่งั้นถ้าไม่มีใครร่วมประมูลขึ้นมา เวลาเอากลับไปประมูลใหม่ครั้งที่สองต้องโดนเพิ่มจำนวนปีหรือโดนปรับเพิ่มระดับทาสจะยิ่งแย่เอา เห็นหมอพฤกษ์เล่าว่าองค์กรค่อนข้างกังวลกับเราสองคน เพราะเห็นว่าเคยตั้งระดมเงินบริจาคในหมวดเอ็มโดยใช้คลิปของมุกเป็นของตอบแทน ต้องการยอดแค่ห้าหกหมื่นเอง ยังระดมทุนได้ไม่ครบเลย แล้วมุกกับมิลค์ก็รูปร่างหน้าตาคล้ายๆ กันด้วย เขาก็เลยไม่แน่ใจจนต้องหาทางช่วยนี่แหละ แต่เรื่องนี้พี่ก็แปลกใจนะ เราสองคนดูดีมากๆ ตั้งแต่ตอนก่อนทำแล้ว ทำไมถึงระดมทุนไม่ได้นะตอนนั้น”

นี่เป็นข้อมูลใหม่ที่ทำให้ทั้งคู่เสียความมั่นใจไปมากโข ทีแรกรู้สึกว่าไม่อยากให้เวลาประมูลมาถึงเลย แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าจากประมูลให้จบๆ ไปโดยเร็วคงดีกว่ามานั่งทรมานใจกับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้น

TBC

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ตอนนี้ได้ทราบข่าวคราวของธนัท ทาสคนแรกๆ ของเรื่องด้วย ชีวิตทาสก็น่าจะโอเคอยู่นะ ^^

ลายกราฟฟิกนั่นต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่าง ทำให้พวกทาสปลอดภัยรึเปล่า ตอนเด็กๆ ทำงานล้างรถขององค์กรก็มีสติ้กเกอร์แทตทูลายกราฟฟิกให้แปะก่อนทำงานด้วย

ออฟไลน์ Moko1212

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :z1:

ออฟไลน์ pakawatkheeta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :impress2: :impress2: :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด