Gay Taste รส(เกย์)ลองแล้วระวังติด 13-4-2018 ตอนที่34 PART2 P.31 [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Gay Taste รส(เกย์)ลองแล้วระวังติด 13-4-2018 ตอนที่34 PART2 P.31 [END]  (อ่าน 203009 ครั้ง)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: Gay Taste รส(เกย์)ลองแล้วระวังติด
«ตอบ #420 เมื่อ01-10-2015 15:03:03 »

รอตอนต่อไปจ้า~

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10

ออฟไลน์ ZaRa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
กรี๊ด~~~ แอบหวาน....

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
คีนฟ่า
เขินตัวแตก
 :o8: :-[ :impress2:

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
ขี้หึงกันทั้งคู่เลยอ่ะ น่ารักเนอะ อยากได้แฟนแบบคีนสักคน เมื่อไหร่จะครบ 6 เดือนน๊า
skip ข้ามไปหกเดือนเลยได้ไหม?? แมร่งรอไม่ไหวล่ะ

ออฟไลน์ missyaoi

  • INDY^^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-1



[15]


PART 2


((อะ. . .ไอ้บ้า พูดมาได้))  มันแหวผมลั่น ผมก็หัวเราะ ก่อนเราจะคุยกันเรื่อยๆ อีกสักพัก ไอ้ครีมเริ่มจะตาเขียว ส่วนมันเองก็ต้องไปทำงานต่อ เพราะไอ้กรมาตาม บอกว่าหมดโควตาพักแล้ว

“เดี๋ยวคืนนี้ค่อยสไกป์กัน”  ผมบอก พูดตรงๆ เลยคืออยากเห็นหน้ามัน ความจริงกะจะคุยสไกป์กับมันตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และตั้งใจว่าจะทุกคืนด้วย แต่เมื่อคืนดันทะเลาะกันซะก่อน ไม่เป็นไร งั้นเริ่มคืนนี้ก็ได้

((อยากเห็นหน้ากูหรอ คิดถึงกูสินะสินะ))  มันว่าเสียงล้อเลียน

“เออ”  ผมก็ตอบกลับไปทันทีเหมือนกัน มันเงียบเลย สงสัยจะเงิบ จากนั้นเราก็คุยกันอีกสองสามประโยคก่อนจะวางสายไป ผมก็ไปต่อยมวยกับไอ้พวกนี้อีกค่อนวัน ก็ไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านประจำที่ต้องมากินทุกทีเวลากลับบ้าน ส่วนครีมพอดังแล้วก็แยกวง เห็นว่าบ่ายนี้มีเรียนพิเศษ ก็เลยแยกไปก่อน

“น้องบ่าว หลบมาป่าไหน กินไหรๆ มื่อหนี่พิเศษเล้ย”  (น้องชาย กลับมาตอนไหน กินอะไรดี มื้อนี้พิเศษเลย)  พี่ดลเจ้าของร้านออกมาต้อนรับถึงหน้าร้านเลย มีการพูดภาษาใต้อันเป็นเอกลักษณ์ อย่างว่าลูกค้าประจำที่นานๆ ทีจะมากิน พี่แกเป็นหนุ่มใต้แท้ๆ ลูกชาวเล ผิวคล้ำ(แต่ไม่ดำ) ตาคม หน้าตานี่หล่อทีเดียว เรียนจบปริญญาโทมาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ แล้วมาเปิดร้านอาหารบริหารเอง ร้านแกไม่ได้กิ๊กก๊อกนะ ใหญ่เลยแหละ แล้วก็มีหลายสาขา หลายจังหวัด แต่แกจะอยู่สาขานี้มากกว่า

“เต็มเท่เล้ยพี่บ่าว เนือยมาก” (เต็มที่เลยพี่ชาย หิวมาก)  ไอ้แม็คก็ตอบรับเป็นภาษาถิ่นเดียวกับคนถาม พี่แกก็ยิ้มๆ พาไปนั่งที่ประจำ ไม่รู้แกจำได้ยังไง เพราะมากินเฉพาะช่วงปิดเทอม หลังจากนั้นก็สั่งอาหารกัน สั่งเหมือนกับว่าชาตินี้จะไม่ได้กินข้าวอีก

“หรอยเหมือนเดิมเล้ยพี่บ่าว” (อร่อยเหมือนเดิมเลยพี่ชาย)  ไอ้แบงค์ปากหวาน พร้อมยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างประกอบ พี่ดลแกยิ้มกว้าง บอกว่าอร่อยก็กินเยอะๆ มากินบ่อยๆ พวกผมก็รับคำ เพราะแถวนี้ร้านแกนี่ดังและขายดีมาก เพราะทั้งสะอาด ราคาไม่แพง และบรรยากาศดี อยู่ริมทะเล คนเยอะแต่ไม่วุ่นวาย

“หว่างๆ ม่าหล่าวนา โชคดี๋ๆ”  (ว่างๆ มาอีกนะ โชคดีๆ)  พี่ดลพูดตอนออกมาส่งพวกผมที่หน้าร้าน พวกผมไหว้ขอบคุณแกที่เลี้ยงมื้อนี้ รับปากแกว่าจะมาอีกบ่อยๆ แล้วออกมาจากร้าน

พอออกจากร้านพี่ดลพวกเราก็ไปเที่ยวกันรอบเมือง ไม่ขับรถนะครับ อาศัยรถตุ๊กๆ กินบรรยากาศและวิถีชีวิตที่นานๆ จะได้กลับมาสัมผัสสักที คนสงขลาน่ารัก มีแต่รอยยิ้ม เป็นเมืองที่สงบ เพราะความวุ่นวายจะไปอยู่ที่หาดใหญ่แทน หึหึ รถราก็มีไม่เยอะ ไม่ติดเหมือนในตัวเมืองจังหวัดอื่นๆ อยากชิลก็ไปเช่าเสื่อนั่งริมทะเล เพราะทะเลที่นี่มีที่ร่มค่อนข้างเยอะ คนมานั่งชิลก็เยอะ ร้านอาหารก็แยะ มีให้เลือกตามใจชอบ ตั้งแต่ที่เป็นแบบรถเข็นยันร้านใหญ่ๆ รสชาติค่อนข้างถูกปาก บรรยากาศก็สะอาดสะอ้านดี เหมาะกับการมาเที่ยวเป็นครอบครัว ชิลๆ

เที่ยวกันจนหมดเวลางานของพระอาทิตย์ พระจันทร์เข้าเวรแทน พวกเราสามคนก็ได้เวลาแยกย้ายกันไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะคืนนี้มีนัดกันไปท่องราตรี พวกเพื่อนๆ สมัยอนุบาล (คือได้เรียนด้วยกันแค่ช่วงอนุบาลเพราะพอขึ้นชั้นประถมพวกผมสามคนก็ต้องขึ้นไปเรียนกรุงเทพฯ) พอพวกมันรู้ว่าพวกผมกลับมาก็โทรหาไอ้แม็ค นัดกันเที่ยวเรียบร้อย ที่เที่ยวก็ไม่ใช่ที่ไหน ผับดังแถวนี้แหละ ขี้เกียจขับรถไกล

“ออกไปไหนมั้ยลูกคืนนี้”  กลับมาถึงบ้าน แม่ที่กำลังเล่นกับไอ้ข้าวเหนียวอยู่ที่ห้องรับแขกก็ทักขึ้น ผมยิ้มเข้าไปกอดท่าน ก่อนจะบอก

“ครับ นัดกับพวกไอ้ซันเอาไว้”  พวกไอ้ซันนี้ก็กลุ่มเพื่อนสมัยอนุบาลนี่แหละครับ ไอ้ซันเป็นหัวโจก เที่ยวโป้งเพื่อนเขาไปทั่ว ผมยังเคยโดนมันโป้งเลย แต่ผมไม่ง้อหรอก เพราะวันต่อมามันก็ลืมและเข้ามาเล่นกับผมเอง หึหึ

“ขับรถเองรึเปล่า”  แม่ถามอีก ผมรู้ว่าท่านเป็นห่วง คงกลัวว่าผมจะเมาแล้วขับรถ ซึ่งผมไม่เคยทำแบบนั้น ผมจะรู้ลิมิตตัวเองเสมอ ไม่ต้องการให้ทั้งตัวเองและคนอื่นเดือดร้อน

“ครับ”

“ระวังตัวเองนะลูก”  แม่เตือน ผมรับคำ หอมแก้มท่านทั้งสองข้าง แล้วขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวบนห้องของตัวเอง พอจัดการตัวเองเสร็จ ก็ส่งข้อความไปบอกไอ้ตัวดีเขาหน่อย โดยใช้โปรแกรมแชทสีเขียวชื่อดัง

ไปท่องราตรีแป็บบบบบ<<<

กดส่งไป แค่อึดใจเดียวก็ขึ้นว่าอีกฝ่ายอ่านข้อความเรียบร้อย หลังจากนั้นก็มีข้อความตอบกลับเข้ามา

>>>กูก็ไป คริคริ

ผมเลิกคิ้วกับข้อความของมัน แสดงว่าคืนนี้มันก็ออกเที่ยวเหมือนกัน

ไปกับใคร<<<

>>>ไอ้คิม ไอ้ออม ไอ้ไอซ์ ไอ้แม็กซ์ ไอ้มิกซ์

ถ้ามึงพูดว่าไปกับเพื่อนแก๊งค์มึง มึงก็ไม่ต้องพิมพ์ยาวแล้วฟ่าเอ๊ยยย ผมขำน้อยๆ ไม่เป็นไรแบบนี้กูชอบ ละเอียดดี หึหึ

ห้ามอ่อย<<<

>>>ห้ามสีชะนี

ผมหลุดหัวเราะออกมาทันทีที่อ่านข้อความที่มันส่งมา นึกแล้วส่งข้อความกลับไปกวนตีนมันดีกว่า หึหึ

สีเกย์ได้ใช่ป่ะ<<<

>>>(สติ๊กเกอร์กระต่ายโดนถีบ)

(สติกเกอร์กระต่ายหัวเราะ<<<
ใครถามเดี๋ยวบอกว่ามีแฟนแล้ว<<<

ผมตอบอย่างเอาใจ แต่ตั้งใจว่าจะทำจริง อยากเห็นหน้าชะมัดว่าตอนนี้มันยิ้มอยู่หรือเปล่า

>>>ดีมาก
>>>ขับรถระวังๆ ด้วย

ระวังตัวด้วย ห้ามให้ตัวเองโดนสี<<<

>>>รู้แล้วๆ
>>>(สติกเกอร์หมีเขิน)

ผมยิ้มกับตัวเอง แล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง ในชีวิตนี้ตั้งแต่เริ่มมีแฟนมาไม่เคยต้องทำอย่างนี้มาก่อน นึกจะไปไหนมาไหนก็ไป ไม่เคยต้องรายงานใคร ไม่เคยต้องบอกใคร แต่พอคบกับมัน มันก็ไม่ได้บอกหรอกนะว่าต้องทำ แต่ผมทำเอง ความรู้สึกของผมมันบอกว่าต้องทำ หึหึ เลี่ยนตัวเองฉิบหายกู

((อยู่ไหนวะ?))  ไอ้แม็คโทรมาถาม ปลายสายนี่เสียงดังมาก มันคงจะถึงที่นัดเรียบร้อยแล้ว

“อยู่ข้างหลังมึงไง”  ผมบอก แล้วใช้มือตบไหล่มันอย่างเบา แต่ทำไมมันทรุดวะ หึหึ

“ไอ้ห่าตบมาได้ แล้วมึงรับโทรศัพท์กูทำไมวะ เปลืองฉิบ”  มันโวยวาย

“ไอ้งก”  ผมว่ามัน  ก่อนจะถาม  “ไอ้แบงค์ล่ะ”  เพราะผมยังไม่เห็นเงาไอ้แบงค์เลย

“กูมาแล้ววววว”  ไอ้แบงค์ร้องเสียงมาก่อนตัว พอมันมาสมทบกันครบแล้ว พวกเราก็เข้าไปข้างในทันที ปรากฏว่าพวกไอ้ซันมากันครบแล้ว

“มาแล้วเว้ย เด็กเทพๆ”  ไอ้ซันร้องเรียก พวกมันชอบเรียกพวกผมสามคนแบบนี้ มันให้เหตุผลว่าไปอยู่กรุงเทพตั้งแต่เด็ก เก๋ไก๋ไฮโซ พวกผมก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา คัดค้านอะไรมันก็ไม่ฟัง

“หล่อกว่าเดิมอีกวุ้ย”  ไอ้เกน หนึ่งในกลุ่มเพื่อนสมัยอนุบาลร้องทัก เมื่อพวกผมนั่งลงให้พวกมันเห็นหน้าชัดๆ เรียบร้อยแล้ว

“แน่นอนดีดรีเดือนและเพื่อนเดือนมหาลัย”  ไอ้แม็คว่าอย่างอวดๆ มือก็ชงเหล้า งานถนัด

“เดือนมหาลัยนี่กูเข้าใจเว้ย แต่เพื่อนเดือนนี่เกี่ยวไรวะ”  ไอ้กรีน หนุ่มทันตะมหาลัยดังของจังหวัดพูดขึ้นบ้าง

“คนหน้าตาดีเขาก็มักจะเลือกคบคนหน้าตาดีด้วยกันไง เข้าใจยากตรงไหน”  ไอ้แม็คพูดอีก พวกไอ้ซันเบะปาก ส่วนผมก็ยกยิ้มเฉยๆ ไม่ได้ตอบอะไร แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน เพราะหลักฐานบนหน้ามันฟ้อง หึหึ

“มึงถามมันดิ มันอาจจะจำใจคบก็ได้”  ไอ้แกรนด์ว่าอีก ไอ้นี่ก็หนุ่มนิเทศ หล่อสมกับคณะที่มันเรียนนั่นแหละ

“มึงจำใจคบกูหรอไอ้คีน”  ไอ้แม็คก็บ้าจี้หันมาถามผมจริงๆ

“อืม”  รับแม่งเลย ไอ้แม็คอ้าปากค้าง

“ไม่จริง แม็คก็คิดนะ ว่าแม็คหล่อ ไม่จริงใช่มั้ยยยย”  มันทำท่ารับไม่ได้แบบโอเวอร์แอ็คติ้ง ฟูมฟายจนไอ้แบงค์รำคาญเอาแก้วเหล้ายัดปากมัน แต่มันก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไร ยิ้มรับบอกว่าไอ้แบงค์เป็นห่วงมัน ก็แล้วแต่มึงจะคิดแล้วกัน เอาที่มึงสบายใจ

“ไอ้ห่านั่นเป็นไร นั่งเงียบ”  ไอ้แบงค์ถาม พร้อมบุ้ยปากไปทางไอ้เจที่เอาแต่นั่งเงียบ ไม่พูดไม่จา

“เฮิร์ท”  ไอ้ซันกระซิบบอก

“เฮิร์ท?”  ไอ้แบงค์ทวน เพราะคนอย่างไอ้เจนี่ไม่น่าเฮิร์ทได้

“เออ เมียทิ้ง“  ไอ้ซันบอก ก่อนจะถามต่อ  “ว่าแต่พวกมึงมีเมียกันยังวะ?” 

“หึหึ”  พวกผมหัวเราะพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะไอ้ที่มานี่ มีแฟนเป็นผู้ชายทั้งสามคนเลย ทั้งผม ไอ้แบงค์ และไอ้แม็ค ถ้าบอกนี่พวกมันจะช็อคกันรึเปล่าวะ

“อ้าวห่านี่ ถามไม่ตอบ เสือกหัวเราะ”  ไอ้ซันโวย จนสุดท้ายพวกผมก็บอกไป แต่ผิดคาด ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่อึ้งเท่าไหร่ แค่พยักหน้าเออ-ออเหมือนเป็นเรื่องปกติ

“ไม่ตกใจ?”  ผมถาม

“ตกใจห่าไร สงสารมากกว่า”  ไอ้กรีนว่า

“สงสาร? สงสารใคร”  ไอ้แบงค์ถามอีก

“สงสารผู้หญิงดิ ผู้ชายหล่อๆ บนโลกนี้หายไปอีกสี่”  ไอ้ซันว่า

“สี่?”  พวกผมทวนคำงงๆ พวกกูมีแค่สามนี่หว่า

“เออ ไอ้สัดนั้นอีกคน”  ไอ้ซันบุ้ยปากไปทางไอ้เจ

“เฮิร์ท? เมีย? ผู้ชาย?”  ไอ้แม็คถามงงๆ

“เออ เพิ่งถูกเขาทิ้งมา”  ไอ้ซันบอกอีก

“ทำไมวะ?”  ไอ้แบงค์ถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะไอ้เจเนี่ยถือว่าเป็นผู้ชายเพอร์เฟ็คอีกคนหนึ่งก็ว่าได้ เรียนเก่ง บ้านรวย หน้าตาดี นิสัยก็ดี ไม่น่าจะโดนทิ้งง่ายๆ

“พ่อแม่มันไม่ยอมให้คบกันว่ะ ฝ่ายนู้นก็กลัวว่ามันจะเสียอนาคต เลยบอกเลิกแม่ง”  ห่า ดราม่าไปอีก นึกถึงครอบครัวตัวเองเลยทันที รู้สึกโชคดีมากที่แม่เป็นสาววาย พ่อกับพี่เคนก็เข้าใจและยอมรับได้ ไม่อย่างนั้นผมคงนึกไม่ออกว่าตัวเองควรจะทำยังไงถ้าต้องเจอกับสถานการณ์แบบที่ไอ้เจเจอ แต่ก็แอบหวั่นๆ กับฝั่งครอบครัวไอ้ฟ่านิดหน่อย ลูกเขาเคยเจ็บปวดมาขนาดนั้น ไม่รู้จะยอมรับผมได้เต็มร้อยหรือเปล่า

“กูอยากพยายามนะเว้ย แต่แม่งไม่ยอมสู้ไปกับกูเลย”  ไอ้เจที่เงียบมาตลอดพูดขึ้นในที่สุด พูดจบก็กระดกเพียวไปหมดแก้ว  “บอกแค่ว่าไม่อยากทำลายชีวิตกู ไม่อยากให้กูทะเลาะกับพ่อแม่ ทำไมไม่ถามกูสักคำว่ากูต้องการแบบไหน”  แล้วมันก็กระดกอีก ไอ้กรีนนี่เทกันไม่หวาดไม่ไหว สุดท้ายก็ยัดทั้งขวดใส่มือมัน

“เขารักมึงไง เลยต้องทำแบบนั้น เขาเองก็เจ็บไม่แพ้มึงหรอก”  ไอ้แกรนด์ปลอบ

“แล้วกูไม่เจ็บหรอวะ กูรักมันเหี้ยๆ ไม่เคยรักใครมาก่อน ทำไมๆ . . . ฮึก”  แล้วมันก็สะอื้นออกมา จนนัดสังสรรค์ของเพื่อนอนุบาล กลายเป็นนัดปลอบไอ้เจไปซะได้

ผ่านไปจนราวๆ ตีสอง ไอ้เจเมาแอ๋ ร้องเรียกแต่เมียมัน ส่วนคนอื่นๆ ก็กรึ่มๆ แต่ยังไหวกันอยู่ ก็เลยโทรตามให้เมียมันมาหา พอเขามาไอ้เจโผเข้าไปกอดเขาทั้งตัวร้องไห้เป็นเด็กๆ เมียมันก็ร้องไห้เงียบๆ ไม่สะอึกสะอื้น แววตาที่มองไอ้เจก็มีแต่ความเจ็บปวดความเศร้า แต่ที่ชัดที่สุดคงเป็นความรัก เล่นซะไอ้แม็คน้ำตาซึมไปด้วย ปลอบกันพักใหญ่เมียไอ้เจก็ขอตัวกลับ ตอนแรกไอ้เจจะไปด้วย แต่เมียมันแค่ส่ายหน้าเบาๆ ก้มลงไปจุ้บปากมัน บอกรักและฝากให้พวกผมดูแลมัน แล้วเดินออกไปทั้งน้ำตา ไอ้เจถึงกับทรุดลงตรงนั้น จนเพื่อนๆ ต้องพากันไปส่งที่บ้าน

พอไปส่งไอ้เจเสร็จโดยมีพ่อแม่มันรอรับอยู่หน้าบ้าน แววตาท่านทั้งสองที่มองไอ้เจก็มีแต่ความเจ็บปวดเหมือนกัน ผมว่าอีกไม่นานหรอก ไอ้เจอาจจะมีข่าวดีก็ได้ ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนทนเห็นลูกตัวเองเจ็บได้หรอก

ผมก็แยกกับไอ้พวกนั้นกลับบ้านตัวเอง พอขึ้นบนห้องได้ ก็อาบน้ำใส่ชุดนอน ไม่รู้ไอ้ฟ่ากลับมาหรือยัง ว่าแล้วก็ลองส่งข้อความไปหามันดู

กลับมารึยัง<<<
>>>รอจนจะหลับแล้ว
>>>เมารึเปล่า

เปล่า<<<
เปิดคอมดิ<<<

>>>(สติกเกอร์กระต่ายโอเค)

พอได้รับคำตอบตกลงแล้ว ผมก็จัดการเปิดโน๊ตบุ๊ค เปิดโปรแกรมสไกป์ทันที พอเปิดปุ๊บหน้าจอก็เด้งว่ามันโทรเข้ามา ผมกดรับทันที ภาพที่ปรากฏขึ้นมาทำเอาผมอยากจะว๊าบกลับไปกรุงเทพเดี๋ยวนี้ ก็ไอ้เสื้อเชิ้ตตัวเดียวแบบที่มันชอบใส่นั่นแหละ ไม่รู้จงใจหรืออะไร เพราะพอมันเห็นว่าผมมีปฏิกิริยามันก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที

“อ่อยกูหรอ”  ผมแซว

((แล้วไง? จะกลับมาหากูหรอ))  มันเลิกคิ้วถามกวนๆ

“ฝัน?”  ผมกวนตีน

((ชิส์ คอยดูถ้ากลับมากูจะเล่นตัวให้))  มันเบะปากใส่ผม จากนั้นเราก็คุยกันเรื่อยๆ มันก็เล่าว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง มันทำอะไรมาบ้าง ผมเองก็เหมือนกัน แอบอวดนิดหน่อยว่าได้ไปเที่ยวรอบเมืองมา มันก็ทำท่าอิจฉาใหญ่ ผมก็เลยเกทับมันว่าชวนมาแล้วไม่มาเอง มันก็กวนตีนว่ามันเที่ยวดื่มด่ำมลพิษที่กรุงเทพก็ได้ หึหึ แต่ที่พลาดไม่ได้ก็คือเรื่องไอ้เจ ผมก็เล่าไป ไอ้ตัวดีนี่ถึงขั้นน้ำตาซึม

((น่าสงสารจัง คนเขารักกันแท้ๆ))  มันพูด มือก็ปาดน้ำตาที่ซึมๆ ตรงหางตาไปด้วย

“อืม. . .แต่เดี๋ยวมันก็จะผ่านเรื่องนี้ไปได้เอง”  ผมบอก ออกแนวปลอบ ผมเชื่อว่ายังไงความรักที่มันสองคนที่มีให้กันจะช่วยให้เรื่องทุกอย่างดีขึ้น พ่อแม่ไอ้เจจะรับเรื่องนี้ได้เอง เพราะไม่มีพ่อแม่ที่ไหนทนเห็นลูกตัวเองต้องทนทุกข์ ต้องเจ็บปวดได้หรอก

((เรื่องของเราจะเป็นแบบนี้มั้ย))  มันพึมพำเบาๆ แต่ผมได้ยิน

“พ่อแม่มึงจะขัดขวางเรารึเปล่าล่ะ”  ผมถาม มันส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ  “ไม่ขัดขวาง?”  ผมถามอีก

((ไม่รู้))  มันว่าเสียงเบา ก้มหน้าลงจนแทบชิดอก มันบอกอีกว่าพ่อแม่รู้ว่ามันเป็นเกย์ ท่านทั้งสองก็รับได้ แต่ที่มันไม่แน่ใจก็คือท่านทั้งสองจะยอมรับผมได้หรือเปล่า ผมก็ฟังมันพูดไป คิดไปว่าก็ไม่แปลก ท่านเคยเห็นลูกตัวเองเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ท่านก็คงอยากจะเลือกคนที่ท่านมั่นใจที่สุด มาให้ดูแลลูกท่าน

“ฟ่า. . .อย่าเพิ่งคิดมากสิ เรื่องมันยังไม่เกิด”  ผมปลอบ ไม่รู้จะห้วนไปรึเปล่า แต่ผมปลอบคนได้แค่นี้จริงๆ ถ้าเป็นคำพูด แต่ถ้าเป็นปลอบโดยใช้สัมผัส (กอดครับกอด) ผมคิดว่าผมถนัดนะ

((นั่นสิ ช่างมันก่อน ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต เอ้อ มึงรู้มั้ยว่าวันนี้น่ะ. . .บลาๆๆๆ))  แล้วมันก็เล่าๆ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้อีก ผมก็ไม่อยากจะขัดหรอกนะว่าเมื่อกี้มึงเล่าไปแล้วรอบนึง ขอแค่มันลืมเรื่องที่กังวลเมื่อกี้ก็พอ

ผมก็ฟังมันเล่าไป ตอบรับมันบ้าง หัวเราะบ้างตอนที่มันเล่าเรื่องตลกๆ ตอบมันบ้างเวลาที่มันถาม มันก็พูดไปเรื่อย เจื้อยแจ้วไม่ได้หยุด

“ง่วงก็นอน ตาจะปิดอยู่แล้ว”  ผมพูดเมื่อเห็นว่ามันที่นอนเลื้อยอยู่บนเตียง ตาปรือจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ เสียงพูดก็เบาลง

((นอนไม่หลับ))  มันบอก แต่ตามึงนี่คือจะปิดอยู่แล้ว

“ร้องเพลง เล่นกีตาร์ให้ฟัง เอามั้ย?”  ผมเสนอ คือสงสารมัน ดูก็รู้ว่าง่วงมาก

((จริงนะ?))  มันลืมตาโพลง เด้งตัวขึ้นมานั่งอย่ารวดเร็ว ผมตอบรับก่อนจะไปหยิบกีตาร์ที่มุมห้อง กลับมาอีกทีก็เห็นมันขดตัวอยู่ในผ้าห่ม โดยวางโน๊ตบุ้คไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง แล้วมันก็นอนตะแคงหันหน้ามาทางกล้อง ทำให้ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองได้นั่งอยู่ข้างๆ มัน

“เพลงอะไรดี?”  ผมถาม มันทำท่าคิดแป็บนึงก่อนจะบอก

((แล้วแต่มึง))  อ้าว กูเห็นทำท่าคิด นึกว่าคิดได้ซะอีก ไง๊หวยออกมาว่าแล้วแต่กูวะ ผมขมวดคิ้วคิดเพลงที่จะเล่น แวบหนึ่งที่มองหน้ามัน ตัวโน้ตเพลงๆ หนึ่งก็ลอยเข้ามาในหัว ผมยิ้ม ก่อนจะค่อยๆ กรีดนิ้วไปที่สายกีตาร์เป็นท่วงทำนอง

หลับตาลงยังรู้สึก ท่ามกลางความอ้างว้างในหัวใจ. . .
ค่ำคืนยาวนาน กับความเดียวดาย และลมหายใจที่ว่างเปล่า

อยากให้เธอได้สัมผัส. . . กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ที่กล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป

ว่าทุกเวลา ที่เราห่างกันแสนไกล ยังมีอีกคำในหัวใจ
ที่จะบอกเธอ ให้เธอได้รู้และเข้าใจ. . .
ว่าคิดถึงเธอ เมื่อเราห่างกันแสนไกล มีคำหนึ่งคำจะพูดไป
ให้เธอได้รู้ จะแทนความหมายความห่วงใย ฉันคิดถึงเธอ. . .

อยากให้เธอได้สัมผัส กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ที่กล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป

อยากให้เธอได้สัมผัส กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ที่กล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป

ว่าทุกเวลา ที่เราห่างกันแสนไกล ยังมีอีกคำในหัวใจ
ที่จะบอกเธอ ให้เธอได้รู้และเข้าใจ
ว่าคิดถึงเธอ เมื่อเราห่างกันแสนไกล มีคำหนึ่งคำจะพูดไป. . .
ให้เธอได้รู้ จะแทนความหมายความห่วงใย ฉันคิดถึงเธอ

ก็ฉันมีเพียงเธอ. . .


คิดถึง. . . by พีซเมกเกอร์
Cr. Siamzone.com


TBC.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-10-2017 13:30:28 โดย missyaoi »

ออฟไลน์ missyaoi

  • INDY^^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-1
พยายามขะทำแล้วค่ะ ทำมาครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังใส่สีที่เนื้อเรื่องของพี่คีนไม่ได้อยู่ดี เมื่อเช้าจะเข้ามาอัพก็ล็อคอินไม่ได้ ขอโทษนะคะ อ่านพาร์ทพี่คีนที่เป็นตัวอักษรสีดำไปก่อนละกันเนอะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
คีนฟ่าเขาร้องเพลงกล่อมกันเข้านอนด้วย  :m1:
เอาใจช่วยเจอีกแรง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
พี่คีนมันดีอ่ะ  หวานเว่อร์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
จะหวานกันเกินไปแล้วนะ

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
เขินนน -//-
คู่นี้น่ารักมากๆ
เอาใจช่วยเจด้วยจ้า

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
สวีดวีดวิ้ววววว ><

ออฟไลน์ ZaRa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ชอบตอนจะทำไรต้องรายงานเมียนี่ล่ะ ดีงาม ให้มันได้อย่างนี้

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
โอเคค่ะ ไม่เป็นไร รอได้เสมอแหละ คิคิ
หวานๆแบบนี้น่ารักอ่ะ ชอบ
ปล.แบงค์โม หายไปเลยเนอะ เราอยากรู้ว่าแบงค์จะจัดการซ่ายังไง(ยังไม่ลืมน๊า อิอิ)

ออฟไลน์ ZaRa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ดันๆๆๆ ชอบเรื่องนี้ อิอิ

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มาให้กำลังใจจ้า

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
รอน่ะจ้ะ อยากอ่านต่อแล้ว  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ missyaoi

  • INDY^^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-1
มาวันนี้นะคะ รอแป็บนึง คริคริ กำลังปั่นอยู่ อีกนิ๊สสสสสสสสส  :z13: :z13:

ออฟไลน์ missyaoi

  • INDY^^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-1



[16]


PART 1


“หืม? มีอะไรดีๆ รึเปล่านี่ลูกแม่ หน้าตาเปล่งปลั่งมาเชียว”  ผมยิ้มรับให้กับคำแซวของแม่ เข้าไปกอด หอมแก้มท่านทั้งสองข้าง ก่อนจะทำแบบเดียวกันกับพ่อที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ แล้วก็ไปนั่งที่ตัวเอง

“ใช่ พ่อเห็นนะว่าเมื่อคืนกลับดึก ไม่เห็นเพลียหรือว่าแฮงค์อะไร”  พ่อพูดยิ้มๆ

“ก็. . .ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อ. . .แม่ ฟ่าก็แค่หลับเต็มอิ่มแค่นั้นเอง”  ผมบอกเสียงอ้อมแอ้ม กลั้นยิ้ม โธ่ แล้วจะให้ผมบอกยังไงล่ะ ว่ามีคนร้องเพลงเล่นกีตาร์เพราะๆ ให้ฟังจนหลับ แถมเนื้อเพลงมันช่าง. . . คิดถึงแล้วก็ต้องกัดปากกลั้นยิ้มจนน่ากลัวปากจะแตก แต่มันไม่อยากยิ้มออกมาไง เดี๋ยวจะเหมือนคนบ้า เพราะมันไม่สามารถหุบได้ คึคึ

วันนี้อารมณ์ดีเป็นพิเศษมาตั้งแต่ตื่นนอนแล้วนั่นแหละ เพราะตื่นมาก็นึกว่าสไกป์ถูกปิดแล้ว ที่ไหนได้ โปรแกรมยังถูกเปิดอยู่เหมือนเดิม แถมไอ้คีนมันยังถือกีตาร์พิงหัวเตียงหลับท่าทางน่าสงสารว่าจะปวดเมื่อย ผมก็เลยโทรไปปลุกให้มันนอนดีๆ มันก็รับสายงัวเงีย คุยกับผมทั้งๆ ที่ยังตื่นไม่เต็มตา ปิดคอมแบบงงๆ ผมทั้งขำทั้งสงสาร อยากจะแซวให้อาย แต่เก็บไว้ก่อน ไว้ไปแซวต่อหน้าดีกว่า ถ่ายรูปเก็บไว้เพียบ หึหึ

“นั่นแน่ะ นั่งกลั้นยิ้ม อมยิ้มอยู่นั่นแหละ ข้าวต้มตรงหน้านี่เย็นหมดแล้วมั้งลูก”  แม่พูดยิ้มๆ ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ ให้ท่าน เหลือบไปมองพ่อก็เห็นว่าท่านมองมาอยู่เหมือนกัน ผมก็เลยส่งยิ้มหวานไปให้ แล้วรีบเอาข้าวต้มเข้าปากทันที

“ร้อนๆ!! ร้อนๆ อ๊ากกก”  ด้วยความที่รีบจัด ข้าวต้มยังไม่ทันจะได้เป่า เลยโดนลวกเข้าให้

“อ้าวฟ่า ซุ่มซ่ามจริงๆ เลยลูก ข้าวต้มมันร้อนทำไมไม่เป่า”  แม่พูดบ่นพร้อมส่งน้ำมาให้ ผมรับมาดื่มทันที อ๊ากกก ค่อยยังชั่วหน่อย ก็เมื่อกี้แม่บอกว่ามันเย็นอ่ะ T____T

“แล้ววันนี้ไปมอรึเปล่าลูก”  พ่อละสายตาจากหนังสือพิมพ์ จิบกาแฟแล้วถามผม ผมพยักหน้า

“ไปครับ อีกไม่กี่วันก็เสร็จแล้ว”  วันนี้เตรียมงานเป็นวันที่สี่แล้ว งานก็เสร็จไปตามเป้า ไม่ล่าช้าแต่อย่างใด เพราะว่าทุกคนตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ ไม่มีอิดไม่มีออด นอกจากพี่นัทที่มาสร้างความรำคาญให้ผมเป็นครั้งคราว (โดยมีพี่กรและภรรเมียคอยกันท่าทุกครั้งทุกคราว)  ทุกอย่างก็ถือว่าดีมาก ไม่มีสะดุด

พอพวกเราสามแม่ลูกกินข้าวเช้ากันเสร็จเรียบร้อย พ่อกับแม่ก็ออกไปทำงาน โดยไปส่งผมที่มอก่อน กะว่าเย็นนี้จะใช้บริการไอ้คิมให้มาส่งที่บ้าน เพราะขี้เกียจขับรถเอง คริคริ


>>>>><<<<<


“ยิ้มน้อย”  ไอ้คิม

“ยิ้มใหญ่”  อีออม

“เล่ามา!!”  แล้วสุดท้ายไอ้คิมกับอีออมก็พูดออกมาพร้อมกัน ไม่สิ จะบอกว่าพูดคงไม่ถูก เรียกว่าคาดคั้นดีกว่า ทั้งเสียงทั้งสายตา แต่ผมรู้ว่าพวกมันแกล้งทำไปงั้นแหละ บางเรื่องถ้าผมไม่เล่า พวกมันจะเงียบแล้วแค่รอเวลาที่ผมจะเล่าออกมาเอง

“เปล๊า”  ผมปฏิเสธเสียงสูง ยักไหล่ แล้วแกล้งลอยหน้าลอยตาทำงานต่อ ไม่สนใจพวกมัน

“อีหอยหลอด ทำเป็นเก็บทำเป็นเงียบ พอดีกับแฟนแล้วลอยหน้าลอยตา น่าหมั่นไส้”  ไอ้คิมว่าด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าหมั่นไส้ที่สุดในสามโลก แต่ผมไม่แคร์และไม่เล่า (เก็บไว้ฟินคนเดียว ฮ่าๆ)

“น้องฟ่าครับ”  มาอีกแล้วเจ้าเดิม ผมทำหน้าเอือม ก่อนจะหันไปหาพี่แกอย่างเสียไม่ได้

“ว่าไงครับพี่นัท”  ผมถามเสียงเรียบ

“พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”  พี่นัทก็บอกเสียงจริงจัง ผมขมวดคิ้ว หันไปหาไอ้คิมกับอีออมอย่างขอคำปรึกษา พวกมันสองคนยักไหล่แบบ ‘พวกกูไม่รู้ แล้วแต่มึง’  ผมหันกลับมาหาพี่นัท ถอนหายใจเฮือกใหญ่ และกำลังจะพูดบางอย่าง ถ้าไม่ติดว่า. . .

“ไอ้นัทมาพอดีเลย กูมีงานจะให้มึงช่วย”  พี่กรที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนได้ทันเวลาตลอด เข้ามาขัด พี่นัททำหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เห็นแบบนี้แล้วทำให้ผมตัดสินใจได้ในทันที

“พี่กร ผมขอเวลาพี่นัทสักแป็บได้มั้ยครับ”  ผมถาม พี่กรทำหน้าตกใจก่อนจะพูด

“ฟ่า แต่ไอ้. . .”  พี่กรกำลังจะพูดถึงไอ้คีน แต่ผมขัดขึ้นมาซะก่อน

“นะครับ. . .แค่แป็บเดียว”  ผมยืนยัน พี่กรทำหน้าลำบากใจ มองหน้าผมสักพัก ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ อย่างจำยอม

“แค่แป็บเดียวนะฟ่า. . .ไอ้นัทเสร็จแล้วก็รีบตามกูไปทำงานด้วย”  พี่กรย้ำ ก่อนจะเดินหันหลังกลับไปที่พี่ปีสามคนอื่นๆ พี่เท็นก็อยู่ตรงนั้นด้วย ทั้งสองคนหันมามองผมอย่างเป็นห่วง ผมยิ้มส่งกลับไปให้พี่แกสบายใจ ก่อนจะเดินนำพี่นัทออกมาจากตรงนั้น แค่ใต้ต้นไม่ใกล้ตึกคณะ ไม่ไกลหูไกลตาคนอื่นสักเท่าไหร่

“พี่นัทมีอะไรจะคุยกับผมครับ”  ผมถามอย่างไว้เชิง คำพูดคำจาก็รักษาระยะห่าง ไม่ให้ดูสนิทกันจนเกินไป ให้ตำแหน่งแค่รุ่นพี่ร่วมคณะ

“น้องฟ่า. . .รู้ใช่มั้ยว่าพี่คิดยังไงกับเรา”  พี่นัทถาม พี่แกมองหน้ามองตาผมตลอด ผมเองก็มองกลับไป เพราะผมไม่เห็นว่าจะมีความจำเป็นอะไรที่ผมต้องหลบตาเขา

“ครับ”  ผมรับคำ ก่อนจะพูดต่อ  “แต่ผมมีแฟนแล้ว”  พี่นัททำหน้าเศร้า ผมเห็นก็แอบสงสารนิดหน่อย แต่ไม่หวั่นไหว

“พี่รู้”  พี่นัทก้มหน้าลง เงียบอยู่อย่างนั้นสักพัก ผมเองก็ได้พูดอะไร จนพี่นัทนั่นแหละที่เงยหน้ามาพูดกับผมก่อน  “พี่ไม่ได้อยากจะแย่งน้องฟ่ามาจากแฟนน้องฟ่าหรอก. . .แค่อยากจะบอกเท่านั้นเอง”

“ครับ ถ้าแค่อยากจะบอก ผมก็รู้แล้ว ขอโทษนะครับที่ไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของพี่ได้”  ผมพูดเสียงเรียบ อาจจะดูเย็นชา แต่นี่คือตัวตนของผมที่ผมจะแสดงให้คนที่ผมต้องการรักษาระยะห่างได้เห็น

“แค่พี่น้อง. . .ก็ไม่ได้หรอ”  พี่นัทพูดเสียงเศร้าพร้อมกับเอื้อมมือมาจับมือผมไว้ทั้งสองข้าง แต่ผมก็ดึงออกมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน แววตาที่มองผมก็ช่างอ้อนวอนและเจ็บปวดเหลือเกิน จะบอกว่าผมใจร้ายก็ได้นะ แต่ผมไม่อยากสร้างปัญหาให้ตัวเอง

“แค่รุ่นพี่ก็พอครับ”  ผมพูดแค่นั้นก็เดินออกมาทันที โดยไม่หันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังอีก. . .

“คุยอะไรกันวะ น๊านนนน-นาน”  ไอ้คิมที่กำลังนั่งตัดกระดาษอยู่เงยหน้าพูดกับผม ผมนั่งลงข้างมัน ก่อนจะหยิบกรรไกรมาตัดกระดาษบ้าง

“เขามาบอกว่าชอบ”  ผมบอก

“กูว่าแล้วววววว มึงเห็นมั้ยอีออม”  ไอ้คิมตบตักตัวเองเบาๆ ก่อนจะไปยักคิ้วใส่อีออม

“แล้วกูเถียงมึงสักคำยัง”  อีออมว่ากลับมา ก่อนจะหันมาหาผม  “แล้วมึงปฏิเสธ?”

“เออดิ ให้กูตกลงหรอ”  ผมกวนตีนกลับ การมีกิ๊ก มีเล็ก ซุกน้อย มันไม่ใช่สไตล์การดำรงชีวิตของผม แบบนั้นมันดูมักง่าย และโคตรไม่ให้เกียรติคนที่เราคบอยู่ด้วย

“แล้วเขาก็ขอมึงเป็นพี่น้อง?”  ไอ้คิมถาม ผมหันไปทำตาโตใส่มัน แม่ง นี่มึงล่องหนไปอยู่ในเหตุการณ์รึไงวะ  “ไม่ต้องงง มันก็แค่ตามสเต็ปคนที่โดนปฏิเสธ”  ไอ้คิมว่าท่าทางสบายๆ ผมกับอีออมพยักหน้าหงึกหงัก

“แล้วมึงตอบว่า?”  อีออมเลิกคิ้วถามเสียงสูง

“ไม่”  ผมตอบกลับ มันสองคนตาโตทันที

“แค่พี่น้องก็ไม่ได้?”  ไอ้คิมถามอีก

“เออ กูไม่อยากมีปัญหาทีหลัง ไอ้คีนไม่ชอบหน้าพี่เขา พวกมึงก็รู้”  ผมก็บอกพวกมันไปตรงๆ เอาจริงๆ คนที่ผมควรจะแคร์ความรู้สึกที่สุดก็คือไอ้คีนที่เป็นแฟนผม ถ้าผมมัวแต่สงสารพี่นัท ยอมรับสถานะพี่น้องทั้งๆ ที่แฟนผมไม่ชอบหน้าเขา แล้วไอ้คีนต้องมาเสียความรู้สึกทีหลัง ผมไม่ต้องการแบบนั้น

“มึงมันไอ้คนโหดร้าย”  มันสองคนชม ผมก็ไม่แคร์ ยักไหล่นิดๆ แล้วทำงานของตัวเองต่อ


>>>>><<<<<


Rrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงทำให้ผมที่กำลังจะขึ้นรถของไอ้คิมเพื่อออกไปกินข้าวเที่ยงนอกมอหยุดเดิน ล้วงมือหยิบเครื่องมือสื่อสารรุ่นสมัยนิยมออกมาดูชื่อคนโทร มุมปากกระตุกยิ้มอัตโนมัติเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรมา

((มึงอยู่ไหน))  เสียงไอ้คีนถามมาตามสายทั้งๆ ที่ผมเพิ่งกดรับ ยังไม่ทันที่จะฮัลโหลเทสต์กันเลยด้วยซ้ำ ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย แบบนี้ต้องมีอะไรผิดปกติแน่

“กำลังจะขึ้นรถไอ้คิมไปกินข้าว”  ผมก็บอกไปตามความจริงพร้อมกับก้าวขึ้นรถที่เบาะหลังด้วย เพราะเบาะหน้าข้างคนขับอีออมจองไว้

((จริงรึเปล่า?))  ผมขมวดคิ้วมุ่น รอยยิ้มหายไปทันทีที่ได้ยินคำถามแบบนี้มาจากปากมัน ไอ้คิมกับอีออมเลิกคิ้วถามประมาณว่าเกิดอะไรขึ้น ผมโบกมือกลับไป กูเองก็ยังไม่รู้เรื่องเลยเนี่ย

“ถามแบบนี้หมายความว่าไง”  ผมถามเสียงแข็ง

((เฮ้อ เดี๋ยวกูส่งอะไรให้ดู))  มันบอกแค่นั้น สักพักโทรศัพท์ผมก็เตือนว่ามีรูปภาพถูกส่งเข้ามา ผมเบิกตากว้างเมื่อเห็น รีบแนบโทรศัพท์กับหูทันที มันคือรูปที่พี่นัทจับมือผมใต้ต้นไม้ตอนนั้น คนถ่ายก็เก่งซะเหลือเกิน เขาจับยังไม่ถึงสองวิมั้ง จับภาพทันอีก

“คีนคือกู. . .”  ผมรีบจะอธิบาย เพราะกลัวว่ามันจะเข้าใจอะไรผิด

((เดี๋ยวๆ กูไม่ได้จะโวยวายหรือโกรธอะไรมึง กูไว้ใจมึงแต่ที่กูต้องการรู้ก็คือมันเข้ามายุ่งอะไรกับมึง แล้วคนที่ส่งรูปมาต้องการอะไร))  พอมันพูดแบบนั้นผมก็ยิ้มออกอีกครั้ง แสดงว่าประสบการณ์ทะเลาะครั้งที่แล้วของเราคงจะสอนอะไรเราได้บ้าง ผมเลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าให้มันฟัง

“. . .ใครเป็นคนส่งรูปนั้นให้มึงวะ?”  ผมถามอย่างคิดไม่ตก คือผมคิดไม่ออกจริงๆ ว่าเป็นใคร แล้วเขาต้องการอะไร จะว่าเป็นพี่นัทก็คงไม่ได้เพราะเขาอยู่กับผมตลอดเวลา

((ไม่รู้ว่ะ พอกูโทรกลับไปก็โทรไม่ติดแล้ว))  มันบอก ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ มีเรื่องเข้ามาไม่เว้นแต่ละวันจริงๆ

“มึงโกรธกูรึเปล่า”  ผมถาม

((เรื่องอะไร?))  มันถามกลับมาเสียงปกติ ไม่ได้มีน้ำเสียงว่าจะโกรธหรืออะไร แต่ผมก็แอบหวั่นๆ อยู่นิดหน่อย

“ก็เรื่อง. . .ที่กูไปคุยกับเขา”  ผมบอกเสียงอ้อมแอ้ม

((หึหึ มึงทำอะไรให้ต้องโกรธล่ะ เท่าที่กูฟังมึงเล่ามากูก็ไม่เห็นว่ามีอะไรตรงไหนน่าโกรธ. . .หรือว่ามีอะไรที่มากกว่านั้น. . .))  มันพูดขึ้นมาน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

“มึงแม่ง” 

((หึหึ อะไร กูทำอะไร))

“กูก็นึกว่ามึงจะโกรธ”  ผมพูดเบาๆ ไม่ใช่อะไร เดี๋ยวอีพวกสองตัวนี้จะแซวเอาได้

((ยอมรับว่าแวบแรกที่เห็นก็โกรธ. . .))  อ้าวไอ้เชี่ย  ((. . .แต่พอมาคิดๆ ดูแล้ว คนที่ส่งมาอาจจะไม่หวังดี ก็เลยถามมึงให้รู้เรื่องก่อนดีกว่า ไม่อยากหูเบาโวยวายแล้วทำให้เราต้องทะเลาะกันอีก))  ผมยิ้ม. . .ผมยิ้มจริงๆ นะ ยิ้มกว้างอย่างไม่คิดจะเก็บหรือกลั้นไว้ด้วย รู้สึกดีที่ได้ยินแบบนี้ ผมดีใจที่ไม่ใช่ผมคนเดียวที่ไม่อยากให้เราทะเลาะกัน. . .
((ยิ้มอยู่ล่ะสิ))  เสียงมันล้อมาตามสายเมื่อผมเงียบไม่ได้ตอบอะไรมัน ห่านี่รู้ได้ไงวะ เลี้ยงกุมารไง๊

“บ้าหรอ อย่ามโนดิ”  ผมว่า

((หึหึ เอาเถอะ กูมโนก็ได้))

“ดีมาก”  ผมชมเมื่อเห็นว่ามันยอมง่ายๆ

((พี่คีนๆ คุยกับแฟนหรอ อยากคุยด้วย!!))  เสียงผู้หญิงที่ตะโกนมาตามสายทำให้ผมนึกถึงเรื่องที่หน้าแตกวันนั้น ก็ผมจำได้น่ะสิว่าเสียงนี้น่ะเสียงผู้หญิงคนเดิมนั่นแหละ รู้สึกว่าจะเป็นน้องมันมั้ง วันนั้นโคตรอายเลยเหอะ แต่ผมไม่ผิดนะ ถ้าใครมาได้ยินแบบผมก็ต้องเข้าใจผิดกันทั้งนั้นแหละ
((เออ. . .จะคุยทำไม ไม่ให้คุย))  มันก็ตอบน้องมันกลับไป แล้วผมก็ได้ยินเสียงโวยวายคล้ายคนกำลังแย่งอะไรกันสักอย่าง จนในที่สุดเสียงนั้นก็เงียบไป และมีปลายสายคนใหม่พูดทักทายผม
((สวัสดีค่ะ พี่เป็นแฟนพี่คีนหรอ หนูชื่อครีมนะ เป็นน้องพี่คีน คึคึ แฟนพี่คีนชื่ออะไรเอ่ย))  น้องพูดถามออกมาเป็นชุด เสียงน่ารักมาก คงจะหน้าตาน่ารัก อายุไม่น่าจะเกินสิบห้า-สิบหกมั้ง

“ครับ พี่ชื่อฟีฟ่า ยินดีที่ได้รู้จักน้องครีมครับ”  ผมตอบน้องกลับไปบ้าง

((คึคึ พี่เสียงน่ารักจริง ตัวจริงพี่น่ารักมั้ยคะ))

“หึหึ ไม่รู้สิครับ ไม่น่ารักมั้ง”  ผมตอบอย่างถ่อมตัว ก่อนจะได้ยินไอ้คีนเรียกน้องไปดูอะไรสักอย่าง

((พี่ฟีฟ่าโกหก ไม่น่ารักอะไรกันล่ะคะ ครีมดูรูปที่พี่คีนให้ดู พี่ฟีฟ่าน่ารักมากกกกกกก ก.ไก่ ล้านตัวเลย))  น้องบอกเสียงสดใส ผมรู้สึกเขินนิดหน่อยแฮะ แบบว่าไม่ค่อยมีผู้หญิงมาชมไง (ส่วนมากมีแต่ผู้ชาย คริคริ)

“หรอครับ น้องครีมว่างั้นหรอ”

((ค่ะ พี่ฟีฟ่าน่ารักมาก บลาๆ. . .))  แล้วการสนทนาก็ผูกขาดอยู่ที่ผมกับน้องครีม น้องก็เล่าไปเรื่อย เผาไอ้คีนบ้างบางที เล่าเรื่องเกี่ยวกับจังหวัดตัวเองบ้าง เล่าเรื่องพ่อแม่กับพี่ชายไอ้คีนบ้าง ผมก็ฟังไปด้วยตอบรับน้องไปด้วย จนตอนนี้เราสนิทกันมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้ากันด้วยซ้ำ

ผมกับน้องก็คุยกันเรื่อยๆ จนไอ้คิมจอดรถ เพราะว่าถึงร้านอาหารที่จะกินแล้ว

“น้องครีมครับ พี่ต้องวางแล้วนะ ถึงร้านแล้ว”  ผมบอกน้อง เพราะก่อนหน้านี้ผมบอกไปแล้วว่ากำลังจะไปกินข้าว

((รับทราบค่ะ พี่ฟีฟ่ารีบมาหาครีมกับคุณลุงคุณป้านะคะ ครีมอยากเจอ)) 

“ครับผม พี่ไปแน่นอน”  ผมรับปาก

((ถึงร้านแล้วหรอ))  เสียงปลายสายถูกเปลี่ยนเป็นไอ้คีนแล้ว พร้อมๆ กับที่ผมลงจากรถเดินตามไอ้คิมเข้าร้านอาหาร

“ถึงแล้ว ต้องวางแล้วเนี่ย” 

((เซ็งไอ้เด็กแสบนั่น เลยได้คุยกันนิดเดียว))  มันว่าเสียงงอแง

“หึหึ เอาน่า สไกป์กันคืนนี้นะ”  ผมบอกอย่างเอาใจ

((อืม ถ้าว่างก็โทรมา))

“แล้วมึงจะว่างคุยกับกูหรอ”  ผมแกล้งพูด

((ไม่ว่างกูก็จะคุย))

“ไอ้บ้า”

((หึหึ รีบไปกินข้าวเถอะ))

“โอเค มึงวางสิ”  ผมบอก อยู่ๆ ก็รู้สึกไม่อยากวางสายก่อน

((แล้วทำไมมึงไม่วางล่ะ))

“ก็รอมึงวางก่อน”  ผมเถียง

((มึงก็วางก่อนสิ))  มันเองก็สู้

“มึงวางสิ”  ผมยังไม่ยอม

((งั้นเอางี้ วางพร้อมกัน นับสามนะ))  มันเสนอ ซึ่งผมก็เห็นด้วย ตอบรับทันที

((“สาม. . .”))  เราสองคนนับพร้อมกัน นิ้วโป้งผมตอนนี้เตรียมพร้อมที่สัญลักษณ์โทรศัพท์สีแดง(ปุ่มวาง) เรียบร้อยแล้ว

((“สอง. . .”))

((“หนึ่ง. . .”))

ติ๊ด

สิ้นสุดเสียงนับหนึ่ง ผมก็กดวางสายทันที หึหึ ตลกตัวเองชะมัด เล่นอะไรกันก็ไม่รู้

“กูนึกว่าจะไม่ได้กินข้าวแล้วซะอีกวันนี้”  ไอ้คิมพูดล้อ ผมก็ไม่ตอบโต้อะไรนอกจากยักไหล่เบาๆ

หึหึ. . .


TBC.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-10-2017 13:34:12 โดย missyaoi »

ออฟไลน์ patchamai28

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ชอบเรื่องนี้มากเลย
นักเขียนก็น่ารักมาต่อให้เร็วมาก
รอพาร์ทต่อไปน้า o13

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
น่ารำคาญพวกมือที่สาม.  ชอบหาเรื่องยุให้แตกแยก. ดีที่ไม่เข้าใจผิดกัน.

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ดีนะที่พี่คีนหนักแน่นไม่เชื่อพวกยุแยงตะแคงรั่วหวังสร้างความร้าวฉาน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เอิ่ม.....(ยกมือถาม)   จะมีฉากที่เสม็ดเสร็จ(อีกที) หรือเปล่าคะ?  :impress2:

ใครวะ ชอบจังเลยนะยุแยงตะแคงรั่วนี้     เพื่อนนัทหรือเปล่า?   สร้างสถาณการณ์เพื่อให้คู่นี้ผิดใจกันหรือเปล่า?

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
5555  ขนาดตัวจริงยังไม่ตามไปน้องสาวพี่คีนก็ดูท่าว่าจะหลงและหนุนหลังพี่สะใภ้คนนี้สุดๆอ่ะ


ขออ่านเรื่องพี่แบงค์  อิอิ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
น่ารักจริง ๆ เลยคู่นี้น่ะ มุ้งมิ้งกันดีจริง ๆ เมื่อไหร่จะกลับมาเจอกันล่ะเนี่ย  :impress3:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไปจ้า~

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
แบงค์กับคีนกลับกรุงเทพคราวนี้คงจะมีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้น คิคิ
รักกันก็ต้องเชื่อใจกันแบบนี้สิ จะได้อยู่ด้วยกันไปนานๆ
แมร่งโคตรเกลียดฉิบหายเลย ไอ้พวกที่ชอบหาเรื่องทำให้ครอบครัวคนอื่นเค้าแตกแยกเนี่ย มันน่าจะโดนมิใช่น้อย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด