:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 886840 ครั้ง)

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 50% :01.11.60:
«ตอบ #1980 เมื่อ01-11-2017 22:03:32 »

อีผีฌอนมาแล้ว โอ้ยย คราวนี้มันจะทำอะไรอีกมั้ย กลัวแทน

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 50% :01.11.60:
«ตอบ #1981 เมื่อ01-11-2017 22:15:11 »

ไอ้ฌอนโผล่มาอีกแล้วววว

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 50% :01.11.60:
«ตอบ #1982 เมื่อ01-11-2017 22:17:34 »

ค้างๆๆๆ ตอนตัวร้ายโผล่มาพอดี ออสตินจะมาช่วยทันมั่ยนี่ อียักษ์อาละวาดอีกแน่
เพิ่งจะหวานกันแท้ๆเชียว

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 50% :01.11.60:
«ตอบ #1983 เมื่อ01-11-2017 23:29:03 »

โอ้ย อิผีปลาช่อนมันมาแล้ว มันสะกดรอยตามแมทมาด้วยรึป่าว ออสตินจะมาช่วยทันไหมเนี่ย  :katai1:

ออฟไลน์ o4u0n7

  • mgAmuptUF
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • secret ladies online
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 50% :01.11.60:
«ตอบ #1984 เมื่อ02-11-2017 13:58:56 »

 :katai1: มาวางระเบิด แล้วเดินกลับไปนั่งรอสวยๆ รอกดรีโมท ...คนเราาาาาาาา  :ruready

ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 50% :01.11.60:
«ตอบ #1985 เมื่อ02-11-2017 14:10:50 »

จะหวานกันง่ายๆได้ไง มันต้องมีอุปสรรคหน่อย

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 100% :07.11.60:
«ตอบ #1986 เมื่อ07-11-2017 00:52:26 »



Yours and Mine EP.13  [100%]




ผมรู้สึกว่าลำคอตัวเองแห้ง ดวงตาสีเขียวอมน้ำตาลของฌอนมองผมอย่างสงสัย ผมสีแดงของเขาตัดสั้นกุด ใบหน้าของเขาดูเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน ผมจำสภาพเขาก่อนหน้านี้ไม่ได้แล้ว นอกจากความดุร้ายในดวงตาเวลาที่จ้องมอง และความป่าเถื่อนตอนที่ทำร้ายร่างกายผม พอนึกได้แบบนั้นผมก็ตัวสั่นน้อยๆ มองเขาด้วยความหวาดกลัว

           

 

“กลัวฉันเหรอ” เขาถามด้วยท่าทีตื่นกลัว ก่อนจะขยับถอยหลังไปหนึ่งก้าว นั่นทำให้ผมเผลอสะดุ้ง ก่อนจะย่นคิ้วมองเขาด้วยความสับสนเล็กๆ ที่เริ่มเกิดขึ้นในหัว

           

 

“ฉันขอโทษที ถ้าทำให้นายกลัว แต่…” เขาขมวดคิ้ว ท่าทางกำลังนึกตรึกตรอง

           

 

“…ฉันรู้สึกคุ้นหน้านาย คุ้นว่าน่าจะรู้จักนายน่ะ เลยจะเข้ามาทักทาย” ผมคลายคิ้วออก เปลือกตาขยับกว้างขึ้นอีกนิด มองฌอณด้วยความรู้สึกตกใจเล็กๆ

           

 

“คุณ…” ผมกลืนน้ำลายลงคอเพื่อให้อาการคอแห้งดีขึ้น “…คุณชื่ออะไร”

           

 

เขายิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ผมจะไม่มีทางได้เห็นตอนก่อนหน้านี้เด็ดขาด “ฉันชื่อฌอณ”

           

 

คิ้วผมกลับมาขมวดอีกครั้ง และมองเขาด้วยความหวาดระแวงและระวังตัว เขาก็รู้ชื่อเขานี่ แต่ทำไมทีท่าของเขาถึงเหมือนคนจำอะไรไม่ได้

           

 

“คุณมีอะไรรึเปล่า” ผมลองถามหยั่งเชิง ฌอณคลี่ยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะยกมือขวาขึ้นลูบหัวตัวเองด้วยทีท่าเขินๆ ผมยิ่งขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีก

           

 

“ฉันแค่อยากเข้ามาดูหน้านายชัดๆ มันติดอยู่ในความทรงจำ นายชื่ออะไรเหรอ” นี่ถ้าไม่เคยมีเรื่องราวกันมาก่อนหน้านี้ ผมจะคิดว่าเขาจีบผมอยู่

           

 

“แมท ผมชื่อแมท” ฌอณกะพริบตาปริบๆ ทำหน้านึก แล้วสักแปบเขาก็ขมวดคิ้วก่อนที่หน้าจะเหยเก มือขวายกขึ้นกุมหัวตัวเอง ผมเบิกตากว้างมองเขาด้วยความตกใจ อยากจะกระเถิบเข้าไปดูเขาใกล้ๆ แต่ก็ไม่กล้า

           

 

“คุณเป็นอะไรมั้ย” ผมถามเสียงเบา ฌอณส่ายหัวน้อยๆ และเหมือนกำลังพยายามคุมสติตัวเองให้อยู่กับที่ ผมยังคงมองเขาด้วยความสับสน เห็นท่าทางปวดหัวจนตัวงอแบบนั้นก็นึกสงสาร แต่ผมก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้เขามากอยู่ดี

           

 

“คุณแมท!” เสียงออสตินดังมาพร้อมกับที่เจ้าตัววิ่งมาทางผมอย่างว่องไว ออสตินดึงปืนออกมาจากกระเป๋าเสื้อกันหนาวที่สวมใส่อยู่ ผมอ้าปากค้าง รีบวิ่งเข้าไปหาเขาทันที

           

 

“ไม่! ออสติน อย่า อย่าทำเขา!” ผมดันแขนขวาของออสตินลง ผมหันไปมองฌอณที่กระเถิบถอยหนีด้วยความหวาดกลัว เขายกสองมือขึ้นด้วยท่าทางว่ายอม ผมเห็นแบบนั้นก็ยิ่งรู้สึกตระหนกมากกว่าเดิม เลยรีบหันกลับไปหาออสติน

           

 

“ออสติน เก็บปืนก่อน”

           

 

“แน่ใจเหรอครับ”

           

 

“ถ้าเขาจะทำร้ายผมจริงๆ ผมคงไม่ยืนอยู่แบบนี้” ออสตินมองฌอณตาแข็ง แต่ก็ยอมเก็บปืนกลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ ผมหันกลับไปมองฌอณอีกครั้ง เขามีท่าทีตื่นตกใจไม่ต่างจากผม สองมือของเขายังคงยกขึ้นค้างไว้แบบนั้น

           

 

“ไม่มีอะไรแล้วฌอณ เอามือลงเถอะ” กลายเป็นฌอณที่มองผมกลับมาด้วยสายตาระแวดระวังจนผมสับสน เขาค่อยๆ ลดแขนลงข้างตัว ผมมองรูปร่างของเขา ฌอณอวบขึ้น แต่ก็ไม่ได้อ้วน เรียกว่ามีน้ำมีนวล เสื้อผ้าที่ใส่ก็ไม่ใช่ว่าอัตคัด ดูปกติดี เอาจริง ผมนึกว่าเขาจะตกต่ำไปแล้ว

           

 

“ฉันขอโทษ ถ้าฉันทำให้นายกลัว” เขามองผมด้วยสายตาสลด ผมหันไปมองออสติน ขนาดออสตินยังขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

           

 

“ไม่หรอก คือผม แค่ตกใจ…” ผมบอกติดๆ ขัดๆ ก่อนจะพยายามคลี่ยิ้มให้เขา

           

 

“…ยินดีที่ได้รู้จักนะฌอณ” จากที่มีทีท่าหวาดกลัวนิดๆ ฌอณเปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มดีใจ

           

 

“ยินดีที่ได้รู้จักนะแมท” ผมยิ้มตอบ แต่ก็ยังเป็นยิ้มที่ไม่เต็มที่นัก ภาพสายตาแข็งกร้าวในตอนนั้น กับสายตาอ่อนโยนในตอนนี้มันช่างคอนทราสกันเหลือเกิน

           

 

“แล้วคุณมาที่นี่ได้ยังไงฌอณ”

           

 

“ฉันมากับพ่อน่ะ” ผมขมวดคิ้ว ถ้าจำไม่ผิด พ่อของฌอณแยกทางกับแม่ไปแล้วรึเปล่านะ แต่ผมก็ใช่ว่าจะสนิทกับชีวิตเขาขนาดนั้น

           

 

“เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะฌอณ กลับบ้านดีๆ ล่ะ” ฌอณยิ้ม ยกมือบ๊ายบาย ผมยกมือโบกตอบ หนุ่มผมแดงเดินผ่านเราสองคนไปโดยที่ไม่ได้หันกลับมามอง ผมมองตามด้วยความรู้สึกไม่สบายใจและแปลกใจ

           

 

“มันไม่ได้ทำอะไรคุณแมทแน่ๆ ใช่มั้ยครับ” ผมหันกลับไปมองออสตินแล้วสั่นหัว

           

 

“เปล่าเลย ตอนแรกผมคิดแบบนั้นแหละ แต่เขาแค่เข้ามาทักทาย…” ผมยกสองแขนกอดอก ขมวดคิ้วเพราะกำลังใช้ความคิด

           

 

“…เขาดูจำอะไรไม่ได้เลย เขาถามชื่อผม แต่เขาจำชื่อตัวเองได้นะ และอย่างที่คุณได้ยิน เขาบอกว่ายินดีที่ได้รู้จัก ผมงงอะ” ออสตินหน้านิ่ง แต่แววตากำลังคิดคำนวณ

           

 

“มันโผล่มาที่นี่ได้ยังไง อันนี้น่าสงสัยมากกว่านะครับ”

           

 

“เขาก็บอกอยู่ไงว่ามากับพ่อ” ออสตินหรี่ตาลงแว้บหนึ่ง

           

 

“มากับพ่อ แต่มาในจังหวะที่คุณแมทอยู่ที่นี่พอดี” ผมเม้มปาก คิดตามที่ออสตินพูด ก็จริงของเขานะ แต่ว่า ท่าทางฌอณผิดกับแต่ก่อนเยอะมาก มันมากเกินไป จากคนแข็งกระด้าง กลายเป็นอ่อนยวบเลยนะนั่น

           

 

“อาจจะบังเอิญก็ได้นะ…” ออสตินยังคงมีสีหน้าไม่ไว้ใจทาง ไม่วางใจคนไหนทั้งนั้น

           

 

“…เขาก็ไม่ได้ทำร้ายผมนะออสติน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมไว้ใจเขา หรืออยากอยู่ใกล้เขานะ”

           

 

“ดีแล้วครับ” ผมพยักหน้าเบาๆ

           

 

“อ้อ ไม่ต้องบอกวิคเตอร์ได้มั้ยเนี่ยเรื่องเนี้ย” ออสตินทำหน้าเซ็งนิดๆ

           

 

“คุณแมท คุณขอแบบนี้ทุกครั้งที่เกิดเรื่อง แต่ผมก็บอกทุกครั้ง มันคือหน้าที่ของผม เมื่อไหร่…” ผมยกสองมือขึ้นเบรคออสติน

           

 

“…โอเค บอกก็ได้” ผมยิ้มแว้บหนึ่งแล้วก็ทำหน้าบึ้งตึง ก่อนจะหมุนตัวเดินนำออสตินกลับที่ร้านตามเดิม

           

 

ภาพแววตาใสซื่อของฌอณค้างอยู่ในสมองของผมไปแล้ว

 

 

 

 

ผมกลับมาถึงบ้านตอนอีกสิบกว่านาทีจะสามทุ่ม ไฟหน้าบ้านเปิดสว่างทำให้ตัวบ้านสว่างสวยงาม ผมเดินขึ้นบันไดหน้าบ้าน กดกริ่งหนึ่งครั้งเพื่อกะจะพุ่งตัวเข้าไปกอดวิคเตอร์ แต่พอประตูเปิดออกผมก็ชะงักตัวที่กำลังจะพุ่งเข้าไปหา เพราะว่าคนที่มาเปิดประตูคือสเตฟาเนีย หนึ่งในทีมโฆษกของวิคเตอร์

           

 

ที่ผมถามวิคเตอร์เล่นๆ ว่าจะแอบเอาใครเข้าบ้านหรือเปล่า ในใจผมนึกถึงคนนี้แหละ

           

 

“สวัสดีค่ะคุณแมท” เธอยิ้มกว้างโชว์ฟันเรียงตัวสวย ผมกระตุกยิ้มแหยนิดหน่อย สเตฟาเนียเป็นผู้หญิงสวย แบบที่เป็นสไตล์ฝรั่งชอบ ชีคโบนชัด กรอบหน้าชัด จมูกสวย ตาสีดำสุกใส ผมสีดำยาวสลวยดุจแพรไหม ลักษณะท่าทางของเธอสง่าผ่าเผย ผมยังเคยคิดเลยว่าเธอสวยขนาดนี้ ทำไมไม่ไปเป็นนางแบบหรือนางงาม และเธอก็ไม่ทำให้ความคิดผมผิดหวัง สเตฟาเนียเคยเป็นนางงามในรัฐๆ หนึ่งของสหรัฐอเมริกามาก่อนเมื่อสมัยผมยังเป็นเด็กหัวโปกวัยประถม แน่นอนว่านานขนาดนั้นอายุเธอไม่ใช่เพิ่งยี่สิบปลายๆ หรือสามสิบต้นๆ

           

 

“สวัสดีครับเซฟ” เธอพยักหน้า ผมมองหน้าเธอแล้วยิ้มนิดหน่อยก่อนก้าวเท้าเดินเข้าไปในบ้าน อายุขนาดนี้แต่เธอยังดูแลตัวเองดีมาก

           

 

“ฉันแวะมาคุยงานกับเซล่าน่ะค่ะ” ผมส่งเสียงอ้อเบาๆ แล้วยิ้ม เธอเป็นคนสุภาพมาก พูดจาดี พูดจาไพเราะ

           

 

“อยู่ในห้องโถงกันใช่มั้ยครับ”

           

 

“ใช่ค่ะ เดินเข้าไปได้เลย” ผมยิ้มรับนิดหน่อยแล้วก็เดินไปห้องโถง ได้ยินออสตินกับเสตฟาเนียทักทายกันที่ด้านหลัง ผมเดินเข้าด้านในห้องโถง เซล่ากำลังนั่งคุยอยู่กับวิคเตอร์ ไอ้ยักษ์คลี่ยิ้ม

           

 

“สวัสดีครับเซล่า” เธอปรายตามองผมเล็กน้อยแล้วก็ยกยิ้มให้แบบเสียมิได้ วิคเตอร์เบะปากใส่เธอทันที เซล่าทันเห็น เธอเลยกลอกตาน้อยๆ ทุกวันนี้ยัยป้านี่ก็ยังไม่ญาติดีกับผม

           

 

“ไปทำอาหารรอเถอะ เดี๋ยวฉันก็เสร็จแล้ว ไม่ต้องทำเผื่อเซล่านะ เธอไม่อยู่กินหรอก”

           

 

“ย่ะ!” เซล่ากระแทกเสียง ก้มหน้าลงเลื่อนไอแพดต่อ ผมยิ้มขำ วางกระเป๋ากับบอร์ดไม้และซองเงินค่าตัวครึ่งสุดท้าย ไว้บนโซฟา เดินออกไปนอกห้องโถง ออสตินเดินกลับไปทางห้องนอนตัวเองพร้อมไมเคิลที่ลุกวิ่งตามเขาไป

           

 

“ไปไหนเหรอคะคุณแมท”

           

 

“อ๋อ เอ่อ ผมจะไปทำอาหารให้วิคเตอร์กินอะครับ”

           

 

“ให้ฉันช่วยมั้ยคะ” ผมสั่นหัว

           

 

“ไม่เป็นไรครับ คุณไปคุยงานกับเขาต่อเถอะ” สเตฟาเนียยิ้ม เดินกลับเข้าไปนั่งคุยกับสองคนนั้น ผมหันไปมองก็เห็นวิคเตอร์หันมายิ้มให้เธอและหันกลับไปคุยกับเซล่าต่อ ผมสลัดความคิดมากออกไปและเดินไปทำอาหารในครัว

           

 

ระหว่างที่ทำอาหารผมก็คิดถึงตอนที่เจอกับฌอณ จะว่าเขาเปลี่ยนไปมันก็ใช่เลย ท่าทาง แววตา สีหน้า มันคนละคนกับที่ผมเคยรู้จักและเคยทำร้ายผม ท่าทีที่ดูซอฟต์ลงเมื่อมีสีพาสเทลทำให้เขาเป็นผู้ชายละมุนนุ่มนิ่มไปเลย แต่ผมกำลังนึกสงสัยว่า มันคือการเสแสร้งแกล้งทำมั้ยหรือยังไง ระหว่างที่ไม่เจอกัน เขาได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองหรือเปล่านะ เลยทำให้ความทรงจำของเขาไม่เหมือนเดิม

           

 

ถ้าเขาจำไม่ได้จริงๆ ผมว่ามันก็เป็นเรื่องดีต่อตัวผมที่เขาจะไม่คิดทำร้ายผมอีก

           

 

ปิก้าปี้ ปิก๊าจู๊ ปิก้าปีก๊า ปิ๊กะ ปิก่าจู๊~

           

 

ผมหันไปล้างมือแล้วเช็ดผ้าให้แห้ง ก่อนจะหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง ผมมองด้วยความงงปนประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเป็นพีทโทรมา

           

 

“ฮัลโหล” ผมรับสายด้วยความไม่มั่นใจว่าใช่เขาแน่มั้ย

           

 

[เจมส์บอกฉันว่าถ้านายอยากมาดูการตัดต่อก็มาได้] ผมอ้าปากค้างนิดหน่อย ก่อนจะรีบตอบรับเขา

           

 

“โอเคครับ ขอบคุณมาก” พีทตอบรับสั้นๆ แล้ววางสายไป ผมยังคงรู้สึกงงๆ อยู่สักแปบก่อนจะวางมือถือไว้บนโต๊ะหินอ่อน แล้วกลับไปทำอาหารต่อ ผมนึกถึงบทสนทนาของผมกับผู้กำกับก่อนจะแยกกันที่ร้านอาหาร

 

 

            “ขอบใจนายมาก ฉันนับถือในความอดทนและความตั้งใจของนายจริงๆ” ผมคลี่ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

           

 

“ขอบคุณคุณมากเช่นกันครับเจมส์ที่ช่วยสอนงาน ช่วยสอนอะไรหลายๆ อย่างให้ผม” เจมส์หัวเราะเบาๆ ยกมือขวาตบบ่าขวาของผมดังตุบๆ เขาค่อยๆ หุบยิ้มแล้วพ่นลมหายใจออกยาวๆ มองผมด้วยสายตามีแววกังวลเล็กๆ

           

 

“เดวิดเคยบอกฉันก่อนที่จะฝากนายมาทำงานด้วยว่าเด็กคนนี้เป็นคนทะเยอทะยานมาก” ผมอมยิ้ม นึกถึงเดวิดแล้วก็อยากจะไปขอบคุณเขาอีกทีที่ทำให้ผมได้เดินมาเส้นทางนี้อย่างที่หวัง

           

 

“แต่เดวิดฝากความกังวลมาถึงนาย” ผมคลี่ยิ้มประหลาดใจเล็กน้อย

           

 

“เขาฝากบอกว่าอะไรเหรอครับ” เจมส์ยิ้มนิดหน่อยก่อนจะว่าต่อเสียงห้าวปนแหบ

 

 

“สิ่งที่นายมีในตัว มันดีมากสำหรับคนทำงาน แต่ว่านะ…” เขาปล่อยมือออกจากบ่าผม ยืดตัวขึ้นตรงอีกนิด ท่าทางของเขาทำเอาระทึกไปด้วยเลย

           

 

“…รับมือกับความทะเยอทะยานของตัวเองให้ดี”


 

           

 

ผมพยายามแปลความหมายประโยคนั้นตั้งแต่นั่งอูเบอร์กลับมาบ้านจนกระทั่งถึงตอนนี้ มีเมื่อกี้ที่เลิกคิดไปแปบนึง เดวิดต้องการจะฝากบอกว่าอะไรกันแน่ แล้วเจมส์หมายถึงอะไรกับประโยคนั้น มันคงเป็นการเตือนอะไรสักอย่างนั่นแหละ แต่ผมก็คิดว่ามันมีอะไรตรงไหนเสียหายงั้นเหรอ

           

 

“กลับก่อนนะคะ” ผมหลุดจากห้วงความคิดของตัวเองแล้วหันไปมองด้านหลัง สเตฟาเนียส่งยิ้มมาให้ เซล่าเดินนำไปที่ประตู วิคเตอร์เดินตามหลังทั้งสองคน

           

 

“ไว้เจอกัน” วิคเตอร์โบกมือให้สเตฟาเนียหนึ่งทีก่อนจะปิดประตูแล้วเดินมาทางผมที่กำลังเตรียมอาหารใกล้เสร็จแล้ว

           

 

“ทำอะไรน่ะ” เขาถามอย่างอารมณ์ดี ความคิดชั่วร้ายผมเริ่มทำงานทันทีว่าเขาอารมณ์ดีด้วยเหตุใด เพราะผมทำอาหารให้หรือเพราะเพิ่งได้เจอกับสเตฟาเนีย

           

 

“ผัดกะเพราะกุ้ง” วิคเตอร์เลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะคลี่ยิ้มและพยักหน้าหงึกๆ ผมพ่นลมหายใจ บอกตัวเองให้เลิกคิดไม่ดีระหว่างเขากับโฆษกสาวอายุคราวแม่คนนั้น เดี๋ยวมันจะทำให้การทำงานของเขาลำบาก

           

 

“วิคเตอร์ ฌอณออกจากวงการไปเลยเหรอหลังจากเกิดเรื่อง”

           

 

“ถามทำไม” เขาเลิกคิ้วขึ้นงงๆ

           

 

“ผมอยากรู้อะ ว่าเขาไปทำอะไรที่ไหนอยู่”

           

 

“ตอนอยู่ในคุกมันก็ไม่ได้ทำงานหรอก พอออกมาก็ไม่มีใครจ้าง เขาแบนมันกันทั้งนั้นละ”

           

 

“แล้วเขาใช้ชีวิตยังไงต่อ” วิคเตอร์ยกไหล่ทั้งสองข้างขึ้น ท่าทางไม่สนใจ

           

 

“ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้ตามข่าวมัน” ผมชั่งใจอยู่สักพักว่าจะเล่าให้เขาฟังดีมั้ย แต่ออสตินบอกว่ายังไงเขาก็ต้องบอกเรื่องนี้กับวิคเตอร์

           

 

“วันนี้ผมเจอเขา” สีหน้าวิคเตอร์เปลี่ยนเป็นเข้มเครียดทันที แววตาสบายๆ เมื่อกี้เปลี่ยนเป็นแววตากระด้าง

           

 

“มันทำอะไรนายรึเปล่า” น้ำเสียงของเขาแข็งกว่าเมื่อกี้นี้มาก ผมยิ้มน้อยๆ แล้วสั่นหัวเบาๆ พลางตักกะเพราะกุ้งตัวใหญ่ใส่จาน

           

 

“เปล่า ออสตินอยู่ด้วย ผมคิดว่าเขาน่าจะความจำเสื่อม” วิคเตอร์ขมวดคิ้ว

           

 

“ความจำเสื่อมเหรอ” ผมพยักหน้า วางจานกุ้งไว้บนโต๊ะ หันไปตักข้าวที่เหลือจากเมื่อเช้าใส่จานให้เขา พอหันกลับไปมองก็เห็นเขากำลังเอามือลูบคางท่าทางครุ่นคิด

           

 

“แน่ใจมั้ยว่ามันความจำเสื่อม มันไม่ได้แกล้งใช่รึเปล่า” ผมเดินถือจานข้าวไปวางบนโต๊ะ แล้วกระเถิบก้นขึ้นนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่เยื้องกับเขา

           

 

“เขาเป็นอีกคนไปเลย ท่าทางหวาดกลัวง่าย จำผมไม่ได้ ถามชื่อผม และบอกกับผมว่ายินดีที่ได้รู้จัก”

           

 

“มันจำนายไม่ได้แล้วมันเข้ามาทักนายได้ไง” วิคเตอร์ถามเสียงห้วน ยังไม่ยอมตักข้าวเข้าปาก

           

 

“เขาบอกว่าเขาไปแถวบรูคลินกับพ่อพอดี แล้วพอเห็นผมเลยเข้ามาทัก เขาบอกเขาคุ้นหน้าผม”

           

 

“อะไรของมัน” วิคเตอร์หน้านิ่วคิ้วขมวด

           

 

“นั่นสิ อะไรของเขา ผมก็งง แต่ท่าทีเขาเปลี่ยนไปจริงๆ นะ ไม่ใช่ฌอณคนเดิมคนนั้นเลย” วิคเตอร์เงียบ ใบหน้าเขาเครียด แววตากำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิด ผมยื่นมือไปแตะแขนเขาเบาๆ

           

 

“ผมปลอดภัย เขาไม่ได้ทำร้ายอะไรผมเลย ตอนออสตินยกปืนขู่ เขายกมือขึ้นยอมแบบกลัวๆ ด้วย” วิคตอร์หันมามองผมทั้งที่คิ้วยังขมวดเข้าหากัน

           

 

“เกิดอะไรขึ้นกับมัน” ผมเอามือออกจากต้นแขนเขาแล้วส่ายหัว

           

 

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ผมคิดว่ามันก็ดีนะ ถ้าเขาลืมไปแล้วจริงๆ เขาจะได้ไม่มาวุ่นวายกับผมอีก”

           

 

“แมท มันจะดีกว่านี้ ถ้ามันไม่บอกว่ามันรู้สึกคุ้นหน้านาย คนเราถ้าคุ้นหน้าใครสักคน ไม่คุ้นเพราะชอบก็คุ้นเพราะเกลียดจนฝังกระดูกดำ” จากที่ผมมองโลกสวยมาก ผมเริ่มใจไม่ดีมากละ

           

 

“เอ๊า แล้วจะพูดให้กลัวทำไมล่ะ!” ผมงอแงใส่เขา วิคเตอร์ที่กำลังหน้าเครียดเปลี่ยนเป็นหัวเราะ

           

 

“โอ๋ กลัวเหรอ มานี่มา” เขาดึงให้ผมเข้าไปหา ผมลงจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปในหว่างขาของเขา วิคเตอร์จูบหน้าผากผมหนึ่งทีแล้วเอาแขนขวาโอบเอวผม

           

 

“ฉันไม่ให้มันทำอะไรนายได้หรอกน่า นายก็รู้” ผมทำปากยื่น แล้วก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาหนึ่งที วิคเตอร์ยิ้มจนร่องแก้มขึ้น

           

 

“ผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ”

           

 

“ล้างก้นด้วยนะ” ผมแลบลิ้นใส่เขา

           

 

“ฉลองที่นายจบงานสักที คืนนี้จะเอายันเช้าเลย” เขายกมือขวาตีก้นผมเน้นๆ หนึ่งที ผมย่นจมูก แต่ก็ไม่ปฏิเสธ ก็นับจากวันที่กลับมาคุยกัน ก็ครบเดือนแล้วที่ยักษ์น้อยไม่ได้ออกรบ

           

 

ให้เขาหน่อยละกัน ตัวผมก็ไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก อืมๆ

 

           

 


 

 

เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้   :hao7:


               ฌอณเปลี๊ยนไป๋ ทำเอาตกอกตกใจ แต่ฌอณจำไม่ล่ายยยย อะไรยังไงคะนี่ อู๊ว มายยยย

              น้องแมทปลอดภัยดีก๊าาา บุญรักษานะลูกนะ ไม่โดนอีฌอณดักทุบ แต่ก็ทำเอาใจหล่นไปตาตุ่มกันเลยทีเดียว

               พี่ยักษ์ก็ปลื้มใจที่เอเลี่ยนจะไม่มีงานทำ 555555 มีผัวรวยมันดีงี้อะเนาะ ไม่ต้องลำบากทำงาน ผัวจ้างอยู่บ้าน เออ เริ่ดดด

               บางคน อ่านๆ ไป อาจจะรู้สึกว่า อีเรื่องนี้มันจะไม่มีหวาน มีฉ่ำๆ บ้างเลยเหรอ 5555 คืออย่างที่เคยบอกไปเนิ่นนานนนว่าเรื่องนี้ก็พยายามอิงชีวิตจริงเข้ามา สลับสับเปลี่ยนกันไปเนอะ หวานบ้าง ขมบ้าง รสชาติชีวิตที่แท้ทรู ความหวานยังไงต้องมา จะมาขมต่อเนื่องไม่ด้ายยยย ติดตามกันต่อน้ออออ

               ขอบคุณสำหรับคอมเม้นจากคนอ่านทุกคนที่คอมเม้นให้กันนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ มันเป็นกำลังใจดีๆ สำหรับคนเขียนมากๆ มันคือแรงขับเคลื่อนและกำลังใจในการเขียนมากเลยค่ะ รู้ว่ามีคนรออ่านและรอมีอินเนอร์ร่วมไปด้วยกันทุกครั้งที่ลงเนื้อเรื่องก็ปริ่มใจ ขอบคุณค่ะ และขอบคุณโหวตที่มอบให้ด้วยค่ะ ได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็ไม่เป็นไร แต่พอได้ก็ดีใจ ฮ่าาา และขอบคุณยอดวิวจากนักอ่านเงานะคะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 100% :07.11.60:
«ตอบ #1987 เมื่อ07-11-2017 01:26:01 »

 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 100% :07.11.60:
«ตอบ #1988 เมื่อ07-11-2017 05:49:22 »

ฌอนต้องโดยอะไรแน่ๆ ระหว่างติดคุก ???

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 100% :07.11.60:
«ตอบ #1989 เมื่อ07-11-2017 06:56:21 »

ให้คิดว่าฌอน มีอะไรกระทบกระเทือนทางสมองหรือเปล่า
หรือถูกสะกดจิต กับที่ฌอนทำท่ารังเกียจแมท
เพื่อกลบความรู้สึกจริงๆที่ชอบแมท

แมทอาจไปอยู่ในด้านที่ฌอนแอนตี้เรื่องรักเพศเดียวกัน เรื่องผิวสี
แต่สิ่งที่ฌอนรังเกียจแมท มันทั้งรังเกียจทั้งชอบ
หรือแท้จริงฌอนไม่รู้ตัวว่าเขาก็ชอบเพศเดียวกัน

แล้วพีท ที่บอกแมทเรื่องการตัดต่อ เพื่ออะไร
ปกติก็ทำท่าไม่ข้องแวะกับแมทมาตลอด
ไม่ใช่เกิดชอบแมท ขึ้นมานะ  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 100% :07.11.60:
« ตอบ #1989 เมื่อ: 07-11-2017 06:56:21 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 100% :07.11.60:
«ตอบ #1990 เมื่อ07-11-2017 07:57:28 »

แต่ก็สงสารณอนนะ แต่ถ้าลืมไปแล้วมันก็จะดีกับณอนเอง

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 100% :07.11.60:
«ตอบ #1991 เมื่อ07-11-2017 22:13:55 »

ตกลงจะเลิกกังวลกะฌอนได้ยังเนี่ยะ ถึงจะเปลี่ยนไปแต่ก็แอบระแวงๆอยู่ดี
แล้วเรื่องคำเตือนนี่มันหมายความว่ายังไงกันล่ะเนียะ
เอาเป็นว่าช่างมันก่อน ดูคู่รักเค้ารักกันก่อนแล้วกัน ค่ำคืนนี้ยาวๆกันไป :z1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 100% :07.11.60:
«ตอบ #1992 เมื่อ07-11-2017 23:28:37 »

การที่ฌอนจำไม่ได้มันก็แปลกๆนะ แต่ก็ขอให้มันเป็นไปในทางที่ดีละกัน

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 50% :15.11.60:
«ตอบ #1993 เมื่อ15-11-2017 21:56:24 »



Yours and Mine EP.14 :: Not yet. (ยัง ยังอีก) [50%]



“เดี๋ยวผมไปแท็กซี่…” วิคเตอร์ชักสีหน้าทันที ผมรีบเข้าไปกอดอ้อน

           

 

“…ไม่มีอะไรหรอก คุณก็เห็นสภาพฌอณแล้วนี่ เขาไม่มาทำอะไรผมหรอกน่า ผมอยากย้อนวันวาน ตอนนั่งแท็กซี่ไปหาคุณเอมิลี่ครั้งแรกอะ” วิคเตอร์ขมวดคิ้ว

           

 

“ตลก”

           

 

“ฮะๆๆๆๆ” ผมหัวเราะเสียงดัง วิคเตอร์ทำหน้างง

           

 

“หัวเราะอะไร”

           

 

“ก็คุณบอกตลก” วิคเตอร์กลอกตา ผลักผมออกจากตัวแล้วยกมือขวาตีหัวผมเบาๆ หนึ่งที

           

 

“ฉันไปคุยงานแถวนั้นอยู่แล้ว ติดรถฉันไปนั่นแหละ” ผมทำปากยื่น แต่ก็พยักหน้าตอบรับ หมุนตัวเดินนำเขาออกไปจากบ้าน ลงบันไดหน้าบ้านไปขึ้นรถ ออสตินอยู่เฝ้าบ้านกับไมเคิลและฟอกซ์

           

 

“เรื่องฌอณ เห็นแบบนั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะไว้ใจมันได้” วิคเตอร์บอกตอนที่หย่อนตัวเข้ามานั่งในรถ ผมปิดประตูเบาๆ

           

 

“ทำไมล่ะ เขาจำคุณในฐานะเพื่อนร่วมงานไม่ได้ด้วยซ้ำ ท่าทางเขาก็เอื่อยๆ เฉื่อยๆ” อาทิตย์ก่อนผมเจอกับฌอณอีกครั้งหลังจากเจอกันไปอาทิตย์ก่อนหน้านี้ ไปเจอที่ร้านกาแฟของจีอันนา วิคเตอร์แวะไปหาชาร์ลี อันเดรและอีริค เป็นมีทติ้งเล็กๆ ของเพื่อนฝูง ผมประหลาดใจมากที่เจอเขาที่นั่น

           

 

 

“เขามักจะมากับผู้ชายมีอายุคนนึงที่ยังดูดี ซึ่งน่าจะเป็นพ่อเขา กับผู้หญิงที่ดูคล้ายจะเป็นพี่สาวของเขาบ่อยๆ มีวันนึงเขามาถามว่ารับสมัครพนักงานเพิ่มมั้ย เขาชอบชงกาแฟ ฉันจำเขาได้จากซีรีส์ที่เล่นกับวิคเตอร์นั่นแหละ ฉันถามเขาว่าคุณไม่รับการแสดงแล้วเหรอ เขาทำหน้างง…” จีอันน่าเล่าให้ฟังที่โต๊ะของพวกเราที่อยู่ติดกับประตูทางออก ผมหันไปมองฌอณ เขาดูมีทีท่าสงบเสงี่ยม พอหันไปมองวิคเตอร์ ไอ้ยักษ์กำลังมองฌอณอย่างแน่วแน่

           

 

“…ดูเขาจะจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยเป็นนักแสดงมาก่อน เขาบอกว่าเขาชอบชงกาแฟ เขาทำได้ ฉันเลยทำให้เขาทำ ซึ่งมันอร่อยมากเลยนะฝีมือเขา ฉันเลยรับเขามาเนี่ยแหละ” ผมย่นคิ้ว จะว่าฌอณตกอับก็ไม่ใช่ เพราะจากที่จีอันน่าบอก สองคนที่มากับฌอณ ดูภูมิฐาน มีฐานะ ไม่ได้ดูซอมซ่อ

           

 

“เขามีแผลอะไรบนหัวมั้ยจีอันน่า” เธอทำหน้านึกก่อนจะพยักหน้าหนึ่งที

           

 

“มี เป็นรอยเย็บตรงข้างหัวฝั่งซ้าย” เขาไปโดนอะไรมา แต่ไม่ว่าเขาจะโดนอะไร ผมคิดว่านั่นคือสาเหตุทำให้เขาเป็นแบบนี้

           

 

“เขาทำงานดีมั้ยครับ” จีอันน่าพยักหน้ารัวๆ

           

 

“ทำดีนะ เป็นมิตรกับลูกค้า” ผมเม้มปาก ไม่แน่ใจว่าควรถามต่อมั้ย แต่ผมก็อยากรู้ข้อนี้

           

 

“กับลูกค้าเพศที่สาม เขามีปฏิกิริยายังไงเหรอครับ” เธอเลิกคิ้วขึ้นราวกับกำลังนึกหาคำตอบในสิ่งที่ผมถาม

           

 

“เขาปฏิบัติกับทุกคนเหมือนกันหมดเลยนะ พูดจายิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนที่นายเห็นตอนนี้แหละ” ผมหันไปมองฌอณอีกรอบ เขายิ้มให้ลูกค้าผู้ชายคนหนึ่งอย่างเป็นมิตร เขาไม่เหมือนฌอณคนเดิม

           

 

“วิคเตอร์…” ผมสะกิดวิคเตอร์ที่กำลังมองฌอณอย่างพินิจพิจารณา จนเจ้าตัวเริ่มมีท่าทีอึกอักกับสายตาของวิคเตอร์ผมขมวดคิ้วด้วยความข้องใจ ว่าเขาพลิกนิสัยตัวเองได้ขนาดนี้เชียวเหรอ

           

 

“…จ้องอะไรขนาดนั้น” วิคเตอร์ละสายตากลับมาหาผม ท่าทีของเขาเครียดๆ จนเพื่อนเขางง แต่เขาก็ไม่ได้หันไปอธิบายอะไรให้ใครฟัง

           

 

“มันแปลกและมันก็เปลี่ยนไป”

           

 

“จีอันน่าบอกว่า เขามีแผลบนหัวด้วย ผมว่าเขาคงเกิดอุบัติแล้วความจำเสื่อม” วิคเตอร์มีสีหน้าประหลาดใจนิดหนึ่งก่อนจะพยักหน้า

           

 

“แต่ยังไงก็อย่าอยู่ใกล้มันบ่อย ถ้ามันความจำเสื่อมไปตลอดก็ดี แต่ถ้าวันนึงมันเกิดจำได้ ไม่ดีแน่” ผมพยักหน้า เลื่อนสายตาไปมองฌอณที่กำลังมองมาทางเราอย่างใสซื่อ ผมคลี่ยิ้ม เขายิ้มตอบกลับมา


           

           

 

“ฉันไม่ให้ยุ่งกับมัน แค่นั้นแหละ ไม่ต้องถามว่าทำไม” ผมย่นจมูกใส่เขา

           

 

“ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะยุ่ง”

           

 

“คนใจอ่อน ใจดีกับคนอื่นยกเว้นฉันอย่างนาย อะไรก็เกิดขึ้นได้” เอ๊ะ?!

           

 

“ใช่ ยกเว้นคุณ” วิคเตอร์ยกมือขวามาผลักหัวผมจนผมหน้าหงาย เมื่อกี้ก็ตีหัว ตอนนี้ก็ผลักหัว สักวันสมองผมคงไหลออกจากรูหู ผมแลบลิ้นใส่เขาแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมใสๆ ไม่เน้นความรุนแรง เป็นเกมผ่านด่านแบ๊วๆ

           

 

วันนี้ผมจะไปช่วยงานคุณเอมิลี่ ผมโทรไปของานเธอทำเองแหละ ผมว่างงานมาเกือบสองอาทิตย์ อยู่บ้านก็คิดฟุ้งซ่านมากมาย เลยต้องหาอะไรทำ คุณเอมิลี่เลยให้ไปช่วยดูแลนายแบบนางแบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมควรทำตอนมาฝึกงาน แต่ดันถูกส่งมาดูแลไอ้ยักษ์หน้าหล่อคนเดียว ซึ่งเหมือนดูแลคนร้อยคน แล้วสุดท้ายก็ได้เขามาเป็นสามี สวมแหวนเพชรสะท้อนแสงวูบวาบบนนิ้วนางข้างซ้ายสวยๆ

 

 

 เงินที่ได้มาจากการทำงานออกกอง ผมให้พ่อกับแม่ไปครึ่งนึง แลกเป็นเงินไทยก็สะพรั่งสะพรึงพอสมควร พ่อกับแม่ปลาบปลื้มมาก มันทำให้ผมรู้สึกภูมิใจมากจริงๆ

 

 

“ขอบใจมากลูก” หัวใจผมพองโตตอนที่พ่อพูดแบบนั้นกับผม พ่อบอกว่าแม่ร้องไห้ด้วย ผมก็เกือบร้องเหมือนกัน ถึงมันจะยังพิสูจน์อะไรมากไม่ได้ แต่ผมก็จะทำต่อไป

 

 

“แมทอาจจะไม่ได้ออกกองบ่อย แต่ถ้าได้ออกอีก มันก็จะได้เงินเยอะ แล้วแมทจะส่งให้อีกนะ” ผมพูดด้วยความรู้สึกหัวใจพองโต ดีใจกับตัวเองที่ทำให้เขาเห็นได้แล้วว่า ผมก็หาเงินได้จริงๆ แม้ไม่ใช่ชายจริงหญิงแท้ แต่ผมก็หาเงินดูแลเขาได้

 

 

“อย่าหักโหมมาก ทำอะไรแต่พอดี ไม่งั้นเงินที่ได้มาก็ต้องเอาไปจ่ายให้โรงพยาบาลแทน”

 

 

อาทิตย์ที่แล้วผมมีความสุขแบบเบิกบานทั้งอาทิตย์ จนวิคเตอร์พาลไปอิจฉาพ่อผม

 

 

“ไอ้บ้า อิจฉาอะไรพ่อผมเนี่ย”

 

 

“ตาแก่!”

 

 

“อะโห ด่าชัดขึ้นทุกวันเลยนะ!” ไอ้ยักษ์มันไม่ได้กล้าแค่ลับหลังพ่อผมด้วยนะ ต่อหน้ามันก็ด่าแล้วก็เนียนว่ามันไม่รู้ความหมาย อ้อนขอโทษนิดหน่อยแม่ก็ปกป้องมันแล้ว ไอ้ยักษ์เจ้าเล่ห์


 

 

 

เงินอีกครึ่งผมเก็บไว้กับตัวเอง แบ่งให้วิคเตอร์ด้วยส่วนหนึ่ง ถือว่าเป็นการขอบคุณเขาที่เลี้ยงดูผมมา แม้มันจะเป็นแค่เศษเงินสำหรับเขา แต่ผมก็อยากให้ เขาเก็บมันไว้ในลิ้นชักข้างเตียง ส่วนที่เหลือผมเอาเข้าธนาคารทั้งหมด แล้วก็ใช้บัตรเครดิตวิคเตอร์ตามปกติ

 

 

คิๆ

 

 

“เอมิลี่บอกฉันแล้วว่าเลิกงานดึก ฉันจะกลับไปรอที่บ้าน โทรมาก็แล้วกัน”

 

 

“โอ๊เข่” ผมยกมือขึ้นตะเบ๊ะ วิคเตอร์กระตุกยิ้ม ยื่นหน้ามาจุ๊บปากผมหนึ่งที ผมเลยหอมแก้มเขากลับไปหนึ่งที

 

 

“อย่าให้ใครจีบนะ!”

 

 

“โอ๊ย” ผมถลึงตาใส่เขา หันไปเปิดประตูแล้วลงไปจากรถ ยกมือบ๊ายบายเขาผ่านกระจก วิคเตอร์ขับรถออก เจ้ากระทิงดุสีเทาเงินวาววับส่งเสียงกระหึ่มไปตามท้องถนน ผมส่ายหัวระอา หวงอย่างกับผมฮ็อตมาก ชีวิตนี้มีเอิร์ทกับเขาเท่านั้นนะเอาจริง ยังดีนะที่เขาไม่ได้ห้ามไม่ให้มาช่วยเอมิลี่ เพราะเขาเชื่อใจว่าเอมิลี่จะเป็นหูเป็นตาให้เขาได้

 

 

ผมหันหน้าไปมองตึกอิฐสีน้ำตาลสี่ชั้นแล้วยิ้มกว้างด้วยความคิดถึง ผมกลับมายืนอยู่ในจุดเดิมกับเมื่อเกือบสี่ปีก่อน ที่ๆ เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมไปเจอกับวิคเตอร์ จุดเริ่มต้นในที่นี้คือจุดเริ่มต้นจริงๆ เพราะผมนั่งรถจากที่นี่ไปบ้านวิคเตอร์ไง

 

 

“Hello.” ผมเอ่ยทักทายตึกเบาๆ มันเหมือนเดิมกับตอนนั้นเลย ทำให้หวนนึกถึงความรู้สึกครั้งแรกที่มาที่นี่ได้อย่างเต็มเปี่ยม ผมกดหน้าลงมองประตูกระจกที่ผมเคยโดนชน นึกได้แล้วก็หัวเราะกับตัวเองก่อนจะก้าวเท้าเดินไปกดกริ่งหน้าสำนักงาน รอสักแปบก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาเปิดประตูให้ พอผมเห็นว่าใครเป็นคนเปิดประตูผมก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

 

 

“อดัม!”

 

 

“เฮ้ แมท!” อดัมเองก็ยิ้มกว้าง เราพุ่งตัวเข้าไปกอดกัน ผมไม่ได้เจอเขานานมากกก เจอครั้งล่าสุดตอนไหนผมยังจำแทบไม่ได้เลย รู้แต่ว่ามันนานมากจริงๆ ไหนจะเฟซบุ๊คเขาที่โดนวิคเตอร์ลบออกไปอีก

 

 

“ไม่ได้เจอกันนานจริงๆ นะ เป็นยังไงบ้าง” อดัมถามด้วยความสนใจ ผมหันไปมองประตูที่ปิดสนิทแล้วก่อนหันกลับมามองเขา ยิ้มกว้างด้วยความตื่นเต้น

 

 

“แฮปปี้ดีครับ คุณล่ะ ผมต้องขอโทษมากๆ ที่ไม่ได้ติดต่อคุณเลย เฟซบุ๊คผมก็ไม่ค่อยได้เล่น”

 

 

“นายลบเฟซบุ๊คฉัน” อดัมยิ้มขำ ผมยิ้มแหย

 

 

“ผมถูกบังคับให้ลบต่างหาก”

 

 

“อ้า วิคเตอร์สินะ” ผมแสร้งทำหน้าหวาดกลัว อดัมหัวเราะ ผมยิ้มกว้างมองเขา โอ้ มายก็อด เขายังคงเป็นผู้ชายในฝันของผมจริงๆ กล้ามเนื้อแน่นเปรี๊ยะเหมือนเดิม รอยสักที่แสนจะเท่ สันกรามที่ทำให้รูปหน้าชัดเจนนั้นช่างน่าเลีย เอ้ย ลูบซะจริง เขาเลิกกับผู้หญิงคนนั้นรึยังนะ ถอดแหวนหมั้นเก็บไว้ก่อนดีมั้ย

 

 

“ตอนนั้นเขาสติเสียไปหน่อย แต่ผมก็ดันลืมแอดคุณกลับไป เพราะผมไม่ค่อยได้เล่นจริงๆ ครับ เฟซบุ๊คร้างเป็นบ้านผีสิงไปแล้ว” อดัมหัวเราะน้อยๆ ผมยิ้มกว้างเขินๆ พยายามไม่มองเขาด้วยสายตาเคลิ้ม อยากมองผัวตัวเองให้ได้เคลิ้มแบบนี้บ้างจัง

 

 

“อ้อ เกือบลืม…” ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างปรหลาดใจ อดัมชูสามนิ้วขึ้นแล้วเอามาแตะตรงริมฝีปาก่อนจะปล่อยออก ผมคลี่ยิ้มกว้างกว่าเดิม ดีใจที่เขายังจำได้

 

 

อย่าไปทำแบบนี้ในแคปิตอลนะอดัม

 

 

“…เขินจัง” ผมหัวเราะ ที่บอกว่าเขินไม่ได้พูดเพราะว่าอายกับท่าสามนิ้วนั้น ผมเขินเขานี่แหละ

 

 

“แล้ว นายมาทำอะไรที่นี่เนี่ย”

 

 

“อ๋อ ผมมาช่วยงานคุณเอมิลี่ครับ ผมโทรมาของานเธอทำ เธอเลยให้มาช่วย คุณล่ะ”

 

 

“มาเป็นตากล้องนั่นแหละ มาถ่ายภาพพอร์ตเทรตกับวีดีโอให้นายแบบนางแบบของเอ็ม” ผมยิ้มตาเป็นประกาย

 

 

“งานเดียวกันแน่เลย!” กรี๊ดดด ผมจะได้ทำงานร่วมกับอดัมเป็นอาทิตย์เลยเหรอ

 

 

“สงสัยจะใช่ เพราะวีคนี้ก็มีอยู่งานนี้งานเดียวเนี่ยแหละ” เขาหัวเราะ โอ๊ยตายละ รอยยิ้มของเขาดูแบด ดูยั่วมาก ทำไมถึงได้เท่ละลายใจแบบนี้นะ รู้สึกว่าแหวนที่นิ้วนางมันหลวมๆ ยังไงไม่รู้ ควรถอดเก็บมั้ย

 

 

“คุณเป็นไงบ้างครับ” อดัมไหวไหล่ทั้งสองข้างอย่างสบายๆ และยิ้มมุมปากเท่ๆ

 

 

กรี๊ดดด! ได้! อดัม ทำให้ใจผมเต้นหนักมากนะ

 

 

“ไม่เจ็บป่วยอะไร ปีที่ผ่านมาฉันเอาแต่เที่ยว ท่องเที่ยวเพื่อถ่ายภาพน่ะ ฉันเปิดแอคเค้าท์สำหรับลงรูปท่องเที่ยวในอินสตาแกรม” ผมคลี่ยิ้ม ทำไมรู้สึกว่ายิ้มมากกว่าตอนอยู่กับผัวอีกนะ

 

 

“เปลี่ยนจากถ่ายคนมาถ่ายวิวแทนแล้วเหรอ”

 

 

“ก็ไม่หรอก ฝึกถ่ายไว้หลายๆ แบบไง จะได้มีคนจ้างเยอะๆ ก็ได้ผลนะ มีคนจ้างให้ฉันเที่ยวเยอะพอสมควร”

 

 

“ดีจังเลยนะครับ ได้เที่ยว แถมยังได้ตังค์อีก”

 

 

“แต่ตอนนี้ฉันก็เบรกตรงนั้นไว้ กลับมาถ่ายคนก่อน เดี๋ยวจะลืมซะหมด” ผมยิ้มกริ่ม พยักหน้าดุ๊กๆ อย่างกระตือรือร้น เป็นคนสดใส ชื่นมื่นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

 

 

“ขึ้นไปข้างบนมั้ย เอ็มอยู่บนนั้นแหละ กำลังวุ่นวายจัดการลูกๆ เธออยู่”

 

 

“ไปกันครับ” แมท ทำไมเธอต้องทำตัวกระตือรือร้นเกินเบอร์ประหยัดไฟขนาดนี้ ถ้าผัวรู้ โดนตีสมองไหลแน่ๆ

 

 

ผมเดินขึ้นบันไดไปพร้อมกับอดัม เดินไปคุยกันไป ขึ้นมาถึงชั้นสองเพิ่งนึกได้ว่ามีลิฟต์ ที่จะใช้ทำงานวันนี้อยู่ชั้นสามแต่อีกชั้นเดียวและกำลังคุยกันเพลินเลยพากันเดินต่อ พอขึ้นมาด้านบนผมก็เจอกับเอมิลี่ที่กำลังเช็กความเรียบร้อยของนางแบบสองคนที่จะมาถ่ายพอร์ตเทรตในวันนี้อยู่

 

 

“คุณเอมิลี่!” เธอหันมายิ้มสดใส ดวงตาสีฟ้าเปล่งประกาย ผมเดินเข้าไปกอดเธอ เอมิลี่ผมยาวแล้ว ยาวถึงกลางหลังเลย ผมว่าแบบนี้ทำให้เธอดูสวยแบบผู้หญิงทำงานเก่งๆ

 

 

“ฉันดีใจนะที่วิคเตอร์ยอมปล่อยเธอให้ออกมาจากกรงขังของเขา” เอมิลี่กลอกตาพร้อมกับบึนปาก ผมหัวเราะชอบใจ อดัมเองก็ยิ้มขำไปด้วย ผมเกือบจะเคลิ้มไปกับรอยยิ้มของอดัมอีกแล้ว

 

 

“วันนี้จะให้ผมทำอะไรบ้างครับ”

 

 

“ง่ายๆ เลย มันเป็นงานที่จริงๆ เธอควรจะต้องทำตั้งแต่สมัยฝึกงาน แต่โดนวิคเตอร์ดึงตัวไป” ผมยิ้มและฟังเธออธิบายงานว่าวันนี้ผมต้องคอยเช็กนายแบบนางแบบในสังกัดของเอมิลี่ เป็นหน้าใหม่ทั้งหมด พอร์ตเทรตที่จะถ่ายคือเอาไว้สำหรับยื่นไปตามงานต่างๆ มีทั้งถ่ายชุดธรรมดา ชุดแฟชั่นเป็นเซ็ทและชุดว่ายน้ำ ช่างหน้าช่างผมมี แต่บางทีอาจจะต้องคอยช่วยเขาบ้าง แล้วก็มีไปช่วยคอสตูมนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่เตรียมไว้หมดแล้ว ก็เหมือนให้ผมมาเป็นผู้ช่วยกองถ่ายแฟชั่นอีกที

 

 

“ได้ครับ อันนี้คือเราจะเริ่มถ่ายเลยรึเปล่า”

 

 

“ใช่แล้ว เดี๋ยวถ่ายนางแบบก่อน มีเวลาชั่วโมงเดียวสำหรับสองคนนี้” เธอชี้ไปที่สาวผิวสีหัวหยิกตัวสูง โครงหน้าชัดไปหมดทุกส่วน กับสาวผิวขาวซีด มีกระบนใบหน้า ทั้งคู่อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีน ผมยิ้มให้กับทั้งสองคน พวกเธอยิ้มตอบกลับมา เราทักทายกันเล็กน้อยแล้วก็เริ่มงานเลย

 

 

อดัมเป็นตากล้องที่หล่อมาก เอ่อ ไม่ใช่ เป็นตากล้องที่เก่ง จริงๆ ผมมองว่าการถ่ายภาพมันไม่ได้แตกต่างกัน มันคือการกดถ่ายสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยกล้องแบบใดแบบหนึ่งเท่านั้นเอง แต่พวกตากล้องที่ร่ำเรียนมาเขาคงรู้มุม รู้องศา รู้แสงในการถ่ายภาพ ถ้าเป็นเราๆ ก็กดถ่ายไปเรื่อย เห็นสว่างหน่อยก็ถ่ายได้แล้ว แต่อดัมต้องจัดแสง ส่องกล้อง กดถ่าย แล้วหันไปเช็กในจอแม็คบุ๊ค ให้นางแบบขยับมุมนั้นมุมนี้

 

 

“แมทเข้าไปจัดผมนางแบบให้ยุ่งๆ แบบเพิ่งตื่นนอนหน่อย” อดัมชี้ไปที่นางแบบสาวผิวซีดที่ตอนนี้กำลังถ่ายเดี่ยวคนแรกอยู่ ผมหันไปกวักมือเรียกช่างผมที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ผมฟูใส่แว่นตากรอบสีดำ เธอเดินเข้ามาหน้ากล้องพร้อมกับหวีและสเปรย์ ผมอธิบายให้เธอฟัง แล้วเราก็ช่วยกันทำผมให้นางแบบดูเหมือนเพิ่งตื่นนอน พออดัมยกมือว่าโอเคเราก็เดินออกไปให้พ้นเฟรม

 

 

“Smile. That’s good. Chin up a little bit. (ยิ้ม ดีมาก เชิดหน้าขึ้นหน่อย)” อดัมกดถ่ายภาพรัวๆ ก่อนจะหันไปเช็กภาพในแม็คบุ๊ค แล้วก็หันไปมองเอมิลี่ พอเธอพยักหน้าให้ เขาก็บอกให้นางแบบไปเปลี่ยนชุด

 

 

เซ็ทต่อมาก็เป็นชุดแฟชั่น ผมแต่งหน้าทำผมไม่เป็น เลยรอช่วยฝ่ายเสื้อผ้าแทน ระหว่างที่รอนางแบบอีกคนเปลี่ยนเป็นเซ็ทแฟชั่น อดัมก็เรียกให้อีกคนที่อยู่ในลุคซ์ธรรมดาๆ มาถ่ายภาพก่อนเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา สาวคนนี้เป็นสาวผิวสี ผมหยิกโดยธรรมชาติ อดัมปล่อยให้เป็นไปตามนั้น เธอสูงมากแล้วก็สวยมากในแบบฉบับสาวผิวสี ทรวดทรงองค์เอวคือเผ็ด แล้วการโพสท่าของเธอก็ดูโปรมากๆ แม้จะเป็นนางแบบหน้าใหม่ก็ตาม

 

 

“Okay.” เธอไปแต่งหน้าสำหรับเซ็ทถัดไป อดัมยืนเช็กภาพบนจอแม็คบุ๊ค ผมเลยไปยืนดูด้วยเพื่อเป็นความรู้ เขาก็สอนเรื่องการตกกระทบของแสง การถ่ายภาพคนต้องดูตัวคนเป็นหลักว่าเขามีรูปหน้าแบบไหน รูปร่างยังไง

 

 

“แล้วนายจะมาช่วยเอ็มทำงานตลอดเลยรึเปล่า” ผมส่ายหน้าน้อยๆ

 

 

“คงเป็นแค่ช่วงนี้แหละครับ ผมว่างงานอยู่ เพิ่งถ่ายหนังเสร็จหนึ่งเรื่อง ยังไม่มีเรื่องใหม่ให้ทำเลย” อดัมยิ้มแปลกใจ

 

 

“นายทำหนังเหรอ”

 

 

“เป็นเบื้องหลังแหละครับ”

 

 

“ทำหน้าที่อะไรล่ะ”

 

 

“ได้เขียนบทนิดหน่อย จริงๆ มันเป็นแค่การปรับบทมากกว่า หลังจากนั้นผมก็เป็นผู้ช่วยในกองถ่ายนี่แหละครับ ตอนนี้ก็ว่าง แต่ผมก็จะพยายามหากองใหม่ๆ” อดัมทำหน้าครุ่นคิด มือขวาลูบใต้คางเบาๆ

 

 

“รู้จักผู้กำกับที่ชื่ออเล็กซ์มั้ย” ผมย่นคิ้ว เค้นความคิด ด้วยความที่ชื่อเขาไม่ใช่ดารานักแสดง มันเลยอาจจะต้องใช้เวลานิดนึง

 

 

“อเล็กซ์ วินโกลด์” ผมตาวาวเมื่อชื่อเต็มหลุดออกจากปากอดัม ผมอ้าปากค้างแล้วพยักหน้ารัวๆ

 

 

“รู้จักครับ ผมชื่นชอบเขามาก ผมตามดูหนังเขาทุกเรื่อง!” อดัมยิ้มขำ

 

 

“เขากำลังจะทำหนังใหม่ ฉันเคยไปเป็นตากล้องเบื้องหลังให้เขา นายลองไปทำงานกับเขาดูสิ” มันคงคล้ายๆ กับความรู้สึกในการเป็นติ่งพี่อดัม มารูนไฟว์แล้วได้เจอเขา (แต่ผมยังไม่ได้เจอ) แบบตัวเป็นๆ ใกล้ๆ แต่มันมากขึ้นมากกว่านั้นอีกนิด

 

 

“ผมไปได้จริงเหรอ แล้วเขาจะรับผมมั้ยอะ”

 

 

“วิคเตอร์น่าจะช่วยนายได้นะเรื่องนี้” หัวใจที่กำลังพองโต ค่อยๆ ฟีบลงๆ รอยยิ้มบนใบหน้าหดลงเหลือนิดเดียว

 

 

“เขาไม่ได้มีเปิดรับสมัครเหรอครับ” อดัมหัวเราะเบาๆ

 

 

“ไม่มีหรอก เขาก็มีทีมงานของเขานั่นแหละ ของแบบนี้นะแมท บางทีมันต้องมีเส้นสายบ้าง ไม่งั้นก็เข้าไม่ถึงตัวเขา ยิ่งกับอเล็กซ์ ตำนานแห่งวงการแผ่นฟิล์ม มันคงไม่ง่ายนักหรอกฉันว่า” อ้าว หุบแล้วหุบอีกเลยทีนี้

 

 

มันเป็นอย่างที่อดัมว่า อเล็กซ์ วินโกลด์ คือตำนาน ไม่ได้หมายความว่าเขาเก่าแก่ต้องดึงทึ้งทั้งตัวอะไรแบบนั้น แต่เขาเป็นผู้กำกับที่มีฝีมือมากกก หนังที่เขากำกับเองมีแค่สิบสี่เรื่องจนถึงปัจจุบันทั้งหนังสั้นหนังยาว แต่แทบทุกเรื่องได้รับความนิยมหมด ทั้งเรื่องรายรับและคำวิจารณ์ มีแป้กบ้างสามสี่เรื่อง แต่ช่วงปีให้หลังมานี้ เขาเน้นงานหนังชิงรางวัลมากกว่าหนังบล็อกบัสเตอร์ แต่กระนั้นก็ยังได้รับความนิยมอย่างดี ช่วงที่เขาไม่ได้กำกับหนัง เขาก็นั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์แทน เขาเป็นผู้กำกับวัยสี่สิบเฉียดห้าสิบที่ดูดีมาก เคยแต่งงานมีครอบครัว แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด เพราะความติสท์ของเขา และเพราะเขาติสท์นี่แหละ เลยเป็นที่มาของคำว่าไม่ง่าย

 

 

แต่สิ่งที่ไม่ง่ายยิ่งกว่าคือการขอให้วิคเตอร์ช่วยให้ผมได้ทำงานกับอเล็กซ์

 

 

“อันนี้เอ็กซ์คลูซีฟมากเลยนะครับ ผมยังไม่เห็นข่าวเรื่องนี้เลย”

 

 

“ชื่อเรื่องยังไม่มีเลย แต่เขาจะถ่ายทำในปีนี้แหละ ฉันรู้มาจากทีมงานที่เคยทำด้วยกัน ถ้านายชื่นชอบเขาจริง ลองดูสิ แต่เขาเนี้ยบน่าดูเลยนะ”

 

 

“เขาดุเหรอครับ” อดัมขมวดคิ้วนิดหนึ่ง

 

 

“มันก็แล้วแต่คนจะมอง บางคนบอกว่าเขาดุ บางคนบอกไม่ บอกคนบอกเขาใจร้ายก็มี ฉันก็บอกไม่ถูกว่าเขาเป็นแบบไหน แต่งานเขาดีจริง” อันนี้ผมเชื่อ งานเขาดีจริง ทำมาสิบกว่าเรื่อง แนวไม่ซ้ำกันเลย เป็นผู้กำกับที่ทำหนังออกมาได้มีเสน่ห์มาก

 

 

“เรื่องดุผมไม่ค่อยกังวล” กลัวแค่เขาจะเหมือนพีทที่หมั่นไส้ผม ถ้าเกิดผมให้วิคเตอร์เป็นคนผลักดันเข้าไปหาเขา

 

 

“นายน่าจะรับมือเขาได้แหละ ลองไปสมัครดู ถ้าได้ทำกับอเล็กซ์ ฉันว่านายได้อะไรเยอะ” ยกเว้นน้ำตาได้มั้ย

 

 

“โอเค พร้อมแล้ว!!” เอมิลี่ตะโกนมาพร้อมกับพาตัวนางแบบกลับมาที่หน้ากล้อง เราเลยหยุดคุยกันประเด็นนี้ไว้ก่อน

 

 



เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:


               ฮัลโหลววว กลับมาแล้วววว

               เทศกาลนางงามจักรวาลทีไร อีขุ่นเจ้ชอบหายเงียบไปกับนิยายทุกที 55555

               แต่จริงๆ ในส่วนหนึ่งคือเตรียมเรื่องหนังสือของพาร์ทนี้อยู่ค่ะ ครุคริๆ อะไรยังไงนะ เดี๋ยวรออัปเดตที่หน้าเพจเฟซบุ๊คของขุ่นเจ้ได้เลยนะค้าาา

               น้องแมทได้กลับมาเจอพี่อดัมอีกครั้ง ทำให้ลืมผัวตัวเองไปอย่างสนิทใจ เคยแรดกับอดัมอย่างไรก็แรดอยู่อย่างนั้น เห้ออออ

               อดัมก็ได้ชี้เป้าในการล่าฝันของเอเลี่ยนอีกแล้ววว อดัมพลาดแล้วค่ะ ช่วยด้วยยยยย

               หลายคนอ่านตอนนี้คงแบบ อีแมท มึง มึงจะเอาอีกแล้ว จะเล่นใช่มั้ย?!

               เจอกันอีกครึ่งที่เหลือค่า ตอนใหม่พี่แซ็คก็อัปแล้วนะ ใครตามอ่านอยู่ ไปอ่านกันด้ายยยย

               



ขอบคุณสำหรับคอมเม้นจากคนอ่านทุกคนที่คอมเม้นให้กันนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ มันเป็นกำลังใจดีๆ สำหรับคนเขียนมากๆ มันคือแรงขับเคลื่อนและกำลังใจในการเขียนมากเลยค่ะ รู้ว่ามีคนรออ่านและรอมีอินเนอร์ร่วมไปด้วยกันทุกครั้งที่ลงเนื้อเรื่องก็ปริ่มใจ ขอบคุณค่ะ และขอบคุณโหวตที่มอบให้ด้วยค่ะ ได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็ไม่เป็นไร แต่พอได้ก็ดีใจ ฮ่าาา และขอบคุณยอดวิวจากนักอ่านเงานะคะ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 50% :15.11.60:
«ตอบ #1994 เมื่อ15-11-2017 22:20:33 »

นุ้งแมทจะได้ทำเหรอ ผัวยักษ์นี่หวงยังกะอะไรดี อิอิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 50% :15.11.60:
«ตอบ #1995 เมื่อ15-11-2017 22:23:47 »

 :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 50% :15.11.60:
«ตอบ #1996 เมื่อ15-11-2017 22:30:04 »

เหมือนหาเรื่องไฟท์กันอีกแล้ว

ออฟไลน์ wildride

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 50% :15.11.60:
«ตอบ #1997 เมื่อ15-11-2017 22:43:35 »

  :katai5:

 โอ่ยยย  แวววมาคุ๊..มาคุ

  ถึงจะดื้อๆมึนๆแต่ก็ทีมแมทนะจ๊ะ

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 50% :15.11.60:
«ตอบ #1998 เมื่อ15-11-2017 22:54:52 »

งุ้ยยยย ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 50% :15.11.60:
«ตอบ #1999 เมื่อ16-11-2017 04:39:36 »

โอ๊ย ........ขำแมท  :laugh: :laugh: :laugh:
พอเจออดัม นี่สดใส อารมณ์ดีสุดๆ กระดี๊ กระด๊า หมั่นไส้นางจริงๆ
เดี๋ยวจะถอดแหวนเก็บ เดี๋ยวแหวนหลวมๆ ฮึ้ยยยย
แต่ไม่วายนึกถึงยักษ์ไปด้วย ไม่ใช่แบบคิดถึงคะนึงหาซะด้วย
เป็นแบบถ้ายักษ์รู้ว่ากรี๊ดกร๊าดกับอดัม ยักษ์ต้องตบแมทสมองไหล ตายๆๆๆ :z3: :z3: :z3:
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 50% :15.11.60:
« ตอบ #1999 เมื่อ: 16-11-2017 04:39:36 »





ออฟไลน์ o4u0n7

  • mgAmuptUF
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • secret ladies online
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 50% :15.11.60:
«ตอบ #2000 เมื่อ16-11-2017 13:58:45 »

แมทนี่ประเภท ชอบลองของ  :hao6: ตลอดอ่ะ

ออฟไลน์ TongRung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 50% :15.11.60:
«ตอบ #2001 เมื่อ16-11-2017 21:04:13 »

ยักษหวงงงง อด.     :hao3:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 50% :15.11.60:
«ตอบ #2002 เมื่อ16-11-2017 23:10:51 »

เหมือนแมทจะหาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ว เดวก็ได้ทะเงาะกันอีก

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 50% :15.11.60:
«ตอบ #2003 เมื่อ20-11-2017 22:40:02 »

จะทะเลาะกันอีกไหมเนี่ยแมท

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 100% :21.11.60:
«ตอบ #2004 เมื่อ21-11-2017 20:07:44 »



Yours and Mine EP.14 (100%)



ผมหอบสตาร์บัคกลับมาที่ออฟฟิศทั้งหมดแปดแก้ว วางในแผงใส่แก้วและใส่ถุงอีกที แล้วก็มีอาหารฟาสต์ฟูดสามถุงใหญ่ๆ สำหรับทีมงานทุกคน มีหอบผ้าพันคอจากแอร์เมสมาด้วยสามถุง แล้วก็มีกางเกงในจากแบรนด์คาลวิน ไคลน์ที่วิคเตอร์เคยเป็นนายแบบให้ เอาไว้สำหรับนายแบบในรอบบ่าย เหล่านางแบบถ่ายรอบเช้าไปกันหมดแล้ว ค่อนข้างทุกลักทุเลนิดหน่อย แต่พอได้ทำแล้วนึกถึงตอนที่ได้เจอกับวิคเตอร์แรกๆ เลย แกล้งใช้ผมไปซื้อนั่นซื้อนี่แบบเนี้ย เอาให้เยอะๆ อีเอเลี่ยนตัวเตี้ยๆ คนนี้ก็แบกไปสิ แบกจนท่วมตัว

 

 

ติ๊ดติ๊ด

 

 

เสียงระบบเปิดประตูดังขึ้นตอนที่ผมใช้ปากคาบคีย์การ์ดแตะลงไป แต่ปัญหาคือผมดึงประตูไม่ได้ พอยังไม่ดึงสักทีประตูมันเลยล็อคอีกรอบ ก็เลยต้องยื่นหน้าเอาคีย์การ์ดในปากไปแตะอีกรอบ พอจะดึงให้เปิดอีกรอบก็ไม่ทันมันเพราะแขนพะรุงพะรังไปหมด เลยต้องแตะรอบที่สาม แต่เพราะรีบร้อนไม่เตรียมแขนให้พร้อมมันเลยล็อคอีก ผมคำรามเบาๆ แล้วกำลังจะวางของลงบนพื้นแต่ก็ชะงักไว้เพราะเสียงของหนุ่มๆ

 

 

“เฮ้ แตะอีกทีสิ เดี๋ยวฉันเปิดให้” ผมหันไปมอง เป็นกลุ่มผู้ชายหน้าและหุ่นนายแบบสามคน ซึ่งทั้งสามคนหล่อลากมดลูก ตะลึงเกือบปล่อยคีย์การ์ดออกจากปาก หนึ่งในนั้นหัวเราะน้อยๆ ผมได้สติก็รีบหันไปแตะคีย์การ์ด พ่อหนุ่มผมสีน้ำตาลแก่แซมทองนิดๆ เป็นคนดึงให้ ผมรีบก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านใน ทั้งสามคนเดินตามมา ผมปล่อยคีย์การ์ดอออกจากปาก ให้มันห้อยคล้องคอตามเดิม

 

 

“ขอบคุณครับ” ผมขอบคุณพร้อมกับยิ้ม หนุ่มผมสีน้ำตาลแก่แซมทองอ่อนๆ ยกยิ้มตอบกลับมา

 

 

“ให้พวกฉันช่วยมั้ย”

 

 

“ไม่เป็นไร พวกคุณคงมาถ่ายงานของเอมิลี่ใช่มั้ย”

 

 

“ใช่ๆ นายเป็นทีมงานเหรอ” หนุ่มตาฟ้าอ่อน ผมสีน้ำตาลอ่อนและหยิกน้อยๆ เป็นคนเอ่ยถาม

 

 

“ครับ เชิญชั้นสามเลย” หนุ่มตาฟ้ายื่นมือไปกดลิฟต์ พอลิฟต์เปิดออก พวกเขาก็ผายมือให้ผมเข้าไปก่อน หนุ่มอีกคนที่ยังไม่มีบทพูดเป็นผู้ชายหัวเกรียนแต่ไม่ใช่แบบออสติน ตัดหัวเกรียนแบบนักเรียนเตรียมทหารในไทย ตาสีดำปกติ ดูมีเชื้อละตินเล็กๆ

 

 

“What’s your name? (นายชื่ออะไรเหรอ)” หนุ่มตาสีน้ำตาลเข้ม ผมน้ำตาลแก่แซมทองอ่อนๆ ที่ช่วยผมเปิดประตูเอ่ยถามในขณะที่ลิฟต์เคลื่อนตัว

 

 

“I’m Matt. And you? (ผมแมทครับ แล้วคุณล่ะ)”

 

 

“I’m Sebastian. The blue eyes is Louis. The black eyes is Loic. (ฉันชื่อเซบาสเตียน คนตาฟ้าชื่อลูอิส คนตาดำๆ นั่นชื่อโลอิค)” อีกสองคนที่เหลือพยักหน้าให้ผมพร้อมกับยิ้มให้น้อยๆ ก็เป็นจังหวะที่ลิฟต์เปิดออกพอดี พวกเราเดินออกมาพร้อมกัน ทั้งสามคนเดินไปทักทายเอมิลี่ อดัมรีบเข้ามาช่วยผมยกของไปวางบนโต๊ะแล้วก็กลับไปทำงานตัวเองต่อ ผมจัดการเอาถุงผ้าพันคอกับถุงกางเกงชั้นในไปให้ฝ่ายคอสตูมทันที

 

 

“Thank you, Matt.”

 

 

“You’re welcome.” ผมยิ้มให้เธอทั้งสองคนแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะที่มีอาหาร จัดการแจกสตาร์บัคให้ทุกคนตามออเดอร์ของตัวเอง

 

 

“No for me? (ไม่มีให้ฉันเหรอ)” เซบาสเตียนหันมาถาม ผมหน้าเหวอเล็กน้อย

 

 

“Kidding. (ล้อเล่น)” แล้วเขาก็ยิ้มทะเล้น ผมยิ้มกว้างตามรอยยิ้มของเขา เป็นผู้ชายที่รูปหน้าหล่อชัดเจนเชียวละ โหนกแก้ม สันกราม แต่ไม่ใช่สันกรามเหลี่ยมแบบลุงหม่ำ แก๊งค์สามช่านะ จมูกโด่ง ตาสองชั้นเรียวสวย ริมฝีปากกระจับน่าจับน่าจูบ

 

 

“You guys want it? I can walk to Starbucks again if you want. (พวกคุณเอามั่งมั้ยล่ะ เดี๋ยวผมเดินกลับไปสตาร์บัคให้อีกก็ได้)” กับผู้ชายเราต้องบริการให้ดีและเต็มที่ ให้เหมือนที่เราบริการสามี

 

 

“No. No. Don’t worry. It’s fine. Relax, Matt. (เปล่า เปล่า ไม่ต้องกังวลนะ ไม่เป็นไร ใจเย็นแมท)” เซบาสเตียนหัวเราะอ่อนๆ ผมอ้าปากหวอกะพริบตาปริบๆ คือตูงงว่าตูใจร้อนอะไรวะ ผมแค่นยิ้มและพยักหน้าแบบมึนๆ

 

 

“Okay.” แล้วผมก็เดินไปหาเอมิลี่ ถามงานจากเธอว่าผมต้องทำอะไรต่อ

 

 

“ผู้ชายไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่ เธอสแตนด์บายไว้ก็แล้วกัน” ผมพยักหน้าและยิ้ม เดินกลับไปหาอดัมที่กำลังนั่งดูหน้าจอสลับกับจดยุกยิกในสมุดโน้ต

 

 

ตอนที่ถ่ายชุดว่ายน้ำของนางแบบผู้หญิง อดัมดูชินชาและเฉยมาก ซึ่งเขาก็บอกว่า เขาเห็นหุ่นผู้หญิงมาหลายรูปแบบ เห็นแบบเปลือยเปล่าก็เคยมาแล้ว แรกๆ เขาก็ประหม่า ตาลุกวาว แต่พออยู่ๆ ไปมันก็เริ่มรู้สึกเฉยๆ เพราะมันคือการทำงาน เขาเล่าว่าเรื่องนอนกับนางแบบที่ร่วมงานด้วยเคยเกิดขึ้นอยู่สามเกือบสี่ครั้ง ครั้งที่สี่ยังไม่ทันได้นอนก็ทะเลาะกันซะก่อน

 

 

“กินอะไรก่อนมั้ยครับ เดี๋ยวผมไปหยิบมาให้”

 

 

“ก็ดีนะ” ผมเดินกลับไปที่โต๊ะวางของกินไว้ หยิบแฮมเบอร์เกอร์ออกมาราดซอสให้เขา และหยิบไก่ทอดมาให้เขาด้วยหนึ่งกล่อง ผมยื่นให้เขา อดัมอ้าปากเป็นสัญญาณให้ป้อน ผมแอบยิ้มกรุ้มกริ่มคนเดียวแล้วก็ถือแฮมเบอร์เกอร์ป้อนเขา รู้สึกชนะอย่างบอกไม่ถูก ฮี่ๆ

 

 

“อดัม ถ้าเธอพร้อมแล้วเริ่มได้เลย” อดัมเงยหน้าขึ้นมองเอมิลี่ทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก เขาพยักหน้าหงึก ชูมือซ้ายขึ้นทำท่าว่าโอเค เขากลืนแฮมเบอร์เกอร์ลงคอจนหมด หยิบน้ำดื่มในขวดมากระดกจนหมดไปครึ่ง ผมใช้กระดาษห่อแฮมเบอร์เกอร์ห่อไว้ตามเดิมและวางไว้บนโต๊ะใกล้กับแม็คบุ๊คของอดัม และไปยืนสแตนด์บายรอ คนแรกที่ถ่ายคือเซบาสเตียนในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนที่เขาใส่มานั่นแหละ แค่ทำผมให้ดูเป็นทรงมากขึ้น

 

 

“ถอดเสื้อ” เซบาสเตียนถอดเสื้อยืดออก ผมเดินเข้าไปรับเสื้อของเขา เซบาสเตียนยิ้มให้ ผมเลยยิ้มตอบและเดินออกไปยืนใกล้กับอดัมตามเดิม อดัมสั่งให้เขายืนตรง หมุนตัวจนครบสี่ทิศ ถ่ายทิศละหลายๆ ช็อต ก่อนจะให้หันกลับมายืนหน้าตรงอีกรอบ

 

 

“ไปเปลี่ยนเป็นกางเกงชั้นในได้เลย” เซบาสเตียนเดินออกไปจากฉากหลังสีขาว เอมิลี่กวักมือเรียกผมให้เดินเข้าไป ผมเดินถือเสื้อเซบาสเตียนเข้าไปหาเธอ โดยมีเจ้าของเสื้อยืนอยู่ใกล้กัน

 

 

“เดี๋ยวพอเขาเปลี่ยนเป็นคาลวิน ไคลน์เสร็จ เธอใช้สีเพ้นท์ตัวเขียนบนอกเป็นชื่อเขาทีนะ ใช้สีดำนะจ๊ะ”

 

 

“โอเคครับ” ผมหันไปมองเซบาสเตียน คลี่ยิ้มหนึ่งทีแล้วพาเขาไปทางห้องแต่งตัว ฝ่ายคอสตูมไม่ได้ยื่นอะไรให้มากนอกจากกางเกงชั้นในสีดำทรงสามเหลี่ยมของแบรนด์ดัง

 

 

“ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า…”

 

 

“…ไม่ต้องหรอก เปลี่ยนตรงนี้ก็ได้” ผมค้างเติ่ง เซบาสเตียนจัดการปลดกระดุมกางเกงยีน แบะเป้าออกแล้วก็รูดลงไปกองที่ข้อเท้า เขาเตะกางเกงยีนออก ผมก้มลงเก็บกางเกงยีนเขาขึ้นมา พอเงยหน้าขึ้นก็ต้องรีบก้มหน้าลงเพราะเขาถอดบ็อกเซอร์ที่ใส่มาออกจนร่างเขาเปลือยไปทั้งตัว ผมก้มหน้าลงแล้วยื่นกางเกงชั้นในให้เขา

 

 

“เขินเหรอ” ผมอมยิ้ม แล้วก็ยืนขึ้น หันหลังให้เขา ทำเนียนพับเสื้อผ้าให้เขาไปพลางๆ ซึ่งอยากบอกว่าจริงๆ คือเขิน แต่ที่จริงๆ มากกว่าคืออยากจ้องมองให้เต็มตาไปเลย

 

 

“เสร็จแล้ว นายต้องเพ้นท์ให้ฉันนี่” ผมหันกลับไปมองเขา เรื่องหุ่นผู้ชายมันก็ไม่ใช่ว่าจะชินกันง่ายๆ เนาะ เพราะหุ่นแต่ละคนไม่เหมือนกัน ที่สำคัญผมเห็นแต่หุ่นผัวตัวเองมาตลอด พอได้เห็นหุ่นผู้ชายคนอื่นบ้างก็ชื่นใจ เอ้ย ก็ตื่นตกใจเล็กๆ วีเชฟเซบาสเตียนลายคมชัดเชียว

 

 

“แปบนึงนะ ผมไปเอาสีก่อน” เขายักคิ้ว ผมหมุนตัวเดินไปถามหาสีกับฝ่ายคอสตูม หนึ่งในนั้นยื่นมาให้ผม เป็นขวดสีเล็กๆ สีดำกับพู่กันเบอร์สิบกว่าหนึ่งอัน ผมเดินกลับไปหาเซบาสเตียนที่ยืนเปลือยแบบสบายๆ ไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรมาก

 

 

“ขออนุญาตนะครับ” เขากางแขนออกและแอนอกขึ้นนิดหน่อย

 

 

“เอาเลย ร่างกายฉันเป็นของนายแล้ว” ผมคลี่ยิ้มขำ นี่ถ้าไอ้ยักษ์รู้ว่างานที่ผมต้องมาช่วยเอมิลี่เป็นแบบนี้นะ มันต้องไม่ให้ผมมาอีกแน่ๆ ซึ่งผมจะสูญเสียจุดนี้ไปไม่ได้ ผมจะไม่บอกไอ้ยักษ์เด็ดขาดและจะกำชับเอมิลี่ด้วย

 

 

“S-E-B-A-S-T-I-A-N, right?”

 

 

“That’s right, baby.” ผมกระตุกยิ้มวูบหนึ่ง มันคือการพูดเล่นแซวเล่นของฝรั่งแหละ

 

 

ผมยืนมองแผงอกสีผสมขาวกับแทนของเขา หาจุดเริ่มต้นในการเขียนตัวอักษรให้ออกมาสวยๆ สมาธิผมโฟกัสการเขียนให้ออกมาไม่เละมากกว่าแผงอกล่ำหนาของเขา

 

 

“Oh, are you engaged? (โอ้ว นายหมั้นแล้วเหรอ)” เขาถามผมในตอนที่ผมเริ่มเขียนตัวเอสบนอกฝั่งขวาของเขา ผมแหงนหน้ามองเขานิดหนึ่งแล้วยิ้มอ่อน

 

 

“Yes, two years almost three years. (ครับ หมั้นไว้สองจะสามปีแล้วละ)” ผมจำพวกช่วงเวลาวันครบรอบ วันหมั้นอะไรไม่แม่นเลย ดีนะที่วิคเตอร์ก็ไม่ใช่คนลงดีเทลกับเรื่องแบบนี้ ซึ่งวิคเตอร์เป็นคนแบบนี้อยู่แล้วด้วยแหละ

 

 

“You just broke my heart, aren’t you? (ฉันอกหักเหรอเนี่ย)” ผมเงยหน้าขึ้นไปยิ้มขำกับเขา เซบาสเตียนแสร้งทำสีหน้าเจ็บปวด เอามือซ้ายมากุมหัวใจอย่างมีลีลา ผมหัวเราะน้อยๆ แต่ก็พยายามเขียนตัวบีให้เสร็จ

 

 

“Can I ask your age? (ถามได้มั้ยว่านายอายุเท่าไหร่)” ผมเริ่มเขียนตัวเอต่อจากตัวบี เขียนหางฝั่งซ้ายได้ก็หยุดตอบคำถามเขาก่อน

 

 

“26” เซบาสเตียนเบ้ปากเล็กๆ แต่ไม่ใช่เบ้แบบดูถูก เขายิ้มแบบไม่เห็นฟัน ผมยิ้มตามแล้วเขียนตัวเอให้เสร็จเรียบร้อย

 

 

“นายอายุมากกว่าฉันห้าปีเลยเหรอเนี่ย” มือที่กำลังจะเขียนตัวเอสชะงัก ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความทึ่งเล็กๆ

 

 

“คุณอายุ 21 เหรอ” เขาพยักหน้าพร้อมกับยิ้มมุมปากเท่ๆ โอ๊ว มายก็อด เด็กอายุยี่สิบเอ็ดอะไรทำไมมันล่ำและตัวโตขนาดนี้ แต่อย่าตื่นเต้นไปนังแมท ใช่ว่าเพิ่งเคยเจอเซบาสเตียนคนแรก เซบาสเตียนหน้าไม่แก่เลยนะ มองดีๆ หน้าเขาก็สมวัยในความเป็นฝรั่ง ไม่มีรอยเหี่ยวย่น แต่ด้วยความตัวใหญ่ หุ่นล่ำลีน ผมเลยตกใจน่ะว่าอายุเขาเท่านี้ แต่หุ่นเขาทำให้รู้สึกว่าอายุจะมากกว่านี้

 

 

“นายหน้าเด็กมากเลยนะแมท” ผมยิ้มเขินเล็กๆ จัดการเขียนตัวเอสให้เสร็จแล้วเริ่มตัวทีต่อ มีความรู้สึกว่าเซบาสเตียนกำลังจ้องมองผม แต่มันคือเรื่องปกติที่เขาจะมองคนๆ หนึ่งที่กำลังเขียนตัวอักษรบนอกเขา

 

 

“เรียบร้อยแล้ว ไปได้เลย” ผมมองผลงานบนอกเขาแล้วก็ยิ้ม ออกมาสวยเป็นระเบียบมาก ดีที่ไม่เละ ไม่เบี้ยว ตัวอักษรอาจจะไม่เท่ากันไปสักหน่อย แต่ก็ไม่ทุเรศนักหรอก

 

 

“ขอบใจ แมท” ผมพยักหน้า เซบาสเตียนมองผมแล้วทิ้งสายตามีเลศนัยไว้ให้ เขากระตุกยิ้มมุมปากแล้วก็เดินจากไป ทิ้งให้ผมย่นคิ้วนิดหน่อย แต่พอนายแบบคนต่อไปเดินมาทางนี้ ผมก็ยิ้มแล้วจัดการเพ้นท์อกให้เขา

 

 

กับนายแบบไม่ยุ่งยากอย่างที่อเมิลี่บอกจริงๆ มันแปบเดียวมาก นั่นเลยทำให้เธอโทรตามนายแบบมาที่ออฟฟิศอีกสามคน เพื่อที่จะได้ลดวันทำงานลงมา พวกเซบาสเตียนที่มาก่อน หลังจากถ่ายเสร็จก็ยังไม่กลับ อยู่กินขนมและนั่งคุยกันไปเรื่อยจนกระทั่งถึงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่เหลือนายแบบนางแบบของวันนี้อีกแล้ว

 

 

"เหลือพรุ่งนี้อีกวัน แต่พรุ่งนี้ไม่เยอะหรอก” เอมิลี่บอกตอนที่เริ่มเก็บของ ผมพยักหน้ารับ ทำงานแบบนี้สนุกและสบายดี ไม่หนักหน่วงมาก แต่ผมก็ยังชอบออกกองหนังอยู่ดีนั่นแหละ

 

 

“มีอะไรให้ช่วยอีกมั้ยครับคุณเอมิลี่” ผมถามเธอตอนที่จัดของเข้าที่เข้าทางหมดแล้ว

 

 

“หมดแล้วล่ะ พรุ่งนี้เวลาเดิมนะ”

 

 

“โอเคครับ” ผมเดินไปหาอดัมที่กำลังดูรูปที่ถ่ายไป

 

 

“เป็นไงบ้างอดัม”

 

 

“ฉันพอใจกับผลงานตัวเองนะ เดี๋ยวเอมิลี่ก็จะเลือกรูปเองอีกที”

 

 

“คุณจะกลับเลยรึเปล่าครับ”

 

 

“ยังหรอก นายกลับก่อนก็ได้ เจอกันพรุ่งนี้นะ” อดัมทำท่าเดิมตอนเจอกัน ผมยิ้มเขินและทำตอบกลับ ผมเดินไปกดลิฟต์ รอแปบเดียวลิฟต์ก็ขึ้นมา

 

 

“Bye. See you tomorrow.” ผมบอกลาทีมงานฝ่ายเมคอัพและคอสตูม เธอยิ้มให้และโบกมือลา ผมเดินเข้าไปในลิฟต์ จังหวะที่ลิฟต์กำลังจะปิด เซบาสเตียนก็พุ่งตัวเข้ามา เล่นอาผมตกใจ

 

 

“จะกลับแล้วเหรอ” เขาถามแล้วหันไปกดลิฟต์ให้ ผมพยักหน้า

 

 

“เสร็จงานแล้ว ก็เลยจะกลับบ้านน่ะ” วิคเตอร์กำลังมาที่นี่ อีกสักพักก็คงถึง

 

 

“ฉันไปส่งมั้ย” ผมหันไปมองหนุ่มน้อยวัยยี่สิบเอ็ดหน้าหล่อด้วยความฉงน

 

 

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวที่บ้านมารับ”

 

 

“คนที่ให้แหวนกับนายน่ะเหรอ” ผมคลี่ยิ้มบางๆ

 

 

“ใช่แล้ว” เซบาสเตียนยักคิ้วซ้ายหนึ่งทีอย่างเท่ ลิฟต์เปิดออก ผมเดินออกไป มีเซบาสเตียนเดินตาม ผมกดเปิดประตู ดึงค้างไว้เพื่อให้เซบาสเตียนออกมาด้วย

 

 

“คุณก็จะกลับบ้านเหรอ เพื่อนๆ คุณล่ะ”

 

 

“เดี๋ยวพวกนั้นตามลงมา แต่ฉันลงมาก่อน…” ผมพยักหน้างงๆ

 

 

“…ฉันมาส่งนาย” คราวนี้ผมไม่งง แต่ผมมึน และเริ่มฉุกคิดนิดหน่อย แต่ก็ไม่กล้าคอนเฟิร์มกับตัวเองว่าเซบาสเตียนจะมีความรู้สึกไปในทิศทางนั้น เพราะจากประโยคของเขาก็ยังไม่มีคำไหนที่ระบุชัดเจน

 

 

“โอ้ ขอบคุณมาก ใจดีจังนะ” ผมหัวเราะ เขาก็หัวเราะตาม เรายืนมองตากัน แล้วก็เป็นผมที่หลบสายตาเขาไปมองทางอื่น เพราะเขามองแบบได้เรื่อยๆ เหมือนไม่ซีเรียสที่จะมอง

 

 

“กลับบ้านยังไงล่ะเนี่ย” ผมหาเรื่องคุยกับเขาบ้างเพื่อไม่ให้เกิดความอึดอัด

 

 

“แท็กซี่น่ะ”

 

 

“อ๋อ” ผมพยักหน้า และเริ่มมองหารถของวิคเตอร์ ไม่ได้อยากทำสวยเล่นตัวนะ แต่มันทำตัวไม่ถูกอะ ไอ้สถานการณ์แนวนี้มันห่างหายไปนานมากแล้ว

 

 

“บ้านนายอยู่ตรงไหนเหรอ” เขาถามผมต่อ

 

 

“อยู่ Upper east side น่ะ นายล่ะ” ทำตัวให้เป็นปกติ อย่ากระโตกกระตาก เกิดเขาแค่แอ๊วเอินเล่นๆ เดี๋ยวมีเงิบ

 

 

“อ้าว อยู่ใกล้กัน ฉันอยู่อพาร์ทเม้นต์” ผมทำตาโตและยิ้มด้วยความประหลาดใจเล็กๆ กำลังจะอ้าปากตอบก็ได้ยินเสียงบีบแตรเรียกจากเจ้ากระทิงดุสีเทามันวาวที่จอดอยู่ด้านหลังตัวเอง

 

 

“กลับก่อนนะ ไว้มีโอกาสคงเจอกัน บ๊ายบายเซบาสเตียน” ผมโบกมือให้หนุ่มน้อย อีกฝ่ายโบกมือตอบกลับมา ผมวิ่งไปขึ้นรถ วิคเตอร์เขม้นมองเซบาสเตียนแว้บหนึ่งแล้วก็หักพวงมาลัยออกไปบนท้องถนน

 

 

“ใครน่ะ”

 

 

“นายแบบของเอมิลี่”

 

 

“แล้วมันมายืนทำอะไรกับนาย”

 

 

“เขาลงมาสูบบุหรี่พอดี เลยยืนคุยกันอะ” ผมนึกชมตัวเองที่ตีเนียนได้ดีมาก ไม่หลุดเอ๊อะอ๊ะ ไม่หลุดแอคติ้ง เพราะเอาเข้าจริง มันก็เป็นไปตามนั้น แค่เขาไม่ได้ลงมาสูบบุหรี่เท่านั้นเอง

 

 

“มันรู้ใช่มั้ยว่านายมีผัวแล้ว” ผมหัวเราะคิกคัก วิคเตอร์หันมามองเอื่อยๆ

 

 

“รู้สิ แหวนเพชรสะท้อนแสงขนาดนี้”

 

 

“ดี ห้ามถอด ฉันให้มาทำงานได้ แต่ถ้ามีตัวผู้มายุ่งกับนาย ฉันจะไม่ให้ทำอีก” อู๊ย เมียคิงสวยแต้ๆ เน๊าะอีป้อ

 

 

“ผมน่ารัก มันก็อาจจะยากหน่อยนะ โอะ โอ๊ย!” โดนผลักหัวอีกละ สมองได้ไหลจริงๆ สักวันนี่แหละ

 

 

“ใครบอก นายทุเรศ ขี้เหร่ หน้าตาอัปลักษณ์…”

 

 

“…พอ! ชีวิตนี้มีคุณเอาผมคนเดียว” ผมเบ้ปากใส่เขา ไอ้ยักษ์ยักคิ้วหน้าตาย

 

 

ผัวหวงก็ดีกว่าผัวเฉยเมยล่ะวะ ฮึกเหิมขนาด ป้อจายหึงกะด้อกะเดี้ย

 



เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้   :hao7:


               อุ๊ต๊ะ! นังเอเลี่ยนมีหนุ่มใหม่มาติดเหรอออ ต๊ายยย สวยไปอีกกก

          ที่สำคัญคือเด็กกว่า กรุบกริบกรุบกรอบมาก เซบาสเตียนหนุ่มน้อย หญ้าอ่อนอยากให้โคแก่กินล่ะสิ คริๆ

          ว่าแต่ว่าเซบาสเตียนเขาเป็นใครหนอ เขามาจากไหน เขามาทำอะไร เขามีใจให้นังแมทของพี่ยักษ์ได้ไงเนี่ยยย การมาช่วยงานเอมิลี่ครั้งนี้ถือเป็นการเบิกบุญเลยนะคะนังแมท รับแสงสีทองไปเต็มๆ

          ถือโอกาสนี้แจ้งเรื่องเปิดพรีออเดอร์หนังสือของพาร์ทสาม พาร์ท Yours&Mine ด้วยนะคะ แต่คงไม่ได้แจ้งในนี้ ตอมอัปเดตรายละเอียดคร่าวๆ และการคุยกันก่อนเปิดพรีออเดอร์ไว้แล้วที่เพจขุ่นเจ้ ใครยังไม่ได้รับข่าวสารในจุดนี้ คลิกเข้าไปอ่านได้ที่เพจเลยค่ะ เลื่อนๆ ลงไปเดี๋ยวก็เจอข่าวสารเรื่องการเปิดพรีหนังสือพาร์ทสุดท้ายของพี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยนค่ะ อยากให้คนอ่านที่สนใจหนังสือพาร์ทสุดท้ายของเรื่องนี้ได้อ่านทั้งการคุยกันคร่าวๆ และการคุยกันก่อนพรี จะได้มีความเข้าใจตรงกันเนอะ

          แล้วเจอกันในตอนต่อไปค่าาา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 100% :21.11.60:
«ตอบ #2005 เมื่อ21-11-2017 21:13:16 »

อูยยยย.....แมท มีป้อจายมาแอ่ว
ใจคงกระดี๊ กระด๊าสุดๆ
นี่ขนาดเห็นแหวนหมั้นแล้วนะเนี่ย
ก็คงได้แต่น้ำลายไหลแหล่ะ
เพราะยักษ์หวงเมียสุดๆ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 100% :21.11.60:
«ตอบ #2006 เมื่อ21-11-2017 21:35:50 »

ว้ายๆๆๆ

นุ้งแมทมีหนุ่มกรุบกริบมาแอ๊วเอิน

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 100% :21.11.60:
«ตอบ #2007 เมื่อ21-11-2017 21:36:42 »

มีปู้จายมาติดระวังพี่ยักษ์หึงโหดนะจ๊ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 100% :21.11.60:
«ตอบ #2008 เมื่อ21-11-2017 22:27:53 »

 :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.14 100% :21.11.60:
«ตอบ #2009 เมื่อ21-11-2017 22:28:06 »

งานจะเข้าแมทอีกซะละม้าง อิยักษ์รุ้นี่ท่าทางจะโดนขังไว้ในบ้านแหงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด