Only You EP.38 [100%]เอี๊ยดดด! โคร่ม!
ผมสะดุ้งตื่นไหล่กระตุกรุนแรงเพราะได้ยินเสียงล้อรถบดกับถนนใกล้ๆ บ้านเป็นทางยาว ตามด้วยเสียงของแข็งกระแทกกับอะไรสักอย่างดังสนั่น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงอีกหนึ่งเสียง
วี้ๆๆๆๆๆ
ผมค่อยๆ ยันตัวเองลุกขึ้นจากโซฟาหน้าตางัวเงีย หันไปมองรอบห้องโถงของบ้านอย่างงงๆ ก็เห็นออสตินในชุดนอนออกมายืนตรงทางเข้าห้องโถง ผมขยี้ตาเบาๆ เพื่อให้ตาสว่างก่อนจะลุกออกจากโซฟา
“อย่าเพิ่งออกไปนะครับ” ผมพยักหน้าง่วงๆ แล้วยืนอยู่ตรงทางเข้าห้องโถง มองออสตินเดินไปเปิดประตูบ้านแล้วก็เดินออกไปพร้อมกับปิดประตูตามหลัง ผมยืนชะเง้อมองไปทางประตู แต่ผ่านไปได้ห้านาทีก็ยังไม่มีอะไรเคลื่อนไหว ผมเลยก้าวเท้าเดินไปตรงประตู กะเปิดออกไปดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่ในขณะที่กำลังจะเอื้อมเปิด ประตูก็ถูกดันเข้ามาอย่างแรงจนผมต้องก้าวถอยหลังหลบเพราะกลัวจะโดนประตูฟาดหน้า
“วิคเตอร์” ผมมองร่างสูงอย่างงงๆ สักแปบ วิคเตอร์หน้าแดง กลิ่นเหล้าฟุ้งออกมาจากตัว เขายืนเกาะขอบประตูเอาไว้แล้วจับจ้องผมด้วยสายตาคมปลาบ ผมเลื่อนสายตาไปมองข้างนอก เห็นออสตินกำลังยืนคุยกับผู้ชายมีอายุผมหงอกคนหนึ่ง
“เกิดอะไรขึ้น…” เขาไม่ตอบ แต่เดินเข้ามาหาผม ยกแขนขวาคล้องคอผมไว้ ทำท่าจะพาผมล้มไปด้วย ผมเลยต้องเอาแขนซ้ายเกี่ยวเอวของเขา และพยายามประคองร่างโตๆ ของเขาเพื่อไม่ให้ล้มลงกองกับพื้น
ฟอด~
วิคเตอร์กดจมูกลงบนขมับของผมแรงๆ กดแช่แล้วสูดดมฟึดฟัด สักพักก็ลามขึ้นไปบนกลางกระหม่อม กดจูบสามสี่ทีแล้วก็แช่จมูกไว้บนหัวผมแบบนั้น
“ปะ… ไป โอ่ย หนัก ไปนั่งก่อนนะ” เขาเดินเซไปเรื่อย ผมต้องพยายามทรงตัวให้แข็งแรงเขาไว้เพื่อไม่ให้พากันล้ม วิคเตอร์กอดคอผมไว้แน่น หอมขมับ หอมแก้ม หอมหัวผมไม่หยุด
โอ่ยหน่อ รักกูแท้ พักสักแปบได้มั้ย เดินหน้าได้หนึ่งก้าว ถอยหลังไปจะสามก้าวอยู่เรื่อย จะถึงโซฟากี่โมง
“Baby…” เสียงทุ้มแหบห้าวดังอยู่ข้างหูพร้อมกับสัมผัสคลอเคลียข้างแก้ม
“Yes. I’m here baby.” วิคเตอร์หัวเราะหึๆ ในลำคอแล้วยิ้มเคลิ้มตาเยิ้ม ก้มลงหอมขมับผมไปอีกที กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่คละคลุ้งจนกลบกลิ่นตัวหอมๆ ของเขา
“อึ๊บๆ” ผมค่อยๆ ประคองร่างคนตัวโตลงบนโซฟา วิคเตอร์ทิ้งตัวลงนอนดังโครมจนไมเคิลเด้งตัวตื่นขึ้นมองสีหน้าฉงน
“เดี๋ยวผมมานะ” ผมกะจะออกไปดูเหตุการณ์ด้านนอกว่าเป็นยังไงบ้าง แต่พอก้าวเท้าได้ก้าวเดียวไอ้ยักษ์ก็ดึงผมลงไปนั่งบนตัก จับผมนั่งหันข้างเข้าหาเขา สองแขนโอบรอบเอวผมไว้แน่น ผมยกแขนซ้ายโอบหลังคอเขาไว้ วิคเตอร์ยื่นหน้าเข้ามาสูดดมซุกไซ้ซอกคอผมเบาๆ
“Horny. (เงี่ยx)” เขาว่าเสียงยานคาง ผมขำพรืด วิคเตอร์ยิ้มกริ่มเมาๆ ที่เห็นผมขำ
“อุก…”
“อ้าวๆ หงี่แล้วทำไมจะอ้วกล่ะ” ผมบ่นเป็นภาษาไทยและเบิกตากว้างมองคนตัวใหญ่ที่กำลังทำท่าพืดพะอมเหมือนอยากจะปล่อยอ้วกพุ่งออกจากปาก แล้วถามว่าถ้าอ้วก ใครรับ ผมไง เต็มๆ
“ไปอ้วกในห้องน้ำมั้ยครับ” ผมไม่กล้าลูบหลังเขามาก กลัวจะทำให้อ้วกพุ่ง เลยทำแค่ตบหลังเบาๆ วิคเตอร์อึกอักอยู่อีกสักพักแล้วเขาก็ทำเสียงแจ๊บๆ
“น้ำมั้ย?” เขาส่ายหัวหน้าตาเมาๆ ผสมกับง่วงนอน ผมยกมือซ้ายลูบเรือนผมนุ่มๆ ของเขา วิคเตอร์ยิ้มเผล่ ยกมือซ้ายตบลงบนหน้าผากของเขาแปะๆ เป็นสัญญาณ ผมคลี่ยิ้มเอ็นดูแล้วกดจมูกลงบนหน้าผากเขาหนึ่งที
“My sweet Mattle.” เขาหัวเราะอ้อแอ้ แก้มขวาผมโดนหอมแรงๆ แล้วแช่ค้างไว้สักพัก
อาการเมาวันนี้ไม่น่ากลัวเท่าเหตุการณ์ครั้งนั้นที่เขาทั้งเมาและโคตรโกรธผม แต่อันนี้ท่าทางเขากำลังเหมือนง้อๆ ผมอยู่นะ ง้อแบบเมาๆ มึนๆ
ปึง~
เสียงปิดประตูบ้านดังขึ้น ผมหันไปมองตรงทางเข้าห้องโถง ปล่อยให้วิคเตอร์สูดดม ซุกไซ้กดจูบซอกคอผมได้ตามใจ มือซ้ายของเขาสอดเข้าไปในเสื้อยืดของผมแล้วลูบเอวผมเบาๆ
“คุณเรย์มอนด์ขับรถชนท้ายรถของคุณผู้ชายที่อยู่ถัดจากบ้านเราไปสองหลัง เขาไม่ติดใจอะไรใหญ่โต ขอแค่จ่ายค่าซ่อมรถให้ตามปกติ” ผมอ้าปากค้างเมื่อได้ยินแบบนั้น ก้มลงไปมองไอ้ยักษ์ตัวโตที่กำลังสนุกกับการดูดคอผมดังจุ๊บๆ มีการส่งเสียงหัวเราะแฮ่ๆ ด้วยนะ ไม่รู้ว่ารู้หรือเปล่าว่าผมเพิ่งได้ยินว่าเขาไปซนจนได้เรื่องมา
“แล้วก็ ท่าทางเขาจะขับไปชนอะไรสักอย่างมาด้วยครับ เพราะบังโคลนฝั่งขวามือบุบและถลอก” หัวใจผมกระตุก รีบดึงวิคเตอร์ออกจากซอกคอตัวเองแล้วสำรวจร่างกายเขาว่าบาเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ไอ้ยักษ์ยิ้มเยิ้ม ดึงมือขวาของผมไปหอมหน้ามือหลังมือ ผมถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นว่าเขาดูปกติดี
“ผมคิดว่าเขาไม่เป็นอะไรครับ โชคดีมากที่เขาไม่โดนตำรวจจับ และขับรอดปลอดภัยมาถึงบ้าน” จริงอย่างที่ออสตินว่านั่นแหละ แต่ทีนี้เดี๋ยวรอตำรวจมาที่บ้านพร้อมใบสั่งได้เลย เพราะเขาต้องขับรถเร็วมากแน่ๆ
“เรื่องตำรวจ” ผมยิ้มลำบากใจ ไอ้ยักษ์ตัวดีเอาหน้าผากพิงไหล่ซ้ายผมไว้แล้วงึมงำๆ พูดอะไรก็ไม่รู้อยู่คนเดียว
“ถ้าพวกเขามา ก็เสียค่าปรับตามปกติ ผมคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง เพราะยังไม่มีแจ้งอุบัติเหตุชนคนที่ไหน แล้วจากรอยชนที่รถ ผมว่าน่าจะชนเสาไฟไม่ก็ท่อน้ำประปา หรืออาจจะตู้ไปรษณีย์”
“ขอให้เป็นแค่นั้นจริงๆ เถอะ ถ้าชนคนขึ้นมา วุ่นวายแน่ๆ”
“ไม่หรอกครับ ผมลองเช็กจากเพื่อนตำรวจด้วยกันแล้ว เขาบอกไม่มีอุบัติเหตุในคืนนี้” ผมพยักหน้าอย่างโล่งใจ ออสตินขอตัวไปนอน พร้อมกับเรียกให้ไมเคิลเดินตามไปด้วย ส่วนฟ็อกซ์มันนอนอ้าขาสบายไปแล้ว
“นอนดีๆ เถอะครับ” ผมพยายามเขยิบตัว แล้วก็หลุดออกจากอ้อมแขนเขา ก่อนที่จะรีบจัดการให้เขานอนลงบนโซฟาแล้วก็รีบล้มตัวลงนอนข้างเขาพร้อมกับดึงผ้านวมขึ้นคลุมตัวเราสองคน วิคเตอร์พลิกตัวกอดผมแล้วดึงร่างผมให้แนบไปกับด้านหน้าของเขา
“แมทจ๋า…” หืมมม! ผมแหงนหน้ามองไอ้ยักษ์ เสียงหวานมาพร้อมกับตาหวานยิ้มหวานแบบนี้ ทำเอาอดหัวเราะไม่ได้ ไอ้ยักษ์เห็นว่าผมหัวเราะก็เลยหัวเราะอ้อแอ้ตาม แล้วยื่นหน้ามานัวเนียกับแก้มผมจนผมส่งเสียงหัวเราะกิ๊กกั๊กเพราะว่าจั้กจี้
“วิคเตอร์… กิ๊ๆๆ”
“เอากันนะ นะๆๆ” เขาเริ่มระดมจูบผมไปทั่วแก้ม ผมเริ่มงอแงเพราะหนวดเขาทิ่มแก้ม
“วิคเตอร์พอแล้ว ฮือออ” ผมแบะปากเพราะเริ่มแสบแก้มแสบคอ ไอ้นี่ก็ชอบเอาตอหนวดมาทิ่มหน้าไซ้คออยู่เรื่อย มันได้อารมณ์ตอนระหว่างมีอะไรกัน เพราะกำลังนัวเนียกันอยู่ แต่เวลาปกติคือมันเจ็บๆ แสบๆ อะ
“เอเลี่ยนอยู่บนนะ เดี๋ยวยักษ์จะอยู่ข้างล่างนะครับ คิกๆ” เวลาเมาแล้วเขาจะอ้อนมุ้งมิ้ง มันก็น่ารักน่าชังดี แต่พอมองหน้าเขาที่เกินวัยจะอ้อนแบบฟุ้งฟิ้งแล้วก็ขำไม่หยุด ผมมองเขาอย่างเข่นเขี้ยวแล้วยกมือขวาหยิกแก้มเขา บิดไปบิดมาแรงๆ จนคนข้างๆ หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอารมณ์ดี แต่ถ้าตอนไม่เมาอาจโดนเขาตบกลับมา
“ทำสิเอเลี่ยนน้อย เอิ๊ก… ฉันรอยู่นะ อึก…” โหะ สภาพอย่างนี้ยังจะมีอารมณ์ ทำๆ ไปเดี๋ยวก็สลบแล้วเรือก็จะล่มปากอ่าว
“นอนเถอะนะครับ เดี๋ยวผมนอนกอดนะ” ผมหอมแก้มเขาอย่างเอาใจ ลืมเหตุการณ์ที่เงียบใส่กันก่อนหน้านี้ไปแทบหมด ก็ตอนนี้ไอ้ยักษ์มันน่ารักดี เห็นแล้วมันเขี้ยว และท่าทีแบบนี้ถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองมากไป ผมว่าเขาง้อผมอยู่นะ ง้อแบบเมาๆ อาศัยน้ำเมาทำตัวน่ารักกว่าปกติ
“จริงอ้ะ?!” เขายิ้มเยิ้ม มองผมตาหวานฉ่ำ ผมยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าหงึกหงัก
“จริงสิ ยักษ์ใหญ่ของผม” วิคเตอร์ยิ้มกริ่ม หัวร่ออารมณ์ดี กระชับแขนกอดเอวผม เอาแก้มซ้ายแนบแก้มผมไว้ ผมขยับหัวให้เข้าที่เข้าทางให้แก้มเราสองคนแนบชิดติดกัน
“ตุ๊ก-ตาเอเลี่ยนน้อย… คิๆ” ผมอมยิ้มขำ วิคเตอร์ขยับแก้มเบาๆ ผมยกมือซ้ายลูบแขนขวาของเขา เพื่อกล่อมให้เขาหลับ แต่ยังไม่ทันได้พูดบอกฝันดี ผมก็ได้ยินเสียงลมหายใจพร้อมกับลมกลิ่นแอลกอฮอล์รดหัว พอบิดหน้าไปมองก็ต้องยิ้มอย่างเอ็นดูเมื่อไอ้ยักษ์ขี้ดื้อจอมเอาแต่ใจตัวใหญ่ๆ นอนหลับปุ๋ยไปแล้ว แหม แล้วอยากจะทำทั้งที่สลบก่อนผมอีก ตอนเขาหลับก็ไร้พิษสงอย่างนี้แหละ ดูเป็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาเอาเก่งมากคนนึง
“Good night, baby.” ผมจุ๊บคางเขาหนึ่งทีแล้วขยับตัวเองให้ลงไปนอนบนหมอน ไม่อยากนอนทับแขนเขาเดี๋ยวเลือดไม่เดิน ตื่นมาเดี๋ยวได้พากันไปตัดแขน อากาศข้างนอกก็หนาวเย็นสะท้าน แต่ผมมีผ้านวมสองผืนกับไฟในเตาผิงช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย แต่ที่ดีที่สุดก็คือไออุ่นจากผู้ชายที่ผมรักคนนี้นี่แหละ เป็นผ้าห่มและเปลวไฟที่ผมชอบที่สุดเลย
#Morningตอนที่ผมตื่นขึ้นมาตอนสายๆ ของวันใหม่ ผมก็เห็นวิคเตอร์นอนหมดสภาพ ผมเห็นเขาหลับสนิทมากๆ เลยไม่ได้ปลุก ค่อยๆ ลุกออกจากโซฟาแล้วเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อคั้นน้ำส้มให้เขาดื่มตอนเขาตื่น ไมเคิลคงออกไปข้างนอกกับออสตินตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนฟ็อกซ์คงไปนั่งมองวิวนิวยอร์กกับหิมะขาวโพลนอยู่บนดาดฟ้าของบ้าน อากาศแบบนี้ไม่ต้องอาบน้ำเลยสักนิด แค่ล้างหน้าแปรงฟันก็พอ
ผมยืนมองข้าวของที่ซื้อมาเพื่อจะทำเค้กวันวาเลนไทน์ให้วิคเตอร์แต่ก็ต้องเป็นหม้ายเพราะมีมารมาขวางถึงสองตน (ขอเหมารวมพ่อวิคเตอร์ว่าเป็นมารไปด้วยเลย) แล้วก็นึกเสียดาย เป็นวาเลนไทน์แรกของชีวิตในฐานะคนมีผัว เอ้ย แฟนที่แย่มาก อยากจะลองมีโมเม้นต์หวานฉ่ำในวันแห่งความรักบ้างก็ไม่ได้มี แต่คิดไปคิดมา ไหนๆ ก็ซื้อของมาแล้ว ก็ทำไปเลยจะเป็นอะไรไป
พอคั้นน้ำส้มเสร็จผมก็เตรียมของออกมาวางไว้บนโต๊ะหินอ่อนตัวใหญ่ นึกขึ้นได้ว่าจดสูตรไว้ในโทรศัพท์ ผมเลยเดินกลับไปเอามือถือบนโต๊ะกระจกในห้องโถง วิคเตอร์หลับปุ๋ย ริมฝีปากบนเผยอขึ้นเล็กน้อย เสียงลมหายใจของเขาดังจนเกือบจะเป็นเสียงกรน ผมกระชับผ้านวมให้คลุมตัวเขาดีๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องโถง พอกลับมาที่ครัวผมก็เจอฟ็อกซ์นั่งอยู่บนเค้าน์เตอร์ในครัว มันร้องเหมียวๆ ยานคางเหมือนกำลังบอกว่ามันหิวแล้ว ผมเลยจัดการเทอาหารให้มัน แล้วจัดการทำเค้กของตัวเอง
ผมร่อนแป้ง เตรียมผงฟู ตอกไข่เพื่อแยกไข่ขาวไข่แดงแยกไว้สักแปบ หันไปอุ่นเตาในอุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ระหว่างนั้นก็นำเนยกับน้ำตาลมาตีให้เข้ากัน ผมทำไปก้มอ่านสูตรที่บันทึกไว้ในมือถืออย่างช้าๆ ชัดๆ ออกเสียงเบาๆ กับตัวเองไปด้วยเพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด เพราะผมต้องทำพลาดจุดใดจุดหนึ่งแน่ๆ ขนาดแค่ร่อนแป้งยังกระเด็นเลอะหน้า เลอะเส้นผมจนเหมือนผมหงอก สำลักแป้งไปหลายรอบแล้ว ไม่รู้ว่ารสชาติจะออกมาเป็นยังไง แต่จากระหว่างการทำเค้ก ผมมีความรู้สึกว่ามันจะต้องกินไม่ได้ และเค้กผมจะไม่ฟู มันจะต้องแฟบแบน แค่ตัวเค้กยังดูแย่ ไม่ต้องพูดถึงหน้าเค้กเลยว่าคงแย่พอกัน
แล้วก็เป็นจริงดังคาด เมื่อเค้กของผมฟูข้างแฟบข้าง ไอ้ที่แฟบก็ไม่ใช่ว่าแฟบมากนะ แต่คือมันฟูไม่เท่ากันอะ บิดเบี้ยวราวกับพิการ ผมมองเค้กช็อคโกแล็ตฝีมือตัวเองกับการทำครั้งแรกแล้วก็ได้แต่ยืนอึ้ง มันก็แอบมีความภูมิใจอยู่นิดๆ เหมือนกันนะว่าทำครั้งแรกแล้วออกมาพอดูได้ (ปลอบใจตัวเองสุด)
“นั่นก้อนอะไรครับ” ผมมัวแต่ถ่ายรูปเค้กตัวเองเลยไม่ทันสังเกตว่าออสตินเดินเข้ามาพร้อมไมเคิลที่ตัวเขรอะไปด้วยหิมะ พ่อบอดี้การ์ดขมวดคิ้วมองเค้กผมด้วยสายตาหวาดระแวง แล้วเมื่อกี้เขาพูดว่าไงนะ เขาถามว่าก้อนอะไรงั้นเหรอ
“นั่นอุจจาระใครทำไมก้อนใหญ่จัง” ผมอ้าปากหวอเมื่อเขาถามด้วยสีหน้าจริงจังไม่มีล้อเลียน ผมกะพริบตาปริบ เลื่อนสายตาไปมองไมเคิลที่เอียงคอมองกลับมาอย่างสงสัย แล้วเลื่อนกลับมามองเค้กตัวเองอีกที พอมองดีๆ สีช็อคโกแล็ตมันก็เข้มเหมือนอึจริงๆ นั่นแหละ
“นี่เค้กช็อคโกแล็ตเลยนะ” ออสตินเลิกคิ้วขึ้นสูง
“คุณแมททำเอง?”
“ใช่ เพิ่งทำเสร็จก่อนคุณจะกลับเข้ามาเลย”
“ผมว่าซื้อกินเถอะครับ ปลอดภัยกว่า” ผมมองจิกเขาแรง ออสตินยักไหล่สองข้างทำหน้าตาว่าเขาพูดอะไรผิด ผมถลึงตามองเขานิดหนึ่งแล้วก้มลงมองเค้กตัวเอง ถ้าไม่ปลอบใจตัวเองมากไปมันก็แย่จริงๆ นั่นแหละ
“ผมซื้ออาหารเช้ามาฝากเผื่อคุณสองคนด้วย” เขาชูถุงหิ้วในมือให้ผมดู ผมทำหน้าเซ็งแล้วพยักหน้ารับเนือยๆ กำลังปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไร เอาใหม่ วันทำเค้กไม่ได้มีหนเดียว เดี๋ยวหลังจากนี้ฝึกมันทุกวัน พอวาเลนไทน์หน้ามันจะได้เป๊ะ
“อันนี้คือสภาพที่ดีที่สุดของคุณในเช้านี้แล้วใช่มั้ย” ผมอยากจะเขวี้ยงจานให้บินไปโดนหัวเกรียนๆ ของไอ้บอดี้ศพนี่สักที เอาให้เลือดอาบ ชอบพูดจาหน้าตากวนเท้ามึนๆ เหมือนจะไม่ได้ว่านะ แต่ว่าทุกคำ
“หิมะน่าจะถล่มใส่หัวคุณบ้างสักทีนะ”
“อย่าเวอร์เลยครับ ที่นี่นิวยอร์ก ไม่ใช่ภูเขาหิมาลัย” โอ๊ย! บักหัวเกรียน เดี๋ยวๆ เดี๋ยวตบเกรียนแตก
ผมมองเขาอย่างเข่นเขี้ยว ยกมีดหั่นฮอทดอกขึ้นมาขู่ ออสตินทำเพียงหัวเราะน้อยๆ แล้วขอตัวเดินกลับเข้าไปในห้อง ทิ้งไมเคิลให้นอนกินข้าวอยู่กับผมในครัวในสภาพเลอะแป้ง ผมยกมือปัดๆ แป้งออกจากเส้นผม ก็ต้องไอแค่กๆ ไปหลายที ผมเลยปล่อยมันไว้แบบนี้ก่อน ไว้ค่อยไปอาบน้ำล้างตัวทีเดียว ว่าจะไม่อาบ แต่สภาพร่างบังคับอาบมาก ผมนั่งกินอาหารเช้าไป นั่งขมวดคิ้วมองเค้กตัวเองไป ผมว่าเหมือนมันค่อยๆ แฟบลงเลยอะ
แฮ่ะๆๆๆ
เสียงไมเคิลหอบน้อยๆ ดังขึ้นเหมือนมันกำลังตื่นเต้นดีใจอะไรสักอย่าง พอผมหันไปมองก็เห็นวิคเตอร์เดินเป๋น้อยๆ ออกมาในสภาพหัวยุ่งเหยิง หน้าตากึ่งหลับกึ่งตื่น เขาขยี้ตาเหมือนเด็กๆ เดินเข้ามาหาผม ตอนแรกเขากำลังจะก้มจุ๊บหน้าผากผม แต่พอเขาเห็นแป้งขาวโพลนไปทั้งหน้าและหัวของผมเขาก็ชะงักแล้วเปลี่ยนเป็นเดินถอยหลังไปนั่งบนเก้าอี้อีกตัว ผมเลยมองค้อนเขานิดหนึ่ง
“ไปทำอะไรมาน่ะ” ผมไม่ตอบคำถามเขาแต่ถามเขากลับเสียงห้วน
“เอาน้ำส้มมั้ย” เขาพยักหน้ากล้าๆ กลัวๆ มองผมเหมือนไม่แน่ใจอะไรสักอย่าง สงสัยไม่แน่ใจมั้งว่านี่ผมรึเปล่า ผมเดินไปเปิดตู้เย็นเปิดเอาน้ำส้มในเหยือกเทใส่แก้วให้เขาแล้วยื่นให้เขาดื่ม เขายกดื่มรวดเดียวหมด ผมเลยเทให้เขาอีกแก้ว เขาก็ยกรวดเดียวหมดก่อนจะยกมือเบรกว่าพอแล้ว ผมเลยเอาน้ำส้มไปแช่ในตู้เย็นตามเดิม
“นั่นอะไรน่ะ” เขาย่นคิ้วมองเค้กช็อคโกแล็ตที่ตอนนี้บุบบิบบู้บี้ไม่เป็นทรงเค้กเลยแม้แต่น้อย
“เค้ก ผมตั้งใจจะทำให้คุณเมื่อวาน แต่ก็ไม่ได้ทำ เลยลองทำเมื่อกี้ แล้วก็ออกมาอย่างที่เห็น” วิคเตอร์ที่ตอนแรกมีสีหน้าง่วงๆ ตื่นไม่เต็มที่ถึงกับเบิกตากว้างมองหน้าผมกับเค้กสลับไปอย่างอึ้งทึ่ง
“นี่เค้กเหรอ เค้กช็อคโกแล็ตใช่มั้ย” ถ้าถามจริงจัง ผมจะไม่อะไรหรอก แต่นี่ถามแล้วยิ้มกวนตีน เหมือนเขารู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไรแต่แกล้งถามเพื่อเอาฮา แหม เมื่อกี้หน้าตายังง่วงๆ ตื่นๆ อยู่เลย มาตอนนี้พร้อมปล่อยก๊ากเชียวนะไอ้ยักษ์
“ขี้ไมเคิลมั้งล่ะ” ผมแกล้งว่าประชด เท่านั้นแหละเขาก็หัวเราะอารมณ์ดีดังลั่นครัวทำเอาไมเคิลร่วมเห่าไปด้วย แล้วพอไอ้หมาตัวโตเห่าเขาก็เลยหาพวกทันที
“แกชอบเค้กแม่แกใช่มั้ยล่ะไมเคิล” หน็อย! ได้ทีขี่แพะไล่เชียวนะ
“พูดมาก! จะไม่ทำให้กินแล่ว!” ผมว่าหน้าตาบูดบึ้งน้ำเสียงงอนๆ เท้าเอวยืนมองหน้าเขาทำท่าจะแว้ดๆ ใส่ไอ้หน้าหนวด วิคเตอร์หัวเราะเสียงดัง ผมทำปากขมุบขมิบเหมือนกำลังสาปแช่งเขา
“แน่ะ! แช่งอะไรฉัน”
“ขอให้ยักษ์น้อยไม่ยอมขัน”
“งั้นนายก็อดกินยักษ์น้อยด้วยนะ” เขาว่าจบก็หัวเราะเสียงทุ้มอารมณ์ดี ผมถลึงตาใส่เขา ไอ้ยักษ์ยิ้มกว้างจนร่องแก้มขึ้น เขายื่นมือมาดึงผมให้เข้าไปยืนตรงหว่างขาของเขา สองแขนโอบรอบบั้นท้ายผมไว้ ผมยกมือขวาขึ้นมาปัดๆ แป้งบนหน้าผากกับตรงแก้มออกรัวๆ เผื่อเขาจะอยากจุ๊บตรงไหนสักแห่ง
“เห็นชัดเลยว่าทำเค้กจริงๆ” เขามองสภาพผมแล้วยิ้มล้อเลียนก่อนจะหัวเราะเบาๆ ผมย่นจมูกพร้อมเบ้ปากน้อยๆวิคเตอร์ก้มลงจุ๊บปากผมหนึ่งทีแล้วยิ้มกว้าง ผมย่นจมูกอีกทีเพราะกลิ่นเหล้าฟุ้งออกมาจากตัวและปากเขาเต็มไปหมด วิคเตอร์หัวเราะ เลื่อนสายตาไปมองเค้กแวบหนึ่งแล้วก็กลับมามองผมที่ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยแป้งทำเค้กก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้มพร้อมกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ
“Thank you, baby.” แม้จะเหม็นเหล้าไปนิดแต่แค่นั้นก็ทำให้ผมยิ้มได้แล้วแม้เค้กจะเละไปมากก็ตาม
“You didn’t give a special thing on special day to me. (ไม่เห็นมีของขวัญพิเศษในวันพิเศษให้ผมเลยอะ)” ผมแกล้งว่าหน้าบู้ สองมือขยุ้มเรือนผมเขาเบาๆ วิคเตอร์เลื่อนสองมือลงไปบีบก้นผมเบาๆ มองผมด้วยสายตาหวานเยิ้ม
“And what do you want on special day? (แล้วนายต้องการอะไรในวันพิเศษล่ะ)” เขาถามเสียงกระซิบ มือขวาสอดเข้าไปในกางเกงนอนของผม นิ้วเรียวยาวลากผ่านร่องก้นเบาหวิว ผมกัดปากล่างแล้วยิ้มยั่วน้อยๆ
“I don’t know. What do you want to give to me? (ไม่รู้สิ คุณอยากให้อะไรผมล่ะครับ)” ผมยื่นหน้าไปกัดริมฝีปากล่างเขาแล้วใช้ฟันดึงเบาๆ วิคเตอร์หายใจแรงขึ้นนิดหนึ่ง ดวงตาเขาทอประกายวิบวับ
“I can’t imagine what do you mean. Can you show me more? (นึกไม่ออกเลยว่านายอยากได้อะไร บอกเพิ่มอีกได้มั้ย)” ผมหัวเราะอารมณ์ดี วิคเตอร์ยิ้มกว้างตาม ผมยื่นหน้าไปจุ๊บคางเขา มองเขาด้วยสายตาทั้งรักทั้งห่วง เขาเองก็มองกลับมาด้วยสายตาทั้งรักทั้งหวง
“Don’t return to eat your ancient-step-mother’s boobs. That’s all. (อย่ากลับไปกินนมโบราณของแม่เลี้ยงคุณก็พอครับ)” วิคเตอร์หัวเราะร่าเสียงดังลั่นครัว ทำเอาเจ้าไมเคิลเห่าตอบรับยกใหญ่
“I don’t have it to fight with her. (ผมไม่มีนมโตๆ ไปสู้เธอได้หรอกนะ)” ผมทำปากยื่น วิคเตอร์ค่อยๆ หยุดหัวเราะแล้วยื่นมือขวามาบีบปากผมเบาๆ
“It’s not about boobs. It’s about here. (ไม่เกี่ยวกับนมหรอก นี่ต่างหาก)” เขาว่าแล้วจิ้มจึ้กๆ ลงบนอกซ้ายตรงตำแหน่งหัวใจของผมเบาๆ ผมคลี่ยิ้มกว้างด้วยความอิ่มใจ
“A nipple? (หัวนมเหรอ)” ผมแกล้งแซว วิคเตอร์ยิ้มกว้างอารมณ์ดี ผมยิ้มแฉ่งแล้วยื่นหน้าเอาปลายจมูกตัวเองขยี้กับปลายจมูกเขาไปมาอย่างมันเขี้ยว
“Happy V day.” เขาดึงมือซ้ายผมขึ้นไปจุ๊บที่หลังมือหนึ่งที
“Happy Valentine’s day, my big-baby.” ผมจุ๊บปากเขาหนึ่งทีแล้วเราก็หัวเราะพร้อมกัน
แม้ใจผมจะยังยอมรับเรื่องเขากับลิซ่าไม่ได้ในตอนนี้ แต่ผมก็รู้ดีว่ามันผ่านมาแล้ว และผ่านมานานก่อนเราสองคนจะได้เริ่มรู้จักกันซะอีก วันนี้เขาอยู่ตรงนี้ อยู่กับผม เขารักผม ผมรักเขา เราอยู่ด้วยกัน มันคือเรื่องจริงที่ผมสามารถเอามาลบล้างอดีตตรงนั้นของเขาได้ อาจต้องใช้เวลาเหมือนคราวก่อนในการปล่อยวางความคิดมาก แต่ผมรู้ว่าเดี๋ยวผมก็เลิกสนใจเรื่องเขากับยัยแม่เลี้ยงกระดังงาลนไฟนั่นไปเอง
เรื่องจบด้วยดีใช่มั้ยคะหมวด เขาโอเคต่อกันแล้วใช่มั้ยคะ รายงานสถานการณ์ด้วยค่ะหมวดดด
หลายๆ คนกังวลเรื่องหวอรถตำรวจมาก บ่อมีอะหยังเด้อออ เขียนเอาบรรยากาศนิวยอร์กเฉยๆ 55555 แต่ถ้าตอมเป็นคนอ่านก็คิดนะ มันประจวบเหมาะเนอะ วิคเตอร์ออกไป แล้วก็มีเสียงรถตำรวจมาทแรกพอดี แต่เอาจริงๆ ตอนเขียนคือเขียนเพื่อใส่บรรยากาศตอนกลางคืนของนิวยอร์กเฉยๆ เจ้าาา
วานเลนไทน์ก็โดนสองมารป่วน เค้กวาเลนไทน์ก็แฟ้บ 55555 แต่อย่างน้อยหนูก็มีความพยายามนะแมทนะ ดีแล้วค่ะ ผัวรักผัวหลง แป้งจับตัวเป็นก้อนเลยเนาะ 55555
ส่วนเรื่องเด็กน้อยจ่ำม่ำตอนที่แมทกำลังหลับ จริงๆ มันอาจจะเป็นภาพฝันหรือจินตนาการของแมทถึงลูกวิคเตอร์คนแรกก็ได้แน้ อ๊ะเปล่าหว่า ? 55555
เจอคำผิดบอกกันได้เช่นเคยค่าาา
ยังเจอกันตามปกตินะคะ ยังคงลงเนื้อหานิยายจนจบ ลงตามปกติ เปิดพรีหนังสือแล้วก็จริง แต่ยังคงลงตามปกติไม่มีหยุด ลงจนจบตอนหลักของพาร์ทนี้ จำนวนตอนของตอนหลักก็ใกล้จะจบแล้ววว
สำหรับการพรีออเดอร์หนังสือ สำหรับใครที่มีคำถาม อ่านคำชี้แจงหรือสอบถามได้ที่เพจนะคะ
ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ เลยค่า