คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 18
"พี่ภาส!! พี่ภาส!!!" เสียงตะโกนเรียกหาสามีของพัสกรดังลั่นบ้าน จนคนที่อยู่ในบ้านสะดุ้งกันไปตามๆกัน โดยเฉพาะ
เจ้าของชื่ออย่างณัฐภาสเองที่ก็ไม่รู้ว่าพักนี้ตัวเองได้ทำอะไรผิดไปโดยที่ไม่รู้ตัวรึป่าว ตัวเองถึงได้ดูขวางหูขัดตาภรรยาตัวน้อย
นัก แทบจะตลอดเวลาเลยก็ว่าได้
"คร้าบๆ ที่รักเรียกพี่ทำไมครับ" ณัฐภาสถามไปปาดเหงื่อไป เพราะรีบวิ่งมาจากห้องนั่งเล่นชั้นล่างของบ้าน ในขณะที่
พัสกรนั้นตะโกนเรียกเขาอยู่ในห้องนอนชั้นบน
"ก็นี่ไง! พี่ภาสใช้ของแล้วทำไมไม่เก็บเข้าที่ให้เรียบร้อยห้ะ เคยรู้รึป่าวว่าคนที่คอยตามเก็บตามเช็ดให้ทุกวันน่ะมันเหนื่อย
แค่ไหนน่ะห้ะ" พัสกรว่าพรางชี้มือไปทางโต๊ะเครื่องแป้งที่เต็มไปด้วยเครื่องประทินผิวทั้งหลายแหล่ของเขาทั้งสองคน ไม่ว่า
จะเป็นครีมทาหน้า โลชั่นทาผิว น้ำหอม สเปรย์ฉีดผม ฯลฯ แล้วก็อะไรต่ออะไรอีกหลายๆอย่าง
"หือ...พี่ใช้เสร็จแล้วก็เก็บวางไว้ที่เดิมเหมือนเดิมเป๊ะๆเลยนี่คะ มีอะไรผิดไปตรงไหนหรอครับ?" ณัฐภาสพูดบอกตาม
ความจริง เพราะหลังจากเมื่อสามวันก่อนที่เขาโดนพัสกรบ่นเรื่องนี้มาติดๆกันอย่างนี้ (ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่มีจะมาบ่นมาว่า
อย่างนี้หรอก) และเมื่อเช้าหลังจากที่เขาใช้ของพวกนี้เสร็จเขาก็วางเหมือนเดิมที่เดิมอย่างที่พัสกรวางเป๊ะๆเลยล่ะ แล้วจากที่
เห็นนี่ก็วางเป็นระเบียบเรียบร้อยเลยนะเนี่ย ยังจะมาบอกว่าไม่เข้าที่ตรงไหนอีกครับเมีย...ช่วงนี้พี่ล่ะเพลียกะเมียเหลือเกิน!!
"ก็นี่ไง! ครีมทาหน้ากระปุกนี้พี่ภาสวางกลับหน้ากลับหลัง เนี่ยๆ ถ้าจะให้ถูกพี่ภาสต้องวางอย่างนี้เอาข้างหน้ากระปุกหัน
ออกมาด้านหน้าให้เราเห็นอย่างนี้ แล้วโลชั่นขวดโลชั่นทำตัวเนี่ยเห็นไหมว่าพี่ภาสวางมันล้ำหน้าขวดอื่นๆออกมาเนี่ยมันหน้า
เกลียดนะ ส่วนน้ำหอมเนี่ยก็ปิดฝาไม่สนิทมันทำให้น้ำหอมระเหยออกมาเข้าใจมั้ยพี่ภาส!! ระเหยออกทุกวันๆ เข้าก็หมดเร็ว
แล้วพอหมดเร็วก็ต้องซื้อใหม่เรื่อยๆ ทั้งๆที่ใช้ไปได้ไม่เท่าไหร่เอง อย่างนี้มันสิ้นเปลืองนะ!!" พัสกรไล่แจงรายละเอียดที
ละอย่างๆ ให้สามีฟังอย่างหงุดหงิด ขัดใจที่สุด!
"ห๊ะ! พัสตะโกนเรียกพี่แว้ดๆ เพราะเรื่องแค่นี้อะนะ?" เมื่อได้ยินเหตุผลของภรรยาณัฐภาสถึงกับต้องตบหน้าผากเรียกสติ
ของตัวเองกันเลยทีเดียว
"อะไรนะ? ว่าไงนะ? เมื่อกี้พี่ภาสบอกว่าเรื่องแค่นี้? พี่ภาสบอกว่าเรื่องแค่นี้หรอห้ะ!! ถ้ามันเป็นเรื่องแค่นี้อย่างที่พี่ภาสบอก ทำไมพี่ภาสถึงต้องให้พัสมาจ้ำจี้จ้ำไชพูดบอกพี่ภาสเรื่องเดิมๆซ้ำๆทุกวันด้วยห้ะ!!" ดูเหมือนกับว่าคำพูดของณัฐภาสจะแสลงหู
ทำเอาพัสกรอารมณ์ขึ้นเลยทีนี้ เพราะหลังจากที่ณัฐภาสพูดออกไปพัสกรก็หยุดมือที่กำลังจับๆจัดๆเรียงๆของตามอย่างที่ตัวเองต้องการถึงกับหยุดชะงักและหันมาตวาดแว้ดอย่างที่ณัฐภาสว่าไปก่อนหน้านี้เข้าแล้วจริงๆ
"อะไรว๊ะ!!" เผลอสบถกับตัวเองอย่างไม่รู้จะพูดอะไร
"ว๊ะหรอ? เดี๋ยวนี้พี่ภาสขึ้นว๊ะขึ้นโว้ยกับพัสหรอ? ใช่สิ!! พี่ภาสไม่รักพัสแล้วนี่!!" เบะปากพูด น้ำตาคลอปริ่มๆอยู่ใน
ลูกตากลมเจียนจวนจะไหลออกมาอยู่มะรอมมะร่อ
"ห๊ะ!!" ณัฐภาสถึงกับเหวออ้าปากหวอเลย เมื่ออยู่ดีๆภรรยาสุดที่รักก็เปลี่ยนเรื่องเปลี่ยนอารมณ์เอาเสียดื้อๆซะอย่างนั้น
จากโมโหกลายมาเป็นอ่อนไหวน้ำตานองหน้าได้ภายในชั่วพริบตา นี่มันอะไรกันครับ!!
"ฮึก! ใช่สิ! พัสมันเป็นของเก่า...ฮึก!...ของตายนี่! เพราะพัสมันเป็นเมียภาคบังคับที่คุณพ่อเลือกและพี่ภาสปฏิเสธไม่ได้
ใช่มั้ยล่ะพี่ภาสถึงหมดรักพัสเร็วขนาดนี้น่ะ ฮืออออออ....." พัสกรพูดบอกออกมาทั้งน้ำตาที่ไหลรินอย่างไม่ขาดสาย เหมือนกับ
ว่าเจ้าตัวนั้นเสียใจจนแทบจะขาดใจอย่างไงอย่างงั้น มันสะเทือนจายยยย.....
"........" เจออย่างนี้ณัฐภาสถึงกับพูดไม่ออกไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว ทำได้เพียงแต่คว้าตัวภรรยาตัวน้อยสุดที่รักเข้ามากอด
ปลอบอย่างเงียบๆ พรางนึกย้อนไปถึงบทสนทนาการพูดคุยของเขาและพัสกรก่อนหน้าว่ามีอะไรตรงไหนหรือคำพูดประโยคใด
ของเขาที่ทำให้พัสกรเข้าใจผิดคิดไปได้ถึงขนาดนี้ ก็ไม่นี่! แล้วนี่หนูพัสเป็นไรไปว่ะเนี่ย โอ้ยยย...ไอ้ภาสอยากจะบ้า!!!
"ฮึก! พี่ภาส ฮึก! ไม่..รัก..พัส..แล้ว ฮึก! ช่าย..มั้ย!! ฮือออออ...."
"อ่าว! อยู่ดีๆก็หลับเฉยเลย สงสัยร้องไห้จนหมดแรงเหนื่อยเลยล่ะสิ เฮ้อ! วันนี้ที่รักงองแง แปรปรวนเอาซะพี่ตามไม่ทัน
เลยนะครับ" ณัฐภาสพูดไปบ่นไปถอนหายใจไปในขณะที่จัดท่าจัดทางให้ภรรยาตัวน้อยได้นอนหลับได้อย่างสบายๆบน
ที่นอนนุ่มๆ
.
.
.
"เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละพ่อ แล้วหนูพัสก็ร้องไห้จนเหนื่อยแล้วก็หลับไปอย่างที่พ่อเห็นนี่แหละ ผมนะ..ทั้งพูดปลอบ
ทั้งขอโทษ..ขอโทษไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่าผิดอะไรด้วยนะ แต่หนูพัสก็ไม่ยอมฟังเลย ร้องไห้อย่างเดียวเลยอ่ะ พ่อพอจะรู้บ้างป่ะว่า
หนูพัสเป็นอะไรอะ ช่วยผมหน่อยเถอะ! ผมจะบ้าตายอยู่แล้วเนี่ย!!" ณัฐภาสเล่าเรื่องราวทั้งหมดในช่วงนี้ที่เกี่ยวกับการเปลี่ยน
แปลงอาการแปลกๆของพัสกรให้เจ้าสัวชัชวาลย์พ่อของตัวเองฟังหลังจากที่เจ้าสัวชัชวาลย์มาเที่ยวหาเพราะว่าวันนี้เป็นวัน
หยุดที่ตัวเขาเองไม่ต้องไปทำธุระที่ไหนเลยแวะมาหาลูกชายและลูกสะใภ้สักหน่อยหวังว่าจะมาหาเพื่อนคุย แต่ที่ไหนได้พอ
เข้ามาถึงในบ้านก็เจอลูกชายนั่งหน้าเครียดกุมขมับต้อนรับเขาอยู่ในห้องรับแขกของบ้านเลย ถามไปถามมาก็ได้ความว่า
ช่วงนี้ลูกสะใภ้เขาแปลกๆไป อารมณ์ขึ้นๆลงๆจนณัฐภาสลูกชายเขาตามไม่ทัน
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่ฉันว่าเดี๋ยวโทรตามหมอมาตรวจที่นี่ตอนนี้เลยดีกว่าว่ะ จะได้รู้ให้แน่นอนไปเลยว่าหนูพัส
เป็นอะไรกันแน่" เจ้าสัวชัชวาลย์บอกพร้อมกับยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนหมอที่รู้หันกันโดยทันที
"ว่าไงบ้างพ่อ" ณัฐภาสเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเจ้าสัวชัชวาลย์คุยกับปลายสายเสร็จแล้ว
"มันไม่ว่าง แต่เดี๋ยวมันจะส่งลูกชายมาตรวจดูอาการของหนูพัสให้แทน เห็นว่าลูกมันอยู่ใกล้ๆนี่แหละ นั่นไงมาแล้ว"
ยังไม่ทันที่เจ้าสัวชัชวาลย์จะพูดจบก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังเข้ามาในบ้าน
"หมอจริงหรือหมอเถื่อนกันแน่ว่ะครับพ่อ" ณัฐภาสกระซิบถามพ่อตัวเองเมื่อเดินออกมาจากบ้านเพื่อมาต้อนรับหมอ
แล้วเห็นผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา ซึ่งก็ไม่น่าจะแปลกอะไรถ้าหมอจะมีอายุประมาณนี้เพราะเจ้าสัวชัชวาลย์บอกว่า
เป็นหมอรุ่นลูกที่จะมาแทนพ่อ แต่เขาจะไม่ถามพ่อเขาอย่างนี้เลยถ้าคนที่พ่อบอกว่าเป็นหมอไม่ได้ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนต์
สวมแจ็คแก๊ตหนัง คาดแว่นดำ ขี่บิ๊กไบค์ Scrambler อย่างนี้น่ะนะ และสิ่งเดียวที่ช่วยยืนยันว่าเจ้าตัวคือหมอคนที่พ่อบอกก็มี
เพียงกระเป๋าแพทย์ที่เป็นกล่องสี่เหลี่ยมๆสีดำๆสะพายติดมาด้วยก็เท่านั้นเอง
"หมอจริงสิว๊ะไอ้ลูกบ้า นี่เจ้าวินลูกเพื่อนพ่อที่บอกว่าเป็นหมอน่ะ ส่วนนี่ก็เจ้าภาสลูกชายอาเองนะวิน" เจ้าสัวชัชวาลย์บอก
กับณัฐภาสก่อนที่จะแนะนำให้ลูกตัวเองกับลูกของเพื่อนได้รู้จักกัน
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ สวัสดีครับอาชัชสบายดีนะครับ" วินหันไปพยักหน้าทักทายกับณัฐภาสก่อนที่จะหันมาพูดทักทาย
กับเจ้าสัวชัชวาลย์อย่างเป็นกันเอง
"อาสบายดี แต่ที่ไม่สบายจนต้องวานให้เรามาดูถึงนี่ก็เมียเจ้าภาสลูกสะใภ้อาที่ร้องไห้จนเพลียหลับอยู่ข้างบนโน่นแนะ"
เจ้าสัวชัชวาลย์บอก
"ถ้ายังนั้นเรารีบไปตรวจดูคนป่วยกันก่อนดีกว่านะครับอา พอดีผมมีธุระที่จะต้องไปต่อด้วย" หมอวินพูดบอก ท่าทางดู
เหมือนกับว่าเจ้าตัวมีเรื่องรีบร้อนที่จะต้องไปต่อจริงๆ
.
.
.
"อืม...ไม่มีอะไรหน้าเป็นห่วงหรอกครับ จากที่ผมตรวจดูรวมกับพฤติกรรมแปลกๆของคนไข้ที่คุณภาสเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้
ก็......ยินดีด้วยครับตอนนี้คุณพัสกรกำลังตั้งครรภ์น่ะครับ แต่ถ้าอยากจะรู้รายละเอียดแน่นอนจริงๆก็ต้องพาคุณพัสกรไปตรวจที่
โรงพยาบาลอีกทีนึงนะครับ" หมอวินบอกพร้อมกับระบายยิ้มน้อยๆ
"เยสสสสสสส!!!! ท้อง! หนูพัสท้องแล้วพ่อ หนูพัสท้องแล้ว!!!" ณัฐภาสตะโกนบอกพร้อมกับกระโดดกอดเจ้าสัวชัชวาลย์
พ่อของตัวเองไปด้วย ด้วยความดีใจในแบบสุดๆ ดีใจจนเผลอลดช่องว่างความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของตัวเองกับ
เจ้าสัวชัชวาลย์ที่ทำตัวห่างเหินกันมานานแสนนาน
"เออๆรู้แล้วเว้ย ไอ้ลูกคนนี้นิ!" เจ้าสัวชัชวาลย์บอกพร้อมกอดณัฐภาสกลับเหมือนกับไม่เต็มใจ แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเจ้าสัวชัช
อย่างเขาคนนี้ ถึงกลับจะต้องตีเนียนกอดลูกชายกลับในตอนที่เจ้าตัวยังคงดีใจจนหลุดมาดอย่างนี้ หลังจากที่ไม่เคยได้แตะต้อง
หรือสัมผัสลูกอย่างใกล้ชิดอย่างนี้เลยตั้งแต่ภรรยาคู่ชีวิตของเขาแม่แท้ๆของณัฐภาสได้เสียชีวิตจากโลกนี้ไป
.
.
.
"ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ยังไงก็พาคุณพัสไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกทีนะครับคุณภาส อาชัช อ่อ...รีบไปหน่อยก็ดีนะครับ
ผมขอตัวกลับก่อนนะครับสวัสดีครับ" เมื่อบอกลาพร้อมกับทิ้งปริศนาไว้แล้วเสร็จคุณวินหมอรูปหล่อก็ใส่แว่นกันแดด
สวมหมวกกันน็อคใบโต ค่อมรถคันเท่สตาร์ทออกตัวจากไปด้วยความเร็วจนฝุ่นตลบออกจากบ้านของณัฐภาสไป ทิ้งเหลือไว้
เพียงสองพ่อลูกอย่างณัฐภาสและเจ้าสัวชัชวาลย์ที่ยืนมองตามท้ายบิ๊กไบค์คันใหญ่ไปอย่างมึนๆงงๆ กลับการไปเร็วมาเร็วของ
คุณหมอเถื่อนวินเนอร์ผู้ที่ฉีกกฏเกณฑ์ภาพลักษณ์อันแสบสุภาพ เรียบร้อยของการเป็นหมอไปอย่างชัดเจน
.
.
.
.
.
"พี่ภาส!! พี่ภาส!!" 'เอาอีกแล้วๆ ลืมตาตื่นได้ก็แหกปากตะโกนเรียกสามิสามีสุดหล่อคนนี้เลยนะครับเลยครับ' ณัฐภาส
ได้พูดกับตัวเองในใจเมื่อได้ยินเสียงพัสกรเรียกตัวเอง ในขณะที่เขานั้นนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโต๊ะทำงานที่ไม่ห่างจากเตียงนอน
ที่พัสกรนอนอยู่สักเท่าไหร่หรอก แต่ที่พัสกรไม่เห็นก็เพราะว่าพอเจ้าตัวลืมตาตื่นมาปุ๊ป โดยที่ยังไม่ทันได้มองซ้ายแลขวาหา
สามีคนนี้เลย ก็อ้าปากร้องเรียกซะก่อนแล้ว
"คร้าบๆ ว่ายังไงครับ" ณัฐภาสขานรับเสียงใส แต่ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม ไม่ได้ลุกไปหาพัสกรที่เตียงนอน
แต่อย่างใด
"คิดถึง" เมื่อหันไปตามเสียง และเห็นแล้วว่าณัฐภาสอยู่ที่ใด พัสกรตอบกลับไปแบบสั้นๆ แต่น้ำเสียงนี่หวานมาก
"ห๋าาาา....เมื่อกี้พัสพูดว่าอะไรนะ..?" ณัฐภาสถามอย่างไม่เชื่อหู
"ก็บอกว่าคิดถึงไง คิดถึงๆ คิดถึงๆ คิดถึงๆ เค้าคิดถึงคิดถึงตะเองที่สู้ดดดดดดดดดด......" พัสกรสะบัดๆเหมือนเด็กโดน
ขัดใจ เมื่อเห็นว่าณัฐภาสทำหน้าตาเหมือนกับว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองพูด ชิ!! ก็คนมันคิดถึงอ่ะ!! จะให้ทำไง!!
"ไหนมาให้พี่ดูหน่อยสิ เอ..ตัวก็ไม่ร้อนนี่หน่า ทำเปลี่ยนไปอีกแล้วล่ะ! สงสัยจะต้องรีบพาไปโรงพยาบาลไปให้หมอตรวจ
เช็คดูให้แน่ใจจริงๆอย่างที่หมอวินบอกแล้วล่ะมั้งเนี่ยเรา" ณัฐภาสทิ้งหนังสือที่อ่านอยู่ ลุกขึ้นจากเก้าโต๊ะทำงานที่นั่ง ก้าวเดิน
เข้ามาตรวจเช็คอุณภูมิโดยให้หลังมือทาบหน้าผากพัสกรดูเพราะกลัวว่าภรรยาตัวน้อยจะตัวร้อนไข้ขึ้นเพราะเขาปล่อยให้เจ้าตัว
นอนนานเกินไป แต่พอจับๆแตะๆหน้าผากหรือคอดูแล้วก็ปกติดี จึงได้แต่พูดพึมพำบ่นกับตัวเองเบาๆ ด้วยความลืมตัว ที่ว่า
ภรรยาตัวน้อยของเขายังนั่งมองตาปริบๆอยู่อีกคน
"งื้อออ...บ่นอะไรอ่ะ พัสไม่ได้บ้านะถึงจะต้องไปให้หมอตรวจอะ!! ก็แค่คิดถึงพี่ภาสเท่านั้นเองนะ คิดถึงๆ คิดถึงอ่ะ เข้าใจ
กันบ้างไหมเนี่ยยยยยยยย........." พัสกรพูดบอกออกมาอย่างงองแงเพราะเข้าใจผิดคิดว่าณัฐภาสพูดว่า ว่าตัวเองนั้นไม่สบาย
จนเพี้ยน เขาอยากจะบอกเหลือเกินว่าเขาไม่ได้เพี้ยนนะ!! ไม่ใช่ว่าไม่รู้ตัวนะว่าช่วงนี้ตัวเองงี่เง่าแค่ไหนอ่ะ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ
เพราะเขาก็ควบคุมความรู้สึกตัวเองไม่ได้เหมือนกันนี่!!
"ป่าวครับป่าว มันไม่ใช่อย่างที่พัสคิดนะ พี่แค่เป็นห่วงกลัวว่าพัสจะป่วยแค่นั้นเองเพราะเห็นว่านอนนานเกินไป แล้วอีก
อย่างนะ ตอนที่พัสนอนหลับไปน่ะพี่กับพ่อโทรตามหมอมาตรวจดูอาการของพัส แล้วหมอเขาบอกว่าตอนนี้น่ะพัสกำลังตั้ง
ท้องลูกของเราอยู่ด้วยพี่ก็เลยเป็นห่วงพัสมากยังไงล่ะครับ" ณัฐภาสนั่งลงกับเตียงคว้าตัวภรรยามากอดก่อนที่จะค่อยๆบอกล
ค่อยๆเล่าให้ฟังอย่างใจเย็น เพราะดูเหมือนว่าอารมณ์คนท้องจะพาความคิดของพัสกรพัดออกชายฝั่งไปไกลเสียแล้ว
"ท้อง" พัสกรหลุดพูดออกมาด้วยเสียงเบาหวิว
"ครับท้อง ตอนนี้ลูกของเรากลับมาหาเราแล้วนะครับ แต่ยังไม่รู้รายละเอียดหรอกนะครับว่ากี่เดือน ต้องรอไปตรวจดูที่
โรงพยาบาลให้แน่ชัดอีกที รู้อย่างเดียวแค่ว่า ตอนนี้พัสท้องแล้วแน่ๆ และอารมณ์ขึ้นๆลงๆของพัสก็เป็นเพราะว่าพัสโดนเจ้า
ตัวเล็กในท้องนี่เล่นงานเข้าแล้วไงครับ" ณัฐภาสพูดบอกพร้อมกับลูบท้องของพัสกรไปมาอย่างเบาๆ
"พัสท้อง ท้องแล้วจริงๆใช่มั้ยฮะ" พัสกรหันหน้าซุกอกกอดตอบณัฐภาส พร้อมกับถามเหมือนกับว่ายังไม่แน่ใจ
"จริงสิครับ! ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตรวจอย่างละเอียดแต่พ่อบอกว่าหมอคนนี้เก่งมากและจบเฉพาะทางการตั้งครรภ์ในผู้ชายมา
โดยตรงเพิ่มจากการรักษาแบบปกติมาอีกด้วยนะ ถ้าพัสยังไม่อยากจะเชื่อ ก็เอาอย่างนี้ไหม พรุ่งนี้เราไปโรงพยาบาลให้หมอ
ตรวจให้ละเอียดแบบชัวร์ๆให้แน่ใจกันไปเลย ดีมั้ยครับ?" ณัฐภาสถามเมื่อเห็นว่าพัสกรยังคงลังเลไม่อยากจะปักใจเชื่อสัก
เท่าไหร่ เพราะตอนแรกเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน เมื่อเห็นหมอมาจับๆตรวจๆอยู่พักนึงแล้วก็บอกกว่าภรรยาของเขาท้อง
แต่ก็เป็นพ่อของเขาเองที่บอกว่าลูกชายของเพื่อนพ่อคนนี้จบหมอได้เกียรตินิยมมาจากเมืองนอกโน่น แถมยังเรียนต่อเฉพาะทาง
การตั้งครรภ์ในผู้ชายเพิ่มมาอีก เขาถึงเชื่อนี่ไงทั้งๆที่พึ่งเคยได้ยินการเรียนแพทย์มีสาขานี้ด้วยก็จากพ่อตัวเองนี่แหละ อ่อ!..และ
โรงพยาบาลที่พัสกรไปรักษาตอนที่แท้ง หรือเจ้าคุณพาธาราไปฝากครรภ์ไปคลอดน้องเจ้านายนั้นก็เป็นโรงพยาบาลของเพื่อน
พ่อที่เป็นหมอหรือพ่อของหมอวินนี่แหละที่เป็นเจ้าของอยู่น่ะ
"อื้อ!!" พัสกรตอบตกลงในลำคอ
...
แฮะๆ มาแล้วจร้า...มาช้าไม่พอ ยังมาแบบสั้นๆอีกต่างหาก
เอาไว้จะชดเชยให้ตอนหน้าก็แล้วกันเน๊าะ!!
อะไรที่มันไม่เกินจริงหรือไม่ทางเป็นไปได้ก็ปล่อยมันผ่านๆไปเน๊าะ
เพราะนิยายของมี่มันเหลือเชื่อไปตั้งแต่ผู้ชายท้องได้แล้วแหละ
คิดซะว่ามันเป็นนิยายก็พอนะคะ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ