คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 20
"กลับห้องไปอาบน้ำนอนได้แล้วครับคุณพ่อ...ดึกแล้ว" พัสกรเอ่ยเย้ากึ่งบังคับณัฐภาสที่กำลังขะมักเขม้น
ต่อเตียงแต่งห้องเด็กรอลูกชายทั้งสามของตัวเองที่กำลังจะเกิดมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว เพราะตั้งแต่
ทานมื้อเย็นเสร็จเมื่อตอนหัวค่ำหลังจากที่กลับมาจากบริษัท ยังไม่ทันได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัวเลย
ณัฐภาสก็ขึ้นมาขลุกอยู่แต่ในห้องนี้ไม่ไปไหนเลย จนเขาต้องมาตามนี่แหละเพราะตอนนี้มันดึกมากแล้ว อีกทั้ง
พรุ่งนี้ณัฐภาสยังต้องไปทำงานที่บริษัทแต่เช้าอีก พัสกรก็เลยเป็นห่วงกลัวว่าสามีจะพักผ่อนไม่เพียงพอ
หลังจากวันที่เจ้าสัวชัชวาลย์รู้ว่าพัสกรตั้งท้องนั้น เดือนต่อมาเจ้าสัวชัชวาลย์ก็ทำเรื่องเซ็นยกหุ้นบริษัท
ค้าเพชรข้ามชาติกับกิจการโรงแรมในเครือของตระกูลของตัวเองทั้งหมดให้ณัฐภาสตามที่เคยให้คำสัญญา
กันไว้ตอนที่บังคับให้ณัฐภาสแต่งงานกับพัสกร ทำให้ตอนนี้ณัฐภาสกลายเป็นเสาหลักเป็นหัวเรือใหญ่นั่งแท่น
ประธานคอยดูแลกิจการในเครือ 'จินดากรณ์' ทั้งหมดแทนต่อจากเจ้าสัวชัชวาลย์พ่อของตัวเองทันทีมาจนถึง
วันนี้ก็ได้ประมาณสี่ห้าเดือนแล้วที่ณัฐภาสเข้าไปบริหารงานแทนเจ้าสัวชัชวาลย์ ในเดือนสองเดือนแรกนั้น
ณัฐภาสแทบจะไม่มีเวลานอนเลยก็ว่าได้เพราะต้องศึกษาเอกสารย้อนหลังของบริษัทเพชรและเครือโรงแรม
ของตัวเองทั้งหมดตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมาเลยทีเดียว ไหนจะต้องคอยดูแลพัสกรที่กำลังแพ้ท้องอีกต่างหาก แต่ไม่รู้
ว่าดูแลกันยังไง พอเข้าเดือนที่สามของการตั้งครรภ์ของพัสกร ณัฐภาสกลับกลายเป็นคนที่แพ้ท้องแทนพัสกร
เสียอย่างนั้น เรียกได้ว่าเป็นช่วงลำบากของณัฐภาสเลยก็ว่าได้ในตอนนั้นแต่ก็เป็นเพียงแค่ระยะสั้นๆกินเวลา
ไปแค่เดือนเศษเท่านั้น หลังจากนั้นทุกอย่างก็เริ่มลงตัวขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังไม่ทั้งหมดโดยเฉพาะเรื่องบุคลากร
และบริษัทค้าเพชรของณัฐภาสที่ไม่ว่าจะเป็นเพียงแค่พนักงานลูกจ้างธรรมดาๆหรือจะเป็นฝ่ายบริหารเก่าแก่
ตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งบริษัทมาเลยก็ตามที่ดูเหมือนกับว่าจะมีปัญหาในการบริหารงานของณัฐภาสเสียเหลือเกิน
ทั้งๆที่วิธีการบริหารที่ณัฐภาสใช้นั้นยังคงเป็นวิธีการเดียวกันกับของเจ้าสัวชัชวาลย์อยู่เลย เพราะณัฐภาสทำ
เพียงแค่สานต่อเจตนารมณ์ของพ่อตัวเองเท่านั้นยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนแผนการบริหารแต่อย่างใด เพราะเจ้าสัว
ชัชวาลย์ได้ขอร้องเขาเอาไว้ว่าให้ผ่านพ้นการขนส่งสินค้าล็อตสุดท้ายของปีนี้ไปก่อน หลังจากนั้นถ้าณัฐภาส
ต้องการจะปรับหรือเปลี่ยนตรงส่วนไหนก็แล้วแต่เลยเพราะถือว่าทั้งหมดนี้เขายกให้เป็นของณัฐภาสไปแล้ว
ส่วนเจ้าสัวชัชวาลย์ก็วางมือจากงานและขออยู่บ้านช่วยลูกเลี้ยงหลานตามภาษาคนแก่ดีกว่า
"พี่บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วหนูพัสว่าอย่าเดินไปไหนมาไหนคนเดียวอย่างนี้ มันอันตราย" ณัฐภาสละมือจาก
การประกอบเตียงเด็กลุกขึ้นประคองพัสกรทันที ส่วนปากนั้นก็ทำหน้าที่เอ็ดดุภรรยาสุดที่รักอย่างไม่มีบกพร่อง
ด้วยความไม่ชอบใจ เพราะหลายครั้งหลายทีแล้วที่เขาต้องคอยบอกคอยว่าพัสกรเรื่องนี้ ใครจะว่าเขาเป็นห่วง
เมียจนเวอร์หรือประคบประหงมมากเกินไปเขาก็ไม่สนหรอกนะ เพราะใครไม่เป็นเขาก็ไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง
ยามที่ได้เห็นพัสกรต้องเดินแบกท้องอันใหญ่โตที่เหมือนลูกโปร่งลูกยักษ์ที่พร้อมจะปริแตกได้ทุกเมื่อเดินไปไหน
มาไหนอย่างนี้ เพราะท้องของพัสกรนั้นมันใหญ่ ใหญ่มากจริงๆ แต่ก็สมควรอยู่หรอกที่จมีขนาดใหญ่โตอย่างนี้
เพราะในท้องของพัสกรนั้นมีลูกชายทั้งสามคนของเขานอนเล่นกันอยู่ข้างในไงจะไม่ให้เขาเป็นห่วงพัสกรได้
ยังไง เพราะแฝดนึกอยากจะเตะทักทายคุณแม่ของตัวเองก็เตะ มีอยู่ครั้งนึงนะเขาสองคนกับพัสกรกำลัง
พากันเดินลงบันได้บ้านชั้นบนในตอนเช้า แต่เจ้าแฝดสามเล่นถีบท้องคุณแม่พร้อมกันสามคนเลยไง เล่นเอา
พัสกรตกใจจุกจนเกือบจะตกบันไดแน่ะนี่ขนาดตอนอยู่ในท้องแม่อยู่นะเนี่ยยังพากันแสบได้ขนาดนี้ ไม่รู้ว่า
พอคลอดออกมาแล้วจะเป็นยังไง สงสัยคงจะมีสงครามกลางบ้านทุกวัน ฮ่าๆ แต่มันก็คือความสุขนี่นะ
"โธ่..คุณพ่ออย่าดุคุณแม่สิครับ เนี่ยถ้าเจ้าสามแสบไม่ดิ้นไปดิ้นมาเพราะรอคุณพ่อมากล่อมนอนนะ
พัสไม่เดินมาให้เมื่อยหรอกนะจะบอกให้...ชิ!" พัสกรยู่เบ้ปากหน้าบ่นใส่สามีอย่างงอนๆ ก่อนจะเอาซุกอก
สามีอย่างที่ชอบทำในพักนี้ พัสกรคงไม่รู้ตัวหรอกว่าตั้งแต่ตั้งท้องมานี่ตัวเองขี้อ้อนขึ้นมากขนาดไหน
อ๊อนอ้อน! อ้อนจนสามีอย่างณัฐภาสไปไม่เป็นเลยในบางครั้งเมื่อโดนคุณแม่ออดอ้อนใส่ ใครที่เป็นห่วงกลัวว่า
ณัฐภาสจะไปมีกิ๊กมีน้อยเพราะเมียท้องตามสันดานเจ้าชู้เมื่อก่อนนี้นี่ไม่ต้องห่วงเลย เพราะตอนนี้ณัฐภาสเขา
หลงแม่ของลูกตัวเองซะหัวปักหัวปำ หลงมากกว่าตอนที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆอีก เพราะฉะนั้นทุกคนไม่ต้อง
เป็นห่วงนะครับ งานนี้พัสกรเอาอยู่!!
"หืม..มีแค่สามแสบหรอครับที่คิดถึงคุณพ่อน่ะ..คุณแม่ไม่คิดถึงคุณพ่อบ้างหรือครับ" ก็นะ! หยอดเมีย
วันละจิตแจ่มใส่ นี่คือสโลแกนส่วนตัวของว่าที่คุณพ่อมือใหม่ ซึ่งพัสกรเองก็ไม่ชินสักที โดนสามีหยอดทีไร
พัสกรก็หน้าแดงอายจนตัวม้วนเสียทุกทีซิน่า!
"ไม่..คิดถึง..ซะเมื่อไร่ล่ะ..พัสคิดถึงพี่ภาสจะแย่ จุ๊บ!!~" พัสกรบอกพร้อมกับยื่นหน้าขึ้นไปจูบปลายคาง
สามีเบาๆ ทำเอาว่าที่คุณพ่อน่าบานเป็นจานดาวเทียมเลยทีเดียว
"อ๊ะ!!..อะ...โอ๊ยยยยยยย" ว่าที่คุณพ่อคุณแม่หวานใส่กันได้ไม่นานก็ดูเหมือนว่าจะโดนบรรดาลูกแฝด
ในท้องคุณแม่อิจฉาหรือหมั่นไส้เข้าให้แล้ว เพราะในขณะที่ณัฐภาสกำลังประคองพัสกรเดินไปที่ห้องนอนนั้น
ก็โดนลูกแฝดของตัวเองแผงฤทธิ์ใส่พากันประท้วงอยู่ในท้องแม่จ๋าว่าถึงเวลาแล้วนะที่พวกเขาควรจะได้ออก
มาวิ่งเล่นข้างนอกกับพ่อจ๋าแม่จ๋ากันเสียที
"ใจเย็นๆนะพัส! หายใจเข้าลึกๆ ทำอย่างที่หมอวินเคยบอกนะครับ หายใจเข้าลึกๆ" ณัฐภาสพูดบอกใน
ขณะที่กัดฟันอุ้มพัสกรที่มีน้ำหนักมากกว่าปกติไปมากจนเขาเองก็แทบจะอุ้มไม่ไหว เพราะมันไม่ใช่แค่ว่าเขา
อุ้มพัสกรแค่คนเดียวอย่างทุกทีไงแต่นี่ยังบวกอีกสามชีวิตตัวอวบๆ(ตามที่หมอวินบอกตอนไปอัลตร้าซาวด์)
อีกด้วยไง งานนี้เล่นเอาณัฐภาสหืดขึ้นคอกันเลยทีเดียว
.
.
.
.
.
"เดี๋ยวเราจะต้องผ่าคลอดเจ้าหลานแฝดออกมาเลยนะครับคุณภาส แต่ที่คุณพัสปวดท้องต้องคลอดก่อน
กำหนดนี่ก็เพราะเจ้าคนเล็กของคุณภาสเขากลับหัวก่อนใครเพื่อนเลยน่ะครับ ถ้ายังไงเดี๋ยวคุณภาสตามคุณ
พยาบาลไปเปลี่ยนใส่ชุดปลอดเชื้อก่อนนะครับแล้วไปเจอกันที่ห้องคลอด" หมอวินที่โดนณัฐภาสโทรเรียกตัว
มาทำคลอดให้พัสกร บอกอย่างอารมณ์ดีเพราะเมื่อกี้ตอนที่เขาเข้าไปตรวจอัลตร้าซาวด์ดูตำแหน่งเด็กๆให้
แน่ใจอีกทีก่อนที่จะลงมือผ่าคลอด ก็ปรากฏว่าเขาเห็นเจ้าหลานแฝดที่ณัฐภาสและพัสกรเรียกว่า 'คนเล็ก'
ชิงกลับหัวก่อนพี่ๆ เตรียมพร้อมที่จะออกมาดูโลกภายนอกแล้ว
"หึๆ แสบจริงๆนะคนเล็กของพ่อ ออกทาเมื่อไหร่พ่อจะฟัดให้หายแค้นเลยทีเดียวเชียว" ณัฐภาสบ่นขำๆ
อยู่คนเดียวในขณะที่กำลังเปลี่ยนใส่ชุดปลอดเชื้อเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปให้กำลังใจพัสกรในห้องคลอด
พลางนึกถึงวีรกรรมแสบๆ ตั้งแต่ลูกแฝดทั้งสามของเขาเริ่มดิ้นเป็น ก็มีเจ้าคนเล็กนี่แหละที่ชอบดิ้นชอบถีบ
ท้องแม่จ๋าแรงๆขัดขวางเวลาที่เขาสองคนออดอ้อนจิ๊จ๊ะกันตามภาษาสามีภรรยา อีกทั้งเวลาที่ถึงคราวต้อง
อัลตร้าซาวด์ดูพัฒนาการลูกๆ ก็จะต้องเห็นเจ้าคนเล็กสุดแสบเนี่ยแกล้งบังพี่ๆ ทุกที เรื่องของเจ้าคนเล็กที่
อยู่ในท้องของพัสกรตลอดแปดเดือนกว่าๆ เนี่ยให้นั่งเล่าทั้งวันก็ไม่หมดหรอก เขาสองคนกับพัสกรนี่เตรียม
ตัวเหนื่อยกันล่วงหน้าไปแล้ว เพราะคิดๆกันดูแล้วว่าคงจะต้องช่วยกันจัดการเจ้าแสบน้องนี่แหละเพราะ
แฝดพี่ทั้งสองคนดูเรียบร้อยกันตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ล่ะ
.
.
.
.
.
"เป็นยังไงบ้างครับคุณแม่" ณัฐภาสเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าพัสกรลืมตาตื่นขึ้นมา หลังจากที่หลับ
ยาวไปหลายชั่วโมงเพราะฤธทิ์ยาและความเพลียจากการคลอดสามแสบแฝดสามลูกชายของเขากับพัสกร
"ขอบคุณครับ....แล้วลูกๆเราล่ะฮะพี่ภาส" พัสกรถามถึงลูกๆของตัวเองทันทีที่ดื่มน้ำที่ณัฐภาสเทมาให้
พัสกรดื่มแก้กระหายเสร็จแล้ว
"กดเรียกหมอแล้ว เดี๋ยวหมอวินเขาก็คงพาลูกมาให้พร้อมกับที่มาตรวจดูอาการของพัสนั่นแหละครับ
ว่าแต่พัสเจ็บแผลมากหรือเปล่าครับ...หืม" ณัฐภาสปัดปอยผมที่ปรกหน้าพัสกร ก่อนที่จะถามถึงอาการเจ็บ
ของพัสด้วยความเป็นห่วง
ก๊อก..ก๊อก
"ผมเอาหลานมาส่งครับ เป็นยังไงบ้างครับคุณพัสรู้สึกคลื่นไส้หรืออยากอาเจียนบ้างหรือเปล่า" หมอวิน
เข้ามาพร้อมกับพยาบาลอีกสามคนที่ช่วยเข็นกระบะเด็กแฝดเข้ามาในห้อง ก่อนที่จะตรวจและถามอาการ
ของพัสกรอย่างละเอียด
"ไม่ครับ มีแค่เจ็บๆตึงๆ ที่แผลนิด และก็รู้สึกวูบๆที่ท้องอีกนิดหน่อย" พัสกรตอบกลับ
"ฮ่าๆ มันเป็นธรรมดาของคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกไปนั่นแหละครับ เพราะตลอดแปดเก้าเดือนของการตั้ง
ครรภ์พวกคุณแม่จะรู้สึกแน่นท้องอยู่ตลอดเวลาก็เพราะว่ามีเด็กค่อยๆเติบโตอยู่ข้างใน พอคลอดออกมามัน
ก็เลยรู้สึกวูบๆโหวงๆเหมือนแต่มีลมอยู่ในช่องท้องอย่างนั้นแหละครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอกครับ อีกสัก
เดือนสองเดือนพอกล้ามเนื้อมันเริ่มกระชับเข้าที่มันก็จะหายไปเอง โดยรวมแล้วทั้งคุณพัสและแฝดแสบนี่
แข็งแรงทั้งคู่เลยนะครับ ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง อีกสักสามสี่วันก็พากลับบ้านได้แล้วล่ะครับ ถ้ามีอาการผิด
ปกติยังไงก็กดเรียกพยาบาลได้ตลอดเลยนะครับ อ่อ! อย่าพึ่งฝืนเดินนะครับจะเข้าห้องน้ำก็อาศัยคุณภาส
อุ้มไปก่อน พ้นพรุ่งนี้ไปค่อยลองเดินนะครับ อ่อ! เดี๋ยวอีกสักพักแฝดคงจะร้องหิวนมแล้วล่ะครับ ยังไงๆคุณพัส
ก็ให้นมแฝดตามวิธีที่ได้ไปเรียนมาเลยนะครับ อีกสองชั่วโมงพยาบาลจะมารับตัวแฝดกลับไปห้องเด็กอ่อนนะ
ครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็...เจอกันใหม่พรุ่งนี้นะครับ ตอนเช้าผมจะเข้ามาตรวจอีกที" พูดจบก็พากันออกไปหมด
เลยทั้งหมอทั้งพยาบาล ทำเอาคุณพ่อคุณแม่มือใหม่มองกันไปมองกันมาอย่างงงกันความไปเร็วมาเร็ว เคลม
เร็วของหมอและพยาบาลโรงพยาบาลแห่งนี้
"เราทำยังไงกับลูกกันดีครับ" ณัฐภาสถามในขณะที่ปรับระดับเตียงให้พัสกรอยู่ในท่านั่งเอนหลัง
"พี่ภาสจำลูกได้หรือเปล่าครับ ว่าใครเป็นใคร" พัสกรถามพร้อมชะเง้อมองไปที่กระบะเด็กทั้งสามที่อยู่ไม่
ไกลจากเตียงของตัวเองมากนัก
"จำได้สิครับ พี่จำหน้าลูกๆได้ตั้งแต่ตอนออกมาจากท้องของพัสเลยล่ะ นี่ไงคนนี้พี่โตหน้าเหมือนพี่"
ณัฐภาสบอกพร้อมกับอุ้มลูกที่อยู่ในห่อผ้าส่งให้กับพัสกรโดยที่ไม่ต้องมองป้ายชื่อที่ติดอยู่ที่แขนเด็กเลย
"อ๊ะ! พี่ภาสเก่งจังเลยครับ ถูกด้วยอ่ะ" พัสกรบอกอย่างตื่นเต้นเพราะยอมรับตรงๆเลยว่าตัวเขาเองยัง
ไม่รู้เลยว่าลูกคนไหนเป็นคนไหน เพราะตอนคลอดก็มึนๆ เบลอๆ กับฤทธิ์ยา แต่คนอย่างณัฐภาสที่ไม่น่าจะ
จำได้ กลับกลายเป็นคนที่จำหน้าลูกตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลย มันเป็นอะไรที่คนเป็นแม่และภรรยาอย่างเขา
ประทับใจมากเลย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็เถอะ และที่สำคัญที่เขามั่นใจว่าณัฐภาสจำลูกได้ก็เพราะ
ว่า ตอนที่เขาจะดูชื่อลูกก็ต้องเปิดห่อผ้าออกก่อนยังไงล่ะ งานนี้คุณพ่อได้ใจคุณแม่ไปเต็มๆ
"แน่นอนอยู่แล้วครับ ส่วนนี่คนกลางหน้าเหมือนคุณแม่เป๊ะเลย" ณัฐภาสบอกพร้อมกับส่งลูกอีกคนไปให้
พัสกรอุ้มอีกคนนึง กลายเป็นว่าตอนนี้พัสกรใช้สองมือสองแขนอุ้มลูกสองคนเลย
"ส่วนนี่เจ้าแสบเล็ก....หน้าเหมือนใครเนี่ย...เหมือนคุณปู่หรือเหมือนใครเนี่ย? หน้าหนูเหมือนใครครับ?"
ณัฐภาสถามหยอกล้อลูกชายคนเล็กของตัวเองอย่างติดตลก เพราะพี่ชายของแฝดเล็กนั้นมีเค้าหน้าเหมือน
พ่อและแม่คนละคนอย่างชัดเจนเลย พี่โตหน้าเหมือนพ่อ คนกลางหน้าหวานเหมือนแม่ แล้วเจ้าแสบเล็กเนี่ย ล่ะไปเหมือนใครกัน
"แอ๊!!!!!!!!" พอจบคำพูดของณัฐภาสได้เท่านั้นแหละ เจ้าแฝดเล็กคนสุดท้องที่อยู่ในอ้อมแขนของคุณพ่อ
ก็ร้องจ้าขึ้นมาเลยทีเดียว เหมือนกับว่าเจ้าตัวกำลังหิวนมหรือไม่พอใจอะไรสักอย่าง เล่นเอาคุณพ่อมือใหม่
ตกใจหน้าซีดตาโตเลยที่โดนลูกร้องใส่อย่างนี้
"เอาลูกมาให้พัสดีกว่าฮะพี่ภาส แกคงจะหิวนมแล้ว" พัสกรพูดบอก เรียกสติคุณพ่อมือใหม่กลับมาได้
"พี่ภาสช่วยเอาคนกลางมาเข้าเต้ากินนมอีกข้างได้ไหมฮะ ก่อนที่แกจะร้องไห้จ้าพาลเอาพี่โตร้องตกใจ
ตื่นขึ้นมาอีกคนแล้วจะยุ่ง" พัสกรพยักเพยิดหน้าไปทางลูกคนกลางของตัวเองที่ทำท่าเหมือนว่ากำลังจะเบะ
ปากร้องให้ขึ้นมาอีกคน ในขณะที่ตัวพัสกรเองกำลังเอาลูกคนเล็กที่ร้องไห้เมื่อสักครู่เข้าเต้ากินนมอยู่ ซึ่งถือว่า
ทำได้ดีมากๆเลยสำหรับการให้นมลูกครั้งแรกสำหรับคุณแม่มือใหม่อย่างพัสกร และเมื่อได้ยินภรรยาสุดที่รัก
บอกอย่างนั้นณัฐภาสก็รีบช้อนตัวลูกคนกลางของตัวเองที่นอนอยู่ในห่อผ้าข้างๆตัวพัสกรจับเข้าเต้านมข้าง
ที่ว่างอยู่ของพัสกรทันทีเลย
"คริๆ อิจฉาลูกหรอครับคุณพ่อ เอาพยาบาลมารับลูกเมื่อไหร่จะให้ลองชิมแล้วกันนะครับ" พัสกรพูดบอก
เมื่อเห็นณัฐภาสแอบกลืนน้ำลายอยู่หลายครั้งหลายหนในขณะที่ช่วยเขาอุ้มลูกคนกลางให้กินนมอีกข้างนึง
ถามว่าทำไมพัสกรถึงใจยื่นชิ้นเนื้อใส่ปากเสืออย่างนั้นทั้งๆที่มันเป็นเรื่องน่าอาย ก็ต้องบอกเลยว่าเพราะตั้งแต่
ตั้งท้องลูกมานี่ณัฐภาสขอร้องอ้อนวอนกึ่งบังคับให้เขาช่วยภายนอกมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่แล้ว และจะ
บอกให้รู้ไว้เลยนะว่าที่น้ำนมเขาไหลได้ไหลดีมีรอพร้อมให้ลูกดูดกินอย่างนี้ก็เพราะว่าโดนคนเป็นพ่อกระตุ้น
มาก่อนหน้านี้แล้วไงครับ ตอนนั้นนี่เขาจะว่าจะขัดก็ไม่ได้นะเพราะเดี๋ยวจะพาลงอนใส่ ทะเลาะกันเสียเปล่าๆ
แต่ก็นะ! ไอ้เราก็ต้องเข้าใจเขาหน่อยมันก็น่าสงสารอยู่เหมือนกันที่เห็นสามีทำตาละห้อยขนาดนั้น และยิ่ง
มีเรื่องที่คุณแม่ทั้งหลายโดนสามีนอกใจไปมีกิ๊กมีชู้ตอนที่ตั้งท้องให้เขาได้ยินได้ฟังบ่อยๆ ด้วยแล้ว งานนี้พัสกร
เลยขอสู้ตายทำหน้าที่แม่พร้อมๆไปกับหน้าที่เมียไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลยล่ะ เพราะฉะนั้นก็หมดปัญหา เหอๆ
"ขอบคุณครับที่รัก จุ๊บ!" ณัฐภาสดูดี้ด้าอารมณ์ดีขึ้นมาเชียวเมื่อได้ยินภรรยาพูดอย่างนั้น จึงอดไม่ได้ที่
จะกดจูบขอบคุณที่ริมฝีปากของพัสกรเบาๆ
"หึๆ" พัสกรหลุดขำออกมาเบาๆเมื่อเห็นท่าท่างดีใจแบบเด็กๆของสามี ก่อนที่จะเปลี่ยนเอาลูกคนเล็ก
ที่กินนมเสร็จแล้ววางใส่กระบะเด็กที่ณัฐภาสเข็นเข้ามาชิดติดกับเตียงของพัสกร ก่อนที่จะเอาลูกคนโตที่
ทำท่าเหมือนกับว่ากำลังจะร้องไห้มาเข้าเต้ากินนมอีกคนในขณะที่ลูกคนกลางที่ณัฐภาสช่วยอุ้มอยู่นั้นยัง
ไม่มีทีท่าว่าจะอิ่มหรืออ้าปากปล่อยยอดอกของเขาเลย
"ตลกอะไรครับ ไม่ต้องมาขำเลย ที่พี่บอกว่าขอบคุณน่ะ พี่ไม่ได้ขอบคุณพัสแค่เรื่องนั้นนะ แต่พี่ขอบคุณ
ที่พัสอดทนอุ้มท้องเจ้าสามแสบนี่ให้พี่ด้วยต่างหากล่ะ ขอบคุณนะครับที่รัก ขอบคุณจริงๆ ที่มอบของขวัญ
แบบคอมโบเซ็ตที่แสนพิเศษนี้ให้พี่ ขอบคุณที่พัสเข้ามาเติมเต็มให้พี่ได้มีความสุขในทุกๆวัน ขอบคุณที่สู้อด
ทนกับนิสัยแย่ๆของพี่และที่สำคัญที่สุดคือขอบคุณที่เป็นภรรยาและคุณแม่ที่แสนดีสุดน่ารักของพี่และลูกๆ"
ณัฐภาสบอกพร้อมกับจ้องตาพัสกรเพืื่อสื่อให้พัสกรได้รับรู้ว่าเขารู้สึึกอย่างที่พูดออกมาจริงๆ ทุกๆคำพูดที่เขา
พูดออกมานั้นมันมาจากก้นบึ้งของหัวใจใช่ว่าเป็นแค่เพียงลมปาก ซึ่งคำพูดซึ้งๆของณัฐภาสก็สามารถเรียก
น้ำตาแห่งความตื้นตันใจของคุณแม่มือใหม่อย่างพัสกรได้ดี ก่อนที่เขาทั้งสองคนจะมอบจูบที่แสนอ่อนโยน
และเต็มไปด้วยความรู้สึกให้แต่กันท่ามกลางเสียงอ้อแอ้ของลูกน้อยฝาแฝดทั้งสามคนของเขาทั้งคู่ที่ช่วยเป็น
พยานรักในครั้งนี้ของเขาทั้งสองคน
.
.
.
.
แถมๆ (อีกสักนิด)
"ผมว่าเรากลับกันก่อนดีกว่านะพ่อ พรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมกันใหม่ก็ยังไม่สาย" เจ้าคุณที่มาพร้อมกับ
เจ้าสัวชัชวาลย์พ่อของณัฐภาส เอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นอะไรบางอย่างจากการที่เปิดประตูห้องพักของพัสกร
ไปอย่างเงียบๆ ไม่น่าเล๊ย! ไม่น่าเลยไอ้คุณเอ๋ย ไม่น่าจะไปหวังดีมีมารยาทกลัวว่าการเคาะประตูห้องจะเป็น
การรบกวนคนที่ต้องการพักฟื้น พักผ่อนจากการคลอดลูกอย่างพัสกร เพราะมีตัวอย่างมาจากตอนที่ธารา
คลอดเจ้านายลูกชายของเขาไง แต่ไหงมันกลายเป็นอย่างนี้ไปได้ว๊ะ!
"อะไรของแกห๊ะเจ้าคุณ ไหนๆก็มาจนถึงขนาดนี้แล้ว ก็เข้าไปเลยดิ จะกลับทำไม พ่ออยากเห็นหน้าหลาน
จนเต็มแก่แล้วเนี่ย!!" เจ้าสัวชัชวาลย์ถามเจ้าคุณอย่างไม่เข้าใจเพราะหลังจากที่เขาได้รับโทรศัพท์จากณัฐภาส
ลูกชายของเขาว่าพัสกรลูกสะใภ้ของเขานั้นเจ็บท้องจะคลอดหลานแฝดของเขาแล้วนั้น เขาก็รีบโทรหาเจ้าคุณ
ที่เป็นเสมือนกับลูกชายแท้ๆของเขาอีกคนด้วยความตื่นเต้น ในจังหวะเดียวกันกับที่เจ้าคุณขับรถมารับเขา
มาโรงพยาบาลเหมือนกัน แต่พอมาถึงปุ๊บก็จะให้กลับปั๊บอย่างนี้มันคืออะไรเนี่ย เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ
"พ่อดูเอาเองก็แล้วกัน" เจ้าคุณบอกพร้อมกับค่อยๆ เปิดประตูห้องพักของพัสกรให้เจ้าสัวชัชวาลย์ได้เห็น
ในสิ่งที่เขาเห็นอย่างแผ่วเบา
"กลับๆ พรุ่งนี้เราค่อยมากันใหม่ก็ได้เจ้าคุณ....ไอ้หยา!! นี่ไอ้ภาสมันเตรียมปั้มน้องให้เจ้าแฝดเลยรึไงว่ะ"
เมื่อเห็นสิ่งที่เจ้าคุณเห็นแล้ว เจ้าสัวชัชวาลย์กลับเป็นฝ่ายที่รีบชวนเจ้าคุณกลับบ้านเองเลย ไม่วายที่จะบ่น
ทิ้งท้ายกับสิ่งที่เห็นกับตัวเองเบาๆ อีกด้วย
...
มาแล้วจร้า....ขอโทษทีที่เมื่อวานมี่ผิดคำพูดไปเพราะมี่มีภาระกิจต้องไปต่างจังหวัดด่วน
พึ่งจะกลับมาถึงบ้านนี่เองจร้า กลับมาถึงก็รีบลงให้ได้อ่านกันก่อนเลยน้ำเนิ้มยังไม่ได้อาบเลย
เล่นเอาเน่ากันไปข้างเลยทีเดียวเชียว ยังไงก็อย่าโกธรกันนะคะ เจอกันตอนหน้าจร้า...