พิมพ์หน้านี้ - [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: เขียนสือ ที่ 03-06-2015 18:56:45

หัวข้อ: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 03-06-2015 18:56:45
ข้อตกลงในการเข้ามา  กรุณาอ่านทุกท่าน
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย
หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบน
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง
บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้
เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด  คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่น ช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆ ก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเอง
เพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง
ส่วนการพูดคุยนั้น  ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้
หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชาย
เข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
5.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
6.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ยกเว้นแนะนำนิยายหรือเรื่องราวที่อยากให้เพื่อนๆตามไปอ่านแล้วขอมาลงไม่สะดวก และช่วยกรุณาโพสลิงค์ที่บอร์ดนั้นกลับมาที่เวป http://www.thaiboyslove.com แห่งนี้ด้วยนะครับ เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับ
7.ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
8.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
ให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่า
แล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ด
เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
9.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
10.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่เจ้าค่ะ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< บทนำ (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 03-06-2015 19:03:19

 

 

แรง.ร้าย.รัก....คุณเมียภาคบังคับ

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/162556489-member.jpg)

ภาส: ไหนบอกว่าเป็นผู้ชาย? แม่งทำไมสวยเหี้ยๆเลยว๊ะ!!

พัส: ยึ๋ย! ไอ้หน้าหื่น เก็บน้ำลายด้วย

ภาส: พ่ออยากมีหลาน ผมก็จะทำให้

พัส: ฮึ! อย่าหวังว่าจะได้เห็นขาอ่อนพัสกรคนนี้เลย!!

 

 
(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1029426793-member.jpg)
'ภาส' หรือ 'ณัฐภาส  อัครจินดากรณ์'(อายุ27ปี) ผู้ชายปากหมา กวนประสาท ก็แค่อยากได้มรดกพ่อ

พ่อภาส: ไอ้ภาสแกต้องแต่งงาน

ภาส: ไม่แต่ง!! พ่ออยากให้ผมมีเมียเป็นตัวประหลาดหรอ?

พ่อภาส: ถ้าไม่แต่ง!! สมบัติฉันแกก็อย่าหวัง

ภาส: โธ่เว้ย!! อย่าให้เจอนะไอ้หนูพัส พ่อจะแกล้งให้วิ่งร้องให้กลับบ้านไม่ทันเลย!!

 

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/735844941-member.jpg)

'พัส' หรือ 'พัสกร วัชรธาดา'(อายุ22ปี) ภายนอกดูแรง ปากไม่ตรงกับใจ ยอมแต่งงานเพื่อรักษาบริษัทปู่ย่าไว้

พ่อพัส: แกต้องแต่ง!! เพราะฉันรับเงินเค้ามาแล้ว

พัส: พ่อกับแม่ตกอับจนขายลูกกินเลยหรอ?

พ่อพัส: ไอ้พัส!! อย่ามาปากดี อาทิตย์หน้าแกเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวให้ณัฐภาสได้เลย

พัส: ไอ้บ้าณัฐภาสนายเป็นใคร!! คอยดูเถอะพ่อจะอาลาวาดให้ขอเลิกไม่ทันเลย

 

 

 

 

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

แอบมาเปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว แต่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ นิยายของมี่จบทุกเรื่องแน่นอน!!!

ยังไงมี่ก็ขอฝากผลงานเรื่องแรกของมี่ด้วยนะคะ

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1010427894-member.jpg)

>>>> it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'<<<<

 เรื่องนี้ก็เป็นแนว Mpreg เคะท้องได้ เหมือนกันค่ะ

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 

 

 

ดีค่ะ!!!! เราชื่อ'มี่' เพิ่งจะยี่สิบต้นๆ จะเรียก 'พี่มี่' 'น้องมี' 'ไอ่มี่' หรือยังไงก็แล้วแต่สะดวกเลย

เราเป็นนักเขียนมือใหม่เพิ่งจะเริ่มแต่งนิยายเป็นของตัวเอง ปกติก็เป็นคนอ่านมาตลอด

แต่ที่ต้องมาแต่งเองเพราะว่ามันไม่ค่อยมีแนว 'mpreg' 'ผู้ชายท้องได้' แบบที่เราชอบสักเท่าไหร่

เราก็เลยเริ่มแต่งซะเลย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อสนองความต้องการของตัวเองแท้ๆ ใครที่ชอบคล้ายๆกัน

ก็เข้ามาอ่ามาแลกเปลี่ยนความคิดกันได้นะคะ ส่วนคนที่ไม่ชอบแนวนี้เลยก็ลองเปิดใจ

ลองอ่านกันสักนิดถ้าไม่ชอบไม่ใช่แนวจริงๆก็กดปิดไปได้เลยค่ะ ให้นิยายมันเป็นแค่นิยาย

เปิดใจให้กว้างและสนุกไปกับมันไม่ต้องไปคิดอะไรมากมาย ไม่ต้องไปอิงกับความเป็นจริงให้มาก

เพราะมันมีไว้ให้เราอ่านเพื่อให้ผ่อนคลายพักสมองจากเรื่องเคลียดในชีวิตจริง แล้วโลดแล่น

มีความสุขสนุกหรรษาไปตัวละคร จะยังไงก็แล้วแต่ฝากผลงานของเราด้วยนะคะ

ถึงตอนนี้อาจจะยังแต่งได้ไม่ดีเท่าไหร่เพราะเราไม่ใช่นักเขียนอาชีพเราคือมือใหม่หัดแต่ง

แต่เราก็จะพยายามพัฒนาไปเรื่อยๆ เอาความคิดและคำแนะนำของทุกคนมาปรับแก้

สนับสนุน 'ไอ่มี่' คนนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ >3<!!

 

 

 

 

 

 

- ศิลปินในรูปไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับนิยายเรื่องนี้ รูปมีไว้เพื่อให้จิ้นเท่านั้น

- นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำความเสียหายแก่ศิลปิน

- นิยายเรื่องนี้เป็นแนว mpreg 'เคะท้องได้' ท้องโดยไม่มีหลักการใดๆ ไม่มีเหตุผลรองรับ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< ตอนที่1 (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 03-06-2015 20:14:15
คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่1


Part ภาส

"พ่อว่าไงน๊ะ!! แต่งงาน!! พ่อจะบ้าไปแล้วหรอ? ผมยังไม่สามสิบเลยนะ ไม่แต่งอ่ะ ยังไงๆผมก็ไม่แต่ง" ผมหล่ะไม่เข้าใจพ่อจริงๆ

เห็นให้เด็กไปตาม ไอ้เราก็นึกว่าจะยอมให้บริหารกิจการ ที่ไหนได้ เรียกผมมาคุยเรื่องแต่งงานบ้าบออะไรก็ไม่รู้

"แกต้องแต่ง!! ยังไงแกก็ต้องแต่งกับหนูพัส ถ้าไม่แต่งก็อย่าหวังว่าจะได้สมบัติฉัน"

"โธ่...พ่ออย่าเอาเรื่องนี้มาขู่สิ! พ่อก็รู้ว่าผมต้องการพวกมัน พวกมันสำคัญกับผมมาก" ผมอยากได้จริงๆนะ ผมไม่อยากพิสูจน์

ให้ไอ้พวกปิงแก่พวกนั้นมันเห็นว่าผม ผมก็ทำได้ ไม่ได้ไร้สาระไปวันๆอย่างที่พวกมันดูถูกผม

"ฉันไม่ได้ขู่ ฉันพูดจริง กะอีแค่แต่งงานแล้วมีหลานให้คนแก่ๆอย่าฉันเลี้ยงแก้เหงาเนี่ย มันจะยากเย็นอะไรนักหนาห๊ะไอ้ภาส"

"แล้วพ่อจะให้ผมแต่งงานกับคนที่ผมไม่รู้จักเนี่ยนะ เป็นใครมาจากไหน รูปร่างหน้าตาเป็นไงก็ไม่รู้ พ่อคิดได้ไงเนี่ย!!"

"แล้วหนูพัสไม่ดีตรงไหน ฉันเห็นหนูพัสมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ทั้งน่ารัก นิสัยดี มีสัมมาคาราวะ กริยาท่าทางเรียบร้อย ดีกว่า

พวกแม่ชะนีวี้ดว้ายอกตู้มที่มีดีแค่คอยเกาะแข้งเกาะขาแกไปวันๆเป็นไหนๆ" พ่อคิดอะไรของพ่อเนี่ย จะให้ผมแต่งงานกับ

คนที่ไม่รู้จักเนี่ยนะ ไอ้หนูพัสอะไรของพ่อเนี่ยผมเคยเห็นซะที่ไหน โอ้ย! ปวดหัวเว้ย

"แต่พ่อเป็นคนบอกเองนะว่าหนูพัสของพ่อเป็นผู้ชาย แล้วอย่างนี้จะมีหลานให้พ่อได้ไง ยกเลิกงานแต่เหอะนะพ่อ เอาไว้ผม

เจอสาวๆถูกใจเมื่อไรผมจะรีบปั้มหลานให้พ่อเลย เอาให้ครบโหลเลยเป็นไงพ่อ นะพ่อนะยกเลิกเหอะผมไม่อยากแต่งว๊ะ"

ผมยังอยากเที่ยวอยู่เลย อย่าว่าแต่เมียเลยแฟนผมยังไม่อยากมีเลย สู้อยู่โสดๆแล้วคั่วไปเรื่อยๆดีกว่า สนุกกว่าเยอะ

"ฉันจะไม่เอาหลานจากผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น!! แม่ของหลานฉันต้องเป็นหนูพัสแค่คนเดียว อ่อ! แล้วฉันจะบอกอะไรให้นะ

ไอ้ภาส หนูพัสน่ะเป็นผู้ชายที่มีมดลูกตั้งแต่กำเนิดและแข็งแรงมาก เรื่องที่จะมีหลานให้ฉันหน่ะไม่ใช่ปัญหา จะมีซักโหล

อย่างที่แกพูดก็สบายๆเลย"

"มีมดลูก!! ผู้ชายบ้าที่ไหนจะมีมดลูกมีลูกได้ พ่ออยากให้ผมมีเมียเป็นตัวประหลาดหรอ? ไม่เอาอ๊ะ ยังไงผมก็ไม่แต่ง"

"ตอนแรกฉันก็ว่าจะพูดกับแกดีๆนะไอ้ภาส แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว หลังจากนี้อีกหนึ่งเดือนแกเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวได้เลย

แล้วถ้าแกตุกติกหรือคิดหนีหล่ะก็ สักบาทเดียวจากฉันแกก็อย่าหวังว่าจะได้เลย แม้กระทั้งผับของแกฉันก็จะทำให้มัน

ไม่เหลือแม้แต่ชื่อ แต่ถ้าแกตกลง หลังจากแกแต่งงานกับหนูพัสครบสองปีและแกมีหลานให้ฉันอุ้มแล้ว ฉันจะยกสมบัติ

ทั้งหมดให้แกทันที พอถึงวันนั้นถ้าแกยังไม่รักหนูพัสอีกแล้วอยากจะหย่ามันก็เรื่องของแก ฉันจะยุ่งหรือบังคับอะไรแกอีกเลย"

โธ่เว้ย!!! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันว๊ะ พ่อนะพ่อจะทำอะไรไม่เคยปรึกษากันเลย กะอีแค่ยกกิจการให้ลูกดูแลเฉยๆโดยไม่มีข้อแม้

อะไรเลยไม่ได้รึไง จะทำให้เรื่องมันยุ่งยากทำไม ไอ้หนูพัสอะไรนั่นอีก อย่าให้เจอนะ พ่อจะแกล้งให้วิ่งร้องไห้กลับบ้าน

ไปฟ้องพ่อฟ้องแม่ไม่ทันเลยคอยดู เชื่อหัวไอ้ภาสเถอะ ฮึ่ม!!!

 

Part พัส

"แต่งงาน!! ผมไม่แต่ง!!" เหอะๆ ผมเพิ่งจะเรียนจบมายังไม่ถึงสองอาทิตย์ ยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตอิสระ ยังไม่เคยลองทำงานเลย!!!

อยู่ดีๆก็จะให้ผมแต่งงาน ไอ้คู่มั่นห่าเหวอะไรนั่นอีกโผล่มาจากไหน ผมไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย แล้วพ่อกับแม่จะมาบังคับให้ผม

แต่งงาน มันใช่แล้วหรอ? จะเอาอิสระที่ผมรอวันที่ได้บินออกจากกรงทองของพ่อแม่ไปแลก แล้วเปลี่ยนมาเป็นห่วงผูกคอเส้น

ใหม่กับไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้อย่างนั้นหรอ ไม่มีทาง

"แกมีเหตุผลอะไรที่จะไม่แต่งงานกับตาภาสห๊ะเจ้าพัส แกลองบอกฉันมาสิ"

"ผมอยากทำงาน อยากลองใช้ชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง"

"ถึงแกแต่งงานไปแล้วแกก็ทำงานได้ ใครเค้าจะบังคับอะไรแก ที่ผ่านมาฉันกับแม่แกยังให้อิสระกับแกไม่พออีกหรือไง"

อิสระที่พ่อพูดถึงมันคือการละเลยไม่ใช่หรอ แถมยังบังคับให้ผมทำตามในสิ่งที่พ่อแม่ขีดเอาไว้ให้อีก ไม่เคยได้เลือกอะไรเลย

วันๆก็อยู่แต่บ้านกับมหาลัย เพื่อนก็ต้องแอบคบ จะไปไหนก็ไม่ได้ บังคับให้ผมเรียนบริหารแทนที่ผมจะได้เรียนออกแบบ

อย่างที่ผมชอบบ้าง อะไรๆก็ไม่ได้ ไม่ดี

"ผมไม่อยากแต่ง!! ยังไงๆผมก็ไม่แต่พ่อกับแม่ได้ยินรึป่าวว่าผมไม่แต่ง!!!"

"แต่แกต้องแต่ง!! ตาภาสมีดีทุกอย่าง ทั้งฐานะ ทั้งหน้าตา เหมาะสมกับแกที่สุดแล้ว แค่ช่วยฉันกับแม่แกนี่มันจะตายรึไง"

"ช่วย!! ช่วยอะไรครับพ่อ ทำไมพ่อกับแม่ถึงอยากให้ผมแต่งงานกับนายภาสอะไรนี่จังเลยครับพ่อ"

"เพราะฉันรับเงินของเค้ามาแล้ว และก็ใช้เงินของเค้าไปหมดแล้วด้วย บริษัทกำลังจะล้มละลาย บ้านที่แกซุกหัวนอนกำลังจะ

ถูกธนาคารยึดแกเคยรู้อะไรบ้างรึป่าวเจ้าพัส ถ้าแกไม่อยากให้ฉันกับแม่แกลำบาก ไม่อยากให้บริษัทที่ปู่กับย่ารักนักรักหนา

ตกไปอยู่ในมือคนอื่นแกก็ต้องแต่งงานกับณัฐภาส"  หึ! นี่สินะเหตุผลที่อยากจะให้ผมแต่งงานให้ได้ ผมเป็นแค่สมบัติชิ้นนึง

ของพ่อแม่ที่รอวันแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่คุ้มและมีค่ากว่าเท่านั้นเองหรอ ผมไม่ได้มีความสำคัญกับพวกเค้าเลย

"พ่อกับแม่ตกอับ จนถึงกับขายลูกกินเลยหรอครับ"

    เพี๊ยะ!!!

"ไอ้พัส!! ถ้าแกไม่รู้อะไร แกก็อย่ามาปากดีกับฉัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันกับแม่แกทำก็เพื่อตัวแกทั้งนั้น"

"พ่อตบผม!! เพราะผมพูดความจริง พูดแทงใจดำหรอครับ??"

"ไอ้พัส ไอ้ลูกไม่รักดี!!" มาเลยครับพ่อจะตบจะตีผมอีกกี่ทีผมก็ไม่ว่าจะยืนให้พ่อตีอยู่แบบนี้แหละ ถ้ามันทำให้ยกเลิกงานแต่ง

บ้าบอนั้นได้

"ว๊าย!! พอแล้วค่ะคุณ อย่าตีลูกอีกเลยนะคะ ฉันขอ"

"ฮื่ม!! อาทิตย์หน้าแกเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวให้ณัฐภาสได้เลย หรือถ้าแกอยากจะเป็นคนอกตัญญูปล่อยให้บริษัทปู่ย่าแกโดนยึดไป

แล้วทิ้งฉันกับแม่แกให้ลำบากกันอยู่สองคนหล่ะก็ แกก็หนีไปเลย" ฮึก! นี่หรือพ่อแม่ นี่หรือครับครัว ความรักความอบอุ่น

อยู่ตรงไหน ตั้งแต่ผมจำความได้ผมก็มีแค่ปู่และย่า ท่านทั้งสองเป็นคนที่สั่งสอนเลี้ยงดู ให้ความรัก เอาใจใส่ผมมาตลอด

จนท่านทั้งสองเสียไปพ่อกับแม่ถึงพึ่งจะกลับมาจากต่างประเทศเพื่อรับมรดกและขีดเส้นชีวิตขังผมอยู่ในกรงทองเรื่อยมา

ปู่ครับ ย่าครับ พัสเหงา ปู่กับย่าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ พัสจะไม่ยอมให้สิ่งที่ปู่กับย่าสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงทั้งหมด

ตกไปอยู่กับคนอื่นแน่นอน  ถึงแม้ว่ามันจะต้องแลกกับชีวิตอิสระของพัสก็ตาม ปู่กับย่าช่วยเป็นกำลังใจให้พัสมีแรงสู้ต่อไป

ด้วยนะครับ  ฮึ่ย!! ไอ้บ้าณัฐภาสนายเป็นใคร!! ทำไมฉันจะต้องแต่งงานกับนายด้วย อยากให้แต่งมากนักก็จะแต่งให้

คอยดูเถอะพัสกรคนนี้จะอาละวาดให้ขอเลิกไม่ทันเลยคอยดู ไอ้บ้าเอ้ย!!!!

 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่1 (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 03-06-2015 20:48:55
ติดตามค่าา..^^ คือดีอ่ะ แสบๆ คันๆ กันน่าดูเลยนะคะ อยากให้ภาสกับพัสมาเจอกันไวๆ เสียแล้วสิ~

เป็นกำลังใจให้นะค้าา.. :L2:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่1 (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ดวงตะวัน ที่ 03-06-2015 20:52:29
รอติดตามความแสบของหนูพัสด้วยคนจ้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่1 (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 03-06-2015 21:03:52
เริ่มเรื่องก็น่าสนใจแล้วมาต่อด้วยน้า

อยากรู้ ๆ  o13 o13
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่2 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 04-06-2015 02:20:52
คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่2




Prat ภาส

"ทำหน้าให้มันดีๆเหมือนคนหน่อยไอ้ภาส ฉันจะพาแกไปแต่งเมียนะ ไม่ได้จะพาไปฆ่า"

"มันก็ไม่ต่างกันหรอกพ่อ แทนที่ผมจะได้เมียอวบๆนมตู้มๆ แต่ไหงกลายเป็นผู้ชายที่ไม่มีนม หน้าก็ไม่เคยเห็น แถมยังมีไอ้นั่น

เหมือนกันกับผมอีก ใครจะร่าเริงได้พ่อ แค่คิดถึงตอนเข้าหอผมก็ขนลุกแล้ว ยกเลิกเหอะพ่องานแต่งห่เหวอะไรเนี่ย นะพ่อ

ถึงอยู่กันไปผมก็คงรักหนูพัสของพ่อไม่ลงหรอก"

"ฮึๆ ทำเป็นพูดดีไปไอ้ภาส แล้วฉันจะคอยดูน้ำหน้าแกตอนเห็นหนูพัส ว่าจะเหมือนกับที่ปากแกพูดรึป่าว ถ้าแกรักหนูพัส

ขึ้นมาวันไหนนะฉันจะหัวเราะให้ฟันร่วงเลย"

"แหม! มั่นใจจังเลยนะพ่อ แต่ผมว่ามันคงไม่มีวันนั้นหรอก"

"ฉันว่ามันต้องมีวันนั้นแน่นอนเว้ย ไอ้ลูกหมา"

"ผมไม่คุยกับพ่อแล้วว๊ะ เสียอารมณ์ ถึงแล้วค่อยเรียกนะพ่อ ผมจะนอน" เซ็งชิบ!! ต้องแหกตาขึ้นเครื่องไปกรุงเทพฯตอนดึกๆ

อย่างนี้ไม่พอ ยังต้องไม่เข้าพิธีแต่งงานแต่เช้าอีก ไม่รู้จะรีบอะไรกันนักหนา ไม่มีเวลาให้ผมทำใจตอนเห็นหน้าเจ้าสาวเลย

พอเสร็จพิธีแต่งงานแล้วผมยังจะต้องหอบเจ้าสาวกลับมาเข้าหอที่ภูเก็ตทันทีอีก แถมยังต้องเข้าไปอยู่เรือนหอแค่สองคนกับ

หนูพัสของพ่ออีก เรือนหอที่ว่านี่คือบ้านที่พ่อสร้างใหม่ไว้รับขวัญลูกสะใภ้และมันก็คือหนึ่งในสินสอด โครตใหญ่ พ่อผมทุ่ม

มากอ๊ะ ไม่รู้ว่าไอ้หนูพัสนี่มันมีดีอะไรนักหนา พ่อถึงอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้นัก  ชีวิตไอ้ภาสหนอ แค่หล่อรวยเป็นลูกเจ้าสัว

ชัชวาลย์อย่างเดียวก็ไม่ได้ ทำไมสวรรค์ต้องทำร้ายไอ้ภาสคนนี้ให้รับเวรรับกรรมมีเมียเป็นผู้ชายอีก โอ้ย!! กูอยากจะบ้า!!

...

ผมต้องไปแต่งตัวที่บ้านอา ก็น้องแท้ๆพ่อผมนั้นแหละแล้วเราก็จะตั้งขบวนขันหมากกันที่นี่เลยเพราะพ่อบอกว่าบ้านหนูพัส

อยู่ถัดไปแค่สามหลัง ทั้งอาทั้งพ่อตื่นเต้นยิ้มหน้าบานพอกันไม่รู้จะดีใจอะไรกันหนักหนา มาแต่งแทนผมกันเลยดีมั้ย

พอแต่งตัวเสร็จก็ออกมาเตรียมตัวหน้าบ้าน อื้อหือ!! พ่อจ้างมาคนละกี่บาทว๊ะเนี่ยขบวนขันหมากผมถึงยาวขนาดนี้







Part พัส

   วันนี้แล้วซินะครับ ที่ผมจะได้อยู่บ้านหลังนี้เป็นวันสุดท้าย และตอนนี้ผมก็รออยู่ในห้องของผมเพื่อรอเวลา วันนี้เป็นวัน

ที่ผมต้องแต่งงาน และหลังจากเสร็จพิธีตามที่แม่บอกผมจะต้องย้ายไปอยู่บ้านนายนั่นที่ภูเก็ตทันทีผมไม่อยากแต่งเลย

อยากจะหนีไปให้ไกลๆ แต่ผมก็ไม่อยากให้บริษัทที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงด้วยสองมือของปู่กับย่าตกไปอยู่ในมือของคนอื่น

"พร้อมแล้วนะตาพัส ขบวนขันหมากมาแล้ว แม่ดีใจนะที่ลูกของแม่กำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝา ลูกนั่งรอพี่เค้ามารับอยู่ในนี้นะ

แม่จะออกไปช่วยพ่อรับแขกก่อน" แม่เข้ามาดูความเรียบร้อยของผมอีกทีสงสัยกลัวผมจะหนีงานแต่งงานมั้ง

"โฮ่ ฮี้ โฮ่ ฮี้ โฮ่ ฮิ้ววววววว........................" เฮ้ออ!!  มากันแล้วสินะ เอาว๊ะตายเป็นตาย สู้ๆโว้ยพัสกร เรื่องแค่นี้ไม่เกินมือหรอก

เสียงดังข้างนอกทำให้ผมเหงื่อชื้นมือไปหมด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้อาการที่ผมกำลังเป็นอยู่เนี่ยจะเลือกว่าตื่นเต้นหรือกลัวดี

เสียงใกล้เข้ามาแล้ว อีกซักพักเจ้าบ่าวปริศนาของผมก็คงจะเข้ามาในห้อง พวกคุณว่ามันแปลกดีมั้ยครับ  คนสองคนที่ไม่รู้จักกัน

ไม่เคยเห็นหน้ากันจะต้องมาแต่งงานและใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ส่วนแขกที่มาร่วมงานก็คงจะเป็นพวกนักธุรกิจหรือพวกคุณหญิง

คุณนายไฮโซที่รู้จักกับพ่อแม่ผมและลุงชัช เพราะเพื่อนของผมไม่มีใครมางานแต่งของผมหรอกพ่อแม่ผมคงไม่พอใจแน่ถ้า

พวกนั้นมาเพราะเพื่อนของผมเป็นแค่คนธรรมดาๆไม่ใช่พวกลูกหลานไฮโซ ส่วนลุงชัชที่ผมพูดถึงก็คือคนที่ผมคุ้นเคยมาตั้งแต่

เด็กและพึ่งจะรู้มาว่าเป็นพ่อของเจ้าบ่าวผมเอง  เมื่ออาทิตย์ก่อนผมเห็นข่าวทางหนังสือพิมพ์ออกมาว่า

      (ณัฐภาส อัครจินดากรณ์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่ทั้งหล่อทั้งรวยเป็นที่หมายปองของสาวๆทั่วประเทศ ทายาทเพียงคนเดียว

ของเจ้าสัวชัชวาลย์ อัครจินดากรณ์ มหาเศรษฐีที่ไปได้ดิบได้ดีอยู่ทางภาคใต้นักธุรกิจค้าเพชรข้ามชาติหนึ่งเดียวของประเทศไทย

อีกทั้งยังเป็นเจ้าของโรงแรมหกดาวชื่อดังอย่าง'โรงแรมจินดากรณ์'ที่มีสาขาัท่วประเทศ กำลังจะสละโสดแต่งงานกับคู่มั่นคู่หมาย

ตั้งแต่สมัยเด็กอย่าง พัสกร วัชรธาดา ลูกชายสุดรักสุดหวงของประธานชินกรและคุณหญิงพิมชมพูเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์

ยักษ์ใหญ่อย่างบริษัท วี.เอ็มพี อย่างนี้เรียกได้ว่าเงินชนเงินกันเลยเชียว) ผมหล่ะอยากจะขำกับการเสนอข่าวจริงๆคู่หมั่นที่ไม่เคย

เห็นกันอย่างนั้นนะหรอ และยังเงินชนเงินที่ว่านั้นอีกโคตรจะตลกเลย

"เจ้าสาวเจ้าบ่าวมารับแล้วคร้าาาา....." เสียงคนที่อยู่หน้าประตูตะโกนเข้ามา  พร้อมกับเสียงรองเท้าที่ดังขึ้นเวลาก้าวเดิน

 แต่ผมยังไม่กล้าที่จะหันหลังกลับไปมองเลย 

"เจ้าสาวจะไม่หันหน้ามามองเจ้าบ่าวหน่อยหรอค่ะ เจ้าบ่าวมารับแล้วน้า..." เสียงเจ้ฝนลูกพี่ลูกน้องญาติห่างๆของผม ที่สนิท

ด้วยที่สุดแล้วมาช่วยผมแต่งหน้าแต่งตัวก็พูดขึ้นมา    ฟู่วววว....เอาว๊ะพัสกร ตายเป็นตาย

"คึ คึ เจ้าบ่าวหล่อใช่ม๊ะน้องพี่ถึงกับตาค้างเลย อ๊ายย!!! อิจฉา" ให้ตายเถอะ! พอผมหันหลังกลับไปมองก็เห็นผู้ชายตัวหนาๆ

ดูแข็งแรง ไม่ได้สูงไปกว่าผมมากซักเท่าไหร่ แต่ที่ผมตาค้างอย่าที่เจ้ฝนแซวเนี่ยก็เพราะว่ามันหล่อกว่าผมมากหน่ะสิ ทำไม

ไอ้บ้านี่ถึงได้ดูแมนมากๆสมกับเป็นผู้ชายอย่างนี้    ไม่เหมือนผมเลยที่เกิดมาก็ตัวเล็ก เสื้อผ้าก็ต้องหาใส่ไซส์ผู้หญิง

หน้ายังจะกระเดะไปเหมือนแม่อีก ใส่เข็มขัดทีก็ต้องวนสองรอบ รองเท้าก็เล็กกว่าผู้ชายทั่วไปอีก ทำยังไงผมถึงจะดูเป็น

ผู้ชายแมนๆเหมือนไอ้หมอนี่บ้างเนี่ย เห็นหุ่นแล้วอิจฉา

"อ้าว!! บ่าวสาวอย่ามัวแต่ตะลึงกันค่ะ ผู้ใหญ่รออยู่นะ ทักทายกันเสร็จก็ตามออกไปนะพี่ขอตัวหล่ะ" เจ้ฝนพูดจบก็ออกไปเลย

ทิ้งผมให้อยู่กันสองไอ้บ้านี้ตั้งแต่เข้ามาก็ยืนเป็นหุ่นอยู่อย่างนั้นอะน่ะ แต่สายตานี่จ้องผมเหมือนจะกินเข้าไปเลย ทำไมมันถึง

ทำหน้าตาหื่นขนาดนี้ว๊ะ

"มองอะไร" ผมถามออกไปห้วนๆ

"มองเมีย"

"ไอ้บ้า!!! ปากเสีย ใครเมียนาย"

"ก็นายนั่นแหละ ถึงตอนนี้ยังไม่ใช่แต่อีกไม่กี่นาทีใช่แน่ๆ อ่อ! แล้วฉันก็ไม่ได้ชื่อไอ้บ้าด้วย ฉันชื่อภาส จำไว้นะน้องพัส

ว่าสามีของน้องชื่อพี่ภาส ฮ่าๆๆ ไปกันเถอะเมียจ๋า"

"อย่ามากอดฉันนะ ปล่อยเลยไอ้บ้าภาส"

"อย่าดิ้นหน้ารีบเดินไปเร็วเดี๋ยวพวกผู้ใหญ่รอนาน"

"ฉันบอกว่าให้ปล่อยไงไอ้บ้าภาสหูแตกรึไง"

"เหอะน่า!! กอดนิดกอดหน่อยทำเป็นหวง เดี๋ยวเข้าหอเมื่อไหร่พี่ภาสคนนี้จะกอดน้องพัสแบบแนบแน่นตัวต่อตัว เสื้อผ้า

ไม่เกี่ยวอีกต่างหาก แค่นี้ถือว่าจิ๊ดริดนะเมียจ๋า ฝึกให้ชินๆไว้" หึ๋ย!!! ใครส่งไอ้บ้านี่มาให้ผมเนี่ยหน้าตากวนประสาทไม่พอ

แมร่งงง....ยังโคตรจะหื่นอีก พัสกรอยากจะบ้า แต่พออกมาหน้างานแล้วพวกผู้ใหญ่เห็นไอ้หื่นภาสกอดเอวผมอยู่ก็ยิ้มหน้าบาน

เป็นจานดาวเทียมกันเลย

"เอาหล่ะเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ออกมากันแล้ว ผมขอเริ่มงานเลยแล้วกัน คุณชินคุณหญิงพิมวันนี้พี่มาเป็นผู้ใหญ่สู่ขอหนูพัสกรให้

เจ้าณัฐภาสลูกชายคนเดียวของพี่ เราสองคนจะยินดียกให้พี่รึป่าว" พอพวกผมนั่งลงแล้วลูงชัชพ่อไอ้หื่นภาสก็เริ่มพิธีทันทีเลย

"ผมยินดีครับ/น้องยินดีค่ะ" พ่อกับแม่ผมตอบพร้อมกัน

"ถ้าอย่างนั้นนี่คือสินสอด เงินสดจำนวนสองร้อยล้าน โฉนดที่ดินเกาะส่วนตัวในภูเก็ตอีกหนึ่งพันสองร้อยไร่ โฉนดเรือนหอ

และแหวนเพชรอันนี้ขอไม่บอกจำนวนแต่แค่ดูก็คงพอจะเดากันได้ใช่ไหม พี่มีมาเท่านี้น้องคงยอมรับได้ใช่ไหม" ลุงชัชพูดแหย่

ผมแหล่มองพ่อกับแม่ที่ท่านกำลังเช็คสินสอดกันอยู่ทั้งสองคนมีความสุขยิ้มหน้าบานเลย แต่ผมกลับรู้สึกแย่ ผมรู้สึกเหมือนกับ

พ่อแม่ขายผมแลกกับสิ่งของพวกนั้นเลย

...

           หลังจากที่เสร็จพิธีการต่างๆแล้วผมก็ต้องขึ้นเครื่องไปเข้าหอที่ภูเก็ต แต่พ่อกับแม่ไม่ไปส่งผมหรอก มีแค่ลุงชัชเท่านั้น

ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมรีบถึงขนาดนี้ มันจะดีหรอที่แต่งที่นึงแต่ไปเข้าหออีกที่นึง ผมว่ามันแปลกๆนะ

"แต่งงานมีสามีแล้วก็ต้องใส่ใจดูแลสามี ทำหน้าที่ทั้งในบ้านและนอกบ้านอย่าให้ขาดตกบกพร่องนะลูกแม่ขอให้พัสมีความสุข

หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน ค่อยๆปรับตัวเข้าหากันนะลูก แม่ฝากน้องด้วยนะณัฐภาส" แม่ผมสอนผมก่อนที่จะหันไปพูด

กับไอ้หน้าหื่นภาส

"อดออมถนอมน้ำใจซึ่งกันและกัน คิดถึงใจเขาใจเรา อภัย ให้เกียรติ ดูแลเอาใจใส่ในสุขทุกข์ของกันและกันนะ อย่าดื้อให้มาก

นะเจ้าพัสแต่งงานมีครอบครัวแล้วก็โตซักที พ่อฝากด้วยนะภาส ถึงแม้ว่าจะดื้อไปหน่อยแต่เจ้าพัสก็เป็นเด็กดี พ่อรู้ว่าวันนี้แก

อาจจะเกลียดและไม่ชอบในสิ่งที่ฉันกับแม่แกเลือกให้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันและแม่แกทำลงไปก็เพื่อแกทั้งนั้นนะเจาพัส

สักวันถ้าแกรู้ทุกอย่างแกก็คงจะเข้าใจฉันกับแม่แกเอง ฉันรักแกนะ แกคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของฉัน" สิ่งที่พ่อพูดคืออะไร

ผมไม่เข้าใจมันเลย

"ไปกันได้แล้วเจ้าภาส หนูพัส พี่ไปก่อนนะชิน น้องพิม ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ตอนนี้หนูพัสก็คือลูกของพี่คนนึง พี่จะดูแลให้"

ลุงชัชหันมาบอกก่อนที่จะพูดลาพ่อกับแม่ของผมอีกทีและเดินนำไปก่อน

"ผมลานะครับคุณพ่อคุณแม่ ผมสัญญาว่าจะดูแลน้องพัสเป็นอย่างดีเลยครับ ไปกันเถอเมียจ๋า" ไอ้หน้าหื่นภาสลาพ่อแม่ผม

ก่อนที่จะมากระซิบเบาๆที่หูผม ผมลอกลาพ่อแม่อีกนิดหน่อยก่อนที่จะเดินเข้าเกทพร้อมไอ้บ้านี่    โอ้ย!! อยากจะบ้านี่ผม

พึ่งจะเจอไอ้หน้าหื่นนี่ไม่กี่ชั่วโมงยังปวดหัวขนาดนี้แล้ววันต่อๆไปผมจะไม่บ้าไปจริงๆเลยหรอ คนอะไรก็ไม่รู้กวนประสาท

ชะมัด มันน่าจับฆ่าถ่วงน้ำนัก

 

...

เบาๆกันไปก่อนเน๊ะ!!



หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่2 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 04-06-2015 05:36:48
เบามาก ๆ เบาจนค้างงงงงงงงงง อร๊ายยยย แดดิ้น  :ling1: :ling1:

มาต่อด้วยน้า แดดิ้นต่อ  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่2 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 04-06-2015 06:25:55
รอออออออ   :mew1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่2 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 04-06-2015 07:03:02
ไหนพี่ภาสบอกว่าไม่มีทางชอบเจ้าสาว(?)แน่ๆ ยังไงล่ะค้าา หื่นออกขนาดนี้แล้วเนี่ยยังจะปฏิเสธอยู่ม้ายย~ :hao7:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่2 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 04-06-2015 07:10:35
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่2 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 04-06-2015 08:18:46
 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่2 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 04-06-2015 10:24:08
สนุกคับ ผู้ชายท้องได้อีก อยากอ่านตอนใหม่เร็วๆแล้วคับ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่2 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 04-06-2015 11:46:55
ปู้จายท้องล่ายนี่หน่าาา ติดตามเจ้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่2 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 04-06-2015 14:03:13
 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่3 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 04-06-2015 14:48:54
คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 3




"พ่อไปก่อนนะหนูพัสตามสบายเลยนะ เพราะที่นี่คือบ้านของหนูถ้าไอ้ภาสมันแกล้งอะไรก็โทรบอกพ่อหรือจะไปหาพ่อที่บ้าน

โน้นก็ได้นะพ่อจะจัดการมันให้ รีบๆมีหลานให้พ่อนะหนูพัส พ่อแก่แล้วพ่อเหงาอยาได้หลานมาเล่นด้วยสักสองสามคน"

ตอนนี้เรามาอยู่เรือนหอผมที่ภูเก็ตแล้วครับ ก่อนหน้านี้เราแวะไปกินข้าวที่บ้านพ่อกันมา ก็คือบ้านหลังเก่าที่ผมซุกหัวนอน

ตั้งแต่เด็กนั้นแหละครับ แต่ตอนนี้ของผมทั้งหมดก็ย้ายมาอยู่บ้านนี้ทั้งหมดแล้ว ส่วนของหนูพัสอ่ะหรอมีมาแค่กระเป๋าเดินทาง

ใบนึงกับกระเป๋าหิ้วอีกใบนึง ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีอะไรที่จะต้องทำ ผมคงจะต้องพาคุณเมียไปช็อปปิ้งแล้วแหละ หนูพัสเค้าคง

อยากจะได้ของใช้ส่วนตัวเพิ่ม เพราะลำพังของที่เอามาคงจะอยู่ที่นี่ไปตลอดไม่พอหรอก

"เดินทางปลอดภัยนะครับคุณพ่อ" ทำไมเวลาคุยกับผมน้ำเสียงที่ใช้มันถึงต่างจากจากคนอื่นจังว๊ะ

"กลับบ้านไปได้แล้วน่าพ่อ ดึกแล้วผมง่วง" มัวร่ำลากันอยู่นั่นแหละเหมือนบ้านจะอยู่ไกลกันมากเลยเน๊าะพ่อ จากบ้านผมไป

บ้านพ่อนี่ใช้เวลาในการไปแค่ไม่ถึงสิบนาที

"พึ่งจะสองทุ่มเนี่ยนะไอ้ภาส ปกติคนอย่างแกนี่ถ้าไก่ไม่ขันก็คงไม่นอนหรอก ทำไมวันนี้ถึงได้อยากนอนเร็วขึ้นมาได้"

"ช่างผมเถอะพ่อ วันนี้เหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว กลับบ้านไปเถอะพ่อ นี่ผมไล่แล้วนะพ่อยังจะอยู่อีกหรอ"

"แกมันกวนจริงๆไอ้ภาส อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะว่าสมองชั่วของแกคิดอะไรอยู่"

"พ่อออออ!!!"

"เออๆฉันกลับแล้ว หนูพัสพ่อไปก่อนนะอย่าลืมที่พ่อบอกนะ ฉันไปหล่ะเดี๋ยวคนแถวนี้มันจะลงแดงซะก่อน ฮ่าๆไอ้ลูกหมาเอ้ย"

แมร่งงง!!! พ่อแมร่งรู้ทันตลอด ก็วันนี้วันเข้าหอนิหว่าพลาดได้ไง ยิ่งได้เมียสวยๆอย่างนี้ต้องทำแต้ม น้องพัสจ๋าพี่ภาสคนนี้

จะฟัดให้พรุ่งนี้ลุกจากเตียงไม่ขึ้นเลย

"จะเข้าไหมบ้านนะ มันแต่ยืนน้ำลายย้อยเหมือนหมาหิวอยู่ได้ คิดเรื่องทะลึ่งอยู่อ๊ะดิ ถึงทำหน้าชั่วๆเลวแบบนั้นหน่ะ"

"โธ่...เมียจ๋ารู้ใจพี่ภาสด้วย น่ารักจัง!! อย่างนี้ต้องให้รางวัล" ผมแกล้งเดินไปจับแก้มนิ่มๆของหนูพัสแต่เจ้าตัวกลับถอยหนี

"ไม่ต้องเข้ามาใกล้ฉันเลย!! คนอย่างนายแม่งโคตรลามกเลยว่ะ"

"ลามกตรงไหนครับที่รัก แค่ผัวจ๋าจะปั้มลูกเท่านั้นเองไม่ทะลึ่งหรอกน้า...เพราะคนทั้งโลกเค้าก็ทำกัน ฮึ" คราวนี้ผมกอดเลย

แต่เจ้าตัวก็พยายามจะดิ้นหนีแต่คิดว่าตัวเล็กแค่นั้นจะมีแรงสู้แรงควายอย่างผมหรอ

"ปล่อยเลยนะไอ้บ้าภาส ปล่อยสิว๊ะ" ฮึ ฮึ หน้าหนูพัสตอนนี้แมร่งโครตยั่วอารมณ์ผมเลย หน้าสวยๆที่ตอนนี้เริ่มแดงๆเพราะ

เหนื่อยจากการดิ้นออกจากอ้อมกอดของผม

"ไม่ปล่อยหรอกเมียจ๋า เดี๋ยวผัวจ๋าพาไปนอนนะที่รักจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นบันไดให้เหนื่อย" พูดจบผมก็อุ้มจริงเลย อื้อหือ!!

ตัวเบากว่าที่คิดไว้เยอะเลย เบากว่าผู้หญิงหลายๆคนที่ผมเคยนอนด้วยอีก

"ปล่อยเลยนะไอ้บ้าภาส ไอ้หน้าหื่น ปล่อยๆ"

"อย่าดิ้นสิ!! เดี๋ยวตกบันไดไปเจ็บตัวไม่คุ้มเลยนะ เก็บตัวไว้ปวดตอนปั้มลูกเถอะเมียจ๋า ฮ่าๆ"

"ก็ปล่อยฉันสักทีสิ ฉันไม่ได้พิการนะ ฉันเดินเองได้"

"แป๊ปเดียวน่ะจะถึงแล้ว ถามจริงวันๆเคยกินข้างบ้างมั้ย? ตัวถึงได้เบาขนาดนี้"

"มันเรื่องของฉัน!! ถึงห้องแล้วก็ปล่อยฉันสักทีสิ"

"คร้าบบ!!! จะปล่อยให้ถึงที่เลยครับที่รัก" ผมบอกก่อนที่จะค่อยๆวางหนูพัสลงกับเตียง แต่ผมก็ยังคล่อมตัวทับหนูพัสไวอย่างนั้น

ยิ่งมองใกล้ๆแบบนี้แม่งยิ่งได้อารมณ์ ผมเข้าใจไอ้อาการที่เค้าพูดกันว่าหลงเมียจนโงหัวไม่ขึ้นนี่มันเป็นยังไง นี่ขนาดผมเพิ่งจะเจอ

หนูพัสแค่วันเดียวนะผมยังหลงขนาดนี้แต่ยังไม่ถึงกับรักหลอกครับเพราะว่ามันเร็วเกินไป

"ลุกไปได้แล้วไอ้บ้าภาส ฉันหนัก" เหมือนหนูพัสจะเขิน ทั้งๆที่พูดกับผมและหน้าผมก็อยู่ใกล้กันแค่คืบแต่หนูพัสกลับหันหนี

ไปมองทางอื่นซะงั้น เด็กน้อยจริงๆเลยเมียผม ถ้าเป็นพวกสาวๆที่ผมเคยนอนด้วยนะไม่มีมาเขินอย่างนี้หรอก คงจะคว้าคอผม

ไปจูบเป็นการเริ่มเกมส์ของคืนนั้นทั้งคืนแน่เลย แต่ก็อย่างว่านั้นแหละมันไม่ได้มีความสุขและเต็มอิ่มเท่าไหร่หรอกเพราะมัน

แค่ก็เซ็กส์เป็นแบบวันไนท์สแตนด์ที่พอน้ำแตกก็แยกทางกันไป

"พี่ภาส"

"อะไรของนาย"

"เรียกพี่ว่าพี่ภาส ที่รัก หรือภาสเฉยๆก็ได้ และต้องเรียกแทนตัวเองว่าพัส หรือหนูพัสเท่านั้น"

"ทำไมฉันต้องเชื่อนายด้วย!!" โอ้ย!!! อย่าทำหน้ายั่วๆอย่างนั้นได้ไหมครับเมีย พี่ภาสคนนี้จะทนไม่ไหวเอา

"เพราะหนึ่งพี่เป็นผัวพัส สองพี่อายุมากกว่าพัสตั้งห้าปี เข้าใจรึยังครับ" ผมแกล้งก้มลงเป่าลมหาใจใส่ซอกคอขาวๆ เมียจ๋า

ของผมถึงกับขนลุกให้ผมเห็นเลยทีเดียว

"แน่ใจ??" ผมเงยหน้าถามหนูพัสอีกครั้ง

"แน่ใจที่สุด!!!"

"เลือกเองนะหนูพัส" จบคำพูดของหนูพัสผมก็ประกบปากจูบทันที สงสัยเพราะว่าหนูพัสจะตกใจเลยทำให้ผมมีโอกาสส่งลิ้น

เข้าไปสำรวจลิ้นเล็กๆนั่นที่ตอนแรกพยายมจะหนี แต่คงเป็นเพราะประสบการณ์ของผมเลยหลอกให้หนูพัสเคลิ้มตามผมจนได้

อืม!!! หวานมาก แค่จูบยังรู้สึกดีขนาดนี้ รู้เลยว่านี่คือจูบแรก ทั้งๆที่ไม่ประสีประสาเชี่ยวชาญเหมือนกับคนอื่นแต่หนูพัสทำเอา

ผมแทบคลั่ง

"อื้ออออ.....ไอ้บ้า!!!" ผมเช็ดคราบน้ำหวานทีไหลย้อยออกมาจากมุมปากของหนูพัส แค่จูบยังเขินหน้าแดงขนาดนี้

"ด่าอีกแล้วอยากโดนอีกหรอ? ต่อไปนี้ถ้าหนูพัสไม่เรียกพี่ว่าพี่ภาสหรือพูดคำหยาบกับพี่เมื่อไหร่พี่จะจูบหนูพัสทันที่ ไม่ว่าจะ

อยู่ที่ไหน ถึงจะอยู่ข้างนอกพี่ก็กล้านะถ้าไม่เชื่อลองดูได้"

"ไหนลองเรียกพี่ว่า 'พี่ภาส' สิ" ทีอย่างนี้หละกล้าหันมามองหน้าผม มองไม่มองเปล่ายังทตาดุใส่ผมอีก คิดว่าจะกลัวหรอ

"พี่ภาส!! พอใจยัง!!" หึ หึ เพราะผมแกล้งก้มลงทำถ้าจะจูบอีกหนูพัสก็หลับตาปี๋ตะโกนเรียกผมออกมา

"พอใจแล้วครับหนูพัสของพี่ภาส"

"ถ้าพอใจแล้วก็ลูกออกไปซักที ฉันจะได้ไปอาบน้ำซักทีเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว"

"หืมมม....เมื่อกี้แทนตัวเองว่าไงนะ"

"พัสไง!! พี่ภาสลุกเถอะพัสอยากอาบน้ำ" เด็กจริงๆเล๊ย แล้วคิดว่าทำหน้าอ้อนๆเสี่ยงอ่อยๆแบบนั้นแล้วจะรอดหรอ บอกเลยว่าไม

มันกลับยิ่งทำให้หนูพัสยั่วผมโดยไม่รู้ตัวอีกต่างหาก

    จุ๊บบบ!!!! 

"อ่ะ!! ไปอาบน้ำได้แล้วครับ หรือว่าจะให้พี่ช่วยอาบให้ก็ได้นะ พี่เต็มใจ"

"ไม่ต้อง!!! อาบเองได้!!!" ฮึ ฮึ พูดจบก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปเลยสงสัยจะกลัวจริงๆ โอ้ย!! เมียผมน่าร๊ากกกก...(ดีดดิ้น)

...

ฮึ๋ย!!! ไอ้บ้าภาส!!! ไอ้หน้าหื่น!!! ไอ้ทุเรศ!!! ไอ้ทะลึ่ง!!! โอ้ย!!! ไม่รู้จะด่ามันว่าอะไรดี ไม่น้าา....จูบแรกของฉานนน (T[]T)

อย่าให้ถึงคิวของฉันบ้างนะไอ้หน้าหื่นภาสฉันจะเอาคืนให้หายแค้นเลย หึ๋ย!!ถูปากจนเจ็บไปหมดแล้วนะทำไมมันยังเหมือน

กับว่าไอ้หมอนั่นยังจูบอยู่เลยอ่ะ อ๊ากกก!!! แล้วฉันจะใจเต้นแรงทำไมเนี่ย หยุดนะไอ้หัวใจบ้า!! ไม่จริง!! คนอย่าพัสกรจะ

หวั่นไหวไปกับไอ้หน้าหื่นภาสอย่างนั้นหรอ แย่ๆ แย่แน่ๆ ไอ้บ้านั่นเชี่ยวชาญซะขนาดนั้น แค่จูบฉันยังเคลิ้มรู้สึกดีไปด้วยเลย

แล้วฉันจะรักษาจิ้นฉันไว้ได้ยังไงเนี่ย!!!! (T___T)

"หนูพัสอาบน้ำเสร็จรึยังครับ!! ถ้ายังไม่ออกมา พี่จะเข้าไปช่วยอาบแล้วนะ" งื้ออ...ขนาดอาบน้ำยังจะตามมาหลอกหลอนฉันอีก

"เสร็จแล้วๆไม่ต้องเข้ามาเลยนะ"

"เสร็จแล้วก็ออกมาสิครับ พี่จะได้อาบน้ำบ้าง"

"อ๊ากกกก!!! พ่อจ๋าแม่จ๋าผีจับหนู"

"ตกใจอะไรหนูพัสพี่เอง"

"แล้วใครใช้ให้มายืนตรงนี้กันเล่า ก็นึกว่าผีโรคจิตมาขอส่วนบุญอะสิ"

"เดี๋ยวเถอ!! ว่าพี่หรอ จับจูบอีกสักทีดีมะ?" 

"ไม่ต้องเล๊ย!! ไปอาบน้ำได้แล้ว เหม็น!!"

"ไหนๆไม่เห็นเหม็นเลย ไม่เชื่อก็ลองดมดูสิ!!" พูดอย่างเดียวไม่พอยังจะมาให้ฉันดมอีก แหวะ!! ซกมกที่สุด!!

"แหวะๆเน่าแล้ว ไปอาบน้ำเลย"

"คร้าบๆ เดี๋ยวพี่จะอาบน้ำหอมๆมานอนกอดกับเมียจ๋า อย่าพึ่งชิงหลับไปก่อนหล่ะ"

    ปึงงง!!!

ไปเลยชิ่วๆไอ้บ้าภาส!! เรื่องอะไรฉันทำตามที่นายบอก ฉันไม่รอให้นายมาพรากจิ้นฉันไปหรอกไอ้บ้า นอนๆซะพัสกร

พรุ่งนี้จะเป็นยังไงค่อยว่ากันเอาวันนี้ให้รอดก่อน

"อ้าวหลับแล้วหรอ!! นอนไม่รอพ่อเลยนะหนูพัส" ใครจะรอนายกัน พูดอย่างเดียวก็ได้มั้ง ไม่ต้องมาจับมาลูบตัวไล้หน้าฉัน

อย่างนี้หรอก มันหยึ๋ย!!นะ

"ยินดีที่ได้รู้จักและยินดีต้อนรับเข้ามาเป็นสมาชิกครอบครัวอัครจินดากรณ์ด้วยกันนะครับหนูพัส ถึงพี่จะไม่ใช่คนดี แต่พี่

ก็จะพยายามเป็นพี่ เป็นเพื่อน และเป็นสามีที่ดีทีสุดของหนูพัสนะครับ ช่วยเปิดใจรับพี่เข้าไปอย่างที่พี่เปิดรับหนูพัสเข้ามา

ในใจของพี่ด้วยนะครับ ราตรีสวัสดิ์ครับคนดีของพี่"

     ฟอดดดด!!!   

           อื้ออออ.....ไอ้บ้าภาส นายกำลังทำให้ฉันนอนไม่หลับนะ!!! พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย!!!! ถ้าฉันทำอย่างที่นายขอ

แล้วนายจะทำได้อย่างที่นายพูดรึป่าวนายภาส ถ้าฉันเปิดใจแล้วนายจะทำให้ฉันเสียใจรึป่าว........

 

...


มาแล้วค่ะ ตอนนี้เหมือนจะสั้น (รึป่าว?)

ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนมี่นะค่ะ

มี่จะลงอิมเมทดีมั้ย? ที่นี่เค้าให้ลงได้รึป่าว?

เพราะปกติแล้วอีกสองเว็บมี่จะมีรูปลงด้วยทุกตอน ช่วยบอกไอ้มี่คนนี้ทีค่ะ

 

 





หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่3 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 04-06-2015 15:52:49
o18 ..

ถ้าพี่ภาสคิดที่จะนอกใจขึ้นมาเมื่อไร หนูพัสก็จับพี่ภาส 'เจี๋ยน!!!' เสียก็สิ้นเรื่องแล้วล่ะค่า~ :laugh:

ปล. ที่นี่สามารถลงรูปอิมเมจได้ค่าา ^^ แต่ขนาดของรูปภาพต้องไม่ใหญ่เกินไปกว่าที่ทางเล้ากำหนดไว้ด้วยนะค้าา~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่3 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 04-06-2015 16:29:22
ตอนนี้สั้นอ่ะ ค้างคาเลย ๕๕๕๕ เข้าหอกันแล้ว พี่ภาสจะทำให้น้องพัสเสียใจมั้ยอ่ะ รอ อ่านตอนใหม่คับ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่3 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 04-06-2015 16:48:15
พัชยอม ๆ พี่มันไปเถอะ หึหึ  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่4 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 05-06-2015 10:56:43
แรง.ร้าย.รัก...คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่4    






"นี่ๆนายภาสตื่นสิ  ตื่น!! ไอ้บ้านี่ถ้าจะนอนก็อย่ามากอดคนอื่นเค้าไปทั่วอย่างนี้ซิ"   พัสตื่นตั้งแต่เช้ามืดทั้งๆที่เมื่อวานเหนื่อย

มาทัังวันแต่เพราะความที่ยังไม่ชินกับบ้านใหม่เลยทำให้ตื่นเช้ากว่าทุกที แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เห็นหน้าภาสอยู่ใกล้แค่คืบ

แถมยังนอนกอดตัวเองไว้แน่นอีกต่างหาก   

(อือ...ใครเสียงดังแต่เช้าว๊ะ น้องคนไหนเนี่ย!!  พี่ภาสจะนอนนะครับว่าแต่เมื่อวานเราพาใครมานอนด้วยหรอว๊ะ

เมื่อวานนน....เมื่อวานไม่ได้พาเด็กคนไหนมานี่หว่า เฮ้ย!!เมื่อกูไปแตงงานมานี่หว่า) ภาสเถียงกับตัวเองอยู่คนเดียวในใจ

"ถ้าเรียกดีๆแล้วไม่ยอมตื่น จะถีบแล้วนะ ปล่อยสิว่ะ อึดอัดโว้ยยย....ชาติก่อนเป็นหมีควายรึไงกอดแน่นซะขนาดนี้"

ชิบหาย!! เสียงหนูพัสนี่หว่าไอ้ภาสมึงลืมว่ามึงแต่งงานมีเมียแล้วได้ไงว๊ะ

"โธ่....เมียจ๋าให้ใจเย็นน่า จะรีบตื่นไปไหน พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเลย" ผมเหลือบมองนาฬิกาดิจิตอลบนพนังห้องพึ่งจะ

ตีห้ากว่าๆเอง หนูพัสจะรีบตื่นไปไหน จะนอนไปถึงเที่ยงผมก็ไม่ว่าหรอก

"นอนไม่หลับ แล้วก็ปล่อยสักที!! อึดอัด!! กอดอยู่ได้เป็นหมีหรอ?" ดิ้น!! ดิ้นเข้าไปเลยหนูพัสเช้าๆอย่างนี้ไอ้ภาสน้อยมัน

ก็ตื่นพร้อมพี่นั่นแหละ ถ้าเกิดพี่หน้ามมืดปล้ำเมียแต่เช้านี่จะหาว่าพี่ไม่เตือนนะ

"ก็พี่ยังง่วงอยู่เลย นอนต่อเถอะนะ" ผมกระชับกอดให้แน่นขึ้นอีกนิด

"ไม่!! ปล่อยเลย จะไปอาบน้ำแล้ว!! อยากไปตลาด!! จะไปตลาด"

"ไปทำไมอ๊ะ"

"ไปซักผ้ามั้ง!! ไปซื้อของอะดิ ถามโง่ๆ"

"ซื้ออะไรอ่ะ ฝากเด็กในบ้านไปซื้อให้ดิ หรือไม่ก็เดี๋ยวตอนสายๆพี่พาไปซื้อที่ห้างก็ได้"

"ไม่อ่ะ!! อยากไปเอง จะไปซื้อของสดมาทำอาหาร ตลาดตอนเช้าๆได้ของสดใหม่มากกว่าในห้างอีก"

อ่อ! ที่แท้ก็แค่ต่อมแม่บ้านแตกนี่เอง ก่อนมาพ่อแม่ของหนูพัสก็กระซิบบอกมาเหมือนกันว่าหนูพัสชอบทำอาหารมาก

ตอนอยู่กรุงเทพฯก็ชอบทำกินเองมาตั้งแต่เด็กเพราะย่าเค้าสอนไว้ และบวกกับนิสัยที่เป็นคนไม่ชอบพึ่งพาคนอื่น

แต่พวกบอกว่าอาหารของหนูพัสอร่อย อ๊า!! ผมอยากลองชิมบ้างเหมือนกันนะเนี่ย!!

"จุ๊บก่อน!! เดี๋ยวพี่พาไป" ผมแกล้งทำปากจู๋ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ หนูพัสก็ยกมือดันหน้าผมทันทีเลย

"เรื่อง?"

"มอนิ่งคิสไงครับ!! ที่รัก" พอผมบอกหนูพัสก็ทำหน้าเหม็นเบื่อทันที ฮึๆ ยิ่งทำอย่างนี้ผมยิ่งอยากแกล้ง

"เพื่อ?"

"จูบอรุณสวัสดิ์สามีตอนเช้าไง มันเป็นหน้าที่ ที่ภรรยาที่ดีควรกระทำ แต่ถ้าหนูพัสไม่ทำก็ไม่เป็นไรพี่ก็จะนอนกอดเรา

เอาไว้ออย่างนี้แหละ ก็ดีเหมือนกันพี่ชอบ"

"แค่ข้ออ้างที่จะฉวยโอกาสรุ่มร่ามกับฉันน่ะสิ!! คนอย่างนายอ่ะ" ดูปากคอเลาะร้ายซะเหลือเกิน ไอ่ปากยื่นๆนี่อยากจะกระชาก

มาจูบเองซะให้รู้แล้วรู้รอด

"ไม่ให้ฉวยโอกาสกับเมียแล้วจะให้ไปฉวยโอกาสกับแมวที่ไหน แล้วพี่บอกให้เรียกพี่ว่าอะไร ตกลงจะจุ๊บพี่เองหรือจะให้

พี่จูบลงโทษดีครับเมีย" ฮึๆ น่าขำจริงๆเวลาหนูพัสทำหน้าแหยงๆอย่างนี้

"ฮึ๋ย!!!"

"หนึ่ง สอง สา..."

   จุ๊บบบ!!! 

"ถ้าพอใจแล้วก็ปล่อยได้ฉันซักที"

"เมื่อกี้พูดว่าอะไรน๊ะ?" ผมแกล้งหรี่ตาถามทั้งๆที่ผมก็ได้ยินเต็มสองหู

"ปล่อยพัสสักที!! พัสจะไปอาบน้ำแล้ว"

"โอเคๆ ถือว่ารอดไปนะ ถ้าพลาดอีกพี่จะลงโทษจริงๆแล้วนะ"

"ฮึ๋ย!!!"

"อาบน้ำเร็วๆ นะเมียจ๋าาา...พี่คิดถึงงงงง......" ฮ่าๆ ผมไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี มันทั้งตลก ทั้งรู้สึกดีเลย เวลาที่ตื่นขึ้นมาแล้ว

เห็นหน้าและได้แหย่ให้หนูพัสอารมณ์เสียเล่น ฮ่าๆสงสัยผมจะเป็นพวกโรคจิตแล้วแน่ๆเลย

...

"เออ!! หนูพัส!! เอ้านี่!! บัตรเครดิตอันนี้พี่ให้หนูพัส บัตรใบนี้ไม่จำกัดวงเงิน หนูพัสอยากจะได้อะไร อยากใช้เท่าไหร่

ก็ใช้ไปเถอะมันเป็นของหนูพัส พี่ให้" อยู่ดีๆไอ้บ้าภาสก็ยื่นแบล็คการ์ดมาให้ผม ไอ้บ้านี่มันรวยขนาดนั้นเลยหรอ ผมก็พอ

จะมีความรู้เรื่องบัตรเครดิตอยู่บ้าง ไอ้แบล็คการ์นี้มันไม่ได้มีกันง่ายๆเลย ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะมี แถมยังต้องเป็นคนที่ทาง

ธนาคารเชิญให้ใช้เองซะด้วยซ้ำ และจะต้องมีเงินประกันนอนอยู่ในธนาคารจำนวนมากด้วย แล้วหมอนี่มันมีได้ไงเนี่ย

เพราะที่รู้ๆคือมันยังไม่ได้ทำงานกับคุณพ่อเจ้าสัวไม่ใช่หรอ  แล้วมันไปเอามาจากไหน

"แบล็คการ์ดเนี่ยนะ?"

"อืม!! ก็แบล็คการ์ดนะสิครับ"

"นายไปเอามันมาจากไหน นายยังไม่ได้ทำงานไม่ใช่รึไง เอาของคุณพ่อมาหรอ? ฉันไม่เอาหรอกนะไม่อยากรบกวนท่าน"

"ใครบอกว่าของคุณพ่อกัน!! นี่มันเป็นบัตรของพี่ หนูพัสก็เอาไปใช้ก่อน เดี๋ยวว่างๆพี่จะพาหนูพัสไปทำบัตรเป็นของ

ตัวเองแล้วกัน  แล้วอีกอย่างนะถึงพี่จะไม่ได้ทำงานกับพ่อ แต่พี่ก็มี่งานมีธุรกิจของพี่เหมือนกันนะ"

"ไม่เอาอ๊ะ!! มันมากเกินไป นายเก็บไว้เถอะ ฉันยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง เดี๋ยวฉันจะหางานทำไม่รบกวนเงินของนายหรอก"

"รบกวนอะไรกัน!! เราเป็นสมีภรรยากันนะ!! เงินของพี่ก็เหมือนเงินของเรา แล้วอีกอย่างถึงพี่จะไม่ได้ทำงานหรือได้มรดกพ่อ

แค่เมียคนเดียวพี่ก็มีปัญญาเลี้ยง อย่าคิดมาก และไอ้เรื่องที่จะหางานทำอ่ะ เลิกคิดไปเลยที่ไม่ปล่อยให้เราห่างหูห่างตาพี่หรอก

พี่เป็นห่วง เมียพี่ยิ่งสวยๆอยู่เดี๋ยวใครลักไปพี่ก็แย่นะสิ"

"ไม่!! ขอร้องนะจะห้ามอะไรก็ได้ แต่อย่าห้ามฉันทำงานเลย มันยิ่งทำเหมือนฉันเป็นคนที่ไม่มีค่า"

"ก็ได้ๆ ถ้าหนูพัสอยากทำงานจริงๆ ก็มาทำงานกับพี่โอเคมั้ย?" หึ!! เนียนตลอด พูดอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องเข้ามากอดตลอด

"แล้วนายทำงานอะไรอ๊ะ ฉันจะทำได้หรอ" หน้าอย่าไอ้หมอนี่มันจะทำอะไรอ่ะ

"พี่เปิดผับมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยแล้วอ่ะ ตอนแรกมันก็เป็นผับเล็กๆธรรมดาๆนี่แหละ แต่พอเริ่มทำไปได้สักสองปีผล

ตอบรับมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยต้องเพิ่มสาขาไปหลายๆจังหวัดในกรุงเทพฯก็มีนะ ช่วงหลังๆมานี่พวกนักท่องเที่ยวต่างชาติ

กับพวกลูกหลานไฮโซที่รู้จักผ่านพ่อก็เริ่มเรียกร้องให้เปิดไฮคลาสแบบมีระดับหน่อยเพราะไอ้พวกนี้มันเที่ยวกับธรรมดาๆ

ไม่ไหวพี่ก็เลยเปิดผับหรูแข่งกับผับธรรมดาๆของตัวเองนี่แหละ และอีกอย่างพี่ก็ยังร่วมหุ้นลงทุนเปิดรีสอร์ทกับเพื่อน

ทางภาคเหนือด้วยหน่ะ เอาไว้ว่างๆพี่จะพาไปเที่ยวนะ ส่วนงานก็เดี๋ยวพี่เอาบัญชีของที่ผับทุกๆสาขามาให้พัสทำที่บ้านดีไหม

พี่รับรองว่าพัสไม่มีเวลาว่างแน่ๆ"

"อือ!! ก็ได้"

"แล้วไอ้แบล็คการ์ดเนี่ยพัสก็เอาไว้ใช้ก่อนนะ ไม่ต้องเกรงใจหรอก อย่างที่บอกเงินพี่ก็คือเงินของพัส"

"อืม!!"

"ดีมากครับ!!"

   จุ๊บๆ จุ๊บๆ จุ๊บบบ 

"ไอ้บ้านายมาจู๊บฉันทำไมเนี่ย?"

    จุ๊บบบ

"ก็เพราะหนูพัสลืมข้อตกลงของเรา พูดไม่เพราะออกมาตั้งหลายคำ"

"ฮึ๋ย!!" ไอ้บ้าเอ้ย!! ฉวยโอกาสตลอด ที่คุยกันเมื่อกี้ฉันจะมองนายในแง่ดีอยู่นิดนึงแล้ว นิดนึงๆ นิดเดียวจริงๆ

"ฮ่าๆๆๆๆ" หัวเราะๆ หัวเราะเข้าไป ฉันขอให้นายสำลักน้ำลาย กัดลิ้นตวเองตายไปเล๊ยยยย.....ไอ้บ้าภาส!!



........................................................................................


"เออนี่!! หนูพัสจะไปดูอะไรก่อนดีครับ" และแล้วตอนนี้ผมก็มาอยู่ห้างที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ตจนได้ หลังจากที่โต้วาทีกับ

ไอ้บ้าภาสอยู่นานสองนาน

"ไม่รู้ดิ!! ยังไม่อยากได้อะไรเลยอ่ะ บอกแล้วว่าถ้านึกได้แล้วว่าอยากจะซื้ออะไรก็ค่อยมา" เรื่องนี้แหละครับที่เราเถียงกันมา

ตั้งแต่ทานมื้อเช้าเสร็จก็ผมยังนึกไม่ออกจริงๆนี่ครับว่าอยากได้อะไร

"ถ้าอย่างนั้นเราไปดูเสื้อผ้าก่อนมั้ย??" ร่าเริงเหลือเกินแล้วไอ้มือที่อยู่ไม่สุขนี่อีกมันน่าตัดทิ้งนัก ทั้งลูบทั้งบีบเอวผมอยู่นั้นแหละ

ปัดออกแล้วปัดออกอีก จนเบื่อที่จะห้ามแล้ว เดี๋ยวมันเมื่อยมันก็คงเลิกเองแหละ พูดไปก็เท่านั้น

"ก็ได้แล้วแต่ นา...เอ่อ....แล้วแต่พี่ภาสเลย" เกือบไปแล้วไหมล๊ะหนูพัส เมื่อกี้ก็โดนจูบกลางลานจอดรถของห้างไปแล้ว

กะอีแค่ผมเรียกมาว่าไอ้บ้าเนี่ย อับอายเลยทีเดียว

   ครืดดด....ครืดดด   

"ใครโทรมาอ่ะ" ผมถามขึ้น หลังจากที่เห็นว่าไอ้บ้าพัสหยิบโทรศัพท์ที่กำลังสั่นอยู่ในกระเป๋าหิ้วของผมออกมาดู ที่กระเป๋าผม

ไปอยู่กับไอ้บ้านี่ได้ไงอ๊ะหรอ ก็เพราะว่าเจ้าตัวเค้าอาสาถือให้หน่ะสิ

"พ่อพี่น่ะ"

"โหลพ่อ!! โทรศัพท์เมียผมแล้วไงอ่ะ พ่อแหละโทรหาเมียผมทำไม วู้!!! พูดมากว๊ะพ่อ!! ไม่เอา ไม่ให้คุย เออๆ รู้แล้ว

แค่นี้นะพ่อ!! เออๆ หวัดดีพ่อ!!" ผมกำลังจะยื่นมือไปหยิบมารับเลย แต่ไอ้บ้าภาสรับสายเองซะก่อน แล้วช่วยบอกผมที

ว่านั้นคือประโยคที่พ่อลูกเค้าคุยกันอ่ะ ให้ตายเถอะ!!! เถื่อนได้อีก!!!

"คุณพ่อว่ายังไงอ่ะ"

"ให้ไปกินข้าวเย็นที่บ้านโน้นน่ะ พ่อเค้าบอกว่าเหงา ให้ตายเถอะ!! ร้อยวันพันปีก็อยู่คนเดียวมาตลอด จะเพิ่งมาเหงา

อะไรตอนนี้ว๊ะ พ่อนะพ่อ" ฮ่าๆ ดูท่าทางไอ้บ้าพัสจะหัวเสียสุดๆเลย จะอะไรขนาดน้าน

"ถ้าอย่างนั้นเราแวะซื้อขนมบูหลูไปฝากคุณพ่อแล้วก็ซื้อไปไว้ทานเองด้วยดีไหม มีอยู่เจ้านึงที่ฉันชอบมากเลยฉันเคยกิน

ตอนที่ปู่กับย่าพามาเที่ยวที่นี่หน่ะ"

"ขนมบูหลู? มันคืออะไรอ่ะ??" ไอ้บ้าภาสถามผมด้วยหน้าที่มึนและงงมาก

"ขนมไข่ไง ที่มันนุ่มๆหอมๆ แต่ที่นี่เข้าเลียกว่าขนมบูหลูอ๊ะ มันนิ่มจนแทบละลายในปากได้โดยไม่ต้องเคี้ยวเลยหล่ะ พูดแล้ว

ก็อยากกินเลยอ่ะ นายไม่รู้จักหรอ?? สาบานสิว่าอยู่ภูเก็ตจริงๆหน่ะ" ให้ตายเถอะของเค้าออกจะอร่อยดันไม่รู้จักได้

ไปอยู่ซอกหลืบไหนมาเนี่ยนายณัฐภาส!!

       จุ๊บบบบ!!

"อ่อ!! ก็พี่ไม่รู้นี่ว่ามันเรียกแบบนั้นเคยแก่กินไม่เคยเรียกชื่อและชวนมันคุยด้วยซักที แล้วก็คงรู้นะว่าทำไมพี่ถึงจุ๊บเราน่ะ"

"ฮึ่ย!!! ไม่ต้องมายิ้มเลย ไม่ไอายรึไง คนมองเต็มเลย ไปกันได้แล้ว!!!!"

"คร้าบๆ ที่รักสั่งอะไรพี่จะทำตามทุกอย่างเลย ฮ่าๆๆ" ไอ้หน้าหื่นภาส!!! ไอ้บ้าเอ้ย!! คนมองกันทั้งห้างแล้ว ยังมีหน้ามา

ยักคิ้วให้อีก โมโห!!! โมโหสุดๆ คนอะไรกวนประสาทชะมัด!!!

...

"อ้าว.....มาแล้วหรอหนูพัส มาๆนั่งก่อนๆ"

"สวัสดีครับคุณพ่อ พัสซื้อขนมบูหลูมาฝาก"

"ขอบใจลูก ขอบใจที่ยังอุตสาห์มากินข้าวเป็นเพื่อนคนแก่ๆอย่างพ่อ"

"ไม่เป็นไรหรอกครับ พัสทานข้าวกับพี่ภาสแค่สองก็เหงาเหมือนกัน มีคุณพ่อเพิ่มมาอีกคนก็สนุกดีครับ"

"ฮื้มๆ พ่อครับลูกชายพ่อก็มาด้วย แถมยังนั่งหัวโด่อยู่นี่ ใจคอพ่อจะไม่ทักผมหน่อยหรอ??" ผมถามขึ้นหลังจากที่ฟังพ่อผัว

กับลูกสะใภ้เค้าคุยกันสองคนตั้งแต่เดินเข้าบ้านมา ทิ้งให้ผัวกับลูกชายแท้ๆอย่างผมเป็นหมาหัวเน่า ไม่มีบทสนทนาตั้งนาน

สองนาน มันน่านัก ลืมไอ้ภาสคนนี้ไปเลยทั้งพ่อทั้งเมียเลย อย่างนี้มันใช่หรอว๊ะ??

"โทดทีว๊ะ ฉันนึกว่าหนูพัสจูงหมามาด้วย ฮ่าๆๆ" พ่อกูแร๊งงงงงง!!

"คิกๆ" เมียกูก็ขำไปกับเข้าด้วย

"พ่อ!!นี่ผมเป็นลูกพ่อนะ ถ้าผมเป็นหมาพ่อก็เป็นลูกหมา หนูพัสหยุดขำเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าไมหยุดพี่จะจับจูบต่อหน้าพ่อนี่แหละ

เอาอย่างนั้นดีไหมครับ" ผมบอกพ่อก่อนที่ จะหันมาพูดขู่หนูพัส

"อุ๊บส์!!" ได้ผลแฮะหนูพัสเอามือปิดปากทันทีเลย เมียผมไม่รู้ว่ากลัวหรืออายกันแน่แก้มแดงแปร๊ดเลย ฮึๆให้มันรู้ซะบ้าง

ว่าใครเป็นใคร จะสู้กับพี่ภาสคนนี้ยังเร็วไปร้อยปีนะเมียจ๋า

"ฮ่าๆใจเย็นเว้ยไอ้ภาส!! หนูพัสเค้าเขินหน้าแดงไปหมดแล้ว"

"พัสเปล่าเขินนะครับคุณพ่อ" จะส่ายหน้าให้หัวหลุดไปเลยก็ไม่ทันแล้วหนูพัส!!

"ฮ่าๆๆ/ฮึๆๆ"

"งื้อ!!! พัสขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับคุณพ่อ" ฮ่าๆ เป็นเพราะผมกับพ่อระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกัน หนูพัสเขินจัด

จนทนนั่งอยู่ให้พ่อแซวไม่ไหว เลยเดินเอามือกุมแก้มแดงๆหนีไปห้องน้ำเลย

"เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้ว ก่อนกลับบ้านแกเข้าไปคุยกับฉันที่ห้องทำงานทีนะณัฐภาส" พอหนูพัสพ้นสายตาไปแล้วพ่อก็เปลี่ยน

เป็นสีหน้าจริงจัง และพูดกับผมด้วยเสียงเข้ม

"เรื่องอะไรครับพ่อ" ผมถามออกไปเพราะทุกครั้งที่พ่อพูดกับผมด้วยเสียงแบบนี้และเรียกชื่อจริงของผมทีไร จะต้องเป็น

เรื่องใหญ่หรือเป็นเรื่องที่สำคัญมากจริงๆ

"เรื่องหนูพัส!! มันเป็นเรื่องสำคัญที่แกควรจะรู้ไว้นะณัฐภาส" เรื่องเกี่ยวหนูพัสหรอ?

"เรื่องอะไรครับพ่อ??"

"เอาไว้คุยกันที่หลัง หนูพัสมาแล้ว เป็นยังไงบ้างหนูพัส หายเขินพี่เค้ารึยังลูกฮึ??" พอหนูพัสเดินเข้ามาพ่อก็ปรับสีหน้าเป็น

ยิ้มแย้มและคุยเล่นกับหนูพัสเหมือนเดิม ทำเหมือนว่าเมื่อกี้ไม่ได้พูดอะไร

"งื้อออ!! พัสเปล่านะครับคุณพ่อ" หนูพัสตอบพรางทำหน้างออย่าหน้ารัก พ่อถึงกับยิ้มตามเลย แต่ผมนี้สิกลับยิ้มไม่ออก

ไอ้คำพูดของพ่อเมื่อกี้มันทำให้ผมค้างคาใจมากเลย ลงได้พ่อพูดด้วยสีหน้าจริงจังขนาดนั้นมันคงจะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่หรอก

ผมอยู่กับพ่อทำงานกับพ่อมาตลอดชีวิตทำไมผมจะเดาไม่ออก แต่แค่ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจะมีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับหนูพัสที่ทำ

ให้พ่อถึงต้องมีท่าทางเครียดขนาดนั้น

...

ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรมากนะคะ ไม่รู้จะถูกใจคนอ่านรึป่าว??

 
หัวข้อ: Re:>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่4 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 05-06-2015 10:57:11
ข้อตกลงในการเข้ามา  กรุณาอ่านทุกท่าน
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย
หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบน
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง
บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้
เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด  คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่น ช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆ ก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเอง
เพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง
ส่วนการพูดคุยนั้น  ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้
หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชาย
เข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
5.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
6.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ยกเว้นแนะนำนิยายหรือเรื่องราวที่อยากให้เพื่อนๆตามไปอ่านแล้วขอมาลงไม่สะดวก และช่วยกรุณาโพสลิงค์ที่บอร์ดนั้นกลับมาที่เวป http://www.thaiboyslove.com แห่งนี้ด้วยนะครับ เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับ
7.ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
8.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
ให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่า
แล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ด
เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
9.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
10.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่เจ้าค่ะ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่3 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 05-06-2015 11:40:59
คุณพ่อจะบอกความลับของหนูพัสกับพี่ภาสแล้วสิน้าา~ :hao7: พี่ภาสรู้แล้วก็อย่าเพิ่งช็อคไปเสียก่อนนะคะ ^^

เราขอ :จุ๊บๆ: หนูพัสสักทีสองทีได้ไหมคะพี่ภาส~ ><
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่5 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 07-06-2015 10:05:36
แรง.ร้าย.รัก...คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่5   







พวกเราสามคนก็ทานข้าวกันเสร็จแล้วแหละ ตอนนี้ก็นั่งคุยให้อาหารมันย่อยก่อนจะกลับ และอีกอย่าง

ก็คือผมและพ่อรอหาจังหวะเหมาะๆที่จะแยกไปคุยกันสองคน

    เมี้ยววว.... เมี้ยววว....

"อ๊างง!! ลูกแมวนี่หน่า อื้อออ...น่ารักจังเลยยย......" หือออ!! พอเห็นไอ้จันทร์เจ้าไอ้แมวอ้วนจอมตระกะของพ่อผมเดินผ่านมา

หนูพัสก็ไถลตัวลงไปนั่งเล่นกับไอ้จันทร์เจ้าเลยครับ

"อ่า!! พ่อพึ่งนึกขึ้นได้!! เดี๋ยวหนูพัสนั่งเล่นกับไอ้จันทร์เจ้าไปก่อนนะลูก พ่อขอยืมตัวพี่ภาสของหนูไปคุยเรื่องงานหน่อย"

"ตามสบายเลยครับคุณพ่อ ^___^" หนูพัสตอบก่อนที่จะหันไปเล่นไปยิ้มกับไอ้จันทร์เจ้ามัน ยิ้มซะผมอิจฉาแมวอ้วนอย่างมันเลย

"ไปภาส ไปช่วยพ่อดูงานหน่อย" เพราะผมมัวมองหนูพัส จนพ่อต้องเรียกและมองด้วยสายตาที่ว่า'ลุกเดี๋ยวนี้'

"ครับพ่อ!! หนูพัสเล่นกับไอ้แมวอ้วนนี่ไปก่อนนะไอ่นี่มันชื่อจันทร์เจ้า เดี๋ยวพี่ไปคุยกับพ่อแปปนึง" ผมรับคำพ่อ ก่อนที่จะ

ก้มลงบอกกับหนูพัสที่เล่นกับแมวจนไม่สนใจผมเลย

"รู้แล้วน่า ไม่ใช่เด็กนะ!!" ฮึ ฮึ หันมาทำหน้างอใส่ผม จนผมอดไม่ได้ที่ดึงแก้มขาวๆป่องๆนั่น

...

"พ่อมีอะไรจะคุยกับผมหรอครับ" ผมปิดประตูล็อคห้องทำงานของพ่อเสร็จก็เปิดประเด็นถามทันที ถึงผมกับพ่อเหมือนจะเล่น

หัวกันได้ แต่ผมก็รู้ว่าเวลาไหนควรเล่นเวลาไหนควรจริงจัง เพราะพ่อผมไม่ใช่คนที่ใจดีอย่างที่เป็นกับหนูพัสหรอก จะเล่น

หรือจะเอ็นดูแค่เป็นคนๆไป แต่ตั้งแต่ผมจำความได้ก็มีแค่ผมกับหนูพัสเท่านั้นแหละที่พ่อจะคุยเล่นด้วย เพราะกิจการงานของ

พ่อจำเป็นจะต้องเจอคนมากหน้าหลายตา พ่อก็เลยจะระแวดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา พ่อสอนให้ผมมองคนเป็นและป้องกันตัวเอง

จากคนที่ไม่หวังดีมาตลอด ถ้าจะเรียกพ่อว่ามาเฟียคนนึงเลยก็ได้ เพราะธุรกิจค้าเพชรข้ามชาติของพ่อมันพามาซึ่งอันตรายเสมอ

ทำให้พ่อรู้จักเรียนรู้และต่อสู้มาจนถึงทุกวันนี้ และผมก็เรียนรู้และทำงานอยู่กับพ่อมาตั้งแต่จำความได้จนทำให้ผมซึมซับ

สิ่งเหล่านี้ไปด้วย

"อ่ะ!! เอานี่ไปดู" ผมรับซองเอกสารที่พ่อส่งให้ ก่อนที่จะนั่งตรงข้ามกับพ่อและเปิดเอกสารดู ในซองเอกสารที่พ่อยื่นให้ผมมานั้น

มีข้อมูลและรูปถ่ายของไอ้ธาราหรือธาราธรณ์ ภูวนนท์  ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวของนายหัวรพี ภูวนนท์เจ้าของบ่อน

คาสิโนผิดกฎหมายขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลอยู่มากเหมือนกันในทางแถบชายแดนใต้นี้  และไอ้ธาราก็เป็นศัตรูอันดับหนึ่งของ

ผมด้วย ผมกับมันเป็นคู่แข่งคู่แค้นกันในทุกๆเรื่องตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว

"พ่อให้ผมดูประวัติไอ้ธาราทำไมครับ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับหนูพัสด้วย" ถึงผมกับไอ้ธาราจะไม่ได้จบความแค้นกันอย่างชัดเจน

แต่ผมก็ไม่เห็นมันมาปั่นประสาทหรือก่อกวนในผับของผมตั้งนานแล้วนะ

"แกอยากรู้รึป่าวว่าทำไมฉันถึงบังคับให้แกแต่งงานกับหนูพัสเร็วขนาดนี้ ฮึ!! ณัฐภาส"

"ก็พ่อหลอกผมว่าเราหมั้นกันตั้งแต่เด็กนี่ครับ"

"ฉันจะบอกแกให้นะภาส ว่าฉันไม่ได้หลอกแกเลย แกกับหนูพัสนะเป็นคู่หมั้นกันจริงๆ ตอนนั้นแกคงยังเด็กมากเกินไป

ถึงยังจำอะไรไม่ได้ และอาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้มีพิธีหมั่นกันอย่างเป็นทางการ มีเพียงแต่การพูดคุยของฉัน แม่แก และปู่ ย่า

ของหนูพัสเท่านั้น ตอนนั้นชินกรกับพิมพ์ชมพูพ่อแม่ของหนูพัสยังอยู่ต่างประเทศอยู่เลย ส่วนของหมั้นก็มีเพียงแค่แหวนทอง

วงเล็กๆราคาแค่ไม่กี่พันเท่านั้น เพราะตอนนั้นฉันยังเป็นพ่อค้าจนๆไม่ได้เป็นเจ้าสัวอย่างทุกวันนี้ แต่บังเอิญฉันได้มีโอกาสที่

ได้ทำงานกับคุณท่านทั้งสอง ไม่ต้องทำหน้างง ก็ปู่กับย่าหนูพัสนั่นแหละ ท่านทั้งสองเป็นคนดีคอยช่วยเหลือและชี้ช่องทาง

ทำมาหากินให้ฉันมีได้ถึงทุกวันนี้" พ่อเล่าไปและทำหน้าเหมือนนึกไปถึงอดีตวันเวลาที่ผ่านมาตอนนั้น

"ถ้าพ่อจนมากขนาดนั้นทำไมปู่ย่าของหนูพัสถึงยอมให้ผมหมั้นกับหนูพัสหล่ะครับพ่อ" ผมถามด้วยความสงสัย

"วันนึงตอนที่เรายังอยู่กรุงเทพฯ วันนั้นแม่แกต้องไปทำงานและเอาแกไปด้วยไม่ได้ฉันก็เลยต้องหอบแกไปทำงานที่บ้าน

คุณท่านด้วยกัน ฉันก็ปล่อยแกทิ้งไว้ให้เล่นอยู่บริเวณสวนในบ้านคุณท่านนั้นแหละ จนแกได้รู้จักและไปนั่งเล่นเป็นเพื่อน

หนูพัสหลังจากวันนั้นมาแกก็ร้องตามฉันทุกครั้งที่ฉันไปทำงานบ้านคุณท่านบอกว่าจะไปเล่นกับหนูพัส คิดถึงหนูพัส

จนฉันกับคุณท่านทั้งสองเห็นแกจับแก้มหอมแก้มบ้าง กอดหนูพัสบ้าง ปู่หนูพัสก็เลยถามแกว่า'ชอบน้องหรอ' แกก็บอกเต็มปาก

เต็มคำเลยว่า 'ภาสรักหนูพัสภาสจะให้หนูพัสเป็นเจ้าสาวของภาส' พอจบคำพูดของแก คุณท่านก็เงียบไปซะฉันใจคอไม่ไดีเลย

จนพวกคุณท่านเค้าหลุดขำกันออกมา ฉันก็เลยพูดเล่นๆว่า 'ถ้าหนูพัสเป็นผู้หญิงนะฉันจะขอจองไว้ให้แกก่อน' แต่ท่านก็บอกว่า

'เอาสิถ้าเป็นเจ้าภาสฉันยินดี' ตอนนั้นฉันก็คิดว่ามันแปลกอยู่ที่จะให้ลูกหมั้นกับเด็กผู้ชายด้วยกันเพราะว่าฉันก็หวังไว้ว่าอยากจะ

มีหลานไว้สืบสกุล คุณท่านท่านคงจะรู้ทันความคิดฉัน ท่าเลยพูดออกมาว่า 'ไม่ต้องห่วงเรื่องคนสืบสกุลหรอกพ่อชัช หนูพัสของ

ฉันเป็นเด็กที่ได้พรมาจากพระเจ้าทำให้มีมดลูกตั้งแต่กำเนิดและสามารถตั้งท้องมีลูกได้ถ้าเกิดว่ามีคนรักเป็นผู้ชาย' กลับบ้านไป

ฉันก็เลยลองคุยลองปรึกษากับแม่แกดูแม่แกก็รักหนูพัสเหมือนลูกคนนึงเหมือนกัน ฉันกับแม่แกก็เลยถามแกให้แน่ใจอีกที

ก่อนที่จะตัดสินใจ แกก็บอกว่า 'ภาสรักหนูพัสมากๆเลย ภาสจะแต่งงานกับหนูพัสครับพ่อ' วันต่อมาฉันกับแม่แกก็ไปคุยกับ

คุณท่านทั้งสองเรื่องขอหมั้นหนูพัสไว้ให้แกก่อน ท่านก็ตกลง แต่ฉันกับแม่แกไม่มีอะไรเลย มีแค่แหวนทองวงเล็กๆที่ฉันขอ

แม่แกแต่งงาน แม่แกก็เลยถอดแหวนทองวงนั้นให้คุณท่าน ที่จริงคุณท่านจะไม่รับไว้หรอกเพราะเห็นว่ามันมีค่ามากสำหรับ

แม่แก แต่แม่แกก็อยากให้มีหลักประกันไว้ คุณท่านก็เลยยอมรับมันไว้ แกรู้ไหมภาสแหวนทองวงเล็กวงนั้นมันแทบจะไม่

มีค่าไม่มีราคาเลยสำหรับคนระดับนั้นแต่ท่านก็รับไว้เพราะท่านเอ็นดูและไว้ใจแก ถ้าแกพอจะจำคำพูดของคุณท่านใน

วันนั้นได้ก็คงจะดี"

"แล้วท่าพูดว่าอะไรครับพ่อ"

"ท่าบอกว่า 'เจ้าภาสเอ้ย ปู่กับย่ายกหนูพัสให้เราแล้ว ในวันข้างหน้าภาสก็ช่วยดูแลน้องแทนปู่กับย่าหน่อยนะ น้องเป็นคนน่า

สงสารนะภาส น้องไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่อย่างภาสเลย เพราะพ่อแม่เค้าทิ้งให้อยู่กับปู่ย่าตั้งแต่สามวันแรกที่เกิด

มาเลย  รักน้องให้มาๆนะภาส เพราะน้องเป็นด็กดี' แค่นี้แหละแต่ที่ฉันเล่าให้แกฟังก็เพราะว่าอยากให้แกรู้ไว้ว่าเมียของแกคนนี้

แกเป็นคนเลือกมาเอง ฉันไม่ได้บังคับแกอย่างที่แกพูดเลย" ที่พ่อพูดนี่เรื่องจริงหรอว๊ะเนี่ย!!

"แล้วทำไมผมถึงจำอะไรไม่ได้เลยหล่ครับพ่อ"

"ตอนนั้นแกพึ่งจะ8ขวบ ส่วนหนูพัสก็พึ่งจะ3ขวบ เอง แกคงจะจำได้หรอก พอโตมาหน่อยแกก็หิ้วชะนีปิงแล้วหน่ะ"

"โธ่!!....พ่อก็เชื่อคำพูดเด็กเน๊าะ" แค่แปดขวบนี่นะ ถ้าเกิดหนูพัสโตมาตัวถึก ตัวดำ กระเทยล่ำไม่ได้สวยอย่างนี้ไอ้ภาสจะทำไง

"ฉันไม่ได้เชื่อแก!! ฉันเชื่อคำทักของพระที่ทักตอนแม่แกใกล้คลอดลูกหมาอย่างแกออกมา ท่านบอกว่า 'ถ้าช่วงไม่พ้นสิบ

ขวบปี ถ้าแกบอกว่ารักใครชอบใครและอยากจะแต่งานกับคนไหนให้ตามใจแก เพราะว่าเค้าคนนั้นเป็นคู่แท้ของแกที่ชาติที่

แล้วไม่สมหวังและพลัดพรากจากกันมา ชาตินี้ก็ช่วยให้เค้าได้รักกันอย่างที่ใจปารถนาสักที' ก็แค่นั้น" จริงหรอเนี่ย!! แมร่งเป็น

อะไรที่บรรยายออกมาเป็นความรู้สึกไม่ได้จริงๆ เหมือนกับจะคับคล้ายคับคลาเหมือนกันว่าตอนเด็กๆเคยเล่นกับเด็กหน้าหวานๆ

"แต่แล้วเรื่องไอ้ธารา มันเกี่ยวอะไรกับหนูพัสหล่ะครับ"

"ตอนแรกฉันอยากจะให้แกเจอและเริ่มทำความรู้จักคุ้นเคยกันไปก่อนถ้าแกไม่รักไม่ชอบหนูพัสเหมือนเดิมแล้วก็ถอนหมั้น

กันไป แต่ไอ้ธารามันไปติดต่อเรื่องซื้อที่ดินหรือจะเรียกว่าข่มขู่พ่อของหนูพัสก็ได้ เห็นว่าอยากได้ที่ดินทางเชียงรายที่คุณท่าน

ทิ้งไว้ให้เป็นสมบัติของหนูพัสไปเปิดคาสิโนแห่งใหม่แต่ชินกรไม่ยอมเพราะมันเป็นที่ดินของหนูพัส จากนั้นมันก็เงียบหายไป

จนวันนึงมันส่งรูปถ่ายของหนูพัสในที่ต่างๆแม้กระทั้งตอนหนูพัสอยู่ในบ้านให้ชินกรและบอกว่าถูกใจอยากได้หนูพัสไปทำ

เมีย หลังจากนั้นชินกรก็ไม่ให้หนูพัสออกจากบ้านหรือให้เพื่อนเข้ามาหาที่บ้านอีกเลยเพราะกลัวว่าจะมีจนมาลักพาตัวไป

กอปรกับนึกถึงเรื่องหมั้นของหนูพัสที่คุณท่านสั่งไว้ก่อนสิ้นใจได้ เลยติดต่อมาหาฉัน ป่านนี้แล้วทางไอ้ธาราคงรู้เรื่องที่

หนูพัสแต่งงานกับแกแล้วบวกกับที่สายของฉันรายงานมาว่าทางมันเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ทีนี้แกจะทำยังไงต่อไปณัฐภาส

ฉันขอบอกไว้ก่อนถ้าแกไม่คิดจะรักหนูพัสจริงๆล่ะก็อย่าให้ความหวังหนูพัสและฉันจะเอาหนูพัสมาดูแลไว้ก่อน หลังจาก

เรื่องไอ้ธาราจบลงแกก็หย่าให้หนูพัสและฉันจะปล่อยให้หนูพัสเค้าไปตามทางของเค้า"

"พ่อพูดอะไรของพ่อเนี่ย!! เมียผมทั้งคนนะ!!!!! เมียไม่ใช่แมวนะพ่อที่นึกอยากจะเลี้ยงก็เลี้งไม่อยากเลี้ยงก็เอาไปปล่อย"

"แล้วตกลงแกจะเอายังไง??" ทำไมถึงได้ถามหน้ากวนอย่างนี้เนี่ย!! ถ้าไม่ใช่พ่อแต่เป็นคนอื่นนะเตะร่วงโต๊ะไปแล้ว

"จะเอาไงได้ล๊ะพ่อ!! เรายังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วทางนั้นจะทำอะไรกันแน่ แต่ถ้ายุ่งหรือแตะเมียผมแม้แต่ปลายเล็บนะ ผมจะตาม

ฆ่าล้างโคตรมันแน่  เมียณัฐภาสหมาขี้เรื้อนตัวไหนก็ห้ามแตะทั้งนั้น"

"พูดอย่างนี้รักเค้าแล้วอ๊ะดิแกหน่ะ!!!"

"วู้วววว!!!! พ่อถามรัยไม่รู้เรื่องว๊ะ เรื่องแบบนี้ถ้าแน่ใจแล้วผมไม่บอกพ่อหรอกผมต้องบอกเมียผมก่อนสิ!!!" อะไรของพ่อว๊ะ

แมร่ง!! ถึงพี่ภาสจะหน้าด้านแต่ก็เขินเป็นนะเว้ย!!!

...



"จะเอาไงได้ล๊ะพ่อ!! เรายังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วทางนั้นจะทำอะไรกันแน่ แต่ถ้ายุ่งหรือแตะเมียผมแม้แต่ปลายเล็บนะ ผมจะตาม

ฆ่าล้างโคตรมันแน่  เมียณัฐภาสหมาขี้เรื้อนตัวไหนก็ห้ามแตะทั้งนั้น"

"พูดอย่างนี้รักเค้าแล้วอ๊ะดิแกหน่ะ!!!"

 

"วู้วววว!!!! พ่อถามรัยไม่รู้เรื่องว๊ะ เรื่องแบบนี้ถ้าแน่ใจแล้วผมไม่บอกพ่อหรอกผมต้องบอกเมียผมก่อนสิ!!!"

        เรื่องที่คุณพ่อเล่ามันเป็นเรื่องจริงหรอเนี่ย!! แล้วที่ฉันได้ยินในสิ่งที่นายพูดมันจริงรึป่าว  นายจะทำอย่างที่นายพูดจริงๆ

ใช่ไหมนายณัฐภาส

"อ่าว!! หนูพัสมายืนทำอะไรแถวนี้เนี่ยครับ?" ยึ๋ยยย....ถ้านายภาสรู้ว่าเราบังเอิญได้ยินจะต้องหาว่าเราแอบฟังแน่เลย

"วิ่งตามจันทร์เจ้ามาน่ะ ว่าแต่นายเถอะคุยธุรกับคุณพ่อเสร็จแล้วหรอ?"

        จุ๊บบบบ   

"เสร็จแล้วครับ!!! บอกให้เรียกพี่ภาสไง ต่อไปนี้ถ้าหนูพัสไม่เรียกพี่ว่าพี่ภาสและแทนตัวว่าหนูพัสอีกหล่ะก็พี่จะถือว่าหนูพัส

ชอบให้พี่จูบ เลยหาเรื่องผิดตลอด" ฮึ๋ย!! จุ๊บอีกแล้ว!! เผลอเป็นไม่ได้เลย แล้วยังจะหลงตัวเองอีกคนอะไร

"ชริ!!"

"อะแฮ่ม!!!! คุณลูกทั้งสองคนครับ อย่ามาหวานกันแถวนี้เดี๋ยวเบาหวานพ่อขึ้น ฮ่าๆๆ" อุ๊ยยยย....คุณพ่อมาได้ไงเนี่ย ต้องเห็น

ตอนไอ้บ้าภาสจุ๊บเราแน่ๆเลย ฮืออออ......(T___T)

"มันเรื่องธรรมดาของข้าวใหม่ปลามันหน่ะ พ่ออย่าถือสิ"

"พี่ภาส!!!!!" ไอ้บ้านี่!! ยังจะพูดอย่างนั้นอีก

"ไม่พูดแล้วครับๆๆอย่าทำหน้างอสิเดี๋ยวไม่สวยนะ" ยังจะมีหน้ามากอดอีกกกก.....โอ้ยยยย.....อยากจะบ้าาาาาา.......

"ไม่ต้องเลย!!! แล้วก็ปล่อยได้แล้ว!!!"

"โอเคครับๆๆ เรากลับบ้านกันเถอะหนูพัส นี่ก็ดึกมากแล้ว พ่อผมพาหนูพัสกลับบ้านก่อนนะ!!!!" ไอ้บ้าภาสพูดผมก่อน

จะหันไปตะโกนเสียงดังบอกคุณพ่อทั้งๆที่อยู่ใกล้กันนิดเดียว

"อืมๆ ไปกันเถอะ หนูพัสรีบมีหลานให้พ่อด้วยนะ อย่าลืม!!" คุณพ่อแซวผมอ่าาาาา.....

"โธ่....คุณพ่อครับ!!!"

"ฮ่าๆๆๆ"

"ไปกันเถอะ!! ผมไปนะ ฝันดีพ่อ!!!"

"เออ!! รีบมีหลานให้ฉันซักทีนะไอ้ลูกบ้า!! ฉันเหงาเว้ย!!"

"ราตรีสวัสดิ์ครับคุณพ่อ พัสกลับก่อนนะครับ"

"ฝันดีลูก อย่าลืมหลานพ่อนะ!!! ฮ่าๆๆ" อื้ออออ....พาวนเข้าเรื่องนี้ตลอดเลยยยยย......

"คิดถึงเรื่องที่พ่อพูดหรอหนูพัส อย่าคิดมากเลยพี่ยังไม่ทำอะไรเราตอนนี้หรอก พี่ให้เวลาเราเตรียมความพร้อมที่จะเป็นคุณแม่

ก่อน แต่อย่านานนักหล่ะ พี่ไม่อยากปล้ำเมียตัวเอง พี่อยากให้ครั้งแรกของเราเป็นเมคเลิฟที่เต็มไปด้วยความรักและความรู้สึก

ไม่ใช่แค่เซ็กส์ที่แค่เพียงการระบายอารมณ์และสนองตันหาเท่านั้น เปิดใจให้พี่อย่างที่พี่เปิดรับเราเข้ามาที่นะครับหนูพัส"

      จุ๊บบ...แค่พูดก็พอมั้งไม่ต้องจูบมือฉันและมองด้วยตาหวานเชื่อมขนาดนั้นหรอกไอ้บ้า ฮึ่ยย...แค่ที่ได้ยินเมื่อคืนฉันก็

แทบบ้าแล้ว ยังจะมาพูดซ้ำให้ได้ยินได้เห็นต่อหน้าต่อตากันอีก! ฉันเขินจนตัวแทบแตกแล้วนะ!!! งื้ออออ....(>////<)



..............................................................................

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่5 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 07-06-2015 12:06:29
พี่ภาสนี่ขี้หื่นตั้งแต่เด็กเลยนะค้าา~ น่ารักจริงๆ เลยเชียว มีการจับจองหนูพัสไว้ตั้งแต่เด็กๆ เลยด้วยน้าา~ :-[ ดีงามมากเลยค่ะ ..
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่5 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-06-2015 12:51:06
กะล่อนจริง
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่5 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 07-06-2015 19:32:29
ชอบนิสัยพระเอก กวนๆ พอถึงเวลาจริงก็เอาจริง ตอนนี้หวานดีคับ หนูพัสเขินเลยล่ะสิ ๕๕๕ อยากให้ท้องไวๆเหมือนกัน ๕๕๕
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่5 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-06-2015 21:31:08
คนหลงเมีย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่5 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 07-06-2015 22:22:10
ขำขำดีจ้า รออ่านต่อนะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่5 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 08-06-2015 11:38:45
ที่แท้ก็หมั้นกันมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้วนี่เอง หวังว่าพี่ภาสจะไม่เจ้าชู้และทำตัวดีๆ นะ
สงสารน้องพัสนิดๆ ที่โดนพี่ภาสตอดเล็กตอดน้อยตลอดเลย แต่คงต้องทำใจซะล่ะน้องพัส


ปล.ตอนหน้าคงมีอะไรหวานๆ ให้อ่านนะคะคนเขียน เราจะตามต่อไปเรื่อยๆ
ดูว่าน้องพัสที่น่ารักของเราจะท้องเมื่อไหร่ 555 :hao7:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่5 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 08-06-2015 13:15:30
น้องพัชก็ใจอ่อนกะพี่ภาสหน่อยสิ ง้อมาตั้งแต่เด็กและนะอิอิ

พอดีคนอ่านหื่นเลยเรียกร้อง 555 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 08-06-2015 18:57:31
แรง.ร้าย.รัก...คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 6     





(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/947919606-member.jpg)

          เฮ้อ!! น่าเบื่อ ตั้งแต่วันที่ผมแต่งงานมาจนถึงวันนี้  ผมก็มาอยู่ที่นี่ได้สามอาทิตย์แล้วครับ ทุกๆอย่างก็เริ่มลงตัวมากขึ้น

แต่ไอ้ที่ผมบอกว่าเบื่อเนี่ยก็เพราะว่างานที่ไอ้พี่ภาสบอกว่าจะให้ผมทำนะสิจนป่านนี้แล้วผมยังไม่ได้ทำเลย วันๆก็อยู่แต่บ้าน

ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย อย่างมากก็แค่ทำอาหารกินกันแค่สองคนกับไอ้พี่ภาสนี่แหละเพราะงานบ้านอื่นๆมีแม่บ้าน

ทำประจำทุกวันอยู่แล้ว พอผมไปช่วยก็บอกว่ากลัวคุณภาสดุเอา  อ่อ!!  ส่วนไอ้พี่ภาสนะหรอ? ก็ออกไปดูงานที่ผับทุกคืน

กว่าจะกลับมาได้ก็เกือบเช้า แถมตามตัวตามเสื้อผ้ายังมีแต่กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่อีกเท่านั้นยังไม่พอนะ ยังจะมีกลิ่นน้ำหอมของ

ผู้หญิงติดกลับมาบ้านทุกวันด้วย เหอะ!!! ที่ผมพูดอ่ะไม่ใช่เพราะหึงหรืออะไรหรอกนะ! แต่เวลากลับมาแล้วไอ้พี่ภาสมันจะ

ต้องแอบหอมแก้มผมก่อนที่จะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมานอนกอดผมทุกที ที่พูดมาทั้งหมดเนี่ยก็เพราะว่ามันเหม็นนะสิ

ไม่ได้หึงหรือหวงอะไรอย่างที่พวกคุนคิดกันหรอกนะ จริงจริ๊งงงงงง!! พวกคุณเชื่อผมสิ!! (หรอ?) ส่วนเรื่องที่พวกคุณอยากจะ

รู้นะหรอ? ผมจะบอกให้ก็ได้ว่า 'จิ้น' ของผมยังอยู่รอดปลอดภัยคร้าบบบ!!! \(^O^)/  คิกๆๆ

"ถอนหายใจทำไมครับหนูพัส!! แล้วยังหน้าประหลาดๆที่เราทำนั่นอีก เป็นอะไรรึเปล่า??" เฮ้ย!! ตกใจหมดเลย กำลังคิดอะไร

เพลินๆ อยู่ดีๆไอ้พี่ภาสก็เดินเข้ามายืนค่อม จับไหล่ทั้งสองข้างของผมไว้ทั้งๆที่พี่มันยังไม่ได้ใส่เสื้อทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่กางเกงยีนส์

เอวต่ำจะหลุดไม่หลุดแหล่เท่านั้นเอง

"จะทำไรอ่ะ!! จับทำไม?? ปล่อยพัสเลยนะ!!!" ผมถามและพลักไอ้พี่ภาสให้มันออกไปห่างๆตัวผมหน่อย แม้ว่าที่ผ่านมาเราจะ

พูดคุยกันได้ดีขึ้นในระดับนึงเพราะว่าผมยอมเรียกมันว่าพีภาสและแทนตัวเองว่าพัสตามที่มันบอก ที่ผมยอมทำตามที่มันบอก

ก็เพราะว่าผมไม่อยากให้พี่มันหาเรื่องจูบลงโทษผมนะสิ แรกๆก็จุ๊บเบาอยู่หรอกแต่พอช่วงหลังๆมานี่สิ จับผมจูบซะลึกซึ้งจน

ผมแทบขาดอากาศตายเลยที่เดียว เปลืองตัวเป็นบ้า!!!

"ไม่ได้จะทำอะไรเลยครับ!!! พี่แค่จะดูว่าหนูพัสเป็นอะไรไป ทำไมถึงต้องถอนหายใจแรงขนาดนั้น แถมยังทำหน้าเหมือน

อยากจะฆ่าใครอีก ตกลงแล้วเมียจ๋าเป็นอะไรครับบอกผัวจ๋าได้ไหม??" ฉันไม่อยากจะคุยกับแกก็เพราะไอ้ที่ใช้เรียกแทนตัวเอง

นี่แหละผัวจ๋าเมียจ๋าบ้าบออะไรกันคนอะไรห่ามที่สุด!!

"ไม่มีอะไรหรอก!! พัสแค่เบื่อ!!  มันไม่มีอะไรให้ทำอ่ะ แล้วงานที่พี่ภาสบอกจะให้พัสทำหล่ะงานอะไรเมื่อไหร่จะให้ทำซักที

อยู่แต่บ้านเฉยๆอย่างนี้อีกหน่อยพัสคงเป็นง่อยอ่ะ" ผมบอกออกไป แต่ผมไม่กล้าเงยหน้ามองไอ้พี่ภาสหรอกนะ!! เดี๋ยวจะเห็น

กล้ามเนื้อแน่นๆซิกแพคสุดเซ็กซี่ ที่เพลอมองทีไรจะต้องเคลิ้มแล้วหวั่นไหวทุกที  อุ๊บบ!!(OxO) ป่าวนะ!! ผมไม่ได้พูดอะไร

ออกไปเลยนะ!! หวั่นวงหวั่นไหวที่ไหนกัน ไม่มี๊!! ม่ายมี!! อะไรนะ? พวกคุณถามว่าทำไมผมถึงมานั้งอยู่บนเตียงตอนที่

ไอ้พี่ภาสมันแต่งตัวอยู่อย่างนี้ทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลานอนน่ะหรอ? ก็เพราะว่าไอ้บ้าพี่ภาสมันบังคับให้ผมมานั่งรอตรงนี้นะสิ!!

แถมตอนที่พี่มันจะออกไปข้างนอกผมยังจะต้องเดินไปส่งมันขึ้นรถแล้วเสียจูบให้มันทุกๆวันอีก ไม่รู้ว่าเป็นเด็กสามขวบ

ที่กลัวหลงทางในบ้านตัวเองรึไงก็ไม่รู้

"หนูพัสเบื่อหรอ? ถ้าอย่างนั้นวันนี้ออกไปดูร้านกับพี่ดีไหมครับ จะได้เข้าไปดูงานบัญชีของร้านด้วย แล้วถ้าหนูพัสเข้าใจและ

อยากจะทำเลย เดี๋ยวก่อนเราจะกลับบ้านพี่จะได้ให้เด็กไปรวบรวมบัญชีของทุกร้านเอามาให้หนูพัสทำที่บ้านดีไหม? รับรอง

ว่าหนูพัสจะต้องยุ่งจนไม่มีเวลาที่จะเบื่อเลย" อืม...ก็ดีเหมือนกันแฮะ ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆแบบนี้

"อืม...ก็ได้"

"ถ้าอย่างนั้นหนูพัสก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยเดี๋ยวพี่รอ"

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/160766379-member.jpg)

"เสร็จแล้ว!! ไปกันเถอะ"

"เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อนหนูพัส มาให้พี่ดูก่อน!!" ผมบอกหนูพัสที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องแต่ตัว และกำลังจะเดินไปหยิบกระเป๋าถือ

คู่ใจใบโปรดเตรียมพร้อมที่จะออกไปกลับผม ถ้าจะถามผมว่ามีห้องแต่งตัวแล้วทำไมผมถึงมายืนแต่งตัวให้หนูพัสดูอ่ะหรอ?

เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก ผมก็แค่อยากแกล้งหนูพัสเท่านั้นเอง พวกคุณจะว่าผมโรคจิตก็ได้นะแต่เวลาที่ผมได้เห็นหนูพัสนั่ง

ก้มหน้าเขินแก้มแดงอยู่อย่างนั้น ฮึๆ มันน่ารักดี

"อะไรอ่ะ เลยเวลามานานแล้วไม่ใช่หรอ?"

"ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้??"

"ทำไมอ่ะ!! หน้าเกลียดหรอ?" หนูพัสเดินไปตรงโต๊ะเครื่องแป้ง หมุนตัวไปมามองดูตัวเองในกระจก แล้วก็หันมาถามผม

"ไม่ใช่!!" ผมตอบเสียงดังแบบไม่สบอารมณ์ และจับแขนหนูพัสไว้แน่น

"ไม่ใช่แล้วจะเสียงดังทำไม? หรือว่าเปลี่ยนใจ? ถ้าไม่อยากให้ไปด้วยบอกกันดีๆก็ได้ ถ้าอย่างนั้นพี่ภาสก็ไปเถอะ พัสจะไป

ได้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้านอน" เว้ย!! ผมก็ไม่น่าไปเสียงดังใส่น้องเลย เข้าใจผิดกันไปใหญ่

"ไปกันใหญ่แล้ว!! พี่ไม่ได้เปลี่ยนใจ แค่พี่จะบอกว่าเมียแต่งตัวสวยเกินไป พี่เห็นแล้วหวงว๊ะ แค่คิดว่าถ้าเข้าไปในผับแล้ว

จะต้องมีแต่คนมองหนูพัสเนี่ย พี่ก็แทบจะบ้าแล้ว!!" นี่ผมพูดจริงๆนะ!! ไม่ได้ล้อเล่น!! แค่คิดว่าหนูพัสเดินเข้าไปในผับผม

แล้วโดนไอ้คนพวกนั้นมองด้วยสายตายตาโลมเลีย อย่างที่ผมมอง(OxO) เอ้ย!! ไม่ใช่ๆ มองด้วยสายตาโลมเลียจนแทบจะ

กลืนกินเข้าไปอย่างนั้นผมก็อยากจะคลั่งแล้ว วันนี้หนูพัสสวยจริงๆปกติหนูพัสก็แต่งหน้าเหมือนกัน แต่จะแต่งแค่อ่อนๆ

แต่งบางๆจนแทบมองไม่ออกว่าแต่ง แต่วันนี้หนูพัสจัดเต็ม ดูๆตานั่นสิปกติจะต้องกลมๆแป๊วๆแบบน่ารักๆแต่วันนี้หนูพัส

ก็จัดการเปลี่ยนใส่คอนแทคเลนส์สีฟ้าน้ำทะเลมันซะงั้น ปากที่ปกติเป็นสีชมพูอ่อนๆก็กลายมาเป็นปากสีแดงน้อยๆเซ็กซี่จนผมอยากจะกระชากมาบดจูบให้ปากแตกกันไปข้าง แล้วยังจะไอ่เสื้อกล้ามตาข่ายสีดำบ้าบอข้างในนั่นอีกบางจนแทบจะเห็นไปถึงไส้ติ่ง  แมร่ง!! ตัวละยี่สิบบาทรึไง อย่าให้รู้นะว่าผลิตที่ไหน พ่อจะไปเผาโรงงานแม่ง ถึงจะใส่เสื้อคลุมทับไว้อีกตัวก็เถอะ!!

"ไร้สาระ!! บ้าบอว่ะพี่ภาส" พอรู้คำตอบของผมหนูพัสก็หน้าเหวอไปเลย

"ไม่รู้หล่ะ!! ไปเปลี่ยนเถอะนะหนูพัสพี่ขอ"

"ไม่อ่ะ!! ขี้เกลียด ถ้าเปลี่ยนอีกทีพัสก็ไม่ไปแล้ว เปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้วก็นอนอยู่บ้านดีกว่า" หนูพัสบอกแบบเซ็งๆ เอาไงดีว๊ะ

ก็ผมหวงของผมอ่ะ แต่ผมก็อยากพาหนูพัสไปเปิดหูเปิดตาบ้าง อยู่แต่บ้านคงจะเบื่อจริงๆ

"ก็ได้ๆ ใส่ชุดนี้ก็ได้ แต่หนูพัสจะต้องอยู่ข้างๆพี่ตลอดเวลานะ โอเคไหมครับ??"

"อือ!!" หนูพัสทำหน้าครุ่นคิดก่อนที่จะพยักหน้าตกลง

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/739400018-member.jpg)

"ไงครับคุณเพื่อน ลมอะไรหอบมึงมาสาขานี้ได้ ปกติมึงไม่ชอบที่จะคุยกับพวกไฮโซไม่ใช่ แล้วสาวน้อยหน้าสวยนี่ใคร

เด็กใหม่มึง?" นั่นไง!! ผมคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยที่พาหนูพัสมาผับหรูของผมแทนที่จะเป็นผับธรรมดาๆอีกที่นึงของผม ที่อยู่

ฝั่งตรงข้ามกับสาขานี้นี่แหละเพราะผมมัวแต่นึกว่าที่ๆคนเยอะๆและมีแต่พวกเถื่อนๆแบบนั้นมันไม่เหมาะกับหนูพัส แต่ผม

ลืมคิดไปว่าที่สาขานี้มันมีตัวอันตรายอย่างไอ้คุณเพื่อนซี้แสนรักของผมที่ไปไหนไปกัน จะดีจะชั่วแค่ไหนก็ทำด้วยกันตลอด

ไอ้คุณมันเป็นลูกนายพลครับ พ่อมันเป็นทหารชั้นผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งเป็นปรึกษาของกองทัพอยู่ตอนนี้ พ่อมันอยากให้เป็น

ทหารเป็นคนในเครื่องแบบเหมือนกับท่าน แต่ไอ้คิมมันบอกว่ามันเลวเกินไปและไม่ค่อยถูกกับกฎหมายซักเท่าไหร่ มันก็เลย

ทะเลาะกับพ่อมันเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องมาขอร่วมหุ้นกับผมที่สาขานี้และยึดชั้นบนของผับเป็นบ้าน

ของมันเลย ถึงภายนอกของมันจะชั่วจะดูเลวในสายตาคนแต่จริงๆแล้วมันเป็นคนดีมากคนนึงเลยนะครับ อาจจะเป็นเพราะว่า

งานที่มันทำบวกกับหน้าตาโหดๆและนิสัยดิบของมันคนอื่นเค้าถึงเข้าใจกันแบบนั้น แต่ที่ผมคิดว่าผมคิดผิดก็เพราะว่ากลัว

ไอ้คุณมันจะแฉเรื่องชั่วๆมั่วๆเลวๆของผมให้หนูพัสฟังนะสิ ถึงมันจะเป็นเพื่อนรักผมแต่มันก็ชอบแกล้งผมเหมือนกับที่ผม

ชอบแกล้งมันนะสิ ฟังดูโรคจิตใช่มั้ยครับ ก็อย่างว่าแหละถ้านิสัยำม่เหมือนกันจะคบเป็นเพื่อนกันมาได้เป็นสิบๆปีอย่างนี้หรอ

"ไอ้เพื่อนคุณครับ ไอ้ปากหมา!! นี่ 'ผู้ชาย' ครับมึง!!  แล้วก็ไม่ใช่เด็กใหม่อย่างที่มึงเข้าใจด้วย แต่หนูพัสเป็นเมียกูครับ

ดูปากกูดีๆนะครับเพื่อนว่าหนูพัสน่ะ 'เมียกู' เข้าใจ๋??" ผมมองหน้าหนูพัสที่เริ่มจะงอตั้งแต่ไอ้คุณมันทักว่าเป็นเด็กใหม่ผมแล้ว

ก่อนที่จะหันไปพูดบอกกับไอ้คุณชัดๆช้าๆให้มันได้รู้

"ห๊ะ!! เมียมึง!! นี่มึงหนีกูไปแต่งงานตอนไหนเนี่ย?? ไอ้ภาส" ไอ้คุณทำหน้าตกใจก่อนที่จะแหกปากถาม มันมองผมเหมือน

พวกเมียหลวงที่จับได้ว่าผัวมีเมียน้อยเลย ยึ๋ยว๊ะ!!

"เออ!! หนูพัสเป็นเมียกูจริงๆ แล้วมึงจะตกใจอะไรนักหนาเนี่ย!! กูพึ่งจะแต่งงานกันได้สามอาทิตย์เอง โทษทีว๊ะพอดียุ่งๆ

มันฉุกละหุกกูเลยไม่ได้ชวนมึง ไม่สิ!! ต้องพูดว่ากูไม่ได้ชวนใครเลยต่างหาก"

"อ่อ!! เออๆไอ้เหี้ย!! เล่นแต่งงานเงียบๆอย่างนี้กูก็ตกอกตกใจหมดนะสิ เพื่อนมีเมียทั้งทีกูกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย เอ่อ..ขอโทษ

นะครับที่เข้าใจผิดว่าคุณเป็นแค่เด็กไอ้ภาส เพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนมันมาสิบกว่าปีนี่ผมไม่เคยเห็นมันพาใครมาเปิดตัวหรือจะ

จริงจังกับใครซักที ขอโทษจริงๆนะครับ" ไอ้คุณบอกผมก่อนที่จะหันไปพูดขอโทษหนูพัสด้วยหน้าเจื๋อนๆ

"ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจว่านิสัยอย่างพี่ภาสเนี่ย เป็นใครก็ต้องเข้าใจแบบคุณกันทั้งนั้นแหละครับ" หนูพัสแหล่ตามองผม

ก่อนที่จะหันไปยิ้มและพูดกับไอ้คุณต่อ

"อ่าวๆ นิสัยอย่างพี่มันเป็นยังไงครับเมีย นิสัยพี่ออกจะดี" ผมแกล้งถามและเน้นคำว่าเมียให้หนูพัสอายเล่น

"ก็นิสัยไม่ดี น่าม่อ คั่วไปเรื่อย คบไปทั่ว นอนไม่เลือกไงครับ" น้าน!! คราวนี้ไม่อายแถมยังทำตาดุใส่ผมอีก

"ฮ่าๆๆ ที่พูดมาทั้งหมดนั้นเรื่องจริงทั้งนั้นเลยนะครับน่ะ ผมชื่อเจ้าคุณหรือจะเรียกว่าคุณเฉยเหมือนที่ไอ้ภาสเรียกก็ได้ครับ

ผมเป็นเพื่อนรักเพื่อนซี้เพื่อนตายของไอ้ภาสมัน แล้วคุณล่ะครับชื่ออะไร" ไอ้คุณแนะนำตัวอย่างเป็นทางการก่อนที่จะ ยื่นมือ

มาข้างหน้าและถามชื่อหนูพัสบ้าง

"ผมชื่อพัสกรหรือจะเรียกว่าพัสเฉยก็ได้ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ" หนูพัสบอกก่อนที่จะยื่นมือไปจับกับไอ้คุณเป็นการทักทาย

"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยหรือจะให้พี่ช่วยจับตาดูไม่ให้ไอ้ภาสมีกิ๊กก็บอกพี่ได้นะ ฮ่าๆๆ" ไอ้คุณบอกก่อน

ที่จะหัวเราะออกมาอย่างดัง หือออ....ไอ้เพื่อนเลว มึงใส่ร้ายความจริงกูอีก? (T_T)

"เรื่องนั้นไม่รบกวนดีกว่าครับ พัสมีวิธีจัดการของพัสเองเหมือนกันครับ" หนูพัสบอกด้วยเสียงนิ่ง แต่ทำไมเมียจ๋า

ถึงยิ้มหลอนอย่างนั้นหล่ะจ๊ะ

"เฮ้ย!!! กิ๊กเกิ๊กอะไรพี่ไม่มีหรอกเมียจ๋า อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ ผัวจ๋ากลัวนะ (T[]T)"

"ฮ่าๆ กูเพิ่งจะเห็นเสือกลายร่างเป็นหมาก็วันนี้แหละว๊ะ ฮ่าๆๆๆ ไอ้ภาสสิ้นลายแล้วมึง!!! ฮ่าๆๆ" ไอ้คุณบอกก่อนจะหัวเราะ

ดังลั่นจนคนทั้งร้านหันมามอง

"คุยกันน่าสนุกจัง ขอผมคุยด้วยคนได้ไหมครับคุณพัสคนสวย"

"เอ่อ....."

"ไอ้เชี่ยธารา/ไอ้เวรธารา"

...

ตอนนี้สั้นมากเลยเน๊าะ!!!

เอาไว้มี่จะชดเชยให้ในตอนหน้า ในวันพรุ่งนี้นะคะ.....
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 08-06-2015 19:09:45
รบกวนเจ้าคุณเก็บธารา(พ่อตัวร้าย)ไปไว้ที่ที่เขาควรจะอยู่ได้ไหมคะ หึหึ ร้ายๆ แบบนี้สิดี น่าหาคนมาปราบพยศแท้~ :o9:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 08-06-2015 19:29:06
 :laugh:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Sugar_Halloween ที่ 08-06-2015 19:47:41
สั่งเก็บธาราเถิดจะเกิดผล  :m26:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 08-06-2015 20:12:31
เอาละสิ พี่ภาสคงจะหึงเมียมากๆก็คราวนี้ล่ะ ๕๕๕๕ มีลูกกันซักทีสินะ ๕๕๕ รอ รอ รอตอนใหม่คับ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 09-06-2015 01:15:05
 o13
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-06-2015 01:51:57
กากว่ะ สามอาทิตย์ไม่มีปัญญาจัดการเมีย 55555
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 09-06-2015 06:51:27
^
ฮาเม้นต์บนอ่ะ 555555
โรคเกลียมัวเริ่มกำเริบ 55
ตัวร้ายโผล่มาให้พี่ภาสหึงเล่นซะแล้ววว 5555
แล้วเจ้าคุณจะมีคู่กับเขามั้ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 09-06-2015 12:27:14
งั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลังให้คุณปราบธาราซะเลย 55555
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกสมุนตัวเอฟ ที่ 09-06-2015 13:14:07
 :mew1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 09-06-2015 16:05:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 09-06-2015 16:16:25
พระเอกกวนดี ฮ่าา พัสกะน่ารัก
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 09-06-2015 21:01:52
รอๆๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 09-06-2015 22:30:12
เชี่ยธารา :a5:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่6 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 10-06-2015 00:36:43
แล่วๆๆๆ ยังไงเนี่ย รอต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่ึ7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 10-06-2015 10:25:49
แรง.ร้าย.รัก...คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่7







(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1164416667-member.jpg)

"คุยกันน่าสนุกจังเลยครับ ขอผมคุยด้วยคนได้ไหมครับคุณพัสคนสวย" 

"เอ่อ....."

 

"ไอ้เชี่ยธารา/ไอ้เวรธารา"       

       เสียงทุ้มต่ำเอ่ยทักทายผมขัดการพูดคุยของเราทั้งสามคนให้เงียบลง ตามมาด้วยร่างกำยำสูงใหญ่พอกับพี่ภาสและพี่คุณ

ที่จ้องมองผมด้วยสายตาหยาบโลน จนผมรู้สึกขยะแขยงสายตาคู่นี้ขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ

"ไอ้เชี่ยธารา/ไอ้เวรธารา" เสียงของพี่ภาสและพี่คุณทำให้ผมละสายตาที่เผลอจ้องมองคนมาใหม่อย่างเสียมารยาท

"อะไรกันณัฐภาส เจ้าคุณ ทำไมพูดทักทายเพื่อนเก่าอย่างฉันไม่ด้วยท่าทีเป็นมิตรแบบนี้เลยหล่ะ" คนที่มาใหม่แสร้งทำหน้าตกใจ

"กูจะพูดยังไงมันก็เรื่องของกู  เกี่ยวอะไรกับมึงตรงไหน? มึงนั้นแหละไอ้ธาดามึงเข้ามาที่นี่ทำไม" พี่ภาสถามอย่างหาเรื่อง

"ก็ไม่เกี่ยวอะไรหรอก แค่อยากจะเตือนในฐานะเพื่อนเก่าด้วยความหวังดีว่าอย่าไปทักทายใครแบบนี้อีกเดี๋ยวเค้าจะเข้าใจผิด

คิดว่ามหาเศรษฐีอย่างเจ้าสัวชัชวาลย์ และคนใหญ่คนโตอย่างท่านนายผลเจ้าขุนจะมัวแต่ทำงานจนละเลยที่จะอบรมสั่งสอน

ลูกชายสุดที่รักไปนะสิ นี่ฉันเห็นว่าเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันเลยนะเนี่ยถึงพูดเตือนนะ" คนมาใหม่พูดด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวน

กวนอารมณ์ แต่ตรงข้ามกับทำหน้าตาที่ทำเหมือนหวังดีเข้าเสียเต็มประดา

"อ่อ! เหมือนกับพ่อมึงหน่ะหรอ?ที่มัวแต่หมกมุ่นระเริงกามอยู่กับอีหนู จนแม่มึงตรอมใจตายและลูกชายอย่างมึงก็กลายเป็น

เด็กมีมีปมเที่ยวสร้างปัญหาคอยแต่จะเห่าจะกัดคนเค้าไปทั่วไม่เลือกหน้าอย่างนี้ใช่ไหม" พี่ภาสตอบกลับแรงไม่แพ้กัน

แทนที่ทางฝ่ายนั้นจะโกรธหรือโมโหที่โดนพี่ภาสตอกกลับแบบนี้ แต่เปล่าเลยฝ่ายนั้นยังคงมีรอยยิ้ม และเป็นรอยยิ้มที่ผมมอง

ไม่ออกเลยว่าอีกฝ่ายนั้นคิดอะไรอยู่ ผมเห็นมือทั้งสองข้างของเค้ากำแน่นเข้าหากันจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนขึ้นที่หลังมือและ

แขนทั้งสองข้างอย่างน่ากลัว

"หึๆ ฉันจะไม่ถือสาคำพูดของพวกลูกแหง่อย่างนาย และจะคิดซะว่าเป็นคำทักทายของเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานก็แล้วกัน

แต่ที่ฉันเข้ามาคุยด้วยวันนี้ก็เพราะอยากรู้จักกับหนุ่มน้อยคนสวยนี่ต่างหาก ว่ายังไงครับผมชื่อธาราแล้วคุณหล่ะคนสวย

ชื่ออะไรครับ ช่วยบอกผมได้รึเปล่า??"  คนๆนั้นทำพูดปัดตัดบทกับพี่ภาสก่อนที่จะจ้องมองมาที่ผมด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา

และสาวเท้าก้าวเดินเข้ามา   จนผมเผลอผวากอดแขนของพี่ภาสไว้แน่น

"อย่ามายุงกับเมียกู" พี่ภาสบอกด้วยเสียงกดต่ำ ก่อนที่จะใช้ตัวเองเป็นเกาะกำบังให้ผม

"อะไรกันแค่เด็กคนเดียว แบ่งเพื่อนเก่าอย่างฉันไม่ได้หรอ? ทีนายหล่ะ!! นี่ก่อนออกจากบ้านมาเด็กในสต็อกของฉันยังบอกมา

เลยนะ!! ว่าเมื่อคืนไปสนุกสุดเหวี่ยงกับนายมาจนเกือบจะสว่าง ฉันยังไม่ถือเลยภาส แล้วนายจะหวงทำไม เรื่องแค่นี้เอง

มีของดีก็แบ่งๆกันสิ หรือว่าเด็กคนนี้เพิ่งได้มาใหม่เลยยังเห่ออยู่ ถ้าอย่างนั้นเอาไว้นายเบื่อแล้วส่งต่อมาให้ฉันก็แล้วกัน

ฉันสนใจน้องเค้าจริงๆ น้องครับถ้าเบื่อณัฐภาสเมื่อไหร่ไปอยู่กับพี่นะ" คนๆนั้นบอกและเอื้อมมือจะมาจับตัวผมแต่ผมไม่ได้

สนใจที่จะปัดป้องอีกแต่อย่างใด มันรู้สึกแย่มากๆ หน่วงจนแทบหายใจไม่ออก ร่างกายก็เหมือนกับไม่มีแรงไปเสียดื้อๆจน

ผมเผลอปล่อยมือออกจากแขนพี่ภาสตั้งเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ นี่ซินะสาเหตุที่ผมได้กลิ่นน้ำหอมแปลกๆไม่ซ้ำกันทุกๆคืน แต่แค่ได้

กลิ่นก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าเป็นกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงหรือไม่ก็พวกที่เป็นฝ่ายรับเพราะว่าไม่มีผู้ชายแท้ๆที่ไหนหรอกที่จะเลือกใช้

น้ำหอมกลิ่นหวานๆและดึงดูดเย้ายวนเสียขนาดนั้น

"ไอ้เวรธารา!!!! กูบอกว่าอย่ามายุ่งกับเมียกู!!!!!" เสียงตวาดของพี่ภาสทำให้ผมหลุดจากความคิดของตัวเอง และมองดูเหตุการณ์ข้างหน้าอีกครั้ง ผมมองเห็นพี่ภาสปัดมือคนๆนั้นที่กำลังจะเอื้อมมาจับผมและผลักออกอย่างแรงงจนอีกฝ่ายเซถลา

ไปชนกับโต๊ะที่มีไว้ให้ลูกค้าไว้จับจองล้มกระจัดกระจายเกิดเสียงดังจนเหล่านักท่องราตรีที่กำลังสนุกสนาน เพลิดเพลินกับ

เสียงเพลงก็หยุดเต้นและหันมามองดูกันอย่างอยากรู้อยากเห็น

"อะไรกันณัฐภาส!! ที่นี่เค้าต้อนรับลูกค้ากันแบบนี้หรอ??" อีกฝ่ายพูดด้วยเสียงดัง ทุกคนที่อยู่ในผับแห่งนี้คงจะได้ยินกันทุกคน

เพราะเสียงเพลงที่ดังอึกทึกคึกโครมในตอนแรกได้เงียบไปตั้งแต่นายธารานั่นเซไปชนโต๊ะแล้ว และก็เหมือนกับว่ายิ่งสนุก

เมื่อเห็นสีหน้าโกรธจัดของพี่ภาส

"ถ้ามึงจะมาหาเรื่องก็กลับไปซะไอ้ธารา ต่างคนต่างอยู่ไปซิ มึงจะมาหาเรื่องไอ้ภาสทำไม มึงอย่ามาอ้างนะว่าอยากรู้จักน้องน่ะ

ไอ้ภาสมันก็บอกไปแล้วไม่ใช่หรอว่าน้องพัสเป็นเมียมันหน่ะไม่ใช่แค่เด็กหิ้วอย่างที่มึงคิดน่ะ หรือถ้ามึงจะบอกว่ายังไม่รู้กูก็

จะบอกให้ว่า มันแต่งงานจดทะเบียนกันเรียบร้อยแล้ว ทีนี้มึงรู้แล้วก็กลับไปเถอะไอ้ธารา ก่อนที่ไอ้ภาสมันจะโมโหทนไม่ไหว

แล้วขาดสติจนยั้งกันไม่อยู่ ถึงเวลานั้นแล้วกูก็ช่วยอะไรมึงไม่ได้หรอกนะ" เสียงพี่คุณพูดออกมาหลังจากที่เงียบอยู่นาน

"แล้วใครจะขอให้ช่วย? คนอย่างนาย เมื่อก่อนเคยเป็นยังไง นี่ก็ผ่านมาเป็นสิบแล้วนายก็ยังเป็นอย่างนั้น นายก็เป็นได้แค่หมา

รับใช้ที่คอยแต่จะกระดิกหางรอคำสั่งและมีหน้าที่คอยตามหลังณัฐภาสอยู่อย่างนั้น!!" นายธาราพูดด้วยเสียงดูแคลน

"แมร่งเอ้ย!! มึงมัน!!" พี่คุณพูดก่อนที่จะกระชากชากคอเสื้อของอีกฝ่ายเข้ามาหาตัว

"ฉันทำไมหรอ? หรือฉันพูดตรงเกินไป? นายว่าอย่างนั้นรึเปล่าณัฐภาส??" ทั้งๆที่อยู่ในเงื้อมือของพี่คุณแล้ว ยังไม่มีอาการ

เกรงกลัวซักนิด แถมยังหันหน้ามาถามพี่ภาสอย่างลอยหน้าลอยตาใบหน้าที่กวนอารมณ์

"ไอ้สัส!!! หมึงมันอ้อนตีนกูไง!! ไอ้เหี้ยธารา!!!" พี่ภาสบอกก่อนที่จะปล่อยดันผมหลบออกก่อนที่จะกระโดดถีบ

อกของนายธาราที่ยังโดนพี่คุณกระชากคอเสื้ออยู่อย่างนั้น จนกระเด็นหงายหลังทับโต๊ะที่เต็มไปด้วยขวดเครื่องดื่มที่ลูกค้า

เจ้าของโต๊ะสั่งไว้กระจัดกระจายเสียงขวดหล่นแตกดังระนาว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังนอนอยู่อย่างนั้นพี่ภาสก็เข้าไปคล่อมทับ

ประเคนหมัดต่อยลงใบหน้าของนายธาราอย่างไม่ยั้ง นายธาราเมื่อเริ่มตั้งตัวได้ก็เริ่มปัดป้องหมัดของพี่ภาสและจนผลัดกันชก

ผลัดต่อยกันวุ่นวายชุลมุนจนมองแทบไม่เห็นเพราะลูกค้าเริ่มล้อมวงดู กว่าผมจะแซกเข้าไปได้ก็เห็นนายธาราถีบพี่ภาสออก

ให้ห่างและลุกขึ้นก่อนที่จะหยิบขวดเบียร์ที่ร่วงแตกจนเป็นปากฉลามที่พื้นแถวนั้นขึ้นมาจ้วงแทงเข้าเต็มท้องของพี่ภาสอย่าง

เต็มแรง แต่ด้วยความที่โมโหจนบ้าเลือดทำให้พี่ภาสเหมือนจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลยที่โดนแทงเข้าไปเต็มแรงและลึกจนเลือด

ไหลอาบไปทั่วตัวอย่างนั้น พี่ภาสคว้าขวดเบียร์อันเดียวกันกับที่แทงตัวเองจากมือของอีกฝ่ายก่อนที่จะใช้มันฟาดและกรีด

เข้าเต็มๆที่ใบหน้าเป็นทางยาวแนวขวาง เลือดที่ค่อยๆไหลย้อยออกมาจากบาดแผลแหวะหวะบนใบหน้าของนายธาราทำให้

เหล่านักท่องเที่ยวที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความกลัว

"ปิ๊ดๆ ปี๊ดๆ ปี๊ดดดดด.........ทุกคนหยุด!! อยู่ในความสงบ!! ยืนอยู่กับที่อย่าขยับไปไหนเด็ดขาด!! ทางเราได้รับแจ้งเหตุว่า

เกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้นที่นี่ เพราะฉะนั้นได้โปรดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย!!" เสียงนกหวีดังเข้ามาตามด้วย

ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบอีกหลายคน พี่คุณที่ตั้งสติได้ก็คว้าแขนผมจับไว้แน่น พาเดินเข้าไปหาพี่ภาส

ที่แทบจะทรงตัวยืนไม่อยู่แต่ดี่ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยพยุงอีกแรง

"ผมขอพาคนเจ็บไปหาหมอก่อนได้ไหมครับ ถ้ากลัวหนีใจะห้ทางเจ้าหน้าที่ตามไปด้วยก็ได้ครับ" พี่คุณพูดเจรจากับ

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่พักใหญ่จนอีกฝ่ายเห็นว่าพี่ภาสจะไม่ไหวแล้วจึงอนุญาติแต่ก็ให้พาพี่ภาสไปโรงพยาบาลได้

แต่จะให้เจ้าหน้าที่ตามไปควบคุมกันหนีและจะพานายธารานั่นไปทำแผลที่โรงพยาบาลด้วยอีกคน

"อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับที่รัก พี่ไม่ได้เป็นอะไรมากซักหน่อย" พี่ภาสพูดขึ้นตอนที่เรานั่งอยู่บนรถของพี่ภาสที่กำลัง

มุ่งหน้าไปโรงพยาบาลโดยมีพี่คุณเป็นคนขับและมีตำรวหนึ่งคนนั่งที่เบาะข้างคนขับคู่กับพี่คุณไปด้วยกันเพราะว่าจะมา

ควบคุมกันพวกเราหนี ส่วนนายธารานั่นไปรถตำรวจอีกคันนึงที่ขับตามหลังมา

"พี่ภาสไม่หน้าจะใจร้อนอย่างนั้นเลย" ผมบอกเสียงเบาเพราะยังรู้ตกใจกลัวกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่อยู่

"พี่ทนไม่ได้หรอกที่จะฟังใครพูดจาดูถูกเมียพี่กับเพื่อนพี่ได้หรอก แค่กๆ" พี่ภาสบอกก่อนที่จะไอออกมาด้วยหน้าเบ้

"เรื่องนี้เอาไว้คุยกันที่หลังเถอะครับ ถึงโรงพยาบาลแล้ว" ผมพูดตัดบทก่อนเมื่อเห็นว่ารถได้เลี้ยวเข้ามาในโรงพยาบาลแล้ว

ผมขอสารภาพเลยว่าผมยังรู้สึกกลัวไม่หายเมื่อเห็นบุรุษพยาบาลเข็นรถที่มีพี่ภาสนอนสลบลงไปเพราะเสียเลือดมากเข้าไป

ในห้องฉุกเฉิน บอกตรงๆเลยว่าตอนที่ผมเห็นนายธารานั่นใช้ปากฉลามนั่นแทงเข้าที่ท้องพี่ภาส เลือดสีสดที่ไหลออกมา

อย่างไม่ขาดสายเหมือนกับน้ำที่เปิดก๊อกทิ้งไว้นั้นมันทำให้ผมแทบหยุดหายใจ เรื่องที่รู้สึกโกรธเคืองพี่ภาสตอนที่นายธารา

พูดเรื่องที่พี่ภาสนอนกับผู้หญิงทั้งๆที่แต่งงานกับผมแล้วนั้นหายไปกลับพริบตา แทนด้วยความกลัวจับใจ กลัวจนแทบจะ

หยุดหายใจ ถ้าต้องเสียพี่ภาสไปผมจะทำยังไงดี สามอาทิตย์ที่อยู่ด้วยกันมาพี่ภาสดีกับผมมาก ทั้งคำพูดทั้งการกระทำ ไม่ว่า

เป็นเรื่องอะไรหรือผมอยากได้อะไร ต้องการสิ่งไหน พี่ภาสก็จะไม่ขัด และตามใจผมมาตลอด พยามขอร้องให้ผมเปิดใจให้บ้าง

พี่ภาสเหมือนคนที่ช่วยเข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปตั้งแต่ปู่กับย่าผมเสียใจ พี่ภาสให้ทำให้ผมรู้สึกดีเมื่ออยู่ใกล้ มอบความรัก

ความอบอุ่นให้ผมเสมอ และทำให้ผมได้สัมผัสคำว่าครอบครัวอีกครั้ง  ผมอยากจะบอกพี่ภาสเหลือเกินว่าผมไม่ใช่แค่เปิดใจ

ให้พี่หรอกครับ แต่ผมคงจะรักพี่ให้เข้าแล้วสามีของผม
(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/2099644052-member.jpg)

"มันเป็นยังไงบ้างหนูพัส" เจ้าสัวชัชวาลย์เอ่ยปากถามลูกสะใภ้เมื่อเห็นว่าลูกชายตัวเองยังไม่ฟื้นคืนคติ หลังจากที่เค้าไป

จัดการเคลียร์ปัญหากับตำรวจและนายหัวรพี พ่อของธาราธรณ์คู่กรณี ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาของลูกชายเค้าตั้งแต่สมัยเรียน

จนมาถึงตอนนี้เวลาก็ผ่านมาเป็นสิบปีแล้วแต่ทั้งสองคนนี้ก็ยังไม่ลงรอยกันสักที เค้าก็ไม่รู้หรอกว่าทั้งคู่มีปัญหาอะไรกัน

นักหนา เวลาเจอกันถึงได้มีการลงไม้ลงมือให้ได้เลือดกันทุกที แต่เมื่อเห็นว่านั้นมันเป็นเรื่องส่วนตัวของณัฐภาสและ

อีกอย่างเค้าเห็นว่าคือตอนนี้ลูกชายของเค้าโตมากแล้วไม่ใช่เด็กที่ทำผิดทีไรไม่ว่าอยู่ที่ไหนเค้าก็จะต้องวิ่งแจ้นมาดูลูกทุกที

เค้าก็ได้แต่หวังว่าปัญหาของเด็กหนุ่มทั้งสองคนนี้จะจบลงด้วยดีก่อนที่เรื่องราวจะร้ายแรงหรือศูนย์เสียอะไรไปมากกว่านี้

"หมอบอกว่าปลอดภัยแล้วครับ แต่ว่าที่ยังไม่ฟื้นก็เพราะพี่ภาสเสียเลือดไปมากเลยทำให้ร่างกายอ่อนเพลียน่ะครับคุณพ่อ"

พัสกรหันมาตอบเจ้าสัวชัชวาลย์ก่อนจะหันกลับไปจ้องมองใบหน้าของณัฐภาสที่สิ้นฤทธิ์หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

จากการอ่อนเพลียเพราะเสียเลือดมาก ทำให้ตอนนี้ณัฐภาสเหมือนกับเด็กน้อยที่น่าเอ็นดูคนนึง ไม่ใช่ไอ้หน้าหื่นเจ้าเลห์

ที่จ้องแต่จะกดหรือลวนลามเค้าอยู่ตลอดเวลา

"เฮ้อ!! ไอ้ลูกคนนี้นี่หน้า โตจนแต่งงานมีเมียมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้วยังจะใจร้อนวู่วามให้อารมณ์อยู่เหนือเตุผล

ขาดสติจนทำให้เกิดเรื่องเกิดราวใหญ่โตขึ้นมาแถมตัวเองยังต้องมาเจ็บตัวนอนเดี้ยงอยู่อย่างนี้อีก" เจ้าสัวชัชวาลย์

ถอนหายใจอีกครั้งด้วยความเหนื่อยใจเมื่อนึกถึงเรื่องราวของณัฐภาสตั้งแต่โตขึ้นมา ช่วงเข้าสู่วัยรุ่นณัฐภาสก็เริ่มมีเรื่องชกต่อย

ไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะเรื่องพวกผู้หญิงที่เข้ามาตบตีกันถึงในบ้านของเค้าเพื่อแย่งณัฐภาส นี่เค้าผิดพลาดไปตั้งแต่ตอนไหน

ทำไมลูกชายตัวเล็กที่น่ารักของเค้า กลายเป็นหนุ่มเลือดร้อนบ้าคลั่งไปได้ถึงขนาดนี้

"ผมขอโทษครับคุณพ่อที่เป็นสาเหตุให้พี่ภาสต้องเจ็บตัวอย่างนี้" พัสกรหันมายกมือขึ้นไหว้เจ้าสัวชัชวาลย์ก้มหัวลงจนแทบ

จะติดพื้นเพราะคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมด

"ไม่ต้องหรอกหนูพัส มันไม่ใช่ความผิดของหนูเลยนะลูก ไอ้ภาสกับธาราธรณ์มันมีเรื่องมีราวตีรันฟันแทงกันตั้งแต่สมัยเรียน

แล้ว เพราะฉะนั้นหนูไม่จำเป็นต้องโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองหรอก ถึงไม่มีหนูเจ้าสองคนนี้มันก็หาเรื่องมาตีกันอีกจนได้

นั่นแหละ เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันรุนแรงมากกว่าครั้งอื่นเท่านั้นเอง อย่าคิดมาก" เจ้าสัวชัชวาลย์จับพัสกรไปนั่งที่เดิมข้างเตียงผู้ป่วย

ของพัสกรก่อนที่จะพูดบอกอเหตุผลให้พัสกรเลิกโทษตัวเองเสียก่อน

"แล้วนายธาราเป็นอย่างไรบ้างครับคุณพ่อ ทางนั้นเค้าจะเอาเรื่องพี่ภาสหรือเปล่าครับ" พัสกรถามอย่างเป็นห่วงกลัวว่าจะเป็น

เรื่องราวใหญ่โตจนทำให้ณัฐภาสเดือดร้อนถึงกับขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะว่าจากที่เห็นทางนั้นก็เจ็บอยู่ไม่น้อย

"ไม่มีอะไรแล้วแหละ ทางนั้นเอาเรื่องเราไม่ได้หรอกเพราะตำรวจเค้าสรุปคดีจากการฟังจากที่เจ้าคุณเพื่อนไอ้ภาสมันเล่าและ

ผลจากการสอบปากคำของพยานทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการทุกคนพูดตรงกันว่าธาราธรเข้ามาป่วนและหาเรื่องทางเราก่อนบวก

กับที่ไอ้ภาสมานอนเดี้ยงอยู่นี่อีก ทางฝ่ายนั้นก็เลยเอาเรื่องอะไรเราไม่ได้ ทางตำรวจเลยลงบันทึกประจำวันว่าทะเลาะวิวาท

และให้ทั้งสองฝ่ายเสียค่าปรับแล้วแยกย้ายกันไป แต่ทางนั้นแย่หน่อยก็ตรงที่ว่ารอยที่ไอ้ภาสมันฝากไว้ลึกและยาวอยู่ไม่น้อย

หมอเลยยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะสามารถศัลยกรรมตบแต่งให้หน้าเป็นเหมือนเดิมได้หรือเปล่า" เจ้าสัวชัชวาลย์

นั่งที่โซฟารับแขกในห้องพักของณัฐภาสก่อนที่จะเล่าเรื่องทั้งหมดที่เค้าไปจัดการออกมาให้พัสกรรับรู้ด้วยความเหนื่อยใจ

ทางคดีความมันจบหน่ะก็จริง แต่ทางนายหัวรพีพ่อฝ่ายนั้นยังดูอาฆาตมาดร้ายไม่อยากจะจบด้วยเลย แต่เรื่องนี้เค้าเอาไว้คุย

กับณัฐภาสลูกชายเค้าแค่สองคนดีกว่า เค้าไม่อยากจะให้พัสกรลูกสะใภ้คนโปรดของเค้าต้องมาพะวงเครียดกับเรื่องนี้อีกคน

จนทำให้หลานเค้าพลอยจะไม่ได้เกิดมาอีก

"อืมม........." เสียงแผ่วเบาในลำคอของณัฐภาสทำให้อีกสองคนที่เหลือในห้องต้องหยุดบทสนทนา แล้วหันมาสนใจกับ

คนเจ็บที่นอนอยู่บนเตียง

"หนูพัส.....โอ้ย!!" เพราะพลิกตัวแรงไปทำให้กระเทือนที่แผลผ่าตัดจนทำให้ณัฐภาสเจ็บระบมจนต้องร้องออกมาเสียงดัง

ด้วยใบหน้าเหยเก

"ตายแล้ว!! พี่ภาส!! ขยับตัวเบาๆสิครับ แผลยังใหม่อยู่เดี๋ยวแผลก็ปริจนต้องเย็บใหม่หรอกครับ" พัสกรรีบขยับตัวลุกอย่าง

รวดเร็ว ช่วยประคองณัฐภาสลุกขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอนเอาหมอนลองหลังให้ โดยมีเจ้าสัวชัชวาลย์ช่วยปรับหัวเตียงขึ้นให้เล็กน้อย

พอที่จะไม่ทำให้แผลของณัฐภาสฉีกขาดหรือปริจนต้องเย็บใหม่อีกครั้ง

"หนูพัสเป็นอะไรรึเปล่า แค่กๆ แค่กๆ"

"ดื่มน้ำก่อนเถอะครับ แล้วค่อยคุยกันนะพี่ภาส" พัสกรเทน้ำใส่แก้วและจับหลอดให้ณัฐภาสดื่มแก้กระหายก่อน เมื่อเห็นว่า

ณัฐภาสไอออกมา

"หนูพัสไม่ได้เจ็บตรงไหนมั้ย!!!" เมื่อดื่มน้ำเสร็จณัฐภาสก็ถามขึ้นทันทีพลางจับแขนจับหน้าของพัสกรเป็นการสำรวจ

"ใจเย็นๆพี่ภาส พัสไม่ได้เป็นอะไร ไม่ได้เจ็บตรงไหนเลยครับเห็นไหม" พัสกรบอกก่อนที่จะหมุนตัวให้ณัฐภาสดูว่าตนไม่

ได้เป็นอะไร อย่างที่อีกคนคิด

"ดีแล้วครับ!!! พี่เป็นห่วงหนูพัสแทบแย่ กลัวว่าจะโดนลูกหลงไปด้วย พี่ขอโทษนะที่ทำให้หนูพัสต้องเจอเรื่องแบบนั้น"

ณัฐภาสพูดบอกและจับมือข้างนึงของพัสกรลูบไปมาอย่างแผ่วเบาเหมือนว่าต้องการจะขอโทษ

"เรื่องมันผ่านมาแล้ว ก็ช่างมันเถอะครับ" พัสกรบอกก่อนที่จะเอามือที่ว่างอีกข้างนึงไปกุมทับมือของณัฐภาสที่ลูบมือของตน

เล่นและบีบเบาๆเพื่อยืนยันว่าไม่เป็นอะไรจริงๆ นั่นทำให้ณัฐภาสหายกังวลยิ้มออกมาได้

"อะแฮ่มๆ น้อยๆหน่อยไอ้ภาส ฉันที่เป็นพ่อแกก็ยืนหัวโด่อยู่นี้ทั้งคน แต่แกกลับเห็นแค่หนูพัสคนเดียวเนี่ยนะ" เจ้าสัวชัชวาลย์

พูดขัดขึ้นเมื่อเห็นว่าทั้งลูกชายและลูกสะใภ้หลุดไปอยู่ในโลกส่วนตัวสีชมพูของสามีภรรยาเข้าไปแล้ว

"ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย!! พ่อก็พูดเกินไป!! ผมก็แค่เป็นห่วงเป็นเมียผมก็เท่านั้นเอง" ณัฐภาสเถียง

"พึ่งจะมาห่วงอะไรหนูพัสตอนนี้ห๊ะไอ้ภาส!! ถ้าเมียแกเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆแกจะรู้เรื่องอะไรไหมไอ้ภาสในเมื่อแกก็แทบ

ปรางตายเหมือนกันหน่ะ แกโตแล้วนะไอ้ภาส แกโตจนแต่งงานมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วน่ะอีกหน่อยแกกับหนูพัสก็ต้องมีลูก

แกเป็นพ่อเป็นผัวนะ เป็นหัวหน้าครอบครัว แกมีหน้าที่ปกป้องดูแลให้ลูกให้เมียปลอดภัยและมีความสุข ไม่ใช่ดีแต่หาเรื่อง

หาราวเอาภัยอันตรายเข้าบ้าน ที่ฉันพูดทั้งหมดเนี่ยก็เพราะว่าฉันรักและหวังดีกับแกนะไอ้ภาส เพราะแกเป็นลูกชายคนเดียว

ของฉัน เป็นเหมือนชีวิตทั้งหมดของฉัน ตอนนี้แกอาจจะยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดก็ได้ แต่เมื่อไหร่ที่แกมีลูกเป็นของแกเอง

ฉันเชื่อว่าเมื่อถึงวันนั้นแกจะเข้าใจฉันเอง ปรับตัวซะใหม่เถอะภาส นิสัยมุทะลุดุดันของแกนะเลิกซะเถอะ แล้วไอ้นิสัยใจร้อน

วู่วามของแกนั่นอีกเลิกได้ก็เลิกซะภาสก่อนที่แกจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญในชีวิตของแกไป และเมื่อถึงวันนั้นแล้วแกจะไม่สามารถ

ย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้ทันเลย พักผ่อนซะณัฐภาส พ่อไปก่อนนะหนูพัส"

"พ่อครับ/คุณพ่อ" เสียงของณัฐภาสและพัสกรเอ่ยรั้งเรียก   แต่เมื่อเจ้าสัวชัชวาลย์พูดสอนณัฐภาสจบก็ขอตัวกลับทันที

ไม่ฟังเสียงเรียกของณัฐภาสและพัสกรอีกเลย เจ้าสัวชัชวาลย์หยุดเดินมานั่งพักที่สวนหย่อมของโรงพยาลที่ตอนนี้

ทั้งเงียบและปลอดคนเพราะดึกมากแล้ว นึกคิดไปถึงเรื่องเก่าๆตอนที่เค้าได้สูญเสียภรรยาสุดที่รักที่ร่วมทุกร่วมสุขกันมา

ร่วมยี่สิบปีอย่างไม่มีทางหวนคืน เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นก็เพราะความมุทะลุ ความดื้อรั้นใจร้อนไม่ฟังใครของเค้า

ที่เหมือนกับณัฐภาสในตอนนี้ วันที่เกิดเรื่องนั้นเค้ามีการเจรจาค้าเพชรกับนักธุรกิจรัสเซียล็อตใหญ่ แต่อีกฝ่ายกลับส่งของ

ให้ไม่ครบกับจำนวนเงินที่ตกลงกันไว้ ทำให้เกิดมีปากเสียงและวิวาทกันขึ้นมาลูกน้องทั้งของเท้าและลูกน้องของอีกฝ่าย

กระโจนเข้าหากันเหมือนไฮยีน่าที่รุมทึ้งแย่งเหยื่อกันแต่แล้วอีกฝ่ายนึงก็ควักปืนเล็งขึ้นมาทางเค้า แต่เค้ากลับไม่เห็นมัน

เค้ามารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยอนเสียงปืนและเห็นร่างไร้ลมหายใจของภรรยานอนจมกองเลือดอยู่แล้ว ส่วนคู่กรณีอีกฝ่าย

ก็หนีไปได้ กับอีแค่เรื่องที่เข้าใจคลาดเคลื่อนกันนิดเดียวถ้าเค้าใจเย็นและค่อยๆเจรจาป่านนี้ภรรยาสุดที่รักของเค้าก็คงจะ

ได้อยู่รอดูความสำเร็จและความสุขของลูกชายด้วยกัน ตอนนี้เค้าก็ได้แต่หวังว่าณัฐภาสจะไม่ก้าวพลาดอย่างเค้า

 

...

งื้อออ!!! ตอนนี้จะถูกใจกันรึป่าวก็ไม่รู้ มี่ไม่ถนัดฉาบู้เลย เอ็นซีก็แต่งไม่เป็น

จะหวานก็ไม่ได้ จะดราม่าก็ไม่สุด อื้ออออ....สรุปแล้วคือมี่ไม่ได้เรื่องสักอย่างเลย

ถ้าไม่ถูกใจก็ต้องขอโทษด้วยน้าา...มีจะพยายามให้มากกว่านี้ ขอบคุณทุกๆคอมเม้นทุกๆกำลังใจนะคะ

มันช่วยให้มีมีแรงฮึดสู้!! ได้มากเลย ใครที่หลงเข้ามาอ่านก็ขอบคุณด้วยนะคร้าาา

แอบบอก(กระซิบ)คุณผู้อ่าที่น่ารักไว้ก่อนว่ารอหลานกันอีกไม่นานหรอก!! ทนกันอีกนิดนึงนะคะ

แต่คุณผู้อ่านอย่าเอาไปบอกหนูพัสกับอีพี่ภาสก่อนนะคะเดี๋ยวไม่เจอร์ไปร์(เซอร์ไพร์) เย้ย!!! จีซองโพล่มาจากไหนเนี่ย

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 10-06-2015 11:32:39
ดูท่าว่าความใจร้อนของพี่ภาสจะทำให้ความแค้นระหว่างกันฝังรากลึกลงไปอีกนะคะเนี่ย และทางนายธาราก็คงจะกัดทางนี้ไม่ปล่อยแน่นอนเลย :เฮ้อ: ชักจะเป็นห่วงหนูพัสกับเด็กน้อยที่กำลังจะมาเสียแล้วสิ~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 10-06-2015 11:59:25
เรื่องใหญ่เลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 10-06-2015 12:39:31
อร๊ายพัชเปิดใจแล้ว ทีนี่ก็รอลูกขอพัชกับภาสต่อ 555

มะไรจะทำลูก หึหึ :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 10-06-2015 16:01:32
ธาราคงไม่จบง่ายๆ แหง
รอวันปั๊มลูก อิอิ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 10-06-2015 16:46:08
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 10-06-2015 17:00:01
ตอนนี้หนูพัสคงจะรับพี่ภาสเป็นสามีแล้วนะ อ่านฉากที่ทะเลาะกับธารา พี่ภาสนี่ปากจัดใช้ได้ พูดซะแทงใจดำไปเลย ๕๕๕  แต่งงานไปเกือบเดือนแล้ว น่าจะเผด็จศึกเมียได้แล้วมั้งภาส ไม่ควรปล่อยไว้นาน  ๕๕๕๕   รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร็วๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 10-06-2015 17:05:44
พัสสู้ๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-06-2015 17:55:12
เรื่องใหญ่เลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: SheGame ที่ 10-06-2015 20:52:05
สู้ๆนะคะคุณนักเขียน เป็นกำลังใจให้ o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 11-06-2015 11:44:51
ทารานั่นต้องกลับมาทำอะไรอีกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-06-2015 13:45:29
ชอบแนวนายเอกท้องได้สุดๆ!!
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 12-06-2015 15:27:07
แรง.ร้าย.รัก...คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 8     

 

 

 

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1978331621-member.jpg)

          หึ!! หลับสบายเลยนะพี่ภาสสามวันที่ผ่านมา ก็คือที่โรงพยาบาลสองวันที่บ้านเมื่อวานหนึ่งวันผมดูแลพี่ภาสอย่างดีมาตลอด

ทั้งเช็ดตัว ป้อนข้าว จัดยา ไม่ว่าพี่ภาสจะเอาอะไรผมก็ทำให้หมด แต่วันนี้แผลพี่ดีขึ้นมากแล้ว มันก็สมควรถึงเวลาที่ผมจะจัดการ

คิดบัญชีกับพี่ภาสได้แล้วแหละ ตั้งแต่ได้ยินที่นายธาราพูดเรื่องที่พี่ภาสไปนอนกับคนอื่นตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงวันนี้ ถึงแม้ว่าผม

จะไม่ได้แค้นเคืองอะไรเท่าวันนั้นแล้ว แต่ผมยอมรับเลยว่าพอนึกถึงทีไร ผมก็ยังโกรธและรู้สึกไม่ดีอยู่มากเลยๆหล่ะ อยากจะตบ

จะตีอีผัวบ้านี่ให้ตายกันไปข้างนึง พวกคุณเข้าใจความรู้สึกของผมใช่ไหมครับผัวมีอีหนูทั้งๆที่แต่งงานกันได้ไม่ถึงเดือน ผมคงจะ

เป็นเมียที่แย่มากเลยใช่ไหมครับ ที่ไม่สามารถมอบความสุขให้สามีได้ ผมบกพร่องในหน้าที่สินะ แต่พวกคุณรู้อะไรไหมถ้าแค่

พี่ภาสมันขอผมดีๆนะผมจะยอมมันเลย เพราะยังไงๆผมก็คือเมียและเมคเลิฟก็คือหนึ่งในหน้าที่ๆผมต้องทำเพราะยังไงๆผมก็

ต้องอยู่กับพี่ภาสมันไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว ผมไม่คิดจะแต่งงานหลายครั้งหรอกนะ ผมนิ่งๆเฉยๆอีผัวบ้านี้กลับไม่ชอบ มันคงชอบ

ให้ผมวีนเหวี่ยงสินะ หวานๆไม่ชอบคงจะชอบแบบแซ่บๆต่อไปนี้ผมก็จะสนองผัวให้ถึงใจกับไปเลย เลี้ยงกันด้วยภาษาดอกไม้

แล้วไม่ดีก็อยู่กันแบบแซ่บๆด้วยลำแข้งก็แล้วกัน

"คุณพ่อครับสวัสดีครับ" ตอนนี้ผมขับรถที่พี่ภาสมันซื้อให้นั่นแหละมาที่บ้านของคุณพ่อพี่ภาส

"อ้าว!! หนูพัส!! มาได้ยังไงลูก"

"ขับรถมาครับ พัสจะมาขออาศัยอยู่กับคุณพ่อสักสองสามวันได้ไหมครับ" ผมบอกจุดประสงค์ตั้งใจมาในวันนี้

"อ่าว!! ทำไมหล่ะ ทะเลาะกันมาหรอ? แล้วไอ้ภาสมันไปไหนทำไมปล่อยให้หนูมาคนเดียว?"

"ไม่ได้ทะเลาะกันหรอกครับคุณพ่อ แต่แค่ผมอยากให้พี่ภาสอยู่คนเดียวจะได้มีเวลาคิดทบทวนตัวเองบ้างน่ะครับ"

"ไม่ได้ทะเลาะกันแล้วไอ้ภาสมันทำอะไรให้หนูพัสไม่พอใจหล่ะลูก"

"วันที่มีเรื่องกันนายธาราบอกว่าพี่ภาสไปลากเด็กของเค้ามานอนกกไว้ทั้งคืน ผมจะไม่เชื่อคนอื่นและคิดมากเลยครับถ้าพี่ภาส

ไม่มีกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงติดกลับบ้านมาทุกคืน แถมปกติผับปิดตีสี่แต่กว่าพี่ภาสจะกลับบ้านก็แปดเก้าโมเข้าไปแล้ว บางวัน

กลับมาตอนเที่ยงก็มีนะครับ" ผมเล่าเรื่องราวต่างๆให้คุณพ่อฟังในระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมา ก็อย่าที่เคยบอกนั้นแหละครับว่า

พี่ภาสดีกับผมทุกอย่าง อยากได้อะไรก็หามาให้ผมทุกอย่าแต่มีเรื่องเดียวที่พี่ภาสไม่ดีเลยก็คือเรื่องผู้หญิง ช่วงแรกๆกลับบ้านมา

ตอนหกโมงบ้างเจ็ดโมงบ้าง แต่พอเข้าอาทิตย์ที่สามมานี่จะกลับบ้านแต่ละทีก็ปาเข้าไปสิบเอ็ดโมงไม่ก็เที่ยงแถมกลิ่นน้ำหอม

ผู้หญิงยังฉุนจนแสบจมูกไปหมด  ถ้าขืนยังเป็นอย่างนี้อยู่อีก สักวันพี่ภาสอาจจะพลาดทำใครท้องขึ้นมาก็ได้ใครจะไปรู้

ผมไม่อยากเป็นเมียหลวงหรอกนะผมอยากเป็นแค่เมียเพียงคนเดียวของพี่ภาสเท่านั้น

"อย่างนี้เองหรอ? ถ้าอย่างนั้นหนูพัสก็อยู่กับพ่อที่บ้านนี่แหละ แล้วถ้าไอ้ภาสมันยังไม่สำนึกก็ปล่อยให้มันอยู่อย่านั้นนั่นแหละ

ไอ้นิสัยเจ้าชู้ของมันนี่ต้องสอนให้หลาบจำ ไอ้ลูกไม่รักดี!! ชอบนักไอ้ของคาวที่ไม่ผ่าน อย.น่ะ" คุณพ่อเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันบอก

"พัสขอรบกวนคุณพ่อสักระยะนะครับ"

"เอากระเป๋าไปเก็บก่อนเถอะ นอนห้องไอ้ภาสมันนั้นแหละ พ่อขอตัวไปทำงานก่อนวันนี้พ่อยุ่งๆทั้งวันเลยเจอกันอีกทีก็ตอนเย็น

เลยนะหนูพัส เดี๋ยวพ่อจะมากินข้าวเป็นเพื่อน แล้วถ้าไอ้ภาสมันมาก็อย่าใจอ่อนเร็วนักหล่ะ สั่งสอนมันเสียบ้างก็ดี!!"

"ขอบคุณครับคุณพ่อ!!" ผมยกมือไหว้ขอบคุณคุณพ่อก่อนที่ท่านจะตบไหล่ผมเบาสองทีแล้วก็รีบขึ้นรถออกไปทำงานเลย

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1843883168-member.jpg)

          ฮ้าว!!! อ่า.....กี่โมงแล้วหล่อเนี่ยทำไมแดดส่องเข้ามาแรงขนาดนี้ หืออออ....บ่ายสอง!!! หนูพัสทำไมไม่ปลุกเหมือนทุกวันอ่ะ

ในห้องไม่มี ห้องน้ำไม่มี ในครัวก็ไม่มี ห้องนั่งเล่นก็ยังไม่มีอีกกก....เมียกูไปไหนว๊ะเนี่ย!!!

"หนูพัส พัสๆ หนูพัสครับ!!! ป้าชื่น!! สร้อย!! สน!! มีใครอยู่แถวนี้บ้าง!!! สน!! ไอ้สนเว้ย!!! คนบ้านนี้มันไปอยู่ไหนกันหมดว๊ะ"

ผมเดินหาหนูพัสจนทั่วบ้านตะโกนจนคอจะแตกก็ไม่มีใครโผล่หน้ามาซักคน

"ครับๆมาแล้วครับ!! ลูกพี่เรียกไอ้สนทำไมครับ มีอะไรให้ไอ้สนรับใช้รึป่าวครับ!!" โผล่มาคนนึงแล้ว ไอ้สนครับมันมีหน้าที่

เมื่อก่อนหน้าที่มันมีแค่เฝ้าบ้านเฉยๆหรือไม่ก็คอยเก็บศพผมกลับบ้านเวลาที่ผมเมาจนขับรถไม่ไหวนั่นแหละ มันเป็นเด็กอายุแค่

ยี่สิบเองไม่มีพ่อแม่หรอกครับแต่ผมกับพ่อเอามันมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆแล้ว มันก็เหมือนกับหลานผมคนนึงให้มันเรียนมันก็บอกว่า

หัวมันไปไม่ไหวขอดูแลบ้านทำสวนขับรถให้ลูกพี่ดีกว่า แต่ตอนเนี่ยเรื่องนี้คือมันไม่ใช่ประเด็นป่ะว่ะ

"เมียกูไปไหนว๊ะ มึงเห็นหนูพัสป่ะ" ผมถามมันไป

"เห็นคัรบ!! คุณพัสลากกระเป๋าเสื้อผ้าใส่รถ แล้วก็ขับออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้วครับ" ไอ้สนมันบอกก่อนจะทำท่าทางให้ดู

"เวร!!! แล้วมึงไม่ขึ้นไปบอกกูว๊ะ ไอ้สนมึงนะมึง จะไปไหนก็ไป ไปไกลๆก่อนที่กูจะเตะตูดมึง!!"

"ไรอะลูกพี่!! ก็คุณพัสบอกว่าคุยกับลูกพี่แล้วนี่ ไอ้สนไม่เกี่ยวน่ะ"

"เออๆไปไกลๆตีนกูเลยไอ้สน!! เดี๋ยวกฌเจ็บตัวหรอกมึง!!"

"คร้าบบๆๆ ลองโทรหาคุณพัสดูสิครับลูกพี่" พูดจบก็วิ่งไปแล้วครับตกลงมันกลัวกูจริงป่ะว่ะน่ะ

          เฮ้อ...คุยกับพี่แล้วตอนไหนหล่ะครับหนูพัส เออจริง!! ของไอ้สนมันโทรศัพท์ก็มีทำไมผมคิดไม่ได้หล่ะเนี่ย ลองโทรดู

หน่อยดีกว่า เผื่อจะแค่ไปซื้อของก็ได้(เอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเนี่ยนะ?:มี่) (นั่นแหละน่ามี่ไม่ต้องยุ่งได้ป่ะ? เรื่องผัวเมียอ่ะ!!:ภาส)

(อ่าวเชี่ย!พี่ภาสครับถ้าไม่มีคุณกูนี่คุณมึงจะได้เจอหนูพัสป๊ะว๊ะ!!:มี่) (เหอะน่า!!เข้าเรื่องๆฉากนี้กูตามหาเมียอยู่เว้ยน้องมี่!!:ภาส)

         ตื๊ดดดดดด.....(เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ฯ) ตรู๊ดๆ ตรู๊ดดดด....

         ตื๊ดดดดดด.....(เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ฯ) ตรู๊ดๆ ตรู๊ดดดด....

         ตื๊ดดดดดด.....(เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ฯ) ตรู๊ดๆ ตรู๊ดดดด....

          ตื๊ดดดดดด.....(เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ฯ) ตรู๊ดๆ ตรู๊ดดดด....

          ตื๊ดดดดดด.....(เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ฯ) ตรู๊ดๆ ตรู๊ดดดด....

           แมร่งงงงเอ้ย!!!!! หนูพัสไปไหนว๊ะ!!! โทรไปก็ไม่รับ แถมยังปิดเครื่องใส่อีก!! อย่าให้พี่เจอนะ!! จะจับขังไว้แต่ในห้อง

ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันเลยคอยดู!! แล้วกูจะไปตามหาที่ไหนดีว๊ะเนี่ย!! พ่อ!! เออใช่!! พ่อจะต้องรู้แน่ๆเลยว่าหนูพัสไปไหน

          ปึงงงงงง!!!   

"เบาๆเว้ยไอ้ภาสประตูฉันจะพังเอา แล้วนี่เป็นอะไรไปอีกหล่ะถึงได้มาหาฉันถึงบริษัทเนี่ย!!" พอผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็รีบ

ขับรถมาหาพ่อถึงบริษัทเลย เข้ามาก็แมร่งมีแต่คนมองแบบสายตาดูถูกดูแคลน กะอีแค่เปิดผับมันต่ำต้อยตรงไหนว๊ะผมไม่เข้าใจ

คอยดูเถอะ!! ถ้าผมได้มาบริหารที่นี่แล้วผมจะทำให้ไอ้พวกริ้นไรพวกนี้อึ้งเลย!! ถึงผมจะดูบ้าๆบอๆ เหมือนไม่ได้เรื่องอย่างนี้

แต่ผมก็จบโท MBA จากสแตนฟอร์ดเลยนะแถมยังได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาอีกต่างหากไม่อยากจะคุย โธ่....

"เห็นเมียผมไหมพ่อ!!"

"เมียคนไหนของแกหล่ะไอ้ภาส!!! แกถามหาเมียคนไหนหรอ??" น้าน!!! เป็นอะไรไปอีกหล่ะพ่อ!! คนยิ่งเคลียดๆอยู่ยังจะมา

ทำลอยหน้าลอยตาพูดกวนอีก

"จะคนไหนอีกหล่ะ!! ก็หนูพัสลูกสะใภ้คนโปรดของพ่อไง!! ผมมีเมียแค่คนเดียวนะ!! พ่อคิดว่าผมจะหมายถึงใครได้อีก"

"อ้าว!! ฉันก็คิดว่าแกถามหาพวกผู้หญิงที่แกไปนอนกกนอนกอดทั้งคืน แล้วทิ้งให้หนูพัสนอนเหงาอยู่บ้านคนเดียวนั่นซะอีก

นี่ฉันเข้าใจผิดไปหรอเนี่ย? ตกลงแล้วนี่แกยังเห็นหนูพัสเป็นเมียอยู่อีกหรอว๊ะไอ้ภาส!!!" พ่อตบโต๊ะเสียงดังก่อที่จะลุกขึ้นยืน

ตะคอกเสียงดังใส่ผม นี่แสดงว่าไปรู้อะไรมาอีกหล่ะซิ!! สงสัยว่าหนูพัสก็จะหนีผมไปด้วยเหตุผลนี้เหมือนกันสินะ!!

"แล้วตกลงพ่อรู้รึป่าวว่าเมียผมไปไหน!! ถ้ารู้ก็บอกผมหน่อยเถอะพ่อ ผมขอร้อง!! พ่อไม่อยากมีหลานแล้วหรอ??" ผมมองข้าม

อารมณ์โกรธของพ่อไปเพราะไม่อยากจะต่อไต่สาวความให้ยืดยาว เดี๋ยวจะพาลทะเล๊าะกันเปล่าๆ

"ฉันไม่อยากให้หลานมันเกิดมาเห็นมารับรู้ตอนพ่อมันยังชั่วยังเลวเป็นปลาไหลอยู่อย่างนี้หรอก!! แล้วถึงฉันจะรู้ฉันก็ไม่บอก

แกหรอกไอ้ภาส ถ้าแกอยากได้หนูพัสกลับไปอยู่ด้วยกัน แกก็แก้ไขปรับปรุงตัวซะ แล้วก็ใช้ความพยายามของแกตามหาตามง้อ

หนูพัสเอาเองเถอะ!! เรื่องนี้ฉันไม่ขอยุ่ง!! ถ้าหมดธุระของแกแล้วก็ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว ฉันจะทำงาน!!"

"โธ่...พ่อ!!!" พูดจบก็ก้มหน้าก้มตาดูเอกสารไม่สนใจผมอีกเลย พ่อนะพ่อ!! แล้วนี่ผมมาเสียเวลาเปล่าหรอเนี่ย เรื่องเมียก็ไม่รู้

ว่าไปอยู่ไหน แถมยังเอาหน้ามาให้พ่อด่าเฉยๆอีก เซ็งเว้ย!!!! ก่อนหน้านี้ผมไปที่บ้านพ่อมาแล้ว ถามใครก็ไม่มีใครเห็น รถของ

หนูพัสก็ไม่มีจอดอยู่ที่บ้านของพ่อ แล้วหนูพัสหายไปไหนได้เนี่ย!!!  หงุดหงิดชิบ!!!! แมร่งเอ้ยยย!!!!

http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1168742768-member.jpg

          จะถามว่าตอนนี้ผมอยู่ไหนอ่ะหรอครับ?? คำตอบก็คืออยู่ห้างครับ!! ห้างที่พี่ภาสพาผมมาเมื่อครั้งนั้นนั่นแหละครับ

กะว่าจะมาเดินเล่นแก้เซ็งซักพัก เดี๋ยวก็กลับแล้วแหละครับ เพราะผมไม่ได้อยากได้อะไรเป็นพิเศษหรอกครับ แต่พอเดินไป

เดินมาเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ก็ดันได้กระเป๋าใบใหม่ติดมือมาสองใบซะงั้นไม่รู้ว่าผมเผลอไปซื้อมาตอนไหน คึๆ แต่ผมก็ใช้

เงินของผมซื้อเองไม่ได้ใช้แบล็คการ์ดของพี่ภาสหรอกครับผมก็พอมีเงินเก็บของผมบ้างเหมือนกัน ไม่รู้ว่าตอนนี้ไอ้พี่ภาสมัน

จะเป็นยังไงกินข้าว กินยา ล้างแผลแล้วรึยังก็ไม่รู้ แต่ป่านนี้แล้วจนเกือบจะมืดอยู่แล้วพี่ภาสคงรู้แล้วแหละว่าผมหนีออกมา

จากบ้านน่ะ ช่างมันเถอะ!! อย่าไปคิดอะไรให้วุ่นวายเลยคนแบบนั้นต้องดัดนิสัยกันบ้าง

"พัส!! น้องพัสรึป่าวครับ!!" เดินอยู่เพลินๆก็มีเสียงคนเรียกผมดังขึ้นมา

"อ้าว!! สวัสดีครับพี่ภู ไม่ได้เจอกันนานเลย" ผมหันกลับไปทักพี่ภูผาเพื่อนที่เรียนรุ่นเดียวกันกับผมแต่ที่เรียกพี่ก็เพราะว่าพี่ภูผา

เค้าอายุมากกว่าผมตั้งห้าปีแน่ะรุ่นเดียวกันกับพี่ภาสนั่นแหละแต่พี่เค้ามาเรียนป.ตรี ที่คณะผมเป็นใบที่สองน่ะ ผมเคยถามเหมือน

กันว่าทำไมไม่เรียนต่อโทเลย พี่ภูก็บอกว่าอยากเรียนตั้งแต่เริ่มแรกน่ะ ติสจริงๆ พี่ภูนิสัยดีมาก สุภาพ อ่อนโยน มีน้ำใจ คอยช่วย

เหลือผมตลอดเลยเพราะเราอยู่กลุ่มเดียวกันด้วยไงครับ

"ก็ตั้งแต่เรียนจบพี่ก็กลับมารับช่วงต่อจากพ่อเลยน่ะสิ พอยุ่งมากๆก็ไม่ได้ติดต่อกับใครเลย ว่าแต่น้องพัสเถอะมาทำอะไรที่ภูเก็ต

ฮะเรา มาเที่ยวหรือยังไงแล้วมากับใครพี่เดินตามเราอยู่ตั้งนานไม่แน่ใจว่าใช่เรารึเปล่าเพราะเราสวยขึ้นเยอะเลยนะน้องพัส"

พี่ภูพูดเร็วๆถามเยอะมากจนผมแทบฟังไม่ทันเลย แถมยังขยี้หัวผมจนยุ่งอีก

"โธ่...พี่ภูอ่ะผมพัสยุ่งหมดแล้ว พัสย้ายมาอยู่ที่ภูเก็ตนี่แล้วเหมือนกันครับ"

"จริงดิ!! แล้วพัสมาอยู่แถวไหนอ่ะ ครอบครัวพัสย้ายมาที่นี่หรอ" พี่ภูทำหน้าดีใจเหมือเด็กได้ของเล่นเลย

"ป่าวหรอกพี่!! พัสแต่งงาน แล้วก็ย้ายมาอยู่กับสามีนะครับ" ผมตอบแล้วมองหน้าพี่ภู แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนผมได้ยินเสียงหายใจ

ของพี่ภูสดุดเลยแล้วรอยยิ้มดีใจของพี่ภูก่อนหน้านี้หายไปเร็วขนาดนั้นก็ไม่รู้ นี่ผมพูดอะไรผิดไปรึป่าวครับเนี่ย

"อ่าว...หรอ? พัสแต่งงานกับใคร? ตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมพี่ถึงไม่รู้เรื่องเลยหล่ะ" สงสัยว่าพี่ภูจะรู้ว่าตัวว่าเงียบไปนานก็เลย

ยิ้มเจื่อนๆให้ผมก่อนที่จะถามต่อ

"แต่งได้ประมาณเดือนนึงแล้วครับ พัสแต่งกับพี่ภาสครับ พัสไม่แน่ใจว่าพี่ภูจะรู้จักพี่ภาสรึป่าว" ผมตอบกลับไป

"ภาสไหนหล่ะ บอกชื่อจริงๆของเค้าหน่อยได้ไหมเผื่อพี่จะรู้จัก" พี่ภูถามต่อ

"อืม...'ณัฐภาส อัครจินดากรณ์' พี่ภูพอจะรู้จักรึป่าวครับ"

"รู้จักสิ!! ใครในภาคใต้จะไม่รู้จักณัฐภาส อัครจินดากรณ์ ลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวชัชวาลย์เจ้าพ่อค้าเพชรหล่ะ ที่ทั้งหล่อ ทั้งรวย

แถมยังเป็นเจ้าของผับชื่อดังอีกตั้งหลายสาขา เผลอๆนี่จะรู้จักกันทั่วประเทศเลยมั้ง สามีพัสเค้าดังมากเลยนะ" พี่ภูบอกออกมา

"ดังหรือป่าว อันนี้พัสก็ไม่รู้หรอกครับ พัสเพิ่งจะมารู้จักกับพี่ภาสก็เมื่อวันแต่งงานนั่นแหละครับ" อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

จริงๆครับว่าพี่ภาสดังทางด้านไหน สงสัยจะดังในหมู่สาวๆมั้งครับ

"อ้าว!! ทำไมหล่ะไม่ได้คบหรือรักกันมานานหรอกหรอถึงตกลงแต่งงานกันน่ะ" พี่ภูทำท่าตกใจก่อนที่จะถามต่อ

"ป่าวหรอกครับ!! เค้าไม่ได้รักพัสหรอก เราสองคนโดนผู้ใหญ่บังคับให้แต่งทั้งคู่น่ะ" พูดถึงตอนนี้แล้วผมรู้สึกแย่ยังไงก็ไม่รู้

ถ้าไม่โดนพ่อแม่บังคับแต่งงานพี่ภาสคงจะมีความสุขมากกว่าที่อยู่กับผมตอนนี้ อยากทำอะไรก็ทำไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ

แอบกินแอบกกเด็กอย่างนั้น

"อย่างนั้นเองสินะ!! อย่าทำหน้าเศร้าอย่างนั้นสิพัส!! พี่ไม่ถามอะไรแล้ว นี่พัสมาคนเดียวใช่ไหม?" อะไรของพี่ภูนะวันนี้ทำไม

ถึงเปลี่ยนอารมณ์ไปมาปล่อยขนาดนั้น เมื่อกี้ยังหน้าบึ้งอยู่เลยแต่ตอนนี้เปลี่ยนมายิ้มซะกว้างเชียว แต่ก็ช่างเถอะ! สงสัยจะ

ทำงานหนักเกินไป

"อื้อ!! พัสมาเดินเล่นคนเดียว"

"ดีเลย!! ถ้าอย่างนั้นก็อยู่กินข้าวเป็นเพื่อนพี่สักมื้อสิ พัสไม่รีบไปไหนใช่มั้ย?" พี่ภูพูดชวน

"ก็ดีเหมือนกันครับพัสกำลังอยากหาเพื่อนคุยอยู่พอดี ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่พัสยังไม่มีเพื่อนเลย แต่เดี๋ยวพัสขอโทรบอกคุณพ่อ

ของพี่ภาสก่อนน่ะ ท่านจะได้ไม่เป็นห่วงพัส" ผมขอตัวเดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อโทรบอกพ่อพี่ภาสท่านจะได้ไม่ต้องรอ

"เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ?" พอผมเดินกลับมาพี่ภูก็ถามทันทีเลย ส่วนคุณพ่อท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรที่ไม่กลับไปทานข้าวเย็นด้วย

แค่บอกว่าให้ดูแลตัวเองและบอกว่าเมื่อตอนเที่ยงพี่ภาสไปโวยวายอาละวาดถามหาผมกับคุณพ่อที่บริษัทมา

"เรียบร้อยครับ!! พัสว่าเราไปกันเถอะ ว่าแต่เราจะกินอะไรกันดีน้าา.."

"พี่กินอะไรก็ได้ แล้วแต่พัสเลย"

"ถ้าอย่างนั้นเราไปกินชาบูกันเถอะ พัสอยากกินอ่ะ ตั้งแต่กินด้วยกันทั้งกลุ่มตอนนั้นพัสก็ยังไม่ได้กินอีกเลย"

"เอาสิ!! พี่ก็อยากกินเหมือนกัน พี่มีร้านจะแนะนำรับรองว่าพัสต้องชอบร้านอยู่ที่ชั้นสองของห้างนี้นี่แหละ" ตกลงกันเสร็จ

ผมกับพี่ภูก็ไปที่ร้าทันที อร่อยสมกับที่พี่ภูโฆษณาจริงๆด้วย เนื้อก็สด สะอาด ผมชอบมากๆเลย พอกินเสร็จพี่ภูก็อาสาเป็นเจ้ามือ

หลังจากเดินย้อยกันอยู่ซักพักตอนนี้ผมกับพี่ภูก็อยู่ที่จอดรถกำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมันแล้ว

"เอาไว้วันหลังเรามากินข้าวด้วยกันอีกได้ไหมพัส"

"ได้สิครับทำไมจะไม่ได้ พูดเหมือนเป็นคนอื่นไปได้ พี่ภูน่ะเป็นคนสำคัญของพัสเป็นเพื่อนคนเดียวของพัสเลยน้าาาา...."

"ได้แค่เพื่อนสินะ"

"พี่ภูพูดอะไรนะ!! พัสไม่ได้ยิน" ผมถามเพราะว่าเหมือนพี่ภูพูดอะไรออกมาแต่ผมได้ยินเบามากจนจับใจความไม่ได้

"ป่าวหรอก!! พัสขบรถกลับบ้านดีๆนะ ถึงแล้วโทรบอกพี่ด้วยพี่เป็นห่วง"

"งื้ออ....พี่ภูขยี้หัวพัสทำไมเนี่ยเสียทรงหมด" ผมบ่นและยู่หน้าใส่พี่ภูก็เพราะพี่ภูขยี้หัวจนของผมจนเสียทรงนะสิ

"ฮ่าๆ พัสนี่น่ารักไม่เปลี่ยนเลยนะ"

"แน่นอนหนูพัสซะอย่าง!! ต้องน่ารักที่สุดอยู่แล้ว!!" ผมแกล้งพูดและทำหน้าบ้าๆใส่พี่ภู

"ฮ่าๆๆๆ" คราวนี้พี่ภูระเบิดหัวเราะออกมาเลย

"มีความสุขจังนะหนูพัส!! หนีผัวออกมาเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้น่ะห๊ะ!!!!!!!"

"พี่ภาส!!!!"

...

แร่วๆแร่วๆแล้ววววว....งานนี้จะอยู่ทีมใครดี {พี่ภาสvsหนูพัส}

ตอนหน้าเรามาเชียร์ [ผัวร้ายvsเมียแรง] กันเถอะค่ะ

ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ

 

 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 12-06-2015 16:03:23
ถ้าอิพี่ภาสมันทำยังงั้นจริง มันก็สมควรโดนนน! -_-++
หนูพัสอย่าไปยอมมันนะ!
อิพี่ภาส เห็นป่ะว่าหนูพัสเสน่ห์แรงแค่ไหน สมบ๋อ!!
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 12-06-2015 16:19:59
พี่ภาสไป 'นอน' กับคนอื่นมาจริงๆ เหรอคะ? แค่กลิ่นน้ำหอมกับเข้าบ้านผิดเวลาก็ไม่ได้หมายความว่าต้องทำอย่างที่ธาราพูดเสียหน่อยนี่นา..

อีกอย่างพี่ภาสทำงานอยู่ในผับคนก็เบียดเสียดกันขนาดนั้นก็ต้องมีกลิ่นติดตัวกันบ้างนั่นล่ะ คงต้องรบกวนพี่ภาสออกมาชี้แจงด่วนๆ แล้วล่ะค่ะว่าทำแบบนั้นจริงไหม?

ส่วนเรื่องที่กลับเข้าบ้านผิดเวลา เราว่าดีไม่ดีพี่ภาสอาจจะออกไปนอนสงบจิตสงบใจที่อื่น เพื่อไม่ให้ตัวเองหน้ามืดจับหนูพัสปล้ำก็ได้ล่ะมั้งคะนั่น :laugh:

สำคัญเลยคือ อย่าเพิ่งตัดสินใครสักคนว่าผิด จากปากคำของคนอื่นเลยค่ะหนูพัส ดีหรือไม่ดียังไงก็ควรสอบถามคนของเราก่อนนะคะ ^^

แล้วหลังจากนั้นค่อย 'เชือด' ก็ยังไม่สายเกินไปหรอกค่าา~ o18
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 12-06-2015 16:22:12
ตายแหน่ๆๆๆ  (ร้องเป็นเสียงไซเรน)
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 12-06-2015 17:42:28
เชียร์พี่ภาสอยู่แล้วคับ แต่งงานได้เดือนละยังไม่จัดการเมียซักที คราวนี้คงถึงเวลาทำเมียท้องได้แล้วนะพี่ภาส ที่ผ่านมาหนูพัสยังไม่พร้อม ตอนนี้หนูพัสพูดเองนะถ้าพูด ถ้าขอดีๆก็จะให้ หึหึหึ ตอนนี้พร้อมแล้วพี่ภาสจัดการเลย ข้าวใหม่ปลามัน ๕๕๕ รอ รอ รออ่านตอนใหม่ หนูพัสจะเป็นอย่างไรบ้างหลังจากพี่ภาสเจอตัวแล้ว
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 12-06-2015 18:07:27
อยู่ #ทีมเมียแรง ค่ะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-06-2015 18:17:59
เอาแล้วไง! รอตอนต่อไปน้า~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-06-2015 18:52:59
เคลียร์อย่างด่วน
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 12-06-2015 19:14:00
ห้ามรังแกหนุพัชนะไอ้พี่ภาส ที่ตัวเองไปกกหญิงหนูพัชยังไม่ชำระแค้นเลยนะ

จะหาว่าหนูพัชคบชู้ไม่ได้นะเว้ย!!
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: 13 จ้าวนภา ที่ 15-06-2015 22:38:24
 :fire: :fire:  :z13: :z13: :z6: :z6:   มาไวไว
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 16-06-2015 01:35:58
ไม่รู้สิ  ถ้าภาสไปนอนกับคนอื่นจริงตลอดเวลาสามสัปดาห์ที่ผ่านมา มันก็น่าโกรธนะ  ผับปิดตีสี่ กลับบ้านเที่ยงงี้ 

แต่ก็ไม่รู้เหมือนกัน  พอบทของภาสบรรยายมันก็ไม่เห็นมีไร เห็นรักพัสปกติ ก็นะคนเราก็ต้องปกปิดเรื่องไม่ดีของตัวเองอยู่แล้วนิ

แต่จากตอนล่าสุดที่ภาสไปที่บริษัท คุยกับพ่อ ก็ออกแนวว่าจะใช่ คือถ้าจะเป็นงี้อยู่ก็ไม่ต้องมีพัสก็ได้ป่ะ

มันมาแนวแบบ อ่านไปแล้วแบบ แบบ (จะหลายแบบไปไหน) คือ อารมณ์มันไม่สุดอ่ะ ไม่รู้สิ ไม่รู้ผู้อ่านท่านอื่นรู้สึกเหมือนกันไหม

อ่านเรื่องนี้แล้วคิดว่าอยากให้มีดราม่าอ่ะ ปกติไม่ขอบนะมาม่าอ่ะ แต่อ่านเรื่องนี้แล้วเอิ่มม ถ้าภาสจะทำแบบนี้นะ จัดมาม่ามาเลย

เอาตั้งแต่ต้นเรื่องนี้เเหละ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ  o13 พึ่งได้เข้ามาติดตาม


หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 16-06-2015 07:36:25
คิดถึงหนูพัชกับไอ้พี่ภาสแล้ว

ตอนนี้แอบคิดไปอีกทางที่ไอ้พี่ภาสกลับบ้านเช้า ๆ จะได้ไม่ต้องมาปลุกปล้ำให้น้องพัชเสียใจที่ถูกพรากซิง

เดิมทีภาสมันก็เข้าใจว่าพัชมันเกลียดตัวเองมาก ๆ เลยพยายามไม่ลวนลามน้องมัน แต่ความจริงจะใช่หรือเปล่าเนี่ยคงต้องรอคนแต่งมาลงอ่ะ

รีบ ๆ มาน้าาาาาาาาาา


คิดถึงคนแต่ง

คิดถึงน้องพัช

คิดถึงไอ้พี่ภาสด้วย


 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 16-06-2015 08:10:40
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 16-06-2015 09:55:37
อยากอ่านต่อแล้วค่าา.. :impress:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่8 (12/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 16-06-2015 14:45:19
กรี๊ดดด รอบหน้าสงสัยว่าจะได้ผลิตลูกกันสักทีแน่ๆ 555
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่9 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 17-06-2015 19:33:25
แรง.ร้าย.รัก...คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 9   

 

 

http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/36151418-member.jpg

"มีความสุขจังนะหนูพัส!! หนีผัวออกมาเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้น่ะห๊ะ!!!!!!!" เสียงคุ้นหูของพี่ภาสตะหวาดดังลั่นมาจาก

ข้างหลังของผมหลัง

"พี่ภาส!!!!" เมื่อหันหลังกลับไปมองผมก็เรียกพี่ภาสด้วยเสียงที่ดังไม่แพ้กัน แต่ที่ต้องเรียกเสียงดังอย่างนั้นไม่ใช่เพราะกลัวหรือ

ตกใจแต่อย่างใดหรอกครับ แต่เป็นเพราะพี่ภาสหนีบ 'ชะนีปิง' มาด้วยนะสิ มันฆ่าน่านัก!!!

"ทำไม? ตกใจมากเลยหรอ? ที่ผัวมาเจอตอนอยู่กับชู้น่ะ" ดู๊...ดู เวรหรือกรรมของผมที่มีจ้าชู้ กวนตีนแถมยังปากหมาอีก

"ปากหรอหน่ะห้ะ!! แหกตาดูซะบ้างสิ!! แล้วปากน้องชิเนี่ยมีไว้ทำไม? เคยถามพัสก่อนรึป่าวว่าเป็นอะไรกัน หรือมีเอาไว้เห่า

อย่างเดียว" ผมว่าจะไม่หลุดพูดหยาบกับพี่ภาสแล้วนะแต่พอเห็นชะนีปิงมันเกาะแข้งเกาะขาพี่ภาสแล้วมันปี๊ดอ๊ะ ผมหนีออกจาก

บ้านมาพี่ภาสยังมีอารมณ์มาเดินเล่นกับชะนีปิงได้อยู่เลย นี่ผมไม่สำคัญกับพี่ภาสบ้างเลยหรอ แล้วอีกอย่างผมกับพี่ภูมีตรงไหน

ที่บ่งบอกว่าเป็นชู้กันมั่งห้ะ! ถึงก่อนหน้านี้พี่ภูเค้าจะขยี้หัวผมแต่เราก็ยืนห่างกันเป็นโยดเลยนะ

"แล้วปากน้องชิ? คืออะไร พี่ไม่เข้าใจพัสว่าอะไรพี่" พี่ภาสทำหน้างง

"น้องชิ ก็ 'ชิสุ' ไงพี่ภาส พัสบอกแค่นี้คงจะรู้นะ"

"นี่ๆ นี่ พัสว่าพี่ปากหมาหรอ!!" ฮ่าๆ ผมอยากจะขำตอนที่เห็นหน้าพี่ภาสรู้ว่าปากน้องชิมันหมายความว่าอะไร

"แล้วแต่จะคิด...." ผมพูดแบบขอไปที

"ช่างมันเถอะพี่จะไม่ถือสาที่พัสพูดก็แล้วกัน แต่พัสบอกพี่มาหน่อยสิว่าหนีพี่ออกมาจากบ้านทำไม? แล้วไอ้หน้าปี๊บนี่ใคร?"

พี่ภาสชี้นิ้วไปที่พี่ภูแล้วถามขึ้น

"พี่ภาส!! ทำไมถึงเรียกพี่ภูเค้าอย่างนั้น" ดูปากคุณชายเค้าสิหล่ะ!!

"ทำไมจะเรียกไม่ได้ในเมื่อมันไม่ใช่บรรพบุรุษพี่ซักหน่อย ทำไมต้องแคร์" พี่ภาสบอกหน้าตาย

"แต่พี่ภูเค้าเป็นเพื่อนพัสนะ!! เพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนเลยด้วย!! ให้เกียรติพี่ภูเค้าบ้าง"

"แล้วไง? คิดว่าพี่สน?" เอาเข้าไปคนเรา ไม่ขอโทษไม่พอยังมาทำท่ายักไหล่แบบกวนประสาทอีก ผมหล่ะเพลียจิต!!

"ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่พี่ภาสเถอะ!! แล้วเจอกันนะพี่ภู พัสไปกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ" ผมบอกอย่างเอือมๆในเมื่อพูดไปก็

เท่านั้นคนอย่างนี้ ก่อนที่จะไหว้และบอกลาพี่ภูอีกครั้ง พี่ภูก็พยักหน้ารับรู้และขับรถออกไปทันที ตอนนี้ก็เหลือแค่ผม พี่ภาส

และชะนีหอยจี่น้ำเยิ้มเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ตรงนี้ ผมเหล่มองทั้งสองคนด้วยหางตาอีกครั้งก่อนที่จะตัดสินใจหันหลังให้คนทั้งคู่ก่อน

ที่จะกดปลดล็อครถและเตรียมที่จะก้าวขึ้นรถ แต่

"เดี๋ยว!! พัสจะไปไหน!!" ยังไม่ทันที่ผมจะได้เปิดประตูรถ พี่ภาสก็กระชากแขนผมซะหลังกระแทกกับอกแกร่งของพี่ภาสเลย

"จะไปไหนก็เรื่องของพัส!! ปล่อย!!" ผมบอกและพยามจะสะบัดแขนให้หลุดจากมือของพี่ภาส แต่ยิ่งสะบัดยิ่งเหมือนกับแน่น

ขึ้นทุกที ไม่รู้ว่าที่จับผมอยู่เนี่ยมันเป็นมือหรือคีมเหล็กกันแน่

"ไม่ปล่อย!! พัสจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น พัสต้องกลับบ้านไปกับพี่!!" พี่ภาสบอกก่อนที่จะเปลี่ยนจากจับแขนมาเป็นกอดรัดตัว

ของผมไว้แทน

"อ๊ายยย....ภาสคะ!! ภาสไปกอดไอ้ตุ๊ดนี่ทำไมคะ ปล่อยเลยนะ ปล่อยเลย ไม่อย่างนั้นจีจี้ไม่ยอมจริงๆด้วย!!" ชะนีปิงที่มากับพี่ภาส

มากรี๊ดกร๊าดแกปากแปดหลอดอยู่ข้างหูผม ดึงรั้งแขนไอ้พี่ภาสให้ออกจากตัวผมอีกต่างหาก แต่นั้นมันไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ

ประเด็นมันอยู่ที่ว่าอีชะนีหอยจี่น้ำเยิ้มนี่มันแอบหยิกใช้เล็บจิกผมแบบเนียนๆในช่วงชุลมุนขณะที่ดึงรั้งไอ้ผัวบ้าของผมนี่อยู่

น๊ะสิ!!! กล้านักนะอีชะนีน้ำเยิ้ม เห็นพัสเงียบๆก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมใครนะ อย่างนี้ต้องเจอกันหน่อยแล้วหล่ะ!!!

"ปล่อยผมนะจีจี้ อย่ามายุ่ง ผมจะคุยกับเมียผม" ปากก็ได้แต่พูดห้ามส่วนสองมือสองแขนก็กอดรั้งเอวของผมไว้แน่น แต่ทำไม

ไอ้พี่ภาสมันไม่แหกตาดูบ้างว่าเล็บอีชะนีนี่มันจิกผมจนเข้าเนื้อรู้สึกแสบไปหมดเลย ผมว่าเลือดต้องออกแล้วแน่เลย

"ไม่ค่ะ!! จีจี้เป็นเมียภาสนะ ไม่ใช่อีตุ๊ดหน้าขาวนั่น ปล่อยเดี๋ยวนี้นะคะภาส จีจี้บอกให้ปล่อยไงคะ" อีชะนีหอยจี่น้ำเยิ้มก็พยายาม

ที่จะทั้งดึงรั้งภี่ภาสและจิกแขนของผมอยู่นั้นแหละ

"หยุด!!! ฉันบอกให้หยุด!!! หยุดทั้งคู่นั้นแหละ!! ไอ้ผัวบ้าปล่อย!! แกด้วยอีชะนีหอยจี่น้ำเยิ้ม!!" ผมตวาดเสียงดังลั้นเพราะ

สุดจะทนปวดหัวปวดหูไปหมด แขนก็ทั้งเจ็บทั้งแสบ ให้ตายเถอะ!!

"หนูพัส..." ไอ้พี่ภาสทำหน้าเหวอที่เห็นผมปี๊ดแตกตะหวาดออกมาลั่นอย่างนี้ จนเผลอปล่อยมือออกจากเอวผม ผมก็สะบัดและ

ถอยออกห่างทันที

"แกมีสิทธิอะไรมาสั่งฉันอีตุ๊ด!!!" ชะนีปิงก็โผเข้ากอดแขนพี่ภาสทันทีก่อนที่จะแว้ดถามผมด้วยสายตาเหยียดๆ

"อยากรู้หรอ??" ผมถามเสียงเรียบและเดินหน้านิ่งๆก้าวเดินแบบช้าเข้าไปหาทั้งสองคน

"แกจะทำอะไรฉัน!!!" ทั้งๆที่เหมือนจะกลัวที่อยู่ดีๆผมทำหน้านิ่งแบบนี้แต่ปากของชะนีปิงก็ยังคงทำงานได้ดีอยู่

"ฉันไม่ทำอะไรแกหรอก แต่ฉันแค่สงสารที่ชะนีปิงอย่างแกยังคงเพ้อฝันติดอยู่ในโลกมโนของตัวแกเองอยู่นะสิ แกถามว่า

ฉันเป็นใครและมีสิทธิอะไรถึงสั่งแกใช่มั้ย? ฉันจะใจดีสงเคราะห์สมองตีบๆฝ่อๆของแกให้ก็ได้ ข้อหนึ่งคือ ฉันคนนี้หน่ะนะ

ชื่อพัสกร อัครจินดากรณ์ เป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายของไอ้ผู้ชายที่ยืนโง่อยู่ข้างๆแก ที่แกบอกกับฉันว่ามันเป็นผัวของแก

ยังไงหล่ะ" ผมหยุดยืนตรงหน้าอีชะนีปิงก่อนจะพูดบอกพร้อมกับจิ้มหัวฟูฟ่องของมัน แถมผมยังพูดเน้นมากๆตรงที่บอกนามสกุล

"ไม่จริง!!! แกนั่นแหละโกหกมโนไปเอง" ชะนีปิงแว้ดออกมาอย่างไม่เชื่อและปัดมือของผมออก

"นั่นก็เรื่องของแก...ส่วนข้อสองของฉันคือ..แกใช้เล็บสกปรกโสโครกสีเสร่อๆของแกข่วนและจิกแขนของฉันจนเป็นรอย

เข้าเนื้อ และเลือดซิบอย่างนี้" ผมพูดเสียงเย็นพร้อมกับโชว์แขนข้างที่อีชะนีมันจิกจนเลือดอาบไปหมดแล้วตอนนี้ให้มันและ

พี่ภาสดู ผมไม่ได้เวอร์นะที่บอกว่าเลือดอาบเพราะตอนนี้เลือดมันยังไม่หยุดไหลเลย มีแผลหลายรอยมากๆ เรียกได้ว่ารอบแขน

เลยเหอะอย่างเนี่ย สงสัยผิวหนังผมจะบางเกินมั้ง? หรืออีชะนีปิงมันแรงควาย?

"หนูพัส!!! เธอทำอะไรเมียฉันจีจี้!!!" ไอ้พี่ภาสตกใจตาโตทันทีที่เห็นแขนผม ก่อนที่จะหันไปมองหน้าอีชะนีปิงเหมือนกับจะ

กินเลือดกินเนื้อเสียให้ได้ แถมยังเขย่าตัวอีชะนีปิงจนหัวสั่นหัวคลอนอีกต่างหาก

"เปล่านะคะ!! จีจี้ไม่ได้ทำ!! ภาสอย่าไปเชื่อมันนะคะ อีตุ๊ดมันใส่ร้ายจีจี้  คุณต้องเชื่อจีจี้นะคะภาส!!!"  หึ..หึ ดิ้นพล่านเชียว

แต่ผมว่าอีชนะนีปิงนี่น่านับถือนะครับแหลสดแสดงละครได้ขนาดนี้ หลักฐานคาตายังกล้าปฎิเสธ

"ปล่อย!! อย่ามาจับตัวผม" พี่ภาสบอกและสะบัดแขนชะนีปิงหลุดจนได้

"คุณอย่ามาทำอย่างนี้นะคะภาส จีจี้เป็นเมียคุณนะ!!!"

"ไม่ใช่!! ผมมีหนูพัสเป็นเมียคนเดียวเท่านั้น คนอื่นไม่ใช่!!!"

"กรี๊ดดด....อีตุ๊ด!!! แก....เพราะแก ภาสถึงได้เบี่ยงเบนไปแบบนี้!! แกมันวิปริตคนเดียวไม่พอยังจะเอาผัวฉันไปวิปริตด้วย

อีตุ๊ด!! อีพวกชั้นต่ำ!! ทุเรศ!! แกมันทุเรศที่สุด!!!!" อีชะนีปิงเลิกแอ๊บสวยและอาราวาดกาดด่าผมแบบเสียๆหายอีทั้งพยายามที่

จะเข้ามาทำร้ายผมด้วยแต่ไอ้พี่ภาสมันขวางไว้

"หยุดนะจีจี้!! ถ้าไม่อยุดอย่าหาว่าผมไม่เตือน!!" พี่ภาสบอกและพยายามที่จะดันอีชะนีปิงออกห่าง

"ไม่หยุด!! จีจี้จะตบสั่งสอนมัน!!! ภาสนั้นแหละถอยไปนะ!!" ถ้าอยากลองของนักก็ได้เลยเดี๋ยวพัสกรคนนี้จะสนองให้

"พี่ภาสถอยออกไปก่อน" ผมจบแขนให้พี่ภาสหยุด

"แต่..."

"ถอยออกไปและยืนดูอยู่เฉยๆ ห้ามเข้ามายุ่งเด็ดขาด"

"พี่ว่าให้พี่จัด....." พี่ภาสแย้ง

"ออกไป อย่าลืมว่าพี่ก็ยังมีความผิดอยู่นะ อย่าต้องให้พัสโกธรไปมากว่านี้" ผมพูดเสียงแข็ง

"ก็ได้ๆ ก็ได้ครับ" พี่ภาสพยักหน้าตอบรับแบบไม่เต็มใจ ก่อนที่จะถอยออกไปยืนอยู่ข้างๆรถผม

"อยากตบฉันมากเลยใช่มั้ย?? เข้ามาสิ!! เข้ามาๆ" ผมถาม และกระดิกนิ้วเรียกแบบกวนๆ

"แกท้าฉันหรออีตุ๊ด!!! วันนี้ฉันจะเอาเลือดหัวแกออกให้ได้!!" ชะนีปิงพูดจบก็เดินดุ่มๆเข้ามาหาผมเลย

     เพี๊ยะ!!

"ฮ่าๆฮ่าๆ" พอมาถึงก็ลงมือตบเข้าเต็มๆแก้มซ้ายของผมก่อนเลย แถมยังหัวเราะเสียงดังที่ตบผมได้อีก

"ฮึ...ฮึ จะบอกอะไรให้นะอีชะนีหน้าโง่ ที่ฉันยอมให้แกตบก็เพราะว่าตรงนี้มี กล้อง.วง.จร.ปิด!! ถ้าฉันลงมือก่อนมันก็จะดูไม่ดี

ถึงแม้ฉันจะเป็นเกย์ ตุ๊ด แต๋ว อย่างที่แกบอก แต่ยังไงๆฉันก็ยังเป็นผู้ชายอยู่ เดี๋ยวถ้าเกิดมีข่าวรั่วออกไปชาวบ้านเค้าจะหาว่า

ฉันลังแกผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ แต่ถ้าให้แกตบฉันก่อน พอมีข่าวรั่วออกไป ฉันก็พูดได้ว่าฉันแค่ป้องกันตัวเองเพราะว่า

เมียเช่า คู่ขาเก่า ที่ผัวฉันเคยซื้อกินเมื่อก่อน มารังควานและทำร้ายฉัน จนฉันต้องสู้เพื่อป้องกันตัวเอง ฉันฉลาดเนอะ!! ว่ามั้ย?

แกชอบความคิดของฉันหรือป่าว?? คริ.คริ." ผมเอื้อมมือข้างนึงไปจิกผมทางท้ายทอยของอีชะนีปิงดึงรั้งไว้ ส่วนมืออีกข้างนึงผม

ก็จับแขนข้างที่มันกำลังเงื้อขึ้นจะตบผมซ้ำอีกครั้ง มันก็ได้แต่คิดนั้นแหละเพราะต่อไปนี้คือคิวของผม

     เพี๊ยะ!!! 

"ครั้งแรกนี้สำหรับที่แกด่าว่าฉันแบบเสียๆหายๆ" ผมตบหน้าอีชะนีเข้าเต็มแรงที่แก้มซีกซ้าย และผมก็ไม่ให้มันได้ทักท้วงอะไร

ได้ก็จัดครั้งต่อไปทันที

     เพี๊ยะ!!! 

"ครั้งนี้สำหรับที่แกเกาะแข้งเกาะขาแล้วมโนว่าผัวฉันเป็นของแก" อ่าา....ผมว่าผมเบามือแล้วนะทำไมอีชะนีปิงถึงหงายหลัง

ก้นจ้ำเบ้านอนที่พื้นอย่างนั้นหล่ะ แต่ใช่เรื่องที่ผมควรจะสนหรอ? เพื่อไม่ให้ขาดตอนผมก็ค่อมนั่งทับท้องอีชะนีปิงและจัดการ

ต่อทันที ส่วนสามีผมนะหรอ? ก็ยืนดูทำหน้าแหยงๆอยู่ที่เดิมนั่นแหละ

     เพี๊ยะ!!!    เพี๊ยะ!!! 

"และนี่สำหรับที่แกทำฉันเจ็บ แล้วถ้าแขนฉันเป็นรอยเป็นแผลเป็นขึ้นมาฉันจะตามไปกรีดหน้าแกถึงบ้านเลยคอยดู"

      เพี๊ยะ!!!   เพี๊ยะ!!!   เพี๊ยะ!!!   เพี๊ยะ!!!

 

"อีตุ๊ด! วิปริต! ผิดเพศ! ชั้นต่ำ! ทุเรศ! ทั้งหมดนี่คือคำที่แกด่าฉัน!! ปากดีนักใช่มั้ย? อีชะนีปิงหอยจีน้ำเยิ้ม!!!!!"

"อ๊ายยยย!!!!! หยุดนะ!!! อย่าทำฉัน!! ภาสขา...ช่วยจีจี้ด้วยยยย....."

      เพี๊ยะ!!!   เพี๊ยะ!!!   เพี๊ยะ!!!   เพี๊ยะ!!!   เพี๊ยะ!!!   เพี๊ยะ!!!   เพี๊ยะ!!!   เพี๊ยะ!!!

"ยังๆยังไม่เลิกอ้อนผัวฉันอีก ว้อนท์นักนะ!! จะบอกให้เอาบุญนะอีแย้สตอหมามุ้ย! ถ้าแกยังเอาตัวเองวิ่งเร่ขายข้างทาง

อย่างนี้อยู่ก็อย่าเที่ยวไปด่าคนอื่นเค้าว่าชั้นต่ำอีก เพราะคำๆนั้นมันเหมาะสมกับแกมากกว่าใครๆ  แล้วแกก็คือผู้หญิง'หน้าด้าน'

ที่อธิบายคำว่า 'ร่าน' ได้ดีที่สุด!! จำใส่สมองหนาๆกลวงๆของแกไว้!!!" รอบนี้ผมจัดให้อีชะนีปิงชุดใหญ่เลยถือว่าเป็นการทิ้งท้าย

พอผมผละลุกออกมาจากตัวอีชะนีปิง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอกภัยของห้างสองคนก็วิ่งกรูกันมาทันทีตามเสต็ป ส่วนพี่ภาส

ก็เดินเข้ามายืนข้างๆผมทันทีเหมือนกัน นี่ผมควรจะดีใจรึป่าว? ที่พี่ภาสแสดงออกมาเหมือนกับว่ายังห่วงผมบ้าง  แต่เอ๊ะ!!

ผมพึ่งจะสังเกตุว่ามีคนมุงดูอยู่เยอะเหมือนกันนะเนี่ย! ก็ดีข่าวจะได้กระจายๆไปอย่างทั่วถึง เพราะผมขี้เกียจมาตบตีกับใคร

เพราะเรื่องอย่างนี้อีกมันไม่ได้น่าภูมิใจตรงไหนเลย กลับกันมันน่าอายน่าขายหน้ามากซะด้วยซ้ำที่ต้องทำตัวเป็นเมียหลวง

คอยอาลาวาดไล่ตบตีกับพวกบรรดาเมียน้อย กิ๊ก คู่ขาหรืออีหนูอยู่อย่างนี้ เพราะนั่นเท่ากับว่าแสดงให้คนข้างนอกเห็นว่า

เราสองคนไม่ได้รักกันจริงๆและไม่ได้ให้เกียรติซึ่งกันและกันเลย

"มีเรื่องอะไรกันรึเปล่าครับ!!" หึ! ประโยคคำถามคลาสสิคหลุดออกมาจากปากของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนึง

ส่วนอีกคนก็เข้าไปช่วยพยุงอีชะนีปิงนั่นให้ลุกขึ้น

"ทะเลาะวิวาทนะครับ เดี๋ยวพวกคุณช่วยพาผู้หญิงคนนี้ไปส่งที่สถานีตำรวจทีสิครับ เดี๋ยวผมจะไปรอให้เค้าแจ้งความดำเนินคดี

กับผมอยู่ที่นั่นด้วยตัวของผมเอง" ผมบอกเสร็จก็หันหลังเดินกลับไปทางที่ผมจอดรถไว้ ไม่รอฟังใครพูดอะไรอีก

"เดี๋ยวสิพัส!! หนูพัส!! หนูพัสรอพี่ก่อน" พี่ภาสเดินตามมารั้งแขนผมไว้

"มีอะไรครับ! ถ้าจะมาหาเรื่องทะเลาะอะไรกับผมอีกก็ไว้วันหลังแล้วกัน วันนี้ผมเหนื่อยมากแล้ว" ผมพูดดักทางพี่ภาสไว้

"พี่ไม่ได้จะมาหาเรื่องทะเลาะอะไรกับหนูพัสหรอก พี่แค่จะชวนหนูพัสไปด้วยกัน ทิ้งรถไว้ที่นี่แหละเดี๋ยวพี่โทรให้ลูกน้องมา

ขับไปไว้ให้ที่บ้านเอง" พี่ภาสพูดบอกพร้อมกับเปลี่ยนจากจับแขนมาจับมือผมแทน แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรกับพี่ภาสหรอก

เพียงแค่พยักหน้าตอบตกลง และเดินตามแรงจูงของพี่ภาสไปก็เท่านั้น วันนี้ผมเหนื่อยมากๆเลยครับ แต่ไม่ได้เหนื่อยกาย

แต่อย่างใดหรอกครับ มันเหนื่อยใจมากกว่า ไม่รู้ว่าการใช้ชีวิตร่วมกับพี่ภาสในวันพรุ่งนี้และวันต่อๆไป ของผมจะต้องพบเจอ

และเผชิญปัญหากับเรื่องอะไรอีก...

http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/198207644-member.jpg

 "พร้อมนะ!!" ผมถามหนูพัสเมื่อจอดรถเสร็จ เพราะว่าตอนนี้เราถึงสถานีตำรวจกันแล้ว และตลอดระยะทางจากห้างมาจนถึง

ที่นี่บรรยากาศระหว่างเราสองคนคือความเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมาซักคำเดียว หนูพัสเอาแต่นั่งหันหน้ามองออกไป

ข้างทางนอกหน้าต่างรถ นิ่งจนผมไม่กล้าที่ชวนคุย

"ครับ" หนูพัสตอบออกมาแค่นั้นและก้าวเดินตรงไปที่สถานีตำรวจทันที จนผมต้องรีบก้าวขายาวๆเพื่อที่จะเดินตามให้ทัน

และเอื้อมจับมือของหนูพัสไว้แน่น เพราะว่าข้างหน้าของเรานั้นคือกองทัพนักข่าว ผมก็คิดไว้แล้วแหละว่าจะต้องมีนักข่าว

มาดักรออยู่อย่างนี้ในเมื่อหนูพัสพูดบอกกับ รปภ.ที่ห้างว่าจะมาสถานีตำรวจ พวกนักข่าวตาหูไวยิ่งกว่าสัปรด ยิ่งพวเราสองคน

เป็นลูกนักธุรกิจและเป็นคนดังทั้งคู่ที่พึ่งแต่งงานกันและก่อนหน้านี้ผมก็พึ่งจะมีข่าวที่ทะเลาะกับไอ้ธาราไปอย่างนั้น และวันนี้

หนูพัสยังจะมามีเรื่องกับจีจี้ในที่สาธาราณะอย่างนี้อีก ก็ยิ่งโดนจับตามอง แต่ที่ผมจับมือของหนูพัสผมไม่ได้อยากจะสร้างภาพ

ให้ดูดีต่อหน้านักข่าวหรอกครับ แต่ผมเพียงแค่อยากให้กำลังใจและทำให้หนูพัสได้รู้ว่าผมยังอยู่ข้างๆเค้าอยู่

"คุณภาส!! คุณพัส!! จริงรึป่าวครับ ที่ข่าวเค้าลือกันว่าคุณสองคนเตียงหัก ทั้งๆที่พึ่งจะแต่งงานกันไม่พ้นเดือนอย่างนี้ แล้วที่เค้า

ลือกันว่าที่คุณสองคนไม่ได้รักกัน แต่ที่ต้องแต่งงานกันก็เพราะโดนผู้ใหญ่บังคับนั้นจริงหรือเปล่าครับ!! ช่วยตอบด้วยครับ!!!"

เสียงตะโกนถามของนักข่าวดังอื้ออึงเต็มไปหมด แต่ผมจะไม่ใส่ใจหรือสนใจเลยครับถ้ามือของหนูพัสไม่สั่นจนผมรู้สึกได้

ขนาดนี้ หนูพัสคงจะรู้สึกไม่ดีมากๆที่ได้ยินนักข่าวถามแบบนั้นเพราะผมเองก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน

"ผมไม่รู้หรอกนะว่าพวกคุณไปเอาไอ้ข่าวบ้าๆนี่มาจากไหนกัน!!!! แต่ผมจะบอกอะไรให้พวกคุณรู้กันไว้นะว่าผมรักภรรยามาก

และภรรยาคนเดียวของผมคนนี้ ผมก็เป็นคนเลือกเองและขอให้พ่อจับจอง หมั้นไว้ให้ตั้งแต่เด็ก อย่างนี้ยังจะเรียกว่าโดนบังคับ

ได้อยู่หรอ?? ถ้ารู้ไม่จริงก็อย่าเอามาพูดกันอีก!!!! ผมขอตัวก่อน!!" ผมพูดจบก็จูงหนูพัสเดินออกมาจากตรงนั้นทันที แต่ที่ผมพูด

ออกไปทั้งหมดนั้นผมไม่ได้โกหกนะครับ ผมรู้ตัวและมั่นใจว่าผมรักหนูพัสให้เข้าแล้ว แต่ที่จริงผมก็พอรู้ตัวมาซักพักนึงแล้ว

แต่ผมยังไม่มั่นใจมากเท่ากับตอนที่ได้รู้ว่าหนูพัสหนีผมออกจากบ้านไป ตอนนั้นมันทำให้ผมได้รู้ว่าผมรักหนูพัสและชีวิตนี้

ผมคงจะขาดหนูพัสไม่ได้แล้วจริงๆ ผมยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดที่มันเกิดขึ้นนั้น มันมาจากความเจ้าชู้ไม่รู้จักพอของผมคนเดียว

ถึงแม้วว่าผมจะแต่งงานกับหนูพัสแล้วผมก็ยังทำตัวเลวๆโดยที่ไปมีอะไรกับคนอื่น แล้วปล่อยให้เมียนอนเหงาอยู่บ้านคนเดียว

อย่างที่พ่อของผมบอก และอาจจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ที่ทำให้หนูพัสทนไม่ได้และตัดสินใจหนีผมออกจากบ้าน ผมนี่มันทั้งชั่ว

ทั้งเลวจริงๆเลย ที่ทำให้หนูพัสต้องเสียใจ เสียความรู้สึกมากขนาดนี้ ผมก็พอจะดูออกบ้างว่าช่วงหลังๆมานี่หนูพัสก็เริ่มเปิดใจ

ให้ผมมากขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะช่วงหลังจากที่ผมมีเรื่องกับไอ้ธาราหนูพัสก็คอยเช็ดตัว ทำแผลและดูแลผมอย่างดีมาตลอด อีกทั้ง

หนูพัสปล่อยยอมให้ผมได้กอด จูบ และตอดเล็กตอดน้อยจนกว่าผมจะพอใจโดยที่ไม่ขัดหรือว่าอะไรผมเลย แต่ก็เป็นเพราะ

ความชั่ว ความเลว ความมักมากไม่รู้จักพอของผมเอง ที่ทำให้ทุกอย่างมันพังไม่เป็นท่าอย่างนี้ ตอนนี้ผมก็หวังแค่ว่าหนูพัส

ยังคงจะพอให้อภัยผู้ชายเลวๆคนนี้ได้มีโอกาสแก้ไขและปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นกว่านี้บ้างไม่มากก็น้อย.......

 

...

เย้ย!! หายกันไปหลายวันเลยทีเดียว ขอโทษที่ทำให้ต้องรอนะคะ เอ๊ะ!!ว่าแต่มีใครรอมี่อยู่รึป่าวนะ?

จะคิดกันไปล่วงหน้ายังไงก็ได้นะคะคุณผู้อ่านที่รัก แต่อย่าพึ่งตัดสินว่าใครผิดใครถูกเลยนะคะ

รอดูกันต่อไปดีกว่าค่ะ ส่วนใครที่ไม่ค่อยโดนใจกันซักเท่าไหร่มี่ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ

เพราะไอ้มี่คนนี้พึ่งจะหัดแต่งหน่ะค่ะ และไม่มีความรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย นึกอยากจะแต่งก็แต่ง

ก็อย่างที่บางคนบอกนั้นแหละค่ะมันไม่สุด มี่ก็คิว่าอย่างนั้นเหมือนกัน จะสุขก็ไม่สุด จะเศร้าก็ไม่ถึง

จะดาม่าก็ไม่ใช่แนว ที่สำคัญยังหวานไม่โดนอีกต่างหาก แต่มีก็จะพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นนะค่ะ

สุดท้ายมี่ก็ขอขอบคุณทุกวิว ทุกคอมเม้นต์นะคะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ (^/\^)
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่9 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 17-06-2015 21:01:17
พี่ภาสทำเราผิดหวังมากเลยค่ะ อุตส่าห์ยอมทำใจเป็นกลางคิดไว้ว่าเรื่องทุกอย่างเป็นแค่การเข้าใจผิดกันเท่านั้น เฮ้อ~ ไม่น่าเป็นคนนิสัยเสียแบบนี้เลยนะคะพี่ภาส..

หนูพัสโกรธให้นานๆ เลยนะคะ คนมักง่ายแบบนี้ต้องได้รับบทเรียนที่สาสมเสียบ้าง.. o12

ปล. สมน้ำหน้าแม่ชะนีหอยจี่(?)เสียเหลือเกินนะคะ เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับหนูพัส ช่างไม่ประมาณตนเอาเสียเลย o16
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่9 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 17-06-2015 21:04:07
โหหห พี่ภาสเอ้ย คิดว่าจะมาคนเดียวที่ไหนได้พาเมียนอกกฎหมายมาด้วยเหรอ ก็เข้าใจนะว่าผู้ชายมีเมียหลายคน มันเป็นธรรมดา แต่พามาระรานเมียแต่งแถมยังเป็นเมียรักอีก แทนที่จะลงมือทำอะไรบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เมียๆตบกัน ใช้ไม่ได้มากๆ บทเรียนของพี่ภาสล่ะนะ แบบนี้เมียคงไม่ให้ทำการบ้านซะละมั้ง ๕๕๕ ฉากตบกันที่ห้างระหว่างหนูพัสกับชะนีปิง เข้าทำนอง เสียเงิน เสียทองเท่าหัว แต่ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร หึหึหึ ตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ รอ รอ รออ่านอยู่
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่9 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-06-2015 21:25:07
ตอนนี้มันส์มาก!ตบกันกระจาย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่9 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-06-2015 22:13:04
นึกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือว่าแกล้งกัน นี้ทำจริงๆหรือ!!! ทั้งๆที่เมียเพิ่งแต่งและนอนอยู่บ้าน สมควรจะให้อภัยง่ายๆรึแบบนีี้
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่9 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 17-06-2015 22:45:47
เฮอะนี่น้า มาว่าเค้ามากับชู้เเล้วดูตัวเองมั่งป่ะ  ขอจัดแบบ ห่างกันเพื่อคิดทบทวนได้ป่ะ มันจะได้ดูแบบว่าพัสโกรธจริงๆ น้อยใจจริงๆ

 :beat:

คือนั่นแหละตามนั้น ?  :katai4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่9 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: jinjin283 ที่ 17-06-2015 23:04:13
หนูพัสจัดเต็มอะ พี่ภาสดูไว้นะถ้ากล้ารังแกหนูพัสเตอแบบนี้แน่
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่9 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 17-06-2015 23:47:25
ง่ายไป/หม
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่9 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 18-06-2015 00:08:09
ไป-ตาย-ซะ ผู้ชายนิสัยแย่! :fire: หนูพัสทนได้ยังไงอะ บอกเลิกไปเลยหนูพัส เอาให้ชักดิ้นชักงอ เอาให้มันหลาบจำ จะได้ไม่ต้องมีใจไปเอากับใครอีก (ขออนุญาตหยาบค่ะ555555)

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่9 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 18-06-2015 00:19:45
 :fire:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่9 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-06-2015 01:09:03
สนุกมากครับ เพิ่งได้เข้ามาอ่าน อีพี่ภาสเลวมาก ยังไม่เลิกสันดานเจ้าชู้อีกนะ พัสงอนนานๆเลย อย่ายอมง่ายๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่10 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 18-06-2015 01:56:45
แรง.ร้าย.รัก...คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 10    

 

 

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/2107479564-member.jpg)

          ตั้งแต่ขับรถออกมาสถานีตำรวจหนูพัสก็ยังคงเงียบอยู่เหมือนเดิม ผมถามอะไรก็ไม่ตอบสักคำ มาถึงบ้านก็รีบก้าวเดินขึ้น

ห้องนอนโดยไม่สนใจแม้ว่าพวกแม่บ้านจะทักก็ตาม ส่วนผมหน่ะหรอ? ก็ได้แต่เดินตามเงียบๆนะสิครับ พอเปิดประตูเข้าห้อง

มาได้ก็เดินตรงไปที่ห้องแต่งตัว หยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่และเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของผมใส่เต็มกระเป๋าเลย

"พัสกำลังจะทำอะไร?" พอผมเดินเข้าไปถามใกล้ๆ หนูก็จัดกระเป๋าเสร็จพอดี

"เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของคุณอยู่ในกระเป๋าใบนี้ ผมเก็บให้คุณเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้น....เชิญ!! คุณอยากจะไปอยู่ที่ไหน

อยู่กับเมียคนไหนของคุณก็เชิญ!!!" หนูพัสยกกระเป๋าเสื้อผ้ามาวางไว้ตรงหน้าผม ก่อนที่จะพูดบอกเสียงแข็ง

"พัสหมายถึงอะไร พี่ไม่เข้าใจ พี่มีพัสเป็นเมียคนเดียวนะ!!" ผมเริ่มใจคอไม่ดีแล้วสิ กลัวคำตอบที่จะได้เหลือเกิน

"คุณจะมีเมียเป็นสิบหรือมีกิ๊กเป็นร้อยผมไม่อยากรับรู้.......แต่ถ้าคุณอยากให้ผมอยู่ที่นี่ ตัวของคุณเองก็ต้องไปอยู่ที่อื่น หรือ

ถ้าคุณจะอยู่ที่นี่ ผมก็จะเป็นคนไปอยู่ที่อื่นเอง" หนูพัสบอกออกมาด้วยเสียงเรียบ

"เดี๋ยวพัส!! พัส!! ใจเย็นก่อนให้พี่ได้อธิบายก่อนสิ" ผมแทบจะหาคำพูดไม่ทัน ในเมื่อหนูพัสหันหลังกลับไปเปิดตู้และหยิบ

เสื้อผ้าของตัวเองออกมา

"สิ่งที่ผมจะรับฟังตอนนี้ก็คือคำตอบของคำถามที่ผมถามคุณไปก่อนหน้านี้ ส่วนเรื่องอื่น...ผม ไม่ อยาก ฟัง!!"

หนูพัสพูดเน้นเสียงประโยคสุดท้าย

"แต่พี่ไม่ได้ไปกับ....."

"วันนี้ผมมีโอกาสให้คุณได้พูดแค่นี้ หรือถ้าคุณอยากพูดอะไรนอกเหนือกว่าที่ผมถามคุณก็พูดไปและผมจะออกไปเอง"

ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยคหนูพัสก็พูดสวนออกมาทันควัน

"ก็ได้ครับ!! ก็ได้ วันนี้พี่จะเป็นคนไปเอง ถึงตอนนี้พี่จะบอกว่ารักพัสมากซักแค่ไหนพัสก็คงจะยังไม่เชื่อคำพูดของพี่

แต่พี่ก็ขอบอกพัสไว้ตรงนี้เลย....ไม่ว่าต้องใช้เวลาในการรอนานสักเท่าไหร่หรือแม้แต่โอกาสของพัสที่มีให้พี่ในตอนนี้

มันติดลบมากมายสักแค่ไหน พี่ก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้พัสเปิดใจรับพี่อีกครั้งและอีกสิ่งที่พี่อยากจะให้พัสได้รับรู้ไว้ก็คือ

'พัสคือเมียคนเดียวของพี่''เป็นสะใภ้คนเดียวของบ้านอัครจินดากรณ์' และ'แม่ของลูกพี่ก็ต้องเป็นพัสเพียงคนเดียว'เท่านั้น"

ผมบอกความตั้งใจและความรู้สึกที่มีอยู่เต็มอกตอนนี้ให้พัสได้รับรู้ไว้บ้างบางส่วน ถึงแม้ว่าวันนี้พัสอาจจะยัง

ไม่เชื่อและไม่ยอมที่จะรับฟังก็ตาม

"พูดจบแล้วก็...เชิญ!! ออกไปได้แล้ว" หนูพัสบอกและผายมือออกไปทางประตู

"ครับไปแล้วครับ เมื่อพัสใจเย็นบ้างแล้ว พี่จะกลับมา กลับมาอธิบายให้พัสเข้าใจ" ผมบอกก่อนที่จะยกกระเป๋าเสื้อผ้าที่พัส

จัดให้ติดมือออกมาด้วย

"เดี๋ยว!!!..." พอผมก้าวพ้นประตูห้องได้เพียงก้าวเดียว หนูพัสก็เรียกผมไว้

"พัสจะเปลี่ยนใจแล้วหรอ??" ผมถามอย่างลุ้นๆเมื่อหนูพัสเดินมาจับกระเป๋าเสื้อผ้าที่ผมถืออยู่วางไว้ที่พื้นข้างตัวผม

"เปล่า!! แต่ผมแค่ลืมทำบางอย่างเท่านั้นเอง" หนูพัสตอบหน้านิ่ง

"ลืมอะไรครั..."

     เพี๊ยะ!!!!

"นี่สำหรับการที่คุณทรยศความไว้ใจของผม" ยังไม่ทันที่ผมจะถามจบฝ่ามือของหนูพัสก็ซัดเข้าตรงแก้มซีกซ้ายของผมเต็มแรง

     เพี๊ยะ!!!!

"นี่สำหรับที่คุณคำให้ผมโดนผู้หญิงของคุณด่าว่าเสียๆหายๆ" คราวนี้เปลี่ยนมาตบผมที่แก้มขวา

     ผัวะ!!!!!

"และนี่..สำหรับคุณ..ที่ทำร้ายความรู้สึกของผม!!! คุณรู้ไหม รู้หรือป่าว ว่าผมอายแค่ไหนที่ต้องทนได้ยินได้ฟังคนกล่าวหาและ

มองว่าเป็นคนร้ายกาจที่ทำร้ายได้แม้กระทั่งผู้หญิง แล้วผมจะบอกอะไรคุณให้นะว่าที่ผมตบผู้หญิงคนนั้นหน่ะ ไม่ใช่เพราะว่า

ต้องการแย่งคุณมาจากเธอแต่อย่างใด แต่ที่ผมทำไปเพราะว่ารักษาหน้ารักษาเกียรติอันน้อยนิดที่ผมยังพอมีอยู่บ้างก็เท่านั้นเอง

ในเมื่อตอนนี้คนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนสมรสของคุณคือผม ผมก็จะไม่ยอมให้ใครมาว่าผมได้ว่า

'ผมไร้ค่าไม่มีความสำคัญจนแม้กระทั้งผัวตัวเองยังไม่แลไม่สนใจ จนผัวต้องมีผู้หญิงคนอื่น' ถ้าคุณทนไม่ได้ที่ผมเป็นอย่างนี้

หรืออยากจะหย่า ก็แค่ขอให้พูดบอกมา ผมก็จะหย่าให้คุณทันทีและจะไม่เรียกร้องเอาเงินทองของคุณแม้แต่บาทเดียว

เพราะผมก็ยังเป็นคนที่มีความรู้สึกนึกคิดและมีศักศรีพอที่จะไม่เกาะขาใครกิน!!" ครั้งสุดท้ายหนูพัสต่อยเข้าเต็มเบ้าตาซ้าย

ของผมเลย หนูพัสคงจะรู้สึกแย่มากๆถึงได้หลุดพูดออกมาหมดอย่างนี้ น้ำตาที่ไหลออกมาช้าๆจากดวงตาคู่สวยที่ผมหลงรัก

ตั้งแต่แรกเจอ จนทำให้ความเสียใจของผมรู้สึกอัดแน่นเต็มอกจนแทบหายใจจะไม่ออก ขนาดผมเป็นตัวต้นเหตุเป็นคนกระทำ

ยังรู้สึกเจ็บขนาดนี้ แล้วหนูพัสหล่ะ หนูพัสเป็นฝ่ายถูกกระทำเป็นฝ่ายถูกทำร้ายความรู้สึกจะเจ็บขนาดไหน ผมนี่มันเลวจริงๆ 

"พี่ขอโทษพัส พี่ขอโทษ พี่ขอโทษจริงๆอย่าร้องไห้เลยนะ อย่าเสียน้ำตาให้ความชั่วความเลวของพี่เลย จะตบจะต่อยพี่อีกกี่ที

ก็ได้แต่อย่าเป็นอย่างนี้ พี่ขอร้อง พี่ขอโทษ พี่ขอโทษจริงๆครับที่รัก พีขอโทษ....." ผมทนที่จะเห็นน้ำตาของหนูพัสไม่ได้จริงๆ

แต่ตอนนี้ผมก็ยังจะทำอะไรได้ไม่มากนอกเสียจากคว้าหนูพัสมากอด และเฝ้าพร่ำขอโทษอยู่อย่างนั้น ทำขอโทษที่ออกมาจาก

ความรู้สึกของผมจริงๆไม่ใช่แค่คำขอโทษที่มีแค่เพียงลมปาก

"ผมหมดธุระกับคุณแล้ว เชิญคุณออกไปจากบ้านนี้ได้แล้ว" หนูพัสผละตัวออกจากอ้อมกอดผมและดันผมออกห่างจากตัวเอง

ก่อนที่จะหันหลังเดินกลับเข้าห้องไปและปิดประตูใส่หน้าผมทันที

"พี่ไม่อยู่ดูแลตัวเองดีๆนะ อย่าขับรถออกไปไหนเองตอนดึกๆนะ แล้วพี่จะกลับมา พี่จะทำให้พัสเห็นว่าพี่ได้เปลี่ยนไปแล้ว

จะไม่มีไอ้คนเจ้าชู้ หน้าม้อ กินไม่เลือกอีกแล้ว พี่จะทำให้พัสเห็นว่าพี่ก็สามารถเป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดีและสามารถเป็น

หัวหน้าครอบครัวที่ดีได้เหมือนกัน พี่สัญญาว่าต่อจากวันนี้ไปพี่จะไม่ทำให้พัสต้องเสียใจและร้องไห้จนเสียน้ำตาอีก

พี่ขอโทษในสิ่งที่พี่ทำลงไปก่อนหน้านี้ ขอโทษที่ทำลายความไว้ใจ ทำร้ายความรู้สึกพัส ทำให้พัสเสียใจ เสียความรู้สึก

แล้วก็จำไว้นะพัสว่า พี่รักพัส รักพัส รักพัสคนเดียว รักพัสมากจริงๆ" ผมตะโกนบอกความรู้สึกจริงๆของหัวใจให้หนูพัส

ได้ฟังถึงแม้ว่าจะมีบานประตูกั้นอยู่ก็ตาม แต่ผมมั่นใจว่าพัสจะต้องได้ยิน แล้วพี่จะกลับมานะที่รัก กลับมาทำให้พัสเห็นว่า

พี่ได้เปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นให้เหมาะสมเพื่อให้คู่ควรกับคนดีๆอย่างพัส

 

     อึก!!!....ฮึกกกก.....ฮือออออ.....ฮื่ออออ 

          เสียงคนข้างนอกเงียบไปแล้ว คงจะออกไปจากบ้านนี้อย่างที่เค้าต้องการแล้ว แต่ทำไมหล่ะ ทำไมเค้ายังต้องมานั่งกอดเข่า

ร้องให้พิงบานประตูอยู่อย่างนี้ เค้าควรจะดีใจไม่ใช่หรอที่ไล่คนที่ทำให้เค้าเสียใจ เสียความรู้สึก อย่างคนๆนั้นออกไปได้ แล้วนี่

คืออะไร? ทำไม? เค้ายังต้องมาร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนจะเป็นจะตายอยู่อย่างนี้ ก็แค่ผู้ชายคนเดียว!!! ทั้งเจ้าชู้ กะล่อน มักมาก

ไม่รู้จักพอ แต่ก็เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ทำให้เค้ากล้าที่จะเปิดใจรับเข้ามา เค้าไม่เคยมีแฟนหรือมีคนที่คุยแบบชู้สาวมาก่อนเลย

ในชีวิต เพราะเค้ากลัว กลัวที่จะโดนทิ้ง กลัวการโดนหักหลัง กลัวการเสียใจ อย่างนี้ไงหล่ะ......

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/904715733-member.jpg)     

"เรื่องก็เป็นอย่างที่กูเล่าให้มึงฟังทั้งหมดนี่แหละ" หลังจากที่ผมพูดในสิ่งที่อยากบอกให้หนูพัสได้ฟังทั้งหมดแล้ว ผมก็ขับรถ

ตรงมาผับสาขาที่ไอ้คุณมันสิงสถิตอยู่ทันที ช่วงที่หนูพัสยังไม่ยอมที่จะรับฟังอะไรอย่างนี้ ผมก็จะมาอาศัยอยู่ที่นี่แหละเพราะ

ผับของผมสาขานี้มีสี่ชั้นใช้พื้นที่เปิดเป็นผับสองชั้น ชั้นสามทั้งชั้นเป็นของไอ้คุณ ส่วนชั้นที่สี่ชั้นบนสุดเป็นของผม เมื่อก่อน

ก็อาศัยอยู่ที่นี่แหละไม่ค่อยได้กลับบ้านซักเท่าไหร่ มันเป็นทั้งห้องนอนและห้องทำงานของผมแต่ผมก็ไม่เคยเอาใครขึ้นมาบนนี้

หรอกนะเพราะผมเป็นคนรักความส่วนตัว ถึงแม้ว่าก่อนแต่งงานผมจะเจ้าชู้ซักแค่ไหน ทุกครั้งที่นอนกันใครก็จะไปจบกันที่

โรงแรมเพียงอย่างเดียวไม่เคยพามาที่นี่หรือพาไปบ้านซักคน ส่วนพวกผู้หญิงที่พ่อผมเคยพูดว่าเคยไปกกที่บ้านผม ก็ไปกันเอง

ทั้งนั้นและผมก็ไม่เคยเอาใครไปกกที่บ้านอย่างที่คนอื่นคิดหรอก ก็ผมบอกแล้วไงว่าผมรักความเป็นส่วนตัวมาก

"แล้วที่เค้าว่าว่ามึงไปนอนกกเด็กหลังจากที่แต่งงานกับน้องพัสแล้ว มันเป็นเรื่องจริงรึป่าวว่ะ" ไอ้คุณถามผมหลังจากที่ผมเล่า

สาเหตุและเรื่องทั้งหมดที่ผมทะเลาะกับหนูพัสตั้งแต่แรกเลยให้ไอ้คุณมันฟัง ผมไม่ได้อยากจะประจานตัวเองหรอกนะ แต่ที่

ผมเล่าให้ไอ้คุณฟังก็เพราะว่าผมอยากจะหาคนปรึกษาสักคนและไอ้คุณก็เหมาะที่จะเป็นคนๆนั้นมาก เพราะมันรู้จักผมดีที่สุด

อาจจะรู้จักนิสัยผมมากกว่าพ่อผมซะด้วยซ้ำเพราะผมโตมาด้วยกันใช้เวลาอยู่ด้วยกันมามากกว่าพ่อผมอีก

"กูยอมรับว่าหลังแต่งงานมีครั้งนึงแค่ครั้งเดียวมึง ครั้งเดียวที่กูพลาด ถ้ามึงโดนยาปลุกจนไม่มีสติ คุมตัวเองไม่อยู่ แต่พอมึง

ตื่นมามึงก็รับรู้แค่ว่ามึงนอนแก้ผ้าอยู่กับผู้หญิงที่โรงแรมมึงจะทำยังไง" ผมถามมันกลับไปบ้าง หลังจากที่แต่งงานแล้วมีครั้ง

นั้นครั้งเดียวเท่านั้นที่ผมพลาด พอผมรู้ตัวว่าผมพลาดผมก็วางเงินไว้ก้อนนึงให้กลับผู้หญิงคนนั้น ใครจะว่าผมเลวผมก็ยอม

เพราะผู้หญิงคนนั้นคือหนึ่งในคู่นอนของผมเมื่อก่อนนั้นแหละ ตั้งสติได้ผมก็รีบแต่งตัวออกจากโรงแรมนั้นทันทีเพราะ

ก่อนที่จะออกจากบ้านมาผมไม่ได้บอกกับหนูพัสไว้ว่าจะกลับช้า แต่ช่วงก่อนหน้านั้นที่ผมกลับบ้านตอนเช้าบ่อยๆก็เพราะ

ว่าฝ่ายบัญชีของผับผมลาออกพร้อมกันหมดทุกสาขาเลย เรื่องนี้ผมก็ยังหาสาเหตุยังหาต้นตอไม่ได้ ผมต้องนั่งทำบัญชีเอง

ทั้งหมด ไหนจะเงินเดือนพนักงาน ไหนจะรายรับรายจ่ายของร้านแต่ละวัน ไหนจะเช็คสต็อกสินค้าในร้าน วิ่งวุ่นขับรถ

ไปมาอยู่กับผับนี่แหละ จนผมแทบบ้า

"แล้วผูหญิงคนนั้นคือใครว่ะ??" ไอ้คุณถามต่อ

"จีจี้ว่ะ กูลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นหน้าจีจี้แค่คนเดียว หลังจากวันนั้นก็ไม่มีอะไรนะ จีจี้ไม่ได้มาเรียกร้องหรือมาวุ่นวายอะไร

แต่พอวันที่พัสหนีกูออกไปจากบ้านนี่สิ ตอนแรกกูออกไปตามหาที่บ้านพ่อก็ไม่เจอ ไปถามพ่อที่ทำงานพ่อก็บอกว่าไม่รู้

กูก็เลยตัดสินใจไปห้างเพราะคิดว่าหนูพัสคงจะไม่ได้ไปไหนไกลคงจะอยู่แถวๆนี้แหละ แต่ก่อนหน้าที่กูจะเจอหนูพัสกูก็เจอ

จีจี้ซะก่อน แม่งกูเห็นแวบๆนะว่าเค้ามากับผู้ชาย แต่กูมองไม่ชัดว่าผู้ชายที่ไหน แต่ประเด็นสำคัญคือพอเค้าเห็นกูเค้าก็วิ่งเข้ามา

เกาะแข้งเกาะขากู กูทั้งแกะทั้งพลักก็ยังไม่หลุด กูก็เลยปล่อยให้แม่งเกาะอยู่อย่างนั้นแหละเพราะกูจะรีบตามหาเมียกู

แล้วกูก็เจอหนูพัสจริงๆแต่เจออยู่กับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ เล่นหัวกันอย่างสนิทสนมเลยมึง ตอนนั้นกูหึงจนหน้ามืด จนลืมว่า

จีจี้ยังเกาะแข้งเกาะขากูอยู่ และกูก็ยังไปปากหมาใส่เมียอีก หลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่กูเล่าให้มึงฟังก่อนหน้านี้แหละ" ผมเล่า

เรื่องก่อนที่จะทะเลาะกับหนูพัสให้มันฟังต่ออีก

"กูว่าเรื่องมันแปลกๆว่ะ ทั้งเรื่องพนักงานบัญชีที่พร้อมใจกันลาออก แล้วก็เรื่องของจีจี้ ถ้าจีจี้อยากจะนอนกับมึงจริงๆ ถึงแม้ว่า

มึงจะแต่งงานแล้วก็เถอะ แต่เค้าควรที่จะมาพูด มาคุย มาอ่อยมึงก่อนป่ะ? ไม่ใช่อยู่ดีๆก็มาใช้ยาปลุกกับมึงอย่างนี้เลยน่ะ แล้ว

มึงคิดดูดิว่าผู้หญิงตัวเท่านั้นจะแบกผู้ชายตัวควายๆอย่างมึงออกไปได้คนเดียว??? เพราะถ้ามีเด็กเราถูวานให้อุ้มมึงหรือเห็นว่า

มึงถูกอุ้มไป มึงคิดว่าจะไม่มีใครมาบอกกูก่อนเลยหรอ?? กูว่าเราต้องจัดการเรื่องนี้กันอย่างจริงจังแล้วหล่ะ!!! เพราะกูขี้เกลียด

ทำบัญชีเอง!! ฮ่าๆๆๆ" พูดจบเพื่อนผมก็หัวเราะออกมาเหมือนคนบ้าเลย

"โธ่....ไอ้เพื่อนเชี่ย!! กูก็นึกว่ามึงจะสงสารกูที่เมียกูเข้าใจผิดจนเป็นเรื่องราวใหญ่โตอย่างนี้ซะอีก มึงนี่แม่ง!!!" ผมยกขาถีบ

ไอ้คุณเบาๆ ผมรู้ว่ามันก็เป็นห่วงผมเหมือนกัน แต่ที่มันเลือกพูดออกมาแบบนั้นเพราะไม่อยากให้ผมเคลียดเท่านั้นเอง

"โอ๋ๆ พี่ภาสขาน้องคุณคนนี้ก็ห่วงพี่ภาสมากนะคะ แต่น้องคุณไม่อยากให้พี่ภาสเคลียดเท่านั้นเองค่ะ" ไอ้คุณแกล้งทำท่าทาง

พูดเสียงเล็กเสียงน้อยเหมือนผู้หญิง ทำท่าทางตุ้งติ้งเหมือเคะน้อยแต่ผมว่ามันเหมือกระเทยควายมากกว่า

"ฮื้อ!!! ขนลุกเลยสัส!! ฮ่าๆๆๆ" ผมบอกก่อนจะโบกหัวมันไปอีกที

"ไม่ชอบหรอคะพี่ภาสขาาาา....ฮ่าๆๆๆ" ยังๆยังไม่ยอมเลิก

"เอ๊ะโอ!!! ไหนใครบอกว่าคุณณัฐภาสโดนเมียไล่ออกจากบ้านมาไง!! แล้วทำไมยังมานั่งดื่มเฮฮากับคู่หูอยู่อย่างนี้หล่ะ

เอ๊ะ!! สายของฉันพลาดไปหรอ? หรือว่าที่เค้าลือกันว่าหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยอย่างณัฐภาสโดนเจ้าสัวชัชบังคับแต่งงาน

ไม่ได้รักกับภรรยาแต่อย่างใด!!!" เสียงพูดอย่างเยาะเย้ยถากถางดังขึ้นมาทางด้านหลังที่นั่งของผมกับไอ้คุณ

"อ่าว!! มึงยังไม่ตายอีกหรอไอ้ธารา แล้วนี่ไปศลยกรรมหน้ามาแล้วด้วยนี่!! โธ่ๆ ไม่หน้ารีบไปทำมาเลยนะ เพราะมึงอาจจะ

ได้แผลเพิ่ม จะได้ไปทำที่เดียวเลย ไม่ต้องเสียเวลาทำหลายๆที" ผมหันกลับไปพูดแบบนิ่งๆกวนๆใส่มันบ้าง ที่จริงผมไม่ต้อง

หันกลับไปมองผมก็รู้ว่าเป็นมันเพราะผมจำเสียงมันได้ดีเลยยังไงหล่ะ มันไปทำหน้ามาแล้วหล่ะ แต่เท่าที่ดูก็เหมือนเดิมๆ

ไม่ได้ไปทำตรงไหนเพิ่มมาแค่ลบลอยแผลเป็นออกเท่านั้นเอง ความจริงถ้าไม่ติดว่ามันชอบหาเรื่องกวนตีนเค้าไปทั่ว มันจะ

เป็นคนที่หน้าคบหาคนนึงเลย หน้าตาอย่างมันนี่จัดว่าดีเลยแหละ แต่ก็ดีแบบอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน

"เมียไล่ออกจากบ้านแล้วยังไม่เจียมตัว ยังกล้าที่จะปากดีอยู่อีกนะ!!!" มันว่าผมกลับมา เห....แต่ว่ามันรู้ได้ยังไงว่าผมโดนเมีย

ไล่ออกจากบ้านในเมื่อผมแค่เล่าให้ไอ้คุณฟังแค่คนเดียวและมันก็คงไม่ได้ไปเล่าให้ใครฟังหรอก ในเมื่อมันยังไม่ได้ออกไปไหน

และนั่งหัวโด่อยู่ข้างๆผมเนี่ย มันไปรู้มาจากไหนแม้กระทั่งพ่อผมเองก็ยังไม่รู้เรื่องนี้เลย จะว่าหนูพัสโทรบอกพ่อก็คงจะไม่ใช่

เพราะว่าถ้าพ่อผมรู้ว่าผมทำลูกสะใภ้คนโปรดเค้าร้องไห้เสียใจอย่างนี้ ป่านนี้เจ้าสัวชัชคงจะบุกมาเอาเลือดหัวผมออกแล้วหล่ะ

"รู้ดีจังนะเรื่องของคนอื่นหน่ะ!!! เรื่องของตัวเองอ่ะรู้ยัง????" ไอ้คุณหันไปถามไอ้ธาราบ้าง

"เรื่องฉัน?? เรื่องอะไร??" ไอ้ธาราถามหน้างงๆ

"ก็เรื่องที่มึงจะมีผัวไง!!!!" เชดดดดด......แร่วๆ แล้ว คราวนี้ไอ้คุณลุกขึ้นยืนถามเลย แถมยังยื่นหน้าเข้าไปไกลๆหน้าไอ้ธาราอีก

"มึงพูดอะไรของมึง!!! คนอย่างกูไม่ยอมไปเป็นเมียใครหรอก กูต้องเป็นผัวเค้าเท่านั้น" อ่า...ไอ้ธาราหลุดมึงกูออกมาเลย

"หึ!! เดี๋ยวมึงก็จะรู้เอง...." ไอ้คุณทำเสียงขึ้นจมูก หน้ากวนตีนๆใส่ไอ้ธาราแค่นั้น ก็ทิ้งตัวนั่งลงตามเดิม ไม่สนใจเสียงด่า

เสียงโวยวายของไอ้ธาราอีกเลย

"พูดอะไรของมึง!! ไอ้คุณ!! ไอ้เหี้ย!! มาคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อน บลาๆ" อีกหลายคำเลยครับจากคนที่พยายามพูดเพราะตลอดเวลา

ก็หลุดสารพัดสัตว์ สาระพัดหน้าที่จะด่าได้ออกมาหมดเลย

"มึงไปเถอะไอ้ธารา วันนี้กูไม่มีอารมณ์จะมาเถียงกับมึง กูจะทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่มึงพูดก่อนหน้านี้ก็แล้วกัน" ผมบอกและ

ดันมันออกจากไอ้คุณเพราะว่ามันกระชากคอเสื้อไอ้คุณอยู่ ส่วนเพื่อนผมนะหรอ? นั่งทำหน้าอ้อนตีนเหมือนไม่รู่สึกอะไร

อยู่นั่นไง ทั้งๆที่ไอ้ธาราเขย่ามันยิ่งกว่าเชคเกอร์ที่ใช้ผสมเครื่องดื่มในร้านอีก

"ไม่!!! เรื่องมึงเอาไว้ก่อน แต่ตอนนี้กูต้องรู้ก่อนว่าเพื่อนเหี้ยของมึงมันพูดอะไร!!!" ไอ้ธารายังไม่ยอมหยุด

"เออ!!! มึอยากรู้มากเลยใช่ไหมว่ากูหมายความว่าอะไร นั้นมึงตามกูมานี่เลย ตัวเท่าลูกหมาซ่าดีนักไอ้เหี้ย!!!" พูดจบมันก็

เปลี่ยนจากการที่มันโดนไอ้ธารากระชากคอเสื้อกลายมาเป็นมันดึงผมและใช้แขนล็อคคอไอ้ธาราแทน

"ปล่อย!! มึงจะทำอะไรกู!!!!" ไอ้ธาราทั้งถีบทั้งดิ้นทั้งโวยวาย แต่ไอ้คุณก็ไม่ยอมปล่อย

"กูก็จะเฉลยคำตอบที่มึงถามกูให้มึงรู้ไงหล่ะ!!!!! คืนนี้มึงดูร้านด้วยนะไอ้ภาส กูจะพาเพื่อนเก่ามึงไปหาคำตอบ

ไป!! เดินสิมึง!! อย่าดีดดิ้นให้มากนัก!! เดินไปเร็วเข้า!!" บอกผมเสร็จก็ฉุดกระชากลากถูไอ้ธาราตรงไปหลังร้านในส่วน

ของทางขึ้นลิฟท์ที่มีไว้ให้แค่ผมกับมันใช้เท่านั้นคนอื่นห้าม ผมว่าผมพอจะเดาออกในสิ่งที่ไอ้คุณพูดแล้วหล่ะ!! งานนี้พูด

ได้คำเดียวว่ามีเละกันไปข้างแน่ๆ แต่ช่างแมร่งเถอะ!! ถึงแม้ว่าไอ้ธาราเป็นศัตรูกับพวกผมมานาน แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องของ

มันสองคนผมไม่เกี่ยว เอาเวลานี้หาทางง้อเมียดีกว่า ไม่รู้ว่าหนูพัสจะใจเย็นพร้อมฟังผมอธิบายตอนไหน เฮ้อ!!!! จะเป็นคนดี

ทั้งทีทำไมมันลำบากจังว๊ะ.......

 

...

ตอนที่แล้วมีคนเกลียดไอ้พี่ภาสกันเป็นแถว(รวมทั้งมี่ที่เป็นคนแต่งขึ้นมาเองด้วย ฮ่าๆๆ)

ลงตอนที่แล้วลงเว็บไหน เว็บนั้นคนอ่านก็ด่าอีพี่ภาสกันให้ระนาว ฮ่าๆๆ

แต่พอได้รู้ความจริง? กันบ้างแล้ว พอจะให้อภัยพี่มันกันบ้างไหมคะ แต่ก็ยังหาตัวคนทำไม่ได้??

ส่วน เจ้าคุณ กับ ธารา ก็คงจะพอเดากันได้แล้วเน๊าะ งานนี้มีเละ!!! อย่างที่พี่ภาสมันบอกแน่

สุดท้ายมี่ก็ขอขอบคุณทุกๆคน ทุกๆคอมเม้นต์นะค่ะ

 

 

   
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่10 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-06-2015 02:16:20
ตบตีได้สะใจมากๆ ถึงจะบอกว่ามันผิดปกติก็เถอะตอนที่เจ็บอยู่เมื่อครั้งตีกันก็น่าจะอธิบายเรื่องนี้ให้เข้าใจได้น่ะ ไม่ใช่ปล่อยให้เข้าใจไปแบบนี้ ปากน่ะมีไว้ทำไมฮะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่10 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 18-06-2015 03:33:19
เป็นคนดีไม่ยากหรอก  ก็แค่ตัดสิ่งยั่วเย้าทิ้งทั้งหมด555
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่10 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 18-06-2015 05:54:12
คู่สองมาแล้ววววว

หนูพัสรีบ ๆ หายโกรธพี่ภาสมันนะสงสารไอ้พี่ภาสมัน
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่10 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 18-06-2015 08:14:05
ตอนที่แล้วอิพี่ภาสแม่ง... -_-^^ ชั่วจริงๆ แต่พอตอนนี้ยังค่อยโล่งใจหน่อย ยังหวังว่าคืนนั้นคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ TT แม้จะโดนยาก็เหอะ ธาราจะเป็นคนบงการทุกอย่างเปล่าหว่า? ทำไมรู้เรื่องอิพี่ภาสโดนไล่ออกจากบ้านด้วย? แต่ธาราเป็นคู่รองนะ งืมๆๆ รอเฉลยต่อไป
แอบชอบคู่เจ้าคุณกะธาราอ่ะ แลดูฮาดี 5555 ตอนหน้าจะมีพาร์ทของคู่นี้มั้ย เพราะอยากอ่านตอนธาราถูกกด 555
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่10 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 18-06-2015 08:14:52
สนุกมากอ่าาา เค้าชอบบงบ แต่งอีกน้าาาแบบนี้ เค้าเข้ามาทู้กวันเลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่10 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 18-06-2015 08:17:33
หนูพัสปากว่ามือถึงดีจริงๆ เลยค่าา :m4: แข็งแกร่งมากๆ สมน้ำหน้าพี่ภาสจังเลยนะคะ มีโอกาสอธิบายตั้งหลายครั้งแต่ก็ไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์เลย.. สมควรถูกหนูพัสตบแล้วล่ะค่ะ ไม่ได้เรื่อง~ o16

ฝากความหวังไว้กับคุณด้วยนะคะ ช่วยปราบพยศธาราให้ได้ไวๆ เข้าล่ะ ^^
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่10 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 18-06-2015 08:22:44
เห้อออ! อ่านตอนนี้แล้ว ความปากหมาของพี่ภาสหายไปไหนหมดแทนที่จะพูดออกมาจะพูดใส่อารมณ์หรือจะตะคอกใส่หนูพัสก็ได้ขอให้พูดความจริงเถอะนะว่าเป็นยังไง แต่นี่ไม่พูดอะไรสักคำ พูดแต่ว่าพี่ขออธิบาย โดนเมียเล่นซะพูดไม่ออกเลยรึไง หึหึหึ  เรื่องราวแบบนี้มันต้องมีคนบงการมาแน่ๆ ต้องมีไส้ศึกแน่ๆ พี่ภาส ไม่งั้นธารารู้ได้ไง  รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร็วๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่10 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 18-06-2015 09:53:12
ปากแข็งเองนะอีตาภาส ให้น้องพัสช่วยทำบัชชีก็สิ้นเรื่องและ  :z3: :z3:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. อิมเมจคู่รอง (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 18-06-2015 10:02:44
อิมเมจ เจ้าคุณ & ธาร(ธาราธรณ์)

 
(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1796561429-member.jpg)

'คุณ' หรือ 'เจ้าคุณ ยศวโยธิน' ลูกชายคนรองของนายพลจอมทัพ ยศวโยธิน ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากองทัพ

อยู่ในขณะนี้ มีพี่ชายหนึ่งคน น้องสาวหนึ่งคน ชอบแหกคอกฉีกกฏเกณฑ์ของครอบครัว เจ้าคุณเกิดและโตมาจากครอบครัว

ที่เป็นข้าราชรับใช้ชาติกันตั้งแต่ต้นตระกูล แต่เพราะเจ้าตัวไม่ชอบอะไรที่มีกฏเกณฑ์บังคับมากมาย ไม่ชอบอยู่ในกรอบและ

เดินตามเส้นทางที่ใครขีดไว้ให้ ชอบที่จะใช้ชีวิตของตัวเองแบบไร้ขีดจำกัด นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ทะเลาะกับนายพลจอมทัพ

จนเป็นเรื่องราวใหญ่โตถึงกับโดนนายพลจอมทัพไล่ออกจากบ้าน นิสัยดิบๆ กวนๆ ชอบอะไรที่เสี่ยงและท้าทายเป็นที่สุด

 

 

 
(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1380247592-member.jpg)

'ธาร' หรือ 'ธาราธรณ์ ภูวนนท์' ที่ใครก็ต่างเรียกว่า'ธารา'เพราะเจ้าตัวไม่ยอมให้ใครเรียกชื่อเล่นนอกจากแม่ของตนเองเท่านั้น

ลูกชายเพียงคนเดียว(ตามที่คนอื่นเข้าใจ) ของนายหัวรพี ภูวนนท์ เจ้าของบ่อนคาสิโนผิดกฏหมาย แต่ใครจะรู้ล๊ะ ว่าความจริงแล้ว

ธาราธรณ์ยังมีพี่ชายคนละแม่ที่เกิดจากพ่อคนเดียวกันอีกหนึ่งคน ที่ใครก็ต่างพูดและเข้าใจว่าธาราธรณ์คือลูกชายหัวแก้วหัวแหวน

ของนายหัวรพี แต่แท้ที่จริงแล้วธาราธรณ์ไม่ถูกกับพี่ชายต่างแม่และเกลียดพ่อของตนเองมากถึงมากที่สุด

นิสัยแท้จริงนั้นจะ นิ่งๆ เงียบๆ และไม่ค่อยสนใจใคร แต่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องหาคอยเป็นฝ่ายเรื่องณัฐภาสก่อนตลอดเวลา

 

 

 

 

 

 

 

...

แวะเอาอิมเมจพี่คุณกับน้องธารมาลงให้ค่ะ

เดี๋ยวบ่ายๆมี่จะมาลง [พี่คุณ&น้องธาร] ตอนแรกให้นะคะ

 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.อิมเมจคู่รอง (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 18-06-2015 10:06:44
รอนะค้าา :oni1: ..
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.อิมเมจคู่รอง (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 18-06-2015 10:23:37
รอคู่นี้อย่างใจจดใจจ่อ ><
แต่ละคนมีปัญหากับทางบ้านทั้งคู่เลยแฮะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.อิมเมจคู่รอง (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Dimple ที่ 18-06-2015 10:54:20
น่าสนุกน่ะคู่รอง

ติดตามต่อไปค๊าาาา
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.อิมเมจคู่รอง (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Sugar_Halloween ที่ 18-06-2015 11:00:00
อิมเมจน่าหม่ำ :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.อิมเมจคู่รอง (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-06-2015 11:44:12
คนอยู่เบื้องหลังต้องเป็นไอ้ธาราแน่ๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.อิมเมจคู่รอง (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-06-2015 12:00:49
เข้าใจมาตลอดว่าธาราหน้าตามันเหี้ยมโหด ร่างกายบึกบื้น ไม่ใช่อรชรอ้อนแอ่นแบบนีี้
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รอง [เจ้าคุณ&ธารา] ตอน1 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 18-06-2015 12:25:54
คุณเมียภาคบังคับ [คุณ & ธาร] ตอนที่ 1   

 

 

 
(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1408377970-member.jpg)

"โอ๊ย!! ไอ้คุณ!! กูเจ็บนะ!!! ไอ้เหี้ย!!! จะลากกูมาทำไมห๊ะ!!!!" ธาราก่นด่าออกมาทันทีที่เจ้าคุณเหวี่ยงตัวเองทิ้งลงกับเตียงนอน

หลังจากที่โดนเจ้าคุณฉุดกระชาก ลากถู ตีกันมาตลอดเวลาระหว่างทางจากชั้นล่างจนขึ้นลิฟมาถึงห้องนี้

"โวยวายทำห่าอะไรของมึง!! กูก็บอกแล้วไงว่า....กูจะเอามึงมาทำเมีย!!!!" เจ้าคุณพูดบอกพร้อมบีบปลายคางของธาราไว้แน่น

"พ่องงงเหอะ!!! เรื่องไรกูต้องยอมเป็นเมียมึง ถอยไป ปล่อยกูเลยนะสัส!!!" ธาราพยายามดิ้นให้หลุดออกจากการจับกุมของเจ้าคุณ

"หึ หึ เดี๋ยวก็รู้กัน ว่ามึงจะได้เป็นเมียกูมั้ย!!!" เจ้าคุณพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปทางลิ้นชักหัวเตียงหยิบสิ่งที่ต้องการอย่างออกมา

"ไอ้คุณ!!! อย่านะ!!! อย่านะมึง!!!" ธาราพูดด้วยเสียงลนลานทันทีที่เห็นสิ่งที่เจ้าคุณหยิบออกมาทั้งสองอย่าง

"ทำไม? มึงจะบอกว่ามึงกลัวอย่างนั้นหรอ? กูว่ามึงน่าจะชอบมันมากกว่ามั้ง!!! ไม่อย่างนั้นมึงคงจะไม่ให้เด็กของมึงเอามันมา

ใช้กับเพื่อนกูหรอก!!!" เจ้าคุณบอกพร้อมกับมือที่กระชากหัวจิกเส้นผมของธาราไว้แน่น เพราะว่าธารากำลังดิ้นหนีอีกครั้ง

"โอ้ยไอ้เหี้ย!! กูไม่เคยใช้!! กูไม่ได้ทำ!!!" ธาราร้องออกมาด้วยความเจ็บทันทีเจ้าคุณกระกระหัวตนจนหงายหลังไปกับเตียงอีกครั้ง

"ถ้าไม่ใช่มึง แล้วจะเป็นใคร? ในเมื่อมีมึงแค่ตัวเดียว ที่ตามจองล้างจองผลาญเพื่อนกูเป็นสัมภเวสีแบบนี้!!! กูหล่ะรำคาญมึง

เต็มทน มึงแม่งไม่รู้เป็นเหี้ยอะไรนักหนา มึงรู้อะไรมั้ย? ว่ามึงอยู่รอดมาตามเห่าหอนได้ถึงทุกวันนี้ก็เพราะไอ้ภาสมันเห็นว่า

มึงเป็นเพื่อนเล่นกับมันมาตั้งแต่เด็ก มันใจอ่อนเกินไป ถ้ามันจะทำมึงจริงๆป่านนี้หน้ามึงคงเละหรือไม่ก็ตาบอดไปแล้ว

ไม่ใช่แค่เป็นรอยแล้วไปเลเซอร์ก็หายอย่างนี้หรอก และวันนี้กูก็เอือมมึงเต็มที!!! คนอย่างมึงต้องเจอกู!!!" พูดจบก็เปิดฝาขวด

เทน้ำยาสีใสไร้กลิ่นไร้รสกรอกใส่ปากของธาราทันที

"แค่กๆ ไอ้เหี้ย!!! มึงจะทำอะไรกู!!!" ธาราสำลักออกมาทันทีที่น้ำยาสีใสไหลลงคอไปหมดแล้ว

"มึงนี่ความจำสั้นเน๊าะ!! กูเพิ่งจะบอกไปเมื่อกี้นี้เองว่ากู จะ.เอา.มึง!!" เจ้าคุณพูดเน้นประโยคสุดท้ายด้วยหน้ากวนๆ

    กริ๊ก...

"สัส!!! ไอ้คุณ!! ไอ้เวร!! ปล่อยกู!!! มึงจะล็อคกูทำเหี้ยอะไร!!" ธาราโวยวายออกมาทันทีเพราะเจ้าคุณจับแขนข้างขวาของธารา

ใส่กุญแจมือล็อคติดกับหัวเตียงของตัวเองเพื่อกันไม่ให้ธาราหนีไปไหนได้

"เอ้าๆ เงียบไมมึง? ไม่ดิ้นต่อหล่ะ!! หรือว่ายากูออกฤทธิ์แล้ว?? แต่มึงไม่ต้องห่วงหรอกนะว่ามึงจะจำอะไรไม่ได้อย่างไอ้ภาส

มันหน่ะ เพราะกูเอาให้มึงกินแค่พออยาก ไม่ได้ให้หลอน เพราะฉะนั้น..มึงจะจำได้ทุกฉากทุกตอนแน่ ฮ่าๆ" เจ้าคุณพูดจบก็

ผละตัวออกจากธารา และเดินไปนั่งมองธาราตรงโซฟาที่ห่างออกไป เพื่อรอเวลาให้ยาปลุกที่เค้าเอามาใช้กับธาราให้ออกฤทธิ์

ได้เต็มที่ และให้อีกคนได้มีความต้องการมากกว่านี้อีกสักหน่อย

"มึง..ง....แม่ง...เลว..ปล่อย...กู...เลย....นะ.....อื้อ!!!...." ธารากัดปากตัวเองไว้แน่นทันที่ที่เผลอแสดงความต้องการออกมา

"ยานี่แม่งทันใจกูจริงๆ" เจ้าคุณลุกเดินเข้ามามองสำรวจธาราที่นอนหอบหายใจแรงเพราะฤทธิ์ยาปลุก ผิวที่เคยขาวใสก็เปลี่ยน

เป็นสีแเดงก่ำด้วยแรงอารมณ์ของความต้องการ

"ถ้า...กู...หลุด....ไป...ได้....กู....จะ...ฆ่า....มึง" ธาราพยายามเค้าเสียงพูดออกมา ทั้งๆที่ตอนนี้แทบจะบังคับตัวเองไม่ได้

"หึ หึ เอาไว้หลังจากที่เป็นเมียกูก่อนนะ ถึงตอนนั้นถ้ามึงยังมีแรงเหลือพอ...." พูดจบเจ้าคุณก็กระชากเสื้อเชิ้ตของธาราอย่างแรง

จนขาดกระดุมหลุกระจัดกระจายออกจากกัน เลือนร่างของธาราที่เค้าเห็นตอนนี้มันต่างจากที่เค้าคิดไว้มาก จากที่เคยคิดว่าธารา

จะต้องขนาดตัวหนาใกล้ๆเคียงกับเค้าแต่ไม่เลย มีแค่ความสูงเท่านั้นที่ใกล้กัน  ธารามีลำตัวที่บาง เอวคอดกิ่ว ผิวขาวเนียน

ทั้งนุ่มทั้งลื่นมือ

"โอ๊ย!!! ไอ้เหี้ย!! กูเจ็บ!!!" ธาราร้องออกมาเพราะเจ้าคุณเลื่อนมือไปกระชากถอดกางของตนอย่างแรง แบบไร้ความปราณี

ทั้งกางเกงทั้งชั้นในของธาราหลุดออกมาพร้อมกันหมดเลยทีเดียว ทำให้ตอนนี้ธารามีเหลือแค่ร่างกายเปลื่อยเปล่า แก่นกาย

พอดีกับตัวของธาราที่ปลิ่มน้ำแสดงความต้องการออกมาชัดเจน ไหนยังจะก้นขาวๆนุ่มๆนั่นอีก อ่า...นี่แค่มองนะยังทำให้

ไอ้ลูกชายเจ้าคุณน้อยของเค้ามันเรียกร้องด้วยความต้องการขยายตัวดันกางเกงจนเค้าปวดไปหมด

"ทำไม? เห็นของกูถึงกับตาค้างเลยหรอ? อย่างของมึงที่มีเนี่ยไปเป็นผัวใครเค้าไม่ได้หรอกรู้มั้ย? มึงหน่ะเหมาะจะเป็นเมียที่สุด!!"

พูดจบก็เจ้าคุณก็ขยับรูดรั้งแก่นกายร้อนผ่าวของตัวเองให้พร้อม ก่อนที่จะแทรกตัวเข้าไปอยู่หว่างขาของธาราและจัดการแยกขา

ของธาราออกให้กว้างอีกนิดเพื่อที่จะรองรับตน

"อ๊ากกก.....เจ็บบบบ......กูเจ็บบบบบบ" ธาราร้องเสียงดังลั่นออกมาทันทีที่เจ้าคุณพยายามดันแก่นกายของตัวเองเข้าไปโดยที่

ไม่มีการเล้าโลมหรือขยายช่องทางแต่อย่างใด และเพราะว่าแก่นนกายของเจ้าคุณกับช่องทางของธารามีขนาดแต่งต่างกันมาก

และอีกอย่างนี่คือครั้งแรกของธาราด้วยจึงทำให้การสอดใส่เป็นไปอย่างยากลำบาก

"มึงก็อย่าเกร็งสิว๊ะ แมร่งงง!!!" เจ้าคุณบอกออกมาอย่างหงุดหงิด และพยายามกัดฟันกระแทกแก่นกายของตนเข้าไปจนมิดด้าม

"อ๊ากกก....ไอ้เหี้ยคุณ!!!...เอาออกไป...เอามันออกไป...." ธารากรีดร้องออกมาเมื่อรับรู้ถึงการเจ็บปวดที่ช่องทางด้านหลังของตน

"ซี๊ดดดด....แน่นสัส!!....อุ่นเหี้ยๆ!!...." พูดจบเจ้าคุณก็เริ่มขยับสะโพกของตัวเองทันที

"เหี้ย!!!..เจ็บ..ออกไปนะ....ออกไปจากตัวกู..." ธาราบอกด้วยเสียงสั่น ตอนนี้เค้าเจ็บไปหมดเจ็บทั้งข้อมือที่โดนล็อค

เจ็บทั้งช่องที่โดนเจ้าคุณล่วงเกินเอาเปรียบอยู่ตอนนี้ อีกทั้งยังเจ็บใจที่ตัวเองจะต้องมารับกรรมในสิ่งที่ไม่ได้ทำเอาไว้อีกด้วย

"แม่งปากบอกให้กูออก แต่ของมึงนี่โคตรตอดกูอ่ะ!!" เจ้าคุณเพิ่มแรงในการกระแทกเข้าไปอีก จนทำให้ตัวของธาราโยกตาม

"อึก......อ๊ะ.....อื้ออออออ" คงเป็นเพราะฤทธิ์ยาก่อนหน้านี้ทำให้ธารามีอารมณ์ร่วมกับเจ้าคุณจนหลุดเสียงออกมา ทั้งๆที่ยังเจ็บ

ช่องทางหลังอยู่มาก

"หึ หึ มันส์ สิมึง" เจ้าคุณพูดด้วยเสียงเย้ยๆ และมองหน้าคนที่อยู่ใต้ร่าง ธาราในตอนนี้นั้นทำให้เค้าแทบคลั่ง ดวงตาช่ำปรือ

ปากที่เจ้าตัวกัดจนเจ่อบวมเพราะพยายามห้ามไม่ให้เสียงหลุดลอดออกมามันยิ่งทำให้ความต้องการของเค้าเพิ่มมากขึ้นไปอีก

"อ๊ะ......อ๊ะ......อ๊ะ" ธาราต้องหลุดเสียงร้องออกมาจนได้ เมื่อเจ้าคุณแกล้งกระแทกสะโพกเน้นๆ จนทำให้เค้าทั้งรู้สึกจุกและเสียว

ในเวลาเดียวกัน

"หึ หึ  อ่าห์....." เจ้าคุณครางออกมาเมื่อรับรู้ว่าตนใกล้จะปลดปล่อย เจ้าคุณจับตัวของธาราตระแคง ยกขาของธาราพาดบ่าให้

กว้างและสูงขึ้นอีกนิด  ก่อนที่จะกระแทกสะโพกเข้าออกแบบรัวๆ อย่างรุนแรง

"อือ.....อืออออ.....อือออออ" ธาราได้แต่นอนกัดหมอกลั้นเสียง ตัวโยกสั่นคลอนตามแรงกระแทกของเจ้าคุณ

"อ่าห์......อืมมมมมมมม......." เจ้าคุณครางออกมาอย่างสุขสมเมื่อเกร็งตัวและปลดปล่อยเข้าไปในตัวของธาราจนหมด

ตอนนี้ธารารู้สึกอุ่นวาบ สมองของขาวโพลนไปหมด อีกทั้งยังทั้งแสบทั้งเจ็บช่องทางของตัวเองมากอีกด้วย

"เสร็จแล้วก็เอาของมึงออกไปไอ้เหี้ย!!!" ธาราตระคอกออกมาอย่างสุดทน หมดแล้วศักศรีของเค้า โดนคนๆนี้ทำลายไปหมดแล้ว

"กูจะบอกอะไรให้นะ...คนอย่างกูอ่ะ รอบเดียวไม่พอหรอก" เจ้าคุณบอกด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

"กูไม่เอาแล้วไอ้เหี้ย!!! ปล่อยกูนะ!! ไอ้คุณ!! ไอ้สัส!! ไอ้เลว!! ไอ้ชั่ว!!" ธาราตวาดก่นด่าออกมา เมื่อไอ้สิ่งที่อยู่ในตัวของเค้าเริ่ม

จะขยายขึ้นมาอีกแล้วทั้งๆที่พึ่งจะปลดปล่อยออกไปแท้ๆ

"ด่ากูเลย ด่าไปเถอะ ด่าเสร็จแล้วก็มาครางเรียกชื่อกูต่อก็แล้วกัน หึ หึ" เจ้าคุณพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ อย่างสนุก ซึ่งแตกต่าง

จากอีกคนอย่าสิ้นเชิง ก่อนที่จะเริ่มขยับสะโพกเริ่มเกมสวาทอีกครั้ง จนทำให้เสียงก่นด่าก่อนหน้านี้เปลี่ยนไปเป็นเสียงร้องคราง

ดังขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดง่ายๆในคืนนี้

 

...

          แสงแดดลอดส่องเข้ามาตามช่องของผ้าม่าน ทำให้หนึ่งในสองคนที่นอนกอดกันบนเตียงใหญ่ในห้องได้รู้สึกตัว ร่างบาง

ของธาราค่อยๆกระพริบตาปรับแสง งัวเงียอย่างไม่ค่อยตื่นดี ตอนนี้เค้ารู้สึกชาไปทั้งตัวเหมือนคนเป็นอัมพาต อีกทั้งช่องทางด้าน

หลังของตนก็เจ็บแสบไปหมด ก่อนจะเงยหน้ามองเห็นคนที่ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจของเค้านอนหลับตาพริ้มอย่างเป็นสุข

อยู่ตรงข้าม หน้าห่างกันไม่ถึงคืบ

"สัส!! มีความสุขนักนะมึง ไอ้เหี้ย ไอ้เวร หมาจะเกิดชิงหมาเกิด" ธาราพูดด่าออกมาเบาๆคนเดียวเพราะหลังจากเมื่อคืนเค้าก็พอ

จะรู้บ้างแล้วว่าจริงๆแล้วเค้าไม่สามารถสู้อะไรกับคนๆนี้ได้เลย และคงจะเป็นอย่างที่เจ้าคุณบอกก่อนหน้านี้ว่าณัฐภาสเพื่อนรัก

เพื่อนเก่าของเค้าคงจะออมมือให้เค้าจริงๆที่ผ่านมาเค้ากับณัฐภาสถึงได้ต่างคนต่างเจ็บตลอดมาและอีกอย่างเค้าไม่เคยเห็นใคร

จะทำอะไณัฐภาสอย่างที่เค้าทำได้เลย แต่ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไงเค้าก็ยังต้องทำเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็นมาอยู่ดี

"ตื่นมาก็ปากดี มีฤทธิ์เลยนะมึง จับล่อแม่งซักอีกทีดีมั้ย??" เจ้าคุณพูดออกมาเสียงเรียบทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา แต่แท้ที่จริงแล้ว

เจ้าคุณ นั้นยังไม่ได้หลับเลยต่างหากตั้งแต่กิจกรรมครั้งสุดท้ายของเค้าจบลงไปพร้อมกับที่ธาราหมดสติสลบไป

"กูจะกลับบ้าน" ธาราสดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้าคุณพูดก่อนที่จะบอกความต้องการของตัวเองออกมาด้วยเสียงสั่น

"อยากกลับก็กลับไปดิ! ใครรั้งขามึงไว้?" เจ้าคุณบอกก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไปทั้งๆที่ไม่มีอะไรปิดร่างกายเปลือยเปล่า

ของตัวเองแม้แต่น้อย และนั่นก็ทำให้ธาราหลบตาออกจากร่างกายที่เปลือยเปล่าของเจ้าคุณด้วยใบหน้าแดงก่ำ

"สัส!! หน้าด้านชิบหาย แล้วใครแม่งล็อคกูหล่ะ...อ่ะ....อ่าว...มันปลดกุญแจมือไปตอนไหนว๊ะ!! ช่างแม่งเถอะรีบไปก่อนดีกว่า"

ธาราได้แต่บ่นในใจก่อนที่จะค่อยๆขยับลุกขึ้นอย่างช้าๆ เพราะเจ็บเสียดที่ช่องทางด้านหลังของตนเป็นอย่างมาก

"อื้อหือ...เหี้ย!!! แม่งเอ้ย!!!...เสือกไม่ใส่ถุงอีก!!! กูแย่แน่ๆ ไอ้คุณไอ้เลว ไอ้สัส โอ้แม่งถ้ามันเกิดขึ้นมานะจริงๆนะ กูจะฆ่ามึง!!"

ธาราโวยวายออกมาเสียงดังทันทีเมื่อเห็นว่าน้ำขุ่นขาวของเจ้าคุณไหลปะปนมากับลิ่มเลือดออกมาจากช่องทางด้านหลังของตน

ก่อนที่จะรีบใช้กระดาษทิชชู่เช็ดทำความสะอาดแบบลวกๆและรีบแต่งตัวออกจากห้องออกจากผับของเจ้าคุณทันที

.

.

.

"สวัสดีค่ะ เป็นอะไรมาคะ?" เสียงหญิงสาวถามอย่างสุภาพเมื่อเห็นธาราเดินเข้ามาในร้านของตน

"ผมต้องการตามนี้ ช่วยจัดให้ทีนะครับ" ธาราก้มหน้าบอกด้วยความอายเค้าเป็นผู้ชายแท้ๆกลับต้องมาชื่อของอย่างนี้

"ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ" หญิงสาวเจ้าของร้านหยิบแผ่นกระดาษที่ธารายื่นให้ ก่อนจะมองอย่างแปลกใจแต่ก็ยังยิ้มรับอยู่ดี

"ขอบคุณครับ" ธารารับของที่เค้าต้องการก่อนที่จะยื่นเงินให้หญิงสาวและเดินออกมาจากร้านอย่างแร่งรีบ

 

...

จ้านนนน........มาแล้วคร้า...............พี่คุณกับน้องธารของเรา

มาพร้อมกับ เอ็นซีกากๆ คือมี่พึ่งหัดแต่ง nc เป็นครั้งที่2เองค่ะ

ใครที่รออยู่คงจะสมใจนะคะ ถูกใจไม่ถูกใจอย่างไงก็บอกกันหน่อยนะคะ

แต่ห้ามด่ามี่นะ เดี๋ยวมี่จะเกิดติสแตกนอยด์ขึ้นมาอีก ฮ่าๆๆ

และมี่ขอขอบคุณทุกๆกำลังใจที่บอกผ่านเข้ามานะคะ

มี่ยังยืนยันที่จะบอกว่าคนอ่านทุกๆคนและคอมเม้นต์ทุกๆคอมเม้นต์ยังเป็นแรงใจที่สำคัญของมี่เสมอ

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ รักคนอ่านทุกคนค่ะ (^3^)
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.อิมเมจคู่รอง (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 18-06-2015 12:27:22
รอพี่คุณน้องธารจ้า เหมือนกับหลายๆความเห็นนึกว่าธารจะล่ำบึก5555
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รอง [เจ้าคุณ&ธารา] ตอน1 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 18-06-2015 12:44:31
แอบสงสารธารา T T

หวังว่าจะไม่โดนแบล็คเมลนะคะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รอง [เจ้าคุณ&ธารา] ตอน1 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-06-2015 13:25:01
คุณนี้เถื่อนได้ใจเลย. อิอิ ธาราสู้ไรไม่ได้เลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รอง [เจ้าคุณ&ธารา] ตอน1 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 18-06-2015 13:33:57
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รอง [เจ้าคุณ&ธารา] ตอน1 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 18-06-2015 14:04:46
เจ้าคุณโหดร้าย~ :sad2: แต่ก็ว่าไม่ได้เหมือนกันนะคะ เพราะที่ธาราชวนพี่ภาสทะเลาะทุกครั้งมันก็ชวนให้เข้าใจผิดจริงๆ นี่เนอะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รอง [เจ้าคุณ&ธารา] ตอน1 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 18-06-2015 14:21:39
ชอบคู่นี้อ่ะ 5555 -.,-
คู่รองมาแรงแซงโค้งทำแต้มเข้าเป้าไปก่อนแล้ว แต่คู่หลักยังไม่ได้แอ้มเลย กร๊ากกก สนน.อิพี่ภาส!
ตอนแรกเราก็นึกเหมือนกันว่าธาราจะแมนๆ บึ้กๆ -0-;
แต่ทำไมธารารู้เรื่องที่เกิดขึ้นได้อ่ะ? ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รอง [เจ้าคุณ&ธารา] ตอน1 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 18-06-2015 15:09:02
คู่รองสนุกคับ คุณก็ดี ธาราต้องเจอแบบคุณนี่ละสมน้ำสมเนื้อดีคับ ธาราจะน้อยใจคุณมั้ยนี่  ยังไงก็ยังเชียร์พี่ภาส ไปง้อเมียให้ได้นะ เดือนกว่าๆแล้วสิยังจัดการเมียไม่ได้อ่ะ ๕๕๕ ไปพูดกับเมียให้เข้าใจนะว่าความจริงเกิดอะไรขึ้น  รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร้วๆนะคับ  เป็นแรงเชียร์ให้คนแต่งมาลงตอนใหม่ไวๆคับ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รอง [เจ้าคุณ&ธารา] ตอน1 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-06-2015 15:24:10
กลัวตัวเองท้องเหรอธารา!? (สงสัย?)
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รอง [เจ้าคุณ&ธารา] ตอน1 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 18-06-2015 15:50:11
ธาราก็ท้องได้ชิมิ แน่นอนเลย แอบสงสัย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รอง [เจ้าคุณ&ธารา] ตอน1 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 18-06-2015 15:56:41
ธาราท้องได้ชิมิ??
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up. ตอนที่10 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 18-06-2015 17:39:26
เอ้า พลาดครั้งเดียว ไอ้ที่ทำบัญชี แล้วมีกลิ่นน้ำหอมติดนี่หล่ะ อธิบายไปเด้ แต่ก็คงลำบากนิดๆหน่อยๆแหละ
คำว่า เครียด เขียนแบบนี้

คุณจะจัดการธารา?
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รอง [เจ้าคุณ&ธารา] ตอน1 (18/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 18-06-2015 17:49:24
ธารทำเพราะอะไรสักอย่าง จะท้องได้อีกคน?

"กูจะข้ามึง" ฆ่า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอน11 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 19-06-2015 10:20:24
แรง.ร้าย.รัก...คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 11

 

 

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/75070211-member.jpg)

     Tru.......Tru........Tru

"ฮัลโหล...." ใครโทรมาแต่เช้าอย่างนี้ว๊ะเนี่ย! ผมเพิ่งจะได้นอนเมื่อตอนตีห้านี่เอง แต่พวกคุณอย่าคิดกันไปไหนไกลนะ ที่ผมพึ่ง

จะได้นอนก็เพราะว่าหลังจากที่ไอ้คุณลากไอ้ธาราขึ้นห้องมันไปแล้ว คงไม่ต้องเดากันให้ยากหรอกมั้งครับว่ามันลากไอ้ธาราไป

ทำอะไร เพราะว่าไอ้คุณก็เป็นคนที่หวงห้องนอนหวงพื้นที่ส่วนตัวพอๆกับผม อ่า..เข้าเรื่องต่อดีกว่า หลังจากที่ไอ้คุณขึ้นห้องไป

ก็มีวัยรุ่นกลุ่มใหญ่เข้ามาป่วนในร้านผมจนเละเทะไปหมด ลูกคงลูกค้ากระจากหายไปหมด  กว่าจะช่วยลูกน้องไล่จับไอ้พวก

เด็กเวรนั่นได้ก็แทบบ้า แล้วสุดท้ายก็ต้องไปจบที่สถานีตำรวจอยู่ดี ช่วงนี้นี่ผมไม่พ้นคุกพ้นตารางเลยนะพวกคุณคิดเหมือน

กันมั้ย? ถึงจะได้ค่าเสียหายมาบ้าง แต่งานนี้ผมพูดได้เลยว่าทุนหายกำไรหดเสียหายหลายตังค์แน่ๆเลยครับ ยิ่งพอกลับมาเห็น

สภาพร้านตัวเองนี่ผมลมแทบจับเลย เพราะที่นี่เหมือนบ้านของผมไงหล่ะครับก่อนที่ผมจะแต่งงานกับหนูพัสผมทำงานที่นี่

กินนอนที่มากกว่าที่บ้านพ่อซะด้วยซ้ำ แต่หลังจากวันนี้สาขานี้คงจะต้องปิดปรับปรุงสักอาทิตย์สองอาทิต์เป็นอย่างต่ำหน่ะ

แหละครับ เรื่องเมียก็ยังไม่เคลียร์ เรื่องพนักงานบัญชีรวมหัวกันลาออกก็ยังไม่รู้เรื่อง มาเรื่องนี้อีกแล้ว เฮ้อ!!! เหนื่อย!!!

"สวัสดีค่ะคุณภาส นี่ป้าชื่นเองนะคะ คือป้าจะโทรมาบอกว่าคุณพัสเธอไม่สบายไข้ขึ้นสูงมากเลยหน่ะค่ะตอนนี้"

พอได้ยินสิ่งที่ป้าชื่นแม่บ้านคนเก่านแก่ของพ่อผมบอกออกมา  มันทำให้ผมตาสว่างหายง่วงเป็นปลิดทิ้งเลยครับ

"แล้วตอนนี้หนูพัสอยู่ไหนครับป้า มีใครพาไปโรงพยาบาลรึยัง??" ผมถามด้วยความร้อนลน

"ยังเลยค่ะ ป้ากับเจ้าสนจะช่วยกันพาไปหาหมอ แต่คุณพัสเธอไม่ยอมนะค่ะ ป้าพูดจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้วค่ะ ก็เลยโทรมาแจ้ง

ให้คุณภาสรู้ก่อนนี่แหละค่ะ" ป้าชื่นบอกออกมาเสียงอ่อย

"ครับๆ เดี๋ยวผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละครับ ป้าช่วยอยู่ดูหนูพัสให้ผมก่อนนะครับ" ผมตัดสายทิ้งทันที่ที่พูดจบ  และไม่รอฟัง

คำตอบใดๆจากป้าชื่นอีกเลย คว้าเสื้อคลุมมาใส่เสร็จ ผมก็ออกมาทั้งชุดนอนอย่างนั้นแหละ ก่อนที่จะขึ้นขับรถคู่ใจ เหยียบจน

มิดไมล์ โดยไม่สนใจว่าจะเกินที่กฎหมายกำหนดหรือเปล่า ป่านนี้คนที่ขับตามหลังผมมาคงด่าไปถึงต้นตระกูลผมแล้วหล่ะ

.

.

.

.

.

."หนูพัสเป็นไงบ้างป้าชื่น!!" พอมาถึงบ้านผมก็รีบสาวเท้าขึ้นห้องทันที พอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นป้าชื่นนั่งเฝ้าหนูพัสอยู่ที่

พื้นห้องข้างๆเตียงที่มีหนูพัสนอนอยู่

"ก่อนหน้านี้ป้าเช็ดตัวให้คุณพัสไปแล้วค่ะ แต่ไข้ก็ยังไม่ลดเลย พอจะพาไปหาหมอเธอก็ไม่ยอม บอกว่าไม่ไปท่าเดียวเลยค่ะ"

ป้าชื่นก้มหน้าก้มตาตอบ สงสัยกลัวว่าผมจะต่อว่ามั้งครับ

"ป้าไปทำงานของป้าเถอะ เดียวทางนี้ผมจัดการเอง ยังไงก็ขอบคุณที่ป้าช่วยดูแลหนูพัสในตอนที่ผมไม่อยู่ด้วยนะครับ"

ผมพูดบอกขอบคุณออกจากใจจริง ถ้าไม่มีป้าชื่นไม่รู้ว่าป่านนี้หนูพัสจะเป็นยังไงบ้าง เพราะว่าตอนนี้ผมไม่สามารถที่จะดูแล

หนูพัสอย่างใกล้ชิดเหมือนที่ผ่านมาได้เลย จนกว่าผมจะพิสูจน์ตัวเองให้หนูพัสได้เห็นว่าผมก็เป็นสามีที่ดีได้เหมือนกัน

"หืออ....ตัวร้อนจี๋เลย" ผมนั่งลงตรงที่ว่างบนที่นอนข้างๆหนูพัส ก่อนที่จะทาบมือสัมพัสหน้าผากมนของหนูพัสเพื่อที่จะ

วัดอุณหภูมิให้แน่ชัด ผลก็คือตัวร้อนจัดเลยครับ เหมือนกับที่ป้าชื่นบอกก่อนหน้านี้เลย

"เฮ้อ!!...เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้อีกรอบก่อนแล้วกัน แล้วเราค่อยไปโรงพยาบาลกันนะครับ" ผมบอกกับหนูพัสที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง

รู้ราวเพราะพิษไข้อยู่ตอนนี้ ก่อนที่ปิดแอร์และไปเตรียมอุปกรณ์เช็ดตัวมาเช็ดตัวให้หนูพัสได้สบายตัวขึ้นกว่านี้อีกนิด

"ฮื่ออออ..........หนูพัสหนาวฮะคุณย่า....." ผมจัดการจับหนูพัสถอดเสื้อจนหมดเหลือแต่ตัวเปลือยเปล่าเลยครับ แต่อย่าพึ่งคิด

กันไปไกลนะครับ เวลาอย่างนี้ไม่มีอารมณ์จะไปคิดถึงเรื่องอย่างว่าหรอกครับ ถึงผมจะหื่นผมก็หื่นเป็นเวร่ำเวลานะครับ

หน้าหนูพัสตอนนี้ก็เต็มไปด้วยเหงื่อ ผิวที่เคยขาวๆเห่อแดงเพราะพิษไข้ไปหมดทั้งตัวเลย  และทันทีที่ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาด

ของผมสัมผัสถูกผิว หนูพัสก็ครางออกมาเหมือนคนละเมอเลยครับว่าหนาว ทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่

"ทนเช็ดตัวให้เสร็จก่อนนะครับ เดียวพี่พาไปหาหมอ จะได้หาย" ผมพูดเองเออเองแล้วก็พยายามเช็ดตัวหนูพัส โดยเช็ดย้อน

รูขุมขนแรงๆ โดยที่ไม่ลืมที่จะใช้ผ้าอีกหลายๆผืนชุบนำ้บิดหมาดเหน็บไว้ตามจุดชีพจร รักแร้ ขาหนีบ คอ เพื่อระบายความร้อน

ออกจากตัวหนูพัสให้ได้มากที่สุดหน่ะครับ ที่ผมทำได้คล่องขนาดนี้ก็เพราะว่าคุณแม่เคยทำให้ผมอย่างนี้เช่นกันตอนที่ผมป่วย

เมื่อสมัยเด็กๆ

"ไม่ไปนะฮะคุณปู่ หนูพัสไม่ไปนะฮะคุณย่า คุณหมอฉีดยาหนูพัสเจ็บ ฮึก!" อ้าว!! แล้วกันเมียผม ร้องไห้ซะแล้ว สงสัยจะมี

ความหลังกับเข็มฉีดยา ทั้งๆที่ผมพูดแค่ว่าจะพาไปหาหมอเท่านั้นเอง เท่านั้นยังไม่พอผมเช็ดตัวไปก็ต้องสู้กับคนป่วยจอมดื้อ

ไปด้วย ทั้งที่ยังไม่ยอมลืมตา ปากก็เพ้อเรียกหาแต่คุณปู่คุณย่า แต่มือนี่ปัดโดนทุกที่ที่ผมเช็ดเลยหล่ะ

"โอเคๆ เสร็จแล้วครับๆ ไม่ไปก็ไม่ไป ชู่ว์!! อย่าร้องนะครับอย่าร้อง" ผมจัดการใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ให้หนูพัสทันทีที่เช็ดตัวเสร็จ

ไข้ก็เริ่มลดลงบ้างแล้วแต่ตัวหนูพัสก็ยังร้อนอยู่ดี เอาไว้เดี๋ยวผมคอยเช็ดตัวให้อีกซักพักถ้ายังไม่ดีขึ้นไปมากกว่านี้ก็คงต้อง

พาไปหาหมอจริงๆแล้วหล่ะครับ ผมจะไม่ยอมใจอ่อนอย่างนี้อีกแล้ว

.

.

.

"มีใครอยู่แถวนี้บ้าง!!!" ผมตะโกนเรียกหาเด็กในบ้านที่ลงมาถึงชั้นล่าง

"คุณภาสจะเรียกป้า มีอะไรคะ" เป็นป้าชื่นเหมือนเดิมครับที่เดินมาถาม แล้วคนอื่นมันไปไหนกันหมดเนี่ยปล่อยให้คนแก่

วิ่งวุ่นทำงานอยู่คนเดียว

"ผมอยากได้แผ่นเจลลดไข้ กับยาให้หนูพัสหน่ะครับป้า แล้วนี่คนอื่นไปไหนกันหมดครับ? ตั้งแต่ผมเข้าบ้านมาผมก็เห็นแค่

ป้าวิ่งวุ่นทำงานอยู่คนเดียว" ผมบอกในสิ่งที่ต้องการ ก่อนที่จะถามถึงเด็กในบ้านที่เหลือ

"เอ่อ....พวกนั้นก็แยกย้ายไปทำงานของตัวเองกันหน่ะค่ะ คุณภาสรอสักครู่นะคะเดี๋ยวป้าจะไปจัดยามาให้ค่ะ" ป้าชื่นอ้ำๆอึ้งๆ

ตอบ ก่อนที่จะเลี่ยงไปหยิบยามาให้ผม ผมหวังว่ามันจะไม่เป็นอย่าที่ผมกับไอ้คุณคิดหรอกนะ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆผม

จะไม่ปราณีเลยคอยดู

.

.

.

"คุณย่ากอดหนูพัสหน่อยฮะ หนูพัสหนาววว....." หลังจากที่ผมแปะแผ่นเจลลดไข้และป้อนยาด้วยความอยากลำบากเพราะ

คนป่วยดิ้นไปดิ้นมาไม่ยอมอยู่เฉยๆเสร็จแล้ว พอผมก้มลงห่มผ้าให้เจ้าตัวก็กอดรั้งคอผมไว้เน่นซะงั้น สงสัยจะฝันถึงคุณปู่

คุณย่าอยู่ มั้งครับถึงได้อ้อนขนาดนี้

"หนูพัสปล่อยพี่ก่อนครับ พี่ไม่อยากให้เราคิดว่าพี่ฉวยโอกาสนะ" ผมบอกและพยายามที่จะแกะมือของหนูพัสออกจากคอตัวเอง

ดูเหมือนผมเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษเลยใช่มะ แต่ความจริงมันไม่ใช่อย่างที่พวกคุณคิดหรอกครับ ตอนนี้ผมหน่ะอยากจะกอดเมีย

ตัวเองจนแทบบ้า แต่ก็ติดที่กลัวว่าเจ้าตัวเค้าถ้าตื่นมาแล้วจะหาว่าผมฉวยโอกาสทั้งๆที่เรายังไม่ได้เคลียร์กันเลยนะสิครับ เดี๋ยวจะ

พาลโกรธผมหนักมากกว่าเดิมซะเปล่าๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมยอมอดตอนี้ดีกว่า ก็คนมันไม่อยากห่างเมียนานๆนี่ครับ

"งื้อออออ.....คุณย่าไม่รักพัส ฮึก!!" เอาๆเข้าไป เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาเลยเชียว ผมว่าตอนหนูพัสปกตินี่ดื้อแล้วนะครับ แต่พอ

มาเจอตอนป่วยๆแบบนี้นี่ดื้อสุดๆไปเลย  แต่ก็น่าร๊ากกกกก

"ก็ได้ครับๆก็ได้ ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วอย่ามาพาลโกรธพี่ก็แล้วกันนะในเมื่อพัสเป็นคนกอดพี่ไว้เองอย่างนี้หน่ะ" ผมบอกก่อนที่จะ

แทรกตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกันกับหนูพัส พอผมนอนลงแล้วหนูพัสก็ขยับเข้ามากอดผมไว้ทันทีเลย

"เฮ้อ!! หวังว่าตื่นมาเจอพี่แล้วจะไม่อาลาวาดนะ พี่รักหนูพัสนะครับ"

     ฟอดดดดด...........

     ผมหอดแก้มหนูพัสสูดกลิ่นหอมเฉพาะตัวของหนูพัสให้เต็มปอด ก่อนที่จะกระชับอ้อมแขนกอดหนูพัสให้แน่นขึ้นอีกนิด

ไหนๆก็ไหนๆแล้วผมขอใช้โอกาสช่วงนี้ให้คุ้มก็แล้วกันครับ ฮ้าว!!.....เริ่มง่วงแล้วซิครับ ลองนับเวลาดูแล้วเมื่อเช้าผมเพิ่งจะ

นอนไปได้ไม่ถึงสองชั่วโมงดีเลย ก็รีบบึ่งมานี่ซะแล้ว  ผมขอตัวก่อนหล่ะครับ
.
.
.
.
.
.

 "อื้อออ...ปวดหัวชะมัด (เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมดเลย แล้วนี่แขนใครหล่ะเนี่ย) เฮ้ย!! ไอ..ไอ้..พี่ภาส"  พัสกรรู้สึกตัวตื่นขึ้น

เพราะอาการปวดเมื้อยตามตัวหลังจากที่โดนวัตถุประหลาด(?)นอนทับมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่หลังจากที่สำรวจ(?)แล้ว

ว่าวัตถุประหลาด(?)นั้นคืออะไร พัสกรก็นับหนึ่งถึงสิบรวบรวมกำลังยกขาถีบเข้าอย่างจังจนวัตถุประหลาด(?)นั้นตกเตียงไป

      ปึก/ตึ้ง   

"โอ้ยยยยย!!! หนูพัสถีบพี่ทำไมเนี่ย!!" ณัฐภาสโอดโอยเสียงดังทันทีที่ความเจ็บมาเยือน ความจริงแล้วณัฐภาสตื่นก่อนพัสกร

ซักพักนึงแล้วแต่เป็นเพราะว่ามัวแต่นอนมองคนในอ้อมกอดที่สุดรักสุดหวงและคิดหาทางคืนดี เพราะตอนนี้คนๆนี้เข้าใจเค้า

ผิดไปไกลแล้ว แถมยังดื้อเงียบอีกต่างหาก แต่ในขณะที่ติดอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองคนในอ้อมกอดของเค้าก็เริ่มขยับและ

เหมือนกับว่าจะรู้สึกตัวตื่น ณัฐภาสก็เลยทำเนียนแกล้งทำเป็นหลับเพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าพัสกรตื่นขึ้นมาแล้วจะพูด

หรือจะทำอย่างไรเมื่อเห็นเค้ามานอนกอดอยู่อย่างนี้ บางทีพัสกรอาจจะหลุดพูดอะไรที่ทำให้เค้าดีใจออกมาบ้างก็ได้ แต่ไหนได้

ความคิดก็คือความคิด เพราะความจริงในชีวิตจริงนั้นเมียคนสวยของเค้าคนนี้ปลุกสามีด้วยลูกถีบแบบเต็มแรงเลยนะสิ (T_T)

"คุณ...คุณมานอนที่นี่ได้ยังไง ผมบอกให้คุณไปอยู่ที่อื่นไม่ใช่หรอ?" พัสกรถามอย่างตั้งแง่

"ก็หนูพัสไข้ขึ้นตัวร้อนจัดเลย พี่ก็เลยมาดูแลอยู่นี่ไง ไหงถึงตอบแทนกันด้วยฝ่าเท้าอย่างนี้หล่ะ" ณัฐพูดด้วยเสียงกระเง้ากระงอด

หน้างอแต๋วแตก ซึ่งมันเป็นอะไรที่หน้าหมั่นไส้มากสำหรับคนที่นั่งมองอยู่บนเตียง ที่อยู่ดีๆผู้ชายตัวถึกๆอย่างกับตึกที่ขึ้นชื่อว่า

เป็นสามีของตนมาทำท่าทางอย่างนี้ พัสกรรับม่ายด้ายยยยย......

"ผมไม่ได้ขอ"

"ห้ะ!!!"

"หยุด!! หยุด คุณอย่าไปทำท่าทางอย่างนี้ที่ไหนอีกนะ" รีบยกมือห้ามก่อนที่คนตรงหน้าจะเป็นไปมากกว่านี้

"ทำไมอ่ะ?" ถามอย่างไม่เข้าใจ

"มันทุเรศ และหน้ารังเกลียดมาก!!!" พัสกรบอกและมองด้วยสายตาเอือมๆ

"..........." แต่อีกคนกลับหน้าเหวอช็อคอ้าปากค้างไปแล้ว อะ...อะไรว๊ะ!! ผู้ชายปากร้ายคนนี่เป็นใคร ใครเอาเมียเค้าไปซ่อนไว้

ที่ไหนรึเปล่าว่ะเนี่ย หนูพัสตอนนี้ไม่เหมือนกับหนูพัสตอนนั้นเลย คนที่เงียบๆหวานๆแบ๊วๆหายไปหนายยยยยย.......เหลือแต่

หนูพัสปากจัดคนนี้เนี่ยยยยยยย...........โอ้วววววว.....ม่ายยยยยยยยย

"อ่าวๆ ว่าแล้วยังจะทำหน้าบ้าๆอย่างนั้นอีก ออกไปเลยนะออกไปเลย คุณมาจากทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลย ผมยังไม่อนุญาติ

ให้คุณกลับมาอยู่ที่นี่นะ!!" ยังไม่ทันที่ณัฐภาสจะตั้งสติดีเลยหลังจากที่อึ้งจากการเป็นไปของคนที่ขึ้นชื่อว่าเมีย อีกคนก็แว๊ดไล่

เค้าเสียงดังขึ้นมาอีก

"ก็....ก็....หนูพัสไม่สบายนี่ พี่ก็เลยมาดูแล พี่ยังไม่ลืมข้อตกลงของเราหรอก อย่าน้าา...อย่าโกรธพี่เลย แค่ที่พัสเป็นอยู่นี่พี่ก็จะ

บ้าตายห่าอยู่แล้ว" ณัฐภาสก็ยังแกล้งทำท่าทางตุ้งติ้งในแบบที่อีกคนไม่ชอบอยู่ดี 

"อี๋....ยังๆ คุณยังไม่เลิกทำท่าท่างน่ารังเกลียดนี่เสียทีอีก ฮึ๋ย!!" พัสกรแสดงออกมาว่ารับไม่ได้อย่างชัดเจนที่ต้องทนเห็นผู้ชาย

ตัวโตๆกล้ามบึกๆซิกแพคแน่นๆทำท่างทางบ้องแบ๊วอย่างนี้

"อะไรคะ? เมียขา ทำไมมองสามีด้วยหน้าอย่างนั้นหล่ะค่ะ สามีทำอย่างนี้แล้วไม่หน้ารักหรอคะ?" คราวนี้จีบปากจีบคอดัดเสียง

หนักขึ้นมากกว่าเดิมอีก แถมยังแกล้งคลานขึ้นเตียงเข้าหาอีกคนทำเหมือนกับตัวเองเป็นแมว(?)น้อยๆเสียอย่างนั้น

(อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิหนูพัสยิ่งพี่เห็นเห็นเมียจ๋าทำหน้าเหวี่ยงอย่างนี้ผัวจ๋ายิ่งชอบ คึ คึ)

     ณัฐภาสค่อยๆคลานเข้าหาพัสกรช้าๆอย่างยั่วยวน(?) ส่วนพัสกรก็ยังคงตกตระลึงกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของอีกคน จนเผลอ

ขยับถอยหลังจนหลังชนหัวเตียงนั่นหมายถึงว่าเค้าไม่สามารถหนีได้อีกแล้ว ยิ่งเห็นอีกคนทำหน้าเหวอๆท่าทางหวาดๆก็ยิ่ง

อยากแกล้ง อยากแหย่  เพียงห่างกันแค่คืนเดียวก็ทำเค้าแทบคลั่งจนแทบบ้า งานนี้คงต้องอาศัยความหน้าด้านหน้ามึนของ

ตัวเองเข้าสู้อย่างเดียวแล้วหล่ะ ณัฐภาสคลานเข้าหาอีกคนจนตอนนี้หน้าทั้งสองห่างกันแค่ไม่ถึงคืบ มองสำรวจใบหน้าสวยที่

สุดรักแสนหวง ตากลมโตที่เหมือนลูกวางน้อยคู่นี้ที่ทำให้เค้าหลงตั้งแต่แรกเห็น จมูกรั้นๆที่บ่งบอกถึงนิสัยความไม่ยอมใคร

ของเจ้าตัว ถึงแม้ว่าภายนอกใครๆอาจจะมองเห็นว่าน่ารัก อ่อนหวาน เหมือนจะไม่สู้คนก็ตาม แต่แท้ที่จริงแล้วนิสัยของ

แม่กวางน้อยตัวนี้นั้นอ่อนนอกแข็งใน ใจดีอ่อนโยนแต่ก็แน่วแน่เด็ดเดี่ยวในความคิดความตัดสินใจของตัวเองอยู่มาก

ปากกระจับหน้าจูบนั่นอีกที่ชอบพูดๆบ่นๆโดยเฉพาะเวลาที่เค้าทำอะไรให้เจ้าตัวไม่ถูกใจ คิดถึง คิดถึงมากจริงๆเพียงแค่

ไม่ได้เจอไม่ได้คุยกันดีๆแค่คืนเดียวเท่านั้นหนูพัสก็ทำให้เค้าเป็นได้ถึงขนาดนี้

     ฟอดดดดด.......

"สามิ๊ไปก่อนก็ได้ค่ะเมียขาาาา....แล้วสามีจะรีบกลับมาใหม่ รักนะคะคนดี" พูดจบก็รีบวิ่งออกจากห้องทันที แต่ยังไม่วาย

ย้อนกลับมาหอมแก้มคนที่กำลังนั่งตกตะลึงอยู่บนที่นอน ใจจริงนั้นเค้ายังไม่อยากรีบกลับหรอกแต่ถ้าจะอยู่ก็จะพาให้อีกคน

เกลียดขี้หน้าพาลโกรธเค้าเข้าหนักกว่าเดิมไปอีก สู้ทนคิดถึงซักหน่อยแล้วแวะมาหยอดบ่อยๆคอยตอดเล็กตอดน้อยเอาอย่างนี้

ดีกว่า แล้วเอาเวลาที่เหลือไปสืบหาและจัดการคนที่เป็นต้นเรื่องคอยชักใยลอบกัดเค้าทั้งเรื่องงานและเรื่องในตอนนี้เสียก่อน

และเมื่อทุกๆเรื่อง ทุกๆปัญหาเคลียร์หมดแล้วเค้าจะได้เริ่มใช้ชีวิตแบบครอบครัวอย่างจริงๆจังๆซักที

"ไอ.....ไอ้.....พี่ภาส!!! ไอ้คนบ้า ไอ้คนฉวยโอกาส ไปแล้วไปลับอย่ากลับมาอีกนะ" กว่าจะรู้ตัวและตั้งสติได้ ไอ้คนที่เค้าด่าไล่

หลังก็ออกไปไกลแล้ว ฮึ๋ย!!! ไม่น่าไปคล้อยตามไอ้คนบ้าอย่างนั้นจริงๆเล๊ย!! พัสกรนะพัสกรอุตส่าห์ทำขรึมมาได้ตั้งนาน

ห้าม!! ห้าม!!! ต่อไปนี้ห้ามไปเคลิ้มตามไอ้สายตาคู่นั้นอีกนะ มันไม่มีอะไรดึงดูดหน้าหลงไหลถึงขนาดนั้นหรอก ก็อีแค่สายตา

หื่นๆหวานๆเชื่อมๆก็แค่นั้นเอ๊ง!!! ไอ้เราก็นึกว่าจะจูบ ที่แท้ก็แค่หอมแก้ม เหอะ!! อ่อนอ่ะ อุ๊ปส์ (TxT) เปล่า เปล่านะ ผมไม่ได้

พูดอะไรออกไปเลย จูบเจิบ อะไร ไม่มี๊ ไม่มี (- - )( - -)(- - )( - -) จริง จริ๊งงงงง..... ไม่นะ อย่า อย่าใจอ่อนนะพัสกร อย่าใจอ่อน

คนเจ้าชู้ หูดำอย่างนั้นต้องดัดนิสัยให้เข็ด กล้าดียังไงมาทำให้คนอย่างพัสกรร้องให้เสียใจ อีกทั้งยังเสียความรู้สึกอีก งานนี้

ต้องมีสั่งสอนกันบ้าง ห้ามใจอ่อนนะพัสกร ห้ามใจอ่อน ท่องไว้ๆ

.

.

.

.

.

.

[อ่านต่อด้านล่างนะคะ]
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอน11 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 19-06-2015 10:26:56
[ต่อจากข้างบนคะ]
.
.
.
.
.
.
..
.
.

"ไงมึง ไปไหนมา ง้อเมีย??" พอกลับเข้ามาถึงในร้าน ไอ้คุณที่เดินออกมาจากข้างหลังร้านเขตส่วนตัว ถามขึ้นทันทีที่เห็นหน้าผม

"เออ!! หนูพัสไข้ขึ้น แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว พอตื่นมาเห็นหน้ากูก็ไล่กูกลับมาอย่างที่มึงเห็นนี่แหละ" ผมตอบกลับ

"อือๆ กินข้าวๆ" มันพูดแค่นั้นก็นั่งลงกินข้าวไม่พูดไม่จาอีกเลย สงสัยมันให้เด็กในร้านไปซื้อข้าวมามั้งครับ นี่ก็บ่ายแล้ว

"แล้วนี่ไอ้ธารามันกลับไปแล้วหรอ?"

"อือ" ตอบในลำคอเบาๆ

"ไม่ต้องมาอือเลยมึง อย่ามาเนียนสัส กูรู้ว่ามึงรู้ว่ากูจะถามอะไรมึง พูดออกมาให้หมดเลยนะไอ้คุณ" ผมถามมันต่อ

"ไม่มีไรหรอก ก็แค่ น้ำแตกแล้วแยกทาง จบ" ไอ้คุณมันพูดเหมือนไม่ได้สำคัญอะไร

"จบพ่องงง เหอะ!! ไอ้คุณ ไอ้เพื่อนเวร มึงก็รู้ว่าปกติไอ้ธารามันก็จ้องจะจองล้างจองผลาญกูโดยไม่มีเหตุผลเหี้ยอะไรรองรับ

อยู่แล้ว  และนี่ยิ่งมึงไปทำอย่างนี้กับมันอีก มันไม่ตามฆ่าล้างโครตมึงกับกูเลยหรอ หรือว่ามึงจะบอกกูว่ามันสมยอมให้มึงเอา

มันยอมที่จะเป็นเมียมึงโดยสมัครใจอย่างนั้นหรอ? กูจะบอกอะไรให้นะไอ้คุณ ต่อให้มึงอมทั้งพระทั้งเณร อมโบสท์ อมเจดีย์

มาด้วยกูยังไม่เชื่อมึงเลยไอ้คุณ" ผมถามมัน คือไม่ต้องบอกก็รู้ครับ แม้แต่เด็กสามขวบได้เห็นหน้าไอ้คุณตอนนี้ก็รู้กันหมดแหละ

ว่าเมื่อคืนมันลากไอ้ธาราไปทำอะไรบนห้องมัน อยู่ด้วยกันสองคนทั้งคืน ขนาดข้างล่างเค้าตีกันจนร้านแทบจะถล่ม เพื่อนผมยัง

ไม่สนใจที่จะลงมาดูเลย แล้วถ้าจะอ้างว่าไม่ได้ยินเพราะว่าห้องเก็บมันก็ไม่ได้หรอกครับ เพราะว่าทั้งห้องผมและห้องมันมีจอ

ที่สามารถดูกล้องวงจรปิดของผับได้ทั้งคู่และที่สำคัญคือเราจะเปิดจอตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงไม่เคยปิดเลย  เพียงแต่ที่ไอ้คุณมัน

ไม่ลงมาก็เพราะคงเห็นว่ามอยู่เลยไม่หน้าจะมีปัญหามั้งครับ แต่นั่นมันไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ ที่สำคัญคือผมกลัวว่าไอ้ธารา

มันจะมาแก้แค้นนะสิ ลำพังผมกับไอ้คุณนะไม่มีปัญหาหรอกแต่ผมกลัวมันจะไปพาลลงกับหนูพัสนะสิ ยิ่งช่วงนี้แยกกันอยู่อีก

ผมกลัวว่าผมจะพลาดนะสิ อีกทั้งปัญหาเก่าเรื่องพนักงาน ยังจะเรื่องจีจี้ที่วางยาผมก็ยังไม่ทันเคลียร์เลย

"เออน่า...มันไม่ยุ่งกับมึงหรือเมียมึงหรอก เชื่อกูดิ ถ้ามันไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับพวกมึงอีกนะ กูจะนอนเฉยๆให้มึงเอาตรีนลูบหน้า

กูเล่นเลยเอ้า!!! เออมึง...เรื่องเมื่อคืนอ่ะกูรู้แล้วว่ามีคนมากร่างน่ะ แต่กูเห็นว่ามึงอยู่เลยไม่ลงมา ที่สำคัญตอนนั้นกูกำลังได้ที่ว่ะ

ว่าแต่มึงเถอะ จะเอาไงต่อ นี่เมื่อตอนสายๆเด็กในร้านนี้นี่มาขอลาออกกันยกเซ็ตเลยนะมึง เหลือแต่ไอ้ห่าเพียวคนเดียวที่มัน

ยืนยันว่าจะทำงานอยู่กับเราต่อ แต่พอกูถามนะว่าจะลาออกกันทำไมทั้งๆที่มึงให้พวกมันไปทำสาขาตรงข้ามก่อนแต่ไอ้พวกนั้น

แม่งก็อ้ำๆอึ้งไม่ยอมตอบ จนกูหงุดหงิด บอกให้มาเอาค่าแรงที่เหลือกับมึงตอนเย็นๆหน่ะ มึงก็หลอกถามพวกมันเอาแล้วกัน

กูไม่ใจเย็นพอที่จะถามว่ะ แมร่งเหี้ยกันจริงๆ ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เปิดสาขาแรกเลยแท้ๆ บางคนก็เงินเดือนเยอะกว่าพนักงาน

ประจำตามออฟฟิตอีก แม่งยังจะมาหักหลังทิ้งกันได้ลง" อีกแล้วหรอ? นี่ผมบริหารห่วยหรือทำอะไรผิดพลาดตรงไหนหรือเปล่า

เนี่ย ถึงพากันมาลาออกกันยกเซ็ตอย่างนี้ แต่ผมก็ว่าผมทำดีที่สุดแล้วนะ ยิ่งกับสาขานี้ที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของผมกับ

ไอ้คุณ พวกผมก็ยิ่งสนิทและผูกพันกับลูกน้องทุกคนมาก เราทุกคนในสาขานี้ก็สนิทเป็นกันเองเป็นเหมือนพี่เหมือนน้องกัน

ไม่ใช่แค่ลูกน้องกับเจ้านายเท่านั้น แต่นี่อะไร ทำไมถึงมาทิ้งกันกลางคันแบบนี้ ทั้งๆที่ผมไม่ได้ไล่ออกหรือให้พักงานซักหน่อย

ทุกคนยังทำงานมีรายได้เหมือนกับทุกๆวัน เพียงแต่ผมให้ย้ายไปทำสาขาตรงกันข้ามในช่วงที่ร้านสาขานี้ซ่อมแซมปรับปรุง

ก็เท่านั้นเอง ผมว่ามันชักทะแม่งๆอย่างชัดเจนแล้วซิครับ

"เฮ้อ!!!! เดี๋ยวกูจัดการเอง ถ้าพวกเค้ายืนยันว่าอยากออกกูก็จะไม่ขัด" ผมบอกอย่างเหนื่อยใจ แต่ผมก็เหนื่อยจริงๆนั้นแหละครับ

แต่ไอ้เหนื่อยกายหน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้ที่เหนื่อยใจนี่สิ ทำไมตอนนี้อะไรๆมันถึงยุ่งวุ่นวายไปหมดอย่างนี้หล่ะครับ

ปัญหามากมายก็วิ่งเข้าใส่โดยไม่ถามผมเลยซักคำว่ารับไหวไหม

"มึงไหวป่าวภาส เรื่องค่าใช้จ่ายถ้าไม่ไหวยังไงก็บอกกู อ่อ!! อีกอย่างกูอยากจะขอร่วมหุ้นกับมึงเพิ่มว่ะ" ไอ้คุณมันบอกออกมา

อย่างเป็นห่วง ถึงมันจะกวนตรีน ปากหมา บ้าๆบอๆ แต่มันก็คือคนที่ผมพึ่งพาได้มากที่สุด จนตอนนี้เราสองคนเป็นมากกว่า

เพื่อนไปแล้วแหละครับ อะๆอย่าคิดกันลึกนักสิครับ ผมหมายถึงเราเหมือนพี่น้องกันมากกว่าเพื่อนไปซะแล้วนะสิครับ

"ไอ้ไหวหน่ะมันก็ไหวอยู่ แต่กูกำลังคิดว่ากูพลาดตรงไหนไปเท่านั้นเอง ว่าแต่มึงเถอะจะเพิ่มหุ้นสาขาไหนกับกูมั่งอ่ะ กูจะได้

เอาสัญญามาทำ" ผมถามมัน ถึงเราจะเป็นเพื่อนรักกันหรือจะสนิทซักแค่ไหนเราก็ต้องทำสัญญากันให้เป็นเรื่องเป็นราว

อย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นลายลักษณ์อักษรครับ เพื่อความสบายใจของเราทั้งสองฝ่ายและเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิด

ขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้เท่านั้นเองครับ

"ถ้ากูจะบอกว่ากูจะลงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ทุกสาขา มึงจะโอหรือเปล่าว๊ะ" ไอ้คุณมันถามผมแบบหยั่งเชิง

"ไม่มีปัญหา สบายมาก!! กูก็กะไว้เหมือนกันว่าถ้าพ่อกูยกบริษัทให้ กูก็คงขายทุกสาขาให้มึงเหมือนกัน แต่ที่กูไม่ยังไม่พูด

ก็เพราะว่ากูกลัวว่ามึงจะไม่เอาก็เท่านั้นเอง อีกทั้งตอนนี้พ่อกูก็ยังไม่ยอมสมบัติให้กูเลย ตอนนี้กูก็เลยยังต้องพึ่งเงินที่ได้จาก

ผับเป็นรายได้หลักหาเลี้ยงตัวเองหาเลี้ยงเมียอยู่นี่ไง เมื่อมึงพูดมาอย่างนี้ก็ดีแล้ว ก็ถือซะว่ากูหลอกขายให้มึงซื้อไว้แล้วครึ่งนึง

ก็แล้วกัน ฮ่าๆ" ผมพูดแบบติดตลก ที่จริงผมก็ไม่อยากจะขายผับหรอกครับ เพราะว่าผมเริ่มต้นและโตจนมีรายได้มาจากมัน

ผมสร้างมันมาด้วยสองมือ ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองโดยที่ไม่เคยพึ่งพาเบียดเบียนเงินจากพ่อเลยซักสตางค์แดงเดียว

แต่ที่ผมจะขายก็เพราะว่าถ้าอนาคตข้างหน้าพ่อยกให้ผมบริหารบริษัทเมื่อไหร่ผมก็จะยุ่งมากขึ้นกว่าเดิมร้อยเท่าเลย เพราะงาน

ทางนั้นมันต้องใช้ความละเอียดอ่อนมาก และลงมือทำและต้องดูแลทุกขั้นตอน ผมเลยคิดที่จะขายผับแต่ถ้าผมจะขายผมก็อยาก

จะขายส่งต่อให้คนที่รักที่ชอบทางนี้เหมือนกันและมั่นใจว่าไอ้สิ่งที่ผมสร้างมากับมือมันยังจะคงอยู่ และไอ้คุณก็คือคนที่ผม

อยากขายต่อให้มากที่สุดเพราะมันชอบและรักสิ่งพวกนี้เหมือนกันกับผม และผมเห็นมันสนุกที่ได้ทำได้ดูแลผับในทุกๆวัน

เหตุผลที่สำคัญที่สุดเลยที่ผมจะขายผับก็คือ ผมอยากจะมีเวลาให้ครอบครัวให้มากที่สุด ในอนาคตผมกับหนูพัสก็จะต้องมีลูก

และผมก็ไม่อยากจะเป็นและจะไม่ทำอย่างที่พ่อทำกับผมแน่นอน ผมจะไม่ปล่อยให้ลูกผมอยู่แต่กับพี่เลี้ยงทุกๆวันโดยไร้เงา

พ่อแม่อย่างแน่นอน เพราะผมโตมากับพี่เลี้ยงผมเข้าใจดี ในตอนนั้นจะกิน จะนอน จะเล่น ไปเดินห้าง ไปโรงเรียน ไปสวนสนุก

ผมก็มีแค่พี่เลี้ยงเท่านั้น มันทั้งเหงา ทั้งหว่าเหว้ มันรู้สึกแย่ที่สุดเลยครับ ผมไม่ได้ต้องการเงินทองมากมายอะไรขนาดนั้น ผมต้อง

การแค่ความรักความอบอุ่นจากครอบครัวเท่านั้น ผมอยากจะใช้เวลาร่วมกับพ่อแม่บ้างแต่ก็ไม่เคยเลย ผมไม่เคยได้ตามที่ขอเลย

ชีวิตของพ่อมีแค่งานเท่านั้น ทั้งชีวิตพ่อก็ทุ่มเทให้งานแล้วก็งาน ส่วนแม่ก็มีแค่พ่อและการออกงานสังคมเท่านั้น ผมไม่รู้หรอกนะ

ว่าก่อนหน้าที่เราจะร่ำรวยมีอย่างทุกวันนี้พ่อแม่จะรักผมมากแค่ไหน แต่เท่าที่ผมจำความได้ผมไม่เคยได้อ้อมกอดของพวกเค้า

สักครั้งเลย ยิ่งพอตอนที่ไม่มีแม่แล้ว ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ผมจะได้เห็นหรือได้เจอพ่อก็แค่ตอนที่ผมก่อเรื่องเข้าห้องปกครองหรือ

โดนจับเข้าคุกขึ้นโรงขึ้นศาลก็เท่านั้น และทุกครั้งที่เราเจอกันก็จะมีแต่คำด่ากับสีหน้าเอือมระอาของพ่อ มันเป็นอะไรที่แย่สุดๆ

เพราะฉะนั้นผมจะไม่ปล่อยให้ลูกผมจะต้องเหงาและรู้สึกขาดจนคิดประชดแบบบ้าๆบอๆอย่างผมแน่นอน

"เหอะ!! ไอ้เหี้ย!! จะปล่อยให้กูยึดว่างั้น? บอกไว้ก่อนเลยว่า กูทำคนเดียวไม่ไหวหรอกนะเว้ยไอ้ภาส!!!" ไอ้คุณแหกปากโวยวาย

เหมือนไม่พอใจทันทีที่รู้ว่าผมจะปล่อยให้มันทำคนเดียว

"เดี๋ยวมึงก็มีคนมาช่วยทำไม่ใช่หรอ?" ผมถามมันแบบกวนๆ

"ใครๆช่วยห่าไรของมึง"

"อ่าว....กูเข้าใจผิด? ถ้าอย่างนั้นมึงตอบคำถามกูมา ทำไมมึงถึงเลือกที่จะพามันขึ้นห้องที่มึงหวงนักหวงหนา แม้แต่เพื่อนสนิท

อย่างกูยังห้ามเข้า อย่านิ่งๆไอ้คุณ ตอบกูมา" ผมจ้องถามมันอย่างคาดคั้น

"ก็มันปุบปับนี่หว่า" มันอุบอิบตอบ

"แล้วมึงใส่ถุงหรือเสียบสด?"

"สด!! ก็ตอนนั้นมันฉุกละหุกนี่หว่า" ตอบแบบอ้ำๆอึ้งๆ

"แต่กูเห็นมึงมองมันตั้งแต่รู้จักกับกูแรกๆแล้วนี่หว่า" ผมถามต่อ

"โธ่..ไอ้เหี้ยภาส มันมาหาเรื่องมึงกูก็ต้องมองรึป่าวว่ะ มึงจะถามห่าไรมากมาย" มันเรื่อมเนียนเปลี่ยนเรื่องแล้ว ผมคงต้องพอ

"เออๆกูไม่ถามแล้ว ถึงกูไม่เป็นหมอดูแต่กูก็พอจะทายได้ว่ามึงจะมีเมียแบบฉุกละหุก ปุบปับ ฮ่าๆๆ" แหม่...ถึงไม่ใช่ผมแต่เป็น

คนอื่นเค้าก็คงเดากันได้เหมือนกันแหละครับ คนอย่างท่านเจ้าคุณเปลี่ยนคู่นอนมากยิ่งกว่าเปลี่ยนกางเกงในจะกล้าเสียบสด(?)

ถ้าไม่จริงจรังและมั่นใจพอไอ้คุณไม่ทำอย่างนั้นหรอกครับ แล้วจะอ้างว่าไม่มีถุงยาง ก็ตอแหลกันชัดๆ แม้แต่ในกล่องแว่นตา

ของมัน ผมยังเคยเห็นมีถุงยางเสียบอยู่ในนั้นเลย แต่ก็เอาเถอะครับมันไม่ใช่เรื่องของผม อีกอย่างคือผมกับไอ้ธาราเมื่อก่อน

ตอนที่เรายังเด็กอยู่แค่ประถมเราสองคนก็เคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อนที่ผมจะเจอไอ้คุณ แต่แล้วพอขึ้นมัธยมไม่รู้ทำไมไอ้ธาร

เพื่อนรักที่สุดแสนจะรักสงบ และรักชอบที่จะอยู่อย่างนิ่งๆเงียบๆ ถึงเข้ามาหาเรื่องผมก่อนโดยที่เราสองคนไม่เคยทะเลาะหรือ

มีปากเสียงกันมาก่อนเลยและหลังจากนั้นไอ้ธารเพื่อนที่แสนดีของผมก็เปลี่ยนไปเป็นไอ้ธาราที่ตามจองล้างจองผลาญหาเรื่อง

ผมมาจนถึงทุกวันนี้ ผมไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจจริงๆ

"ภาส ไอ้ภาส ไอ้เหี้ยภาส!!! มัวคิดอะไรของมึงให้กูเรียกอยู่ตั้งนานสองนาน คิดถึงเมียอ่อ? ถ้าคิดถึงเมียก็หยุดก่อนอย่าเพิ่งคิด

โน้นๆตอนนี้มึงรับมือกับไอ้พวกนั้นก่อน" ไอ้คุณมันบอกพลางพยักพเยิดไปทาง ประตูทางเข้าของผับที่มีลูกน้องทั้งหมดของ

สาขานี้รวมกลุ่มกันเดินเข้ามา

"สวัสดีครับ/ค่ะ พี่ภาส พี่คุณ" พวกนั้นยกมือไหว้ทักผมกับไอ้คุณก่อน

"อือๆ มีอะไรกัน ทำไมถึงยกขบวนพากันมาหาพี่อย่างนี้ แล้วนี่ไม่ไปเตรียมตัวกันมาทำงานหรอ หรือยังไง?" ผมแกล้งถาม

เหมือนกับว่ายังไม่รู้เรื่องอะไร

"คือ...พวกหนูจะมาขอลาออกหน่ะค่ะ เมื่อเช้าพวกเรามากันแล้วรอบนึงแต่พี่คุณบอกว่าให้รอมาคุยกับพี่ภาสก่อนหน่ะค่ะ"

คนนี้ชื่อเหมี่ยวครับ ไอ้เหมี่ยวมันเป็นหัวหน้าเด็กเสริฟอยู่ที่นี่ เป็นคนเปิดปากพูดขึ้นหลังจาหที่ผมถามออกไปแล้วไม่มีใคร

พูดอะไรออกมา

"อ่าว!! จะลาออกกันทำไมหล่ะ พี่ก็ไม่ได้ให้หยุดหรือปล่อยให้ขาดรายได้หนิ แล้วถ้าพวกเราพากันลาออกยกทีมแบบนี้ถ้าที่นี่

ซ่อมแซมเสร็จแล้วพี่จะเปิดได้อย่างไงในเมื่อพวกเราลาออกทิ้งพี่กันไปหมดอย่างนี้" ทั้งๆที่ผมถามออกไปดีๆโดยที่ไม่ได้ใช้

น้ำเสียงกระโชกหรือหาเรื่องแต่อย่างใด แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเอาแต่ก้มหน้ามก้มตาหลบสายตากันอยู่อย่างนั้น

ส่วนไอ้คุณก็ได้แต่นั่งไขว่ห้างมองดูผมคุยกับพวกพนักงาน ด้วยท่าทางกวนๆแบบเฉพาะตัวของมัน

".........."

"เอาอย่างนี้นะถ้าจะออกพี่ก็จะไม่ว่าอะไรและจะจ่ายค่าแรงที่เหลือของเมื่อคืนให้ทุกคนด้วย แต่ใครก็ได้ช่วยบอกพี่ให้หาย

ข้องใจหน่อยได้หรือป่าว ว่าทำไมถึงได้พากันออกอย่างนี้ ค่าแรงน้อยเกินหรือพวกพี่ทำอะไรให้ไม่พอใจตรงไหนหรือป่าว?"

ผมถามด้วยเสียงเรียบและจริงจังมากกว่าเดิม

"ฮึก!! พวกหนูขอโทษค่ะพี่ภาสพี่คุณ พวกพี่ไม่ได้ทำอะไรให้พวกเราไม่พอใจหรอกค่ะและค่าแรงที่พี่ให้มันก็ได้มาเกินกว่าที่

คนไม่มีวุฒิการศึกษาอย่างพวกเราควรจะได้เสียด้วยซ้ำค่ะ แต่พวกเราผิดเองที่จะต้องลาออกทิ้งให้พวกพี่ลำบากหาพนักงานใหม่

อย่างนี้ ฮึก" และก็เป็นไอ้เหมี่ยวเหมือนเดิมที่ทนแรงกดดันที่ผมกับไอ้คุณจงใจปล่อย พูดออกมาทั้งน้ำตา

"ร้องไห้ทำไมเหมี่ยวพวกพี่ยังไม่มีใครว่าอะไรเราเลยนะ ถ้าเราอยากจะออกพี่ก็ไม่ห้ามแต่พี่แค่ขอรู้เหตุผลเท่านั้นเอง" ผมลุกขึ้น

เดินไปลูบหัวไอ้เหมี่ยวที่มันร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ตอนนี้ ไอ้เหมี่ยวมันเป็นเด็กอ้วนๆตันๆครับ บ้านมันเป็นหนี้อยู่หลายที่

จนมันตัดสินใจไม่เรียนต่อและออกมาหางานทำ แต่พอมันไปสมัครที่ไหนเค้าก็ไม่รับมันเพราะว่ามันอ้วน ผมว่าเหตุผลมันเหี้ย

มาก จนผมไปเจอมันนั่งร้องไห้อยู่หน้าร้านมันก็เลยเล่าเรื่องของมันให้ผมฟัง ผมก็เลยรับมันเข้ามาทำงานด้วยกัน และมันก็ทำ

งานให้ผมคุ้มเงินเลยแหละครับ ขยันขันแข็งไม่เคยบ่นไม่เคยลางาน พอหน้าที่ของตัวเองหมด มันก็ไปช่วยคนล้างจานเค้าอีก

นิสัยก็ดีใช้ได้เลยทีเดียวจนผมเอ็นดูรักมันเหมือนน้องพอๆกับไอ้สนนั้นแหละครับ

"พวกหนูไม่อยากลาออกจากที่นี่นะพี่ภาส ฮึก แต่พวกเราจำเป็นถ้าพวกเราไม่ยอมไปทำงานให้เจ้าหนี้ที่พ่อแม่เราติดอยู่ พวกนั้น

ก็จะส่งคนมาทำร้าย แล้วก็มายึดบ้านพวกเรา เหมี่ยวขอโทษนะพี่ภาส ฮึก เหมี่ยวขอโทษ ฮือออออ...." ไอ้เหมี่ยวพูดจบก็ร้องไห้

โฮเลย พลอยให้ไอ้พวกที่ยืนอยู่พากันร้องตามไปด้วยอีก

"เอาเถอะๆ ไม่ต้องร้องๆ หยุดร้องกันได้แล้ว เดี๋ยวพี่ไปเอาเงินมาให้ รออยู่นี่แป๊ปนึงเดี๋ยวพี่มา" ผมพูจบก็ขึ้นไปเอาเงินส่วนกลาง

ของร้านมาจ่ายค่าแรงให้พวกพนักงาน ผมจ่ายเกินให้ไปอีกคนละนิดหน่อย แต่ไอ้คุณก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมรู้ที่มันไม่พูดก็เพราะว่า

มันก็สงสารพวกนั้นเหมือนกันไม่ใช่เพราะว่าโกรธเคืองอะไรหรอก

"เมื่อกี้ตอนที่มึงไปหยิบเงินกูถามไอ้เหมี่ยวมันว่าไปติดหนี้ใคร มันก็บอกว่าพ่อแม่พวกมันไปติดหนี้เจ้านายเจ้าของฟาร์มหอยมุก

ที่พ่อแม่พวกมันทำงานอยู่นั้นแหละ แต่กูไม่เข้าใจเลยที่ว่า จะมีก็เพียงแต่คนที่มีคนในครอบครัวทำงานให้เราเท่านั้นที่เจ้านายมัน

จะให้ยืมเงินแบบไม่เอาดอก แต่พอเวลาผ่านไปซักพักเค้าก็มาทวงเงินทบต้นทบดอก ส่วนจำนวนเงินก็มากกว่าที่ยืมถึงสามเท่า

เชียวนะมึง และบอกว่าถ้าไม่คืนจะยึดบ้านยึดที่ดิน แต่ถ้าใครให้ลูกหลานที่ทำงานอยู่กับเราไปทำงานให้มันได้มันก็จะยืดเวลา

และจะไม่คิดดอกด้วยนะไอ้ภาส กูว่างานนี้มันมีอะไรมากกว่าที่เราคิดซะอีก" พอพวกพนักงานไปกันหมดแล้วไอ้คุณก็เปิด

ประเด็นพูดขึ้นมาเลย

"อือ อันนี้กูก็รู้แล้วตอนกูขึ้นไปเอาเงินกูเจอกับไอ้เพียวที่เข้ามาเปลี่ยนชุดเตรียมตัวที่จะไปทำสาขาโน้น มันบอกกับกูเหมือนกัน"

ผมตอบมันกลับ เพราะก่อนที่ผมจะขึ้นไปเอาเงินผมเจอไอ้เพียวพนักงานเพียงคนเดียวของสาขานี้ที่ยืนยันยังจะทำงานอยู่กับผม

และตอนนี้มันก็ต้องไปทำงานที่ผับเถื่ออนของผมฝั่งตรงข้ามนี่แหละ

"อ้าว!! แล้วไอ้เพียวมันไม่มีปัญหาเหมือนไอ้พวกนี้หรอว่ะ" ไอ้คุณมันถามแบบงง

"อือ มันเป็นเด็กกำพร้าอยู่ตัวคนเดียวทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนอยู่กับเราก็เลยไม่มีปัญหาอะไรกับใครเค้า" ผมตอบ

"ดีเหมือนกันวุ้ย!! ถ้าสาขานี้ซ่อมเสร็จกูจะให้ไอ้เพียวเป็นผู้จัดการแม่งเลย ตอบแทนพนักงานดีเด่นอย่างมัน มึงว่าไง?" ไอ้คุณ

ถามความเห็นผม

"กูก็คิดงั้นเหมือนกัน อีกอย่างถ้ามันเป็นผู้จักการมันจะได้ไม่ต้องเดินเสริฟไปมาให้เหนื่อยมากด้วย ยิ่งช่วงนี้มันอยู่ปีสุดท้ายแล้ว

กูอยากให้มันทุ่มไปกับการเรียนเยอะๆ และมันก็คงจะต้องทำโปรจงโปรเจคจบของมันด้วย" ผมพูไปตามที่ผมคิด ผมทำอยู่ตรง

นี้มาหลายปีเจอคนน่าสงสารเยอะแยะ แต่ผมก็ไม่ได้อยู่ในส่วนที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทุกคนเพียงแต่ช่วยได้เท่าที่จะช่วย

และไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนก็เท่านั้น

"บุญของไอ้เพียวมันที่ทำงานกับพ่อพระในคราบสาตานอย่างมึง ว่าแต่เรื่องนั้นมึงจะทำไงต่อ?" ไอ้คุณพูดแดกผมแบบขำๆ

"ก็คงต้องสืบดูก่อนว่ามันเป็นใคร และต้องการอะไรจากกู ส่วนที่เหลือค่อยว่ากันว่าจะทำยังไง และกูก็สงสัยเด็กในบ้านกูเอง

ด้วยเหมือนกันว่าจะเป็นพวกของฝ่ายนั้นกับเค้าด้วย" ผมบอก

"ใครว่ะ?"

"กูยังบอกมึงไม่ได้ว่ะ เอาไว้ให้กูแน่ใจก่อนว่าใช่แล้วกูจะบอกมึงแน่นอน"

"อือๆ มีไรให้กูช่วยก็บอกแล้วกัน" ไอ้คุณมันบอกพร้อมกับแกล้งตบไหล่ผมแรงๆอีกสองที

"โธ่...ไอ้เหี้ยคุณ!! ถาจะแรงขนาดนี้มึงกระทืบกูเลยดีกว่า"

"แหม่ผัวก็.....เมียจ๋าก็แค่หยอกๆเองนะ" น้าน...มาอีกแล้วท่าแรดๆของมัน

"แหวะ!! ทุเรศตาว่ะมึง กูขอร้องมึงทำอย่างนี้เถอะ เมื่อตอยสายกูก็แหย่เมีย ด้วยท่าทางสดิ้งแบบมึงนี่แหละ"

"แล้วเป็นไง?"

"เมียกูก็มองด้วยสายตารังเกลียด แล้วก็ไล่กูออกมานี่ไง"

"ฮ่าๆๆๆๆๆ" พอผมพูดจบไอ้คุณก็ระเบิดหัวเราะออกมาได้โคตรหน้าเกลียดเลย

"ขำๆ ขำกูเข้าไป เวลาไอ้ธารมันโกรธมึงอย่ามาง้อมันให้กูเห็นนะ" ผมพูดคาดโทษมันไว้

"เมื่อกี้มึงเรียกมันว่าอะไรนะ" ไอ้คุณถามเสียงหลง

"ไม่รู้เว้ย อยากรู้ก็ถามมันเอา กูไปหล่ะ จะไปจัดการหาไอ้ตัวการที่สร้างเรื่องสร้างปัญหาให้กูซักหน่อย"

"ไอ้ภาส!! ไอ้ภาสไอ้เพื่อนเวร!! กลับมาคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อน!!!" ผมพูดจบก็ลุกเดินออกมาเลย ไม่รอฟังเสียงโวยวายเหมือน

หมาโดนน้ำร้อนของไอ้คุณหรอก เพราะผมยังต้องไปหาคนที่จะช่วยผมสืบเรื่องนี้อีก ไม่มีเวลามานั่งคุยเรื่องของไอ้ธาราเมีย

มันหรอกเรื่องใครเรื่องมันเว้ยไอ้คุณ!!! แต่เอ๊ะ!! ไหนมันบอกว่าไม่สนใจ? ผมว่าเรื่องไอ้สองคนนี้มันจะต้องเป็นอย่างที่ผมคิด

แน่ๆเลย พวกคุณว่างั้นมั้ย???

 

...

มาแล้วค่ะ พี่ภาส&หนูพัส ตอนที่11

สำหรับคำผิดที่เตือนกันมามี่เห็นแล้วนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่เตือน แต่มี่ยังไม่ขอแก้นะคะ

ช่วงนี้มี่มึนๆ อึนๆ พิมผิดค่อนข้างบ่อย ทั้งสองเรื่องเลย เอาไว้แก้ทีเดียวแล้วกันเน๊าะ

ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันนะคะ

 

 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอน11 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 19-06-2015 11:01:06
อิพี่ภาสสะดิ้ง! ขำาา 55555555
โถ เมะเรื่องนี้ช่างอาภัพ กร๊ากกก (หัวเราะอย่างสะใจ)
ดูท่าเจ้าคุณจะแอบมองธารามานานแล้วสินะ พอได้โอกาสพี่แกก็จับธาราทำเมียแม่มเลย หุหุ -.,-
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอน11 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-06-2015 11:37:31
เป็นฝีมือของพี่ภูหรือเปล่าคะพี่ภาส? เพราะอยู่ดีๆ ก็โผล่มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยน่ะค่ะ อืมๆ น่าสงสัยอยู่เหมือนกันนะคะ ยิ่งท่าทางสุภาพๆ บวกกับที่แอบรักพัสอยู่เงียบๆ แบบนั้นด้วยแล้ว อะไรก็เป็นไปได้นะคะ แบบรู้หน้าไม่รู้ใจ~ :o9:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอน11 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 19-06-2015 12:36:30
สงสารพี่ภาสน่ะ หลายเรื่องเกินจนไม่มีเวลาไปง้อเมีย แต่พี่ภาสก็แปลกคนนะ มีเรื่อง มีปัญหาก็จัดการเองหมด ทั้งๆที่เพื่อนคุณก็เอ่ยปากช่วยแล้ว พี่ภาสไม่ได้ดั่งใจฉากไปเฝ้าไข้เมียนี่ล่ะ โดนเมียถีบตกเตียงถึงกับไปต่อไม่เป็นเลย เล่นเป็นสาวซะงั้น ๕๕๕ 
     รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร้วๆคับ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอน11 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-06-2015 14:22:35
ประเดประดังกันเข้ามา
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอน11 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 19-06-2015 14:30:28
 :m20: :m20:  ภาสทำท่าซะน้องพัสกลัวเลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอน11 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 19-06-2015 14:37:09
มันมีอิทธิพลถึงขนาดทำให้พนักงานลาออกทั้งผับเลยเหรอ
มันดูเว่อไปนิด  ต้องตามขู่มันทุกครอบครัวเลยหรือ ขยันมาก
อยากรู้ว่าพนักงานมีกี่คน
จำนวนที่ออกก็ไม่ต้องเอาทั้งหมดหรอก  รวมถึงคนที่บ้านด้วย
เอาแค่พอให้กิจการล่าช้า มีปัญหาขึ้นก็พอมั้งนะคะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอน11 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 19-06-2015 15:41:06
'มันมีอิทธิพลถึงขนาดทำให้พนักงานลาออกทั้งผับเลยเหรอ
มันดูเว่อไปนิด  ต้องตามขู่มันทุกครอบครัวเลยหรือ ขยันมาก
อยากรู้ว่าพนักงานมีกี่คน
จำนวนที่ออกก็ไม่ต้องเอาทั้งหมดหรอก  รวมถึงคนที่บ้านด้วย
เอาแค่พอให้กิจการล่าช้า มีปัญหาขึ้นก็พอมั้งนะคะ'

.
.
.
.
.
.
.
สำหรับความคิดเห็นด้านบนนะคะ

มีขอชี้แจงนิดนึง สำหรับมี่ การที่พนักงานออกไปทั้งหมดแบบนั้นมันไม่เวอร์หรอกค่ะ เพราะมันแค่สาขาเดียวเท่านั้น

อีกทั้งสาขาอื่นก็มีแค่พนักงานบัญชีเท่านั้นที่โดนดึงตัวไป และพนักงานสาขาอื่นก็ยังอยู่ดี

คุณลองคิดเล่นๆดูซิคะว่าผับ ผับนึงจะมีพนักงานสักกีคนเชียว มันไม่ได้เยอะแยะมากมายเลยค่ะ

อีกอย่างกิจการของที่บ้านมี่ ก็เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นเหมือนกัน คืออยู่ดีๆพนักงาน ทั้งหมดก็มาขอลาออกพร้อมกันหมด

ย้ำเลยนะคะว่าทั้งหมด ทุกคนเลย คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจค่ะเพราะที่มี่ยกตัวอย่างมันคือเรื่องจริงนะคะ

เหตุผลก็มีเพียงแค่ เพราะเจ้าหนี้ของพ่อแม่เค้าไม่ถูกกับป๊ามี่ และพอรู้ว่าคนพวกนี้ทำงานให้มี่

ก็เลยดึงไปทำงานกับเค้าแทน สังคมเดียวนี้มันมีอะไรมากกว่าที่ทุกคนคิดนะคะ โดยเฉพาะกับธุรกิจจำพวกนี้

ที่กฎหมู่มันมีอิทธิพลมากกว่ากฎหมาย ขึ้นอยู่กับเงินเท่านั้นแหละค่ะ

เพราะฉะนั้นมี่อยากให้ทุกๆคนเปิดใจให้กว้างนะคะ หรือไม่ก็คิดซะว่ามันเป็นเพียงแค่นิยายก็พอค่ะ

มี่ไม่ได้ดาม่านะคะแค่อยากชี้แจงและอธิบายเท่านั้นเองค่ะ อย่าโกรธกันน้าาา.... :impress2:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอน11 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-06-2015 15:54:34
สะดีดสะดิ้งจนเมียตกใจเลยนะพี่ภาส ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอน11 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-06-2015 16:12:54
ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หว่า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอน11 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 19-06-2015 23:52:14
ฟารฺมหอยมุก ใครน้อ
แล้วไส้ศึกในบ้าน รีบจัดการ

คำว่า น่า กับ หน้า ใช้ต่างกันนะ
น่ารัก น่ารังเกียจ

ต่อๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอน11 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 20-06-2015 07:04:44
ชอบคู่รองจริงๆค่ะ มาแรงแซงโค้งมาก ไม่เหมือนคู่หลัก ได้แต่มองต่อยปนะพี่ภาส 5555
อยากรู้ว่าทำไมอยู่ดีๆธาราก็เปลี่ยนไปนะ

ปล. อ่านแล้วเหมือนคุณน่าแอบชอบธารามานานแล้วเลยนะเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 20-06-2015 08:13:17
คุณเมียภาคบังคับ [คุณ & ธาร] ตอนที่ 2   

 

 

 

 
(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/2040927577-member.jpg)

 

"แกไปไหนมาธารา!!!" ยังไม่ทันที่ผมจะก้าวขาเข้าบ้านเลยเสียงตะหวาดของพ่อก็ดังออกมาต้อนรับก่อนเลย

"บ้านเพื่อน" ผมตอบเสียงเรียบ

"เพื่อน? คนอย่างแกมีใครเค้าคบด้วยหรอนอกจากไอ้ภาสนะ? อ่อ!! ไม่สิตอนนี้แม้แต่ไอ้ภาสก็ไม่คบคนอย่างแกแล้ว"

หึ!! น้ำเสียงทุเรศๆที่เข้ากับหน้าตาและสันดานชั่วของมันก็ดังขึ้นมาอีกคน

"ก็เพราะแผนชั่วๆเลวๆของแกไม่ใช่รึไง ที่ทำฉันต้องเป็นอย่างนี้ เพราะแกคนเดียว" ผมจ้องหน้าตอบมันกลับไป

"ฮึๆ ไม่เลย เป็นเพราะความอ่อนแอของแกเองต่างหาก แกคือต้นเหตุของปัญหาทุกๆเรื่อง ทุกๆอย่าง เรื่องที่แกทะเลาะกับ

ไอ้ภาสก็เพราะแกเองไม่ใช่หรอ? แล้วแกยังเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่แกตายด้วย เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นก็เพราะคนอ่อนแอ

อย่างแกทั้งนั้นแกมันเป็นเพื่อนที่หักหลังเพื่อนตัวเอง แถมแกก็ยังเป็นฆาตกรที่ฆ่าแม่ตัวเองอีกด้วย ฮึ ฮึ  พ่อเค้าถามดีๆก็ตอบ

เค้าไปสิน้องธารทำหน้าบึ้งอย่างนี้ไม่หน้ารักเลยนะครับ" ตอแหล!! ไอ้เวรนั้นมันเดินเข้ามากระซิบเบาๆข้างๆหูผม เพื่อที่จะให้

ได้ยินเพียงแค่ผมกับมัน ก่อนที่มันจะเสแสร้งแกล้งเป็นพี่ที่ดีพูดประโยคหลังด้วยเสียงที่ดังจนได้ยินกันทั้งบ้าน

"อย่ามาเรียกฉันด้วยชื่อนั้นนะ!!! ชื่อนั้นมีแค่คุณแม่คนเดียวเท่านั้นที่เรียกได้ คนชั่วๆเลวๆยังแกไม่มีสิทธิมาเรียก อย่าเอาเสนียด

น่ารังเกลียดของแกมาติดชื่อที่คุณแม่นางฟ้าของฉันตั้งนะ!!!" ผมตะหวาดออกไปทันทีที่มันกล้าเรียกชื่อเล่นที่ผมไม่อนุญาติให้

ใครเรียก นอกเสียจากคุณแม่และก็คนสำคัญของผมเท่านั้น ยิ่งโดยเฉพาะลูกของผู้หญิงเลวที่เป็นฆาตกรฆ่าแม่นางฟ้าของผม

อย่างมันแล้วยิ่งไม่มีสิทธิ!!!!

"พี่เค้าเตือนเค้าสอนด้วยความหวังดี ทำไมแกจะต้องไปด่าว่าพี่เค้าอย่างนั้นด้วย ขอโทษพี่เค้าเลยนะ ฉันบอกให้แกขอโทษพี่

เค้าไงธารา!!" นี่แหละคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของผม ที่ใครๆเค้าก็ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่าเค้ารักผมมาก หึ!! ทั้งหมดที่ทุกคน

เห็นตามงานสังคมจอมปลอมนั้นมันก็แค่การแสดงเท่านั้นแหละ เรื่องจริงมันเป็นอย่างนี้ต่างหาก ลูกรักของนายหัวรพีไม่ใช่

ธารา แต่เป็นลูกชายคนโตที่ไม่มีใครรู้จักอย่างมันต่างหาก!!!

"ไม่!!! ผมไม่ได้ทำอะไรผิดและก็ไม่ได้พูดอะไรผิดตรงไหนด้วย มีแต่คุณนั้นแหละที่หูหนวกตาบอดเชื่อมันอยู่คนเดียว!!!"

ผมพูดเสียงดังใส่นายหัวรพีอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกัน ในเมื่อผมไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมผมจะต้องขอโทษคนอย่างมันด้วย

เหอะ!! ไม่มีทาง!!!

"ช่างเถอะครับพ่อ ผมไม่ถือสาน้องหรอกน้องเพิ่งจะกลับมาเหนื่อยๆ สงสัยคงจะหงุดหงิดเพราะเพลียมาจากเมื่อคืนนะครับ"

แหม...ช่างเป็นคนดีซะเหลือเกินนะมึง

"หึ!!!" ผมได้แต่ทำเสียงขึ้นจมูกอย่างหงุดหงิด

"แกนี่มันแย่จริงๆนะเจ้าธาร ดูพี่เค้าเป็นตัวอย่างบ้างสิ!!!"

"ผมบอกว่าอย่าเรียกชื่อนั้น!!!!!"\

"แม้แต่ฉันที่เป็นพ่อแกหน่ะหรอธารา!!!!"

"ใช่!!!! แม้แต่คุณก็ห้าม!!! คุณไม่มีค่าพอที่จะเรียกชื่อนี้!!!"

      เพี้ยะ!!!

"มันจะมากไปแล้วนะธารา!!! ถึงแกจะไม่นับถือฉัน แต่ยังไงๆฉันก็เป็นคนที่ทำให้แกเกิดมา แล้วก็เป็นคนที่เลี้ยงดูจนแกปีกกล้า

ขาแข็ง โตจนมายืนด่ายืนว่าฉันได้อย่างทุกวันนี้ หัดสำนึกซะบ้าง!!!!!"

"คุณตบผม!!! คุณตบผมเพราะไอ้ลูกอีตัวชั่วๆอย่างมันหน่ะหรอ? ผมหนีจากคุณไปอยู่กับคุณยาย แล้วใครกันหล่ะที่ไปลากผม

กลับมา คุณคิดว่าผมอยากอยู่ที่นี่นักหรือไง!!! คิดว่าผมอยากอยู่ร่วมกับคนที่เป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ผมตายอย่างนั้นหรอ อีกทั้งยังมี

ไอ้ลูกอีตัวชั่วๆที่แม่ของมันเป็นคนฆ่าแม่ผมอีก คุณคิดว่าผมอยากอยู่นักหรอ!!!"

     เพี๊ยะ!!!

"แกมันลูกเนรคุณไอ้ธารา!!! แกมันไม่เคยได้อย่างใจฉันซักอย่าง!! แกมันนอกคอก!! เกิดมาก็ผิดมนุษย์มนาไม่เหมือนคนทั่วไป

ไม่เหมือนลูกชาวบ้านเค้า  มีแต่คอยจะสร้างปัญหาให้ฉัน!!! ในเมื่อเกลียดฉันนักก็ออกไป!!! ออกไปให้ไกลจากฉันแล้วอย่า

กลับมาให้ฉันเห็นหน้าลูกทรพีอย่างแกอีก!!! ไป!!!"

"ผมไปแน่!! ไม่ต้องไล่ผมหรอกผมรอวันนี้มาตลอดทั้งชีวิตเลยหล่ะ!!! เพราะผมเกลียดทุกอย่างที่เป็นคุณ ผมเกลียดหน้าคุณ

เกลียดงานสกปกที่คุณสองคนพ่อลูกทำ!!! เกลียดๆ แล้วมึง!!! ก็อย่าให้กูรู้ว่ามึงเอาเงินสกปกๆของมึงกับพ่อมึงไปปล่อยขูด

เลือดขูดเนื้อคนในฟาร์มมุขของกูอีก!!!!" ผมพูดกับผู้ชายคนนั้นเสร็จผมก็หันไปบอกลูกรักของผู้ชายคนนั้น จบกันสักที พอสักที

สำหรับนรกขุมนี้ ผมจะเป็นอิสระแล้วฮะคุณแม่ ธารขอโทษที่ทำตามคำขอของคุณแม่ต่อไปไม่ได้ ธารทนที่จะอยู่ร่วมบ้าน หายใจ

ร่วมกับสองคนพ่อลูกนี้ได้อีกแล้วฮะคุณแม่ ธารรังเกลียด รังเกลียดทุกๆอย่างที่เป็นผู้ชายคนนี้ รังเกลียดเงินสกปกๆที่ได้มาจากการ

โกงการมอมเมาอบายมุขในบ่อนของผู้ชายคนนี้ ธารเกลียดที่เค้ายังใจเย็นและยิ้มรับผู้หญิงชั้นต่ำคนนั้นที่เป็นคนฆ่าคุณแม่เข้ามา

อยู่ร่วมบ้านกับธารทั้งๆที่คุณแม่พึ่งสิ้นใจ ธารเกลียดการเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนดีของสองแม่ลูกนั่น เกลียดที่มันขโมยของสำคัญ

ที่คุณแม่ทิ้งไว้ให้ธารมาเป็นเครื่องมือต่อรองให้ธารทำเรื่องชั่วๆให้มัน ธารเกลียดที่สุด!!!!!

"โอ๊ะโอ!! น้องธารคนดี โดนคุณพ่อไล่ออกจากบ้านจนได้  ฮึๆ เป็นยังไงหล่ะคราวนี้คุณหนูธารจะทำยังไงต่อไปดี.." พอพ่อมัน

ไปมันก็ออกสันดานเลวๆของมันออกมาเลยหล่ะนี่หน่ะหรอ ลูกที่เค้าภูมิใจนักภูมใจหนา สงสัยว่าจะภูมิใจไอ้เวรนี่มันเหมือเค้า

ทุกๆอย่างเลยหล่ะมั้งไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือสันดาน!!

"อ่อ!! แกรู้อะไรไหม ว่าฉันนะหน่ะ รอคอยวันนี้มาตลอดชีวิตเลยหล่ะ คนอย่างฉันมีปัญญาเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ต้องเกาะพ่อ

หรือพึ่งเงินที่ได้มาโดยวิธีสกปกๆอย่างแกหรอก" ผมตอกกลับ

"ปากดีนักนะมึง!!! แล้วนั่นถุงอะไร!! ไหนขอกูดูหน่อยสิ!!" แม่งเอ้ย!! ผมลืมไปเลยว่าผมถือถุงกระดาษนี่ติดมือมาด้วย

"อย่าเสือก!! เรื่องของกู!!!" ผมพูดและพยายามที่จะเดินหนีมัน แต่ไอ้เหี้ยนี่แม่งก็ยังไม่เลิกนิสัยขี้อิจฉาอยากรู้อยากเห็นในทุกๆ

เรื่องของผมอีก มันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กยันโต

     ควาก/ปึก/ปึก/ปึก

"ยาคุมฉุกเฉิน? ยาแก้อักเสบ? ที่ตรวจครรภ์? ฮึ ฮึ นี่อย่าบอกนะว่ามึงพลาด? ฮึๆ สะใจกูจริงโว้ย!!! นี่ถ้าพ่อรู้ว่าลูกนอกคอก

อย่างมึงพลาดนี่คงจะเกลียดขี้หน้ามึงมากกว่าเดิมมึงว่ามั้ย? ฮ่าๆ กูไปหล่ะ มึงจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวกูเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อก่อน

ฮ่าๆๆๆๆๆ" สัส!!! พูดจบเหี้ยนั้นก็เดินหัวเราะออกไปอย่างซะใจเลย อย่าให้ถึงวันของกูบ้างแล้วกัน แม่ง!! ยิ่งเห็นของที่อยู่ใน

มือ หลังจากที่เก็บขึ้นมาจากพื้นแล้วยิ่งแค้นไอ้เวรเจ้าคุณนั่น ผมหล่ะเกลียดมันชิบ!! ใครจะรู้หล่ะครับนอกจากคนในครอบครัว

ของผมว่าผู้ชายแท้ๆตัวโตๆอย่างผมจะมีมดลูกตั้งแต่กำเหนิดเหมือนกับพัสกรเมียไอ้ภาสมัน แต่นั้นเค้าตัวเล็กๆสวยๆไงครับ

ไม่ใช่ตัวสูงๆโปร่งๆอย่างผม ตั้งแต่เด็กคุณแม่กับคุณยายก็บอกว่าผมสวย(?)ตัวบาง(?)เหมือนกับคุณแม่ นั่นก็คืออีกหนึ่งเหตุผล

นอกจากที่ผมมีมดลูก ที่ทำให้ผู้ชายคนนั้นเกลียดผมมาก เพราะผมไม่เหมือนเค้าทั้งหน้าตารูปร่างและก็นิสัย ต่างจากลูกรักที่เกิด

จากเมียอีตัวของเค้าที่ถอดแบบเค้าออกมาเลยไม่ว่าจะเป็นนิสัยหรือหน้าตา แต่ผมก็ไม่ได้เสียใจอะไรหรอกครับดีเสียอีกที่เค้าไม่

บังคับให้ผมต้องเป็นเหมือนเค้าและปล่อยให้ผมอยู่กับคุณแม่นางฟ้าของผมอย่างมีความสุข แต่แล้วสิ่งที่ทำให้ผมเกลียดเค้า

เมียอีตัวของเค้า และลูกชายสุดที่รักของเค้าก็เพราะว่า ผู้หญิงคนนั้นของเค้าเข้ามาพูดสิ่งสกปกโสมมระหว่างเค้ากับมันให้คุณแม่

ของผมต้องร้องไห้เสียใจจนหัวใจวายตายในที่สุด แต่ผู้ชายคนนั้นก็เลือกที่จะมองข้ามไม่แจ้งความและรับมันสองคนแม่ลูกเข้ามา

อยู่ในบ้านหลังเดียวกันอย่างเต็มตัวและยังปล่อยให้มันมาชูคอเป็นคุณนายแทนคุณแม่ผมอย่างสบายใจ และในขณะที่ผมเศร้า

เสียใจในการจากไปของคุณแม่กับคุณยายอยู่ที่วัด ผู้ชายคนนั้นก็มีความสุขกับอีตัวนั่น!!! หลังจากเสร็จงานศพของคุณแม่

ผมก็หนีออกไปอยู่บ้านสวนกับคุณยายอย่างเงียบๆเรียบๆไม่หรูหราอะไร ช่วยคุณยายทำฟาร์มมุกเล็กที่คุณตาได้ทิ้งไว้ให้ก่อน

สิ้นใจอย่างพอมีพอกินกันสองคนยายหลานอยู่ได้สองเดือน ผู้ชายคนนั้นที่พึ่งจะรู้ตัวว่าผมหนีออกจากบ้านมาก็ส่งคนมาตามผม

แต่ผมไม่ยอมกลับไป ผู้ชายคนนั้นก็ส่งคนมาขู่ผมอีกว่าถ้าไม่กลับไปจะส่งคนมาเผาบ้านสวน และทำลายฟาร์มุกของคุณยายด้วย

ผมจึงจำใจทิ้งยายให้อยู่บ้านสวนคนเดียวและกลับมาอยู่ร่วมชายคากับคนพวกนี้อีกครั้ง แต่วันนี้และที่เป็นวันดีของผมถึงแม้ว่า

เมื่อคืนผมจะโครตโชคร้ายของเลยก็ตาม แต่วันนี้ผมจะมีอิสระและออกไปให้ไกลจากนรกขุมนี้ซักที!!!

.

.

.

   ก๊อก ก๊อก

"มีอะไร!!" ผมถามเสียงห้วน เมื่อเห็นคนที่มาเคาะประตูในตอนที่ผมกำลังเก็บของอยู่ตอนนี้

"พูดดีๆกับพี่ชายที่แสนดีคนนี้หน่อยสิน้องชาย พี่อุตสาห์จะเอาของมาคืนให้นะ" มันบอกว่าอะไรนะ? หรือว่า...

"มีอะไรก็รีบๆพูดมา ฉันจะได้ไปเก็บของต่อ และรีบๆออกไปจากบ้านหลังนี้อย่างที่แกต้องการไง" ผมพูดเร่งมันต่อ

"เออๆ เห็นว่าพูดถูกใจนะเนี่ย เอ้า!! เอาไปของๆแก ฉันไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกแล้ว เพราะฉันได้ในสิ่งที่ฉันต้องการหมดแล้ว

แถมยังไล่ไอ้ตัวรกหูรกตาอย่างแกออกไปจากบ้านนี้ได้อีกต่างหาก หมดธุระฉันแล้ว ไปหล่ะ!! อ่อ! ไปแล้วไปลับอย่าซมซาน

กลับมานะน้องธาร ฮ่าๆๆๆๆๆ" พูดจบมันก็หัวเราะอย่างกับคนบ้านออกไป แต่ผมไม่สนใจสิ่งที่มันพูดหรอก ผมสนของที่มัน

เอามาคืนผมเสียมากกว่า

"ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งนะแองเจิล" ผมทักทายสร้อยไข่มุกล้อมเพรชที่คุณแม่ทิ้งไว้ให้ผมก่อนจะสิ้นใจ ถึงมันจะไม่ได้ราคาแพง

และมีมูลค่ามากมายอะไร แต่ว่ามันสำคัญกับผมมากครับ ผมยอมทำทุกๆอย่างเพื่อที่จะให้ได้มันกลับมา แม้จะต้องฝืนใจตัวเอง

และทรยศหลักหลังใครสักแค่ไหน เพราะสร้อยมุกวงแหวนล้อมเพชรทองคำขาวเส้นนี้คุณแม่ตั้งใจที่จะทำให้ผมมาก ไข่มุกเม็ด

นี้คุณแม่ก็เลี้ยงเองมากลับมือ และคุณแม่ก็ออกแบบเองด้วย มันสวยและสง่างามเหมือนกับคุณแม่มากสำหรับผม ผมจึงตั้งชื่อมัน

ว่าแองเจิล ที่มีความหมายเดียวกับชื่อที่ผมใช้เรียกคุณแม่เพราะคุณแม่สวยและใจดีเหมือนกับนางฟ้าในนิทานที่คุณแม่เล่าให้ผม

ฟัง ผมก็เลยเรียกแม่ว่าคุณแม่นางฟ้ามาตั้งแต่เด็กเลยแหละครับ คิดถึง ผมคิดถึงเหลือเกินฮะคุณแม่ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ

ต่อไปนี้ผมจะใส่สร้อยเส้นนี้ที่เป็นเหมือนตัวแทนของคุณแม่ติดตัวไว้ตลอดไม่ให้ใครมาแย่งไปได้อีกแล้วครับ หมดเวรหมดกรรม

กันซักทีนะภาสต่อไปนี้ฉันจะไม่ไปยุ่งกับนายและคนของนายอีกแล้ว 

.

.

.

"ไอ้ธารา!!! พี่แกบอกกับฉันว่าแกไปมั่วผู้ชายมา!!!" ผมเก็บของใส่กระเป๋าทั้งหมดทุกอย่างโดยไม่เหลืออะไรทิ้งไว้ที่นี่เลย

สักอย่างเลย เพราะผมตั้งใจจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกแล้ว  แต่พอเดินลงบันไดมาจากห้องได้ก็เจอผู้ชายคนนั้นแหกปากยืนตี

หน้ายักษ์อยู่กับลูกชายสุดที่รักของเค้าที่ยิ้มระรื่นอยู่ข้างๆกัน

"แล้วไง? ตัวก็ตัวผม คุณจะมาเดือดร้อนอะไรด้วย?" พูดจบผมก็เดินลากกระเป๋าผ่านหน้าสองคนนั้นมา

"ฉันจะไม่สนใจเลยถ้าแกไม่ใช่ลูกชายฉัน!! แล้วถ้าเกิดแกพลาดท่าท้องขึ้นมาฉันจะไม่อับอายขายขี้หน้าเค้าหรือไง ที่ลูกชายฉัน

มันแปลกประหลาดผิดมนุษย์มนาไม่พอ ยังจะมั่วจนท้องไม่มีพ่ออีก ถ้าเป็นอย่างนั้นขึ้นมาแกจะให้ฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหน!!"

"ก็เอาติดไว้กับหัวคุณอย่างเดิมนั้นแหละ! แล้วถ้าใครเค้าถามก็บอกว่าผมไม่ใช่ลูกของคุณก็เท่านั้น เพราะท่าใครถาม ผมก็จะตอบ

เค้าไปเหมือนกันว่า 'ผมไม่ใช่ลูกคุณและก็ไม่เคยมีพ่ออย่างคุณ' " พูดจบผมก็ลากกระเป๋าเดินออกมาจากตรงนั้นโดยไม่อยู่ฟังเสียง

ด่าทอและเสียงประจบประแจงของสองพ่อลูกนั่นอีกเลย และก็ขับรถมุ่งหน้าตรงไปบ้านสวนของยายทันที ไหนๆชีวิตผมก็พ้น

ผ่านออกมาจากนรกขุมนั้นแล้ว พระเจ้าก็อย่าใจร้ายให้ผมได้พบเจอกับความทุกข์อีกเลยนะครับ

.

.

.

.

.

"ยายครับ!!! ผมมาแล้ว!!!!" จอดรถไว้ที่โรงรถเล็กๆที่ไม่ใหญ่อย่างบ้านโน้นเสร็จผมก็วิ่งตรงเข้าไปหายายที่นั่งคัดมุกของวันนี้

อยู่ที่ประจำทันที

"มาได้ยังไงน้องธาร!!! แล้วนี่ดีใจอะไรมาฮึ! ถึงวิ่งหน้าเข้ามาโถมกอดยายจนแทบหงายหลังอย่างนี้ฮะเรา มันน่าตีจิงเชียว!"

ปากยายก็เอ็ดผมบอกว่าผมน่าตี แต่ยายก็จับผมฟัดแก้มซ้ายแก้มขวานี่คืออะไรครับ?

"ก็ธารดีใจนี่ครับ ต่อไปนี้ธารจะมาอยู่กับยายที่บ้านสวนของเรานี่โดยที่จะไม่มีใครมาตามลากตามขู่เราอีกแล้วนะครับ"

"หือ....แล้วพ่อเราเค้าจะไม่ว่าเอาหรอน้องธาร ยายไม่เอาแล้วนะ ไม่เอาอย่างวันนั้นแล้วนะลูก ยายกลัว" ยายผมพูดด้วยเสียงสั่นๆ

และแสดงความกลัวออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน วันนั้นที่ยายผมพูดถึงก็วันที่ผู้ชายคนนั้นเค้ามาตามผมกลับไปอยู่บ้านนั้นนั่น

แหละครับ เป็นเพราะผมดื้อรั้นยืนยันที่จะอยู่กับยายจึงทำให้ผู้ชายคนนั้นสั่งยิงคนสนิทของยายจนตายไปคนนึง ไม่อย่างนั้นผม

ก็ไม่ยอมกลับไปอยู่นรกขุมนั้นหรอก

"ไม่แล้วหล่ะครับ จะไม่มีอย่างวันนั้นอีกแล้วครับ เพราะผู้ชายคนนั้นเค้าเป็นคนไล่ธารออกมาเองเลยครับยาย ต่อไปนี้ธารจะ

เป็นคนดูแลยายดูแลทุกคนที่นี่เองครับ" ผมพูดด้วยความมั่นใจ เพราะผมตั้งใจและวางแผนไว้แล้วหล่ะว่าผมจะทำอะไรบ้าง

ระหว่างทางที่ขับรถมาบ้านสวนของยาย

"แล้วทำไมเค้าถึงปล่อยให้ธารมาง่ายๆอย่างนี้หล่ะลูก" ยายถามด้วยความสงสัย เพราะปกติผู้ชายคนนั้นจะไมยอมปล่อยให้ผม

ไปอยู่ที่อื่นง่ายๆ ขนาดที่ผมไปเรียนที่กรุงเทพฯ ยังส่งไอ้ลูกรักลูกเวรของเค้าตามไปคุมผมเหมือนนักโทษอยู่เลย

"ธารทะเลาะกับเค้าเรื่อง....บลาๆๆ" หลังจากนั้นผมก็เล่าทุกเรื่องยกเว้นเรื่องไอ้เวรคุณมันข่มขืนผมให้ยายฟัง

"ก็ดีแล้วลูก หลังจากนี้ก็ต่างคนต่างอยู่กันไป ธารก็มาอยู่กับยายนี่แหละ อย่าพึ่งหนียายไปมีสามีซะก่อนแล้วกัน"

"งื้อออ...ยายอ่ะ!! แมนๆอย่างธารต้องเป็นสามีคนอื่นสิครับ ไม่ใช่ไปเป็นเมียคนอื่นอย่างที่ยายพูดซักหน่อย"

"คริๆ น้องธารของยายมีตรงไหนที่บอกว่าแมนบ้างครับเนี่ย อย่ามาเถียงยายซะให้ยาก ยายช่วยแม่เราเลี้ยงเรามาตั้งแต่อ้อนแต่ออก

ทำไมยายจะดูไม่ออกว่าเราเป็นอย่างไงฮึเจ้าธาร แล้วก็อย่ามาอ้างนะว่าตัวเองตัวสูงใหญ่หน่ะ ไอ้ที่เราดูตัวใหญ่หน่ะก็เพราะว่า

ชอบใส่เสื้อผ้าเกินไซส์ของตัวเองเพื่อพลางหุ่นให้มันดูหนาไม่ใช่หรอ? แล้วอย่าบอกนะว่าเพราะตัวเองเป็นผู้ชายจึงไม่ควรมีสามี

หน้าตาเราหน่ะถอดคุณแม่นางฟ้าของเรามาอย่างกับแกะแค่นี้ยังไม่พออีกหรอ อีกทั้งร่างการของเรายังพิเศษกว่าคนอื่นอีก ยายจะ

บอกอะไรให้นะน้องธารในเมื่อชะตาฟ้าลิขิตมอบในสิ่งที่ไม่มีใครได้มีโอกาสอย่างเราง่ายๆอย่างนี้แล้ว ก็อย่าไปฝืนเลยนะ มันจะ

พาลให้เราไม่มีความสุขเอาเสียเปล่าๆ อุตสาห์ได้เกิดมาทั้งทีก็ใช้ชีวิตให้มันคุ้มๆ อยากทำอะไรก็ทำ ชอบทางไหนก็ไปทางนั้น

เอ้า!! ไหนๆก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว ยายว่าเราไปห้างกันดีกว่า วันนี้ยัยมณีคนนี้ยอมหมดตัวช็อปปิ้งซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนลุคใหม่ให้

หลานชายสุดที่ซักหน่อยหล่ะว่ะ คึกๆ" พูดเองเออเองเสร็จยายมณีของผมก็เก็บมุกเข้าที่ ก่อนจะลากผมที่นั่งเออตามฟังตามที่

ยายพูดไม่ทันขึ้นรถของยายมาอย่างงง แถมยายยังเป็นคนขับอีกต่างหาก

.

.

.

.

.

"ซื้ออะไรไปใหพี่เค้าดีว๊ะ!! ไอ้คุณมึงช่วยกูคิดหน่อยซิ กูลากมาช่วยเลือกไม่ได้ลากมึงให้มาเดินตามกูเฉยๆนะเว้ย!!" เสียงไอ้ภาส

หงุดหงิดโวยวายอยู่ข้างๆผม วันนี้หลังจากที่เคลียร์เงินให้ลูกน้องเสร็จพวกผมก็โทรไปขอความช่วยเหลือจากรุ่นพี่ที่เป็นตำรวจ

ที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนแล้วหน่ะครับ แต่พอดีว่าเมียเค้าพึ่งคลอดลูกพอดีพี่เค้าก็เลยบอกให้ไปคุยกับเค้าที่โรงพยาบาลเอาหน่ะ

แต่จะให้ไปมือเปล่าก็ยังไงๆอยู่ใช่ไหมครับเพราะว่าเราไปขอความช่วยเหลืออีกทั้งมันยังมารยาทการเข้าสังคมที่ดีอีกต่างหาก

แหม่...อย่ามองกันอย่างนั้นสิครับ! ถึงพวกผมจะห่ามๆบ้าๆบอๆแต่ก็ยังพอจะรู้เรื่องมารยาทที่ดีอยู่นะครับ ถึงแม้จะมีเพียงน้อยนิด

ก็ตาม หลังจากที่คุยกับพี่เค้าเสร็จทีนี้พวกผมก็เลยตกลงกันว่ามาซื้อของเยี่ยมให้เมียกับลูกที่พึ่งคลอดของพี่เค้า ไอ้ของเยี่ยมเมีย

พี่เค้าหน่ะได้แล้วแหละครับ แต่ของที่จะไปรับขวัญลูกเค้านี่สิปัญหา อ๊ะ!! นั่นๆเมียคืนเดียวของผม ฮึๆ มากับผู้ใหญ่ที่หน้าตา

เค้าโครงเดียวกันซะด้วย สงสัยไม่ย่าก็ยาย ผมว่าผมหาคนช่วยเลือกของได้แล้วหล่ะครับ ฮ่าๆ

"มึงไปหาร้านกาแฟนั่งรอกูก่อนไป เดี๋ยวของรับขวัญหลานกูเลือกเอง" ผมบอกไอ้ภาสที่ทำหน้าหงุดหงิดเต็มทน

"เออๆ ได้แล้วโทรหากูหล่ะ อย่าช้านะมึงพี่เค้ารออยู่" มันย้ำผมอีกทีก่อนที่จะเดินหิ้วกระเช้าของฝากออกไป

.

.

.

.

.

"ธารไม่เอาตัวนี้นะครับยาย มันหวานเกินอ่ะ"

"ตัวนี้แหละยายว่าเหมาะกับธารที่สุดเลย" ฮึๆ ผมเดินเข้าไปใกล้ๆก็ได้เห็นไอ้ธาราเถียงกันไปมากับผู้หญิงแก่ๆที่มาด้วย และได้ยิน

มันเรียกว่ายายสงสัยจะเป็นยายมันจริงๆมั้งครับเพราะหน้าเค้าโครงเดียวกันเลย และหน้าตาหยาบอย่างนายหัวรพีคงจะไม่มีแม่

หน้าตาสวยหวานขนาดนี้หรอก ดีแล้วแหละครับที่ไอ้ธารามันหน้าเหมือนทางแม่มันอย่างนี้ เพราะว่าถ้ามันหน้าเหมือนพ่อมัน

ผมก็คงจะกดมันไม่ลงหรอก ฮึ่อ!! คิดแล้วขนลุกว่ะ ว่าแต่ผมเคยได้ยินไอ้ภาสพูดว่าแม่มันตายใช่มั้ย? เออๆช่างแม่มันไปเถอะ

"ฉันก็ว่าเสื้อตัวนี้เหมาะกับนายที่สุดเลยนะน้องธาร" นี่ผมเรียกถูกใช่มั้ย? ไม่ต้องสงสัยไปหรอกครับว่าผมรู้ได้ยังไง  ยอมรับ

แบบหน้าด้านๆเลยครับว่าผมก็เพิ่งจะได้ยินมันเรียกแทนตัวเองเมื่อกี้นี้เองแหละครับ เลยตู่เอามาเรียกซะเลย ผมว่าชื่อนี้เหมาะ

กับมันมากกว่าที่เค้าเรียกมันว่าธาราซะอีก

"ไอ้คุณ!!!" หึๆ หันมาเห็นผมก็เหวอเลยครับ

"นี่แน่ะ!! น้องธาร ทำไมถึงไปเรียกเค้าอย่างนั้นหล่ะลูก เค้าพูดกับเราดีๆนะ ทำนิสัยอย่างนี้ไม่ดีเลยนะ" ยายมันตีทันทีเลยหล่ะ

ครับที่แถมยังดุมันต่อหน้าผมอีกต่างหาก มันก็ได้แต่ลูบแขนตัวเองและก็หน้ามุ่ยไปตามระเบียบนั่นแหละครับ

"สวัสดีครับคุณยาย ผมชื่อเจ้าคุณครับ เป็นเพื่อนกับน้องธารหน่ะครับ" ผมยกมือไหว้ทักทายยายของไอ้ธาราอย่างนอบน้อม

ตามที่โดนแม่สั่งสอนมาตั้งแต่เด็กแต่เล็ก ที่ผมก็ได้แต่จำและเอามาใช้เพียงน้อยนิดเท่านั้น

"สวัสดีจ้ะยายเป็นยายของน้องธารเค้าหน่ะจ้ะ เอ....ว่าแต่พ่อหนุ่มเป็นแค่เพื่อนับน้องธารเองหรอ? ยายไม่เคยเห็นน้องธารให้ใคร

เรียกชื่อนี้นอกจากคนสำคัญเลยน้า....." หึ หึ ถ้ายายจะเปิดโอกาสให้ผมขนาดนี้ ผมก็ไม่ขอขัดศรัทธาของยายแล้วกันนะครับ

"มันไม่ใช่เพ......"

"ใช่ครับแล้ว!! ผมไม่ใช่แค่เพื่อนของน้องธารหรอกครับ เราสองคนเป็นแฟนกันหน่ะครับคุณยาย" ผมไม่รอให้มันพูดจบประโยค

หรอกครับ ผมก็เดินเข้าประชิดตัวมันโอบและบีบเน้นๆเบาๆที่เอวมันเพื่อเป็นการเตือนให้มันหุบปาก และมันก็เงียบจริงๆครับ

แต่ทำหน้างอหนักกว่าเดิมเข้าไปอีก

"นั้นไง!! ยายว่าแล้ว คราวนี้มีแฟนเรามายืนยันด้วยตัวเองขนาดนี้แล้ว เรายังจะเถียงยายว่าจะไปเป็นสามีคคนอื่นอยู่รึป่าวฮึน้องธาร

หรือว่าเราจะบอกว่าเราจะทำหน้าที่เป็นสามีให้แฟนเรา ถ้าเป็นอย่างนั้นพูดให้ตายยายก็ไม่เชื่อ คึ คึ" พอผมบอกว่าเป็นแฟนไอ้ธารา

ยายมันก็ตบมืออย่างชอบใจ แถมยังแซวมันต่อโดยไม่รู้เรื่องระหว่างผมกับมันอย่างแน่ชัดเลย

"ยายยยยยย........." มันลากเสียงเรียกยายมันด้วยความขัดใจ หน้าเน้อนี่แดงไปหมดแล้วครับไม่รู้ว่าเขิน อาย หรือว่าโกรธกันแน่

"อะไรเล่า!! รึไม่จริง? ก็แฟนเราตัวตั้งใหญ่ตั้งโตขนาดนี้ คริๆ" ยายมันดูท่าทางจะเป็นคนอารมณ์ดีนะครับ ยิ่งเห็นหลานหน้างอ

หน้าแดงยายแกก็ยิ่งแหย่ สงสัยว่ายายเค้าจะคิดว่ามันเขินมั้งครับ

"ผมไม่คุยกับยายแล้ว!!!" พูดจบมันก็สะบัดตัวออกจากผมการกอด(?)ของผมและรีบเดินออกไปโดยไม่รอยายมันเลยครับ

"อ้าว!! สงสัยจะงอลเข้าจริงๆแล้วหล่ะ ยังไงยายขอตัวไปง้อหลานขี้งอลก่อนนะพ่อหนุ่ม ไหนๆก็มาเปิดตัวกับยายว่าเป็นแฟน

น้องธารแล้ว เอาไว้ว่างๆก็ให้น้องธารพาไปกินข้าวกับยายที่บ้านสวนนะ เราจะได้คุยทำความรู้จักกันมากกว่านี้ โชคดีนะพ่อหนุ่ม

ยายไปหล่ะ"

"ครับ สวัสดีครับยาย" พูดจบก็รีบเดินตามไอ้ธาราไปอีกคนเลยครับ หึ หึ ผมว่าชีวิตผมหลังจากนี้คงไม่หน้าเบื่ออย่างที่ผ่านๆมา

แล้วมั้งครับ ไหนๆยายเค้าก็ใจดีเปิดโอกาสรับผมเป็นหลานเขย(?)แล้วนี่ ผมก็สนองความต้องการของยายเค้าซักหน่อยจะเป็นไร

ไปครับ แต่ไอ้ธารามันคงจะไม่ยอมเล่นกับผมแน่ๆ งานนี้ผมว่าสนุกแน่เลยครับ พวกคุณคิดอย่างนั้นมั้ย? ฮ่าๆๆ

 

...

อ่าวๆ ใครรอพี่คุณน้องธารอยู่มี่ขอเสียงหน่อยเร็ว!!!

หลังจากรู้ความจริงบ้างแล้ว งานนี้ก็มีทังคนผิดหวังและสมหวังเพราะน้องธารมันท้องได้(อีกแล้ว)

คืองานนี้มี่ต้องชี้แจงก่อนนะคะว่า อย่างที่อีพี่ภาสและคุณยายมณีของน้องธารมันบอกมา

อีกทั้งยังได้คำยืนยันมาจากคนที่สำรวจร่างกายของนุ้งธารทุกซอกทุกมุมอย่างอีพี่เจ้าคุณมันว่า

1. นุ้งธารมันไม่ได้ตัวใหญ่โตจนกลายเป็นเมะชนเมะ มันแค่สูงกว่าหนูพัสเฉยๆแต่ก็ยังเตี้ยและตัวเล็กกว่าอีพี่คุณและอีพี่ภาสอยู่ดี

2. ที่นุ้งมันดูตัวหนาก็เพราะเสื้อผ้าที่ใหญ่เกินไซส์ของมัน งานนี้อีพี่คุณมันนั่งยันและยืนยันมาในตอนที่มัน จ๊ะป๊ะหล่ะเห่ย?

(ภาษาอะไรของแกไอ้มี่)กันในตอนที่1.(ฉากNC) หรือใครจะเถียง?(เสียงโหด)

3. ที่นุ้งมันสู้อีพี่ภาสได้ก็เพราะว่าอีพี่ภาสมันอ่อยให้เพราะไม่อยากทำเพื่อนแต่นุ้งมันเสือกแทงอีพี่ภาสก่อนไง อีพี่มันก็เลยโมโห

เลือดขึ้นหน้าขาดสติจนเผลอกรีดหน้านุ้งมันไง  เข้าใจ๋(เสียงสูง)

ส่วนเรื่องคำผิดที่เตือนกันมา มี่ก็ขอบคุณมากๆเลยนะคะ แต่มี่ขอติดไว้ก่อนยังไม่แก้น้าาา เอาไว้แก้ทีเดียว

มันมึนๆอึนๆอะเพราะว่าส่วนมากมี่จะพิมตอนดึกมันเลยตาลายเพราะง่วงเหมือนกัน คึๆ

แต่ที่มาลงเช้าอย่างนี้ก็เพราะเอามาจากก็อปเอามาจากอีกเว็บนึงของมี่ ตอนนี้ทุกเว็บที่มี่ลงก็ถึงตอนเดียวกันแล้ว

เพราะฉะนั้นต่อไปนี้คงจะลงห่างๆไม่ถี่เหมือนก่อนหน้านี้แล้วนะคะ สองสามวันลงที อะไรอย่างนี้ โอเช!!

แหม่...รู้สึกว่ามี่จะพร่ามยาวกว่าเนื้อเรื่องซะแล้วมั้งเนี่ย?  :z2: :z2:

ชอบไม่ชอบยังไงก็ฝากติดตาม  ฝืนๆอ่านผ่านๆตาไปจนกว่าจะจบเรื่องเลยนะคะ(อ่านยังไงของมัน)คึ คึ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 20-06-2015 09:13:02
ชีวิตน้องธารนี่น่าสงสารจังเลยนะคะ ต้องมาทำตัวร้ายๆ ก็เพราะถูกพี่ชายกับพ่อเลวๆ กดดันด้วยวิธีการสกปรกๆ แบบนั้น มันน่า :beat: นักเชียวนะคะ!!!

ปล. ถึงยังไงเราก็ยังสงสัยพี่ภูอยู่ดีนั่นล่ะค่ะ เพราะเหมือนกับจะสัมผัสได้ว่านางกำลังตีสองหน้าอยู่อย่างไรชอบกล o8
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 20-06-2015 10:01:48
อ่านไปอ่านมาเริ่มชอบคู่รองมากกว่าคู่หลักซะแล้ว :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 20-06-2015 10:51:11
รอคู่นี้อยู่เลยยย >_<
ชอบคู่นี้ น่ารักดีอ่ะ
น้องธาร~ คึๆๆ คำเรียกน่าหยิกจริงๆ เลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 20-06-2015 10:52:36
คุณยายรู้ที่มาของเจ้าคุณเมื่อไหร่
เจ้าคุณจะตายไหมนี่555

.....
ขอบคุณที่ชี้แจงค่ะ
ส่วนตัวไม่เคยเจอแบบนี้
ไม่เคยเข้าผับ  ไม่เคยเห็นจำนวนพนักงาน  มันนึกภาพไม่ออกน่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 20-06-2015 12:17:04
โหหหห ได้รู้ความจริงแล้ว เศร้าใจมากๆ พ่อลูกด่ากัน ทะเลาะกันแบบนี้ และไม่ติดใจกับการทะเลาะกับภาสแล้วว่าเป็นเพราะอะไร อยากให้ธาราไปพูดความจริงหรือสารภาพเรื่องทั้งหมดกับภาสและเมียของเขานะ จะได้กลับมาเป็นเพื่อนกันต่อ ต่อไปคงจะคาราคาซังจนนิยายใกล้จะจบแน่ถึงจะได้รู้ความจริงกัน ๕๕๕  เจ้าคุณนี่คืบหน้าไปไวกว่าพี่ภาสนะ คืนเดียวได้เมียละเผลอๆจะมีลูกให้ก่อนด้วย ๕๕๕ เอาใจช่วยพี่ภาสกับเจ้าคุณ รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-06-2015 13:46:54
คดีพลิก!คนที่น่าสงสารที่สุดคือธารา!!
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 20-06-2015 13:57:19
รอคู่นี้อยู่เลย ทำไมชีวิตน้องธารดราม่าแบบนี้ แล้วเรื่องเจ้าของฟาร์มหายมุกที่มีปัญหากับภาสอยู่ อย่าบอกนะว่าเป็นของธาร ไม่งั้นดราม่าไม่หมดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 20-06-2015 15:36:38
ชอบคุณยายอะ 555555 เจ๋งมากค่าาาาา
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 20-06-2015 18:14:39
ชอบคู่นี้มากกกกกกกกกกกก :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 20-06-2015 20:17:42
พี่คุณน้องธารรร  :-[ :impress2:
รอตอนต่อไปนะ  :katai4: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PaTtO ที่ 20-06-2015 21:21:20
พี่คุณ น้องธาร ท้องแน่ครัชงานนี้  :-[
กินยาไปยังอ่ะน้องธาร
คุณยายน่ารัก เปิดทางให้หลานเขย
ถ้าพ่อจะฟังแต่ลูกเชี่ยๆนั่นก็ตามสบายเลย รอดูความวิบัติ
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับน้องธารสินะ น่าจะเป็นพ่อกับพี่วางแผนกัน
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Sugar_Halloween ที่ 20-06-2015 21:26:21
คุณพ่อนี่ก็เหลือเกิน :เฮ้อ: ท้องเลยน้องธารแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น :laugh:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 20-06-2015 21:45:43
เปิดตัวสวยงาม
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 20-06-2015 22:01:22
ชีวิตธารานี่คนในครอบครัวก็เกลียดกันเอง  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 21-06-2015 00:14:49
คู่นี้มาทีหลังแต่เครมทันที แถมจะป่องก่อนอีกด้วยนะนั่น
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 01-07-2015 23:27:45
รีบง้อเดี๋ยวนี้อย่าปล่อยให้น้องรอนานเซ่ พูดอ่ะพูด อธิบายบ้างไรบ้างเวลากลับดึกน่ะคร๊าบบ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 29-07-2015 00:55:16
คู่หลังนี่เชียร์ให้ธารโกรธไปนาน ๆ เลยค่ะ หนอยยย ไปขืนใจเขาแบบนั้นแล้วมาทำแบบนี้นี่สมควรโดนหนัก ๆ มาก ๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 02-08-2015 04:30:38
ข้าเข้าใจเวลาเธอกลับดึกแล้วปล่อยน้องรอแล้ว เพราะตอนนี้ชั้นน ก็รออยู่ รออยู่จริงๆนะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 02-08-2015 11:12:22
 :hao7: คู่รองดุเดือดกว่าคู่หลักอีก
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.คู่รองเจ้าคุณ&ธารา ตอน2 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 02-08-2015 11:58:58
มาต่อนะคะ
รออยุค่าา
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) ///แจ้งข่าว// (01/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 01-09-2015 11:26:49
ดีค่ะๆ ก่อนจะแก้ตัวก็ต้องขอโทษแฟนนิยายของมี่

ทุกๆคนก่อนะคะ ที่มี่หายไปนานมากขนาดนี้
สาเหตุที่มี่หายไปมีอยู่สองสาเหตุค่ะ
1คือ ครั้งแลกที่บอกว่าป่วยก็คือป่วยจริงๆนั้นแหละค่ะ เป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉียบพันเพราะโพเทสเซี่ยมในร่างกายหมด หมดแบไม่มีเหลืออยู่ในร่างกายเลยค่ะ
ทำให้ตอนนั้นร่ากายของมี่ไม่สามารถทำ
อะไรได้เลยค่ะนอกจากกระพิบตาปิบๆอยู่
บนเตียง ทุกส่วนในร่างกายไม่วามารถขยับ
ได้เลยนอกจาหัว แค่บังคับการขับถ่ายของตัวเอง
ยังไม่ได้เลยค่ะ
ส่วนเหตุที่สองคือ หลังจากที่มี่หายจากเหตุการแรกนั้น
กลับมาพักฟื้นที่บ้าได้สามวัน มี่ก็ออกไปธุรกับพี่ชาย
แต่ไม่รู้ว่าปีชงหรือดวงซวยอะไร
เลยทำให้มี่กับพี่ชายโดนรถที่เห็นแก่ตัวคันนึงฝ่าไฟแดงมาบวกกับรถมี่เต็มๆ เลยทำให้เฮียของมี่ไหปลาร้าหักกับซี่โครงหักสองซี่ ส่วนมี่แขนซ้ายหักตรงข้อศอก กระดูกแขนแตก ไม่สามารถผ่าตัดได้เพราะตรงส่วนนั้นคือศูนย์รวมของเส้นประสาทและเส้นเลือดใหญ่การผ่าตัดมีความเสี่ยงสูงที่มี่อาจจะต้องเสียแขน และมี่ก็มีโรคประจำตัวด้วย คุณหมอเลยไม่ยอมผ่าตัดให้
แต่ขอให้นอนดึงกระดูกเอา การดึงกระดูกคือ
คุณหมอจะเจาะเหล็กเข้าไปติดกับกระดูกทั้งสองข้างที่แตกออกจากกันและรั้งให้ใกล้ข้อศอกที่หลุดมากที่สุด และให้มี่นอนอยู่กับเตียงนิ่งๆ จับแขนข้างที่เจ็บตั้งฉากถ่วงทรายโดย
รั้งข้อมือผูกไว้กับขื่อเตียง ตั้งแต่วันนั้นจนถึง
เมื่อวานมี่โดนล็อกอยู่กับเตียงมาตลอดเวลากินก็นอนกิน ขับถ่ายก็นอนขับถ่ายที่เตียง
จนเมื่อตอนบ่ายของเมื่อวานคุณหมอก็ถอดเหล็กออกแต่ขอให้ใส่เฝือกประคองแขนต่อไว้อีกหน่อย มี่เพิ่งได้กลับบ้านมาเมื่อเช้าค่ะ
‪#‎ยังไงก็ต้องขอโทดด้วยนะคะที่มี่หายไปนาน‬ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ มี่ขอโทษค่ะที่ทิ้งไว้โดยไม่ได้บอกอะไรเลย

 

#ส่วนนิยายตอนต่อไปรอกันอีกสักนิดนะคะขอมี่เรียบเรียงอีกซักนิดนะคะ

(ถึงตอนนี้ใช้แขนได้ข้างเดียวไอ้มี่ก็สู้ตายค่ะ!!!)

/// อย่าพึ่งทิ้งเค้าน้าาาาา...../////
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) //แจ้งข่าว!!!// (01/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 01-09-2015 12:06:38
สู้ๆนะ..เค้าจะรอต่อไปไม่ทิ้งไปไหน..
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) //แจ้งข่าว!!!// (01/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 01-09-2015 12:17:07
ขอให้หายป่วยเร็วๆ ทั้งมี่ทั้งพี่เลยนะคะ สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ค่า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) //แจ้งข่าว!!!// (01/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 01-09-2015 12:32:22
สุขภาพต้องมาก่อน..^^ สำหรับนิยายรอได้จ้า~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) //แจ้งข่าว!!!// (01/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 01-09-2015 13:12:06
หายไวๆค่ะ มี่ เอาใจช่วยนะ
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 3 (09/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 09-09-2015 20:07:46

คุณเมียภาคบังคับ [เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 3

 

 

 

“มึงจะกลับเลยหรือจะไปไหนต่อ?” ไอ้ภาสหันมาถามผมครับ ตอนนี้เราอยู่ตรงที่จอดรถในโรงพยาบาลกำลังจะแยกย้าย

(ถึงจะมาด้วยกันแต่รถก็คนละคันนะเออ)หลังจากที่คุยธุระกับรุ่นพี่ที่บอกว่าเป็นตำรวจเสร็จแล้ว

“คงที่ไหนซักที่แหละ กลับไปกูก็ไม่มีไรทำ” ผมทำหน้ากวนตอบมันกลับไป

“เอาที่มึงสบายใจเถอะ พรุ่งนี้เจอกันมึง กูไปล่ะ” พูดจบมันก็เดินตรงดิ่งไปที่รถมันเลย ทีอย่างนี้ล่ะรีบนะมึงไอ้ภาส

เวลามีปัญหาเสือกเก็บเงียบไม่บอกไม่กล่าว กูขอให้น้องพัสงอลให้มึงง้ออีกนานๆเลย ห่า… ว่าแต่ผมจะไปไหนดี

มีเพื่อนเพื่อนก็ทิ้งหนีไปง้อเมีย  เมีย…..เมีย.......เมียหรอ?  ผมก็มีเมียเหมือนกันนี่หว่า  ถึงจะเป็นเมียคืนเดียวก็เหอะ

อืม…ผมรู้แล้วว่าจะไปที่ไหนดี หึหึ

.

.

.

“ยายทำอะไรกินครับหอมจัง ธารได้กลิ่นแล้วหิวเลยอ่ะ” ธาราที่เพิ่งกลับมาจาก

ข้างนอกถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในครัวแล้วเห็นคุณนายมณีก้มหน้าก้มตาทำอาหารอยู่หน้าเตาอย่างขะมักเขม้น

“ไม่ต้องมาตีเนียนเลยน้องธาร เพิ่งกลับมาจากข้างนอกก็ไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นซะก่อนไป แล้วค่อยมากินข้าว
ยายทำเสร็จพอดี” คุณนายมณีดุหลานรักไม่จริงไม่จังนัก
ตั้งแต่น้องธารหลานชายเพียงคนเดียวของเธอมาอยู่ด้วยเธอรู้สึกว่าเธอมีความสุขเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
ธาราเองก็คงมีความสุขเหมือนกันกับเธอเพราะไม่ต้องทนอยู่ที่บ้านหลัง
นั้นไม่ต้องเกี่ยวข้องกับคนใจร้ายใจมารพวกนั้นอีก เธอก็ได้แต่หวังว่าความสุขนี้มันอยู่กับเธอและธาราอย่างนี้ตลอดไป

…ปริ๊นๆ…ปริ๊นๆ….

.

.

.

“ยายเมื่อกี้ธารได้ยินเสียงรถ ใครมาหรอครั…ไอ…ไอ่” เสียงเจื้อยแจ้วของธาราสดุดลงแทบจะทันทีที่เห็นว่าใครนั่งคุยอยู่

กับคุณนายมณี

“อ้าว…น้องธารมาแล้วหรอ เดินมานี่ซิมา ชวนพี่เค้ามากินข้าวเย็นด้วยไม่เห็นบอกยายก่อน ยายจะได้แสดงฝีมือให้เต็มที่เป็น

การต้อนรับหลานเขยซักหน่อย คริคริ” คุณนายมณีพูดเอ่ยเรียกเมื่อเห็นธาราเดินมาในห้องนั่งเล่น

 “ธารไม่ได้นั…..”

“น้องคงเขินนะครับเลยไม่กล้าบอกยายว่าผมจะมาหา นี่ครับผมเตรียมเสบียงมาเพิ่มเรียบร้อยแล้วยายไม่ต้องทำเพิ่มให้เหนื่อยหรอกครับ” ธารายังพูดไม่จบ เจ้าคุณก็พูดขัดขึ้นมาเสียก่อนเพราะพอจะรู้ว่าธาราคงจะพูดปฏิเสธออกมาว่าไม่ได้ชวนตนเอง

ให้มาหาที่บ้านอย่างที่เจ้าคุณพูดโกหกคุณนายมณีออกไป

“แค่ชวนแฟนมาเปิดตัวกับยายจะเขินทำไม มีแฟนหล่อๆอย่างเจ้าคุณไม่ต้องอายหรอกคริๆ ปะๆเราไปกินข้าวกันก่อนดีกว่า”

พูดเสร็จคุณนายมณีก็จูงมือหลานชายตัวเองเดินนำไปห้องครัวโดยมีเจ้าคุณเดินตาม ธาราหันหลังมามองเจ้าคุณอย่างหงุดหงิด

แถมขยับปากด่าอย่างไม่มีเสียงอีกต่างหากแต่คนอย่างเจ้าคุณนะหรือจะสะทกสะท้านไม่รู้สึกอะไรกับคำด่านั้นไม่พอเจ้าตัวยัง

ยักคิ้วกวนๆส่งไปให้คนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าได้หงุดหงิดเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก

.

.

.

“ค่ำแล้ว คืนนี้ค้างที่นี่ก็ได้นะเจ้าคุณ นอนห้องน้องธารก็ได้” หลังจากทานมื้อเย็นกัน

เสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งสามคนก็พากันมานั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น แต่การพูดคุยทั้งหมด

แทบจะผูกขาดอยู่แค่เจ้าคุณและคุณนายมณีเพียงเท่านั้น ส่วนธาราก็ได้แค่เออออไปตามเรื่องตามราว จะพูดจะแย้งอะไรก็ไม่ได้เพราะมีเจ้าคุณนั่งประกบติดอยู่ตลอดพอจะแย้งเจ้าคุณก็บีบต้นขาเป็นการเตือน แล้วตอนนี้คุณนายมณียายของเขานั้นก็

ปรักใจเชื่อคำพูดของเจ้าคุณไปแล้วว่าเขาและเจ้าคุณเป็นแฟนที่รักกันมาก แถมยังเปิดโอกาสให้เจ้าคุณซะทุกทางแทบจะ

ยกเขาใส่พานถวายให้เจ้าคุณเลยซะด้วยซ้ำ

“อะไรอ่ะยาย ยังไม่ดึกซะหน่อย ให้เขากลับไปเถอะ” ธาราแย้งขึ้นแทบจะทันทีอะไรกันแค่ทนกินข้าวร่วมโต๊ะกันเขาก็แทบ

จะดั้นตายอยู่แล้ว ขืนให้ค้างด้วยอีกเขาต้องแย่แน่ๆ

“หืม..ทำไมล่ะน้องธาร หนูก็รู้นิว่าทางออกบ้านเรามันอันตรายแค่ไหน ยิ่งตรงทางโค้งตัวเอสนี่ยิ่งอันตรายเลยถ้าพลาดนี่คือ

ตกหน้าผาเลยนะลูก” คุณนายมณีถามหลานชายด้วยความสงสัย เพราะว่าทางเข้ามาบ้านสวนของเธอนั้นมันอันตรายมากจริงๆ ถนนทางเข้าออกก็ติดหน้าผาแล้วยังไม่มีทางกั้นอีกต่างหาก แถมเคยมีคนตกลงไปตายหลายคนแล้วอีกต่างหาก แจ้งไปทางการส่วนที่รับผิดชอบก็ไม่มีใครมาทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านที่มีเพียงไม่กี่หลังก็เคยช่วยกันสร้างไม้กั้นขึ้นมาแล้วหลายครั้ง

แต่มันก็พังหมดเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จนทำกันไม่ไหวแล้วเลยปล่อยมันไว้อย่างนั้นอาศัยความเคยชินเอา

แต่พอมืดแล้วคนแถวนี้ก็ไม่มีใครออกไปไหนหรอกถ้าไม่จำเป็น   

“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ผมขอรบกวนยายหน่อยนะครับ ผมไม่ได้เจอน้องมาตั้งสองวันแล้วผมคิดถึงจะแย่อยู่แล้ว…เงียบไว้อย่าอ้า

ปากพูดออกมานะมึง” พูดบอกคุณนายมณีก่อนและหันไปกระซิบประประโยคสุดท้ายกับธาราทำท่าทางเหมือนหยอกล้อ

ธาราเล่นทั้งๆที่มือใหญ่ของตัวเองที่กุมมือธาราอยู่นั้นบีบแน่นจนมือเรียวของธารานั้นแทบแหลก

“ถ้าอย่างนั้นยายไปนอนก่อนดีกว่า เจอกันพรุ่งนี้นะเจ้าคุณ ฝันดีนะครับหลานรัก” พูดจบคุณนายมณีก็เดินขึ้นชั้นบนไป

ทิ้งเจ้าคุณและธาราให้อยู่ลำพังที่ห้องนั่งเล่นนี้

“ปล่อยกูซักที!!” ธาราพูดบอกเสียงแข็งและพยายามดึงมือตัวเองให้หลุดออกจากการเกาะกุมของเจ้าคุณ

“ทำเป็นสะบัดสะบิ้งนะมึง มากกว่านี้ก็ทำมาแล้วเหอะ” เจ้าคุณทำหน้ากวนๆใส่ธาราพร้อมกับลุกยืนเดินไปทางบันไดที่จะ

ขึ้นไปชั้นสองของบ้าน

“แล้วนั่นมึงจะไปไหนน่ะ ประตูอยู่ทางโน้นโว้ย!!!” ธาราโวยขึ้นเมื่อเห็นเจ้าคุณกำลังเดินขึ้นบันได

“ก็ไปห้องมึงไง มึงไม่ได้ยินที่กูคุยกับยายมึงหรอ? ยังๆ ยังไม่เดินขึ้นมาอีก มัวยืนบื้ออยู่อย่างแล้วกูจะไปห้องมึงถูกมั้ย?”

เจ้าคุณพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าธารายังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ยอมเดินตามเขาขึ้นมา

“ไม่! กูไม่ให้มึงนอนด้วยหรอก” ธารายืนกอดอกเชิดหน้าบอก

“เออดี กูก็จะเปิดดูแมร่งทุกห้องเลย ถ้ากูเผลอไปกวนยายมึงขึ้นมาก็อย่ามาว่ากูแล้วกัน”

เจ้าคุณบอกหน้าตายและก้าวขึ้นบันไดขั้นต่อไปด้วยท่าทางสบายๆอย่างไม่รีบไม่ร้อน

“อย่ากวนยายกูนะมึง!!” กลับกลายเป็นธาราเสียเองที่รีบวิ่งขึ้นบันไดตามเจ้าคุณอย่างร้อนรน เพราะไม่อยากให้เจ้าคุณรบกวน

คุณนายมณี เพราะคุณนายมณีมีโรคประจำตัวหลายโรคจึงจำเป็นต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะเหตุผลนี้ด้วยธาราถึง

สงบจิตสงบใจเล่นละครไปตามน้ำเออออไปตามที่เจ้าคุณบอกกับคุณนายมณีอย่างจำใจ จะให้เขาบอกกับยายได้ไงว่าตัวเอง

ไม่ได้เป็นแฟนกับเจ้าคุณแถมยังโดนเจ้าคุณขืนใจอีกต่างหาก ถ้ายายเขารู้ความจริงและรับไม่ได้เกิดช็อคขึ้นมาเขาจะทำยังไง

ในเมื่อทั้งชีวิตนี้เขาเหลือเพียงคุณนายมณีเพียงคนเดียวที่เป็นคนในครอบครัว

.

.

.

.

“นั่งบื้ออยู่ไมมึง ไปอาบน้ำดิจะได้นอนสักที” เจ้าคุณพูดบอกเมื่อเห็นธารายังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียง ทั้งเนื้อทั้งตัวเจ้าคุณมีแค่

ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเพราะพึ่งอาบน้ำเสร็จ

“แมร่ง! สั่งเป็นพ่อกูเลย มึงนึกว่ามึงอยู่บ้านตัวเองรึไง” ธาราบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างหงุดหงิดเพราะตั้งแต่เข้าห้องนอนของเขา

มาเจ้าคุณก็ทำตัวชิลล์มาก เดินดูนั่นดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยจนพอใจ สุดท้ายก็เดินผิวปากเข้าไปอาบน้ำอย่างสบายใจ

…..ปึงงงงง…..

       เสียงปิดประตูห้องน้ำอย่างกระแทกกระทั้นจนเกิดเสียงดัง ทำให้เจ้าคุณที่กำลังนั่งเช็ดผมอยู่ปลายเตียงเงยหน้าขึ้นมองไป

ทางประตูห้องน้ำอย่างขบขัน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าธาราหงุดหงิดกับการกระทำของเขาขนาดไหน ในเมื่อเขาตั้งใจให้มันออกมา

เป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรก ยิ่งเห็นธาราทำหน้าเง้าหน้างอเพราะหงุดหงิดรำคาญเขาเท่าไรเขายิ่งรู้สึกสนุกมากขึ้นทุกที

“ทำไมมึงยังไม่แต่งตัวอีก กูวางเสื้อผ้าไว้ให้แล้วนี่” ธาราถามขึ้นเมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำตอนนี้เขาอยู่ในชุดนอนเต็มยศ

เพราะเอาชุดเข้าไปใส่ในห้องน้ำ แต่เจ้าคุณที่อาบน้ำเสร็จก่อนเขาเป็นครึ่งๆชั่วโมงนั้นยังคงมีเพียงผ้าขนหนูที่พันอยู่ช่วงร่าง

อย่างหมิ่นเหม่ จะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่

“เดียวก็ถอดจะใส่ทำไม” พูดพร้อมกับใช้สายตาสำรวจร่างกายของธาราไปด้วย

“อย่าคิดจะทำอะไรบ้าๆนะ! ยายกูนอนอยู่ห้องข้างๆนะมึง” ธาราพูดพลางก้าวถอยหลังหนีเมื่อเจ้าคุณเดินมาประชิดตัว

“แค่เสียงครางของมึงยายเขาไม่ได้ยินหรอก ในเมื่อห้องมึงเก็บเสียงได้ดีขนาดนี้”

พูดบอกพร้อมเดินต้อนธาราไปชิดเตียง ถ้าธาราไม่หมุนตัวหนีเขาตามที่เค้าล่อหลอกธาราก็คงไม่ได้มาใกล้ชิดเตียงขนาดนี้

หรอกทั้งๆที่ตอนแรกถอยหนีไปทางห้องน้ำแท้ๆแมวก็ยังคงเป็นแมวอยู่ดีไม่มีทางตามความคิดของหมาเกรดพรีเมี่ยมอย่าง

เขาทันหรอก

“มึง..มึงรู้ได้ไง” ธาราถามอย่างหวาดๆเมื่อขาของเขานั้นชิดติดขอบเตียงนอนแล้ว

“อ่าว! ไอ้ภาสมันไม่ได้บอกหรอว่ากูจบตรีโยธาฯอ่ะกูรู้เรื่องบ้านดีกว่าที่มึงคิดอีกนะเว้ยแล้วยิ่งบ้านที่สร้างขึ้นฉาบสองชั้นทั้งปูน

ทั้งไม้อย่างบ้านมึงเนี่ยต่อให้มาเปิดผับในนี้เสียงยังไม่ลอดออกไปข้างนอกเลยนะกูจะบอกให้ หรือถึงแม้ว่ากูไม่รู้เรื่องพวกนี้กูก็รู้

ได้ว่าห้องมึงเก็บเสียงเพราะตอนมึงปิดประตูห้องน้ำน่ะกระแทกเสียงดังอย่างกับตึกจะถล่ม เพราะงั้นมึงไม่ต้องเอายายมึงมาอ้าง

หรอกน้องธาร หรือถ้ามึงยังจะเอาอะไรมาอ้างอีกกูก็ไม่สนหรอก เพราะกู….”

.

.

.

.

.

“อยาก…แล้วว่ะ” พูดจบเจ้าคุณก็ประกบจูบเลยไม่รอให้ธาราเถียงหรือปฏิเสธได้

“อื้ออออ….” แต่ธาราก็ไม่ยอมผมง่ายๆนะ ทั้งตบ ทั้งหยิก ทั้งตี แต่เจ้าคุณก็ยังดื้อไม่ยอมเปิดปากให้เจ้าคุณสอดลิ้นเข้าไปง่ายๆ

แต่เพราะมือแกร่งของเจ้าคุณบีบกรามธาราอย่างแรงจนร่างบางเผลอเปิดปากเป็นจังหวะที่ทำให้เจ้าคุณสอดลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจ

หยอกล้อดูดดึงลิ้นเล็กจนธาราเคลิ้มตามอย่างง่ายดายเพราะประสบการณ์และชั้นเชิงของเข้าทั้งสองคนมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 “อืมมมม…หึๆ” เจ้าคุณครางเบาๆและถอนจูบออกเบาๆ ก่อนที่จะหัวเราะเบาๆ

“อื้อออ….ไอ้บ้า  แฮกๆ” ปากเป็นอิสระได้ธาราก็กร่นด่าเจ้าคุณไปหอบไป เพราะจูบเมื่อกี้ของเจ้าคุณมันร้อนแรงทำเอาเขาแทบ

ลืมหายใจ

“ทีนี้จะยอมกูดีๆได้รึยังฮึ! กูสัญญาว่าถ้ามึงยอมดีๆกูก็จะทำเบาๆ กูจะไม่รุนแรงกับมึงเหมือนครั้งนั้นถ้ามึงไม่เรียกร้อง เอาไง?”

เจ้าคุณถามธาราที่หลบตาก้มหน้ามุดอยู่ที่อกของเขาอยู่ตอนนี้

“แล้วถ้ากูไม่ยอมล่ะ? มึงจะปล่อยกูใช่ป่ะ?” ธาราเงยหน้าขึ้นทำหน้านิ่งถามเจ้าคุณอย่างเก็บอาการเขินอายทั้งๆที่หน้าแดง

หูแดงขนาดนี้

“ถามโง่ๆกูก็ปล้ำมึงจนกว่ามึงจะยอมกูไง” เจ้าคุณพูดหน้าตาย

“ไอ้บ้า!!!” ไม่รู้ว่าเขินหรืออะไรธาราถึงซัดฝ่ามือตีอกเจ้าคุณไปเต็มแรง

     จุ๊บ…จุ๊บ 

“หึๆหน้าแดงนะมึง กูไม่ถงไงถามแล้วเอาเลยเหอะ ลูกกูจะระเบิดแล้วแมร่ง!! รู้ยัง?” จุ๊บริมฝีปากบางไปเบาๆสองทีเมื่อเห็น

ว่าธาราเขินจนหน้าแดงก่อนที่จะจับมือเรียวของธาราไปวางไว้บนตัวตนของตัวเองที่แข็งขืนจนปวดนึบ

“มึงนี่มัน” ธาราถึงกับนึกคำพูดไม่ออกเมื่อสัมผัสส่วนแข็งขืนของเจ้าคุณที่ไม่รู้ว่าแค่จูบเดียวทำไมเจ้าคุณถึงรู้สึกเร็วขนาดนี้

“เออน่า…จัดการให้กูหน่อย” พูดเสร็จก็กดตัวธาราให้นั่งลงจนตอนนี้หน้าธาราตรงกับ

กลางกายของเจ้าคุณแข็งขืนดุนดันจนผ้าเช็ดตัวหลุดไปแล้ว

“แต่กู…”

“หรือมึงอยากเจ็บตัวอีก” ยังไม่ทันที่ธาราจะได้ปฏิเสธเจ้าคุณก็พูดเสียงแข็งขู่ขึ้นมา

 

…….ใครจะอยากเจ็บตัวอีกล่ะแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวก็พอแล้ว ไหนๆก็หลีกไม่ได้เลี่ยงไม่พ้นอยู่แล้วทำๆไปเถอะเดี๋ยวก็เสร็จ…….                                                                                  (ธาราได้แต่นึกในใจ)

 

       มือเรียวค่อยๆจับส่วนแข็งขืนอย่างกล้าๆกลัวๆ ลิ้นเล็กค่อยๆเลียส่วนหัวเบาๆก่อนที่ริมฝีปากบางจะครอบลงไปดูดดุน

เหมือนเป็นไอติมรสโปรด

“อืมมม…อย่างนั้นแหละ ดูดแรงๆ ลึกๆกว่านี้หน่อย” เจ้าคุณไม่พูดเปล่าแต่กลับจับรั้งหัวกลมๆของธาราไว้และเป็นฝ่ายสาวเอว

เข้าออกแทนจนธาราแทบอ๊วกเพราะมันเข้าไปลึกมากเกินไป พอสาแก่ใจแล้วเจ้าคุณจับธาลาลุกขึ้นและผลักหงายหลังไปกับเตียง

ก่อนที่จะตามไปค่อมทับกักตัวธาราไว้และประกบจูบอีกครั้งอย่างร้อนแรงและดุดันกว่าจูบก่อนหน้านี้หลายเท่านักสองมือแกร่ง

ก็ทำหน้าที่ถอดเสื้อผ้าของร่างบางอย่างรวดเร็วจนตอนนี้ทั้งคู่เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าที่เสียดสีกันเท่านั้น ปากหนาผละออก

จากริมฝีปากบางเปลี่ยนมาขบเม้มลำคอขาวและหน้าอกเนียนแทนก่อนที่จะพลิกธาราขึ้นนั่งทับตัวเองแทน

“เอาเลยชอบแบบไหนอยากได้ยังไงกูตามใจมึง” เจ้าคุณพูดบอกเมื่อเห็นหน้าจะเหลอหลาของธารา

“ช่วยเปิดทางให้กูหน่อย” ธาราลุกขึ้นเดินไปหยิบโลชั่นที่โต๊ะเครื่องแป้งมาส่งให้เจ้าคุณ เจ้าคุณนั่งพิงหัวเตียงและยอมรับ

โลชั่นมาอย่างง่ายดายไม่มีอิดออดก่อนที่จะจะดึงตัวธารามานั่งค่อมตักตัวเองกดโลชั่นใส่มือก่อนที่จะป้ายไปยังช่องทางพร้อม

ทั้งกดนิ้วเข้าไปเบิกทางก่อนหนึ่งนิ้วและค่อยๆเพิ่มเป็นสอง สาม และค่อยๆจับตัวตนของตัวเองจ่อไปทางช่องทางและกำลัง

จะกดตัวธาราลงมา

“เดี๋ยวก่อน!! ใส่ถุงก่อนถ้าไม่ใส่กูไม่ให้เอา” ไม่รู้ว่าธาราไปเอาถุงยางอนามัยมาจากไหนและเอามาตอนไหน

“ใส่ให้กูซิ แล้วก็ทำสักทีกูทนได้ขนาดนี้ก็บุญมึงแล้วนะ” เจ้าคุณบอกพร้อมทั้งดันตัวให้ธาราใส่เครื่องป้องกันเอง

พอใส่เสร็จแล้วธาราก็ขึ้นมานั่งค่อมทับที่เดิมและจับตัวตนของเจ้าคุณจ่อช่องทางของตัวเองก่อนที่จะค่อยๆกดตัวลงช้าๆ

เพราะถ้าขืนเขามัวชักช้าไม่ยอมทำอีกเขาจะต้องเจ็บตัวแน่เมื่อเห็นสีหน้าของเจ้าคุณ

“อ๊ะ!!” ธาราร้องขึ้นเมื่อกดตัวลงจนสุดแล้ว ทั้งๆที่ขยายช่องทางแล้วแท้ๆยังเจ็บอยู่เลยทั้งแน่นทั้งจุกไปหมด

“อืมม..ดีมากขยับสิครับน้องธารของพี่คุณ” ธาราเหมือนกับโดนสะกดจิตเมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าคุณก็เริ่มขยับตัวขึ้นลงเบาๆ

ทั้งน้ำเสียงที่ใช้ทั้งสีหน้าที่เจ้าคุณแสดงออกมามันพาเอาใจกระตุกเหลือเกิน

“อ๊ะ…อ๊ะ…อ๊ะ”

“อืมมม………”

“อ๊ะ…เบาๆ….อ๊าาาา” ร่างบางร้องเสียงหลงเมื่อเจ้าคุณพลิกตัวกับขึ้นมาอยู่ข้างบนและเป็นคนคุมเกมแทน

“ฮึ่ม!!…พี่คุณ…กับน้องธาร” เจ้าคุณบอกพร้อมกับสาวสะโพกแกร่งเข้าออกอย่างเน้นๆ

“อ๊ะๆ พี่คุณ เบาๆ อ๊ะ ธารเจ็บ อ๊ะ” นาทีนี้ธารายอมทุกอย่างเพื่อให้เจ้าคุณเบาแรงแต่พอเรียกออกไปแบบนั้นเหมือนกับไป

กระตุ้นแรงอารมณ์ของเจ้าคุณแทนซะงั้นเพราะตอนนี้จากช้าๆเน้น กลายเป็นแรงๆเร็วๆอย่างระรัวแทนเสียอย่างนั้น

“อ๊ะ อ๊ะ ไม่ไหวพี่คุณ อ๊ะ ธารไม่ไหวแล้ว อ๊าาาาาาาาาาาาา” ร่างบางสะบัดหน้าไปมาสองมือเรียวใช้เล็บจิกต้นแขนของเจ้าคุณ

จนอย่างสุดทนก่อนที่จะปลดปล่อยออกมาทั้งๆที่ไม่มีใครแตะต้องกลางกายของธาราเลยแต่เจ้าคุณก็ยังไม่หยุดจับธารา

พลิกคว่ำทั้งๆที่ส่วนเชื่อมต่อยังไม่หลุดออกจากกันมือแกร่งจับรั้งเอวบางให้ถนัดมือก่อนที่จะกระแทกสะโพกแกร่งจน

ร่างบางฟุบหน้ากัดหมอนเพื่อกั้นเสียงสองมือเรียวดึงรั้งผ้าปูที่นอนไว้แน่น

“ฮึ่มมม…….อืมมมมมม” เจ้าคุณครางยาวออกมาเมื่อสิ้นสุดแรงอารมณ์

“เป็นไงมั่ง เจ็บไหม?” เจ้าคุณถามขึ้นเมื่อดึงตัวเองออกมาถอดเครื่องป้องกันออก ก่อนที่ก้มสำรวจและใช้มือจับดูช่องทาง

ของร่างบางที่นอนตัวสั่นก้มหน้าฟุบอยู่

“จะถามให้ได้อะไร ทีตอนบอกให้เบาทำไมไม่ฟัง” ธาราเงยหน้าขึ้นมาแหวใส่เจ้าคุณ

“ไม่ฉีก เลือดไม่ออก แถมยังมีแรงเหลือเหลืออยู่ ถ้างั้นก็ต่อเลยแล้วกัน” พูดจบก็ดันตัวตนของตัวเองที่ยังคงแข็งขืนไม่ยอม

อ่อนแรงง่ายๆกลับเข้าไปยังช่องทางเดิมและเริ่มสานต่อกิจกรรมเมื่อกี้ทันทีไม่ให้รอให้ธาราได้ตั้งตัว ในเมื่อมีครั้งแรกแล้ว

ก็ย่อมมีครั้งที่สองและสามตามมาจนเวลาล่วงเลยไปซะค่อนคืน

.

.

.

.

“อรุณสวัสดิ์ครับยาย มีอะไรให้ผมช่วยไหม” เจ้าคุณเอ่ยทักคุณนายมณีที่ยืนทำเมื้อเช้าอยู่อย่างอารมณ์ดีทั้งๆที่เมื่อคืนเขา

ไม่ได้นอนเลย  พอเสร็จกิจทำแฮตทริกกับธาราแล้วเขาก็ต้องจัดการเช็ดตัวใส่เสื้อผ้าให้ร่างบางเสียเองเพราะเจ้าตัว

หลับกลางอากาศไปตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งทางของรอบสุดท้ายเลยเสียด้วยซ้ำ ก่อนที่จะนั่งมองหน้าธาราพร้อมกับจัดการกับ

ความคิดของตัวเองไปด้วย รู้ตัวอีกทีก็เช้าซะแล้ว

“ว่าไงเจ้าคุณหน้าสดใสเชียว เมื่อคืนหลับสบายไหม” คำถามของคุณนายมณีทำเอาคนมีชนักติดหลังอย่างเจ้าคุณถึงกับสะดุ้ง

เมื่อคืนเจ้าคุณไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนั้นหรอกแค่อยากจะแกล้งธาราเฉยๆถึงไม่ยอมใส่เสื้อผ้าทนนั่งหนาวอยู่ตั้งนาน

แต่เป็นไงล่ะแกล้งเค้ากับหยุดตัวเองไม่ได้ซะงั้นก็เลยเป็นอย่างที่รู้กันนั่นแหละ

“คิกคิก อย่าทำหน้าอย่างนั้นยายไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย ยายเข้าใจ ว่าคนเป็นแฟนกันมันจะต้องมีเรื่องแบบนี้กันบ้าง

แต่อย่าว่ายายจุ้นเลยนะเจ้าคุณป้องกันใช่มั้ย? น้องบอกเรื่องนั้นกับเราแล้วใช่มั้ย? ที่ยายถามเพราะยายเป็นห่วงจริงๆนะ”

คุณนายมณีหัวเราะคิกคักแซวเจ้าคุณอย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะเปลี่ยนสีหน้ามาจริงจังเมื่อถามถึงเรื่องความปลอดภัย

ในสัมพันธ์ของทั้งสองคน

“เรื่องอะไรหรอครับ?” เจ้าคุณถามออกไปอย่างงงๆเมื่อคุณนายมณีพูดด้วยท่าทางจริงจัง

“อ่าว!!...ก็เรื่องที่น้องเป็นผู้ชายที่มีมดลูกและท้องได้ยังไงหล่ะ” เธอทิ้งทัพพีที่คนหม้อข้าวต้มลงหันหน้ามามองเจ้าคุณตรงๆ

“ท้องได้หรอครับ?” เจ้าคุณเงียบไปพักใหญ่กว่าจะหาเสียงของตัวเองเจอ

“อืม น้องธารมีมดลูกติดตัวมาตั้งแต่เกิดและสามารถท้องและมีลูกได้จริงๆ”

คุณนายมณีค่อยๆพูดบอกอย่างช้าๆเพื่อให้เจ้าคุณได้ยินอย่างชัดๆ หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่คุณนายมณีบอกอย่างชัดเจนเจ้าคุณ

อึ้งเงียบไปอีกพักใหญ่ก่อนที่จะตัดสินใจพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา

 

“ยายครับผมมีเรื่องจะ…………………….........................”

 

 

...

ไอ่มี่คัมแบคแล้วจ้า...มาอย่างมึนๆงงๆ

มี่ขอขอบคุณทุกๆกำลังใจเลยนะคะ ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆมากที่สุดเลยค่ะ

##ส่วนคุณหมอ มี่แอบปลื้มเหมือนกันนะคะเนี่ยที่มีคุณหมอมาอ่านนิยายของมี่ด้วยเพราะเพื่อนมี่ก็เรียนหมอแต่มันนิ่งมาก

ไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย แถมยังปาก.....อีก ตอนนี้มี่ยังกิน KCL อยู่ค่ะไอ่ยาน้ำสีเหลืองๆรสชาติน่ากลัวๆอ่ะค่ะ

คุณหมออยู่ที่ไหนค่ะมาเป็นหมอจำตัวมี่ไหมค่ะแนะนำดีกว่าคุณหมอที่รักษามี่อีก มี่จะจ่ายค่าจ้างเป็นนิยายวันละตอน ฮ่าๆ

ยังไงก็ขอบคุณทุกๆคำแนะนำเลยนะคะคุณหมอ ตรวจทุกอย่างแล้วปลอดโรคค่ะ!!! ##

มี่รักๆๆๆๆรักพวกคุณทุกคนม๊ากกกกกกทิ๊สู้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ปล.ฝากนิยายเรื่องใหม่(Blood Moon กระตุกใจเจ้าชายรัติกาล)ของมี่ด้วยนะคะมี่แอบย่องไปเปิดเรื่องใหม่มาค่ะ

ปล2. คนที่อวยพรให้เฮียของมี่มาเป็นพี่สะใภ้มี่มั้ยคะ? เฮียมี่มีพร้อมทุกอย่างเลยนะค่ะทั้งรูปร่างหน้าตา หน้าที่การงาน

แต่มีข้อแม้นะคะ คุณจะต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น!! คึคึ

[ขอระบายหน่อยเถอะ(เฮียหนีกลับไปญี่ปุ่นแล้วอ่าาาาาา)] :sad4: :o12:

 

 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 3 (09/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: we.jinkyu ที่ 09-09-2015 20:29:40
มาต่ออีกเร็วๆนะค่า
รอติดตามอยู่คะ  :katai4: :mew2:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 3 (09/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 10-09-2015 01:47:34
 :katai1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 3 (09/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 10-09-2015 09:39:03
เจ้าคุณจะพูดอะไรก็เกรงใจทัพพีที่อยู่ใกล้ๆ มือคุณยายเอาไว้บ้างนะค้า~ :laugh:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 3 (09/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 10-09-2015 20:43:09
จะสารภาพว่าไม่ใส่ถุงใช่ม้าย กรั่กๆ
รอน้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 3 (09/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 10-09-2015 23:16:47
ไม่ใส่ถุงใช่มั้ยค้าาาา
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 3 (09/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-09-2015 06:59:22
กลับมาแล้ว~ ดีใจที่กลับมานะคะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 3 (09/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 11-09-2015 11:14:12
น้องธารสู้ๆ เตรียมป่องอย่างเดียว 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 3 (09/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: choinudee ที่ 11-09-2015 12:27:36
เอาแล้วววววว แล้ว แล้ว แล้ววววววววว

พี่คุณงานเหมือนจะเข้า แต่ยังไงก็ต้องรับผิดชอบน้องธารให้ถึงที่สุดนะ

เหมือนกับที่ทำ.....ถึงที่สุดด้วย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 3 (09/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-09-2015 14:45:38
จะกลายเป็นสองคู่ชู้ชื่น 5555
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 3 (09/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: painture ที่ 11-09-2015 20:25:04
ชอบคู่รองมากกว่าอะ 555555 
อิพี่ภาศแม่งเจ้าชู้
 o3

มาต่อเร็วๆน้าค้า ขอให้ร่างกายแข็งแรงเร็วๆด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 3 (09/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 12-09-2015 13:30:25
พี่คุณปล่อยไปหลายยกแล้วค่ะะะะะะะ
จะเหลือเร้ออออออ
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 3 (09/08/58)
เริ่มหัวข้อโดย: HamsteR ที่ 13-09-2015 17:43:49
งานนี้คู่รองได้เป็นพ่อแม่คน ก่อนคู่หลักแน่เลย   :hao3: :hao3:

ปมเยอะเหมือนกันนะครับ จริงๆแล้วแอบอยากให้ค่อยๆอธิบายถึงอดีตของแต่ละคนน่ะครับ แต่แบบนี้ก็โอเคครับ รวดเร็วดี

ปล. ขอให้หายปวดเร็วๆนะครับ  :call:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 12 (04/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 04-10-2015 20:15:45
คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่12
   
   

   หลังจากที่คุยธุระกับรุ่นพี่ที่เป็นตำรวจเสร็จผมก็แยกกับไอ้คุณที่โรงพยาบาลเลย ก่อนที่จะแวะซื้อขนม

ของโปรดที่หนูพัสชอบมาซื้อบ่อยๆตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่ที่นี่หลังจากแต่งงานกันมาไปฝากเจ้าตัวเสียหน่อย

พอได้คุยกับรุ่นพี่ที่ไปขอความช่วยเหลือมาวันนี้หลังจากที่พี่เขาพูดสอนถึงการใช้ชีวิตคู่ผมยอมรับตรงๆ

อย่างลูกผู้ชายเลยว่าเป็นผมเองที่ผิดและพลาดมาตลอดไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมาในชีวิตช่วงนี้

เป็นผมเองที่เอาอดีตในวัยเด็กเอาความทรงจำความรู้สึกของการมีครอบครัวที่ว่างเปล่ามาตัดสินรวมกับ

ปัจจุบัน ผมลืมคิดไปว่าคนเราไม่เหมือนกันลืมคิดไปว่าที่ว่างข้างตัวในตอนนี้นั้นได้มีคนมาเต็มเต็มมันแล้ว

ในเมื่อตอนนี้ชีวิตของผมมีหนูพัสอยู่เคียงคู่กันก็จะไม่มีความว่างเปล่า ความเดียวดายเหมือนวันวานที่ผ่านมา

อีกแล้ว เอาหล่ะในเมื่อผมไม่สามารถย้อนอดีตย้อนวันเวลาไปแก้ไขได้ผมก็ขอใช้วันนี้ วันพรุ่งนี้และวันต่อๆ

ไปในการเรียนรู้และแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดเมื่อวันวานที่ผ่านมาก็แล้วกัน

.

.

.

     “หือ…รถใคร?” ณัฐภาสมองรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ในโรงรถข้างกันกับรถของภรรยาตัวเองอย่างสงสัย

ก่อนที่จะเดินหิ้วถุงขนมของฝากของภรรยาเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดีเพราะตั้งใจจะมาคุยแบบเปิดอกกับพัสกร

ในเรื่องที่ผ่านมาที่ทำให้เขาทั้งสองคนเข้าใจผิดกันจนเป็นเรื่องใหญ่โตมาจนถึงวันนี้  แต่เมื่อเดินเข้ามาถึง

ภายในห้องรับแขกแล้วนั้น  ณัฐภาสแทบจะโยนความตั้งใจแรกที่จะมาปรับความเข้าใจกับพัสกรนั้นทิ้งลง

ไปในทันทีเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่ในห้องรับแขกกับพัสกร

 

     “คุณมาทำไม?” พัสกรถามขึ้นเสียงแข็งเมื่อเห็นณัฐภาสเดินเข้ามาในบ้าน

 

      “มาหาเมีย” ณัฐภาสตอบกลับแทบจะทันทีด้วยน้ำเสียงยียวนและก้าวเดินเข้าไปนั่งบนที่พักแขน

โซฟาเดี่ยวที่พัสกรนั่งอยู่พร้อมกับพาดแขนไปบนพนักพิงโซฟาเหมือนกับการโอบพัสกรแบบกลายๆ

 

      “ใครอนุญาตให้คุณมา แล้วมานั่งทำไมตรงนี้ที่นั่งมีตั้งเยอะตั้งแยะไม่เห็นหรอว่าผมมีแขก” พัสกรถาม

รอดไรฟันเพื่อให้ได้ยินแค่สองคนกับณัฐภาสเพราะไม่อยากให้คนอื่นรับรู้เรื่องภายในครอบครัวของตัวเอง

สักเท่าไหร่ถึงแม้ว่าจะเป็นภูผาที่เป็นเพื่อสนิทในกลุ่มเดียวกันที่นับถือเหมือนพี่ชายก็เถอะ

 

     “โธ่!...เมียจ๋าก็ อย่าใจร้ายนักเลยน่า ถ้าไม่รักไม่คิดถึงนี่สามีก็ไม่มาหรอก แต่นี่สามีคิดถึงเมียจ๋าม๊ากมาก”

ณัฐภาสทำเสียงอ้อนพร้อมกับตีเนียนรวบตัวพัสกรเข้ามากอดเสียแน่นจนพัสกรแทบจะเข้าไปรวมร่างกับ

ณัฐภาสเลยทีเดียว แต่ที่ทำอย่างนั้นก็เพราะว่าเหตุผลแรกเลยคือคิดถึงคนตัวบางในอ้อมกอดนี่ไงส่วนอีก

เหตุผลก็คือต้องการที่จะประกาศให้อีกคนที่นั่งอยู่ภายในห้องรับแขกนี้ได้รู้และเข้าใจว่าพัสกรเป็นของใคร

 

     “นี่! หยุดนะ! อย่ามารุ่มร่ามเสียมารยาทแบบนี้!” พัสกรว่าเสียงเข้มและผลักณัฐภาสออกจากตัวเอง

“เอ่อ..พัสขอโทดนะครับพี่ภูที่เสียมารยาท” ก่อนที่จะเอ่ยขอโทษภูผาเมื่อเห็นว่าภูผามองตนเองอยู่

 

     “ไม่เป็นไรหรอกพัสพี่ไม่ถือหรอก พี่ว่าเข้าใจคุณณัฐภาสนะเพราะถ้าพี่มีภรรยาทั้งสวยทั้งน่ารักอย่างพัส

พี่ก็คงจะทำอย่างเขาเหมือนกันหรือบางทีพี่อาจจะทำมากกว่าคุณณัฐภาสก็ได้” ภูผาพูดนิ่งๆเหมือนไม่ถือสา

หาความอะไร ในสายตาของพัสกรนั้นภูผายังคงเป็นพี่ชายแสนดีที่น่านับถืออยู่เสมอตั้งแต่ได้รู้จักกัน แต่ใน

สายตาและความรู้สึกของณัฐภาสนั้นมันช่างแตกต่างกันกับพัสกรโดยสิ้นเชิง ทั้งคำพูดและสายตาที่ใช้มอง

พัสกรของภูผานั้นเหมือนกับต้องการเปิดศึกกับณัฐภาสกันเลยทีเดียว

 

     “เฮ้อ!! นี่พี่ก็มารบกวนพัสนานแล้ว เอาเป็นว่าพี่ขอตัวกลับก่อนแล้วกันนะพัสพอดีว่าพี่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า

มีธุระที่ต้องไปจัดการ ผมขอตัวกลับก่อนนะครับคุณณัฐภาสเอาไว้โอกาสหน้าเจอกันใหม่นะครับ

อ่อ! ดูแลพัสดีๆนะครับสวยๆน่ารักๆอย่างพัสเนี่ยใครเห็นใครก็อยากได้ไปเป็นของตัวเองทั้งนั้นถ้าดูไม่ดี

แล้วใครแย่งไปนี่จะหาว่าผมไม่เตือนนะครับ ฮ่าๆ พี่กลับก่อนนะพัสแล้วจะโทรหา” ทิ้งระเบิดไว้ให้ณัฐภาส

จบภูผาก็เดินออกจากบ้านไปทันทีโดยที่ไม่รอให้เจ้าของบ้านได้ทำหน้าที่ส่งแขกเลย

 

     “โว้ย!!! ไอ้เหี้ยนี่แมร่งกวนตีนจริงๆ สัส! ทำมาเป็นหวังดี มึงนะสิที่จ้องจะงาบเมียกูน่ะ เดี๋ยวก่อนเถอะมึง

แน่ใจเมื่อไหร่พ่อจะเล่นไม่เลี้ยงเลย  !#$$#@$#%#)&*)#(_%(#$ ฯลฯ” ณัฐภาสสบถคำหยาบออกมามาก

จนแทบฟังไม่ทันด้วยความโมโห กระฟัดกระเฟียดหงุดหงิดอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่นเพราะพัสกรไปทำ

หน้าที่เจ้าบ้านที่ดีโดยการเดินไปส่งภูผาที่หน้าบ้าน

 

     “นั่นคุณเป็นบ้าอะไรน่ะ?” พัสกรถามขึ้นเมื่อเดินกลับมาแล้วเห็นณัฐภาสหัวฟัดหัวเหวี่ยงทุบตีหมอนอิง

เหมือนเด็กโดนที่ผู้ปกครองขัดใจอย่างไงอย่างงั้น

 

      “พี่ก็เป็นคนหล่อที่โดนเมียงอนยังไงล่ะจ๊ะเมียจ๋าาาาาาา…” เมื่อได้ยินเสียงทักของพัสกรณัฐภาสก็

เปลี่ยนอารมณ์เหมือนจิ้งจกเปลี่ยนสีเลยทันที เพราะยังระลึกได้ว่าวันนี้ตั้งใจจะมาง้อเมียเลยไม่อยาก

จะทำให้เสียเรื่องเลยโยนเรื่องอื่นทิ้งไปก่อนถึงแม้ว่าจะยังคงหงุดหงิดมากก็ตาม

 

     “เพ้อเจ้อ! มาทางไหนก็ไปทางนั้นเลยไป” พัสกรพูดตัดบทแบบไร้เยื่อใยเลยทันทีเหมือนกันเพราะ

ยังคงเสียความรู้สึกกับเรื่องที่ผ่านมาอยู่

 

     “อ่าว! อย่าพูดอย่างนี่สิเมียจ๋าไล่กันอย่างนี้ทั้งๆที่เรายังไม่ได้คุยให้หายคิดถึงกันเลยแบบนี้สามิสามี

สะเทือนใจนะ อ่า..เจ็บปวด” ณัฐภาสก้าวเดินมาพูดอยู่ตรงหน้าพัสกรพร้อมกับแสดงท่าทางเหมือน

เจ็บปวดจริงๆแต่ก็ออกจะเกินจริงไปหน่อยจนกลายเป็นเรื่องตลกไปซะอย่างนั้นจนทำให้พัสกรหลุด

ขำออกมา

 

     “คิก!!~”

 

     “ว้าว..ยิ้มได้แล้วแสดงว่าอารมณ์ดีแล้วใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้นเรามานั่งคุยกันหน่อยนะ พี่มีเรื่องที่

จะคุยกับหนูพัสหลายเรื่องเลย” ณัฐภาสบอกพร้อมกับทำใจกล้าโดยการยื่นมือออกไปจับมือนุ่มทั้งสองข้าง

ของพัสกรมากุมไว้

 

     “ตลกล่ะ! ยิ้มอะไรใครยิ้ม แล้วก็อย่ามาเนียนจับมือผมอย่างนี้นะเพราะคุณยังไม่พ้นโทษ” พัสกรดึงมือ

ออกจากการกอบกุมของณัฐภาสออกมากอดอกตัวเองไว้แล้วพร้อมกับเชิดหน้าทำเป็นเก๊กขรึมทำทีว่าตัวเอง

ไม่ได้หลุดยิ้มหรือหัวเราะออกไปแม้ว่าจะไม่ทันแล้วก็เถอะ

 

     “โอเคค่ะๆ หนูพัสไม่ได้ยิ้มหรือหัวเราะอะไรทั้งนั้นแหละที่ตาฝาดไปเองแหละ ทีนี้เราจะมานั่งเปิดใจ

คุยกันดีๆได้ไหมคะ? พี่สัญญาเลยว่าที่จะบอกความจริงทุกเรื่องทุกอย่างเลยหรือถ้าหนูพัสอยากจะถาม

อยากจะรู้อะไรพี่ก็พร้อมที่จะตอบทุกอย่างโดยไม่ปิดบังหรือบิดเบือนอะไรเลยพี่สัญญา หนูพัสพอที่ให้

โอกาสกับพี่ได้รึป่าวคะ?” ณัฐภาสหยุดแซวและยกมือขึ้นทั้งสองข้างประมาณว่ายอมก่อนที่จะพูดกับ

พัสกรอย่างจริงจัง

 

     “ก็ได้” พัสกรตอบตกลงอย่างไม่เต็มเสียงนักก่อนที่จะเลี่ยงเดินนำณัฐภาสไปนั่งที่โซฟา

 

     “เรื่องแรกที่พี่จะพูดเลยคือเรื่องจีจี้ พี่จะบอกพัสว่าหลังจากที่เราแต่งงานกันแล้วพี่มีอะไรกับจีจี้จริงๆ”

ณัฐภาสหยุดพูดเพื่อดูปฏิกิริยาของภรรยาตัวเองเพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่างและก็เป็นไปอย่างที่คิดเมื่อ

พัสกรร้องฮึออกมาจากลำคอเหมือนไม่พอใจพร้อมกับตีหน้าบึ้งตึงทันทีที่ได้ยิน

 

     “แต่ก็แค่ครั้งเดียวและวันนั้นพี่ก็โดนวางยาด้วย พัสจะไม่เชื่อพี่ก็ได้ แต่ถ้าพัสจำได้พี่กลับบ้านผิดเวลา

แค่วันเดียว วันที่พี่กลับเที่ยงนั่นแหละคือวันที่พี่โดนจีจี้วางยา นอกเหนือจากนั้นพี่ก็กลับตามเวลาปกติ”

ณัฐภาสบอกพร้อมกับสบตาพัสกรไปด้วยเพื่อแสดงความจริงใจ

 

     “ถ้าคุณบอกว่าคุณโดนวางยาและมีอะไรกับคนอื่นแค่ครั้งเดียวหลังจากที่คุณมีผม แล้วทำไมคุณถึง

มีกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงติดกลับบ้านมาทุกวันเลยล่ะแถมช่วงหลังๆมานี่คุณก็กลับมาแค่เปลี่ยนอาบน้ำ

เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ออกไปข้างนอกต่อทันทีโดยที่ทิ้งผมอยู่บ้านคนเดียวตลอดเลยล่ะ” พัสกรถามใน

สิ่งที่ตัวเองแคลงใจอยู่นาน ตากลมโตที่ดูเหมือนตากวางที่เคยส่องประกายความสุขเอ่อคลอเต็มไปด้วย

หยาดน้ำตาเมื่อนึกถึงวันเวลาที่ผ่านมาหลังจากแต่งงานที่ร่วมใช้ชีวิตคู่กันมาความเงียบเหงา ความเดียวดาย

ที่ต้องเผชิญอยู่ในบ้านหลังใหญ่เพียงคนเดียวแทบจะไร้เงาของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี

 

     “ใจเย็นหนูพัสใจเย็นๆค่ะ อย่าร้องไห้อีกเลยนะเดี๋ยวจะปวดหัวแล้วไม่สบายอีก เรื่องนั้นน่ะพัสก็รู้

ใช่ไหมว่าผับพี่มีตั้งสิบกว่าสาขาทั้งที่นี่และในกรุงเทพฯและก่อนหน้านี้พี่ก็เคยบอกพัสไปแล้วใช่มั้ย

ว่าพนักงานบัญชีของลาออกไป แต่พี่จำไม่ได้ว่าพี่บอกพัสไปหรือป่าวว่าพนักงานบัญชีพี่ขอลาออก

ทุกสาขาเลยแถมช่วงนั้นก็เป็นช่วงปลายเดือนพี่ต้องจัดการค่าใช้จ่ายทั้งหมดของทุกสาขาให้เสร็จทัน

ในวันสิ้นเดือนเพราะพนักงานกว่าร้อยคนเขาตั้งใจทำงานมาทั้งเดือนก็เพราะรอวันสิ้นเดือนเงินเดือนออก

ไม่ใช่หรือ ถ้าพี่ไม่รีบจัดการเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วพวกเขาจะเป็นยังไงพัสพอจะนึกออกบ้างรึยังคะ”

ณัฐภาสขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆพัสกรเพื่อกอดปลอบเมื่อเห็นว่าตากวางคู่สวยเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาถึงแม้ว่า

เจ้าตัวพยายามที่จะกลั้นเอาไว้แค่ไหนก็ตาม ก่อนที่จะค่อยๆอธิบายในสิ่งตัวเขาเองนั้นปล่อยให้ติดอยู่

ในใจของพัสกรอยู่นาน จนมันทำร้ายจิตใจภรรยาตัวน้อยของเขาอย่างร้ายกาจ

 

       “ฮึก! แล้วเรื่องน้ำหอมของผู้หญิงอีกล่ะ” พัสกรหลุดสะเอื้อนออกมาก่อนจะถามต่อในสิ่งที่ณัฐภาส

ยังไม่ได้พูดถึง

 

     “โอ๋ๆ อย่าร้องนะ ไอ้เรื่องน้ำหอมอะนะ ถ้าพัสเคยเข้าผับมาบ้างพัสก็น่าจะเข้าใจนะว่าเวลาอยู่ในผับน่ะ

มันเบียดเสียดกันแค่ไหนแล้วยิ่งพวกผีเสื้อราตรีทั้งหลายแล้วล่ะก็แต่ละคนนี่อย่าเรียกว่าฉีดเลยเรียกว่าอาบ

น้ำหอมมาเลยจะดีกว่า และสามิสามีสุดหล่อของหนูพัสคนนี้เนี่ยนะไม่ใช่แค่ทำงานอยู่แต่ในห้องอย่างเดียว

บางวันพี่ก็ต้องไปเป็นเด็กเสิร์ฟเองบ้างถ้าคนเยอะๆ และแทบจะทุกวันที่พี่ต้องไปนั่งคุยกับลูกค้าวีไอพีที่เป็น

ลุงแก่ๆที่ชอบพกสาวมานั่งออเซาะป๋าคะป๋าขาและเป็นหุ้นส่วนในบริษัทของพ่อไง พ่อชอบส่งตาลุงพวกนี้

มาให้พี่รับหน้าตลอด ถ้าไม่เชื่อนี่ไปถามพ่อเลย และก็ไม่แปลกเลยที่พี่มีกลิ่นน้ำหอมพวกนั้นติดกลับบ้าน

ไปด้วยทุกวันและมันก็ไม่ใช่แค่กลิ่นเดียวหรอกพี่ว่ามันหลายกลิ่นและแต่ละวันก็คงจะไม่ซ้ำกันหรอกมั้ง

ฮึ..ใช่รึป่าว? หนูพัสจำได้ไหมคะว่ามีกลิ่นซ้ำกันหรือป่าว? อ่อ! แล้วเรื่องที่เราทะเลาะกันที่ห้างน่ะพี่ต้อง

ขอโทษหนูพัสด้วยนะคะมันเป็นความผิดของพี่เองที่นิสัยไม่ดีปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลแถมยัง

ปากเสียใส่หนูพัสไปอีกและพี่ก็ไม่ได้ไปเดินเที่ยวกับจีจี้อย่างที่พัสเข้าใจด้วยแต่ที่พี่ไปอยู่ที่นั่นก็เพราะพี่ไป

ตามหาพัสนั่นแหละเพราะพี่คิดว่าพัสคงจะไปไหนไม่ได้ไกลหรอกพี่เลยไปที่นั่นและไปคนเดียวด้วย

ส่วนจีจี้คนที่พัสไปตบกับเขามาน่ะพี่เพิ่งจะเจอกับเขาก่อนที่จะเจอพัสแค่ไม่กี่นาทีเองและพี่ก็พยายามที่จะ

ไล่เขาแล้วแต่เขาไม่ไปและพี่ก็มัวแต่เป็นห่วงพัสด้วยพี่ก็เลยปล่อยเลยตามเลย” ณัฐภาสค่อยๆอธิบายให้

พัสกรฟังอย่างใจเย็นพร้อมทั้งกอดพัสกรโยกตัวไปมาเพื่อเป็นการโอ๋พัสกรไปในตัว

 

     “ฮึก!!...พัส..ขอ..โทษที่ไม่ยอมฟังพี่ภาส…ฮือออ”  พัสกรร้องไห้ออกมาทันทีที่ได้ฟังณัฐภาส

อธิบายเรื่องราวทั้งหมดที่เคยสงสัยและติดอยู่ในใจมาตลอด ถามณัฐภาสออกไปตรงๆ หรือยอมฟัง

คำอธิบายของณัฐภาสในวันที่ทะเลาะกันสักนิดเรื่องทั้งหมดมันจะไม่ยืดเยื้อเสียเวลามาจนถึง

วันนี้เลยเพราะแท้จริงแล้วเรื่องราวทั้งหมดแทบจะไม่มีอะไรเลย

 

     “หนพัสไม่ร้องนะคะแล้วก็ไม่ต้องขอโทษด้วยเพราะคนที่ผิดคนที่ต้องขอโทษคือพี่เองเข้าใจมั้ยคะ

พี่ต้องขอโทษที่ทำตัวไม่น่าไว้ใจทำให้พัสต้องเข้าใจผิด ขอโทษที่พี่เป็นสามีที่แย่ปล่อยให้พัสต้องเหงา

เพราะอยู่บ้านคนเดียวจนพัสคิดมากจนเสียใจเสียความรู้สึก ขอโทษที่พี่ไม่ยอมพูดไม่ยอมบอกไม่อธิบาย

ให้พัสเข้าใจจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต พี่ขอโทษ ขอโทษจริงๆ หนูพัสยกโทษให้พี่เถอะนะคะ ยกโทษให้พี่

ได้ไหม พี่ขอโอกาส ขอโอกาสอีกสักครั้ง และพี่จะทำให้พัสเห็นว่าพี่ก็เป็นสามีเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี

ได้เหมือนกัน นะคะ พัสให้โอกาสพี่อีกสักครั้งเถอะนะ พี่ขอแค่ครั้งเดียวก็เกินพอ แล้วพี่จะทำจะทำให้

พัสเห็นว่าพี่รักพัสมากแค่ไหน” ณัฐภาสทิ้งตัวลงนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าพัสกรรวบสองมือเรียวของภรรยา

ตัวน้อยเข้ามากุมไว้แน่นพลางพูดขอโทษและอ้อนวอนขอคืนดีไปพร้อมๆกัน

 

     “ฮืออออ…ยกโทษๆ ฮึก! พัสยกโทษให้พี่ภาสแล้ว ฮึก! พี่ภาสลุกเถอะ ฮึก! ลุกเถอะนะ ฮืออออออออ”

พัสกรโผเข้ากอดณัฐภาสพร้อมทั้งปล่อยโฮออกมาหนักกว่าเก่าอีก

 

     “ขอบคุณค่ะขอบคุณนะคะคนดีของพี่ พี่สัญญาว่าจะไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกอย่างเด็ดขาด ไหนๆ

ขอดูหน้าคนสวยหน่อยซิไม่ได้นอนกอดตั้งหลายวันพี่คิดถึ๊งคิดถึง” ณัฐภาสประคองภรรยาขึ้นมานั่งบน

โซฟาด้วยกันดีเพราะเมื่อกี้พัสกรโผเข้ากอดณัฐภาสเลยทำให้ลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้นด้วยกันทั้งคู่

 

     “ฮืออออออออออออ………” พัสกรยังคงไม่หยุดร้องแถมยังกอดณัฐภาสไม่ปล่อยอีกต่างหาก

 

     “โอ๋เอ๋ๆ เมียจ๊ะเมียจ๋าอย่าร้องนะ ร้องมากๆแล้วตาบวมไม่สวยขึ้นมาจะหาว่าสามิสามีไม่เตือนนะคะ”

ณัฐภาสกอดพัสกรโยกตัวไปมาเป็นการปลอดอีกทั้งยังพูดติดตลกเป็นการกระเซ้าเย้าแหย่ให้ภรรยาตัวน้อย

ได้หยุดร้องไห้คลายสะอื้นเสียทีเพราะกลัวว่าถ้าพัสกรยังคงร้องไห้อยู่อย่างนี้เจ้าตัวคงจะล้มป่วยไปอีกแน่ๆ

ทั้งที่พึ่งจะหายไข้มาแท้ๆ

 

     “ถ้าหนูพัสไม่สวยแล้วพี่ภาสจะไม่รักหนูพัสหรอคะ?” พัสกรพูดเลียนแบบท่าทางที่ณัฐภาสชอบใช้

ง้อ แหย่ หรืออ้อนตัวเองกับเจ้าตัวบ้างแต่ไอ้การที่พัสกรเอียงคอช้อนตากลมๆที่ชุ่มช่ำเต็มไปด้วยน้ำตา

ขึ้นมองณัฐภาสที่เพิ่มขึ้นมานี่สิ เล่นเอาณัฐภาสอยากจะแปลงร่างเป็นเสือแล้วขย้ำกวางน้อยตัวนี้ให้

สาแก่ใจเสียจริงๆ

 

 

  …..นี่ถ้าไม่ติดว่าเพิ่งจะปรับความเข้าใจคืนดีกันนี่นะไอ้ภาสคนนี้บอกไว้เลยว่าจะไม่ทน!!!.....







...

มาแล้วค่ะพี่ภาสหนูพัสตอนที่12 ขอโทษที่หายไปนานมาก

มี่หายไปสงบจิตสงบใจไปอยู่กับเฮียมาค่ะเหตุผลก็คือ

มี่ตัดเฝือกออกแล้วและคุณลุงหมอบอกว่ากระดูกประสานกันดีทรงสวยมันเป็นข่าวดีใช่มั้ยคะ?

แต่กระดูกข้อศอกมี่ติดค่ะ คุณลุงหมอบอกว่าต้องให้เวลาสองปีมันจะค่อยๆคลายออกแต่ก็ไม่

สามารถบอกได้ว่ามันจะคลายออกได้ซักแค่ไหน แต่ที่แน่ๆมันจะไม่สามารถเหยียดตรงเหมือนเดิม

ได้แน่นอนค่ะ และที่สำคัญมี่จะต้องทนปวดเป็นพักๆอย่างนี้ไปตลอดชีวิต

แต่ก็ช่างมันเถอะเน๊าะอย่างน้อยมี่ก็มีครบสามสิบสองถึงแม้ว่ามันจะใช้ได้ไม่เต็มที่ก็เถอะ!!!~

ตอนนี้ศึกในบ้านของพี่ภาสก็เคลียร์เรียบร้อยแล้วนะคะทีนี้ก็เหลือแต่ศึกนอกบ้านและ

การมีทายาทตามสัญญาที่พี่ภาสให้ไว้กับพ่อล่ะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 12 (04/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 04-10-2015 20:19:32
จิ้ม
ก็ยังดีที่อธิบายนะภาส -_-"
รอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 12 (04/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 04-10-2015 20:52:37
เราว่าตัวตนจริงๆ ของภูผาไม่ใช่อย่างที่หนูพัสเข้าใจมาตลอดหรอกค่ะ อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไม แต่ที่รู้สึกคือผู้ชายคนนี้อันตรายและไม่น่าเข้าใกล้
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 12 (04/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-10-2015 23:22:47
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 12 (04/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: purpleguy ที่ 05-10-2015 20:07:37
 o13  ขอให้มี่หายไวๆ น๊าาาาาาาา
 
  ..... รังเกลียด  เขียนว่า... รังเกียจ นะจ๊าาาาาา


                        แต่สำนวน ถ้าได้แต่งบ่อย เราว่าฉลุยอะ ป้ายไฟรัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :mc4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 12 (04/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-10-2015 22:51:00
คืนดีกันแล้ว~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 12 (04/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: rose_mary ที่ 07-10-2015 22:37:12
เย้ คืนดีกันแล้ววววววว :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

ขอให้ดราม่าจงผ่านไปโดยไว :call: :call: :call:

ขอฉากสวีทเยอะๆๆ :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 08-10-2015 21:09:18
 คุณเมียภาคบังคับตอนที่ 13

 

 

 

 

     “สามีแต่งตัวเสร็จรึยังคะ?” อะๆอย่าแปลกใจหรืออย่าพึ่งคิดไปไกลกันนะครับ ผมไม่ได้กลายร่าง

สาวแตกหรือพี่ภาสไม่ได้ไปมีเด็กที่ไหนหรอกนะครับ หลังจากที่เราที่เรานั่งคุยนั่งเคลียร์ปัญหาที่ผ่าน

มากันทั้งน้ำตาไปเรียบร้อยเราก็มีข้อตกลงอะไรกันอีกนิดหน่อยในการที่จะอยู่ร่วมกันและสิ่งที่พี่ภาสขอ

เป็นสิ่งแรกเลยก็คือให้ผมเรียกเขาว่าสามีและเปลี่ยนหางเสียงจากครับมาเป็นคะอะไรประมาณนั้นตอน

แรกผมก็ไม่พอใจหวิดจะทะเลาะกันอีกรอบเพราะคิดว่าเขาต้องการให้ผมเปลี่ยนไปเป็นเหมือนผู้หญิง

 แต่พอได้ฟังเหตุผลของเขาผมถึงได้ยอมเพราะพี่ภาสบอกว่าไอ่ภาษาแมนๆแบบนั้นมันไม่เหมาะกับผม

เลย ผมนี่อยากจะโกนใส่ดังๆว่าผมก็ผู้ชายนะถึงจะตัวเล็กก็เถอะ เชอะ!! แต่เหตุผลหลักที่ทำให้ผมยอมก็

เพราะว่าให้ผมพูดเตรียมพร้อมเพื่อที่จะให้ชินเผื่อบางทีเราอาจจะมีลูกสาว? เอ่อ! ถึงผมจะไม่ค่อยเข้าใจ

ตรรกะของพี่ภาสนักเท่าไหร่ แต่ก็นะ ถ้ามันเป็นความต้องการของสามีทำไมผมจะทำให้ไม่ได้ล่ะมันก็

เรื่องแค่นี้เอง แต่อยากจะกระซิบบอกว่าตั้งแต่จำความได้ผมก็ถูกคุณย่าสอนเรื่องการครองเรือนความเป็น

แม่บ้านแม่เรือนหรือแม้แต่การเอาอกเอาใจสามีให้อยู่ในโอวาทของเราด้วยก็เถอะ แต่พวกคุณอย่าบอก

พี่ภาสนะให้มันเป็นความลับของสาวๆ เอ้ย! สมาคมแม่บ้านอย่างพวกเราก็พอ โอเคนะครับ!

 

     “เรียบร้อยแล้วครับ ว่าแต่ เมียจ๋าจะไปชุดนี้จริงๆหรอ” พี่ภาสพูดพร้อมกับเดินออกมาจากห้องแต่งตัว

พลางถามผมอีกครั้งนึงและผมก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกันว่าพี่ภาสถามผมไปกี่รอบแล้วหลังจากที่ผมแต่งตัว

เสร็จและไล่ให้พี่ภาสไปอาบน้ำต่อจากผมเพราะว่าวันนี้พี่ภาสจะพาผมไปช่วยงานที่ผับด้วยหละ

 

     “ก็จริงสิคะ! ทำไมอ่ะ พัสใส่ชุดนี้แล้วหน้าเกลียดหรอคะ?” ผมก้มลงสำรวจชุดที่ตัวเองใส่อีกครั้งก่อน

ที่จะหมุนตัวรอบนึงให้พี่ภาสดูพร้อมกับถามออกไป ชุดผมไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลยทำไมพี่ภาสถึงถาม

ย้ำจังเลยล่ะ มันก็แค่เสื้อกุดสีดำแฟชั่นตัวยาวๆกับยีนส์สีซีดขาดๆธรรมดาก็เท่านั้นเองนะ

 

     “ไม่น่าเกลียดหรอกค่ะ พัสใส่ชุดนี้แล้วน่ารักมาก น่ารักเกินไปซะด้วยซ้ำ พี่เปลี่ยนใจไม่พาพัสไปด้วย

แล้วได้ไหม พี่หวงอ่ะ!!” พี่ภาสสำรวจมองผมทั้งตัวก่อนที่จะเดินทำหน้ายุ่งเข้ามากอด

 

     “คริๆ ถ้าหวงมากก็อย่าปล่อยให้เมียจ๋าคลาดสายตานะคะสามิสามี จุ๊บ!” พัสกรพูดบอกและจุ๊บเบาๆ

ที่ริมฝีปากของสามีพร้อมส่งสายตาและรอยยิ้มซุกซนให้กับณัฐภาสก่อนที่ผละเดินหนีออกไป ทิ้งให้คน

เป็นสามียืนตกตะลึงกับภาพลักษณ์ที่แปลกตาของภรรยาที่แสนจะเรียบร้อยของตัวเอง

.

.

.

.

.

     “เฮ้ๆ ทางนี้เว้ยไอ้ภาส น้องพัส” ผมพาหนูพัสมาผับหลักสาขาที่โดนป่วนตอนนั้นนั่นแหละครับแต่ตอน

นี้กลับมาเปิดบริการอีกครั้งนึงแล้วหลังจากที่ปิดไปแค่สองวัน ไม่ได้หรอกครับเสียหายไปมากก็ต้องรีบหา

ทุนคืน นี่ต้องขอบคุณในความรวดเร็วของช่างด้วยครับที่สามารถซ่อมให้ผับกลับมาเหมือนเดิมได้ภายในวัน

เดียวแต่ก็นะยิ่งงานเร่งเงินก็ต้องหนักตามไปด้วยเหมือนกัน พอผมและพัสแหวกฝูงชนเข้ามาได้กำลังที่จะ

พาหนูพัสเดินไปทางลิฟท์เพื่อที่จะขึ้นไปบนห้องแล้วเชียวถ้าไม่ติดที่ไอ้คุณเรียกไว้ซะก่อน ไอ้คุณมันนั่งอยู่

มุมส่วนตัวที่ประจำของพวกผมเวลามานั่งดื่มกันสองคนหรือเวลาที่ใช้สังสรรค์กับพวกเพื่อนแบบปกตินั่น

แหละครับแต่ที่ไม่ปกติเลยก็คือข้างมันนอกจากจะมีสาวอกสะบึมนั่งคลอเคลียอยู่แล้วที่นั่งอีกข้างนึงของมัน

ยังมีไอ้ธาราเพื่อนสนิทคนเก่าและศัตรูคนปัจจุบันของเรานั่งหน้าบึ้งอยู่ด้วยกันอีกต่างหาก

 

     “นึกไงถึงดื่มแต่หัววันเลยห๊ะมึง” ผมดันหนูพัสไปนั่งที่ว่างข้างๆเด็กมันก่อนที่จะนั่งลงข้างๆกัน เป็นเพราะ

ที่นั่งตรงนี้เป็นโซฟาครึ่งวงกลมเลยทำให้ผมต้องนั่งเผชิญหน้าอดีตเพื่อนรักอย่างช่วยไม่ได้ แต่ธารามันไม่ได้

มองหรือสนใจอะไรผมหรอกแล้วก็ไม่รู้ว่ามันรู้ตัวหรือเปล่าว่าผมมานั่งอยู่ตรงข้ามกับมันอย่างนี้เพราะตั้งแต่

ไอ้คุณทักผมก็เห็นมันนั่งขมวดคิ้วก้มหน้าจ้องแก้วน้ำในมือของมันอย่างเดียวไม่สนใจใคร

 

     “ไม่ได้นึกไรว่ะก็แค่อยากดื่ม มาๆดื่มๆฉลองให้มึงกับน้องพัสที่คืนดีกันเอ้าชนๆ น้องชมพู่ครับช่วยชงให้

พี่ภาสกับเมียมันหน่อยได้ไหมครับ ฟอดดดด…” ไอ้คุณมันตอบพร้อมกับหันไปคลอเคลียคุยกับเด็กของมัน

ก่อนที่มันจะหอมไม่สิต้องเรียกว่าฟัดเด็กของมันซะฟอดใหญ่จนคนที่ก้มหน้าก้มตาอย่างธารามันเงยหน้าหัน

ไปมองไอ้คุณกับเด็กของมันแล้วทำหน้าแปลกๆแล้วก็บอกว่าขอตัวไปห้องน้ำแล้วก็รีบเดินออกไป

 

     “มันเป็นไรของมันว่ะแล้วมึงอ่ะเอามันมาด้วยได้ไง” ผมมองตามไอ้ธาราที่เดินออกไปทางห้องน้ำก่อนที่

จะหันมาถามไอ้คุณ แต่ไอ้เพื่อนตัวดีของผมก็ได้แต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบแล้วก็ไปคลอเคลียเด็กของมันต่อ

 

     “เอ่อ…คนนั้นใช่คนที่สามีมีเรื่องด้วยรึป่าวคะ แล้วเขามากับพี่คุณได้ไงอ่ะ” หนูพัสกระซิบถามผมเบาๆ

หลังจากที่นั่งมองคนโน้นคนนี้ไปอย่างงงๆ อย่าว่าแต่หนูพัสงงเลยผมเองก็งงเหมือนกัน

 

     “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ อย่าไปสนใจเลยค่ะมันไม่ใช่เรื่องของเรา” ก็นะในเมื่อเจ้าตัวมันไม่ยอมพูดเราก็

เข้าไปยุ่งหรือทำอะไรไม่ได้หรอกนอกเสียจากรอให้มันพร้อมและเล่าให้ฟังเองเท่านั้น

 

     “หืม…เมียจ๋าดื่มเก่งเหมือนกันนะเนี่ยระวังจะเมานะคะ” ผมเอ่ยแซวหนูพัสหลังจากที่นั่งมองเจ้าตัว

ยกกระดกหมดไปหลายแก้วแล้วเหมือนกันเด็กไอ้คุณก็รู้งานแก้วไหนใครหมดน้องมันเติมไม่ขาดเลย

 

     “ถึงพัสจะโดนขังอยู่แต่บ้านกับมหาลัยแต่พัสก็เคยดวลกับเพื่อนตอนที่ไปออกค่ายอยู่บ่อยๆนะ แค่นี้จิ๊บๆ”

 พูดจบก็ยกดื่มทีเดียวหมดแก้วเลยแถมยังหันมายักคิ้วท้าทายใส่ผมอีกต่างหาก ผมเลยอดไม่ได้ที่จะโน้มไปงับ

ปลายจมูกเจ้าตัวเบาๆด้วยความมันเขี้ยว

 

     “ครับๆ เมียจ๋าของพี่เก่งที่สุด แต่อย่าเมาให้พี่เห็นก็แล้วกัน” ผมถอนหน้าออกพร้อมกับแกล้งพูดขู่

 

     “ถ้าเมียจ๋าเมาแล้วสามีจะทำอะไรหรอคะ?” หนูพัสถามพร้อมกับเอามือมาตะปบจับสองแก้มผมเบาๆ

 

     “สามีก็จะปล้ำเมียจ๋าไงคะ?” ผมบอกพร้อมกับจ้องตาสื่อความหมายให้หนูพัสได้รู้ว่าผมพูดจริง

 

     “อืม…ถ้าเมียจ๋าเมาก็อย่าลืมปล้ำกันนะคะสามิสามี” เอาแล้วไงไม่กลัวไม่พอแถมยังช้อนตากวางนั่นมอง

กันอย่างท้าทายและยั่วยวนกันอีกต่างหาก แล้วยิ่งพูดคางยานอย่างนี้สงสัยจะเริ่มเมาแล้วแหงๆ สงสัยคืนนี้

จะเป็นฤกษ์งามยามดีที่เมียพร้อมจะให้เคลมขอลูกแล้วหล่ะ ฮึๆ

.

.

.

.

.

     หลังจากที่ดื่มกันต่ออีกซักพักก็มีเด็กในร้านมาตามไอ้คุณไปดูไอ้ธารา มันหายไปพักนึงแล้วก็กลับมา

พร้อมกับชุกระชากลากธารามาติดมือมาด้วย ก่อนที่จะบอกผมว่าขอตัวกลับก่อนผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิด

เรื่องอะไรขึ้นพอถามมัน มันก็บอกว่าไม่มีอะไร แต่ที่ผมสงสัยคือมันบอกว่าขอตัวกลับ มันจะกลับไปไหน?

ในเมื่อบ้านมันอยู่ชั้นบนของผับนี้ และมันก็ไม่ได้กลับบ้านพ่อมันมาหลายปีแล้ว หรือมันจะไปบ้านธารา?

แต่พ่อธารามันไม่ต้อนรับใครซักคนเลยนี่ แล้วอย่างนี้พวกมันจะไปไหนบ้านยายธารา? โว้ย! ช่างแมร่งเถอะ

อย่าห่วงพวกมันมากไอ้ภาส พวกมันโตๆกันแล้วทั้งนั้น  แต่ตอนเนี้ยผมต้องจัดการแม่กวางน้อยของผมซะ

ก่อนปากบอกไม่เมาๆแต่ก็ชนดวลกับไอ้คุณเอาเป็นเอาตาย

 

     “หนูพัสอยู่นิ่งๆก่อนครับ เดี๋ยวพี่จะเช็ดตัวให้จะได้นอนหลับสบายๆ” ผมบอกกลับคนเมาหลังจากที่อุ้ม

เจ้าตัวจากข้างล่างขึ้นมาวางบนเตียงในห้องพักส่วนตัวของผมชั้นบน

 

     “นอนๆ หนูพัสง่วงแล้วน้า~~” ถ้าจะอ้อแอ้ขนาดนี้

 

     “ถ้าจะนอนก็อยู่เฉยๆ อย่าซนครับ” ผมบอกพร้อมกับพยายามที่จะถอดกางเกงเจ้าตัวออกหลังจากที่

ถอดเสื้อออกออกไปได้แล้ว ถ้าผมรู้ว่าหนูพัสซื้อเสื้อผ้าร้านไหนนะผมจะตามไปเผาให้คอยดู แมร่ง!

ดูจากยี่ห้อก็แบนด์ดังราคานี่ไม่ต้องพูดถึงหรอก แต่ไม่รู้ทำไมมันถึงได้ทำเสื้อผ้าอย่างนี้มาขายเสื้อที่

หนูพัสใส่มานะถ้าเป็นแขนกุดทั่วไปธรรมดาๆนี่ผมจะอะไรเลยแต่นี่แขนกุดไม่พอทั้งแขนทั้งคอคว้าน

เว้าซะกว้างเชียว ยิ่งกางเกงนะไม่ต้องพูดถึงเลย แมร่ง! ยีนต์ขาดๆที่กรีดขาดทั้งหน้าทั้งหลัง ไม่สิ!

ต้องพูดว่ากรีดขาดทั้งตัวเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลยเหอะ ลูกค้าในผับนี่มองตามกันตามจนตาแทบจะ

ถลนหลุดออกมาจากเบ้าเลย

 

     “ไม่โซ้น~ไม่ซน หนูพัสเป็นเด็กดีน้า~” อืมนอกจากไม่ให้ความร่วมมือแล้วมือยังจะซนอีกนะ

ปากก็บอกว่าไม่ซนแล้วที่มือเมียจ๋าล้วงเข้ามาในเสื้อพี่นี่คืออะไรครับ?

 

     “ฮึ่ม!! อยู่เฉยๆก่อนที่พี่จะทนไม่ไหวนะหนูพัสเดี๋ยวจะหาว่าพี่ไม่เตือน” พูดจบผมก็ถอดกางเกงออก

ได้พอดีทั้งเนื้อทั้งตัวแม่กวางน้อยก็เหลือแค่อันเดอร์แวร์สีขาวตัวจิ๋ว ผมต้องกลืนน้ำลายเลยทันทีที่ถอย

ออกมาแล้วเห็นภาพยั่วยวนข้างหน้า ก่อนที่จะพยายามจะทำใจแข็งผละไปเตรียมอุปกรณ์เช็ดตัวในห้องน้ำ

 

     “พี่จะทนไม่ไหวแล้วนะ!!” เป็นเพราะผมต้องทนอดกลั้นอย่างหนักเมื่อคนเมาไม่ยอมให้ความร่วมมือ

อะไรเลยแถมยังปัดมือผมที่พยายามจะเช็ดตัวเขาอีก

 

     “ไม่ทนนะ~ ไม่ทน~ สามีไม่ทน~ เมียจ๋าไม่ทน~” พัสกรใช้แขคล้องคอกอดรั้งณัฐภาสไว้เมื่อได้โอกาส

ตอนที่ณัฐภาสก้มลงเช็ดหน้าให้ตัวเองพร้อมพูดบอกด้วยเสียงคางยานอย่างคนเมาแถมยังใช้ตากลมโตที่

สวยเหมือนตากวางช้อนมองตาสามีอย่างยั่วยวนอีกต่างหาก

 

     “แล้วอย่ามาว่ากันที่หลังนะแม่กวางยั่วสวาท” พูดจบณัฐภาสก็ขว้างผ้าขนหนูผืนเล็กในมือทิ้งไปอย่าง

ไม่ใยดีอีกเลยพร้อมกับก้มลงประกบจูบบดขยี้คนเมาใต้ร่างอย่างกระหายเหมือนกับเสือโหยที่เจอเหยื่อ

อย่างไงอย่างงั้น

 

     “อื้อ…อื้อ” พัสกรร้องอู้อี้ในลำคอเมื่อรู้สึกว่าหายใจไม่ทัน

 

     “ถ้าจะร้องห้ามตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วที่รัก พี่เตือนแล้วว่าอย่ายั่วเพราะยิ่งดื่มพี่ยิ่งคึก!!” ณัฐภาสผละออก

พร้อมกับบอกด้วยน้ำเสียงพร่า ก่อนที่จะกดริมฝีปากแนบลงมาอีกครั้งบดขยี้ซ้ำๆจนได้กลิ่นคาวเลือดและ

คาดว่าภรรยาตัวน้อยของเขานั้นคงจะปากแตกไปแล้ว ก่อนหน้านี้ที่เขาพยามจะอดกลั้นก็เพราะเหตุนี้แหละ

ไม่ใช่เพราะความเป็นคนดีหรือเป็นสุภาพบุรุษอะไรหรอกแต่เพราะว่ายิ่งเขาดื่มยิ่งควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้

ต่างหากล่ะถึงจะไม่เมาก็เถอะ เลยไม่อยากที่จะให้ภรรยาตัวน้อยเจ็บตัวไง ยิ่งภรรยาสุดที่รักยั่วขนาดนี้มีหรอ

ที่คนอย่างเขาจะทนได้

     มือหนาบีบเค้นไล้ตามเนื้อตัวนุ่มนิ่มอย่างมันมือก่อนที่จะดึงรั้งอันเดอร์แวร์ตัวน้อยที่เป็นปราการด่านสุด

ท้ายของพัสกรออกและผละตัวออกไปเปลื้องผ้าตัวเองอย่างรวดเร็วก่อนที่จะโถมตัวลงทาบทับพัสกรอีกครั้ง

หน้าท้องแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวสวบเบียดเสียดจนคนใต้ร่างสัมผัสได้ถึงความร้อนแรงของคน

ข้างบน ริมฝีปากร้อนยังทำหน้าที่ของมันได้ดีขบเม้มทิ้งรอยไปตามซอกคอหอมไล่ลงไปจนถึงยอดอกสีสวย

ที่เต่งตึงท้าทายสายตาจนคนข้างบนอดไม่ได้ที่จะขบเม้มดูดดุนสลับสองข้างไปมาไม่วายที่จะบีบเค้นด้วย

ความมันมือจนคนใต้ร่างดิ้นพล่านด้วยความเสียวที่มันเพิ่มขึ้นมากทุกที

 

     “อ๊ะ!...พี่ภาส~~” พัสกรเรียกสามีด้วยเสียงสั่นๆจนแทบจะไม่เป็นภาษา

 

     “ว่าไงคะคนดี สร่างแล้วหรอ” ณัฐภาสถามภรรยาตัวน้อยที่ต้อนนี้เห่อแดงไปทั้งด้วยแรงอารมณ์ที่พุ่งสูง

ภาพตรงหน้าเขานี้มันช่างยั่วเขามากกว่าเดิมขึ้นเป็นสิบเท่าอีกเนื้อตัวชมพูๆที่เต็มไปด้วยรอยรักที่เขาฝากไว้

มันช่างน่าขยี้นัก

 

     “อ๊ะ!! อื้อออออ” เมื่อพัสกรมัวแต่เขินอายไม่ยอมตอบคำถามเขาณัฐภาสเลยแหย่ภรรยาตัวน้อยด้วยการ

เอื้อมมือลงไปกอบกุมตัวตนพัสกรที่กำลังชูชันแสดงความต้องการรูดรั้งรุกเร้าจนคนใต้ร่างสั่นสะท้าน

 

     “อื้อออ…พี่ภาส~…อย่าแกล้ง!!” พัสกรเหวี่ยงทันทีเมื่อสามีตัวดีของตัวเองไม่ทำอะไรสักที ซ้ำยังเหมือน

จะแกล้งกันซะอย่างนั้น

 

     “อ่าว! แล้วเมียจ๋าต้องการยังไงล่ะคะ? พี่ไม่รู้นี่” ตัวเขาเองก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกันแต่ก็ทนอดกลั้น

เพราะอยากจะแกล้งภรรยาตัวน้อยให้แสดงอารมณ์ที่แท้จริงออกมาเยอะๆหน่อยทั้งๆที่ตัวเขาเองก็ทรมาณ

แทบตายเหมือนกันไอ้ภาสน้อยของเขานั้นปวดนึบจนเจียนจะระเบิดอยู่รอมร่อ

   

     พัสกรไม่ยอมตอบแต่กลับผลักสามีให้นอนหงายหลังไปกับเตียงก่อนที่จะเป็นฝ่ายขึ้นคล่อมแทนเสียเอง

พร้อมกับก้มลงประกบจูบอย่างเงอะๆเงิ้นๆอย่างไม่เป็นประสาแต่ก็สามารถทำให้ณัฐภาสรู้สึกดีได้อย่างไม่

น่าเชื่อ จนมือหนาของคนข้างล่างคว้าท้ายทอยขาวไว้ก่อนที่จะเป็นฝ่ายรุกจูบสอนเด็กน้อยไร้เดียงสาเสียเอง

จนภรรยาตัวน้อยเริ่มเป็นงานริมฝีปากบางเริ่มไล่รุกขมเม้มตามสันคางสากเหมือนกันกับที่ณัฐภาสทำให้ก่อน

หน้านี้ไล่ไล้ลงไปจนถึงตัวตนอันใหญ่โตที่ชูชันอวดสายตาต่อหน้าเขา มันใหญ่โตซะจนพัสกรเริ่มเป็นกังวล

จนเผลอกลืนน้ำลายเลยทำให้ณัฐภาสที่จ้องมองดูทุกๆการกระทำของภรรยาตัวน้อยเลยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

 

     “หืม…มัวมองอะไรอยู่คะ? ถ้าทำไม่เป็นไม่ต้องทำก็ได้นะคะ” ณัฐภาสพูดยั่ว

 

     “จิ๊!!~”

 

     “อืมมม…อย่างนั้นแหละค่ะคนดี ค่อยๆช้าๆ” เพราะว่ายังคงไม่สร่างดีคำพูดที่เหมือนจะแซวของ

ณัฐภาสเลยเหมือนโยนเชื้อไฟใส่คนเมาที่ไม่ยอมแพ้ทำหน้าเหวี่ยงใส่ณัฐภาสเสร็จก็ก้มลงใช้ปากสำเร็จ

โทษตัวตนคนปากเสียด้วยความหมั่นไส้ซะเลย จนทำให้ณัฐภาสสะดุ้งหลุดครางออกมาด้วยความพอใจ

 

     “อ่าาา….พอก่อนที่รักพี่ยอมแพ้แล้วๆ” ณัฐภาสบอกพร้อมกับดึงรั้งภรรยาตัวน้อยขึ้นมาทาบทับตัวเอง

กดจูบเบาๆก่อนที่พลิกกลับดันพัสกรลงไปคว่ำกับเตียงนอนยกสะโพกกลมมนให้ได้องศาแล้วก้มลงใช้

ลิ้นร้อนสำรวจช่องทางสีหวานจนร่างบางครางเสียงหลงมือหนาข้างนึงกระชับเอวคอดกันไม่ให้ภรรยาตัว

น้อยล้มพับลงไปส่วนมือข้างที่เหลือก็พาไปจับชักนำตัวตนของพัสกรให้สอดคล้องกับลิ้นร้อนของตัวเอง

 

     “อ๊ะ อ๊ะ  พิ..พี่ภาส!!! อ๊าาาาาาา” พัสกรร้องออกมาสุดเสียงเมื่อปลดปล่อยออกมาเต็มฝ่ามือหนาของสามี

 

     “ฮึ่ม!! ตาพี่บ้างแล้วนะ” ณัฐภาสบอกพร้อมกับจับพลิกพัสกรนอนหงายด้วยมือเดียวและแทรกตัวเข้าไป

หว่างขาเรียวของพัสกรโน้มหน้าเข้าจูบเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจอีกครั้งก่อนจะใช้มือหนาที่มีผลผลิตของ

พัสกรไล้วนอยู่ตรงปากทางเข้าช่องทางสีหวานและค่อยสอดปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางสีหวานอย่างช้าๆ

     “อ๊ะ!!” ถึงณัฐภาสจะใช้น้ำรักของเจ้าตัวช่วยหล่อลื่นก็เถอะแต่ช่องทางที่ไม่เคยได้มีใครล่วงล้ำเข้าไป

ก่อนเลยทำให้พัสกรอดไม่ได้ที่จะเกร็ง แต่ณัฐภาสก็ไม่ยอมแพ้ค่อยตะล่อมจูดดึงความสนใจของพัสกร

อีกครั้งจนทำให้ตอนนี้ช่องทางสีหวานของพัสกรมีนิ้วทั้งสามของณัฐภาสหมุนวนควานหาจุดเร้าภายใน

จนทำให้พัสกรหลุดครางออกมาเมื่อณัฐภาสกดถูกจุดเข้าแถมยังกดย้ำๆอยู่จุดเดิม

 

     “พี่จะเข้าไปแล้วอย่าเกร็งนะครับ” ณัฐภาสบอกพร้อมกับถอนนิ้วทั้งสามออกก่อนที่พยายามจะค่อยๆ

กดตัวตนของตัวเองเข้าไปในช่องทางของภรรยาตัวน้อย

 

     “อื้อออออออ….จะ…เจ็บ!!” พัสกรร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อตัวตนของณัฐภาสได้ลุกล้ำเข้ามา

ในช่องทางของตัวเอง

 

     “อดทนอีกนิด อีกนิดเดียวนะคนดี” พัสกรกระซิบบอกพร้อมกับโน้มลงจูบตาภรรยาตัวน้อยเบาๆก่อน

ที่จะดันตัวตนตัวเองเข้าไปจนหมดรวดเดียวจนพัสกรผวากอดคอณัฐภาพไว้แน่นด้วยความเจ็บ

 

     “อื้อ อื้อ”

 

     “หมดแล้วที่รัก มันเข้าไปหมดแล้ว” ณัฐภาสบอกก่อนที่จะค่อยๆขยับสะโพกแกร่งของตัวเองช้าๆจน

ช่องทางของพัสกรปรับตัวรับกับตัวตนของเขาได้แล้วก็เริ่มกระแทกกระทั้นแรงและเร็วขึ้นตามแรงอารมณ์

ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

     “อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” จนพัสกรได้แต่ครางปากสั่นกดเล็บจิกลงไปบนแผ่นหลังแกร่งของสามีเพื่อระบายความ

เจ็บปวดและความเสียวซ่านของตัวเองให้อีกคนได้รับรู้ด้วย

 

     “อ่าาาาาาาา” ณัฐภาสครางออกมาอย่างพอใจพร้อมกับพลิกตัวของพัสกรคว่ำลงและดึงรั้งให้อยู่ในท่า

คลานทั้งๆที่ร่างกายยังเชื่อมต่อไม่ได้หลุดออกจากกัน

 

     “มะ…ไม่ไหว…อ๊าาาาาาาาา” พัสกรร้องออกมาเมื่อรู้สึกอยากจะปลดปล่อยอีกครั้งจนณัฐภาสเอื้อมมือ

ลงไปช่วยดึงรั้งนำพาให้พัสกรอีกแรงจนคนตัวเล็กกรีดร้องออกมาเมื่อถึงฝั่งฝันและปล่อยออกมาจนเต็ม

ฝ่ามือของณัฐภาสอีกครั้ง ส่วนณัฐภาสก็เร่งโถมสะโพกถี่ยิบอย่างไม่ผ่อนแรงเมื่อช่องทางสีหวานนั้นตอด

รัดมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเมื่อเจ้าตัวได้ปลดปล่อยไปแล้ว

 

     “อ่าาาาาาาาาา” ณัฐภาสครางออกมาอย่างสุขสมเมื่อเกร็งตัวปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในช่องทางของ

พัสกรจนหมด ก่อนที่จะทิ้งตัวนอนทาบทับภรรยาตัวน้อยด้วยความอ่อนแรง

 

     “เอาออกไปเลย” พัสกรบอกอย่างระโหยโรยแรงเมื่อเขาทั้งคู่สิ้นสุดทางอารมณ์และควบคุมลมหายใจ

ให้เป็นปกติได้แล้ว แต่ณัฐภาสก็ยังไม่ยอมเอาตัวตนของตัวเองออกจากช่องทางรักของเขาสักที

 

     จุ๊บบบบ!!

 

     “ยังเอาออกไม่ได้หรอกค่ะ” ณัฐภาสโน้มจูบหน้าผากมนและกระซิบบอกพัสกรเบาๆ

 

     “ทำไม?? อ๊ะ!!! พี่ภาส!!!” ยังไม่ทันที่ณัฐภาสจะได้ตอบอะไร พัสกรก็ร้องเสียงหลงทันเมื่อไอ่ตัว

ต้นเหตุที่มันยังค้างฝังอยู่ในตัวของเข้านั้นเริ่มขยับขยายโต้ตอบแทนเจ้าของมันด้วยตัวเอง

 

     “คนผิดสัญญาต้องโดนลงโทษนะเมียจ๋า พี่บอกแล้วไงคะว่าให้เรียกสามี” พูดจบณัฐภาสก็เริ่มจัดการ

ลงโทษคนผิดสัญญาตามที่ปากบอกเลยทันที

 

     งานนี้พัสกรคงจะจำไปอีกนานว่าถ้าผิดสัญญากับสามีจอมหื่นแล้วเค้าจะต้องนอนครางร้องเรียกสามี

เสียงแหบเสียงแห้งไปจนสว่างฟ้าสางเลยทีเดียวเชียว

 

 

...

ลืมมี่กันไปหมดแล้วหรือคะ? ไม่ค่อยเห็นมีใครเข้ามาอ่านเลยเม้นก็น้อยมาก

อย่าพึ่งทิ้งมี่ ที่พี่ภาส พี่หนูพัส พี่เจ้าคุณ พี่ธาร กันเลยนะคะทั้งคนแต่งทั้งตัวละคร

ต้องการคนอ่านที่น่ารักทุกคนอยู่ตลอดๆเลยนะคะ  :mew4: :mew2:

 

   

 

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gatenutcha ที่ 08-10-2015 21:27:01
 :haun4:
บอกได้ อย่างเดียว  ฟินกระจาย   หนูพัสเสียซิง  พี่ภาส  เบาๆหน่อยน้องตัวเล็กนะ
 :hao6:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Abella ที่ 08-10-2015 21:40:29
อยากให้มีเจ้าตัวเล็กเร็วๆจังภาสต้องหวงมากแน่ๆ. เป็นกำลังจให้คนแต่งสู้ๆน้า  o13
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: we.jinkyu ที่ 08-10-2015 21:47:55
 :jul1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 08-10-2015 21:53:43
หลังจากที่อดทนอดกลั้นมาตั้งนมนาน วันนี้ก็มาถึงเสียทีนะคะพี่ภาส :-[
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: janny_j ที่ 08-10-2015 22:12:09
พี่ภาส สมหวังแล้ววววว รอให้ท้องไวๆ อยากเห็นว่าจะเอาใจเมียขนาดไหน มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 08-10-2015 22:35:23
กลับมาอย่างที่คนอ่านไม่ทันตั้งตัวเลย  ^^
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: HamsteR ที่ 09-10-2015 01:40:09
ปัญหาภายใน เคลียร์!!  ต่อไปก็ ปัญหาภายนอก ภัยร้ายที่กำลังก่อตัว...

สงสารธาราอ่ะ เจ้าคุณนิสัยไม่ดี ต้องดัดนิสัยให้เข็ดด

คู่หลักก็เสร็จไปตามระเบียบ ... หลังจากนี้ เหล่าคุณพ่อคงได้เจอพายุอารมณ์คนท้องของเหล่าคุณแม่แน่ๆ


ปล. ยังเข้ามาอ่านอยู่นะครับ อาจจะไม่บ่อย  o13 o13
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-10-2015 02:12:09
แผนการอ๋อยสามีของพัสหรือเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-10-2015 07:34:09
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 09-10-2015 08:17:29
เมียท่านน่ารักขนาดนี้ ลูกน้อยกลอยใจคงน่ารักมากกกก นี่ถ้าได้ลูกสาวนะ โอ้ยยย ตาพ่อต้องโคตรดุ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 09-10-2015 09:32:12
สู้ๆๆ ทั้งตัวละครและคนเขียนต้าาา :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: puengmimsweety ที่ 09-10-2015 10:32:21
มาต่ออีกน้าาาา เรารออยู่ :mew1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 09-10-2015 10:49:35
 :o8: ดีกันแล้วหวานกันน่าดู
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: bookie ที่ 09-10-2015 16:27:29
พอนายเอกเริ่มพูด คะ ขา นี่ไม่อินเลย

หน้าตัวร้ายละครเย็นลอยมาเต็มไปหมด
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 09-10-2015 19:09:20
หนูพัสเสร็จอิพี่ภาสแว้ววว
ไปยั่วเขาก่อนเองนะหนูพัส 555
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 09-10-2015 20:21:58
ฟินนนนนแลนด์คร้าาาา
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 09-10-2015 22:08:27
 :mew3: หนูพัสเมาจริงปล่าวเนี่ย.....หรือว่า..... :mew4: :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 13 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 09-10-2015 22:51:35
มาตามอ่านจ้า

อ่านสนุกดี

พระเอกรั่วๆนะอันนี้ความเห็นส่วนตัว ชอบจ้า

ปล ยังอ่านไม่ทันเลย
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 4 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 10-10-2015 03:49:55
คุณเมียภาคบังคับ [เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 4

 

 

 

   

     “ยายครับผมมีเรื่องจะสารภาพครับ” เจ้าคุณทิ้งตัวคุกเข่าลงอยู่ตรงหน้าคุณนายมณีหลังจากที่ได้ฟัง

ความจริงสุดช็อคเรื่องที่ว่าธารานั้นมีมดลูกและสามารถตั้งท้องเหมือนกันกับพัสกรภรรยาของณัฐภาส

เพื่อนสนิทของเขาและอดีตเพื่อนรักของธาราด้วยเช่นกัน

 

     “หือ…อะไรกันเจ้าคุณมานั่งคุกเข่าให้ยายทำไมฮึ” คุณนายมณีถามขึ้นเมื่อเห็นแฟนหนุ่มของหลานชาย

(ในความคิดของเธอ)ที่อยู่ดีๆก็ทิ้งตัวนั่งคุกเข่าอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเลย

 

     “ผมไม่ได้เป็นแฟนกับน้องและผมก็ขืนใจน้องด้วยครับ!!!” เจ้าคุณถอนหายใจก่อนที่จะโพล่งออกไป

อย่างเหลืออดกับความผิดของตัวเอง

 

     “เจ้าคุณบอกยายสิว่าที่เราพูดมาก็แค่ล้อยายเล่นเท่านั้น! มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมเจ้าคุณ” กว่าที่จะหา

เสียงตัวเองเจอคุณนายมณีก็เงียบอยู่นานไม่รู้ว่าตกใจหรือว่าอะไร

 

     “ที่ผมพูดมันคือเรื่องจริงครับยาย ทั้งหมดที่ผมพูดออกไปมันคือเรื่องจริงครับยาย” เจ้าคุณตอบทั้งๆที่

ยังคงก้มหน้ามองพื้นอยู่อย่างนั้น

 

     “แล้วเจ้าคุณเอาเรื่องนี้มาบอกยายทำไม” คุณนายมณีถามเสียงพร่าน้ำตาไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย

เมื่อนึกถึงหลานชายคนเดียวที่ต้องแบกรับและเผชิญความเจ็บช้ำหลายครั้งหลายคราจากหลายๆคนที่ผ่าน

เข้ามาในชีวิตด้วยตัวคนเดียวมาตลอดโดยที่ไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากเธอหรือใครเลยสักครั้ง

 

     “ผมอยากจะขอโทษยายและผมอยากจะขอดูแลน้องต่อจากยายครับ สิ่งที่ผมทำผิดพลาดที่ผ่านมา

ผมจะไม่ขอให้ยายยกโทษให้ผมหรอครับ แต่ผมขอให้ยายให้โอกาสผมได้ทำหน้าที่สามีที่ดีด้วยนะครับ

หรือไม่บางทีตอนนี้ในท้องของน้องอาจจะมีลูกของผมอยู่แล้วก็ได้นะครับ ในการกระทำที่ผ่านมาผมก็

มีเหตุผลที่ทำลงไปเหมือนกันครับ แต่ผมยังไม่สามารถบอกยายได้ในตอนนี้  ได้โปรดเถอะครับยายให้

โอกาสผู้ชายเลวๆอย่างผมสักครั้ง” เจ้าคุณเงยหน้าตอบคุณนายมณีด้วยเสียงหนักแน่นและมั่นคงก่อนที่

จะก้มลงกราบแทบเท้าของคุณนายมณีเพื่อขอขมาและขอร้องไปพร้อมๆกัน

 

     “ก็ได้ ในเมื่อเจ้าคุณกล้าขอยายก็กล้าให้เหมือนกัน แต่จำไว้เลยนะเจ้าคุณว่ายายเหลือน้องธารเพียง

คนเดียวที่เป็นครอบครัวและน้องธารก็ยังเป็นเพียงหลานชายคนเดียวที่ยายรักและหวงมากที่สุด ใน

เมื่อยายยอมยกน้องธารให้เจ้าคุณดูแลแล้วเจ้าคุณก็ต้องดูแลน้องให้ดีกว่าที่ยายเคยทำ ยายขอเจ้าคุณ

แค่นี้เจ้าคุณทำให้ยายได้ไหม” คุณนายมณีปาดน้ำตาออกจากตาเมื่อตัดสินใจได้แล้วในสิ่งเด็กหนุ่ม

ที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างหน้าเธอนี้ร้องขอ เธอยอมรับว่าปวดใจมากที่ได้ยินคนที่เธอคิดว่ารักและเป็นแฟน

หลานชายคนเดียวของเธอได้สารภาพออกมาว่าทำร้ายและย่ำยีหลานชายของเธอ แต่เธอก็ยังคงเชื่อใน

สายตาและความรู้สึกในครั้งแรกของเธอตอนที่ได้เจอเด็กหนุ่มตรงหน้านี้ว่าเจ้าคุณไม่ได้เป็นคนเลวร้าย

อะไรอย่างที่เจ้าตัวบอก เพียงแค่เจ้าคุณนั้นดูเป็นคนหัวรั้น ใจร้อน และเอาแต่ใจตัวเองก็เท่านั้น และใน

เมื่อเจ้าตัวนั้นร้องขอโอกาส เธอก็จะลองให้โอกาสเจ้าคุณดูอีกสักครั้งนึงก็แล้วกันเผื่อบางทีเจ้าคุณอาจ

จะเป็นสิ่งเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปของธาราหลานก็เป็นได้

 

     “ขอบคุณครับยาย ขอบคุณครับๆ ผมสัญญาว่าจะดูแลน้องให้ดีที่สุดเลยครับ” เจ้าคุณบอกพร้อมกับ

ก้มลงไปกราบคุณยายมณีอีกครั้งเพื่อเป็นการขอบคุณ

 

     “ลุกขึ้นมาได้แล้วเจ้าคุณขึ้นไปปลุกน้องลงมากินข้าวเถอะนั่งอยู่ตรงนี้เกะกะ ยายจะทำกับข้าวต่อแล้ว”

คุณนายมณีออกปากไล่อย่างไม่จริงไม่จังนักเมื่อเห็นว่าเจ้าคุณไม่ยอมลุกขึ้นจากพื้นเสียที

 

     “ครับๆ ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ ขอคุณอีกครั้งนะครับยายที่ให้โอกาสผู้ชายเลวๆอย่างผม” เจ้าคุณ

ลุกขึ้นจากพื้นบอกขอบคุณคุณนายมณีอีกครั้งด้วยความดีใจก่อนที่จะกลับหันหลังเดินออกจากตรงนั้น

 

     “เดี๋ยว!!!” แต่ยังไม่ทันที่เจ้าคุณจะก้าวเดินไปได้ไกลคุณนายมณีก็ก้าวเดินตามเจ้าคุณพร้อมกับเรียก

ให้เจ้าตัวหยุดเดินและหันกลับมาหาเธอ

 

     “ยายมีอะ…..”

 

     เพี๊ยะ!!!!

 

     “อันนี้ถือซะว่าหายกัน เราจะเป็นเดิมก่อนที่เจ้าคุณจะสารภาพผิดกับยายและยายจะลืมเรื่องทุกอย่าง

และจำได้แต่เจ้าคุณที่เป็นแฟนน้องธารหลานของยายตกลงนะ” ยังไม่ทันที่เจ้าคุณจะพูดจบประโยคเลย

ฝ่ามืออรหันต์ของคุณนายมณีก็ฟาดเข้าเต็มแก้มเขาอย่างไม่ออมแรงจนหน้าชาไปเลยทีเดียว

 

     “ครับ” ได้แค่นั้นจริงๆเจ้าคุณพูดตอบคุณนายมณีออกไปได้แค่นั้นจริงๆก่อนที่จะยิ้มแหยๆส่งท้ายให้

คุณนายมณีอีกทีแล้วรีบเดินกุมหน้าชาๆหนีออกมาจากตรงนั้นโดยทันที

 

     หลังจากที่คุณกับคุณนายมณีเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นเจ้าคุณก็เดินขึ้นมาบนห้องนอนของธาราอีกครั้ง

เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็เห็นเจ้าของห้องที่ยังคงนอนหลับสบายอยู่ ก่อนที่จะค่อยๆเดินไปทิ้งตัวนั่งที่ว่าง

ข้างเตียงทางฝั่งเดียวกันกับที่มีร่างนิ่มๆของธารานอนอยู่  มือหนาเอื้อมปัดปอยผมที่ตกลงมาปรกบิดใบ

หน้าใสให้กลับเจ้าตัวพลางจ้องมองใบหน้าหวานอย่างครุ่นคิดว่าหลังจากนี้เขาควรจะทำอย่างไรกับวัน

ต่อไปที่ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวคนเดียวเหมือนเก่าแต่หากจะมีอีกคนหนึ่งหรือสองคนพ่วงเพิ่มเข้ามาอีกส่วน

หนึ่งที่จะเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตที่เรียกว่าครอบครัว ที่คนอย่างเขานั้นไม่เคยจะได้วาดฝันหรือนึกถึงมา

ก่อนเลยหลังจากที่ตัดสินใจออกจากบ้านมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองลำพังเพียงคนเดียวถึงแม้ว่าจะมีณัฐภาส

ที่เป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่น้องคอยให้คำปรึกษาก็ตามแต่มันก็ไม่เหมือนกัน เพราะเขารู้ดีว่าซักวันต่างคนก็

ต่างจะมีหน้าที่เป็นของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบยิ่งณัฐภาสที่แต่งงานไปแล้วไม่มีทางเสียหรอกที่จะออกมา

นั่งดื่มนั่งคุยเหลือไปโน่นมานี่กับเขาได้บ่อยๆเหมือนเดิมอย่างที่ผ่านๆมา แต่กับธารามันเป็นอะไรที่

ต่างกันออกไป ธาราคือคนที่กำลังจะก้าวเข้ามาเป็นภรรยา เมียหรือแม้แต่ทำหน้าที่เป็นแม่ของลูกเขา

ซึ่งก็หมายความว่าธารานั้นจะต้องอยู่ข้างๆกันกับเข้าไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดี

ไม่ใช่หรอ? นั่นสิ! มันเป็นเรื่องที่ดีและน่ายินดีจะตายไป…..เจ้าคุณได้แต่เถียงกับตัวเองอยู่อย่างนั้น

 

     “อื้อออ~” เพราะเสียงบิดขี้เกียจจากคนที่นอนหลับอยู่บนที่นอนดังขึ้นเบาๆทำให้เจ้าคุณดึงสติของ

ตัวเองที่ลอยออกไปไกลกลับมาได้อีกครั้ง

 

     “ตื่นได้แล้วน้องธาร” เจ้าคุณกระซิบพร้อมกับเป่าลมเข้าไปในหูของธาราจนทำให้ขนอ่อนบริเวณใบหู

นั้นตั้งชันจนเจ้าตัวต้องหดคอเกร็งเพราะความจั๊กจี้

 

     “อื้อ!! ทำอะไรห๊ะไอ้บ้าคุณ” ธาราแหวลั่นลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นหน้าเจ้าคุณอยู่ใกล้จนแทบจะชิดติดกับ

หน้าของตัวเอง

 

     “ปลุกเมีย! มีรัยป่ะ?” เจ้าคุณถามด้วยน้ำเสียงยียวนพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับธาราเข้าไปอีก ทำเอา

ธาราเผลอหลับตาเกร็งตัวไปเองอัตโนมัติอย่างไม่ได้ตั้งใจ

 

     ป๊อก!!!!

 

     “โอ๊ย!! ไอ้คุณ! ไอ้บ้า! เจ็บนะเว้ย!!” ธาราโวยวายขึ้นทันทีเมื่อรู้สึกเจ็บที่หน้าผากตัวเอง พอลืมตาขึ้น

ก็รับรู้ได้ทันทีว่าตัวเองโดนเจ้าคุณเอาหัวโขกหน้าผากเข้าให้แล้ว

 

     “ไปอาบน้ำแล้วลงไปกินข้าวได้แล้ว จะลงไปรอข้างล่าง ให้ไวด้วย” เจ้าคุณบอกทิ้งท้ายก่อนที่จะเดิน

ออกจากห้องไปทิ้งให้ธาราดิ้นพราดๆด้วยความเจ็บใจอยู่คนเดียวบนที่นอน

.

.

.

.

.

     “เป็นไงน้องธารเมื่อคืนหลับสบายหรือป่าวครับ ทำไมถึงตื่นสายนักล่ะ” คุณนายมณีเอ่ยทักขึ้น

เมื่อธาราเดินมานั่งประจำที่ตัวเองบนโต๊ะทานข้าวซึ่งนั่งตรงข้ามกันกับเจ้าคุณเพราะว่าคุณนายมณี

นั้นนั่งอยู่ทางหัวโต๊ะที่ประจำของเธอ

 

     “ไม่สบายเลยฮะยาย เมื่อคืนธารโดนหมากวนเลยฝันร้าย” ธาราตอบคุณนายมณีพร้อมกับว่ากระทบ

เจ้าคุณไปด้วยแต่แทนที่เจ้าคุณจะหัวเสียหรือโมโหอะไรเจ้าตัวกลับยิ้มขำอย่างชอบใจ

 

     “นั่นสิครับยาย สงสัยน้องธารจะฝันร้ายจริงๆเมื่อคืนถึงได้ร้องเสียงดังจนผมพาลไม่ได้นอนไปด้วย

เลยทั้งคืน” เจ้าคุณพูดเน้นในประโยคสุดท้ายทั้งยังยักคิ้วหลิ่วตาอย่างเจ้าเล่ห์ส่งไปให้ธาราได้เขินอาย

เล่นอีกต่างหาก

 

     “ยายว่าเรารีบกินข้าวกันเถอะ ก่อนที่มันจะเย็นชืดหมดอร่อยไปซะก่อน” คุณนายมณีชวนให้ทั้งสองคน

เริ่มทานมื้อเช้าเพื่อเป็นการยุติการโต้เถียงแบบเด็กของทั้งสองคน

.

.

.

.

.

     “จะไปไหน” เจ้าคุณถามเมื่อเห็นว่าธาราเดินไปทางประตูหน้าบ้านโดยที่มีกระเป๋าสะพายข้าง

ติดตัวไปด้วยเหมือนกับเตรียมพร้อมที่จะออกไปข้างนอก หลังจากที่เจ้าคุณ ธาราและคุณนายมณี

ทานมื้อเช้ากันเสร็จแล้วคุณนายมณีก็ออกไปสมาคมคุณนายฟาร์มมุกกับเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียว

กับเธอ และทิ้งให้เจ้าคุณและธาราอยู่บ้านกันตามลำพัง โดยเจ้าคุณอาสาเป็นคนล้างจานและธารา

หายขึ้นไปข้างบนห้องก่อนที่จะเดินกลับลงมาอีกครั้งพร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่

 

     “เกี่ยวอะไรด้วย?” ธาราเลิกคิ้วถาม

 

    “คนเป็นผัวก็ต้องอยากรู้บ้างล่ะว่าเมียจะออกไปไหน” เจ้าคุณตอบกลับอย่างยียวน

 

     “เราสองคนอยู่ในสถานะนั้นหรอ? จำได้ว่าไม่เคยนะ เพราะฉะนั้นฉันจะไปไหนก็เรื่องของฉัน

ไม่เกี่ยวอะไรกับนายเลย” ธาราบอกเสียงเรียบไม่แสดงสีหน้าใดๆก่อนที่จะกระตุกยิ้มน้อยๆและ

เดินควงกุญแจรถในตัวเองออกไปอย่างอารมณ์ดีไม่ทันให้เจ้าคุณตั้งตัวหรือพูดแย้งอะไรอีกเลย

 

     “มึงมันไม่เข้าใจอะไรกูสักอย่าง แล้วที่กูทำไปทั้งหมดเพื่อเหี้ยอะไร!!  แมร่ง!!!! โว้ย!!!!!” เจ้าคุณ

อธิบายความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ไม่ได้เลยจริงๆยิ่งนึกถึงคำพูดที่ธาราได้พูดทิ้งท้ายก่อนออกไปนั้น

ก็ยิ่งหัวเสียจนแทบจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้

.

.

.

.

.

     “สวัสดีครับคุณดีแลนท์มานานหรือยังครับ ขอโทษที่ปล่อยให้คุณต้องรอนะครับ” ธาราเอ่ยทักทาย

อีกฝ่ายอย่างสุภาพ วันนี้เขามีนัดเจรจาตกลงราคาการซื้อขายไข่มุกในฟาร์มแทนคุณนายมณียายของเขา

กับบริษัทเครื่องประดับขนาดใหญ่ที่มีหลายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศที่สนใจที่จะขอรับซื้อ

ไข่มุกในฟาร์มของเขาในราคาที่สูงและจำนวนที่มากกว่าที่ไหนๆซึ่งครั้งนี้ทางนั้นก็ส่งดีแลนท์ลูกชายที่

เป็นทายาทเพียงคนเดียวของประธานบริษัทที่กำลังจะรับช่วงต่อบริหารบริษัทจากพ่อตัวเองในเร็วๆนี้

 และดีแลนท์ก็เลือกคอฟฟี่ช็อปแห่งนึงในตัวจังหวัดเป็นสถานที่เจรจากันครั้งนี้ซึ่งธาราก็โอเคเพราะเขา

ขอแค่ตกลงกันได้แค่นั้นแหละจะที่ไหนเขาก็ไม่เกี่ยงหรอก

 

     “อ่า…สวัสดีครับคุณธารา ผมก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน เชิญนั่งเลยครับเดี๋ยวเราสั่งอะไรเย็นๆมาดื่มให้หาย

เหนื่อยกันก่อนดีกว่าครับหลังจากนั้นเราค่อยมาเริ่มคุยงานกัน” ดีแลนท์เป็นหนุ่มลูกครึ่งที่พูดไทยได้ชัด

มาก จับมือทักทายกับธาราก่อนที่จะชักชวนให้ธารานั่งพักสั่งเครื่องดื่มให้หายเหนื่อยจากการเดินทาง

เสียก่อนซึ่งโต๊ะที่เขาเลือกนั้นค่อนข้างเป็นส่วนตัวสามารถคุยงานได้และเหมาะกับคนสบายๆอย่างเขา

เป็นที่สุดเพราะเขาชอบทำงานในแบบที่ไม่เหมือนงาน

 

     “คุณธาราเรียกผมว่าดีแลนท์ก็พอครับไม่ต้องมีคุณหรอก ผมว่าเราคงจะอายุใกล้เคียงกันและน่าจะ

เป็นเพื่อนกันได้นะครับ” ดีแลนท์เอ่ยขึ้นเมื่อทั้งคู่สั่งเครื่องดื่มเสร็จแล้ว

 

     “อ่อ! ถ้าอย่างนั้นคุณก็เรียกผมว่าธาราเฉยๆเหมือนกันก็พอครับ” ธาราบอกกลับไปบ้าง มีเพื่อนเพิ่มอีก

คนก็ดีเหมือนกันเพราะตั้งแต่เด็กจนโตเขาก็มีณัฐภาสเป็นแค่เพื่อนเพียงคนเดียวซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน

ว่าจะสามารถกลับไปใช้คำว่าเพื่อนเหมือนเดิมได้อีกไหม ในเมื่อสิ่งที่เขาทำมันช่างเลวร้ายและเยอะแยะ

มากมายเสียเหลือเกิน

 

     “ดีเลยครับ! ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะครับธารามีอะไรก็คุยกับผมได้ทุกเรื่องเลยนะ” ดีแลนแสดง

ความดีใจออกมาอย่างไม่ปิดบังเมื่อสามารถเป็นเพื่อนกับธาราได้

 

     “ครับๆแต่ตอนนี้ผมว่าเรามาเริ่มคุยเรื่องงานกันก่อนดีกว่านะครับเพราะว่าถ้าวันนี้เรายังตกลงกันไม่ได้

นี่ กลับบ้านไปยายคงจะหักค่าขนมเดือนนี้ของผมแน่นอน” ธาราพูดบอกอย่างติดตลก ก่อนที่ทั้งสองคน

เริ่มจะคุยเรื่องงานกันอย่างเป็นจริงเป็นจังซึ่งแตกต่างจากตอนแรกโดยสิ้นเชิง

 

     “ตกลงตามนี้นะครับธารา ส่วนเรื่องสินค้าล็อตแรกผมจะให้ทางฝ่ายจัดซื้อของบริษัทส่งรายละเอียดไป

ให้ทางคุณอีกที” หลังจากที่พูดคุยตกลงกันอยู่เป็นเวลานานทั้งสองคนก็ได้ข้อสรุปกันเสียที

 

     “ครับ แล้วผมจะบอกยายให้นะครับ ยังไงผมก็ต้องขอบคุณทางคุณมากเลยนะครับดีแลนท์ที่ไว้ใจสั่ง

มุกทางฟาร์มผมในจำนวนมากและราคาที่ดีอย่างนี้” ธาราบอกขอบคุณจากใจจริงเพราะทางดีแลนท์

นั้นเสนอราคาให้กับเขาในราคาที่สูงกว่าบริษัทอื่นมากเลยจริงๆ

 

     “ไม่เลยครับ ทั้งหมดเป็นเพราะว่ามุกของฟาร์มคุณมีคุณภาพต่างหากล่ะธารา ผมได้สินค้าคุณภาพ

และคุณก็ได้ค่าตอบแทนที่ดี งานนี้ถือว่าเราวินวินทั้งสองฝ่ายดีกว่านะครับ” ดีแลนท์บอกอย่างอารมณ์ดี

เพราะว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดการทั้งคุณภาพของสินค้าและอัตราการแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล

 

     “คุณมีธุระต่อหรอครับธารา” ดีแลนท์ถามเมื่อเห็นธารามองหน้าปัดนาฬิกาที่ข้อมือตัวเองบ่อยๆ

 

     “ก็ไม่เชิงครับ พอดีผมทิ้งหมาให้อยู่บ้านตัวเดียวไม่มีใครอยู่ด้วยก็เลยกลัวว่าจะหลุดไปกัดคนอื่น

เขาเข้านะครับ” ธาราบอกพร้อมกับนึกถึง ‘หมา’ ที่พูดถึงไปด้วย

 

     “อ่า...ถ้าอย่างนั้นวันนี้เราแยกย้ายกันเลยก็ได้ครับแล้ววันหลังเราค่อยไปนัดฉลองร่วมงานกันใหม่

ผมว่าธาราคงจะรักหมาตัวนั้นน่าดูเลยนะครับเนี่ย ถึงได้ดูเป็นห่วงขนาดนี้” ดีแลนท์เอ่ยแซวเพราะคิด

ว่าธาราพูดถึงหมาที่เป็นหมาจริงๆ

 

     “ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แล้วเจอกันใหม่แต่คราวหน้าผมขอเป็นคนจ่ายนะครับ ถือว่าตอบแทนลูกค้า”

ธาราบอกลาเมื่อเขาทั้งคู่ออกมาจากคอฟฟี่ช็อปซึ่งตอนแรกธาราขอเป็นคนจ่ายค่าเครื่องดื่มแต่ดีแลนท์

ไม่ยอมพร้อมกับบอกว่าเลี้ยงต้อนรับเพื่อนใหม่

 

     “เราได้เจอกันอีกในเร็วๆนี้แน่ธารา” ดีแลนท์พูดออกมาทั้งๆที่ธาราขับรถออกจากตรงนั้นไปไกลแล้ว

.

.

.

.

.

     “เป็นหมาจริงๆรึไงเนี่ย” ธาราสายหน้าพึมพำกับตัวเองเบาๆเมื่อขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองแล้ว

เห็นเจ้าคุณนอนก่ายหมอนข้างหลับสบายอยู่บนเตียง แต่ที่ทำให้เขาต้องส่ายหน้าอย่างระอาก็คือของ

จำพวกแป้ง น้ำหอมและครีมบำรุงต่างๆที่มันเคยอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งนั้นได้มานอนระเกะระกะกระจาย

อยู่เต็มพื้นห้อง นั่นยังไม่รวมถึงเสื้อผ้าที่ใส่แล้วที่กระเด็นออกมานอนแอ้งแม้งอยู่นอกตะกร้าอีกต่างหาก

ซึ่งไม่ต้องเสียเวลาเดาให้ยากเลยว่าเป็นฝีมือใครถ้าไม่ใช่ไอ่หมาบ้าที่มันนอนอยู่บนเตียงเขาตอนนี้นี่ไง

 

     “กลับมาแล้วหรอ ไปไหนมา” เจ้าคุณถามขึ้นมื่อลืมตาตื่นแล้วเห็นธารากำลังเก็บพวกของที่เขา

เผลอไประบายอารมณ์ใส่มันตอนที่หงุดหงิดให้เข้าไปอยู่ที่เดิมเหมือนที่เคยเป็น

 

     “…..” แต่สิ่งที่ตอบกลับเจ้าคุณมามีเพียงแค่ความเงียบเพราะธาราไม่ยอมตอบและยังคงก้มหน้า

ก้มตาเก็บของเข้าที่โดยที่ไม่หันมาสนใจเจ้าคุณเลย

 

     “เป็นห่าอะไรอีกห๊ะ!! เป็นใบ้ไปแล้วรึไง!! ถามแล้วไม่ตอบเนี่ย!!” เจ้าคุณลงจากเตียงนอนลุกเดิน

มากระชากแขนตะคอกถามธาราเสียงดัง

 

     “แล้วจะให้ตอบอะไร” ธาราถามเสียงเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาทางสีหน้าทั้งนั้น

 

     “แล้วเมื่อกี้กูถามอะไรมึงห๊ะ!! ถามอะไร!!!” เจ้าคุณยังคงตะคอกถามธาราอย่างต่อเนื่องทั้งยัง

จับตัวธาราเขย่าจนตัวสั่นตัวคลอน

 

     “แล้วทำไมต้องตอบ” ธาราถามพรางเบ้หน้าเพราะเจ็บต้นแขนที่เจ้าคุณบีบไว้แน่นทั้งสองข้าง

 

     “เพราะกูเป็นห่วงไงว่ะ!!! โทรไปก็ไม่รับ!! อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปผับกับกู กูบอกยายไว้แล้ว

ว่ากูจะไปดูร้านแล้วจะเอามึงไปด้วย อย่าต้องให้กูพูดซ้ำนะเพราะกูจะทำมากกว่าอาบน้ำ มีเมียทั้งทีก็

เสือกโง่ชิบหาย แมร่งโว้ยยยยย!!!” เจ้าคุณพูดๆสั่งๆก่อนที่จะเดินตะโกนแหกปากออกจากห้องไป

อย่างหัวเสียทิ้งให้ธารายืนสับสนงบกับคำพูดของเจ้าคุณก่อนหน้านี้อยู่คนเดียว

 

     “ห่วง? ห่วงหรอ? เมื่อกี้ไอ้หมาบ้ามันบอกว่าเป็นห่วงเราหรอ?” ธารายืนทบทวนคำพูดของเจ้าคุณ

ไปมา และอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงขึ้นมาเมื่อนึกถึงคำห่วงใยทื่อๆของเจ้าคุณ ก่อนที่เดินไปหยิบโทรศัพท์

ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายขึ้นมาดูก็พบว่ามีเบอร์แปลกที่ไม่ได้บันทึกชื่อเอาไว้โทรเข้ามาเบอร์เดียวจำนวน

ห้าสิบสายซึ่งไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นเบอร์ใคร มันก็สมควรจะให้เจ้าคุณบ้าได้ขนาดนี้หรอก เพราะหลังจาก

ที่แยกย้ายกับดีแลนท์แล้วธาราก็ตรงไปที่ออฟฟิศในฟาร์มทันทีเพื่อไปสั่งงานดูงานแทนคุณนายมณีต่อ

เลยไม่ทันได้สนใจโทรศัพท์ที่ปิดเสียงอยู่ในกระเป๋าสะพายแต่อย่างใด

.

.

.

.

.

     หลังจากที่เจ้าคุณและธาราทานข้าวมื้อเย็นเป็นเพื่อนคุณนายมณีและธาราส่งคุณนายมณีขึ้นนอน

เรียบร้อยแล้วเจ้าคุณก็ลากธารามาผับด้วยเลยทันที

 

     “พี่คุณคะ” ยังไม่ทันที่จะได้เดินไปไหนไกลเลย เพราะทันทีที่ก้าวเท้าเข้าผับปุ๊บก็มีสาวสวยในชุด

กระโปรงสั้นรัดรูปสีดำที่เน้นอวดทรวดทรงองค์เอวเอ่ยเรียกเจ้าคุณขึ้นมาเสียก่อน

 

     “ว่าไงครับน้องชมพู่” เจ้าคุณพูดทักกลับไปอย่างอารมณ์ดี

 

     “ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ชมพู่แค่คิดถึงพี่คุณก็เท่านั้นเอง เดี๋ยวนี้พี่คุณไม่ค่อยไปหาชมพูเลยนะคะ ชมพู่

คิดถึ๊งคิดถึง” หญิงสาวบอกเสียงหวานซบหน้าลงกับอกแกร่งของเจ้าคุณอย่างมีจริต

 

     “หืม…ถ้าอย่านั้นวันนี้ชมพู่มานั่งดื่มกับพี่ดีกว่านะครับ เพราะพี่ก็คิดถึงชมพูเหมือนกัน” เจ้าคุณตอบ

พร้อมกับรวบเอวคอดของหญิงสาวเข้ามากอดทั้งๆที่อีกมือนึงนั้นก็จูงมือธาราอยู่ ก่อนที่จะพากันเดินไป

มุมส่วนตัวของเขาและณัฐภาส

 

     “พี่คุณเอาเหมือนเดิมนะคะ แล้ว..” หญิงสาวบอกก่อนจะเว้นช่วงถามพรางมองไปที่ธารา

 

     “อ่อ! นี่ธาราเพื่อนพี่นะ ของพี่เอาเหมือนเดิมส่วนของมันเอาน้ำอัดลมธรรมดาๆก็แล้วกัน” เจ้าคุณบอก

พรางเหล่มองธาราที่นั่งทำหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ

 

     “เฮ้ๆ ทางนี้เว้ยไอ้ภาส น้องพัส” เจ้าคุณตะโกนเรียกเมื่อเห็นว่าณัฐภาสและพัสกรกำลังจะเดินไปทาง

ขึ้นลิฟท์หลังร้าน ก่อนหน้านี้ณัฐภาสได้โทรมาโม้กับเขาแล้วว่าง้อขอคืนดีกับพัสกรเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเขา

ก็ดีใจกับเพื่อนเป็นอย่างมากเลย

 

     “นึกไงถึงดื่มแต่หัววันเลยห๊ะมึง” ณัฐภาสถามในขณะที่กำลังลงข้างๆกันกับพัสกร

 

     “ไม่ได้นึกไรว่ะก็แค่อยากดื่ม มาๆดื่มๆฉลองให้มึงกับน้องพัสที่คืนดีกันเอ้าชนๆ น้องชมพู่ครับช่วย

ชงให้พี่ภาสกับเมียมันหน่อยได้ไหมครับ ฟอดดดด…” เจ้าคุณตอบปัดๆก่อนที่จะหันไปคุยกับหญิงสาว

ข้างตัวอย่างอ้อล้อไม่วายที่จะหอมแก้มหญิงสาวอีกฟอดใหญ่ นั่นทำให้ธาราจิกมือตัวเองจนแน่น

 

     “ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ธาราพูดบอกก่อนที่จะเดินออกไปโดยที่ไม่ได้มองใครเลย

 

     “มันเป็นอะไรของมันว่ะ แล้วมึงอ่ะเอามันมาด้วยได้ไง” ณัฐภาสหันมาถามเจ้าคุณหลังจากที่มอง

ตามธาราเดินออกไปด้วยความสงสัย

 

     “ไม่มีอะไรหรอก” เจ้าคุณตอบปัดๆก่อนที่จะหันไปพูดอะไรบางอย่างกับหญิงสาวที่ชื่อชมพู่จนเธอ

เดินออกจากโต๊ะไป

.

.

.

.

     “มึงมีผู้หญิงของมึงมารออยู่แล้ว แล้วจะเอากูมาด้วยทำไม” ธาราพูดออกมาขณะที่ยืนส่องกระจก

มองตัวเองอยู่ในห้องน้ำ

 

     “มึงมันโง่!! โง่เองธารที่หลงไปกับคำพูดของมัน” ธาราวักน้ำใส่หน้าตัวเองอย่างแรงซ้ำๆ

อยู่หลายครั้ง ก่อนที่จะมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง ซึ่งภาพเขาที่กระจกสะท้อนให้เห็นในตอนนี้

มีผู้ชายหน้าโง่ผิวขาวซีดๆ ตัวก็สูงเก้งก้างไม่ได้ตัวเล็กน่าทะนุถนอมอะไรเลย นิสัยก็ไม่ดี แล้วใครล่ะ

จะมารักมาสนใจที่ตัวตนของเขาจริงๆ

 

     “ว่างายน้อง~~สนจายปายก่าพี่ป่าว~~” ธาราสะดุ้งตกใจอย่างแรงเมื่อมีต่างชาติขี้เมาตัวใหญ่ยักษ์

เข้ามากอดเขาจากข้างหลัง

 

     “ปล่อย!! ถอยไปคุณเมาแล้ว” ธาราพยายามแกะมือปลาหมึกของต่างชาติขี้เมาออกจากตัวแต่ก็ไม่

เป็นผลเนื่องจากความต่างของขนาดตัวแม้อีกฝ่ายจะเมาก็เถอะ

 

     “ม่ายมาว~ พี่ม่ายมาว~ น้องปายกาบพี่น้า~” คนเมาก็คือคนเมาจะให้มาพูดรู้เรื่องเหมือนคนปกติ

คงจะเป็นเรื่องอยากเพราะนอกจากจะไม่ปล่อยธาราแล้วต่างชาติขี้เมาคนนี้ยังพยายามที่จะลวนลาม

ธาราโดยใช้ทั้งปากทั้งมือต่ออีกต่างหาก

.

.

.

.

     “พี่คุณๆ แย่แล้วๆ ผู้ชายที่มากับพี่อ่ะกำลังโดนฝรั่งลวนลามอยู่ในห้องน้ำ” ไม่ต้องรอฟังประโยค

ต่อไปหรือเสียงเรียกของใครอะไรอีกแล้ว เจ้าคุณรีบวิ่งไปบริเวณห้องน้ำที่ไว้สำหรับบริการลูกค้า

อย่างเร่งรีบโดยที่ไม่สนว่าจะชนหรือเหยียบเท้าของใครเลย

 

     “ออกไปนะ!! ออกไปให้พ้น!!” ทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำเข้าไปก็เห็นธาราพยามพลักดันคนต่างชาติ

ตัวใหญ่ออกจากตัวโดยมีพนักงานของร้านอีกคนคอยช่วยดึงต่างชาติคนนั้นออกจากตัวธาราอีกที

แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะคนต่างชาติคนนั้นตัวใหญ่มากเหมือนพวกนักมวยปล้ำอย่างไงอย่างงั้นแถมยัง

แรงเยอะอีกต่างหาก

 

     “คุณ!! เจ้าคุณ!! ช่วยธารด้วย!!!” ธาราตะโกนขอความช่วยเหลือจากเจ้าคุณทันทีเมื่อเห็นว่าเป็น

เจ้าคุณที่เปิดประตูเข้ามา สภาพของธาราตอนนี้แทบดูไม่ได้เลยทีเดียวเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยจากการยื้อแย่ง

ฉุดกระชากใบหน้านวลนั้นก็เต็มไปด้วยน้ำตา เจ้าคุณหันซ้ายหันขวาหาวิธีช่วยธาราอย่างร้อนรนจน

หันไปเห็นกระถางต้นไม้ประดับที่มีความสูงประมาณอกของเขา คว้าจับตรงลำต้นได้เจ้าคุณก็ฟาด

ใส่หัวต่างชาติขี้เมาไปสุดแรงเกิดด้วยความโมโห จนแตกทั้งกระถางต้นไม้ทั้งหัวต่างชาติขี้เมาเลย

 

     “เจ้าคุณ” ธาราเรียกเจ้าคุณด้วยเสียงเบาหวิวในขณะที่ยืนอยู่ที่เดิม เพราะตอนนี้ขาของเขานั้นก้าวไม่

ออกแล้วทั้งกลัว ทั้งตกใจ มันผสมปนเปกันไปหมด

 

     “ไม่เป็นไรแล้วไม่เป็นไร เหี้ยนี่!!กล้าปล้ำเมียกูหรอมึง!!” เจ้าคุณเดินเข้าไปกอกปลอบธาราก่อนที่จะพา

เดินออกมาจากตรงนั้นไม่วายกระทืบซ้ำต่างชาติขี้เมาที่นอนสลบจมกองเลือดอยู่ที่พื้นอีกสี่ห้าทีอย่างเต็มแรง

 

     “เอามันไปโรงบาลแล้วพรุ่งนี้ให้ไอ้ภาสไปเคลียร์กับมันด้วยขืนกูไปเองเดี๋ยวอดกระทืบมันไม่ได้อีก”

เจ้าคุณหันไปบอกกับพนักงานสองคนที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ตรงนั้นก่อนที่จะจูงธาราออกจากผับโดยที่บอลา

ณัฐภาสนิดหน่อยในตอนที่เดินผ่านแต่ก็ไม่ได้บอกว่าเขาทำอะไรไว้เพราะเดี๋ยวณัฐภาสรู้แล้วเรื่องจะยาว

ปล่อยให้ไปรู้กับพนักงานในร้านนั่นแหละดีแล้ว





...

ไอ่เรื่องแต่งคู่รองเด่นกว่าคู่หลักนี่ไอ้มีี่คนนี้เก่งนักล่ะ

สรุปแล้วไม่มีคู่รองเป็นคู่หลักทั้งสองคู่เลยเน๊าะ

แต่หนูพัสกับพี่ภาสก็มีปัญหาแทบจะทุกตอนลบเลยดีมั้ยคะคู่นี้?

ใครต้องการอ่านคุณธารตอนต่อไปเร็วขึ้นก็เม้นเลยค่ะ

มี่จะลงตามความต้องการของคนอ่าน

ขอบบอกว่าแต่งไปเขินเองไปนะเออ หวานแบบทื่อๆอ่ะเคยเจอกันรึป่าวตัว :-[ :o8:

 

   

 

 

   

 

   

 

   

 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 4 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 10-10-2015 04:16:58
น่ารักทั้งสองคู่เลยยยยยย น้องธาร อร๊ายยย แทนตัวเองงี้ข้าฟินนนแทนปั๋วเธออ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 4 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 10-10-2015 05:38:38
อะไรคือการที่บอกว่าจะดูแลน้องธารอย่างดีแต่กลับนั่งคลอเคลียกับชมพู่แทนกันล่ะคะเจ้าคุณ o18 ..
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 4 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: janny_j ที่ 10-10-2015 08:01:21
ชอบทั้งสองคู่เลย น้องพัสน่ารักงุ้งงิ้ง ร้องธารเงียบๆวางฟอร์ม เดี๋ยวได้รวมหัวกันเป็นสมาคมแม่บ้าน ตามราวีสามีสุดฮอตแน่ๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 4 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 10-10-2015 08:30:29
 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 4 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 10-10-2015 09:48:43
เมื่อไหร่เจ้าคุณจะบอกรักธารซะที บางทีการพูดว่ารักออกจากปากมันก็ชัดเจนกว่าการกระทำนะ

เพราะบางคนชอบให้พูดมากกว่าการกระทำ เพราะมันจะได้ไม่คิดเข้าข้างตัวเองว่าเค้ารักเรา

หรือแค่ความเป็นห่วงแบบธรรมดากันแน่
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 4 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 10-10-2015 10:03:17
ชอบคู่นี้ ><
แต่หมั่นไส้เจ้าคุณมาก มีนัวเนียกะชะนีให้น้องธารเห็นด้วย -_-^
รอน้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 4 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 10-10-2015 10:12:43
เกือบไปแล้วนะธาร!
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 4 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 10-10-2015 10:43:10
อ๊ากกกกก..มาเร็วๆนะ..เค้ารออยู่.. :katai4:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 5 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 10-10-2015 14:20:15
คุณเมียภาคบังคับ [เจ้าคุณ&ธาร] ตอนที่ 5

 

 

 

     เจ้าคุณก็ยังคงเป็นเจ้าคุณต่อให้ผ่านเรื่องร้ายแรงมาแค่ไหนก็ยังคงกระด้างเหมือนเดิมหลังจากที่กลับ

มาถึงบ้านและไล่ธาราไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเจ้าคุณก็เข้าไปอาบน้ำต่อจากธาราโดยที่ไม่มีคำพูด

หรือคำปลอบโยนอะไรอีกเลยนอกจากคำว่าไม่เป็นไรคำเดียวตอนที่อยู่ที่ผับ

 

     “นอนซะ” เจ้าคุณบอกหลังจากที่แต่งตัวเสร็จ เดินไปปิดไฟแล้วก็กลับมาทิ้งตัวนอนข้างๆกันกับธารา

 

     “ทำไปเพื่ออะไร” เสียงธาราดังขึ้นในความมืด

 

     “อะไรล่ะ” เจ้าคุณถามกลับ ต่างคนต่างนอนหงายลืมตามองเพดานห้องในความมืด

 

     “ในทุกๆเรื่อง ที่ทำลงไปทั้งหมดนายต้องการอะไร” ธาราถามพร้อมกับตะแคงหันข้างไปทางเจ้าคุณ

 

     “ถ้าบอกว่าต้องการมึงล่ะ” เจ้าคุณถามพร้อมกับยกแขนขึ้นก่ายหน้าผาก

 

     “ทำไม” ธาราถาม พยายามเพ่งมองหน้าเจ้าคุณในความมืด

 

     “ถ้ากูบอกว่า ‘รัก’ ล่ะ” เจ้าคุณตะแคงหันเข้าหาธาราแล้วตอบด้วยคำถาม

 

     “อย่าพูดเล่น! ขอเรื่องจริง!” ธาราบอกเสียงแข็งเมื่อคิดว่าเจ้าคุณพูดเล่น

 

     “กูรักมึง นั่นคือเรื่องจริง!!” เจ้าคุณยื่นหน้าเข้าไปเกือบจะชิดติดกับธาราและพูดยืนยันด้วยน้ำเสียง

ที่หนักแน่นและมั่นคง

 

     “อย่ามาโกหก!!” ธาราตวาดเสียงดังและพลิกตัวหันหลังให้เจ้าคุณ

 

     “ไม่ได้โกหก กูรักมึง รักมึงจริงๆ กูหลงรักมึงตั้งแต่กูยังไม่ได้เป็นเพื่อนไอ้ภาสอีก รักมึงทั้งๆที่ใน

สายตามึงไม่เคยมองใครนอกจากไอ้ภาสนั่นแหละ” เจ้าคุณขยับเข้าไปนอนซ้อนหลังกอดธาราก่อนที่

จะพูดบอกความลับในสิ่งที่ตัวเองปิดมานานและไม่เคยได้บอกใครเลยแม้แต่ณัฐภาสที่เป็นเพื่อนรักก็ตาม

 

     “จะ..จริงหรอ?” ธาราถามอย่างไม่เชื่อ ถ้าตั้งแต่เขายังเป็นเพื่อนรักกับณัฐภาสอยู่จริงๆก็ นั่นมันหลาย

ปีเลยนะ แล้วที่พูดว่าตอนนั้นในสายตาของเขามีแต่ณัฐภาสก็จริงแต่ไม่ได้มีความหมายอื่นเลยนอกจาก

ความเป็นเพื่อนและพี่น้องที่มีให้แก่กัน

 

    “ไม่เชื่ออะดิ! ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ เพราะยังไงๆมึงก็หนีกูไม่พ้นหรอก!!” เจ้าคุณบอกพร้อมกับจับธารา

นอหงายและขึ้นไปนอนทาบทับบนตัวธาราแทน

 

     “…..” พูดไม่ออกเสหน้าหลบสายตาคมของเจ้าคุณ

 

     “เป็นเมียกูแล้วนะ อย่าดื้อ อย่าซน ต้องรักกูหลงกูคนเดียวนะรู้ไหม” จับหน้าธาราให้หันมาตรงๆ

บอกเสียงทุ้ม จ้องตาพรางยื่นหน้าเข้าไปหาธารา

 

     “…..” เกร็งตัว หลับตาปี๋ สองมือกำผ้าห่มแน่น

 

     ป๊อก!!!

 

     “เป็นเด็กเป็นเล็กหัดคิดทะลึ่งนะมึง” ดีดหน้าผากธาราเสร็จก็ลงไปนอนแผ่หลาอยู่ที่เดิม

 

     “อูยยยย” ร้องอย่างเจ็บปวด คำหน้าผากตรงที่โดนเจ้าคุณดีด ก่อนจะหันไปมองค้อนควักคนทำ

ที่ชิงหลับหนีไปแล้วแถมยังกรนใส่อีกต่างหาก และในเวลาต่อมาธาราก็หลับตาเจ้าคุณไปโดยที่ทั้ง

สองคนไม่รู้ตัวเลยว่ากลางดึกธาราขยับตัวซุกตุ๊กตาหมีตัวใหญ่เพื่อหาความอบอุ่นในขณะที่เจ้าคุณก็

ควานหาหมอนข้างเข้ามากอดเหมือนกัน แต่เขาทั้งสองคนลืมไปหรือป่าว? ว่าห้องธารานั้นไม่เคยมี

ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่และหมอนข้าง!!!

.

.

.

.

.

     “เรื่องจริงหรอ?” ธาราพึมพำกับตัวเองเบาๆพรางนึกถึงเรื่องที่คุยกับเจ้าคุณก่อนนอนคืนนี้เมื่อลืมตา

ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นหน้าเจ้าคุณห่างจากหน้าตัวเองเพียงไม่กี่เซ็นใกล้จนรู้สึกถึงลมหายของอีกคนแถมตัว

เขายังนอนอยู่ในอ้อมกอดของเจ้าคุณอีก ก่อนที่จะทำหน้ายิ้มสลับกับหน้าบึ้งแทบจะชนกันเมื่อได้นึกไล่

ย้อนการกระทำของเจ้าคุณตั้งแต่มาอยู่ที่บ้านของเขาจนไปถึงเรื่องที่เจ้าคุณไปคลอเคลียกับหญิงสาวที่

ชื่อชมพู่ในผับเลยอดไม่ได้ที่จะทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะความหงุดหงิด

   

     …..ไหนบอกว่ารักไง ทำไมทำอย่างนั้น…..

 

     ปึก!!!

 

     “โอ้ย!! ทำอะไรของมึงเนี่ย!!” เจ้าคุณสะดุ้งตื่นทันทีเมื่อธาราเผลอทำตาคำสั่งของร่างการแบบไม่รู้ตัว

โดยที่หลุดทุบสีข้างเจ้าคุณเสียเต็มแรงจนเจ้าตัวโอดโอยออกมาเพราะความเจ็บ

 

     “เมื่อคืน” ธาราพูดแค่นั้น

   

“เมื่อคืนอะไรของมึง เมาขี้ตารึไงถึงได้บ้าทุบกูแต่เช้าเนี่ย!” เจ้าคุณถามอย่างหงุดหงิดด้วยความที่

ยังนอนไม่เต็มอิ่มบวกกับเจ็บสีข้างที่โดนธาราทุบ

 

     “ผู้หญิง” ธารายังคงพูดประโยคสั้นๆเหมือนเดิม

 

     “อ๋อ! ชมพู่อ่ะหรอ?” เมื่อได้ยินธาราพูดว่าผู้หญิงเจ้าคุณก็เริ่มจะเข้าใจอะไรบ้างแล้วเลยถามธารากลับ

อย่างอารมณ์ดีต่างจากเมื่อกี้ลิบลับ

 

     “…..” ไม่ตอบ เริ่มทำหน้าบึ้ง และดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของเจ้าคุณ เมื่อคิดว่าเจ้าอารมณ์ดีมี

ความสุขเพราะนึกถึงหญิงสาวคนเมื่อคืนที่มีท่าทีสนิทสนมกันพรางคิดไปต่างๆนาๆ

 

     “หึๆ หึงอ่ะดิๆ หึงก็บอก” เจ้าคุณยังคงไม่ตอบทั้งยังพูดล้ออีก

 

     “…..” ธาราเริ่มดิ้นแรงขึ้นเพื่อให้หลุดออกจากอ้อมกอดของเจ้าคุณ

 

     “โอเคๆบอกแล้วๆ กูบอกแล้วน้องธารา เลิกดิ้นซะทีไม่รู้รึไงว่าเช้าๆอย่างนี้ผู้ชายมันคึกขนาดไหน

เดี๋ยวก็ได้เจ็บตัวแต่เช้าหรอกมึง” เจ้าคุณกระชับธาราเข้ามากอดแน่กว่าเดิมอีก ก่อนพูดขู่เมื่อธาราดิ้น

ไปโดนเจ้าคุณน้อยที่มันชูคอขู่พร้อมรบเหมือนกับทุกๆเช้าตามปกติของผู้ชายทั่วไป

 

     “…..” เมื่อได้ยินอย่านั้นบวกกับเริ่มรู้สึกตัวว่าขาของตัวเองนั้นสัมผัสโดนอะไรธาราก็หยุดดิ้นแทบ

จะทันที ทั้งหน้าที่เริ่มจะซับเปลี่ยนสีเป็นสีแดงนี่อีก

 

     “ฮ่าๆเขินน่ารักนะมึง อะๆกูบอกว่าอย่าดิ้นไง เดี๋ยวพ่อก็ปล้ำแมร่งจริงๆซะหรอก เรื่องที่มึงถามอะ

ผู้หญิงที่ชื่อชมพู่อะนะที่จริงแล้ว……” เจ้าคุณหัวเราะอย่างชอบใจเมื่อเห็นสีหน้าซับสีเพราะความ

เขินของธาราก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่องของหญิงสาวที่ชื่อชมพู่ให้ธาราฟัง

.

.

.

.

ย้อนเวลาไปช่วงบ่าย(ตอนที่ธาราไปทำงาน)

 

     เจ้าคุณกระวนกระวายเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องของธาราหลังจากที่ได้ระบายอารมณ์กับข้าวของ

ไปแล้วรอบนึง เพราะโทรหาธาราแล้วธาราไม่รับสาย ก่อนที่จะเปลี่ยนเป้าหมายในการโทร

 

     (“สวัสดีค่ะชมพู่รับสายค่ะ”) เสียงหญิงสาวรับสายอย่างสุภาพอ่อนหวาน

 

     “กูเองอีพู่ อย่าแอ๊บ!” เจ้าคุณกรอกเสียงพูดลงไปหลังจากที่แน่ใจแล้วว่าใช่คนที่จะคุยด้วย

 

     (“โหหหหห….ไอ้เชี่ยคุณ! ไอ้เพื่อนเวรมึงหนีออกจากบ้านแล้วทำไมไม่บอกกู มึงรู้ไหมว่ากูกับ

พวกไอ้ต้าไปหามึงแล้วหน้าแตกกลับมายับเยินขนาดไหนอ่ะตอนที่พ่อมึงบอกว่าเขาไม่รู้จักมึงอะ”)

เมื่อได้ยินเสียงและคำทักทายที่คุ้นเคยปลายสายก็ตอบกลับทักทาย(?)ด้วยความดีใจ(?)

 

     “อีห่า! อย่าบ่นมากเดี๋ยวหนังเหี่ยว” เจ้าคุณพูดหยอกปลายสายอย่างขำๆเหมือนทุกที ชมพู่คือเพื่อน

ผู้หญิง(ที่นิสัยไม่ค่อยจะเหมือนผู้หญิงซักเท่าไหร่)คนแรกและคนเดียวของเจ้าคุณเพราะเขาทั้งคู่อยู่

บ้านติดกัน แต่ต้องห่างกันเพราะชมพู่ตามครอบครัวไปอยู่ต่างกรุงเทพฯตั้งแต่ขึ้นม.ปลาย

 

     (“ปากมึงเนี่ยนะ! ว่าแต่ตอนนี้มึงอยู่ที่ไหนว่ะ กูกลับมาอยู่บ้านที่ภูเก็ตแล้วนะเว้ย เข้ามาหากูซะดีๆ

นี่พวกไอ้เต้ ไอ้โจก็บ่นหามึงอยู่ทุกวันแล้วก็มาอาศัยแดกข้าวฟรีที่บ้านกูทุกวัน”) หญิงสาวถาม

 

     “ตอนนี้กูหุ้นเปิดผับกับเพื่อนกู ไอ่ภาสลูกเจ้าสัวชัชวาลอ่ะถ้ามึงรู้จัก แล้วกูก็อาศัยชั้นบนของผับ

เป็นบ้านซุกหัวนอนอยู่ตอนนี้นี่แหละ ที่โทรมาเนี่ยกูมีเรื่องจะปรึกษาว่ะ” เจ้าคุณตอบคำถามเพื่อน

พร้อมกับพูดเข้าเรื่องเลยทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา

 

     (“กูว่าแล้ว! ถ้าไม่มีเรื่องนี่ไม่นึกถึงกูเลยใช่มั้ยไอ้คุณ!! ว่าแต่ปัญหาของมึงอ่ะอะไร”) หญิงสาวว่า

อย่างไม่จริงไม่จังนัก

 

 “คือกู…………..” แล้วเจ้าคุณก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่เจอธาราครั้งแรกจนไปรวมเรื่องที่ขืนใจ

ธาราด้วยไม่เว้นแม้แต่เรื่องที่สารภาพกับคุณนายมณีและโดนคุณนายมณีตบด้วย

 

     (“โดนตบแค่นั้นยังน้อยไปนะมึงน่ะ”) หญิงสาวค่อนขอด

 

     “อย่าพึ่งด่ากูอีพู่!! ช่วยกูคิดก่อน”

 

     (“สรุปแล้วตอนนี้มึงได้เข้าแล้วและก็รักเขามา แต่ก็โง่ดูไม่ออกว่าเค้าคิดยังไงกับมึงและอยากจะรู้

อยากจะแน่ใจว่าเขาคิดแบบเดียวกับมึงใช่มั้ย”)

 

     “อะไรประมาณนั้น”

 

     (“ไม่ยากเลยไอ้คุณ ถ้าเมียมึงรักหรือมีใจให้มึงอย่างที่มึงมีให้เขา ถ้ามึงสนใจหรือไปอี๋อ๋อกับใคร

ต่อหน้าเขาต่อให้นิ่งหรือใจแข็งเป็นหินลายไหนลายนั้นนะไอ้คุณเขาจะต้องแสดงความไม่พอใจ

ออกมาบ้างไม่มากก็น้อย”) เธอแนะนำในสิ่งที่คิดว่าคนอย่างเจ้าคุณจะทำได้ง่ายที่สุด

 

     “ถ้าอย่างนั้นมึงช่วยกูทีดิ เข้ามาหากูที่ผับคืนนี้เลยลากไอ้เต้กับไอ้โจ้มาด้วยบอกว่ากูเลี้ยงเหล้า”

เจ้าคุณบอกเมื่อตัดสินใจได้แล้ว

 

     “โอเค! ถ้าอย่างนั้นมึงลากเมียมึงมาด้วยนะแล้วก็…..บลาๆบลาๆ เข้าใจตรงกันนะมึงแล้วอย่า

หลุดโง่ให้เมียจับได้ล่ะ แค่นี้นะกูจะไปเสริมสวยเตรียมพร้อมสำหรับคืนนี้ ควาย!~” เมื่ออธิบายถึง

แผนการที่จะช่วยเพื่อนเสร็จแล้วหญิงสาวก็วางสายทันทีไม่วาย หยอดด่าทิ้งท้าย

 

     “มันต้องพูดว่าบายหรือเปล่าว่ะ!!” เจ้าคุณเกาหัวอย่างงงกับความรวดเร็วของเพื่อน

.

.

.

.

กลับมาปัจจุบัน (เจ้าคุณที่ยังคงนอนกอดธาราอยู่)

 

     “ทำหน้าบ้าอย่างนี้ไม่เชื่อกูอ่ะดิ! ถ้าไม่เชื่อมึงรอฟังอะไรนะ” เจ้าคุณบอกเมื่อเห็นว่าธารายังคงทำหน้า

เหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เจ้าคุณเล่าให้ฟัง ก่อนที่จะผละลุกไปหยิบโทรศัพท์ตัวเองที่วางไว้บนโต๊ะ

เครื่องแป้งตั้งแต่บ่ายเมื่อวานหลังจากคุยกับเพื่อนเสร็จ พร้อมกับกดโทรออกหาใครบางคนในขณะที่เดิน

กลับมานั่งที่ปลายเตียงข้างๆกันกับธาราที่ลุกขึ้นมานั่งรออยู่โดยที่เปิดลำโพงให้ธาราได้ยินด้วย

 

     (“ไอ้คุณ!!~ ไอ้เพื่อนเหี้ย!! มีเมียแล้วลืมเพื่อน ไหนมึงบอกว่าถ้าเคลียร์กับเมียเสร็จแล้วจะพาเมียมา

แนะนำให้พวกกูได้รู้จักไงห๊ะ!! กูกับไอ้เต้ไอ้โจ้รอมึงจนลากงอกแมร่งก็ไม่เห็นมึงโผล่หัวมา พอถาม

เด็กในร้านมึง เขาก็บอกว่ามึงออกไปตั้งนานแล้ว ไอ้ฉิบหาย!!”) พอรับสายได้หญิงสาวก็กราดด่าออก

มาเป็นชุดแบบไม่เหลือความเป็นสุภาพสตรีพูดเร็วรัวจนแทบจะไม่หยุดหายใจเลยเมื่อรู้ว่าเป็นใครที่

โทรมาหาเธอแต่เช้าอย่างนี้

 

     “เบาๆหน่อยอีพู่ เมียกูฟังอยู่ด้วยนะ แล้วก็โทษทีสำหรับเมื่อคืนพอดีกมีเรื่องกับลูกค้านิดหน่อย”

เจ้าคุณบอกให้หญิงสาวได้รู้ว่าไม่ได้คุยอยู่กันแค่สองคนก่อนที่จะพูดขอโทษเพื่อนสาวที่มัวแต่โมโห

หงุดหงิดเรื่องของแขกต่างชาติขี้เมาที่เข้ามาลวนลามธาราจนลืมไปเลยว่าตัวเองนัดเพื่อนเอาไว้

 

     (“อุ๊ย! ทำไมมึงไม่บอกกูแต่แรกห๊ะไอ้คุณ ผู้หญิงสวยๆอย่างกูเสียภาพพจน์หมด สวัสดีค่ะเมีย

เพื่อน ฉันชื่อชมพู่ถ้าคุณยังไม่ลืมก็คนเดียวกันกับที่เข้าไปทักไอ้คุณเมื่อคืนตอนที่อยู่กับคุณนั่นแหละ

ค่ะ แต่คุณไม่ต้องคิดมากหรอกนะคะ เรื่องเมื่อคืนมันแค่ละครฉากนึงเท่านั้นเอง ผู้หญิงสวยๆอย่างฉัน

ไม่เอาผู้ที่หน้าตาไม่ค่อยจะดีอย่างไอ้คุณมาทำสามีหรอกค่ะ เพราะว่ามันโง่ บ้า เถื่อน ถ่อย หาความ

ดีไม่ก็ค่อยจะเจอ เพราะฉะนั้นอย่าคิดมากนะคะ”) หญิงสาวอธิบายทั้งพูดเหน็บแนมเจ้าคุณไปด้วย

 

     “แหม..อีพู่ มึงดีงามมาก ดีงามจนเกินคน! กูโทรมาให้มึงยืนยันกับเมียกูไม่ได้โทรมาให้มึงด่ากู

แค่นี้ก่อนนะแล้วกูจะนัดแก้ตัวอีกที ควาย~~ อีหญิงถึก!” เจ้าคุณว่าเพื่อนอย่างไม่จริงไม่จังนัก

ก่อนจะพูดตัดบทสนทนา ไม่วายที่จะทิ้งท้ายอย่างเจ็บๆคันๆอย่างที่เพื่อนสาวเคยทำแล้วก็ตัดสาย

ทันทีไม่รอให้ปลายสายได้พูดอะไรอีก

 

     “เป็นไง? เคลียร์แล้วนะ” เจ้าคุณหันถามธาราเมื่อโยนโทรศัพท์ทิ้งไปบนเตียงเรียบร้อยแล้ว

 

     “อือ” ธาราตอบในลำคอ บีบมือแน่นด้วยความประหม่า

 

            “เป็นห่าไรก้มหน้าก้มตา เงยหน้าขึ้นมาซิ” ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่เจ้าคุณกลับรั้งใบหน้า

ธาราให้เงยขึ้นมามองด้วยตัวเองซะอย่างนั้น

 

            “เปล่า” ตอบเบาๆหลุบตาต่ำหนีสายตาคมของเจ้าคุณ

 

            “หึๆ เขินกูอ่ะดิ ไม่ต้องเขินไปหรอกเพราะต่อจากนี้มึงต้องอยู่กับกูไปทั้งชีวิต” เจ้าคุณบอกพร้อมกับ

เลื่อนหน้าแนบหน้าผากตัวเองกับหน้าผากธาราเบาๆ

 

            “ใครบอก” ธาราถาม ช้อนตามองตาเจ้าคุณ

 

            จุ๊บ!!!

 

            “กูบอก! เป็นเมียกูแล้วลาออกไม่ได้ ห้ามหนี ห้ามตาย ห้ามมีชู้จนกว่ากูจะอนุญาต” เจ้าคุณจูบ

ริมฝีปากของธาราเบาๆโดยที่ไม่ลุกล้ำ พูดบอกที่เหมือนจะเป็นคำสั่งก่อนที่จะผละออกไปคว้าผ้าเช็ด

ตัวแล้วหายเข้าไปในห้องน้ำทิ้งให้ธารานั่งหน้าแดงใจเต้นแรงอยู่ตรงนั้นคนเดียว

 

            “ไอ้บ้า! ไม่ไถ่ถามสุขภาพซักคำจัดประกันนรกชั้นหนึ่งแบบถาวรให้เสร็จสรรพ” ธารานั่งเกาจมูก

ตัวเองแก้เขิน มองตามหลังเจ้าคุณไปพร้อมกับบนงุ้งงิ้งเบาๆ





...

ได้กำลังใจจากคนอ่านดีเลยมาแบบต่อเนื่อง ย่องมาลงเงียบๆ

เหมือนเดิมค่ะ ตอนต่อไปจะช้าจะเร็วก็ตามแต่แรงศรัทธาของคนอ่าน

รักนะคะ :-[ แล้วเจอกันค่ะ :mew1:


 

 

 

 

 

   

 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 5 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: purpleguy ที่ 10-10-2015 14:51:26
 :z13: จิ้มทันใหม เนี่ย....เมื่อเช้าอ่านตอนที่ 4 กดF5 อีกที เจอตอน ที่ 5  :hao6: ทันด้วยอะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 5 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 10-10-2015 15:13:59
ถึงไม่มีข้อห้ามแม้สักข้อ น้องธารก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างเจ้าคุณอยู่แล้วล่ะ~ :-[
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 5 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 10-10-2015 15:38:50
เอาแล้วสิ น้องธารเริ่มหวั่นไหวซะแล้ว  :-[
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 5 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 10-10-2015 17:04:58
 :-[ :-[ :-[ ฟินนนนนนน
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 5 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 10-10-2015 17:24:18
น่ารักกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 5 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 10-10-2015 18:25:08
แฮปปี้อีกคู่~ ^^
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 5 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 10-10-2015 22:50:25
แอร๊ย เมื่อไหร่จะมีน้องกันเนี่ย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 5 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 11-10-2015 00:49:37
น่ารักนะคู่นี้
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 5 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 11-10-2015 03:13:22
 :-[
อ๊ายยยยย น่ารักกกกกก
 :o8:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 5 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 11-10-2015 12:13:27
ธาราน่ารักอ่ะ ท่าทางได้มีลูกพร้อมกันสองคู่แน่เลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 5 (10/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 11-10-2015 15:45:37
เพิ่งเข้ามาอ่าน ชอบมาก :pig4:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 14 (14/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 14-10-2015 17:48:07
คุณเมียภาคบังคับตอนที่ 14





       "อืมๆ โอเคแล้วเจอกันคืนนี้นะ" พัสกรบอกลาคนปลายสาย



       "ไปไหนคะ? แล้วใครโทรมา" ณัฐภาสที่ทำหน้าที่แทนเก้าอี้เสียสละตักตัวเองให้ภรรยาสุดที่รักนั่งก็ถามขึ้น

เมื่อได้ยินเหมือนว่าภรรยาคนสวยของตัวเองนั้นนัดแนะจะไปไหนกับใครสักคนที่โทรมา



       "กลุ่มเพื่อนพัสนัดรวมกันนะฮะเลยโทรมาบอก" พัสกรเอี่ยวตัวบอกกับคนที่นั่งซ้อนหลังตัวเองอยู่



       "หืม....แต่พี่ได้ยินว่าเจอกันคืนนี้นี่คะแล้วพัสจะไปทันได้ยังไงในเมื่อพวกเพื่อนพัสอยู่กรุงเทพฯกันหมดไม่ใช่หรอ??"

ณัฐภาสถามอย่างสงสัยเพราะก่อนที่พัสกรจะวางสายก็จำได้ว่านัดกันคืนนี้นี่แล้วจะเจอกันได้ยังไงในเมื่อกลุ่มเพื่อนของ

พัสกรอยู่กรุงเทพฯกันทั้งนั้นนี่เท่าที่พัสกรเคยเล่าให้ตัวเองฟัง



       "พวกนั้นอยู่กรุงเทพฯกันก็จริงฮะพี่ภาสแต่ทริปนี้เขาจัดกันที่ภูเก็ตฮะแถมตอนนี้ทุกคนก็มาถึงภูเก็ตกันแล้วด้วย"



       "อ่า....อย่างนั้นเองหรอ แล้วนี่พวกเพื่อนพัสนัดเจอกันที่ไหนคะ?"



       "ก็ร้านชิวๆหรือผับที่ไหนสักที่ ที่ๆไม่ใช่ผับของสามิสามีนะฮะ เพราะว่าวันนี้เมียจ๋าจะหนีเที่ยว คึคึ" พัสกรแกล้งบอก

พร้อมกับดึงแขนทั้งสองข้างของณัฐภาสที่กอดรั้งเอวตัวเองไว้อยู่ออก ก่อนจะรีบลุกเดินออกจากบริเวณนั้น



       "อ่าว! ได้ไงอ่ะ! แล้วนั่นพัสจะไปไหน!!!" ณัฐภาสโวยขึ้นทันทีเมื่อพัสกรบอกอย่างนั้นและรีบลุกเดินตามภรรยาที่เดิน

หนีออกไปเพื่อถามให้แน่ใจอีกครั้งว่าพัสกรพูดจริงหรือพูดเล่นกันแน่



       "ก็ทำอาหารไงฮะหรือพี่ภาสจะไม่ทานข้าวฮึ? นี่ปาเข้าไปจะบ่ายสองแล้วนะฮะเรายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย" พัสกรหยุด

เดินและหันกลับมาถามบ้างเมื่อเห็นสามีเดินตาม



     "กินซิครับ!! ตั้งแต่บ่ายเมื่อวานก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย พี่หิ๊วหิว!!" ณัฐภาสบอกพร้อมกับลูบท้องตัวเองไปด้วยว่าเขานั้น

หิวมากอย่างที่พูดจริงๆ



       "แล้วมันเป็นเพราะใครกันล๊ะ!!" พัสกรทำหน้าดุถามเสียงแข็ง



       "แหะๆ มันเป็นเพราะพี่เองครับ ก็นะ เมียจ๋าอร่อยๆกินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม" ณัฐภาสหน้าเจื่อนหัวเราะแหะๆอย่างยอมรับผิด

เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเป็นเพราะความเอาแต่ใจของเขานั้นเองที่ทำให้เขาสองคนต้องหิ้วท้องว่างๆมาถึงจนป่านนี้ และที่พัสกรต้อง

ไปทำอาหารอย่างนี้ก็เป็นเพราะว่าพัสกรขอทำอาหารของเขาสองคนเองแทนที่จะให้แม่บ้านทำเหมือนทุกที เพราะอย่างแรกเลย

คือเขาว่างเพราะคุณสามียังไม่ให้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักทีและสองคือเขาชอบทำอาหารไงก็เลยขอทำเอง จนหลังๆมาณัฐภาส

เองก็คงจะติดรสชาติอาหารในแบบของเขาด้วยเลยพลอยไม่ยอมทานอาหารฝีมือแม่บ้านอีกเลย หรือพูดง่ายๆก็คือถ้าไม่ใช่ฝีมือ

ของเมียพี่ภาสคนนี้ก็ไม่กิน



       "มันน่าให้อดนัก!!!" พัสกรพูดทิ้งท้ายอย่างค่อนขอดก่อนที่จะเดินหนีไปทำกับข้าวในครัวคนเดียวโดยที่ไม่ได้สนใจ

คุณสามีที่ยืนทำหน้าหงอยเหมือนลูกหมาถูกเจ้าของทิ้งอีกเลย



(ช่วงคุยกันสักนิดกับปัญหาแม่บ้านของสมาคมเมียๆ : พัสกร)



       หลังจากวันนั้นวันที่ผมและพี่ภาสได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ทั้งทางพฤตินัยและนิตินัยแล้ว มาจนถึงวันนี้

ก็ผ่านมาแล้วสองเดือนกว่าๆ และไอ้สองเดือนกว่าๆสำหรับผมเนี่ยมันเป็นอะไรที่แตกต่างมากๆเลยกับก่อนหน้านี้ ก่อน

หน้าที่เราจะจิ๊จ๊ะกันอะน่ะ เพราะพี่ภาสที่ขรึมๆแมนๆแสนสุภาพบุรุษได้หายไปแล้วจะเหลือก็แต่ไอ้สามีจอมหื่น บ้ากาม

สาวแตกของผมนี่แหละ คนบ้าอะไรขยันปั้มลูกบ่อยมากกว่ากินข้าวซะอีก พัสกรคนนี้ล่ะเพลีย!!



คำถาม : มีคนถามมาว่าวันนั้นหนูพัสแกล้งเมาหรือเปล่า??

พัสกรตอบ : อืม..วันนั้นพัสไม่ได้แกล้งเมาหรอกฮะ เมาจริงๆเลยล่ะ แต่สาเหตุที่เมาน่ะหรอ? อ๊าก! เขินอ่ะ คือแบบว่า

แบบพัสอ่ะโดนคุณปู่ย่าเลี้ยงให้โตมาอย่างคนที่พร้อมจะเป็นภรรยาและแม่ที่ดีใช่ป่ะล่ะ อือ..ก่อนหน้านี้ตอนที่เรายังทะเลาะ

พัสก็คิดอยู่นานว่าหลังจากนี้ควรจะทำยังไงกันต่อไปดี แล้วถ้าเราจะคืนดีหรือต้องแยกกันจริงๆจะต้องทำยังไง แล้วทีนี้

พี่ภาสก็มาง้อและอธิบายให้ฟังว่าความจริงมันเป็นยังอย่างที่พวกคุณก็รู้ๆกัน และเป็นเพราะเวลาและสถานะการณ์ที่เอื้ออำนวย

บวกกับความแน่ใจในความรู้สึกลึกๆของพัสจริงๆที่มั่นใจแล้วว่าคนนี้นี่แหละที่พัสรักและอยากจะฝากชีวิตตัวเองไว้กับเขา

ตลอดไปพัสก็เลยเลือกที่จะมอมตัวเองซะเลยโดยมีพี่คุณเป็นข้ออ้างในการดื่มในครั้งนี้ และอีกอย่างที่สำคัญเลยคือคำสอน

ของคุณย่าที่แว๊บเข้าวาในหัว ณ ตอนนั้น



คำถาม : คำสอนที่ว่านั้นคืออะไร? พอจะบอกกับเราได้มั้ย?

พัสกรตอบ : อืม...มันคือคำเรื่องการมัดใจสามีให้อยู่หมัดนะฮะ! คุณย่าเคยบอกไว้ว่านอกจากเรื่องงานบ้านงานเรือนแล้ว

เรื่องในมุ้งก็เป็นอีกเรื่องนึงที่เป็นเรื่องสำคัญและขาดไม่ได้สำหรับชีวิตคู่ ท่าน(คุณย่า)เคยบอกไว้ว่าอย่าให้สามีขาดหรืออด

ในเรื่องนี้ถ้าไม่อยากให้เขาไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย ต่อให้กระดากหรืออายแค่ไหนก็ต้องทำเพราะว่าถ้าเขาเต็มที่และอิ่มที่เรา

แล้ว เขาก็จะไม่ขาดและต้องการเรื่องอย่างนี้กับคนอื่นอีก และยิ่งคนเจ้าชู้อย่างพี่ภาสที่เคยเปลี่ยนผู้หญิงยิ่งกว่าเปลี่ยน

กางเกงในแล้วด้วย พวกคุณคิดว่าเขาจะเป็นยังไงถ้าขาดเรื่องพวกนี้ไปนานๆ จะอยู่โดยที่ไม่มีอะไรกับใครไปนานๆได้หรือ?

ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจ แต่ว่าสันดานมันก็คือความเคยชินของคน ถ้าขาดมันมากๆ เหมือนกันกับที่เราจะต้องกินข้าวทุกวันแต่ก็จำ

เป็นที่จะต้องอดมันไปนานๆพอทนไม่ได้ทนไม่ไหวเข้าก็จะระเบิดออกมาและจะยิ่งต้องการกว่าเดิมเสียอีก หรือไม่จริง?

บางคนอาจจะเถียงว่าไม่จริงก็ได้ แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่านี่คือความคิดและความเชื่อส่วนตัวของผม



คำถาม : หมายความว่าไม่เชื่อใจสามี?

พัสกรตอบ : อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ฮะ ว่าเชื่อใจและก็รักพี่ภาสมากพอที่จะฝากชีวิตของตัวเองไว้ในความดูแลของเขา

แต่ความรักของผมจะให้ใช้แค่ความรู้สึกไม่พอมันต้องมีสมองด้วย รักนะรักได้ฮะแต่อย่าหลงระเริงไปกับมันและใช้ความคิด

สัญชาตญาณและความรักความรู้สึกแยกแยะและคำนวนให้สมเหตุสมผลไปใช้ในชีวิตคู่ใช้ในการดำรงชีวิตครอบครัวให้

มีความสุขและอยู่รอดตลอดรอดฝั่งจะดีกว่านะฮะในความคิดของผม



คำถาม : มีคนบอกว่าคุณเรียบร้อยและดีเกินไปสำหรับสามีคุณ?

พัสกรตอบ : ฮึๆ...พวกคุณเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วฮะ ความจริงแล้วผมไม่เรียบร้อยอย่างที่เห็นผ่านๆมาหรอกฮะ จะว่ายังไงดีล่ะ

เอาเป็นว่าก่อนหน้านี้มันเป็นการแสดงน่ะฮะแต่ไม่ใช่การเสแสร้งให้ตัวเองดูดีหรอกนะฮะ ผมว่าพวกคุณก็คงจะเป็นเหมือนกัน

เวลาอยู่ต่อหน้าหรือเพิ่งพบเจอกับคนที่ไม่เคยรู้จัก จะเรียกว่ายังไงดีล่ะ อืม..เอาเป็นว่ามันเป็นแค่การวางตัวที่ดีในการที่เจอ

คนใหม่ๆในสถานที่ใหม่ๆก็แล้วกันฮะ



คำถาม : แล้วนิสัยจริงๆของคุณคือ?

พัสกรตอบ : อืม..คำถามนี้ยากแหะ จะให้มาบอกนิสัยของตัวเองมันก็คงจะไม่ได้หรอกฮะเพราะความคิดของคนเราไม่เหมือนกัน

ถ้าผมบอกว่าดีแต่ดีในแบบของผมแต่กลับร้ายในสายตาของคนอื่น ก็จะกลายเป็นว่าผมอวยตัวเองไปเลยนะน่ะ เอาเป็นว่า...

ผมดีเป็นบางครั้งและร้ายเป็นบางคลาแล้วแต่สถานะการณ์ในตอนนั้นแล้วกันนะฮะ คนเรามันต้องหลายหลายความรู้สึก

หลากหลายกริยาการกระทำซิฮะถึงจะคุ้มที่เกิดมา อย่างผมเนี่ยมีฝั่งนึกบอกว่าแสนดี เรียบร้อย น่ารัก น่าทะนุถนอม แต่กลับ

อีกฝ่ายก็บอกว่าผมนิสัยไม่ดีเลย เอาแต่ใจ ร้ายกาจ อะไรประมาณนั้นเห็นไหมครับว่าคนเรามันมีหลายๆแนวในคนๆเดียวกัน

นี่แหละอยู่ที่ว่าเราจะเอานิสัยยังไงมาใช้ตอนไหนถูกที่ถูกเวลาหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นอย่ายึดติดและคิดว่าคนนั้น

จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เลยฮะ



คำถาม : นิสัยอะไรของสามีที่คุณอยากจะให้เปลี่ยน? และเพราะอะไร?

พัสกรตอบ : มีแค่ข้อเดียวเท่านั้นแหละฮะคือ เรื่องหื่น!! เพราะอย่างที่เคยบอกไปว่าไอ้พี่ภาสสามีสุดที่รักของผมนั้นมันหื่นมาก

เดี๋ยวนี้ขยันปั้มลูกบ่อยมากกว่าการกินข้าวซะอีก มันเป็นอะไรที่ภรรยาอย่างผมเหนื่อยและเพลียมากถึงมากที่สุด!! พูดแล้วก็

อยากจะคลั่ง อย่างครั้งที่ผ่านมาล่าสุดก็เมื่อวานนี้เอง เรื่องมันมีอยู่ว่า

.

.

.

.

.

#ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้



       วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดีที่ผมจะจัดสวนรอบซุ้มนั่งเล่นหลังบ้านให้สบายตากว่าเดิมสักทีหลังจากที่ไปซื้อต้นไม้ทั้งไม้ดอก

ไม้ประดับกับพี่ภาสมาตั้งแต่สองอาทิตย์ที่แล้วๆก็ไม่ได้ทำสักทีเพราะจะอะไรซะอีกล่ะถ้าไม่ใช่ว่าโดนคุณสามีกวนอยู่แทบจะ

ตลอดเวลา และวันนี้ก็ได้ฤกษ์สักทีเพราะว่าคุณสามีของผมไปธุระเรื่องบริษัทกับเจ้าสัวชัชวาลย์คุณพ่อของเขานั้นแหละ ผม

เลยมีเวลาที่จะมาจัดสวนสักที การจัดสวนปลูกต้นไม้เป็นอะไรที่ผมชอบทำมากรองจากการทำอาหารหรือทำขนมเลยนะ!!



       พัสกรใช้เวลาทั้งหมดในช่วงเช้าจนถึงเวลาบ่ายกว่าๆไปกับการจัดสวนรอบซุ้มนั่งเล่นหลังบ้านในแบบที่ตัวเองต้องการ

ไปอย่างเพลิดเพลิน จนลืมเวลาและไม่ทันได้ยินเสียงรถของสามีที่ขับแล่นเข้ามาทางหน้าบ้าน



       "ทำไมบ้านเงียบอย่างนี้อ่ะสร้อย แล้วนี่คุณพัสไปไหน?" ณัฐภาสถามขึ้นทันทีเมื่อเข้าบ้านมาแล้วเจอเพียงหลานแม่บ้าน

เพียงคนเดียวที่ออกมาต้อนรับตัวเองและไม่เห็นภรรยาคนสวยที่คอยมาต้อนรับอย่างทุกๆครั้งที่ได้ยินเสียงรถของเขาแล่นเข้า

มาภายในบ้านเมื่อเวลาที่เขาออกไปไหนคนเดียว



       "คุณพัสจัดสวนอยู่กับนายสนที่ซุ้มหลังบ้านน่ะคะ" สาวใช้ที่เป็นหลานแม่บ้านเก่าแก่ของบ้านเจ้าสัวชัชวาย์ที่

เจ้าสัวชัชวาลย์ยกให้มาช่วยดูแลความเรียบร้อยของบ้านนี้บอก เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วณัฐภาสก็เดินตรงไปหาภรรยาสุดที่รัก

หลังบ้านเลยทันที





       ส่วนทางด้านของพัสกรที่จัดสวนรอบซุ้มนั่งเล่นจนจวนจะเสร็จแล้วนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเมื่อได้ทำในสิ่งที่ชอบ

และจัดออกมาได้อย่างที่ตัวเองต้องการโดยที่ไม่ทันได้รู้เลยว่าสามีจอมหื่นของตัวเองนั้นกลับมาถึงบ้านแล้ว



       "สนไปพักทานข้าวเถอะเหนื่อยมาทั้งวันแล้วเดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง" พัสกรบอกกับนายสนที่มีหน้าที่ทำสวนและ

ดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านบวกกับตำแหน่งลูกน้องคนสนิทของณัฐภาสที่ณัฐภาสรักและเอ็นดูสนเหมือนกับน้องชายแท้ๆ

ของตัวเอง เมื่อมองดูนาฬากาที่ข้อมือแล้วเห็นว่าเลยเวลามื้่อเที่ยงมานานแล้วก็เลยพูดบอกให้สนไปพักเพราะว่าทางนี้ก็จะเสร็จ

แล้วเหลือเพียงแค่รดน้ำต้นไม้อีกนิดหน่อยเท่านั้นเอง

     

       "เดี๋ยวให้ผมช่วยคุณพัสให้เสร็จเลยดีกว่า เดี๋ยวลูกพี่มาเห็นคุณพัสทำคนเดียวผมได้โดนเตะแน่ๆ โทษฐานที่ปล่อยให้เมีย

ลูกพี่จัดสวนคนเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้นตาย ไอ้สนตายแน่ๆ" สนพูดบอกติดตลกแต่ก็เสียวๆสันหลังกลัวโดนลูกพี่ตัวเองเตะ

เอาจริงๆเหมือนกัน



       "เอาน่าาา..อย่าคิดมากน่า เดี๋ยวมีอะไรฉันรับผิดชอบเอง รับรองว่าไม่ให้สนโดนลูกพี่ของสนเตะแน่ๆ และตรงนี้ก็เหลือ

แค่รดน้ำต้นไม้พวกนี้อีกนิดหน่อยเท่านั้นเอง สนไปทานข้าวเถอะ อีกอย่างที่สำคัญเลยนะฉันอยากนั่งคุยกับต้นไม้เงียบๆ

คนเดียวต่ออีกสักพักน่ะนะ" พัสกรบอกยิ้มขำ เมื่อเห็นสีหน้างงของสนตอนที่เขาบอกจะนั่งคุยกับต้นไม้แต่ก็ยอมเก็บอุปกรณ์

ทำสวนและเดินออกไปเลยเหมือนกัน คนอาจจะมองหรือรู้สึกแปลกที่เขาบอกว่าจะคุยกับต้นไม้ แต่เขาก็ไม่สนใจหรอก

ในเมื่อมันเป็นความสบายใจอย่างหนึ่งของเขาเวลามีเรื่องอะไรที่เขาไม่สามารถพูดหรือบอกกับใครได้เขาก็เอามาคุยกับต้นไม้

นี่แหละเพราะถึงมันจะไม่รับรู้หรือตอบกลับได้แต่มันก็เป็นที่พึ่งช่วยฟังอย่างเงียบๆเวลาที่เขาพูดระบายออกไปได้ดีเลยจริงๆ



     พัสกรยืนฮัมเพลงรดน้ำต้นไม้อย่างเพลิดเพลินอารมณ์ดีซะจนไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้อยู่ในสวนหลังบ้านนี้คนเดียว

อีกต่อไปแล้วเพราะณัฐภาสสามีของเขานั้นเดินย่องมายืนซ้อนหลังของเขาอยู่แล้วตอนนี้



       "ทำอะไรนะหนูพัส!!!!" ณัฐภาสแกล้งตะโกนเสียงดังใส่พร้อมกับตะปบกอดเอวของพัสกรอย่างแรงจนทำให้พัสกร

ตกใจจนเผลอทำสายยางที่รดน้ำต้นไม้อยู่หลุดมือตกไปที่พื้น และเพราะแรงดันน้ำที่เปิดทำให้สายยางส่ายสะบัดไปตามแรง

อย่างไม่รู้ทิศทางจนทำให้ทั้งณัฐภาสและพัสกรเปียกมะลอกมะแลกไปตามๆกัน เมื่อตั้งตัวได้พัสกรก็รีบเดินไปปิดวาล์วน้ำ

เลยทันที



       "พี่ภาสอ่ะ!! เล่นอะไรไม่รู้เรื่องดูสิเปียกกันหมดเลย!!" พัสกรบ่นขึ้นเมื่อเดินกลับมาหาสามีหลังจากที่ปิดวาวล์น้ำ

เสร็จแล้ว และก็เพราะว่ามัวแต่บ่นณัฐภาสเลยทำให้พัสกรไม่ทันได้เห็นแววตาหื่นกระหายของสามีตัวเองเลย



       "อืม...เอาเป็นว่าพี่ขอโทษนะคะที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง ตอนนี้เราขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเถอะนะคะ ปล่อยให้ตัวเปียก

ตากแดดแรงๆอย่างนี้นานๆจะป่วยเอา" ณัฐภาสทำหน้าหงอยๆพูดเหมือนสำนึกผิดจริงๆ แต่ใจนี่คิดไปไกลแล้วเมื่อเห็นสภาพ

เซ็กซี่ของภรรยาตัวน้อยของตัวเอง ด้วยความที่ว่าวันนี้พัสกรตั้งใจที่จะจัดสวนอยู่แล้วตั้งแต่แรกเมื่อได้รู้ว่าสามีจะไม่อยู่บ้าน

เลยเลือกชุดที่เก่าที่สุดมาใส่เพราะรู้อยู่ว่าตัวเองว่าปลูกต้นไม้เมื่อไหร่ก็เปื้อนเมื่อนั้น เลยได้เสื้อยืดเก่าๆสีขาวกับกางเกงนอน

ขาสั้นสีดำที่ตั้งใจจะทิ้งแล้วยังไม่ได้ทิ้งมาใส่ในวันนี้ และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ต่อมหื่นของณัฐภาสแตกทันทีเมื่อเห็นพัสกร

ในตอนที่เปียกน้ำอย่างนี้ เสื้อยืดสีขาวที่ใส่อยู่ก็แนบเนื้อให้เห็นผิวขาวข้างในเลยเมื่อเปียกอย่างนี้ แถมยังขาสั้นสีดำที่ส๊านสัน

นั่นอีก แค่เห็นแค่นี้ณัฐภาสก็คิดไปไกลแล้ว



       "อ๊ะ!! พี่ภาสเข้ามาทำไมเนี่ย!!!" พัสกรโวยขึ้นเพราะในขณะที่เขายืนล้างตัวอยู่ใต้ฝักบัวอาบน้ำนั้นก็รู้สึกถึงแรงกอดรัด

จากข้างหลังและเมื่อหันไปแล้วเห็นว่าเป็นใครก็โวยขึ้นทันที ในเมื่อตอนแรกตกลงกันแล้วว่าจะให้เขาอาบก่อนและณัฐภาส

อาบต่อจากเขาที่หลัง แต่นี่อยู่ๆเจ้าตัวก็เข้ามากอดเขาหน้าตาเฉยเลยแถมยังตัวเปลือยเปล่าเหมือนกันอีกและที่สำคัญพอณัฐภาส

กอดเขาอย่างนี้แล้วเนื้อตัวได้สัมผัสกันก็ทำให้รู้เลยว่าสามิสามีคนดีของเขานั้นมีอารมณ์ต่อมหื่นแตกอีกแล้ว!!!!



       "พัสก็หน้าจะรู้นี่คะว่าพี่เข้ามาทำไม" ณัฐภาสบอกเสียงแตกพร่าพร้อมเป่าลมร้อนรดต้นคอพัสกรเบาๆจนพัสกรขนลุกขนชัน



       "แต่เมื่อคืนก็พึ่งทำ....อื้อออออออ" ยังไม่ทันที่พัสกรจะได้ท้วงติงอะไร ก็โดนณัฐภาสจับหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากันและ

ประกบจูบอย่างร้อนแรงเลยในทันที โดยที่พัสกรได้แต่ร้อมอู้อี้อยู่ในลำคอ ลิ้นร้อนไล่ต้อนเกี่ยวรัดลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อน จนพัสกร

เริ่มมีความรู้สึกวาบหวิวต้องการขึ้นมาบ้างเลยจูบตอบกลับไปบ้างเหมือนกัน และนั่นทำให้ณัฐภาสถูกใจไม่น้อย จากเด็กน้อย

ที่ไม่ประสีประสาเรื่องอย่างว่าในวันนั้นก็สามารถตอบกลับและรับแรงอารมณ์ของเขาได้อย่าดีไม่มีที่ติและไม่เคยทำให้รู้สึกเบื่อ

เหมือนอย่างคนที่ผ่านๆมาเลย มีแต่ทำให้ลุ่มหลงขึ้นทุกวัน ยอมรับอย่างลูกผู้ชายเลยว่าอดีตคาสโนว่าอย่างเขานั้นหลงเมียจน

หน้ามืดเลยทีเดียว ไม่ว่าเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ



     "อ๊ะ! อื้ออออออ" พัสกรร้องครางออกมาเมื่อณัฐภาสบีบขยำก้นนุ่มของเขาอย่างแรง พร้อมทั้งผละปากซุกไซ้คอขาวอย่าง

กระหาย ขบกัดและดูดเม้มทิ้งรองรักสีกุหลาบไว้ประปรายทั่วทั้งลำคอขาวท่ามกลางสายน้ำที่ไหลลงมาจากฝักบัวอย่างไม่

ขาดสาย



       "อ๊ะ! ทำอะไรน่ะพี่ภาส!!!" พัสกรถามอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆณัฐภาสก็อุ้มตัวของเขาขึ้นจนตัวลอยอย่างไม่บอกไม่กล่าว

ทำให้เขาผวาใช้ทั้งแขนทั้งขากอดรัดณัฐภาสด้วยความตกใจ เลยทำให้สภาพตอนนี้ของเขาทั้งสองคนนั้นเหมือนลูกลิง

กอดแม่ก็ไม่ปาน

 

       "กอดให้แน่นๆนะคะที่รัก" ณัฐภาสขยับดันหลังพัสกรให้ชิดแนบกับผนังห้องน้ำพร้อมทั้งกระซิบบอกเบาๆ สองมือแกร่ง

จับกระชับสะโพกมนไว้แน่น นิ้วร้อนของณัฐภาสกดนวดปากทางเข้าอยู่ซักพักาก่อนที่จะกดเข้าไปสำรวจและขายช่องทาง

จนมันพร้อมที่จะรับตัวตนของเขาได้แล้ว



       "อ๊าาาาาาาาาาา" พัสกรผวาร้องครางออกมาเสียงดังเมื่อณัฐภาสเลื่อนมือมาโอบเอวของเขาจับตัวเขากดลงพร้อมกับ

สวนสะโพกดันตัวตนของตัวเองเข้าไปในช่องทางของพัสกรอย่างแรงจนพัสกรร้องเสียงหลง ณัฐภาสซุกหน้าดูดดุนยอดอก

สีสวยของพัสกรที่ล่อตาล่อใจอยู่ตรงอย่างมันเขี้ยว โดยที่สะโพกแกร่งทำงานได้อย่างดีไม่มีตกกระแทกเข้าออกอย่างเน้นๆ



     "อ่าาาาาา แมร่ง! โคตรดี" ณัฐภาสสบถเสียงหื่นพร้อมทั้งอุ้มพัสกรเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ากระจกตรงอ่างล้างหน้าทั้งๆที่

ส่วนที่เชื่อมต่อยังไม่หลุดออกจากกัน ณัฐภาสถอดตัวตนออกทั้งอุ้มพัสกรลงจากตัวตัวเองก่อนที่จะจับพัสกรหันหน้าเข้า

กระจกและหันหลังให้ตัวเอง



       "มองตัวเองดีๆนะที่รัก" ณัฐภาสบอกพร้อมทั้งจับตัวตนตัวเองจ่อเข้าไปในช่องทางก่อนจะขยับเข้าออกอย่างหนักหน่วง

และต่อเนื่องทันที ไม่ทันที่จะให้พัสกรได้พักหายใจเลย



      "อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อื้ออออออออ" พัสกรได้แต่ร้องครางออกมาตามจังหวะการกระแทกของณัฐภาสเพียงเท่านั้น ณัฐภาสจับรั้ง

หน้าพัสกรให้หันไปหาตัวเองพร้อมก้มประกบจูบอย่างกระหาย ไม่เลย เขาไม่เคยที่จะเต็มอิ่มอย่างนี้เลยไม่ว่ากับใคร

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วเข้าใจดีเลยด้วยว่าเมคเลิฟกับเซ็กส์นั้นแตกต่างอย่างไร ความสุขที่เขาได้รับนั้นมันต่างกันมากเลยทีเดียว

การเมคเลิฟกับพัสกรภรรยาตัวน้อยของเขานั้นไม่ว่าเมื่อไหร่มันก็ทำให้เขานั้นสุขได้ทั้งกายทั้งใจรู้สึกเต็มอิ่มมากจนไม่สามารถ

ไปมีความรู้สึกกับใครได้อีกเลย



       "อ๊ะ อ๊ะ อ๊างงงงงงงงงงงง" พัสกรร้องครางออกมาจนสุดเสียงเมื่อปลดปล่อยออกมาโดยที่เขาหรือณัฐภาสไม่ได้แตะต้อง

ตัวตนของเขาเลยแม้แต่น้อย



       "อ่าาาาาาาาาาาาาา" ณัฐภาสครางอยู่ในลำคอ เมื่อปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในช่องทางของพัสกรจนหมด ก่อนจะทิ้งพลุบ

หน้าซบลงกับหลังพัสกรอย่างเหนื่อยหอบทั้งๆที่ยังไม่ได้ถอดถอนตัวตนออกมาจากช่องทางรักของพัสกร

.

.

.

.

.

กลับมาปัจจุบัน



       "อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาาาาาาาาา"

 

       "อืมมมมมมมมมมมม" ณัฐภาสขยับสะโพกอีกสามสี่ทีก่อนที่จะดึงตัวเองออกพร้อมกลับทิ้งตัวลงนอนข้างๆพัสกร

ที่นอนคว่ำหอบตัวโยนเพราะความเหนื่อยจากบทรักเมื่อสักครู่นี้



       "อื้อ....ไม่เอาแล้วนะพี่ภาสเดี๋ยวพัสไม่มีแรง ไปเจอเพื่อนไม่ได้อีก" พัสกรบอกพร้อมใช้มือยันหน้าสามีออกที่ตอนนี้

พยายามที่จะจูบจะฟัดเขาอยู่นั่นแหละ ทำไมถึงมาอยู่สภาพนี้นะหรอ? ก็หลังจากที่ทานมื้อเช้าตอนบ่ายสองกันเสร็จแล้ว

เขาก็ทิ้งให้ณัฐภาสนั่งงอลอยู่ในครัวเรื่องที่เขาแกล้งบอกว่าจะไม่ยอมให้เจ้าตัวไปเจอเพื่อนของเขาในคืนนี้ด้วยก็เท่านั้น

ใครจะคิดล่ะว่าขณะที่เขาหนีขึ้นมาเลือกเสื้อผ้าของเขาและณัฐภาสสำหรับใส่ในคืนนี้อยู่ดีๆเจ้าตัวจะมาขู่ขอไปด้วยโดย

ใช้วิธีนี้ล่ะ แล้วเป็นไงน่ะหรอ? ก็เสียไปสองรอบไง และไอ้สองรอบเนี่ยของณัฐภาสนะของเขาอ่ะไม่ทันได้นับ พัสกรล่ะ

อยากจะบ้า!!! ไม่รู้ว่าสามีจะหื่นไปถึงไหน!!!



...

มาแบบมึนๆอย่างอึนๆ แต่ก็มาเพราะความคิดถึงนะ

#กอดดดดดดดด(แน่นๆ) :กอด1:



 





 







 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 14 (14/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 14-10-2015 18:22:42
ขยันทำการบ้านแบบนี้ เบบี๋กำลังจะมาใช่
ไหมน้อ~ ^^
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 14 (14/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-10-2015 18:57:29
พอได้หื่นก็หื่นไม่หยุดเลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 14 (14/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-10-2015 21:23:27
มีสามีหื่นต้องทำใจนะพัส
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 14 (14/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: KS.F ที่ 14-10-2015 21:37:21
หื่นๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 14 (14/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 15-10-2015 07:37:21
หื่นอย่างนี้ เห็นทีจะลูกดก 55555
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 14 (14/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 16-10-2015 21:02:19
ดึกๆมี่จะเอามาลงให้นะคะ แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะดึกแค่ไหน

ยังไงก็รอลุ้นกันเอานะคะ (มี่พยามเร่งให้เต็มที่เลย):katai4:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 15 (16/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 17-10-2015 02:24:19
นาลอ่คุณเมียภาคบังคับตอนที่ 15









       Tru...Tru...Tru



       เสียงโทรศัพท์ของณัฐภาสดังขึ้นไม่ดังมากนักในขณะที่เขาทั้งสองคนอยู่ในรถซึ่งกำลังเดินทางไปตามนัดของ

กลุ่มเพื่อนพัสกรหลังจากที่ตกลงกันได้แล้วว่าจะไปด้วยกัน แต่กว่าที่จะตกลงกันได้นั้นพัสกรก็ต้องเหนื่อยเพราะช่วย

สามีทำภารกิจปั้มลูกไปอีกสองรอบเต็มๆ ทั้งๆที่ตอนแรกก็ตั้งใจจะพาณัฐภาสไปแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนตัวเองด้วยอยู่

แล้ว แต่ด้วยความที่อยากจะแกล้งให้สามีนอยด์เล่นๆสักหน่อยจึงบอกว่าจะไปคนเดียวโดยไม่พาเจ้าตัวไปด้วยและผล

สุดท้ายเป็นไงน่ะหรอ? ฮึ! แทบตาย!!



       "พี่คุณโทรมาอ่ะ" พัสกรหยิบโทรศัพท์ของณัฐภาสขึ้นมาโชว์หน้าจอให้เจ้าของดูว่าเป็นใครที่โทรมา เพราะโทรศัพท์

ณัฐอยู่กับตัวเองและเจ้าของกำลังขับรถอยู่



       "รับแล้วเปิดลำโพงเลยค่ะ"  ณัฐภาสบอก



       ("ไอ้ภาสเว้ย!!! ไอ้ภาส!!!") เสียงเจ้าคุณตะโกนโหวกเหวกเสียงดังมาตามสายทันทีเมื่อพัสกรรับสายและเปิดลำโพง

ถือยื่นไปทางณัฐภาส



       "เออ! มีไร กูขับรถอยู่" ณัฐภาสบอกทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาออกจากถนน



       "เมียกู!! เมียกูท้อง!!! กูจะเป็นพ่อคนแล้วเว้ยยยยยยย!!!!" เสียงของเจ้าคุณตอบกลับมาอย่างดังเหมือนกับเจ้าตัวนั้น

ตะโกนคุยอยู่ก็ไม่ปาน แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดเลยคือน้ำเสียงของเจ้าคุณที่พูดออกมานั้นมันแฝงไปด้วยความดีใจเป็นอย่าง

มากจนคนได้ยินก็รู้สึกดีใจตามไปด้วย



       "เออ!! กูยินดีด้วยเว้ย เอาไว้ค่อยคุยกันที่หลังนะมึง กูขับรถอยู่" ณัฐภาสบอกยินดีจากใจจริงก่อนจะหันมองหน้าภรรยา

คนสวยที่เหมือนจะนิ่งไปเลยหลังจากที่วางสายจากเจ้าคุณไปแล้ว ส่วนเรื่องของเจ้าคุณกับธาราเขาเองก็ยังไม่รู้อะไรมากนัก

หรอก แต่ก็พอจะรู้ว่าสองคนนั้นอยู่ในสถานะไหนแม้ว่าเจ้าคุณจะไม่ได้พูดไม่ได้บอกอย่างชัดเจนก็ตาม ในเมื่อเพื่อนไม่บอก

เขาก็ไม่ถามเพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของใครของมันและจะไม่ก้าวก่ายกัน และก็อดที่จะตกใจไม่ได้เหมือนกันว่าธารา

อดีตเพื่อนรักของเขาจะเป็นผู้ชายท้องได้เหมือนกันกับพัสกรล



       "เป็นอะไรหรือเปล่าคะ? ทำไมถึงเงียบอย่างนี้ล่ะ" ณัฐภาสเอื้อมมือข้างนึงมากุมมือของพัสกรที่วางอยู่บนตักของเจ้าตัว

ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าภรรยาของตนนั่งก้มหน้านิ่งเงียบไปเลยหลังจากที่วางสายเจ้าคุณไป



       "เปล่าครับ" พัสกรตอบเสียงนิ่ง



       "ถ้าไม่ได้เป็นอะไรจริงๆก็เงยหน้ามามองพี่หน่อยสิครับ หรือสามิสามีคนนี้ไม่หล่อแล้วเมียจ๋าถึงไม่อย่ากมอง"

ณัฐภาสพูดถามอย่างทีเล่นทีจริงหวังว่าจะให้ภรรยาคนสวยเลิกคิดในสิ่งที่อยู่ในใจเสียที เมื่อหันมองพัสกรอีกครั้งและ

ได้เห็นสีหน้าด้านข้างหม่นๆของภรรยา ก็พอจะเดาได้บ้างว่าพัสกรคิดอะไรอยู่



       "คิดเรื่องลูกหรอคะ?" ณัฐภาสตัดสินใจถามออกไปตรงๆ เมื่อพัสกรยังคงไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างที่เขาต้องการ



       "พี่ภาสรู้หรอ" พัสกรเงยมองหน้าณัฐภาสถามอย่างประหลาดใจ



       "ก็ต้องรู้สิคะพัสเเป็นเมียพี่ทั้งคนนะ ถึงเราจะอยู่ด้วยกันมาไม่นานแต่พี่ก็รู็ทุกอย่างแหละว่าเมียพี่ต้องการอะไรหรือ

รู้สึกยังไงอ่ะ เพราะถ้าไม่รู้นี่พี่คงจะเป็นสามีที่แย่มากเลยนะ! ถึงแม้ว่าจะเคยก็เถอะ!" ณัฐภาสพูดติดตลกในประโยคสุดท้าย



       "พัสแค่คิดว่าถ้าพัสท้องบ้างก็คงจะดี พี่ภาสเองก็คงจะดีใจไม่ต่างกับพี่คุณ" พัสกรบอกเสียงแผ่ว



       "ก็ต้องดีใจสิ พี่จะดีใจมากๆเลยล่ะถ้าพัสท้องน่ะ แต่เราจะไปกะไปเกณฑ์ให้เป็นอย่างที่ใจหวังไม่ได้หรอกนะครับ

ในเมื่อมันยังไม่ถึงเวลาของเราของคน ต่อให้พี่ขยันทำการบ้านกว่านี้สักร้อยเท่าถ้ามันไม่ใช่วันของเรายังไงเขาก็ไม่มา

เข้าใจที่พี่พูดใช่ไหมครับ?" ณัฐภาสพูดบอกพร้อมกับบีบมือพัสกรเบาๆ



       "พัสเข้าใจครับแต่ก็อดที่จะนอยด์ไม่ได้ ไม่รู้ว่าทำไมได้ถึงรู้สึกแย่อย่างนี้พัสก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน" พัสกรพูดบอก

เมื่อรู้สึกสับสนไม่และเข้าใจความรู้สึกของตัวเองแทนที่จะรู้สึกยินดีไปกับเจ้าคุณแต่กลับรู้สึกแย่ซะงั้น



       "อย่าคิดมากน่า ไม่แน่นะบางทีในท้องของพัสตอนนี้อาจจะมีลูกของเรานอนหลับปุ๋ยอยู่แล้วก็ได้ใครจะไปรู้ ในเมื่อพี่

ออกจะขยันซะขนาดนี้ แล้วอีกอย่างนะคะ ช่วงนี้พัสอาจจะไม่รู้ตัวเองก็ได้ว่าพัสนั้นอารมณ์แปลปวนมากๆเลยนะ"

ณัฐภาสบอกเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพักนี้พัสกรเหมือนอารมณ์ขึ้นๆลงไม่คงที่เลย ถ้าเท่าที่เขาสังเกตุมาตลอดทั้งอาทิตย์นะน่ะ



       "พี่ภาสพูดจริงหรือฮะ? ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พัสอาจจะท้องอยู่แล้วก็ได้ใช่ไหมฮะพี่ภาส" พัสกรถามอย่างตื่นเต้นเมื่อได้ยิน

สามีบอกอย่างนั้น ซึ่งอารมณ์ที่แสดงออกมาทางน้ำเสียงและสีหน้านั้นแตกต่างจะเมื่อสักครู่โดยสิ้นเชิงเลย




       .....เนี่ยแหละ! ช่วงหลังๆมาพัสกรมักจะเป็นอย่างนี้ไงเขาถึงคิดอย่างนั้น.....




       "จริงสิคะ? เอาอย่างนี้ไหมถ้าพัสอยากแน่ใจเดี๋ยวพรุ่งนี้เราพี่พาไปตรวจที่โรงพยาบาลเลยดีมั้ยคะ?" ณัฐภาสพูดบอก

เพราะเขาเองก็อยากจะรู้ให้แน่ใจเหมือนกัน



       "ดีที่สุดเลยฮะ!!!" พัสกรตอบอย่างร่าเริงพรางเอามืออีกข้างที่ณัฐภาสไม่ได้จับไว้วางบนท้องตัวเองเบาๆ ทั้งๆที่ยังไม่

แน่ใจอะไรแต่กลับรู้สึกอุ่นวาบเข้าไปถึงหัวใจจนเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว และนั่นก็ทำให้ณัฐภาสอดยิ้มตามไม่ได้เมื่อ

เห็นว่าภรรยาคนสวยของเขานั้นอารมณ์ดีจนหลุดยิ้มออกมาได้แล้ว

.

.

.

.

.

        "ทางนี้เว้ยพัสทางนี้!!" เสียงตะโกนเรียกชื่อพัสกรดังมาจากโต๊ะมุมในสุดของร้าน ร้านที่กลุ่มเพื่อนพัสนัดกันมาเจอวันนี้

เป็นร้านอารหารกึ่งผับที่มีชื่อเสียงระดับนึงในตัวเมืองจังหวัดซึ่งอาจจะไม่มีชื่อเสียงเท่ากับผับของณัฐภาสแต่ก็บรรยากาศดี

และน่านั่งไม่น้อยไปกว่ากันหรอกแค่ต่างสไตล์กันก็เท่านั้นเอง



       "ว่าไงๆวันนี้คนสวยประจำกลุ่มมันมีคนคุมเว้ย!!" ยังไม่ทันได้นั่งหนึ่งในเพื่อนของพัสกรคนนึงก็พูดแซวขึ้นมาเมื่อเห็น

ว่าพัสกรเดินจูงมือกันกับณัฐภาสเข้ามาในร้าน



       "อย่าไปแซวหนูพัสมันมากน่าไอ้ยศ คนเขามีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้วจะให้ไปไหนมาไหนคนเดียวได้ไง จริงไหมคะพี่ภู"

หญิงสาวคนเดียวของกลุ่มเหมือนจะเอ่ยปรามเพื่อนชายคนแรก ก่อนที่จะหันไปถามภูผาที่นั่งดูคนอื่นทักทายกันอย่างเงียบๆ



       "ฮึๆ ก็คงอย่างงั้น พัสสวยขนาดนี้ใครได้ไปเป็นภรรยาก็ต้องหวงเป็นธรรมาดา จริงไหมครับคุณณัฐภาส" ภูผารับคำหญิง

หญิงสาวพร้อมกับหัวเราะเบาๆก่อนที่จะหันไปพูดกับณัฐภาสที่ตอนนี้นั่งลงกั้นกลางระหว่างพัสกรและภูผาส่วนอีกด้านหนึ่ง

ของพัสกรก็เป็นสมาชิกสาวคนเดียวของกลุ่มที่นั่งติดกันกับผู้ชายที่ชื่อยศที่เป็นคนทักพัสกรคนแรกนั่นเองเพราะโต๊ะที่นั่งนั้น

เป็นแบบวงกลม



       "อ๊ะ...แน่นนอนสิครับ! ภรรยาผมทั้งคนนะจะไม่ให้หวงได้ยังไง ยิ่งชอบมีพวกมดแดงแฝงมะม่วงตีเนียนจ้องจะงาบ

พัสอยู่ใกล้ๆตลอดเวลายิ่งแล้วใหญ่ เป็นใครก็ต้องหวงแบบผมทั้งนั้นแหละ จริงมั้ย?ครับคุณภูผา" ณัฐภาสพูดยิ้มๆติดตลก

เหมือนไม่ได้จริงจังอะไร แต่ไม่ใช่สำหรับภูผาแน่นอนที่จะเชื่ออย่างนั้น เพราะสายตาของณัฐภาสมองมาตอนที่หันมาพูด

กับเขานั้นมันแฝงคำพูดอะไรบางอย่างส่งมาให้เขาด้วย



       "เอ่อ...เรายังไม่ได้แนะนำตัวกันเลยนี่หน่า พี่ภาสฮะคนหน้ากวนๆนั่นชื่อยศ หญิงเหล็กคนเดียวของกลุ่มชื่อครีมฮะ

ส่วนพี่ภูนี่พี่ภาสคงจะรู้จักแล้วเน๊าะ ส่วนนี่พี่ภาสสามีของเราเอง" พัสกรพูดแทรกขึ้นก่อนที่ณัฐภาสและภูผาจะได้พูด

อะไรกันต่ออีกเมื่อเห็นว่าบรรยากาศการพูดคุยของทั้งสองคนกำลังจะลงเอยด้วยการจิกกัดกันเหมือนกันกับทุกๆครั้งที่

มีโอกาสได้เจอกัน โดยที่เริ่มแนะนำตั้งแต่ผู้ชายที่มีบุคลิคกวนๆคนแรกว่าชื่อยศ ต่อมาก็หญิงสาวคนเดียวของกลุ่มที่ถ้า

ผู้ชายคนไหนมีโอกาสได้เห็นเป็นอันต้องหันมองกันทุกคนแน่ๆเพราะว่าเธอนั้นสวยจริงๆ และมาจบที่ภูผาซึ่งเป็นที่รู้จัก

กันดีอยู่แล้ว ก่อนที่จะแนะนำณัฐภาสให้เพื่อนของตัวเองได้รู้จักกันกับณัฐภาสบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าการที่พัสกรแนะนำ

บอกกับเพื่อนทุกคนตรงๆไปว่าณัฐภาสนั้นคือสามีของตัวเองก็เรียกเสียงโห่แซวของเพื่อนได้เป็นอย่างดี



       Tru...Tru...Tru

     

       "พี่ภาสฮะคุณพ่อโทรมา" ยังไม่ทันที่จะได้คุยอะไรกันต่อพัสกรก็หยิบโทรศัพท์ของณัฐภาสที่อยู่ในกระเป๋าถือของตัวเอง

ขึ้นมาให้เจ้าของพร้อมกับบอกว่าใครเป็นครโทรมาเมื่อณัฐภาสเลิกคิ้วถาม



       "อ่าว! ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่ออกไปคุยข้างนอกนะ ขอตัวสักครู่นะครับ" ณัฐภาสบอกพร้อมกับรับโทรศัพมาจากพัสกร

ก่อนจะหันไปพูดบอกกับเพื่อนพัสกรที่นั่งคุยค้างกันอยู่และก็เดินออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอกเนื่องจากว่าข้างในนั้น

เปิดเพลงเสียงดังคุยไม่รู้เรื่องหรอก



       "อ้าวๆ ผัวแค่ออกไปรับโทรศัพท์เองจะมองตามให้คอหักเลยรึไงครับคุณหนูพัส" ยศพูดแซวเมื่อเห็นว่าพัสกรมองตาม

หลังณัฐภาสที่เดินออกไปทางหน้าร้าน



       "ไอ้ยศบ้า!! เราแค่มองเฉยๆไม่ได้อะไรขนาดนั้นซะหน่อย" พัสกรว่าเพื่อนแก้เขิน



       "เออๆ ฉันจะเชื่อก็ได้ ว่าแต่แกจะดื่มอะไรเอาเหมือนเดิมรึเปล่า?" ยศถามพร้อมกับเตรียมผสมเหล้าให้กับพัสกร



       "ไม่ว่ะ! ขอแค่น้ำแดงก็พอ" พัสกรบอกในสิ่งที่ตัวเองอยากดื่มออกไป ซึ่งคำตอบนั้นทำให้เพื่อนๆงงกันไปตามๆกัน

เพราะถึงพัสกรจะไม่ใช่คนดื่มจัดและทุกครั้งที่ดื่มก็จะดื่มทีละน้อยๆถึงจะไม่ได้ดื่มจนให้ตัวเองเมาแต่พัสกรก็ไม่เคย

ปฎิเสธเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากเพื่อนเลยซักครั้งที่สำคัญพัสกรชอบดื่มโค้กและเกลียดน้ำแดงเป็นที่สุด



       "อะไรวะ? มีสามีแล้วแอ๊บเรียบร้อยหรอแก ฉันเห็นปกติแกเกลียดน้ำแดงจะตาย" ครีมถามอย่างแซวๆ



       "เฮ้ย! ไม่ใช่เว้ยไม่ใช่ เราแค่ไม่กล้าที่จะกินเฉยๆ" พัสกรโบกมือปฎิเสธเป็นพัลวันเพราะเขาไม่ได้จะแอ๊บอย่างที่เพื่อนพูด

แต่อย่างใด ตอนนี้นะเขาไม่ต้องมานั่งแอ๊บเรียบร้อยกับณัฐภาสแล้วล่ะเพราะณัฐภาสคงจะรู้นิสัยเขาจนหมดไส้หมดพุงแล้ว

แหละเพราะหลังๆมานี่เขารู้สึกยังไงก็แสดงออกไปอย่างนั้นตลอดไม่มีมาเก็บความรู้สึกเหมือนเมื่อก่อนหรอก ก็เหมือนกัน

กับเพื่อนกลุ่มนี้ที่เป็นเพื่อนสนิทกับเขานี่แหละเขาไม่เคยแอ๊บเรียบร้อยใส่กันหรอกมีแต่เปิดเผยแบบแรงๆกันทั้งนั้นเพียง

แต่คำพูดของเขาอย่างเดียวเท่านั้นที่ไม่สามารถพูดหยาบๆอย่างเพื่อนได้เพราะเขาถูกสั่งสอนให้พูดอย่างนี้มาจนเคยชิน

แต่ก็ใช่ว่าเขาจะหยาบจะด่าไม่เป็นเพียงแต่ถ้าไม่ถึงขีดสุดเขาก็จะไม่ทำเท่านั้นเอง



       "แกเนี่ยนะที่ปฎิเสธเหล้าแล้วร้องจะกินน้ำแดงน่ะ" ยศพูดออกมาเหมือนไม่เชื่อไอ้ปฏิเสธเหล้าน่ะเขาเข้าใจเพราะว่า

พัสกรไม่ใช่คนดื่มจัดหรือคนติดแอลกอฮอล์ แต่ไอ้ที่จะกินน้ำแดงที่เป็นเครื่องดื่มที่เกลียดที่สุดทั้งๆที่มีโค้กของโปรดวาง

อยู่ด้วยนี่แหละมันถึงได้น่าีดูเหลือเชื่อขนาดนี้



       "เราแค่อยากกินน้ำแดงอ่ะ อยากกินมากด้วยแล้วอีกอย่างเราไม่แน่ใจว่า..." พัสกรบอกพร้อมกับลูบท้องตัวเองเบา

พรางนึกสงสัยตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้อยากกินน้ำแดงที่ตัวเองเกลียดนักเกลียดหนาขนาดนี้ ที่เขาเกลียดน้ำแดง

น่ะ เขามีเหตุผลนะถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับคนอื่นก็เถอะ สำหรับเขาน้ำแดงมันเหมือนกับเป็นอาถรรพ์

สำหรับเขามาโดยตลอด ครั้งแรกเลยที่เขาร้องที่จะกินน้ำแดงก็ตอนประมาณสองสามขวบมั้งไม่แน่ใจเขาจำไม่ค่อยได้

แต่ที่จำได้แม่นเลยคือน้ำแดงแก้วแรกทำให้เขาเสียพี่ชายใจดีเพื่อนเล่นคนเดียวของเขาไปซึ่งมารู้หลังแต่งงานแล้วนี่ว่า

พี่ชายใจดีคนนั้นคือณัฐภาสสามีของเขานั่นเองเพราะหลังจากวันที่พี่ชายใจดีคนนั่นเอาน้ำแดงมาให้เขาตามที่เขาร้องขอ

วันต่อมาจนวันเวลาผ่านไปหลายปีพี่ชายใจดีคนนั้นก็ไม่เคยกลับมาหาเขาอีกเลยและเขาก็ไม่เคยมีความอยากที่จะกิน

น้ำแดงนั่นเลยมีแต่พอเห็นแล้วก็รู้สึกไม่ดีและเขาก็นึกอยากกินอีกก็ตอนที่เสียคุณปู่และคุณย่าไปแต่ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้

กินนะแต่คุณปู่กับคุณย่าก็จากไปอยู่ดี แต่เขาก็ไม่เคยห้ามความอยากนี้ได้สักทีและเหมือนครั้งนี้มันจะรุนแรงมากเป็น

พิเศษเสียด้วยเขาถึงร้องขอมันออกมาเอง ตอนที่ตอบเพื่อนไปว่าจะกินน้ำแดงนั้นมันหลุดปากออกมาเองนะไม่ใช่ความ

ตั้งใจของเขาเลย



       "ท้อง? แกบอกว่าแกท้มองหรอไอ้หนูพัส!!!" ครีมอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าพัสกรใช้มือลูบท้องตัวเองก่อนที่จะถามออกมา



       "จริงหรอพัส / ไอ้หนูพัส" ภูผาและยศถามออกมาพร้อมกันซึ่งสีหน้าทั้งสองคนก็ตกใจไม่น้อยไปกว่าครีมเลย



       "ยังไม่แน่ใจอ่ะ! พี่ภาสว่าจะพาไปตรวจพรุ่งนี้ เลยอยากป้องกันไว้ก่อนกลัวว่าถ้ามีเขาจริงๆแล้วมันจะอันตราย แหะๆ"

พัสกรพูดบอกเบาๆอย่างเขินๆ เมื่อเห็นว่าเพื่อนทุกคนล้วนแต่นั่งจ้องเขม็งรอคำตอบจากเขา



       "กรี๊ดดดดด!!!! ฉันจะมีหลานแล้วหรอเนี่ย!!! ยินดีด้วยนะแก ฉันยินดีด้วย ขอให้แกท้องจริงๆเถอะ สาธุ!!" เมื่อได้ยิน

คำตอบของพัสกรครีมก็หลุดกรี๊ดออกมาจนลูกค้าโต๊ะรอบข้างหันมามองกันแทบจะทุกคนจนยศต้องหันไไปขอโทษแทน

เพราะครีมยังคงปลื้มปริ่มยินดีกับพัสกรจนไม่สนใจใคร



       "เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" ภูผาพูดบอกกับทุกคนหลังจากที่นั่งฟังเพื่อนๆในกลุ่มคุยกันอย่างเงียบๆอยู่นาน ทุกคน

ในกลุ่มรู้ว่าภูผาอายุมากกว่าตัวเองถึงจะเป็นเพื่อนเรียนรุ่นเดียวกันหรือสนิทกันแค่ไหนแต่ทั้งพัสกร ครีมและยศต่างก็เรียก

ภูผาว่าพี่กันทุกคนเพราะเคารพและให้เกียรติที่ภูผาอายุมากกว่าตัวเองหลายปี

.

.

.

.

.

       ทางด้านของณัฐภาสที่ออกมาคุยกับเจ้าสัวชัชวาลย์พ่อของตัวเอง



       "ว่าไงพ่อ?" ณัฐภาสกรอกเสียงรับสายลงไปหลังจากที่หามุมสงบและเงียบไปด้แล้ว



       ("แกอยู่ไหนน่ะภาส อยู่บ้านแกหรือเปล่า") เจ้าสัวชัชวาลย์ถาม



       "เปล่า อยู่ข้างนอก พ่อมีไรอ่ะ"



       ("ฉันจะให้แกเข้าไปเอาเอกสารในตู้เซฟที่บ้านให้ฉันหน่อย ตอนนี้ฉันกำลังจะเข้าประชุมด่วนกับลูกค้าน่ะพอดีเขามา

แบบปุ๊บปั๊บ จะไปเอาเองก็ทิ้งทางนี้ไม่ได้จะให้ใครไปเอาก็ไม่ไว้ใจ ฉันเก็บมันไว้ในตู้เซฟที่ห้องทำงานน่ะ แกจะไปเอาให้

ฉันหน่อยได้มั้ยไอ้ภาส") เจ้าสัวชัชวาลย์บอก ที่จริงเวลานี้เขาควรจะได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้แล้ว แต่ว่าลูกค้าต่างชาติ

รายใหญ่ที่ซื้อขายเพชรด้วยกันมาหลายปีก็เข้ามาหาที่บริษัทเพราะว่าทางนั้นเขามาติดต่องานที่ไทยพอดีและขอคุยเรื่องการ

ซื้อขายล็อตต่อไปก่อนที่จะกลับประเทศบ้านเกิดในวันพรุ่งนี้อีก ซึ่งเป็นล็อตใหญ่และมีมูลค่ามากกว่าทุกครั้งเสียด้วย

จะทิ้งลูกค้าไปเอาเอกสารสำคัญประกอบการประชุมครั้งนี้เองก็ไม่ได้แต่จะใช้ให้ลูกน้องไปเอาเองก็ไม่ไว้ใจเพราะว่าใน

ตู้เซฟของเขานั้นมีแต่เอกสารสำคัญๆและเอกสารบางอย่างก็มีมูลค่ามากด้วยก็เลยเลือกที่จะวานให้ณัฐภาสที่เป็นลูกชาย

ของเขานี่แหละไปเอาเพราะว่าเขาไว้ใจที่สุดแล้ว



       "ผมไปเอาให้พ่อก็ได้ ว่าแต่พ่อจะเอาเอกสารอะไรล่ะ" ณัฐภาสตอบกลับอย่างไม่ลังเลเมื่อได้ยินเสียงเหนื่อยอ่อนของ

เจ้าสัวชัชวาลย์ เพราะถ้าไม่กระทันหันและสำคัญจริงๆพ่อของเขาคงจะไม่เอ่ยปากขอให้เขาช่วยออกมาอย่างนี้หรอก

ถึงแม้ว่าช่วงหลังๆตั้งแต่โตมาความสัมพันธ์ของเขากับเจ้าสัวชัชวาลย์จะไม่ค่อยดีนักแต่ใช่ว่าเขาจะไม่ห่วงพ่อของเขา

เสียเมื่อไหร่ ยังไงๆพ็พ่อเขาทั้งคนนะ

.

.

.

.

.

       "คุณพ่อว่ายังไงบ้างฮะพี่ภาส" พัสกรที่นั่งคุยกับเพื่อนๆโดยมีน้ำแดงอยู่ในมือถามขึ้นเมื่อเห็นว่าณัฐภาสเดินหน้ายุ่งเข้ามา



       "เขาให้พี่ไปเอาเอกสารที่บ้านไปให้เขาที่บริษัทน่ะ พัสอยู่คุยกับเพื่อนก่อนนะเดี๋ยวพี่จะรีบมา" ณัฐภาสบอก ที่จริงเขาน่ะ

ไม่อยากจะให้พัสกรห่างตัวเองหรอกยิ่งมีภูผาคนที่แสดงอย่างชัดเจนว่าจ้องจะตะครุบภรรยาคนสวยของเขาอยู่ใกล้ๆแล้วด้วย

ยิ่งไม่อยากจะห่าง แต่จะให้เขาพาพัสกรไปด้วยก็เกรงใจพวกเพื่อนๆที่เหลือของพัสกรเพราะทุกคนตั้งใจมาเที่ยวหาภรรยาเขา

โดยตรงจะให้เขาเอาตัวพัสกรกลับไปด้วยทั้งๆที่มายังไม่ถึงสิบนาทีเลยอย่างนี้ก็จะดูหน้าเกลียดไปหน่อยและพัสกรเองก็คง

อยากที่จะพูดจะคุยกับเพื่อนตัวเองนานๆเหมือนกันเพราะเคยบ่นกับเขาอยู่บ่อยๆว่าคิดถึงเพื่อนพอเรียนจบปุ๊บก็โดนจับแต่ง

งานกับเขาปั๊บโดยที่ไม่ได้พูดคุยหรือได้เจอเพื่อนๆเลยสักครั้ง



       "พี่ภาสไปคนเดียวอย่างนี้จะดีหรือฮะ" พัสกรถามติดกังวลเพราะเขาไม่อยากให้ณัฐภาสไปคนเดียวแต่ก็ยังอยากที่จะคุย

กับเพื่อนๆของตัวเองต่อเพราะไม่ได้เจอกันมานานแล้ว



       "ดีสิคะ อย่าคิดมากเลยน่า อยู่คุยกับเพื่อนไปนั่นแหละครับเดี๋ยวพี่จะรีบไปแล้วจะรีบกลับมาหาพัสเลยโอเคมั้ยคะ?"

ณัฐภาสบอกภรรยาเสียงอ่อนแค่ดูหน้าตอนที่เขาบอกว่าพ่อใช้ให้ไปเอาเอกสารให้ก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวอยากจะอยู่คุยกับเพื่อน

ต่อขนาดไหน แต่ก็อดที่จะรู้สึกดีไม่ได้ที่พัสกรแสดงความเป็นห่วงเขาออกมาทางสีหน้าชัดเจนขนาดนี้ทั้งๆที่อยู่ต่อหน้า

คนหมู่มากแท้ๆทั้งๆที่ปกติไม่เคยจะเป็น



       "พัสรออยู่กับเพื่อนที่นี่ก็ได้ครับ แต่พี่ภาสไม่ต้องรีบหรอกนะแล้วก็ห้ามขับเร็วๆด้วย" พัสกรบอกพร้อมกับพูดกระชับ

เรื่องนิสัยการขับรถเร็วของณัฐภาสด้วยหน้าตาจริงจัง โดยไม่ทันเห็นสายตาล้อๆของครีมและยศเพื่อนสนิทสุดแสบของตัวเอง



       "ครับผม!!" ณัฐภาสรับปากพร้อมกับขยี้หัวของภรรยาคนสวยเบาๆด้วยความเอ็นดูก่อนที่จะรีบเดินออกไปจากตรงนั้น

เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเจ้าสัวชัชวาลย์บอกว่าต้องการเอกสารอย่างเร็วที่สุด โดยไม่ลืมฝากฝังให้ยศและครีมช่วยดูและพัสกรแทน

ในตอนที่เขาไม่อยู่ด้วย



       "กรี๊ดดด!! ฉากผัวแกที่ขยี้หัวแกด้วยความเอ็นดูสายตาอบอุ่นนั่นฉันนี่อยากจะดั้นตาย!! โอ๊ยแม่นี่ฟินจนตัวแทบแตก!!!"

ครีมกรีดร้องออกมาเบาๆพูดบอกกับพัสกรด้วยสายตาเพ้อๆ แหม!! ก็นะได้เห็นกับตาตัวเองใกล้ๆอย่างนี้เจ้าแม่สาววายที่

จิ้นวายเข้ากระแสเลือดอย่างเธอพอได้เห็นจังๆกับตาตัวเองอย่างนี้ก็อดที่จะกรี๊ดไม่ได้หรอก ก็นี่มันเรียลยิ่งกว่าอ่านนิยาย

หรือเสพอาหารตาตามเพจอีกนะ!!!



       "ฉันว่าแกไม่ได้จะตัวแตกเพราะไอ้หนูพัสสวีตกับผัวมันหรอกแต่ตัวแกจะแตกก็เพราะแดกไม่หยุดนี่แหละยัยครีม

ยัยอ้วนเอ้ย!!! ดูดิแกเป็นผู้หญิงแต่ตัวใหญ่กว่าไอ้หนูพัสมันอีก" ยศพูดสวนขึ้นมาทันทีเมื่อครีมพูดจบประโยค พร้อมกับ

ยกยิ้มยักคิ้วกวนๆใส่ครีมที่กำลังนั่งจิ้มอาหารเข้าปากอยู่อย่างเอร็ดอร่อย แต่เมื่อได้ยินประโยคที่ยศพูดก็หยุดตาค้างอ้าปาก

เหมือนจะพูดเถียงอะไรสักอย่างแต่ก็ทำไม่ได้เนื่องจากยังคงมีอาหารคาปากอยู่อย่างนั้นจึงได้แต่ทำตาขวางใส่ยศ



       "ไม่หล่อแล้วยังปากหมาอีกนะไอ้บ้ายศ!! แกเหมือนกันไอ้หนูพัสไม่ต้องมาหัวเราะฉันเลยนะแกเองก็ผิด" ครีมแว๊ดใส่

ยศที่นั่งขำตัวเองอยู่อย่างใส่อารมณ์ก่อนที่จะหันไปพาลพัสกรที่นั่งหัวเราะเพราะเห็นยศและครีมหยอกล้อแหย่กันเหมือนเดิม

ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมอยู่คนเดียวจนเจ้าตัวหน้าเหวอเมื่อโดนหางเลขไปด้วย



       "อ่าว! เราผิดอะไรด้วยอ่ะ แค่นั่งหัวเราะเฉยๆเองนะเว้ย"  พัสกรถามอย่างขำๆ



       "แกนั่นแหละตัวดีเลยไอ้หนูพัส!! แกผิดที่แกตัวเล็กกว่าฉัน!!" ครีมทำหน้างอบอกแบบพาลๆ



       "ถูกต้องเลยครีมที่ฉันผิดที่เกิดมาตัวเล็กกว่าแกแล้วอะไรอีกนะยศ" พัสกรอมยิ้มเมื่อนึกอะไรขึ้นได้พร้อมกับพูดเหมือน

จะยอมรับว่าตัวเองเป็นคนผิดก่อนที่จะโยนไปให้ยศที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับตัวเอง



       "ใช่ๆไอ้ครีมมันพูดถูกแกนั่นแหละที่ผิดไอ้หนูพัส!! ที่ดันเกิดมาตัวเล็กกว่ามัน ผอมกว่ามัน ขาเรียวกว่ามัน สวยกว่ามัน

น่ารักกว่ามัน เป็นกุลสตรีกว่ามันและก็ดันแต่งงานมีผัวก่อนมันอีก!! แกน่ะผิดเต็มๆเลยไอ้หนูพัส" ยศพูดเหมือนกับต่อว่า

พัสกร จนทำให้ครีมยิ้มออกมาอย่างถูกใจ



       "อ่า..เราขอโทษทีนะครีม แต่ครีมไม่ต้องเสียใจหรอกเพราะว่าครีมสวยมากสวยจริงๆ แต่นิสัยครีมอ่ะแมนเกินหญิงไป

แถมยังกินเก่ง บ้าวาย ไล่เตะผู้ชายเป็นว่าเล่น แต่ครีมจงภูมิใจไว้นะว่าครีมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประชากรคานทองเพิ่ม

จำนวนขึ้นอีกตั้งคนนึงเชียวนะ" พัสกรพูดเหมือนยอมรับผิดอย่างนิ่งๆทั้งๆที่ต้องกลั้นขำแทบตาย ที่ต้องพูดไปแล้วนั่งมอง

ครีมที่นั่งจิ้มอาหารกินอย่างอารมณ์ดีเพราะฟังแต่ยังไม่ได้ทันคิดทวนหรือไตร่ตองเพียงแต่ได้ยินเสียงนิ่มๆเหมือนสำนึกผิด

ของเพื่อนทั้งสองคนเท่านั้นเอง จนต้องชะงักเมื่อได้ยินประโยคสุท้ายที่พัสกรพูดก่อนจะค่อยๆไล่ย้อนคิดไปถึงคำพูดของ

เพื่อนทั้งสองคน



     "เพิ่มจำนวนประชากรคานทอง? อ้วนกว่า? แมนกว่า? ขาใหญ่กว่า? ขี้เหล่กว่า? กรี๊ดดดดด!!! ไอ้เพื่อนบ้าแกสองคน

แท็กทีมกันกัดฉันหรอห๊าาาาา!!!!" ครีมกรีดร้องเสียงหลงเมื่อได้นั่งไล่ความคิดคำพูดของเพื่อนทั้งสองคนดีๆก่อนที่จะ

ปาน้ำแข็งในแก้วตัวเองใส่พัสกรและยศ



     "ฮ่าๆ/ฮ่าๆ" โดยที่พัสกรและยศไม่ได้สนใจในคำเหวี่ยงวีนหรือก้อนน้ำแข็งที่ครีมปาใส่เลย แถมยังแท็กมือหัวเราะกัน

อย่างชอบใจเมื่อได้แหย่เจ้าแม่ขาใหญ่ประจำกลุ่มจนหัวเสียเหวี่ยงวีนได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งครีมเองก็ไม่ได้โกรธหรือเคืองอะไร

จริงจังอย่างที่แสดงออกมาหรอกเพราะว่าพวกเขาทั้งสามคนชอบแหย่ชอบแซะกันแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว



       "ว่าไง คุยอะไรกันอยู่ว่ะท่าทางสนุกเชียว" ภูผาที่หายไปนาน(มาก)หลังจากที่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ถามขึ้นเมื่อเห็นว่า

เพื่อน(อายุน้อยกว่า)ทั้งสามคนของเขานั้นเหมือนจะนั่งขำหรือตลกอะไรกันอย่างสักอย่าง



       "ไม่มีอะไรหรอกพี่ภู พวกเราแค่แหย่ไอ้ครีมมันเหมือนทุกทีนั่นแหละครับ" พัสกรหันไปตอบภูผาที่นั่งลงตรงที่เดิม

ของตัวเองที่นั่งก่อนหน้านี้



       "ไงยัยครีม แกโดนบ่อยแล้วยังไม่ชินอีกหรอ" ภูผาถามครีมที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับตัวเองอย่างขำๆ เพราะพอจะรู้

อยู่เหมือนกันว่าหญิงสาวจะโดนสองคนนี้ล้อเรื่องอะไรบ้างซึ่งมีไม่กี่อย่างหรอกไม่เรื่องขึ้นคานก็เรื่องพัสกรสวยกว่า

ทั้งๆที่สวยพอๆกันทั้งคู่นั้นแหละ ถ้าครีมไม่สวยและเป็นอย่างที่ทั้งสองคนนั้นพูดล้อจริงๆล่ะก็เขากับยศคงไม่ต้องเหนื่อย

คอยไล่คอยกันพวกผู้ชายที่เข้ามาวอแวพัสกรและครีมตอนที่อยู่ในมหาลัยหรอกแต่ที่ยังโสดอยู่อย่างนี้ก็เพราะคุณนายเธอ

อยู่สายวายเป็นติ่งบ้านักร้องเกาหลีที่ถือคติว่า 'ถ้าไม่เจอผู้ชายในอุดมคติอย่างโอปป้าเธอเธอก็จะไม่ยอมมีแฟน' ไง แล้ว

อย่างนี้จะไม่ให้เธอเตรียมจองคานได้ยังไง



       "เดี๋ยวเราขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" พัสกรบอกกับเพื่อนหลังจากที่นั่งคุยเล่นกันอยู่ได้สักพักใหญ่ๆแล้ว



       "ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม?" ภูผาเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ที่ตัวเองนั่งกดนั่งจิ้มอยู่ถามพัสกร



       "ไม่ต้องหรอกน่าแค่นี้เองพัสไปได้สบายมาก" พัสกรบอกก่อนจะผละเดินออกไป ซึ่งภูผาเองก็พยักหน้ารับรู้

และก้มลงกดๆจิ้มๆหน้าจอมือถือตัวเองต่อ

.

.

.

.

.
[มีต่อด้านล่างอีกค่ะ]
       
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 15 (16/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 17-10-2015 02:27:07
[ต่อจากด้านบนค่ะ]
.
.
.
.
.

       ตรู๊ดดดดด.....ตรู๊ดดดดดดด



       ("ว่าไงครับที่รัก") หลังจากที่ทำธุระในห้องน้ำและล้างมือเสร็จแล้วพัสกรก็หยิบโทรศัพท์มาโทรออกหาสามี เมื่อเห็น

ว่าในห้องน้ำไม่มีใครนอกจากตัวเองและนึกได้ว่าณัฐภาสออกไปนานแล้วเลยอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้



       "คือพัสเห็นว่าพี่ภาสไปนานแล้วเลยเป็นห่วงนะฮะ" เมื่อได้ยินเสียงของสามีพัสกรก็บอกออกไปตรงๆเลย



       ("อ่อ! ไม่ต้องห่วงครับพี่ใกล้จะถึงร้านแล้วครับแต่ถนนนี้รถติดชะมัด แล้วนี่พัสอยู่ไหนคะทำไมเงียบจัง") ณัฐภาส

บอกหลุดพูดสบถออกมาเมื่อยังติดอยู่ตรงไฟแดงทางตรงกันข้ามกับร้านอาหารที่พัสกรนัดกับเพื่อนใกล้ๆแค่นี้เอง แต่ไม่

ถึงสักทีเพราะว่ามัวติดไฟแดงอยู่ตรงนี้ ไฟเขียวทีนึงรถก็แทบจะไม่ขยับเลย อาจจะเป็นเพราะคืนวันศุกร์ด้วยคนถึงออก

มาเที่ยวกันเยอะขนาดนี้



       "พัสออกมาเข้าห้องน้ำ ถ้าพี่ภาสใกล้ถึงแล้วก็แค่นี้นะฮะ รีบๆมานะฮะสามิสามีเมียจ๋าคนนี้คิดถึง~" พัสกรพูดอ้อน

ทิ้งท้ายก่อนจะวางสายเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองและเดินออกจากห้องน้ำ

.

.

.

.

.

     ("พัสออกมาเข้าห้องน้ำ ถ้าพี่ภาสใกล้ถึงแล้วก็แค่นี้นะฮะ รีบๆมานะฮะสามิสามีเมียจ๋าคนนี้คิดถึง~")



     "ฮึๆ ขยันอ้อนอย่างนี้จะไม่ให้พี่รักพี่หลงได้ไงฮึหนูพัส" ณัฐภาสพูดยิ้มๆอยู่คนเดียวในรถอย่างอารมณ์ดี ทั้งๆที่

ตอนแรกนั้นเขาหงุดหงิดแทบคลั่งเมื่อกว่าจะกลับไปเอาเอกสารที่บ้านของเจ้าสัวชัชวาลย์พ่อของเขาไปให้เจ้าของ

ที่บริษัทไอ้ขาไปนะรถก็ติดเหมือนกัน แต่มันยังไม่นรกแตกเท่าตอนนี้ไงคนมันจะขยันเที่ยวอะไรกันนักหนา ดีนะ

ที่ผับเขาไม่ได้อยู่แถวนี้ เพราะแถวนี้ทั้งคับแคบและแออัดแถมยังดูไม่เป็นระบบระเบียบอีกด้วย แต่พอได้ยินเสียง

เมียเท่านั้นแหละหายหงุดหงิดและรู้สึกดีขึ้นทันทีเลยเหมือนกับตอนที่ร้อนๆกระหายๆแล้วได้ดื่มน้ำเย็นอย่างไงอย่างงั้น

.

.

.

.

.

       "บ้าๆ พัสกรนะพัสกรเป็นอะไรไปน่ะห้ะ! ห่างกันยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลยนะ จะคิดถึงอะไรขนาดนั้น" พัสกรใช้นิ้ว

เคาะหัวตัวเองเบาๆบ่นพึมพำอย่างไม่เข้าใจตัวเองว่าจะติดสามีหนักอะไรขนาดนั้นในขณะที่เดินออกมาจากห้องน้ำ



       "ว่าไงครับคนสวย" เสียงพูดดังขึ้นพร้อมกับมีผู้ชายร่างใหญ่ผิวสีเข้มสักลายเต็มตัวสองคนดูน่ากลัวมายืนขวางทาง

ของเขาไว้ทำให้เขาเดินต่อไปไม่ได้



       "ขอโทษนะครับผมไม่รู้จักพวกคุณ ขอตัวก่อนนะครับ" พัสกรบอกและเบี่ยงตัวเดินเลี่ยงออกมาแต่ผู้ชายสองคนนั้น

ก็ตามมาดักหน้าดักหลังขวางทางเดินของเขาจนไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย



       "ขอโทษนะครับผมรีบ สามีกับเพื่อนของผมกำลังรอผมอยู่" พัสกรพูดบอกอีกครั้งพร้อมกับพยายามที่จะคิดหาวิธี

หาหนทางที่จะออกไปจากตรงนี้ เพราะตรงนี้ยังคงเป็นมุมอับหลบอยู่ทางด้านหลังของร้านอยู่ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอะไรขึ้นมา

จริงๆก็จะไม่มีใครเห็นหรือช่วยเขาได้ทันแน่ๆ แต่ถ้าเขาหลุดจากหัวมุมทางโค้งตรงนี้ไปได้เขาก็จะปลอดภัยแล้ว



       "หึๆ ก่อนที่จะกลับไปหาผัวหาเพื่อนน่ะก็ไปกลับพวกพี่ก่อนแล้วกันคนสวย ฮ่าๆ/ฮ่าๆ" ผู้ชายคนที่อยู่ด้านหน้าเขา

พูดขึ้นก่อนที่คนร้ายทั้งสองคนจะหัวเราะออกมาพร้อมกันเหมือนพวกตัวร้ายโรคจิตในละครตอนสองทุ่มที่ฉายอยู่ทั่วๆ

ไปทางโทรทัศน์ ซึ่งสีหน้าและท่าทางของคนร้ายทั้งสองคนนั้นมันทำให้พัสกรรู้สึกพะอืดพะอมจนอยากจะอาเจียนออก

มาเสียให้ได้



       "อย่าเข้ามาใกล้นะ!! ช่วยด้วย!!! ช่วยด้ว...อื้อ!!...อื้อออ...อื้ออออออ!!!!" ยังไม่ทันที่พัสกรจะได้ดิ้นรนร้องขอให้ใครมา

ช่วยตัวเองอย่างที่คิดเลย ก็โดนคนร้ายที่อยู่ข้างหลังใช้มือตะคุบปิดปากเขาและกอดรัดลำตัวช่วงบนของเขาอย่างแรงจน

เจ็บไปหมดและคิดว่าปากเค้าคงจะแตกแน่ๆแล้วเมื่อรู้สึกถึงกลิ่นคราวเลือดในปากจากการโดนตะปบปิดปากเมื่อกี้นี้

อีกทั้งคนที่อยู่ทางด้านหน้าของเขานั้นยังใช้เชือกที่เอามาจากตรงไหนก็ไม่รู้มามัดขาเขาไว้อย่างแน่นอีก จนเขานั้นขยับ

ตัวหรือดิ้นไม่ออกเลยทั้งๆที่พยายามออกแรงดิ้นให้มากที่สุดแล้วแลัว ก่อนที่ทั้งสองคนจะช่วยกันอุ้มเขาออกมาทางด้าน

หลังของร้านซึ่งเป็นลานจอดรถสำหรับลูกค้านั่นเอง



     ปึก! ปึก! ปึก! 

   

     "อื้ออออออ.....อื้ออออออ.....อื้อออออออ" พัสกรร้องอู้อื้อยู่ในลำคอและพยายามใช้หัวตัวเองโขกกลับกระจกเมื่อเห็นว่า

เป็นรถของณัฐภาสสามีของตัวเองที่เข้ามาจอดเทียบกันกับรถของคนร้ายที่คนร้ายจับเขาเข้ามานั่งอยู่บนเบาะหลังและล็อค

ประตูเอาไว้ส่วนมันทั้งคู่ก็นั่งอยู่ทางเบาะหน้า



       "อย่าพยายามโง่ๆแบบจะใช้หัวโขกให้่กระจกรถเลยไม่ได้ผลหรอก จะเจ็บตัวเสียเปล่าๆ" หนึ่งในคนร้ายที่อยู่ทาง

ด้านหน้าหันมาบอกกับพัสกร เมื่อเห็นว่าพัสกรพยายามใช้หัวตัวเองโขกกับกระจกหน้าต่างรถอยู่



     ปึก! ปึก! ปึก!



     "อื้ออออออ.....อื้ออออออ.....อื้อออออออ" พัสกรไม่ได้สนใจเสียงของคนร้ายและพยายามใช้หัวตัวเองโขกกับกระจกรถ

อีกครั้งด้วยแรงที่มากกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าณัฐภาสกำลังล็อครถอยู่ พรางภาวนาให้ณัฐภาสได้ยินหรือสังเกตุความผิดปกติ

อะไรได้บ้าง แต่ก็ไม่เลย เพราะในขณะที่ณัฐภาสมองมาทางเขาคนร้ายก็ถอยรถออกจากตรงนั้นพอดีและเพราะอาจจะเป็น

เพราะรถที่คนร้ายจับเขาขึ้นมานี้นั้นติดฟิล์มดำมืดทั้งคันณัฐภาสก็เลยไม่เห็นว่าเขาถูกจับตัวมาอยู่ในนี้ทั้งๆที่เขาทั้งสองคน

นั้นห่างกันแค่เพียงเอื้อมมือเท่านั้นเอง





...

เฮ้อ!! กว่าจะเสร็จ เม้นเงียบมี่ก็อยากจะเงียบเหมือนกัน(แต่ทนไม่ได้ใจไม่แข็งพอ)

เมื่อวันที่สิบห้ามี่ส่งทงเฮ(อิมเมจพี่ภาส)สามี(ของหนูพัส)เข้ากรม(เกณฑ์ทหาร)ไปรับใช้ชาติ

อยู่เงียบๆคนเดียวที่หน้าจอคอมฯ

#ปาดน้ำตาเบาๆ(กระซิกๆๆ) :mew6: :mew4: :o12:

 

 

 





 

 



 

 





 



 



 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 15 (16/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 17-10-2015 07:54:54
กรี๊ดดดดดม่ายยยยยยน้าาาาาาพี่ภาคช่วยเอ๊ะใจเร็วๆ เข้าหนูพัสจะแย่แล้ววววว
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 15 (16/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 17-10-2015 08:34:59
พี่ภาสคะ หนูพัสตกอยู่ในอันตรายแล้วค่ะพี่ :sad4: ..
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 15 (16/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-10-2015 09:47:03
ช่วยพัสด้วยพี่ภาส~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 15 (16/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-10-2015 10:27:39
ยังไม่วายมีเรื่องนะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 15 (16/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: dreeanm ที่ 19-10-2015 01:02:58
รอเบบี้ รีบๆมานะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 15 (16/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: janny_j ที่ 19-10-2015 01:52:08
ใครมาทำแบบนี้ คุณสามีช่วยคุณภรรยาด้วย แงงงง
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 15 (16/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 19-10-2015 18:13:15
 :a5: ค้างเลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 15 (16/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ravi 279 ที่ 19-10-2015 21:55:19
ภูผา ไม่ต้องเดาเลย
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 6 (16/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 21-10-2015 00:21:57
คุณเมียภาคบังคับ [เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 6





       "คุณๆ ตื่นๆ" ธาราลืมตาตื่นลุกขึ้นนั่งสะกิดเรียกเจ้าคุณเบาๆ
 

       "........" เงียบ ไม่รู้สึก
 
       "คุณๆ เจ้าคุณ ตื่นก่อน!" สองมือเขย่าแขนคนขี้เซาแรงกว่าเดิม
 

       "ฮื่อ!!" เจ้าคุณฮึมฮัมเหมือนขัดใจก่อนจะพลิกตัวหนีสิ่งที่รบกวนการนอนของตัวเอง ธาราเลยจิ๊ปากอย่างขัดใจ
 

       "เจ้าคุณๆ ตื่นๆ ตื่นก่อนสิ!!" พยายามเขย่าตัวและใช้เสียงเรียกเจ้าคุณดังกว่าเดิม
 

       "ฮื้อออ!! กูจะนอน!!~" บอกเสียงหงุดหงิดพร้อมกับเอาผ้าห่มคลุมหัวตัวเอง
 

       "คุณๆ ตื่นก่อน!! เจ้าคุณตื่น!! ไอ้คุ๊ณณณณณณณณณณณณณ!!!!!" คราวนี้ธารากระชากผ้าห่มออกจากตัวเจ้าคุณสุดแรงแล้วตะโกนใส่หูเจ้าคุณสุดเสียงเช่นกัน จนเจ้าคุณสดุ้งตื่นเต็มตาเลยทีเดียว
 

       "เออ!! จะเรียกทำไม!!!" เจ้าคุณลุกขึ้นนั่ง ตะคอกถามอย่างหงุดหงิดเพราะเขารู้สึกเหมือนว่าเพิ่งล้มตัวนอนไปได้
ไม่นานเท่าไหร่เองก็โดนปลุกขึ้นมาซะแล้ว พอเหลือบมองนาฬิกาดูเวลาแล้วยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ในเมื่อนาฬิกาแสดง
เวลาบอกว่าตอนนี้แค่ตีสามห้าสิบเท่านั้น นั่นก็เท่ากับว่าเขาเพิ่งนอนไปได้แค่ครึ่งชั่วโมงนิดๆเท่านั้นเอง แล้วอย่างนี้จะ
ไม่ให้เขาหงุดหงิดได้ยังไงกลับมาจากไปดูมาเหนื่อยๆขับรถจากผับมานี่ก็ตั้งไกลยังจะโดนกวนตอนนอนอีก
 

       "เฮ้ย!! กูถามทำไมไม่พูดห๊ะ!!!" เจ้าคุณถามแบบกระชากเสียงอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าธารานั่งก้มหน้าบีบมือตัวเองแน่น
ไม่ยอมพูดคุยกับเขาทั้งๆที่เป็นคนปลุกเป็นคนเรียกเขามาขึ้นเองแท้ๆ แต่ก็ต้องตกใจตาโตเมื่อธาราเงยหน้าขึ้นมาแล้ว
น้ำตาคลออยู่เต็มดวงตาสวย จนไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสายเมื่อเจ้าตัวสะอื้นปล่อยโฮออกมา
 

       "ฮื้อออออออออออ......."
 

       "อ่าว! ชิบ!! ร้องไม มาๆ อย่าร้องๆ" เจ้าคุณสบถออกมาอย่างตกใจ ก่อนที่จะคว้าตัวธารามากอดปลอบ พูดปลอบ?
ทั้งๆที่ยังคงงงๆ จับต้นชนปลายไม่ถูกนั่นแหละ ก็ธาราน่ะเคยร้องไห้ให้เขาเห็นซะที่ไหนล่ะ ขนาดโดนเขาปล้ำมันยังกัดฟัน
ทนไม่ยอมให้น้ำตาไหลเลย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาตกใจได้ยังไง
 
 "ฮื้อออออออออออออออออออออออออ!!!!!!" มุดหน้าร้องไห้ซุกอกเจ้าคุณหนักกว่าเดิม
 
 "เงียบๆ อย่าร้องๆ โตแล้วร้องไม ไหนบอกกูดิ" เจ้าคุณพูดด้วยเสียงที่คิดว่าอ่อนโยน?ที่สุดสำหรับตัวเองแล้ว
 
 "ฮึก!! อยา...ก..ฮึก!" ธาราสะอื้นบอกอู้อี้จนเจ้าคุณจับใจความไม่ได้
 
 "อะไรน่ะ? พูดดีๆดิ" จับหน้าธาราเงยขึ้นถาม
 
 "อื้อออ...อยา...ก..กิน...เนื้อ..ฮึก...อ่ะ!....ฮื้อออออออ....." พูดไปสะอื้นไปร้องไห้ไปจนแทบจะฟังไม่รู้เรื่องเจ้าคุณถึงกับ
ต้องตะแคงหูตั้งใจฟังเลยทีเดียว
 
 "ห๊ะ!! อยากกินเนื้อ?" เจ้าคุณถามเสียงหลงอย่างไม่อยากจะเชื่อหูเมื่อได้คำตอบจากธารา
 
 "อื้อ!!!!"
 
 "มึงอยากกินเนื้อตอนตีสามเนี่ยนะ?"
 
 "อื่้อ!!!!"
 
 "แล้วที่มึงร้องห่มร้องไห้เหมือนใครจะตายเนี่ยก็เพราะแค่อยากกินเนื้อเนี่ยนะ??"
 
 "อื้อ!!!"
 
 "โอ้ยย!! กูอยากจะบ้ามึงปลุกกูทั้งๆที่กูเพิ่งกลับมาจากทำงาน ทั้งๆที่กูเพิ่งจะได้นอนเนี่ยนะ? มึงใช้อะไรคิดเนี่ยห้ะ
ไอ้น้องธาร มึงบ้ารึป่าวห๊ะ! มึงโตแล้วนะไม่ใช่เด็กน้อยนะที่จะร้องกินนมตอนดึกๆอ่ะ มึงนี่แมร่ง..."
 
 "ฮึก!! ว่า..ทำ..ไม..อ่ะ...ฮึก!...ก็...ฮึก..อยาก...กิน...อ่า....ฮืออออออออออ" จากที่สงบๆไปบ้างแล้วพอโดนเจ้าคุณพูด
เหมือนกับดุตัวเองธาราก็ระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาอีกรอบพร้อมกับคำอธิบายที่ไม่ค่อยจะเป็นคำสักเท่าไหร่เพราะเจ้าตัว
สะอื้นไปด้วยร้องไห้ไปด้วย
 
 "เออๆ กินก็กิน อย่าร้องๆ อย่าร้องดิว่ะ!! มึงคิดว่ากูปลอบใครเป็นรึงไง ฮึ! เงียบเลยๆ" เจ้าคุณกระชับกอดโยกตัวธารา
เป็นการปลอบเท่าที่คนหยาบกระด้างอย่างเขาจะทำได้
 
 "กินนะ..ฮึก..อยากกิน...ธาร...ฮึก....อยาก....กิน..ฮึก!" ธาราซุกอกกอดเจ้าคุณแล้วร้องบอก
 
 "เออๆ จะกินก็เงียบๆ ถ้าหยุดร้องแล้วจะให้กิน" เจ้าคุณบอกพร้อมกับพยายามนึกอะไรบางอย่าง อย่าว่าเขาใจอ่อนเลย เรียกว่ายอมเถอะ! ยอมตั้งแต่เห็นน้ำตาหยดแรกของมันล่ะ ถึงจะเป็นผู้ชาย
กระด้าง เถื่อนๆ แต่ผมก็แพ้น้ำตาเมียนะเว้ย!
 
 "ฮึก! เงียบ...แล้ว.....เงียบแล้วๆ...ฮึก!" ธาราผละตัวออกจากอกเจ้าคุณรีบเช็ดน้ำตาตัวเองพร้อมทั้งพยายามกลั้นสะอืื้น
 
 "แต่ตอนนี้มึงกินเจกับยายอยู่ไม่ใช่หรอวะ?" เจ้าคุณถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าธารากินเจเป็นเพื่อนคุณนายมณียายของตัวเอง
มาตลอดตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเทศกาลกินเจกันเลย ไอ้เขาก็กินบ้างไม่กินบ้างไม่ซีเรียสอยู่แล้ว แต่นี่ไอ้น้องธารมันอยากกินเนื้อ
ที่เป็นของต้องห้ามเด็ดขาดเลยนะ
 
 "ไม่กินๆ....ไม่กิน..แล้ว...ฮึก!...จะกินเนื้อ ฮึก! เนื้ออ่ะเนื้อ!!" ธาราร้องบอกเหมือนเด็กๆ
 
 "เออๆ กินก็กิน อะๆ อย่าร้องไห้ออกมาอีกนะมึง ร้องไห้อีกกูไม่ให้กินนะ!" เจ้าคุณบอกอย่างปลงตก ก่อนที่จะเปลี่ยน
เสียงมาพูดขู่เหมือนกับใช้ดุเด็กเมื่อเห็นว่าธาราเตรียมเบะปากพร้อมที่จะร้องไห้อีกแล้ว
 
 "เงียบแล้วๆ ไม่ร้องแล้วๆ กินนะกิน" ธารารีบเช็ดหน้าเช็ดตาที่เปื้อนน้ำตาของตัวเองเร็วๆเมื่อได้ยินเจ้าคุณพูดแบบนั้น
 
 "เออๆ แล้วจะกินอะไร" เจ้าคุณถาม
 
 "เนื้อไง!!" ธาราตอบอย่างรวดเร็ว
 
 "ก็เนื้อของมึงน่ะจะกินแบบไหน ปิ้ง ย่าง ทอด ห่าไรก็บอกมาสักอย่างดิ"
 
 "เนื้อย่างๆ เนื้ออย่างกับน้ำจิ้มแจ่วแซบๆ" ธาราพูดพร้อมกับทำท่าสูดน้ำลายเมื่อเผลอนึกถึงรสชาติของเมนูที่ตัวเองพูด
 
 "ตอนนี้มึงจะไปซื้อที่ไหนห๊ะไอ้เนื้อย่างที่มึงพูดถึงน่ะ" เจ้าคุณถาม
 
 "ก็ทำไง" ธารามองนาฬิกาตามเจ้าคุณก่อนที่จะหันมาบอกกับเจ้าคุณอย่างมั่นใจ
 
 "มึงจะทำ?" เลิกคิ้วถาม
 
 "คุณทำไง" ธาราบอกอย่างยิ้มๆ
 
 "แล้วถ้ากูไม่ทำล่ะ?" เจ้าคุณลองหยั่งเชิงถามพรางสังเกตุอากัปกิริยาของธาราไปด้วย
 
 "ก็ ก็...."
 
 "เออๆ กูทำเองๆ อย่าเสือกร้องออกมาอีกนะมึง ไปๆจะกินก็ไปล้างหน้าแปรงฟันไป จะได้ออกไปซื้อเนื้อ" เจ้าคุณบอก
พร้อมกับลุกขึ้นจากเตียงไปเปิดตู้เสื้อผ้าหาเสื้อคลุมใส่โดยที่ไม่ลืมที่จะหยิบมาเผื่อธาราด้วยและเดินตามธารเข้าไปล้างหน้า
แปรงฟันเองบ้างก่อนที่จะพากันไปซื้อเนื้อมาทำเนื้อย่างตามอย่างที่ธาราต้องการ
.
.
.
.
.
 "อ้าว! พากันไปไหนมาแต่เช้าฮึเจ้าคุณน้องธาร" คุณนายมณีถามในขณะที่กำลังเดินลงบันไดมาจากชั้นบน เมื่อเห็นว่า
เจ้าคุณเดินถือของพะรุงพะรังเต็มสองมือโดยมีธาราเดินงัวเงียหลับตาจับชายเสื้อของเจ้าคุณตามหลังมาติดๆ
 
 "ตลาดครับยาย" เจ้าคุณตอบพร้อมกับเดินเลี่ยงเข้าไปในครัวโดยมีธาราติดสอยห้อยตามมาด้วยทั้งอย่างนั้น
 
 "แล้วทำไมน้องธารถึงเป็นอย่างนั้นล่ะเจ้าคุณ" คุณนายมณีถามพรางพยักเพยิดไปทางธาราที่เจ้าคุณจับทิ้งไปนั่ง
ตรงโต๊ะทานข้าวและตอนนี้เจ้าตัวก็พลุบหลับไปเรียบร้อยแล้วด้วย
 
 "ง่วงมั้งครับ ตื่นมางองแงร้องไห้จะกินเนื้อย่างตั้งแต่ยังไม่ตีสี่ดีเลยครับยาย จนผมต้องพาไปเลือกซื้อของที่ตลาด
แต่เช้าอย่างนี้นี่ไงครับ" เจ้าคุณบอกพร้อมกับชูถุงของที่เขาไปซื้อที่ตลาดกับธารามาเพราะเช้าขนาดนี้ก็มีแต่ตลาดเท่านั้น
แหละที่จะเปิดขายและมีของครบทุกอย่างน่ะ
 
 "ร้องไห้งองแง? น้องธารเนี่ยนะ??" คุณนายมณีถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหู เพราะเท่าที่จำได้พอพูดรู้เรื่องโตขึ้นมา
หลานชายของเธอก็แทบจะไม่ร้องไห้ออกมาให้เห็นเลยเพราะไม่ใช่เด็กงองแง เจ้าน้ำตาเหมือนกับเด็กคนอื่น อย่าพูด
ถึงตอนโตอย่างนี้เลย
 
 "ครับ ทั้งร้องไห้ทั้งงองแงเลย ผมพึ่งกลับบ้านมานอนได้ไม่ถึงชั่วโมงเลยอยู่ดีๆน้องธารมันก็ร้องห่มร้องไห้ปลุกผม
จนผมตกใจนึกว่ามันเป็นอะไร ที่ไหนได้มาบอกว่าอยากกินเนื้อ แต่กว่าจะพูดจะคุยกันรู้เรื่องนี่ผมแทบบ้าเหมือนกัน
นี่ถ้ายายไม่เชื่อผมนะไปดูที่ตามันได้เลยยังบวมช้ำอยู่เลย" เจ้าคุณพูดไปก็หมักเนื้อย่างของธาราไปด้วย
 
 "อ่า...ตาบวมจริงๆด้วยซิ แล้วนี่เจ้าคุณทำเป็นหรอให้ยายช่วยมั้ย?" คุณนายมณีถามเจ้าคุณพร้อมกับลูบหัวหลานชาย
ไปด้วยอย่างเอ็นดู
 
 "ผมทำเนื้อย่างได้ครับยายสบายมาก แต่ยายช่วยทำน้ำจิ้มแจ่วให้ผมหน่อยได้ไหมรึเปล่าครับ เจ้าตัวเขาอยากกินเนื้อย่าง
กับน้ำจิ้มแจ่วแซบๆเขาบอกแบบนั้น" เจ้าคุณบอกก่อนที่จะหันมาถามคุณนายมณีเพราะเขาไม่แน่ใจว่าถ้าเขาทำแล้วมันจะ
ถูกปากถูกใจเจ้าตัวรึป่าวเพราะเขาเคยทำแต่เนื้อย่างไม่เคยทำน้ำจิ้มซักทีได้แต่ดูเพื่อนทำ
 
 "อ่อ! ได้สิ ได้ๆ แต่ยายว่าน้องธารดูแปลกนะจากที่เจ้าคุณเล่ามาน่ะ" คุณนายมณีบอกพร้อมกับนั่งลงเก้าอี้ข้างๆหลานชาย
พรางนึกถึงสิ่งที่เจ้าคุณเล่าถึงอาการแปลกๆของธารา
 
 "ผมก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน อย่าว่าแต่ร้องไห้หรืององแงเลย มีอ้อนด้วยนะครับยาย ทั้งๆที่ปกติแค่ยิ้มให้ผมยังยากเลย"
 
 "อืม....แปลก...แปลกมากจริงๆ"
.
.
.
.
.
 "หอม...หอมเนื้ออ่ะ" ธาราลุกจากโต๊ะทานข้าวที่พลุบหลับอยู่เดินงัวเงียๆเข้าไปกอดหลังเจ้าคุณที่กำลังย่างเนื้ออยู่หน้าเตา
 
 "เออ หอมก็ไปนั่งรอที่โต๊ะไปจะเสร็จแล้ว เดี๋ยวเอาไปให้" เจ้าคุณหันมองธาราที่กอดเกาะอยู่ที่หลังตัวเอง
 
 "อ๊า....อร่อย!!" ธาราบอกออกมาอย่ามีความสุขเมื่อได้ลองกินเนื้อย่างที่เจ้าคุณเอามาให้ตัวเองที่โต๊ะทานข้าวก่อนที่จะ
นั่งลงตรงข้ามกันกับธาราอีกฝั่งนึง
 
 "หึๆ" เจ้าคุณยิ้มขำออกมาเมื่อเห็นท่าทางของธารา
 
 "อ้าว! ตื่นแล้วหรอน้องธาร" คุณนายมณีที่ขึนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากที่ช่วยเจ้าคุณทำน้ำจิ้มแจ่วและทำอาหารเช้า
ของตัวเองเสร็จ
 
 "ตื่นแล้วครับยายยยยย อื้อ!!อร่อยๆ หมดแล้วๆ เอาอีกคุณ เอาอีกๆ" ธาราลากเสียงตอบคุณนายมณีทั้งๆที่ยังไม่ละสายตา
จากจานเนื้อย่างของตัวเอง ก่อนจะยื่นจานเปล่าขอเนื้อย่างจากเจ้าคุณเมื่อตัวเองจัดการเนื้อย่างชิ้นสุดท้ายเข้าปากไปอย่างมี
ความสุขเสร็จเรียบร้อยแล้ว
 
 "ยังไม่อิ่มอีกหรอน้องธาร" คุณนายมณีที่มานั่งทานมื้อเช้าเจของเธอข้างๆกันกับหลานชายก็ถามขึ้น เพราะว่าปกติแล้ว
ธาราเป็นคนกินน้อยยิ่งมือเช้าอย่างนี้แล้วยิ่งแทบจะไม่แตะเลยถ้าเธอหรือเจ้าคุณไม่บังคับ
 
 "ยังไม่ถึงครึี่งกระเพราะเลยครับยาย เนี่ยธารยังกินได้อีกเยอะเลยนะ" ธาราบอกพร้อมกับลูบพุงตัวเองโชว์ และคำตอบ
ของธาราก็ทำเอาเจ้าคุณกับคุณนายมณีถึงกับมองหน้ากันโดยที่ไม่ต้องนัดไม่ต้องเรียกกันเลย
 
 "น้องธารอยากกินอย่างอื่นอีกไหมลูกนอกจากเนื้อน่ะ" คุณนายมณีถามเหมือนกับนึกอะไรขึ้นได้
 
 "อ่ะ! ป้อน กินป่ะ?" ธาราจิ้มเนื้อที่ราดน้ำจิ้มแล้วยื่นไปตรงหน้าเจ้าคุณทำเอาเจ้าคุณตกใจจนตาเบิกโต คุณนายมณี
ยิ่งแล้วใหญ่รายนั้นถึงกับทำช้อนหล่นหลุดจากมือเลยทีเดียวเชียว
 
 "อื้อ!! อะไรอะ!!" ธาราร้องออกมาอย่างขัดใจ ทำหน้าเบะพร้อมที่จะร้องไห้เต็มที่ ทั้งๆที่ยังไม่มีใครได้ทำอะไรเลย
 
 "อะไร เป็นอะไร" เจ้าคุณถามทั้งๆที่ยังเคี้ยวเนื้อที่ธาราป้อนยังไม่เสร็จดีเลย
 
 "ทำไมเงียบอ่ะ!!" ธาราบอกกเสียงง้องแง้ง
 
 "แล้วจะให้พูดอะไร? ทำอะไร?" เจ้าคุณเลิกคิ้วถาม
 
 "ก็พูด อื้อ!! อร่อย!! แบบนี้ไง ทำแบบนี้ไง!!" ธาราบอกพร้อมกับจิ้มเนื้อเข้าปากทำให้เจ้าคุณดูเป็นตัวอย่างไปด้วย
 
 "เออๆ อย่าร้องออกมาอีกนะ ป้อนมาใหม่ดิจะทำให้ดู" เจ้าคุณรีบบอกออกมาเมื่อเห็นธาราน้ำตาเอ่อคลออยู่เต็มเบ้าตา
เตรียมที่ไหลออกมาแล้ว เมื่อเขามัวแต่คุยกันทางสายกับคุณนายมณีจนเหมือนไม่สนใจเจ้าตัว
 
 "อื้อ!! อร่อย!! อร่อยมาก!! อร่อยที่สุด!!" เจ้าคุณแกล้งยิ้มจนตาปิดแล้วบอกออกมาอย่างที่ธาราต้องการเมื่อเจ้าตัวป้อน
เนื้อย่างเข้าปากเขาอีกครั้ง
 
 "เห็นมะๆ บอกแล้วว่าอร่อย!! ถ้าไม่รักไม่แบ่งหรอกนะจะบอกให้" ธาราพูดเหมือนเด็กเอาแต่ใจ
 
 "ห๊ะ!!!! มึงพูดว่าอะไรนะ??" เจ้าคุณถามอย่างไม่เชื่อหู
 
 "ก็ถ้าไม่รักก็ไม่แบ่งเนื้อย่างอร่อยๆให้กินหรอกนะไง ตกใจอะไร" ธาราเอียงคอถามอย่างสงสัย
 
 "เออๆ ไม่มีอะไรหรอกมึงกินไปเถอะ" เจ้าคุณบอกปัดๆทั้งๆที่ตอนนี้สติเขาหลุดไปแล้ว ทำไม? เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมธาราเปลี่ยนไป อะไรที่ทำให้ธาราเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ กินเนื้อมากจนสมองกลับ? หรือตอนที่เขาไปดูผับธาราลื่น
ล้มในห้องน้ำ? ถึงได้เป็นอย่างนี้
 
 "อือๆ แปลกๆไปนะเนี่ยคุณอ่ะ" ธาราพยักหน้าอือออพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะกลับไปตั้งใจกินเนื้อย่างของตัวเองต่อ
แต่สิ่งที่ธาราพึมพำว่าเขานั้นเจ้าคุณอยากจะตะโกนกลับไปเหลือเกินว่า 'มึงนั้นแหละที่แปลกอ่ะ' แต่ก็ไม่กล้าทำเพราะกลัว
จะไปสะกิดต่อมน้ำตาตื้นๆของเจ้าตัวเข้าอีก
 
 "ยายครับ" เจ้าคุณหันไปหาตัวช่วยเลยทันที
 
 "เดี๋ยวน้องกินเสร็จแล้วพาน้องไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วพาไปหาหมอกับยายนะเจ้าคุณ" คุณนายมณีบอกเจ้าคุณพร้อมกับ
มองธาราที่นั่งกินนั่งยิ้มกับเนื้อย่างของตัวเองอย่างมีความสุขไปด้วย
 
 "ยายหมายความว่า...." เจ้าคุณถามออกมาอย่างไม่ตกใจ ไม่รู้ว่าไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาของเขาวันนี้นั้นมีเรื่องให้เขาต้อง
ตกใจไปแล้วกี่ครั้งกัน เพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันแต่ที่รู้ๆมันหลายครั้งมากๆเลย
 
 "ยายเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน" คุณนายมณีบอกแค่นั้น
.
.
.
.
.
 "ทำไมธารต้องมาโรงพยาบาลด้วยอ่ะยาย ทำไมอ่ะคุณ" ธาราถามขึ้นอย่างงองแง เพราะตอนนี้เขา เจ้าคุณและคุณนายมณี
ได้มานั่งอยู่หน้าห้องตรวจแล้ว โดยที่เขาไม่รู้อะไรเลย เพราะพอกินเนื้อย่างแสนอร่อยไปแล้วสี่จานเจ้าคุณก็ไม่ยอมให้เขากิน
ต่ออีก แถมยังโกหกว่าหมดแล้วอีกทั้งๆที่เขาก็เห็นว่ามันยังมีอีกอยู่ในตู้เย็นหมักเสร็จแล้วด้วยแค่ยังไม่ได้ย่างก็เท่านั้นเอง
ทำไมอ่ะทำไม ทำไมต้องหลอกเขาด้วย แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรก็โดนเจ้าคุณลากไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็
มาโรงพยาบาลกับยายนี่แหละ ขัดใจๆ ขัดใจที่สุด!!!
 
 "คุณธารา ภูวนนท์ เชิญเข้าห้องตรวจได้เลยค่ะ" ยังไม่ทันที่ธาราจะได้คำตอบอะไรจากเจ้าคุณหรือคุณนายมณี ก็มีเสียง
พยาบาลหน้าห้องตรวจเรียกชื่อเขาขึ้นมาเสียก่อน
 
 "รู้ว่าเป็นเอกชนที่ค่ารักสาแสนจะแพง แต่จะเรียกเร็วไปไหน ยังนั่งไม่หายเมื่อยเลยนะ!!" ธาราพึมพำแบบเหวี่ยงๆอยู่
กับตัวเองเบาๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะแขนทั้งสองข้างของตัวเองโดนล็อคโดยเจ้าคุณกับคุณนายมณีคนละข้าง ลากเขา
เดินเข้าห้องตรวจแบบไม่สนใจเขาเลย
.
.
.
.
.
 "จากผลตรวจเลือดและผลตรวจปัสสาวะของคุณธาราผลที่ได้คือ 'ยินดีด้วยครับคุณตั้งครรภ์ได้ 11 สัปดาห์แล้วนะครับ'"
นายแพทย์พูดบอกผลตรวจ
 
 "จริงหรอหมอ?? เมียผมท้องจริงๆหรอ!!!!" เจ้าคุณถามออกมาด้วยความดีใจอย่างปิดไม่มิด
 
 "เป็นเรื่องจริงแน่นอนครับ ตอนนี้คุณธาราตั้งครรภ์ได้ 11 สัปดาห์ สัปดาห์หน้าอายุครรภ์ของภรรยาคุณก็จะครบ
สามเดือนแล้วล่ะครับ ถ้ายังไงก็ขอเชิญคุณแม่ไปห้องอัลตร้าซาวน์ดูน้องก่อนนะครับแล้วหมอจะสรุปผลให้ฟัง" นายแพทย์
บอกพร้อมกับเดินนำหน้าไปกับพยาบาลสาวหน้าห้อง โดยมีเจ้าคุณที่ลากทั้งธาราและคุณนายมณีที่ยังคงตกตะลึงกันอยู่ไป
ห้องข้างๆที่ติดกันซึ่งก็เป็นห้องอัลตร้าซาวน์นั่นแหละ
 
 "เดี๋ยวหมอจะให้ฟังเสียงหัวใจของน้องด้วยนะครับ แล้วก็นี่...นี่ไงครับน้องอยู่ตรงนี้ ตอนนี้ส่วนหัวของน้องจะโต
ขึ้นเกือบครึ่งนึงของขนาดตัว ซึ่งจะยาวราว 5 เซ็นฯ นิ้วมือนิ้วเท้าแยกออกจากกันอย่างสมบูรณ์ แขนขาจะเริ่มเคลื่อนไหว
ดังนั้นคุณแม่ก็เตรียมพร้อมกับการโดนน้องในท้องเตะในอีกเดือนสองเดือนข้างหน้าไว้เลยนะครับ" คุณหมอบอกพร้อมกับ
ชี้อธิบายส่วนต่างๆของเด็กในท้องไปด้วย โดยที่ทั้งธารา เจ้าคุณและคุณนายมณีตั้งใจดูและฟังหมออย่างเงียบๆ
.
.
.
.
.
 "เป็นอะไร? เงียบทำไมมึงไม่ดีใจรึไงหรือเสียใใจที่กำลังจะมีลูกกับกู" เจ้าคุณถามขึ้นเมื่อทั้งสองคนมาถึงบ้านแล้ว
เมื่อเห็นว่าธาราปิดปากเงียบแสดงสีหน้าเรียบเฉยมาตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลตอนที่ได้รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้องอยู่ และก่อนหน้านี้
เจ้าคุณได้ขับรถไปส่งคุณนายมณีที่บริษัทมุกของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รายนั้นพอตั้งตัวได้และรับรู้ว่าตัวเองกำลังจะมี
เหลนก็พูดคุยอย่างดีใจแบบไม่มีหยุดเลยเหมือนกัน
 
 "ลูกล่ะคุณ ลูก...เจ้าคุณเรากำลังจะมีลูก ฮืออออออ....." ธาราส่ายหน้าปฎิเสธในสิ่งที่เจ้าคุณพูดก่อนที่จะหันไปซุกอก
เจ้าคุณพูดบอกเหมือนกับเพ้อก่อนที่จะปล่อยโฮออกมาด้วยความดีใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีใจหรือเสียใจเพราะมีลูกกับเจ้าคุณ
แต่เขารู้สึกดีใจ ปลื้มใจ หรืออะไรก็ไม่รู้จนไม่สามารถบอกออกมาเป็นคำพูดได้ แต่ที่แน่ๆเลยเขามีความสุข มีความสุขมาก
ถึงมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยในชีวิตนี้
 
 "หึๆ เออๆ เรากำลังจะมีลูกจริงๆ อย่าร้องๆ เงียบเลย ร้องมากเดี๋ยวลูกไม่รักนะ" เจ้าคุณกระชับกอดธาราลูบหลังปลอบ
เบาๆ ก่อนที่จะเอาเรื่องลูกมาแกล้งพูดขู่ธารา พรางคิดถึงสิ่งที่หมอบอกและเตือนกับเขาว่าคนท้องอารมณ์แปลปวนบ่อย
.
.
.
.
.
       "ใครโทรมาว่ะ" เจ้าคุณพึมพำกับตัวเองเบาๆพร้อมกับค่อยๆลุกจากที่นอนเดินไปดูโทรศัพท์ที่ร้องดังอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งเพราะหลังจากที่เขาและธาราทานมื้อเย็นกันเสร็จแล้ว ธาราก็บ่นปวดหัวเพราะร้องไห้มากเกินไปหน่อย แต่พอเขาบอกให้นอน
ก็ไม่ยอมนอน ไม่รู้ว่ามัวห่วงอะไร ทั้งๆที่ตัวเองก็ง่วงนอนหาวแล้วหาวอีกจนตาแทบจะปิดก็ไม่ยอมนอน จะไปเฝ้าผับก็ไม่ให้
ร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่นั่นแหละ จนเขาต้องยอมแพ้แล้วลงมานอนด้วยทั้งๆที่ยังไม่ง่วงและยังไม่ถึงเวลานอนอย่างนี้
ไปปกติเพราะทุกๆครั้งถ้าเขาหรือณัฐภาสไม่ว่างหรือไปธุระใครคนใดคนนึงก็ต้องอยู่เฝ้าเพราะถ้าเกิดมีเรื่องอะไรขึ้นมาจะได้
แก้ไขได้ทันเพราะเขาทั้งสองคนมีสิทธิ์ตัดสินใจในทุกๆเรื่องไง เพราะบางเรื่องมันก็เกินกำลังลูกน้อง

       "เออ ว่าไง?" เจ้าคุณกรอกเสียงถามลงไปเมื่อเห็นว่าเป็นณัฐภาสเพื่อนรักของตัวเอง ก่อนหน้านี้เขาก็ได้โทรไปอวดเรื่อง
ลูกกับณัฐภาสไปแล้วแหละ

       ("ไอ้คุณพัสถูกจับตัวไป!!! จากที่ร้านxxx คนร้ายอุ่มพัสเข้าไปในรถยี่ห้อxxx รุ่นxxx ทะเบียนxxx ตอนนี้กูขับวนดูอยู่ที่
ถนนxxx เพราะพิกัดสัญญาณโทรศัพท์พัสที่พี่พงษ์(พี่ที่เป็นตำรวจ)เช็คให้มันหายไปจากตรงนี้ ยังไงมึงช่วยกูหาอีกทาง
หน่อยนะ ได้เรื่องยังไงโทรมาบอกกูด้วย แค่นี้นะมึง!!!") ณัฐภาสบอกอย่างเร่งรีบร้อนรน แต่ดีนะที่เขาจดสิ่งสำคัญที่ณัฐภาส
บอกไว้ทันไม่อย่างนั้นคงต้องโทรถามให้อารมณ์เสียกันอีกรอบ

       "อื้อออ....จะไปไหนอ่ะ?" ธาราถามอย่างงัวเงียเมื่อเห็นเจ้าคุณกำลังสวมแจ็คเก็ตเตรียมพร้อมที่จะออกไปข้างนอก

       "กูทำให้ตื่นหรอ?" เจ้าคุณถามพร้อมกับก้าวเดินเข้ามายืนข้างๆเตียงนอนฝั่งที่ธารานอน

       "เปล่าอ่ะ! ปวดฉี่เลยตื่น แล้วจะไปไหน" ธาราส่ายหน้าตอบก่อนที่จะเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง

       "ไปช่วยไอ้ภาสมันตามหาน้องพัสน่ะ น้องพัสโดนจับตัวไป"

       "จริงหรอ!! ตั้งแต่เมื่อไหร่!! ที่ไหนอ่ะ!!" ธาราถามอย่างตกใจเมื่อได้ยินในสิ่งที่เจ้าคุณบอก

      "ที่ร้านxxxน่ะ มึงไปฉี่แล้วมานอนต่อเถอะ แล้วกูจะรีบกลับ" เจ้าคุณบอกพร้อมกับลูบหัวธาราเบาๆ

       "เดี๋ยวคุณ!! ธารมีเรื่องจะบอก" ธาราร้องเรียกเจ้าคุณที่กำลังจะเดินออกจากห้องไปเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้

       "มีอะไร" เจ้าคุณเลิกคิ้วถามก่อนที่จะเดินกลับมาหาธาราที่นั่งอยู่ปลายเตียง

       "คุณรู้ใช่มั้ยว่าพ่อธารคือใคร" ธาราเอ่ยถาม

       "รู้ แล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับเรื่องนี้ล่ะ" เจ้าคุณถามกลับอย่างสงสัยเพราะมันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกันตรงไหนเลยกับเรื่อง
ที่พัสกรหายตัวไป

       "เกี่ยวสิ!! เพราะสิ่งที่คุณรู้คือ ธารเป็นลูกคนเดียวของพ่อทั้งๆที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ พ่อยังมีลูกชายอีกคนนึงที่เป็น
พี่ธารแต่มันเป็นลูกเมียน้อยแล้วมันก็เป็นคนขู่บังคับให้ธารเลือกคบกับภาสแล้วทำตามที่มันบอกหลายๆอย่าง หนึ่งในนั้นคือ
การก่อกวน หาเรื่องชวนตีกับภาสและคอยหาโอกาสที่จะจับตัวน้องพัสไปอย่างนี้นี่ไง!!" ธาราพูดบอกอย่างสั่นๆ เหมือนกับ
กำลังกลัวหรือเสียใจอะไรสักอย่าง แต่คำตอบของธาราก็ทำให้เจ้าคุณต้องตกใจและพยายามประติดประต่อเรื่องราวที่ผ่านๆมา
เวลาที่ธาราเริ่มมาก่อกวนหาเรื่องณัฐภาสกับเขา

       "มันเป็นใคร? ชื่ออะไร? แล้วรู้มั้ยว่ามันจะจับน้องไปที่ไหน!!" เจ้าคุณถามออกมาเป็นชุด

       "มันชื่อ..............."



 ...
ตอนนี้เป็นตอนที่ยาวมากและปัญหาเยอะมากเพราะมี่เผลอไปโดนตรงที่กดอัพบ่อยมาก
ใครที่อ่านไปก่อนหน้านี้แล้วมี่ต้องขอโทษด้วยนะคะ เพราะมี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
เรื่องอายุครรภ์ของธารานี่มี่เอามาจากในเน็ตนี่แหละค่ะ ส่วนเรื่องอาการแพ้ท้องนี่มีก็เก็บข้อมูลบวกกับความมโน
อยากจะให้ตัวละครเป็นอย่างนี้ ถ้ามันเวอร์หรือไม่สมจริงไปบ้างก็ต้องขออภัยนะคะเพราะมี่อยากจะให้
ธาราฉีกกฎเดิมๆของตัวเองเอาแบบที่เห็นความแตกต่างกันอย่างนี้เลยค่ะ
ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ

 
 
 
 
 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธาร]ตอนที่ 6 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 21-10-2015 00:36:07
จิ้ม

ธาราภาคง้องแง้งนี่ทั้งชวนปวดหัวและน่าเอ็นดูเลยนะเนี่ย นึกยังไงอยากกินเนื้อตอนตีสี่ฟะ
พี่ชายธาราคือภูผาป่ะเนี่ย เดาจากชื่อไปด้วยกันได้อยู่ 55
รอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธาร]ตอนที่ 6 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 21-10-2015 08:40:15
ธาราเปลี่ยนปายยยยย แต่น่ารักดี อาการแพ้ท้องแปลกๆ มีอยู่นะ คนรู้จักเล่าว่าตอนแพ้ท้องอยากกินดิน 555
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธาร]ตอนที่ 6 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 21-10-2015 09:15:43
ธารางอแงได้น่ารักมากๆ เลยค่ะ เห็นแล้วอยากจะตามใจทุกอย่างเลยจริงๆ :laugh:

ปล. ภูผาใช่ไหมคะธารา?
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธาร]ตอนที่ 6 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 21-10-2015 10:25:14
มันชื่อ!!!!!!!!!!!!
ค้างงงงงงงง
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธาร]ตอนที่ 6 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 21-10-2015 20:43:20
น่ารักดีนะธารเนี่ยยยย
อยากให้มาต่อตอนหน้าไวๆจัง สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธาร]ตอนที่ 6 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: janny_j ที่ 22-10-2015 02:28:02
น้องธาร ถ้าท้องแล้วน่ารักขนาดนี้ พี่คุณจะไปไหนรอด
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธาร]ตอนที่ 6 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 22-10-2015 04:57:38
โอ๊ยจะตั้ลล๊าคคไปไหนน้องธาร หมั่นเขี้ยวเลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธาร]ตอนที่ 6 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shiomi ที่ 24-10-2015 22:30:53
ตั๊ลร๊ากกกกกกกกกก แต่ละคู่มุ๊งมิ๊งฟรุ้งฟริ๊งมากๆเลย  :o8: :-[ :impress2: :man1:
แต่นายเอกโดยจับตัวไป #เศร้าแพร๊บบบบบบ สาธุอย่าให้พัสเป็นอะไรไปเลยนะแม่ไม่ไหวจะเคลียร์ :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 26-10-2015 23:49:22
คุณเมียภาคบังคับตอนที่ 16 









       ในขณะที่ณัฐภาสตามหาภรรยาตัวเองอย่างเป็นบ้าเป็นหลังอยู่นั้น อาระวาดคนรอบข้างจนร้านอาหารแทบแตกอยู่แล้วนั้น

ระหวางทางที่รถเคลื่อนออกมาจากร้านอาหารนั้นคนร้ายก็จอดรถตรงข้างทางอยู่พักนึงเพื่อรอคำสั่งจากผู้เป็นนาย หลังจากที่

ได้คำสั่งที่แน่นอนและชัดเจนแล้วหนึ่งในคนร้ายก็จัดการโป๊ะยานอนหลับใส่พัสกรจนพัสกรสลบแน่นิ่งไป



       "อือออ.....ที่ไหนเนี่ย" พัสกรกระพริบตาตื่นขึ้นมาอย่างงงงวย สะบัดศีรษะไปมาไล่ความมึนงง ก่อนที่จะมองซ้ายแลขวา

รอบๆตัวของตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนนั้นโดนคนร้ายจับตัวมาจากร้านอาหารที่นัดเจอกับกลุ่มเพื่อนของตัวเอง ก็รีบลุกขึ้น

จากเตียงนอนที่ตัวเองนอนอยู่หาหนทางหนีทีไล่ก่อนที่คนร้ายจะกลับมาเสียก่อน ห้องที่พัสกรโดนจับตัวมาขังไว้นั้นไม่ได้

แตกต่างไปจากห้องนอนธรรมดาๆของคนทั่วไปและไม่ได้ดูลึกลับอะไรอย่างที่เคยเห็นในหนังในละครเลย แต่ก็ต้องสิ้นหวัง

เมื่อสำรวจดูแล้วพบว่าทั้งหน้าต่างและประตูของห้องนี้นั้นถูกล็อคจากข้างนอกทั้งหมดเลย ซึ่งก็หมายความว่าถ้าไม่มีใคร

เข้ามาช่วยเขา เขาก็ไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้แน่นอนเพราะถึงหน้าต่างจะเป็นกระจกก็จริงแต่หลังบานกระจกนั้นก็ยังมี

เหล็กดัดท่าทางแข็งแรงซ้อนอยู่อีกชั้นนึง



       แอ๊ดดดดด.....



       "ไม่ ไม่จริงใช่มั้ย?...." พัสกรพูดเสี่ยงแผ่วกับตัวเองเบาๆจนแทบจะไม่เป็นภาษาเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูจากข้างนอกเข้ามา

และบุคคลที่อยู่หลังประตูนั้นทำให้ตัวเขานั้นแทบจะล้มทั้งยืน



       .....เป็นไปไม่ได้ ไม่จริงๆ ใครก็ได้บอกเขาทีซิว่านี่มันไม่ใช่เรื่องจริง มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน คนๆนี้น่ะหรอ?

คนๆนี้จริงๆน่ะหรือ? ที่เป็นคนกับตัวเขามาขังไว้ที่นี่.....



       "เป็นอะไรไปครับน้องพัส ไม่ดีใจหรือครับที่เจอพี่น่ะ พัสรู้ไหมว่ากว่าพี่จะหาทางแยกตัวจากผัวของพัสจากพวกเพื่อนๆ

ของเราเพื่อที่จะมาหาพัสเร็วๆน่ะมันลำบากแค่ไหนกัน แต่พอมาเจอพัสทำหน้าอย่างนี้ใส่พี่ พี่เสียใจนะครับ" ทันทีที่ได้เห็น

อาการที่พัสกรแสดงออกไปทางสีหน้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้มาใหม่ก็พูดตัดพ้อออกมาทันทีเลยเหมือนกัน



       "พะ..พี่ภู" พัสกรเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา



       "ครับพี่เอง พี่ภูผาของน้องพัสคนเดิมคนนี้ยังไงล่ะครับ" ภูผาบอกพร้อมกลับขยับเดินมาชิดใกล้กับพัสกรในขณะที่

พัสกรก็ถอยหลังหนีเช่นเดียวกัน



       "ทำไมครับ พี่ภูจับพัสมาทำไมครับ" พัสกรถาม พยายามที่จะบิดแขนออกจากการจับกุมของภูผา



       "เพราะพัสเป็นของพี่ไงครับ พัสต้องเป็นของพี่มาตั้งนานแล้ว นานมากจนพัสคาดไม่ถึงแน่ๆ พี่รักพัสนะรักพัสจริงๆ

มาอยู่กับมาพี่เป็นเมียพี่เป็นแม่ของลูกพี่ดีกว่านะพัส" ภูผาพูดบอกเหมือนคนเพ้อ

 

        "พี่ภูพูดอะไรน่ะครับ พัสไม่เห็นจะเข้าใจอะไรเลย" พัสกรถามอย่างไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ภูผาพูดมานั้นคืออะไร



       "ในเมื่อพัสไม่เข้าใจ แต่เพราะเห็นว่าพัสกำลังจะมาเป็นเมียของพี่ พี่จะใจดีอธิบายให้พัสฟังก็ได้ครับ" ภูผาบอกพร้อมกับ

เดินต้อนพัสกรถอยหนังไปจนชิดติดกับขอบเตียงนอนภายในห้อง แต่ด้วยความที่มัวแต่กลัวและไม่ทันที่จะได้ตั้งตัวเลยทำ

ให้พัสกรเสียหลักหงายหลังนอนไปกับเตียงโดยที่มีภูผาค่อมทับกันพัสกรหนีไว้อีกที



       "อ๊ะ!!" พัสกรอุทานด้วยความตกใจ เมื่อเสียหลักหงายหลังไปบนที่นอนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อภูผานั้นค่อมทับตัวและ

กดแขนทั้งสองข้างของเขาเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะพยายามที่จะดิ้นขัดขืนมากสักเท่าไหร่แต่ด้วยความที่ร่างกายและแรงต่างกัน

เลยเหมือนกับว่าเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุงเสียอย่างนั้น



       "น้องพัสรู้อะไรมั้ยครับ? ว่าพ่อกับแม่ของพัสนั้นเอาพัสมาขายใช้นี้ในบ่อนครั้งแรกกับพ่อพี่ตั้งแต่พัสห้าขวบเองได้มั้ง

แต่ตอนนั้นปู่กับย่าพัสรู้เรื่องซะก่อนเลยเอาเงินมาให้หนี้แทนให้แล้วก็พาหายเงียบกันไปอยู่เมืองนอกโน่น แต่ตอนนั้นอ่ะพี่

ไม่รู้เรื่องอะไรสักเท่าไหร่หรอก พี่รู้แค่ว่าพ่อจะเอาพัสมาเป็นของขวัญวันเกิดให้พี่เท่านั้นเองซึ่งพี่ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่หลัง

จากนัั้นมาอีกหลายปีเมื่อพ่อกับแม่ของพัสกับมาตอนที่ปู่กับย่าของพัสตายกันไปทั้งคู่แล้ว พ่อของพัสก็กลับมาเล่นที่บ่อน

ชายแดนเพื่อนบ้านประเทศของเราอีกซึ่งตอนนั้นพี่นี่แหละเป็นคนดูแลอยู่ที่สาขานั้นแทนพ่อของพี่ และก็เหมือนเดิมพ่อของ

พัสหมดตัวและติดหนี้เงินกู้ในบ่อนของพี่โดยไม่มีเงินมาใช้คืนอีกเลยขอเอาพัสมาแลกกับหนี้ก้อนนั้น โดยที่ส่งรูปพัสมาให้พี่

และให้พี่ไปตามจับตัวพัสมาเอง ซึ่งแน่นอนว่าพี่ยอมตกลงโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรให้เสียเวลาเลย แต่เพราะความที่พี่ชอบพัสมาก

เพียงแค่ได้เห็นได้เจอกันครั้งแรกตอนที่เราเดินชนกันพัสจำได้ไหมครับ" ภูผาเอียงคอถาม



       "......."



       "อ่า...จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ หลังจากวันนั้นพี่ก็เลยตัดสินใจว่าพี่จะไม่จับตัวพัสอย่างไม่เต็มใจแล้ว แต่จะหันมาจีบ

พัสแบบดีๆแทน เห็นไหมครับว่าพี่รักพัสแค่ไหน ถ้าพี่ไม่รักพี่ไม่ทนหรอกนะครับเพราะว่าพี่มีสิทธิในตัวพัสอยู่แล้ว

หลังจากนั้นพี่ก็เลยต้องหาทางเข้าไปเรียนที่คณะและมหาลัยเดียวกันกับพัสโดยที่ลงทุกตัวให้ตรงกันกับพัสเรียนทุกๆวัน

พี่กะว่าหลังเรียนจบพี่จะขอพัสเป็นแฟน คบกันและจะแต่งงานกันหลังจากนั้น และทุกอย่างก็กำลังจะไปได้ดีเลยทีเดียว

ถ้าพ่อแม่ของพัสไม่หักหลังพี่โดยที่ไปรับเอาเงินของเจ้าสัวชัชวาลย์พ่อของไอ้ภาสมันมาใช้หนี้พี่และบังคับยัดเยียดให้พัส

ไปแต่งงานกับไอ้ภาสมัน ซึ่งไอ้ภาสมันเป็นคนที่พี่เกลียดที่สุดแล้วด้วยพัสคิดว่าพี่จะรู้สึกยังไงครับ!!!"



       "....."



       "พัสรู้อะไรไหมว่าพี่น่ะนะเกลียดไอ้ภาสมันมากขนาดไหน ถ้าพี่สามารถฆ่ามันได้ง่ายๆพี่ก็จะทำ ตั้งแต่เด็กมาพี่ก็ได้ยิน

แต่ชื่อของมันจากทั้งพ่อแม่และน้องชายคนเดียวของพี่ ว่ามันเก่งแค่ไหน ดีแค่ไหน ฉลาดแค่ไหน ไม่ว่าใครหรือเรื่องอะไร

พี่ก็ได้ยินแต่ชื่อของมันตามหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา พี่เกลียดมันจนพี่ต้องรับบทเป็นพี่ชายใจร้ายของน้องชายคนละแม่

คนเดียวของพี่อย่างร้ายกาจเพื่อที่จะให้น้องพี่เลิกยุ่งกับมันและบังคับใช้ให้น้องพี่นี่และจัดการมันและแยกพัสออกจากมัน

อย่างเงียบๆเนียนๆ แต่มันก็ไม่ได้ผลจนพี่ต้องล้มเลิกไปและลงมือทำทุกอย่างเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจีจี้เด็กในสังกัดพี่

หรืออดีตคู่นอนของไอ้ภาสมันหรือเรื่องพนักงานในผับไอ้ภาสที่ทยอยกันลาออกเพราะเป็นหนี้นอกระบบของพี่อยู่หรือแม้

แต่เรื่องที่พี่เข้าไปป่วนมันบ่อยๆโดยที่พัสไม่รู้อีกนั่นไง มันถึงได้จ้องจะกระโจนกัดพี่ทุกครั้งที่พี่อยู่ใกล้ๆพัสให้มันเห็นไง

พัสไม่เคยเอะใจเลยหรือครับ? หืม..." ภูผาถามพร้อมกับตั้งใจจะกดจูบที่ปากของพัสกรแต่พัสกรหันเบี่ยงหลบเสียก่อนเลย

ไปโดนที่ข้างแก้มแทน



       "....."



       "อ่อ! แล้วสิ่งที่ความอดทนของพี่สิ้นสุดลงก็คือการที่ได้รับรู้ว่าพัสกำลังจะมีมารหัวขนลูกของไอ้ภาสอยู่ในท้องของพัส

นี่ไง!!!!! พัสจะผ่านใครมาหรือเป็นเมียใครกี่คนพี่ไม่สน แต่พัสจะต้องเป็นแม่ของลูกพี่เพียงคนเดียวเท่านั้น!!!! เพราะพี่จะไม่

ยอมให้ลูกพี่ต้องรู้สึกเหมือนพี่แน่นนอน การที่เป็นลูกเก็บแบบหลบๆซ่อนๆมันเจ็บปวดนะครับ!!!!!" ภูผาทั้งตะโกนตะคอก

ออกมาใส่พัสกรอย่างอดกลั้น หลายๆเรื่องหลายๆความรู้สึกของเขาในตอนนี้มันแปลปวนตีรวนกันไปหมดแล้ว

 

       "พัสไม่รู้หรอกนะครับว่าพี่ภูจะรู้จักพัสหรือจะรักพัสมากแค่ไหน แต่พัสขอบอกพี่ภูไว้ตรงนี้เลยว่าความรู้สึกที่พัสมีให้

พี่ภูมาตลอดนั้นมีเพียงแค่ความเป็นพี่น้องและเพื่อนสนิทในกลุ่มเท่านั้นแหละครับ และตอนนี้พัสก็ไม่ใช่พัสกรคนเดิมเหมือน

เมื่อก่อนแล้วเพราะพัสแต่งงานมีสามีแล้วนะครับ พัสขอร้องเถอครับ พี่ภูปล่อยพัสไปเถอะนะครับเห็นแก่ความเป็นเพื่อน

เป็นพี่เป็นน้องของเรา ปล่อยพัสกลับไปหาพี่ภาสสามีของพัสเถอะนะครับ แล้วพัสจะถือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นและได้ยินจากพี่ภู

มาทั้งหมดวันนี้นั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนะครับ นะครับพี่ภู ปล่อยภัสไปเถอะนะครับ" หลังจากที่เงียบและฟังอยู่นานพัสกร

ก็พยามอธิบายและต่อลองอย่างใจเย็นเมื่อเห็นแววตาแข็งกร้าวท่าทางคลุกคามและดุดันเจือความเจ็บปวดของภูผาที่แสดง

ออกมาให้เห็นนั้นมันทั้งหน้ากลัวและหน้าสงสารไปพร้อมๆกันจนเขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี ที่คิดได้ตอนนี้รู้แค่

เพียงว่าต้องพูดคุยต่อลองให้นานที่สุดและภาวนาให้สฃณัฐภาสสามีของตัวเองให้ตามหาตนเจอเร็วๆ เพราะนับตั้งแต่รู้จักกัน

กับภูผามานั้นสิ่งที่พัสกรได้เห็น ได้รู้สึกและได้สัมผัสจากภูผามานั้นมีเพียงความเป็นเพื่อนเป็นพี่ที่ใจดีและความเป็น

สุภาพบุรุษที่แสนอ่อนโยนเพียงเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ชายที่ชื่อภูผาที่เหมือนเป็นคนแปลกหน้าที่ไหนก็ไม่รู้อย่างนี้



       "พี่หรอ? เพื่อนหรอ? ไม่รู้สึกอะไรเลยอย่างนั้นหรอ!!! พัสคิดว่าการที่จะตัดใจจากคนที่ตัวเองรักมาอยู่นานหลายปีนั้น

มันงายเหมือนกับการตักน้ำล้างทรายออกจากตัวหรอห๊ะ!!!" ภูผาตะคอกออกมาอย่างสุดทนเมื่อได้ยินคำพูดทั้งหมดที่ออก

มาจากปากของพัสกร



       "แต่พี่ภูก็บอกเองนี่ครับว่าไม่อยากให้ลูกของพี่ต้องเป็นเหมือนพี่รู้สึกกันกับพี่ พี่ภูก็รู้แล้วนี่ครับว่าพัสท้องอยู่น่ะ ไม่ว่า

ยังไงเรื่องของเรามันก็เป็นไปไม่ได้อีกแล้วนะครับ เห็นแต่ความเป็นเพื่อนของเราเถอะนะครับพี่ภู นะครับ พัสขอร้อง"

พัสกรบอกออกมาทั้งน้ำตาเพราะตกใจเสียงตะคอกของภูผาและเริ่มรู้สึกกลัวท่าทางคุกคามของภูผาที่ดูเพิ่มมากขึ้นทุกที



       "ก็เพราะเหตุนี้แหละพี่ถึงต้องจับตัวพัสมาอย่างนี้นี่ไง เพราะพี่จะจัดการรีดไอ้ลูกมารหัวขนออกจากท้องของพัสด้วยมือ

ของพี่เอง เอาให้แน่ใจจริงๆว่าจะไม่มีลูกของไอ้ภาสติดท้องของพัสอยู่อีก แต่พัสไม่ต้องกลัวหรอกนะถึงแม้ว่ามันอาจจะเจ็บ

นิดหน่อยแต่พี่ไม่ปล่อยให้พัสเป็นอะไรไปอย่างแน่นอน" ภูผาบอกพร้อมกับแสยะยิ้มออกมาเหมือนกับตัวร้ายในละครโทรทัศน์

อย่างไงอย่างงั้น



       "ไม่นะ!!! ไม่!! พี่ภูพัสขอร้อง!!! อย่าทำพัสนะอย่าทำ!!!!! อื้อๆ อื้ออออออ" พัสกรตะโกนร้องบอกสุดเสียงเมื่อเห็นว่าภูผา

ล้วงขวดใสเล็กๆออกมาซึ่งในขวดนั้นมีน้ำสีดำๆบรรจุอยู่ไม่ต้องให้ใครอธิบายหรือเดาให้ยากเลยพัสกรก็รับรู้ทันทีเลยว่า

ไอ้น้ำสีดำๆนั้นคือยาขับเลือดอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่รู้แน่นอนว่าเขาท้องจริงหรือเปล่าแต่สัญชาตญาณความกลัว

ของเขานั้นก็สั่งว่าให้ปัดมันทิ้งไปอย่างอัตโนมัติแต่เพราะความแข็งแรงและขนาดร่างกายที่แตกต่างกันมากทำให้ภูผานั้น

จับพัสกรกรอกยาใส่ปากได้อย่างง่ายดายถึงแม้ว่ายาจะหกไปบ้างเพราะแรงดิ้นหนีของพัสกร แต่เขาก็พอใจเพราะว่ามั่นใจ

ในความแรงของตัวยาที่เขาได้มาว่าต่อให้กินไปเพียงไม่กี่อึกก็สามารถขับเลือดขับเด็กออกมาได้อย่างแน่นอน



       "หึๆ อีกไม่กี่อึดใจหรอกครับน้องพัส รักของเราครอบครัวของเราอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมหรอกครับ" ภูผาบอกออกมาพร้อม

กับหัวเราะอย่างชอบใจเมื่อเห็นว่าพัสกรนอนสงบนิ่งไปเหมือนกับไร้เรี่ยวแรงแต่ยังคงลืมตาและรู้สึกตัวอยู่



       ตึง!!! ตึง!!! ตึง!!! ปึง!!!



       เสียงตึงตังเพราะข้าวของล้มหรือเพราะการต่อสู้จากกลุ่มคนข้างนอกดังเข้ามาภายในห้องที่มีภูผาและพัสกรอยู่ข้างใน

ทำให้ภูผาที่ยืนมองพัสกรนอนไร้เรี่ยวแรงหน้าชื้นเหงื่ออยู่อย่างมีความสุขต้องขมวดคิ้วยุ่งด้วยความสงสัย แต่ยังไม่ทันได้

เดินออกไปดูประตูห้องก็ถูกกระแทกหลุดพังออกมาจากอีกฝั่ง ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากณัฐภาสสามีตัวจริงของพัสกร

ที่เดินก้าวสามขุมเข้ามาด้วยไปหน้าที่บึ้งตึงเต็มไปด้วยความเกี้ยวโกธร ไม่ต้องรอพูดคุยหรือทักทายให้เสียเวลาณัฐภาสก็

กระโจนใส่ภูผาทันทีโดยที่ภูผาไม่ทันได้ตังตัวอะไรเลยเมื่อเห็นว่าภรรยาของตนนั้นนอนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียงนอนกลางห้อง



       ผัวะ!! ผัวะ!! ตึก!! ผัวะ!!



       "ไอ้เลว!! เป็นมึงจริงๆด้วย อย่าอยู่เลย สัส!!!!" ทั้งมือทั้งเท้าณัฐภาสประเคนเสริฟให้ภูผาเต็มที่อย่างสุดแรงโดยที่ไม่ต้อง

ร้องขอเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่ได้ยินได้รับรู้มาจากปากของเจ้าคุณว่าธาราอดีตเพื่อนรักของตัวเองได้บอกเล่าอะไรออก

มาบ้างมันทำให้ณัฐภาสคลั่งได้ง่ายๆเลยแต่นั่นมันยังไม่เท่ากับที่ภูผาจับพัสกรภรรยาของเขามาสักนิดเลย เรื่องที่ได้ยินมานั้น

มันกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยเหมือนมดกัดไปเลยเมื่อเห็นว่าภรรยาสุดที่รักของตัวเองขอนไร้เรี่ยวไร้แรงอยู่บนเตียงของคนๆนี้

มันทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่จนสามารถให้ฆ่าใครทิ้งก็ได้ตอนนี้อย่างไม่รู้สึกผิดสักนิด

 

       "พะ...พี่...ภาส...ชะ....ช่วย....พัสด้วย!!!" พัสกรพยายามที่จะเปร่งเสียงร้องเรียกสามีของตัวเองอย่างสุดความสามรถ

เพราะเริ่มปวดหน่วงที่ท้องน้อยแต่ด้วยความที่ไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแล้วเพราะด้วยผลข้างเคียงและฤทธิ์ของยาที่ทำให้พัสกร

ต้องแน่นิ่งตัวชาอยู่กับที่ทั้งๆที่ยังหายใจและยังสามรถรับรู้ความรู้สึกของตัวเองและสิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้างได้



       ผัวะ!!! ปึก!! ปัก!! ผัวะ!! ผัวะ!!!



       "พอแล้วไอ้ภาส!!! พอแล้ว!!! มาดูเมียมึงก่อน เดี๋ยวกูกับพี่พงษ์จัดการไอ้เหี้ยนี่ต่อให้" เจ้าคุณตะโกนเรียกเตือนสติเพื่อนรัก

อย่างณัฐภาสเมื่อเห็นว่าณัฐภาสขาดสติน็อตหลุดจนคลั่งเหมือนคนบ้าไปซะแล้ว เมื่อเขาและพี่พงษ์รุ่นพี่ตำรวจที่มาช่วยด้วย

ในครั้งนี้วิ่งตามเข้ามาหลังจากจัดการพวกลูกน้องของภูผาที่อยู่ชั้นล่างของบ้านเรียบบร้อยหมดแล้วแล้เข้ามาเห็นว่าพัสกร

นอนร้องเรียกณัฐภาสอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าและอาการไม่ค่อยจะดี แต่ณัฐภาสก็ไม่ได้ยินหรือรับรู้เลยเพราะความโมโหจน

หน้ามืดเลยตั้งหน้าตั้งตาทั้งเตะทั้งกระทืบภูผาที่หมดฤทธิ์สะบักสะบอมนอนกองให้ณัฐภาสซ้อมอยู่ที่พื้นมาได้สักพักแล้ว



       "พัส!! เป็นอะไรพัสเป็นอะไร" เมื่อได้ยินเจ้าคุณบอกอย่างนั้นณัฐภาสก็ได้สติขึ้นมาจึงละเท้าออกจากร่างของภูผารีบเดิน

มาดูถามอาการของพัสกรอย่างร้อนใจเมื่อเห็นว่าทั้งหน้าทั้งตัวของพัสกรนั้นชื้นเหงื่อไปหมด แต่นั้นมันยังไม่ทำให้เขาตกใจ

เท่ากับการที่เขาได้เห็นว่ามีน้ำเนียวข้นสีแดงไหลซึมออกมาให้เห็นจากช่วงล่างของพัสกรจนเลอะเปอะเปื้อนเต็มที่นอนหรอก



       "อย่าเป็นอะไรนะพัส!!! อย่าเป็นอะไรนะ!!! อดทนนะพัส!! อดทน!!!! พี่ขอร้อง!!!" ไม่ต้องรอคำตอบออกจากปากพัสกร

แต่อย่างใด ณัฐภาสก็ช้อนตัวอุ้มภรรยาสุดที่รักออกจากตรงนั้นไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าบ้านของภูผาทันทีโดยมีเจ้าคุณวิ่งตามมา

และอาสาเป็นคนขับรถให้เพราะณัฐภาสเพราะณัฐภาสคงไม่สามารถที่จะขับรถพาพัสกรไปโรงพยาบาลได้เองอย่างแน่นอน

ในเมื่อยังจัดการกับสติตัวเองไม่ได้อยู่อย่างนี้ หลังจากที่ตกลงกันได้แล้วเจ้าคุณก็รีบออกรถขับมุ่งตรงไปโรงพยาบาลไปด้วย

ความเร็วทันทีโดยมีณัฐภาสพูดเร่งเจ้าคุณและทั้งปลอบทั้งเรียกสติของพัสกรอยู่ข้างหลังรถแทบจะตลอดเวลาด้วยความใจร้อน

.

.

.

.

.

[มีต่อข้างล่างอีกค่ะ]       
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 26-10-2015 23:51:43
[ต่อจากข้างบน]



"กูว่ามึงใจเย็นและนั่งลงเถอะไอ้ภาส มึงเดินวนไปวนมาอย่างนี้มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก มึงนั่งเถอะ กูเห็นมึงเดินไป

วนมาแล้วกูปวดหัวแทนว่ะ" เจ้าคุณพูดเตือนสติเพื่อนรักเมื่อเห็นว่าณัฐภาสเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินมากเกินกว่า

ครึ่งชั่วโมงได้แล้วตั้งแต่ส่งพัสกรให้หมอเข้าไปดูอาการในห้องฉุกเฉินแห่งนี้



       "เออๆ มึงว่าพัสจะเป็นอะไรมากไหมว่ะ แล้วทำไมหมอยังไม่ออกมาอีกว่ะ!!!" นั่งไปได้ยังไม่ถึงสิบวิณัฐภาสก็เด้งตัวลุก

ขึ้นมาเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินเหมือนเดิมพร้อมกับพูดบ่นกับเจ้าคุณด้วยความหงุดหงิดร้อนใจ เมื่อเห็นอย่างนั้น

เจ้าคุณก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อและนั่งรอเป็นเพื่อนกันกับณัฐภาสอยู่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างเงียบๆ



       แอ๊ดดดดดดด.....



       "เมียผมเป็นไงบ้างครับหมอ!!!" เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องฉุกเฉินและเห็นหมอคนที่เข้าไปดูอาการของพัสกรเดินออกมา

ณัฐภาสก็แทบจะกระโจนเข้าใส่หมอเลยแต่ดีที่เจ้าคุณคว้าตัวเพื่อนไว้ได้ทัน ณัฐภาสเลยได้แต่เอ่ยปากถามออกไปด้วยความ

ร้อนใจ



       "หมอต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับที่หมอไม่สามารถช่วยเด็กในท้องของคนไข้ไว้ได้ทัน และหมอตรวจเจอ

ยาขับเลือดเถื่อนชนิดรุนแรงอยู่ในร่างกายของคนไข้ด้วยนะครับหมอเลยรักษาคนไข้ด้วยการกรีดท้องน้อยของคนไข้เพื่อ

ที่จะขูดมดลูกนำเลือดเสียออกจากมดลลูกคนไข้นะครับเพราะคนไข้เป็นผู้ชายและไม่มีช่องคลอด อีกสักพักพยาบาลจะ

พาคนไข้ไปที่ห้องพักนะครับ ถ้าคืนนี้คนไข้ไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไรพรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วครับ ยังไงหมอก็ขอตัว

ก่อนนะครับแล้วพรุ่งนี้หมอจะเข้าไปตรวจอีกครั้งนึง" คุณหมอที่เป็นคนรักษาพัสกรบอกอาการและวิธีรักษากับณัฐภาส

อย่างละเอียด  ซึ่งณัฐภาสเองนั้นก็เหมือนช็อกไปแล้วเมื่อได้ยินว่าพัสกรได้แท้งลูกของเขาไปแล้ว โดยที่มีเจ้าคุณบีบบ่าเพื่อ

ให้กำลังใจเพื่อนรักเบาๆเมื่อได้ยินสิ่งที่หมอบอกออกมา



       "ดะ...เดี๋ยวครับหมอ!! ลูกผม...ลูกผมเขาอายุเท่าไหร่แล้วครับ" เมื่อตั้งสติได้ณัฐภาสก็เรียกหมอไว้ก่อนที่หมอจะเดินออก

ไปจากตรงนั้นเพื่อถามถึงลูกที่เขายังไม่เคยได้มีโอกาสที่จะรับรู้การมีตัวตนอยู่เลย แต่พอได้รู้ก็กลายสายไปเสียแล้ว



       "อายุครรภ์ประมาณแปดสัปดาห์หรือสองเดือนนั่นแหละครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวนะครับ" พูดจบคุณหมอ

ก็ขอตัวเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีเพราะได้หมดหน้าที่ของตัวเองแล้ว



       "หึๆ ลูกกูไอ้คุณลูกกู ลูกที่กูกับพัสรอมาตลอด ลูกที่กูยังไม่เคยได้รับรู้การมีตัวตนของเขาเลย" ณัฐภาสพูดบอกกับเพื่อนรัก

อย่างเจ้าคุณด้วยเสียงขื่นขม ไหล่กว้างห่องุ้ม สองมือยกขึ้นปิดหน้าทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นหน้าห้องด้วยความอ่อนแรงอยู่เงียบๆ

อย่างนั้น เจ้าคุณทำได้เพียงนั่งยองตบบ่าเพื่อนรักเบาๆในเมื่อณัฐภาสเลือกที่จะเงียบเขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกไป แต่เขาก็เข้าใจ

และรับรู้ความรู้สึกของณัฐภาสได้ดีด้วยความที่เป็นเพื่อนรักกันมาหลายปีและในฐานะคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อคนเหมือนกัน

เพราะตอนนี้ธาราภรรยาของเขาก็กำลังตั้งท้องอยู่เหมือนกันแถมยังอายุครรภ์ใกล้เคียงกันอีกเพียงแต่ลูกเขานั้นมีอายุมากกว่า

ลูกของณัฐภาสที่เสียไปแค่สามสัปดาห์เท่านั้นเอง

.

.

.

.

.

       "มึงกับไปดูเมียมึงเถอะไอ้คุณนี่ก็ดึกแล้ว" ณัฐภาสเอ่ยขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบอยู่นานตั้งแต่เข้ามานั่งเฝ้าพัสกรในห้องพัก

ห้องนี้หลังจากที่พยาบาลจัดการตรวจเช็คอาการของพัสกรเรียบร้อยแล้ว



       "แต่มึง...."



       "กูไม่เป็นไรหรอก มึงกลับไปหาเมียมึงเถอะป่านนี้มันคงนั่งชะเง้อรอมึงจนไม่ยอมหลับยอมนอนแล้วล่ะกูว่า เชื่อกูดิ

กลับบ้านไปดูเมียมึงเถอะ อย่าปล่อยให้อะไรๆมันสายไปอย่างกู ไปเถอะกูอยู่คนเดียวได้สบายมาก" ณัฐภาสบอกพร้อมกับ

ยิ้มให้เพื่อนรักอย่างเจ้าคุณไปอย่างแกนๆ ซึ่งเจ้าคุณดูก็รู้ว่าณัฐภาสต้องฝืนออกมาขนาดไหนที่จะยิ้มให้ตัวเอง



       "เฮ้อ! เออๆกูกลับก่อนก็ได้ ถ้ายังไงพรุ่งนี้กูจะรีบมาแต่เช้า มึงก็พักผ่อนซะนะภาส มีอะไรก็โทรหากูได้ตลอดเลย

แล้วกูจะรีบมา" เจ้าคุณบอกพร้อมกับตบไหล่ณัฐภาสที่นั่งหันหลังให้เบาๆโดยที่ไม่ลืมบอกเพื่อนรักพักผ่อนเพราะคนที่

ต้องแบกรับทุกอย่างทั้งหมดก็คือณัฐภาสเลยอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง ยิ่งไอ้สีหน้าตอนที่หันมาฝืนยิ้มให้เขานั้นยิ่งหน้าเป็นห่วง

แต่เขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เพราะเรื่องความรู้สึกนั้นไม่มีใครจัดการใครได้นอกจากตัวของตัวเอง เจ้าคุณมองแผ่นหลัง

งองุ้มเพราะหมดแรงของเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วงอยู่สักพัก ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ



       "พี่ขอโทษนะครับพัส พี่ขอโทษจริงๆที่พี่ไม่สามารถปกป้องดูแลพัสและลูกของเราได้อย่างที่พี่เคยสัญญาเอาไว้ แต่พัส

อย่าโกรธพี่เลยนะ อย่าโกรธพี่เลย พี่ขอโทษ ฮึก! พี่ขอโทษครับคนดี พี่ขอโทษ...ขอโทษ" ณัฐภาสฟุบหน้าร้องไห้ปล่อยน้ำตา

ลูกผู้ชายรินไหลรดกับหลังมือภรรยาตัวเองอย่างเงียบๆพร่ำบอกแต่คำว่าขอโทษอยู่อย่างนั้น เขาเสียใจๆเสียใจจริงๆเสียใจมาก

อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยจริงๆในตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ มากเสียยิ่งกว่าตอนที่เขาต้องสูญเสียแม่ของเขาไป

เสียด้วยซ้ำ เขาได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆว่าทำไมแค่เด็กคนนึงที่เขาไม่เคยรู้จักไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนถึงได้มีอิธิพลต่อหัวใจต่อ

ความรู้สึกของเขาได้มากมายขนาดนี้ หรือนี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าสายใยความรักความผูกพันธ์ของพ่อลูกน่ะ



       "ภาสลูก" เจ้าสัวชัชวาลย์เรียกพร้อมกับแตะไหล่ลูกชายเบาๆ พอออกมาจากห้องประชุมปั๊บเสียงโทรศัพท์ของเขาก็

ดังขึ้นปุ๊บ ซึ่งคนที่โทรหาเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เปป็นเจ้าคุณเพื่อนสนิทของลูกชายเขานั่นเอง และเรื่องที่เขาได้ยินจาก

คำบอกเล่าของเจ้าคุณในโทรศัพท์มันทำให้เขาต้องรีบเปลี่ยนเส้นทางจากที่จะกลับบ้านมาเป็นโรงพยาบาลนี้แทน เพราะ

ความเป็นห่วงลูกชายและลูกสะใภ้มากนั่นเอง



       "พ่อ!! ลูกผม!! ฮึก! ลูกผมเขาไปแล้ว ฮึก! เขาจากผมไปแล้วพ่อ ไปแล้วเขาไปแล้วพ่อ..." ไม่มีอีกแล้วนายณัฐภาสหรือ

ไอ้ภาสที่คอยตั้งแง่คอยหาเรื่องทะเลาะหรือเถียงกับคนเป็นพ่อแทบจะตลอดเวลาทุกครั้งที่เจอหน้ากันตั้งแต่การจากไปของ

ผู้เป็นแม่ของณัฐภาสหรือภรรยาสุดที่รักของเจ้าสัวชัชวาลย์เพราะความน้อยที่พ่อไม่มีเวลาให้เหมือนตอนที่แม่อยู่เลยทำให้

เรียกร้องความสนใจจากพ่อด้วยการแสดงออกแบบเด็กๆ โดยการต่อต้านทุกคำพูดของพ่อหรือยกพวกท้าตีท้าต่อยเพื่อที่จะ

ให้ตำรวจจับและรอเจอหน้าพ่อตอนที่มาประกันตัว เหลือเพียงแต่น้องภาสหรือเด็กชายณัฐภาสที่ร้องเรียกหาพ่อทุกครั้งที่

เจ็บตัวหรือเสียใจเหมือนกับตอนเป็นเด็กเล็กๆและครั้งนี้ก็เหมือนกันไม่ต้องมีคำพูดหรือคำอธิบายอะไรอีก มีแค่เพียงอ้อม

กอดและฝ่ามืออุ่นๆของพ่อคอยลูบหัวลูบหลังเบาๆ ก็พอแล้วสำหรับการปลอบโยนให้ทุเลาจากการเจ็บปวดในการสูญเสีย

ที่ในครั้งนี้



       "ไม่เป็นไรนะภาสไม่เป็นไร ลูกภาสเขาไปสบายแล้ว อยากระบายก็ร้องออกมากับพ่อซะให้พอ แล้วกลับไปเป็นไอ้ภาส

ลูกชายคนเก่งของพ่อที่เข้มแข็งเหมือนเดิมนะ ภาสยังมีหน้าที่สามียังมีหน้าที่หัวหน้าครอบครัวที่จะต้องทำอยู่นะ ถ้าเกิด

หนูพัสตื่นขึ้นมาแล้วเห็นภาสร้องไห้เสียใจอยู่อย่างนี้ภาสคิดว่าน้องจะรู้สึกยังไง ฮึ! คิดซะว่ายังไม่ถึงเวลาของเรานะภาส

ภาสกับหนูพัสน่ะยังอายุน้อยและแข็งแรงและยังมีโอกาสที่จะมีลูกใหม่ได้อยู่นะและจะมีอีกสักกี่คนก็ได้ แต่ตอนนี้สิ่งที่

สำคัญที่สุดคือการเยียวยาจิตใจและความรู้สึกของหนูพัสน่ะลูกเพราะน้องทั้งอ่อนแอกว่าและมีจิตใจที่บอบบางอ่อนไหว

กว่าภาสเยอะเลยนะ อยากจะได้ลูกไวๆก็ต้องรักษาร่างกายและหัวใจของคนเป็นแม่ให้แข็งแรงและดีพร้อมก่อนนะภาส" 

เจ้าสัวชัชวาลย์พูดปลอบพร้อมกับทิ้งคำสอนทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ณัฐภาสได้มีเวลาคิดและจัดการ

กับความรู้สึกของตัวเองเงียบๆคนเดียวอยู่อย่างนั้น



       จุ๊บ!!



       "รีบหายเร็วๆนะครับที่รัก พี่เชื่อว่าลูกของเรายังรอที่จะมาเกิดในท้องพัสอีกครั้งนะครับคุณแม่" เมื่อตั้งสติได้แล้วณัฐภาส

ก็ลุกขึ้นจูบหน้าผากของภรรยาเบาก่อนที่จะก้มลงไปกดจูบแช่ริมฝีปากกับหน้าท้องพัสกรอยู่นานเพื่อส่งผ่านความรู้สึกไปถึง

ลูกน้อยของตัวเองที่เคยได้อาศัยอยู่ในนั้นแม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม



       "ไม่ว่าหนูจะอยู่ที่ไหนในโลกใบนี้ก็ตาม รีบกลับมาหาป๋ากับคุณแม่ไวๆนะครับลูกรัก ป๋ากับคุณแม่จะรอหนูนะลูก"







...

 มาแล้วจร้า....มาแล้ว....ไอ้มี่บ้ากลับมาแล้วจร้า หลังจากที่ทิ้งหายไปซะหลายวันก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ

เนื่องจากไอ้มี่บ้าคนนี้ติดภาระกิจที่ใหญ่หลวงไม่สามารถที่จะปลีกตัวมาได้นั่นเอง และพอมาถึงก็พาเอา

น้ำตาและความสูญเสียมาฝากกันเลยทีเดียว ยังไงก็แล้วแต่ 'เชิญด่า' กันเข้ามาได้เลยค่ะ แต่อย่าแรงมากนะ

เพราะเดี๋ยวมี่นอยด์พาลไม่อัพขึ้มาอีก(แกจะเอาไงกันแน่ฟร๊ะ!!) ฮ่าๆ ยังไงก็ขอโทษอีกครั้งนะคะที่หายไปนาน

คิดถึงคนอ่านมากกกกกกกกก(กอดแน่นๆ) :กอด1:  รักนะคะคนอ่านที่น่ารักทุกคน(จุ๊บแก้มเบาๆ)  :mew1:

แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ :katai4: :bye2:





 

 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 27-10-2015 00:16:18
 :katai1:   อ่ะหือออออ  อิพี่ภูอิเลว อิชั่ววว   :z6: 

สงสารพัสอ่ะ ถ้าตื่นมาแล้วรู้ว่าเสียลูกไปแล้วจะเศร้าแค่ไหน แล้วต่อไปจะปัญหาเรื่องสุขภาพของพัสมั้ย

จะทำให้มีลูกยากขึ้นรึเปล่า  :katai1:  ตอนนี้อิพี่พาสก็สติแตกเหมือนกันสินะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gatenutcha ที่ 27-10-2015 00:17:14
 :hao5: :hao5:
ง่า  สงสาร หนูพัสกับพี่ภาคอ่ะ  แล้วน้องพัสมีโอกาสท้องได้อีกใช่ไหม
อยากให้น้องพัสท้องไวๆ  แบบนี้เศร้าเกินบรรยาย
 :ling1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: janny_j ที่ 27-10-2015 00:35:28
ทำร้ายคนอ่านตาดำๆอย่างเราได้ เสียใจ ไม่เป็นไรนะคะ พี่ภาสหื่นขนาดนี้ รับรองไม่นานได้เบบี๋ คนใหม่แน่นอนค่ะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ตั้งโอ๋ ที่ 27-10-2015 01:49:19
ไอ้พี่ภูไอ้เลวแกฆ่าหลานฉันนนนนโอ้ไม่อกอีเจ้จะแตกหลานฉันนนน สงสารภาสกับพัสองเสียลูกไป ปั๊บใหม่ๆๆๆๆ นะ สู้ๆๆนะพัสภาส
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 27-10-2015 06:46:46
ฮือออออ สงสารน้องพัสกับพี่ภาสอ่ะ นี่ถ้าน้องฟื้นขึ้นมาแล้วรู้ว่าแท้งจะเศร้าแค่ไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-10-2015 10:02:43
ธารน่ารักนะเนี่ย~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 27-10-2015 16:12:13
ทำร้ายได้แม้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆ ใจคอทำด้วยอะไรคะภู :fire:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 27-10-2015 18:26:59
อยากรู้จุดจบของภูผา ทำขนาดนี้ต้องจัดการให้เด็ดขาดไปเลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 27-10-2015 18:30:58
หาผัวให้อิภูมันสักคนนะคะ เล่นเป็นจำเลยรัก ดราม่าพิศาลเลยยิ่งดี โคตรบ้าเลยให้ตายเถอะ อยากกระทืบมันให้ตายจริงๆ
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 27-10-2015 19:18:11
น่าสงสารจัง
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 27-10-2015 22:18:52
สงสารพัสอ่ะะ
ลูกคนแรกแท้งเลยแฮะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 29-10-2015 01:26:25
มาต่อเร้วๆนะก้ะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 29-10-2015 21:35:47
เพิ่งเข้ามาอ่าน ชอบแนวนี้มากคะ ชอบทั้งคู่หลังและคู่รองเลย
อ่านไปก็อินไป ไม่คิดว่าอิพี่ภูจะทำกะน้องพัสแบบนี้
สงสารเด็กที่ไม่รู้เรื่อง แต่ไม่เป็นไร เพราะ เดี๋ยวพี่ภาสคงปั้มน้องให้ใหม่
เป็นกำลังใจให้พี่ภาสกะน้องพัสผ่านเรื่องเลวร้ายในครั้งนี้ด้วยคะ ^^

มาต่อไวๆนะคะ เป็นกำลังใจให้คนเขียนคะ สู้ๆนะคะ
ติดตามตอนต่อๆไปอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 16 (26/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shiomi ที่ 29-10-2015 23:35:54
เข้ามาดันค่ะ อ่านแล้วอินท์มากๆๆเลยคร้า สงสารทั้งนายเอกและพระเอกมากๆเลย จะได้เป็นพ่อคนแม่คนอยู่และเชียวเพราะภูผาคนเดียวเลยโมโหมาก ภูผาแกตายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย อุ๋ย!!!โทษทีจร้าอินท์เกินเหตุไปหน่อย อิอิ ไงก็รีบมาต่อไวๆนะจ๊ะคนเขียน สู้ๆนะจ๊ะ ดูและสุขภาพตัวเองด้วยนะ จุ๊ฟ :katai4: :katai4: :katai4:
 o13
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 17 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 04-11-2015 15:08:17
คุณเมียภาคบังคับตอนที่ 17 





      ช่วงเวลาเช้ามืดของวันใหม่ภายในห้องพักของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของจังหวัดที่สองสามีภรรยาอย่างณัฐภาสและ
พัสกรยังคงหลับใหลอยู่ในนิทราโดยมีร่างเล็กของพัสกรนอนอยู่บนเตียงคนไข้ในชุดผู้ป่วยและมีณัฐภาสนั่งพลุบหลับอยู่
ข้างเตียงของภรรยาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ โดยที่มือของทั้งสองคนนั้นจับกุมกันไว้แน่นแม้ว่าจะเป็นเวลาที่หลับใหลอยู่ก็ตาม
เหมือนกับว่าร่างกายของทั้งคู่คงต้องการจะยืนยันว่าวันนี้ ตอนนี้และเวลานี้เขาทั้งสองคนยังคงมีกันและกัน
     
      ดวงตากลมโตขยุกขยิกขยับไปมาภายใต้เปลือกตาสีน้ำนมอยู่นานก่อนที่จะค่อยปรือตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ สิ่งแรกที่
พัสกรเห็นคือความมืดที่โรยตัวอยู่รอบๆห้องเพราะยังไม่เช้าดีพระอาทิตย์ก็ยังไม่ถึงเวลาที่จะส่องแสงเลยมีแต่ความมืดครึ้ม
เท่านั้นที่คอยต้อนรับพัสกรอยู่ พอหันไปทางซ้ายของมือก็เห็นเสาน้ำเกลือห้อยระโยงระยางมาเจาะติดกับหลังมือข้างซ้าย
ของตัวเองและสิ่งนี้ก็ทำให้เขานั้นแน่ใจแล้วว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่โรงพยาลที่ไหนสักที่  พอเริ่มจะหายจากความง่วงงุนพัสกร
ก็รู้สึกถึงความชาและหนักบริเวณแขนข้างขวาของตัวเองขึ้นมาอีก พอหันไปมองดีๆแล้วก็รู้ได้ถึงสาเหตุ นั่นเป็นเพราะว่า
คุณสามีของเขานี่เองที่เป็นต้นเหตุในการปวดเมื่อยในครั้งนี้
 

      "อื้มมม...พัส!! พัสตื่นแล้วหรอครับ!! เป็นไงบ้าง!! เจ็บตรงไหนบ้าง!! บอกพี่สิพัส!! พี่เรียกหมอสินะๆ" พอลืมตาตื่นขึ้นมา
แล้วเห็นดวงที่กลมโตเหมือนตากวางของภรรยา ณัฐภาสก็โหวกเหวกโวยวายอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่พัสกรได้แต่มองอย่างมึนๆ
แต่ยังไม่ทันได้ทักท้วงอะไรณัฐภาสก็วิ่งหายออกไไปจากห้องพักเสียแล้ว สงสัยคงจะไปตามหมออย่างที่เจ้าตัวพูดนั่นแหละ
สงสัยณัฐภาสจะตกใจ ดีใจ หรืออะไรก็ตามแต่ ที่แน่ๆคือณัฐภาสคงจะลืมไปว่าไม่ต้องวิ่งออกไปตามขนาดนั้นหรอก แค่
กดเรียกในห้องนี่หมอและพยาบาลก็มาหาเองนั้นแหละ
 

      "อืม...ร่างกายของคนไข้ดีขึ้นเยอะแล้วนะครับ มดลูกและแผลผ่าที่บริเวณท้องน้อยเองก็ไม่ได้ติดเชื้อแต่อย่างใด ยังไง
เดี๋ยวหมอจะให้พยาบาลจัดยาให้แล้วก็กลับบ้านได้เลยนะครับ ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์ครั้งต่อไปหมออยากจะให้คนไข้
คุมกำเนิดเว้นระยะฟื้นฟูมดลูกให้แข็งแรงซักสามเดือนนะครับ แต่ระหว่างนี้พวกคุณก็มีเพศสัมพันธ์กันได้ปกตินะครับ
นอกนั้นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วแหละครับ ยังไงหมอก็ขอตัวเลยนะครับพอดีหมอมีผ่าตัดต่อนะครับ" พูดจบคุณหมอ
เจ้าของไข้ก็เดินออกไปพร้อมกับพยาบาลที่เข้ามาพร้อมกัน ห้องพักแห่งนี้จึงเหลือแค่สองสามีภรรยาอย่างณัฐภาสและพัสกร
เท่านั้น แต่ด้วยความที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยตั้งแต่หมอและพยาบาลออกไปบรรยากาศรอบๆตัวของทั้งสองคนตอนนี้
มันเลยดูวังเวง เคล้าความเศร้าและกดดันอย่างแปลกๆ
 

      "ที่..คุณหมอพูดเมื่อกี้มันหมายความว่ายังไงพี่ภาส มันหมายความว่ายังไง!! แท้งหรอ!! พัสแท้งหรอ!!" หลังจากที่เงียบ
กันอยู่นานพัสกรก็พูดถามออกมาพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลริน
 

      "พัสเสียลูกไปแล้วหรอ!! ลูกไม่อยู่แล้วหรอพี่ภาส!! ลูกล่ะพี่ภาส!!! ลูกของเรา!! มันไม่จริงใช่มั้ยพี่ภาส!! มันไม่จริงใช่มั้ย!!!
ตอบสิ!! บอกพัสมาว่าลูกยังอยู่กลับพัส!!! ลูกยังไม่ได้ไปไหนน่ะ!! ฮืออออออออ...." พัสกรกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง
 

      "ใจเย็นครับๆ ใจเย็นๆนะพัส เดี๋ยวลูกก็กลับมาหาเรานะ ไม่เป็นไรนะพัส ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวลูกก็กลับมานะครับ"
ณัฐภาสคว้าตัวภรรยามากอดแทบไม่ทันเมื่อพัสกรกรีดร้องออกมาอย่างกับคนเสียสติ ร้องไห้โวยวายดีดดิ้นไปมาอยู่ในออ้มกอด
ของณัฐภาสด้วยความเสียใจ
 

      "ทำไมล่ะพี่ภาส พัสเพิ่งได้รับรู้ว่าเขามีตัวตนอยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมงเองนะ ฮึก!! ทำไมล่ะพี่ภาส ทำไม ฮึก!! พัสทำอะไรผิดหรอ
พี่ภาสทำไมเขาถึงทำอย่างนั้นกับลูกเราล่ะ ฮือออออ...." พัสกรพูดไปร้องไห้ไปกับความสูญเสียความเสียใจที่ไม่สามารถวัด
ระดับได้ พรางนึกไปถึงตอนที่ได้รับรู้ถึงการมีตังตนของลูกในท้องตัวเอง ความสุขใจและความอบอุ่นที่ได้รับรู้จากลูกน้อย
ในครรภ์เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงมันทำให้เขามีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย แต่ทำไมล่ะ ทำไมฟ้าช่างใจร้ายกับเขาจัง
เขาทำอะไรผิดมากมายถึงขนาดที่จะต้องมาพรากลูกไปจากเขาเลยหรือ
 

      "ฮึก! ลูกล่ะพี่ภาส ลูกจะเจ็บมากไหมที่โดนอย่างนั้น ฮึก!! พัสเป็นแม่ที่แย่มากเลยใช่มั้ย ฮึก! ที่ปกป้องลูกของเราไม่ได้
ลูกล่ะพี่ภาส ฮึก! ลูกของเราล่ะพี่ภาส ลูกของเราเขาหายไปไหนล่ะ ฮึก! ลูกแม่  ฮือออออออ....." พัสกรกอดซบร้องไห้กับอก
สามีร้องไปพูดไปเหมือนกับคนเพ้อ ดิ้นไปมาจนรอยเย็บที่แผลผ่าปริออกเลือดซึมเต็มท้องแล้วยังไม่รู้ตัวเพราะเหมือนกับว่า
ความเจ็บตรงนั้นมันยังไม่เท่ากับเศษเสี้ยวส่วนหนึ่งของความรู้สึกในหัวใจอันบอบช้ำของเขาเลยสักนิด
 

      "ไม่ผิดหรอกครับ พัสไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ อย่าคิดมากสิครับ อย่าร้องไห้หรือเสียใจอีกเลยนะครับ อาจจะเป็นเพราะว่า
มันยังไม่ถึงเวลาของเรา ถ้าลูกรู้ว่าคุณแม่มาร้องไห้เสียใจเพราะเขาลูกก็จะต้องร้องไห้ตามคุณแม่แน่ๆเลย พัสอยากให้ลูกเสียใจ
หรอครับฮึ?" ณัฐภาสผละตัวออกพูดปลอบพร้อมกับปาดน้ำตาให้ภรรยาเบาๆ ยิ่งเห็นพัสกรมีอาการอย่างนี้เขายิ่งรู้สึกแย่ แต่ใน
เมื่อมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว เรื่องของลูกเขาก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามสมควร แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดที่เขาจะ
ต้องทำตอนนี้คือการดูแลเยียวยารักษาจิตใจของภรรยาตัวน้อยของเขาให้ดีได้ดังเดิมให้เร็วที่สุด
 

      "ไม่"
 

      "ถ้าพัสไม่อยากให้ลูกเสียใจ พัสก็ต้องหยุดร้องไห้ หยุดโทษตัวเอง และทำใจให้สบาย ใช้ชีวิตในวันนี้ พรุ่งนี้และวันต่อๆไป
อย่างมีความสุขเหมือนกับที่ผ่านๆมานะครับ ลูกจะได้กลับมาอยู่กับเราเร็วๆไงครับ ตอนพี่หลับนะพี่ฝันเห็นลูกด้วยล่ะ ลูกบอก
ว่าให้คุณป๋าดูแลคุณแม่ดีๆ ห้ามให้คุณแม่เสียใจ รักษาตัวเองให้หายไวๆ แล้วลูกจะรีบกลับมาหาเราเร็วๆเลย รู้มั้ยครับ"
ณัฐภาสโป้ปดหลอกล่อภรรยาใช้วิธีเหมือนผู้ใหญ่หลอกเด็กไม่มีผิด ซึ่งถ้าเป็นพัสกรในเวลาปกติ สภาวะจิตใจและอารมณ์
ปกติคงจะไม่เชื่ออย่างแน่นอน แต่ในเวลาที่บอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจอ่อนแออย่างนี้ทำให้พัสกรแตกต่างไป
 

      "จริงหรอฮะพี่ภาส ลูกบอกพี่ภาสอย่างนั้นจริงๆหรอ ฮึก!" พัสกรถามพรางสะอื้นเหมือนจะหลงเชื่อไปกับคำพูดหลอกเด็ก
ของสามีอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใด
 

      "จริงสิครับ! ลูกบอกว่ากลับมาอีกทีจะเอาน้องมาอยู่เป็นเพื่อนกันด้วยล่ะ เพราะฉะนั้นคุณแม่พัสคนสวยต้องรักษาตัว
รักษาใจให้แข็งแรงดีเร็วๆนะครับ เห้ย! ทำไมเลือดเต็มตัวเลยล่ะ ไหนๆพี่ดูสิ อ่า..แผลปริแล้ว เดี๋ยวพี่ตามพยาบาลมาดูก่อน
นะครับ" ณัฐภาสปลอบประเหลาะภรรยายังไม่ทันเสร็จก็ต้องตกใจจนโวยวายเมื่อเห็นลอยเลือดดวงใหญ่เปื้อนเสื้อตัวเอง
และชุดคนไข้ของพัสกรอยู่เต็มไปหมด
.
.
.
.
.
.
      "คิดอะไรอยู่ครับที่รัก ถึงได้นั่งเหม่ออย่างนี้น่ะฮึ?" ณัฐภาสถามภรรยาคนสวยที่นั่งมองเหม่อออกไปอย่างไร้จุดหมาย
แต่ที่จริงไม่ต้องถามเขาก็พอจะรู้หรอกว่าพัสกรนั้นเป็นอะไรทำไมถึงเป็นอย่างนี้ เพราะตั้งแต่ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆวันนั้นมา
จนถึงวันนี้ก็ปาเข้าไปจะสามเดือนกว่าล่ะ แต่ดูเหมือนจิตใจของพัสกรจะไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่เลย ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะพยายาม
จะทำตัวร่าเริงให้คนอื่นเห็นว่าตนนั้นไม่เป็นไรแล้ว หลายๆคนอาจจะเชื่อในสิ่งที่พัสกรแสดงออกมาแต่ไม่ใช่กับเขาที่เป็น
คนอยู่ข้างๆกันกับเจ้าตัวตลอดเวลาอย่างแน่นอน เพราะว่าพัสกรนั้นชอบทำตัวร่าเริง สนุกสนานเหมือนไม่คิดอะไร แต่พอ
ปล่อยให้ได้อยู่คนเดียวทีไรเป็นต้องนั่งซึมทุกที
 

      "อ่ะ!...เมื่อกี้พี่ภาสว่ายังไงนะฮะ พัสไม่ทันได้ฟัง" พัสกรสะดุ้งตกใจเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสที่อยู่บนบ่าตัวเอง แต่เมื่อหันกับไป
แล้วเห็นว่าเป็นมือของณัฐภาส พัสกรจริงรีบเปลี่ยนท่าที
 

      "พี่ถามว่าคิดอะไรอยู่ครับ ทำไมถึงได้นั่งเหม่ออย่างนี้ อ่อ! แต่พัสไม่ต้องตอบหรอกครับเพราะพี่พอจะรู้อยู่ว่าหนูพัสสุดที่รัก
ของพี่เป็นอะไรไป" ณัฐภาสทวนคำถามของตัวเองอีกครั้งและพูดแทรกดักขึ้นก่อนเมื่อเห็นว่าพัสกรกำลังจะอ้าปากคำถามของเขา เพราะรู้ดีว่าคำตอบที่ได้ก็จะเป็นคำโกหกอีกตามเคย พัสกรคงจะบอกว่าไม่เป็นอะไร ไม่ได้คิดอะไรเหมือนทุกทีนั่นแหละ
แต่ในขณะที่ความจริงแล้วเจ้าตัวกำลังคิดไปถึงลูกที่ได้สูญเสียไปอีกแล้ว
 

      "......"
 

      "พัสฟังพี่นะครับ พี่รู้ว่าพัสเสียใจมากกับการที่ต้องสูญเสียลูกคนแรกของเราไปเพราะพี่เองก็เสียใจไม่ต่างจากพัสหรอก
แต่ว่าชีวิตของคนเราน่ะนะ มันมีแต่ต้องเดินหน้าไปเรื่อยๆไม่มีวันถอยหลังกลับหรอกนะครับ ในเมื่อความจริงที่ว่าเราเสียลูก
ไปมันไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขใหม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่สามารถมีลูกใหม่ได้นี่ครับ แทนที่พัสจะมานั่งเสียใจหรือ
รู้สึกผิดอย่างนี้ พี่ว่าพัสเลิกเถอะครับไม่ใช่ว่าเลิกคิดถึงลูกนะครับ คิดถึงลูกน่ะคิดถึงได้แต่เลิกซึมเศร้าเฝ้าโทษตัวเองเสียที
เพราะพัสไม่ได้ผิดเลย ไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิดเลยครับ เรื่องทุกอย่างมันเป็นไปตามทางของมัน คนร้ายที่มันทำกับลูกเรามันก็
คงจะได้รับผลกรรมของมันไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่พัสควรทำคือการปล่อยวางและทำใจให้สบายจะดีกว่านะ แล้วเราก็มาลองพยายามกันใหม่อีกสักครั้ง ดีไหมครับ เพราะพี่เชื่อว่ายังไงๆลูกของเราก็ยังคงรอที่จะมาเกิดเป็นลูกเราเหมือนเดิมนี่แหละครับ
เพราะคุณแม่เขาทั้งรักทั้งคิดถึงขนาดนี้ เชื่อฝีมือสามีคนนี้สิครับที่รัก พี่รับรองเลยว่าไม่เกินเดือนหน้าพี่เรียกลูกกลับมาหาพัส
ได้ใหม่แน่ๆ" ณัฐภาสนั่งคุกเข่าลงที่พื้นตรงหน้าพัสกรที่นั่งอยู่บนโซฟา พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและเป็นผู้ใหญ่กว่าทุกทีที่มีแต่
คอยจะชอบทำตัวทะเล้นทะลึ่งเหมือนเด็กไม่ยอมโต พูดบอกอธิบายยึดอ้างหลักความเป็นจริงดึงมาปลอบภรรยา ก่อนที่จะไม่
วายทิ้งลอยทะเล้นทะลึ่งทิ้งท้ายอย่างเจ้าเล่ห์
 
 "ฮึๆ พี่ก็!" พัสกรตีแขนสามีเบาๆเมื่อได้เห็นสีหน้ากรุ่มกริ่มในประโยคสุดท้าย ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่ามันหมายความว่า
ยังไง ในเมื่อเจ้าตัวแสดงออกมาเสียขนาดนั้น
 
 "พัสขอโทษนะครับ ที่ผ่านมาพัสมัวแต่เสียใจเรื่องลูกจนลืมนึกถึงหลักความเป็นจริง จนลืมนึกถึงหน้าที่ภรรยา ลืมนึกถึง
ความรู้สึกของพี่ภาสและคนรอบข้าง พัสขอโทษนะครับ พัสสัญญาว่าต่อไปนี้พัสจะไม่เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว" พัสกรน้อมตัว
กราบขอโทษลงที่อกของสามีช้าๆอย่างรู้สึกผิด ที่เขาปล่อยเนื้อปล่อยตัวปล่อยใจให้เสื่อมโทรมมานานจนถึงทุกวันนี้โดยที่
ไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของคนรอบข้างของตัวเองเลยตั้งสามเดือนจนเกือบจะสี่เดือนแน่ะ
 
 "ไม่เป็นไรครับผม เรื่องที่มันผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะเน๊าะ พี่ขอแค่อย่างเดียวเท่านั้น พี่ขอให้หนูพัสคนเดิม
ของพี่รีบๆกลับมาสักทีก็พอ พี่คิดถึงจะแย่ล่ะ" ณัฐภาสบอกพร้อมกับจูบเบาๆกลางศีรษะภรรยา
 
 "ถ้าพี่ภาสอยากเจอหนูคนเดิม ก็.....ต้องรอคืนนี้นะครับ!! จุ๊บ!! เพราะตอนนี้น่ะพัสหิวจนปวดท้องล่ะ เราออกไปหา
อะไรอร่อยๆทานข้างนอกกันเถอะฮะ คริๆ" ในขณะที่พัสกรถอนตัวเองออกจากอกสามี พัสกรก็แวะกระซิบคำเชิญชวนที่
ข้างหูของสามีเบาๆไม่วายที่จะจุ๊บทิ้งท้ายอย่างยั่วยวนอีกทีก่อนที่จะชิ่งลุกหนีทิ้งให้ณัฐภาสนั่งอึ้งกับการเปลี่ยนแปลงของ
ภรรยาตัวเองอย่างงงๆอยู่คนเดียวที่เดิม
 
 "ฮึ่ม!! เจ้าเล่ห์นักนะเมียจ๋า....คอยดูเถอะคืนนี้สามิสามีจะเสกลูกแฝดเข้าท้องเมียจ๋าเลยคอยดู คอยดู!!!" ณัฐภาสพูดไล่หลัง
พัสกรจนดังลั่นบ้าน ก่อนที่จะเดินผิวปากตามหลังภรรยาคนสวยไปอย่างอารมณ์ดี
.
.
.
.
.
 {...........................................................................70%...........................................................................}
 
       "อื้อ!!..ช้าๆ..อ๊ะ!..พี่ภาส!..อ๊ะ..อ๊ะ" พัสกรบอกด้วยเสียงกระท่อนกระแท่น พรางให้มือดันหน้าท้องแกร่งของสามีที่กำลัง
สาวสะโพกส่งท่อนลำเข้าไปในช่องชางรักอย่างหนักหน่วง หวังที่จะให้เบาแรงลง โดยไม่รู้เลยว่ายิ่งทำอย่างนั้น น้ำเสียงและ
ท่าทางอย่างนั้นมันเหมือนกับยิ่งเหมือนโหมเติมเชื้อไฟรักเข้าไปเสียอีก

       "อ่า..อีกนิดเดียวครับที่รัก..อีกนิดเดียว" ณัฐภาสบอกพร้อมกับเร่งความเร็วและควาแรงของตัวเองเข้าไปอีก ก็นะใครจะ
ทนอดใจไหวได้ เมื่อมีแม่กวางตัวนุ่มนิ่มๆ มาทำตาเยิ้มบิดตัวเร่าๆอยู่ใต้ร่างตัวเองอยู่อย่างนี้ ยิ่งเขาทั้งคู่ห่างหายจากเรื่องนี้ไป
นานตั้งสามเดือนเกือบจะสี่เดือนอย่างนี้ ขอเขาทบต้นทบดอกหน่อยก็แล้วกัน พ่อจะเสกลูกแฝดเลยคอยดู ฮึ่ม!!

       .....อื้อออ...อีกนิดเดียว...มาสามรอบ..แล้วนะคุณสามี...อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ..... 

       "อ๊ะ!!..ไม่ไหว..อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ...อ๊างงงงงง" พัสกรหวีดร้องออกมาเมื่อถึงขีดสุดจนปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง แต่ไม่ต้อง
ถามหรอกนะว่าครั้งที่เท่าไหร่น่ะ เพราะเขาเองก็นัดไม่ทันเหมือนกัน แต่ที่จำได้แน่ๆ คือสามีเขาน่ะส่งลูกเขาเข้าไปในท้องเขา
สามรอบเข้าไปล่ะและที่กำลังจะมานี่ครั้งที่สี่ล่ะนะ พัสกรอยากจะบ้า!!

       "อืมมม....อ่าาาาาา....เก่งมากครับที่รัก" ณัฐภาสขยับสะโพกอีกไม่กี่ครั้งก็ปลดปล่อยลูกๆเข้าไปในช่องทางรักของพัสกร
ตามภรรยาตัวเองไปติดๆ โน้มตัวจูบหน้าผากพัสกรเบาๆ ด้วยความรักใคร่ ก่อนที่จะดึงตัวตนของตัวเองออกมาจากช่องทาง
ของพัสกรและผละเข้าห้องน้ำไป เมื่อเห็นว่าภรรยาสุดที่รักของตัวเองสลบเหมือดไปแล้ว สงสัยจะเพลียจัด

       "รีบๆกลับมาหาป๋ากับคุณแม่นะครับลูกรัก.....จุ๊บ!" ณัฐภาสพูดเบาๆตรงหน้าท้องแบนราบของภรรยาพร้อมกับพรมจูบ
เข้าไปอีกที หลังจากที่เช็ดตัวและใส่เสื้อผ้าให้พัสกรเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนข้างๆกันกับพัสกรโดยที่ไม่ลืมที่
จะคว้าตัวอีกคนเข้ามานอนกอดอย่างทุกๆคืน

       จุ๊บบ!!

       "ฝันดีครับที่รักคนดีของพี่" จูบหน้าผากส่งท้ายอีกที ก่อนที่จะเข้าสู่นิทราอันแสนหวานไปอีกคน

...

อีกด้านหนึ่ง / บ้านเล็กบนเกาะร้างแห่งหนึ่ง

       "แค่กๆ โอ๊ย!!" เสียงไอและเสียงร้องอย่างเจ็บปวดระคนกับเสียงกระทบของโลหะดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบงัน
ของบ้านไม้หลังเล็กๆที่มีห้องเพียงห้องเดียวซึ่งมีเตียงแคร่ไม้ไผ่ขนาดใหญ่และแข็งแรงตั้งอยู่บริเวณกลางห้องเท่านั้นเอง

       "ไงมึง! ยังไม่ตายห่าอีกหรอว่ะ? มึงนี่ทนมือทนตีนกูดีจังเลยน้า"  เสียงทุ้มของชายหนุ่มอีกคนดังขึ้นในขณะที่เจ้าตัว
นอนตะแคลงหันข้างหันหน้าทางเดียวกันกับเจ้าของเสียงแรก

       "มึงจับกูมาทำไม กูไปทำอะไรให้มึง!! แค่กๆ" ชายหนุ่มคนแรกถามตะโกนออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง

       "ถ้ามึงทำกูมึงจะไม่มีสภาพเหมือนหมาขนาดนี้หรอก แต่คนที่มึงทำคือคนที่กูรักยิ่งกว่าชีวิตกูอีกมึงรู้มั้ย? พวกเขาที่เปรียบ
เหมือนพ่อกู แม่กู พี่กู และเจ้าชีวิตของกู มึงมันเลวไอ้หมาภู!! เลวยิ่งกว่าสัตว์!!! เพราะฉะนั้นถ้ามึงยังไม่ตายก็อย่าหวังว่ากู
จะปล่อยมึงไป หรือต่อให้มึงรีบตายกูก็จะตามไปกระทืบสั่งสอนมึงในนรกเอง!!!!" เจ้าของเสียงทุ้มที่นอนอยู่บนแคร่ไม้ไผ่
ลุกขึ้นก้าวเดินช้าๆเข้ามาหานักโทษของตัวเองที่โดนเขาจับล่ามโซ่ทั้งที่คอและข้อมือทั้งสองข้างกับเสากลางบ้านด้วย
ปลอกเหล็กและโซ่ตวนขนาดใหญ่ไม่ต่างอะไรจากนักโทษ ไม่สิ! ต้องบอกว่ายิ่งกว่านักโทษในคุกมืดซะด้วยซ้ำ แต่แค่นี้
มันยังไม่พอ มันยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำกับสิ่งที่มันทำ คนสารเลวใจคอโหดเหี้ยมอย่างมันที่ฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กน้อยที่ยังไม่ทัน
ที่จะออกฤษธิ์แสดงให้คนเป็นพ่อเป็นแม่ได้รับรู้การมีตัวตนของตัวเองอยู่เลย สาระเลวสิ้นดี!!!

      "โอ้ยยยย....ไอ้เหี้ยยยย...ปล่อยกูนะ.....กูเจ็บ....โอ๊ยยยย" ภูผาร้องโหยหวนออกมาเมื่อโดนอีกคนใช้นิ้วกรีดกดเข้าไปใน
บาดแผลปริฉีกที่เป็นรอยแตกเกิดจากการซ้อมของอีกคนที่กระทำกับเขาอย่างป่าเถื่อน เรื่องมันเริ่มมาจากที่พ่อเขามาประกันตัว
เขาออกจากคุกหลังจากที่โดนจับเรื่องของพัสกรนั่นแหละ หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์เขาก็ใช้ชีวิตปกติโดยที่มีคำสั่งจากพ่อเขา
เองว่าห้ามเข้าไปยุ่งกับพวกพัสกรอีก แต่จะให้เขาทำยังไงได้ล่ะในเมื่อเขารักของเขามาตั้งนานนี่ เขาก็เลยขัดคำสั่งนายหัวรพี
พ่อของตัวเองไปตามดูพัสกรที่ผับของณัฐภาสเหมือนกับทุกที แต่ไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เลยเพราะไอ้ภาสมันอยู่ด้วยตลอดเวลา ทำตัวติดกันยิ่งกว่าตังเม แต่พอรู้ตัวอีกทีเขาก็มาโผล่อยู่นี่กับผู้ชายแปลกหน้าอีกคนนึงที่มีลักษณะภายนอกดูเฉยๆไม่โดดเด่น
ตัวสูงใหญ่ บึกบึนเหมือนกับพวกแรงงานแต่ก็ดูไม่น่ากลัวหรือมีพิษมีภัยสักเท่าไหร่ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่ามันจะจับเขาล่ามและ
ซ้อมเขาทารุณเหมือนกับสัตว์ไม่มีผิดอย่างนี้

       "หึๆ เจ็บหรอ? น่าสงสารเน๊าะ! เอาเป็นว่าเดี๋ยวกูจะทำแผลให้ก็แล้วกัน" บอกพร้อมกับเดินหายออกไปจากบ้านอยู่พักนึง
ก็กลับเข้ามาพร้อมกับขันน้ำ? ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงคนที่บอกว่าจะทำแผลให้ภูผาก็ค่อยๆราดน้ำในขันที่อยู่ในมือลงบน
บาดแผลของภูผาทีละจุดจนทั่วตัวอย่างช้าๆไม่รีบร้อน

       "อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!! พอแล้ว!! พอๆ แสบกู แสบ!!! อ๊ากกกกกก!!" ภูผาแหกปากร้องออกมาอย่างโหยหวน และ
พยายามขยับถดถอยร่างกายหนีน้ำเกลือที่อีกคนกำลังรดราดลงมาใส่ตัวเขาอย่างไร้ความปราณีด้วยสีหน้ามีความสุข
แสยะยิ้มออกมาอย่างหน้าขยะแขยงจนขนหัวลุก
       
       "หึๆ ตื้นตันใจที่กูล้างแผลให้จนช็อกสลบไปเลยหรอมึง....แต่ไม่ต้องรีบตายหรอกนะ...เพราะกูยังสนุกไม่พอ!!!"
ชายหนุ่มนั่งยองลงมองร่างที่ไร้สติของภูพาด้วยความพอใจ ก่อนที่จะลุกเดินผละออกไปจากตรงนั้นโดยไม่เหลียวแล
หันกลับมามองภูผาที่นอนสลบตัวเปียกปอนกองอยู่ที่เดิมอีกเลย


...
ขอโทษทีจร้าที่บอกว่าจะมาต่อตั้งแต่เมื่อวาน แต่พอดีว่ามี่ปลีกตัวมาไม่ได้จริงๆ
ยังไงก็อย่าโกรธกันนะคะ และหวังว่าทุกคนจะพอใจกับตอนนี้ไม่มากก็น้อยนะคะ
ทุกคอมเม้น ทุกคะแนนโหวต คือแรงผลักดันดันดีเยี่ยมเปรียบเสมือนยาชูกำลังของมี่เลยนะคะ
แล้วเจอกันตอนหน้าคร้าาาาา....  :katai4:
 

 

หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 17 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 04-11-2015 15:38:32
จิ้ม
ดูท่าคราวนี้พี่ภาสคงได้เสกเด็กแฝดเข้าท้องหนูพัสแน่เลย -.,-
ส่วนภูผาก็มีคู่ด้วยแฮะ แถมโดนกดซะด้วย 5555
แต่เมะคนนี้เป็นใครกันล่ะนี่ รอน้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 17 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 04-11-2015 16:03:51
ขอแฝดสามเลยนะคะ พาน้องๆมาเลยนะพี่ชาย
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 17 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 04-11-2015 16:47:10
พี่ภาสเก็บทั้งต้นทั้งดอกจากหนูพัสขนาดนี้ คงได้มีข่าวดีในเร็วๆ วันแน่เลยนะคะ ^^

ส่วนทางภูผา อยู่ดีไม่ว่าดีจริงๆ ถ้าเชื่อที่คุณพ่อตัวเองบอกตั้งแต่ทีแรกก็ยังพอยืดเวลาสงบสุขในชีวิตไปได้อีกสักพักเลยนะนั่น แต่ก็เอาเถอะค่ะ โดนเองเสียบ้าง เผื่อว่าจะคิดอะไรดีๆ อย่างคนอื่นเขาได้มั่ง
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 17 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 04-11-2015 17:17:26
ขอแฝดสองเลยนะคราวนี้
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 17 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-11-2015 19:25:06
รอตอนต่อไปจ้า~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 17 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-11-2015 20:43:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 17 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 04-11-2015 22:46:06
 สนุกมากคับ ตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ รอ รอ รอ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 17 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 04-11-2015 23:20:40
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 7 (05/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 05-11-2015 21:14:39
คุณเมียภาคบังคับ [เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 7






       "คุณ..เจ้าคุณ...คุ๊ณณณณณณณณณ!!!~" ธาราตะโกนร้องเรียกเจ้าคุณในขณะที่ตัวเองนอนอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น
สายตาก็จดจ้องอยู่แต่หน้าจอโทรทัศน์ที่กำลังฉายการ์ตูนเรื่องดังอย่างชินจังจอมแก่นอยู่ โดยที่มีขนมอยู่เต็มสองมือ 


       "เออๆ มาแล้วๆ เรียกห่าไรนักหนาว่ะ!!" เจ้าคุณขานรับพร้อมกับก้าวเดินเข้ามาหาธารา ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าคุณก็ช่วย
คุณนายมณีดูเอกสารในบริษัทของเธอแทนธาราอยู่ไม่ไกลนักหรอก


       "ฮึก!! คุณ...พูด...ไม่...เพราะ...เลย...น้องธารโป้ง" ธาราเบะปาก หน้ามุ่ยบอก


       "โอ๋ๆ ขอโทษครับ ขอโทษ พี่คุณขอโทษ ว่าแต่น้องธารเรียกพี่คุณทำไมครับ" เจ้าคุณถึงกับต้องตบหน้าผากเรียกสติตัวเอง
ก่อนที่จะโมโหแล้วไปลงกับแม่ของลูกซะ เมื่อเห็นว่าธาราง้องแง้งทำตัวเป็นเด็กอีกแล้วทั้งๆที่ไอ้โรคงองแงนี่หายไปจากธารา
ได้ประมาณสองเดือนแล้วแท้ๆ ใครเรียกมันกลับมาทำไมเนี่ย แต่จะว่าไปมันก็ดีอยู่หรอกที่ธาราออดอ้อนเขาแบบนี้ แต่มันจะ
ไม่ดีก็ตรงที่บางทีก็เอาแต่ใจเกินไปไง เอะอะก็ร้องไห้ๆ แล้วก็ต้องพูดเพราะตลอดๆด้วย แล้วไอ้คนห่ามๆอย่างเขาเนี่ยนะจะมา
จ๊ะจ๋ากับมันได้ทั้งวันน่ะ สรุปแล้วกว่าจะพ้นแต่ละวันไปนี่พูดไอ้คำเดียวเลยว่า ประสาทจะแดก!!


       "เออ!! จริงด้วย!! คุณพาธารไปซื้อชินจังแผ่นใหม่หน่อยสิ ธารดูแผ่นเก่าจนมันสดุดหมดแล้วอ่าาา..." หึ! ไอ้คุณอยากจะบ้า
ที่มันแหกปากลั่นบ้านนี่เรื่องแค่นี้อะนะ ปากนี่ก็คันอยากจะบอกเหลือเกินว่าสมควรแล้วที่แผ่นมันจะสดุดน่ะ แมร่งดูอยู่
ได้ทุกวัน ทั้งวัน แล้วก็ซ้ำไปซ้ำมาไม่กี่ตอนหรอก เพราะไอ้การ์ตูนเรื่องนี้มันนานแล้วไงแล้วยิ่งในภูเก็ตที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม
(ตามที่เจ้าของร้านบอกมา)ยิ่งหายากคิดดูเอาแล้วกันว่ามันดูบ่อยขนาดไหน ดูจนถึงกับดีวีดีของแท้สดุดภายในเดือนเดียวน่ะ
 
     "จะซื้ออะไรอีกล่ะ เหมามาหมดทุกตอนที่ในร้านมีขายแล้วไม่ใช่หรอ" เจ้าคุณยืนถามธาราที่ยังคงนอนจ้องหน้าจออยู่ที่เดิม


       "ก็ซื้อเหมือนเดิมไง เนี่ยๆ เห็นม่ะแผ่นมันสดุดหมดแล้วเนี่ย" ธาราหันมามองหน้าเจ้าคุณพร้อมกับชี้บอกเมื่อถึงตรงที่แผ่น
สดุดพอดีด้วยสีหน้าบึ้งๆ เพราะหงุดหงิดที่โดนแผ่นดีวีดีขัดใจ?


       "เออๆ จะไปก็ลุกขึ้นสักทีสิ" เจ้าคุณบอกพร้อมกับช่วยพยุงธาราลุกขึ้นเนื่องจากว่าธาราไม่สามารถลุกขึ้นเองได้หรอก
เมื่อนอนโซฟาอย่างนี้เพราะไม่มีพื้นที่พอจะให้เจ้าตัวพลิกคว้ำก่อนถึงจะลุกขึ้นได้ เนื่องจากติดท้องกลมๆตามอายุครรภ์
หกเดือนครึ่งนั่นเองเพราะถึงแม้ว่าท้องจะไม่ใหญ่มากเพราะเป็นท้องแรกแต่ก็ทำให้ธาราจะลุกจะนั่งได้ลำบากเหมือนกัน


       "ยายครับเดี๋ยวผมพาน้องธารออกไปซื้อของข้างนอกนะครับ แล้วจะเลยไปดูผับแป๊ปนึงคงจะหาอะไรกินข้างนอกเลย
ยายไม่ต้องรอนะ ยายจะเอาอะไรรึเปล่าครับ" เจ้าคุณแวะบอกคุณนายมณีที่นั่งที่โต๊ะทำงานระหว่างทางที่จะผ่านไปทางประตู


       "ไม่เอาอะไรหรอกจ๊ะ ดูแลกันดีๆล่ะ อย่างองแงกับพี่เขานักนะน้องธาร"ยายมณีบอกด้วยความเป็นห่วงก่อนที่จะหันไป
พูดล้อหลานตัวเอง เพราะว่าพอจะดูอาการออกว่าโรคงองแงคงจะกลับมาอีกแล้ว


       "งื้อออ...ยายอ่ะ! ธารไม่คุยด้วยแล้ว ไปกันเถอะคุณ" ธาราทำหน้างอใส่ยายตัวเองพร้อมกับจูงมือเจ้าคุณออกจากบ้านทันที
ก่อนที่จะโดนคุณนายมณีอะไรแซวไปมากกว่านี้
.
.
.
.
.
       "เลือกได้รึยังว่าจะกินอะไรน่ะ" เจ้าคุณถามขึ้นหลังจากที่ปล่อยให้ธารานั่งคิดอยู่นาน ทั้งๆที่ธาราเลือกซื้อการ์ตูนเสร็จ
ได้พักใหญ่แล้ว(ซึ่งก็เป็นการ์ตูนชุดเดิมชุดเดียวกันกับที่อยู่ที่บ้าน)แต่เขาทั้งสองคนก็ยังไม่ได้ฤกษ์ออกจากร้านดีวีดีนี่สักที
เพราะเจ้าคุณรอให้ธารานั่งนึกเมนูอาหารที่อยากจะทานในมื้อเย็นนี้เพราะขืนเขาเป็นคนตัดสินใจเลือกร้านเองพอไม่ถูกใจ
เจ้าตัวเดี๋ยวได้ร้องดิ้นกลางร้านให้อายกันขึ้นมาอีก นี่ไม่ได้พูดประชดนะ ทั้งหมดนี่คือความจริงที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั้งนั้น
แล้วเจ้าคุณทำยังไงอ่ะหรอ? จะทำอะไรได้ล่ะครับนอกจากยอมน่ะ! เฮ้อ!! พอลูกคลอดแล้วนี่ขอให้ไอ้น้องธารคนเดิมกลับ
มาด้วยเถอะก่อนที่ไอ้คุณคนนี้จะบ้าเสียก่อนที่ลูกชายจะโต อ่อ! ลืมบอกไป ผมกับไอ้น้องธารเราได้ลูกชายนะครับ!! เพราะ
พึ่งไปอัลตร้าซาว์มาเมื่อตอนไปหาหมอตรวจตอนอายุครรภ์ครบห้าเดือนที่ผ่านมา


       "ไปกินชาบูกันเถอะคุณ อยากกินเนื้ออ่าาา...." เมื่อนึกได้ธาราก็พูดบอกออกมาพร้อมกับเอียงคอทำหน้าน่ารักๆอ้อนเจ้าคุณ
ซะหน่อยเพราะเจ้าคุณไม่ค่อยชอบให้เขากินเนื้อนักหรอกเพราะว่ามันย่อยอยาก พอได้ยินคำตอบของธาราเจ้าคุณถึงกับขมวด
คิ้วยุ่งเพราะเขาไม่ค่อยอยากให้ธารากินเนื้อวัวมากนักเท่าไหร่เพราะว่ามันย่อยอยากและยายมณีก็ยังบอกว่าตอนลูกคลอดออก
มาลูกจะตัวมันๆล้างออกยากเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือป่าวแต่ผู้ใหญ่เขาบอกมาเราก็ควรจะเชื่อเอาไว้บ้าง
เพราะขนาดจิ้งจกทักเรายังฟังกันเลย  และคำตอบที่พี่เจ้าคุณคนเถื่อนมีให้กับธาราก็คือ..?

       "อือ..ถ้าอยากกินก็ลุกดิ! แต่ต้องสัญญามาก่อนว่าจะกินอย่างอื่นด้วยไม่ใช่กินแต่เนื้ออย่างเดียว" แหม่...ก็นะ เห็นหน้าอ้อนๆ
ตาแป๋วๆ อย่างนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นพี่คุณที่เถื่อนแลห่ามมากก็เถอะยังไงก็ต้องมีแต่ยอมๆ

       .....เห็นทีว่าเจ้าคุณคนนี้จะหลุดเข้าไปอยู่ในสมาคมคนหลงเมียแบบไอ้เพื่อนภาสซะแล้วหล่ะงานนี้.....
.
.
.
.
.
       "พี่คุณ!! พี่คุณจริงๆด้วยอ่ะ!!" พอนั่งทานกันอยู่ได้สักก็มีเสียงผู้หญิงร้องเรียกเจ้าคุณด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นและดังมาก
พร้อมๆกับที่คุณเธอเอาตัวเล็กๆหน้าแบ๊วๆของเธอมานั่งออดอ้อนออเซาะอยู่ข้างๆเจ้าคุณ

       "อ่าว! ขวัญมาได้ไง?" เจ้าคุณหันไปถามพร้อมกับขยี้หัวหญิงสาวด้วยความเอ็นดูและดูท่าทางเหมือนกับว่าทั้งสองคนนี้
จะสนิทสนมกันมาก สนิทจนธาราเริ่มรู้สึกไม่ดี จนต้องหยุดกินทิ้งตะเกียบที่คีบเนื้อที่เป็นของโปรดในช่วงนี้อย่างแรงจนเกิด
เสียงดัง เรียกความสนใจของหนึ่งชายหนึ่งหญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามของตัวเองได้ในที่สุด

       "หือ..เป็นอะไรหรือรู้สึกไม่ดีตรงไหนรึป่าวน้องธาร" เจ้าคุณละสายตาออกมาจากหญิงสาวที่มาใหม่ ถามธาราด้วยความ
เป็นห่วงกลัวว่าธาราอาจจะแพ้หรือกินอะไรแปลกๆเข้าไป

       "......." ไม่ตอบ กอดอก สบัดหน้าหนี เหล่ตามองไปทางหญิงสาว

       "อ๋อ...สงสัยเรื่องของไอ้ขวัญมันหรอ?" เมื่อเห็นท่าทางอย่างนั้น เจ้าคุณก็จับทางออกนึกขึ้นได้

       "......." ก็ไม่ตอบอ่ะ งอลอยู่ คิดมากอยู่ รู้ซะบ้างซิเว้ย!!

       "มีอะไรกันรึเปล่าคะพี่คุณ" หญิงสาวหนึ่งเดียวถามขึ้นด้วยความงุนงง เมื่อรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ

       "ไม่มีอะไรหรอกขวัญแค่อารมณ์แปลปวนของคุณแม่น่ะ อ่อ!...รู้จักกันไว้สิ น้องธารครับไอ้เด็กคนนี้ชื่อจอมขวัญ ยศวโยธิน
น้องสาวแท้ๆของพี่เอง ส่วนแกไอ้ขวัญ คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าแกน่ะ ชื่อธารา หรือน้องธารมันเป็นเมียพี่เอง!!" เจ้าคุณบอกปัดๆ
กับน้องสาวตัวเอง ก่อนที่จะพูดแนะนำน้องสาวผู้ซึ่งเป็นสาเหตุของอารมณ์แปลปวนและแรงหึงของว่าที่คุณแม่ และหันไป
แนะนำธาราให้น้องสาวตัวเองรู้จักบ้าง

       "อะไรน๊ะคะ!! / แกว่ายังไงน๊ะ!!!" แต่ปฏิกิริยาตกใจที่ได้รับกลับมาไม่ได้มีเพียงแต่เสียงของจอมขวัญเท่านั้น เพราะมีอีก
หนึ่งเสียง ไม่สิ! ต้องบอกว่ามีอีกหลายเสียงเลยที่เขาคุ้นชินมาตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้

       "พ่อ แม่ พี่ขุน" เมื่อหันไปทางต้นเสียงเจ้าคุณก็ต้องตกใจ เมื่อในตอนนี้นั้นไม่ได้มีเพียงเขา ธาราหรือจอมขวัญเท่านั้น
แต่กลับมีแม่ พี่ชายและพ่อคนที่เขาไม่อยากเจอที่สุด ยืนค้ำหัวพวกเขาอยู่ข้างๆโต๊ะอีกสามคนด้วยกัน

       "เมื่อกี้แกพูดว่าผูชายคนนี้เป็นอะไรกับแกนะเจ้าคุณ" นายพลจอมทัพเอ่ยถามเจ้าคุณอย่างช้าๆ จ้องมองด้วยสายตากดดัน
รอคำตอบจากปากลูกชายคนกลางของตัวเอง

       "ก็ได้ยินกันหมดแล้วไม่ใช่หรอ?" เจ้าคุณสบตาบอกเสียงนิ่ง ไม่ได้รู้สึกกลัวเหมือนกับน้องสาวที่นั่งอยู่ข้างๆและพยายาม
จะสะกิดเตือนให้เขาคุยกับพ่อเขาดีอยู่ในขณะนี้หรอก ก็ไม่รู้สิ! ใครจะว่าเขาเลวหรืออกตัญญูหรืออะไรก็แล้วแต่เถอะ! เขาไม่
สนใจหรอก เพราะเขากับพ่อจบกันไม่สวยงามนักหรอกในวันที่เขาตัดสินใจออกจากบ้านมาในตอนนั้น

       "เจ้าคุณตอบคุณพ่อเขาไปดีๆเถอะลูก" คุณหญิงบอกกับเจ้าคุณด้วยน้ำเสียงเชิงขอร้องเมื่อเห็นว่าบรรยากาศรอบๆตัวเริ่ม
กดดัน ซึ่งคนที่แผ่มันออกมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกเสียจากสามีของเธอที่ยืนจ้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อลูกชายคนกลาง
ของเธออยู่ข้างๆเธอตอนนี้นี่ไง

       "อิ่มแล้วใช่มั้ยน้องธาร เรากลับกันเถอะ" เจ้าคุณไม่ตอบ แต่เลือกที่จะลากธาราลุกจากโต๊ะที่นั่งออกทางอีกฝั่งนึงที่ไม่มี
ใครยืนขวางเขาอยู่และพาธาราจ่ายเงินค่าอาหารและออกจากร้านทันทีโดยที่ไม่รอเงินทอนและไม่หันกลับไปสนใจมอง
พ่อแม่พี่น้องของเขาที่เดินตามเขาออกมาที่หลัง

       "หยุดเดี๋ยวนี้นะเจ้าคุณ!! ไอ้เจ้าคุณฉันบอกให้แกหยุดเดินเดี๋ยวนี้!!!" เสียงของนายพลจอมทัพดังไล่หลังตามเขาทั้งคู่
มาติดๆ ถ้าเป็นเวลาปกติคนมีอายุอย่างนายพลจอมทัพพ่อของเขาไม่มีทางเดินตามเขาทันอย่างนี้หรอกแต่นี่ติดที่ธารากำลัง
ท้องอยู่นี่แหละเขาถึงได้เดินแบบช้าๆระวังๆอย่างนี้เพราะเป็นห่วงทั้งลูกทั้งเมียเลยนี่แหละ

       "เออ..หยุดแล้วนี่ไง! พ่อมีไรก็รีบๆพูดมา ผมมีธุระจะไปที่อื่นต่อ" เมื่อหนีไม่พ้นเจ้าคุณก็เลยหยุดเดินและหันกลับหลัง
ไปถามนายพลจอมทัพด้วหน้าเซ็งๆ ที่จริงอ่ะเขาไม่จำเป็นหรือมีอะไรที่จะต้องหนีหรอกถ้าพ่อเขาไม่ใช่ตาแก่หัวแข็งโบราณ
คล่ำครึน่ะนะ เพราะเขากลัวว่าพ่อเขาจะพูดอะไรแรงๆให้กระทบกระเทือนจิตใจเมียเขาน่ะสิ ยิ่งธาราเจออารมณ์คนท้องสิง
อยู่ในตัวอย่างตอนนี้น่ะ เดี๋ยวจะพลอยส่งผลเสียไปให้ไอ้ลูกหมาสุดที่รักของเขาในท้องธาราซะเปล่าๆอีก

       "ฉันถามว่าไอ้ผู้ชายข้างๆแกน่ะมันเป็นอะไรกับแกห๊ะ ไหนแกลองบอกฉันมาหน่อยสิ!" นายพลจอมทัพถามอย่างสะกด
กลั้นอารมณ์โมโหที่กำลังพรุ่งพร่านอยู่ตอนนี้ เพราะเขาอยากจะได้ยินชัดๆอีกสักครั้งว่าไอ้สิ่งที่เขาได้ยินในร้านอาหารนั้น
มันไม่ใช่ความจริงและเขาแค่ได้ยินผิดไป

       "ผมจะบอกแค่ครั้งเดียวนะพ่อ ฟังกันให้ชัดๆเลยนะทั้งพ่อ แม่ พี่ขุน ไอ้ขวัญ ว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆผมคนนี้มันเป็นเมียผม
ได้ยินไหมว่าน้องธารมันเป็นเมียของผม!!!" เจ้าคุณตะโกนบอกเสียงอย่างดัง เอาเลย...เอาให้รู้กันไปทั้งจังหวัดเลยยิ่งดี!!

       ผัวะ!!

       "คุณ / พี่คุณ / เจ้าคุณ / คุณ" เสียงร้องเรียกเจ้าคุณจากทั้งธารา คุณหญิง จอมขวัญและเจ้าขุน ดังขึ้นพร้อมๆกันเมื่อเห็น
หมัดหนักๆของนายพลจอมทัพต่อยเข้าเต็มแรงที่หน้าซีกซ้ายของเจ้าคุณ จนเจ้าคุณล้มลงไปนั่งกับพื้น

       "แค่นี้ใช่ไหมที่พ่อต้องการ ถ้าหมดเรื่องแล้วผมขอตัวล่ะ" เจ้าคุณบอกกับนายพลจอมทัพด้วยความเฉยชาเหมือนไม่รู้สึก
อะไร เมื่อธาราช่วยมาพยุงเขาลุกขึ้นแล้ว และหันหลังเดินออกจากตรงนั้นทันที

       "ตราบใดที่แกยังใช้นามสกุลของฉันอยู่ ฉันก็จะไม่ยอมให้แกได้อยู่อย่างมีความสุขกับเมียกระเทยของแกหรอกไอ้คุณ
ไอ้ลูกนอกคอก!!!" นายพลตะโกนว่าไล่หลังเจ้าคุณกับธาราไป
.
.       
.
.
.
       "เอ้า!! กินนมซะจะได้นอนสักที ป่านนี้ไอ้ลูกหมามันง่วงจนหน้าย่นแล้วมั้ง แม่จ๋ามันไม่ยอมพานอนซะที" เจ้าคุณบอก
พร้อมกับส่งนมสำหรับคุณแม่แก้วใหญที่เขาลงไปชงให้เหมือนกับทุกๆคืนให้ธาราที่นั่งรออยู่บนเตียง

       "อ่า~ คุณอ่ะนิสัยไม่ดีชอบว่าลูกหน้าย่น" ธาราส่งแก้วนมที่ตัวเองดื่มหมดแล้วให้เจ้าคุณไปวางไว้บนโต๊ะวางของในห้อง
เพื่อเอาลงไปล้างในวันพรุ่งนี้ ยู่หน้าใส่เจ้าคุณด้วยความไม่ชอบใจที่เจ้าคุณชอบว่าลูกว่าหน้าย่น แถมยังเรียกลูกว่าไอ้ลูกหมา
อีกต่างหาก พอเขาจะห้ามก็ห้ามไม่ได้เพราะดูเหมือนลูกจะชอบใจที่พ่อตัวเองพูดคุยหรือเรียกห่ามๆอย่างนั้นมากเสียด้วยซิ
แต่เขานี่นะจะต้องพูดเพราะๆกับลูก ลูกถึงจะตอบกลับมา ถ้าพูดแบบเฉยๆหรือลองพูดห่ามๆอย่างเจ้าคุณบ้างลูกกลับไม่ยอม
โต้ตอบเขาแบบที่ทำกับเจ้าคุณเลย

       "หึๆ เอาน่า อย่าทำหน้าบึ้งสิ เดี๋ยวก็หน้าย่นตามลูกหรอก" แทนที่จะหยุดเจ้าคุณกลับพูดแหย่ธาราต่อซะอย่างนั้น

       "เจ้าคุณ" ธาราเรียกเมื่อเจ้าคุณปิดไฟและทิ้งตัวลงนอนที่ว่างข้างๆเขาเรียบร้อยแล้ว

       "หืม" ขานรับพร้อมกับพลิกตะแคงหันหน้ามาทางธารา

       "เรื่องเมื่อเย็นน่ะ" ธาราเกริ่นขึ้นแค่นั้น แต่เจ้าคุณก็รับรู้ได้ดีว่าธาราพูดถึงเรื่องอะไร เพราะเจ้าตัวดูเหมือนยังคาใจตั้งแต่
กลับเข้าบ้านมาแล้ว แต่เขาก็หลีกเลี่ยงตลอดเพราะไม่อยากจะพูดต่อหน้าคุณนายมณีไม่อยากให้เธอมาพาลรู้สึกแย่ไปกับเขา
อีกคน ลำพังแค่ธารานี่ตัวเขาก็รู้สึกแย่มากพอแล้วที่ปล่อยให้ธาราได้เห็น ได้เจอ และได้ตกอยู่ในสถานะการณ์แย่ๆอย่างนั้น

       "ช่างมันเถอะ อย่าไปคิดอะไรให้มากมายเลยเดี๋ยวจะปวดหัวซะเปล่าๆ" เจ้าคุณบอกปัดๆ

       "แต่เขาดูโกรธมากเลยนะ ธารพอจะช่วยอะไรคุณได้บ้างไหม" ธาราบอกพร้อมขยับตัวเข้าไปใกล้นอนเอาหัวซุกอกเจ้าคุณ

       "ตาแก่หัวรั้นนั่นก็เป็นอย่างนั้นแหละ ไม่ต้องคิดมากหรือเก็บมาใส่ใจนะ เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเองเชื่อดิ! แค่อย่าซนอยู่เฉยๆ
อุ้มท้องไอ้ลูกหมานี่ก็งานหนักล่ะ จำไม่ได้หรอว่าหมอบอกว่าลูกเราตัวใหญ่มากกกกก" เจ้าคุณแถเปลี่นเรื่องอย่างเนียนๆ

       "อื้อ! คุณหมอบอกว่าลูกจ๋าตัวโตเต็มท้องแม่จ๋าเลย" บอกพร้อมกับลูบท้องนูนๆของตัวเอง

       "หือ..ห๊ะ..อะไรนะ..ลูกหมาง่วงนอนแล้วหรอ..โอเคๆ เดี๋ยวพ่อจะบอกแม่เอ็งให้" เจ้าคุณแกล้งพูดออกมาเสียงดังให้ธารา
ได้ยินในขณะที่ตัวเองเอามือลูบหยอกล้อเล่นกับลูกชายผ่านหน้าท้องของธารา ซึ่งเจ้าตัวเล็กในท้องก็ช่างฉลาดจริงๆ เล่นถีบ
ถองท้องแม่เหมือนกับจะตอบยืนยันคำพูดของพ่อตัวเอง

       "โอ๊ย...พอแล้วๆ ทั้งพ่อทั้งลูกเลยถีบจนแม่จ๋าจุกไปหมดแล้ว ยอมนอนแล้วก็ได้" ธาราบอกพร้อมกับยกแขนกอดเจ้าคุณ

       "หึๆ พอแล้วไอ้ลูกหมา แม่จ๋าเอ็งจะนอนแล้ว ตัวเองก็นอนได้แล้ว ฝันดีครับลูกรัก ฝันดีครับแม่จ๋า" เจ้าคุณลูบท้องธารา
บอกกับลูกชายตัวน้อย ก่อนที่จะบอกเบาที่ข้างหูของธาราในประโยคสุดท้าย พร้อมกับกระชับกอดธาราเข้ามาหาตัวเองอีกนิด
ก่อนที่จะพากับหลับฝันหวานทั้งสามคนพ่อแม่ลูก อย่างน้อยวันนี้มันก็ผ่านไปแล้ว.....


...
ขอโทษทีจร้าที่ผิดเวลาทั้งๆที่บอกว่าจะอัพให้อ่านกันตอนสองทุ่ม
แต่พอดีบ้านมี่ไฟดับคร้า จะช้าจะเร็วยังไงก็มาแล้วเน๊าะ อย่าโกรธกันล่ะ
ที่รีบมาลงให้เพราะเห็นว่าคนอ่านที่น่ารักทุกคนช่วยกันเม้นนะเนี่ย
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ รักนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 7 (05/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 05-11-2015 21:46:17
มาม่าคู่นี้จะมารึเปล่าาาาาาาา
ท่านนายพลดูท่าจะไม่ยอมง่ายๆด้วย
รอตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 7 (05/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-11-2015 23:14:31
ท่านนายพลจอมทัพท่านไม่เห็นเหรอว่าน้องธารกำลังมีหลานให้อยู่น่ะ ทำอะไรก็คิดถึงหรือเห็นแก่คนท้องบ้างเถอะ ไม่รู้จักเก็บอารมณ์บ้างเลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 7 (05/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-11-2015 08:09:05
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 7 (05/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 06-11-2015 11:19:51
จะมีหลานแล้วยังไม่ยอมรับอีกเรอะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 7 (05/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 06-11-2015 12:32:37
คุณตาตะคอกเจ้าคุณมากๆ ระวังหลานจะไม่รักเอานะคะ   
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 7 (05/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-11-2015 12:55:04
คนเถื่อนพูดหวาน
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 7 (05/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 06-11-2015 13:16:23
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: พี่คุณสู้ ๆนะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 7 (05/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 10-11-2015 18:41:45
ขอแจ้งเพจนิดนึง Little Mz ชื่อเพจจร้า

คืนนี้เจอกันนะคะ....
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 10-11-2015 21:44:53
คุณเมียภาคบังคับ [เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 8   






       "เป็นอะไรครับเมีย ทำไมทำหน้าอย่างนั้น" เจ้าคุณถามขำๆ อย่างไม่จริงจังนัก เมื่อหันมองธาราที่นั่งหน้านิ่วอยู่ข้างๆตัวเอง
ในขณะที่กำลังดูการ์ตูนเรื่องโปรดของธาราอย่างชินจังจอมแก่นอยู่ที่ห้องนั่งเล่นกันสองคนเพราะคุณนายมณีออกไปสมาคม
ของเธอตั้งแต่เช้าแล้ว   


       "ป..ปวดท้อง..อื้อ!!...โอ๊ยยย!!!" ธาราบอกอย่างตะกุกตะกัก จิกเล็บเข้ากับต้นแขนของเจ้าคุณจนได้เลือดในตอนที่พูดบอก
เพราะตอนนี้เขารู้สึกทั้งเจ็บท้องและปวดท้องจนมันรู้สึกหน่วงไปหมด


        "ห๊ะ!!..ปวดท้องหรอ!! จะคลอดแล้วใช่เปล่า!!! รอนะรอ แป๊ปนึงๆ กุญแจรถๆ กุญแจรถอยู่ไหนว๊ะ!!!" พอรู้แน่แล้วว่าธารา
เป็นอะไรเจ้าคุณก็แหกปากโหวกแหวกโวยวายเดินไปเดินมาในขณะที่หากุญแจรถเพื่อที่จะพาธาราไปโรงพยาบาล แต่ดูเหมือน
ว่าตอนนี้พี่เจ้าคุณคนเถื่อนของน้องธารจะสติแตกไปเสียแล้ว เพราะกุญแจรถที่เขาตามหาอยู่นั้นมันไม่ได้ไปอยู่ที่ไหนไกลเลย
เพราะเจ้าตัวห้อยมันไว้อยู่กับหูกางเกงของตัวเองแท้ๆ


       "อ...อยู่..ที่กางเกง อื้อ!!" หลังจากที่มองตามเจ้าคุณเดินไปเดินมาอยู่นานธาราก็ชี้บอกกับเจ้าคุณเมื่อเห็นว่ากุญแจรถที่เจ้าคุณ
ตามหานั้นอยู่ที่ไหน ทั้งๆที่ตัวเองก็ปวดท้องจนแทบตาย แต่ถ้าไม่ช่วยมองหาเขาคงจะตายจริงๆแน่ ในเมื่อพ่อของลูกเขาสติแก
ไปเสียแล้วอย่างนี้


       "แมร่งชิบ!! ให้กูหาอยู่ตั้งนาน ใจเย็นน้องธารใจเย็น อดทนไว้" เจ้าคุณสบถออกมาอย่างหัวเสียด้วยความหงุดหงิด เพราะ
เหมือนกับว่าเขายิ่งรีบมันจะยิ่งช้าเสียอย่างนั้น ก่อนที่จะหันมาพูดปลอบและอุ้มธาราไปขึ้นรถและบึ่งตรงไปโรงพยาบาลด้วย
ความเร็วเลยทันที
.
.
.
.
.
       "เจ้าคุณลูก" ในขณะที่เจ้าคุณรอติดต่อทำเรื่องเอกสารกับทางโรงพยาบาลก็หันหลังกลับทันทีเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นหูเรียกหา
 
       "อ้าว! แม่มาทำไรที่โรงพยาบาลนี่อ่ะ หรือใครเป็นอะไร" เมื่อเห็นว่าเป็นใครเรียกตนเจ้าคุณก็เอ่ยถามพรางเหล่มองไปทาง
ด้านหลังของแม่ตัวเองที่มีนายพลจอมพลยืนหน้านิ่งอยู่ด้วย


       "แม่กับคุณพ่อพากันมาตรวจร่างกายประจำปีเฉยน่ะลูกไม่มีใครเป็นอะไรหรอก ว่าแต่เราเถอะมาที่โรงพยาบาลนี่ทำไม
คุณไม่สบายหรอลูก" เธอบอกพร้อมกับถามเจ้าคุณกลับด้วยความเป็นห่วง


       "ผมพาเมียมาคลอดลูกอ่ะแม่ นี่ก็กำลังรอเจ้าหน้าที่อยู่เนี่ย ผมจะมาเอาใบเกิดลูก" เจ้าคุณบอกอย่างยิ้มๆเมื่อนึกถึงหน้าลูกชาย
แรกของเขาและธาราที่เพิ่งลืมตาเกิดออกมาจากท้องแม่จ๋าของเจ้าตัวมาเมื่อวานนี้เอง


       "ลูกหรอ? ก็ไหนเมื่อตอนนั้นลูกบอกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นเมียลูกยังไงล่ะเจ้าคุณ?" เธอถามอย่างสงสัยเพราะเมื่อหลายเดือนก่อน
เจ้าคุณยังบอกว่าผู้ชายคนที่อยู่ด้วยตอนนั้นเป็นเมียของตัวเองอยู่เลย แล้วไหงผ่านมาไม่กี่เดือนเจ้าคุณถึงบอกว่ามีลูกแล้วล่ะ
แต่ใช่ว่าจะมีแต่คุณหญิงที่สงสัยเสียคนเดียวซะเมื่อไหร่ ตอนนี้นายพลจอมทัพก็ขมวดคิ้วยุ่งเหมือนกันแค่เพียงแต่ไม่ยอมเอ่ยปาก
ถามออกมาเพราะยังคงวางท่าอยู่


       "ก็คนเดียวกันนั่นแหละแม่ เมียผมคนนั้นนั่นแหละที่มาคลอดลูกวันนี้น่ะ รอแป๊ปนะแม่เจ้าหน้าที่เรียก" เจ้าคุณบอกคุณหญิง
เมืื่อได้ยินเจ้าหน้าของโรงพยาบาลเรียกชื่อตัวเอง


        "คุณคะคุณได้ยินเหมือนที่ฉันได้ยินหรือป่าวคะว่าเจ้าคุณมีลูกแล้ว แถมยังเกิดจากพ่อหนุ่มคนนั้นอีกด้วย นี่มันอะไรกันคะ
ผู้ชายท้องได้ด้วยหรือคะคุณ" คุณหญิงเธอหันไปถามสามีที่ยืนตีหน้านิ่งอยู่ข้างตัวเอง


        "ไม่รู้สิ" นายพลจอมทัพบอกอย่างปัดเพราะตัวเขาเองก็ยังสับสนและมึนงงอยู่เหมือนกันนั่นแหละตอนนี้


       "ได้ล่ะ แม่จะไปดูลูกผมรึป่าวผมจะไปรับลูกที่ห้องเด็กอ่อนไปหาแม่จ๋ามัน ป่านนี้คงตื่นแล้วล่ะมั้ง" เจ้าคุณชูซองเอกสาร
ให้คุณหญิงดู ก่อนที่จะถามต่อเพราะเขาจะไปรับลูกที่ห้องเด็กอ่อนตามที่พยาบาลบอกก่อนหน้านี้ไปหาธาราที่ยังคงนอนหลับ
อยู่ที่ห้องพักเพราะอ่อนเพลียจากการคลอดลูกอยู่โดยมีคุณนายมณีเฝ้าอยู่ด้วยหลังจากที่เขาโทรไปบอกข่าว ธาราและคุณนายมณี
ยังไม่เคยได้เห็นหน้าลูกชายเขาเลย เพราะธาราสลบไปก่อนส่วนคุณนายมณีมาทีหลังมีเขาคนเดียวที่ได้เห็นหน้าลูกแถมยังตัด
สายสะดือให้ลูกเองอีกต่างหาก พูดแล้วก็ภูมิใจว่ะ! มีลูกชายที่หล่อเหมือนพ่อมันไม่มีผิด ฮ่าๆ
 
        "ไปสิ! แม่ก็อยากเห็นหน้าหลานคนแรกเหมือนกัน" คุณหญิงบอกหลังจากที่หันกลับไปถามความเห็นจากสามีแล้วและ
ได้คำตอบกลับมาเพียงแค่ความเงียบเท่านั้น
.
.
.
.
.
       "อ่าว! ตื่นแล้วหรอ? ยายครับนี่พ่อกับแม่ผม แม่ พ่อ นี่คุณนายมณียายน้องธารมัน" เจ้าคุณเอ่ยทักธาราเมื่อเห็นว่าธารานอน
ลืมตาแป๋วดูโทรทัศน์อยู่โดยมีคุณนายมณียายของเจ้าตัวนั่งเฝ้าอยู่เป็นเพื่อนที่โซฟารับแขกที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้ เพราะ
ห้องพิเศษของโรงพยาบาลเอกชนเขามีเตรียมให้พร้อม และไม่ลืมที่จะแนะนำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน ก่อนที่จะก้าวเดิน
เข้าไปหาธาราที่เตียงนอน


       "เป็นไงมั่ง เจ็บมากป่าว" เจ้าคุณลูบแก้มธารา ถามด้วยความเป็นห่วง


       "เจ็บ..แต่ไม่เป็นไรหรอกเพื่อลูกธารทนได้ แค่นี้เองแป๊ปเดียวเดี๋ยวก็หายแล้ว คุณอ่ะหายไปไหนมา" ธาราตอบพร้อมกับ
ส่งยิ้มจางๆไปให้เจ้าคุณที่นั่งลงเก้าอี้ข้างเตียงที่กำลังมองส่งสายตาแสดงความห่วงใยมาให้ตัวเอง พร้อมกับไม่ลืมถามในสิ่งที่
ตัวเองสงสัย หลังจากที่เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้าคุณหรือลูกชายเลยมีเพียงแต่คุณยายมณียายของเขา
แค่เพียงคนเดียว


       "ไปเอาใบเกิดลูกมา นี่ไง! คุณแจ้งเกิดตั้งแต่อยู่ในห้องคลอดเมื่อวานแล้ว เมื่อเช้าพยาบาลเขาบอกให้ไปเอามาน่ะ" เจ้าคุณ
บอกพร้อมกับยื่นซองเอกสารใบเกิดลูกชายให้กับธารา


       "เด็กชายชลธาร ยศวโยธิน ชื่อเล่นเจ้านาย คนละครึ่งทางตรงตามที่ตกลง ถูกต้องมั้ยครับเมีย" เจ้าคุณถามหยิกแกมหยอก
เพราะว่าก่อนหน้านี้เขาและธาราเถียงกันอยู่พักใหญ่เรื่องของชื่อลูก จนมาลงตัวที่ชื่อนี้โดยให้ชื่อเล่นคล้องกับพ่อและชื่อจริงมี
ความหมายคล้องจองกับชื่อแม่ด้วย


       "อื้อ! แล้วลูกอ่ะ" ธาราเก็บใบเกิดใส่ลงซองเหมือนเดิมยื่นส่งคืนให้เจ้าคุณพร้อมทั้งธามถึงลูกชาย


       ก๊อก....ก๊อก


       "ขออนุญาติค่ะ พาน้องมาหาคุณแม่แล้วคะ" ยังไม่ทันที่เจ้าคุณจะได้ตอบคำถามธาราก็มีเสียงเคาะประตูของพยาบาลดัง
ขัดขึ้นซะก่อน แต่สิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจไม่ใช่พยาบาลหรอก แต่เป็นทารกน้อยตัวอวบๆผิวแดงๆในกระบะเด็กที่พยาบาล
เข็นมาต่างหากล่ะ

       "คุณแม่ให้นมน้องอย่างที่พยาบาลเคยสอนได้เลยนะคะป่านนี้น้องคงหิวแล้วล่ะคะ แล้วอีกสองชั่วโมงพยาบาลจะมารับ
น้องกลับห้องเด็กอ่อนนะคะ" พยาบาลบอกพร้อมกับอุ้มหนูน้อยในกระบะเด็กส่งให้คนเป็นแม่อย่างธารา ก่อนที่จะขอตัว
ออกจากห้องไป

       "ตายแล้ว!! หน้าเกลียดหน้าชังจริงๆหลานยายทวด ตกลงให้หลานชื่ออะไรล่ะฮึเจ้าคุณน้องธาร" ในขณะที่เจ้าคุณและธารา
มองลูกน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของธาราอย่างเงียบๆ คุณนายมณีก็เป็นคนพูดทำลายความเงียบโดยการถามชื่อเหลนของตัวเอง
เพราะคิดว่าผู้ใหญ่อีกสองคนในห้องที่ยืนมองหลานอยู่ห่างๆข้างๆเธอนี้ก็คงจะอยากรู้ไม่น้อยไปจากเธอหรอกเมื่อเห็นความ
ตื่นเต้นส่องประกายออกมาจากดวงตาซะขนาดนั้น

       "ชื่อน้องเจ้านายครับยาย ส่วนชื่อจริงก็เด็กชายชลธาร ยศวโยธิน" เจ้าคุณหันไปบอกชื่อเล่นของลูกชายกับคุณนายมณีโดย
ทันที ก่อนจะเว้นช่วงไปพักนึงมองหน้าพ่อและแม่ของตัวเอง ถึงจะบอกชื่อจริงออกมาอย่างไม่ดังมากนัก เพราะกลัวจะมีปัญหา
ที่ให้ลูกใช้นามสกุลของตัวเองเพราะหลังจากที่ทะเลาะกันเรื่องของธาราวันนั้นเขาเองก็ยังไม่ได้เคลียร์กับพ่อตัวเองเลยเหมือนกัน

       "อืม..ชื่อเล่นของพ่อชื่อจริงของแม่สินะ แหม่...ช่างเข้าใจตั้งกันเสียจริงๆเราสองคนนี่ เอ้า! ทำไมไปยืนไกลห่างกันซะขนาด
นั้นล่ะคะคุณหญิง ท่านนายพล มานี่สิคะ มาดูหน้าหลานใกล้ๆนี่ ยายยืมเหลนแป๊ปนึงนะเจ้าคุณ น้องธาร" คุณนายมณีบอก
พร้อมกับขยิบตาให้กับเจ้าคุณและธาราก่อนที่จะชกตัวเหลนจากอ้อมแขนของธาราอุ้มไปให้นายพลจอมทัพกับคุณหญิงที่
ยังคงยืนห่างๆไม่ยอมเข้ามาดูหน้าหลานอย่างที่คุณนายมณีเอ่ยปากชวน

       "ขอบคุณนะน้องธาร" ในขณะที่ธารามัวมองตามลูกน้อยไป อยู่ๆเจ้าคุณก็โพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขุ่ย

       "ขอบคุณเรื่องอะไรอ่ะ?" ธาราเอียงคอถามอย่างงงๆ

       "ก็ทุกเรื่องอ่ะ เรื่องที่เมียเข้ามาหาเรื่องไอ้ภาสจนโดนพี่ลากไปปล้ำ เรื่องที่เมียเสือกท้องได้แล้วก็มีลูกชายหล่อๆออกมา
ให้พี่ไงอย่างนี้นี่ไง ขอบคุณนะครับ รักเมียว่ะ จุ๊บ!!" เจ้าคุณไล่บอกเรื่องหน้าอายด้วยหน้าตายทีละเรื่องๆโดยทิ้งท้ายด้วยการ
บอกขอบคุณอีกครั้ง ไม่วายบอกรักและจูบหน้าผากธาราเร็วๆอีกที

       "บ้า!" ธาราทุบปึกเข้าไปที่ไหล่เจ้าคุณด้วยแรงที่ไม่เบานักเพราะความเขิน

       "หึๆ" เจ้าคุณขำเบาๆในลำคอเมื่อเห็นว่าธาราเขินจัดจนเห่อแดงไปหมดทั้งหน้าทั้งคอ     
.
.
.
       "ตาหนูหน้าเกลียดหน้าชังมากเลยใช่ไหมล่ะคะ แถมยังดูออกเลยว่าถอดแบบเจ้าคุณมาหมดตั้งแต่อ้อนแต่ออกอย่างนี้
ท่านนายพลยังจะใจร้ายใจดำโกรธลูกเกลียดหลานได้ลงอีกหรอคะ" คุณนายมณีถามขึ้นเมื่อส่งเด็กน้อยในห่อผ้าให้คุณหญิง
อุ้มไปดูกับนายพลจอมทัพได้สักพักแล้ว

       "เอ่อ.." คุณหญิงแม่ของเจ้าคุณหน้าเสียทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของคุณนายมณี

       "ฉันไม่ได้จะสอนหรืออะไรหรอกนะคะท่านนายพล คุณหญิง เพียงแต่ฉันแค่อยากจะให้ท่านนายพลลองเปิดใจมอง
เจ้าคุณกับน้องธารใหม่อีกสักครั้ง อย่างน้อยก็ถือซะว่าทำเพื่อหลานเถอะนะคะ ท่านนายพลไม่อยากมีหลานตัวเล็กๆแวะ
เข้าไปวิ่งเล่นในบ้านบ้างหรือคะ และไม่ต้องกลัวว่าฉันจะให้หลานไปทำให้ท่านเสื่อมเสียอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่อยากให้
รู้จักกันไว้บ้างก็เท่านั้น ถ้าท่านไม่สบายใจก็ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวให้เจ้าคุณกับน้องธารเปลี่ยนมาใช้นามสกุลฉันแทนก็ได้ค่ะ
เพราะยังไงๆตอนนี้เจ้าคุณก็ถือว่าเป็นคนในครอบครัวของฉันอยู่แล้วค่ะ งานนี้ฉันมีแต่ได้กับได้ อ่อ! ฉันขอตัวตาหนูไป
ให้พ่อให้แม่เขาก่อนนะคะ สงสัยจะหิวนมแล้วล่ะ เบะปากเตรียมพร้อมที่จะร้องไห้ซะขนาดนี้ คริๆ" เมื่อเธอพูดสิ่งที่เธอ
อยากจะพูดจบแล้ว คุณนายมณีก็ฉกหลานออกมาจากคุณหญิงแม่ของเจ้าคุณอีกครั้งและอุ้มไปคืนเจ้าคุณกับธาราทันที
โดยไม่สนใจหน้าเหวอๆของคุณหญิงและนายพลจอมทัพอีกเลย

       แอ๊..แอ๊..แอ๊

       "อ่ะ! เอานมให้ตาหนูกินซะน้องธาร คงหิวแย่ล่ะนั่น เดี๋ยวยายจะออกไปส่งนายพลจอมทัพกับคุณหญิงท่านเสียหน่อย
ท่านจะกลับล่ะ ไปกันค่ะท่านนายพลคุณหญิง ทางนี้ปล่อยให้ครอบครัวเขาดูแลกันไป" เธอส่งหลานถึงมือธาราแล้วเธอ
ก็หันไปพูดเชิญทั้งพ่อและแม่ของเจ้าคุณออกจากห้องทันทีเลยเหมือนกัน งานนี้พูดได้คำเดียวว่าคุณนายมณีคือเดอะวินเนอร์ ฮ่าๆ

      แอ๊...แอ๊...แอ๊
                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                     
       "เอ้าเฮ้ย!! มัวมองไรครับเมีย ลูกหิวแย่แล้ว ไม่เอานมให้ลูกกินสักทีอ่ะ" หลังจากมองตามผู้ใหญ่ทั้งสามคนออกไปแล้ว
พอหันกลับมาเจ้าคุณก็ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าธารายังคงนั่งอุ้มลูกอยู่ท่าเดิมไม่ได้เอานมให้ลูกกินอย่างที่ควร

       "ก็แล้วทำไมคุณไม่ออกไปด้วยล่ะ" ธาราก้มหน้าพึมพำตอบ ซึ่งเจ้าคุณก็รับรู้ได้เลยว่าตอนนี้ธาราเขินอายตัวเองเข้าให้แล้ว

       "หึๆ จะอายทำไมครับเมีย อย่าว่าแต่นมเลยพี่คุณคนนี้เห็นยันไปถึงไส้ติ่งเมียแล้วครับ หึๆ เร็วๆครับแม่จ๋าเจ้านายน้อยหิว
นมแย่แล้ว" เจ้าคุณบอกพร้อมกับทำหน้าล้อเลียน นั่นยิ่งทำให้ธาราเขินเข้าไปใหญ่
     
       "แล้วจะยืนมองอยู่เฉยๆทำไมล่ะครับคุณพ่อ!! ช่วยแกะเชือกหน่อย!!" ธาราพูดประชดกลับพร้อมกับใช้เจ้าคุณแกะเชือก
ที่ผูกเสื้อของโรงพยาบาลออกเพื่อที่จะให้นมลูก เมื่อเจ้าคุณแกะเชือกผูกเสื้อออกหมดแล้วหน้าอกที่คัดเพราะเต็มไปด้วยน้ำนม
ก็ลอยเด่นอวดโชว์เลยสายตาของเจ้าคุณเลยทันทีถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับของผู้หญิงเพราะเป็นกระเปาะ
เล็กๆเหมือนกับของเด็กผู้หญิงซะมากกว่า แต่แค่นั้นมันก็มากพอที่จะทำให้เจ้าคุณถึงกับต้องกลืนน้ำลายเลยเหมือนกัน
ดีนะที่ธารามันแต่สนใจเอานมให้ลูกกินเพราะลูกร้องดังขึ้นเลยไม่ทันได้สนใจมองสีหน้าหรือท่าทางของเจ้าคุณไม่อย่างนั้น
เขาคงจะโดนเมียด่าว่าหื่นเข้าให้

       "เดี๋ยวมานะ เข้าห้องน้ำแป๊ปนึง" เจ้าคุณบอกและรีบหันหลังให้ธาราเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที โดยที่มีธารามองตามไป
อย่างงงๆ เพราะท่าทางแปลกๆของเจ้าคุณ

       .......ใจเย็นไอ้คุณ...ใจเย็น...ลูกมึงเพิ่งเกิดได้วันเดียวเองนะเว้ย.....อ่าาาา......

   ...
เอ้า! มีใครเตรียมของรับขวัญหลานกันทันบ้างคะ เพราะมี่เองก็เตรียมไม่ทัน ฮ่าๆ
วันนี้ไม่มีไรจะคุย เอาไว้เจอกันตอนหน้านะคะ.......
 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Winterzauber ที่ 10-11-2015 22:42:35
สนุกมากค่ะ พี่คุณนี่จริงๆ เลย :katai2-1:
พี่ภาสอย่าน้อยหน้าเจ้าคุณนะคะ
รอดูภาสน้อยพัสน้อยอยู่นะคะ o18 o18
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: rose_mary ที่ 10-11-2015 22:54:51
คุณปู่คุณย่าเห็นหน้าหลานก็คงจะใจอ่อนอยู่ดีแหละน่า :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gatenutcha ที่ 10-11-2015 23:00:44
 :-[  :-[
หวานมากนะคู่นี้  เจ้าคุณกับน้องธาร
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 10-11-2015 23:01:54
คุณยายมาอย่างวินเลยยยย  มันต้องแบบนี้แหละ! :laugh:
พี่คุณ.........หื่นไปค่ะ นี่วางแผนคนที่สองเลยไหมคะ?
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 10-11-2015 23:27:33
แค่ได้เห็นหน้าน้องเจ้านายใจคุณปู่ก็คงจะอ่อนยวบไปกว่าครึ่งแล้วนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-11-2015 23:38:21
หื่นได้ตลอดจริงๆคุณพ่อ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 11-11-2015 01:10:15
                     รออ่านตอนต่อไปคับ ไม่รู้ว่าคู่หลักจะเป็นไงบ้าง
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-11-2015 07:48:51
เจ้านายต้องทำให้คุณปู่คุณย่าใจอ่อนได้แน่!
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 11-11-2015 07:59:22
เจ้าคุณใจเย็นๆๆนะ 555 :hao6:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-11-2015 09:28:54
เจ้าคุณเอ๊ย น้ำนมแม่น่ะเป็นของลูก แต่นมแม่น่ะเป็นของพ่อใช่มะ อิอิ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 11-11-2015 20:01:21
แบบนี้หัวปีท้ายปีแน่ๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 12-11-2015 00:03:18
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: janny_j ที่ 12-11-2015 05:52:53
ชอบคู่นี้มากๆเลยค่ะ น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 8 (10/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 12-11-2015 16:28:01
ตามทันแล้วววววววววว :laugh:
ชอบมากเลยยย รอนะคะ :mew3:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 18 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 12-11-2015 22:21:59
คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 18   


       



       "พี่ภาส!! พี่ภาส!!!" เสียงตะโกนเรียกหาสามีของพัสกรดังลั่นบ้าน จนคนที่อยู่ในบ้านสะดุ้งกันไปตามๆกัน โดยเฉพาะ
เจ้าของชื่ออย่างณัฐภาสเองที่ก็ไม่รู้ว่าพักนี้ตัวเองได้ทำอะไรผิดไปโดยที่ไม่รู้ตัวรึป่าว ตัวเองถึงได้ดูขวางหูขัดตาภรรยาตัวน้อย
นัก แทบจะตลอดเวลาเลยก็ว่าได้


       "คร้าบๆ ที่รักเรียกพี่ทำไมครับ" ณัฐภาสถามไปปาดเหงื่อไป เพราะรีบวิ่งมาจากห้องนั่งเล่นชั้นล่างของบ้าน ในขณะที่
พัสกรนั้นตะโกนเรียกเขาอยู่ในห้องนอนชั้นบน


       "ก็นี่ไง! พี่ภาสใช้ของแล้วทำไมไม่เก็บเข้าที่ให้เรียบร้อยห้ะ เคยรู้รึป่าวว่าคนที่คอยตามเก็บตามเช็ดให้ทุกวันน่ะมันเหนื่อย
แค่ไหนน่ะห้ะ" พัสกรว่าพรางชี้มือไปทางโต๊ะเครื่องแป้งที่เต็มไปด้วยเครื่องประทินผิวทั้งหลายแหล่ของเขาทั้งสองคน ไม่ว่า
จะเป็นครีมทาหน้า โลชั่นทาผิว น้ำหอม สเปรย์ฉีดผม ฯลฯ แล้วก็อะไรต่ออะไรอีกหลายๆอย่าง


       "หือ...พี่ใช้เสร็จแล้วก็เก็บวางไว้ที่เดิมเหมือนเดิมเป๊ะๆเลยนี่คะ มีอะไรผิดไปตรงไหนหรอครับ?" ณัฐภาสพูดบอกตาม
ความจริง เพราะหลังจากเมื่อสามวันก่อนที่เขาโดนพัสกรบ่นเรื่องนี้มาติดๆกันอย่างนี้ (ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่มีจะมาบ่นมาว่า
อย่างนี้หรอก) และเมื่อเช้าหลังจากที่เขาใช้ของพวกนี้เสร็จเขาก็วางเหมือนเดิมที่เดิมอย่างที่พัสกรวางเป๊ะๆเลยล่ะ แล้วจากที่
เห็นนี่ก็วางเป็นระเบียบเรียบร้อยเลยนะเนี่ย ยังจะมาบอกว่าไม่เข้าที่ตรงไหนอีกครับเมีย...ช่วงนี้พี่ล่ะเพลียกะเมียเหลือเกิน!!


       "ก็นี่ไง! ครีมทาหน้ากระปุกนี้พี่ภาสวางกลับหน้ากลับหลัง เนี่ยๆ ถ้าจะให้ถูกพี่ภาสต้องวางอย่างนี้เอาข้างหน้ากระปุกหัน
ออกมาด้านหน้าให้เราเห็นอย่างนี้ แล้วโลชั่นขวดโลชั่นทำตัวเนี่ยเห็นไหมว่าพี่ภาสวางมันล้ำหน้าขวดอื่นๆออกมาเนี่ยมันหน้า
เกลียดนะ ส่วนน้ำหอมเนี่ยก็ปิดฝาไม่สนิทมันทำให้น้ำหอมระเหยออกมาเข้าใจมั้ยพี่ภาส!! ระเหยออกทุกวันๆ เข้าก็หมดเร็ว
แล้วพอหมดเร็วก็ต้องซื้อใหม่เรื่อยๆ ทั้งๆที่ใช้ไปได้ไม่เท่าไหร่เอง อย่างนี้มันสิ้นเปลืองนะ!!" พัสกรไล่แจงรายละเอียดที
ละอย่างๆ ให้สามีฟังอย่างหงุดหงิด ขัดใจที่สุด!


       "ห๊ะ! พัสตะโกนเรียกพี่แว้ดๆ เพราะเรื่องแค่นี้อะนะ?" เมื่อได้ยินเหตุผลของภรรยาณัฐภาสถึงกับต้องตบหน้าผากเรียกสติ
ของตัวเองกันเลยทีเดียว


       "อะไรนะ? ว่าไงนะ? เมื่อกี้พี่ภาสบอกว่าเรื่องแค่นี้? พี่ภาสบอกว่าเรื่องแค่นี้หรอห้ะ!! ถ้ามันเป็นเรื่องแค่นี้อย่างที่พี่ภาสบอก ทำไมพี่ภาสถึงต้องให้พัสมาจ้ำจี้จ้ำไชพูดบอกพี่ภาสเรื่องเดิมๆซ้ำๆทุกวันด้วยห้ะ!!" ดูเหมือนกับว่าคำพูดของณัฐภาสจะแสลงหู
ทำเอาพัสกรอารมณ์ขึ้นเลยทีนี้ เพราะหลังจากที่ณัฐภาสพูดออกไปพัสกรก็หยุดมือที่กำลังจับๆจัดๆเรียงๆของตามอย่างที่ตัวเองต้องการถึงกับหยุดชะงักและหันมาตวาดแว้ดอย่างที่ณัฐภาสว่าไปก่อนหน้านี้เข้าแล้วจริงๆ


       "อะไรว๊ะ!!" เผลอสบถกับตัวเองอย่างไม่รู้จะพูดอะไร


       "ว๊ะหรอ? เดี๋ยวนี้พี่ภาสขึ้นว๊ะขึ้นโว้ยกับพัสหรอ? ใช่สิ!! พี่ภาสไม่รักพัสแล้วนี่!!" เบะปากพูด น้ำตาคลอปริ่มๆอยู่ใน
ลูกตากลมเจียนจวนจะไหลออกมาอยู่มะรอมมะร่อ


       "ห๊ะ!!" ณัฐภาสถึงกับเหวออ้าปากหวอเลย เมื่ออยู่ดีๆภรรยาสุดที่รักก็เปลี่ยนเรื่องเปลี่ยนอารมณ์เอาเสียดื้อๆซะอย่างนั้น
จากโมโหกลายมาเป็นอ่อนไหวน้ำตานองหน้าได้ภายในชั่วพริบตา นี่มันอะไรกันครับ!!


       "ฮึก! ใช่สิ! พัสมันเป็นของเก่า...ฮึก!...ของตายนี่! เพราะพัสมันเป็นเมียภาคบังคับที่คุณพ่อเลือกและพี่ภาสปฏิเสธไม่ได้
ใช่มั้ยล่ะพี่ภาสถึงหมดรักพัสเร็วขนาดนี้น่ะ ฮืออออออ....." พัสกรพูดบอกออกมาทั้งน้ำตาที่ไหลรินอย่างไม่ขาดสาย เหมือนกับ
ว่าเจ้าตัวนั้นเสียใจจนแทบจะขาดใจอย่างไงอย่างงั้น มันสะเทือนจายยยย.....


       "........" เจออย่างนี้ณัฐภาสถึงกับพูดไม่ออกไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว ทำได้เพียงแต่คว้าตัวภรรยาตัวน้อยสุดที่รักเข้ามากอด
ปลอบอย่างเงียบๆ พรางนึกย้อนไปถึงบทสนทนาการพูดคุยของเขาและพัสกรก่อนหน้าว่ามีอะไรตรงไหนหรือคำพูดประโยคใด
ของเขาที่ทำให้พัสกรเข้าใจผิดคิดไปได้ถึงขนาดนี้  ก็ไม่นี่! แล้วนี่หนูพัสเป็นไรไปว่ะเนี่ย โอ้ยยย...ไอ้ภาสอยากจะบ้า!!!


       "ฮึก! พี่ภาส ฮึก! ไม่..รัก..พัส..แล้ว ฮึก! ช่าย..มั้ย!! ฮือออออ...."

       "อ่าว! อยู่ดีๆก็หลับเฉยเลย สงสัยร้องไห้จนหมดแรงเหนื่อยเลยล่ะสิ เฮ้อ! วันนี้ที่รักงองแง แปรปรวนเอาซะพี่ตามไม่ทัน
เลยนะครับ" ณัฐภาสพูดไปบ่นไปถอนหายใจไปในขณะที่จัดท่าจัดทางให้ภรรยาตัวน้อยได้นอนหลับได้อย่างสบายๆบน
ที่นอนนุ่มๆ
.
.
.
       "เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละพ่อ แล้วหนูพัสก็ร้องไห้จนเหนื่อยแล้วก็หลับไปอย่างที่พ่อเห็นนี่แหละ ผมนะ..ทั้งพูดปลอบ
ทั้งขอโทษ..ขอโทษไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่าผิดอะไรด้วยนะ แต่หนูพัสก็ไม่ยอมฟังเลย ร้องไห้อย่างเดียวเลยอ่ะ พ่อพอจะรู้บ้างป่ะว่า
หนูพัสเป็นอะไรอะ ช่วยผมหน่อยเถอะ! ผมจะบ้าตายอยู่แล้วเนี่ย!!" ณัฐภาสเล่าเรื่องราวทั้งหมดในช่วงนี้ที่เกี่ยวกับการเปลี่ยน
แปลงอาการแปลกๆของพัสกรให้เจ้าสัวชัชวาลย์พ่อของตัวเองฟังหลังจากที่เจ้าสัวชัชวาลย์มาเที่ยวหาเพราะว่าวันนี้เป็นวัน
หยุดที่ตัวเขาเองไม่ต้องไปทำธุระที่ไหนเลยแวะมาหาลูกชายและลูกสะใภ้สักหน่อยหวังว่าจะมาหาเพื่อนคุย แต่ที่ไหนได้พอ
เข้ามาถึงในบ้านก็เจอลูกชายนั่งหน้าเครียดกุมขมับต้อนรับเขาอยู่ในห้องรับแขกของบ้านเลย ถามไปถามมาก็ได้ความว่า
ช่วงนี้ลูกสะใภ้เขาแปลกๆไป อารมณ์ขึ้นๆลงๆจนณัฐภาสลูกชายเขาตามไม่ทัน


       "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่ฉันว่าเดี๋ยวโทรตามหมอมาตรวจที่นี่ตอนนี้เลยดีกว่าว่ะ จะได้รู้ให้แน่นอนไปเลยว่าหนูพัส
เป็นอะไรกันแน่" เจ้าสัวชัชวาลย์บอกพร้อมกับยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนหมอที่รู้หันกันโดยทันที


       "ว่าไงบ้างพ่อ" ณัฐภาสเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเจ้าสัวชัชวาลย์คุยกับปลายสายเสร็จแล้ว


       "มันไม่ว่าง แต่เดี๋ยวมันจะส่งลูกชายมาตรวจดูอาการของหนูพัสให้แทน เห็นว่าลูกมันอยู่ใกล้ๆนี่แหละ นั่นไงมาแล้ว"
ยังไม่ทันที่เจ้าสัวชัชวาลย์จะพูดจบก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังเข้ามาในบ้าน
 
       "หมอจริงหรือหมอเถื่อนกันแน่ว่ะครับพ่อ" ณัฐภาสกระซิบถามพ่อตัวเองเมื่อเดินออกมาจากบ้านเพื่อมาต้อนรับหมอ
แล้วเห็นผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา ซึ่งก็ไม่น่าจะแปลกอะไรถ้าหมอจะมีอายุประมาณนี้เพราะเจ้าสัวชัชวาลย์บอกว่า
เป็นหมอรุ่นลูกที่จะมาแทนพ่อ แต่เขาจะไม่ถามพ่อเขาอย่างนี้เลยถ้าคนที่พ่อบอกว่าเป็นหมอไม่ได้ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนต์
สวมแจ็คแก๊ตหนัง คาดแว่นดำ ขี่บิ๊กไบค์ Scrambler อย่างนี้น่ะนะ และสิ่งเดียวที่ช่วยยืนยันว่าเจ้าตัวคือหมอคนที่พ่อบอกก็มี
เพียงกระเป๋าแพทย์ที่เป็นกล่องสี่เหลี่ยมๆสีดำๆสะพายติดมาด้วยก็เท่านั้นเอง


       "หมอจริงสิว๊ะไอ้ลูกบ้า นี่เจ้าวินลูกเพื่อนพ่อที่บอกว่าเป็นหมอน่ะ ส่วนนี่ก็เจ้าภาสลูกชายอาเองนะวิน" เจ้าสัวชัชวาลย์บอก
กับณัฐภาสก่อนที่จะแนะนำให้ลูกตัวเองกับลูกของเพื่อนได้รู้จักกัน


       "ยินดีที่ได้รู้จักครับ สวัสดีครับอาชัชสบายดีนะครับ" วินหันไปพยักหน้าทักทายกับณัฐภาสก่อนที่จะหันมาพูดทักทาย
กับเจ้าสัวชัชวาลย์อย่างเป็นกันเอง


       "อาสบายดี แต่ที่ไม่สบายจนต้องวานให้เรามาดูถึงนี่ก็เมียเจ้าภาสลูกสะใภ้อาที่ร้องไห้จนเพลียหลับอยู่ข้างบนโน่นแนะ"
เจ้าสัวชัชวาลย์บอก


       "ถ้ายังนั้นเรารีบไปตรวจดูคนป่วยกันก่อนดีกว่านะครับอา พอดีผมมีธุระที่จะต้องไปต่อด้วย" หมอวินพูดบอก ท่าทางดู
เหมือนกับว่าเจ้าตัวมีเรื่องรีบร้อนที่จะต้องไปต่อจริงๆ
.
.
.
       "อืม...ไม่มีอะไรหน้าเป็นห่วงหรอกครับ จากที่ผมตรวจดูรวมกับพฤติกรรมแปลกๆของคนไข้ที่คุณภาสเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้
ก็......ยินดีด้วยครับตอนนี้คุณพัสกรกำลังตั้งครรภ์น่ะครับ แต่ถ้าอยากจะรู้รายละเอียดแน่นอนจริงๆก็ต้องพาคุณพัสกรไปตรวจที่
โรงพยาบาลอีกทีนึงนะครับ" หมอวินบอกพร้อมกับระบายยิ้มน้อยๆ


       "เยสสสสสสส!!!! ท้อง! หนูพัสท้องแล้วพ่อ หนูพัสท้องแล้ว!!!" ณัฐภาสตะโกนบอกพร้อมกับกระโดดกอดเจ้าสัวชัชวาลย์
พ่อของตัวเองไปด้วย ด้วยความดีใจในแบบสุดๆ ดีใจจนเผลอลดช่องว่างความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของตัวเองกับ
เจ้าสัวชัชวาลย์ที่ทำตัวห่างเหินกันมานานแสนนาน


       "เออๆรู้แล้วเว้ย ไอ้ลูกคนนี้นิ!" เจ้าสัวชัชวาลย์บอกพร้อมกอดณัฐภาสกลับเหมือนกับไม่เต็มใจ แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเจ้าสัวชัช
อย่างเขาคนนี้ ถึงกลับจะต้องตีเนียนกอดลูกชายกลับในตอนที่เจ้าตัวยังคงดีใจจนหลุดมาดอย่างนี้ หลังจากที่ไม่เคยได้แตะต้อง
หรือสัมผัสลูกอย่างใกล้ชิดอย่างนี้เลยตั้งแต่ภรรยาคู่ชีวิตของเขาแม่แท้ๆของณัฐภาสได้เสียชีวิตจากโลกนี้ไป
.
.
.
       "ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ยังไงก็พาคุณพัสไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกทีนะครับคุณภาส อาชัช อ่อ...รีบไปหน่อยก็ดีนะครับ
ผมขอตัวกลับก่อนนะครับสวัสดีครับ" เมื่อบอกลาพร้อมกับทิ้งปริศนาไว้แล้วเสร็จคุณวินหมอรูปหล่อก็ใส่แว่นกันแดด
สวมหมวกกันน็อคใบโต ค่อมรถคันเท่สตาร์ทออกตัวจากไปด้วยความเร็วจนฝุ่นตลบออกจากบ้านของณัฐภาสไป ทิ้งเหลือไว้
เพียงสองพ่อลูกอย่างณัฐภาสและเจ้าสัวชัชวาลย์ที่ยืนมองตามท้ายบิ๊กไบค์คันใหญ่ไปอย่างมึนๆงงๆ กลับการไปเร็วมาเร็วของ
คุณหมอเถื่อนวินเนอร์ผู้ที่ฉีกกฏเกณฑ์ภาพลักษณ์อันแสบสุภาพ เรียบร้อยของการเป็นหมอไปอย่างชัดเจน
.
.
.
.
.
       "พี่ภาส!! พี่ภาส!!" 'เอาอีกแล้วๆ ลืมตาตื่นได้ก็แหกปากตะโกนเรียกสามิสามีสุดหล่อคนนี้เลยนะครับเลยครับ' ณัฐภาส
ได้พูดกับตัวเองในใจเมื่อได้ยินเสียงพัสกรเรียกตัวเอง ในขณะที่เขานั้นนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโต๊ะทำงานที่ไม่ห่างจากเตียงนอน
ที่พัสกรนอนอยู่สักเท่าไหร่หรอก แต่ที่พัสกรไม่เห็นก็เพราะว่าพอเจ้าตัวลืมตาตื่นมาปุ๊ป โดยที่ยังไม่ทันได้มองซ้ายแลขวาหา
สามีคนนี้เลย ก็อ้าปากร้องเรียกซะก่อนแล้ว

       "คร้าบๆ ว่ายังไงครับ" ณัฐภาสขานรับเสียงใส แต่ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม ไม่ได้ลุกไปหาพัสกรที่เตียงนอน
แต่อย่างใด

       "คิดถึง" เมื่อหันไปตามเสียง และเห็นแล้วว่าณัฐภาสอยู่ที่ใด พัสกรตอบกลับไปแบบสั้นๆ แต่น้ำเสียงนี่หวานมาก


       "ห๋าาาา....เมื่อกี้พัสพูดว่าอะไรนะ..?" ณัฐภาสถามอย่างไม่เชื่อหู



       "ก็บอกว่าคิดถึงไง คิดถึงๆ คิดถึงๆ คิดถึงๆ เค้าคิดถึงคิดถึงตะเองที่สู้ดดดดดดดดดด......" พัสกรสะบัดๆเหมือนเด็กโดน

ขัดใจ เมื่อเห็นว่าณัฐภาสทำหน้าตาเหมือนกับว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองพูด ชิ!! ก็คนมันคิดถึงอ่ะ!! จะให้ทำไง!!



       "ไหนมาให้พี่ดูหน่อยสิ เอ..ตัวก็ไม่ร้อนนี่หน่า ทำเปลี่ยนไปอีกแล้วล่ะ! สงสัยจะต้องรีบพาไปโรงพยาบาลไปให้หมอตรวจ

เช็คดูให้แน่ใจจริงๆอย่างที่หมอวินบอกแล้วล่ะมั้งเนี่ยเรา" ณัฐภาสทิ้งหนังสือที่อ่านอยู่ ลุกขึ้นจากเก้าโต๊ะทำงานที่นั่ง ก้าวเดิน

เข้ามาตรวจเช็คอุณภูมิโดยให้หลังมือทาบหน้าผากพัสกรดูเพราะกลัวว่าภรรยาตัวน้อยจะตัวร้อนไข้ขึ้นเพราะเขาปล่อยให้เจ้าตัว

นอนนานเกินไป แต่พอจับๆแตะๆหน้าผากหรือคอดูแล้วก็ปกติดี จึงได้แต่พูดพึมพำบ่นกับตัวเองเบาๆ ด้วยความลืมตัว ที่ว่า

ภรรยาตัวน้อยของเขายังนั่งมองตาปริบๆอยู่อีกคน



       "งื้อออ...บ่นอะไรอ่ะ พัสไม่ได้บ้านะถึงจะต้องไปให้หมอตรวจอะ!! ก็แค่คิดถึงพี่ภาสเท่านั้นเองนะ คิดถึงๆ คิดถึงอ่ะ เข้าใจ

กันบ้างไหมเนี่ยยยยยยยย........." พัสกรพูดบอกออกมาอย่างงองแงเพราะเข้าใจผิดคิดว่าณัฐภาสพูดว่า ว่าตัวเองนั้นไม่สบาย

จนเพี้ยน เขาอยากจะบอกเหลือเกินว่าเขาไม่ได้เพี้ยนนะ!! ไม่ใช่ว่าไม่รู้ตัวนะว่าช่วงนี้ตัวเองงี่เง่าแค่ไหนอ่ะ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ

เพราะเขาก็ควบคุมความรู้สึกตัวเองไม่ได้เหมือนกันนี่!!



       "ป่าวครับป่าว มันไม่ใช่อย่างที่พัสคิดนะ พี่แค่เป็นห่วงกลัวว่าพัสจะป่วยแค่นั้นเองเพราะเห็นว่านอนนานเกินไป แล้วอีก

อย่างนะ ตอนที่พัสนอนหลับไปน่ะพี่กับพ่อโทรตามหมอมาตรวจดูอาการของพัส แล้วหมอเขาบอกว่าตอนนี้น่ะพัสกำลังตั้ง

ท้องลูกของเราอยู่ด้วยพี่ก็เลยเป็นห่วงพัสมากยังไงล่ะครับ" ณัฐภาสนั่งลงกับเตียงคว้าตัวภรรยามากอดก่อนที่จะค่อยๆบอกล

ค่อยๆเล่าให้ฟังอย่างใจเย็น เพราะดูเหมือนว่าอารมณ์คนท้องจะพาความคิดของพัสกรพัดออกชายฝั่งไปไกลเสียแล้ว



       "ท้อง" พัสกรหลุดพูดออกมาด้วยเสียงเบาหวิว



       "ครับท้อง ตอนนี้ลูกของเรากลับมาหาเราแล้วนะครับ แต่ยังไม่รู้รายละเอียดหรอกนะครับว่ากี่เดือน ต้องรอไปตรวจดูที่

โรงพยาบาลให้แน่ชัดอีกที รู้อย่างเดียวแค่ว่า ตอนนี้พัสท้องแล้วแน่ๆ และอารมณ์ขึ้นๆลงๆของพัสก็เป็นเพราะว่าพัสโดนเจ้า

ตัวเล็กในท้องนี่เล่นงานเข้าแล้วไงครับ" ณัฐภาสพูดบอกพร้อมกับลูบท้องของพัสกรไปมาอย่างเบาๆ



       "พัสท้อง ท้องแล้วจริงๆใช่มั้ยฮะ" พัสกรหันหน้าซุกอกกอดตอบณัฐภาส พร้อมกับถามเหมือนกับว่ายังไม่แน่ใจ

 

       "จริงสิครับ! ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตรวจอย่างละเอียดแต่พ่อบอกว่าหมอคนนี้เก่งมากและจบเฉพาะทางการตั้งครรภ์ในผู้ชายมา

โดยตรงเพิ่มจากการรักษาแบบปกติมาอีกด้วยนะ ถ้าพัสยังไม่อยากจะเชื่อ ก็เอาอย่างนี้ไหม พรุ่งนี้เราไปโรงพยาบาลให้หมอ

ตรวจให้ละเอียดแบบชัวร์ๆให้แน่ใจกันไปเลย ดีมั้ยครับ?" ณัฐภาสถามเมื่อเห็นว่าพัสกรยังคงลังเลไม่อยากจะปักใจเชื่อสัก

เท่าไหร่ เพราะตอนแรกเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน เมื่อเห็นหมอมาจับๆตรวจๆอยู่พักนึงแล้วก็บอกกว่าภรรยาของเขาท้อง

แต่ก็เป็นพ่อของเขาเองที่บอกว่าลูกชายของเพื่อนพ่อคนนี้จบหมอได้เกียรตินิยมมาจากเมืองนอกโน่น แถมยังเรียนต่อเฉพาะทาง

การตั้งครรภ์ในผู้ชายเพิ่มมาอีก เขาถึงเชื่อนี่ไงทั้งๆที่พึ่งเคยได้ยินการเรียนแพทย์มีสาขานี้ด้วยก็จากพ่อตัวเองนี่แหละ อ่อ!..และ

โรงพยาบาลที่พัสกรไปรักษาตอนที่แท้ง หรือเจ้าคุณพาธาราไปฝากครรภ์ไปคลอดน้องเจ้านายนั้นก็เป็นโรงพยาบาลของเพื่อน

พ่อที่เป็นหมอหรือพ่อของหมอวินนี่แหละที่เป็นเจ้าของอยู่น่ะ



       "อื้อ!!" พัสกรตอบตกลงในลำคอ

 

 ...
แฮะๆ มาแล้วจร้า...มาช้าไม่พอ ยังมาแบบสั้นๆอีกต่างหาก
เอาไว้จะชดเชยให้ตอนหน้าก็แล้วกันเน๊าะ!!
อะไรที่มันไม่เกินจริงหรือไม่ทางเป็นไปได้ก็ปล่อยมันผ่านๆไปเน๊าะ
เพราะนิยายของมี่มันเหลือเชื่อไปตั้งแต่ผู้ชายท้องได้แล้วแหละ
คิดซะว่ามันเป็นนิยายก็พอนะคะ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ  :pig4: :mew1:
 
 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 18 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-11-2015 22:34:02
อารมณ์แปรปรวนมากๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 18 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 12-11-2015 22:46:39
อร๊ายยยยย มาแล้ววว...แต่สั้นจังค่ะ  :sad4: :sad4:
ดีใจที่คุณลูกของพี่ภาสและหนูพัสกลับมาแล้วนะคะ แต่เอ...คุณพี่วินนี่จะใช่เนื้อคู่ของอีพี่ภูไหมเนี่ย??? ถ้าใช่ก็เสกเด็กเข้าท้องไอ้เลวนั่นหน่อยสิคะ อิอิ (เริ่มใกล้บ้า 555)
ปล.รอตอนต่อไปจ้าา
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 18 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 13-11-2015 00:19:00
ตร๊ายยยยย ทำไมคุณหมอมาขโมยซีนได้ล่ะเนี่ยยยย
แหมๆๆๆ เรียนจบเฉพาะทางมาแบบนี้ ได้ใช้แน่ๆค่ะ
รอตอนต่อไปเนาะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 18 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 13-11-2015 10:45:01
 :L2: จะมีเด็กน้อยมาคอยป่วนแระ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 18 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 13-11-2015 10:58:31
ท้องแล้วแฝดแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 18 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 13-11-2015 12:36:42
            เย้ๆ ลุ้นๆจะท้องแฝดรึป่าว คราวนี้สามีจะดูแลเมียตัวเองแจเลยแน่ๆ ๕๕๕  ตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 18 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-11-2015 12:42:26
พัสท้องแล้ว เฮ!
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 18 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 13-11-2015 13:04:12
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 18 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 13-11-2015 13:33:21
หนูพัสคงจะรู้สึกเต็มตื้นในอกน่าดูเลยนะคะที่ได้รู้ว่าเจ้าตัวเล็กกลับมาหาตัวเองแล้ว :heaven
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 18 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 13-11-2015 14:01:51
แฝดใช่มั้ยยยยยยยยยย อร๊างงงงงงง :o8:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 18 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 14-11-2015 08:24:44
หมอแย่งซีนอ่ะ 55555 จะมีคู่กับเขาไหมล่ะนี่
ดูท่าลูกๆ คราวนี้จะได้แฝดเปล่าน้อ ดูหมอแกทิ้งปริศนาไว้เล็กๆ
รอน้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 18 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 17-11-2015 17:43:16
แวะมารอคะ ^^
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 18 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ringchi ที่ 17-11-2015 22:17:16
เรารอคุณอยู่นะ   :hao6:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 19 (18/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 18-11-2015 01:14:12
คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 19   






     แสงแดดอ่อนๆจากพระอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องผ่านเมฆก้อนหนาลงมาจากฟากฟ้าท่ามกลางทุ่งดอกไม้น้อยใหญ่ในสวน
สาธารณะตัดลำธารในหน้าหนาวเช่นนี้ ช่างเป็นแดดช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายได้คลายจากความหนาวเหน็บได้ดี
เหลือเกิน ณัฐภาสนั่งมองดูภรรยาสุดที่รักอย่างพัสกรจูงมือลูกชายตัวน้อยเดินย้ำเท้าเล่นอยู่กับผืนหญ้านุ่มสีเขียวอย่างมีความสุข
มากจนเกินจะว่าค่าได้ ก็นะ! สุขใดเล่าจะเท่าสุขเท่ากับที่ได้เห็นรอยยิ้มของภรรยาและลูกชายในทุกๆวัน


      "ป๋า~"
   
      "หืม..เสียงเด็กที่ไหนนะ?" ณัฐภาสพึมพำกับตัวเองเบาๆเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องเรียก แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ! ในเมื่อลูก
ชายเขายังเดินเล่นจับมือกับพัสกรอยู่ตรงโน้นอยู่เลยนิ และที่แห่งนี้ก็มีเพียงครอบครัวเขาแค่ครอบครัวเดียวนี่


      "ป๋า~ ป๋า~" ณัฐภาสหันซ้ายแลขวาเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องเรียกอีกแล้ว เพราะรู้สึกเหมือนกับว่าเสียงเด็กน้อยที่ร้องเรียกนั้น
ไม่ได้ต้องการที่จะจะเรียกหาใครหรอก นอกจากเขาคนนี้ นั่นคือความรู้สึกที่รับบรู้


      "ป๋า~ คุณป๋า~ คุณป๋า~ " เสียงร้องเรียกของเด็กน้อยวนไปวนมาซ้ำๆ ซ้ำๆ จากความรู้สึกเฉยๆ ก็ทำให้ณัฐภาสเริ่มรู้สึกหลอน
ซะแล้ว หันซ้ายแลขวา มองหาต้นเสียงดูดีๆอีกที เมื่อมองหาจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใคร ไม่เห็นเด็กที่ไหนนอกจากลูกตัวเอง
ณัฐภาสก็รีบเก็บของใส่ตระกร้าปิคนิคทันที เพราะคิดว่าคงจะอยู่นั่งเล่นต่อกันไม่ได้แล้วล่ะ เจอดีเข้าแล้วนี่


      "คุณป๋า...จาปายหนาย~ คุณป๋า...จาปายหนาย~ คุณป๋า...จาปายหนาย~" แต่เพียงแค่ลุกขึ้นยืน ยังไม่ทันได้ก้าวเดินเลย
ณัฐภาสรู้สึกถึงแรงกระตุกที่ขากางเกงถี่ๆ และเมื่อหันกลับไปก็ต้องร้องจ๊ากเลยทีเดียวเมื่อเห็นเด็กน้อยหน้าตาเละเทะเต็มไป
ด้วยรอยแผล รอยเย็บสามคนยืนกระตุกขากางเกงของตัวเองอยู่ พอหันหาเมีย เมียก็หาย หันหาลูก ลูกก็ไม่อยู่ งานนี้พี่ภาสขอตัว
วิ่งก่อนล่ะจร้าาาาาาา.......
.
.
.
      "ว๊ากกกกก!!!!! อย่าตามมานะ!! อย่าตามมา!!"


      "พี่ภาสตื่นๆ พี่ภาสๆ ตื่นเถอะ!!" พัสกรพยายามเรียกสามี เมื่องัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะเสียงร้องของณัฐภาส และเห็นว่าณัฐภาส
นั้นนอนหลับหน้าอาบเหงื่อ พูดจาวกไปวนมา พอลองฟังก็ไม่รู้เรื่อง


      "..............." เงียบ...หลับต่อ
     
      "เฮ้อ! สงสัยจะฝันร้ายซะละมั้ง" พัสกรบ่นออกมา เมื่อเห็นว่าณัฐภาสสงบเงียบไปและได้ยินเสียงกรนตามออกมาเบาๆ
และทิ้งตัวลงนอนต่อบ้างเพราะยังรู้สึกเพลียอยู่ถึงแม้ว่าเมื่อตอนบ่ายจะนอนพักไปมากแล้วก็ตาม
.
.
.
.
        "งื้อออ...ไหนบอกว่าใส่ไอ้นี่แล้วคุณป๋าจะเล่นด้วยไงน้องเล็ก" เด็กน้อยที่ยืนอยู่ตรงกลางหันไปถามเด็กน้อยอีกคนที่ยืน
ทางฝั่งซ้ายมือของตัวเองอย่างงองแง เมื่อถอดหน้าผีออกจากหัวได้แล้ว


      "เค้าก็ไม่รู้อ่ะ!" เด็กน้อยด้านซ้ายบอกพรางขมวดคิ้วยุ่ง อะไรอ่ะ! ป๋าไม่ใจเลย! น้องเล็กเซ็งอ่ะ!!


      "น่า..เดี๋ยววันหลังเราค่อยไปชวนคุณป๋าเล่นด้วยใหม่ก็ได้" เด็กน้อยอีกคนที่ยืนอยู่ทางด้านขวามือ พูดขึ้นหลังจากที่ยืนมองเงียบๆอยู่นาน และเห็นน้องทั้งสองคนของตัวเอง เริ่มเบะปาก ยู่หน้าใส่กันด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่ทั้งหมดจมอยู่กับตัวเอง


      (แล้วเจอกันใหม่นะครับคุณป๋า) พี่โต                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                         
      (ไว้มาเล่นด้วยกันใหม่นะฮะคุณป๋า) คนกลาง


     (แล้วเค้าจะหาหน้ากากใหม่ไว้รอนะ!...คุณป๋าาาาา....) น้องเล็ก


      เด็กน้อยทั้งสามคนพูดส่งไปถึงบุคคลที่พูดถึงก่อนหน้านี้ในใจเบาๆ ของตัวเองเบาๆ พรางเพ่งมองไปทางแสงสีขาวนวล
ที่อยู่ตรงปลายอุโมงค์ทางออก ประตูแห่งหนทางใหม่ที่พวกเขากำลังจะได้ผ่านออกไปเหมือนกันในเวลาอีกไม่นาน
.
.
.
.
.
       "สวัสดีครับหมอวิน / สวัสดีครับคุณหมอ" ณัฐภาสและพัสกรพูดขึ้นพร้อมกัน เมื่อเปิดเข้ามาถึงห้องตรวจแล้ว เพราะวันนี้
เขาทั้งสองคนจะมาตรวจให้แน่ๆในกันไปเลยว่าพัสกรนั้นท้องอยู่จริงๆอย่างที่หมอวินบอกผลตรวจเมื่อวานหรือป่าว แต่พอ
พยาบาลหน้าห้องเปิดประตูให้เข้ามาณัฐภาสก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าเป็นหมอวินคนเดิมคนเดียวกันกับเมื่อวานนี้นั้นแหละ
และลักษณะท่าทางการแต่ตัวก็ไม่ค่อยจะต่างจากเมื่อวานสักเท่าไหร่นักหรอกถึงแม้ว่าจะมีเสื้อกาวน์หมอสีขาวสวมทับอยู่ก็เถอะ
เพราะว่าเสื้อข้างในมันยังเป็นเสื้อยืดโปโลแทนที่จะเป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวในแบบสุภาพเหมือนหมอทั่วๆไปอยู่ไง!


        "อ้าว! สวัสดีครับคุณภาส คุณพัส ผมก็ยังว่าชื่อกับนามสกุลดูคุ้นๆอยู่นะตอนที่เปิดแฟ้มประวัติดู...ว่ายังไงครับ! วันนี้
พร้อมที่จะมาตรวจดูตัวเล็กในท้องคุณพัสกันใช้มั้ยครับ" วินเอ่ยทักเมื่อเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มประวัติคนไข้ที่จะตรวจแล้วเจอ
ณัฐภาสที่เป็นลูกชายของเพื่อนสนิทพ่อตัวเองยืนอยู่กับภรรยาคนสวยของเจ้าตัวที่เขาเข้าไปตรวจดูอาการให้ถึงที่บ้านมาเมื่อ
ตอนบ่ายวานนี้นี่เอง


      "จะมาตรวจตามที่หมอบอกเมื่อวานนี้นั้นแหละครับ อ่อ!..พัสครับนี่คุณหมอวินคนที่ไปตรวจดูพัสตอนที่เพลียพัสหลับไป
นั่นแหละครับ" ณัฐภาสบอกกับหมอวิน ก่อนที่จะหันมาพูดบอกกับภรรยาตัวเอง


      "ก่อนอื่นเลยคุณพยาาบาลช่วยพาคุณพัสกรไปเจาะเลือด ตรวจปัสสาวะ ช่างน้ำหนักและเช็คความดันหน่อยนะครับ
คุณพัสเชิญตามคุณพยาบาลไปที่ห้องข้างๆได้เลยครับ เสร็จทางนั้นแล้วเราค่อยมาคุยกันอีกทีนะครับ ส่วนคุณภาสก็นั่งคุย
เป็นเพื่อนผมอยู่ที่นี่ระหว่างที่รอคุณพัสดีกว่านะครับ" หมอวินบอกกับพัสกรและพยาบาลผู้ช่วยของตัวเองก่อนที่จะ พูดเบรค
ณัฐภาสที่กำลังจะเดินตามภรรยาออกไป


      "คุณหมอมีเรื่องอะไรที่ต้องการคุยกับผมส่วนตัวหรอครับ" ณัฐภาสเอ่ยถาม เพราะว่าสีหน้าท่าทางและคำพูดของหมอวิน
มันเหมือนกับส่งคำพูดกึ่งบังคับให้เขาอยู่นี่เพราะเจ้าตัวเหมือนมีเรื่องอะไรจะพูดกับเขาอย่างไงอย่างงั้น ถ้าเขาดูไม่ผิดไปล่ะนะ!


      "ครับ..อย่างที่คุณภาสพูดนั่นแหละครับที่ผมต้องการ" หมอวินยอมรับออกมาตรงๆ


      "เรื่องอะไรหรอครับ? เกี่ยวกับพัสหรือเจ้าตัวเล็กหรือเปล่า" ณัฐภาสรีบถามออกมาเพราะว่าคงจะมีอยู่ไม่กี่เรื่องหรอกที่คน
พึ่งรู้จักกันอย่างเขาและหมอวินที่อยู่ในสถานะคุณหมอและญาติคนไข้อย่างเขาถึงกับจำเป็นที่จะต้องคุยกันอย่างส่วนตัวนักหรอก
ถ้าไม่ใช่เรื่องลูกก็คงจะเป็นเรื่องของแม่ไม่คนใดก็คนนึงอย่างแน่นอน


      "ทั้งสองนั่นแหละครับ อย่างแรกเลยตอนที่ผมตรวจชีพจรฟังเสียงหัวใจ ผมพบเสียงหัวใจมากกว่าสองดวง หัวใจที่ว่านี่ผม
ไม่ได้นับรวมกับคุณพัสนะครับ" หมอวินพูดบอกออกมานิ่งๆ


      "มากกว่าสอง!! หมอหมายถึงผมได้ลูกแฝดหรอครับ?" ณัฐภาสถามอย่างดีใจ


      "ครับ..แต่ไม่ใช่แค่แฝดสอง อาจจะสามหรือสี่อันนี่ผมก็ไม่แน่ใจ คงต้องไปลุ้นกันตอนตรวจอัลตร้าซาว์ด์หลังจากที่คุณพัส
กลับมาจากตรวจเบื้องต้นเสร็จนั่นแหละครับ แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วงที่สุดคือ คุณพัสเป็นผู้ชาย ซึ่งแน่นอนว่ามดลูกของผู้ชายไม่ได้
หนาและแข็งแรงเหมือนผู้หญิงหรอกนะครับ ต่อให้ผลตรวจออกมาว่ามดลูกแข็งแรงดีก็เถอะ ยิ่งกับคุณพัสที่เป็นคนตัวเล็กยิ่ง
แล้วใหญ่เพราะการตั้งครรภ์แฝดจะหนักและเสี่ยงขึ้นอีกเท่าตัว และที่ผมห่วงที่สุดคือคุณพัสมีประวัติการแท้งมากก่อนหน้านี้
นั่นยิ่งเท่ากับว่าอัตราการเสี่ยงที่จะแท้งก็สูงขึ้นไปอีก แต่คุณภาสก็ไม่ต้องกังวลมากจนเกินไปหรอกนะครับ เพราะช้าโชคดี
คุณพัสอาจจะไม่มีภาวะแท้งคุกคามเลยก็ได้นะครับ เพียงแต่ที่ผมต้องบอกกับคุณผมเพราะผมแค่เป็นห่วงและอยากจะให้คุณภาสช่วยดูแลคุณพัสอย่างใกล้ชิดมากกว่าปกติสักหน่อยก็เท่านั้นเอง และสิ่งที่สำคัญมากๆเลย อย่าให้คนไข้ได้กระทบกระเทือนจิตใจเป็นอันขาดเลยนะครับ เพราะเรื่องขอจิตใจและสภาวะทางอารมณ์ของคนท้องนั้นสำคัญ ยิ่งเคลียด ยิ่งคิดมาก มดลูกก็จะยิ่งบีบตัว ทางที่ดี ช่วงนี้อะไรยอมได้ก็ยอมกันไปกก่อนนะครับ เพราะค่าฮอร์โมนที่มันเปลี่ยนแปลงมันทำให้คุณแม่อารมณ์ขึ้นๆลงๆแทบจะตลอดเวลา ยิ่งในเคลสของคุณพัสแล้วด้วยคุณภาสก็เตรียมตัวเถอครับงานนี้ผมว่าคุณได้ปวดหัวx3!!" หมอวินพูดอธิบายให้
ณัฐภาสฟังอย่างใจเย็น เป็นทีละข้อๆไป เพราะเขานั้นเป็นห่วงจริงๆ ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้ผู้ชายจะท้องได้เยอะแยะทั่วไปแล้วก็ตาม
แต่ยังไงมันก็เสี่ยงอยู่ดี ยิ่งท้องแฝดสองก็ยิ่งเป็นไปได้ยากแต่นี่เล่นซะแฝดสามกันเลยทีเดียวเชียว!!


      ก๊อก...ก๊อก


      "ขออณุญาติค่ะคุณหมอ ดินฉันพาคนไข้มาส่งค่ะ ส่วนผลตรวจรออีกยี่สิบนาทีนะคะ" ยังไม่ทันที่ณัฐภาสจะได้มีโอกาสพูด
หรือถามอะไรกลับไปเลย เสียงเคาะประตูห้องก็ขัดจังหวะขึ้นมาซะก่อน พร้อมกับร่างเล็กของพัสกรเดินกลับเข้ามาในห้องตรวจ
อย่างอึนๆ เพราะช่วงที่หายออกไปกับคุณพยาบาลโดนจับตรวจจับเช็คหลายอย่างเหลือเกิน


      "ขอคุณมาครับคุณพยาบาล ส่วนคุณพัสคงจะมึนหัวแย่เลยนะครับดูจากสีหน้าแล้ว ตรวจครั้งแลกก็เป็นอย่างนี้แหละครับ
ต้องเช็คกันอะเอียดหน่อย ครั้งต่อๆไปก็ไม่วุ่นวายอย่างนี้แล้วแหละครับ" หมอวินเอ่ยแซวอย่างยิ้มๆ เมื่อเห็นสีหน้ามึนๆอึนๆ
ของพัสกร


       "แฮะๆ ก็นิดหน่อยครับ"


      "ดีแล้วครับ เพราะผมเองก็จะตรวจคุณพัสต่อ ยังไงก็เชิญคุณพัสเดินไปขึ้นเตียงเลยรอผมที่ห้องข้างๆได้เลยครับ เพราะเราจะ
ไปอัลตร้าซาวด์ดูหน้าตัวน้อยๆในท้องคุณพัสกัน เชิญครับ! ทั้งคุณพัสคุณภาสเลยครับ" พูดจบหมอวินก็ลุกขึ้นเดินนำทั้งพัสกร
และณัฐภาสออกจากห้อง เพื่อที่จะไปห้องตรวจด้านข้างอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นคนละห้องกันกับที่พัสกรออกไปตอนแลกเพื่อที่จะไป
ทำการอัลตร้าซาวด์ดูเด็กในท้องของพัสกร

       "อ่า...นี่ไงครับจุดกลมๆ เต้นกระพริบๆ อยู่นี่คือตำแหน่งที่ตัวน้อยอยู่นะครับ ทั้งหมดนี่ก็สามจุด คุณพัสกับคุณภาสพอจะ
มองเห็นกันใช่ไหมครับ ตรงนี้ ตรงนี้ และก็ตรงนี้ สรุปแล้วก็แฝดสามนะครับ ยินดีกับทั้งสองคนด้วยนะครับ" หมอวินชี้ให้
ณัฐภาสและพัสกรดูตำแหน่งที่ตัวอ่อนของทารกฝังอยู่ทีละจุดๆ อย่างอารมณ์ดีเพราะจำนวนทารกในครรภ์ตรงกันกับที่เขา
คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนว่าที่คุณพ่อคุณแม่แฝดสามน่ะหรอ ก็เบิ่งตากว้างอ้าปากค้างดูลูกๆตัวเองอยู่ที่จอมอนิเตอร์
จนลืมฟังหมออย่างเขาไปแล้วนี่ไง

       "แล้วเจอกันเดือนหน้านะครับ อ่อ! อย่าลืมเตรียมเสื้อผ้าตัวใหญ่ใส่สบายๆไว้ด้วยนะครับ ถึงแม้ว่าตอนนี้ท้องจะยังไม่ออก
เพราะว่าอายุครรภ์เพียงแค่ 7 สัปดาห์ แต่เมื่อเริ่มสัปดาห์ที่สิบเมื่อไหร่น้ำหนักคุณพัสจะพุ่งไม่หยุดแน่ๆครับ เพราะในท้องมีตัวเล็ก
แข่งกันโตอยู่ตั้งสามคน หรือถ้ามีเรื่องสงสัยหรือเรื่องด่วนอะไรโทรหาผมที่สองเบอร์นี้ได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยนะครับ เพราะ
ถ้ามาหาผมที่โรงพยาบาลนี่ไม่เจอหรอกนะครับ เพราะตอนนี้ผมรับคุณพัสเป็นคนไข้แค่คนเดียว" หมอวินบอกพร้อมกับยื่น
นามบัตรที่มีเบอร์ส่วนตัวของเขาให้กับณัฐภาส

       "หืม..แค่ผมคนเดียว?" พัสกรพูดออกมาด้วยความแปลกใจ เป็นหมอก็ต้องมีคนไข้คนอื่นด้วยไม่ใช่หรือ?

       "ครับ! คนไข้ของผมมีแค่คุณพัสแค่คนเดียวเท่านั้นแหละครับ ที่จริงช่วงนี้ผมงดรับงานหมอนะครับเพราะต้องช่วยงานทาง
บ้านของภรรยาน่ะครับ แต่คุณพัสถือว่าเป็นบุคคลพิเศษครับ ยังไงก็ยินดีด้วยนะครับ แล้วเจอกันเดือนหน้านะครับ" เอาอีกแล้ว
หมอเถื่อนทิ้งปริศนาไว้ให้สองสามีภรรยานี้ได้งงอีกแล้ว เปลี่ยนหมอตอนนี้ทันไหมเนี่ย!!
.
.
.
.
.
       "เป็นยังไงมั้งหนูพัส เจ้าภาส ตกลงว่าไง หนูพัสได้ท้องอย่างที่เจ้าวินบอกหรือป่าว" ยังไม่ทันได้ลงจากรถเลย เพียงแค่เปิด
ประตูรถได้ก็เจอคำถามจากเจ้าสัวชัชวาลย์ที่มายืนดักรอฟังข่าวจากทั้งสองคนอยู่ตรงทางเข้าบ้านเลยทันทีด้วยความตื่นเต้น
       
       "ท้องจริงๆดิพ่อ ตัวเล็กเป็นแฝดด้วย" ณัฐภาตอบ ยิ้มจนหน้าบานเป็นจานดาวเทียมแล้ว

       "ห๊า...แฝดหรอ? แฝดจริงๆหรอหนูพัส ไอ้ภาสมันหลอกให้พ่อดีใจเล่นรึป่าวเนี่ย" เจ้าสัวชัชวาลย์ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหู
เมื่อได้ยินคำตอบจากลูกชายตัวเอง จึงหันไปถามลูกสะใภ้แทน

       "จริงฮะคุณพ่อ ตัวเล็กเป็นแฝดสามครับ" พัสกรบอกพร้อมกับยื่นเอกสารผลตรวจให้เจ้าสัวชัชวาลย์ได้ดูให้เห็นกับตาไปเลย

       "วู้ววว...สุดยอด!! ฉันได้หลานทีเดียวสามคนเลยหรอเนี่ย! เจ๋งๆ ไอ้ลูกหมาภาสมันเจ๋งเว้ย!! ฉลองๆอย่างนี้มันต้องฉลอง
เดี๋ยวฉันไปติดต่อร้านอาหารก่อน ไว้ตอนเย็นเจอกัน..อ่อ! โทรตามๆ อย่าลืมโทรตามที่บ้านเจ้าคุณมาด้วย ต้อนรับเจ้านายหลาน
คนแรกของฉันไปด้วยเลย" เจ้าสัวชัชวาลย์ร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจ ดีใจซะจนณับภาสกับพัสกรตามไม่ทันเลยความคิด
ของเจ้าตัวเลยทีเดียว แล้วก็เดินขึึ้นรถตัวเองออกจากบ้านของณัฐภาสอย่างไม่บอกไม่กล่าวทิ้งให้สองสามีภรรยายืนมองตาม
ท้ายรถยนต์คันงานกันตาปริบๆ

       "พี่ภาส คุณพ่อเขาโอเคใช่มั้ย?" พัสกรหันมาถามสามีที่ยืนทำหน้ามึนอยู่ข้างๆกัน เมื่อพ่อสามีที่เคยนิ่งๆ ดูหลุดมาดไปแล้ว

       "ฮ่าๆ โอเคสิครับ พ่อเขาแค่ดีใจเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง ไปครับ..เราเองเข้าบ้านไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่า คืนนี้พี่ว่าคงจะยาว
เดี๋ยวพี่จะโทรหาไอ้คุณมันด้วย" ณัฐภาสบอกพร้อมกับโอบเอวพัสกรพาเดินเข้าไปนั่งพักในบ้านบ้าง
.
.
.
.
.
       และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาอาหารมื้อเย็นที่รอคอย เจ้าสัวชัชวาลย์ไม่ได้พาไปฉลองร้านอาหารที่ไหนหรอก แต่เจ้าตัวกลับ
เหมาปิดร้านอาหารหรูของจังหวัดยกครัวมาจัดที่บ้านของตัวเองเลยต่างหากล่ะ แต่งานนี้ก็ไม่ได้มีใครที่ไหนหรอกนอกจากคน
ในครอบครัวอย่างเจ้าสัวชัชวาลย์ ณัฐภาส พัสกร คุณนายมณีและเจ้าคุณกับธาราที่พาเจ้านายน้อยลูกชายสุดที่รักมาด้วยในวันนี้ตามคำสั่งของคุณปู่ขี้เห่ออย่างเจ้าสัวชัชวาลย์ซึ่งรักและเอ็นดูเจ้าคุณและธาราเหมือนกับเป็นลูกแท้ๆของตัวเอง อีกทั้งยังรู้จักและนับถือเป็นพี่เป็นน้องกับคุณนายมณีมานานนับสิบปีแล้ว
 
       "นี่ๆ ของรับขวัญเจ้านายน้อยหลานชายคนแรกของปู่ เป็นเด็กดี โตไวๆนะไอ้เสือ" นั่งทานนั่งคุยกันไปสักพักเจ้าสัวชัชวาลย์   
ก็ลุกจากที่นั่งของตัวเอง เดินมาหาน้องเจ้านายตัวน้อยที่นอนตาแป๋วอยู่ในอ้อมแขนของป๋าคุณ เจ้าสัวชัชวาลย์ยื่นถุงผ้าเล็กๆ
สีแดง ใส่มือหลานชายตัวน้อย พร้อมทั้งพูดอวยพรไปด้วยเล็กน้อยก่อนที่จะลูบหัวเจ้านายน้อยผ่านหมวกผ้าของเจ้าตัวเบาๆ
ด้วยความเอ็นดู เพราะว่าก่อนหน้านี้ตั้งแต่ธาราคลอดเจ้านายออกมาเขายังไม่มีโอกาสได้รับขวัญหลานเลยเพราะมัวแต่ติดงาน
ได้เห็นหน้าผ่านรูปที่เจ้าคุณถ่ายมาโชว์ส่งผ่านไลน์มาให้ดูเท่านั้นเอง เพิ่งจะมาเห็นตัวจริงก็วันนี้นี่แหละ

       "โหวว...สมแล้วที่เป็นปู่ชัชสุดหล่อ ขอบคุณครับพ่อ เจ้านายขอบคุณปู่ชัชก่อนเร็ว" เจ้าคุณพูดแซวขึ้นมาเมื่อเปิดถุงผ้าที่
เจ้าสัวชัชวาลย์ใช้รับขวัญลูกชายแล้วเห็นสร้อยคอทองคำขาวเส้นโตที่มาพร้อมกับจี้แพะฝังเพชรทั้งตัวที่เป็นสัญญาลักษณ์ราศีเกิดของเจ้านายน้อยนั่นเอง ก่อนที่จะพูดขอบคุณและยกมือเล็กๆของเจ้านายน้อยวางลงบนมือใหญ่ของเจ้าสัวชัชวาลย์ด้วย
เพื่อเป็นการขอบคุณ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวเล็กอยากขอบคุณคุณปู่ด้วยตัวเองบ้างล่ะมั้งเลย ร้องแอ๊ะอ๊ะๆ ออกมาอย่างอารมณ์ดี
จนคนโตรอบๆข้างพากันขำในความขี้เล่นของเจ้าตัวเล็กกันทุกคน หลังจากนั้นทุกคนก็พูดคุยกันต่ออย่างสนุกสนาน ซึ่งแน่นอน
ว่าจะต้องมีพูดแซวกันเรื่องลูกแฝดสามในท้องของพัสกรกันด้วย แต่คำถามที่เล่นเอาพัสกรกับธาราอยากจะมุดดินหนีไปเลยก็เพราะเจ้าคุณดันถามณัฐภาสเพื่อนรักขึ้นมาว่า
   
       "มึงไปทำกันอีท่าไหนว่ะไอ้ภาส บอกกูหน่อยดิว่ะคนต่อกูอยากได้แฝดบ้างอ่ะ" เจ้าคุณถามทะลุป้องขึ้นกลางวงด้วยหน้านิ่งๆ

       "ก็หลายท่าอยู่ว่ะ กูบอกไม่ถูกหรอก แต่ของอย่างนี้มันอยู่ที่ฝีมือเว้ย ฝีมือ!" ณัฐภาสตอบพร้อมกับยักคิ้วกวนๆส่งไปให้กับเพื่อนรักอย่างหยอกๆ
.
.
.
       "พี่ภาสฮะ ทำไมพี่ภาสไม่ใช้โอกาสนี้ปรับความเข้าใจกับพี่ธารล่ะ ไหนๆเราก็รู้ความจริงทุกๆอย่างแล้วนี่" พัสกรพูดขึ้น
เมื่อสังเกตุเห็นธาราหันมองณัฐภาสบ่อยๆ เหมือนกับว่าอยากจะพูดอะไรกับณัฐภาสแต่ก็ไม่ และทำเพียงแค่หันมองบ่อยๆ
เท่านั้นเอง พัสกรเลยเดาว่าธาราอาจจะอยากที่จะปรับความเข้าใจกับณัฐภาสในทุกๆเรื่องที่ผ่านมาก็ได้เพราะว่าเคยเป็นเพื่อนรัก
กันมานาน แต่คงไม่กล้าพอเพราะว่าหลังจากเหตุการณ์ร้ายๆเรื่องของภูผาที่ผ่านมาทุกคนก็ได้รู้แล้วว่าเรื่องราวก่อนหน้านี้
สิ่งธาราทำไปทั้งหมดเพราะอะไรหรือเพราะเหตุใด แต่อดีตเพื่อนรักสองคนนี้ก็ไม่ยอมเปิดอกคุยกันสักที ถึงแม้ว่าตัวเขาเองกับธาราเริ่มที่จะสนิทกันแล้วก็ตามเพราะคุยกันบ่อยเจอกันบ่อย และเป็นเขาเองที่เข้าไปทักทายทำความรู้จักกับธาราก่อน เพราะถ้า
จะรอให้ธาราเป็นฝ่ายมาพูดมาคุยก่อนคงจะไม่มีวันที่จะญาติดีกันแน่นอนเพราะตัวตนของธาราเป็นประเภทปิดตัวเองมากเกินไปและไม่ค่อยชอบทำความรู้จักกับใครก่อนหรอก แต่ก็ไม่ใช่คนที่ใจแคบอะไร เพียงแต่ต้องการที่จะป้องกันความรู้สึกของตัวเอง
ก็เท่านั้นเองเพราะที่ผ่านมาธาราก็บอบช้ำที่จิตใจมามากพอสมควร

       "หืม..พี่หรอ? พัสคิดว่าธารมันจะยอมคุยกับพี่อีกหรอ?" ณัฐภาสชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแล้วตอบพัสกรกลับด้วยคำถาม พรางมอง
ไปยังอดีตเพื่อนรักสมัยเด็กที่กำลังนั่งมองก้มหน้าลูกตัวเองอยู่ เพราะรู้นิสัยพวกประเภทไม่สนโลกของธาราดีอยู่เหมือนกัน

       "ก็ลองสิครับ ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันดีแล้วนี่ พี่ธารเขาอาจจะรอให้เพื่อนรักมาง้อตัวเองอย่างที่ภาสรอพี่ธารมาตลอดก็ได้นะ"
พัสกรพูดให้กำลังใจ เพราะว่าที่ผ่านมาหลังจากรู้เรื่องของภูผากับธาราแล้วณัฐภาสก็บ่นถึงธาราตลอดด้วยความเป็นห่วง แต่ก็
ไม่กล้าที่จะทำหรือพูดอะไรออกไป ได้เพียงแค่ถามข่าวคราวจากเจ้าคุณเป็นระยะๆเพียงเท่านั้นเอง

       "ธาร!...ขอคุยด้วยหน่อยสิ" ณัฐภาสพูดบอกออกมาเสียงดัง และหันหลังเดินออกจากโต๊ะไปทันที โดยที่ไม่รอคำตอบรับจาก
จากธาราเลย นั่นทำให้ทุกคนยกเว้นพัสกรที่รู้เรื่องรู้ราวอยู่คนเดียวงงเป็นไก่ตาแตกเพราะอยู่ดีๆณัฐภาสก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขุ่ย
แถมยังเดินหนีออกไปจากบริเวรนี้เอาเสียดื้อๆ

       "ไปสิฮะพี่ธารวันนี้วันดีอาจจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นอีกเรื่องก็ได้นะครับ" พัสกรพูดบอกเมื่อเห็นว่าธารายังคงนั่งอยู่ที่เดิม

       "แต่.."

       "ไปซิ...ไปคุยกันซะให้รู้เรื่อง" เจ้าคุณบอกพร้อมกับยิ้มและขยี้ผมธาราเบาๆเป็นการให้กำลังใจ เมื่อเห็นว่าธารานั่งมองหน้า
ตัวเองอยู่ด้วยสายตาสั่นๆ

       "อื้อ!!"
.
.
.
       "ภาส" ธาราเรียกณัฐภาสด้วยเสียงที่เบาหวิว เพราะยืนมองแผ่นหลังกว้างของณัฐภาสมาได้สักพักแล้ว แต่ณัฐภาสก็ไม่ยอม
หันกลับมามองหรือพูดอะไรออกมาเลยทั้งๆที่เจ้าตัวรับรู้แล้วว่าเขามาแล้วแท้ๆ เลยทำให้ธาราเริ่มกลัว กลัวว่าเพื่อนจะไม่ยอม
ยกโทษหรือไม่อยากจะกลับมารู้จักมักจี่กับตัวเองอีกแล้ว เพราะที่ผ่านมานั้นเขาทำกับณัฐภาสไว้เยอะจริงๆ เยอะเหลือเกิน
เยอะจนไม่น่าให้อภัย ถึงแม้ว่าจะเป็นคำสั่งของภูผาทั้งหมดก็ตาม แต่คนที่ลงมือก็ยังคงเป็นเขาคนนี้อยู่ดี

       "ภาส...เรา...เราขอโทษ ฮึก!" จนได้สิ! ทั้งๆที่พยามที่จะกลั้นน้ำตาและไม่ร้องไห้แล้วแท้ๆ แต่น้ำตาบ้านี่ก็ไหลออกมาจนได้

       "เฮ้ย! ร้องไห้ทำไม!!" ณัฐภาสถามออกมาด้วยความตกใจ เมื่อหันมาแล้วเห็นธารายืนร้องไห้น้ำตานองหน้าอยู่ จึงรีบคว้าตัว
อดีตเพื่อนรักที่เปรียบเสมือนน้องชายแท้ๆของตัวเองเข้ามากอดปลอบโดยทันที

       "เราขอโทษนะ ฮึก! ขอโทษสำหรับทุกๆเรื่องทุกๆอย่างที่ผ่านมาเลย ฮึก! เราไม่ได้ตั้งใจ..แต่เราจะเป็นต้องทำ ฮึก! ไม่ต้อง
ให้อภัยเราก็ได้ แต่..แต่อย่าเกลียดเราเลยนะ ฮือออออ....." ธาราพรั่งพรูความอึดอัดที่มันอัดแน่อยู่ลึกๆในความรู้สึกส่วนลึกในใจ
ออกมาจนหมดเมื่อได้รับความอบอุ่นที่คุ้นเคยจากอ้อมแขนที่ห่างหายไปนานของคนที่เคยสัญญาและสาบานเป็นพี่เป็นน้องกันมา
ตั้งแต่สมัยเด็กๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป

       "จะเกลียด...ทำไมล่ะ ก็ไม่เคยโกรธจริงๆจังๆได้เลยสักครั้ง และอีกอย่างเราเข้าใจดีว่าธารไม่ได้ตั้งใจ เพราะน้องธารน้อยที่
เรารู้จักไม่ใช่คนเกเรอย่างนั้นนี่ เพราะฉะนั้นไม่กลัวหรือมัวแต่รู้สึกผิดจนเก็บคิดมากหรอกนะรู้ไหม ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง
หรือเกิดเรื่องเลวร้ายอะไรขึ้นอีก ยังไงธารก็ยังคงเป็นเพื่อนรักและน้องชายตัวเล็กๆคนเดิมของของเราอยู่ดี" ณัฐภาสดันธาราออก
ห่างจากตัวเอง ก่อนที่จะค่อยๆพูดบอกพรางใช้มือปาดเช็ดน้ำตาให้ธาราไปด้วย จะใช้คำจำกัดความหรือจะเรียกความสัมพันธ์
ของเขากับธาราว่าอะไรดีล่ะในเมื่อเขาทั้งสองคนทั้งรักทั้งผูกพันธ์กันมากถึงจนตัดกันไม่ขาดต่อให้ธาราจะร้ายหรือเลวใส่เขา
มากกว่านี้อีกสักเท่าไหร่ก็ตาม แต่มันไม่ใช่ความรักแบเชิงชู้สาวหรอกนะเพียงแต่มันมากกว่าเพื่อนธรรมดาๆทั่วไปน่ะ เรียกว่า
อะไรดีล่ะ? เพื่อนรัก? น้องชายร่วมสาบาน? ครอบครัว? ไม่รู้ล่ะ! ช่างมันเถอะ! เพราะยังไงๆ ไม่ว่าวันนี้ วันข้างหน้า หรือวันไหนๆ
เขาสองคนก็ตัดกันไม่ขาดหรอก
 

...
เฮ้อ! ตอนที่19นี้นี่มันหลายหลายความรู้สึกเหลือเกินเน๊าะ!!
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ........
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 19 (18/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-11-2015 01:28:41
ท้องเดียวกะเอาคุ้มเลยเนอะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 19 (18/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 18-11-2015 06:30:28
กร๊ากกกกกกกกก แฝดสามขี้แกล้ง!!!!!! คุณป๋าจะช็อคเอานะเด็กๆ
ดีใจที่ปรับความเข้าใจกันได้แล้วเนาะ
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 19 (18/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 18-11-2015 06:52:50
เข้าใจกันดีแล้ววว
น้ำยาอิพี่ภาสนี่ดีจริงๆ มาทีได้แฝดสามเลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 19 (18/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 18-11-2015 07:36:04
อยากเจอน้องแฝดเร็วๆๆจังเลย :hao7:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 19 (18/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 18-11-2015 08:34:26
ไม่ใช่แค่สองแต่เป็นสามงานนี้เละแน่ๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 19 (18/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 18-11-2015 09:31:42
ท้องแรกแฝดสามไม่น่ามีปัญหานะคับ ๕๕๕ นอกจากว่าเด็กๆจะตัวใหญ่จริงๆ  อ่านแล้วดีใจที่เพื่อนรัก น้องรักกลับมาเข้าใจกันดีแล้ว ดีใจ ดีใจ   ตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ รอ รอ รอ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 19 (18/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 18-11-2015 09:56:55
น้องเล็กสุดท่าทางจะขี้แกล้งน่าดูเลยนะคะนั่น :m20: ..
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 19 (18/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 18-11-2015 15:59:38
แปะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 19 (18/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 21-11-2015 14:48:07
อ้ากกกกกกก แฝดสามแหละๆๆๆ งื้ออออออแอ :heaven
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 19 (18/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ringchi ที่ 23-11-2015 20:27:59
 o8 โฮะๆๆ (?) ข้าน้อยรอท่านอยู่นะ
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 9 (08/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 08-12-2015 14:47:12
คุณเมียภาคบังคับ [เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 9 
 
 
 





     "อือๆ แล้วผมจะไปก็แล้วกัน...ถ้าไม่ลืมอ่ะนะ" พูดเสร็จเจ้าคุณก็กดตัดสาย โยนโทรศัพท์ทิ้งไว้บน
โต๊ะเครื่องแป้งโดยที่ไม่สนใจเสียงโวยวายจากแม่ของตัวเองทางปลายสายเลย
 

     "ใครโทรมาหรอคุณ?" ธาราถามเมื่อเห็นว่าเจ้าคุณคุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว ในขณะที่ตัวเองกำลังให้นม
น้องเจ้านายลูกชายสุดที่รักอยู่บนเตียง ซึ่งตอนนี้เจ้านายน้อย(ที่ตัวไม่ค่อยจะน้อยสักเท่าไร)ของเขานั้นก็มี
อายุครบหกเดือนไปเมื่อวานที่ผ่านมานี้เอง
 

     "แม่โทรมาบอกว่าให้พาธารกับไอ้หมาน้อยนี่ไปงานเลี้ยงวันเกิดของตาแก่หัวรั้นนั่นที่บ้านอ่ะ คุณบอก
ปัดไปแล้วแท้ๆ ว่าไม่ไปๆ แม่ก็ยังเร้าหรือจะให้ไปให้ได้อยู่นั่นแหละ" เจ้าคุณบอกอย่างหัวเสีย เพราะความ
หงุดหงิดที่ค้างมาจากการคุยกับแม่ของตัวเองเมื่อสักครู่ จึงทำให้เผลอเสียงดังใส่ธาราไปโดยที่ไม่ทันๆด้รู้ตัว
ซึ่งธาราเองก็ไม่ได้ติดใจหรือรู้สึกแย่อะไร เพราะเริ่มที่จะชินกับนิสัยกระด้างๆของสามีตัวเองมากขึ้น
 

     "หือ...ให้พวกเราไปงานวันเกิดท่านนายพลน่ะหรอ" ธาราถาม ถึงแม้ว่าจะตะหงิดๆ และรู้สึกไม่ค่อย
ชอบใจกับสรรพนามที่เจ้าคุณใช้เรียกพ่อของตัวเองสักเท่าไหร่ก็เถอะ แต่ก็ยังไม่อยากที่จะขัดหรือท้วงติง
อะไรในตอนนี้เพราะเห็นว่าเจ้าคุณยังคงอารมณ์ไม่ดีอยู่ เดี๋ยวพูดไปก็จะพาลทะเลาะกันไปเสียเปล่าๆ
 

     "อืม...ไม่รู้จะอะไรกันนักกันหนา ปรกติก็เจอหน้ากันทุกอาทิตย์อยู่แล้ว ไม่รู้จักเบื่อกันบ้างรึยังไงก็ไม่รู้"
เจ้าคุณบอกพร้อมกลับทิ้งตัวนั่งลงข้างๆกันกับธารา ก็อย่างที่เจ้าคุณพูด...ตั้งแต่วันนั้น...วันที่นายพลจอมทัพ
และคุณหญิงเข้าไปเยี่ยมธาราและเจ้านายพร้อมกับเจ้าคุณที่โรงพยาบาลโดยบังเอิญ หลังจากนั้นเป็นต้นมา
สองสามีภรรยานี้ก็พากันมาหาหลานชายอย่างเจ้านายถึงบ้านคุณนายมณีเป็นประจำทุกวันเสาร์และก็เป็น
อย่างนี้มาได้ประมาณหกเดือนแล้วตามอายุของเจ้านายเลย และก็อาจจะมีบางทีบางครั้งที่มีพี่ชายและ
น้องสาวของเจ้าคุณติดตามกันมาเล่นกับหลานด้วยอีกสองคน ทำเอาเจ้าคุณเริ่มรู้สึกเบื่อและเซ็งเต็มทน
เพราะมาทุกครั้งนายพลจอมทัพพ่อของเขาก็คอยแต่จะหาเรื่องตั้งแง่กับธาราทุกที ทั้งๆที่เด็กที่ตัวเองมาเล่น
มาหานั้นก็เกิดออกมาจากท้องธาราแท้ๆ ไม่รู้ว่าพ่อเขาจะตั้งแง่อะไรใส่ธารากันนักกันหนา
 

     "ถ้าคุณแม่เขาอยากให้ไป ธารว่าเราก็ควรไปตามคำชวนของท่านนะคุณเพราะคุณแม่ท่านอุตสาห์
โทรมาชวน ถ้าเราไม่ไปมันแลดูน่าเกลียดและเหมือนจะเป็นการไม่ให้เกียรติท่านนะ แล้วอีกอย่างท่านนายพล
ท่านใช่คนอื่นคนไกลซะที่ไหน ท่านเป็นพ่อแท้ๆที่ทำให้คุณเกิดมาเชียวนะ" ธาราพูดหว่านล้อมพร้อมทั้งหาข้อ
อ้างชักแม่น้ำทั้งห้ามากล่อมเจ้าคุณที่นั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ข้างๆกันเนี่ยแหละ ที่จริงแล้วเขาเองก็ใช่ว่าจะอยากไป
เพราะนายพลจอมทัพเองก็ยังไม่ยอมรับในตัวเขาแบบที่คุณหญิงแม่ของเจ้าคุณยอมรับและบังคับให้เขา
เรียกเธอว่าแม่หรอก และท่านนายพลจอมทัพก็ตีหน้าบึ้งตึงด้วยท่าทางปั้นปึ่งใส่เขาทุกทีที่เจอหน้ากัน
แต่การที่คุณหญิงแม่ของเจ้าคุณโทรมาชวนซ้ำๆอย่างนี้แล้ว พวกเขายังไม่ยอมไปตามคำชวนอีกมันก็จะ
ดูหน้าเกลียดจนเกินไป
 

     "พอแล้วมั้งไอ้ลูกหมา..นี่กินหรือสูบครับลูก ดูดิพุงหนูจะแตกอยู่แล้วนะ...เจ้านายยยย..." เจ้าคุณไม่ได้
เพียงแค่พูดแหย่ลูกชายเฉยๆ เพราะเขาไล่งับไล่เป่าพุงกลมๆที่ล้นเสื้อออกมาของลูกชายไปด้วย ทำเอา
เจ้านายน้อยร้องอิ๊อ๊ะๆในลำคออย่างชอบใจเพราะรู้สึกจั๊ดจี้ เมื่อเห็นว่าลูกชอบเจ้าคุณก็เล่นไม่หยุด โดยที่ไม่
ได้ดูหน้าแม่ของลูกเลยว่าสนุกด้วยหรือป่าว
 

     "หยุดเลยนะคุณ!! เดี๋ยวลูกสำลักหรอก เล่นอะไรไม่รู้เรื่องนะ ก็รู้อยู่ว่าลูกกินนมอยู่" ธาราว่าเสียงเข้ม
อาจจะดูเหมือนว่าธาราจะยอมลงให้เจ้าคุณได้ทุกเรื่อง แต่ไม่ใช่ของลูกแน่นอน เพราะว่าแม่ธารจ๋าของ
เจ้านายน้อยคนนี้ทั้งหวงทั้งห่วงลูกยิ่งกว่าอะไรดี จากคนพูดน้อยก็จะพูดมากทันทีเมื่อยามที่จะต้องเถียง
กับเจ้าคุณเรื่องของลูกชาย และคำพูดของธาราแต่ละคำก็เล่นเอาเจ้าคุณไปไม่เป็นเลยทีเดียว
 

     "อู้ยย...บอกดีๆก็ได้เมียจ๋า ไม่ต้องหยิกผัวอย่างนี้หรอก" เจ้าคุณร้องบอกด้วยเสียงโอดครวญเมื่อโดน
ธาราหยิกเข้าตรงบริเวณเนื้ออ่อนที่ท้องแขนอย่างเต็มรัก
 

     "เวลาบอกดีๆแล้วเคยฟังหรอ บอกแบบเจ็บๆอย่างนี้นั้นแหละดีแล้ว ทีหลังจะได้ไม่ทำอีก....
อ้าว! หลับไปซะแล้วลูกชายแม่" ธาราบอกกับเจ้าคุณอย่างเอือมๆ ก่อนที่จะหันไปสนใจลูกน้อยในอ้อมอก
เมื่อเห็นว่าลูกชายหลับไปแล้ว ธาราจึงค่อยๆดึงหน้าอกตัวเองออกจากลูกชายเบาๆเพื่อที่จะไม่ให้เจ้านาย
สะดุ้งตื่นขึ้มาอีกเพราะตอนนี้มันก็เลยเวลานอนของเจ้าตัวมามากแล้ว ก่อนที่จะอุ้มลูกชายไปวางไว้ใน
เตียงสำหรับเด็กอ่อนของเจ้าตัวที่อยู่ไม่ไกลจากเตียงนอนของเขากับเจ้าคุณสักเท่าไหร่ ความจริงแล้ว
เจ้านายควรที่จะนอนไปตั้งแต่เมื่อตอนสองทุ่มแล้ว แต่คุณป๋าจอมป่วนอย่างเจ้าคุณนี่สิทั้งแกล้งทั้งแหย่ลูก
ชวนกันเล่นอยู่นั่นแหละ
 

      "แล้วจะนอนอยู่อย่างนี้อีกนานไหมครับท่านเจ้าคุณ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วห้ะ ไปอาบน้ำสักทีสิ!!" ธารา
บอกเสียงเข้มอย่างหงุดหงิด เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของวันที่เขาไล่เจ้าคุณไปอาบน้ำแต่เป็นครั้งที่สิบหรือยี่สิบ
แล้วก็ไม่รู้ เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าเจ้าคุณไม่รู้สึกเหนียวตัวบ้างรึไง เพราะว่าวันนี้เจ้าคุณออกไปทำงานให้
คุณนายมณีแทนในส่วนของเขาข้างนอกมาทั้งวันแล้ว จนปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่าแล้วเนี่ยเจ้าคุณยังคงทำมึน
ตีเนียนนอนไม่รู้ไม่ชี้อยู่เหมือนเดิม และไม่รู้ว่าคราวนี้จะยอมไปง่ายๆได้รึยังเพราะว่าก่อนหน้านี้ก็อ้างโน่นนี่
ไปเรื่อย....เฮ้อ!! เป็นมนุษย์เมียนี่เหนื่อยกว่ามนุษย์แม่มากเลยจริงๆนะธาราคนนี้ขอยืนยัน!!!
.
.
.
 

     "ธาร..ธาร...น้องธารครับ" เจ้าคุณกระซิบเรียกธาราอยู่ข้างหูของเจ้าตัวเบาๆ หลังจากที่เขาไปอาบน้ำ
ตามคำบัญชาของภรรเมียอย่างว่าง่าย(?) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเห็นว่าธารานั้นนอนหลับไปแล้ว
 

     "อือ" ธาราฮึมฮัมอยู่ในลำคออย่างหงุดหงิดเมื่อรู้สึกเหมือนว่าร่างกายกำลังโดนอะไรรบกวนอยู่ แต่ก็ไม่
ได้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เนื่องจากว่าธารานั้นเพลียจากการเลี้ยงลูกมาทั้งวันแล้ว และจะตื่นอีกทีก็เมื่อถึงเวลาที่
จะต้องตื่นตอนเช้าโน่นเลย เพราะว่าพอพ้นจากสามเดือนแรกมาแล้วนั้นเจ้านายน้อยก็ไม่เคยตื่นมารบกวน
เวลานอนของพ่อแม่ตอนกลางคืนเลย หลับสนิทตลอดคืน
 

     "แม่จ๋า...แม่จ๋า...น้องคุณหิวนม หม่ำๆ หม่ำๆ" เจ้าคุณดัดเสียงเหมือนกับตอนที่ใช้เล่นกับลูกพูดกับธารา
พร้อมกับเลิกเสื้อนอนของธาราขึ้น มองสองเต้านูนเด่นกระเปาะเล็กๆที่บวมเป่งเพราะความคัดของน้ำนม
ตรงหน้าอย่างกระหาย ก่อนที่จะค่อยๆใช้สองมือของตัวเองเค้นคลึง นวดเฟ้นสองเต้าของธาราอย่างมันมือ
จนเริ่มมีน้ำนมไหลออกมา เจ้าคุณเองก็ไม่รอช้าใช้ลิ้นตัวเองปาดชิมรสน้ำนมทันที ดูดดุนจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบ
เป็นซาวด์ประกอบการกระทำของตัวเองเบาๆ
 

      "อื้อ! ครับเจ้านาย แม่จ๋าเจ็บนะลูก" ธาราละเมอพูดออกมาจากความเคยชินเมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ยอดอก
เหมือนกับยามที่ให้นมลูกชายแล้วโดนลูกชายใช้ฟันกระต่ายสองซี่หน้าของตัวเองที่เพิ่งจะขึ้นมาได้ไม่นานนี้
ขบกัดยอดอกของเขาเข้าในยามที่กินนมเหมือนกับหมั่นเขี้ยวอะไรสักอย่าง
 

      เจ้าคุณเหลือบตามองดูว่าธารารู้สึกตัวตื่นรึเปล่าเมื่อได้ยินธาราร้องบอก แต่ธาราก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมาแต่
อย่างใด เจ้าคุณจึงก้มหน้าก้มตาดูดรีดน้ำนมของแม่จ๋าธาราแทนเจ้านายน้อยลูกชายของตัวเองต่อไป
อย่างเมามันจนพอใจ ก่อนที่จะไล่เลีย ขบเม้มเนื้อตัวของธาราจากหน้าออกนูนทั้งสองข้างลงมายัง
หน้าท้องแบนราบและเมื่อถึงขอบกางเกงนอนของธารา เจ้าคุณจึงค่อยๆดึงรูดปลดกางเกงนอนพร้อมกับกางเกงชั้นในตัวจิ๋วออกจากตัวของธาราอย่างเบามือและก็สำเร็จไปได้อย่างง่ายดาย  เจ้าคุณยกแยกขาเรียวของธาราให้กางออกช้าๆ เขากลืนน้ำลายตัวเองลงคออย่างกระหายและยากลำบากเมื่อเห็นช่องทางรักสีหวานอันคุ้นเคยของธาราที่ล้างห่างกันไปเสียนานท่ามกลางแสงสลัวๆจากแสงไฟรอบบ้านที่ส่องสาดเข้ามาภายใน
ห้องนอน เพราะนับตั้งแต่รู้ว่าธาราตั้งท้องน้องเจ้านายลูกชายของเขา เขาทั้งสองคนก็ไม่ได้มีกิจกรรมเข้า
จังหวะฉันท์ผัวเมียอีกเลย แม้แต่จะช่วยกันแค่ภายนอกก็ไม่มีเลยแม้แต่ครั้งเดียว จะมีก็แต่ไอ้เจ้าคุณคนนี้
นี่แหละที่จะต้องพึ่งพาน้องนางทั้งห้า โป้ง ชี้ กลาง นาง ก้อย ของมือตัวเองนี่แหละที่ช่วยคลายเหงาและ
บรรเทาอาการพยศของเจ้าคุณน้อยได้ขึ้นสวรรค์เป็นครั้งคราวเมื่อยามจำเป็น.....พูดไปก็อาย...ฮ่าๆ
 
 เจ้าคุณผละออกจากตัวของธารามาจัดการถอดเสื้อผ้าจนหมดทุกชิ้น เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า
ของตัวเอง และชะโงกหน้ามองธาราอีกทีเพื่อดูให้แน่ใจว่าธารายังคงหลับและไม่รู้สึกอยู่เหมือนเดิม เจ้าคุณ
จึงจับสองขาของธาราแยกออกเบาๆอีกครั้ง และไล่เลียขบเม้มต้นขาข้านในของธาราอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนที่
จะจัดการไร้เลียช่องทางรักของธาราเบาๆ หลังจากปล่อยทิ้งร้างมานาน จนชุ่มแฉะไปด้วยน้ำลายของเจ้าคุณ
 
 "หึๆ แม่จ๋าพร้อมแล้วคุณป๋าก็จะไม่ทนรออะไรอีกแล้วนะครับ" เจ้าคุณพูดคนเดียวเบาๆ เมื่อเห็นน้ำใสๆ
ปริ่มออกมาจากตัวตนของธารา แต่เจ้าคุณก็ไม่ได้ไปจับต้องในส่วนนั้นของธาราแต่อย่างใด แต่กลับกันเขา
กลับมาสาวตัวตนของตัวเองให้พร้อมรบเต็มที่เสียก่อนที่จะค่อยๆกดส่วนหัวของตัวตนของเขาเข้าไปภายใน
ช่องทางของธาราเบาๆ ทั้งๆที่ไม่ได้มีตัวช่วยอย่างเจลหรือครีมใดๆเลยและที่สำคัญเจ้าคุณไม่ได้เบิกทาง
หรือช่วยเตรียมพร้อมช่องทางของธาราเลยด้วย
 
 "อื้อ!!! ทำบ้าอะไรห๊ะเจ้าคุณ!!! โอ้ย!!" ธาราหวีดร้องออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บที่ช่องทางรักของตัวเองและ
เมื่อลืมตาตื่นมาแล้วเห็นว่าเจ้าคุณกำลังทำอะไรตัวเองอยู่ก็ตะคอกถามเจ้าคุณเสียงดังจนลืมไปเลยว่า
นอกจากเขาและเจ้าคุณแล้วยังมีน้องเจ้านายอยู่อีกคนนะที่อยู่ในห้องตอนนี้ ส่วนเจ้าคุณเมื่อเห็นว่าธารา
ตื่นแล้วก็ดันตัวตนของตัวเองเข้าไปในช่องทางของธาราจนสุดความยาวภายในครั้งเดียวด้วยแรงที่ไม่เบานัก
จนธาราร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บเลยทีเดียว เพราะกลัวว่าเสียงของธาราจะไปทำให้เจ้านายตื่นเจ้าคุณจึง
รีบประกบจูบปิดปากห้ามเสียงของธาราโดยทันทีเพราะกลัวว่าน้องเจ้านายลูกชายของเขาจะตื่นขึ้นมาเห็น
ฉากยี่สิบบวกของพ่อแม่ของตัวเองจนร้องไห้จ้าไปซะก่อน
 
 "อื้อ!! ไอ้อ้า(ไอ้บ้า) อ๊ะ อ๊ะ" ธาราทั้งร้องด่าว่าเจ้าคุณและร้องด้วยความเสียวที่เจ้าคุณมอบให้ไปพร้อมๆ
กันในลำคออย่างทำอะไรมากไม่ได้ เพราะโดนเจ้าคุณปิดปากด้วยปากของตัวเองอยู่
 
 "จะร้องทำไมครับเมีย..ก็รู้สึกดีอยู่ไม่ใช่หรอฮึ? ตอดรัดของผัวดีนาดนี้....อ่าาา" เจ้าคุณถามอย่างล้อๆ
ด้วยเสียงและสีหน้าเจ้าเล่ห์ หลังจากที่ผละปากออกมาจากริมฝีปากของธารา ส่วนช่วงล่างก็ขยับเข้าออก
ช่องทางของธาราอย่างต่อเนื่องไม่มีขาดตกบกพร่อง
 
 "อ๊ะ! แล้วทำไมไม่ขอดีๆล่ะห๊ะไอ้บ้า ทำอย่างนี้ตกใจหมด อื้อ!!!" ธาราต่อว่าเจ้าคุณไปด้วยหน้าเหยเก
บิดเบี้ยวเมื่อเจ้าคุณกระแทกเข้าไปโดนจุดเสียวของตัวเองเข้าอย่างจัง
 
 "อย่างนี้แหละดีแล้ว เร้าใจดี อ่า..มันส์สัส...ฟิดฉิบหายเลยเมียกู..อ่าาาาา....ช่วยผัวหน่อยครับเมีย"
เจ้าคุณบอกพร้อมกับพลิกตัว ยกตัวของธาราไว้ข้างบนตัวเอง ให้ธาราเป็นคนคุมจังหวะแทนตัวเอง โดยที่
ส่วนเชื่อมต่อของเขาทั้งสองคนยังไม่หลุดออกจากกัน
 
 "นิสัย!! เอาแต่ใจตลอด ไม่ถามไถ่สุขภาพกันสักคำ จัดประกันชั้นหนึ่งให้ตลอด.." ถึงจะบ่นเหมือนกับว่า
ไม่ชอบใจในสิ่งที่เจ้าคุณทำ แต่ธาราก็เริ่มขยับโยกตัวขึ้นลงทันทีที่พูดจบโดยที่มีเจ้าคุณช่วยประคองเอว
ช่วยพยุงธาราอีกที
 
 "อ่าาา...แน่นชิบ!! รัดผัวอีกนิดซิครับเมีย..." เจ้าคุณบอกในขณะที่ใช้นิ้วขยี้ยอดอกของธาราเล่นอย่าง
หมั่นเขี้ยว ซึ่งนาทีแห่งความเสียวอย่างนี้ธาราก็ทำตามที่เจ้าคุณบอกอย่างดีไม่มีเกี่ยงงอนเลย
 
 "อื้อ...มะ..ไม่ไหวแล้วคุณ..." ธาราหยุดขยับและบอกกับเจ้าคุณด้วยเสียงกระท่อนกระแท่น
 
 "ไม่ไหวก็กอดพี่แน่นๆนะครับเมีย" เจ้าคุณบอกพร้อมกับจับกระชับเอวของธาราไว้แน่น ก่อนที่จะสวน
สะโพกของตัวเองใส่ช่องทางของธาราอย่างระรัวสุดแรงเพราะตัวเขาเอองก็แทบจะถึงขีดสุดแล้ว ส่วนธารา
เองก็ทำตามที่เจ้าคุณบอก ใช้สองมือโอบกอดคอของเจ้าคุณไว้เน่นเพื่อเป็นที่ยึด
 
 "อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊ะ! อื้อออออ......." ธาราเกือบจะหลุดหวีดร้องออกมาเมื่อถึงขีดสุดของความอดทนในยามที่
ปลดปล่อยออกมา แต่ก็ยั้งตัวเองโดยที่ใช้ปากกัดไหล่หนาของเจ้าคุณระงับเสียงของตัวเองไว้ทัน เมื่อหางตา
เหลือบไปเห็นเตียงนอนของน้องเจ้านายขยับนิดๆเนื่องจากเจ้าตัวน้อยนั้นขยับตัว
 
 "อ่าาาา....สุดๆเลยแมร่ง!!" เจ้าคุณสบถออกมาเมื่อปลดปล่อยน้ำรักของตัวเองเข้าไปในช่องทางของ
ธาราหมดแล้ว
 
 "ขอบคุณครับเมีย" เจ้าคุณจูบขมับของธาราเบาๆ ก่อนที่จะถอนตัวตนของตัวเองออกมาจากช่องทาง
ของธารา และจับธารานอนบนที่นอนดีๆ ส่วนตัวเขานั้นก็เดินไปดูลูกที่เตียงเด็กว่าน้องเจ้านายน้อยตื่นอยู่
รึเปล่า ซึ่งปรากฏว่าน้องเจ้านายก็ไม่ได้ตื่นมารบกวนเวลาของคุณป๋าและแม่จ๋าเหมือนเดิมทั้งๆที่เสียงเนื้อ
กระทบกันเป็นจังหวะยามร่วมของเจ้าคุณและธาราก็ดังให้ได้ยินอยู่ตลอดแท้ๆ เขาจึงเดินเข้าไปล้างตัวใน
ห้องน้ำ ก่อนที่จะออกมาพร้อมกับกะละมังและผ้าขนหนูผืนน้อยเพื่อที่จะมาทำความสะอาดร่างกายให้ธารา
 
 "หยิบแผงยาในลิ้นชักให้หน่อยสิ" ธาราบอกอย่างอ่อนแรง หลังจากที่เจ้าคุณเช็ดตัวและใส่เสื้อผ้าให้
เสร็จเรียบร้อยแล้ว
 
 "ยาอะไรอ่ะ เจ็บหรอ?" เจ้าคุณถามอย่างสงสัยเมื่อหยิบแผงยาที่อยู่ในลิ้นชักข้างหัวเตียงตามที่ธาราบอก
ออกมาอ่านดู แต่ก็ไม่มีตัวหนังสืออะไรบอกให้เขารู้เลยว่ามันคือยาอะไร เพราะว่าตอนที่ทำความสะอาด
ร่างกายของธาราเขาตรวจเช็คดูดีแล้วว่าช่องทางของธาราไม่ได้ฉีกขาดมีแค่บวมช้ำนิดๆเท่านั้นจึงคิดว่า
ไม่จำเป็นต้องกินยาอะไร
 
 "ยาคุมฉุกเฉินน่ะ" ธาราตอบไปตามความจริง
 
 "ยาคุม? กินทำไม? ทำไมต้องกิน?" เจ้าคุณถามอย่างไม่ชอบใจ เพราะเขาตั้งใจอยากจะมีน้องให้กับ
เจ้านายอยู่แล้ว และยิ่งรู้ว่าณัฐภาสเพื่อนรักได้แฝดสาม ความตั้งใจที่อยากจะมีลูกเพิ่มยิ่งมีมากขึ้นไปอีก
เพราะอยากให้เจ้านายมีพี่น้องมีเพื่อนเล่นอย่างบ้านของณัฐภาสบ้างโตมาจะได้ไม่เหงา
 
 "ไม่กินก็ต้องท้องอีก" ธาราตอบเจ้าคุณกลับไปแบบไม่คิดอะไร
 
 "ท้องก็ท้องดิ! มีผัวแล้วท้องตำรวจไม่จับหรอกครับเมีย" เจ้าคุณบอกพร้อมกับเดินเอาแผงยาคุมฉุกเฉิน
ของธาราไปทิ้งลงในถังขยะเล็กข้างข้างโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนที่จะกลับมาทิ้งตัวนอนข้างๆกันกับธารา ซึ่งธารา
เองก็ไม่ได้พูดว่าอะไร เพราะเขาเองก็เหนื่อยเกินกว่าที่จะมีแรงมานั่งเถียงกับเจ้าคุณเพราะเขาเองก็เพลีย
สะสมมาจากการเลี้ยงลูกมาทั้งวันแล้ว ไหนจะยังต้องมาร่วมกิจกรรมเข้าจังหวะกับเจ้าคุณเมื่อสักครู่นี้อีก
ทั้งที่ความจริงแล้วเขาอยากจะบอกกับเจ้าคุณเหลือเกินว่าตัวเขาเองยังไม่พร้อมที่จะตั้งท้องลูกคนที่สอง
ตอนนี้หรอก เพราะเขาอยากที่จะให้เจ้านายโตกว่านี้อีกสักหน่อย แต่คิดว่าพูดไปก็คงจะพาลทะเลาะกัน
ไปเปล่าๆเพราะคนรั้นอย่างเจ้าคุณถ้าลองได้คิดจะทำอะไรแล้วก็อย่าได้คิดจะไปห้ามเชียว ถ้าไปห้ามเข้า
ก็จะมีแต่ผิดกับผิดเท่านั้นแหละ เพราะฉะนั้นแม่จ๋าธาราคนนี้ขอนอนเก็บแรงไว้ไปต่อสู้กับความซนความดื้อ
ของสองพ่อลูกจอมแสบในวันพรุ่งนี้ดีกว่า....เพราะตอนนี้เพลียเหลือเกิน.....
 
 
...
กลับมาแล้วจร้า...มาช้าไม่พอยังจะมาแบบสั้นๆอีกต่างหาก
แต่คงไม่ต้องบอกแล้วเน๊าะว่ามี่หายไปไหนมาเพราะมี่ได้แจ้งไปในเพจแล้วก่อนหน้านี้
ยังไงก็เจอกันตอนหน้านะคะ....สวัสดีค่ะ!!
 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 9 (08/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 08-12-2015 15:08:26
อิจฉาเพื่อนล่ะซิที่ได้แฝดสามน่ะ ถ้างั้นก็ต้องขยันๆ เข้าไว้นะจ๊ะเจ้าคุณ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 9 (08/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 08-12-2015 15:39:42
หกเดือนแล้วนะคะคุณปู่ ตั้งแง่กับธารามากๆ ระวังเจ้าคุณจะกีดกันไม่ให้มาเจอหน้าน้องเจ้านายเอานา :hao3:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 9 (08/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-12-2015 15:44:35
ความสุขของคนมีครอบครัว
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 9 (08/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 08-12-2015 17:30:42
 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 9 (08/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-12-2015 19:43:02
อิจฉาเขาล่ะสิเจ้าคุณ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 9 (08/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 09-12-2015 00:12:01
เจ้าคุณมันลักหลับเมียนี่หว่าาา  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 9 (08/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 09-12-2015 08:30:18
คุณปู่เลิกตั้งแง่กับแม่จ๋าซะทีเถอะคะ
ฟอร์มเยอะนัก เดี๋ยวเจ้าคุณไม่ให้มาหาหลานอีกนะ
คุณป๋าเจ้าคุณคะ เพลาๆบ้างนะคะ ลูกยังเล็กอยู่เลย
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 10 (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 11-12-2015 00:48:23
คุณเมียภาคบังคับ [เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 10











       "แอ๊...แอ๊...แอ๊" เสียงอ้อแอ้ของเจ้านายร้องออกมาให้คุณป๋ากับแม่จ๋าได้รับรู้เหมือนกับทุกเช้าประมาณว่า
'หนูตื่นแล้วน้า' ตอนที่เจ้าคุณแต่งตัวเสร็จหลังจากที่ลุกขึ้นมาอาบน้ำก่อนตั้งแต่เช้ามืดพอดี เพราะว่าเขาคิด
เอาไว้แล้วว่าวันนี้เขาจะต้องตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ดูแลลูกชายในตอนเช้าแทนธารา เพราะว่าวันนี้ธาราคงจะตื่น
แต่เช้าเพื่อมาดูแลลูกอย่างทุกทีไม่ไหวหรอก หลังจากที่เมื่อคืนโดนเขาสูบวิญญาณไปซะหมดแรงขนาดนั้น


       "แฮ่ๆ ว่ายังไงครับไอ้หมาน้อยของป๋า หิวรึยังครับ" เจ้าคุณอุ้มลูกชายตัวน้อยของตัวเองออกมาจาก
เตียงเด็ก ก่อนที่จะพาอุ้มเดินออกมาจากห้องนอนเพราะกลัวว่าเสียงของตัวเองกับลูกชายจะดังจนไป
รบกวนการนอนของแม่จ๋าให้ตื่นขึ้นมาเสียก่อนที่จะได้นอนเต็มอิ่มเข้าอีก


       "แอ๊...แอ๊" เจ้านายน้อยอ้อแอ้ทำท่ายกมือยกไม้เหมือนกับว่าเจ้าตัวกำลังตอบคำถามของคุณป๋าเจ้าคุณ
อยู่อย่างไงอย่างงั้น


       "ฮ่าๆ หนูกำลังตอบป๋าอยู่หรอครับเจ้านาย...เนี่ยน้า ตื่นมาปุ๊บก็หิวปั๊บพุงหนูถึงได้ป่องอย่างนี้นี่ไง...
ไอ้ลูกหมาเอ้ย!" เจ้าคุณพูดบอกพร้อมกับยกชูตัวของเจ้านายน้อยขึ้นสูงเพื่อที่จะงับพุงลูกชายเล่น
ส่วนเจ้านายเองก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจ


       "เอ้าๆ อารมณ์ดีอะไรกันแต่เช้าเลยฮึสองคนพ่อลูก....ว่ายังไงครับเจ้านายน้อยของยาย...แล้วนี่น้องธาร
ยังไม่ตื่นอีกหรอเจ้าคุณ" คุณนายมณีเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นว่าสองพ่อลูกพากันหัวเราะเสียงดังเดินลงมาจากชั้น
บนของบ้าน ในขณะที่เธอกำลังนั่งจิบกาแฟและดูข่าวในโทรทัศน์เหมือนกับทุกๆวัน เมื่อเห็นคุณนายมณีนั่ง
อยู่ที่ห้องนั่งเล่นเจ้าคุณก็ส่งลูกชายให้เธอรับไปอุ้มเลยทันที ก่อนที่เขาจะผละเดินออกไปชงนมให้ลูกตรงชั้น
ชงนมที่มีไว้เก็บพวกของจำเป็นอย่างผ้าอ้อม เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ชงนมของเจ้านายที่มีไว้ใช้ในเวลาที่เจ้านาย
อยู่ข้างล่างในเวลากลางวันซึ่งก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตรงที่คุณนายมณีอยู่มากนัก


       "ยังไม่ตื่นครับยาย ผมอยากให้เขานอนพักต่ออีกซักหน่อยน่ะครับ เพราะวันนี้ต้องไปงานวันเกิดของพ่อ
ผมด้วย ยายก็ด้วยนะครับ เย็นนี้ยายต้องไปไหนรึเปล่า ถ้าไม่ติดธุระอะไรก็ไปเป็นเพื่อนพวกผมหน่อยนะครับ"
เจ้าคุณพูดบอกพร้อมกับรับตัวเจ้านายมาจากคุณนายมณีก่อนที่จะนั่งป้อนนมอย่างง่ายๆสบายๆเพราะเขา
ช่วยธาราเลี้ยงลูกจนทำเป็นทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นป้อนนม อาบน้ำหรือแม้แต่การเป็นผ้าอ้อมให้ลูก
ตอนนี้เจ้านายยังคงกินนมแม่จากอกธาราอยู่แต่ก็มีกินนมผงชงสลับกันบ้างในเวลาที่ธาราไม่สะดวกอย่างนี้
หรือว่าติดธุระสำคัญที่จะต้องไปไหนโดยที่เอาลูกไปด้วยไม่ได้จริงๆ ซึ่งตั้งแต่เจ้านายเกิดมาก็มีแค่ครั้งเดียว
เท่านั้นแหละที่ธาราห่างจากลูกน่ะแล้วก็ในระยะเวลาไม่ถึงครึ่งวันเสียด้วยซ้ำ งานนี้เจ้าคุณก็เลยไม่รู้เลยว่า
ลูกติดแม่หรือว่าแม่ติดลูกกันแน่ 


       "อืม..เอาสิ เดี๋ยวยายจะไปด้วยเพราะก่อนหน้านี้ท่านนายพลกับคุณหญิงเธอก็ชวนยายไว้แล้วหล่ะ"
.
.
.
.
.
       งานเลี้ยงวันคลัายวันเกิดนายพลจอมทัพ (ช่วงหัวค่ำ)


       "เมื่อไหร่ลูกจะกลับมาล่ะคุณ ป่านนี้เจ้านายไม่ร้องไห้ไปแล้วหรอไปเจอคนแปลกหน้าเยอะๆอย่างนั้นน่ะ
แล้วนี่ก็ใกล้เวลานอนของลูกแล้วนะเมื่อไหร่แม่คุณจะเอาลูกมาคืนเราสักทีล่ะ" ธาราบ่นกับเจ้าคุณในขณะที่
เขาทั้งสองคนกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขกของบ้านรอเวลาให้คุณหญิงแม่ของเจ้าคุณเอาเจ้านายมาส่งคืน
ให้กับเขาทั้งสองคนสักที เพราะตั้งแต่เขา เจ้าคุณ เจ้านายและคุณนายมณีมาถึงที่บ้านของเจ้าคุณซึ่งเป็น
สถานที่จัดงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของนายพลจอมทัพตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นแล้วนั้น คุณหญิงแม่ของเจ้าคุณ
ก็มาเอาตัวเจ้านายไปจากพวกเขาเลยทันทีหลังจากที่เจ้านายกินนมอิ่มแล้ว จนป่านนี้ก็ปาเข้าไปสองชั่วโมง
กว่าแล้วยังไม่มีทีท่าว่าคุณหญิงจาพาเจ้านายลูกชายของเขามาส่งคืนสักทีเลย


       "เอาน่า..ยายก็ตามไปช่วยดูลูกให้เราแล้วไง อย่าคิดมากน่า เดี๋ยวพอลูกร้องยายก็พามาหาเราเองแหละ"
เจ้าคุณบอกปัดๆในขณะที่นั่งดูสาระคดีอยู่ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เป็นห่วงลูกเสียเมื่อไหร่ล่ะ แต่เป็นเพราะว่ามีคุณนาย
มณียายของธาราตามไปช่วยดูเจ้านายให้ด้วยต่างหากล่ะเขาถึงได้นั่งใจเย็นดูทีวีอยู่อย่างนี้ เพราะว่าจะให้เขา
ตามไปดูลูกที่งานเลี้ยงบ้าบอที่มีแต่คนใส่หน้ากากเข้าหากันอย่างนั้นน่ะนะ บอกเลยว่า...ไม่ไหวหรอก!
ส่วนธาราเองก็ไม่ชอบงานสังคมจอมปลอมอย่างนี้เหมือนกันกับเขานี่แหละ ถึงได้พากันมานั่งจมอยู่หน้า
โทรทัศน์ในห้องรับแขกยังนี้นี่ไง


       "แต่ว่า..."


       "ถ้าอย่างนั้นออกไปตามหาลูกแล้วกลับบ้านกันเลยดีกว่า ยังไงเราก็มาร่วมงานตามที่เขาเชิญแล้ว 
มันไม่ดูหน้าเกลียดแล้วหล่ะที่เราจะกลับตอนนี้น่ะ" ยังไม่ทันที่ธาราจะพูดอะไรต่อ เจ้าคุณก็กดปิดโทรทัศน์
และลากธาราออกจากห้องรับแขกไปเดินตามหาลูกที่บริเวณสวนหน้าบ้านที่เป็นสถานที่จัดงานเลยทันที
.
.
.
       "เอ้า! น้องธาร เจ้าคุณมากันพอดีเลย มาเอาเจ้านายน้อยไปจัดการให้ทีซิ ยายกับคุณหญิงจะเอาไม่อยู่
อยู่แล้วเนี่ย ตอนแรกๆก็เล่นก็คุยอารมณ์ดีอยู่หรอ ตอนหลังๆมานี่ใครเข้าใกล้ก็กรี๊ดใส่เขาไปหมด" คุณนาย
มณีพูดบอกเมื่อเห็นว่าเจ้าคุณกับธาราเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ ในขณะที่เธอกำลังจะพาเจ้านายเข้าไป
ส่งคืนให้ทั้งสองคนอยู่พอดี


        "แกคงจะงองแงหงุดหงิดเพราะได้เวลานอนแล้วนั่นแหละยาย ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่ยายอยากจะกลับ
รึยังอ่ะ ธารกับคุณว่าจะกลับแล้วล่ะ ก่อนที่เจ้านายจะแหกปากกรี๊ดอาลาวาดจนงานท่านนายพลเขาพังไม่
เป็นท่ากันพอดี" ธารารับลูกชายจากมือคุณนายมณีมาโอ๋ทันที เมื่อเห็นว่าลูกเริ่มเบะปากงองแงพร้อมที่จะ
ร้องให้อยู่มะลอมมะล่อ


       "กลับเลยก็ดี เพราะยายเองก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน แต่ยังไงก็เข้าไปลาท่านนายพลกับคุณหญิงเขากัน
ก่อนแล้วกันนะ" เธอบอกพร้อมกับเดินนำเจ้าคุณและธาราเข้าไปหานายพลจอมทัพและคุณหญิงแม่ของ
เจ้าคุณ
.
.
.
       "คุณหญิงคะ เดี๋ยวฉันกับเด็กๆต้องขอตัวกลับก่อนนะคะ ตาหนูแกร้องงองแงอยากจะนอนเต็มทนแล้ว"
คุณนายมณีเปิดประเด็นขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าคุณหญิงแม่ของเจ้าคุณกำลังยืนอยู่คนเดียวไม่ได้มีแขกเหมือน
กับนายพลจอมทัพที่ยืนถัดออกไปไม่ไกลจากตรงนี้นัก

       "ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวตาคุณกับหนูธารรอบอกลาคุณพ่อเขาด้วยตัวเองดีกว่านะ ตั้งแต่มาก็ยังไม่ทันได้
อวยพรวันเกิดคุณพ่อเขาเลยนิ คุณพี่มณีด้วยนะคะรอบอกลากับเจ้าของงานเขาดีกว่า เดี๋ยวถามหาไม่เจอ
แล้วจะพาลงอนไปซะเปล่าๆ คนแก่คนนี้เขายิ่งขี้น้อยใจอยู่ด้วยนะค่ะ" เธอพูดบอกแบบติดตลก แต่มันก็เป็น
ความจริงว่าตั้งแต่มาบ้านนี้เจ้าคุณกับธารายังไม่ทันที่จะได้ทักทายหรือพูดคุยกับเจ้าของงานอย่างนายพล
จอมทัพเลย ไอ้คั้นจะให้กลับบ้านไปโดยที่ไม่บอกเจ้าของงานก็จะดูเป็นการเสียมารยาทเกินไปถึงแม้ว่าพวก
เขาและนายพลจอมทัพจะเจอกันเป็นประจำทุกสัปดาห์อยู่แล้วก็เถอะ

       "อ๊ะ! นั่นไงคะ ท่านนายพลกำลังเดินมาทางนี้พอดีเลย" คุณหญิงชี้ชวนให้คุณนายมณี เจ้าคุณและธารา
ได้เห็นว่านายพลจอมทัพกำลังก้าวเดินมาทางที่พวกเขายืนอยู่พอดี ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีไม่น้อยเพราะว่ายิ่ง
นายพลจอมทัพมาเร็วเท่าไหร่พวกเขาก็จะได้พาเจ้านายน้อยกลับบ้านไปนอนเร็วเท่านั้น แต่ใครจะไปคิดล่ะ
ว่านายพลจอมทัพจะเดินกลับมาพร้อมกับบุคคลที่เปรียบเสมือนสิ่งต้องห้ามสำหรับเจ้าคุณ ธาราและคุณนาย
มณีตลอดทั้งชีวิตนี้เลยล่ะ

       "คุณคะ คุณพี่มณีกับลูกๆ มาขอตัวกลับก่อน เพราะตาหนูแกง่วงนอแย่แล้วค่ะ" คุณหญิงที่ไม่ได้รับรู้
ความผิดปกติของบุคคลทั้งสามที่ยืนอยู่ข้างตัวเองก็เอ่ยบอกสามีไปอย่างไม่ได้คิดอะไร แต่อีกสามคนที่เหลือ
นี่สิแทบอยากจะหายตัวออกไปจากบริเวณนั้นซะเดี๋ยวนี้เลย

       "อ่าว..ทำไมไม่ค้างด้วยกันซะที่นี่เลยล่ะครับพี่มณีที่บ้านก็มีห้องว่างเหลืออีกตั้งเยอะแยะ ยังไงๆเราก็เป็น
คนกันเองเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว นี่ก็มืดแล้วด้วยถนนหนทางตรงปากทางเข้าบ้านของพี่ก็ยิ่งอันตราย
อยู่ด้วย ยังไงๆก็ค้างด้วยกันซะที่นี่เถอะนะครับ" นายพลจอมทัพเอ่ยชวนคุณนายมณีอยู่ต่อเพราะถึงแม้ว่า
ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาจะไม่ค่อยได้คุยกับธาราสักเท่าไหร่ แต่กับคุณนายมณีนี่ต้องเรียกว่าสนิทกันเลยแหละ
เพราะคุยกันถูกคอ

       "คงจะไม่ได้หรอกพ่อ เอาไว้วันหลังผมจะพาลูกมาค้างกับพ่อที่บ้านนี้แล้วกัน แต่วันนี้คงต้องขอบายอ่ะ
เพราะพรุ่งนี้ผมต้องไปพบลูกค้าแทนน้องธารมันแต่เช้าอีก นี่ผมก็ยังไม่ได้เตรียมเอกสารไว้เลย ถ้าค้างที่บ้าน
พรุ่งนี้ผมคงจะไปพบลูกค้าสายแน่ๆเลย จะพาลทำบริษัทยายเขาเสียหน้าไปด้วย อย่าเลยวว่ะพ่อ ยังไงวันนี้
พวกผมขอตัวกลับก่อนนะ เบิร์ดเดย์มีความสุขมากๆนะพ่อ พวกผมไปล่ะ" เมื่อเห็นสีหน้าช็อคๆของธารากับ
คุณนายมณี เจ้าคุณก็พูดปฎิเสธรัวๆใส่พ่อตัวเอง ยกเอาเรื่องโน้นเรื่องนี้ออกมาอ้างทั้งๆที่ความจริงแล้ว
พรุ่งนี้เจ้าคุณไม่ได้มีงานอะไรอย่างที่พูดอ้างออกไปหรอก เพียงแค่ไม่อยากอยู่ตรงนี้ให้ธารากับคุณนายมณี
รู้สึกแย่ไปกว่านี้ก็เท่านั้รเอง เพราะตั้งแต่ตกลงปลงใจใช้ชีวิตในแบบสามีภรรยากับธารามาเขาก็รู้เรื่องอะไร
หลายๆอย่างเกี่ยวกับนายหัวรพีพ่อของธาราเพิ่มอีกเยอะเลยรวมถึงเรื่องของภูผาพี่ชายต่างแม่ของธาราด้วย

       "เดี๋ยวสิ! แกไม่คิดจะทักทายพ่อหน่อยหรอธารา" ยังไม่ทันที่มีใครจะได้ก้าวออกไปไหนเลย มีเพียงแค่
ธาราเท่านั้นที่หันหลังกลับทันทีที่เห็นนายหัวรพีพ่อของตัวเองมายืนตีคู่อยู่ข้างกันกับนายพลจอมทัพ
ก่อนที่นายหัวรพีจะเอ่ยเรียกรั้งธาราไว้ทำให้ธาราจำเป็นต้องหยุดยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แต่ก็ไม่ได้หันกลับมามอง
หน้านายหัวรพีแต่อย่างใด

       "หืม...อะไรกันครับ ที่คุณพูดมันหมายความว่ายังไงหรือครับนายหัวรพี" เป็นนายพลจอมทัพที่เอ่ยปาก
พูดถามออกมาเป็นคนแรกด้วยความสงสัยหลังจากที่ทุกคนยืนเงียบกันอยู่นาน

       "ก็เจ้าธาราคนที่ยืนหันหลังให้เราอยู่นั่นไงครับ เป็นลูกชายของผมเอง" นายหัวรพีบอกพร้อมกับพยักเพยิด
หน้าไปทางธาราเพื่อให้นายพลจอมทัพรับรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดนั้นมันหมายถึงใคร

       "เป็นจริงหรือครับ" นายพลจอมทัพถามด้วยความประหลาดใจ เพราะไม่คิดว่ามันจะบังเอิญขนาดนี้
ที่ผ่านมาเขาก็เจอนายหัวรพีตามงานสังคมอยู่หลายครั้งหลายครา แต่ไม่ยักจะเห็นธารามาด้วยสักที

       "ไม่จริงหรอกครับ!! ผมไม่มีพ่อเหมือนกับคนอื่นเขาหรอกครับ ขอโทษที่เสียมารยาทใส่นะครับท่านนายพล
ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะครับตาหนูร้องไห้ใหญ่แล้ว สุขสันต์วันเกิดนะครับ" พูดจบธาราก็กระชับ
กอดลูกชายที่นอนร้องไห้จ้าอยู่ในอ้อมแขนเพราะตกใจเสียงดังของตัวเองและรีบจ้ำเดินอออกจากตรงนั้นทันที
โดยที่ไม่ฟังเสียงเรียกของใครเลย

       "ธาร!! น้องธาร!! ใจเย็นๆ ไม่มีอะไรแล้วๆ ยายครับผมฝากปลอบตาหนูให้ผมที" เจ้าคุณรีบคว้าตัวธารา
เข้ามากอดเลยทันที เมื่อวิ่งตามธารามาถึงรถของตัวเองแล้วเห็นว่าธารายืนร้องไห้ตัวจนโยนอยู่ข้างๆรถ
ทั้งๆที่ในอ้อมแขนก็ยังอุ้มลูกอยู่ ก่อนที่จะดึงตัวเจ้านายออกจากอ้อมกอดของธาราไปให้คุณนายมณีปลอบ
เมื่อเห็นว่าเจ้านายเริ่มร้องไห้หนักขึ้นเมื่อได้ยินเสียงร้องของธารา

       "ฮืออออ...มะ..ไม่ใช่นะ! เขาไม่ใช่พ่อธานนะคุณ ฮึก! ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่ ฮือออออออ....." ธาราพูดไปร้องไห้ไป
สะอึกสะอื้นซุกหน้าร้องไห้อยู่กับหน้าอกเจ้าคุณเหมือนกับจะขาดใจยังไงอย่างงั้น

       "ครับๆ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่ เลิกร้องก่อนนะ หยุดร้องได้แล้ว ลูกร้องไห้ตามแม่จ๋าแล้วนะ แม่จ๋าอยากให้
เจ้านายร้องไห้จนไม่สบายหรือครับ...ฮึ" เจ้าคุณพูดปลอบพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้ธารา ก่อนที่จะปลดล็อครถ
พยักหน้าส่งสัญญาณให้คุณนายมณีเข้าไปนั่ง ก่อนที่จะจับตัวธารายัดเข้าไปอีกคนเมื่อเห็นว่าธาราเริ่มสงบ
ลงบ้างแล้ว ตัวเขาถึงจะเข้าไปนั่งประจำที่คนขับและเร่งเครื่องรถขับกลับบ้านเลยทันที
.
.
.
.
.
       "เป็นไงมั่ง รู้สึกดีขึ้นบ้างรึยัง" เจ้าคุณถามในขณะที่ทิ้งตัวลงนอนข้างกันกับธาราหลังจากที่ดับไปในห้อง
เรียบร้อยแล้ว พอกลับมาถึงบ้านคุณนายมณีก็อาสาเอาเจ้านายไปดูแลแทนเจ้าคุณกับธาราเองในคืนนี้
เพราะอยากจะให้ธาราได้มีเวลานอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่โดยไม่ต้องมาระแวงพะว้าพะวงอยู่กับลูก เจ้าคุณ
จึงรีบตอบตกลงทันที เพราะว่าเขาเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน

       "ก็ดีขึ้นแล้ว แต่ตอนที่ธารได้ยินเขาพูดอย่างนั้นธารรู้สึกตื้อไปหมดเลย ทำไมล่ะคุณ ทำไมผู้ชายคนนั้น
เขาถึงได้พูดออกมาอย่างนั้น ทั้งๆที่เขาเป็นคนไล่ธารและพูดเองแท้ๆว่าธารไม่ใช่ลูกของเขา" ธาราพูดบอก
พลางนึกย้อนไปถึงวันที่ตัวเองได้มีปากเสียงกับนายหัวรพีจนถึงกับต้องเก็บข้าวของออกมาอยู่กับคุณนายมณี
และย้อนไปถึงวันวานเก่าๆ ตั้งแต่แม่ของเขายังคงมีชีวิตอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนั้นของนายหัวรพี พอมาคิดๆ
ดูแล้ว ไม่ว่าธาราจะคิดย้อนไปถึงตอนไหนหรือว่าเมื่อไหร่ เขาก็มีแต่ความเจ็บปวดและทุกข์ทนเท่านั้นที่ได้รับ
มาจากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อแท้ๆของตัวเอง

       "เอาน่า..อย่าคิดมากเลย เรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้ว อย่าไปเก็บมาคิดให้รกสมองให้บั่นทอนจิตใจ
ของตัวเองเปล่าๆเลย ยังไงๆ อดีตมันก็คืออดีต และเราก็ไม่สามรถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรในอดีตได้อยู่แล้ว
สู้อยู่แต่กับปัจจุบันเสียยังดีกว่า....มีความสุขกว่าเยอะ" สิ่งที่เจ้าคุณพูดออกมานั้นเขาไม่ได้ตั้งใจแค่จะบอก
กับธาราแค่คนเดียวหรอกแต่เขาต้องการที่จะพูดย้ำเตือนความคิดและสติของตัวเองด้วยต่างหากล่ะ
เพราะทุกวันนี้ตัวเขาเองก็ยังไม่สามารถคุยกลับพ่อของตัวเองได้อย่างสนิทใจเลย

       "อืม" ธาราครางตอบเบาๆในลำคอเหมือนกับจะบอกว่าเข้าใจในสิ่งที่เจ้าคุณพูดแล้ว แต่ก็ไม่เลยในเมื่อ
เจ้าคุณหันไปมองหน้าด้านข้างของธาราในความมืดแล้วยังเห็นสีหน้าที่แสดงความกังวลของธาราอยู่เลย

       "นี่! ฟังพี่คุณคนที่เป็นสามีของน้องธารดีๆนะครับ ว่าไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น จะมีเรื่องแย่ๆ หรือ
ปัญหายุ่งยากเข้ามาในชีวิตของน้องธารมากมายสักแค่ไหน น้องธารก็จำเอาไว้เลยว่าไอ้เจ้าคุณคนนี้นี่แหละ
มันจะยืนยัดสู้อยู่เคียงข้างกับน้องธารเอง แล้วก็อีกอย่างนะ! ช่วยจำใส่สมองท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจเลยว่า ถึงใคร
อีกหลายร้อยคนจะไม่รักน้องธาร...แต่ผัวห่ามๆคนนี้นี่แหละจะรักเมียจนกว่าจะตายจากกันไปข้างนึงเลยเอ้า!"
เจ้าคุณบอกพร้อมกับดึงตัวธาราเข้ามากอดไว้

       "ขอบคุณมากนะเจ้าคุณ...ขอบคุณที่รักกัน" ธาราที่นอนซุกอกแกร่งของเจ้าคุณบอกก่อนที่ตัวเองจะ
ผลอยหลับไป ทิ้งให้เจ้าคุณได้นอนตาค้างด้วยความประหลาดใจกับท่าทางอ้อนๆของเมียตัวเองที่นานๆ
จะมีมาให้ได้เห็นได้สัมผัสกับเขาสักที



...
วันนี้ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่อยากจะขอฝากนิยายเรื่องใหม่ของมี่สักหน่อย
ชื่อเรื่องว่า  *** กอด.โอบ.อุ่น.ของนายท้องฟ้า ***  ค่ะ
เนื่องจากว่าเรื่อง รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ได้จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มี่จึงเปิดเรื่องใหม่ขึ้นมาเพราะกลัวว่าตัวเองจะมีเวลาว่างเกินไป เฮ้ย!!  ไม่ใช่!!
แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ แต่ก็เปิดเรื่องไปแล้วก็แล้วกัน  ฮ่าๆ
ยังไงก็ฝากเข้าไปลองอ่านดูแล้วกันนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 10 (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 11-12-2015 01:26:33
สงสารน้องธาร  :sad4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 10 (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-12-2015 01:33:42
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 10 (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 11-12-2015 01:50:11
รอน้องแฝดจ้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 10 (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-12-2015 01:51:51
คู่นี้มีเรืรองให้เล่นมากกว่าคูหลักซะอีก
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 10 (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PaTtO ที่ 11-12-2015 08:17:56
ผัวห่ามมากค่ะ555 ดูแลน้องธารดีๆนะเจ้าคุณ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 10 (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-12-2015 08:29:26
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 10 (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-12-2015 08:36:16
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 10 (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 11-12-2015 09:23:00
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 10 (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 11-12-2015 13:42:13
พูดอีกก็ถูกอีกค่ะเจ้าคุณ o13
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 10 (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: loukmoo ที่ 11-12-2015 20:47:02
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 10 (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 11-12-2015 22:12:09
โถถถถถถ เข้มแข็งนะน้องธาร เป็นแม่คนแล้ว สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 10 (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 12-12-2015 12:09:27
รอน้องแฝดค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.{เจ้าคุณ&ธารา}ตอนที่ 10 (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shiomi ที่ 17-12-2015 21:06:54
เข้ามาดันต่อค่ะ ชอบๆๆ
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 20 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 19-12-2015 00:09:25


คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 20



 






      "กลับห้องไปอาบน้ำนอนได้แล้วครับคุณพ่อ...ดึกแล้ว" พัสกรเอ่ยเย้ากึ่งบังคับณัฐภาสที่กำลังขะมักเขม้น
ต่อเตียงแต่งห้องเด็กรอลูกชายทั้งสามของตัวเองที่กำลังจะเกิดมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว เพราะตั้งแต่
ทานมื้อเย็นเสร็จเมื่อตอนหัวค่ำหลังจากที่กลับมาจากบริษัท ยังไม่ทันได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัวเลย
ณัฐภาสก็ขึ้นมาขลุกอยู่แต่ในห้องนี้ไม่ไปไหนเลย จนเขาต้องมาตามนี่แหละเพราะตอนนี้มันดึกมากแล้ว อีกทั้ง
พรุ่งนี้ณัฐภาสยังต้องไปทำงานที่บริษัทแต่เช้าอีก พัสกรก็เลยเป็นห่วงกลัวว่าสามีจะพักผ่อนไม่เพียงพอ


      หลังจากวันที่เจ้าสัวชัชวาลย์รู้ว่าพัสกรตั้งท้องนั้น เดือนต่อมาเจ้าสัวชัชวาลย์ก็ทำเรื่องเซ็นยกหุ้นบริษัท
ค้าเพชรข้ามชาติกับกิจการโรงแรมในเครือของตระกูลของตัวเองทั้งหมดให้ณัฐภาสตามที่เคยให้คำสัญญา
กันไว้ตอนที่บังคับให้ณัฐภาสแต่งงานกับพัสกร ทำให้ตอนนี้ณัฐภาสกลายเป็นเสาหลักเป็นหัวเรือใหญ่นั่งแท่น
ประธานคอยดูแลกิจการในเครือ 'จินดากรณ์' ทั้งหมดแทนต่อจากเจ้าสัวชัชวาลย์พ่อของตัวเองทันทีมาจนถึง
วันนี้ก็ได้ประมาณสี่ห้าเดือนแล้วที่ณัฐภาสเข้าไปบริหารงานแทนเจ้าสัวชัชวาลย์ ในเดือนสองเดือนแรกนั้น
ณัฐภาสแทบจะไม่มีเวลานอนเลยก็ว่าได้เพราะต้องศึกษาเอกสารย้อนหลังของบริษัทเพชรและเครือโรงแรม
ของตัวเองทั้งหมดตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมาเลยทีเดียว ไหนจะต้องคอยดูแลพัสกรที่กำลังแพ้ท้องอีกต่างหาก แต่ไม่รู้
ว่าดูแลกันยังไง พอเข้าเดือนที่สามของการตั้งครรภ์ของพัสกร ณัฐภาสกลับกลายเป็นคนที่แพ้ท้องแทนพัสกร
เสียอย่างนั้น เรียกได้ว่าเป็นช่วงลำบากของณัฐภาสเลยก็ว่าได้ในตอนนั้นแต่ก็เป็นเพียงแค่ระยะสั้นๆกินเวลา
ไปแค่เดือนเศษเท่านั้น หลังจากนั้นทุกอย่างก็เริ่มลงตัวขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังไม่ทั้งหมดโดยเฉพาะเรื่องบุคลากร
และบริษัทค้าเพชรของณัฐภาสที่ไม่ว่าจะเป็นเพียงแค่พนักงานลูกจ้างธรรมดาๆหรือจะเป็นฝ่ายบริหารเก่าแก่
ตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งบริษัทมาเลยก็ตามที่ดูเหมือนกับว่าจะมีปัญหาในการบริหารงานของณัฐภาสเสียเหลือเกิน
ทั้งๆที่วิธีการบริหารที่ณัฐภาสใช้นั้นยังคงเป็นวิธีการเดียวกันกับของเจ้าสัวชัชวาลย์อยู่เลย เพราะณัฐภาสทำ
เพียงแค่สานต่อเจตนารมณ์ของพ่อตัวเองเท่านั้นยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนแผนการบริหารแต่อย่างใด เพราะเจ้าสัว
ชัชวาลย์ได้ขอร้องเขาเอาไว้ว่าให้ผ่านพ้นการขนส่งสินค้าล็อตสุดท้ายของปีนี้ไปก่อน หลังจากนั้นถ้าณัฐภาส
ต้องการจะปรับหรือเปลี่ยนตรงส่วนไหนก็แล้วแต่เลยเพราะถือว่าทั้งหมดนี้เขายกให้เป็นของณัฐภาสไปแล้ว
ส่วนเจ้าสัวชัชวาลย์ก็วางมือจากงานและขออยู่บ้านช่วยลูกเลี้ยงหลานตามภาษาคนแก่ดีกว่า


      "พี่บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วหนูพัสว่าอย่าเดินไปไหนมาไหนคนเดียวอย่างนี้ มันอันตราย" ณัฐภาสละมือจาก
การประกอบเตียงเด็กลุกขึ้นประคองพัสกรทันที ส่วนปากนั้นก็ทำหน้าที่เอ็ดดุภรรยาสุดที่รักอย่างไม่มีบกพร่อง
ด้วยความไม่ชอบใจ เพราะหลายครั้งหลายทีแล้วที่เขาต้องคอยบอกคอยว่าพัสกรเรื่องนี้ ใครจะว่าเขาเป็นห่วง
เมียจนเวอร์หรือประคบประหงมมากเกินไปเขาก็ไม่สนหรอกนะ เพราะใครไม่เป็นเขาก็ไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง
ยามที่ได้เห็นพัสกรต้องเดินแบกท้องอันใหญ่โตที่เหมือนลูกโปร่งลูกยักษ์ที่พร้อมจะปริแตกได้ทุกเมื่อเดินไปไหน
มาไหนอย่างนี้ เพราะท้องของพัสกรนั้นมันใหญ่ ใหญ่มากจริงๆ แต่ก็สมควรอยู่หรอกที่จมีขนาดใหญ่โตอย่างนี้
เพราะในท้องของพัสกรนั้นมีลูกชายทั้งสามคนของเขานอนเล่นกันอยู่ข้างในไงจะไม่ให้เขาเป็นห่วงพัสกรได้
ยังไง เพราะแฝดนึกอยากจะเตะทักทายคุณแม่ของตัวเองก็เตะ มีอยู่ครั้งนึงนะเขาสองคนกับพัสกรกำลัง
พากันเดินลงบันได้บ้านชั้นบนในตอนเช้า แต่เจ้าแฝดสามเล่นถีบท้องคุณแม่พร้อมกันสามคนเลยไง เล่นเอา
พัสกรตกใจจุกจนเกือบจะตกบันไดแน่ะนี่ขนาดตอนอยู่ในท้องแม่อยู่นะเนี่ยยังพากันแสบได้ขนาดนี้ ไม่รู้ว่า
พอคลอดออกมาแล้วจะเป็นยังไง สงสัยคงจะมีสงครามกลางบ้านทุกวัน ฮ่าๆ แต่มันก็คือความสุขนี่นะ

       "โธ่..คุณพ่ออย่าดุคุณแม่สิครับ เนี่ยถ้าเจ้าสามแสบไม่ดิ้นไปดิ้นมาเพราะรอคุณพ่อมากล่อมนอนนะ
พัสไม่เดินมาให้เมื่อยหรอกนะจะบอกให้...ชิ!" พัสกรยู่เบ้ปากหน้าบ่นใส่สามีอย่างงอนๆ ก่อนจะเอาซุกอก
สามีอย่างที่ชอบทำในพักนี้ พัสกรคงไม่รู้ตัวหรอกว่าตั้งแต่ตั้งท้องมานี่ตัวเองขี้อ้อนขึ้นมากขนาดไหน
อ๊อนอ้อน! อ้อนจนสามีอย่างณัฐภาสไปไม่เป็นเลยในบางครั้งเมื่อโดนคุณแม่ออดอ้อนใส่ ใครที่เป็นห่วงกลัวว่า
ณัฐภาสจะไปมีกิ๊กมีน้อยเพราะเมียท้องตามสันดานเจ้าชู้เมื่อก่อนนี้นี่ไม่ต้องห่วงเลย เพราะตอนนี้ณัฐภาสเขา
หลงแม่ของลูกตัวเองซะหัวปักหัวปำ หลงมากกว่าตอนที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆอีก เพราะฉะนั้นทุกคนไม่ต้อง
เป็นห่วงนะครับ งานนี้พัสกรเอาอยู่!!

       "หืม..มีแค่สามแสบหรอครับที่คิดถึงคุณพ่อน่ะ..คุณแม่ไม่คิดถึงคุณพ่อบ้างหรือครับ" ก็นะ! หยอดเมีย
วันละจิตแจ่มใส่ นี่คือสโลแกนส่วนตัวของว่าที่คุณพ่อมือใหม่ ซึ่งพัสกรเองก็ไม่ชินสักที โดนสามีหยอดทีไร
พัสกรก็หน้าแดงอายจนตัวม้วนเสียทุกทีซิน่า!

       "ไม่..คิดถึง..ซะเมื่อไร่ล่ะ..พัสคิดถึงพี่ภาสจะแย่  จุ๊บ!!~" พัสกรบอกพร้อมกับยื่นหน้าขึ้นไปจูบปลายคาง
สามีเบาๆ ทำเอาว่าที่คุณพ่อน่าบานเป็นจานดาวเทียมเลยทีเดียว

       "อ๊ะ!!..อะ...โอ๊ยยยยยยย" ว่าที่คุณพ่อคุณแม่หวานใส่กันได้ไม่นานก็ดูเหมือนว่าจะโดนบรรดาลูกแฝด
ในท้องคุณแม่อิจฉาหรือหมั่นไส้เข้าให้แล้ว เพราะในขณะที่ณัฐภาสกำลังประคองพัสกรเดินไปที่ห้องนอนนั้น
ก็โดนลูกแฝดของตัวเองแผงฤทธิ์ใส่พากันประท้วงอยู่ในท้องแม่จ๋าว่าถึงเวลาแล้วนะที่พวกเขาควรจะได้ออก
มาวิ่งเล่นข้างนอกกับพ่อจ๋าแม่จ๋ากันเสียที

       "ใจเย็นๆนะพัส! หายใจเข้าลึกๆ ทำอย่างที่หมอวินเคยบอกนะครับ หายใจเข้าลึกๆ" ณัฐภาสพูดบอกใน
ขณะที่กัดฟันอุ้มพัสกรที่มีน้ำหนักมากกว่าปกติไปมากจนเขาเองก็แทบจะอุ้มไม่ไหว เพราะมันไม่ใช่แค่ว่าเขา
อุ้มพัสกรแค่คนเดียวอย่างทุกทีไงแต่นี่ยังบวกอีกสามชีวิตตัวอวบๆ(ตามที่หมอวินบอกตอนไปอัลตร้าซาวด์)
อีกด้วยไง งานนี้เล่นเอาณัฐภาสหืดขึ้นคอกันเลยทีเดียว
.
.
.
.
.
       "เดี๋ยวเราจะต้องผ่าคลอดเจ้าหลานแฝดออกมาเลยนะครับคุณภาส แต่ที่คุณพัสปวดท้องต้องคลอดก่อน
กำหนดนี่ก็เพราะเจ้าคนเล็กของคุณภาสเขากลับหัวก่อนใครเพื่อนเลยน่ะครับ ถ้ายังไงเดี๋ยวคุณภาสตามคุณ
พยาบาลไปเปลี่ยนใส่ชุดปลอดเชื้อก่อนนะครับแล้วไปเจอกันที่ห้องคลอด" หมอวินที่โดนณัฐภาสโทรเรียกตัว
มาทำคลอดให้พัสกร บอกอย่างอารมณ์ดีเพราะเมื่อกี้ตอนที่เขาเข้าไปตรวจอัลตร้าซาวด์ดูตำแหน่งเด็กๆให้
แน่ใจอีกทีก่อนที่จะลงมือผ่าคลอด ก็ปรากฏว่าเขาเห็นเจ้าหลานแฝดที่ณัฐภาสและพัสกรเรียกว่า 'คนเล็ก'
ชิงกลับหัวก่อนพี่ๆ เตรียมพร้อมที่จะออกมาดูโลกภายนอกแล้ว

       "หึๆ แสบจริงๆนะคนเล็กของพ่อ ออกทาเมื่อไหร่พ่อจะฟัดให้หายแค้นเลยทีเดียวเชียว" ณัฐภาสบ่นขำๆ
อยู่คนเดียวในขณะที่กำลังเปลี่ยนใส่ชุดปลอดเชื้อเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปให้กำลังใจพัสกรในห้องคลอด
พลางนึกถึงวีรกรรมแสบๆ ตั้งแต่ลูกแฝดทั้งสามของเขาเริ่มดิ้นเป็น ก็มีเจ้าคนเล็กนี่แหละที่ชอบดิ้นชอบถีบ
ท้องแม่จ๋าแรงๆขัดขวางเวลาที่เขาสองคนออดอ้อนจิ๊จ๊ะกันตามภาษาสามีภรรยา อีกทั้งเวลาที่ถึงคราวต้อง
อัลตร้าซาวด์ดูพัฒนาการลูกๆ ก็จะต้องเห็นเจ้าคนเล็กสุดแสบเนี่ยแกล้งบังพี่ๆ ทุกที เรื่องของเจ้าคนเล็กที่
อยู่ในท้องของพัสกรตลอดแปดเดือนกว่าๆ เนี่ยให้นั่งเล่าทั้งวันก็ไม่หมดหรอก เขาสองคนกับพัสกรนี่เตรียม
ตัวเหนื่อยกันล่วงหน้าไปแล้ว เพราะคิดๆกันดูแล้วว่าคงจะต้องช่วยกันจัดการเจ้าแสบน้องนี่แหละเพราะ
แฝดพี่ทั้งสองคนดูเรียบร้อยกันตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ล่ะ
.
.
.
.
.
       "เป็นยังไงบ้างครับคุณแม่" ณัฐภาสเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าพัสกรลืมตาตื่นขึ้นมา หลังจากที่หลับ
ยาวไปหลายชั่วโมงเพราะฤธทิ์ยาและความเพลียจากการคลอดสามแสบแฝดสามลูกชายของเขากับพัสกร

       "ขอบคุณครับ....แล้วลูกๆเราล่ะฮะพี่ภาส" พัสกรถามถึงลูกๆของตัวเองทันทีที่ดื่มน้ำที่ณัฐภาสเทมาให้
พัสกรดื่มแก้กระหายเสร็จแล้ว

       "กดเรียกหมอแล้ว เดี๋ยวหมอวินเขาก็คงพาลูกมาให้พร้อมกับที่มาตรวจดูอาการของพัสนั่นแหละครับ
ว่าแต่พัสเจ็บแผลมากหรือเปล่าครับ...หืม" ณัฐภาสปัดปอยผมที่ปรกหน้าพัสกร ก่อนที่จะถามถึงอาการเจ็บ
ของพัสด้วยความเป็นห่วง

       ก๊อก..ก๊อก

       "ผมเอาหลานมาส่งครับ เป็นยังไงบ้างครับคุณพัสรู้สึกคลื่นไส้หรืออยากอาเจียนบ้างหรือเปล่า" หมอวิน
เข้ามาพร้อมกับพยาบาลอีกสามคนที่ช่วยเข็นกระบะเด็กแฝดเข้ามาในห้อง ก่อนที่จะตรวจและถามอาการ
ของพัสกรอย่างละเอียด

       "ไม่ครับ มีแค่เจ็บๆตึงๆ ที่แผลนิด และก็รู้สึกวูบๆที่ท้องอีกนิดหน่อย" พัสกรตอบกลับ

       "ฮ่าๆ มันเป็นธรรมดาของคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกไปนั่นแหละครับ เพราะตลอดแปดเก้าเดือนของการตั้ง
ครรภ์พวกคุณแม่จะรู้สึกแน่นท้องอยู่ตลอดเวลาก็เพราะว่ามีเด็กค่อยๆเติบโตอยู่ข้างใน พอคลอดออกมามัน
ก็เลยรู้สึกวูบๆโหวงๆเหมือนแต่มีลมอยู่ในช่องท้องอย่างนั้นแหละครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอกครับ อีกสัก
เดือนสองเดือนพอกล้ามเนื้อมันเริ่มกระชับเข้าที่มันก็จะหายไปเอง โดยรวมแล้วทั้งคุณพัสและแฝดแสบนี่
แข็งแรงทั้งคู่เลยนะครับ ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง อีกสักสามสี่วันก็พากลับบ้านได้แล้วล่ะครับ ถ้ามีอาการผิด
ปกติยังไงก็กดเรียกพยาบาลได้ตลอดเลยนะครับ อ่อ! อย่าพึ่งฝืนเดินนะครับจะเข้าห้องน้ำก็อาศัยคุณภาส
อุ้มไปก่อน พ้นพรุ่งนี้ไปค่อยลองเดินนะครับ อ่อ! เดี๋ยวอีกสักพักแฝดคงจะร้องหิวนมแล้วล่ะครับ ยังไงๆคุณพัส
ก็ให้นมแฝดตามวิธีที่ได้ไปเรียนมาเลยนะครับ อีกสองชั่วโมงพยาบาลจะมารับตัวแฝดกลับไปห้องเด็กอ่อนนะ
ครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็...เจอกันใหม่พรุ่งนี้นะครับ ตอนเช้าผมจะเข้ามาตรวจอีกที" พูดจบก็พากันออกไปหมด
เลยทั้งหมอทั้งพยาบาล ทำเอาคุณพ่อคุณแม่มือใหม่มองกันไปมองกันมาอย่างงงกันความไปเร็วมาเร็ว เคลม
เร็วของหมอและพยาบาลโรงพยาบาลแห่งนี้

       "เราทำยังไงกับลูกกันดีครับ" ณัฐภาสถามในขณะที่ปรับระดับเตียงให้พัสกรอยู่ในท่านั่งเอนหลัง

       "พี่ภาสจำลูกได้หรือเปล่าครับ ว่าใครเป็นใคร" พัสกรถามพร้อมชะเง้อมองไปที่กระบะเด็กทั้งสามที่อยู่ไม่
ไกลจากเตียงของตัวเองมากนัก

       "จำได้สิครับ พี่จำหน้าลูกๆได้ตั้งแต่ตอนออกมาจากท้องของพัสเลยล่ะ นี่ไงคนนี้พี่โตหน้าเหมือนพี่"
ณัฐภาสบอกพร้อมกับอุ้มลูกที่อยู่ในห่อผ้าส่งให้กับพัสกรโดยที่ไม่ต้องมองป้ายชื่อที่ติดอยู่ที่แขนเด็กเลย

       "อ๊ะ! พี่ภาสเก่งจังเลยครับ ถูกด้วยอ่ะ" พัสกรบอกอย่างตื่นเต้นเพราะยอมรับตรงๆเลยว่าตัวเขาเองยัง
ไม่รู้เลยว่าลูกคนไหนเป็นคนไหน เพราะตอนคลอดก็มึนๆ เบลอๆ กับฤทธิ์ยา แต่คนอย่างณัฐภาสที่ไม่น่าจะ
จำได้ กลับกลายเป็นคนที่จำหน้าลูกตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลย มันเป็นอะไรที่คนเป็นแม่และภรรยาอย่างเขา
ประทับใจมากเลย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็เถอะ และที่สำคัญที่เขามั่นใจว่าณัฐภาสจำลูกได้ก็เพราะ
ว่า ตอนที่เขาจะดูชื่อลูกก็ต้องเปิดห่อผ้าออกก่อนยังไงล่ะ งานนี้คุณพ่อได้ใจคุณแม่ไปเต็มๆ

       "แน่นอนอยู่แล้วครับ ส่วนนี่คนกลางหน้าเหมือนคุณแม่เป๊ะเลย" ณัฐภาสบอกพร้อมกับส่งลูกอีกคนไปให้
พัสกรอุ้มอีกคนนึง กลายเป็นว่าตอนนี้พัสกรใช้สองมือสองแขนอุ้มลูกสองคนเลย

       "ส่วนนี่เจ้าแสบเล็ก....หน้าเหมือนใครเนี่ย...เหมือนคุณปู่หรือเหมือนใครเนี่ย? หน้าหนูเหมือนใครครับ?"
 ณัฐภาสถามหยอกล้อลูกชายคนเล็กของตัวเองอย่างติดตลก เพราะพี่ชายของแฝดเล็กนั้นมีเค้าหน้าเหมือน
พ่อและแม่คนละคนอย่างชัดเจนเลย พี่โตหน้าเหมือนพ่อ คนกลางหน้าหวานเหมือนแม่ แล้วเจ้าแสบเล็กเนี่ย ล่ะไปเหมือนใครกัน

       "แอ๊!!!!!!!!"  พอจบคำพูดของณัฐภาสได้เท่านั้นแหละ เจ้าแฝดเล็กคนสุดท้องที่อยู่ในอ้อมแขนของคุณพ่อ
ก็ร้องจ้าขึ้นมาเลยทีเดียว เหมือนกับว่าเจ้าตัวกำลังหิวนมหรือไม่พอใจอะไรสักอย่าง เล่นเอาคุณพ่อมือใหม่
ตกใจหน้าซีดตาโตเลยที่โดนลูกร้องใส่อย่างนี้

       "เอาลูกมาให้พัสดีกว่าฮะพี่ภาส แกคงจะหิวนมแล้ว" พัสกรพูดบอก เรียกสติคุณพ่อมือใหม่กลับมาได้

       "พี่ภาสช่วยเอาคนกลางมาเข้าเต้ากินนมอีกข้างได้ไหมฮะ ก่อนที่แกจะร้องไห้จ้าพาลเอาพี่โตร้องตกใจ
ตื่นขึ้นมาอีกคนแล้วจะยุ่ง" พัสกรพยักเพยิดหน้าไปทางลูกคนกลางของตัวเองที่ทำท่าเหมือนว่ากำลังจะเบะ
ปากร้องให้ขึ้นมาอีกคน ในขณะที่ตัวพัสกรเองกำลังเอาลูกคนเล็กที่ร้องไห้เมื่อสักครู่เข้าเต้ากินนมอยู่ ซึ่งถือว่า
ทำได้ดีมากๆเลยสำหรับการให้นมลูกครั้งแรกสำหรับคุณแม่มือใหม่อย่างพัสกร และเมื่อได้ยินภรรยาสุดที่รัก
บอกอย่างนั้นณัฐภาสก็รีบช้อนตัวลูกคนกลางของตัวเองที่นอนอยู่ในห่อผ้าข้างๆตัวพัสกรจับเข้าเต้านมข้าง
ที่ว่างอยู่ของพัสกรทันทีเลย

       "คริๆ อิจฉาลูกหรอครับคุณพ่อ เอาพยาบาลมารับลูกเมื่อไหร่จะให้ลองชิมแล้วกันนะครับ" พัสกรพูดบอก
เมื่อเห็นณัฐภาสแอบกลืนน้ำลายอยู่หลายครั้งหลายหนในขณะที่ช่วยเขาอุ้มลูกคนกลางให้กินนมอีกข้างนึง
ถามว่าทำไมพัสกรถึงใจยื่นชิ้นเนื้อใส่ปากเสืออย่างนั้นทั้งๆที่มันเป็นเรื่องน่าอาย ก็ต้องบอกเลยว่าเพราะตั้งแต่
ตั้งท้องลูกมานี่ณัฐภาสขอร้องอ้อนวอนกึ่งบังคับให้เขาช่วยภายนอกมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่แล้ว และจะ
บอกให้รู้ไว้เลยนะว่าที่น้ำนมเขาไหลได้ไหลดีมีรอพร้อมให้ลูกดูดกินอย่างนี้ก็เพราะว่าโดนคนเป็นพ่อกระตุ้น
มาก่อนหน้านี้แล้วไงครับ ตอนนั้นนี่เขาจะว่าจะขัดก็ไม่ได้นะเพราะเดี๋ยวจะพาลงอนใส่ ทะเลาะกันเสียเปล่าๆ
 แต่ก็นะ! ไอ้เราก็ต้องเข้าใจเขาหน่อยมันก็น่าสงสารอยู่เหมือนกันที่เห็นสามีทำตาละห้อยขนาดนั้น และยิ่ง
มีเรื่องที่คุณแม่ทั้งหลายโดนสามีนอกใจไปมีกิ๊กมีชู้ตอนที่ตั้งท้องให้เขาได้ยินได้ฟังบ่อยๆ ด้วยแล้ว งานนี้พัสกร
เลยขอสู้ตายทำหน้าที่แม่พร้อมๆไปกับหน้าที่เมียไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลยล่ะ เพราะฉะนั้นก็หมดปัญหา เหอๆ

       "ขอบคุณครับที่รัก จุ๊บ!" ณัฐภาสดูดี้ด้าอารมณ์ดีขึ้นมาเชียวเมื่อได้ยินภรรยาพูดอย่างนั้น จึงอดไม่ได้ที่
จะกดจูบขอบคุณที่ริมฝีปากของพัสกรเบาๆ

       "หึๆ" พัสกรหลุดขำออกมาเบาๆเมื่อเห็นท่าท่างดีใจแบบเด็กๆของสามี ก่อนที่จะเปลี่ยนเอาลูกคนเล็ก
ที่กินนมเสร็จแล้ววางใส่กระบะเด็กที่ณัฐภาสเข็นเข้ามาชิดติดกับเตียงของพัสกร ก่อนที่จะเอาลูกคนโตที่
ทำท่าเหมือนกับว่ากำลังจะร้องไห้มาเข้าเต้ากินนมอีกคนในขณะที่ลูกคนกลางที่ณัฐภาสช่วยอุ้มอยู่นั้นยัง
ไม่มีทีท่าว่าจะอิ่มหรืออ้าปากปล่อยยอดอกของเขาเลย

       "ตลกอะไรครับ ไม่ต้องมาขำเลย ที่พี่บอกว่าขอบคุณน่ะ พี่ไม่ได้ขอบคุณพัสแค่เรื่องนั้นนะ แต่พี่ขอบคุณ
ที่พัสอดทนอุ้มท้องเจ้าสามแสบนี่ให้พี่ด้วยต่างหากล่ะ ขอบคุณนะครับที่รัก ขอบคุณจริงๆ ที่มอบของขวัญ
แบบคอมโบเซ็ตที่แสนพิเศษนี้ให้พี่ ขอบคุณที่พัสเข้ามาเติมเต็มให้พี่ได้มีความสุขในทุกๆวัน ขอบคุณที่สู้อด
ทนกับนิสัยแย่ๆของพี่และที่สำคัญที่สุดคือขอบคุณที่เป็นภรรยาและคุณแม่ที่แสนดีสุดน่ารักของพี่และลูกๆ"
ณัฐภาสบอกพร้อมกับจ้องตาพัสกรเพืื่อสื่อให้พัสกรได้รับรู้ว่าเขารู้สึึกอย่างที่พูดออกมาจริงๆ ทุกๆคำพูดที่เขา
พูดออกมานั้นมันมาจากก้นบึ้งของหัวใจใช่ว่าเป็นแค่เพียงลมปาก ซึ่งคำพูดซึ้งๆของณัฐภาสก็สามารถเรียก
น้ำตาแห่งความตื้นตันใจของคุณแม่มือใหม่อย่างพัสกรได้ดี ก่อนที่เขาทั้งสองคนจะมอบจูบที่แสนอ่อนโยน
และเต็มไปด้วยความรู้สึกให้แต่กันท่ามกลางเสียงอ้อแอ้ของลูกน้อยฝาแฝดทั้งสามคนของเขาทั้งคู่ที่ช่วยเป็น
พยานรักในครั้งนี้ของเขาทั้งสองคน
.
.
.
.
แถมๆ (อีกสักนิด)

       "ผมว่าเรากลับกันก่อนดีกว่านะพ่อ พรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมกันใหม่ก็ยังไม่สาย" เจ้าคุณที่มาพร้อมกับ
เจ้าสัวชัชวาลย์พ่อของณัฐภาส เอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นอะไรบางอย่างจากการที่เปิดประตูห้องพักของพัสกร
ไปอย่างเงียบๆ ไม่น่าเล๊ย! ไม่น่าเลยไอ้คุณเอ๋ย ไม่น่าจะไปหวังดีมีมารยาทกลัวว่าการเคาะประตูห้องจะเป็น
การรบกวนคนที่ต้องการพักฟื้น พักผ่อนจากการคลอดลูกอย่างพัสกร เพราะมีตัวอย่างมาจากตอนที่ธารา
คลอดเจ้านายลูกชายของเขาไง แต่ไหงมันกลายเป็นอย่างนี้ไปได้ว๊ะ!

       "อะไรของแกห๊ะเจ้าคุณ ไหนๆก็มาจนถึงขนาดนี้แล้ว ก็เข้าไปเลยดิ จะกลับทำไม พ่ออยากเห็นหน้าหลาน
จนเต็มแก่แล้วเนี่ย!!" เจ้าสัวชัชวาลย์ถามเจ้าคุณอย่างไม่เข้าใจเพราะหลังจากที่เขาได้รับโทรศัพท์จากณัฐภาส
ลูกชายของเขาว่าพัสกรลูกสะใภ้ของเขานั้นเจ็บท้องจะคลอดหลานแฝดของเขาแล้วนั้น เขาก็รีบโทรหาเจ้าคุณ
ที่เป็นเสมือนกับลูกชายแท้ๆของเขาอีกคนด้วยความตื่นเต้น ในจังหวะเดียวกันกับที่เจ้าคุณขับรถมารับเขา
มาโรงพยาบาลเหมือนกัน แต่พอมาถึงปุ๊บก็จะให้กลับปั๊บอย่างนี้มันคืออะไรเนี่ย เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ

       "พ่อดูเอาเองก็แล้วกัน" เจ้าคุณบอกพร้อมกับค่อยๆ เปิดประตูห้องพักของพัสกรให้เจ้าสัวชัชวาลย์ได้เห็น
ในสิ่งที่เขาเห็นอย่างแผ่วเบา

       "กลับๆ พรุ่งนี้เราค่อยมากันใหม่ก็ได้เจ้าคุณ....ไอ้หยา!! นี่ไอ้ภาสมันเตรียมปั้มน้องให้เจ้าแฝดเลยรึไงว่ะ"
เมื่อเห็นสิ่งที่เจ้าคุณเห็นแล้ว เจ้าสัวชัชวาลย์กลับเป็นฝ่ายที่รีบชวนเจ้าคุณกลับบ้านเองเลย ไม่วายที่จะบ่น
ทิ้งท้ายกับสิ่งที่เห็นกับตัวเองเบาๆ อีกด้วย



...
มาแล้วจร้า....ขอโทษทีที่เมื่อวานมี่ผิดคำพูดไปเพราะมี่มีภาระกิจต้องไปต่างจังหวัดด่วน
พึ่งจะกลับมาถึงบ้านนี่เองจร้า กลับมาถึงก็รีบลงให้ได้อ่านกันก่อนเลยน้ำเนิ้มยังไม่ได้อาบเลย
เล่นเอาเน่ากันไปข้างเลยทีเดียวเชียว ยังไงก็อย่าโกธรกันนะคะ เจอกันตอนหน้าจร้า...
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 20 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-12-2015 09:44:43
มีการให้นมพี่ภาสด้วยแบบนี้อย่างกับคุณแม่ลูกสี่เลยนะคะหนูพัส :laugh:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 20 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 19-12-2015 09:58:22
สามแสบเพศอะไรกันบ้าง ผู้ชายหมดเลยใช่ไหมเนี่ย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 20 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-12-2015 17:46:00
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 20 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-12-2015 19:48:52
แฝดสามคลอดแล้ว~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 20 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 19-12-2015 23:20:06
คลอดแล้ว คราวนี้แฝดสามคนน่าจะช่วยกันป่วนน่าดู ยังจำฝันที่คนเล็กเอาหน้ากากมาแกล้งพ่อได้เลย อิอิ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 20 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-12-2015 00:12:27
ทำไมไม่ล็อกห้องก่อน
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 20 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shiomi ที่ 27-12-2015 01:11:27
เข้ามาดันอีกแรงจ้าาาาาา  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 20 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 27-12-2015 01:26:25
อยากอ่านต่อแล้ว อิอิ :-[ :katai2-1:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 21 (31/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 31-12-2015 00:34:11

คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 21
 










#
                     (พี่โต:ภาค:6เดือน)     (คนกลาง:ภีม:6เดือน)  (น้องเล็ก:ภาม:6เดือน)






       "อื้อ....พี่ภาส....อ๊ะ...อ๊ะ....พี่....อ๊าาา....."


       "อีกนิดเดียว...อ๊ะ...ครับที่รัก...อ่า...อืมม..."


       เสียงร้องครวญครางดังคลอไปกับเสียงเนื้อกระทบกันของสองสามีภรรยาที่เหลือเพียงแต่ร่างกายเปลือย
เปล่าดังก้องอยู่ในห้องนอนกว้างนี้มาอยู่พักใหญ่ๆ แล้ว ถ่ายทอดอารมณ์และความต้องการให้แก่กันอย่าง
ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด ก่อนที่ทั้งสองคนจะพากันถึงฝั่งฝันกันอีกรอบ(ที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้)ในที่สุด


       "อื้ออ..พอแล้วนะพี่ภาส พัสไม่ไหวแล้ว นี่ถ้าไม่คุมนี่มีหวังเราได้มีลูกเพิ่มอีกเร็วๆนี้แน่ๆเลย ในเมื่อพี่ภาส
หื่นซะขนาดนี้" พัสกรบอกออกมาด้วยเสียงเหนื่อยหอบ เมื่อรู้สึกว่าไอ้สิ่งที่ณัฐภาสยังคงคาอยู่ในช่องทางรัก
ของตัวเองเริ่มที่จะตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง


       "ครับๆ พอแล้วก็ได้ครับ จุ๊บ!" ณัฐภาสบอกก่อนที่จะถอนตัวตนของตัวเองออกมาและทิ้งตัวนอนข้างๆ กัน
กับพัสกร โดยไม่ลืมที่จะจูบเปลือกตาของพัสกรที่กำลังนอนหลับตาพริ้มเพราะความเหนื่อยหอบ ถึงแม้ว่าจะ
รู้สึกเสียดายอยู่ไม่น้อยก็เถอะ


       "ไปคึกมาจากไหนเนี่ยพี่ภาส พัสระบมไปทั้งตัวเลย" พัสกรถามในขณะที่พลิกตัวกอดสามี หลังจากที่หาย
เหนื่อยและควบคุมการหายใจของตัวเองได้เป็นปกติแล้ว


       "ก็พัสนั่นแหละที่ยั่วพี่เอง" ตอบพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก


       "อะไรๆอยู่มาโทษกันเฉยเลย พัสไปยั่วพี่ภาสตอนไหนเนี่ย" พัสกรยู่หน้าถามอย่างไม่เข้าใจ ที่อยู่ๆ ก็โดน
คุณสามีโบ้ยความผิดมาให้ตัวเองเสียอย่างนั้น เพราะก่อนที่เรื่องทั้งหมดมันจะมาจบลงด้วยการเหนื่อยหอบ
บนเตียงกันอย่างนี้ เท่าที่จำได้ตั้งแต่ณัฐภาสกลับมาจากไปทำงานเมื่อตอนหัวค่ำนี่พัสกรยังไม่ทันได้เอ่ยทัก
ทายสามีอย่างทุกครั้งที่ณัฐภาสกลับเข้าบ้านมาเลย เพราะมาถึงคุณสามีที่รักของเขานั้นก็จับเขาร่วมกิจกรรม
เข้าจังหวะด้วยกันอย่างไม่ทันได้ถามความสมัครใจเลย นี่ดีนะที่ก่อนหน้านี้เขากล่อมลูกๆ แฝดทั้งสามคนของ
เขาเข้านอนไปเรียบร้อยแล้ว และก็โชคดีที่ลูกแฝดของเขานั้นยังเป็นเด็กที่นอนหลับสนิทไม่มีการตื่นมางองแง
ในเวลากลางดึกด้วย พากันหลับยาวตื่นเช้าทีเดียวเลย


       "ก็ตอนที่พี่เปิดประตูห้องมาแล้วเจอพัสใส่แต่ชุดคลุมอาบน้ำนั่นแหละยั่วพี่ชัดๆ"


       "ตลกเถอะครับคุณสามี พัสเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จและก็กำลังจะออกมาหาเสื้อผ้าใส่พอดีต่างหากล่ะ ไม่ได้
มีความคิดที่จะพิศวาสคุณสามีเลยสักนิดเพราะลำพังแค่เลี้ยงลูกๆสามคนทั้งวันนี่พัสก็เหนื่อยจนแทบจะสลบ
อยู่แล้ว ไปเอาความคิดว่าพัสยั่วมาจากไหนห้ะเนี่ย" พัสกรบอกกลับด้วยสีหน้าเอือมระอาในความหื่นของสามี


       "สำหรับพี่แค่....พัสกระพริบตาก็ถือว่ายั่วพี่ล๊ะ" ณัฐภาสตอบแบบตีมึน เลยโดนเมียตีเข้าให้อีกหนึ่งที

       "จะยังไงก็แล้วแต่พี่ภาสเถอะ แต่วันนี้พัสเหนื่อยและเพลียมาก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้วันหยุดก็เชิญเลี้ยงลูก
ไปคนเดียวเลยนะครับคุณสามี เพราะพัสมีนัดจะไปสปาและไปช็อปปิ้งกับพี่ธาร ฝันดีครับสามี..จุ๊บ!" พัสกร
บอกพร้อมกับรีบหลับตาซุกหน้าหนีกับอกสามีโดยที่ไม่ลืมบอกฝันพร้อมกับจูบปลายคางณัฐภาสเบาๆ อีกที
ในขณะที่ณัฐภาสยังคงมึนอยู่กับคำพูดที่เป็นคำสั่งกลายๆ ของภรรยา พลางนึกถึงสภาพการเลี้ยงลูกแฝดทั้ง
สามคนของตัวเองพรุ่งนี้ ก็คงจะเป็นอะไรที่สยดสยองหน้าดูเพราะสำหรับเขาแล้วการเลี้ยงลูกแฝดสามคน
ด้วยตัวคนเดียวมันเหมือนกับการออกไปรบในสงครามเลยก็ว่าได้....โอยย..คิดแล้วเพลีย
.
.
.
.
.
       เช้านี้ณัฐภาสได้แต่เกาะติดมองตามภรรยาเดินไปโน่นมานี่อยู่ภายในบ้านด้วยความอาลัยอาวรณ์ ยิ่งเห็น
พัสกรกำลังแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียบพร้อมที่จะไปข้างนอกแล้วน้ำตาลูกผู้ชายอกสามศอกยิ่งอยากจะไหล
เพราะแค่เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาตอนที่ลูกๆแฝดทั้งสามคนของเขานั้นตื่นนอนขึ้นมาแล้วร้องไห้งองแงเพราะ
ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมและกินนมนั้นณัฐภาสก็แทบจะลมจับเพราะไม่ใช่แค่ทีละคนไง แต่นี่เล่นร้องพร้อมกันทั้ง
สามคนเลยเล่นเอามึนไปเลยทีเดียว แต่ก็ดีอยู่ที่ตอนนั้นมีพัสกรคอยช่วย หลังจากนี้สิเรื่องใหญ่เพราะพัสกร
จะออกไปกับธาราแล้ว ส่วนลูกแฝดทั้งสามคนของเขาก็พาหลับลงไปอีกรอบหลังจากที่กินนมอิ่มแล้ว

       "พอลูกๆ ตื่นขึ้นมาแล้วพี่ภาสต้องอาบน้ำให้ลูกนะห้ามลืมเด็ดขาด ส่วนตอนเย็นเดี๋ยวพัสจะกลับมาอาบ
ให้ลูกเองเพราะต้องนวดตัวลูกด้วย พี่ภาสทำไม่ได้หรอก" พัสกรบอกในขณะที่เช็คเก็บของส่วนตัวลงในกระเป๋า
ถือของตัวเอง

       "เอาไว้ให้พัสอาบทีเดียวตอนเย็นไม่ได้หรอครับ พี่ไม่มั่นใจเลยอ่ะ" ณัฐภาสถามก่อนที่จะแย่งกระเป๋าถือ
ของพัสกรมาถือให้และพากันลงจากห้องนอนมายังห้องนั่งเล่นที่เปลี่ยนไปเป็นห้องของเด็กแฝดในเวลากลาง
วันไปแล้ว เพราะอยู่ข้างล่างยังมีแม่บ้านคอยช่วยดูแลให้ได้บ้างในเรื่องเล็กน้อยเวลาพัสกไปเข้าห้องน้ำหรือ
ต้องไปหยิบของบนห้องเท่านั้นที่จะฝากให้พวกแม่บ้านนั่งเฝ้านั่งดูลูกให้เฉย ไม่มีนอกเหนือไปจากนี้ เพราะ
พัสกรไม่ยอมที่จะให้คนอื่นเลี้ยงลูกตัวเองเด็ดขาดไม่ว่าจะอาบน้ำ ป้อนนมหรือเปลี่ยนผ้าอ้อม เขาจะทำทุก
อย่างด้วยตัวของตัวเองเพียงคนเดียวเพราะไม่ไว้ใจใคร เพราะก่อนหน้านี้ณัฐภาสเพิ่งจะมาบอกเขาว่าหลาน
ของแม่บ้านที่เป็นแม่นมของณัฐภาสคือเด็กในสังกัดของภูผาที่ก่อนหน้านี้เคยส่งข่าวของคนในบ้านให้ภูผา
ได้รับรู้ แต่ก็ยังไม่ได้เรียกมาพูดคุยอะไรเพราะยังจับไม่ได้กับตาเลยได้แต่ปล่อยให้เรื่องมันเงียบและช่วยกัน
สอดส่องพฤติกรรมกันไป และอีกอย่างเลยบ้านนี้มีแม่บ้านแค่สองคนซึ่งแต่ละคนก็มีหน้าที่ประจำของตัวเอง
อยู่แล้วพัสกรจึงไม่อยากรบกวนสักเท่าไหร่เพราะแค่งานบ้านของพวกเขาเองมันก็เหนื่อยมากพอแล้ว และ
พัสกรก็สามารถเลี้ยงลูกทั้งสามคนของตัวเองได้อยู่แล้วถึงแม้ว่ามันอาจจะหนักและเหนื่อยไปหน่อยกับการ
ที่จะต้องเลี้ยงเด็กทั้งสามคนพร้อมกัน แต่มันก็คุ้มท่าได้แลกกับการที่เขาได้เป็นคนแรกที่จะได้เห็นพัฒนาการ
ในทุกๆวันของลูกๆอีกทั้งยังไม่ทำให้ลูกต้องขาดความอบอุ่นจากพ่อแม่เหมือนกับณัฐภาสสามีของเขาด้วย
เพราะณัฐภาสเติบโตมาโดยการที่มีพี่เลี้ยงคอยดูแล ซึ่งก็เลี้ยงแต่ตัวใช่ใช้ใจดู เมื่อก่อนณัฐภาสถึงได้เรียกร้อง
ความสนใจด้วยการเป็นเด็กเกเรอย่างนั้น

       "ไม่ได้ครับ ถ้าลูกๆตื่นขึ้นมาแล้วพี่ภาสต้องอาบน้ำให้พวกแกด้วย เพราะเดี๋ยวลูกจะไม่สบายตัวแล้วจะ
พากันงองแง พี่ภาสนั่นแหละจะเหนื่ยหนัก" พัสกรด้วยเสียงเบาในขณะที่ทรุดตัวนั่งตบก้นลูกน้อยแฝดคนกลาง
ที่ทำท่าว่าจะตื่นขึ้นมาทั้งๆ ที่พึ่งจะนอนกันไปได้แป๊ปเดียว

       "ครับๆ แต่พัสต้องรีบกลับนะครับ เพราะพี่ไม่มั่นใจเลยว่าจะเลี้ยงลูกๆได้ตลอดรอดฝั่งทั้งวัน" ณัฐภาสบอก
อย่างยอมจำนนเมื่อเห็นสีหน้านิ่งๆอย่างเอาเรื่องของภรรยา

       "ดีมากครับสามีและอย่าลืมที่พัสบอกนะครับว่าพี่ภาสจะต้องเลี้ยงลูกเองห้ามให้ใครช่วยถ้าไม่จำเป็น
เพราะพวกคุณแม่บ้านเขาก็มีงานของเขามากพออยู่แล้ว อีกอย่างลูกจะได้จำสัมผัสของพ่อได้ด้วย โอ๊ะ!
สวัสดีครับพี่ธาร พี่คุณ นั่งพักให้หายเหนื่อยกันก่อนครับแล้วค่อยไปกัน" พัสกรย้ำเตือนในคำสั่งของตัวเองกับ
สามี ก่อนที่จะหันไปทักทายเจ้าคุณและธาราที่อุ้มเจ้าคุณเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นนี่พอดี

       "อ้าว..แล้วนั่นพวกแกขนอะไรกันมาน่ะ" ณัฐภาสเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเจ้าคุณหอบหิ้วตะกร้าใส่ของมาทั้ง
สองมือ

       "ก็ของใช้ไอ้ลูกหมานี่ไง วันนี้กูต้องมานั่งเลี้ยงลูกอยู่กับมึงนี่ไง" เจ้าคุณวางตะกร้าของใช้ของลูกชายไว้
บนโต๊ะรับแขกที่กลายสภาพมาเป็นที่วางของเด็กน้อยไปแล้ว ก่อนที่จะรับเจ้านายมาจากธาราและตอบคำถาม
ของเพื่อนรักกลับไป

       "จริงดิ" ณัฐภาสถามอย่างตื่นเต้นดีใจ ประหนึ่งว่าถูกสลากรางวัลที่หนึ่งเมื่อรู้ว่าวันนี้ตนจะมีเจ้าคุณมาอยู่
ช่วยกันรับมือกับบรรดาเด็กๆทั้งสี่คน(รวมน้องเจ้านายด้วย)

       "เออดิ!...จะทำไงได้ว่ะคำสั่งเมียมึงจะกล้าขัดหรอ" เจ้าคุณตอบเสียงดังฟังชัดให้ได้ยินกันทุกคนในคำแรก
แต่ประโยคหลังมาพูดให้ได้ยินกันแค่สองคนกับณัฐภาสเพื่อนรักในตอนที่ช่วยกันปูเบาะเด็กและอุ้มเจ้านาย
ที่กำลังหลับมานอนข้างกันกับแฝดสาม โดยที่มีมนุษย์เมียของทั้งสองคนยืนมองประเมิณท่าทางของสามีอยู่

       "พี่ว่าเราไปกันเถอะพัส เดี๋ยวจะไปไม่ทันเวลานัด" เมื่อเห็นว่าเจ้าคุณจับลูกชายนอนได้แล้วธาราก็เอ่ยชวน
พัสกรทันทีเพราะจะถึงเวลานัดนวดตัวของพวกเขาแล้ว

       "ก็ดีครับ พัสอยากนวดจะแย่แล้วอุ้มลูกทั้งวันจนปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว แต่ก่อนไป....พี่ภาสครับพัสขอ
บัตรเครดิตพี่ภาสหน่อยดิ เมื่อเช้าพัสลืมขออ่ะ ของพัสวงเงินมันน้อยกว่าของพี่ภาสอ่ะ เดี๋ยวช็อปไม่สะใจ"
พัสกรบอกกับธาราด้วยหน้าที่ฟินไปล่วงหน้าแล้วเมื่อนึกถึงตอนที่ตัวเองจะได้ไปนวดตัวคลายกล้ามเนื้อหล้ง
จากที่ต้องสลับอุ้มลูกๆทั้งสามคนกล่อมอยู่แทบจะทั้งวันทั้งคืน ก่อนที่จะได้ออกไปพัสกรก็ก้าวเดินเข้าไปหา
ณัฐภาสและแบมือของบัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงินของสามีในการไปช็อปปิ้งกับธาราในครั้งนี้ด้วย เพราะเมืื่อ
เช้าตอนที่จัดกระเป๋าถือก็ลืมขอ เพราะวันนี้พัสกรไม่ได้จะช็อปให้แค่ตัวเอง แต่จะเพื่อแผ่การช็อปไปให้ลูกทั้ง
สามคนรวมทั้งของใช้ส่วนตัวของตัวเองและสามีที่ใช้หมดไปบ้างแล้วด้วย หลังจากที่ไม่ได้ไปเลือกซื้อของใช้
ด้วยตัวเองมานานตั้งแต่ที่เริ่มท้องลูกแฝดทั้งสามคนเพราะณัฐภาสกลัวว่าจะเป็นอันตราย เพราะฉะนั้นงานนี้
พัสกรคิดว่าจะต้องหมดเยอะอย่างแน่นอนจึงของบัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงินของสามีไปใช้แทนของตัวเอง
ก็แล้วกัน

       "ดูแลตัวเองด้วยนะครับ และก็ห้ามกลับบ้านช้าด้วย" ณัฐภาสพูดย้ำพร้อมกับยื่นบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงิน
ของตัวเองให้กับพัสกรอย่างเต็มใจเพราะน้อยครั้งที่พัสกรจะร้องเรียกขอใช้บัตรเครดิตของเขาอย่างนี้ และวันนี้
ก็คงจะขนซื้อของใช้จำเป็นให้ทุกคนในบ้านอย่างทุกทีอย่างแน่นอนถึงได้มาขอบัตรเครดิตของเขาอย่างนี้

       "ครับ พี่ภาสก็อย่ามัวแต่ทะเลาะกับลูกๆนะ ฝากด้วยนะครับพี่คุณ" พัสกรและธาราบอกลากับสามีของ
ตัวเองกันอีกนิดหน่อยก่อนที่จะพากันขับรถออกจากบ้านไป

       "เฮ้อ!! ทีนี้ก็เหลือแค่กูกะมึง วันนี้จะสงบสุขเหมือนอยู่บนสวรรค์หรือจะเป็นวันนรกแตกของกูกับมึงก็อยู่ที่
เทวดาตัวน้อยๆ ทั้งสี่คนนี้เขาจะกรุณาแล้วหล่ะมึง" ณัฐภาสพูดอย่างปลงตกหลังจากที่บรรดาแม่ๆ ของเด็กๆ
ทั้งสี่คนพากันขับรถออกไปจากบ้านกันอย่างสบายอารมณ์แล้ว ที่เขาต้องพูดอย่างนี้ก็เพราะว่าพัสกรเคยปล่อย
ให้เขาเลี้ยงลูกแฝดทั้งสามคนมาด้วยตัวคนเดียวแล้วครั้งนึงแต่เป็นเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆประมาณหนึ่ง
ชั่วโมง และหนึ่งชั่วโมงที่เขาได้ประสบพบเจอนั้นก็แทบกระอักเลือดเลยทีเดียวเมื่อลูกแฝดทั้งสามคนของเขา
นั้นพากันร้องงองแง ไอ้นั่นก็ไม่เอา ไม่โน่นก็ไม่กิน ผ้าอ้อมก็เปลี่ยนแล้ว น้ำก็เพิ่งจะอาบ แต่ผลสุดท้ายก็คือ
สามแสบแฝดสามนี้แค่ต้องการที่จะอยู่กับแม่จ๋าของตัวเองนั่นเอง เหอๆ ทั้งๆที่เขาก็เป็นพ่อแท้ๆ ที่ช่วยแม่จ๋า
ร่วมกันสร้างเจ้าตัวแสบพวกนี้ขึ้นมากันแท้ๆ ก็ยังไม่อยากอยู่กับพ่อเลย เห้อออ...คุณลูกๆที่เคารพ

       "หึๆ ของมึงน่ะยังอ้อแอ้ๆ ดุ๊กดิ๊กๆ ร้องไห้อยู่กับที่แต่ไอ้ลูกหมาของกูนี่สิ พอคลานได้แม่งก็พุ่งไปตรงโน่นที
ตรงนี้ที แถมมันยังคลานเร็วยิ่งกว่าสามสี่จีบ้านเราอีกมึง" เจ้าคุณบอกพร้อมกับตบก้นลูกชายตัวเองที่กำลัง
นอนหลับฝันหวานอยู่กลับน้องๆแฝดสามอีกทีนึงเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยว

       "ว่าแต่มึงกินข้าวมายัง ไปกินข้าวกับกูที่ครัวเหอะหนูพัสทำทิ้งไว้ให้เมื่อเช้ายังไม่ได้กินเลย ปล่อยไอ้สี่แสบ
นี่พากันไปจูงมือวิ่งเล่นกันในฝันอยู่นี่แหละ เดี๋ยวบอกให้ป้าแม่บ้านมานั่งเฝ้าให้ กูหิวแล้วว่ะ" ณัฐภาสเอ่ยชวน
เพราะตั้งแต่เช้ามาเขาก็มัวแต่ช่วยพัสกรดูแลลูกก่อน ไม่ใช่แค่มีหน้าที่อาบน้ำแต่งตัวและกินข้าวไปทำงาน
อย่างทุกๆ วัน เลยทำให้ต้องหิ้วท้องรอหิวมาจนสายถึงป่านนี้

       "ว่าแต่ไอ้สนมันไปไหนของมันวะ ช่วงนี้กูไม่เห็นหน้ามันเลย" ในขณะที่ทานข้าวกันอยู่เจ้าคุณก็ยามถึงสน
คนดูแลบ้านพ่วงตำแหน่งลูกน้องคนสนิทของณัฐภาสที่ทั้งณัฐภาสและเขารักและเอ็นดูเหมือนน้องชายแท้ๆ
อีกคนขึ้นมา เพราะช่วยหลังๆ มานี้เขาไม่เคยได้เจอหน้าคาดตากันเลยทั้งๆที่ปกติแล้วเวลาที่เขามาบ้าน
ณัฐภาสทีไรก็ต้องเจอสนทุกครั้งเพราะสนจะมาเปิดประตูบ้านให้ และมานั่งคุยกับพวกเขาเป็นประจำ

       "กูก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน กำลังให้คนตามดูอยู่เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องที่ไอ้ภูมันลักพาตัวพัสไปคราวนั้นมันก็
ทำตัวแปลกๆไป เดี๋ยวก็ผลุบเดี๋ยวก็โผล่" ณัฐภาสนิ่งไปอยู่พักนึงหลังจากที่ได้ยินคำถามของเจ้าคุณก่อนที่จะ
ตอบออกมา เพราะคำถามที่เจ้าคุณถามมานั้น มันเป็นปัญหาที่กวนใจเขามานานนับปี เพราะตั้งแต่ที่เกิด
เรื่องยุ่งๆคราวลูกน้องคนสนิทของเขาคนนี้ก็ทำตัวแปลกๆไป

       "ทำไมวะหรือว่ามันจะเป็นสายให้ไอ้ภูผาอีกคน" เจ้าคุณถามอย่างส่งสัย

       "ไอ้สนมันไม่ทำอย่างนั้นหรอก มันไม่มีวันที่จะหักหลังกูหรอก กูเชื่อใจมัน แต่กูกลัวว่ามันจะคิดทำอะไร
บ้าๆโง่ๆ แบบตื้นๆอยู่น่ะสิ"

       "มึงหมายความว่ายังไงว๊ะ?"

      "กูคิดว่ามันกำลังล้างแค้นไอ้ภูผาให้กูอยู่น่ะสิ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องมันก็ทำตัวแปลกๆ อีกทั้งสายข่าวกูยัง
ส่งข่าวมาบอกว่าไอ้ภูผามันหายตัวไปน่ะสิมึง แล้วไอ้สนมันก็ยิ่งเป็นคนไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลังอยู่ด้วย กูถึงต้อง
มานั่งห่วงมันอยู่ทุกวันนี้นี่ไง" ณัฐภาสบอกพร้อมกับรวบช้อนกินข้าวเพราะไม่มีอารมณ์ที่จะกินต่อแล้วต่อให้
อาหารที่อยู่ตรงหน้าเขานี้มันจะอร่อยสักแค่ไหน เพราะปัญหาเรื่องของสนสำหรับเขาแล้วมันก็หนักอยู่พอควร
เพราะสนเปรียบเสมือนน้องชาย เปรียบเสมือนคนในครอบครัวของเขาที่รักและผูกพันกันมานาน และเขาจะยิ่ง
รู้สึกแย่ขึ้นอีกเป็นร้อยเท่าพันเท่าถ้าเหตุผลที่เขาสันนิษฐานนั้นเป็นจริง เพราะนั่นก็หมายความว่าทั้งหมดทั้ง
มวลไม่ว่าสนจะตัดสินใจทำอะไรลงไปนั้นเหตุมันก็มาจากเขาทั้งสิ้น

       "เอาน่ามึง..อย่าพึ่งคิดอะไรมากไป เพราะไอ้สนมันอาจจะแค่ไปติดหญิงบ้านไหนแล้วยังไม่กล้าบอกมึง
บางสิ่งบางอย่างมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้เว้ย"

      "กูก็ขอให้มันแค่ไปติดหญิงอย่างที่มึงบอกก็แล้วกัน อย่าให้เป็นอย่างที่กูคิิดเลย เพราะกูไม่อยากจะนึกเลย
ว่าถ้านายหัวรพีพ่อของไอ้ภูมันรู้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับไอ้สนมัน แล้วถ้าถึงวันนั้นแล้วกูจะมีปัญญาช่วยอะไร
มันได้รึเปล่า"
.
.
.
.
.
       ทางด้านสองคุณแม่ (พัสกรและธารา)

       ในขณะที่ปล่อยให้คุณสามีทั้งสองคนต้องอยู่รับมืออยู่กับเด็กๆ ทั้งสี่อยู่คนอยู่นั้น สองคุณแม่ลูกอ่อนอย่าง
พัสกรและธาราที่หลังจากที่ไปขัดหน้านวดตัวกันอยู่หลายชั่วโมงให้ได้ผ่อนคลายกันเสร็จแล้ว ทั้งสองคนก็พา
กันมาเดินช็อปปิ้งเลือกซื้อของกันอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของจังหวัด ที่จริงแล้วพัสกรกับธาราได้วางแผน
คุยกันทางโทรศัพท์อยู่หลายวันถึงเรื่องที่จะออกมาเลือกซื้อของกันวันนี้ เพราะว่าเขาทั้งคู่มีแผนที่จะจัดปาร์ตี้
ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยกันทั้งสองครอบครัวต่างหากล่ะ เพราะช่วงหลังๆมานี้ตั้งแต่ต่างคนต่างมีลูก
ต่างมีหน้าที่การงานใหม่ที่แตกต่างกันไปก็ไม่ค่อยมีเวลาที่จะมาได้เจอกันบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อนตอนที่พวกเขา
ทั้งสี่คนสองครอบครัวยังไม่มีเด็กๆ และหลังจากที่พัสกรและธาราเช็คเวลาตารางงานของคุณสามีว่ามีวันหยุด
ตรงกันในช่วงปีใหม่แน่ชัดแล้ว ทั้งสองคนก็เลยตกลงที่จะมาเลือกซื้อของที่จะไปจัดปาร์ตี้ที่จะเกิดขึ้นในเย็น
วันนี้นี่แหละ ส่วนไอ้เรื่องที่แกล้งใช้สามีให้เลี้ยงลูกอยู่บ้านหรือเรื่องที่ออกมาทำสปาและมาช็อปปิ้งนี่ก็เป็นแค่
ผลพลอยได้ทั้งน้านนน...เขาทั้งสองคนไม่ได้ตั้งใจที่จะทำอย่างนี้เล๊ยยยยจริงๆ

       "พี่ธารว่าเสื้อตัวนี้สวยมั้ยฮะ" พัสกรถามพร้อมกับชูเสื้อไหมพรมรูปหมีสีฟ้าสามตัวให้กับธาราดู เพราะ
ตอนนี้เขาทั้งสองคนกำลังเลือกซื้อเสื้อผ้าของลูกๆ กันอยู่หลังจากที่เดินเลือกซื้อของทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว
เหลือเพียงแค่เสื้อผ้าลูกๆเท่านั้นที่เลือกไม่เสร็จสักที ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็พากันซื้อไปแล้วรอบนึง แต่จะกลับก็มา
เจอร้านนี้มีเสื้อผ้าเด็กแบบสวยๆแปลกๆแถมยังลดราคาอีกต่างหาก เขาสองคนถึงได้ยังพากันติดลมอยู่นี่

       "อืมๆ น่ารักดีอ่ะ ว่าแต่พัสเลือกเสร็จรึยัง พี่ว่าจะไปจ่ายเงินแล้วนะ" ถึงปากบอกอย่างนั้น แต่มือของธารา
ก็ยังคงจับๆเลือกๆ ดูเสื้อผ้าให้ลูกชายไม่หยุดอยู่เลย

       "เสร็จแล้วฮะ พัสว่าเราไปจ่ายเงินกันดีกว่านี่ก็จะสี่โมงเย็นอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้พี่ภาสกับพี่คุณกอดคอ
ร้องไห้กันไปแล้วรึยังที่เราปล่อยให้เขาเลี้ยงเด็กสี่คนกันแค่สองคน" พัสกรพูดติดตลกก่อนที่จะพากันหอบชุด
เด็กสำหรับๆลูกของพวกเขาไปจ่ายเงิน และพากันเดินออกมาจากร้านเพื่อที่จะกลับบ้าน

       "เอ่อ...ขอโทษนะครับ ผมและเพื่อนสนใจคุณคนสวยทั้งสองคน ไม่ทราบว่าพวกคุณมีแฟนรึยังครับ?"
ในขณะที่พัสกรและธาราพากันลงบันไดเลื่อนเพื่อลงไปยังชั้นใต้ดินที่จอดรถอยู่นั้น ก็มีชายหนุ่มหน้าตาดี
สองคนที่คาดว่าจะเป็นนักศึกษาเพราะดูจากเนคไทที่คอมันเป็นของมหาลัยในจังหวัด

       "พวกเราทั้งสองคนยังไม่มีแฟนครับ" พัสกรตอบกลับไป ส่วนธาราก็ได้แต่ยืนดูสถานะการณ์อย่างนิ่งๆ
ถึงแม้ว่าจะแปลกใจกับคำตอบของพัสกรอยู่ก็เถอะ

       "ถ้าอย่างนั้นขอเบอร์พวกคุณทั้งสองคนได้มั้ยครับ" ชายหนุ่มคนเดิมรีบรุกถามต่ออย่างมีความหวังเมื่อได้
คำตอบที่ถูกใจจากพัสกร

       "ไม่ได้ครับ" พัสกรตอบกลับพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนๆไปให้ชายหนุ่มทั้งสองคน

       "ทำไมล่ะครับ" ชายหนุ่มอีกคนถามกลับอย่างสงสัย

       "ก็เพราะว่าถึงแม้ว่าเราไม่มีแฟนแต่...ผมก็ยังมีสามีหนึ่งลูกอีกสาม ส่วนพี่ชายผมก็มีสามีหนึ่งลูกอีกหนึ่ง
ยังไงครับพวกเราถึงให้ไม่ได้ ต้องขอโทษด้วยนะครับและขอตัวก่อนนะครับ" พัสกรตอบพร้อมกับยิ้มหวาน
หยาดเยิ้มเป็นการปิดท้ายก่อนที่จะพยักหน้าชวนธารารีบพากันเดินไปที่รถเมื่อถึงชั้นใต้ดินที่จอดรถไว้ ในขณะ
ที่ชายหนุ่มแปลกหน้าทั้งสองคงยังคงมันๆงงๆอยู่กับคำพูดของพัสกร
.
.
.
.
.
       "โอ้ยๆ เบาๆครับน้องภามป๋าเจ็บ" ณัฐภาสร้องโวยวายด้วยความเจ็บปวดเมื่อโดนลูกชายคนเล็กของ
ตัวเองใช้สองมือน้อยๆของเจ้าตัวดึงรั้งผมอย่างเต็มแรงและไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเลย แถมฝาแฝดคนพี่และ
คนกลางยังพากันหัวเราะเอิ้กอ๊ากอย่างสนุกสนานอีกเมื่อเห็นน้องชายฝาแฝดของตัวเองกำลังดึงทึ้งหนังหัว
ของคนเป็นพ่ออย่างเขาเนี่ย

       เรื่องของเรื่องเลยคือตั้งแต่แม่แม่(พัสกรและธารา) พากันออกไปข้างนอกและเขากับเจ้าคุณกินข้าวกันอิ่ม
แต่ยังไม่ทันที่ข้าวจะได้เรียงเม็ดเลย น้องภีมคนกลางก็ตื่นขึ้นมาร้องไห้อีก ทีนี้แหละก็ไล่มาเลยครับ เจ้านาย
ภาค ภาม พากันร้องดังระงมไปทั่วทั้งบ้านเลย ซึ่งกว่าจะปลอบจะโอ๋กันเสร็จ เขากับเจ้าคุณนี่แทบคลั่งตาย
แถมตอนที่เขากับเจ้าคุณช่วยกันอาบน้ำเด็กๆทั้งสี่คนนี้อีก โดยที่เขามีหน้าที่อาบน้ำให้และเจ้าคุณคอยรับมา
เช็ดตัว และท้ายที่สุดก็ยังต้องช่วยกันมาจับเด็กแต่งตัวนี่อีกก็สูบพลังงานในตัวของพวกเขาออกไปหมดเลย
และก็ไม่รู้ว่าใครอาบน้ำให้ใครกันแน่เพราะผลสุดท้ายก็ตัวเปียกน้ำกันทั้งหกคนพ่อลูกนี่แหละ เขากับเจ้าคุณ
เลยจำต้องพาอาบน้ำกันใหม่อีกรอบนึงโดยที่ผลัดกันไปอาบและอีกคนนึงคอยนั่งเฝ้าลูก

       "มาป๋าว่าเรามากินนมนอนกันดีกว่า ไอ้คุณมึงแบ่งของกูไปคนนึงเลย ช่วยกันกล่อมคนละสองคนโอเค๊?"
ณัฐภาสบอกพร้อมกับส่งขวดนมของน้องภีมลูกชายคนกลางของตัวเองให้กับเจ้าคุณเพราะน้องภีมนอนเล่น
อยู่ติดกับเจ้านายข้างๆ เจ้าคุณ ในขณะที่ตัวณัฐภาสเองก็กล่อมและป้อมนมให้กับภาคกะภามแฝดคนโตและ
คนสุดท้องที่นอนกลิ้งเล่นเป่าน้ำลายอยู่ข้างๆตัวเอง และที่สำคัญเลยเป็นเพราะว่าน้องภามแฝดคนกลางไม่
ค่อยร้องงองแงถ้าคนอุ้มหรือคนป้อนนมไม่ใช่พ่อแม่ตัวเองหรือแปลกหน้าไป

       "หม่ำๆ แอ๊ๆ แอ๊ๆ แอ๊ๆ" พอเด็กๆทั้งสี่คนเห็นขวดนมของตัวเองเข้าก็ร้องเรียกชูไม่ชูมือหาขวดนมกัน
อย่างตื่นเต้น แฝดสามที่มีอายุเพียงแค่หกเดือนนิดๆก็ทำได้เพียงแค่การร้องแอ๊ๆยังไม่สามารถพูดเป็นคำๆได้
ในขณะที่เจ้านายอายุหนึ่งปีเต็มสามารถที่จะเริ่มพูดเป็นคำๆแบบสั้นๆได้แล้วอย่างเช่น หม่ำๆ เวลาหิว
.
.
.
       "อ่าว...พากันหลับไปหมดแล้วทั้งพ่อๆทั้งลูกๆ เลย" ธาราชี้ชวนให้พัสกรดูเมื่อเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นแล้ว
เห็นว่าทั้งเจ้าคุณ ทั้งณัฐภาสและเด็กๆอีกสี่คนพากันหลับฝันนอนกลางวันกันไปหมดแล้ว โดยที่น้องภามแฝด
คนเล็กหันหน้าตะแคงข้างเข้าหาณัฐภาสและณัฐภาสก็นอนกอดลูกอยู่ ซึ่งเจ้านายกับเจ้าคุณก็นอนท่าเดียว
กันกับณัฐภาสและน้องภามเพียงแค่นอนหันคนละข้างเท่านั้น ส่วนน้องภาคแฝดคนโตและน้องภีมคนกลาง
ที่นอนอยู่ตรงกลางนั้นก็หันหน้าชนกันและนอนกอดกันเองสองคนพี่น้อง

       "คริๆ น่ารักจัง พัสว่าพัสขึ้นไปเอากล้องมาถ่ายรูปเก็บไว้สักหน่อยดีกว่า ภาพหายากอย่างนี้" พัสกรบอก
ก่อนที่จะผละเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นนี้เพื่อที่จะไปเอากล้องถ่ายรูปมาเก็บรูปนี้ไว้เพื่อเป็นความทรงจำดีๆ
อีกหนึ่งความทรงจำ เพราะว่ายังไงๆงานปาร์ตี้วันนี้ก็ต้องใช้กล้องอยู่แล้ว ตั้งแต่แฝดสามออกมางานอดิเรก
ของพัสกรนอกจากจะทำอาหาร ทำขนมและอ่าหนังสือแล้ว พัสกรยังคงชอบที่จะถ่ายรูปของลูกๆทั้งสามคน
ของเขาเก็บไว้อยู่ทุกๆวัน ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน จะกิน นอน หรืออาบน้ำ พัสกรก็ถ่ายเก็บไว้หมด เพราะถึงแม้
ว่าวันเวลาจะหมุนเปลี่ยนหรือผ่านไปนานสักแค่ไหน ภาพแห่งความทรงจำเหล่านี้ก็จะยังคงอยู่ตลอดไป



...
กลับมาแล้วค่ะ...ขอโทษที่ให้รอนานและหายไปหลายวันนะคะพอดีมี่จิตตกเลยพาลปั่นนิยายไม่ออก
แลต้องขอสวัสดีปีใหม่เอาไว้ร่วงหน้าเลยแล้วกันนะคะเพราะมี่ไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้และวันที่หนึ่งมี่จะมีเวลาพอ
ที่จะมาลงตอนต่อไปให้ทุกคนได้อ่านกันหรือเปล่าเพราะพรุ่งนี้คุณหมอนัดมี่ไปตรวจแขน และตอนกลางคืน
มี่จะต้องพาหม่อมแม่(คุณยาย)ไปสวดมนต์ข้ามปี(หลังจากที่ผลัดมาหลายปี 55) ตามสัญญาที่เคยให้ท่านไว้
ใครที่จะต้องขับรถเดินทางกลับบ้านเกิดหรือมีโปรแกรมไปเที่ยวที่ไหนก็ขอให้โชคดีและปลอดภัยตลอดการเดินทางนะคะ
แล้วเจอกันใหม่ปีหน้าเลยนะคะ(เหมือนจะนาน) 555
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 21 (31/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-12-2015 01:12:42
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 21 (31/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PaTtO ที่ 31-12-2015 07:17:48
เป็นสนนี่เอง จะมีอีกคู่ใช่มั้ย
เลี้ยงลูกเป็นอะไรที่เหนื่อยจริง
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 21 (31/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 31-12-2015 08:52:40
 o13
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 21 (31/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 31-12-2015 08:54:16
คุณพ่อเลี้ยงลูกน่ารักกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 21 (31/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 31-12-2015 12:10:39
ดูท่าสนจะเป็นอีกคู่ซะละม้างเนี่ย  :hao6:
สองครอบครัวนี้น่ารักกันจริงๆ  :-[
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 21 (31/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 31-12-2015 17:32:19
แฝดสามน่ารักกกกก เจ้านายก็น่ารัก สี่พี่น้องรูปงามแน่ๆ
เดี๋ยวๆ สนกับภูผานี่....... อย่าให้เป็นอย่างที่คิดเล้ยยยย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 21 (31/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 31-12-2015 21:32:34
น่ารักกก
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 21 (31/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 31-12-2015 22:54:59
สนุกมากจ้า เป็นกำลังใจให้จ้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 21 (31/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 31-12-2015 23:00:25
น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 21 (31/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Ayla ที่ 01-01-2016 10:26:52
น้องแฝดน่ารัก :mew1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 21 (31/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 02-01-2016 15:13:08
สวัสดีปีใหม่จ้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 21 (31/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 02-01-2016 20:07:58
Happy new year ค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 11 (08/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 08-01-2016 20:22:58
 

คุณเมียภาคบังคับ (เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 11 

 

 

 

 

 

       Tru...Tru...Tru....

 

       เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กข้างเตียงดังขึ้นแต่เช้าตรู่เรียกร้องความสนใจจากเจ้าของห้อง

ทั้งสองคนที่เพิ่งจะได้พักผ่อนเมื่อสักชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเขาทั้งสองคนเพิ่งจะเสร็จกิจกรรมเข้าจังหวะ

ฉันสามีภรรยาที่ดีควรพึงกระทำต่อกัน(ขนาดนั้นเชียว?) เพราะนานๆที เจ้าลูกชายของเขาจะยอมไปนอน

บ้านปู่บ้านย่าสักที ก็ขอเขาทำแต้มกักตุนสักหน่อยเถอะ

 

       "อื๊อ..."

 

       "อืม..นอนซะๆ" เจ้าคุณลูบหัวภรรยาสุดที่รักให้นอนหลับดังเดิม ก่อนที่จะคว้าผ้าเช็ดตัวที่พื้นข้างเตียง

มาพันปิดสะโพกสอบกันอุจาดตา คว้าโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกไปรับสายข้างระเบียงทันที เพราะไม่

อยากจะรบกวนการนอนของธารา เพราะแค่โดนเขาแกล้งเมื่อคืนก็หนักเกินไปแล้ว

 

       "ฮัลโหล.." เจ้าคุณกรอกเสียงรับสายโทรศัพท์ด้วยเสียงเรีบยเพราะรู้สึกหงุดหงิดอยู่นิดหน่อยที่โดนรบกวน

การนอนอย่างนี้ แต่จะไม่รับก็ไม่ได้เพราะปลายสายคงจะมีเรื่องสำคัญพอควรถึงได้โทรมากวนอย่างไร้มารยาท

แต่เช้าอย่างนี้

 

       "นั่นเจ้าคุณลูกชายนายพลจอมทัพใช่ไหม" ปลายสายตั้งคำถามกลับมา

 

       "ครับ...แล้วคุณคือ" ถึงจะรู้สึกตะหงิดๆ กับคำถามของปลายสายแต่เจ้าคุณก็ถามกลับไปอย่างมีมารยาท

(มั้ง?) เพราะฟังจากเสียงแล้วปลายสายน่าจะอายุมากกว่าตนอยู่

 

       "ฉันนายหัวรพี พ่อของธาราเมียของนาย" คำตอบของอีกฝ่ายทำให้เจ้าคุณถึงกับหายมัวขี้ตา เพราะคน

ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นพ่อตาของเขาหรือพ่อแท้ๆของธารา คนที่หายเงียบไปตั้งแต่งานวันเกิิดนายพลจอมทัพพ่อ

ของเขาเมื่อสองปีกว่าที่แล้วอยู่ดีๆก็โทรมาหาเขาโดยตรงแต่เช้าขนาดนี้ มันชักยังไงๆอยู่นะงานนี้

 

       "คุณมีธุระอะไรกับผมหรือครับ"

 

      "ฉันแค่อยากเจอกับเจ้าธารลูกชายของฉันสักครั้ง...ก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีก" เขาบอกเสียงดังชัดเจนใน

ประโยคแรกก่อนที่จะแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยินในประโยคสุดท้าย

 

       "คุณก็เข้ามาหาน้องธารมันที่บ้านเลยก็ได้เลยนี่ครับ ไม่เห็นจะต้องมาโทรบอกผมก่อนเลย" เจ้าคุณตอบ

ไปตามที่เขาคิดเพราะไม่เห็นมีเหตุผลอะไรที่นายหัวรพีจะต้องมาโทรหาเขาอย่างนี้เลย

 

       "ฉันไปบ้านนั้นไม่ได้หรอกเพราะมันน่าละอายเกินไป ฉันอยากจะขอร้องให้นายพาเจ้าธารกับหลานออก

มาหาฉันสักครั้ง ที่บ้านฉันหรือที่ไหนก็ได้ถ้านายไม่ไว้ใจฉัน...แล้วแต่นายเลย" นายหัวรพีบอก

 

       "เอาไว้ผมจะติดต่อกลับไปแล้วกันนะครับ"

 

       "ช่วยฉันสักครั้งเถอะนะเจ้าคุณ...ได้โปรด" นั่นคือประโยคสุดท้ายที่เขาได้ยินจากนายหัวรพี ก่อนที่สาย

จะตัดไป เจ้าคุณไม่รู้หรอกว่านายหัวรพีคิดอะไรและเป็นอะไรไปถึงได้มาขอร้องเขาอย่างนี้ และก็ไม่แน่ใจ

เหมือนกันว่าตัวเขาเองควรจะทำอะไรหรือตัดสินใจกับเรื่องนี้ยังไงดี เพราะที่ผ่านมาเรื่องราวของนายหัวรพี

ที่เขาได้ฟังได้รับรู้มาจากธาราและคนรู้จักทั่วๆไปนั้น มันไม่น่าไว้ใจเลยสักนิดเดียว แต่ถ้าเขาหูไม่เพี้ยและฟัง

ผิดไป เสียงสั่นๆของนายหัวรพีที่เขาได้ยินเมื่อสักครู่นั้นมันน่าหดหหู่ที่สุดเลยจริงๆ

.

.

.

       "เป็นอะไรไป..มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า" แรงกอดรัดจากด้านหลังและเสียงหวานๆแฝงความห่วงใย

ของธาราทำให้สติของเจ้าคุณที่ล่องลอยไปกับควันบุหรี่ที่เจ้าตัวนั้นหยิบขึ้นมาสูบอย่างไม่รู้ตัว กลับมา

 

       "รีบตื่นมาทำไม นอนไม่พอเดี๋ยวก็ไม่สบายอีกหรอก" เจ้าคุณไม่ตอบ แต่ถามกลับด้วยคำถาม

 

       "ตื่นมาเข้าห้องน้ำแล้วไม่เจอ ก็เลยลองเดินมาดูเพราะเห็นประตูระเบียงเปิดอยู่ ว่าแต่ทำไมถึงได้กลับ

มาสูบอีกแล้วล่ะ ไหนบอกว่าจะเลิกเพื่อลูกไง แล้วนี่สูบตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยก้นบุหรี่ถึงได้เยอะขนาดนี้" ธาราแหว

ใส่เจ้าคุณชุดใหญ่เมื่อเห็นก้นบุหรี่ที่สูบหมดแล้ววางกองอยู่เต็มที่เขี่ย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาเก็บทิ้งไปหมดแล้ว

และเจ้าตัวก็เพิ่งจะสัญญากับลูกชายไปเมื่อตอนวันเกิดครบสามขวบของลูกแท้ๆว่าจะเลิกสูบบุหรี่ แล้วนี่อะไร

 

       "ขอโทษๆ มัวแต่คิดอะไรเพลินไปหน่อยเลยเผลอหยิบมาสูบตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้" เจ้าคุณรีบดับบุหรี่ในมือ

ที่เพิ่งสูบไปได้ไม่ถึงครึ่งทิ้งลงกับที่เขี่ยทันที เมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางของธารา

 

       "นิสัย!..ที่หลังถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องมาสัญญาหรอก..มันเสียความรู้สึก!" ธาราพูดว่าเข้าให้อีกรอบ เพราะไม่

ชอบใจที่เจ้าคุณกลับมาสูบบุหรี่อย่างนี้ทั้งๆที่เลิกได้แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นที่บ่นที่ว่าเจ้าคุณไปก็เพราะความเป็น

ห่วงเจ้าตัวทั้งนั้น ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย

 

       "ทำได้ๆ อย่าหงุดหงิดไปเลยน่า สัญญาว่าจะไม่สูบอีกแล้ว ขอโทษจริงๆ ครับเมียผัวผิดไปแล้ว" เจ้าคุณ

บอกอย่างอ้อล้อเพราะไม่อยากให้ธาราหงุดหงิด เดี๋ยวระเบิดมันจะมาลงที่เขาเสียอีก เชื่อเขาเลย จากน้องธาร

คนที่เงียบเฉยไม่ค่อยมีปากมีเสียงกับใครเขา พอมีลูกได้เป็นแม่คนแล้วแทบจะกลายเป็นคนละคนเลย บอก

เลยว่าที่บ้านทุกวันนี้ 'เมีย' เป็นใหญ่ ส่วนผัวอย่างเขารึ...หึๆ...ก็เป็นทาสเมียไงครับ

 

      "เหอะ!...ให้มันจริงเถอะ!" ธาราทำตาขวางตาเขียวใส่เจ้าคุณ

 

      "ครับๆ ไปนอนเอาแรงกันเถอะ...เดี๋ยวไอ้ลูกหมามันก็จะกลับมาป่วนเราแล้ว" เจ้าคุณบอกพร้อมกับเดิน

โอบธารากลับเขาไปนอนในห้องตามเดิม เพราะเดี๋ยวตอนบ่ายๆเย็นๆ เจ้านายลูกชายของเขาทั้งสองคนก็

จะกลับมาจากบ้านปู่ย่าแล้ว เตรียมตัวเหนื่อยกันได้เลย เพราะเด็กชายเจ้านายวัยสามขวบนี่ไม่ใช่ธรรมดาๆ

ทั้งแสบทั้งซน แก่น ซ่า บ้าบิ่น(?) ไม่หยอกใครเลยทีเดียวเชียว...เรื่องความแสบของเจ้านายนี้ เขามีไอ้ภาส

เพื่อนรักของเขาที่กำลังจะพ่วงตำแหน่งพ่อตา(?)ของไอ้ลูกชายเป็นคนรับประกันอันดับหนึ่งเลย

.

.

.

.

.

#

เจ้านาย (อายุสามขวบนิดๆ)

 

       "แม่จ๋าาาาาา.....คุณป๋าาาาาา.....เจ้านายกลับมาแล้วววว..../ อุ๊ก!!" พอลงรถได้เจ้านายน้อยวัยสามขวบ

ก็ร้องเรียกรีบวิ่งหาพ่อแม่ของตัวเองอย่างกระตือรือล้นด้วยความคิดถึง และไม่ทันให้เจ้าคุณที่นอนเหยียดยาว

ดูโทรทัศน์อยู่บนผ้าปูที่นอนในพื้นห้องนั่งเล่นได้ตั้งตัวเลย เจ้านายน้อยที่คิดถึงคุณป๋าของตัวเองสุดติ่งก็ทิ้งตัว

ปล่อยบอมทับท้องเจ้าคุณอย่างเต็มรักเต็มแรง เล่นเอาจุกกันไปข้างเลยทีเดียว

 

       "โอย..ป๋าเจ็บนะไอ้ลูกหมาทับเข้ามาได้...ไหนมาให้ป๋าหอมเหม่งทีดิ!..คิดถึงว๊ะ!" ถึงปากจะบ่นว่าจุกว่าเจ็บ

ที่โดนลูกชายตัวตันๆของตัวเองกระโดดทับอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว แต่เจ้าคุณก็รีบรั้งตัวลูกชายเข้ามากอดรัดฟัด

เหวี่ยงอยู่นานด้วยความคิดถึง แม้ว่าเจ้านายจะไปบ้านนายพลจอมทัพพ่อของเขาแค่สองวันหนึ่งคืนก็เถอะ

แต่บ้านที่ไม่มีตัวแสบจอมป่วนอย่างเจ้านายมันช่างเป็นอะไรที่เงียบเหงาเสียจริง

 

       "คิกๆ อ๊ากก...ป๋าคุณจั๊กจี้น๊า!...ฮ่าๆ" เจ้านายหัวเราะคิกคักเสียงดังเพราะโดนเจ้าคุณจับทุ่มกับผ้าปูที่นอน

ที่ตัวเองนอนอยู่เบาๆ และไล่งับกัดแก้มฟัดพุงน้อยๆของเจ้านายอย่างมันเขี้ยว

 

       "เอ...เด็กที่ไหนเข้ามาทำเสียงดังในบ้านอย่างนี้น๊า..." ธาราที่กำลังทำอาหารมื้อเย็นอยู่ในครัว ก็รีบเดิน

ออกมาดูเมื่อได้ยินเสียงลูกชายสุดที่รัก ที่หนีพ่อแม่ไปเที่ยวกับคุณปู่คุณย่าซะตั้งสองวัน

 

       "แม่จ๋าาาาาาาาา....." เจ้านายร้องเสียงหวานเมื่อได้ยินเสียงและเห็นว่าธารากำลังยืนกอดอกดูสองคน

พ่อลูกกำลังเล่นกอดรัดฟัดกันอย่างสนุกสนาน

 

       "ว่ายังไงครับลูกชาย...ไหนมาให้แม่จ๋ากอดให้หายคิดถึงหน่อยเร็ว" ธาราเดินเข้ามาใกล้ๆ กับสองคน

พ่อลูกก่อนที่จะย่อตัวนั่งพร้อมกับกลางสองแขนเพื่อนให้รอรับตัวลูกชายสุดที่รักเข้ามากอด

 

       "อื้ออออ...น้องนายคิดถึงแม่จ๋าที่สู้ดดดด...." เจ้านายโผลเข้ากอดและพูดออดอ้อนธาราอย่างเต็มรัก

 

       "จะเชื่อได้หรื๊อ...ไอ้ลูกหมาขี้จุ๊...หนีป๋าหนีแม่เที่ยว" เจ้าคุณแกล้งพูดแหย่ออกมาด้วยความหมั่นไส้ เมื่อ

เห็นสองแม่ลูกเขาออดอ้อนกันจนลืมคนเป็นพ่อที่นั่งหัวโด่นอยู่ข้างๆอย่างเขา

 

       "อืม...นั่นสินะ...เงียบหายไปตั้งสองวันไม่โทรมาหาป๋ากะแม่บ้างเลย" แทนที่จะห้ามปรามไม่ให้เจ้าคุณ

แหย่ลูกอย่างทุกที แต่วันนี้ธารากับรับมุข ร่วมกันกับเจ้าคุณแหย่ลูกชายเล่นซะแล้ว

 

       "งื้อออ...ไม่ใช่น้าา...น้องนายไม่ได้ขี้จุ๊...น้องนายคิดถึงคุณป๋ากะแม่จ๋าที่สู้ดดดดด...." ไม่พูดเปล่า เจ้านาย

ยังปล่อยมือข้างนึงออกจากการกอดคอธารา คว้าคอเจ้าคุณเข้ามากอดหัวชิดติดกันสามคนพ่อแม่ลูก อีกทั้ง

ยังใช้แก้มป่องๆของตัวเองถูไถกับหน้าเจ้าคุณบ้างอกธาราบ้างเพื่อพิสูจน์ให้คุณป๋ากับแม่จ๋าของตัวเองได้เห็น

ว่าตัวเองนั้นคิดถึงทั้งสองคนจริงๆไม่ได้โกหกสักหน่อย...นิดนึงก็ไม่มี...ถึงแม้ว่าตอนไปเที่ยวกับคุณปู่คุณย่า

จะสนุกจนแอบลืมคิดถึงคุณป๋ากับแม่จ๋าไปบ้างก็เถอะ...อุ๊ปส์!(OxO) เปล่านะ!..เมื่อกี้น้องนายไม่ได้พูดอะไร

ออกไปเลยนะ!!

 

       "อ่า...โอเคครับ คิดถึงก็คิดถึง แม่จ๋าเชื่อน้องนายก็ได้ครับ แต่ตอนนี้น้องนายขึ้นไปอาบน้ำกับคุณป๋า

ก่อนนะครับเดี๋ยวแม่ทำของโปรดไว้รอ....โอเค๊?" จนแล้วจนรอด ธาราก็แหย่ลูกได้ไม่นานก็ต้องหยุด เมื่อเห็น

ว่าเจ้านายเริ่มหน้ามุ่ยเตรียมพร้อมที่จะร้องไห้เต็มที่แล้ว

 

       "ครับผม!!!....ปะ..ไปอาบน้ำกันดีกว่าคุณป๋า น้องนายจะรีบมากินของอร่อย" เจ้านายรับปากธาราอย่าง

กระตือรือร้น เหมือนหมาน้อยที่ชอบหูตั้งหางกระดิกอย่างน่ารักเมื่อได้ยินแม่จ๋าของตัวเองพูดถึงของโปรด

แสนอร่อยฝืมือของธารา

 

       "เออๆ ไปแล้วๆ เจ้านาย! อย่าวิ่ง!..เดี๋ยวล้ม" ธาราได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่างอ่อนใจ เมื่อมองตามสองคน

พ่อลูกเจ้าคุณ เจ้านาย ที่วิ่งไล่ตามกันขึ้นบันไดไปชั้นบน เจ้าคุณหนอเจ้าคุณปากก็บอกก็ห้ามไม่ให้ลูกวิ่ง แต่

ตัวเองกับวิ่งไปกับลูกด้วย แล้วอย่างนี้จะสอนให้ลูกเชื่อฟังได้ยังกัน..เฮ้อ! ธารารู้สึกเหมือนมีลูกสองคนเลย

.

.

.

       "คุณป๋า~ ทำไมหนอนน้อยของป๋าใหญ่จัง ของน้องนายมีอันน้อยเดียวเอง" เจ้านายถาม พร้อมกับลุกขึ้น

จากน้ำทั้งๆ ที่มีฟองสบู่อยู่เต็มตัวยืนจับๆ ดึงๆ หนอนน้อยที่ว่าของตัวเองให้คุณป๋าเจ้าคุณดูด้วยความสงสัย

เพราะเมื่อกี้แอบเห็นหนอนยักษ์ของคุณป๋าตอนถอดเสื้อผ้า ก่อนที่จะพากันลงมาแช่น้ำเล่นในอ่างอาบน้ำ

 

       "เห้ย! อย่าไปดึงมันมากไอ้ลูกหมา เดี๋ยวเจ็บ แล้วแม่จ๋าแกจะมาว๊ากใส่ป๋าอีก" เจ้าคุณบอกพร้อมกับดึง

มือน้อยๆของลูกชายออกจากส่วนที่สงสัย เพราะเจ้าตัวเล่นดึงยืดเล่นอย่างไม่ปราณีเลย...มันไม่เจ็บรึยังไง

 

       "แล้วทำไมหนอนน้อยของน้องนายไม่เหมือนของป๋าอ๊ะ" เด็กขี้สงสัยยังคงตั้งหน้าตั้งตาถามต่อไป

 

       "ก็เพราะเจ้านายยังไม่โตไงครับ เดี๋ยวพอเจ้านายโตแล้วหนอนน้อยของเจ้านายก็จะใหญ่เหมือนของป๋า

เองนั่นแหละ...ตอนนี้ปล่อยให้มันฟักตัวเตรียมกลายร่างเป็นหนอนใหญ่ไปก่อน...เข้าใจ๊?" เจ้าคุณพยายาม

ที่จะอธิบายให้สมองของเด็กสามขวบอย่างลูกชายได้เข้าให้ใจง่ายที่สุด แต่ก็ไม่รู้จะได้เรื่องไหม เพราะเจ้านาย

ยังคงนั่งทำหน้างงเป็นหมาสงสัยอยู่เลย

 

       "ถ้าอย่างนั้นแม่จ๋าก็ยังไม่โตอะจิ" อยู่ดีๆ เจ้านายก็พูดขึ้น

 

      "ทำไมล่ะ?" เจ้าคุณถามอย่างไม่เข้าใจ

 

       "ก็หนอนน้อยของแม่จ๋ายังไม่ใหญ่เท่าของป๋าเลยอ่ะ!...แม่จ๋าก็ยังเป็นเด็กเหมือนน้องนายหรอป๋าาา..."

เจ้านายถามออกมาอย่างใสซื่ออย่างไม่ค่อยเข้าใจเพราะความเป็นเด็ก และยิ่งงงเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นคุณป๋า

ของตัวเองขำก๊ากออกมาเสียงดังจนหน้าเขียวหน้าแดงอย่างหยุดไม่อยู่ จนพากันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จนั่นแหละ

.

.

.

       "แม่จ๋ากินอันนี้ด้วยนะ...อันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้ด้วย!" ในขณะที่สามคนพ่อแม่ลูกกำลังนั่งทานมื้อเย็นกันอยู่

เจ้านายเด็กน้อยหนึ่งเดียวของบ้านก็ง่วนอยู่กับการตักกับข้าวใส่จานให้แม่จ๋าของตัวเองอย่างต่อเนื่องไม่มี

หยุดหย่อนตั้งแต่เขาทั้งสามคนเริ่มลงมือทานมื้อเย็นกันหลังจากที่เจ้าคุณและเจ้านายอาบน้ำเสร็จแล้ว

 

       "พอก่อนครับเจ้านาย เดี๋ยวแม่กินไม่หมด ทำไมวันนี้หนูถึงได้มาตักกับข้าวเอาใจแม่อย่างนี้ล่ะ" ธาราหยุด

มือน้อยๆของลูกชายเมื่อเห็นว่าเจ้านายกำลังจะตักกับเข้ามาใส่จานข้าวที่พูนเต็มไปด้วยสิ่งที่เจ้านายได้ตัก

มาให้เขาก่อนหน้านี้ยังไม่ได้พร่องลงไปเลย

 

       "ก็น้องนายอยากให้แม่จ๋าโตเร็วๆ นี่ฮะ" เจ้านายน้อยตอบไปตามความเข้าใจของตัวเอง ที่ตักกับข้าวให้

ธาราก็เพราะว่าจำได้ว่า ธาราเคยตักกับข้าวให้ตัวเองและบอกว่า 'กินเยอะๆ จะได้โตๆ' อย่างนี้เสมอมา

เจ้านายก็เลยทำให้แม่จ๋าบ้าง...แม่จ๋าจะได้โตๆ เหมือนคุณป๋า

 

       "แม่โตแล้วครับลูก แล้วก็จะไม่โตไปกว่านี้แล้วด้วยเพราะฉะนั้นน้องนายตั้งใจกินข้าวของตัวเองให้หมด

เถอะนะครับ ไม่ต้องเป็นห่วงแม่หรอกนะครับลูก" ธาราพูดบอกอย่างใจเย็น เพราะไม่รู้ว่าเจ้านายไปเอาความ

คิดอย่างนี้มาจากไหน มันก็น่าดีใจอยู่หรอกที่ลูกเป็นห่วง แต่เพราะเจ้านายมัวแต่ห่วงเขาจนไม่ยอมกินข้าว

ของตัวเองอย่างนี้ก็ไม่ดีหรอก

 

       "ครับผม" เจ้านายรับคำอย่างว่าง่าย พร้อมเริ่มลงมือกินข้าวในจานของตัวเองบ้างหลังจากที่ทำหน้าที่

ลูกกตัญญูเป็นห่วงแม่อยู่นาน

 

       "ลูกเป็นอะไรไป?" เมื่อเห็นว่าลูกชายเลิกทำตัวแปลกแล้ว ธาราก็ถามคนที่นั่งข้างๆอีกข้างนึงของตัวเอง

ทันทีด้วยความสงสัย เพราะเจ้านายพึ่งจะดูเป็นห่วงเป็นใยเขาเกินปติก็หลังจากที่ไปอาบน้ำจากเจ้าคุณนั่น

แหละ เพราะก่อนหน้านั้นก็ยังดูปกติดี

 

       "ลูกเป็นห่วง" เจ้าคุณที่กินข้าวอิ่มแล้วก็รวบช้อน ดื่มน้ำ ก่อนที่จะตอบคำถามของธารา

 

       "เรื่อง?" ธาราเลิกคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ

 

       "ลูกกลัวว่าแม่จ๋าจะไม่โตเพราะมีหนอนน้อยอันเล็กนิดเดียวเหมือนของลูกไง" เจ้าคุณกระซิบบอกธารา

เบาๆก่อนที่จะอาศัยจังหวะที่ธารากำลังงงเดินหนีเอาตัวรอดออกจากบริเวณนั้น ก่อนที่แม่จ๋าสุดแสนจะใจดี

ของเจ้านายจะองค์ลงกลายร่างเป็นพญามารเสียก่อน...งานนี้ตัวใครตัวมันนะเจ้านายลูกรัก..หึๆ

 

       "เจ้าคุ๊ณณณณณณณ!!!!! กลับมานี่เดี๋ยวนี้นะ!!! สอนอะไรลูกน่ะห๊ะ!!!!" พอตั้งสติคิดทบทวนในสิ่งที่

เจ้าคุณบอกจนแจ่มแจ้งแล้วนั้น ธาราก็แทบอยากจะพ่นไฟออกมาเลยทีเดียว ทั้งหน้า ทั้งหู ทั้งคอ เห่อแดง

ลามไปทั่วเหมือนคนเป็นไข้ ไม่รู้ว่าด้วยความเขินอายหรือความโมโหกันแน่ แต่ที่แน่ๆ เขาไม่ปล่อยเจ้าคุณ

ไว้แน่!...สอนอะไรลูกก็ไม่รู้...ไอ้บ้าเอ้ย!!!

 

 

 

...

ขอโทษด้วยจร้า...ไม่ได้ตั้งใจจะหายไปไหนหรอกจร้า..

แต่ด้วยความอ่อนแอของสังขารมันไม่ไหวจริงๆ จร้า

ยังไงก็มาแล้วเน๊าะ! ไม่โกรธไม่งอลกันเน๊าะ!

เพราะมีคิดถึงทุกคนมากกกกกก....มากถึงมากที่สุด!!

แล้วเจอกันตอนหน้าจร้า....
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 11 (08/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-01-2016 20:43:49
วุ่นวายกันบ้านนี้
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 11 (08/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-01-2016 21:16:29
เหอะๆ. น่ารักจัง เด็กๆนี้ทำให้ครอบครัวมีชีวิตชีวา
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 11 (08/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-01-2016 22:15:27
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 11 (08/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-01-2016 22:33:03
ครอบครัวสุขสันต์~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 11 (08/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: nuja ที่ 09-01-2016 06:14:22
อยากเจอเด็กๆทั้งสี่คนพร้อมๆกันนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 12 (11/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 11-01-2016 22:17:36

คุณเมียภาคบังคับ (เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 12 













#

เจ้านาย 4 ขวบเต็ม (เครดิตตามรูปเลยคะ)








       "ทำไมนายต้องใส่ตัวนี้ด้วยอ่ะป๋าาา..." เจ้านายถามลากเสียงคางยาน เพราะไม่อยากใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว

ที่คุณป๋าเจ้าคุณหยิบมาใส่ให้



       "ก็แม่จ๋าเอ็งสั่งให้ใส่ก็ต้องใส่ไง..ป๋ายังใส่เลยเนี่ย เห็นมั้ย?" เจ้าคุณบอกพร้อมกับชี้เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ตัวเองใส่

แบบเดียวกันกับที่กำลังจะให้เจ้านายดู เพราะมันเป็นเสื้อครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าแม่จ๋าธาราคนต้นเรื่องที่เป็น

ตัวตั้งตัวตีในครั้งนี้ก็แต่งตัวแบบนี้เช่นเดียวกัน...เรื่องของเรื่องมันก็มาจากที่บ้านณัฐภาส พัสและแฝดสาม

ชอบแต่งตัวเหมือนยกทั้งครอบครัวพ่อแม่ลูกบ่อยๆ เพราะลูกบ้านนั้นมันเป็นแฝดและไอ้ภาสเพื่อนรักของเขา

ที่มันแต่งอย่างนั้นก็เพราะรักลูกหลงเมียไง ไม่ว่าจะลูกหรือเมียสั่งให้ทำอะไรก็ทำหมด..บ้านนั้นโคตรมุ้งมิ้งอ่ะ!

แต่ไอ้เถื่อนๆ อย่างเขานี่สิ แทบอยากจะร้องไห้ตอนที่ธาราเอาเสื้อครอบครัวมาโชว์ตอนที่เพิ่งไปรับมาหลังจาก

ที่สั่งทำไปอยู่หลายวัน แต่จะขัดก็ไม่ได้ไงเพราะ...บ้านนี้เมียเป็นใหญ่เหมือนบ้านโน่นนั่นแหละ...เฮ้อ!

 

       "แต่นายไม่อยากใส่อ่ะป๋า" เจ้านายยังคงงองแง ขยับตัวไปมาไม่ยอมให้เจ้าคุณใส่เสื้อให้ง่ายๆ

 

       "เอาน่า...ใส่ไปวัดแป๊บเดียว กลับมาแล้วค่อยเปลี่ยน..ไม่ใส่เดี๋ยวแม่ก็โมโหอีก" เจ้าคุณบอกพร้อมกับ

พยายามที่จะจับแขนเจ้านายยัดเข้าไปในแขนเสื้อเป็นครั้งที่สาม



       "ป๋าก็สู้ดิ!..ป๋าตัวใหญ่กว่าแม่จ๋าตั้งเยอะ!" เจ้านายพูดอย่างเอาแต่ใจ สะบัดหน้าหนีเจ้าคุณด้วย



       "อยกกำพร้าพ่อรึไงฮึไอ้ลูกหมา มายุให้ป๋าสู้แม่เอ็งเนี่ย"

 

       "เสร็จรึยังฮะสองพ่อลูก แม่รอนานแล้วนะ!!" ยังไม่ทันที่สองพ่อลูกจะได้พูดอะไรกันต่อ ก็มีอันที่จะต้อง

สะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงดุๆหลอนประสาทของธาราดังเข้ามาให้ได้ยิน จากที่มัวแต่เถียงและยืนยื้อยุด

ชุดกระชากเสื้อผ้ากันอยู่ สองพ่อลูกก็รีบช่วยกันแต่งตัวด้วยความเร่งด่วนอย่างไม่อิดออดหรือมีปัญหามา

ยื้อเวลากันอีกเลย....นิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "คำพูดของมนุษย์เมียและมนุษย์แม่นั้นศักดิ์สิทธิ์ที่สุด!"

.

.

.



       "เจ้านายรู้รึเปล่าครับว่าวันนี้เราจะไปไหนกัน" ธาราเอี้ยวตัวไปถามลูกชายที่นั่งอยู่ในคาร์ซีทเบาะนั่ง

สำหรับเด็กทางด้านหลัง หลังจากที่เจ้าคุณขับรถพ้นจากรั้วบ้านแล้ว เพราะเห็นว่าวันนี้เจ้านายดูนิ่งเงียบ

ผิดปกติไปจากทุกที ที่จะต้องถามโน่นถามนี่อย่างตื่นเต้นเมื่อได้ขึ้นรถออกจากบ้าน



       "ไปวัดฮะ..ป๋าบอกว่าน้องนายดื้อเลยจะพาไปปล่อยวัด" เจ้านายตอบพลางทำหน้าเศร้า จนคนเป็นแม่

อย่างธาราเห็นแล้วรู้สึกไม่ดีตามไปด้วย



       "ไปบอกลูกอย่างนั้นได้ยังไงฮะเจ้าคุณ!!!...นิสัย!!" ธาราหันไปแหวใส่เจ้าคุณพร้อมกับเอื้อมมือไปบิดเอว

เจ้าคุณเป็นการลงโทษข้อหาที่ไปพูดแกล้งลูกชายสุดที่รักของเขาด้วย



       "ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้ลูกหมา!!..แม่เอ็งเผลอแล้วเจอกัน!!" เจ้าคุณเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่เจ้านายทางกระจก

มองหลังเมื่อเห็นไอ้ลูกชายตัวแสบมันยักคิ้วทำหน้าสะใจใส่ลับหลังแม่จ๋าสุดที่รักของมัน แต่ความซวยมันจะ

ไปตกอยู่ที่ใครล๊ะถ้าไม่ใช่ไป้เจ้าคุณคนนี้ในเมื่อแม่จ๋ามันไม่เห็นในสิ่งที่ลูกชายสุดที่รักมันทำใส่เขานิ!!



       "ยังไม่หยุดอีกใช่มั้ยเจ้าคุณ!!! คืนนี้อยากจะนอนอยู่ที่วัดใช่มั้ยห๊ะ!!!.....วันนี้วันเกิดเจ้านายนะครับลูก

แม่จ๋าถึงได้จะพาเจ้านายไปทำบุญที่วัดไงครับ" ธาราว๊ากใส่เจ้าคุณก่อนที่จะหันไปพูดบอกลูกชายเสียงอ่อน

เสียงหวาน คนละโทนกันกับที่ใช้กับเจ้าคุณ ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย



       "ชิ! หมั่นไส้ว่ะ!!" เจ้าคุณเบ้ปากสบถออกมาเบาๆ เพราะความโมโหปนอิจฉา ที่ธาราเข้าข้างลูกชาย

....ชิ! ไม่รู้ว่ามันแสบได้ใคร



       "เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ" ธารากอดอกจ้องหน้าเจ้าคุณ ถามเสียงเรียบ



       "เปล่าจ้ะ...ไม่มีอะไรจ๊ะแม่จ๋า แหะๆ" เจ้าคุณทำหน้าแหยหัวเราะแหะๆเหมือนไม่มีอะไร ทั้งที่ในใจกำลัง

คิดหาวิธีแกล้งลูกชายสุดที่รักกลับคืนอยู่...(โถถถ...เด็กจริงๆ เลยครับคุณป๋า)

.

.

.

       "แม่จ๋าา...ทำไมหลวงตาถึงไม่มีผมเหมือนน้องนายอ่ะ" เจ้านายถามในขณะที่สามคนพ่อแม่ลูกกำลังเดิน

ไปยังท่าน้ำหลังวัดเพื่อให้อาหารปลา หลังจากที่เลี้ยงเพลพระและถวายสังฆทานกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว



       "ก็เพราะหลวงตาท่านบวชเป็นพระไงล่ะครับลูก" ธาราตอบ



       "แล้วเป็นพระไว้ผมไม่ได้หรอฮะ" เจ้านายถามต่อ



       "ไม่ได้หรอกครับเพราะมันเป็นกฏ" ธารายังคงตอบด้วยความใจเย็น



       "แล้วทำไมหลวง...."



       "พอๆ เลิกถามได้แล้วไอ้ลูกหมา ถึงแล้วจะให้อาหารปลาไหม รึจะถามต่อป๋าจะได้พากลับบ้าน" เจ้าคุณ

พูดขัดขึ้นเสียก่อนที่เจ้านายจะถามคำถามต่อใหม่จบ เมื่อถึงท่าน้ำริมแม่น้ำหลังวัดที่ใช้ในการปล่อยปลาแล้ว

เพราะขืนปล่อยให้ไอ้หนูจำไมลูกชายเขาถามต่อ วันนี้ทั้งวันก็คุยกันไม่จบหรอกเพราะเจ้านายลูกชายของเขา

นั้นก็จะมีคำถามหรือปัญหาโลกแตกถามขึ้นมาอีกเรื่อยๆ อย่างไม่มีสิ้นสุดไปจนกว่าเจ้าตัวจะหลับนั่นแหละ



       "ให้ๆ น้องนายจะให้อาหารปลานะป๋า" เจ้านายหยุดถามและหันไปเกาะขาอ้อนเจ้าคุณทันที



       "อยากให้อาหารปลาก็ต้องเอากะตังค์มาก่อนไอ้หมา ไหนตังค์อ่ะตังค์ เราต้องให้ตังค์ซื้ออาหารไปให้ปลา

นะไอ้ลูกหมา..มาเลยๆ เอาตังค์ตัวเองออกมาจ่ายเลย เมื่อวานปู่กะย่าเอ็งให้มาเท่าไหร่ฮึ?" เจ้าคุณแกล้งพูด

พร้อมกับแบมือกระดิกนิ้วทำท่าทางแกล้งขอเงินจากลูกชาย เพราะรู้มาว่าเมื่อวานพ่อกับแม่ของเขานั้นให้เงิน

เป็นของขวัญวันเกิดและฉลองวันเกิดล่วงหน้าให้กับเจ้าลูกชายตัวดีของเขาไปแล้ว เพราะวันนี้สองคนนั้น

ติดธุระไม่สามารถอยู่จัดงานวันเกิดให้กับเจ้านายในวันนี้ได้



       "แม่จ๋าพาน้องนายเอาตังค์ไปฝากไว้ที่ธนาคารหมดแล้วอ่ะป๋าาาา...ป๋าซื้อให้น้องนายหน่อยน้าาาา....

น้องนายไม่มีตังค์แล้ว...บ๋อแบ๋ๆ" เจ้านายบอกและพูดอ้อนให้เจ้าคุณซื้ออาหารปลาให้ตัวเอง เพราะตัวเอง

ไม่มีเงินเหลือแล้วจริงๆ หลังจากที่แม่จ๋าเอาเงินที่ปู่ย่าให้มาเมื่อวานตรงไปฝากไว้ที่ธนาคารเลย พร้อมกับ

ทำหน้าแป้นแล้นพลิกมือไปมาตอนที่พูดว่า 'บ๋อแบ๋ๆ' ทำให้เจ้าคุณและธาราอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

เสียงดังเพราะความทะเล้นของลูกชาย



       "ฮ่าๆ ก็ได้ๆ ถือว่าสงสารลูกหมาตาดำๆ ก็แล้วกันเน๊าะ!..แม่จ๋าเน๊าะ" เจ้าคุณขยี้หัวลูกชายด้วยความ

มันเขี้ยวก่อนที่ย่อตัวอุ้มเจ้านายขึ้นมา ส่วนมืออีกข้างก็เอื้อมไปจับธาราพากันเดินจูงมือข้ามสะพานเหล็กๆ

ไปยังท่าน้ำที่ใช้ให้อาหารปลา

.

.

.

.

.

       ปาร์ตี้วันเกิดเล็กๆ ของเจ้านายน้อยขวัญใจพ่อๆ แม่ๆ และปู่ย่าตายายกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่นานนี้

เพราะในขณะที่เจ้าตัวออกไปเที่ยวกับป๋าคุณและแม่ธารจ๋าของตัวเองตั้งแต่สายๆ แล้วนั้น ในช่วงบ่าย

หลังจากสามคนพ่อแม่ลูกออกไปไม่นาน คุณป๋ากับแม่จ๋าและสามแสบแฝดสามอีกครอบครัวนึงก็เข้ามา

พร้อมกับคุณยายมณีที่หนีออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว เพื่อเข้ามาจัดอาหารและสถานที่สำหรับงานเลี้ยง

วันคล้ายวันเกิดของพี่เจ้านายสุดแสบของทุกคน ตามที่ผู้ใหญ่ได้คุยและวางแผนกันมาแล้วก่อนหน้านี้

ซึ่งนั่นก็หมายความว่างานเซอร์ไพรส์เล็กๆนี้ ป๋าคุณและแม่ธารจ๋าของพี่เจ้านายนั้นก็มีส่วนร่วมด้วยนั่นเอง

.

.

.

       "แม่จ๋าาา..น้องนายหิวววว" เจ้านายร้องโอดครวญออกมาในขณะที่ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกนั่งอยู่บนรถ

กำลังที่จะกลับบ้าน หลังจากที่พากันไปเที่ยวโน่นดูนี่ตะลอนกันไปทั้งวัน



       "จะถึงบ้านแล้วลูกทนอีกนิดนะครับคนเก่ง" ธาราเอี้ยวตัวหันไปบอกลูกชาย พอดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ

ของตัวเองแล้วก็ไม่แปลกใจเลยที่ลูกชายของเขานั้นจะร้องบอกออกมา เพราะเลยเวลามื้อเย็นมาได้สักพัก

แล้ว แต่ก็จะโทษใครได้เพราะเขากับเจ้าคุณก็เรียกแล้วเรียกอีกเพราะเจ้าตัวมัวแต่ยืนเกาะตู้กระจกดูงูอยู่

นั่นแหละ จนเจ้าหน้าที่ ที่มีหน้าที่ดูแลตรงนั้น ถึงกับต้องมาเชิญออกอ่ะ เพราะถึงเวลาปิดทำการของเขาแล้ว

ที่สุดท้ายที่เขาและเจ้าคุณพาเจ้านายไปนั้นคือสวนสัตว์ในจังหวัดนี่แหละ



       "โทรไปถามซิธารว่าทางนั้นเขาพร้อมแล้วรึยัง" เจ้าคุณบอกพร้อมกับเลี้ยวรถเข้าปากทางหมู่บ้าน อีกนิด

เดียวก็จะถึงบ้านของพวกเขาอยู่แล้ว



       "เรียบร้อยแล้วให้เข้าไปได้เลย เด็กทางนั้นก็จะคลั่งเพราะโมโหหิวแล้ว ฮึๆ คงไม่ต้องบอกใช่มั้ยว่าใครอ่ะ"

ธาราขำออกมานิดๆ เมื่อนึกถึงความวุ่นวายที่ได้ยินมาตามสายสัญญาณโทรศัพท์

 

       "หึๆ ไม่ต้องบอกก็รู้...มีอยู่คนเดียว" เจ้าคุณบอกพร้อมกับเลี้ยวรถขับเข้าไปในบ้านเพราะถึงพอดี

.

.

.

       "แอะๆ น้องภีมครับ แม่บอกว่าอย่าแอบจิ้มเค้กของพี่เจ้านายไงครับ ถ้ามีอีกครั้งแม่จะตีแล้วนะ" พัสกร

พูดดุลูกแฝดคนกลางของตัวเองด้วยเสียงเรียบอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้แล้ว เพราะภายในเวลาแค่

ห้านาทีของการซ่อนตัวเตรียมเซอร์ไพรส์เจ้านายนั้น น้องภีมแฝดคนกลางของเขานั้นก็พยายามที่จะชิมเค้ก

ก้อนที่เขาทำมาให้เจ้านายไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง



       "ก็ลูกหิวนี่ฮะคุณแม่" น้องภีมแฝดกลางพูดพร้อมกับทำตาละห้อยอย่างน่าสงสาร



       "แต่เมื่อกี้คุณแม่ก็ให้น้องภีมทานขนมปังไปสองชิ้นใหญ่แล้วนะครับ" พัสกรพูดบอกและพยามที่จะไม่

สบตากลมๆ ที่แสนจะน่าเอ็นดูของลูกชายเพราะกลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนแล้วไปหยิบขนมปังชิ้นใหม่ในกระเป๋า

ที่มีเตรียมพร้อมไว้ให้ลูกเวลาที่ออกจากบ้านให้อีกชิ้นเพราะน้องภีมแฝดคนกลางของเขานั้นจะกินเก่งมากเกิน

ไปแล้ว และที่ต้องวางเค้กไว้ตรงหน้าน้องภีมอย่างนี้ก็เพราะว่าจะให้น้องภีมเป็นคนยกไปให้เจ้านายเป่า เพราะ

น้องภีมแฝดกลางเขาเป็นคนโปรดเป็นขวัญใจพี่เจ้านายเขา



       "แต่..."



       "ไม่แต่แล้วครับลูก โน่นพี่เจ้านายเข้ามาในบ้านแล้ว..ไปครับคนเก่ง ยกเค้กไปให้พี่เจ้านายเป่ากันดีกว่า"

พัสกรพูดขัดก่อนที่น้องภีมจะได้เถียงอะไรออกมาอีกเพราะเห็นว่ารถเจ้าคุณมาจอดอยู่หน้าบ้านแล้ว จึงส่ง

สัญญาณให้ณัฐภาสสามีของตัวเองที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งปิดไป และเริ่มจุดเทียนเค้กวันเกิดของเจ้านาย

.

.

.

       พรึ่บ!!



       "งื้อ..ป๋าน้องนายกลัว" เจ้านายผวาเกาะขาเจ้าคุณทันที เมื่ออยู่ดีๆ ไฟในบ้านก็มืดดับลง



       "ไม่ต้องกลัวครับลูก...โน่น...ดูซิว่าใครกำลังดินมา" เจ้าคุณลูบหัวพูดบอกลูกชายให้หายกลัว ก่อนที่จะ

ชี้ชวนให้เจ้านายมองไปข้างหน้าของตัวเอง



       Happy birthday to you,~ Happy birthday to you ~,Happy birthday....



       เสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิดดังออกมาพร้อมกับน้องภีมแฝดกลางน้องชายสุดที่รักของเจ้านายที่เดิน

ถือเค้กก้อนใหญ่ปักเทียนออกมาพร้อมกับมีแม่พัสจ๋าช่วยประคองกันล้มอีกทีนึง พอมองไปด้านหลังก็มี

ป๋าภาสที่ถือของขวัญกล่องใหญ่ยักษ์ออกมา ข้างๆ ก็มีแฝดโต และแฝดเล็กเดินถือของขวัญกล่องเล็กเดิน

เคียงคู่กันมา อีกทั้งยังมีคุณยายมณีและคุณปู่ชัชเดินปิดท้ายมาด้วยรอยยิ้มที่แสนใจดี และที่สำคัญข้างๆ ตัว

ของพี่เจ้านายยังมีป๋าคุณและแม่ธารจ๋าช่วยกันโอบกอดพี่เอาไว้อีกด้วย..งานวันเกิดปีนี้เป็นปีที่พี่รู้เรื่องรู้ภาษา

เป็นครั้งแรกเพราะก่อนหน้านี้พี่ยังเป็นเด็กน้อยอยู่...แต่ยังไงก็แล้วแต่พี่อยากจะบอกว่าพี่มีความสุขที่สุดเลยฮะ

และขอให้ทุกๆ คนรักและอยู่กับพี่เจ้านายคนนี้อย่างนีี้ไปนานๆ เลยนะครับ....สาธุ!...เพี้ยง!!!













...
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!

มี่ลงรูปเด็กๆให้แล้วแต่รูปมันไม่ขึ้นอ่ะคะ

ถ้ายังไงก็หารูปจิ้นกันเอานะคะ

อิมเมจสามแสบ ภาค ภีม ภาม ก็มาจาก แทฮัน มินกุก มันเซ
ลูกแฝดของนักแสดงซงอิลกุก เรียงตามนั้นเลยค่ะ

ส่วนอิมเมจเจ้านายก็มาจาก น้องเดนนิส เคน นายแบบเด็กลูกครึ่งเกาหลีค่ะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 12 (11/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 11-01-2016 22:26:30
น้องนายนี่น่าหมั่นไส้เหมือนคุณพ่อนั่นแหละ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าได้ใครมา  :laugh:
เด็กๆน่าร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 12 (11/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 11-01-2016 22:35:27
 :pig4: :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 12 (11/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-01-2016 23:10:17
เด็กๆน่ารักกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 12 (11/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-01-2016 23:17:50
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 12 (11/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-01-2016 07:34:46
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 22 (12/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 12-01-2016 21:55:56
 

คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 22






 

 

        "คุณแม่ทำอะไรฮะ" เสียงน้องภาคแฝดพี่ร้องถามพัสกรที่กำลังเดินวนไปวนมาหยิบโน่นนี่นั่นอยู่ในครัว
 

       "คุณแม่กำลังจะทำคุ๊กกี้ปังแมนกับขนมปังใส่กรอกรูปน้องหมาที่หนูชอบใส่โหลไว้ให้พี่ภาค ภีมและก็
น้องภามไว้ทานยังไงครับ" พัสกรก้มตัวบอกกับลูกแฝดคนโตของตัวเอง ก่อนที่จะเดินวนไปหยิบเนยก้อนใน
ตู้เย็นอีกทีเพราะลืมหยิบออกมาพร้อมกับตอนที่ไปหยิบไข่ไก่ออกมาเมื่อกี้
 

       "พี่ภาคอยากช่วยคุณแม่ด้วย" น้องภาคบอกออกมานิ่งๆตามสไตล์ของตัวเอง...ลูกชายฝาแฝดของพัสกร
และณัฐภาสนั้นนอกจากจะหน้าตาไม่เหมือนกันแล้ว ลักษณะนิสัยและบุคคลิกท่าทางก็ยังไม่เหมือนกันอีก
เรียกได้ว่าสามคนสามสไตล์เลย พี่ภาคแฝดโตนั้นคนนี้เขาสไตล์หล่อขรึมเพราะนอกจากจะหน้าตาเหมือนกับ
ณัฐภาสผู้เป็นพ่อแล้วยังมีนิสัยนิ่งๆ เงียบๆ ไม่ค่อยสนใจโลกเหมือนกับณัฐภาสตอนที่สวมหัวโขนนั่งโต๊ะทำงาน
เป็นประธานขาโหดในบริษัทอีกด้วย ส่วนน้องภีมแฝดกลาง คนนี้เขาลูกชายคุณแม่ของแท้ เพราะนอกจาก
จะมีหน้าตาหน้ารักจิ้มลิ้มที่ได้มาจากพัสกรผู้เป็นแม่แล้วยังมีนิสัยชอบออดอ้อนช่างพูดช่างเจรจา ออร่าเคะ
น้อยแตกกระจายให้เห็นกันตั้งแต่เด็กเลย คุณพ่อภาสเลยหวงเป็นพิเศษ ส่วนน้องภามแฝดเล็กคนนี่ไม่รู้จะ
อธิบายเพราะนอกจากจะไม่เหมือนพ่อแม่แล้ว ยังแสบหลุดโลกอีกต่างหาก เหมือนเอาเจ้านาย น้องภาค
น้องภีม มาผสมอยู่ในตัวน้องภามคนเดียวเลย แต่คนนี้เขาเป็นขวัญใจของคุณปู่เพราะความเกรียนหลุดโลก
ของเจ้าตัวนี่แหละ!!
 

       "น้องภีมอยากทำด้วย!!"
 

       "พี่ภามก็ช่วยด้วย!!"
 

       แฝดกลางกับแฝดเล็กที่ได้ยินพี่ชายคนโตของตัวเองพูดบอกคนเป็นแม่อย่างนั้นก็เข้ามากระโดดโลดเต้น
พูดบอกอยู่ข้างๆ ตัวพัสกรอย่างกระตือลือล้น จนพัสกรต้องยอมให้เด็กแฝดทั้งสามคนช่วยกันร่อนแป้งสำหรับ
ทำขนมปังในที่สุดเพราะพ่ายแพ้ต่อสายตากลมๆ เว้าวอน ที่ยากจะปฏิเสธทั้งสามคู่นั่นได้ จึงเดินไปหยิบโต๊ะ
ญี่ปุ่นที่เด็กแฝดเอาไว้เขียนหนังสือมากางวางไว้กลางห้องนั่งเล่นที่แปลสภาพเปลี่ยนไปเป็นห้องของเล่นแฝด
เป็นที่เรียบร้อยแล้วที่พัสกรจะต้องเอาโต๊ะญี่ปุ่นมากางในห้องนั่งเล่นอย่างนี้ก็เพราะว่าในห้องครัวมันอันตราย
ต่อเด็กเล็กอย่างสามแฝดนี้เกินไป
 

       "อ๊ะ!...ตั้งน้ำไว้นี่..ลืมเลย เดี๋ยวพี่ภาคช่วยดูน้องแทนแม่ด้วยนะครับ อย่าทำให้เลอะเทอะกันนะครับสาม
แสบของแม่" พัสกรพูดออกมาเมื่อนึกขึ้นได้ ว่าตัวเองตั้งหม้อน้ำเตรียมจะทำอาหารมื้อเย็นไว้ด้วย จึงพูดบอก
ให้น้องภาคแฝดพี่ที่เป็นเป็นพี่ใหญ่และดูมีความรับผิดชอบที่สุดให้ดูแลแฝดน้องอีกสองคนแทนตัวเอง...วันนี้
พัสกรดูวุ่นวายนิดๆ เพราะแม่บ้านที่ประจำอยู่บ้านนี้โดนณัฐภาสส่งกลับไปอยู่ที่บ้านเจ้าสัวชัชวาลย์เป็นที่
เรียบร้อยแล้วเพราะสาเหตุอะไรเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน และพรุ่งนี้เช้าถึงจะมีแม่บ้านและคนดูแลบ้านชุดใหม่
จากบ้านโน่นเข้ามา ส่วนสนที่พอจะเป็นเพื่อนคุยกันได้ก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้หายหน้าหายตาไปไหนไม่โผล่มาให้
เห็นเหมือนอย่างเมื่อก่อนเลย
 

       "ฮะ" น้องภาคตอบรับคำสั่งของแม่อย่างแข็งขัน
 

       "แฮ่ๆ / คิก..คิก!"
 

       "เล่นไม่ได้นะภาม" เป็นเพราะได้ยินเสียงประหลาดๆ ของน้องภามและเสียงหัวเราะคิกคักของน้องภีม
แฝดน้องทั้งสองคนของตัวเอง น้องภาคผู้พี่ที่กำลังตั้งอกตั้งใจก้มหน้าก้มตาร่อนแป้งตามที่พัสกรผู้เป็นแม่
สอนไปก่อนหน้านี้ จำต้องเงยหน้าจากกะละมังผสมแป้งตรงหน้าขึ้นมองแฝดน้องอีกสองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรง
ข้ามกับตัวเอง และพอดีกับที่เห็นน้องภามแฝดเล็กกำลังใช้สองมือกำแป้งที่คุณแม่สั่งให้ร่อนโปะเข้าเต็มหน้า
ของตัวเองจนขาววอกและแลบลิ้นร้องแฮ่ๆ ใส่น้องภีมแฝดกลางและน้องภีมก็หัวเราะคิกคักออกมาอย่าง
ชอบใจ...น้องภาคจึงต้องรีบพูดห้ามน้องด้วยเสียงจริงจังเพราะคุณแม่สั่งให้เขาเป็นคนดูแลน้องๆทั้งสองคน
 

       "ได้สิ! ทำอย่างงี้ๆ อ่ะ!" น้องภามแฝดเล็กพูดเถียงพี่คนโตพร้อมกับโชว์เกรียนกำแป้งในกะละมังผสม
ของตนโปะเข้าหน้าตัวเองอีกสองที แถมยังขยี้ให้ดูอีกต่างหาก ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำอย่างนี้ของน้องภาม
เรียกเสียงหัวเราะของน้องภีมได้อีกก๊ากใหญ่เพราะมันดูตลกในสายตาของน้องภีม แต่สำหรับพี่ภาคแฝดโต
ผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ฟังตามคำสั่งของคุณแม่อย่างแน่วแน่เป็นเลิศนั้นย่อมทนไม่ได้ที่น้องภามแฝด
เล็กตัวแสบทำอย่างนั้น
 

       "ห้ามเล่น! เล่นไม่ได้!" พี่ภาคแฝดโตพูดเสียงเข้มพร้อมกับยึดกะละมังผสมของน้องภามแฝดเล็กมาวาง
ไว้ที่พื้นทางฝั่งตัวเองนั่ง เพื่อที่จะไม่ให้น้องแย่งไปได้อีก
 

       "พี่ภาคเอาของพี่ไปทำไม!!" น้องภีมตะหวาดถามอย่างไม่พอใจ เพราะตัวเองกำลังเล่นสนุกอยู่เลย
และหลุดใช้สรรพนามที่คุณแม่คอยห้าม(แต่ไม่ฟัง)ใช้พูดแทนตัวเองออกมา...ทั้งๆ ที่เป็นน้องเล็กคนสุดท้อง
แต่กลับเรียกแทนตัวเองว่า 'พี่' จนเคยชิน
 

       "ก็ภามดื้อ! ไม่ใช่ของเล่น เล่นไม่ได้" พี่ภาคตอบพร้อมกับมือที่ร่อนแป้งในส่วนของตัวเองด้วยหน้านิ่งๆ
ไม่สนใจน้องฝาแฝดคนเล็กของตัวเองที่ยืนเต้นเร่าๆ ด้วยความโมโหอยู่ฝั่งตรงข้าม
 
       "พี่ไม่ดื้อนะ!! พี่ภาคแหละดื้อ!! ขโมยของเขาไป!! เด็กดื้อต้องโดนจัดการ นี่แน่ะๆ" พูดเสร็จน้องภามก็
คว้าแป้งในกะละมังผสมของน้องภีมแฝดกลางที่นั่งอยู่ข้างๆ ตัวเองเต็มสองกำมือปาโปะใส่หน้าพี่ภาคแฝดโต
เข้าเต็มแรงอย่างต่อเนื่องไม่คิดจะหยุดพัก จึงทำให้ทั้งตัวของพี่ภาคแฝดโตนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นแป้งจนแทบจะ
มองไม่เห็นอะไรเลย
 
       "ภามนั่นแหละดื้อ!! นิสัยไม่ดี!! ไอ้เด็กเกเร!!" พี่ภาคแฝดโตว่าพร้อมกับยกกะละมังผสมของตัวเองที่มี
แป้งขนมปังอยู่เกือบเต็มกะละมังสาดเข้าใส่น้องชายฝาแฝดคนเล็กของงตัวเองอย่างเต็มแรงเหมือนกัน
ก่อนที่ทั้งสองคนจะกวาดเศษแป้งที่ตกอยู่ข้างๆ ตัวของตัวเองสาดใส่อีกฝ่ายนึงอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร
จนน้องภีมที่ยืนมองอย่างกล้าๆ กลัวๆ อยู่เฉยๆ ตั้งแต่แรกโดนลูกหลงจากการที่แฝดพี่ใหญ่และน้องเล็ก
ยื้อแย่งกะละมังใบเดียวกันไปมาแล้วพลาดหลุดมือลอยไปใส่หัวน้องภีมแฝดกลางจนร้องไห้จ้าออกมา
เสียงดังจนพัสกรที่ยังคงวุ่นอยู่ในครัวหลังบ้านต้องรีบวิ่งออกมาดูลูกๆ ของตัวเอง
 
       "นี่มันอะไรกันเนี่ย!! หยุดๆ น้องภาค น้องภามแม่บอกให้หยุดเดี๋ยวนี้!!!" พัสกรแทบจะเป็นลมกับสิ่งที่เห็น
อยู่ตรงหน้า ห้องนั่งเล่นที่เคยสะอาดเอี่ยมฟรุ้งเต็มไปด้วยฝุ่นแป้ง ลูกชายฝาแฝดคนโตและคนเล็กที่ตัวขาววอก
เต็มไปด้วยแป้งจนแทบจะมองไม่เห็นแม้แต่ลูกตายืนฉุดกระชากถุงแป้งกันอยู่คนละฝั่งโดยที่มีโต๊ะญี่ปุ่นตัว
เตี้ยๆ กั้นกลาง ส่วนน้องภีมคนกลางที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยแป้งจนขาววอกไปไม่ต่างจากพี่และน้องของ
ตัวเอง แต่จะต่างก็ตรงที่น้องภีมกำลังยืนใช้สองมือกุมหน้าผากตัวเองร้องไห้จ้าน้ำตานองอยู่ไม่ห่างจากคู่
กรณีทั้งสองคนสักเท่าไหร่
 
       "น้องภีมเป็นอะไรครับ...ไหนมาให้แม่ดูหน่อยสิลูก" พัสกรละสายความสนใจในแฝดโตแฝดเล็กที่เป็นคู่
กรณีกันเสียก่อน เมื่อเห็นว่าแฝดกลางกำลังร้องไห้อยู่
 
       "ฮึก!..น้องภีม..เจ็บฮะ..คุณแม่...ฮื่ออออออ...." น้องภีมร้องบอกพร้อมกับเปิดมือที่กุมหน้าผากตัวเองให้
พัสกรได้ดูว่าตัวเองเจ็บตรงนี้
 
       "หนูไปโดนอะไรมาครับลูกหัวปูดโนหมดเลย...ไปครับเดี๋ยวแม่จะเอาน้ำแข็งประคบให้ก่อนจะได้หายโน
ส่วนเราสองคนน้องภาค น้องภามไปนั่งเข้ามุมคนละมุม แล้วก็อยู่เงียบๆ ห้ามทะเลาะอะไรกันอีกจนหว่าแม่
จะกลับมา..เข้าใจมั้ยครับ!" พัสกรอุ้มน้องภีมขึ้นก่อที่จะหันไปบอกน้องภาคและน้องภาม ส่วนแฝดเล็กและ
แฝดโตก็ทำตามที่พัสกรบอกอย่างว่าง่าย เดินหน้าเศร้าเข้ามุมใครมุมมันน้ำตาเริ่มไหลนองเพราะความกลัว
เพราะนานๆ ทีคุณแม่จะสั่งให้เข้ามุมสักทีและหลังจากที่นั่งเข้ามุมจ้องกำแพงเรียกสติเสร็จแล้ว ยังจะโดน
ลงโทษต่ออีกด้วย
 
 
**(การเข้ามุมคือการที่ให้เด็กๆนั่งมองพนังห้องอยู่นิ่งๆ เพื่อให้มีเวลาได้คิดทบทวนในความผิดของตัวเองจ้า..)
 
 
       "ว่ายังไงครับ มีใครพอจะบอกคุณแม่ได้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น" พัสกรเดินอุ้มน้องภีมที่หยุดร้องไห้แล้ว
ถามขึ้น หลังจากที่เอาน้องภีมไปประคบน้ำแข็งและปลอบให้หยุดร้องไห้บนห้องนอนอยู่พักใหญ่ แต่เขาก็พอ
จะรู้สาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นมาจากการหลอกถามน้องภีมมาแล้วบ้างหล่ะ แต่ที่ต้องมาถามคู่กรณีทั้งสองคน
อีกก็เพราะเขาอยากจะรู้ว่า ทั้งน้องภาคและน้องภามรู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองทำอะไรผิดไป
 
      "ภาคทะเลาะกับภามครับ" น้องภาคพี่โตตอบออกมาด้วยเสียงนิ่งๆ
 
      "ภามดื้อกะพี่ภาคฮะ" น้องภามแฝดเล็กเองก็ตอบออกมาด้วยเสียงสั่นๆ แทบจะพร้อมกันกับน้องภาค
 
      "ดีครับ..ลูกผู้ชายทำผิดแล้วต้องยอมรับผิด...ถ้าอย่างนั้นแม่จะลงโทษพี่ภาคกับน้องภามโทษฐานที่
ทะเลาะกันโอเคมั้ยครับ" พัสกรถามต่อ..แต่ครั้งนี้ไม่มีใครตอบคำถามเขาออกมาเลย เพราะเด็กแฝดทั้ง
สามคนนั่งร้องไห้ปล่อยให้น้ำตาตัวเองไหลกันออกมาอย่างเงียบๆ เมื่อได้ยินว่าจะถูกลงโทษไม่เว้นแม้
กระทั่งน้องภีมแฝดกลางที่นั่งอยู่ที่ตักของพัสกรก็ร้องไห้ออกมากับเขาด้วยทั้งๆที่ตัวเองนั่นไม่ได้โดนลงโทษ
แต่อย่างใด
 
      "พี่ภาค น้องภาม นั่งคุกเข่าแล้วชูมือขึ้นทั้งสองมือเลยครับ" พัสกรพูดสั่งออกมา โดยที่พยายามจะไม่มอง
สบตากลมที่รื้นเต็มไปด้วยน้ำตาของลูกชายฝาแฝดทั้งสามคนของตัวเองด้วย เพราะกลัวว่าจะใจอ่อน
 
      "ฮื่อออออ..." น้องภีมแฝดกลางที่ไม่ได้โดนลงโทษไปกับแฝดพี่และแฝดน้องตัวเองร้องไห้จ้าออกมาอีกครั้ง
เมื่อมองเห็นว่าแฝดพี่กับแฝดน้องของตัวเองกำลังนั่งคุกเข่ายกสองมือชูขึ้นเหนือหัวตัวเองตามคำสั่งลงโทษ
ของคนเป็นแม่
 
      "ร้องไห้ทำไมครับน้องภีม" พัสกรก้มถามลูกชายคนกลางที่นั่งอยู่บนตักของตัวเอง
 
      "พี่ภาค..กะ..น้องภาม..โดนลงโทษ...ฮึก!" น้องภีมสะอื้นบอก
 
      "คนทำผิดก็ต้องโดนลงโทษครับ" พัสกรบอกเหตุผลไปเหมือนกับทุกครั้งที่มีต้องลงมือทำโทษลูกชาย
ฝาแฝดของตัวเองทั้งสามคน เพื่อให้เด็กๆ ได้รู้และไม่กลับำปทำผิดอย่างนั้นอีก
 
      "น้องภีมก็ผิด...ฮึก!...น้องภีมไม่ห้าม..ฮึก!" น้องภีมบอกพร้อมกับเดินไปนั่งคุกเขาชูสองมือขึ้นเหนือหัว
ตามที่พัสกรสั่งลงโทษตรงกลางระหว่างแฝดพี่และแฝดน้องของตัวเอง
 
       "เฮ้อ!...ถ้าอย่างนั้นทั้งสามคนก็นั่งอย่างนี้ไปจนกว่าแม่จะทำความสะอาดในสิ่งที่พวกหนูทำเลอะไว้
จนกว่าจะเสร็จ....ตกลงไหมครับ" พัสกรถอนหายใจทิ้งอย่างไม่รู้จะทำยังไงในเมื่อน้องภีมเป็นคนตัดสินใจ
ที่จะรับผิดยอมโดนทำโทษร่วมกับพี่และน้องของตัวเอง ก่อนที่จะเบือนหน้าหนีสามพี่น้องฝาแฝดที่พยักหน้า
ตอบรับการลงโทษของเขาด้วยน้ำตา และรีบจัดการทำความสะอาดเศษฝุ่นแป้งที่ลูกๆของตัวเองได้ทำเลอะไว้
 
       "หนูต้องรักกันอย่างนี้ตลอดไปเลยนะครับลูก" พัสกรพึมพัมกับตัวเองด้วยรอยยิ้มปนน้ำตาของความภูมใจ
ที่เห็นแฝดสามใช้มือช่วยกันยันไม่ให้แขนของใครคนใดคนหนึ่งตกลงเพราะความเมื่อยไปเสียก่อนที่จะจบ
การลงโทษในครั้งนี้
.
.
.
       "กลับมาแล้วครับ..ลูกชายคุณพ่อไปอยู่ไหนกันหมดน้าาาาา....." ณัฐภาสตะโกนเรียกหาลูกชายฝาแฝด
ทั้งสามคนของตัวเองเสียงดัง เมื่อไม่เห็นลูกๆ ไปรอต้อนรับตัวเองอยู่ที่หน้าบ้านอย่างทุกที เพราะปกติแล้ว
ทุกๆ เย็น เมื่อถึงเวลากลับบ้านหลังเลิกงานของณัฐภาสจะต้องมีหนึ่งในแฝดสามไม่คนใดก็คนนึงจะต้อง
โทรหาเขาว่าจะกลับบ้านหรือยัง หรือไม่ก็โทรหาเขาเพื่อที่จะให้เขาซื้อขนมที่สามแฝดอยากจะกินเข้ามาด้วย
และทุกๆ ครั้งที่ได้ยินเสียงรถของเขาเลี้ยวเข้ารั้วบ้านมาสามแฝดก็จะมายืนรอต้อนรับเขาที่หน้าบ้านแล้ว
แต่วันนี้กลับไม่มีสักคนและที่สำคัญบ้านเงียบกว่าที่ควรจะเป็นมาก
 
       "อ้าว! ทำอะไรกันอยู่ครับลูก" ณัฐภาสร้องถามเสียงหลงเบรคตัวโก่งในขณะที่กำลังจะเดินผ่านห้องนั่งเล่น
เพื่อที่จะขึ้นบันไดไปยังชั้นบนของบ้าน
 
       "โดนคุณแม่ลงโทษฮะ!!!" แฝดสามตอบออกมาพร้อมกัน มือที่ตอนแรกยืดตรงชูสุดแขนค่อยๆ เลื่อน
ต่ำลงๆ ทุกทีเพราะเริ่มที่จะล้าเต็มทน
 
       "ลงโทษเรื่องอะไรครับ" ณัฐภาสย่อตัวนั่งลง ถามลูกแฝดทั้งสามคนของตัวเอง
 
       "ทะเลาะกันครับ พัสเลยลงโทษ....เอามือลงได้แล้วครับลูกแม่ทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว" พัสกร
บอกกับสามี ก่อนที่จะหันไปพูดบอกกับลูกๆ ตัวเอง ส่วนเด็กแฝดทั้งสามคนพอได้ยินที่แม่บอกแล้วก็ทิ้งตัว
นอนพื้นเอาหัวชนกันทั้งสามคนเลย เพราะเมื่อยไปหมดทั้งตัว
 
       "ทั้งสามคนเลยหรอ?" ณัฐภาสถามต่อ
 
       "พี่ภาคกับน้องภามทะเลาะกันครับ ส่วนน้องภีมเขาบอกว่าเขาผิดเพราะไม่ยอมห้ามเลยขอโดนลงโทษ
ไปด้วยอีกคน" พัสกรตอบในขณะที่คว้าตัวน้องภาคแฝดโตเข้ามานวดแขนนวดขาคลายกล้ามเนื้อให้ เพราะ
กลัวว่าตะคิวจะกินขากินแขนลูกชายเพราะนั่งเกร็งอยู่นาน ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามที่จะทำความสะอาดให้
เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วก็เถอะ แต่มันก็ยังช้าในความรู้สึกเขาอยู่ดี ไม่ได้อยากจะลงโทษหรอก แต่ถ้าปล่อย
ให้ผ่านไปเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น เด็กๆ ก็จะเคยตัวและจะกลับมาทำอย่างนี้กันอีกและจะพูดบอกด้วยปาก
เปล่าเฉยๆ ก็ไม่ได้เพราะเคยทำมาแล้ว แต่เด็กๆ ทั้งสามคนก็ไม่จำและทำความผิดเดิมๆ ซ้ำขึ้นมาอีกรอบนึง
เขาถึงต้องทำใจแข็งลงโทษลูกๆ ที่นั่งน้ำตานองหน้าอยู่อย่างนั้น...ทั้งๆ ที่เขาก็รู้สึกแย่เหมือนกัน
 
       "อืม...แล้วหัวหนูไปโดนอะไรมาเนี่ยครับน้องภีม" ณัฐภาสพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะถามออกมาเสียงหลง
เมื่อเห็นรอยช้ำที่ยังคงปูดโนนิดๆ ที่กลางหน้าผากของน้องภีมแฝดกลางลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตัวเอง
 
       "ก็โดนลูกหลงจากที่สองคนนั้นทะเลาะกันนั่นแหละ...น้องภามมาหาแม่มาครับ แม่จะนวดให้" พัสกรตอบ
ณัฐภาสที่นั่งสำรวจความเสียหายของลูกชายสุดที่รักของเจ้าตัว ก่อนที่จะหันไปเรียกให้น้องภามแฝดเล็กมาหา
ตัวเองเพราะจะนวดคลายกล้ามเนื้อให้เหมือนกันกับที่ทำให้น้องภาค ส่วนน้องภีมน่ะหรอ? รายนั้นไม่ต้องไป
ห่วงเขาหรอก...คุณพ่อเขายินดีดูแล...เซอร์วิสให้อย่างเต็มที่...โดยที่เจ้าตัวไม่ต้องร้องขออะไรเลย
 
 
       เฮ้อ!!.....บ่งบอกถึงความเท่าเทียม..รักลูกไม่ลำเอียง(หรอ?)....มากอ่ะ....ณัฐภาส!!!
 
 
 
 
...
มาไวป๊ะล๊ะ!!.....ชดเฉยให้กับช่วงที่หายไป (ความรู้สึกช้าไปไหมแกห้ะไอ้มี่...ฮ่าาา)
แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ!! :katai4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 22 (12/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 12-01-2016 22:37:32
 :z13:
เด็กๆ ทั้งหลายน่ารักมากเลย
เจ้านายคงคู่กะน้องภีมสิเนี่ย :-[
ครอบครัวสุขสันต์  :กอด1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 22 (12/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryu_Chise ที่ 12-01-2016 22:41:39
ดื้อจริงเชียว สามแสบ 5555 หรือสองแสบกับหนึ่งสาวดี

โอ้ยยยย ตบตีกันน่ารักกกกกกกก

หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 22 (12/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-01-2016 23:52:28
น้องภามแสบสุดๆ 5555
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 22 (12/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 13-01-2016 00:03:09
รักกัน ๆ ดีจังน้องแฝด :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 22 (12/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 13-01-2016 00:40:21
สนุกมากจ้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 22 (12/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-01-2016 01:24:27
หลงเด็กแล้วตอนนี้
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 22 (12/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: JanNi ที่ 13-01-2016 06:58:43
เป็นพี่น้องที่รักกันจริงๆเลยอะ น่ารักมาก :mew1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 22 (12/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 13-01-2016 08:40:29
พวกเด็กดื้อน่ารัก มีขอลงโทษพร้อมพี่น้องด้วย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 22 (12/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 13-01-2016 17:12:54
รักลูกคนกลางที่สุดสินะคุณพ่ออออออ โอ๋ก่อนเพื่อนเลย  :laugh:
ไม่ค่อยเล้ยยยยยยยยยย คิดถึงแฝดสาม
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 22 (12/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 13-01-2016 17:53:08
คนเล็กแสบสุดเลยนะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 22 (12/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 13-01-2016 20:04:07
แสบจริงเด็กพวกนี้! 55
รอตอนต่อไปจ้าา
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 23 (14/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 14-01-2016 18:55:06

คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 23











       ท่ามกลางความร้อนระอุของแสงแดดยามบ่ายที่ส่องผ่านเข้ามาในห้องนั่งเล่นอย่างนี้ ไม่ได้เป็นอุปสรรค

ในการนอนกลางวันของสี่คนพ่อลูกอย่างณัฐภาสและสามแสบแฝดสาม ภาค ภีม ภามได้เลย ยิ่งเป็นวันหยุด

สุดสัปดาห์ที่เป็นช่วงเวลาในการกักตุนความสุขของครอบครัวแฝดสามยิ่งแล้วใหญ่เพราะวันหยุดเสาร์อาทิตย์

ที่คุณพ่อณัฐภาสไม่ต้องไปทำงานและคุณลูกแฝดสามไปต้องไปโรงเรียนอนุบาลนั้นถือว่าเป็นช่วงกอบโกย

ความสนุกความสุขกันเลยทีเดียว พวกเขาจึงปล่อยตัวปล่อยใจเล่นกันอย่างเต็มที่โดยที่ไม่สนใจพลังงานสะสม

ในร่างกายกันเลยว่ามีเหลืออยู่เท่าไหร่ จนสุดท้ายก็เป็นอย่างที่เห็น ท่ามกลางกองของเล่นและหนังสือนิทาน

หรือสมุดวาดเขียนที่มีอยู่อย่างละสามชิ้นเท่าๆ กันตามจำนวนของลูกชายบ้านนี้ที่ถูกรื้อกระจัดกระจายวาง

ไปทั่วทั้งห้องนั่งเล่น ก็ยังมีร่างของที่คนพ่อลูกที่นอนหลับอยู่ท่าเดียวกันปะปนอยู่กับกองของเล่นอีกด้วย



       "อ่าว...หลับกันไปหมดซะแล้ว" พัสกรที่ออกไปเก็บผ้าที่ซักตากไว้ตั้งแต่เช้าเข้ามาในบ้าน เผลอแป๊บเดียว

สี่คนพ่อลูกก็หลับสลบไสลไปกันหมดซะแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงตัวเอง

ออกมาถ่ายภาพความทรงจำน่ารักๆของทั้งสี่คนพ่อลูกนี้เก็บไว้ดูอีกด้วย...พัสกรค่อยๆ ทิ้งตัวนั่งลงที่พื้นอย่าง

ระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงดังไปรบกวนการนอนกลางวันของสี่คนพ่อลูกนี่ ก่อนจะค่อยๆ ไล่พิจารณาดูหน้าตา

และท่าทางทีละคนๆ ไป...เหมือนกันไม่มีผิด...สี่คนพ่อลูกนี่เหมือนกันไม่มีผิดถึงจะหน้าตาไม่เหมือนกันทั้งหมด

แต่เด็กแฝดทั้งสามคนก็มีเค้าหน้าของณัฐภาสผู้เป็นพ่อมากกว่าเขาเยอะเลย อีกทั้งท่าทางการนอนในตอนนี้

ก็บอกได้เลยว่าถอดแบบกันออกมาชัดๆ เริ่มจากณัฐภาสที่นอนคว่ำใช้มือซ้ายรองหน้าตัวเองส่วนมือขวาที่ว่าง

ก็วาดแขนโอบน้องภีมลูกสาว(?) สุดที่รักไว้ ต่อจากน้องภีมที่นอนอยู่อ้อมกอดของคุณพ่อก็เป็นน้องภามและ

น้องภาคเรียงกันไปตามลำดับ โดยที่เด็กแฝดทั้งสามคนนอนท่าเดียวกันกับคนเป็นพ่อเด๊ะๆ เลย คือแขนซ้าย

รองหัวแขนขวาที่ว่างก็พาดต่อๆ กันไป...ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่ารักมากสำหรับคนที่รับหน้าที่เป็นทั้งภรรยาและแม่

อย่างพัสกร ส่วนเรื่องแม่บ้านชุดใหม่ที่จะมาดูแลบ้านแทนคนเก่านั้นก็เป็นอันยกเลิกไปเพราะพัสกรตัดสินใจที่

จะทำทุกอย่างในบ้านเองทั้งหมด เพราะว่าหลังจากที่ลูกแฝดทั้งสามคนของตัวเองไปโรงเรียนอนุบาลในตอน

เช้าแล้ว พัสกรก็ว่างยาวเลยเพราะไม่มีอะไรทำจึงตัดสินใจคุยกับณัฐภาสว่าจะไม่เอาแม่บ้านชุดใหม่แล้ว

เพราะเขาขอผันตัวเองไปเป็นแม่บ้านเต็มตัวรับผิดชอบทำทุกๆอย่างในบ้านเอง เพราะชินแล้ว และอีกอย่าง

เขาไว้ใจตัวเองมากกว่าคนอื่น เพราะว่าทุกๆอย่างในบ้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน เรื่องสารตกค้างจาก

การซักผ้าไม่สะอาด เรื่องการดูแลทำความสะอาดของเล่น และอีกหลายๆ อย่าง มันก็เกี่ยวข้องกับความปลอด

ภัยในชีวิตลูกชายเขาทั้งนั้น...เพราะฉะนั้นงานนี้พัสกรขอเหมา ถึงจะเหนื่อยหน่อยแต่ก็มีความสุขดี



       "อื้อ!!"



       "หืม..พี่ภาคตื่นแล้วหรอครับ...มาหาคุณแม่มาลูก" มัวแต่นั่งคิดอะไรเพลินๆ จนไม่เห็นว่าลูกชายคนโต

ของตัวลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว...เจ้าตัวเล็กที่เห็นว่าแม่ยังไม่สนใจตัวเองก็บิดขี้เกลียดพร้อมกับส่งเสียงให้แม่รู้

สักหน่อยว่าตัวเองตื่นแล้วนะ



       "คุณแม่..." พี่ภาคแฝดโตค่อยๆ ลุกจากตรงที่ตัวเองนอนมาหาแม่และมาทิ้งตัวนั่งตักคลอเคลียซุกอก

อ้อนแม่ตัวเองแทน



       "คุณแม่~" แต่ยังไม่ทันที่พี่ภาคคนโตจะได้อ้อนแม่อย่างเต็มที่เลย เจ้าภามคนเล็กก็ร้องเรียกหาแม่ตั้งแต่

ตัวเองยังไมจะทันลืมตาตื่นเต็มที่เลย พัสกรจึงต้องจุ๊ปากไม่ให้เจ้าตัวแสบเสียงดังทำให้ณัฐภาสและแฝดกลาง

ที่ยังนอนหลับอยู่ตื่นขึ้นมาเสียก่อน ก่อนที่จะกวักมือเรียกให้แฝดเล็กตัวแสบมาหาตน ซึ่งเจ้าแสบก็ทำตามที่

แม่บอกแต่โดยดี แต่แทนที่จะลุกเดินมาดีๆ เหมือนคนพี่เจ้าแสบเล็กกับค่อยๆ กระดึ๊บตัวเลียนแบบตัวหนอน

ที่เคยเห็นในการ์ตูนเข้ามาหาคนเป็นแม่อย่างช้าๆ เสียอย่างนั้น พัสกรจึงอดไม่ได้ที่จะหลุดขำออกมาเบาๆ



       "หิวกันรึยังครับ" หลังจากที่นั่งกอดนั่งฝัดลูกและให้ลูกคลอเคลียตัวเองอยู่นาน พัสกรก็ถามออกมาเพราะ

กลัวว่าลูกชายจะหิวและถึงเวลาของว่างยามบ่ายแล้วด้วย...กับเด็กคนอื่นเขาไม่รู้ว่าเป็นยังไง แต่กลับลูกชาย

บ้านนี้แล้ว เรื่องกินถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ไอ้ตอนแรกเขาและณัฐภาสสามีก็ดีใจอยู่หรอกว่าลูกๆ ของตัวเองไม่

เลือกกิน ผัก ผลไม้ที่เด็กคนอื่นมักจะไม่ชอบกินแฝดสามก็กินกันหมดเรียบ จนตอนหลังชักเริ่มเปลี่ยนเป็นความ

กังวลแล้วหล่ะที่แฝดสามดูเหมือนจะกินกันเก่งเกินไป ยิ่งน้องภีมคนกลางนี่ยิ่งแล้วใหญ่เพราะตอนนี้เจ้าตัวมี

น้ำหนักตัวมากกว่าเจ้านายลูกชายของเจ้าคุณและธาราที่แก่กว่าตั้งหกเดือนเสียอีก ส่วนแฝดโตและแฝดเล็ก

ที่เหลือก็ใช่จะน้อยหน้าเพราะถึงจะไม่หนักกว่าเจ้านายแต่เจ้าแสบเล็กก็หนักเท่าเจ้านายเป๊ะๆ เลย พี่ภาคคน

โตก็น้ำหนักน้อยกว่าเจ้านายแค่สองขีดเอง..เฮ้อ!..พัสกรเคลียด!! ยังดีที่ตอนพาไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีน

ครั้งล่าสุดคุณหมอบอกว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติของเด็กวัยกำลังโตอย่างนี้อยู่ ไม่อย่างนั้นพัสกรคงจะเคลียดกว่า

เดิมแน่ๆ ถ้าลูกกลายเป็นเด็กอ้วนขึ้นมา...ถึงตอนนี้จะอยู่ในภาวะจ้ำม้ำขั้นสุดท้ายแล้วก็เถอะ!!



       "หิว!!" แฝดโตและแฝดเล็กตอบออกมาพร้อมกัน



       "ถ้าอย่างนั้นก็รอแม่อยู่นี้นะครับ เดี๋ยวแม่จะไปเอาของว่างมาให้" พัสกรบอกก่อนที่จะผละเดินอออกไป

เมื่อลูกชายทั้งสองคนพยักหน้าตอบรับแล้ว

.

.

.

       "ทำอย่างนั้นไม่ได้นะภาม" พี่ภาคแฝดโตร้องเตือนน้องชายฝาแฝดคนเล็กของตัวเองเบาๆ เมื่อเห็นว่า

เจ้าภามตัวแสบรื้อเอาปากกาเมจิกที่อ้อนให้ณัฐภาสผู้เป็นพ่อซื้อให้ตอนที่ไปเที่ยวห้างเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว

ออกมาวาดหน้าของณัฐภาสที่กำลังนอนหลับสบายอยู่



       "ได้ตี๊..อย่างงี้ไง" เจ้าภามตัวแสบบอกพร้อมกับยัดสีเมจิกแท่งใหม่ใส่มือพี่ชายตัวเองพร้อมกับจับมือพี่ชาย

วาดสีลงหน้าผู้เป็นพ่อให้ดู ก่อนจะปล่อยมือออกมาเมื่อพอใจแล้ว และพี่ภาคแฝดโตคนที่ห้ามน้องอยู่เมื่อกี้นี้

ก็กลับข้างเปลี่ยนใจหันมาช่วยน้องวาดหน้าพ่อแทน เมื่อรู้สึกว่ามันสนุกดี



       "คิกๆ / คึๆ" สองพี่น้องภาค ภาม หันมาจ้องหน้าและหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกันเมื่อวาดสีเต็มหน้าพ่อ

ตัวเองหมดจนแทบจะไม่เหลือที่ว่างอยู่จนพอใจแล้ว ก่อนที่จะวิ่งหนีออกไปหาพัสกรที่อยู่ด้านนอกแทน

.

.

.

       "คุณแม่~~" สองแฝดพี่ใหญ่น้องเล็กร้องเรียกหาแม่ตัวเองที่หน้าบ้านจนดังลั่น เมื่อวิ่งหาแม่กันทั่วบ้าน

แล้วไม่เจอ ทั้งชั้นล่างและชั้นบนของบ้านเลย



       "แม่อยู่ตรงนี้ครับพี่ภาคน้องภาม" พัสกรที่ยืนอยู่ตรงรั้วบ้านขานรับพร้อมกับยกมือขึ้นเหนือหัวเพื่อให้ลูก

ได้เห็นว่าตัวเองอยู่ตรงไหน เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่บอกว่าจะไปเอาของว่าไปให้ลูกทานนั้น กลับได้ยินเสียง

คนมากดกริ่งหน้าบ้านเข้าเสียก่อนจึงรีบเดิินออกมาดูเพราะกลัวว่าปล่อยให้เสียงกริ่งดังนานๆ มันจะไปรบกวน

การนอนของสองพ่อลูกสุดที่รักณัฐภาสและน้องภีมที่นอนพักกันอยู่เสียก่อน เพราะเมื่อคืนหลังจากที่ส่งลูกเข้า

นอนแล้วณัฐภาสยังคงกลับไปนั่งทำงานต่อจนดึกดื่น พอเช้ามาก็โดนลูกปลุกตั้งแต่เช้าตรู่เลยจึงอยากจจะให้

นอนพักผ่อนอีกสักหน่อย...และคนที่มากดกริ่งก็คือเพื่อนบ้านคนใหม่ที่แวะมาทักทายและแนะนำตัวเพราะ

เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังข้างๆ แทนเพื่อนบ้านคนเก่าที่ย้ายออกไปนั่นเอง จึงเผลอคุยจนลืมของว่างของ

ลูกชายไปซะสนิทเลย



       "ลูกชายของพัสหรอครับ" กิจ หรือเพื่อนบ้านคนใหม่ของพัสกรถามขึ้นเมื่อเห็นแฝดใหญ่และแฝดเล็ก

ภาค ภาม วิ่งดุ๊กๆ เข้ามาหาพัสกร



       "ครับ...พี่ภาคกับน้องภามสวัสดีคุณอากิจก่อนเร็วครับคนเก่ง" พัสกรตอบกิจ ก่อนที่จะหันมาบอกกับ

ลูกชายของตัวเอง เพราะมันเป็นมารยาทที่เด็กดีควรกระทำ



       "สวัสดีครับ / สวัสดีครับ" แฝดโตกับแฝดเล็กยกมือขึ้นไหว้อย่างสวยงามพร้อมกันตามที่คุณแม่เคยสอนไว้



       "สวัสดีครับสุดหล่อ...แฝดหรอครับตัวเท่ากันเลย" กิจถามเรื่องลูกแต่มองหน้าของคนเป็นแม่อย่างไม่ละ

สายตาเลย



       "ครับ...แฝดสาม ส่วนอีกคนยังนอนกลางวันกับคุณพ่อเขาอยู่เลย" พัสกรบอก พร้อมกับอุ้มเจ้าแสบเล็ก

ที่พยายามที่จะปีนตัวของเขาขึ้นมา ดูก็รู้ว่าเจ้าแฝดแสบกำลังหวงเขาอยู่ เพราะโดนคนเป็นพ่ออย่างณัฐภาส

เป่าหูมาตั้งแต่เด็กทั้งสามคนเลย ว่าถ้ามีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับเขาแสดงว่าคนนั้นกำลังจะมาจีบเขาและ

จะแย่งเขาไปจากตัวเอง...เฮ้อ! พัสกรล๊ะเพลีย เพราะสิ่งที่ณัฐภาสสอนลูกแต่ละอย่างนี่ดีๆ ทั้งนั้น



       "คุณแม่ลูกหิววว...." น้องภามแฝดเล็กบอกพร้อมกับซบหน้าเข้ากับอกของคนเป็นแม่...ช่างอ้อนเสียจริง



       "ภาคก็หิววว...." อืม..ไม่ยอมน้อยหน้ากันเลยใช่ไหมเนี่ยเจ้าแฝดแสบ



       "ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณกิจ แฝดแสบของผมเริ่มงองแงแล้ว ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ"

พัสกรบอกลาพร้อมกับย่อตัวนั่งและช้อนตัวพี่ภาคแฝดโตขึ้นมาอุ้มอีกคน เห็นเขาตัวเล็กๆอย่างนี้ก็แข็งแรง

อยู่นะ ถึงจะไม่เท่าณัฐภาสที่สามารถอุ้มลูกแฝดทั้งสามคนพร้อมกันได้ก็เถอะ...ส่วนเจ้าสองคนพี่น้องแฝดใหญ่

แฝดเล็กที่โดนแม่อุ้มอยู่นั้นก็หันหน้าไปทางด้านหลังพัสกรและพากันแลบลิ้นปิ้นตาใส่เพื่อนบ้านใหม่ที่ยังคงยืน

มองมาอยู่หน้ารั้วบ้านที่เดิม



     "ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้เด็กแสบ!!" กิจยืนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกำหมัดแน่นอย่างหงุดหงิด ที่โดนไอ้เด็กแฝดสอง

คนนั่นทำท่าทางยั่วประสาทแบบนั้น

.

.

.

.

.

       "อ๊ากกกก....ไอ้ตัวแสบตัวไหนมันทำเนี่ย!!!" ณัฐภาสร้องโวยวายอออกมาเสียงดังในขณะที่กำลังล้างหน้า

ล้างตาอยู่ในห้องน้ำหลังจากที่เพิ่งตื่นนอน



       "เป็นอะไรรึเปล่าพี่ภาส ร้องโวยวายทำไม" พัสกรรีบปล่อยลูกชายทั้งสองคนที่อุ้มอยู่ ก่อนที่จะรีบเดินไป

เคาะประตูห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลด้วยความร้อนใจเมื่อได้ยินเสียงร้องโวยวายของสามี



       ปึง!!!



       "....." ณัฐภาสไม่พูดตอบอะไร แต่เปิดประตูห้องน้ำอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง ก่อนที่จะออกมาหยุดยืน

อยู่ตรงหน้าภรรยาด้วยสีหน้าบึ้งตึง



       "อุ๊บ! คิก...ฮ่าๆ" แต่แล้วความเป็นห่วงของพัสกรก็เปลี่ยนไปเมื่อเห็นใบหน้าบึ้งตึงของสามีที่เต็มไปด้วย

รอยสีเมจิกซึ่งคงจะเป็นจิตกรรมชิ้นเอกของใครสักคนหรือสองคนในบรรดาลูกชายฝาแฝดของตัวเอง



       "ไม่ต้องมาหัวเราะกันเลย...ไอ้ตัวแสบบอกพ่อมาสิว่านี่เป็นฝีมือของใคร" ณัฐภาสหน้าบึ้งบอกกับพัสกร

ก่อนที่จะจ้องหน้าถามสองแสบแฝดโตและแฝดเล็กที่ยืนขำคิกอยู่ข้างหลังพัสกร



       "พี่ภาค / น้องภาม" สองแฝดเล็กใหญ่ต่างบอกและชี้ไปที่ตัวของอีกคน ซึ่งนั่นก็ทำให้ณัฐภาสรู้ได้เป็น

อย่างดีเลยว่าไอ้สองแสบนี่ร่วมด้วยช่วยกันวาดหน้าอย่างแน่นอน เพราะปกติแล้วนิสัยของลูกแฝดทั้งสามคน

ของเขานั้น ถ้าใครไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องอะไร คนนั้นก็จะยืนอยู่เฉยๆ นิ่งๆ แต่นี่มันต่างคนต่างชี้ไปที่ตัวของ

อีกคนเลยสรุปได้เลยว่า...มันช่วยทำกันทั้งคู่นั่นแหละ!!



       "ไปเลย ไปนั่งเข้ามุมกันทั้งพี่ทั้งน้องเลย" ณัฐภาสบอกเสียงเรียบ...การนั่งเข้ามุมนั้นเปรียบเสมือนจุดเริ่ม

ต้นของการลงโทษลูกชายของบ้านนี้เลยก็ว่าได้ เพราะก่อนที่จะลงโทษลูกอย่างจริงจังทั้งณัฐภาสและพัสกร

จะให้ลูกได้มีเวลานั่งทบทวนความคิดของตัวเองก่อนว่าเจ้าตัวนั้นทำอะไรผิดไป และค่อยลงโทษหลังจากนั้น



       "คุณแม่!!!!~" พี่ภาคและน้องภามร้องเรียกคนเป็นแม่ออกมาพร้อมกัน เพราะหวังจะให้พัสกรช่วย



       "คุณแม่เขาช่วยอะไรพวกหนูไม่ได้หรอก ไปเข้ามุมเดี๋ยวนี้ ก่อนที่พ่อจะโมโห" ณัฐภาสพูดบอกเสียงเข้ม

เพื่อให้ลูกรู้ว่าตัวเองกำลังจริงจังไม่ได้ล้อเล่นอย่างทุกที ก่อนที่จะชี้ไปทางพนังห้องเพื่อให้ลูกชายทำตาม



       "แง๊..แงงงงงงง..... / แงงงงงงง....." แฝดโตและแฝดเล็กภาค ภาม เดินไปเข้ามุมตามที่คนเป็นพ่อชี้บอก

พร้อมกับประสานเสียงร้องไห้กันไปด้วย



       "แง๊ง..แงงงงงง...." เท่านั้นยังไม่พอ เพราะนอกจากเสียงร้องไห้ของแฝดโตแฝดเล็กภาค ภามแล้ว ยังมี

เสียงร้องไห้ของน้องภีมแฝดกลางที่กำลังนอนอยู่ในห้องนั่งเล่นดังร่วมเข้ามาอีกด้วย



       "พัสไปดูน้องภีมไป เดี๋ยวพี่ขอจัดการเจ้าสองแสบนี่ก่อน" ณัฐภาสบอกกับภรรยา ก่อนที่จะก้าวเดินเข้าไป

หาแฝดโตแฝดเล็กที่กำลังนั่งเข้ามุมจ้องผนังร้องไห้กันอยู่



       "หยุดร้องได้แล้วครับน้องภาคน้องภาม การร้องไห้ช่วยอะไรพวกหนูไม่ได้หรอกนะครับลูก" ณัฐภาสบอก

หลังจากที่ทิ้งตัวนั่งแทรกกลางระหว่างลูกชายทั้งสองคนแล้ว



       "ฮื่ออออ.. / ฮื่ออออ.." สองแฝดยังคงไม่หยุดร้อง แต่แอบใช้สาตาเหล่มองณัฐภาสอย่างกล้าๆ กลัวๆ กัน

ทั้งคู่ ซึ่งณัฐภาสเองก็เห็นแต่พยายามที่จะไม่หลุดหัวเราะออกมากับไอ้ท่าทางน่ารักอย่างนั้นของลูกๆ เพราะ

เขายังต้องเก๊กขรึมทำเข้มเพื่อที่จะสั่งสอนลูกอย่างจริงจังอยู่



       "น้องภาคครับ น้องภาครับ หันหน้ามาคุยกับพ่อกันหน่อยครับลูก....ปากกาสีเขามีไว้ทำอะไรกันครับลูก"

ณัฐภาสเรียกลูกชายให้หมุนตัวหันหน้ามาหาตัวเองก่อนที่จะเริ่มพูดเข้าเรื่อง



       "เขียนฮะ / วาดฮะ" สองแสบแฝดโตแฝดเล็กก้มหน้าตอบออกมาพร้อมกัน



       "แล้วเราควรใช้ปากกาสีนี้ใช้วาดใช้เขียนที่ไหนกันครับ" ณัฐภาสถามต่อ



       "กระดาษฮะ / สมุดฮะ"  ตอบพร้อมกับแอบช้อนตาขึ้นมองหน้าพ่อกันนิดๆ อย่างกล้าๆ กลัวๆ



       "ถ้าอย่างนั้นสมควรที่จะเอามาใช้วาดบนหน้าของพ่อกันรึเปล่าครับ" ณัฐภาสถามพร้อมกับเอามือวาง

บนหัวของลูกชายทั้งสองคนเบาๆ แต่เจ้าตัวแสบทั้งสองคนก็ยังคงสะดุ้งตกใจเพราะกำลังนั่งเกร็งกันอยู่



       "ไม่ฮะ / ไม่ฮะ"



       "ถ้าอย่างนั้นหนูสองคนควรที่จะทำยังไงกันครับ"



       "ขอโทษฮะคุณพ่อ / ขอโทษฮะคุณพ่อ" แฝดโตกับแฝดเล็กบอกพร้อมกับก้มกราบลงที่ตักของณัฐภาส

ด้วยเสียงอ่อยๆ ตามที่เคยได้รับการสั่งสอนมาว่าทำผิดแล้วควรที่จะขอโทษยิ่งกับคนที่โตกว่าแล้วยิ่งต้อง

ยกมือไหว้ด้วย ถึงจะเป็นเด็กดี



       "โอเคครับ!...คุณพ่อยกโทษให้ เรามากอดกันดีกว่า" ณัฐภาสบอกพร้อมกับกางแขนออก ส่วนเจ้าแฝดโต

แฝดเล็กที่เห็นว่าพ่อทำอย่างนั้นก็ไม่รอช้ารีบโถมตัวเข้ากอดพ่อด้วยความดีใจ เพราะไม่ชอบที่จะเห็นพ่อใน

มาดดุๆ แบบนั้น.....เพราะคุณพ่อณัฐภาสของพวกเขาน่ะใจดีที่สู้ดดดด.....

.

.

.

       "คุณพ่อฮะ ~ " น้องภีมที่ยังไม่หายสะอึกจากการตกใจร้องไห้ ก็ร้องเรียกณัฐภาสทันทีที่เห็นณัฐภาสอุ้ม

แฝดโตแฝดเล็ก ภาค ภามเข้ามาในห้องนั่งเล่น ส่วนณัฐภาสที่เห็นว่าน้องภีมลูกชายสุดที่รักเรียกหาตัวเอง

ก็ปล่อยตัวเจ้าสองแสบภาค ภามลงยืนที่พื้นและโผเข้าหาลูกชายสุดที่รักทันที จนพัสกรต้องแอบเบ้ปากใส่

ด้วยความหมั่นไส้ เพราะอิจฉาที่น้องภีมแฝดกลางรักคุณพ่อขา(?)ของตัวเองมากกว่าตนที่เป็นคนอุ้มท้อง

และก็คลอดเจ้าตัวออกมา ประหนึ่งว่ากำลังดูหนังน้ำเน่าที่พระ นางเพิ่งจะได้มีโอกาสเจอกันหลังจากที่โดน

ทางบ้านกีดกันไม่ให้ทั้งสองได้รักกันอย่างไงอย่างงั้นเลย....เฮ้อ! พัสกรล่ะหมั่นไส้สองพ่อลูกนี่จริงๆ



       "พี่ภาคกับน้องภามขึ้นไปอาบน้ำเตรียมตัวลงมาทานมื้อเย็นกับคุณแม่ดีกว่าลูก...ปล่อยให้คุณพ่อขา

คุณลูกขาสองคนนี้เขาออดอ้อนกันอยู่ตรงนี้แหละครับดีแล้ว" ด้วยความหมั่นไส้ที่เกินขีดจำกัดพัสกรจึงอด

ไม่ได้ที่จะพูดแขวะออกไปให้แค่เจ็บๆ คันๆ เพราะความอิจฉาสามีที่มันมีเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ ไม่ว่าเขากับ

ลูกแฝดทั้งสามคนจะทำอะไรอยู่ต่อให้กำลังเล่นสนุกอยู่มากมายสักแค่ไหนก็ตาม  เมื่อใดที่ณัฐภาสหรือ

คุณพ่อขา(?)คนดีของน้องภีมโผล่หน้าเข้ามาให้เห็นล่ะก็เขาจะกลายเป็นอากาศธาตุสำหรับน้องภีมไปเลย

ส่วนสองแสบภาค ภามน่ะหรอ? รายนั้นลองได้เล่นสนุกก็ไม่สนใจอะไรแล้ว...ชิส์!! ตอนนี้พัสกรหมั่นไส้และ

เบื่อหน้าสามีมากอ่ะ!..บอกเลย!!



       "น้องภีมตกใจเสียงพี่ภาคกับน้องภามหรอครับ"



       "ฮะ! น้องภีมตื่นแล้วร้องไห้เลย"



       "โอ๋ๆ ไม่มีอะไรแล้วนะครับคนเก่งของคุณพ่อ"



       สองพ่อลูกภาส ภีม ได้เข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวที่ในโลกนี้มีเพียงแค่สองคนไปแล้ว จึงไม่ได้ยินประโยค

กระทบกระแทกของพัสกรที่ตั้งใจพูดออกมา หรือแม้แต่เสียงดังโล้งเล้งของแฝดโตแฝดเล็กที่กำลังเล่นต่อสู้

กันอยู่ข้างๆ ก็ไม่ได้ยิน จนพัสกรต้องอุ้มแฝดโตแฝดเล็กเข้าเอวไปคนละค้างเดินกระแทกบึงบังออกไปจาก

ห้องนั่งเล่นด้วยความหงุดหงิด ก่อนที่จะทนไม่ได้แล้วหลุดซ้อมสามีเพราะความหมั่นไส้ขึ้นมาเสียก่อนเดี๋ยว

ลูกๆ จะจำเอาไปทำเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเสียเปล่าๆ







...

มาแล้วจร้าาาา....ช่วงนี้มี่มาเร็วเกินไปหรือเปล่าเหมือนกับว่าคนอ่านจะอ่านไม่ทัน(?)หรือยังไง

เพราะเห็นเงียบๆ กันผิดปกติ ที่จริงตอนนี้มี่จะลงให้อ่านตั้งแต่เมื่อวานแล้วอ่ะ แต่ก็เปลี่นใจมาลงวันนี้แทน

อ่อ! แล้วก็ขอฝากนิยายเรื่องใหม่ของมี่ด้วยนะคะ 'เคลิ้มรัก...มาเฟียวิ๊งค์' แล้วเจอกันค่ะ!!!
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 23 (14/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-01-2016 19:07:50
ลูกสาวอ้อนสุดฤทธิ์
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 23 (14/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-01-2016 19:14:10
555. มีหมั้นไส้สามีด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 23 (14/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 14-01-2016 19:59:24
เดี๋ยวต้องมาอ้อนคุณแม่ด้วยนะน้องภีมมม คุณแม่น้อยใจนาา
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 23 (14/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 14-01-2016 20:02:09
น่ารักดีค่ะ มาเร็วๆแบบนี้ดีแล้ว ชอบบ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 23 (14/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 14-01-2016 20:54:02
อ่านสนุกทุกตอนจ้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 23 (14/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-01-2016 21:10:08
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 23 (14/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 15-01-2016 06:32:35
เป็นธรรมดาที่คุณพ่อจะเอ็นดูลูกสาว???
มากกว่าลูกชายนะคะ  เพราะงั้นพัสปล่อยไปเถอะค่ะ 555
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 23 (14/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: 13love32108 ที่ 15-01-2016 06:52:47
ทำไมเป็นตอน 22-23 แล้วล่ะคะ ตอน 13-21 หายไปไหน??? หรือลบอะไรไป??? งงดี
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 23 (14/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: 13love32108 ที่ 15-01-2016 06:56:14
ทำไมเป็นตอน 22-23 แล้วล่ะคะ ตอน 13-21 หายไปไหน??? หรือลบอะไรไป??? งงดี

เจอละ ลืมไปว่าสลับกันสองคู่  :mew5: :mew5: ถ้ามีสารบัญก็น่าจะดีนะ ไปอ่านอีกรอบก่อนเดี๋ยวมาเมนท์
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 23 (14/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-01-2016 09:10:12
ตั๊ลล้ากกกกก~
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 24 (16/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 16-01-2016 19:55:23

คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 24










       Tru...Tru...Tru...


       "ว่าไงครับพี่" ณัฐภาสที่กำลังนั่งทบทวนดูความถูกต้องของเอกสารที่จะใช้ต้องใช้ในการประชุมในวันพรุ่งนี้
ซึ่งเป็นแรกของการเริ่มต้นทำงานในสัปดาห์ใหม่หรือวันจันทร์นั่นเอง(จะยาวไปเเพื่อ?) กรอกเสียงรับสายไป
อย่างเป็นกันเองเพราะคนที่โทรมาเป็นคือรุ่นพี่คนสนิทที่เป็นตำรวจที่คุ้นเคยกันดีนั่นเอง


       // กูรู้แล้วนะโว้ยว่าไอ้สนน้องนอกไส้มึงมันหายไปไหนบ่อยๆ //


       "จริงหรอพี่!!" ณัฐภาสถามกลับไปด้วยความรวดเร็วอย่างไม่อยากจะเชื่อหู เพราะหลายปีที่ผ่านมาลูกน้อง
คนที่รุ่นพี่ของเขาให้ไปสะกดรอยตามดูสนก็มักจะแจ้งข่าวมาให้ฟังเสมอๆ ว่าสนเหมือนจะรู้ตัวก่อนที่จะถึงที่
หมายและขับรถวนไปวนมาหลอกตำรวจคนนั้นเสียทุกที(ก็เขาเคยบอกแล้วไงว่ามันเป็นคนฉลาด) พอถามไป
ตรงๆ ว่ามันมักจะหายไปไหนมาบ่อยๆ มันก็จะพูดบอก ตอบออกมาตรงๆ ว่า 'ผมขอไม่บอกได้ไหม' แล้วจะให้
เขาคนนี้ทำอะไรได้อีก นอกจากว่าต้องให้คนแอบสะกดรอยตามเหมือนกับไม่ไว้ใจมันอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ความจริง
แล้วเขาคนนี้ที่อยู่ในฐานะเจ้านายและพี่ชายนอกไส้ที่ทั้งรักและเป็นห่วงมันเกินกว่าที่จะปล่อยปละละเลยทำ
เป็นเหมือนกับไม่รู้ไม่ชี้ไปกับมันได้


       // เกาะร้าง XXX ที่ไอ้สนมันมักจะหายไปก่อนที่จะถึงเกาะนั้นเป็นประจำก็เพราะว่ามันมีทางลับที่ต้องเดิน
เท้าลุยป่าเข้าไปตั้งลึกไงลูกน้องกูถึงได้โดนมันหลอกอยู่ตั้งหลายปี และที่หามันเจอเนี่ยก็เพราะเหมือนกับว่า
มันกำลังรีบร้อนที่จะไปทำอะไรที่เกาะสักอย่างนึงนี่แหละ มันถึงไม่ระวังตัวและลืมหลอกลูกน้องกูอย่างทุกที
ว่าแต่มึงเถอะ รู้ที่อยู่มันแล้วคราวนี้มึงจะทำยังไงต่อไป...จะลุยหรือจะรอ //


       "รอไม่ได้หรอกพี่เพราะสายของผมที่อยู่ทางนั้นส่งข่าวมาแล้วเหมือนกันว่าถ้าเขาเจอมันแล้ว..เขาจะไม่
ปล่อยมันให้รอดแน่ๆ เพราะนั่นมันลูกรักของเขา...ผมขอเคลียร์ตัวเองก่อนพี่แล้วจะโทรบอกอีกที" ณัฐภาส
บอกเสียงเครียด ก่อนที่จะวางสายหลังจากที่ปลายสายตอบรับเรียบร้อยแล้ว


       "มีอะไรให้พัสหรือเปล่าครับพี่ภาส" พัสกรถามและวางมือบนไหล่สามีเบาๆ เมื่อบังเอิญเดินผ่านห้อง
ทำงานของณัฐภาสที่ประตูเปิดแง้มไว้ (ซึ่งอาจจะเกิดจากที่หนึ่งในแฝดสามที่กำลังนั่งดูการ์ตูนอยู่ตอนนี้ลืม
ปิดเมื่อตอนที่เข้ามาหาคุณพ่อของเขา) และเห็นว่าสามีกำลังนั่งกุมขมับทำหน้าเครียดด้วยสีหน้าและท่าทาง
ไม่ดีอยู่ เขาจึงแวะเดินเข้ามาสอบถามอากการของสามีดูสักหน่อยด้วยความเป็นห่วง


       "เรื่องไอ้สนน่ะ พี่ยุธ(ชื่อรุ่นพี่ที่เป็นตำรวจอ่ะ) เขาโทรมาบอกว่าเจอที่ซ่อนไอ้สนแล้ว ส่วนสายทางโน้นของ
เรามันก็ส่งข่าวมาว่าทางนั้นเขาจะไม่ปล่อยมันไว้แน่ๆ ถ้าได้เจอตัวมัน พี่เลยกำลังคิดว่าพี่ควรจะทำยังไงต่อ
ไปดี เพราะคิดว่าในเมื่อตอนนี้เราเจอมันแล้ว ทางนั้นเขาก็จะต้องเจอมันเหมือนกันกับเราอย่างแน่นอน"
ณัฐภาสบอกกับภรรยาออกไปตรงๆ เพราะไม่อยากจะปิดบังอะไรอีก หลังจากที่โดนเมียงอนไปหลายวันที่ปิด
เรื่องหลานแม่บ้านที่เป็นนกต่อคอยส่งข่าวให้ไอ้ภูผารับหลังเราเมื่อก่อนนี้ ถึงได้คิดที่จะเปลี่ยนแม่บ้านชุดใหม่
ถึงแม้ว่าช่วงนี้ไอ้ภูผามันจะหายเงียบไปแล้วก็เถอะ แต่ว่าตอนนี้เขามีลูกน้อยอีกสามคนจึงคิดที่จะตัดไฟตั้งแต่
ต้นลมกันไว้ดีกว่า ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นมาอีกจริงๆ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจที่หลังเหมือนเรื่องคราวนั้นกันอีก


       "พี่ภาสก็รีบไปคุยกับสนวันนี้เลยสิ หรือว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้พี่ภาสไม่สบายใจอยู่" พัสกรทิ้งตัวนั่งลงบน
เก้าอี้ว่างตรงหน้าโต๊ะทำงานของณัฐภาส จึงทำให้ตอนนี้ทั้งสองสามภรรยากำลังนั่งหันหน้าชนกันอยู่


      "เพราะตอนนี้มันเย็นมากแล้ว และที่ไอ้สนมันเป็นเกาะร้างที่มีทางเข้าซับซ้อนต้องใช้เวลาเดินทางไปกลับ
อยู่หลายชั่วโมง อีกทั้งช่วงนี้อากาศบ้านเราก็ยิ่งแปรปรวนอยู่พัสก็รู้ดีพี่เลยไม่รู้ว่าจะใช้เวลาไปกับเรื่องนี้
ทั้งหมดกี่ชั่วโมงหรือนานเท่าไหร่ และที่สำคัญพรุ่งนี้พี่มีประชุมการเจรจาซื้อขายกับลูกค้าใหม่รายใหญ่ด้วย
พี่เลยกลัวกลับมาประชุมไม่ทัน แต่พี่ก็ปล่อยให้ไอ้สนมันตกอยู่ในอันตรายอย่างนั้นไม่ได้" ยิ่งคิดณัฐภาสก็ยิ่ง
เคลียดเพราะเป็นคนในครอบครัวที่สำคัญ แต่กำไรที่จะได้จากการเจรจาพรุ่งนี้(ถ้าสำเร็จ)มันก็สำคัญเพราะ
เดือนนี้และเดือนที่ผ่านมาทั้งเดินพนักงานฝ่ายต่างๆ ก็หัวหมุนและฝากความหวังไว้กับการเจรจาครั้งนี้กัน
ทุกคน


       "ให้พัสเข้าประชุมแทนพี่ภาสได้รึเปล่าครับ อย่าลืมสิว่าพัสก็จบบริหารมานะถึงแม้ว่ายังจะไม่เคยได้ใช้
วิชาความรู้มาทำมาหากินก็เถอะ แต่พัสก็คิดว่าถ้าพัสได้อ่านและทำความเข้าใจกับเอกสารที่ใช้ในการประชุม
พรุ่งนี้สักหน่อย...ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะพอไปส่งลูกๆ ที่โรงเรียนเสร็จแล้วพัสก็ไม่มีธุระสำคัญอะไรอีกแล้ว"
พัสกรบอกออกมาในที่สุด หลังจากที่เขาทั้งคู่นั่งเงียบใส่กันอยู่พักใหญ่ ที่จริงพัสกรก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกับ
งานที่บริษัทของสามีสักเท่าไหร่หรอกและเขาก็ไม่ได้ว่างอย่างที่บอกกับสามีอีกด้วยเพราะยังมีงานบ้านที่เป็น
งานที่ไม่มีวันเสร็จหรือสิ้นสุดรอเขาอยู่อีกกองเบ้อเริ่ม แต่มันก็ไม่ได้สำคัญไปกว่าชีวิตของสนและความหวัง
ของพนักงานทั้งบริษัทหรอกเพราะเขาพอจะรู้มาอยู่หรอกว่าลูกค้ารายใหม่นี้ทุนสูง เงินหนา และไม่ค่อยยอม
ที่จะจับมือลงทุนกับใครง่ายๆ หรอก แต่สามีของเขาก็อุตส่าห์หลอกล่อมาจนได้ พวกพนักงานกับผู้ถือหุ้น
(ที่มีอยู่น้อยนิด) ในบริษัทถึงตั้งความหวังในครั้งนี้ไว้สูง และณัฐภาสสามีของเขาก็จะเป็นที่ยอมรับจริงๆสักที
ไม่ใช่แค่ยอมรับแต่ปากอย่างทุกวันนี้ ที่ต่อหน้าก็ทำเป็นดีพอรับหลังก็เอาไปนินทาสาดเสียเทเสียจนแทบจะ
ไม่เหลือความเป็นคนอยู่เลย ไม่รู้ว่าจะอะไรนักหนา และไอ้สามีของเขาก็ทนจริงๆ ทนมากจนเกินไป ที่ทำเป็น
ยิ้มแย้มหัวเราะได้อย่างมีความสุขทั้งๆ ที่ในใจนั้นแบกความทุกข์เอาไว้ตั้งมากมาย...งานนี้พัสกรขอทุ่มสุดตัว
สุดแรงสู้เพื่อคุณสามีสุดที่รักสักตั้งก็แล้วกัน!!


       "จริงหรอ? พัสจะเข้าประชุมแทนพี่จริงๆ ใช่มั้ย" ณัฐภาสถามอย่างมีความหวัง


       "จริงสิครับ..หรือพี่ภาสไม่ไว้ใจพัส?" พัสกรเลิกคิ้วถาม


       "เปล่าครับ...ก็พี่เห็นว่าพัสไม่ชอบเรื่องพวกนี้เลยกลัวว่าพัสจะลำบากใจ"


       "พัสไม่ได้ลำบากใจอะไรตรงไหนเลยครับพี่ภาสถึงจะไม่ชอบมากแค่ไหนก็ตามเถอะ ในเมื่อพี่ภาสเป็นสามี
ของพัส เป็นคู่ชีวิตที่จะต้องช่วยกันแชร์ในทุกๆ เรื่องในชีวิตของพัสไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ต่อให้ตกอับจนต้องไป
นอนกลางดินกินกลางทรายพัสก็ต้องทำ อยู่มากันจนป่านนี้ มีลูกก็สามคนเข้าไปแล้ว ถึงพัสจะอยากถอนตัว
ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วครับ" พัสกรพูดติดตลก ตอบกลับสามีด้วยประโยคแสบๆ คันๆ เพราะไม่อยากให้ณัฐภาส
เก็บเรื่องไร้สาระอะไรไปคิดให้รกสมองเจ้าตัวเพิ่มอีกแล้ว


       "ขอบคุณนะครับคนดีของพี่...ถ้าอย่างนั้นคืนนี้พัสก็อ่านและทำความเข้าใจกับเอกสารในแฟ้มนี้ทั้งหมด
เลยนะ แล้วพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก เอาแค่คุยกันรู้เรื่องและเข้าใจตรงกันก็พอเพราะก่อนหน้านี้พี่ได้คุย
กับเขานอกรอบมาแล้วรอบนึงก็ตกลงกันตามที่อยู่ในเอกสารนั่นแหละ เพียงแต่พรุ่งนี้แค่ต้องลงลายมือชื่อเซ็น
สัญญาเป็นหลักฐานก็เท่านั้นเอง ในส่วนนั้นพัสก็เซ็นชื่อพัสไปเลยนั่นแหละเดี๋ยวเลขาพี่เขาก็จัดการเอาเอง
และเดี๋ยวพี่จะโทรไปคุยกับเลขาให้ก่อนที่จะออกไปก็แล้วกัน" ณัฐภาสรวบสองมือของพัสกรเข้ามาบีบเบาๆ
เพื่อเป็นการขอบคุณ ก่อนที่จะค่อยๆ อธิบายเกี่ยวกับเรื่องของการประชุมในวันพรุ่งนี้ที่จะให้พัสกรเข้าประชุม
แทนในแบบกระชับ เร่งรัด และด่วนที่สุด เพราะนี่ก็เย็นแล้วและเขาไม่มีเวลาเหลือมากแล้ว
.
.
.
       ปริ๊นน...ปริ๊นนน


       "พี่ไปก่อนนะครับ อยู่กับลูกก็อย่าลืมล็อคประตูหน้าต่างให้ครบทุกบานด้วยล่ะ ส่วนประชุมพรุ่งนี้ก็ไม่ต้อง
ไปเครียดกับมันมาก ถ้าเขามีปัญหาหรือใครค้านอะไรก็ช่างแมร่งมันไม่ต้องไปสนใจ ถึงไม่ได้เจ้านี้บริษัทก็ไม่
เจ๊งหรอก พี่ยังมีเงินเหลือไว้เลี้ยงลูกเลี้ยงเมียอีกเยอะ...ไปก่อนนะครับดูแลตัวเองกับลูกๆ ดี ๆ ด้วย" ณัฐภาส
รีบพูดบอกแกมสั่งกับพัสกรอย่างรัวเร็วจนพัสกรแทบจะฟังไม่ทัน เรื่องอื่นน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้เรื่องที่ให้
ดูแลตัวเองกับดูแลลูกดีๆ เนี่ย มันมีความหมายแฝงเข้ามาในคำสั่งด้วยพวกคุณรู้หรือเปล่า เพราะหลังจากที่
บ้านว่างหลังข้างๆ มีเพื่อนบ้านย้ายเข้ามาอยู่ใหม่และเจ้าแสบโตกับเจ้าแสบเล็ก ภาค ภาม ที่เห็นผมคุยกับ
คุณกิจวันนั้นแค่ครั้งเดียว แต่กลับใส่ร้ายเขา เอาไปฟ้องคุณพ่อภาสของตัวเองว่า 'เขามาจีบคุณแม่ทุกวันเลย'
แหม!! ลูกใครหนอ? มันช่างน่าตีจริงๆ....พวกคุณคิดเหมือนกันกับผมหรือเปล่า?
.
.
.
.
.
อีกด้านนึง (กระท่อมเล็กกลางเกาะร้าง)

       "ลุกขึ้นมากินยาก่อน เดี๋ยวจะตายแล้วมาเป็นภาระกูอีก" สนช้อนศีรษะของภูผาที่นอนซมอยู่บนแคร่ไม้ไผ่
เพราะพิษไข้ป่ามาแล้วหลายวัน โดยไม่ลืมที่จะใช้คำพูดร้ายกาจช่างแตกต่างจากแววตาที่ฉายความเป็นห่วง
จากเจ้าตัวมากเสียเหลือเกิน

       "เรื่องของฉัน!! จะเป็นจะตายยังไงมันก็เรื่องของฉัน...แค่กๆ" ภูผาพูดบอกออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง พร้อม
กับปัดเม็ดยาที่อยู่ในมือของสนออกจากตรงหน้าตัวเอง จนตกลงไปเกลื่อนกระจายอยู่เต็มพื้น

       "เออ!! อวดเก่งดีนัก!! ก็ปล่อยแมร่งให้ตายห่าไปเลย!! แล้วอย่างมาสำออยให้กูเห็นอีกนะมึง!!!" สนปล่อย
มือจากตัวของภูผาให้ตกลงไปกระแทกกับแคร่ไม้ไผ่อย่างไม่สนใจใยดี ด้วยความหัวเสียกับความดื้อรั้นของ
อีกคน

       "โอ๊ย!! แค่กๆ แค่กๆ" ภูผาร้องโอดโอยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้เมื่อรู้สึกเจ็บและปวดไปทั่วทั้งตัวจากการ
กระแทกแคร่ไม้ไผ่ที่เหมือนจะไปซ้ำรอยช้ำรอยแผลเดิมของตัวเองที่โดนอีกคนรังแกมาก่อนหน้านี้

       "โธ่โว้ย!!! จะตายอยู่แล้วยังจะเสียอวดเก่งอีกนะมึง!!...เอ้า!! แดกๆ เข้าไป ก่อนที่กูจะโมโหไปมากกว่านี้
แล้วจะเผลอหลุดกระทืบซ้ำมึงเข้าไปอีก" สนพูดบอกพร้อมกับจับยากรอกปากของภูผาโดยที่เจ้าตัวยังคงตั้งตัว
ไม่ทัน ด้วยความรุนแรง ก่อนที่จะเดินปึงปังออกไปข้างนอกปล่อยให้ภูผาได้นอนซมอยู่บนเตียงคนเดียวเหมือน
เดิมก่อนหน้าที่เขาจะเข้ามา
.
.
.
       "โว้ยยยยยยย..." สนที่ออกมาตระโกนโวยวาย ต่อยลมเตะดินระบายความหงุดหงิดความสับสนที่อัดแน่น
อยู่ในอกของตัวเองอย่างหัวเสีย.....เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเป็นบ้าอะไรอยู่เพราะความเกลียดชังภูผาที่
เคยมีก่อนหน้านี้มันเหมือนจะลดเลือนและจางหายออกไปทุกวันๆ จนแทบจะไม่มีเหลืออยู่อีกเลย และกลับกัน
ความเป็นห่วงเป็นใยที่ไม่ควรจะมีให้คนที่ขึ้นชื่อว่าศัตรูของตัวเองกลับมีเพิ่มมากขึ้นทุกทีๆ จนเขากลัวว่ามัน
จะกลายเป็นสิ่งที่ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นมาระหว่างเขาทั้งสองคนมากที่สุดนั่นก็คือ.....'ความรัก'

       "แกลักพาตัวลูกชายฉันมาอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วยสินะ" เสียงเข้มเอ่ยขัดขึ้นระหว่างที่สนยังคงชกดินชกฟ้าระบาย
อารมณ์ในความสับสนของตัวเอง จนสนต้องสะดุ้งสุดตัวเพราะความตกใจที่เกาะร้างแห่งนี้ยังมีคนอื่น
นอกจากเขาและภูผาที่นอนอยู่ในบ้านอีกหรือ ทั้งๆ ที่สถานที่แห่งนี้มันควรที่จะเป็นความตลอดไป

       "คุณ!!...นายหัวรพีพ่อของไอ้เลวภูผานั่นเองสินะ...มาหาผมถึงนี่มีอะไรหรอครับ? หรือว่าจะมาขอบคุณที่
ผมรับอาสาเอาลูกชายสารเลวของคุณมาสั่งสอนให้?" จากความตกใจหน้าตาตื่นก็แปลเปลี่ยนไปเป็นสีหน้า
ของคนยียวนกวนอารมณ์เบื้องต่ำทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นนายหัวรพีพ่อบังเกิดเกล้าของไอ้คนที่เขาจับตัวมา
.
.
.
.
.
ทางด้านของณัฐภาสที่กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทาง

   "ตั้งแต่ตรงนี้ไปเราต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณสิบกิโลนะ" ยุธรุ่นพี่ที่รับราชการตำรวจของณัฐภาสบอก
ในขณะที่รถที่ณัฐภาส ยุธ และเจ้าหน้าที่ตำรวจลูกน้องของยุธอีกสามนายอาศัยมาจอดหยุดอยู่กลางดงป่าที่
เป็นทางเข้าไปบนเกาะร้างที่สนอยู่

       "โอเคครับ...ผมว่าเราเร่งหน่อยก็ดีนะพี่ ผมรู้สึกแปลกๆ อย่างไงก็ไม่รู้ว่ะ" ณัฐภาสพูดบอกความรู้สึกของ
ตัวเองให้รุ่นพี่ได้รับรู้ออกมาตรงๆ เพื่อที่จะให้ชาวคณะของเขานั้นได้เร่งฝีเท้าในการเดินให้เร็วขึ้นอีกซักนิด
เพราะเหมือนกับว่าความรู้สึกแปลกๆ ที่มันอัดแน่นอยู่ในใจของเขานั้นมันจะระเบิดออกมาอย่างไงอย่างงั้น
.
.
.
.
.
       "อย่ามัวแต่พร่าม!! แล้วบอกมาซักทีว่าตอนนี้ลูกชายของฉันอยู่ที่ไหน!!" นายหัวรพีระเบิดอารมณ์ออกมา
ในที่สุด หลังจากที่โดนสนพูดกวนประสาทอยู่พักใหญ่และไม่ยอมอ้าปากพูดบอกออกมาสักทีว่าภูผาลูกชาย
ของเขานั้นอยู่ที่ไหน เพราะจากลานกว้างติดหน้าผาตรงนี้เขามองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นทับ
ซ้อนกันไปมาจนบดบังสายตาไปหมดและหน้าผาสูงที่อยู่ข้างหน้าของตัวเอง

       "แล้วถ้าผมไม่บอกล๊ะ?" สนยังคงตั้งใจที่จะยียวนกวนประสาทนายหัวรพีต่อไป

       "ฉันก็จะฆ่าแกทิ้งเสียตั้งแต่ตอนนี้เลยไง!!" นายหัวรพีพูดพร้อมกับหยิบปืนที่เหน็บอยู่ข้างเอวขึ้นมาจ่อ
ปากกระบอกไปตรงบริเวณกลางหน้าผากของสน

       "เอาสิครับ ยิงผมเลยเพราะถ้าผมตายไปคุณก็ไม่มีทางได้เจอลูกชายสุดที่รักของคุณพอดี" แทนที่สนจะ
มีถ้าทีหวาดกลัวปืนในมือของนายหัวรพี แต่ก็เปล่าเลย เพราะสนยังคงที่จะโต้ตอบกับนายหัวรพีด้วยสีหน้า
ยียวนกวนอารมณ์อยู่ดี

       ปัง!!!

       "โอ๊ย!!!" สนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อโดนนายหัวรพีลั่นไกลยิงปืนใส่แขนซ้ายตัวเอง จนแทบจะ
ทรุดไปกับพื้นเพราะทรงตัวไม่อยู่ เนื่องจากแรงดันของกระสุนปืนที่ถูกยิงออกมาระยะใกล้ๆ จนแทบจะชิดติด
กับตัวเองเลย ผลกระทบที่เกิดจากบาดแผลมันเลยมีมากกว่าที่ควร

       "ทีนี้ก็หยุดเล่นลิ้นกับฉันแล้วบอกออกมาสักทีว่าแกเอาลูกชายฉันไปเก็บไว้ที่ไหน!!!" นายหัวรพีถามทั้งๆ ที่
ยังไม่ยอมลดปืนลง ยังคงที่จะจ่อปากกระบอกปืนเข้าหาตัวของสนอยู่เหมือนเดิม

       "ผมไม่บอกคุณหรอก! ต่อให้ต้องตายผมก็จะไม่บอกคุณ เพราะตอนนี้สิทธิในตัวของภูผามันเป็นของผม
ไม่ใช่ของคุณอีกต่อไปแล้ว" สนยังคงดึงดันต่อไป

       "แกพูดบ้าอะไรของแกห้ะ!!" นายหัวรพีตวาดถามอย่างหัวเสีย เพราะพอจะเข้าใจความหมายในสิ่งที่สน
ต้องการจะบอกออกมาอย่างกลายๆ อยู่หรอก แต่เขาไม่อยากที่จะยอมรับมัน

       "ก็พูดความจริงไงครับ ตอนนี้ไอ้ภูมันเป็นเมียผม มันก็ต้องเป็นของผม...ไม่ว่ามันจะเป็นจะตายมันก็เป็น
ของผมอยู่ดี สิทธิความเป็นพ่อของคุณในตัวมัน หมดไปตั้งแต่ตอนที่มันนอนครางอยู่ใต้ร่างของผมตั้งแต่วัน
แรกที่ผมเอาตัวมันมาแล้ว!!" สนยังคงพูดออกมาอย่างท้าทายไม่กลัวตาย ทั้งๆ ที่บาดแผลจากการโดนยิงมี
เลือดไหลออกมามากขึ้นทุกที

       "แก!!..ไอ้เลว!!! คนอยากแกมันสมควรตาย!!!" นายหัวรพีขบกรามแน่นด้วยความโมโห เส้นเลือดข้างขมับ
ปูดโปนออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนโกรธที่ขึ้นสูงจนถึงขีดสุด นิ้วชี้แกร่งเข้าประจำที่เตรียมตัวที่จะลั่นไกลปิด
ชีวิตของเด็กหนุ่มรุ่นลูกที่อยู่ตรงหน้า...ไอ้ผู้ชายเฮงซวยที่มันกล้าทำร้ายลูกชายสุดที่รักของเขา คนที่มันกล้า
หยามหน้าทำเรื่องบัดสีทำลายหัวใจคนเป็นพ่ออย่างเขา!!!

       "พ่อ!! อย่า!!!.....ปัง!!!" เสียงของลูกชายสุดที่รักคนสำคัญของเขา ดังแทรกขึ้นมาพร้อมกับเสียงลั่นไกลปืน
ครั้งที่สองของเขา ก่อนที่ร่างของภูผาลูกชายของเขาจะทรุดลงจมกองเลือดในอ้อมกอดของเด็กหนุ่มคนนั้น

       "อะ..ไอ้ภู!! ภูผา!! ไอ้ภู!! อย่าหลับนะมึง!! อย่าหลับ!! มองหน้ากู!! ไอ้ภูกูสั่งให้มึงมองหน้ากู!!!" สน
พยายามที่จะตะโกนร้องเรียกสติของคนในอ้อมกอดของตัวเองอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ก่อนที่จะฉีกเสื้อของ
ตัวเองออกมากดปิดปากแผลจากการโดนยิ่งเข้าที่กลางหน้าอกแบบเต็มๆ

       "กะ..กู..จะ..ไม่..ฟัง..อึก! แค่กๆ คำ..สั่ง..ของมึง..อีกแล้ว...แค่กๆ" ภูผาบอกออกมาอย่างกระท่อนกระแท่น
เพราะกระอักเลือดออกมาด้วย

       "ไม่ฟังก็ไม่ฟัง!! แต่อย่าตายนะมึง!! มึงห้ามตายนะไอ้ภู!! มึงต้องอยู่แก้แค้กูก่อนนะโว้ย!!" สนพูดบอกด้วย
เสียงสั่นๆ น้ำตาลูกผู้ชายรินไหลออกมาให้คนนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศัตรูของตัวเองได้เห็นอย่างไม่รู้สึกอาย เรื่องราว
ต่างๆ ในวันวานที่ผ่านมา ย้อนกลับเข้ามาให้เห็นอย่างไม่ขาดสาย ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ความ
แค้น ความเกลียดชัง ค่อยๆผันแปรเปลี่ยนไปเป็นความห่วงหา ความผูกพัน และจนกลายไปเป็นความรักใน
ที่สุด หลายปีที่ผ่านมาสนคงจะไม่กล้าพูดออกมาได้อย่างเต็มปากว่าเขาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรไปกับภูผาเลย
ในเมื่อความรู้สึกลึกๆ ที่อยู่ข้างในมันเรียกร้องและฟ้องออกมาเป็นการกระทำให้ภูผาได้เห็นหมดแล้ว และภูผา
เองก็คงจะรู้สึกไม่ต่างกันกับเขา เพราะช่วงหลังมานี้ถึงแม้ว่าภูผาจะยังคงดื้อ ยังคงเถียงและยังคงที่จะพยศ
เขาอยู่ แต่ภูผาก็ไม่เคยคิดที่จะหนีออกจากเขาไปเลย ทั้งๆ ที่เขาเลิกมัดเลิกล่ามภูผาเหมือนสัตว์เลี้ยงมาตั้งแต่
ผ่านพ้นในช่วงปีแรกไปแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังคงเลือกที่จะอยู่กับเขาที่นี่ต่อ

       "หึๆ ขอ..ติดไว้...อึก!...ชาติหน้า..ก็แล้วกัน...แค่กๆ...พ่อครับ!..ผม..ขอ..โทษ..นะ!!" ภูผาบอกกับสนด้วย
รอยยิ้มซีดเซียว ก่อนที่จะใช้แรงเฮือกสุดท้ายของตัวเองพูดบอกคำขอโทษนายหัวรพีพ่อบังเกิดของตัวเองที่
ยืนหน้าซีดตกตระลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ตกตระลึงที่เป็นเขาเอง...ที่ลงมือฆ่าลูกชายตัวเอง
ขอโทษ...ภูผาอยากจะขอโทษนายหัวรพีผู้เป็นพ่อในทุกๆ เรื่อง ขอโทษที่เขาดื้อรั้นไม่ฟังคำเตือนของพ่อ
ขอโทษที่เขาเป็นลูกที่แย่ที่คอยแต่จะสร้างปัญหาให้พ่อเสมอมา ขอโทษที่เขาไม่สามารถอยู่ทดแทนบุญคุณ
ของพ่อได้อีกต่อไป...และขอโทษที่เขาไม่สามารถได้พูดบอกในสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจเสมอมาว่า..'ผมรักพ่อครับ'

       "ม่ายยยยยยยยยย!!!! ตื่นซิโว้ย!! ตื่นขึ้นมา!! ไอ้ภู!! ไอ้เหี้ย!! กูบอกว่าห้ามมึงตายไง!!! ไอ้เลวเอ้ย!!!"

       "แก..แกฆ่าลูกฉัน!! ฉันจะฆ่าแก!! ตามไปชดใช้ให้ลูกฉันในนรกซะเถอะ!!!" ในขณะที่สนยังคงร่ำไห้กอด
ศพของภูผาที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเองจนไม่สนใจนายหัวรพีที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ก่อนที่จะนั่งนิ่งหลับตาพริ้ม
สองแขนกระชับกอดร่างของภูผาให้แน่นกว่าเดิม เมื่อได้ยินคำพูดของนายหัวรพี

       "ไอ้สนนนนนนน / ปัง!!!" เสียงร้องตระโกนของณัฐภาสคงจะช้าเกินไป เพราะพอสิ้นสุดเสียงเรียกของเขา
แล้วร่างของสนที่นั่งอยู่ที่พื้นก็ฟุบตกลงไปทับกับร่างของภูผาที่เจ้าตัวกอดไวอยู่ก่อนหน้านี้ทันที เพราะครั้งนี้
นายหัวรพีไม่ได้ลั่นไกลปืนพลาดอีกแล้ว เมื่อกระสุนนัดสุดท้ายนี้เจาะเข้ากลางหน้าผากผ่าทะลุสมองของสน
ร่วงหล่นออกมาจากกระโหลกศีรษะด้านหลังของสนพอดี

       "นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กรุณาทิ้งปืนลงและยกมือขึ้นเหนือหัวด้วยครับนายหัวรพี" ยศพูดบอกนายหัวรพี
ก่อนที่จะสั่งให้ลูกน้องของตัวเองเข้าไปจับกุมตัวนายหัวรพี เมื่อนายหัวรพีทำตามในสิ่งที่เขาสั่งหมดแล้ว

      "อะ..ไอ้สน...ไอ้สน! ไอ้เด็กเวรมึงฟื้นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ!! ไอ้น้องเลว!! มึงยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณกูเลยนะ..
มึงจะมาตายอย่างนี้ไม่ได้นะเว้ย.. ตื่นขึ้นมา!! ตื่นขึ้นมาลองขับรถที่มึงอยากได้มันก่อน... มึงมันเป็นไอ้เด็กเลว
มึงไม่ยอมอยู่รับของขวัญวันเกิดจากพี่ชายอย่างกูเลย...กูเกลียดมึง...ไอ้เด็กอกตัญญู..." ณัฐภาสทั้งด่าทอ ทั้ง
ทุบตีร่างไร้ลมหายใจของสนด้วยน้ำตา ก่อนที่จะฟุบหน้าลงกอดร่างไร้ลมหายใจของน้องชายนอกไส้อย่างสุด
จะทนด้วยความเศร้าเสียใจอย่างถึงที่สุด...เด็กชายกำพร้าร่างน้อยตัวแกร็นหัวฝูๆ ตามสไตล์เด็กใต้ทั่วไป
ที่ชอบเดินตามติดเขายิ่งกว่าเงาของตัวเขาเอง เด็กน้อยสุดเกรียนที่ชอบเคาะประตูยืนร้องไห้อยู่หน้าห้องนอน
ของเขาทุกๆ ครั้งที่มีฝนตกฟ้าผ่าลงมาในตอนกลางดึกเพื่อที่จะขอมานอนคลุมโปงหลบเสียงฟ้าร้องด้วยกันกับ
เขา เด็กน้อยที่คอยเป็นเพื่อนเล่นในยามที่เขาต้องอยู่คนเดียว เด็กที่เขารู้สึกถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่พ่อพาเดิน
เข้ามาในบ้านและบอกว่ามันจะมาเป็นน้องชายของเขา เด็กคนที่ทำให้เขาเปิดใจและรู้จักที่จะแบ่งปันความรัก
ความอบอุ่นให้ใครอีกคนนึง เด็กคนที่ทำให้เขารู้จักคำว่าครอบครัวจริงๆ มันเป็นยังไง.....





......สักวันเราจะได้เจอกันอีก.....รักเสมอ.....น้องชายคนดีของพี่.......


#




...
เหอๆ ไม่มีอะไรจะพูด นอกจาก...แกมันใจร้ายที่สุดไอ้มี่บ้า!!!
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!  :sad4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 24 (16/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 16-01-2016 20:17:31
โถถถถถถถถ ชาติหน้ามีจริงก็เกิดมารักกันใหม่นะคะ
ขอให้พัสประชุมได้เฮงๆทีเท้อออออ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 24 (16/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 16-01-2016 20:37:09
สน-ภูผา ทำไมมมมมมม เราแอบหวังคู่นี้เอาไว้ตั้งนาน ที่ไหนได้พอเปิดมาอีกที..ตายคู่ ฮืออออ
คนเขียนใจร้ายที่สุด  :sad4:
รอตอนต่อไปค่ะ//ตาขวาง มองแรงมาก
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 24 (16/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-01-2016 20:49:05
 :pig4:   :pig4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 24 (16/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 16-01-2016 20:56:36
ตอนนี้เศร้าอ่ะ รอตอนหน้าจ้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 24 (16/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-01-2016 21:02:38
 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 24 (16/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 16-01-2016 21:21:46
สนกับภูผา หมดทุกข์ไปแล้ว ลาก่อนค่ะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 24 (16/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 16-01-2016 22:08:56
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 24 (16/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: JanNi ที่ 16-01-2016 23:36:51
ตอนนี้มันช่างเศร้ามากจริงๆ :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 24 (16/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-01-2016 01:52:51
จบปัญหาและเรื่องราวสักทีสำหรับคู่นี้ ตายเรียบอุตส่าห์อยู่มาได้ตั้งหลายปี
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 13 (17/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 17-01-2016 08:58:22

คุณเมียภาคบังคับ (เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 13





       "ไปโรงพักกันเถอะธาร...ยายครับผมฝากดูเจ้านายด้วยนะครับ เผื่อตื่นมากลางดึก" เจ้าคุณพูดบอกพร้อม
กับลากธาราที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ให้ลุกขึ้นเดินตามแรงดึงของตัวเอง โดยที่จะไม่ลืมฝากให้คุณนายมณีช่วยดูแล
เจ้านายที่เข้าไปหนอนหลับอุตุอยู่ในห้องของเจ้าตัวไปแล้วให้ด้วยเผื่อว่าจะตื่นขึ้นมากลางดึกอีก

       "มีอะไรรึเปล่าคุณทำไมถึงต้องรีบร้อนขนาดนี้ด้วย" ธาราเอ่ยถามเจ้าคุณทันทีที่เจ้าคุณขึ้นมานั่งประจำที่
คนขับหลังจากที่จับเขามายัดใส่ที่นั่งเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะขับรถออกมาจากบ้านด้วยความเร็วสูง

       "นายหัวรพีถูกตำรวจจับอยู่ที่โรงพัก...ข้อหาฆ่าคนตาย" เจ้าคุณบอกออกมาในที่สุด หลังจากที่คิดอยู่นาน
ว่าควรที่จะบอกธาราตอนนี้เลยหรือจะปล่อยให้ไปรู้ด้วยตัวเองดี

       "ฆะ...ฆ่าคนตายหรอ" ธาราพูดด้วยเสียงสั่นๆ

       "อืม...ไอ้สนน้องบุญธรรมไอ้ภาสกับ...ไอ้ภูผา" เจ้าคุณบอกพลางเหลือบมองหน้าของธาราไปด้วย

       "สะ..สองคนนั้นหรอ..ทำไม?" ธาราอยากจะตบปากและตีมือของตัวเองจริงๆ ที่มันสั่นแรงถึงขนาดนี้

       "ใจเย็นน้องธาร...ไม่เป็นไรนะ" เจ้าคุณรถความเร็วของรถก่อนที่จะเอื้อมมือไปบีบมือของธาราเบาๆ เพราะ
ต้องการให้กำลังใจและให้ธาราได้รู้ว่าเขายังคงอยู่ข้างๆ ของธาราเสมอไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตาม
.
.
.
       "ไอ้ภาส! ไม่เป็นไรนะมึง" เจ้าคุณรีบปล่อยมือจากธาราและถลาเข้าหาณัฐภาสเพื่อนรักทันที เมื่อเข้ามา
ในสถานีตำรวจได้แล้ว เมื่อเห็นว่าณัฐภาสนั่งนิ่งหลบมุมอยู่คนเดียว นานแล้วที่เขาไม่ได้เห็นณัฐภาสมีสภาพ
แย่ๆ อย่างนี้ ไม่สิ! ถ้าจะพูดให้ถูกคือเขาเคยเห็นณัฐภาสในสภาพแบบคนหมดอะไรตายอยากอย่างนี้แค่ครั้ง
เดียวก็ตอนที่แม่ของณัฐภาสเสียชีวิตไปก็เท่านั้น หลังจากนั้นณัฐภาสก็กลายเป็นเพลย์บอยรักสนุกไปเลย
ก่อนที่จะกลับมาเป็นผู้เป็นคนจริงๆ ก็ตอนที่ได้แต่งงานกับพัสกรนั่นแหละ และเขาไม่ชอบเลยจริงๆ ที่จะต้อง
มาเห็นณัฐภาสเพื่อนรักในสภาพโทรมๆ สีหน้าเศร้าๆ และตาบวมแดงที่เป็นร่องรอยจากการร้องไห้อย่างนี้เลย
มันไม่เหมาะกับคนอย่างณัฐภาสเลยจริงๆ

       "เออ..กูสบายดี" ณัฐภาสเหลือบตามองเจ้าคุณที่มายืนค้ำตัวตัวเองอยู่ก่อนที่จะตอบเสียงเบา

       "แต่กูว่ามึงไม่โอเคเลยว่ะเพื่อน แล้วนี่น้องพัสรู้เรื่องนี้แล้วรึยัง" เจ้าคุณทิ้งตัวนั่งเก้าอี้ว่างข้างๆ ณัฐภาส
ก่อนที่จะถามต่อ เพราะยังไม่เห็นพัสกรเลย

       "กำลังมาพร้อมกันกับพ่อกูนั่นแหละ เพราะต้องหาคนมาเฝ้าแฝดให้ก่อน" ณัฐภาสตอบ เพราะก่อนหน้านี้
เขาโทรไปบอกเจ้าสัวชัชวาลย์พ่อเขากับพัสกรแล้ว ทั้งคู่จึงตกลงว่าจะมาพร้อมกันเพราะต้องรอแม่บ้านจาก
บ้านใหญ่เข้าไปเฝ้าลูกชายฝาแฝดทั้งสามคนของเขาก่อน เผื่อจะตื่นขึ้นมากลางดึกอีก

       "มึง..." เจ้าคุณครางออกมาเบาๆ อย่างไม่รู้จะทำยังไงเมื่อเห็นน้ำใสๆ ที่ไหลออกจากสองตาของเพื่อนรัก

       "กู...กูเห็นมันตายต่อหน้าต่อตากูเลยว่ะคุณ ถ้ากูไปถึงที่นั้นเร็วกว่านี้ไอ้สนมันก็คงจะไม่ต้องตาย ถ้าไม่เป็น
เพราะความชักช้าไม่เอาไหนของกู...ป่านนี้ไอ้สนมันคงจะลั้ลลา ยิ้มแป้น หน้าบานเพราะได้ลองขับบีเอ็มรุ่นที่
มันนั่งเพ้อเป็นวันๆ เพราะความอยากได้ ที่กูถอยออกมารอเซอร์ไพร์วันเกิดให้มันแล้วแหละ..ทั้งหมดมันเป็น
เพราะกูคนเดียว" ณัฐภาสพูดบอก พร้อมกับปล่อยให้น้ำตาลูกผู้ชายของตัวเองไหลออกมาอย่างเงียบๆ ไม่คิด
ที่จะเช็ดออกแต่อย่างใด

       "ไม่ใช่หรอกครับ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความผิดพี่ภาสหรือความผิดของใครหรอกครับ เพราะ
ทุกอย่างมันมีเหตุและผลในตัวของมันเองและพัสเชื่อว่าพี่ภาส...ทำดีที่สุดแล้ว" ในขณะที่เจ้าคุณไม่รู้จะพูด
ปลอบเพื่อนยังไง พัสกรก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาทั้งสองคนและดึงรั้งณัฐภาสเข้าไปกอดซบหน้ากับ
หน้าท้องแบบราบของตัวเอง ก่อนที่จะพูดปลอบออกมาเบาๆ ด้วยโทนเสียงนิ่งๆ ที่ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่นเข้าไป
ถึงข้างในหัวใจกันเลยทีเดียว

       "แต่..."

       "ไม่มีแต่หรอกครับ ถ้าขืนพี่ภาสยังเอาแต่โทษตัวเองอย่างนี้สนเขาจะไม่สามารถจากไปได้อย่างสบายใจ
หรอกนะครับ เขาคงจะรู้สึกผิดและไม่สบายใจมากด้วยที่ทำให้ลูกพี่สุดที่รักของเขาต้องมานั่งโทษตัวเองอยู่
อย่างนี้" พัสกรไม่ปล่อยโอกาสให้สามีได้พูดเถียงอะไรออกมาอีก เพราะยิ่งพูดออกมาก็คงจะมีแต่ณัฐภาสนั่น
แหละที่จะเจ็บปวดกับคำพูดของตัวเอง ก่อนที่จะดันออกจากตัวเองและเช็ดน้ำตาให้เจ้าตัวเบาๆ ด้วยความ
รักและความเป็นห่วงที่มี....เขายอมรับเลยว่าแว๊บแรกที่เห็นคราบน้ำตาบนหน้าของสามีไกลๆ ตั้งแต่ตอนที่เดิน
เข้ามาในสถานีตำรวจแห่งนี้ พัสกรก็ต้องเสียน้ำตาออกมาเหมือนกันเพราะความสงสาร สงสารทั้งสนที่ตายไป
แล้วและสงสารทั้งสามีของตัวเองที่ต้องมานั่งร้องไห้เสียใจกับความรู้สึกหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นมาพร้อมกันที
เดียวอีกไม่ว่าจะเป็นความเสียใจที่ตัวเองต้องเสียน้องชายไป หรือความรู้สึกผิดที่ไปช่วยสนไม่ทันอีก ทั้งๆ ที่
ตัวเองรีบร้อนออกไปตั้งแต่รู้ข่าวแล้วแท้ๆ ไหนจะความผิดหวังที่จะได้เห็นสีหน้าดีใจของสนตอนที่ได้เห็นของ
ขวัญวันเกิดที่เจ้าตัวเตรียมไว้เซอร์ไพร์คนที่เปรียบเสมือนน้องชายแท้ๆ ของเจ้าตัวอีก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าตัว
หวังนั้นมันพังทลายลงมาพร้อมกันทีเดียวอย่างไม่ทันที่จะได้ให้ณัฐภาสสามีของเขาตั้งตัวเลยทีเดียว พัสกร
เลยไม่แปลกใจและไม่ผิดหวังอะไรเลยที่ได้เห็นมุมอ่อนแอของสามีอย่างนี้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นใน
วันนี้มันสาหัสเกินไปจริงๆ เขาจึงยืนเรียกสติตัวเองอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะก้าวเดินเข้ามาอยู่เคียงข้างกับสามี
ได้ในแบบที่มีสติครบท้วนอย่างนี้...เขาไม่ได้เก่งอะไร เพียงแต่เขาจะยอมให้สามีตกอยู่ในสภาพตายทั้งเป็น
อย่างนี้ไม่ได้ก็เท่านั้นเอง เพราะณัฐภาสคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขาและลูกแฝดอีกสามคนที่กำลังนอนรอให้
คุณพ่อของเขากลับไปกอดอยู่
.
.
.
.
.
       "คะ...คุณ...ไม่เป็นอะไรใช่ไหม" ธาราหยุดยืนอยู่ข้างหน้านายหัวรพีก่อนที่จะเอ่ยถามออกไปด้วยเสียงเบา
หลังจากที่เจ้าคุณแยกออกไปดูณัฐภาสแล้วธาราก็ค่อยๆ ทำใจเดินก้าวเข้ามาหานายหัวรพีที่นั่งเหม่ออยู่ใน
ห้องขังนักโทษที่รอสอบสวนอีกที ก่อนที่จะตัดสินคดีหรือยืนฟ้องรอแจ้งข้อหา

       "น้องธารมาแล้วหรอลูก ทำไมมาช้าจัง ปล่อยให้พ่อรอตั้งนาน ที่พ่อโทรไปหาก่อนหน้านี้เจ้าคุณไม่ได้บอก
หรอ หรือเขาไม่ยอมพามา" นายหัวรพีมองหน้าลูกชายคนเล็กด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะพูดชวนธาราคุย
เหมือนกับว่าเหตุการณ์ตอนนี้ยังคงปกติดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น และเจ้าตัวก็ไม่ได้ถูกกรงเหล็กขวางกั้น
ระหว่างตัวเองกับลูกชายอย่างตอนนี้ด้วย

       "บอก...แต่ผมไม่อยากพบเจอกับคุณอีก" ธาราบอกพลางเบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้าของตัวเอง เขาไม่
อยากเห็นรอยยิ้มที่เป็นเหมือนการยิ้มเยาะด้วยความสมเพชตัวเองจากผู้ชายคนนี้ เพราะมันไม่เหมาะสมที่จะ
มาอยู่บนหน้าของผู้ชายคนนี้ คนที่ชอบตั้งตัวเองเป็นใหญ่ คนที่ชอบคิดว่าตัวเองเป็นเหมือนศูนย์กลางของโลก
ที่ใครๆ ก็ต้องทำตามคำสั่งของเจ้าตัวเสมอ คนๆ นี้ไม่เหมาะกับความอ่อนแออย่างนี้เลย

       "นั่นสิเนอะ! พ่อก็ลืมคิดไปเลยว่าน้องธารคงไม่อยากที่จะเห็นหน้าพ่ออีกแล้ว แต่ที่พ่ออยากเจอน้องธาร
พ่อแค่อยากจะขอโทษหนูเท่านั้นไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่านี้เลย...พ่อขอโทษที่พ่อเป็นพ่อที่แย่ ขอโทษที่
พ่อลำเอียงรักลูกไม่เท่ากัน ขอโทษที่พ่อทำให้หนูต้องเจ็บปวด ต้องทุกข์ทรมาณทั้งๆ ที่พ่อก็รู้มาตลอดว่าธาร
กับแม่นางฟ้าของหนูต้องโดนภูผากับแม่ของภูผารังด่าทอหรือรังแกมากมายสารพัดอย่าง แต่พ่อก็ยังเฉยทำ
เป็นมองไม่เห็นไป พ่อขอโทษจริงๆ นะน้องธาร พ่อไม่ได้เกลียดหนูอย่างที่หนูเข้าใจนะน้องธารเพียงแต่พ่อ...
ไม่สามารถรักหนูให้มากเท่ากับภูผาเท่านั้นเอง พ่อขอโทษจริงๆ นะน้องธาร....เอ้า! เจ้าคุณมาพอดีเลย ช่วย
พาน้องธารกลับบ้านไปที ฉันพูดในสิ่งที่อยากจะพูดกับเขาหมดแล้ว ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าเขาอีกแล้ว ช่วย
พาเขาไปให้พ้นๆ หน้าฉันซะที" นายหัวรพีพูดบอกเมื่อเห็นว่าเจ้าคุณเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างธาราที่กำลัง
นั่งร้องไห้ตัวสั่นอยู่เงียบๆ หน้าลูกกรงห้องขังของเขา ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวกำลังเสียใจอย่างหนัก

       "ผะ..ผมเกลียดคุณ ฮึก!" ธาราบอกออกมาเบาๆ ด้วยเสียงซะอื้น ก่อนที่เจ้าคุณจะประคองตัวออกไป

       "แกทำอย่างนั้นทำไมรพี แกหรอกลูกชายของแกทำไม แกจะให้เจ้าธารมันต้องเจ็บช้ำเพราะแกไปถึง
เมื่อไหร่ห้ะไอ้เพื่อนเลว" เจ้าสัวชัชวาลย์เดินออกจากที่ซ่อนก่อนที่จะพูดถามออกมา หลังจากที่เจ้าคุณพาธารา
เดินออกไปจากบริเวรนี้แล้ว ที่จริงเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะแอบฟังพ่อลูกเขาคุยกันหรอก แต่เป็นเพราะตอนที่เขา
กำลังจะเดินมาคุยกับเพื่อนเก่าอย่างนายหัวรพีคนนี้ ธาราที่เดินเข้ามาคนละทางกับเขาก็มาหยุดยืนอยู่ตรง
หน้าลูกกรงห้องขังของนายหัวรพีเสียก่อน

       "เพราะฉันต้องทำในสิ่งที่ฉันควรที่จะทำให้ลูกชายในฐานะของพ่อไงล่ะ ให้น้องธารมันเกลียดฉันเยอะๆ
เกลียดให้มากๆ เกลียดจนให้ลืมไปเลยว่าครั้งนึงได้มีพ่อเลวๆ อย่างฉัน"

       "แต่แกรักฟ้า แกรักแม่ของมัน รักเมียคนแรกของแกมากไม่ใช่หรือรพี"

       "อืม..แต่จะมีประโยชน์อะไรที่ฉันรักแม่ของมัน แต่ไม่ได้รักมันมากไปกว่าภูผาลูกชายของฉัน ดีเท่าไหร่แล้ว
ที่ฉันไม่ได้ฆ่ามันทิ้งตั้งแต่มันอยู่ในท้องของน้ำ ดีเท่าไหร่แล้วที่ฉันปล่อยให้มันมีโอกาสได้ออกมาลืมตาดูโลก
และมีชีวิตจนโตมาถึงทุกวันนี้ ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ลูกของฉัน!!!...แกรู้อะไรไหมชัชว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือฉันการที่
ฉันเกลียดตัวเองที่ดันเผลอไปหลงรักลูกของศัตรูอย่างมัน แกก็รู้ว่าฉันเกลียดพ่อแท้ๆ ของมันขนาดไหน แล้ว
ฉันยังมีหน้าไปบอกใครต่อใครอีกว่ามันเป็นลูกชายอีกคนของฉัน ทั้งๆ ที่ฉันจะต้องรู้สึกเจ็บปวดใจทุกครั้งที่
มองหน้ามันแล้วเห็นภาพทับซ้อนของพ่อมันอีกที......ฉันเจ็บ! แกรู้บ้างไหมชัชว่าฉันเจ็บ!! ฉันเจ็บตรงนี้!!
เจ็บตรงนี้มากที่สุดเลยชัชแกรู้ไหม!!!" นายหัวรพีพูดบอกทั้งน้ำตา อีกทั้งยังทุบหน้าอกข้างซ้ายตรงตำแหน่ง
หัวใจเพื่อบอกให้เจ้าสัวชัชวาลย์อดีตเพื่อนรักของตัวเองได้รู้ว่าที่ผ่านมาเขารู้สึกเจ็บและทรมาณเข้าไปถึงขั้ว
หัวใจเลย.....น้ำฟ้า หรือ แม่นางฟ้าของธารา เป็นผู้หญิงที่สวยมากสวยที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเคยเจอมาเลย
เจ้าสัวชัชวาลย์ น้ำฟ้า และตัวเขาเอง เป็นเพื่อนที่เรียนมหาลัยมารุ่นเดียวกัน...เขากับไอ้ชัชหรือเจ้าสัวชัชวาลย์
ในทุกวันนี้ได้สนิทกันและตกลงเป็นเพื่อนรักร่วมสาบานกันในที่สุดเพราะมีอะไรเหมือนๆ กันหลายอย่างไม่ว่า
จะเป็นความคิด ความอ่าน หรือไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตที่ออกแนวลุยๆ เพราะเป็นเด็กบ้านๆ ลูกคนจน ต่าง
จากน้ำฟ้าที่เป็นลูกคุณหนูที่มีพ่อเป็นตำรวจยศใหญ่มีแม่เป็นเจ้าของบริษัทไข่มุกที่กำลังได้รับความนิยม จึง
ได้เลือกคบอยู่แต่พวกคุณหนูคุณชายด้วยกัน และไม่เคยชายตาแลเขาเลยนอกจากเวลาที่มีกิจกรรมที่จะต้อง
ร่วมมือกันทั้งรุ่น คุณหนูน้ำฟ้ากับเขาถึงได้โคจรมาพบเจอและได้พูดคุยกันเสียทีนึง จนเวลาล่วงเลยไปถึงวันที่
พวกเขาทั้งสามคนจบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย เขาก็ไม่มีโอกาสที่จะได้สารภาพรักกับดอกฟ้าอย่าง
คุณหนูน้ำฟ้าเสียที และหลังจากนั้นพวกเขาทั้งสามคนก็แยกกันไปคนละทิศทาง ชัชวาลย์ไปเดินเตะฝุ่นสมัคร
งานจนได้ทำงานกับบริษัทใหญ่โตบริษัทหนึ่งเพราะความสามารถของมัน คุณหนูน้ำฟ้าเธอก็กลับไปอยู่บ้าน
เกิดที่ภูเก็ตกับพ่อแม่ของเธอ ส่วนเขาหน่ะหรอ? ก็เป็นอันธพาลมีเรื่องต่อยตีจนได้จับพลัดจับผลูไปเป็นคุม
บ่อน คุมคาสิโนผิดกฏหมายสร้างเนื้อสร้างตัวจากความเดือดร้อนของคนอื่นมาเป็นนายหัวรพีอย่างทุกวันนี้
นี่ไง แถมยังโชคดีได้ที่ดินผืนสวยผืนใหญ่ที่ภูเก็ตบ้านเกิดของนางฟ้าในใจของเขามาตั้งต้นลงหลักปรักฐานอีก
และความฝันของเขาก็เป็นจริง เมื่อเขาได้เจอกับนางฟ้าของเขาอีกครั้งพร้อมกับเล่ยเจียงไอ้เจ๊กไร้สกุลคนนั้น
ที่มันเข้ามาเป็นคนรักคนรู้ใจกับนางฟ้าของเขา จนเขาต้องตัดสินใจทำสิ่งที่เลวร้ายอีกครั้งเมื่อเขาบังเอิญได้
ยินข่าวมาว่าทั้งสองคนกำลังจะแต่งงานกัน เขาจึงเลือกที่จะฉุดน้ำฟ้ามาเป็นของเขาและฆ่าไอ้เล่ยเจียงทิ้ง
ลงทะเลไป ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเขาก็มีภูผาและแม่ของภูผาเป็นเมียอยู่แล้วทั้งคน แต่เขาขอยืนยันเลยว่าเขาไม่เคย
คิดรักแม่ของภูผาเลย ทุกอย่างมันเกิดขึ้นมาจากความผิดพลาดทั้งนั้นรวมทั้งการเกิดมาของภูผาด้วย แต่ถึง
เขาจะไม่ได้รักแม่ของภูผา แต่เขาก็รักภูผามากเพราะภูผาคือลูกของเขา คือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา และเขา
พึ่งจะมารู้ที่หลังว่าในท้องของน้ำฟ้ามีเลือดเนื้อเชื้อไขของเล่ยเจียงติดมาด้วย นั่นก็คือธารา ตอนนั้นเขาคิดที่
จะฆ่าธาราเหมือนกัน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะน้ำฟ้าขอเอาไว้ แรกกับการที่จะยอมอยู่กับเขาดีๆ โดยที่จะไม่คิดหนี
เพราะตอนนั้นไม่มีใครที่จะสามารถมาช่วยน้ำฟ้าได้หรอกเพราะพ่อของน้ำฟ้าที่เป็นตำรวจนั้นตายไปหลายปี
แล้ว อีกทั้งแม่ของน้ำฟ้าก็มีโรคประจำตัวเจ็บออดๆ แอดๆ แถมกฏหมายของประเทศเราเมื่อก่อนนี้ก็ยังไม่ได้
มีอำนาจมากไปกว่าเงินของเขา ทุกอย่างจึงดำเนินไปตามทางที่เขาต้องการ จนเจ้าหนูน้อยธาราที่ถอดแบบ
บล็อคหน้าเดียวกันกับพ่อมันเกิดขึ้นมาบนโลกนี้อีกคน เขาถึงได้คิดที่จะฆ่าธาราอีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะมี
น้ำฟ้าคอยขอร้องอ้อนวอนเขาอยู่ทุกๆ ครั้ง จนแล้วจนรอดพอน้ำฟ้าสิ้นใจตายไปด้วยโรคหัวใจที่กว่าจะตรวจ
เจอมันก็สายไปแล้ว ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ น้ำฟ้าจึงเจ็บออดๆ แอดๆ มาโดยตลอด อย่างที่ธาราเห็น
และคิดว่าเป็นเพราะน้ำฟ้าตรอมใจเพราะรู้ว่าเขามีภูผาและแม่ภูผาอีกสองคนเป็นครอบครัว ทั้งๆ ที่สองคน
นั้นมาก่อนน้ำฟ้าและธาราแท้ๆ เขาก็ยังฆ่าธาราไม่ลงอยู่ดีเพราะสายตากลมที่ถอดแบบคนเป็นแม่อย่างน้ำฟ้า
ผู้หญิงที่เขารักมันมองเขาด้วยสายตาเว้าวอนและพร่ำร้องเรียกเขาว่า 'พ่อจ๋าๆ' อยู่อย่างนั้น เขาถึงฆ่ามันไม่
ได้และเลี้ยงให้มันโตมาจนถึงทุกวันนี้ เหมือนกับลูกแท้ๆ ของตัวเอง ทั้งๆ ที่อีกมุมนึงมันก็เป็นเหมือนหนาม
หยอกอกที่คอยแต่จะทิ่มแทงให้เขาได้ตายเพราะความทรมาณไปอย่างช้าๆ

       "เกือบสามสิบปีที่ฉันต้องทนให้มันเป็นเหมือนเสี้ยนหนามที่คอยมาทิ้มแทงแหวกแผลในหัวใจช้ำเลือด
ช้ำหนองของฉันให้มันเหวอะกลายเป็นแผลใหญ่กว่าที่เคยเป็น...นั่นมันมากเกินพอแล้วชัช...ยังไงฉันก็ฝาก
แกช่วยดูแลมันต่อจากฉันที...ฉันไม่อยากที่จะทรมาณและเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว" นายหัวรพีพูดบอกออกมา
ทั้งรอยยิ้ม ที่คราวนี้เป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจจริงๆ ไม่ใช่รอยยิ้มในแบบฝืนๆของเจ้าตัวก่อนหน้านี้ แต่คำพูด
ที่เป็นเหมือนคำสั่งเสียของนายหัวรพีนี่สิที่มันสะกิดใจของเจ้าสัวชัชวาลย์เสียจริงๆ

       "แก...แกหมายความว่ายังไงน่ะรพี แกคิดที่จะทำอะไรชั่วๆ อีกแล้วใช่ไหม!! บอกฉันมานะไอ้รพี!!" เจ้าสัว
ชัชวาลย์สอดมือเข้าไปกระชายคอเสื้อเพื่อนรักผ่านทางลูกกรงเหล็กของห้องขังด้วยความรู้สึกไม่ได้

       "ช่วยปล่อยมือจากคอผู้ต้องหาด้วยครับท่าน" เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นเวรเฝ้าผู้ต้องขังที่นั่งอยู่ที่โต๊ะประจำ
ตำแหน่งของตัวเองก็รีบมาช่วยปลดมือของเจ้าสัวชัชวาลย์ออกจากคอของนายหัวรพีก่อนที่นายหัวรพีจะขาด
ใจตายไปเสียก่อนเพราะโดนเสื้อของตัวเองรัดคอ

       "อย่าลืมนะชัช...ช่วยดูแลน้องธารมันแทนฉันที" พอจบประโยคคำพูดสุดท้ายของตัวเอง นายหัวรพีก็นอน
ล้มพลุบราบไปกับพื้นห้องขัง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไขประตูห้องขังเข้าไปดูในทันทีทันใดแต่ก็ไม่ทัน เพราะ
หัวใจของนายหัวรพีได้หยุดเต้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับพบจดหมายที่เจ้าตัวเขียนทิ้งใส่ในกระเป๋าเสื้อ
เป็นคำสารภาพไว้ก่อนตายว่าตัวเขาเองได้วางแผนในทุกๆ เรื่องไว้แล้วเป็นอย่างดี ตั้งแต่เรื่องที่ลงมือฆ่าสน
ที่เป็นคนลักพาตัวภูผาลูกชายของเขาไป และเรื่องที่วางยาเพื่อฆ่าตัวเองตายด้วย เพราะเขาคิดว่าภูผาลูกชาย
ของเขาได้โดนสนฆ่าตายไปแล้วก่อนหน้านี้จึงคิดที่จะฆ่าตัวตายตามลูกชายไป แต่ขอให้ได้มีเวลาได้ลงมือฆ่า
สนเพื่อล้างแค้นให้ภูผาลูกชายก่อนที่สารพิษที่เขากันเข้าไปจะออกฤทธิ์ในอีกประมาณสี่ ห้าชั่วโมงต่อมาหลัง
จากที่เขาได้ทำการล้างแค้นให้ภูผาลูกชายของเขาได้แล้ว และคนที่นายหัวรพีเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้
คือ....ธารา ภูวนนท์ลูกชายที่เขาทั้งรักทั้งเกลียดนั่นเอง
.
.
.
.
.
       "ยังโอเคอยู่ใช่มั้ยธาร....." เจ้าคุณถามขึ้นทันที หลังจากที่พาธาราขึ้นมานั่งอยู่บนรถของตัวเองที่จอดอยู่
หน้าสถานีตำรวจแล้ว แต่ยังไม่ได้ขับกลับบ้านเลยแต่อย่างใด ทำเพียงแค่สตาร์ทเครื่องเพื่อที่จะเปิดแอร์
เท่านั้น เพราะต้องการที่จะดูอาการของธาราก่อนว่าอยู่ในระดับไหน

       "ฮื่ออออออออ....." ธาราไม่ตอบ แต่กลับรีบหันคว้าตัวเจ้าคุณเข้ามากอดและซบออกเจ้าคุณร้องไห้อยู่
อย่างนั้น

       "ร้องออกมาเลยธาร ร้องออกมาให้หมด พี่ให้เวลาธารได้ร้องไห้แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น" เจ้าคุณบอกพร้อม
กับกระชับแขนกอดธาราแน่นขึ้นไปกว่าเดิมอีก

       "ฮื่ออออออออ........"

       "ธารไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะ พี่เคยบอกแล้วไงว่าต่อให้คนทั้งโลกจะไม่รักธารจะเกลียดธารมากมายสัก
แค่ไหน...พี่ก็จะรักธารเหมือนเดิม...และจะอยู่ข้างๆธารตลอดไป ต่อให้ไล่หรือเอามีดไล่ฟันก็จะไม่ไปไหน จะ
เกาะติดหนึบ ยึดอยู่กับตัวของพี่ไปจนจะตายจากกันไปข้างนึงนั่นแหละ และถ้าธารชิงตายก่อนพี่ พี่ก็จะฆ่า
ตัวตายแล้วก็ออกตามล่าหาวิญญาณธารจับเอามาปล้ำทำเมียเหมือนเดิมอยู่ดี...ดีม๊ะ?" มันจะดี จะซึ้งอยู่แล้ว
ที่เจ้าคุณพูดเพราะและเรียกแทนตัวเองว่าพี่ทุกคำแถมยังบอกรักอย่างซึ้งๆ ในแบบคนปกติทั่วไปเขาทำกัน
แต่ติดอยู่อย่างเดียวที่มันดันพูดเพ้อเจ้อพาอารมณ์ที่กำลังจะซาบซึ้งของธารากระเจิดกระเจิงไปกับที่มันจะ
ออกตามล่าหาวิญญาณธาราเอามาปล้ำทำเมียมันอีกเนี่ยแหละ!...ธาราคงจะหวังกับระดับความโรแมนติก
ของเจ้าคุณมากเกินไป...หึๆ

       "ฮึๆ ไอ้บ้าเจ้าคุณ!! คนกำลังจะซึ้งอยู่แล้วเชียว คิดจะห่ามอย่างนี้ไปตลอดจนถึงตอนเป็นวิญญาณเลย
รึไงกัน!...นี่คิดถูกเหลือคิดผิดเนี่ยที่ยอมให้ไอ้คนพรรค์นี้มาเป็นพ่อของลูกเนี่ย!! ฮ่าๆ" แต่ความห่าม ความบ้า
ของเจ้าคุณก็ดูเหมือนว่าจะมีประโยชน์อยู่บ้าง เมื่อธาราหยุดร้องไห้และหัวเราะออกมาเพราะตลกในคำพูด
ของเจ้าคุณ

       "ก็ต้องคิดถูกซิครับคุณนายน้องธาร เพราะพี่เจ้าคุณคนนี้ ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมยัง...ใหญ่อีกต่างหาก
เห็นม๊ะๆ กำไลชีวิตของคุณนายน้องธารทั้งน้านนน...ที่โดนพี่จับปล้ำบังคับให้มาเป็นเมียพี่หน่ะ..โฮ๊ะๆ " มีหรอ
ที่คนอย่างเจ้าคุณที่โดนเมียด่าเมียว่าแล้วจะสลด บอกเลยว่าไม่ เพราะยิ่งเห็นธารากลับมายิ้มมาหัวเราะได้
เจ้าคุณก็ยิ่งอยากจะแหย่ให้ธาราลืมในเรื่องไม่ดีที่ติดอยู่ในสมองอยู่ในหัวใจให้หลุดออกไปให้หมดสิ้น ไม่ต้อง
มีหลงเหลือให้เป็นเชื้อไฟในการทำร้ายความรู้สึกของเจ้าตัวอีกครั้งเมื่อมีใครเผลอไปสะกิดมันเข้า

       "พอเลยๆ ยิ่งคุยด้วยก็ยิ่งเลอะเทอะนะเจ้าคุณ...กลับบ้านกันดีกว่า...ธารอยากนอนกอดลูกแย่แล้ว" ธารา
พูดบอกกับเจ้าคุณ ก่อนจะถอนหายใจทิ้งแรงๆ อีกหนึ่งที เพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา และพูดบอกกับตัวเอง
ในใจซ้ำๆ ว่า ชีวิตนี้มีแค่ เจ้าคุณ เจ้านาย และคุณยายมณีก็พอแล้ว....

       "คร้าบ...พี่คุณจะรีบขับรถกลับบ้านตามคำสั่วของคุณนายน้องธารเดี๋ยวนี้เลยครับ....คุณเมียสุดที่รัก"
เจ้าคุณพูดแหย่แบบหยอดๆ ธาราเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะเข้าเกียร์ เหยียบคันเร่ง เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน
ตามคำสั่ง 'คุณนายน้องธารสุดที่รัก' ของตัวเองในทันที เพราะหวังว่าลูกชายสุดที่รักที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ที่
บ้านนั้นจะสามารถเป็นยาวิเศษรักษาบาดแผลที่ฝังลึกอยู่ในใจแม่ธารจ๋าของเจ้าตัวให้หายขาดได้ในที่สุด




...
เชิญคุณลงทัณฑ์บัญชา~ ไอ้มี่บ้าตาดำๆ ~ โฮ้...โฮ..
อย่าว่าแต่คนอ่านที่เสียน้ำตาเลยจร้าเมื่อตอนที่แล้วเพราะไอ้มี่บ้าที่เป็นคนแต่งเองก็
พิมพ์ไปปาดน้ำตาไปด้วยเหมือนกันจ้า รวมทั้งตอนนี้ด้วย โฮ๊ะๆ (ทำหน้าโรคจิตๆ)
นายหัวรพีน่าสงสารโน๊ะ...ถ้าเป็นมี่คงจะปาดคอธาราทิ้งไปตั้งแต่แม่ของเจ้าตัวตายแล้วล่ะจร้า
ไม่เก็บไว้ให้ตัวเองมาเจ็บในทุกๆ ครั้งที่เห็นหน้าธารามาตลอดระยะเวลาที่เกือบจะสามสิบปีขนาดนี้หรอก!!
แต่จะทำยังไงได้ล่ะเน๊าะ ที่ดันเผลอไปหลงรักและเฝ้าฝูมฟักเลี้ยงดูมันมากับมือตัวเองอย่างนี้
แล้วเจอกันตอนหน้าจร้า..................จุ๊บ!!(ปลอบใจตอนนี้ทันม๊ะ?)
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 13 (17/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 17-01-2016 10:27:40
เศร้าเกินบรรยายจ้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 13 (17/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 17-01-2016 10:27:53
งานหน้าใครจะตายอีกกกก
ตายไปแล้วสาม
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 13 (17/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 17-01-2016 11:27:47
 :hao5:ะ น่าสงสารอ่ะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 13 (17/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-01-2016 13:31:20
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 13 (17/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-01-2016 13:53:37
เศร้าอ่ะ! T^T
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 13 (17/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-01-2016 13:59:30
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 13 (17/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 17-01-2016 14:57:42
มาโอ๋น้องธารด้วยคน
ไม่ร้องเนาะลูกเนาะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 13 (17/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-01-2016 15:30:47
น่ารักทั้งสองครอบครัวเลย
ป.ล.(แอบ)หวังว่าต่อไปจะไม่มีดราม่าหนัก นะครับ ... มันบีบหัวใจ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 13 (17/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 18-01-2016 00:33:31
ตอนนี้ขอไว้อาลัยสน ภูผา และนายหัวรพี ดูเหตุการณ์จะเกิดเร็วจนงงๆไปหน่อยนะคะ เอาเถอะ อย่างน้อยเราก็รู้ว่า ธาราไม่ใช่ลูกนายหัวรพี
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 13 (17/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryu_Chise ที่ 21-01-2016 15:50:35
เราก็มีแบบ โมเม้นต์ สน ภูผา นะ แล้วทำไมใจร้าย ทำร้ายจิตใจเราได้ลงคอออออออออออออ

ร้องไห้หนักมากกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.[เจ้าคุณ&ธารา]ตอนที่ 13 (17/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 21-01-2016 16:03:51
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 25 (03/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 03-02-2016 16:31:43

คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 25






#


      "อุ๊ย! สวัสดีค่ะคุณพัสกร ไม่ทราบว่าคุณมาทำอะไรที่นี่คะ บอสยังไม่มาหรอกนะคะ แล้วนี่รู้หรือเปล่าคะ
เนี่ยว่าวันนี้บอสเขาไม่อนุญาติให้คนนอกเข้ามาวุ่นวายในตึกเพราะเราต้องเตรียมต้อนรับลูกค้ารายใหญ่มาก
ที่จะมาลงทุนกับเราน่ะค่ะ" ยังไม่ทันที่พัสกรจะก้าวพ้นธรณีประตูทางเข้าตัวตึกของบริษัทเลยก็มีเสียงหญิงสาว
ที่เต็มไปด้วยจริตเกินงามจีบปากจีบคอพูดทักขึ้นซะก่อน...แค่ได้ยินเสียง ไม่ต้องเห็นหน้าพัสกรก็รู้แล้วว่าเป็น
ใครที่ใจกล้าทำปากยื่นปากยาวใส่ภรรยาของประธานบริษัทอย่างนี้ เพราะมีคนเดียวนั่นแหละที่ทำตัวไร้
มารยาทอย่างนี้มาตลอดตั้งแต่พัสกรถึงคราวจำเป็นที่จะต้องเอาเอกสารมาให้สามีหรือวันไหนที่แฝดสามเกิด
อ้อนตามคุณพ่อของเขาเข้ามาที่บริษัท ก็จะมีสาวประชาสัมพันธ์ที่ชื่อกิ๊ฟนี่แหละพูดจิกกัดเขาอยู่เสมอมา และ
ที่ผ่านมาพัสกรก็ปล่อยผ่านทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ตลอดเพราะไม่อยากจะให้สามีลำบากใจเนื่องจากว่าสาวกิ๊ฟคนนี้
เธอเป็นหลานของบอร์ดบริหารที่เป็นญาติห่างๆ กับณัฐภาสอีกที...แต่วันนี้พัสกรจะไม่ปล่อยผ่านอย่างที่ผ่าน
มาแน่นอนเพราะวันนี้อารมณ์ของเขานั้นติดลบมากถึงมากที่สุด เพราะมันมีหลายเรื่องหลายราวที่ประเด
ประดังเข้ามาในครอบครัวของเขาพร้อมๆ กันจนแทบจะตั้งตัวไม่ทัน วันนี้เขาก็เลยพร้อมที่จะวีนแตกใส่ทุกคน
ไม่สนหรอกว่าจะหน้าอินทร์หรือหน้าพรหม!!!


      "แล้วไม่ทราบว่าคุณกิ๊ฟอยากจะเป็นคนนอกหรือเปล่าครับถึงได้ทักทายผู้บริหารอย่างไร้มารยาทอย่างนี้
ไม่ทราบว่าตอนที่คุณกิ๊บมาสมัครเป็นฝ่ายต้อนรับนี่ใครเป็นคนรับคุณเข้าทำงานหรือครับ...ผมจะได้เชิญออก
พร้อมกันทีเดียวเลย" พัสกรพูดถามกลับด้วยเสียงเรียบนิ่ง ยืนกอดอกจิกตาวางอำนาจดุจนางพญาอย่างที่ไม่
เคยทำที่ไหนมาก่อน และสายของเขาที่อยู่ในบริษัทนี้ก็มักจะส่งข่าวให้อยู่ตลอดเวลาว่า ถึงแม้ว่าณัฐภาสสามี
ของเขานั้นจะประกาศให้ทุกคนได้รู้ได้ทราบแล้วว่าเจ้าตัวไม่ใช่ชายโสด และพ่วงมาด้วยเมียหนึ่งลูกอีกสาม
แต่แม่กิ๊ฟคนนี้ก็ยังจะมาดี้ด๊าเสนอหน้าพรีเซ้นต์ทั้งเนื้อ นม หอย ของตัวเองกับสามีของเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
โดยที่ไม่มีใครกล้าที่จะว่าหรือตำหนิอะไรแม้แต่ณัฐภาสเองก็เถอะ เพราะมัวแต่เกรงใจญาติผู้ใหญ่ของตัวเอง
อยู่นั่นแหละ!! แต่วันนี้นี่แหละนอกจากจะมาเป็นตัวแทนสามีใจการเซ็นหนังสือสัญญาแล้วเขาจะมาจัดการ
ไอ้พวกที่ไม่รู้จักขอบเขตนี่เสียให้หมด เพราะเขาก็ถือครองหุ้นในบริษัทนี้ร่วมกับสามีคนละครึ่งเหมือนกัน นั่น
หมายความว่าเขาเองก็มีสิทธิที่จะจัดการและตัดสินใจทุกๆเรื่องในบริษัทนี้เหมือนกัน เพียงแต่ที่ผ่านมาเขา
ไม่ชอบที่จะเข้ามาวุ่นวายในนี้สักเท่าไหร่เพราะต้องเลี้ยงลูกและมั่นใจในตัวสามีของตัวเองพอ


      "หมายความว่ายังไงกัน!!...คุณกำลังเพ้อฝันอะไรอยู่หรอคะคุณพัสกร" เธอหลุดแอ๊บใสซื่อเปลี่ยนเป็น
ตะหวาดแว๊ดถามพัสกรอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่จะหรี่เสียงมาเป็นปกติ เพราะเห็นสายตาของพนักงานในบริษัท
ที่อยู่แถวๆ นั้นจ้องมองตนเองและพัสกรอยู่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น


     "ใครเพ้อครับ? ผมน่ะหรอ? ไม่หรอกครับ คนอย่างพัสกร อัครจินดากรณ์คนนี้ไม่มีคำว่าเพ้อฝัน หรือทำได้
เพียงแค่มโนเพ้อพบหรอกนะครับถ้าไม่แน่จริง และเพื่อที่จะยืนยันว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นมันเป็นความจริงมากน้อย
แค่ไหนก็เชิญคุณกิ๊ฟไปรับเงินชดเชยสามเดือนที่แผนกบุคคลได้เลยนะครับ...ช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ผมด้วยนะ
ครับคุณยุพา เดี๋ยวผมขอตัวไปทำสมาธิที่ห้องพี่ภาสก่อนสักพักนะครับ ถึงเวลาประชุมเมื่อไหร่ก็รบกวนคุณ
ยุพาช่วยให้ใครไปตามผมทีนะครับ" พัสกรบอกกับกิ๊ฟก่อนที่จะพูดบอกกกับสาวใหญ่รุ่นแม่ที่มีตำแหน่งเป็น
เลขาของณัฐภาสสามีที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่บริเวณใกล้ๆ กับที่พัสกรยืนอยู่ได้สักพักแล้ว ก่อนที่จะเดินตรงเข้า
ลิฟต์ของผู้บริหารโดยเฉพาะเพื่อที่จะไปนั่งทำสมาธิที่ห้องทำงานของสามีอย่างที่พูดออกไป...มันอาจจะดู
เกินไปหน่อยที่พัสกรทำตัววางท่าใหญ่และไล่กิ๊ฟออกตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในฐานะผู้บริหาร(ชั่วคราว) ในวัน
แรกอย่างนี้ หรือใครอาจจะเอาไปพูดได้ว่าพัสกรไม่มีเหตุผล หรือเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงาน เพราะ
คนทั้งบริษัทไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิต แม่บ้าน จนถึงยามหน้าบริษัทต่างก็รู้ดีว่าพนักงานต้อนรับที่ชื่อกิ๊ฟ
หลานสาวของบอร์ดบริหารคนนี้ชอบให้ท่าและตั้งใจที่จะจับประธานบริษัทตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานแล้ว
เพียงแต่อ่อยไม่ขึ้นเท่านั้นเอง เพราะประธานมีเมียมีลูกแล้ว อีกทั้งยังมีรายงานหรือจดหมายร้องเรียนมาให้
พัสกรได้เห็นผ่านตามาตลอดว่าประชาสัมพันธ์หรือพนักงานต้อนรับที่ชื่อกิ๊ฟของบริษัทนี้แย่มาก นอกจากที่
จะไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการตอบคำถามสำหรับผู้ที่มาติดต่องานแล้ว ยังทำมารยาทแย่ๆ ใส่ลูกค้าอีกด้วย
ถ้าลูกค้าคนไหนแต่งตัวเรียบง่ายหรือดูไม่ค่อยมีราศีสักเท่าไหร่ นั่นยังไม่เท่ากับการที่ประชาสัมพันธ์กิ๊ฟคนนี้
เคยด่าว่าและไล่ลูกค้าออกจากบริษัทเพียงเพราะว่าลูกค้ารายนั้นมีลูกเล็กอายุเท่าๆ กับแฝดสามเข้ามาด้วย
และเด็กน้อยคนนั้นเพียงแค่ทำแก้วน้ำหวานหลุดมือหกเลอะพื้นเพียงเท่านั้น แต่ก็ไม่มีใครเอาผิดได้เพราะติด
อยู่ที่เจ้าตัวมีลุงคอยหนุนหลังนี่เอง แต่เรื่องนี้ณัฐภาสไม่รู้เรื่องนะเพราะช่วงนั้นณัฐภาสไปดูงานที่ต่างประเทศ
อยู่เป็นเดือนๆ ซึ่งไอ้เรื่องเด็กถูกด่าถูกกิ๊ฟว่าเนี่ยลูกแฝดของเขาก็เคยโดนเหมือนกันเพียงแต่นอกจากจะไม่ร้อง
ไห้แล้ว ลูกแฝดสามแสบของเขายังแผงฤทธิ์เอาน้ำถูพื้นดำๆในถังน้ำของแม่บ้านที่เดินผ่านมาแถวนั้นพอดี
เลยช่วยกันยกสาดใส่กิ๊ฟจนเนื้อตัวเปียกปอนและเหม็นหึ่งไปหมด


      "เฮ้อ! ป่านนี้สี่คนพ่อลูกนั้นจะทำอะไรกันอยู่นะ" พัสกรถอนหายใจทิ้ง เรียกความมั่นใจให้ตัวเองหนึ่งครั้ง
ก่อนที่จะคว้าแฟ้มเอกสารที่หยิบติดมือมาจากบ้านอ่านทวนซ้ำอีกทีให้แน่ใจระหว่างรอเวลาที่จะสวมหัวโขน
เข้าไปนั่งว่างท่าอยู่ที่แท่นประธานบริษัทในห้องประชุมในอีกไม่ถึงชั่วโมงข้างหน้านี้
.
.
.
.
.
      "คุณพ่อไม่สบายหรอครับ" พี่ภาคแฝดโตผู้เงียบขรึมมักจะเป็นคนแรกในบรรดาแฝดทั้งสามคนที่มักจะ
มองเห็นและรู้สึกถึงความผิดปกติของพ่อแม่และน้องๆแฝดของตัวเอง ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคุณพ่อของตัวเอง
นอนเหยียดยาวเอามือก่ายหน้าผากอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นในขณะที่แฝดกลางแฝดเล็กอีกสองคนกำลัง
นั่งเล่นต่อจิิ๊กซอว์กันอยู่ที่พื้นใกล้ๆ กัน


      "หืม..พี่ภาคพูดว่าอะไรนะครับ คุณพ่อไม่ทันได้ฟัง" ณัฐภาสถามทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ขยับตัวเปลี่ยนท่านอน
แต่อย่างใด และถึงแม้ว่าจะจับประโยคที่ลูกพูดไม่ทันแต่ก็ยังดีที่ณัฐภาสยังทันได้ยินเสียงลูกแว่วๆ ว่าเป็น
เสียงใครที่พูดถามตัวเอง


      "คุณพ่อไม่สบายหรอครับ" คราวนี้พี่ภาคแฝดโตปีนขึ้นไปนั่งทับท้องของณัฐภาสพร้อมกับถามซ้ำอีกครั้ง


      "เปล่าครับ คุณพ่อแค่ง่วงนอนเฉยๆ" ณัฐภาสตอบออกมา แต่ก็ยังไม่ยอมยกแขนที่ใช้ก่ายหน้าผากปิดตา
ของตัวเองออกเพราะไม่อยากให้ลูกชายเห็นหน้าโทรมๆ ตาช้ำๆของตัวเอง


      "โกหก...คุณพ่อโกหก พี่ภาคจับแล้วคุณพ่อตัวร้อน ให้หมอพี่ภาคตรวจหน่อยนะครับ" พี่ภาคแฝดโตใช้
สองมือน้อยๆ แนบประกบแก้มของคุณพ่อตัวเองเบาๆ ทำเอาณัฐภาสถึงกลับกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลยทีเดียว
เมื่อสัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงในแววตา คำพูดและการกระทำอันไร้เดียงสาของลูกชายคนโต จึงได้แต่รีบ
คว้าตัวลูกเข้ามากอดนอนเกยทับตัวเองไว้เพราะไม่อยากให้ลูกได้เห็นน้ำตาของตัวเอง


     "โอ๊ะ!! คุณพ่กับพี่ภาคกอดกันหรอ! น้องภีมกอดด้วยนะครับ!!"


     "พี่ด้วยๆ พี่ขอกอดด้วย!! กอดกันๆ รักกันๆ"


     น้องภีมแฝดกลางที่กำลังนั่งเล่นต่อจิ๊กซอว์อยู่กลับน้องภามแฝดเล็กที่หันมาเห็นณัฐภาสนอนกอดอยู่กับ
แฝดโตอยู่บนโซฟาก็รีบวิ่งเข้าไปกอดณัฐภาสบ้าง ก่อนที่สุดแสบแฝดเล็กจะวิ่งไปสมทบกอดคุณพ่อและพี่ๆ
ของตัวเองด้วยท่าทางทะเล้นๆ ก่อนที่น้องภีมและน้องภามแฝดกลางแฝดเล็กจะพากันปีนขึ้นไปนอนพาดทับ
ณัฐภาสและน้องภาคแฝดโตทีละชั้นๆ ซะกลายเป็นเหมือนคอนโดคุณพ่อแฝดสามเลย



      .....คุณพ่อสัญญาครับว่าจะไม่ทำตัวอ่อนแอให้พวกหนูเป็นห่วงอย่างนี้อีกแล้วครับลูก.....
.
.
.
.
.
      "ทำไมจะไม่ได้ครับ!! ในเมื่อผมถือหุ้นและเป็นประธานร่วมกับพี่ภาส พี่ภาสมีสิทธิแค่ไหน ผมก็มีสิทธิ
เท่านั้นเหมือนกัน!! คุณมีเหตุผลอะไรถึงได้คัดค้านในการเซ็นสัญญาครั้งนี้หรือครับคุณประมาณ ทั้งที่
คุณไมเคิลที่เป็นลูกค้าเป็นเจ้าของเงินที่เป็นคนนอกไม่ใช่คนภายในบริษัทที่อยู่มานานอย่างคุณเขายังไว้ใจ
ที่จะเซ็นสัญญากับผม ไว้ใจที่จะทำการซื้อขายกับบริษัทของเราอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่กลัวความเสี่ยงใดๆ ที่
จะเกิดขึ้นเลยหากในการเซ็นสัญญาครั้งนี้มีการผิดพลาดขึ้นมาจริงๆ คุณมีปัญหาอะไรครับคุณประมาณ
ช่วยหาเหตุผลดีๆที่น่าฟังออกมาให้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจที่จะยกเลิกการเซ็นสัญญาครั้งนี้ตามที่คุณ
คัดค้านออกมาในที่ประชุมหน่อยสิครับ" พัสกรพูดออกมาเป็นชุดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ อย่างไม่สบอารมณ์
หลังจากที่ขอพักเบรคการทำข้อตกลงในการเซ็นสัญญากับลูกค้าต่างชาติที่ทิ้งไว้ให้รออยู่ในห้องประชุมอย่าง
เสียมารยาท เพราะต้องอัญเชิญกรรมการบริหารชื่อประมาณที่เป็นญาติห่างห๊างห่างของณัฐภาสสามีตัวเอง
ออกมาคุยกันเป็นการส่วนตัว เพราะในขณะที่มิสเตอร์ไมเคิลลูกค้ารายใหญ่คนสำคัญกำลังจับปากกาจะลง
ลายมือชื่อในหนังสือสัญญาการซื้อขายอยู่นั้นนายประมาณคนนี้ก็ยกมือคัดค้านขึ้นมา พอถามหาเหตุผล
ก็ไม่ยอมพูดยอมตอบ พัสกรจึงต้องเรียกออกมาคุยเป็นการส่วนตัวข้างนอกห้องประชุมอย่างนี้เพราะไม่อยาก
จะอายไปมากกว่านี้ เพราะแค่การที่มีการคัดค้านจากบุคคลที่มีตำแหน่งสูงในบริษัทฉีกหน้าประธานบริษัท
(ถึงแม้จะแค่รักษาการก็เถอะ!) อย่างเขากลางที่ประชุมอย่างนั้น ทั้งที่ลูกค้ากำลังจะเซ็นสัญญาแล้วแท้ๆ
มันเป็นอะไรที่เขาคนนี้รับไม่ได้จริงๆ


      "ผมไม่เห็นด้วยกับการที่คุณจะมาลงชื่อในสัญญาซื้อขายที่มีมูลค่าสูงที่สุดของบริษัทอย่างนี้เพราะคุณ
ไม่ใช่ประธานบริษัทอย่างณัฐภาส ถึงแม้จะเป็นภรรยาของเขาก็เถอะแต่ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอยู่ดี และ
ในฐานะที่ผมเป็นหุ้นส่วนในบริษัท เป็นกรรมการบริหารและเป็นลุงของณัฐภาสสามีของคุณ ผมจึงทนนั่งดูอยู่
เฉยๆ ไม่ได้เพราะมันไม่ถูกต้อง" นายประมาณตอบกลับพัสกรด้วยสีหน้าท่าทางและน้ำเสียงที่ดูหยิ่งยโสอย่าง
คนถือตัว จนพัสกรอดไม่ได้ที่จะต้องเบ้ปากออกมาด้วยความหมั่นไส้อย่างไม่ชอบใจ


      "สิ่งที่ไม่ถูกต้องที่คุณพูดมันคืออะไรหรือครับคุณประมาณ ในเมื่อบริษัทนี้มันก็เป็นของผมเหมือนกัน" พัสกร
ยังคงยืนยันคำเดิมด้วยเหตุผลเดิมอย่างหนักแน่น

      "คุณเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่าครับคุณพัสกร บริษัทนี้มันไม่ได้เป็นแค่ของคุณกับณัฐภาสสามีของคุณหรอก
นะเพราะยังมีผมอีกคนที่เป็นผู้ถือหุ้น ซึ่งมีสิทธในบริษัทนี้เหมือนกัน"

      "คุณคิดว่าอีแค่หุ้นสิบเปอร์เซ็นที่คุณมีอยู่ในมือนั้นมันมีอำนาจมาค้านการตัดสินใจของผมและพี่ภาสที่มี
ถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นได้เลยหรอครับ...ถ้ามันมีปัญหามากนักคุณจะขายคืนไอ้หุ้นหยิบมือนั่นคืนให้ผมได้ไหมละ
ครับ ผมพร้อมที่จะซื้อตอนนี้และเดี๋ยวนี้เลย มันจะได้กลับมาเป็นธุรกิจครอบครัวจริงๆ สักที และการตกลงซื้อ
ขายใหม่ในภายภาคหน้าจะได้ไม่มีปัญหาต้องมารอนั่นรอนี่ให้เสียเวลา เสียความรู้สึก และอาจจะต้องเสีย
ลูกค้าไปในที่สุด เพราะว่ามัวแต่มานั่งค้านนั่งเถียงกันอย่างนี้ มันน่าอับอายขายขี้หน้าที่สุดเลย คุณว่ามั้ยครับ"

       "นี่!! พูดแบบนี้มันจะดูถูกกันมากเกินไปแล้วนะพัสกร!!!!"

       "ไม่เลยครับ ผมไม่เคยต้องการที่จะดูถูกอะไรคุณเลย เพียงแต่ผมแค่เสนอทางเลือกใหม่ๆให้คุณได้ลอง
คิดพิจารณาดูบ้างก็เท่านั้น ถ้าคุณคิดว่าเป็นการดูถูกกันผมก็ต้องขอโทษด้วย และผมขอใช้สิทธิประธาน(ร่วม)
บริษัทขอถอดถอนคุณออกจากโปรเจคนี้ครับ" ไม่รอให้นายประมาณได้พูดได้ค้านอะไรอีกพัสกรก็รัวระเบิด
ใส่ฝ่ายตรงข้างเต็มที่อย่างไม่คิดจะหยุดหายใจ เพราะต่อให้เด็กอมมือนอนดูดนมมองดูก็รู้ว่านายประมาณคนนี้
ต้องการอะไร มีเหตุผลใดถึงได้ทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองอย่างนี้ และเรื่องนี้ณัฐภาสสามีของเขาก็รู้ดีรู้มาตลอด
 แต่ติดเพียงแค่อย่างเดียวคือคำว่า ญาติ เพราะนายประมาณเป็นญาติผู้ใหญ่ฝ่ายแม่ที่มีเหลืออยู่ไม่กี่คนของณัฐภาสเท่านั้น
....ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปอย่างไม่สนเสียงด่าทอเสียงโวยวายของนายประมาณ
ที่ตระโกนว่าตามหลังเลย และไม่ลืมที่จะสั่งให้ลูกน้องของณัฐภาสที่ตามมาดูแลตนช่วย
เฝ้านายประมาณไว้ให้อยู่แต่ภายในห้องนี้จนกว่าการเซ็นสัญญาการซื้อขายในครั้งนี้จะเสร็จสิ้นลง
ตามที่ตนต้องการ



_______________________________________________________________TBC.
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 25 (03/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-02-2016 19:26:33
เด็ดขาดมากๆๆ สุดยอดเลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 25 (03/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 03-02-2016 22:59:04
เด็ดขาดมากๆ สองคนพ่อลูกคงจะต้องมาหาเรื่องอีกแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 25 (03/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 03-02-2016 23:31:32
เยี่ยมมากๆ เวลาคุณพ่ออ่อนแอ คุณแม่ก็จะเป็นเสาหลักแทนได้นะคะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 25 (03/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 04-02-2016 22:07:26
โห มาอ่านอีกที ดราม่าหนักขนาดนึงเลยนะนี่



แอบน้ำตาซึม T T
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 25 (03/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-02-2016 09:51:10
จัดไปเลยพัส!!
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 25 (03/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 05-02-2016 10:22:38
 :angry2: :angry2: :angry2: ขุ่นแม่จัดการให้หมดเลย
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 26 (05/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 05-02-2016 16:08:48
คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 26


 



#



       "ฉันขอโทษแทนเขาด้วยนะภาสที่ทำให้นายต้องเสียน้องไป" ธาราบอกกับณัฐภาสด้วยเสียงอ่อยๆ อย่าง

คนรู้สึกผิดทั้งที่ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้เลยก็ตาม แต่ลึกๆ แล้วธาราก็อดรู้สึก
ผิดไม่ได้ในเมื่อต้นเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้มันเกิดมาจากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อแท้ๆของตัวเอง


       "มันไม่ใช่ความผิดของนาย นายไม่จำเป็นต้องมาขอโทษอะไรฉันหรอกธาร มันผ่านมาแล้ว อย่าเก็บเอา
ไปคิดให้มันรกสมองเลย จะรู้สึกแย่เสียเปล่าๆ" ณัฐภาสพูดบอกกับธาราที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน ในขณะที่สายตา
ก็เหม่อมองตามกลุ่มกลีบดอกไม้ที่ผสมกับเถ่าถ่านที่เหลือจากการเผาศพของสน ภูผา และนายหัวรพีที่ลอย
อยู่บนเหนือผิวน้ำทะเล พัดไปตามกระแสคลื่นลมอยู่ไกลๆ งานศพของสน ภูผาและนายหัวรพีจัดขึ้นที่วัดแห่ง
เดียวกันแต่ตั้งสวดศพคนละศาลา โดยที่ศพของสนนั้นณัฐภาสจัดขึ้นอย่างง่ายๆ ไม่บอกใคร มีแค่คนในครอบ
ครัวเท่านั้นที่อยู่ร่วมจนเสร็จสิ้นพิธีการทั้งหมดจนถึงการเก็บกระดูก ส่วนศพของนายหัวรพีและภูผานั้นเจ้าคุณ
และธาราเป็นหัวแรงใหญ่ในการจัดการ และเป็นเพราะทั้งนายหัวรพีและภูผาถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียงพอ
สมควร เจ้าคุณและธาราจึงไม่อาจที่จะจัดงานอย่างสงบเงียบแบบที่ณัฐภาสทำได้ทั้งที่อยู่ศาลาติดกันและ
เป็นคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย แต่ถือว่าเป็นการชดใช้บุญคุณของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อที่เลี้ยงดูมา ธาราจึง
จัดการทุกอย่างจนถึงเสร็จสิ้นพิธีการให้อย่างสมเกียรติสมศักศรีนายหัวรพีเจ้าพ่อคาสิโนผู้ยิ่งใหญ่


      "แล้วเจอกันนะฮะพี่คุณ พี่ธาร เดี๋ยวพัสต้องไปรับเจ้าสามแสบอีกป่านนี้คงจะป่วนคุณปู่แย่แล้ว" พัสกร
บอกลาเจ้าคุณกับธาราหลังจากที่เรือเทียบท่าแล้วเห็นว่าณัฐภาสชิ่งเดินขึ้นฝั่งไป ก่อนที่จะรีบจ้ำเดินตาม
สามีไปติดๆ


      "อะๆ ส่งกุญแจรถมาให้พัส แล้วขึ้นไปนั่งฝั่งโน้นเลยครับสามี รอบนี้พัสขอขับรถเองนะครับ" พัสกรดึงกุญแจ
รถจากมือณัฐภาสและแทรกตัวเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ ก่อนที่จะบอกให้ณัฐภาสไปขึ้นอีกฝั่งนึง ซึ่งณัฐภาสเอง
ก็ทำตามคำพูดของภรรยาอย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าจะยังไม่เข้าใจก็เถอะ


       "มันไม่ใช่ทางกลับบ้านนิ พัสจะไปไหนต่ออีกหรอ" ณัฐภาสเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าพัสกรหักพวงมาลัยเลี้ยว
รถไปคนละทางกับทางกลับบ้าน


       "หนีเที่ยว" พัสกรบอกพร้อมยิ้มแฉ่ง


       "เที่ยวไหนครับ แล้วลูกๆ ล่ะ" ณัฐภาสขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย


      "ความลับ...ส่วนลูกๆ ก็ต้องไปด้วยกันสิครับ พัสไม่ทิ้งลูกหรอกน่า" พัสกรบอกอย่างอ้อล้อ หน้าบานยิ้มแป้น
เมื่อนึกไปถึงแผนการเที่ยวล่วงหน้าที่ตัวเองได้เตรียมไว้


      "หืม..ไปไหนครับเนี่ย ทำไมต้องมาสนามบินด้วย...ต่างประเทศหรอ?" ความสงสัยของณัฐภาสยังคงไม่
หมดไปเมื่อพัสกรเลี้ยวรถเข้ามาจอดในลานจอดรถของสนามบิน


      "โนววว...ยุคนี้ยุคประหยัด กินของไทย ใช้ของไทยและท่องเที่ยวไทยครับคุณสามี" พัสกรส่ายนิ้วชี้ไปมา
ตรงหน้าณัฐภาส แบบประมาณว่า 'มันไม่ใช่' อะไรประมาณนั้น


      "แต่เมื่ออาทิตย์ก่อนพี่เพิ่งเห็นพัสไปถอยหลุยส์ วิตตอง คอลเลคชั่นล่าสุดมาเองนะ แถมยังจิ๊กบัตรเครดิต
ของพี่ไปจ่ายอีกต่างหาก" ณัฐภาสแกล้งพูดแซะ แหย่พัสกรเล่นเมื่อเห็นว่าภรรยาดูจะอารมณ์ดีเกินไป


      "จิ๊!! พี่ภาสอ่ะ! เออออไปกับพัสหน่อยก็ไม่ได้ ชิส์!!...ล็อครถด้วยเลย!!" พัสกรจิ๊ปาก หน้าเบ้อย่างขัดใจ
เมื่อโดนณัฐภาสพูดแทงใจดำเข้าให้ ทั้งๆ ที่ตนอุตส่านิ่งเงียบทำเป็นลืมเรื่องนั้นไปอย่างเนียนๆ แล้วเชียว
ไหงกลับเอามาพูดเบรคจี้ใจดำกันซะได้


       "ฮึๆ" ณัฐภาสจัดการล็อครถตามคำสั่งภรรยาเสร็จเรียบร้อยก็เดินตาพัสกรเข้าไปในอาคารสนามบินอย่าง
ขำๆ เมื่อเห็นว่าพัสกรท่าทางจะหัวเสียหน้าดู.....เรื่องของเรื่องคือก่อนหน้านี้เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว อยู่ดีๆ พัสกร
ก็ลุกขึ้นมาดูแลมาเอาใจเขาตั้งแต่เช้ายันเข้านอน ถึงขั้นยอมลงทุนบีบนวดพร้อมกับอาบน้ำให้เขาไม่ต่างจาก
ลูกๆ เลยทีเดียว ซึ่งมันเป็นอะไรที่ผิดปกติเอามากๆ เพราะปกติแล้วการที่จะให้พัสกรภรรยาของเขามาอาบน้ำ
ให้เขาหรือมาลงอ่างอาบน้ำด้วยกันนั้นเขาจะต้องให้ทั้งลูกขู่ลูกอ้อนไปจนถึงกลับการที่ปล้ำเมียตัวเองเลยเถอะ
แต่นี่เจ้าตัวกลับมาเสนอตัวทำให้โดยที่ไม่ต้องร้องขอเลย เขาจึงสงสัยและถามออกไปว่ามีปัญหาอะไรหรือ
อยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าถึงได้ลุกขึ้นมาอ้อนเขาอย่างนี้ แต่คนปากหนักก็ยังปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มี
อะไรแค่อยากเอาใจสามีเฉยๆ แต่พอตื่นเช้าขึ้นมา แบล็คการ์ดไม่จำกัดวงเงินของเขาก็หายไป พร้อมกับมี
กระดาษโน๊ตแผ่นเล็กๆ เสียบในกระเป๋าสตางค์แทน ด้วยคำว่า 'ขอค่าจ้างนวดหน่อยนะครับ' พอตกบ่ายก็มี
ข้อความส่งเข้าในโทรศัพท์มือถือของเขา ซึ่งก็คือยอดแจ้งการใช้งานบัตรเครดิตใบนั้น ไอ้ติ๊ดแลกก็ไม่เท่าไหร่
หรอก แค่ 13,xxx แล้วข้อความที่สองก็ตามมาติดๆ 82,xxx เบาๆ ข้อความที่สาม 650,xxx ก็ยังพอได้อยู่
จนมาถึงข้อความที่เก้าเป็นข้อความสุดท้าย 1,330,xxx อื้อหื้อ!! จากที่นั่งประชุมง่วงๆ อยู่ ถึงกลับตาแจ้งอ่ะ
สรุปแล้ววันนั้นคุณเขาก็ได้กระเป๋าถือมาสี่ใบ กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าใบเล็กๆ อีกสาม รวมเป็นเจ็ดใบ อีกทั้ง
ยังมีเสื้อผ้า รองเท้าทั้งของตัวเอง ของลูกๆ และของผม เล่นซะเงินในบัญชีผมยุบวาบหายไปกลับตาเลย และ
ดีนะที่เจ้าตัวไม่ได้ช็อปแหลกอย่างนี้ทุกเดือนๆ เพราะปกติคุณเขาจะงกถึงงกมากที่สุด จะจ่ายจะใช้อะไรแต่
ละทีนี่คิดแล้วคิดอีก(ตั้งแต่มีลูก) ผมเลยไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่เพราะเขาจะรวบยอดทีเดียวตอนสิ้นปีอย่าง
นี้ทีเดียวเลยไงครับ แต่ถ้าระหว่างปีนั้นจำเป็นต้องจ่ายอะไรหนักๆ หน่อยก็จะโบ้ยมาให้เขาจ่ายแทน เงินตัวเอง
ที่เขาใส่บัญชีแยกกับค่าใช้จ่ายของลูกและค่าใช้จ่ายอื่นๆให้ต่างหากทุกเดือนๆ มีก็ไม่ใช้หรอก เก็บไว้ในบัญชี
เฉยๆอย่างนั้นนั่นแหละ ไหนจะที่ได้เงินกำไรจากส่วนแบ่งบริษัท ส่วนแบ่งเครือโรงแรมที่หารสองกับเขานั่นอีก
งานนี้ถ้าคุณเมียสุดที่รักของเขาไม่รวยก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วแหละ ดีนะที่เขายังมีหุ้นนอกอยู่อีกเยอะอ่ะ ไม่อย่าง
นั้นสู้เมียไม่ได้แน่ๆ อ่อ! แล้วตกเย็นวันเดียวกันกับวันที่พัสกรช็อปแหลกแหวกกระจาย เขาก็ถามเหตุผลอยู่นะ
ว่าทำไมพัสกรถึงไม่พูดขอเขาเลยเพราะมันง่ายกว่าที่จะต้องมานั่งเอาใจเขาอีก เพราะยังไงเขาก็ให้อยู่แล้ว
เพราะก็อย่างที่บอกว่าปกติพัสกรเป็นคนที่รู้จักใช้เงินและพยายามประหยัดเพื่อช่วยเขาลดค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว
นานเป็นปีๆ ถึงจะหลุดช็อปของพวกนี้ออกมาสักที แค่นี้ทำไมเขาถึงจะให้ไม่ได้ พัสกรก็ตอบว่าก่อนหน้านี้เขา
ได้เสียเงินถอยรถคันใหม่ออกมาให้เจ้าตัวไปแล้วก็เลยเกรงใจ จึงเลือกที่จะทำงาน(นวด?) แลกกับค่าแรงดีกว่า
จะได้เป็นการไม่เอาเปรียบเขาจนเกินไป หึๆ นี่ขนาดคุณแม่เขาเกรงใจนะเนี่ย เขาหมดไปตั้งเกือบหกเจ็ดล้าน
เป็นยังไงล่ะ? คุณแม่พัสของเขา...แสบดีมั้ยล่ะ?
.
.
.
.
.
       ฮึ่ย!!...คนอุตส่าแกล้งทำเป็นลืมๆเรื่องนั้นไปแล้วแท้ๆ พี่ภาสยังจะพูดขึ้นมาอีก ถึงจะแค่แหย่เล่นก็เถอะ
เห็นผมใจกล้าหน้าด้านอย่างนี้ผมก็อายเป็นเหมือนกันนะ ยิ่งนึกย้อนไปถึงวันนั้นผมก็ยิ่งอาย แทบอยากจะ
เอาหน้ามุดดินหนีสามีเลยทีเดียว เพราะความอยากได้บวกกับแรงยุแรงแซะของไอ้ครีมเพื่อนสนิทผมที่อยู่
กรุงเทพฯๆ ที่มันชอบส่งรูปกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่มาโชว์ผมบ่อยๆ เพราะมันทำงานเป็นผู้จัดการร้านกระเป๋า
แบรนด์นี้อยู่ที่ช็อปสาขาในกรุงเทพฯ เฮ้อ!..ไอ้ผมมันก็ชอบกระเป๋าแบรนด์นี้เป็นพิเศษอยู่แล้วไง บวกกับตั้งแต่
ตั้งท้องแฝดสามจนลูกโตมาสี่ห้าขวบอย่างนี้แล้วเนี่ย ผมก็ไม่เคยซื้อของพวกนี้ที่เป็นส่วนของตัวเองเลย เพราะ
จะซื้อทีไรก็นึกเสียดายเงิน ถึงสามีผมจะไม่ว่าและมีให้ใช้จ่ายไม่ขาดมือก็เถอะ แต่พอนึกถึงหน้าลูกอีกสามคน
ขึ้นมาก็ถอดใจทุกที เพราะเราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างผมจึงต้องประหยัดไว้ก่อน อะไรไม่จำเป็น
ก็ไม่ต้องไปซื้อมันเพราะลูกๆ อีกสามคนของผมกว่าจะโตกันจนสามารถหาเลี้ยงตัวเองรอดก็อีกตั้งสิบยี่สิบปี
เพราะฉะนั้นจะทำอะไรจะใช้จ่ายยังไงผมจึงต้องคิดหน้าคิดหลังอย่างนี้เสมอไง จนพักหลังมานี่พี่ภาสเขาก็จะ
แซะผมอยู่ตลอดๆ ว่าขี้งกบ้าง ขี้ตืดบ้าง เจ้าแม่นาเกลือบ้าง สารพัดสารเพที่ท่านเขาจะสรรหามาพูด ไอ้เรื่อง
แซะเมียเนี่ยขอให้บอก เพราะท่านณัฐภาสเขาเป็นปรมาจารย์ชำนาญการเรื่องนี้โดยเฉพาะ.....

      "คุณแม่!!!~~~" แฝดสาม ภาค ภีม ภาม ที่ยืนอยู่กับคุณปู่ชัชวาลย์และแม่บ้านที่เป็นพี่เลี้ยงจำเป็นอีกหนึ่ง
คน ก็ประสานเสียงร้องเรียกคุณแม่ของตัวเองเสียงดังขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าพัสกรกำลังเดินเข้ามาทางที่พวก
ตัวเองยืนอยู่
 
       "ว่างยังไงครับ อยู่กับคุณปู่ น้องภาค น้องภีม น้องภาม ดื้อกันรึเปล่าเอ่ย?" พัสกรนั่งยองอ้าแขนรอรับ
ลูกชายฝาแฝดที่พากันวิ่งเข้ามาโถมกอดตัวเองพร้อมๆ กัน

      "ไม่ดื้อฮะ! พี่ภาคทำตามที่คุณแม่บอก ห้ามดื้อ" พี่ภาคแฝดโตบอก

      "น้องภีมก็ไม่ดื้อครับ น้องภีมน่ารัก" น้องภีมแฝดกลางบอก

       "ดื้อฮะ! น้องภามหล่อ เลยดื้อได้" และสุดท้ายเจ้าภามแฝดเล็กบอกด้วยความมั่นใจ

       "ให้มันน้อยๆ หน่อยไอ้ตัวแสบ หล่อสู้พ่อให้ได้ก่อนเถอะค่อยมาคุย" ณัฐภาสที่เดินตามหลังพัสกรเข้ามา
ได้ยินประโยคสุดมั่นใจของน้องภามแฝดเล็กพอดีก็อดไม่ได้ที่จะพูดแหย่พร้อมกับผลักหัวกลมๆของลูกชาย
คนเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนของพัสกรเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว

       "คุณพ่อ!!!~~~" แฝดสามร้องเรียกณัฐภาสพร้อมกันอีกครั้งเหมือนกับที่เรียกพัสกร แต่ดูเหมือนว่าจะมี
ความตื่นเต้นและดีใจแฝงอยู่มากกว่าตอนเรียกพัสกรอยู่นิดหน่อย เพราะตลอดสามสี่วันที่ผ่านมาณัฐภาส
ไม่ค่อยได้อยู่บ้านให้ลูกๆ เห็นหน้าสักเท่าไหร่ เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับการจัดการเรื่องของสน

       "ครับ...ว่ายังไงครับแฝดแสบ" ณัฐภาสยืนอยู่ข้างกันกับพัสกรที่นั่งกอดลูกอยู่

       "ภาคคิดถึงคุณพ่อ" น้องภาคแฝดโตบอกพร้อมกับดิ้นออกจากอ้อมแขนของพัสกรเพื่อที่จะเดินมากอดขา
ของณัฐภาสแทน

      "คุณพ่อก็คิดถึงพี่ภาคเหมือนกันครับ ฟอดดด..." ณัฐภาสบอกพร้อมกับย่อตัวอุ้มพี่ภาคแฝดโตขึ้นมาอุ้ม
และหอมแก้มยุ้ยๆของลูกชายไปฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึง

      "น้องภีมก็คิดถึงคุณพ่อครับ คิดถึงที่สู้ดดดด...." น้องภีมแฝดกลางก็วิ่งตามมาติดๆ เมื่อเห็นว่าแฝดพี่ของ
ตัวเองโดนคุณพ่อสุดที่รักหอมแก้มเข้า

      "ว้าว..จริงหรอครับ คุณพ่อก็คิดถึงน้องภีมที่สู้ดดดเหมือนกันครับ จุ๊บบบ..." ณัฐภาสย่อตัวลงมาอุ้มน้องภีม
แฝดกลางขึ้นอีกคนพร้อมกับกดจูบปากเล็กๆ ช่างพูดนั่นอีกทีด้วยความมันเขี้ยว เลยทำให้ทั้งสองแขนของ
ณัฐภาสนั้นไม่ว่างแล้วเพราะมีแฝดกลางหับแฝดเล็็กนั่งอยู่คนละข้าง

      "แล้วเราล่ะไอ้แสบ มีอะไรจะบอกกับพ่อรึเปล่าฮึ?" ณัฐภาสเอ่ยถามน้องภามแฝดเล็กที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ใน
อ้อมกอดของพัสกรอยู่ ไม่มีทีท่าว่าจะวิ่งมาหาเขาอย่างพี่ๆ ของตัวเองเลย

       "ฮึ! พี่ไม่บอกหรอก พี่โตแล้ว พี่ไม่อ้อนคุณพ่อหรอก...สองคนนั้นเป็นเด็กน้อยเพราะชอบอ้อนคุณพ่อ"
เจ้าภามแฝดเล็กตัวแสบประจำบ้านเชิดหน้าพูดบอกอย่างฉะฉานชัดถ้อยชัดคำ ประหนึ่งว่าตัวเองนั้นเก่ง
และโตกว่าพี่ๆ ของตัวเองอย่างที่บอกจริงๆ ทั้งๆ ที่ยังยืนกอดคอดพัสกรอยู่แน่น

      "หึๆ ครับๆ พี่ภามโตแล้ว โตเหลือเกิน โตมากกกกก....เอ๊ะ! เมื่อคืนใครร้องงองแงจะกินนมคุณแม่กันนะ
น้องภาคน้องภีมคุณพ่อจำไม่ได้ซะแล้ว เอ..ใครกันน้าาา.." ณัฐภาสแกล้งพูดแหย่ลูกชายคนเล็กของตนด้วย
การแกล้งทำเป็นถามเรื่องก่อนนอนของแฝดสามเมื่อคืนนี้ เพราะในขณะที่แฝดโตและแฝดกลางอย่างน้องภาค
และน้องภีมนอนดูดขวดนมของตัวเองกินนมก่อนอย่างปกติทุกวันอยู่นั้น เจ้าภามแฝดเล็กก็ร้องงองแง โยน
ขวดนมของตัวเองทิ้งเพราะเกิดอยากจะกินนมจากเต้าของคุณแม่พัสขึ้นมา พัสกรทั้งดุก็แล้วปลอบก็แล้ว
เจ้าตัวแสบก็ไม่ยอมหยุดร้องให้ ยังคงงองแงอยู่อย่างนั้น จนพัสกรต้องต้องยอมเปิดเสื้อให้เจ้าตัวดูดนมจาก
เต้าของตัวเองจนได้ทั้งๆ ที่มันไม่มีน้ำนมไหลออกมาให้กินแล้ว จนเจ้าตัวแสบหลับคาอกแม่ไปในที่สุดนั่น
แหละ และดีนะที่แฝดโตและแฝดกลางอย่างน้องภาคน้องภีมแค่พูดบอกก็เข้าใจ และไม่ได้อิจฉาน้อง หรือ
ร้องขอที่จะกินนมคุณแม่บ้าง ไม่อย่างนั้นพัสกรต้องระบมแน่เพราะแฝดแสบมีฟันเต็มปากกันซะขนาดนั้น
แค่เจ้าภามคนเดียวหน้าอกของพัสกรก็ช้ำไปหมดแล้ว เพราะเจ้าตัวเปิดให้เขาดูอยู่เมื่อคืน

       "เชอะ! พี่จะไม่รักคุณพ่อแล้ว...แบร่~" เจ้าภามแฝดเล็กบอกพร้อมกับแลบลิ้นใส่ณัฐภาสอย่างงอนๆ เมื่อ
โดนณัฐภาสพูดล้อเรื่องเมื่อคืน.....ถึงพี่จะโตแล้ว พี่ก็ยังคิดถึงหน่มน๊มของคุณแม่เหมือนกันนะ!!

       "ฮ่าๆ ไปๆ ไปกันได้แล้ว เขาเรียกขึ้นเครื่องแล้ว ยังไงไปถึงโน่นก็โทรมาบอกพ่อด้วยนะเจ้าภาส หนูพัส
เที่ยวให้สนุกๆ เที่ยวเผื่อปู่ด้วยนะน้องภาค น้องภีม น้องภาม ปู่กลับบ้านก่อนนะ โชคดีๆ" เจ้าสัวชัชวาลย์
ที่ยืนดูลูกๆ หลานๆ แหย่กันไปมาอย่างมีความสุข ก็พูดขัดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเรียกของเที่ยวบินที่ครอบครัว
แฝดสามจะไป ก่อนที่จะบอกลาพร้อมกับอวยพรกันอีกนิดหน่อยจึงแยกย้ายกันไป เจ้าสัวชัชวาลย์กลับบ้าน
ส่วนครอบครัวแฝดสามก็ไปเตรียมตัวขึ้นเครื่อง เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางในทริปพักผ่อนที่คุณแม่พัสเขา
จัดขึ้นเพื่อครอบครัวในครั้งนี้




_____________________________________________________________TBC.
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 26 (05/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-02-2016 17:36:24
อยากเห็นตอนโตเลยเนี่ย
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 26 (05/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 05-02-2016 18:59:42
เก่งจริงน้องภาม อิอิ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 26 (05/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 05-02-2016 19:32:28
เที่ยวพักผ่อนกับแฝดสามดีกว่าเนาะ
คราวนี้ซนกระจายแน่ๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 26 (05/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 05-02-2016 19:43:03
อื้ออหืออ ครอบครัวสุขสันต์ดีจริงๆ
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 26 (05/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: natt lUcky ที่ 05-02-2016 20:41:00
น่ารักๆ แฝดน้อยน่ารัก
เที่ยวครั้งนี้จะซนกันขนานไหนนะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 26 (05/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-02-2016 21:21:26
ไปเที่ยวทั้งครอบครัวเลยนะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 26 (05/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 05-02-2016 23:27:43
ไปเที่ยวหาตากับยายที่กรุงเทพกันใช่มั้ย
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 14 (06/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 06-02-2016 16:35:50
คุณเมียภาคบังคับ (เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 14







       "อย่าไปคิดอะไรให้มากมายเลย" เจ้าคุณวางมือพาดไหล่เหมือนการโอบธาราอย่างกลายๆ พูดบอกกับ
ธารา เมื่อเห็นแววตาสลดๆ อย่างคนรู้สึกผิดของธารามองตามหลังณัฐภาสเพื่อนรักไป


       "แต่ภาสมันดูไม่โอเคเลย" ธาราบอกด้วยเสียงอ่อยๆ


       "ให้เวลามันหน่อย เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง บางทีทริปครอบครัวสุขสันต์ที่น้องพัสเตรียมไว้เพื่อปลอบใจมันอาจ
จะทำให้ไอ้ภาสลืมเรื่องร้ายๆ ไปหมดและลั้ลลากว่าชีวิตปกติๆของมันก็ได้....ปะ! เรากลับบ้านกันเถอะ ป่านนี้
ไอ้ลูกหมามันชะเง้อหาแม่ธารจ๋าของมันจนหัวหลุดแล้วมั้ง" เจ้าคุณบอกพร้อมกับจูงมือธาราไปที่รถเพื่อมุ่ง
หน้ากลับบ้านไปหาลูกชายตัวแสบสุดที่รักอย่างเจ้านายน้อย
.
.
.
.
.

#


       "แม่ธารจ๋ากับป๋าคุณกลับมาแล้ว!!~ เย่ๆ น้องนายคิดถึ๊งงง..คิดถึง!!" เจ้านายน้อยกระโดดโลดเต้นด้วย
ความดีใจที่เห็นพ่อและแม่ของตัวเองเดินเข้าบ้านมา เพราะว่าช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นเจ้าคุณและธารามัว
แต่ยุ่งอยู่กับการจัดงานศพของภูผาและนายหัวรพีจนแทบไม่ได้จะเจอหน้าลูกชายเลย จะได้เจอก็ชั่วบแป๊ป
ชั่วครู่ ยังไม่ทันได้หายคิดถึงกันก็ต้องไปโน่นมานี่อยู่เรื่อยไป


       "เว่อร์ว๊ะ!...ไหนมาดูหน่อยดิ ไม่เจอกันตั้งหลายวันตูดดำขึ้นรึเปล่า" เจ้าคุณบอกพร้อมกับจัดตัวลูกชายมา
นั่งกอดนั่งฟัดด้วยความมันเขี้ยวให้หายคิดถึง นับวันลูกชายเขายิ่งโตรูปร่างหน้าตาก็กระเดียดไปทางธารา
แม่จ๋าของเจ้าตัวซะเหลือเกิน กลับกันกับเจ้าภีมแฟน(ในมโน)ของมันที่ยิ่งโตก็ยิ่งกลายร่างสูงใหญ่กว่าแฝดพี่
แฝดน้องของตัวเองเค้าโครงหน้าที่เริ่มชัดขึ้นไม่ต้องบอกเลยว่าไอ้นี่มันลูกพ่อ ณัฐภาสเจนเนอเรชั่นที่สองชัดๆ
สงสัยจากที่เขาคิดว่าจะได้ลูกสะใภ้ในวันข้างหน้าเมื่อพวกเด็กๆโตขึ้น เขาคงจะได้ลูกเขยเข้าบ้านแทนแล้วล่ะ
เหอๆ...เวรกรรรม...เห็นแววว่าจะถูกเขาจิ้มอยู่รำไรแล้วหนอลูกกู.....เฮ้อ!!!


       "คิกๆ ป๋าอย่าแกล้งพี่น้าาา...พี่ยอมแล้ว...ฮะๆ" เจ้านายขอยกธงขาวยอมแพ้ บิดตัวไปมาหนีริมฝีปากของ
ป๋าคุณที่ไล่จูบไล่หอมตัวเองอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด


       "คุณ..พอแล้ว เดี๋ยวลูกหายใจไม่ทัน" ธารารีบพูดปามเจ้าคุณเพราะกลัวว่าลูกชายที่กำลังหัวเราะคิกคัก
อย่างชอบอกชอบใจจะหายใจไม่ทันขึ้นมาเสียก่อน


       "แล้วคุณยายหายไปไหนครับ" ธาราถามขึ้นเมื่อเจ้านายน้อยหยุดหัวเราะและหายใจเป็นปกติดีแล้ว เพราะ
ตั้งแต่กลับเข้าบ้านมาเขายังไม่เห็นคุณยายมณีของเขาเลย


       "คุณยายไปเก็บดอกไม้ที่หลังบ้านมาไหว้พระฮะ" เจ้านายบอกไปตามที่คุณยายมณีบอกกับตัวเองก่อนที่
เธอจะหายไปเก็บดอกไม้ที่ในสวนหลังบ้าน


       "แล้วน้องนายกินข้าวกลางวันรึยังครับ" ธาราถามต่อ


       "ยังฮะ น้องนายรอคุณป๋ากับแม่ธารจ๋า" เจ้านายตอบ


       "ถ้าอย่างนั้นแม่ว่าเราไปกินข้าวกันดีกว่า...ไหนดูหน่อยสิว่าคุณยายทำอะไรไว้ให้น้องนายกิน" ธาราสบตา
กับเจ้าคุณทันทีที่ได้ยินคำตอบของลูกชาย และคิดตรงกันว่าเจ้านายน้อยคงจะคิดถึงพวกเขาทั้งสองคนมาก
อย่างที่เจ้าตัวพูดจริงๆ ก่อนที่สามคนพ่อแม่ลูกจะพากันเดินเข้าไปในครัว เพื่อทานข้าวกลางวันกัน โดยที่ไม่
ต้องรอคุณยายมณีเพราะเป็นที่รู้กันว่าคุณยายมณีคงจะทานไปก่อนหน้านี้แล้วเพราะเธอมีโรคประจำตัวที่ต้อง
ทานข้าวทานยาให้ครบตรงตามเวลา


       "แม่จ๋า~ น้องนายอยากกินข้าวผัดไส้กรอกใส่กุ้งตัวใหญ่ๆ ของคุณป๋า" เจ้านายร้องบอกธาราที่กำลังจะ
คดข้าวใส่จานให้กับตัวเอง ทำให้เจ้าคุณกับธาราจำต้องสบตาส่งกระแสจิตคุยกันทางสายตากันอีกที


       "เอาดิ! เดี๋ยวป๋าทำให้....ธารจะเอาด้วยเปล่า" เจ้าคุณบอกพร้อมกับลุกจากเก้าอี้ไปเปิดตู้เย็นหาวัตถุดิบ
ทำข้าวผัดให้ลูกชาย โดยไม่ลืมที่จะถามธาราด้วยอีกคน


       "ไม่อ่ะ...ทำให้ลูกคนเดียวก็พอ เดี๋ยวธารกินกับข้าวยายดีกว่า ยายทำไว้ซะเยอะเลย" ธาราบอกพลาง
พยัดพเยิดไปทางสำรับกับกับข้าวที่อยู่ข้างหน้าตัวเอง ที่มีอยู่มากมายหลายเมนูเหลือเกิน คุณยายมณีคงจะ
ทำไว้รอให้พวกเขากินนี่แหละ  เจ้าคุณเองพอได้คำตอบแล้วก็ลงมือทำข้าวผัดให้ลูกชายสุดที่รักของตัวเอง
ทันที


       "เสร็จแล้วครับคุณหนู ข้าวผัดไส้กรอกใส่กุ้งตัวใหญ่ๆ ฝีมือป๋าคุณสุดหล่อ เชิญคุณหนูเจ้านายลงมือทาน
ได้เลยครับผม" เจ้าคุณวางข้าวผัดไส้กรอกใส่กุ้งหอมฉุยจานใหญ่ลงตรงหน้าลูกชาย พร้อมพูดและทำท่าทาง
ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเด็กเสิร์ฟอย่างไงอย่างงั้น ทำเอาทั้งเจ้านายและธาราหลุดหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
ก่อนที่ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกจะพากันลงมือทานมื้อกลางวันอย่างจริงๆ จังๆ กันเสียที
.
.
.
.
.
ช่วงสายของวันต่อมา

      "ป๋า~ น้องนายเบื่ออ่ะ! อยากไปเล่นกับแฝด" เจ้านายน้อยร้องบอกกับเจ้าคุณที่นอนหนุนหมอนอยู่ที่พื้น
ข้างๆ ตัวเอง ในขณะที่เจ้าตัวกำลังวาดรูประบายสีเล่นอยู่

      "แฝดมันไม่อยู่บ้าน" เจ้าคุณตอบทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกจากหนังสงครามในโทรทัศน์

      "ไปไหนอ่ะ" เจ้านายถามต่อ

      "ไปเที่ยว" เจ้าคุณตอบปัดๆ แบบไม่สนใจนัก เพราะหนังใจจอกำลังมัน

      "ป๋าพานายไปมั่งจิ! นายก็อยากไปเที่ยวกับแฝดอ่ะ!" พอได้ยินคำว่าเที่ยว เจ้านายก็หูตั้งหางกระดิกเลย
เพราะเจ้าตัวกำลังเบื่อๆ เลย แถมยังคิดถึงสามแสบแฝดสามอยู่เลย โดยเฉพาะน้องภีมสุดที่รัก

      "มันไปไหนกันก็ไม่รู้ ไปไม่ถูกหรอก" เจ้าคุณบอกไปตามตรง ถึงเขาจะรู้ว่าพวกนั้นไปเที่ยวที่จังหวัดไหนกัน
แต่เขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่าพัสกรจะพาณัฐภาสกับแฝดสามไปไหนกันบ้าง หรือถึงจะรู้ก็ไม่ตามไปอยู่ดี เพราะช่วงนี้มัน
เป็นเวลาพักฟื้นจิตใจของณัฐภาสเพื่อนรักของเขา ให้มันอยู่กับลูกอยู่กับเมียมันนั่นแหละ เป็นอะไรที่ดีที่สุด

      "ง่ะ!..แต่น้องนายเบื่ออ่ะ! ป๋าพาน้องนายไปเที่ยวเหมือนแฝดมั่งจิ! น้าาาา....." เจ้านายทิ้งดินสอสีในมือ
ม้วนตัวกลิ้งเข้าไปหาเจ้าคุณพร้อมกับพูดอ้อนไปมาด้วยท่าทางน่ารักๆ

      "แล้วจะไปที่ไหนล่ะป่านนี้แล้ว เตรียมตัวไม่ทันหรอก" เจ้าคุณบอกเพราะการไปเที่ยวค้างคืนไกลๆ อย่างที่
บ้านแฝดสามทำนั้นมันต้องเตรียมโน่นนี่นั่นวุ่นวายหลายอย่างไม่ใช่คิดอยากจะไปก็ไป

      "ไปห้างก็ได้ นายอยากกินไอติมอ่ะ...นะป๋าน้าาาาา" เจ้านายปีนขึ้นไปนั่งทับบนหลังเจ้าคุณ กอดคอซบ
เอาแก้มตัวเองแนบแก้มเจ้าคุณเป็นการอ้อนไปมา...ไม่รู้หล่ะ! ยังไงวันนี้น้องนายก็ต้องได้ออกจากบ้านนะ!!

      "เออๆ น่าลำคาญว่ะ มึงนี่มันลูกแม่มึงชัดๆ ไปๆ ไปบอกแม่จ๋ามึงก่อนไป เดี๋ยวแมร่งก็มาด่ากูอีก" เจ้าคุณ
พูดเหมือนจะลำคาญ แต่เจ้านายน้อยตัวแสบสนใจที่ไหน ทำเพียงแค่ยู่หน้าไหวไหล่อย่างกวนๆ ใส่ป๋าคุณ
ก่อนที่จะวิ่งไปบอกธาราตามที่เจ้าคุณบอก

      "คุณเรียกธารหรอ?" ธาราที่พึ่งจะลดน้ำต้นไม้เสร็จเดินเข้ามาถามเจ้าคุณ เพราะเจ้านายน้อยลูกชายเขา
เดินไปบอกเขาว่าป๋าคุณเรียก

      "ฮะ? นี่เรียก?....จะไปไหนไอ้ลูกหมา! มาเคลียร์กับแม่มึงให้เรียบร้อยก่อนเลย หนอยๆ ตัวเองจะไปเอง
แท้ๆ ดันเอากูมาอ้างอีก มึงเน๊าะมึง" เจ้าคุณชี้นิ้วเข้าที่ตัวเองเป็นการถามว่าเขาเนี่ยนะเรียกธารา เขาไปเรียก
มันตอนไหนวะน่ะ ก่อนที่จะหิ้วคอเสื้อผู้ร้ายตัวจริงอย่างไอ้ลูกชายที่กำลังจะชิ่งหนีไว้

      "ไป? จะไปไหนกันหรอ?...ว่าไงครับน้องนาย หนูจะไปไหนครับลูก" ธาราถาม

      "หนูอยากไปเที่ยวเหมือนแฝดอ่ะแม่ธารจ๋าาาา...." เจ้านายช้อนตามาองธาราบอกด้วยเสียงอ้อนๆ

      "อ่อ..แล้วหนูอยากไปไหนล่ะครับ" ธาราคว้าตัวลูกชายมากอดก่อนที่จะถาม...ไม่รู้ว่าทำไมเวลาธาราเห็น
สายตาแบบนี้ของลูกทีไรเป็นอันต้องใจสั่นทุกที เพราะเจ้าตัวทำเหมือนกับว่าพร้อมที่จะร้องไห้ออกมาตลอด
เวลาอย่างไงอย่างงั้น

      "เฮ้อ!...แรดจริงลูกกู" เจ้าคุณพูดด้วยเสียงเหนื่อยหน่ายอย่างไม่จริงไม่จังนัก

      "บอกว่าอย่าว่าลูกแรงๆ อย่างนี้อีกไง" ธาราตวัดสายตามองเจ้าคุณอย่างเอาเรื่อง เพราะไม่ค่อยชอบให้
เจ้าคุณพูดแรงๆ อย่างนี้กับลูกชายสักเท่าไหร่ แต่ห้ามไปก็เท่านั้นเพราะเจ้าคุณไม่เคยฟังเลย

      "ฝากไว้ก่อนเถอะ แม่มึงเผลอเมื่อไหร่เจอกัน" เจ้าคุณกัดฟันพูดบอกเจ้านายอย่างยัวะๆ เมื่อไอ้ลูกชาย
ตัวแสบของเขามันมุดแขนแม่มันมายักคิ้วทำหน้ากวนใส่เขาอย่างยั่วๆ ลับหลังแม่มัน...หนอยๆ ไอ้หมาน้อย
แม่มึงเผลอ เจอกูแน่ กูจะจี๋เอวให้เก็บเอาไปละเมอเลยมึง!!....ฮึ่ม!!!.....(โถถถถถ...น่ากลัวจังเลยเจ้าคุณ)

      "ตกลงจะไปไหนกันครับคุณพ่อ คุณลูก?" ธาราส่ายหัวไปมาอย่างปลงๆ ก่อนที่จะถามถึงจุดหมายปลาย
ทางที่สองคนพ่อลูกจะไปในวันนี้สักที หลังจากที่นอกเรื่องกันไปนาน

      "ไปสวนน้ำก่อนแล้วกัน ก่อนกลับบ้านค่อยแวะไปเดินห้าง....สงสารลูกหมามัน" เจ้าคุณบอก เพราะตอน
ที่เจ้านายไปเรียกธารา เขาเปิดเข้าไปหาที่เที่ยวสำหรับเด็กในอินเตอร์เน็ตมา ก็ไม่ค่อยมีตัวเลือกอะไรที่จะ
เหมาะกับลูกชายเขาให้มากนักนอกจากสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ทะเล แล้วก็ทะเล ที่พูดมาทั้งหมดนั่น
เจ้านายลูกชายเขาก็ไปมาหมดแล้ว จะเหลือก็แต่สวนน้ำนี่แหละที่ลูกชายเขายังไม่เคยได้ไปสักทีเพราะก่อน
หน้านี้ยังเด็กอยู่มากนัก

      "เย้ๆ น้องนายรักคุณป๋าที่สุดเล๊ยยยยยย...." เจ้านายน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ เมื่อได้ยินชื่อ
สถานที่จุดหมายปลายทางที่ป๋าคุณของตัวเองพูด ก่อนที่จะกระโดดกอดพร้อมกับบอกรักเจ้าคุณออกมา ทั้ง
ที่ก่อนหน้านี้ยังตะแง้วๆ ใส่กันอยู่เลย

       "หึ...มึงมันเจ้าเล่ห์" เจ้าคุณผลักหัวลูกชายเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว ก่อนที่จะพากันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
และเตรียมของเพื่อที่จะไปเที่ยวเล่นที่สวนน้ำกัน
.
.
.
.
.
       "อื้อหือ!..แม่เจ้าเว้ย! มีแต่ฝรั่งทั้งนั้นเลยนี่หว่า...เนื้อ นม ไข่ แน่นๆ เน้นๆ ทั้งนั้น" เจ้าคุณอุทานออกมา
เบาๆ เมื่อเห็นว่าคนส่วนมากในสวนน้ำแห่งนี้มีแต่ชาวต่างชาติทั้งนั้น คนไทยเจ้าถิ่นไม่ค่อยจะมีเลย โดยที่
พูดประโยคสุดท้ายเบาๆ จนแทบจะเป็นเสียงกระซิบเพราะว่าไม่อยากให้ธาราได้ยิน...เดี๋ยวงานจะเข้า

       "ป๋าจ๋า~ แม่จ๋า~ น้องนายอยากเล่นอันนั้น" เจ้านายน้อยชี้ไปทางสไลเดอร์ยักษ์สีฟ้าอันใหญ่ที่ตั้งเด่น
เป็นสง่าอยู่สูงสุดเหนือเครื่องเล่นอื่นๆ เลย

       "แม่ว่าน้องนายลองเล่นอันเล็กต่ำๆ ไล่ระดับไปเรื่อยๆ ดีกว่านะ...จะได้เล่นสนุกนานๆ" ธาราพูดบอกออก
ไปอย่างนั้น แต่ความจริงแล้วเขาอยากจะให้ลูกค่อยๆ เล่นไต่ไล่ระดับความสูงไปเรื่อยๆ เพื่อปรับระดับอัตรา
การเต้นของหัวใจมากกว่า เพราะเขากลัวว่าลูกจะรู้สึกเสียวจนช็อคไปเสียมากกว่า ที่จะต้องสไลตัวจากที่สูง
ขนาดนั้นลงมาตั้งแต่ครั้งแรกที่ลองเล่น นั่นมันไม่ต่างอะไรจากการตกจากเหวเลยนะ ยิ่งเป็นเด็กอย่างเจ้านาย
แล้วด้วย ก็ต้องดูกันอีกทีว่าเขามีกฏหรือข้อห้ามสำหรับเล็กหรือเปล่า

       "ปะๆ เราไปลองเล่นอันนั้นกันดีกว่า..แมร่ง! น่าหนุกว่ะ!" เจ้าคุณพูดพร้อมกับจูงมือเจ้านายและธาราไป
ทางเกาะที่เป็นฝั่งเครื่องเล่นของเด็กที่มีสไลเดอร์ไขว้ซ้อนกันไปมาแต่ไม่สูงมากนัก เมื่อเห็นว่าเจ้านายน้อย
ทำสีหน้าหงอยๆ ที่โดนธาราขัดใจ ไม่ยอมให้ไปเล่นสไลเดอร์อันใหญ่อย่างที่เจ้าตัวต้องการ

       "ว๊ากกก!!!...ป๋าจับน้องนายกับแม่จ๋าให้ได้ดิ แน่จริงก็จับให้ได้ๆ แบร่ๆ" เจ้านายน้อยจูงมือธาราวิ่งมุดไปมา
ไม่ก็พากันสไลตัวลงท่อสไลเดอร์บ้าง สองคนแม่ลูกพากันหนีคุณป๋าอย่างสนุกสนาน เจ้าคุณเองก็แกล้งวิ่งตาม
ลูกจับได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะนานๆ ทีเขาจะได้เล่นสนุกอย่างนี้กับลูกบ้าง เพราะปกติแล้วจะเล่นวาดรูป
ระบายสี หรือไม่ก็ต่อเลโก้อยู่แต่ในบ้าน เพราะเจ้านายน้อยลูกชายของเขาชอบที่จะเล่นอย่างนั้นเสียมากกว่า
อาจจะเป็นเพราะว่าเจ้านายเป็นลูกคนเดียวก็ได้จึงไม่ค่อยชอบกิจกรรมกลางแจ้งอย่างวิ่งเล่น หรือปั่นจักรยาน
อย่างแฝดสามลูกของณัฐภาสและพัสกร บางทีเขากับธาราก็รู้สึกสงสารลูกอยู่เหมือนกันเวลาที่จะต้องเล่นคน
เดียวอย่างนี้ทุกครั้งเมื่อตารางเรียนพิเศษต่างๆ ของเจ้าตัวว่างไม่ตรงกันกับแฝดสาม แต่เขาจะทำยังไงได้ล่ะ
ในเมื่อเขากับธาราลองพยายามกันทุกวิถีทางแล้วก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้น้องให้เจ้านายเลย ทั้งๆ ที่ไม่เคยคุม และ
ปรึกษาทั้งหมอปัจจุบันก็แล้ว หมอแผนโบราณก็แล้ว ลองเสี่ยงดวงไปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามที่คุณนายมณียาย
ของธาราแนะนำมาก็แล้ว แต่ก็ไม่เคยได้ผลเลยสักวิธีเดียว ก็เลยทำได้แค่รอ...หวังว่าสักวันนึงเขากับธาราจะ
มีลูกเพิ่มอีกสักคนสองคน บอกตรงๆ อย่างไม่อายเลยว่า เขาอิจฉาณัฐภาสเพื่อนรักของเขามากที่มันมีลูกไว้
ให้เล่นตั้งสามคน แล้วดูเขานี่สิ! มีเจ้านายคนเดียว แถมไอ้ตัวแสบมันยังเป็นลูกแม่ไม่ใช่ลูกพ่ออีก เวลามีอะไร
ก็เข้ากันเป็นปีเป็นขลุ่ยเลยทั้งแม่ทั้งลูก พากันมารุมทึ้งเขาอยู่คนเดียว...เกิดมาเป็นนี่น่าสงสารจริงๆ.....เฮ้อ!!

       "ฮ้าาา.....หนูเหนื่อยจัง" เจ้านายน้อยหอบแฮ่ก ทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นน้ำระดับตื้นๆ หลังจากที่สามคนพ่อ แม่
ลูก พากันวิ่งเล่นกันไปมาอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะพากันไปนั่งพักดื่มน้ำตรงเก้าอี้สนาม ที่วางพวกอุปกรณ์การเล่น
น้ำของเจ้านายน้อยกันเอาไว้ก่อนหน้านี้

       "ไปแช่น้ำร้อนคลายเมื่อยก่อนกลับกันดีมั้ย" ธาราชี้ไปทางสระน้ำร้อนที่เป็นสระว่ายน้ำขนาดกลางที่จำลอง
เป็นธารน้ำแข็งวิวขั้วโลกเหนือที่อยู่ทางด้านหลังของพวกเขา หลังจากที่เล่นสนุกกันมามากพอแล้ว

       "อือ...ก็ดีเหมือนกัน"
.
.
.
.
.
       "น้องนายเอาอันนี้ครับพี่สาว" เจ้านายน้อยใช้นิ้วจิ้มไปตรงรูปไอศครีมหน้าหมีรวมรสในกระดาษเมนูให้
พนักงานสาวในร้านได้ดูว่าตัวเองต้องการอันนี้ พนักงานสาวพูดทวนรายการเมนูที่สามคนพ่อแม่ลูกสั่งอีกครั้ง
ก่อนที่จะเดินออกไป.....หลังจากจากที่ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกลงไปแช่ในสระน้ำร้อนที่สวนน้ำเพื่อผ่อนคลาย
กล้ามเนื้อจนพอใจแล้วก็พากันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และพากันมุ่งตรงมาที่ห้างเพื่อพาเจ้านายน้อยมากินไอศครีม
ตามที่เจ้าคุณได้สัญญากับลูกเอาไว้ตั้งแต่แรก...หลังจากที่กินไอศครีมกันเสร็จแล้ว ก็พากันไปเดินซื้อของใช้
ในซุปเปอร์ในห้างกันอีกนิดหน่อยก่อนที่จะพากันกลับบ้านเพราะเริ่มมืดแล้ว
.
.
.
       "มากินยากันไว้ก่อนครับน้องนาย เดี๋ยวจะป่วย" ธาราหยิบยาแก้ไข้มาป้อนลูกชายกันไว้ก่อนที่เจ้านายจะ
หลับไปเสียก่อน เพราะวันนี้เจ้านายตากแดดเล่นน้ำมาทั้งวัน แถมเมื่อเย็นยังไปนั่งกินไอศครีม เดินตากแอร์
ซื้อของในห้างกันอีก ถ้าไม่กินยากันไว้ก่อน พรุ่งนี้ลูกชายตัวน้อยของเขาจะต้องป่วยแน่ๆ

       "น้องนายรักคุณป๋าฮะ...จุ๊บ! น้องนายรักแม่ธารจ๋าฮะ...จุ๊บ" หลังจากกินยาเสร็จแล้ว เจ้านายน้อยบอกรัก
พร้อมกับจุ๊บปากทั้งเจ้าคุณและธาราคนละที ก่อนที่จะมุดเข้าผ้าห่มนอนซุกตัวอยู่ตรงกลางระหว่างเจ้าคุณ
และธารา โดยปกติแล้วเจ้านายน้อยจะนอนห้องนอนของตัวเองอยู่ทุกคืนนั่นแหละ แต่คืนนี้เกิดนึกคึกอยาก
จะนอนกับป๋าคุณกับแม่ธารจ๋าของเจ้าตัวขึ้นมา เจ้าคุณกับธาราเองก็อนุญาติเพราะไหนๆ วันนี้เขาทั้งสองคน
ก็ตามใจลูกมาทั้งวันแล้ว จะตามใจเรื่องนี้เพิ่มอีกสักเรื่องจะเป็นไรไป

       "แม่ก็รักหนูครับลูก / ป๋าก็รักไอ้ลูกหมาของป๋าที่สุดเหมือนกัน" ธารากับเจ้าคุณบอกออกมาพร้อมกัน ใน
ขณะที่ทั้งสองคนพลิกตัวเข้ามากอดเจ้านายน้อยลูกชายสุดที่รักเหมือนกันพอดี

       "รักนะเจ้าคุณ / รักเหมือนกันครับ" นั่นคือประโยคสุดท้ายของคุณป๋าเจ้าคุณและแม่ธารจ๋าของเจ้านาย
ก่อนที่ทั้งสองคนจะพากันนอนหลับฝันหวานตามลูกชายไปติิดๆ


       .......วันนี้คงจะเป็นอีกหนึ่งวันดีๆ ที่น่าจดจำเอาไว้ของสามคนพ่อ แม่ ลูกนี้อีกวันหนึง ที่ทั้งเจ้าคุณ ธารา
และเจ้านายน้อยจะเก็บเอาไว้ในความทรงจำ.....ที่สุดของหัวใจ........





________________________________________________________________TBC.
ไอ้มี่กลับมาแล้วจร้าาาา......คิดถึงจังเลยค่ะ!!! กอดดดด(แน่นๆ)
ขอโทษที่หายหัวไปนาน พอดีมี่ไปให้พี่หมอซ่อมร่าง(กาย)มา(อีกแล้ว)
(ธรรมใจกันหน่อยนะคะ มี่เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว) (ห้ามโกรธ ห้ามหาย ห้ามทิ้งมี่กันไปด้วย!!)
ไม่อย่างนั้นมี่จะ.....จะร้องไห้ให้ดู (น่ากลัวจริงๆ)
ขอบคุณนิกกี้เพื่อนรักที่ช่วยมาอัพนิยาย(ในคลัง)ให้ตามที่มี่ได้ฝากไว้
ขอบคุณที่ยอมขาดเรียนมาเฝ้าเค้า.....รักคุณมึงนะคะจุ๊บบ!!
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!!
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 14(06/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-02-2016 17:29:01
เสียดายน่าจะมีลูกได้อีก
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 14(06/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-02-2016 17:30:17
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 14(06/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-02-2016 18:59:03
น่ารักกันจริงๆ~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 14(06/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 06-02-2016 20:11:56
น่าร้ากกกกก :mew1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 14(06/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 07-02-2016 00:11:20
อยากให้คุณและธารามีลูกด้วยกันอีก
 
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 14(06/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 07-02-2016 00:52:19
มีน้องให้เจ้านายเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 14(06/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 07-02-2016 05:59:57
ขยันอีกหน่อยเจ้าคุณ การบ้านเธอนี่ใช้ไม่ได้ ส่งใหม่รัวๆจนกว่าเมียจะท้อง 55
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 14(06/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 07-02-2016 06:51:15
อยากได้น้องเจ้า.....อีกซักคนเนาะ
ต้องขอคนแต่งล่ะมั้งงงงงงงง :laugh:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 27(07/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 07-02-2016 14:29:44

คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 27











       "เชียงใหม่?" ณัฐภาสเลิกคิ้วถามภรรยาอย่างแปลกใจที่ลงเครื่องแล้วมาโผล่อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ใช่

กรุงเทพฯ อย่างที่อยู่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า เพราะคิดว่าพัสกรภรรยาของเขาอาจจะคิดถึงพ่อแม่ คิดถึงบรรยา

กาศที่กรุงดทพฯ ในแบบที่คนเกิดและโตเมืองหลวงอย่างที่เจ้าตัวอยู่นั้นจะเป็น ที่ไหนได้พัสกรเซอร์ไพร์เขา

ด้วยการพาขึ้นเหนือเสียอย่างนั้น



       "ใช่แล้ว! ทริปนี้เราจะมาท่องธรรมชาติกันให้ลืมชีวิตคนเมืองกันไปเล๊ย!!!" พัสกรตอบอย่างดี้ด้าเริงร่าเต็มที่

ที่จริงทริปนี้พัสกรได้วางแผนเอาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ปีที่แล้วก่อนที่จะเกิดเรื่องร้ายๆ นี่ขึ้นมาเสียอีก เพราะอย่างที่

รู้ๆ กันอยู่ว่าชีวิตก่อนแต่งงานของพัสกรนอกจากบ้านก็มีแค่โรงเรียนเท่านั้น ไม่เคยได้ไปเที่ยวอย่างชาวบ้าน

เขาหรอก ทั้งที่เจ้าตัวเป็นคนไฮเปอร์ขนาดนั้น พอลูกเริ่มโตทุกอย่างในชีวิตเริ่มลงตัวพัสกรก็อยากจะสนองนิส

ของตัวเองสักหน่อย แต่แน่นอนว่างานนี้พัสกรจะไม่เที่ยวคนเดียวแน่ เพราะมีลูกกวนตัวมีผัวกวนใจอยู่อย่างนี้

จึงลากเอาไอ้ตัวกวนทั้งหลายมาเป็นผู้ร่วมทริปซะเลย ความน่าสนุกมันก็เลยมีมากเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

แถมยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ความรักความอบอุ่นและเพิ่มความทรงจำที่แสนพิเศษภายในครอบครัว

ของเขาขึ้นอีกต่างหาก......งานนี้มีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น



       "คร้าบๆ แล้วเราจะไปไหนยังไงต่อครับคุณแม่คนเก่ง" ณัฐภาสถามเสียงเหย้า แหย่ภรรยาเล่น เพราะ

อยากรู้ว่าคุณแม่พัสคนเก่งของเขาวางแผนอะไรไว้แล้วบ้าง



       "เดี๋ยวเรารอรถจากที่โรงแรมในเครือของเรามารับเอาของไปเก็บและให้ลูกนอนพักเหนื่อยที่โรงแรมก่อน

เย็นๆ ค่อยออกไปหาของอร่อยทานกัน ช่วงหัวค่ำก็พาลูกไปจับสัตว์เที่ยวหาประสบการณ์ที่ไนท์ซาฟารีกัน

แล้วค่อยกับมาอาบน้ำนอนที่โรงแรม ส่วนพรุ่งนี้เราจะออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนดอยอินทนนท์และแวะพา

เด็กๆ เล่นน้ำตกชมนกชมไม้ระหว่างทางลง ตอนเย็นวันเดียวกันก็ไปเดิน ชิม ชม ช็อบที่ถนนคนเดินวัวลาย

ปิดท้ายก่อนกลับก็พาลูกไปดูหมีแพนด้าที่ลูกชอบ ก่อนจะขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ และกลับลงมาให้ลูกๆ

ได้พักหายใจให้คลายเหนื่อย และพากันขึ้นเครื่องบันกับบ้านกันในเย็นวันนั้น" พัสกรพูดร่ายถึงแผนการเที่ยว

ในทริปนี้ที่ตนได้วางไว้อย่างละเอียดให้สามีฟังด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะภูมิใจเสนอเป็น

อย่างมาก เพราะพูดไปก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปด้วย ก็นะ...จากที่ฟังๆ ดูแล้ว เจ้าตัวคงจะวางแผนการเที่ยวใน

ครั้งนี้มาได้พักใหญ่ๆ แล้วแน่เลย ถึงได้ดูละเอียดรอบครอบครบครันถึงขนาดนี้.....



       "สวัสดีครับท่าน สวัสดีครับคุณพัสกร" ผู้จัดการโรงแรมในเครือของเขาประจำสาขาจังหวัดนี้ ที่ตัวณัฐภาส

เองได้มีโอกาสได้เคยพบเจออยู่บ้างนานๆที ครั้งที่มีประชุมใหญ่รายงานผลประจำปีของกิจการโรงแรมในเครือ

ของเขา กับพนักงานขับรถและเด็กยกของอีกสองคนรีบเข้ามาทักทายและช่วยกันยกกระเป๋าสำภาระของพวก

เขาทั้งห้าคนพ่อแม่ลูก เพื่อที่จะพาไปพักผ่อนที่โรงแรมอีกที



       "พี่ภาค น้องภีม น้องภาม พากันไปล้างมือล้างเท้าด้วยครับ จะได้มากินนมนอนกลางวันกันสักที แม่ชงนม ให้พวกหนูเสร็จแล้วนะ" พัสกรที่ล้างไม้ล้างมือเสร็จแล้วก็รีบมาชงนมใส่ขวดให้ลูกชายทั้งสามคนก่อนที่จะทำ

อย่างอื่น เพราะเลยเวลานอนกลางวันของสามแฝดมาได้พักใหญ่แล้ว เดี๋ยวตารางการตื่นการนอนของลูกจะ

คาดเคลื่อนไปอีก ทีนี้ล่ะคนที่ลำบากก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย นอกจากคนเป็นแม่อย่างเขานี่ไง



       "คร้าบบบบ...." สามแฝดแสบประสานเสียงรับคำแม่และพากันวิ่งไปล้างมือล้างเท้าตามที่คุณแม่บอก

ก่อนที่จะขึ้นไปนอนเรียงกันตามลำดับประจำตำแหน่งการนอนของตัวเองเหมือนกับตอนที่อยู่บ้าน บนเตียง

นอนหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ในห้องนอน เพื่อที่จะรอคุณแม่พัสสุดที่รักมาเอาขวดนมมาส่งให้สักที แฝดสามจะติด

ขวดนมก็แค่ตอนนอนกลางวันกับกลางคืนสองเวลาเท่านั้น ไม่ได้ใช้ขวดนมตลอดเหมือนกับก่อนหน้านี้ ถึงจะ

อายุปาเข้าไปสี่ขวบกว่าแล้วก็เถอะ!! ส่วนตอนเช้าก็กินนมชงเหมือนกันนี่แหละเพียงแต่เปลี่นไปใช้แก้วในการ

กินแทนขวดนมเท่านั้นเอง



       "หึๆ เหมือนปลาโลมาอ้วนสามตัวเลย" พัสกรพูดแหย่ลูกชายทั้งสามคนของตัวเองอย่างขำๆ ก่อนที่จะส่ง

ขวดนมให้ทีละคนๆ เมื่อเห็นสามแฝดแสบคุณสามนอนดีดดิ้นเล่นกันไปมามองตามขวดนมของตัวเองในมือ

เขากันตาแป๋ว เหมือนกับลูกปลาโลมาที่รอครูฝึกมาป้อนนมให้อย่างไงอย่างงั้นเลย พอได้ขวดนมปุ๊บก็พากัน

นอนกินกันเงียบกริบ ไม่มีการแหย่เล่นกันเหมือนทุกทีเลย.....สงสัยจะหิวจริง



       "อ่าว....สามแสบหลับกันไปหมแล้วหรอ" ณัฐภาสที่มัวแต่คุยงานอยู่กับผู้จัดการโรงแรมที่ดูแลสาขานี้อยู่

ข้างล่างเพลิน ถามพัสกรที่มัวแต่จัดพวกของสำภาระเข้าทีเสียงเบาเมื่อเห็นว่าลูกชายฝาแฝดทั้งสามคนของ

ตัวเองนอนหลับขวดนมคาปากกันไปหมดแล้วทั้งสามคน



       "สงสัยจะเหนื่อยจริง....พอพัสชงนมส่งให้ก็กันนอนกินเงียบกริบเลย ไม่มีแหย่เล่นกันอย่างทุกทีด้วย" พัสกร

บอกกับสามี พลางเดินไปหยิบขวดนมออกจากปากลูกชายทั้งสามคน ก่อนที่จะปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ

ในห้องให้อุ่นขึ้นอีกนิดนึง เพราะกลัวว่าลูกจะป่วยเพราะปรับร่างกายไม่ทันเมื่อเจออากาศร้อนบ้างหนาวบ้าง

สลับกันอยู่แทบจะทั้งวัน



       ห้องที่ณัฐภาส พัสกรและสามแฝดได้พักอาศัยอยู่นี้คือห้องชุดสุดหรูที่เป็นเหมือนกับเพนท์เฮาส์ส่วนตัว

ของตระกูลอัครจินดากรณ์เขาหล่ะ เพราะมันจะมีอยู่ในชั้นบนสุดของโรงแรมในเครือจินดากรณ์ทุกสาขา มี

สามห้องนอนใหญ่ สี่ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่นและสระว่ายน้ำกลางสวนที่อยู่บนชั้นดาดฟ้าอีกต่างหาก

เรียกได้ว่าสะดวกครบครันเลยทีเดียว



       "พัสครับ" ณัฐภาสเดินเข้ามากอดเอวยืนซ้อนหลังซุกหน้าอยู่กับซอกคอขาวของพัสกร



       "หืม...เป็นอะไรไปครับ พี่ภาสโตแล้วน้าไม่ใช่เด็กเล็กๆ ถึงได้จะมาอ้อนพัสเหมือนลูกๆ หน่ะ" พัสกรพูดบอก

อย่างขำๆ ไม่จริงจัง เพราะรู้อยู่ว่าสามีเป็นอะไร



       "ขอบคุณนะครับ....สำหรับทุกๆอย่าง" ณัฐภาสบอกพร้อมกับจูบซับซอกคอขาวของพัสกรเบาๆ ที่เขาบอก

ว่าขอบคุณนั้น ไม่ใช่แค่ขอบคุณที่พัสกรลงทุนจัดทริปเที่ยวนี้ขึ้นมาเพื่อปลอบใจเขา แต่เขาต้องการที่จะ

ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่หรือน้อยนิดเพียงใดที่พัสกรภรรยาคนสวยของเขา

คนนี้ได้ทำเพื่อเขามาตั้งแต่วันแรกที่เราแต่งงานและเริ่มเรียนรู้ในการใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมาจนมีพยานรักเป็นลูก

ชายฝาแฝดถึงสามคนถึงทุกวันนี้....ต่อให้เขาพูดคำว่าขอบคุณพัสกรตลอดทั้งชีวิตจนหมดลมหายใจไปก็ยัง

ไม่รู้เลยว่าจะมากพอหรือเปล่า



       "ไม่เป็นไรครับ ถือว่าแรกกับค่ากระเป๋าที่พัสแอบจิ๊กบัตรเครดิตพี่ภาสไปใช้รูดวันนั้น คริๆ" พัสกรเข้าใจดีว่า

คำว่าขอบคุณของณัฐภาสสามีของเขานั้นหมายถึงอะไร แต่เขาเลือกที่จะตอบไปอีกอย่างเพื่อที่จะไม่ให้บรรยา

กาศระหว่างเขาทั้งสองคนจะเครียดเกินไป เดี๋ยวจะพาลเที่ยวไม่สนุกกันเสียเปล่าๆ



       "นั่นสิเน๊าะ...แต่แค่นี้มันยังไม่คุ้มเลยนะกับยอดเงินที่พี่เสียไปวันนั้นน่ะ มาให้พี่เก็บดอกเบี้ยซะดีๆ คุณแม่

ตัวน้อยของเจ้าสามแฝดจอมแสบ" ณัฐภาสบอกพร้อมกับจับตัวพัสกรพลิกหันหน้ามาหาตัวเอง ก่อนที่จะมอบ

จูบแสนหวานเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดที่มีอยู่ให้แก่กัน และจัดการเก็บดอกเบี้ยคุณแม่ตัวน้อยของลูกๆ

อีกสองรอบเต็มๆ ก่อนที่จะพากันกลับมานอนพักอยู่ข้างๆตัวลูกน้องฝาแฝดทั้งสองฝั่งซ้ายขวา หลังจากที่หนี

ไปเก็บดอกเบี้ยกันที่ห้องว่างอีกห้องนึง เพราะไม่อยากให้เสียงร้องระหว่างกิจกรรมของคุณแม่ตัวน้อยมา

รบกวนการนอนของลูกๆ ฝาแฝดทั้งสามคนให้ตื่นมาเจอการแสดงความรักอย่างลึกซึ้งของคุณพ่อคุณแม่

เข้าเสียก่อน....จะพากันเสียเด็ก

.

.

.

.

.

       "เอิ๊กกก...น้องภีมอิ่มจังฮะคุณพ่อ" น้องภีมแฝดกลางเรอเอิ๊กออกมาเสียงดัง ก่อนที่จะหันไปพูดบอกกับ

คุณพ่อณัฐภาสของตัวเองที่นั่งอยู่ข้างกันพลางเปิดเสื้อลูบพุงป่องๆของตัวเองประกอบคำพูดให้คุณพ่อดู



       "กินขนาดนี้ถ้าหนูไม่อิ่ม คุณพ่อก็เลี้ยงไม่ไหวแล้วครับ" ณัฐภาสบอกพร้อมกับใช้ผ้าเช็ดคราบอาหารที่

ติดอยู่ข้างมุมปากให้กับน้องภีมแฝดกลางลูกรักของตัวเอง



       "ฮ่าๆ น้องภีมอ้วนๆ ตัวกลมบ๊อก!!" เจ้าภาคแสบเล็กพูดล้อพี่ชายคนกลางของตัวเองอย่างชอบใจ เมื่อ

เห็นพุงกลมๆของแฝดพี่คนกลาง โดยที่ไม่ได้รู้เรื่องเล๊ยว่าตัวเองก็ตัวอ้วนพุงใหญ่ไม่ต่างกันกับน้องภีม จะมี

ก็แต่น้องภาคพี่ชายแฝดโตนั่นแหละที่หุ่นเพียวลมกว่าน้องๆหน่อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีพุงนะ มีเหมือนกันแต่

มีอยู่น้อย...แค่ป่องๆ กำลังนุ่มนิ่ม



       "ทำเป็นล้อพี่เขาไอ้ตัวแสบเอ้ย!! ตัวเองก็อ้วนมีพุงกลมๆของเหมือนกันกับพี่เขานั่นแหละ" ณัฐภาสพูด

พลางยื่นมือข้ามน้องภีมเข้าไปขยี้พุงกลมๆของเจ้าภามแฝดเล็กอย่างมันเขี้ยว



       "พี่ไม่มีพุงหรอกเพราะพี่หล่อ...พี่งอนคุณพ่อแล้ว เชอะ!!" น้องภามบอกพร้อมกับพยายามแขม่วพุงกลมๆ

ของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้ณัฐภาสเอามาพูดล้อได้อีก ก่อนที่จะสะบัดหน้าหนีณัฐภาสอย่างงอนๆ



       "อยากงอนก็งอนไปเลย ไอศครีมรวมรสถ้วยใหญ่ที่คุณพ่อสั่งมาจะได้ให้พี่ภาคกับพี่ภามกินแค่สองคนพอ"

ณัฐภาสบอกพลางใช้หางตาสังเกตุมองอาการของเจ้าภามแฝดเล็กอย่างนึกขำ เมื่อเริ่มเห็นท่าทางหลุกหลิก

ของลูกชายก็อยากที่จะหัวเราะออกมาจริงๆ แต่ก็ต้องทำเก๊กไว้ เพราะอยากจะรู้ว่าเจ้าแฝดเล็กจะทำยังไงต่อ



       "คุณแม่..." เจ้าภามแฝดเล็กตัวแสบเรียกพัสกรด้วยเสียงอ่อยๆ แถมยังทำหน้าตาเหมือนหมาหงอยให้

พัสกรได้ใจสั่นเล่นอีกต่างหาก แต่พัสกรก็ต้องทำเป็นใจแข็งไว้เมื่อหันไปเจอสายตาจริงจังของสามีที่ห้ามไม่

ให้ตนช่วยเจ้าแฝดเล็กสุดแสบ



       "คุณแม่ช่วยหนูไม่ได้หรอกครับลูก เพราะว่าไอศครีมเป็นของคุณพ่อเขา ถ้าหนูอยากกินหนูจะต้องไปขอ

คุณพ่อเขาเองนะครับลูก" พัสกรบอกให้ลูกชายได้เข้าใจ



       "แต่..."



       "ไม่มีแต่นะครับคนเก่ง ถ้าหนูอยากจะกินจริงๆ หนูก็ต้องไปพูดกับคุณพ่อเองนะ....ไปเร็วครับ เดี๋ยวพี่ภาค

กับพี่ภามกินไอศครีมหมดก่อน จะหาว่าแม่ไม่เตือนนะ" พัสกรพูดกล่อม พร้อมกับชี้ให้เจ้าแสบเล็กได้เห็นว่าพี่

ชายทั้งสองคนของตัวเอง กำลังตักไอศครีมในถ้วยใหญ่กันกันอย่างเอร็ดอร่อย



       "คุณพ่อฮะ...น้องภามอยากกินไอศครีมจังฮะ" เจ้าภามแฝดเล็กออกกับณัฐภาสด้วยเสียงอ่อยๆ พลางจ้อง

มองไอศครีมในถ้วยที่เริ่มลดลงเรื่อยๆเพราะแฝดพี่ทั้งสองคนของตัวเองไม่ยอมหยุดตักไอศครีมในถ้วยเลย



       "แต่น้องภามยังงอนคุณพ่ออยู่นี่ครับ...จะทำยังไงดีน้าาาา" ณัฐภาสพูด พร้อมกับแกล้งทำเป็นคิดคนเดียว

แต่เสียงดังมาก



       "น้องภามหายงอนคุณพ่อแล้ว ขอน้องภามกินไอศครีมด้วยนะครับ...ฟอดดด" เจ้าภามกระโดดลงจาก

เก้าอี้เด็กของตัวเอง เดินไปปีนเก้าอี้ของณัฐภาสแล้วทิ้งตัวนั่งทับอยู่บนตักของณัฐภาส ก่อนจะพูดบอกเสียง

หวานพร้อมทั้งหอมแก้มณัฐภาสเข้าอีกฟอดใหญ่



       "เชิญตามสบายเลยครับคุณลูก...หึๆ" ณัฐภาสบอกพร้อมกับขยี้หัวทุยๆของเจ้าแสบเล็กด้วยความมันเขี้ยว



       "คร้าบบบ...พี่ภาค พี่ภีม พี่ขอกินไอศครีมด้วยน้าาาาา..." เมื่อได้ยินคำอนุญาติของคนเป็นพ่อแล้ว

เจ้าภามแสบเล็กก็รีบกระโดดเข้าไปร่วมวงนั่งกินไอศครีมในถ้วยกับพี่ๆ หลังจากนั้นสามคนพี่น้องก็ผลัดกัน

ป้อนไอศครีมให้กันอย่างสนุกสนานอารมณ์ดี

.

.

.

       "เราจะไปไหนกันต่อฮะคุณแม่" น้องภามแฝดเล็กที่นั่งอยู่ในคาร์ซีทเด็กริมขวาสุดเอ่ยถามพัสกรอย่าง

ตื่นเต้น หลังจากที่กินของอร่อยที่คุณแม่พัสพามากินอิ่มท้องกันหมดแล้ว



       "คุณแม่จะพาคุณพ่อกับพวกหนูไปดูเสือครับ" พัสกรบอกพร้อมกับคาดเข็มขัด สตาร์ทรถเตรียมพร้อม

ที่จะไปสู่สถานีต่อไปคือ...'เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี'



       "ว๊ากกกก...โฮกกกก...." สามแสบแฝดสำพากันเลียนแบบเสียงคำรามของเสือกันอย่างสนุกสนาน



       "หึๆ" งานนี้คุณแม่พัสกรอาสาเป็นคนขับรถพาคุณพ่อคุณลูกได้นั่งสบายๆ ในการท่องเที่ยวเอง เพราะ

ก่อนที่จะมาเขาศึกษาถนนหนทางและวิธีการขับรถขึ้นเขาลงเนินจากเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ตจากคำแนะนำ

ขอบรรดาเซียนนักท่องเที่ยวและคนพื้นที่มาจนจำได้ขึ้นใจหมดแล้ว

.

.

.

       พอจัดการจอดรถและซื้อบัตรเข้าชมในสวนสัตว์เรียบร้อยแล้ว โซนแรกที่ณัฐภาส พัสกรและเด็กๆ ได้เจอ

คือ โซนของสัตว์ป่าขนาดเล็กที่อยู่บริเวณรอบทะเลสาบสวอนเลคยังไม่ค่อยมีอะไรที่เป็นที่น่าสนใจนักสำหรับ

เด็กแฝดทั้งสามคนที่ชอบจำพวกสัตว์หน้าขนตัวใหญ่เป็นพิเศษ โซนนี้มีการจัดสวนป่าไม้และดอกไม้ล้อมรอบ

อยู่ริมทางเน้นให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับธรรมชาติ นอกจากนั้นยังมีสวนนกให้ผู้เข้าชมได้เข้าไปกับฝูงนกอย่างใกล้

ชิดเลย ส่วนโซนที่สองเป็นอาณาจักรของผู้ถูกล่าจำพวกสัตว์กินพืช สัตว์กีบและสัตว์แอฟริกาที่หาชมได้ยาก

เช่น ยีราฟ ช้าง ม้าลาย ละมั่ง กระทิง เลียงผา แรดขาว จามรีและฮิปโปเตมัส ในบรรยากาศการจำลองของ

ทุ่งหญ้าซาวันนาในแอฟริกา ใช้รถรางเปิดโล่งเพื่อให้อาหารและสัมผัสสัตว์และบรรยากาศภายรอบๆอย่าง

ใกล้ชิด ใช้เวลาในการเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงด้วยกัน โดยเฉพาะยีราฟที่ก้มหัวยื่นคอเข้ามาใรรถเพื่อรับ

อาหารจากมือผู้เข้าชมรวมทั้งเด็กแฝดทั้งสามคนที่เรียกเสียงหัวเราะและสร้างความสนุกสนานให้เด็กแฝดทั้ง

สามคนได้เป็นอย่างดี ก่อนที่รถรางจะแล่นเข้าสู่เขตพื้นที่ของผู้ล่าจำพวกสัตว์หน้าขนที่มีนิสัยดุร้าย อย่างเสือ

และสิงโตที่เป็นสัตว์ตัวโปรดทั้งสองชนิดของเด็กแฝดทั้งสามคนที่ทั้งตื่นเต้นและลุ้นระทึกไปแทบจะทุกเสี้ยว

วินาทีในการใช้สายตาจดจ้องมองดูทุกๆ การกระทำของสัตว์ทั้งสองชนิดนี้อย่างไม่อาจจะละสายตาได้เลย

ก่อนที่จะไปดูการแสดงของน้ำพุดนตรีและการแสดงของคณะคาบาเร่ต์โชว์ที่ทางไนท์ซาฟารีได้จัดไว้เพื่อให้

ผู้เข้าชมได้ดูกัน และไม่ลืมที่จะพากันตระเวณถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกในสถานที่ต่างๆ ที่ทางไนท์ซาฟารีเขาจัด

ไว้ให้เป็นจุดๆ ก่อนที่จะพากันกลับมาอาบน้ำที่โรงแรมและพากันสลบสไลอยู่บนเตียงหลังเดียวกันทั้งห้าคน

พ่อแม่ลูกไปด้วยความเหนื่อยและอ่อนเพลียจนถึงที่สุด









_____________________________________________________________________TBC.

เรื่องนี้กำลังจะจบลงแล้วนะคะ ของคู่ณัฐภาสและพัสกรยังเหลืออยู่อีกสามตอน

และคู่ของเจ้าคุณกับธาราเหลืออีกแค่ตอนเดียวเท่านั้น และตอนพิเศษอีกแค่หนึ่งถึงสองตอน(ยังไม่แน่ใจ)

ก่อนที่จะลงรุ่นลูกทั้งสามเรื่อง สามคู่ ให้ได้อ่านกัน เพราะตอนนี้เขียนของคู่แรกไปได้สักพักแล้ว

ยังไงมี่ก็จะพยายามลงให้ได้อ่านกันทุกวันนะคะ(ถ้าไม่ป่วย) ยังไงก็ช่วยกันเม้นช่วยกันดันนิยายเรื่องนี้ทีนะคะ

ถือซะว่าเป็นกำลังใจให้มี่ก็ยังดี......แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!! จุ๊บบบบบ....

ปล. เห็นจำนวนคอมเม้นแล้วแอบนอยด์แทนพี่ภาสกับหนูพัส อะไรจะต่างกันขนาดน้านนนน(ลำเอียงอ่ะ!!)
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 27 (07/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 07-02-2016 14:44:26
น่ารักมากอ่ะครอบครัวนี้
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 27 (07/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-02-2016 15:16:28
ตะลอนทัวร์
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 27 (07/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 07-02-2016 16:47:18
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 27 (07/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 07-02-2016 16:59:58
แฝดสามน่าร๊ากกกกกกก พุงป่องๆ น่าขย้ำเนาะ
รอตอนต่อไปจ้าาาา
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 27 (07/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-02-2016 19:42:35
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 27 (07/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-02-2016 19:53:04
ครอบครัวสุขสันต์กันจริงๆ ^^
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 27 (07/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 07-02-2016 20:13:21
ร่างกายแข็งแรงๆ หายป่วยไวไวนะ ม๊วฟๆๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 27 (07/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 07-02-2016 21:46:54
  ลุ้นให้ครอบครัวคุณ ธาราได้สมาชิกใหม่เร็วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 27 (07/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 08-02-2016 08:22:29
 :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 27 (07/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 08-02-2016 18:54:09
สนุกดี
แต่ตอนที่อ่านชื่อเด็กๆดูจะสับสนนิดหน่อย
แต่เราก็โอเค :mew1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 28 (09/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 09-02-2016 15:37:09

คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 28   





#

ภาค:แฝดโต          ภาม:แฝดเล็ก        ภีม:แฝดกลาง

      วันนี้สมาชิกครอบครัวอัครจินดากรณ์ซึ่งประกอบไปด้วยคุณพ่อณัฐภาส คุณแม่พัสกร และสามแสบ
แฝดสามภาค ภีม ภาม พากันตื่นนอนตั้งแต่ตีสี่ด้วยฝีมือการปลุก(ลูก)ระดับเซียนของคุณแม่พัสกร ซึ่งเป็น
อะไรที่ดูวุ่นวายกันมากเลยทีเดียวเพราะสามแฝดนั้นไม่ยอมให้ความร่วมมือในการตื่นนอนกับพัสกรกันดีๆ
สักคนเลย ไม่เว้นแม้กระทั่งพี่ภาคแฝดพี่ผู้เรียบร้อยก็ยังกระจองงองแงกับน้องๆด้วย เพราะยังเช้าเกินไป
สำหรับเวลาในการตื่นนอนของสามแฝดที่ปกติแล้วจะตื่นนอนในเวลาหกโมงเช้าของทุกๆวัน แต่ก็จำเป็น
ต้องพากันตาแจ้งเมื่อโดนคุณแม่พัสของตัวเองอุ้มไปอาบน้ำแต่งตัวทั้งๆ ที่ยังหลับกันอยู่อย่างนั้นนั่นแหละ
ถึงได้พากันมานั่งหลับสัปหงกขวดนมคาปากกันอยู่ในคา์ซีทเบาะนั่งสำหรับเด็กกันทั้งสามคนอย่างนี้


      "เดี๋ยววันนี้พี่ขับรถเองดีกว่า ขึ้นดอยขึ้นเขาอย่างนี้พัสคงจะไม่ค่อยถนัดสักเท่าไหร่หรอก" ณัฐภาสบอกกับ
พัสกรในขณะที่พัสกรกำลังจัดการเอาผ้าห่มไปห่อตัวให้ลูกๆอีกชั้นนึง ถึงแม้ว่าจะใส่เสื้อผ้าหนาๆกับเสื้อกัน
หนาวให้ลูกแล้วก็ตาม เพราะรู้สึกว่าอุณภูมิที่เชียงใหม่ในวันนี้จะสูงกว่าปกติเลยทำให้พัสกรรู้สึกหนาวนี่ขนาด
ในเมืองยังหนาวขนาดนี้ บนดอยที่พวกเขากำลังจะไปนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย ยิ่งขึ้นชื่อว่าเป็นดอยที่อยู่สูงที่สุด
ในประเทศแล้วนี่ไม่ต้องไปพูดถึงเลย...หนาวเวอร์ชัวร์!!!


      "พี่ภาสเคยมาหรอ?" พัสกรถามสามีด้วยความสงสัยเพราะดูเหมือนว่าณัฐภาสจะพูดบอกออกมาด้วย
ความมั่นใจเสียเหลือเกิน


      "อื้ม..พี่เคยขับรถจากกรุงเทพฯกับพวกเพื่อนๆ เมื่อตอนสมัยเรียนป.ตรีที่กรุงเทพฯแล้วอ่ะ ขึ้นไปบนดอย
เดียวกันกับที่เรากำลังจะไปกันนี่แหละ แต่นั่นมันก็ผ่านนานมากแล้ว สิบสามสิบสี่ปีมาแล้วมั้ง" ณัฐภาสบอก
ในขณะที่เขาทั้งสองคนนั่งประจำที่กันเรียบร้อยแล้ว.....ออกเดินทางได้!!!


      "อ่อ...น่าสนุกจังนะครับ สมัยที่พัสยังเรียนอยู่พัสไม่ได้ไปออกทริปกับเพื่อนหรอกเพราะคุณพ่อกับคุณแม่
ไม่อนุญาติ พัสเคยไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนไกลสุดก็แค่ไปเดินเล่นที่สวนจตุจักรเองอ่ะ แถมยังต้องโดดเรียนไป
อีกต่างหาก เพราะไม่อย่างนั้นพัสก็คงจะรู้จักแค่บ้านกับมหาลัยเท่านั้นแหละ คึๆ" พัสกรเริ่มเล่าเรื่องสมัยที่ตน
ยังเป็นนักศึกษาอยู่ให้สามีฟัง เรื่องที่ลองได้นึกถึงทีไรก็จำต้องหัวเราะออกมาทุกที เพราะคุณหนูพัสกรคนนี้
ในสมัยนั้นถึงกับต้องหนีเรียนเพื่อที่จะแค่ไปเดินเล่นในสวนจตุจักรเลย.....ตลกชะมัด!!!


      "หนูพัสครับ"


      "หือ?....พี่ภาสมีอะไรรึเปล่าครับ?" สรรพนามใช้เรียกชื่อของตัวเองคำนี้ทำให้พัสกรต้องเลิกคิ้วถามด้วย
ความสงสัยเพราะมันนานมากแล้วที่ณัฐภาสสามีของเขาไม่ได้ใช้คำนำหน้านี้เรียกชื่อของเขา จะมีก็แต่เรียก
ชื่อเฉยๆนี่แหละ แถมครั้งนี้ยังใช้น้ำเสียงนุ่มทุ้มอย่างนี้แล้วด้วย มันช่างหน้าสงสัยเสียจริงๆ ว่าคุณสามีที่รัก
ของเขานั้นจะมาไม้ไหนอีก แต่ที่แน่ๆ เขาจะต้องพลอยเดือดร้อนไปกับเจ้าตัวด้วยอย่างแน่นอน


      "พี่อยากมีลูกสาว" นั่นไง! ทำไมตอนพัสกรซื้อหวยเล่นหุ้นถึงไม่แม่นอย่างนี้นะ!!


      "แล้วไงครับ?" พัสกรทำตีมึน เอียงคอถามเหมือนกับไม่เข้าใจในคำพูดของพัสกร


      "ก็...เรามามีน้องสาวให้แฝดกันอีกสักคนสองคนเถอะนะ" ณัฐภาสพูดอ้อนเสียงอ่อน


      "ไม่ได้หรอกครับ" พัสกรตอบกลับทันทีอย่างไม่คิดลังเล...ทำเอาณัฐภาสหน้าเสียไปเลย


      "ทำไมล่ะครับ....พัสไม่อยากมีลูกกับพี่อีกแล้วหรอ" ณัฐภาสถามเสียงอ่อย เหมือนคนจะร้องไห้อย่างไง
อย่างงั้น เพราะเขามีแรงมีกำลังพอที่จะเลี้ยงลูกได้เพิ่มอีกสักคนสองคน สิบคนยังไหวเลยถ้าพัสกรเมียเขา
ยินยอมอ่ะนะ...มันเหมือนกับเป็นปมในใจตั้งแต่เด็กของเขามั้งที่อยากจะมีพี่น้องเยอะๆ จะได้ไม่ต้องเหงา
แล้วยิ่งพอได้มีแฝดสามเป็นลูกของตัวเองแล้วเขายิ่งอยากมีลูกเพิ่มอีกเยอะๆเลย และที่สำคัญตอนนี้เขา
อยากมีลูกสาวมากๆเลยหล่ะ เพราะเพื่อนสมัยเรียนป.โทของเขาที่อยู่ต่างประเทศมันชอบอัพวีดีโอคลิปเวลา
ลูกสาวมันอ้อนส่งมาให้เขาดู ซึ่งมันเป็นอะไรที่มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งที่สุดอะ ขนาดน้องภีมที่ว่าขี้อ้อนแล้วนะยังไม่ได้
ครึ่งของลูกสาวเพื่อนเขาเลย และเด็กผู้หญิงที่เขาเคยได้เจอก็ขี้อ้อนกันอย่างนี้ทั้งนั้นเห็นแล้ว....อิจฉาว่ะ!!


      "เปล่าฮะ" พัสกรพูดปฏิเสธ


      "เปล่าอะไรครับ...เมื่อกี้พัสเป็นคนบอกพี่เองว่าไม่ได้อ่ะ" ณัฐภาสเริ่มงองแง...(น่ารักตายห่า)


      "ที่พัสบอกว่าไม่ได้อ่ะ!...พัสหมายถึงว่า....พัสเลือกเองไม่ได้หรอกฮะว่าเขาจะเป็นผู้หญิงอย่างที่พี่ภาส
ต้องการหรือเปล่า" พัสกรบอกพลางเอามือลูบท้องตัวเองไปด้วย


      เอี๊ยดดดดด!!!


      "อ่ะ!! ทำไมพี่ภาสถึงทำอย่างนี้ล่ะห้ะ!! ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไง!!!" พัสกรขึ้นเสียงแหวใส่สามี
เมื่ออยู่ดีๆ ณัฐภาสก็เหยียบเบรคตัวโก่งจนรถหยุดอย่ากระทันหันทำให้เกิดแรงเหวี่ยงนิดๆ และดีนะที่ตอนนี้
พวกเขาอยู่เขตนอกเมืองแล้วจึงไม่มีรถวิ่งตามหลังมา ไม่อย่างนั้นจะต้องเกิดอุบัติเหตุแน่ๆเลย ที่อยู่ๆณัฐภาส
ก็เบรครถกระทันหันอย่างนี้


      "แหะๆ พี่ขอโทษจ๊ะ พี่ตกใจไปหน่อย ว่าแต่เมื่อกี้ที่พัสพูดหมายความว่ายังไงอ่ะช่วยบอกพี่ชัดๆ อีกสักที
ได้ไหมว่าสิ่งที่พี่เข้าใจมันถูกต้องแล้วจริงๆ เพราะพี่ไม่อยากดีใจเก้ออ่ะ" ณัฐภาสหัวเราะแหะๆ ยกมือขอโทษ
ภรรยาอย่างยอมจำนน ก่อนที่จะถามพัสกรซ้ำอีกครั้งว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นมันเป็นความจริง


      "อย่างที่พี่ภาสเข้าใจนั่นแหละครับ ถูกแล้ว" พัสกรพยักหน้าบอกยืนยันคำตอบให้กับสามี


      "ยะฮู้!!! จะมีลูกเพิ่มอีกคนแล้วโว้ยยยยยย...." เมื่อได้คำตอบณัฐภาสก็รีบกดกระจกลงและยื่นศีรษะออก
ไปตะโกนอยู่นอกรถด้วยความดีใจอย่างปิดไม่มิด เพราะกลัวว่าถ้าตัวเองตะโกนอยู่ในรถเดี๋ยวลูกแฝดทั้งสาม
คนของเขาจะตื่นขึ้นมางองแงเสียก่อน ทำเอาพัสกรหลุดหัวเราะออกมากับท่าทางเด็กๆของสามี ทั้งที่มีลูกด้วย
กันมาตั้งสามคนแล้วแท้ๆ ณัฐภาสยังขี้เห่อลูกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เหมือนกับคราวที่รู้ว่ามีแฝดสามเลย


      "พอได้แล้วครับพี่ภาส เดี๋ยวเราจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นไมทันนะครับ" พัสกรดึงเสื้อข้างหลังของสามีเพื่อให้
ณัฐภาสเลิกตะโกนและมุดหัวกลับเข้ามาในรถสักที


      "ครับๆ แล้วพัสรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะว่ามีเขา แล้วเขาอายุกี่เดือนแล้ว มาตอนไหน ยังไง พัสแพ้ไหม ไปตรวจ
มาแล้วหรือยัง แล้ว..."


      "พอก่อนครับพี่ภาส พัสตอบไม่ทัน เอาคำถามแรกก่อนแล้วกัน พัสรู้ตั้งแต่วันที่พัสเข้าไปเซ็นสัญญาแทน
พี่ภาสที่บริษัทนัั่นแหละครับ แต่ตอนนั้นยังไม่แน่ใจ เพราะว่าเราพลาดวันนั้นแค่ครั้งเดียวเองพัสเลยคิดว่าไม่
น่าจะติด แต่วันต่อมาพัสก็รู้สึกเหม็นน้ำหอมของตัวเองขึ้นมาอีก ก็เลยแอบไปตรวจที่โรงพยาบาลตอนที่ออก
ไปส่งลูกที่โรงเรียนอนุบาลนั่นแหละครับ ตอนนี้ก็....สามเดือนแล้วครับ" พัสกรพูดเบรคสามีก่อนที่คำถามที่
ออกจากปากของเจ้าตัวมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะแค่นี้เขาก็ตอบไม่ทันแล้ว ก่อนที่จะเริ่มเล่าถึงลูกน้องใน
ครรภ์คนใหม่ว่ามีที่มาที่ไปยังไง...เริ่มแรกเลยคือย้อนไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มีอยู่วันนึงณัฐภาสกลับมาพร้อม
กับขวดไวน์ที่เพื่อนของเจ้าตัวเอามาฝากจากต่างประเทศ บวกกับว่าวันนั้นลูกแฝดทั้งสามคนของเขาไม่อยู่
เพราะไปเที่ยวค้างคืนต่างจังหวัดกับคุณปู่ชัชวาลย์ เขาก็เลยยอมนั่งดื่มไวน์เป็นเพื่อนกับสามี ก็นะ..เมาก็เมา
ลูกก็ไม่อยู่ ทั้งบ้านเหลือกันแค่สองคนผัวเมีย งานนี้จะเหลือหรอ? ก็เสร็จณัฐภาสสามีจอมหื่นของเขาไปตาม
ระเบียบ มารู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว แถมสามีจอมหื่นของเขายังปล่อยลูกๆนับล้านเอาไว้ในตัวเขาอีก ที่สำคัญ...
อันนี้สำคัญจริงๆเลย มันเป็นวันครบรอบที่เขาต้องไปฉีดยาคุมพอดีเลย ยาคุมฉุกเฉินก็ไมมี และวันนั้นทั้งวัน
เขาก็มัวยุ่งอยู่กับลูกๆนี่แหละ เพราะแฝดสามกลับมาพอดี แล้วก็ลืมอยู่เรื่อยมาจนถึงวันที่ไปตรวจนั้นแหละแจ็คพอตแตก...ท้องสามเดือนเต็มพอดี....เหอๆ


      "สามเดือนแล้ว..ทำไมท้องเล็กจังล่ะ...พี่มองไม่ออกเลยนะว่าพัสท้องอ่ะ" ณัฐภาสบอกพร้อมกับยื่นมือไป
ลูบหน้าท้องที่นูนออกมาน้อยๆของพัสกรเล่น


      "ก็เพราะคราวนี้เขามาคนเดียวไงครับ ไม่ใช่แฝด...อย่าว่าแต่พี่ภาสเลย พัสเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน เพราะ
ช่วงหลังๆมาบ้านเรามันวุ่นวายจริงๆ" พัสกรบอก เพราะเขาเองก็ไม่ทันได้สังเกตุตัวเองเลยท้อง เพราะเขาไม่ได้
มีประจำเดือนไหลออกมาให้รู้อย่างผู้หญิงทุกๆ เดือนว่า 'ท้องแล้วน้า' นี่หว่าถึงแม้ว่าจะท้องได้ก็เถอะ! บวกกับ
ว่าช่วงสามสี่เดือนหลังมานี้พวกเขาแทบจะไม่มีเวลาได้หายใจเลยจริงๆ มีงานนู่นี่นั่นเข้ามาให้ได้ปวดหัวกันอยู่เรื่อยๆ

       "จะยังไงก็ชั่งเถอะ...แค่พัสท้อง...พี่ก็ดีใจมากแล้ว" ณัฐภาสบอกพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างจนปากแทบจะฉีก
ไปถึงหูอยู่แล้ว

       "ครับๆ แต่พัสกว่าตอนนี้เรารีบไปกันต่อเถอะ ถ้าเราไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันไม่ทันพัสจะโกรธพี่ภาสแน่ๆ"
พัสกรแกล้งพูดขู่สามีอย่างไม่จริงจังนัก...แต่ถ้าไปไม่ทันจริงๆนี่ก็คงจะมีนอยด์อยู่บ้างหล่ะเพราะอุตส่าพากัน
ตื่นตั้งแต่ดึกแต่ตื่นถ้าไปดูพระอาทิตย์ไม่ทันอย่างที่ตั้งใจไว้นี่คงจะรู้สึกแย่น่าดู

       "คร้าบบบบบ....." ณัฐภาสรับคำภรรยาเสียงทะเล้น ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะอารมณ์ดีเสียเหลือเกิน...ดีจน
พัสกรเริ่มรู้สึกจะหมั่นไส้สามีตัวเองขึ้นมานิดๆเสียแล้วละ
.
.
.
.
.
       "น้องภาคครับ น้องภาค...ตื่นได้แล้วครับลูก ลืมตาขึ้นมาคุยกับคุณแม่ก่อนเร็ว น้องภีมครับ..น้องภีมลืมตา
ขึ้นมาก่อนครับลูก น้องภามครับ...น้องภามคนเก่ง ลืมตาขึ้นมาดูอะไรก่อนเร็วครับ" เมื่อมาถึงจุดหมายปลาย
ทางแล้วณัฐภาสกับพัสกรก็ช่วยกันเอาเก้าอี้พับที่มีพนักพิงของเด็กแฝดทั้งสามมากลางตั้งไว้อยู่ตรงจุดชม
พระอาทิตย์ที่ห่างจากตัวรั้วกลั้นหน้าผามากหน่อยเพื่อความปลอดภัยของลูกๆ ก่อนที่จะช่วยกันอุ้มเด็กๆมา
นั่งพร้อมกับล็กเข็มขัดติดกับตัวเก้าอี้ประจำที่ของใครของมันทั้งที่ยังหลับอยู่และค่อยๆช่วยกันปลุกเด็กแฝด
ทั้งสามกันอย่างใจเย็นเพราะอีกสักพักนึงแหละกว่าพระอาทิตย์จะโพล่ขึ้นขอบฟ้ามาให้พวกเขาได้ชมกัน

       "คุณแม่ฮะ..น้องภีมหิววว..." น้องภีมแฝดกลางร้องบอกออกมาทั้งๆที่ยังไม่ทันได้ลืมตา

       "หิวก็ลืมตากันขึ้นมาก่อนสิครับ" พอเห็นแฝดสามพากันปรือตาขึ้นมากันนิดๆ พัสกรก็หยิบขวดนมทั้งสาม
ขวดของแฝดสามที่อยู่ในกระเป๋าสะพายของตัวเองส่งให้ลูกๆทีละคน สามแฝดเองก็รีบคว้าขวดนมกันเข้าไป
ดูดกันอย่างหิวโหย โดยไม่ทันได้สังเกตุเลยว่าพวกตนนั้นอยู่ที่ไหนกัน ส่วนณัฐภาสก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับการแอบ
ถ่ายภาพหลุดๆ(ที่ยังคงไม่รู้ตัว)ของตัวลูกๆเพลิน เพราะมันเป็นธรรมชาติและหน้ารักมากๆ.....รวมทั้งแม่ของ
ลูกๆด้วย

       "อู้ววว / ว้าววว / อ๋าาาา" แฝดสามอุทานออกมาพร้อมกันอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นแสงสีเหลืองอมส้มของ
พระอาทิตย์ดวงใหญ่ค่อยๆรอยจากพื้นขึ้นสู่เหนือหัวอยู่บนฟากฟ้า พัสกรกับณัฐภาสเองก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือน
กันที่นานๆทีจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นอยู่(เหมือนจะ)ใกล้ๆ อย่างนี้ แถมยังดวงใหญ่เบิ้มกว่าที่เคยเห็นอยู่ปกติ
ในทุกๆวันอีก ก่อนที่จะพากันตั้งกล้องแชะภาพความทรงจำกันทั้งห้าคนพ่อแม่ลูกเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกเป็น
ความทรงจำที่แสนวิเศษอีกหนึ่งวัน

       หลังจากที่ดูพระอาทิตย์กันเสร็จแล้วทั้งห้าคนพ่อแม่ลูกก็แวะทานมื้อเช้าและเดินป่าเล่นเป็นการออกกำลัง
กายในยามเช้าที่กิ่วแม่ปาน ก่อนจะแวะเที่ยวในทุกๆจุดที่มีที่ให้แวะระหว่างสองข้างทางในการกลับลงมาข้าง
ล่าง และจบโปรแกรมทัวร์ดอยอินทนนท์ในวันนี้ด้วยการแวะเล่นน้ำตกจนถึงเวลาบ่ายแก่ ก่อนที่จะพากันไป
อาบน้ำ ทานข้าว ที่โรงแรมที่พัก และพากันสลบสไลไปด้วยความอ่อนเพลียทั้งห้าคนพ่อแม่ลูกเลย


       .....ถึงแม้ว่าการดูพระอาทิตย์ขึ้นในวันนี้จะไม่ใช่แสงแรกแห่งปีอย่างที่ใครเขาทำกันในช่วงวันขึ้นปีใหม่
 แต่นี่ก็เป็นแสงแรกแห่งความทรงจำอันงดงามที่ทั้งห้าคนพ่อแม่ลูกจะเก็บเอาไว้ให้ได้อุ่นใจเสมอในยามที่
คิดถึงมัน.....




________________________________________________________________________TBC.
อีกสองตอนจบนะคะ!!~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 28 (09/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-02-2016 15:45:20
จะมีตัวป่วนเพิ่มมาอีกแล้วใช่ไหม เจ้าคุณเอ้ย คราวนี้บ้านนี้นำก่อนนะ พยายามเข้าละ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 28 (09/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 09-02-2016 16:07:07
 :a11: :a11: :a11: :a11: :a11: :a11: :a11: :a11: :a11: :a11: :a11: :a11: :a11:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 28 (09/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 09-02-2016 16:20:49
เอ้า บ้านนี้เขาท้องแล้ว อย่ายอมแพ้เชียวนะเจ้าคุณ!
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 28 (09/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 09-02-2016 18:36:08
ลุ้นลูกคนต่อไป จะเป็นลูกสาวไหมนะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 28 (09/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-02-2016 18:58:35
ลูกดกจริงๆอิอิอิ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 28 (09/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-02-2016 21:55:14
ขอให้ได้ลูกสาวน้า~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 28 (09/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-02-2016 22:24:23
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 15(จบคู่รอง) (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 10-02-2016 18:28:44

คุณเมียภาคบังคับ (เจ้าคุณ&ธารา) ตอนที่ 15 (จบ)






#

(เครดิตตามรูปเลยจ้า)



          เช้าวันนี้เหมือนอากาศเป็นใจไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป บ้านยศวโยธินของป๋าเจ้าคุณก็อารมณ์ดีคึกครื้น
ต้อนรับแสงอรุณกันแต่เช้าไม่ต่างจากบ้านของคุณพ่อณัฐภาสที่หนีไปเที่ยวเชียงใหม่กันสักเท่าไหร่ เพราะว่า
วันนี้เป็นวันดี เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของครอบครัวนี้นั่นก็คือ...วันนี้เป็นวันเกิดของป๋าคุณเขาหล่ะ ทั้งภรรยา
และลูกชายตนเดียวอย่างธาราและเจ้านายน้อยตัวแสบช่วยกันจัดของเพื่อเตรียมไปทำบุญถวายสังฆทานกัน
ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว...งานนี้เจ้านายน้อยลูกป๋าคุณขอจัดเต็มยอมทุบกระปุกแมวออมสินแสนรักของตัวเองเพื่อ
สมทบทุนกับแม่ธารจ๋าเพื่อจัดเตรียมงานวันเกิดให้ป๋าคุณของเจ้าตัวแบบเต็มที่...สิบสี่บาทถ้วน!! (นี่หมด
กระปุกของน้องนายแล้วน้าาาา...) แถมยังเป็นคูปองเงินสดที่แรกไว้ใช้ในโรงเรียนนานาชาติของเจ้าตัวไป
ซะสิบบาท...สรุปแล้วงานนี้เจ้านายช่วยสมทบทุนกับแม่ธารจ๋าจริงๆ เป็นจำนวนเงินทั้งหมด...สี่บาทถ้วน!!
เหอๆ (เจ้าคุณคงจะปลื้มปริ่มน่าดู)


       "ไอ้หมา...มึงคิดว่าตัวเองหล่อหรอ ถึงได้กล้าแต่งตัวแบบนี้อ่ะ" ระหว่าที่รอแม่ธารจ๋าของเจ้านายน้อย
เจ้าคุณก็สะกิดแขนลูกชายที่นั่งอยู่ข้างกัน ถามถึงชุดของเจ้านายที่วันนี้เหมือนจะจงใจเลือกใส่ชุดคล้ายๆ
กันกับเขาจะต่างกันก็ตรงสีเสื้อกล้ามกับสีหมวกเท่านั้นที่ของเขาเป็นสีดำทั้งคู่ส่วนเจ้านายใส่เสื้อกล้ามสีฟ้า
หมวกสีแดง รองเท้ามันก็ยังแดงอีกต่างหาก แถมพี่ท่านยังอุตส่าเอาผ้าเช็ดหน้าพับให้เป็อเส้นพอสวยมัดที่
ต้นแขนไว้อีกที......เท่เหลือเกินนะมึง

       "หล่อจิ!! ก็หนูเป็นลูกป๋าอ่ะ ก็ต้องหล่อเหมือนป๋าดิ" คำตอบของเจ้านายเรียกเอารอยยิ้มของป๋าเจ้าคุณ
ผุดขึ้นมาทันที เพราะคำตอบของไอ้ลูกชายมันช่างถูกใจซะเหลือเกิน

      "พูดดีนะมึงน่ะ" เจ้าคุณขยี้หัวทุยของลูกชายด้วยความมันเขี้ยว และอยากจะบอกมันเสียเหลือเกินว่า
'มึงน่ะลูกกู แต่หน้าตามึงเสือกไปเหมือนแม่จ๋ามึง' ใส่หูมันดังๆทักทีสองที แต่คิดไปคิดมา...อย่าไปขัดความ
มั่นใจของมันเลยดีกว่า ให้มันมั่นหน้ามันอย่างนั้นอ่ะดีแล้ว โตไปจะได้ไม่ต้องไปถูกใครเขาจิ้มเอา เพราะเขา
ยังอยากได้ลูกสะใภ้จากมันอยู่...ไม่ใช่ลูกเขย

       "ปะ! เสร็จแล้ว เราไปกันเลยดีกว่า เดี๋ยวจะสาย" ธาราโพล่ออกมาจากในบ้านพร้อมกับข้าวของเต็ม
สองมือที่ดูแล้วน่าจะเป็นพวกกับข้าวที่จะเอาไปทำบุญทั้งนั้น เพราะถังสังฆทานและพวกดอกไม้ธูปเที่ยน
เขากับเจ้านายช่วยขนเอามาใส่ไว้ที่หลังรถกันหมดแล้ว
.
.
.
.
.
       "หนูขอให้ป๋ากับแม่จ๋ารักหนูเยอะๆ รักหนูตลอดไป" เจ้านายน้อยพูดออกมาเสียงดังฟังชัดในขณะที่ทั้ง
สามคนพ่อแม่ลูกกำลังไหว้พระประธานองค์ใหญ่ในอุโบสถที่เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดนี้ หลังจากที่
เขาทั้งสามคนพ่อแม่ลูกไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัดเล็กๆใกล้บ้านมาแล้ว และกำลังจะไปอีกสถานที่หนึ่ง
ที่เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมในวันนี้ ระหว่างทางที่จะไปก็ต้องผ่านวัดนี้ธาราเลยให้เจ้าคุณจอดแวะไหว้กันสักหน่อย
เพื่อเป็นสิริมงคล

       "หึๆ ไม่รักลูกหมาแถวนี้แล้วจะไปรักใครที่ไหนได้วะ" เจ้าคุณรั้งคอลูกชายเข้ามาในอ้อมกอดพร้อมกับ
พูดบอกกับเจ้านายน้อยที่กำลังทำตัวเป็นแมวน้อยถูหน้าไปมาอยู่กับอกเขานี่แหละ พาเอาธาราและคนที่
กำลังไหว้พระอยู่รอบข้างที่เห็นการบอกรักห่ามๆของสองพ่อลูกก็หลุดหัวเราะกันออกมาด้วยความเอ็นดู
.
.
.
       "สวัสดีครับแม่ใหญ่ เจ้านายสวัสดีคุณแม่ใหญ่ด้วยสิครับคนเก่ง" เจ้าคุณและธารายกมือไหว้ทักทาย
ผู้หญิงวัยสี่สิบปลายๆ ที่เคยเห็นหน้าคาดตากันดี เพราะเธอคนนี้เป็นเพื่อนกับคุณหญิงแม่ของเจ้าคุณ
เลยมีโอกาศได้พบกันอยู่บ่อยๆ

       "สวัสดีจ๊ะเจ้าคุณ ธาราและก็น้องเจ้านายด้วยนะจ๊ะ ดิฉันเป็นคนดูแลที่นี้ค่ะ เราเข้าไปข้างในกันเลย
ดีมั้ยจ๊ะ พวกเด็กๆ กำลังรอพวกเธออยู่พอดีเลย วันนี้ดูพวกแกตื่นเต้นกันเป็นพิเศษเลยที่จะมีคนใจดีเข้า
มาเยี่ยมพวกแกน่ะ" เธอบอกพร้อมกับเดินนำหน้าทั้งสามคนพ่อแม่ลูกให้ตามเข้าไปในตัวอาคาร หลังจาก
ที่ทักทายกันเสร็จแล้ว สถานที่สุดท้ายที่เจ้าคุณและธาราพาเจ้านายมาทำบุญร่วมกันก็คือสถานสงเคระห์เด็ก
หรือเรียกอีกอย่างก็คือบ้านเด็กกำพร้านั่นเอง สถานสงเคราะห์ที่สามคนพ่อแม่ลูกมากันในวันนี้เป็นสถานสง
เคราะห์เล็กๆไม่ใหญ่มากเพราะแม่ใหญ่ที่เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมานั้นสร้างสถานที่แห่งนี้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของ
ตัวเองทั้งหมดไม่ได้เป็นของส่วนภาครัฐฯ มีเด็กทั้งหมดหกสิบกว่าคน แค่มีครูผู้ดูแลแค่สิบคนเท่านั้น แถมเด็กๆ
ที่นี่ก็มีแต่เด็กมีปัญหาและเด็กที่มีสุขภาพร่างกายไม่ดีทั้งนั้น แต่ก็ไม่ใช่เด็กพิการนะ หมายถึงเด็กที่เป็นพวก
ป่วยง่าย อะไรประมาณนั้น

       Tru...Tru...Tru...

       "ขอตัวสักครู่นะครับ" เจ้าคุณบอกพร้อมกับเดินแยกออกมารับโทรศัพท์ของตัวเองไม่ไกลจากที่พวกธารา
ยืนรออยู่นัก
   
       "ของมาส่งแล้ว ธารกับลูกเข้าไปกับแม่ใหญ่ก่อนเลย เดี๋ยวพี่ไปช่วยเขาขนของก่อน" เจ้าคุณพูดบอก
หลังจากที่กลับเข้ามาอีกครั้งเมื่อคุยธุระเสร็จแล้ว

       "หืม...ให้เด็กๆออกไปช่วยดีไหมจ๊ะ" แม่ใหญ่ที่ยืนอยู่ด้วยเอ่ยถามเพราะได้ยินสิ่งที่เจ้าคุณพูดเหมือนกัน

       "ไม่ต้องหรอกครับแม่ ไอ้ภาสมันส่งเด็กมาช่วยขนของด้วยพร้อมครับ เพราะมันมาไม่ได้มันเลยฝากของ
มาทำบุญกับผมด้วย" เจ้าคุณบอก เพราะว่าเมื่อสองวันก่อนหลังจากที่เขาตกลงกับธาราได้แล้วว่าวันนี้จะ
ไปไหนบ้างและคิดขึ้นได้ว่าชวนเพื่อนรักด้วยดีกว่าจะได้ของและทุนเยอะๆ เพราะเท่าที่รู้จากคุณหญิงแม่
เขามา ตอนนี้ที่มูลนิธิของแม่ใหญ่นี้ค่อนข้างจะลำบากพอสมควร ถึงก็เป็นไปตามที่เขาต้องการพอเขาโทร
บอกไอ้เพื่อนรักที่กำลังทัวร์เชียงใหม่กับลูกกับเมียมันอยู่เพราะว่ามันชอบทำบุญช่วยเหลือพวกเด็กกำพร้า
อย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว อย่างไอ้สนน้องรักมันนั่นไง พอคุยเสร็จปุ๊บเช้าวันต่อมา เลขาของมันก็มากด
กริ่งหน้าบ้านเขาถึงที่เลยพร้อมกับทุนการศึกษาก้อนใหญ่และพวกขนม ของเล่นเด็ก กับอุปกรณ์กีฬาทั้งหลาย
อีกหนึ่งคันรถใหญ่ๆ ส่วนเขากับธาราและคุณนายมณีก็เลยรวมทุนกันซื้อพวกของแห้งที่เก็บไว้ทำอาหารได้
นานๆ กับพวกอุปกรณ์การเรียนทั้งหลายแหล่ตั้งแต่อนุบาลยันชั้นประถมเลย ส่วนเจ้าสัวชัชวาลย์พ่อของ
ไอ้ภาสนั้นก็ร่วมเป็นเจ้ามือจ่ายค่าอาหารและค่าขนมซึ่งก็คือไอศครีมและเค้กสำหรับอาหารทั้งสองมื้อเช้า
กับเย็นของวันนี้ให้อีกคน แต่ที่มาได้จริงๆก็มีแค่เขาสามคนพ่อแม่ลูกนี่แหละ เพราะคนอื่นเขาติดธุระกันหมด
.
.
.
       "พี่เจ้านายไม่ไปได้ไหมคะ?" เด็กผู้หญิงตัวน้อยๆอายุประมาณสี่ห้าขวบวิ่งตามเจ้านายน้อยออกมาข้าง
นอกบ้าน หลังจากที่พวกเขาเสร็จสิ้นภาระกิจมอบบุญให้ที่นี่เรียบร้อยแล้ว ถ้าจำไม่ผิดเด็กคนนี้น่าจะเป็นเด็ก
ที่ไอ้ลูกหมาตัวแสบของเขาไปตามตื้อน้องเขาเล่นด้วยอยู่นี่นา เพราะว่าแม่ใหญ่บอกว่าเด็กคนนี้พึ่งรับเข้ามา
ใหม่และเป็นเด็กเงียบๆค่อนข้างเก็บตัวเลยมีปัญหาเข้ากับเด็กอื่นๆในบ้านไม่ได้ จึงได้แต่นั่งเล่นเงียบๆ
คนเดียว อยู่อย่างนี้ทุกวัน แต่ไม่รู้ไอ้ลูกหมาของเขาไอ้เล่นด้วยอีท่าไหนน้องเขาถึงได้วิ่งตามมันมาอย่างนี้

       "ไม่ได้ครับ เพราะพี่เจ้านายต้องไปโรงเรียนครับ เดี๋ยวน้องฟ้าก็ต้องอยู่ไปโรงเรียนเหมือนกัน ถ้าน้องฟ้า
อยากจะเล่นกับพี่เจ้านายอีก น้องฟ้าต้องเป็นเด็กดี ไปโรงเรียนไปเรียนหนังสือ และก็คุยเล่นกับพี่ๆ เพื่อนๆ
ที่บ้านนี้ด้วยนะคะ แล้วเดี๋ยวแม่จ๋าจะพาพี่เจ้านายมาหาน้องฟ้าอีกแน่นอน...รู้มั้ยคะ?" ธาราที่ทนยืนดู
เจ้านายและน้องฟ้าเด็กผู้หญิงตัวน้อยตรงหน้า ยืนจ้องหน้าน้ำตาเอ่อใส่กันไม่ได้จึงรีบพูดปลอบและกล่อม
เด็กหญิงตัวน้อยแทน เพราะก่อนหน้านี้เขก็มีโอกาสได้พูดคุยและเล่นกับหนูน้อยคนนี้เป็นเพื่อนกับลูกชายด้วย
ซึ่งเด็กหญิงคนนี้ก็ไม่ได้เป็นเด็กเก็บกดหรือเข้าใจอยากแต่อย่างใด เพียงแต่เธอแค่ขี้อายมากๆ มากจนเกินไป
เลยไม่มีความกล้าพอที่จะคุยเล่นกับเด็กคนอื่นในบ้านเหมือนกับเขาเมื่อสมัยเด็กก็เท่านั้นเอง

       "ค่ะ....พี่เจ้านายสัญญานะคะ" เด็กหญิงน้ำฟ้ารับปากธารา ก่อนที่จะหันไปชูนิ้วก้อยตรงหน้าเจ้านาย
เพื่อให้เจ้านายได้สัญญาว่าจะกลับมาหาเธออีกตามที่คุณแม่ธาราบอกเมื่อสักครู่

       "อื้อ!! พี่สัญญา" เจ้านายบอกพร้อมกับยื่นนิ้วก้อยของตัวเองเข้าไปเกี่ยวก้อยสัญญากับน้องสาวคนใหม่
ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับสู่สภาวะปกติ ล่ำลากันอีกนิดหน่อยและทั้งสามคนพ่อแม่ลูกก็พากันกลับบ้านได้ในที่สุด
.
.
.
.
.
       "โว้ยยยยยยยยยย....." เจ้าคุณตระโกนโวยวายพร้อมกับปาโทรศัพท์มือถือของตัวเองทิ้งไปทันทีที่คุยเสร็จ
ทำให้ธาราที่กำลังเตรียมอาหารเย็นไว้ฉลองวันเกิดเล็กๆให้เจ้าคุณกันสามคนพ่อแม่ลูกต้องวิ่งออกมาจากครัว
เพื่อที่จะมาดูว่าสามีของตัวเองเป็นอะไรหรือเปล่า

       "เป็นอะไรไปคุณทำไมถึงได้ร้องโวยวายซะดังลั่นขนาดนี้แถมยังปาโทรศัพท์ทิ้งอย่างนี้อีก ถ้าลูกตื่นขึ้นมา
แล้ววิ่งมาพอดีจะเป็นยังไงฮึ?" ธาราก้มเก็บโทรศัพท์ของเจ้าคุณที่อยู่ตรงปลายเท้าของตัวเองขึ้นมาคืนให้
เจ้าของ พร้อมกับพูดว่าสามีอีกชุดใหญ่เมื่อเห็นว่าเจ้าคุณไม่ได้ดูเจ็บปวดดตรงไหนอย่างที่ตนเป็นห่วง แต่
ดูแล้วเจ้าตัวกำลังหัวเสียอารมณ์ไม่ดีเอามากเสียมากกว่า

       "ก็ไอ้ภาสน่ะสิ!!" เจ้าคุณพูดบอกแบบใส่อารมณ์สุดๆ

       "แล้วภาสมันทำอะไรให้อีกล่ะ" ธาราถาม แต่ก็พอจะประติดประต่อได้รางๆแล้วล่ะว่า เพื่อนรักเขาคงจะ
โทรมาอวดอะไรใส่ตัวเองอีกล่ะสิ เพราะก่อนหน้านี้สองคนนี้ก็เคยเป็นอย่างนี้เหมือนกันตอนที่แย่งกันประมูล
หุ่นยนต์รุ่นลิมิตเต็ดเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่อย่าหวังว่าพ่อๆเขาจะเอามาให้ลูกนะ เพราะเปล่าเลย เขาสองคน
นั้นประมูลมาเล่นเองต่างหากล่ะ....เวรกรรมจริงๆ

       "ก็ไอ้ภาสมันโทรมาอวดว่าน้องพัสท้องอีกแล้วอ่ะ ทั้งๆที่พลาดแค่ครั้งเดียว แต่ไหงธารไม่เห็นท้องมั่งอ่ะ
คุมก็ไม่ได้คุมแถมพี่ยังขยันทำอีกต่างหาก.....นี่..ตกลงมดลูกธารไม่ดีหรือพี่ไม่มีน้ำยากันแน่เนี่ยห้ะ!!!" เจ้าคุณ
ทิ้งตัวนั่งบนโซฟาพูดงองแงพาลใส่ธาราเหมือนเด็กโดนขัดใจ ธาราก็ได้แต่ส่ายหน้าใส่สามีอย่างเอือมระอา
อายุอานามก็ปาเข้าไปสามสิบกว่าๆแล้ว สามีของเขาทำไมถึงชอบงองแงใส่เขาแข่งกับลูกชายนะ

      "เฮ้อ!! รอแปปนึงอย่าพึ่งลุกไปไหนนะ" ธาราบอกพร้อมกับผละเดินออกไปจากตรงนั้น ทิ้งให้เจ้าคุณนั่ง
อารมณ์เสียอยู่เงียบๆคนเดียว
.
.
.
       "อ่ะ! เอาไป...ของขวัญวันเกิดจากธาร ตอนแรกว่าจะเอาไว้ให้คืนนี้หลังจากเป่าเค้กเสร็จ แต่ดูอารมณ์
คุณแล้วถ้าขืนยังไม่ให้ตอนนี้งานวันเกิดคุณปีนี้คงจะกร่อย หมดสนุกแน่ๆ" ธาราเดินกลับมาพร้อมกับม้วน
กระดาษสีขาวผูกโบว์สีน้ำตาลแผ่นนึงยื่นให้กับเจ้าคุณ

       "อะไรอ่ะ...ให้ใบขาวจะไล่พี่ออกจากการเป็นสามีหรอ..พี่ไม่ยอมนะ!!" เจ้าคุณถามพร้อมกับจีบปากจีบคอ
ดัจจริตแอ็คติ้งใส่ธาราเต็มที่หวังจะให้ธาราอารมณ์ดีขึ้นบ้าง เพราะรู้สึกผิดที่เป็นเผลอทำตัวแย่ๆใส่ธาราทั้งที่
ธาราไม่ได้ผิดอะไรเลย แถมวันนี้ยังจัดโน่นนี่นั่นให้เขาอย่างเต็มที่อีกต่างหาก

       "ไม่ใช่หรอก...แต่ความคิดนี้ดีนะ...เอาไว้วันหลังธารจะทำให้ก็แล้วกัน...ไอ้ใบไล่ผัวเนี่ย" ธาราแหย่กลับ
ด้วยเสียงนิ่งๆ จนเจ้าคุณหน้าเหวอไปเลย ก่อนที่จะเดินหนีเข้าครัวไป เพราะยังทำกับข้าวไม่เสร็จ

       "ชิชะ! ใครจะยอมให้ทำอย่างนั้นกันอีหนูเอ้ย!!....ใบอะไรของเขาว๊ะ" เจ้าคุณตะโกนไล่ตามหลังงธาราไป
ก่อนที่จะค่อยๆแกะโบว์ม้วนกระดาษของขวัญวันเกิดที่ธาราให้มา
.
.
.
.
.
ใบรับรองแพทย์

ชื่อ นายธารา ยศวโยธิน(จดทะเบียนที่ต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว) อายุ 32 ปี
เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน  xxxxxxxxxx
มีอาการ   เวียนศีรษะ หน้ามืด เหมือนจะเป็นลม
การวินิจฉัยโรค  ตั้งครรภ์แฝด อายุครรภ์ 6 สัปดาห์


                                                                                              ลงชื่อ นายแพทย์ xxxx xxxxx
                                                                                                     โรงพยาบาล xxxxxxx
.
.
.
       "นะ...นี่...นี่มัน..โว้ยยยยยยย...ไอ้คุณจะมีลูกเพิ่มแล้วเว้ยยยยยยยย....งานนี้ป๋าขอสอง...วู้ววววววววว"
เจ้าคุณกระโดดปืนขึ้นไปตระโกนโห่ร้องดีใจอยู่บนโซฟาอย่างลืมตัว ลืมอายุ ลืมเก๊ก ลืมๆ ลืมแม้กระทั้งว่า
เจ้านายน้องลูกชายสุดที่รักของตัวเองกำลังนอนกลางวันอยู่ในห้องรับแขกห้องข้างๆ เรียกได้ว่างานนี้เจ้าคุณ
ลืมหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว ด้วยความดีใจ หลังจากที่ตั้งตารอคอยสิ่งนี้มานานแสนนาน.......
.
.
.
ในครัว

      "แม่จ๋าาาา...ป๋าเป็นอะไรอะ" เจ้านายน้องเดินงัวเงียๆ เข้าไปกอดขาแม่ธารจ๋าของตัวเอง หลังจากที่สะดุ้ง
ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโวยวายของป็าคุณสุดที่รัก และไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปหาคุณป๋าที่กำลังดีใจเวอร์จนสติ
แตกไปแล้วด้วย จึงเลือกที่จะเดินเข้ามาหาแม่ธารจ๋าในครัวแทน

       "หึๆ สงสัยยาจะหมด" ธาราชะโงกตัวไปมองเจ้าคุณที่ยังคงนั่งทำหน้าปริ่มอยู่กับกระดาษของขวัญที่
เขาให้ไปอยู่ที่เดิมอย่างเพ้อๆ พึมพำกับตัวเองอย่างขำๆ ก่อนที่จะหันไปพูดชวนเจ้านายน้อยที่ตื่นเต็มตาแล้ว
มาช่วยกันทำอาหารต่อดีกว่า เพราะขืนปล่อยให้ไปอยู่กับคนข้างนอก ตัวเจ้านายจะต้องช้ำเพราะโดนคุณป๋า
ของตัวเองฟัดเอาแน่ๆ เพราะขานั้นๆไม่ว่าจะดีใจหรืออารมณ์ดีอะไรมาก็ชอบเอาตัวลูกไปกอดรัดฟัดเล่นทุกที



       ใครจะอะไรยังไงก็แล้วแต่....งานนี้ป๋าคุณขอสอง!!!!






___________________________________จบบริบูรณ์__________________________________
ในที่สุดก็จบลงจนได้ สำหรับคู่รอง(ที่ไม่ได้ตั้งใจให้มีตั้งแต่แรก / แต่โคตรรักเลย ฮ่าๆ)
ถึงจะจบลงในตอนหลักของตัวเองแต่ป๋าเจ้าคุณกับแม่ธารจ๋าก็ไม่ได้ไปไหนหรอกนะคะ
ยังคอยวนเวียนอยู่กับลูกๆ(ในภาคต่อไป) ให้เราเห็นอยู่เหมือนเดิมไปรอติดตามอ่านกันต่อได้
ที่นี่นะจ๊ะ :::ภาครักนี้...พี่กะน้อง / ภาคเรียนที่หนึ่ง(ภีม&เจ้านาย)::
ในเล้ายังไม่มีนะคะ แต่เดี๋ยวมี่จะเปิดเรื่องไว้ให้ยังไงก็ตามไปเจิมหลานๆกันได้นะคะ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 15 (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 10-02-2016 19:39:30
สุดเหวี่ยงจริงๆ รุ่นลูกคงมันส์พ่ะย่ะค่ะ รอน้าาา จุ๊บๆคนเขียน
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 15 (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 10-02-2016 19:59:49
บ้านแฝดสามท้องอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 15 (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 10-02-2016 20:10:30
โหยย บ้านโน้นก็แฝด
บ้านนี้ก็แฝดอีก 555 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 15 (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 10-02-2016 20:26:15
จบซะแล้วคู่รอง
สารภาพตามตรงว่าหลงรักคู่นี้มากกว่าคู่หลักอีก งื้อออ. ไม่อยากให้จบแต่ก็ถือว่า ณ ขณะนี้สมควรแก่เวลาแล้วจริงๆ
รอคู่หลักและรุ่นลูกจ้าาา
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 15 (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-02-2016 20:30:07
สุขสันต์กันไป
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 15 (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-02-2016 22:21:47
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 15 (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-02-2016 22:34:13
 :katai2-1:

โอมมมม ขอให้ธาราได้ลูกแฝด ฮิ้วววววววววววววว  :mc4:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.(เจ้าคุณ&ธารา)ตอนที่ 15 (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 10-02-2016 23:03:29
น่ารักทุกคู่เลยจ้า
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 29 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 12-02-2016 20:48:15

คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 29







       "คุณพ่อฮะ คุณแม่ฮะ...เราจะไปลอยอยู่บนท้องฟ้ากันอีกแล้วหรอฮะ?" น้องภีมแฝดกลางถามด้วยท่าทาง
ตื่นเต้น ในขณะที่ทั้งห้าคนพ่อแม่ลูกกำลังเดินเข้าในตัวอาคารผู้โดยสารของสนามบินเชียงใหม่ เพราะจำได้ว่า
ตอนขามาพวกตนก็ออกมาจากทางนี้นี่แหละ...น้องภีมจะได้เป็นนกอีกแล้วอ่ะ!! เย้ๆ


       "เขาเรียกว่าขึ้นเครื่องบินเถอะ! น้องภีมไม่รู้เรื่องเลย" เจ้าภามแฝดกลางพูดบอกด้วยท่าทางมั่นใจสุดๆ
ประหนึ่งว่าข้านั้นโตแล้ว แถมยังรู้ทุกเรื่องด้วย...หน้าหมั่นไส้นัก


       "ก็ภีมไม่รู้นี่ครับ...ภีมไม่ได้แสนรู้เหมือนภามนี่ครับ" น้องภีมแฝดกลางพูดตอกกลับน้องด้วยถ้อยคำที่ (เหมือนจะ) สุภาพเต็มที่อย่างที่คุณพ่อคุณแม่สอนไว้...เด็กดีป๊ะล๊ะ?


       "ก็พี่เก่งไง" ไอ้คนที่กล้าชมตัวเองว่าเก่งด้วยท่าทางภูมิใจจนหน้าหมั่นไส้ ไม่ได้รู้เล๊ยว่าโดนพี่ชายคนกลาง
ของตัวเองหลอกด่าแบบอ้อมๆ อยู่


       "พอๆ เลิกเถียงกันได้แล้วครับพี่ภาคเขายังไม่ดื้อ นั่งอยู่เงียบๆ ไม่เห็นมีปัญหาเหมือนเราสองคนเลย...
ใช่มั้ยครับพี่ภาค" ณัฐภาสห้ามทัพแฝดกลางกับแฝดเล็ก โดยที่ลากแฝดโตเข้ามาเป็นพวกด้วย


       "ใช่ฮะ...ภาคไม่ดื้อหรอกฮะคุณพ่อ...ภาคไม่อยากเป็นเด็กมีปัญหาเหมือนภีมกับภาม" จุก...ณัฐภาสบอก
ได้คำเดียวว่าจุกกับคำพูดของลูกชายคนโตแทนแฝดกลางและแฝดเล็กภีมภามเหลือเกิน อะไรมันจะขนาดนั้น
.....สรุปแล้วลูกชายบ้านนี้ใครร้ายกว่าใครกันแน่?(นี่ขนาดแค่สี่ขวบกว่าๆนะ) ระหว่างพี่ภาคแฝดโตผู้เงียบขรึม
กับน้องภีมแฝดกลางพ่อสุภาพบุรุษผู้แสนเรียบร้อย(?) กับเจ้าภามแฝดเล็กจอมแสบที่ชอบกล้าได้กล้าเสีย....
เหอๆ มองเห็นความวุ่นวายในอนาคตของคุณพ่อคุณแม่แฝดสามอย่างณัฐภาสและพัสกรอยู่รำไร


      "พอเลยครับ ทั้งสี่คนพ่อลูกนั่นแหละ เดี๋ยวกลับบ้านไปเราต้องเคลียร์กันยาวนะแฝด...ไปเอาคำพูดพวกนั้น
มาจากไหนกันครับ มันไม่ดีเลยนะครับ...ไม่น่ารักเลย" พัสกรดุลูกแฝดของตัวเองอย่างจริงจัง เพราะไม่ชอบที่
แฝดเก็บเอาคำพูดพวกไม่ค่อยน่าฟังพวกนั้นมาพูดใส่กัน ถ้าเขาเดาไม่ผิดเจ้าแฝดสามนี่คงจะไปจำมาจาก
โรงเรียนอนุบาลของตัวเองนั่นแหละ ถึงแม้ว่าลูกเขาจะฉลาดขนาดไหนเขาก็ไม่อยากจะให้นิสัยและพฤติกรรม
ของลูกๆ เกินเด็กวัยเดียวกันไปหรอกนะ....เพราะมันดูไม่น่ารักเอาซะเลย...คุณแม่พัสไม่ปลื้ม!!!
.
.
.
.
.
       "เห...นี่มันกรุงเทพฯนี่...ทำไมเราถึงมาโพล่ที่นี่กันได้ล๊ะฮะพี่ภาส พัสจำได้ว่าพัสจองตั๋วกลับภูเก็ตเลยนี่"
พัสกรอ้าปากหวอร้องถามสามีอย่างแปลกใจเมื่อเดินออกมาจากห้องพักผู้โดยสารแล้วมันกลายเป็นสนามบิน
สุวรรณภูมิที่กรุงเทพฯ แทนที่จะเป็นสนามบินภูเก็ตอย่างที่เจ้าตัวจองตั๋วขากลับไว้


       "พี่สั่งให้คนเปลี่ยนตั๋วของเรามาลงกรุงเทพฯเองแหละครับ พัสไม่ต้องตกใจไปหรอก" ณัฐภาสตอบ เพราะ
เขาเองที่เป็นคนสั่งให้ผู้จัดการโรงแรมที่สาขาเชียงใหม่เป็นคนเปลี่ยนตั๋วให้จากกลับภูเก็ตมาลงที่กรุงเทพฯ
แทน และดีที่ภรรยาของเขาไม่ได้เอะใจอะไรเพราะตั๋วใบเขาเปลี่ยนมาเป็นของสายการบินเดียวกันและออก
เวลาเดียวกันกับที่พัสกรจองไว้ เพียงแค่เปลี่ยนเส้นทางเท่านั้นเอง


       "พี่ภาสมีธุระที่นี่หรอฮะ" พัสกรถาม


       "ไม่มีหรอกครับ พี่แค่จะพาพัสมาเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่และพาสามแฝดมาไหว้คุณตาคุณยายของแกด้วย
ตั้งแต่วันแต่งงาน หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้มาพบท่านทั้งสองคนอีกเลยนะ มันตั้งหกปีกว่ามาแล้วนะครับพัส"
ณัฐภาสบอกกับภรรยา เพราะอย่างที่ณัฐภาสพูดไปว่าหลังจากวันนั้น วันที่เขาและพัสกรแต่งงานกัน พัสกรก็
ไม่ได้กลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่ของเจ้าตัวอีกเลย


       "แต่..." พัสกรอึกอักอย่างไม่รู้จะพูดอ้างอะไร


       "ไม่มีแต่ครับ ไหนๆเราก็มากันถึงนี่แล้ว...เรื่องมันผ่านมานานแล้วนะครับพัส ทุกวันนี้ชีวิตพัสเป็นของพัส
พัสอยากจะเลือกหรืออยากจะทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องไปกังวลหรือกลัวว่ามันจะไม่ถูกใจพวกท่านอีกแล้วนะครับ
ปะ..ไปกันเถอะ ไม่ต้องไปคิดอะไรให้มากมาย คิดซะว่าเราแค่แวะมาทำหน้าที่ลูกที่ดี มาดูว่าพวกท่านยังอยู่
สุขสบายดี ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร...พัสจะได้สบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องของพวกท่านทั้งสองคนอีก" ณัฐภาสบอก
พร้อมกับกึ่งลากกึ่งจูงทั้งคุณแม่และลูกๆทั้งสามคนให้เดินตามตัวเองไปยังรถของโรงแรมในเครือสาขาใหญ่
ที่กรุงเทพฯที่ตนได้โทรมาแจ้งเอาไว้แล้วว่าจะมา...ทำไมณัฐภาสจะไม่รู้ล่ะว่าพัสกรภรรยาของเขานั้นเป็นห่วง
พ่อกับแม่ของตัวเองแค่ไหน เพราะว่าหลายครั้งที่เขาเห็นพัสกรกดโทรศัพท์และก็รีบวางสายลงในทันทีที่ทาง
ฝั่งปลายสายรับสาย และก็รีบถอยห่าง เดินหนีจากโทรศัพท์ของตัวเองทันทีเหมือนกันที่ปลายสายโทรกลับมา
พอไปแอบดูเขาถึงได้รู้ว่าเป็นเบอร์บ้านของพัสกรที่กรุงเทพฯเอง เจ้าตัวคงจะคิดถึงหรือไม่ก็เป็นห่วงพ่อแม่ของ
ตัวเองอยู่เหมือนกัน เพราะไม่ได้ติดต่อกันตั้งหกปีเกือบจะเจ็ดปีอยู่แล้ว เพียงแต่ความกลัวพ่อกลัวแม่ของ
พัสกรยังคงฝังลากลึกอยู่ในใจ เลยไม่กล้าที่จะติดต่อทางนั้นกลับไปก่อน เพราะทางฝั่งพ่อแม่ของพัสกรเองก็
ไม่เคยติดต่อหรือโทรมาถามข่าวคราวของลูกชายตัวเองเลยเหมือนกัน...ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าพัสกรภรรยาของเขา
นั้นเคยถูกเลี้ยงดูจากพ่อแม่มายังไง ถึงได้กลายเป็นลูกที่เกรงและกลัวพ่อแม่แท้ๆของตัวเองได้ขนาดนั้น ทั้งที่
ตอนนี้ตัวพัสกรก็โตขึ้นมากจนมีลูกเป็นของตัวเองตั้งสามคนแล้ว แต่ความกลัวที่มันมากจนกลายเป็นปมรัด
แน่นเข้าไปจนถึงส่วนลึกของจิตใจ ไปฝังลากลึกอยู่ในความรู้สึกในจิตใต้สำนึกให้คนกล้าได้กล้าเสีย คนเก่งที่
เคยเป็นมือตบปราบกิ๊กของเขาคนนั้นให้กลายเป็นคนขี้ขลาดทันทีที่ได้ยินเรื่องพ่อแม่ของตัวเอง แต่วันนี้แหละ
ที่เขาคนนี้จะเป็นคนที่คลายปม ปลดเชือกพันธนาการคุณเมียสุดที่รักของเขาเอง...ไอ้ภาสขอเอาหัวเป็นประกัน
.
.
.
.
.
       "เราค่อยมากันใหม่วันหลังดีไหมพี่ภาส...วันนี้พัสไม่พร้อมเลย" พัสกรแตะแขนของณัฐภาสที่กำลังขับรถ
อยู่บอกด้วยเสียงสั่นๆ เมื่อรถเลี้ยวเข้ามาหยุดจอดอยู่ที่หน้าบ้านของพ่อแม่พัสกรแล้ว รอแค่เพียงให้คนข้าง
ในบ้านมาเปิดประตูให้เพียงเท่านั้น

       "วันนี้นี่แหละครับดีแล้ว พัสจะผลัดวันประกันพรุ่งไปถึงเมื่อไหร่ครับ...ต้องรอให้แฝดบวชเลยหรือเปล่า?...
ไม่ต้องกลัวไม่ต้องกังวลอะไรให้มากมายหรอกครับ พัสยังมีพี่มีลูกๆมาด้วยนะ ยังไงพวกเราก็อยู่ข้างๆคุณแม่
อยู่แล้ว" ณัฐภาสบีบมือภรรยากลับเบาๆพร้อมกับพูดให้กำลังใจด้วย ก่อนที่จะเริ่มเหยียบคันเร่งขับเคลื่อนรถ
เข้าไปในตัวบ้านทันทีที่มีคนข้างในบ้านออกมาเปิดให้

       "คุณหนู!!! คุณหนูพัสใช่มั้ยคะ?" ทันทีที่พัสกรเปิดประตูลงรถได้แม่บ้านสูงวัยคนนึงก็ทักพัสกรด้วยท่าทาง
ตื่นเต้นดีใจเป็นถึงที่สุด

       "ครับ...พัสเองครับแม่นม" พัสกรรับคำพร้อมกับตั้งหลักรอท่าเมื่อเห็นว่าพออีกคนได้คำตอบเธอก็พุ่งเข้ามา
โถมกอดตัวเองเต็มรักเลย ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคนนี้เป็นแม่นมหรือพี่เลี้ยงของพัสกรที่ช่วยคุณย่าของพัสกร
ดูแลพัสกรมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก

       "โอ๊ะ! เบาๆ ครับคุณป้ามันอันตราย" ณัฐภาสรีบเอ่ยปากห้ามหญิงสูงวัยทันที เพราะเป็นห่วงลูกน้อยใน
ท้องของพัสกรที่ยังอยู่ในช่วงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ

       "เห...อะไรหรอคะ..อ๊ะ! ป้าเสียมารยาทไป นี่คงจะเป็นคุณณัฐภาสสามีของคุณหนูสินะคะ" เธอถามด้วย
ความสงสัย ก่อนที่จะเอ่ยทักทายณัฐภาสที่ยืนเป็นตัวประกอบอยู่ตั้งนานสองนาน

        "ครับ...ผมรัฐภาสสามีน้องพัสครับ ที่บอกว่าอันตรายน่ะผมหมายถึงเจ้าตัวเล็กในท้องของน้องพัสนะครับ"
ณัฐภาสชี้แจง

       "ต๊าย!!! นี่คุณหนูกำลังท้องคุณหนูตัวน้อยๆอยู่หรือคะ ป้าขอโทษนะคะ ป้าไม่รู้จริงๆ" เธอบอกด้วยความ
รู้สึกผิดจริงๆ เป็นเพราะเธอดีใจที่ได้พบหน้าคุณหนูพัสของเธอไปหน่อยจึงไม่ได้ระวังตัว

       "แหะๆ ครับ" พัสกรหัวเราะแหะๆ ด้วยความเขินอาย ที่เห็นสีหน้ายินดีปนหยอกล้อบนใบหน้าของแม่นม
คนสนิทของตัวเอง

       ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...

       ยังไม่ทันที่ผู้ใหญ่ทั้งสามคนจะได้พูดคุยอะไรกันต่อ เจ้าสามแฝดแสบที่ยังคงโดนขังอยู่ในรถก็พากันเคาะ
กระจกหน้าต่างรถกันใหญ่ด้วยความหงุดหงิด เพราะคุณพ่อกับคุณแม่ขังพวกเขานานแล้วนะ!!...ฮึ่ย!!!!

        "อุ๊ยตายแล้ว!!..เด็กที่ไหนกันคะนั่น...อย่าบอกนะว่า.." แม่นมของพัสกรต้องสะดุ้งตกใจอีกครั้งเมื่อหันไป
ตามเสียงเคาะกระจกรถที่อยู่ทางด้านหลังตนแล้วเจอเด็กที่ดูแล้วน่าจะอายุเท่าๆ กันตั้งสามคนร้องโวยวาย
อยู่หลังรถในคาร์ซีทที่นั่งเด็ก

       "ใช่ครับ...แฝดสามคนนั้นลูกพัสเองครับ" พัสกรไขข้อข้องใจให้แม้นมของตน

       "แฝดหรอคะ? คุณหนูของนมมีลูกแฝดตั้งสามคนเชียวหรอคะ" เธอถามอย่างตื่นเต้นดีใจ เพราะไม่คิดว่า
คุณหนูของเธอจะมีลูกมาก่อนคุณหนูตัวเล็กในท้องตั้งสามคนแถมยังจะเป็นแฝดอีก ถึงแม้จะไม่ใช่แฝดหน้า
เหมือนกันก็เถอะ...มันช่างเป็นเรื่องที่หน้ายินดีอะไรเช่นนี้

       "นมว่าเราเข้าไปข้างในกันดีกว่าค่ะ โชคดีนะคะเนี่ยที่วันนี้คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงอยู่บ้านกันทั้งคู่เลย"
หลังจากให้เด็กแฝดทำความรู้จักกับเด็กแฝดเรียบร้อยแล้ว แม่นมของพัสกรก็พูดบอกขึ้น ก่อนที่จะพากันยก
โขยงเข้าไปในบ้าน ที่มีบุคคลสำคัญของพัสกรรออยู่ทั้งสองคน
.
.
.
       "ใครหรือมาน่ะนม" แม่ของพัสกรที่นั่งอยู่เคียงข้างกันกับพ่อของพัสกรบนชุดโซฟาหรูเอ่ยถามขึ้นแม่นมที่
กำลังพาแขกเดินเข้ามาในบ้าน แต่เพราะสายตาของเธอไม่ดีเลยทำให้มองเห็นไม่ชัดว่าหนึ่งในคนที่เดินอยู่
ในกลุ่มแขกของบ้านนั้นคือพัสกรลูกชายคนเดียวของเธอ

       "นั่นพัสหรอลูก" พ่อของพัสกรเรียกชื่อลูกชายเสียงหลงทันทีที่เห็นหน้า

       "พ่อ แม่...พัสเองครับ" พัสกรรับคำด้วยเสียงเบาหวิว อย่างกล้าๆกลัวๆ บวกกับความดีใจเพราะนานมา
แล้ว ที่ไม่ได้พบเจอบุคคลผู้ให้กำเนิดทั้งสองคนของตน

       "ยืนอยู่ทำไมล่ะ ไหนเข้ามาให้พ่อกับแม่ดูหน้าแกหน่อยสิว่าเป็นยังไงบ้าง ไม่ได้เจอกันเสียนานเลย" พ่อ
ของพัสกรบอกพลางกวักมือเรียกลูกชายพร้อมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

       "พ่อฮะ แม่ฮะ พัสขอโทษนะฮะที่ไม่ได้กลับมาเยี่ยมเลย" พัสกรทิ้งตัวนั่งที่พื้นพร้อมกับก้มกราบที่ตักทั้งพ่อ
และแม่ของตัวเอง ความชิงชังไม่เข้าใจกันกับความเหินห่างของพัสกรและพ่อแม่ของตน ก่อนหน้าที่พัสกรจะ
ถูกบังคับให้แต่งงานกับณัฐภาสนั้นเหมือนจะหลุดลอยหายไปกับสายลมในทันทีที่พัสกรได้รับอ้อมกอดอันแสน
อบอุ่นที่มาพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้าของพ่อแม่ตน...เหมือนกับพันธนาการทั้งหลายที่เป็นกำแพงกั้นความรู็สึก
ของสามคนแม่ลูกนี้ได้ปลดออกหมดแล้ว ณ เวลานี้


       แค่เพียงอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นเพียงครั้งเดียวของพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด อาจจะเป็นยารักษาหัวใจห่างเหิน
แสนบอบช้ำของพ่อแม่ลูกที่คอยแต่ตั้งแง่ใส่กันเมื่อในครั้งวันวานให้มลายหายไปจากความรู้สึกส่วนลึกในใจ
ที่เป็นรอยแผลเหวอะนี้ไปอย่างถาวรเลยก็ได้ ไม่ต้องมีคำพูดที่สวยหรู ไม่ต้องมีของขวัญมูลค่ามาก เพียงแค่
อ้อมกอดเดียวที่ไม่มีค่ามีราคาก็พอแล้ว สำหรับเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหายไป....




____________________________________________________________________________TBC.
ตอนหน้าจบแล้วนะคะ..พอจบตอนหน้าแล้วมี่จะลง (น้องภีมกับพี่เจ้านาย) ให้ทันทีเลยค่ะ
ขอโทษที่เมื่อวานไม่ได้อัพนะคะ พอดีมี่เป็นร้อนใน(สำหรับคนอื่นอาจจะไม่หนักอย่างมี่หรอกค่ะ
แต่ร่างกายของมี่มันติดสำออยมาตั้งแต่เกิด) ไม่ว่าแดดจะออก ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง มี่ก็เหมาโปรฯป่วยตลอดปี
รักษา(ไม่) ฟรีตลอดชีพหมดนั่นแหละค่ะ (ทำใจกันหน่อยนะคะ)  ฮ่าๆ โรงพยาบาลเป็นเสมือนบ้านหลังที่สอง
เพราะมี่ไปบ่อยยิ่งกว่าโรงเรียนอีกค่ะ....อย่าโกรธกันน้าาาาาา....
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 29 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 12-02-2016 22:01:19
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 29 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-02-2016 22:50:28
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 29 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 12-02-2016 23:37:20
 :katai2-1: ดีใจด้วย ๆๆ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 29 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-02-2016 23:50:09
ในที่สุดครอบครัวนี้ก็มีลูกเพิ่ม ดีใจด้วยน้า~
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 29 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-02-2016 01:28:15
รอลูกสาวของน้องภัสคลอด อิอิ
หัวข้อ: Re: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 29 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 13-02-2016 10:00:54
สนุกมากจ้า
ขอให้หายป่วยเร็วๆ นะ
หัวข้อ: >>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 30 (2/02/59) [จบบริบูรณ์]
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 13-02-2016 18:32:09
คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 30 (จบบริบูรณ์)











10 ปี ผ่านไป



       จากเด็กน้อยในวันนั้นมาถึงเด็กหนุ่มในวันนี้ วันเวลาก็ล่วงเลยๆไปเป็นสิบปี สิบปีที่ผ่านมาเปลี่ยนให้

เด็กน้อยทั้งสี่คนอย่างเจ้านาย และสามแฝดภาค ภีม ภามให้โตขึ้นอย่างรวดเร็ว ผ่านไปแปปๆ เจ้าเด็กแสบ

ทั้งสี่คนก็พากันเรียนจบชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนนานาชาติชื่อดังประจำจังหวัดบ้านเกิดกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

และต่างก็ตัดสินใจแยกย้ายไปเลือกเรียนตามสายวิชาการที่ตนถนัด อย่างเช่นเจ้านาย และภาค แฝดโต ที่

ยังคงเลือกที่จะเรียนต่อมัธยมปลายในโรงเรียนนานาชาติที่เดิม ส่วนเจ้าภามแฝดเล็กสุดแสบก็เลือกที่จะย้าย

ไปเรียนสายช่างที่โรงเรียนอาชีวะประจำจังหวัดตามที่ตนชอบและถนัด ส่วนน้องภีมแฝดกลางสุดที่รักของพี่

เจ้านายคนแมน(?)นั้น คนนี้เขาก้าวไปไกลกว่าพวกหน่อย เพราะเจ้าตัวเขาสอบชิงที่นั่งในโรงเรียนมัธยมปลาย

ที่เมืองมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาได้ เจ้าตัวเลยเลือกที่จะไปเรียนต่อมัธยมปลายที่นั่นแทน ซึ่งณัฐภาสและ

พัสกร ผู้เป็นพ่อและแม่ก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด แถมยังสนับสนุนลูกอย่างเต็มที่อีกต่างหากเพราะคิดว่านั่น

คือสิ่งที่ลูกเลือกแล้วย่อมเป็นผลดีกับเจ้าตัวเอง และเป็นเพราะประสบการณ์ในวัยเยาว์ณัฐภาสและพัสกรจึง

เลือกที่จะเลี้ยงลูกแบบให้ความอิสระเสรีกับลูกๆอย่างเต็มที่ แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยปละละเลย เพียงแต่ให้ลูกๆ

ได้มีสิทธิที่จะเลือกในทางเดินชีวิตของตัวเองก็แค่นั้นเพราะเขาทั้งสองคนคิดอยู่เสมอว่าเขาทั้งสองคนทำได้

เพียงแค่ประคับประคองให้ลูกได้เติบโตได้อย่างมีความสุขและมีคุณภาพและต้องไม่ไปสร้างความเดือดร้อน

ให้กับคนอื่นหรือประเทศชาติก็พอแล้ว เพราะสุดท้ายแล้วก็จะมีแต่ตัวของเจ้าตัวเองเท่านั้นที่จะอยู่กับตัวเอง

ไปได้ ตราบจนสิ้นลมหายใจ.....

.

.

.

.

.

#

น้องภีมแฝดกลาง ตอนอายุสิบห้า (อิมเมจ อีฮงกิ FT ISLAND)



       "ไม่ไปไม่ได้หรอน้องภีม อยู่กับพี่ที่นี่เถอะนะ" เจ้านายน้อยของป๋าคุณและแม่ธารจ๋ากำลังอ้อนวอน

พูดร้องขอน้องภีมแฝดกลางหรืออีกในนึงก็คือแฟนหนุ่ม(ที่เจ้าตัวทึกทักเอาเอง?) ของเจ้าตัวนั่นเอง เพราะว่า

พรุ่งนี้แล้วน้องภีมสุดที่รักของเขาจะต้องไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองด้วยตัวคนเดียวถึงอีกซีกโลกนึงเลย จะไม่ให้

เขาเป็นห่วงได้ยังไง และที่สำคัญน้องภีมของเขาจะต้องไปอยู่ที่โน่นตั้งสามปีจนกว่าจะเรียนจบชั้นมัธยมปลาย

ที่นั่นเสียก่อนถึงจะได้กลับมาบ้านอีกครั้ง แล้วอย่างนี้ ไอ้เจ้านายคนนี้จะไม่ลงแดงตายเพราะคิดถึงพ่อยอด

ดวงใจของตัวเองเลยเชียวหรอ....เฮ้อ! พูดแล้วเศร้าว่ะ!!



       "ไม่ได้หรอกครับพี่นาย ภีมจ่ายเงินลงทะเบียนเรียนให้กับทางโรงเรียนไปหมดแล้ว ยังไงๆ ภีมก็ต้องไป"

น้องภีมแฝดกลางที่ยังคงคอนเซ็ป 'คนอ้วนน่ารัก' ของเจ้าตัวอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เพราะน้องภีมตอนนั้น

กลับตอนนี้ไม่ได้ต่างกันเลย เจ้าตัวยังคงกินเก่งและจ้ำม้ำ เจ้าเนื้อ ตัวนุ่มนิ่มๆ เหมือนเดิม แต่ถึงน้องภีมจะ

อ้วนยังไง พี่นายก็ร๊ากกกกก.....(เจ้านายมันบอกมาอย่างนั้น)



       "แต่พี่คิดถึงของพี่อ่ะ!" เจ้านายทำหน้างอพูดบอกกับแฟนตัวเองอย่างไม่พอใจ เพราะอีกคนดูเหมือนจะไม่

เสียใจหรือจะรู้สึกอาลัยอาวรณ์เหมือนกันกับเขาเลย แถมยังดูเหมือนอยากจะไปจากที่นี่เร็วๆ เสียด้วยซ้ำไป

เพราะเจ้าตัวเล่นส่งสัมภาระส่วนของเจ้าตัวลงเรือไปที่นั่นตั้งแต่เมื่อต้นเดือนแล้ว...เหอะ!!



       "ภีมก็คิดถึงพี่นายเหมือนกันครับ แต่เราก็ต้องอดทนนะครับ....เพื่ออนาคตวันข้างหน้าของเรา" น้องภีม

คว้ามือเจ้านายมาคลึงเล่นเบาๆ บอกด้วยเสียงนุ่มทุ้ม...อบอุ่นที่สุด!!



       "จริงนะ! น้องภีมจะไม่นอกใจพี่ใช่มั้ย?" เจ้านายช้อนตามอง (แกแมนมากอ่ะนาย?)



       "ครับ"



      "จะรักและมีแต่พี่คนเดียวใช่มั้ย?"



       "ครับ"



       "เรียนจบแล้วจะรีบกลับมาหาพี่ใช่มั้ย?"



       "ครับ"



       "ภีมจะรีบกลับมาแต่งงานและเป็นเจ้าสาวของพี่ใช่มั้ย?"



       "ด้วยสัญญาลูกผู้ชายเลยครับ" น้องภีมบอกพร้อมกับชูนิ้วก้อยยื่นส่งไปให้เจ้านาย เจ้านายก็รีบเกี่ยวก้อย

ทำสัญญากับน้องภีมสุดที่รักของตัวเองเลยทันที(กลัวน้องมันเปลี่ยนใจ).....แมร่ง! พี่นายคนแมน(?) เขินว่ะ!!!

.

.

.

.

.

เช้าวันถัดมา (สนามบิน)



       "ไปอยู่โน่นก็ดูแลตัวเองดีๆนะครับลูก ถ้ามีปัญหาอะไรก็รีบโทรมาบอกคุณแม่กับคุณพ่อเลยนะครับคนเก่ง"

พัสกรพูดบอกในขณะที่โอบกอดลูกชายอีกครั้ง ระหว่างที่รอส่งน้องภีมลูกชายแฝดกลางของตนขึ้นเครื่ืองบิน

เพื่อเดินทางไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา



       "คร้าบๆ คุณแม่บอกภีมรอบที่ร้อยแล้วนะครับ ภีมสัญญาว่าภีมจะตั้งใจเรียนและจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด

เลยครับ คุณแม่กับคุณพ่ออยู่ที่นี่ก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะครับ คุณแม่ต้องทานข้าวเยอะๆ และคุณพ่อก็ต้อง

ห้ามนอนดึก ห้ามทำงานจนลืมเวลานะครับ ภีมเป็นห่วง" น้องภีมแฝดกลางบอกพร้อมกับดึงณัฐภาสที่ยืนอยู่

ข้างๆ กันเข้ามากอดด้วยกันกับคุณแม่พัสของตัวเองด้วย...ยิ่งใกล้เวลาก็ยิ่งรู้สึกใจหวิวๆอ่ะ แต่จะทำไงได้

ในเมื่อเลือกแล้วก็ต้องทำให้เต็มที่คุณพ่อกับคุณแม่จะได้ภูมิใจ.....สู้ๆเว้ย



       "ยืนบื้ออยู่ทำไมครับภาค ภาม ภีมจะไปแล้วนะครับ จะไม่มากอดลากันหน่อยหรอครับ" น้องภีมแฝดกลาง

ผละออกจากคุณพ่อภาสและคุณแม่พัส ก้าวเดินเข้าไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าระหว่างภาคและภามแฝดพี่

แฝดน้องของตนเอง....ไม่ว่าจะพูดกับพี่น้องของตัวเองหรือเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน น้องภีมแฝดกลางลูกชายของ

คุณพ่อภาสกับคุณแม่พัสก็มักจะพูดสุภาพอยู่เสมอๆ แม้จะรู้สึกแย่และโมโหมากมายสักแค่ไหนก็ตาม น้องภีม

พีรภัทร อัครจินดากรณ์คนนี้ก็ยังคงความสุภาพของตัวเองเสมอไม่มีหลุดมาดแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าการกระทำ

ของเจ้าตัวจะต่างจากคำพูดสุภาพของเจ้าตัวก็ตาม



       "รักษาสุขภาพด้วยนะภีม" พี่ภาคแฝดโตบอก พร้อมกับเดินเข้ามาโอบกอดน้องชายคนกลาง



       "รีบๆ กลับมาล่ะ ขี้เกลียดอยู่ฟังคุณแม่บ่นคนเดียว" อันนี้เจ้าภามแฝดเล็กคนกาก ที่ชอบกวนประสาท

ยั่วโมโหให้คุณแม่พัสผู้แสนจะอ่อนโยนว๊ากใส่ตลอดๆ



        "หึๆ ภามก็อย่าไปแกล้งคุณแม่เขาสิครับ" น้องภีมบอกพร้อมกับรั้งภามแฝดเล็กเข้ามากอดด้วยกันอีกคน

ทำให้ตอนนี้แฝดแสบทั้งสามคนเหมือนไวท์บอลเลย ที่คนตัวอวบๆขาวทั้งสามคนมากอดกันกลมอยู่กลาง

สนามบินอย่างนี้



       "พี่นาย...ร้องไห้ทำไมครับ" น้องภีมถามพลางใช้นิ้วหัวแม่มือปาดน้ำตาให้กับเจ้านายที่ยืนร้องไห้น้ำตานอง

อยู่กับป๋าคุณกับแม่ธารจ๋าของเจ้าตัว หลังจากที่บอกลากับพี่น้องฝาแฝดทั้งสองคนของตนเรียบร้อยแล้ว



      "ก็พี่ไม่อยากให้น้องภีมไปอ่ะ......โฮววววววว" ในที่สุดพี่นายคนแมน(?)ของน้องภีมก็ปล่อยโฮออกมาจนได้

โดยที่ไม่สนสายตาคนรอบข้างที่จ้องมองตัวเองอยู่เลย



       "โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ เรียนจบแล้วภีมจะรีบกลับมาแต่งงานกับพี่นายเลย...สัญญา" ภีมคว้าตัวเจ้านายเข้า

มากอดพร้อมกับโยกตัวไปมาเพื่อปลอบใจอีกคนให้เลิกร้องไห้เสียที เพราะกลัวว่าร้องไห้นานๆแล้วเจ้าตัวจะ

ไม่สบายเข้าเสียก่อน....ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทำไมภีมถึงกล้ากอดกล้าพูดแสดงออกถึงความสัมพันธ์เกินพี่น้อง

ของตนและเจ้านายอย่างเปิดเผยต่อหน้าพ่อๆแม่ๆอย่างณัฐภาส พัสกร เจ้าคุณและธาราหรอก เพราะว่าเจ้า

นายน้อยของป๋าคุณเขาประกาศตัวว่าคบกับภีมและจะเป็นเจ้าบ่าว(?)ในอนาคตของน้องภีมต่อหน้าพ่อๆแม่ๆ

ตั้งแต่แปดขวบแล้ว ซึ่งพ่อๆแม่ๆเองก็ไม่ได้ห้ามและไม่ได้สนับสนุนเพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของลูก และดี

เหมือนกันที่ลูกๆออกมาเปิดเผยให้รู้อย่างนี้ เผื่อว่าวันข้างหน้าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจะได้เตรียทใจไว้ตั้งแต่

เนิ่นๆ ดีกว่าที่ทั้งสองจะแอบคบกันอย่างหลบๆซ่อนๆแล้ววันดีคืนดีมีหลานโผล่มาให้เลี้ยงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

แต่ก็ต้องรอลุ้นกันอีกทีว่าที่นายคนแมน(?)ที่สุดแสนจะเจ้าน้ำตาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของป๋าคุณคนนี้จะได้

เป็นเจ้าบ่าวของน้องภีมพ่อสุภาพบุรษตลอดกาลของคุณพ่อณัฐภาสได้หรือเปล่า



       "น้องภีมครับ เขาเรียกให้ขึ้นเครื่องแล้วนะครับลูก" พัสกรเดินมาสะกิดเรียกลูกชายเพราะพนักงานประกาศ

เรียกผู้โดยสารเที่ยวบินที่น้องภีมจะไปขึนเครื่องแล้ว



       "ฮื่อออออออ" แต่แทนที่เจ้านายจะปล่อย ก็กลับกอดรัดตัวของภีมแน่นขึ้นไปอีก



       "พอแล้วครับ! น้องนายมาหาป๋ามา ปล่อยน้องไปได้แล้วครับลูก....ไปได้แล้วภีมเดี๋ยวตกเครื่อง" เจ้าคุณที่

ยืนดูอยู่นานก็เข้ามาดึงเจ้านายลูกชายตัวเองให้หลุดออกจากตัวของภีม ก่อนที่จะพูดบอกกับภีม



       "แต่..."



       "ไปเถอะ...เดี๋ยวป๋าดูพี่เขาเอง...โชคดีนะลูก" เจ้าคุณบอกย้ำกับภีมอีกครั้งเมื่อเจ้าตัวยังไม่ยอมไปเสียที

แต่ยิ่งทำอย่างนี้ก็ยิ่งจะเสียเวลา จะพลอยตกเครื่องไปอีก คราวนี้แหละไอ้เจ้านายตัวแสบของเขามันคงจะไม่

ปล่อยน้องภีมสุดที่รักของมันไปแน่ๆ



       "น้องภีมครับ ไปได้แล้วลูก" ณัฐภาสพูดเร่งอีกครั้ง



       "ครับ...แล้วภีมจะรีบกลับมานะครับทุกคน" ภีมมองหน้าเจ้านายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะบอกลาบรรดา

ญาติพี่น้องที่มาส่งตนในวันนี้ทุกคน ก่อนที่จะรีบหันหลังวิ่งเข้าเกทไปโดยที่ไม่หันหลังกลับมามองคนข้างหลัง

อีกเลย เพราะกลัว....กลัวว่าพอเห็นน้ำตาของอีกคนแล้ว....จะแพ้ใจตัวเอง

.

.

.

.

.

       "เฮ้อ!...น้องภีมไม่อยู่แล้วบ้านดูเงียบๆ เนอะพี่ภาส" พัสกรพูดบ่นขึ้นมาในขณะที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่

ห้องนั่งเล่นกันสองคนกับณัฐภาสผู้เป็นสามี เพราะว่าวันนี้พี่ภาคแฝดกลางติดไปออกค่ายค้างคืนกับที่

โรงเรียนส่วนเจ้าภามรายนั้นตั้งแต่ไปเรียนอาชีวะก็ไม่ค่อยยอมกลับบ้าน เพราะมัวแต่ไปคลุกอยู่หอเพื่อน

และน้อง'เพชร' หรือ พลอยไพริน น้องเล็กคนสุดท้องก็ไปอยู่บ้านคุณปู่โน่น คนนี้เขาหลานรักคุณปู่รองลงมา

จากเจ้าภามแฝดเล็กนั่นแหละ ทั้งบ้านก็เลยเหลือแค่เขาสองคนกับณัฐภาสนี่แหละ...เฮ้อ...เหงากันไปสิ!!



       "พี่ว่าเป็นเพราะวันนี้เจ้าสามแสบที่เหลือไม่อยู่กวนพัสด้วยมากกว่า บ้านถึงได้เงียบขนาดนี้" ณัฐภาสบอก



       "นั่นสิ! เรามีลูกกันตั้งสี่คน แต่ไม่มีใครอยู่กับเราสักคน...น่าน้อยใจจัง" พัสกรบ่นพลางเอนหัวซบไหล่สามี



       "ลูกๆ คงอยากให้เราอยู่สวีตกันสองคนบ้างล่ะมั้ง เพราะสิบปีกว่าปีที่ผ่านมานี่เรามีตัวป่วนตัวจุ้นมาคอย

กวนใจเราตั้งสี่คนแน่ะ" ณัฐภาสพูดติดตลกเพราะไม่อยากให้พัสกรคิดมาก



       "นั่นสิเนอะ...ไม่น่าเชื่อเลยว่าเราสองคนจะอยู่ด้วยกันมาตั้งเกือบยี่สิบปีแล้ว ทั้งๆที่ตอนแรก เราสองคน

ก็ต่างคนต่างไม่อยากจะแต่งงานกัน...แถมยังต้องแต่งเพราะโดนบังคับมัดมือชกอีกต่างหาก" พัสกรพูดบอก

พลางนึกไปถึงวันแรกที่ตนเรียนจบปริญญาตรีกลับมาบ้านปุ๊บก็โดนคำว่า 'แกต้องแต่งงาน' ของพ่อตีแสกเข้า

กลางหน้าผากเลย...ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกับว่าตัวเองอยากจะตายให้ได้ เพราะเจ้าบ่าวคนนี้รักก็ไม่ได้รัก

อีกทั้งยังไม่เคยได้เจอหน้าคาดตากันมาก่อนด้วย จะให้มาแต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากันตลอดทั้งชีวิตได้

ยังไง แต่สรุปแล้วเขาก็ต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนี้อยู่ดี แถมยังมีโซ่ทองคล้องใจเป็นลูกชายลูกสาวด้วยกันอีก

ตั้งสี่คนเชียวนะ....คิดแล้วก็ขำ



       "นั่นน่ะสิ...วันนั้นพี่ยังจำได้เลยนะว่าถ้าพี่ได้แต่งงานกับไอ้หนูพัสของพ่อเมื่อไหร่ พี่จะแกล้งมันให้ร้องไห้

วิ่งกลับไปฟ้องพ่อฟ้องแม่แทบไม่ทันเลยเชียว แต่ที่ไหนได้กลับเป็นพี่เองที่ ตกหลุมรัก 'คุณเมียภาคบังคับ'อย่าง

ไอ้หนูพัสของพ่อพี่ตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้าเลยเสียด้วยซ้ำ ฮ่าๆ" ณัฐภาสพูดไปขำไป เพราะอดไม่ได้ที่จะตลก

ตัวเองเมื่อในวันวานที่ผ่านมา



       "จริงหรอครับ...พี่ภาสรักพัสตั้งแต่วันแรกที่เห็นเลยจริงหรือ" พัสกรถามพร้อมกับจ้องหน้าสามีตาแป๋ว

เหมือนกับลูกกวางตัวน้อยๆเลย ให้ตายเถอะ! วันเวลาสิบกว่าปีเกือบยี่สิบปีที่ผ่านมานี่มันไม่สามารถทำลาย

ความน่ารักความสดใสของแม่กวางน้อยตัวนี้ของเขาได้เลยรึไงนะ!! หนูพัสของเขาเคยสวยยังไง น่ารักยังไง

ทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้นอยู่เหมือนเดิม ผิวเนียนนุ่ม เต่งตึงไม่มีหย่อนคล้อย....น่าฟัดที่สุด!!



       "จริงสิ....รักนะครับ 'คุณเมียภาคบังคับ' ของพี่" ณัฐภาสบอกพร้อมกับก้มลงไปจูบริมฝีปากบางของคน

ตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ ตัวเอง ส่งมอบความรู้สึกทุกๆ อย่างที่มีอยู่ในใจให้อีกคนได้รับรู้ ไม่ว่าจะเป็นความรัก

ความห่วงใย ความขอบคุณ และอีกหลายๆ ความรู้สึก ที่ไม่สามารถบอกออกมาเป็นคำพูดได้ เลยให้การจูบ

ในครั้งนี้เป็นสื่อกลางเป็นตัวแทนส่งมอบความรู้สึกทั้งหมดแล้วกัน เพราะต่อให้พูดเป็นร้อยหรือเป็นล้าน

ประโยคมันก็คงจะไม่พอกับความรักที่เขาทั้งสองคนมีให้กันตั้งแต่วันแรกที่พบเจอจนถึงวันนี้ เวลานี้ และ

ของวันต่อๆ ไป จนกว่าลมหายใจสุดท้ายของชีวิตจะมาพรากเขาทั้งสองคนออกจากกันก็ตาม



       





_______________________________________________________________________End.

จบบริบูรณ์แล้วนะคะสำหรับนิยาย 'คุณเมียภาคบังคับ' เรื่องนี้ มี่ขอขอบคุณคนอ่านที่น่ารักทุกคนที่ไม่เคย

ทอดทิ้งมี่กับนิยายเรื่องนี้ไปไหนเลย ถึงแม้ว่ามันจะติดๆขัดๆ มีปัญหาโน่นนี่นั่นเข้ามามากมาย และคอย

เป็นกำลังใจให้มี่เสมอมา ถึงแม้ว่านิยายของมี่ไม่ใช่นิยายที่ดีที่สุด ไม่ใช่นิยายที่สนุกที่สุด แต่ก็เป็นนิยายที่

มี่ตั้งใจที่จะแต่งออกมาให้ดีที่สุด(ถึงแม้ว่าจะได้แค่นี้ก็ตาม)นะคะ ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณจริงๆ

แล้วไปเจอกันเรื่องต่อๆไปนะคะ และอย่างที่มี่เคยบอกไปว่ามี่ยังมีรุ่นลูกของนิยายเรื่องนี้อีกสามเรื่องสั้นๆนะคะ

รอติดตามกันได้เลยค่ะ รับรองว่าไม่เหมือนกับรุ่นพ่อรุ่นแม่อย่างแน่นอน แต่ก็จะยังคงความรักความอบอุ่น

ในสไตล์ของมี่อยู่เหมือนเดิมนะคะ......แล้วเจอกันค่ะ!!!

ปล.คืนนี้มี่จะลงอินโทรของ(ภีม&เจ้านาย)ให้ก่อนเลยนะคะ แล้วพรุ่งนี้จะลงตอนที่หนึ่งให้ แต่อย่าลืมนะคะ

ชอบไม่ชอบก็เม้นกันเข้าไว้ เพราะมันเป็นกำลังแรงใจที่สำคัญมากๆสำหรับมี่......รักนะคะ!!! จุ๊บ!!!

ปล.2 มี่เปิดเรื่อง(ภีม&เจ้านาย)กับเจ้านายในเล้าแล้วนะคะ ชื่อเรื่องว่า 'ภาครักนี้...พี่กะน้อง / ภาคเรียนที่หนึ่ง'  ค่ะ
หัวข้อ: Re: [จบบริบูรณ์]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 30 (13/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 13-02-2016 22:46:40
จบแล้ววววววววววว
รอภาคของรุ่นลูกนะคะ

ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องสนุกๆ
หัวข้อ: Re: [จบบริบูรณ์]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 30 (13/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-02-2016 23:14:35
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: ขอบคุณคนแต่งมากครับ สนุกมากๆเลย
หัวข้อ: Re: [จบบริบูรณ์]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 30 (13/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 13-02-2016 23:21:55
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [จบบริบูรณ์]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 30 (13/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-02-2016 23:41:46
จบแล้ว~ เดี๋ยวจะไปตามรุ่นลูกน้า~
หัวข้อ: Re: [จบบริบูรณ์]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 30 (13/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 14-02-2016 00:06:21
น่ารักจนตอนสุดท้ายเลยเน่อ
หัวข้อ: Re: [จบบริบูรณ์]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 30 (13/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 14-02-2016 02:06:23
สงสัยว่าแฝดขอสองของป๋าคุณนี่ใช่สนกับภูผาหรือเปล่าคะ

ถ้าใช่ก็ Incest เลยนะคะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [จบบริบูรณ์]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 30 (13/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 14-02-2016 02:48:53
ตามอ่านจนจบภาคพ่อแม่ สนุกคับ
  รออ่านรุ่นลูกๆคับ
หัวข้อ: Re: [จบบริบูรณ์]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนที่ 30 (13/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 14-02-2016 12:12:09
จบแล้วววววววววววว
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 14-02-2016 19:53:12

ตอนพิเศษ...วันวาเลนไทน์ (ว่าด้วยเรื่อง..ครั้งแรก)











       เช้าๆ วันวาเลนไทน์ในโรงเรียนนานาชาติแห่งนี้เป็นอะไรที่ดูคึกครื้นสุดๆ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่

คู่รัก กับดอกกุหลาบสีแดง หรือไม่ก็ขนมจำพวกช็อกโกแลต ที่ต่างก็พากันหอบหิ้วใส่กระเป๋าติดมือกันมาจาก

บ้านทั้งหญิงชาย ไม่ก็มาหาซื้อเอาตามข้างรั้วหน้าโรงเรียนนี่แหละเพราะมีร้านค้าแพงลอยชั่วคราวมาตั้งขาย

ของพวกนี้เรียงอยู่เป็นทิวแถวจนแทบจะเกินเขตรั้วของโรงเรียน



       "ตั้งใจเรียนกันด้วยนะแฝดแสบทั้งสาม" พัสกรที่มี่หน้าที่ขับรถมาส่งลูกแฝดทั้งสามคนของตัวเองทุกวัน

เป็นประจำ พูดบอกขึ้นในขณะที่กำลังจะจอดรถเตรียมเทียบรั้วโรงเรียนของแฝดสาม



       "คร้าบบบบบ....." สามแฝดประสานเสียงตอบรับคำของคุณแม่พัสพร้อมกับรีบเปิดประตูกระโดดลงรถ

แข่งกันวิ่งเข้าโรงเรียนเหมือนเด็กๆอย่างทุกวัน โดนไม่ลืมที่จะยกมือไหว้สวัสดีคุณแม่พัสของพวกตนอีกครั้ง

ทั้งที่ปีนี้แฝดสามก็อยู่เกรดเก้าหรือระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่สามของเรานี่แหละ อีกไม่กี่เดือนก็จะอายุครบ

สิบห้าปีเต็มอยู่แล้วยังชอบชวนกันเล่นซนไม่ต่างจากเด็กเล็กเลย



       "หยุด!! หยุดก่อน!!! ภาค ภีม ภาม ฉันบอกให้หยุ๊ดดดดด...." ระหว่างทางที่แฝดสามกำลังวิ่งแข่งกันขึ้น

เอากระเป๋าไปเก็บบนห้องเรียนประจำของตัวเอง จนถึงบันไดทางขึ้นตึกแล้วก็มีเพื่อนหนุ่มหล่อหน้าใสจาก

แดนปลาดิบ(ญี่ปุ่น) มายืนดักขวางทางขึ้นบันไดของทั้งสามแฝดไว้พร้อมกับลูกสมุน(รุ่นน้อง)ในกลุ่มของตน

อีกทั้งในอ้อมแขนของเพื่อนชาวญี่ปุ่นคนนี้ยังมีช่อกุหลาบสวยสีแดงสดอีกหนึ่งช่อใหญ่



       "นายมีธุระอะไรกับพวกเรารึเปล่าเจโล่..ถ้าไม่มีอะไรก็ช่วยถอยไปหน่อยได้ป่ะ?...เกะกะว๊ะ!!" เจ้าภาม

แฝดเล็กตัวแสบพูดบอกอย่างหงุดหงิด ที่โดนเพื่อนชาวญี่ปุ่นคนนี้มาขวางทางการแข่งขัน(?)ของพวกตน

เพราะก่อนหน้าที่จะออกจากบ้านมาพวกเขาพนันกันไว้ว่าถ้าเช้านี้ใครวิ่งเอากระเป๋าไปเก็บไว้ที่โต๊ะช้าเป็น

ลำดับสุดท้ายจะต้องออกเงินเลี้ยงหนังเลี้ยงขนมแฝดพี่แฝดน้องที่เป็นฝ่ายชนะทั้งสองคนของตนตลอดทั้งวัน

อย่างไม่มีข้อยกเว้น...แต่พอมาเจอตัวขัดลาบดักหน้าอย่างนี้แล้วจากที่อารมณ์กำลังดีๆอยู่ภามก็เฟลไปเลย



       "มีสิ! ฉันมีธุระกับภามนั่นแหละ ส่วนภาคกับภีมก็ขึ้นห้องไปก่อนได้เลย แล้วเดี๋ยวเราจะพาภามขึ้นเอา

กระเป๋าไปเก็บที่หลังเอง....พวกนายน่ะ!...ปล่อยสองคนนั้นไปได้เลย" เจโล่บอกพร้อมกับให้ลูกสมุนของตัวเอง

ปล่อยให้ภาคกับภีมแฝดโตแฝดกลางทั้งสองคนไปก่อนและกักตัวเจ้าภามแฝดเล็กไว้คนเดียว ส่วนภาคกะภีม

น่ะหรอ? พอได้ยินเจโล่บอกอย่างนั้นแล้วก็รีบมองตาพยักหน้าเป็นอันรู้กันอยู่สองคนก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นบันได

ไปสุดฝีเท้าเมื่อลูกสมุนของเจโล่ปล่อยตัวพวกตนออกมา ทิ้งภามให้ถูกเจโล่กักตัวไว้อยู่คนเดียว เพราะต่างคน

ก็ต่างไม่อยากจะเป็นผู้แพ้ในการแข่งขันครั้งนี้ และที่สำคัญยังอยู่ในเขตรั้วโรงเรียนอย่างนี้เจโล่ไม่มีทางทำ

อันตรายน้องชายคนเล็กของพวกเขาได้หรอก หายห่วง!....ในเกมการแข่งขันไม่มีพี่ไม่มีน้องนะครับภาม เหอๆ

.

.

.

      "ภาค!! ภีม!! โธ่เว้ย!! เพราะนายคนเดียวเลยเจโล่!! เพราะนายคนเดียวที่ทำให้ฉันต้องเป็นคนเสียเงินให้

ภาคกับภีมถลุงเล่นในวันหยุดนี้!! ไอ้บ้ายุ่นเอ้ย!!!" ภามตระโกนใส่หน้าเจโล่ด้วยความโมโหอย่างหงุดหงิด ที่

เห็นพี่ๆทั้งสองคนคว้าชัยชนะไปต่อหน้าต่อตาอย่างที่ทำอะไรไม่ได้และไม่สมควรที่เขาจะมาแพ้ด้วยเหตุผลควายๆ
เพราะเขาโดนไอ้ยุ่นบ้านี่กอดรั้งตัวเอาไว้อย่างนี้นี่ไง!!....แมร่งเอ้ย!!!



      "เสียเงินอะไร ฉันทำอะไรผิดหรือ ฉันก็แค่อยากจะคุยกับนายแบบส่วนตัวสองต่อสอง...ก็เท่านั้น" เจโล่พูด

บอกด้วยเสียงหงอยๆ เพราะรู้สึกไม่ดีที่เห็นอีกคนทำท่ารังเกียจตนถึงเพียงนี้กับแค่เหตุผลที่เขากักตัวไว้เพื่อที่

จะคุยกันแบบส่วนตัวแค่สองคนเท่านั้น.....มันผิดอะไรมากมายขนาดนั้นเลยหรือ?



       "อย่ามาทำหน้าเหมือนหมาใกล้ตายอย่างนี้นะเว้ย!!...เพราะมันน่าสมเพส!! ฉันจะบอกอะไรนายให้นะ

ไอ้ยุ่น! ได้โปรดตั้งใจฟัง และพอรู้แล้วก็ช่วยสำนึกผิดด้วยนะ.....ฉัน ภาค ภีม พนันกันเอาไวว่าถ้าวันนี้ใครเอา

กระเป๋าไปเก็บไว้ที่โตีะของตัวเองช้าเป็นคนสุดท้าย วันเสาร์นี้คนนั้นจะต้องเลี้ยงหนังเลี้ยงหนมคนที่ชนะอีก

สองคนอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่จำกัดวงเงิน!!! งานนี้ฉันต้องกินแกลบไปทั้งเดือนแน่ๆ ไอ้ยุ่นเอ้ย!!!!" ภามพูด

ตะคอกใส่เจโล่อย่างมีน้ำโห ยิ่งคิดยิ่งแค้น เขาจะชนะอยู่แล้วเชียวไอ้บ้านนี่กลับมาขวางทางเขาเสียได้ งานนี้

เงินค่าขนมที่คุณแม่ให้เดือนนี้จะต้องหมดภายในวันเสาร์นี้ด้วยฝีมือภาคกะภีมแน่ๆเลย เพราะเมื่อสองอาทิตย์

ที่แล้วเขาไปถล่มค่าขนมของสองคนนั้นมาแล้ว เพราะชนะติดกันสองอาทิตย์รวด.....ฮืออออ!



       "เดี๋ยวฉันจ่ายแทนให้ก็ได้ รวมถึงในส่วนของนายด้วย ขอแค่ตอนนี้นายยอมคุยกับฉันก่อน...โอเคมั้ย?"

เมื่อได้รู้เหตุผล(ที่ไร้สาระ)ของภามแล้ว เจโล่ก็อาสาเป็นเจ้ามือจ่ายค่าเสียหายในครั้งนี้แทนภามเอง เพราะ

มันเป็นความผิดของเขาจริงๆ ที่เขาทะเร่อทะร่าเข้ามาขวางการแข่งขันของสามแฝดนี้อย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ

เพราะใจร้อนอยากที่จะคุยกับภามให้ทันก่อนที่จะเข้าแถว เพราะตัวเขาและสามแฝดเรียนอยู่คนละห้องกัน



      "หมายความว่าไง?" ภามเลิกคิ้วถามเพื่อความแน่ใจ



       "ก็หมายความว่าค่าใช้จ่ายในการกิน เที่ยว เล่นในวันเสาร์นี้ของนายทั้งสามคนพี่น้อง ฉันจะเป็นคนจ่าย

แทนนายเอง ไม่ให้นายต้องเสียเงินเองแม้แต่บาทเดียวเลย...แต่ขอฉันไปด้วยนะ" เจโล่พูดเสียงอ่อยใน

ประโยคสุดท้าย เพราะกลัวว่าภามจะไม่พอใจแล้วจะปี๊ดแตกมาอารมณ์เสียใส่ตนอีก



       "ก็ได้...แต่นายต้องเป็นคนออกเงินจ่ายค่าโน่น นี่ นั่นให้พวกฉันทั้งสามคนเลยนะ" ภามพูดย้ำเพื่อความ

มั่นใจ



      "อืม...ทุกอย่างเลย" เจโล่พูดยืนยัน



      "ก็ดี...แล้วตกลงวันนี้นายมีธุระอะไรกับฉันกันแน่" ภีมทิ้งตัวยืนกอดอกพิงพนังตึก
 ถามเข้าประเด็น หลังจากที่โดนเจโล่ ลากแขนเดินมาทางหลังตึกเรียนซึ่งกำลังไร้ผู้คน



      "อ่ะนี่!...ฉันให้นาย" เจโล่บอกพร้อมกับยื่นช่อกุหลาบดอกใหญ่สีแดงสดในมือตัวเองให้กับภาม



       "ให้ฉัน?" ภามชี้นิ้วเข้าตัว ถามอย่างไม่เข้าใจ



       "อื้ม!...นายนั่นแหละ" เจโล่ยืนยัน



       "ให้มัยอ่ะ?" ภามตีหน้าเซ่อแกล้งถามต่อ



       "ก็อ่านการ์ดดิ!" เจโล่เริ่มบอกอย่างเหวี่ยงๆ แบบเขินๆ





付き合ってください


Tsukiatte kudasai


ทซึคิ อัตเตะ คุ๊ด่ะซัย



"คบกับฉันได้ไหม"



        "เป็น.แฟน.กัน.นะ" เจโล่พูดเป็นคำๆ ที่ละคำด้วยเสียงดังฟังชัดจนจบประโยค ทั้งภาษาญี่ปุ่นบ้านเกิด

และพูดย้ำภาษาไทยเป็นการปิดท้ายบอกพร้อมกับสบสายตาภามที่กำลังเงยหน้าจากการ์ดช้อนตามองมา

ที่ตนอยู่พอดี



       "ไอ้ยุ่นบ้าเอ้ย!!!" ภามตะคอกใส่เจโล่เสียงดังด้วยสีหน้าที่เห่อแดงแข่งกับช่อดอกกุหลาบที่เจโล่เอามาให้



       "แล้วคำตอบของฉันล่ะ?" เจโล่ถามย้ำหาคำตอบ



       "ก็เออไง!!" ภามตอบปัดๆ ได้แต่ก้มหน้ามองพื้นเพราะไม่อยากเห็นสายตาหวานเยิ้มของเจโล่



      "เอออะไร?" เจโล่เซ้าซี้ต่อเพราะยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการออกจากปากภามสักที



       "ก็เป็นแฟนกันไง!! ไอ้ยุ่นบ้า!! เขินนะเว้ย!!" ภามตอบพร้อมกับใช้ช่อดอกกุหลาบในมือฟาดใส่หน้าเจโล่

ทีนึง ก่อนที่จะรีบกลับหันหลัง จ้ำเดินหนีเจโล่ที่เดินไล่ตามหลังมาอย่างอารมณ์ดี









____________________________________________________________________________TBC.

ตอนพิเศษสั้นๆตอนแรกค่ะ

และตอนนี้ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องหลักของเจ้าภามแฝดเล็กนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 14-02-2016 20:16:14
น่ารักจังเด็กๆ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-02-2016 20:20:29
ที่ยอมเรียนต่อที่บ้านเกิดเพราะมีแฟนใช่ไหม
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 14-02-2016 20:34:25
เป็นแฟนกันจริงอ่ะ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-02-2016 20:39:06
อร๊ายยยน้องภามคนน้องเริ่ดอะ   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: ได้ลูกครึ่งญี่ปุ่นด้วย คริคริ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 20-02-2016 06:53:59
 :pig4:
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Pine_apple ที่ 20-02-2016 08:28:09
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-02-2016 10:59:21
งั้นก็เหลือแค่พี่ภาคแฝดโตสินะ ว่าแต่จะคู่กับใครนะ!?
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Aunttk ที่ 20-02-2016 17:30:06
คนเขียนน ตะเองเป็นติ่งแแฝดสาม แทฮันมินกุกมันเซ ใช่มั้ยยยยย    :hao7:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 21-02-2016 17:22:11
ชอบคู่ 2 มากกก  :ling1: น่ารักดี สวีทสุดๆ ท้อง 2 ของพัสน่าจะเป็นแฝดหญิงนะ 5555
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 22-02-2016 12:13:59
 o13
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 22-02-2016 15:20:32
ภาคเรียนในรร.นานาชาติ ภีมไปเรียนอเมริกา ภามเรียนในอาชีวะ ไปคนละทางเลย 555

ภีมคู่กับเจ้านาย ภามนี่จะคู่กับเจโลป่ะเนี่ย แต่ภาคพี่คนโตยังไม่มีคู่เลย
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 22-02-2016 16:12:00
สนุกดี เป็นเรื่องที่น่ารักมากเลยอ่ะ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 22-02-2016 19:10:04
 :o8:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Be mine ที่ 22-02-2016 20:38:41
เป็นนิยายที่สนุกมากเลย อ่านจนไม่ยอมหลับยอมนอน ตาดำจนจะกลายเป็นหมีแพนด้าที่สามแฝดชอบอยู่แล้ว ขอบอกเลยว่านิยายเรื่องนี้ทำให้เราอยากจะมีลูกเลย แต่สำนึกได้ว่า แฟนตูยังไม่มีเลยนี่หว่า พอๆเลิกเพ้อ แต่ยังไงก็ขอบคุณจริงๆนะที่แต่งนิยายที่ดีและให้ข้อคิดดีๆแบบนี้ จ๊วบๆจุ๊บๆคนแต่ง แต่ว่า ใครจะคู่กับพี่ภาคสุดหล่อของหนู
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 23-02-2016 00:42:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: z9_0 ที่ 23-02-2016 10:20:21
น่ารักน่ะเนี่ย
ชอบแนวนี้เหมือนกันเลย
ลูกเยอะดี ครอบครัวอบอุ่น ฮาด้วย
ชอบเจ้าคุณอ่ะ คำพูดคำจา ฮาตลอด คิดได้ไงเนี่ย 
ขอบคุณน่ะค่ะสำหรับ เรื่องราวสนุกๆๆ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: พระสนมฝ่ายซ้าย ที่ 23-02-2016 10:43:10
อ่านจบแล้วน้า ตามมา 1 วันเต็มๆค่ะ
ชอบเจ้าคุณมากเลยค่ะ ตอนแรกเถื่อนๆหลังๆพูดจาดีเชียว 5555
อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกอยากมีลูกขึ้นมาเลยค่ะ รู้สึกจริงๆนะ
แบบว่า ถ้ามีจริงๆ ครอบครัวคือแบบนี้สินะ ตอนท้อง ตอนให้นมจะเป็นยังไงนะ
ออกตอนพิเศษมาอีกนะคะ คิดถึง ^^
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.ตอนพิเศษ 1 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 24-02-2016 19:04:33
สนุกดีค่ะ
แต่มีติดขัดที่คำผิดอยู่เยอะเหมือนกัน
แต่โดยรวมก็โอเคค่ะ
อยากรู้เรื่องทางฝั่งเจ้าคุณ-ธารบ้าง
ลูกแฝดนี่เป็น ญหรือชไม่รู้
ยังไงก็ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 26-02-2016 14:52:34

สวัสดีค่ะ นี่มี่เองนะคะมิตรรักกแฟนนิยายทั้งหลาย
ตอนนี้มี่ได้เปิดนิยายภาคต่อของรุ่นลูก ภาสพัส และเจ้าคุณธารา มาได้สักพักแล้วนะคะ
ทั้งหมดจะมีสามเรื่อกหลัก สามคู่ ของแฝดสามนั่นแหละค่ะ ไปติดตามอ่านกันได้เลยนะคะ
ตอนนี้คู่แรก ภีม&เจ้านาย(คู่ที่คุณก็รู้ว่าใคร) ได้สิบสองตอนแล้วนะคะ
ชื่อเรื่องว่า รักภาคนี้...พี่กะน้อง / ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย)
และอีกสองเรื่องก็กำลังจะตามมา(เฉพาะในเล้านะคะ อีกที่นึงมีเริ่มคู่สองและกำลังจะเปิดคู่สามแล้วค่ะ
แต่เป็นเพราะที่เล้านี้ยังไม่ค่อยมีใครอ่านสักเท่าไหร่กลัวเปิดทีเดียวแล้วจะแป๊คน่ะค่ะ)
มี่ก็อยากจะทำลิ้งค์ให้นะคะ แต่ติดที่ว่าทำไม่เป็นนี่แหละค่ะ
ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ

#ติดตามความเคลื่อนไหวของนิยายได้ที่ แฟนเพจเฟสบุ๊คที่ชื่อว่า Little Mz นะคะ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Wtftt ที่ 02-03-2016 21:31:33
 :z2: สนุกอะ กลากหลายรสชาติมากอะ ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 07-03-2016 23:38:02
 :hao3:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 12-03-2016 13:09:54
น่ารักจังเลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 20-03-2016 02:10:42
สนุกมากเลยจร้า  โดยเฉพาะเด็ก ๆ น่ารักมากกกกกกกกกก ขอบคุณนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 22-03-2016 09:15:24
 :pig4: :pig4:
รออ่านของลูกๆต่อไปปปปปปป
เด็กๆน่ารักมากกกกกกก :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 26-03-2016 11:35:14
น่ารักทั้ง 2 ครอบครัวเลยค่ะะะ

รอตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 27-03-2016 21:48:41
ขอบคุณนะคะ น่ารักมากๆๆๆๆเลย  :pig4:

รอตอนต่อไป  :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 25-05-2016 10:35:30
สนุกดีคะ ชอบภีมกับเจ้านายอ่ะ น่ารักกกกกก :-[
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 27-05-2016 00:00:38
สนุกมากค่ะ
อ่านรวดเดียวจบเลย
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 30-05-2016 17:29:06
เรื่องน่ารักค่ะ ถึงจะสะดุดกับคำผิดหลาย ๆ จุดก็ตาม อยากให้ผู้แต่งอ่านทบทวนแก้ไขอีกครั้งนะคะ เพื่อความไหลลื่นในการอ่าน อบอุ่นค่ะ น้องๆน่ารักทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 08-06-2016 06:07:04
 :mew3:  :mew3:  :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 09-06-2016 13:09:38
ถึงจะเฉลยว่าตั้งแต่แต่งงานมาเพิ่งนอกใจเมียครั้งเดียวแถมโดนยาปลุกเราก็ไม่สงสารภาสอ่ะ แบบความรู้สึกมันติดลบไปแล้วด้วยหายยากเลยทีนี้  :ling1:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 09-06-2016 13:53:44
ต๊ายย เค้าได้เสียเป็นเมียผัวกันแล้วค๊า  :pighaun: :jul1: :oo1:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 09-06-2016 14:08:01
คู่รอง น่ารักอ่ะ ดิบๆเถื่อนๆ แต่มาเร็วเคลมเร็วรู้เรื่องเร็วไม่ยืดดี ขุ่นเเม่ปลื้มค๊าา :impress2: :man1:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 09-06-2016 14:43:23
ธารท้องได้งอแงง้องแง้งมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งน่ารักมา๊กมาก :-[ ส่วนพัส น่าสงสารเลย อ่านแล้วน้ำตาไหลตาม เราก็เคยท้องได้2เดือนแล้วแท้งนะ พอมาอ่านบทที่พัสกับภาสเสียน้องไปเข้าใจความรู้สึกเลยว่ามันเป็นไง มันไม่มีตัวอักษรใดๆในโลกจะสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของการสูญเสียได้
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 09-06-2016 17:50:13
อ่านเพลิน สนุกดีค่ะ  :กอด1: :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 13-09-2016 16:45:53
ขอบคุณค่ะ สนุก น่ารัก แลัวก็หวานมาก ^^
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 14-11-2017 21:05:00
 :heaven
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: annch ที่ 15-11-2017 08:22:47
จริงๆตนเองไม่ค่อยชอบแนวผู้ชายท้องได้ เพราะรู้สึกไม่สมเหตุสมผลทำให้รู้สึกขัดๆเวลาอ่าน
 แต่เรื่องนี้น่ารักมาก  :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: สาว801 ที่ 04-12-2017 11:57:41
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Aomampapeln ที่ 09-12-2017 17:08:22
เนื้อเรื่องสนุกดีนะ ชอบแฝดอ่าาาา น่ารักกก :mew1:  แต่แอบไม่อินตอนที่พัสพูดคะขาอะมันแปลกๆหรือเราคิดไปเองก็ไม่รู้555 ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 09-12-2017 21:37:04
สนุกน่ารักดีค่ะ
ชอบ3แฝด น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 11-12-2017 20:47:42
ขอบคุณนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 14-12-2017 11:16:30
นิยายไม่ม่ามากน่ารักกำลังดีมีม่าแต่ก็มีมุมอบอุ่นคอยคั่นกลาง แฝด3กับเจ้าคุณตอนเด็กน่ารักมากเลยยยยยยยยย :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 19-12-2017 15:15:52
น่ารักๆ ชอบแนวนี้ มันกุ๊กกิ๊ก อบอุ่นดี
พ่อแม่ก็น่ารัก เด็กๆ ก็น่ารัก
ชอบทั้ง 2 ครอบครัว
ตามไปอ่านเรื่องของน้องภีมกับพี่เจ้านายคนแมนต่อดีกว่า ^^
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 07-02-2018 07:55:27
น่ารักทุก่เลย เสียดายคนดีๆอย่่างสนอย่างเดียวคะ
ไม่น่าที่ะตายไวเลย
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: พันธุ์ไทย ที่ 07-02-2018 17:00:23
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 09-02-2018 20:45:47
สนุกครับ น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: storbayre ที่ 14-11-2018 19:07:46
 :mew1: :mew1:อ่านแล้วสนุก น่าติดตามมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 27-12-2018 17:02:53
 :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณค่ะ
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 15-01-2019 21:41:33
 :o8: :-[ o18 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 04-03-2019 13:48:10
เป็นเรื่องที่อ่านสบายๆชิวๆกันไป สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 16-03-2019 07:32:06
 o13 o13  :katai2-1: :katai2-1: ดีค่ะน่ารักดีชอบ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 05-04-2019 17:05:59
ขอบคุณค่ะ สนุกดี น่ารักมากเลย ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 29-09-2019 00:08:25
 :-[
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.กิจกรรมชิงนิยาย (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 02-10-2019 19:49:53
นักอ่านท่านใดสนใจร่วมกิจกรรมชิงนิยาย เรื่อง 'คุณเมียภาคบังคับ' ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจ เขียน'สือ ของคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 09-06-2020 21:02:44
น่ารักทุกคนเลยครับ  แอบสงสารภูสน  จัง