▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย ░ ▒ ▓CHAPTER 19: เสียของรัก
สนกลับมาถึงบ้านก็สามทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว หลังจากดูหนังเสร็จแล้วเขาก็พานินากับนินอยไปเลี้ยงข้าว ก็ไม่ใช่อะไรหรอก ที่พาไปดูหนังและกินข้าววันนี้ก็เพราะอยากจะขอบคุณที่สองพี่น้องมาช่วยสนทำงานทั้งวันนั่นเอง
รถของนิกยังไม่เข้ามาจอดในบ้านเลย นิกกับปั้นจั่นมักจะไปช่วยป้าทำงานที่ร้านขายของที่ระลึกบ่อยๆ เพื่อเรียนรู้ระบบการทำงาน หลายครั้งก็มักจะกลับดึกๆ ดื่นๆ หรือไม่ก็ค้างที่บ้านป้าเลย
สิ่งแรกที่สนทำเมื่อเข้ามาในบ้านก็คือมองขึ้นไปบนห้องต้น มีไฟเปิดอยู่แสดงว่าต้นคงกลับมาแล้ว สนรีบถอดรองเท้าแล้วก็รีบเดินขึ้นบันไดไปเคาะประตูห้องของต้น ไม่นานนักต้นก็มาเปิดประตูพร้อมกับอยู่ในชุดที่เตรียมพร้อมที่จะนอนแล้ว
"เราเข้าไปได้ไหม" สนพยายามส่งยิ้มให้ แม้ว่าจะขุ่นเคืองใจที่ต้นไปดูหนังกับพี่ทินไม่น้อย แต่เขาไม่อยากจะเก็บเอาความรู้สึกนั้นมาทำให้เสียบรรยากาศ
ต้นพยักหน้า พยายามยิ้มแต่ก็ดูเหมือนไม่ค่อยอยากยิ้มเท่าไหร่
"นายกลับมาถึงนานแล้วเหรอ" สนถามในขณะที่เดินตามต้นเข้าไปในห้อง
"ก็...เกือบๆ ชั่วโมง" ต้นนั่งลงบนเตียงพร้อมกับใช้มือสองข้างเท้าข้างลำตัวไว้
"พี่ทินมาส่งเหรอ" สนถามทั้งๆ ที่ก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว
"อืม..."
"แล้วเป็นไง หนังสนุกไหม" สนถามพลางนั่งลงบนเตียงข้างๆ ต้น ดูเหมือนอารมณ์ดีราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ก็ดี..."
"ทีหลัง...ถ้านายอยากดูหนังแบบนั้น บอกเราก็ได้ เดี๋ยวเราพาไป" สนมองต้นไปด้วยในขณะที่พูด แต่ต้นก็ยังก้มหน้าก้มตาอยู่
ถ้ามาด้วยอาการอ้อนแบบนี้ต้นก็พอดูออกว่าสนพยายามจะดึงเขากลับมาอีกแน่เลย แล้วถ้าต้นใจอ่อนก็จะแพ้ใจตัวเองเหมือนที่ผ่านมา
"ไม่อยากไปดูหนังกับเราแล้วเหรอ น้อยใจอะ..." สนหน้าม่อย แล้วก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ท่าทางอ้อนแบบนี้ทำให้ต้นใจอ่อนมานักต่อนักแล้ว แต่คราวนี้ต้นจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นอีกอย่างเด็ดขาด
"สน...เรามีอะไรจะบอกนายเรื่องหนึ่ง"
สนดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันทีด้วยความอยากรู้
"อะไร...นายจะบอกรักเราเหรอ เรารู้ตั้งนานแล้วล่ะ" สนทำหน้าทะเล้นเล่นสนุก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่ได้ยิ้มหรือหัวเราะตามด้วยเลย
"เป็นอะไรต้น ทำไมหน้าเครียดๆ อย่างงั้นล่ะ โกรธเราเหรอ" สนหน้าม่อยอีกพอเห็นต้นไม่ยอมเล่นด้วย
เอาล่ะ ถ้าต้นไม่รีบบอก ปล่อยให้สนเล่นอยู่แบบนี้ต้นคงจะใจอ่อนเป็นแน่ ต้นสูดหายใจลึกแล้วก็หันไปมองคนที่นั่งข้างๆ ด้วยสีหน้าและแววตาที่จริงจังมากขึ้น
"สน...เรา...ตกลงเป็นแฟนกับพี่ทินแล้วนะ"
ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากสน ไม่มีแม้กระทั่งคำถามว่าทำไม มีแต่แววตาที่แสดงความตกใจ เมื่อสังเกตดีๆ ก็จะเห็นร่องรอยความผิดหวังและเสียใจในแววตาคู่นั้นด้วย ต้นไม่เคยเห็นแววตาแบบนี้ของสนเลยตั้งแต่คบกันมาสิบเอ็ดปี ที่สำคัญ สนไม่เคยนิ่งเงียบขนาดนี้ นี่ต้นทำอะไรผิดไปหรือเปล่า
ทั้งห้องดูเงียบงันราวกับห้องที่ถูกทิ้งร้าง รอยยิ้มของสนหายไปแล้วหลังจากที่เพิ่งเล่นอ้อนเหมือนเด็กๆ อยู่เมื่อกี้นี้ เขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องของต้นโดยเร็วโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
"สน...เดี๋ยวก่อน"
ต้นเดินตามออกไปเรียก แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ได้ยินเสียงปิดประตูค่อนข้างดังที่ห้องสนก็ทำให้ต้นรู้ว่าสนไม่พอใจมาก แค่ต้นจะมีแฟนก็ผิดแล้วหรือ ที่ต้นยอมทำแบบนี้ก็เพราะคิดถึงอนาคตของสนหรอกนะ เพราะต้นไม่อยากจะเป็นตัวปัญหาที่ทำให้สนต้องเดือดร้อนใจภายหลัง สนควรจะฟังต้นบ้าง
แต่จะว่าไปแล้ว การตัดสินใจครั้งนี้ของต้น ต้นก็ยอมรับว่ารู้สึกไม่ค่อยดีอยู่เหมือนกัน ต้นกลัวจะมีอะไรบางอย่างที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นจริงๆ เลย!!!
ต้นพาร่างกายที่อ่อนเพลียมาถึงมหาวิทยาลัยในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่นอนไม่หลับเกือบจะทั้งคืน แววตาเคร่งขรึมของสนเมื่อคืนนั้นทำให้ต้นนอนไม่หลับและครุ่นคิดเกือบทั้งคืน ต้นเดาไม่ถูกเลยว่าสนรู้สึกยังไงกันแน่ที่รู้ว่าเขากับพี่ทินคบกันเป็นแฟน แต่ความเงียบขรึมและแววตาเช่นนั้นคงไม่ได้บ่งบอกว่าสนรู้สึกดี
ในขณะที่ยืนรอรถม่วงเพื่อเข้าไปยังคณะที่เรียนอยู่หน้ามหาวิทยาลัย ต้นก็ได้เจอกับนินาโดยบังเอิญ ปกติต้นจะไม่ค่อยได้เจอนินาโดยที่ไม่มีสนบ่อยนัก เธอมายืนรอรถเช่นเดียวกัน พอเห็นต้นเธอก็รีบเดินมาทักทันที
"อ้าวพี่ต้น มาคนเดียวเหรอคะ พี่สนล่ะ"
ต้นหันไปมองเสียงใสๆ ที่มาทักแล้วก็ยิ้มกลับไป "ครับ สนน่าจะเข้ามาสายๆ วันนี้นินามีเรียนแต่เช้าเลยเหรอ"
"ค่ะ อ้อ...แล้วเมื่อวานเป็นไงคะพี่ต้น หนังสนุกไหม เสียดาย...ไม่ได้ไปดูด้วย อยากดูมากเลยค่ะ"
ถ้าไม่ได้อคติจนเกินไป นินาเป็นผู้หญิงที่สวยพอสมควรทีเดียว แบบนี้สินะถึงจะคู่ควรกับผู้ชายหน้าตาดีอย่างสน
"ก็สนุกดี วันหลังชวนสนไปดูสิ"
"สงสัยจะไม่ได้ไปหรอกค่ะ พี่สนบอกว่าไม่ชอบ ไม่เป็นไร เดี๋ยวนินาไปดูกับเพื่อนๆ ก็ได้"
รถม่วงวิ่งมาถึงพอดี ต้นกับนินาขึ้นไปนั่งก่อนแล้วจึงคุยกันต่อ พอดีมีแค่ต้นกับนินาเท่านั้นที่นั่งอยู่บนรถ ต้นจึงถือโอกาสถามคำถามที่เขาอยากรู้มานานแล้ว
"นินา...ชอบสนหรือเปล่า เห็นรู้จักกันมาตั้งนานแล้ว ไม่...ไม่คิดจะเป็นแฟนกันเหรอ ขอโทษนะที่ถามแบบนี้"
ดูเหมือนนินาจะหน้าเศร้าลงไปเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะต้นไปถามแทงใจดำอะไรหรือเปล่า
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถามได้" นินาทำท่าครุ่นคิดแล้วจึงพูดต่อ "คือ...จะบอกพี่ต้นยังไงดี พี่สน...ยังไม่เคยขอนินาเป็นแฟนเลย"
คำตอบนั้นทำให้ต้นแปลกใจพอสมควร ใครๆ ที่เห็นสนกับนินาก็มักจะเข้าใจผิดกันว่าสองคนนี้เป็นแฟนกัน คบหาดูใจกันอยู่ ถ้าไม่มาถามนินาตรงๆ ก็คงไม่ได้คำตอบแบบนี้
"แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นินายังไม่อยากโฟกัสเรื่องความรักเท่าไหร่ เรียนให้จบก่อนดีกว่า"
แม้ว่าจะพยายามกลบเกลื่อนต้นก็พอดูออกว่านินารู้สึกผิดหวังอยู่เหมือนกันที่สนไม่ยอมขอเธอเป็นแฟนเสียทีแม้ว่าจะรู้จักกันมามากกว่าหนึ่งปีแล้ว
"พี่ต้นคะ พี่สน...เขาชอบใครอยู่หรือเปล่าคะ พี่ต้นรู้ไหม" อยู่ดีๆ นินาก็ถามขึ้นหลังจากที่เงียบไปพักใหญ่ เธอคงสงสัยเรื่องนี้มานานพอสมควรแต่ไม่รู้จะถามใครดี ในฐานะที่ต้นเป็นเพื่อนสนิทกับสนก็น่าจะพอมีข้อมูลบ้าง
"อ๋อ...ก็...ไม่น่าจะมีนะ เท่าที่พี่รู้" ไม่รู้ว่าต้นพูดโกหกไหม แต่มันก็ยากที่ต้นจะบอกนินาไปว่าสนอาจจะมีคนที่ชอบ ที่สำคัญ คนๆ นั้นก็อาจจะเป็นต้นเองนั่นแหละ แต่ต้นก็ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองขนาดนั้น สนเองก็ไม่เคยบอกต้นอย่างชัดเจนตลอดสองปีที่ผ่านมาตั้งแต่ที่สนรู้ว่าต้นเป็นเกย์
"เดี๋ยวเขาก็คง...ขอนินาเป็นแฟนเองล่ะมั้ง สนเขาเป็นแบบนี้แหละ เขาคิดนาน แต่ถ้าเขาเลือกแล้วเขาก็ไม่เปลี่ยนใจหรอก สนเขาชอบผู้หญิงขยันๆ แบบนินานี่แหละ"
จะว่าไปต้นก็เห็นใจนินาอยู่เหมือนกัน เขารู้ดีว่าความรู้สึกของคนแอบรักนั้นเป็นยังไง นินาคงชอบสนมากเลยล่ะถึงได้ยอมอดทนรอคอยโดยไม่หันไปชอบใครเสียก่อน แต่ถ้าจะพูดถึงการรอคอยแล้วก็คงไม่มีใครรอคอยสนได้นานเท่าต้นหรอกนะ
นินาหันมายิ้มดีใจ "ขอให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ เถอะค่ะ"
"สนเขาไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอก พี่ก็เห็นสนคบกับนินาคนเดียวนี่แหละ นินาสบายใจได้" ต้นสำทับ
"จริงเหรอคะพี่ต้น"
ต้นพยักหน้า นินายิ้มอย่างพอใจ แม้ว่าลึกๆ เธอเองก็แอบหวั่นใจอยู่ว่ามันอาจจะไม่เป็นแบบนั้น นินาเห็นเพื่อนๆ มีแฟนกันหลายคน ไม่เห็นมีใครรู้จักกันเป็นปีๆ แล้วค่อยบอกรักเลย คบกันไม่กี่วันก็บอกรักแล้ว เผลอๆ บางคนก็ล้ำหน้าไปไกลกว่านั้นเยอะเลย
เสียงดนตรีและเสียงคุยกันโหวกเหวกอย่างสนุกสนานของเพื่อนๆ ไม่ได้ทำให้สนรู้สึกสนุกไปด้วยเท่าไหร่นัก ถ้าหากสนไม่บังเอิญเปิดโทรศัพท์มาดูแล้วพบอัปเดตเฟสบุ๊คของต้นอันล่าสุด พร้อมกับข้อความที่ว่า
"เราไม่มีทางรู้หรอกว่ารักแท้ของเราจะอยู่ที่ไหนหรืออยู่ที่ใคร จนกว่าเราจะออกไปตามหามัน"
ข้อความอย่างเดียวอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่รูปที่โพสต์มาพร้อมกับข้อความนี่สิที่ทำให้สนต้องนั่งหน้าเครียด ต้นถือช่อดอกกุหลาบสีแดง ทินยืนอยู่ด้านหลัง มีฉากหลักเป็นดอกไม้นานาชนิด ก็น่าจะพอเดาได้ว่าเมื่อช่วงเย็นๆ ต้นกับพี่ทินอยู่ที่สวนที่ใช้จัดงานพืชสวนโลกนั่นเอง แล้วตอนนี้ล่ะ ไปอยู่ที่ไหนกัน
"เป็นไรวะสน มางานวันเกิดเพื่อนทั้งทีทำไมหน้าเป็นตูดอย่างนี้วะ"
สนรีบเก็บโทรศัพท์แล้วก็ยิ้มบางๆ ให้กับเพื่อนๆ
"เปล่าๆ ไม่มีอะไร"
"เฮ้ย ถ้าเครียดๆ ก็ซักแก้วหน่อยดิวะ มางานแบบนี้กับเพื่อนกับฝูงทีไร มึงแม่งแดกแต่น้ำอัดลม ยังกะผู้หญิงเลยว่ะ นี่มึงดูนี่ น้ำหวานเขายังคอแข็งกว่ามึงเลย"
"เฮ้ยไม่เอาเว้ย กูบอกพวกมึงแล้วนะเว้ยถ้าชวนกูกินเหล้าอีก กูจะไม่มาด้วย"
ในกลุ่มเพื่อนๆ ของสนเป็นอันรู้กันว่าสนไม่กินเหล้า ถ้าเพื่อนชวนไปสังสรรค์สนก็จะไป แต่จะกินน้ำอัดลมหรืออย่างอื่นแทน ไม่ว่าเพื่อนจะแซวว่าไม่แมนบ้าง หรือเอาไปเทียบกับเพื่อนผู้หญิงบางคนที่ดื่มเก่งกว่าบ้าง สนก็ยังยืนกรานเช่นเดิม หลังๆ เพื่อนๆ จึงไม่คะยั้นคะยออีก อาจจะมีแซวหรือแหย่บ้างเล็กน้อย
โทรศัพท์ของสนดังขึ้น สนจึงขอตัวเพื่อนๆ ออกมาข้างนอกร้านเพื่อรับโทรศัพท์ คนที่โทรมาก็เป็นคนที่สำคัญเสียด้วย
"สนเหรอ พี่ทินนะ"
"ครับ"
"ไม่มีอะไรหรอก พอดีต้นเขาแบ็ตหมด เขาให้พี่โทรมาบอกสนว่าคืนนี้เขาจะไม่กลับบ้านนะ เขาจะค้างที่ห้องพี่"
แค่รู้ว่าต้นจะค้างที่คอนโดพี่ทิน สนก็แทบจะคลั่งแล้ว นี่ต้นกำลังคิดจะทำอะไรกัน
"พี่พาต้นมาส่งที่บ้านได้ไหมครับ" สนบอกเสียงเข้ม
"ทำไมพี่ต้องทำตามที่สนบอกด้วยล่ะ สนมีสิทธิ์อะไรมาสั่งพี่"
"ตอนนี้ต้นอยู่ที่ไหน ผมจะไปรับต้นกลับบ้าน"
"นี่ขี้หึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย"
เสียงหัวเราะจากอีกฝ่ายหนึ่งทำให้สนยิ่งร้อนรุ่มใจ
"พี่ทิน ถือว่าผมขอร้องล่ะ ต้นอยู่ไหน ผมจะไปรับต้นกลับบ้าน" สนย้ำด้วยเสียงหนักแน่นอีกครั้ง
"กินข้าวอยู่ที่ร้านอาหารข้างนอก กว่าจะกลับก็คงดึกแหละ แต่พี่ขอไม่บอกละกันนะว่าอยู่ที่ไหน"
"พี่ทิน พี่ทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ"
"ทำไมจะไม่ได้ พูดแบบนี้ แสดงว่ารู้แล้วใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างพี่กับต้นคืนนี้บ้าง"
"พี่ทิน ผมขอร้อง อย่าทำอะไรต้นนะครับพี่" สนยอมอ่อนข้อด้วยการพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้วสนแทบจะฟิวส์ขาดอยู่แล้ว
"แล้วถ้าต้นเขาเต็มใจล่ะ"
สนนิ่งอึ้ง ต้นน่ะหรือจะเต็มใจ ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ต้นไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย
"ต้นเขาไม่ได้รักพี่ เขารักผม แล้วผมก็รักต้น ต้นไม่ทำอย่างนั้นอย่างเด็ดขาด"
ทินอึ้งไปเช่นกัน สิ่งที่สนพูดแทงใจดำเขามากทีเดียว นั่นคือสิ่งที่ทินก็รู้ทั้งรู้อยู่แล้ว
"เรื่องอย่างนี้ มันไม่จำเป็นต้องใช้ความรักหรอกนะสน แล้วอีกอย่าง ต้นก็เป็นแฟนกับพี่แล้ว พี่กับต้นจะทำอะไรกันก็ได้ ไม่เกี่ยวอะไรกับสน"
"พี่ทิน..."
สนรู้สึกเหมือนใครมากระชากดวงใจไปก็ไม่ปาน เขารักเขาทะนุถนอมต้นมานานหลายปี แม้มีโอกาสสนยังต้องหักห้ามใจตัวเอง แล้ววันนี้อยู่ดีๆ ใครก็ไม่รู้กลับจะมาพรากสิ่งนั้นไปจากสน สนยอมไม่ได้อย่างแน่นอน
"เอางี้ละกัน พี่อยากจะบอกสนว่า ต้น...เขาเป็นคนมาขอเป็นแฟนกับพี่เอง เพราะเขาไม่อยากมีความรักที่เป็นไปไม่ได้กับสนอีกแล้ว แล้วเรื่องคืนนี้ พี่คุยกับต้นแล้ว ต้นเขาไม่มีปัญหาอะไร ถ้าสนอยากจะมาขัดความสุขของเราสองคนก็มาเลย ถ้ากล้ามา"
"ต้นเขารักผมนะพี่ พี่อย่าทำอย่างนั้นกับต้นเลย"
สนพูดเสียงสั่นราวกับกำลังจะร้องไห้ แล้วก็ทรุดลงนั่งคุกเข่ากับพื้น รู้สึกสะเทือนใจจนไม่สามารถจะพูดอะไรต่อได้
"ใครจะรักใครพี่ก็ไม่รู้ล่ะ แต่คืนนี้..."
ทินวางสายไปพร้อมกับเสียงหัวเราะของผู้ชนะ สนไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นยืน เขานั่งอยู่อย่างนั้นนานทีเดียว เพื่อนสนสองคนต้องเดินออกมาตามเพราะเห็นสนหายไปนานเกินไป
"เฮ้ยไอ้สน เป็นไรวะ ทำไมไปนั่งอยู่บนพื้นอย่างนั้นวะเพื่อน กูนึกว่ามึงไปไหนซะอีก"
สนหันไปมองเพื่อนที่ออกมาตามแล้วก็ค่อยๆ ลุกขึ้น
"ไม่มีอะไร เดี๋ยวกูกลับบ้านก่อนนะเว้ย กูมีธุระ"
"กลับไงวะ ดึกแล้วไม่มีรถแดงวิ่งแล้วนะเว้ย"
"ไม่รู้ว่ะ แต่ยังไงกูก็ต้องกลับบ้านตอนนี้"
"เออๆ เอางี้ละกัน เดี๋ยวให้ไอ้วินไปส่ง มึงรอตรงนี้แหละ เดี๋ยวกูไปบอกมันให้"
เพื่อนของสนอีกคนบอกแล้วก็เดินกลับเข้าไปในร้าน ส่วนเพื่อนอีกคนเดินมาหาสนใกล้ๆ
"เป็นไรเปล่าวะสน กูว่ามึงแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อกี้ละ"
"อย่าเพิ่งถามกูตอนนี้เลยว่ะภีม กูบอกไม่ได้ กูรู้แต่ว่ากูต้องกลับบ้าน"
เพื่อนของสนพยักหน้าเข้าใจ เพื่อนที่ชื่อวินขับรถออกมารอสนตรงหน้าร้านแล้วสนก็ขึ้นรถไปกับเพื่อนทันที ในระหว่างทางสนก็พยายามโทรหาต้น แต่ก็ได้ยินเพียงสัญญาณให้ฝากข้อความ
ต้นเต็มใจจริงๆ หรือ สนไม่อยากจะเชื่อเลย เพียงเพราะว่านินามาที่บ้านวันนั้น ต้นถึงกับต้องตัดสินใจคบกับพี่ทิน แถมยังคิดจะไปมีอะไรกับพี่ทินอีก ต้นนะต้น ทำอย่างนี้ได้ยังไง สนอุตส่าห์เฝ้ารักเฝ้าหวง แม้ไม่ได้บอกว่ารักจากปาก ต้นก็น่าจะรู้อยู่แล้ว การกระทำของสนทุกอย่างบอกต้นชัดเจนอยู่แล้ว
สนกลับมาจากขายของที่ถนนคนเดินก็เกือบห้าทุ่มแล้ว ในขณะที่ถอดรองเท้าเก็บก็สังเกตเห็นว่ารองเท้าของต้นหายไป ก็แปลว่าต้นยังไม่กลับมานั่นเอง เหลวไหลใหญ่แล้วนะต้น ตั้งแต่คบกับพี่ทิน ทำไมต้นเป็นแบบนี้ไปได้ ยิ่งเห็นแบบนี้ สนก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากมากทีเดียวที่สนจะทำใจได้ว่าต้นมีอะไรกับพี่ทินไปแล้ว
สนยืนรออยู่ไม่นานนักต้นก็กลับมาถึงบ้านพอดี พอเห็นว่าใครมายืนรออยู่ตรงหน้าประตูต้นก็หน้าเสียเล็กน้อย
"ไปไหนมาต้น"
เสียงเข้มขรึมนั้นทำให้ต้นรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจกับอารมณ์คนตรงหน้ามากนัก
"ไปทำงานบ้านเพื่อนมา เดี๋ยวเราขอตัวอาบน้ำก่อนนะ"
สนหลบให้ต้นเปิดประตูเข้าไปในห้อง จากนั้นก็เดินตามเข้ามาอย่างช้าๆ
"เราขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม"
ต้นหันมามองสนด้วยสีหน้าที่แสดงให้เห็นว่าเขาค่อนข้างเหนื่อย ต้นก็ดูเหนื่อยจริงๆ นั่นแหละเพราะว่าต้องเร่งทำงานส่งให้ทันวันจันทร์นี้ ดีที่ว่าได้พี่ทินช่วยให้คำแนะนำก็เลยทำไปได้ค่อนข้างเยอะแล้ว
"เมื่อวาน นายไปค้างที่ห้องพี่ทินมาเหรอ"
ต้นพยักหน้ายอมรับแต่โดยดี
"ใช่..วันนี้ก็ไป เพิ่งกลับมานี่แหละ"
"ทำไมนายทำแบบนี้ล่ะต้น"
ต้นดูเหมือนจะไม่เข้าใจอารมณ์คนตรงหน้าเอาเสียเลย สนถามราวกับว่าต้นไปทำอะไรไม่ดีมาเสียอย่างนั้น
"ทำอะไร...เราไม่เข้าใจ"
สนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ต้นไม่รู้เรื่องจริงๆ หรือแกล้งไม่รู้เรื่องกันแน่ แล้วที่ทินโทรมาบอกเขาเมื่อวานหมายความว่ายังไง
"ก็เรื่องนาย...กับพี่ทินไง"
"นายหมายถึง...เรื่องที่เรากับพี่ทิน...เป็นแฟนกันน่ะเหรอ" ต้นถามหยั่งเชิงเพราะไม่แน่ใจว่าสนหมายถึงเรื่องนี้หรือเปล่า
"ใช่..."
"แล้ว..."
"ก็ไม่แล้วไงหรอก แต่เราแค่ไม่เข้าใจนายว่าทำไมนายต้องไปค้างที่คอนโดพี่เขาด้วย"
ยิ่งฟังต้นก็ยิ่งงง ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าสนกำลังโกรธเขาเรื่องอะไรอยู่กันแน่
"นายพูดอะไรของนาย"
สนเดินตรงเข้าไปหาต้นพร้อมกับจับไหล่ต้นไว้
"นายมีอะไรกับพี่เขาเหรอต้น ทำอย่างงั้นทำไม รักเขาก็ไม่ได้รัก อย่าคิดว่าเราไม่รู้ ทรมานตัวเองแบบนั้นทำไม ที่ผ่านมา...ไม่ว่านายจะรักเราแบบไหนเราก็ไม่เคยมีปัญหา ทำไมถึงอยากลืมเราขนาดนั้นล่ะต้น นายไม่อยากรักเราขนาดนั้นเลยเหรอ!?"
หัวใจสนแทบสลาย ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ เขาคงปล่อยให้อะไรๆ สายไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
ต้นถึงกับอึ้งไปเมื่อได้ยินสนพูดเช่นนั้น
"เราไม่รู้ว่านายพูดเรื่องอะไรหรอกนะ แต่ทุกอย่างที่เราทำ นายก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ...ว่าเราทำทำไม ทำเพื่อใคร ถ้าเราไม่รีบตัดใจตั้งแต่ตอนนี้ จะให้เราไปตัดใจตอนไหน พ่อกับแม่ของนายเขาก็อยากให้นายแต่งงานมีลูกมีหลานให้เขา มันแปลว่าอะไรล่ะสน มันก็แปลว่าวันหนึ่งนายก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงสักคนหนึ่ง นายคิดว่า...เราจะทำแบบนั้นให้นายได้ไหม มันไม่มีอะไรเป็นไปได้เลย ถ้าเราไม่ตัดใจตอนนี้ แล้วต่อไปล่ะ นายจะให้เราทำยังไง ใช่...เรารักนาย เราไม่ได้รักพี่ทิน แต่ถ้าเราอยู่กับนายแบบนี้...มันก็ได้แค่นี้แหละ เพราะยังไง...นายก็รักเราไม่ได้"
สนปล่อยมือจากไหล่ต้นแล้วก็นิ่งเงียบไป เขาเองก็ลืมคิดถึงประเด็นนี้ไปเลย พ่อกับแม่อยากให้สนแต่งงานไวๆ หลังจากเรียนจบเพราะอยากมีหลานไว้แก้เหงา คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่สนจะขัดใจท่านทั้งสองคนได้
"แต่ถึงยังไง...นายก็ไม่ควรไปมีอะไรกับพี่เขานะต้น" สนพูดเสียงอ่อนลง
"ทำไมล่ะสน ทำไมเราจะทำไม่ได้ มันเป็นสิทธิ์ของเราไม่ใช่เหรอ" ต้นพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น บ่งบอกว่าไม่เห็นด้วยที่สนจะมากะเกณฑ์ชีวิตเขามากเกินไป
"นายอยากทำตัวแบบนั้นเหรอต้น ถ้าอยากทำแบบนั้นทำไมไม่บอกเราล่ะ ไม่ต้องไปหาพี่ทินเราก็ทำให้นายได้"
สนพูดจบแล้วก็เดินมาอุ้มต้นไว้ในอ้อมแขนแล้วก็พาต้นเดินไปที่เตียงนอน ต้นมีร่างกายที่บางกว่าสนเล็กน้อยเพราะสนเล่นกีฬามากกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอุ้มได้ง่ายเสียทีเดียว
"นายจะทำอะไรน่ะสน"
"ก็ทำอย่างที่นายชอบไง"
"นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ นายอย่าทำแบบนี้นะสน"
สนวางต้นลงบนเตียงนอนแล้วเอาตัวขึ้นไปทาบทับไว้
"ใช่ เรามันบ้า แต่ถ้าเราบ้าแล้วทำให้นายไม่ต้องไปเป็นของคนอื่นเราก็จะบ้า" สนพูดเสียงดังด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นมา
ต้นนิ่งเงียบ ปล่อยให้น้ำตาค่อยๆ ไหลลงมา แม้ว่าคนที่กำลังอยู่บนตัวของต้นคือคนที่ต้นรัก มีอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นให้ต้นได้พักพิงใจ มีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้นอยากได้ แต่ต้นกลับไม่รู้สึกดีเลยที่สนทำแบบนี้
"ได้...ถ้านายอยากทำ...ก็ทำอย่างที่นายต้องการแล้วกัน"
"ต้น..."
แล้วคนอย่างสนจะทำร้ายต้นแบบนี้ได้หรือ!!!???
TBC