▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย - SP6: จากเพื่อนสู่รัก [5.2.2017] ░ ▒ ▓
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย - SP6: จากเพื่อนสู่รัก [5.2.2017] ░ ▒ ▓  (อ่าน 193761 ครั้ง)

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย ░ ▒ ▓
CHAPTER 15: หรือจะเป็นบุพเพสันนิวาส


บรรยากาศงานรับน้องขึ้นดอยปีนี้ยังคงคึกคักเหมือนกับหลายๆ ปีที่ผ่านมา คนที่ตื่นเต้นมากกว่าใครก็เห็นจะไม่พ้นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางขึ้นดอยสุเทพด้วยการเดินเท้า หลายคนแม้จะเป็นคนเชียงใหม่แท้ๆ แต่ถ้าไม่มีความจำเป็นคงไม่มีใครทำอย่างนั้นแน่นอน ระยะทางที่ไกลและเส้นทางที่คดเคี้ยวทำให้น้องใหม่หลายคนกลัวกันพอสมควร

ในระหว่างที่น้องๆ นักศึกษาใหม่กำลังจะเดินมาถึงดอยสุเทพอยู่อีกไม่กี่ร้อยเมตรข้างหน้า ก็เกิดเรื่องชุลมุนขึ้นเล็กน้อยเมื่อมีเสียงตะโกนดังขึ้นมาในกลุ่มน้องใหม่ที่กำลังเดินบ้างวิ่งบ้างอยู่

"ช่วยด้วยค่ะ มีคนเป็นลมค่ะ"

สนกับเพื่อนๆ ในคณะอีกสามสี่คนที่รับผิดชอบเรื่องสุขภาพอยู่แถวๆ นั้นพอดีจึงรีบวิ่งไปยังจุดที่มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่ละคนในทีมสุขภาพจะมีชุดปฐมพยาบาลอย่างง่ายในเป้เตรียมไว้ด้วย

"อย่ามุงนะครับ อย่ามุงนะครับ" สนรีบร้องบอกน้องใหม่ที่ทยอยเข้ามายืนมุงดูอย่างสนใจ แต่ก็ไม่ค่อยได้ผลนักเพราะมีไม่กี่คนที่ยอมถอยออกไป บางคนอย่างน้อยขอได้โผล่มาดูให้หายอยากรู้อยากเห็นสักหน่อยก็ยังดี

"สนๆ ส่งยาดมให้เราหน่อย" พัชชา เพื่อนสาวร่วมคณะของสนร้องบอก

สนรีบยื่นยาดมที่เตรียมไว้ส่งให้พัชชาทันที พอเห็นหน้าหญิงสาวที่นอนเป็นลมบนพื้นถนนอย่างชัดๆ สนก็อุทานด้วยความแปลกใจ

"อ้าว...นินานี่นา"

สนย่อตัวนั่งลงพร้อมกับเอาพัดที่เพื่อนคนหนึ่งส่งมาให้ช่วยพัดให้นินา ส่วนเพื่อนสาวของสนก็ช่วยเอายาดมให้นินาสูดดม

"สนรู้จักน้องเขาด้วยเหรอ" พัชชาถาม

"ใช่ๆ เคยเจอกันที่ถนนคนเดินปีที่แล้ว"

สนตอบสั้นๆ

"น้องๆ ครับ อย่ามุงเพื่อนครับ คนเป็นลมต้องการอากาศถ่ายเท รบกวนน้องๆ ถอยออกไปก่อนได้ไหมครับ"

เพื่อนชายร่วมคณะของสนร้องบอกอีกครั้ง ก็มีคนสนใจฟังบ้างไม่ฟังบ้างเช่นเคย นี่สินะที่เขาเรียกว่าไทยมุง

สักพักนินาก็เริ่มฟื้นพร้อมกับเสียงร้องดีใจของคนที่อยู่รอบๆ เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นแล้วก็่ลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ

"พี่สน"

สนยิ้มให้สาวน้อยตรงหน้า รู้สึกแปลกใจที่พอฟื้นขึ้นมาเธอก็เรียกเขาเป็นคนแรก

"เจอกันเป็นครั้งที่สามแล้วนะคะพี่" นินาพลอยนึกถึงที่น้องชายเธอแซวเล่นวันนั้นว่าถ้าเธอกับสนเจอกันเป็นครั้งที่สาม ก็น่าจะเป็นเนื้อคู่กันแล้ว นั่นสินะ คนเราถ้าไม่มีเหตุให้ต้องเจอกันก็คงไม่น่าจะเจอกันถึงสามรอบอย่างนี้หรอก

สนยิ้มจางๆ ไม่ได้แสดงออกว่าดีใจหรือไม่ดีใจที่ได้เจอกัน

"นินาเดินไหวไหม อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้วล่ะ"

"ไหวค่ะไหว" นินารีบตอบทันที ปกติเธอเป็นคนแข็งแรง หนักเอาเบาสู้ ไม่เคยเป็นลมแบบนี้มาก่อนเลย อาจจะเป็นเพราะวันนี้แดดแรงแถมยังต้องเดินทางไกลอีกต่างหาก

"เอางี้ สนเดินเป็นเพื่อนน้องหน่อยละกัน อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว จะได้ช่วยดูน้องเขาด้วย เดี๋ยวพวกเราจะช่วยคอยดูน้องๆ คนอื่นๆ ถ้ามีอะไรก็โทรมาเลยนะ" พัชชาบอก

"เอางั้นเหรอ ได้ๆ เดี๋ยวเราช่วยดูน้องเขาให้"

เมื่อเพื่อนๆ ไปกันแล้ว สนกับนินาจึงค่อยๆ เดินตามเพื่อนๆ คนอื่นๆ ไป

"ไหวแน่นะนินา ถ้าไม่ไหวจะนั่งพักก่อนก็ได้นะ"

"ไม่เป็นไรค่ะพี่ ปกตินินาแข็งแรงจะตาย แต่อากาศมันร้อนไปหน่อยก็เลยเป็นลม อีกนิดเดียวเอง นินาไหวค่ะ"

"ครับๆ อ้อ...นินาเรียนคณะเดียวกับพี่ด้วยเหรอ ภาควิชาอะไรล่ะ"

"บัญชีค่ะพี่ จำได้ไหมคะที่นินาบอกว่านินาชอบขายของก็เลยอยากเรียนพวกบัญชี การตลาด พี่สนอยู่ภาควิชาอะไรคะ"

"การตลาดครับ"

"ดีเลยค่ะ เผื่อมีอะไรที่เกี่ยวกับการตลาด นินาจะขอปรึกษาพี่หน่อยนะคะ"

"ยินดีครับ" สนยิ้มอย่างอบอุ่น รู้สึกแปลกใจที่เขารู้สึกถูกชะตากับน้องคนนี้มากทีเดียว

"แล้วนินายังไปขายของอยู่ที่ถนนคนเดินอยู่ไหม เสื้อที่พี่ซื้อไปวันนั้น พ่อพี่ชอบมากเลย"

"เหรอคะ..." นินายิ้มดีใจ "ยังขายอยู่ค่ะ พ่อบอกว่าให้นินาหาเงินเรียนเอง นินากับน้องก็เลยต้องขายเสื้อผ้าแทนพ่อกับแม่ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าพอเรียนมหาลัยแล้วจะมีเวลาไปขายไหม กลัวเรียนหนักจนไม่มีเวลาน่ะค่ะ"

"ขยันจังเลยนะ พี่ชอบคนขยัน พี่เองก็ทำขนมส่งขายร้านป้าของเพื่อนอยู่ครับ นินารู้จักร้านขายของฝากตรงถนนเส้นเชียงใหม่-ลำปางไหม พี่เอาไปฝากร้านนั้นแหละ ก็พอขายได้เหมือนกัน"

"จริงเหรอคะ พี่สนทำขนมเป็นด้วยเหรอคะ" นินาถามอย่างตื่นเต้น ไม่คิดว่าชายหนุ่มรูปหล่ออย่างสนจะทำขนมเป็นด้วย

"พอได้" สนยิ้มเขิน

"วันหลังสอนนินาทำบ้างสิคะ"

"เอาสิ เดี๋ยวว่างๆ พี่สอนให้"

"ขอบคุณค่ะ แล้วขายดีไหมคะ"

"ก็พอใช้ได้ แต่ก็เหนื่อยเหมือนกัน ตอนนี้พี่ก็คุยๆ กับทางเจ้าของร้านเขาอยู่ว่าต่อไปพี่อาจจะขายแค่สูตรขนมอย่างเดียว ไม่ผลิตเองแล้วล่ะ แล้วก็ให้ร้านเขาหาคนผลิตให้ เขามีคนช่วยผลิตหลายเจ้าอยู่ พี่จะได้มีเวลาให้กับการเรียนมากขึ้นด้วย เทอมที่แล้วพี่ก็หนักเลย ทั้งธุรกิจขนม ทั้งการเรียน"

"โห...พี่ขยันมากเลยนะคะ เอ...ถ้าพี่สนขายแต่สูตรอย่างเดียว จะได้เงินเยอะเหรอคะ พี่สนสนใจจะลองขายเสื้อผ้าดูไหมคะ เดี๋ยวนินาหาที่ที่ถนนคนเดินให้ ไม่แพงหรอกค่ะ อ้อ ที่ท่าแพก็น่าสนใจนะคะ ถ้าพี่สนสนใจ เดี๋ยวนินาพาไปดูที่ขายของแล้วก็พวกร้านขายส่งเสื้อผ้า นินารู้จักหลายร้านเลยค่ะ"

"อืม...น่าสนใจนะ ยังไงพี่จะถามนินาอีกทีละกัน"

"ค่ะได้ค่ะ"

นินายิ้มให้สนอย่างเขินๆ สนเป็นชายหนุ่มที่ดูดีตามสเปคของเธอเลยล่ะ เธอเฝ้านับวันรอคอยที่จะได้เจอเขาอีกครั้ง รอลุ้นแทบแย่ว่าจะสอบเอนทรานซ์ติดที่นี่ไหม โชคดีมากเลยที่เธอสอบติด แถมยังได้มาเรียนในคณะเดียวกับสน เป็นรุ่นน้องของสนอีกต่างหาก หวังว่า...การเจอกันครั้งที่สามนี้จะเป็นดังบุพเพสันนิวาสให้เธอได้มาเจอกับคนที่ชอบ คนเราถ้าเป็นเนื้อคู่กันแล้ว ยังไงก็ต้องได้อยู่คู่กันจนได้ไม่ว่าอุปสรรคขวากหนามจะมากเพียงใดก็ตาม นินารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ


"นินาเหรอ เดี๋ยวนะ เดี๋ยวพี่ออกไปข้างนอกแป๊บนึง"

สนลุกขึ้นจากโต๊ะกินข้าวแล้วก็เดินออกไปข้างนอกบ้านพร้อมกับโทรศัพท์ ปล่อยให้เพื่อนๆ ที่นั่งกินข้าวเย็นอยู่ด้วยกันมองตามอย่างสงสัย

"เฮ้ย...นินานี่ใครวะ เด็กใหม่ไอ้สนมันเหรอ" ปั้นจั่นถามอย่างสงสัย

"น่าจะอย่างงั้นมั้ง เห็นเขาว่าเป็นน้องใหม่คณะเดียวกับมันนั่นแหละ" นิกตอบพลางมองตามเพื่อนที่เดินออกไป

ปั้นจั่นพยักหน้า "สงสัยคนนี้จะของจริง กลับบ้านทีไรก็เห็นมันคุยกับคนที่ชื่อนินาทุกคืนเลย"

"พอแล้วไอ้จั่น พูดอะไรก็นึกถึงต้นมันมั่งสิวะ" นิกรีบปรามเพื่อนเมื่อหันไปเห็นต้นมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก

สนคุยโทรศัพท์อยู่นานทีเดียว เพื่อนๆ กินข้าวกันเสร็จหมดแล้วสนก็ยังคงคุยโทรศัพท์อยู่ วันนี้เวรต้นเป็นคนล้างจานและทำความสะอาดบ้าน ต้นเก็บจานชามมาหมดแล้ว เหลือเพียงจานข้าวของสนคนเดียวเท่านั้นที่ยังวางอยู่บนโต๊ะ รอให้เจ้าของมากินให้หมด

เหตุการณ์แบบนี้ย้อนกลับมาอีกแล้วสินะ เหมือนกับวิดีโอที่ย้อนกลับไปฉายตอนเดิมๆ ต้นรู้ดีว่าอีกไม่นานสนกับนินาก็คงจะคบกันเป็นแฟน ตามขั้นตอนทั่วไปของหนุ่มๆ สาวๆ แต่ก็อย่างว่า สนคงเหงาที่ไม่มีแฟนเลยมาเป็นปีๆ ต้นเองก็คงไม่สามารถไปทดแทนสิ่งที่สนต้องการตามธรรชาติของเขาได้ ก็คงไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการยอมรับความจริง

ต้นล้างจานเสร็จแล้วก็ออกมาจากห้องครัวเตรียมตัวจะขึ้นไปอาบน้ำข้างบน สนโทรศัพท์เสร็จแล้วก็เดินเข้ามาในบ้านพอดี

"กินข้าวกันหมดแล้วเหรอ"

ต้นพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรแล้วก็เดินขึ้นบันไดไป

"ต้นอย่าลืมนะ เย็นวันศุกร์นี้เราจะไปงานแต่งงานอาจารย์บอสกัน"

ต้นหยุดยืน หันมามองเพื่อนแล้วก็พยักหน้า อาจารย์บอสที่สนพูดถึงนั้นเป็นอาจารย์ที่คณะของสนเอง ต้นบังเอิญรู้จักไปด้วยก็เลยได้รับเชิญให้ไปงานแต่งงานของอาจารย์ด้วยอีกคน

ต้นก็ไม่อยากน้อยใจสนหรอกนะ แต่ก็ห้ามความรู้สึกนั้นไม่อยู่ คงต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักพักนั่นแหละถึงจะชินกับชีวิตที่ต้องทนเห็นเพื่อนมีแฟนอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนานเป็นปี สนไม่รู้เลยหรือว่าต้นน้อยใจ ก็คงไม่เคยรู้เลยสินะ กลับบ้านมาก็เอาแต่คุยโทรศัพท์กับน้องที่ชื่อนินา ต้นพอจะนึกออกแล้วล่ะว่าผู้หญิงคนนี้คือคนเดียวกับที่สนเคยเจอที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเมื่อปีที่แล้ว ไม่รู้ว่าต่อจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ต้นคงต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้

ต้นเดินขึ้นบันไดไปอย่างเงียบๆ พร้อมกับสายตาของสนที่มองดูเพื่อนอย่างแปลกใจที่เห็นต้นเงียบๆ ไม่พูดไม่จาอย่างเคย


ต้นมองดูคนตรงหน้าที่อยู่ในชุดสูทแปลกตาด้วยความชื่นชม สนไม่เคยแต่งตัวแบบนี้เลย พอรู้ว่าจะต้องไปงานแต่งงาน สนก็ชวนต้นไปเลือกซื้อชุดที่จะใส่ไปงานด้วยอาการตื่นเต้น แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ชุดที่แพงมากนัก แต่ฝีมือเลือกของต้นก็ทำให้สนได้ชุดสูทแบบวัยรุ่นที่ดูดีมากทีเดียว

"รู้ไหมว่านายหล่อมากเลยวันนี้"

สนยิ้มเขิน ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปี ต้นไม่เคยชมเขาแบบนี้เลย

"นายก็หล่อเหมือนกัน มานี่ เราจัดเนคไทให้ มันเบี้ยวเห็นไหม"

พูดจบสนก็เดินเข้าไปจัดเนคไทให้ต้น ถือว่าแก้เขินไปในตัวด้วย ต้นพินิจดูใบหน้าของเพื่อนที่อยู่ห่างไปเพียงคืบ ผิวหน้าของสนขาวใสอย่างคนเหนือ ไม่มีรอยสิวเลยเพราะสนเป็นคนรักสะอาด ต้นหลงใหลใบหน้าแบบนี้มาเป็นสิบปีแล้วสินะ แต่ก็ไม่เคยได้ทำอะไรมากกว่าแค่มองดู ต้นคงไม่มีสิทธิ์ทำอะไรมากกว่านี้หรอก เขารู้ดี

สนเงยหน้าขึ้นมองเพื่อน เมื่อสายตาประสานกันความรู้สึกหวั่นไหวก็เกิดขึ้น สองหนุ่มมองหน้ากันนิ่งราวกับต้องมนต์สะกด แววตาเศร้าของต้นเหมือนมีพลังดึงดูดบางอย่าง ท่าทางที่ประหม่าและหวั่นไหวนั้นยิ่งทำให้สนรู้สึกหวั่นไหวตามไปด้วย สนค่อยๆ เคลื่อนใบหน้าเข้าไปหาต้น เขาจำจูบแรกที่ไม่ได้ตั้งใจได้เป็นอย่างดี แต่ครั้งนี้ สนไม่ต้องทำตอนที่ต้นนอนหลับอีกแล้ว เพราะจูบแรกที่ตั้งใจกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้

แต่เจ้ากรรม เสียงโทรศัพท์ของสนกลับดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน นินานั่นเอง ทำไมเธอจะต้องโทรมาตอนนี้ด้วยนะ

"ครับนินา"

"พี่สนออกมาหรือยังคะ นินามาถึงที่งานแล้วนะคะ"

"อ้อ..." สนทำสีหน้าแปลกใจ "นินาไปงานด้วยเหรอครับ"

"ค่ะพี่ เมื่อวานนินาเจออาจารย์บอส เขาเหลือการ์ดอยู่ใบหนึ่งก็เลยชวนนินามาค่ะ"

"อ๋อ...ครับ เดี๋ยวพี่กำลังจะออกไปแล้วครับ พี่จะไปกับต้นนะ"

"อ้อ...เพื่อนพี่สนคนนั้นเหรอคะ นินาจำได้ค่ะ แล้วเจอกันนะคะพี่"

"ครับ"

สนเก็บโทรศัพท์แล้วก็หันมามองต้น รู้สึกเสียดายนิดๆ ที่ถูกขัดจังหวะเสียก่อน เห็นสีหน้าต้นเศร้าๆ อย่างนั้น สนก็รู้ว่าต้นน้อยใจจึงใช้มือตบที่ไหล่ต้นเบาๆ

"อย่าคิดมากนะต้น นายสำคัญที่สุดสำหรับเรารู้ไหม"

ไม่รู้ว่าที่สนพูดมานั้นคือการบอกรักหรืออะไรกันแน่ แต่เมื่อไม่ได้พูดให้ชัดเจน ต้นก็คงไม่สามารถเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ได้เองหรอก อีกอย่าง จะมีประโยชน์อะไรที่ต้นจะต้องไปคาดเดา เกิดไม่ใช่ขึ้นมาต้นก็มีแต่จะผิดหวังเท่านั้น

"สน...ถ้านายจะมีแฟน เราก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ เราพูดจริงๆ นายไม่ต้องห่วงเราหรอก อย่าให้เราเป็นคนถ่วงชีวิตนายเลย ยังไงๆ วันหนึ่งนายก็ต้องมีใครสักคน"

สนเม้มริมฝีปาก มีอะไรหลายอย่างเหลือเกินที่เขาอยากจะบอกต้น จะว่าไปแล้วสนก็เกือบพลั้งปากบอกไปหลายครั้งแล้วล่ะ เพราะสนคิดว่าเขารู้แล้วว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกับคนที่ยืนหน้าเศร้าอยู่ตรงหน้าตอนนี้ แต่ก็มีหลายๆ เหตุผลที่ทำให้สนต้องระมัดระวังกับสิ่งที่เขากำลังรู้สึก มันเป็นเหตุผลที่สำคัญมากที่สนจะต้องคิดให้รอบคอบอย่างที่สุด รออีกหน่อยก็แล้วกันนะต้น

"แล้ววันหนึ่งนายจะรู้เองแหละต้น ว่าใครสักคนหนึ่งของเรา...เป็นใคร"

สนใช้มือลูบผมเพื่อนอย่างอ่อนโยน เขาทำอย่างนี้เสมอเมื่อต้องการแสดงความห่วงใย บวกกับแสดงความเป็นเจ้าของกลายๆ ไปในตัวด้วย สนไม่เคยทำอย่างนี้กับใครเลย ไม่แม้แต่จะทำกับผู้หญิงคนไหน มีแต่คนที่พิเศษจริงๆ เท่านั้นที่สนจะทำอย่างนี้ให้

"ไปกันดีกว่าต้น เดี๋ยวจะไม่ทันงาน"


สนกับต้นมาถึงงานแต่งงานของอาจารย์บอสที่โรงแรมแห่งหนึ่งประมาณทุ่มเศษๆ หลังจากใส่ซองและรับของชำร่วยงานแต่งงานแล้วสองหนุ่มก็เดินเข้ามาในงานทันที สนเห็นเพื่อนๆ ของเขานั่งรวมกันอยู่โต๊ะหนึ่งก็รีบพาต้นไปนั่งรวมกับเพื่อนๆ ของเขาด้วย ต้นรู้จักเพื่อนๆ ของสนอยู่บ้างเลยไม่มีปัญหาอะไร

หลังจากที่พูดคุยทักทายบรรดาเพื่อนชายหญิงทั้งหลายอยู่สักพัก สนก็ชวนต้นไปเลือกอาหารที่จัดเป็นลักษณะของค็อกเทลง่ายๆ มีให้เลือกกินมากมายหลายอย่างทีเดียว

"อ้าว...พี่สน มาถึงแล้วเหรอคะ"

สนดูจะตกใจเล็กน้อยที่เจอกับนินาที่กำลังยืนเลือกอาหารอยู่ แม้จะรู้อยู่แล้วว่าอาจจะต้องเจอกันก็ตาม

"นี่พี่ต้นใช่ไหมคะ สวัสดีค่ะ โห...หล่อทั้งคู่เลย"

นินายิ้มอย่างชื่นชม

"ขอบคุณครับ วันนี้นินาก็แต่งตัวสวยนะ" สนชมพลางยิ้ม คนถูกชมก็ดูจะเขินพอประมาณ

"ปกตินินาก็ไม่เคยแต่งตัวแบบนี้หรอกค่ะ แทบไม่กล้าออกจากบ้านเลย กลัวคนแถวบ้านจำไม่ได้" นินาพูดพลางหัวเราะกิ๊ก

"แล้วนินามากับใครครับ"

"พ่อขับรถมาส่งค่ะ เดี๋ยวตอนกลับพ่อจะแวะมารับอีกที"

สนพยักหน้ารับรู้ จากนั้นก็หันมาสนใจกับการเลือกอาหารของตัวเอง ส่วนต้นก็ได้แต่เลือกอาหารเงียบๆ ของเขาไป

"พี่สนนั่งอยู่ตรงไหนคะ"

"กับเพื่อนๆ ปีสองตรงนั้นครับ" สนพยักเพยิดไปทางที่เพื่อนๆ เขานั่งอยู่

"หยิบไม่ถึงเหรอ เดี๋ยวพี่ช่วย"

"ขอบคุณค่ะพี่"

ต้นแอบชำเลืองมองสนหยิบอาหารให้นินาแว่บหนึ่ง รู้สึกอึดอัดเหมือนกันที่เขาแทบจะกลายเป็นอากาศที่ไร้ตัวตันอยู่ตรงนี้

"ขอบคุณนะคะ" นินารับอาหารจากสนมาแล้วก็ใช้ช้อนเล็กๆ ตักกิน

"ไม่เป็นไรครับ" สนยิ้ม แล้วก็หันมาหาต้น

"ถ้านายหยิบอะไรไม่ถึงบอกเรานะต้น"

ต้นพยักหน้าแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินอาหารที่เขาเลือกมา

หลังจากผ่านช่วงพิธีการไปแล้ว คนในงานก็เดินไปพูดคุยทักทายกันตามโต๊ะต่างๆ มากขึ้น ดูเหมือนนินาเองก็รอจังหวะนี้ที่จะได้คุยกับสนอีกครั้ง เธอจึงไม่รอช้าที่จะเดินไปตรงที่สนกำลังยืนกินอาหารกับต้นและเพื่อนๆ คณะเดียวกันอีกสามสี่คน

"เราไปห้องน้ำนะ" ต้นรีบบอกเมื่อเห็นนินามาถึง

สนพยักหน้าแล้วก็หันมาคุยกับนินา

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะต้นมัวแต่เหม่อลอยหรือเปล่า พอเสร็จธุระจากห้องน้ำและเดินกลับเข้ามาในห้องจัดงาน ต้นก็ชนเข้าอย่างจังเข้ากับใครบางคนที่อยู่ๆ ก็เดินโผล่พรวดตัดหน้าต้นมาจากมุมขวาของประตู

"ขอโทษครับพี่"

ต้นหน้าเสียเมื่อรู้ว่าคนที่ต้นชนเป็นช่างถ่ายภาพประจำงานนี้นั่นเอง ดีนะที่กล้องที่เขาถืออยู่ไม่ตกแตก ไม่งั้นต้นแย่แน่ๆ เลย กล้องแบบนี้คงแพงน่าดู เสียหายขึ้นมาก็คงต้องลำบากพ่อแม่

"ไม่เป็นไรครับน้อง เอ...ว่าแต่น้องอยู่คณะนี้ด้วยเหรอ พี่ไม่เคยเห็นเลย" พี่ช่างภาพเอียงคออย่างสงสัย

"อ๋อ...เปล่าครับ พอดีผมมีเพื่อนอยู่ที่คณะนี้ แล้วก็รู้จักกับอาจารย์บอสด้วยครับ"

"อ๋อครับ...พี่ชื่อสรกฤษณ์นะ เรียกกริดก็ได้ พี่เป็นศิษย์เก่าคณะนี้แหละ พอดีเขาให้พี่มาช่วยถ่ายภาพในงานนี้ พี่ก็เลยมาช่วยอาจารย์เขาหน่อย"

"ครับ"

"แล้วน้องชื่ออะไรครับ"

"ชื่อต้นครับ"

"ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องต้น แล้วต้นอยู่คณะอะไรครับ"

"มนุษย์ศาสตร์ครับ ปีสอง"

แล้วพี่สรกฤษณ์ก็ชวนต้นคุยอีกเยอะเลย แถมขอเบอร์ต้นไว้อีกต่างหาก ที่น่าแปลกกว่านั้นก็คือ ต้นเห็นสนมองมาที่เขาบ่อยมาก แม้ว่าจะคุยอยู่กับนินาแต่ก็มักจะแอบมองมาทางต้นเป็นระยะๆ

ไม่นานนักสนก็เดินมาทางที่ต้นยืนอยู่พร้อมกวักมือเรียก

"พี่กริดครับ พอดีเพื่อนเรียก ผมขอตัวก่อนนะครับพี่" ต้นบอกอย่างเกรงใจ

"อ้อ ครับๆ เชิญตามสบายเลยครับต้น พี่เองก็คุยเพลิน ลืมไปเลยว่าต้องถ่ายรูป" สรกฤษณ์ยิ้มเขินๆ

ต้นเดินกลับมาหาสนแล้วก็ถูกถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนดุนิดๆ ห่วงหน่อยๆ

"คุยกับใครอยู่น่ะต้น นายเพิ่งกินไปนิดเดียวเองนะ รีบกินก่อนเดี๋ยวอาหารจะหมด"

"อ๋อ...พี่เขาเป็นศิษย์เก่าคณะเดียวกับนายนั่นแหละ พอดีเขามาช่วยถ่ายรูป"

"นายรู้จักพี่เขาด้วยเหรอ"

ต้นส่ายหน้า "เปล่า...ก็เพิ่งรู้จักเมื่อกี้นี่แหละ มีอะไรหรือเปล่า" ต้นสงสัย

"อ๋อ...เปล่าหรอก เราแค่เป็นห่วงเฉยๆ เห็นนายกินไปนิดเดียวเอง จะว่าไปเราก็ไม่ชอบค็อกเทลเลย กินไม่สะใจ" สนพูดพลางขำ

"แล้วนินาไปไหนล่ะ"

"ไปห้องน้ำ เดี๋ยวเราไปกินตรงโน้นกันดีกว่าต้น มีอะไรน่ากินเยอะเลย"

ว่าแล้วสนก็พาต้นเดินไปอีกมุมของห้อง นินากลับมาจะได้หาไม่เจอนั่นเอง จะว่าไปสนก็ทำอะไรแปลกๆ บางครั้งก็ดูเหมือนจะสนใจนินามากกว่าต้น บางครั้งก็สนใจต้นมากกว่านินา สนกำลังทำอะไรอยู่นะ


"เอาล่ะครับ ตอนนี้ก็มาถึงช่วงสำคัญแล้วนะครับ ปกติบ่าวสาวจะโยนช่อดอกไม้ ใครรับได้คนนั้นก็จะได้มีโอกาสแต่งงานใช่ไหมครับ อันนั้นเชยไปแล้ว คู่บ่าวสาวของเรามีไอเดียใหม่ ต้องบอกว่าไอเดียบรรเจิดเลยทีเดียวครับ เพราะเราจะมาดูกันว่าในห้องนี้ใครเป็นเนื้อคู่กันบ้าง รบกวนทุกท่านช่วยเปิดดูในถุงของชำร่วยที่ท่านได้รับตอนเข้ามาในงานด้วยครับ ถ้าใครเห็นตลับรูปหัวใจอยู่ในถุงของชำร่วย รบกวนเดินออกมายืนด้านหน้าเวทีเลยครับ อย่าเพิ่งเปิดดูนะครับ รบกวนคนที่มีตลับรูปหัวใจออกมายืนด้านหน้าเลยครับ"

พิธีกรงานแต่งงานหนุ่มหล่อบนเวทีพูดกระตุ้นอย่างเร้าใจ แม้ว่าจะเป็นเพียงนักศึกษาที่เพิ่งมารับงานพิธีกรครั้งแรกแต่ก็ทำได้ดีทีเดียว

ไม่น่าเชื่อว่า ต้น สนและนินาก็คือหนึ่งในจำนวนคนที่มีตลับรูปหัวใจอยู่ในถุงของชำร่วยด้วย มีคนออกไปยืนอยู่หน้าเวทีแล้วประมาณ 7-8 คน ต้น สนและนินาจึงออกไปยืนรวมกลุ่มกับคนเหล่านั้นด้วย ดูท่าทางแต่ละคนลุ้นน่าดู

"เราได้ผู้โชคดีที่จะมาร่วมค้นหาคู่ชีวิตกันแล้วนะครับ มีทั้งหมด 11 คนด้วยกันนะครับ เดี๋ยวผมขอลงไปข้างล่างเวทีก่อน"

พิธีกรพูดแล้วก็เดินลงมาจากเวที ส่วนคู่บ่าวสาวก็ยืนรอลุ้นอยู่บนเวทีอย่างใจจดใจจ่อเช่นกัน

"ถ้าดูจากหน้าตา เข้าใจว่าหลายท่านอาจจะแต่งงานไปแล้วนะครับ แต่ไม่เป็นไร บางทีท่านอาจจะได้พบเนื้อคู่คนใหม่วันนี้ก็ได้ 555 คนที่จะเป็นเนื้อคู่หรือคู่ชีวิตกันในงานนี้นะครับ ถ้าเปิดตลับรูปหัวใจแล้วเจอหัวใจสีแดงข้างใน อย่าเพิ่งเปิดนะครับ อย่าเพิ่งเปิดนะครับ รอแป๊บนึงครับ ตลับที่มีหัวใจสีแดงข้างในจะมีเพียง 2 ตลับเท่านั้น ใครที่ได้ตลับหัวใจสีแดงเหมือนกัน เราก็จะถือว่าท่านเป็นคู่ชีวิตหรือเนื้อคู่กัน เอ้า เริ่มจากพี่ท่านนี้ก่อน เปิดเลยครับ ได้หัวใจสีอะไรครับ โอ้...เป็นสีขาวครับ ไม่มีเนื้อคู่แล้วครับ เชิญนั่งประจำที่ได้เลยครับ"

พิธีกรหนุ่มหล่อเดินไล่มาทีละคนที่ยืนเรียงแถวอยู่ด้านหน้า แต่ก็ยังไม่เจอใครที่มีหัวใจสีแดงเลย จนเหลือต้น สนและนินาสามคนสุดท้าย

"เอาล่ะครับทุกท่าน ตอนนี้เราก็เหลือ หนึ่งหญิง สองชาย ในสามคนนี้ จะต้องมีอย่างน้อยสองในสามนี่แหละครับที่จะเป็นเนื้อคู่กัน มาลุ้นกันนะครับว่าเราจะได้เนื้อคู่ชาย-หญิงหรือว่าชาย-ชายกันนะครับ"

พูดมาถึงตรงนี้ เสียงโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นก็ดังยิ่งกว่าเดิม

"ถามก่อนครับ น้องสามคนนี้รู้จักกันหรือเปล่าครับ"

ทั้งสามคนพยักหน้า

"น้องสามคนรู้จักกันด้วยนะครับ ไม่ธรรมดาเลย ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือบุพเพสันนิวาสที่วันนี้เราเหลือสามคนสุดท้ายที่รู้จักกันเสียด้วย เอาล่ะ ให้ใครเปิดก่อนดี ให้น้องคนกลางเปิดก่อนดีกว่า น้องเปิดเลยครับ"

เมื่อสนแน่ใจว่าพิธีกรรุ่นพี่คนนั้นหมายถึงตัวเขาเอง สนก็ค่อยๆ แกะตลับรูปหัวใจออก แล้วก็พบว่ามีหัวใจสีแดงอยู่ข้างในเสียด้วยสิ เรียกเสียงฮือฮาจากทั้งห้องได้เป็นอย่างดี

"เอาล่ะครับๆ เดี๋ยวเรามาลุ้นกันนะครับว่าวันนี้เราจะได้เนื้อคู่ชาย-หญิง หรือว่าเนื้อคู่ชาย-ชายกันนะครับ เอ้า...น้องที่เหลืออีกสองคนเปิดตลับพร้อมกับเลยครับ หนึ่ง สอง สาม เปิด"

แล้วก็ปรากฎว่า คนที่ได้ตลับที่มีรูปหัวใจสีแดงอยู่ข้างในก็คือต้น เสียงกรี๊ด เสียงโห่ดังระงมไปทั้งงาน

"โอ้โห...เราได้เนื้อคู่คนใหม่แล้วนะครับ ไม่ธรรมดาซะด้วย ก่อนอื่น...เชิญน้องผู้หญิงนั่งที่ก่อนนะครับ เดี๋ยวเราจะมาสัมภาษณ์เนื้อคู่หรือว่าคู่ชีวิตคนใหม่ในงานของเรากันดีกว่า"

สิ้นเสียงพิธีกร นินาก็เดินกลับที่นั่งของตัวเองด้วยความผิดหวัง ตั้งแต่ที่น้องชายเธอแซวเล่นคราวนั้น เธอก็ภาวนามาตลอดว่าขอให้มีปาฏิหาริย์ที่จะทำให้เธอได้เจอกับสนเป็นครั้งที่สาม ถ้าได้เจอกันอีกครั้ง ก็ขอให้เธอกับเขาเป็นเนื้อคู่กัน แต่เกมส์ในงานนี้ก็ทำให้เธอถึงกับหมดความมั่นใจไปเยอะเลยทีเดียว นับว่าผิดคาดจริงๆ แต่มันก็คงเป็นแค่เกมส์สนุกๆ เฉยๆ มากกว่า จะเป็นไปได้ไงที่ต้นกับสนจะเป็นเนื้อคู่กัน

"ถามตรงๆ เลยนะครับ เมื่อกี้น้องสองคนบอกว่ารู้จักกันอยู่แล้ว ถ้าอย่างงั้น...น้องสองคน...รักกันจริงๆ หรือเปล่าครับ"

พิธีกรหนุ่มพูดจบแล้วก็ส่งไมค์ไปจ่อที่ปากสนทันที

สนเอามือกอดคอต้นไว้ รู้สึกตื่นเต้นและใจสั่นมากทีเดียวที่ต้องพูดเรื่องนี้ต่อหน้าคนจำนวนมาก แต่สนก็ตัดสินใจพูดกรอกใส่ไมค์ไปว่า

"รักกันจริงๆ ครับ"

สนเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างต่อจากนั้น แต่ก็ไม่มีใครได้ยินแล้วเพราะเสียงโห่ร้องดังมากจนกลบเสียงที่เขาพูดไปจนหมด ต้นหันไปมองเพื่อนด้วยความตกใจ ไม่อยากจะเชื่อว่าสนจะพูดอย่างนั้นจริงๆ

TBC

ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดให้กำลังใจ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2015 18:52:47 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
T T จุก


อ่านอินโทรตอนต่อไปแทบอยากจะทรุด

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ยัยนินานี่ขี้มโนเหลือเกินนะคะ เพ้อพกไปเรื่อย~ พรหมลิขิตอะไรที่เธอว่าน่ะมันไม่มีหรอกค่ะ แต่ถ้า 'พรมขาด' น่ะไม่แน่~ :o10:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
ทำมั๊ยสนถึงต้องทำให้ต้นเสียใจตลอด ให้ความหวังแต่ไม่เคยพร้อมจะก้าวไปด้วยกันทุกที

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
เหมือนสนยังสับสน หรือไม่กล้ายอมรับ เหมือนยังคงกังวลเรื่องอื่นๆ

แต่ลึกๆ สนก็อาจจะรักต้นเหมือนกันก็ได้ แต่แค่ยังไม่รู้ตัวเองมั้ง

แต่เศร้าอ่ะ ชอบตอนที่ 14 ฉากตากฝนอ่ะ รู้สึกสะเทือนใจ เข้าใจความรู้สึกเลย


ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
สนต้องไปทำอะไรๆ นินาโดยพลาดพลั้งไปแหง่มๆ

ออฟไลน์ jamesnaka

  • วิหคเหมันต์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ไม่แปลกที่สนจะสับสน เพราะมันมีเรื่องของครอบครัวมาเอี่ยวด้วย

เห็นทีเตรียมหม้อไว้ต้มมาม่าคงเอาไม่อยู่ ต้องใช้กะละมังแทนซะละมั้งงานนี้ :เฮ้อ:

 :pig4: รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
สนไปอะไรๆกับนินาแน่ๆ จะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
แต่ทำต้นหมดหวังในตัวสนอยากหนักแน่ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
หน่วงมาก บอกตามตรงนะคะว่่าตอนอ่านบทที่แล้วกกับคำโปรยแล้ว ลังเลเลยที่่จะอ่านตอนต่อไปตอนได้รับข้อความเตือน ไม่ใช่ไม่อยากอ่านนะคะ แต่รู้สึกอยากหลีกกความทุกข์ของทั้งสองที่จะต้องรับรู้
ขอบคุณคนแต่งนะคะนิยายเขียนดีมากกเลย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สปอย์นั้นคืออะไร!!! อยากให้ถึงไวๆจัง เป็นสปอย์ที่หน่วงจิตดีจริงๆ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
@BlueCherries
อย่าเพิ่งทรุดนะครับ ปกติถ้าผมเขียนว่า "เร็วๆ นี้" จะอยู่ห่างออกไปอีกประมาณ 3-5 ตอน ตอนต่อไปยังไม่ดราม่ามาก

@buathongfin
คนเขียนก็ร้องเหมือนกันครับ เมื่อก่อนเคยอ่านไปร้องไห้ไป ตอนนี้พอมาเขียนแล้วก็ได้เขียนไปร้องไห้ไป

@Mouse2U
เรื่องนี้จะมีบทบาทของผู้หญิงที่ชื่อนินาค่อนข้างเยอะเลยล่ะ ผมก็แอบเซ็งเหมือนกันที่ "ชะนี" คนนี้เข้ามาวุ่นวายในเรื่อง แต่ถ้าไม่มีนินา เรื่องนี้จะจบอย่างสมบูรณ์แบบไม่ได้เลยครับ ก็ยอมให้เขาหน่อยละกัน 555

@boonpa + @└X • €NouGh •
555 สนมีเหตุผลบางอย่างครับ ผมบอกตอนนี้ไม่ได้ เอาเป็นว่า รอวันที่สนบอกรักต้น แล้ววันนั้นจะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่าสนก็มีเหตุผลที่ดีมากๆ เหมือนกันนะที่ทำแบบนี้ ต้องรออีกหลายตอนหน่อยนะครับ แต่คุ้มค่ากับการรออย่างแน่นอน

@ดำดีสีไม่ตก
555 ขอบคุณครับที่ยังกลับมาติดตามเรื่องนี้อีกครั้งครับ คาดว่าคงจะเดาจากที่เคยอ่านเวอร์ชั่น 2 มาแน่ๆ แต่อาจจะเป็นหรือไม่เป็นแบบนั้นก็ได้นะครับ อิๆ

@jamesnaka
คงต้องเตรียมหลายๆ กะละมังเลยล่ะครับ 555

@snowboxs
555 ยอมให้นินาเขาหน่อยครับ เรื่องนี้ต้องมีคนนี้ครับ

@กบกระชายไทยนิยม
เข้าใจคนที่กลัวดราม่าเลยนะครับ ผมเองก็เพิ่งไปอ่านเรื่องสั้นที่เขาแนะนำไว้มาสองสามเรื่อง แล้วก็เศร้า หน่วง จิตตกไปอยู่หลายวัน เล่นเอาเขียนนิยายไม่ออกเลย เพราะเรื่องที่อ่านดันจบแบบไม่สมหวัง ถ้ายังพอไหว ก็อยากให้อ่านคอยลุ้นกันต่อไปครับ ถ้าไม่ไหวจริงๆ จะมาอ่านตอนที่จบแล้วก็ได้ครับ แต่คงอีกหลายตอนและน่าจะใช้เวลาอีกหลายเดือนอยู่ - ขอบคุณสำหรับคำชมด้วยครับ มีแรงใจที่จะเขียนอีกมากโขเลย

@Jibubu
รออีกไม่เกิน 5 ตอนนะครับ ได้เจอแน่ๆ ของจริงเขามาแล้ว 555

@❣☾月亮☽❣
มาช่วยกันลุ้นความรักของต้นกับสนต่อไปครับ

@manutty
ไม่อยากจะบอกเลยว่าปมปัญหาในเวอร์ชั่นสามนี้เอาเรื่องเลยล่ะ เวอร์ชั่นที่หนึ่งกับสองว่าหนักแล้วนะ แต่เวอร์ชั่นนี้ 555 แต่ผมชอบนะ มันท้าทายคนเขียนดี งานนี้ต้องเตรียมผ้าห่มนวมผืนใหญ่ๆ แล้วครับถึงจะเอาอยู่

@bradpitt
ขอบคุณที่ตามกลับมาอ่านจนทันนะครับ เห็นหายไปนานเลย ถ้าผมเป็นต้นก็คงฟินเหมือนกัน ขนาดเป็นคนเขียนนะครับยังต้องอดใจเลย จะเขียนให้สองคนนี้บอกรักกันซะให้รู้แล้วรู้รอดไปก็หลายครั้ง แต่ต้องยั้งใจเอาไว้ก่อน อย่าเพิ่งตบะแตกก่อนตัวละคร

ขอบคุณทุกคนที่มาติดตามนะครับ

 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2015 08:45:36 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เอาใจช่วยทั้งต้นและสนค่ะ

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
สนเริ่มจะรู้ใจตัวเองบ้างแล้วว่าคิดยังไงกับต้น แต่ก็ยังมีความสับสนในจิตใจอยู่มาก ตรงนี้เข้าใจสนนะ อย่างที่บอก สนไม่ได้เป็นเกย์สนเป็นเพื่อนกับต้นมานาน ความผูกพันย่อมมีมากกว่าความสัมพันธ์อื่น เลยยังไม่กล้าจะเอ่ยหรือทำอะไรออกไปได้มากกว่านี้ สนพูดก็มีเหตุผลแต่ฟังก็เหมือนให้ความหวังต้นไปด้วย ยังดีที่ต้นยังยับยั้งใจไม่ให้คิดไปไกล ทั้งที่รู้ว่าทำไม่ได้ ถ้าวันหนึ่งสนต้องมีแฟน ต้นเสียใจแน่นอน แต่ก็จะยินดีกับสนเสมอและเป็นเพื่อนกันตลอดไป เห็นใจทั้งคู่  :เฮ้อ: แต่พารท์หลังนี่รู้สึกนินาจะเข้ามามีบทบาทกับสนมากขึ้น ด้วยความที่นางช่างมโนเหลือเกิน ก็ตามประสาเด็กสาววัยรุ่นที่เจอหนุ่มตามสเปค นางเลยฟรุ้งฟิ้งบ้างไรบ้าง แต่รู้ได้เลยว่า นางต้องเป็นคนที่เข้ามาทำให้ความสัมพันธ์ของสนกับต้นเปลี่ยนไป ถึงตอนนี้สนจะเริ่มเอนเอียงมาทางต้น แต่อีกใจก็ไปทางนินาด้วย และยิ่งนินาเป็นคนขยันเหมือนที่สนชอบ ดูจะเข้าทางมากๆเลย และต่อไปจากตอนที่สปอยเหตุการณ์ข้างหน้า มันค่อนข้างแน่ชัดว่า สนทำให้ต้นเสียใจไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ สนก็ทำให้ต้นไม่เชื่อในความรักที่สนมีให้แล้ว ทีนี้ต้นคงจะเปิดใจคบกับพี่ทินได้สักที แต่ก็ยังไม่อยากจะเดาอะไรมาก เพราะสนไม่น่าจะเป็นคนชิงสุกก่อนห่ามหรือปล่อยตัวปล่อยใจกับนินาหรือใคร ไปมากนะ  ถ้าสนทำอย่างนั้นพ่อแม่คงผิดหวังน่าดูเลย  :mew6: แต่ไอ้ประโยคท้ายที่ทิ้งค้างไว้นี่สิ มันคืออะไร สนพูดจริงหรือเล่นมุกกันแน่ แต่เหมือนสนจะพูดอะไรต่อนะ อาจจะแบบ รักกันจริง เพราะเราเป็นเพื่อนรักกัน หรือเปล่า แต่เสียงแซวเสียงเชียร์มันดังกลบเลยได้ยินแค่นั้น แต่ถ้าไม่ สนพูดไปไม่ว่าจะด้วยใจคิดอะไร สนก็ได้ให้ความหวังต้นไปครึ่งหนึ่งแล้วนะ และมาผิดคำพูดนี่ ทำเอาต้นเสียใจหนักเลย เตรียมผ้าเช็ดหน้ากับหมอนไว้ซํบน้ำตาสินะ  :hao5:

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1


 :mew1: อ่านถึงตอนนี้แล้ว ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟินเฟอร์ ..


สนเอามือกอดคอต้นไว้ รู้สึกตื่นเต้นและใจสั่นมากทีเดียวที่ต้องพูดเรื่องนี้ต่อหน้าคนจำนวนมาก แต่สนก็ตัดสินใจพูดกรอกใส่ไมค์ไปว่า

"รักกันจริงๆ ครับ"



 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven



พออ่าน Spoil ตอนต่อไป..  อ่านแล้วใจจะขาดดด

ทำไม ความสุข ถึงมา เพียงระยะเวลาสั้นๆๆ   



// ขอบคุณ ผู้เขียนที่ให้ความสุขแก่เรา  แม้ช่วงสั้นๆๆ   ชีวิตจริง เศร้ากว่าในนิยายเน้ออออออออออออ

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
เอาตรงๆ เลยนะ ถ้าผมเป็นต้นผมไม่รอจนถึงขนาดนี้ เจ็บแล้วเจ็บอีก เจ็บซ้ำๆ

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ก็เข้าใจนะว่าต้นรักสนมาก แต่ต้นทำเหมือนตัวเองไม่มีค่าเลย คือสนเนี่ยะถ้าไม่มีเหตุการณ์ไรมากระตุ้นก็ไม่มีทางคบต้นเป็นแฟนได้หรอก เพราะถูกฝังหัวมาแล้วจากที่บ้านว่า ต้องแต่งงาน ต้องมีลูก

แล้วยังมาอยู่ใกล้ๆสนแบบนี้อีก ให้ตายก็ตัดใจไม่ได้หรอก แล้วก็ถูกทำร้ายจิตใจทุกครั้งที่สนมีแฟน ออกมาห่างๆเลยค่ะ อย่างน้อยถึงยังรักอยู่แต่การไม่ต้องเห็นภาพบาดตาก็ดีกับสุขภาพจิตมาก

ออฟไลน์ AutumnWind

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ถ้าต้นเด็ดขาดยอมตัดใจและออกห่างจากสน
และเปิดโอกาสให้คนใหม่และตัวเอง คงไม่ต้องเสียใจอยู่บ่อยๆแบบนี้
แต่ก็อย่างว่า พอจะไปสนมันก็ไม่ยอม ไปๆมาๆก็อยู่ด้วยกันเหมือนเดิม
ดราม่ามาเรื่อยๆ เจ็บแต่ไม่จบเหมือนเดิม
เพลียใจจริงๆค่ะ

ออฟไลน์ nixnix

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แปะไว้ก่อนนะคะ จะทยอยอ่านคะ :3123:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
เปลี่ยนหัว.... แต่ไม่ลง T-T

ขออภัยครับ เน็ตที่คอนโดเดี้ยงก่อนจะอัปเดตพอดีเลย ตอนนี้อยู่ข้างนอกแล้ว กลับไปจะอัปให้นะครับ  :sad11:

ออฟไลน์ nunut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เนื้อเรื่อง โอเค นะคะ ให้ +1 ทุกตอนค่ะ

แต่สำหรับเรา ไม่ชอบที่จะมีสปอย เรื่องไหนมีก็จะอ่านข้ามๆไป
หรือเลิกอ่านไปเลย แบบไม่ชอบอย่างแรงค่ะ
อยากลุ้นตอนได้อ่านมากกว่า

เรื่องนี้สปอยเยอะ เกือบทุกตอน บางตอนก็อยู่ท้ายเรื่อง
แบบต่อเนื่องกับงานเขียนเลย เลี่ยงไม่ทัน
บางตอนก็แยกออกมาให้เห็นชัดว่านี่คือสปอย

ก็นะ เป็นกำลังใจให้นะคะ แต่ขออนุญาตไม่อ่านต่อนะจ้ะ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
CHAPTER 16-1 ❆ ความผิดหวังของแม่ ความน้อยใจของสน
CHAPTER 16-2 ❆ ความผิดหวังของแม่ ความน้อยใจของสน

▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย ░ ▒ ▓
CHAPTER 16-1: ความผิดหวังของแม่ ความน้อยใจของสน


ต้นมีเหตุให้ต้องกลับบ้านด่วนเพราะลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งของเขาเสียชีวิตจากโรคมะเร็งทรวงอก แต่การกลับบ้านของต้นครั้งนี้ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันรอต้นอยู่ข้างหน้า เป็นเรื่องที่ต้นรู้สึกลัวที่สุดว่ามันจะเกิดขึ้นเลยก็ว่าได้

สนว่าจะตามมาด้วยแต่ติดงานสำคัญของคณะ ต้นก็เลยต้องกลับบ้านคนเดียว ครั้งนี้ต้นกลับด้วยเครื่องบินจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเวลามากนัก

เหตุการณ์แรกที่ทำให้เรื่องนี้ปะทุขึ้นมาก็คือญาติๆ ของต้นเอง

"โตเป็นหนุ่มแล้วต้นหลานป้า ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วลูก" ป้าของต้นเอ่ยถามทันทีที่เห็นหน้าหลาน แม้ไม่ได้เจอกันนานแต่ป้าก็จำหลานคนนี้ได้เป็นอย่างดี ดูเหมือนป้าของต้นจะไม่ทุกข์โศกมากนักที่เพิ่งเสียลูกสาวไป นั่นเป็นเพราะทุกคนต่างก็ทำใจไว้แล้วนั่นเอง

"ยี่สิบแล้วครับป้า"

"รูปหล่อซะด้วย สาวๆ คงชอบเยอะเลยสิท่า แล้วหนูมีแฟนหรือยังล่ะลูก" ป้าถามอีก คราวนี้แม่กับพ่อของต้นดูเหมือนจะตั้งใจรอฟังเป็นพิเศษ

"ยังครับป้า ต้นยังไม่มีเวลาไปชอบใครเลย ตอนนี้เรียนหนักมากครับ"

"โอ๊ย...ยังไม่ต้องไปมีแฟนหรอกต้น สาวๆ สมัยนี้ไม่ใช่เล่นๆ นะจะบอกให้ อยู่อย่างนี้แหละดีแล้ว สมัยนี้ผู้ชายเขาถึงหันมากินผู้ชายด้วยกันเองเยอะแยะไง ต้นไม่ลองกินกับเขาดูมั่งล่ะ เผื่อจะดีกว่าคบกับสาวๆ"

ลูกสาวคนโตของป้าที่บังเอิญนั่งอยู่ตรงนั้นบังเอิญได้ยินการสนทนาก็เลยขอร่วมวงสนทนาด้วย พร้อมกับหัวเราะอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก แต่สิ่งที่เธอพูดก็จุดประเด็นให้พ่อกับแม่ของต้นเริ่มหันมาสงสัยต้นมากขึ้น เมื่อพยายามคิดหาเหตุผลมาสนับสนุนไม่ได้ว่าทำไมต้นไม่เคยมีแฟนเลย เหตุผลใหม่ที่ผุดขึ้นมานี้จึงสะดุดใจพ่อกับแม่ของต้นอยู่ไม่น้อย

ต้นเห็นสายตาของพ่อกับแม่ที่มองมาที่เขาแล้วก็อดประหวั่นพรั่งพรึงไม่ได้ว่าพ่อกับแม่กำลังสงสัยเรื่องนี้อยู่ ต้นได้แต่ยิ้มและขำตามลูกพี่ลูกน้องคนนั้นเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกข้างใน

พอเสร็จงานศพของพี่สาว ต้นก็กลับมาที่บ้าน ช่วงเช้าต้นจึงได้มีเวลากินข้าวกับพ่อกับแม่พร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนอย่างเคย รวมทั้งเจ้าติวด้วย สายๆ หน่อยพ่อก็ออกไปธุระกับพ่อของสน เห็นว่าจะไปหาดูต้นไม้ที่จะเอามาปลูกในบ้านสักสองสามต้น ต้นกับแม่และเจ้าติวจึงอยู่ด้วยกันที่บ้านสามคน

"ป้าครับ ป้าเคยอ่านอันนี้ไหมครับ 10 วิธีดูว่าใครเป็นเกย์" อยู่ดีๆ เจ้าติวก็เดินมาหาแม่ของต้นพร้อมกับโชว์บทความเรื่องที่พูดเมื่อกี้ให้แม่ของต้นดูในมือถือ

"ยังเลย ทำไมติวถึงสนใจเรื่องนี้ล่ะลูก" แม่ต้นถามด้วยความอยากรู้

ต้นเริ่มอกสั่นขวัญแขวนเพราะกลัวภัยจะมาถึงตัวจากประเด็นที่ลูกพี่ลูกน้องอีกคนสร้างขึ้น แต่ก็พยายามทำใจเย็นๆ นั่งดูทีวีไป

"ติวรู้สึกว่ามีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งเขาชอบมาอยู่ใกล้ๆ ติวน่ะครับ ท่าทางดูแปลกๆ ติวก็เลยอยากรู้ว่าเขาเป็นเกย์หรือเปล่า"

"อ้อ...แล้วมันมีอะไรบ้างล่ะลูก อ่านให้ป้าฟังหน่อยสิ ป้าก็อยากรู้ จะได้ดูเป็น" แม่ของต้นก็ดันเล่นด้วยเสียด้วยสิ

แล้วเจ้าติวก็อ่าน 10 วิธีดูเกย์ให้แม่ของต้นฟัง เริ่มตั้งแต่เรื่องนิ้วมือโดยเฉพาะนิ้วก้อยที่มักจะกระดกเด่นออกมา แต่งตัวนานหรือสำอางค์กว่าผู้ชายทั่วไป ขี้งอน ปากจัด จู้จี้ผิดธรรมชาติผู้ชาย อุทานไม่เหมือนผู้ชาย ชอบอ่านนิตยสารสวยๆ งามๆ มากกว่ากีฬา มีคลิปหรือวิดีโอชาย-ชายซ่อนอยู่ และอีกหลายข้อสังเกต ในขณะที่ฟังแม่ของต้นก็เริ่มนึกถึงต้นตามแต่ละข้อไปด้วย

มีหลายๆ ข้อที่ทำให้เธอเริ่มสงสัยในตัวลูกชายไม่น้อยอยู่เหมือนกัน นอกจากเรื่องที่ต้นไม่มีแฟนแล้ว ต้นก็ไม่เล่นกีฬาเท่าไรนัก ไม่อ่านหนังสือกีฬา ขี้งอนในบางเรื่อง แต่งตัวแม้จะไม่ถึงกับนานมากแต่ก็พิถีพิถันระดับหนึ่ง

"ติว...เดี๋ยวติวขี่มอไซค์ไปซื้อของที่ตลาดให้ป้าหน่อย ติวมีอะไรต้องทำตอนนี้ไหมลูก"

"ไม่มีครับป้า ป้าจะซื้ออะไรครับ เดี๋ยวติวไปซื้อให้"

แม่ของต้นจดรายการของที่จะซื้อใส่กระดาษให้หลานแล้วก็ส่งให้ติวไป พอติวไปแล้ว แม่จึงเรียกต้นให้มาคุยด้วย

"ต้น...แม่มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย ต้นปิดทีวีก่อนได้ไหมลูก"

ต้นปิดทีวีตามที่แม่บอก รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกว่าแม่จะคุยกับเขาเรื่องอะไรกันแน่ แม่ของต้นเดินมานั่งข้างๆ ลูกชายด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก เธอเองก็ไม่รู้ว่าคิดดีแล้วหรือยังที่ตัดสินใจจะถามต้นเรื่องนี้ แต่อย่างน้อย ถ้าได้รู้ไว้ก่อนก็อาจจะพอหาทางแก้ไขได้ ดีกว่าปล่อยให้สายเกินไป

ต้นไม่ได้เตรียมตัวเสียด้วยสิ สีหน้าเขาจึงดูประหม่าอย่างเห็นได้ชัด

"เมื่อคืน...แม่คุยกับพ่อเรื่อง...เรื่องที่ลูกสาวป้าเขาพูดเมื่อวาน"

"เรื่องอะไรเหรอครับแม่"

"ต้น...ต้นไม่ได้เป็นอย่างที่พี่เขาพูดใช่ไหมลูก"

"เป็นอะไรครับแม่" ถึงตอนนี้ต้นรู้แล้วว่าสิ่งที่เขากลัวมาตลอดชีวิตคืบคลานใกล้เข้ามาแล้ว

"ก็..." แม่ของต้นถอนหายใจ มองหน้าลูกชายคนเดียวหัวแก้วหัวแหวนด้วยสีหน้าหนักใจ "เมื่อคืน...พ่อเขาสงสัยว่าต้น...เป็นเกย์หรือเปล่า แม่ก็เลยบอกพ่อไปว่าสงสัยพ่อจะคิดมากไป"

ต้นรู้สึกตัวชา หูอื้อ ตาลายและมึนงงไปหมด ใจของเขาเต้นไม่เป็นส่ำจนแทบจะกระเด็นหลุดออกมาจากอกข้างซ้าย ต้นจะบอกแม่ยังไงดี เขากลัวเหลือเกินว่าแม่จะรับไม่ได้

"ต้นไม่ได้เป็นเกย์ใช่ไหมลูก" แม่ของต้นถามอีก สีหน้าของเธอดูมีแววกังวลไม่น้อยเลย

"ต้นเป็นเกย์ไม่ได้นะลูก พ่อรู้เข้า...เขาคงทำใจไม่ได้แน่ๆ พ่อเขาตั้งความหวังกับต้นไว้มากแค่ไหนต้นก็รู้"

"แม่ครับ..." ต้นเรียกแม่เสียงสั่น "พ่อกับแม่รักต้นใช่ไหมครับ"

"ทำไมถามอย่างงั้นล่ะลูก พ่อแม่ที่ไหนจะไม่รักลูกของตัวเองล่ะต้น"

"แล้วถ้า...ถ้าต้นไม่ได้เป็นอย่างที่พ่อแม่อยากให้ต้นเป็น พ่อกับแม่จะยังรักต้นอยู่ไหมครับ"

คราวนี้ต้นห้ามน้ำตาไว้ไม่ได้แล้ว เขาเองก็ไม่อยากให้พ่อกับแม่ทุกข์ทรมานอยู่กับความสงสัยแบบนี้ แม้ว่าบอกไปแล้วพ่อกับแม่ก็อาจจะทุกข์ใจมากขึ้น แต่มันจะมีทางเลือกอะไรให้ต้นอีกล่ะ การที่ต้นคอยปิดบังหรือถึงขั้นต้องโกหกในบางครั้งที่จำเป็นมากๆ ก็ไม่ได้ทำให้พ่อแม่หายสงสัยไปได้ ที่สำคัญ ไม่วันใดก็วันหนึ่งพ่อกับแม่ก็ต้องรู้ ต้นจะปิดบังไปได้อีกนานแค่ไหนกัน

"ต้นหมายความว่าไงลูก หรือว่า..."

ต้นพยักหน้าแล้วก็โผเข้ากอดแม่

"ต้นขอโทษครับแม่ ต้นขอโทษที่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง" คนที่ต้นหวังว่าจะเข้าใจเขามากที่สุดในครอบครัวก็คือแม่ แต่ตอนนี้ต้นชักไม่มั่นใจเสียแล้วว่าแม่จะเข้าใจต้นหรือเปล่า

"จริงเหรอต้น"

น้ำเสียงที่แสดงความผิดหวังและตกใจของแม่นั้นยิ่งทำให้ต้นรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น แม่ของต้นปล่อยให้ต้นร้องไห้อยู่สักพักก็จับไหล่ลูกชายให้หันหน้ามาเผชิญกับเธอ

"ต้น...นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะลูก ต้นล้อแม่เล่นหรือเปล่าลูก"

ต้นส่ายหน้าอย่างไว "ต้นไม่ได้ล้อเล่นครับแม่"

"ต้น...ต้นเป็นแบบนี้ไม่ได้นะลูก ต้นไม่ได้เป็นใช่ไหมลูก ต้นแค่สับสนหรือเปล่าลูก หา...ต้นแค่สับสนใช่ไหม"

แม่ของต้นร้องไห้ตามลูกชายไปด้วย ตั้งแต่เกิดมาต้นไม่เคยทำให้พ่อกับแม่ต้องร้องไห้เลย ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก

"ต้นขอโทษครับแม่..." ดูเหมือนจะไม่มีคำพูดที่ดีกว่านี้ที่ต้นพอจะนึกออกในตอนนี้เลย

"ไม่จริง...ไม่จริงหรอกต้น ต้นแค่สับสนนะลูก ต้นไม่เห็นจะเหมือนคนพวกนั้นตรงไหนเลย แม่จะไม่บอกพ่อเรื่องนี้หรอกนะต้น แต่ต้น...ต้นต้องหายจากอาการสับสนนี้นะลูก ไม่งั้นพ่อเขา..."

แม้ว่าแม่ของต้นจะเป็นครูมีความรู้ แต่พอเป็นเรื่องนี้เธอกลับดูไม่มีเหตุผลเลย เธอแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกย์คือะไรนอกจากภาพที่เธอเห็นในทีวีบ่อยๆ รวมทั้งลูกศิษย์หรือคนแถวบ้านบางคนที่มีอาการออกสาว เป็นที่ขบขันของคนทั่วไป ถ้าต้นเป็นแบบนั้นเธอคงรับไม่ได้อย่างแน่นอน

ต้นกอดแม่อีกครั้ง เขารู้ว่าอธิบายไปแม่ก็คงไม่เข้าใจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าถ้าพ่อรู้เข้าก็คงจะเป็นเรื่องใหญ่โตยิ่งกว่านี้หลายเท่า

"ต้น...เดี๋ยวต้นก็จะหายสับสนแล้วล่ะลูก แม่จะหาวิธีช่วยต้นเอง ต้นไม่ต้องห่วงนะลูก ต้นไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก ต้นเชื่อแม่นะลูก"

ได้ยินเช่นนั้นแล้วต้นก็ยิ่งหมดความหวัง หรือว่าเขาควรจะทำตามที่พ่อกับแม่ต้องการไปเลย บอกท่านไปเลยว่าต้นไม่ได้เป็นเกย์ ต้นแค่สับสนเท่านั้น แต่มันจะช่วยอะไรได้ในเมื่อความจริงไม่เป็นอย่างนั้น ต้นไม่อยากโกหกพ่อกับแม่อีกแล้ว ที่ผ่านมาต้นก็รู้สึกผิดบาปไปมากที่ต้องคอยโกหกท่านสองคน ต้นเป็นความหวังเดียวของครอบครัว เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวที่พ่อกับแม่มี ไม่ว่าต้นอยากได้อะไรพ่อกับแม่ก็หาให้ทุกอย่าง แต่ต้นกลับเป็นในสิ่งที่พ่อกับแม่ต้องการไม่ได้ ต้นรู้สึกเกลียดตัวเองเหลือเกินที่เป็นแบบนี้ ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง ทำให้เพื่อนที่รักมากต้องลำบากใจ สิ่งที่ต้นเป็นสร้างปัญหามากเหลือเกิน



ต้นกลับมาถึงบ้านพักที่เชียงใหม่ประมาณเกือบๆ สองทุ่ม พยายามโทรหาสนอยู่หลายครั้งแต่สนก็ไม่รับสายทั้งก่อนขึ้นเครื่องและลงจากเครื่องแล้ว วันอาทิตย์แบบนี้สนไม่ได้เรียนก็ไม่น่าจะยุ่งจนถึงขั้นรับโทรศัพท์ไม่ได้เลยนี่นา ในเวลาที่ต้นกำลังต้องการใครสักคนแบบนี้ คนแรกที่ต้นนึกถึงก็คือเพื่อนรักคนนี้แหละ

"อ้าวต้น มาถึงแล้วเหรอ เป็นไงมั่ง" นิกถามในขณะที่เขากำลังกวาดบ้านอยู่ วันนี้เป็นเวรของนิกที่จะต้องทำความสะอาดบ้านพอดี แต่เขามีธุระเกือบทั้งวันกับป้าเลยเพิ่งจะมีเวลาทำตอนเย็นๆ

ต้นยิ้มเศร้าๆ "ก็ดี... แล้วนี่...ไอ้จั่นไปไหน"

"ไปเดตกับสาวคณะวิจิตรศิลป์คนนึงว่ะ" คนพูดหยุดยืนมองต้นอย่างสงสัย สีหน้าของต้นดูไม่ดีเลยเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจบางอย่าง

"อ๋อ...น้องคนที่จั่นเคยพามาแนะนำน่ะเหรอ"

นิกพยักหน้ายิ้มๆ

"สนไม่อยู่เหรอ"

คำถามนี้ดูจะทำให้นิกแปลกใจมากขึ้น ปกติคนที่จะรู้ว่าสนอยู่ไหนก็คือต้นเสมอ แต่วันนี้ต้นกลับไม่รู้ว่าเพื่อนรักของตัวเองไปไหน

"ไปกับนินาน่ะ เห็นมันบอกว่าจะไปดูที่ขายของขายเสื้อผ้าอะไรของมันนี่แหละ ไปตั้งแต่เช้าแล้วจนป่านนี้ก็ยังไม่กลับเลย ไม่รู้ไปดูถึงไหน มึงเตือนๆ มันหน่อยละกัน ผู้หญิงคนนี้เป็นใครก็ไม่รู้ อยู่ดีๆ ไอ้สนก็จะไปทำธุรกิจกับเขาซะงั้น เดี๋ยวก็โดนเขาโกงเอา คนสมัยนี้ยิ่งไว้ใจไม่ค่อยได้อยู่ด้วย"

อย่างนี้นี่เอง ต้นโทรหาเท่าไรก็ไม่ยอมรับสาย ต้นก็ไม่อยากจะน้อยใจหรอก แต่ในเวลาที่ต้นมีสภาพจิตใจแบบนี้เขาก็อดจะน้อยใจอีกไม่ได้ ไปดูอะไรถึงไหนกันถึงยังไม่กลับมาจนป่่านนี้

"เออ...แล้วมึงกินข้าวมายัง"

ต้นพยักหน้า "กินบนเครื่องมาแล้ว"

"มึงเป็นไรหรือเปล่าวะต้น ทำไมมึงดูเศร้าๆ วะ"

ต้นถอนหายใจยาว เป็นเพื่อนกันมากว่าปีแล้วต้นก็ไว้ใจเพื่อนคนนี้มากพอสมควร นิกเป็นคนที่คิดดี จิตใจดี ให้คำปรึกษากับเพื่อนๆ ได้

"นิก...กูบอกแม่ไปแล้ว่ากู...เป็นเกย์"

นิกรีบวางไม้กวาดลงกับพื้นแล้วเดินเข้ามาหาต้นใกล้ๆ ด้วยสีหน้าเป็นห่วง

"จริงเหรอต้น แล้วแม่มึงว่าไงวะ"

ต้นพยายามสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อไม่ให้อารมณ์เสียใจปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

"เขา...เขาคิดว่ากูแค่สับสน เขาคิดว่า...เดี๋ยวกูก็หาย นิก...กูคิดว่า...แม่จะเข้าใจกูมากที่สุดนะเว้ย แต่ว่า..."

"เฮ้ยต้น ใจเย็นๆ มึงนั่งลงก่อน" นิกว่าพลางดึงเก้าอี้จากโต๊ะตรงกลางห้องโถงให้เพื่อน แล้วก็ลากอีกตัวออกมาให้ตัวเองนั่ง

ต้นนั่งลงแล้วก็ปรับทุกข์กับเพื่อนอยู่พักใหญ่ เวลาผ่านไปแล้วก็ยังไม่เห็นคนที่ต้นรอคอยกลับมา ความน้อยใจก็ยิ่งเพิ่มอีกเท่าทวี

"ให้เวลาแม่มึงก่อนดีกว่าต้น ยังไงเขาก็ต้องรับได้สักวันแหละ มึงมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำแล้วก็นอนพักให้สบายใจก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงลองคุยกับพี่ทินดู เขามีประสบการณ์มาก่อน พี่เขาน่าจะพอช่วยได้"

ต้นพยักหน้าเข้าใจ "ขอบใจมากนิก..."

"แล้วนี่ไอ้สนมันรู้เรื่องนี้หรือยัง เวลามึงมีปัญหาแบบนี้มันน่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนมึงหน่อย ใช้ไม่ได้เลยว่ะไอ้นี่ มึงได้โทรหามันไหมต้น"

"โทร...แต่เขาไม่รับสาย เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนนะเว้ย"

ต้นรีบตัดบทเพราะไม่อยากให้นิกเห็นอาการตัดพ้อต่อว่าของเขามากนัก รีบหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาแล้วก็เดินขึ้นบันไดไป กำลังจะเปิดประตูห้องเข้าไปก็ได้ยินเสียงประตูหน้าบ้านเปิดเข้ามาพอดี ต้นแว่บมองก็เห็นว่าสนกลับมาแล้วนั่นเอง ความน้อยใจที่พลุ่งพล่านขึ้นมาทำให้ต้นรีบหลบเข้าไปในห้องตัวเองแล้วก็ล็อกห้องไว้ทันที

"หายไปทั้งวันเลยนะมึง ไปดูมากี่ที่วะเนี่ย" นิกถามทันทีที่เพื่อนอีกคนโผล่ศีรษะเข้ามาในบ้าน

สนถอดรองเท้าวางแล้วก็หันมาตอบ "ก็หลายที่อยู่"

"แล้วทำไมต้นโทรหามึงไม่รับสายมันวะ"

สนรีบหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมาดู เห็นมิสคอลจากต้นหลายสายเลย ทำไมเขาไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ล่ะ พอสังเกตดูไอค่อนด้านบนๆ ก็พบว่าสนทำเป็นระบบสั่นไว้ ไม่รู้ว่าเผลอตั้งไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงว่าล่ะสนไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ทั้งวันเลย

"สงสัยกูจะไม่ได้ยินว่ะ พอดีกูเปิดสั่นไว้แล้วเอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเป้ มีอะไรหรือเปล่า"

นิกชั่งใจอยู่สักพัก ไม่ใช่คิดว่าสนไม่ควรจะรู้เพราะสนต้องรู้เรื่องนี้ก่อนนิกเสียด้วยซ้ำ แต่อยากให้สนไปคุยกับต้นเองมากกว่า

"ต้นมันบอกแม่มันแล้วว่ามันเป็นเกย์"

สนแทบจะปล่อยโทรศัพท์ที่ถือไว้หลุดจากมือเมื่อได้ยินเช่นนั้น

"จริงเหรอนิก แล้วต้นอยู่ไหน"

"ขึ้นไปอาบน้ำเมื่อกี้เอง" นิกพูดพร้อมกับพยักเพยิดไปทางห้องนอนของต้น

สนไม่รอช้า เขารีบวิ่งขึ้นบันไดไปที่ห้องต้นด้วยความเป็นห่วงทันที พอจะเปิดประตูต้นก็ล็อกห้องไว้ สนเคาะประตูเรียกต้นก็ไม่ยอมมาเปิด

"มันอาบน้ำอยู่มั้ง เดี๋ยวค่อยมาหามันก็ได้" นิกร้องบอกมาจากข้างล่าง

สนรู้สึกโกรธตัวเองทีไม่ได้รับโทรศัพท์เพื่อนเลย เวลามีปัญหาแบบนี้ต้นนึกถึงเขาเป็นคนแรกเสมอ แต่วันนี้สนกลับไม่ได้เป็นคนแรกที่จะอยู่ข้างๆ ต้นในเวลาที่ต้นต้องการใครสักคนเสียแล้ว

สนเอากระเป๋าไปเก็บในห้อง นั่งรอจนแน่ใจว่าต้นน่าจะอาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากห้องตัวเอง แล้วตรงไปที่ห้องต้นที่อยู่ใกล้ๆ กันทันที

เคาะประตูเรียกอยู่สักพักต้นก็มาเปิดประตู

"สน...เราขออยู่คนเดียวก่อนได้ไหม"

สนชะงักไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาเป็นห่วงต้นมาก อยากถามสารพัดอย่างถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เมื่อต้นพูดแบบนี้ สนก็ไม่รู้จะแย้งอะไรได้

"ได้" สนพูดเสียงเบาหวิว "ถ้ามีอะไร...มาบอกเรานะต้น เราเป็น..."

สนพูดคำว่าเป็นห่วงยังไม่ทันจะจบ ต้นก็ปิดประตูไปเสียแล้ว เช้าวันจันทร์ต้นก็ออกไปตั้งแต่เช้า สนก็เลยไม่ได้เจอต้นเลย แถมต้นยังปิดโทรศัพท์อีกด้วย

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2015 18:54:14 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
CHAPTER 16-1 ❆ ความผิดหวังของแม่ ความน้อยใจของสน
CHAPTER 16-2 ❆ ความผิดหวังของแม่ ความน้อยใจของสน

CHAPTER 16-2: ความผิดหวังของแม่ ความน้อยใจของสน


นินานัดสนไว้ว่าจะมากินข้าวกลางวันด้วยเพื่อจะคุยเรื่องที่ขายของที่คุยกันค้างไว้ แต่สนก็ยกเลิกไปเพราะเป็นห่วงต้น เขารู้สึกร้อนรนใจที่ยังไม่ได้คุยกับต้นเรื่องที่ต้นบอกแม่ว่าเป็นเกย์เลย ช่วงพักกลางวันสนจึงรีบเดินไปที่คณะต้นทันที

ระหว่างทางที่เดินไป แม่ของต้นก็โทรมาพอดี

"สวัสดีครับแม่เยา"

"สน...ต้นเป็นไงบ้างลูก แม่โทรหาเขาไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าปิดเครื่องหรือเปล่า" น้ำเสียงของแม่ต้นฟังดูเป็นห่วงลูกชายมากทีเดียว

"น่าจะอย่างงั้นครับแม่เยา ผมก็โทรไม่ติดเหมือนกัน ตอนนี้ผมกำลังจะไปหาต้นที่คณะครับ"

"สน...สนรู้เรื่องต้นแล้วใช่ไหมลูก"

"ครับแม่เยา..." สนเดินหาที่เงียบๆ แล้วก็หยุดยืนคุยกับแม่ของต้น

"สน...สนรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่"

"ผม...รู้นานแล้วครับแม่เยา" สนตอบเสียงเบา

"แต่แม่ว่าต้นเขาไม่ได้เป็นหรอกนะสน ต้นเขาคงแค่สับสน เดี๋ยวแม่จะลองไปปรึกษากับเพื่อนที่เป็นหมอดูว่าจะพอมีทางช่วยต้นได้ไหม ต้นเขาเป็นแบบนี้ไม่ได้หรอก สนก็รู้ว่าพ่อของต้นเขาคาดหวังกับลูกชายคนเดียวของเขามากแค่ไหน สนช่วยเพื่อนด้วยนะลูก"

สนน้ำตาแทบจะร่วงด้วยความสงสารคนที่กำลังหลบหน้าหลบตาเขาไป ฟังแค่นี้เขาก็พอจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อกับแม่ต้นรับไม่ได้ที่มีลูกเป็นเกย์นั่นเอง

"ครับแม่เยา" สนรับคำไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากไปขัดแม่ของต้นที่กำลังช็อกกับเรื่องลูกชายเป็นเกย์อยู่

"แล้วสน...ไม่ได้รังเกียจต้นใช่ไหมลูก"

สนฟังแล้วก็ยิ่งอยากจะร้องไห้ "ไม่ครับแม่เยา ผมก็ยังรักต้นเป็นเพื่อนเหมือนเดิมครับ ไม่ว่าต้นจะเป็นอะไร ผมก็รับในสิ่งที่เขาเป็นได้ครับแม่เยา"

แม่ของต้นดูเหมือนจะเงียบไปสักพัก เธออาจจะอึ้งไปนั่นเองว่าขนาดสนเป็นเพื่อนยังรับได้เลย แล้วทำไมเธอเป็นแม่ของต้นแท้ๆ ทำไมถึงรับในสิ่งที่ต้นเป็นไม่ได้

"ขอบใจมากลูก..." เสียงของแม่ต้นดูอ่อนลงไป "แล้ว...สนพอจะรู้ไหมลูกว่าต้น...ต้นเขาเคย...ชอบผู้ชายคนไหนบ้างหรือเปล่า"

นั่นคงจะเป็นเรื่องที่แม่ของต้นกลัวมากที่สุด พอรู้ว่าลูกชายเป็นแบบนี้แล้วเธอก็กลัวเหลือเกินว่าต้นจะแอบมีแฟนเป็นผู้ชาย

แต่คนที่จะต้องตอบก็ดูจะลำบากใจไม่แพ้กัน ก็จะใครเสียอีกล่ะ คนที่ต้นชอบก็คือคนที่กำลังคุยอยู่กับแม่ของต้นตอนนี้นี่เอง

"เอ่อ...ผมยังไม่เคยเห็นต้นเขามีแฟนเป็น...ผู้ชายเลยครับแม่เยา" อย่างน้อยสนก็ไม่ได้โกหกล่ะนะ เพราะต้นยังไม่ได้คบใครเป็นแฟนจริงๆ นี่นา แม้แต่คนที่ต้นรักก็ยังไม่ได้คิดจะเป็นแฟนกับต้นเลย

"เหรอลูก ยังไง...แม่ฝากดูต้นให้แม่หน่อยนะลูก"

"ครับแม่เยา"

สนคุยกับแม่ของต้นอีกหน่อยจึงจบการสนทนาไป จากนั้นก็รีบไปตามหาคนที่เขากำลังเป็นห่วงมากที่สุดอยู่ตอนนี้



"สนๆ"

เสียงเรียกที่คุ้นเคยทำให้สนหยุดเดินแล้วหันไปมอง

"อ้าวนิก เพิ่งลงมาเหรอวะ"

"เออ...มาหาต้นเหรอ" นิกวิ่งตามมาทันแล้วก็หยุดยืนตรงหน้าเพื่อน ถ้าสนมาถึงที่คณะนี้ก็คงไม่มีอะไรมากไปกว่ามาหาต้นหรอก

สนพยักหน้า แววตาดูเศร้าๆ

"แล้วไอ้จั่นล่ะ"

"ไปกินข้าวกับสาวที่คณะวิจิตรศิลป์โน่นแน่ะ เห็นมันตามจีบน้องเขามาพักหนึ่งละ สงสัยคนนี้มันเอาจริง" นิกหัวเราะขำเบาๆ

สนยิ้มจางๆ ไม่ใช่ว่าไม่ดีใจกับเพื่อน แต่ตอนนี้เขารู้สึกเป็นห่วงต้นจนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรมากนัก

"ต้นไปหาพี่ทินน่ะ พอดี...กูเป็นคนบอกต้นเองแหละว่าให้ลองปรึกษากับพี่ทินดู เขามีประสบการณ์มาก่อน น่าจะพอช่วยต้นได้"

แม้จะรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้างที่ต้นไปหาพี่ทิน แต่เมื่อฟังเหตุผลที่นิกพูดมา สนก็พอเข้าใจความจำเป็น สนเองก็ไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้ ไม่รู้ว่าแนะนำไปแล้วจะช่วยเพื่อนได้มากแค่ไหน

"ไปกินข้าวกันไหม เดี๋ยวกูเลี้ยง กูอยากจะคุยอะไรกับมึงหน่อย"

สนพยักหน้าตกลง เขาก็ตั้งใจว่าจะมากินข้าวกับต้นนั่นแหละ แต่ตอนนี้ต้นก็ไปกับทินซะแล้ว

หลังจากที่ได้อาหารมาคนละจานแล้ว นิกก็เลือกมานั่งคุยกับสนตรงที่นั่งท้ายๆ ในโรงอาหารที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านมากนัก

"เออสน กูมีเรื่องจะบอกมึงเรื่องหนึ่ง" นิกเริ่มก่อนเมื่อตักอาหารกินไปได้คำสองคำ สนเลิกคิ้วเป็นเชิงอยากรู้

"ตอนนี้เพื่อนๆ ปีสองหลายคนเริ่มรู้ว่าต้นเป็นเกย์แล้วว่ะ พวกผู้ชายบางคนมันก็แซวบ้าง แกล้งจับก้นจับหน้าอกไอ้ต้นกันใหญ่ กูว่าเรื่องน่าจะรั่วมาจากเพื่อนพี่ทินนั่นแหละ จำพี่เอ้ได้ไหม เขามาเล่าให้พวกนั้นฟังว่าต้นเป็นแฟนพี่ทิน ไอ้ต้นมันดูเครียดหน้าดูเลยว่ะ แต่มันไม่ยอมให้พวกกูบอกมึง ตอนนี้ก็มาเจอเรื่องครอบครัวอีก มึงดูมันดีๆ หน่อยนะสน ต้นมันยิ่งชอบคิดมากอยู่ด้วย"

"จริงเหรอนิก นานแค่ไหนแล้ว" สนรู้สึกสงสารเพื่อนจับใจที่ต้องมาเจอวิบากกรรมแบบนี้ อย่าให้เขาเจอใครแกล้งต้นแบบนั้นละกัน สนจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น

"ตั้งแต่เทอมสุดท้ายของปีหนึ่งนั่นแหละ" แล้วนิกก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวไปอีกสองสามคำ

"นิก...มึงช่วยดูแลต้นให้กูด้วยนะเว้ย อย่าให้ใครมาแกล้งต้น ถ้ามีอะไรมึงโทรหากูได้เลย เดี๋ยวกูมาจัดการ"

นิกถอนหายใจอย่างหนักใจ "กูก็พยายามที่จะช่วยนะสน แต่พวกนั้นแม่งก็คึกคะนองตามประสามันนั่นแหละ พูดยากว่ะ อีกอย่าง...ก็เพื่อนๆ กันทั้งนั้น ถ้ากูแรงไปก็จะทำให้เพื่อนมีปัญหากันอีก อ้อ...แม้กระทั่งไอ้เต้ก็เป็นไปกับเขาอีกคน ไอ้ต้นมันอุตส่าห์ช่วยทำงานให้ตั้งหลายอย่าง ต้นมันแทบจะกลายเป็นตัวตลกให้เพื่อนๆ แกล้งไปเลยว่ะ"

ยิ่งฟังสนก็ยิ่งสงสารเพื่อนจับใจ ชีวิตของต้นไม่ง่ายแล้วตอนนี้ ต้นคงต้องเผชิญปัญหาหนักหลายเรื่องเลย พอเห็นสีหน้าสนเริ่มเครียดมากขึ้น นิกจึงชวนสนกลับมาคุยเรื่องที่เขาตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก

"เดี๋ยวค่อยว่ากันเรื่องนี้ กูมีเรื่องอยากถามมึงเรื่องหนึ่งว่ะ เกี่ยวกับต้นนี่แหละ"

สนใช้ช้อนเขี่ยข้าวเล่นระหว่างรอฟังคำถามจากเพื่อนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

"มึงชอบต้นหรือเปล่าวะสน อืม...ยังไงดี...ไม่ใช่แค่ชอบสิ กูอยากรู้ว่ามึงรักต้นหรือเปล่า มึงบอกกูตรงๆ ได้ไหมสน กูสังเกตดูมึงมาเป็นปีๆ ละ บอกตามตรงว่ากูสงสัยว่ะ"

สนมีท่าทางลังเลอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่ลังเลเพราะไม่รู้ว่าคิดอะไรกับต้น แต่ลังเลที่จะบอกความจริงต่างหาก

"มึงจะอยากรู้ไปทำไมวะ"

"เฮ้ยสน...มาถึงขั้นนี้แล้ว กูอยากให้มึงพูดความจริงว่ะ ต้นมันก็รอฟังมึงอยู่นะเว้ย กูเห็นมึงทำทีเล่นทีจริงกับมันมาเป็นปีๆ แล้ว ถ้ามึงไม่ได้รักมันก็อย่าไปให้ความหวังกับมันสิวะ หรือถ้ามึงรักต้นจริงๆ ทำไมมึงไม่บอกต้นไปเลย ทำแบบนี้ต้นมันเจ็บนะเว้ย"

"กู...ไม่รู้จะบอกมึงยังไงดีว่ะ"

"ก็บอกอย่างที่มึงรู้สึกนั่นแหละ กูไม่เอาไปบอกต้นหรอก ไม่ว่ามึงจะรักมันหรือไม่รักมัน มึงก็ต้องเป็นคนบอกต้นเองอยู่แล้ว ที่พวกกูพยายามวางแผนแกล้งมึงตอนอยู่ปีหนึ่งก็เพราะอยากให้มึงพูดออกมานั่นแหละ แต่มึงก็ปากแข็งไม่ยอมพูด แถมไอ้ต้นมันก็ขี้สงสาร ใจอ่อน เห็นมึงถูกแกล้งหน่อยมันก็ทนไม่ได้ ก็เลยต้องล้มเลิกแผนกันหมด ขอโทษนะเว้ยที่ทำอย่างงั้น แต่พวกกูก็อยากให้มึงกับต้นรู้ใจตัวเองกันซะที จะได้ไม่ต้องอยู่ครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้ ทรมานกันทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะต้น"

สนถอนหายใจยาว ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา นิกเป็นเพื่อนที่เขาไว้ใจได้ คอยช่วยเหลือเขาหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องธุรกิจขนมของเขา มาถึงวันนี้ สนก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องปิดบังกับนิกอะไรแล้วล่ะ

"กู...กูคิดว่ากูรักต้นว่ะ"

นิกกำลังจะตักข้าวเข้าปากก็ต้องรีบวางช้อนลงด้วยความตกใจ

"จริงเหรอสน แล้วทำไมมึงไม่บอกต้นล่ะ มึงรู้ไหมว่ามันจะดีใจแค่ไหน มันรอมึงมานานแล้วนะเว้ย อ้อ...ว่าแต่มึงรู้ใจตัวเองมานานหรือยังวะ หรือว่าเพิ่งรู้"

"ไม่รู้เหมือนกันว่ะนิก กูกับต้นสนิทกันมาก ดูแลกันมาตลอด บางที...กูก็อาจจะรู้สึกกับต้นอย่างงั้นมาตั้งนานแล้วก็ได้ แต่ตอนนี้...กูยังบอกต้นไม่ได้ว่ะ"

"ทำไมล่ะวะ มึงกลัวอะไร กลัวพ่อกับแม่มึงว่าเหรอ หรือกลัวเพื่อนล้อ"

สนถอนหายใจอีกครั้ง "เรื่องพวกนั้นกูก็กลัวอยู่หรอก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่กลัวมากที่สุด อย่างพ่อกับแม่ ถึงกูจะกลัวว่าเขาจะรับไม่ได้ แต่ยังไงเขาก็เป็นพ่อเป็นแม่ ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกของตัวเองหรอกนิก สักวันนึงเขาก็น่าจะเข้าใจ"

นิกพยักหน้าเห็นด้วย "แล้วมึงกลัวอะไรวะสน"

สนเป่าลมออกจากปากด้วยความหนักใจ

"ถ้ามึงไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะเว้ย" นิกรีบบอกเพราะกลัวว่าสนจะหาว่าเขามากดดัน

สนเงียบไปสักพักเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

"กูมีอยู่ 2 เหตุผลที่กูยังไม่แน่ใจ อย่างแรก...กูกลัวกูสับสนไปเองว่ากูรักต้น แต่เอาเข้าจริงๆ กูก็อาจจะคิดกับต้นแค่เพื่อน บางทีถ้าเราสนิทกันมากเกินไป มันก็สับสนได้นะเว้ย มึงลองคิดดูว่า...ถ้าวันนี้กูบอกว่ารักต้น แล้วอีกสามปีข้างหน้ากูมาบอกต้นใหม่ว่าไม่ได้รักแบบนั้นแล้ว ที่ผ่านมาแค่สับสน มึงคิดดูว่าต้นจะเสียใจแค่ไหน จูงมือกันมาอยู่ดีๆ ก็ทิ้งต้นไว้กลางทางซะงั้น"

นิกพยักหน้าเข้าใจ เขาเองก็ไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้เลย ไม่ใช่ว่าอะไรๆ ก็จะง่ายดั่งใจนึกไปเสียหมด สิ่งที่สนพูดมาก็มีเหตุผลไม่น้อย

"อย่างที่สอง กูก็คิดว่ากูยังเป็นผู้ชายคนหนึ่งอยู่ เห็นผู้หญิงกูก็ชอบ ก็ยังอยากจะมีอะไรกับผู้หญิงอยู่ตามธรรมชาติของกู ถ้ากูไม่หนักแน่นมั่นคงมากพอ วันหนึ่งกูก็อาจจะเลิกกับต้นแล้วหันไปแต่งงานมีลูกมีเมียไปเลยก็ได้ พ่อแม่กูเขาก็ต้องการแบบนั้นอยู่ด้วย มึงรู้ไหม...กูเคยเข้าไปอ่านเรื่องสั้นความรักของเกย์หลายๆ คู่ในเว็บ มีอยู่คู่หนึ่งที่กูอ่านแล้วสะเทือนใจมาก ไม่ว่าจะรักกันแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องแต่งงานมีลูกมีหลานให้พ่อแม่ตามกรอบของสังคม แล้วสองคนนั้นก็เลิกคบกันไป มองหน้ากันไม่ติด ก็เพราะอย่างนี้แหละ กูถึงคิดว่ากูต้องพิสูจน์ตัวเองให้ชัดเจนว่ากูจะเลือกความรัก เลือกความต้องการธรรมชาติ หรือจะเลือกเดินตามกรอบสังคม"

สนเว้นจังหวะไปสักพัก

"มึงเข้าใจกูใช่ไหมนิก ถ้ากูยังไม่ชัดเจนกับสองเรื่องนี้ ไม่มั่นคงหนักแน่นมากพอ กูกลัวว่ากูจะต้องปล่อยมือต้นกลางทางว่ะ ต้นจะเสียใจมากกว่าแอบรักกูอีกนะเว้ย อย่างน้อย...ถ้าตอนนี้กูกับต้นยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ต้นอาจจะเจ็บที่วันหนึ่งกูมีแฟน แต่งงาน มีลูกมีครอบครัวของกูเอง แต่ความเป็นเพื่อนจะไม่หายไปไหน กูกับต้นก็ยังจะยังเป็นเพื่อนกันต่อไป ดูแลกันอย่างเพื่อนต่อไปได้ แต่ถ้ากูปล่อยมือต้นกลางทาง เผลอๆ กูกับต้นอาจจะเลิกคบกันไปเลย มองหน้ากันไม่ติด ความเป็นเพื่อนก็ไม่เหลือ ถ้ามันจะเป็นอย่างงั้นนะ สู้เป็นเพื่อนกันต่อไปแบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอวะ"

คิดๆ แล้วสนก็รู้สึกว่าชีวิตนี้ช่างน่าตลกเหมือนกัน ธรรมชาติสร้างเขามาให้เป็นเหมือนผู้ชายทั่วไป แทนที่จะให้เขารักกับผู้หญิงสักคนหนึ่ง แต่กลับให้เขาต้องมารักผู้ชายที่เป็นเพื่อนที่วิ่งเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ เสียอย่างนั้น ช่างขัดแย้งกันสิ้นดี เพราะฉะนั้นก็อย่าแปลกใจเลยที่สนจะสับสนกับชีวิตมากขนาดนี้

"มึงรู้ไหม...กูอยากจะบอกต้นใจแทบขาด จะเผลอบอกหลายทีแล้วว่ากู...รักเขามากแค่ไหน แต่กูก็ไม่อยากให้ต้นเสียใจทีหลัง มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะเว้ยนิกที่กูจะรู้ว่ากูไม่ได้รักต้นเพราะกูสับสน หรือกูจะไม่เผลอกลับมาตามธรรมชาติของกูทีหลัง กูต้องการเวลาที่จะพิสูจน์ว่า...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คำตอบสุดท้ายของกูก็คือต้นเท่านั้น ต้นเป็นคนที่กูรักมากนะเว้ย กูไม่อยากให้ต้นต้องมาเสียใจกับกูเรื่องนี้ ถ้ากูผ่านสองข้อนี้ได้ กูจะบอกรักต้นเอง มึงอย่าเพิ่งไปบอกต้นนะ แล้วถ้ากูตัดสินใจแล้วกูก็จะไม่มีวันคืนคำ ต้นจะไม่มีวันเสียใจกับสิ่งที่กูตัดสินใจ แต่ตอนนี้ กูยอมรับว่ากูยังไม่ผ่านสองข้อนี้ว่ะ"

"เออ...กูเข้าใจมึงแล้ว แล้วที่มึงคบกับนินาอยู่ตอนนี้ เป็นเพราะว่ามึงจะพิสูจน์สองข้อนี้หรือเปล่าวะ"

สนถอนหายใจอีกครั้ง

"จะว่าใช่ก็ใช่ จะว่าไม่ใช่ก็ไม่เชิง กูสับสนกับชีวิตตอนนี้มากเลยว่ะนิก"

"มึงระวังตัวหน่อยนะสน อย่าเล่นกับไฟ มึงจะพลาดได้นะเว้ย แล้วอีกอย่าง...ถ้ามึงไม่ได้รักนินาแล้วไปดึงเขามาเล่นเกมส์ด้วย มันก็ไม่แฟร์กับเขาว่ะ เกิดน้องเขารักมึงขึ้นมาจริงๆ มึงจะโดนข้อหาหลอกลวงเขานะเว้ย อ้อ...อีกเรื่องหนึ่งที่กูจะบอกมึง เท่าที่กูสืบถามมา พ่อนินาเขาหวงลูกสาวมาก อย่าไปทำเล่นๆ กับนินานะเว้ย พ่อเขาเอามึงตายเลย"

สนพยักหน้าเข้าใจ เขาก็กังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ต่อให้สนคิดจะถอย แต่นินาอาจจะไม่ถอยก็ได้ ดูเธอเป็นผู้หญิงที่มีความมุ่งมั่นสูงมากทีเดียว อาจจะเป็นเพราะนินาถูกสอนมาให้พึ่งตัวเอง ทำอะไรด้วยตัวเอง หาเงินเรียนเอง เธอจึงค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง แต่จะว่าไปแล้ว ถ้าสนจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงสักคนหนึ่ง นินาก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีเลยล่ะเพราะเธอเป็นคนขยันอย่างที่สนชอบ

แต่เรื่องนั้นยังไม่สำคัญนัก ตอนนี้คนที่สนเป็นห่วงมากที่สุดก็คือต้น ต้นไม่ยอมพูดกับเขาเลย เขาอยากถาม อยากปลอบใจ อยากให้กำลังใจคนที่เขารัก ต้นกลับหลบล ต้นเห็นเขาเป็นคนอื่นไปแล้วหรือ สนเคยคิดมาตลอดว่าเขาจะเป็นคนแรกที่ต้นนึกถึงไม่ว่าต้นจะมีเรื่องดีใจหรือเสียใจอะไรก็ตาม แต่วันนี้ต้นกลับไปหาคนอื่น จะไม่ให้สนน้อยใจได้ยังไง



สรุปว่าสนก็ไม่ได้เจอต้นเลยเมื่อช่วงกลางวัน พอหมดชั่วโมงเรียนสุดท้าย สนจึงรีบมาที่คณะของต้นอีกที สนโทรถามนิกก็ได้รู้ว่าต้นกำลังจะออกไปกับพี่ทินแล้ว สนรีบวิ่งจนสุดชีวิต ยังไงวันนี้เขาก็ต้องเจอต้นให้ได้ ใครจะหาว่าเขาหวงก้างก็คงต้องยอมให้ว่าล่ะนะ ถึงจะยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรแน่ชัดสักอย่าง แต่ตอนนี้สนก็รักต้น รักมาก หวงมาก ห่วงมาก

ต้นกำลังเดินไปไหนสักที่กับพี่ทินอยู่ตรงทางเดินหน้าตึกของคณะพอดี สนไม่รอช้า เขารีบวิ่งตามไป พอถึงตัวต้นแล้วสนก็รวบต้นมากอดไว้จากทางด้านหลัง ใครจะมองจะคิดอะไรสนก็ไม่สนใจแล้วตอนนี้

"หนีเราทำไมต้น รู้ไหมว่าเราเป็นห่วงนายแค่ไหน เห็นเราเป็นคนอื่นแล้วเหรอ มีอะไรทำไมไม่บอกเรา ต้นยังเห็นเราเป็นคนสำคัญที่สุดอยู่หรือเปล่า"

คนที่ถูกกอดดูเหมือนจะตกใจในตอนแรก แต่พอรู้ว่าเป็นใครก็เลยหยุดนิ่ง

ทินเองก็ตกใจอยู่เหมือนกัน แต่พอเห็นภาพสนกอดต้นไว้อย่างนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ยืนมอง ที่ทินเคยบอกต้นคราวนั้นว่าสนรักต้น ภาพที่เห็นข้างหน้าก็พิสูจน์สิ่งที่เขาพูดได้เป็นอย่างดี

"กลับบ้านกับเรานะต้น"

ถ้าคุณเป็นต้น จะปฏิเสธสนได้ไหม พี่ทินพยักหน้าเป็นเชิงว่าอนุญาต เขาโบกมือแล้วก็รีบเดินจากไปทันที

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2015 18:55:20 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ว้อยยยย :serius2: ..

นี่สนคิดจะจับปลาสองมือใช่ไหมคะ?ถ้ายังไม่แน่ใจในตัวเองขนาดนั้นล่ะก็อย่ามาให้ความหวังต้นได้ไหมล่ะ จะไปทำอะไรกับยัย(คน)นินาก็เชิญ~ ตามสบายเลยนะคะ เราอยากจะให้ต้นมีแฟนเป็นตัวเป็นตนจริงๆ เสียแล้วสิ หมั่นไส้สนนัก!!! ทำตัวเยอะจริงๆ เลย กล้าพูดออกมาได้นะคะว่าน้อยใจต้น แล้วตอนที่เขาโทรหาทำไมไม่รับล่ะคะ โธ่เอ้ย~ o12 เหม็นเบื่อสนจริงๆ เลยค่ะ

ส่วนคุณแม่นี่ทำเราเพลียเหลื๊อเกิน~ เป็นเกย์นะคะไม่ใช่เป็นหวัดที่ไปหาหมอแป๊บๆ แล้วจะหายน่ะ คิดได้ยังงายยย~ :katai1: เจอความคิดแบบนี้ของคุณแม่เข้าไปเรานี่เงิบแล้วเงิบอีกเลยค่ะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
เข้าใจความรู้สึกของสนอยู่หรอก แต่การเล่นกับความรู้สึกคนอื่นไม่ใช่สิ่งที่ดี ระวังสาวน้อยข้างตัวให้ดีละกัน

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คำว่า"สายไปแล้ว" กับคำว่า "เกือบสายไป"
มันมาจากความรู้สึกของคนแบบสนตอนนี้นี่เอง
จะบอกสนว่ามันต่างกันมากเลยนะสองคำนี้น่ะ
แต่มันก็ขึ้นอยู่กับต้นด้วยแหล่ะ ว่าสนจะได้คำไหน

หน่วงจับจิตจับใจ สงสารทุกคนไปหมดเลย

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
ตอนนี้คนที่ทุกข์ใจมากที่สุดคือต้นกับแม่ เห็นใจทั้งสองคน ต้นก็เสียใจที่ทำให้แม่กับพ่อผิดหวัง แต่ต้นก็หลอกตัวเองไม่ได้ และยิ่งถ้าพ่อกับแม่ตัวเองหรือพ่อแม่สน รู้ว่าคนที่ต้นรักคือสน คงจะดราม่าลงตับกันเป็นแถวแน่ในภายหน้า แค่คิดก็หน่วงแล้ว :katai1: โดยเฉพาะต้นกว่าจะได้รักกับสนก็คงต้องเจ็บช้ำกับสนก่อนแน่ เพราะตอนนี้สนรักต้นแต่ยังมีความสับสนอยู่เยอะมาก สนคิดหนักไม่น้อยกว่าต้นเลย เหตุผลของสนก็ฟังขึ้นนะ แต่ในระหว่างนี้สนก็ควรจะเชื่อคำเตือนของนิกไว้บ้าง ถ้าไม่คิดอะไรกับนินาก็อย่าไปใกล้ชิดมากนัก อย่าไปดึงเข้ามาเพื่อให้ตัวเองรู้ว่าเอนเอียงไปทางไหนแน่ แต่ดูจากสปอย สนคงพลาดแน่ ยิ่งนิกพูดว่า พ่อของนินาหวงลูกสาวมาก ถ้าสนไปทำอะไรโดยตั้งใจคงไม่เทาไหร่ แต่ขอให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้รักต้นแน่ แต่รักนินา ก็ต้องพูดกับต้นไปตรงๆ แต่ถ้าไม่ได้คิดอะไรกับนินาแล้วไปพลาดท่าแบบไม่ตั้งใจ อาจจะไม่ถึงขั้นได้เสีย อาจจะแค่ภายนอก แต่พ่อของนินามองเป็นเรื่องเสียหาย สนดิ้นไม่หลุดแน่ ด้วยตัวสนเองก็เป็นคนเลี่ยงไม่ค่อยได้ด้วย หวังว่าสนคงจะคิดให้รอบครอบนะ จะทำอะไร ในตอนนี้ก็ปกป้องต้นให้ได้อย่างปากว่าด้วย ไม่ใช่มาน้อยใจหรือคิดระแวงต้นกับพี่ทิน ในขณะที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจอะไรสักอย่าง และก็เพื่อนๆของต้นก็เหมือนกัน ทำอย่างกับต้นเป็นตัวประหลาด น่าเตะไอ้เต้สักที ต้นมีน้ำใจช่วยเหลือกลับล้อเลียน สนไปจัดการซะ คนพวกนี้เห็นผิดปกติหรือไง ทำอย่างกับไม่เคยเห็น  :m16:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด