3 เดือนต่อมา
3 เดือนแล้วครับที่พี่เอิร์ธไปญี่ปุ่นแล้วยังไม่ได้กลับมาไทยสักครั้งเลย! แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็วิดีโอคอลมาคุยกับผมตอนกลางคืนทุกวันตามที่ตกลงกันไว้ ตอนเช้าพี่มันให้ผมถ่ายรูปส่งไปให้ดูทุกวันด้วย คือหน้าตาเพิ่งตื่นนอนใหม่ๆมันน่าดูตรงไหนก็ไม่รู้ T_T
ผมรอประตูรั้วอัตโนมัติที่ค่อยๆแง้มเปิดอย่างช้าๆก่อนจะขับรถเข้าไปในคฤหาสน์ของพี่พราว บ้านหลังใหญ่เหมือนจะอยู่กันได้สักสิบยี่สิบคน แต่พี่พราวกับอาเฟิร์สมีมุมที่อยู่ด้วยกันไม่กี่มุมของบ้านหลังนี้เท่านั้นแหละครับ ห้องนั่งเล่น สระว่ายน้ำ ห้องนอน แค่นั้น ส่วนที่เหลือก็จ้างเมดมาทำความสะอาดไปงั้นๆ
พี่พราวยืนยิ้มหวานรออยู่หน้าบ้านพร้อมกับลูกสาวของผม >_< เป็นแมวพันธุ์บริทิช ชอร์ตแฮร์สีเทา ฟาร์มแมวที่พี่พราวดูแลอยู่เขาให้มาแต่ที่บ้านเขามีหมาตั้งสี่ตัวกลัวว่าจะไปกัดแมวเอาก็เลยให้ผมมาเลี้ยง ตอนเด็กๆผมก็เคยมีสกอร์ตทิชโฟลด์สองตัวแต่ตายไปแล้ว คราวนี้ตั้งใจว่าจะดูแลให้ดีเลย
“ป๊าาาา~ ทำไมไม่ได้ล่ะฮะ”
“เราพูดกันมาหลายรอบแล้วนะน้องพราว”
“แต่หนูอยากขับ อเล็กซ์เด็กกว่าหนูอีกทำไมถึงขับได้ล่ะ”
“เพราะว่าป๊าเป็นห่วงหนูไง”
“ป๊าไม่ห่วงอเล็กซ์เหรอ”
“ก็ห่วง แต่แฟนเขาสนับสนุน”
“ป๊าก็สนับสนุนหนูซิ”
“ไม่ได้คือไม่ได้ครับ”
ผมอยู่กินข้าวเย็นกับอาเฟิร์สแล้วก็พี่พราว พี่พราวอยากขับรถเป็นมากแต่อาเฟิร์สไม่ยอมให้ขับเลย อันที่จริงอย่าว่าแต่ขับรถเลยนะครับ อาเฟิร์สไม่ให้พี่พราวทำอะไรสักอย่างเลยด้วยซ้ำ ที่พี่พราวได้ทำงานเปิดคลินิกทุกวันนี้ก็ทะเลาะกันบ้านแทบแตกอยู่นะครับ
ส่วนผมไม่ได้อยากจะขับรถเป็นเลยแต่พี่เอิร์ธมันบังคับผม T_T เขาบอกว่าผมจะได้ขับรถไปส่งอาหารไปเรียนไปนู่นไปนี่ที่ผมอยากไปโดยที่ไม่ต้องรบกวนคุณแม่ แถมยังให้บัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินมาเป็นค่าน้ำมันใบหนึ่งแต่ใครจะกล้าใช้ล่ะ ผมก็เลยต้องเพิ่มรายจ่ายเป็นค่าน้ำมันมาอีก และอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมยอมก็เพราะเขาบอกว่าถ้าเขากลับมาจากญี่ปุ่นผมจะได้ไปรับเขาเป็นคนแรกเลยเนี้ยแหละ >///<
…แต่ก็นะ ยังไม่ได้ขับไปเฉียดใกล้สนามบินแม้แต่ครั้งเดียว
“งั้นไว้มารับพี่ที่คลินิกนะ แล้วไปหัดขับรถกัน”
“น้องพราว” เหมือนจะกระซิบแต่เสียงไม่เบาเลย อาเฟิร์สถึงได้เรียกปรามไว้ก่อนที่พี่พราวจะได้คิดทำอะไรแผลงๆ
“ก็ได้ๆ หึ คอยดูนะจะไปแจ้งตำรวจมาจับอเล็กซ์เลย ใบขับขี่ก็ไม่มี”
“พี่พราวอ่ะ” อาเฟิร์สโดนงอนน่ะเข้าใจ แต่ผมที่นั่งกินข้าวเงียบๆนี่โดนหางเลขไปด้วยเฉยเลย
ผมได้รถหรูของพี่เอิร์ธมาใช้ฟรีๆแต่คนรักรถก็มีข้อแม้อยู่ว่าห้ามมีรอยห้ามเอาไปชนอะไร ห้ามๆๆๆ เยอะแยะมากมาย ถ้าเกิดว่าตัวผมหรือรถเป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียวเขาจะจัดหนักผมให้ถึงเช้าเลย ผมก็เลยขับด้วยความเร็ว 80 พอ T^T ส่วนเรื่องเส้นทางน่ะถามเอาจากแซ็ค รายนั้นเขารู้ทางลัดเลาะทางหนีด่านตำรวจเป็นอย่างดีเพราะขับรถไปเรียนตั้งแต่ขึ้น ม.4
ผมขอตัวกลับหลังจากเข้าไปช่วยป้าแม่บ้านล้างจานเสร็จ จะรีบไปวิดีโอคอลอวดลูกสาวใหม่ให้พี่เอิร์ธดู ผมว่าถ้าพี่เขากลับมาไทยต้องแกล้งแมวผมจนกระเจิงหนีออกจากบ้านแน่เลย
“น้องมีอะไรจะให้ดูด้วยแหละ”
“อะไร” เขานอนอยู่บนเตียงเหมือนกับผม ที่นู่นพี่เอิร์ธอยู่แมนชั่นธรรมดาๆทั่วไปที่อยู่ใกล้บริษัทไม่เหมือนคอนโดกว้างขวางที่พี่มันซื้อไว้ที่นี่ รถก็ไม่มีต้องเดินไปทำงานเอา ถ้าอยากไปไหนไกลๆก็ขึ้นรถไฟฟ้า เขาบอกว่าไม่คิดจะลงหลักปักฐานที่นั่นอยู่แล้วเพราะเมียเขาอยู่ที่ไทย คึคึ >///////////////<
“เห็นอะไรดิ้นๆนี่มั้ย”
“เห้ยยยยยยย O_o ไปทำนมมาอ่อ เยสสสสสสสสสสสส”
“ไม่ใช่นะ! แล้วถ้าไปทำนมมาจริงทำไมต้องดีใจด้วย ไอ้คนบ้า ไม่อยากคุยด้วยเล่า!”
ผมออกจากโปรแกรมแล้วก้มมองแมวตัวกลมที่ผมเอายัดไว้ในเสื้อแถวๆหน้าอก พี่เอิร์ธต่อสายมาหาผมอีกหลายสายแต่ผมก็ไม่ได้รับ เหอๆๆ ชอบแบบมีนมทำไมไม่ไปคบกับผู้หญิงซะเลยล่ะ
ปังๆๆๆ
ผมเดินไปเปิดประตู อลัวร์ยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้าแล้วบอกว่าพี่เอิร์ธจะคุยด้วย ผมรับมากดวางสายแล้วคืนให้อลัวร์เหมือนเดิมก่อนจะมาต่อวิดิโอคุยกับเขาอีกครั้ง ไม่อยากให้โทรมาเพราะโทรทางไกลมันเปลืองมาก คุยกันครั้งหนึ่งไม่ใช่นาทีสองนาทีสักหน่อย
“อ้วนนนนนนนนนนนนนนนนน”
“=_=”
“อย่าทำหน้างั้นดิ”
“...”
“ขอแค่เป็นอ้วนน้อยอ่ะ จะมีนมหรือไม่มีนมก็ได้ เป็นยังไงก็ได้”
“เป็นยังไงก็ได้แล้วทำไมต้องดีใจด้วยที่จะมีนม” ผมแกล้งถาม ผมรู้ว่าพี่เอิร์ธไม่ใช่เกย์ก็คงจะมีบ้างที่มองหรือชอบอะไรแบบนั้น
“ก็จะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้างไง ได้บีบได้ขย้ำ เต็มไม้เต็มมือ อ้วนน้อยก็จะได้ทำหน้า...”
“คนบ้า!”
ไม่พูดเปล่าไงทำไม้ทำมือขยำๆด้วย ผมเลยหยิบหมอนมาทุบหน้าจอโน๊ตบุ๊คจนหงายเงิบ รู้ว่าพี่มันไม่เจ็บแต่ผมไม่รู้จะทำยังไงให้สาสมกับความกวนนี้ดี พี่เอิร์ธหัวเราะแล้วทำหน้าทำตาล้อเลียนผม
“ขอโทษด้วยที่ไม่มีให้บีบ”
“แต่มีอย่างอื่นให้รูด”
“ถ้าทะลึ่งอีกนิดเดียวจะโกรธแล้วนะ!”
“โธ่~~~~ แล้วอะไรอยู่ตรงนั้นอ่ะ”
ตอนนี้ลูกสาวผมไหลมาอยู่ตรงท้องแล้ว ผมดันๆเจ้าตัวเล็กขึ้นมาให้โผล่ออกมาจากคอเสื้อพร้อมกับทำเสียงมิ๊วๆเหมือนลูกสาวที่กำลังร้องอยู่ พี่เอิร์ธตาโตเอามือชี้ๆ
“เอามันออกมาจากตรงนั้น”
“ขนมันนุ่มอ่า” ผมทำหน้าฟินแล้วเอาคางถูที่หัวน้อยๆของลูกสาว
“อ้วนทำงี้ได้ไงวะ กล้าให้สิ่งมีชีวิตอื่นมาเห็นนมน้องได้ไงอ่ะ”
“สิ่งมีชีวิตอื่นอะไร นี่แมวไง จำไม่ได้เหรอ”
“กวนเหรออ้วน =_=”
“คิกๆๆ”
ทีตัวเองไปกวนคนอื่นน่ะได้ แล้วพอถูกกวนบ้างก็ทำเป็นโหดใส่ ผมล้วงเอาลูกสาวออกมาจากคอเสื้อ อายุได้เกือบสองเดือนแล้วยังไม่ค่อยหย่านมดีจึงต้องซื้ออาหารเสริมเยอะเลย
“ลูกสาวของน้องเอง”
“งั้นให้เรียกพี่ว่าปะป๊านะ”
“พี่เกี่ยวไรด้วยอ่ะ”
“ก็พี่เป็นผัวแม่มันนิ”
“พูดจา! -///-“ ถามให้โดนแท้ๆเลยเรา “ตอนนี้แมวน้อยยังไม่มีปะป๊าเพราะพ่อของแมวน้อยยังโสด คิคิคิ”
“หึหึหึ พูดงี้นะ เดี๋ยวจะโดนทบต้นทบดอก” พี่เอิร์ธทำหน้าโหดแล้วชี้หน้าคาดโทษผมแต่ผมไม่กลัวเพราะเขาทำอะไรผมไม่ได้หรอก กว่าจะบินมาถึงก็ลืมเรื่องความโมโหไปหมดแล้ว คิกๆๆ
“ชื่ออะไร”
“ยังไม่ได้ตั้งเลย”
“ต้องขึ้นต้นด้วยอออ่างสินะ”
ผมพยักหน้าเพราะชื่อผมก็ขึ้นต้นด้วยตัวนี้ ‘อเล็กซ์’ เอ๊ะ แต่ส่วนมากใครๆก็เรียกผมแค่เล็กเฉยๆนี่นา ทำไมไม่ตั้งชื่อด้วยลอลิงอ่ะ
“ไม่ได้ๆ ต้องขึ้นต้นด้วยลอลิงสิฮะ”
“ลอลิงนี่ชื่อใคร มีชู้เหรอ”
“ชื่อน้องเอง น้องชื่อน้องเล็กไง >O<”
“ตัวเองชื่ออเล็กซ์เว้ย ขึ้นต้นด้วยอออ่าง ขนาดอ้วนน้อยยังขึ้นต้นด้วยอออ่างเลย”
“ถึงจะชื่ออเล็กซ์แต่ใครๆเขาก็เรียกเล็กเฉยๆ”
“งั้นก็ไปบอกให้เขาเรียกว่า ‘อะ’ ดิ”
“คนที่ไหนเขาอะไรจะชื่ออะอ่ะ บ้าบอ T_T”
ผมเถียงเรื่องชื่อของแมวน้อยกับพี่เอิร์ธอยู่เป็นชั่วโมงกว่าจะตกลงกันได้ว่าขึ้นต้นด้วยอออ่าง นี่แค่ตัวพยัญชนะขึ้นต้นยังเลือกยากขนาดนี้ แล้วดูชื่อที่เขาคิดนะ...
“อองตวลเนต อลิซเบธ เอลซ่า อารีน่า เอ็มม่า แองจี้ ไอน์สไตน์ เอมิลี่”
“ขอชื่อไทยๆสั้นๆได้มั้ยเนี้ย”
“อร อุ่น อิ่ม อุ๊ อ้อน อบ”
“พอเถอะ =___________________=;;;”
“แล้วน้องจะเอาชื่ออะไร”
“อมยิ้มดีเปล่า”
“เอ่อ หวัดดีอม”
“อมยิ้มสิ! T^T”
“เรียกสั้นๆว่าอม ฮ่าๆๆ”
“ไม่รู้แหละ ชื่ออมยิ้ม ห้ามเรียกว่าอมด้วย!”
“จ้ะ พ่อแล้วแต่แม่จ้ะ”
พี่เอิร์ธพูดด้วยหน้าตาอ้อร้อมากแต่ทำไมผมต้องเขินหน้าแดงขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ ถึงแม้ว่าพี่มันจะไม่อยู่กวนผมตลอดเวลาเหมือนตอนอยู่ไทยแล้วจะทำให้ผมเหงาๆไปบ้างเพราะไม่ได้ต่อปากต่อคำกับใครแต่ยังไงพี่เอิร์ธก็ยังทำให้ผมมั่นใจและเชื่อใจเขาได้เสมอสิน่า
ผมนอนเล่นกับอมยิ้มก่อนจะไปอาบน้ำแล้วเตรียมเข้านอน อีกไม่กี่วันก็วันเกิดผมแล้วด้วย คุยกันทุกวันแต่ไม่เห็นพี่มันจะพูดถึงบ้างเลย หรือว่าจะลืมหรือเปล่าเนี้ย
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่คุณแม่ต้องไปสัมมนาต่างจังหวัด อลิซไปเข้าค่ายวิทยาศาสตร์ อลัวร์ไปเรียนพิเศษกลับสี่ทุ่ม ครูแอฟมีประชุม พี่พราวกับอาเฟิร์สก็ไม่ว่าง ครับ...วันเกิดปีนี้ เหลือผมอยู่คนเดียว T_T
ผมตื่นไม่ทันใส่บาตรพระเพราะเมื่อคืนรอโทรศัพท์จากพี่เอิร์ธแต่เขาก็ไม่โทรมา ตอนสายๆเลยไปถวายสังฆทานแล้วปล่อยนกปล่อยปลาแทน ตั้งแต่รู้จักพี่เอิร์ธมามีวันเกิดผมเมื่อตอนหกขวบปีเดียวสินะที่เขาอยู่ด้วย ผมทำทุกอย่างไปตามปกติแต่มันช่างดูน่าเบื่อหน่าย พอจะฝึกทำอาหารสูตรใหม่ของในตู้เย็นก็พร่องลงไปเยอะแล้ว จึงออกจากบ้านมาซื้อของที่ซุปเปอร์อีกครั้ง
แต่พอซื้อของเสร็จแทนที่จะกลับไปทำที่บ้าน มือผมกลับเลี้ยวรถไปทางคอนโดพี่เอิร์ธแล้วกดรหัสผ่านเข้าไปเฉยเลย ผมไม่ได้เหงาไม่ได้งอนไม่ได้คิดถึงอะไรสักหน่อย ที่นี่ก็มีครัวเหมือนนี่นามาใช้ที่นี่ซะบ้างเดี๋ยวของจะขึ้นสนิมหมด เอ่อ ยอมรับความจริงก็ได้ครับ วันเกิดทั้งทีก็อยากอยู่กับครอบครัวอยู่กับแฟนเป็นธรรมดา ทุกวันเกิดผมไม่เคยเงียบเหงาอย่างนี้เลยนะ ทุกคนช่างทิ้งผมได้ลงคอ TOT!
“โอ๊ะ!”
ผมอุทานด้วยความตกใจเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรแว๊บๆผ่านไปด้านหลังทั้งที่ไฟยังเปิดไม่ติด ไม่นะ วันก่อนผมยังมาทำความสะอาดอยู่เลยและมันก็ใช้ได้ด้วย ไม่ชอบบรรยากาศสลัวๆนี่เลย T_T ใจหนึ่งก็อยากจะกลับเพราะกลัวว่ามันจะเป็นสิ่งลี้ลับที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ อีกใจหนึ่งก็คิดว่าอาจจะเป็นพี่เอิร์ธที่กลับมาเซอร์ไพร์สผมหรือเปล่า
“พี่เออกลับมาแล้วใช่มั้ยฮะ” ผมค่อยๆเดินฝ่าความมืดไปช้าๆ แต่ความรู้สึกเสียวเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังจ้องมองอยู่จนขนลุกซู่ไปทั้งตัวนี่มันคืออะไร
ตึง!
คราวนี้ผมสะดุ้งจนตัวโยน ไม่กล้าหันไปมองด้านหลังที่อยู่ๆเสียงปิดประตูก็ดังขึ้นอย่างแรง ก่อนที่มีมือเย็นๆเลื่อนผ่านคอผมแล้วมือนั้นค่อยๆบีบรัดขึ้นเรื่อยๆ
“อ๊ากกกกกกกกกกกกก >O<!” ไม่ต้องรอให้โดนบีบคอตายหรอกครับ ผมโกยไม่คิดชีวิตแต่ติดตรงที่ไอ้ผีบ้าตัวนั้นมันกอดผมไว้แน่นจนกระดุกกระดิกไม่ได้แถมยังหัวเราะใส่ผมอีก
“ฮ่าๆๆๆ”
“...”
“ฮ่าๆๆ อ้วนน้อยนี่พี่เอง”
“พี่เออ!!!”
พี่เอิร์ธยกผมขึ้นพาดบ่าก่อนจะเดินไปเปิดสวิทซ์ไฟให้สว่างพรึบกลางห้อง อะไรกันเมื่อกี้ยังเปิดไม่ติดอยู่เลยนี่... แต่พอพี่เอิร์ธหันหลังพลิกให้ผมหันไปทางสวิทซ์ก็เพิ่งเข้าใจว่าที่ผมเปิดตอนแรกน่ะมันเป็นสวิทซ์ของหลอดไฟหน้าประตูที่มันเสียตั้งนานแล้วส่วนที่พี่เอิร์ธเปิดเมื่อกี้คือหลอดไฟกลางห้องที่สวิทซ์อยู่ถัดกันไป
กลัวจนไม่ดูอะไรให้ดีก่อนเลยถูกไอ้คนตัวโตแกล้งเลย! T^T ผมดีดขาและทุบแผ่นหลังกว้างแรงๆแต่ก็ไม่ได้สะเทือนร่างสูงนี่เลยแม้แต่น้อย เขากดผมลงบนโซฟาแล้วคร่อมทับไว้
...ใบหน้าที่ผมเห็นผ่านจอโน๊ตบุ๊คหรือโทรศัพท์ตอนนี้มาให้เห็นแบบHDห่างออกไปไม่ถึงคืบ ใจที่เต้นแรงด้วยความกลัวของผมเมื่อกี้เริ่มเบาลงแต่ของคนที่คร่อมผมอยู่กลับเต้นแรงขึ้นแทนจนผมได้ยินมันชัดเจน ไม่มีใครพูดอะไร เราต่างก็มองหน้ากันและกันเหมือนอยากจะจดจำภาพนี้ให้นานที่สุด
“...”
“พี่คิดถึงน้อง”
“...” ผมเขินจนพูดอะไรไม่ออก
“แล้วอ้วนน้อยล่ะ”
“...” ผมย่นคอพร้อมกับเม้มริมฝีปากตัวเองหนีริมฝีปากเขาที่ขยับลงมาเรื่อยๆ ถ้าเพียงแค่ผมขยับปากตอบเขาไปก็คงได้จูบกันจริงๆ
“ว่าไงหืม?”
“อือ”
ผมหลับตารับสัมผัสแผ่วเบาบนริมฝีปาก เขาเคล้าคลึงกับความนุ่มอยู่ภายนอกก่อนจะควานเข้ามาหาความหวานภายใน ลิ้นชื้นคลุกเคล้าทั่วทั้งโพรงปากผมจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบให้ผมได้เลือดสูบฉีดจนร้อนเห่อไปทั้งหน้า
ติ๊ง!
“อื๊อออออ >3<”
ผมจับแก้มสากแล้วดันออกเมื่อได้ยินเสียงเหมือนเตาอบดังขึ้นก่อนที่กลิ่นหอมๆจะลอยออกจากห้องครัวมาเตะจมูก ผมมองหน้าพี่เอิร์ธอย่างสงสัยแต่เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่ก็เลยดันร่างสูงออกแล้วเดินไปดูซะเอง
“โอ๊ะ”
พอผมเปิดไฟห้องครัวให้สว่างพรึบขึ้นมาผมแทบช๊อคกับสภาพห้องครัวตอนนี้มาก อะไรคือเศษแป้งเศษขยะรกเต็มพื้นไปหมดขนาดนี้เนี้ย!
“พี่จะพังครัวหรือไง”
“พังครัวอะไร พี่จะทำเค้ก”
“ทำเค้ก?”
“ก็วันนี้วันเกิดอ้วนน้อยนี่”
ผมนึกขึ้นได้ละ วันเกิดผมทุกปีจะมีเค้กช๊อคโกแลตส่งมาจากบุคคลนิรนาม คือไม่ต้องบอกหรอกว่าใครผมก็รู้ว่าพี่เอิร์ธเป็นคนส่ง แต่ว่า...
“ทำเอง? ทำเองเลยเหรอ ทุกปีๆนี่ทำเค้กเองเลยเหรอ”
“เออดิ ทำไปให้ทุกปีๆแล้วน้องเอาไปให้คนอื่นกินเฉ๊ยยยย”
“อ่ะ~” ผมรีบกอดพี่เอิร์ธอย่างเอาใจ ก็ตอนนั้นผมโกรธเขาที่เขาหายไปจนพาลไม่กินของทุกอย่างที่มีความทรงจำเกี่ยวกับเขาไม่ว่าจะเป็นนมหรือเค้กช๊อกโกแลต แต่พอรู้ว่าคนอย่างพี่เอิร์ธตั้งใจทำเค้กให้ทุกปีๆแล้วมันก็อดรู้สึกผิดไม่ได้
“ปีนี้ต้องกินนะ”
“แน่นอน! แต่ว่าพี่มาไทยเมื่อไหร่ ไหนบอกจะให้น้องไปรับไง -3-“
ผมทำปากยื่น พี่มันเลยก้มลงมาจุ๊บหนึ่งทีพร้อมกับกอดผมแน่นจนหายใจไม่ออก
“อย่าเพิ่งงอน กลับมาไม่บอกเพราะว่าจะมาทำเซอร์ไพรส์น้อง เมื่อวานไม่ได้โทรคุยก็เพราะอยู่บนเครื่อง วันนี้ก็ยุ่งกับการทำเค้กให้น้องทั้งวัน แต่ดูดิ น้องทำแผนเสียหมด หมดกันๆ” พี่เอิร์ธขยี้หัวเซ็งๆ
“คิกๆๆ ไม่เห็นต้องเซอร์ไพรส์เลย แค่พี่กลับมาน้องก็ดีใจยิ่งกว่าทำอะไรแบบนี้อีก”
“ไม่เอาเซอร์ไพรส์เหรอ พูดเองนะ”
“ง่ะ ก็ต้องมีบ้างนิดนึงเนอะคนเป็นแฟนกัน อิอิ”
ผมดันร่างสูงออกแล้วไปเปิดเตาอบดู ก้อนเค้กหน้าตาดูโอเคแผ่ควันหอมฟุ้ง แต่บนเคาท์เตอร์มีก้อนขนมปังเค้กที่ไหม้แล้วสี่ห้าก้อนวางอยู่ นี่คือกว่าจะได้เค้กปอนด์หนึ่งนี่ต้องเสียวัตถุดิบไปตั้งเท่าไหร่อ่ะ
“พี่จะทาครีม”
“น้องจะนั่งดูตรงนี้ เดี๋ยวพี่ทำเสียอีกก็ต้องละลายช๊อคโกแลตใหม่มันเสียเวลา”
กลัวพี่เอิร์ธทำพังจริงนะ ไม่ค่อยมีใครเรียกทาครีมหรอกครับ เขาเรียกว่าปาดครีม จะรอดมั้ยเนี้ย T^T
“ครับๆ ตามบัญชาเลยครับ”
ผมนั่งดูพี่มันทำอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ปาดทีไรก็ไม่เรียบสักทีจนผมต้องลุกขึ้นไปแย่งมาทำซะเอง คนตัวโตแทนที่จะไปนั่งดูอย่างสงบเหมือนผมเมื่อกี้ มือใหญ่กลับปัดป่ายจับโน่นจับนี่ไปทั่วตัวผม
“พี่เออ อย่าฮะ”
ผมห้ามเมื่อเขาสอดแขนเข้ามารวบเอวผมไว้จากด้านหลังแล้วริมฝีปากร้อนก็หอมซอกคอผมเสียงดังฟอดจนผมแก้มร้อนเห่อขึ้นมา
“ก็พี่คิดถึง ฟอด คิดถึงๆ”
“คิดถึงแต่ก็ไม่มาหา หายไปตั้งสามเดือน”
“พี่ลางานนานก็เลยต้องเคลียร์งานเยอะแยะ คราวหลังพี่จะกลับมาหาเมียทุกเดือนเลย ฟอดด”
“อื๊อออออ >////<”
ผมเอียงหน้าหนีเมื่อถูกเขาขบติ่งหูจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว พี่เอิร์ธแกะสปาตูลา(ที่ปาดเค้ก)ออกจากมือผมแล้วพลิกตัวผมให้หันหน้าไปรับรสจูบจากเขาก่อนจะรั้งร่างผมไปที่หน้าห้องนอนทั้งๆที่ปากของเรายังแนบชิดติดกันอยู่
“ยังเข้าไม่ได้”
“หืม?” ผมที่ยังมึนกับรสสัมผัสปรือตาขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ปิดตาก่อน”
ผมยิ้มเมื่อรู้ว่าเขาต้องจัดอะไรไว้ในห้องนอนแน่ๆ พี่เอิร์ธกอดรัดลำคอผมกดหน้าให้ซุกลงกับอกกว้างปิดกั้นไม่ให้ผมเห็นอะไรเลยนอกจากความมืด
“หายใจไม่ออกอ่า”
“แป๊บนึง อย่าเพิ่งงอแง” พี่มันเปิดประตูเข้าไปก่อนจะค่อยๆคลายอ้อมแขนที่กอดผมอยู่ออก ผมลืมตาขึ้นมามองอย่างตื่นเต้น
“ว้าววววววว *o*” ผมอ้าปากค้างมองท้องฟ้าจำลองที่มีหมู่ดาวพร่างพราวอยู่เต็มเพดานห้อง ท่ามกลางหมู่ดาวนับล้านมีคำว่า ‘พี่เอิร์ธ © น้องเล็ก’ อยู่ด้วย
“มันคือโคมไฟเหรอฮะ” ผมวิ่งไปที่โคมไฟที่อยู่กลางเตียงนอน ลองกดปิดเปิดดู มันสามารถเปลี่ยนสีและเลือกให้มันหมุนได้ด้วย น่ารักจัง
“แล้วนี่อะไร”
“ของขวัญ”
พี่เอิร์ธเปิดไฟให้สว่างมองเห็นถังขนาดใหญ่ที่ผมโอบไม่มิดและมีความสูงถึงสะโพกผมตั้งอยู่ข้างเตียง สีชมพูหวานแหววผูกโบว์อยู่ด้านบนซะด้วย
“นี่อย่าบอกนะว่าพี่กะจะเข้าไปอยู่ข้างในถังนี่รอเซอร์ไพรส์”
“ตลกละ เปิดดูดิ”
“ไม่แกล้งใช่มั้ย”
“วันนี้วันของอ้วนนะ งดแกล้งJ”
เหอๆๆ งดแกล้งแล้วเมื่อกี้ที่ทำให้ผมหัวใจจะวายนั่นคืออะไร เฮ้ออออ ต้องสตรองแค่ไหนถึงจะมีแฟนแบบนี้ได้ก็ไม่รู้นะครับ TOT
“อะไรอ่ะ” ผมถามเมื่อเปิดออกมาแล้วพบว่ามีเม็ดโฟมขนาดเล็กสีพาสเทลอยู่เต็มถัง ผมมองหน้าพี่เอิร์ธด้วยความสงสัย นี่ให้ของขวัญวันเกิดเป็นเม็ดโฟมเหรอ
“เบื่ออ่ะมีแฟนเป็นเด็กโง่เนี้ย งมสิครับงม”
“งม? อ๋อออออออ >_<”
ผมเข้าใจแล้วควานๆมือลงไปในถังนั้น ถ้าในนี้ไม่มีงูหรือกิ้งก่าอะไรก็ถือว่าเป็นของขวัญที่น่าลุ้นอยู่ล่ะนะ สิ่งแรกที่ผมล้วงเจอคือถาดแสตนเลสที่ผมเอาไว้ใส่ขนมเข้าเครื่องอบ อย่างที่สองเป็นแม่พิมพ์ซิลิโคนรูปดอกไม้ ต่อมาเป็นชุดหัวบีบแต่งหน้าเค้กลายต่างๆ
ผมสนุกกับการเล่นสอยดาวนี่มากเลย ฮ่าๆๆ จนลืมไปว่ามีพี่เอิร์ธอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ ผมตื่นเต้นกับอุปกรณ์ทำครัวที่ได้มามาก ตอนนี้ก็สามสิบกว่าอย่างแล้ว และในถังก็ไม่มีทีท่าว่าจะพร่องลงเลย
“อ้วนนนนน เลิกเล่นเหอะ”
“ไม่เอา แท่นวางหัวบีบ...โอ๊ะ นี่ แปรงล้างหัวบีบ”
“=________________________=;;”
ผมไม่สนพี่เอิร์ธแล้วสอยของชิ้นอื่นออกมาวางเต็มเตียงจนจะท่วมร่างสูงที่นอนมองผมอยู่เซ็งๆ อะไรกัน ก็ตัวเองเป็นคนทำมาให้ผมแท้ๆ
“เทออกมาเลยงั้น”
“ไม่เอา พี่เออ!” ผมรีบดุเมื่อพี่เอิร์ธทำท่าจะยกถังแล้วเทของออกมาจริงๆ ก็ล้วงเอามันลุ้นกว่านี่นา!
“ไม่น่าเลยกู T^T เมียสนใจพี่หน่อยดิ”
“ใกล้จะหมดแล้วมั้ง”
“อืมมมม...” พี่เอิร์ธนับของ “...ยังเหลืออีกเยอะว่ะ ของสำคัญก็ยังไม่ออกมาเลย วางไว้บนสุดแท้ๆ”
“ว้าว นี่พี่เหมาเขามาทั้งร้านเลยหรือเปล่าเนี้ยยย >O<”
“ก็เกือบ ฟอดดดด”
“ขอบคุณนะฮะ ฟอดดดด”
“ฮึมๆๆ อยากฟัดน้องแรงๆแล้วอ่ะ”
“บ้าเหรอ >/////< อ๊ะ!!”
“ลงไปคุ้ยเลยอ่ะ จะได้เสร็จเร็วๆ”
พี่เอิร์ธอุ้มผมหย่อนลงไปคุ้ยในถังก็ยิ่งสนุกสิ ฮ่าๆๆ เม็ดโฟมสีพาสเทลเริ่มพร่องลงมาเยอะและผมก็ควานๆหาของไปเรื่อยจนงมไปไม่เจออะไรแล้ว
“ครบหรือยังฮะ”
“อืมมมม ยัง มีอีกอย่างหนึ่ง”
“อะไรอ่ะ มันไม่มีอะไรแล้วนะฮะ”
“ถามจริง? O_o”
“ก็น้องไม่เจออะไรแล้วอ่า”
“เฮ้ยยย!!”
“นอกจาก...”
“...”
“...นี่!! ^O^”
“โหไอ้อ้วนนนนนนน” พี่เอิร์ธโคตรตกใจตอนที่ผมบอกว่าไม่มีอะไรอยู่ในนั้นแล้ว อันที่จริงผมเจอกล่องกำมะหยี่สีแดงที่ข้างในน่าจะเป็นแหวน
“เอาออกมาเลย เร็วๆ”
“อะไรกัน น้องออกจะชอบ คราวหลังเอาแบบนี้อีกนะ”
ผมชูแขนให้พี่เอิร์ธยกผมออกไปแล้วเราก็ล้มลงนอนกอดกันบนเตียง มีความสุขจัง...
พี่เอิร์ธฉวยกล่องกำมะหยี่นั่นไปเปิดแล้วหยิบแหวนออกมาใส่ให้ตรงนิ้วนางข้างซ้าย แหวนเงินเกลี้ยงที่ด้านในสลักชื่อพี่เอิร์ธไว้มันพอดีกับนิ้วผมเลย
“แต่ว่าที่โรงเรียนไม่ให้ใส่เครื่องประดับ”
“จิ๊ วุ่นวาย” พี่มันว่าแล้วเปิดลิ้นชักหัวเตียงหยิบสร้อยเงินออกมาแล้วใส่แหวนลงไปเป็นจี้ให้ “เอาหลบไว้ในเสื้อครูไม่เห็นหรอก”
“มันแพงหรือเปล่า เก็บใส่กล่องไว้ดีกว่าฮะ น้องกลัวหายอ่ะ”
“ไม่แพงหรอก แค่สิบยี่สิบล้านเอง”
“ห๊ะะะะะะะ!! OoO”
“ฮ่าๆๆ ล้อเล่นน่า ไม่แพงหรอก ของแพงเอาไว้เป็นสินสอดตอนขอน้องแต่งงาน”
“ขอบคุณนะฮะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง จุ๊บ”
ผมบอกแล้วยืดตัวจูบที่ปลายคางแต่เหมือนคนตัวโตจะไม่พอใจถึงได้ก้มลงมาบดขยี้ริมฝีปากผมจนบวมเจ่อ ตลอดทั้งคืนอ้อมแขนใหญ่กกกอดผมไว้แนบกายอย่างเร่าร้อน ปากหนาทั้งหอมทั้งจูบร่างผมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาขย้ำร่างผมราวกับอดอยากปากแห้งมานาน จับผมพลิกเปลี่ยนท่าไปตามที่เขาต้องการจนผมปวดไปหมดทั้งตัวแต่ผมก็ยินยอมให้เขาพาขึ้นสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พอผมไม่ห้ามเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยน่ะสิ ไอ้ที่กะว่าจะไม่ห้ามน่ะก็ต้องห้ามเพราะผมไม่ไหวแล้ว T^T
“ขออีกที”
“ไม่อาววววววววววว”
“พี่ไม่ได้รักอ้วนน้อยมาตั้งกี่เดือนแล้วอ่ะ”
“น้องจะตายแล้ว ฮือๆๆ”
“ครั้งเดียว ไม่เพิ่มไม่ต่อรองอีก”
ผมก็จำต้องยอมมั้ยล่ะ พี่เอิร์ธยกผมเข้าไปจัดการในห้องน้ำ ร่างกายเพลียจนเกือบจะหลับไปทันทีที่ปล่อยน้ำรักครั้งสุดท้ายออกไป เขาอาบน้ำชำระล้างร่างกายแล้วแต่งตัวให้เหมือนทุกที ผมว่าถ้ามีโอกาสคงต้องตกลงกันหน่อยละ ขืนพี่มันไม่ได้เจอผมหลายเดือนแล้วจัดการผมจนสลบเหมือดแบบนี้คงไม่ไหว
“เมื่อก่อนพี่หายไปหลังจากที่ให้เค้กแล้วก็ร้องเพลงให้น้องฟัง”
“ฮะ”
“ครั้งนี้พี่กลับมาพร้อมเค้กแล้วก็ร้องเพลงให้น้องฟังเหมือนกัน”
“...”
“พี่จะไม่หายไปไหนขอให้น้องเชื่อใจ ว่าพี่รักอ้วนน้อยมาก มากที่สุด”
“น้องก็รักพี่เออฮะ”
“ขี้แยว่ะ” พี่เอิร์ธจูบแผ่วเบาที่เปลือกตาผมแล้วปาดน้ำตาออกให้อย่างอ่อนโยน
“แม้วันนี้ไม่มีเธอใกล้ๆ
แต่ก็รู้ว่าใจเรานั้นไม่เคยจะห่างกัน
ใครกี่คนไม่เคยคิดผูกพัน
เพราะใจ... ฉัน มีแต่เธอเพียงเท่านี้”
ผมอมยิ้มเขินแล้วซุกหน้าแนบกับแผ่นอกกว้างพร้อมกับกอดเอวหนาแน่นขึ้น พี่เอิร์ธนั่งพิงหัวเตียงโอบร่างผมไว้แล้วดีดกีตาร์โปร่งร้องเพลงไม่เคยจะห่างกันของวง sqweez animal ให้ผมฟัง “ด้วยภาระและทางที่เราต้องเดิน
แต่ว่าฉันไม่เคยเพลิดเพลินคิดมองใคร
อาจจะเผลอก็เพียงแค่สายตา
เพราะหัวใจฉันรู้ว่ามีเธอในใจเท่านั้น”
เสียงทุ้มไม่ได้ร้องเพลงเพราะมากขนาดจะเป็นนักร้อง แต่ก็ฟังเพลินจนผมต้องร้องคลอไปกับเขาเบาๆ บางทีก็แหงนหน้ามองเขาตอนร้องเพลง พี่เอิร์ธเรียกได้ว่าเป็นคนที่พร้อมทุกอย่างทั้งหน้าตาที่หล่อเหลาจนใครๆต้องเหลียวมอง การศึกษาก็สูงการงานก็ดี ถ้าใครได้เห็นได้รู้จักเขาก็ต้องชอบเขาเหมือนที่ผมชอบเขาแน่ๆ“อยู่ตรงนั้นเธอคิดถึงฉันมากเท่าไร…
อยู่ตรงนี้เธอรู้ไว้เลยว่าคิดถึงเธอจนล้นหัวใจ
ได้โปรดเธอจงมั่นใจ
ว่าฉันคนนี้รักเพียงแต่เธอ
อยู่ตรงนั้นเธอเองจะเหงาซักเท่าไร...
อยู่ตรงนี้ยิ่งเหงาเท่าไรก็ยิ่งรู้ว่าฉันยิ่งรักเธอ
ต่อให้เนิ่นนานที่เราไม่เจอะเจอ
ทุกนาทีหัวใจเรานั้นไม่เคยจะห่างกัน”
ผมก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่เขาทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่ง ขอบคุณที่เมื่อก่อนเขาเป็นยังไงตอนนี้เขาก็ยังมั่นคงกับผมเหมือนเดิมและแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวัน ไม่ได้เจอกันบ่อยๆเหมือนคู่รักคนอื่นเขา แต่ผมมั่นใจว่าหัวใจเราจะไม่ห่างกันเหมือนร่างกายแน่นอน >///< [THE END]
-----------------------------------
จบแล้วววววว เฮ้!! >O<
ขอบคุณที่ทุกคนเข้ามาอ่านมากๆนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์
ขอบคุณที่ซับพอร์ต ขอบคุณที่รออัพ ขอบคุณที่ทวง ขอบคุณๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทุกอย่าง
รอตอนพิเศษน้า อย่าเพิ่งทิ้งกัลลลล
++++++
ส่วนเรื่องทำเล่มก็คิดว่าจะทำนะคะ กำลังรีไรต์และพิมพ์ตอนพิเศษอยู่
ถ้าทันยังไงประมาณปลายเดือนกุมภาหรือต้นมีนาจะมาบอกกล่าว
แต่ถ้าปลายเดือนกุมภาหายจ้อยก็รอหลังกรกฎานู่นเลยเพราะช่วงกลางปีเฟอร์ต้องสอบทำงาน ฮือๆๆ