- S H A K E R - แด่คุณ ผู้ทำให้ใจสั่นไหว. l ตอนที่ 14 (จบ) (๑๒/๐๗/๒๕๕๘) l
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - S H A K E R - แด่คุณ ผู้ทำให้ใจสั่นไหว. l ตอนที่ 14 (จบ) (๑๒/๐๗/๒๕๕๘) l  (อ่าน 112454 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
น่ารักอ่ะคู่นี้ สิชลรุกตลอด กรหน้าแดงไม่รู้จะแดงไปไหนแล้ว ค่อยๆๆรักกันไปน่ะ
แต่ว่ารู้สึกกรจะมีคนมาแอบชอบด้วยนิ

ออฟไลน์ Blue

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
โออ สิชลมุ้งมิ้งอะไรขนาดนี้ มดตอมตัวแล้วววววว

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
สิชลอาการหนักกว่ากรที่แอบชอบก่อนอีกนะ
55555555555555555

ออฟไลน์ mynamejnkf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ถ้าไม่บอกไม่รู้นะเนี่ยว่ากรแอบชอบสิชลก่อน แหม่ะ ติดเป็นลูกเจี๊ยบเลยนะสิชลลลล :hao7:

เอาอีกๆๆๆ :hao6: :hao6: :hao6:

สู้ๆค่ะ คนแต่ง

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
สิชลดูชอบกรมากจริงๆ กรี๊ด น่ารัก

ออฟไลน์ kojibara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
10 – อยู่ที่เธอทุกอย่าง





“วันนี้เราคงไม่ได้ไปกินข้าวด้วยนะ มีแก้งานนิดหน่อย สิชลกลับไปก่อนได้เลยน๊า”

“แก้งานนานเลยหรอ เรารอได้นะ”

“เราไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่น่ะสิ ไม่อยากให้สิชลรอนาน”


คิ้วขมวดเข้าหากันเหมือนกำลังคิดหนัก ท่าทางครุ่นคิดของผู้ชายตัวโตตรงหน้าเรียกรอยยิ้มจากกรวิทย์ได้เสมอ ตอนนี้พวกเราสองคนกำลังยืนอยู่หน้าคณะของกรวิทย์


ตอนแรกสิชลนัดไว้ว่าหากเขาเลิกเรียนเสร็จแล้วจะมารับพาไปทานข้าวเย็นกัน แต่เนื่องจากว่ารายงานที่กรวิทย์ส่งไปครั้งที่แล้วมีข้อผิดพลาดอาจารย์เลยสั่งให้เอากลับไปแก้และส่งไม่เกินเที่ยงวันพรุ่งนี้ เขาเองก็ตกใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้แต่เพราะยังไงก็ต้องแก้ไขให้เรียบร้อยเขาเลยต้องโทรไปยกเลิกนัดกับสิชลแต่ดูเหมือนคนตัวโตจะไม่ยอมเข้าใจถึงได้มาหาเข้าถึงหน้าคณะในเวลานี้


“ไปกินข้าวแล้วค่อยกลับมาแก้รายงายไม่ได้หรอ นี่ก็เย็นแล้ว ยังไม่ได้กินอะไรไม่ใช่หรอ?” คนตัวโตยังพยายามโน้มน้าวให้เขายอมไปกินข้าวด้วยกันให้ได้


“เราว่าจะกินมาม่าแล้วก็จะรีบไปห้องสมุดเลยน่ะ ไม่อยากเสียเวลา ครั้งนี้เราขอโทษด้วย เดี๋ยวขอแก้ตัวเป็นครั้งหน้านะ” ผมเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่ไม่ได้ไปกินข้าวด้วยในวันนี้เพราะจริงๆแล้วสิชลเรียนเสร็จตั้งแต่บ่ายสามโมงแล้วแต่ก็รอเขาเพื่อที่จะไปหาอะไรกินพร้อมกันช่วงเย็น


“กินอะไรที่มีประโยชน์หน่อยสิกร เดี๋ยวเราไปซื้อข้าวกล่องมาให้ดีกว่านะ แปบเดียวเอง นั่งกินแถวนี้แหละ” 


สิชลตัดสินใจเดินไปซื้ออาหารสำเร็จรูปที่ร้านสะดวกซื้อหน้ามหาวิทยาลัย เขาเลือกหยิบข้าวไข่เจียวกุ้งของโปรดของกรวิทย์ก่อนจะเลือกหยิบอีกเมนูที่ดูน่ากินมาอีกกล่องสำหรับเขาเอง แม้จะรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยที่ไม่ได้ไปหาอะไรกินข้างนอกด้วยกันแต่เขาก็เข้าใจคนตัวเล็กว่าไม่อยากจะผิดคำพูด แต่เป็นเหตุสุดวิสัย


และถ้าถามว่าทำไมเขาถึงต้องให้ความสำคัญกับการไปกินข้าวเย็นครั้งนี้ของพวกเรามากนัก เป็นเพราะผมแอบนัดเพื่อนสนิทในกลุ่มสมัยเรียนม.ปลายเอาไว้ ผมแค่อยากให้กรวิทย์ให้รู้จักกับเพื่อนๆของผม แต่เพราะรายงานมีปัญหานัดครั้งนี้เลยโดนยกเลิกไปเสียได้ เมื่อครู่เพิ่งวางสายจากเพื่อนๆว่าไปตามนัดไม่ได้แล้ว ขอโทษกันยกใหญ่ และบอกพวกมันไปว่าจะนัดเจอกันใหม่



กรวิทย์มองดูสิชลที่เดินถือถุงร้านสะดวกซื้อมามากมาย เขารับมาช่วยถือก่อนจะมองหาข้าวไข่เจียวกุ้งของโปรด และนอกเหนือจากอาหารที่เขาฝากซื้อแล้ว ขนมและนมต่างๆที่สิชลซื้อมาเพิ่มล้วนแต่เป็นของโปรดเขาทั้งสิ้นเลย


“ซื้อมาเยอะแยะเลย ขอบคุณมากเลยนะ” กรวิทย์ก้มมองบรรดาอาหารในถุงก่อนเงยหน้ามายิ้มหวานขอบคุณสิชล


“หึหึ เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหมล่ะ?”


ท่าทางกรุ้มกริ่มของคนตัวโตเรียกความสงสัยให้กรวิทย์เป็นอย่างดี “ลองบอกมาก่อนสิ ถ้าทำได้ก็จะทำให้”


“ฮ่าๆ อย่าทำหน้าระแวงเราแบบนั้นดิ”


“ใครจะไปรู้ล่ะ ก็ดูสิชลทำหน้าสิ เจ้าเล่ห์ซะไม่มี”


สิชลหัวเราะให้กับคนพูดของคนตัวเล็กก่อนที่จะเฉลยสิ่งที่เขาอยากจะขอ “เราแค่จะขอให้กรไปงานเลี้ยงรุ่นกับเราในวันเสาร์นี้ ได้ไหม?”


กรวิทย์ไม่ตอบตกลงในทันที ท่าทางของคนตัวเล็กเหมือนกำลังครุ่นคิดบางเรื่องอย่างหนัก ริมฝีปากขบกัดกัดอย่างคนที่กำลังชั่งใจในบางสิ่ง


“มันจะดีหรอ?” กรวิทย์เอ่ยออกมาอย่างไม่แน่ใจ


“ทำไมถึงคิดว่ามันจะไม่ดีล่ะ เราอยากให้กรได้เจอเพื่อนเราและก็แนะนำให้รู้จักกันไปด้วยเลย”


กรวิทย์รู้สึกดีใจที่สิชะลอยากแนะนำเขาให้เพื่อนๆได้รู้จัก แต่อีกใจหนึ่งเขาเองก็รู้สึกไม่มั่นใจอย่างไงก็ไม่รู้ ความรู้สึกที่มักจะมีอยู่เสมอ

เขาดีพอสำหรับสิชลหรือยัง?

เขาคู่ควรกับสิชลไหม?


ไม่รู้สิ คำถามเหล่านี้มักจะวนเวียนอยู่ในหัวเขาเสมอเวลาที่คนอื่นมองพวกเรา เขารู้ว่ามันไม่ถูกที่มัวแต่ไปสนใจสายตาของคนอื่นแต่เขาก็อดกังวลไม่ได้


“งานเลี้ยงรุ่นสิชลน่าจะอยากสนุกกับเพื่อนมากกว่านะ เอาเราไปด้วยอาจจะไม่สนุกเท่าไหร่น๊า”


“เราอยากให้กรไปด้วยนี่นา แต่ถ้ากรไม่สะดวกใจก็ไม่เป็นไรนะ” น้ำเสียงผิดหวังจากคนตัวโตมันทำให้กรวิทย์รู้สึกผิดขึ้นมาทันที


“เฮ้ยยย สิชลอย่าเพิ่งงอนเราดิ โอเค เราตกลงไปแล้ว” 


สิ้นเสียงตกลงของคนตัวเล็ก สิชลก็เผยยิ้มกว้างที่ทำให้คนมองต้องยิ้มตามออกมา ท่าทางน้ำเสียงหงอยเหงาเมื่อครู่คงเป็นการแสดงที่ทำให้เขาต้องตอบตกลงใช่ไหมเนี่ย กรวิทย์ล่ะเอ็นดูกับเล่ห์เหลี่ยมของผู้ชายคนนี้จริงๆ


“เป็นอันว่าตกลงแล้วนะ เดี๋ยวรายละเอียดเราบอกกรอีกทีนะ แต่ว่าตอนนี้รีบกินข้าวกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวกรแก้รายงานเสร็จช้า” สิชลอารมณ์ดีขึ้นทันทีที่กรวิทย์ตกลงที่จะไปงานเลี้ยงรุ่นของเขาในวันเสาร์นี้


สิชลช่วยเก็บของทำความสะอาดบนโต๊ะทันทีที่กรวิทย์กินข้าวเสร็จแล้ว เขาบอกให้คนตัวเล็กรีบเข้าไปในหอสมุดก่อนเลยเดี๋ยวตรงนี้เขาจัดการเองก่อนที่จะรีบตามเข้าไปด้วย


“สิชลกลับไปก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวจะเบื่อซะเปล่าๆ”


“อยู่กับกรก็ไม่เบื่อนะ” กรวิทย์มองค้อนผู้ชายตรงหน้าที่ชอบทำให้เขาเขินอยู่บ่อยๆ สิชลยิ้มเอ็นดูก่อนเอื้อมมือไปหยิกแก้มคนที่ยืนหน้าแดง “เดี๋ยวเราทำการบ้านระหว่างที่รอกรนั่นแหละ กรไม่ต้องห่วงหรอก”


สิชลเอ่ยให้กรวิทย์สบายใจ คนตัวเล็กมักชอบบ่นว่าเขาตามติดมากไปจนกลัวว่าจะเสียการเรียน แต่ผมก็เคยได้อธิบายไปแล้วว่าผมไม่ทิ้งการเรียนหรอก ผมแค่อยากใช้เวลากับแฟนตัวเองนานๆนี่ผิดหรอครับ?


.
.
.
.
.



บรรยากาศภายนอกตอนนี้แสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว แสงจากหลอดไฟทำหน้าที่ของมันในการส่องสว่าง และเวลาแบบนี้ห้องสมุดก็ดูเงียบเหงากว่าปกติ อาจเพราะอีกไม่นานก็จะถึงเวลาปิดทำการแล้ว


สิชลนั่งมองกรวิทย์ที่กำลังขะมักเขม้นอ่านเท็กซ์บุ๊คเล่มหนาก่อนจะพับมุมเล็กๆไว้หน้าที่ต้องการแล้วก็ลุกขึ้นไปหยิบเล่มใหม่มา
อีก เขาเห็นคนตัวเล็กลุกขึ้นไปหยิบมาหลายรอบแล้ว เห็นท่าทางตั้งใจแบบนี้เขาเลยขอแชะภาพเก็บความประทับใจเอาไว้ซะหน่อย


“สิชล เดี๋ยวเราไปถ่ายเอกสารก่อนนะ รอแปบ”


เขาพยักหน้าให้คนตัวเล็กก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาเช็คความเคลื่อนไหวระหว่างนั่งรอ เพื่อนๆไลน์มาถามเรื่องการบ้านซึ่งเขาจัดการเรียบร้อยแล้ว เขาถึงถ่ายรูปส่งให้เพื่อนดูและเมื่อเห็นรูปล่าสุดที่เขาถ่ายไว้ สิชลจึงเลือกที่จะอัพภาพนั้นลงอินสตาแกรม


ภาพของกรวิทย์ที่กำลังตั้งใจอ่านหนังสือเล่มหนาถูกอัพขึ้นโซเชียลมีเดียของสิชลโดยมีแคปชั่นใต้ภาพว่า


“ตั้งใจทำงานแบบนี้ อาจารย์อย่าใจร้ายแกล้งตัวเล็กเลยนะครับ”


และเมื่อภาพถูกอัพโหลดไม่นานหลากหลายคอมเม้นต์ก็เข้ามาแซวเขาและกรวิทย์ แต่ดูท่าทางว่าเพื่อนๆเขาจะสนุกสนานกับการแซวมากเป็นพิเศษอาจเพราะผมเลือกที่จะเป็นฝ่ายเปิดเผยความสัมพันธ์ครั้งนี้อย่างเต็มที่


“ยิ้มอะไรอยู่คนเดียว คุยกับกิ๊กหรอ?” เสียงแซวจากคนที่เพิ่งกลับมาจากถ่ายเอกสาร สิชลเงยหน้าขึ้นมาสบตาก่อนจะยิ้มมุมปากให้คนตัวเล็กสงสัยเล่น เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่องว่ากำลังตกเป็นเป้าหมายในการถูกแซวอยู่ในตอนนี้


“จะไปมีกิ๊กได้ที่ไหนล่ะ หลงแฟนตัวเองขนาดนี้แล้ว”


หยอดได้ต้องหยอดครับ สิชลรู้ว่าเวลาที่เขาพูดประโยคหวานๆเมื่อไหร่คนตรงหน้าจะมีปฏิกิริยาเร็วมาก แก้มทั้งสองข้างจะมีสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด มือไม้พันกันจนไม่รู้จะวางไว้ตรงไหน เห็นกรวิทย์เขินแล้วเขามีความสุขครับ


“บ้า นั่งรอจนเพี้ยนไปแล้วหรือไง” กรวิทย์บ่นทีเล่นทีจริงกลบเกลื่อนความเขิน


“ฮ่าๆ เขินอ่ะดิ๊”


“ชิส์ เก็บของเลยเราจะกลับหอแล้ว”


“โอเคครับ รับทราบ”


สิชลทำท่าตะเบ๊ะแสดงท่าทีว่าน้อมรับคำสั่งของอีกฝ่ายเรียกเสียงหัวเราะจากกรวิทย์ได้เป็นอย่างดี คนตัวเล็กมักบอกกับเขาเสมอว่ายิ่งได้รู้จักยิ่งไม่เหมือนกับสิชลที่คนทั่วไปเห็น ท่าทีที่นิ่งขรึม พูดน้อยมักจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติกับคนที่ไม่สนิท แต่ถ้ากับคนที่สนิทเขามักจะเป็นคนที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนรอบตัวอยู่เสมอ


รถยนต์เคลื่อนตัวเข้ามาจอดที่หน้าบันไดบริเวณทางขึ้นหอพักชาย กรวิทย์ปลดสายเข็มขัดนิรภัยก่อนจะหยิบเอกสารต่างๆมาถือไว้และเอ่ยลากับคนขับที่มาส่ง


“ถึงห้องแล้วไลน์มาบอกด้วยนะสิชล”


“โอเคครับ รีบขึ้นห้องเหอะ ดูสิ ตาจะปิดแล้ว” สิชลเอ่ยบอกคนตัวเล็กที่ท่าทางเหมือนพร้อมจะนอนแล้ว ตาปรือมาตลอดระหว่างที่นั่งอยู่ในรถแถมพอเจอแอร์เย็นๆเข้าไปอีกอาการหาวเลยมีมาเป็นระยะ


กรวิทย์พยักหน้ารับก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินขึ้นหอพักไป ทันทีที่เข้าไปในห้องเขาจัดการเตรียมอุปกรณืเพื่อไปอาบน้ำทันที วันนี้รู้สึกได้ว่าใช้ร่างกายคุ้มเหลือเกิน มีเรียนตั้งแต่เช้ายันค่ำแถมยังต้องนั่งแก้รายงานจนดึกอีก ตอนนี้ร่างกายต้องการที่นอนแล้ว




✽ ✾ ✿ ❀ ❁ ❃ ❋




กรวิทย์ในชุดนอนลายทางสีน้ำเงินเข้มกำลังนั่งเป่าผมอยู่หน้าพัดลมตัวใหญ่ เขากะว่าถ้าผมแห้งก็คงจะนอนเลย และเพราะสิชลเองก็ยังไม่ส่งข้อความมาบอกว่าถึงห้องเขาเลยอยากนั่งรอข้อความเพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายถึงห้องอย่างปลอดภัย


นิ้วเรียวยาวกดเข้าแอปพลิเคชั่นต่างๆเพื่อเช็คดูความเคลื่อนไหวเพราะวันนี้เขาแทบจะไม่ได้เล่นโทรศัพท์เลย และทันทีที่ได้เข้าไปในเฟสบุ๊ค ตัวเลขที่แสดงข้อความการแจ้งเตือนมีอยู่ถึงสี่สิบว่าข้อความ กรวิทย์ตกใจมากและรีบกดเข้าไปก่อนที่จะพบว่ามันเป็นคอมเม้นต์ที่แสดงความคิดเห็นต่อภาพภาพเดียว


คนตัวเล็กนั่งนิ่งกับภาพที่หน้าไทม์ไลน์สิชลที่เป็นภาพของเขากำลังก้มหน้าตั้งใจอ่านหนังสือ พร้อมด้วยแคปชั่นที่น่าเอ็นดูเมื่อได้อ่าน แม้ว่าสิชลจะโพสต์โดยไม่ได้แท็กชื่อเขาไว้ แต่ในคอมเม้นต์มีเพื่อนในภาควิชาหลายคนมาแท็กชื่อเขาไว้ เขาถึงได้รับการแจ้งเตือนมากมายแบบนี้


หลายข้อความที่บ่งบอกถึงความสงสัยในความสัมพันธ์ของพวกเรา เขาเองก็ได้แต่อมยิ้มกับพฤติกรรมของคนขี้อวด และเหมือนจะรู้ว่ามีคนกำลังบ่นถึง โทรศัพท์ในมือที่กำลังถืออยู่เปลี่ยนหน้าเป็นชื่อของคนที่กำลังนึกถึงโทรเข้ามา


Rr  Rr  Rr .. .


“ฮัลโหล”


“ฮัลโหล เราถึงห้องแล้วนะกร” เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยมาตามสาย


“โอเค รีบอาบน้ำพักผ่อนด้วยนะสิชล”


“อื้มม แล้วนี่ยังไม่นอนหรอ เห็นท่าทางง่วงซะขนาดนั้น?”


“ก็ว่าจะนอนแล้วล่ะนะ ถ้าไม่มาเจอคนแอบถ่ายรูปเราซะก่อน”


“ฮ่าๆๆ เจอแล้วหรอ” เสียงหัวเราะดังมาจากคนตัวโต


“ชอบแอบถ่าย ชิส์”


“ก็ขอดีๆไม่เคยให้ถ่ายเลยนี่นา ต้องแอบถ่ายนี่แหละ” สิชลบ่นคนตัวเล็ก เขาคุยกันอีกนิดหน่อยก่อนอีกฝ่ายจะขอตัวไปนอนก่อนเนื่องจากทนง่วงไม่ไหวแล้ว


พรุ่งนี้สิชลมีเรียนบ่ายดังนั้นเขาเลยไม่รีบร้อนที่จะนอนสักเท่าไหร่ คืนนี้มีบอลคู่โปรดด้วยคงได้นอนเช้าแน่ๆ เขากดดูความเคลื่อนไหวพร้อมตอบคอมเม้นต์จากเพื่อนๆอีกนิดหน่อยก่อนตัดสินใจที่จะไปอาบน้ำ แต่ยังไม่ทันที่จะลุกขึ้นไปหยิบผ้าขนหนู เสียงเตือนข้อความเข้าจากโปรแกรมสนทนายอดนิยมอย่างไลน์ก็ดังขึ้น


สิชลกดเข้าไปดูข้อความซึ่งผู้ที่ส่งมาคือแชมป์เพื่อนสนิทของเขาเอง แชมป์เป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถม รวมทั้งในระดับมหาวิทยาลัยเขากับมันก็ยังได้อยู่คณะเดียวกัน


“วันเสาร์นี้มึงไปงานเลี้ยงรุ่นป่าววะ?”


“ไปดิ ทำไมวะ?”


ประโยคข้อความขึ้นว่า “อ่านแล้ว” แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีการตอบกลับมาจนเขาเกือบที่จะกดโทรออกเพื่อถามว่ามีอะไรหรือเปล่า แต่ข้อความจากอีกฝ่ายก็แสดงขึ้นมาก่อน


“จุนก็จะมานะ”


แม้แชมป์จะส่งข้อความสั้นๆกลับมาแต่สิชลก็ยังอ่านข้อความนั้นวนซ้ำไปซ้ำมา เขานิ่งไปหลังจากที่อ่านข้อความ ความสั่นไหวในหัวใจยังมีอยู่ มันยังไม่จากไปไหน เขารู้สึกได้เพราะแค่ได้อ่านชื่อของคนคนนั้นเขายังหวั่นไหวได้ถึงขนาดนี้





TBC.

รักผู้อ่านทุกท่านเสมอนะคะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
งึมมมม

ถ้าสิชลไม่มั่นคง ทำร้ายจิตใจกรทางอ้อมนะคะ  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
จุนนี่ใคร อ่าววว อ่าววววว  :z2:

ออฟไลน์ pachth

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ช่วงแรกก็อ่านไปอมยิ้มไป
มาหุบก็ตอนชื่อ จ่ย อ่ะ
อยากรู้แล้ว ยังไงๆๆๆๆ อ่า

ออฟไลน์ kojibara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
11 – Unknown


การจราจรบนท้องถนนในวันเสาร์คลาคล่ำไปด้วยรถยนต์ที่ต่างก็มีจุดมุ่งหมายการเดินทางต่างกันออกไป อาจเพราะช่วงเวลาเกือบสองทุ่มแบบนี้จำทำให้ปริมาณรถหนาแน่นเป็นพิเศษ


เสียงเพลงจากวิทยุกำลังเล่นเพลงที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ กรวิทย์ร้องคลอไปตามเสียงเพลงเพื่อช่วยลดตื่นเต้นที่กำลังเกิดขึ้น  ยิ่งเดินทางใกล้ถึงงานเท่าไหร่เขาก็อดรู้สึกประหม่าไม่ได้อยู่ดี


กรวิทย์ได้รับคำเชิญจากสิชลให้มางานเลี้ยงรุ่นโรงเรียนด้วยกัน งานในครั้งนี้ได้รับโจทย์ให้เป็นธีมอะโลฮ่า สิชลจึงลากเขาไปหาซื้อเสื้อผ้าเพื่อจะใส่มาในงานวันนี้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แถมพวกเรายังแต่งตัวคล้ายกันด้วย


สิชลสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีส้มสดเป็นพื้นหลังโดยมีรูปเรือสีขาวหลายลำปะปนเต็มไปหมดพร้อมกับกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบ ส่วนผมก็โดนบังคับให้สวมเสื้อเชิ้ตแบบเดียวกันแต่เป็นสีฟ้าและมีรูปสมอเรือสีขาวแทน กางเกงและรองเท้าผมก็เหมือนกับสิชลทุกอย่าง และทั้งหมดนั่นก็เป็นความคิดของสิชลเขาคนเดียวเลย


เสียงเครื่องมือสื่อสารของคนข้างกายดังอยู่ตลอด สิชลรับสายและเอ่ยบอกปลายสายว่าใกล้ถึงแล้ว ท่าทางพวกเราจะไปถึงทีหลังคนอื่นแน่เลยเพื่อนๆของสิชลถึงได้โทรมาถามไถ่ว่าถึงไหนกันแล้ว


“ใกล้ถึงแล้วกร เห็นไฟข้างหน้านั่นไหม นั่นแหละโรงเรียนเรา”


คนขับหันมาเอ่ยกับเขาเพื่อบอกให้เห็นถึงโรงเรียนในสมัยมัธยมของเจ้าตัว  พร้อมกับบ่นว่าโดนเพื่อนๆโทรมาเร่งเหลือเกิน และเมื่อรถยนต์เลี้ยวเข้ามาภายในบริเวณโรงเรียนเขาก็ต้องตาโตไปกับความกว้างขวางของสถานศึกษาแห่งนี้


พื้นที่บริเวณสนามฟุตบอลที่กว้างใหญ่แต่บัดนี้เต็มไปด้วยโต๊ะจีนจำนวนมากที่มีผู้ร่วมงานจับจองกันไปจนเกือบหมดแล้ว กรวิทย์มองไปรอบๆอย่างแปลกตาเพราะเขาเพิ่งได้มาเป็นครั้งแรก


สิชลดับเครื่องรถพร้อมกับหยิบบัตรเข้างานและโทรศัพท์มือถือติดมือมาด้วย คนตัวโตสำรวจตัวเองสักพักก่อนหันมาเผื่อแผ่ช่วยจัดเสื้อของเขาให้เข้าที่เข้าทางก่อนหยิบโทรศัพท์มาเปิดเข้าโปรแกรมถ่ายภาพ


“ยิ้มหน่อยกร”


สิชลเอ่ยบอกให้คนข้างกายมองกล้องแล้วยิ้ม เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้แต่งตัวเหมือนกันเขาเลยต้องเก็บภาพเป็นที่ระลึกไว้หน่อย คนตัวเล็กยื่นหน้ามาดูภาพที่เพิ่งถูกบันทึกไปก่อนบ่นว่าไม่หล่อเท่าเขา


“หล่อแล้ว” สิชลเอ่ยแซวกรวิทย์และได้รับกำปั้นเล็กชกเบาๆที่หัวไหล่เป็นของรางวัล


“ป่ะ เข้างานกันเถอะ” สิชลจับมือกรวิทย์ให้มาเดินข้างกัน คนตัวเล็กหันมามองโดยไม่พูดอะไรก่อนจะหันกลับไป


ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ถึงบริเวณงาน เสียงเพลงสนุกสนานก็ยิ่งดังขึ้นมาทุกขณะพร้อมเสียงหัวเราะ เสียงพูดคุยที่ดังไม่แพ้กันจนบางครั้งเกือบคล้ายเป็นการตะโกนมากกว่า บรรยากาศที่เพื่อนเก่ากลับมาเจอกันแบบนี้มันรู้สึกดีจริงๆ ว่าแล้วกรวิทย์ก็รู้สึกคิดถึงเพื่อนเก่าของตัวเองเช่นกัน


เดินมาถึงหน้างานสิชลยื่นบัตรเข้างานให้กับน้องๆที่ดูเหมือนว่าน่าจะยังเป็นศิษย์ปัจจุบันกันอยู่ พวกเราถามตำแหน่งโต๊ะกับน้องๆก่อนเดินเข้าไปในงาน  โต๊ะของพวกเราอยู่บริเวณกึ่งกลางของสนามพอดีถือว่าได้ตำแหน่งที่ดีทีเดียว สิชลหันมองหาเพื่อนๆตัวเองก่อนหันไปตามเสียงเรียกที่ค่อนข้างดังจากโต๊ะที่เต็มไปด้วยผู้ชายทั้งกลุ่ม


“สิชล ทางนี้เว้ยย”


สิชลหันไปบอกมือตอบรับเพื่อนที่ส่งสัญญาณก่อนจะพาผมเดินไปที่โต๊ะพร้อมเสียงทักทายและถามสารทุกข์สุขดิบที่ดังขึ้นไม่ขาดสายทั้งจากเพื่อนร่วมโต๊ะ และผู้คนจากโต๊ะอื่นที่เขากับสิชลเดินผ่าน


“กว่าจะเสด็จมาได้นะมึง”


“กูนึกว่ามึงจะมาตอนงานเลิกซะอีก ช้าสัด”


เสียงทักทายจากเพื่อนร่วมโต๊ะแสดงถึงความสนิทสนมกับคนตัวโตเป็นอย่างดี หลากหลายคำทักทายและการพูดคุยแบบเป็นกันเองล้วนทำให้บรรยากาศรอบตัวกรวิทย์เต็มไปด้วยความสรวลเสเฮฮา


สิชลละจากกลุ่มเพื่อนหันมามองหาเขาก่อนที่จะดึงมือให้มายืนข้างกัน หลายคนบริเวณนั้นหันมามองตามก่อนจะส่งสายสายตาที่เป็นเหมือนคำถามว่าเขาเป็นใคร


“นี่กร แฟนกูเอง”


สิชลโพล่งประโยคบอกเล่าถึงความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้ออกไปโดยไม่มีคำถามจากใครเลย เจ้าตัวพูดแนะนำเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดาดินฟ้าอากาศทั่วไปผิดกับตัวเขาที่ใจเต้นแรงกับเมื่อครู่ไม่น้อย และแอบกังวลกับปฏิกิริยาจากคนรอบข้างเสียด้วย


เพื่อนๆของสิชลเงียบไปครู่เดียวหลังจากที่สิชลแนะนำออกไปก่อนจะได้รับเสียงโห่แซวตอบกลับมา เขาเองก็เริ่มมีอาการประหม่าที่ทุกคนดูไม่ตื่นตกใจแถมออกจะสนใจเขาเป็นพิเศษด้วยซ้ำ พร้อมทักทายเขาอย่างเป็นกันเองอีกด้วย


“นั่งเลยครับ ไม่ต้องเกร็งนะ พวกเราสบายๆ วันนี้มาสนุกกันนะครับ”


ชายหนุ่มหน้าตี๋ที่ยืนอยู่ข้างเขาเชิญชวนในนั่งร่วมโต๊ะพร้อมยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง แถมหน้าตาที่ดูเรียบร้อยพร้อมกับสวมแว่นตากรอบหนาบนเครื่องหน้าช่วยทำให้ดูเป็นบุคคลที่ไม่น่าจะมาอยู่ในกลุ่มของสิชลที่ดูออกจะมุทะลุ ใจร้อนเสียได้


“เพิ่งจะได้เห็นกันชัดๆนะเนี่ย ทุกทีเห็นแต่รูปหันข้างไม่ก็รูปก้มหน้า”


เสียงเอ่ยมาจากผู้ชายฝั่งตรงข้ามสิชลที่เหมือนจะพูดถึงเขา กรวิทย์หันไปสบตาก่อนจะยกยิ้มให้บางๆ เพื่อนคนอื่นๆต่างก็พยักหน้าแล้วก็พยายามชวนเขาคุยเพื่อไม่ให้เขารู้สึกเกร็งหรือแปลกแยก


“ขอถ่ายรูปดีๆไม่เคยยอมเลย กูต้องแอบถ่ายตลอด”  สิชลเอ่ยตอบเพื่อนๆ ก่อนหันมามองเขาด้วยใบหน้ากรุ้มกริ่ม ริ้วแดงบนพวงแก้มปรากฏให้เห็นชัดแม้จะอยู่ในที่แสงไฟสลัวก็ตาม


“กรรู้เปล่า ไอ้สิชลมันไม่เคยเปิดตัวแบบนี้มาก่อนเลยนะ” เพื่อนอีกคนบนโต๊ะที่กรวิทย์จำได้ว่าชื่อกานต์เอ่ยบอก ก่อนจะสมทบด้วยคำยืนยันจากคนอื่นๆอีก


“ใช่ๆ เอะอะอัพรูปตลอด พวกเราถึงได้ชอบเข้าไปแซวมัน แล้วพวกเราก็อยากเจอกรมากด้วย อยากรู้ว่าคนแบบไหนทำให้ไอ้สิชลมันเป็นขนาดนี้”


“แล้วเมื่อก่อนสิชลเป็นแบบไหนหรอ?”


กรวิทย์เอ่ยคำถามคำคาใจออกไปเพราะอยากรู้ว่าคนตัวโตเมื่อก่อนในวัยมัธยมเวลาที่มีความรักเขาขี้อ้อนเหมือนกันไหม แถมอาการขี้หวงในตอนนี้เท่าในตอนสมัยเรียนหรือเปล่า


“ฮ่าๆๆ มันก็เป็นพวกปากแข็งน่ะสิ แถมไม่ชอบเปิดเผยเรื่องแบบนี้ด้วย” เพื่อนหน้าตี๋ที่เพื่อนให้ฉายาว่ามหาเอ่ยตอบข้อข้องใจของเขา


“พวกมึงก็เว่อร์ไป กูก็เหมือนเดิมแหละ กรอย่าไปฟังอะไรพวกมันมาก” สิชลเอ่ยขัดขึ้นมาก่อนเพื่อนๆจะส่งสีหน้าหมั่นไส้แบบไม่ปิดบังมาให้


“แล้วที่ใส่เสื้อคู่กันมาแบบนี้ ขอถามหน่อยดิว่าความคิดใครอ่ะ?”


กรวิทย์ไม่ได้ตอบคำถามนั้นโดยตรง เขาเพียงหันไม่มองคนข้างกายก่อนจะยิ้มให้แต่เพียงเท่านั้นก็ทำให้ได้คำตอบแล้ว เพื่อนแต่ละคนทำท่าเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าสิชลที่อยู่กับเขาจะเป็นคนเดียวกับเพื่อนม.ปลายของพวกเขา


“กูว่ามึงเป็นหนักมากอ่ะ”


“มึงมีความคิดอยากใส่เสื้อคู่แบบนี้ด้วยหรอวะ ไม่อยากจะเชื่อเลย”


หลากหลายความเห็นที่เอ่ยออกมาไม่ได้ทำให้คนข้างตัวเขาสะทกสะท้านหรือเขินอายแม้แต่น้อย แถมยังนั่งยิ้มภูมิใจส่งกลับไปอีกต่างหาก


“แล้วนี่ ไอ้สิชลมันจีบกรยังไงอ่ะ พวกเราอยากรู้”


คำถามมาจากชายร้างท้วมเจ้าเนื้อผิวขาวที่หุ่นดูออกจะเป็นอาเสี่ยไปสักหน่อย กรวิทย์อมยิ้มไปกับคำถามสักเล็กน้อยก่อนเฉลยออกไป


“เราต่างหากที่เป็นฝ่ายเข้าหาสิชลก่อน”


“เฮ้ย จริงดิ ไม่น่าเชื่อ ฮ่าๆ” กรวิทย์ได้รับเสียงแซวถึงความใจกล้าที่ดูขัดกับภาพลักษณ์ของตัวเอง และหลังจากนั้นสิชลก็เบี่ยงเบนความสนใจด้วยการยกเรื่องในสมัยเรียนมาเป็นประเด็นแทนเรื่องของพวกเรา เขาต้องขอบคุณสิชลที่ช่วยให้ลดอาการเกร็งลงไปได้ไม่น้อยเลย


แม้ว่าจะไม่ลำบากใจกับการต้องมานั่งตอบคำถามสักเท่าไหร่ แต่กรวิทย์ก็อดประหม่าไม่ได้อยู่ดีที่ทุกคนล้วนดูสนใจกับความสัมพันธ์ของพวกเราเสียเหลือเกิน เขาก็แค่เขินที่ต้องมานั่งบอกเล่าเรื่องพวกนี้ให้คนอื่นฟังน่ะ


บรรยากาศภายในงานเริ่มสนุกสนานมากขึ้นเมื่อเวลายิ่งมากขึ้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนโต๊ะพร่องไปอย่างเร็วและเหมือนเป็นตัวช่วยให้การสนทนาในโต๊ะสนุกสนานและเสียงดังเพิ่มมากขึ้น เรื่องราวมากมายรวมทั้งวีรกรรมในสมัยเรียนของแต่ละคนถูกหยิบมาพูดถึงสร้างความครื้นเครงเป็นอย่างมาก


แก้วน้ำอัดลมที่ผสมเครื่องดื่มสีอำพันเล็กน้อยก็ยกจิบขึ้นอีกครั้ง ไม่บ่อยนักที่กรวิทย์จะดื่มหากไม่จะเป็นจริงๆและนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาไม่อยากปฏิเสธเพื่อนๆของสิชลและดูเหมือนเป็นสิชลที่คอยช่วยห้ามเพื่อนไม่ให้ชงเครื่องดื่มของเขาเข้มเกินไปนัก


สิชลยกเครื่องดื่มในมือนับครั้งไม่ถ้วนเพราะมีผู้คนเข้ามาทักทายและยกแก้วชนอย่างไม่ขาดสาย เขาแอบกังวลว่าสิชลอาจจะขับรถกลับไม่ไหวแต่คนตัวโตกลับหันมาบอกให้เขาไม่ต้องห่วง สิชลรู้ลิมิตตัวเองว่ายังไหวอยู่และสามารถพาเขากลับหอได้โดยสวัสดิภาพแน่นอน


บรรยากาศความสนุกสานยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ขนาดเขาเองที่เพิ่งมาได้รู้จักเพื่อนสิชลแต่ทุกคนกลับชวนเขาเข้าร่วมวงสนทนาอยู่ตลอดและบรรยากาศเต็มไปด้วยความเป็นกันเองช่วยให้เขารู้สึกผ่อนคลอายอย่างบอกไม่ถูก


“พี่สิชลอยู่นี่เอง จุนตามหาทั่วงานเลย”


เสียงใสจากผู้ชายที่เพิ่งมาถึงเอ่ยทักสิชลพร้อมรอยยิ้มและดวงตาที่แสดงออกถึงความยินดีที่ได้พบกันในครั้งนี้เสียมากมาย เสียงพูดคุยเงียบลงในทันที รวมทั้งคนข้างกายเขาที่ชะงักในทันทีที่เจอกับเจ้าของประโยคนั้น


กรวิทย์ไม่รู้ว่าทำไมทุกคนถึงหันมามองเขา ก่อนหันไปมองเด็กผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่และหันกลับมามองสิชลอีกครั้ง เขาไม่รู้หรอกว่าผู้ชายคนนั้นคือใครแต่ทำไมสัญชาตญาณมันกำลังส่งเสียงเตือนถึงความไม่ปลอดภัย ความกลัวเกิดขึ้นแบบไม่มีสาเหตุ


“เอ่อ.. จุนกลับมาไทยแล้วหรอ?” สิชลเอ่ยออกมาเหมือนเพิ่งหาเสียงตัวเองเจอ ความเงียบยังปกคลุมบริเวณโต๊ะของพวกเราและอาจจะย่ำแย่ไปกว่านี้หากปาล์มไม่ช่วยกู้สถานการณ์ไว้ได้


“อ้าว น้องจุน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย หิ้วสาวออสซี่มาฝากพี่บ้างป่าวเนี่ย? ฮ่าๆ”  เสียงหัวเราะเฝื่อนๆจากเพื่อนรวมโต๊ะส่งมาช่วยให้สถานการณ์ที่กำลังรู้สึกอึดอัดอยู่นี้เบาบางลง


“จุนกลับมาได้สามวันแล้วครับ แล้วก็โชคดีชะมัดเลยที่เจอพี่ชลที่งานนี้ด้วย”


เสียงใสยังคงพูดตอบด้วยน้ำเสียงสดใส กรวิทย์หันไปมองคนข้างกายสิชลกำลังจ้องมองดวงหน้าของคนตรงข้ามไม่วางตา ผู้ชายตรงหน้าสวมชุดเสื้อเชื้ตแขนสั้นสีขาวกับกางเกงลำลองสบายๆความยาวถึงหัวเข่าสีสันสดใส ใบหน้ารูปไข่เกลี้ยงเกลา รูปร่างผอมบางแบบที่ใส่เสื้อผ้าอะไรก็ดูดี และความสูงน่าจะประมาณไหล่ของสิชล ทรงผมที่ถูกเซ็ตเป็นอย่างดีก็ช่วยเพิ่มความน่ามองได้อีกเท่าตัว


“ผอมลงหรือเปล่า?” สิชลเอ่ยถามออกไป


“น้ำหนักลงไปตั้ง4กิโลแน่ะครับ ปิดเทอมคราวนี้เลยกะว่าจะมาให้พี่ชลขุนให้อ้วนไปเลย”


กรวิทย์ก้มมองมือของตัวเองที่กุมประสานกันอยู่บนหน้าตัก อาการปวดร้าวแล่นขึ้นมาในอกอย่างไม่มีสาเหตุ ต่อให้ไม่มีใครบอกว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นใครแต่ความรู้สึกของเขามันบอกได้ว่า เขาต้องมีความสนิทสนมและมีความสำคัญกับสิชลไม่น้อยเลยทีเดียว ไหนจะอาการของเพื่อนๆคนอื่นที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี่อีกล่ะ


เขาเป็นคนเคยรักของสิชลใช่ไหม?


กรวิทย์ได้แต่ถามคำถามนี้กับตนเองในใจ เขาไม่กล้าเอ่ยออกไปหรือแม้แค่จะเงยหน้าขึ้นไปมองก็ยังไม่กล้าเลย ไม่อยากเห็นสายตาอาวรณ์ของทั้งคู่ที่แสดงออกมา


หมับ.. .


ฝ่ามือใหญ่จากคนข้างกายเอื้อมมากุมมือของเขาที่กระสานกันไว้ก่อนเพิ่มแรงบีบเบาให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง  สิชลกำลังมองเขาอยู่โดยส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนมาให้เหมือนเป็นการปลอบใจ


“พี่ไม่แน่ใจว่าจะทำตามคำขอของจุนได้ไหม เพราะตอนนี้พี่มีคนที่ต้องดูแลอยู่แล้ว”


สิชลเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เหมือนถูกรดน้ำเติมเต็มกลับมาอีกครั้ง เขาลูบหลังมือของคนตัวโตพร้อมหันไปยิ้มให้แทนการขอบคุณ


ขอบคุณที่ห่วงใยความรู้สึก


ผู้ชายที่สิชลเรียกชื่อจุนหยุดมองภาพตรงหน้านิ่ง สายตามองเราสองคนโดยไม่แสดงอาการใดๆออกมา และทันทีที่สบตากันกรวิทย์รู้สึกถึงความไม่พอใจที่อีกคนสื่อออกมาภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


“แล้วถ้าแค่ไปกินข้าวกันบ้างตามประสาพี่น้องนี่พอจะได้ไหมครับ?” ใบหน้าเปื้อนยิ้มเอ่ยถามคำถามกับสิชลแต่หันหน้ามาทางเขาเหมือนเป็นการขออนุญาต


“ถ้ามันมีเวลาว่างจากแฟนก็คงพอจะไปได้ล่ะน่ะ แต่ช่วงนี้อาจจะยากหน่อยเพราะหายใจเข้าออกก็เป็นแฟนมันตลอด” ชายหนุ่มที่นั่งถัดไปจากสิชลเป็นคนเอ่ยคำตอบออกมาแทน ด้วยเสียงเรียบนิ่งและใบหน้าติดจะเรียบเฉยทำให้ประโยคนั้นคงสร้างความไม่พอใจแก่จุนแน่นอน


“ช่วงนี้พี่อาจจะยุ่งซะหน่อย ใกล้สอบแล้ว อาจจะไม่ค่อยว่างสักเท่าไหร่” สิชลยืนยันคำตอบไปอีกรอบ


“ถ้าแค่การไปกินข้าวมันสร้างความลำบากใจขนาดนั้น จุนไม่รบกวนดีกว่า ขอตัวนะครับ”


เด็กหนุ่มก้าวเดินออกไปทันทีหลังจากที่เอ่ยจบ สิชลถอนหายใจออกมาก่อนหันมามองเขาด้วยสายตาเหมือนขอโทษ และไม่นานบรรยากาศบนโต๊ะก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้งโดยเพื่อนๆคนอื่น แต่ก็ไม่วายจะพูดถึงบางคนที่เพิ่งเดินจากไป


“เมื่อกี้กูคิดว่าจะมีศึกชิงนายซะแล้ว เสียววาบเลย” ผู้ชายหุ่นอาเสี่ยเอ่ยออกมาอย่างโล่งอก


“ทีตอนนี้ล่ะอยากจะกลับมาหาเพื่อนกู ทีตอนจะไปล่ะเป็นคนบอกเลิกเอง กูล่ะโมโห”


หลากหลายประโยคที่ผ่านเข้ามาเป็นการยืนยันได้ดีว่าเด็กผู้ชายคนนั้นเคยเป็นคนรักของสิชลมาก่อน เขาเพิ่งเคยเห็นแฟนเก่าสิชลครั้งแรก น่ารักจนทำให้เขาอดเปรียบเทียบไม่ได้


“กรเบื่อไหม อยากกลับหรือเปล่า?” น้ำเสียงห่วงใยถูกส่งมาจากคนข้างกาย กรวิทย์หันไปยิ้มให้คนตัวโตเบาใจก่อนส่ายหัวเพื่อบอกว่าว่าเขาโอเค


“ไปเข้าห้องน้ำกันไหม?” สิชลเอ่ยชวนขึ้นมา เขาจึงลุกตามสิชลออกไปและไม่ลืมบอกเพื่อนๆว่าเดี๋ยวกลับมา


สิชลจูงมือเขามายังบริเวณโต๊ะม้านั่งที่มีผู้คนอยู่ประปราย อาจเพราะแถวนี้ค่อนข้างห่างไกลจากเวทีและแสงไฟพอสมควร เขานั่งลงตามแรงดึงของสิชลก่อนมองไปรอบๆโดยไม่ได่เอ่ยอะไร


“จุนเป็นแฟนเก่า” ประโยคบอกเล่าธรรมดาที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา กรวิทย์ไม่รู้ว่าตอนนี้ผู้พูดกำลังรู้สึกอย่างใด แต่สีหน้าลำบากใจที่คนตัวโตแสดงออกมาตั้งแต่เจอกับเด็กหนุ่มคนนั้นมันทำให้เขาอดกลัวถึงความสัมพันธ์ของเราไม่ได้


“เราเลิกกันตอนผมอยู่ม.6 ตอนนั้นน้องอยู่ม.5 ได้ทุนไปเรียนที่ออสเตรเลีย น้องตัดสินใจบอกเลิกโดยให้เหตุผลว่าเขาไม่ได้หมดรักแต่เพื่อเราจะได้ไม่มีพันธะต่อกัน เขาไม่อยากเอาเปรียบ พวกเราสามารถคบใครได้เลยหากเจอคนที่ถูกใจ แต่ถ้าเขากลับมาแล้วเราต่างไม่มีใคร เราจะกลับมาคุยกันใหม่”


น้ำเสียงที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตแสดงความเจ็บปวดอยู่ในน้ำเสียง กรวิทย์หันมองคนข้างตัวที่เอ่ยประโยคเหล่าด้วยใบหน้าเรียบนั่ง เขาเอื้อมมือไปกุมฝ่ามืออีกฝ่าย ที่ทำได้คงมีเท่านี้


“เราไม่เคยคิดจะเปิดใจให้ใครเพราะตั้งใจว่าจะรอ” ฝ่ามือเล็กที่กอบกุมมือใหญ่ไว้เผลอบีบแน่นโดยไม่รู้ตัว ลมหายใจขาดห้วงของคนตัวเล็กทำให้สิชลรู้ว่ากรวิทย์กำลังกลัว “แต่พอมาเจอกร เราถึงได้รู้ว่าคิดผิด เราพร้อมที่จะทุ่มเทความรู้สึกที่มีให้โดยไม่ลังเล เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ ขอโทษสำหรับวันนี้ด้วยนะที่ทำให้กรรู้สึกไม่ดี เราไม่อยากเห็นกรไม่สบายใจ”


สิชลเอ่ยความในใจออกมาเพื่อแสดงถึงความจริงใจที่เขามีต่อคนตัวเล็ก กรวิทย์เป็นคนคิดมากและยิ่งเจอเหตุการณ์เมื่อครู่เขารู้ดีว่าคนข้างกายหวั่นไหวแค่ไหนภายใต้ท่าทีที่แสดงออกไม่เป็นไร เขาไม่อยากให้ความระแวงหรือความไม่เชื่อใจมาทำลายความสัมพันธ์ของพวกเราในครั้งนี้


“ขอบคุณนะสิชล” กรวิทย์ขอบคุณกับความห่วงใยที่คนตัวโตมอบให้และขอบคุณที่ใส่ใจความรู้สึกของเขาเสมอ เขาเองก็จะตอบแทนด้วยความเชื่อใจที่มีตราบเท่าที่คนข้างกายยังต้องการ





TBC.

ขอบคุณที่ติดตามกัน
รักคนอ่านเสมอ


ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :กอด1:

สิชลมั่นคงมาก ให้คะแนน 10/10 เลยค่ะ :D

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
สิชลดีมากกกก ต้องชัดเจน กรจะได้มั่นใจ

ออฟไลน์ heroves

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
กรน่ารักกกก สิชลอย่าหวั่นไหวนะ

ออฟไลน์ kojibara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
12 – เข้าใจและยอมรับ



ช่วงนี้ชีวิตของนักศึกษามหาวิทยาลัยกำลังเข้าใกล้ช่วงสอบกลางภาคกันแล้ว  ห้องสมุดในช่วงนี้มักจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่ต่างมาจับจองพื้นที่ในการอ่านหนังสือและติวอยู่มากมาย  ทั้งแบบเป็นกลุ่มใหญ่  หรือมาคนเดียวแบบเขา


กรวิทย์เงยหน้ามาจากหนังสือเล่มหนาที่เขานั่งจดจ่อมันมาตั้งแต่เช้า  วันนี้เป็นวันเสาร์และเขาเลือกที่จะออกจากห้องพักแต่เช้าเพื่อมาจับจองที่นั่งริมหน้าต่างสำหรับอ่านหนังสือทั้งวัน  ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นเหมือนกันไหมแต่ถ้าให้นั่งอ่านอยู่ที่ห้องเขาคงไปพ้นไปจบที่เตียงนอนแน่ๆ


เนื้อหาวิชาที่เขากำลังตั้งใจกับมันเป็นวิชาที่เขาไม่ถนัดดังนั้นจึงต้องใช้สมาธิอย่างเต็มที่ในการอ่านและฝึกทำโจทย์  เพื่อนๆคนอื่นบอกให้เขาอ่านให้จบแล้วมาติวให้ทีหลัง แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นความหวังให้เพื่อนได้มากขนาดไหน


เวลาในตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้วเขาควรจะออกไปหาอะไรกินเสียหน่อย กรวิทย์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู หน้าจอไม่แสดงสายที่ไม่ได้รับหรือข้อความใดๆเลย


กรวิทย์จำได้ว่าวันนี้สิชลมีเรียนวิชาภาคในช่วงเช้า เวลานี้น่าจะเลิกเรียนแล้ว เขาจะลองโทรไปหาดูว่าจะไปกินข้าวด้วยกันไหม


ตื้ดดดดดดดดดด. . .


ตื้ดดดดดดดดดด. . .


สิชลไม่รับสาย หรือว่าจะยังไม่เลิกเรียน เขาจะลองโทรไปอีกครั้งแล้วกัน


ตื้ดดดดดดดดดด. . .


“ฮัลโหล” และครั้งนี้ไม่ต้องรอสายนาน อีกฝ่ายก็รับโทรศัพท์ดด้วยความรวดเร็ว


“สิชลเรียนอยู่หรือเปล่า?”


เขาเอ่ยถามออกไปเพราะปลายสายไม่มีเสียงโหวกเหวกเหมือนทุกครั้งที่เขาโทรไปเวลาอีกฝ่ายอยู่กับเพื่อนๆ บางทีสิชลอาจจะยังอยู่ในห้องเรียน


“เอ่อ.. พอดีเราเลิกเรียนได้สักพักแล้ว มาส่งไอ้แชมป์ที่บ้านน่ะ มันมีธุระด่วน”


“อ่อ.. เรานึกว่าสิชลยังอยู่ในมหาลัยเราจะชวนมากินข้าวด้วยกัน แต่ไม่เป็นไรหรอก สิชลไปทำธุระเถอะ”


“เราไม่รู้ ขอโทษนะกร”


“อย่าคิดมากดิ ไม่เป็นไรซะหน่อย งั้นเดี๋ยวเราไปกินข้าวก่อนละกัน เดี๋ยวคืนนี้ค่อยคุยกันเนอะ”


กรวิทย์บอกปลายสายไม่ให้คิดมาก เขาไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยอยู่แล้วแค่ไปทำธุระแค่นี้เขาเข้าใจ พวกเราไม่จำเป็นต้องตัวติดกันตลอดเวลาหรอก


เขาตัดสินใจวางกระเป๋าไว้ที่โต๊ะแล้วเลือกหยิบแต่ของมีค่าติดตัวไป ท่าทางวันนี้คงอีกยาวไกลงั้นขอกินข้าวแบบจัดหนักเลยดีกว่า ในเมื่อหาข้อตกลงให้ตัวเองได้แล้วกรวิทย์จึงตัดสินใจไปยังโรงอาหารกลาง


ผู้คนบางตาเป็นอย่างมากสำหรับโรงอาหารกลางในวันเสาร์แบบนี้ และผู้คนที่นั่งกันประปรายส่วนใหญ่ก็เป็นนักศึกษาวิศวกรรมเป็นส่วนใหญ่สังเกตได้จากเสื้อช็อปที่สวมใส่กันอยู่


กรวิทย์เดินไปสั่งเมนูและยกถาดอาหารมาที่โต๊ะว่างบริเวณริมทางเดินใกล้ร้านเครื่องดื่ม เขาวางถาดอาหารเพื่อจองที่ก่อนลุกไปสั่งเครื่องดื่มเป็นลาเต้ แม้ว่าปกติเขาเป็นมนุษย์ผู้ไม่ดื่มกาแฟแต่ในช่วงเทศกาลสอบแบบนี้กาแฟก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเขาเช่นกัน


กาแฟลาเต้แบบหวานน้อยถูกวางลงบนโต๊ะและกรวิทย์ก็เริ่มจัดการอาการตรงหน้า กินข้าวคนเดียวไม่ค่อยชินเท่าไหร่แต่ใช่ว่าไม่เคยกินคนเดียว เขาสอดส่ายสายตามองไปรอบๆพร้อมกับค่อยๆละเลียดอาหารตรงหน้าอย่างไม่รีบร้อน ถือเสียว่าเป็นการพักสมองไปในตัวก่อนจะกลับไปลุยศึกหนักอีกครั้ง


เสียงหัวเราะและบทสนทนาที่ดังมาทางขึ้นของโรงอาหารทำให้กรวิทย์อดที่จะเหลือบสายตาไปมองไม่ได้ กลุ่มนักศึกษากลุ่มใหญ่ประมาณสิบกว่าคนเดินขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะสนุกสนาน เขาอดหัวเราะตามไม่ได้กับภาพที่เพื่อนในกลุ่มนั้นกำลังรุมแกล้งคนหนึ่งอยู่แต่เมื่อสายตาหันไปเจอกับใครบางคน รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆหายไป


แชมป์นี่นา เขาจำได้


แชมป์ที่เป็นเพื่อนสนิทกับสิชลยังอยู่นี่ แล้วที่สิชลเพิ่งจะบอกว่าไปส่งนี่คืออะไร


มีคนชื่อแชมป์อีกคนหรอ?


หรือเขากำลังถูกโกหก?


แม้ว่าในใจจะคิดไปไกลมากมายเพียงใดแต่เขาก็ควรฟังคำอธิบายจากเจ้าตัวดีที่สุด เพราะเขาเชื่อใจว่าอีกฝ่ายไม่โกหกกันแน่นอน และทันทีที่แชมป์หันมาสบตากับเขา เจ้าตัวทำสีหน้าแปลกใจก่อนเดินเข้ามาหาเขา


“ทำไมมากินข้าวคนเดียวล่ะกร สิชลไปไหน?”


กรวิทย์ยิ้มเจื่อนกับคำทักทายจากเพื่อนสนิทสิชลก่อนเอ่ยตอบออกไป “เห็นว่าไปทำธุระน่ะ แล้วแชมป์มากินข้าวเหมือนกันหรอ?”


“ใช่ เห็นมันรีบออกไปหลังเรียนเสร็จเราก็นึกว่ามันไปหากรนะเนี่ย”


ผมทำได้เพียงยืนฟังแล้วยิ้มเหมือนไม่มีอะไรกลับไป แชมป์ชวนคุยและบ่นเรื่องสอบอีกเล็กน้อยก่อนขอตัวไปนั่งที่โต๊ะกับเพื่อนๆ และแม้ว่าอาหารจะยังเหลือเต็มจานแต่ผมกลับไม่รู้สึกหิวอีกแล้ว


กว่าผมจะกลับเข้ามาที่ห้องสมุดอีกครั้งเวลาก็ผ่านไปจนเกือบถึงบ่ายสองโมงแล้ว หลังจากที่กินอะไรไม่ลงแล้วผมก็ตัดสินใจเดินไปเรื่อยเปื่อยก่อนแวะนั่งพักที่สวนของมหาวิทยาลัย ความคิดที่ไหลเข้ามาในหัวล้วนแล้วแต่กัดกร่อนจิตใจให้ห่อเหี่ยวลงอย่างเห็นได้ชัด


กรวิทย์ตัดสินใจหยุดคิดเรื่องสิชลแล้วตั้งใจที่จะอ่านหนังสือตรงหน้า เวลานี้เขาควรเรียงลำดับความสำคัญในชีวิตให้ถูกต้อง เรื่องสอบควรมาที่หนึ่ง


เนื้อหาในย่อหน้านี้เขาอ่านมาไม่ต่ำกว่าสามรอบแล้วแต่ยังไม่เข้าใจเสียที กรวิทย์ตัดสินใจหยุดอ่านเพื่อสงบจิตใจและผ่อนคลายให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เขาหยิบโทรศัพท์กดเข้าแอปพลิเคชั่นโซเซียลมีเดียต่างๆ


หน้าฟีดข่าวมีภาพของติณกับอาร์ทที่กำลังทำท่าเหมือนกินกระดาษเนื้อหาเข้าไปพร้อมแคปชั่นชวนฮา หรือจะเป็นเพื่อนอีกหลายคนที่ตั้งสเตตัสบ่นถึงเนื้อหาวิชาที่ต้องอ่านว่ามันมากมายเกินไป


มือเรียวเลื่อนขึ้นลงบนหน้าจอสักพักก่อนต้องหยุดชะงักกับภาพที่สิชลถูกใครสักคนแท็กบนหน้าไทม์ไลน์  ในภาพเป็นถ้วยโจ๊กชามใหญ่และแผงยาที่คาดว่าน่าจะเป็นยาแก้ปวดหนึ่งแผง โดยมีข้อความระบุว่า


Joon Keitkul: ขอบคุณที่รีบมาดูแลคนป่วยนะ คุณพยาบาลส่วนตัว


ร่างกายไม่เคลื่อนไหว หัวใจก็เช่นกัน กรวิทย์สัมผัสได้ถึงความผิดหวังที่ถาโถมเข้ามา เขากดเข้าไปยังหน้าของคนที่แท็กภาพดังกล่าวและข้อมูลที่เห็นก็เป็นอย่างที่คิดไว้


หน้าไทมไลน์เป็นภาพของชายหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มที่เขาจำได้ดี คนที่เคยเป็นคนรักของสิชลมาก่อน คนที่เขารู้สึกสู้ไม่ได้อยู่ตลอดเวลา


ไหนบอกให้เชื่อใจ


ไหนบอกว่าไม่มีอะไรแล้ว


แล้วที่โกหกกันแบบนี้คืออะไร?


ดวงตาของกรวิทย์พร่าเบลอไปด้วยหยาดน้ำที่พร้อมจะร่วงหล่นลงมา และทันทีที่หลับตาใบหน้าก็เปรอะไปด้วยหยดน้ำแห่งความเสียใจ


ความรู้สึกวูบโหวงปรากฏภายในอก เหมือนบางอย่างกำลังจะหลุดหายไป


แม้ไม่มีเสียงสะอื้นแต่น้ำตากลับไปหยุดไหล กรวิทย์เช็ดน้ำตาบนใบหน้าออกไปก่อนพยายามสูดลมหายใจเพื่อเรียกความเข้มแข็งกลับมา เขาตัดสินใจกวาดของทุกอย่างบนโต๊ะลงกระเป๋าและกลับหอพักทันที

.
.
.
.
.


กรวิทย์นอนนิ่งไม่ไหวติงตั้งแต่กลับมาจากหอสมุด หยาดน้ำตายังคงไหลมาไม่ขาดสาย ทันทีที่กลับมาถึงห้องเขาทรุดลงทันทีเหมือนความเข้มแข็งกำลังพังทลาย ความไม่เข้าใจและคำถามมากมายวนเวียนเพื่อรอคอยคำตอบ


ความรู้สึกโมโหคุกรุ่นภายในจิตใจ เขากำลังรู้สึกถูกทรยศ ความเสียใจและความผิดหวังเกิดขึ้นจนสามารถถมความไว้ใจที่มีจนมองแถบไม่เห็น


หยดน้ำที่ไหลจากตาในตอนนี้เป็นความรู้สึกของคนที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเสียใจ


กรวิทย์ร้องไห้จนเหนื่อย และตอนนี้ทำได้เพียงนอนนิ่งบนเตียง เหม่อมองอย่างไม่มีจุดหมาย


เวลาความสุขของเขาหมดลงแล้วหรอ?


ตัวจริงเขามาทวงคืนแล้วใช่ไหม?


ถ้ารู้ว่าเราสู้ไม่ได้จะมาบอกให้เชื่อใจกันทำไม?


น้ำตาเอ่อล้นอีกครั้งที่คิดว่าเราไม่ใช่คนที่สิชลเลือก แค่นี้ก็เห็นแล้วว่าความสำคัญมันต่างกัน  เขาเลิกกันไม่ใช่เพราะหมดรักแต่เพราะเขายังรักกันต่างหาก ไม่แปลกที่คนคนนั้นจะกลับมาทวงคืน และเขาเองก็ไม่มีสิทธิ์หรือความสำคัญมากพอที่จะรั้งไว้ได้เลย



Rr  Rr  Rr  Rr  Rr.. .


กรวิทย์ร้องไห้จนเพลียหลับไปและตื่นขั้นมาเพราะเครื่องมือสื่อสารข้างกายที่กำลังแผดเสียงไม่หยุด


สิชล


หน้าจอแสดงรายชื่อคนโทรเข้า เพียงแค่เห็นชื่อน้ำตาที่เหมือนเหือดแห้งไปก็เอ่อล้นออกมา เสียงเรียกเข้าดับไปก่อนที่จะส่งเสียงอีกครั้งเหมือนอีกฝ่ายไม่ยอมแพ้ในการโทรมา


เขาไม่สามารถคุยกับสิชลได้เหมือนปกติ ขนาดเห็นแค่ชื่อเขายังจะเป็นจะตายขนาดนี้แล้วถ้าได้ยินเสียงเขาไม่ขาดใจเลยหรอ


ใจร้ายเกินไปไหม?


หลังจากที่เสียงเรียกเข้าเงียบไปอีกครั้ง หน้าจอก็แสดงจำนวนสายที่ไม่ได้รับถึง 14 สาย ก่อนที่จะมีข้อความจากแอปพลิเคชั่นไลน์เข้ามาแทนที่


“ทำไมไม่รับโทรศัพท์?”


“หลับแล้วหรอ? ยังไม่ได้บอกฝันดีก่อนนอนเลยนะ”


กรวิทย์อ่านข้อความที่อีกฝ่ายส่งมาเหมือนไม่มีอะไร ทำตัวปกติเหมือนทุกวัน ไหล่เล็กสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้น สิชลทำได้ยังไงกันท่าทีเหมือนไม่มีอะไรแบบนี้


“อ่านแล้วทำไมไม่ตอบ ตัวเล็ก?”


ทันทีที่ข้อความล่าสุดส่งมา เครื่องมือสื่อสารในมือก็ส่งเสียงเรียกเข้าเพลงโปรดที่เขาตั้งไว้สำหรับคนคนเดียว และเพราะเขายังไม่สามารถควบคุมให้ตัวเองหยุดร้องไห้ได้เลยหลีกเลี่ยงที่จะรับสาย และไม่พร้อมที่จะตอบกลับข้อความเหล่านั้น


“กร มีอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่รับสาย”


ข้อความถูกส่งมาอีกครั้ง แล้วตามด้วยสติ๊กเกอร์รูปต่างๆที่ทำหน้าเหมือนเสียใจส่งตามมาด้วย


“กร มีอะไรหรือเปล่า เราไม่สบายใจแล้วนะ”


กรวิทย์ตัดสินใจกดปิดแอปพลิชั่น และกดปิดเครื่องมือสื่อสารไปเลย หากจะบอกว่าเขาหนีปัญหาก็คงใช่ เขาขอเวลาหน่อย ขอเวลา  ทำใจก่อนได้ไหม แล้วจะเดินจากไปเองโดยไม่ให้ใครลำบากใจ



TBC.


ตอนนี้มาสั้นไปหน่อยนะคะ ต้องขอโทษด้วย
ขอบคุณคนอ่านที่ยังติดตามนะคะ
รักคนอ่านทุกคนจริงๆ

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ไม่มีอะไรจะพูดกับสิชล  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
สิชลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อ้าวเห้ย

ตอนที่แล้วเพิ่งชมสิชลไปเอง.....อะไรของฮิมวะ


 :seng2ped: (เซ็งสิชล)

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
สิชลทำไมทำอย่างงี้ล่ะ  :katai1:

กร ~~~  :o12: :o12:

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ถ้าไม่มีอะไรจริงๆแล้วทำไมต้องโกหกด้วย สิชลลลลลลลลลลลลลลลลลลล  :angry2:
แต่สงสารกรจัง จะคิดมากก็ไม่แปลก จุนกับสิชลเลิกกันเพราะยังรักกันอยู่ ไม่ได้เลิกเพราะไม่ได้รักกันแล้วซะหน่อย ฮืออ

ออฟไลน์ Serioz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
สงสารกรงื้ออออออออ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ทำไมไม่พูดกันตรงๆ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
อยากกรี๊ดใส่หน้าสิชลสักที โกหกเขาทำไมถ้าบอกให้เชื่อใจกัน

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
ทำไมสิชลทำแบบนี้ ทำไมต้องโกหกด้วย

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
สิชลรายงานตัวด่วน ทำไมเป็นแบบนี้อ่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด