[Mpreg]เรื่องรักวุ่นวายฯแอ้VSดิว เหตุที่แอ้ไปอยู่กับลุงหนึ่งไม่ได้คือแอ้.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Mpreg]เรื่องรักวุ่นวายฯแอ้VSดิว เหตุที่แอ้ไปอยู่กับลุงหนึ่งไม่ได้คือแอ้.  (อ่าน 28988 ครั้ง)

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: ขอบคุณมากมายเลยค่ะ

 :L2: :L2: :L2: มีกำลังใจขึ้นมาเยอะเลย พรุ่งนี้รีบมาลงต่อ  :mew3: :katai4:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :mew2:  จะเกิดเรื่องไม่ดีกับแม่เซนหรือเปล่า แต่เรื่องนี้อ่านกี่ตอนก็ไม่ชอบเดี่ยวกับติ๊กซะที

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
ดิว
      ผมหลับต่อหลังจากที่แอ้ เดินมาหาผมรอบสุดท้ายพร้อมกับนอนกับผมและเซน เนื่องจากไอ้ติ๊ก คงโกรธที่แอ้เอาแต่ห่วงเซน เลยล๊อกห้องนอนซะเลยไม่ให้แอ้เข้าไปนอนด้วย ผมก็ขยับให้แอ้นอนกอดเซนเพราะไหนๆ ตอนเช้าเซนก็จะไปกับแม่เขาแล้วนิ ผมก็กอดแอ้ต่ออีกที แอ้น่ารักมาก ภาพนี้ผมจะจำไว้ และเซนด้วยเขาคงจะจดจำความรู้สึกนี้ไว้ ว่าแอ้รักเขาแค่ไหนแม้ว่าจะไม่ใช่ลูกแท้ๆก็ตาม
 
"ดิว" แอ้เรียกผม แอ้สะกิดให้ผมตื่นได้แล้ว เพราะว่าตอนนี้เกือบหกโมงเช้าแล้วจริงซิผมต้องไปส่งเซนที่บ้านก่อน

"ว่าไงแอ้ " ผมถามแอ้ แต่เซนยังหลับอยู่ เซนกอดผมอยู่

"แอ้โทรหาแม่เซนไม่ติดดิว"แอ้พูดกับผมเบาๆ  ผมมองแอ้ ถามว่าผมกังวลตอบว่ากังวลเหมือนกันแต่ผมจะแสดงอาการแบบนั้นไม่ได้แค่ผมเห็นแอ้กังวลใจและเป็นห่วงก็แย่แล้วถ้ายิ่งผมแสดงออกไป แอ้จะยิ่งกังวลมากไปกว่าเดิม 

"เราคงต้องไปที่บ้านเขา เพราะไม่อย่างนั้น ใครจะดูเซน "แอ้พูดกับผม ผมมองเซนที่ยังหลับอยู่เลยเด็กน้อย  ผมพยักหน้าพร้อมกับลุกขึ้นไป อาบน้ำแต่งตัว หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแอ้ก็ปลุกเซนให้ตื่น เซนน่ารักมากตื่นง่ายมากไม่เหมือนลูกๆผม ยังลีลา โดยเฉพาะมาริโอ้ ต้องอุ้มเข้าห้องน้ำ แถมตายังหลับอยู่เลย อันนี้พี่ดรีม บ่นให้ฟัง เพราะต้องไปอยู่ที่ศูนย์เด็กเล็กทุกวัน

"แม่ยังไม่มาเหรอพี่แอ้" เซนถามแอ้ แอ้กำลังแต่งตัวให้เซน แอ้ค้นเอาจากกระเป๋าที่แม่เขาจัดมาให้

"เดี๋ยวพี่จะพาไปส่งให้นะครับเซนเพราะว่าพี่ดิวกับพี่แอ้ต้องไปเรียนกัน"แอ้พูด เซนพยักหน้า ผมพากันออกจากห้อง ระหว่างที่เปิด  ประตูออกมา ก็มาปะกับไอ้เดี่ยว มันเปิดประตูห้องออกมาจากห้องไอ้ติ๊ก อย่าบอกนะว่าที่ล๊อกเพราะไอ้เดี่ยวเข้าไป ผมกับแอ้มองหน้ามัน เซนที่เงยหน้ามองผมกับแอ้ สลับกันไปมากับไอ้เดี่ยวที่ค่อยๆปิดประตูลงเบาๆ มันไม่กล้าสบตาผมสองคน

"เออ เมื่อคืนมีเรื่องต้องคุยกัน"ไอ้เดี่ยวรีบอธิบายกับผมสองคน 

"กรูสองคนก็มีเรื่องต้องคุยกับมรึง แต่ รอกรูสองกลับจากไปส่งเซนก่อน เจอกันที่โรงเรียน อ้อ เตรียมเหตุผลไว้ให้ กรูสองคนด้วยนะมรึง" ผมพูด และพาเซนลงไปข้างล่าง ผมขับรถออกมาทันที่เพื่อตรงไปบ้านเซน แอ้หยิบกระดาษใบสมัครที่แม่ของเซนกรอกข้อมูลไว้ออกมาดู บ้านเลขที่ของเซน

"เซนจำได้ไหมครับ บ้านเซนไปทางไหน"ผมถามเซนที่นั่งตรงเบาะเล็กๆ

"จำได้เซนจำได้พี่ดิว "เซนบอกผม และเซนคอยบอกว่าเหลี้ยวทางไหนบ้าง

"เมื่อคืนหลับสบายดีไหมเซน" แอ้ถามเซน เซนพยักหน้า

"หลับสบายที่สุด เซนฝันว่าเซน กอดแม่ "เซนพูด แอ้หันมามองผม นี้เซนสัมผัสฮอร์โมนคุณแม่จากแอ้ได้ด้วยเหรอ ก็เซนนอนกอดแอ้อยู่

“พี่ดิว พี่แอ้จะลืมเซนหรือเปล่า “ เซนถามผมกับแอ้ คงหมายถึงถ้าเข้าไปแล้วจะลืมเขาหรือเปล่า

“ไม่ลืมแน่นอนครับ เพราะว่าพี่กับพี่แอ้จะไปหาเซนบ่อยๆ “ ผมพูดกับเซน เซนยิ้มดีใจ ผมมองแอ้ยิ้ม ผมขับมาตามที่เซนบอกจนเข้ามาในซอยดูในซอยท่าจะวุ่นวายมีรถเยอะแยะไปหมด

“เซน ในซอยนี้วุ่นวายทุกวันไหมลูก “ ผมถามน้องเซนเพราะมีทั้งคนทั้งรถที่จอดและไหรรถที่จะออกจากซอยอีกละ ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันปวหัวตายเลย

“ปกติ ไม่ค่อยมีรถเท่าไหร่นะพ่อดิว “ เซนพูด ผมหันไปมอง เซนยักเรียกผมว่าพ่อเรียกตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ แอ้หันมามองผมแอบยิ้มให้ผมด้วย เซนเห็นผมกับแอ้มองเขา มียิ้มเขินๆด้วยนะที่เพลอเรียกผมว่าพ่อดิว แต่ผมชินแล้ว ลูกๆก็เรียกแบบนี้

"ดิว มีรถตำรวจด้วย" แอ้พูด ผมก็มองจริงด้วยซิ คงมีเรื่องแน่เลย ซอยนี้ใครก็พูดว่ามีแต่เด็กติดยาค้ายาบ้าง 

"ก็คงมีเรื่องกัน มันปกติของในนี้มั้ง ดูท่าจะพวกขี้ยาเยอะอยู่นะ"ผมบอกแอ้ เพราะว่าดูสีหน้าแอ้กังวลมากขึ้น ผมจับมือแอ้ไว้ ผมบีบเบาๆว่าไม่มีอะไรหรอก 

"มี มุลนิธิร่วมกตัญญูด้วยดิว รถปอเต้กตึ้งอะด้วยดิว"แอ้พูดผมก็หันไปมอง มีจริงด้วย 

"แอ้ ไม่มีอะไรหรอก ไหนบ้านหลังไหนครับเซน บอกพี่ดิวซิ"ผมถามเซน ว่าบ้านของเซนหลังไหน เพราะมีหลายหลังมากซ้อนกันสลับกันไปมา

"ข้างในหลังคา สีแดง แดง" เซนพูดแต่มีรถเยอะไปหมด แถมมีคนมุ่งหน้าบ้านเพียบเลย ชักจะไม่ธรรมดาแล้วซิ

"สงสัย อาโก๊ะ โดน ตำรวจจับ อีกแล้ว อาโก๊ะ ติดยาแม่บอกและห้ามเข้าใกล้ด้วย" เซนพูด ผมพยักหน้าก็อาจจะเป็นไปได้ ผมคิดว่าเซนไปยากที่นี้ก็ดีนะ จะได้ไม่ต้องเจอสิ่งที่ไม่ได้ถ้าอยู่ที่นี้อาจจะเสียอนาคตได้ 

"ดีแล้วอย่าไปใกล้ และอย่าเอาอย่างเขานะเซนมันไม่ดี " ผมหันมาพูดกับเซน เซนพยักหน้ารับปากผมว่าจะไม่เอาอย่างที่ไม่ดี

"ไปครับพวกพี่พาไปหาแม่" ผมหันไปบอกเซน

"ปึก" เสียงเหมือนบางอย่างกระตุก

"พี่ดิว พี่แอ้ สร้อยเสร็จขาด หายไปไหนไม่รู้แม่ซื้อให้เซนด้วย เซนไม่อยากทำมันหาย อยู่ไหน ...ก็ไม่รูเ. " เซนพูดว่าสร้อยขาดและพยายามก้มลงควานหา ผมหันไปมองกำลังก้มหาใหญ่เลยแอ้ก็ ชะเง้อมอง บ้านเซน

"งั้นพี่ไปช่วยหา เซน" ผมพูดและจะเปิดประตูลงไป

"ดิว อยู่กับเซนที่รถก่อนนะ แอ้จะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น " แอ้พูดและเดินลงจากรถไปผมเข้าไปช่วยเซนหาสร้อยคอ ที่นั่งด้านหลัง สีหน้าเซนไม่ดีเลยที่สร้อยหาย
********************************************************************************************************************************************************************************
         แอ้ ผมมาถึงบ้านของเซน แต่คนเยอะแยะมากมาย และมีรถตำรวจ รถปอเต็กตึ้ง ผมว่ามันไม่ธรรมดาแล้ว แต่เซนบอกว่าอาของเขาอาจจะโดนตำรวจจับ ผมว่าไม่น่าจะใช้เลยให้เซนอยู่กับดิวที่รถก่อน ผมเดินมาถึงหน้าบ้านเซนแต่ไม่กล้าเข้าไป ผู้คนที่รายล้อมมุกดูเหตุการณ์ที่บ้านของเซนแสดงว่าจุดเกิดเหตุคือบ้านเซนแน่ๆ  ผมเห็นป้าคนหนึ่งยืนอยู่ ผมเลยเข้าสอบถาม

"ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นครับ " ผมถามป้า  ป้าแกหันมามองผม

"ผมเป็นพี่ที่ฝึกสอนเทควันโดให้กับเซนนะครับ" ผมบอกป้าที่ยืนดูเหตุการณ์ ดูท่าจะบ้านใกล้ๆนี้แหละเพราะดูจากการแต่งตัวแบบลวกๆเพื่อออกมามุงดูกับเขา

"อ้อ เห็นเซนออกมาฝึกเตะทุกวัน เขาบอกครูแอ้ สอนมา " ป้าเขาพูด ผมยิ้มดีใจที่เซนเขาไม่ได้ทิ้งที่ผมสอนให้เลยแถมเอามาฝึกซ้อมที่บ้านอีกด้วย

"เออ " ผมชี้ไปที่บ้านเซนว่าเกิดอะไรขึ้นกับบ้านหลังนี้

"แม่ไอ้เซนถูก ฆาตกรรม นี้ไอ้เซนมันก็ไม่อยู่ สงสัยแม่ไอ้เซนมันพาไปอยู่กับใครแล้ว และแม่มันดันกลับมาขนข้าวของแต่ใครทำนี้ไม่มีใครรู้ น่าสงสารไอ้เซนจริงๆ ได้แต่ภาวนาให้เซนไปจากอีย่าใจยักษ์ที่เถอะ เซนเป็นเด็กน่ารัก เรียบร้อย พูดจากก็ไพเราะ" ผมยืนนิ่ง อึ้งถึงขึ้นช๊อก ผมแถบหยุดหายใจที่ได้ยินป้าเขาบอกวา แม่เซน ถูกฆาตรกรรม ไม่นะ ไม่จริง ผมไม่เชื่อ แล้วเมื่อคืนว่าบอกนะว่าเขาไปเข้าฝันผม

"นั้นไงเขาเอาศพ ลงมาแล้ว "ป้าเขาพูดไม่นะ ไม่จริง ไม่จริงใช่ไหม ผมเห็นเจ้าหน้าที่ช่วยกันแบกห้าม บางสิ่งลงมาแถมยังพันด้วยผ้าขาวลักษณะการพันมาแบบนี้นั้นหมายถึง ศพผู้เสียชีวิต ผมเข้าไปยืนมอง จนกระทั้งที่เขาห้ามกำลังผ่านหน้าผมและ

"ปึก"มีแขนโผ่ออกมาจากผ้าที่เขาพันศพพร้อมบางสิ่งที่หล่นลงมา  เจ้าหน้าที่ห่ามเปลพากันตกใจรวมทั้งคนรอบๆข้าง เจ้าหน้าทีวางเปลนั้นลงทันที

"ซวยแล้ว! สายสินขาด พวกมรึงผูกกันยังไงวะ" ผมได้ยินเจ้าหน้าที่พูด ผมเห็นมีกระดาษปริวตกลงมา ผมจึงก้มลงหยิบเป็นกระดาษชิ้นเล็กที่ถูกกำไว้แน่นสภาพมันยับยู้ยี่มาก  เหมือนเขาจะบอกอะไรผมนะ  ผมรีบหยิบมันขึ้นมาระหว่างที่เจ้าหน้าที่และคนที่มุงดูกำลังวุ่นวาย

"ฝากเซนด้วย" เป็นลายมือที่เขียนด้วยความพยายามมากตัวหนังสือโย้เย้ไปมาบอกได้ว่าเขากลั้นใจเขียนเพื่อบอกให้รู้ ผมรีบหันหลังออกทันที ผมรีบเดินให้เร็วที่สุด ให้มาถึงรถที่ดิวจอดไว้ ทันที่ที่ผมเดินไปถึงผมก็เปิดประตูเข้าไปนั่ง ผมพยายามตั้งสติตัวเอง ผมเห็นดิวกับเซนกำลังหาสร้อยที่ขาด นี้เขายังไม่รู้ว่าเขาได้สูญเสียแม่เขาไปแล้ว ผมจะบอกเขายังไง เซน

"เจอแล้วนี้ไงครับแต่ว่ามันขาดแล้วเซน ..เอาอย่างนี้พี่ดิวเอาไปซ้อมให้เอาไหมครับและพี่ดิวกับพี่แอ้จะขับรถไปให้... อ้าวแอ้ " ดิวเงยหน้ามาเจอผมนั่งในรถ

"ดิว ออกรถ" ผมบอกดิว ดิวก็เงยหน้ามองผม

"กรู บอกให้ออกรถไงดิว " ผมขึ้นเสียง ดิวตกใจและรีบลงออกจากแค๊บหลังดิวเข้ามานั่งที่นั่งคนขับดิมมองหน้าผม สายตาเขาถามผมว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ผมพูดไม่ได้ มันพูดไม่ออก มันตันไปหมดในใจผม เจ็บปวดแทนเซนมาก ผมเองที่ทนเห็นเขาเสียใจไม่ได้
"ออกรถ ได้โปรด ออกรถเดี๋ยวนี้ ออกไปจากตรงนี้ "เสียงผมสั้นเครือผมหันไปมองดิวด้วยสายตาที่อ้อนวอนเขา  ดิวขับรถออกมาทันที ผมรู้ว่าเซนตกใจกับอาการของผมตอนนี้ แต่ผมมีเรื่องที่ตกใจมากไปกว่านั้นอีกและผมเชื่อว่าเซนคงยอมรับมันไม่ได้แน่ๆ  ดิวขับรถออกจากซอยพอถึงปากซอย ก็เลี้ยวไปคนละทางกับรถที่เขานำร่างของแม่เซนไปอีกทาง ดิวขับออกมาโดยที่ไม่รู้ว่ากำลังจะไปที่ไหน และผมเองก็ไม่รู้ว่าผมจะไปไหน มันเคว้งคว้าง ในหัวผมคิดแต่ว่าทำไมต้องเกิดกับเซน ผมทนเห็นเขาเสียใจไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าทำไม

"แอ้" ดิวเรียกผม และดิวเปิดไฟขอทางเพื่อนำรถเข้าจอดข้างทาง ผมรีบเปิดประตูลงจากรถทันที น้ำตาผมกำลังจะไหลออกมา ดิวเดินลงมากจากรถเดินตรงหาผม  ดิวกอดผมตัวผมสั่นไปหมด

"เกิดอะไรขึ้นแอ้? "ดิวถามผม ดิว เอามือลูปใบหน้าผม ผมหันไปมองเซน เซนที่ยืนมองผมสองคนเซน มีน้ำตาคลอ คงตกใจมาก

"แอ้เซนตกใจมากนะรู้ไหม ดูซิ เขาคงคิดว่าแอ้ โกรธเขาแน่เลย แอ้  แอ้มีอะไรเกิดอะไรขึ้น "ดิวพูดดิวยังกอดผมไว้

“ใจเย็นๆแอ้  แอ้ตัวแอ้สั่นไปหมดแล้ว เกิดเรื่องขึ้นใช่ไหมแอ้ “ ดิวปลอบผมและถามผม 

"ดิว แม่เซนถูกฆ่า เขาตายแล้ว และระหว่างที่แอ้ยืน เขาส่งกระดาษนี้ให้แอ้….ดิว"ผมพูดเสียงสั้น และส่งกระดาษที่แม่เซนพยายามเขียนให้ดิวอ่าน  ดิวคงตกใจไม่แพ้กัน ผมสองคนไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วยซ้ำ
 
"ดิว แอ้ควรทำยังไง ดิว ฮือๆ"  ผมพูดพร้อมกับร้องไห้ออกมาผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่และผมก็กอดดิว เราสองคนกอดกันนานกว่าสิบนาทีจนผมเริ่มมีสติมากขึ้น ผมเย็นลงบ้างแล้ว

“ดิว แอ้ควรทำยังไง แม่ของเซนเขาไม่ได้อยู่ดูแลเขาแล้วดิว แล้วเซนจะอยู่ยังไงดิว “ ผมพูดกับดิว  ดิวมองหน้าผม

"ทำตามที่เคยคิดไว้ซิ อยากได้เขาเป็นลูกไม่ใช่เหรอ "ดิวบอกกับผม

"แล้วเรื่องแม่เขาละ แอ้ทำไม่ได้ แอ้บอกไม่ได้ เซนอาจจะรับไม่ไหว" ผมเงยหน้าขึ้นมองดิว

"เออ! … บอกเขาว่าแม่เขาไปทำงานไกลๆ แม่เขาฝากให้อยู่กับเรา และเมื่อเขาพร้อมเราค่อยบอกความจริง ดีไหมแอ้ " ดิวบอกกับผมผมหันไปเหล่มองน้องน้องเซนยืนเกาะกระจกมองผมสองคน ด้วยอาการตกใจอย่างมาก

"มีเพิ่มอีกคนไม่จนลงหรอก พ่อรวย" ดิวพูดมันทำให้ผมยิ้มออกมาได้นิดหน่อย

"ไปเข้าไปในรถ เซนตกใจแย่แล้ว แอ้" ผมพยักหน้าผมเช็ดน้ำตาให้แห้ง

“แอ้ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้นะดิว ใช่แอ้อยากได้เขา แอ้ไม่รู้ว่าทำไม  แต่ ....” ผมพูดกับดิว

“เอานะ แม่เขาเสียไปแล้ว ไม่มีใครอยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่โชคดีที่เซนไปนอนกับเรานะแอ้ ถ้าเซนไม่ไป อาจจะเป็นเซนด้วยแอ้ “ ดิวพูด จริงซิ โชคดีที่เซนไปอยู่กับผมเมื่อคืน ถ้าเป็นเซนด้วยผมก็คงทนไม่ไหวเหมือนกัน

" งั้นวันนี้เราพาเขาอยู่กับลูกๆเราเลยนะ " ดิวพูด

“เลิกร้องไห้ได้แล้วคุณแม่ เดี๋ยวเซนก็รู้จนได้ “ ดิวพูดผมก็ปาดน้ำตาให้แห้งและ พยักหน้ากับดิวว่าผมโอเคแล้ว ผมเดินไปเปิดประตู เซนหันมมองผม แววตาฉ่ำไปด้วยน้ำตาที่คลอๆ

"เซน มาหาพี่แอ้ซิครับ"  ผมพูดผมกางมือให้เซนข้ามามาหา เซนทำตามและโผ่มาหาผม เซนตัวสั่นไปหมดคงตกใจผมกอดเขาไว้

"พี่ขอโทษนะ ตกใจหรือเปล่า" ผมถามเซนทันทีและพยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติ

"พี่แอ้ โกรธเซนหรือเปล่า" เซนถามผม เซนเงยหน้ามองผมทำตาปริบๆ

"ไม่ครับ ไม่มีอะไร "ดิวพูดพร้อมลูบหัวเซนเบาๆ

"เออ แม่น้องเซนไม่อยู่ แม่น้องเซนเขาไปทำงานไกลมาก และเขาพาเซนไปไม่ได้ ดังนั้นเซนจะอยู่กับพี่แอ้และพี่ดิวไหม" แอ้ถามเซน

"ทำไมแม่ไม่พาเซนไป แม่จะทิ้งเซนหรือเปล่า" เซนพูดด้วยคำถามของเด็กใสซื่อ ผมมองหน้าดิว

"ไม่ครับแม่ไม่เคยทิ้งเซน แต่ที่แม่เซนไป อาจจะลำบากที่จะพาเซนไปด้วย แต่แม่น้องเซน รักเซนมาก เขาไม่ไปไหนจากเซนแน่นอน" ดิวพูดผมกอดเซนไว้

“ใช่แม่ไม่เคยไปไหนจากเซน แม่อยู่กับเซนตลอดเวลาและตลอดไป  เซน “ ผมพูดน้ำตาผมเริ่มมาคลอแต่ผมปาดมันออกก่อนที่เซนจะเงยหน้าขึ้นมาเห็น

"เซนอยู่กับพี่นะ " ผมพูดเซนพยักหน้าแบบยังไม่ค้อยเข้าใจมากหนัก

"แต่พี่ เออ แม่มด "เซนทำท่าจะถามถึงติ๊กแต่ดันเพลอเรียกติ๊กว่าแม่มดแน่เลย

"ฮึก" ดิวหัวเราะในลำคอทันทีเลยนะ

"ไปอยู่บ้านพี่ดิว ไม่มีแม่มด มีแต่ปู่และลุงๆที่ใจดีที่สุดและน้องๆที่น่ารัก ไม่มีใครรังแกเซนแน่นอน " ดิวบอกเซน

“เขาจะรักเซนเหมือนพี่แอ้พี่ดิวหรือเปล่า “  เซนถามผมและดิว ผมสองคนพยักหน้าพร้อมกัน

“และแม่จะกลับมารับเซนใช่ไหมครับพี่แอ้พี่ดิว “  เซนถามผม ผมไม่อาจจะมองหน้าเขาได้ตอนนี้เพราะว่าแม่เขากลับมาไม่ได้อีกแล้ว

“ไปอยู่กับพี่เซนจะได้เรียนหนังสือนะ ส่วนแม่ เขาจะกลับมาหาเซน  ...... “ดิวเลยตอบเซนแทนผมแต่คำตอบตอนท้ายเสียงดิวเบาลงมาเพราะดิวรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้

"เอาละเราออกเดินทางกันเลยนะ”  ดิวบอกผมและเซนพร้อมกับออกรถเพื่อนเดินทางไปบ้านพ่อภาณุเดช ผมสองคนต้องเอาเซนไปฝากพ่อไว้ ผมจะทำให้พ่อภาเหนื่อยหรือเปล่านะ

"แวะหาซื้ออะไรให้เซนกินก่อนดีกว่า ดูท่าว่าจะหิว หิวไหม " แอ้พูดและถามเซน

"นิดหนึ่งครับพี่แอ้ " เซนพูดทำนิ้ว  ผมพาเซนเข้าไปในเซเว่นอีเลฟเว่น ซื้อของทานได้นิดหน่อย แซนวิชแฮมชีสและพวกเครื่องดื่ม

"นั่งกับพี่แอ้นี้แหละครับน้องเซน" ผมบอกเซนและดิวก็หาที่กลับรถเพื่อตรงไปหาพ่อภาณุเดช ผมกอดเซนไว้กับอกผมตลอด ไม่อยากปล่อยเขาลง ผมสงสารเขา

"มิหน้า เซนเห็นแม่นั่งรถ แม่โบกมือให้เซน แม่ยิ้ม แม่คงไม่อยากให้เซนร้องตาม " เซนพูดผมก้มมองแต่ดิวซิหันมาทำตาโต ดิวนะกลัวขึ้นสมองเลยดีกว่า

 "พี่สัญญาว่าจะดูแลเซนให้ดีที่สุด " ผมพูดเซนเงยหน้ามองผม และกอดผมไว้ ผมกับเซนกอดกันดิวก็ขับรถไป ผมเพลอหลับไปกันตอนไหนไม่รู้เพราะว่าเมื่อคืนผมแทบจะไม่ได้นอนเลยเป็นห่วงแม่เซนมาก แต่ตอนนี้ผมคงไม่ต้องห่วงแล้ว เขาไปสบายแล้ว เหลือแค่เซนเท่านั้น แต่ผมยังคงแปลกใจกับคำพูดที่ผมฝันเมื่อคืน เขารอจะอยู่กับคน จริงเหรอเซนรออยู่กับผมจริงเหรอ

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
พรุ่งนี้มาลงต่อ เซนเจอแฝดของดิว จะเป็นยังไงน่า  :mew4:

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
            ดิว ผมขับรถมาจอดที่หน้าบ้าน แต่ผมยังไม่ได้บอกพ่อผมเลยว่าจะพาสมาชิกใหม่มาอยู่ด้วย นั้นคือเซน ผมก็เลยหยิบมือถือขึ้นมาและแอ้ก็ลืมตาแล้วแอ้เพลอหลับไปพร้อมกับเซนทั้งคู่แอ้รู้แล้วว่าถึงแล้วและเซนก็ตื่นขึ้น เซนมองไปรอบๆด้วยเช่นกัน เซนมองแบบแปลกที่แปลกทาง

“ที่นี้ไหนเหรอพี่แอ้ “ เซนถามแอ้ด้วยท่าทางงัวเงียเพิ่งจะตื่น  “บ้านคุณปู่ที่ใจดีที่สุดในโลก” แอ้บอกน้องเซน ผมเอามือไปยีหัวเซนอย่างเอนดู

“พ่อ” พ่อรับสายผมแล้ว

“ว่าไงดิว “ พ่อผมถามผม

“พ่อผมมีเรื่อง เออ ผมจะพาเด็กน้อยมาพักที่บ้านเราในฐานะลูกของผมและแอ้ ได้หรือเปล่าพ่อ”  ผมถามพ่อผม ผมรู้ว่าพ่อผมเซเยสแน่นอน

“ทำไมจะไม่ได้ละ ว่าแต่ทำไมถึงพาเขามาอยู่ละพ่อแม่เขาไปไหน” พ่อถามผม ผมหันไปมองหน้าเซน แอ้จัดการเอาหวีที่ติดรถผมไว้ ขึ้นมาหวีผมแต่งผมให้เซน แถมยังงัดแป้งเด็กมาทาหน้าให้เซนอีกด้วย

“ผมจะบอกกับพ่อที่หลังนะพ่อ” ผมบอกพ่อผม

“อืม... พ่อเชื่อการตัดสินใจของลูกพ่อเอง ว่าแต่จะมาเมื่อไหร่ละ” พ่อถามผมว่าเมื่อไหร่


“พ่อผมอยู่หน้าบ้านพ่อแล้วอะ” ผมบอกพ่อผม พ่อผมหันมามองด้านนอกบ้านก็เจอรถผมจอดอยู่ทันที แน่นอนพ่อบังเกิดเกล้าถึงกลับเอามือท้าวซะเอวทันที

“งั้นก็เข้ามาซิดิวจะโทรทำไมของมรึง ลูกกรู ” พ่อผมเอ็ดผมใหญ่เลยและผมก็เปิดประตูลงไปพร้อมแอ้และแอ้ก็อุ้มเซนลงจากรถผม เซนมองไปรอบๆแบบตื่นเต้น ที่เจอบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้

“บ้านหลังใหญ่จังเลยพี่ดิวพี่แอ้” เซนพูดผมก็พยักหน้าและพาเซนเข้าบ้านทันเพื่อจะได้เจอพ่อผมคุณปู่ที่ใจดีที่สุดในโลก

“พ่อ” ผมเรียกพ่อผม พ่อขยับแว่นตาและมองเซนรอดเลนส์สายตามองมาที่เซนทันที

“เซนนี้คุณปู่ที่ใจดีที่สุดในโลก” ผมบอกเซน เซนยิ้มเขินอาย พ่อผมวางเอกสารลงและถอดแว่นตาออก พ่อผมควักมือเรียกเซนเข้าไปหา แอ้ดันหลังเซนและพยักหน้าให้เซนเข้าไป

“ไหนเข้ามาหาปู่ใกล้ๆซิลูก “ พ่อผมเรียกเซน เซนเข้าไปใกล้ พ่อผมเอานิ้งเสยผมที่บังหน้าเล็กน้อยขึ้น พ่อผมมองเพ็งพิจารณาใบหน้าเรียวได้รูป เค้าโครงจะว่าเหมือนแอ้ไหมก็เหมือนนะ

“ชื่ออะไรละเรา “ พ่อผมถามเซน

“ชื่อน้องเซนครับ คุณปู่ “ เซนเรียกพ่อผมว่าคุณปู่

“พ่อดิวมาแว้ว พ่อดิว พ่อแอ้  “เสียงมาริโอ้วิ่งออกมาคงได้ยินเสียงรถจอดหน้าบ้าน ผมทั้งคู่หันไปมองเด็กน้อยสามคนที่วิ่งออกมาจากห้องนั่งเล่น พี่ผมก็เดินออกมาพี่ดิม พี่ดรีม พี่หมอด้าด้วย

“หวัดดีครับพี่ดิม พี่ดรีม พี่ด้า วันนี้ไม่ไปโรงพยาบาลกันเหรอครับ “แอ้ถามแอ้ก้มลงหอมแก้มลูกชายสามคน ที่กอดผมและแอ้ด้วยความคิดถึง

“เมื่อวานพี่มีคนไข้เยอะเลยแอ้  คนไข้รถทัวป์มาลงโรงพยาบาลพ่อพี่ สนุกทำแผลมากครับน้องแอ้ กว่าพี่จะได้กลับเกือบตีสอง “ พี่ดรีมพูด คนเป็นหมอก็แบบนี้แหละ ถ้ายิ่งเป็นโรงพยาบาลตัวเองด้วยแล้วยิ่งต้องคอยสแปตลอดเวลา เพื่อมีเหตุขับขันเกิดขึ้น ผมพยักหน้ารับทราบ ลูกๆผมมองน้องเซนที่ยืนกับปู แอ้ควักมือเรียกเซน ที่ยืนมองน้องๆ เข้ามาหาแอ้ พี่ๆผมก็มองเซน ทุกคนพากันอึ้งไปหมด เป็นไงละผมไปทำมาเร็วทันใจ ไม่ต้องคอยเลี้ยงดูตั้งแต่แบเบาะ

“เออ .... นี่ .....ไปทำมาอีกแล้วเหรอ “ พี่ดิมถามผม ผมหยักคิ้วว่าใช่

“ดิว” แอ้ปรามผม 

“พ่อมีสมาชิกใหม่ “ ผมบอกลูกๆแฝดของผมที่มองน้องเซนคนเดียวเลย

“อีกแล้วเหรอพ่อดิว “ ไอ ถามผม  ไม่ได้บ่อยเลยนะ ผมผมว่าอีกแล้วได้ยังไง แค่กี่คนเอง นับก่อน เป็กซ์ ไอ ไอซ์ มาริโอ้ มีนและมิ้น และตอนนี้เซนอีกคนเอง หกคนเอง ไม่มากเลยนะ ผมยืนนำนิ้วอยู่พี่ๆมองผม

“นับถูกไหม มีกี่คนแล้ว “ พี่ดรีมถามผม

“หก “ ผมตอบ

“ครึ้งโหล่เอง “ พี่ดรีมพูด ผมพยักหน้าว่าใช่นะครึ้งโหล่เอง 

“พี่เขาชื่อเซน และเซนนี้คือ ....”ผมแนะนำเซนกับลูกๆผม

“ลูกหมาที่พี่ดิวบอกเซนเหรอ “ ผมถึงกับอึ้งเลย กรรมเลยตอนนั้นแก้เหตุการณ์เฉพาะหน้าไปดันไม่ได้นึกถึงเหตุการณ์ต่อมา ลูกๆผมและพี่ๆ ผมพากันสะบัดหน้ามามองกันเป็นแถว

“แร๊ง!วะ ว่าหลานกรูเป็นลูกหมาเลยเหรอ “ พี่ดรีม :o

“เปิดตัวก็แรงขนาดนี้ จะอยู่กันได้ไหม “ พี่ดิมอีกคน  :hao4:

“เซน เออ นี้ไม่ใช่ลูกหมาครับ นี้เป็น น้องๆที่พี่ดิวพี่แอ้พูดถึงไงครับ “ แอ้บอกเซน

“ใช่ซิพี่แอ้พี่ดิวบอก และพี่ดิวยังบอกอีกว่า พันธุ์ชิวาวา “น้องเซนพูดหนักกว่าเดิมอีก ลูกๆผมถึงกับอ้าปากค้างกันเลยทีเดียว  :m12:

“อู้ยย บอกสายพันธุ์ให้เสร็จเลยวะ กรุเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ ยังไม่รู้เลยว่าหลานกรูพันธุ์อะไร เพิ่งรู้วันนี้เอง “ พี่ดิมพูดและหันไปมองหลานๆ

“ผมก็ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกัน แต่ที่นี้แน่ ๆ ตอนนี้พันแข้งพันขาไปหมดแล้วยืนกันดีดีซิลูก “ พี่ดรีมเพราะหลานไอ กับไอซ์กอดพี่ดรีมพันกันไปมา

“ทำไมเขาว่าเราเป็นลูกหมาพันธุ์ ชิวาวาละลุง “ น้องไอถามพี่ชาย   :m28: แน่นอนพี่ๆผมหันมามองผมแทน

“ก็ยังดีนะลูกนะที่เขายังบอกว่าเป็นชิวาวา ถ้าเป็นพิทบลูนี้ลุงเอาไปปล่อยวัดเลยนะ ดุเกินไปห้ามเลี้ยง “ พี่ดรีมบอกหลานๆผมนี้เกาหัวเลยครับ งานเข้า!   :m26:

“แต่ไอซ์ คิดว่าไม่น่ารักสักเท่าไหร่นะลุงดรีม ถ้าไอซ์ต้องเป็นลูกหมา “ น้องไอซ์พูดทำแก้มป่อง กรรมเลยผม    :mew2:

“คือเออ ...คือว่า... เออ ..มุก.. มุกนะ เนอะเซนเนอะ มุกตลก ฮาๆ  ขำหน่อย น้องเขาเล่นมุกนะลูกๆ ไอ ไอซ์ โอ้   “ ผมพูดว่าเซนเล่นมุกให้ขำนะ

“อ้อ มุก ลูกมุกตลก ช่วยขำหน่อย “ พี่ดิมพูดและพยายาทขำ  o7

“ฮาๆ  พี่เขาตลกดีนะว่าไหมอะ พี่ไอ พีไอซ์  ฮาๆ  โอ้ชอบ ฮาๆๆ” มาริโอ้ ขำอยู่คนเดียวเลย    :m4: ไอและไอซ์หันมามองเซน แบบว่าไม่ขำด้วยอะ  เซนก็มองโอ้หัวเราะใหญ่เลยก็เลย

“คิก  คิก คิก “เซนหัวเราะกับเขามั้ง รู้เรื่องไหมนะว่าเขาหัวเราะอะไรกัน   :mew4:

“ฮาๆๆ เออ ตลกดี ฮาๆ “ พี่ดิมกับพี่ดรีม ช่วยกันขำอีก :sad4:

“ขำไม่ออกอะเขาไม่อยากเป็นลูกหมา “ ไอ พูดทำหน้าหมุ่ยเล็กน้อย

“น้องไอซ์ก็คิดว่าไม่อยากเหมือนกันนะพี่ไอ  “ น้องไอซ์ พูดเบาๆ

“น้องเซนนี้ไม่ใช่ลูกหมานี้เป็นลูกของพี่ดิวกับพี่แอ้ พี่รู้ว่าเซนอาจจะไม่เข้าใจแต่ไม่นานเซนก็จะเข้าใจเองนะครับ เออ พี่จะแนะนำ คนนี้ น้องไอ คนโตเลยแต่ไม่ที่สุด “ ผมพูดกับเซนและแนะนำน้องไอ น้องไอมองผมสองคน  :confuse:

“เป็นพี่ของไออีกแล้วอะ พ่อดิว พ่อแอ้ “ไอพูดแอบนอยด์อยากเป็นพี่คนโต

“เอานะไอ ยังไงไอก็เป็นพี่ของน้องแฝดอยู่ดี “ พี่ด้าสะกิดไอ ไอพยักหน้า

“และคนนี้น้องไอซ์ “ผมบอกเซน เซนมองน้องไอซ์ตอนนี้ไม่ขี้หายเท่าไหร่แล้ว ไอซ์ยิ้มให้เซน เซนทำท่าจะแตะแก้ม

“อย่า แตะแก้มน้องลูก “ ผมและพี่ๆ ผมร้องห้ามทันที เซนชักมือกลับด้วยอาการตกใจพร้อมหันไปมองพวกผม แต่คนที่ผมกลัวกำลังจะโกรธคือ น้องไอ

“อย่าจับน้องนะลูกนะ ดู อย่างเดียวพอลูก ดูแต่ตามืออย่าต้อง เดี๋ยวน้องคนนี้จะ ปี้ดดดด” พี่ดรีมพูด เซนหันไปมองไอ ทำท่าตกใจ

“เย็นไว้ลูก เขาไม่ได้ทำอะไรไอซ์นะลูกนะ เย็นไว้ ลุงจูนให้” พี่ดิมผมห้ามไอ และเอาโป้งและนิ้วชี้มาจูนสัญญาณให้ ฮาๆ

“และคนนี้.....”ผมกำลังจะแนะนำมาริโอ้

“เขาชื่อโอ้” ทำปากเป็นตัวโอเลยลูกผม “เว้ย” ผมร้องตกใจแน่นำตัวได้ฟินมาก ใครสอนมา   :a9:

“ถ้าเรียกเต็มๆ คือมาริโอ้ “ทำปากเป็นตัวโออีกแล้ว   :m3:

“คิก คิก คิกเขาชอบน้องโอ้จังเลย “ เซนพูดดูท่าจะคุยกันถูกคอนะเนี๊ยะ  :m18:

“โอ้เขาน่ารัก น้องไอและน้องไอซ์ก็น่ารักน่ะน้องเซน “แอ้ก้มลงบอกเซนเซนยิ้มให้ผมและแอ้

“แล้วแขนพี่เซนทำไมห้อยต่องแต่ง อย่างนั้นละ ห่อยอยู่ข้างเดียวอะ ? “ มาริโอ้ถามเซน และชี้ไปที่แขนที่มียังมีเฝือกอ่อนและสวมผ้าคล้องแขนมาด้วย 

“แขนพี่หักนะ โชคดีนะที่หักข้างเดียว ไอ้เว้ามันผลักพี่ตกบรรไดนะ “   เซนบอกมาริโอ้ พี่ๆผมก็พยักหน้า  พี่ดรีมเดินไปจับดู ก็รู้ว่าแค่เดาะนะ เพราะว่าใส่เฝือกอ่อน

“พี่เลยแขนหักข้างเดียวใช่อะเปล่า ? “ มาริโอ้ ถามเซน

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวโอ้ จะทำให้หักอีกข้างจะได้เท่าๆ กัน “ มาริโอ้พูด เว้ย ทำไมไปขู่เขาแบบนั้นลูกโอ้ 

“ไม่....โอ้ ....อย่าทำพี่เขา “ พวกผมรีบห้ามปรามมาริโอ้ทันที เซนที่มองโอ้ด้วยการตกใจที่บอกจะทำให้แขนหักอีกข้างพร้อมกับจะเดินหันหลังออกอีกด้วย ผมรีบคว้าไว้ก่อน

“จะไปไหนละเซน “ ผมถามเซน

“เขาไม่อยากแขนหักสองข้าง ไว้เซนมาใหม่ดีกว่า “ เซนหันมาพูด ผมรีบดึงกลับมาก่อน ต้องปลอบขวัญก่อน  มาริโอ้ที่ยิ้มกริ่ม  ผมคิดถูกหรือคิดผิดที่พาอยู่กับแสบผมเนี๊ยะ

“ไม่ทำพี่นะโอ้ “ แอ้ทำเสียงดู โอ้มองแอ้ หุบยิ้มไปนิดหนึ่ง

“โอ้ไม่ทำหรอก โอ้ล้อเล่น “มาริโอ้

“ไม่ลูก น้องไม่ทำแน่นอน น้องเล่นมุกลูก มุกตลก  ฮาๆ ขำกันหน่อย ฮาๆ “ พี่ดรีมพูด แอ้ก็เอามือลูบหัวเซน

“น้องจะไม่ทำพี่เซน แน่นอน เชื่อพี่แอ้นะครับ ใช่ไหมครับ ไอ ไอซ์และมาริโอ้ “ แอ้พูดและขอความมั่นใจจากลูกๆผม ลูกผมพยักหน้า

“น้องโอ้ไม่ทำพี่เซนแน่นอน พ่อบอกไม่ให้รังแกใคร มันไม่ดี เมื่อกี้ โอ้ล้อเล่น!  “  มาริโอ้พูด เซนเงยหน้ามองผมสองคน ผมพยักหน้า

“พี่ก็ไม่ชอบรังแกใครเหมือนกัน “ เซนพูด

“แต่พี่โดนเขารังแกบ่อยที่สุด “ น้องเซนพูดทำหน้าหงอยๆ พี่ดิมเอามือลูบหัว

“ลุงเชื่อว่าน้องๆไม่รังแกเซน หรือถ้าน้องเก๊นะ บอกลุงลุงจะตีน้องๆ “ พี่ดิมบอกเซน เซนเงยหน้ามองพี่ดิมพี่ชายของผม

“พี่เขาดีจัง พี่เขาพูดได้แต่พี่คนนั้นพูดไม่ได้ ปู่คงลืมใส่ถ่าน “ มาริโอ้พูด หมายถึงใครผมเพิ่งเห็นมีเด็กผู้ชายนั่งกอดเขาบนโซฟา ผมก็มองตกใจมายังไง เด็กคนนี้คือใครผมมองหน้าพ่อผม

“รอให้แบตเตอรี่พี่เขาเต็มก่อน ตอนนี้ลุงเสียบสายชาร์จ อยู่ “พี่ดรีมพูด

“ตลกกันน่าดูนะมรึง ลุงหลานเนี๊ยะ “ พี่ดิมพูด  พี่ด้าหยักไหล่ ก็ลุงกับหลานเขารับส่งมุกกันได้ดีน่าดู

“งั้นเราไปเล่นกันดีกว่าพี่เซน เขากำลังเล่นเกมส์เต้นกัน พี่เซนไปนะ “มาริโอ้เรียกเซน

“แต่พี่เล่นไม่เป็น “ เซนพูด

“ไม่เป็นไรโอ้สอน “มาริโอ้บอกเซน

“แน่ใจเหรอว่านายสอนพี่เซนได้อะ โอ้ “ ไอผู้เป็นพี่ทักท้วงน้องชายของเขา

“งั้นให้พี่ไอสอนก็ได้ ไปกันนะ ไปกัน “โอ้พูดโยนไปให้ไอแทน และดึงรั้งน้องเซนไปด้วยกัน ผมกับแอ้เดินมานั่งที่โซฟา พี่ๆผมตามเข้าไปดูเด็กกันหมด ปล่อยให้ผมกับพ่อคุยกัน

“พ่อ เออ “ ผมนั่งถัดจากหนุ่มน้อยดูน่าจะวัยเดียวกับเซนเลย 

“ชื่อแซน พ่อเขาถูกยิงเสียชีวิต เป็นคนสนิทของพ่อและภีมแถมเขายังเป็นสไนเปอร์มือดีอีกด้วย น่าเสียดาย และแซนเขาเสียใจมาก แถมดาบมานพ ก็ไม่มีญาติที่ไหนเลย แม่ของแซนพอคลอดแซนและทิ้งแซนไปเลย พ่อเลยว่าจะเอามาและรอดิวกับแอ้มาตัดสินใจ เพราะดูแล้ววัยใกล้เคียงกับแฝด แต่อ่อนกว่าเป็กซ์ปีหนึ่ง “พ่อผมพูด ผมก็มอง คงตกใจน่าดูที่พ่อมาเสียชีวิต

“ไม่พูด ไม่จา ไม่อะไรเลย พ่อคงจะเอาไปให้ที่ศูนย์เขาดูแล เขาเห็นพ่อเขาถูกยิงต่อหน้าต่อตาเลยดิว ช๊อกนะ “พ่อผมพูดผมนี้ใจหายเลยผมมองแซน แปลกนะ ชื่อ ซ เหมือนกัน แถมเข้ามาในบ้านผมวันเดียวกัน คงบังเอิญนะ 

“ชื่ออะไรนะครับ พ่อ “แอ้ถามพ่อผม

“น้องแซน “พ่อผมพูด

“แซน เซน เข้ามาในบ้านเราวันเดียวกันเลยนะพ่อ แอ้ว่า ...” แอ้พูด

“แอ้บังเอิญนะและดูสภาพนี้ซิ ไม่รู้จะอยู่บ้านเราหรือเปล่า “ผมพูดผมหันไปมองแซนเงยหน้ามองผม น้ำตายังคลอๆที่ตาอยู่เลย

“พ่อ ไม่อยู่แล้ว พ่อทิ้งแซนไปแล้ว “แซนพูด ผมเอามือลูบหัวเบาๆ

“พ่อ ให้ด้าสั่งอาหารเที่ยงมาเลยไหมพ่อ “ พี่ด้าถามพ่อผม พ่อพยักหน้า

“นี้ดูเข้ากับแฝดได้ดีเลยนะ หามาได้ถูกมาก “พี่ด้าพูด เสียงหัวเราะชอบใจดังออกมาจากห้องนั่งเล่นเด็ก ๆ ผมหันไปมองแอ้ที่ยิ้มอย่างมีความสุข คงดีใจที่เซนเข้ากับแฝดผมได้ดี

“ด้า สั่งอาหารมาเผื่อแซนด้วยนะ  “ พ่อผมบอกพี่ด้า พี่ด้าก็พยักหน้า
*************************************************************************************************************
แอ้
   ผมก็ลุกขึ้นไปเพื่อจะไปดูห้องลูกและจะได้ดูว่าเซนจะนอนห้องน้องไอ ไอซ์และมาริโอ้ได้ไหม หรือไม่ให้นอนห้องดิวไปก่อน ผมเดินขึ้นไปดูห้องนอนลูกๆผมดิวเดินตามผมขึ้นไป ผมเปิดประตูเข้าไปห้องนอนที่ถูกจัดเก็บเป็นระเบียบมาก

“รู้ไหมใครทำ “ดิวถามผม ผมหันมายิ้ม

“พี่ด้า แน่นอน” ผมตอบดิว   

“เป็กซ์ เป็กซ์ทำให้น้องทุกวันเลย ก่อนไปโรงเรียน “ ดิวบอกผม ผมหันมามอง ยิ้มนี้ผมพาเขามาเป็นลูกผมสองคนได้ถูกมากเขาดูแลน้องดีขนาดนี้เลยเหรอ ผมเห็นโต๊ะญี่ปุ่นที่ว่างไว้สามตัว

“เป็กซ์เขาออกแบบเองนะไว้ให้น้องๆนั่งทำการบ้าน บนห้อง มีคนละตัวเลย พี่ด้าบอกว่าพากันไปซื้อมาให้ “ ดิวบอกผม ผมพยักหน้า ใช่ได้ทีเดียว

“มีคนช่วยเลี้ยงแล้ว ทำเพิ่มดีกว่ามั้ง “ดิวพูดและเข้ามาโอบกอดผมจากด้านหลัง ดิวไซ้ไปตามซอกคอผม ดิวนี้หื่นตลอดเวลา ผมดันดิวออก ผมเดินไปดูตู้เสื่อผ้า แต่เสื้อผ้าลูกๆเต็มตู้ทุกใบเลยจะย้ายไปไหนดีละ จะได้หาที่ว่างให้เซน

“พ่อจะขยายห้องแฝดให้กว้างขึ้นและทำห้องให้เป็กซ์ใหม่ ให้น้องเซนไปนอนกัเป็กซ์ก่อนไหมละแอ้ “ ดิวบอกผม ผมพยักหน้า “ก๊อก ๆ “ เสียงเคาะประตู เป็กซ์เปิดประตูเข้ามาพอดีคงเพิ่งจะกลับมาจากเรียนพิเศษแน่เลย เป็กว์วิ่งเข้ามากอดดิว และกอดผม

“เป็กซ์คิดถึงพ่อดิวพ่อแอ้จังเลย “ เป็กซ์พูด

“เจอน้องคนใหม่หรืยังเป็กซ์ “ ดิวถามเป็กซ์

“เจอแล้วครับ น้องเซน น่ารักมาก “ เป็กซ์พูด

“พ่อต้องฝากอีกคนนะเป็กซ์ เป็กซ์คงเหนื่อยหน่อย “ ผมพูด เป็กซ์ยิ้มและพยักหน้าให้ผมว่าเขาสามารถดูแลน้องๆด้

“ปู่ให้มาตามพ่อแอ้พ่อดิวไปทานข้าวเที่ยงนะครับ “ เป็กซ์บอกผม ผมพยักหน้า และดิว ผมเดินลงมาดิวลูบหัวลูกชายคนโต เป็กซ์เขาเรียนเก่งมากผมเดินลงมาลูกๆผมนั่งทานอาหารกัน แต่ผมไม่เห็นน้องมีนและมิ้นเลยไปไหนละ

**********************************************************************************************************************
      ดิว ผมเดินลงมารอทานอาหารกลางวัน ลูกๆผมไอ ไอซ์และ มาริโอ้ น้องเซนดูสนิทกันเร็วมาก พ่อผมจูงน้องแซนมานั่งดูท่าจะไม่อยากกินอะไรทั้งนั้นผมเห็นแบบนี้ใจหายถ้าผมต้องจากไปแบบพ่อของแซนละ ลูกๆผมจะเป็นยังไง อาชีพทหารเหมือนเอาชีวิตไปแขวนไว้บนเส้นดายก็ไม่ปาน

“นั่งนี้นะแซน กินข้าวก่อนนะลูก “ พ่อผมบอกแซน แซนนั่งข้างๆ ผมนั้นแหละ

“เอาละ เด็กๆ ห้ามเขี่ยผักออก จากจานนะ “แอ้บอกลูกๆผม

“เซนไม่เขี่ยผักออกแน่นอน พี่แอ้ “ เซนเรียกแอ้ สามแฝดผมหันมามองเซน

“อุ้ยย มองพี่ทำไมเหรอ “เซน

“ทำไมไม่เรียกพ่อแอ้ละ “ น้องไอซ์ถามเซน เซนเงยหน้ามองแอ้ แอ้ยิ้มให้เซน พยักหน้าให้เซน

“ต่อไปนี้เซนเรียกพี่แอ้ว่าพ่อนะ เซนอยากเรียกพ่อไม่ใช่เหรอครับ “ ผมบอกเซน เซนหันมามองหน้าผมและแอ้สลับไปมาก

“เซนเรียกได้จริงๆหรือเปล่า “ เซนพูดทุกคนพยักหน้า

“ครับเรียกได้ครับ “แอ้พูดและตักอาหารให้เซน

“ครับ พ่อแอ้ เซนชอบจังเลย “เซนพูดและยิ้ม ผมเห็นสายตาแอ้ที่มองเซน เขามีความสุขมากแต่แอ้ก็แอบทุกข์ใจเรื่องที่จะบอกเซนยังไงแม่เขาเสียไปแล้ว

“แอ้” ผมเรียกแอ้ ผมอธิบายกับพ่อและพี่ๆผมไปแล้วว่าทำไมผมถึงเอาเซนมาเลี้ยงทุกคนสะเทือนใจมากที่ได้รับฟังและยินดีที่จะดูแลเซนแทนผมสองคนช่วงที่ผมเรียนกัน ผมจะดูแลเขาเหมือนลูกแท้ๆผมทุกอย่างเลย

“พ่อแล้วมิ้นกับมีนละครับ “ แอ้ถามถึงลูกชายคนที่5 นับตั้งแต่มีเป็กซ์เข้ามา และคนเล็กตัวแสบผมมิ้นนั้นซิ พ่อมองแอ้และผม

“กริ้ง “เสียงโทรศัพท์แอ้ดังขึ้น  “พ่อโทรมา “ แอ้พูดและเดินออกไปรับสายอาภีม ผมหันมามองพ่อผม พี่ๆก็มองผม

“ดิว ภีมรู้เรื่องเด็กๆแล้วนะ “ พ่อพูด ผมก็วางช้อนทันที

“ใช่ดิว อาภีมรู้แล้วว่ามรึงนะ อิบ อิบ ลูกชายเขาจนท้องโต มีลูกมาตั้ง.... เยอะ “ พี่ดิมพูดและเหล่มองหลานๆ ลูกของผม  ผมนี้กังวลเรื่องแอ้มากและอาภีมโทรมาหาอีก ผมลุกพล้วดเลย แอ้เดินเข้ามาพอดีเลย

“พ่อเรียกให้เขาบ้านดิว กรูต้องไปตอนนี้ ไม่รู้ว่าพ่อรู้ได้ยังไงว่ากรูมา และพี่อั้มกำลังขับรถมารับ “ แอ้พูดสีหน้าแอ้ไม่ดีเอาเลยและผมนี้แย่กว่าถ้าอาภีม

“แอ้ อาภีมรู้เรื่องลูกๆเราแล้ว “ ผมบอกแอ้ แอ้ตกใจมาแอ้หันไปมองพ่อผม พ่อผมพยักหน้าพี่ๆ ผมด้วย

“แอ้ ภีมเขารักหลานมาก และดิวเลิกกังวลกลัวอะไรได้แล้ว ภีมเขาเป็นน้องพ่อ พ่อรู้ดีว่าภีมเขาไม่ทำอย่างที่เราคิดกันหรอก “ พ่อผมพูด

“แอ้ไปหาภีมซิ นี้มีนกับมิ้นอยู่กับภีมที่บ้านเมื่อวาน ไม่มีใครดูมีนเลยไปฝากไว้ พ่อโทรไปเมื่อเช้าปู่กับหลานเขากำลังหลงกันน่าดู “ พ่อบอกแอ้

“จะให้ดี พาคนนี้ไปด้วย น่าจะยิ่งทำให้ภีมยอมรับมันได้มากขึ้น เพราะคนนี้ก็ทำให้หลงได้ไม่ยากเช่นกัน “ พ่อผมพูดถึงเซนที่กำลังกิน

“แอ้ดิวไปด้วยนะ “ ผมบอกแอ้ แอ้หันมามองผม

“ไม่ต้องดิว ให้ภีมกับแอ้เขาคุยกัน เราอยู่บ้านนี้แหละดูลูกๆ พ่อๆ กับพี่ๆ ได้พัก พ่อยังไม่ได้พักเลยนะ “ พ่อผมพูด ผมก็พยักหน้า ตอนนี้เสียงรถแล่นมาจอดที่หน้าบ้านผม แอ้รีบเดินออกไป ผมลุกและเดินตามออกไป พี่อั้มอุ้มน้องมีนลงมาจากรถ

“พ่อแอ้ พ่อดิว “ น้องมีนวิ่งมาหาผมทั้งคู่

“พี่อั้มหวัดดีครับ “ ผมยกมือไหว้พี่อั้มรับไหว้ผม และแอ้

“พี่อั้ม “ แอ้เรียกพี่อั้ม

“พร้อมยัง พ่อให้มารับนะ รู้แล้วใช่ไหมแอ้ “ พี่อั้มพูดน้ำเสียงเรียบๆ แอ้พยักหน้า แอ้เดินเข้าไปในบ้านผมก็อุ้มน้องมีน

“พี่อั้ม ผมขอโทษที่ผมสองคน ปิดเรื่องนี้แต่ “ ผมพูดพี่อั้มยกมือห้ามผม

“พอแล้วดิว มันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้วกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ และโชคดีนะที่ลูกๆมรึงน่ารัก ไม่งั้นมรึงเจ็บไปแล้วไอ้ดิว “ พี่อั้มพูดแอ้จูงน้องเซนออกมาพี่อั้มมองทำหน้าแบบ มีคำถาม ?

“ลูกผมสองคน” ผมบอกพี่อั้ม

“ไปแอบไว้ทีไหนอีกละ “ พี่อั้มถามผมสองคน เซนเงยหน้ามองผมสองคนและน้องมีนก็มองเซน

“พี่มาอีกแล้วเหรอพ่อดิว “มีนถามผม

“มาอีกแล้วนี้หมายถึงมากันบ่อยๆ เลยเหรอ มีไปไข่ทิ้งไว้ทีไหนกันอีกอะฮะ มรึงสองคน  “ พี่อั้ม ถามผมกับแอ้ ว่าไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหน คนนะครับ ไม่ใช่แม่ไก่

“พี่อั้มเดี๋ยวแอ้อธิบายเอง เรารีบไปกันเถอะ พ่อรอ เซนไปหาคุณปู่ที่น่ารักอีกคนนะ และนี่ลุงอั้ม หวัดดีครับหรือยัง เซน “แอ้พูดและบอกเซนให้ไหว้พี่อั้ม เซนก็ไหว้พี่อั้ม พี่อั้มยิ้มให้เซน

“ไปแอ้ พี่ไปก่อนนะ ดิว กรูหวังว่าพ่อกรูคงไม่ปี้ด ส่งพวกกรูมากระทืบมรึงหลังจากคุยกันเสร็จ “ พี่อื้มทิ้งท้ายไว้ได้น่ากลัวมากผมอุ้มน้องมีน น้องมีนเอามือมาลูบหนวดผมเล่น และมองแอ้ มีนโบกมือให้พี่อั้ม แอ้และเซนขึ้นรถ รถพี่อั้มถอยออกไปแล้ว

“พ่อดิว  พี่เขาจะมาอีกหรือเปล่า “ มีนถามผม ผมพยักหน้า ผมอุ้มน้องมีนเข้ามาในบ้าน ดูมาริโอ้ ไอซ์และไอ ซึมไปเล็กน้อย คงเพราะแอ้ไปแล้ว

“เดี๋ยวพ่อแอ้ก็กลับมา และพี่เซนด้วยลูก “ ผมพูด ผมวางน้องมีนลง ผมหันไปมอง แซนที่นั่งเขี่ยข้าว ลูกๆแฝดของผมทานอาหารเที่ยงกันเงียบๆโดยมีลุงๆดูแล น้องมีนก็นั่งอ้อนพ่อผมไปด้วย เขาขี้อ่อน

“แซน ไม่ทานละ ทานหน่อยซิ “ ผมบอกแซน แซนเงยหน้ามองผม

“พี่รู้ว่าเราเสียใจนะ แต่เราต้องทาน ถ้าพ่อรู้ละ พ่อจะเสียใจไหมครับ ทานอันนี้ดีกว่านะ “ ผมพูดและตักอาหารให้แซน แซนก็พยักหน้า แซนทานที่ผมตักให้ พ่อมองผม เพราะว่าเขาเริ่มมีปฏิกริยาอาการบ้างแล้ว น้องแซนทานแม้จะได้นิดหน่อยแต่ดีกว่าไม่ทานเลย ลูกๆผมก็ไปนั่งดูการ์ตูนและมีนเขาไประบายสีกับเป็กซ์ในห้องผมจูงแซนเดินเข้าไปหาน้อง คงเพราะว่าแซนไม่พูดลูกๆผมเลยไม่ค่อยกล้าเข้าหา ผมพาแซนไปนั่ง ผมเป็นห่วงแอ้มากเลย จะออกหัวหรือก้อยนะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2015 17:46:54 โดย PFlove »

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
สงสัยดิวกับแอ้จะได้ลูกเพิ่มอีกคนซะแล้ว

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :haun5: มีลูกเต็มบ้านจริงๆคู่นี้

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
      แอ้ ผมนั่งเงียบมาตลอดทางเลยไม่ได้พูดอะไร  เซนก็นั่งมองไปรอบ ๆผมกังวลมากเลย พ่อคงเสียใจสิ่งที่ผมทำ แถมผมยังปิดพ่อได้นานมากขนาดนี้อีก ผมนี่เป็นลูกที่แย่มากเลยใช่ไหม

“แอ้ “พี่อั้มบีบมือผมไว้ พี่อั้มมองผม

“ทำไมกังวลอย่างนั้นละแอ้ พ่อนะรักแอ้มากนะ และมันไม่ใช่อย่างที่แอ้กลัวเลยซักนิด แต่ต่อไปมีอะไรบอกพ่อหรือพี่ๆ เข้าใจไหม “ พี่อั้มพูด รถเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ผมหันไปมองเซนที่ดูกังวลไม่แพ้กับผมเช่นกัน

“เซน ไปหาคุณปู่นะลูก”ผมหันไปบอกเซน เซนพยักหน้า ผมเดินลงไปเปิดประตูให้เซนที่นั่งเบาะหลังมากบผมและพีอั้ม ผมจูงมือเซน พี่อั้ม เอามือลูบหัวเซนเบาๆ ผมเดินเข้าไป ใจผมนี้เต้นดังมาก ผมกลัวจะเห็นพ่อเสียใจผมทนไม่ได้แน่ ผมเดินเข้าไปก็เจอพ่อทีนั่งรอผมอยู่ที่โซฟา พ่อหันมามองผม

“พ่อหวัดดีครับ “ ผมยกมือไหว้พ่อ เซนเห็นผมทำเซนก็ทำตาม พ่อผมมองเซน

“แอ้ “ พี่โอ๊คเรียกผมแต่หยุดชะงักไว้แค่นั้น พี่อั้มโบกมือให้เข้าไปด้านในกันก่อน พ่อกับผมจะคุยกัน

“น้องเซนไปอยู่กับลุงอั้มก่อนนะลูก “ ผมย่อตัวลงบอกน้องเซน น้องเซนมองผมและส่งมือให้พี่อั้มจูงไป ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆพ่อผม

“นั่งลงซิแอ้ “ พ่อบอกผมน้ำเสียงเรียบๆ ผมนั่งลง

“ใครนะที่เราพามาลูกเราเหรอ “ พ่อถามผม

“พ่อน้องเซนเขาเป็นคนที่มาเรียนเทควันโดกับผมและเขา .... “ผมพูดและเงียบพ่อมองผม

“แม่เขาเสียชีวิตเมื่อเช้า เมื่อวานแม่เขาฝากผมไว้นะพ่อและผมก็รักเซนเหมือนลูกๆผม “ ผมพูดกับพ่อ

“อืมม จะเอามาเลี้ยงดูเป็นลูกงั้นซิ” พ่อถามผม ผมพยักหน้า

“แอ้ ทำไม เรื่องใหญ่ขนาดนี้แอ้ไม่บอกพ่อ  “ พ่อพูดผมรู้ว่าผมผิด ผมได้แต่ก้มหน้าลง

“พ่อแอ้ ขอโทษ พ่อ แอ้ไม่อยากให้พ่อเดือดร้อนเพราะแอ้ “ ผมเงยหน้าขึ้นตอบพ่อผม พ่อมองผมและหันไปทางอื่น

“พ่อไม่ได้กลัวจะเดือดร้อนเลยนะ แอ้ แอ้ลูกพ่อนะ “ พ่อพูด พ่อหันมามองผม น้ำตาผมไหลริน

“แอ้เข้ามาพ่อซิ “ พ่อเรียกผมเข้าไปนั่งใกล้ ผมเดินเข้าไป นั่งใกล้ๆพ่อ ผมเงยมองหน้าพ่อ ผมเสียใจที่ทำให้พ่อผิดหวังในตัวผม

“หมับ “ พ่อกอดผม ผมก็กอดพ่อผม

“พอแล้วแอ้ ลูกพ่อจะเป็นอะไรก็ช่าง พ่อรักแอ้แบบที่แอ้เป็น พ่อไม่แคร์คนอื่นไปกว่าลูกพ่อนะแอ้ “ พ่อพูดผมยิ้ม ผมหันไปเห็นเซนที่ยืนเกาะประตูแอบมองผมกับพ่อ ผมรีบปาดน้ำตา เซนดูเหมือนจะร้องไห้

“มาหาปู่ซิลูก “ พ่อผมเรียกเซน เซนทำท่าจะเข้ามาดีไหม ผมพยักหน้าให้เขาเข้ามาเซนเดินมาหาผม

“พี่แอ้... พ่อแอ้โดนว่าหรืเปล่า “เซนถามผม เสียงสั่น ๆ

“ปู่ไม่ได้ว่าพ่อแอ้นะ มานี้ซิมาใกล้ๆปู่ “ พ่อผมพูดและยืนมือมาผมดันเซนเข้าไปหาพ่อผม พ่อผมมองหน้าเซนพ่อผมเอามือปาดผมที่ปิดหน้าเล็กน้อยเพื่อมองใบหน้าเซนชัดชัด

“หน้าตาดีนะ ผิวพรรณดีทีเดียว “ พ่อผมชมเซน

“เซนขอโทษ ที่ปู่โกรธที่พ่อแอ้ พาเซนมา “ เซนพูดเบาๆ

“หึๆ ไม่ได้โกรธ แล้วนี้ทานอะไรกันหรือยัง แอ้ละ “ พ่อถามผมและเซน

“ผมยังไม่ได้ทานเลยพ่อโทรบอกว่าจะให้แอ้มานิ “ ผมบอกพ่อ พ่อพยักหน้า พ่อหันไปมองเซน

“เซนทานมานิดหน่อย “ เซนพูด


“ไปกินข้าวกับปู่ เออ แอ้ไปเรียกโอมซิมันหลับกับหลานแน่เลยเห็นเงียบไปทั้งคู่บนห้องนอนมันนะ “ พ่อบอกผม ผมลืมไปเลยว่ามิ้นอยู่บ้านพ่อ นี้นอนอกับพี่โอมเหรอ

“เมื่อคืนเกเรน่าดู ไอ้โอมมันแถบจะไม่ได้นอน เพราะตัวดีทำท่าจะไม่ยอมนอน “ พ่อผมพูดนั้นแหละนิสัยมิ้นเขา ผมเดินขึ้นไปบนบ้านพร้อมเซน ผมจูงเซน

“เราจะไปไหน อะพ่อแอ้ “เซนถามผม

“ไปดูน้องตัวแสบ “ผมพูดผมเปิดประตูเข้าไปสิ่งที่ทำให้ผมและเซนขำ พี่โอมนอนอยู่ที่พื้น ขาพาดเตียงและมิ้นนอนอยู่บนเตียงคนเดียวเลยแถมนอนกลางขวางเตียง คงเป็นเพราะแบบนี้พี่โอมเลยลงมานานที่พื้นแทน

“น้องนอนตลกจัง “ เซนพูดผมเดินเข้าไป

“พี่โอม พี่โอม “ ผมสะกิดเรียกพี่โอมเงยหน้ามองผม เซนกอดขาผมขำพี่โอม พี่ชายผม พี่โอมงัวเงียลุกขึ้นมานั่ง

“ทำไมลงมานอนที่พื้นละพี่โอม “ ผมถามพี่โอม

“ถามว่าทำไม ถามลูกมรึงดีกว่า ว่าที่นอนอยู่นั้นนะมันเตียงกรูหรือเตียงมัน เมื่อคืนมันทำให้กรูอยากจะหนีไปอยู่ดาวอังคาร สุดยอดมากแอ้ “ พี่โอมพูดและพี่โอมมองเซน

“ชีวิตกรูนี้โดนทำร้ายมากแค่ไหน  มรึงคิดดูและกรูอยากรู้ใครส่งมันมาให้มรึงวะแอ้ อะไรเข้าขวัญมรึงก่อนมรึงจะให้กำเนิดมันเนี๊ยะ “ พี่โอมบ่นผมใหญ่เลยคุณลุง

“ใครอีกอะมรึง “พี่โอมชี้มาที่เซน

“ลูกชายแอ้ น้องเซน น้องเซนนี้ลุงโอม  “ผมแนะนำพี่โอมกับเซน

“ลุงเขาหล่อเหมือนพี่แอ้เลย  อุ้ยย พ่อแอ้ “เซนพูดแม้เข้าใจพูดนะ พี่โอมยิ้มให้เซน

“แล้ว “ พี่โอมคงถามถึงพ่อแม่ของเซน ผมขยิบตาแบบว่าขอละไว้ก่อนเดี๋ยวจะอธิบายอีกทีตอนหลัง พี่โอมพยักหน้าว่าเข้าใจ มิ้นกระดกหัวขึ้นมานั่งแล้วคงได้ยินเสียงคุยกัน มิ้นมองผมแบบสลึมสลือและมิ้นก็มองผมให้ชัดขึ้นแถมขยี่ตาอีกต่างหาก

“ป้อ แอ้ “ มิ้นพูดและลุกพร้อมกระโดดลงมาเลย

“เห้ย อย่ากระโดดลงมา “ พี่โอม เพราะว่าลงมาที่กลางตัวพี่โอมเต็ม

“ตุ๊บ “ เสียงดังเลย  “โอ้ยย shit กระโดดลงมาทำไมครับ “ พี่โอมร้องออกมาทับที มิ้นไม่ได้ห่วงลุงเลยลุกขึ้น

“ป้อแอ้ ป้อแอ้ “มิ้นลุกจากพี่โอมวิ่งมากอดผมไว้ ผมกอดและหอมมิ้น ผมคิดถึงมิ้นไม่แพ้คนอื่นๆ เลย มิ้นหอมผมใหญ่เลยหอมซ้ายหอมขวา จุ๊บปากด้วย

“พี่โอมไปทานข้าวได้แล้ว “ผมบอกพี่โอม

“กรูจะช้ำในตายเพราะลูกมรึงนี้แหละ” พี่โอมบ่น ผมอุ้มมิ้นขึ้นและเซนเกาะผม ผมพากันเดินออกมาจากห้องนอนพี่โอม

“มิ้นดื้อกับลุงๆหรือเปล่าครับ “ ผมถามมิ้น มิ้นส่ายหัว ผมว่าดื้อแน่นอน  แต่เขาดื้อในแบบของเขาน่ะ บางที่มันก็น่ารักมาก ไม่ได้ดื้อเหมือนเด็กทั่วไปจนพูดไม่ฟัง

“ป้อแอ้ มาไม “ มิ้นถามผม

“มาหาเราไง ไม่คิดถึงพ่อแอ้เหรอ นี้พ่อแอ้มีพี่เซนมาด้วย พี่เซน นี้น้องมิ้น ห้ามเก๊พี่เซนเด็ดขาด ห้ามกัดพี่เซนด้วยนะครับ  “ ผมบอกมิ้น มิ้นก้มหน้ามองเซนตอนแรกหมันเขี้ยวตอนนนี้ยิ้มตาหยีเลย

“นี้คือลูกหมาอีกแล้วเหรอ “ เซนพูดตอนผมเดินลงมาพอดี พี่อ้นกลับมาทานอาหารเที่ยงพอดีเลย

“ไม่ใช่ลูก นี้น้องมีน น้องคนเล็กน้องเซนไง “ ผมบอกเซน

“แอ้  “ พี่อ้นเรียกผมเสียงค้อนข้างดัง เซนตกใจกระโดดหลบข้างหลังผมทันที พี่อ้นมองเซนที่หลบ และมองมิ้นที่หันไปมองพี่อ้น

“มรึงพาใครมา ลูกมรึงเหรอ” พี่อ้นถามผม ผมพยักหน้าว่าใช่

“เซนออกมาลูกนี้ลุงอ้น ลุงอ้นใจดีเซน “ ผมเรียกเซน พี่อ้นเดินมาหอมมิ้น และพี่อ้นก็ดึงเซนที่แอบข้างหลังผม เซนกลัวพี่อ้นคงเพราะชุดทหารที่สวมมาด้วย

“กลัวลุงทำไมละครับ ลุงดุเหรอ “ พี่อ้นถามเซน

“ลุงทหารดุแน่เลย “ เซนพูด

“ฮาๆ ไม่ลูก ลุงทหารหล่อลูก “ พี่อ้นพูดเซนเงยหน้ามอง ผมก็พยักหน้าให้เซน เข้าไปหาพี่อ้น เซนเข้าไปใกล้ๆ พี่อ้นก็มองหน้าเซน และเงยหน้ามองผม

“ไว้ค่อยอธิบายได้ไหมละพี่อ้น “ ผมบอกพี่ชายคนโตผม พี่อ้นลุกขึ้น

“หลายเรื่องเลยแอ้ที่ต้องอธิบาย “ พี่อ้นพูด

“ฟ๊อด “อันนี้พี่อ้นหอมหัวผม พี่อ้นเป็นพี่ที่ผมรักมาก ผมรักพี่ๆทุกคนเท่ากัน ผมนี้โชคดีมากที่มีพี่ที่พร้อมจะเข้าใจผมแต่ผมผิดเองที่มีอะไรปิดพี่ชายผม ทั้งที่พี่ๆ ผมเป็นห่วงผมสาระพัด

“พี่อ้น แอ้รักพี่อ้นนะ แอ้ขอโทษ “ ผมพูด พี่อ้นมองผม

“ที่หลังมีอะไรบอกพี่นะแอ้ อย่าปิดแบบนี้ มรึงแบกไว้ทำไมคนเดียว บอกพี่นี้ พี่จะได้ช่วย ไม่มากก็น้อยแอ้ มรึงน้องกรูนะ และกรูก็รักมรึงมากแอ้ “ พี่อ้นพูด

“ไปกินข้าวกันดีกว่าหิวจนจะเป็นพายุแล้ว “พี่อ้นพูด พี่โอมเดินลงมาพอดีเลย

“ลูกมรึงโอม “ พี่อ้นแซวพี่โอม

“ให้ไอ้แอ้มันเอาไปบ้างเฮอะ” พี่โอมพูด พี่อ้นจูงเซนเดินเข้าไปในห้องอาหาร อาหารถูกจัดไว้เรียบร้อยแล้วพร้อมรับประทาน ผมนั่งลงข้างมิ้น มิ้นเคาะจาน ผมหันไปทำนิ้ว

“ชู “มิ้นมองผมและวางช้อนลง พี่อั้มมองผม

“ทำได้ไง “ พี่อั้มถามผมเบาๆ ผมพยักหน้า ว่าผมทำได้ มิ้นมองพี่ๆ ผมผมตักอาหารให้มิ้น มันก็ตักแต่มันกระเด็น

“มิ้น ตักเบาๆ “ ผมหันไปบอกมิ้น มิ้นก็ค่อยๆตัก และทานไม่ค่อยเลาะเทอะ เลอะเทอะให้น้อยที่สุด

“มิ้นทานผักลูก ไม่เอาไม่เขี่ยออก “ ผมต้องบังคับมิ้นตลอดเลย

“พี่ชอบทานผักนะน้องมิ้นผักอร่อยมาก” เซนบอกมิ้น มิ้นมองเซน

“ผัก ไม่ หย่อย” มิ้นพูด

“กินเยอะๆนะผัก แต่ปลานี้หยุดกินได้แล้ว เดี๋ยวเยอะไปกว่านี้ ลุงไม่ไหวจะเคลียร์” พี่โอมพูดพี่โอมนี้นะว่าหลานชัด ชัดเลย มิ้นวางช้อนและมองพี่โอม

“ยุงแพนด้า “ มิ้นเรียกพี่โอมว่าแพนด้า แต่ผมสังเกตุที่เบ้าต้าเมือนมีวงกลมจางๆนะ

“ตาไปโดนอะไรมาพี่โอม “ ผมถามพี่ชายผม

“โดนอะไรถามลูกชายมรึงดิ ครับว่ากรุโดนอะไรมา มันวงกลมตากรู แถมกรูต้องไปฝึก ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ กรูต้องใส่แว่นตาเรแบนทั้งวันถอดไม่ได้เลย “ พี่โอมพูดผมหันไป ชี้ตัวแสบผม
******************************************************************************************************************************
     ดิว ผมอยู่กับลูกๆผม เป็กซ์ ไอ ไอซ์ โอ้และน้องมีน และแซน แม้จะแค่นั่งมองน้องเล่น ผมรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้ยังไงก็ไม่รู้ ผมปล่อยให้ลูกๆนั่งเล่นกันไปก่อนหลังจากที่ทานอาหารเย็นเสร็จ แอ้โทรมาบอกผมแล้วว่า ทุกอย่างโอเค ผมก็สบายใจไปเปาะหนึ่งแล้ว แต่ผมสองคนก็ยังต้องเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนจนกว่าพวกผมจะเรียนจบ ตอนนี้ผลการสอบคัดเลือกผมผ่านแล้วเหลือเขาไปคัดร่างกายเท่านั้น   

“น้องมีนไปนั่งเล่นกับพี่ๆก่อนน่ะลูก “ ผมกระซิบกับน้องมีนที่นั่งกอดผมไม่ยอมปล่อยเลย

“พ่อดิวจะไปไหน “ มีนถามผม

“พ่อจะไป ดูพี่แซน ลูก “  ผมบอกลูกชายผมน้องมีน น้องมีนก็พยักหน้าผมเดินมานั่งข้างแซน แซนเงยหน้ามองผม ผมเหมือนคุ้นเคยกับเขามาก่อนนะ หรืออาจจะเคยเจอทีไหนสักที

“น้องแซน “ ผมเรียกน้องแซน

“ไม่ไปเล่นกับน้องๆละครับ “ ผมถามแซน

“แซนคิดถึงพ่อ “ แซนพูดกับผม แซนมองหน้าผม ตาเป็นประกายว่าเขารักพ่อเขามากแค่ไหน

“พ่อไปแล้ว พ่อไปไกลๆแล้ว แซนไม่อยากอยู่โดยไม่มีพ่อ “ แซนพูด

“แซน พ่อไม่ได้ไปไหน พ่อยังอยู่ “ ผมพูดกับแซน

“พ่อ แซน ไม่อยู่แล้ว “ แซนพูดกับผม

“อยู่ในใจแซน “ ผมพูดและชี้ไปที่อกของเขาแซนมองผม

“แซน แซนยังต้องอยู่นะ แซนต้องดำเนินชีวิตของแซน โดยมีพ่อยืนดูอยู่ บนฟ้า เขามองแซนอยู่ พ่ออาจจะเสียใจถ้าแซนเป็นแบบนี้ และพ่อของแซนเขาเสียชีวิต เพราะปกป้องเราะนะ หึ ! “ ผมพูดกับแซน แซนมองหน้าผม

“แซนจะอยู่ยังไง แซนไม่มีพ่อแล้ว “ แซนถามผม แสดงว่าพ่อเขาต้องสอนลูกให้โตเป็นผู้ใหญ่มากเลยนะถึงได้ถามแบบนี้

“อยู่ด้วยกันไหม ฉันยินดีนะ  “ ผมถามแซน แซนมองหน้าผม

“แซนว่าไง “ ผมถามเซน อีก แซนก้มหน้าลง

“น้องๆ นะอยากเล่นกับแซนนะ เชื่อพี่ไหม “ ผมถามแซน แซนมองน้องๆ ที่หันมามอง แซนกัน

“มีคนที่สูญเสียมากกว่าเราจนไม่เหลือใครเลย เขายังต้องอยู่เลยนะ เราละ ว่าไง “ ผมถามแซนอีกครั้ง แซนเงยหน้ามองผม และหันมากอดผม

“ถ้าแซนไม่อยู่กับฉัน แซนต้องไปอยู่บ้านเด็กกำพร้านะ ว่าไงครับ “ ผมถามแซน แซนเงยหน้ามองผม

“แซนไม่อยากไปอยู่นั้น แซนไม่ชอบที่นั้น เซนไม่อยากเป็นเด็กกำพร้า ฮือๆ  “ แซนพูดกับผม ผมโอบกอดเขาไว้ ผมพยักหน้านั้นคือตอบว่าเขาจะอยู่ที่นี้

“งั้นอยู่ทีนี้ด้วยกัน  ฉันยินดีนะที่เราจะเรียกฉันว่าพ่อเหมือนน้องๆ  “ ผมบอกแซน แซนพยักหน้าเบาๆ 

“น้องๆ อยากให้พี่แซนเล่นด้วยไหมลูก “ ผมถามลูกๆ ผม ทุกคนหันมามองผมและมองแซน

“พี่เขาพูดได้แล้วเหรอ พ่อใส่ถ่านแล้วเหรอ “ มาริโอ้วิ่งมาถามผม และมองแซน

“พี่ไม่ใช่หุ่นยนต์ซะหน่อย “ แซนพูดกับมาริโอ้ 

“พี่จะเล่นกับเราหรือเปล่า “ มาริโอ้ถามแซน แซนมองหน้าผมพยักหน้า แซนก็เดินไปนั่งแรกๆก็อาจจะแค่นั่งดูน้องเล่นกันก่อน ลูกๆผมเล่นเกมส์ กระโดดไกล เป็นเกมส์กีฬา มีกล้องดังนั้นจะวิ่งที่กล้องเหมือนเราเป็นตัวการ์ตูนในทีวีและกระโดดแข่งกันว่าใครกระโดดได้ไกลที่สุด พ่อผมเดินมาหาผม

“พ่อกำลังหาเบอร์มูลนิธิที่เขาจะดูแลเด็กที่พ่อแม่ประสพอุบัติเหตุหรือเสียชีวิตเพื่อนำเด็กนี้ไปดูแล “ พ่อบอกผม ผมเงยหน้าบอกมองพ่อผม

“ไม่ต้องแล้วพ่อ แซนเขาจะอยู่กับเรา “ ผมบอกพ่อ พ่อผมมองแซนที่เริ่มจะเข้าหาน้องๆแล้ว พ่อหันมามองผม แบบว่าทำได้ไง

“ถ้าอยู่ได้จะดีมากเลยนะ พ่อของแซนเขาทำประโยชน์ให้ทางค่ายฯเราเยอะมากทีเดียว แล้วดิวจะรับเขาเป็นลูกอีกคนใช่ไหมลูก “พ่อถามผม ผมพยักหน้าว่าใช่ ผมถูกชะตากับเด็กคนนี้เด็กคนนี้ดูมีแววตาที่ค้อนข้างมุ่งมั่น แต่ตอนนี้แค่เสียขวัญที่พ่อเขามาจากไปเท่านั้นเอง ผมจะปั่นเด็กคนนี้ให้เป็นทหาร ให้ได้ 

“พี่แซนเล่นบ้างซิ “ ไอ บอกแซน แซนก็ลุง เขานั่งดูน้องๆอยู่พักใหญ่ พอถึงตาที่เขาเล่น ผมนั่งนอนดูไอแพต ดูข่าวกีฬา ผมปล่อยให้เด็กนั้งเล่นกันไป

“พ่อดิว “ น้องมีน สวมชุดนอนลงมาข้างล่างแล้ว มีนเดินมาหาผม มีนเขาขี้อ้อน ผมรักมากยอมรับว่าดูแลทะนุทะนอมมาก

“ฟ๊อด “ ผมรับมีนขึ้นมานั่งกับผม ผมหอมแก้มน้องมีน

“คิดถึงพ่อจัง “ มีนพูด

“พ่อก็คิดถึงน้องมีน เป็นไงลูก ลุงบอกว่าน้องมีนได้รางวัลชนะเลิศ ระบายสี อยากได้อะไรเป็นรางวัลบอกพ่อซิ “ ผมถามน้องมัน น้องมีนมองผม

“อยากได้กอดจากพ่อแอ้พ่อดิว มีนไม่อยากได้อย่างอื่นมีนมีเยอะแล้ว “ มีนพูด ผมก็พลิกมีนมากอด

“เมื่อไหร่พ่อจะอยู่กับมีน กับพี่ๆ มีนไม่อยากให้พ่อไป “ มีนพูดกับผม

“ไม่นานลูก เดี๋ยวมันและพี่ก็ไปเรียนที่กรุงเทพแล้วพ่อดิวกับพ่อแอ้ด้วย เราอยู่ด้วยกัน “ ผมพูดกับมีน

“มีนอยากไปเร็วๆ “ มีนพูด ผมได้กลิ่นกายหอมๆ จากน้องมีน กลิ่นนี้เหมือนแอ้เลย และมีนก็มีทุกอย่างเหมืนแอ้ ผมถึงได้ต้องดูแลอย่างดี ปานว่าพ่อหวงลูกสาวดีกว่า

“เด็ก ๆ ขึ้นห้องแปรงฟันได้แล้วนี้เกือบสองทุ่มแล้วนะ “ พี่ด้าพูดผมเหลือบมองนาฬิกา นี้มันเกือบสองทุ่มแล้วเหรอ ผมพยักหน้าให้เด็กหยุดเล่นกันได้แล้ว เด็กหันมาทำหน้าหมุ้ยกันนิดหน่อย พี่ด้าอุ้มน้องมีนขึ้นไปด้วย ลูกแฝดผมเดินตามพี่ด้าผมไปกันหมดเหลือแค่แซน ผมก็มองแซน

“ไปนอนกับพ่อไหม “ ผมถามแซน แซนมองผม เพราะว่ผมแทนตัวเองว่าพ่อ 

“ไปครับ “ แซนบอกผม ผมพาแซนขึ้นห้องนอนผม ผมหาแปรงสีฟันอันใหม่ของลูกๆมาให้แซนใช้ แซนน่าจะดูแลตัวเองได้ดี ผมคิดว่า จ่าแกคงสอนแซนให้ทำอะไรด้วยตัวเอง เพราะบางทีจ่าแกก็ออกไปลาดตะเวนคิดว่าน่าจะมีใครดูให้ช่วงเวลาไม่กี่วัน  ผมจัดที่นอนและกั้นไว้ให้แซนนอนกับผม

“คุณ ....เออ.. พ่อ ..ดิว “ แซนเรียกผม ผมหันไปมอง ผมเปิดทีวีดูฟุตบอลอยู่

“ว่าไงแซน “ ผมถามแซน

“พ่อดิว เหมือนพ่อนพของแซน เลย “ แซนพูด ผมกวักมือให้แซนเข้ามานอนใกล้ ๆ

“ไม่เหมือนหรอกแต่ฉันจะดูแลแซน ทำหน้าที่พ่อให้ พ่อของแซนเขากล้าหาญมากนะ โตขึ้นเราต้องกล้าหาญแบบพ่อของแซนนะ รู้ไหม “ ผมพูดกับแซน แซนพยักหน้า

“พ่อจะอยู่ในใจแซนตลอดไป  “ แซนพูด ผมพยักหน้าว่าใช่

“นอนได้แล้ว ห่มผ้าซะด้วย ถ้าหนาวบอกพ่อดิวจะได้ปิดแอร์ “  ผมบอกแซน แซนพยักหน้า

“เซนเขาก็เหมือนแซนนะ “ ผมบอกแซน ผมว่าเขาน่ะจะเห็นเซนนะ

“น้องผู้หญิงที่น่ารักน่ารักเหรอพ่อ” แซนพูด ผมนี้ขำเลย แซนบอกว่าเซนเป็นน้องผู้หญิง

“เซนเขาเป็นผู้ชาย ไม่ใช่หญิง พรุ่งนี้เขาก็มา และพ่อแอ้อีกคน “ ผมบอกแซน แซนพยักหน้า ผมก็ไม่รู้ว่ามันคือเรื่องบังเอิญหรือว่าชะตาฟ้าลิขิต วันนี้บ้านผมมีเด็กสองคน ซ.โซ่เหมือนกันเลยเข้ามาอยู่พร้อมๆกัน แถมมาด้วยสถาณการณ์คล้ายกันๆ อีกคนเสียแม่แต่ไม่เคยอยู่กับพ่อ อีกคนเสียพ่อ แต่ไม่เคยอยู่กับแม่ แถมวัยใกล้เคียงกันมาก แซนห่างจากเซนแค่ สองเดือนเอง เรียกว่าแก่เดือนก็ว่าได้ พรุ่งนี้ค่อยบอกแอ้ดีกว่าว่ามีลูกเพิ่มอีกหนึ่ง ผมเอาตัวลงพร้อมกับปิดทีวี

ผมก็ไม่รู้ว่ามันคือเรื่องบังเอิญไหม ที่ผมได้ลูกเพิ่มอีกสองคน แถมยัง ซ.โซ่เหมือนกันอีก และมาด้วยเหตุการณ์คล้ายๆกัน เซนเสียแม่แต่ไม่เคยมีพ่อ แซนเสียพ่อแต่ไม่เคยมีแม่ ผมพยายามคิดว่ามันบังเอิญนะ ไม่มีเรื่องเล้นลับเข้ามาเกี่ยวข้องอันนี้ภาวนาในใจเพราะว่าผมขี้กลัวคับ เรื่องเล้นลับนี้กลัวมากพูดเลย :katai1:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
ดิว ผมลืมตาตื่นมาตอนเช้า ทีข้างๆผมว่างเปล่า แซนละ ผมรีบกระดกหัวมองไปรอบๆ แซนยังอยู่ในห้องแซนนั่งเปิดดูรูปถ่ายผมและลูกๆผม ผมค่อยๆพลิกตัวมานอนตะแครงมองแซน เมื่อคืนเขากอดผมจนหลับไป ผมหวังว่าผมจะทดแทนพ่อของเขาที่จากไปได้ไม่มากก็น้อย ผมหวังอย่างนั้น

“แซน “ ผมเรียกแซน แซนหันมามองผม สีหน้าเขาดีขึ้นมาก

“ทำอะไรอยู่ลูก” ผมถามแซน

“ดูรป น้องๆ น้องน่ารักจัง “ แซนพูด ผมพยักหน้า ผมค่อยๆ ลุกขึ้น บิดขีเกียจนิดหน่อย ผมก็ลุกจากเตียง ผมเดินไปหาแซน ผมย่อตัวลง ก้มลงมองรูปถ่ายที่แซนกำลังเปิดดู งานปีใหม่ เมื่อปีที่แล้ว ที่ผมหนีพวกไอ้ติ๊กมาจัดกันที่บ้านที่ค่ายฯทหารนี้ แต่ไอ้ติ๊กมันไปฉลองปีใหม่กับพี่ๆที่เมืองนอก ที่พี่ต้า พีต๊ะ อยู่ อยู่แล้ว 

“ไปล้างหน้าแปรงฟันกันดีกว่าน้องแซน จะได้ลงไปทานอาหารเช้ากับปู่และน้องๆ “ ผมบอกแซน แซนพยักหน้าแซนเดินเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเอง ผมก็เก็บที่นอน ผมคงต้องมาจัดสรรว่าจะให้นอนห้องไหนดี นอนกับเซนจะได้หรือเปล่านะ เพราะว่าผมยังไม่รู้เลยว่าสองคนนี้เข้ากันได้ไหม  แต่เซนเขาน่ารักอยู่แล้วก็ลูกแอ้นิ (เซนลูกของแอ้ แซนนี้ถ้าจะลูกผมแล้วแหละ )

“ก๊อกๆ “เสียงเคาะประตูห้องนอนผม ผมเดินไปเปิดประตู เป็กซ์เดินมาเคาะประตูห้องผม

“ว่าไงเป็กซ์ “ ผมถามเป็กซ์

“พ่อแอ้ให้เป็กซ์มาตามพ่อดิวกับน้องแซนไปทานข้าวเช้าครับ “ เป็กซ์แอ้มาแต่เช้าเลยเหรอ ร้ายนะไม่ขึ้นมาเรียกกันเลย ผมพยักหน้าผมเห็นแซนออกมาจากห้องน้ำแล้ว

“งั้นเอาน้องชายอีกคน แซน ลงไปก่อนพ่อจะตามลงไป “ ผมบอกและเป็กซ์ก็เข้าจูงแซนออกไป ผมรีบเข้าห้องน้ำจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ผมเดินลงมาชั้นล่าง ผมได้ยินเสียงดังมาจากห้องอาหาร คงลูกๆผมนั้นแหละ ทานกันจะเสร็จแล้วผมเห็นแซนนั่งข้างเซน เซนเขาน่ารัก แต่ดูแซนจะเขินเซนนะ เขินทำไมน่าคิดนะ

“พี่ทานหมดแล้ว “ ไอ บอกน้องไอซ์

“ ไอซ์ก็ทานหมดแล้วพี่ไอ พี่แซนกับพี่เซนละ “ ไอซ์ถามแซนและเซน ในจานเกลี้ยงทุกจาน แอ้เขาทำอาหารอร่อย ถูกใจลูกทุกอย่าง ผมเดินไปหยิบหนังสือฟุตบอล แอ้คงแวะซื้อที่ตลาดมาให้ผม แอ้นี่รู้ (สามีอีกนะ ) ฮาๆ

“เห้ยย ผักมาจากไหน “ ผมนั่งลงผมเงยหน้ามองจานไอมีผักวางอยู่

“โอ้ก็หมดแล้ว อ้า..... ผักมาจากไหนอะ “ มาริโอ้

“แซนยังทานไม่หมดเหรอ “ เซนถามแซน มีผักวางอยู่แซนถึงกับเกาหัว ผมว่ามีที่มาและที่ไป ผมยิ้มและทุกคนก็หันมามองแสบ มิ้นของผมนั้นเอง ผมว่าคนนี้แหละต้นเหตุ เพราะว่าคนนี้ไม่ชอบทานผัก

“มิ้น “ เรียกชื่อมิ้นพร้อมกันหมดเลย

“อย่าเสียงดังกันซิ พ่อแอ้บอกห้ามเสียงดังบนโต๊ะอาหาร “ แอ้หันมา พร้อมกับไข่มวนและโกโก้ร้อนให้ผม ผมรับมา

“พ่อไอ้มิ้นอะ “มาริโอ้ แอ้ก็มองลูกชายตัวดีที่เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ เลย

“พี่ไม่ผัก พี่ไม่รัก ป้อแอ้ “ มิ้นเขาบอกพี่ๆ ไม่ทานผัก ไม่น่ารัก พ่อแอ้ ผมแปลให้ เก่งเข้าลูกพูด แต่คนอื่นคงเข้าใจลูกผมยากนิดหนึ่งนะ

“ใครพี่ทานกันหมดแล้ว ผักนายนั้นแหละมิ้น “ ไอ พูดและ ตักผักกลับไปให้มิ้นแต่มิ้นยกจานหนี แอ้กอดอกมองลูกชายผมก็มองแอ้ว่าจะเอายังไง แอ้หันมาเหล่ผมนิดหนึ่ง

“มิ้นพ่อเห็นนะว่าเราตักผักไปใส่จานพี่ๆ  กินผักให้หมดนะมิ้น “ แอ้ดุมิ้น

“ผักไม่หย่อย “ ผักไม่อร่อยมิ้นบอก

“พ่อผัดผักสุขและมันก็หวานมิ้น ถ้ากินไม่หมด พ่อไม่ให้ไปเล่น “ แอ้พูดมิ้นทำปากจู๋ พี่ก็ตักผักมาคืนจานมิ้นกันหมด

“ของนายกินไปเลย ไม่หมดห้ามเล่นด้วยพ่อบอก และพี่จะไปเล่นกันแล้วด้วย....แบร๋ “ มาริโอ้ แต่ละคนถือจานเปล่าไปให้แอ้ล้างผมก็มองลูกชายคนเล็ก ที่ต้องทานผักตามที่แอ้สั่ง ดูท่ามองผักในซิมองเหมือนอะไรก็ไม่รู้

“พี่กินผักหมดแล้วนะมิ้น ผักอร่อยนะ  “น้องมีนพูดและหยิบจานเปล่าไปส่งให้แอ้

“นายชอบกินผักเหรอ แซน “ เซนถามแซนที่ไม่ได้เอาผักคืนน้องแต่กินแทน

“ก็มันเหลืออะ “ แซนพูดเสียงอ่อย ๆ ผมหันมามองหยักหน้าว่าไปเล่นกับน้องเถอะ

“พี่แซนพี่เซนไปเล่นกันดีกว่า “มาริโอ้ ล้างมือเสร็จก็มาเรียกเซนและแซน เซนกำลังจะลงจากเก้าอี้ แต่เซนเขามีแขนข้างเดียวอีกข้างยังมีผ้าคล้องแขนไว้ ผมว่าจะลุกไปช่วยแต่ ภาพที่ผมเห็นถึงกับอมยิ้ม แซนรีบกระโดดลงก่อนและไปรอรับเซนให้ค่อยๆหันหลังลงจากเก้าอี้ แซนเขาประครองเซน ผมยิ่งแปลกใจมากขึ้น

“ขอบใจนะแซน “ เซนพูด

“พ่อแอ้เซนกับแซนไปเล่นกับน้องนะพ่อแอ้ “ เซนเขาเรียกแอ้ว่าพ่อได้สนิทใจเร็วจังแอ้พยักหน้า และแซนก็ถือจานเปล่าไปส่งให้แอ้ 

“เป็กซ์ไปดูน้องก็ได้พ่อล้างเองลูก” แอ้บอกเป็กซ์ เป็กซ์พยักหน้าและเดินออกไปผมหันมาเหล่มองมิ้นที่มองพี่ๆ เดินออกไปกันหมด นี้แหละผลของการลีลากิน ไม่กิน

“คลื้น “ เสียงลากเก้าอี้โดย น้องมีน น้องมีนลากเก้าอี้ไปข้างๆแอ้ แอ้ก้มลงมามอง มีนก็ปีนขึ้นไป ยืนบนเก้าอี้

“มีนทำอะไรลูก” แอ้ถามมีนและ  “หมับ “ มีนกอดแอ้

“มีนอยากกอดพ่อแอ้ “ มีนพูดมันเป็นภาพที่น่ารักมาก ผมรีบหยิบมือถือมาถ่ายรูปไว้ เหมือนลูกสาวกอดแม่เลยนะ ผมหันมาเจอหน้าลูกชายคนเล็ก

“พ่อไม่ผัก “ มิ้นพูดว่าไม่อยากกินผัก อยากไปเล่นกับพี่ๆ

“มาพ่อช่วยกิน “ ผมบอกมิ้น มิ้นดันจานมาตรงหน้าผม

“แต่มิ้นกินด้วยนะ ให้พ่อกินคนเดียวได้ไง “ ผมบอกมิ้น ทำหน้ามู้ทู้อีกนะ

“เร็ว พี่ไปเล่นกันหมดแล้วนะ “ ผมบอกมิ้น มิ้นก็เอาช้อนตักผัก ให้ผมนี้ชิ้นใหญ่เชียวแต่ตัวเองตักชิ้นเล็กมากเข้าปากตัวเอง ผมเคี้ยว มิ้นตักผักให้ผมอีกแล้วและตักให้ผมอีก เจ้าเหล่จริง

“พ่อกิน พ่อกิน “มิ้นเร่งผมด้วยนะ   “ชู้!! เดี๋ยวพ่อแอ้ได้ยิน “ ผมบอก มิ้นรีบปิดปากและป้อนผม ผมก็ชี้ให้กินบ้าง มิ้นทำหน้ามู้อีกแล้วและตักผักกินจนหมดจาน

“เอาจานไปให้พ่อแอ้ดู ว่าหมดแล้ว “ ผมกระซิบบอกมิ้น มิ้นลุกจากเก้าอี้ถือจานเปล่าไปหาแอ้

“ป้อ หมด ป๊อ หมด “ มิ้นบอกแอ้ที่ละจากการคุยกับมีน คุยกันกะหนุงกะหนิงเหมือนลูกสาวคุยกับแม่เลย มีนเขาคุยเรื่องที่โรงเรียน และเม้าเรื่องมิ้นด้วย

“กินเองเหรอครับ “ แอ้ถามแสดงว่าแอ้รู้ว่าผมช่วยมิ้นกิน

“ปึก “ มีตีพุงตัวเองว่ากินเอง

“เก่งมาก “ แอ้พูดมิ้นก็จะหันหลัง

“มิ้น....ล้างมือด้วยลูก “ แอ้เรียกมิ้นไว้มิ้นหันมาและเดินไปจะปีนผมต้องลุกไปอุ้มมิ้นล้างมือ และวางแสบลง เท่านั้นแหละวิ่งขากางไปหาพี่เลยอยากเล่นกับพี่

“พ่อแอ้มีนว่ามิ้นให้พ่อดิวกินอีกแล้ว “ มีนกระซิบกับแอ้


“แน่นอนอยู่แล้วเพราะว่าน้องชายเรานะเจ้าเหล่เหมือนพ่อดิว “ แอ้พูดนี้ชมกันเหรอเนี๊ยะ

“ชมพ่อเหรอ ฟ๊อด “ ผมพูดและเข้าไปหอมแก้มน้องมีน ห้อมแก้มน้อมมีนก็ไม่ลืม  “ฟ๊อด “ อันนี้ดังกว่าผมเลื่อนขึ้นมาหอมแก้มแอ้ น้องมีนปิดตาแต่แอบดูรอดนิ้วมือ

“ดูได้ พ่อไม่หวงลูก เมื่อกี้ลูกไม่เห็นงั้น พ่อหอมอีกทีนะ “ ผมหอมแก้มแอ้โชว์ลูกมีน แอ้เอาศอกมากระทุ้งให้ผมหยุด

“โอ้โห้ สวีทกันจริงๆเลยนะ “ ผมหันไปมองว่าใครพี่แดน พี่ชายคนที่ห้าของผม เพิ่งมาถึง

“นิดนึงพี่แดน “ ผมหันไปบอกยกมือไหว้พี่ชายอีกที

“ดีครับพี่แดน “แอ้ทักแอ้กำลังล้างชามอยู่น้องมีนลงจากเก้าอี้วิ่งไปหา เพราะว่าพี่แดนถือของฝากมาให้แน่นอน

“ฟ๊อด “ พี่แดนหอมหลานเสียงดังเชียว พี่แดนเป็นหมอเอ็กเทิร์นอยู่ที่โรงพยาบาลของพ่อผมที่กรุงเทพ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมพ่อไม่ให้พี่แดนมาเป็นหมอที่โรงพยาบาลในค่ายฯนี้เหมือนกัน ผมช่วยแอ้ล้างต่อจนเสร็จ ผมหันไปเห็นพี่แดนซื้อสีชุดใหญ่มาให้มีนเลยมีสีสำหรับระบายทุกแบบเลย มีทั้งสีช๊อค สี่น้ำมัน สีไม้ สีเมจิก ถูกใจน้องมีนเขาละ มีนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลย

“ให้รางวัลที่ชนะเลิศระบายสี “ พี่แดนพูด

“ขอบคุณนะครับพี่แดน ขอบคุณลุงแดนหรือยังคับน้องมีน “ แอ้พูด พี่แดนพยักหน้า ว่าไม่เป็นไร

“แต่มีนกลัวว่าน้องมิ้นจะหักสีของมีนอีก” มีนพูดทำแก้มป่อง

“เวลาจะใช้ก็บอกลุงๆ จะได้หาที่ให้มีนระบายและน้องหยิบไม่ถึงนะ รู้ไหม “ แอ้พูดกับมีน มีนพยักหน้ารับทราบ

“พี่แดนเห็นลูกผมอีกสองคนยัง “ ผมบอกพี่แดน พี่แดนสะบัดหน้ามองผม แบบจริงอะ

“จริง มีเพิ่มมาสองคน แต่พี่ไม่ต้องห่วงเดินได้วิ่งได้ ไม่ต้องเริ่มอุ้ม “ ผมพูด กับพี่แดน

“มันไวขนาดนั้นเลยเหรอครับ “ พี่แดนพูด

“ใช่พ่อดิวพาพี่มาให้น้องมีนอีกแล้วลุงแดน คิก คิก คก “มีนพูดอีกคน พี่แดนพยักหน้า

“พี่แดนทานอะไรไหม แอ้มีข้าวผัดอยู่ และไข่ม้วน “ แอ้พูดพี่แดนพยักหน้าบอกแล้วว่าแอ้นะ ทำอะไรที่บ้านผมชอบกินไปหมด น้องมีนดูท่าจะเห้อสีใหม่วิ่งไปหาสมุดระบายสีของเขานั้นแหละวิ่งกลับมาใช้สีใหม่ที่พี่แดนผมซื้อมาให้

“ดิวแอ้จะขึ้นไป เอาเสื้อผ้าเซนใส่ตู้ห้องนอนพี่โดมนะให้นอนห้องพี่โดมไปก่อน พ่อบอก และพี่ด้าเอาเสื้อพี่โดมไปเก็บไว้อีกห้องแล้วด้วย “ แอ้พูดผมพยักหน้า ผมนั่งลง

“พี่แดน พี่จะไปฝึกหรือเปล่า” ผมถามพีแดน พี่แดนจบหมอทหารแต่พ่อให้ไปต่อสาขาเลยเป็นหมอเอ็กเทิร์นช้าไปสองปี พ่อให้พี่แดนต่อหมอสาขาโรคประสาท เกี่ยวพวกเส้นประสาททั้งหลาย เพราะแพทย์สาขานั้ก็จำเป็นไม่น้อย

“ไม่รู้ว่า รอพ่อบอก ดิวละ ได้ข่าวว่าคะแนนผ่านฉลุยเลยมรึง เหลือแต่ความฟิต “ พี่แดนพูดฟิตใส่หน้าผมเลย มีนรีบเอามือปิดหนังสือ กลัวเปียก ฮาๆ ผมขำลูกชายผม

“ผมฟิต! มากพูดเลย “ ผมบอกพี่แดน พี่แดนนี้เอามือปาดหน้าแบบว่าน้ำลายกระเด็นตรง ฟิต! นี้แหละ

“เออ งั้นผมไปช่วยแอ้จัดตู้ให้ลูกชายคนใหม่ก่อนน่ะแอ้กำลังเห้อ ลูกสาวพ่อคุยกับลุงไปก่อนนะลูก ฟ๊อด” ผมพูดและหอมแก้มนอ้งมีน

“น้องมีนลูกชายต่างหากพ่อดิวนิ “ มีนพูดทำแก้มป่อง

“แต่กรูคิดว่าหลานสาววะ “ พี่แดนพูดอีกคนมีนหันไปเหล่มองแอบงอน

“โอ๋ ๆ ลุงล้อเล่น “ พี่แดน  ผมเดินออกมาเห็นแอ้แอบมองลูกๆผมเล่นกัน โดยเฉพาะคู่ใหม่ แซนและเซน ผมเดินเข้าไปแอ้ทำนิ้งห้ามส่งเสียงดังเหมือนกำลังแอบฟังลูกคุยกัน ผมก็แอบฟังบ้าง

“ใครทำแขนนายหักอะเซน “ แซนเขาทำเซน เซนก้มมองแขนตัวเอง

“ไอ้เว้า ...นิสัยไม่ดีหรอก เก๊เราตลอดเลย เราสู้ไม่ได้ ไอ้เว้าผลักเราตกบรรได ตั้งสามขั้นเลยนะ แต่ ดีที่ไม่ใช่คอเราหัก  “ น้องเซนตอบแซน แซนที่มองทำสีหน้าตกในตรงที่เซนบอกว่ายังดีทีไม่ใช่คอเซนหัก

“นายโดนคนอื่นรังแกบ่อยเหรอ” แซนถามเซน

“ใช่ เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม “ เซนตอบแซน

“ไม่เป็นไร ต่อไปนี้เราจะปกป้องนายเอง เซน“ คำพูดนี้ทำเอาผมกับแอ้หันมามองหน้ากัน

“จริงนะแซน  แซนสัญญานะ “ เซนพูดและยกนิ้วก้อยเกี่ยวก้อยกัน ผมไม่รู้ว่าพูดไปตามประสาเด็กหรือเปล่า (จุดเริ่มต้นความรักของแซนและเซน )


“ดิว จะดีเหรอ ถ้า “ แอ้คงหมายถึงถ้าเขารักกันขึ้นมาจริงๆละ จะมีปัญหาตามมาหรือเปล่า ผมก็มองแอ้

“ถ้าเป็นแบบนั้น ดิวจะให้แซนเป็นทหาร “ผมพูดกับแอ้ แอ้มองผมว่าทำไมผมมั่นใจว่าแซนจะอยากเป็นทหาร

“ดิวเชื่อว่าลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น “ ผมพูดกับแอ้ แอ้หันเหล่มิ้นที่เล่นอะไรก็ไม่รู้ ไม่ไหวจะเคลียร์เลย

“มิ้นนี้หุ่นอะไรของนาย น่าตาน่าเกลียดจัง “มาริโอ้ หุนยนต์ที่มิ้นเล่นไม่แขนก็ขา บางที่ก็เอาอีกตัวมาใส่อีกตัว เอาหัวอีกตัวไปต่ออีกตัวผมสองคนละปวดหัวมากกับน้องมิ้น

“พอดีช่วงนั้นพายุเข้าเลยพลัดไปซะไกลเว้อ “ ผมบอกแอ้เพราะจะเหมือนผมก็ไม่ ยิ่งแอ้ยิ่งไม่เลย ไปเอาลูกใครมาหรือเปล่าก็ไม่รู้  ผมกับแอ้เดินขึ้นไปบนบ้านผมแวะเอากระเป๋าเสื้อผ้าของเซนที่ห้องนอนผมด้วย ลากไปให้แอ้จัดตู้ให้เซนกับแซนนอนห้องเดียว ผมเปิดประตูเข้าไป ตอนนี้พี่ด้าน่าจะเอาผ้าปูที่นอนผื่นใหม่มาปูให้แซนและเซน ทุกอย่างมีครบหมดแล้ว แอ้เปิดกระเป๋าแซนออกแอ้ก็หยิบเสื้อผ้าเซนของมา เสื้อผ้าที่ถูกพับไว้อย่างเป็นระเบียบ ผมก็รับไปและจัดใส่ตู้เสื้อผ้าให้แอ้ ผมจัดเสื้อผ้าเซนเรียบร้อยแล้ว ผมดูแล้วมีเสื้อผ้าแซนอยู่ในตู้แล้วด้วย ผมหันไปเจอแอ้กำลังรื้อช่องที่ฝากระเป๋าเหมือนแอ้เจอบางอย่างแอ้ก็หยิบออกมาเป็นซองเอกสาร ผมย่อตัวลง แอ้เปิดเอกสารออกดู

“ใบเกิดเซนนี้ ดิว สมุดการรับวัคซีนด้วย แม่เขาใส่ไว้ในนี้หมดเลยดิว “ แอ้พูดแอ้เปิดเอกสารออกดู เซนเกิดวันที่ 13 เมษายน พอดีเลย แอ้มองและเงียบไปแอ้เหมือนเอามือกุมหัวใจนะ

“แอ้ แอ้เป็นอะไร “ ผมถามแอ้มีอาการแปลก

“ไม่มีอะไรดิว “ แอ้พูด แอ้พยักหน้าให้ผมว่าแอ้โอเคผมจัดการจัดตู้เสื้อผ้ากันจนเวลาผ่านไปได้ เกือบสามสิบนาที ผมลืมไปว่าโทรศัพท์ อยู่ในห้องนอน รีบไปเอาดีกว่า ผมว่าจะโทรหาไอ้เดี่ยวว่ามันจะไปไหนไหม จะได้ชวนมาเที่ยวบ้านผม ผมเดินไปถึงก็พบว่ามีสายกระหน่ำเข้ามาเกือบ 150 สาย ทั้งหมดไอ้เดี่ยว ไอ้แจ็ค ไอ้ติ๊ก เยอะแยะเลย เกิดอะไรขึ้น

“ว่าไงไอ้เดี่ยว “ ผมกดโทรหาไอ้เดี่ยว

“กว่าจะรับได้นะครับ คุณดิว “ ไอ้เดี่ยวมันเม้งผม

“มีอะไรกระหน่ำโทรได้ขนาดนี้วะ “ ผมถามไอ้เดี่ยว

“จะมีอะไร วันนี้มีสอบ เมื่อวานหลบไปสวีทกันที่ไหน ติดต่อไม่ได้เลย” ไอ้เดี่ยวมันบอกว่ามีสอบ เว้ยย สีสอบเหรอ

“สองวิชาอะไรวะ “ ผมถามไอ้เดี่ยว 

“วันนี้มีสอบพุทธศาสนาไง ที่จะมีอาจารย์ต่างโรงเรียนมาคุมสอบแถมวิชานี้อาจารย์ อรุณี ให้ห้องเราเข้าสอบกันทุกคนไม่ให้ขาดถ้าขาด จะได้ไข่ไปกินหนึ่งใบ “ ไอ้เดี่ยวมันพูดงามไส้เลยผม ถ้าไม่ไปสอบจะติด 0 วิชานี้ เอาไงดี

“สอบกี่โมง “ ผมถามไอ้เดี่ยวตอนนี้สิบโมงครึ้งแล้วด้วย

“สอบบ่ายโมงตรง “ ไอ้เดี่ยวพูด ก็น่าจะทันอยู่

“เออ กรูไปเดี๋ยวนี้แค่นี้นะ เจอกัน “ ผมพูดและกดวางสาย ผมวิ่งออกมาจากห้องแอ้ออกมาพอดีเลย

“มีอะไรดิว “ แอ้เห็นมีท่าทีตื่นตะหนก วิ่งออกมาจากห้องตัวเอง

“แอ้ มีสอบวิชาพุทธศาสนาตอนบ่ายโมง และวิชานี้ครูอรุณีบอกว่าใครไม่เข้าสอบ ติด 0 “ ผมบอกแอ้ เท่านั้นแอ้ทำตระกร้าหลุดมือเลยตกใจ

“ดิว ถ้ากรูได้ 0 ขึ้นมาพ่อเล่นกรุแน่  “ แอ้พูด

“ยังทันอยู่ แอ้นี่สิบโมงครึ้งเอง “ ผมบอกแอ้ ผมกับแอ้รับเข้าไปในห้องอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว ผมแต่งตัวด้วยชุดนักเรียน ม.ปลาย ผมรีบลงจากบ้านทันที พ่อกลับมาถึงพอดีเลย

“พ่อ! ผมกับแอ้งานเข้าต้องรีบกลับ ผมมีสอบ “ ผมบอกพ่อ  พ่อผมพยักหน้า

“ผมจัดเสื้อผ้าของเซนใส่ตู้แล้วนะพ่อ  “ แอ้บอกพ่อผม ผมสองคนรีบไปที่ห้องที่ลูกผมนั่งเล่นกันอยู่

“พ่อกลับจะกลับแล้วลูก “ผมบอกลูกๆผม ทุกคนหันมามองผม เซนด้วย เซนวิ่งมากอดแอ้

“พ่อแอ้จะไปแล้วเหรอ “ เซนถามด้วน้ำเสียงที่กังวล

“เซนอยู่นี้นะอยู่ปู่ ลุง และน้อง และ แซน “ แอ้บอกเซน แซนมองแอ้

“ดูน้องด้วยนะแซน “ แอ้เหมือนจะบอกฝากเซนกับแซน แซนพยักหน้าแซนดึงแขนเซน เซนก็ปล่อยจากการกอดแอ้ แอ้ไปหอมลูกทุกคน ผมรีบเดินออก พ่อผมเดินเข้ามาดูลูกๆผมแทน ตอนนี้แต่ละคนทำหน้าหงอยกันหมดใจหายเหมือนกัน ผมรู้ว่าลูกอยากอยู่กับผมสองคน ผมรีบไปขึ้นรถทันที   ผมขับออกไปอย่างรวดเร็ว เพื่อนไปให้ทันสอบ เวลาก็เดินเร็วจริงๆ ตอนนี้ปาเข้าไปเกือบเที่ยงแล้ว ผมเพิ่งจะไปได้ครึ้งทางเอง ถ้าไปไม่ทันผมกลัวว่าถ้าแอ้ติด 0 ขึ้นมาอาภีมต้องว่าแอ้และผมแน่เลย สีหน้าแอ้ดูกังวลมากโทรศัพท์แอ้แบทหมดแต่เพราะว่าแอ้มัววุ่นวายกับลูกๆเลยไม่ได้ชาร์จแบทเตอรี่

“ติ๊กโทรหากรูเกือบร้อยสายเลยดิว “ แอ้พูดตอนทีแอ้เปิดเครื่องแล้ว ผมว่ามันปกติ ไม่มีอะไรมันก็โทรหาแอ้ ประมาณนี้อยู่แล้ว ถ้าเห็ฯว่าผมกับแอ้หายไปด้วยกัน

“ดิว “ แอ้เรียกผม เวรแล้วเกิดอะไรขึ้น ทำถนน  ถนนเส้นหลักนี้นะ ทำให้รถติดกันเป็นแถม ผมนึกขึ้นได้มีอีกเส้นแต่ไม่ค่อยมีรถวิ่ง เป็นเส้นใน เพราะว่ามันอ้อมนะ ผมก็รีบกลับรถและวิ่งไปอีกทางเพื่อไปเส้นใหม่

“ดิวจะทันไหม “ แอ้ถามผมสีหน้ากังวลมาขึ้นอีก ผมก็รีบเหยียบเลย ปาเข้าไป เที่ยงสิบแล้ว ตายแน่งานนี้ เพราะเป็นเส่นในและไม่มีรถสวนไปมามากหนักหรือแทบจะไม่มีเลยดีกว่า ผมขับมาด้วยความเร็วสูง กะว่าอย่างน้อยไปให้ทันบ่ายโมงพอดี

“ดิวขับเร็วไปหรือเปล่า “ แอ้ถามผมด้วยน้ำเสียงที่กังวล

“ดิวกลัวแอ้ไปสอบไม่ทันนะ “ ผมหันไปบอกแอ้และหันกลับมาสนใจกับการขับรถต่อ ขณะที่รถผมแล่นด้วยความเร็วค่อนข้างเร็ว

“ดิว รถชน “ เสียงแอ้พูดข้างหูผมแต่ผมจะเบรคุทันทีไม่ได้ ผมต้องค่อยชะลอและแตะเบรคแต่ก็เลยมาไกลพอสมควร ผมมองผ่านกระจกมองหลังพอจะเห็น รถเก่งกลางเก่ากลางใหม่ กระโปรงหน้าเปิดและยุบไปเกือบถึงด้านหน้าคนขับ ควันลอยพุ้งขึ้นมา

“ดิว มีคนเจ็บหรือเปล่าก็ไม่รู้ “แอ้พูด ผมเองก็ไม่แน่ใจ แต่ว่าตอนนี้มันเที่ยง ครึ้งแล้วนะ ผมหันไปมองแอ้

“แอ้เราจะสายนะซิ” ผมบอกแอ้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-07-2015 18:25:12 โดย PFlove »

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
“ดิว ถ้ามีคนเจ็บละ “ แอ้หันมาพูดกับผม ผมก็เลยตัดสินใจถอยหลังยาวมาให้ถึงที่เกิดเหตุ น่าแปลกไม่มีรถผ่านมาสักคนเลย ผมเอารถจอดข้างทางคนละฝั่งถนน ผมกับแอ้ลงจากรถ ผมก็ไม่แน่ใจว่าแค่รถเปล่าหรือว่ามีคนอยู่ในรถ กลิ่นน้ำมัน

“แอ้ กลิ่นน้ำมันรั่ว ระวังด้วยนะแอ้ “ ผมบอกแอ้ให้ระวัง ผมเดินไปที่รถ ผมเห็นมีเด็กนั่งเบาะหลังสองคน และมีผู้ชายสองคนอยู่ด้านหน้ารถ เด็กที่อยู่ด้านหลังคนหนึ่งหัวแตก และอีกคนพยายามที่จะแกะเซฟตี้เบลท์ตัวเองเพื่อจะไปช่วยคนข้างหน้า

“โป้กๆ โป้ก ๆ  “ ผมเคาะกระจก ให้เด็กนั้นรู้ว่าผมจะช่วยเขา แอ้วิ่งไปเอาชะแรงที่ผมมีในรถ มาให้ผม ผมก็เลยตัดสินใจ เอาชะแรงเคาะกระจก ผมเริ่มได้กลิ่นเหม็นไหม้แล้วด้วย

“โผล๊ะ “เสียงกระจกแตก ผมเอี้อมมือไป งัดล๊อกขึ้น ผมเปิดเข้าไปที่ฟังคนขับก่อน

“ช่วยลูกช่วยเมียผมไปก่อน “ ผู้ชายพูดด้วยน้ำเสียงที่ฝืนมากสงสัยจะบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด

“เร็วครับ รถผมติดแก๊ส “ เขาพูดว่ารถเขาติดแก๊ส ผมมองผู้หญิงที่อาการหนักพอกัน พยายามเอื้อมมือมาจับมือผู้ชายผมรีบเขาไปด้านหลังและหยิบเอามีดคัทเตอร์ออกมา ผมตัดเซฟตี้เบล มีดที่ผมใช้คมมาก เป็นมีที่พี่ดิมใช่ในการทหาร และผมก็นำร่างเด็กชายที่ได้รับบาดเจ็บที่หัว ออกมาและส่งให้แอ้รับไป ผมเข้าไปอีกฝั่ง ตอนนี้กลิ่นเหม็นไหม้รุ่นแรงขึ้นผมรีบตัดเซฟตี้เบลแต่ทันทีที่เซฟตี้เบลขาด

“แม่ “ เด็กคนที่ผมจะช่วยพยายามจะเข้าไปดึงแม่เขา พยายามจะเข้าไปดึงเซฟตี้เบลออก ผมสังเกตุเห็นประกายไฟ

“เอาลูกดิฉันออกไปก่อน ได้โปรด”เสียงผู้หญิงฟังดูก็รู้ว่าเจ็บหนัก เขาบอกให้ผมเอาลูกเขาออกไปก่อน ประกายไฟเริ่มลุกไหม่เร็วขึ้น ผมว่าถ้าช้าไปกว่านี้ เกิดระเบิดแน่

“ดิว “ แอ้เรียกผม ผมก็รีบดึงร่างเด็กชายอีกคน เด็กนั้นดิ้นจะไม่ยอมออกมากับผม

“ปล่อยกรู...แม่  ...แม่ “ ผมจับยึดและดึงออกมาสุดแรงจนหลุดออกมาจากรถ ผมก็ทั้งกอดทั้งยึด ผมว่าไม่ค่อยดีแล้วผมดึงและลากออกมา

“ปล่อยกรู จะหาแม่ แม่ “ เด็กนั้นร้องผมรากออกมาตอนนี้ไฟลุกขึ้นที่หน้ากระโปรงรถ ผมทั้งดึงทั้งลากทั้งกอด แอ้ก็กดโทรหาตำรวจแอ้กำลังแจ้งจุดเกิดเหตุ

“ปรึ้ม” เสียงดังสนั่นไปหมดดีที่ผมลากออกมาไกลพอสมควรแล้ว ไฟกำลังลุกท้วมรถอย่างรวดเร็ว ผมว่าสองคนนั้นไม่รอดแล้ว

“แม่ “ เสียงเด็กที่ผมกอดไว้ร้องเรียกแม่สุดเสียง

“อย่า เธอเขาไปก็ช่วยอะไรไม่ได้  พ่อกับแม่เธอให้ฉันพาเธอออกมาเพราะเขาอยากให้เธอปลอดภัย “ ผมบอกเด็กคนนั้นที่ร้องไห้ดินทุรนทุราย

“ฮือๆ  แม่” เด็กนั้นร้องเรียกแม่ของเขาผมยังกอดไว้ ทำไมผมสองคนต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ตอนนี้รถตำรวจวิ่งมาที่เกิดเหตุแล้ว แอ้คงแจ้งด้วยว่าอาจจะมีไฟลุกท่วมตามมารถดับเพลิงมาถึงก็เข้าไปจอดและฉีดน้ำดับไฟที่รถคันที่เกิดเหตุทันที ผมยังกอดรั่งเด็กที่ผมช่วยไว้ จนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเรียบร้อยแล้ว

“คุณเป็นคู่กรณี หรือว่าผู้ที่ผ่านมาเจอเหตุการณ์นี้ “ เจ้าหน้าที่เดินมาถามผม

“ผมขับรถผ่านมาครับ ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคู่กรณี ผมกำลังจะไปเรียนกัน “ ผมบอกเจ้าหน้าที่

“ปล่อยกรูจะไปหาแม่ “ เด็กที่ผมช่วยพยายามดิ้นจะไปที่รถ เจ้าหน้าที่มองเด็กที่ผมกอดรั้งไว้

“อย่าให้เด็กไปเลย ไม่น่าดูหรอก “ เจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญูเดินมาที่ผมยืนกันอยู่

“เด็กนี้อยู่ในรถ ผมช่วยได้แค่เด็กๆ เท่านั้น “ ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่เบามาก ผมช่วยพ่อแม่เขาไม่ได้

“ทำไมคุณไม่ช่วยแม่ผม ฮือๆ “ เด็กที่ผมกอดรั้งไว้หันมาต่อว่าผม

“เอาอย่างนี้ผมจะพาเด็กพวกนี้ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายและจะสืบหาญาติพี่น้องเขาต่อไป  เออ ผมขอทราบชื่อนามสกุลคุณทั้งสองคนด้วยนะครับ “ เจ้าหน้าทีบอกผมและถามชื่อนามสกุลผม เจ้าหน้าที่ท่านอื่นเดินมาดึงรั่งเด็กที่ผมช่วยไว้และพาอีกคนที่บาดเจ็บขึ้นรถไปผมได้แต่มอง ผมหวังว่าจะติดต่อญาติของพวกเขาได้ ผมรู้สึกผิดที่ช่วยพ่อหรือแม่เขาสองคนไม่ได้ ถ้าเขาไม่มีญาติละ เขาจะอยู่อย่างไร ผมรับกระดาษผมเขียนชื่อนามสกุลของผมทั้งคู่ พอเจ้าหน้าที่เห็นนามสกุลของผมก็รู้เลยว่าลูกเต้าเหล่าใคร

“ลูกดอกเตอร์ พลเอก.นายแพทย์ภาณุเดช และ ท่านพลเอก ภีมปภพ “เจ้าหน้าที่ถามผมสองคนผมพยักหน้า

“ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวไปเรียนก่อนนะครับ นี้เบอร์โทรผม โทรหาผมได้นะครับ “ ผมบอกเจ้าหน้าที่ ผมคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต่อเพราะว่าตอนนี้ผมช้าไปแล้วสิบกว่านาทีไม่ทันแล้วแหละผมว่า ผมเดินไปขึ้นรถ ผมยังหันไปมองรถที่พาเด็กสองคนที่ผมช่วยไว้ดูท่าจะไม่เกิน 8 ขวบแต่เด็กที่ผมดึงรั้งดูใจเด็ดมากไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลย

“ดิว ขึ้นรถเถอะ “ แอ้เรียกผม ผมพยักหน้าผมขึ้นรถและขับรถออกไป

“อาทิตย์นี้มันอะไรกันเนี๊ยะ มีแต่เรื่อง และแต่ละเรื่องนี้มัน เกี่ยวกับความเป็นความตายทั้งนั้นเลยแอ้ “ ผมบ่นขึ้นมาทันที ผมขับรถไม่เกินยี่สิบนาทีก็ถึงโรงเรียนผมรีบเดินขึ้นไปบนห้อง เพื่อนไปขออนุญาติอาจารย์เข้าสอบ

“สวัสดีครับอาจารย์ ผมจะขอเข้าห้องสอบนะครับ  “ ผมเห็นเพื่อนยังนั่งทำข้อสอบกันอยู่ ผมเดินไปที่ครูประจำห้องสอบห้องผม เป็นครูจากโรงเรียนอื่น ครูเขามองผมและ

“เธอไม่รู่ใช่ไหมว่า ห้ามสายเกินยี่สิบนาที และที่จริงไม่ควรจะสายเลยแม้สักนาที “ ครูที่ประจำห้องสอบบอกผมสองคน

“ผมมีเรื่อง...” ผมจะอธิบายแต่

“ก็พูดกันอย่างนี้ทุกคนและวิชานี้เข้าสอบบ่ายโมงถ้าอย่างนั้นเธอสองคนก็ไม่มาเรียนตอนเช้าละซิ” ครูประจำห้องสอบต่อว่าผม แอ้ดึงผมไว้ไม่ให้ผมต่อปากต่อคำอาจารย์

“ครูให้เธอสอบไม่ได้ และครูอรุณีสั่งไว้ว่าถ้าขาดสอบให้รายครูอรุณีด้วย เพราะว่าคนที่ขาดสอบวิชาวันนี้จะได้ 0 ทันที “ ครูประจำห้องสอบผมบอกผมสองคน นี้ผมไปทำความดีมานะเนี๊ยะ

“ขอโทษนะคับ คุณครู ผมขออนุญาติให้เด็กสองคนนี้เข้าห้องสอบได้ไหมครับ เนื่องจากว่า เด็กสองคนไปทำความดีที่น่าชื่นชมมา เขาช่วยเหลือคนที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างที่เขาเดินทางมาและเมื่อวานเขาไปทำธุรด่วนที่บ้านมานะครับ “พี่ตุ๊เดินมาขอครูที่คุมห้องสอบให้ผมสองคน

“จริงเหรอค่ะ” ครูที่คุมสอบถามพี่ตุ๊ย้ำและหันมามองหน้าผม

“ครับ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเพิ่งจะโทรมาบอกผมว่านายศักรินทร์ และนายศุภมลคลได้ช่วยเหลือเด็กชายสองคนออกมาจากรถที่ขับไปชนเสาหลักกิโลเมตรข้างทางส่วนพ่อแม่เด็กเสียชีวิต เพราะเขาสองคนช่วยได้แค่เด็กเท่านั้น “ พี่ตุ๊พูด พี่มองผมสองคน และหันไปมองครูที่มาคุมสอบห้อง

“และถ้าครูไม่อรุ่มอร่วยบ้าง เด็กทีไหนจะอยากทำความดีละครับ ใช่ไหมครับคุณครู “ พี่ตุ๊พูดครูผู้คุมสอบหันมองผมสองคน

“ก็ได้ แต่ดิฉันคงให้ได้แค่เวลาที่เหลือนะค่ะครูใหญ่ “ครูที่คุมสอบบอกพี่ตุ๊และผมสองคน

“เชิญค่ะ “ ครูผุ้คุมสอบส่งชุดข้อสอบให้ผมสองคน ผมเดินเข้าไปในห้อง ทุกคนมองผมสองคนโดยเฉพาะติ๊กที่มองแอ้ตลอดที่ผมเดินเข้าไปนั่งโดยไม่ได้ทักทายอะไร  แจ๊คมันหันมามองผมเพราะว่าผมนั่งเฉียงจากมัน

“ไปไหนมา “ ไอ้แจ็คมันพูดให้ผมอ่านปาก

“เดี๋ยวค่อยเล่า” ผมพูดให้อ่านปากเช่นกัน

“อะแฮม !  ได้สิทธิ์ในการสอบแต่ไม่ได้สิทธิ์ในการคุยกันในห้องสอบนะค่ะ “ ครูเม้งผมเลย ผมก็ก้มหน้าก้มตาทำข้อสอบทันทีผมรีบทำเพราะว่าใกล้จะหมดเวลาแล้ว ทุกคนเริ่มถยอยออกจากห้องสอบแล้ว ผมเห็นติ๊กลุกขึ้นติ๊กแอบส่งกระดาษโน๊ตให้แอ้ ก่อนออกไปส่งข้อสอบ

“แอ้ “ ผมเรียกแต่แอ้หันมาทำนิ้วจุ๊ปากไม่ให้ถาม ผมก็ทำไปคิดไป ไอ้ติ๊กมันมีอะไรกับแอ้และผมหรือเปล่านะ ก็เมื่อวานผมไปโดยไม่ได้บอกใครเลยว่าไปไหน ผมนั่งก้มหน้าก้มตาทำข้อสอบต่อไปจนหมดเวลาทั้งผมและแอ้ก็ต้องเอาข้อสอบไปคืนอาจารย์

“ ดิว พี่ตุ๊บอกกรูว่าให้มรึงไปหา “ ติ๊กมันบอกผม ผมพยักหน้าและจะหันไปดึงมือแอ้

“แค่มรึงคนเดียว พี่ตุ๊ไม่ได้เรียกไอ้แอ้ “ ติ๊กมันบอกผม
“มรึงไปซิ กรูอยู่กับติ๊ก “แอ้บอกผม แอ้พยักหน้าให้ผมไปคนเดียว ผมจำต้องเดินออกไปหาพี่ตุ๊คนเดียว
*****************************************************************************************************************
แอ้ หลังจากที่ผมได้เข้าห้องสอบ เนื่องจากพี่ตุ๊มาช่วยขออาจารย์ เพราะว่าผมสองคนไปช่วยเหลือรถที่ประสบอุบัติเหตุ แถมผมยังช่วยได้แค่เด็กสองคน ผมยังไม่รู้เลยชะตากรรมจะเป็นยังไงต่อไป เขาเสียทั้งพ่อและแม่มันทำให้ผมยิ่งใจไม่ดี หวนคิดถึงลูกๆผมถ้าเสียผมหรือดิวไป แต่ลูกผมยังโชคดีที่มีปู่และลุงที่ดูแลได้ไม่น้อยไปกว่าผมสองคนแน่นอน
“ปึก “ กระดาษวางตรงหน้าผม กระดาษโน๊ต ผมเงยหน้ามองคนวาง ติ๊ก ติ๊กก็เดินออกจากห้องไปเพื่อส่งกระดาษคำตอบ ผมหยิบมาคลี้อ่าน

“แอ้ “ ดิว เรียกผม ดิวคงเห็นติ๊ก ส่งอะไรให้ผม ผมทำนิ้งจุ๊ปากไม่ให้ถามเดี๋ยวโดนดุอีก ผมทำเสร็จแล้วผมก็คลี่กระดาษอออมาอ่าน

“แอ้ คุยกับกรูด้วย มรึงคนเดียวนะ “ ติ๊กมันบอกให้ผมคุยกับมันด้วยคงเป็นเรื่องที่ผมหายไปกับไอ้ดิวโดยไม่ได้บอกใครเลย ก็มันเร่งด่วน แต่ผมคงบอกไม่ได้ว่าผมเอาเซนไปอยู่ที่บ้านเพราะถ้าบอกมันจะสาวไปถึงลูกๆผมอีก

“หมดเวลาแล้วนะค่ะ “ ครูผู้คุมสอบแจ้งผมสองคน ผมลุกขึ้นตามาด้วยไอ้ดิว ผมส่งกระดาษคำตอบให้อาจารย์ ติ๊กยืนรอผมอยู่หน้าห้องเรียบร้อยแล้ว ติ๊กหันมามองผม ติ๊กกำลังจะเอ่ยปากพูดกับผมดิวก็ออกมาพอดีเลย

“ดิว พี่ตุ๊ให้ไปหาที่ห้องพัก” ติ๊กบอกดิว ดิวพยักหน้าและดิวก็คว้าข้อมือผม

“แค่มรึงคนเดียว พี่ตุ๊ไม่ได้เรียกไอ้แอ้ “ ติ๊กรีบบอกไอ้ดิวทันทีว่าแค่มันคนเดียว

“มรึงไปซิ กรูอยู่กับติ๊ก “ผมหันไปบอกไอ้ดิว ผมพยักหน้าให้มันไป ดิวก็จำต้องเดินไปหาพี่ตุ๊ ตอนนี้เหลือแค่ผมกับติ๊ก

“หายไปไหนมาแอ้ “ ติ๊กถามผม น้ำเสียงเรียบ

“พอดีมีธุรด่วนนะ พ่อให้ไปหา ก็เรื่องที่จะไปทดสองสมรรถภาพร่างกาย เข้าเรียนนายร้อยนะ “ ผมบอกติ๊ก ติ๊กแค่กระพริบตา

“ไปคุยทางโน้น”ติ๊กบอกกับผม ผมพยักหน้าผมเดินตามติ๊กไป ผมเห็นต้นข้าวกับบลูยืนอยู่ ทั้งคู่มองผม ผมพยักหน้าว่าไม่มีอะไร ผมเดินตามติ๊กออกมาจนถึงด้านช๊อป

“มรึงไปไหนกันมา ทำไมนอนที่ห้องด้วยกันมันไม่พอเหรอแอ้ “ ติ๊กถามผม 

“ติ๊กกรูไป....ธุระ “ บอกติ๊ก ว่าผมมีธุระ

“มรึงหลอกเด็กดีกว่าไหมแอ้ มรึงสองคนมรึงความสุขกันมากไหมแอ้ “ ติ๊กถามผม ผมได้แต่ยืนนิ่งกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก ผมรู้ว่าน้ำเสียงที่ติ๊กถามผม มันเจ็บปวด

“ติ๊ก “ ผมหันไปเรียกติ๊ก

“มรึงก็รู้ดี ว่ากรู คิดยังไงกับมัน “ ติ๊กหันพูด ติ๊กมองหน้าผม ผมจำต้องหันไปทางอื่น ทำไมต้องมาเป็นคนเดียวกันด้วย

“ทำไมวะ แอ้  ทำไม  ทำไมมรึงทำกับกรูแบบนี้วะแอ้ ทำไม “ ติ๊กมันจับไหล่ผมเขย่า

“ติ๊ก กรูเจ็บ ปล่อย กรู “ติ๊กมันบีบไหล่ผมแร่งขึ้นและเขย่าผมแรงขึ้นด้วย ผมพยายามดันติ๊กออก

“เสียงดังมาจากข้างบนแจ็ค” เสียงบอยบอกแจ็ค ผมหันไปมอง แจ็คและบอยคงกำลังขึ้นมาห้ามไอ้ติ๊ก

“ทำไมมันต้องรักมรึงไอ้แอ้ ทั้งกรู มรึงและมันโตมาด้วยกัน แต่ทำไมมันรักมรึงคนเดียวแอ้ “ ผมหันมา

“ฉาด “เข้าที่หน้าผม ทำให้ร่างผมกระเด็นไปตามแรงตบของติ๊ก และจังหวะที่เป็นทางลงบรรไดด้วย ผมยังตัวเองไม่อยู่ ผมคงต้องหล่นลงไปแน่นอน

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
 :katai1: เกลียดติ๊กจริงๆเลย คนอะไรไม่ยอมระบความจริง

เอาใจช่วยดิว กับ แอ้ น่ะ

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
“เห้ย! เวรแล้ว ไอ้แอ้  “ เสียงใครสักคนร้อง  “แจ็ค” เสียงบอยผมจำได้ดี “หมับ “ มีคนมารับผม ไอ้แจ็คมันมารับผมไว้ทัน  ผมมองคตนที่มารับผมไว้ ไอ้แจ็ค 

“เวรแล้ว ถ้ากรูรับมรึงไม่ทัน ตาย “ ไอ้แจ็ค มันพูดผมนี้ตกใจมาก แจ็คประครองผมลุกขึ้น ผมเงยหน้ามองติ๊ก เขาทำกับผมได้ยังไง ติ๊กตกใจพอใจ


“มรึงทำอะไรมัน “ แจ็คตะเบงเสียงถามติ๊ก ด้วยความโกรธบอยขึ้นมาถึงพอดีเลย และมีคนวิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน ดิว ดิวมองผมและติ๊ก ดิวก็เข้ามาประครองผมแทนไอ้แจ็ค

“มรึงทำแบบนี้ได้ยังไงติ๊ก มรึงจะฆ่ากันเลยนะเนี๊ยะ”แจ็คถามติ๊ก ดิวมันมองติ๊ก 

“กรูไม่ได้ตั้งใจ กรูไม่รู้ว่ามันจะตกลงไปได้” ติ๊กพูด

“มันทำอะไรมรึงแอ้ “ดิวเข้ามาถามผม ตัวผมยังสั่นเพราะตกใจ ผมส่ายหน้าได้อย่างเดียวเลย

“มันทำอะไร ไอ้แจ็ค “ดิวหันไปถามไอ้แจ็ค

“กรูไม่รู้ กรูรู้แต่ว่าแอ้มัเนกือบตกจากบรรไดนี้และดีที่กรูรับไอ้แอ้มันทัน “ แจ็คพูด ดิวหันไปมองติ๊ก

“กรูบอกมรึงแล้วใช่ไหมติ๊ก ว่ามรึงทำแอ้อีก กรูไม่เอามรึงไว้แน่ “ ดิวเดินตรงไป ผมจะคว้าแต่ไม่ทันดิว มันตรงไปพร้อมปล่อยหมัดตรง

“อย่าดิว “ ผมร้องห้ามไอ้ดิว  “ไอ้แจ็ค จับแอ้” ดิวมันบอกให้ไอ้แจ็คจับผมไว้ แจ็คมันก็ทำ

“ดิว ใจเย็นๆก่อน “บอยร้องห้ามดิว แต่ไม่ทันแล้ว หมัดกำลังสวนอากาศไปหาติ๊ก ติ๊กไม่ได้หลบแค่ยืนหลับตา

“หมับ ...ปึก” มีคนมารับหมัดไอ้ดิว แทน  ไอ้เดี่ยว

“ไอ้เดี่ยว ถอย” ดิวบอกให้ไอ้เดี่ยวถอย

“กรูไม่ถอย กรูรู้ว่ามรึงกำลังโกรธกรูเชื่อว่าติ๊กไม่ได้ตั้งให้ที่จะผลักแอ้ให้ตกบรรได “ไอ้เดี่ยวพูด

“กรูก็เชื่ออย่างนั้น มันแค่จังหวะที่ กรูยืนตรงนี้และเรามีปากเสียงกันนิดหน่อย กรูพยายามอธิบายว่าทำไมกรูถึงต้องไปกับมรึงดิ  และติ๊กมันแค่สะบัดกรูออกเท่านั้น แต่กรูก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วดิว “ ผมพูดดิวหันมามองผม

“กี่ครั้งแล้วแอ้ ที่มันทำ กี่ครั้งแล้ว มรึงโตมากับพวกกรูซะเปล่า มรึงไม่มีความรักความอาทรให้พวกกรูเลยติ๊ก “ ดิวพูด ติ๊กมันมองไอ้ดิว และรีบเดินแทรกลงไปทันที ผมเห็นว่าน้ำตามันไหล ไอ้เดี่ยวหันจะตาม

“มรึงไม่ต้องเสือกตามกรูมา” ติ๊ก หันมาบอกไอ้เดี่ยว

“หมับ “ บอยถึงแขนไอ้เดี่ยวไว้

“ปล่อยมันสักพัก มรึงไปก็ไม่มีประโยชน์เดี่ยว” แจ็คหันไปบอกไอ้เดี่ยว

“แอ้ไม่เป็นอะไรแน่นะ “ ดิวเข้ามาถามผม ผมพยักหน้าผมหันหลังเดินออก ผมเสียใจ ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ผมเสียใจกับมันทุกครั้ง มันเหมือนเป็นความผิดติดอยู่ในใจผมตลอด

“แอ้ “ ดิว ผมยกมือห้าม

“กรูขออยู่คนเดียวสักพัก ดิว “ ผมพูด ผมเดินลงมาชั้นล่าง  ผมคงขอไปหาที่นั่งคิดไตรตรอง นี้ผมเห็นแก่ตัวไปใช่ไหม ใช่สามคนเคยสนิทกันมาก อยู่ด้วยกันกินนนอนเล่นด้วยกัน แต่ผมไม่รู้ว่าดิวมันชอบผมตอนไหนแต่ผมรู้ตลอดว่า ติ๊กมันชอบดิวส่วนผมผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรักของผมมันเกิดพร้อมกันกับติ๊กหรือเปล่า ผมไม่ได้ดีใจเลยที่มันเลือกผม เพราะผมทำให้ใครอีกคนเจ็บ ผมรู้สึกผิดเหมือนมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
******************************************************************************************************************
ติ๊ก ผมวิ่งออกมาน้ำตาผมไหล สายตาไอ้ดิวมันแค่แอ้มากแค่ไหน มันก็ยิ่งทิ่มแทงในใจผมเท่านั้น ผมรู้สึกเจ็บปวด มันเหมือนเคยเกิดขึ้นมาแล้วกับผม ทำไม ดิวไม่เคยรักผมเหมือนที่รักแอ้เลย ทำไม ผมไม่ได้สิ่งนั้น ทั้งที่ผมกับดิวและแอ้ โตมาด้วย เราสนิทกัน แต่ดิวไม่เคยมองหัวใจผมเลย
“พี่เอ ผมจะไปถ่ายหนังเรื่องที่ค้างอยู่ให้เสร็จ เจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมินะครับ “ ผมบอกพี่เอทันทีที่พี่เอกดรับสายเตาเป็น ผู้จัดการส่วนตัวผมเอง

“น้องติ๊กของพี่ โอ้ยยพี่นี้ดีใจจนกระโดดตัวลอยแล้วค่ะ พี่จะรอนะจร๊าจะให้พีไปรับเลยไหม พี่ยินดีมาก”พี่เอ

“ไม่ตอ้งครับผมจะรีบไปคงประมาณ สองชั่วโมงถึง “ ผมบอกพี่เอ ผมเห็นพี่ตุ๊ยืนคุยอยู่กับคุณครูของโรงเรียน พี่ตุ๊เห็นผมก็รีบผละจากการสนทนาพี่ตุ๊เดินตรงมาหาผมทันที

“ติ๊ก “เพราะว่าผมไม่หยุด ผมเดินจั้มอ้าวให้ออกจากตรงนี้

“พี่ครับ มารับผมด้วยและไปส่งผมที่สุวรรณภูมิ เดี๋ยวนี้ “ผมโทรหาคนขับรถ

“ได้ครับคุณติ๊ก “คนขับรถบอกผม

“หมับ” พี่ตุ๊ดึงแขนผมไว้ ดีนะที่ผมปาดน้ำตาออกไปหมดแล้ว ผมพยายามทำสีหน้าให้ปกติที่สุด

“เป็นอะไร” พี่ตุ๊ถามผม พี่ตุ๊มองผม ผมหันไปมองทางอื่น

“พี่ถามว่าเราเป็นอะไร แล้วนี้จะไปไหน โทรตามคนขับรถให้ไปส่งที่สนามบิน จะไปไหน “ พี่ตุ๊ถามผม

“ผมจะไปถ่ายละครให้จบ “ ผมหันมาบอกพี่ตุ๊

“ก็เราคุยกันแล้วไง แค่เสาร์อาทิตย์ พรุ่งนี้ค่อยไป “ พี่ตุ๊บอกผม

“ผมจะไปวันนี้และ หนึ่งอาทิตย์เต็ม “ ผมหันมาบอกพี่ตุ๊ สายผมแข็งกราวมากผมรู้ดี พี่ตุ๊ ชะงักไปนิดหนึ่ง สายตาผมมันบอกว่าผมพยายามอดกลั้นมันไว้ที่สุด

“ฟู่ “ พี่ตุ๊พ่นลมออกมาจากปาก ผมรู้ว่าผมดื้อกับพี่ผมมาก

“จะไปใช่ไหม “ พี่ตุ๊ถามผมด้วยน้ำเสียงที่แผ่วลง ผมพยักหน้าว่าใช่ ผมต้องไป ไปซะดีกว่าทนอยู่ตรงนี้ ผมทนไม่ได้

“หมับ” พี่ตุ๊กอดผม    

“อืม ไปก็ดี ไปพักสักอาทิตย์หนึ่ง พี่ลาครูให้ อะไรที่มันวุ่นวาย เอาออกไปบ้างแบกไว้ทำไม มันไม่เกิดประโยชน์ ติ๊ก “ พี่ตุ๊บอกผม ผมพยักหน้าผมคงต้องพยายามตัดมันออกไปใช่ไหม

“พี่หวังว่าหนึ่งอาทิตย์คงทำให้อะไร อะไรดีขึ้นนะ นี้ไปถ่ายทำกันที่กรุงโรมใช่ไหมพี่จะคอยโทรถาม คุณเอนะ ห้ามไปเหลวไหลที่ไหนเด็ดขาด “ พี่ตุ๊บอกผม ผมพยักหน้า ผมเห็นมีคนรถมาจอดด้านหน้าแล้วผมรีบเดินออกไปขึ้นรถทันที

“ติ๊ก “ เสียงไอ้เดี่ยว มันเรียกผมแต่ไกล ผมมขึ้นรถไปแล้ว ผมปิดประตูทันที

“ออกรถ ผมรีบ” ผมบอกคนขับ คนขับก็พยักหน้าและออกรถปทันที ผมควรจะหยุดมันใช่ไหม ควรจะหยุดมันได้แล้วใช่ไหม ผมนั่งเงียบมาในรถไม่ได้พูดอะไรนอกจากฟังเพลงจากไอโฟนของผมแต่เพลงที่เล่นไม่ได้เข้ามาอยู่ในหัวผมเลย มีแต่เสียงที่วนเวียนของไอ้ดิวมันดังอยู่ในหัว

“ถึงแล้วครับคุณติ๊ก” คนขั้บรถบอกผม เขาจอดส่งผมที่ประตูทางเข้าหมายเลขสี่ ผมลงจากรถผมก็เจอพี่เมฆ การ์ดที่ดูแลพ่อผม เอากระเป๋าเดินทางพ่อผมคงให้พี่ผมจัดมาให้เพราะพี่ตุ๊คงบอกว่าผมจะเดินทาง ผมพยักหน้าของคุณและลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปด้านในพอดี ผมจะต้องหาห้องเปลี่ยนชุดก่อนเลย

“พี่เอ “ผม โทรหาพี่เอ

“อยู่ไหนค่ะน้องติ๊กของพี่เอ “ เสียงแหลมแสบแก้วหูมาเชียว

“อยู่ชั้นบนพี่ประตูหมายเลขที่ 4 ผมต้องการห้องเปลี่ยนชุด ผมสวมชุดนักเรียนมา” บอกพี่เอ

“ได้ค่ะพี่เตรียมห้องรับรองไว้ให้คุณติ๊กแล้วค่ะ พี่จะขึ้นไปหาณะ บัดนาว “ พี่เอพูด ผมก็กดวางสายทันที ผมเห็นสายตาคนเดินผ่านไปผ่านมามองผม

“แกใช่ ดาราขาหวีนหรือเปล่า ที่วีนแหลกแถมคำพูดตอบนักข่าวแรงจนสะอึกหงายหลังกันเป็นแถว “ ผมได้ยินคำชมผมหันไปมอง ว่าผมได้ยิน นางรีบเดินหนีเลย

“น้องติ๊กของพี่เอ ค่ะ ไปค่ะพีเตรียมห้องรับรองไว้ให้แล้วค่ะ พี่ดีใจมากเลยนะค่ะ เรื่องนี้จะได้ปิดกองสักทีและเราจะได้ไปถ่ายเรื่องใหม่กันต่อนะค่ะน้องติ๊กที่รักของพี่ “ พี่เอ พูดผมเบ้ปากใส่เลย ผมว่าผู้หญิงที่ว่าตอแหล ยังชิดซ้าย พี่เขาพาผมเดินลงมาชั้นที่สองมีรถทางโรงแรมมารอรับผม  โรงแรมชื่อดัง Novotel อยู่ติดสนามบิน ผมเข้าไปนั่งพร้อมพี่เอ

“ก็หาอะไรทำไปก่อนซิ แล้วนี้ยาย จีน่า มาถึงหรือยัง โอ้ย นางสายประจำ นัดเช้ามาบ่าย นัดบ่ายมาเย็น ฉันจะเบื่อพอไม่มีงานก็โทรมาร้องห่มร้องไห้ รีบตามนางมานะ อย่าให้ฉันเหวี่ยง แค่นี้นะ “ พี่เอ ผมหันไปมอง เบื่อที่เล่นกับนางเหลือเกิน

“พี่เอรู้ค่ะว่าน้องติ๊กไม่ค่อยปลื้มยายจีน่า แต่ทางผู้กำกับเขาชอบยอมนิดหนึ่งนะค่ะ “ พี่เอ พูดผมก็พยักหน้า

“ถ้าเลี่ยงได้ ผมขอไม่รับงานคู่กับเธอบ่อย ได้ไหมครับพี่เอ “ ผมหันไปบอกพี่เอ

“ค่ะ พี่เอจะพยายามเลี่ยงให้นะ “ พี่เอพูดผมเดินเข้าไปในห้องพัก ผมรีบเข้าไปอ่าบน้ำชำระร่างกายทัน ผมหวังว่าความเย็นของน้ำที่รดตัวผม มันจะช่วยผมได้บ้าง ทุกครั้งที่เห็นทั้งคู่ มันเหมือนมีอะไรก็ไม่รู้มันแท่งใจผมตลอดเวลาเลย มันเจ็บปวดที่สุด ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมแต่งตัวตามสไตล์ของผมกางเกงยืนขาเดฟ ยี่ห้อ chaps เสื้อยืดสีชาวมีลายที่หน้าอก พร้อมสวมเสื้อสูทพอดีตัวทับ ผมหยิบกระเป๋าสตามค์ ยี่ห้อแพง หลุยส์ ผมสัมผัสได้กับบางสิ่งที่ชิ้นไม่เล็ไม่ใหญ่เหมือนสีเหลี่ยมค่งหมู ผมก็เปิดและเคาะมันออกมา มันคือเมมโมรี่สติกในที่ใส่ในกล้องถ่ายรูปหรือวิดิโอ ผมเอามาจากโต๊ะเขียนหนังสือของแอ้ ผมไม่ได้ตั้งใจได้มันมาหรอกผมไปหาปากกาที และผมก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข่างในมันคืออะไร ผมว่ามันคงมีอะไรเกี่ยวกับแอ้และดิวแน่ๆ

“น้องติ๊กค่ะพร้อมหรือยังค่ะ พี่ว่าเราไปกันดีกว่านะค่ะ ตอนนี้กองเราที่จะเดินทางไปทำงาน รอน้องติ๊กอยู่คนเดียวแล้วนะค่ะ “ พี่เอเดินเข้ามาบอกผม ผมพยักหน้าว่าพร้อมแล้ว ผมไม่ได้บ่นอะไรพี่เอ

“วันนี้น้องติ๊กปวดฟันหรือเปล่าค่ะ” พีเอถามผม

“ทำไมละครับ หรือเพระว่าผมไม่บ่นอะไรพี่เลย พี่เลยเหงาหู แต่ถ้าผมไปแล้ว เรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่ได้ดังใจผม ผมวีนนะครับ และช่วยบอกดาราสมทบด้วยว่า เต็มใจเล่นหน่อยผมเสียเวลา” ผมพูดกับพี่เอ แอบเหวี่ยงเล็กน้อย ไม่นานผมก็เดินทางมาถึงห้องพิเศษ พวกผมจะไปโดยเช่าเหมาลำเพื่อไปถ่ายทำละครมีแค่ฉากที่ผมต้องไปตามนางเอกที่หนีผมไปอยู่ต่างประเทศ ไปตามง้อ

“มาแล้วเหรอค่ะพี่เอ จีน่ารอนานแล้วนะค่ะ ไม่ซิ ทั้งกองเลยดีกว่า รอคนคนเดียว จะมาจะไม่มา หลายอารมณ์เกิ้น ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือไงก็ไม่รู้” จิน่ามาถึงนางก็จิกผมเลย ผมเอามือเท้าเอวเลย

“แม้จีน่า รอนิดรอหน่อยนะ ทีเวลาหล่อนสายละ แถมฉากสำคัญอีก รอเธอไปเกือบค้อนวัน “ พี่เอพูดจิน่าหันมาค้อนขวับ ๆ

“น้องเคน เพื่อนพระเอกมาแล้วใช่ไหมค่ะ ไป ไป เตรียมขึ้นเครื่องกว่าจะไปถึงนั้งตรูดบานเลยกรู “พี่เอพูดผมเดินจะไปขึ้นเครื่อง เครื่องบินชำเหมลำเพื่อไปถ่ายทำหนังและภาพยนต์โดยเฉพาะ

“น่าเบื่อชะมัดต้องมีฉากจูบกับพระเอกที่เป็นตุ๊ดเป็นเกย์อีกอะ ตัดไปได้ไหมฉากเนี๊ยะ “ ผมได้ยินนางชะนีบ่น ผมหันไป มองหน้าเธอ เธอทำปากเบ้ หันไปทางอื่น

“ปากแบบนี้ไง ถึงได้ตกกระป๋องเร็ว แต่ที่จริงน่าจะตกไปตั้งนานแล้วนะ “ ผมพูดกับจีน่า จีน่ามองหน้าผมแบบเอาเรื่องมาก

“แกว่าฉันเหรอ ใครว่าฉันตกกระป๋อง งานรอฉันเยอะจะตายไป คิวแน่นตลอดทั้งปี ไม่เหมือนแกหรอก ละครกำลังถูกดองเพราะว่า แถมกำลังจะโดนนักข่าวแบนด้วยโทษฐานที่ตอบคำถามไม่รู้จักคิด “ นางยังพูดใส่ผมอีกนะ

“ถ้างานเธอเยอะจริง เธอมารับเล่นละครเรื่องเดียวกับฉันทำไม ไปเล่นเรื่องอื่นที่ไม่มีฉันซิ แต่คงทำไม่ได้เพราะว่าตอนนี้ทุกเรื่องฉันรับหมดแล้ว “ ผมพูด จีน่าหันมาค้อนผม

“ได้ข่าวว่าโทรมาอ่อนพี่เอ ขอละครจะเอาตังไปอัพ....” ผมพูดและเหล่อมองเธอ ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเลย นางไปทำศัลยกรรมมาหมด

“อัพอะไรพูดดีดีนะ “ จีน่า

“ก็คงเริ่มจากคางที่บิดๆเบี้ยวๆก่อน คงไปให้หมอกระเป๋าทำให้ละซิ และ ตามลงมาด้วยนม ซีลิโคนหมดอายุหรือเปล่า ไปคนละทางกันหมดแล้ว หรือไม่ก็ไม่ผ่านอย . และขานะ เริ่มใหญ่แล้วนะไปฉีดโบท๊อกขาเรียวเพิ่มได้แล้ว ขายังกับปล่องผักตบชะวา “ผมพูดนางก็มองสำรวจตัวเองตาก็ปะหลับปะเหลือกมองผมแบบไม่พอใจที่ผมวิจารหุ่นเธอ

“นี่” นางทำท่าจะตบผม  “อย่าลองดี ไม่อย่างนั้นได้ให้หมอรื้อหน้าใหม่หมดแน่ ตั้งแต่ดั้งลงมาเลย “ผมชี้หน้าเธอ จีน่าถึงกลับชักมือกลับ ผมเดินไปหาพี่เอ เพื่อเข้าด้านตรวจพิเศษ ถ้าไม่ติดว่าผมกำลังหนีความวุ่นวายในใจผม ผมคงไม่ไปร่วมงานกับนางบ้านี้แน่นอน

“ติ๊กครับ “ ผมหันไปเจอ เคน ดาราหน้าใหม่ เขามาเล่นบทตัวรอง เป็นเพื่อนผมในเรื่อง

“กรอกขอ้มูลในใบผู้โดยสารขาเข้าและขาออกก่อนนะครับ “ เคนพูดและส่งมาให้ผมใบหนึ่ง

“เคนค่ะ แล้วของจีน่าละค่ะ” จีน่าเดินมาถามเคน นางยืนเด้งหน้าอกใส่เคนซะอย่างนั้น และหันมาเหล่มองผม ผมก็เดินออก เดินไปหาที่เขียนที่อื่นดีกว่า

“ไปขอที่พี่เอซิครับ ผมหยิบมาแค่สองใบเอง “ เคนตอบได้ดีมาก ทำให้จีน่าหน้างอไปเลย ผมแอบยิ้มที่มุมปาก ผมกำลังกรอกรายละเอียดอย่างรวดเร็ว ผมกรอกได้เร็วมากเพราะว่าผมบินอยู่บ่อยๆ ผมเงยหน้าขึ้นมาก็เจอเคน

“มีอะไรหรือเปล่าเคน “ ผมถามเคน ดารารุ่นน้องผมปีหนึ่ง เคนได้เข้าวงการเนื่องจากมาประกวดโดม่อนแมนแม้ไม่ได้ที่หนึ่งแต่ด้วยหน้าตาและเข้ากับคนได้ดีงานจึงรุมเร้าเข้ามามากกว่าอันดับหนึ่งลูกไฮโซซะอีก

“เปล่าครับ เคนแค่อยากมองหน้าพี่ติ๊ก เคนตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ร่วมงานกับพี่ พี่หน้าใส่สมกับที่เขาพูดกันจริงๆนะครับ “ เคนพูดพร้อมเอามือท้าวคาง

“ขอบใจนะที่ชม” ผมพูดพี่เอเดินมาหาผมพอดีเลย

“ไปเข้าห้องตรวจคนเข้าเมืองกันดีกว่าค่ะน้องติ๊ก เครื่องรอแล้วพร้อมจะบิน น้องเคนกรอกรายละเอียดหรือยัง อะนิ ทุกคนเร็วๆเขา ที่ทำงานละเคลื่อนไหวราวกับเต่าคลาน พอเลิกกองปุ๊บกระต่ายเข้าสิ่ง ไม่เห็นแม้แต่เงา” พี่แอ้บ่นผมเดินนำหน้าไปติดต่อเรื่องเอกและเดินเข้าไปหาซื้อหมอนรองคอผมลืมเอามา

“พี่ติ๊ก ผมมีมาสำรองอันหนึ่งนะ ถ้าไม่รังเกียจแต่ผมซื้อมาใหม่ทั้งคู่นะ “ เคนเดินตามผมไปที่ร้านในด้านในของสนามบิน เคนส่งหมอนรองคอให้ผมใบหนึ่ง เขามีสองใบ ผมพยักหน้าและรับไปหนึ่งใบ ผมเดินแทรกเคนออกทันที ผมไม่โง่ที่จะไม่รู้ว่าเคนกำลังแจกขนมจีบให้ผมอยู่ ผมก็ปล่อยให้ทำไป เพราะว่ามันยิ่งทำให้จีน่า ตาร้อนตาไฟใส่ผม ตอนนี้นางหมดสิ้นภาพนางเองที่ใส่ซื่อและอ่อนหวานในเรื่อง ผมว่าตัวร้ายที่เล่นเรื่องนี้ชิดซ้ายเธอไปได้เลย เคนทำตัวติดกับผมแถบจะทุกฝีก้าวเลยดีกว่า ผมเหลือบมองมือถือผม มีข้อความเข้ามา เดี่ยว

“ติ๊ก เดี่ยวเป็นห่วงนะ ถึงแล้วโทรหาเดี่ยวด้วยนะ รักนะครับ “ เดี่ยวส่งข้อความมาหาผม ผมก็ปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดทันทีที่ผมขึ้นไปนั่งบนเครื่องยิน แอร์บัสเครื่องสำหรับเช่าเหมาลำ เคนเลือกมานั่งข้างๆผม หลังจากเครื่องบินทะยานสู้นานฟ้าผมก็เอนเบาะนอนลงทันที ผมใช้หมอนรองคอที่เคนให้ผมมานั้นแหละ 

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Jinn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เพิ่งได้มาอ่านเรื่ีองนี้ตอนรีไรท์ใหม่


โดยรวมชอบเรื่องนี้มาก แต่ที่เคยอ่านเวอร์ชั่นเก่า คาใจเรื่องของแอ้กับสรจักร อ่านถึงตอนนั้นแล้วไม่อยากอ่านเลย อยากให้มีแต่แอ้ดิวค่ะ คู่นี้เขารักกันมาแต่เด็ก ฟันฝ่าอุปสรรคมาก มีลูกกันก็ตั้งหลายคน ไม่น่าจะไปมีประเด็นกิ๊กกั๊กนอกกาย นอกใจเลย ยอมรับว่าหัวโบราณ รับเรื่องพวกนี้ไม่ได้เลย

ถ้าคนเขียนรีไรท์ใหม่แล้วตัดเรื่องราวของแอ้กับสรจักรออกไปนี่เราจะแฮปปี้และอินกับครอบครัวสุขสันต์ของแอ้และดิวเป็นอย่างมาก(คือดราม่านะมีได้ แต่อย่าหนักเลยค่ะ เห็นใจคนอ่านบ้าง)

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
เพิ่งได้มาอ่านเรื่ีองนี้ตอนรีไรท์ใหม่


โดยรวมชอบเรื่องนี้มาก แต่ที่เคยอ่านเวอร์ชั่นเก่า คาใจเรื่องของแอ้กับสรจักร อ่านถึงตอนนั้นแล้วไม่อยากอ่านเลย อยากให้มีแต่แอ้ดิวค่ะ คู่นี้เขารักกันมาแต่เด็ก ฟันฝ่าอุปสรรคมาก มีลูกกันก็ตั้งหลายคน ไม่น่าจะไปมีประเด็นกิ๊กกั๊กนอกกาย นอกใจเลย ยอมรับว่าหัวโบราณ รับเรื่องพวกนี้ไม่ได้เลย

ถ้าคนเขียนรีไรท์ใหม่แล้วตัดเรื่องราวของแอ้กับสรจักรออกไปนี่เราจะแฮปปี้และอินกับครอบครัวสุขสันต์ของแอ้และดิวเป็นอย่างมาก(คือดราม่านะมีได้ แต่อย่าหนักเลยค่ะ เห็นใจคนอ่านบ้าง)

 :mew1: ขอบคุณมากมายเลยที่ชอบคู่นี้ แอ้และดิว ตนแต่งก็ปวดใจกับภาคที่แล้ว เลยเอามารีไรท์ใหม่ มารื้อใหม่ พยายามให้ชัดเจนมาขึ้น พยามให้เห็นถึงความรักและร่วมฟันฝ่าอุปสรรค์มาด้วยกัน แม้จะมีช่วงผลัดพรากแต่ก็ยังรักกัน ส่วนตอนของสรจักรจะปรับแต่งไม่ให้แอ้ดูเป็นคนที่ผิด (แต่ต้องมีนิดหนึ่งนะอย่าเพิ่งหนีกันไปนะ เพราะว่าฉากนี้ดิวจะต้องไปทวงคนรักคืน )

 :L2: :L2: ให้รางวัลคนอ่าน น่ารักที่สุด

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
แอ้ ติ๊กไม่ได้มาโรงเรียนเลยผมพยายามโทรติดต่อ โทรศัพท์ก็อยู่กับพี่เอตลอดเลย พี่เอบอกว่าติ๊กยุ่งไม่สะดวกคุย เพราะว่ากำลังถ่ายละคร พี่เอบอกว่าหลังจากเลิกกองจะให้ติ๊กโทรหาแต่ติ๊กมันก็ไม่โทรหาผมเลย จะโทรไปตอนนี้ก็คนละเวลากันแล้ว ติ๊กบินไปถ่ายละครถึงกรุงโรมเลย

“แอ้ นี้พี่ดรีมโทรมาว่าช่างเข้ามาทำห้องนอนให้เซนและแซนแล้วนะ “ ดิวเดินเข้ามาในห้องนอน หลังจากที่อาบน้ำเรียบร้อยแล้วผมรีบวางโทรศัพท์ลง

“โทรหาติ๊กเหรอ “ ดิวถามผม ผมพยักหน้าว่าใช่ ผมเป็นห่วงติ๊ก

“ติ๊กไม่รับโทรศัพท์แอ้เพราะไม่อยากคุยหรือเปล่าก็ไม่รู้ “ ผมพูดผมเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ ผมเปิดลิ้นชักออกมา ผมรู้สึกว่าเหมือนมีใครมาค้น ผมก็หยิบกล่องเล็กๆ ที่ผมใส่เมมโมรีการ์ดที่ดิวมันดันอัดคลิปผมกับดิวตอนที่กำลังอิบ อิบกัน ที่มัลดิฟไว้ และตอนนี้มันไม่อยู่

“ดิว เอาเมมโมรีไปหรือเปล่า “ ผมหันมาถามดิว ดิว หันมามองหน้าผม

“ไม่นิ แอ้ ทำไมอะ หายไปเหรอ “ ดิวถามผม ผมพยักหน้าผมรีบรื้อค้น ไม่น่าจะหายไปนะ

“มันอาจจะอยู่ในกระเป๋าเดินทางที่เอาไปมัลดิฟก็ได้นะ เดี๋ยวอาทิตย์นี้กลับไปดูที่บ้านก็ได้ “ ดิวพูด ผมไม่แน่ใจแต่ผมเชื่อว่าไม่มีใครเข้ามาค้นของในห้องแต่ละคนแน่ๆ ผมพยักหน้า

“นอนได้แล้วมั้ง ง่วงแล้งอะ อยากกอดแย่แล้ว “ ดิวทำเสียงอ้อนผม ผมพยักหน้า ผมเดินไปปิดไฟห้องนอน ดิวก็เปิดไฟดวงเล็กๆ ทันทีที่ผมล้มตัวลงนอน ดิวก็ดึงผมเข้าไปกอดทันที

“แอ้ดิว มีความสุขที่สุดเลย เรานี้สุดยอดนะ ลูกด่ก ดก “ ดิวมันพูดผมนี้แอบค้อน

“เซนเป็นยังไงบ้างดิว “ ผมถามดิว ผมถามถึงน้องเซน

“น้องเซนกับน้องแซนไปเรียนที่ศูนย์แล้วนะ พี่ดรีมบอกว่าเข้ากับเพื่อนๆได้ดีครูบอกว่าเข้าป.1ได้เลยนะ “ ดิวบอกผม ผมดีใจจังเลย

“ฟู่ “ ผมได้ยินเสียงดิว ถอนหายใจออกมาไม่ดังมาก

“ดิวถอนหายใจทำไมเหรอ” ผมถามดิว ดิวมองผม

“ดิวคิดถึงเด็กสองคนที่เราช่วย ไม่รู้ว่าสภาพจิตใจจะเป็นยังไง เขาเสียทั้งพ่อและแม่ไปพร้อมๆกัน “ ดิวพูดขึ้น ผมหันไปมองดิว

“เขาคงตามหาญาติได้แล้วแหละดิว ไม่เห็นเจ้าหน้าที่โทรหาดิวเลยนิ “ ผมพูดดิวพยักหน้า

“นอนเถอะดิว พรุ่งนี้ได้ตื่นไปเรียน “บอกดิว ดิว กอดผมไว้ดิวหอมแก้มผม ผมพลิกตัวเองหันมามองดิว ดิวก้มลงประกบปากผม เราจูบกันสักพัก

“วันนี้เพลียมาก วันนี้พี่เดฟพี่เอ็กซ์เทรนโคตรหนักเลย พรุ่งนี้ค่อยทำการบ้านนะ “ ดิวพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ ผมพยักหน้า ผมพลิกหันไปผมก็ค่อยหลับตาลงช้า ช้า
********************************************************************************************************************




คืนแรกกับความฝันของแอ้
         ความรู้สึกเจ็บปวดเจียนตาย เจ็บปวดที่ท้องที่ยืนนูนขึ้นมา เวลาปวดขึ้นมาทีนี้แทบขาดใจเลย  ปวดบีบเหมือนปวดเกร็งในช่องท้อง เหมือนเวลาที่ทานอะไรเข้าไปแล้วอาหารเป็นพิษ ปวดเหมือนมีอะไรมีบีบท้องไว้และคลาย บีบและก็คลายอยู่แบบนั้น

“โอ้ยย  โอ้ยยย “ คนที่ร้องอยู่ในสภาพกึ่งนั่งกึงนอน ร้องโอดครวญใหญ่เลย

“อ้าวพวกเอ็ง รีบผูกผ้าเข้าซิ คุณกิ่งแก้วเธอจะคลอดแล้ว “ เสียงคนแก่วัยเกือบห้าสิบร้องบอกผู้คนรอบข้างที่วุ่นวายหยิบโน้นหยิบนี้

“แม่กิ่งแก้วเจ็บท้องเหรอ ยายอุ่น“ ผู้หญิงแต่งตัวดีทรงผมบ่งบอกได้ว่าคนละระดับกับหญิงวัยกลางคนที่กำลังคลำท้องคนที่นอนร้องควรคราง นี้ผมกำลังเจ็บท้องเหรอ และคนหญิงสาวที่มาดูอาการ ก็จับมือพร้อมกุมไว้ หน้าตาละหม้ายคล้ายคนที่ผมคุ้นเคย แต่ด้วยทรงผมและเรือนร่างที่เป็นผู้หญิง ผมกับเห็นใบหน้า ติ๊ก

“ค่ะคุณชมจันทร์ คุณกิ่งแก้วเธอจะคลอดแล้วนะค่ะ “

“แม่กิ่ง เธอจะให้ลูกคุณพี่อีกแล้วนะ ฉันดีใจแทนแม่กิ่งจัง ฉันไม่บุญเลย แม่สักคนฉันก็ยังไม่มี “

“วันนี้วันดีมากนะเจ้าค่ะ วันนี้เป็นวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือนห้า “ เสียงผู้หญิงแก่ตอนนี้ผ้าถูกห้อยลงมาหญิงวัยกลางคนจับมืผมไปกำผ้าที่ผูกไว้กับขื่อ เขาฟันไว้กับมือผมด้วย

“แม่กิ่งฉันรอด้านนอกนะ “ เสียงหญิงสาวที่นั่งข้างๆ บอกคนที่กึงนั่งกึ่งนอน ขาที่ตั้งขึ้นและกางออก มันเจ็บปวดจนเจียนตายเหลือที่ไหลรินออกมาตามผิวหนังเพราะไอความร้อนจากหมอดินที่ถูกตั้งไว้ข้างเพื่อให้ได้รับไอร้อน

“แม่กิ่งเบ่งเลย หัวออกมาแล้ว คุณหนูของบ่าว “

“อืมมมม เออะๆ แฮกๆ อืมมมมม โอ้ยยย “

“อุแหว๊ๆ อุแหว๊ “ เสียงเด็กน้อยร้องออกมาดังลั่นไปหมด ร่างที่อ่อนเพลียถูกจับให้นอนราบลงกับพื้น ตอนนี้ควาเจ็บปวดได้อันตะทานหายไปแล้ว

“เมียข้าอยู่ไหน เมียข้าคลอดลูกแล้วใช่ไหม “ เสียงขุนพิทักษ์ แม่ทัพฝ่ายหน้าร้องถามบ่าวในเรือนทันที

“แม่อุ่น แม่กิ่งเมียข้าให้ลูกหญิงหรือลูกชาย”

“ลูกชายเจ้าค่ะ ท่านขุนพิทักษ์“

“ลูกชายรึ ไหนข้าดูซิ “

“รอให้นางอ๊อด เอาไปอาบน้ำอาบท่าก่อนดีกว่าไหมเจ้าค่ะ มีแต่คราบเลือด ไม่น่าอุ้มหรอกเจ้าค่ะ “

“เออๆเร็ว ๆ นะ “

“แม่กิ่ง “

“พี่พิทักษ์ ฉันให้ไม่ได้ให้ลูกสาวพี่อีกแล้ว “

“ไม่เป็นไรแม่กิ่ง ไว้เราทำกันใหม่นะ “

“พี่จะทำอีกเหรอจ๊ะ “

“เอานะ แต่พี่จะรอให้เอ็งแข็งแรงก่อน นี้เพิ่งจะห้าคนเอง ทำจนกว่าจะได้ลูกสาว ไว้เชยชม “

“ฟ๊อด”เสียงหอมเสียงดัง คนที่นอนหันไปมองคนที่ยืนด้วยสายตาที่เจ็บปวด

“อ้าวชมจันทร์ มาดูกิ่งด้วยรึ” ขุนขุนพิทักษ์หันไปถามคนที่ยืน ที่ไม่เคยได้รับความรักความเอาใจใส่แม้แต่น้อยจากผู้ชายที่ได้ทำหน้าที่เป็นแม่พิทักษ์ของค่ายเลยสักนิด

“ก็แม่กิ่งให้ลูกกับพี่พิทักษ์น้องจึงเป็นห่วงจึงตามมาดูมาแล เดี๋ยวพี่พิทัพษ์ก็จะหาว่าน้องนี้ใจจืดใจดำ และน้องก็จะกลับเรือนแล้ว พี่จะขึ้นไปทานข้าวบนเรือนกับน้องหรือไม่”

“ไม่ละ ข้าจะดูแลเมียข้า เอ็งทานได้เลยไม่ต้องรอข้า “

“พี่ “ กิ่งสะกิดเตือนผู้เป็นสามี ถึงอย่างนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียของสามีเธอเช่นกัน

“เอ็งเจ็บข้าจะดูแลเมียข้า “  สายตาคนที่เจ็บปวดมันช่างเหมือนมาก เหมือนสายตาของติ๊ก นี้ผมคือคนที่นอนคลอดลูกเหรอ

“มาแล้วเจ้าค่ะท่านขุนพิทักษ์ ลูกชายเจ้าค่ะ”

“ไหน หน้าตาหวานราวหญิงสาวเลยนะลูกชายข้า”

“อย่าพูดอย่างนั้นซิเจ้าค่ะ ต้องบอกว่าหน้าเกลียดหน้าชังนะเจ้าค่ะ เขาห้ามชมเด็กเล็กกันนะเจ้าค่ะ มันไม่ดีเจ้าค่ะ “

“แม่กิ่งดูหน้าลูกชายข้าซิ หน้าตาหวานราวกับเจ้าเลยนะ ดีนะที่มีไอ้จู๋ไม่งั้นคิดว่าเป็นลูกสาวข้าแน่ๆ ฮาๆ “

“ข้าให้ชื่อเคเชนทร์  ข้าได้ช้างเผือกจากในป่ามาหนึ่งเชือก ดังนั้นข้าจึงให้ลูกชายข้าว่าเคเชนทร์ “ผู้ชายที่แต่งตัวเหมือนทหารในวัง ผมก้มหน้องใบหน้าเด็กน้อยเขาช่างเหมือน เหมือนน้องเซนมากผมคิดว่าน่ะ ผมเอี้อมไปแนะหน้าเขา

“แม่กิ่งฉันเจ็บปวดที่คุณพี่ดูแลและรักแต่แม่กิ่ง ทำไมฉันถึงไม่มีบุญได้อุ้มลูกกับเขาบ้าง คุณพี่คงรักฉันบ้างนะแม่กิ่ง “เสียงนี้ก่องอยู่ในหัวผม

“แฮ้กๆ “ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นซะก่อนเด็กทีผมอุ้มไว้ในอ้อมกอดและผมเองยังเป็นคนคลอดเขาเองอีกและเสียงของความเจ็บปวดของอีกคนที่ไม่ได้รับความรักจากชายที่ตัวเองรัก

“แอ้ “ ผมสะดุ้งอีกครั้งดิว สะกิดเรียกผม พร้อมหันไปเปิดไฟที่หัวเตียง ดิวมองผม

“เป็นอะไรไปแอ้ ดูซิเหงือแตก ร้อนเหรอ แต่แอร์ก็เปิดอยู่นะ “ ดิวถามผม ผมกำลังกลืนน้ำลายลงคอ ผมฝัน ฝันว่ากำลังคลอดลูกและ มีผู้หญิงที่มีแววตาเศร้าสร้อยจากการที่คนรักไม่ดูแลหรือสนใจเขาเหมือนติ๊กมาก และคนที่เป็นพ่อของเด็กที่ผมให้กำเนิดก้เป็นดิว หรือว่าเราคิดมากไปจนเก็บไปฝัน

“ว่าไงแอ้” ดิว

“ฝันนะ “ ผมพูด

“ฝันร้ายเหรอ แอ้ “

“ก็ไม่เชิงอะ ไม่เป็นไรแล้วดิว “ ผมพูดดิวเอามือมาปาดเหงือที่หน้าฝากผมออก

“ดิวไปเอาน้ำมาให้นะ “ ดิวพูดและเดินออกจากห้องไป ลงไปเอาน้ำมาให้ผม ผมก้มลงมองพุงผมเอง ผมเคยให้กำเนิดเขาจริงเหรอ ๆ  ดิวถือแก้วน้ำเข้ามาและส่งให้ผม ผมรับมาดื่ม

“ดีขึ้นไหมแอ้ ฝันเรื่องอะไรอะ ปกติแอ้ก็ไม่ค่อยฝันนะ “ ดิวถามผมด้วยความเป็นห่วง

“ช่างมันเถอะ” ผมตัดบทเพราะว่าถ้าผมเล่าไปดิวคงบอกว่าผมคิดเรื่องติ๊กและเรื่องเซนมากไป จนเอามาประติดประต่อ ผมก็ล้มตัวลงนอนต่อ
-
-
-
 ความฝันคืนที่สอง ผมหลับตาลง หลังจากเสร็จภาระกิจเรื่องบนเตียงกับคนที่นอนข้างๆ พอเสร็จก็แสนจะเพลีย ดังนั้นทันทีที่หัวผมถึงหมอนก็หลับปุ๋ยเลย
  “คเชนทร์ มาหาแม่ซิลูก” เสียงหญิงสาวร้องเรียกเด็กชายที่กำลังหัดเดิน เด็กน้อยผมจุก ไม่ได้สวมเสื้อสวมแค่กางเกงหมือนจูงกระเบน หรือชุดของกุมารทองสมัยนี้วิ่งเล่นตอนนี้อุ้มท้องโยอีกคน

“คุณกิ่งเจ้าค่ะ อิฉันพาแม่เรียม จะให้มาดูแลคุณคเชนทร์ ลูกคุณกิ่งนะเจ้าค่ะ”ผมหันไปมองผู้หญิงที่ผมจะเอาดูแลลูกผม ลูกๆ อีกสี่คนกำลังวิ่งเล่นกันอยู่ ผมมองผู้หญิงที่ก้มกราบผม ทันทีที่เงยหน้าขึ้น ผมเห็นใบหน้าแม่ของเซนซ้อนขึ้นในความฝัน

“อิฉันจะดูแลคุณหนูด้วยชีวิตของอิฉันเลยเจ้าค่ะ “ ผมพยักหน้า และคเชนทร์กับแม่เรียมดูเข้ากันได้ดี แม่เรียมดูแลได้ดีเหลือเกิน

“ฉันเจ็บปวดเหลือเกิน แม่กิ่ง คุณพี่ไม่ขึ้นไปดูดำดูดีฉันเลบ แม่กิ่ง ฉันควรทำยังไง “ น้ำตาคนที่เจ็บปวดเพราะความรัก

“ฮือๆ “ เสียงร้องไห้สะอึกสะอื่น

“แอ้ แอ้ เป็นอะไรแอ้ “ ผมสะดุ้มสุดตัวดิวเรียกผม

“เป็นอะไรร้องไห้ทำไม แอ้ “ ดิวถามผม ผมส่ายหัวว่าไม่ได้ร้องนิ มือดิวมาแตะแก้มผม แก้มผมเปียกจริงๆด้วย ผมร้องไห้กับความฝันตัวเองเหรอ

“ฝันอีกแล้วเหรอ แอ้ต้องเล่าให้ดิวฟังแล้ว สองคืนติดแล้วนะ มีอะไรหรือเปล่าเครียดมากไปหรือเปล่าแอ้ หึ!” ดิวถามผม ผมส่ายหัวว่าไม่มีนิ มีแค่เรื่องติ๊ก ผมมองหน้าดิว ผมควรจะเล่าดีไหม

“แอ้ฝัน ฝันตัวเองเป็นผู้หญิง ฝันว่าแอ้ คลอดลูก และเด็กคนนั้นหน้าตาเหมืนเซนเลยดิว มันเป็นยุคต์ไหนแอ้ไม่แน่ใจ เหมือนในเรื่องสีแผ่นดิว หรือนางทาสอะไรประมาณนี้ดิว “ ผมเล่าให้ดิวฟังดิวทำหน้าเหวอและ

“ฮาๆ  แอ้ ดูหนังมาไปหรือเปล่า โอ้ยย อันนี้ไม่ใช่ฝันร้ายนะแอ้ “ดิวซิขำผมใหญ่เลย

“ในฝันมีดิวด้วยนะ แต่งชุดเหมือนขุนศึก ประมาณนั้น” ผมพูดเบาๆ

“ฮาๆ  ชัดเลยหนัง ไม่พระณเรศรก็เรื่องบางระจันแน่ๆ แอ้ ดูหนังมากไปแอ้ ฮาท้องแข็งเลยนะ เนี๊ยะ” ดิวมันขำผมเป็นขำผมตายเลยนะ

“และแอ้ยังฝันถึงติ๊กอีกด้วยนะ “ผมหันมามองในยุคต์ผู้ชายมีเมียได้หลานคนนี้มันมีเมียทีเดียวสองคนเลยเหรอ ผมหันขวับไปมองดิว ดิวสะดุ้งมองหน้าผม

“ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ “ ผมตีด้วยหมอนที่ผมใช้หนุ่นนี้มันมีเมียสองคนเลยเหร “โอ้ยย หยุด แอ้ ตีดิวทำไม ไปทำอะไรให้ เดี๋ยวซิ ใส่ไม่ยั้ง1เลย” ดิว   “หมับ” แขนผมถูกจับให้หยุดตี ผมลืมตัวตีดิวไปซะหลานทีเลย

“ฝันอะไรเกี่ยวกับติ๊กแล้วมาตีดิวทำไม เจ็บนะเนี๊ยะ” ดิวบ่นผมอุบเลย

“นอนเถอะแอ้ มันแค่ความฝัน ช่วงนี้แอ้คงกังวลมากไป กังวลหลายเรื่องเลย ไหนจะเรื่องเซน ไหนจะเรื่องติ๊กอีก สงสัยต้องหาอะไรให้แอ้ทานมั้งแล้วลดความเครียดบ้าง “ ดิวบ่นผม ผมค่อยเอนตัวลงนอนอีกครั้งทำไมผมฝันได้ประติดประต่อกันแบบนี้ละ

ความฝันคืนที่สาม ผมไปออกงานกับขุนพิทักษ์(ก็คือดิว) ในเมืองหลวงไปพร้อมกับแม่ชมจันทร์ แต่พี่ขุนพิทักษ์หันมาดูแลแต่ฉัน ทำไมพี่ขุนพิทักษ์ถึงไม่รักแม่ชมจันทร์เท่ากับที่พี่รักฉันละ สายที่เจ็บปวดมันทำให้ฉันนี้ไม่ได้มีความสุขไปด้วยเลย

“เกิดอะไรขึ้นนะพี่ขุนพิทักษ์” ทันทีที่เรือสำปั้นมาเทียบจอดที่บ้าน บ่าวมากมายกำวุ่นวายเหมือนงบหาอะไรสักอย่าง ตอนนี้น้ำท่วมตลิ่งเพราะว่าเป็นหน้าน้ำหลาก

“เกิดอะไรกันขึ้นพวกมรึงลงไปทำอะไรกันในน้ำนั้นรึ” พี่ขุนพิทักษ์ถาม

“คุณท่านค่ะ คุณหนูคเชนทร์ร้องลงไปนั่งเรือเล่นกับแม่เรียมเจ้าค่ะ และเรือเกิดล้มเจ้าค่ะ “ พอได้ยินแบบนั้นคนเป็นแม่ถึงกับหัวใจสลาย กิ่งล้มทั้งยืนดีที่ขุนขุนพิทักษ์รับร่างเธอไว้

“กิ่ง กิ่ง “ ขุนขุนพิทักษ์

“พี่ขุนพิทักษ์ ลูกฉัน “

“ลูกไม่เป็นอะไรหรอกแม่กิ่ง “ ขุนขุนพิทักษ์ตอบภรรยา

“เจอแล้วเจ้าค่ะ “ คนที่งบอยู่ในน้ำ อุ้มร่างลูกชายของแม่กิ่ง (น้องเซน) ที่ตัวซีดเผือกขึ้นพร้อมกับร่างของแม่เรียมอีกคนที่ไม่มีลมหายใจแล้วเช่นกัน

“ฮือๆ  ลูกแม่ ฮือๆ “

“ตอนที่งมอยู่ ร่างแม่เรียมกอดคุณหนูไว้แน่นอยู่ใต้เรือที่คว่ำขอรับ “ บ่าวผู้ชายพูด

“แม่เรียมไหนบอกจะดูแลลูกฉันไง ฮือๆ  “ ผมร้องไห้ออกมา ผมเหมือนไขว้ขวาหาลูกผม ตอนนี้ภาพนั้นหายไปแล้ว

“คุณแอ้ คุณแอ้ ฉันขอโทษที่ฉันดูแลเขาไม่ดี ฉันพาเขามาคืนให้คุณ เขารักคุณมากนะค่ะ ฉันฝากลูกเซนด้วย ไม่ซิ เขาไม่ใช่ลูกฉัน เขาเป็นลูกคุณ “

“อย่าเพิ่งไปซิครับ อย่าเพิ่งไป แม่น้องเซนอย่าเพิ่งไป “

“แอ้ แอ้ แอ้ “ ดิวเรียกผมจนผมได้สติ ผมนั่งอยู่และผมเหมือนพยายามเรียกใครไว้ที่ตรงปลายเตียงผม ดิวมองหน้าผม

“ฝันอีกแล้วเหรอแอ้ และนี้เรียกใครอย่าเพิ่งไป “ ดิวถามผม ผมหันมามองดิว ดิวรีบ หยิบกระดาษทิชช้าซับเหงือที่หน้าผม

“แม่ของเซน เขาอยู่ปลายเตียงนี้ไงดิว เขาบอกว่าเขาดูแลเซนไม่ดีในชาติก่อน นี้เขาเอามาคืนให้แอ้ ดิว แอ้ ยังฝันอีกนะว่าเซน จมน้ำ ดิว ดิว แอ้เป็นห่วง โทรหาพี่ดรีมได้ไหมดิว “ ผมพูดด้วยน้ำเสียงละล้ำละลัก

“เว้ยย แอ้พูดเป็นเล่นนะ “ ดิวร้องออกด้วยความตกใจดิวรีบเปิดไฟในห้องทันที และกลับขึ้นมาบนเตียง

“แอ้ แอ้ ใจเย็นๆ ตอนแอ้ก็คุยกับลูกๆแล้วนิ “ดิวกอดผม ผมเหมือนเหนื่อยมากหายใจหอบด้วย คงเพราะอเดนาลีนในร่างกายผมมันสูบฉีดมากจากความฝัน

“แอ้ไม่มีอะไร แอ้คิดมากไป ดิวต้องถามพ่อแล้วว่าเอาอะไรให้แอ้กินดี แอ้ดูเครียดมากเกินไปแล้ว แอ้เล่นเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาประติดประต่อฝันกันขนาดนี้เลยนะแอ้  “ ดิวปลอบผม ดิวเอามือมาลูบหลังผมแต่ก็มีแอบบ่นผม ผมเครียดมากไปจริงเหรอ ไม่เห็นมีท่าทีว่าผมจะเครียดอะไรเลยนะ  ผมเริ่มสงบลง 

“ดื่มน้ำไหมแอ้ ดิว ...”ดิวบอกว่าจะลงไปเอาน้ำให้ผม แต่ผมยกมือว่าผมโอเค ดิวก็ค่อยดันผมนอนลง ดิวกอดผมทันที ผมคิดมากไปจนเอาไปฝันเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้เลยเหรอ แต่ความฝันสุดท้ายนี้แม่ของเซนมายืนที่ปลายเตียงนี้จริงๆนะ

“หมับ “ ดิวกอดผมจากด้านหลัง  “นอนพักได้แล้วแอ้ ดิวรักแอ้นะ ดิวเป็นห่วงนะแอ้ “ ดิวพูดและพร้อมจับมือผมไปหอมเบาๆสองผมค่อยหลับตาลงอีกครั้ง ผมจะไม่ทิ้งน้องเซนเด็ดขาด ผมจะรักเขาให้เหมือนที่ผมรักลูกผม ผมสัญญา

***********************************************************************************************************************

ดิว ผมตื่นมาตอนเช้าเหมือนทุกวัน วันนี้เป็นวันที่สามแล้วนะที่แอ้ฝัน ถามว่าผมกังวลก็กังวลนะ กลัวก็กลัว นี้มันเกิดอะไรขึ้นกับผมและแอ้กันแน่ ผมคิดว่าแอ้เครียดมาเกินไป

“ดิว แอ้มันเป็นอะไรวะสีหน้าไม่ค่อยดีมาสองสาววันแล้วมรึง “ ไอ้เดี่ยวมันถามผม ไอ้เดี่ยวพอไอ้ติ๊กไม่อยู่มันก็ไปนัวเนียไอ้ปูต่อไอ้นี้ แต่ผมอยากให้มันเลือกคนที่รักมันดีกว่านะ ผมหันมามองไอ้เดี่ยว

“แอ้ฝันร้ายนะ “ ผมพูดกับไอ้เดี่ยว

“ตกลงมรึงรับเด็กที่มาเรียนเทควันโดกับแอ้ เป็นลุกจริงๆเหรอวะ “ ไอ้เดี่ยวมันถามผม ผมพยักหน้าว่าใช่ แอ้เดินขึ้นมาแล้ว แอ้ไปห้องน้ำกับต้นข้าวและบลู เห็นว่าอาทิตย์หน้าแล้วซิที่ต้นข้าวกับบลูต้องไปเรียนที่กรุงเทพกัน

“แอ้ “ ผมเรียกแอ้ แอ้นั่งลงข้างผมในห้องเรียน

“ประกาศ นายศักรินทร์และนายศุภมงคลเชิญที่ห้องครูใหญ่ตอนนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ “ เสียงประกาศตามสายเรียกผมกับแอ้ไปพบที่ห้องครูใหญ่ ก็คือห้องพี่ตุ๊นั้นเอง ผมสองคนลุกขึ้น

“เห้ยทำไมอาทิตย์นี้มรึงเข้าออกห้องพี่ตุ๊เป็นว่าเล่นเลยวะ “ ไอ้หลุยส์มันถามผม ทุกคนมองผมสองคน ผมเดินออกมาเกิดอะไรขึ้นอีกนะ แอ้ดูสีหน้ากังวลมากขึ้นกว่าเดิมอีก ผมกุมมือแอ้ไว้

“ก๊อกๆ “ผมเคาะประตูห้องพักพี่ตุ๊ และเปิดเข้าไปทันทีผมเข้าไปในห้อง มีเจ้าหน้าที่ ผมดูจากเครื่องหมายมาจากกรมประชาสงเคราะห์ 

“นั่งลงซิศักรินทร์ ศุภมงคล “ พี่ตุ๊บอกผม ผมยังทำหน้างงอยู่เลยมีเรื่องอะไรอีก

“นี้เป็นเจ้าหน้าที่กรมประชาสงเคราะห์ ที่รับเด็กสองคนที่เราช่วยไว้ไปดูแล เด็กสองคนนั้นไม่มีญาติทีไหน เพราะว่าพ่อของเด็กกับแม่ของเด็กเพิ่งจะแต่งงานกัน เขามีลูกติดมาด้วยกันทั้งคู่ “ พี่ตุ๊บอกผม เด็กที่ผมช่วยไว้วันก่อน

“พ่อของเด็ก เพิ่งย้ายมาจากภูเก็ตเขาศูนย์เสียครอบครัวไปตอนเกิดสึนามิ และแม่ของเด็กก็ไม่มีพ่อแม่หรือญาติพี่นอ้ง มีแค่ยายเขาก็เสียไปนานแล้วและเขาก็เลิกกับสามีหลายปีแล้ว จนมาเจอกันเลยมาแต่งงานกันและในวันที่เขาจะย้ายไปประจำเป็นครูชายแดนกันก็ดันเกิดอุบัติเหตุซะก่อน”พี่ตุ๊เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างเจ้าหน้าที่คงไปสืบมานั้นเอง

“แล้ว” ผมจะเอ่ยถามพี่ตุ๊

“เด็กนั้นไม่ยอมที่จะอยู่ที่ศูนย์เลย เขาอยากเจอคุณสองคนตอนนี้  “ เจ้าหน้าที่บอกผม ผมหันไปมองหน้าแอ้

“เธอสองคนจะไปหรือไม่ตามใจนะ พี่ไม่บังคับ “พี่ตุ๊บอกผม ผมหันมามองหน้ากันอีกที

“ผมไปดูก่อนแล้วกันพี่ตุ๊” ผมพูด เจ้าหน้าที่พยักหน้า ผมลุกขึ้นและออกไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ผมนั่งรถตู้ออกไปกัน เด็กสองคนนั้นอยากเจอผมกับแอ้เหรอ บางที่ผมก็คิดว่ามันเป็นเรื่องของโชคชะตาหรือความบังเอิญกันแน่ แถมเกิดขึ้นติดติดกันเลยตั้งแต่เซน และแซนและเด็กสองคนนี้อีก แถมแอ้ยังมาฝันอะไรก็ไม่รู้  ไม่จริงนะ มันไม่มีอะไรพิสูจน์ได้สักหน่อย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-07-2015 14:46:29 โดย PFlove »

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
สงสัยจะได้ลูกเพิ่มอีกแล้วแน่เลย

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :really2: ครอบครัวลูกดกจริงๆได้มาอีกสองแน่ๆ

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
        ผมไปที่สำหนักงานกรมประชาสงเคราะห์ที่ดูแลและคุ้มครองเยาวชน ผมเดินเข้าไปด้านในสำหนักงาน มีหลายหน่วยงานตั่งอยู่ในตึกนี้ ผมเดินตามเจ้าหน้าที่เข้าไป 

“น้องเขาอยู่ห้องโน้นค่ะ “ เจ้าหน้าที่ในนั้นบอกผม ชี้ไปอีกห้องหนึ่ง ผมเดินไปกับแอ้ ผมมองผ่านกระจก เห็นนั่งกันหน้าหง๋อยเลย อีกคนที่ได้รับบาดเจ็บมีผ้าก๊อซแปะหัวไว้

“ชื่อซีอายุ 8 ปี กับ 3 เดือน และอีกคนชื่อแซ๊ก อายุ 8 ปี พอดี “ เจ้าหน้าที่ส่งแฟ้มให้ผม ผมพยักหน้า และเปิดประตุเข้าไปด้านใน เด็กสองคนมองหน้าผม

“จะให้เจ้าหน้าที่อยู่ด้วยไหมค่ะ” เจ้าหน้าที่ถามผมสองคน

“ไม่ดีกว่าครับ ผมคุยกันเองดีกว่า “ ผมบอกแอ้และผมนั่งลงตรงหน้าเด็กที่ผมช่วยไว้วันก่อน

“คุณทำไมไม่ช่วยแม่ผม “ เด็กคนที่ชื่ซีถามผม

“คุณรู้ไหมว่าชีวิตผมสองคนเป็นยังไง “ ซียังคงยิงคำถามใส่ผม ไม่หยุด ผมหันมามองแอ้

“ซี ฉันรู้ว่านายคิดว่ามันเป็นความผิดชองฉันสองคน แต่ฉันก็พยายามช่วยเขาแล้วนะ ฉันขอโทษ” ผมพูดกับคนที่ถามผม น้ำตาทั้งคู่ไหลรินลงมาอาบแก้ม

“นายสองคนไม่อยากไปอยู่ที่ศูนย์ใช่ไหม” แอ้ถามซีและแซ๊ก

“ผมไม่อยากไปอยู่ที่นัน ฮือ ๆ ผมไม่อยากเป็นเด็กกำพร้า ฮือๆ  “ ซีพูดและปากน้ำตาที่อาบแก้มผมหันมามองหน้าแอ้

“ไปกับฉันไหม “ ผมถามซี ซีเงยหน้ามองผมและแอ้ น้ำตายังไหลริน

“ไปอยู่กับฉันไหม ฉันยินดี ที่จะดูแลเธอสองคนนะ “ ผมพูดกับซีและแซ๊ก แอ้พยักหน้าว่ายินดีนะ

“เอาเป็นว่าฉันจะรับรองดูแลเธอทั้งคู่ ให้ได้เรียนหนังสือ “ ผมพูดและลุกขึ้น แอ้หันมามองผม ผมเดินออกไปที่หน้ห้อง ผมเดินตรงไปหาเจ้าหน้าที่คนที่พาผมเข้าไปคุยกับซีและแซ๊ก

“ผมคุยกับเด็กแล้วผมยินดีจะดูแลเขาทั้งคู่และเขาสองคนก็ยินดีที่จะไปอยู่กับผมและครอบครัว   “ ผมบอกเจ้าหน้าที่แน่นอน เขาต้องมองว่าผมยังเป็นนักเรียนอยู่เลยจะดูแลได้อย่างไร

“ผมจะโทรให้พ่อผมมารับรองอีกที พลเอก นายแพทย์ ภาณุเดช “ ผมบอกเขาผมก็หยิบมือถือขึ้นมา ผมเล่าให้พ่อผมฟังแล้วว่าผมได้ไปช่วยเด็กไว้สองคน แต่ผมไม่รู้ว่าเขาจะเป็นยังไงตามหาญาติได้ไหม

“พ่อ “ผมเรียกพ่อผม

“งานเข้าอีกแล้วหรอลูกกรู “ พ่อผมฟังจากน้ำเสียงผม

“พ่อจำที่ผมเล่าได้ไหมพ่อว่าผมไปช่วยเหลือเด็กที่รถชนหลักกิโลเมตรข้างทางและพ่อแม่เขาเสียชีวิตตรงนั้นเลย พ่อตอนนี้เจ้าหน้าที่ติดต่อหาผม เด็กสองคนนั้นอยากเจอผมและแอ้ เขาไม่อยากไปอยู่ที่ศูนย์ ผมจะรับรองพาเขาไปอยู่กับเราได้ไหมพ่อ ผม...” ผมพูดอธิบายให้พ่อผมฟัง ยังไม่ทันได้จบ

“ได้ซิ แล้วเราจะรับรองเขาได้ไหม ให้พ่อไปไหม พ่อกำลังจะกลับจากโรงพยาบาลจังหวัด อีกสามสิบนาทีถึงแยกที่ไปโรงเรียนเรานั้นแหละ “พ่อผมบอกผม

“ครับพ่อผมอยากให้พ่อมารับรองเพราะว่าเขาไม่เชื่อว่าผมจะดูแลเด็กสองคนนี้ได้ งั้นดิวรอพ่อที่นี้นะ เจอกันครับพ่อ “ ผมพูดด้วยความดีใจ ผมกดวางสาย และหันไปหาเจ้าหน้าที่

“พ่อผมกำลังเดินทางมา อีกสามสิบนาที “ผมบอกเจ้าหน้าที่

“งั้นดิฉันจะเตรียมเอกสารไว้ให้เลยนะค่ะ “ เจ้าหน้าที่บอกผม ผมเดินเข้าไปในห้องที่เด็กสองคนนั่งอยู่แอ้ก็นั่งอยู่ดูเด็กสองคนหยุดร้องไห้แล้ว

“รอพ่อภามารับรองให้อีกทีแอ้ “ ผมบอกแอ้ แอ้พยักหน้า ผมมองเด็กสองคนดูท่าทางอิดโรย

“หิวข้าวกันไหม ระหว่างรอคุณปู่ไปอะไรกินกันก่อนดีกว่า “ผมบอกเด็กๆและแอ้ เพราะว่านี้มันเที่ยงแล้วด้วย เด็กๆลุกตามผมสองคนออกมา

“ผมจะพาเด็กไปหาอะไรทานที่ร้านอาหารใกล้ๆนี้ก่อนนะครับเพราะว่านี้เที่ยงแล้ว พ่อผมมาก็คงเข้ามาบ่ายโมงเลย ยังไงรอบกวนเตรียมเอกสารให้พ่อผมด้วยนะครับ ที่จะรับรองเด็กสองคนนี้” ผมบอกเจ้าหน้าที่ ผมเดินออกมาเดินไปที่ร้าน สำนักงานนี้ตั้งอยู่เป็นตึกแถว สามคูหาติดกันและด้านข้างมีร้านอาหารอยู่ ผมเข้าไปนั่งที่โต๊ะ เด็กๆเดินไปดูว่าจะทานอะไรดี ร้านนี้เป็นร้านข้าวราดแกง ครัวใต้ ก็คืออาหารใต้นั้นเอง ผมดูทางที่ซีสั่งอาหารเขาไม่ทานเผ็ดเลย ส่วนแซ๊กนี้แกงไตปลา แสดงว่าอยู่ใต้มาแน่นอน

“เราชื่อซีใช่ไหม “ผมถามคนที่ผมกอดรัดออกมาจากรถ คนนี้ใจเด็กมากผมเห็นผ้าที่พันมือคือเขาพยายามดึงเข็มขัดนิรภัยที่รัดตัวเขาไว้แน่นให้ออก จนมันบาดมือตัวเอง

“ครับ ผมชื่อซี ผมเป็นลูกแม่พิมพ์ ส่วนคนนี้ชื่อแซ๊ก เป็นลูกคุณอาอดุลย์ “ ซีบอกผมและแนะนำแซ๊ก ผมดูจากประวัติ ใช่ซีเป็นลูกติดผู้หญิง ส่วนแซ๊กเป็นลูกติดผู้ชายและทั้งคู่ก็ตกลงอยู่ด้วยกันพร้อมทำเรื่องย้ายไปเป็นครูชายแดนกันทั้งคู่

“ฉันจะรับเธอสองคนเป็นลูกฉันและ แอ้ “ ผมบอกเด็กสองคนมองผมกับแอ้สลับไปมา

“คุณสองคนเป็นแฟนกัน “ ซีถามผม

“ใช่แต่ แค่ยังเปิดเผยไม่ได้เท่านั้น แต่ฉันสองคนมีลูกๆที่บ้านอีกนะ เธออายุ 8 ขวบกันก็คงเป็นพี่คนโต และตอนนี้ฉันรอคุณปู่มาเซนรับรองว่าฉันสองคนดูแลเราได้” ผมพูดซีพยักหน้าและยังคงทานต่อ ดูท่านจะหิวใช่เล่นนะเนี๊ยะ

“นี้หิวขนาดนี้เลยเหรอ” แอ้ถามทั้งคู่

“ผมสองคนไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่เมื่อวาน “ ซีพูดแซ๊กพยักหน้าแถบจะไม่พูดเลย พูดน้อยต่อยหนักหรือเปล่านะ  ผมรอจนเด็กสองคนทานข้าวกันหมดจานแถมเบิ้นอีกต่างหากคนละสองจานเลยแหละ

“กริ้ง “เสียงกริงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมรีบกดรับสายทันทีพ่อผมโทรมาหาผม

“พ่ออยู่ไหน” ผมถามพ่อผม

“พ่อขึ้นมาบนสำนักงานแล้ว เจ้าหน้าที่เขาแจ้งว่าเราพาเด็กๆไปทานข้าว” พ่อผมถึงในสำนักงานแล้ว

“ครับพ่อผมจะไปเดี๋ยวนี้” ผมบอกพ่อผม และหันมามองซีและแซ๊ก

“เอิ๊ก” ซีเพลอเรอออกมาซะดังเชียวคงอิ่มมาก

“คิก คิก คิก กินอิ่มเกินไปจะปวดท้องเอานะ ซี “ แอ้ขำซี

“ผมขอโทษครับ “ ซีพูด ผมก็ลุกขึ้น

“แอ้พ่อมาแล้วอยู่ด้านในแล้วด้วย ไปครับคุณปู่มาถึงแล้ว” ผมบอกเด็กๆ ผมเดินไปจ่ายเงินค่าอาหารและพาเด็กสองคนเดินขึ้นไปบนสำนักงาน เจ้าหน้าที่เรียกผมเข้าไปในห้องประชุมเล็ก พ่อผมกำลังกรอกเอกสารอยู่ ผมกับแอ้ยกมือไหว้พ่อผมเป็นเรื่องปกติแล้ว

“ซี แซ๊ก ไหว้คุณปู่ซิ “ ผมบอกเด็กสองคน 

“หวัดดีลูก “พ่อผม รับไหว้ซีและแซ๊กและหันกลับคุยกับเจ้าหน้าที่ต่อ

“ลูกผมเขาสามารถดูแลเด็กสองคนนี้ได้แน่นอน เขาจะมีที่พักมีอาหารการกิน และได้เรียนหนังสือทำที่เขาอยากจะเรียน ผมขอยืนยัน” พ่อผมบอกกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงาน เขาก็พยักหน้าแน่นอน ตำแหน่งพ่อผมไม่ธรรมดาอยู่เป็นถึงผอ.โรงพยาบาลและ มีตำแหน่งในค่ายทหาร มันรับรองได้อยู่แล้ว

“จะรับเด็กไปวันนี้เลยหรือเปล่าครับท่าน”

“ดิวกับแอ้จะกลับที่บ้านเลยไหม “ พ่อถามผม เสาร์อาทิตย์นี้พี่เดฟ พี่เอ็กซ์ไม่มาเทรน พี่เดฟ กับพี่เอ็กซ์บอกว่าเพื่อนจะมาเลี้ยงที่จะไปฝึกอีกรอบ

“ว่าจะกลับพ่อ เออ ดิวมีเรื่องจะคุยกับพ่อเรื่องแอ้ “ ผมบอกพ่อ ผมพูดเชิงกระซิบกับพ่อผม พ่อพยักหน้า

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวท่านรอเอกสารจากเลขาฯผมสักครูนะครับ เดี๋ยวผมขอตัวพอดีมีเดินทางไปประชุมจังหวัด “ เจ้าหน้าที่พ่อผมคุยธุระอยู่ขอตัวไปทำงานของเขาต่อ ผมนั่งลงข้างๆพ่อ

“เดี๋ยวเราจะไปไหนกันอะครับ” ซี ถามขึ้น

“ไปอยู่บ้านคุณปู่ ไปเข้าห้องน้ำก่อนก็ได้นะ เอกสารเรียบร้อยเราจะเดินทางกันเลย “ ผมบอกซี ซีหันไปมองแซ็ก

“มรึงจะไปห้องน้ำเปล่า” ซี พ่อผมสะบัดหน้าไปมอง ผมก็ยิ้มน้องเขาเปรี้ยวพ่อ

“ไปซิ “ แซ๊คตอบนิ่ม และพากันเดินออกไปเข้าห้องน้ำ

“เปรี้ยวน่าดู “ พ่อผม แอ้กับผมยิ้มๆ ให้พ่อผม 

“พ่อแอ้เป็นอะไรก็ไม่รุ้สงสัยจะเครียดมากฝันเป็นตุเป็นตะเลยนะพ่อ” ผมบอกพ่อแอ้สะบัดหน้ามามองผม

“ดิว กรุไม่ได้ฝันเรื่อยเปื่อยนะ “ แอ้ทำท่าจะโบกผม

“เป็นอะไรไปลูกแอ้ เครียดอะไรมากไปหรือเปล่า แล้วฝันอะไรละเล่าให้พ่อฟังซิ “ พ่อผมหันไปทางแอ้ พ่อผมถามแอ้ แอ้มองหน้าผม

“พ่อแอ้ฝันถึงแม่น้องเซนแต่ไม่ใช่ตอนนี้ แอ้ไม่รู้ว่ายุคในเวลาไหน แอ้ฝันว่าแอ้เป็นแม่ แอ้คลอดเขา” แอ้เล่าให้พ่อผม ผมหยักไหล่ แน่นอน หมอไม่ค่อยเชื่อเรื่องเล้นลับ ต้องมีที่มีที่เป็นและพิสูจน์ได้พ่อผมหันไปฟังแอ้ต่อ

“พ่อแอ้ฝันเหมือน มันเกิดขึ้นกับแอ้ และคืนสุดท้ายแอ้ฝันว่าแม่ของแซนเขามาบอกว่าเขานำลูกแอ้มาคืนให้แอ้แล้ว แอ้รู้ว่ามันยากที่จะเชื่อ “แอ้พูดกับพ่อ พ่อผมพยักหน้า พ่อเข้าใจได้ไงอะ

“พรุ่งนี้พาเด็กๆทำบุญที่วัด พาซีและแซ๊ก เซนและแซนด้วย ให้เขาทำบุญให้พ่อแม่ของเขาแล้วกัน เพื่อว่าอะไรจะดีขึ้น “ พ่อบอกผมและแอ้

“เราจะไปวัดไหนละพ่อ “ ผมถามพ่อ

“วัดนี้ ขับรถไปประมาณ หนึ่งชั่วโมง วัดนี้พ่อกับภีมเคยพาแอ้กับดิวไปให้หลวงพ่อท่านตั้งชื่อให้ “พ่อผมบอกผมซีและแซ๊ดเดินกลับมาแล้ว และเจ้าหน้าที่เอาเอกสารการรับรองดูแลเด็กทั้งสองมาให้พ่อผมเรียบร้อย

“งั้นกลับกันเลยแล้วกันนะครับ ขอบคุณครับ “ พ่อผมบอกเจ้าหน้าที่ผมเดินลงมา พ่อขับรถเบนซ์ของพ่อมาเอง

“พ่องั้นไปส่งดิวที่โรงเรียนดิวจะขับรถดิวกลับไปด้วย “ ผมบอกพ่อผม

“แอ้ขับรถให้พ่อเองดีกว่าพ่อจะได้พัก “ แอ้บอกพ่อผม พ่อผมพยักหน้า ผมขึ้นรถพ่อผม พ่อผมขับพาผมมาส่งที่โรงเรียน ผมเดินไปบอกเพื่อนๆ ผมว่าผมจะกลับไอ้แจ็คมันบอกว่ามันจะไปบ้านบอย ครั้งแรกในรอบปีที่มันกล้าเข้าบ้านลุงณะ

“ลุงภาหวัดดีครับ” แจ็คยกมือไหว้พ่อผม  “อาภาหวัดดีครับ” บอยยกมือไหว้พ่อผมเช่นกัน

“ดีแจ็ค บอย สบายดีไหมเรา “พ่อผมทั้งคุ่

“สบายดีครับลุง “ แจ็คตอบ

“แล้ว “ พ่อผมจะถามถึงลูกของบอยแต่หันไปมองแจ็ค

“น้องแบงค์สบายดีครับอา ตอนนี้กำลังดื้อเลย บอยก็ไม่รู้จะทำยังไง เอาแต่ใจด้วย “ บอยบอกพ่อผม

“เหมือนพ่อมั้ง” พ่อผมพูดหันไปเหล่มองไอ้แจ็ค ผมว่ามันไม่รู้สึกอะไรหรอก เซ้นมันไม่ค่อยดีนะผมว่า

“ลุงว่าดื้อและเอาแต่ใจเหมือนบอยเหรอครับ ลุงพูดผิดหรือเปล่าคำ บอยนะไม่ใช่คนเอาแต่ใจตัวเองเลยนะ แต่ถ้าแจ็ค แจ็คจะไม่เถียง “ ไอ้แจ็ค พ่อผมหันไปมองยิ้มๆ

“งั้นลุงกับดิวและแอ้กลับกันก่อนนะเดี๋ยวจะถึงที่บ้านมึด” พ่อผมบอก ผมไม่เห็นไอ้เดี่ยว มันหายไปไหนของมัน

“ไอ้เดี่ยวละวะ” ผมถามไอ้แจ็คื

“มันไปกับปูอะไปไหนไม่รู้วะ” ไอ้แจ็คมันบอกผมเดินไปถอยรถลงมาแผมเอามาจอดรอรับซีและแซ๊ก ที่เปลี่ยนมาขึ้นรถผม แอ้ไปนั่งทำหน้าที่คนขับรถพ่อผมแทน  ผมออกรถทันที ดูซิจะสนใจเรื่องขับรถน่าดู

“อยากขับหรือไงซี” ผมถามซี

“ฮะ ผมเคยลองสตาร์ทรถพ่อ แต่ผมยังไม่ได้ขับหรอก แค่สตาร์ทพ่อก็เม้งบ้านแตกแล้ว ฮะ” ซีบอกผม ผมละขำเลย

“แซ๊ก ง่วงก็นอนได้นะ มีผ้าห่มผื่นเหล็กอยู่ด้านหลังลูก” ผมบอกแซ๊ก แซ๊กพยักหน้า ซีมองหน้าผม

“มีอะไรเหรอซี” ผมถามซี

“คุณจะให้ผมสองคนเรียกว่าพ่อจริงๆเหรอ “ ซีเขาถาม

“ตามใจแล้วกันอยากเรียกอะไรละ หรือว่าไม่ดีถ้าเรียกฉันกับแอ้ว่าพ่อ “ ผมถามซี ซีเงียบไป

“ก็คุณยังดูเด็กๆอยู่เลยอะ “ ผมยิ้ม

“รอไปที่บ้านก่อนแล้วกัน แล้วจะรู้” ผมบอกซี ซียิ้มให้ผมเพิ่งเห็นรอยยิ้มเด็กคนนี้ครั้งแรก ยิ้มมีเสน่ดีเหมือนกันนะ ผมขับรถไป ซีก็ถามโน้นถามนี้ ตามประสาเด็กอะนะแต่บางความคิดเขาโตเกินวัยไปมากทีเดียวดีเลยสมกับที่จะได้เป็นพี่ใหญ่ของบ้านๆผม

********************************************************************************************************************************

ผมขับรถมาถึงบ้าน ก็เกือบหกโมงเย็นแล้ว ผมเดินเข้ามาก็เจอพี่หมอด้าเพิ่งกลับมาถึงพร้อมพี่ดรีม พี่หมอและเป็กซ์กำลังขนพวกสังฆทานที่พ่อผมสั่งให้ซื้อไว้ให้ซี แซ๊ก แซนและเซนเอาไปถวายพระพรุ่งนี้

“พ่อแอ้กลับมาแล้ว พ่อดิวด้วย “ เป็กซ์วิ่งมากอดผม

“พี่ด้าผมมีสมาชิกใหม่ “ ดิวบอกพี่หมอด้า พี่ด้ามองสองหนุ่มที่เดินตามดิวเข้ามาในบ้าน

“นึกว่าพูดเล่นมีมาจริงๆด้วย  นี้สอยเด็กโตมาอีกแล้วเหรอครับ แอ้ดิว ขี้เกียจทำเบบี้กันเหรอครับ “ พี่ดรีมแซวผมกับดิว

“ซี แซ๊ก นี้ลุงดรีมและลุงด้า และนี้เป็กซ์ “ ผมแนะนำพี่ด้าและพี่ดรีม และเป็กซ์ เป็กซ์ส่งยิ้มให้ซีและแซ๊ก ซีเห็นเป็กซ์เลยยื่นมาจะเช๊คแฮนด์ ฝรั่งไปไหม เป็กซ์ก็ยืนมือแต่ซีเอามือไปเสยผมซะงั้นเป็กซ์เลยเหวอไปนิดหนึ่ง

“ถ้าจะไม่ธรรมดา” พี่ดรีมพูด

“แล้วนี้บรรดาลูกๆผมไปไหนกันหมดละพี่” ดิวถาพี่ดรีม

“กำลังมา พ่อ ผมสั่งอาหารให้แล้วนะ วันนี้ อาภีมจะมาทานด้วยและไอ้โอม ไอ้เอส ไอ้โอ๊ค ไอ้อั๋น ไอแอมและไอ้อิ้ง “พี่ดรีมบอก มาเกือบหมดบ้านเลยนะบ้านผม  ผมพาซีและแซ๊กขึ้นไปหาห้องพักก่อนผมว่าจะให้นอนห้องเดียวกับเป็กซ์ ห้องเป็กซ์เขามีสองเตียงเดิมเป็นห้องนอนของพี่เดย์กับพี่ดิ๊บ   ผมพาซีและแซ๊กขึ้นไปบนห้องนอน เป็กซ์ด้วยอีกคน

“เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปซื้อเสื้อผ้าหลังตากนำอาหารไปถวายพระกันแล้วนะซี แซ๊ก คืนนี้เป็กซ์ดูชุดให้ซี แซ๊กเขาใส่สักชุดสองชุดแล้วกันนะ “ ผมหันไปบอกเป็กซ์

“ได้ฮะ เป็กซ์มีตั้งหลานชุด ป้าด้าพาไปซื้อบ่อย จนใส่ไม่ทันแล้ว “ เป็กซ์พูดขำขำ

“มีป้าด้วยเหรอเราไม่เห็นป้าเลย” ซีทำหน้างง ถามเป็กซ์

“ที่จริงลุงนะแต่หลานๆชอบเรียกป้า ลุงด้านะ “ แอ้พูด ซีพยักหน้า พอหลังจากที่ห้องนอนกันเรียบร้อยแล้วผมก็เดินลงเพื่อจะได้ทานอาหารกันลูกๆ ผมกลับมาแล้ว ดูท่าทางจะวุ่นวายกันอยู่นะลูกๆผม ผมเดินลงมา

“มิ้นอย่ามาดึงของพี่ อันนี้ของพี่ กล่องนี้ของพี่ ไอ้มิ้น “ มาริโอ้ กำลังแย้งกล่องที่ถูกห่อไว้ผมว่าพี่เดย์กับพี่ดิ๊บเล่นอะไรกับหลานผมอีกแน่เลย เอากล่องของเล่นที่ห่อกระดาษห่อของขวัญและให้หลานหยิบเอาว่าใครเอาอันไหน เพราะของจะไม่เหมือนกัน

“ฮือๆ ป้อ โอ้ .....” มิ้นทำท่าร้องไห้ฟ้องผมกับดิว ตาฉ่ำมาเลย   

“อืมม....ให้ “ มิ้นส่ายหัวและบอกว่าให้แปลกว่าโอ้ไม่ให้น้องนั้นเอง

“มิ้นเอากล่องอื่นซิลูก มีตั้งหลายกล่อง” แอ้พูด ไอและไอซ์ ไปนั่งแกะกันสองคนกลัวมิ้นแย้ว แซนและเซนเขาช่วยกันแกะ กันใหญ่เลย

“เอากล่องโอ้ “ มิ้นไม่ยอมยืนทำปากจู๋ ไม่ยอมซะด้วย มาริโอ้ที่ยืนเอากล่องไปซ้อนไว้ข้างหลัง

“โอ้ครับ เปลี่ยนไปเอากล่องโน้นได้ไหมลูก กล่องโน้นอาจจะเป็นของที่โอ้ชอบก็ได้นะ “ ผมย่อตัวลงบอกมาริโอ้ เพราะมิ้นทำท่าจะร้องไห้งอแง ดูซิกอดขาดิว ไม่ปล่อยเลย

“ก็ได้ พ่อไอ้มิ้นนิสัยไม่ดีนะพ่อแอ้ “ มาริโอ้พูดและยืนกล่องของตัวเองส่งให้มิ้น มิ้นรีบรับไปทันที ผมหอมแก้มน้องมาริโอทีหนึ่ง

“เอาละเด็ก พ่อมีพี่ชายคนโตมาให้สองคน “ ดิวบอกลูกๆผม ทุกคนหันมามองซีและแซ๊กกันหมด

“พี่มาอีกแล้วหรอพ่อ” ไอ ดิวสะบัดหน้าไปมองลูกชายแฝดไม่ใช่คนโตสุดแล้วตอนนี้

“พี่เขาชื่อซีและพี่แซ๊กนะ เป็นคนโตสุดตอนนี้ “ ดิวแนะนำ

“เออ น้องๆครับกางเกงมันใหญ่หรือว่าน้องในกางเกงมันเล็กมากอะครับ” ซีพูดขึ้น ลูกๆผมถึงกับเอมมือไปกุมเป่าตัวเองกันหมดผมหันไปมอง ดิวก็เหล่มองผมซี

“อย่าเพิ่งลูกเดี๋ยวน้องตกใจ” ดิวกระซิบ

“แรงได้อีก “ พี่ดรีมอกมาได้ยินพอดีเลย

“ทำไมเขารู้ละว่าน้องเรายังไม่โตเท่าไหร่ “ มาริโอ้หันไปถามพี่ๆ

“ฮาๆ พี่ล้อเล่น” ซีพูด  ผมค่อยยังชั่วหน่อย พ่อภีมเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นของพ่อ ภาพความน่ารักที่ผมได้เห็นวันนี้ พ่อภาเดินโอบพ่อภีมออกมา เหมือนติดคุยธุรอะไรกันอยู่

“พ่อหวัดดีครับ “ ผมไหว้พ่อผม  “พ่อ ...อาภีมหวัดดีครับ” ดิว พ่อผมก็ยกมือรับไหว้พ่อผม พ่อผมมองซีและแซ๊ก

“สองคนนี้เหรอพี่ภา กี่คนแล้วเนี๊ยะ “ พ่อผมถามพ่อภา พ่อภาพยักหน้าแสดงว่าพ่อภาอธิบายให้พ่อผมฟังแล้วแน่เลย ว่าสองคนนี้เป็นมายังไง

“พี่แอ้” ผมหันไปมองไอ้แอมน้องชายผม แอมมันวิ่งมากอดผม ยังกับลูกผมอีกคนแนะ

“แอมคิดถึงพี่แอ้มากเลย “ แอมอ้อนผมใหญ่เลย

“พี่แอ้ “เสียงอีกเสียงไอ้อิ้ง น้องชายคนเล็กของผมกำลังจะวิ่งมา และมันก็เข้ามากอดผมอีกคน

“พี่ดิมดีครับ พี่ดิวนี้ร้ายมาก แอบหลานไว้ซะเยอะเลย “ แอมหันไปไหว้ไอ้ดิวมีแอบเหน็บนิดหน่อย

“โทษพี่ได้ยังไงครับแอม ต้องโทษไอ้เดียร์ที่มันไม่บอก” ดิวพูดเดียร์ที่นั่งเก็บห่อของขวัญหลานสะบัดหน้ามามองดิวเลย

“เห้ย พี่ดิว ทำไมโยนให้เดียร์ละ นี้พี่บอกเดียร์เองนะห้ามบอกอะ ตัวเองเขาไม่ผิดนะ  “ ไอ้เดียร์ แอ้หันไปค้อน ผมรู้กันหมดแล้วว่าเดียร์กับแอมนะเขากำลังอินเลิฟกันอยู่

“ไปทานข้าวกันได้แล้วมั้ง วันนี้โต๊ะอาหารแทบจะไม่พอ พ่อเลยให้ดรีมเอาโต๊ะตัวเล็กมาวางให้เด็กๆนั่งทานกัน “ พ่อภาพูด พ่อภีมหันไปมองหลานๆ ก็ลูกๆผม ซีและแซ๊กดูจะเข้ากับน้องได้ดี เป็กซ์ก็ดูแลน้องมีน น้องมิ้นได้ดี

“ผลงานเราสุดยอดเหมือนกันนะว่าไหม มีเข้าไปกี่คนแล้วเนี๊ยะ “ ดิวพูดผมหันไปเหล่

“สิบแล้วดิว” ผมหันไปบอกดิว

“งั้นทำมาอีกสองคนพอเลย แต่สองคนนี้ขอทำเองนะ งดรับลูกคนอื่น “ ดิวพูดผมหันไปหยิบพุ้งดิวที่ไม่ค่อยมี  “โอ้ยย “ดิวร้องออกมาดังพอสมควร

“อะไรกันสวีทกันต่อหน้าต่อตาพวกกรูเลยนะ ไอ้ดิว “ พี่โอมพูด วันนี้ครอบครัวผมเรียกว่ามีความสุขกันที่สุด พี่ๆบ้านด.เด็ก และพี่บ้านอ.อ่างกลับมาสนิทกันมากเหมือนเดิมอีกครั้ง วันนี้พี่ดรีมพี่ด้า พี่แดน พี่เดย์ พี่ดิ๊บ อยู่กัน พี่ดิมอยู่กรุงเทพเพราะว่ามีการก่อจราจลที่กรุงเทพเลยต้องไปดูแลกับพี่อ้น เป็นกำลังเสริม พี่เดฟกับพี่เอ็กซ์บอกเพื่อนมาหา ก็คงพี่เจส พี่แพท พี่ต้าผมไม่แน่ใจว่ามาหรือเปล่า ส่วนบ้านอ.อ่าง วันนี้พี่โอม พี่เอส พี่โอ๊ค พี่อั๋น  และแอมกับอิ้ง และสิ่งที่ทำให้ผมแอบอมยิ้มคือพ่อภีมกับพ่อภา เหมือนจะเปิดเผยมากขึ้นพวกผมแอบมองกันเป็นระยะ เขาเรียกว่าคนแก่สวีทกัน

“คุณย่า” มาริโอ้เรียกพ่อผมว่าคุณย่า   “ฮาๆ พ่อ ตกลงเป็นคุณย่าถาวรแล้วใช่ไหมพ่อ ฮาๆ “พี่โอมหัวเราะพ่อผมเอง ดูซิ

“อย่าเรียกคุณย่าซิโอ้ “ พ่อผมบอกลูกชายผมแฝดคนที่สามของผม

“คุณปู่บอกว่าถ้าคุณย่า อยู่กับคุณปู่ ให้เรียกคุณย่า ปู่จะได้ไม่งง เพราะโอ้อาจจะงงด้วยนะคุณย่า” มาริโอ้ ทำเอาทุกคนมีเครื่องหมาย ? นี้อยู่บนหน้ากันหมด คือไม่เข้าใจ

“นี้หลานเราพูดภาษาฝรั่งเศษหรือเปล่า ฟังไม่เคยเข้าใจสักที” พี่อั้น พูดพ่อเลยเอากระดาษทิชชูปาใส่พี่อั๋นเลยง

“ โอ้นั่งกับคุณย่าได้หรือเปล่า “มาริโอ้ถามพ่อผม

“ทำไมละมาริโอ้ ไม่นั่งกับพี่ๆ น้องๆ ละ” พ่อภาถามมาริโอ้

“ไอ้มิ้นมันตักข้าวและมันก็สะบัดๆ เต็มชามโอ้ โอ้ไม่ชอบเลยคุณย่า” มาริโอ้ ผมหันไปมองมิ้น ผมทำนิ้ว ว่าอย่าแกล้งพี่ๆ ดูซิแต่ละคนเอามือปิดชอบตัวเองหมดแล้ว

“มิ้น “ ผมเรียกมิ้น มิ้นหันมามองผมหน้าตาเลอะเทอะไปหมดเลย

“อีกอย่างนะ ถ้ามีโรงเรียนไหนรับสอนจากเด็กกะโปโลกลายเป็นคุณหนู รีบบอกเลยนะ จะพาหลานพี่ไปสมัครทันที “ พี่โอมหันไปบอกพี่ดรีม

“ถ้ามีกรูส่งไปนานแล้วสาด” พี่ดรีมบอกพี่โอม มิ้นค่อยลดช้อนลง แสบจริงๆเลยลูกชายคนนี้ผมหันมาเจอดิว เลยหยักคิ้วว่าไงละลูกชายดิว

“อ้าว โย้นให้เป็นลูกดิวเลยนะ “ ดิวเงยหน้ามองผม รุ้ว่าผมจะบอกว่าอะไร รู้อีกนะ

“กินเสร็จแล้วเอาลูกไปอาบน้ำด้วยนะ ดิว ลูกมิ้นนะ” ผมบอกดิว ดิวพยักหน้า ผมนั่งทานข้าวกัน ดูพี่ๆผมกับครอบครัวดิว หันมาสนิทกันเหมือนเดิม คุยกัน ยิงมุกกันจนเป็นเรื่องปกติของสองครอบครัวนี้ และลูกๆผมกับเด็กที่ผมพามาอยู่ด้วยก็เข้ากันได้ดีทีเดียว แต่ซีออกจะกวนๆ หน่อย ดูท่าไอจะเข้ากันได้ดีกับซี ไอเขาเหมือนดิวแถบจะทุกอย่าง

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :hao3: ดิวนี่กะเหมาโหลถูกกว่าแน่เลย มีขออีกสองนะ

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
วันนี้ผมพาเด็กๆไปถวายอาหารพระและสังฆทาน
         ผมปลุกลูกๆผมตื่นนอนกันแต่เช้าที่ตื่นโดยไม่งอแงก็จะมีซี แซ๊ก เป็กซ์ แซนและเซน ทั้งหมดนีเขาโตแล้วและรู้ทุกคนรู้ว่าวันนี้เขาต้องไปทำอะไร เพื่อให้พ่อแม่ของเขายกเว้นแต่น้องเซนคนเดียวที่ยังไม่รู้ ส่วนไอกับไอซ์ก็งัวเงียกันหน่อย มาริโอ้นี้หนักหน่อย แถบจะไม่อยากลืมตาเลย ดิวต้องอุ้มไปด้วย หลับคาบ่าดิวอยู่เลย พี่ๆ บ้านอ.อ่าง มาถวายข้าวพระกับผมกันหมด แต่พี่ดรีม กับพี่ด้า และพี่แดน พี่เดย์ พี่ดิ๊บ ไม่ได้ไป พวกพี่เขาจะจัดห้องนอนใหม่ให้เซนและแซน วันนี้มีเซอไพรส์

“พ่อดิว พ่อแอ้ เราจะไปไหนเหรอครับ ” น้องไอซ์ถามผมกับดิว ดิวขับรถฟอร์จูนเนอร์นั่งได้เจ็ดคน แฝดสาม น้องแซนและเซน น้องมีนและมิ้นมาคันเดียวกันกับผม ซีและแซ๊ก ไปคันเดียวกับพี่โอม เป็กซ์ด้วยอีกคน  น้องมีนเขาขอไปกับพ่อผมและพ่อภา มาริโอ้นั่งหลับมากับผมตลอดทางเลยผมเอามานั่งหน้าด้วย รายนี่เขางอแงเวลาตื่นนอนตลอด

“คิก คิก คิก  พ่อแอ้ น้องยังหลับปุ๋ยอยู่เลยอะ “ เซนเขาชะโงกมองมาริโอ้ที่หลับอยู่บนตัวผม เซนขำมาริโอ้ ผมพยักหน้า มาริโอ้ดิ้นพลิกตัวมากอดผม

“ไม่ยอมตื่นเลยนะโอ้ จะถึงแล้งลูก ไม่ลุกมาดูภูเขาเหรอลูก” ดิวพยายามปลุกมาริโอ้ แต่ไม่เป็นผลมีปัดมือดิวออกด้วยนะ

“โอ้ “ ดิวพยายามเรียกและเอานิ้วมาจั๊กจี้ มาริโอ้

“อืมม โอ้จะนอน  ฮือๆ “นั้นร้องจนได้ ผมต้องตีแขนปรามดิวให้หยุด อีกครั้งทางปล่อยให้โอ้นอนไปก่อนดีกว่า ผมต้องตบก้นมาริโอ้ ผมเห็นแซนและเซนเขาคุยกันน่ารักจริงๆ แซนและเซนเขาเอาหนังสือนิทานที่มีสติกเกอร์ติดเป็นการฝึกทักษาให้เด็ก ไอซ์นะเขานั่งผิงไอ ดูการ์ตูนไปด้วย ดิวรู้ว่าผมมองคู่นี้อยู่นะ

“โตขึ้นไอคงจะหายเองนะแอ้ “ ดิวพูด ผมขอให้เป็นแบบนั้นนะ เรื่องหวงน้องเนี๊ยะ ไอและไอซ์พ่อผมฝากไว้กับผู้หญิงคนเดียวกันเรียกว่าแฝดท้องเดียวกัน แต่ดูจากอาการหวงของไอแล้วผมละกลัวว่าจะมีปัญหาไปถึงตอนโต มิ้นเขาก็ดูการ์ตูนกับไอนั้นแหละ แต่เพราะว่าไอหน้าเขาคมแบบดิว เวลาดุมิ้นเลยไม่กล้าแกล้ง 

   ดิวขับรถมาได้สักพักก็ถึงวัดหนึ่งไมไม่ใหญ่โตมาก พื้นที่ค้อนข้าวกว้าง มีต้นไม้ร่มรื่นดีมากทีเดียว ตอนนี้มาริโอ้ลืมตาแล้ว นอนได้เต็มทีอีกมาตลอดทางเลย

“พ่อแอ้ถึงแล้วเหรอ หาว …”มาริโอ้

“ถึงแล้วลูก ตื่นได้แล้ว “ผมพูดดิวเดินลงไปบิดขี้เกียจและเปิดประตูให้ลุกๆผมลงจากรถ รถพี่ๆผมเข้าจอดกันทุกคันแล้ว ซี แซ๊กและเป๊กซ์วิ่งมาหาผม

“ฉี่ ๆ “มิ้นร้องปวดฉี่ ทั้งที่สวมแพมเพิร์สให้แล้วนะ ดิวต้องรีบอุ้มและพาไปหาที่ฉี่  พี่ๆผมถืออาหารคาวหวานที่พ่อผมสั่งจากร้านอาหารประจำให้มีทั้งอาหารคราวอาหารหวาน และผลไม้ด้วย

“เอาละ ซี แซ๊ก เป็กซ์ แซนและเซน พร้อมแล้วใช่ไหมเราจะเอาอาหารและเครื่องสังฆทานไปถวายพระกันนะ “ ผมบอกทุกคน แฝดสามคนของผมยืนมองผมยังไม่ค่อยเข้าใจ น้องมีนเดินมากอดผม

“สวัสดีครับจะมา….” พ่อภากล่าวทักคนที่ทำหน้าที่กวาดลานวัด ชายวัยชรา อายุน่าจะเลยหกสิบปีไปแล้ว มองพวกผมทั้งหมดและ

“มาถวายอาหารพระใช่ไหมครับ เชิญด้านบนกุฏิเลยครับ หลวงพ่อท่านทราบดีอยู่แล้วครับ หลวงพ่อรออยู่ด้านบนแล้วครับ เชิญเลยครับ “  ชายแก่บอกพ่อและพวกผม 

“ครับขอบคุณครับ” พ่อภาขอบคุณ  “พี่บอกหลวงพ่อไว้เหรอว่าเราจะมา” พ่อภีมกระซิบถาม

“ไม่ได้บอกอะไรเลยเมื่อวานพี่ก็กลับมาถึงก็ยุ่งกัน ไม่มีเวลาโทรหรอกภีม “ พ่อผมพูดว่าไม่ได้บอกหลวงพ่อว่าจะมาถวายอาหารแต่หลวงพ่อท่านทราบได้อย่างไร ผมเดินขึ้นไปบนกุฏิ กิฎิทำจากไม้ เหมือนบ้านในสมัยก่อน ผมพากันนั่งลงหลวงพ่อท่านนั่งรอพวกผมอยู่แล้วจริงๆด้วย ผมพากันกราบหลวงพ่อ

“มาแล้วเหรอ กำลังรออยู่  อาตมารู้ว่าพวกโยมจะมา  นานแล้วนะท่านที่ไม่ได้มาวัดนี้เลย งานคงยุ่ง อย่างนี้แหละคนใหญ่คนโต “ หลวงพ่อพูด พ่อผมพยักหน้าว่ายุ่งจริง ๆ

“มิ้นอย่าไปเดินเล่นมานั่งกับพ่อเร็ว “ ดิวเรียกมิ้นที่เดินสำรวจไปมาไม่ยอมมานั่งดีดี  ลูกคนนี้ เดินสำรวจนั้นสำรวจนี้จนดิวต้องรีบไปอุ้มมานั่งตัก

“เด็กสี่คนไหนละที่จะให้มาถวายอาหารและของหวาน นี้ใช่ไหม “ ผมก็ต้องตกใจอีกครั้งหลวงพ่อรู้ได้อย่างไรว่าผมมาทำให้พ่อแม่ของเด็กทั้งสี่คน ผมหันไปมองพ่อภีม พ่อภีมพยักหน้า ผมก็ควักมือเรียกซี แซน แซน และเซน มานั่งแถวหน้า เซนหันมามองผม ผมกระเทิบไปนั่งใกล้ๆเซน

“เราจะถวายอาหารให้หลวงพ่อกันนะเซน” ผมบอกเซน เซนพยักหน้าผมกับดิว ก็ประเคนอาหารกับเด็กๆทั้งสี่คน หลังจากถวายอาหารค้าวและหวานแล้วผมก็ ถวายสังฆทานต่อเลย ผมให้ซี แซ๊ก แซน ส่วน เซนนี้ผมเข้าไปถวายด้วยเหมือนเซนจะกลัวๆ

“ตั้งใจกรวดน้ำกันนะ นึกถึงผู้มีพระคุณ พ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว และผู้มีพระคุณปัจจุบัน อาจจะไม่ใช่แค่ภพนี้อาจจะหมุนเวียนมาหลายภพหลายชาติ “หลวงพ่อบอกซี แซ๊ก แซนและเซน ส่วนเซนเงยหน้ามองผมตลอดเลย

“กรวดน้ำซิลูก เซน นึกถึงแม่ แม่จะได้ไม่ลำบาก แม่จะได้อยู่สุขสบาย “ผมบอกเซน เซนก็จับมือผม ผมถือที่กรวดน้ำและผมก็ท่องแทนเซนเบาๆ เซนมองหน้าผมตลอด หลังจากกรวดน้ำเสร็จหลวงพ่อก็ให้ศิลให้พร เซนถอยมานั่งกับผม ไอซ์ที่นั่งอยู่ข้างๆผมกอดหน้านี้ก็กระเทิบเข้ามาใกล้ผม น้องมีนนะลุกจากพี่อั้ม มานั่งตักผมแทน ผมนั่งพนมมือรับศิลรับพร

“ฮาๆ  สงสัยมันอยากได้ของดีวะ “ ผมได้ยินพี่แซวผมเงยหน้ามองมิ้นลุกไปนั่งแถวหน้าซี แซ๊ก และแซน แถมก้มลงไหว้หลวงพ่อซะตรูดโด่งเชียว พอหลวงพ่อให้ศิลให้พรจบ หันมามองมิ้นไหว้ใหญ่เลย

“หลวงพ่อครับ ผมขอน้ำมนต์กลับไปสักโอ่งได้ไหมครับ “ พี่โอมขอน้ำมนต์ไปทำไมตั้งโอ่ง

“จะให้หลานผมคนนี้อาบน้ำมนต์  ต้มน้ำมนต์ให้กิน ก่อนนอนจะแจะที่หน้าทุกวันก่อนก่อน เพื่อว่าจะสงบนิ่งลงบ้างนะครับหลวงพ่อ หลานผมของขึ้นตลอด” พี่โอมนี้ว่าลูกผม

“ดูท่าจะเอาเรื่องจริงๆ นะคนนี้ มามา ให้น้ำมนต์สักที “ หลวงพ่อพูดและหยิบขันน้ำมนต์มีที่ไว้พรมให้น้ำมนต์คนที่มาทำบุญถวายสังฆทาน

“แปะ ๆ “หลวงพ่อเลยแปะน้ำมาต์ที่หัวไปสองที

“แหง๋ ...เปียกๆ “ลุกเดินกลับมาหาดิวทันที เอามือขึ้นมาปาดเช็ดหัว แถมยังเอาหัวไปไถกับเสื้อดิวอีกด้วย พี่ๆผมพากันขำลูกผมด้วย ผมเองก็อดขำไม่ได้เหมือนกัน

“เจริญพรญาติโยม  วันนี้วันดีโยมหมอภาณุเดชและโยมภีมปภพ พาลูกๆมาทำบุญ นานแล้วนะที่ไม่ได้มา “ หลวงพ่อ พวกผมก็ก้มลงกราบอีกครั้ง

“เด็กสี่คนนี้ เลี้ยงเขาให้ดีนะ เด็กสี่คนนี้มีความกตัญญูรู้คุณเป็นเลิศ และจะมีสองคนที่จะได้อย่างเราอยากได้ “ หลวงพ่อพูดว่าให้เลี้ยงดูทั้งสี่คนให้ดีและชี้ไปที่ดิวว่าดิว ดิวอยากได้อะไรจากเด็กสี่คนนี้และจะมีแค่สองคนนั้นหรือ

“คราวนี้คงหมดห่วงแล้วละซิ เขารักลูกเธอไม่ต้องกังวล ไปสู่ภพภูมิที่ดีซะ เด็กคนนี้เขามีบุญาธิการดี หมดห่วงหมดกังวล เธอดูแลเขาได้ดีที่สุดแล้ว ”หลวงพ่อพูดผมก็มอง หลวงพ่อมองไปทางด้านหลังสุด จะว่าคุยกบพี่โอ๊ก กับพี่อั๋นก็ไม่ใช่ และหลวงพ่อก็มองมาที่ผม

“เขามาด้วยแม่ของเด็กนะ เขาดีใจนะที่ลูกเขาจะมีคนที่รักเขาได้ไม่น้อยกว่าเขาที่เป็นแม่ในชาตินี้ เขานั้งอยู่ตรงนั้น  “หลวงพ่อบอกผมและชี้ไปทางด้านหลัง ถัดไปจาก พี่โอ๊ค พี่อั๋น แต่ผมไม่เห็นใครเลยนะ แต่ผมเชื่อมาจริงตอนนี้ขนผมเริ่มลุก

“หลวงพ่อครับ บอกเขาทีว่าผมจะรักและดูแลลูกเขาอย่างดี ไม่ให้น้อยไปกว่าลูกแท้ๆของผมสองคน” ผมบอกหลวงพ่อ หลวงพ่อพยักหน้า

“เขาได้ยินแล้ว เขาไปแล้วแหละ” หลวงพ่อพูด ทุกคนที่นั่ง พากันหันเลิกลักกันไปหมด

“หลวงพ่อบอกใครอะ “ พี่โอมพูดพร้อมหันหน้าไปทางที่หลวงพ่อชี้ไป เป็นที่ว่างด้านหลังของพี่โอ๊คและพี่อั๋น

“ไอ้โอ๊ค ไอ้อั๋น หลวงพ่อบอกให้มรึงสองคนไปยังภพภูมิที่ดีอะ หลวงพ่อเขามองมาทางมรึงอะ” พี่เอส หันไปบอกพี่โอ๊คกับพี่อั๋นซะนิ

“เว้ยย ไม่เอาเขาชอบภพนี้ เขาไม่ไปได้ไหม” พี่โอ๊คร้องออกมาทันทีตามมาด้วยการขยับมานั่งแถวเดียวกับพี่เอส พี่อั๋นด้วย 

“อาตมายังจำได้อยู่เลยนะ ตอนที่พามา เพิ่งจะไม่กี่วันเอง “หลวงพ่อหันไปคุยกับพ่อภีมและพ่อภา

“มาอีกทีมีลูกแล้ว มีกี่คนแล้วละ” หลวงพ่อถามผม

“ตอนนี้มีลูกสาว 3 ครับ “ดิวตอบว่ามีลูกสาวสาม ผมสะบัดหน้าหันไปมอง ลูกสาวที่ไหน

“ไหนอะลูกสาวมรึงไอ้ดิว “ พี่อั้มถามไอ้ดิว

“ก็นั่งกอดแม่อยู่นั้นไหน กระหนาบซ้ายกว่าและบนตักหนึ่ง เหมือนลูกสาวไหมละ” ดิวหมายถึงเซนที่นั่งกอดผมอยู่ด้านซ้ายและไอซ์กอดผมอยู่ด้านขวาแถมมีนก็นั่งตักผมเอาหัวผิงอกผมกอดผมอยู่ด้านหน้า

“ดิว “ ผมเอง  “พ่อดิว “อันนี้สามหนุ่มของผมแบบว่างอนที่ว่าเขาเป็นลูกสาว แถมสะบัดพร้อมกันอีก

“เว้ยย สะบัดแบบนี้ใช้เลยนะครับหลานครับ “ พี่เอสแซวลูกๆผม

“ตอนนี้มี สิบคนแล้วครับหลวงพ่อ” ดิวตอบหลวงพ่อพยักหน้า

“เดี๋ยวพี่พาหลานๆเลี้ยงปลาด้านหน้าวัดกันดีกว่า “ พี่อั้มพูดผมก็ก้มมองลูกๆสามคนที่กอดผมอยู่

“ไปกับลุงๆ ดีกว่าไหมไปให้อาหารปลากันนะ “ ผมบอกทั้งสามคน แซนลุกมาหาเซน เขาพยุงเซน เซนเพิ่งจะถอดเฝือกอ่อนออก แต่ยังคล้องผ้าไว้บ้างเวลา น้องมีนลุกไปหาดิวให้ดิวจูงไป ไอซ์เขาติดพี่อั้ม ไอก็ลุกไปพร้อมๆกับไอซ์ตอนนี้ลูกๆผมพี่ๆผมลงไปข้างล่างกันหมดแล้ว

“ครอบครัวอบอุ่นดีนะ ” หลวงพ่อพูดขึ้น

“เด็กสองคนนี้ ไม่ซิ โตแล้ว เขาสองคนนีเกิดมาด้วย อำนาจ บารมี และบริวาร “หลวงพ่อชี้มาที่ผมกับดิว หลวงพ่อบอกพ่อภากับพ่อภีม

“คราวก่อนอาตมาพูดเรื่องนี้ทันทีที่อาตมาเห็นเด็กสองคนนี้ โยมคงไม่ค่อยเชื่อไม่ซิไม่เชื่อเลยดีกว่า คงคิดว่าอาตมาพูดอะไรฟังไม่รู้เรื่อง “ หลวงพ่อท่านพูดขึ้น พ่อบอกว่าเคยพ่อผมกับดิวมาให้พระท่านตั้งชื่อให้ ตอนนั้นคงเพิ่งเกิดเอง

“ยอมรับครับว่าใช่ เพราะว่าคนที่เรียนแพทย์ จะเน้นหลักการและสิ่งที่พิสูจน์ได้จริงเท่านั้น พูดง่ายๆว่าไม่เน้นสายศาตร์ แต่ตอนนี้คงต้องเชื่อแล้วละครับหลวงพ่อ จะมาอีกไหมครับท่าน” พ่อภาพูดและถามว่าจะมาอีกไหม

“เด็กที่มาพึ่งใบบุญก็คงหมดแล้ว เหลือลูกตัวแล้ว” ผมกับดิวสะบัดหน้าไปมองพร้อมกัน

“ทำอย่างที่ตั้งใจไว้ในทุกภพทุกชาติ แต่ชีวิตทุกคนล้วนต้องมีอุปสรรคขวากหนาม แต่เชื่อว่าความดีจะทำให้ฟันฝ่าไปได้ด้วยดี หมั่นบำเพ็ญเพียรภาวนาไว้บ้างก็ดีนะ ทุกข์ในใจจะได้คลายไปบ้าง ใจเราทุกข์ ทุกอย่างมันก็ทุกข์ ใจเราสุข ทุกอย่างมันก็สุข จะสุขหรืจะทุกข์อยู่ที่ใจของเรา...เมื่อไหร่ที่พร้อมก็มาร่วมสร้างพระถวายร่วมกันอีกนะ  “หลวงพ่อท่านพูดผมก้มลงกราบ เพราะใจผมกำลังทุกข์ มันคงเป็นที่ใจผมเองที่คิดกังวลมากไป ผมคงต้องปล่อยวางมันไปบ้าง หลวงบอกให้ผมกันดิวมาสร้างพระถวายร่วมกันอีก แสดงว่าเราเคยสร้างพระถวายด้วยกันมาแล้ว

“อาตมาขอให้โยมๆทั้งหลาย อยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีโรคมีภัย ไม่ว่าจะกระทำการสิ่งใดให้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป มีแต่คนนับหน้าถือตา “หลวงพ่อท่านให้พร

“งั้นพวกผมลาเลยแล้วกันนะครับหลวงพ่อ รบกวนเวลาหลวงพ่อมานานแล้ว หลวงพ่อจะได้พัก” พ่อภากล่าวลา ผมกราบท่านอีกครั้ง ผมลุกขึ้น ผมเดินลงไปพร้อมๆกับดิว ใจผมตอนนี้มันสุขอย่างบอกไม่ถูกที่ได้พาลูกๆมาทำบุญกันวันนี้ ผมเดินไปยังที่พี่ๆ และลูกๆผมกำลับให้อาหารปลา เป็นบ่อปลาที่ถูกทำขึ้น ที่ไม่มีคลองมีแต่บึงเท่านั้น พ่อทั้งสองคน คงเข้ามาบำรุงวัดดูมีน้ำใช้ มีไฟฟ้า และพ่อน่าจะเคยมาบ่อยอยู่นะผมคิดว่า

“แอ้ ดีขึ้นไหม “ ดิวถามผม ผมพยักหน้าว่าผมดีขึ้นแล้ว ผมยืนมองลูกๆ กำลังหัวเราะสนุกสนานกับพี่ๆ ผม

“เราจะเลี้ยงเขาทั้งหมดให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ “ ดิวพูดผมหันไปมองดิว

“ดิวแอ้ถามหน่อยซิ ดิวอยากได้อะไรจากเด็กสี่คนที่พระท่านบอกแต่มีแค่สองคนเท่านั้น ดิวคิดอะไรในใจเหรอ” ผมหันไปถามดิม ดิวมองหน้าผม

“ดิวจะให้เขาเป็นทหาร ทหารกล้า ดิวแค่คิด ดิวยังไม่รู้เลยว่าโตขึ้นเขาจะเป็นไหมแต่ดิวจะค่อย ๆ ป้อน “ ผมมองดิวจะได้เหรอ นี้เพิ่งจะกี่ขวบเอง

“ดิวไม่รู้ซิ ว่าทำไม ตั้งแต่ดิวเห็นเด็กสี่คนนี้แล้วดิว คิดว่าดิวต้องให้เขาเป็นทหาร “ดิวพูดกับผมผมพยักหน้า

“พ่อแอ้ พ่อดิว มาให้อาหารปลากับน้องมีน “ น้องมีนวิ่งมาดึงแขนผมกับดิว

“น้องมิ้น พี่ว่าอันนี้มันอาหารปลานะ ไม่ใช่อาหารนก “ เซนเขาบอกมิ้น ที่เอากระป๋องคว้ำลงบนพื้น จะให้อาหารนกพิราบที่บินมาลงที่พื้นกิน  ดูซิกระจายเต็มพื้นไปหมดเลย

“นั้นดิ มิ้น นายจะกองบนพื้นทำไม “ไอเอ็ดมิ้น ผมหันมองดิว  “เป็นเรื่องปกติของมิ้นนะ บอกซ้ายไปขวา บอกขวา ไปซ้าย ดูซิทำอะไรเหมือนพี่ๆเขาที่ไหนละ “ ดิวบ่นลูกชายเขา

“อ้าวทำไมทำอาหารหกบนพื้นกันละครับ” พี่โอมเอ็ดหลานๆผม

“ไอ้มิ้นมันทำ” ตอบพร้อมกันมากและชี้มาที่มิ้น พี่โอมมองมิ้น มิ้นก็หันไปมองพี่

“ตีนะ” ตัวเองผิดจะหันไปตีคนอื่นเขาอีก 

“ใจดีกับหมูหมากาไก่ นก ลุงเข้าใจ แต่นี้มันเลอะเทอะไปไหมมมมมมม มิ้น “ พี่โอมว่ามิ้นใหญ่เลยพร้อมกับเก็บใส่กระป๋องเล็ก

“ขวับ”มิ้นสะบัดเดินออกมาเลยจะไปคว้ากระป๋องคนอื่นแต่ละคนก็หวง ซิไม่ให้ “นี้มันของพี่นะมิ้น” ไอเอ็ดน้องชายเขาใหญ่เลย แต่ละคนกอดกระป๋องไว้แน่นเลย 

“แหง๋ พี่... ไม่.. รัก..” มิ้น หันมาฟ้องผมสองคน ดิวเดินไปและอุ้มมิ้นขึ้นมา ดิวอุ้มมาหาผม มิ้นกางแขนมาหาผมทันที  มิ้กอดคอผมไว้ ผมรู้สึกได้ว่ามิ้นกำลังดูดนิ้วหัวแม่มือตัวเองอยู่นะ

“หิวนมแล้วมั้งมิ้น” ผมถามมิ้นดูหงุดหงิดยังไงก็ไม่รู้ มิ้นหันมามองหน้าผม

“นมหิว “ นั้นไง มิ้นบอกผม ผมพยักหน้ากับดิว

“เดี๋ยวไปกินบนรถนะมิ้น จะกลับแล้วลูก” ดิวบอกมิ้น พร้อมหอมแก้มมิ้น ทั้งที่ผมอุ้มอยู่  “แฉะ” พี่เอส เขาถ่ายรูปผมกับดิว และมิ้นไว้ พี่เอสเขาเอากล้องตัวโปรดเขามาด้วย

“เด็กๆ เข้าไปถ่ายรูปกับพ่อแอ้พ่อดิวเร็วลูก” พี่เอสเรียกลูกๆผม ดิวนะอุ้มมีนขึ้น ซียืนข้างหน้าดิว แซ๊กยืนติดๆกับซี (ขานี้ไม่ยอมห่างกันเลย) เซนมายืนข้างหน้าผมและแซนด้วย (อันนี้ก็เหมือนกันติดกันมาก ) แฝดสามคนของผมยืนตรงกลางลำหน้าไปนิดหนึ่ง

“เอาละนะ ยิ้ม เห้ย เดี๋ยวมิ้นลุงบอกให้ยิ้มไม่ใช่ทำหน้าปวดขี้” พี่เอส มิ้นหน้าหมุ่ยเลย

“หิวนม “ ผมบอกพี่อั้ม พี่อั้มพยักหน้า

“มิ้นยิ้มหน่อยลูก จะไปเล่นเครื่องเล่นกันแล้วนะ “ ดิวบอกมิ้น มิ้นหันไปมองกล้อง ไม่ยิ้มมากแต่ก็ยิ้มนิดหนึง พี่เอสก็แฉะเก็บภาพนี้ให้ผมและครอบครัว 

“เดี๋ยวเราไปหาอะไรทานกันที่ร้านอาหาร ชายคลอง ร้านนี้บรรยากาศดี อาหารเขาก็สดใหม่ “พ่อภาบอกพวกผม ผมพากันเดินออกมิ้น มิ้นไม่ยอมเดินแล้วงอแงแล้วถ้าหิว หรือง่วงจะงอแงมาก

“มิ้นพ่อดิวอุ้มมาลูก พ่อแอ้หนักลูก” ดิวพยายามดึงมิ้นไปอุ้มเอง แต่มิ้นไม่ยอมปล่อยผม

“ไม่ พ่อ อุ้ม “ มิ้นบอกดิวไม่ให้อุ้ม

“แล้วนี้ใครอะ” พี่โอมถามมิ้น เพราะว่าผมก็พ่อนะ

“แม่” มิ้นน่าจริงๆเลย บอกผมว่าแม่ “เดี๋ยวพ่อไม่อุ้มเลยนะ เรียกพ่อว่าแม่อะ  “ ผมบอกมิ้น มิ้นหมุดหนี  ผมหันไปพยักหน้ากับดิวว่าผมอุ้มได้ ดิวเดินไปจูงน้องมีนแทน

 พ่อลูกเขาคุยกันยังพับพ่อคุยกับลูกสาว “ คิก คิก คิก พ่อดิวขี้โม้ “ มีนพูดคงโมอะไรกันแน่เลย เซนและแซนเขาเดินอยู่ข้างหน้าผมเขาจับมือกันเดินด้วยนะ น่ารักจริงๆ “ นายต้องเดินระวังนะเดี๋ยวนายจะหกขล้มอีก” แซนเขาบอกแซน และอีกคู่ไม่ได้จับมือหรอกแต่เดินติดกันไม่ห่าง

“ไอ้แซ๊กระวังขี้หมา เดี๋ยวมรึงก็เหยียบหรอก” ซีเขาบอกแซ๊กเสียงดัง  “เราเห็นนะ เราไม่เหยียบสักหน่อย” แซ๊กเถียงเบาๆ  ส่วนเป็กซ์เขาเดินคุยกับพี่เอส คงสนใจเรื่องถ่ายภาพเหมือนกัน ลุงเขาสอนหลานใหญ่เลย พี่เอสเขาเป็นช่างภาพ เวลามีงานในกรมหรือในค่ายฯ แฝดสามคนผมเดินโม้กับพี่อั้ม พี่โอม พี่โอ๊ค และพี่อั๋น

“ลุงอั้ม โอ้ว่าลุงอั๋นไม่ค่อยสบาย ลุงอั๋นพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง” มาริโอ้   “ว่าลุงไม่สบายอีกแล้ว..เรานะไม่ค่อยสบาย ฟังลุงไม่รู้เรื่องเองต่างหาก “ พี่อั๋น  “ฮาๆ ไอคิดเหมือนลุงเลย ฮาๆ โอ้นายนะไม่สบาย ฮาๆ “ ไอ ทำเอาโอ้กอดอก

“โอ้จะโกรธแล้วนะ” พี่ๆผมพูดแทนมาริโอ้ซะอย่างนั้น

“โอ้ไม่ได้จะโกรธแล้วนะ  แต่โอ้โกรธแล้วด้วย ชิ ! “ นั้นเดินฉับ ฉับ ฉับ ไปอ้อนพ่อผมแทน

“ลุงบอกอย่าทำแบบนั้นไงลูก” พี่โอม

“ทำไมอะ” มาริโอ้หันมาถามพี่โอม

“ไม่มีผู้ชายเขาทำกันแบบนั้นลูก” พี่โอม ฮาๆ พวกผม

“ปู่ลุงเก๊ “ มาริโอ้ไปอ้อนพ่อผมทันที “ลุงไหนเก๊ละ” พ่อผมถามมาริโอ้  “ลุงโอม” มาริโอ้พี่โอมสะบัดหน้ามา พ่อผมหากิ่งไม้ปาใส่พี่โอมทันทีพ่อผมเข้าข้างหลาน  “เห้ย ลุงไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับหลาน ลุงแค่หน้าตาดีอย่างเดียว” พี่โอม ดิวถอยรถออกมาจอดและผมก็ขึ้นไปบนรถผมอุ้มมิ้นไว้ดิวก็ชงนมให้แน่นอนมีลูกเล็กอุปกรณ์ชงนมต้องมี เมื่อไหร่มิ้นจะกินนมกล่องซะทีนะ สงสัยผมต้องเด็ดขาดกับมิ้นแล้วแหละ 555

******************************************************************************

ดิว ตอนนี้ขับรถกลับมาถึงบ้านแล้ว วันนี้วุ่นวายกันมากับอาหารเที่ยง เพราะว่าผมพาลูกไปครบเลย แน่นอนต้องหัวปั่นกันเป็นแถวแค่มิ้นก็ไม่ไหวจะเคลียร์ซนมาขากลับนี้หลับปุ๋ยกันมาตลอดทาง แอ้ด้วยแอ้ก็หลับมาในรถมีแค่ผมขับรถ

“อืดดดด” ผมออกมาบิดขี้เกียจ หลังจากนำรถเข้ามาจอดหน้าบ้านพ่อผมเรียบร้อยแล้ว ผมเห็นพี่ๆ ผมเปิดผ้าม่านห้องของเซนและแซน วันนี้มีเซอไพรส์ พี่ๆผมทำห้องนอนใหม่ให้สองหนุ่ม ซื้อเตียงนอนให้ใหม่   

“เอาละเด็กๆ ถึงบ้านแล้วครับ “ ผมเรียกทุกคนแอ้ก็ขยับลืมตา มิ้นบิดขีเกียจ อยู่บนตักแอ้ มิ้นหลับมากับแอ้ตลอดเลย มิ้นลุกขึ้นกอดแอ้ดูยังงัวเงียอยู่เลยหรือเปล่า  ผมเปิดประตู นอ้งแซนลงมาก่อนและรอรับน้องเซน และตามลงมาด้วยไอและไอซ์ที่ลงตามหลังไอมาติด และผมก็มอง อ้าว อีกคนละ ผมชะโงกมองมาริโอ้หลับไม่ตื่นเลย ผมต้องหมุดเข้าไป

“มาริโอ้ ลูก ตื่นลูกถึงบ้านแล้วลูกพี่ๆเขาลงไปหมดแล้วนะโอ้ “ ผมบอกมาริโอ้ มาริโอ้ งัวเงีย นั่งมองผม และค่อยๆลุกขึ้น ซีและแซ๊กก็เดินลงจากรถกันมาแล้วเป็กซ์อีกคน

“อ้าวๆ หลาน ทำไมทำหน้าตาง่วงนอนกันมาแบบนั้นละ” พี่ดรีมถามหลานๆผม มาริโอ้ ค่อยๆเดินเข้าบ้าน พี่ดรีมมองมาริโอ้

“ไปล้างหน้าล้างตากัน ป้าด้าทำขนมไว้ให้กินอีกแล้ว” พี่ดรีมบอกหลานๆ  ผมมองพี่ดรีม

“เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวให้เซนขึ้นไปข้างบนเลย” พี่ดรีมบอกผมและแอ้ ผมสองคนพยักหน้า พี่ดรีมเดินเข้าไปในบ้าน

“เซนมานี้ซิลูก เมื่อเช้าน้องเซนไม่ได้เก็บที่นอนเหรอลูก” พี่ดรีมถามเซน ผมกับแอ้สะบัดหน้าไปมองพร้อมกันเซนหน้าเสียเลบ เซนมองหน้าพี่ดรีม

“เซนว่าเซนเก็บแล้ว” เซนพูดเสียงอ่อยๆ ผมขยิบตาแรงไปไหม พี่ดรีมขยิบตาอีกว่าไม่หรอก

“งั้นขึ้นไปดูซิ แซนด้วย รับผิดขอบร่วมกัน ไปขึ้นไปดูนะ “ พี่ดรีมบอกเซน เซนเดินขึ้นไปคงกลัวว่าจะถูกดุแน่ๆเลย ผมเดินตามหลังไปห่างๆ พี่ดรีมพาเซนและแซนขึ้น เซนกำลังไปที่ห้องนอนพี่ดรีม

“เดี๋ยวไปไหน ห้องนี้ไม่ใช่เหรอ” พี่ดรีมถามเซน เซนก็มองห้องที่พี่ดรีมชี้มันเป็นห้องนอนไว้ให้ไอ้เดียร์แต่พ่อผมคงยกให้เซนกับแซน เซนมองและส่ายหัว เซนชี้ไปที่ห้องพี่โดม

“ห้องนี้ เปิดซิ ลุงว่าห้องนี้นะ “ พี่ดรีมพูดเซนยังทำหน้างง และพี่ดรีมก็บิดลูกบิดเปิดประตูให้เซนเข้าไปและแซนด้วย

“ลุงงงงง” เซนเรียกพี่ผมดังงง แสดงว่าเห็นห้องแล้ว ผมเดินไปดูเช่นกัน เตียงนอนสองเตียง เตียงนอนลายมิกกี้เมาที่เซนชอบและลายซุปเปอแมนที่แซนชอบ มีโต๊ะเขียนหนังสือ ตู้เสื้อผ้าสองตู้แยกแยะไว้ด้วยลายการ์ตูนที่แต่ละคนชอบ ฃ

“เซอไพรส์” พี่ด้าเข้ามา เซนมองพี่ๆผม และหันมามองผม

“ชอบไหมเซน”แอ้เข้าไปถามเซน

“ชอบมากที่สุดในโลกเลย “เซนพูด แอ้หอมแก้มเซน ผมเอามือกุมหัวแซนที่ยืนมองไปรอบ

“แซนละ ชอบไหมลูก” ผมถามแซน แซนพยักหน้าหลายทีติดกันเลย

“แซน ดูซิ มีที่ทำการบ้านด้วย เขาชอบที่สุด” น้องเซนหันมาบอกแซน นาฬิกาปลุกก็มี ทีวี แถมการ์ตูนเยอะและเลย

“ไหนลองเปิดผ้าห่มบนเตียงดูซิ บนเตียงมีอะไรก็ไม่รู้ ลุงว่าจะเปิดดูแต่รอหลานดีกว่า”พี่ดรีมบอก เซนและแซนวิ่งไปที่เตียงตัวเองและเปิดผ้าห่มออก ปรากฏว่าเป็นกลองชองเล่นคือรถบังคับคันใหญ่ คนละคัน

“โห๋! ลุงลิมโบกินี่ด้วยอะ แซนชอบ” แซนพูดแม้รู้จักรุ่นของรถด้วยนะ ผมกับแอ้หันไปยกมือไหว้พี่ดรีมขอบคุณเซอร์ไพรส์ลูกชาย

“แซนเราไปเล่นกันนะ “ เซนพูดกับแซน แซนพยักหน้า

“ ไว้พรุ่งนี้ค่อยเล่นดีกว่าลุก อาบน้ำอาบท่ากันไปนั่งดูหนังกับพี่ก่อนดีกว่า “ ผมบอกลูกชายทั้งสองคน มีหน้าหง่อยนิดหน่อยแต่ก็

“พรุ่งเรากลับมา แซนจะทำสะพานให้รถแซนและเซนขึ้น เราจะเล่นด้วยกัน เซน “ แซนพูดแอ้ส่งสัญญาณให้ไปขอบคุณลุงดรีมและลุงด้าด้วย

““ลุงดรีมขอบคุณครับ  ป้าด้าขอบคุณครับ “ เซนและแซนเข้าไปขอบคุณและหอมคนละที ผมเดินลงมาข้างล่าง ๆ มีเสียงดังมาจากห้องเด็ก พี่ๆผมและพี่ๆ แอ้เข้าไปนั่งดูหลานเล่นเกมส์กัน ซีและแซ๊คกเขาก็เล่นเกมส์เต้นกับลูกผม ซีนี้ใช้เล่นนะเนี๊ยะ ดูท่าจเกรียนนิดหน่อย

“ไงครับไปดูห้องมาแล้วชอบใจไหมครับ “ พี่แดนถามน้องเซนและน้องแซน

“ต่อไปก็ห้อง น้องซีและแซ๊ก คราวนี้กรูจะเอาห้องใครละวะ “ พี่ดรีมพูดขึ้น พี่แดนหันไปมองพี่ดรีมตอนนี้ห้องพี่ดิ๊บถูกจัดให้เป็นห้องนอนเซนและแซนแล้ว

“เห้ย! เอาอีกเหรอ “ พี่แดนถาม

“ใช่ คราวนี้เวลาพวกมรึงกลับบ้านพร้อมๆกันก็เตรียมตัวขี่กันนอนได้เลยเพราะ เหลือห้องเดียวแล้ว” พี่ดรีมพูด

“และถ้ามันยังไม่หยุดพาลูกมาอีกนะ กรูว่า พวกมรึงได้หาเต้นนอนที่สนามกันแน่วะ “ พี่โอมพูด ทำเอาพี่ๆหันมมองผมกับแอ้กันหมดเลย

“น้องดิวที่รักครับ มรึงช่วยหยุดรับบริจากลูกสักพักนะครับ พวกกรูไม่มีห้องจะนอนแล้วครับ” พี่เดย์พูด

“รู้แล้ว หยุดแล้ว เอาแค่นี้” ผมพูด

“ผมหยุดรับเพิ่มเท่าได้เท่านันนะ แต่จะให้หยุดผลิตคงยาก” ผมพูดุทกคนหันมามองผมกันหมดเลย

“มรึงจะผลิตมาอีกเหรอ ไอ้ดิว ไอ้แอ้ “ พี่โอ๊ค

“นั้นดิพี่ อิ้งค์ยังจำชื่อหลานได้ไม่หมดเลยเนี๊ยะ “ อิ้งค์พูด แอ้หันมาจะหยิกผม ผมมองพี่ๆ น้องๆ ผมเล่นกับหลาน มีความสุขกันน่าดู ผมเห็นน้องมีนอยู่อีกห้อง เขากำลังอ้อนคุณปู่คุณย่า เขาเรียกว่าโซ่ทองคล้องใจช่วยให้พ่อผมกับอาภีมเปิดใจกันไว้มากขึ้นใช่ไหม ดูซิหัวเราะกันใหญ่เลยปู่ย่าหลาน

“ดิวแอ้ไม่เคยเห็นพ่อหัวเราะมีความสุขแบบนี้นานแล้วนะ “ แอ้หันมาบอกผม ผมพยักหน้า พ่อผมด้วยเหมือนกัน

“วันนี้เราจะกินอะไรกัน สั่งร้านเดิมกันไหม” พี่ด้าเดินเข้ามาถาม

“พี่กินได้ทุกอย่างที่น้องด้าชอบครับ น้องด้าชอบอะไรพี่ชอบหมด “ พี่โอมพูดหยอดพี่ด้าผมอีกแล้ว

“พี่ด้าเขาชอบตรีนพี่โอม” พี่แดนพูด ขำ ขำ  “ใช่พี่ก็ขอบตรีน....เว้ยย ตรีนไรอะ” พี่โอมร้องสะบัดไปมองหน้าพี่ด้าผมเลย

“ยำตรีนไก่ “ พี่ด้าพูด   “พี่ว่าเรียกยำเล็บมือนางดีกว่าไหม ฟังดูน่ารักสำหรับหมอด้า อย่าเรียกยำตรีนเลยพี่ละเสี๊ยว เสียว” พี่โอม 

  “พี่หมอด้า โอ๊คนะไม่เรื่องมากเลย โอ๊คกินง่ายมาก แค่ขอกินฟรี “ พี่โอ๊คอีกคน

“งั้นเอากระเพราหมูมาคนละกล่องพอด้า ไม่ต้องไข่ดาว เป็นห่วงสุขภาพมัน กินไข่เยอะไม่ดี  “ พี่ดรีมพูด บ้านอ.อ่างหันมามองกันหมดเลย

“ง่ายไปไหม พี่ดรีมเรียกทั้งทีเรียกกระเพราะหมูนี้นะ “ พี่โอ๊คพูด 

“โธ่พี่ดรีม ถ้าไม่เป็นการเกรงใจจนเกินไป อั๋นขอเพิ่มข้าวผัดปู  กุ้งต้มเกลือ ปลาเก๊าราดพริก กุ้งแม่น้ำราดซอสมะขาม และ ...” พี่อั๋นพูด

“นี้เกรงใจแล้วเหรอไอ้อั๋น “พี่เดย์หันไปถามพี่อั๋น

“มากเลยเดย์ กรูโคตรเกรงใจ ขออีก...” พี่อั๋น

“พี่เลือกให้เมนูเด็ดอั๋น ตรีน...” พี่ดรีม  “เว้ยยย “ บ้านอ.อ่างนี้ร้องหมดเลย

“ตรีนอะไรไอ้ดรีม ถ้าที่ร้านไม่มีนี้กรูจัดให้” พี่อั้มถามพี่ดรีม

“ตรีนไก่ เอาซุปเปอร์เลยนะ เผ็ดๆ สุดยอด!” พี่ดรีม ความสุขของบ้านอ.อ่างและบ้านด.เด็กกลับมาอีกครั้งนี้ยังไม่ครบนะครับ ยิ่งถ้าพี่ใหญ่อยู่นะ จะฮามากกว่านี้ และพี่เดฟกับพี่เอ็กซ์ด้วยยิ่งเข้าไปใหญ่ รู้อย่างนี้ดิวประกาศตั้งนานแล้วว่าดิวมีหลาน นั่งนอนเครียดอยู่ได้ตั้งนาน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด