ย่องมาเงียบๆ มีใครจําเฮาได้ไหม เฮากลับมาแล้ว เฮากลับมาฟื้นชีพอีกแล้ว คึคึคึ
20. ออกศึกข้านึกแต่รบ และรบ จบศึกข้านึกแต่รักเจ้าเท่านั้น (ชื่อตอนไม่บ่งบอกอายุเช่นเคยและไม่เกี่ยวกับตอนเช่นเคย)
แกวไม่ได้ติดใจหรือซอกแซกหาเหตุผลอะไรจากไอ้เอ๋ยมากนัก ตอนไอ้คนปากดีกระเตงเด็กมาแล้วบอกเสียงเบาๆ ว่าจะย้ายไปอยู่คอนโดไอ้พัชคู่แค้นตลอดปีตลอดชาติกันแกวก็แค่พยักหน้ารับรู้ แต่ก็บอกปัดไปเรื่องที่จะเข้าไปอยู่ด้วย แกวบอกว่าถึงจะไม่ค่อยโกรธไอ้พัชเรื่องเมื่ออดีตมากนักแล้วแต่ก็ใช่ว่าจะสนิทใจถึงขั้นไปอยู่ด้วยกันได้ ไอ้เอ๋ยหมดหนทาง ห่วงเพื่อนก็ห่วงจนใจจนจะบอกปัดไอ้พัชตอนมันเร่งให้ขนของย้ายว่าจะไม่ไปแล้วแต่แกวก็ตัดปัญหาให้โดยบอกว่าจะไปอยู่กับเขยสักพักเพราะบ้านเขยรับผู้ช่วยพ่อครัวแม่ครัว เขยเลยจะให้ไปอยู่ด้วยกันในช่วงปิดเทอมแล้วทำงานพิเศษที่บ้านเขยที่เปิดร้านภัตรคารอาหารจีนด้วยเลย ถ้าเก่งๆ แม่ของเขยก็จะจ้างให้เป็นพ่อครัวอีกคน
สรุปว่าทุกอย่างก็ลงตัว ไอ้พัชมันก็ขนของไอ้เอ๋ยแบบชนิดเกลี้ยงไม่เหลืออะไรเลย ลากออกจากห้องมาแทบไม่ทัน แต่ก่อนหน้านั้นก็โทรตามให้เขยมารับแกวไปก่อนด้วย ไอ้เอ๋ยมันงอแง ถ้าเพื่อนยังไม่ได้ออกจากห้องแม่งก็ก็ไม่ออกเหมือนกัน
ลากมาที่คอนโดติดกับร้านมินิมาร์ทเจ้มิ้นนั่นแหล่ะ ห้องชั้นเกือบจะสูงที่สุดด้วย เห็นวิวจนสุดลูกหูลูกตา เด็กดูชอบซะเหลือเกิน
เรื่องมันก็ง่ายไปไหมวะ จู่ๆ ห็หอบผ้าหอบผ่อนตามมันมาเนี่ย
ใจกูก็ง่ายชิบหาย
“ให้กูนอนไหน?” ไอ้เอ๋ยมองซ้ายมองขวา เกิดมาพึ่งจะเคยได้เหยียบห้องราคาหลักล้านก็วันนี้
แต่มันก็แค่ที่ๆ ให้ซุกหัวนอนเหมือนห้องหอราคาถูกๆ ของตัวเองป่ะวะ??
มีให้มากทำไม ในเมื่อสุดท้ายก็ไม่ได้มีไว้ทำอะไรนอกจากซุกหัวนอน
“ห้องใหญ่ ห้องใหญ่ๆๆ” เด็กวิ่งไปทั่วห้อง วิ่งเตาะแตะไปเกาะกระจกดูวิวข้างนอก ตากลมๆ เป็นประกาย
“เอ๋ยจ๋า ดูนั่นจิ” เด็กน้อยหันมากวักมือป้อมๆ เรียกผู้ปกครองให้เดินไปดูสิ่งที่ตนเห็นด้วยกัน ไอ้เอ๋ยวางกระเป๋าใบเล็กลง เดินไปหาเด็กน้อยของตัวเองแล้วอุ้มขึ้นเพื่อให้เห็นวิวชัดกว่าเดิมเพราะระเบียงมันบังอยู่ แต่ไม่ได้เปิดกระจกออกไปหรอกนะ เจ้าของห้องก็ไม่ใช่ จะทำอะไรเกินหน้าเกินตามันก็กระไรอยู่
“กูเอากระเป๋าไปเก็บก่อน” ได้ยินเสียงไอ้พัชแว่วๆ มาแบบนั้นแต่ไอ้เอ๋ยเปล่าสนหรอก ชี้มือชี้ไม้อยู่กับเด็กน้อยอย่างเดียว
“ไอ้เอ๋ย เลิกเล่นกับเด็กก่อน มึงมาทำกับข้าวเย็นเลย”
“ไอ้พัช กูไม่ใช่คนใช้มึง” คนโดนใช้กัดฟันกรอดๆ ถ้าไม่ติดว่าน้องแพมองอยู่ก็อยากจะพูดหยาบคายด่ามันบ้าง
“มึงไม่ทำให้เด็กกินรึไง”
“กูทำให้ลูกกู แต่กูจะไม่ทำให้มึง” เอ๋ยตีรวน ก็เปล่ามาเป็นคนใช้มัน
“เอ๋ยๆๆ ไอ้เอ๋ย มึงอย่ามาทำตัวเด็ก ถ้ามึงจะทำให้ลูกยังไงมึงก็ต้องทำให้ตัวเองแดก แล้วมึงจะไม่ให้เจ้าของห้องอย่างกูร่วมโต๊ะด้วย?” ไอ้พัชทำหน้าเบื่อหน่าย คนโนทำหน้าใส่อยากเดินเข้าไปศอกมันอยู่หรอก ถ้าไม่ติดที่ว่ามันพูดเรื่องจริง
“เออ!!” เอ๋ยเดินกระแทกเท้าปึงปัง บอกให้น้องแพจ๋ารออยู่ในห้องนั่งเล่น ไอ้พัชมันไปเอาซีดีการ์ตูนที่ซื้อมาก่อนเข้าห้องเปิดให้เด็กน้อยดู หน้าจอใหญ่ๆ แบบที่แพไม่เคยได้ดูเลยตื่นเต้นใหญ่
“ไอ้พัช ห้องมึงไม่มีเหี้ยอะไรเลย แล้วจะให้กูทำอะไร? แดกอาหารทิพย์ไหมไอ้สัส”
“หยาบคาย เด็กอยู่” ไอ้พัชทำท่าปิดหูเด็กน้อย แต่จริงๆ น้องแพก็ไม่ได้ยินหรอก สนใจแต่เป็ดที่พูดไม่รู้เรื่องอยู่ในจอทีวี
“ไอ้...”
“มึงไปซื้อสิ มีตลาดสนอยู่หน้าปากซอยคอนโดนี่เอง หรือมึงจะเข้าโลตัส? เข้าท็อปส์?” ไอ้พัชเอ่ยปากสั่ง แล้วมันก็หันไปจ้องโทรทัศน์อย่างเดิม
“เออ!!” คนโดนเอาเปรียบทำอะไรไม่ได้ ได้แต่กระถืบเท้าออกมาจากห้อง แต่ก้าวออกมาได้ไม่ทันไรก็มีคนวิ่งตามมา
ไอ้พัชนั่นแหล่ะ อุ้มน้องแพมาด้วย
“เข้าซุปเปอร์เลยแล้วกัน ซื้อของมาไว้ใช้ด้วย เสื้อผ้าเด็กมันเก่าแหล่ะ ซื้อมาเผื่ออีกเยอะๆ” ไอ้พัชอุ้มไว้ที่อ้อมแขนข้างหนึ่ง น้องแพหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ ไอ้พัชมันสูงกว่าไอเอ๋ยอยู่หน่อยหนึ่ง เวลาอุ้มแล้วจะอยู่สูงกว่าปกติ
“ไปตลาดดดด ไปซื้อปลายู ปลายูๆๆ” น้องแพร้องเพลงอารมณ์ดี เอ๋ยเลยไม่อารมณ์เสีย เดี๋ยวน้องจะกลัวซะก่อน
“ปลายูอะไรอ่ะเด็ก” ไอ้พัชขมวดคิ้วทำหน้างง แต่น้องแพงงกว่า เอียงคอทำตาโตมอง
“ปลายูก็คือปลายูสิพัช ทำไมไม่รู้ล่ะ” คำตอบของเด็ก
“หึ! ใช่ โง่หรือโง่ห๊ะ ปลายูก็คือปลายูไง” เอ๋ยสำทับ พัชหน้ามุ่ยกว่าเก่า
“กูงอนทั้งเด็กงอนทั้งผู้ใหญ่อ่ะ แม่ง” ไอ้พัชงุ้งงิ้ง น้องแพกับไอ้เอ๋ยเลยหัวเราะเอิ้กอ๊าก ชอบใจใหญ่ที่เจ้าของห้องทำหน้าขุ่นๆ
“จำไว้เลย” พูดทิ้งท้ายก่อน แล้วคืนน้องแพให้เอ๋ยอุ้ม เดินไปอีกทางเพื่อเปิดประตูฝั่งคนขับ ก่อนจะออกตัวรถไปข้างนอกและตัดสินใจว่าคงจะหาอะไรกินกันข้างนอกไปเลยเสียดีกว่า
“พรุ่งนี้ไปกันเช้าๆ เลยไหม?” ไอ้เอ๋ยหันมาถามเจ้ามือตอนที่เด็กน้อยสนใจแต่ลูกเชอร์รี่ที่อยู่บนไอติมรสหวานเจี๊ยบ กินข้าวกันอิ่มและซื้อของกันครบแล้วล่ะ เลยพาน้องมากินก่อนกลับเข้าห้อง
“ไม่อ่ะ ขี้เกียจตื่น ไปกันบ่ายๆ เลยก็ได้ จะพาไปโรงพยาบาลเอกชน” ไอ้พัชไม่งงกับคำถามกำกวม รู้อยู่ว่ามันจะเร่งให้ไปโรงพยาบาล
“ถ้าโรงพยาบาลเอกชนจะรู้ผลไวกว่าเก่าป่ะวะ” ไอ้เอ๋ยถามลอยๆ ไม่รู้ว่าได้หรือไม่ได้
“ไม่อ่ะ ช้าเหมือนกัน” หลอก...โรงพยาบาลเอกชนนี่ สามสี่ชั่วโมงรู้ผลยังได้เลย...แต่กลัว ป๊อด แล้วก็ต้องรั้งมันไว้นานๆ ก่อน อย่างน้อยต้องให้มันชินติดกับการอยู่ด้วยกัน...รวบหัวรวบหาง โช๊ะเด๊ะ!
วันนั้นขอโทษมันเรื่องที่ทำตัวหมาๆ ไปแล้ว มันก็ถามหาเหตุผล ก็ตอบมันไปตรงๆ ว่าชอบเด็กสายรหัสตัวเอง แถมน้องมันเป็นหอบด้วย เลยแค้นจัด บวกเพื่อนยุ บวกความเมา บวกโดนพ่อแม่น้องมาต่อว่าต่อขานที่ไม่ดูแลน้องให้ดี เลยขาดสติ แต่หลังๆ ที่ไปหาเรื่องนี่ด้วยอารมณ์อยากกวนตีนล้วนๆ
ไอ้เอ๋ยก็ขอโทษที่ว๊ากเกินเหตุ แต่มันก็คือกฎ ขัดใจส่วนรวมไม่ได้ เรื่องราวเลยบานปลาย แล้วก็แอบน้อยใจไอ้รูมเมทเก่า อยู่ด้วยกันมาเกือบปี พาเพื่อนมากระทืบกันได้
แล้วก็...จบ
คืนดีกันง่ายเหี้ยๆ อย่างว่านะ ผู้ขาย ไม่มีอะไรมาก เอาปากกระแทกกันจบ...(ใช่ไหมวะ?)
“อือ ช้าเร็วเดี๋ยวก็รู้ผล” ไอ้เอ๋ยตอบแบบลอยๆ เดี๋ยวนี้เวลาคุยกันเรื่องนี้ไอ้เอ๋ยชอบทำตัวเลื่อนลอยชอบกล
“ไอ้เอ๋ย...” พัชเรียกเสียงอ่อน ไอ้เอ๋ยหันมามอง แต่ไอ้พัชเอี้ยวตัวไปหยิบเชอร์รี่อีกลูกในแก้วเล็กให้เด็กน้อยก่อนจะหันกลับมาคุยต่ออีก
“มึงอย่าซีเรียสเรื่องผลได้ไหมวะ อยู่ต่อไปนานๆ ก็ได้ มึงน่าจะรู้นะว่ากูจะรั้งเอาเด็กมาอยู่กับกูเพราะอะไร” ไอ้พัชว่าไปถอนหายใจไป ไอ้เอ๋ยมองสบตานิ่งๆ ก่อนเบือนหน้าหนี
“กูจะทำเป็นไม่สนใจที่มึงจะสื่อแล้วกัน เรื่องผลน้องแพสำคัญกว่า มึงต้องรับผิดชอบเขาก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน เอาให้กูแน่ใจตัวเองด้วย ไอ้สัส! ชีวิตกูมันปุบปับไป อย่าพึ่งเอามาให้กูคิดหลายเรื่อง”
“เออ แต่รู้ไว้เลยว่าไม่ได้กลับไปอยู่ที่เดิมในเร็วๆ นี้หรอก”
“แต่เดี๋ยวมึงเบื่อและหาแม่ของลูกเจอ กูก็ต้องกลับว่างั้น” ไอ้เอ๋ยเบะปาก ชักไม่อยากจะพูดต่อ
“ไหนมึงบอกยังไม่อยากคิดหลายเรื่อง? เป็นผู้หญิงหรือไงวะ” ไอ้พัชถามแบบยิ้มๆ ไอ้เอ๋ยแม่งทำตัวง้องแง้งๆ ยังไม่ได้มาเป็นเมียเลยนะ มันจะหึงกูแล้วใช่ไหม?
“เออ! กูผิด!”
“เอ๋ยจ๋าเสียงดังจัง” น้องแพสงบศึกทุกฝ่าย เงยหน้าใช้ดวงตากลมๆ จ้องผู้ใหญ่ทั้งสองคน จ้องคนนั้นที จ้องคนนี้ที
“ขอโทษครับ”
“เด็ก รีบกินเร็วพัชอยากกลับไปดูเป็ดต่อ” ไอ้พัชได้ทีเปลี่ยนเรื่องบ้าง
“โอเชชชช!!”
********
ใกล้ละ ใกล้เข้ามาทุกทีละ คึคึคึคึคึ
#ไม่สั้นนะเออ