23 ครอบครัว
พัชตื่นขึ้นมาและไปซื้อโจ๊กพร้อมกับชงโอวัลตินให้น้องแพเรียบร้อย เอ๋ยยังนอนอยู่ที่เดิมท่าเดิม ดูเหมือนเวลามันจะพลิกตัวคงจะมีความรู้สึกเจ็บจี๊ดอยู่บ้างเลยไม่กระดุกกระดิกตัวเลย
พัชเลยถามเด็กว่ารู้ไหมว่าเอ๋ยจ๋าน่ะเก็บกุญแจร้านเจ๊มิ้นไว้ตรงไหน ได้ความว่าใส่ไว้ในกระเป๋าแองกี้เบิร์ดสีเหลืองถุงเล็กๆ ที่เอาไว้ใส่พวกกุญแจห้องด้วย พอเด็กกินข้าวเสร็จพร้อมบ้วนปากเรียบร้อยก็จัดการอุ้มลงมาข้างล่างเพื่อเปิดร้านให้เจ๊มิ้นแทนคนที่นอนเดี้ยงอยู่บนเตียง
“เอ๋ยจ๋าเป็นอะไรครับพัชจ๋า” น้องแพที่ใช้แขนน้องโอบลำคอของคนตัวโตเอไว้เอ่ยถามอย่างสงสับ ก็ปกติเอ๋ยจ๋าจะตื่นมาทำข้าวต้มให้กิน แต่วันนี้เอ๋ยจ๋าตื่นส๊ายสาย
“เอ๋ยจ๋ามันกำลังพักผ่อนอ่ะเด็ก เผื่อมีน้องให้เด็กอีกคน” พัชก็ว่าไปนั่น นึกชอบอกชอบใจคนเดียวโดยที่เด็กก็ไม่รู้เรื่องด้วยหรอก เมื่อคืนก็ทำไปรอบเดียวนะ แต่ทำไมมันถึงเต็มอิ่มขนาดนี้ไม่รู้ ปกติถ้านอนกับสาวๆ นี่คงเบิ้ลตอนเช้าไปด้วย
แต่เมื่อเช้าแค่ตื่นมาเจอมันนอนอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกดีแล้วล่ะ...วุ้ย กูนี่เลี่ยน เขินสัส!
“น้องของแพจ๋า?” เด็กน้อยทวนคำอย่างงงๆ มองหน้ากรุ่มกริ่มของคนที่อุ้มตนอยู่อย่างแปลกใจแต่ก็ไม่กล้าถามต่อเพราะว่าพัชไม่ชอบให้เซ้าซี้ เด็กน้อยเลยเมินความสงสัยตัวเองแล้วซบหน้าลงกับบ่ากว้างกอดกระชับแขนเสียแน่น
“หื้อ อะไรอ่ะเด็ก ง่วงหรอ?” พัชลูบหลังเด็กน้อยเพราะคิดว่าคงง่วง แต่น้องแพก็แค่ส่ายหน้าไปมา
“อยากกินอมยิ้มจังเล้ยยยย”
“กินไหมล่ะ ซื้อให้เด็กได้นะ”
“แพจ๋ามีตังค์ เอ๋ยจ๋าให้มายี่ฉิบบาท คึคึ” น้องแพหัวเราะอารมณ์ดี เอ๋ยจ๋าให้เงินไว้กินขนมวันละยี่สิบบาท รักเอ๋ยจ๋ามากเลย
“ถ้างั้นซื้อให้พัชด้วย” พัชนึกเอ็นดูเด็กน้อย ไม่น่าล่ะเอ๋ยถึงติดขนาดนี้ น้องแพเป็นเด็กน่ารักนะ อยู่ด้วยแล้วอยากจะฟัด
“อ้อออ ก็ได้ๆ แต่พัชจ๋าต้องซื้อปลายูให้แพจ๋ากิน เอ๋ยจ๋าด้วย!” เด็กน้อยสองขวบต่อรอง ช่างเจรจาจริงๆ เลยนะตัวแค่นี้ คนที่เลี้ยงเด็กน้อยมาคงจะรักไม่ต่างกันหรอก
แต่เอาน้องมาทิ้งไว้อย่างนี้ได้ยังไง?
พัชคิดไม่ตกเรื่องที่มีคนแอบอ้างมาว่าตนเองเป็นพ่อ หรือจะไม่ใช่? แต่คนระบุก็ระบุเกี่ยวกับตัวเขาผ่านมันแกวมาทุกอย่าง สิ่งที่สงสัยค้างคาในใจตอนนี้คือเด็กน้อยในอ้อมกอดตนนี้อาจจะเป็นพี่น้อง...
มีช่วงหนึ่งที่แม่โทรมาหาเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้าแรง ตอนสอบถามไปแม่ก็บอกแค่ว่าเหนื่อยกับงาน ก่อนจะเค้นถามได้ว่าแม่รู้สึกว่าพ่อเปลี่ยนไป ไม่ค่อยให้แม่ไปต่างจังหวัดเวลามีประชุมสัมมนานอกรอบกันทั้งๆ ที่แม่เป็นเลขาแท้ๆ แถมเลขาผู้จัดการที่พึ่งเข้ามาใหม่ก็ชอบลาหยุดหรือหายไปในวันที่พ่อต้องไปทำงานไกลบ้านหรือติดประชุทนอกบริษัทเกือบทุกครั้งอีกด้วย สัญชาตญาณของผู้หญิงมันร้องเตือนอย่างเบาและเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
ขอให้ไปเป็นอย่างนั้น...หรือถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ขออย่าให้เรื่องมันเลวร้ายขนาดที่เขาคงทำใจรับไม่ได้เลยเถอะ เพราะถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ตนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรู้สึกอย่างไรกับเด็กน้อยคนนี้ดี จะรู้สึกยินดีที่จะรับเลี้ยงไว้โดยที่หัวใจของแม่คงจะเจ็บปวดแน่ๆ แต่ว่าตนเองคงปล่อยมือเอ๋ยไปได้แล้วแน่ๆ รวมทั้งเด็กน้อยคนนี้ที่คนที่เขารักนั้นรักด้วยเช่นกัน
แย่
“พัชจ๋า อมเร็ว ทำหน้าบูดอีกแล้ว” ลูกกลมๆ สีส้มๆ ถูกยื่นมาจ่อที่ริมฝีปากของตน พัชหลุบตามองก็เห็นว่าเด็กน้อยนั้นแกะห่ออมยิ้มเรียบร้อยแล้วแถมนำมาบริการถึงที่อีก
“เด็กอมยัง” พัชหรี่ตามองอย่างจับผิด อุ้มเอาเด็กน้อยมานั่งตักตัวเองที่หลังเคาน์เตอร์คิดเงิน ตอนนี้พึ่งจะแปดโมงคนยังไม่ค่อยเข้าร้านกันหรอก ปิดเทอมอย่างนี้ด้วย เงียบพอควร
“หื้ออ ยังเลยจ่ะ” น้องแพส่ายหน้ากลมๆ ยิกเลย ก่อนยิ้มโชว์ฟันหลออีกต่างหาก พัชหมดแล้วซึ่งความยับยั้งชั่งใจ ก้มลงฟัดแก้มกลมๆ เนื้อกลมๆ อย่างหมันเขี้ยวถึงที่สุดของที่สุด
เด็กน้อยหัวเราะคิกคักเบี่ยงตัวหนีไปมามือก็กำอมยิ้มไว้แน่น หนวดพัชเริ่มขึ้นแล้วด้วย ฟัดไปที่ไหนก็ขึ้นรอยแดงไว้เป็นปื้นๆ ไปหมด ประเด็นคือถ้าพัชฟัดอีกหน่อยคงจะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์แล้ว
“เด็ก...เด็กคิดถึงแม่ไหม?” ไม่แน่ใจว่าถามคำถามนี้ไปจะดีหรือเปล่า แต่พัชเองก็ต้องถามความรู้สึกของเด็กน้อยด้วย
“หื้อ แม่จ๋า แม่จ๋าบอกว่า...ฮึก แม่จ๋าจะไปอยู่ไกลๆ ไม่กลับมา...ฮืออออออออ” น้องแพหน้าเจื่อนลงอย่างทันที สะอื้นบอกทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างกะทันหัน พัชถอนหายใจไม่ใช่เพราะรำคาญแต่เพราะสงสารเด็กน้อยจับใจ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าควรจะรู้สึกอะไรอย่างนี้หรอก สงสัยซึมซับมาจากคนบนเตียงในห้องนอนตัวเองล่ะมั้ง
“ไม่ร้องอ่ะเด็ก ทำไมร้องบ่อยจัง อย่าขี้แยนะ เขาบอกว่าเขาจะไปอยู่ไกลๆ ก็ไม่เป็นไร ไม่กลับมาก็ไม่ต้องกลับมา เด็กก็อยู่กับพัชที่นี่ อยู่กับเอ๋ยที่นี่ไง”
“ฮึก...ดะ ได้หรอ” น้องแพพยายามฮึบเข้าไว้ เช็ดน้ำตาอาบแก้มของตัวเองด้วยสองมือทั้งๆ ที่อีกมือยังถืออมยิ้มอยู่นั่นแหล่ะ
“ได้สิ เอาล่ะ เด็กดีไม่ร้องไห้บ่อยหรอกนะ อมยิ้มอันนี้พัชยกให้เด็กอมคนเดียวเลย อมเสร็จแล้วต้องยิ้มนะ” พัชยิ้มอ่อนโยนให้คนที่พยายามจะหยุดร้อง มือหนาไม่ได้ช่วยเช็ดน้ำตาให้เพราะอยากให้เด็กน้อยตรงหน้านั้นรู้จักพยายามเข้มแข็งด้วยตนเองให้ได้ก่อน น้องแพยิ้มแฉ่งเพราะคำพูดไม่กี่คำ แค่มีคนให้น้องแพอยู่ด้วยน้องแพก็ดีใจแล้ว ถึงแม่บอกจะไม่กลับมา แม่ก็บอกน้องแพก่อนจะไปว่ารักน้องแพที่สุดในโลก
“ถ้าอย่างนั้น น้องแพอยู่กับพัชจ๋ากับเอ๋ยจ๋านะ” น้องแพกอดคนตัวใหญ่ไว้แน่น เอาอมยิ้มเข้าปากแล้วยิ้มกริ่ม ก่อนจะเอาออกมาแล้วจ่อไปที่ปากของคนตัวโต
“พัชจ๋าอมด้วยกันน้า”
“เอ้อออ อมก็อม”
แล้วสองเสียงก็หัวเราะให้กันอย่างมีความสุข พัชเองก็รู้ว่าวันข้างหน้าคงจะมีเรื่องให้คิดอีกเยอะล่ะ แต่จริงๆ แล้วถ้าการมีเอ๋ยอยู่ข้างกายกับน้องแพนี่ก็เป็นเรื่องที่ทำให้เขามีความสุขได้แล้ว อยู่ที่ว่าอีกคนจะให้ความร่วมมือหรือเปล่าเท่านั้นเอง ไม่ใช่ไม่รู้ว่าตัวเองก็ทำผิดไว้เยอะ แต่ขอโอกาสไปแล้ว และหวังว่าโอกาสนั้นจะสร้างเรื่องดีๆ ให้อีก
อย่างน้อยตอนนี้ก็ผูกมัดตัวไว้ได้แล้ว เหลือแต่ใจ...คงต้องพยายามกันอีกสักนิดล่ะ
**********
เอ๋ยงัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับรู้สึกเย็นวาบไปทั่วร่าง แอร์ที่อีกคนเปิดไว้อุณหภูมิต่ำจนขนลุกเกรียวกราว ค่อยๆ ยันตัวขึ้นพิงกับหัวเตียงช้าๆ ถึงจะไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่แต่ก็หนักอึ้งอยู่ไม่เบา มองไปเห็นโพสต์อิทที่แปะไว้ตรงโคมไฟข้างๆ เตียงเห็นลายมือโคตรไก่เขี่ยของเจ้าของห้องบอกไว้ว่ามีโจ๊กและยาอยู่ที่ห้องครัวและพาน้องแพไปเปิดร้านเจ๊มิ้นแล้ว
เอ๋ยไม่อยากยอมรับหรอกว่าโคตรของโคตรเขิน รู้สึกว่าชีวิตมันจะมุ้งมิ้งไม่สมเป็นตัวเองไปแล้ว แถมเมื่อคืนก็นอนกับมันไปแล้วด้วย ต่อให้ปฏิเสธในหัวตัวเองเท่าไหร่ก็รู้แหล่ะว่าเป็นเมียมันเรียบร้อยแล้วน่ะ
แถมแววตาไอ้พัชมันก็บ่งบอกชัดเจนว่าเอาจริงซะด้วย
โว๊ยยย แล้วกูจะเอาหน้าไปมอยังง๊ายยย ตีกันมาเป็นปีๆ เสือกมาได้กันเองไม่พ้นคำโบราณเขาว่าจริงๆ นะไอ้เอ๋ยเอ้ย
“แม่ง...เอากูแล้วถ้าไม่รับผิดชอบกูเล่นให้ตายแน่ๆ” บ่นงุบงิบกับตัวเองคนเดียวก่อนจะคลานลงจากเตียงคว้าเอาผ้าขนหนูที่เห็นพาดไว้กับพนักเก้าอี้พร้อมเสื้อผ้าอีกชุด ไอ้พัชคงเตรียมไว้ให้ หน้าเน้อนี่ร้อนผ่าวๆ ขอให้มันทำอย่างนี้ได้ตลอดไปเถอะ
เข้ามาในห้องน้ำก็ต้องกัดปากตัวเองข่มรอยยิ้มไว้อีกทีนึง แปรงสีฟันที่บีบยาสีฟันเตรียมไว้ให้พร้อมวางอยู่บนชั้นเหนืออ่างล้างหน้า โฟมล้างหน้า และมีดโกนไฟฟ้าพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กที่พับวางไว้ข้างๆ กัน
ตกลงใครเมียใครวะ?
เขินอยู่คนเดียวแต่ไม่ถึงขั้นบิดเนื้อบิดตัวหรอก สูดลมหายใจกลั้นรอยยิ้มไว้แล้วจัดการตัวเองให้เรียบร้อย เมื่อกี๊เหลือบมองนาฬิกาก็เกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว ไปทำกับข้าวเอาลงไปกินที่ร้านเจ๊มิ้นดีกว่า
ทำทุกอย่างให้มันเป็นตามธรรมชาตินั่นแหล่ะ ไม่รู้จะฝืนมันทำไม จริงๆ ก็คิดว่าคงหนีมันไม่พ้นตั้งแต่มันจับจูบที่ห้องพยาบาลที่สถานีอนามัยแล้วล่ะ และหวังว่ามันคงไม่ถีบตัวเองพร้อมน้องแพให้ตกเหวอยู่ตรงป่าลึกหรอกนะ
ใช้เวลาทำธุระทั้งหมดพร้อมออกมาเตรียมกับข้าวที่มีต้มจืดเต้าหู้สาหร่ายกับไข่เจียวกุ้งสับแค่ชั่วโมงเดียว หยิบเอายาที่มันซื้อไว้ให้แล้วรีบคดข้าวใส่กล่องถือเดินลงมาข้างล่างคอนโดหรู ยิ้มให้กับรปภ.ที่เริ่มจะคุ้นหน้ากันแล้วหน่อยๆ แล้วเดินตรงไปที่หัวมุมถนนเพื่อไปที่ร้านเจ๊มิ้น เห็นผ่านกระจกอยู่ไกลๆ ว่าน้องแพกำลังพยายามเอาของที่ลูกค้านั้นยัดใส่ถุงและไอ้พัชที่กำลังหยิบเงินทอนจากเครื่องคิดเงินให้ลูกค้าอยู่ อดยิ้มออกมาไม่ได้ อีกทั้งยัง...ห้ามน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ได้
ไม่เคยมีความรู้สึกอย่างนี้...ไม่เคยได้สัมผัสบรรยากาศอย่างนี้
ไม่เคยคิดว่าความอบอุ่นจากร่างกายคนอื่นสามารถถ่ายทอดมาถึงตัวเองได้ในยามที่กอดกัน...แต่มันก็มีแล้ว มันเกิดขึ้นแล้ว และตอนนี้ก็ดูเหมือนจะสัมผัสได้นิดๆ แล้ว
‘ครอบครัว’ไอ้พัชมันจะรับเขาเป็นครอบครัวหรือเปล่านั่นแหล่ะ...ถ้าน้องแพเป็นลูกหรือเป็นน้องอย่างที่มันสงสัยจริงๆ แล้วเขาน่ะ...จะได้อยู่ในฐานะไหนของมันกัน??
'แต่มึงเป็นของกูแล้วนะ พรุ่งนี้มันจะไม่เหมือนเดิม'ขอให้มันไม่เหมือนเดิมตลอดไป...
************
น้อวววว ซีนอารมณ์ก็มา น้องแพคนดี หื้ออออออออออออ
ฝากณมลคนขี้อ่อยเรื่องใหม่ไว้ด้วยนะครับผม อ่อยแรง >>
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47994.0 ปล. ตอนนี้กดบวกเป็ดได้แล้วด้วยล่ะ ตื่นแต้นนนนนนนนนนน